๑
ถอดเทปการอภิปรายเรื่อง “เสียงจากสังคมชายแดน-ชายขอบ”
เฉพาะสวนการอภิป รายของหัวหนา โครงการและที่ป รึก ษาฯ และการอภิป รายจากที่ ประชุม
พุธ ๑๖ มีนาคม ๒๕๔๘
ผูดําเนินการอภิปราย สวัสดีคะทานผูมีเกียรติทุกทาน วันนี้เรามานั่งรวมกันในที่นี้เพื่อรับฟงการเสวนาในหัวขอ เรื่อง “เสียงจากสังคมชายแดน-ชายขอบ” ซึ่งเปนชื่อเรื่องของการนําเสนอผลงานวิจัยจากนักวิจัย ทองถิ่น เรื่องนี้เ ปนเหมือนกับ บทสรุปของโครงการอบรมวิจัยเชิงปฏิบัติก ารทางประวัติศาสตร โบราณคดี และชาติพันธุ ซึ่งไดรับทุนและการสนับสนุนจากสํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย หรือที่เรียกงายๆ วา สกว. ความมุ ง หมายก็ คื อ ว า ต อ งการจะฟ น ฟู จิ ต สํ า นึ ก ของคนท อ งถิ่ น โดยการศึ ก ษา ประวัติศาสตรวัฒนธรรมทองถิ่นเพื่อนําสิ่งที่เรียกวาองคกรชุมชนตามธรรมชาติกลับคืนมา ดิฉันขอ เรี ย นเชิ ญ ท า นอาจารย ป ย ะวั ติ บุ ญ -หลง ซึ่ ง เป น ผู อํ านวยการสํ า นั ก งานกองทุ น สนั บ สนุ น โครงการวิจัยเชิญเปดงานไดเลยคะ ศ.ดร.ปยะวัติ บุญ-หลง ขอบพระคุณครับ นมัสการพระคุณเจา กราบเรียนทานอาจารยศรีศักร และทานผูมีเกียรติ ทุก ท า นนะครั บ ในนามของ สกว. เรามี ค วามยิ น ดี เ ป น อย างยิ่ ง ที่ ไ ด มี โ อกาสร ว มสนั บ สนุ น โครงการวิจัยนี้ ชื่อโครงการนี้อาจจะผิดแปลกจากงานวิจัยทั่วๆ ไปอยางที่ทานพิธีกรไดพูดถึงนะ ครับ เปนโครงการอบรมและวิจัยเชิงปฏิบัติการ ซึ่งแนวคิดของโครงการนี้ เดี๋ยวทานอาจารยศรีศักร คงจะเลาใหฟงโดยละเอียด แตเหตุผลที่ทางสกว. ไดเขามาสนับสนุนก็เนื่องจากมองเห็นวาเปนเรื่องที่ทํางานวิจัยใน แนวใหม โดยใชโจทยของทองถิ่น และคนของทองถิ่นเปนนักวิจัยในพื้นที่ ในขณะเดียวกันก็มีความ แมนยําทางวิชาการ มีการหาขอมูลพื้นฐาน มีการสรุป มีการวิเคราะห มีหลักฐานเปนที่ยอมรับได ซึ่งผมคิด วาเปน กลไกสําคั ญ อัน หนึ่ ง ที่จ ะเชื่ อมความรูทองถิ่น เขากับ ความรูที่ เ ราเรีย กวาเป น กระบวนการสากลที่เกิดจากนักวิจัยที่ไดรับการฝกฝนในแบบแผนที่เปนที่ยอมรับอยูปกตินะครับ งานนี้นอกจากจะเปนการสงเสริมใหคนทองถิ่นไดมีโอกาสเขารวมในการหาความรูในการ สรางและวิเคราะหหลักฐานที่เปนของทองถิ่นเองแลว ผมคิดวาอีกสวนหนึ่งก็เปนการวิจัยสองทาง คือนักวิจัยจากขางนอก นักวิจัยอาวุโส ที่ปรึกษาที่เขาไป ก็คงไดเรียนรูอะไรบางอยางจากทองถิ่น
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๒
ดวย จากภูมิปญญาที่อยูในทองถิ่น สําหรับกรณีศึกษาที่ไดนํามาเสนอในที่นี้กระจายอยูทั่วไปใน ประเทศไทย ซึ่งเปนที่นาสนใจมากวาเลือกอยางไร ตามชื่อของการจัดเสวนาในเรื่องนี้ก็จะเห็นวาเงื่อนไขหรือเกณฑอันหนึ่งที่ใชในการกําหนด พื้นที่ในการศึกษาก็คือพื้นที่ชายแดนและชายขอบ ทานอาจารยศรีศักรคงจะใหเหตุไดดีกวานี้เยอะ วา เหตุใดจึงมีพื้นที่อยูทั่วประเทศและในลักษณะที่นํามาเสนอในที่นี้ ผมขอบพระคุณ ทานอาจารยศรีศักรและทีมงาน ตลอดจนนัก วิจัยทองถิ่นที่ไดใ ชค วาม พยายามอุตสาหะวิริยะในการทํางานวิจัยทั้งโครงการนี้จนสําเร็จลุลวงมาถึงจุดนี้นะครับ แตวาก็คง ไมใชเปนที่สิ้นสุดของงาน เราคงจะตองทํางานตอไปอีกในหลายรูปแบบหลังจากการเสนอผลงาน ในวันนี้แลว และทางสกว.ก็ยินดีจะรวมสนับสนุนตอไปเปนอยางยิ่งครับ ขอขอบพระคุณและขอ เปดงานครับ
แนะนําโครงการทั้ง ๕ พื้นที่ สรุปเนื้อหาโครงการวิจัยฯ แตละพื้นที่ พุธ ๑๖ มีนาคม ๒๕๔๘ ศรีศักร วัลลิโภดม กราบมนัสการพระคุณเจา ทานผูรวมอํานวยการสกว. ทานผูมีเ กีย รติที่เคารพ ผมรูสึก ตื่นเตนที่ไดมาในวันนี้ ที่ตื่นเตนก็เพราะวาการสัมมนาในวันนี้เปนการมารับฟงความรูบางอยางที่ ทุกทานก็มีสวนรวม งานวิจัยในครั้งนี้ถือวาเปนการเรียนรูรวมกัน ผมเชื่อในคําจํากัดความของทาน อาจารยเสนห จามริก ที่บอกวา การวิจัยคือกระบวนการเรียนรู ซึ่งจะผิดเพี้ยนไปจากสภาวิจัย แหงชาติที่จะตองมีระบบอะไรมากมาย แตกระบวนการเรียนรูในวันนี้ คือเปนกระบวนการเรียนรู รวมกัน เพราะฉะนั้น สิ่งที่เรามาประชุมในวันนี้ก็คือการมาเรียนรูรวมกัน เพราะขอมูลแตละแหงมา ใชในการแลกเปลี่ยนกันได เวลานี้มีนักวิจัยตั้งหลายภูมภิ าคที่เขามาอยูที่นี้รวมทั้งที่อื่นๆ ดวย ก็จะ ไดมาพบปะพูดคุยกัน ผมอยากจะเสนอใหงานอันนี้เปน informal คือธรรมดาๆ เปนกันเอง ถึงจะสนุกนะครับ ที นี้กอนอื่นที่จะเริ่มพูดถึงงานวิจัย ผมอยากจะแถลงถึงเรื่องความคิด concept วา ทําไมเราทํางาน วิจัยอันนี้นะครับ งานวิจัยอันนี้นะครับ กอนอื่นตองขอขอบคุณ สกว. โดยเฉพาะทานอาจารยปยะ วัติ บุญ-หลง ที่ยอมเอาเงิน สกว. มาใหพวกเราทํา เพราะวาไมมีประเพณีมากอนที่วาจะเอาทุน วิจัยไปใหแกคนชาวบานทํา เปนสิ่งที่ยอมรับเหมือนกันวาทาง สกว. ก็เสี่ยงเหมือนกัน เปนสิ่งที่ผม ตระหนักอยูตลอดเวลา
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๓
ทีนี้ทําไมตองทําอยางนั้น ทานเห็น ไหมวา ในงานวิจัยที่ผานมาใน ๔๐ ปนี้ เวลาพูดถึง ทองถิ่นหรือในการพัฒนาก็ตาม ในการพัฒนาจะไปพบกับคนสองกลุม กลุมผูที่ไปเปลี่ยนเขาเปน กลุมที่มาจากภายนอกกับกลุมที่อยูขางในที่ถูกเปลี่ยนแปลง ตลอดเวลาที่เ ราพัฒนาไป เราฟง ความเห็นหรือผลงานวิจัยจากคนที่อยูขางนอกทั้งสิ้น ถาจะบอกวาคนในทองถิ่นมีสวนรวมก็แต เพียงเล็กนอย แตหาไดมีขอมูลขอเท็จจริงหรือผลงานที่ออกมาจากคนภายในผูที่เราจะไปเปลี่ยน เขาไดเลย เหตุนี้การวิจัยจึงเต็มไปดวยการใช value judgment จากขางนอกทั้งสิ้น ก็เลยไมรูความ ตองการ โลกทรรศของคนทองถิ่น แตครั้งนี้เปนการเบรกที่วา คนนอกอยางพวกผมเปนเพียงพี่เลี้ยง เทานั้นเอง แตคนขางในจะบอกวาเขาเปนอะไร ผมเปรียบการวิจัยครั้งนี้วาเปนการวิจัยจากคนที่อยูภายใน เปรียบเหมือนตัวหนอน ที่แลว มาเปนงานจากพวกนกทั้งสิ้น ในงานทางมานุษวิทยา นี่เรามอง เรามีกรอบในการมองสังคมสอง อยางดวยกัน อยางหนึ่งคือ การมองแบบนก ขึ้นเครื่องบินไปก็มองเห็นวาถิ่นฐานบานชองเปนอยาง นี้ จะสรางเขื่อน จะสรางโรงงานอุตสาหกรรมคุณก็ทําไป พอมองภูมิประเทศทองถิ่นแลว เหมือนนก นั่นนะ มีอาหารที่ไหนกูจะไปจิกกินตะบัน เลย นั่นคือการมองแบบนก แตวาไมเ คยมองแบบตัว หนอนเลย ตัวหนอนที่อยูกับสภาพแวดลอมที่รูรอนรูหนาวกับสภาพแวดลอมที่ความเดือดรอน สิ่ง เหลานี้ไมเคยปรากฏในสังคมไทยในกระบวนการพัฒนามา แถมยังบอกวาประชาชนมีสวนรวม หา ไดมีสิ่งเหลานี้สะทอนจากขางในเลย แตครั้งนี้เปนการที่ออกมาจากภายใน ผมจึงเรียกผลงานวิจัยในครั้งนี้วามาจากคนที่ เปนตัวหนอนไมใชนกเปนการมองจากขางใน แลวทําไมถึงพูดถึงเรื่องชายแดนชายขอบ เหตุที่ เรียกชายแดนชายขอบ ชายแดนหมายถึงในดานภูมิศาสตร คนที่อยูในทองถิ่นเขตชายแดนหางไกล จากศูนยกลางอาจจะติดกับเขตแดนของเพื่อนบานก็ได นั่นเรียกวาชายแดน แตชายขอบนีห้ มายถึง คนในสังคมไทยที่อยูในสภาพดอยโอกาสหรือไมมีโอกาสเหมือนกับคนอื่นๆ เขา เพราะฉะนั้นสิ่งที่ เราเลือกทําวิจัยครั้งนี้ก็เลือกจากชายแดนชายขอบโดยตรง เพราะสิ่งเหลานี้เรารูนอย เราไมคอยรู เทาไหร สภาพของคนชายแดนชายขอบ คือ ๑. หางไกลจากศูนยกลางอยูใกลกับเขตแดนของประเทศอื่น ๒. คนเหลานั้นอยูในสภาวะที่ดอยโอกาส แตความที่ดอยโอกาสไมจําเปนตองอยูชายแดนชายขอบ ที่ไหนก็ดอยโอกาสได แตวาคนที่ อยูชายแดนชายขอบมีปญหาทัง้ สองอยางนี้ นี่คือคนชายแดนชายขอบ ทีนี้เรามองคนชายแดนชายขอบอยางไร ในทางวิชาการ ผมมองวาคนชายแดนชายขอบ นั้นสวนใหญจะอยูในสังคมแบบประเพณีที่ขลุกอยูกับชีวิตเดิมๆ แตเขามาเผชิญปญหาการเปลี่ยน ผานนะครับ จากการเปลี่ยนแปลงที่มาจากขางนอก เขาจึงอยูในสภาพที่ตองปรับตัว การปรับตัว
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๔
ของเขาจะไมเหมือนกับผูที่อยูในเขตเมืองหรือเขตที่ใกลกับศูนยกลาง เพราะวาเขาจะปรับตัวไดชา การปรับตัวไดชา จึงเกิดสภาพ culture lag คือความลาหลังทางวัฒนธรรม เวลาเราพัฒนาอะไร ตางๆ เหลานี้ เราจึงเจอปญหาอยางนี้ การพัฒนาสังคมไทย ทองถิ่นแตละแหงไมเ ทากันในการ เปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม บางอยางลาหลัง บางอยางกาวหนา เพราะฉะนั้นจะใชอะไรที่เปน มาตรฐานหรือคุณภาพเดียวกันไมได ผมจึงอึดอัดกับการมีคณะประเมินคุณภาพอะไรตางเหลานี้ มองจากสวนกลางเขาไป พอวัดออกมาพังทุกทีเลยครับ แลวเรื่องหัวใจของความเขาใจอันนี้ก็คือ ความหลากหลายทางวัฒนธรรมนั่นเอง ความไม เทากันของวัฒนธรรมก็คือความหลากหลายที่เกิดขึ้นในประเทศเรา แตแถมที่สําคัญทีส่ ดุ คือ บานเมืองเรานี้ เปนบานเมืองที่อุดมสมบูรณมากที่สุดในโลกนะครับ ที่มีความหลาหลายทาง ชีวภาพมาก แตละทองถิ่นก็มีการปรับตัวใหเขากับสภาพแวดลอมที่ทําใหระบบนิเวศวัฒนธรรมที่ แตกตางกันออกไปทั้งสิ้น ถาไมเขาใจก็ยากแกการพัฒนา ขณะนี้ที่เราทําก็พยายามเอาจากสิ่งขาง ในที่เขาพูดถึง ผมถึงบอกวาในเวลานี้ ในกรณีของภาคใตเปนตน รัฐเองปรารถนาดีตอสังคมใน ภาคใต อยากจะสรางใหเกิดสันติสุขขึ้นมา แตรัฐไมเคยมองวาคนภาคใตเขาคิดยังไงเลย ไมเคยมี เสียงเพรียกรองจากคนขางในเลย แตรัฐฟงจากเสียงนกเสียงกา เสียงเหยี่ยว เสียงจากพิราบทั้งสิ้น พวกนี้ก็นกนะครับ ใหถูกอยางไรก็นก แตมีอะไรบางที่จะยืนยันวามาจากขอเท็จจริงที่เดือดรอน จริงๆ นี่แหละครับการวิจัยครั้งนี้เพื่อที่จะนําเอานักวิจัยที่เปนตัวหนอนออกมา แสดงความรูสึก นึกคิดออกมาเพื่อใหคนหลายฝายหลายวัฒนธรรมที่อยูในประเทศไดรับรู ไดแลกเปลี่ยนกัน ความ เขาในในทางวัฒนธรรมนี้แหละครับจะทําใหเราอยูรวมกันอยางสันติสุข ถาตราบใดที่ยังไมเขาใจ และมองเขาดวยการใชสายตาหรือคานิยมของตัวเองไปตัดสิน เปนเรื่องอันตรายอยางที่เกิดขึ้นใน ขณะนี้ เพราะฉะนั้นการวิจัยครั้งนี้ เปนการนําเอานักวิจัยที่เปนตัวหนอนเสนอใหฟง แลวทานที่เปน นกเปนอะไรจะวิพากษวิจารณก็ไดครับ แตก็มีหนอนหลายชุดนะครับ เพราะวาหาภูมภิ าคนีก่ ห็ นอน หลายแหง อันนี้คือความคิดที่เราอยากจะทํา ทีนี้ในการศึกษาอันนี้เราไดแบงออกมาเปน ๕ โครงการดวยกัน ตามเขตชายแดนแตละ ภูมิภาค เราเริ่มตั้งแตภาคเหนือกอน ที่ภาคเหนือนะครับมีอยูสองแหงดวยกันที่เราเลือก ที่เลือกนี่เพราะอะไรทราบไหมครับ ใน การเลือกวิจัย เราไมสามารถเลือกดวยเกณฑแบบฉบับการวิจัยได เราตองเลือกวาคนในทองถิ่นมี ความพรอมไหมที่จะทํา เราจึง base on คนในทองถิ่นมาก เวลาทานตั้งคําถามวาทําไมตองเลือก ที่นี่ ที่โนน ผมบอกผมตอบไมได แตดูที่เขาพรอมแลวนําสิ่งที่เขาศึกษามาวิเคราะห แลวเลือกสอง แหงครับ
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๕
แหงแรกคือที่ลุมแมน้ําโขงในเขตอําเภอเชียงของและเวียงแกน เหตุที่เลือกก็เพราะมีหนอน ที่พอจะทํางานวิจัยไดอยู ผมวาความไมเทากันไงครับ ไมใชคุณใหทุนวิจัยแลวจะไปไดทุกหัวระแหง เราตองดูวาเขาทําไดไหม เพราะวาสังคมไทยเปนสังคมที่เรียกวา semi–literate society คือสังคม กึ่งลายลักษณ คือไมใชวาคนทุกคนจะเขาใจ เขาอยูไปวันๆ หนึ่ง แตมีบางคนเขามีสติปญญา เรา ตองเลือกคนที่มีสติปญญาในทองถิ่นมาทํางานวิจัย แตเราก็ไมไดปลอยใหเขาทําโดยโดดๆ เรามี สวนรวมดวย งานวิจัยนี้จึงประกอบดวยทั้งคนนอกและคนใน แมวาคนในจะเปนพระเอกก็ตาม คนนอกจะเขาไปเกี่ยวของสองระดับดวยกัน ระดับแรกเปนนักวิจัยรุนเด็กซึ่งสวนใหญเปน อาจารยในคณะภาควิชามานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยศิลปากร เปนลูกศิษยของอาจารยปรานี คือ พวกนี้ไดรับการถายทอกทางวิชามานุษยวิทยาพอควรเพื่อที่จะเขาไปชวยเปนพี่เลี้ยงของชาวบานที่ จะทําการวิจัย แลวก็ยังมีนักวิจัยรุนแกๆ อยางผมอีกชุดหนึ่งเปนที่ปรึกษา คือนักวิจัยรุนแกๆ นี่ บาง คนก็หงอมแลวนะครับ โดยเฉพาะทานอาจารยสุเทพ อาจารยอคิน ซึ่งเปนนักมานุษยวิทยาอาวุโส ผานงานวิจัยทางทองถิ่นมามากมาย พวกเราก็เขาไปชวยเปนที่ปรึกษา ไปประเมิน แตทั้งสามกลุม นักวิจัยทั้งขางในขางนอกสรางกระบวนการเรียนรูรวมกัน ขอมูลของนักวิจัยทองถิ่นเปนฐานที่เราจะรวบรวมมาตั้งคําถาม งานวิจัยจึงเปนขั้นตอน ระยะแรกมอบหมายงานใหใหนักวิจัยในทองถิ่นไดทํา เมื่อกี้ power point ไดฉายแลวนะครับวา วิธีการนี้เราเรียกวิธีการ ethnography วิธีการของ ethnography นี้เปนขอมูลของนักมานุษยวิทยา ในการเก็บขอมูลทองถิ่น คําวา ethnography คือการที่พยายามศึก ษาชุมชน สภาพวิถีชีวิตของ ชาวบานใหได สืบ สาวราวเรื่องของตนเอง ยอนหลัง ไปถึง ปจ จุบัน ยกตัวอยางใหคนในทองถิ่น ปจจุบันไดรับรู หรือพูดงายๆ วาเปนประวัติศาสตรสังคม แตไมใชเปนประวัติศาสตรสังคมที่ตาย เคลื่อนมาถึงปจจุบัน ยกตัวอยางเชน คนในทองถิ่นเราไมรูวาเขาเปนอยางไรมากอน คนในทองถิ่น เราไมรูวาเขาเปนใคร ไปหาเอกสารทางราชการก็รูวานี่คือหมูบานนี้ ไดแตชื่อหมูบาน แลวบางทีก็ ไปอางพงศาวดาร แตไมรูจักวาชาวบานคืออะไรเลย ขอมูลนี้ขาดทั่วราชอาณาจักร ทีนี้งานที่เราไปทํา ใหชาวบานไดสืบสาวราวเรื่องความเปนมาของตัวเอง สืบยอนหลังไป ถึ ง พ อ แม ปู ย า ตา ยาย เข า มาตั้ ง ถิ่ น ฐานได อ ย า งไร แล ว อยู ร วมกั น มาอย า งไร นั่ น คื อ ประวัติศ าสตรสังคมนะครับ รูวาใครเปน คนสําคัญ ใครเปนคนมีปญหา อะไรตางๆ นี้คือเรื่อง ethnography แลว ethnography ประกอบดวยการมองอยางภาพรวม ตั้งแตตําแหนงที่ตั้งของสถานที่ ชุมชนทองถิ่น ประวัติความเปนมา ความสัมพันธกับสังคม ระบบเศรษฐกิจ ความเชื่อ ประเพณี พิธีกรรม และการเปลี่ยนแปลง นี่คือหัวขอที่เราใหนักวิจัยทองถิ่นทํา ทานลองจินตนาการดูซิ คนใน ทองถิ่นจะทําไดดีกวาคนขางนอก นกอยางผมไมมีทางรูหรอกครับ แตหนอนเทานั้นที่รู เพราะขา เกิดมาเขาก็อยูแตในนี้ เขารูจักอันโนนอันนี้ขึ้นมา ผมเห็นวางานอันนี้ไมมีใครทําไดดีกวาหนอน ถา
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๖
นกเขาไปก็ไปสัมภาษณหลอกๆ เขามา เขียนแสดงผลงาน ก็ไดแตภาพนิ่ง แตถาหากวาเขาคนควา ของเขา เขาอยูกันมาตลอดชีวิตของเขา เขาสามารถบรรยายไดละเอียด เมื่อเฟสแรกผานไป เราไดขอมูลตั้งปกเบอเรอเลยซึ่งยังไมไดวิเคราะห นี่คือฐานขอมูลที่ เปนจริง เราไมไดปรุงแตง เพราะวาเอาออกมาจากชีวิตของเขา หลังจากนั้นเราก็เอามาเปนฐานใน การตั้งคําถาม แนะนําอีกทีหนึ่ง คอยๆ เกลาไป สิ่งที่เขาเสนอเฟสแรกก็คือภาพนิ่ง ที่จําอะไรไดก็วา กันไป หรือที่สังเกตไดก็วากันไป หรือวาบางทีใชเรื่องในอุดมคติกันไป เขาก็ตองบอกแตเรื่องดีๆ เรื่องขัดแยงเขาก็ไมบอก พอเราไดฐ านขอมูลเราก็ชวยกัน ตั้งคําถาม พูดคุยกัน ไป จากภาพนิ่ง ก็กลายเปน ภาพที่ เคลื่อนไหว ภาพที่เคลื่อนไหวก็นําไปสูปญหา อะไรบางที่เกิดกับชุมชนนําไปสูความเดือดรอน เปน ลําดับ ครับ นัก วิจัย ทองถิ่นไดเรียนรูจากสิ่งเหลานี้ จาก หนึ่ง สอง สาม ก็ไดภาพที่เคลื่อนไหว รู ปญ หาชัด เจน และที่สําคัญ เปน สิ่งที่ดีสําหรับ ผมก็คือพวกเราไดเ รียนรูครับ ทานอาจารยอคิน อาจารยสุเทพ อาจารยปรานี รวมทั้งผมเอง บางเรื่องผมไมเคยรูเรื่องมากอนเลย แตผมไดเรียนรู จากคนในทองถิ่น สิ่งที่สําคัญอีกอยางหนึ่งของคนทองถิ่นก็คือวาเขาไดพลังครับ เขาคือผูใหกับเรา บางไมใชเราไปใหเขานะ เขาภูมิใจในสิ่งเหลานี้เพราะเขาเปนเจาของทองที่ เขาจะอธิบายสิ่งตางๆ เหลานั้นอยางลุมลึก อันนี้เราเห็นเขาไปถึงโลกทรรศนหรือระบบอะไรตางๆ มากมายเหลือเกิน สิ่งที่สําคัญที่สุดทานเห็นความเปนชุมชน หลังจากที่ไปดูแลวนะครับ ความเปนชุมชนที่พูด กันนี้ยังใชในการวิจัยตางๆ คืออะไร เหมือนกับกางแผนที่ใหดูวากระจุกนี้เปนหมูบานนั้น หมูบ า นนี้ ไมเห็นหรอกครับจากแผนที่ ชุมชนตองเห็นจากโครงสรางของหมูบานในสังคม คนที่อยูใ นชุมชนเขา รูวาใครเปนใคร ใครเปน ผูนํา เขาอยูกัน อยางไร นั่น คือการเปนชุมชนครับ ตองมองจากขางใน มิฉะนั้น คุณมองจากแผนที่ จากอําเภอ จากตําบล คุณก็บอกวากลุมนั้น กลุมนี้ แตไมรูจักวาเขา เปนใคร แลวเราไดสงิ่ ที่เปนไมใชชุมชนเดี่ยวๆ เรารูวาสังคมแบบนี้เปนสังคมชาวนา คําวาชาวนา เราไมจําเปนตองพูดถึงทํานาอยางเดียวนะครับ เปนสังคมซึ่งคนในทองถิ่นแชรทรัพยากรกัน แชร พื้นที่สาธารณะ เขามีการจัดการรวมกัน เราถึงไดพื้นที่ทางวัฒนธรรมที่เรียกวานิเวศวัฒนธรรม พื้น ที่สํา คัญ มากครับ เพราะคนที่อยูห ลายชุ มชนในพื้น ที่เ ดีย วกั น เขาจะรู วาเขาจะแชรพื้น ที่ สาธารณะ หนองน้ํา ปาเขา ลําคลอง ในการที่จ ะอยูรวมกันอยางไร มีกติกาอยางใร เราไดนิเวศ วัฒนธรรม จารีต ประเพณีของเขา สิ่งเหลานี้นะครับคือสิ่งที่ไดจากขางใน งานวิจัยอันนี้เปลี่ยน concept อยางที่วาเราตองไปศึกษาชุมชนนั้นชุมชนนี้ เปลี่ยนหมด เลย เห็นเครือขายความสําคัญกัน แลวพื้นที่ทางวัฒนธรรมของทองถิ่นไมเทากันหรอกครับ ขึ้นอยู กับความสัมพันธภายใน บางทองถิ่นอาจจะมีพื้นที่กวางแตมีชุมชนไมเทาไหร แตบางแหงพื้นที่ไม มากแตมีชุมชนเยอะ จะเขาใจถึงสิ่งเหลานี้ แลวสิ่งเหลานี้พอเรานํามาถึงระบบนิเวศทางวัฒนธรรม ทันทีเราเห็นสิ่งที่เคลื่อนมาจากขางนอก เพราะวาชุมชนเหลานั้น ทองถิ่นเหลานั้นอยูภายใตรัฐ รัฐ
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๗
ตองจัดการ เราจึงปฏิเสธความสําคัญของรัฐไมได แตรัฐเขามาในสิ่งที่เรียกวานิเวศทางการเมือง และเศรษฐกิจ เราเห็น ภาพการเคลื่อนเขามาที่กระทบกับนิเวศทางวัฒนธรรมของเขา ที่เขามา ทางการเมืองและเศรษฐกิจ ยกตัวอยางวา ตรงนี้แบงเปนเขตอุตสาหกรรม ตรงนี้จะทําเขื่อนเพื่อเอาน้ําไปใชที่โนนทีนี่ เห็นไหมครับเขาไปเกี่ยวของเขาแลว แลวบางทีเราขยายเขตการเมืองเศรษฐกิจเขาไป ละเมิดลบ เขตทางวัฒนธรรมของเขาหมดเลย จึงเกิดปญหาขึ้นมา แลวที่รุนแรงขณะนี้ ผลงานวิจัยที่ออกมา แทบทุกแหงพบวา ผลกระทบทางนิเวศทางการเมืองและเศรษฐกิจลงกระทบกับนิเวศทาง วัฒนธรรม นั่นคือความเดือดรอนของชาวบา น ที่สําคัญคือการแยง ทรัพยากรของชาวบาน แยงโดยไมรูตัว แยงโดยที่ไมคิด จึงเกิดการขัดแยงขึ้นมา ผมไมโทษรัฐ แลวเวลามาอธิบายก็พูดกัน คนละอยาง ทางรัฐก็มองทางนิเวศการเมืองและเศรษฐกิจ แตของชาวบานทางนิเวศวัฒนธรรม แบบตัวหนอน สิ่งเหลานี้เ กิดการขัดแยงทั่วราชอาณาจักร ปญหาเหนือจดใต ภาพที่เห็น ขณะนี้ ยกตัวอยางในกรณีของแมน้ําโขง เขตเชียงของ เชียงราย เห็นไหมครับนิเวศทางการเมืองที่ เขามานั้น ลัก ษณะเปน globalize เลย เพราะมาจากจีน รุก พื้น ที่แ มน้ําโขง ทํา ใหนิเ วศทาง วัฒนธรรมของคนเหลานั้นที่อยูกันอยางสบายๆ หวั่นไหวหมดเลย สิ่งเหลานี้เราเห็นภาพการรุกของ คนจีนที่แมน้ําโขงกระทบคนเชียงของ เวียงแกนมาก แตเมื่อเราใหเขาศึกษาดวยตัวเอง เห็นไหม ครับ เขามีการจัดทรัพยากรแชรพื้นที่กัน คนในเวียงแกน เชียงของแยกไมออกจากคนฝงแมน้ําลาว แลวเขาใชพื้นที่สาธารณะของแมน้ําโขงรวมกัน จับปลาบึกก็แชรทั้งสองฝาย เราเอานิเวศทางการเมืองและเศรษฐกิจเขาไปก็เปนปญหาขึ้นมา และขณะเดียวกันสังคม แบบนี้เขามีการเคลื่อนยายคนกันตลอดเวลา ขามเขตแดนมาตั้งถิ่นฐาน เพราะฉะนั้นเขตเชียงแสน เวียงแกนจึงเต็มไปดวยคนหลายชาติพันธุ เขาก็มาสังสรรคอันหนึ่งอันเดียวกัน แตไมใชตางคนตาง อยูน ะครับ เราเห็น กระบวนการหลายอยางที่จะมารวมกัน เปนถิ่นเดียวกัน จากระบบความเชื่อ ประเพณี พิธีก รรม คือสิ่งที่เ ราเห็น ในความเปน จริง แตขอมูล เหลา นี้จะไมนํา ไปใชในการ พิจารณาพัฒนาอะไรของบานเมืองแมแตนอย เพราะเห็นวาชา กวาจะทําชาครับ จุดออน ของการทําวิจัยอยางนี้คือตองชาครับ เร็วไมได ตามการวางแผนไมได ถัดไปเปนเขตเวียงปาเปา ผมคิดวาเปนหุบเขาที่ดีที่สุดในการศึกษาทางนี้ เพราะ หุบเขาเวียงปาเปาอยูบริเวณที่เรียกวาตนน้ําลาวตอนเหนือ ลําน้ําแมลาวเริ่มตั้งแตเขตดอยสะเก็ด ผานแมสรวยไปลงเชียงราย พอผานอําเภอแมสรวยจะไปรวมกันลําน้ํากกอันนั้นเปน แมน้ําลาว ตอนลาง แมน้ําลาวตอนบนเห็นภาพวิถีชีวิตเกาอยู คนที่อยูในเขตลุมแมน้ําลาวตอนบนนี่อาศัย แมน้ําลาวเปน เสน ชีวิต เขาจะมีการจัด การน้ํา การจัดการน้ําคือหัวใจในการตั้งชุมชน แลวการ จัดการน้ําปรากฏในรูประบบเหมืองฝายซึ่งมีทั้งน้ําอุปโภคและน้ําบริโภคและน้ําในการเกษตร ทั้งนี้
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๘
เพราะอะไรทราบไหมครับ เพราะวาในเขตภาคเหนือตรงนี้ลําน้ําจํากัดมีไมกี่สาย แตตองแจกแจงไป ใหกับชุมชนอื่นๆ ที่อยู ไมใชชุมชนเดียวนะครับ ตองมีระบบจัดการ จึงเกิดมีแกเหมืองแกฝายขึ้นมา จะตองรวมมือกัน เปนการจัดการน้ําในชลประทานราบซึ่ง ใหก ารยั่งยืนตั้งแตน้ําในการอุป โภค บริโภคและน้ําในการเกษตร ถาหากวาทานอานกฎหมายมังรายหรือเรื่องลานนานะครับ จะพบวาเหมืองฝายมีมาตัง้ แต สมัยเชียงรายแลว กฎหมายพระยามังราย เปนกฎหมายซึ่งใชเปนพื้นฐานเพื่อใหการสนับสนุนการ ดํารงอยูใหยั่งยืนของทองถิ่น คือใหสิทธิคนในทองถิ่นจัดการกันเอง ถาคนไหนไมรวมมือในการเอา แรง กฎหมายจะปรับไหมอันนี้เปนพื้นฐานของกฎหมายโบราณซึ่งไมใชปจจุบัน แลวคนในทองถิน่ นี่ แจกแจงกัน เอง รวมมือกันเอง วัดเปน ศูนยกลางของแตละชุมชน เวลามีงานวัดแตละวัดในทุก ทองถิ่นจะตองไปรวมกัน อยางทานเคยเห็นกลองแอวไหม จากวัดนี้เคลื่อนไปวัดโนน ทําใหความ เปนกลุมกอนเกิดขึ้นมา นั่นเปนการอยูอยางลักษณะยั่งยืนในระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงในพระ ราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว แตวาที่เขตแมลาวถูกแทรกแซงโดยชลประทานหลวง อันนี้เปนกรณีที่เห็นชัดเลยวาเมื่อ เปลี่ยนเปนเขตชลประทานหลวงแลวเกิดอะไรขึ้นมา ลําน้ําแมสรวยซึ่งเปนลําน้ําสาขาอันหนึ่งมา บรรจบลําน้ําแมลาวในเขตอําเภอแมสรวย ชลประทานไปกั้นเปนเขื่อน นี่เปนชลประทานหลวงนะ การกั้นเขื่อนนั้นทําลายระบบเหมืองฝายหมดเลยทําใหเกิดน้ําทวมกับชาวบาน แตเจตนาทําใหเปน อางเก็บน้ําขนาดใหญซึ่งไปใชในการเกษตร ซึ่งไมไดเกี่ยวกับชาวบานแมแตนอย แลวโดยเฉพาะอัน นี้เปนวิบัติขนาดหนักเลย แลวสิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้นักวิจัยตัวหนอนเขาจะมาเลาใหฟงอีกทีหนึ่ง เกิดการแยงน้ําในลําแมน้ําแมลาวเปนระยะๆ ไป นอกจากการสรางเขื่อนแลวนะครับ น้ํา บางสวนจะถูกสูบเขาไปในสวนสมของผูเปนนายทุนมากมายเหลือเกิน จนกระทั่งเด็กเกิดการทุเรศ จึงรวมตัวกันเกิดกลุมรักแมน้ําขึ้นมา อุตสาหไปกักน้ําตรงนี้วาเลี้ยงปลานะ ขอเสียเถอะ เหมือนกับ เราไปบวชตนไม บวชอะไรตางๆ อยางนี้นะครับ ขณะนี้กําลัง หนักมากของภาคเหนือนะครับ เพราะน้ําถูกแยงไปในการทําไรขนาดใหญ และที่สําคัญน้ําในเขตอางแมสรวยนี้จะถูกนําไปใชใหแกชุมชนจีนพลัดถิ่นในเขตดอยวาวี ถามวา ชาวบานชาวเมืองจะเดือดรอนแคไหน พอชลประทานหลวงเขาไปทําลายหมดเลย แลวเราจะแกได อยางไร ที่ผมนํามาพูดวั น นี้ยังดีใ จวาทัน เวลางานวิจัย นี้ เพราะเรากํ าลังพูดกัน ถึงภัย แลง ใน ความรูสึกของผม ไมใชรัฐบาลนะครับ ในความรูสึกผมวาภัยแลงนี่รายแรงกวาสินามิเสียอีก เพราะ จะแยงน้ํากันทั่วราชอาณาจักร แตทุกคนมองไมเห็น เดี๋ยวนี้ไปดูอีสานซิครับ อีสานเปนตัวอยางที่ นากลัวที่สุดเลย เพราะพื้นที่ที่ชุมน้ําถูกทําลายหมด ใหฝนตกลงมาอีกหารอยหาก็ยังไมอยูเลยครับ เพราะวาพื้นที่ปาโคกถูกทําใหเปนพื้นที่พืชไรหมดเลย พื้นที่ชุมน้ําหมดครับ ฝนยิ่งตกมากน้าํ ยิง่ ทวม แลวกักไมอยูดวย แลวอีสานจะวิบัติมาก ยิ่งวิบัติมากขึ้นไปอีกเพราะดินเค็มอีก รุนแรงครับ
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๙
หมายความวาสิ่ง ที่เ ราทํา เราจะเสนอประเด็น วาการวิจัย แตละทองถิ่น อาจจะนํามา เปรียบเทียบและนํามาใชเพื่อเขาใจตัวเอง นี่คือแมลาว ไมทราบวาชาวบานเปลี่ยนแปลงไปอยางไร เปนผลกระทบจากนิเวศทางการเมืองและเศรษฐกิจที่เขามา แหลงที่สามก็คือที่ดานซาย ที่ดานซายนี่คือตัวอยางของการมีดุลยภาพสภาพแวดลอม ที่ เขตอําเภอดานซาย ชุมชนตั้งอยูในเขตบริเวณลุมน้ําห ลุมน้ําหมีตนน้ําตั้งอยูตั้งแตพระธาตุศรีสอง รักษเรื่อยไปจนถึงปากน้ําหที่ไปเชื่อมกับแมน้ําเหืองเปนหุบเขาเล็กๆ ประชาชนที่อยูในเขตดาน ซายตั้งแตตนน้ําถึงปลายน้ําอยูในระบบที่มีดุลยภาพ เปนการจัดการน้ําที่ดีมาก เพราะเขา รักษาตนน้ําและลําน้ํา ลําน้ําที่นี่นาสนใจกวาที่อื่น เขาเอาไปใชในการเกษตรดวยการสรางพัดคือกังหัน เอาระบบ โบราณซึ่งใชมาหลายรอยปแลวมาใชที่ดานซาย ทองถิ่นที่ทําการเกษตร ทําไร ทํานา จะใชกังหันนี่ พัดน้ําไปแจกแจงในทองที่ของเขา ก็เปนการทําเศรษฐกิจแบบยั่งยืน แบบพอเพียงของเขา แลว ชุมชนที่อยูในดานซายนี่นาสนใจมากครับ นอกจากมีบานแลวยังมีสวนครัวเล็กๆ ผมคิดวาอุด ม สมบูรณที่สุด แตจะเอาอยางหรูหราและโกไมมี แตมีความรมรื่น รักษาสภาพแวดลอม นี่คืองานที่ เราเห็นที่ดานซาย แตที่ดานซายมีปญหา เพราะการรุก ล้ําเศรษฐกิจการเมืองอีกทีหนึ่งเหมือนกัน คือการ ทองเที่ยว ทองเที่ยวที่ดานซายเรื่องผีตาโขน คนดานซายกราบไหวพระธาตุศรีสองรักษ พระธาตุศรี สองรักษเปนที่รวมทั้งผีและพุทธนะ ซึ่งอยูในความดูแลของเจาพอกวนซึ่งเปนผูทําพิธีกรรมขนาด ใหญของเมือง ที่มีอิทธิพลมาก ที่เปนที่พึ่งของคน ปจจุบันนี้นิเวศทางการเมืองและเศรษฐกิจรุกเขา ไปในรูปของการทองเที่ยว แปลงประเพณีของเขาบุญพระเวสใหมาเปนประเพณีผีตาโขน ซึ่งผีตา โขนนี่เปนสวนหนึ่งของบุญพระเวส บุญพระเวสเปนประเพณีพิธีกรรมซึ่งสอนใหคนใหทาน เพราะ พระเวสสันดรคือสัญลักษณของการใหเอื้ออาทรตอกัน แตประเพณีผีตาโขนเปนสวนหนึ่ง เปนเรื่อง สวนหนึ่งของประเพณีบุญพระเวส แตรัฐนี่ไปเนนตอนนั้น ทําใหเกิดประเพณีผีตาโขน เที่ยวกัน แหลกเลย ทําลายกัน สกปรกมากมายเหลือเกิน ลงไปถึงมิติจิตวิญญาณของชาวบาน รวมทั้งการ รุกของเถรสมาคมที่จะเขาไปจัดการเรื่องเจดียพระธาตุศรีสองรักษซึ่งฝายเจาพอกวนเขาดูแลอยู เกิ ด ความวุ น วาย นี่คื อ เกิ ด การกระทบของผู ที่ อยู ช ายขอบชายแดน ก็ เ กิ ด การขั ด แย ง ขึ้น มา เพราะฉะนั้นคนที่อยูดานซายก็จะเลาใหฟง เขามีวิธีการจัดการอยางไร สิ่งเหลานี้นะครับ เปนสิ่งที่ เราเรียนรูและชวยกันตั้งคําถามนะครับ มาถึงแหลงที่สี่คือที่จัน ทบุรี จัน ทบุรีก็เ ปน สังคมชายแดนชายขอบเหมือนกัน ในเขต จันทบุรีที่ทา นเห็นวาเปนเมืองชายทะเลนั้นที่จริงไมใช มีทั้งที่อยูภายในและภายนอก ภายในคือเขตที่อยูหลังเขาซึ่งเปนปาและเขา มีหมูบานเล็กๆ อยู แตเต็มไปดวยทรัพยากรไมนานา ชนิด มาตอนหลังเมื่อมีการสรางถนนจากจันทบุรีไปสระแกว ก็เกิดการรุกทําลายปา เกิดการทําไร
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๑๐
ขึ้นมากมาย ทําใหเ ปลี่ยนแปลงขนาดหนัก เกิดเปน ตลาดชายแดนที่มีค าสิโนก็เกิดขึ้นในเขตนี้ ทั้งหมด งานที่เราไปทํานี้ เราไดศึกษาชุมชนถึงสองแหง ชุมชนหนึ่งคือชุมชนแบบดั้งเดิมที่มีอายุ กวาสองรอยปขึ้นไป ที่เปนคนเขมรมาอยูมาตั้งถิ่นฐาน เขาอยูกันอยางไรในเศรษฐกิจแบบพอเพียง แลวเขามีการเติบ โตเปนธรรมชาติของเขานะครับ แลวพบวาประเพณีบ างอยางที่ตกหายไปใน กรุงเทพฯ นี่ ไปตกคางอยูในเขตหมูบานสําโรงที่เราไปศึกษาอยู สวนอีกหมูบานหนึ่งก็คือหมูบาน สวนสม เกิดขึ้นจากการพัฒนา มีผูคนไปเอาไมจากเขมรมาทําเฟอรนิเจอร เพราะฉะนั้นหมูบาน เติบโตจากระยะยี่สิบป จากหมูบานเล็กๆ กลายเปนชุมชนเมืองขนาดเล็กๆ และกําลังเติบโต นัน้ คือ การเปลี่ยนแปลงอยางมากมายนะครับ ขณะเดียวกันหมูบานนี้ก็ดึงคนจากที่อื่นๆ เขาไปตั้งถิ่นฐาน คําตอบก็จะใหวาทองถิ่นเหลานี้ มีการเปลี่ยนแปลงและสังคมวัฒนธรรมอยางไร เพื่อจะนําไปสูวา ควรพัฒนาอยางไรตอไป เพราะวาเขตชายแดนเขมรนีเ้ ปนเขตที่นากลัวอยูเหมือนกัน เพราะเขตนั้น มีการลอบลัก รถยนตออกไป และเปนเขตที่กระทบกับ การเมืองหนัก เพราะฉะนั้น งานอันนี้ก็จ ะ อธิบายถึงสังคมและวัฒนธรรมของคนในทองถิ่นนั้น อันสุดทายก็คือปตตานี ซึ่งครั้งหนึ่งสกว. ไดเคยนํานักวิจัยมาแถลงขาวครั้งหนึ่งแลว ผมจะ ไมพูดมาก แตจะชี้ใหเห็นวา งานของปตตานีครั้งนี้เปนงานของคนภายในหนึ่งรอยเปอรเซนต แลว เขาจะเอาความเดือดรอน ความรูสึกนึกคิดมาตีแผใ หทานฟง นี่คือตัวหนอนที่จะรู สิ่งที่เห็นเปน ความเห็นของผมนะครับ ในฐานะที่เขาไปทํางานวิจัย คือ อันนี้ไมเกี่ยวของกับเรื่องการขัดแยงที่ เกิดขึ้นนะครับ เดี๋ยวผูที่เขามาฟงจะคิดวามาพูดเกี่ยวกับผูที่เดือดรอน เราไมเกี่ยวกับเรื่องเดือดรอน ขณะนี้ เพราะเรามองคนเปนสามกลุม กลุมแรกคือนักการเมือง พอคา อะไรตางๆ เหลานี้ที่มี สวนไดสวนเสีย พวกนี้เราไมรูวาเปนใคร พวกนี้อาจจะกอความเดือดรอนก็ได อีกกลุมหนึ่งคือทํา ใหเกิดความรุนแรงขึ้น ซึ่งเราก็ไมรูวาเขาเปนใคร แตการที่เราศึกษา เราศึกษากลุมชาวบาน ที่เรารูวาเขาเปนใคร เขาอยูในพื้นที่ที่เขารูแนชัดวาเขาเปนอะไร เปนชุมชน เปนทองถิ่น อยูกันมา ชานานอยางเปดเผย เราศึกษาอันนี้ครับ ชีวิตวัฒนธรรมเปลี่ยนไปอยางไร เขาเดือดรอนอยางไร ผมคิดวานี่เปนสิ่งที่เราจะจับไดอยางเปนรูปธรรม เราไมสามารถจะแตะภาคใตจากคนสอง กลุม กลุมที่เปนพอคานายทุนนักการเมืองหรือกลุมที่มีผลประโยชน หรือกลุมที่กอความไมสงบ ขึ้นมา แตเราสัมผัสกับคนที่เปนชาวบานชาวเมือง คนเหลานี้จากการศึกษาของเราไมเคยคิดจะ แบงแยกดินแดน แตติดอยูกับมาตุภูมใิ นทองถิ่นและมีชีวิตที่เรียบงาย เวลาเราพัฒนาบานเมือง เรา จําเปนตองมองอยางนี้ไหม แทนที่จะเอาคนสองกลุมที่เราไมรูเรื่อง แลวไปตัดสินวาเขาแบงแยก ดินแดนหรือเปลา ฉะนั้น งานอยางนี้จึง เหมาะที่จ ะเอาตัวหนอนมาพูดวาเขาเดือดรอนอยางไรและเพื่อที่ สังคมไทย โดยเฉพาะสังคมมหาชนจะไดเขาใจครับ เพราะเวลานี้เมืองไทยอันตรายอยางหนึง่ ใครก็
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๑๑
ตามที่สามารถใชสื่อการตลาดบอกประชาชนไดก็จะเกิดความสําเร็จ แตวางานนี้ไมใชครับ เราใช สื่อใชกระบวนการเรียนรูรวมกัน เอาสิ่งที่คนในมาพูดและแลกเปลี่ยนกันไมเกี่ยวกับรัฐ ผมอยากจะ มองประเด็นอยางนี้เพื่อที่ความรูนี้จะไดไปเผยแพรใหสังคมมหาชนเห็นวาเปนอยางไร ผมเห็นวา จําเปน แตถาคนในที่เขาเปนเจาทุกขเขาบอกจะมีน้ําหนักมากกวา งานนี้ผมถึงอยากจะขอบคุณ สกว. ที่เปด มิติใหมในการสรางนัก วิจัย แทนที่จะเนนนกมาก เอาหนอนมากนะครับ ทําใหเห็น กระบวนการที่เคลื่อนไหวและก็สรางเวทีการเรียนรูแบบนี้ สัมมนาวันนี้ไมใชฝายที่เสนออยางเดียว นะครับ ฝายที่นั่งตองประเมินนะครับ และพรอมที่จะเอาความรูความเขาใจมาแลกเปลี่ยนกัน จะ เกิดทําใหเ ปาหมายการวิจัย บรรลุผลคือการเรีย นรูรวมกัน นี่คือการบูรณาการที่สําคัญ เพราะ สามารถเอาปญหาหลายๆ อยางมาเชื่อมโยงรวมกันอยางมีทิศทางครับ ขอบคุณครับ ผมอยากให discuss สิ่งที่ผมพูดกันดีกวา เพราะวาวันนี้เราเปดเปนกันเองนะครับ คือถา ผมพูดมากยึดไมโครโฟนมากผมก็บาอยูคนเดียว ถาผมพูดอะไรผิดๆ นี่เลนงานผมกอนเลยกอนที่ จะถึงตัวหนอน ผูเขารวมฟงการอภิปราย กราบเรียนทานผูอํานวยการนําเสนอผลงานในวันนี้ และตัวแทนสกว. ซึ่งเปนแมงานหลัก และผูที่เ กี่ ย วของรวมทั้งทานผูมีเ กีย รติ พี่ๆ น อง นัก วิจั ย ทองถิ่น ที่เ คารพครับ กระผมมาจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏจัง หวัดเลย กอนอื่นตองกราบขอบพระคุณที่ไดรับ แผนเอกสารชิ้นนี้ที่สงไป โดยมูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพัน ธุ ที่ผมเปนสมาชิกอยู และเคยไปฟงอาจารยที่เคยไปบรรยายที่ ออฟฟศ เวลานั้นคอนขางประทับใจก็เลยตามรายการนี้มา สิ่งที่อยากจะขออนุญาตกราบเรียนก็คอื กอนอื่นผมตองชื่นชมวางานวันนี้สําเร็จ ดวยแรงใจจากทานที่ป รึก ษาโครงการคือทานอาจารย ศรีศักรของพวกเราและก็ตัวแทน สกว.ที่มีน้ําใจที่อยากจะดึงชุมชนทองถิ่นออกมานําเสนอ ผมคิด วาเปนคุณคายิ่งสําหรับประเทศ ผมคิดวาเปนขอมูลพื้นฐานไมวาจะเปนมหาวิทยาลัยทองถิ่น เชน ราชภัฏ เปนตน มหาวิทยาลัยขอนแกน มหาวิทยาลัยเชียงใหม หรือมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวของกับ ทองถิ่น ทั้งหลายทั้งมวล นอกจากมีขอมูลทองถิ่นที่ทานอาจารยไดมีกรุณาบุกเบิกไว นับวาเปน คุณูปการยิ่ง ก็ตองกราบขอบพระคุณแทนมหาวิทยาลัยทองถิ่น และก็มหาวิทยาลัยสวนกลางนะ ครับ สิ่งที่ผมอยากจะเรียนถามทานอาจารยในสวนที่ผมคิดวาหลายๆ ทานอยากจะถามและก็ ทายใจทานผูมีเกียรติทุกทานที่มารวมงานในวันนี้ก็คือ อยากจะกราบเรียนถามวา ในการออกสู ชุมชนทองถิ่นนะครับ แนนอนเลย อยากจะทราบวาอุปสรรคหรือปญหา อาจารยไดกรุณาประมวล
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๑๒
จากประสบการณของทานนะครับ รวมทั้งถาสมมุติวาพวกเราเปนนักวิจัยมือใหมอยากจะลงไปเก็บ ขอมูลเชนทาน อาจารยและคณะทีมงาน อาจารยมีขอเสนอแนะอยางไรที่เราจะไดขอมูลนั้นตรง ประเด็นและเปนสิ่งที่เปนประโยชนและเปนจริงตามสิ่งที่ทานไดกรุณานําเสนอในวันนี้ ผมคิดวามี คุณคามาก อยากจะเรียนถามสั้นๆ วา อาจารยมีอุปสรรคปญหาในการลงไปพื้นที่มากนอยอยางไร คิดวาคงมีบางนะครับ ประการที่สองถาเปนนักวิจัยมือใหมที่บังเอิญเพิ่งเขามารวมรายการขณะนี้ ทานอาจารยและทีมงานหรือทาง สกว. หรือผูที่เกี่ยวของมีขอเสนอแนะอะไรบางที่จะเอื้อประโยชน ที่เราจะไปเก็บขอมูลแลวมีความสุขทั้งผูใหขอมูลและผูไปเก็บขอมูลครับ ในที่ประชุมแหงนี้กราบ เรียนถามเบื้องตนกอนครับ ขอบพระคุณเปนอยางสูงครับ ศรีศักร วัลลิโภดม ขอบพระคุณครับ คือเรื่องการลงพื้นที่ ผมคิดวาอยางพวกเรารูวาการเขาไปทํางานทองถิ่น ไมใชงายๆ เพราะทองถิ่นแตละแหงนี่ไมไดอยูกันราบรื่นนะครับแมแตสังคมประเพณีก็ตามมีความ ขัดแยงทั้งนั้น เพราะเหตุวาทุนนิยมหรือปจเจกนิยมลงไปถึงทองถิ่นหมดเลย ซึ่งกําลังอันตรายใน รากหญา การขัดแยงระดับทองถิ่นชุมชนที่เปนประเพณีก็ขัดแยงกันอยู ผลประโยชนนี่มาก ฉะนั้น เวลาเราเขาไปทํางาน การระแวงหรือการมองรักษาผลประโยชนมีมาก เวลาลงไปทําตองเต็มไป ดวยความอดทนนะครับ และตองเขาใจชาวบานใหได คือ ที่เราทํา เรารูวางานวิจัยแบบนี้ถาเราทํา จากขางนอกทําไมสําเร็จนะครับ เพราะการที่จะเขาไปขลุกอยูทั้งปหรือหาเดือนก็แยแลว กําลังคน ไมพอ ขอมูลนี่ไมมีทางที่จะไดเลย เพราะฉะนั้นตองกระตุนใหคนในทองถิ่นทํา แตเมื่อไปชวยเขา ก็ประสบปญหาเกี่ยวกับการขัดแยง ถูกหาวาเปนพวกโนน พวกนี้ ผมคิด วาผูที่เ ปน นั ก วิจัย ทองถิ่ น รูทุก คน แตเ รากระตุ น ใหเ ขาเกิ ด ความเขา ใจ พยายามจะมองแบบ compromise ทานรูไหมครับวาในทองถิ่น ความเปนอยูของคนในทองถิ่นไมมถี ูกผิดหรอกครับ ไมมี ลักษณะขาว-ดํา เปนลักษณะเทาๆ ทั้งสิ้น ถาขัดแยงกันคนทองถิ่นสามารถประนีประนอมกันได ผูนําทองถิ่นที่เปนผูอาวุโสอะไรตางๆ ถาคนนี้ทะเลาะกับคนนี้เขาก็จะพูดถึงวา เปนพี่นองบานนี้ รวมกันนะครับ คือ หาทางพบกันครึ่งทาง เขาก็อยูไดไมขัดแยง ถาเราเขาใจตรงนี้ เราจะไมไปยุง กับเขามาก เมื่อใดที่เราไปยุงจะกลายเปนขาว-ดําทันทีเลย รวมทั้งขบวนการตัดสินคดีความเห็น ไหมครับ ใหเขาดูแลกันเองเขาจะพูดกันรูเรื่อง แตเมื่อใดก็ตามเปลี่ยนมาเปนขึ้นศาลลงเรือก็เสร็จ เลย และโดยเฉพาะการขัดแยงในทองถิ่นเกิดขึ้นโดยรัฐไดสรางโครงสรางใหมลงไป ในทองถิ่นมีโครงสรางอยูสองชนิด ชนิดหนึ่งคือโครงสรางของชุมชนที่ผูนําเปนพระสงฆ องคเจา ผูอาวุโส ชาวบานตางๆ เหลานี้อยูในองคกรนั้น ความสําคัญนี้เสมอภาคทําเพื่อทองถิ่น เดียวกัน แตพอมาเปลี่ยนเปนการปกครองทองถิ่นที่มีกํานัน ผูใหญบาน หรืออบต. ทันที อํานาจมัน
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๑๓
ไปอยูที่กํานัน ผูใหญบาน อบต. โครงสรางมันจะเปนแบบลดหลั่นกันไปเลย อํานาจจะไปอยูต รงนัน้ เกิดกลุมผลประโยชนขึ้นมา ขัดแยงมากเลยครับ เวลาเราทํานะครับ เราตองเนนโครงสรางเดิม ไมไปยุงกับโครงสรางแบบราชการเทาไหร แตรูวาขัดแยง ก็ขัดแยงตลอด ทุกครั้งที่จะไปพัฒนา เดี๋ยวก็มีเรื่องกับอบต. กํานัน ผูใหญบาน ทุก คนมองอยางโนน มองอยางนี้ทั้งสิ้น ความเปนปจเจกอยางนี้ลงไปหมดเลย แลวพวกนี้มีอํานาจ ผม ถึงไมยอมรับไงวาชุมชนที่เกิดขึ้นโดยราชการภายในกํานัน ผูใหญบานหรืออบต. เปนชุมชนตาม ธรรมชาติ ชุมชนตามธรรมชาติตองเปนชุมชนที่คนในทองถิ่นจัดองคกรกันเอง มีพระสงฆ องคเจาเปนประธานนะครับ ถาพระสงฆไมดีชาวบานก็เลนงานเอาได นอกนั้นยังมีผูอาวุโสทีเ่ ปนตัว ภูมิปญญาทั้งหลาย คอยแนะนําตางๆ เหลานี้ แตสังคมชุมชนปจจุบันที่รัฐลงไป แยกคนแกออก จากคนหนุมสาว ทําใหเกิดการแตกแยกกันขึ้นมา เราเขาไปพยายามจะเชื่อม เรามีเจตนาอยางมากเพราะวาเปนพื้นฐานที่พวกเราใช สังคม ที่เกิดขึ้นขณะนี้ เพราะความเปนปจเจกบุคคลรุนแรง ตางคนเอาผลประโยชนของตัวเอง แลวความ เปนปจเจกบุคคลนั้นเปนสิ่งที่ไมใชเปนมนุษย เพราะมนุษยเปนสัตวสังคมที่ตองอยูรวมกัน ฉะนั้น องคกรเดิมคือองคกรของมนุษย ไมตองตอบปญหาวาทําไมคนมุสลิมเขาอยูไดแบบเดิม ที่เอื้ออาทร ตอกัน เดี๋ยวพวกปตตานีจะเลาใหฟงนะครับ เขาอยูไดดวยการเอื้ออาทรตอกัน แตปจจุบันนี้ไมใช นะครับ เพราะปจเจกบุคคลมันเขาไปทําลาย คือความเปนอมนุษยนะ สังคมในระบบเกาที่อยูเปน ประเพณีมาเปนเวลานานนะครับ ในพระราชดํารัสของในหลวงคือประเพณีที่เปนชุมชนแบบนี้ครับ เอื้ออาทรตอกัน ใชทรัพยากรรวมกัน มีการควบคุมโดยจารีตตางๆ นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นมา แลวงานนี้คือการมองจากฐานการเปนมนุษย นั่นคือสิ่งที่เราไปเกี่ยวของ ใหเขาเกิดความ เขาใจที่จะรวมอยูเปนกลุมเหลา เปนสังคม นี่คือสิ่งที่เราทํา แตเวลาเราทําเราตองพยายามใหเขา เขาใจ หัวขอหก-เจ็ดขอที่ใสไวคือใหเขาเชื่อมโยงนะครับ คนเหลานี้ใหไปทํา คนแกมีบทบาทมาก เลย เขาจะเลาอยาโนน อยางนี้นะครับ สิ่งที่จะเปนภูมิปญญาจะปรากฏขึ้นมามาก แลวเกิดสํานึก ในอดีต บางคนเขาจะเลาถึงสมัยกอนนี้เขาอยูรมเย็นเปน สุขอยางไร เปนยัง ไงจึงเกิดขึ้นมา สิ่ง เหลานี้จะเกิดความรวมตัวกันได ยกตัวอยางอยางเชนที่ปากมูล ทานรูไหมครับ หลังจากเปดเขื่อน ผมเปนกรรมการฟนฟูอยู หลังจากเปดเขื่อนแปดบาน สิ่งที่วาลวงคือพื้นที่สาธารณะอยูในแมน้ํา โขงนะ จับปลามาปรากฏวาชาวบานที่อยูรวมสองฝงแมน้ําจับปลาเหมือนกัน แลวเริ่มเอาเครื่องมือ ที่จับปลาแบบเดิมๆ มาใชกัน สิ่งที่ถูกขัดแยงนั้นหายไปหมดเลย ดันมาจับ ปลารวมกัน เพราะมี ความสุข แลวจับปลาไมใชจับปลาอยางเดียวนะ มันสนุกดวย เปนกิจกรรมทางสังคมและเศรษฐกิจ เริ่มกลับแลวครับ นี่คือ คนในทองถิ่นเขามีสิ่งเหลานี้อยู ประเพณีวัฒนธรรมเขามีอยู อยางเชนในอีสาน บั้งไฟแตละครั้งไมใชชุมชนเดียวนะครับ ตั้งหลายชุมชนมารวมสังสรรค กัน หรือในภาคกลาง แขงเรือตั้งหลายชุมชนมาเกี่ยวของกัน มาสัมพันธกัน คือทําใหความรมรื่นให
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๑๔
กลับมา แลวสิ่งเหลานี้เราไปทําดวยความลําบาก เพราะเราตองทําความเขาใจตรงนี้ เพราะฉะนัน้ ก็ ตองใชเวลาพอสมควรครับ ตองอดทนนะครับ แลวการวิจัยแบบนี้ไมใชการวิจัยแบบสถิติ สถิติให แตภาพนิ่งเทานั้น เอง ตองเขาไปมีสวนรวม ถึงแมวาพวกเราจะไมไดไปทุกวัน นะครับ เราก็ใ ห ชาวบานเขาทําได แลวเขาก็มาเลาใหเราฟง เราก็ตั้งคําถามไป คือเปนการลัดขั้นตอน แลวประเทศ อื่นนี่นะครับงานทางดานมานุษยวิทยาตองเปนฐานกอนพัฒนา แตวาเราผลิตไมทัน ทีนี้ทางลัดคือ สรางนักวิจัยทองถิ่นเลย เขาทํามาตั้งนานแลวครับ แลวเรานี่ยังลาหลังเพราะสี่สิบปเราเอานักวิจัย ขางนอกทั้งนั้น ทีนี้เ อาแนวคิดนี้มาใชได เพราะเราสามารถจะผลิตนักวิจัย จากขางนอกเขาไป ทํางานระดับนี้ไดนะครับ ทานอาจารยอยูราชภัฎผมวาเปนสิ่งที่ดี เพราะราชภัฎจะเปนตัวสื่อไดดี มากเพราะราชภัฏอยูใกลกับทองถิ่น ใกลชิด กับประชาชนได ถาเราใชวิธีการที่ดี ราชภัฎจะเปน resource ใหกับรัฐบาลไดตั้งเยอะตั้งแยะในเรื่องของความเปนไปในทองถิ่น มีอีกไหมครับ เชิญ ครับ ศ.ดร.ปยะวัติ บุญ-หลง ผมขอเสริมจากทานอาจารยจากมหาวิทยาลัย ราชภัฎเลยนะครับ คือคําถามของทาน อาจารยเปนคําถามที่เราก็อยากจะตอบหรือมีสวนรวมในการตอบมากเลย นานมาแลว หลายป แลววาทําอยางไร นักวิจัยมือใหมจะเขาไปได ก็มีจุดเริ่มตนวา มีความอยากจะทํา มีความสนใจ แลวก็มีศาสตรบางอยางที่ไปร่ําเรียนมา จะเขาไปอยางไร คําตอบที่เราพบในหลายๆ ปที่ทํามานี่ก็ คือวา อยางแรกตองวางศาสตรที่รูไวกอน อยาเพิ่งถือเขาไปนะครับ เขาไปคุยกับชุมชนกอน แลวก็ ถาจะใหดีก็คงจะตองเขาไปในชุมชนที่เขามีฐานทางการวิจัยอยูบา งแลว จะคุยกันงายหนอย ชุมชน ประเภทนี้ก็มีหลายฐานหรือหลายที่มา เชน จะมาเสนอโครงการในสองวันนี้ก็เปนประเภทหนึ่งนะ ครับ ที่เดินจากฐาน ethnography ที่ทานอาจารยศรีศักรเลาใหฟง งานนี้ฐานจะแนนมากเพราะ เปนงานที่นักวิจัยทองถิ่นทําโดยที่มีผูอาวุโสขานอกชวยวิจารณ มีทั้งความรัดกุมทางวิชาการและก็ มีมุมมองแบบทองถิ่น งานอีกอยางหนึ่งที่ สกว.สนับสนุนอยูก็คืองานวิจัยเพื่อทองถิ่น ซึ่งจะเนนที่ชุมชนทองถิ่น เปนหลัก คือ ตั้งโจทยของทองถิ่นขึ้นมาแลวก็หาวิธีเก็บขอมูลของตัวเอง เพื่อจะตอบคําถามของ ตัวเองวา จะทําอะไรกับปรากฏการณที่เกิดขึ้นกับพื้นที่นะครับ เชน มีหนี้สินเยอะในชุมชนจะทํา อยางไรดี อันนี้ไมตองการรูจากขางนอกก็ได แตวาเขาจัดการของเขาเอง กระบวนการที่จะรวมกลุม กัน แลวก็วิเคราะหปญหา แลวก็หาขอมูล แลวก็ทดลองทําเลย ชุมชนประเภทนี้มีอยูหลายรอยแหง แลวนะครับในประเทศไทย ถาทานอาจารยสนใจก็ตอเขาไปในชุมชนแบบนี้ ก็เปนอีกทางหนึ่ง แลว ก็จะคุยกับนักวิชาการขางนอกไดพอสมควร
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๑๕
อีกแบบหนึ่งที่เราสนับสนุนและผมเชื่อวามหาวิทยาลัยราชภัฏอีกหลายๆ แหงก็กําลังทําอยู และสนับสนุนใหอาจารยและนักศึกษาเขาชุมชน เปนสวนหนึ่งของการเรียนการสอน อาจจะไมได เนน วาจะเขาไปเพื่อใหเ ขาแกปญ หาหรือเขาไปเสริมการทํางานของชุมชนมากกวาการที่จ ะให อาจารยและนักศึกษาไดสัมผัสกับความคิดของชุมชน ไดสัมผัสกับความเชื่อ วิถีชีวิต กับวัฒนธรรม เพื่อจะไดเอาความรูเหลานี้ไปใชในการปรับหรือวาทํางานการเรียนการสอน หรือการวิจัยสั้นๆ ที่ เปนงานวิจัยภาคนิพนธ เพื่อใหหัวขอมันตรงประเด็นมากขึ้น อันนี้ก็เปนแบบหนึ่ง แบบที่สามนะ ครับ ซึ่งทําไดทั้งสามแบบแลวเราก็มีการสนับสนุนอยูหลายที่ อาจจะมีโอกาสเรียนขอมูลใหทาน อาจารยไดในภายหลัง ขอบพระคุณครับ ศรีศักร วัลลิโภดม ขอบพระคุณครับ ผมเสริมทานผูอํานวยการวาขณะนี้ การวิจัยที่เรียกวา action research คืออะไร อยางที่สกว.ทําครั้งนี้จ ะนําไปสูการที่เ ปน action research คงจะไมห มายถึง วาเอา ชาวบานมารวมดวย แตหมายถึงวาชาวบานตองเอางานนี้ไปใช make reaction ได สิ่งเหลานี้คือ action research ถามวาวิจัยเปนจํานวนมากเอาไปใชไดไหม บางทีเปน basic research มาจาก ขางนอกก็ใชไมได basic research ทําจากคนขางใน แลวผลจากคนขาในรูจะนําไปใชไดก็เปน action research อีกทีเหมือนกัน นําไปพัฒนานะครับ ชาวบานก็ตองรูแลววาความตองการของตัว คืออะไร จากการเรียนรูตรงนี้ เสร็จแลวก็จะเอานํามาปรับใช ผมไปทํางานจากหาโครงการ ผมก็ได ขอมูลไปใสโตะเทานั้นเอง ผมไมไดใชเพราะวาเพียงแตเรียนรู แตชาวบานมีสวนรวมไดทันทีเลย เขาเอาไปใชได และขณะเดีย วเขาก็สามารถเอาความรูนั้น ไปตอรองกับ สิ่งที่มาจากนิเ วศทาง การเมืองได ในปจจุบันนี้มีความจริงอยูสองอยางนะครับ ชุดหนึ่งมาจากรัฐในระบบนิเวศทางการเมือง คุณจะเอานักเศรษฐศาสตร นักรัฐศาสตรมาวิจัยทางการเมืองเยอะแยะเลย วางโครงการเขาไป แลวคุณอธิบายวาทําไมคุณทําอยางนั้น แตคุณไมมีความจริงจากทองถิ่นมาอธิบายวา สิ่งที่ทองถิ่น ตองการคืออะไร ไมมีทางที่จะมาพบกันเลย เปนการกระทําจากฝายเดียว จากนิเวศทางการเมือง ทั้งสิ้น แตการเคลื่อนไหวนี้เปนการสรางความเปนจริงจากทองถิ่นใหมาเกิดปฏิสัมพันธกันขึ้นมา แลวไมใชเผชิญหนานะครับ งานวิจัยที่เราทําเราไมคิดจะเผชิญหนา แตเราตองการใหเกิด ดุลยภาพครับ กอนที่ขางนอกจะมารุกล้ําจะตองรับความเดือดรอนของทองถิ่นกอน แลวมาพบกัน ครึ่งทาง เพราะฉะนั้นงานวิจัยนี้จะไมนําไปสูการถอยหลังเขาคลองเปนอนุรักษอยาเดียว แตเปน การปรับ ปรนใหเ กิด ดุลยภาพ ซึ่ง การวิจัยในเมืองไทยขณะนี้มันขาดดุลยภาพครับ ถึงเกิดความ เดือดรอน ที่จริงแลวนะครับรัฐนี่นะจําเปนตองทุมทุนอยางมหาศาลใหมีงานวิจัยนี้ขึ้นมา เพือ่ จะเอา
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๑๖
ใชในการวางแผนนโยบายอะไรตางๆ ดวยซ้ํา แตเสียดายที่ขาดครับ ผมถึงบอกวา สี่สิบปที่ผานมา ที่เราบอกวาการวิจัยเศรษฐกิจและสังคมที่จริงแลว เปนเศรษฐกิจการเมืองโดยตรงเลย เพราะไม เห็นสังคมไมเห็นคนมารวมดวย แลวเปนการพัฒนาแบบ force change คือบังคับใหเปลี่ยน เพราะ สิ่งที่นักวิชาการทั้งหลายเสนอใหสภาพัฒนฯ ไปคือมาจากขางนอกทั้งนั้น แตถาเปน plan change นี่ไมใชนะครับ plan change ตองรับรูเรื่องขางใน เวลาเรามองplan change ผลที่ไดเกิดจากการ เปลี่ยนแปลงอาจจะไมไดรอยเปอรเซ็นตก็ได อาจจะไดยี่สิบสามสิบเปอรเซ็นตก็ไดแตเพื่อการดํารง อยูของคนทองถิ่น แตถามองแบบคอมมิวนิสตเรียบรอยครับ force change ตองไปตามแผนนี้ แผนนี้ บังคับใช ที่เราพูด plan change ผิดมาตลอดครับ ไมไดเกิดขึ้นจากขางในเลย เพราะไมได สรางสิ่งเหลานี้ขึ้นมา ผมวาเปนมิติใหมที่ตองมาพูดกันนะครับ แลวราชภัฏหรือมหาวิทยาลัยที่เปนสถาบันชาวบานจะเปนตัวที่ชวยไดดีทั้งในแงของกรอบ ความรูตางๆ เหลานี้ครับ รวมทั้งจะเปนผูที่จะอธิบายใหรัฐบาลไดรับรูดวย เชน เหตุที่เกิดภาคใตนี่ รัฐบาลไมมี resource เลยครับ ฟงจากนกเหยี่ยว นกพิราบเทานั้นเองถามวากระทรวงวัฒนธรรมที่ จะเกี่ยวของอยางนี้มไี หม ก็ไมมี มหาวิทยาลัยที่จะใหขอมูลกับทองถิ่นก็ไมมี หรือไมฟง นี่คือปญหา อยางนี้ครับ นอกจากไมใ หกับ รัฐ บาลแลว ประชาชนสว นใหญก็ยังไมรู ก็เ ลยมองวาเปน การ แบงแยกดินแดน ก็เลยเกิดความรุนแรงอยูตลอดไป นี่คือปญหาที่เกิดขึ้นครับ ขอบคุณครับ ผูเขารวมฟงการอภิปราย อาจารยครับ ผมเปรียบเทียบความงายๆ ในเรื่องของการวิจัยตรงนี้ที่อาจารยเปรียบเทียบ วาเปนนกกับหนอน ผมใชภาษาอังกฤษสองคํานะครับ คือ want กับ need ซึ่งมันตางกัน ทีนี้ที่ จริงก็คือ นกอาจจะเปน want อยากจะใหทําอยางโนนทําอยางนี้ แลวจริงๆ แลวคือ need หรือ เปลา ของคนทองถิ่น ตรงนี้เปนปจจัยของการพัฒนาเศรษฐกิจของเรามาตั้งหลายป ถาสมมุติวา เรามีการวิจัยเสร็จแลว เราจะทําอยางไรที่จะสามารถใหมันลงไปดําเนินการได ตรงนี้ควรจะตองมี ขั้นตอน ใหเห็นวาการดําเนินการตรงนี้ แลวสิ่งที่เราควรจะตองมีก็คือมีวิสัยทัศน ไมงั้นก็วิจยั หลายๆ อยางที่ดีและก็หลายๆ แหงก็ไมไดเอาไปใช คนทองถิ่นก็คอยแลวคอยอีกจะมาเมื่อไหรหนอ อันนีค้ อื ปญหาครับ ศรีศักร วัลลิโภดม ครับ ปญหาเดียวกันที่ทานบอกวา want กับ need ใชไหมครับ want ของเราเปน need ของเขาหรือเปลา ทีนี้ปญหา want หรือเราไมใช need ของเขาขึ้นมา แลวทําอยางไรถึงจะรูวา want ของเรากับ need ของเขามัน compromise กันได เพราะที่แลวมาไมมีนี่ครับ เราสงไปเราสง คนขานอกไปทั้งนั้นเทาใชไหมครับ จะมีนักเรียนปริญญาเอก ปริญญาโทอะไรก็ตาม ก็คนขางนอก
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๑๗
ทั้งนั้นแหละ ถามวาเวลาที่จะอยูในการเก็บขอมูลพอไหม เพราะขอมูลที่อยูในตัว need ของเขายัง จะมีอีกมากเลย เพราะฉะนั้นสังคมแบบนี้มันไมสามารถพูดตรงๆ ไดนะครับ ไมใชคุณออกไปปบ คนนี้มี รายไดเทาไหร มีที่นากี่แปลง ปญหาทางวัฒนธรรมมีนะครับ ผมวาผมไปพูดกับคนที่รวยในหมูบาน ถามเขาวาคุณมีน ากี่แปลง เขาเริ่มสงสัย ผมแลว เรื่องอะไรมาถามกูวะ แลวถามวา บางทีเ ขาก็ อาจจะบอกวามีสิบยี่สิบแปลงก็ได ถามวากี่ไร เขาไมรูเรื่องหรอกครับ เพราะจํานวนไรตางกันเลย เขาพูดกันเปนแปลงๆ แลวถาเขาบอกเขามียี่สิบไร แตเขาเอาไปจํานองไววาไง เปนขอมูลที่ตองได ขอมูลที่มีคุณภาพ ฉะนั้น ผูที่เขาไปทํางานศึกษามีมิติของเวลาครับ การเขาไปสังเกตการ แลวไปขลุกอยู ไปสัมพันธกับชาวบาน พวกเราเวลาไปทํางานในทองถิ่นเรารูนะครับ ครั้งแรกที่ เราเขาไปนะครับ เขาอาจจะเรียกเราเปนเจานายอะไรก็ได เขาไมไวใจเรานะครับ แตตองอยูจ น ระยะหนึ่งที่เราสรางความสัมพันธกับเขา จนกระทั่งเขายอมรับวา เออ นี่เปนพี่เปนนองนี่นะ เมือ่ นัน้ เราเขาไปถึงได บางทีเราคาดการผิดวาคนนี้ดีที่สุดนั้น ไมใชนะครับ เพราะฉะนั้นมันยากครับ การที่จะรู need ของเขา ยาก แลวในสังคมไทยที่เปนสังคมที่ top down มาตลอดนะครับ เปนระบบสมบูรณาญาสิทธิราช ชาวบานคิดวาเขาโง เขาก็ยอมรับความโง ไงครับ แตที่จริงไมใช ถาเราไปศึกษาแบบนี้ ความโงของเขาไมใช เขาฉลาด พวกผมนี่ซิโงเวลาไป เจอกับชาวบานแบบนั้น เพราะอะไรรูไหมครับ เพราะเราเขาไปในทองถิ่น อยูโดดๆ ตายแน แตเขามี ความรูในทองถิ่นอยางมากมาย อันนี้มันเปนความปติจากการเรียนรูรวมกันครับ แลวอานิสงส จากการที่นักวิจัยจากขางนอกเขาไปขางใน เราสลายตัวเราเองนะครับ อัตตาเรานอยนะ ครับ เปนการเรียนรูถึงความเปนมนุษย ผมคิดวาการบูรณาการอยูตรงนี้ เรามานั่งพร่ําพูดถึง บู ร ณาการ บู ร ณาการคื อ อะไร ตั ว เองต อ งเลิ ก อั ต ตาตั ว เองก อ นครั บ พอสลายตั ว สิ่ ง ที่ เ ป น interdisciplinary เกิดขึ้นทันทีเลย คุณรูอยางนี้ แลวคนอื่นเขารูอยางอื่นแลวมาเชื่อมโยงกัน ได ความรู มันปติขึ้นมา เห็นความเปนมนุษยขึ้นมา ผมถึงวาเวลานี้มาพูดถึงบูรณาการ บูรณาการคืออะไรก็ไมรู นักวิชาการบูรณาการรูทุกที เลย แลวก็บรู ณาการที่แทจริง ผมรูวา นักวิจัยหลายคนเขาไป พอเขาไปอยูในชุมชนนั้นเขาไมรวู า เขา อยูในกรอบอะไร ผมเองผมก็ไมรูอยูใ นกรอบอะไร ความเปนนักมานุษยวิทยา นักบาๆ บอๆ หมดไป เลยในทันทีที่ไปสัมผัสกับสิ่งเหลานั้น คือสิ่งที่เปนความเปนจริงครับ แตเมื่อใดที่คิดวากูเปนนักโนน นักนี่ เดี๋ยวก็ฟดคนอื่นเขา แลวอีกอยางหนึ่ง บูรณาการอีกระดับหนึ่ง คือระดับใหสังคมไดรับรูตองใชสื่อใชเวที อยาง วันนี้เราจะพูดในเชิงบูรณาการ เพราะฉะนั้นผมถึงบอกวาทานที่อยูในที่นี้มีสวนที่จะแสดงความ คิดเห็นเรียนรูรวมกันจากโจทย จากคําตอบที่ใหครับ แลวทานอาจจะมี contribution ในความ คิดเห็นของทาน ใหนักวิจัยทองถิ่นกลับไปทํางาน งานวันนี้นะครับ นักวิจัยทองถิ่นที่พูดกันคราว
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๑๘
หนามาพูดอีกเรียนรูมากกวาอีก เพราะทานเปนผูประเมิน พูดงายๆ ทานมาชวยสอบวิทยานิพนธ เขาหนอยก็แลวกัน ขอบคุณครับ เชิญครับ ผูเขารวมฟงการอภิปราย กราบเรียนทานวิทยากรที่เคารพ กระผมไมไดมาขัดแยงอยางใดทั้งสิ้นนะครับ แตอยากจะ มาเสริมและขอขอบคุณที่ไดพูดใหเห็นภาพชัดตรงที่วา นกกะหนอนนะครับ อันที่จริงนกกับหนอน ก็ตองอยูรวมกันอยูแลว อยูรวมอยางปฏิสัมพันธหรือสัมพันธก็อีกเรื่องหนึ่ง ทีนี้อยากเรียนเสริมวา อันที่จริงนกมองอยาง bird’s eye view ที่ทานพูดนั้นแนชัดไมผิดเลย แตวาคําวา bird’s eye view นั้นมันอยูในสวนหนึ่งของ vision นั่นคือวิสัยทัศน วิสัยทัศนนั้นมาจาก three dimension คือกวาง คูณยาวคูณสูงบวกดวย bird’s eye view เมื่อมองอยาง bird’s eye view ก็เห็นภาพกวางเมื่อ มองเห็นอยางภาพกวางนั่นคือภาพรวม แตวาหนอนนั้นนะครับมองอยางพื้นที่ มองอยางบุคคลใน พื้นที่ กระผมคิดวาถาทั้งนกและหนอนนั้นมารวมกันแลวก็หาคาเฉลี่ยกลาง ก็จะเกิดความสําเร็จ สูงสุดเกิดขึ้น มิใชวาจะถืออัตตาวา ขาพเจาคือนกทานคือหนอน แตวาเอานกและหนอนมารวมกัน จะทําใหระบบนิเวศตางๆ ไมวาจะเปนนิเวศเศรษฐกิจการเมือง หรือวานิเวศทางวัฒนธรรมนี่อยู รวมกัน ไดอยางมีความสุข ผมคิด วานักวิจัยควรจะมองใหรอบดานใหรอบตัว อยามองวาอัน นี้ ขาพเจาเปนนก อันนี้ทานเปนหนอน ถามองอยางนั้นแลวความขัดแยงก็เกิดขึ้นเสมอ เพราะการ เปลี่ยนแปลงในโลกนี้ไมวาสิ่งใดทั้งสิ้น เปลี่ยนแปลงไปแลวความขัดแยงจะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นเรา จะหาจุดคาเฉลี่ยกลางไดไหมวา เราจะเอานกกับหนอนมารวมกัน จะทําอยางไร เรามีกระบวนการ อยางไรบาง เรามีกระบวนการความคิดอยางไรบางจะใหเกิดทั้งสัมพันธและปฏิสัมพันธตอกัน อันนี้ ก็เกิดสันติสุข แตวาถาเรามองอยางอัต ตาวา ถาคิดวาผมนกทานหนอน ความขัดแยง ก็ไมมีวัน สิ้นสุด ขอบคุณครับ ศรีศักร วัลลิโภดม ครับ ขอบคุณครับ ก็คิดตรงกันนี่ครับ ที่แลวมาเปนนกอยูตลอดเวลานะรัฐบาล ปญหาอัน นี้นะครับวันนี้ผมเห็นดวยแต how จะทําอยางไรใหมองแบบหนอน ทําอยางไรให vision ไมใชกวาง และยาวอยางเดียวแตเปนลึก ถาเอาหนอนมาใชจะลึกใชไหมครับ แตทําอยางไรจะไดขอมูลจาก หนอนขึ้นมา เพราะฉะนั้น งานที่ สกว. สนับสนุนนี้ไมใชสอนใหพวกชาวบานเผชิญหนากับรัฐนะ ครับ แตเพื่อเอาความเปนจริงของทองถิ่นของหนอนมาคุยกับตัวนกวาเราจะอยูรวมกันอยางไร ผม คิดวาชาวบานก็ยังไมมีอัตตา และก็ยังสรางอัตตาไมไดเพราะวาเขาถูก กดมาตลอด แตเมื่อใดก็ ตามทําใหเขารูตัวขึ้นมาแลวก็จะไปตอรองได ใชไหมครับ แตขณะเดียวกันทางฝายรัฐจะตองเขาใจ ถึงสิ่งเหลานี้ ที่แลวมาไมมีสิ่งเหลานี้ขึ้นมาเลยแลวสิ่งที่อันตรายที่สุดที่ผมกลาเอามาพูดในที่นี้ ผม
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๑๙
ใหทานประเมินงานชาวบาน ใหทานประเมิน ดวยวิจ ารณญาณของทาน ผมจะไมย อมรับงาน วิจารณงานของชาวบานที่ประเมินโดยนักวิชาการฝายใดฝายหนึ่ง ผมถือวาอาจจะมีอคติ แตสิ่ง เหลานี้เปดตอ public เพื่อใหไดเรียนรูรวมกันครับ ฉะนั้นความสําเร็จของงานอันนี้ดีหรือไมดีอยูที่ วันนี้ดวยครับ หลายๆ ฝายมาประเมินครับ ขอบพระคุณครับ ที่พูดมานี้ถูกตองทุกประการ แตสิ่งที่ เผชิญหนาเราขณะนี้คือเรื่องความลึกของ vision ใชไหมครับ ไมใชเรื่องความกวางอยางเดียว จะ ทําใหไดมาไดอยางไร เราก็เริ่มมาจากตรงนี้ ผมวาเปนนิมิตหมายที่ดีที่เรามาทําความเขาใจในเรื่อง concept นี้นะครับ แลวจะเขาไปอยางไร เพราะขณะนี้ประเทศชาติเผชิญกับวิกฤตขนาดหนักเลย แลวถารัฐบาลอาจจะมีชัยชนะในเรื่องการเมือง แตกําลัง lose the war ครับ lose the war กับ ประชาชนและธรรมชาติ แลวการแพสงครามครั้งนี้นะ ไมใชรัฐเดือดรอน เราทุกคนเดือดรอนครับ ภัยแลงครั้งนี้นะครับ เปนยิ่งกวามหันตภัยสึนามิอีก คือเราตองตระหนักนะครับในเรื่องนี้ เราอยูใน วิกฤตที่นากลัวมากเลยครับ ขอบคุณครับ ผูเขารวมฟงการอภิปราย ครับสวัสดีครับทานวิทยากร ทานอาจารยศรีศักร ผมมาในวันนี้ในฐานะหนอนซึ่งหลายคน ก็กําลังคุยเรื่องนกกับหนอน ทีนี้ผมเขาใจวา นกกับหนอนนั้นสามารถที่จะรวมไดแตวา ในที่นี้นก อยาพยายามที่จับกินหนอนนะครับ ซึ่งผมคิดวาที่มาในวันนี้ก็มีทานอาจารยหลายๆ คนที่มาจาก สถาบัน ของมหาวิท ยาลัย ผมอยากจะของฝากนิดหนึ่งในฐานะที่เ ราเปน ชาวบาน บางครั้ง ที่ นักศึกษาไปทําวิทยานิพนธในหมูบาน ไปถามตัวผมเองหรือวาคนที่วามีอายุในหมูบาน แตในเมื่อ เขาทําเสร็จแลวไปสงอาจารย ทีนี้เขาไมไดสงใหทางหมูบานดูวา ขอมูลที่ทําไปนั้นตรงกันไหม นี่คือ ความผิดพลาด เพราะวาการที่ทําวิทยานิพนธนี้ตองเผยแพร ทางที่ดีนะครับ ผมอยากจะฝากตรงนี้ วาทานอาจารยทั้งหลายที่จะตรวจแลวก็ใหผานวิทยานิพนธ ผมอยากจะใหทางมหาวิทยาลัยนั้นสง ขอมูลใหชาวบานไดรับรูวาการที่เขาเก็บขอมูลนั้นตรงกันไหมกับความเปนจริงของชาวบานครับ
การสรุปผลงานวิจัยโดยหัวหนาโครงการและที่ป รึกษา-การแสดงความคิดเห็น จากที่ประชุม พฤหัสบดี ๑๗ มีนาคม ๒๕๔๘ ศรีศักร วัลลิโภดม นมัสการพระคุณเจา ทานผูมีเกียรติที่เคารพ ตรงนี้เปนชวงสุดทายของรายการสัมมนา เปนรายการของนกแกๆ บนเวทีนะครับ ที่แลวมาเปนหนอนกับนกหนุมสาว ที่เราเขามารวมนะครับ
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๒๐
เราอยากรับฟงความคิดเห็นของผูที่เขามาอยูในที่ประชุมทานที่มารวมประชุมเปนประการแรกเลย เพราะวาพวกเราชักเหนื่อยกับไมโครโฟน สองวันเต็มๆ ทานไมไดซักถามเทาไหร ตอนนี้เปนเวทีของ ทานนะครับ ขอใหทานประเมินงานนกหนอนที่พูดมาในสองวัน ทานมีความเห็นอยางไร เพราะผม ไดตั้งใจตั้งแตแรกแลวในการทํางานครั้ง นี้ ผมไมรับการประเมินจากคณะกรรมการใดๆ ทั้งสิ้น เพราะผมไมชอบในการประเมินแลวมาตั้งกรรมการในแนวคิดทฤษฎีแลวมาวิจารณเรา ผมคิดวาผู มีสิทธิ์ที่จะมารวมวิจารณงานนี้ไดคือผูที่มารวมสัมมนามาจากสาขาอื่นๆ งานครั้งนี้ผมถึงบอกวา สกว. คอนขางจะเสี่ยงที่ใหทุนผมมาจัดการในครั้งนี้ เพราะผม anti พวกนักวิชาการทั้งหลาย หนาที่ของเราขณะนี้จึงเปดใหทั้งหนอนทั้งนกทั้งหลายชวยวิจารณชวย ประเมินวางานทั้งหลายที่เสนอมาสองวันนี่จะผานไหม? มีประโยชนไหม? มีขอบกพรองอะไรไหม? เชิญเลยครับ ขอบพระคุณครับ เชิญครับ ผูเขารวมรับฟงการอภิปรายจากแพร คงไมใชการประเมินครับ ผมอยากจะเรียนถามวา เวลาที่เราวิจัยออกไปเพื่อใหคนทองถิ่น รูจักตนเองไดดีที่สุด แลวทีนี้อยากจะถามวา แตละพื้นที่มีวิธีใดที่จะใหงานที่เราทําจากขอมูลไปถึง ทองถิ่นอยางไรบาง อยางที่ดาโตะภูมีบอกวามีสองพันหารอยกวาคน ไมทราบวารูงานวิจัยเรื่องนี้ สักกี่คน แลวโดยวิธีไหน เพราะในแงของตัวเองมีความคิดวา การที่เราทําวิจัยนาจะรูไปพรอมๆ กัน ทั้งคนทําวิจัยและคนถูกใหขอมูลนี้นะครับ ขอบพระคุณครับ ม.ร.ว.อคิน รพีพัฒน ทานบอกใหผมตอบ ผมคิดวา เดี๋ยวกอนมีสองอยางนะครับ ทานคิดวา หนึ่งใหรูพรอมๆ กันหรือรูแตรูทีหลัง ประการแรกเราตองกลับไปนึกที่หมอภักดี (สืบนุการณ) พูดบอกวา จะทําเปน หนังสือเด็ก จะทําเปน หนังสือเรีย น ใหแกไขปรับ ปรุงการปฏิ บัติงานของโรงพยาบาลนะครั บ โรงพยาบาลที่ดานซาย แลวก็สอนใหนักเรียนทําเปนหนังสือใหกับเด็ก ในการมีปญหาเรื่องผีกับ พระและปญหาเรื่องพระธาตุ ก็ไดนําเรื่องนี้ พูดคุยกับ ทั้งฝายรัฐและฝายชาวบานก็ไดเรีย นรูไป พรอมๆ กัน ทีนี้ถาเผื่อถามคําถามที่วาเรียนรูไปพรอมๆ กัน ก็มสี องอยางดวยกันนะครับ แลวแตละ ที่ ผมคิด วาสุดแทแตสภาพของแตละที่นั้นเปน อยางไร เรื่องอะไรสําคัญ กวา ผมคิดวาแตละที่ ตางกัน ๑. วัตถุประสงคการทําวิจัยนี้เพื่อจะใหชาวบานในทองที่นั้นรูจักทองที่ของตัวเองก็มี ผูที่มา ทําวิจัยสวนมากมักเปน ผูใหญใ นทองที่ คือเปน พระสงฆบาง เปนครูบ าอาจารยบาง เปนผูที่มี อาวุโสบางในทองถิ่น การที่ทานเหลานี้ออกไปทํางานวิจัย ไปถามขอมูลจากคนตางๆ ในเรื่องตางๆ
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๒๑
ผมวาในการที่รูจักพูดจากัน หรือโตตอบกันนี้ ยอมจะมีสิ่งไดเรียนรูโตตอบกันอยูตลอดเวลาอยูแลว นี่เปนอันหนึ่งนะครับ ๒. ถามีเหตุการณอะไรอยางที่ผมพูดไปเมื่อกี้นี้ เกี่ยวของกับเรื่องพระธาตุศรีสองรัก เปน ตน หรือวาปตตานี เปนตน ขอมูลที่ไดจากการศึกษานี้จะออกมาเปนประโยชนในการที่จะตอรอง กับรัฐ หรือทําความเขาใจซึ่งกันและกันตอคนในพื้นที่และกับคนนอกพื้นที่ดวยนะครับ ผมขอพูดแค นี้กอนก็แลวกัน ขอบคุณนะครับ ศรีศักร วัลลิโภดม ไมทราบวาที่ทานอาจารยอคินพูดมากระจางไหม เขาใจแลวใชไหมครับ คือที่ทานพูดมานี้ หมายถึง กระบวนการเรียนรูรวมกัน ทั้งพระสงฆองคเจาและผูที่อยูในทองถิ่น และผูที่สัมพันธกับ คนในทองถิ่น เก็บขอมูลในทองถิ่น แลวมาสรางเปนองคความรูอยางมีระบบ ใหเกิดความเขาใจนะ ครับ ที่ทานอาจารยอคินบอกวาผูที่ทํางานวิจัยก็จะเผยแพรความรูนั้นสงมาใหเปนเรื่องเด็กเพื่อให งายเขานะครับ ความรูนี้ถาไดมีโอกาสมาขึ้นเวทีอยางนี้ก็จะทําใหสื่อไปยังทองถิ่นอื่นๆ เปนการ แลกเปลี่ยนกัน ทําใหเห็นความหลากหลายของวัฒนธรรมใชไหมครับ ทองถิ่นที่อยูทางเวียงปาเปา ที่อยูทางแมสรวย ที่อยูทางปตตานี ตางถิ่น ตางกลุม ตางวัฒนธรรม ไดมาแลกเปลี่ยนกัน เราถึงได รูวาดินแดนในประเทศไทยมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมหลายกลุม การเรียนรูวัฒนธรรม รวมกันนี้คือการอยูรวมกันที่ไมมีอคติ นีค่ ือเปาหมายรวมกันในสิ่งเหลานี้ เวทีนี้เอาหนอนมาพบกันนะครับ โดยที่นกเปนตัวอยูขางหลัง คือขอมูลที่แลวๆ มานี้ไปจาก นกทั้งนั้นเลยใชไหม การพัฒนาแตละครั้งก็ไปจากนกทั้งสิ้น จะมีการกลาวหาวา นกตัวนั้น นกตัวนี้ ถารัฐไมยอมรับก็หาวาเปนมือที่สามปลอมขอมูลมา แตคราวนี้เอาตัวหนอนมาเลย ก็เลยเกิดสิ่งนี้ ขึ้นมา ขอบคุณครับ จะมีใครแสดงความคิดเห็นไหมครับ เชิญครับ ผูเขารวมฟงการอภิปราย เรียนทานผูดําเนิน การที่เคารพ ขอแรกก็คือวาอยากจะเสริมพูดผูมาเปนวิท ยากรทาน สุดทายนิดเดียว ทําไมน้ําที่มาถึงปลายแหลม น้ําที่คลองดาโตะนั้นถึงจืด จะเรียนเพิ่มเติมเสริมนิด เดียวตรงที่วา ตรงนั้นเปนทราย ทรายที่ยื่นออกไปนั้นเกิดจากการที่ทําใหน้ําพัดทรายขึ้นไปทําให เปนสันดอนทรายทั้งสองขาง มีอาวไทยอยูทางดานขวา อาวปตตานีอยูทางดานซาย ทรายนี่เปนตัว กรองเกลือ เมื่อกรองเกลือ ระดับน้ําใตดินตรงนั้นจึงจืดสนิท โดยเฉพาะที่เปนเชนนี้อยูไดก็เพราะ ตั้งอยูบนสันดอนทราย น้ําที่บริเวณแหลมที่ยื่นออกมาของหมูบานดาโตะนั้นขุดลงไปแลวก็เปนน้ํา จืดสนิท
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๒๒
อีกนิดหนึ่งก็คือวา กระผมฟงมาสองวันเต็มไมไดออกไปไหนนอกจากกิน ขาว แลวก็เขา หองน้ําก็ไดรับความรูจากทานวิทยากร ผลัดหนากันมาบรรยาย ก็ขอขอบคุณ อยากจะเรียนอีกนิด หนึ่งตรงที่วา ปญหาเกิดขึ้นที่ตรงการเปลี่ยนแปลง มีทั้งบวกและลบ ถาเราพูดถึงเชิงบวก ก็เปนคุณ ถาพูดในเชิง ลบก็เ ปน อัน ตราย ที่อยากจะหาจุด คาเฉลี่ยกลางวา เราพูดอยางไร หรือนําเสนอ อยางไรจึงจะเปนคุณ หรือวาเปนประโยชนตอสวนรวม อันนี้ผมก็คิดวา การรวมมาประชุมสัมมนา นี้เ ราเอาแตสิ่ง ที่เปนประโยชนมาปรับปรุงแกไขสิ่ง ที่เ ปนประโยชนก็จะดีขึ้น อยางไรก็ตามการ เปลี่ยนแปลงก็จะมีผลตกกระทบตอทองถิ่น ตัวทองถิ่นก็จะมีผลกระทบโดยตรงทั้งในเชิงบวกและ เชิงลบ สิ่งใดที่เปนผลตกกระทบทางเชิงลบก็ขอใหคิดดูวาเราจะทําการปรับปรุงอยางไร ถาสิ่งไหน เปนบวกเราคิดวาทําอยางไรจึงจะใหเปนบวกมากขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อทั้งทองถิ่นและบานเมืองของ เรา ผมคิดวานาจะเปนประโยชน การสัมมนาที่ทานไดจัดมาในคราวนี้ขอชมเชยเปนการสวนตัววา จัดไดดีและก็ขอใหจัดอีกหลายๆ ครั้ง ขอบคุณครับ ปรานี วงษเทศ ขอบพระคุณสําหรับคําถามนะคะ คือ ถาจะถามวาเราจะเสนองานออกไปอยางไรใหเปน ผลประโยชนตอสวนรวมของประเทศนะคะ คือเรามักจะอางผลประโยชนสวนรวมของประเทศ เสมอ แลวรัฐ บาลเปน รอยปมาแลวมัก จะอางถึงประโยชนสวนรวมของประเทศ โดยที่ถาเปน ประโยชนสวนรวมของประเทศตามที่รัฐ อางถึงทําไดจ ริงๆ จะไมมีเ หตุการณอยางที่เ ราพบใน ชายแดนตางๆ หรืองานวิจัยอีกมากมายยิ่งกวานี้ หากวาเราจะหาสิ่งที่เปนกลาง จะเกิดขึ้นไดเมื่อ สังคมเรามีความเขาใจกันกอนและมีความยุติธรรมจริง เราจึงเฉลี่ยประโยชนใหรวมๆ กันได แตที่แลวมา ผลจากการศึกษาวิจัย สังคมไมไดเปนอยางนั้น สังคมจํานวนมากถูกทอดทิ้ง แลว ก็เ ราไม ได เ ข าใจเขาเลย เพราะฉะนั้น ถา จะให เ กิ ด ผลประโยชนร วม เราตอ งใหเ ขาไม มี ผลประโยชนเลยกอน ที่เสียผลประโยชนกอนแลวจึงกระจายใหกับคนที่มี แลวก็ลดลงมาบาง คือ เปนความเห็นสวนตัว ไมไดเปนของทีมงานวิจัย แตคิดวาเราอางผลประโยชนสวนรวมมามาก และ ทุก วัน นี้รัฐบาลก็ยัง อางผลประโยชนสวนรวมในการที่ใชกําลัง ลงไปในภาคใต หรือวิธีการที่จ ะ พัฒนาในทางเศรษฐกิจอยางเดียวก็เพื่อสวนรวมจะขจัดคนจนออกไปทั้งประเทศ รัฐคิดวาทุกคนใน โลกตองการความร่ํารวยแตไมไดคิดวามีคนบางกลุมที่เขามีศรัทธา แลวเขาไมไดอยากจะร่ํารวย ไมไดเ ปน เปาหมายในชีวิตของเขา อยางเช น กลุมคนมุสลิม บางกลุมนะคะ มุสลิมบางกลุม ก็ ตองการความร่ํารวย แตไมไดเ ปน แบบนี้ทั้งหมด แตกตางหลากหลายมาก แลวก็ก ารที่จ ะเปด โอกาสใหคนที่ประสบปญหาไดมาพูด อันนี้เปนจุดเริ่มตนที่ตองทําความเขาใจกอนที่จะไปคิดวาเรา จะไปแกอะไรนะคะ หรือวาจะทําอยางไรใหเกิดความเทาเทียมกัน แตตองฟงเขากอน
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๒๓
อีกประเด็นหนึ่งที่เปนคําถามแรกวา เราจะเอาผลงานนี้ไปสานตอทําประโยชนอยางไรนี้ มี อยูในจุดมุงหมายแลวของทุกโครงการนะคะ ถาเผื่อวาไดอานโครงการแรกของอาจารยศรีศักรเขียน แตละกลุมหาโครงการนี้ แตละกลุมมีจุดและเปาหมายในโครงการแตกตางกัน บางกลุมตองการ เอาไปสรางพิพิธภัณฑ บางกลุมตองการทําบทเรียนใหสําหรับเด็ก บางกลุมตองการองคความรู พื้นฐานใหกับชุมชนที่กําลังออนลาทางดานสติปญญา เพราะฉะนั้น ก็คงไมใชหนาที่ของเราที่จะ ตอบหรือวาควรจะทําอะไรที่ดี ชุมชนตางหากที่จะตัดสินใจไดวาอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาจะทําได ก็ ขอแสดงความเห็นไวแคนี้คะ ศรีศักร วัลลิโภดม คือที่แสดงความเห็นมานี้เ ปน ความคิดที่ดี ที่ทานพูดมานี้น ะครับ วาทํายัง ไงจะใหเ ปน ประโยชน แลวตรงกับเจตนารมณของคณะผูทําการวิจัยนี้และสกว.ดวยนะครับ คือทําอยางไรถึงจะ แพรความจริงในระดับทองถิ่นใหคนอื่นๆ ที่อยูขางนอกโดยเฉพาะทองถิ่นไดรับรู เพื่อจะเอาความ จริงอันนั้นมาปรับใชในการพัฒนาประเทศนะครับ ทําไมเราถึงบอกวิจัยนี้เปนวิจัยของตัวหนอน เพราะที่แลวมาเปนนกทั้งนั้น ยกตัวอยาง อยางที่เมื่อกี้อาจารยปรานีพูดถึงภาคใต เหตุการณที่ เกิดขึ้นที่ภาคใตขึ้นมา ถามวารัฐบาลมีใครบอกความจริงเรื่องนี้ไหม วาปญหาทางวัฒนธรรมของ ภาคใตคืออะไร ไมมีนะครับ รัฐฟงจากเสียงพิราบหรือเหยี่ยวเทานั้น นกทั้งพิราบหรือเหยี่ยวก็เปน นกเหมือ นกั น ถามวา หน วยราชการที่ เ กี่ ย วขอ งจริง ๆ ที่ จ ะให ค วามรูกั บ รั ฐ บาลคื อกระทรวง วัฒนธรรมครับ แลวในที่นี้ไมมีกระทรวงวัฒนธรรมสักคนหนึ่ง งานทางวัฒนธรรมไมใชบาทาง ศิลปวัฒนธรรม ดูแลงานสงกรานตน ะครับ แหเ ทียนเขาพรรษา ไมนะครับ วัฒนธรรมตองเอา วัฒนธรรมของคนในชาติทั้งระดับหลวง ระดับราษฎรนี่มาแจงใหรัฐบาลรูวา นี่วิถีชีวิตของคนใน ภาคใตเปนอยางนี้ กระทรวงวัฒนธรรมไมเคยทําหนาที่นั้นเลยนะครับ แลวก็ไมเคยมาเกี่ยวของเลย ถามวา แลวใครจะทําหนาที่อันนั้นละ? เราก็เห็นอยูขณะนี้สิ่งที่ สกว. คือพยายามเชื่อมโยง ใหการศึกษาสถาบันหลายแหงทําหนาที่นี้นะครับ อยางสถาบันราชภัฎฯ จะเปนสถาบันที่สําคัญที่ จะรับรูเรื่องราวของวัฒนธรรมทองถิ่นเหลานั้น แลวก็ไปเสนอใหฝายบริหารทราบ นั่นคือสิ่งที่เรา พยายามจะทํา แตที่แลวมานี่การนําขอมูลทางวัฒนธรรมของสถาบันการศึกษานั้นมักจะทําโดย พวกนก ใชอาจารยจากที่ไปเรียนปริญญาเอก ปริญญาโทมา เอา ไปเก็บขอมูลไป แตก็ยังเปนนก อยู แลวแถมความรูของนกนั้น รัฐบาลก็ไมฟงอีก หางไกลไปเลยใชไหมครับ ตรงนี้ครับคือปญหา เพราะรัฐเองก็ไมเคยไดรับรูขอมูลของทองถิ่น ของวัฒนธรรมที่หลากหลายโดยตรง แต เวลามีเรื่องปบ ก็เอาขอมูลจากที่ไหนก็ไมรูจึงเกิดปญหาขึ้นมา และที่สําคัญก็คือวา เวลาวางแผนงานของรัฐบาลก็เหมือนกับ bird’s eye view อยางที่ผู นําเสนอบอกวาเอาแผนที่มากาง แลวก็มาขีดเสนวาตรงนี้เปนโรงงานอุตสาหกรรม ตรงนี้เปนเขื่อน
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๒๔
กั้น น้ํา ตรงนี้เ ปนอยางโนน อยางนี้ แตไมเคยเห็นหมูบานหรือชุมชนที่อยูต รงนั้นเลย ถึงไดเ กิด ปญหาขึ้น มานะครับ แตที่เ ราทํากัน นี้เพื่อที่จ ะนําความรูของหนอนจริง ๆ ออกไป แลวก็การสื่อนี้ ไมใชสื่อใหรัฐอยางเดียวนะครับ เจตนารมณของ สกว.คือสื่อใหรัฐไดรับรูดานหนึ่ง อีกดานหนึ่งคือ สื่อใหสังคมทุกแหงในบานเมืองไทยไดรับรู ไดแลกเปลี่ยนกัน ไดตระหนักวาเมืองไทยนี่ ไมไดมีวัฒนธรรมเหมือนกันหรอก ไมไดเ ปนเอกลัก ษณอยา งที่คิด ในทองถิ่นเปนพหุ ลัก ษณ ค รั บ แล ว ความเป น ชาติ นี่ ไ ม ไ ด เ ปน เอกลั ก ษณ ม าจากขา งบน มาจากความ หลากหลายของพหุลักษณนี้ มายุติใหเปนอันหนึ่งอันเดียวหรือมาบูรณาการกัน สังคมไทยขณะนี้เพงอยูสองภูมิเทานั้น อยางที่ผมพูดเสมอวา ชาติภูมกิ ับโลกภูมิ คือ ชา-ติภู มิ คํ า ว า เป น ไทย ทุ ก คนในแผ น ดิ น กรี ด เลื อ ดมาเป น คนไทยหมดเลย เป น ผลผลิ ต จาก ประวัติศาสตรชาตินิยมจากสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เรื่อยมา เอาชื่อของชาติพันธุหนึ่งมา เปนชื่อของชาติ กลายเปนเชื้อชาตินิยมไป แลวขณะนี้ชาติภูมินี่กําลังขานรับโลกภูมิในกรอบ ของ globalization ทํารายคนที่อยูในมาตุภูมิทองถิ่นตางๆ ที่อยูในบานเกิดของเขา สัมมนาสองวัน ที่ผานมานี้ เราเห็น ชัด เลยวาจากนัก วิจัยที่รายงานมานี่ ผมเห็นชัดวามี ระบบนิเวศสองอยางที่ปะทะกัน นิเวศแรกมาจากรัฐ มาจากโลกคือนิเวศเศรษฐกิจและการเมืองที่ เขา มาในการสรางเขื่อ น สรา งอะไรต างๆ เหลา นี้ กั บ นิเ วศวัฒนธรรมที่เ ปน เรื่อ งของทอ งถิ่ น เหตุการณขัดแยง เห็นชัดเลย react ออกมาในนิเวศวัฒนธรรมที่เกิดความเดือดรอน เพราะวาผล จากการเมือ งและเศรษฐกิจ ที่ ลงมา ป ญ หาวา ถาไมเ กิ ด ทํา ความเข าใจนะครับ เมือ งไทยพั ง เพราะวาเราจะเปนเหยื่อ globalization คือโลกาภิวัตน เพราะมีอํานาจมากเลยเหนือนิพพาน ชาติภู มิ ลงมาสู ม าตุ ภูมิ แล ว การจะตอ ต านโลกาภิวั ต น น ะครั บ ไม มีท างอื่ น นอกจาก localization คือการทองถิ่น ตองวัฒนาออกไป ทองถิ่นจะวัฒนาออกไปนั้น ไมใชพัฒนานะครับ ไมใชพัฒนาจากขางใน ตองขางในตองมีพลัง เพราะฉะนั้นการทองถิ่นจะวัฒนาไดนี่ คนในทองถิ่น ตองรูจักตัวเอง รูจักความเปนมาของตัวเอง รูจักความเปนมนุษยที่อยูเปนกลุมกอนของตัวเองนะ ครับ เพราะฉะนั้นเมื่องานวิจัยครั้งนี้ค นทองถิ่นตองรูจักตัวเองกอน รูจักในทองถิ่นตัวเองกอน ที่ นักวิจัยพูดวาจะไปสรางหลักสูตรทองถิ่นตางๆ นี้ เพื่อที่จะใหคนทองถิ่นไดรับรู แลวความรับรูน นั้ นะ ครับ รูจักตัวเอง แลวก็เอาความรูนั้นไปใหเพื่อนบานไดรูจัก แลวจะอยูไดดวยก็หมายไมใชรูจักแต ชุมชนหมูบานตนเองเทานั้น ตองรูจักเพื่อนบานดวย เพื่อนบานในที่นี้หมายถึงคนในถิ่นอื่นดวยจึง จะอยูรอด แลวก็ตองรูจักโลก กระบวนการแบบนี้นะครับคือจุดเริ่มตนของ localization คือการทํา ใหทองถิ่นมีวัฒนา มีพลังนะครับ กระบวนการทองถิ่นวัฒนานี่ บางทีจะถูกทวงติงโดยนักอะไรตางๆ ซึ่งมักจะกลาวหาเปน ประจําวาจะถอยหลังเขาคลองหรือ เพราะตีความคําวา localization พลาด พลาดหมายถึงวาเปน การอนุรักษหรือใหมีชีวิต อยูแบบเกา อยูบนเรือกอและอยูหรือ? ผมวาไมใชค รับ กระบวนการ
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๒๕
localization ในทองถิ่นนี่คือการปรับ ปรน เมื่อทองถิ่นมีสติปญ ญาเขาใจตัวเองก็มาดูวา อะไรที่ตัวลาหลังไมเหมาะสมก็เลิก และอะไรที่ใหมเขามาทางโลกาภิวัตนและเหมาะสมก็ รับเขามา กระบวนการนี้จึงเรียก localization ไมใชถอยหลังเขาคลอง ถาหากโครงการของรัฐ ที่เขามาในรูปของนิเ วศทางการเมืองและวัฒนธรรมที่เ ขามานี้ กระบวนการทองถิ่นตองขานรับ ครับ ไมใ ชปฏิเสธ แตวาตองมาตอรองวาอะไรที่รับไดหรือไมได เพื่อที่ตัวเองจะไดยืนอยูได งานนี้ก็คือการปรับตัวเองเขาสูกระบวนการที่เรียกวา modernization คือทําใหทันสมัยขึ้นมา ไมลาหลัง ก็ตองปรับเขามาเพื่อที่จะดํารงอยู ถามวาในบรรดาประเทศอื่นๆ ทั่วโลกขณะนี้ มองในเพื่อนบานอื่นๆ มีกระบวน modernization ทั้งนั้น เมืองไทยไมมี เพราะอะไรรู ไหม เพราะประเทศอื่นๆ เขารูจักทองถิ่นของตัวเอง เขาสามารถตานได แตเราไมรูจักตัวเอง ความรู ไมไดสรางไวจะไปตานไดอยางไร อันนี้ผมก็ปรามๆ ไปถึง ปฏิรูปการศึกษา ถามวาปฏิรูปการศึก ษานี่ใชไดหรือเปลา มีแต รูปแบบนะครับ ถามวาขอมูลความรูทองถิ่นในการปฏิรูป การศึก ษาสรางไดไหม ก็ไมได ไมเคย ปรากฏมีเลย อยูในรูปแบบเทานั้นเอง การปฏิรูปการศึกษาครั้งนี้นะครับ ทําความเครียดใหแกครู ทองถิ่น ไปตลอดเลย เพราะประเมินทั้งป ไมตองทําอะไร ไมมีอิสระอะไรเลยนะครับ ทําใหเกิด ความเครีย ด ไมไดปลดปลอยใหครูไดมีอิสระเลย หรือทําอะไรใหมีความหมายขึ้นมา แลวเมื่อ กระทรวงวัฒนธรรมไมทํา ผมคิดวา เรามาทําในภาคของสังคม แตมีเจตนารมณที่ไมไดไปตอตาน รัฐบาลนะครับ เพียงแตเพิ่มพลังใหทองถิ่น มีการตอรองและทําความเขาใจกัน เวลานี้ไมมีเวลาที่ จะทะเลาะกันนะครับ ระหวางรัฐกับประชาชน เปนเวลาที่จะมีอันตรายเกิดขึ้นทุกขณะนะครับ ถา ไมชวยกันอยูไมรอดหรอกครับ ทานเห็ น ไหมว าปรากฏการณใ นเมืองไทยดาวนลงทุก ทีเ ลยใชไ หม ตั้ ง แต ไข ห วั ด นก เรื่อยมาถึงสึนามิ จนมาถึงขณะนี้เปนภัยแลงซึ่งสิ่งที่เปนอันตรายที่สุดในขณะนี้ จะเห็นวาภัยแลง ตามทองถิ่นตางๆ นี่อันตรายมากครับ ราษฎรจะฆากันนะครับเรื่องการแยงน้ํา เปนเรื่องใหญนะ ครับ เจตนารมณที่เราทําครั้งนี้ ที่เราชวยกันนี้ ที่ทานมานี้ เราดีใจครับที่เราชวยกันทํา ถารัฐทําไม เหมาะสมเราก็ไมวาอะไรเขา แตวาเราตองทําเพื่อสรางความเขาใจ การวิจัยนี้ไมไดทําเพื่อตอตาน กับรัฐ แตพยายามจะสรางความรูชุดหนึ่งใหไปตอรองในลักษณะที่ปรับดุลยภาพ ถาปลอยใหระบบ ทางการเมืองและทางเศรษฐกิจลงไปทางฝายเดียวไมมีดุลยภาพครับ จะดุลยภาพไดตองทองถิ่น กับรัฐตองสัมพันธกัน ตองปรับปรนซึ่งกันและกัน ประนีประนอมซึ่งกันและกัน เพราะฉะนัน้ เวลานีท้ ี่ รัฐมองหรือใครมอง ทํากับสังคมทองถิ่นเหมือนกับขาวกับดํา เห็นไหมครับ พอพูดถึงทองถิ่นนี่ ตอง ทําอยางนี้นะ เพราะเพื่อสวนรวม มองแบบขาว-ดําเลย แตผมวาทองถิ่นไมมีทางรีแอดสูกับขาว-ดํา ทองถิ่น ทุก แหง การเคลื่อนไหวทุก แหง สีเ ทาๆ นะครับ เพื่อจะอยูได ไมใชเ อาขาวดํามาพูดกัน เพราะเวลามาพูดกัน มาทะเลาะกันนี่ หลายฝายพยามยามวาขาว-ดํา ที่จริงไมใช สังคมไทยนี่เปน
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๒๖
สังคมที่คอมเมอรมายมาตลอด เพราะฉะนั้นตองมาประนีประนอมกันครับ ไมใชตองมาตัดวากดขี่ เลย ผมวาอันนี้จะหยุดอยูได ผมวาเรามามองใหเกิดประนีประนอมกัน ตอรองกันนะครับ จะได สบายใจดวยกันทั้งสองฝาย ขอบคุณที่ติงมาอันนี้นะครับ เพราะผมคิดวาเปนเรื่องที่สําคัญมาก ประเดี๋ยวจะหวาเวลา มาทําเรื่องอันนี้ คนไมเขาใจคิดวาเผชิญหนากับรัฐ ยุยงใหเผชิญหนากับรัฐ แตสิ่งที่นักวิจัยมาพูดนี่ เขาพูดถึงความเดือดรอน ยกตัวอยางเชน ชลประทานหลวง ชลประทานราษฎร เปนตน ใชไหม ครับ ตองเอาความเดือดรอนนั้นมาตีแผ อยางที่อาวปตตานีนั้นเปนตัวอยาง เพราะเขาเดือดรอน จริงๆ จากเรือกอแระซึ่งเรารูวาจับปลาได นี่เปนประสบการณของผมเลย ขอทาวความอีกทีหนึ่ง เลาความจริงเพื่อเสริมอันนี้ นี่เปน เรื่องของนกนะ ครั้งหนึ่งผมกับ อาจารยป รานีไดลงไปที่อาว ปตตานี ปะนาเระ สุจิตตก็ไป นะครับ วัน นั้นคนมุสลิมตั้งแตเขตปะนาเระออกันอยูช ายฝงทะเล แลวก็ชี้ใหดูขบวนเรืออวนลาก เรืออวนลากไปจากกรมประมงหนึ่งลํา นายทุนจากปตตานีอีกสิบ เอ็ดลํารวมกัน ลาหอยลายชายฝงทะเลนะครับ เรือยนตลําหนึ่งนะครับลากหอยลายหกสิบตันตอ หนึ่งลํา แลวถามวาเรือกอและจับปลาไดเทาไหร เรือกอเราะลําหนึ่งวันที่ผมสัมภาษณนั้นจับปลาได สิบสองกิโลตอวันเปนปลาเบญจพรรณ คนมุสลิมแถวนั้นรองแรแหกกะเฌอเลย เพราะสภาพที่ผม เห็นจากปะนาเระยังเปนกระทอมใบจากอยู ยังเปนธรรมชาติ แตเขามีความสุข เขาไมวาจะลาหลัง แตเขาก็มีความสุข นี่แหละครับคือเหตุการณที่เขาเดือดรอน ปรากฏวาหลังจากนั้นแลวนะครับ เรื่องของความขัดแยงออกสูเวทีประชาชน อาจารยเจิม ศักดิ์ไปจัดรายการออกสูเวทีประชาชน ก็เอาอธิบดีกรมประมงอยาใหเอยชื่อ มาเผชิญหนากับผู อาวุโสของมุสลิม อธิบดีกรมประมงเขาบอกวาเขามีสิทธิ์เพราะชายฝงทะเลนั้นอยูในกฎหมาย เห็น ไหมครับใชกฎหมายแลว เขามีสิทธิที่จะลากหอยลาย ทันทีเลยผูอาวุโสมุสลิมบอกวา คุณไปดูใต ทะเลซิ แตกอนนี้พรุนไปดวยรังปลาแบบพวกปากมูลนะ ถูกลากใหเปนสนามกอฟลไปหมดเลย เทานั้นอธิบดีทานนั้นกลับคําทันทีถาเชนนี้เราจับมือกัน ขายผาเอาหนารอดไปวันๆ หนึ่ง หลังจาก นั้นมีอะไรขึ้นมา ก็ไมมีอะไรขึ้นมา หลังจากนั้นเปนตนมา ปรากฏเหตุการณขึ้นมา ในไมชาพื้นที่ ชายทะเลตั้ง แตปากพนัง ขึ้น มาจนถึง นราธิวาสกลายเปนแหลงเรืออวนรุนเรืออวนลากทั้งนั้น ที่ ตามมาคือนากุง ทําลายฉิบ หายวายปวงหมดเลยทั้งชายฝงทะเล ไมเพียงแตทั้งสามจังหวัดใน ภาคใต การเปลี่ยนแปลงหมด ผมกลับไปที่ปะนาเระอีกทีหนึ่งหลังจากไปกับปรานีแลว สี่ป ปะนาเระสกปรกหมด เพราะ คนมุสลิมตองจับเรือกอและเพิ่มจากสิบสองกิโลเปนยี่สิบสามสิบกิโลตอวัน ตองเพิ่มกําลังการผลิต ขึ้นมา แลวปรับตัวไมไดสกปรกหมดเลย แลวชายทะเลเต็มไปดวยนากุง นาอะไรตางๆ มากมาย เปลี่ยนหมดเลยครับ การขัดแยงเกิดขึ้นทุกแหง ถามวาอันนั้นคืออะไร อันนี้ใชไหมครับคือสาเหตุที่ เราพัฒนาประเทศโดยไมเขาใจ นี่ เปนความจริง นี่เห็นดวยตา และผมสามารถพูดได ผมเคยพูดตั้ง
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๒๗
หลายครั้งแลวนะครับ ที่มหาวิทยาลัยปตตานี ตอนนั้นพระพี่นางฯ เสด็จ ผมพูดตอหนาผูวาราชการ จังหวัดวา เหตุการณนี้เปนการแยงทรัพยากร แตปรากฏไมมีอะไรเกิดขึ้นเลยนะครับ นี่คือความเปน จริงครับ แตวาเวลานี้บานเมืองกําลังจะพังครับ สาเหตุที่เกิดในภาคใตซับซอนเหลือเกิน หนึ่งใน สาเหตุที่ทํารายคนที่เปนประชาชนสวนใหญ ที่ไมเคยคิดแยกดินแดนนี่ในที่นี้คือการแยงทรัพยากร เราตองจัดใหมครับ เราตองทําความเขาใจตรงนี้นะครับ ครับขอบคุณครับ อันนี้เปนเสียงของพวก นก อาจจะผิดก็ไดนะครับ ศีราพร บัวสาย ดิฉัน ศีราพร บัวสาย คะ จากสกว. นกเหมือนกันนะคะ ผูจัดการนก ที่จริงมีสองประเด็นนะ คะ หนึ่ง ที่อยากเรียนตอที่ประชุมทั้ง หมดดวย งานประเภทการสรางความรูจากทองถิ่นนี่มีอยู หลายสวนนะคะ ในสวนที่ สกว.ทําอีกอยางหนึ่งไมทราบวา ใครไดเรียนขอมูลไปแลว วันที่ ๒๕-๒๗ เมษายน จะมีก ารจั ด ประชุ มประวัติ ศ าสตร ท องถิ่น ซึ่ง เปน ชุด โครงการที่ ใ หญม าก มีก ารทํ า โครงการวิจัยในนั้นมีสามสิบกวาโครงการนะคะ แลวเปนการทํางานรวมระหวางนักวิชาการกับ ชาวบานที่อยูในทองถิ่น ในบางภาคชาวบานจะเปนแกนหลัก แตบางภาคนักวิชาการเปนแกนหลัก ขึ้นกับวาเงื่อนไขการทํางานเปนอยางไร ถาทานใดสนใจก็ประชุมที่ศูนยวัฒนธรรม วันที่ ๒๕-๒๗ ไมเก็บคาลงทะเบียนนะคะ งานนั้นก็จะเปนคลายๆ ที่อาจารยศรีศักรวา เปนเรื่องของการ เราไดเห็นขอมูลมากขึ้นของ คนพื้นที่วาเขาเปนอยางไร ยกตัวอยางเชน ภาคกลางมีการศึกษาโดยกลุมกะเหรี่ยงเอง ผูศึกษา เปนกะเหรี่ยงที่สวนผึ้งอะไรอยางนี้เปนตน เพื่อจะบอกวาตัวเขาเปนอะไร เขาอยูมาตั้งแตสมัยไหน แลวก็การเปลี่ยนแปลงที่เขามา มีผลอะไร ก็เปนมุมของหนอนที่นักวิชาการเปนหลักมากกวาที่ทํา ประเด็นที่อยากเรียนถามจากทีมอาจารยศรีศักร คือดิฉันคิดวาสวนที่นาสนใจมากของการ จัดการวิจัยก็คือสวนผสมของนักวิชาการกับชาวบานนะคะ เราทําอะไรแคไหน บางทีเราก็ใหเกียรติ นะบอกวา นี่ชาวบานทําทั้งนั้นเลย แตวาถามองจากที่อาจารยตั้งหลักตอนแรกวา งานที่ทํานั้นเปน เรื่องของการสรางกระบวนการเรียนรูรวมกัน ตอนเขาไปทีแรกชาวบานรูอะไรและเรารูอะไร รวมทั้ง บทเรียนของนักวิจัยรุนกลาง แลวตอนหลังชาวบานมาเกิดสิ่งที่เรียกวา ความเขาใจตัวเองชัดขึ้น เขาใจในสิ่งเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เกิดสํานึกตอทองถิ่น รวมถึงการเขียนงานวิจัยออกมาได ตรงนี้ ผานวิธีก ารและเครื่องมือการทํางานอยางไร จึงทําใหก ระบวนการเรีย นรูนี้ไปไดคอนขางดี มี อุปสรรคอะไรหรือไม วิธีการทํางานเปนอยางไร ซึ่งตรงนี้อยากขอใหทีมนักวิจัยรุนกลางไดสะทอน บทเรีย นดวย รวมถึงวา ทานที่ป รึก ษา อาจารยปรานี อาจารยอคิน อาจารยศรีศักร ที่ไดลงไป ประกบอีก ทีห นึ่งนี่มองเห็น บทเรีย นและอุป สรรคอยางไรในการสรางบทเรีย นการเรีย นรูอัน นี้
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๒๘
เพราะวา สกว. เองก็มีงานโฟกัสเรื่องการเรียนรูในการสรางกระบวนการของชาวบานที่วิจัยทองถิ่น มีทีมบริหารจัดการทองถิ่นนี้มาหลายคน ก็นาจะเปนประโยชนวา เราเขาไปเปนกระบวนการเรียนรู กับชาวบาน เราจะทําอยางไรใหเขาเขาใจ ไมใชเฉพาะงานเขียน สวนที่สําคัญคือสวนที่ไปเกิดวิธี คิดใหมหรือวาการมองปญหาชัดขึ้นวา เรามาถึงจุดนี้ สภาพนี้เกิดขึ้นจากปญหาอะไรบาง ถาใหเดา จะอยูที่ก ารตั้งประเด็น และการตั้งคําถาม ก็อยากรูบทเรีย นวานัก วิจัยรุน กลางๆ มีบทบาทอะไร อย า งไรบ า ง และนั ก วิ จั ย รุ น ใหญ ๆ ทํ า อะไรบ า ง ชาวบ า นเองอาจจะสะท อ นด ว ยนะคะว า กระบวนการเรียนรูที่เกิดขึ้นไดนี่เพราะวิธีการอยางไรคะ ม.ร.ว.อคิน รพีพัฒน ครับขอบพระคุณทานอาจารยศิราพรนะครับ ผมคิดวาคําถามของอาจารยศิราพรสําคัญ มาก และคงตองตอบโดยบุคคลหลายฝาย อยางที่ปรึกษา ผมถาจะตอบคนเดียวก็คงไมไดนะครับ แตผมจะขอติงไวอยางแรกนะครับ พออาจารยถามวา ชาวบานเรียนรูอะไร ผมคิดวาเปนคําถามที่ ผิด เพราะผมคิดวาชาวบานรูทุกอยางอยูแลว รูดีดวย แตไมไดสาํ นึกและเรียบเรียงออกมา เพราะเขาเรียบเรียงไมได ผมพูดจากประสบการณผมนะซึ่งหมายความวาทําที่อื่นดวย ที่จริงนะ ครับเราจะพบวาชาวบานที่ไหนๆ ก็ตาม ที่ผมทํางานดวยก็ตาม เขาจะไมรูอะไรจนกวาเราถามเขา แลวเขาเริ่มตนคิด จะเริ่มตนเรียบเรียง ความจริงอยางพวกผมก็เหมือนกัน พูดวานักมานุษยฯ นี่นะ นักวิชาการนี่นะ ยิ่งสมัยนี้ชอบอางทฤษฎี อะไรๆ ก็ทฤษฎี แตความจริง ความดีของรายงานแตละ ชิ้นไมไดอยูในทฤษฎีห รอก อยูที่ค วามสามารถและเรีย บเรียงนําเสนอออกมาใหไดวาใหค นอื่น เขาใจและรูเรื่องนะครับ งานวิจัยของเด็ก อยางเด็กธรรมศาสตรนะ มีนักวิจัยตั้งหลายอันซึ่งเต็มไปดวยทฤษฎี ไมได รับรางวัลดีเดนหรอก แตงานของบุญเลิศเรื่องคนไรบานซึ่งเปนงานเปนจริงที่เกิดขึ้นเลย แลวผมเปน กรรมการอยู ผมรูนะครับ ไดรับรางวัลดีเดนเพราะอะไร เพราะการเสนอออกมา และไปใชชีวิตอยู กับ ชาวบาน นอนอยูกับ ชาวบาน พบเรื่องดีแลวดึงออกมาเรีย บเรีย งออกมาได ชาวบานเขารู หมดแลว แตปญหาของชาวบา นนั้นอยูที่การเรียบเรียง ผมจําไดวาเมื่อไปครั้ง แรกรูสึกทาง เหนือๆ นะ เขาก็พูดก็ยังเลอะๆ อยู แลวผมบอกวาคุณลองเปรียบเทียบดูซิวา สมัยกอนกับสมัยนี้ เรื่องนั้น เรื่องนี้เปนอยางไร แลวเดี๋ยวก็ออกมา เขารูอยูแลวครับ แตเขาไมสามารถจะแสดงออกมา ไดหรือเขียนออกมาได ชาวบานนี่รูมาก แลวบอกวาเราไปศึกษาจากชาวบาน เราไปถาม เหมือนกับ นักวิจัยไปสัมภาษณนะครับ เขายิ่งรูมากขึ้นไปใหญเลย เพราะวาเขาแลกเปลี่ยน รูวาอะไรเปนจริง อะไรไมจริง ดีกวานักวิชาการไปถามอีกครับ ผมเสนอสั้นๆ กอน จะตองมีคนหลายคนจะตองเสนอ อีกนะครับ ไมอยากกินเวลามากนะครับ
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๒๙
ปรานี วงษเทศ ความจริง ที่ ป รึ ก ษานี่ มี ห น าที่ เ สนอรายงานสรุ ป ทุ ก ครั้ ง สี่ ค รั้ง ที่ ส ง ไปทาง สกว. ว า กระบวนการทํางานของเราแตละขั้นตอนเปนอยางไร มีปญหาอยางไร แลวเราเสนอแนะอยางไร มี หมดแลว ทีนี้ความจริงก็เ ตรียมมานะคะวา ในโปรแกรมบอกวาสรุป หรืออยางไร ในวาระการ ประชุมบอกวาการทํางานกับนักปราชญ อาจารยศรีศักรทานไมเคยสั่งอะไรเลย แลวไมเคยรูวา จะตองเตรียมตัวอะไร แตวาตัวเองไมใชเปนคนที่วากดปุบ ติด ปบแบบอาจารยศรีศักร เหลือแต อาจารยอคิน นะคะ อาจารยอคิน ก็จ ะไมรูตลอด แตรูมากตลอด แตจ ริงๆ แมวาจะหนาวัย จะ ใกลเคียงกันนะคะ แตเปนรุนลูกศิษยของอาจารยทั้งสองทาน เพราะฉะนั้นก็ไมบังอาจ ก็เตรียมมา เต็มเลยนะคะ เตรียมมา แลวอาจารยบอก คุณไมตองพูดอะไรหรอก เอาๆ ไมพูดก็ไมพูด ก็ใหมานั่ง เฉยๆ แลวแตใครจะถาม ก็รูสึกไมไดทําหนาที่ ถาเผื่อเราไมไดทําอะไร เหมือนกับทานนักวิจยั หลาย คนบอกเขาใหเงินเรามาวิจัย แลวเราไมไดทําอะไรก็รูสึกอกตัญูตอผูใหทุนอะไรอยางนี้ ทีนคี้ ําถามเยอะมากเลย ถาใหตอบสามวันนะ วากระบวนการมีปญหาอะไร ทําอยางไร เพราะแตละทองถิ่นแตกตางกันมากเลย แตวาเห็นดวยกับอาจารยอคินที่วา ทุกทองถิ่นเขามีอยู แลว ความรูกระบวนการ เขามีความตั้งใจที่จะทํา งานทุกชิ้นนี่จะสําเร็จไมไดถาไมมีใจ นักวิจัย ทองถิ่น ทุ ก กลุมมี ใ จ และเขาอยากจะพั ฒนา เขาอยากจะเปลี่ ย นแปลง เพราะเขาเห็น ความ เดือดรอนของทองถิ่นของเขา งานเหลานี้จึงบรรลุผลได ไมเหมือนงานนักวิช าการที่รับทุนไป ไม เสร็จเพราะเบื่อ ทํางานแลวเบื่อ ไมแรงจูงใจ ไมมจี ิตวิญญาณที่จะเขาไป เชนเดียวกับตองใหเครดิต กับนักพี่เลี้ยงนักวิจัยดวยวา เปนคนรุนใหม แลวเขายังไมมีอัตตา ซึ่งไมแนวาอัตตาเขาจะเกิดขึ้น เมื่อเขามีบุญญาบารมีมากกวานี้ ซึ่งเราไมรูอนาคตของคน ซึ่งดิฉันไมกลารับประกันแมวาจะเปน ลูกศิษย เราไมรูแมวาเขาจะไปไดดิบไดดีกวานี้ ลืมตัวหรือเปลา อันนี้พูดกันตรงๆ เพราะนักวิจัย จํานวนมากพอมีชื่อมีเสียงแลวลืมตัว แตเขาไมมีอัตตา และเขาไปอยางออนนอมถอมตน และทํา ตัวจนนักวิจัยทุกคนยอมรับ อาจารยจัดไววา พี่เลี้ยงขางนอกได แลวก็นักวิจัยแตละคนมีจุดหมาย มีเปาหมาย มีอุดมการณในการทํางาน ไมใชใหเงินมา เพราะฉะนั้นไมตองพูดเรื่องเงินเลย พูดไมได เดือดรอนกันมาก sensitive กันมากเรื่องเงิน หามพูดเรื่องเงินเด็ดขาดทีมนี้ ฉะนั้นทุกคนทํางาน ดวยใจ อยางแรกตองมีใจทํางาน แลวทุกอยางจะไปได กระบวนการขั้นตอนในการเขียน เขียนไวแลวนะคะวา บางกลุมเขียนไดเกงมาก ขึ้นอยูกับ กลุมวาบางคนมีความสามารถเชี่ยวชาญในการเขีย นได บางกลุมเปน ผูอาวุโส เปนชาวบานซึ่ง ความรูนี้เพียบลึก แตไมสามารถเรียบเรียงเปนภาษาที่จะสื่อสารทางวิชาการ อยางกรณีกลุมของ ดานซาย ปาฉวีหรืออีกหลายคนเขียนไมได ยังตองชวยเขียนโดยการที่เอามาแลวชวยเรียบเรียงบาง เพราะฉะนั้นแตกตางกันก็อาจจะใหโอกาสนักวิจัยตอบเปนบางเรื่องก็ได แตก็ ไมทราบตอบคําถาม หรืออาจารยจะเสริมอะไรไหมคะ
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๓๐
ศรีศักร วัลลิโภดม เปนคําถามที่ดีนะครับ และเปนจุดที่นาจะอภิปราย ทานสังเกตไหมครับ ผูที่ทานมารวมกัน เปนกระบวนการเรียนรูรวมกันทั้งผูที่เขามารวมสัมมนา สองวันมานี้ไมมีผูที่ขาดหายไปในวันที่สอง แลวเวลานั่งฟง ผมคิดวาผิดกับการเสนองานวิจัยอื่นๆ ที่เดินออกกัน นะครับ รูสึก มากครับ ก็คือสิ่ง ที่สําคัญคือผูเสนอรูสึกมีความมั่นใจในตัวเอง เลนคํามากเหลือเกิน มีลีลาแปลกๆ ซึ่งผิดกับการ เสนองานวิจัยตางๆ ซึ่งแหงแลงและนาเบื่อและไมรูเรื่อง อันนี้สังเกตได เพราะสื่อกันได คือ ผลของ การวิจัย นี้ ที่วาคือกระบวนการเรีย นรูรวมกัน แลกเปลี่ย นกัน แลวก็เอามาพูด คุย ใหฟง แลวยิ่ง แลกเปลี่ยนนํามาพูดคุย ความรูก็เพิ่มขึ้น นี่คือวัตถุประสงคที่ตามมาซึ่งผมคาดไมถึงไง ประเพณีใน การวิจัย เอามาเสนองานแลวเลิก เลย แตจะไมมีความรูสึก ที่จ ะตอเนื่อง แตผมคิดวานัก วิจัย ที่ รวมกัน ครั้งแรกนี่ เมื่อคืนนี้พดู ถึงนอนไมหลับเลย คุณนอนไมหลับอีกหลายวัน แลวคุณอยากจะทํา อีก เพราะอะไรรูไหมครับ ตรงนี้เกิดพลังอยากจะเรียนรู นี่คือการสรางนักวิจัยนะครับ ไมใช เอาผลวิจัยอยางเดียว ถาคุณแจกเงินไปหลายๆ ลาน ไปใหนักวิจัยอื่นๆ ที่เปนนักวิชาการ พอ เสร็จแลวเลิกกันเลย ไดเงินเสร็จแลวก็ไปหา project ใหมเปนมือปนรับจางไป แลวที่อันตรายที่สุด พวกนั้นนะครับ เมื่อหาขอมูลไมไดแลว ยัดทฤษฎีเขาไปทั้งดุน แลวมาถกเรื่องทฤษฎี นาเบื่อนะครับ ไมมพี ัฒนาการ แตเงินเอาเขากระเปา แลวคนดูก็แรกๆ ก็มีพิธีกรรม เชิญคนใหญโตมาเปด แลวก็ คอยๆ หายไป พอวันสุดทายเหลือไมกี่คน แลวทุกคนก็เหนื่อย นั่นคือปญหาการวิจัย แตอันนี้ไมใชครับ คือผมไมคิดวาจะเกิดขึ้นกับสิ่งเหลานี้ เพราะวานี่คือผลผลิตการวิจัยเอง ไมใชเกิดขึ้นจากผมซึ่งเปนนกแกๆ นักวิจัยที่มาเสนอนี่ทั้งนกหนุมสาวและตัวหนอนเกิดความสนุก แลวผูที่มาฟงก็เกิดความสนุก ทําใหเกิดความอยากรูอยากเห็น อยากเพิ่มเติมขึ้นมา นี่คือการผลิต ไมใชผลการวิจัยอยางเดีย ว แตผลิตคนที่ตองการวิจัย เพิ่มขึ้นโดยอัต โนมัติเลยครับ ทุกวันนี้เปน ผลสําเร็จของ สกว. เปนอยางยิ่งที่เปดประเด็นตรงนี้นะครับ แลวก็ทานอาจารยอคิน ผมตองยอนหลังไปที่นกแกๆ อยางผมบาง ถาไมมีอาจารยอคิน อาจารยปรานีงานนี้ไมสําเร็จครับ เพราะวาอะไรรูไหม การที่จะทํางานวิจัยแบบนี้นะครับ ตองมีผูมี ประสบการณมาก ผมไมเชิญผูท ี่จบใหมๆ มาทําหรอกครับ พูดก็ไมรูเรื่อง นอกจากพูดไมรูเรื่องแลว ยังมาขวางอีก ไมเอาครับ ผมตองเชิญคนแกๆ ที่มีประสบการณ อาจารยอคินพูดคําเดียวรูเรื่องเลย เพราะอะไรรูไหมครับ เวลาเราเขาไปในทองถิ่น ขอมูลเขามีอยูแลว แตเขาไมได conscious เทา นั้นเอง ใชไหมครับ การที่ถาม เขาตอบไดหมดเลย แลวเวลาเราไปสัมผัสเขา ผมรูตัววาผมเองตัว เล็กลงนะครับ เพราะเรารูวาอีกหลายอยางเรายังไมรู เราเรียนรูจากเขา จากผูอาวุโสเหลานั้น เวลา ไปทองถิ่น เปลี่ยนความสัมพันธ จากความสัมพันธที่วาชั้นเปนอาจารย ชั้นเปนโนนเปนนี่นะ มา เปนเทาๆ กันดีกวา บางทีเล็กกวาเขา เรามี respect ตอคนในทองถิ่นครับ เขาคือมนุษย แลวใน ทองถิ่น ในสถานะนั้นเขาคือผูยิ่งใหญ เพราะถาเราไมอาศัยเขาเราตายลูกเดียว ผมไมเชือ่ ความเปน
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๓๑
genius หรือความยิ่งใหญของนักวิชาการหรอก นะครับ แลวคําวานักวิช าการมาเกิดขึ้นในสมัย จอมพลสฤษดิ์เทานั้นเอง ที่จริงแลวคนที่อยูในชนบทเปนปราชญท้งั นั้น เปนปราชญน่เี ปนพหูสตู นะ ครับ เขารูหลายๆ เรื่อง นี้คือสิ่งที่เราเรียนรูครับ เวลาเราเขาไปในทองถิ่นนะครับ เราไดรับความรู เราไดเห็นความเปนมนุษย แตเราไมจําเปนจะตองไดเงินไดทองเหลานี้ เปนความสุขชนิดหนึ่ง สิ่งตางๆ เหลานี้ที่เราเพียรมาทําทั้งสามคนก็เพราะสิ่งเหลานี้ ทานอาจารยอคินตลอดชีวิต ทานนะครับ ทานอยูในสถานะที่ดีก็ได แตทานชอบทรมานรางกาย งานที่ยิ่งใหญของอาจารยอคิน ไมไดทําในชนบทนะ ไปทําในสลัม คิดดู สมัยที่อาจารยอคินทําวิจัยนี่สลัมใครๆ ก็ดูถกู ทัง้ นัน้ ใชไหม ครับ สกปรก แออัด มีแตน้ําครํา แตอาจารยอคินเขาไปฝงตัวอยูในนั้น และอาจารยอคินก็ใชชีวิตมา แบบนี้ ฉะนั้น เวลาทานพูดอะไร จี้ประเด็นแปบเดียวรูเรื่องเลย คนในทองถิ่นเขารูแลว เพียงแตวา เราพยายามจัดกระบวนการใหเขาเอาความรูนั้นออกมาเทานั้นเอง แลวหาคนใหเรียบเรียงสิ่ง ที่ อาจารยอคินบอก ก็จะไดสาระนี้มา ไมตองดัดจริตไปใสถกกันเรื่องทฤษฎีอะไรมากมาย ผมจําไดผมไปประชุมภาคใตมาเมื่อสองสามเดือนที่แลว ไปประชุมรวมกับนักวิชาการพอ ไปประชุม คุยกับคนทองถิ่น ถามเขา เขาก็บอกสิ่งตางๆ เหลานี้ นักวิชาการบางทาน cut shot เลย อยากจะรูเรื่องสถานภาพ เรื่องบูรณาการ ผมบอกงั้นคุณรูไป ผมไมเอาแลว เรายังไมรูขอมูล ยังไม ทันไรคุณเอากรอบไปใสแลว ใชไหม นั่นคือการเลือกปฏิบัติ เพราะฉะนั้นผลสําเร็จของการทํางานครั้งนี้คือการเรียนรูรวมกันนะครับ แลวสิ่งที่ได วันนี้ ไดมาก ผูที่เปนนักวิจัยที่เปนตัวหนอนไดเพิ่มขึ้น เพราะทานไดรวมประสบการณจากคนทองถิ่นนั้น ทองถิ่นนี้ แลวจากการซักถามนะครับ ไดความรูเพิ่มเติมนะครับ สังเกตวางานที่เสนอไป ทานไป อานดูซิในงานวิจัยกับสิ่งที่พูดตางกัน เพราะเขาคิดใหมๆ เกิดขึ้นได อันนี้คือผลที่เกิดขึ้นครับ ม.ร.ว.อคิน รพีพัฒน ผมขอเพิ่มนิดก็ได ผมคิดวา คือผมเองจะพูดแบบสงเดชเลยวา การมาทํางานกับอาจารย มาทํางานที่นี่นะและกับพวกเราทั้งหมดที่ทํานี่ผมมีความสุขมาก ผมรูสึกวาความจริงคนแกแลว อยางผม แกขนาดอายุเจ็ดสิบกวาก็ใกลๆ พอสมเดช (นักวิจัยจากดานซาย)เต็มที ก็รูสึกวาไมมี อะไรนอกจากนั่งคอยความตาย พอไดมาทํางานชิ้นนี้ ไดมาทํางานกับอาจารย(ศรีศักร) รูสึกกลับ เปนหนุมใหม พอไดฟงมารอนิง สาและนะ ผมจําได พูดครั้งแรกนี่ผมสะดุงใจเลย รูสึกจับใจทีเดียว รูสึกวามีชีวิตใหมวา นี่ไง คือไมใชนักวิชาการพูดทฤษฎีอะไรใหเขาใจ นี่คือของที่มาจากใจเขา มา จากความจริง มาจากความรูที่เปนจริงที่มีค วามรูสึกอยูดวย ผมคิดวาสิ่งนี้เ ปน สิ่ง ที่สําคัญ มาก ถึงแมวารายงานที่เราพูดกันวาวิชาการ หรือรายงานของเรา รายงานอันนี้เปนสิ่งสําคัญ คือ แปลก นะ วิชามานุษยวิทยานี่แปลก เพราะในระยะหลังมาตอนหลังมาในระยะไมกี่ปมาเปนพวกโมเดิรน นะพวกสมัยใหม เกิดบาทฤษฎีนะครับ จะเอาทฤษฎีมา ทฤษฎีฝรั่งทั้งนั้นนะครับ เกิดที่เมืองฝรั่ง
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๓๒
บางทีคนบาๆ บอๆ ทั้งนั้นนะครับ พวกฝรั่งคนบานะครับ บางทีฆาตัวตายก็มี สรางทฤษฎีแปลกๆ ขึ้นมา แลวเราก็เอามาใชในเมืองไทย เอามาวัดดู ก็ออกมาไมคอยรูเรื่อง ถาหากวาเราจะเรียนรู จริงๆ วาสังคมไทยเราเปนอยางไร บานเราเปนอยางไร ชีวิตพวกเราเปนยังไง มีความสําคัญกวา เยอะ เราไมทํา นักวิชาการเราเลิกทําในตอนหลัง เราไปทําบาๆ บอๆ แบบนั้นนะ คลายๆ กับวาถา เผื่อมาทําแบบนี้ มานั่ง เขีย นกับ ชาวบาน มาทํางานวิชาการกับชาวบาน จะกลายเปนวาเราจะ เหมือนชาวบานไป เราจําเปน จะตองตางกับ ชาวบาน เราจะตองใชภาษาใหตางกับ ชาวบาน จะตองเขียนใหตางกับชาวบาน แลวก็อางฝรั่ง จะไดไมเ หมือนกับชาวบานไงอาจารย จะไดเปน นักวิชาการ ขอบพระคุณครับ ปรานี วงษเทศ ขอเพิ่มเติมอีกนิดหนึ่ง นะคะ คือที่จริงแลว งานของนัก วิช าการรุน ใหม คือ ดิฉัน ก็ไมถึง ขนาดที่สองทานเห็น คือดิฉันเขาใจวาโลกเปลี่ยน วิธคี ิดเปลี่ยน เขาอาจจะไมชอบวิธกี ารอยางนี้ คือ มีตัวตนนอยมาก การที่คุณเขาไปทํางานกับชาวบาน แลวคุณไมมีความเปนตัวตนเหลืออยูเปนงาน ที่ใชเวลามากเลย แลวตองลงทุนทางดานจิตใจสูงที่จะตองผลิตงานนั้นมาได เพราะฉะนั้น กระแส สังคมเปนปจเจกมากขึ้น สภาพสังคม เศรษฐกิจการเมือง เปลี่ยนเร็วเหลือเกิน สังคมก็เปลี่ยน วิธี คิดของนักวิชาการก็เปลี่ยน ดิฉันก็เห็นดวยวาวิชาในกลุมที่จะเนนทฤษฎีในการ debate ทฤษฎี เพื่อใหตามโลกใหทันหรืออะไรก็ทําไป ไมขัดของและก็เห็นวาก็มีประโยชนในวงการวิชาการในแง ของการตั้งมุมมองในการคิดใหมหรือวาวิพากษวิจารณผลงานเกาๆ ดิฉันเห็นวามีประโยชนนะ แต ในความรูสึกที่ทํางานมาตลอดสามสิบกวาปซึ่งใกลจะเกษียรดิฉันมีความมั่นใจตลอดเวลา และก็ เชื่อตลอดเวลาที่ออกภาคสนามนะคะวา สงสัย อยูตลอดเวลา จริงๆ ชาวบานนั่นแหละเปน ตัว ทํางานวิจัยethnography ดีที่สุด ไมใชทํางานวิจัยอยางเรา คือบอกตัวเองมาตลอดใหเชื่อมั่นมา กวาสามสิบกวาป เวลาสอนหนั ง สือจะเนน เสมอใหนัก ศึก ษารูวา งานอัตชีวประวัติเ ปน งานที่สําคัญ นะ เพราะวามีนักมานุษยวิทยาที่เกิดจากชาวบานจริงๆ มากมาย ที่ตัวเองเพิ่งไดทําแปลจบไป แปล เรื่องราวของคนขมุ ซึ่งเรียกตัวเองวากํามุ คนที่อยูใ นปาที่หลวงน้ําทา แลวเขียนเรื่องราวในเชิง ประวั ติตั วเองที่เ รีย กว า อัต ชีว ประวั ติว า บา นชอ ง ประเพณี พิธี ก รรมเปน อย างไร นั่ น คื องาน มานุษยวิทยา แลวนํามาตีพิมพ อยากใหเกิดงานอยางนี้ แลวคิดวาชาวบานทุกคนทําได เวลาทุก ครั้งที่อานงานของคนตัวเล็กๆ ของคนที่ดอยโอกาส ไมวาจะเปนเรื่องของคนขมุ คนอาขา หรือวา คนมง คนอะไรก็ตาม อานแลวหัวใจพองโต รูสึกวาเปนเรื่องที่ยิ่งใหญในแงของความเปนมนุษย เพราะคนพวกนี้เขามีศักดิ์ศรี เขาไมยอมแพ เขาอยูในสภาพแวดลอมที่ไมรูอยูไดอยางไร ถาเปนเรา เราก็ตาย แลวคนพวกนี้ไมเคยเรียกรองอะไรเลย ทุกครั้งที่อานมีความรูสึกวาเขาไมตองการอะไร
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๓๓
เลย เขาเกิดมาเพื่อที่ไดดูแลใหรอดได รักษาสภาพแวดลอม ดูแลครอบครัว ดูแลสิ่งรอบๆ ตัวเอง และสิ่งที่บรรพบุรุษใหมา นั่นคือสิ่งความตองการที่เล็กนอยมากเมื่อเปรียบเทียบกับเรา อานแลว รูสึกวา คนเหลานี้จิตใจยิ่งใหญเหลือเกิน เขาไมไดเบียดเบียนใคร เขาออนนอมตอโลก ออนนอมตอ สิ่งแวดลอมนะคะ เขาเกรงกลัวตอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แตวาคนสมัยนี้อาจจะมองคนเหลานั้นวาโงเขลา หรืองมงาย เมื่อตัวเองเขาหมูบานทุกครั้งยอมเลย เชื่อไดสนิทใจวาชาวบานทุกคนมีศักยภาพทํางาน วิจัยได แลวก็ดวยความเชื่อมั่นเชนนีจ้ ึงยอมรับเมื่ออาจารยศรีศักรชวนทํางานครั้งนี้ เพราะตอนที่ อาจารยชวนทํางานอื่นนั้นไมทํา แตพองานอันนี้บอกวา เรามาทํางานนี้กันดีกวา บอกเอา เพราะ เราแลเห็นวาศักยภาพชาวบานมีอยูแลว เพียงแตวาตองการคําแนะนําหรือวาชวยเหลือกันและทํา ความเขาใจกันแคนั้นเอง ไมเคยมีปญหาเลยวาจะไมเชื่อในศักยภาพชาวบาน เพราะฉะนัน้ ถาจะให โครงการอยางนี้เกิดขึ้นได คุณตองมีความเชื่อมั่นกับชาวบาน ตองสรางความมั่นใจใหกับชาวบาน ไวใจวาคุณไมไดหรอกเอางานเขาไปแลวไปสรางชื่อเสียงเกียรติยศใหตัวเอง ศรีศักร วัลลิโภดม ครับ ขอบคุณครับ จะมีทานใด เชิญครับ ไชยณรงค เศรษฐเชื้อ ครับ ขอบคุณครับทานอาจารยครับ ผม ไชยณรงค เศรษฐเชื้อครับ ผมมีสองสามประเด็น ประเด็นแรกก็คือ ผมอยากจะทํางานที่อาจารยศรีศักรไดพูดมาตลอดก็คือใหเราไดใหความเห็นตอ รายงานดวย ผมบอกตรงๆ วา ผมก็ฟงแลวตื่นเตนนะครับ ก็เพราะวาเราเห็นไดอยางชัดเจนวามี อะไรอีก ตั้ง เยอะแยะที่เราไมรูเ รื่องของพี่นองของเราเอง เรื่องตั้งแตเ หนือถึง ใตบางพื้น ที่เราก็รู เพราะวาเราเผอิญเราไปสัมพันธ แตสวนใหญเราไมรู ผมไปเห็นขอมูลแลวตะลึงนะครับ แตอยางไร ก็ตามนี้ ผมคิดวา เทาที่ผมสังเกตดู เพราะวาผมเองก็มีสวนทําเรื่องวิจัยไทบานก็มีสวนคลายคลึง กันนะครับ ผมคิดวาหนอนในบางกรณีนี้ ก็อาจจะไมใชหนอนทั้งหมด แลวผมก็คิดวาการทีง่ านชิน้ นี้ โดยสวนใหญมีการทํางานรวมกันทั้งหมดตั้งแตนกอาวุโสนกนอย จนถึงหนอน แตผมคิดวาในสวน ของหนอนนี้ สวนหนึ่งพูดไดวาในหนอนเอง ไมใชเปนหนอนทั้งหมด อาจจะเปนหลายพื้นที่ก็เปน ปญญาชนในนั้นอยูดวย ซึ่งก็แตกตางจากชาวบานทั่วไป ทีนี้ผมคิดวาเพื่อความยุติธรรมตอชาวบาน ผมคิดวาอยากใหเพิ่มเติมเปนสองสวนดวยกัน สวนแรกคิดวาขอมูลที่ไมใชหนอนรู แตวาหนอนไปคุย ไปเก็บขอมูล ไปสัมภาษณหรือไปอานขึ้นมา นี้ ผมคิดวานาจะบอกในงานนี้ดวยวาขอมูลตรงนั้นนะมาจากสวนไหนนะครับ ทั้งนี้เพื่อที่จะทําให น้ําหนักของขอมูลมีน้ําหนักมากขึ้น ไมไดหมายความวาไปอางอิงแบบวิชาการนะครับ ผมคิดวา
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๓๔
หนอนเองก็ไปคุยกับหนอนอื่นๆ ในหมูบานนะครับ หรือบางทีอาจจะเอาเอกสารที่มีอยูแลวนะครับ ผมคิดวาตรงนี้นาจะทําใหหลักฐานของขอมูลนี้ชัดเจนมากขึ้น มิฉะนั้นแลว ก็เหมือนกับวาหนอนรู ทั้งหมด แลวก็หนอนอาจจะไปเอาขอมูลจากคนอื่นๆ อีกทีมาเขียนเปนรายงานก็ไดนะครับ ผมคิด วา ตรงนี้ผมอยากใหมีในรายงาน ประการที่สองผมคิดวา เผอิญวาเราฟงสองวันไมมชี องที่จะใหความเห็นตอเนื้อหา อันนีผ้ ม พูดอยางตรงไปตรงมา ที่เราเห็นก็ตะลึงแลวและเราอานก็ไมทัน ขบวนการที่อาจจะเสริมก็คือวา หนึ่งในระดับขั้นตอนการทํารายงาน การเตรียมรายงานนี้ผมคิดวาอาจจะตองมีเวทียอย ซึ่งผมคิด วามีอยูแลว แตวาเราไมไดเขารวมนะครับ ตรงนี้อาจจะใหคนนอกที่อยากจะเรีย นรูงานเหลานี้ รวมทั้งหนอนในหมูบานที่ไมไดเ ขารวมทํากระบวนการวิจัยไดเ รีย นรูดวยกัน อาจจะไมตองจัด กระบวนการเรียนรูเต็มรูปแบบ แตอยางนอยที่สุดไดเรียนรูรวมกันนะครับ ประการที่สองงานชิ้นนี้มีจุดเดนก็คือมีแผนที่ออกมาชัดเจน มีแผนที่ซึ่งผมคิดวาอาจารย ศรีศักรพยายามใหพวกเราไดใชมาโดยตลอด ซึ่งแผนที่ทําใหพวกเราไดมองเห็นอะไรมากขึ้น ผม เห็นวาจุด เดน ของงานชิ้นนี้ที่เราคิดวางานวิจัย อื่นๆ ที่เปนงานวิจัย ทํานองนี้นาจะเอามาใชเปน กระบวนการในการเริ่มตนเก็บขอมูลไดนะครับ ประการที่สามผมคิดวา อันนี้เปนเรื่องของ สกว. โดยตรง ผมคิดวางานที่มีแนวคิดทํานองนี้ แนวคิดของการใหชาวบานไดเปนผูเขียนไมวาจะเขียนดวยปากหรือเขียนดวยมือ มีนกไปชวยเขียน จากปากของชาวบานอีกทีหนึ่ง เชน งานประวัติศาสตรทองถิ่น หรือวาทํางานรวมกันแบบนักวิจัย ทองถิ่นหรือแบบที่พยายามใหชาวบานเขียนเอง ในกรณีงานวิจัยที่มีอยูนับรอยนับพันที่ รวมทั้ง งานวิจัยไทบานดวย เกิดขึ้นมากมายในชวงประมาณหาปที่ผานมา ผมคิดวา อันนี้เปนเรื่องที่สกว. เองก็อาจจะทําอยางไรใหมีเวทีการสรุปบทเรียนและแลกเปลี่ยนประสบการณกัน เมื่อกระบวนการ แตละที่แตละทีมงานหรือแตละองคกรไดไปทํางานในชวงสี่-หาปที่ผานมา ไมวางานวิจัยไทบานที่ ทํามาหา-หกที่ก็ตาม หรือวางานวิจัยทองถิ่นหรืองานของที่นี่คืองานจากนักวิจัยทองถิ่นหรือบางคน อาจจะเรียกงานวิจัยชาวบานหรืออะไรก็แลวแต ผมคิดวางานจํานวนนี้ปรากฏในชวงหาปที่ผานมา นี้ ทําอยางไรที่เราจะเอาคนที่ทําดวยกันทั้งชาวบานทั้งหนอนนกมาเรียนรูดวยกัน ผมคิดวาตรงนีจ้ ะ ทําใหเราไดมองเห็นจุดออนจุดแข็งและก็พัฒนางานทํานองนี้ไดมีประสิทธิภาพมากขึ้นนะครับ และสุดทายผมคิดวา คือผมมองงานวิจัยทํานองนี้ เปนกระบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม และจริงๆ แลวมีพี่นองอีกเปนจํานวนมากที่เหมือนกับที่นําเสนอมาหาที่ แลวตองการทําวิจัยเพื่อทํา หลักฐานมานําอธิบาย มาโตแยงกับผูที่ทําใหเกิดปญหา หรือมาอธิบายความจริงกับสังคม ซึ่งเดิม ความจริงของหมูบานหรือชุมชนถูกผูกขาดการอธิบายโดยนักวิชาการหรือนก ผมคิดวาพี่นองที่ผา แดงหรือคลิตี้ที่หวยชมพู แมแตที่เขาหลัก หรือที่ประสบภัยจากสึนามิ เขาตองการขอมูลเพื่อที่จะ เปนหลักฐานเพื่อที่จะโตแยงหรือวาสื่อกับสังคม ผมคิดวาถาเรามองงานวิจัยในอนาคต นาที่เราจะ
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๓๕
ทํางานวิจัยโดยการเปดพื้นที่ทางสังคมใหกับพี่นองที่เปนคนชายแดนชายขอบ ผมคิดวาการทํางาน ตรงนี้ก็จะมีความรวมมือมากขึ้น และผมคิดวา สกว.นาจะชวยไดสวนหนึ่ง เพราะผมคิดวาองคกร ใดองคกรหนึ่งหรือวาหนวยงานใดหนวยงานหนึ่ง สามารถที่จะผลักดันไปขางหนาใหเปนการเกิด กระบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมไดครับ ผมคิดวาหลังจากนี้อาจจะฝาก สกว.วา เปนไปไดหรือไม ที่จ ะมีเ วทีแลกเปลี่ยนระหวางพี่นองและก็ห นอน-นกทั้งหลายที่ทําวิจัย ในกระบวนการนี้ไดมา แลกเปลี่ยนประสบการณและถอดบทเรียนดวยกัน เพื่อที่จะพัฒนางานในทํานองนี้ตอไป ขอบคุณ มากครับ ศรีศักร วัลลิโภดม คุณถามมาแสดงความคิดเห็นตั้งหลายหัวขอ ผมจําไมได แตเอาสรุปที่สําคัญนะครับ คือ เรื่องแรกที่บอกวาเวลาทํานี่ตองบันทึกหลักฐานไหม ก็ตองเรียนใหทราบนะครับวางานวิจัยที่เสนอ สรุปนี่เปนสรุป แลวที่สรุปแลวไมคอยมีอางอิงเทาไหรหรอก เวลาทํางาน คือ เวลาเราเสนอ สกว. เปนสองชุดดวยกัน เปนตามลําดับขั้นเลยนะครับ เฟสหนึ่งก็มีรายงานอยูแลว เฟสสองมีรายงาน แลว เฟสสามคือการสกัดออกมา รายละเอียดที่มาตางๆ จะมีอยูในรายงานเปนขั้นตอนนะครับ ซึ่ง รายงานตามขั้น ตอนนี้อ าจจะไปปรั บ ใช ได อีก ทีห นึ่ง ที นี้ก ารอ างอิง ตอ งระวัง อย างหนึ่ ง ไม มี บรรณานุก รมหรอกครับ งานแบบนี้ เพราะไมรูจะอางใคร ไมมีห นังสือนี่ครับ เพราะงานที่เ อา ประสบการณทองถิ่นมาเลย อางหนังสือไมไดนะครับ แตวาเวลานักวิจัยทําเขาบอกวาเขาเอามา จากไหน ไปสัมภาษณ ไปอะไรมีอยูครับ แตคงไมไดใสในรูปของวิธีการตามกรอบนั่น เพราะไปตาม กรอบนั่น มีอาง footnote อยางโนน อยางนี้ นักวิจัยชาวบานทําไมไดครับ ปวดกบาล แลวก็ทําให เกิด ความนา เบื่ อไมอ ยากจะทํา นะครั บ แต ที่คุ ณ บอกไวดี เพราะที่จ ริงแลว เราไมไ ดทํ าอะไร หละหลวม เราทํามีขั้นตอน ถาอยากจะรูขั้นตอนรายละเอียด คุณก็ไปถาม สกว. เขาใหเปนตั้งเลย นะครับ แต นี่เ ป น รายงานการสรุ ป เท านั้ น นะครั บ สรุป ออกมานะครับ เพราะยากนะที่จ ะทํ า บรรณานุกรมใหเปนระบบ แตก็ตองพัฒนาตอไปนะครับ เพราะวายังไมมีที่สิ้นสุด ประการที่สอง ที่พูดถึงเรื่องแผนที่ อันนี้ผมเห็นดวย การศึกษาแบบนี้ตองรูพื้นที่ครับ ระบบ นิเวศวัฒนธรรมตองชัดเจน เราเห็นจากแผนที่ แตนาเสียดายที่สังคมไทยไมเคยสอนใหคนอานแผน ที่เลยนะครับ เด็กคือนักเรียนควรจะอานคือแผนที่หนึ่งตอหาหมื่น แตทหารนี่กั๊กไวตลอดเลย หาวา เปนความลับราชการ ถาประเทศอื่น นะเขาใหดูหมดแลว แลวเวลานี้ก ารใชแผนที่เพื่องานเปน remote sensing ใชดาวเทียม ถาตราบใดที่คุณอานแผนที่ในระดับหนึ่งตอหาหมื่นไมออกนะ คุณ อยาไปหวังเลย คุณไมเห็นในหมูบานหรอก คุณใชหนึ่งตอสองแสนหา คุณก็เห็นจังหวัด หรือหนึ่ง ตอล านนี่ ไมเ ห็น เลย แต ห นึ่ง ตอห าหมื่ น หรื อหนึ่งต อสี่ห มื่น จะเห็ น แตว า ทหารบอกวานี่ เ ป น ความลับของทางราชการ เพราะฉะนั้นความโงของเด็กไทยอยูตรงนี้ครับ แลวโงทั้งนั้น นักวิชาการที่
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๓๖
ไปไดดอกเตอร อานแผนที่ไมเปน เวลาพูดไมรูวาที่ไหน สิ่งที่เราเปนrequirementสิ่งที่ทํางาน แผนที่ หนึ่งตอห าหมื่น ตอ งใชเ ปน ฐาน เพราะฉะนั้ น ผูที่ทํา งานนี่ถึง ไดเ กงไง พวกนี้ เ กงกวา ผมคือใช คอมพิวเตอรเปน ทํา power point ไดดีกวาผมอีก นะครับ ใชเปนเครื่องมือนะครับ อันนี้จําเปนมาก ครับ เปนสิ่งที่ผมเห็นดวยนะครับ แลวก็มี ขั้นตอไป ผมคิดวา ผมมองวาการวิจัยไมหยุดอยูตรงนี้ ผมถึงวาเปนกระบวนการเรียนรูรวมกันนะครับ ถึงตองเขาสูเวทีแบบนี้ สัมพันธกัน ความคิดใหม เกิดขึ้นแลว ผมคิด วานักวิจัยตัวหนอนกลับไปบานคิดใหมกัน อีก จึงเกิดการเรียนรูขึ้น มา แตวา หนาที่สําคัญคือเราจะตองบูรณาการความรูดวยการจัดเวที งานใหญของ สกว. ขณะนี้ไมเพียงแต ไปแจกทุนวิจัยนะครับ พยายามที่จะสรางเวทีพื้นฐานทางภูมิปญญาใหเกิดขึ้น คือจัดเวที เอาคน หลากหลายในทองถิ่นมาพูดคุยกัน เอาเรื่องหนึ่งมาพูดและมาแลกเปลี่ยนกันนะครับ ก็จ ะแพร ความรูนี้ออกไปใหมาก บางทีการจัดประชุมใหใช topic อันหนึ่งแลวเชิญคนที่หลากหลายใน ทองถิ่น มาคุย จะไดปญ หาอะไรเยอะแยะ ทําความเขาใจรวมกัน จะไดคําถามอะไรแยะแยะ แมกระทั่งที่แลวๆ มา เอามาพูดคุยกัน จะเกิดคําถามขึ้นมา การวิจัยก็จะสานตอไปดวยวิธีนั้น ผม วาการจัดเวทีสําคัญที่สุดเลยนะครับ ปรานี วงษเทศ ขอเสริมอาจารยศ รีศัก รนิด หนึ่ง นะคะ ความจริงเมื่อเริ่มตนโครงการนี้ เราตองการที่จ ะ ลักษณะการอบรมนักวิจัยทองถิ่นหรือผูรูทองถิ่น หรือชาวบานที่จะทํางานวิจัยหรือเขียนเรื่องราว ของหมูบานชุมชนตัวเองนะคะ แตโอกาสองคความรูหรือขอมูลเปนรองเลย ไมใชเปาหมายหลักนะ คะ เมื่อแรกเริ่ม ทํางาน แตเ มื่อ เผอิญ ทําไปแลว นี้ก ลับ ผลงานดีเ กิ น คาดคิด มาเสนอแล วเลย กลายเปนเรื่องงานวิชาการ แตเปาหมายเราตองการอบรมใหสามารถทําไดดวยตัวเอง เพราะฉะนัน้ งานนี้ไมใ ชจ บสิ้นนะคะ สําหรับโครงการนัก วิจัยทองถิ่น เปนเพีย งเพิ่ง จะเริ่มตนสําหรับ นัก วิจัย ทองถิ่น ตอไปทานตองทําดวยตัวเอง ที่แลวมามีนักวิจัยมีนกตัวเล็กตัวนอยไปชวยบาง แตตอไป ทานตองทําดวยตัวเองซึ่งทานทําได เพราะเปนการจุดเริ่มตน แลวก็พูดไปถึงวางานวิจัยในฉบับ สมบูรณ ในสวนที่เปน ขอมูล คือนักวิจัยบางคนก็เปน นักวิจัยทองถิ่นอยูแลวนะคะ อานเอกสาร ขอมูล เชน ตํานาน พงศาวดาร ประวัติศาสตรอยูบางก็มี เชน กลุมของเชียงของนะคะ เขาก็เอามา ใส เราก็ทําฟุตโนตเอาไว นักวิจัยหลายๆ กลุมไมสามารถจะสรุปวาใชวิธีไหน ทําอยางไร เพราะวา ธรรมชาติ ข องชุ ม ชนหรือ นั ก วิ จั ย ท อ งถิ่ น แตกตา งกั น มหาศาล ตั้ ง แตพ ระสงฆ บาบอนะคะ จนกระทั่งถึงชาวประมง แลวก็ชางวาดรูปหรือวาเปนเอ็น จี โอ หรือบางคนเปนครู อาจารย หรือ บางคนเปนนักพัฒนาชุมชน หรือบางคนเปนอาสาสมัคร วิธีการเราจะบอกไมไดเลยวากลุมนี้เราจะ ทําอยางไร ขึ้นอยูกับทองถิ่น ความพรอมของนักวิจัยทองถิ่น แลวก็กระบวนการอะไรตางๆ แตวา เราใสชัดเจนแนนะคะวาตรงไหน ที่ตรงไหนเอามาจากตรงไหนนะคะ เราเรียนรูมาจากใคร ขอมูล
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๓๗
เอกสารมีบอก แลวก็ในแงของนักวิจัยที่เปนพี่เลี้ยงเขาก็บอกวาขอมูลบางสวนที่คนชราไมสามารถ เขียนได เขาจําเปนตองเรียบเรียง และก็อานใหชาวบานฟง มีขั้นตอนที่ตรวจสอบได แตไมสามารถ มาพูดใหมีรูปธรรม เพราะวากระบวนการเรียนรูเรื่อง field work นี่ไมมีที่ไหนเขาสอนกัน ไมมีนะคะ ไมมกี ารสอน เปนประสบการณชีวิตคะ ตองเรียนทั้งชีวิต ตอนแรกคุณก็ตองเซอๆ ซาๆ แลวคุณก็จะ โดนอะไรที่แยๆ ฉะนั้นตองมีใจที่จะทําใหสําเร็จ แตวาแลกเปลี่ยนเรียนรูกันได ซึ่งจะใหมาสรุปคง ยาก เพราะไมเหมือนกันเลยแตละทองที่ ศรีศักร วัลลิโภดม ผมเสริมนิดหนึ่งนะครับ งานครั้งนี้นะครับ เรา save ความรูจากคนแกๆ ที่เราไปสัมภาษณ เปนจํานวนมาก เพราะหลายทานไดสิ้นชีวิตไปแลว อยางเชน ทางจันทบุรีหรือที่หลายแหง คนที่ มารวมตายไปแลวหลายคนนะครับ แลวก็นับวาเปนชวงที่ทันเวลาที่สุดเลย ใครจะแสดงความ คิดเห็นอะไรอีกไหมครับ เชิญครับ ผูรวมการประชุม กราบเรียนทานอาจารย ผมไมไดอยูในกลุมนักวิชาการหรือนักวิจัย บางทีสิ่งที่จะเรียนถาม อาจจะพูดดวยความไมเขาใจก็ตองขออภัยดวยนะครับ คืองานวิจัยที่นําเสนอ อยางหนึ่งที่พูดถึง นโยบายของรัฐทําใหมากระทบกับชีวิตของชาวบานในทองถิ่นใหเปลี่ยนแปลงไป อยางเชนการ ทองเที่ยวนะครับมาเปลี่ยนแปลงเรื่องผีตาโขนนะครับ ไมทราบวางานวิจัยลงลึกไปถึงวา คานิยม หรือความเชื่อถือของทองถิ่นควรจะมีการเปลี่ยนแปลงไหม เพราะวายุคสมัยจนถึงปจจุบันนี้แลวนะ ครับ อะไรก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะ อยางเชนที่ผมเคยไปที่พระธาตุศรีสองรักษนะครับ ก็เห็นขอความ หามไมใหผูหญิงเขาไปในบริเวณพระธาตุศรีสองรักษ ในใจก็คิดวา วัฒนธรรมประเพณีเขามีมา อยางไรถึงมีเหตุผลอยางนั้น ทั้งที่วาพระธาตุศรีสองรักษก็ไมไดเกี่ยวกับวามีพระบรมสารริกธาตุ อยางทางเหนือใชไหมครับ วาจะดวยความเชื่ออะไรก็แลวแต พระธาตุศ รีสองรัก ษก็เ ปนเพีย ง อนุสาวรียของกษัต ริยสองประเทศสรางเพื่อจะบอกถึง ความรัก นะครับ ไมมารุก รานกัน อะไรก็ แลวแต ทีนี้ก็วาคานิยมอยางนี้ ความเชื่ออยางนี้ ควรมีการเปลี่ยนแปลงไหม หรือวาอีกอยางหนึง่ ใน ใจผม ผมวาไมเ ข าใจอยูวา พระธาตุศรีสองรัก ษเ มื่อเปน เพีย งอนุสาวรีย แลวกลายเปน ความ ศักดิ์สิทธิ์ไดอยางไร ตรงนี้ อยากจะเรียนขอความรูจากอาจารยดวย ขอสองนะครับ งานวิจัยที่นําเสนอ นักวิจัยทองถิ่นกอนที่จะนําเสนอ สกว. ไดมกี ารเสนอตอ ชุมชนของทองถิ่นไหมครับ เพื่อที่เขาจะไดรูวา ขอมูลทั้งหมดที่รวบรวมมานี่ถูกตองทั้งหมด ไดให เขาไดมีโอกาสมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในลักษณะอยางนี้นะครับ ในชุมชนเขานะครับ แลวก็ ตรงกับความตองการของเขาหรือเปลา ครับ ขอบคุณมากครับ
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๓๘
ศรีศักร วัลลิโภดม ครับ ขอบคุณมากครับ เอาเรื่องแรกกอนนะครับ เรื่องพระธาตุศรีสองรักษวาพระธาตุเจดีย องคนั้นไมใชมีที่บรรจุพระบรมธาตุ ทําไมตองหวงหามไมใหผูหญิงเขาใชไหมครับ ตองขออธิบาย อยางนี้วา ในความเชื่อของคน สิ่งที่สําคัญของความเชื่อของคนนะครับคือ เรื่องศักดิ์สิทธิ์ และเรื่อง สาธารณ ที่เปนเรื่องศักดิ์สิทธิ์เปนเรื่องธรรมดาของทางโลก จะมีขีดกั้นไวเลย เมื่อคุณละเมิดเขาไป บางทีจ ะทําความวิบัติ ใ หกับ ท องถิ่น นั้ น เปน ความเชื่อของคนทอ งถิ่น นะครับ ในเรื่องของสิ่ ง ศักดิ์สิทธิ์ไมจําเปนจะตองมีธาตุหรือไมธาตุ เรื่องประเพณีของทองถิ่นนั้นเขาหามไมใหเขาไป แลว หามไมใหเขาไปไมไดหมายความวาจะไปกีดกันสิทธิอะไรตางๆ ถาเรามองจากขางนอกเขาไปแบบ นกก็กีดกันสิท ธิมนุษยชน แตวาคนในทองถิ่น บอก ถาผูหญิงเขาไปแลวความวิบัติจะเกิด ขึ้นใน ชุมชนตรงนั้น นี่คือสิ่งที่อธิบายนะครับ กติกาที่บอกเปนจารีตบอกไวนะครับ หรือเปนขึด เปนขะลํา เปนตาบูที่เกิดขึ้นนะครับ ไมสามารถที่จะบอกวาใครคิดขึ้นมาได แตเปนสิ่งที่ถือปฏิบัติกันเรื่อยมา เมื่อใครไปละเมิดเขาจะเกิดความวิบัติเขามา สังคมแบบประเพณีอยางพระธาตุศรีสองรักษเขาไมใชชุมชนแบบอยางใหมอยางเรา เขา อยูดวยระบบความเชื่อยางนี้อยางเครียดเลย เมื่อการละเมิดไป คนที่ละเมิดเขาไปบอกวาชั้นมีสิทธิ ที่จะเขาไปได ผูหญิงเขาได แตคนทองถิ่นเขาก็เปนความวิบัติของทั้งสังคมนะครับ นี่คือปญหาครับ แลวกรณีนี้เกิดขึ้นบอย ครั้งหนึ่งมี ส.ว. คนหนึ่งจะไปละเมิดพระธาตุดอยสุเทพ ถาเขาไปเกิดความ วิบัติของเขา นี่คือขึดนะครับ คือขอหาม ซึ่งเราตองเคารพครับ เวลาเราเขาไปในทองถิ่นเราตอง เคารพตรงนั้นครับ อยางฝรั่ง บางทีเปนกฎหมายดวยซ้ํา ไมออกจารีต คุณเขาไปไมไดครับ ตอง ยอมรับตอกติกาของทองถิ่น ถาเราไปเปลี่ยนเขาโดยใชอํานาจทางรัฐเขาไปเปลี่ยนแปลงจะเกิด ความเดือดรอนขึ้นในสังคมนั้น อันนี้ตองทําความเขาใจครับ เปนความคิดดานแนวมานุษยวิทยา ทุกคนตองเรียนรูเพราะสําคัญ แลวเรื่องขึดหรือตาบูนะครับ ถาลึกลงไป แลวเราเขาไปไมถึง ยกตัวอยางเชน เหตุการณที่ เกิดขึ้นสึนามิที่เขาหลักนี่มีขึด ที่บอกวาอยาตั้งถิ่นฐานตรงนั้นเพราะเปนเขตอันตราย เขาถึงไดมีรูป ของแผนหินที่เปนผีอยู ตองเคารพบูชาเกิดเปนเจาพอเขาหลักขึ้นมา ชาวบานเขาไมปดไป แลวเกิด เปนเขตสามราง แลวปรากฏวา เขาก็มีเหตุผลของเขานะครับ ปรากฏวาเหตุการณเกิดขึ้น ทานรู ไหมครับนักวิจัยญี่ปุนผูเชี่ยวชาญสึนามิบอกวาคลื่นที่กระทบเขาหลักนั้นแรงเหมือนปรมณูกระทบ คลื่น ที่สูงสิบถึงสิบหาเมตร ปะทะเลย เพราะฉะนั้น คนโบราณรูแตไมอธิบ ายเปน วิท ยาศาสตร อธิบายเปนความเชื่อ เพราะวากลัวไอบัวใตน้ําไมรูเรื่อง ตองทําแบบนี้ครับ เบื้องหลังของความเชื่อ ที่เปนขึด หรือขะลําหรือนัก ศึกษามานุษ ยวิท ยาเรียกวาตาบูนั้นมีเบื้องหลังที่ลึกลับ มาก แลวคน โบราณเขาตองรูวามีอะไรสักอยางหนึ่งแตวาเราถอดรหัสตรงนั้นไมได แตถาไปทําจะเกิดกระทบ จิตใจเขาทันทีเลย นี่คือเรื่องที่อยากจะอธิบายตรงนี้ครับ พวกเราไปนะครับ พวกผมไปนี่ไมกลา
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๓๙
หรอก เขาไหวผี ผมก็ต องไหว ผีน ะครั บ เพราะสถานที่อัน นั้น ไมใ ชเ พีย งปจ เจกบุ ค คล รั ก ษา ความสัมพันธของสังคมของเขาอยูไดอยางยั่งยืน ความเปนมนุษยของเขา อันนี้ตอบปญหาอันแรก ม.ร.ว.อคิน รพีพัฒน ผมคิดวาเรื่องความเชื่อของคนนี้นะครับ เราจะบอกวาควรเปลี่ยนหรือไมควรเปลี่ยนก็ตอง ถามวาใครมีสทิ ธิ์ที่จะพิจารณาวาความเชื่อของคนในทองถิ่นใดทองถิ่นหนึ่งควรเปลี่ยนหรือไมควร เปลี่ยน อยางผีตาโขนนี้เราจะเอาใหเจาพอกวนเปลี่ยนวันที่อยางนี้ วันที่ทําพิธีบางอะไรบางตางๆ นานา เพื่อสนองความตองการของคนใหญคนโต เปน ตน ใครเปนคนคิด วาควรเปลี่ยนไมค วร เปลี่ย นแลวเหมาะสมอยางไร เปนปญ หาใหญ เพราะวาเราคิดวาควรเปลี่ย นเพราะวาสะดวก สําหรับคนใหญคนโต หรือรัฐมนตรีจะไปในวันนั้น หรือวาเราไมควรเปลี่ยนเพราะวาเปลี่ยนแลวจะ ทําใหเกิดความหมางใจในคนในทองที่ จะเกิดความเดือดรอนทําใหเกิดความกระทบกระเทือน กระทบกระทั่งคนทองที่ ถาหากเราถือวาเราเปนผูมีอํานาจจะเปลี่ยนอยางไรก็ไดตามใจชอบ เราก็ เปนเผด็จการ ถาหากจะเปลี่ยนโดยถือวา เราจะไมเปลี่ยนในฐานะที่เราเชื่อในคนของเขา เพราะวา เราเขาใจวาถาหากเกิดการเปลี่ยนหัวใจวัฒนธรรมของทองถิ่นนั้น ถาเกิดการเปลี่ยนแลว จะทําให เกิดความบาดหมางใจของคนในที่นั้น ทําใหความสัมพันธระหวางเรา ระหวางรัฐกับคนในทองที่จะ เกิดบาดหมางกัน เห็นไหมครับทั้งหมดขึ้นอยูกับความเขาใจ แตถาหากเราคิดวาเปลี่ยน ผมเขาใจ วาคุณพูดถึงควรหรือไมควร ตามหลักคือคุณคิดถึงวิทยาศาสตร หลักของนิวตัน ความจริงนิวตันก็ เปนคนที่เชื่อในไสยศาสตรอยางมโหฬาร นะครับ นี่เปนความจริงประวัติของนิวตัน แตวากฎเกณฑ ที่ เ ขาออกมาเราก็ คิ ด ว า นั่ น แหละต อ ต า นทุ ก อย า งทุ ก สิ่ ง ที่ ว า พิ สู จ น ไ ม ไ ด ต ามหลั ก เกณฑ วิทยาศาสตร แตวาเอามาใชในที่นี้ไมได เพราะเหตุวาของที่จุดสําคัญของเราที่พูดมาตั้งแตตนแลว ในระหวางที่รัฐกับทองที่ตางมีโอกาสที่จะทะเลาะกัน บาดหมางกันเพราะคนเราฝายใดฝายหนึ่งจะ ยา มใจใช อํา นาจสว นตั วไปกระทํ า ตอ คนในท องที่โ ดยไมคิ ด ถึง ใจเขา ไมเ ข าใจต อ ประเพณี วัฒนธรรมเขา เปนสิ่งที่จะทําใหเกิดปญหาตอประเทศชาติอยางมโหฬาร เราทําไปเพราะวาโดยความไมเขาใจ หรือรัฐทําเพราะวา หนึ่งมีอํานาจ สอง เราจะทําตาม ฝรั่ง ฝรั่งทําอยางนี้ เราก็จะทําตามอยาง ฝรั่งวิเศษ เราคนไทยไมวิเศษ ฝรั่งถืออยางนี้ เราก็จะถือ อยางนี้ ในที่สุดสวนลึกที่สุดก็เพื่อเราจะเอาสตางคจากฝรั่ง ก็เลยกลับมาถึงปญหาอีกปญหาหนึ่งที่ ตอเนื่องมาถึงปตตานีดวย ก็คือวา สตางคกับคุณธรรมนะ อยางไหนมีคามากกวากัน อยางไหนมี คุณ-นะ-คามากกวากัน ผมเลานิทานนิดหนึ่งไดไหม เมื่อผมคิดวาเปน สมัยหลัง จอมพลสฤษดิ์มาไมเทาไหร ประวัติของผม ผมกลับมาจาก ตางประเทศ สมัยกอนจอมพลสฤษดิ์ตายใหมๆ ครั้งแรกไปทํางานอยูกรมคดีศาลแขวง พอผมจับ ผมไปใสไว ผมไมเหมาะหรอกกับที่นั่น ผมเปนตํารวจไมได เราก็เปนตํารวจที่ดีก็ไมได ที่เลวก็ไมได
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๔๐
แตวาเขาไปอยูที่นั่น เกิดมีเศรษฐีมหาเศรษฐีคนจีนเขามาก็ในตํารวจนั้นมีประมาณยี่สิบคน แบง ออกเปนสองฝาย ครึ่งหนึ่งประมาณไมถึงสิบคนดียกมือไหวเศรษฐีคนนั้น ไหวกันอยางออนนอม เขามาหาหัวหนากองคดีศาลแขวงคงเรื่องสินบนอะไรกันบางอยาง อีกสิบกวาคนบอก เฮย กูไมไหว แมงหรอก ถึงเปนมหาเศรษฐีแตเหี้ย กูไมไหวหรอก ตอนนั้นเปนตอนที่กําลังมีการเปลี่ยนแปลงใน สังคมไทยนะครับคอนขางแรง ผมวาเดี๋ยวนี้เขายกมือไหวหมด เชื่อไหม ผมขอบพระคุณครับ เทานี้ แหละเลาใหฟง ปรานี วงษเทศ คือความจริงที่ใหอาจารยอคินตอบก็คือไมตองตอบ เพราะวาก็เชนเดียวกับอาจารยวา จะ เปลี่ยนหรือไมเปลี่ยน จริงๆ สังคมและวัฒนธรรมเปลี่ยนมาตลอดนั่นแหละ เปลี่ยนมาหลายหมื่นป แลว ถึงเราไมทําอะไรก็เปลี่ยน ไมตองไปกลัว แตวาการเปลี่ยนก็ใหเปนไปตามกระบวนการทองถิ่น หรือชุมชนเขาพรอมจะเปลี่ยนหรือรักษาเอาไวก็เปนเรื่องของเขา อยางที่อาจารยอคินวา การที่จะ เขาไปตัดสินแทนเขานั้นเราเปนใคร เราเปนเทพเจาหรือ เราคิดวาเราวิเศษ เราถูกตองกวาเขาแลว หรือ จะไปตัดสินใจแทน นั่นเปนประเด็นที่เราตองมองใหลึกวาไมใชหนาที่ของเรานะคะ อยากจะตั้งคําถามอัน หนึ่ง วา เวลาพูด ถึงพระธาตุวาหามผูห ญิงขึ้นไป จะตั้งคําถามวา ความศักดิ์สิทธิ์เปนสิ่งที่พิสูจนไดหรือเปลา ถาเผื่อวามาตั้งคําถามเกี่ยวกับเรื่องศาสนาความเชื่อ เชนเรื่องของมุสลิมทําไมหามโนน หามนี่ ไมหามไมไดหรือ อยางโนน อยางนี้ ผูหญิงก็เปดไปหมด เปด หนา ไมต องมาโพกผมหรื อวา อะไรต ออะไร เรื่อ งพระธาตุนี่ อยากถาม หรือ อยา งสถาบั น พระมหากษัตริยทานเปนสมมุติเทพจริงหรือเปลา ทําไมไมถามสถาบัน ทําไมตองพูดราชาศัพทกับ กษัตริย ทําไมตองอยางโนน อยางนี้ ใชไหมคะ คือในสังคมเรามีการอยูรวมกัน และเรารูวาอะไร เปนสิ่งที่ถูกตองที่ควร คนที่เปนหัวหนาที่ยกยอง เราใหค วามเคารพนับ ถือ ตั้งแตพอแม ตั้ง แต บรรพบุรุษ แลวคนที่เปนหัวหนาเปนชนเผา พอเขาทําคุณงามความดีปกปกรักษาเราได เราก็เคารพ ยกยองเขาใหเปนเทพเจา แตถาเผื่อเราเอาคําถามปจจุบันมาถามเรื่องศาสนานี่วาจริงหรือเปลา ทําไมมีใครกลาตั้งกับ สถาบัน กับกษัตริยหรือเปลา ไมไดใ หตอบ แตลองคิดดูวา บางทีเ ราเอา คําถามที่เปนเหตุเปนผล เพราะใชไมได มนุษยไมไดอยูเปนเหตุเปนผลอยางเดียว มีอะไรหลายๆ อยางที่ไมใชเปนเรื่องปจเจก เปนเรื่องของสวนรวมของกลุมที่สัมพันธเกี่ยวของโยงใยกันมากมาย มหาศาล เปนเรื่องของจิตใจที่พูดดวยเหตุผลหรือตรรกวิทยาศาสตรอยางเดียวไมได เปนคุณูปการ ของการทําความเขาใจตางถิ่นวาเราตองเขาใจการเรียนรูความแตกตาง เพื่อที่จะลดอคติ ลดการ เหยียดหยาม ลดการที่ทํารายกันทั้งวาจาและกิริยาทาทาง คือมนุษยนี่นาสงสารพออยูแลว ไมตอง ทํารายกันก็ตองตายอยูแลว ใหเขาใจกันมากขึ้น และก็ลดอคติเทานั้นเอง นั่นคือคุณูปการของวิชา มานุษ ยวิท ยา คือการศึก ษาตั วเราเองเขา ใจ คือ การศึก ษาคนอื่ น เพื่อเปรีย บเทีย บวา มนุษ ย
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๔๑
เหมือนกันหมดทั้งโลก ตางกันที่วาทําเขา เพราะฉะนั้นใหเขาใจความหมายวาทําไมเขาถึงมีวิถีชีวิต แบบนั้น ทําแบบนั้น ไมทําแบบนี้ เพราะอะไร เขาทําแบบนี้ไมใชวาเพราะเขาเปนสัตว ไมใชเขาโง กวาเรา เราก็ทําอะไรตามใจเราเหมือนกัน แตเขาไมมีสิทธิบงการเราเทานั้น เพราะเขามีเงินนอย กวาเรา หรือมีการศึกษานอยกวา การศึกษาในแงทางการที่คุณจะจบปริญญาหรือไมจบปริญญา หรือมีตําแหนงทางวิชาการอะไรก็ตาม นี่คือสิ่งที่เราเรียนรูและอยูได สบายใจ เรียนวิชานี้ ลองมา เรียนดูซิคะ ศรีศักร วัลลิโภดม เชิญอาจารยครับ คิดวามีอีกคําถามหนึ่งนะครับ เชิญอาจารยครับ อาจารยภุชงค บุญอภัย (นักวิจัยทองถิ่น) ของผมไมใ ชคําถามนะครับ อาจจะนอนไมหลับถาไมไดมาชี้แจง เพราะวาเทาที่ไดฟง คําถามมานะครับ มีความรูสึกไมสบายใจตรงที่วา เขาอาจจะสงสัยวาผมเปนนักวิจัย เอาขอมูลตรง นั้นมาไดยังไง มานั่งเทียนเขียนกันเองหรือเปลา อยางนี้นะครับ ก็กลัวจะถูกตําหนิ จะทํางานใหเขา แลว จะมาวาเราวาเอาขอมูลมาไดอยางไร ขอชี้แจงนิดหนึ่งนะครับ ในสวนของผมที่ทํางานวิจัยที่ ไดรับ มอบหมายในสวนจังหวัดจัน ทบุรีนี้ วิธีก ารของผมคือวา ในการที่จะทํางานวิจัยอัน นี้ ผม พิจารณาทีมงานวิจัยเขารวมทํางานของผมนะครับ ก็มองดูวางานวิจัยชิ้นนี้เปนงานวิจยั เชิงเกีย่ วกับ วัฒนธรรม ประเพณี ประวัติศาสตรอะไรทํานองนั้น ซึ่งจริงๆ แลว ผมก็จะมองไปวา ทีมงานของผม ที่เปนครูทั้งหมด คนนี้จบประวัติศาสตร คนนี้สอนวิชาสังคม คนนี้มีความรูดานวิชาคณิตศาสตร คนนี้มีความรูเรื่องของภาษา ทุกคนสามารถที่จ ะทํางานที่เกี่ยวของกับชิ้นนี้ได คือตองพิจารณา ขั้นตอนนี้มากอนแลวหนึ่งครั้ง คือพิจารณาคนที่จะมาทํางานครั้งนี้กอน ขั้นตอนตอไปก็จะพิจารณา เก็บขอมูล คนที่เราจะนําไปเก็บขอมูล คนที่มีอายุมากที่สุดในชุมชนนั้นมีใ ครบาง มีจุดไหนบาง กระจายใหทั่วแลวจึงเก็บ นี่คือวิธีการของผม เราก็จะมองไปตรงสวนนั้น แลวเราก็จะจัดเก็บชวง อายุวา เราจะเก็บชวงอายุเทานี้สักกี่คน อายุกลางคนเทาไหร วัยเด็กนี่เราก็มีนะครับ เราจะเก็บมา ตามนั้น โดยการที่ในชวงแรก ชวงที่มอี ายุ ของผมจะลงไปเก็บในลักษณะที่ เราจะไปรับมาจากบาน แลวมาเปดเวทีคุยกันที่วัด ที่ศาลาวัดนะครับ ซึ่งที่เราคิดกันนี้ เพราะวาเราคิดวาการที่เอาแตละ ทานมาคุยกัน แตถาไปคุยคนเดียวอาจจะไปหลงลืม หรือไดขอมูลที่วาบอกมาวาเปนอยางนี้ เออ เราก็เชื่อ ไมรูวาเปนจริงหรือเปลา แตวาเอามาหลายๆ คนมานั่งถามหรือตอบอะไรกันอยางนี้นะ ครับ เขาจะไดโตตอบกันเองวา อยางนี้ใชนะ อยางนี้ไมใชนะ เปนขอมูลที่เขาจะโตเถียงกันเอง แลว เราจะสรุปวาตรงนั้นใชแลวละ หลายๆ คนสรุปเปนแนวทางเดียวกัน อันนี้เปนวิธกี ารของผมทีท่ าํ มา ในสวนที่ไดมาแลวนี่เราก็จะนํามาเรียบเรียง หลายขั้นตอนมาก แลวกระดาษเราจะทิ้งเปนสวนมาก
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๔๒
คือทําแลวไมถูกใจ ทิ้งแลว ทิ้งเลา เราจะเอามาผลัดกันอาน ผลัดกันวิเคราะหอะไร เสร็จแลวเราก็ จะมีที่ปรึกษาโดยอาจารยศรีศักร จะลงไปดูแลพวกเราบอย แลวก็ทีมประสานงานก็จะถามกันอยู ตลอดเวลา ไมเปนที่พอใจตลอดเวลานะครับ เพราะไมดีสักที อันนี้เปนวิธีการ สําหรับสวนที่เหลือที่ ยังไมสมบูรณ เราก็ลงไปเก็บเปนระยะๆ แตของทางผมนี้มีขอจํากัดอยูนิดหนึ่งวา การทํางานวิจัย ถาทําไมตอเนื่อง เหมือนมาเริ่มตนใหม คือการเก็บขอมูลมาแลว เราก็มีภารกิจอื่นๆ ที่ตองทํา เขา มาแทนที่ บางครั้งก็ตองทิ้งไปบาง ฉะนั้น พอเรามาเริ่มทําใหมอีกครั้งหนึ่งก็เหมือนกับมานัง่ เริม่ อาน ใหม งานวิจัยชิ้นนี้ถาเราทําตอเนื่องจริงๆ แลว ผมวาหกเดือนพวกผมก็ทํากันเรียบรอย นั่นคือสวน อางอิงตรงสวนนั้น เรามีหลักฐานจริงๆ ที่เราไปสัมภาษณมาจริงๆ เราคิดไมออกแนนอนในการที่จะ มานั่งนึก อันนี้ อันนั้น อันโนน แลวมาเขียนคงไมไดแนนอนเราไดมาจากจริงๆ ในพื้นที่นะครับ ขอ ยืนยัน แลวก็ขอขอบคุณทานอาจารยอีกครั้งหนึ่งนะครับที่ใหมีโอกาสเราไดไปทํางานวิจัยนั้น ทําให เราไดขอมูลชุมชนและก็ไดชวยเหลือเรามาตลอดนะครับ ขอขอบคุณ ศรีศักร วัลลิโภดม ครับ อันนี้ทําทุกอยางมีหลักฐานนะครับ แตเผอิญไมมี footnote เพราะมาจากคําบอกเลา งานหลายอยางไมมี footnote หาไมไดหรอก อยางงานอยางผมนี่สํารวจคนควาทางโบราณคดีนี้ จะหา footnote อยางไร ไมมี มีแต my feet อยางเดีย ว คือปญหาจะเกิด ขึ้น อยางนี้น ะครับ เพราะฉะนั้นผมก็คิดวาก็ไดเวลาแลวนะครับ เดี๋ยวๆ นะครับ ทานอาจารยอคินขอเพิ่มเติม ม.ร.ว.อคิน รพีพัฒน ผมขอนิดหนึง่ วาเฟยต (ไชยณรงค เศรษฐเชื้อ) ยังอยูหรือไมรู จะบอกหนอยวาผมพูดผิด หรือเปลาไมรูอาจารยแกดวย ผมวาเฟยตเขาพูดอยูอยางหนึ่งเขาวา เขาคิดวาหนอนนี้ไมใชหนอน ทั้งหมด ขอมูลมาจากตรงไหน ผมคิดวา แลวความหมายตอไป ผูที่ไมใชหนอนคือปญญาชน ผมคิด วาอันนั้นไมใชความหมายของพวกเรา ความหมายของทานอาจารยศรีศักร เพราะวาเวลาทานพูด ถึง หนอนทานหมายถึง คือพวกเราไมไดคิด แบงแยกหรอกวาปญ ญาชนคนที่จบมหาวิท ยาลัย หรือไมไดจบมหาวิทยาลัยอะไร ผมวาเราไมไดคิดแบงแยกอยางนั้น ผมคิดวาหนอนคือคนที่อยูใน ทองที่นั่นเอง ไมวาจะเปนคนที่จบมาแคไหนอะไรก็ตาม ความจริงผมก็ไมไดใหคุณคากับคนที่จบ ปริญญามาเทาไหรหรอก ถึงแมวาจบปริญญาเอกเหมือนอยางผมจบๆ ผมก็ไมมีคุณคาเทาไหร ผม ก็ไมรูห รอก บางอยางชาวบานรูมากกวาผมเยอะ ผมไมคิด วาการเปรีย บเทียบนั้น จะเปนการ เปรียบเทียบทีใ่ ชได แลวเราไมไดคิดวาเราแบงแยกเลือกคน เราไมไดเลือกวาปญญาชนหรือไมใช ปญญาชนครับ ขอบคุณครับผม
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com
๔๓
ศรีศักร วัลลิโภดม ผมคิดวาหาโมงครึ่งแลวครับ เลยเวลาแลว ถาขืนตอไปก็เปนหกโมง และทุกคนก็หิวขาว ก็ ขอยุติการสัมมนาครั้งนี้นะครับ ขอขอบพระคุณ ทานผูมีเกียรตินะครับ พระคุณ เจาที่ไดมารวม สัมมนานี้นะครับ รวมทั้งนกทั้งหนอนทุกฝายนะครับ ขอขอบคุณ สกว. นะครับที่ไดอํานวยความ สะดวกในเรื่องคาใชจายนะครับ แลวก็ขอขอบคุณศูนยมานุษยวิทยาสิรินธรที่ใหใชหองประชุมนี้นะ ครับ ขอขอบคุณครับ สวัสดีครับ
PDF created with pdfFactory Pro trial version www.pdffactory.com