ตํานาน ความเชื่อ ประเพณี พิธีกรรม บานสําโรง เรื่องเลาที่เปนตํานาน ความเชื่อเกี่ยวกับไสยศาสตร ในชุมชนบานสําโรง มีเรื่องเลาเกี่ยวกับ ความเชื่อที่เปนตํานานเลาสืบกันมาหลายชั่วอายุคน เรื่องเลาที่เปนตํานานเหลานี้สัมพันธกับประวัติความ เปนมาของชุมชน ความเชื่อในเรื่องอํานาจนอกเหนือธรรมชาติ การดําเนินชีวิตในอดีตที่ชุมชนคอนขาง เปนอิสระในการปกครองดูแลตนเอง ซึ่งชุมชนจําเปนตองพึ่งพาผูนําที่มีความเขมแข็งพรอมๆ กับความ เมตตา เชน ขอมูลจากเรื่องเลาเกี่ยวกับอิทธิปาฏิหาริยของพระยาเสาร เรื่องเลาที่เปนตํานานซึ่งสัมพันธ กับประเพณีพิธีกรรมของชุมชน เชน เรื่องการทําบุญตักบาตรหนองฆอง การจับมาร เรื่องเลาที่เปนตํานาน ซึ่งตอกย้ําในเรื่องของความเชื่อในอํานาจนอกเหนือธรรมชาติ ซึ่งผนวกรวมกับการนับถือพุทธศาสนา เชน เรื่องเลาเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของเจาตะเคียน เรื่องเลาเหลานี้เปนภาพสะทอนเกี่ยวกับวิธีคิด คานิยม พฤติกรรมของผูคนในสังคมดังที่ไดกลาวมา อิทธิปาฏิหาริยของพระยาเสาร ตํานานเรื่องเลาเกี่ยวกับพระยาเสารซึ่งเปนผูนําของบาน สําโรงในอดีต พระยาระวี ซึ่งเปนผูนําทางทุงขนานไดพาลูกนองมาปลนชุมชนบานสําโรงในสมัยพระยา เสารปกครองดูแลอยู ซึ่งพระยาเสารมีบุคลิกนาเกรงขาม มีความยุติธรรม เด็ดขาด แตก็มีความเอื้อเฟอ ชวยเหลือผูอื่น พระยาเสารทราบวาพระยาระวีนําลูกนองเขามาปลนในหมูบาน จึงไดทองมนตคาถา โดย ใชขาวสารสาดทั่วหมูบาน ทําใหพวกโจรมองเห็นบานของชาวบานเปนบานราง มีเถาวัลยขึ้นเต็มหลังคา หนาบานเห็นเปนปา เห็นสุนัขกลับคิดวาเปนเสือ เห็นคนที่อยูในบานวาเปนผีหลอก จึงบอกลูกนองใหถอย กลับ ไมไดอะไรติดตัวไปเลย วิ่งหนีกันเตลิด สุนัขไลกัดคิดวาเสือไลกัด พระยาเสารเปนผูมีวิชาอาคมมาก เมื่อสิ้นชีวิตไปแลวชาวบานในชุมชนบานสําโรงจึงใหความเคารพนับถือ จึงตั้งศาลไว (ปจจุบันอยูหนา โรงเรียนวัดสําโรง) ใครมีปญหาเดือดรอนเรื่องอะไรจะไปบนบานศาลกลาวขอใหชวย แลวแตจะบนให อะไร เมื่อใกลถึงวันสงกรานตประมาณ ๔-๕ วัน จะมีการเรียกเจาเขาทรง และพระยาเสารจะเขามาในราง ทรงดวย ผูที่เคยบนอะไรไวจะนําของมาแกบน เชน หัวหมู เหลา น้ําหวาน บุหรี่ พวงมาลัย ตามแตวาใคร บนอะไรไวตอหนารางทรง ถาใครไมทําตามคําพูดอาจจะเกิดภัยพิบัติกับตนเองหรือลูกหลาน คนใกลชิด หรือมีอันเปนไป ชาวบานจึงเกรงบารมีมาก แมพระยาเสารจะสิ้นชีวิตไปนานหลายชั่วอายุคนแลวก็ตาม ในเรื่องคาถาอาคม การอยูยงคงกระพัน เสนหยาแฝด ยาสั่ง หลังจากยุคพระยาเสารแลวคนที่ ชอบก็ยังเรียนตอจนถึงชวงอายุของคนประมาณ ๕๐ ปขึ้นไป คนที่อายุต่ํากวานี้มีนอยมากจนถึงปจจุบันนี้ แทบไมมีใครเรียนเลย