๑
ยาสูบ
เด็กเจ็ดขวบทุกคนคู่ควรกับการมีซเู ปอร์ฮโี ร่ของตัวเอง เรือ ่ งก็มอ ี ยูแ ่ ค่นน ั้ และใครที่ไม่เห็นด้วยก็น่าจะต้องไปเช็กสมองเสียหน่อย หรืออย่างน้อยนั่นก็เป็นสิ่งที่ยายของเอลซ่าพูด เอลซ่าอายุเจ็ดขวบ ย่างเข้าแปดขวบ เธอรู้ตวั ว่าไม่ได้เก่งกาจอะไร ในการเป็นเด็กเจ็ดขวบ รู้ว่าตัวเองแตกต่าง ครูใหญ่บอกว่าเธอต้องท�ำตัว “เข้ารูปเข้ารอย” ให้มากกว่านี้ เพื่อที่จะ “เข้ากับเพื่อนๆ” ได้ดีกว่านี้ ผู้ใหญ่คนอื่นๆบอกว่าเธอ “โตเกินวัยไปมาก” และเอลซ่ารู้ว่าความหมาย ที่แท้จริงคือ “เด็กคนนี้น่าร�ำคาญมาก” เพราะพวกเขาจะพูดแบบนีเ้ ฉพาะ เวลาทีเ่ ธอคอยแก้ เมื่อพวกเขาออกเสียงค�ำว่า “เดจาวู” ผิด หรือเมื่อ พวกเขาไม่สามารถบอกความแตกต่างระหว่าง “me” กับ “I” ที่ ล งท้า ย ประโยคได้ ซึ่ งโดยปกติพวกอวดฉลาดก็มักจะท� ำ ไม่ได้อยู่แล้ว ดังนัน ้ เวลาทีพ ่ วกผู้ใหญ่แสดงความเห็นว่าเธอ “โตเกินวัย” มันจึงมาพร้อมกับการ 7
ส่งยิม ้ แบบฝืนๆไปให้พ่อกับแม่ของเธอ ท�ำเหมือนเธอเป็นคนปัญ ญาอ่อ น เหมือนเธอท�ำให้พวกเขาขายหน้าเพราะไม่ได้ซื่อบื้ออย่างทีค ่ นอายุเจ็ดขวบ ควรจะซือ ่ บือ ้ และนัน ่ ก็ทำ� ให้เธอไม่ชอบเพือ ่ นคนไหนเลย นอกจากยาย เพราะเพือ ่ นอายุเจ็ดขวบทีโ่ รงเรียนของเธอต่างก็โง่อย่างทีเ่ ด็กเจ็ดขวบควร จะโง่ แต่เอลซ่าไม่เหมือนพวกเขา เธอไม่ควรใส่ใจสิ่งที่พวกทึ่มเหล่านั้นคิด ยายบอก เพราะคนที่ เจ๋งที่สุดมักจะไม่เหมือนคนอื่น ดูอย่างพวกซูเปอร์ฮีโร่นั่นปะไร ถ้าพลัง วิเศษเป็นของที่หาได้ง่ายๆ ป่านนี้ใครๆก็คงมีกันหมดแล้ว ยายอายุเจ็ดสิบเจ็ด ก�ำลังจะเจ็ดสิบแปด และยายเองก็ทำ� ตัวเป็น คนอายุเจ็ดสิบเจ็ดได้ไม่ดีนักเช่นกัน ดูก็รู้ว่ายายนั้นแก่แล้ว เพราะหน้า ของยายเหมือนกระดาษหนังสือพิมพ์ทถี่ กู เอาไปยัดในรองเท้าเปียกๆ แต่ถงึ อย่างนั้นกลับไม่เคยมีใครกล่าวหาว่ายายโตเกินวัยแม้แต่คนเดียว “ดีดๆ” บางที ก็ มี คนพูดถึงยายแบบนี้ กั บ แม่ข องเอลซ่า บางครัง้ ด้วยสีหน้าเป็น กังวล หรือบางครัง้ ก็ออกจะโกรธๆ ส่วนแม่กจ็ ะถอนหายใจและถามว่า ค่า เสียหายทั้งหมดเท่าไหร่ บางครัง้ ยายสูบบุหรีใ่ นโรงพยาบาล ท�ำให้สั ญ ญาณ ไฟไหม้ดัง จากนั้นก็จะโวยวายยกใหญ่ว่า “เดี๋ยวนี้ทุกอย่างมันจะต้องเป๊ะ เป็นไม้บรรทัดไปหมดแล้ว หรื อ ยั ง ไง!” เมื่ อ รปภ. มาขอให้ยายดับบุหรี่ มี อีกครั้ ง ที่ ยายปั้นตุ๊กตาหิมะในสวน ใต้ระเบียงแฟลตบริทท์มารีกบ ั เคนต์ พอดี จากนั้นก็เอาเสื้อผ้าของคนจริงๆมาใส่ให้ จนดูเหมือนมีใครพลัดตก จากหลังคา ครัง้ หนึง่ มีพวกผู้ชายสุภาพเรียบร้อยสวมแว่นตามากดกริ่งที่ หน้าประตูและอยากจะพูดถึงพระเจ้า พระเยซู และสวรรค์ ยายต้อนรับ พวกเขาด้วยการออกมายืนบนระเบียง ชุดคลุมผ้าขนหนูกระพือพรึ่บพรั่บ และยิงปืนเพนต์บอลใส่คนพวกนัน ้ บริทท์มารีตัดสินใจไม่ถกู ว่าเธอหงุ ด หงิ ด อะไรมากกว่ากัน ระหว่างปืนเพนต์บอลกับการทีย ่ ายไม่ใส่อะไรเลยใต้ชุด คลุมผ้าขนหนู แต่ก็แจ้งต�ำรวจไปทั้งสองเรื่องเพื่อความปลอดภัย เอลซ่าเดาว่า ตอนนั้ น เองที่ ผู ้ค นลงความเห็นว่ายายออกจะดี ด เกินวัยไปหน่อย บางคนบอกว่ายายเป็นบ้า แต่จริงๆแล้วยายเป็นอั จ ฉริ ย ะ เพี ย ง 8
แต่สติเฟื่องไปด้วยในเวลาเดียวกัน ยายเคยเป็นหมอ ได้รบ ั รางวัลต่างๆ มากมาย นักข่าวเคยเขียนบทความเรื่องของยาย ยายไปมาหมดแล้วทุกที่ ที่น่ากลัวบนโลกนี้ ในขณะทีค ่ นอืน ่ พากันหนีออกมา ยายช่วยชีวิตคน และ ต่อ สู้กับความชั่วร้ายทุกแห่งหนบนโลกเช่นเดียวกับซูเปอร์ฮโี ร่ แต่แล้ววันหนึ่งใครบางคนตัดสินใจว่ายายแก่เกินกว่าจะช่วยชีวิต ใครได้อีกต่อไป ถึงแม้เอลซ่าจะสงสัยอย่างยิ่งว่า ค�ำว่า “แก่เกินไป” ในที่ นี้ จริงๆแล้วหมายถึง “บ้าเกินไป” มากกว่า ยายเรียกคนคนนี้ว่า “สั ง คม” และบอกว่าเพียงเพราะทุกวันนี้ทุกอย่างจะต้องเป๊ะเป็นไม้บรรทัด ยายจึง ไม่ได้รับอนุญาตให้เอามีดกรีดคนอีกต่อไป ยายยังบอกอีกด้วยว่า ปัญหา ที่แท้จริงคือการที่สังคมคอยมาเยอะสิ่ ง กับกฎห้ามสูบบุหรี่ในห้องผ่าตัด แล้วใครมันจะไปท�ำงานได้ภายใต้เงื่อนไขนี้ ไม่ว่าอย่างไร ทุกวันนี้ยายก็อยู่กับบ้านเป็นส่วนใหญ่ และคอย ท�ำให้บริทท์มารีกบ ั แม่เป็นบ้า บริทท์มารีคนนี้คือเพื่อนบ้านของยาย และ แม่ในที่นี้คือแม่ของเอลซ่า นั่นเท่ากับว่าบริทท์มารีเป็นเพื่อนบ้านของแม่ เอลซ่าด้วย เพราะแม่อยู่ในแฟลตติดกับยาย และเอลซ่าก็อยู่ในแฟลต ติดกับยายเช่นกัน เพราะเธออาศัยอยู่กับแม่ ยกเว้น ช่ว งสุ ด สั ป ดาห์เ ว้น สุดสัปดาห์ที่เธอจะไปอยู่กับพ่อและลิแซตต์ ยังมีจอร์จอีกคนที่เป็นเพื่อน บ้านของยาย เพราะเขาอยู่กบ ั แม่ของเอลซ่า มันก็จะยุ่งๆกันอยู่หน่อยๆ การช่ว ยชี วิ ต และการท� ำ ให้ค นเป็น บ้า เป็น พลั ง วิ เ ศษของยาย ท� ำ ให้ยายเป็นซูเ ปอร์ฮี โ ร่ที่ อ อกจะชอบกลอยู่สักหน่อย เอลซ่ารู้ เพราะ เอาค�ำว่า “ชอบกล” ไปค้นในวิกพ ิ เี ดีย คนรุ่นยายเรียกวิกิพีเดียว่า “สารานุกรมที่อยู่ในเน็ต!” ขณะเอลซ่าก็เรียกสารานุ กรมที่เป็นเล่มๆว่า “วิกิ พี เ ดี ย แบบอะนาล็อก” เอลซ่าหาความหมายของค� ำ ว่า “ชอบกล” จาก ทั้งสองที่ และพบว่ามันหมายถึงสิ่งที่ไม่ปกติอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งนั่นคือ คุณสมบัติข้อหนึ่งในตัวยายที่เอลซ่าชอบที่สุด แต่อาจไม่ใช่วน ั นี้ เพราะตอนนีต ้ ห ี นึง่ ครึง่ แล้ว เธอง่วง และอยาก กลับไปนอนเต็มที แต่ท�ำไม่ได้ เพราะยายดันไปปาอึใส่ต�ำรวจ เรื่องมันค่อนข้างซับซ้อนนิดหน่อยน่ะ 9
เอลซ่ามองไปรอบๆห้องสี่เหลี่ยมนั้น ก่อนจะหาวออกมาอย่างซึ ม กระทื อ และกว้างมาก จนดูเหมือนพยายามจะกลืนหัวตัวเองเข้าไป “หนูบอกยายแล้วว่าอย่าปีนรั้ว” เธอพึมพ�ำและดูนาฬิกา ยายไม่ตอบอะไร เอลซ่าถอดผ้าพันคอบ้านกริฟฟินดอร์ออกมา วางบนตัก เธอเกิดในวันบ็อกซิ่งเดย์1 เมื่อเจ็ดปีก่อน (เกือบจะแปดปีแล้ว ละ) วันเดียวกับที่นักวิยาศาสตร์ชาวเยอรมันบันทึกไว้ว่า ดาวแมกนีทาร์2 ปล่อยรังสีแกมม่าออกมาเหนือโลกในระดับรุนแรงที่สุด เอลซ่ายอมรั บ ว่า เธอไม่รู ้อ ะไรเลยเกี่ ย วกั บ ดาวแมกนี ท าร์ แต่ดู เ หมื อ นว่า มั น จะเป็น ดาวนิ ว ตรอนอะไรสักอย่าง ซึ่งฟังแล้วชวนให้นึกถึง “เมกาตรอน” อยู่ เหมือนกัน เมกาตรอนที่ว่าคือตัวร้ายในทรานส์ฟอร์เมอร์ส ซึ่งพวกหั ว ทึบที่อ่านวรรณกรรมดีๆไม่มากพอเรียกว่า “หนังสือส�ำหรับเด็ก” ความ จริ ง ทรานส์ฟ อร์เ มอร์คื อ หุ ่น ยนต์ ซึ่งถ้ามองในแง่วิ ช าการ ก็ พอจะนับ เป็นซูเปอร์ฮีโร่ได้เหมือนกัน เอลซ่าสนใจทั้งทรานส์ฟอร์เมอร์สและดาว นิ ว ตรอนมาก เธอจินตนาการว่า “การปล่อยรั ง สี แ กมม่า ” น่าจะคล้าย กับตอนทีย ่ ายท�ำแฟนต้าหกรดไอโฟนของเธอ และพยายามท�ำให้แห้งด้ว ย การเอาไปใส่ทป ี่ ิ้งขนมปัง ยายบอกว่าการเกิดในวันแบบนีท ้ �ำให้เธอเป็น คน พิเศษมาก และการเป็นคนพิ เ ศษคื อ วิธีที่ดีที่สุดในการไม่เหมือนคนอื่น ตอนนี้ยายก�ำลังวุ่นอยู่กับการเขี่ยยาสูบกองเล็กๆไปทั่วโต๊ะไม้ และเอามวนใส่กระดาษมวนบุหรี่ดังกรอบแกรบ “หนูบอกยายแล้วว่าอย่าปีนรั้ว!” ยายท�ำเสียงพ่นพรืดออกมาทางจมูก และค้นกระเป๋าเสื้อโค้ทตัว โพรกเพือ ่ หาไฟแช็ก ดูเหมือนยายจะไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ หลักๆแล้ว เพราะยายไม่เคยคิดว่าเรือ ่ งไหนเป็นเรือ ่ งใหญ่ ยกเว้นเวลาอยากสูบบุ ห รี่ แ ต่ หาไฟแช็กไม่เจอ “รั้วมันเตี้ยแค่เนี้ย ให้ตายสิ!” ยายพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน “ไม่ใช่ เรื่องที่จะต้องมาตื่นเต้นอะไรเสียหน่อย” “อย่ามา ‘ให้ตายสิ’ กับหนูนะ! ยายเป็นคนปาอึใส่ต�ำรวจ!” 10
“อย่าจู้จี้นักได้ไหม แกนี่ชักจะเหมือนแม่เข้าไปทุกทีแล้วนะ แล้ว
นี่มีไฟแช็กไหม” “หนูเพิ่งเจ็ดขวบ!” “แล้วกะจะแก้ตัวด้วยเหตุผลนี้ไปอีกนานเท่าไหร่” “ก็จนกว่าจะเลิกเจ็ดขวบมั้ง” ยายพึมพ�ำอะไรสักอย่างประมาณว่า “ถามแค่นไี้ ม่ตายหรอกมั้ง” และค้นกระเป๋าต่อ “หนูว ่า ในนี้ ไ ม่น ่า จะสู บ บุ ห รี่ ไ ด้” เอลซ่าพูด น�้ำเสียงสงบลงบ้าง แล้ว และก�ำลังเอานิ้วแหย่รอยขาดบนผ้าพันคอกริฟฟินดอร์ “ได้สิ แค่เปิดหน้าต่างก็หมดเรื่องแล้ว” เอลซ่ามองหน้าต่างอย่างไม่แน่ใจ “หนูว่าหน้าต่างแบบนี้ไม่น่าจะเปิดได้” “ท�ำไมไม่ได้” “ก็มันมีลูกกรง” ยายเหลือบมองหน้าต่างอย่างไม่สบอารมณ์ จากนั้นเปลี่ยนมา มองเอลซ่า “ตกลงเดีย ๋ วนีแ้ ม้แต่จะสูบบุหรีบ ่ นโรงพักก็ทำ� ไม่ได้ใช่ไหม พระเจ้า ช่วย นี่มันนิยายเรื่อง ๑๙๘๔ หรือยังไง” เอลซ่าหาวออกมาอีก “ขอหนูยืมโทรศัพท์หน่อยสิ” “จะเอาไปท�ำอะไร” “เอามาเช็กอะไรหน่อย” “เช็กที่ไหน” “ในเน็ต” “แกลงทุนกับอินเตอร์เน็ตมากเกินไปแล้วนะ” “ยายหมายถึง ‘ใช้เวลา’ หรือเปล่า” “ว่าไงนะ” “หนูหมายถึงว่า ยายต้องไม่ใช้ค�ำว่า ‘ลงทุน’ ในบริบทนี้ ยายต้อง ไม่เทีย ่ วไปพูดว่า ‘ฉันลงทุนเวลาสองชัว่ โมงไปกับการอ่านแฮร์รี่ พอตเตอร์ 11
กับศิลาอาถรรพ์’ เข้าใจไหม” ยายกลอกตาและยื่นโทรศัพท์มาให้ “แกเคยได้ยน ิ เรือ ่ งเด็กผู้หญิง ที่หัวระเบิดเพราะใช้ความคิดมากเกินไปไหม” ตอนนั้นเอง ต�ำรวจนายหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง สีหน้าของเขาดู เหนื่อย เหนื่อยมากๆ “ฉันอยากโทรหาทนาย” ยายบอกทันที “หนูก็อยากโทรหาแม่!” เอลซ่าบอกด้วย “ถ้าอย่างนั้นฉันอยากโทรหาทนายก่อน!” ยายยืนยัน นายต�ำรวจนัง่ ลงตรงข้ามทัง้ สองคน และยืน ่ มือออกไปจับกระดาษ กองเล็กๆบนโต๊ะเล่น “แม่ของหนูก�ำลังมานะ” เขาบอกเอลซ่าพร้อมกับถอนหายใจ ยายสูดหายใจเฮือกแบบเล่นใหญ่มาก ซึง่ มีแค่ยายเท่านั้นที่ท�ำได้ “โทรหาแม่นั่นท�ำไม บ้าหรือดีเนี่ย” ยายโวยวายราวกับเขา ก�ำลังจะเอาเอลซ่าไปทิ้งในป่าให้พวกหมาป่าเลี้ยง “ป่านนี้แม่คนนั้นคง หน้าซีดเหมือนผีไปแล้วมั้ง!” “เราต้องโทรหาผู้ปกครองตามกฎหมายของเด็กครับ” นายต�ำรวจ อธิบายอย่างสงบนิ่ง “ฉันก็เป็นผู้ปกครองตามกฎหมาย! ฉันเป็นยายของเด็ก!” ยาย โกรธมาก ยกตั ว จากเก้า อี้ เ ล็ ก น้อ ย และสั่นบุหรี่ที่ยังไม่จุดอย่างคุ ก คาม “นี่มันตีหนึ่งครึ่งแล้วนะครับ ต้องมีคนมาดูแลเด็กครับ” “ใช่ ก็ฉันนี่ไง! ฉันก�ำลังดูแลเด็กคนนี้อยู่!” ยายโวยต่อไปไม่หยุด นายต�ำรวจพยายามแสดงท่าทีเป็นมิตรจากอีกฝั่งของห้องสอบ ปากค�ำ “แล้วคุณรู้สึกยังไงครับที่เรื่องมันเลยเถิดมาขนาดนี้” ค�ำพูดนี้ท�ำให้ยายรู้สึกเหมือนโดนตบหน้า “เอ่อ...ทุกอย่างก็เรียบร้อยดี จนกระทั่งคุณมาตามจับฉันนี่ละ” “คุณบุกเข้าไปในสวนสัตว์นะครับ” “รั้วมันเล็กๆแค่นั้นเอง...” 12
“ความผิดฐานบุกรุกไม่มีค�ำว่า ‘เล็กๆ’ หรอกนะครับ”
ยายยักไหล่และยื่นมือไปท�ำท่าปัดๆโต๊ะ ท่าทางเหมือนจะบอก ว่าพวกเขาท�ำให้เรื่องยืดเยื้อมานานพอแล้ว นายต�ำรวจเห็นบุหรีใ่ นมือยาย และจ้องมันอย่างมีค�ำถาม “โอ๊ย ไม่เอาน่า! ฉันสูบบุหรี่ในนี้ได้ใช่ไหม” เขาส่ายหน้าอย่างเคร่งเครียด ยายโน้มตัวไปข้างหน้า จ้องลึก เข้าไปในตาเขา และส่งยิ้มให้ “หยวนๆหน่อยได้ไหมล่า ส�ำหรับคนแก่อย่างฉันไง” เอลซ่า ยกศอกถองสี ข้า งยายเบาๆ และเปลี่ยนไปคุยภาษาลับ เธอกับยายมีภาษาลั บ ที่ ใ ช้คุ ย กั น แค่สองคน เช่นเดียวกับยายหลานทั้ง หลาย ยายบอกว่า ในแง่ของกฎหมาย เราจ�ำเป็นต้องมีอะไรแบบนั้น หรือ อย่างน้อยมันก็ควรเป็นแบบนั้น “ไม่เอาน่า ยาย หยอดต�ำรวจแบบนี้มันผิดกฎหมายนะ” “ใครบอกแก” “เอ่อ อย่างน้อยก็ต�ำรวจนี่ละบอก!” เอลซ่าตอบกลับไป “แต่ต� ำ รวจควรอยู ่เ คี ย งข้า งประชาชนอยู ่แ ล้ว นี่ ” ยายท� ำ ท่า ฮึดฮัด “ฉันเสียภาษีนะ” นายต�ำรวจมองทั้งสองคน สีหน้าเหมือนที่เราควรจะท�ำ เวลานั่ง มองเด็กเจ็ดขวบกับคนแก่อายุเจ็ดสิบเจ็ดเถียงกันด้วยภาษาลับในโรงพัก กลางดึก จากนั้นยายหันไปกระพือขนตาใส่เขาอย่างยั่วยวน และชี้ ไ ปที่ บุหรี่อย่างออดอ้อนอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ทันทีทเี่ ขาส่ายหน้า ยายก็ทงิ้ ตัว พิงพนักเก้าอี้ และอุทานออกมาเป็นภาษาปกติ “โอย ไอ้ค วามตรงเป็น ไม้บ รรทั ด แบบนี้ เ นี่ ย ! ส�ำหรับคนที่สูบ บุ ห รี่ ในประเทศเฮงซวยนี่ ท�ำแบบนี้มันยิ่งกว่าเหยียดสีผิวอี ก นะ!” “สะกดยังไง” เอลซ่าถามขึ้น “อะไร” ยายถอนหายใจแบบคนทีพ ่ บว่าโลกไม่เข้าข้าง แม้ว่าเรา จะจ่ายภาษีครบถ้วนก็ตาม “ไอ้การเหยียบสีพิวอะไรนั่นน่ะ” เอลซ่าบอก 13
“เ-ยี-ย-ด-สี-ผิ-ว” ยายสะกดให้
เอลซ่าเอามันไปกูเกิ้ลในโทรศัพท์ของยายทันที เธอพยายามอยู่ สองสามครั้ง ยายสะกดค�ำได้ห่วยเสมอ ระหว่างนั้นต�ำรวจอธิบายให้ฟังว่า พวกเขาจะยอมปล่อยเธอกับยายไป แต่ยายจะต้องโดนเรียกกลับมาอีก เพื่อ อธิบายเรื่องการบุกรุกและ “ความรุนแรงอื่นๆ” ที่เกิดขึ้น “ความรุนแรงอะไรกัน” “ขับรถผิดกฎหมายอย่างหนึ่งละครับ” “หมายความว่ายังไงที่ว่าผิดกฎหมาย นั่นรถฉันนะ! ฉันต้องขอ อนุญาตใครก่อน ถึงจะขับรถตัวเองได้หรือยังไง” “ไม่ใช่อย่างนั้นครับ” นายต�ำรวจตอบอย่างอดทน “แต่คุณต้องมี ใบขับขี่” ยายสะบัดแขนอย่างเกรี้ยวกราด จากนั้นเริ่มโวยวายเรื่องสังคม ที่แสนเผด็จการ ตอนนั้นเองที่เอลซ่ากระแทกโทรศัพท์กับโต๊ะดังโครม “มันไม่เกี่ยวอะไรกับการเหยียดสีผิวเลยนะ!!! ยายเอาเรื่ อ งที่ ตัวเองสูบบุหรีไ่ ม่ได้มาเทียบกับการเหยียดสีผิวได้ยังไง คนละเรื่องกันเลย ไม่ใกล้เคียงเลยด้วยซ�้ำ!” ยายโบกไม้โบกมือเหมือนยอมจ�ำนน “ฉันหมายถึงว่า...มันก็แอบเหมือนนิดๆแหละ--” “มันไม่เหมือนกันเลยสักนิดต่างหาก!” “ก็เป็นการอุปมาไงเล่า ให้ตายสิ...” “อุปมาเฮงซวยน่ะสิ!” “แกรู้ได้ยังไง” “วิกิพีเดีย!” ยายหันไปหาต�ำรวจอย่างยอมแพ้ “ลูกคุณเป็นแบบนี้หรือเปล่า” นายต�ำรวจมีสีหน้าอึดอัด “เรา...เราไม่ปล่อยให้เด็กเล่นอินเทอร์เน็ตตามล�ำพังครับ...” ยายเหยียดแขนไปทางเอลซ่า ท่าทางเหมือนจะบอกว่า “เห็นไหม!” เอลซ่าส่ายหน้าและกอดอกแน่น 14
“ยายควรขอโทษต�ำรวจเรือ ่ งทีไ่ ปปาอึใส่เขา เราจะได้กลับบ้านกัน
เสียที” เธอพ่นลมทางจมูกพร้อมกับพูดเป็นภาษาลับ แม้ว่าจะยังไม่พอใจ เรือ ่ งการเหยียดสีผิวอย่างเห็นได้ชัดก็ตาม “ขอโทษ” ยายพูดออกมาเป็นภาษาลับ “บอกต�ำรวจนู่น ไม่ต้องมาบอกหนู ยายนี่งี่เง่าที่สุดเลย” “เราไม่จ�ำเป็นต้องขอโทษพวกเผด็จการ ฉันจ่ายภาษีนะ และ แกนั่นแหละที่งี่เง่า” ยายท�ำหน้าบึ้ง “ว่าแต่คนอื่น ไม่ดูตัวเองบ้างละ” จากนั้นทั้งสองก็นั่งกอดอก ต่างคนต่างมองไปทางอื่น ในที่สุด ยายพยักหน้าให้ต�ำรวจและพูดกับเขาเป็นภาษาปกติ “ช่วยบอกหลานสาวนิสัยเสียของฉันทีได้ไหมว่า ถ้าขืนยังท�ำตัว แบบนี้ จะต้องเดินกลับบ้านเอง” “บอกเขาหน่อยค่ะว่า หนูจะนั่งรถกลับบ้านกับแม่ และเขานัน ่ แหละทีจ่ ะต้องเดินกลับ!” เอลซ่าสวนทันควัน “บอกเขานะคะว่า--” นายต�ำรวจลุกขึ้นโดยไม่พูดอะไร และเดินออกจากห้องทันที เขา ปิดประตูตามหลัง ท่าทางในตอนนัน ้ เหมือนจะเดินไปอีกห้องหนึง่ และเอา หัวมุดโซฟานุ่มนิ่มตัวใหญ่ ก่อนจะตะโกนออกไปให้ดังที่สุดเท่าที่จะท�ำได้ “ดูซิว่าแกท�ำอะไรลงไป” ยายพูด “ยายนั่นแหละที่ต้องดู!” ในที่สุดต�ำรวจหญิงร่างใหญ่คนหนึ่งที่มีดวงตาสีเขียวทะลุทะลวง ก็เดินเข้ามาแทน ดูเหมือนนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเจอกับยาย เพราะเธอยิ้ม อ่อนเหมือนที่คนรู้จักยายส่วนใหญ่มักจะท�ำกัน เธอบอกกับยาย “คุณต้อง หยุดท�ำแบบนี้ได้แล้วนะคะ เรามีอาชญากรรมอื่นๆให้ต้องกังวลเต็มไป หมดอยู่แล้ว” ยายฟังแล้วได้แต่พึมพ�ำ “แล้วท�ำไมเธอไม่ไปหยุดมันไว้ล่ะ” จากนั้นเธอก็อนุญาตให้เอลซ่ากับยายกลับบ้านได้ ระหว่างที่ยืนรอแม่บนทางเท้า เอลซ่าเอานิ้วแหย่รอยขาดบน ผ้า พันคอของเธอ รอยนัน ้ ผ่ากลางลายปักตราบ้านกริฟฟินดอร์พอดิบพอดี 15
เธอพยายามที่สุดแล้วที่จะไม่ร้องไห้ แต่ดเู หมือนไม่ส�ำเร็จ “ไม่เอาน่า แม่แกซ่อมได้อยู่แล้ว” ยายบอก พยายามท�ำตัวร่าเริง และต่อยเอลซ่าเบาๆที่หัวไหล่ทีหนึ่ง เอลซ่าเงยหน้ามองอย่างเป็นกังวล “แล้วก็นั่นแหละ...เดี๋ยวเราบอกแม่แกก็ได้ว่า ผ้าพันคอขาดตอน ที่แกพยายามห้ามยายไม่ให้ปีนรั้วเข้าไปหาลิง” เอลซ่าพยักหน้าและลูบผ้าพันคออีกครัง้ มันไม่ได้ขาดตอนทีย ่ าย ปีนรัว้ หรอก มันขาดที่โรงเรียน ตอนที่เด็กโตสามคนที่เกลียดเอลซ่าโดยที่ เธอไม่รู้เหตุผล จับตัวเธอด้านนอกของโรงอาหาร จากนั้นก็ทุบตีเธอ ดึง ผ้าพันคอออกมาฉีก ก่อนจะโยนมันทิง้ ลงโถส้วม เสียงหัวเราะเยาะของ พวกนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัวแม้แต่ในตอนนี้ ยายสังเกตเห็นสีหน้าของ เธอ และโน้มตัวลงมากระซิบเป็นภาษาลับ “สักวันเราจะจับนังพวกขี้แพ้ที่โรงเรียนของแกไปที่ไมอามัส แล้ว โยนให้สิงโตกิน!” เอลซ่าใช้หลังมือปาดน�้ำตาและยิ้มออกมาเล็กน้อย “หนูไม่โง่นะ ยาย” เธอพูดเบาๆ “หนูร้วู ่ายายท�ำทุกอย่างทีเ่ กิดขึ้น ในคืนนี้ก็เพื่อให้หนูลืมเรื่องที่โรงเรียน” ยายเตะก้อนกรวดเล่นและกระแอมออกมาทีหนึ่ง “ยายไม่อยากให้แกจ�ำวันนี้เพราะเรื่องผ้าพันคอ ก็เลยคิดว่า ให้ แกจ�ำว่าเป็นวันที่ยายบุกเข้าไปในสวนสัตว์จะดีกว่า--” “แล้วก็หนีออกจากโรงพยาบาลด้วย” เอลซ่าพูดยิ้มๆ “แล้วก็หนีออกจากโรงพยาบาล” ยายพูดและยิ้มตอบ “กับปาอึใส่ต�ำรวจ” “จริงๆมันคือดินนะ! หมายถึงส่วนใหญ่น่ะ” “หนูว่าการเปลี่ยนแปลงความทรงจ�ำเป็นพลังวิเศษที่ดีมากเลย” ยายยักไหล่ “ถ้าลบความทรงจ�ำแย่ๆไม่ได้ ก็ต้องเอาเรื่องดีๆมาถมไว้” “หนูว่ายายใช้ค�ำผิด” 16
“ฉันรู้หรอกน่า” “ขอบคุณนะคะ ยาย” เอลซ่าพูด และเอนศีรษะไปอิงแขนยายไว้ ครู่หนึ่งยายพยักหน้าและกระซิบบอกเธอ “เราเป็นอัศวินของ อาณาจักรไมอามัส เราต้องท�ำหน้าที่ของเรา” เพราะเด็กเจ็ดขวบทุกคนคู่ควรกับการมีซูเปอร์ฮีโร่ของตัวเอง และใครที่ไม่เห็นด้วยก็น่าจะต้องไปเช็กสมองเสียหน่อย
17