ฉันมีรายการสิ่งของที่ต้องซื้อที่ร้านชํา คอนสแตนซ์เขียนให้ ทุกวันอังคารกับวันศุกร์ก่อนที่ฉันจะออกจากบ้าน คนในหมู่บ้านดูไม่ พอใจเท่าไหร่ทเ่ี ห็นเรามีเงินซือ ้ ของทีต ่ อ ้ งการอยูต ่ ลอดเวลา แน่นอนว่า เราถอนเงินทัง้ หมดออกจากบัญชีธนาคารแล้ว และฉันรูว้ า่ ทุกคนพูดกัน ไปต่างๆเกี่ยวกับเงินที่เราซ่อนไว้ในบ้าน ราวกับว่าเรามีเหรียญทอง กองมหึมา และทุกเย็นคอนสแตนซ์ อาจูเลียน และฉัน จะมานั่งเชยชม มันจนลืมหนังสือที่ขอยืมมาจากห้องสมุด ควานมือเข้าไปซุกไซ้ นับ และจับมาเรียงเป็นตั้ง จากนั้นก็พังทิ้งพร้อมทั้งส่งเสียงโห่ฮาเยาะ หยันอยู่ด้านหลังประตูทล ี่ ็อคไว้อย่างแน่นหนา ฉันคิดว่ามีหัวใจเน่าๆ หลายดวงในหมู่บ้านที่ปรารถนาเหรียญทองของเรา แต่พวกมันเป็น หัวใจที่ขี้ขลาด พวกมันหวาดกลัวพวกเราชาวแบล็ควูด ทุกครั้งที่หยิบ รายการสิ่งของออกจากกระเป๋าจ่ายตลาด ฉันจะหยิบกระเป๋าเงินออก มาด้วยเสมอ เอลเบิร์ตจะได้รู้ว่าฉันพกเงินมา และไม่สามารถปฏิเสธ ที่จะขายของให้ ไม่สำ�คัญว่ามีใครอยู่ในร้าน ฉันจะได้รับบริการก่อนเสมอ มิสเตอร์เอลเบิร์ตหรือภรรยาจอมโลภผู้มีผิวพรรณซีดเซียวจะวางมือ จากอะไรก็ตามที่กําลังทําอยู่ และมาหยิบหาของที่ฉันต้องการให้ทันที บางครั้งถ้าลูกชายคนโตของทั้งคู่มาช่วยงานในช่วงปิดภาคเรียน สอง ผัวเมียจะดูให้แน่ใจว่าเขาไม่ใช่คนทีม ่ าบริการฉัน ครั้งหนึ่งเมื่อเด็กหญิง
เล็กๆคนหนึ่งซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่คนในหมู่บ้านเข้ามาใกล้ๆฉัน มิสซิส เอลเบิร์ตปรี่เข้ามาดึงแกออกอย่างแรงจนเด็กร้องลั่น และหลังจาก นั้นก็มีช่วงเวลาหนึ่งนาทีอันยาวนานที่ทุกอย่างหยุดนิ่งและทุกคนเฝ้า รอ ก่อนที่มิสซิสเอลเบิร์ตจะสูดหายใจเข้าลึกๆและถามฉันว่า “จะ เอาอะไรเพิ่มอีกไหม” ฉันมักจะยืนตัวแข็งทุกครั้งทืี่มีเด็กเข้ามาใกล้ๆ เหตุผลก็เพราะฉันกลัวพวกเขา ฉันกลัวว่าเด็กพวกนั้นจะมาแตะตัวฉัน และพวกแม่ๆจะกรูกันเข้ามาเล่นงานฉันราวกับฝูงเหยี่ยวที่มีกงเล็บ แหลมคม นั่นคือภาพที่ติดอยู่ในหัวตลอดเวลา ฝูงนกที่บินโฉบลงมา จู่โจม ถากเถือเนื้อหนังด้วยกงเล็บคมปลาบดุจใบมีด วันนี้ฉันต้องซื้อ ของหลายอย่างให้คอนสแตนซ์ และรู้สึกโล่งอกเม่ือพบว่าไม่มีเด็กๆ อยู่ในร้าน ส่วนพวกผู้หญิงก็อยู่กันแค่ไม่กี่คน ได้เล่นอีกตา ฉันคิด จาก นั้นเอ่ยปากทักทายมิสเตอร์เอลเบิร์ต “อรุณสวัสดิ์ค่ะ” เขาตอบด้วยการพยักหน้า เขาไม่ทักทายฉันเลยไม่ได้ พวก ผู้หญิงในร้านยังคงจับตามองเราทั้งคู่ ฉันยืนหันหลังให้ แต่ยังรู้สึกได้ ว่าพวกเธอยืนอยู่ข้างหลัง ถือเครื่องกระป๋องหรือถุงที่ตักคุกกี้ใส่ลง ไปได้แค่ครึ่งเดียว หรืออาจเป็นผักกาดสักหัว และจะไม่ยอมเคลื่อน ไหวใดๆจนกว่าฉันจะเดินออกจากประตูร้านไปแล้ว หลังจากนั้นคลื่น ของเสียงพูดคุยจะเริ่มก่อตัวขึ้น และพวกเธอจะถูกสาดซัดให้กลับไป ยุ่งวุ่นวายกับชีวิตของตัวเองต่อ มิสซิสโดเนลล์อยู่ที่ไหนสักที่ทางด้าน
หลัง ฉันเห็นเธอตอนที่เดินเข้ามาในร้าน และนึกสงสัยเหมือนที่เคย สงสัยมาตลอดว่า เธอจงใจมาที่นี่เพราะรู้ว่าฉันจะมาหรือเปล่า เพราะ เธอพยายามจะพูดอะไรบางอย่างอยู่ตลอด เธอเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ พูด “ไก่อบหนึ่งตัวค่ะ” ฉันบอกมิสเตอร์เอลเบิร์ต ภรรยาจอม โลภของเขาซึ่งอยู่อีกฟากของร้านเปิดตู้แช่ นําไก่ออกมาตัวหนึ่ง และ เริ่มห่อ “ขาแกะขาเล็กหนึ่งขา” ฉันขานรายการต่อ “อาจูเลียนของฉัน ชอบกินขาแกะอบในช่วงต้นของฤดูใบไม้ผลิ” ฉันไม่ควรพูดหรอก ฉัน รู้ มีเสียงสะดุ้งเฮือกเบาๆดังขึ้นรอบร้าน ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากเสียง กรีดร้อง ฉันสามารถทําให้คนพวกนี้วิ่งกระเจิงเหมือนกระต่ายได้เลย ฉันคิด ถ้าฉันพูดสิ่งที่อยากพูดออกมาจริงๆละก็ แต่พวกเขาก็จะแค่ไป จับกลุ่มนอกร้าน และจับตามองฉันจากตรงนั้น “หัวหอมค่ะ” ฉันบอก มิสเตอร์เอลเบิร์ตอย่างสุภาพ “กาแฟ ขนมปัง แป้ง วอลนัท” ฉันไล่ รายการต่อ “แล้วก็นํ้าตาล นํ้าตาลของเราเหลือน้อยมากแล้ว” มีเสียง หัวเราะอย่างอกสั่นขวัญหายดังแว่วจากด้านหลัง มิ ส เตอร์ เ อลเบิ ร ์ ต มองผ่านฉันไปยังทีม ่ าของเสียงแวบหนึง่ ก่อนจะกลับมาดูสน ิ ค้าทีก ่ าํ ลังจัด บนเคาน์เตอร์ อีกสักครู่มิสซิสเอลเบิร์ตจะนําไก่กับเนื้อที่ห่อไว้แล้วมา วางรวมกับของอื่นๆ ฉันต้องไม่หันกลับไปจนกว่าจะถึงเวลาที่พร้อม จะออกจากร้าน “นมสองควอร์ต” ฉันสั่งต่อ “ครีมครึ่งไพน์ท เนยหนึ่ง
ปอนด์” พวกแฮร์ริสเลิกส่งผลิตภัณฑ์จากนมให้เราตั้งแต่หกปีก่อน และฉันจะซื้อนมกับเนยจากร้านกลับไปทืี่บ้าน “ไข่หนึ่งโหลด้วยค่ะ” คอนสแตนซ์ลืมเขียนไข่ลงในรายการ แต่ฉันรู้ว่าที่บ้านเหลืออยู่แค่สอง ฟอง “ถั่วตัดหนึ่งกล่อง” ฉันพูดต่อ คืนนี้อาจูเลียนจะได้มีของขบเคี้ยว ระหว่างทำ�งาน และเข้านอนในสภาพเหนียวเหนอะหนะ “พวกแบล็ควูดกินดีอยูด ่ แี บบนีเ้ สมอละ” นัน ่ คือเสียงของมิสซิส โดเนลล์ ชัดเจนว่าพูดจากที่ไหนสักที่ีข้างหลังฉัน ใครคนหนึ่งหัวเราะ คิกคัก และอีกคนปรามด้วยการส่งเสียง “ชู่” ฉันไม่เคยหันกลับไปดู แค่รู้สึกว่าพวกเธออยู่ข้างหลังก็แทบจะทนไม่ได้แล้ว ไม่จําเป็นต้องหัน ไปมองใบหน้าอึมครึมเฉยชาและดวงตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง พวกนั้นอีก ฉันหวังให้พวกแกตาย ฉันคิด และอยากพูดออกไปดังๆ มากเหลือเกิน คอนสแตนซ์เคยบอกฉันว่า “อย่ายอมให้คนพวกนั้น เห็นว่าเธอใส่ใจ” และ “ถ้าเธอแสดงออกว่าสนใจ พวกเขารังแต่จะร้าย กับเธอมากขึ้น” ซึ่งก็อาจจะจริง แต่ฉันหวังให้พวกแกตายจริงๆนะ ฉั น อยากเดิ น เข้ า มาในร้ า นชํ า แห่ ง นี ้ เ ช้ า วั น หนึ ่ ง และเห็ น พวกมั น ทุ ก คน ไม่เว้นแม้แต่ผัวเมียเอลเบิร์ตกับลูกๆ นอนอยู่ตรงนั้น ร้องครวญ ครางด้วยความเจ็บปวดและกําลังจะตาย หลังจากนัน ้ ฉันจะหยิบของที่ ต้องการด้วยตัวเอง ฉันคิด เดินยํ่าไปบนศพของพวกมัน หยิบทุกอย่าง ที่ต้องการจากบนชั้น แล้วกลับบ้าน อาจจะเตะมิสซิสโดเนลล์สักทีหนึ่ง
ขณะที่หล่อนนอนอยู่ตรงนั้น ฉันไม่เคยเสียใจเวลาที่มีความคิดแบบนี้ ฉันแค่หวังว่ามันจะเกิดขึ้นจริง “เป็นเรื่องไม่ถูกต้องที่จะเกลียดชังคน พวกนั้น” คอนสแตนซ์เคยบอกฉัน “เพราะเธอจะเป็นฝ่ายที่อ่อนแอลง เสียเอง” แต่ถึงอย่างไรฉันก็เกลียดพวกมัน และอดสงสัยไม่ได้ว่า มัน คุ้มตรงไหนที่สร้างคนพวกนี้ขึ้นมาตั้งแต่แรก มิสเตอร์เอลเบิร์ตนำ�ของทั้งหมดที่ฉันสั่งมาวางรวมกันบน เคาน์เตอร์และยืนรอ มองเลยฉันออกไปไกลๆ “วันนี้แค่นี้ค่ะ” ฉันบอก เขา เขาไม่มองหน้าฉัน แค่เขียนราคาลงบนกระดาษแผ่นเล็กๆและ รวมยอด จากนั้นยื่นมาให้เพื่อให้ฉันมั่นใจว่าเขาไม่ได้โกง ฉันตรวจ สอบตัวเลขบนกระดาษอย่างละเอียดถี่ถ้วนทุกครั้งแม้ว่าเขาจะไม่เคย พลาด มีแค่ไม่กี่วิธีที่จะแก้แค้นคนคนนี้ และฉันทําเท่าที่ทําได้ ตอนนี้ ในกระเป๋าจ่ายตลาดมีของใส่อยู่เต็ม แถมยังมีถุงเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งใบ แต่วิธีเดียวที่จะขนของทั้งหมดกลับบ้านได้คือ ฉันต้องหิ้วไปด้วยตัว เอง ไม่มีใครจะเสนอตัวช่วย แน่ละ ต่อให้ฉันยอมก็ตาม