100 กฎ Grammar ต้องรู้ในการฟัง-พูด-อ่าน-เขียนภาษาอังกฤษ

Page 1

䢤ÇÒÁÅѺ¡ÒÃÊÃÒŒ §»ÃÐ⤴nj Â

Gram mar พัฒนาทักษะด านไวยากรณ ภาษาอังกฤษ

ÁÃÙŒÊÓ Í´Ñ á¹¹‹ ´ÇŒ ᨤÊÇÓÒ¤ÞÑ ã¹¡ËÒÃÃѺʾѲ¹Ò Grammati ÃÒŒ §»ÃÐâ¤

cal Sk ill

-Í‹Ò¹-à¢Õ¹ÀÒÉÒÍѧ¡ÄÉ

ÊÓàÃç¨ ã¹¡ÒÃàÃÕ¹ÀÒÉÒÍѧ¡ÄÉËÃ×Í㪌ÀÒÉÒÍ à»š¹ÀÒÉÒáÁ‹ ÊÔè§Ë¹Ö觷Õè໚¹ÃÒ¡°Ò¹¢Í ѧ¡ÄÉãËŒàËÁ×͹ §¤ ¡ç¤×ÍàÃ×èͧËÅÑ¡¡Ò÷ҧÀÒÉÒËÃ×ÍäÇÂÒÇÒÁÊÓàÃ稴ѧ¡Å‹ÒÇ ¡Ã ·Õè¨ÐÁÕÍÂÙ‹ã¹·Ø¡æ ÀÒÉÒ äÁ‹Ç‹Ò¨Ð໚¹ÀÒ ³ ·Ò§ÀÒÉÒ ÉÒ â´Â·ÕèàÃÒµŒÍ§·Ó¤ÇÒÁࢌÒã¨Í‹ҧᨋÁ ã´¡çµÒÁ ˹‹ÇÂàÅç¡æ ·Õèà¡ÕèÂǡѺÀÒÉÒäÁ‹Ç‹Ò¨Ð໠ᨌ§¨Ò¡ š¹ª¹Ô´¢Í§¤Ó 仨¹¶Ö§â¤Ã§ÊÌҧ·Ò§»ÃÐ⤫Öè§¨Ð·Ó ãËŒàÃÒ ÊÒÁÒö㪌ÀÒÉÒ䴌͋ҧ¶Ù¡µŒÍ§ ¤Ù‹Á×ÍàÅ‹Á¹Õéä´ŒÃǺÃÇÁ¡®ÊÓ¤ÑÞ·Ò§äÇ à¾×èÍãËŒ¼ÙŒàÃÕ¹ÊÒÁÒö¨´¨ÓáÅзӤÇÒÁ ҡó Íѧ¡ÄÉ ¡®äÇÂҡó ÀÒÉÒÍѧ¡ÄÉÁÒÊÃػ໚¹ ࢌÒã¨ä´Œ à¾ÃÒÐ¹Ó ¾ÃŒÍÁµÑÇÍ‹ҧà¾×èͤÇÒÁࢌÒ㨠ÍÕ¡·Ñé§ÂÑ ¡®ÊÑé¹æ ·Õè¡ÃЪѺ §à»ÃÕ ÊÁ×͹໚¹ shot note µÑǪ‹Ç¨Óä´Œ´ÕÍÕ¡·Ò§Ë¹ÖÂè§ºà ´ŒÇ ¾Ôà

Whose

ÈÉ·ŒÒÂàÅ‹Á! Ẻ½ƒ¡ËÑ´¾ÃŒÍÁà©Å ÊÓËÃѺ½ƒ¡»Ã×Íãˌࡋ§ Grammar

Who

Tense

How much?

Where Present Simple Tense Why ISBN 978-616-527-532-3

9 786165 275323

หมวด : ภาษา

120.-

Conjunction

Noun Adjective

100 Grammar

ËÒ¡¤Ø³à»š¹¤¹Ë¹Ö觷ÕèÍÂÒ¡»ÃÐʺ¤ÇÒÁ

¡® µŒÍ§ÃÙŒ 㹡Òÿ˜§-¾Ù´-Í‹Ò¹-à¢Õ¹ÀÒÉÒÍѧ¡ÄÉ

10 0 ¡® Grammar µŒÍ§ÃÙŒ 㹡Òÿ˜§-¾Ù´

Verb to be

b

Adver

¢Õ¹ 㹡Òÿ˜§-¾Ù´-͋ҹѧ¡-àÄÉ ÀÒÉÒÍ ÍѴṋ¹´ŒÇ¤ÇÒÁÃÙŒ

ÊÓËÃѺ¾Ñ²¹Ò Gramm

atical Skill ¡® ·ËèÕ Ò¡¤³Ø ä´ÃŒ áŒÙ ÅÇŒ ¨Ð·ÓãËŒ¤Ø³

100

à¡‹§Íѧ¡ÄÉä´Œ§‹ÒÂæ

ÊÃØ»äÇÂҡóÀ ÒÉÒÍѧ¡ÄÉ´ŒÇ¡®Êѹé æ

When

¡ÃЪѺ ࢌÒ㨧‹Ò 㪌䴌¨ÃÔ§ ÁÕẺ½ƒ¡ËÑ´¾ÃŒÍÁà©Å·ŒÒÂàÅ‹Á!

สำหรับ

ผู เร�่มต นเร�ยนรู ผู ที่อยากเก งภาษาอังกฤษ นักเร�ยนทุกระดับ ผู ที่สนใจทั่วไป คนไทยทุกคนเพื่อก าวเข าสู ประชาคมอาเซ�ยน

¡®

พิเศษเพียง 120.-

เตรียมความพรอมภาษาอังกฤษเพือ่ กาวเขาสูป ระชาคมอาเซียน

ิ เศษ

Ø ¡Þ

2 เพียง1 0.-



ISBN 978-616-527-532-3 ราคา 120 บาท สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 โดยส�ำนักพิมพ์เอ็มไอเอส ห้ามน�ำส่วนหนึง่ ส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ไปลอกเลียนแบบ ท�ำส�ำเนา ถ่ายเอกสาร หรือน�ำไปเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ต และเครือข่ายต่างๆ ไม่วา่ จะในรูปแบบใดๆ นอกจากจะได้รบั อนุญาตเป็นลายลักษณ์อกั ษรจากทางส�ำนักพิมพ์เท่านัน้ ชื่อผลิตภัณฑ์และเครื่องหมายการค้าต่างๆ ที่อ้างถึงเป็นของบริษัทนั้นๆ ข้อมูลทางบรรณานุกรมของส�ำนักหอสมุดแห่งชาติ National Library of Thailand Cataloging in Publication Data ประไพ ภูงามเชิง. 100 กฎ Grammar ต้องรู้ในการฟัง-พูด-อ่าน-เขียนภาษาอังกฤษ.-- กรุงเทพฯ : เอ็มไอเอส, 2556. 304 หน้า. 1. ภาษาอังกฤษ--ไวยากรณ์. I. ชื่อเรื่อง. 425 ISBN 978-616-527-532-3

คณะผู้จัดท�ำ บรรณาธิการส�ำนักพิมพ์ ชิดพงษ์ กวีวรวุฒิ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ รองศาสตราจารย์สุนีย์ สินธุเดชะ ผู้เขียน ประไพ ภูงามเชิง ออกแบบปก ภรณีย์ สนองผัน ออกแบบรูปเล่ม ศิรินทรา วัชรเดชสุวรรณ ภาพประกอบ ณัฏฐา ชวนางกูร พิสูจน์อักษร ประไพ ภูงามเชิง, บุษกร กู้หลี ประสานงานฝ่ายผลิต อิสรีย์ แจ่มข�ำ ประสานงานสื่อสิ่งพิมพ์ บุษกร กู้หลี ฝ่ายการตลาด วราลี สิทธิจินดาวงศ์ พิมพ์ที่ บริษัท พิมพ์ดี จ�ำกัด ผู้พิมพ์/ผู้โฆษณา เสริม พูนพนิช จัดพิมพ์โดย ส�ำนักพิมพ์เอ็มไอเอส 213/3 ซอยพัฒนาการ 1 (สาธุประดิษฐ์ 34 แยก 6) แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 0-2294-8777 (สายอัตโนมัติ) โทรสาร 0-2294-8787 www.MISbook.com จัดจ�ำหน่ายโดย บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จ�ำกัด (มหาชน) 1858/87-90 ชั้น 19 อาคารทีซีไอเอฟ ทาวเวอร์ ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260 โทรศัพท์ 0-2739-8000 โทรสาร 0-2739-8609 www.se-ed.com หากหนังสือเล่มนี้ผลิตไม่ได้มาตรฐาน อาทิ หน้ากระดาษสลับกัน หน้าซ�้ำ หน้าขาดหาย ส�ำนักพิมพ์ยินดีรับผิดชอบเปลี่ยนให้ใหม่ โดยส่งมาเปลี่ยนตามที่อยู่ด้านบน หรือติดต่อส�ำนักพิมพ์เอ็มไอเอส โทรศัพท์ 0-2294-8777 (สายอัตโนมัติ)

กรณีต้องการสั่งซื้อจ�ำนวนมาก กรุณาติดต่อฝ่ายการตลาด ส�ำนักพิมพ์เอ็มไอเอส โทรศัพท์ 0-2294-8777 เพื่อรับส่วนลดพิเศษ


จากส�ำนักพิมพ์ “100 กฎ Grammar ต้องรู้ ในการฟัง-พูด-อ่าน-เขียนภาษาอังกฤษ”

คู่มือเล่มนี้จัดท�ำขึ้นเพื่อใช้ในการ อ่านเสริมความรู้และทักษะภาษาอังกฤษ ซึ่งว่าด้วยกฎไวยากรณ์ต่างๆ ที่ควรรู้ใน ระดับพื้นฐาน โดยสรุปเนื้อหาส�ำคัญๆ เกี่ยวกับหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษไว้ เป็นกฎสั้นๆ ถึง 100 กฎ ด้วยเนื้อหา ที่สั้นกระชับนี้จึงท�ำให้สามารถจดจ�ำ และท�ำความเข้าใจหลักการส�ำคัญต่างๆ เกีย่ วกับไวยากรณ์ภาษาอังกฤษทีค่ วรรูไ้ ด้ ง่ายขึ้น ซึ่งเหมาะส�ำหรับนักเรียนใช้เป็น ติวเตอร์ก่อนสอบ และผู้ที่สนใจทั่วไปใช้ เป็นคู่มือในการเรียนภาษาอังกฤษ ทาง ส�ำนักพิมพ์เชื่อว่า หนังสือเล่มนี้จะเป็น ประโยชน์และช่วยพัฒนาทักษะทางด้าน ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษของผู้อ่านได้เป็น อย่างดี เพือ่ เป็นการปูพนื้ ฐานในการเรียน ภาษาอังกฤษในระดับที่สูงขึ้นต่อไป ส�ำนักพิมพ์เอ็มไอเอส


c n e o t n ts กฎข้อที่ 1 กฎข้อที่ 2 กฎข้อที่ 3 กฎข้อที่ 4 กฎข้อที่ 5 กฎข้อที่ 6

กฎข้อที่ 7 กฎข้อที่ 8 กฎข้อที่ 9 กฎข้อที่ 10 กฎข้อที่ 11 กฎข้อที่ 12 กฎข้อที่ 13 กฎข้อที่ 14 กฎข้อที่ 15 กฎข้อที่ 16 กฎข้อที่ 17 กฎข้อที่ 18 กฎข้อที่ 19 กฎข้อที่ 20 กฎข้อที่ 21 กฎข้อที่ 22 กฎข้อที่ 23 กฎข้อที่ 24 กฎข้อที่ 25 กฎข้อที่ 26 กฎข้อที่ 27 กฎข้อที่ 28 กฎข้อที่ 29 กฎข้อที่ 30 กฎข้อที่ 31 กฎข้อที่ 32

ค�ำนาม (Noun) ค�ำนามนับได้ (Countable noun) ค�ำนามนับไม่ได้ (Uncountable noun) ค�ำนามเอกพจน์ (Singular noun) ค�ำนามพหูพจน์ (Plural noun) หลักการเปลี่ยนค�ำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย s, ss, x, sh, ch และ z ให้เป็นพหูพจน์ หลักการเปลี่ยนค�ำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย o ให้เป็นพหูพจน์ หลักการเปลี่ยนค�ำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย y ให้เป็นพหูพจน์ หลักการเปลี่ยนค�ำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe ให้เป็นพหูพจน์ ค�ำนามที่เปลี่ยนรูปเมื่อเป็นพหูพจน์ ค�ำนามที่ไม่เปลี่ยนรูปเมื่อเป็นพหูพจน์ ค�ำนามที่มีรูปพหูพจน์อย่างเดียวเท่านั้น ค�ำน�ำหน้าค�ำนาม a และ an ค�ำน�ำหน้าค�ำนาม the ค�ำบ่งชี้ค�ำนาม some ค�ำบ่งชี้ค�ำนาม any ค�ำบ่งชี้ค�ำนาม few และ little ค�ำบ่งชี้ค�ำนาม a lot of ค�ำบ่งชี้ค�ำนาม many ค�ำบ่งชี้ค�ำนาม much ค�ำสรรพนาม pronoun สรรพนามประธาน (Subject pronoun) สรรพนามกรรม (Object pronoun) สรรพนามบ่งชี้ (Demonstrative pronoun) สรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive pronoun) สรรพนามตนเอง (Reflexive pronoun) Verb to be การสร้างประโยคบอกเล่าด้วย Verb to be การสร้างประโยคปฏิเสธด้วย Verb to be การสร้างประโยคค�ำถามด้วย Verb to be Verb to do การสร้างประโยคบอกเล่าด้วย Verb to do

2 3 4 11 12 13 15 18 20 22 24 26 29 32 35 37 40 44 45 46 47 49 55 57 60 62 66 72 75 76 77 81


กฎข้อที่ 33 กฎข้อที่ 34 กฎข้อที่ 35 กฎข้อที่ 36 กฎข้อที่ 37 กฎข้อที่ 38 กฎข้อที่ 39 กฎข้อที่ 40 กฎข้อที่ 41 กฎข้อที่ 42 กฎข้อที่ 43 กฎข้อที่ 44 กฎข้อที่ 45 กฎข้อที่ 46 กฎข้อที่ 47 กฎข้อที่ 48 กฎข้อที่ 49 กฎข้อที่ 50 กฎข้อที่ 51 กฎข้อที่ 52 กฎข้อที่ 53 กฎข้อที่ 54 กฎข้อที่ 55 กฎข้อที่ 56 กฎข้อที่ 57 กฎข้อที่ 58 กฎข้อที่ 59 กฎข้อที่ 60 กฎข้อที่ 61 กฎข้อที่ 62 กฎข้อที่ 63 กฎข้อที่ 64 กฎข้อที่ 65 กฎข้อที่ 66 กฎข้อที่ 67 กฎข้อที่ 68

การสร้างประโยคปฏิเสธด้วย Verb to do การสร้างประโยคค�ำถามด้วย Verb to do Verb agreements ค�ำคุณศัพท์ (Adjective) ค�ำคุณศัพท์บอกสี ค�ำคุณศัพท์บอกขนาดของสิ่งของ ค�ำคุณศัพท์บอกจ�ำนวน ค�ำคุณศัพท์บอกทิศทาง ค�ำคุณศัพท์บอกลักษณะบุคคล ค�ำคุณศัพท์บอกความรู้สึก ค�ำคุณศัพท์บอกรสชาติ ค�ำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive adjective) ค�ำคุณศัพท์ชี้เฉพาะ (Demonstrative adjective) ความแตกต่างของค�ำคุณศัพท์ชี้เฉพาะกับสรรพนามชี้เฉพาะ การเปรียบเทียบค�ำคุณศัพท์ขั้นธรรมดาหรือเท่ากัน การเปรียบเทียบค�ำคุณศัพท์ขั้นกว่าแบบเติม -er การเปรียบเทียบค�ำคุณศัพท์ขั้นกว่าแบบใช้ more การเปรียบเทียบค�ำคุณศัพท์ขั้นสูงสุดแบบเติม -est การเปรียบเทียบค�ำคุณศัพท์ขั้นสูงสุดแบบใช้ the most การเปรียบเทียบค�ำคุณศัพท์แบบเปลี่ยนรูป ค�ำบุพบท (Preposition) ค�ำบุพบทบอกสถานที่ (Preposition of place) ค�ำบุพบทบอกเวลา (Preposition of time) กาล (Tense) Present Simple Tense Past Simple Tense Future Simple Tense Present Continuous Tense Past Continuous Tense Present Perfect Tense ประโยคค�ำถามแบบ Yes/No Question ประโยคค�ำถามที่ขึ้นต้นด้วย Is ประโยคค�ำถามที่ขึ้นต้นด้วย Are รูปประโยคค�ำถาม Do you want...? รูปประโยคค�ำถาม Do you like...? รูปประโยคค�ำถาม Did

83 87 88 92 94 96 98 101 103 107 109 111 114 115 117 118 120 121 123 124 126 127 130 132 134 138 141 144 148 151 154 157 161 165 168 171


กฎข้อที่ 69 กฎข้อที่ 70 กฎข้อที่ 71 กฎข้อที่ 72 กฎข้อที่ 73 กฎข้อที่ 74 กฎข้อที่ 75 กฎข้อที่ 76 กฎข้อที่ 77 กฎข้อที่ 78 กฎข้อที่ 79 กฎข้อที่ 80 กฎข้อที่ 81 กฎข้อที่ 82 กฎข้อที่ 83 กฎข้อที่ 84 กฎข้อที่ 85 กฎข้อที่ 86 กฎข้อที่ 87 กฎข้อที่ 88 กฎข้อที่ 89 กฎข้อที่ 90 กฎข้อที่ 91 กฎข้อที่ 92 กฎข้อที่ 93 กฎข้อที่ 94 กฎข้อที่ 95 กฎข้อที่ 96 กฎข้อที่ 97 กฎข้อที่ 98

รูปประโยคค�ำถาม Are you going to…? ประโยคค�ำถามแบบ Or Question ประโยคค�ำถามแบบ Wh-Question รูปประโยคค�ำถาม What is that/this? รูปประโยคค�ำถาม What color is it? และ What time is it? รูปประโยคค�ำถามที่ขึ้นต้นด้วย How many? รูปประโยคค�ำถามที่ขึ้นต้นด้วย How much? รูปประโยคค�ำถามที่ขึ้นต้นด้วย Whose รูปประโยคค�ำถามที่ขึ้นต้นด้วย Where รูปประโยคค�ำถามที่ขึ้นต้นด้วย Who รูปประโยคค�ำถามที่ขึ้นต้นด้วย Why รูปประโยคค�ำถามที่ขึ้นต้นด้วย When ค�ำสันธาน (Conjunction) ค�ำสันธานเชื่อม and ค�ำสันธานเชื่อม but ค�ำสันธานเชื่อม or ค�ำสันธานบอกเหตุผล because ค�ำกริยาช่วยพิเศษ should, ought to, had better ค�ำกริยาช่วยพิเศษ can และ could ค�ำกริยาช่วยพิเศษ have to และ must ประโยคค�ำสั่ง (Imperative sentence) ประโยคขอร้องหรือขออนุญาต (Requesting sentence) รูปประโยคอุทาน (Exclamatory sentence) เครื่องหมายวรรคตอน (Punctuation) เครื่องหมาย Full stop ( . ) เครื่องหมาย Question mark ( ? ) เครื่องหมาย Comma ( , ) เครื่องหมาย Apostrophe ( ’ ) ค�ำวิเศษณ์ที่มาจากค�ำคุณศัพท์เติม -ly ค�ำวิเศษณ์บอกระดับความมากน้อยหรือความแน่นอน (Adverb of degree) กฎข้อที่ 99 ค�ำวิเศษณ์บอกเวลา (Adverb of time) กฎข้อที่ 100 การวางค�ำวิเศษณ์ ในประโยค Exercises Answer key

174 177 181 183 186 188 193 196 199 201 202 204 206 208 210 212 214 216 218 220 222 224 226 228 229 230 231 232 234 240 243 246 249 275


กฎข้อที่

1

ค�ำนาม noun

ค�ำนาม หรือ Noun คือค�ำที่ใช้เรียกสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบๆ ตัวเรา ซึ่งเป็น ประเภทค�ำที่มีมากที่สุดในทุกๆ ภาษา ค�ำนามเป็นค�ำที่มีความหมายสมบูรณ์อยู่ ในตัวเอง มีทั้งค�ำนามที่เป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นค�ำนามที่สามารถแตะต้องได้ เช่น คน สัตว์ และพืช และค�ำนามที่เป็นนามธรรม ซึ่งเป็นค�ำนามที่ไม่สามารถแตะต้องได้ เช่น ความรัก ความเชื่อ และอ�ำนาจ ในภาษาอังกฤษแบ่งประเภทของค�ำนามออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ 1. ค�ำนามนับได้ (Countable noun) 2. ค�ำนามนับไม่ได้ (Uncountable noun) 3. ค�ำนามที่เป็นได้ทั้งค�ำนามนับได้และนับไม่ได้ (Noun that can be countable and uncountable)

ค�ำนามสามารถท�ำหน้าทีเ่ ป็นทัง้ ประธาน กรรม และส่วนเติมเต็มในประโยคได้ 100 กฎไวยากรณ์

2


กฎข้อที่

2

ค�ำนามนับได้

countable noun

ค�ำนามนับได้ หรือ Countable noun คือค�ำนามทีเ่ ราสามารถน�ำมานับจ�ำนวน ได้ เมื่อมีค�ำนามมากกว่าหนึ่ง จะเติม -s หรือ -es ท้ายค�ำเสมอ เช่น a cat แมวหนึ่งตัว

two dogs สุนัขสองตัว

four glasses แก้วสี่ใบ

five flowers ดอกไม้ห้าดอก

100 กฎไวยากรณ์

3


กฎข้อที่

3

ค�ำนามนับไม่ได้

uncountable noun

ค�ำนามนับไม่ได้ หรือ Uncountable noun คือค�ำนามที่เราไม่สามารถน�ำมา นับจ�ำนวนได้ เช่น rice, sand, water, salt, sugar, milk แต่เราสามารถนับค�ำนาม เหล่านี้โดยการนับภาชนะที่ใช้บรรจุแทน เช่น

a glass of milk นมหนึ่งแก้ว two bags of rice ข้าวสองถุง

three bottles of water น�้ำสามขวด

100 กฎไวยากรณ์

4


นอกจากนี้ยังรวมไปถึงค�ำนามที่เป็นนามธรรมทั้งหลาย ซึ่งได้แก่คำ� ที่ขึ้นต้น ด้วยค�ำว่า ความ และ การ และในภาษาอังกฤษมักจะลงท้ายด้วยค�ำว่า -ness, -tion, -hood, -ment, -ship และ -ity เป็นต้น เช่น agreement การเห็นด้วย

creation การสร้างสรรค์

badness ความเลว

friendship ความเป็นมิตร sociality การคบค้าสมาคม childhood ความเป็นเด็ก

100 กฎไวยากรณ์

5


ค�ำนามนับไม่ได้จะใช้คู่กับกริยาเอกพจน์เสมอ เช่น

The water in this pond is very clear. น�้ำในสระนี้ใสมาก

ค�ำนามนับไม่ได้ทนี่ ับตามจ�ำนวนภาชนะที่ใช้บรรจุ ถ้ามากกว่าหนึง่ ก็ให้ใช้กบั กริยาพหูพจน์ตามกฎไวยากรณ์ เช่น

Two cups of coffee on the table are mine. กาแฟสองถ้วยบนโต๊ะนั้นเป็นของฉัน

มีหลายคนเข้าใจผิดว่า money เป็นนามนับได้ แต่ที่จริงแล้ว ถือว่าเป็นค�ำนามที่นับไม่ได้ 100 กฎไวยากรณ์

6


ในทีน่ จี้ ะขอกล่าวถึง ค�ำนามทีเ่ ป็นได้ทงั้ ค�ำนามนับได้และนับไม่ได้ หรือ Noun that can be countable and uncountable ในกฎข้อนี้ไปด้วยเลย ค�ำนามประเภทนี้ เป็นได้ทงั้ ค�ำนามทีน่ บั ได้และนับไม่ได้ ซึง่ ขึน้ อยูก่ บั บริบทที่ใช้ ตัวอย่างค�ำนามประเภท นี้ได้แก่ hair, light, noise, paper, room, time, work และ fish ตัวอย่าง การใช้ในบริบทที่เป็นค�ำนามนับไม่ได้ หรือ Uncountable noun เช่น She has long brown hair. เธอมีผมยาวสีน�้ำตาล

หมายถึงเส้นผมทั้งศีรษะ จึงไม่สามารถนับได้

There is no light here. ที่นี่ไม่มีแสงสว่างเลย Do you hear the noise? คุณได้ยินเสียงนั้นไหม

100 กฎไวยากรณ์

7


My father reads paper every morning. คุณพ่อของฉันอ่านหนังสือพิมพ์ทุกเช้า

There is not room to plant these trees. ไม่มีพื้นที่ว่างที่จะปลูกต้นไม้เหล่านี้

I have no time to read. ฉันไม่มีเวลาอ่านหนังสือ

I need work. ฉันอยากได้งาน

I prefer fish to pork. ฉันชอบเนื้อปลามากกว่าเนื้อหมู

time ที่แปลว่า ครั้ง หรือจ�ำนวนครั้งถือ

เป็นค�ำนามนับได้

100 กฎไวยากรณ์

8


ตัวอย่าง การใช้ในบริบทที่เป็นค�ำนามนับได้ หรือ Countable noun เช่น There is a hair in my soup. มีผมเส้นหนึ่งในซุปของฉัน

หมายถึงเส้นผมเส้นเดียว

I saw two lights in the sky last night. ฉันเห็นดวงไฟสองดวงบนท้องฟ้าเมื่อคืนนี้

I can’t work because they make a loud noise. ฉันท�ำงานไม่ได้ เพราะพวกเขาท�ำเสียงดังเอะอะ

Jim wants two papers to draw. จิมต้องการกระดาษสองแผ่นเพื่อวาดรูป

100 กฎไวยากรณ์

9


There are two rooms available. มีห้องว่างสองห้อง

I read her letter two times. ฉันอ่านจดหมายของเธอสองครั้ง

This is one of my works. นี่เป็นหนึ่งในหลายงานของฉัน

Three fish are swimming in the aquarium. ปลาสามตัวก�ำลังว่ายน�้ำอยู่ในตู้ปลา

fish จะใช้เป็นรูปเอกพจน์เสมอ

ทั้งในบริบทที่เป็นนามนับได้และ นับไม่ได้ แต่ถ้าใช้ fishes จะ หมายถึงปลาหลายสายพันธุ์

100 กฎไวยากรณ์

10


กฎข้อที่

ค�ำนามเอกพจน์ singular noun

4

ค�ำนามเอกพจน์ หรือ Singular noun คือค�ำนามที่มีจ�ำนวนเพียงหนึ่งเท่านั้น เช่น a cat, a dog, a pen แต่มีค�ำนามอยู่กลุ่มหนึ่งที่มีรูปเดียวกันทั้งที่อยู่ในรูป เอกพจน์และพหูพจน์ เช่น

fish ปลา

deer กวาง

sheep แกะ

trout ปลาเทราต์ salmon ปลาแซลมอน

ซึ่งต้องสังเกตบริบทในประโยคให้ดี 100 กฎไวยากรณ์

11


กฎข้อที่

ค�ำนามพหูพจน์ plural noun

5

ค�ำนามพหูพจน์ หรือ Plural noun คือค�ำนามที่มีมากกว่าหนึ่ง ซึ่งเป็นการน�ำ เอาค�ำนามเอกพจน์มาท�ำให้เป็นพหูพจน์นั่นเอง โดยมักจะเติม -s หรือ -es เข้าไป ท้ายค�ำเสมอ เช่น two pens, four glasses, five dogs แต่มีค�ำนามบางค�ำที่เปลี่ยน รูปไปจากเดิมเลยก็มี เช่น man มีรูปพหูพจน์เป็น

person มีรูปพหูพจน์เป็น

people

100 กฎไวยากรณ์

12

men


หลักการเปลี่ยน ค�ำนามเอกพจน์ที่ ลงท้ายด้วย s, ss, x, sh, ch และ z ให้เป็นพหูพจน์

กฎข้อที่

6

หลักในการเปลี่ยนค�ำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย s, ss, x, sh, ch และ z ให้ เป็นพหูพจน์นั้น มีหลักง่ายๆ คือ เพียงเติม -es เข้าไปท้ายค�ำเท่านั้น เช่น

glasses

glass

แก้ว

boxes

box กล่อง

100 กฎไวยากรณ์

13


bushes

bush

พุ่มไม้

bunch

bunches พวง, ช่อ

buzz

buzzes

เสียงหึ่งๆ ของผึ้ง

ค�ำนามในกลุ่มนี้จะอ่านออกเสียงท้ายค�ำเป็น “ซิส” หรือ “เซส” เมื่ออยู่ในรูป พหูพจน์ เช่น glasses อ่านว่า “กลาสเซส” หรือ “กลาสซิส”

100 กฎไวยากรณ์

14



䢤ÇÒÁÅѺ¡ÒÃÊÃÒŒ §»ÃÐ⤴nj Â

Gram mar พัฒนาทักษะด านไวยากรณ ภาษาอังกฤษ

ÁÃÙŒÊÓ Í´Ñ á¹¹‹ ´ÇŒ ᨤÊÇÓÒ¤ÞÑ ã¹¡ËÒÃÃѺʾѲ¹Ò Grammati ÃÒŒ §»ÃÐâ¤

cal Sk ill

-Í‹Ò¹-à¢Õ¹ÀÒÉÒÍѧ¡ÄÉ

ÊÓàÃç¨ ã¹¡ÒÃàÃÕ¹ÀÒÉÒÍѧ¡ÄÉËÃ×Í㪌ÀÒÉÒÍ à»š¹ÀÒÉÒáÁ‹ ÊÔè§Ë¹Ö觷Õè໚¹ÃÒ¡°Ò¹¢Í ѧ¡ÄÉãËŒàËÁ×͹ §¤ ¡ç¤×ÍàÃ×èͧËÅÑ¡¡Ò÷ҧÀÒÉÒËÃ×ÍäÇÂÒÇÒÁÊÓàÃ稴ѧ¡Å‹ÒÇ ¡Ã ·Õè¨ÐÁÕÍÂÙ‹ã¹·Ø¡æ ÀÒÉÒ äÁ‹Ç‹Ò¨Ð໚¹ÀÒ ³ ·Ò§ÀÒÉÒ ÉÒ â´Â·ÕèàÃÒµŒÍ§·Ó¤ÇÒÁࢌÒã¨Í‹ҧᨋÁ ã´¡çµÒÁ ˹‹ÇÂàÅç¡æ ·Õèà¡ÕèÂǡѺÀÒÉÒäÁ‹Ç‹Ò¨Ð໠ᨌ§¨Ò¡ š¹ª¹Ô´¢Í§¤Ó 仨¹¶Ö§â¤Ã§ÊÌҧ·Ò§»ÃÐ⤫Öè§¨Ð·Ó ãËŒàÃÒ ÊÒÁÒö㪌ÀÒÉÒ䴌͋ҧ¶Ù¡µŒÍ§ ¤Ù‹Á×ÍàÅ‹Á¹Õéä´ŒÃǺÃÇÁ¡®ÊÓ¤ÑÞ·Ò§äÇ à¾×èÍãËŒ¼ÙŒàÃÕ¹ÊÒÁÒö¨´¨ÓáÅзӤÇÒÁ ҡó Íѧ¡ÄÉ ¡®äÇÂҡó ÀÒÉÒÍѧ¡ÄÉÁÒÊÃػ໚¹ ࢌÒã¨ä´Œ à¾ÃÒÐ¹Ó ¾ÃŒÍÁµÑÇÍ‹ҧà¾×èͤÇÒÁࢌÒ㨠ÍÕ¡·Ñé§ÂÑ ¡®ÊÑé¹æ ·Õè¡ÃЪѺ §à»ÃÕ ÊÁ×͹໚¹ shot note µÑǪ‹Ç¨Óä´Œ´ÕÍÕ¡·Ò§Ë¹ÖÂè§ºà ´ŒÇ ¾Ôà

Whose

ÈÉ·ŒÒÂàÅ‹Á! Ẻ½ƒ¡ËÑ´¾ÃŒÍÁà©Å ÊÓËÃѺ½ƒ¡»Ã×Íãˌࡋ§ Grammar

Who

Tense

How much?

Where Present Simple Tense Why ISBN 978-616-527-532-3

9 786165 275323

หมวด : ภาษา

120.-

Conjunction

Noun Adjective

100 Grammar

ËÒ¡¤Ø³à»š¹¤¹Ë¹Ö觷ÕèÍÂÒ¡»ÃÐʺ¤ÇÒÁ

¡® µŒÍ§ÃÙŒ 㹡Òÿ˜§-¾Ù´-Í‹Ò¹-à¢Õ¹ÀÒÉÒÍѧ¡ÄÉ

10 0 ¡® Grammar µŒÍ§ÃÙŒ 㹡Òÿ˜§-¾Ù´

Verb to be

b

Adver

¢Õ¹ 㹡Òÿ˜§-¾Ù´-͋ҹѧ¡-àÄÉ ÀÒÉÒÍ ÍѴṋ¹´ŒÇ¤ÇÒÁÃÙŒ

ÊÓËÃѺ¾Ñ²¹Ò Gramm

atical Skill ¡® ·ËèÕ Ò¡¤³Ø ä´ÃŒ áŒÙ ÅÇŒ ¨Ð·ÓãËŒ¤Ø³

100

à¡‹§Íѧ¡ÄÉä´Œ§‹ÒÂæ

ÊÃØ»äÇÂҡóÀ ÒÉÒÍѧ¡ÄÉ´ŒÇ¡®Êѹé æ

When

¡ÃЪѺ ࢌÒ㨧‹Ò 㪌䴌¨ÃÔ§ ÁÕẺ½ƒ¡ËÑ´¾ÃŒÍÁà©Å·ŒÒÂàÅ‹Á!

สำหรับ

ผู เร�่มต นเร�ยนรู ผู ที่อยากเก งภาษาอังกฤษ นักเร�ยนทุกระดับ ผู ที่สนใจทั่วไป คนไทยทุกคนเพื่อก าวเข าสู ประชาคมอาเซ�ยน

¡®

พิเศษเพียง 120.-

เตรียมความพรอมภาษาอังกฤษเพือ่ กาวเขาสูป ระชาคมอาเซียน

ิ เศษ

Ø ¡Þ

2 เพียง1 0.-


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.