โดย ผศ. ดร.อรกัญญ ภูมิโคกรักษ Ph.D. in Pharmacology
รู จักกลไกธรรมชาติภายในรางกาย ระบบการทำงานและหนาที่ของอวัยวะตางๆ
Human Body
ฉบบั
ปเนอ้ื รหาสั บมปบรู รณุแ งบบ เพอ� การเรียนรเู บือ้ งตน
เซลลและเนื้อเยื1อ
อวัยวะ
รางกาย
Did you know? เรื1องนารูเกี่ยวกับรางกาย คำถามทายบท พรอมเฉลย Glossary รวมคำศัพทที่ควรรูของระบบรางกาย เรียนรูครบทุกระบบในเลมเดียว!
พิมพ4 สี ทั้งเลม
า อ้ื ห น เ รงุ ษ บั ป าพเิ ศ ร บั ป ค ฉบ รา
.0 25
Human Body
โดย ผศ. ดร.อรกัญญ ภูมิโคกรักษ Ph.D. in Pharmacology
ISBN : 978-616-527-362-6 ราคา : 250 บาท สงวนลิขสิทธิต์ ามพระราชบัญญัตลิ ขิ สิทธิ์ พ.ศ. 2537 โดยสำานักพิมพ์เอ็มไอเอส ห้ามนำาส่วนหนึง่ ส่วนใด ของหนังสือเล่มนีไ้ ปลอกเลียนแบบ ทำาสำาเนา ถ่ายเอกสาร หรือนำาไปเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ต และเครือข่าย ต่างๆ ไม่วา่ จะในรูปแบบใดๆ นอกจากจะได้รบั อนุญาตเป็นลายลักษณ์อกั ษรจากทางสำานักพิมพ์เท่านัน้ ชือ่ ผลิตภัณฑ์และเครือ่ งหมายการค้าต่างๆ ทีอ่ า้ งถึงเป็นของบริษทั นัน้ ๆ
คณะผูจ้ ดั ท�ำ
ทีป่ รึกษำกิตติมศักดิ์ รองศาสตราจารย์สนุ ยี ์ สินธุเดชะ บรรณำธิกำรส�ำนักพิมพ์ ชิดพงษ์ กวีวรวุฒิ ผูเ้ ขียน ผศ. ดร.อรกัญญ์ ภูมโิ คกรักษ์ ออกแบบปก, ออกแบบศิลป์ ภรณีย์ สนองผัน ภำพประกอบ จิราวัฒน์ นพประไพ, ชนิกานต์ กิตติปฏิมาคุณ, พจนา พลบำารุง พิสจู น์อกั ษร ชนาภัทร พรายมี สิรนิ าถ มณีชยั ประสำนงำนสือ่ สิง่ พิมพ์ บุษกร กูห้ ลี ฝ่ำยกำรตลำด ชลพิชา ครืน้ จิต, มยุรี ศรีมงั คละ พิมพ์ที่ บริษทั พิมพ์ดี จำากัด ผูพ้ มิ พ์/ผูโ้ ฆษณำ เสริม พูนพนิช
จัดพิมพ์โดย : ส�ำนักพิมพ์เอ็มไอเอส 55, 57 ซอยพระรามที่ 3 ซอย 53 ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 0-2294-8777 (สายอัตโนมัต)ิ โทรสาร 0-2294-8787 www.MISbook.com
จัดจำาหน่ายโดย : บริษทั ซีเอ็ดยูเคชัน่ จ�ำกัด (มหำชน) 1858/87-90 ชัน้ 19 อาคารเนชัน่ ทาวเวอร์ ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260 โทรศัพท์ 0-2739-8222, 0-2739-8000 โทรสาร 0-2739-8356-9 www.se-ed.com
หากหนังสือเล่มนีผ้ ลิตไม่ได้มาตรฐาน อาทิ หน้ากระดาษสลับกัน หน้าซำา้ หน้าขาดหาย สำานักพิมพ์ยนิ ดีรบั ผิดชอบเปลีย่ น ให้ใหม่ โดยส่งมาเปลีย่ นตามทีอ่ ยูด่ า้ นบน หรือติดต่อสำานักพิมพ์เอ็มไอเอส โทรศัพท์ 0-2294-8777 (สายอัตโนมัต)ิ
ค�ำน�ำ
มนุษย์เป็นสิง่ มีชวี ติ ทีเ่ กิดจากกลไกธรรมชาติ ภายใน ร่างกายของเรานัน้ ประกอบด้วยอวัยวะหลายอย่าง ซึง่ ช่วยกันทำาหน้าทีใ่ ห้รา่ งกายมีชวี ติ อยูไ่ ด้ หากอวัยวะส่วนใด ส่วนหนึง่ บกพร่องจะทำาให้รา่ งกายทำางานผิดปกติ ดังนัน้ จึงเป็นเรือ่ งสำาคัญทีค่ วรรูแ้ ละศึกษาว่า อวัยวะหรือ ส่วนประกอบภายในร่างกายทำาหน้าทีอ่ ะไร และควร ดูแลรักษาหรือปกป้องอย่างไร หนังสือ “ระบบร่างกายมนุษย์” เล่มนี้ จัดทำาขึน้ เพือ่ เป็นประโยชน์แก่เด็กและเยาวชนได้เรียนรูส้ ว่ น ต่างๆ ของร่างกาย โดยผ่านเนือ้ หาและภาษาทีเ่ ข้าใจง่าย ภาพประกอบชัดเจนตรงตามหัวข้อ พร้อมเกร็ดความรู้ และคำาศัพท์ทเี่ กีย่ วกับระบบร่างกายมากมาย ซึง่ จะช่วย ให้เข้าใจเนือ้ หาได้ดยี ง่ิ ขึน้ สำานักพิมพ์เอ็มไอเอส
เซลลและเนื้อเยื1อ
อวัยวะ
รางกาย
สำรบัญ 01 02 03 05 06 08
เซลล์และเนือ้ เยือ่ Cells and Tissues . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . 1 เลือดและภูมคิ มุ้ กัน Blood and Immunity. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . 9 พันธุศาสตร์ Genetics . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .19
04
การเติบโตและพัฒนาการ Growth and Development . . . . 25
ระบบประสาท Nervous System. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ..33 การรับรูเ้ ฉพาะ
Organs of Special Senses. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .43
07
ระบบหัวใจและหลอดเลือด Cardiovascular System . . . . . . .65
ระบบทางเดินหายใจ Respiratory System. . . . . . . . .75
Human Body
09 10 11 14 16 17
ระบบทางเดินปัสสาวะ Urinary System . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . 83 ระบบทางเดินอาหาร Digestive System . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . 91 ระบบต่อมไร้ทอ่ Endocrine System
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . 101
12 13 ระบบสืบพันธุ์
Reproductive System
15
ระบบกล้ามเนือ้ และโครงกระดูก Musculoskeletal System . . . . . . . . . . 113 จุลนิ ทรียแ์ ละปรสิต
Microbials and Parasites . . . . . . . . . . 121
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . 133 โภชนาการ Nutrition . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .143
ภาวะเสือ่ มและชราภาพ Deterioration . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . 149 เนือ้ งอก
Neoplasia . . . . . . . . . . 155
เฉลยคำาถามท้ายบท Answers . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .163 คำาศัพท์ทคี่ วรรู้ Glossary
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . 168
Contents
Chapter
01
Human Body
1
Cells and Tissues เพือ่ นๆ ทราบไหมว่า... คนและสัตว์ประกอบขึน้ ด้วยเซลล์ (cell) ทัง้ นัน้ ซึง่ ท�าหน้าทีแ่ ตกต่างกันไป ถ้าหากเพือ่ นๆ เปรียบเทียบ ร่างกายมนุษย์เป็นเสมือนโรงงานขนาดใหญ่ เซลล์ในร่างกายก็จะเป็น บุคลากรทีท่ า� งานในร่างกายนัน่ เอง เซลล์หลายๆ เซลล์รวมกันจะกลายเป็นเนือ้ เยือ่ และเนือ้ เยือ่ หลายๆ เนื้อเยื่อมารวมกันหรือท�าหน้าที่อย่างเดียวกันเราก็จะ เรียกว่า อวัยวะ เช่น หัวใจ ตับ ไต เมือ่ อวัยวะต่างๆ ท�างานหรือปฏิบตั ิ กิจกรรมพิเศษร่วมกันในร่างกายจะเกิดเป็นระบบอวัยวะ เช่น ระบบ ย่อยอาหาร
เซลล์และเนือ้ เยือ่
2
Human Body
เซลล์และเนือ้ เยือ่ Cells and Tissues
สิง่ มีชวี ติ ทุกชนิดในโลกนีป้ ระกอบด้วยโครงสร้างหน่วยย่อยทีเ่ รียกว่า เซลล์ สิง่ มีชวี ติ บางชนิดประกอบด้วยเซลล์จาำ นวน 1 เซลล์ แต่บางชนิด เช่น มนุษย์ สัตว์ ประกอบด้วย เซลล์จาำ นวนหลายล้านเซลล์
เซลล์ชนิดเดียวกันอาจมาอยูร่ ว่ มกันโดยมีสาร บางชนิดกัน้ ระหว่างเซลล์ ลักษณะเช่นนีท้ าำ ให้เกิดเป็น เนือ้ เยือ่ เนือ้ เยือ่ หลายๆ ชนิดอาจมาอยูด่ ว้ ยกัน ทำาให้ มีโครงสร้างทีเ่ ป็นระเบียบมากขึน้ โดยมีประสาทและ หลอดเลือดมาเลีย้ งจนเกิดเป็นอวัยวะหลายๆ อวัยวะ ทีท่ าำ งานร่วมกันเรียกว่า ระบบการทำางานของร่างกาย ซึง่ มีอยูห่ ลายระบบด้วยกัน ในบทนีจ้ ะอธิบายรายละเอียดเกีย่ วกับเซลล์ เนือ้ เยือ่ อวัยวะ และระบบการทำางานของร่างกาย เพือ่ ให้เห็นภาพชัดเจนมากยิง่ ขึน้
เซลล์ (Cell) เซลล์เป็นโครงสร้างหน่วยย่อย ของสิง่ มีชวี ติ ถ้าสิง่ มีชวี ติ เปรียบเสมือน บ้าน เซลล์กเ็ ปรียบเสมือนอิฐแต่ละก้อน แตกต่างกันตรงที่อิฐทุกก้อนในบ้านจะมี ขนาด รูปร่าง และส่วนประกอบเหมือนกัน ทุกประการ แต่สิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยเซลล์ จำานวนมาก จะมีเซลล์อยูห่ ลายชนิด มีขนาดรูปร่าง ส่วนประกอบภายในเซลล์ และหน้าทีแ่ ตกต่างกัน เพือ่ ให้ ทำางานได้อย่างเหมาะสม อาจลองพิจารณาจากตัวอย่างของ สิง่ มีชวี ติ เช่น มนุษย์ ร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยเซลล์หลายชนิด
Cells and Tissues
Human Body
3
ไม่วา่ จะเป็นเซลล์เม็ดเลือด เซลล์สร้างเส้นใย เซลล์ประสาท เซลล์แต่ละชนิดมีขนาด รูปร่าง ส่วนประกอบภายในและหน้าทีแ่ ตกต่างกัน แต่ไม่วา่ จะเป็นชนิดใดก็ตามส่วนประกอบ พืน้ ฐานของเซลล์มนุษย์ทกุ เซลล์จะมีความคล้ายคลึงกันตรงทีป่ ระกอบด้วยเยือ่ หุม้ เซลล์ นำา้ ในเซลล์ ออร์แกเนลล์ เยือ่ หุม้ นิวเคลียส และนิวเคลียส
เซลล์ของมนุษย์และสัตว์แตกต่าง จากเซลล์ของพืช และเซลล์ของพืชแตกต่าง จากเซลล์ของจุลนิ ทรียห์ ลายประการ ประการ หนึี่งที่สำาคัญก็คือ เซลล์ของมนุษย์และสัตว์ จะไม่มีผนังเซลล์ ในขณะที่เซลล์ของพืชจะมี ผนังเซลล์ เนือ้ หาภายในบทนีจ้ ะกล่าวถึงเซลล์ของ มนุษย์เท่านัน้ เซลล์เปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่มี ความซับซ้อน มีส่วนประกอบมากมายที่ทำาให้สามารถ ติดต่อสือ่ สารกับสิง่ แวดล้อม เปลีย่ นแปลงรูปร่าง รับข้อมูล และสังเคราะห์สารได้เป็นจำานวนมาก
เซลล์และเนือ้ เยือ่
4
Human Body
ส่วนประกอบของเซลล์ ส่วนนอกสุดของเซลล์ คือ เยือ่ หุม้ เซลล์ ซึง่ เป็นเยือ่ บางๆ ประกอบด้วยไขมันประมาณครึง่ หนึง่ และโปรตีน อีกประมาณครึง่ หนึง่ โมเลกุลไขมันจะเรียงตัวเป็น 2 ชัน้ ประกบกันโดยมีโมเลกุลโปรตีนฝังอยู่ เยือ่ หุม้ เซลล์จะยอม ให้สารบางชนิดผ่านเข้าออกเซลล์ได้เท่านัน้ สารทีล่ ะลายในไขมันได้มากจะผ่านชัน้ ไขมันของเยือ่ หุม้ เซลล์ได้งา่ ย แต่ สารอืน่ ๆ อาจต้องอาศัยโปรตีนทีฝ่ งั อยูเ่ พือ่ ทำาหน้าทีเ่ ป็นช่องทางให้สารผ่านได้ นอกจากนีโ้ ปรตีนบางโมเลกุลในเยือ่ หุม้ เซลล์กท็ าำ หน้าทีเ่ ป็นตัวรับ (receptor) ให้สารหลายชนิด เช่น ฮอร์โมนในร่างกาย ยา สารเคมี มาจับแล้วสือ่ สาร กับเซลล์โดยไม่ตอ้ งผ่านเข้าไปในเซลล์ ใกล้กบั ส่วนฐานของเซลล์จะเป็นโครงสร้างทรงกลมขนาดใหญ่เรียกว่า นิวเคลียส มีเยือ่ หุม้ นิวเคลียสเป็นเยือ่ 2 ชัน้ ล้อมรอบอยู่ ภายในนิวเคลียสจะมีโครโมโซมซึง่ เป็นทีอ่ ยูข่ องจีน (gene) โครโมโซมประกอบขึน้ จากสารบางชนิดรวม กับกรดดีออกซีไรโบนิวคลีอกิ หรือทีเ่ รียกสัน้ ๆ ว่า ดีเอ็นเอ เป็นโมเลกุลสายคูแ่ ละขดเป็นเกลียว ในนิวเคลียสยังมีโครงสร้าง ทรงกลมทีเ่ รียกว่า นิวคลีโอลัส อยูด่ ว้ ย นิวคลีโอลัสนีป้ ระกอบด้วย กรดไรโบนิวคลีอกิ หรือทีเ่ รียกสัน้ ๆ ว่า อาร์เอ็นเอ เป็นหลัก เนื้อที่ระหว่างเยื่อหุ้มเซลล์กับนิวเคลียสเรียกว่า ไซโทพลาซึม ประกอบด้วยส่วนประกอบต่างๆ ทีอ่ ยูก่ นั เป็นสัดส่วน และแบ่งหน้าทีก่ ารทำางานไว้เรียกว่า ออร์แกเนลล์ ออร์แกเนลล์ ทีส่ าำ คัญ เช่น ร่างแหเอนโดพลาซึม (endoplasmic reticulum) ไรโบโซม (ribosome) ไมโทคอนเดรีย (mitochondrion) กอลไจแอปพาราตัส (golgi apparatus) และไลโซโซม (lysosome)
◌ ร่างแหเอนโดพลาซึม
ชนิดที่มีไรโบโซม ติดอยูจ่ ะทำาหน้าทีส่ งั เคราะห์โปรตีน ส่วนชนิดทีไ่ ม่มไี ร โบโซมจะสังเคราะห์ไขมันและสเตียรอยด์
◌ ไรโบโซม เป็นตำาแหน่งทีม่ กี ารสังเคราะห์โปรตีน ◌ ไมโทคอนเดรีย เป็นแหล่งพลังงานหลักของเซลล์ ◌ กอลไจแอปพาราตัส เกีย่ วข้องกับการลำาเลียง โปรตีนบางชนิดภายในเซลล์
◌ ไลโซโซม ทำาหน้าทีย่ อ่ ยวัสดุแปลกปลอม (เช่น แบคทีเรีย) และออร์แกเนลล์ทที่ าำ หน้าทีไ่ ม่ได้แล้ว
Cells and Tissues
ภาพตัวอย่างเซลล์ชนิดต่างๆ เซลล์รปู ทรงกระสวย เซลล์ชนิดนีม้ กั พบใน กล้ามเนือ้ เรียบ
เซลล์ประสำท เซลล์ชนิดนีม้ กั พบในระบบ ประสาท
เซลล์เม็ดเลือดแดง เป็นเซลล์ทไี่ ม่มนี วิ เคลียส
เซลล์กล้ำมเนือ้ ลำย เซลล์ชนิดนีพ้ บในกล้ามเนือ้ ลาย จะมีนวิ เคลียสหลายอัน
Human Body
5
ภาพแสดงการเรียงตัวของเซลล์
ส่วนประกอบของเซลล์ นิวคลีโอลัส (Nucleolus) ร่างแหเอนโดพลาซึม (Endoplasmic reticulum)
นิวเคลียส (Nucleus) ไรโบโซม (Ribosome)
ไมโทคอนเดรีย (Mitochondrion)
กอลไจแอปพาราตัส (Golgi apparatus)
เซนโทรโซม (Centrosome)
เยือ่ หุม้ เซลล์ (Plasma membrane) ไลโซโซม (Lysosome)
เซลล์และเนือ้ เยือ่
6
Human Body
ระบบกำรท�ำงำนของร่ำงกำย เนือ้ เยือ่ และอวัยวะส�ำคัญทีเ่ กีย่ วข้อง ระบบสร้ำงเม็ดเลือด
ช่วงเอ็มบริโอ (embryo) : ถุงไข่แดง ตับ ต่อมไทมัส ม้าม ปุ่มนำ้าเหลือง (lymph node) หลังจำกเกิด : ไขกระดูก ม้าม ต่อมไทมัส
ระบบน�้ำเหลือง
หลอดนำ้าเหลือง ปุ่มนำ้าเหลือง เนื้อเยื่อนำ้าเหลือง
ระบบภูมิคุ้มกัน
ไขกระดูก ต่อมไทมัส ม้าม
ระบบประสำทกลำง (central nervous system)
สมอง ไขสันหลัง
ระบบประสำทนอกส่วนกลำง (peripheral nervous system)
ปมประสาทอิสระ (autonomic ganglion) ปมประสาทรับความรู้สึก (sensory ganglion) ข่ายประสาท (nerve plexus)
ระบบผิวหนัง
ผิวหนัง ผม ขน เล็บ
ระบบกล้ำมเนื้อและโครงกระดูก
กล้ามเนื้อ กระดูก กระดูกอ่อน
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
หัวใจ หลอดเลือด
ระบบทำงเดินหำยใจ
ทางเดินอากาศตั้งแต่จมูกจนถึงถุงลมในปอด
ระบบทำงเดินปัสสำวะ
ไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ
ระบบทำงเดินอำหำร
ทางเดินอาหารตั้งแต่ปากจนถึงทวารหนัก ตับ ตับอ่อน ถุงนำ้าดี
ระบบต่อมไร้ท่อ
เนื้อเยื่อต่างๆ ที่สามารถหลั่งฮอร์โมนได้
ระบบสืบพันธุ์
ผู้หญิง : รังไข่ ท่อนำาไข่ มดลูก อวัยวะเพศหญิง ผู้ชำย : อัณฑะ องคชาต ต่อมลูกหมาก
Cells and Tissues
Human Body
7
เนือ้ เยือ่ เมือ่ เซลล์ชนิดเดียวกันมาอยูร่ วมกัน โดยมีสารระหว่างเซลล์ ล้อมรอบจะเกิดเป็นเนือ้ เยือ่ ขึน้
ในร่างกายมีเนือ้ เยือ่ อยู่ 4 ชนิด ได้แก่ 1. เนือ้ เยือ่ บุผวิ 2. เนือ้ เยือ่ เกีย่ วพัน ซึง่ ครอบคลุมถึงเลือด กระดูก และกระดูกอ่อน 3. เนือ้ เยือ่ กล้ามเนือ้ 4. เนือ้ เยือ่ ประสาท
ภาพตัวอย่างการเรียงตัวของเนือ้ เยือ่ กล้ามเนือ้
อวัยวะ อวัยวะ หมายถึง ส่วนต่างๆ ของร่างกายทีป่ ฏิบตั หิ น้าทีเ่ ฉพาะอย่าง เช่น หายใจ หลัง่ สาร และอวัยวะทีม่ ขี นาดใหญ่ทสี่ ดุ ในร่างกายก็คอื ผิวหนัง
ระบบกำรท�ำงำนของร่ำงกำย ร่างกายแบ่งออกเป็นระบบต่างๆ ตามความสัมพันธ์ทาง โครงสร้าง เช่น ระบบหลอดเลือด ครอบคลุมหลอดเลือด ทัง้ หมดในร่างกาย หรือทางการทำางาน เช่น ระบบทาง เดินอาหาร ครอบคลุมอวัยวะทีเ่ กีย่ วข้องกับการย่อย ดูดซึม และขับถ่ายอาหารทัง้ หมด โดยทัว่ ไปจะนิยม แบ่งตามความสัมพันธ์ทางการทำางานมากกว่าทาง โครงสร้าง เพราะทำาให้เกิดเป็นระบบการทำางาน ของร่างกายหลายระบบ แต่ละระบบจะมีเนือ้ เยือ่ และอวัยวะทีเ่ กีย่ วข้องทำางานร่วมกัน บางเนือ้ เยือ่ หรืออวัยวะอาจอยูไ่ ด้หลายระบบ เนือ่ งจาก ทำาหลายหน้าที่
เซลล์และเนือ้ เยือ่
8
Human Body
Did you know?
◌ รูไ้ หมว่ำ ในร่างกายของมนุษย์นั้นประกอบไปด้วยหน่วยของ สิ่งมีชีวิตที่เล็กที่สุดคือ เซลล์ (cell) เซลล์ที่มีขนาดเล็กที่สุดคือ ตัวอสุจิ (sperm) และใหญ่ที่สุดคือ ไข่ (egg)
◌ รูไ้ หมว่ำ เซลล์สตั ว์บางประเภททีป่ ระกอบด้วยเซลล์เดียวเรียกว่า โปรโตซัว เช่น อะมีบา สัตว์ชนิดนีจ้ ะทำาหน้าทีท่ กุ ๆ อย่างด้วยตัวเอง ไม่วา่ จะเป็น เรือ่ งความรูส้ กึ ต่อสิง่ เร้าต่างๆ การกิน การย่อย การเจริญเติบโต และการ แบ่งตัว
เพือ่ นๆ ทรำบไหมว่ำ
1. เซลล์หลายๆ เซลล์รวมกันกลายเป็นอะไร 2. เนือ้ เยือ่ (tissue) หลายๆ ชนิดมารวมกันกลายเป็นอะไร 3. ระบบหลายๆ ระบบรวมกันกลายเป็นอะไร (เฉลยอยูท่ า้ ยเล่ม)
Cells and Tissues
Chapter
02
Human Body
9
Blood and Immunity เคยนึกสงสัยบ้างไหมว่า เอ... เมือ่ ร่างกายเกิดบาดแผลขึน้ มา เช่น โดนมีดบาดแล้วมีเลือดออกนัน้ ร่างกายของเราจะหยุดเลือดที่ ไหลออกมาได้อย่างไร และเพือ่ นๆ รูไ้ หมว่าเลือดมีความส�าคัญต่อร่างกายของเรา อย่างไรบ้าง ดังนั้น เราจะมาท�าความรู้จักกับเลือดว่า... เลือดมี ความส�าคัญกับเราอย่างไร...
เลือดและภูมคิ มุ้ กัน
10
Human Body
เลือดและภูมคิ มุ้ กัน Blood and Immunity ร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยนำ้าร้อยละ 60-70 ของนำ้าหนักตัว นำา้ ในร่างกายส่วนหนึง่ อยูภ่ ายในเซลล์ อีกส่วนหนึง่ อยูร่ ะหว่างเซลล์ และส่วน ทีเ่ หลืออยูใ่ นเลือดทำาให้เลือดมีปริมาตร 4-6 ลิตร คิดเป็นนำา้ หนักร้อยละ 6-8 ของนำา้ หนักตัว
ส่วนประกอบของเลือด เลือดมีสว่ นประกอบทีส่ าำ คัญคือ เซลล์เม็ดเลือด ได้แก่ เม็ดเลือดแดง และเม็ดเลือดขาวชนิดต่างๆ เม็ดเลือดแดงนัน้ มีลกั ษณะเป็นเซลล์รปู ร่างแบน ไม่มนี วิ เคลียส คิดเป็นประมาณร้อยละ 45 ของเลือดทัง้ หมด ภายในเม็ดเลือด แดงมีสารสีแดงเรียกว่า ฮีโมโกลบิน ส่วนเม็ดเลือดขาวจะมีนวิ เคลียส ซึง่ แบ่ง เป็นหลายชนิดตามลักษณะนิวเคลียสและเม็ดเล็กๆ (granule) ภายในเซลล์ เม็ดเลือดขาวสามารถแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้คอื เม็ดเลือดขาว ชนิดแกรนูโลไซต์ โมโนไซต์ ลิมโฟไซต์ชนิดบีและที นอกจากเม็ดเลือดแดง และเม็ดเลือดขาวแล้ว ในเลือดยังมีเกล็ดเลือดซึง่ พัฒนามาจากชิน้ ส่วนของ ไซโทพลาซึมของเซลล์ชนิดหนึง่ มีลกั ษณะเป็นแผ่นเล็กๆ ไม่มสี ี ไม่มนี วิ เคลียส เม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดรวมกัน คิดเป็นประมาณร้อยละ 1 ของ เลือดทัง้ หมด ส่วนของเลือดทีไ่ ม่ใช่เม็ดเลือดและเกล็ดเลือดนัน้ เป็นของเหลว สีเหลืองอ่อนเรียกว่า พลาสมา หรือนำา้ เลือด คิดเป็นประมาณร้อยละ 54 ของเลือดทัง้ หมด
Blood and Immunity
Human Body
11
ส่วนประกอบของพลำสมำ พลาสมามีสว่ นประกอบทีส่ าำ คัญคือ นำา้ โปรตีน (เช่น แอลบูมนิ สารช่วยในการแข็งตัวของเลือด) อิเล็กโทรไลต์ (เช่น โซเดียม คลอไรด์) นำา้ ตาล (เช่น กลูโคส) ไขมัน (เช่น คอเลสเตอรอล) ของเสียจากเมแทบอลิซมึ (เช่น ยูเรีย) กรดอะมิโน ฮอร์โมน วิตามิน และบัฟเฟอร์ ถ้าทำาให้เลือดแข็งตัว แล้วแยกสารช่วยในการแข็ง ตัวของเลือดออกไป จะเหลือของเหลวทีเ่ รียกว่า ซีรมั หรือนำา้ เหลืองของเลือดซึง่ เป็นส่วนประกอบของเลือดที่ อยูภ่ ายในหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำา
นิวโทรฟิล (Neutrophil) เม็ดเลือดขาวชนิดที (T-Lymphocyte)
เบโซฟิล (Basophil)
แมโครเฟจ (Macrophage)
เกล็ดเลือด (Platelet)
อีโอซิโนฟิล (Eosinophil) เม็ดเลือดแดง (Red blood cell)
เลือดและภูมคิ มุ้ กัน
12
Human Body
หลอดเลือดแดง
หมายถึง หลอดเลือดทีน่ าำ เลือดออกจากหัวใจ ส่วนใหญ่เป็นเลือดแดงซึ่งมีออกซิเจนมาก เพราะ ถูก “ฟอก” ทีป่ อดแล้ว นัน่ คือมีการแลกเปลีย่ นนำา คาร์บอนไดออกไซด์ออกไปสูถ่ งุ ลมปอด และรับออกซิเจน จากถุงลมปอดเข้ามา เลือดแดงนีจ้ ะถูกสูบฉีดออกจาก หัวใจห้องล่างซ้ายไปเลีย้ งทัว่ ร่างกาย หลอดเลือดแดง ชนิดเดียวทีม่ เี ลือดดำาหรือเลือดทีม่ คี าร์บอนไดออกไซด์ มาก คือหลอดเลือดแดงทีอ่ อกจากหัวใจห้องล่างขวา เพือ่ นำาเลือดไปฟอกทีป่ อดต่อไป
หลอดเลือดด�ำ
หมายถึง หลอดเลือดทีน่ าำ เลือดเข้าสูห่ วั ใจ ส่วนใหญ่ เป็นเลือดดำา เพราะมาจากเซลล์ทวั่ ร่างกาย หลอดเลือดดำา ชนิดเดียวทีม่ เี ลือดแดงก็คอื หลอดเลือดดำาทีน่ าำ เลือดที่ ฟอกจากปอดแล้วกลับเข้าไปสูห่ วั ใจ หลอดเลือดดำาจะ อยูต่ นื้ กว่าหลอดเลือดแดง จึงสามารถมองเห็นหลอด เลือดดำาได้จากด้านนอกผิวหนังของเรา และยังเป็น หลอดเลือดทีน่ ยิ มใช้ฉดี ยาเข้าสูรู่ า่ งกาย
Did you know? ◌ รูไ้ หมว่ำ
ในทารกหลังคลอดไปจนถึงผูใ้ หญ่นนั้ เม็ดเลือดแดง แกรนูโลไซต์ โมโนไซต์ ลิมโฟไซต์ชนิดบี และ เกล็ดเลือดจะถูกสร้างขึน้ ในไขกระดูกสีแดง (red bone marrow) ซึง่ อยูภ่ ายในกระดูก ส่วนลิมโฟไซต์ชนิดทีจะถูกสร้างขึน้ เมือ่ เป็นทารกในครรภ์มารดาโดยสร้างทีต่ อ่ มไทมัส เม็ดเลือดแดง มีอายุเพียงประมาณ 120 วัน ก็จะถูกทำาลายไป
Blood and Immunity
red bone marrow
Human Body
13
หัวใจและหลอดเลือด หลอดเลือดแดงใหญ่นาำ เลือด ไปเลีย้ งทัว่ ร่างกาย (Aorta) ปอดด้านขวา (Right lung)
หลอดเลือดดำาทีร่ บั เลือดดำาจากส่วนล่าง ของร่างกาย (Inferior vena cava)
ปอดด้านซ้าย (Left lung)
หัวใจ (Heart)
ปริมำณเม็ดเลือดและสำรบำงชนิดในเลือด เม็ดเลือดแดง ฮีโมโกลบิน
4-6 ล้านเซลล์ตอ่ ไมโครลิตร 12-18 กรัมต่อเดซิลติ ร
เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด
5,000-11,000 เซลล์ตอ่ ไมโครลิตร 150,000-450,000 ต่อไมโครลิตร
แอลบูมนิ กลูโคส คอเลสเตอรอล
3.5-5.0 กรัมต่อเดซิลติ ร ไม่เกิน 110 มิลลิกรัมต่อเดซิลติ ร ไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลติ ร
เลือดและภูมคิ มุ้ กัน
14
Human Body
ระบบภูมคิ มุ้ กัน หมายถึง ระบบของร่างกายทีป่ กป้องร่างกายจากสิง่ แปลกปลอม ได้แก่ จุลนิ ทรีย์ ปรสิต และสิง่ แปลกปลอมอืน่ ๆ เช่น ฝุน่ ผงแร่ทเี่ ข้าไปในระบบทางเดินหายใจ
ทอนซิล (Tonsil) ต่อมไทมัส (Thymus gland) ปุม่ นำา้ เหลือง (Lymph node) ม้าม (Spleen)
ไขกระดูก (Bone marrow) หลอดนำา้ เหลือง (Lymph vessel)
ส่วนประกอบของระบบภูมคิ มุ้ กัน ระบบภูมคิ มุ้ กันมีสว่ นประกอบคือ เม็ดเลือดขาว และอวัยวะทีเ่ กีย่ วข้อง ได้แก่ ไขกระดูก ตับ (เกีย่ วข้องกับระบบภูมคิ มุ้ กันในขณะทีย่ งั เป็นทารกใน ครรภ์) ต่อมไทมัส ต่อมทอนซิล ม้าม ปุม่ นำา้ เหลือง (lymph node) ปุม่ นำา้ เหลืองเล็ก (lymph nodule) และหลอดนำา้ เหลือง
Blood and Immunity
Human Body
15
เลือดและระบบภูมคิ มุ้ กัน เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขำว
เลือดและภูมคิ มุ้ กัน
รู จักกลไกธรรมชาติภายในรางกาย ระบบการทำงานและหนาที่ของอวัยวะตางๆ
มนุษยเปนสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากกลไกธรรมชาติ ภายในรางกายของเรานั้นประกอบดวย อวัยวะหลายอยาง ซึ่งชวยกันทำหนาที่อยางเปนระบบเพื1อใหรางกายมีชีวิตอยู ดังนั้น การเรียนรูวาอวัยวะหรือสวนประกอบภายในรางกายทำหนาที่อะไร และควรดูแลรักษา หรือปกปองอยางไรจึงเปนเรื1องสำคัญที่ควรศึกษา
เซลลและเนื้อเยื1อ Cells and Tissues เลือดและภูมิคุมกัน Blood and Immunity พันธุศาสตร Genetics การเติบโตและพัฒนาการ Growth and Development ระบบประสาท Nervous System การรับรูเฉพาะ Organs of Special Senses ระบบหัวใจและหลอดเลือด Cardiovascular System ระบบทางเดินหายใจ Respiratory System ระบบทางเดินปสสาวะ Urinary System ระบบทางเดินอาหาร Digestive System ระบบตอมไรทอ Endocrine System ระบบกลามเนื้อและโครงกระดูก Musculoskeletal System จุลินทรียและปรสิต Microbials and Parasites ระบบสืบพันธุ Reproductive System โภชนาการ Nutrition ภาวะเสื1อมและชราภาพ Deterioration เนื้องอก Neoplasia
เสริมความรู
ระบบรางกายมนุษย 250.-
ISBN 978-616-527-362-6
9
786165 273626
พิเศษกับ Did you know? เรือ1 งนารูเ กีย่ วกับ รางกาย ทบทวนความรูกับคำถามทายบท พรอมเฉลย Glossary รวมคำศัพททค่ี วรรูข องระบบรางกาย
ผลิตโดย สำนักพิมพเอ็มไอเอส 55, 57 ซอยพระรามที่ 3 ซอย 53 ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท 0-2294-8777 (สายอัตโนมั ติ) โทรสาร 0-2294-8787 www.MISbook.com