ÃÇÁÊØÀÒÉÔµáÅФӾѧà¾Âä·Â·ÕèàÅ‹Ò¢Ò¹
Ê׺µ‹Í¡Ñ¹ÁÒ¨Ò¡ÃØ‹¹»Ù†Â‹ÒµÒÂÒ ໚¹¡ØÈâźÒ Ê͹¤¹ÃØ‹¹ËÅѧãËŒµÃÐ˹ѡ¶Ö§¤ÇÒÁ¶Ù¡µŒÍ§ ¤ÇÒÁ´Õ§ÒÁ ¡ÒÃ㪌äËǾÃԺʵԻ˜ÞÞÒà¾×èͼ‹Ò¹¾Œ¹»˜ÞËÒáÅÐÍØ»ÊÃä µ‹Ò§æ áÅÐÂѧὧ´ŒÇÂ᧋¤Ô´¤Ø³¸ÃÃÁáÅШÃÔ¸ÃÃÁ ¤µÔàµ×͹㨠ÍÕ¡·Ñé§ÀÒ¾»ÃСͺºÃÃÂÒÂÊӹǹ µÒÁẺ©ºÑº¡Òà µÙ¹ä·Â ÊÕÊѹʴãÊÊǧÒÁ àËÁÒÐÊÓËÃѺ¹ÓÁÒÍ‹Ò¹ãËŒºØµÃËÅÒ¹¿˜§ »ÅÙ¡½˜§ãˌ໚¹à´ç¡´Õ
786165 273398
ราคา 199 บาท
55, 57 ซอยพระรามที่ 3 ซอย 53 ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท 0-2294-8777 (สายอัตโนมั ติ) โทรสาร 0-2294-8787 www.MISbook.com
ÃÙŒ¤ÇÒÁËÁÒ¢ͧÊӹǹ ÊØÀÒÉÔµ ¤Ó¾Ñ§à¾Âä·Â áÅйÓä»ãªŒä´ŒÍ‹ҧ¶Ù¡µŒÍ§
Ĉġê ąġă ġăĩģ
¥ p
čĎ
9
ผลิตโดย สำนักพิมพเอ็มไอเอส
ĐæíĠ ďĒĥ êùĦ
ISBN 978-616-527-339-8
àÊÃÔÁ¤Ø³¸ÃÃÁ ¨ÃÔ¸ÃÃÁ (MQ)
199.-
ISBN ๙๗๘-๖๑๖-๕๒๗-๓๓๙-๘ ราคา ๑๙๙ บาท
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ โดยส�ำนักพิมพ์เอ็มไอเอส ห้ามน�ำส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ ไปลอกเลียนแบบ ท�ำส�ำเนา ถ่ายเอกสาร หรือน�ำไปเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ตและเครือข่ายต่างๆ ไม่ว่าจะในรูปแบบใดๆ นอกจากจะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางส�ำนักพิมพ์เท่านั้น ชื่อผลิตภัณฑ์และเครื่องหมายการค้าต่างๆ ที่อ้างถึงเป็นของบริษัทนั้นๆ
คณะผู้จัดท�ำ บรรณาธิการส�ำนักพิมพ์ ชิดพงษ์ กวีวรวุฒิ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ รองศาสตราจารย์สุนีย์ สินธุเดชะ เรียบเรียงเนื้อหา กองบรรณาธิการเอ็มไอเอส ออกแบบปก ภรณีย์ สนองผัน ออกแบบรูปเล่ม เพียงพิศ อิ่นแก้ว ภาพประกอบ พุทธิรา มาสาซ้าย, พจนา พลบ�ำรุง, ปาจรีย์ เมืองจันทร์, วณิชยา ตันเจริญลาภ พิสูจน์อักษร บุษกร กู้หลี, ชนาภัทร พรายมี, สิรินาถ มณีชัย ประสานงานสื่อสิ่งพิมพ์ บุษกร กู้หลี ฝ่ายการตลาด ชลพิชา ครื้นจิต, มยุรี ศรีมังคละ พิมพ์ที่ บริษัท พิมพ์ดี จ�ำกัด ผู้พิมพ์/ผู้โฆษณา เสริม พูนพนิช
จัดพิมพ์โดย : ส�ำนักพิมพ์เอ็มไอเอส
๕๕, ๕๗ ซอยพระรามที่ ๓ ซอย ๕๓ ถนนพระราม ๓ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ ๑๐๑๒๐ โทรศัพท์ ๐-๒๒๙๔-๘๗๗๗ (สายอัตโนมัติ) โทรสาร ๐-๒๒๙๔-๘๗๘๗ www.MISbook.com
จัดจ�ำหน่ายโดย : บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จ�ำกัด (มหาชน) ๑๘๕๘/๘๗-๙๐ ชั้น ๑๙ อาคารเนชั่นทาวเวอร์ ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ ๑๐๒๖๐ โทรศัพท์ ๐-๒๗๓๙-๘๒๒๒, ๐-๒๗๓๙-๘๐๐๐ โทรสาร ๐-๒๗๓๙-๘๓๕๖-๙ www.se-ed.com
หากหนังสือเล่มนี้ผลิตไม่ได้มาตรฐาน อาทิ หน้ากระดาษสลับกัน หน้าซ�้ำ หน้าขาดหาย ส�ำนักพิมพ์ยินดีรับผิดชอบ เปลี่ยนให้ใหม่ โดยส่งมาเปลี่ยนตามที่อยู่ด้านบน หรือติดต่อส�ำนักพิมพ์เอ็มไอเอส โทรศัพท์ ๐-๒๒๙๔-๘๗๗๗ (สายอัตโนมัติ)
ทางส�ำนักพิมพ์เอ็มไอเอส ขอขอบพระคุณ คุณครูชนินทร์ มหาครุฑ ใจอ่อน เป็นอย่างสูง ที่เสียสละเวลาอันมีค่าในการให้ค�ำแนะน�ำและเป็นที่ปรึกษา พร้อมทั้งแก้ ไขจุดบกพร่อง ด้วยความเอาใจใส่อย่างสม�่ำเสมอ จนท�ำให้หนังสือเล่มนี้ส�ำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ขอขอบพระคุณ คุณครูนาฎนภางค์ เดชาพงษ์ ครูชำ� นาญการด้านภาษาไทย ที่ ได้อตุ ส่าห์ สละเวลาอันมีค่าในการตรวจทานและแก้ ไขข้อบกพร่องต่างๆ เป็นอย่างดี จนท�ำให้หนังสือ เล่มนี้มีความสมบูรณ์และทรงคุณค่า เหนือสิ่งอื่นใด ขอขอบพระคุณแผ่นดินไทย บรรพบุรุษไทย และคนไทยทุกคน ที่ช่วยกัน อนุรักษ์การใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะเรื่องของส�ำนวน สุภาษิต และค�ำพังเพย ที่คอยเตือนสติให้เราระลึกถึงความผิดชอบชั่วดีอยู่เสมอ ทางส�ำนักพิมพ์หวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังสือเล่มนีจ้ ะมีสว่ นช่วยขัดเกลาจิตใจของเด็กไทยให้เป็นคนดี และช่วยให้ขอ้ คิดในการด�ำเนิน ชีวิตของคนไทยได้เป็นอย่างดี
ส�ำนักพิมพ์เอ็มไอเอส
ประเทศไทยของเราเป็นหนึ่งในรัฐชาติที่มีภาษาเป็นของตัวเอง และภาษาไทยก็มีเอกลักษณ์และความโดดเด่นไม่แพ้ภาษาใดในโลก ทั้งการใช้ส�ำนวนโวหาร การแต่งค�ำประพันธ์ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน โดยเฉพาะการใช้ส�ำนวน สุภาษิต และค�ำพังเพย ก็ล้วนเป็นสิ่งที่บรรพบุรุษของเราสร้างขึ้นและใช้สืบทอดต่อกันมาอย่าง ยาวนาน ทั้งยังแฝงไปด้วยคติเตือนใจและค�ำสั่งสอน ที่ล้วนแต่เป็นข้อคิดในการย�้ำเตือนให้เรา ด�ำเนินชีวิตด้วยความมีสติอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม การใช้ส�ำนวน สุภาษิต และค�ำพังเพยในปัจจุบันค่อยๆ เสื่อมความนิยมลง ไปทีละน้อย ทั้งยังพบว่ามีการใช้ส�ำนวนอย่างผิดๆ อีกด้วย ดังนั้น ทางส�ำนักพิมพ์จึงได้รวบรวม ส�ำนวน สุภาษิต และค�ำพังเพยที่เราคุ้นเคยกันไว้ถึง ๑,๐๐๐ ส�ำนวน เพื่อให้น้องๆ เยาวชนและ ผู้ที่สนใจได้รื้อฟื้นความจ�ำและปลูกฝังให้เกิดความรักและหวงแหนในการใช้ภาษาไทยอย่าง ถูกต้อง ภายในเล่มประกอบไปด้วยส�ำนวนพร้อมภาพประกอบถึง ๑๐๐ ภาพ และส�ำนวนทีค่ วรรูจ้ กั ๙๐๐ ส�ำนวน เรียงล�ำดับตามพยัญชนะไทยเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา ทั้งนี้ทางส�ำนักพิมพ์หวังเป็น อย่างยิ่งว่า จะเป็นอีกหนึ่งก�ำลังในการช่วยด�ำรงรักษารากเหง้าของวัฒนธรรมทางภาษาให้คงอยู่ กับคนไทยไปตราบนานเท่านาน โวหารภาษิตล้วน เพื่อบ่งยั้งสันดาน ส�ำนวนดั่งเป็นการ ให้ประพฤติตนตั้ง ทั้งพังเพยพรั่งพร้อม สามสิ่งล้วนแสดง บรรพบุรุษแจ้ง สอนสั่งให้คลาดแคล้ว
สื่อสาร ชั่วรั้ง ใบ้บอก เรานา อยู่ด้วยความดี บอกแฝง เนิ่นแล้ว ไว้อย่าง แยบคาย เพื่อพ้นภัยพาล
บทน�ำ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับส�ำนวน สุภาษิต และค�ำพังเพย กระต่ายหมายจันทร์ กาในฝูงหงส์ ก�ำแพงมีหู ประตูมีตา กิ้งก่าได้ทอง เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ขวานผ่าซาก ขี่ช้างจับตั๊กแตน เข็นครกขึ้นภูเขา เขียนด้วยมือ ลบด้วยเท้า เขียนเสือให้วัวกลัว ไข่ ในหิน คางคกขึ้นวอ โค่นกล้วยอย่าไว้หน่อ ฆ่าช้างเอางา งมเข็มในมหาสมุทร จระเข้ขวางคลอง จับปลาสองมือ จับปูใส่กระด้ง จับเสือมือเปล่า เจ้าไม่มีศาล สมภารไม่มีวัด ใจดีสู้เสือ ชักใบให้เรือเสีย
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑ ๒๒ ๒๓ ๒๔ ๒๕ ๒๖
ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิด ชี้ โพรงให้กระรอก ดาบสองคม ดินพอกหางหมู ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ เดินตามหลังผู้ ใหญ่หมาไม่กัด ได้ทีขี่แพะไล่ ตกน�้ำไม่ ไหล ตกไฟไม่ ไหม้ ตักน�้ำรดหัวตอ ต�ำน�้ำพริกละลายแม่น�้ำ ตีงูให้กากิน ตีงูให้หลังหัก ตีปลาหน้าไซ ถ่มน�้ำลายรดฟ้า เถรส่องบาตร ท�ำนาบนหลังคน น�้ำกลิ้งบนใบบอน น�้ำขึ้นให้รีบตัก น�้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า น�้ำมาปลากินมด น�้ำลดมดกินปลา น�้ำลดตอผุด ปลาหมอตายเพราะปาก ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ปอกกล้วยเข้าปาก ปั้นน�้ำเป็นตัว ปิดทองหลังพระ ผักชี โรยหน้า ผ้าขี้ริ้วห่อทอง
๒๗ ๒๘ ๒๙ ๓๐ ๓๑ ๓๒ ๓๓ ๓๔ ๓๕ ๓๖ ๓๗ ๓๘ ๓๙ ๔๐ ๔๑ ๔๒ ๔๓ ๔๔ ๔๕ ๔๖ ๔๗ ๔๘ ๔๙ ๕๐ ๕๑ ๕๒ ๕๓ ๕๔
ฝนทั่งให้เป็นเข็ม พบไม้งามเมื่อขวานบิ่น พายเรือทวนน�้ำ พุ่งหอกเข้ารก มดแดงแฝงพวงมะม่วง มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก มาเหนือเมฆ มือใครยาวสาวได้สาวเอา มือไม่พาย เอาเท้าราน�้ำ แมลงเม่าบินเข้ากองไฟ ไม้ซีกงัดไม้ซุง ไม้หลักปักเลน ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก ยกเมฆ ยื่นแก้วให้วานร ยื่นหมูยื่นแมว รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี ร�ำไม่ดี โทษปี่ โทษกลอง รีดเลือดกับปู ล้วงคองูเห่า ลิงหลอกเจ้า ลูกไก่อยู่ ในก�ำมือ ลูกไม้หล่นไม่ ไกลต้น เล่นกับไฟ วัดรอยเท้า วัวหายล้อมคอก สร้างวิมานในอากาศ
๕๕ ๕๖ ๕๗ ๕๘ ๕๙ ๖๐ ๖๑ ๖๒ ๖๓ ๖๔ ๖๕ ๖๖ ๖๗ ๖๘ ๖๙ ๗๐ ๗๑ ๗๒ ๗๓ ๗๔ ๗๕ ๗๖ ๗๗ ๗๘ ๗๙ ๘๐ ๘๑ ๘๒
สวมหน้ากากเข้าหากัน สอนจระเข้ ให้ว่ายน�้ำ สอนหนังสือสังฆราช สาวไส้ ให้กากิน สีซอให้ควายฟัง หน้าเนื้อใจเสือ หนีเสือปะจระเข้ หนูตกถังข้าวสาร หมองูตายเพราะงู หมาหวงก้าง หมาเห่าใบตองแห้ง หว่านพืชหวังผล หัวล้านได้หวี หุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมว เห็นกงจักรเป็นดอกบัว เหยียบเรือสองแคม อดเปรี้ยวไว้กินหวาน อ้อยเข้าปากช้าง เอาทองไปรู่กระเบื้อง เอามะพร้าวห้าวไปขายสวน ส�ำนวน สุภาษิต และค�ำพังเพยที่ควรรู้
๘๓ ๘๔ ๘๕ ๘๖ ๘๗ ๘๘ ๘๙ ๙๐ ๙๑ ๙๒ ๙๓ ๙๔ ๙๕ ๙๖ ๙๗ ๙๘ ๙๙ ๑๐๐ ๑๐๑ ๑๐๒ ๑๐๓
บทนำ� ชนชาติ ใดที่มีภาษาเป็นของตนเอง ชนชาตินั้นๆ จะมีการบอกเล่าและบันทึก เรื่องราวความเป็นมาของตนเองไว้ ให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานได้รับรู้ และการศึกษาถึง เรื่องราวในอดีตนั้นๆ ท�ำให้เกิดพัฒนาการทางด้านสติปัญญา ศิลปวิทยาการ และ ความเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป ภาษาไทยก็นับเป็นอีกภาษาหนึ่งที่มีความมหัศจรรย์ ในตัวเอง เพราะเป็นภาษาที่ สามารถสร้างส�ำนวนโวหารได้อย่างไพเราะ โดยเฉพาะการเรียงร้อยถ้อยค�ำให้เกิดเป็น ส�ำบัดส�ำนวน สุภาษิต ค�ำพังเพย ค�ำคม หรือแม้กระทั่งภาษาปากที่เราคุ้นเคย เพื่อ สอดแทรกแง่คิด คติสอนใจ และค�ำสั่งสอนของคนไทยในสมัยก่อนเอาไว้ด้วยความ แยบคาย โดยปรากฏหลักฐานว่า ชาวสยามมีการใช้สำ� นวนเช่นนีม้ าเป็นระยะเวลานาน หลายร้อยปีล่วงมาแล้ว ดังนัน้ เรือ่ งราวของส�ำนวน สุภาษิต และค�ำพังเพย จึงเป็นสิง่ ทีส่ ะท้อนถึงลักษณะ นิสัย ความคิดความอ่าน และวิถีชีวิตของคนไทยในอดีตได้เป็นอย่างดี ซึ่งนับว่าเป็น เรื่องราวที่น่าศึกษาและควรค่าแก่การเรียนรู้ เพื่อจะได้สืบทอดค�ำอบรมสั่งสอนเหล่า นี้ ให้กับเยาวชนคนรุ่นหลังต่อไป
1
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสำ�นวน สุภาษิต และคำ�พังเพย ส�ำนวน คือ ถ้อยค�ำในท�ำนองโวหารที่ ใช้สบื ทอดต่อกันมานานแล้ว มักมีความหมาย ในเชิงเปรียบเทียบและมีความหมายไม่ตรงตัว ต้องผ่านการตีความหรือน�ำไปประกอบ กับเหตุการณ์ตา่ งๆ จึงจะได้เป็นค�ำสัง่ สอน หรือคติเตือนใจทีแ่ ฝงอยู่ ในส�ำนวนนัน้ ๆ เช่น กว่าถั่วจะสุกงาก็ ไหม้ น�้ำร้อนปลาเป็น น�้ำเย็นปลาตาย เป็นต้น สุภาษิต คือ ถ้อยค�ำที่อาจเป็นหรือไม่เป็นท�ำนองโวหารก็ ได้ อาจมีความหมาย ตรงตัว หรืออาจต้องน�ำมาตีความเพือ่ ให้ ได้ความหมายทีแ่ ฝงเอาไว้ ซึง่ ความหมายนัน้ มี ใจความเพือ่ ตักเตือน สัง่ สอน หรืออาจเป็นข้อห้ามที่ ให้เราระลึกถึงอยูเ่ สมอ สามารถน�ำ ไปเป็นแนวทางประพฤติปฏิบตั ิในการด�ำเนินชีวติ ได้อย่างดี เช่น ช้าเป็นการ นานเป็นคุณ ท�ำดี ได้ดี ท�ำชั่วได้ชั่ว เป็นต้น ค�ำพังเพย คือ ถ้อยค�ำที่กล่าวสืบต่อกันมาช้านาน มักมี ใจความที่เป็นกลางๆ เพื่อ ให้สามารถตีความให้เข้ากับเรื่องราวได้ โดยถ้อยค�ำในค�ำพังเพยไม่จ�ำเป็นต้องเป็น เรือ่ งจริง และไม่ ได้มีจุดประสงค์เพือ่ ตักเตือนสั่งสอน แต่กม็ ปี ระเด็นให้ฉกุ คิดหรือแฝง ไปด้วยคติเตือนใจ เช่น มะนาวไม่มีน�้ำ กระต่ายตื่นตูม เป็นต้น
2
หมายความว่า
การหมายปองสิ่งที่สูงค่าเกินกว่าจะเอามาเป็นเจ้าของได้
ส� ำ นวนนี้ นิ ย มใช้ เ ปรี ย บเที ย บชายหนุ ่ ม ที่ มี ฐ านะยากจนเป็ น กระต่ า ย อยากได้หญิงสาวร�่ำรวยในตระกูลสูงศักดิ์ที่เปรียบเหมือนพระจันทร์เต็มดวง สวยงามมาเป็นคู่ครอง ซึ่งยากที่จะเป็นไปได้ 3
หมายความว่า
ผูท้ ตี่ ำ�่ ต้อยไม่มเี กียรติ อยูท่ า่ มกลางเจ้าขุนมูลนายสูงศักดิ์ ก็รงั แต่จะท�ำให้ ตนเองมัวหมอง เพราะถูกดูหมิ่น รังเกียจ เปรียบเทียบเหมือนอีกาตัวด�ำ น่ากลัว น่ารังเกียจ ใครเห็นก็รู้ ได้ทันทีว่าเป็นสัตว์ที่ แตกต่างจากหงส์ที่มีขนสีขาวสวยงาม
4
หมายความว่า
การจะพูดหรือท�ำสิง่ ใดทีเ่ ป็นความลับควรระมัดระวังให้ดี แม้จะดูเหมือนว่า ปกปิด ก็อาจมีผู้ล่วงรู้ได้
ก�ำแพงหรือหน้าต่าง เมื่อปิดแล้วจะสามารถบังไม่ ให้เห็นหรือได้ยิน แต่อาจมีช่องหรือรูซึ่ง ท�ำให้ผู้อื่นสามารถแอบฟังหรือแอบดูได้ ส�ำนวนนี้มักมีผู้ ใช้ผิดว่า หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง 5
หมายความว่า
ผู้ที่มีทรัพย์สินหรือยศถาบรรดาศักดิ์ แล้วหยิ่ง ผยองอย่างมาก ดังที่กล่าวไว้ในโคลงสุภาษิตประจ�ำ ภาพในพระอุโบสถวัดพระศรีรตั นศาสดาราม ความว่า กิ้ง ก่าเชิดหน้าเถ่อ ก่า ดกดุจถวายตัว ได้ ทองผูกคอมัว ทอง เทียบยศยกให้
6
ท�ำหัว แด่ ไท้ เมาปึ่ง ขึงเฮย เผ่าผู้หลู่คุณ ฯ
หมายความว่า
พยายามเก็ บหอมรอมริ บ เก็ บ เล็ ก ผสมน้อย จนส�ำเร็จเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
“เบีย้ ” ในทีน่ หี้ มายถึง เบีย้ จัน่ ซึง่ เป็นเงินตรา ในสมัยโบราณ เวลาซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากัน ตามตลาดอาจมีคนท�ำเบี้ยตกไว้แต่ ไม่มี ใครสนใจ เพราะมีราคาต�ำ่ ในทางกลับกันหากเก็บสะสมเบีย้ ไว้จ�ำนวนมากๆ ก็อาจกลายเป็นสิ่งมีค่าขึ้นมาได้ 7
หมายความว่า
คนจะงามได้ตอ้ งอาศัยการแต่งตัว
ไก่สวยงามได้เพราะมีขนที่สวยงาม แต่ คนนัน้ ต้องอาศัยการแต่งเติม ทาแป้ง ทาปาก จึงจะสวยงาม 8
ส�ำนวน สุภาษิต และค�ำพังเพยที่ควรรู้
• ก ข ไม่กระดิกหู
ผู้ที่เรียนหนังสือแล้วไม่รู้เรื่อง อ่านไม่ออก เขียน ไม่ ได้
• กงเกวียน ก�ำเกวียน
เวรสนองเวร กรรมสนองกรรม ท�ำอย่างไรก็ ได้ รับผลเช่นนั้น
• ก้นกระดก
ลืมตัวเพราะถูกเยินยอ
• ก้นกุฏิ
สนิทสนมจนเป็นที่ ไว้วางใจได้
• ก้นหม้อไม่ทันด�ำ
คู่ครองที่เลิกกันง่าย อยู่กินกันได้ ไม่นานก็หย่า ร้างกัน
• กบเกิดใต้บัวบาน
อยู่ ใกล้ของดีมีค่าแต่ ไม่รู้จักคุณค่าของสิ่งสิ่งนั้น ดังที่กล่าวไว้ ในโคลงโลกนิติ ความว่า ❂❂ กบเกิดในสระใต้ บัวบาน ฤๅห่อนรู้รสมาลย์ หนึ่งน้อย ภุมราอยู่ ไกลสถาน นับโยชน์ ก็ดี บินโบกมาค้อยค้อย เกลือกเคล้าเสาวคนธ์ ฯ
• กบในกะลาครอบ
ผู้มีความรู้หรือประสบการณ์เพียงน้อยนิด แต่ คิดว่าตนรอบรู้มากกว่าผู้อื่น ดังที่กล่าวไว้ ในโคลง โลกนิติ ความว่า ❂❂ รู้น้อยว่ามากรู้ เริงใจ กลกบเกิดอยู่ ใน สระจ้อย ไป่เห็นชเลไกล กลางสมุทร ชมว่าน�้ำบ่อน้อย มากล�้ำลึกเหลือ ฯ
• กบไม่ให้เกลียด เขียดไม่ให้ตาย
ผูเ้ ป็นหัวหน้าเขาควรรูจ้ กั ถนอมน�ำ้ ใจของทัง้ สองฝ่าย
• กบเลือกนาย
ลูกน้องหรือผู้น้อยที่ต้องการเปลี่ยนผู้บังคับ บัญชาอยู่บ่อยๆ
• กรวดน�้ำคว�่ำขัน
ตัดขาดไม่เกี่ยวข้องด้วยอย่างสิ้นเชิง
• กระชังหน้าใหญ่
เป็นคนจัดจ้าน ชอบออกรับหน้าเสียเอง
• กระเชอก้นรั่ว
ใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่าย ไม่รู้จักเก็บออม 103
• กระดังงาลนไฟ
หญิงทีเ่ คยแต่งงานหรือผ่านผูช้ ายมาแล้ว ย่อม รูจ้ กั ชัน้ เชิงในการปรนนิบตั ดิ แู ลผูช้ ายดีกว่าหญิงทีย่ งั ไม่เคยแต่งงาน
• กระดี่ได้น�้ำ
แสดงกิรยิ าท่าทางดีดดิง้ ร่าเริงจนเกินกว่าเหตุ
• กระดูกร้องได้
• กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น�้ำเต้าน้อยจะถอยจม
คนชัว่ จะขึน้ มามีอำ� นาจปกครองบ้านเมือง คน ดีจะล้มหายตายจากหรือหมดอ�ำนาจไป
• กระเบื้องถ้วยกะลาแตก
สิ่งของชิ้นเล็กชิ้นน้อย สิ่งที่ ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน หรือสิ่งของที่ช�ำรุดเสียหายไร้ราคา
ผลสะท้อนของการฆาตกรรมที่ท�ำให้สามารถ จับตัวผู้กระท�ำความผิดมาลงโทษได้ คล้ายกับว่า กระดูกของผู้ตายร้องบอก
• กลมเป็นลูกมะนาว
• กระต่ายขาเดียว
• กล้านักมักบิ่น
พูดจาหลบหลีกลืน่ ไหลไปได้อย่างคล่องแคล่ว จนจับไม่ติด มักใช้ ในความหมายทางลบ
ยืนกรานไม่ยอมรับท่าเดียว บางส�ำนวนใช้ว่า “กระต่ายสามขา”
หากใจร้อนหรือผลีผลามจนเกินไป อาจได้รับ ความเดือดร้อนและอันตรายได้
• กระต่ายตื่นตูม
• กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
แสดงอาการตื่นตกใจจนเกินเหตุ โดยไม่ทัน ส�ำรวจให้ดกี อ่ นว่าเกิดอะไรขึน้ ดังทีก่ ล่าวไว้ ในโคลง โลกนิติ ความว่า ❂❂ สัตว์อื่นตื่นเต้นแต่ ควรไกล กระต่ายตื่นตูมไป สุดหล้า ช้างม้าตื่นฟืนไฟ ฟัดฟาด หยุดแฮ คนตื่นข่าวศึกส้า สุดห้ามมันหาย ฯ
• กระต่ายแหย่เสือ
การล้อเล่นกับสิ่งที่เป็นอันตรายอย่างมาก
• กระโถนท้องพระโรง
ผู้ที่ ใครๆ ก็รุมใช้อยู่คนเดียว เหมือนกระโถน ท้องพระโรงที่ ใครๆ ก็บ้วนน�้ำลายใส่ 104
วางตัวไม่ถกู เมือ่ คนฝ่ายเราท�ำผิด หรือทัง้ สอง ฝ่ายต่างก็เป็นฝ่ายเราเอง
• กวัดไกวไสส่ง ไล่ ไปให้พน้
• กวนน�้ำให้ขุ่น
ท�ำเรื่องที่สงบอยู่แล้วให้เกิดความวุ่นวายขึ้น มาอีก
• กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้
การท�ำงานหรือตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยความ ลังเลใจ เมื่อแก้ ไขได้อย่างหนึ่งแล้วอาจต้องเสีย อีกอย่างหนึ่งไป
• ก่อหวอด
เริ่มจับกลุ่มเพื่อท�ำการอย่างใดอย่างหนึ่ง
• กัดก้อนเกลือกิน
ตกอยู่ ในภาวะยากล�ำบาก ฝืดเคืองทางด้าน การเงินอย่างมาก แต่ก็ตั้งมั่นอยู่ ในความดี ไม่ คิดทุจริตคดโกงผู้อื่น ดังที่กล่าวไว้ ในโคลงโลกนิติ ความว่า ❂❂ ถึงจนทนสู้กัด กินเกลือ อย่าเที่ยวแล่เนื้อเถือ พวกพ้อง อดอยากเยี่ยงอย่างเสือ สงวนศักดิ์ โซก็เสาะใส่ท้อง จับเนื้อกินเอง ฯ
• กัดหางตัวเอง
พูดจาวกไปวนมา จับใจความไม่ ได้
คนผิวด�ำแต่งกายด้วยเสือ้ ผ้าสีแดง แสดงความ ขัดแย้งในตัวเองซึ่งอาจดูไม่เหมาะสม
• ก้างขวางคอ
• กาเหยี่ยวเฉี่ยวเอาไป
สูญหายไปอย่างรวดเร็ว สูญหายไปโดยทันที อย่างไม่ทันรู้ตัว
• ก�ำขี้ดีกว่าก�ำตด
ได้สิ่งใดติดไม้ติดมือมาบ้างย่อมดีกว่าไม่ ได้ อะไรเลย
• ก�ำปั้นทุบดิน
พูดจาแบบขอไปที ตอบค�ำถามด้วยค�ำตอบที่ ไม่ แน่ชัด ไม่ตรงประเด็น หญิงชายที่เหมาะสมจะแต่งงานและใช้ชีวิตคู่ อยู่ร่วมกัน
• กินเกลือกินกะปิ
อดทนต่อความยากล�ำบากด้วยความจ�ำใจ
ผู้ขัดขวางมิให้ผู้อื่นท�ำการได้สะดวก
• กินข้าวต้มกระโจมกลาง
• กาฝาก
แฝงกินอยู่กับคนอื่นโดยไม่ท�ำประโยชน์ ให้
คนเร่ร่อนไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่ง หรือผู้ที่ ไป ติดอยูบ่ า้ นใครคนหนึง่ จนไม่ยอมกลับบ้านของตนเอง
• กิ่งทองใบหยก
• กาคาบพริก
• การกินอยู่ใครไม่สู้พ่อ การพายการถ่อพ่อไม่สู้ใคร
• กาหลงรัง
มีนสิ ยั เกียจคร้าน กินเก่งจนไม่มี ใครสู้ แต่เวลา มีงานกลับไม่ช่วยหยิบช่วยท�ำ
ท�ำสิ่งหนึ่งสิ่งใดด้วยความใจร้อน ไม่พิจารณา ให้รอบคอบถี่ถ้วน ย่อมจะเกิดผลเสียต่อตนเอง
• กินข้าวร้อน นอนตื่นสาย
มีชวี ติ ความเป็นอยูท่ สี่ ะดวกสบาย ไม่ตอ้ งแบก รับภาระหน้าที่อะไร
• กินตามน�้ำ
รับของสมนาคุณทีเ่ ขาเอามาให้ โดยไม่ ได้เรียกร้อง มักใช้กับเจ้าพนักงานผู้มีอ�ำนาจ 105
• กินที่ลับไขที่แจ้ง
เปิดเผยเรื่องราวความลับที่กระท�ำกันในที่ลับ ให้ผู้อื่นได้รับรู้
• กินนอกกินใน
เอาก�ำไรในการซื้อขาย ทั้งในราคาและนอก ราคาที่ก�ำหนด
• กินน�้ำตาต่างข้าว
ร้องไห้เศร้าโศกเสียใจจนไม่เป็นอันกิน
• กินน�้ำใต้ศอก
จ�ำใจต้องยอมตกเป็นรองเขา ไม่มีหน้ามีตา ทัดเทียมเขา มักใช้กับเมียน้อยที่ต้องยอมลงให้แก่ เมียหลวง
• กินน�้ำพริกถ้วยเก่า อยู่กับเมียคนเดิม
• กินน�้ำไม่เผื่อแล้ง
มีสิ่งมีค่าใดก็ ใช้หมดในทันที ไม่คิดเก็บไว้เผื่อ ขาดแคลนในวันข้างหน้า
• กินน�้ำเห็นปลิง
รู้สึกตะขิดตะขวงใจในการท�ำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
• กินบนเรือนขี้บนหลังคา
คนเนรคุณ ผูท้ ที่ รยศหักหลัง ไม่รจู้ กั บุญคุณคน
• กินปูนร้อนท้อง
แสดงอาการมีพิรุธขึ้นมาเอง เดือดร้อนขึ้นเอง โดยยังไม่มี ใครกล่าวหา 106
• กินรังแตน
อาการเอะอะโวยวายจนเกินกว่าเหตุ
• กินเหมือนหมู อยู่เหมือนหมา
ไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีวินัย
• กินเหล็กกินไหล
ทนต่อความเหน็ดเหนื่อยหรือความเจ็บปวด ได้อย่างผิดปกติ
• กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง
รูเ้ รือ่ งดีอยูแ่ ล้วแต่แสร้งท�ำเป็นไม่รู้ ไม่เห็น
• กู่ไม่กลับ
ไม่ฟังค�ำทัดทาน ห้ามไม่อยู่
• เก็บดอกไม้ร่วมต้น
เคยท�ำบุญกุศลร่วมกันมาแต่ชาติก่อน จึงได้ มาอยู่ร่วมกันในชาตินี้
• เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน�ำ้ แกง
รังเกียจตัวเขา แต่กลับอยากได้ผลประโยชน์ จากเขา
• เกลือจิ้มเกลือ
ไม่ยอมเสียเปรียบกัน แก้แค้นให้สาสมกับที่ เขาเคยท�ำเราไว้
• เกลื่อนหัวลบกลบหัวแตก
พยายามท�ำกลบเกลือ่ น ปิดบังสิง่ ทีเ่ ป็นพิรธุ เอาไว้
• เกลือเป็นหนอน
คนร่วมสายเลือด มิตรสหายที่สนิทสนมกัน หรือผู้ที่เราไว้วางใจคิดทรยศต่อเราเอง
• เกี่ยวแฝกมุงป่า
• ใกล้ไฟมันร้อน ใกล้ค้อนมันเจ็บ
• แกงจืดจึงรู้คุณเกลือ
• ไก่แก่แม่ปลาช่อน
• แกว่งเท้าหาเสี้ยน
• ไก่บินไม่ตกดิน
• แก้วฤ ๅจะรู้หมอง ทองฤ ๅจะรู้เศร้า
• ไก่รองบ่อน
• แก้วลืมคอน
• ไกลปืนเที่ยง
ท�ำในสิง่ ทีเ่ กินก�ำลังความสามารถของตนเอง
เมื่อเดือดร้อนจึงรู้ค่าและนึกได้ว่าสิ่งนั้นหรือ คนนั้นมีคุณและเป็นประโยชน์ต่อเรา รนหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว
ของดี ของแท้ ย่อมได้รบั การปกป้องอย่างดี ไม่เสียหายหรือเป็นอันตรายง่ายๆ ผูท้ แี่ ต่กอ่ นเคยรักใคร่ชอบพอกัน แต่ตอนนี้ ไป หลงใหลได้ปลื้มกับคนอื่น
• แกะด�ำ
คนที่ท�ำอะไรผิดเพื่อนผิดฝูงในกลุ่ม มักใช้ ใน ทางไม่ดี
• โกรธหมาด�ำท�ำหมาแดง
โดนคนหนึ่งท�ำให้ โกรธมา แต่กลับไปพาลใส่ อีกคนหนึ่ง
• ใกล้เกลือกินด่าง
อยู่กับสิ่งอันตรายก็จะได้รับความเดือดร้อน
หญิงทีม่ อี ายุคอ่ นข้างมาก มีมารยาเล่หเ์ หลีย่ ม มาก หรือมีจริตกิริยาจัดจ้าน บริเวณที่มีอาคารบ้านเรือนหนาแน่นแออัด
ผูท้ อี่ ยู่ ในฐานะตัวส�ำรองทีจ่ ะถูกเรียกมาใช้งาน เมื่อใดก็ ได้ ไม่รู้อะไรเพราะอยู่ห่างไกลความเจริญ
• ไก่สงวนขน คนสงวนชื่อ
คนทีจ่ ะด�ำรงอยู่ ในสังคมได้อย่างเย็นอกเย็นใจ ต้องรักษาชีวิตและชื่อเสียงของตนให้ดี
• ไก่เห็นพลอย
เห็นสิ่งมีค่าเป็นสิ่งไม่มีค่า
• ไก่อ่อนสอนขัน
ผูม้ ปี ระสบการณ์นอ้ ยยังไม่รทู้ นั เล่หเ์ หลีย่ มของคน
มองข้ามหรือไม่รู้ค่าของดีที่อยู่ ใกล้ตัวซึ่งเป็น ประโยชน์ แต่กลับไปแสวงหาสิ่งที่ด้อยกว่า
• ใกล้น�้ำรู้ปลา ใกล้ป่ารู้นก
ผู้ที่อยู่ ใกล้ชิดกันย่อมล่วงรู้นิสัยใจคอกันดี 107
ÃÇÁÊØÀÒÉÔµáÅФӾѧà¾Âä·Â·ÕèàÅ‹Ò¢Ò¹
Ê׺µ‹Í¡Ñ¹ÁÒ¨Ò¡ÃØ‹¹»Ù†Â‹ÒµÒÂÒ ໚¹¡ØÈâźÒ Ê͹¤¹ÃØ‹¹ËÅѧãËŒµÃÐ˹ѡ¶Ö§¤ÇÒÁ¶Ù¡µŒÍ§ ¤ÇÒÁ´Õ§ÒÁ ¡ÒÃ㪌äËǾÃԺʵԻ˜ÞÞÒà¾×èͼ‹Ò¹¾Œ¹»˜ÞËÒáÅÐÍØ»ÊÃä µ‹Ò§æ áÅÐÂѧὧ´ŒÇÂ᧋¤Ô´¤Ø³¸ÃÃÁáÅШÃÔ¸ÃÃÁ ¤µÔàµ×͹㨠ÍÕ¡·Ñé§ÀÒ¾»ÃСͺºÃÃÂÒÂÊӹǹ µÒÁẺ©ºÑº¡Òà µÙ¹ä·Â ÊÕÊѹʴãÊÊǧÒÁ àËÁÒÐÊÓËÃѺ¹ÓÁÒÍ‹Ò¹ãËŒºØµÃËÅÒ¹¿˜§ »ÅÙ¡½˜§ãˌ໚¹à´ç¡´Õ
786165 273398
ราคา 199 บาท
55, 57 ซอยพระรามที่ 3 ซอย 53 ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท 0-2294-8777 (สายอัตโนมั ติ) โทรสาร 0-2294-8787 www.MISbook.com
ÃÙŒ¤ÇÒÁËÁÒ¢ͧÊӹǹ ÊØÀÒÉÔµ ¤Ó¾Ñ§à¾Âä·Â áÅйÓä»ãªŒä´ŒÍ‹ҧ¶Ù¡µŒÍ§
Ĉġê ąġă ġăĩģ
¥ p
čĎ
9
ผลิตโดย สำนักพิมพเอ็มไอเอส
ĐæíĠ ďĒĥ êùĦ
ISBN 978-616-527-339-8
àÊÃÔÁ¤Ø³¸ÃÃÁ ¨ÃÔ¸ÃÃÁ (MQ)
199.-