มาเรยี นรกู ระบวนการและกลไกการทำงาน
ÃкºÃ�Ò§¡ÒÂÁ¹ุÉÂ� ÃдѺ»ÃжÁ
จัดแบงเนื้อหาเปนหัวขอ ชัดเจน เรียนรูงาย
โดย ผศ. ดร.อรกัญญ ภูมโิ คกรักษ | Ph.D. in Pharmacology
ระดับ ประถม
ชื่อเรียกภาษาอังกฤษ เนื้อหาถูกตองใชเปนขอมูลอางอิง สำหรับทำรายงานและเตรียมสอบ ISBN 978-616-527-544-6
¼ÅÔµâ´Â Êӹѡ¾ÔÁ¾ àÍçÁäÍàÍÊ
9 786165
275446
หมวด : เสริมความรู
213/3 «Í¾Ѳ¹Ò¡Òà 1 (ÊҸػÃдÔÉ° 34 á¡ 6) á¢Ç§ºÒ§â¾§¾Ò§ ࢵÂÒ¹¹ÒÇÒ ¡ÃØ§à·¾Ï 10120 â·ÃÈѾ· 0-2294-8777 (ÊÒÂÍѵâ¹ÁÑ µ)Ô â·ÃÊÒà 0-2294-8787 www.MISbook.com
เสร�มความรู ในชั้นเร�ยน เซลล เนื้อเยื่อ อวัยวะ ร างกาย
0 บาท
16 คา
รา
เซลล และเนื้อเยื่อ ในเลมเดียว เลือดและภูมิคุ มกัน พันธุศาสตร การเติบโตและพัฒนาการ ระบบประสาท การรับรู พิเศษ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินป สสาวะ ระบบทางเดินอาหาร ระบบต อมไร ท อ ระบบกล ามเนื้อและโครงกระดูก จ�ลินทร�ย และปรสิต ระบบสืบพันธุ โภชนาการ ภาวะเสื่อมและชราภาพ เนื้องอก
160.-
ครบทุกระบบ
ระบบร างกายมนุษย ระดับประถม | Human Body
เรียนรู
เรียนรูโ ครงสรางของรางกาย กระบวนการทำงานและกลไก ของระบบตางๆ ตั้งแต โครงสรางและหนวยทำงานที่เล็กที่สุด ในรางกาย ซึ่งไดแก เซลลและเนือ ้ เยือ ่ ทีป ่ ระกอบเปนรางกาย ของเราอยางนาอัศจรรย ไปจนถึงกลไกการทำงานของระบบตางๆ ที่ทำงานประสานสัมพันธกันใหเรามีชีวิต เชน ระบบหัวใจและ หลอดเลือด ระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร เปนตน จัดแบงเนือ ้ หาออกเปนหัวขออยางชัดเจน ใชภาษาเขาใจงาย พรอม ภาพประกอบทีจ่ ะชวยใหนอ งๆ มองเห็นภาพการทำงานของระบบ ตางๆ ในรางกายไดกระจางยิง่ ขึน ้ อีกทัง้ ยังมีชอ ่ื เรียกอวัยวะและ ระบบตางๆ เปนภาษาอังกฤษ เนือ ้ หาสอดคลองตามหลักวิชาการ และเสริมความรูในชั้นเรียนไดเปนอยางดี
ั เถอะ! ของระบบตา งๆ ในรา งกายกน
โดย ผศ. ดร.อรกัญญ ภูมโิ คกรักษ | Ph.D. in Pharmacology
ระดับ ประถม
ISBN ราคา
978-616-527-544-6 160 บาท
ระดับประถม สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 โดยสำ�นักพิมพ์เอ็มไอเอส ห้ามนำ�ส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ ไปลอกเลียนแบบ ทำ�สำ�เนา ถ่ายเอกสาร หรือนำ�ไปเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ตและเครือข่ายต่างๆ ไม่ว่าจะในรูปแบบใดๆ นอกจากจะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางสำ�นักพิมพ์เท่านั้น ชื่อผลิตภัณฑ์และเครื่องหมายการค้าต่างๆ ที่อ้างถึงเป็นของบริษัทนั้นๆ
คณะผู้จัดท�ำ
ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ รองศาสตราจารยสุ์ นีย์ สินธุเดชะ บรรณาธิการส�ำนักพิมพ์ ชิดพงษ์ กวีวรวุฒิ ผู้เขียน ผศ. ดร.อรกัญญ์ ภูมิโคกรักษ์ ออกแบบปกและออกแบบศิลป์ ภรณีย์ สนองผัน ภาพประกอบ จิราวัฒน์ นพประไพ, ชนิกานต์ กิตติปฎิมาคุณ, พจนา พลบ�ำรุง พิสจู น์อกั ษร ชนาภัทร พรายมี ประสานงานฝ่ายผลิต อิสรีย์ แจ่มข�ำ ประสานงานสื่อสิ่งพิมพ์ บุษกร กู้หลี ฝ่ายการตลาด วราลี สิทธิจินดาวงศ์ พิมพ์ที่ บริษัท พิมพ์ดี จ�ำกัด ผู้พิมพ์/ผู้โฆษณา เสริม พูนพนิช กรณีต้องการสั่งซื้อจ�ำนวนมาก กรุณาติดต่อฝ่ายการตลาด ส�ำนักพิมพ์เอ็มไอเอส โทรศัพท์ 0-2294-8777 เพื่อรับส่วนลดพิเศษ
จัดพิมพ์โดย : ส�ำนักพิมพ์เอ็มไอเอส 213/3 ซอยพัฒนาการ 1 (สาธุประดิษฐ์ 34 แยก 6) แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 0-2294-8777 (สายอัตโนมัติ) โทรสาร 0-2294-8787
www.MISbook.com
จัดจ�ำหน่ายโดย : บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จ�ำกัด(มหาชน) 1858/87-90 ชั้น 19 อาคารทีซีไอเอฟ ทาวเวอร์ ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260 โทรศัพท์ 0-2739-8000 โทรสาร 0-2739-8609 www.se-ed.com
หากหนังสือเล่มนี้ผลิตไม่ได้มาตรฐาน อาทิ หน้ากระดาษสลับกัน หน้าซ�้ำ หน้าขาดหาย ส�ำนักพิมพ์ ยินดีรับผิดชอบเปลี่ยนให้ใหม่ โดยส่งมาเปลี่ยนตามที่อยู่ด้านบน หรือติดต่อส�ำนักพิมพ์เอ็มไอเอส โทรศัพท์ 0-2294-8777 (สายอัตโนมัติ)
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากกลไกธรรมชาติ ภายในร่างกายของเรานั้น ประกอบด้วยอวัยวะหลายอย่าง ซึ่งช่วยกันท�ำหน้าที่ให้ร่างกายมีชีวิตอยู่ได้ หาก อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งบกพร่องจะท�ำให้ร่างกายท�ำงานผิดปกติ ดังนั้นจึงเป็นเรื่อง ส�ำคัญที่ควรรู้และศึกษาว่า อวัยวะหรือส่วนประกอบภายในร่างกายท�ำหน้าที่อะไร และควรดูแลรักษาหรือปกป้องอย่างไร หนังสือ “ระบบร่างกายมนุษย์ ระดับประถม” เล่มนี้ จัดท�ำขึ้นเพื่อให้เด็กและ เยาวชนได้เรียนรูส้ ว่ นต่างๆ ของร่างกาย ผ่านเนือ้ หาและภาษาทีเ่ ข้าใจง่าย โดยมีภาพ ประกอบชัดเจนเพือ่ื อธิบายเนือ้ หาและช่วยให้นอ้ งๆ มองเห็นภาพการท�ำงานของระบบ ต่างๆ ในร่างกายได้กระจ่างยิง่ ขึน้ อีกทัง้ ยังได้รจู้ กั ชือ่ เรียกของอวัยวะและระบบต่างๆ ใน ร่างกายเป็นภาษาอังกฤษ เนือ้ หาสอดคล้องและเสริมความรูใ้ นชัน้ เรียนได้เป็นอย่างดี
ส�ำนักพิมพ์เอ็มไอเอส
เซลล์และเนื้อเยื่อ Cells and Tissues 2 เลือดและภูมิคุ้มกัน Blood and Immunity 8 พันธุศาสตร์ Genetics 15 การเติบโตและพัฒนาการ Growth and Development 20 ระบบประสาท Nervous System 27 การรับรู้พิเศษ Organs of Special Senses 34 ระบบหัวใจและหลอดเลือด Cardiovascular System 46 ระบบทางเดินหายใจ Respiratory System 51 ระบบทางเดินปัสสาวะ Urinary System 56 ระบบทางเดินอาหาร Digestive System 60 ระบบต่อมไร้ท่อ Endocrine System 65 ระบบกล้ามเนื้อและโครงกระดูก Musculoskeletal System 71 จุลินทรีย์และปรสิต Microbials and Parasites 77 ระบบสืบพันธุ์ Reproductive System 83 โภชนาการ Nutrition 89 ภาวะเสื่อมและชราภาพ Deterioration 95 เนื้องอก Neoplasia 99
เซลล์และเนื้อเยื่อ
H uman Body
เด็กๆ ทราบไหมว่า
คนและสัตว์ประกอบขึ้นจากเซลล์ ทั้งนั้น ซึ่งท�าหน้าที่แตกต่างกันไป ถ้าหากเปรียบเทียบ ร่างกายมนุษย์เป็นเสมือนโรงงานขนาดใหญ่ เซลล์ใน ร่างกายก็จะเป็นบุคลากรที่ท�างานในร่างกายนั่นเอง เซลล์หลายๆ เซลล์รวมกันจะกลายเป็นเนื้อเยื่อ และเนื้อเยื่อหลายๆ เนื้อเยื่อมารวมกันหรือท�าหน้าที่ ร่วมกันจะเรียกว่า อวัยวะ เช่น หัวใจ ตับ ไต เมือ่ อวัยวะต่างๆ ท�างาน หรือปฏิบตั ิ กิจกรรมพิเศษร่วมกันในร่างกาย จะเกิด เป็นระบบอวัยวะ เช่น ระบบย่อยอาหาร เซลล์มหี ลายชนิด แตล่ ะชนิดก็มคี วามพิเศษ แตกต่างกันไป เด็กๆ สนใจเรือ่ งเซลล์กนั แล้ว ใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนัน้ ไปเรียนรูก้ นั เลย!
2
เซลล์และเนือ้ เยิอ่ื
สิง่ มีชวี ติ ทุกชนิดในโลกนีป้ ระกอบด้วยโครงสร้างหน่วยย่อยทีเ่ รียกว่า เซลล์ สิง่ มีชวี ติ
บางชนิดประกอบด้วยเซลล์จา� นวน 1 เซลล์ แต่บางชนิด เช่น มนุษย์ สัตว์ ส่วนใหญ่ประกอบด้วย เซลล์จ�านวนหลายล้านเซลล์ เซลล์ชนิดเดียวกันอาจมาอยูร่ ว่ มกันโดยมีสารบางชนิดกัน้ ระหว่างเซลล์ ลักษณะเช่นนี้ ท�าให้เกิดเป็นเนือ้ เยือ่ เนือ้ เยือ่ หลายๆ ชนิดอาจมาอยูด่ ว้ ยกัน ท�าให้มโี ครงสร้างทีเ่ ป็นระเบียบ มากขึ้น โดยมีประสาทและหลอดเลือดมาเลี้ยงจนเกิดเป็นอวัยวะ หลายๆ อวัยวะที่ท�างาน ร่วมกันเรียกว่า ระบบการท�างานของร่างกาย ซึ่งมีอยู่หลายระบบด้วยกัน ในบทนีจ้ ะอธิบายรายละเอียดเกีย่ วกับเซลล์ เนือ้ เยือ่ อวัยวะ และระบบการท�างานของ ร่างกาย เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น
เซลล์เป็นโครงสร้างหน่วยย่อยของสิง่ มีชวี ติ
ถ้าสิง่ มีชวี ติ เปรียบเสมือนบ้าน เซลล์กเ็ ปรียบเสมือน อิฐแต่ละก้อน แตกต่างกันตรงทีอ่ ฐิ ทุกก้อนในบ้าน จะมีขนาด รูปร่าง และส่วนประกอบเหมือนกัน ทุกประการ แต่สงิ่ มีชวี ติ ทีป่ ระกอบด้วยเซลล์จา� นวน มากจะมีเซลล์อยู่หลายชนิด มีขนาด รูปร่าง ส่วน ประกอบภายในเซลล์ และหน้าที่แตกต่างกัน เพื่อ ให้ท�างานได้อย่างเหมาะสม โดยลองพิจารณาจาก ตัวอย่างของสิ่งมีชีวิต เช่น มนุษย์
เซลลทม่ีขีนาดเลก็ทส่ีดุคอื ตวัอสจุิ (sperm) และใหญทส่ีดุคอื ไข (egg)
3
เซลล์และเนือ้ เยือ่
H uman Body
ร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยเซลล์หลายชนิด ไม่วา่ จะเป็น เซลล์เม็ดเลือด เซลล์สร้างเส้นใย เซลล์ประสาท แต่ละชนิด มีขนาด รูปร่าง ส่วนประกอบภายใน และหน้าทีแ่ ตกต่างกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตาม ส่วนประกอบพื้นฐานของ เซลล์ ม นุ ษ ย์ เกือบทุกเซลล์จะมีความคล้ายคลึงกันตรงที่ ประกอบด้วย เยือ่ หุม้ เซลล์ นํา้ ในเซลล์ ออร์แกเนลล์ เยือ่ หุม้ นิวเคลียส และนิวเคลียส
เซลล์รูปทรงกระสวย เช่น เซลล์สร้างเส้นใย
เซลล์ประสาท
เซลล์ชนิดนี้พบในระบบประสาท
เซลล์เม็ดเลือดแดง
เซลล์ชนิดนี้เป็นเซลล์ที่ไม่มีนิวเคลียส
เซลล์กล้ามเนื้อ
เซลล์ชนิดนี้พบในกล้ามเนื้อ
ส่วนนอกสุดของเซลล์คอื เยือ่ หุม้ เซลล์ ซึง่ เป็นเนือ้ เยือ่ บางๆ
ประกอบด้วยไขมันประมาณครึง่ หนึง่ และโปรตีนอีกประมาณครึง่ หนึง่ โมเลกุลไขมันจะเรียงตัวเป็น 2 ชั้นประกบกัน โดยมีโมเลกุลโปรตีน ฝังอยู่ เยื่อหุ้มเซลล์จะยอมให้สารบางชนิดผ่านเข้าออกเซลล์ได้ สาร ที่ละลายในไขมันได้มากจะผ่านชั้นไขมันของเยื่อหุ้มเซลล์ได้ง่าย แต่ สารอื่นๆ อาจต้องอาศัยโปรตีนที่ฝังอยู่ ซึ่งทําหน้าที่เป็นช่องทางให้
4
เซลลและเนอ้ืเยอ่ื
สารผานได นอกจากนโ้ีปรตนีบางโมเลกลุในเยอ่ืหมุเซลลกท็ำหนาทเ่ีปนตวัรบั (receptor) ใหสารหลายชนิด เชน ฮอรโมนในรางกาย ยา สารเคมี มาจับ แลวส่ือสารกับเซลล โดยไมตองผานเขาไปในเซลล ใกลกับสวนฐานของเซลลจะเปนโครงสรางทรงกลมขนาดใหญเรียกวา นวิเคลยีส มเียอ่ืหมุนวิเคลยีสเปนเยอ่ื 2 ชน้ัลอมรอบอยู ภายในนวิเคลยีสจะมโีครโมโซม ซง่ึเปนทอ่ียู ของจนี (gene) โครโมโซมประกอบขน้ึจากสารบางชนดิรวมกบักรดดอีอกซไีรโบนิวคลีอิก หรอืเรยีกสน้ัๆ วา ดเีอ็นเอ เปนโมเลกลุสายคแูละขดเปนเกลยีว ในนวิเคลยีสยงัมโีครงสรางท่ี เรยีกวา นวิคลโีอลสั อยดูวย นวิคลโีอลสันป้ีระกอบดวยกรดไรโบนวิคลอีกิ หรอืเรยีกสน้ัๆ วา อารเอน็เอ เปนหลกั เนอ้ืทร่ีะหวางเยอ่ืหมุเซลลกบันวิเคลยีสเรยีกวา ไซโทพลาซมึ ประกอบดวยสวนประกอบ ตางๆ ที่อยูกันเปนสัดสวน และแบงหนาที่การทำงานไวเรียกวา ออรแกเนลล ตัวอยาง ออรแกเนลลที่สำคัญ เชน รางแหเอนโดพลาซึม (endoplasmic reticulum) ไรโบโซม (ribosome) ไมโทคอนเดรยี (mitochondrion) นวิคลโีอลสั (Nucleolus) รางแหเอนโดพลาซมึ (Endoplasmic reticulum)
นวิเคลยีส (Nucleus) ไรโบโซม (Ribosome)
ไมโทคอนเดรยี (Mitochondrion)
กอลไจแอปพาราตสั (Golgi apparatus)
เซนโทรโซม (Centrosome)
เยอ่ืหมุเซลล (Plasma membrane) ไลโซโซม (Lysosome)
5
เซลลและเนอ้ืเยอ่ื
H uman Body เม่ือเซลลชนิดเดียวกันมาอยูรวมกัน โดยมีสารระหวางเซลล
ลอมรอบจะเกดิเปนเนอ้ืเยอ่ืขน้ึ ในรางกายมเีนอ้ืเยอ่ือยู 4 ชนดิ ไดแก
1. เนอ้ืเยอ่ืบผุวิ 2. เนอ้ืเยอ่ืเกย่ีวพนั ซง่ึครอบคลมุถงึเลอืด กระดกู และกระดูกออน 3. เนอ้ืเยอ่ืกลามเนอ้ื 4. เนอ้ืเยอ่ืประสาท
อวยัวะ
หมายถงึ สวนตางๆ ของรางกายทป่ีฏบิตัิ หนาทเ่ีฉพาะอยาง เชน หายใจ หลง่ัสาร และอวยัวะทม่ีี ขนาดใหญท่ีสดุในรางกายกค็อื ผวิหนงั
รางกายแบงออกเปนระบบตางๆ ตามความสมัพนัธ
ทางโครงสราง เชน ระบบหลอดเลือด ครอบคลุมหลอดเลือด ทง้ัหมดในรางกาย หรอืทางการทาํงาน เชน ระบบทางเดนิอาหาร ครอบคลุมอวัยวะท่ีเก่ียวของกับการยอย ดูดซึม และขับถาย อาหารทง้ัหมด โดยทว่ัไปจะนยิมแบงตามความสมัพนัธทางการ ทาํงานมากกวาทางโครงสราง เพราะทาํใหเกดิระบบการทาํงานของ ร า ง ก า ย ห ล า ย ร ะ บ บ แ ต ล ะ ร ะ บ บ จ ะ มี เ น้ื อ เ ย่ื อ แ ล ะ อ วั ย ว ะ ท่ี เกย่ีวของทาํงานรวมกนั บางเนอ้ืเยอ่ืหรอือวยัวะอาจอยไูดหลาย ระบบเนอ่ืงจากทาํหลายหนาท่ี
หลงัจากเกดิ : ไขกระดกู มาม ตอมไทมสั ปมุนา้ํเหลอืง (lymph node)
ระบบนา้ํเหลอืง
หลอดนา้ํเหลอืง ปมุนา้ํเหลอืง เนอ้ืเยอ่ืนา้ํเหลอืง
ระบบภมูคิมุกนั
ไขกระดกู ตอมไทมสั มาม
ระบบประสาทกลาง (central nervous system)
สมอง ไขสนัหลงั
ระบบประสาทนอกสวนกลาง ่ (peripheral nervous system)
ปมประสาทอสิระ (autonomic ganglion) ปมประสาทรบัความรสูกึ (sensory ganglion) ขายประสาท (nerve plexus)
ระบบผวิหนงั
ผวิหนงั ผม ขน เลบ็
ระบบกลามเนอ้ืและโครงกระดกู
กลามเนอ้ื กระดกู กระดกูออน
ระบบหวัใจและหลอดเลอืด
หวัใจ หลอดเลอืด
ระบบทางเดนิหายใจ
ทางเดนิอากาศตง้ัแตจมกูจนถงึถงุลมในปอด
ระบบทางเดนิปสสาวะ
ไต ทอไต กระเพาะปสสาวะ ทอปสสาวะ
ระบบทางเดนิอาหาร
ทางเดนิอาหารตง้ัแตปากจนถงึทวารหนกั ตบั ตบัออน ถงุนา้ํดี
ระบบตอมไรทอ
เนอ้ืเยอ่ืตางๆ ทส่ีามารถหลง่ัฮอรโมนได
ระบบสบืพนัธุ
หญงิ : รงัไข ทอนาํไข มดลกู อวยัวะเพศหญงิ ชาย : อณ ั ฑะ องคชาต ตอมลกูหมาก
เซลลและเนอ้ืเยอ่ื
ระบบสรางเมด็เลอืด
7
เลอืดและภมูคิมุกนั
H uman Body
ÃÙé ไหมวาเลือดมีความสําคัญตอรางกาย
ของเราอยางไรบาง และเมื่อรางกายเกิดบาดแผล เชน ถูกมีดบาด รางกายของเราจะหยุดเลือดที่ไหล ออกมาไดอยางไร ในบทน้ีเราจะมาทําความรูจักกับ เลือด...วามีความสําคัญกับเราอยางไร รางกายมนษุยประกอบดวยนา้ํรอยละ 60 - 70 ของนา้ํหนกัตวั นา้ํสวนหนง่ึอยภูายในเซลล อกีสวนหนง่ึ อยูระหวางเซลล และสวนท่ีเหลืออยูในเลือด ทําให เลอืดมปีรมิาตร 4-6 ลติร
เลือดมีสว นประกอบทีส่ ำคัญคือ เซลลเม็ดเลือดแดง และเซลลเม็ดเลือดขาว
ชนิดตางๆ เม็ดเลือดแดงมีลักษณะแบน ไมมีนิวเคลียส ภายในเม็ดเลือดแดงมีสาร สีแดงเรยีกวา ฮโีมโกลบนิ สวนเมด็เลอืดขาวจะมนีวิเคลยีส นอกจากเมด็เลอืดแดงและ เมด็เลอืดขาวแลว ยงัมเีกลด็เลอืดซง่ึพฒ ั นามาจากชน้ิสวนของไซโทพลาซมึของเซลลชนดิ หนง่ึ มีลกั ษณะเปนแผนเล็กๆ ไมมสี ี ไมมนี วิ เคลียส สวนของเลือดทีไ่ มใชเม็ดเลือดและ เกลด็เลอืดนน้ัเปนของเหลวสเีหลอืงออนเรยีกวา พลาสมา หรอื น้ําเลอืด
พลาสมา มีสวนประกอบท่ีสําคัญคือ
น้ํ า โปรตีน อิเล็กโทรไลต น้ําตาล ไขมัน ของเสียจาก เมแทบอลซิมึ กรดอะมโิน ฮอรโมน วติามนิ และบฟัเฟอร
หมายถงึ
หลอดเลอืดทน่ีําเลอืดออกจากหวัใจ สวนใหญเปนเลือดแดงซ่ึงมีออกซิเจนมาก เพราะถูกฟอก ทป่ีอดแลว นน่ัคอืมกีารแลกเปลย่ีนนาํคารบอนไดออกไซด ออกไปสถูงุลมปอด และรบัออกซเิจนจากถงุลมปอดเขามา เลือดแดงน้ีจะถูกสูบฉีดออกจากหัวใจหองลางซายไปเล้ียง ท่ัวรางกาย หลอดเลือดแดงชนิดเดียวท่ีมีเลือดดําหรือ เลือดท่ีมีคารบอนไดออกไซดมาก คือหลอดเลือดแดงท่ี ออกจากหวัใจหองลางขวา เพอ่ืนาํเลอืดไปฟอกทป่ีอดตอไป
หมายถงึ หลอดเลอืดทน่ีาํเลอืดเขาสหูวัใจ สวนใหญ
เปนเลอืดดาํ เพราะมาจากเซลลทว่ัรางกาย หลอดเลอืดดาํ ชนดิเดยีวทม่ีเีลอืดแดงกค็อื หลอดเลอืดดาํทน่ีาํเลอืดทฟ่ีอก จากปอดแลวกลบัเขาไปสหูวัใจ หลอดเลอืดดาํจะอยตูน้ืกวา หลอดเลอืดแดง จงึสามารถมองเหน็หลอดเลอืดดําไดจาก ดานนอกผิวหนังของเรา และยังเปนหลอดเลือดท่ีนิยมใช ฉดียาเขาสรูางกาย
เลือดและภูมิคุมกัน
ถาทําใหเลือดแข็งตัว แลวแยกสารชวยในการ แขง็ตวัของเลอืดออกไป จะเหลอืของเหลวทเ่ีรยีกวา ซรีมั หรือน้ําเหลืองของเลือด ซ่ึงเปนสวนประกอบของเลือด ทอ่ียูภายในหลอดเลอืดแดงและหลอดเลอืดดํา
เลอืดและภมูคิมุกนั
H uman Body หลอดเลอืดแดงใหญนําเลอืด ไปเลย้ีงทว่ัรางกาย (Aorta) ปอดดานขวา (Right lung)
ปอดดานซาย (Left lung) หวัใจ (Heart)
หลอดเลอืดดาํทร่ีบัเลอืดดาํ จากสวนลางของรางกาย (Inferior vena cava)
àÁ´çàÅÍ×´á´§ ÁÍÕÒ»ØÃÐÁÒ³ 120 Ç¹Ñ ä» ¡¨çж¡Ù·ÒÅÒÂ
í
เมด็เลอืดแดง ฮโีมโกลบนิ เมด็เลอืดขาว เกลด็เลอืด แอลบมูนิ กลโูคส คอเลสเตอรอล
4-6 ลานเซลลตอไมโครลติร 12-18 กรมัตอเดซลิติร 5,000-11,000 เซลลตอไมโครลติร 150,000-450,000 ตอไมโครลติร 3.5-5.0 กรมัตอเดซลิติร ไมเกนิ 110 มลิลกิรมัตอเดซลิติร ไมเกนิ 200 มลิลกิรมัตอเดซลิติร
หมายถงึ
ระบบของรางกายทป่ีกปองรางกายจากสง่ิแปลกปลอม ไดแก จลุนิทรยี ปรสติ และสง่ิแปลกปลอมอน่ืๆ เชน ฝนุ
ตอมไทมสั (Thymus gland) ปมุนา้ํเหลอืง (Lymph node) มาม (Spleen) หลอดน้ำเหลือง (Lymph vessel) ไขกระดกู (Bone marrow)
ระบบภมูคิมุกนั มสีวนประกอบคอื
เมด็เลอืดขาว และอวยัวะ ทเ่ีกย่ีวของ ไดแก ไขกระดกู ตบั (เกย่ีวของกบัระบบภมูคิมุกนัในขณะทย่ีงัเปน ทารกในครรภ) ตอมไทมสั ตอมทอนซลิ มาม ปมุนา้ํเหลอืง ปมุนา้ํเหลอืงเลก็ และหลอดนา้ํเหลอืง
เลอืดและภมูคิมุกนั
ทอนซลิ (Tonsil)
เลอืดและภมูคิมุกนั
H uman Body
˹Ҍ·¢èÕͧàÅÍ×´ áÅÐÃкºÀÁÙ¤Ô ÁéØ ¡¹ Ñ
เลอืดมหีนาทห่ีลายประการ ไดแก
เม็ดเลือดแดงทําหนาท่ีขนสงออกซิเจนจากถุงลมใน
ปอดไปยังเซลลท่ัวรางกาย เพ่ือใหเซลลใชในกระบวนการหายใจ เปนการสรางพลงังานอกีตอหนง่ึ ซง่ึออกซเิจนจะอยใูนเมด็เลอืดแดง ไดโดยการจับกบัฮโีมโกลบนิ
เม็ดเลอืดขาว ทกุชนดิทาํหนาทเ่ีปนภมูคิมุกนัของรางกาย
บางชนดิสรางแอนตบิอดี (antibody หรอื immunoglobulin) จาํเพาะ ซง่ึเปนโปรตนีขน้ึมาตอตานแอนตเิจน (antigen) ของสง่ิแปลกปลอมแตละชนิด เกลด็เลอืด (Platelet)
เกล็ดเลือดและสารชวยในการแข็งตัวของเลือดจะทําให
เลือดแข็งตัว จึงหามเลือดในกรณีท่ีเลือดออกจากหลอดเลือด เชน ผวิหนงัเปนแผล หรอืการตกเลอืดในอวยัวะภายใน คอลลาเจน (Collagen) เนอ้ืเยอ่ืบโุพรง (Endothelium)
พลาสมาเปนทางสําหรับลําเลียงเม็ดเลือด
เกล็ดเลือด สารอาหาร เมแทบอไลต และยาตางๆ นอกจากนย้ีงัลาํเลยีงของเสยี ไปยงัอวยัวะทท่ีาํหนาทก่ีาํจดัของเสยี เชน ปอด ตบั ไต และยงัชวย ควบคมุอณ ุ หภมูใินรางกายดวย
H uman Body
เลอืดยงัสามารถแบงเปนหมไูดอกีหลายระบบ เชน ระบบอารเอช ดงัตารางตอไปน้ี
เลอืดและภมูคิมุกนั
ËÁÙà‹Å×Í´
á͹µàÔ¨¹º¹¼ÇÔàÁ´çàÅ×Í´á´§ á͹µºÔÍ´Õã¹¾ÅÒÊÁÒ
อารเอชบวก
อารเอช
ไมมี
อารเอชลบ
ไมมี
ตานอารเอช
ระบบหมูเลือดหลายระบบสามารถนํามาใชรวมกันได เชน ผูท่ีมี แอนติเจนเอและอารเอชบนผวิเมด็เลอืดแดง จะเรยีกวา มหีมเูลอืดเอบวก
»ÃЪҡÃä·Â ʋǹãËÞÁ‹ËÕÁà‹ÙÅÍ×´
ÍÒÃà ͪºÇ¡
• ความผดิปกตทิเ่ีกย่ีวของกบัเมด็เลอืดแดง ไดแก ภาวะเลอืดจาง • ความผิดปกติทเ่ี กีย่ วของกับเม็ดเลือดขาวและภูมคิ มุ กัน ไดแก การอักเสบ ภูมแิ พและสภาพไวเกิน
(hypersensitivity เชน การแพยา) ภาวะเม็ดเลือดขาวมากหรือนอยกวาปกติ มะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคภมูติานตนเอง (autoimmune disease) การไมตอบสนองตอแอนตเิจน และภมูคิมุกนับกพรอง ซง่ึครอบคลมุถงึการตดิเชอ้ืไวรสัเอชไอว/ี กลมุอาการภมูคิมุกนัเสอ่ืม/โรคเอดส • ความผิดปกติท่ีเก่ียวของกับเกล็ดเลือดหรือสารชวยในการแข็งตัวของเลือด ไดแก ภาวะการ แขง็ตวัของเลอืดผดิปกติ ผูปวยที่เปนโรคไขเลือดออก โรคมะเร็ง โรคไตวายเรื้อรัง โรคเอสแอลอี โรคตับแข็ง หรือโรคทีเ่ กิดจากเชือ้ ไวรัสบางชนิดจะมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำได และเมือ่ ใดก็ตามทีเ่ กล็ด เลือดต่ำมากหรือไมมเี ลย อาจจะมีภาวะเลือดออกโดยทีไ่ มตอ งมีบาดแผลภายนอก จึงจำเปนตอง รักษาดวยเกล็ดเลือดจากผูอื่น
14
หลักสำคัญของการเสริมสรางภูมคิ มุ กันดวยอาหาร คือ การรับประทานสารตานอนุมลู อิสระ โดยเฉพาะวิตามินซี วิตามินอี เบตาแคโรทีน และสังกะสี โดยรับประทานผักผลไมพวกสม องุน แดง หอมหัวใหญ ผักโขม มันเทศ แครอต เบอรร่ี กีวี แอปเปล นอกจากนีย้ งั มีอาหารอืน่ ทีช่ ว ยเสริมสราง ภูมคิ มุ กัน เชน กระเทียม ซึง่ กระตุน ใหเม็ดเลือดขาวเพิม่ จำนวน, ซีลเี นียม เพิม่ เซลลบางชนิดในระบบ ภูมคิ มุ กันและเสริมการทำงานของเซลลทต่ี อ สูก บั มะเร็ง พบในกุง ธัญพืชเต็มเมล็ด ขาวกลอง ไขแดง ไก เมล็ดดอกทานตะวัน แกะ, กรดไขมันชนิดโอเมกา-3 พบในแซลมอน ทูนา
มาเรยี นรกู ระบวนการและกลไกการทำงาน
ÃкºÃ�Ò§¡ÒÂÁ¹ุÉÂ� ÃдѺ»ÃжÁ
จัดแบงเนื้อหาเปนหัวขอ ชัดเจน เรียนรูงาย
โดย ผศ. ดร.อรกัญญ ภูมโิ คกรักษ | Ph.D. in Pharmacology
ระดับ ประถม
ชื่อเรียกภาษาอังกฤษ เนื้อหาถูกตองใชเปนขอมูลอางอิง สำหรับทำรายงานและเตรียมสอบ ISBN 978-616-527-544-6
¼ÅÔµâ´Â Êӹѡ¾ÔÁ¾ àÍçÁäÍàÍÊ
9 786165
275446
หมวด : เสริมความรู
213/3 «Í¾Ѳ¹Ò¡Òà 1 (ÊҸػÃдÔÉ° 34 á¡ 6) á¢Ç§ºÒ§â¾§¾Ò§ ࢵÂÒ¹¹ÒÇÒ ¡ÃØ§à·¾Ï 10120 â·ÃÈѾ· 0-2294-8777 (ÊÒÂÍѵâ¹ÁÑ µ)Ô â·ÃÊÒà 0-2294-8787 www.MISbook.com
เสร�มความรู ในชั้นเร�ยน เซลล เนื้อเยื่อ อวัยวะ ร างกาย
0 บาท
16 คา
รา
เซลล และเนื้อเยื่อ ในเลมเดียว เลือดและภูมิคุ มกัน พันธุศาสตร การเติบโตและพัฒนาการ ระบบประสาท การรับรู พิเศษ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินป สสาวะ ระบบทางเดินอาหาร ระบบต อมไร ท อ ระบบกล ามเนื้อและโครงกระดูก จ�ลินทร�ย และปรสิต ระบบสืบพันธุ โภชนาการ ภาวะเสื่อมและชราภาพ เนื้องอก
160.-
ครบทุกระบบ
ระบบร างกายมนุษย ระดับประถม | Human Body
เรียนรู
เรียนรูโ ครงสรางของรางกาย กระบวนการทำงานและกลไก ของระบบตางๆ ตั้งแต โครงสรางและหนวยทำงานที่เล็กที่สุด ในรางกาย ซึ่งไดแก เซลลและเนือ ้ เยือ ่ ทีป ่ ระกอบเปนรางกาย ของเราอยางนาอัศจรรย ไปจนถึงกลไกการทำงานของระบบตางๆ ที่ทำงานประสานสัมพันธกันใหเรามีชีวิต เชน ระบบหัวใจและ หลอดเลือด ระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร เปนตน จัดแบงเนือ ้ หาออกเปนหัวขออยางชัดเจน ใชภาษาเขาใจงาย พรอม ภาพประกอบทีจ่ ะชวยใหนอ งๆ มองเห็นภาพการทำงานของระบบ ตางๆ ในรางกายไดกระจางยิง่ ขึน ้ อีกทัง้ ยังมีชอ ่ื เรียกอวัยวะและ ระบบตางๆ เปนภาษาอังกฤษ เนือ ้ หาสอดคลองตามหลักวิชาการ และเสริมความรูในชั้นเรียนไดเปนอยางดี
ั เถอะ! ของระบบตา งๆ ในรา งกายกน