รวมผลงานการประกวดภาพถ่าย ปี ๒๕๕๑
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน)
สาส์น ในสูจิบัตรพิธีมอบรางวัลการประกวดและจัดนิทรรศการภาพถ่าย วันเสาร์ที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เวลา ๑๕.๓๐ น.
โดย ฯพณฯ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานมูลนิธิรัฐบุรุษ
เยาวชนเป็นทรัพยากรอันมีค่ายิ่งและเป็นผู้กำหนดอนาคตของบ้านเมืองดังนั้นหากสามารถจัดกิจกรรมที่ เหมาะสมโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดกิจกรรมเสริมสร้างคุณธรรมให้เยาวชนเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐภาคเอกชน และภาคประชาชนจะต้องร่วมมือกันดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนของเราได้ร่วมกันสร้างสรรค์ ประเทศชาติเมื่อถึงโอกาสอันควรเพราะเยาวชนที่ดีเหล่านี้จะเป็นพลังอันสำคัญเปรียบเหมือนหัวรถจักรซึ่งจะ
ขับเคลื่อนสังคมและประเทศชาติให้มีความสันติสุขสถาพรในอนาคต การจัดการประกวดภาพถ่ายเรื่อง “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” นั้นนอกจากจะเป็นการส่งเสริม คุณธรรมให้เยาวชนแล้วยังเป็นการยกย่องเชิดชูผู้ที่ทำงานเสียสละให้สังคมอีกด้วย มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมจัด โครงการในครั้งนี้และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมจัดกิจกรรมอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์กับสังคมและเยาวชนอีก
ในโอกาสต่อไป พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม การจัดกิจกรรมประกวดภาพ “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” นับเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ศูนย์ส่งเสริมและ พัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) ร่วมกับมูลนิธิ รัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง ๕ และสมาพันธ์สมาคมการถ่ายภาพแห่งประเทศ ไทยดำเนินการจัดขึ้น ซึ่งเป็นกิจกรรมในโครงการสร้างเสริมและพัฒนาคุณธรรมด้านความมีวินัย ซื่อสัตย์และสามัคคี
มีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกฝังให้เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ตระหนักความสำคัญของคุณธรรมจริยธรรมด้านความกตัญญู โดยการสร้างสรรค์ผลงานจากการทำความดีรูปแบบต่างๆ และถ่ายทอดความหมายของคุณธรรมความกตัญญูผ่านการจัด กิจกรรมนิทรรศการภาพถ่าย เป็นการเผยแพร่รณรงค์เสริมสร้างกระแสคุณธรรมจริยธรรมในสังคมไทยโดยเยาวชน ดิฉันในนามผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรมมีความปลื้มปิติและรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ใน พระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโล่รางวัลสำหรับผู้ได้รับ รางวัลชนะเลิศ และขอขอบคุณในความร่วมมือ ความทุ่มเท ความเสียสละของมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง ๕ สมาพันธ์สมาคมการถ่ายภาพแห่งประเทศไทย บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เยาวชน ผู้ร่วมส่งผลงาน และทุกท่านที่มีส่วนทำให้การดำเนินโครงการฯ ครั้งนี้ ประสบความสำเร็จด้วยดี ขอแสดงความยินดีแก่เยาวชนผู้ได้รับรางวัลทุกท่าน และผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติ บ้านเมือง และขออัญเชิญ
คุ ณ พระศรี รั ต นตรั ย และสิ่ ง ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ ทั้ ง หลายที่ ท่ า นนั บ ถื อ โปรดดลบั น ดาลให้ ท่ า น ทั้ ง หลาย ประสบแต่ ค วามสุ ข
สมความปรารถนาทุกประการ นางสาวนราทิพย์ พุ่มทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
ผู้อำนวยการสถารีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก
ประเทศไทยดำรงความเป็นไทยอยู่ได้ด้วยบรรพบุรุษของเรา เอาเลือด เนื้อ และชีวิตเข้าพิทักษ์รักษา เอกราชของชาติไทยไว้ ทำให้ประเทศไทยมีความเจริญรุ่งเรืองมาโดยลำดับจนทุกวันนี้ การที่ประเทศจะยังคง
มีความสงบสุข ความเป็นเอกราชได้ต่อไปได้ต่อไปนั้น ประชาชนคนไทยในประเทศจะต้องรู้รักสามัคคี
มีคุณธรรม มีจริยธรรม รู้จักการให้ และเสียสละต่อส่วนรวม ซึ่งในปัจจุบันนี้เรายังคงเห็นการกระทำที่สื่อถึง ความเป็นคนไทยได้อย่างเด่นชัด จากการที่จัดให้มีการประกวดภาพถ่ายในหัวข้อ “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณ แผ่นดิน” นี้ จึงเป็นหนทางหนึ่งที่จะปลูกฝังให้เยาวชนไทยของเราได้ตระหนักถึง คุณธรรม จริยธรรม และ ความกตัญญูรู้คุณแผ่นดินได้อย่างเป็นรูปธรรม กระผมขอแสดงความยินดีกับเยาวชนผู้ได้รับรางวัลทุกท่าน ที่สามารถถ่ายทอดความเป็นชาติไทยด้วย ภาพถ่ายอันทรงคุณค่านี้ และหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนทุกท่านได้ร่วมกันปลูกฝังคุณธรรม ยกย่อง เชิดชูผู้ที่ทำงานเสียสละ เพื่อบ้านเมือง เพื่อดำรงรักษาความเป็นชาติไทยสืบไป พลโท กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
ประธานสมาพันธ์สมาคมการถ่ายภาพแห่งประเทศไทย
สมาพั น ธ์ ส มาคมการถ่ า ยภาพแห่ ง ประเทศไทย ขอแสดงความยิ น ดี กั บ ศู น ย์ ส่ ง เสริ ม และพั ฒ นา
พลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์กรมหาชน) ร่วมกับมูลนิธิรัฐบุรุษ
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง ๕ ได้จัดโครงการประกวดภาพถ่าย “เกิดมาต้อง ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” เปิดโอกาสให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา ได้มีโอกาสถ่ายภาพบุคคลที่ประทับใจ และ เสียสละเพื่อส่วนรวมโดยใช้ภาพถ่ายเป็นสื่อกลางถ่ายทอดความประทับใจ ที่นอกจากจะเป็นการส่งเสริมด้าน ศิลปะการถ่ายภาพแล้วยังเป็นการส่งเสริมกำลังใจให้กับผู้ทำงานเสียสละเพื่อส่วนรวมและที่สำคัญยิ่ง คือ เป็นการปลูกฝังคุณธรรมให้กับเยาวชน เพื่อก้าวขึ้นเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและประเทศ ในโอกาสนี้ สมาพันธ์สมาคมการถ่ายภาพแห่งประเทศไทย รู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีที่มีส่วนร่วม ในการจัดการประกวดภาพถ่ายครั้งนี้ ด้วยแนวคิดและเจตนารมณ์ของคณะผู้จัดงาน ส่งผลดีให้เยาวชนจากทั่ว ประเทศ ได้ตระหนักเห็นความสำคัญของโครงการประกวดภาพถ่ายและมีการส่งภาพถ่ายเข้าร่วมประกวดเป็น จำนวนมากนับว่าเป็นความสำเร็จที่น่าชื่นชมและมีความสำคัญยิ่งนอกเหนือจากคำว่า “แพ้ หรือ ชนะ” ที่จะได้ รับการประกวดฯ ในครั้งนี้ จนในที่สุดได้มีการตัดสิน ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศภาพถ่าย “เกิดมาต้องตอบแทน บุญคุณแผ่นดิน” นับเป็นประโยชน์ยิ่งต่อการพัฒนาเยาวชนของชาติ สังคมโดยรวมและวงการถ่ายภาพสืบ
ต่อไป นายสวัสดิ์ ปฏิภาณประเสริฐ ประธานสมาพันธ์สมาคมการถ่ายภาพแห่งประเทศไทย
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
รางวัลที่ 1 ความหมายของภาพ ความประทับใจ
10
นายตะวัน ทองสรรค์ ชื่อภาพ รอยยิ้มเพื่อแผ่นดิน ข้าพเจ้าต้องการจะสื่อให้เห็นถึงความสุข ที่ได้ทำความดีบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม ถึงแม้จะเหนื่อยล้าเพียงใด ก็มิเคยคิดท้อถอยเพราะมี จุดมุ่งหมายสำคัญนั่น คือ การแทนคุณแผ่นดิน นักเรียนของโรงเรียนหนองตูม หนองงูเหลือม และนักเรียนในหมู่บ้าน หลังจากที่เลิกเรียนแล้วได้ร่วมกันกับครู อาจารย์มาช่วยกันปลูกต้นไม้ ตามสถานที่ต่าง ๆ ของหมู่บ้านโดยที่ได้สละเวลามาช่วยกัน ถึงแม้บางสถานที่จะต้องเดินทางด้วยความยากลำบาก ก็ไม่ย่อท้อ ยอมเสียสละ แรงกายแรงใจ เพื่อร่วมกันสร้างสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม เสมือนการสร้างปอดใบใหญ่เอาไว้ช่วยทำให้อากาศของหมู่บ้านสดชื่นอยู่ตลอดเวลา โดยที่พวกเขาไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก ความเหน็ดเหนื่อย จุดมุ่งหมายที่สูงสุดของพวกเขาก็คือการทำดีตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน นั่นเอง
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
รางวัลที่ 2 ความหมายของภาพ ความประทับใจ
ด.ญ.บุญชนก ฉายชูวงษ์ ชื่อภาพ สำนึกดี เด็กชายวัยประมาณ 3 ขวบ กำลังวิ่งเล่นในสนามเด็กเล่นของโรงเรียนวัดพระแก้ว อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท ระหว่างที่เขาวิ่งเล่น จนเหนื่อย เขาได้มานั่งพักใต้ต้นไม้และใกล้ๆ กันนั้น มีขยะที่มีคนเอามาทิ้งไว้แล้วไม่ลงถังขยะเขาได้หยิบไม้กวาดที่อยู่ใกล้ ๆ กวาดขยะ เหล่านั้นลงถัง โดยไม่ต้องมีใครมาบอกให้ทำ เด็กชายวัยกำลังซนวิ่งเล่นตามประสาเด็ก พบเห็นขยะที่คนนำมาทิ้งแต่ไม่ลงถัง ด้วยความมีสำนึกที่ดีโดยไม่ต้องรอให้ใครมาสั่งสอน ชักจูง ให้ทำความดี เขาได้เก็บกวาดขยะเหล่านั้นทิ้งลงถังอย่างเรียบร้อย ซึ่งความสำนึกดีเกิดมาจากตัวของเขาเอง และสิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานของ การสร้างความดีในทุก ๆ ด้านให้กับสังคมและประเทศชาติต่อไป เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 11
รางวัลที่ 3 ความหมายของภาพ ความประทับใจ
12
น.ส.ณัฏติยา ขาวผ่อง ชื่อภาพ ทำนาด้วยใจใส่ความรักแผ่นดิน วันนั้นเป็นวันที่มีความหมายของชาวบ้าน เพราะเกษตรอำเภอมาร่วมงานโดยให้ความรู้กับชาวบ้าน ว่าการทำนาในสมัยนี้กับสมัยก่อน และผลได้ผลเสียของการทำนาสมัยนี้ มันต่างกันอย่างไร และทำให้ทราบว่าชาวนาต้องเสียสละเวลา เสียสละสิ่งที่สำคัญเสมอ เห็นถึงความสำคัญของชาวนาที่คนทุกคน หรือส่วนใหญ่จะคิดว่าชาวนามีหน้าที่แค่ปลูกข้าวให้ชาวไทยเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยกัน รักษาสภาพดินที่ไม่ใส่ปุ๋ยได้ ด้วยการทำนาแบบอินทรีย์ชีวภาพปลูกตามลักษณะธรรมชาติ ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
รางวัลชมเชย อนันต์ เกียรติกมลชัย ชื่อภาพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ความหมายของภาพ วัยรุ่นในผ้าขาวช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อสร้างทางสำหรับ ขึ้ น ที่ พั ก สงฆ์ หนทางจะไกลสั ก แค่ ไ หนสองมื อ เล็ ก ๆ จะทำ ประโยชน์เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน ความประทับใจ การได้มาทำประโยชน์เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันแม่แห่ง ชาติ พวกเราไม่เคยเหนื่อย หวังว่าที่ทำนี้จะมีประโยชน์แก่ทางวัด และชาวบ้าน
รางวัลชมเชย ภัคจิรา เพ็งสะอาด ชื่อภาพ พิการกาย แต่ใจสู้ ความหมายของภาพ แม้คุณลุงคำเจน จะพิการทางร่างกายแต่ก็ไม่ท้อแท้ ลุกขึ้นสู้ชีวิตด้วยการฝึกวาดภาพจน ชำนาญประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ความประทับใจ ประทับใจจากการที่ได้พูดคุย จึงทราบว่านอกจากคุณลุงจะพลิกฟื้นชีวิตตัวเองขึ้นมายืน ด้วยตัวเองหลังประสบอุบัติเหตุได้แล้ว ยังอุทิศเวลาในการสอนผู้พิการอีกมากมาย ให้ สามารถวาดภาพสีน้ำได้งดงามเพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว ไม่เป็นภาระแก่ สังคมเช่นเดียวกับที่คุณลุงได้ทำมาแม้ว่าคุณลุงจะวาดรูปไม่เป็นมาก่อน แต่ก็ฝ่าฟันมาจนมี วันนี้ได้ น่าประทับใจจริง สมควรที่จะยกย่องให้เป็นเกียรติและเป็นตัวอย่างอันดีงามแก่ ผู้คนทั่วไป ให้มีกำลังใจสู้ชีวิตและรู้จักตอบแทนสังคมบ้าง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่เห็นแก่ตัว จนเกินไป เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 13
รางวัลชมเชย ธนะวิช คำโสภา ชื่อภาพ รักษ์ความสะอาด รักษ์ศาสนา ความหมายของภาพ การทำความสะอาด กวาดลานอุโบสถ เพื่อฝึกฝนตนเอง และรักษาความสะอาดในถิ่นที่ตนอยู่ ความประทับใจ เด็กๆ ช่วยกันทำความสะอาดกวาดลานอุโบสถ โดยไม่ ย่ อ ท้ อ ต่ อ ความยากลำบาก ความเหน็ ด เหนื่ อ ย ด้ ว ย จุดมุ่งหมายเดียวกันคือ เพื่อความสะอาดและให้บริเวณ วัดที่ใกล้ในถิ่นที่อยู่ ให้มีความสะอาด
รางวัลชมเชย ภัคจิรา เพ็งสะอาด ชื่อภาพ ปลูกธรรมะ ในใจเยาวชน ความประทับใจ ข้าพเจ้าได้เฝ้าชมการบรรยายธรรมะประกอบนิทาน ของพระภิกษุ รูปนี้ด้วยความเพลิดเพลินและได้ซึมซับคติ แง่คิดสอนใจมากมาย และเชื่อว่าสิ่งที่ท่านได้บรรยาย เด็ก ๆ เหล่านี้คงจะซึมซับสิ่งดีงาม ที่ท่านได้สอนพวกเขาไม่มากก็น้อย เพราะตลอดเวลาท่านได้สอด แทรกคำพูด กิริยาอาการ ของตัวละครในเรื่องที่ดึงดูดให้เด็กๆ ติ ด ตามด้ ว ยความสนใจ และตอบคำถามที่ ท่ า นคอยถามอย่ า ง ฉะฉานทำให้เด็กๆ มีสมาธิอยู่กับเรื่องราวที่ท่านบรรยาย ตั้งแต่ต้น จนจบเรื่องคำบรรยายของท่าน มีประโยชน์ต่อการปลูกฝังเยาวชน รุ่นเยาว์เหล่านี้ จนรู้สึกว่าควรแก่การยกย่องในความดีงามของท่าน ต่อไปเสียดายว่า ข้าพเจ้าไม่ทราบชื่อเสียงเรียงนามของท่าน ว่า เป็นใครมาจากไหน 14
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
รางวัลชมเชย นายพัฒพงศ์ ร่มเย็น ชื่อภาพ สามัคคีหลังสึนามิ ความหมายของภาพ สำนึกรักบ้านเกิด ความประทับใจ การที่ทางชมรมได้เข้าไปร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ในวันที่ 12 สิงหา ทำให้ผมเห็นภาพความสามัคคีและ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนภายในชุมชนซึ่ง พวกเขาได้รับผลกระทบจากมหันตภัยคลื่นยักษ์สึนามิ จากผลดังกล่าวทำให้มีผู้คนเสียชีวิตจำนวนมากแต่มี บ้านหลายหลังที่ได้รับผลกระทบน้อยเนื่องจากมีพื้นที่ ป่าชายเลนเป็นแนวป้องกันคลื่นยักษ์ซึ่งช่วยลดความ รุนแรงของคลื่นได้ในวันนั้นที่ผมได้เข้าไปทำกิจกรรม ได้เห็นภาพของชุมชนที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นมีจาก ช่วยเหลือซึ่งกันและกันของชุมชนทำให้พวกเราทุกคน ที่ออกค่ายในวันนั้นต่างมีความสุข
รางวัลชมเชย นายวิชัย จันทรา ชื่อภาพ บำเพ็ญประโยชน์ ความประทับใจ รู้สึกปลื้มปิติยินดี ในความมีน้ำใจ ของเหล่าลูกเสือยุวกาชาด และเนตรนารี ที่อุตสาห์เสียสละทั้งแรงกายและแรงใจ ในการ บำเพ็ญประโยชน์โดยตรงทั้งๆ ที่ตัวเล็กนิดเดียวกันทั้งนั้นเลย ต้องถือว่าเด็กเหล่านี้ คืออนาคตของชาติอย่างแท้จริง เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 15
รางวัลชมเชย ศุภมาส ใจพรมเมือง ชื่อภาพ ใจไม่เคยเปื้อน ความหมายของภาพ สายน้ำที่ไหล ต้นหญ้าที่ขึ้นปกคลุม เปรียบเสมือนขวากหนามที่ ให้เราเผชิญและก้าวเดินต่อไป แม้ตัวจะเปอะเปื้อนแต่หัวใจ ไม่ เคยเปื้อนตามไปด้วย ในหนทางแห่งความยากลำบาก ความประทับใจ หยาดเหงื่อแห่งความพยายาม กับหัวใจที่แข็งแกร่ง
รางวัลชมเชย กมลวัชร แสงภู่ ชื่อภาพ งานประจำ ทำก่อนฟ้าเปิด ความหมายของภาพ แสดงให้เห็นถึงการเดินทางของรถไฟ และผู้คนที่ผ่านมาและผ่านไป แต่ลุงก็ยังคงมาก วาดพื้น และทำความสะอาดสถานีรถไฟ และชุมชนแห่งนี้มาตลอด 20 ปี ความประทับใจ เนื่องจากลุงเป็นคนที่มากวาดถนน สถานีรถไฟชุมชนใกล้เคียงมาเป็นเวลากว่า 20 ปี โดยที่ไม่หวังสิ่งใดตอบแทนและเมื่อได้เข้าไปถามอดีตทหารผ่านศึกคนนี้ว่าจะกวาดไปถึง เมื่อไรและเหนื่อยบ้างไหม ลุงได้ตอบมาอย่างมั่นใจว่า “จะกวาดไปจนหมดลมหายใจ ตนเอง” ทำให้ตัวข้าพเจ้าประทับใจเป็นอย่างมาก 16
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
รางวัลชมเชย สุเมธา เพ็ชร์อำไพ ชื่อภาพ ผู้พิทักษ์ความสะอาด ความหมายของภาพ ดูแล้วเป็นภาพที่มีเสน่ห์มาก ที่เยาวชนช่วยกันดูแล และอนุรักษ์ความสะอาดของชายหาด ทำให้สิ่ง แวดล้อมดูดีมากๆ ความประทับใจ อยากให้เป็นเช่นนี้ทุกๆ วัน เพราะจะเป็นการปลูก ฝังให้เยาวชนรู้จักความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดไป
รางวัลชมเชย ตะวัน ทองสรรค์ ชื่อภาพ ร่วมแรงร่วมใจ ความหมายของภาพ ข้าพเจ้าต้องการสื่อให้เห็นถึงการเสียสละของรั้ว ของชาติ ที่แม้จะว่างจากศึก ก็ยังมาช่วเหลือสังคม ความประทับใจ ประทับใจในน้ำใจของทหารไทย ที่คอยช่วยเหลือ งานของสังคมอยู่เสมอ เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 17
รางวัลชมเชย วิชัย จันทรา ชื่อภาพ ร่วมแรง ร่วมใจ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ความประทับใจ ด้วยความใส่ใจที่มากล้น จนกลายเป็ น ความรั บ ผิ ด ชอบที่ มี อ ยู่ ข องทุ ก คนในที่ นี้ ที่ ดั้ น ด้ น กระเสื อ ก กระสนมาจากกรุงเทพฯ เพื่อเข้ามาทำประโยชน์ด้วย การร่วมมือร่วมใจ ในการปลูกต้นโกงกางให้มากที่สุด ก็ เ พื่ อ รั ก ษาความสมดุ ล ของสิ่ ง แวดล้ ม โดยเฉพาะ ระบบนิ เ วศน์ ให้ ส มดุ ล กั น มากที่ สุ ด ต้ อ งการให้ สรรพสิ่งมีชีวิตได้พึ่งพาอาศัยกันได้อย่างเสรีภาพ และ ยั่งยืนตลอดไป
รางวัลชมเชย ลองเฉลิม รุ่งเรือง ชื่อภาพ รวมพลังเก็บขยะ ความหมายของภาพ เป็นการเก็บขยะของนักศึกษา ซึ่งตั้งชมรมเก็บขยะเพื่อมี เจตนารมณ์เดียวกัน คืออยากให้ชายหาดมีความสะอาด น่าท่องเที่ยว น่าเก็บให้คนรุ่นหลังได้ชม ความประทับใจ เราได้มีความสุขสนุกสนานกันมาก ไม่มีคำว่าท้อหรือ เหน็ดเหนื่อยกันเลย ซึ่งมีชาวบ้านแถวนั้นได้ติชมมาใน ทางที่ดี ทำให้เรามีกำลังใจในการทำงานมากยิ่งขึ้น 18
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
รางวัลชมเชย ธนวิช คำโสภา ชื่อภาพ สั่งสอนศิษย์..ด้วยจิตเสียสละ ความหมายของภาพ การสั่งสอนให้เด็กมีความรู้ในวิชาต่างๆ ความปะทับใจ ครูผู้นี้สั่งสอนศิษย์ด้วยจิตเสียสละ มีเมตตา ให้นักเรียน มีความรู้ในวิชาต่างๆ และการที่จะกลับมาเป็นครูสอน หนังสือนั้น ก็ต้องได้รับการศึกษาในสถานศึกษา และ ถ้าสามารถกลับบ้านไปเป็นครูที่บ้านเกิดได้ ก็เป็นการ ตอบแทนบุญคุณแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนของเราได้
รางวัลชมเชย นายปรีชา เจริญยศ ชื่อภาพ หน้าที่ที่นอกเหนือจากกิจของสงฆ์ ความหมายของภาพ ต้องการสื่อถึงหน้าที่ของพระและเณร เมื่อเวลาเปลี่ยน ไป หน้ า ที่ ข องพระก็ มี เ พิ่ ม ขึ้ น เมื่ อ ในวั ด ไม่ มี เ ด็ ก วั ด พระก็จำเป็นจะต้องทำหน้าที่ใส่ดินปลูกต้นไม้เอง ความปะทับใจ ประทับใจตรงที่แม้ว่าจะเป็นพระและเณร แต่ยังต้องทำ หน้าที่ปลูกต้นไม้เอง ในปัจจุบันหน้าที่ของพระคงไม่มี แค่เผยแผ่พุทธศาสนา อีกต่อไป เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 19
รางวัลชมเชย ณัฐติยา ขาวผ่อง ชื่อภาพ พลังความดี ของสีเหลืองเขียวและฝูงคนชาวพุทธ ความหมายของภาพ ความหมายที่ผู้ถ่ายภาพต้องการสื่อถึง พลังของชาวไทยที่มีจิตใจดีงาม ยังรักษาคุณธรรม ความดี มีความสามัคคี มีใจปองดอง มีจิตใจกุศลมุ่งดี และมีทหารที่มานั่งคอยดูแลความ ปลอดภัย ทำให้รู้ว่าถึงแม้ทหารจะมีหน้าที่แตกต่างจากพระ แต่ก็มีจิตใจดีงามพร้อมเสีย สละทุกอย่างเพื่อความสงบสุข ความปะทับใจ ได้เห็นพลังประชาชนที่เคารพศรัทธา ในศาสนาพุทธ มีใจให้กันโอบอ้อมอารีย์ และเมื่อถึง ยามคับขันของประเทศชาติก็พร้อมที่จะช่วยกันแก้ปัญหาผ่านพ้นวิกฤกติไปด้วยกัน สื่อจาก ภาพกว้างๆ คือ ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะใด แต่เราต้องรู้จักเสียสละ เพื่อส่วนรวมและ ประเทศชาติ เพื่อคนข้างหลังลูกหลาน คนที่ต้องอยู่สืบไป
รางวัลชมเชย พรสวรรค์ รักอินทร ชื่อภาพ ความปลอดภัยอยู่ในมือเรา ความปะทับใจ ที่หน้าโรงเรียนเทศบาลที่น้องของหนูเรียนอยู่ ไม่มีสะพานลอย มีแต่ทางม้าลาย ช่วงเวลาเลิกเรียน เด็กนักเรียนจะกรูออกมา เต็มหน้าโรงเรียน และต้องข้ามถนนไปอีกฟากหนึ่ง เพื่อขึ้นรถ โดยสารเดิ น ทางกลั บ บ้ า น เป็ น ช่ ว งเวลาที่ เ สี่ ย งอั น ตรายจาก อุบัติเหตุมากที่สุด พี่จราจรที่มีน้ำใจ จะมาคอยดูแลเด็กๆ ข้าม ถนนทุกวัน เป็นความอบอุ่นใจ และรู้สึกซาบซึ้งในความเป็น คนดีของแผ่นดิน ตลอดจนความห่วงใยที่หยิบยื่นให้แก่เด็กๆ ทำให้เด็กๆ รู้ว่าความปลอดถัยของพวกเขามีแน่นอน... เพราะ ความปลอดภัยนั้น อยู่ในมือของพี่จราจรนั่นเอง 20
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
รางวัลชมเชย นายกันตพงศ์ ขุนวิแจ้ง ชื่อภาพ ทิ้งลงถังเพื่อสังคม ความหมายของภาพ อยากให้เห็นถึงภาพของคนที่คิดจะทำ มากกว่ามองว่ามันเป็นหน้าที่ของเขา เขาทำเพื่อสังคม เพื่อธรรมชาติ สภาพแวดล้อมและสิ่งต่างๆ สิ่งของที่อยู่ใน มือไม่ได้เป็นเพียงเครื่องบ่งบอกว่า ถ้าจะทำแบบนี้ต้องมีอยู่ในมือ เพียงแต่ขยะ ที่อยู่ในมือเรานั้น เราทิ้งให้ลงถังนั้นก็เป็นการทำความดีเพื่อสังคมแล้ว ความปะทับใจ เป็ น ภาพที่ เ ห็ น แล้ ว รู้ สึ ก ประทั บ ใจกั บ ลุ ง คนนี้ ม าก เพราะในทุ ก วั น ที่ ไ ป โรงเรียนเราก็จะเห็นคุณลุงคนนี้คอยเก็บกวาดดูแลสภาพแวดล้อมของโรงเรียน ลุ ง ดู แ ลรั ก ษาต้ น ไม้ ใ นโรงเรี ย นให้ ดู ดี อ ยู่ เ สมอ ในช่ ว งเย็ น หลั ง จากตอน โรงเรียนเลิกแล้วผมยังเห็นลุงถือไม้กวาดกวาดขยะตามสนามหญ้าอยู่เลย
รางวัลชมเชย พุทธิพงศ์ ทองนุ้ย ชื่อภาพ ค่ายชวนฝัน ความหมายของภาพ เป็นการรับบริจาคเพื่อข่วยเหลือคนที่ไม่ได้รับการศึกษา ความปะทับใจ เป็นการกระทำเพื่อสังคมอย่างแท้จริง เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 21
รางวัลชมเชย นายอนันต์ เกียรติกมลชัย ชื่อภาพ ร่วมใจผ้าขาวเฉลิมพระเกียรติ เพื่อพ่อหลวง ความหมายของภาพ วัยรุ่นร่วมใจกันทำประโยชน์ให้กับวัด สองมือน้อยเล็กๆ ร่วมพลังกันสร้างที่ยิ่งใหญ่ พลังกายและใจร่วมเป็นหนึ่ง เดียวเพื่อพ่อหลวงของเรา ความปะทับใจ วันในรอบปีที่ทุกคนรอคอย พวกเราจะมารวมตัวกันเพื่อ ทำประโยชน์อะไรสักอย่าง เพื่อพ่อหลวงของเรา นี้คือ เหล่าวัยรุ่นในผ้าขาว ที่ถือศีลของความดีเพื่อสังคมไทย
รางวัลชมเชย นายอานนท์ พรหมอ่อน ชื่อภาพ กวาดคลอง ความหมายของภาพ น้ำคือชีวิต ถ้าน้ำไม่ดีชีวิตก็ไม่ดีไปด้วย ทุกคนจึงควร รักษาแม่น้ำลำคลองเอาไว้ให้ดี ความปะทับใจ ถึงน้ำในคลองจะเหม็นแค่ไหน แต่เจ้าหน้าที่ก็เก็บขยะใน คลองได้อย่างไม่ย่อท้อต่อความเหม็น และสกปรกของ คลอง เราทุ ก คนสามารถช่ ว ยกั น รั ก ษาความสะอาดได้ มิใช่หน้าที่ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
22
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
รางวัลชมเชย ตะวัน ทองสรรค์ ชื่อภาพ คนละไม้ คนละมือ ความหมายของภาพ การที่ชาวบ้านไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก ความเหน็ด เหนื่อย ยอมเสี่ยงอันตราย เพื่อช่วยกันนำเอาเศษกระดาษ ออกจากน้ำ ความปะทับใจ ถึงแม้ขยะที่เกิดจากกระทง จะมีมากเพียงใดเด็กๆ และ ชาวบ้านก็ไม่เคยถอย ค่อยๆ ช่วยกันเก็บกระทงไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายกระทงก็จะหมดไปจากน้ำ
รางวัลชมเชย ณัฏติยา ขาวผ่อง ชื่อภาพ ระวังนะ! ปลอดภัยไว้ ความหมายของภาพ ในภาพมีองค์ประกอบของคุณลุงทำท่า โบกรถมอเตอร์ไซด์ของผู้ หญิง ที่กำลังจะข้ามถนน แต่เนื่องจากเป็นเวลาช่วงเลิกเรียนเลย ทำให้จราจรค่อนข้างติดขัด แต่คุณลุง รปภ. ก็เข้าแก้สถานะการณ์ ได้ดี แถมแสดงท่าทางมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือสังคม ความปะทับใจ ภาพมีสาระเนื้อหาอยู่ในภาพ บอกถึงการทำงานรับใช้สังคม ถึงมัน จะเป็นหน้าที่หรือไม่เป็นหน้าที่ แต่ถ้าเราทำมันด้วยความสุข และ ยังมีความกล้าหาญในหน้าที่ และทำหน้าที่รับผิดชอบได้ดี มีความ สุข เป็นต้นแบบของงานและคนดีของสังคม
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 23
รางวัลชมเชย ทิพวรรณ บุญแก้ว ชื่อภาพ ร่วมกันกวาด ความหมายของภาพ ช่วยกันทำความสะอาดเก็บกวาดเศษไม้ให้ดูสะอาด อีกทั้ง ยังเป็นการสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ และยังตอบแทน คุ ณ แผ่ น ดิ น ถวายเป็ น พระราชกุ ศ ลแด่ พ ระบาทสมเด็ จ พระเจ้าอยู่หัว ความปะทับใจ นั ก เรี ย นโรงเรี ย นบ้ า นต้ น ผึ้ ง ยอมสละเวลา เพื่ อ ร่ ว มกั น สร้างสรรค์ที่ดีงาม โดยไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก ความ เหน็ดเหนื่อย ด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกัน
รางวัลชมเชย อนันต์ เกียรติกมลชัย ชื่อภาพ ร่วมพลังสองมือจากผ้าขาว ขอทำประโยชน์เพื่อแม่ ความหมายของภาพ สองมื อ ของวั ย รุ่ น ทำประโยชน์ อ ะไรได้ ม ากกว่ า ที่ คิ ด ถึ ง หนทางจะไกลสักแค่ไหนเราจะทำประโยชน์เพื่อสังคมและ ประเทศชาติให้เจริญ ความปะทับใจ การได้มาทำประโยชน์เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ทำให้เราภูมิใจ ถึงแดดจะร้อนสักแค่ไหน เราทุกคนก็ยังมีใบหน้าที่เต็มไปด้วย รอยยิ้มแห่งความภูมิใจ 24
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
รางวัลชมเชย มนชัย ไชยมนตรี ชื่อภาพ อาสา ความหมายของภาพ การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเทศกิจ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของพนักงาน เทศกิจโดยตรง จึงเป็นการทำงานที่เสียสละให้สังคม อีกทั้งยังปลูก ฝังนิสัยการข้ามถนนที่ดี ให้แก่นักเรียนอีกด้วย ความปะทับใจ ได้ เ ห็ น การปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ที่ เ สี ย สละให้ สั ง คม อี ก ทั้ ง การได้ เ ห็ น วัฒนธรรมที่ดีของเด็กนักเรียน ที่มีการกล่าวขอบคุณพนักงานเทศกิจ เมื่อได้ข้ามถนนแล้ว เป็นการส่งเสริมคุณธรรมที่ดีให้แก่เยาวชน
รางวัลชมเชย ธนดิษ ศรียานงค์ ชื่อภาพ ป้องกัน ความหมายของภาพ ทหารรักและดูแลชาติจากหัวใจ แม่แดดร้อน ฝนตก เพียงใด ก็ทำหน้าที่อย่างไม่มีบกพร่อง ความปะทับใจ ขอขอบคุณทหารที่เป็นรั้วของชาติ ถ้าไม่มีทหาร ก็ไม่มีชาติอย่างทุกวันนี ้
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 25
รางวัลชมเชย ณัฐชา ฮกชุน ชื่อภาพ ช่วยกันทำ ความหมายของภาพ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ความสามัคคีในการทำงาน การปลูกสวนผักไม่ใช่เรื่องง่าย จึงปลูกจิตสำนึกในชาวนา ชาวไร่แก่นักเรียนเพื่อเรียนรู้วิธีการ ความปะทับใจ สิ่งที่เกิดความประทับใจแรกเห็นก็คือ ความสามัคคีเป็น หมู่คณะ แม้มือจะจับจอบรจับเสียมกันอยู่ แต่พวกเขาก็ ตั้งใจกันทำงานอย่างเต็มที่ บางคนก็เล่นหยอกล้อกันทั้งๆ ที่ยังทำงานกันอยู่ แม้จะดูไม่เหมาะสม แต่ก็ดูน่ารักแบบ เด็กๆ ไปอีกแบบ
รางวัลชมเชย ชลิต สภาภักดิ์ ชื่อภาพ สอนสากล ความหมายของภาพ ความรู้ที่กว้างขวาง มีค่ายิ่งต่อการดำรงชีวิตในทางโลก และทางธรรม ความปะทับใจ ความประทับใจที่ข้าพเจ้ามีต่อภาพนี้ เนื่องจากการที่เราได้ เห็นในสิ่งที่แปลกใหม่ การที่ฆราวาสมาสอนสามเณร ถือ เป็นสิ่งที่ไม่ได้เห็นบ่อยนัก ฆราวาสสอนผู้สืบทอดพุทธ ศาสนา ผู้สืบทอดพุทธศาสนาก็จะกลับมาสอนให้ฆราวาส 26
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
รางวัลชมเชย พงค์นธี ภูฆัง ชื่อภาพ คนเก็บขยะ ความหมายของภาพ เก็บขยะและสิ่งปฏิกูลในบึงเพื่อความสะอาด ความปะทับใจ หน้าของลุงเป็นหน้าที่ที่น้อยคนนักจะเห็นใจ และเหลียวมอง
รางวัลชมเชย กรรณิภา พึ่งพร ชื่อภาพ ช.ชาวนา อดทน ความหมายของภาพ ผู้ชายหาบกล้า เดินตามคันนา ความปะทับใจ กล้า 1 หาบ 2 ข้าง มีความหนักมาก แต่ผู้ชาย คนนี้มีความอดทนสูงมาก เดินตามคันนาตรงสู่ พื้นนาอย่างสบาย เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 27
ภ า พ เ ข้ า ร อ บ “ส่งบุญ” มนชัย ไชยมนตรี
“มากน้ำใจ” พรสวรรค์ รักอินทร์ 28
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
“กิจวัตร” ธนวิช คำโสภา
“ต้องแทนคุณแผ่นดิน” ธีรธัช โน๊ตศิริ
“แข็งและแรง” ธีรธัช โน๊ตศิริ
“จงรักภักดี” ธีรธัช โน๊ตศิริ เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 29
“เสียสละเพื่อปวงชน” ธีรธัช โน๊ตศิริ
“วินัยและมั่นคง” ธีรธัช โน๊ตศิริ
“สู้ขาดใจ” ประรัญญา ประภาสัย 30
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
“ป้องกัน” วรเชญฐ์ ลีลาเจริญพร
“ยามเฝ้าแผ่นดิน” วิชัย จันทรา
“แผ่นดินเกิด” ชนัดดา ศิวาทิกชาติ เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 31
“มัคคุเทศน์อาสาสมัคร” ปรีชา เจริญยศ
“ช่วยลงสีลายฉลุไม้” ปรีชา เจริญยศ “แกะตัวหนัง” อธิพัฒน์ ขวัญดี
32
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
“อุทิศด้วยชีวิต” ปรีชา เจริญยศ
“แรงศรัทธา” สุเมธา เพ็ชร์อำไพ เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 33
“TEAM WORK” แสงเดือน ดอกพวง
“นักดับเพลิง” ชวลิต กรรมสาธก
“เพื่อช่วยชีวิตคนแล้วผมสู้เต็มที่” แสงเดือน ดอกพวง 34
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
“มากกว่าคำว่า หน้าที่” ดุสิต สง่าอภิธาน
“จราจรโบกพร้อมใบสั่ง” อานนท์ พรหมอ่อน
“ทุ่มเท” พรสวรรค์ รักอินทร์
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 35
“หยุด” มนชัย ไชยมนตรี
“อบรมเยาวชน” ชลิต สภาภักดิ์
“เสี่ยง 2 ทาง” ชลิต สภาภักดิ์
36
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
“ร่วมแรงแข็งขัน” แสงเดือน ดอกพวง
“ภารกิจเพื่อบ้านเมือง” วิชัย จันทรา
“ต้องสะอาด” มนชัย ไชยมนตรี เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 37
“สะอาด” ศศิ เอาทารยกุล
“ผู้พิทักษ์ความสะอาด” นำชัย ชมภูสว่าง
38
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
“น้อยคนที่ทำ” ธีรธัช โน๊ตศิริ “ความคุ้มค่าจากสังคม” วีรชน เชื้อชั่ง
“ทำคนเดียวภูมิใจคนเดียว” วีรชน เชื้อชั่ง เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 39
“สันหลังของชาติ” ณัฐพร ใจเด็ด
“เม็ดข้าวสู่ต้นกล้า” กรรณิภา พึ่งพร
“อาชีพหลักของแผ่นดิน” ปรีชา เจริญยศ 40
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
“เรารักสวนหย่อม” เอื้อย ศรีเวียง
“นทีแห่งชีวิต” พัฒพงศ์ ร่มเย็น เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 41
“อนุรักษ์โกงกาง” ศรัณย์ เกาสุวรรณ์
“พ่อลูกปลูกโกงกาง” ศรัณย์ เกาสุวรรณ์
“ลูกน้ำเค็มกับรอยยิ้ม” พัฒพงศ์ ร่มเย็น 42
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
“คนดีที่ถูกลืม” กันตพงศ์ ขุนวิแจ้ง
“เด็กน้อยในหมู่บ้านอันเขียวขจี” พัฒพงศ์ ร่มเย็น
“รวมพลัง จิตอาสา พัฒนาฯ” สุชาติ แซ่ลี่ เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 43
“จัดเก็บ” ทิพวรรณ บุญแก้ว
“คนละไม้ คนละมือ” ทิพวรรณ บุญแก้ว
44
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
“คลองสวยน้ำใส” ทิพวรรณ บุญแก้ว
“สองแรงแข็งขัน” ทิพวรรณ บุญแก้ว
“งานประจำกับแสงยามเช้า” กมลวัชร แสงภู่
“โกยใบไม้” ณัฐชา ฮกชุน เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 45
“ทำดีให้เด็กดู” กฤช พิทักษ์คุมพล
“ด้วยแรงอุตสาหะ” ธนะชัย แก้วเสรัฐ
46
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
“กวาด” ธนวิช คำโสภา
“ทาสีเติมฝันเช้าวันใหม่” ชนะชัย แก้วเสรัฐ
“สนามเด็กเล่น IT อาสา” ชนะชัย แก้วเสรัฐ
“เติมแต่งสีเพื่อวันต่อไป” ชนะชัย แก้วเสรัฐ
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 47
“อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ถวายในหลวง” ธนพงศ์ สุขปัญญา
“หลักที่ไม่มั่นคง” ศุภมาส ใจพรมเมือง “คนรักษาความสะอาดสวนสาธารณะ” ปริญญา รัตถาภรณ์กุล 48
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
“น้ำใจ จากเรา” สุเมธา เพ็ชร์อำไพ
“อนาคตของชาติ และท้องถิ่น” ภาณุพงศ์ เตมีศักดิ์
“สุขภาพกาย สุขภาพใจ” ภาณุพงศ์ เตมีศักดิ์
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 49
“รวมใจ” พุทธิพงศ์ ทองนุ้ย
“เลือดไท เพื่อไทย” ธีระพงษ์ พลรักษ์
“เลือดของศศิวิมล” ธีระพงษ์ พลรักษ์
50
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง
“เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” โดย ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ผมขอขอบคุณมูลนิธิฯ ที่เชิญฯ มาพูด เรื่องที่เราจะพูดกันในวัน นี้เป็นเรื่องสำคัญมากเรื่องหนึ่ง ขอเรียนว่าผมได้พยายามพูดถึงข้อความ นี้มาเป็นเวลานานนับสิบปีทีเดียวให้แพร่หลายออกไปยังคนไทยให้มาก และกว้างขวางที่สุดเท่าที่จะทำได้ คนไทยจักได้สำนึกว่า เราทุกคน มี ห น้ า ที่ แ ละความรั บ ผิ ด ชอบที่ จ ะต้ อ งตอบแทนบุ ญ คุ ณ แผ่ น ดิ น ที่ เ รา อาศัยเกิดมาและเติบโตจนเป็นตัวเราอยู่จนถึงทุกวันนี้ขณะนี้ ด้วยความ สำนึกที่แน่วแน่ว่า เป็นหน้าที่และความรับผิดขอบที่ต้องทำ หลีกเลี่ยง ไม่ได้แต่รู้สึกว่า ที่ผมพูดมาหลายสิบปีไม่ติดตลาดเท่าที่ควร อาจจะเป็น เพราะว่าทำการเผยแพร่ไม่ดีพอ ไม่กว้างขวางพอจึงไม่ค่อยได้รับความ สนใจ อาจจะเป็นเพราะบางท่านคิดว่า ข้อความเป็นเรื่องที่ไม่ได้เรื่อง ก็ได้ ผมจึงดีใจที่ได้มีโอกาสพูดเรื่องนี้ที่นี่และจะพยามยามพูดให้ดี ที่สุด เพื่อจะได้เข้าใจความสำคัญของข้อความนี้ ขอเริ่มต้นว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ที่เรา กำลั ง ใช้ อ ยู่ ณ ปั จ จุ บั น นี้ หมวด 4 ว่ า ด้ ว ยหน้ า ที่ ข องชนชาวไทย บัญญัติหน้าที่ของคนไทยไว้ 5 มาตรา ตั้งแต่มาตรา 66 ถึง มาตรา 70 ใน 5 มาตรา ที่ผมกล่าวถึงนั้นไม่มีมาตราบัญญัติให้คนไทยมีหน้าที่
ต อ บ แ ท น บุ ญ คุ ณ แผ่ น ดิ น ฉะนั้ น ใคร ก็ ต ามถ้ า คิ ด ไม่ ต อบแทนบุ ญ คุ ณ แผ่ น ดิ น ก็ไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญแต่ประการใด อย่างไรก็ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 69 บัญญัติไว้ว่า บุคคลมีหน้าที่ป้องกันประเทศรับราชการทหาร เสีย ภาษีอากร ช่วยเหลือราชการ รับการศึกษาอบรม พิทักษ์ปกป้อง และ สืบสานศิลปวัฒนธรรมของชาติ และภูมิปัญญาท้องถิ่น และอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ตามที่กฎหมายบัญญัติ มักจะเห็นได้ว่า แม้ว่ารัฐธรรมนูญ มิได้บัญญัติไว้ แต่เรื่องการ ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ผมอยากใคร่ขอให้เราท่านทั้งหลายได้โปรด ไตร่ตรองดูว่าการตอบแทนบุญคุณต่อผู้หรือสิ่งที่มีบุญคุณต่อเรา เช่น พ่อแม่ ครู สถาบันและองค์กรต่างๆ เป็นวัฒนธรรมไทยที่เราพิทักษ์ และสืบสานกันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่า ตายาย จนถึงปัจจุบันและมีปรากฏอยู่ ในส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญ มาตรา 69 นับได้ว่าสำคัญมากทีเดียว สำหรับตัวผมเองนั้นยึดมั่นอยู่เสมอและตลอดเวลาว่า การตอบแทนบุญ คุณแผ่นดิน นั้นสำคัญและยิ่งใหญ่กว่าการตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่ ครู สถาบันและองค์กรต่างๆ ไม่อาจนำมาเปรียบเทียบกันได้ หลาย ท่านได้ทำสิ่งต่างๆ ให้แก่ชาติบ้านเมืองโดยไม่รู้ว่าสิ่งที่ท่าได้ทำไปนั้น เป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินที่น่าภูมิใจและน่าจดจำอย่างยิ่ง เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 51
ผมขอเชิญพวกเรามาทำความเข้าใจกันเสียก่อนว่า การตอบแทน บุญคุณแผ่นดินนั้น คือ การทำอย่างไร ผมขอนิยามว่า การตอบแทนบุญ คุณแผ่นดิน คือ การประพฤติ ปฏิบัติตนเป็นคนดี เป็นสถาบันที่ดีเป็น องค์กรที่ดี เป็นตัวอย่างที่ดี มุ่งกระทำแต่ความดีเพื่อประโยชน์ของแผ่น ดิน ถ้าคำนิยามนี้เป็นที่ยอมรับ เราก็จะเห็นได้ว่าคน ไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้ หญิง ผู้ชาย ทุกสาขาอาชีพ องค์กร ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลเอง หรือองค์กร ของรัฐ ของภาคเอกชน สถาบันของรัฐ ของภาคเอกชน ย่อมรวมอยู่ใน คำนิยามนี้ทั้งสิ้น ฉะนั้นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินจึงมีความหมายก ว้างขวาง ลึกซึ้ง ยิ่งใหญ่ไพศาล และครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง ที่คน หรือสถาบันองค์กรได้กระทำและยังประโยชน์ต่อแผ่นดิน หรือกล่าวอีก นัยหนึ่งก็คือเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ทำให้ชาติบ้านเมืองของเรา มีความเจริญ มีความกว้างหน้า มีความสงบสุข คนในชาติมีความรัก สามัคคี มีสุขภาพแข็งแรง มีการศึกษาที่ดีพอ ที่จะประกอบอาชีพได้ มี ความยั่งยืนและมีความไม่ดีน้อยมาก จะเห็นได้ว่าถ้าคนส่วนใหญ่ในชาติบ้านเมืองของเราเข้าใจการ ตอบแทนบุญคุณแผ่นดินและปฏิบัติตามที่เข้าใจ ชาติบ้านเมืองของเราก็ จะมีคนดีมาก คนไม่ดีน้อย ชาติบ้านเมืองก็จะมีความปกติสุขเรียบร้อย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลมหาราช ได้พระราชทานพระบรม ราโชวาท เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2512 ในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือก แห่งชาติครั้งที่ 5 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มี ความตอนหนึ่งว่า ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครทำให้ ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดี ได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความ เดือนร้อนวุ่นวายได้ โปรดสังเกตว่า ได้พระราชทานไว้เมื่อ 30 ปีมา แล้ ว แต่ ค นไม่ ดี ก็ ยั ง มี ใ ห้ เ ห็ น อยู่ เ ป็ น จำนวนมาก บางคน บางพวก ประกอบธุรกิจซึ่งเป็นอันตรายต่อความมั่นคงอย่างยิ่ง เช่น ผลิต และ ขายยาเสพติด เป็นต้น พวกเราบางคนอาจจะไม่เข้าใจถึงอันตรายใหญ่ หลวงของยาเสพติด ธุรกิจยาเสพติดเป็นอันตรายที่สุดต่อชาติบ้านเมือง ของเราไม่ใช่เพียงแต่ ผู้เสพตาย ผู้ขายติดคุก ถ้าพวกเราไม่สนใจเรื่องยา 52
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
เสพติด ไม่เข้าใจลึกซึ้งถ้าภยันตรายจากยาเสพติด ปล่อยปละละเลยไม่ ร่วมมือกันทำความเข้าใจกับคนในชาติไม่ร่วมมือกันให้ความรู้ ไม่ช่วย กั น ปกป้ อ งและปราบปรามอย่ า งจริ ง จั ง ชาติ ข องเราอาจล่มสลายได้ มันผู้ใดก็ตามที่ผลิต ค้า ขนส่ง เสพ หรือช่วยเหลือร่วมมือกับธุรกิจ
ยาเสพติด ต้องเรียกว่าเป็น ผู้ทรยศต่อชาติ ฉะนั้นขอให้เราท่านทั้งหลาย จงพร้อมใจกันสนองพระราชกระแส เพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน โดย พร้อมเพรียงกัน เป็นที่น่าสังเกตว่า การทำดี ทำไม่ดีในสังคมไทย มีผลหรือให้ ผลแตกต่างกันไปค่อนข้างจะไม่เหมือนใคร สังคมของเรามักจะยกย่อง เคารพนับถือคนมีเงิน คนมีอำนาจ โดยไม่สนใจว่าภูมิหลังมีอย่างไร ประกอบอาชีพสุจริตหรือผิดกฎหมาย เสียภาษีถูกต้องหรือหลบเลี่ยง เป็นเจ้าพ่อ เจ้าแม่หรือไม่ ส่วนคนธรรมดาๆ ไม่มีอำนาจ มีเงินไม่มาก หรือเป็นคนจน เป็นคนบ้านนอก จะประพฤติปฏิบัติตนดีอย่างไร ทำ ประโยชน์ให้แก่สังคมมากกว่าแค่ไหนสังคมก็ไม่เอ่ยถึง ไม่ยกย่องไม่ กราบไหว้ หากสังคมเรายังยึดถืออย่างนี้ สังคมของเราจะบิดเบี้ยว การ บังคับใช้กฎหมายก็จะหย่อนยาน และจะมีผลกระทบให้ระเบียบของ สังคมเพี้ยนแปรไป จึงใคร่ขอเชิญชวนให้พวกเราทั้งหลาย ช่วยกันคิดว่าเราควรจะ ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน โดยการยกย่องคนดี แทนการยกย่องคนมีเงิน มีอำนาจแต่ไม่ดีกันแล้วหรือยัง เลิกกราบไหว้ คบค้าสมาคมกับคนไม่ดี โดยไม่เกรงกลัวอิทธิพล ไม่หวั่นต่ออันตราย สังคมควรจะพร้อมใจ กันลงโทษคนจำพวกนี้ และยกย่องส่งเสริมคนดีให้มีกำลังใจ ให้เป็น ตัวอย่างแก่ลูกหลานของเราต่อไป มีอีกประเด็นหนึ่งครับที่น่าสนใจมีคนพูดกันมากว่า บ้านเมือง ของเราอับจนคนเก่ง หมายความว่า มีคนเก่งน้อย บ้านเมืองของเราจึง พัฒนาช้า ผมไม่มีข้อโต้แย้งหรือสนับสนุน เพราะผมไม่มีข้อพิสูจน์ เมื่อ ผมได้รับเชิญให้ไปพูดที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2542 ผมพูดว่าการอับจนคนเก่ง ไม่น่าวิตกเท่ากับ การ อับจนคนกล้า ผมคิดว่า ปัจจุบันนี้บ้านเมืองของเราต้องการคนกล้า กล้า ที่จะไม่นับถือ กล้าที่จะตำหนิคนไม่ดี หน่วยงานไม่ดี ผู้บริหารระดับสูง
ไม่ดี บางทีสักวันหนึ่งเราอาจจะโชคดี ทำให้เขาเหล่านั้น องค์กรเหล่า นั้ น สำนึ ก บาป แล้ ว หั น กลั บ มาประกอบคุ ณ งามความดี ใ ห้ แ ก่ ช าติ บ้านเมือง การทำตน การบริ ห ารองค์ ใ ห้ ประหยั ด เรี ย บง่ า ย ซึ่ ง ตรง กันข้ามกับ สุรุ่ยสุร่าย ฟุ้งเฟ้อ ยุ่งยาก ก็เป็นส่วนสำคัญให้เกิดความ สำนึกที่ดีในการปฏิบัติตน การบริหารองค์กร และจะยังประโยชน์ต่อ ตนเองและต่อองค์กรที่เราบริหารนั้นมาก การดำรงชีวิตโดยประหยัด เรียบง่าย เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต ที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนไว้ และเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับคนไทย เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะนำมาใช้กับ ประเทศของเรา เราเรียกประเทศของเราว่า เป็นประเทศกำลังพัฒนาแต่ ถ้าจะมองกันอย่างจริงจัง เราควรจะยอมรับว่า เรากำลังพัฒนาทางวัตถุ มากกว่าการพัฒนาการดำรงชีวิตแบบไทย เพราะฉะนั้น เรามาพร้อมใจ กัน ตอบแทนบุญคุณแผ่นดินโดยร่วมมือกัน ร่วมใจกันพัฒนาประเทศ ของเราให้พร้อมกันทั้งสองอย่าง พวกเราทั้งหลายที่อยู่ที่นี่ หรือที่อื่นก็ตาม อาจจะพอนึกและพอ จะจำได้ว่า ผมให้ความสนใจชนบทมาก เพราะคนในชนบท เป็นคน ยากจน มีความเป็นอยู่ต่ำกว่าความจำเป็นพื้นฐานเป็นส่วนใหญ่ โดย เฉพาะการศึกษาการอาชีพ และสุขภาพอนามัย ปัญหาความยากจน จึง เป็นปัญหาใหญ่ที่สุด ยากที่สุด และจำเป็นเร่งด่วนที่สุด ผมเชื่อมั่นเสมอ ว่า ถ้าเราแก้ปัญหาความยากจนได้ เราจะแก้ปัญหาอื่นได้ทั้งหมด ผมได้ พยามยามอย่างเต็มความสามารถทุกวิถีทาง เพื่อแก้ปัญหานี้ ตั้งแต่ผม เป็นแม่ทัพอยู่ภาคอีสาน จนกระทั่งผมเป็นนายกรัฐมนตรี บางท่านอาจ จะยั ง คงจำได้ ว่ า เมื่ อ วั น ที่ 5 สิ ง หาคม 2531 หลั ง จากที่ ผ มปฏิ เ สธ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผมได้ปราศรัยกับพี่น้องประชาชน มีข้อความ ตอนหนึ่งว่า สิ่งหนึ่งที่ผมยังทำไม่สำเร็จ คือ การแก้ปัญหาความยากจน และขอร้องให้รัฐบาลช่วยทำต่อไป การแก้ไขปัญหาสำคัญยิ่งของชาติ คื อ ความยากจนนี้ ต้ อ งอาศั ย ผู้ ที่ รู้ สึ ก ซึ้ ง มุ่ ง มั่ น อย่ า งเต็ ม ที่ ใ นการ ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ผมเรียนพวกท่านว่าผมทำไม่สำเร็จ แต่ไม่ได้ หมายความว่าผมยอมแพ้ถึงแม้ว่าขณะนี้ผมไม่ได้อยู่ในฐานะมีความรับ ผิดชอบโดยตรง เหมือนขณะที่ผมอยู่ในทำเนียบ แต่โดยที่ผมเป็นคน
ไทยและความห่วงใยต่อชีวิตของคนในชมบทของผมมิได้ลดลงเลย ผม จึงยังคงทำทุกอย่างเท่าที่ผมสามารถทำได้อยู่ตลอดเวลาทั้งๆ ที่มีข้อจำกัด หลายอย่ า งเพื่ อ ตอบแทนบุ ญ คุ ณ แผ่ น ดิ น นี้ แ ละผมให้ สั ญ ญาว่ า จะทำ ต่อไปไม่มีวันยอมแพ้ พวกเราทั้ ง หลายเคยได้ ยิ น และได้ เ ห็ น ด้ ว ยตาของตนเองเรื่ อ ง โครงการ ป่ารักน้ำ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้ทรงทำ เพื่อรักษาป่าต้นน้ำลำธารควบคู่กันไปกับโครงการน้ำต่างๆ ที่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงทำ ทั้งสองพระองค์ทรงรับสั่งอยู่เสมอถึง ความสำคัญของป่าและน้ำ อันมีผลผูกพันไปถึงสภาพสิ่งแวดล้อมชีวิต สั ต ว์ ป่ า และภั ย ธรรมชาติ เราท่ า นต่ า งก็ ไ ด้ เ ห็ น ความยากลำบากที่ ประชาชนได้รับจากความแห้งแล้งของธรรมชาติและความผิดปกติของ ฟ้าฝน อันเกิดจากการบุกรุกทำลายป่าไม่พิทักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยตนเอง มาแล้วทั้งสิ้น วิธีแก้ไขสิ่งไม่ดีเหล่านี้ให้หยุดและให้ได้รับการฟื้นฟูให้ กลับสู่สภาพเดิม คือ ทุกคนต้องช่วยกันตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน โดย หยุ ด การกระทำทุ ก อย่ า งที่ เ ป็ น การทำลายและทำร้ า ยธรรมชาติ แ ละ สัตว์ป่า เพื่อให้ความสมดุลของธรรมชาติคงดำรงอยู่ และยังประโยชน์ ต่อมวลมนุษย์และสัตว์สืบไป เมื่อผมยังอยู่ในทำเนียบ เวลาผมไปเยี่ยมชาวบ้านตามบ้านนอก เจ้าหน้าที่ของทางราชการก็จะมาดูแลให้ความสะดวก และจะนำสมุด เซ็นเยี่ยมมาให้ผมเขียน ผมจะเขียนข้อความคล้ายๆ กันหมด ดังนี้ ผม จะเขียนว่า ข้าราชการมีหน้าที่ให้ ไม่มีหน้าที่รับ จะรับได้อย่างเดียว เท่านั้น คือ รับความทุกข์ของราษฎรมาพิจารณาช่วยเหลือ ผมติดตาม ผล และพบว่ า มี ผู้ ป ฏิ บั ติ ต ามน้ อ ยมาก อาจจะเป็ น เพราะยากต่ อ การ ปฏิบัติ หรือไม่อยากปฏิบัติหรือทั้งสองอย่าง หรือไม่ค่อยเข้าใจ การ ตอบแทนบุญคุณแผ่นดินก็อาจเป็นได เมื่อผมออกจากทำเนียบแล้ว ผมและเพื่อนๆ หลายคน ที่มีความ คิดเห็นร่วมกัน ได้จัดตั้งมูลนิธิฯขึ้นมูลนิธิฯหนึ่ง มูลนิธิฯนี้มีคำขวัญว่า ซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ และจงรักภักดี เราพร้อมใจกันสร้างคำขวัญนี้ ขึ้นมา เพราะพิจารณาเห็นว่า ถ้าคนไทยเข้าใจถ่องแท้ถึงความหมายแห่ง คำทั้งสี่นี้แล้ว และนำไปประพฤติปฏิบัติเป็นนิจศีลจนเป็นนิสัย เขาจะ เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 53
เป็ น คนดี เ ป็ น คนมี ป ระโยชน์ ต่ อ แผ่ น ดิ น มู ล นิ ธิ ฯ เน้ น ที่ จ ะช่ ว ยเหลื อ สนับสนุนคนไทยทั้งมวล ไม่ว่าคนมีเงิน คนจน คนกรุง คนชนบท ที่ ประพฤติปฏิบัติครบถ้วนตามคำขวัญ เพื่อชาติบ้านเมืองของเราจะได้มี คนดีเพิ่มมากขึ้นทุกที ท่านผู้มีเกียรติครับ เราพูดถึงเรื่องการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินมาหลายแง่หลายมุม แล้วอย่างไรก็ตาม เราไม่มีเวลามากพอที่จะลงลึกไปในรายละเอียดว่า ใคร สถาบัน องค์กรใด ควรจะทำอะไร อย่างไร เพื่อตอบแทนบุญคุณ แผ่นดิน ผมจึงใคร่ยกเฉพาะส่วนที่สำคัญบางส่วนมาเรียนให้ท่านทั้ง หลายทราบดังต่อไปนี้หวังว่าทุกคนยังคงจำได้ พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว ฯ เคยพระราชทานพระบรม ราโชวาท เรื่องรู้รักสามัคคี หมายความว่า ทรงเตือนคนไทยทั้งปวงให้มี ความสมานฉันท์ไม่แตกแยก พวกเราทั้งหลายคงเข้าใจถึงประโยชน์แห่ง ความสามัคคีด้วยกันทุกคน ตราบใดที่เรารู้รักสามัคคีตราบนั้น ชาติบ้าน เมืองก็จะสงบสุข การสร้างความสามัคคีในชาติ กระทำได้โดยการ ยึดถือเอาประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง ไม่แบ่งฝ่าย ไม่เห็นประโยชน์ ตนเอง ไม่เห็นแก่ประโยชน์ของพรรคพวก เหนือกว่าประโยชน์ของ ส่วนร่วม การดำรงความสามัคคีในชาติจึงเป็นการตอบแทนบุญคุณ
แผ่นดินที่ยิ่งใหญ่มากทุกคนพึงร่วมมือกัน โดยด้วยความสำนึก โดย ตลอดเวลา ผมคิ ด ว่ า พวกเราส่ ว นมาก คงจะได้ ยิ น และสนใจ คำภาษา อังกฤษคำหนึ่ง คือคำว่า GOOD GOVERNANCE มีผู้พยายามแปลคำ นี้เป็นภาษาไทยหลายอย่างแตกต่างกันไป แต่ยังไม่เป็นที่นิยม ยอมรับ กัน ผมขอแปลคำนี้ง่ายๆ ว่า การปกครองที่ดี คำนี้เกิดขึ้นในหลาย ประเทศ เพราะประชาชนต้องการรัฐบาลที่มีการปกครองที่ดีไม่จำเป็น จะต้ อ งอธิ บ ายว่ า การปกครองที่ ดี คื อ อะไร รั ฐ บาลที่ ดี ที่ ป ระชาชน ต้องการคืออย่างไร แต่พอจะกล่าวสั้นๆ ได้ว่า รัฐบาลที่ดีจะใช้การ ปกครองที่ดี เพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน เพื่อให้เกิดความสงบสุขใน แผ่ น ดิ น ที่ จ ริ ง การนำการปกครองที่ ดี ไ ปใช้ นั้ น มิ ไ ด้ จ ำกั ด อยู่ เ ฉพาะ 54
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
รัฐบาลเท่านั้น แต่องค์กรอื่นไม่ว่าเล็ก ไม่ว่าใหญ่ ย่อมจำเป็นจะต้องมี การปกครองที่ ดี ด้ ว ยกั น ทั้ ง สิ้ น เพื่ อ จะได้ บ ริ ห ารองค์ ก รอย่ า งมี ประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จ ผู้บริหารระดับสูงของประเทศ ไม่ว่านักการเมือง ข้าราชการ ประจำทุกฝ่าย พนังงานรัฐวิสาหกิจ ล้วนแต่เป็นกุญแจสำคัญในการ บริหารและพัฒนาชาติบ้านเมือง ท่านเหล่านั้นจำต้องเข้าใจการตอบแทน บุญคุณแผ่นดินประพฤติปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดียิ่ง ในการตอบแทน บุญคุณแผ่นดิน เพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองและประชาชน ในทาง ตรงกันข้าม หากผู้บริหารระดับสูง รู้จักการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน น้ อ ย กระทำในสิ่ ง ที่ ไ ม่ ดี อ ยู่ เ สมอจะเป็ น ผลกระทบกั บ บ้ า นเมื อ ง เศรษฐกิ จ สั ง คมและความมั่ น คงของชาติ ที่ จ ะลดน้ อ ยถอยลงตาม ไปด้วย อันจะทำไปสู่ความไม่เป็นธรรม และการบั่นทอนพลังของชาติ ในที่สุด ปัจจุบันนี้ก็พอดีตัวอย่างให้เห็นกันอยู่ ผู้บริหารระดับสูงของภาคเอกชน ก็ต้องเข้าใจการตอบแทนบุญ คุณแผ่นดินเช่นเดียวกัน การดำเนินธุรกิจจึงจะมีประสิทธิภาพและเป็น ประโยชน์ต่อส่วนรวม ผู้บริหารภาคเอกชนควรจะตอบแทนบุญคุณแผ่น ดินด้วยการไม่เอาเปรียบผู้บริโภค แข่งขันกันอย่างเสรีและฉันมิตร ไม่ ติดสินบนข้าราชการ และไม่หวั่นเกรงอิทธิพล กล้าหาญที่จะปฏิเสธ คำขอ ที่จะนำไปสู่การทำลายระบบต่างๆ ของสังคม เศรษฐกิจ และ การเมือง อนึ่งผมใคร่ขอร้องนักธุรกิจที่รำรวย มีฐานะดีมากๆ ได้โปรด เข้ า ใจและเห็ น ใจความยากลำบากของคนจน ควรจะยอมรั บ กั น ว่ า คนจน คือผู้บริโภครายใหญ่ คนจน คือ ส่วนแบ่งตลาดที่ใหญ่ที่สุด จึง กล่ า วได้ ว่ า ยิ่ ง ทำให้ ค นจนหายจนมากเท่ า ใด นั ก ธุ ร กิ จ ก็ จ ะได้ รั บ ประโยชน์มากเท่านั้น ฉะนั้น การดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรมจึงเป็นสิ่ง ที่ทั้งผู้ผลิต และผู้บริโภคได้รับความเสมอภาคทั่วกัน คนไม่ดีประกอบอาชีพไม่สุจริต ทำธุรกิจผิดกฎหมาย ใช้อำนาจ หน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนตน ถ้าเขาเหล่านั้นสำนึกได้และเลิกเสีย แล้ว หันมาประกอบอาชีพสุจริต ก็จะเป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินที่น่า สรรเสริญยิ่ง
การดำรงพิ ทั ก ษ์ แ ละสื บ สานวั ฒ นธรรมของชาติ ข องท้ อ งถิ่ น ภูมิปัญญาชาวบ้าน ก็นับเป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่ ที่ จริงในรัฐธรรมนูญที่ผมอ้างถึงได้บัญญัติให้เรื่องเหล่านี้เป็นหน้าที่ของ คนไทย แต่ผมมีความเห็นว่าการกระทำด้วยความสำนึก เพื่อตอบแทน บุญคุณแผ่นดินจะทำให้เรามีความภาคภูมิใจในการเกิดมาเป็นคนไทย มากกว่ามาก คำว่า บุญคุณ เป็นภาษาไทย ผมเข้าใจว่าแปลเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ได้อาจจะเป็นเพราะว่า ฝรั่งเขาถือว่า การทำอะไรให้แก่กันไม่ถือเป็น บุญคุณอย่างไรก็ตามขอยกตัวอย่างที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งเมื่อ JOHN F. KENNEDY ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาได้กล่าวปราศรัย ต่อประชาชนชาวอเมริกันว่า ASK NOT WHAT YOUR COUNTRY CAN DO FOR YOU, ASK WHAT YOU CAN DO FOR YOUR COUNTRY แปลเป็นไทยว่า อย่าถามว่าประเทศจะทำอะไรให้แก่ท่าน ได้จงถามว่าท่านจะทำอะไรให้แก่ประเทศได้บ้าง เป็ น สุ น ทรพจน์ ที่ ไพเราะจับใจ สั้น แต่มีความหมายลึกซึ้ง กว้างไกล ทำให้ผมรู้สึกว่าคน อเมริ กั น เขาเข้ า ใจและรู้ จั ก ตอบแทนบุ ญ คุ ณ แผ่ น ดิ น เหมื อ นกั น มี ประโยคภาษาอังกฤษอีกประโยคหนึ่ง ผมขอยกมาให้ฟังเพื่อประเทือง ปัญญา โดยมิได้มีเจตนาจะตำหนิ ฝรั่งเขาพูดว่า A STATESMAN THINKS HE BELONGS TO THE NATION, BUT A POLITICIAN THINKS THE NATION BELONGS TO HIM ประโยคนี้ขอเว้นไม่แปล ผู้มีเกียรติครับ ผมมั่นใจว่าคนไทยทุกคนเข้าใจคำว่าบุญคุณ และประสงค์จะ ตอบแทนบุญคุณแผ่นดินด้วยกันทุกคน แต่ทำในระดับต่างกัน ขนาด ต่างกัน ด้วยความแน่วแน่ต่างกัน ฉะนั้นบางคนก็เป็นคนดีมาก บางคนก็ เป็ น คนดี น้ อ ย บางคนก็ เ ป็ น คนไม่ ดี เรื่ อ งของการทำความดี เพื่ อ ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน มีคำที่พวกเราทั้งหลายน่าจะให้ความสนใจอยู่ 2 คำ คำว่า แรงจูงใจ กับ แรงบันดาลใจ อธิบายสั้นๆ ได้ดังนี้ แรงจูงใจ
คือ การให้สิ่งล่อใจ เพื่อให้เกิดสนใจที่จะกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด เช่น การลดหรืองดภาษีอากรนำเข้า ส่งออกของผลิตภัณฑ์ เช่นที่ขณะนี้ คณะกรรมการส่ ง เสริ ม การลงทุ น กำลั งปฏิ บั ติอ ยู่ เพื่อจูงใจให้คนมา ลงทุน เป็นต้น แต่แรงบันดาลใจคือสิ่งที่เกิดขึ้นในใจของเรา ด้วยความ สำนึกของเราเองหรือเห็นการปฏิบัติที่เป็นตัวอย่างที่ดีของผู้อื่นแล้วเกิด ความประทับใจ เกิดความปรารถนาอย่างแรงกล้า ที่จะทำตามโดยไม่ ต้องมีสิ่งล่อใจ สิ่งจูงใจ ถ้าเราท่านทั้งหลายท่านผู้ใดยังไม่มีแรงบันดาล ใจหรือมีแต่น้อย ผมขอเชิญชวนให้ดูตัวอย่างจากพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่ หั ว ฯ และสมเด็ จ พระนางเจ้ า พระบรมราชิ นี น าถล้ น เกล้ า ล้ น กระหม่อมทั้งสองพระองค์ ทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์ทรงคิด ทรงแนะนำ ทรงทำทุกอย่าง เพื่อปลดเปลื้องความทุกข์ และยกระดับ ความอยู่ดีกินดีของราษฎร เป็นเวลาต่อเนื่องกันมามากกว่า 50 ปีแล้ว โดยไม่เคยทรงบ่นว่าเหน็ดเหนื่อย ลำบาก ข้อความ ตอบแทนบุญคุณ แผ่ น ดิ น ผมคิ ด ขึ้ น ได้ ก็ เ พราะได้ รั บ แรงบั น ดาลใจจากล้ น เกล้ า ล้ น กระหม่อมทั้งสองพระองค์ ผมจึงไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ไม่รู้สึกว่ายาก ลำบากในการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินแม้แต่น้อยจึงใคร่ขอเชิญชวน พวกเราได้ช่วยกันทำ ประพฤติ ปฏิบัติเป็นตัวอย่าง อย่างเต็มกำลังและ สม่ำเสมอ ผมขอตั้งความหวังไว้ว่า คนไทยจะเข้าใจเรื่องการตอบแทน บุญคุณแผ่นดินสนใจและทำตาม โปรดเชื่อผมเถอะครับ ถ้าเราตอบแทนบุญคุณแผ่นดินได้มาก ที่สุดบ้านเมืองที่รักของเรา ก็จะมีแต่ความสงบสุข ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ สรุปได้ว่า การตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
คื อ การประพฤติ ค นเป็ น คนดี เป็ น ตั ว อย่ า งที่ ดี มุ่ ง กระทำแต่ ค วามดี
เพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน ขอจบแค่นี้ หวั ง ว่ า พวกเราทุ ก คน คนไทยทุ ก คน จะพร้ อ มเพรี ย งกั น ตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน ขอบคุณ
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 55
รายชื่อผู้ส่งภาพเข้าร่วมประกวด “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” 1. น.ส.ภานุมาศ บุตรกันหา 2. นายนำชัย ชมภูสว่าง 3. นายภาณุพงศ์ เตมีศักดิ์ 4. นายยกฤตัน คลอวุฒิ 5. นายธนพงศ์ สุขปัญญา 6. นางสาวประรัญญา ประภาลัย 7. นางสาวจันจิรา จันต๊ะนวน 8. นางสาวพรสวรรค์ รักอินทร์ 9. ด.ช.ศรัณย์ เถาสุวรรณ์ 10. นายณัฐพล อินทราราม 11. นางสาวสรัญญา แก้วนิรันดร์ลาพร 12. นายอานนท์ พรหมอ่อน 13. นายสุเมธา เพ็ชร์อำไพ 14. นายดุสิต สง่าอภิธาน 15. นายอนันต์ เกียรติกมลชัย 16. นางสาวศุภมาส ใจพรมเมือง 17. นางสาวณัฐวีณา เมธีธารา 18. นางสาวณัฐพร ใจเด็ด 19. นางสาวชนัดดา ศิวาทิกชาติ 20. น.ส.ทิพย์วิมล อุ่นทรัพย์วิบูลย์ 21. ด.ญ.เอื้อย ศรีเวียง 22. ด.ญ.อติกานต์ รอดนุช 23. นางสาวอาธิพัฒน์ ขวัญดี 24. นายสุชาติ แซ่ลี่ 25. นางสาวณัฐชา ฮกชุน
56
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
26. ด.ญ.บุญชนก ฉายชูวงษ์ 27. นายพัฒพงศ์ ร่มเย็น 28. นางสาวทิพวรรณ บุญแก้ว 29. นางสาวกรรณิกา พึ่งพร 30. นายนาวิน บุญญา 31. นางสาวภัคจิรา เพ็งสอาด 32. นายธนะชัย แก้วเสรัฐ 33. นายพิชาสานต์ บุญลวง 34. นางสาวจุฑาทิพย์ พิลานนท์ 35. นายศศิ เอาทรยกุล 36. นางสาวพรสิกาญจน์ สวาปการ 37. นายตะวัน ทองสรรค์ 38. นายกันตพงศ์ ขุนวิแจ้ง 39. นายลองเฉลิม รุ่งเรือง 40. นางสาวมณีนุช คงสิน 41. นายธีระพงษ์ พลรักษ์ 42. นายอันดิษ ศรียานงค์ 43. นายวรเชษฐ์ ลีลาเจริญพร 44. นายปรีชา เจริญยศ 45. นายชลิต สภาภักดิ์ 46. นายกมลวัชร แสงภู่ 47. นายทรงพล โอทึ่ง 48. นายนภรณ กาญจนสมวงศ์ 49. นางสาวแสงเดือน ดอกพวง
50. นายวิชัย จันทรา 51. นางสาวปิยาพร หิรัญวงศ์ 52. นางสาวปริญญา รัตถาภรณ์กุล 53. นายสมพจน์ เกลี้ยงเกตุ 54. นายพุทธิพงศ์ ทองนุ้ย 55. นางสาวมัณฑกาญจน์ ศรสังข์ทอง 56. นายพงศ์ณธี ภูฆัง 57. นายกฤช พิทักษ์คุมพล 58. นายชวลิต กรรมสาธก 59. นางสาวณัฎติยา ขาวผ่อง 60. นายมนชัย ไชยมนตร์ 61. ด.ช.ธนวิช คำโสภา 62. นายธีรรัช โน้ตศิริ 63. นายจรัสพล สินถาวร 64. นายเกรียงศักดิ์ สุวรรณกุลโชติ 65. นายนพรัตน์ ชลอแสง 66. นายชินวัตร ใจฉลาด 67. นายจุฑา ขจรวิภาส 68. นายชนินท์ เจิดสุวิกุล 69. นายวีรชน เชื้อชั่ง 70. นายปิยะเทพ พิพัฒฐาดร 71. นายโสภณ พุทธพงษ์ 72. นายอิสระพงษ์ วิจิตรเจือ 73. นายชาญยุทธ ไกรศรีสมบัติ