เรื่องร้องเรียนvธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น

Page 1

สรุปผลการประชุม คณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ ๔๘ วันพุธที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ หมายเลข ๓๖๐๑ ชั้น ๖ อาคารรัฐสภา ๓ --------------------เรื่องพิจารณา เรื่องร้องเรียน เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กรณีการใช้อํานาจที่ขาดธรรมาภิบาลและละเมิดต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ประเด็นการพิจารณา ๑. ข้อมูล ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการร้องเรียนของนายกิตติบดี ใยพูล เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบของอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กรณีการใช้อํานาจที่ขาดธรรมาภิบาลและละเมิดต่อศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในประเด็นการสรรหาคณบดีคณะนิติศาสตร์ การตัดโอนย้าย ผู้ร้องเรียนไปสังกัดหน่วยงานอื่น การห้ามกลุ่มผู้ร้องเรียนเข้าบริเวณพื้นที่คณะนิติศาสตร์ และประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ๒. ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว สรุปมติ/ผลการประชุม บุคคลและหน่วยงานต่าง ๆ ได้ชี้แจงและตอบข้อซักถาม โดยสรุปดังนี้ นายกิตติบดี ใยพูล ผู้ร้องเรียน ได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการคณบดี นับตั้งแต่ก่อตั้งคณะนิติศาสตร์ จนถึงวาระการสรรหา อธิการบดีคณะนิ ติศาสตร์ เมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๕๓ กรรมการสรรหาคณบดี คณะนิ ติศาสตร์ ได้เสนอชื่ อ ให้เป็นผู้สมควรได้รับการพิจารณาแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งคณบดีคณะนิติศาสตร์ แต่ปรากฏว่ามีผู้สมัครเข้ารับ การสรรหาเป็นคณบดีได้ร้องเรียนต่อมหาวิทยาลัย โดยกล่าวหาว่าเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและ ได้ ยื่นฟ้ องเป็ นคดี อาญาต่อศาลจั งหวัดขอนแก่น สภามหาวิ ทยาลัยจึงมีมติใ ห้แ ต่งตั้ง เป็ นรักษาการคณบดี คณะนิ ติ ศ าสตร์ ภายหลั ง เมื่ อ ครบ ๖ เดื อ น กรรมการสรรหาฯ ได้ เ สนอต่ อ ที่ ป ระชุ ม สภามหาวิ ท ยาลั ย ว่ า คณะกรรมการไม่สามารถประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้รักษาการคณบดีคณะนิติศาสตร์ได้ เนื่องจากข้อมูล ที่ได้รับเพื่อประกอบการพิจารณาประเมินผลมีไม่เพียงพอ ขาดความชัดเจน สภามหาวิทยาลัยจึงได้แต่งตั้ง รองศาสตราจารย์รังสรรค์ เนียมสนิท รองอธิการบดีฝ่ายแผนและพัฒนาบุคลากร เป็นผู้รักษาการคณบดี คณะนิติศาสตร์ ตนจึงเห็นว่ากระบวนการขั้นตอนในการออกคําสั่งและมติที่ประชุมที่มีผลให้ผู้ร้องเรียน ไม่ได้รับ การแต่งตั้งเป็นคณบดีคณะนิติศาสตร์ เป็นการกระทําที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือไม่ถูกต้องตามรูปแบบ ขั้นตอนหรือวิธีการอันเป็นสาระสําคัญ และไม่สุจริตมีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม เป็นการใช้ อํานาจที่ขาดธรรมาภิบาลและละเมิดต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น


-๒-

อธิ ก ารบดี ม หาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น ได้ มี ป ระกาศคํ า สั่ ง ต่ า ง ๆ ที่ เ กี่ ย วข้ อ ง โดยสรุ ป ว่ า การตัดโอนย้ายบุคลากรไปสังกัดหน่วยงานอื่น และหรือย้ายไปปฏิบัติงานประจําหน่วยงานอื่นโดยมีคําสั่งห้าม เข้าพื้นที่บริเวณคณะนิติศาสตร์ ดังนั้น จึงได้ดําเนินการเข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อให้ตรวจสอบการใช้อํานาจที่ขาดธรรมาภิบาลและละเมิดต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งคณะกรรมการสิทธิฯ ได้รายงานผลการตรวจสอบ สรุปว่า สถาบันการศึกษาระดับสูงต้องเป็นต้นแบบวัฒนธรรมประชาธิปไตย และ การใช้อํานาจตัดโอนของอธิการบดีเป็นการใช้อํานาจโดยไม่เป็นธรรม และตนได้ยื่นฟ้องศาลจังหวัดขอนแก่น ในความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ราชการซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างไต่สวนมูลฟ้อง รองศาสตราจารย์กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายหลังเมื่อผู้ร้องเรียนพ้นจากตําแหน่งรักษาการคณบดีคณะนิติศาสตร์ สภามหาวิทยาลัย มีมติให้คณะกรรมการตรวจสอบประจํามหาวิทยาลัยเป็นผู้ตรวจสอบการปฏิบัติงานภายในคณะนิติศาสตร์และ เสนอให้สภามหาวิทยาลัยทราบ สรุปได้ว่า มีประเด็นปัญหาอยู่หลายประการ ซึ่งสภามหาวิทยาลัยมีข้อคิดเห็น ให้ปรับปรุงแก้ไข และให้ตรวจสอบการบริหารจัดการให้เป็นไปตามระเบียบ รวมทั้งดําเนินการตั้งกรรมการ สอบสวนทางวินยั กับบุคลากรที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมตัวผู้ร้องเรียนด้วย ปัจจุบันคณะกรรมการสอบสวนได้ดําเนินการ เสร็ จ สิ้ น แล้ ว และได้ เ สนอรายงานผลการสอบสวนเข้ า ที่ ป ระชุ ม คณะกรรมการบริ ห ารงานบุ ค คลประจํ า มหาวิทยาลั ย และที่ประชุม มีมติ เห็ นชอบตามรายงานการสอบสวน โดยเห็ นว่าการกระทํ าของผู้ร้องเรียน เป็น การกระทํ าความผิ ด ฐานไม่ปฏิ บัติ ตามกฎหมาย ระเบีย บ และแบบแผนของทางราชการ อัน เป็ น เหตุ ให้เกิ ดความเสี ยหายแก่ทางราชการ จึ งมีม ติใ ห้ลงโทษทางวิ นัยโดยลดขั้นเงิ นเดือนร้อ ยละ ๕ หลังจากนั้น ผู้ร้องเรียน ได้อุทธรณ์คําสั่งลงโทษทางวินัยต่อประธานคณะกรรมการอุทธรณ์ร้องทุกข์และพิทักษ์ระบบคุณธรรม ประจํามหาวิทยาลัยซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณา กรณีที่ผู้ร้องเรียนได้ร้องเรียนว่ามีการติดประกาศภาพถ่ายของผู้ร้องเรียนนั้น มหาวิทยาลัย จึ ง ได้ แ ต่ ง ตั้ ง คณะกรรมการสอบหาข้ อ เท็ จ จริ ง กรณี ดั ง กล่ า ว และขณะนี้ อ ยู่ ร ะหว่ า งขั้ น ตอนการพิ จ ารณา สรุปสํานวนสอบสวน ซึ่งขอยืนยันว่ามหาวิทยาลัยมิได้ดําเนินการติดประกาศภาพถ่ายดังกล่าว คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้แจ้งผลการพิจารณาเรื่องร้องเรียนมายังมหาวิทยาลัย เรื่อง ขอให้ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง กรณีการใช้อํานาจ ที่ ล ะเมิ ด ต่ อ ศั ก ดิ์ ศ รี ค วามเป็ น มนุ ษ ย์ ภ ายในมหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น โดยมี ค วามเห็ น และข้ อ เสนอแนะเป็ น แนวทางการแก้ไขปัญหาแก่กลุ่มผู้ร้องเรียน มหาวิทยาลัยได้ให้ความร่วมมือและดําเนินการตามความเห็น และข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแล้ว และมีบางส่วนที่อยู่ระหว่างการดําเนินการ รองศาสตราจารย์รังสรรค์ เนียมสนิท รองอธิการบดีฝ่ายแผนและพัฒนาบุคลากร มหาวิทยาลัยขอนแก่น กรณีการสรรหาคณบดีคณะนิติศาสตร์ คณะกรรมการสรรหาได้ดําเนินการเสนอชื่อผู้ที่มีความ เหมาะสม แต่ ผู้ ที่ มี อํ า นาจแต่ ง ตั้ ง คื อ สภามหาวิ ท ยาลั ย ดั ง นั้ น มหาวิ ท ยาลั ย จึ ง ไม่ มี ส่ ว นเกี่ ย วข้ อ ง และกระบวนการดําเนินการสรรหาคณบดี เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายและอํานาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พ.ศ. ๒๕๔๑ กรณีการตัดโอนอัตราพนักงานและบุคลากรนั้น เนื่องจากผู้ร้องเรียน เป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ดังนั้น จึงต้องทําสัญญาจ้าง ซึ่งในสัญญาจ้างที่ผู้ร้องเรียนได้ลงชื่อรับทราบนั้นได้ระบุ ไว้ชัดเจนว่ามหาวิทยาลัยสามารถโอนย้ายผู้ร้องเรียนได้ ดังนั้น อธิการบดีก็มีอํานาจย้ายบุคคลดังกล่าวได้ตาม ระเบียบบริหารมหาวิทยาลัย


-๓-

กรณีที่ผู้ร้องเรียนได้ร้องไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าผู้บริหารมหาวิทยาลัย ใช้อํานาจหน้าที่โดยมิชอบ ละเมิดสิทธิความเป็นมนุษย์ โดยการห้ามเข้าบริเวณคณะนิติศาสตร์นั้น เนื่องจาก ช่ ว งเวลาดั ง กล่ า วผู้ บ ริ ห ารคณะนิ ติ ศ าสตร์ ต้ อ งรวบรวมเอกสารสํ า คั ญ ต่ า ง ๆ เพื่ อ การตรวจสอบและ การเตรียมการตรวจประเมินคุณภาพการศึกษาของสํานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (สมศ.) จึงเป็นมาตรการห้ามผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลและเอกสารหลักฐานโดยตรงเข้าไป บริ เ วณคณะนิ ติ ศ าสตร์ แต่ คํ า สั่ ง ดั ง กล่ า วมิ ไ ด้ เ ป็ น คํ า สั่ ง ห้ า มเด็ ด ขาด ดั ง นั้ น ถ้ า มี ค วามจํ า เป็ น ต้ อ งเข้ า ไป ก็ให้ขออนุญาต และปัจจุบันได้ยกเลิกคําสั่งดังกล่าวไปแล้ว นายบุญชัย อ้องแสนคํา นิติกรชํานาญการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น สืบเนื่องจากได้พบการกระทําความผิดของผู้ร้องเรียน ใน ๒ เรื่อง ได้แก่ ๑) ทําสัญญาเช่า รถยนต์ ไม่เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ และผู้ร้องเรียน ไม่มีอํานาจในการอนุมัติให้ดําเนินการจัดซื้อ จัดหาพัสดุในครั้งนี้ตามระเบียบมหาวิทยาลัยขอนแก่น ๒) ผู้ร้องเรียนได้อนุมัติให้มีการจ่ายเงินโดยไม่เป็นไปตาม ระเบียบ หรือไม่มีระเบียบรับรองในรายการต่าง ๆ เป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหาย จากการกระทํา ดังกล่าว ในฐานะรักษาการคณบดีคณะนิติศาสตร์ จึงควรที่จะดําเนินการวางระเบียบหลักเกณฑ์ในเรื่องต่าง ๆ ของคณะ เพื่อให้พัฒนาก้าวหน้าภายใต้หลักเกณฑ์ตามกฎหมายและระเบียบแบบแผนต่าง ๆ ของทางราชการ ตลอดจนรักษามาตรฐานคุณภาพทางวิชาการและสร้างการยอมรับให้กับสังคม คณะกรรมการบริหารงานบุคคล ประจํามหาวิทยาลัย จึงมีมติว่าการกระทําของผู้ร้องเรียน เป็นการกระทําที่ผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง สมควรให้ ลงโทษลดขั้นเงินเดือน ๕% นายขจร จิตสุขุมมงคล ทีป่ รึกษาด้านระบบริหาร สํานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ประเด็นปัญหาดังกล่าวสืบเนื่องมาจากเกิดปัญหาการแต่งตั้งคณบดีคณะนิติศาสตร์ จนเป็นเหตุ ให้ เ กิ ด ประเด็ น ปั ญ หาอื่ น ๆ ตามมานั้ น เป็ น ที่ น่ า สั ง เกตว่ า สภามหาวิ ท ยาลั ย ไม่ มี ก ารแต่ ง ตั้ ง ผู้ ที่ มี ความเหมาะสมเป็นคณบดีคณะนิติศาสตร์เป็นเวลานาน โดยเพียงแต่ตั้งรักษาการคณบดี และกรณีการร้องเรียน ของผู้ร้องเรียนนั้น ถ้าเห็นว่าการดําเนินการต่าง ๆ และการมีคําสั่งของผู้บริหารมหาวิทยาลัยได้ดําเนินการ ไปโดยไม่ชอบธรรม กฎหมายก็ได้เปิดช่องให้ดําเนินการอุทธรณ์ร้องทุกข์ได้ตามระเบียบของมหาวิทยาลัย ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการ ๑. ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยต้องปฏิบัติหน้าที่โดยตระหนักถึงหลักธรรมาภิบาล ๒. การที่กรรมการสรรหาได้เสนอชื่อนายกิตติบดี ใยพูล ในครั้งแรกและได้รับการแต่งตั้งจาก สภามหาวิทยาลัย เป็น รักษาการคณบดีคณะนิติศาสตร์ และเมื่อครบกําหนดระยะเวลา ๖ เดือน ได้มีการสรรหา รักษาการคณบดีคนใหม่นั้น แต่คณะกรรมการสรรหากลับไม่เสนอชื่อนายกิตติบดี ดังนั้น หลักเกณฑ์และเหตุผล ในการเสนอชื่อของคณะกรรมการสรรหา ทั้ง ๒ ครั้ง เป็นอย่างไร ๓. กรณี ถ้ าคณะกรรมการตรวจสอบข้ อเท็ จจริ งได้ ดํ าเนิ นการตรวจสอบและถ้ าพบว่ านายกิ ตติ บดี ได้กระทําความผิดอย่างอื่นอีกก็ต้องดําเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป ๔. สํานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้รับเรื่องร้องเรียนในประเด็นการขัดแย้ง ด้านอํานาจหน้าที่ระหว่างผู้บริหารมหาวิทยาลัยกับบุคลากรของมหาวิทยาลัย ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของ สกอ. ที่ ต้ อ งหาแนวทางและต้ อ งดํ า เนิ น การในการทํ า ความเข้ า ใจให้ แ ก่ ผู้ บ ริ ห ารมหาวิ ท ยาลั ย และบุ ค ลากร ของมหาวิทยาลัยให้รับรู้ถึงอํานาจหน้าที่ของตนได้อย่างชัดเจน -------------------------------------------------สิรินทรา/ร่าง สุดาพร/พิมพ์


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.