คูมือประกอบงานอบรม หัวขอ "การบริหารและจัดการ Component อยางมีประสิทธิภาพและการสราง Dynamic component เบือ้ งตนเพื่อชวยงานสรางโมเดลและการหา Bill of Materials"
จัดทําโดย บริษัท บานสเกตชอัพ จํากัด
01
บทที่ 1 Group, Component และ ความแตกตาง
02
1 ขั้นตอนการสราง Group (Make Group)
1) กดคลิก๊ ซาย 3 ครั้งเพือ่ เลือกทั้งหมด 2) หลังจากนัน้ คลิก๊ ขวา 1 ครั้งเพือ่ เปดหนาตาง คําสัง่ Make Group 3) คลิก๊ ซายเพือ่ กดคําสัง้ Make group
ในขัน้ ตอนนีต้ องตรวจสอบใหแนใจวาทุกสวนของ H-BRAM ถูกเลือก
เมื่อสราง Group ของ H-BRAM แลวเสร็จจะขึ้นกรอบสีน้ําเงินลอมรอบเห็นไดชดั เจน ซึ่งก็ถอื เสร็จขัน้ ตอนการสราง Group
5.7 จํานวน Group ทั้งหมดใน Model
4) ทดสอบโดยการเลือก Group ของ H-Beam แลวคลิ๊กขวา 1 ครั้งที่ Group เพือ่ เปดหนาตางใหมขนึ้ มาดังภาพ จากนัน้ คลิก๊ ซายที่ Entity Info เพือ่ เปดดูคุณสมบัติของ Group ที่เราสรางขึน้ 5) จากนัน้ สังเกตขอมูลดังตอไปนี้ 5.1 ขอมูลสําหรับการสราง IFC ไฟล (งาน BIM) 5.2 ชือ่ ของ Group สามารถกําหนดไดโดยการพิมพชื่อที่เราตองการ 5.3 เลือกเครื่องหมายถูกถาอยากให Group สามารถสะทอนเงาไดเมื่อเปด Shadows 5.4 เอาเครื่องหมายถูกออกถาไมอยากให Group ไดรับเงาเมื่อเปด Shadows
ขอสังเกต
5.5 เลือกเครื่องหมายถูกถาอยากให Group ที่สรางขึน้ ไมสามารถมองเห็นได
ในการสราง Group แตละครั้งเราจะไมสามารถตั้งชือ่ ไดทันที แตจะตองกลับมาใชคําสัง่ Entity Info เพือ่ ตั้งชือ่ ใหมทุกครั้ง
5.6 เลือกเครื่องหมายถูกถาอยากให Group ไมสามารถเคลือ่ นยายหรือแกไขได
2. Group กับ Solid Group
03 1. สรางกลองสีเหลีย่ มขึน้ มาแลวสรางเปน Group ชือ่ "A" 2. ถา Group ที่ถกู สรางขึน้ เปน Solid ก็จะสามารถอานคาของปริมาตรไดในชอง Volume
อะไรคือขอแตกตางระหวาง Group และ Solid Group ?
3. สาเหตุที่ Group ไมเปน Solid "Solid ที่แปลกันโดยทั่วไปวาเปนของแข็งตันๆ ก็คลายๆ กับ Solid Group ดังนัน้ ถาอยากให Group ที่เราสรางขึน้ เปน Solid ระวังอยาใหมีรอยรั่วหรือปดไมสนิทดังตัวอยางดานลาง"
3) แมมองภายนอกจะไมมีชอ งวาง แตถา ปรับ X-Ray ดูดานใน ถาพบวามี Face หรือเสนดังตัวอยางอยู ดานใน Group ที่เราสรางขึน้ ก็จะไมเปน Solid เชนกัน
ขอสังเกต การสราง Group ใหเปน Solid มีประโยชนมากไมเพียงแตจะสามารถคํานวณปริมาต รไดแตกย็ ังชวยใหเราใชคําสั่งพิเศษที่ชื่อวา Solid Tools ไดดวย
04
3. ขั้นตอนการสราง Component (Make Component)
1) กดคลิก๊ ซาย 3 ครั้งเพือ่ เลือกทั้งหมด 2) หลังจากนัน้ คลิก๊ ขวา 1 ครั้งเพือ่ เปดหนาตาง คําสัง่ Make Component 3) คลิก๊ ซายเพือ่ กดคําสัง้ Make Component
ในขัน้ ตอนนีต้ องตรวจสอบใหแนใจวาทุกสวนของ H-BRAM ถูกเลือก
4) เมื่อเลือกถูกจะขึน้ หนาตาง Crete Component โดยแตละขอมูลใหเลือกจะมีความหมายดังนี้ 4.1 ตั้งชือ่ ของ Component ที่เราตองการ 4.2 ใสรายละเอียดที่ตองการอธิบายเกี่ยวกับ Component ที่เราสรางขึน้ 4.3 เลือก None ถาไมตองการให Component ที่สรางมีลกั ษณะที่มีกาวติด เมื่อเขาไปไกลกบั สิง่ อืน่ จะติดกันโดย Auto 4.4 เลือก Set Component Axes เมื่อตองการกําหนดแกนกลางของ Component 4.5 เลือก Cut Opening เมื่อตองการให Component ที่สรางตัดเขาไปใน Face อื่น เชนเมื่อสราง Component หนาตางเราสามารถเจาะผนังไดทันทีแบบ Auto 4.6 กดเครื่องหมายถูกถาตองการให Component หันหนาเขาหาเราเสมอ 4.7 เกี่ยวกับคําสัง่ การปรับแสงเงา 4.8 กดเครื่องหมายถูก ถาอยากให Component ที่สรางขึน้ สามารถใชคําสัง่ Replace selection with component
ขอสังเกต เนือ่ งจาก Component แตละตัวที่สรางขึน้ จะมีได 1 ชือ่ เทานัน้ (แมจะ Copy ไปหลายๆ ครั้งแตกจ็ ะมีชอื่ เหมือนเดิมเสมอไมอาจเปลีย่ นได) ดังนัน้ การสราง Component ทุกครั้งจะมีคําสัง่ ใหเรากําหนดชือ่ เลยโดยตรง ซึง่ ตางจากการ Make Group ที่ไมตองกําหนดชือ่ ก็ได ในกรณีที่เรายังไมอยากตั้งชือ่ Component โปรแกรมจะกําหนดชือ่ ใหเปน Component #1 ในครั้งแรก เชนเดียวกันกับ Group และ Solid Group การสราง Component และ Solid Component ก็ใชหลักการเดียวกัน
5) เมื่อเลือกทั้งหมดแลวกด Create
05
4. ความแตกตางระหวาง Group และ Component เพือ่ อธิบายใหเห็นความแตกตางระหวาง Group และ Component ใหผเู ขาอบรมทําการสราง Group ชือ่ วา A ทาสีแดง และ Component ชือ่ วา B ทาสีเหลืองดังรูป ในขัน้ ตอนนี้ระวังอยาเทสีสดี วยคําสัง่ Paint Bucket ลงบน Face ที่เราสรางขึน้ กอนที่จะใชคําสัง่ Make Group หรือ Make Component
1) สราว Component B สีเหลือง 2) สราง Group A สีแดง
3) ใชคําสัง่ Copy สราง Group A และ Component B อีกอยางหละ 3 ตัว
4) กดคําสัง่ Edit Group A หรือ Double click ที่ Group A เพือ่ ทําการแกไข Group A 5) ใชคําสัง่ Push/Pull เพือ่ ดึงกลองใหสงู ขึน้ ดังภาพ สังเกตวากลองสีแดงอื่นๆ ที่เปน Group A ที่เหลือไมมีการเปลีย่ นแปลง
6) ทําเชนเดียวกันกับ Component B โดยกด Edit Component และดึงกลองใหสงู ขึน้ ดังรูป แตคราวนีจ้ ะพบวา Component B ที่เหลือจะยืดขึน้ ตาม Component B ที่เราทําการแกไขไปดวย
ขอสังเกต Group แตละตัวจะเปนอิสระตอกัน ตางจาก Component ซึง่ แตละตัวจะเชือ่ มโยงหากัน ดังนัน้ ไมวาเราจะแกไขตัวใดตัวหนึ่งของ Component ทุกตัวที่มีชอื่ เดียวกันก็จะเปลีย่ นแปลงตามไปดวยทั้งหมด
06
5. คําถามเกี่ยวกับ Component ที่ถูกถามบอย (1) การแกไข Component คําถามแรกๆ ที่พบบอยๆ ของผูใ ช SketchUp ครั้งแรกๆ ก็คือ เราจะทําอยางไร เมื่อตองการแกไข Component โดยไมทําให Component ที่มีชอื่ เดียวกันเปลีย่ นตามไปดวย? เรามาดูคําตอบกันครับ
1) สราง Component ชื่อ B ขึน้ มา 4 ตัว
2) เนือ่ งจากเปน Component ชือ่ เดียวกัน เมื่อเราแกไขตัวแรก อีก 3 ตัวก็จะถูกแกไขตามไปดวย ซึง่ โดยทั่วไปถือวาเปนขอดี เพราะในความเปนจริง สิง่ ของใดก็ตามที่มีชื่อเดียวกัน ก็ควรจะมีลกั ษณะที่เหมือนกันทุกชิ้น ในกรณีนจี้ ะเห็นวา Component B ทุกตัวสัน้ ลงตาม Component ตัวแรกซึง่ เราไมตองการ 3) คลิก๊ ขวาที่ Component B ตัวแรก แลวกดเลือกคําสัง่ Make Unique 4) กดคําสัง่ Make Unique ดังรูป 5) ทดลองปรับแก Component B ตัวแรกอีกครั้ง แตคราวนี้จะเห็นวา Component ตัวอืน่ ที่เหลือยังมีขนาดเทาเดิม 6)เหตุท่ี Component B ตัวอืน่ ไมเปลีย่ นตามก็เพราะวา Component B ตัวแรกถูกเปลีย่ นชือ่ ไปเปน B#1 แลวนัน้ เอง
ขอสังเกต หลายคนที่ทดลองเปลีย่ นมาใชคําสัง่ Make Component แทน Make Group จะปวดหัวกับการใชคําสัง่ Make Unique มากๆ อย างไรก็ตามตองพยายามใชคําสัง่ Make Unique ทุกครั้งที่ตองการเปลีย่ นชือ่ หรือทําการ Edit Component ไมเชนนัน้ เมื่อเราทํางานไปเรื่อยๆ ดวยคําสัง่ Make Component ก็จะพบวา Component ตางๆ จะมีชอื่ และขนาดวุนวายไปหมด และตองกลับไปทําใหม ซึง่ จะเสียเวลาอยางมาก แมการใช Component จะดูยุงยากกวา Group แตสาํ หรับการสรางโมเดลวิศวกรรมหรือสถาปตแลวถือวามีประโยชนมากกวา เพราะเราสามารถกําหนดใหวัสดุ 1 ชิน้ เชน หนาตาง A ในบาน
5. คําถามเกี่ยวกับ Component ที่ถูกถามบอย (2) ทําไมบางครั้งตัง้ ชื่อ Component ที่ตองการไมได ในบางครั้งเมื่อเราสรางโมเดลใหญขนึ้ เรื่อยๆ บางคนอาจจะเจอปญหาเรื่องการตั้งชื่อ Component ยกตัวอยางเชน พยายามจะตั้งชือ่ Component ของประตูตัวหนึง่ วา "ประตู A" แตพยายามเทาไหร โปรแกรม SketchUp ก็ขนึ้ เตือนวาไมสามารถสรางชือ่ Component ประตู A ได ลองมาดูสาเหตุและวิธีการแกปญหากันครับ
07
1) คําสัง่ เตือนเชนนี้จะเกิดขึน้ เมื่อเรากําลังพยายามตั้งชือ่ Component ใหม ที่มีชอื่ เหมือนกับ Component เดิมที่มีอยู แมเราจะลบ Component ที่มีชอื่ เหมือนกันออกไปแลวก็ตาม 2) ตัวอยางเชนเมื่อเราสราง Component ของประตูขนึ้ มา 3 ตัว ตัวแรกชือ่ ประตู A และอีกสองตัวชือ่ ประตู B 3) เมื่อตรวจสอบ Outliner แลวสังเกตไดวาทั้งโมเดล ประกอบดวย Component 3 ตัวนีเ้ ทานั้น
4) ลบ Component ประตู A ออกไปจากโมเดล สังเกตใน Outliner ไมพบวาไมมี Component A อยูในโมเดล
5) หลังจากลบ Component ประตู A ออกไปแลว ทดลอง Copy Component ประตู B เพิม่ อีก 1 ตัวแทนที่ตําแหนง Component A เดิม แลวกดคําสัง่ Make Unique หลังจากนัน้ ตั้งชือ่ Component B#1 ใหมวา ประตู A อีกครั้ง จะพบวาโปรแกรม Sketchup จะขึน้ เตือนวา "The component name must be unique" ซึง่ แปลวาชือ่ ของ Component ที่เรากําลังจะสรางซ้ํากับ Component ที่เรามีอยูเดิมแลว ในที่นคี้ ือ Component A ที่เราไดลบออกไปแลวนั้นเอง
ขอสังเกต ดูเหมือนวา แมเราจะลบ Component ใดๆ ออกไปจากโมเดลที่เรากําลังสรางขึน้ โปรแกรม SketchUp ยั งจดจําชือ่ นั้นไว และขึน้ คําสัง่ เตือนเสมอเมื่อเราพยายามที่จะตั้งชือ่ Component นั้นทุกครั้ง
ตอนนี้จะเห็นวาแมเราจะลบ Component ประตู A ออกไปแลว เราก็ไมสามารถที่จะตั้งชือ่ Component วา ประตู A ซ้ําอีกได
08
5. คําถามเกี่ยวกับ Component ที่ถูกถามบอย (2) ทําไมบางครั้งตัง้ ชื่อ Component ที่ตองการไมได
6) เพือ่ ที่ไมใหโปรแกรมจําชือ่ ของ Component ที่เราลบทิ้งไปแลว (ในที่นคี้ ือ Component ที่ชอื่ วา ประตู A) ใหเริ่มจากคลิก๊ ขวาที่แถว Tool Bars ที่วางอยูดังภาพ 7) กดเครื่องหมายถูกที่ Standard เพือ่ เพิม่ Tool Bar Standard 8) หนาตางคําสัง่ Tool Bar กดเลือกไปที่ Model Info
9) ที่หนาตาง Model Info ใหกดไปที่คาํ สัง่ Statistics เพือ่ ดูขอ มูลทั้งหมดในโมเดล 10) เลือก Entier model 11) จากนัน้ กด Purge Unused เพือ่ ลบความจําชือ่ ของ Component ทั้งหมดที่ถกู ลบไปแลวออกจากโปรแกรม
12) ลองปรับแกชอื่ Componet ประตู B#1 อีกครั้ง แตคราวนี้จะสามารถเปลีย่ นชือ่ เปน ประตู A ไดโดยไมมีปญหา
ขอสังเกต ทุกครั้งที่เราไมสามารถตั้งชือ่ Component ที่เราตองการได ใหเริ่มจากตรวจสอบวาชือ่ นัน้ ไปตรงกับชือ่ Component อืน่ ๆ ที่สรางไวกอนหนานี้ในโมเดลหรือไม (ดูจากคําสัง่ Outliner) ถาพบวาไมมีชอื่ ใดๆ ซ้ํากัน ใหทําการ Purge Unused เพือ่ ลางชือ่ เกาๆ ออกไป หลังจากนัน้ ก็ตั้งชือ่ Component ใหมตามที่เราตองการ
09
บทที่ 2 Outliner และ Nested Component
10
1. อะไรคือ Outliner? เมื่อเราสรางโมเดลขนาดเล็ก ก็คงไมมีปญหาในการจัดการ Component เทาไหรแตลองหลับตานึกถึงโมเดลที่มีขนาดใหญมากๆ คงจะเห็นความปวดหัวเมื่อเราจะตองจัดการ Component ที่มีอยูเปนรอยๆ ชือ่ ในโมเดล ดังนัน้ คําสัง่ Outliner จึงถูกสรางขึน้ มาเพือ่ ใหผสู รางโมเดลสามารถที่จะจัดการและบริหาร Component ทั้งหมดในโมเดลไดอย างมีประสิทธิภาพสูงสุด 1) เริ่มจากการกดที่คําสัง่ Window
2) กดไปที่คําสัง่ Outliner เพือ่ เปดหนาตาง Outliner
หนาตางคําสัง่ Outliner
3) เมื่อเปด Outliner ออกมาในครั้งแรกก็จะเห็น Component ที่ชอื่ วา Sophie อยูในโมเดล 1 ตัว
4) เมื่อเรา Copy Component ของ Sophie ไปทั้ง 18 ตัว เราจะเห็นวาในหนาตาง Outliner จะระบุและแจกแจก Component ชือ่ Phophie ทั้งสิน้ 18 ตัวเชนกัน
11
1. อะไรคือ Outliner?(ตอ)
5) ตั้งชือ่ ใหมใหกบั Component Sophie ใหมอีก 2 ครั้งโดยใชคําสัง่ Make Unique 6) Outliner ก็จะแจกแจงจํานวนและชนิดของ Component ทั้งหมดใหเราเห็น
จากตัวอยางจะเห็นไดชดั เจนวา Outliner ชวยใหผสู รางโมเดลเห็นภาพและเขาใจการแจกแจงของ Component ทั้งหมดที่มีอยูในโมเดล ดังนัน้ การสรางโมเดลขนาดใหญท่ีประกอบดวย Component จํานวนมาก ผูเ ขาอบรมจะตองเริ่มศึกษาและทําความรูจักกับ Outliner ใหมากยิ่งขึน้
การแจกแจง Component ทั้งหมดที่ประกอบกันเปนโมเดลบาน
สัญลักษณเปนตัวแทนของ Component
สัญลักษณเปนตัวแทนของ Group
2. การแจกแจง Component ดวย Outliner
12 1) สราง Component บานและตั้งชือ่ วาบานตํารวจ
2) Copy บานเพิม่ อีก 4 หลัง โดยอีก 3 หลังกดคําสั่ง Make Unique แลวตั้งชือ่ ใหมวาบานทหาร 3)ถาดูจากโมเดลเราจะไมสามารถทราบไดวาบานทั้ง 5 หลังนั้นประกอบดวย Component ชือ่ วาอะไรบาง แตเมื่อดูใน Outliner เราก็จะทราบทันทีวาในโมเดลบานทั้ง 5 หลังนั้นประกอบดวน Component ที่ชอื่ วาบานตํารวจ 2 หลัง และ Component ที่ชอื่ วาบานทหาร 3 หลัง
4) สราง Component หินคลุกขึน้ มาอีก 3 ตัวและ Component ถนนคอนกรีตขึน้ มาอีก 1 ตัวดังภาพ 5) เมื่อดูที่ Outliner จะพบวาในโมเดลประกอบดวน Component ทั้งหมด 4 ชือ่ ประกอบดวย Component ชือ่ ถนนคอนกรีต ถนนหินคลุก บานตํารวจ และบานทหาร
6) สราง Component ฟุตบาทเพิม่ อีก 5 ตัวดังภาพเพือ่ สรางเปนโมเดลหมูบานอยางคราวๆ
7) ตอนนีห้ ลายคนคงระเริ่มเห็นแลววา ยิ่ งเราสรางโมเดลที่ประกอบดวย Component จํานวนมากการจําแนกแจกแจง Component จะทําไดยากมาก ถาไมใชคําสัง่ Outliner
13
3. การเลือก (Select) Component ดวย Outliner
1) Copy โมเดลที่ทําไวอกี 3 ชุด เพือ่ สรางโมเดลของเมืองขนาดเล็ก ในตอนนี้ เราลองเลือก Component บานของตํารวจมา 1 หลังดวยคําสัง่ Outliner
2) เนือ่ งจากมี Component จํานวนมากใน Outliner การเลือกจะตองเลื่อนขึน้ และลงเพือ่ หาชือ่ Component บานของตํารวจ ที่เราตองการ
3) กดที่คาํ วาบานของตํารวจ
4) เมื่อเรากดชือ่ Component บานของตํารวจ Component ที่ชอ่ื วาบานของตํารวจในโมเดลจะถูกเลือกทันทีดงั ภาพ
14
4. การเลือกกรอง (Filter) Component ดวย Outliner
1) กดชองวางตรงคําวา Filter แลวพิมพคําวาบานของตํารวจเพือ่ ให Outliner แสดง Component บานของตํารวจเทานัน้
2) เมื่อเราเลือกคําวา บานของตํารวจทั้งหมด เราก็สามารถเลือก Component บานของตํารวจทั้งหมดไดทันที ดังนัน้ เมื่อสรางโมเดลที่มีขนาดใหญมาก ผูเ ขาอบรมจะตองฝกใชคําสัง่ Filter ใน Outliner เพือ่ หา Component ที่ตองการ
3) Component ที่ชอื่ วา บานของตํารวจทั้งหมดจะถูกเลือกโดยขึน้ ขอบสีนา้ํ เงินดังภาพ
4) ทดลองเปลี่ยนสี Component บานของตํารวจใหกลายเปนสีสม และเปดคําสัง่ Entity Info เพือ่ นับจํานวน Component บานของตํารวจ มีท้งั หมด 8 ตัวในโมเดล
5. Nested Component หรือ Component หลายชั้น
15
เมื่อเราสรางโมเดลเมืองขนาดใหญขนึ้ มาที่ประกอบดวย Component จํานวนมาก บางครั้งเราอาจจะจําเปนตองจัดหมวดหมูของ Component ตางๆ ตามสภาพความเปนจริงหรือขอบเขตของงานที่เราตองการ ลองมาดูตวั อย างการแบงหมวดหมูของ Component ในโมเดลดวยการใชการสราง Component ซอน Component หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกวา " Nested Component" 1) พิมพคําวาบานเขาไปในคําสั่ง Filter
2) เลือก Component บานของตํารวจ และบานของทหารทั้งหมด 3) สังเกตในโมเดลจะเห็นวา Component ทั้งหมดที่ถกู เลือกจะขึน้ กรอบสีฟา
4) คลิก๊ ขวาที่โมเดลทั้งหมดแลวเลือกคําสัง่ Make Component แลวพิมพชอื่ วา อาคารที่พกั อาศัย
5) จาก Outliner จะพบวาในโมเดลจะมี Component ชือ่ วา อาคารที่พกั อาศัย ซึง่ ภายใน Component นัน้ ประกอบดวย Component ที่ชอื่ วา บานของตํารวจและบานของทหาร
16
5. Nested Component หรือ Component หลายชั้น (ตอ)
6) เลือก Component ที่ชอื่ วา ถนนคอนกรีต และฟุตบาท ทั้งหมดแลวคลิก๊ ขวาเพือ่ เปดคําสั่ง Make Component
7) ตั้งชือ่ Component วา ทางสัญจรทําจากคอนกรีต 8) ตรวจสอบ Outliner จะพบวามี Component ใหมที่ชอื่ วา ทางสัญจรทําจากคอนกรีตเกิดขึน้ โดย ภายในประกอบดวย Component 2 ชือ่ โดยชือ่ แรกคือ ถนนคอนกรีต และชือ่ ที่สองคือ ฟุตบาท
9) สุดทายเลือก Component ที่ชอื่ วา ถนนหินคลุมทั้งหมดแลวกดคําสัง่ Make Component
10) ตั้งชือ่ Component ใหมวา ทางสัญจรทําจากหิน
17
5. Nested Component หรือ Component หลายชั้น (ตอ) 11) กดที่กลองสีเหลีย่ มเล็กๆ ดานบนขวาของหนาตางคําสัง่ Outliner ดังภาพ
12) เลือกคําสัง่ Collapse All เพือ่ ยอ Component ทั้งหมดใหเหลือแตสว นที่เปน Component ที่ใหญที่สดุ
13) เมื่อยอเสร็จ จะพบวชอื่ Component ใน Outliner จะเหลือแค 3 ชือ่ เทานัน้ นัน้ ก็คือ อาคารที่พกั อาศัย ทางสัญจรทําจากคอนกรีต และทางสัญจรทําจากหิน
14) กดที่เครื่องหมายบวกดานหนาของ Component ชือ่ วา ทางสัญจรทําจากคอนกรีต เพือ่ ตรวจสอบสวนประกอบของ Component ที่อยูดานใน
15) เมื่อกดเครื่องหมายบวก ก็จะพบ Component สวนอืน่ ๆ ที่ประกอบอยูดานใน Component ที่ชอื่ วา ทางสัญจรทําจากคอนกรีต นั้นก็คือ Component ที่ชอื่ วา ถนนคอนกรีตและฟุตบาทนัน้ เอง
5. Nested Component หรือ Component หลายชั้น (ตอ)
18
ชุมชนแหงหนึ่ง LEVEL1 อาคารที่พกั อาศัย
ทางสัญจรทําจากคอนกรีต
ทางสัญจรทําจากหิน
ดังนัน้ จะเห็นวาการสรางโมเดลขนาดใหญที่ ประกอบดวยขอบเขตงานหลายหลายรูปแบบ ผูอ อกแบบอาจจําเปนตองแบงหมวดหมูงาน ออกเปนหลายระดับ เพือ่ จําลองสภาพ ของการทํางานหรือขอบเขตงานจริงๆ
LEVEL2 บานของทหาร บานของตํารวจ
ฟุตบาท ถนนคอนกรีต
ตัวอย างการแบงหัวขอใน Outliner ทั้หมด
19
บทที่ 3 การใชคําสั่ง Generate Report เพื่อหา Bill of Materails
20
1. คําสั่ง Generate Report คืออะไร? โปรแกรม SketchUp มีคาํ สัง่ ที่ชอื่ วา Generate Report เพือ่ ทําหนาที่สรางเอกสารที่สามารถระบบุจํานวน ขอบเขต และขอมูลของ Component ออกมาจากโปรแกรมโดยตรง อยางไรก็ตามถาอยากใชประสิทธิภาพ ผูส รางโมเดลจะตองทําความเขาใจกับการลักษณะของขอมูลตางๆ ที่รายงานออกมาจาก SketchUp ดังอธิบายตอไปนี้
1) เลือก Component ที่ตองการสราง Report ทั้งหมด อาจจะเลือกจาก Outliner หรือกดเลือกจากโมเดลโดยตรงก็ได
2) กดไปที่คําสัง่ File
3) จากนัน้ ไปที่คําสัง่ Generate Report เพือ่ เริ่มดําเนินการทํารายงานของ Component
3..1 Link ขอมูลสําหรับผูใ ชที่ตองการขอมูลเพิม่ เติม เมื่อเปดหนาตาง Generate Report ขึน้ มาก็จะเจอกับตัวเลือกเพิ่มเติมดังรายละเอียดตอไปนี้
3.2 เลือกชองนีถ้ า ตองการ Report ทั้งโมเดล 3.3 เลือกชองนีถ้ า ตองการ Report ในสวนที่เลือกเทานัน้
3.4 กําหนดใหรายงานที่สรางออกมาเปน HTML ไฟล 3.5 กําหนดใหรายงานที่สรางออกมาเปน CSV ไฟล ขอสังเกต โปรแกรม SketchUp ไมรองรับภาษาไทย ดังนัน้ ถาเลือกรายงานในรูปแบบ CSV ไฟล ภาษาไทยที่รายงานออกมาจะเปนภาษาตางดาวที่ ไมสามารถอานได
21
2. รูปแบบและหนาตาของรายงานจากคําสั่ง Generate Report
1) เมื่อกดคําสัง่ Generate Report เปน HTML ไฟล จะขึน้ หนาตางใหเลือกตําแหนงที่จะ Save ไฟล
2)หลังจากนัน้ โปรแกรมจะถามวาจะให เปดไฟลเลยหรือไม ใหเลือก Yes
3) เมื่อเปดไฟลขนึ้ มาใหเลือกขอมูลทั้งหมด ดวยคําสัง่ Ctrl+A และ Copy ขอมูลทั้งหมด Ctrl+C เพือ่ นําขอมูลไปเปดในโปรแกรม Exel
4) เมื่อนําขอมูลมาวางใน Exel จัดรูปแบบใหสวยงามก็เปนอันแลวเสร็จ ชือ่ Layer ของ Component ปริมาตรของ Component (ถาเปน Solid) ความยาวของ Component ในแกน Z ความยาว Component ในแกน Y ความยาว Component ในแกน X พิกดั ในแกน Z ของ Component อางอิงจากแกนกลางของโมเดล พิกัดในแกน Y ของ Component อางอิงจากแกนกลางของโมเดล พิกดั ในแกน X ของ Component ชือ่ ของ Component อางอิงจากแกนกลางของโมเดล รายละเอียดของ Component ชือ่ เพิม่ เติมถาเรากําหนดเพิม่ ระหวางสราง Component บอกระดับของ Nested Component การเรียงระดับของ Component ตามระดับของ Nested Component
22
บทที่ 4 Dynamic Component
1. การสราง Dynamic component และตัวอยางการแจกแจงขอมูล
23
2. ตัวอยางการสราง Dynamic component ขั้นพื้นฐาน
24
25
26
27
28
3. ตัวอยางการสราง Dynamic Component ขั้นปานกลาง
29
30
31
32
33