8.โรคสะเก็ดเงิน

Page 1

โรคสะเก็ดเงินคืออะไร โรคสะเก็ดเงินเปนโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังที่พบบอยชนิดหนึ่งมีชื่อภาษาอังกฤษวา “Psoriasis” โรคนี้เกิด จากเหตุปจจัยหลายปจจัยประกอบกัน ไมไดเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งเพียงสาเหตุเดียว ไมไดเกิดจาก เชื้อโรค สารเคมีหรือสภาวะทางฟสิกสที่เปนพิษตอผิวหนังโดยตรงแตเพียงอยางเดียว แตเปนผลจาก พันธุกรรมหรือยีนที่ผิดปกติหลายชนิดรวมกับปจจัยทางสิ่งแวดลอมทั้งภายในและภายนอกรางกายที่ไม เหมาะสมมากระตุนใหโรคปรากฏขึ้น อาการผื่นผิวหนังเปนไดหลายรูปแบบ ที่พบบอย คือ ผิวหนังอักเสบเปน ปนแดง (Erythematous plaque) ลอกเปนขุย เปนๆ หายๆ ผูปวยบางรายเปนเฉียบพลันแลวผื่นก็หายไป บางรายเปนผื่นผิวหนังอักเสบเรื้อรัง ความผิดปกติอื่นๆที่อาจพบได คือ ความผิดปกติที่เล็บ ขออักเสบ เปน ตน ผูปวยอาจมีอาการผิดปกติของเล็บหรือปวดขอนํามากอน หรือเกิดขึ้นพรอมๆกับอาการผื่นผิวหนังอักเสบ

เด็ก เปนโรคสะเก็ดเงินไดไหม?

โรคสะเก็ดเงินเปนในเด็กไดแตพบนอยกวาผูใหญมากทั้งนี้เพราะปจจัยกระตุนใหโรคปรากฏในเด็กมีไมมาก เชน การเปลี่ยนแปลงทางฮอรโมน ความเครียดทางจิตใจ เปนตน

ทําไมคนบางคนจึงเปนโรคสะเก็ดเงิน? คนเปนโรคสะเก็ดเงินเพราะมีความผิดปกติทางพันธุกรรมเปนพื้นฐานแลวมีสิ่งแวดลอมเปนปจจัยกระตุนให เกิดอาการและอาการแสดงทางผิวหนัง เล็บบางรายอาจเกิดอาการอักเสบของเอ็นและขอรวมดวย ผูปวยแต ละรายมีอาการแสดงของโรคแตกตางกันไดมาก ทั้งแงขนาด การกระจายและความรุนแรงของผื่น ที่กลาววา มีความผิดปกติทางพันธุกรรมไมจําเปนที่บิดา มารดา พี่นองหรือญาติผูปวยตองเปนโรคนี้ทุกคน เพียงแตวา ผูปวยโรคนี้จะมีแนวโนมทางพันธุกรรมที่จะเปนโรคนี้อยู ญาติพี่นองของผูปวยมีโอกาสเปนโรคนี้ไดสูงกวาคน ทั่วๆไปหรืออีกนัยหนึ่งคือมักพบคนในครอบครัวเปนโรคเดียวกับผูปวย

ทําไมถึงเรียกวา “โรคสะเก็ดเงิน”? เหตุที่เรียกโรคนี้วา “โรคสะเก็ดเงิน” เพราะลักษณะของผื่นในโรคนี้จะเปนปนหรือตุมสีแดงขอบเขตชัดเจน บนผิวของผื่นผิวหนังอักเสบของโรคนี้จะมีสะเก็ดสีขาวคลายเงินปกคลุมอยูศาสตราจารย  กิติคุณนาย แพทยสุนิตย เจิมสิริวัฒน จึงใหชื่อโรคนี้วา“โรคสะเก็ดเงิน” เมื่อแกะเกาสะเก็ดใหหลุดลอกออกจาก ผิวหนังจะเห็นจุดเลือดออกบนผิวของผื่นที่อักเสบแดง ซึ่งเปนลักษณะจําเพาะของโรคนี้ ผูปวยบางรายอาจ ไมมีตุมหรือปนแดงที่มีสะเก็ดสีขาวใหเห็นก็ได ทั้งนี้ขึ้นกับระยะของโรค


สาเหตุของโรคสะเก็ดเงิน โรคสะเก็ดเงินเปนโรคทางพันธุกรรมชนิดหนึ่งที่มีแบบแผนการถายทอดทางพันธุกรรมไมชัดเจน พบวาถา บิดาและมารดาเปนโรค บุตรที่เกิดมามีโอกาสเปนโรคนี้สูงรอยละ 65-83 ถาบิดาหรือมารดาคนใดคนหนึ่งเปน โรค บุตรที่เกิดมามีโอกาสเปนโรคนี้ลดลงเหลือรอยละ 28-50 ถาทั้งบิดาและมารดาไมเปนโรคนี้เลย บุตรมี โอกาสเปนโรคนี้นอยลงไปเหลือเพียงรอยละ 4 ถามีพี่นองในครอบครัวเปนโรคนี้โดยที่บิดาและมารดาไมเปน โรคบุตรคนถัดไปมีโอกาสที่จะเปนโรคสูงขึ้นถึงรอยละ 24 ลักษณะทางพันธุกรรมเปนเพียงปจจัยพื้นฐานของ การเกิดโรค การเกิดอาการของโรคไมไดขึ้นกับปจจัยทางพันธุกรรมเพียงอยางเดียว ถึงผูปวยจะมีลักษณะ ทางพันธุกรรมของโรคสะเก็ดเงินอยู ถาไมมีปจจัยกระตุนหรือสงเสริมมากระทบผูปวยก็จะไมเกิดอาการของ โรค ดังนั้นผูปวยจึงควรสังเกตและพยายามจับใหไดวาปจจัย แวดลอมอะไรทําใหโรคของตนกําเริบ แลว พยายามหลีกเลี่ยงปจจัยตางๆ ที่ทําใหโรคกําเริบ พึงเขาใจวาปจจัยที่ทําใหโรคกําเริบในผูปวยแตละรายไม จําเปนตองเหมือนกัน

ปจจัยกระตุนหรือสงเสริมใหเกิดโรคสะเก็ดเงิน

สิ่งแวดลอมที่กระทบรางกายของผูปวยแลวทําใหโรคกําเริบแบงไดเปน 2 สวน คือ ปจจัยภายนอก และปจจัย ภายในตัวผูปวย

ปจจัยภายนอก สิ่งแวดลอมรอบตัวผูปวยที่อาจทําใหโรคกําเริบ คือ สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กไดแกจุลชีพชนิดตางๆ สารเคมีและ สภาพทางฟสิกส ผูปวยตองสัมผัสสิ่งแวดลอมเหลานี้อยูเปนประจําทุกวัน ปจจัยแวดลอมเหลานี้บางครั้ง รุนแรง จะทําใหผิวหนังของผูปวยที่มีความผิดปกติพื้นฐานทางพันธุกรรมอยูเกิดอาการผิวหนังอักเสบขึ้นได บางครั้งปจจัยแวดลอมที่ระคายผิวหนังนอย แตมีปจจัยเหลานี้หลายๆปจจัยมากระทบผิวหนังพรอมๆกันก็ สามารถทําใหโรคสะเก็ดเงินที่สงบอยูกําเริบได ผูปวยโรคสะเก็ดเงินที่มีอาการกําเริบและควบคุมอาการ ของโรคไดไมดีดวยยาหรือการรักษาอื่นๆ แพทยผูดูแลรักษาและผูปวยตองรวมกันสังเกต เฝาดูปจจัย แวดลอมตางๆอยางละเอียดเพื่อที่จะหาปจจัยภายนอกที่มีความสัมพันธกับการกําเริบของโรค ปจจัยที่สําคัญ อีกกลุมหนึ่งคือปจจัยภายในตัวผูปวยเอง ไดแก โรคติดเชื้อซอนเรนของอวัยวะภายใน การเปลี่ยนแปลงทาง สรีรวิทยาบางอยาง เชน ระยะที่มีประจําเดือนของสตรีเพราะในชวงนี้มีการเปลี่ยนแปลงทางระดับของ ฮอรโมนในรางกาย นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจรวมทั้งความเครียดและความรุมรอนจากการงาน สภาวะทางครอบครัว ความเจ็บปวยที่ผูปวยเปนอยูก็เปนสาเหตุที่ทําใหโรคกําเริบได ภายหลังจากการเฝาดู


และคนหาอยางดีแลวจะมีผูปวยสวนหนึ่งที่ไมสามารถหาปจจัยแวดลอมที่กระตุนใหโรคกําเริบได กรณีเชนนี้ ทั้งผูปวยและญาติอยาไดกังวลจนเกินไปขอใหวางใจเปนกลาง(อุเบกขา) มีขันติและติดตามเฝาดูและหา ปจจัยตางๆ เหลานั้นตอไป เพราะถึงจะหาปจจัยที่กระตุนโรคใหกําเริบไมได แพทยก็มี ยาพอที่จะทุเลา อาการของโรคได ไมมีปจจัยใดที่จะคงอยูตลอดไปในไมชาปจจัยตนเหตุที่กระตุนใหโรคกําเริบก็จะปรากฏให เห็นหรือไมก็ผานพนไป โรคที่รุนแรงจะสงบลงไดในที่สุด ขอยกตัวอยาง ปจจัยภายนอกที่แพทยพบวา สามารถทําใหอาการของโรคสะเก็ดเงินกําเริบได เพื่อชวยใหผูปวยเกิดความเขาใจจะไดคอยระวัง และหลบ หลีกปจจัยตนเหตุที่ทําใหโรคกําเริบดังกลาว ปจจัยทางเคมี สารเคมีที่ผูปวยสัมผัสที่สําคัญคือ อาหาร ยา สารเคมีในที่ทํางาน สารเคมีที่มีการบันทึกไววา สามารถทําใหโรคกําเริบไดแก ยาบางชนิดถาผูปวยรับประทานแลวจะทําใหโรคสะเก็ดเงินกําเริบ เชน ยา รักษาโรคจิตประสาทกลุม Lithium ยารักษาโรคมาเลเรีย ยารักษาโรคหัวใจกลุม Beta adrenergic blocking agent ยาสเตียรอยดชนิดรับประทานและฉีด ดังนั้นผูปวยควรหลีกเลี่ยงการซื้อยามารับประทานเอง เพราะยา หมอ ยาจีน ยาไทย บางชนิดแอบผสมสเตียรอยดเขาไปในสวนผสมของยา ยาสเตียรอยดทั้งชนิดรับประทาน และฉีดจะทําใหอาการของโรคสะเก็ดเงินสงบลงไดในระยะแรกๆที่ไดรับยา แตเมื่อใชไปในระยะยาวจะมี ผลขางเคียงสูงมาก เชน ทําใหเกิดโรคแผลในกระเพาะอาหาร โรคเบาหวานกําเริบ กลามเนื้อลีบและออน แรง ความดันโลหิตสูง กระดูกผุ เปนตน

ปจจัยทางชีวะ คือสิ่งมีชีวิตที่กอโรคกับคน ตั้งแตจุลชีพชนิดตางๆไดแกเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา และ ปรสิตรวมทั้งแมลงตางๆดวย สิ่งมีชีวิตเหลานี้ทําใหเกิดโรคกับผูปวยแลวสงผลกระทบทําใหโรคสะเก็ดเงิน กําเริบ ตัวอยางเชน โรคคออักเสบจากไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรียสเตร็พโตคอคคัส (Streptococcus species) โดยเฉพาะในเด็ก โรคติดเชื้อ HIV สามารถทําใหโรคสะเก็ดเงินกําเริบได อาการผื่นผิวหนังอักเสบของโรค จะรุนแรงควบคุมไดยาก ถาผูปวยเกิดโรคติดเชื้อดังกลาวซอนลงบนโรคสะเก็ดเงิน สําหรับโรคติดเชื้ออื่นๆ ก็สามารถกระตุนใหโรคกําเริบไดเชนเดียวกัน แตความสัมพันธอาจไมชัดเจนเหมือน 2 โรคดังกลาวแลว

ปจจัยทางฟสิกส ผิวหนังของผูปวยเมื่อกระทบกับสภาวะทางฟสิกสที่รุนแรง เชน การแกะเกา ขูด กด เสียด สี ทําใหผื่นของโรคสะเก็ดเงินกําเริบ และลุกลามออกไปได จึงมักพบผื่นของโรคสะเก็ดเงินบริเวณ ศอก เขา กนกบ เพราะเปนตําแหนงที่มีการแกะเกาเสียดสีมากที่สุด

ปจจัยภายในรางกาย ผิวหนังเปนอวัยวะที่อยูนอกสุดของรางกาย แตไมไดตัดขาดความสัมพันธไปจากอวัยวะภายในอื่นๆของ รางกาย ปจจัยภายในรางกายรวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดในรางกาย เชนการเปลี่ยนแปลงของระดับ


ฮอรโมน โรคของอวัยวะภายในตางๆ เชน โรคตับ โรคไต เปนตน การเปลี่ยนแปลงและโรคตางๆ ของอวัยวะ ภายใน จะสงผลกระทบโดยตรงหรือโดยออมตอผิวหนังดวยเสมอ ดังนั้นผูปวยโรคสะเก็ดเงินจะมีอาการ กําเริบไดเมื่อเกิดโรคกับอวัยวะภายในอื่นๆ ปจจัยทางดานจิตใจ สภาพทางจิตใจของผูปวยมีอิทธิพลตออาการของโรคสะเก็ดเงิน เชนเดียวกับปจจัย ภายนอกและภายในรางกาย พบวาผูปวยที่เครียด หงุดหงิด โกรธงาย นอนไมหลับ ผื่นจะกําเริบแดงขึ้น คัน มากขึ้น ทําใหผูปวยตองแกะเกา สงผลใหโรคกําเริบ โดยสรุปวา โรคสะเก็ดเงินเปนโรคทางพันธุกรรมที่มีปจจัยทั้งภายในและภายนอกรางกาย รวมทั้งปจจัย ทางดานจิตใจ เปนปจจัยกระตุนใหเกิดโรคหรือสงเสริมใหโรคที่สงบอยูกําเริบเปนมากขึ้นหรือโรคยังคง เปนอยูและดําเนินตอไป

ตัวอยางปจจัยที่ทําใหโรคสะเก็ดเงินกําเริบ ปจจัยทางเคมี • • •

การระคายเคืองจาก ดีเทอรเจน ผงซักฟอก สบู ครีมที่มีกรดผสม เชน ครีมลอกหนา ขัดผิว ยาจีน ยาหมอ สมุนไพรตาง ๆที่ใชทาหรือรับประทาน ยาแผนปจจุบันบางชนิดทําใหโรคสะเก็ดเงินกําเริบ เชนยาลดความดัน และลดอัตราการเตนของ หัวใจ กลุม Beta- adrenergic blocking agents , Lithium , ยาแกปวด Indomethacin Quinidine , ยาตานมาเลเรีย ( Anti-malarial ) ยาสตีรอยดชนิดรับประทานและฉีด

ปจจัยทางชีวะ โรคติดเชื้อที่คอ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ โรคติดเชื้อที่ผิวหนัง และโรคติดเชื้อในทางเดินปสสาวะ ยุงแมลงกัดตอย

ปจจัยทางฟสิกส การกระทบกระแทก ถูกมีดบาด ยุงแมลงกัดตอย การแกะเกา กด ถู ดึง ลอก หยิก

ปจจัยทางจิตใจ ความเครียด เรารอน ความโกรธ หงุดหงิด ฉุนเฉียว

พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง • • • • •

การดื่มเหลา การสูบบุหรี่ เลนการพนัน ความเครียดทั้งทางกายและทางใจเชน ความวิตก กังวล ความกลัว หงุดหงิด ฉุนเฉียว การเลนกีฬาหักโหม

การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอรโมนในรางกาย • •

ระยะมีประจําเดือน/หมดประจําเดือน ระหวางตั้งครรภหรือหลังคลอด


อาการและอาการแสดง โรคสะเก็ดเงินมีอาการและอาการแสดง ที่อวัยวะตางๆ ดังนี้

1. ผิวหนัง ตั้งแตศีรษะจรดเทา รวมทั้งฝามือหรือฝาเทา

ผื่นผิวหนัง ของโรคสะเก็ดเงิน

ผื่นผิวหนังอักเสบของโรคสะเก็ดเงิน เกิดที่ตําแหนงใดของผิวหนังก็ได ผูปวยแตละรายมีอาการและอาการ แสดงแตกตางกันไดอยางมาก ตําแหนงผิวหนังที่พบผื่นบอย ไดแกบริเวณที่มีการเสียดสี แกะเกา เชน ศอก เขา แขน ขา กนกบ คอ ศีรษะ ลักษณะสําคัญของผื่นโรคสะเก็ดเงินคือเปนปนหนา มีสะเก็ดสีขาวคลายเงิน เมื่อแกะเกาใหสะเก็ดหลุดออก จะพบจุดเลือดออกอยูบนผื่นผิวหนังที่อักเสบแดง การแกะเกาทําใหตุมหรือ ปนผิวหนังที่อักเสบขยายวงกวางออกหรือทําใหเกิดตุมผิวหนังอักเสบเกิดใหมตามรอยเกา ผื่นผิวหนังอักเสบ แยกยอยเปนลักษณะตางๆ ลักษณะผื่นผิวหนังอักเสบโรคสะเก็ดเงิน มีรูปรางและการกระจายของผื่นดังนี:้ 1. ตุมแดง ตามรูขน 2. ปน  แดง หนา เปนวงกลม บริเวณศอก เขา มือ กนกบ (Psoriasis vulgaris) 3. ผื่น แดง มีขุย บริเวณที่มีตอมไขมันมาก (Seborrheic area) เชน หนังศีรษะ หลังหู หนาผาก รอง จมูก หนาอก (Sebo-psoriasis) 4. ตุมแดง ขนาดเล็กกวา 1 ซม. กระจายตามตัว (Guttate psoriasis) 5. ผื่นแดงขนาด 4-5 ซม. คันกระจายตาม แขน ขา (Nummular psoriasis) 6. ผื่นหรือปนแดงตามขอพับ ขาหนีบ (Intertriginous psoriasis) 7. ผื่นแดงเปนวงแหวน คลายแผนที่ (Annular psoriasis, figurate psoriasis) 8. ผื่นหรือปนหนาแดงมีสะเก็ดสีขาวกระจายทั่วตัว (Psoriasis universalis) 9. ผื่นแดงลอกทั้งตัว ( Erythroderma)


10. ตุมหนองตามฝามือฝาเทา นิ้วมือหรือนิ้วเทา (Localized pustular psoriasis) 11. ตุมหนองกระจายทั่วตัว ผูปวยมักมีอาการตามระบบรวมดวยเชน ไขสูง ปวดเมื่อย (Generalized pustular psoriasis) 12. ผื่นโรคสะเก็ดเงินที่เยื่อบุ ( Mucosal psoriasis) ตําแหนงที่พบผื่นแดงเปนขุยบอยอยูที่บริเวณ อวัยวะเพศ ผูปวยบางรายมีตุมหรือปนผิวหนังอักเสบเฉพาะที่ศอก เขา แขน ขา เพียง 2-3 แหงเทานั้น บางรายเปน ผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณขอพับ เชน ขาหนีบ รองกน ตุมหนองตามฝามือฝาเทาหรือเปนตุมหนองเฉพาะที่ ปลายนิ้วมือหรือเทา ผูปวยโรคสะเก็ดเงินที่เปนรุนแรง ผื่นผิวหนังอักเสบแดงจะเปนทั่วทั้งตัว ผื่นแดงลอก เปนสะเก็ดทําใหผูปวยเสียโปรตีนไปกับสะเก็ดผิวหนัง นอกจากนี้ยังเสียความรอนในรางกายหรือน้ําทาง ผิวหนังมากกวาปกติ ทําใหผูปวยรูสึกออนเพลีย หนาวสะทานเพราะเสียความรอนไปทางผิวหนังตลอดเวลา ผูปวยบางรายมีอาการรุนแรงเปนไข ปวดเมื่อยตามกลามเนื้อ เกิดตุมหนองกระจายทั่วตัว ผูปวยโรคสะเก็ดเงินเกิดอาการเอ็นและขออักเสบ รอยละ5.4-7 รอยละ 75 ของผูปวยโรคสะเก็ดเงิน ที่มีอาการขออักเสบเกิดตามหลังอาการผื่นผิวหนังอักเสบ พบเพียงรอยละ 15 ที่อาการขออักเสบนําหนา อาการผิวหนังอักเสบ อีกรอยละ 10 อาการผิวหนังอักเสบและอาการขออักเสบเกิดขึ้นพรอมๆกัน อาการปวด ขอและขออักเสบในผูปวยโรคสะเก็ดเงินแบงเปนหลายกลุมตามลักษณะอาการและอาการแสดงทางผิวหนัง ดังนั้นอาการทางขอในผูปวยแตละกลุมยอมแตกตางกันขออักเสบที่พบบอยคือ ขอนิ้วมือ นิ้วเทา ขอเทา ขอศอก หรือขอไหล ขอตอของกระดูกสันหลัง ขอสะโพกก็พบได อาการบวมแดงรอนตามขอเหลานี้ แสดง ถึงการอักเสบที่รุนแรง ถามีควรปรึกษาแพทยเพื่อการรักษาที่ถูกตองและเหมาะสมตอไป

2. เล็บมือและเทา โรคสะเก็ดเงินของเล็บมือและเล็บเทา

ความผิดปกติที่เล็บมือพบไดถึงรอยละ50 เล็บเทาพบไดรอยละ 35 ลักษณะ ผิดปกติที่พบมีตั้งแต ผิวของเล็บเปนหลุมเล็กๆ จนถึงเล็บผิดรูปขรุขระทั้งเล็บ ลักษณะผิดปกติที่พบ นอกจากนี้ ไดแก เล็บหนามีขุยขาวใตเล็บ เล็บลอนจากพื้นเล็บ เปนตน

3. ขอ ทุกแหงของรางกายรวมทั้งขอกระดูกสันหลังดวย โรคขออักเสบสะเก็ดเงิน

ผูปวยโรคสะเก็ดเงินบางรายมีอาการขออักเสบรวมดวย อาการขออักเสบจะ เกิดตามหลังผื่นผิวหนังอักเสบ โรคขออักเสบสะเก็ดเงินเกิดพรอมๆ กับผื่นผิวหนังอักเสบ หรือมีอาการทาง


ขออักเสบนํามากอนก็ได ขอที่เกิดการอักเสบบอยคือ ขอนิ้วมือสวนปลาย ขอมือ ศอก เขา ขอกระดูกคอ กระดูกสันหลังเปนตน เมื่อมีอาการอักเสบจะมีอาการบวมแดงรอน ถาไมไดรับการดูแลรักษาที่ถูกตองจะเกิด อาการพิการของขอได

การดูแลรักษาผูปวยโรคสะเก็ดเงินอยางองครวมเปนอยางไร? โรคสะเก็ดเงินเปนโรคที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมเปนพื้นฐาน มีปจจัยภายนอก ภายในรางกายและ ปจจัยทางดานจิตใจของผูปวยเปนตัวกระตุนหรือสงเสริมใหโรคกําเริบ ดังไดกลาวมาแลววาโรคสะเก็ดเงิน ไมไดเกิดจากสาเหตุเดียว แตเปนผลของเหตุและปจจัยหลายๆอยางมากระทบกันแลวทําใหปรากฎอาการ ของโรคใหเห็น อาการของโรคจึงมีไดหลายรูปแบบ ยาหรือวิธีการรักษาโรคนี้ที่มีอยูในปจจุบันไมสามารถ แกไขที่ตนเหตุ คือความ ผิดปกติทางพันธุกรรมที่ผูปวยแตละคนมีอยูได การรักษาที่มีอยูจึงเปนเพียงการ ควบคุมอาการของโรคและรอเวลาใหปจจัยที่กระตุนใหโรคกําเริบ ผานพนไปหรือแพทยและผูปวยสามารถหา ปจจัยที่กระตุนใหโรคกําเริบพบแลวหาทางกําจัดปจจัยกระตุนเหลานั้น ตัวอยางเชน แพทยตรวจพบวาโรค สะเก็ดเงินกําเริบเพราะมีการติดเชื้อแบคทีเรียสเตร็ฟโตคอคคัสที่คอ แพทยก็จะใหยาปฏิชีวนะทําลายเชื้อส เตร็ฟโตคอคคัสที่คอพรอมๆไปกับการใหยาทาควบคุมผื่นผิวหนังอักเสบของผูปวยรวมไปดวย ผูปวยก็จะหาย จากอาการของโรคได เปนที่นาเสียใจที่สวนใหญของผูปวยโรคสะเก็ดเงินมักจะหาปจจัยที่กระตุนใหโรค กําเริบไมพบหรือบางครั้งหาพบแตผูปวยและแพทยไมสามารถกําจัดปจจัยที่เปน ตัวกระตุนใหโรคกําเริบไป ไดอยางถาวร ตัวอยางเชน ความเครียด ความวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคที่ผูปวยเปนอยู ปญหาทางดาน ครอบครัว อาชีพ การงานรวมทั้งสิ่งแวดลอมรอบตัวอื่นๆ การควบคุมโรคสะเก็ดเงินใหไดดีจึงไมใชการใชยา หรือพึ่งแพทยแตเพียงอยางเดียว ผูปวยและญาติตองรวมมือกับแพทยสังเกตสิ่งแวดลอมหรือปจจัยแวดลอม รอบตัวที่ทําใหโรคกําเริบ คือ ปจจัยทางเคมี ชีวะ ฟสิกส ทั้งภายนอกและภายในตัวผูปวย รวมทั้งปจจัย ทางดานจิตใจดวย

หลักในการรักษาควบคุมโรคสะเก็ดเงินที่กําเริบ มีดังนี้ 1. กําจัด หรือหลีกเลี่ยง ปจจัยที่กระตุน หรือ สนับสนุนใหโรคกําเริบอาจจะเปนปจจัยที่อยูแวดลอมตัว ผูปวย หรืออยูในตัวผูปวย 2. ควบคุมรักษา ผื่นหรือปนของโรคสะเก็ดเงินที่กําลังเหอ ดวยยาหรือแสงอัลตราไวโอเลตโดยเร็ว หรือใชทั้ง 2 วิธีรวมกัน 3. ผูปวยและญาติ มีบทบาทที่สําคัญอยางมาก ในการดูแลรักษาผื่นผิวหนังอักเสบของโรคสะเก็ด เงิน กลาวคือการทําจิตใจใหสงบเย็นไมเรารอน ศึกษาหาความรูเรื่องโรคที่เปนอยู แพทยผูดูแล รักษามีหนาที่ใหคําแนะนํา ใหยาที่ถูกตองเหมาะสม หรือใชแสงอัลตราไวโอเลตควบคุมโรค ดังจะ ไดกลาวถึงตอไป ที่สําคัญแพทยควรใหความรูความเขาใจ เรื่องโรค วิธีการใชยาที่ถูกตองแกผูปวย และญาติ ตลอดจนใหกําลังใจ และความเห็นอกเห็นใจ ทั้งนี้เพื่อใหผูปวยและญาติไดทราบวิธีปฏิบัติ


ตัว วิธีการใชยาอยางถูกตอง ทําใหผลการรักษาบรรลุวัตถุประสงคตามที่มุงหวังไว ผูปวยและญาติ ควรทราบวา แพทยไมสามารถแกไข ความผิดปกติบางอยางทางพันธุกรรมที่มีอยูในเซลลของผูปวย ได ดังนั้น การกําจัด หรือ หลีกเลี่ยงปจจัยกระตุนหรือสงเสริมใหโรคกําเริบจึงมีความสําคัญพอๆ กับ การใชยาเพื่อควบคุมอาการผื่นผิวหนังอักเสบ เพราะถาสามารถกําจัดปจจัยเหลานี้ไปได ผื่นผิวหนัง อักเสบของโรคสะเก็ดเงินก็มีแนวโนมที่จะสงบลง การใชยาหรือแสงอัลตราไวโอเลต จะสามารถ ควบคุมอาการของโรคไดโดยงาย ผูที่จะทราบวาปจจัยกระตุนใหผื่นของโรคสะเก็ดเงินกําเริบดีที่สุด คือผูปวยและญาติที่อยูใกลชิด ดังนั้นทุกครั้งที่ผื่นโรคสะเก็ดเงินกําเริบเปนโอกาสดีที่สุดที่ผูปวย และญาติจะไดสังเกตและถามตัวเองวา ไดทํากิจกรรมอะไรหรือสัมผัสกับอะไรกอนหนาที่ผื่นของโรค จะกําเริบ หรือเจ็บปวยดวยโรคติดเชื้อซอนเรนที่อวัยวะใด ไดรับหรือสัมผัสสารเคมีอะไร โดยเฉพาะ ยา หรือผิวหนังไดรับบาดเจ็บจากสภาวะทางกายภาพอะไรบาง เชนการเสียดสีแกะเกา ปจจัย ทางดานจิตใจก็มีความสําคัญเปนอยางมากตอการเกิดและการกําเริบของโรค ผูปวยที่มีความเครียด เรารอน หงุดหงิด โกรธงาย ทําใหผื่นของโรคสะเก็ดเงินเปนมากขึ้นและไมสงบ ปญหาตางๆ ทางดานจิตใจ ผูที่รูดีที่สุดคือ ผูปวยและญาติผูใกลชิด ทั้งผูปวยและญาติควรไดรับการฝกฝน ทางดานจิตใจ เพื่อใหรูจักวิธีพิชิตความเครียด และปลอยวางปญหาตางๆลงบาง จะชวยใหจิตใจของ ผูปวยปลอดโปรง โลง สบาย เมื่อจิตใจสงบจะสงผลไปยังรางกายใหสงบเย็นลง ผื่นผิวหนังจะ ควบคุมดวยยาไดงายขึ้น ขอใหกําลังใจแกผูปวยที่ทุกขทรมานจากโรคสะเก็ดเงินทุกคนใหมีจิตใจที่ เขมแข็ง สามารถเอาชนะใจตนเองพิชิตความเครียดและโรคที่เปนอยูไดทุกคน

แนวทางเลือกวิธีการรักษาผื่นโรคสะเก็ดเงิน ผื่นโรคสะเก็ดเงินมีหลายชนิด การเลือกใชยาชนิดใด อยางไร หรือจะใชแสงรักษาผื่นผิวหนังที่ผูปวย เปน ขึ้นกับลักษณะของผื่นและวิจารณญาณของแพทยผูใหการดูแลรักษา หลักเกณฑในการพิจารณาเลือกวิธีการรักษามีดังนี้ • • • • • •

ลักษณะผื่น ตําแหนงของผื่น ความกวางของผื่น ยาหรือเครื่องมือที่แพทยมีอยู ความสะดวกและการยอมรับของผูปวยและญาติ ความชํานาญของแพทยที่เปนผูดูแล

ลักษณะผื่น

ผื่นที่เปนปนหนา ขนาดและจํานวนผื่น โดยรวมนอยกวารอยละ 20 ของพื้นที่ผิวหนังทั้งหมด ควร เลือกใชยาทาเปนหลัก ชนิดของยาทาที่เลือกใชขึ้นกับแพทยผูดูแลจะเห็นสมควร

ตําแหนงของผื่น

ตําแหนงของผื่นเปนปจจัยกําหนดในการเลือกรูปแบบของยาที่จะใชทา ตัวอยางเชน ผื่นบริเวณหนา ขอพับแขน ขา อวัยวะเพศ การเลือกยาทาจะใชครีมสตีรอยดที่มีฤทธิ์ไมแรงมากเพราะผิวหนัง บริเวณนี้บอบบาง ยาจะซึมผานเขาสูผิวหนังไดดีจึงไมจําเปนตองใชยาที่มีฤทธิ์แรง ยาทาในรูปขี้ผึ้ง เหนอะหนะ จึงไมเหมาะที่จะใชในบริเวณขอพับ ผื่นที่ศีรษะหรือบริเวณผิวหนังที่มีขนมาก ยาทาที่เหมาะกับผิวหนังบริเวณนี้ในรูปโลชั่น Solution, Gel เพราะยากลุมนี้เปนของเหลวซึมผานลงสูหนังศีรษะไดดี ยาในรูปขี้ผึ้งไมเหมาะที่จะใชบริเวณนี้ ผื่นบริเวณฝามือและฝาเทา ซึ่งมีผิวหนังชั้นขี้ไคลหนามาก ควรเลือกยาที่มีฤทธิ์แรงหรือยาทาในรูปขี้ผึ้ง หรือน้ํามัน เพราะขี้ผึ้งทําใหผิวหนังอุมน้ําและนุม ยาจะซึมผานลงสูผิวหนังสวนที่อยูลึกไดดี เทคนิคอีกอยาง หนึ่งในการทําใหยาซึมเขาสูผิวหนังไดดีคือการแชผิวหนังที่มีสะเก็ดหรือขุยหนาในน้ําอุนนาน 5-10 นาที


ผิวหนังจะอุมน้ําและนุมขึ้น เช็ดผิวหนังบริเวณนั้นพอหมาดๆแลวจึงทายา จะชวยใหยาซึมผานเขาสูผิวหนัง สวนลึกไดมากขึ้น เคล็ดลับอีกประการหนึ่งที่ชวยใหยาทาซึมผานเขาสูผิวหนังไดมากขึ้น คือการใชพลาสติก คลุมบริเวณผื่นที่ทายาแลวปดเทปกระดาษโดยรอบขอบพลาสติก เพื่อกันไมใหพลาสติกหลุด น้ําจากภายใน รางกายไมสามารถซึมออกสูภายนอกได บริเวณนั้นจะชุมน้ําและนุมทําใหยาซึมเขาผิวหนังไดมากเปน 10 100 เทาของผิวหนังปกติ

ความกวางของผื่น

ความกวางของผื่นผิวหนัง บอกถึงความรุนแรงของโรคและ เปนปจจัยสําคัญอีกปจจัยหนึ่งในการพิจารณาเลือกวิธีการรักษา ผูปวยที่มีผื่นผิวหนังอักเสบจากโรคสะเก็ด เงินกวางมากกวา รอยละ20-25 ของพื้นที่ผิวหนังทั้งหมดจัดเปนผูปวยที่เปนรุนแรงผูปวยกลุมนี้เหมาะที่จะใช ยารับประทาน ยาฉีด หรือใชแสงอัลตราไวโอเลตในการรักษาโรค ไมเหมาะที่จะใชยาทาเพราะการใชยาทา มักไมทั่วถึงและตองใชยาทาเปนจํานวนมากทําใหสิ้นเปลืองคาใชจาย

ยาหรือเครื่องมือที่แพทยมีอยู

สถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลแตละแหงมียาและเครื่องมือทางการแพทยไมเทากัน การเลือกวิธีการ รักษาจึงขึ้นกับยาและเครื่องมือที่มีอยูในโรงพยาบาลแหงนั้นๆดวย เนื่องจากยารับประทานบางชนิดมีราคา แพงและเปนยาใหมจึงมีอยูเฉพาะในโรงพยาบาลศูนยการแพทยใหญๆเทานั้น แพทยผูดูแลรักษาผูปวยจะ เปนผูพิจารณาเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมแกผูปวย

ความสะดวกและการยอมรับของผูปวยและญาติ

ความสะดวกและการยอมรับวิธีการรักษาของผูปวยและญาติ เปนปจจัยสําคัญอีกอยางหนึ่งในการ ตัดสินใจเลือกวิธีการรักษา เพราะมิเชนนั้นผูปวยและญาติจะไมใหความรวมมือในการรักษาเทาที่ควร ตัวอยางเชน การรักษาดวยแสงแดดเทียมผูปวยตองมาโรงพยาบาลสัปดาหละ 2-3 ครั้งถาผูปวยบานอยูไกล ไปมาไมสะดวก หรือผูปวยตองไปทํากิจการงาน เรียนหนังสือเปนตน วิธีการรักษานี้ก็จะไมเหมาะ บางครั้ง ผูปวยและญาติกลัวการฉายแสงแดดเพราะเขาใจวาเปนรังสี x-ray ถาแพทยผูดูแลไมใหคําแนะนําหรือ อธิบายใหผูปวยและญาติเขาใจ การรักษาในระยะยาวก็จะไมประสบผลสําเร็จเพราะผูปวยไมมารับการรักษา ตามที่วางแผนการรักษาไว

ความชํานาญของแพทยที่เปนผูดูแล

ความรูความสามารถของแพทยผูดูแลก็เปนปจจัยสําคัญตอการตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาผูปวย ดังนั้น ผูปวยแตละรายไมควรคิดไปเองหรือเปรียบเทียบวาวิธีการรักษาโรคของตนทําไมไมเหมือนกับผูปวยรายอื่น ควรปรึกษากับแพทยผูดูแลรักษาและซักถามใหเขาใจปญหาโรคของตนเองและปฏิบัติตามที่ไดรับคําแนะนํา

การดูแลรักษาโรคสะเก็ดเงินของหนังศีรษะมีหลักเกณฑดังนี้ • •

• •

กรณีที่ขุยบนหนังศีรษะไมหนามาก แนะนําใหสระผมดวยแชมพูที่มีสวนผสมของน้ํามันดินรอยละ 2-8 (Tar shampoo) กรณีที่สะเก็ดหรือขุยบนหนังศีรษะหนาควรทําใหสะเก็ดบนหนังศีรษะนุมลงกอน วิธีทําใหสะเก็ดนุม ใหใชนํามันมะกอก หรือขี้ผึ้งผสม 1-3%Salicylic acid นวดหนังศีรษะทิ้งไว 4 ชั่วโมง หรือทิ้งไว ขามคืน อาจสวมหรือครอบศีรษะดวยผาหรือหมวกพลาสติกคลุมศีรษะทิ้งไวขามคืน รุงเชาสระผม ดวยน้ําอุนและแชมพูที่มีสวนผสมของน้ํามันดิน นวดใหทั่วศีรษะทิ้งไว 5 นาทีแลวลางน้ําออกใชหวีซี่ ถี่ๆคอยๆขูดสะเก็ดบนหนังศีรษะออก ควรขูดเอาสะเก็ดบนศีรษะออกดวยวิธีที่นุมนวลเพราะการขูด อยางรุนแรงจะทําใหเกิดผื่นสะเก็ดเงินขึ้นใหม ทาหนังศีรษะดวยสตีรอยดในรูป Lotion หรือ Solution วันละ 2 ครั้ง ยาจะซึมเขาสูผิวหนังไดดีกวา ครีมหรือขี้ผึ้ง จะชวยลดการอักเสบของหนังศีรษะ การใชวิตามินดี (Calcipotriol) ชนิด Solution นวดหนังศีรษะก็สามารถลดการอักเสบของหนังศีรษะ ได


เมื่อผื่นและสะเก็ดบนหนังศีรษะหายแลวควรสระผมดวยแชมพูยา สัปดาหละ 1-2 ครั้ง เพื่อควบคุม การกลับเปนซ้ํา

การดูแลรักษาผื่นสะเก็ดเงินของเล็บ ความผิดปกติของเล็บในโรคสะเก็ดเงินพบไดบอย ความชุกของความผิดปกติที่เล็บพบตั้งแตรอยละ 10- 55 เล็บมือเปนมากกวาเล็บเทา ผูปวยโรคสะเก็ดเงินของขอพบมีความผิดปกติของเล็บสูงถึงรอยละ 70 ความ ผิดปกติของเล็บมืออาจพบเพียงเล็บเดียวหรือเปนหลายเล็บ นอยรายที่จะมีความผิดปกติทั้ง 20 เล็บ ลักษณะความผิดปกติของเล็บมีตั้งแต เปนรอยบุม วงสีแดงเรื่อๆที่เล็บ จุดเลือดออกใตเล็บ เล็บรอนจากพื้น เล็บ จนถึงเล็บขรุขระผิดรูป การดูแลรักษาเล็บที่ผิดปกติ ยังไดผลไมดี ผูปวยบางรายความผิดปกติของเล็บตอบสนองตอยาทาสตี รอยด แตตองทาเปนเวลานานและควรอยูภายใตการดูแลของแพทย เพราะการทายาสตีรอยดที่แรงเปน เวลานานๆอาจทําใหเกิดผิวหนังบริเวณจมูกเล็บบางลง นอกจากนี้ยังมีการใชยาทากลุมวิตามินดี (Calciprotriol ointment) ทาที่จมูกเล็บรวมกับยาทาสตีรอยดพบวาไดผลในผูปวยบางราย เคล็ดลับในการ ทายาใหไดผลคือ ในรายที่มีขุยหรือสะเก็ดหนาใตเล็บตองทําใหสะเก็ดหลุด ยุย เสียกอนดวย 30-40 % Urea หรือใช 10-20 % Salicylic acid ในรูปครีมหรือขี้ผึ้งทาทิ้งไวขามคืน ตัดหรือขูดสะเก็ดออกแลวจึง ทายาสตีรอยดหรือ Calcipotriol ointment ผลการรักษาความผิดปกติของเล็บตองใชเวลานานเปนเดือนๆ ผูปวยจึงตองมีความอดทนในการทายา เมื่อไดพยายามรักษาจนเต็มที่แลวผลจะเปนอยางไรก็ควรยอมรับ อยาเครียดเพราะจะไมเกิดผลดีตอโรคโดยรวม ปจจุบันยังคงมีการศึกษาทดลองใชยาใหมๆในการรักษาความ ผิดปกติที่เล็บอยู หวังวาจะมีความคืบหนาไปในทางที่ดี ในระยะเวลาอันใกลนี้

ยาทารักษาโรคสะเก็ดเงิน เมื่อเกิดผื่นแดงที่ผิวหนังของผูปวยโรคสะเก็ดเงิน อาการที่พบรวมดวยคือ แสบรอนหรือคัน แพทยมี หนาที่เลือกใชยาหรือแสงอัลตราไวโอเลตเพื่อควบคุมผื่นผิวหนังอักเสบ ยาที่ใชในการรักษาผูปวยมี 3 กลุม คือ ยาทา ยารับประทาน และยาฉีดโดยมีหลักในการพิจารณาคือ ถาผื่นผิวหนังอักเสบไมเกินรอยละ 20 ของ พื้นผิวของรางกายใหเลือกใชยาทากอน ถาผื่นผิวหนังอักเสบเกินรอยละ 20 ของพื้นผิวของรางกายใหใชยา รับประทาน หรือฉายแสงอัลตราไวโอเลต ยาทาที่นิยมใชในปจจุบันมีดังตอไปนี้ 1. ยาทาสตีรอยด เปนยาที่ใชรักษาผื่นโรคสะเก็ดเงินบอยที่สุด ยาทาสตีรอยดอาจอยูในรูปครีม ขี้ผึ้ง เจลหรือสารละลาย (Solution) การเลือกใชยาทาสตีรอยดชนิดใด ในรูปใดมีหลักพิจารณาดังนี้ ผื่นหนา เปนตามแขนขา มือหรือเทาใชยาทาสตีรอยดฤทธิ์แรงในรูปขี้ผึ้ง ผื่นบางหรือเปนบริเวณหนา ขอพับตางๆ ใชยาทาสตีรอยดฤทธิ์ออนหรือแรงปานกลาง ควรเลือก ยาทาสตีรอยดรูปครีมไมควรใชในรูปขี้ผึ้งเพราะมีฤทธิ์แรงเกินไปและเหนียวเหนอะหนะ ผื่นที่ศีรษะหนาใหใชยาทาสตีรอยดฤทธิ์แรงในรูปครีมเหลวหรือครีมน้ํานม(Milky lotion) ถาผื่น ที่ศีรษะมีลักษณะบางใชยาทาสตีรอยดรูปน้ํา(Solution) จะซึมเขาถึงหนังศีรษะไดดียาทาสตีรอยด รูปขี้ผึ้งไมเหมาะกับหนังศีรษะเพราะเหนอะหนะ และทาใหถึงหนังศีรษะไดยากเพราะติดเสนผม ขอดีของยาทาสตีรอยด คือ ทําใหผื่นยุบไดเร็ว ใชงาย หาซื้อไดทั่วๆไป ขอดอยของยาทาสตีรอยด เมื่อใชทานานๆจะเกิดภาวะดื้อยา เมื่อผื่นยุบลงถาหยุดยาทันทีผื่น มักกลับเปนใหมไดเร็วและรุนแรงขึ้น อาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราแทรกซอนไดงาย การใช ยาทาสตีรอยดที่มีฤทธิ์แรงเปนเวลานานๆ ยาจะถูกดูดซึมไดมาก และกดการทํางานของตอมหมวก ไต มีผลตออวัยวะอื่นๆ ของรางกายเหมือนกับการรับประทานยาสตีรอยด โดยเฉพาะในผูปวยเด็ก ผูสูงอายุ ผูที่มีผื่นผิวหนังอักเสบเปนพื้นที่กวาง หรือมีผื่นในบริเวณขอพับ หนาและบริเวณอวัยวะเพศ การใชยาสตีรอยดจึงควรอยูภายใตการดูแลของแพทย ผูปวยไมควรซื้อยาทาเองโดยไมมีความรู เพราะจะเกิดผลเสียมากกวาผลดี ยาสตีรอยดชนิดรับประทานและฉีดเปนขอหามใชในโรคสะเก็ดเงิน เพราะจะทําใหโรค รุนแรงขึ้นจนกลายเปนโรคสะเก็ดเงินชนิดตุมหนองหรือโรคสะเก็ดเงินชนิดผื่นแดงทั่วตัว ยา สตีรอยดชนิดรับประทานจะทําใหผื่นดีขึ้นในระยะแรกที่เริ่มรับประทานเทานั้นเมื่อรับประทานไปนานๆ


หรือหยุดยาเมื่อผื่นดีขึ้น โรคสะเก็ดเงินจะกําเริบกลับขึ้นมาใหมและมักจะรุนแรงมากกวาเดิม ผูปวย และญาติจึงควรระมัดระวังไมไปซื้อยารับประทานเองเพราะยาแกแพชนิดรับประทานที่รานขายยาจัด ใหหรือแมแตยาหมอ ยาลูกกลอนยาจีน ยาสมุนไพรตางๆ ก็อาจมียาสตีรอยดผสมอยู 2. ยาทากลุมน้ํามันดิน (Crude coal tar or wood tars) เปนสารเคมีพวก Hydrocarbon ที่ไดมาจาก ธรรมชาติ เชน ถานหิน หรือตนไมที่ตายทับถมกันมานาน สารเคมีเหลานี้มีฤทธิ์ทําใหผื่นของโรค สะเก็ดเงินหายได กลไกการออกฤทธิ์ของยานี้ยังไมทราบแน ปจจุบันน้ํามันดินที่ใชในการรักษาโรค สะเก็ดเงินมีหลายรูปแบบและมีขอบงชี้ในการใชยาดังนี้ แชมพูผสมน้ํามันดิน (Tar shampoo) บางครั้งมีการผสม Salicylic acidในแชมพูที่มีน้ํามันดิน เพื่อชวยลอกสะเก็ดหนาบนศีรษะ น้ํามันดินที่ผสมอยูในแชมพู ใชในการรักษาโรคสะเก็ดเงินของ หนังศีรษะและโรคขี้รังแคทั่วๆไปไดดวยน้ํามันดินผสมอยูใน Petrolatum ในความเขมขนรอยละ 2-5 ใชรักษาผื่นโรคสะเก็ดเงินที่หนาไดผลดี โดยเฉพาะผื่นหนาที่ฝามือและฝาเทา ขอดีของยากลุมน้ํามันดิน คือเมื่อยาออกฤทธิ์ทําใหผื่น หรือ ปน ผิวหนังอักเสบ สงบลง เมื่อ ผื่นผิวหนัง อักเสบสงบลงมักสงบไปไดยาวนาน การกลับเปนซ้ําใหมเกิดไดแตชากวาเมื่อใชยาทาสตี รอยด ขอดอยของยากลุมน้ํามันดิน ยานี้ไมมีบริษัทผลิตสําเร็จรูปขายในหองตลาดเมืองไทย จะหา ซื้อยานี้ไดจากโรงพยาบาลใหญๆทั่วไป ยกเวน แชมพูผสมน้ํามันดินที่มีผูผลิตออกขายในทองตลาด หลายบริษัท ครีมที่ผสมน้ํามันดิน มีสีและกลิ่นไมนาใช ผูปวยบางรายทนกลิ่นยาไมได ขอดอยที่ สําคัญอีกอยางหนึ่ง คือ ยาออกฤทธิ์ชาไมทันใจผูปวยและญาติ ดังนั้นผูที่ใชยาทากลุมนี้จึงตองให เวลานานเปนสัปดาหกอนที่จะเห็นผลของยา ตําแหนงที่ไมควรใชยากลุมน้ํามันดินคือ บริเวณหนา และอวัยวะเพศ เพราะผิวหนังบริเวณนี้บาง เกิดการระคายเคืองไดงาย 3. ยากลุมแอนทราลินหรือดิทรานอล (Anthralin or Dithranol) แอนทราลิน เปนสารเคมีกลุม Hydroxyanthrones สกัดจากผลไมประเภทถั่ว (Legume) ที่เรียกวา Vouacopoura araroba พบในทวีปอเมริกาใตและเอเชียใต สารสกัดจากพืชชนิดนี้มีฤทธิ์ฆาเชื้อรา ตอมาพบวามีฤทธิ์รักษาโรคสะเก็ดเงิน สารในกลุมนี้ชนิดแรกที่นํามารักษาโรคสะเก็ดเงินคือ Chrysarobin ตอมาบริษัท Bayer ในประเทศเยอรมันไดสังเคราะหสารชนิดหนึ่งที่มีสารโครงสราง คลาย Chrysarobin เรียกวา Cignolin มีฤทธิ์ในการรักษาโรคสะเก็ดเงินไดผลดี ประเทศแถบยุโรป เรียก Cignolin วา Dithranol ประเทศสหรัฐอเมริกาเรียกวา Anthralin กลไกการออกฤทธิ์ กลไกการออกฤทธิ์ยังไมเปนที่เขาใจกันอยางชัดเจน ยามีฤทธิ์กดการสราง mitochondrial DNA ลดการหมุนเวียนของเซลล จึงมีฤทธิ์กดการแบงตัวของเซลลผิวหนัง นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์กด การอักเสบโดยหามการทํางานของเซลลเม็ดเลือดขาว(Neutrophil,Monocyte) ยานี้จึงใชไดผลดีใน ผื่นของโรคสะเก็ดเงิน ยาแอนทราลิน มีใชกันอยูในรูปขี้ผึ้ง ครีมหรือ zinc paste ความ เขมขนรอย ละ 0.05-4 เนื่องจากยานี้ระคายผิวหนังมากไมควรใชยาชนิดนี้ที่บริเวณหนา ขอพับตางๆ การทายา ตองระมัดระวังไมใหถูกผิวหนังปกติ นอกจากนี้ยายังเปรอะเปอนเสื้อผา ผาปูที่นอนและลางออกยาก ปจจุบันมีบริษัทไดผลิตยาแอนทราลินละลายในครีมไขมันที่เปนของแข็งในอุณหภูมิหองเมื่อทาลง บนผิวหนังครีมนี้จะปลอยยาแอนทราลินออกสูผิวหนัง ครีมชนิดนี้สามารถลางน้ําออกไดงาย เทคนิค การทายาแอนทราลินใหเกิดผลขางเคียงนอย คือ ใชยาในรูปที่ละลายน้ํา (Water soluble vehicle) ทาบนผื่นสะเก็ดเงินทิ้งไวนาน 10-30 นาทีแลวลางออก ถาไมพบอาการระคายเคืองก็คอยๆเพิ่มเวลา ทายาครีมแอนทราลินใหนานออก เทคนิคนี้ชวยลดผลขางเคียงของยาแอนทราลินได ชวยให ผลการรักษาดีขึ้น ปจจุบันมีบริษัทนําเขายาครีมแอนทราลินมาจําหนายในประเทศไทยแลว ผลการรักษาดวยยานี้ใชเวลานานกวายาสตีรอยด ราคายาสูง แตยานี้ใชไดผลดีกับปนผิวหนังอักเสบ ของโรคสะเก็ดเงินที่หนาๆ ขอบงชี้ในการใชยาแอนทราลิน มีดังนี้ ผื่นโรคสะเก็ดเงินที่เปนปนหนา (Stable chronic plaque type of psoriasis) ปนหนาของโรค สะเก็ดเงินที่ศีรษะ การใชยาครีมแอนทราลินควรอยูภายใตการดูแลของแพทยและพยาบาลที่มีความรูเรื่องยา


ขอควรระวังในการใชยาทาแอนทราลิน

ไมควรใชกับผื่นโรคสะเก็ดเงินที่แดงและมีน้ําเหลืองเพราะยามีฤทธิ์ระคายเคืองอาจทําใหโรคกําเริบ กลายเปนโรคสะเก็ดเงินชนิดตุมหนองกระจายทั่วตัว ไมควรใชกับผื่นโรคสะเก็ดเงินบริเวณ หนา คอ ขอพับ ขาหนีบ อวัยวะเพศ เพราะเกิดการระคายเคืองไดงาย ไมใชกับผูที่มีประวัติแพยาแอนทราลิน 4. Salicylic acid เปนกรดผสมอยูในครีมหรือขี้ผึ้งมีฤทธิ์ชวยลอกสะเก็ด ขุย บนผื่นสะเก็ดเงิน ความ เขมขนที่มีใชอยูในรูปครีมSalicylic 2-5%หรือขี้ผึ้ง 5-10% ใชทาผื่นสะเก็ดเงินที่หนาๆ จะชวย ลดขุยและลอกสะเก็ดบนผื่นของโรคสะเก็ดเงินชวยใหยาทาชนิดอื่นซึมผานเขาผิวหนังไดดี ยานี้ เหมาะที่จะใชในบริเวณศีรษะ ฝามือ ฝาเทา ที่ผื่นหนามาก ไมควรใชบริเวณขอพับและในเด็ก เพราะ กรด Salicylic อาจทําใหเกิดอาการระคายเคือง หรือถูกดูดซึมเขาสูรางกายจนเกิดพิษ 5. ยาทากลุมอนุพันธุของวิตามิน ดี3 (Calcipotriol) เปนสารในกลุมวิตามิน D3 ออกฤทธิ์เหมือน ๆ กัน Calcipotriol มีทั้งในรูปครีม ขี้ผึ้ง หรือ Solution เปนสารที่ไมมีสีหรือกลิ่นเหม็น จึงแกปญหาของ ยากลุมน้ํามันดินและแอนทราลินไปได กลไกการออกฤทธิ์ สารในกลุมวิตามิน D3, Calcipotriol ออกฤทธิ์กดการแบงตัวของเซลลผิวหนังและทําใหเซลล ผิวหนังเจริญสมบูรณ (Terminal differentiation) นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ตานการอักเสบโดยลดการ สรางสารสื่อกลาง(Chemical mediator) ขอบงชี้ในการใชยาทา Calcipotriol มีดังนี้ ใชทาผื่นของโรคสะเก็ดเงินชนิดปนหนาโดยทาวันละ 2 ครั้ง ไมควรใชยานี้ในรูปขี้ผึ้งที่บริเวณ ใบหนา ขอพับ เพราะเหนอะหนะ และระคายเคืองผิวหนังงาย ควรเลือกใชยา Calcipotriolในรูปครีม จะชวยลดผลขางเคียงดังกลาวได ผลการรักษาที่ชัดเจนใชเวลาประมาณ 3-4 สัปดาห แพทยจึงควร ตองอธิบายใหผูปวยทราบกอนใช จํานวนยาที่ใชไมควรเกิน 100 กรัม/สัปดาห ใชรักษาโรคสะเก็ดเงินของหนังศีรษะ มีการศึกษาทดลองใช Calcipotriol solution รักษาโรค สะเก็ดเงินที่หนังศีรษะพบวาไดผลในบางราย รายที่ผื่นบนศีรษะมีสะเก็ดหนามากควรตองลอก สะเก็ดออกกอนโดยการหมักหนังศีรษะดวยน้ํามันมะกอก หรือใชกรด Salicylic รูปครีม หรือขี้ผึ้งทา ลอกสะเก็ดที่หนังศีรษะกอนทา Calcipotriol

ขอควรระวังในการใชยา Calcipotriol ขอควรระวังคือยานี้ทําใหเกิดอาการระคายเคืองตอ ผิวหนังปกติที่อยูรอบๆ ผื่น หรือทําใหผื่นแดงขึ้นได จึงควรแนะนําผูปวยใหหยุด ลดจํานวนครั้งที่ทายา หรือ ทายาใหบางลง เมื่อเกิดอาการแดงขึ้นภายหลังจากที่ทายา เมื่อลดจํานวนครั้งที่ทาหรือลดจํานวนยาทาที่ใช แลวยังมีอาการแดง แสบ ระคายเคืองที่ผื่นก็ควรเปลี่ยนไปใชยาทาชนิดอื่น ปญหาสําคัญของยา Calcipotriol อีกอยางหนึ่งคือราคายาคอนขางสูง 6. ยาทากลุมเรตินอล เปนที่ทราบกันดีวาวิตามินเอ มี บทบาทในการเจริญเติบโตและแบงตัวของเซลลผิวหนังจึงมีการศึกษาทดลองและนําวิตามินเอ ตามธรรมชาติมาใชรักษาโรคผิวหนังที่มีสะเก็ดหนา พบวาผลขางเคียงของยาในรูปรับประทานสูง ตอมาจึงมีการสังเคราะหยากลุมอนุพันธุวิตามินเอขึ้นมีทั้งในรูปรับประทานและทาเฉพาะที่ ไดมีการ นํายากลุมอนุพันธุวิตามินเอ มาใชในการรักษาโรคผิวหนังหลายชนิดเชน สิว ฝามือฝาเทาหนา รวมทั้งโรคสะเก็ดเงินดวย ยาทากลุมอนุพันธวิตามินเอ (Retinol) เริ่มมีการศึกษาและนํามาใชรักษา ผูปวยโรคสะเก็ดเงินบางแลว ผลการรักษายังอยูในระยะศึกษาทดลอง และยังไมมีจําหนายใน ประเทศไทยจึงจะไมกลาวถึงในรายละเอียดในที่นี้ ยานี้มีชื่อวา Tazarotene สําหรับยาอนุพันธุ วิตามินเอในรูปรับประทานมีการนํามาใชรักษาโรคสะเก็ดเงินมานานจะไดกลาวถึงตอไปในหัวขอยา รับประทาน 7. ยาทาใหผิวชุมชื้น (Emollients) ผื่นผิวหนังอักเสบของผูปวยโรคสะเก็ดเงินจะไวตอปจจัยกระตุนภายนอกมากเปรียบเหมือนกับ คนที่กําลังโกรธถามีอะไรมากระทบจะเกิดอาการอาละวาดฟาดหางกับผูที่อยูใกลเคียง ผูปวยโรค สะเก็ดเงินที่ผื่นของโรคกําลังอักเสบแดง นอกจากการใชยาทารักษาอาการอักเสบของผิวหนังแลว


ควรทายาเพิ่มความชุมชื้นใหผิวหนังบอยๆดวยเพื่อเปนการชวยลดอาการระคายเคือง และลดการ อักเสบของผื่นผิวหนังลงไปไดอีกทางหนึ่ง

ยารับประทาน ยารับประทาน ที่ใชรักษาโรคสะเก็ดเงิน 1. เมโธเทรกเซท (Methotrexate) 2. กรดวิตามินเอ ไดแก Etretinate, Acitretin 3. ไซโคสปอริน (Cyclosporin)

ยารับประทาน Methotrexate (MTX)

เปนยาตานการเมตาบอไลตของเซลล ออกฤทธิ์ตานการทํางานของเอนไซม Dihydrofolate reductase ที่ใชในการสราง DNA ของเซลลเมื่อยาเขาสูรางกายจะทําใหเซลลผิวหนังแบงตัวชาลง ทําใหผื่นของโรค สะเก็ดเงินยุบลง ยายังกดการทํางานของเซลลอื่นๆ ในรางกายที่แบงตัวเร็ว เชน เซลลไขกระดูก ยามีทั้งรูป รับประทานและฉีด เมื่อยาเขาสูรางกายจะกระจายไปที่เซลลตับและไต จึงมีผลตอเซลลตับและไต

ขอบงชี้ในการใชยาMTX

ผูปวยที่จําเปนตองใชยารับประทาน MTX คือ ผูปวยโรคสะเก็ดเงินที่มีลักษณะดังนี้ 1. ผื่นเปนมากเกินรอยละ 20 ของผื่นที่ผิวหนังหรือเปนรุนแรง 2. ผูปว ยโรคสะเก็ดเงินที่ผื่นผิวหนังอักเสบ ไมตอบสนองตอยาทา หรือผื่นของโรคเปนในตําแหนงที่ ทําใหผูปวยไมสามารถออกสังคมได หรือผื่นของโรคสะเก็ดเงินทําใหผูปวยมีความพิการไมสามารถ ทํางานได เชน เปนมากที่มือ เทา หรือทําใหผูปวยมีความทุกขทางจิตใจอยางมาก 3. ผื่นของโรคสะเก็ดเงินที่ควรไดรับยา MTX คือ ผื่นแดงลอกทั้งตัว (Erythroderma), ตุมหนองทั้งตัว (Acute pustular psoriasis of Von Zumbusch) ตุมหนองเฉพาะที่ ที่มีผลกระทบตอการดําเนินชีวิต ตามปกติของผูปวย

ขอหามในการใชยา MTX 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7.

หญิงตั้งครรภ ผูปวยโรคตับหรือโรคไตที่การทํางานของอวัยวะทั้ง 2 เสื่อมลง ผูปวยที่ซีด เม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดต่ํากวาปกติ ผูปวยโรคกระเพาะที่รุนแรงหรือเปนๆ หายๆ โรคตับแข็ง ผูปวยที่ดื่มเหลามาก ผูปวยทั้งหญิงและชายที่ไดรับยา MTX ตองไมมีบุตรใน ระหวางที่รับประทานยาหรืออยางนอยตอง หลังจากหยุดยา MTX 12 สัปดาห 8. ผูปวยที่เปนโรคติดเชื้อระยะรุนแรง เชน วัณโรค กรวยไตอักเสบ 9. ผูปวยที่ไมปฏิบัติตามที่แพทยแนะนําหรือออนดอยทางปญญา

การตรวจทางหองปฏิบัติการที่ควรทํากอนไดรับ MTX

ผูปวยโรคสะเก็ดเงินทุกรายที่จะไดรับ MTX ควรไดรับการซักประวัติและการตรวจรางกายอยางละเอียด และ ควรตรวจทางหองปฏิบัติการดังนี้ 1. ตรวจเลือดดูความเขมของเม็ดเลือดแดง จํานวนเม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด 2. ตรวจดูหนาที่ของไต โดยการตรวจปสสาวะ ตรวจเลือดดูระดับ Creatinine, Uric acid


3. เจาะเลือดดูหนาที่ของตับ เชน Serum bilirubin, SGOT, SGPT และ Alkaline phosphatase 4. ถายภาพรังสีทรวงอก 5. การเจาะตับเพื่อตรวจดูพยาธิสภาพอาจตองทําในผูปวยบางรายหรือในผูปวยที่ไดรับยา MTX 1.5-2 กรัม ไปแลว

ผูปวยโรคสะเก็ดเงินที่ไดรับ MTX ควรไดรับคําชี้แจงและอธิบายอยูเสมอๆ ดังนี้ 1. ผูปวยทั้งหญิงและชายที่อยูในวัยเจริญพันธุ ควรตองคุมกําเนิด เมื่อหยุดยา MTX ควรเวนชวงอยาง นอย 12 สัปดาห กอนจะเลิกคุมกําเนิดและสามารถมีบุตรได 2. อยารับประทานยาอื่นๆเพิ่มเติมโดยไมแจงกับแพทยผูดูแลตรวจเพราะยาที่ไดรับประทานใหมอาจมี ปฏิกิริยากับยา MTX และเปนอันตรายถึงชีวิตได 3. งดเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล (เหลา เบียร ไวน) เพราะยา MTX และแอลกอฮอล จะทําลายตับ ของผูปวยทําใหเกิดตับอักเสบ 4. ใหรับประทานยาตามที่แพทยแนะนําอยางเครงครัด 5. รับประทาน MTX สัปดาหละครั้ง หรือ 3 มื้อ ไมใชรับประทานทุกวันติดตอกัน 6. ใหติดตอกับแพทยผูดูแลทันทีกรณีที่สงสัยวาจะรับประทานยาเกินขนาด 7. ถามีอาการ เจ็บคอ เปนไข ไอ หรือหายใจไมออกใหไปพบแพทยและแจงใหทราบวารับประทานยา MTX อยู 8. รายงานแพทยผูดูแลและแพทยคนอื่นๆ ที่รักษาวากําลัง รับประทาน MTX อยู เมื่อสงสัยวาเกิดผล ขางเคียงของยา 9. หยุดรับประทานยา MTX เมื่อมีอาการที่สงสัยจะเปนโรคติดเชื้อ เชน ไขหวัด ทางเดินปสสาวะอักเสบ ปอดอักเสบ 10. อยานํา MTX ของทานไปใหผูปวยอื่นรับประทาน หลังจากผูปวยได MTX ตองติดตามตรวจเลือดทุก สัปดาห 1-4 สัปดาห ตรวจหนาที่ของตับและไตทุก 1-4 เดือน ถายภาพรังสีทรวงอกปละ 1 ครั้ง

ผลขางเคียงของยา MTX 1. ผลขางเคียงที่พบบอยคือ อาการคลื่นไส ไมสบายในชองปาก 2. ผลขางเคียงที่รุนแรง คือ ไขกระดูกไมทํางาน ทําใหเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวและ/หรือเกล็ด เลือดต่ํา ทําใหผูปวยติดเชื้องาย อาจถึงเสียชีวิต ผลขางเคียงทางดานโลหิตวิทยา พบบอยใน สัปดาหแรก โดยเฉพาะในผูสูงอายุ 3. ตับอักเสบจากยาหรือตับแข็ง โดยเฉพาะในผูปวยที่อวน เปนเบาหวานหรือผูปวยที่ดื่มเหลา ผลการรักษาดวยยา MTX ผื่นผิวหนังอักเสบในโรคสะเก็ดเงินตอบสนองตอยา MTX ไมเหมือนกัน ผื่นผิวหนังอักเสบชนิดปนหนาที่ดื้อตอยาทา เมื่อใหยารับประทาน MTX รอยละ 80-90 ของผูปวยผื่น ยุบลง รอยละ 50 จึงอาจตองใชยาทากลุมสตีรอยด น้ํามันดินหรือ Calcipotriol รวมดวยเพื่อควบคุม อาการทางผิวหนังไดดีขึ้น MTX สามารถควบคุมโรคสะเก็ดเงินชนิดตุมหนองทั่วตัวไดถึงรอยละ 79 ผูปวยโรคสะเก็ดเงินที่มีอาการปวดขอ ยาMTX ควบคุมอาการของโรคไดประมาณ 1/3 - 1/2 ของ ผูปวย เมื่อควบคุมอาการของโรคไดแลวผูปวยยังตองรับประทานยาตอไปอีกระยะหนึ่ง แพทยผูดูแล จะลดขนาดยาลงใหเหลือนอยที่สุดที่ยังสามารถควบคุมอาการของโรคไดทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงผลอัน ไมพึงประสงคจากการใชยา

ยารับประทานกลุม เรตินอยด (Retinoids) ยากลุมเรตินอยด คืออะไร?

วิตามิน เอ เปนสารอาหารที่จําเปนตอการแบงตัวและเจริญเติบโตของเซลลเยื่อบุรางกาย เชน ผิวหนัง เยื่อบุชองปาก จึงมีผูนําวิตามิน เอ มารักษาโรคสะเก็ดเงิน พบวาไมไดผล ตอมามีการคนพบกรดของวิตามิน เอ (Retinoids) พบวามีฤทธิ์ในการรักษาผื่นผิวหนังอักเสบของโรคสะเก็ดเงินไดดี ปจจุบันสารกลุมนี้เรียกวา Retinoids ซึ่งรวมถึงวิตามิน เอ ดวย ยารับประทานกลุม Retinoids ที่ใชรักษาโรคสะเก็ดเงินมี 3 ชนิด คือ


Etretinate, Acitretin และ Isotretinoin ในประเทศไทยปจจุบันนิยมใช Acitretin แทน Etretinate เพราะ ยา Acitretin มีชวงครึ่งชีวิตสั้นกวา Etretinate มาก ทําใหหลีกเลี่ยงผลเสียที่จะเกิดกับเด็กในครรภ กรณีที่ ผูปวยตั้งครรภหลังจากหยุดยา ผูปวยรายใดควรไดรับยา Acitretin หรือ Etretinate? การพิจารณาให Acitretin แกผูปวยโรคสะเก็ดเงิน แพทยผูดูแลจะเปนผูพิจารณาโดยมีหลักเกณฑดังนี้

ขอบงชี้ในการใชยา Acitretin

เปนโรคสะเก็ดเงินที่รุนแรง ผื่นผิวหนังอักเสบของโรคสะเก็ดเงินไมตอบสนองตอยาทา ผื่นผิวหนังอักเสบเปนมากเกินรอยละ 20 ของพื้นที่ผิวหนังไมสามารถใชยาทาไดทั่วถึง ผูปวยโรคสะเก็ดเงินที่เปนมาก หรือดื้อตอยาทาและไมสามารถมารับการฉายแสงอัลตราไวโอเลต บี หรือรับประทานยาPsoralen รวมกับการฉายแสงอัลตราไวโอเลต เอ (PUVA = Psoralen + UVA) ได เพราะการฉายแสงอัลตราไวโอเลตตองมารับการฉายแสงที่โรงพยาบาลสัปดาหละหลายวัน ผูปวยที่ตองเรียนหนังสือหรือทํางานจะมีปญหาเรื่องการลางานหรือหยุดเรียนเพื่อมารับการฉายแสง อัลตราไวโอเลตที่โรงพยาบาล 5. ผูปวยโรคสะเก็ดเงินที่มีตุมหนองกระจายทั่วตัว 6. ผูปวยโรคสะเก็ดเงินที่เปนผื่นแดงลอกทั่วตัว 1. 2. 3. 4.

ขนาดของยาที่ใช

ขนาดยาที่ใชคิดตามน้ําหนักตัว 0.25-0.6 มก./กก./วัน

ผลการรักษาดวยAcitretin เปนอยางไร?

ผลการรักษาดวย Acitretin ในผูปวยโรคสะเก็ดเงินแตละรายจะแตกตางกันขึ้นกับชนิดของผื่นที่ผูปวย เปน ยา Acitretin สามารถควบคุมผื่นโรคสะเก็ดเงินที่เปนตุมหนองทั่วตัวและผื่นหนาตามฝามือฝาเทา ไดดี แตผื่นของโรคสะเก็ดเงินที่เปนปนหนา (Plaque type psoriasis) จะตอบสนองตอยา Acitretin ไดไมดี

ขอควรระวังในการใชยา Acitretin

ผลขางเคียงของยาที่พบเสมอคือริมฝปากแหง แตก ผิวแหง คัน ผมรวงทั่วศีรษะ ผลขางเคียงตออวัยวะ ภายในพบไดนอย เชน ตับอักเสบ กระดูกพรุน การเปลี่ยนแปลงของระดับ Triglyceride, Cholesterol ใน เลือด ในสตรีที่รับประทานยา Acitretin ตองคุมกําเนิดในระหวางที่รับประทานยาและตองคุมกําเนิดตอเนื่อง ไปอีกนาน 2 ป หลังหยุดยาเพราะยานี้สะสมอยูที่ไขมันในรางกาย สามารถทําใหเด็กในครรภพิการได

ยา Cyclosporin ในการรักษาโรคสะเก็ดเงิน

มีหลักฐานทางวิทยาศาสตรหลายชิ้นที่แสดงวาผูปวยโรคสะเก็ดเงินมีความ ผิดปกติของระบบภูมิคุมกันในสวนของเซลลเม็ดเลือดขาวชนิด T lymphocytes จึง ไดมีการศึกษาทดลองใชยากดระบบภูมิคุมกันมารักษาโรคสะเก็ดเงินและพบวา Cyclosporin ซึ่งเปนยากดภูมิคุมกันของรางกายที่ไดจากเชื้อรา ทําใหโรคสะเก็ดเงิน ดีขึ้นได กลไกการออกฤทธิ์

ยา Cyclosporin ออกฤทธิ์กดการทํางานของ T lymphocytes ซึ่งเปนเซลลที่ทําใหเกิดการอักเสบที่ ผิวหนัง และกระตุนเซลลผิวหนังใหแบงตัวเพิ่มจํานวน ยานี้จึงทําใหผื่นผิวหนังที่อักเสบและหนาตัวในโรค สะเก็ดเงินดีขึ้น


ขอบงชี้ในการใช Cyclosporin รักษาโรคสะเก็ดเงิน

ใชในรายที่ผื่นโรคสะเก็ดเงินที่รุนแรงปานกลางถึงรุนแรงมากไมตอบสนองตอการรักษาปกติ เชน ยา ทา แสงอัลตราไวโอเลตบี Psoralen รวมกับแสงอัลตราไวโอเลตเอ เมโธเทร็กเซท

ขนาดที่ใช

ขนาดของยา Cyclosorin A เริ่มที่ 3 มก./ กก./ วัน แบงใหวันละ 2 ครั้ง ถายังไมสามารถควบคุมอาการ ไดใหพิจารณาเพิ่มขนาดยาทุก 2 สัปดาหจนถึงขนาด 5 มก./ กก. / วัน เปาหมายในการใชยาไมไดอยูที่ผื่น หายหมด เมื่อสามารถคุมอาการผื่นไดเปนสวนใหญก็ใหยาตอไปในขนาดควบคุม 3 มก. / กก. / วัน ไมควร ใชยา Cyclosporin นานกวา 1 ป เพราะผลขางเคียงของยาสัมพันธกับขนาด และระยะเวลาที่ใชยา โดยเฉพาะพิษตอไต ความดันโลหิตสูง และมะเร็ง

ขอหามในการใชยา Cyclosporin ไดแก

ผูปวยที่มีไตพิการ โรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไมได ประวัติเปนโรคมะเร็งมากอน หญิงตั้งครรภหรือ กําลังใหนมบุตร ผูปวยที่กําลังมีการติดเชื้อโรคอยู ผูมีความบกพรองของระบบภูมิคุมกัน ผูที่มีประวัติแพยา Cyclosporin มากอน

ยากดระบบภูมิคุมชนิดอื่นๆ (Other immunosuppressive agents)

ความรูเรื่องยากลุมนี้เกิดขึ้นพรอมกับการเปลี่ยนอวัยวะตางๆ เชน เปลี่ยนไต หัวใจ ตับ และ ปอด ผูปวย ที่เปลี่ยนอวัยวะตองใชยากดภูมิคุมกันตนเองไมใหไปทําลายอวัยวะที่เปลี่ยนใหม ยากลุมนี้รุนแรกๆ คือ Cyclosporin มีฤทธิ์กดการทํางานของเซลลเม็ดเลือดขาวที่เรียกวา T-cell ลิมโฟไซต เปนเซลลของระบบ ภูมิคุมกันที่ทําหนาที่ทําลายสิ่งแปลกปลอม เมื่อยากลุมนี้กดการทํางานของเซลลเม็ดเลือดขาวทําให อวัยวะที่ไดรับการปลูกถายอยูไดนานเพราะระบบภูมิคุมกันของรางกายไมทําลายอวัยวะที่ไดรับใหม ปจจุบัน ความรูเรื่องพยาธิกําเนิดของผื่นโรคสะเก็ดเงินพบหลักฐานวาเกิดจากการทํางานระบบภูมิคุมกันชนิดพึ่ง เซลลผิดปกติ T-cell ลิมโฟไซตจะเคลื่อนเขามาที่หนังแทและหนังกําพราทําใหเกิดการอักเสบและทําให หนังกําพราแบงตัวเพิ่มมากผิดปกติ หลอดเลือดแดงในหนังแทขยายตัวเกิดผื่นแดง T-cell ลิมโฟไซตเขามา อยูรอบหลอดเลือด หลั่งสารเคมีหลายชนิดทําใหเกิดการอักเสบในชั้นหนังแท จากความรูนี้จึงมีการนํายากด ระบบภูมิคุมกัน มารักษาโรคสะเก็ดเงินชนิดรุนแรง พบวาไดผลดี ยากลุมนี้มีทั้งชนิด รับประทาน ฉีด และทา ปจจุบันมียากดภูมิคุมกันที่ยังอยูในระยะศึกษาทดลองหลายชนิดจึงไมขอกลาวถึงในรายละเอียด จะใหเฉพาะ ชื่อยาไวเพื่อผูสนใจไปคนควาเพิ่มเติม 1. Cyclosporin 2. Mycophenolate mofetil 3. Tacrolimus 4. Ascomycin 5. Sirolimus 6. Monoclonal antibodies ชนิดตางๆ 7. Cytokines 8. Fusion proteins 9. Anti-metabolite


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.