งานกับอุดมคติของชีวิต นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์

Page 1



งานกับอุดมคติของชืวิต นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ บนเส้นทางสมบุกสมบันสู่หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า จนถึงวันที่มีมะเร็งเป็นเงื่อนไขใหม่ของชีวิต และมิตรภาพมีความหมายใหม่


กว่ายี่สิบปีที่ผมเกาะติดทำงานหนักด้วยความใฝ่ฝัน ที่จะผลักดันให้เกิดการปฏิรูประบบบริการสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพราะเชื่อมั่นและมีความหวังว่า... สิ่งนี้จะนำไปสู่ความทั่วถึง เท่าเทียมและเป็นธรรมในสังคมได้ ตามความเชื่อและความตั้งใจตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา แต่น่าเสียดายที่ในวันที่ผมได้เห็นว่า... สิ่งที่เป็นความฝันสูงสุดของชีวิตกำลังจะเป็นจริง เมื่อระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประเทศไทยได้เกิดขึ้น กำลังต้องการการฟูมฟักถักทอสานต่อให้มีความมั่นคง ก็กลับเป็นวันที่ผมพบว่าตัวเองมีโรคที่ทุกคนเกรงกลัวอยู่ในร่างกาย... ความท้าทายในชีวิตผมนับจากวันที่พบโรคมาจนถึงวันนี้ จึงไม่ใช่เพียงความท้าทายของงานและภารกิจที่ยังไม่เสร็จสิ้น แต่ยังเป็นการท้าทายกับ “หัวใจ” ตัวเอง ที่ชีวิตต่อจากนี้ไปจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ผมไม่สามารถอยู่แบบเดิม........ใช้ชีวิตแบบเดิมได้อีกแล้ว เพราะวันนี้ผมมีมะเร็งอยู่ในร่างกาย... ผมต้องเปลี่ยนแปลงตนเองไปในหลายๆ ด้าน เพื่อจะอยู่ต่อไปอย่างดีที่สุด กับเงื่อนไขใหม่ที่มาอาศัยอยู่ด้วยโดยมิได้เชื้อเชิญ...


ในท่ามกลางความยากลำบากที่ต้องผจญกับเงื่อนไขใหม่ของชีวิต ผมได้สัมผัสความอบอุ่น จากครอบครัว จากผู้ร่วมงาน จากอาจารย์และผู้หลักผู้ใหญ่ที่ผมเคารพนับถือ และจากเพื่อนทั้งที่สนิทและไม่สนิทจากทั่วสารทิศอย่างคาดไม่ถึง ความรัก ความห่วงใยที่ผมได้รับทำให้ผมได้ทบทวนถึงน้ำใจและมิตรไมตรี กับความโชคดีของผมที่ได้รับมาตลอดชีวิต จากผู้เป็นที่รัก ณ ที่ต่าง ๆ และในโอกาสต่างๆ กัน ผู้เป็นที่รักที่ทำให้ความมืดมิดที่ผมต้องผจญ มีความสว่างไสวเรืองรองปะปนอยู่ทั่วไป เป็นแสงสว่างแห่งมิตรภาพที่ช่วยเยียวยาและหล่อเลี้ยงชีวิต จึงเป็นที่มาของความรู้สึกขอบคุณ “แด่ ทุกคนผู้เป็นที่รัก”


ı

คํ า นิ ย ม

ı

ประวัติวีรบุรุษไซร้ ว่าอาจจะยังชนม์ และยามจะบรรลัย รอยบาทเหยียบแนบไว้

เตือนใจ เรานา เลิศได้ ทิ้งซึ่ง แทบพื้นทรายสมัย

พระราชนิพนธ์ของล้นเกล้าฯ ร.6 แปลจากบทกวีของลองเฟลโลว กวีอเมริกัน

คุ ณ หมอสงวนมิ ใ ช่ นั ก รบที่ ถื อ อาวุ ธ อย่ า งบรรดาอั ศ วิ น หรื อ ยอดฝี มื อ ในวงการบู๊ ลิ้ ม แต่ ป ระวั ติ แ ละผลงานที่ ป รากฏในหนั ง สื อ เล่ ม นี้ บ่ ง บอกว่ า คุ ณ หมอสงวนเป็นวีรบุรุษในวงการสาธารณสุขโดยแท้ แม้ ชี วิ ต ในเยาว์ วั ย จะไม่ โ ลดโผน เพราะเกิ ด มาเป็ น ลู ก คนเล็ ก ใน ครอบครั ว ชนชั้ น กลางแถวเยาวราช แต่ เ มื่ อ ชี วิ ต เริ่ ม ย่ า งเข้ า สู่ รั้ ว โรงเรี ย น แพทย์ ห ลั ง จากตั ด สิ น ใจสละสิ ท ธิ์ ไ ม่ รั บ ทุ น โคลั ม โบไปเป็ น นั ก เรี ย นนอกที่ ออสเตรเลี ย คุ ณ หมอสงวนก็ เ สมื อ นย่ า งเข้ า สู่ ส มรภู มิ เพราะสถานการณ์ บ้านเมืองช่วงนั้น เป็นช่วงของการต่อสู้ที่แหลมคม ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ต่อเนื่องไปจนถึง 6 ตุลาคม 2519 กว่าการต่อสู้จะเริ่มยุติ เมื่ อ มี ค ำสั่ ง 66/2523 ออกมา คุ ณ หมอสงวนยื น หยั ด อยู่ แ ถวหน้ า ใน สถานการณ์ ค วามขั ด แย้ ง มาอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง และตลอดชี วิ ต ก็ เ สมื อ นอยู่ ใ น


สมรภู มิ ม าโดยตลอดเพราะคุ ณ หมอสงวนมี อุ ด มการณ์ แ ละทุ่ ม เทชี วิ ต ให้ แ ก่ การต่ อ สู้ เ พื่ อ อุ ด มการณ์ คื อ ชี วิ ต ที่ ดี ก ว่ า ของประชาชนคนไทย คุ ณ หมอสงวน ต้ อ งเผชิ ญ กั บ อุ ป สรรคขวากหนามมากมาย กว่ า จะก่ อ เกิ ด เป็ น ผลงานความ สำเร็จที่เป็นคุณูปการเอนกอนันต์แก่สังคมไทย น่ า ยิ น ดี ที่ แ ม้ จ ะต้ อ งทุ ก ข์ ย ากทั้ ง หน้ า ที่ ก ารงานและโรคร้ า ยที่ รุ ม เร้ า คุ ณ หมอสงวนได้ เ จี ย ดเวลาเล่ า เรื่ อ งราวในชี วิ ต อั น น่ า สนใจไว้ ใ ห้ ผู้ ยั ง อยู่ ข้ า ง หลั ง ได้ รั บ รู้ แ ละเรี ย นรู้ นั บ เป็ น ผลงานชิ้ น สุ ด ท้ า ยที่ คุ ณ หมอสงวนฝากไว้ มี เรื่ อ งราวมากมายที่ เ ป็ น เบื้ อ งหลั ง แห่ ง ความสำเร็ จ เป็ น ประสบการณ์ ที่ ท รง คุ ณ ค่ า ที่ แ ลกมาด้ ว ยหยาดเหงื่ อ และความเหนื่ อ ยยาก เป็ น อดี ต ที่ มี “ทั้ ง รั ก ทั้งชัง ทั้งหวาน และขมขื่น” โดยแท้ ผลงานทุ ก ชิ้ น ของคุ ณ หมอสงวนล้ ว นต้ อ งมี ก ารหล่ อ หลอมและบ่ ม เพาะภู มิ ปั ญ ญาขึ้ น ด้ ว ยความมานะอุ ต สาหะเป็ น เวลายาวนานและเมื่ อ ลงมื อ ปฏิบัติก็ต้องประสบกับปัญหาที่หนักหนาสาหัสยิ่งกว่า สมตามหลักปรัชญาใน คัมภีร์รากผัก (ไช่เกินถาน) ของหงอิงหมิง บทที่ว่าด้วย “ทองคำหลอมร้อย หนกับเกาทัณฑ์สามหมื่นชั่ง” ดังนี้


การฝึกฝนประหนึ่งหลอมทองคำร้อยหน เร่งรัดร้อนรนมิใช่หนทางถูกต้อง การกระทำให้เกิดคุณประโยชน์เปรียบดั่งเกาทัณฑ์หนักสามหมื่นชั่ง เหนี่ยวยิงเบา จะปราศจากวีรกรรมที่ยิ่งใหญ่ Discipline is like tempered gold; It is never right if done in haste. Charity is like stretching a strong bow; You won’t shoot very far with a small effort. นอกจากผลงานมากมายที่คุณหมอสงวนได้สร้างไว้ หนังสือเล่มนี้ยัง เป็ น พยานถึ ง การมี ม รณานุ ส ติ แ ละการ “เตรี ย มตั ว ตายอย่ า งมี ส ติ ” ของคุ ณ หมอสงวนอย่างชัดเจน น่ า เสี ย ดายที่ ห นั ง สื อ ที่ เ ป็ น อั ต ชี ว ประวั ติ ข องคุ ณ หมอสงวนเล่ ม นี้ ยั ง ไม่จบบริบูรณ์ ด้วยข้อจำกัดทั้งเรื่องเวลาและสุขภาพทำให้ยังมีเรื่องราวอีกไม่ น้อยที่คุณหมอสงวนมิได้เล่าไว้ ก็คงเหมือนงานวรรณกรรมเรื่องเอกของโลก และของไทยหลายเรื่ อ งที่ เ ขี ย นไม่ จ บ เช่ น พี่ น้ อ งคารามาซอฟ ของดอสโต เยฟสกี และผู้ชนะสิบทิศของยาขอบ เป็นต้น


แม้ บั้ น ปลายชี วิ ต คุ ณ หมอสงวนจะต้ อ งประสบกั บ ชะตากรรมอั น เลว ร้ า ย จากโรคมะเร็ ง ที่ บั่ น ทอนสุ ข ภาพอย่ า งรุ น แรงและคร่ า ชี วิ ต ไปก่ อ นวั ย อั น สมควร และด้ ว ยความเจ็ บ ปวดทรมานจากทุ ก ขเวทนาที่ ส าหั ส สากรรจ์ แต่ สุ ด ท้ า ยแล้ ว คุ ณ หมอสงวนก็ บ รรลุ ถึ ง ซึ่ ง ความสุ ข สงบ สมตามพระพุ ท ธวจนะ ในพระธรรมบท บทหนึ่ง ดังนี้ เขามีความสุขใจในโลกนี้ มีความสุขใจในโลกหน้า คนทำดี ย่อมสุขใจในภพทั้งสอง เมื่อคิดว่าตนได้ทำแต่บุญกุศล ย่อมสุขใจ ตายไปเกิดในสุคติภพ ยิ่งสุขใจยิ่งขึ้น Here he is happy, hereafter he is happy, In both worlds the well-doer is happy. Thinking, ‘Good have l done,’ thus he is happy. Further more he is happy, When gone to the state of bliss.

นพ.วิชัย โชควิวัฒน



ı

ส า ร บั ญ

คํ า นิ ย ม บ ท นํ า บ ท ที่ 1 จากมหาวิทยาลัยถึงถนนสายฝุ่น บ ท ที่ 2 จากหัวไร่ปลายนา ถึงสากล บ ท ที่ 3 ร่มใหญ่กับแรงบันดาลใจ บ ท ที่ 4 หลักประกันสุขภาพ อุดมคติแห่งชีวิต บ ท ที่ 5 ระบบราชการ ระบบที่ทำลายคน บ ท ที่ 6 ปฏิรูประบบบริการสุขภาพ ภารกิจที่ยังไม่เสร็จสิ้น บ ท ที่ 7 ดรีมทีม พลังมหัศจรรย์ บ ท ที่ 8 เพื่อน : มิตรภาพกับการให้ที่ไม่มีเงื่อนไข บ ท ที่ 9 ที่ใดอบอุ่นเท่าครอบครัวไม่มี บ ท ส่ ง ท้ า ย

ı

14 28 46 58 74 88 102 126 144 158


ı

บ ท นํ า

ı

สามปีที่ผ่านมานี้ มะเร็งได้เข้ามาเป็นเงื่อนไขใหม่ของชีวิตผม ในตอนแรกที่ ผ มรู้ ว่ า เป็ น มะเร็ ง และยิ่ ง ในเวลาต่ อ มาที่ ไ ด้ รู้ พิ ษ สงของ มัน (รวมทั้งพิษสงของการรักษามะเร็ง) ผมรู้สึกไม่ชอบเลยที่ต้องมาเป็นเช่น นี้ เพราะมะเร็งทำให้ผมต้องเจ็บป่วย ต้องเข้ารับการผ่าตัดครั้งใหญ่ ทั้งต้อง รั บ คี โ มที่ ใ คร ๆ ก็ รู้ ว่ า เป็ น ทั้ ง ยาและสารพิ ษ ในตั ว เดี ย วกั น มั น ทำให้ เ จ็ บ ปวด และรู้ สึ ก ไม่ ส บายจนบางครั้ ง ถึ ง กั บ ช่ ว ยเหลื อ ตั ว เองแทบไม่ ไ ด้ ทั้ ง ยั ง ทำให้ ความคล่ อ งตั ว ในการทำงานและการปฏิ บั ติ ภ ารกิ จ ต่ า ง ๆ ไม่ ดี ดั ง เดิ ม บาง ครั้ ง ก็ ไ ม่ ส ามารถไปร่ ว มงานหรื อ กิ จ กรรมที่ ผ มคิ ด ว่ า เป็ น เรื่ อ งสำคั ญ และเป็ น ความใฝ่ฝันของผมได้ แต่มะเร็งก็มีแง่มุมที่ดีอยู่ด้วยเหมือนกัน เพราะในความโหดร้ า ยธรรมชาติ ก็ ยั ง มี ค วามเมตตา ในความน่ า เกลียดก็ยังมีความน่ารัก ในความทุกข์ก็มีความสุขคลุกเคล้าเจือปนอยู่เสมอ สำหรั บ ผมมะเร็ ง ไม่ ไ ด้ น่ า รั ก นั ก หรอก แต่ มั น ก็ ไ ม่ ใ ช่ สิ่ ง ที่ จ ะทำให้ ชี วิ ต ผมต้องถล่มทลายลงไปในพริบตา มะเร็ ง ก็ เ ป็ น เพี ย งอี ก บทเรี ย นหนึ่ ง ของชี วิ ต ที่ ผ่ า นเข้ า มา และผมก็ ไ ด้ เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายจากการที่ต้องต่อสู้กับมันในระยะต่าง ๆ เป็นสัจธรรมที่ว่า คนเราต้องมีเกิด มีแก่ มีเจ็บ และตาย


แต่ ป ระสบการณ์ ก ารเจ็ บ ป่ ว ยด้ ว ยโรคมะเร็ ง ของผมทำให้ ผ มได้ เ ห็ น สัจธรรมอีกข้อหนึ่งว่า แม้ความเจ็บป่วยจะเป็นความจริงที่เราอาจเลือกไม่ได้ แต่เราก็ยังสามารถเลือกที่จะมีชีวิตอยู่กับความเจ็บป่วยนั้นต่อไปให้ดีที่สุดได้ ทุ ก คนต้ อ งเรี ย นรู้ ที่ จ ะอยู่ อ ย่ า งมี ค วามสุ ข ที่ สุ ด กั บ ชี วิ ต ของตนใน แต่ละสถานการณ์ คำพระที่ ว่ า “จิ ต เป็ น นาย กายเป็ น บ่ า ว” ดู จ ะเป็ น ความจริ ง ถ้ า สมมุ ติ ว่ า เอากายซึ่ ง มี ค วามเจ็ บ ป่ ว ยเป็ น ตั ว นำ แล้ ว ปล่ อ ยให้ ใ จปรุ ง แต่ ง คล้อยตามร่างกาย มันก็จะยิ่งแย่ และมันไม่มีโรคอะไรที่จิตใจจะถูกชักนำให้ ถดถอยและท้อแท้ไปตามความเสื่อมถอยของร่างกายได้เท่ากับโรคมะเร็งอีก แล้ว แต่หากตั้งจิตเป็นนายได้ การณ์ก็อาจจะกลับกลายเป็นตรงข้าม บทเรี ย นชี วิ ต ที่ ผ มได้ เ รี ย นรู้ ม าอาจจะเป็ น ประโยชน์ ส ำหรั บ บางคน บ้ า ง หนั ง สื อ เล่ ม นี้ จึ ง เป็ น การบั น ทึ ก ส่ ว นเสี้ ย วของชี วิ ต ผม ตั้ ง แต่ ปู ม หลั ง ครอบครั ว ชี วิ ต ในมหาวิ ท ยาลั ย การทำงานในชนบท แรงบั น ดาลใจในการ ทำงานปฏิ รู ป ระบบบริ ก ารสุ ข ภาพ และประสบการณ์ ก ารทำงานทั้ ง ในด้ า นที่ สำเร็ จ และไม่ ส ำเร็ จ ที่ ส ำคั ญ ความโชคดี ต ลอดระยะเวลาที่ เ กิ ด มาในชี วิ ต จากผู้ ค นรอบข้ า ง การต่ อ สู้ กั บ โรค บทเรี ย นที่ ไ ด้ ท บทวนจากโรค และการ พยายามใช้ชีวิตให้มีความสุขมากที่สุดในขณะที่เป็นโรค


แม้ว่ามะเร็งจะได้คุกคามชีวิตและความใฝ่ฝันของผมไปไม่น้อย แต่การเป็นมะเร็งก็ได้ทำให้ผมเห็นถึงด้านที่ดีของชีวิตด้วย เพราะในช่วงวิกฤตของชีวิตที่ทุกอย่างดูมืดมิดนี่เองที่ทำให้เราได้เห็น แสงสว่างของมิตรภาพและไมตรีจิตของเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และผู้หลักผู้ใหญ่ ที่ ผ มเคารพนั บ ถื อ สิ่ ง นี้ ท ำให้ ผ มต้ อ งกลั บ มานั่ ง ลงและคิ ด ทบทวนถึ ง ความ โชคดี ข องชี วิ ต ของผมที่ ไ ด้ รั บ มิ ต รภาพ ความรั ก ความอบอุ่ น และความ เกื้อกูลจากผู้คนมากมายมาตลอดชีวิต ผมตั้งใจถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้ ประสบการณ์ แ ละบทเรี ย นชี วิ ต ของชี วิ ต ของผมนี้ ผมขอมอบ ตอบแทนแก่มิตรภาพและความรักที่ผมได้รับมาอย่างมากมายแล้ว และอยากบอกกั บ ทุ ก คนทั้ ง ที่ ป รากฏชื่ อ และไม่ ป รากฏชื่ อ อยู่ ใ น หนังสือเล่มนี้ว่า “ผมขอขอบคุณ”



บ ท ที่ 1

จากมหาวิทยาลัยถึงถนนสายฝุ่น ผมเป็นคนโชคดีที่มีครอบครัวที่อบอุ่นคอยสนับสนุน ทำให้ผมได้ทำอะไรตาม ที่ผมใฝ่ฝัน ผมเป็ น ลู ก คนเล็ ก ในครอบครั ว คนจี น ฐานะปานกลาง พ่ อ แม่ ท ำมา ค้าขายอยู่ในย่านเยาวราช ความที่เป็นลูกคนเล็กของพี่น้อง 6 คน ทำให้ผม แทบไม่ ต้ อ งรั บ ผิ ด ชอบอะไรเลยเมื่ อ เที ย บกั บ พี่ ๆ แต่ ล ะคนที่ ต้ อ งช่ ว ยกั น ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสทางการศึกษาได้เท่ากับที่ ผมได้รับ สำหรับผม หน้าที่ที่สำคัญที่สุดของผมคือการเรียนหนังสือ วั ย เด็ ก ของผมจึ ง เป็ น ช่ ว งชี วิ ต ที่ สุ ข สบายและไม่ มี อ ะไรตื่ น เต้ น โลดโผนเลย เมื่ อ จบชั้ น มั ธ ยมปลายที่ โ รงเรี ย นเตรี ย มอุ ด มศึ ก ษาก็ ส อบเข้ า เรี ย นต่ อ คณะแพทยศาสตร์ ร ามาธิ บ ดี มหาวิ ท ยาลั ย มหิ ด ลได้ อ ย่ า งไม่ ถื อ ว่ า 14

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


¢² À¢Ç ­°Ä£ Á¥° µÈ¡«²§´ ¢²¥±¢ µÈÀ­ µÈ µ§´ ¡À£´È¡À À i²ª¹h §²¡ª¡ ¸ ª¡ ± Á¥°¡± Ǫ¡ ¸ ª¡ ± ¡² ± ² ±É ¶ ± µÉÀ¥¢ µÀ µ¢§ i² ¸ À s « ¸h¡ª²§Ã ¢¸ ±É ·­£²§ª²¡ª´ §h² u h­ ¸ ³Ä i §h ² ££¢² ²¨ ­ ¡«²§´ ¢²¥± ¢ À s ­¢h ² Ä£ ± ¨¶ ©²Ã ¢¸ ±É À ² ¸ ¢ ± À£·È ­ ­°Ä£ Á¥° ¸ °Ä¡h Á ¥ à §h ² ³Ä¡ « ¸h ¡ ª²§¢¸ ±É ¶ Ä i ·È ± § ² ²£À¡· ­ Á¥°À i ² £h § ¡ ´ ££¡ ± ­¢h ² £´ ± Á µÈ °À£µ ¢ « ± ª· ­ ± ­¢h ² À µ ¢ § Á h ¡Ä¡h Ä i « ¡²¢ §²¡§h ² ¸ ­¢h ² µÈ ± ¨¶ ©² ³Ã ¢¸ ±É ° ¹ i ­ µ ²¡Á¥° §£À­²À s Á ­¢h ² Ä ±É «¡ ° £± à ² £°À Ç À s À£·È ­ µÈ ­ ² ° ± ª´ ´ ¹ Ä¡h Ä i À £²°¡± À s À£·È ­ µÈ À ´ ¶É à §²¡ ³À ²° ­ ª ² ª± ¡ À¨£© ´ §± ££¡Ã h § À§¥²« ¶È ¶È Ä¡h à h ££ ± ² ­ ª± ¡Ä i ¥­ Ä ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

15


²£À i ² Ä À s ± ¨¶ ©²¡«²§´ ¢²¥± ¢ à h § u ¨ À s h § À§¥² µÈ ¡µ ¥ h ­ ²£ ³« Àªi ² µ §´ ­ ¡À s ­¢h ² ¡² À £²° ¡«²§´ ¢²¥± ¢ À s ª ² µÈ µÈ ¡Ã i À §¥²­¢¹h ² «¥²¢ u à §± ¢ µÈ ³¥± À ´  ² §²¡ ´ ¡«²§´ ¢²¥± ¢ ¶ ¡µ §²¡«¡²¢ h ­ µ §´ ¡² §h ² ²£À s ª ² ± ²£ ¨¶ ©²Á hÀ µ¢ ­¢h² À µ¢§ Á¥° µÈ ¡ «²§´ ¢²¥± ¢ ¡«´ ¥ µÈ À ­ µÈ µ §´ ­ ¡À ¥µÈ ¢ Ä ­¢h ² ª´É À ´ À¡·È­ ¡¡µÂ­ ²ª¡²£h§¡ ´ ££¡ ± ¨¶ ©² Àªi ² ± ´ ££¡ ­ ¡À£´È ¡ À¡·È ­ À£µ ¢ ­¢¹h u µÈ ª ­  ¢ ¡ ³ « i ² µÈ À s ££ ² ´ ²£« ± ª· ­ ´ ¡ l ­ ¡«²§´ ¢²¥± ¢ ­ ¶É u µÈ ªµÈ ¡ Ç À s £° ² c ² ¢§´ ² ²£ ­ ªÂ¡ª£ ± ¨¶ ©² ­¢¹h u «i ² À s £­ £° ² ¨¹ ¢l ´ ª´ 16

ı ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l


นั ก ศึ ก ษาแพทย์ แ ห่ ง ประเทศไทย และพออยู่ ปี ที่ ห กอั น เป็ น ปี สุ ด ท้ า ยของการ เรี ย นแพทย์ ใ นมหาวิ ท ยาลั ย ผมก็ ไ ด้ รั บ เลื อ กให้ เ ป็ น นายกสโมสรนั ก ศึ ก ษา มหาวิทยาลัยมหิดล เรียกได้ว่าผมเข้าร่วมขบวนการกิจกรรมนักศึกษาอย่างจริงจัง ตั้งแต่ ก่ อ นเหตุ ก ารณ์ 14 ตุ ล า พ.ศ.2516 จนกระทั่ ง ขบวนการกิ จ กรรมนั ก ศึ ก ษา ถูกทำลายในวันที่ 6 ตุลา พ.ศ. 2519 แม้ว่าจะไม่ใช่ประเภทถือไมค์ไฮปาร์ค ซึ่ ง ไม่ ใ ช่ ส ไตล์ ข องนั ก ศึ ก ษามหิ ด ล แต่ เ ราก็ มี รู ป แบบกิ จ กรรมที่ เ ข้ า ไปเสริ ม และร่วมกับนักศึกษามหาวิทยาลัยอื่น ๆ ตามแนวทางของเรา ช่ ว ง พ.ศ. 2515-2519 เป็ น ช่ ว งที่ นั ก ศึ ก ษามี บ ทบาทในสั ง คมสู ง มาก เหตุ ก ารณ์ ท างการเมื อ งต่ า งๆ ที่ นั ก ศึ ก ษาเข้ า ไปเกี่ ย วข้ อ งนั้ น เติ บ ใหญ่ ขยายตั ว มากขึ้ น เรื่ อ ยๆ จากกิ จ กรรมนั ก ศึ ก ษาที่ เ รี ย กร้ อ งสิ ท ธิ เ สรี ภ าพในรั้ ว มหาวิ ท ยาลั ย ขยายออกไปเป็ น เรื่ อ งของสิ ท ธิ เ สรี ภ าพและการเรี ย กร้ อ ง รั ฐ ธรรมนู ญ ในระดั บ ประเทศ และขยายวงต่ อ มาจนถึ ง การต่ อ สู้ เ พื่ อ สร้ า ง ความเป็นธรรมในสังคม โดยเฉพาะการลดช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย ความคิ ดของนัก ศึก ษานั้น มีค วามบริสุ ทธิ์ และหลายๆความคิด อาจจะ ยั ง ไร้ เ ดี ย งสา แต่ ก็ เ ป็ น พลั ง ที่ ผ ลั ก ดั น ให้ เ กิ ด การเปลี่ ย นแปลงทางการเมื อ ง การปกครองได้อย่างไม่น่าเชื่อ บางครั้ ง ที่ ผ มมี เ วลานั่ ง คิ ด นั่ ง ทบทวนเรื่ อ งราวที่ เ กิ ด ขึ้ น ผมก็ อ ดคิ ด ไม่ ไ ด้ ว่ า เรื่ อ งราวที่ ยิ่ ง ใหญ่ เ หล่ า นั้ น มั น เกิ ด ขึ้ น จากพลั ง เยาวชนคนหนุ่ ม สาวได้ อย่างไร สำหรับผมมันเหมือนกับสังคมอุดมคติอย่างหนึ่งที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น ได้จริง ๆ ที่ ผ มมองว่ า สั ง คมนั ก ศึ ก ษาขณะนั้ น เป็ น สั ง คมอุ ด มคติ ก็ เ พราะใน สมั ย นั้ น ชี วิ ต นั ก ศึ ก ษาเป็ น สั ง คมรวมหมู่ ที่ ทุ ก คนช่ ว ยเหลื อ ซึ่ ง กั น และกั น เอาใจใส่ ซึ่ ง กั น และกั น โดยมี เ ป้ า หมายอย่ า งเดี ย วกั น คื อ การที่ จ ะสร้ า งสั ง คม งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 17


ที่ เ ป็ น ธรรมและทำให้ ป ระเทศมี ค วามยุ ติ ธ รรม ประชาชนทุ ก คนมี ศั ก ดิ์ ศ รี ไ ม่ ถูกทอดทิ้ง ผมจำได้ ถึ ง รู้ สึ ก รั ก และนั บ ถื อ เพื่ อ นนั ก ศึ ก ษาหลายๆ คนที่ ทุ่ ม เทชี วิ ต ทั้งกายและใจเพื่อที่จะรับใช้ประชาชน แรงบั น ดาลใจและตั ว อย่ า งจากคนเหล่ า นี้ ท ำให้ ผ มมี แ นวคิ ด และมี ความฝั ง ใจว่ า อยากจะเห็ น สั ง คมรวมหมู่ ที่ ดี ที่ ทุ ก คนแบ่ ง ปั น เอื้ อ เฟื้ อ ซึ่ ง กั น และกั น ซึ่ ง แนวความคิ ด นี้ เ องที่ เ ป็ น ฐานคิ ด สำคั ญ ของการสร้ า งระบบหลั ก ประกั น สุ ข ภาพถ้ ว นหน้ า ที่ ว่ า เราจะไม่ ป ล่ อ ยให้ พี่ น้ อ งในสั ง คมเดี ย วกั น นี้ ต้ อ ง ป่วยและตายไปโดยไม่ได้รับการดูแล เพียงเพราะเหตุว่าเขาไม่มีเงิน ภาพฝั ง ใจของสั ง คมนั ก ศึ ก ษาสมั ย นั้ น อาจทำให้ บ างคนคิ ด ว่ า ผมเพ้ อ ฝั น หรื อ ถวิ ล หาอดี ต ที่ เ ป็ น ไปไม่ ไ ด้ ใ นสั ง คมยุ ค ปั จ จุ บั น ผมเองก็ รู้ ดี ว่ า มั น ยาก เหลื อ เกิ น ท่ า มกลางความเจริ ญ ทางวั ต ถุ ผู้ ค นมี โ ลกส่ ว นตั ว มากขึ้ น บางที ภาพของการใช้ ชี วิ ต ร่ ว มกั น ของคนกลุ่ ม หนึ่ ง ที่ อ ยู่ ใ นฐานะที่ ไ ด้ เ ปรี ย บทาง สั ง คมแต่ ก ลั บ อุ ทิ ศ ตนเพื่ อ ผลประโยชน์ ข องคนยากคนจนคนด้ อ ยโอกาส อาจจะเป็นภาพที่พร่ามัวเกินไปสำหรับคนในยุควัตถุนิยมเฟื่องฟู แต่ ส ำหรั บ ผม ภาพของสั ง คมอุ ด มคติ นั้ น ยั ง ชั ด เจนอยู่ ใ นหั ว และยั ง หวั ง เสมอที่ จ ะเห็ น สั ง คมที่ ดี ง ามแบบนั้ น ไม่ ว่ า จะเป็ น ในระดั บ ครอบครั ว ระดับชุมชน ในที่ทำงาน หรือในสังคมส่วนรวมทั้งหมด ก่ อ นปี พ.ศ. 2515 กิ จ กรรมหลั ก ของนั ก ศึ ก ษาโดยทั่ ว ไปที่ จ ะอยู่ ใ น มหาวิ ท ยาลั ย นั้ น นอกจากการเรี ย นหนั ง สื อ ก็ อ าจมี กิ จ กรรมนอกหลั ก สู ต ร บ้าง เช่น กิจกรรมดนตรี กิจกรรมกีฬา กิจกรรมออกค่ายพัฒนาชนบท แต่ ขบวนการนักศึกษาในสมัยหลังปี พ.ศ. 2515 มันแตกต่างไปจากกิจกรรมนัก ศึกษาทั่วไปโดยสิ้นเชิง นักศึกษาออกมาเกี่ยวข้องกับประเด็นปัญหาของบ้าน เมื อ งมากขึ้ น มี ก ารออกมารณรงค์ เ พื่ อ แก้ ไ ขปั ญ หาที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ ประเทศ ชาติ เช่ น การรณรงค์ ต่ อ ต้ า นสิ น ค้ า ญี่ ปุ่ น การรณรงค์ ใ ห้ ใ ช้ สิ น ค้ า ไทย การ 18

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


ออกมาเรี ย กร้ อ งให้ มี รั ฐ ธรรมนู ญ เพื่ อ การปกครองที่ เ ป็ น ประชาธิ ป ไตย ฯลฯ เมื่ อ ประสบความสำเร็ จ ในการเรี ย กร้ อ งแต่ ล ะครั้ ง ก็ จ ะทำให้ ข บวนการนั ก ศึกษาได้รับการขานรับจากประชาชนมากขึ้น ๆ ในสมั ย นั้ น มี ช าวนาจำนวนมากที่ เ ป็ น คนยากจนซึ่ ง ไม่ ส ามารถช่ ว ย เหลื อ ตนเองได้ ต้ อ งกู้ เ งิ น จากผู้ ที่ มี ฐ านะให้ กู้ ด้ ว ยดอกเบี้ ย ที่ สู ง จนในที่ สุ ด ต้ อ ง ขายที่ น าในราคาถู ก ๆ หรื อ เป็ น หนี้ ไ ปตลอดชี วิ ต ชาวนาจำนวนมากเมื่ อ สู ญ เสียที่นาก็อพยพมาเป็นผู้ใช้แรงงานในเมือง ผู้ ใ ช้ แ รงงานเองในเวลานั้ น ก็ ไ ด้ ค่ า แรงต่ ำ เกิ น ไป ต้ อ งอยู่ อ ย่ า งปาก กัดตีนถีบ เหล่ า นี้ เ ป็ น ประเด็ น ที่ นั ก ศึ ก ษาสมั ย นั้ น เห็ น ว่ า ไม่ ค วรนิ่ ง ดู ด าย จึ ง เข้ า ไปร่ ว มกิ จ กรรมต่ า ง ๆ กั บ กลุ่ ม หรื อ เครื อ ข่ า ยที่ ต่ อ สู้ เ พื่ อ แก้ ปั ญ หาต่ า งๆ เหล่านี้ กลไกกิจกรรมนักศึกษาในมหาวิทยาลัยซึ่งมีชมรมต่าง ๆ อยู่มากมาย เช่ น ชมรมสลั ม ชมรมนิ ย มไทย ชมรมค่ า ยพั ฒ นาชนบท ชมรมค่ า ยอาสา ชมรมบำเพ็ ญ ประโยชน์ ฯลฯ กลายเป็ น กลไกสำคั ญ ในการเคลื่ อ นไหว ทางการเมือง แต่ ล ะชมรมมี นั ก กิ จ กรรมเข้ า ร่ ว มมากมาย และเมื่ อ มี เ หตุ ก ารณ์ ทางการเมื อ งก็ จ ะรวมตั ว กั น ได้ ทั น ที ทำให้ มี กิ จ กรรมการเคลื่ อ นไหวทางการ เมืองเกือบจะเป็นรายวัน เช่น การไปร่วมกับคนงานที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ประท้ ว งที่ โ รงงานในย่ า นอ้ อ มน้ อ ย การออกไปช่ ว ยชาวนาประท้ ว งนายทุ น ที่ นครสวรรค์ ซึ่งนักศึกษาจะแบ่งหน้าที่กันในแต่ละด้านอย่างขยันขันแข็ง โดยมี เ ป้ า หมายเพี ย งอย่ า งเดี ย วคื อ ทำให้ ช นชั้ น ล่ า งคื อ ผู้ ใ ช้ แ รงงาน และชาวนาชาวไร่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ที่ ส ำคั ญ นั ก ศึ ก ษาที่ ร่ ว มกิ จ กรรมเหล่ า นี้ ไ ม่ ใ ช่ ค นส่ ว นน้ อ ยหรื อ สอง สามคน แต่เป็นร้อยเป็นพัน ยิ่งสถานการณ์ทางเศรษฐกิจสังคมสมัยนั้นเต็มไปด้วยการเอารัดเอา งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 19


เปรียบและความไม่เป็นธรรมกิจกรรมการประท้วงจึงเกิดขึ้นเกือบทุกวัน เหตุการณ์ที่ขยายตัวไปอย่างกว้างขวางนี้ที่ทำให้เกิดภาพลบขึ้นอย่าง ไม่ รู้ ตั ว โดยเฉพาะเมื่ อ นั ก ศึ ก ษาบางส่ ว นเกิ ด ความฮึ ก เหิ ม เกิ น ไปและกระทำ การโดยไม่ ไ ด้ ส ร้ า งความเข้ า ใจกั บ สั ง คม ผู้ ค นเริ่ ม ไม่ ไ ว้ ใ จนั ก ศึ ก ษา คนชั้ น กลางบางส่ ว นเริ่ ม ไม่ เ ห็ น ด้ ว ย โดยมองว่ า นั ก ศึ ก ษาเป็ น พวกก่ อ ความรุ น แรง สังคมส่วนใหญ่ที่เคยให้การสนับสนุนกลับหันมาตั้งข้อสงสัย จากที่เคยได้รับ การยอมรับก็กลับกลายเป็นการมีศัตรูทางสังคมมากขึ้น ๆ การยื น อยู่ ฝ่ า ยผู้ ที่ ย ากไร้ ก ลายเป็ น การต่ อ สู้ แ ละเป็ น ศั ต รู กั บ เจ้ า หน้าที่รัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือนายทุนเจ้าของที่ดินและเจ้าของโรงงาน ยิ่ ง ในขณะนั้ น ประเทศเพื่ อ นบ้ า นของเราหลายประเทศมี ก าร เปลี่ ย นแปลงไปเป็ น ประเทศคอมมิ ว นิ ส ต์ ก็ ยิ่ ง ทำให้ เ กิ ด ความหวั่ น ไหวของ สั ง คมโดยรวม รั ฐ บาลซึ่ ง ยั ง ไม่ มั่ น คงนั ก ก็ เ ริ่ ม ไม่ ไ ว้ ใ จนั ก ศึ ก ษา ด้ ว ยกลั ว ว่ า ประเทศไทยจะกลายเป็นประเทศบริวารหนึ่งของค่ายคอมมิวนิสต์ ว่ า กั น ตามจริ ง แล้ ว นั ก ศึ ก ษาส่ ว นใหญ่ ก็ ไ ม่ ไ ด้ ต้ อ งการให้ เ กิ ด เช่ น นั้ น แต่ ใ นสถานการณ์ ข ณะนั้ น การเปลี่ ย นแปลงต่ า ง ๆ ได้ ท ำให้ ห ลายฝ่ า ยไม่ มั่นใจ มีการจัดตั้งขบวนการต่อต้านนักศึกษา กิจกรรมการเคลื่อนไหวของนัก ศึก ษาทุก ครั้ งจึง มีอันตราย แต่ นักศึ กษาก็ ไม่เ กรงกลัว ยัง คงดำเนิ นกิจ กรรม อย่างต่อเนื่อง ทำให้ทหาร ตำรวจ ชนชั้นนำของสังคมในขณะนั้นเห็นว่าถ้ายัง ปล่ อ ยให้ ก ระบวนการนั ก ศึ ก ษายั ง เติ บ โตเช่ น นั้ น ต่ อ ไปอาจจะนำมาซึ่ ง ปั ญ หา ความมั่นคงของประเทศ ท้ายที่สุดจึงต้องมีการปราบปราม เป็นการปราบปรามที่เหี้ยมโหดและเลวร้าย มีนักศึกษาจำนวนมากที่ ต้องเสียชีวิตในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ในการปราบปรามขบวนการนั ก ศึ ก ษานั้ น ผมเองก็ มี ชื่ อ ปรากฏอยู่ ใ น บั ญ ชี ที่ จ ะต้ อ งถู ก จั บ กุ ม เช่ น เดี ย วกั บ เพื่ อ นนั ก กิ จ กรรมคนอื่ น ๆ อี ก หลายคน ในเวลานั้ น พวกเราแต่ ล ะคนต้ อ งตั ด สิ น ใจเลื อ กทางชี วิ ต ของตั ว เองจากทาง 20

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


เลือกที่มีอยู่ไม่มากนัก เพื่อน ๆ จำนวนหนึ่งเลือกที่จะออกจากเมืองไปอยู่ใน ชนบทและป่าเขาเพื่อจับปืนขึ้นต่อสู้กับรัฐบาล ผมตั ด สิ น เลื อ กที่ จ ะอยู่ ต่ อ สู้ ใ นเมื อ งต่ อ ไป แม้ ว่ า ต้ อ งอยู่ อ ย่ า งหลบๆ ซ่อนๆ ก็ตาม สาเหตุที่ผมไม่ตัดสินใจไม่เข้าป่าไปกับเพื่อนบางคนทั้ง ๆ ที่เกือบจะ ไม่ มี ท างเลื อ กอื่ น เพราะโดยความคิ ด ส่ ว นตั ว แล้ ว ผมไม่ เ ชื่ อ ในแนวทางการ ต่อสู้ด้วยความรุนแรงมาแต่ต้น ผมเกรงว่าถ้าเข้าป่าไปด้วยกับเขาก็อาจจะไป สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นพอสมควร เพราะแม้แต่ในการประท้วงที่เกิดอยู่ เป็ น ระยะก่ อ นเกิ ด เหตุ ก ารณ์ 6 ตุ ล าคม 2516 ในฐานะผู้ น ำคนหนึ่ ง ใน ขบวนการนั ก ศึ ก ษา ผมก็ มี ก ารปะทะทางความคิ ด กั บ เพื่ อ นบางคนในเรื่ อ ง แนวทางการต่ อ สู้ อ ยู่ พ อสมควร โดยนั ก ศึ ก ษามหิ ด ลส่ ว นใหญ่ ไ ม่ ไ ด้ เ ห็ น ด้ ว ย กั บ แนวทางการต่ อ สู้ ด้ ว ยความรุ น แรง ซึ่ ง จะทำให้ นั ก ศึ ก ษาโดดเดี่ ย วตนเอง มากขึ้นเรื่อยๆ และไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม โดยเฉพาะอาจารย์ แ ละชนชั้ น กลางที่ เ คยสนั บ สนุ น ขบวนการศึ ก ษา มาโดยตลอด เมื่ อ ไม่ เ ลื อ กแนวทางการต่ อ สู้ ด้ ว ยอาวุ ธ ในป่ า ผมจึ ง ต้ อ งหลบซ่ อ นตั ว ในเมืองอยู่ระยะหนึ่ง จนต่อมาภายหลังที่หลบซ่อนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ผมจึง ต้ อ งเปิ ด เผยตั ว ซึ่ ง ก็ เ ป็ น ช่ ว งเวลาที่ ท างรั ฐ บาลทำอะไรตามอำเภอใจได้ ย าก ขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการถูกนานาชาติจับตามองและประณามอยู่ แม้ ผ มจะมี ชื่ อ อยู่ ใ นบั ญ ชี ที่ จ ะถู ก ตามจั บ แต่ ก ารจั บ กุ ม นั ก ศึ ก ษาเพิ่ ม ขึ้นกลายเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ง่ายๆ ผมทราบมาอี ก ในภายหลั ง ว่ า อธิ ก ารบดี ม หาวิ ท ยาลั ย มหิ ด ลในขณะ นั้ น ก็ คื อ ศ.นพ. กษาณ จาติ ก วณิ ช และอาจารย์ ผู้ ใ หญ่ ห ลาย ๆ ท่ า น ได้ ให้ ก ารปกป้ อ งผมและให้ ค วามช่ ว ยเหลื อ เท่ า ที่ เ ป็ น ไปได้ จนทำให้ ผ มไม่ ถู ก จับกุม แม้จะออกมาปรากฏตัวแล้วก็ตาม งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 21


แต่ แ ม้ จ ะไม่ ถู ก จั บ กุ ม ก็ ใ ช่ ว่ า ชี วิ ต จะสบายเป็ น ปกติ เพราะผมจะรู้ ว่ า ถู ก ติ ด ตามเป็ น ระยะ ๆ และบางครั้ ง ก็ ถู ก ข่ ม ขู่ ว่ า จะถู ก จั บ กุ ม โดยเฉพาะใน ช่ ว งเดื อ นตุ ล าคมปี ถั ด มา ซึ่ ง ผมได้ ไ ปปฏิ บั ติ ง านเป็ น แพทย์ ฝึ ก หั ด อยู่ ที่ โ รง พยาบาลวชิ ร พยาบาล ซึ่ ง อาจเป็ น การปรามเพราะเกรงว่ า นั ก ศึ ก ษาจะมี ง าน รำลึ ก อะไรบางอย่ า งในเดื อ นตุ ล าคม ซึ่ ง ถื อ ว่ า เป็ น เดื อ นที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ การ เคลื่อนไหวทางการเมืองของนักศึกษา เพื่ อ นคนหนึ่ ง ของผมที่ เ ป็ น นั ก หนั ง สื อ พิ ม พ์ ใ นขณะนั้ น หวั่ น เกรงใน เรื่ อ งความปลอดภั ย ของผม ได้ แ นะนำให้ ผ มรู้ จั ก กั บ เจ้ า หน้ า ที่ ข ององค์ ก าร นิรโทษกรรมสากล (Amnesty International) ซึ่งเพิ่งได้รับรางวัลโนเบลไป ไม่ น านก่ อ นหน้ า นี้ จ ากผลงานด้ า นสิ ท ธิ ม นุ ษ ยชน เจ้ า หน้ า ที่ อ งค์ ก ารนิ ร โทษ กรรมสากลผู้ นั้ น บั ง เอิ ญ เดิ น ทางมาประเทศไทยได้ ใ ห้ ค ำแนะนำและความ มั่ น ใจกั บ ผมว่ า หากมี อ ะไรเกิ ด ขึ้ น กั บ ผม จะมี ป ฏิ กิ ริ ย าจากนานาชาติ เ กิ ด ขึ้ น อย่างแน่นอน และขอให้ผมแจ้งข่าวเขาเป็นระยะหากมีอะไรที่ไม่ปกติเกิดขึ้น เป็นน้ำใจไมตรีที่ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้นว่ายังมีเพื่อนที่ไม่ทอดทิ้งเรา นอกจากนั้น การที่ผมไม่ถูกจับแม้จะมีรายชื่อตามจับของทางการอยู่ ทำให้ ผ มไม่ ส ามารถจะได้ รั บ พระราชทานปริ ญ ญาจากพระหั ต ถ์ พ ระบาท สมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว ได้ การได้ รั บ พระราชทานปริ ญ ญาจากพระมหากษั ต ริ ย์ และมีรูปถ่ายการเข้ารับปริญญาติดที่บ้านถือเป็นค่านิยมของครอบครัวชนชั้น กลางโดยเฉพาะครอบครัวชาวจีน เป็นความสำเร็จที่ทำให้พ่อแม่มีความภาค ภูมิใจเป็นอันมาก ผมเองอยากจะให้ คุ ณ พ่ อ คุ ณ แม่ มี ค วามภาคภู มิ ใ จอย่ า งนั้ น มากและ ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะมีโอกาสเข้ารับพระราชทานปริญญา ในช่วงนั้นเอง ผมถูกเรียกไปพบกับอาจารย์ผู้ที่รักและห่วงใยผมมาก ท่านหนึ่งคือ ศ.นพ. ทวี บุญโชติ คณบดีคณะแพทยศาสตร์รามาธิบดีในขณะ นั้ น ท่ า นบอกกั บ ผมว่ า ทางตำรวจได้ แ จ้ ง กั บ ทางมหาวิ ท ยาลั ย ว่ า ผมจะต้ อ ง 22

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


เข้ า มอบตั ว เพราะเป็ น ผู้ ที่ มี ร ายชื่ อ ที่ ท างการตามจั บ อยู่ หากผมมอบตั ว เสี ย ผมก็ จ ะเป็ น อิ ส ระ จะไม่ มี ค นคอยเฝ้ า ติ ด ตามและยั ง สามารถเข้ า รั บ พระราชทานปริญญาจากพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ นอกจากผู้ บ ริ ห ารมหาวิ ท ยาลั ย มหิ ด ลแล้ ว ตำรวจยั ง ส่ ง ผู้ บ ริ ห ารโรง พยาบาลวชิรพยาบาลซึ่งผมทำงานอยู่ในขณะนั้นมาเกลี้ยกล่อมให้ผมมอบตัว อีกด้วย ผมได้ แ จ้ ง กั บ ผู้ บ ริ ห ารทั้ ง จากมหาวิ ท ยาลั ย มหิ ด ลและโรงพยาบาล วชิรพยาบาลอย่างสุภาพว่า ผมไม่ได้ทำอะไรผิด การเคลื่อนไหวของขบวนการนักศึกษาเป็นไปได้ ด้ ว ยความหวั ง ดี ต่ อ ประเทศชาติ แ ละประชาชน หากทางตำรวจเห็ น ว่ า ผมทำ ผิ ด และมี ห มายจั บ อยู่ ก็ ม าจั บ กุ ม ได้ เ ลย ผมจะไม่ ห นี ไ ปไหน แต่ ผ มจะไม่ มี วั น มอบตัวอย่างเด็ดขาด ผมยังได้บอกไปอีกว่า หากให้เลือกใหม่ได้ ผมก็คงยังเลือกทำแบบเดิมอีก พู ด ง่ า ย ๆ ก็ คื อ ผมขอยื น ยั น ว่ า ขบวนการนั ก ศึ ก ษาไม่ ไ ด้ ท ำอะไรผิ ด และเมื่อไม่ได้ทำผิด แม้จะถูกตามจับก็ไม่เสียใจ ทั้ ง หมดเป็ น การพู ด ที่ อ อกไปจากความรู้ สึ ก ที่ แ ท้ จ ริ ง ในขณะนั้ น สุ ด ท้ า ยผมจึ ง จบมหาวิ ท ยาลั ย ไปทำงานต่ า งจั ง หวั ด โดยไปรั บ ปริ ญ ญาจาก สำนักงานอธิการบดีเองในภายหลัง เมื่ อ มองย้ อ นกลั บ ไปในช่ ว งชี วิ ต ของการเป็ น นั ก ศึ ก ษา สำหรั บ ผม แล้ ว นอกเหนื อ จากความประทั บ ใจในอุ ด มคติ ข องนิ สิ ต นั ก ศึ ก ษาที่ เ ห็ น แก่ ความเป็ น ธรรมในสั ง คมจนหลายคนไม่ เ กรงกลั ว อั น ตรายและยอมสละได้ แม้แต่ชีวิตของตัวเองแล้ว ผมยังประทับใจในวิถีชีวิตที่เราใช้ร่วมกันด้วย ตอนนั้ น ในขบวนการนั ก ศึ ก ษาจะมี ทั้ ง คนที่ มุ่ ง มั่ น และทุ่ ม เทให้ กั บ กิ จ กรรมการเคลื่ อ นไหวภายนอกมหาวิ ท ยาลั ย ซึ่ ง มี กิ จ กรรมมากจนกระทั่ ง งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 23


บางคนไม่ มี เ วลาได้ เ ข้ า ห้ อ งเรี ย นเลย เพื่ อ นที่ ไ ม่ ไ ด้ ท ำกิ จ กรรมนอก มหาวิทยาลั ยหรือกลุ่มนักศึ กษาที่รั กเรีย นก็ไม่ไ ด้เห็น แก่ตัว แต่ก ลับเอาใจใส่ เพื่อนๆ ที่ออกไปทำงานนอกมหาวิทยาลัย เพื่ อ นๆ เหล่ า นี้ ช่ ว ยกั น คั ด ลอกคำบรรยายของอาจารย์ เ พื่ อ ให้ เ พื่ อ น นักกิจกรรมได้อ่าน และเมื่อเวลาใกล้สอบ พวกนักศึกษาที่คงแก่เรียนเหล่านี้ ก็จะมาช่วยติววิชาการให้กับนักศึกษาที่ทำกิจกรรมเพื่อให้สอบผ่านไปด้วยกัน ไม่มีใครที่ไปซุ่มเรียนเพื่อให้ตัวเองได้ดีเพียงกลุ่มเดียว นอกจากนั้ น การทำกิ จ กรรมจนถึ ง กลางคื น ดึ ก ๆ ดื่ น ๆ พวกเราก็ จ ะ ไปนอนอยู่ ใ นหอเดี ย วกั น พอถึ ง ตี 2 ตี 3 ก็ จ ะพากั น ออกไปติ ด โปสเตอร์ รณรงค์ตามถนนและซอกซอยต่างๆ ด้วยกัน บางครั้งก็ถูกผู้ที่ไม่เห็นด้วยไล่ตี บาดเจ็บกลับมา ก็จะมีเพื่อน ๆ ที่คอยดูแล ส่งข้าวส่งน้ำ รักษาพยาบาลกัน ประคับประคองกันให้สำเร็จทั้งการทำกิจกรรมและการเรียนหนังสือ นั ก ศึ ก ษาในยุ ค นั้ น ได้ แ บ่ ง ปั น อุ ด มคติ ใ นเรื่ อ งของการสร้ า งความเป็ น ธรรมในสั ง คมร่ ว มกั น มาอย่ า งเข้ ม แข็ ง และเกิ ด เป็ น แนวทางการใช้ ชี วิ ต ที่ เ รา เรียกว่า “ชีวทัศน์” ถ้ า จะให้ ค วามหมายของ “ชี ว ทั ศ น์ ” คงหมายถึ ง ทั ศ นะที่ เ ราควรจะมี ในการครองตน หรื อ การปฏิ บั ติ ตั ว ที่ ค วรจะเป็ น ชี ว ทั ศ น์ ข องนั ก ศึ ก ษาในรุ่ น ผมตอนนั้ น ก็ ห มายถึ ง ว่ า การจะเป็ น คนดี จ ะต้ อ งรั บ ใช้ สั ง คม ต้ อ งไม่ ฟุ่ ม เฟื อ ย ต้องทำตัวเป็นแบบอย่าง จะเห็ น ได้ ว่ า มหาวิ ท ยาลั ย สมั ย ก่ อ นนั้ น สามารถจะบ่ ม เพาะคนให้ มี จิตใจอยากทำงานเพื่อสังคมเป็นอันมาก ผมเองไม่ ไ ด้ คิ ด ว่ า ตั ว เองจะเป็ น คนดี อ ะไรมากมาย และต้ อ งยอมรั บ ว่ า อุ ด มคติ ที่ เ รี ย นรู้ แ ละบ่ ม เพาะในช่ ว งที่ เ ป็ น นั ก ศึ ก ษานั้ น บางครั้ ง ก็ ขั ด กั บ ความเป็ น ตั ว ของตั ว เองก่ อ นหน้ า นั้ น เช่ น นั ก ศึ ก ษาในยุ ค นั้ น จะไม่ ฟั ง เพลง ฝรั่ ง เพราะสหรั ฐ อเมริ ก าและตะวั น ตกนั้ น เป็ น จั ก รวรรดิ นิ ย มที่ ก ดขี่ แ ละเอา 24

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


เปรียบประเทศกำลังพัฒนา ทั้ง ๆ ที่ผมก็ชอบและเติบโตมากับการฟังเพลง ฝรั่ง ชี ว ทั ศ น์ แ บบนั ก ศึ ก ษาในยุ ค นั้ น ทำให้ เ ราเคร่ ง ครั ด กั บ ตนเอง เวลาไป ต่ า งจั ง หวั ด ทั้ ง ๆ ที่ พ อมี เ งิ น อยู่ บ้ า งก็ จ ะประหยั ด ไม่ นั่ ง รถโดยสารติ ด แอร์ เวลาทำงานก็เลือกที่จะทำงานที่ลำบากก่อน เป็นต้น เมื่ อ เรี ย นจบแพทย์ ใ นปี พ.ศ.2520 ผมกั บ เพื่ อ นจำนวนมากจึ ง ออก ไปทำงานในชนบททั น ที ต ามความตั้ ง ใจที่ มี ม าตั้ ง แต่ ยั ง เป็ น นั ก ศึ ก ษา แพทย์ จบใหม่ รุ่ น ผมไม่ ค่ อ ยมี ใ ครคิ ด จะอยู่ ใ นเมื อ ง ยุ ค นั้ น เรามี ค วามรู้ สึ ก ว่ า การที่ เรี ย นจบมาด้ ว ยภาษี อ ากรของประชาชนแล้ ว กลั บ ไปทำงานในเมื อ งที่ มี ค วาม สะดวกสบาย มั น เป็ น สิ่ ง ที่ ไ ม่ ถู ก ต้ อ ง เป็ น พวกสำรวย รั ก สบาย ใครทำตั ว อย่างนั้นก็จะอายเพื่อนร่วมรุ่น โรงพยาบาลที่ ผ มเลื อ กไปอยู่ คื อ รพ. ราษี ไ ศล ที่ จั ง หวั ด ศรี ส ะเกษ ผมรู้ สึ ก ดี ที่ เ ลื อ กที่ นี่ เ พราะเป็ น อำเภอในจั ง หวั ด ที่ ย ากจนที่ สุ ด ของประเทศ ไทยในขณะนั้น ทั้งถนนหนทาง อาหารการกิน และความเป็นอยู่ก็ล้วนแต่ไม่ สะดวกสบาย โรงพยาบาลตั้ ง อยู่ ห่ า งจากตั ว จั ง หวั ด กว่ า 35 กิ โ ลเมตร ถนนเป็ น ลูกรังสีแดง เวลานั่งรถเข้าออกตัวจังหวัดแต่ละครั้งกินเวลาเป็นชั่วโมง และ ถนนก็ มี แ ต่ ฝุ่ น เวลานั่ ง รถถ้ า ไม่ ปิ ด หน้ า ต่ า งก็ จ ะเจอแต่ ฝุ่ น ลู ก รั ง แต่ ถ้ า ปิ ด หน้าต่างมันก็จะร้อนมาก ตลอดเวลา 5 ปี เต็มๆ ที่ผมอยู่โรงพยาบาลราษีไศลนั้น ทั้งๆ ที่ผม เป็นหมอ เป็นผู้บริหารโรงพยาบาล ผมมีสิทธิที่จะจัดการอะไรต่างๆ ได้แต่ผม ก็ ไ ม่ ย อมติ ด แอร์ ร ถ เพราะความรู้ สึ ก ลึ ก ๆ ในสมั ย นั้ น เห็ น ว่ า การติ ด แอร์ เ ป็ น สิ่งฟุ่มเฟือย หรือทำให้ตัวเองเป็นคนรักความสะดวกสบาย ชี ว ทั ศ น์ ข องการเป็ น คนเสี ย สละและทำงานโดยไม่ ก ลั ว ความยาก ลำบากทำให้ผมสูดฝุ่นเข้าปอดไปเสียหลายปี ทั้ง ๆ ที่มีอาการโรคภูมิแพ้และ งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 25


มีร่างกายที่ผอมกะหร่องแต่ไหนแต่ไร จนคนทั้งโรงพยาบาลรู้ว่าเวลาผมออก ตรวจคนไข้ พยาบาลต้ อ งเตรี ย มกระดาษทิ ช ชู ไ ว้ ด้ ว ย เพราะว่ า จะผมจาม บ่ อ ยๆ และมี น้ ำ มู ก ไหลเป็ น ประจำ เป็ น สั ญ ลั ก ษณ์ ข อง “หมอหงวน” ที่ พยาบาลทุกคนรู้ดี การที่สูดฝุ่นเข้าไปมาก ๆ เป็นเวลานาน ๆ ติดต่อกันย่อมไม่เป็นผลดี ต่อสุขภาพปอดของผมแน่ ไอ้เจ้าก้อนมะเร็งมันอาจจะก่อตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ มาตั้งแต่ตอนนั้นก็เป็นได้ ยิ่ ง เมื่ อ ย้ า ยไปทำงานที่ โ รงพยาบาลบั ว ใหญ่ ในจั ง หวั ด นครราชสี ม า ถนนหนทางดี ขึ้ น เป็ น ถนนลาดยาง ระยะทางห่ า งจากตั ว จั ง หวั ด ประมาณ 100 กว่ากิโลเมตร ผมยิ่งไม่คิดจะติดแอร์รถ จนกระทั่งวันหนึ่งคนขับรถเกิด หลั บ ในรถเซถลาออกข้ า งทาง จึ ง ทำให้ ผ มตั ด สิ น ใจติ ด แอร์ เพราะรู้ สึ ก ว่ า ความร้อนทำให้เกิดอาการหลับในได้ง่าย ประกอบกั บ เวลานั้ น เห็ น รถโรงพยาบาลอื่ น ๆ ล้ ว นแต่ ติ ด แอร์ กั น ทั้ ง นั้น จะไปทรมานตัวเองอยู่ทำไมก็เลยตัดสินใจติดแอร์รถ นี่ คื อ เรื่ อ งหนึ่ ง ที่ ผ มมานั่ ง คิ ด แล้ ว รู้ สึ ก ว่ า เราเองก็ ช่ า งสุ ด โต่ ง เสี ย เหลือเกิน จะว่ า ไป การติ ด ใน “ความดี ” นั้ น ในทางธรรมะถื อ ว่ า เป็ น มิ จ ฉาทิ ฐิ อย่างหนึ่ง การเป็นคนสุดโต่ง หรือการเป็นคนที่ “ติดในความดี” ทำอะไรแบบ สุ ด ขั้ ว ไปด้ า นใดด้ า นหนึ่ ง ซึ่ ง ในวั ย หนุ่ ม สาวหลาย ๆ คนมั ก จะเป็ น อย่ า งนั้ น และแม้ว่าเมื่อเวลาผ่านมาเราจะเห็นได้ชัดว่ามันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ ใ นขณะนั้ น มั น เป็ น สิ่ ง ที่ เ ราได้ ตั ด สิ น ใจทำไปด้ ว ยความจริ ง ใจ และอุดมคติที่หล่อหลอมขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตจิตใจของเรา

26

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 27


บ ท ที่ 2

จากหัวไร่ปลายนา ถึงสากล ที่ทำงานแห่งแรกของผมหลังจากเรียนจบแพทย์ คือ โรงพยาบาลราษีไศล ที่ โ รงพยาบาลชุ ม ชนเล็ ก ๆ ขนาด 30 เตี ย ง ในชนบทที่ ย ากจนที่ สุ ด แห่งหนึ่งของประเทศไทยนี้เอง ที่ผมได้ทุ่มเททำงานร่วมกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ กลุ่มหนึ่ง เป็นที่ที่ผมทำงานอย่างมีความสุขที่สุด ร่วมกับทีมงานที่ดีที่สุดทีม หนึ่งในชีวิตการทำงานของผม สภาพการไปทำงานและชี วิ ต ความเป็ น อยู่ ข องที ม งานสาธารณสุ ข ชนบทในสมั ย ที่ ผ มไปบุ ก เบิ ก งานที่ ร าษี ไ ศลนั้ น เป็ น ไปอย่ า งน่ า ชื่ น ชม เพราะ นั ก ศึ ก ษาส่ ว นใหญ่ อ ยากจะไปอยู่ ช นบท เวลาทำงานเป็ น กลุ่ ม ก็ รั ก ใคร่ ก ลม เกลียวกัน เพราะต่างก็มีอุดมการณ์ที่อยากทำงานช่วยเหลือสังคมดังที่ผมได้ กล่าวไว้ในบทก่อน การอยู่ ร่ ว มกั น จึ ง เป็ น เหมื อ นครอบครั ว ใหญ่ มี ทั้ ง แพทย์ พยาบาล 28

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


«¡­ r «£· ­ Á¡i £° ±È ± À ´ ²£Á ¢l ¶È à ª¡± ¢ ±É Á¡i Á h  £ ¢² ²¥ £° ³ ± «§± · ­ £ ¢² ²¥¨£µ ª °À ©Ã ° ±É Ç ¢± Ä¡h ¡µ ± À ´ ²£Á ¢l À ¥¢ Á h À £² Ç ¡µ ± À ´ ²£Á ¢l µÈ ¡ ² ³ ² à £ ¢² ²¥À¥Ç Æ À £²° i­ ²££± à iª± ¡ À s ²£ ³ ² µÈ¡µ §²¡ª¸ h²¡ ¥² §²¡¢² ¥³ ² ± À ´ ²£Á ¢l µÈ §h ² ¡²­¢¹h µÈ  £ ¢² ²¥£²©µ Ä ¨¥Ä i Ä ¡h ² À £²°«¥± ² µÈ Á ¡h ­ À ²¡²À¢µÈ ¢ ¡Á¥° §²¡¢² ¥³ ² ­ à ° µÈÀ ´ ɳ h§¡Ã« h à µÈª¸ Á¡h ÇÄ¡h¢­¡Ã«i­¢¹h h­ µ §´ à £ ¢² ²¥ ¸ ¡ ª³«£± ¡À s µ §´ µÈ ¡µ §²¡ª¸ ¡² µÈ ª¸ h§ « ¶È i² « ¶È À£²Ã«i £´ ²££± ©² ¢² ²¥ h² ± ³ ¥­ Á hà ­µ i² ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

29


หนึ่ ง สภาพปั ญ หาสาธารณสุ ข ขณะนั้ น ทำให้ เ ราเห็ น อย่ า งชั ด เจนว่ า การ ป้ อ งกั น ดี ก ว่ า การรั ก ษาพยาบาล เราจึ ง ต้ อ งทำงานเชิ ง รุ ก โดยการรณรงค์ ส่ ง เสริมสุขภาพและการป้องกันโรคกันอย่างหนักในหมู่บ้านต่าง ๆ อาจจะเพราะความที่อยู่ในวัยหนุ่มสาว แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่มีพันธะครอบครัวมาก เราจึงทุ่มเทกับงานได้อย่างแทบจะไม่มีข้อจำกัด เมื่ อ เห็ น ปั ญ หาอะไร ก็ พ ยายามต่ อ สู้ ห าทางแก้ ไ ขอย่ า งไม่ รู้ จั ก เหน็ดเหนื่อย จำได้ ว่ า มี อ ยู่ ค ราวหนึ่ ง เราพบว่ า ยาที่ ใ ช้ ใ นชนบทส่ ว นใหญ่ จ ะเป็ น ยา ชุ ด ต่ า ง ๆ เป็ น ยาอั น ตรายที่ พ่ อ ค้ า หรื อ พวกรถเร่ ม าขาย มี ก ารใช้ แ พร่ ห ลาย โดยที่ชาวบ้านเองไม่ทราบถึงอันตราย พวกเราได้ พ ยายามออกไปรณรงค์ ใ ห้ ค วามรู้ แ ต่ ก็ มั ก จะสู้ กั บ ความ ไม่ รู้ แ ละความเข้ า ใจผิ ด ๆ ของชาวบ้ า นไม่ ไ หว จนกระทั่ ง เรามี แ นวความคิ ด ว่าจะมีการจัดตั้งกองทุนยาในทุกหมู่บ้าน โดยกองทุนยาจะทำหน้าที่จัดหายา จำเป็นที่ไม่เป็นยาอันตรายมาไว้สำหรับใช้ในชุมชน แต่ ใ นการจั ด ตั้ ง กองทุ น ยานี้ เ ราต้ อ งการให้ ป ระชาชนมี ส่ ว นร่ ว ม อยากให้ เ ป็ น กองทุ น ที่ ร่ ว มกั น ทั้ ง ฝ่ า ยรั ฐ และชาวบ้ า น ที ม งานของเราจึ ง ตั้ ง เงื่ อ นไขว่ า ถ้ า หมู่ บ้ า นใดสามารถที่ จ ะรวบรวมเงิ น จากการมี ส่ ว นร่ ว มสมทบ ของชาวบ้ า นตั้ ง เป็ น กองทุ น ขึ้ น มาได้ ทางโรงพยาบาลก็ จ ะช่ ว ยสมทบเพื่ อ จะ จัดตั้งกองทุนยาขึ้นมาในหมู่บ้าน เพื่อเป็นการสมทบเงินเข้ากองทุนยา โรงพยาบาลจึงจัดบริการหน่วย แพทย์เคลื่อนที่ในชุมชนโดยเก็บค่ารักษาในการตรวจคนละ 5 บาท แล้วเอา เงินที่เก็บได้ทั้งหมดยกให้กับชาวบ้านเพื่อเป็นเงินสำหรับก่อตั้งกองทุนยา ในช่ ว งแรกๆ ชาวบ้ า นไม่ ค่ อ ยเข้ า ใจ จึ ง มี เ พี ย งไม่ กี่ ห มู่ บ้ า นที่ ร่ ว มมื อ แต่ ต่ อ มาปรากฏว่ า ชาวบ้ า นมี ค วามตื่ น ตั ว อยากได้ ก องทุ น ยากั น มากขึ้ น หลายต่ อหลายหมู่บ้า นสามารถทำตามเงื่อนไขคือรวบรวมเงิ นของหมู่บ้านมา 30

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


³ § « ¶È Á¥i§À£² ÇÄ ­­ « h§¢Á ¢lÀ ¥·È­ µÈëi ²¡À ·È­ Ä µÈÀ£²Àª ­ « h § ¢Á ¢l À ¥·È ­ µÈ µÉ À£²Ä¡h ª ²¡²£ ³ ­ ¥² §± à À§¥² ´ Ä i À £²°§h ² à À§¥² ¥² §± À£² Ç i ­ ëi £´ ²££± ©² ¢² ²¥Ã £ ¢² ²¥ ±É Á hÀ i² £ À¢Ç ² µ¡µ h² ± ³ ¥­ Ä i ¸ À ´ ¯¥¯ ²£­­ « h§¢Á ¢lÀ ¥·È­ µÈ ¶ ³Ä iÀ ²° ­ ¥² · ¢´È ¡µ ²§ i² ­¢² Ä i ­ ¸ ¢² À£² Ç¢´È ¡µ ² À ´È¡ ¶É À £²° i­ ± « h § ¢Á ¢l Ä ª ± ª ¸ à ­ ¥² · ¡µ ­ ¢¹h À · ­ « ¶È ³Ä i §h ² À£² i ­ ± « h § ¢Á ¢l À ¥·È ­ µÈ ­ ­ Ä ¶ £±É «¡²¢ §²¡§h ² À£² i ­ ­­ Ä ±É «¡ · ·­À ·­ ¸ · ¥­ ±É À ·­ ¸ · À£² °À£´È¡À ´ ² ­­ ² £ ¢² ²¥ £°¡² ¡ £¶È §h² °Ä ¶ «¡¹h i² Ç £°¡² ¸h¡ «¥± ² ±É Ç °À£´È¡Ã«i £´ ²£ £§ ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

31


รั ก ษาซึ่ ง จะมี ก ารฉายภาพยนตร์ ใ ห้ ช าวบ้ า นดู ด้ ว ย สมั ย ก่ อ นยั ง ไม่ มี โ ทรทั ศ น์ ทุ ก ๆ บ้ า นเหมื อ นในปั จ จุ บั น ชาวบ้ า นมั ก จะมากั น เต็ ม แม้ จ ะไม่ ม ารั บ บริ ก าร เพราะอยากจะมาดูหนังกัน หนั ง ที่ เ ราเอาไปฉายนั้ น ส่ ว นใหญ่ เ ป็ น หนั ง ที่ ฉ ายในกรุ ง เทพฯแล้ ว ซึ่ ง นอกจากภาพยนตร์แล้ว เราก็จะสอดแทรกด้วยหนังที่ให้ความรู้หรือสุขศึกษา ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพฟัน การฉีดวัคซีนหรือการรักษา สุขภาพร่างกาย เป็นต้น บรรยากาศการออกหน่ ว ยแพทย์ นั้ น เป็ น ไปอย่ า งสนุ ก สนานทั้ ง ชาว บ้ า นและเจ้ า หน้ า ที่ เจ้ า หน้ า ที่ ทุ ก คนออกไปด้ ว ยความสมั ค รใจ ความที่ ใ น ขณะนั้ น กระแสคนหนุ่ ม คนสาวมี ค วามรั ก ในชนบทและอยากจะออกไปช่ ว ย ชนบทจึงไม่มีใครเรียกร้องอะไร แม้ว่าจะเป็นงานที่หนักเพราะออกไปจากโรง พยาบาลประมาณ 6 โมงครึ่ง กว่ า จะให้ บ ริ ก ารตรวจคนไข้ ฉายหนั ง ใหญ่ ส ลั บ กั บ พู ด ให้ ค วามรู้ ก่ อ น กว่าจะกลับถึงโรงพยาบาลก็ประมาณตี 1 หรือบางครั้งก็ตี 2 เจ้ า หน้ า ที่ บ างวิ ช าชี พ ที่ ร่ ว มที ม เช่ น เภสั ช กรที่ ต้ อ งดู แ ลเรื่ อ งยาจะ ต้ อ งทำงานหนั ก หน่ อ ยเพราะขณะนั้ น โรงพยาบาลมี เ ภสั ช กรเพี ย งคนเดี ย ว สำหรั บ แพทย์ อ าจจะยั ง พอทำเนาเพราะแพทย์ มี 4 คน สามารถสลั บ กั น ไป ออกหน่วยได้ แต่เภสัชกรที่มีอยู่คนเดียวก็ต้องออกไปทั้งหมด 28 คืนในเดือนนั้น ที ม ของพวกเราเป็ น คนหนุ่ ม คนสาวที่ มี พื้ น เพมาจากชนชั้ น กลางทั้ ง สิ้น เกือบทั้งหมดเป็นคนกรุงเทพฯ ที่มีจิตใจอยากทำงานเพื่อชาวชนบท การ ทำงานอยู่ ด้ ว ยกั น บางครั้ ง จึ ง รู้ สึ ก ว่ า บรรยากาศเหมื อ นการไปออกค่ า ย ตอน เช้าก็กินข้าวด้วยกันโดยจ้างแม่บ้านร่วมกัน ตอนเที่ยงก็กินข้าวร่วมกันกับเจ้า หน้ า ที่ ใ นโรงพยาบาล ตอนเย็ น ก็ ก ลั บ มากิ น ข้ า วด้ ว ยกั น เสร็ จ แล้ ว ก็ ไ ปออก หน่วยแพทย์ด้วยกัน เหมือนกับอยู่กันเป็นครอบครัว 32

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


À s µ §´ µÈ ¡µ §²¡ª¸ à ²£Ä i ³ £°Â¢ l à «i ²§ i ² Á¥°Ä i À «Ç Ä i À£µ¢ £¹iÀ ´ Â Ä £i­¡ Æ ± µ §´ £§¡«¡¹h µÈ ¡À ¢ £° ± à à h § µÈ À s ± ¨¶ ©²Ä i ¡ ² £² ëi À«Ç à ­ ³ ² ­µ £±É « ¶È Á¥°¢´È ¡µ §²¡ £° ± à µÈ §h ² ¸ ³ ² Ä¡h Ä i À µÈ ¢ ­ À£·È ­ ¥ £°Â¢ l ªh § ± § ¸ ¡­ Á h ¥ £°Â¢ l ­ ²§ i ² À s ± § ±É ³ ² i § ¢ §²¡À Ç ¡ à ­² ° ± Á¢i ± i ² Ç À s À£·È ­ §²¡ ´ À«Ç «£·­ ±§ µÈ h² Ç¡µ ± ­¢¹h i² ª³«£± ¡ µ¡ ² µÈ£²©µÄ¨¥ µÉÀ s µ¡ ² µÈ µ µÈª¸ µ¡« ¶È à µ§´ ²£ ³ ² ­ ¡À¥¢ µÀ µ¢§ r ¸ ± «¥± ª¹ £À µÈ¢§ ± ²£ £´«²£ ± ²£ h² Æ ¡± °ª­ À£·È­ .#0 «£· ­ .BOBHFNFOU CZ 0CKFDUJWF ëi ­ l £¡µ ²£ £´ « ²£Â ¢À­² ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

33


วั ต ถุ ป ระสงค์ ร่ ว มกั น เป็ น ศู น ย์ ก ลาง เพื่ อ ให้ ทุ ก คนทำงานเป็ น ที ม ไปสู่ วัตถุประสงค์เดียวกัน สำหรั บ คนหนุ่ ม คนสาวที่ ม าร่ ว มงานกั น ที่ ร าษี ไ ศลแล้ ว แนวคิ ด เรื่ อ ง MBO เป็นเรื่องไม่จำเป็นเลย เพราะคนหนุ่มคนสาวเหล่านี้เขามีสิ่งที่ตั้งใจมุ่ง หวั ง อยู่ แ ล้ ว ก็ คื อ การที่ จ ะช่ ว ยให้ ช าวบ้ า นดี ขึ้ น มั น เป็ น วั ต ถุ ป ระสงค์ ร่ ว มกั น ของคนที่ ม าอยู่ ใ นชนบท การทำงานจึ ง มุ่ ง ให้ ง านสำเร็ จ โดยไม่ ต้ อ งมาเริ่ ม ปลุกปล้ำให้มีวัตถุประสงค์เหมือนกัน งานที่ยากๆ ก็กลายเป็นเรื่องง่ายไปหมด ระบบสาธารณสุขในระยะต่อมาอาจจะมีผู้ให้บริการวิชาชีพต่าง ๆ ที่มี ความหลากหลายทั้ ง พื้ น เพและเป้ า หมายชี วิ ต มากขึ้ น ตามความหลากหลาย หรื อ ทางเลื อ กที่ ม ากขึ้ น ในสั ง คม การสร้ า งที ม แบบนั้ น จึ ง เป็ น เรื่ อ งที่ ย ากมาก ในปัจจุบัน ผมมี ค วามผู ก พั น กั บ ช่ ว งเวลาการทำงาน 5 ปี แ รกนี้ เ ป็ น อย่ า งมาก เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ผมมักหวนคิดถึงอยู่เสมอมาแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมากว่า 30 ปี แ ล้ ว ก็ ต าม ครอบครั ว ที่ ป ระกอบด้ ว ยเพื่ อ น พี่ น้ อ ง ที่ ร่ ว มกั น ทำงาน อย่ า งไม่ คิ ด อะไรอื่ น นอกจากเพื่ อ การช่ ว ยเหลื อ ผู้ ป่ ว ย คนยากคนจน คน ยากไร้ เป็ น สิ่ ง แวดล้ อ มการทำงานที่ เ ป็ น อุ ด มคติ ที่ พ วกเราคนทำงานด้ า น สาธารณสุ ข จะมี โ อกาสสั ม ผั ส กั บ ปั ญ หาของคนทุ ก ข์ ค นยากเหล่ า นี้ ไ ด้ อ ย่ า ง ลึกซึ้ง สมั ย นั้ น มี ผู้ ค นทุ ก ข์ ย ากมากมายในชนบท ปั ญ หาเด็ ก ขาดสาร อาหารเป็ น ปั ญ หาใหญ่ ครั้ ง หนึ่ ง มู ล นิ ธิ เ ด็ ก (ของคุ ณ พิ ภ พและคุ ณ รั ช นี ธง ไชย)ได้ ส่ ง จดหมายมาขอให้ โ รงพยาบาลรั บ เด็ ก คนหนึ่ ง มาเลี้ ย ง เนื่ อ งจาก ทราบว่ า พวกเรามี ศู น ย์ รั ก ษาเด็ ก ขาดสารอาหาร เด็ ก คนนี้ อ ยู่ ที่ อ ำเภอกิ่ ง วั ง ค้ อ จั ง หวั ด ยโสธร เป็ น กิ่ ง อำเภอที่ อ ยู่ ติ ด กั น กั บ ราษี ไ ศลแต่ ยั ง ไม่ มี โ รง พยาบาล พวกเราจึงเลยเอารถโรงพยาบาลไปรับเด็กที่บ้าน 34

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


สภาพที่พวกเราพบไม่ได้ผิดไปจากความคาดหมาย สภาพบ้านเรือน เป็ น กระต๊ อ บหลั ง เล็ ก ๆ แบบที่ ค นยากจนเขาอยู่ กั น เหมื อ นกั บ ที่ เ ราเห็ น อยู่ ซ้ ำ ซากจำเจ แต่ สิ่ ง ที่ เ กิ น คาดก็ คื อ ว่ า เราไปพบกั บ พ่ อ ของเด็ ก ที่ น อนป่ ว ยอยู่ เป็ น โรคเกี่ ย วกั บ เนื้ อ เยื่ อ ซึ่ ง ภาษาวิ ช าการเรี ย กว่ า Scleroderma ที่ ผิ ว หนั ง กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อทั้งร่างกายจะแข็งตัวเหมือนท่อนไม้ ทำให้ขยับตัวหรือ เคลื่ อ นไหวไปไหนไม่ ไ ด้ ได้ แ ต่ น อนอยู่ กั บ บ้ า น ส่ ว นแม่ เ ด็ ก ก็ ไ ม่ อ ยู่ อ อกไป ทำงานรับจ้างแรงงานข้างนอก จะมีก็แต่เด็ก 2 คน คนโตอายุ 5 ขวบ คน เล็กอายุขวบครึ่งอยู่ในสภาพขาดอาหารระดับ 3 (ระดับรุนแรงที่สุด) เราคุย กั บ พ่ อ เด็ ก ถึ ง ได้ รู้ ว่ า เด็ ก คนโตที่ อ ายุ 5 ขวบนั้ น ต้ อ งรั บ หน้ า ที่ ดู แ ลทั้ ง พ่ อ ที่ เคลื่ อ นไหวไม่ ไ ด้ กั บ น้ อ งที่ ข าดสารอาหาร เนื่ อ งจากแม่ ต้ อ งออกไปทำงานตั้ ง แต่เช้า กว่าจะกลับมาถึงบ้านก็เย็น เพียงเพื่อจะได้ค่าแรงวันละ 20 บาทมาจุนเจือครอบครัว สภาพเด็กอายุ 5 ขวบที่ต้องอยู่บ้านหากับข้าวให้พ่อกินมื้อเที่ยงและ ก็ ต้ อ งหาอาหารและเลี้ ย งดู น้ อ งอายุ ข วบครึ่ ง มั น เป็ น ภาพที่ ส ะเทื อ นใจเราไม่ น้ อ ย พวกเรารั บ เด็ ก คนน้ อ งมาเลี้ ย งและตั้ ง ชื่ อ ให้ ว่ า “ปุ้ ม ปุ้ ย ” เหมื อ นยี่ ห้ อ ปลากระป๋ อ ง เพราะมี ค วามรู้ สึ ก ว่ า คำว่ า ปุ้ ม ปุ้ ย มั น น่ า รั ก ดี ท ำให้ รู้ สึ ก อ้ ว นท้ ว น ดี ปุ้ ม ปุ้ ย อยู่ กั บ เราประมาณปี ก ว่ า ๆ แม้ ว่ า อาการโรคขาดสารอาหารจะ ดี ขึ้ น แต่ พ วกเราก็ ไ ม่ ไ ด้ ป ล่ อ ยเด็ ก กลั บ บ้ า นทั น ที เพราะสิ่ ง ที่ เ ราพบมาโดย ตลอดก็ คื อ เมื่ อ เด็ ก มาอยู่ กั บ เราและเราสามารถรั ก ษาดู แ ลจนกระทั่ ง ภาวะ การขาดสารอาหารหายไปแล้ ว แต่ เ มื่ อ เด็ ก กลั บ ไปอยู่ บ้ า นก็ ก ลั บ ไปอยู่ ใ น สภาพเดิ ม อี ก ไม่ น านเด็ ก ก็ จ ะกลั บ กลายเป็ น ขาดสารอาหารเหมื อ นเดิ ม เพราะสภาพความเป็นอยู่ทางบ้านไม่มีเงื่อนไขในการที่จะดูแลลูกให้ดีได้ ในที่ สุ ด เราก็ ไ ด้ คุ ย กั บ มู ล นิ ธิ เ ด็ ก ซึ่ ง ส่ ง เด็ ก คนนี้ ม าให้ เ ราดู แ ล ทาง มู ล นิ ธิ เ ด็ ก ได้ เ ข้ า มาช่ ว ยสอนแม่ เ ด็ ก ให้ รู้ จั ก การทอผ้ า ด้ ว ยกี่ ก ระตุ ก และได้ ซื้ อ งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 35


กี่กระตุกให้ 1ตัว รวมทั้งได้ลงทุนเบื้องต้นเป็นค่าด้ายให้แม่อีก 3,000 บาท เพื่ อ ให้ แ ม่ ส ามารถที่ จ ะซื้ อ ด้ า ยมาทอผ้ า อยู่ กั บ บ้ า นแทนการออกไปรั บ จ้ า ง พวกเราดู แ ลจนกระทั่ ง แม่ เ ด็ ก สามารถทอผ้ า ขายจากกี่ ก ระตุ ก เพื่ อ ที่ จ ะยั ง ชี พ ของตัวเองได้ดีแล้ว เราจึงส่งเด็กกลับไปอยู่กับแม่ของตัวเอง ใครคนหนึ่ ง ในกลุ่ ม พวกเราพู ด ในตอนที่ ไ ปพบสภาพของครอบครั ว นี้ ว่า “นี่นะหรือที่ว่ากันว่าในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” ใครจะไปคิ ด ว่ า บนดิ น แดนที่ เ ป็ น อู่ ข้ า วอู่ น้ ำ ในประเทศที่ ส่ ง ออกข้ า ว เป็นอันดับต้นๆ ของโลก จะมีครอบครัวที่เด็กอายุ 5 ขวบต้องมาเลี้ยงทั้งพ่อ และน้ อ งอายุ ข วบครึ่ ง และนี่ อ าจจะเป็ น เพี ย งตั ว อย่ า งที่ ส ะท้ อ นว่ า อาจยั ง มี ครอบครัวที่ยากจนข้นแค้นและผจญกับปัญหามากกว่านี้อีกมาก เพียงแต่พวกเรายังไม่พบ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้พวกเรามีความรู้สึกว่า การมุ่งแต่เฉพาะปัญหา สาธารณสุขแต่เพียงอย่างเดียวคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เราจะต้องแก้ไข ปัญหาทางด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเกษตร ด้านการศึกษา อาชีพ หรือ แม้ แ ต่ เ รื่ อ งการเมื อ งควบคู่ กั น ไปถึ ง จะสามารถแก้ ไ ขปั ญ หาให้ ป ระชาชนได้ อย่างแท้จริง เพราะคนชนบทนั้นเขาเผชิญกับความยากลำบากหลาย ๆ ด้าน พร้ อ ม ๆ กั น แม้ ว่ า บางคนจะขยั น ดิ้ น รนทำมาหากิ น มากแค่ ไ หนแต่ ภ ายใต้ สภาพที่ขาดแคลนปัจจัยต่างๆ ก็ทำให้ความขยันอย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้เขามี ชีวิตที่ดีได้ ภัยแล้งก็ดี น้ำท่วมก็ดี การขาดการศึกษา การไม่มีถนนหนทางหรือ แม้ แ ต่ ก ารพั ฒ นาที่ ร วมศู น ย์ แ ละขาดการกระจายทรั พ ยากรที่ เ ป็ น ธรรมก็ ล้ ว น แต่มีผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเขาทั้งสิ้น ไม่ น านมานี้ บ้ า นเราเกิ ด น้ ำ ท่ ว มอย่ า งหนั ก ในหลายจั ง หวั ด เวลาที่ เห็ น ภาพข่ า วน้ ำ ท่ ว มทางโทรทั ศ น์ ที ไ ร มั น ทำให้ ผ มนึ ก ถึ ง น้ ำ ท่ ว มหนั ก สมั ย ผม อยู่ที่ราษีไศลทุกที 36

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


ª³«£± £¸ À ¯ ­¢h ² ¡ É ³ h § ¡ µÈ À £²£¹i ± ­¢h ² ¡² Ç h § ¡Á h i­À i²«£·­Á hÀ h² §²¡¢² ¥³ ² Ç ·­ ²£ µÈ i­ À ´ ¥¸¢ ɳ ­² °À s ɳ ± À i ² i ² À¥Ç Æ i ­ ¢Æ Á h É ³ h § ¡Ã ±É ¡± Á h ² ² µÈ ¡£¹i ± à À¡·­  ¢ª´É À ´ ¡± À s É ³ h § ¡ µÈ ³Ã«i µÈ ¢ ² ­¢¹h Á ¥i § ¶ ± ª´É À ·É ­ £° ² ±§ Àª²Â £¨± l Àª²Ä d ² µÈ À £²À«Ç §h ² ª¹ ±É À§¥² É ³ h § ¡Á ° ¡¡´ ­¢¹h à i É ³ i ² ± ­ § À£²­¢¹h à ¥i Á ¡h É ³ ¡¹ ¶ ¹ É ³ h § ¡ ¸ «¥± À£² i­ ­ ¢ Ä ­ à «i­ £° ¸¡ ­ £ ¢² ²¥ ± À s §²¡ ¸ ¥°«¸ Á¥° ¢² ¥³ ² ­µ Á « ¶È µÈ § À£²Ã i ­ À ´ ­ ² ° i ­ ¹ Á ¥ ±§À­ Á¥i§À£²¢± ¡µ ²£°« i² µÈ i­ Ä h§¢À«¥·­ ¹Á¥ ²§ i² ­µ i§¢ § À£²­­ Ä ¹ Á ¥ ²§ i ²  ¢ ²£­­ « h § ¢ ² À£· ­ Ä h § ¢ ²§ i² µÈ ɳ h§¡ ¸ §± ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

37


ครั้งหนึ่งเราไปออกหน่วยเคลื่อนที่ช่วยเหลือน้ำท่วม ท้องเรือของเรา ไปเสยเข้ า กั บ ต้ น ไม้ ที่ จ มอยู่ ใ ต้ น้ ำ อย่ า งจั ง ท้ อ งเรื อ ทะลุ เ ป็ น โพรง น้ ำ ทะลั ก ไหลเข้ามาในเรืออย่างรวดเร็ว ขณะที่เรือของพวกเรากำลังจะจมอยู่รอมร่อก็ มี ช าวบ้ า นที่ ไ ด้ ยิ น เสี ย งร้ อ งขอความช่ ว ยเหลื อ ทางโทรโข่ ง ของพวกเราพาย เรือออกมาช่วยกันใหญ่ พวกเราเองก็พากันว่ายน้ำไปเกาะต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ที่โผล่พ้นน้ำอยู่ไม่ไกลนัก แต่ ที่ ต้ น ไม้ นั้ น ก็ เ ต็ ม ไปด้ ว ยมด ทั้ ง มดและคนต่ า งก็ ห นี น้ ำ ท่ ว มขึ้ น มา อยู่บนต้นไม้ที่สูงที่สุด เหตุ ก ารณ์ นั้ น เป็ น การผจญภั ย ที่ ตื่ น เต้ น ที่ สุ ด ครั้ ง หนึ่ ง ในชี วิ ต ของผม และยังทำให้ได้เห็นถึงน้ำใจของชาวบ้านที่ได้พากันจัดงานบายศรีสู่ขวัญเรียก ขวั ญ ของพวกเราให้ ก ลั บ คื น มา เพราะชาวบ้ า นคงเห็ น ว่ า หมอๆ ทั้ ง หลายตื่ น ตระหนกตกใจและคงขวัญผวากันหมดแล้ว พิธีบายศรีที่อบอุ่นเพื่อเรียกขวัญของพวกเราเกิดขึ้นทั้ง ๆ ที่เวลานั้น บ้านและนาของพวกเขากำลังจมอยู่ใต้น้ำ แม้ ว่ า เราจะมี จิ ต ใจที่ ต้ อ งการจะช่ ว ยชาวบ้ า นอยู่ แ ล้ ว แต่ เ มื่ อ ได้ ม า สั ม ผั ส กั บ น้ ำ ใจที่ ง ดงามอย่ า งนี้ ก็ ยิ่ ง ทำให้ เ กิ ด ความผู ก พั น กั บ ชาวบ้ า นมากขึ้ น พวกเรายังคงทำงานทั้งเชิงรุกเชิงรับอย่างแข็งขันต่อมาอีกเป็นเวลาหลายปี ช่ ว งเวลาขณะนั้ น เป็ น ยุ ค สงครามเย็ น ที่ ค วามขั ด แย้ ง ทางการเมื อ ง ยั ง สู ง อยู่ โดยเฉพาะในชนบท การที่ เ ราออกหน่ ว ยเคลื่ อ นที่ เ ข้ า ไปในหมู่ บ้ า น บ่อยๆ จึงถูกเพ่งเล็งจากทางอำเภอและหน่วยงานด้านความมั่นคงภายในซึ่ง ระแวงสงสั ย ว่ า โรงพยาบาลนี้ จ ะมี ค วามเกี่ ย วพั น กั บ กองกำลั ง ที่ ก ำลั ง ต่ อ สู้ กั บ รัฐบาลขณะนั้น ชาวบ้ า นส่ ว นหนึ่ ง ก็ ถู ก ปลุ ก ปั่ น จากเจ้ า หน้ า ที่ ข องรั ฐ ว่ า การออกหน่ ว ย ของเรามีจุดมุ่งหมายในทางการเมือง ซึ่งความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย ความตั้ ง ใจและการทุ่ ม เทกลายเป็ น ที่ ม าของความระแวงสงสั ย ได้ 38

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


ง่ายๆ และดูเหมือนว่าผมจะหนีไม่พ้นไปจากเรื่องราวเหล่านี้ได้ง่าย ๆ บางที อาจเป็นเพราะวิธีคิดวิธีทำงานของพวกเรานั้นมันไม่เป็นไปในกรอบของความ เป็นราชการแต่เพียงอย่างเดียว เรามีการทำงานร่วมกับทุกฝ่าย มีทั้งครู ชาว บ้ า น อาสาสมั ค รนั ก ศึ ก ษา หรื อ บั ณ ฑิ ต อาสาสมั ค ร ฯลฯ มี ก ารออกหน่ ว ย กลางคืนอย่างทุ่มเท เลยทำให้เกิดความแน่ใจว่าพวกเราทำอะไรไปคงจะคาด หวังผลอะไรทางการเมืองบางอย่างเป็นแน่ ในเวลานั้ น สั ง คมเรามั ก จะขี ด เส้ น เพื่ อ แบ่ ง คนออกเป็ น สองพวกและ ดู เ หมื อ นว่ า เราจะต้ อ งเป็ น พวกใดพวกหนึ่ ง เท่ า นั้ น คื อ ถ้ า ไม่ ใ ช่ พ วกรั ฐ ก็ ต้ อ ง เป็ น พวกที่ ต รงข้ า มกั บ รั ฐ ยั ง ไม่ ค่ อ ยมี ใ ครมองเห็ น ผู้ ค นที่ อ ยู่ ต รงกลางหรื อ ที่ เราเรียกกันว่า “ประชาสังคม” หรือภาคพลเมืองที่ทุกคนมีส่วนร่วมซึ่งกำลัง เติบโตเบ่งบานอย่างมากในสังคมไทยในปัจจุบันนี้ ผมลื ม เล่ า ไปว่ า ในสมั ย นั้ น มี วิ ช าชี พ เดี ย วเท่ า นั้ น เองที่ เ มื่ อ เรี ย นจบ แล้ ว จะถู ก บั ง คั บ ให้ ต้ อ งไปทำงานใช้ ทุ น คื น แก่ รั ฐ วิ ช าชี พ นั้ น ก็ คื อ แพทย์ แพทย์ จ บใหม่ ต้ อ งใช้ ทุ น ให้ รั ฐ บาลด้ ว ยการไปทำงานในชนบท 3 ปี สำหรั บ สาขาวิ ช าชี พ อื่ น ๆ ในตอนนั้ น ยั ง ไม่ มี ก ฎเกณฑ์ ใ นการบั ง คั บ เพราะฉะนั้ น คน จากวิ ช าชี พ อื่ น ๆ ไม่ ว่ า จะเป็ น เภสั ช กร ทั น ตแพทย์ หรื อ พยาบาลที่ อ อกไป ทำงานในชนบทนั้น ล้วนแล้วแต่ออกไปด้วยความเต็มใจ ขณะเดี ย วกั น ในกรุ ง เทพฯ เองก็ ยั ง มี ก ลุ่ ม คนที่ ส นใจอยากจะช่ ว ย ชนบทอยู่ กลุ่มที่รักความเป็นธรรมแต่ถือแนวทางสันติวิธีก็มี คนเหล่านี้ยังมี กิจกรรม มีการทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อจะช่วยสังคม กลุ่มหนึ่งที่มีความเข้ม แข็ ง นำโดย อาจารย์ จ อน อึ๊ ง ภากรณ์ ได้ จั ด ตั้ ง มู ล นิ ธิ ขึ้ น มาเรี ย กว่ า มู ล นิ ธิ อาสาสมั ค รเพื่ อ สั ง คม โดยเป็ น เสมื อ นการสื บ ทอดเจตนารมณ์ ข องท่ า น อาจารย์ ป๋ ว ย อึ๊ ง ภากรณ์ ซึ่ ง เป็ น ทั้ ง คุ ณ พ่ อ ของอาจารย์ จ อนและในอดี ต ได้ เคยทำโครงการบั ณ ฑิ ต อาสา โดยการส่ ง บั ณ ฑิ ต ออกเป็ น อาสาสมั ค รไป ทำงานให้ชนบท งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 39


­² ²£¢l ­ Ä i ³À­²Á § §²¡ ´ ­ ¸ h­¡² ± ±É ¡¹¥ ´ ´­²ª² ª¡± £À ·È ­ ª± ¡Á¥°£± ± ´ ë¡h µÈ ±É à ° ³ ² À ·È ­ ²§ Ä ³ ² ± ²Ã «¡¹h i ²  ¢¡µ ²£ £°ª² ± « h § ¢ ² Á¥°Â £ ²£ h ² Æ µÈ ³ ² ­¢¹h Á ¥i § à ·É µÈ ¶È Ç ¡µ ²£¡² ´ h ­ ± £ ¢² ²¥ ­ ¡ i § ¢ À s À £²°À«Ç §h ² £ ¢² ²¥ µÉ ¡µ « ¸h ¡ ª²§ µÈ ë¡h Á ¥°¡µ §²¡ £° · ­ £· ­ £i µÈ ° h § ¢ ²§ i ² ­¢¹h Á ¥i § À£² ¶ Ä i ± ´ ­²ª²¡² h § ¢ ² ­ À£² ·­ ¸ ª¸ £µ «± ¶ À h ´È Ä¡i Á¥° ¸ §´ ² ² ±¢À§ ª ¸¥ ­²ª²ª¡± £ µÈ ¡ ² ³ ² ± À£² ±É À£²ªh ëi Ä ­¢¹h ± ²§ i ² à «¡¹h i² ¶È À£²¡µÂ £ ²£ ± ² µÈÄ i£± ²£ª ± ª ¸ ² ­ l £ h² Æ ±É à Á¥° h ² £°À ¨ ¶È ­ l £« ¶È µÈ Ä i à «i ²£ª ± ª ¸ ²£ ³ ² ­ À£² · ­ Á £l À ­ ­¡ ¶È À s ­ l £ ­ ²§À¢­£¡± µÈ£° ¡ ¸ ² ¹i¡µ­± ° ´ à 40

ı ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l


ประเทศเขามาช่วยเหลือผู้ยากไร้และคนในชนบทของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก นอกจากนั้ น ยั ง มี โ ครงการที่ ไ ด้ รั บ การสนั บ สนุ น จากต่ า งประเทศอี ก หลาย โครงการ เช่น จากแคนาดา จากเบลเยี่ยม เป็นต้น โครงการและความช่ ว ยเหลื อ เหล่ า นี้ เ ข้ า มาในพื้ น ที่ อ ำเภอราษี ไ ศล โดยการแนะนำและการสนั บ สนุ น จากอาจารย์ อ ารี วั ล ยะเสวี บ้ า ง อาจารย์ ประเวศ วะสี บ้ า ง โครงการเหล่ า นี้ ท ำให้ เ รามี อ าสาสมั ค รทั้ ง คนไทยและจาก ต่ า งประเทศเข้ า มาช่ ว ยทำงาน อาสาสมั ค รต่ า งประเทศที่ เ ป็ น หมอก็ ท ำงาน อยู่ ใ นโรงพยาบาลกั บ เรา กลางคื น ก็ อ อกหน่ ว ยกั บ เรา อาสาสมั ค รที่ เ ป็ น คน ไทยเราก็ ใ ห้ ไ ปรั บ ผิ ด ชอบงานในหมู่ บ้ า น เรี ย กว่ า ได้ ทั้ ง งาน ได้ ทั้ ง ประสบการณ์และได้เพื่อนซึ่งเป็นเครือข่ายกันอย่างกว้างขวาง ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้แนวคิดการทำงานที่ ผมรู้สึกว่ามันยิ่งใหญ่ไปกว่าที่ผมทำอยู่มากมายนัก ว่ากันตามจริงแล้ว ผมเองไม่เคยรู้จักองค์กรพัฒนาเอกชนหรือคำว่า เอ็ น จี โ อ (NGOs) มาก่ อ นเลย ต่ อ มาจึ ง ได้ เ ข้ า ใจว่ า เอ็ น จี โ อ หรื อ องค์ ก ร พัฒนาเอกชนนั้นเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ที่ไม่หวังกำไร ทำงานด้วยการ ระดมทุ น จากผู้ มี อั น จะกิ น เพื่ อ นำเงิ น มาช่ ว ยผู้ ย ากไร้ แ ละชุ ม ชนที่ ต้ อ งการ ความช่วยเหลือ ครั้ ง หนึ่ ง เมื่ อ ผมกล่ า วขอบคุ ณ ตั ว แทนองค์ ก รแตร์ เดอ ซอม ที่ ไ ด้ สนั บ สนุ น โครงการที่ พ วกเรากำลั ง ดำเนิ น การกั น อยู่ ใ นชนบท แต่ ก็ ต้ อ ง ประหลาดใจเมื่อเขาตอบผมว่า ไม่ต้องขอบคุณเขาหรอก เพราะผมก็ช่วยเขา เหมือนกัน เขาได้อธิบายให้ผมรู้จักคำว่า International Solidarity หรือ ความ เป็ น หนึ่ ง เดี ย วทางสากล คื อ การให้ ค วามช่ ว ยเหลื อ เกื้ อ กู ล กั น โดยไม่ คิ ด ถึ ง เชื้ อ ชาติ สั ญ ชาติ คิ ด แต่ เ พี ย งว่ า ผู้ ทุ ก ข์ ย ากที่ ไ ม่ ว่ า จะอยู่ ใ นชนบทหรื อ อยู่ ใ น ดินแดนใดก็ล้วนต้องได้รับความช่วยเหลือทั้งสิ้น งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 41


เขาบอกว่ า องค์ ก รฯ รวมทั้ ง ผู้ ที่ ใ ห้ ทุ น แก่ อ งค์ ก ร ต้ อ งการให้ ง านและ เงินของพวกเขาลงไปถึงผู้ที่ทุกข์ยากในชนบทอยู่แล้ว พวกผมผู้รับทุนจึงมิใช่ ผู้ รั บ ประโยชน์ แ ต่ เ ป็ น ผู้ ที่ ช่ ว ยให้ อ งค์ ก รสามารถที่ จ ะช่ ว ยเหลื อ ผู้ ทุ ก ข์ ย ากตาม วั ต ถุ ป ระสงค์ ข องผู้ ใ ห้ เ งิ น เหล่ า นั้ น ดั ง นั้ น เขาจึ ง ต้ อ งขอบคุ ณ ผมมากกว่ า ที่ ช่วยให้องค์กรของเขาทำงานตามจุดหมายได้ คำพูดของเขาเป็นการเปิดตา และเปิดใจของผมออกไปอีก ประสบการณ์ ก ารทำงานในชนบทจึ ง เป็ น การเรี ย นรู้ ที่ ไ ม่ รู้ จั ก จบ และ บางครั้งเราก็ได้เรียนรู้จากคนที่เราคิดว่าเราจะไปให้ความช่วยเหลือ สำหรั บ พวกเราซึ่ ง เป็ น คนหนุ่ ม สาวและอาสาสมั ค รที่ ม าทำงานใน ชนบท แม้มีความตั้งใจว่าเราจะใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาเพื่อช่วยเหลือคนชนบท แต่ เ มื่ อ ทำงานไประยะหนึ่ ง พวกเราก็ ไ ด้ เ รี ย นรู้ ว่ า พวกเราเองต่ า งหากเล่ า ที่ ต้ อ งเรี ย นรู้ จ ากภู มิ ปั ญ ญาของชาวบ้ า น และสิ่ ง ที่ เ ราร่ ำ เรี ย นมาจาก มหาวิ ท ยาลั ย ก็ ไ ม่ ใ ช่ สู ต รสำเร็ จ ที่ จ ะแก้ ปั ญ หาได้ ส อดคล้ อ งกั บ ชี วิ ต ของชาว บ้านได้ง่ายๆ ครั้ ง หนึ่ ง เราทำโครงการพั ฒ นาแบบผสมผสานที่ เ น้ น การพั ฒ นาทั้ ง ด้ า นการสาธารณสุ ข โภชนาการ เกษตร และพั ฒ นาชนบทอยู่ ใ นโครงการ เดี ย วกั น เราเริ่ ม ด้ ว ยการตั้ ง ศู น ย์ เ ด็ ก ขึ้ น เพราะคิ ด ว่ า ‘เด็ ก ’ น่ า จะเป็ น ศูนย์กลางที่จะระดมชาวบ้านมาร่วมในงานพัฒนาได้ สมั ย ก่ อ นปั ญ หาการขาดสารอาหารเป็ น ปั ญ หาสำคั ญ ในชนบท ศู น ย์ เด็ ก ของเราจะรั บ เด็ ก มาช่ ว ยเลี้ ย งดู แ ละให้ ก ารดู แ ลด้ า นโภชนาการและสุ ข อนามั ย ต่ า ง ๆ โดยมี อ าสาสมั ค รของเราประจำอยู่ ที่ ศู น ย์ เ ด็ ก นอกจากเรา เลี้ยงเด็กแล้วเราก็จะมีแปลงเกษตรที่ปลูกถั่ว มีการเลี้ยงไก่ มีบ่อปลา ขณะ เดี ย วกั น ก็ มี ก ารรวมกลุ่ ม ชาวบ้ า นเพื่ อ การพั ฒ นาชนบทตามที่ ช าวบ้ า นอยาก จะทำร่วมกับเรา ทั้งหมดนี้มีศูนย์เด็กเป็นศูนย์กลาง 42

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


เมื่ อ เริ่ ม โครงการได้ ไ ม่ น าน เราก็ พ บว่ า อาสาสมั ค รที่ เ ราส่ ง ไปรั บ ผิ ด ชอบโครงการซึ่ ง เป็ น บั ณ ฑิ ต ปริ ญ ญาตรี จ ากมหาวิ ท ยาลั ย เกษตรศาสตร์ ทำการเกษตรสู้ชาวบ้านไม่ได้เลย ปลูกถั่วหรือเลี้ยงปลาก็สู้ชาวบ้านไม่ได้ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ไก่ที่เลี้ยงไว้เป็นโรคตายหมด เราก็ไม่ทราบว่าเกิดจาก อะไร บั ณ ฑิ ต จากมหาวิ ท ยาลั ย เกษตรศาสตร์ ข องเราก็ ไ ม่ รู้ จั ก ต่ อ มาปศุ สั ต ว์ อำเภอไปช่วยดูจึงได้ทราบว่าไก่ตายยกเล้านั้นตายจากโรคนิวคาสเซิล ซึ่งผมก็เพิ่งมารู้จักโรคนิวคาสเซิลก็ครั้งนั้นเอง ยั ง มี อี ก หลาย ๆ เหตุ ก ารณ์ ที่ ส ะท้ อ นว่ า การศึ ก ษาที่ บั ณ ฑิ ต จบจาก มหาวิ ท ยาลั ย ไปนั้ น เน้ น แต่ ด้ า นวิ ช าการและทฤษฎี แ ต่ ไ ม่ ส ามารถที่ จ ะไป ทำงานที่ติดดินได้อย่างที่ชาวบ้านทำกัน ศู น ย์ เ ด็ ก ที่ เ ราทำนั้ น เราทำอย่ า งตั้ ง ใจและมี ก ารวางแผนไว้ อ ย่ า งดี คือ ในปีแรกนั้น เราจะสนับสนุนอย่างเต็มที่ มีการตั้งกรรมการหมู่บ้านขึ้นมา ช่วยดูแล โดยมีเราอยู่ด้วย ในปีที่ 2 เราจะถอนตัวมาครึ่งหนึ่งจากกรรมการ เพื่อให้ชาวบ้านได้ดูแลกันเองมากขึ้น ปีที่ 3 เราจะถอนตัวทั้งหมดเพื่อที่ชาว บ้านได้รับผิดชอบจัดการศูนย์เอง เป็นการวางแผนแบบนักวิชาการอย่างแท้จริง เมื่อโครงการเข้าสู่ปีที่ 3 เราถอนตัวออกจากศูนย์และไม่มีการจัดงบ ประมาณไปสนั บ สนุ น ปรากฏว่ า พ่ อ แม่ เ อาเด็ ก กลั บ บ้ า นหมด เมื่ อ เราก็ ไ ป ถามว่าทำไมเอาเด็กกลับบ้านหมด เขาก็บอกว่าเขายุ่งเกินไป ไม่สามารถที่จะ มาดู แ ลศู น ย์ ใ ห้ ไ ด้ ห รอก การที่ จ ะให้ เ ขามารั บ ผิ ด ชอบศู น ย์ ทั้ ง หมดมั น เป็ น ไป ไม่ได้ จะมีก็แค่คนสองคนเท่านั้นเองที่ทำจริงๆ จังๆ ผลที่ออกมาทำให้เรารู้ว่า เรานั้น ‘ปรารถนาดีแต่ไร้เดียงสา’ หลั ง จากนั้ น เราจึ ง ปรึ ก ษากั บ ชาวบ้ า นว่ า จะทำอย่ า งไรดี จึ ง จะช่ ว ยให้ ชาวบ้ า นมี อ าหารกิ น ตลอดปี ไม่ ท ำให้ เ ด็ ก เล็ ก ๆ ต้ อ งขาดสารอาหาร พระที่ เป็ น ผู้ น ำทางจิ ต วิ ญ ญาณของชาวบ้ า นบอกกั บ เราว่ า ชาวบ้ า นต้ อ งการจั ด ตั้ ง งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 43


ธนาคารข้าว โดยเมื่อเก็บเกี่ยวแล้วชาวบ้านจะเอาข้าวมาเก็บเอาไว้ส่วนหนึ่ง ที่ธนาคาร เมื่อราคาดีแล้วจึงค่อยขายและเก็บเอาไว้บางส่วนเพื่อแบ่งปันกัน กินเมื่อมีครอบครัวที่ขาดแคลน ธนาคารข้าวเกิดขึ้นมาโดยมีการรวมตัวกันทำและช่วยกันดูแล เมื่อผมมีโอกาสกลับไปเยี่ยมหมู่บ้านนี้ภายหลังจากที่อำเภอราษีไศล ไปกว่า10 ปี ก็ปรากฏว่าธนาคารข้าวยังดำเนินการอยู่ แต่ศูนย์เด็กได้กลาย เป็ น ศู น ย์ ร้ า งไประยะหนึ่ ง ภายหลั ง จึ ง มี ก ารใช้ ป ระโยชน์ เ ป็ น ศู น ย์ ฝึ ก อบรม ของการศึ ก ษานอกโรงเรี ย น (กศน.) ซึ่ ง ใช้ เ ป็ น สถานที่ ส ำหรั บ การสอนชาว บ้านเป็นครั้งคราว เช่น สอนการซ่อมจักรยาน ซ่อมวิทยุหรือสอนอาชีพต่างๆ สิ่ ง ที่ แ ตกต่ า งก็ คื อ ว่ า ธนาคารข้ า วเกิ ด จากความต้ อ งการของชาว บ้าน แต่ศูนย์เด็กเกิดจากการวางแผนของนักวิชาการอย่างพวกเรา โครงการพั ฒ นาของรั ฐ จำนวนมากถู ก กำหนดขึ้ น จากส่ ว นกลาง โดยที่ ช าวบ้ า นมี ส่ ว นในการกำหนดน้ อ ยมากหรื อ ไม่ มี เ ลยทำให้ โ ครงการของ รั ฐ เหล่ า นี้ ล้ ม เหลวหรื อ ขาดความยั่ ง ยื น เช่ น เดี ย วกั บ โครงการศู น ย์ เ ด็ ก ของ เรา แม้เจตนาดีแต่ก็ทำไปอย่างไร้เดียงสา นี่เป็นบทเรียนสำคัญที่เราได้เรียนรู้จากชาวบ้าน ที ม งานของเรายั ง คงเส้ น คงวาในการออกหน่ ว ยช่ ว ยชาวบ้ า นกั น อยู่ หลายปี อย่ า งไรก็ ต ามพวกเราเป็ น คนกรุ ง เทพฯ เสี ย ส่ ว นใหญ่ เมื่ อ อยู่ บ้ า น นอกจนถึงจุดหนึ่ง บางคน 3 ปีบ้าง 4 ปีบ้าง บางคนก็ 5 ปี ก็มักมีข้อจำกัด ในด้านครอบครัวเพราะครอบครัวส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ หลังจากผมอยู่ที่ราษีไศลได้ 5 ปี พวกเราต่างก็แยกย้ายกันไปอยู่พื้น ที่ อื่ น ๆ ผมเองได้ ทุ น ไปเรี ย นต่ อ ด้ า นการสาธารณสุ ข ที่ ป ระเทศเบลเยี ย มและ เมื่ อ กลั บ มาเมื อ งไทยผมก็ ม าอยู่ ที่ โ รงพยาบาลบั ว ใหญ่ จั ง หวั ด นครราชสี ม า เป็นที่ที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากขึ้น 44

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


ที่ ส ำคั ญ คื อ มี โ ทรศั พ ท์ ที่ จ ะใช้ ติ ด ต่ อ กั บ คุ ณ แม่ ไ ด้ ส ะดวกขึ้ น เนื่ อ งจาก ตอนนั้นคุณพ่อผมเพิ่งเสียชีวิตไปใหม่ ๆ ส่วนเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ของผม บางคนก็กลับมาเป็นหมอในโรง พยาบาลที่กรุงเทพฯ บ้างก็ไปเป็นอาจารย์ อาสาสมัครบางคนยังคงทำงานใน องค์กรเอกชนเพื่อการพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้ อย่ า งไรก็ ต าม พวกเรายั ง หาเวลามาพบกั น อย่ า งน้ อ ยปี ล ะครั้ ง เรา ทุ ก คนมี ค วามรู้ สึ ก เหมื อ นกั น ว่ า ในชี วิ ต ของเราคงจะหาช่ ว งชี วิ ต ที่ มี ที ม งานที่ ทำงานช่วยกันอย่างพร้อมเพรียง เอาใจใส่กันแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว สำหรับผม ชีวิตการทำงานร่วมกันที่ราษีไศลเป็นภาพชีวิตในฝัน เป็น ชี วิ ต ที่ ผู้ ค นมี ค วามใฝ่ ฝั น ที่ ง ดงามและร่ ว มแรงร่ ว มใจกั น ด้ ว ยมิ ต รภาพและ ความมุ่ ง มั่ น เป็ น องค์ ก รที่ ผู้ ค นหล่ อ เลี้ ย งดู แ ลกั น เพื่ อ ที่ จ ะช่ ว ยกั น ทำงานที่ เป็นไปเพื่อผู้คนที่ทุกข์ยาก ความเป็ น จริ ง ที่ พ วกเราได้ พ บในพื้ น ที่ ก็ ต อกย้ ำ ถึ ง ความจำเป็ น ที่ จ ะ ต้ อ งมี ก ารปฏิ รู ป ระบบสุ ข ภาพเพื่ อ ให้ ป ระชาชนสามารถอยู่ ไ ด้ ด้ ว ยสุ ข ภาพที่

ดีขึ้น แต่ ค วามจริ ง ที่ ผ มได้ พ บในการทำงานร่ ว มกั บ ที ม งานที่ ร าษี ไ ศลนั้ น ได้ ต อกย้ ำ ถึ ง ความสำคั ญ ของมิ ต รภาพและน้ ำ ใจของเพื่ อ นร่ ว มงาน ที่ ท ำให้ เราสามารถทำงานที่ยากลำบากให้สำเร็จได้

งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 45


บ ท ที่ 3

ร่มใหญ่กับแรงบันดาลใจ คนเรามักจะวาดภาพบั้นปลายของชีวิตตนเองไปต่าง ๆ กัน สำหรับผม คงเป็นเพราะการได้ใกล้ชิดกับอาจารย์ผู้ใหญ่ที่ผมเคารพ นั บ ถื อ และเห็ น เป็ น แบบอย่ า งหลายต่ อ หลายท่ า น ไม่ ว่ า จะเป็ น อาจารย์ เ สม พริ้ ง พวงแก้ ว อาจารย์ ป ระเวศ วะสี อาจารย์ อ ารี วั ล ยะเสวี และอาจารย์ ไพจิตร ปวะบุตร ท่านเหล่านี้แม้ว่าอายุจะเกิน 60 ปี บางท่านเกิน 70 ปีแล้ว แต่ยัง กระฉับกระเฉงสามารถทำงานให้กับสังคมได้ ผมจึ ง เคยมี ค วามคิ ด ความใฝ่ ฝั น อยากที่ จ ะทำให้ ไ ด้ เ หมื อ นกั บ อาจารย์เหล่านี้ เคยคิ ด ไปถึ ง ขนาดที่ ว่ า เมื่ อ อายุ ม ากขึ้ น แม้ ห ลั ง เกษี ย ณแล้ ว ก็ จ ะยั ง สามารถทำงานได้ไปจนถึงวันที่สังขารรับไม่ไหว 46

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


Á¥° i² ° i­ ²¢ Ç ­Ã«i ²¢  j° ³ ² Á h À ¡·È ­ ¡°À£Ç Ä i ¥²¢À s À ·È ­ Ä Ã«¡h ­ µ §´ ¡Ä¡h £¹i §h ² ¡ ° ª²¡²£ ££¥¸ À d ² «¡²¢ ²¡ µÈ À ¢ ´ ħi « £· ­ Ä¡h £° ±É Ç µ à ° µÈ ¡¢± ¡µ ¥¡«²¢Ã ­¢¹h µÉ ¡ Ç ±É ¡±È §h ² ° ³ µ §´ ëi ¡µ ¸ h ² µÈ ª¸ À ·È ­ ²¡£­¢ ¸ ¥ µÈ ¡À«Ç À s i Á ­ µ§´ Ä Ã«iÄ ¥ µÈª¸ À h² µÈ ¡ °¡µ ³¥± Ä Ä i ¶ ¸ ¥ h ² Á£ µÈ À s ¹ µ ¢ ¸ ¥ª³«£± ¡ · ­ ­² ²£¢l À ª¡ £´É § Á i § ª²¢Ã¢Á«h ²£ h § ¢À«¥· ­ ª ± ª ¸ à À£·È ­ ² ²£ ¡² ¶ À£·È ­ µ§´ £­ £±§ ³Ã«i ¡£± À ²£ h² Àª¡·­ ² ´ ¹ië hÁ¥° ¹i ± ± ± ²Ã À§¥²À µ¢§ ± ­² ²£¢lÀª¡ À s ¹i ¸ À ´ ² i² ª² ²£ ª¸ ¡² ±É Á hÀ£´È¡ µ§´ ²£ ³ ² Á¥°À¡·È ­ £±É À s ¹i ­ ³ §¢ ²£Â£ ¢² ²¥ £° ³ ± «§± À µ ¢ £²¢ ÇÄ i ³Ã«i£ ¢² ²¥ µÉÀ s £ ¢² ²¥À µ¢ £²¢ £° ² ¸À £²°«l µÈÀ ´ ² m £° ² ¸À £²°«ln £´ Æ À £²°À s £ ¢² ²¥ µÈÀ ´ ² ²££h§¡Á£ £h§¡Ã ­ £° ² à ²£­ ¸ À £²°«l £´ ² ª£i ² À s £ ¢² ²¥À µ ¢ £²¢ £° ² ¸À £²°«l¡² ¶ r ¸ ± ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

47


ระบบเงิ น บำรุ ง โรงพยาบาลที่ ท ำให้ โ รงพยาบาลต่ า ง ๆ สามารถมี ง บ ประมาณบริ ห ารจั ด การได้ เ อง นอกเหนื อ จากเงิ น งบประมาณก็ เ ป็ น ระบบที่ อาจารย์เสมเป็นผู้ทำให้เกิดขึ้น ในครั้งนั้นอาจารย์เสมได้เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่ ไปตรวจราชการว่า ในเมื่องบประมาณการดำเนินงานของโรงพยาบาลนั้นเป็น เงิ น ที่ ไ ด้ ม าจากประชาชนให้ ก ารอนุ เ คราะห์ การไปรั บ รั ก ษาแต่ ล ะครั้ ง ก็ มี ก าร บริ จ าคเงิ น ให้ กั บ ทางโรงพยาบาลเพื่ อ ที่ จ ะได้ ส ามารถให้ ก ารรั ก ษาแก่ ค นอื่ น ๆ ต่ อ ไปได้ จึ ง ไม่ ส มควรเลยที่ เ งิ น ที่ เ ก็ บ ได้ จ ากการบริ จ าคของประชาชนจะถู ก นำเข้ า มาสู่ รั ฐ บาล ควรที่ จ ะนำเงิ น ไปพั ฒ นาโรงพยาบาลมากกว่ า ซึ่ ง รั ฐ บาล ในขณะนั้นก็ยอมรับ จนกระทั่ ง เกิ ด “ระเบี ย บเงิ น บำรุ ง ” คื อ ระเบี ย บที่ ก ำกั บ การใช้ เ งิ น ที่ ได้มาจากการให้ของประชาชน ให้สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องส่งเข้าคลังรัฐบาล เป็นแบบอย่างแก่ทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศได้ใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน ต่ อ มา เมื่ อ ท่ า นได้ ย้ า ยเข้ า มาเป็ น ผู้ อ ำนวยการโรงพยาบาลหญิ ง ก็ ไ ด้ มาบุกเบิกสร้างรากฐานและพัฒนาจนกระทั่งกลายมาเป็นโรงพยาบาลราชวิถี ในปัจจุบัน หลั ง เหตุ ก ารณ์ 14 ตุ ล าคม พ.ศ.2516 อาจารย์ เ สมได้ เ ข้ า รั บ ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ท่านก็เป็นผู้ที่ทำการปฏิรูป กระทรวงเป็ น ครั้ ง แรก ทำให้ เ กิ ด ความเป็ น เอกภาพในระบบสาธารณสุ ข ใน เมื อ งไทย นอกจากนั้ น ท่ า นยั ง เป็ น ผู้ ผ ลั ก ดั น ให้ มี โ รงพยาบาลอำเภอขึ้ น ทั่ ว ประเทศด้วย และยังได้บุกเบิกงานสาธารณสุขมูลฐานต่อมาอีกด้วย อาจารย์ เ สม หรื อ คุ ณ พ่ อ เสม จึ ง เป็ น นั ก ปฏิ รู ป ที่ ผ มเห็ น มาตั้ ง แต่ เป็ น แพทย์ จ บใหม่ จ นกระทั่ ง ถึ ง วั น นี้ ท่ า นก็ ยั ง เป็ น เสาหลั ก ของวงการ สาธารณสุขอยู่ ครั้ ง หนึ่ ง ขณะที่ ผ มยั ง ทำงานอยู่ ที่ โ รงพยาบาลราษี ไ ศล อาจารย์ เ สม 48

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


ซึ่ ง ในขณะนั้ น เป็ น รั ฐ มนตรี ช่ ว ยว่ า การกระทรวงสาธารณสุ ข ได้ ไ ปเป็ น ประธาน เปิดโรงพยาบาลอุทุมพรพิสัย ซึ่งอยู่ใกล้กับอำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ พวกเราจึงเดินทางไปต้อนรับท่านด้วย ในระหว่างทานข้าวกลางวัน ซึ่งมีผู้ว่า ราชการจั ง หวั ด อยู่ ด้ ว ย ก็ ป รากฏว่ า มี ค นมารายงานว่ า มี ก ารเคลื่ อ นไหวของ ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลหรือพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยอยู่ในหมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านที่โรงพยาบาลของผมได้ส่งอาสาสมัครไปประจำอยู่ มี ก ารเรี ย กค่ า คุ้ ม ครอง 6,000 บาท และมี ป ระเด็ น เกี่ ย วข้ อ งกั บ อาสาสมั ค รของโรงพยาบาลด้ ว ยว่ า มี ค วามสนิ ท สนมกั บ ผู้ เ รี ย กค่ า คุ้ ม ครอง นั้ น เหตุ ก ารณ์ ท ำท่ า จะบานปลายและผมก็ ไ ม่ รู้ ว่ า จะรั บ มื อ กั บ สถานการณ์ นั้ น อย่ า งไร นอกจากบอกกั บ อาจารย์ เ สมว่ า ผมจะกลั บ ไปหาข้ อ เท็ จ จริ ง แล้ ว จะ รายงานให้ท่านทราบโดยเร็วที่สุด หลั ง จากไปสื บ ข้ อ เท็ จ จริ ง ก็ ไ ด้ ค วามมาว่ า ชาวบ้ า นซึ่ ง ปกติ จ ะมี ประเพณี ก ารแข่ ง เรื อ ทุ ก ปี ต้ น ไม้ ที่ จ ะใช้ ท ำเรื อ ได้ ดี ซึ่ ง จะต้ อ งเป็ น ต้ น ไม้ ล ำต้ น ใหญ่ ๆ ต้ น เดี ย วซึ่ ง หาได้ ย ากในแถบจั ง หวั ด ศรี ส ะเกษ เพราะป่ า ไม้ ถู ก ตั ด ทำลายไปเกือบหมดแล้ว ชาวบ้านจึงขวนขวายไปหาต้นไม้ถึงในเขตเทือกเขา ภูพานอันเป็นเขตปฏิบัติการของกองกำลังฝ่ายคอมมิวนิสต์ ชาวบ้านที่ไปหาไม้นั้นก็ถูกจับโดยฝ่ายต่อต้านรัฐบาล และถูกพวกนั้น ปรับไป 2,000 บาท ครั้ น พอลงมาจากเขาจะมาถึ ง บ้ า นก็ ม าถู ก ตำรวจของรั ฐ บาลจั บ อี ก ด้วยข้อหาว่าเข้าไปในเขตของผู้ก่อการร้าย ซึ่งตำรวจก็ยอมปล่อยตัวแต่ต้อง เสี ย ค่ า ปรั บ ไปอี ก 4,000 บาท สรุ ป แล้ ว ชาวบ้ า นได้ ต้ น ไม้ ม าต้ น นั้ น ต้ อ งเสี ย ไป 6,000 บาท แต่ ก็ ไ ม่ มี อ ะไรเกี่ ย วข้ อ งกั บ อาสาสมั ค รของโรงพยาบาล ราษีไศลเลย หลั ง จากได้ ข้ อ เท็ จ จริ ง ผมจึ ง ทำจดหมายถึ ง รั ฐ มนตรี คื อ อาจารย์ เสมเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 49


¡ ´ Ä¡h ¶ §h ² h ² ° h § ¢ § À£²¡² ² ±É À £²° h ² Ä i ³ « ± ª· ­ ¶ ¹i §h ² ¯ Á¥° ²¢­³À ­£²©µ Ä ¨¥À ·È ­ ­ ¸ µÈ ¹i §h ² ¯ Á¥° ²¢ ­³À ­Ä i h§¢ ¹Á¥Â£ ¢² ²¥¡² i§¢ µ ¥­ Á¥°¢± ëi ²££± £­ ëi§h² ­ h ² · ­ À i ² « i ² µÈ ª ² ²£ ª¸ µÈ ­ ¢¹h à ·É µÈ Ä ¡h Ä i ¡µ ¤ ´ ££¡Ã ²£ µÈ ° h ­ i ² £± ²¥­¢h ² Á h ­ ­µ ±É ¢± ­Ã«i ²¢­³À ­ ± ¹i §h ² ¯ h § ¢Ã«i ²£ ª ± ª ¸ ²£ ³ ² ­ £ ¢² ²¥ h­Ä «¡²¢ ± ±É ³Ã«i ²¢­³À ­À£µ¢ «±§« i²« h§¢£² ²£Ã £° ± ­³À ­À i ² Á¥° ³ ± §h ² h ­ Ä µÉ « ² £ ¢² ²¥ ° ³­°Ä£­¢h ² Ä ± §² À £²°§h ² £ ¢² ²¥À ²¡µ « ¸ «¥± À s £° ± £± ¡ £µ À ² °Ä ­­ « h§¢­°Ä£ Ç ²¡Ã À ² ²£ µÈ£± ¡ £µÀ­²Ã êhÁ¡i £° ±È ¹i­³ §¢ ²£Â£ ¢² ²¥À¥Ç Æ « ¶È Ç ³Ã«i ²£ ³ ² ­ À£²ª° § Á¥° ³Ä i µ ¶É §± µÈ ¤¨ ´ ²¢ ¨ ¡Ä i £± £² §± ¥ Á ¢l µ À h à ´ µ ¡ ­ £² §± ¥ µÉ ¡µ ¶É µÈ ¨ ²¥² £° ² ¡­³À ­ ± § ë h ± «§± 50

ı ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l


นครราชสีมา อาจารย์เสม ซึ่งขณะนั้นพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีแล้วได้กรุณา ไปเป็นประธานในพิธีมอบรางวัล ท่านกล่าวถึงเรื่องรางวัลนี้กับที่ประชุมซึ่งมีผู้ ไปร่ ว มจำนวนมากทั้ ง จากกระทรวงสาธารณสุ ข จากสำนั ก งานสาธารณสุ ข จั ง หวั ด นครราชสี ม า และหน่ ว ยงานและประชาคมต่ า งๆ ในอำเภอบั ว ใหญ่ รวมทั้งเพื่อนๆ พี่น้องบางส่วนจากราษีไศลว่า “ในงานของแพทย์ ช นบทนี้ อย่ า งไรก็ ต ามวั น หนึ่ ง ถ้ า เราไม่ ถ อยออก มา เราต้องได้รับรางวัล ผู้ที่ให้รางวัลที่ดีที่สุดในชีวิตของเราคือตัวเราเอง เรา ควรจะมีความภูมิใจอย่างยิ่งที่เราได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด” แม้ ว่ า ผมจะภู มิ ใ จกั บ รางวั ล ที่ ผ มได้ รั บ แต่ ค วามภู มิ ใ จนั้ น ก็ ยิ่ ง ทวี คู ณ มากขึ้นทุกครั้งที่นึกถึงหน้าที่ที่เราได้ทำมาอย่างดีที่สุด อาจารย์ เ สมนั้ น เป็ น ผู้ ใ หญ่ ที่ มี อ ารมณ์ ขั น เวลาไปกล่ า วในงานต่ า งๆ ก็มักจะมีคำพูดทั้งที่ให้ข้อคิดกำลังใจและคำพูดที่ทำให้เราได้หัวเราะกันเสมอ ในวั น นั้ น ท่ า นยั ง กระเซ้ า ผมว่ า ที่ ผ มเคยพู ด ไว้ ว่ า การมาทำงานในชนบททำให้ ได้พบคนดี ๆ ที่เป็นเหมือน พ่อ แม่ พี่ น้องไปจนถึงลูก เนื่องจากในขณะนั้น ผมยังไม่ได้แต่งงาน ท่านอาจารย์ก็กล่าวทิ้งท้ายว่าให้ช่วยกันหาลูกจริง ๆให้ผมสักคน ด้วยความเอาใจใส่ที่ท่านมีให้กับผมและพวกเราที่ทำงานสาธารณสุข มาโดยตลอด วั น ที่ ผ มแต่ ง งานจึ ง ได้ เ รี ย นเชิ ญ ท่ า นเป็ น ประธานและเป็ น เจ้ า ภาพฝ่ายชาย นับว่าท่านมีส่วนดูแลผมจนกระทั่งมีลูกมีเต้าได้จริง ๆ อาจารย์ อี ก ท่ า นหนึ่ ง ที่ ผ มอยากกล่ า วถึ ง คื อ อาจารย์ ป ระเวศ วะสี ซึ่ ง ท่ า นเคยให้ ค วามช่ ว ยเหลื อ เป็ น ที่ ป รึ ก ษาของนั ก ศึ ก ษาหลายๆ คนรวมทั้ ง ตั ว ผมตั้ ง แต่ ส มั ย ผมเป็ น นั ก ศึ ก ษา จึ ง เป็ น อาจารย์ ผู้ ใ หญ่ ที่ ท ราบภู มิ ห ลั ง ของ ผมเป็นอย่างดี เมื่อผมไปทำงานในชนบทก็ได้รับอาสาสมัครชาวเบลเยียมให้ ไปทำงานด้วย งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 51


ในเวลานั้ น การเมื อ งโลกมี แ นวโน้ ม ที่ เ อนเอี ย งไปทางฝ่ า ยซ้ า ย เช่ น ในยุ โ รปเองพรรคยู โ รคอมมิ ว นิ ส ต์ ก็ ช นะเลื อ กตั้ ง ในหลายพื้ น ที่ รวมทั้ ง ใน สเปน อิตาลี สวีเดน และเยอรมัน เนื่องจากโรงพยาบาลราษีไศลมีการออก พื้นที่ไปช่วยชาวบ้านบ่อย จึงมีการกล่าวหาว่าอาสาสมัครเบลเยียมเป็นอาสา สมัครเอียงซ้ายจากยูโรคอมมิวนิสต์ที่ถูกส่งมาทำงานกับทางโรงพยาบาล อาจารย์ ป ระเวศ ซึ่ ง ขณะนั้ น เป็ น อาจารย์ แ พทย์ ที่ ศิ ริ ร าช เป็ น ผู้ อ อก มาให้ สั ม ภาษณ์ ห นั ง สื อ พิ ม พ์ โ ดยกล่ า วว่ า การที่ มี ค นไปกล่ า วหาโรงพยาบาล ราษีไศลเช่นนั้นจะทำให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะอาสา สมั ค รต่ า งชาติ มี อ ยู่ ทั่ ว ไปในทุ ก ประเทศ นอกจากนั้ น การกล่ า วหาเช่ น นั้ น จะ ทำให้แพทย์ที่ทำงานช่วยเหลือคนยากคนจนในชนบทเสียกำลังใจไปหมด หลั ง จากนั้ น อี ก หลายปี ผมก็ ไ ด้ รั บ เชิ ญ ให้ เ ป็ น ผู้ ก ล่ า วปาฐกถาของ มู ล นิ ธิ โ กมล คี ม ทอง โดยอาจารย์ ป ระเวศเป็ น ผู้ เ สนอชื่ อ ผมต่ อ มู ล นิ ธิ โ กมล คีมทอง ซึ่งเป็นกำลังใจและความภูมิใจอย่างยิ่งครั้งหนึ่งในชีวิตผม เมื่ อ ผมมาทำงานในกระทรวงสาธารณสุ ข จึ ง ได้ ร่ ว มทำงานกั บ ท่ า น จริง ๆ จัง ๆ ในช่วงนั้นกำลังมีการก่อตั้งคณะกรรมการระบาดวิทยาแห่งชาติ โดยการสนับสนุนของมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ เพื่อสนับสนุนเรื่องการวิจัยสร้าง ความรู้ แ ละเสนอแนะนโยบายต่ า งๆ ให้ กั บ กระทรวงสาธารณสุ ข โดยเฉพาะ เรื่องการปฏิรูปโครงสร้างกระทรวงสาธารณสุขครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2535 การปฏิรูปครั้งนี้ทำให้มีปรับปรุงระบบงานหลาย ๆ อย่างในกระทรวง เช่ น การตั้ ง สถาบั น พระบรมราชชนกขึ้ น เพื่ อ รั บ ผิ ด ชอบดู แ ลการพั ฒ นากำลั ง คนสาธารณสุ ข โดยตรง มี ก ารยกระดั บ สำนั ก นโยบายและแผนขึ้ น มาเป็ น สำนัก จากเดิมที่มีฐานะเป็นเพียงหน่วยงานระดับกอง ทั้ง ๆ ที่มีภารกิจกว้าง ใหญ่มาก ผลพวงอี ก สำคั ญ ประการหนึ่ ง ในการปฏิ รู ป ก็ คื อ มี ก ารก่ อ ตั้ ง สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ขึ้นเป็นหน่วยงานอิสระ แต่ก็ยังใช้งบ 52

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


£°¡² ­ £° £§ à ²£ ³ ²  ¢¡µ ²£ ´ ¥i ² ¢ ± ª· ­ ² ­ ° ££¡ ²££° ² §´ ¢²Á«h ² ´ ª³ ± §´ ±¢£° ª² ²£ ª¸ ¹ ± ±É ¶É Á¥°¡µ ²¢Á ¢l ª ¡¨± ´Ì ¸ «£± ¨ ¡´Ì À s ¹i ­ ³ §¢ ²£ Á£ Á¥° µÈ µÈ À ­ µÈ À s µÈ h ­ ³À ´ ­ « h § ¢ ² µÈ ³ ² ± ²ª² ²£ ª¸ £¹ Á ë¡h Æ µÈ Ä ¡h ´ ­¢¹h ± £° £² ²£ Ä¡h §h ² °À s ª³ ± ² ­ ¸ ª ± ª ¸ ²£ª£i ² Àª£´¡ª¸ ² ªªª ª³ ± ² ´£¹ £° ª¸ ² Á«h ² ´ ª £ª ¶È h­ ¡² ¥²¢À s ª³ ± ² ° ££¡ ²£ª¸ ² Á«h ² ´ ª Á¥°ª ² ± ± ²Á¥°£± £­ ¸ ² £ ¢² ²¥ £ À s i ¡­² ° ¥h ² §Ä i §h ² ­² ²£¢l £°À§¨ ±É À s £¹ ² §²¡ ´ «£· ­ À s ¹iëi«¥± ´ à ²£ ³ ² ± ¡Á¥°À ·È­ Æ µÈÆ i­ Æ µÈ£h§¡ ³ ² ± à «¥²¢ Æ À£·È ­ ¶È À£²Ä i £ §¡ ¥¸h ¡ Á¥°¡µ À § µ µÈ °Á¥ À ¥µÈ ¢ ± ­¢h ² ª¡È ³ Àª¡­  ¢ µÈ ¡µ ­ ² ²£¢l £°À§¨¡²£h § ¡ i § ¢ ± § À£² h ­ À ·È ­ ¡² §h ² ¢µÈ ª´ u Á ¥i § µÈ À £µ ¢ §h ² ¥¸h ¡ ª²¡ £² À ·È ­ ² À£² ± £° ¸ ¡ ± µÈ ª § ª²¡ £² ± «§± £ ¡ ¸ À ·­ À ·­ ¥° £±É ¥¸h¡ª²¡ £² À ´ ¶É À £²° § À£²«¥²¢ µÈ ³ ² ª² ²£ ª¸ à ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

53


ขณะนั้ น มี ค วามเห็ น เกี่ ย วกั บ ทิ ศ ทางการพั ฒ นาสาธารณสุ ข โดยเฉพาะการ ดำเนินงานเรื่องความจำเป็นพื้นฐานหรือ จปฐ. แตกต่างกันเป็นสองฝ่าย จึง มี ก ารนั ด กั น ไปประชุ ม โดยตั้ ง ใจว่ า จะหาทางตกลงกั น ให้ ไ ด้ ว่ า จะเอาอย่ า งไร กั น แน่ เมื่ อ เราปรึ ก ษาขอความเห็ น จากอาจารย์ ป ระเวศ ท่ า นกลั บ เห็ น ว่ า ไม่ ควรคุยกันในลักษณะนั้น เพราะการคุยกันที่เริ่มจากความเห็นที่ไม่ตรงกันจะยิ่งทำให้เกิดความ ขัดแย้งและทะเลาะกัน แทนที่จะคุยด้วยความเห็น ท่านได้แนะให้จัดเป็นการ พู ด คุ ย แลกเปลี่ ย นความรู้ ด้ ว ยวิ ช าการกั น ให้ มี ก ารทำการบ้ า นทางวิ ช าการ และค้ น คว้ า ให้ รู้ จ ริ ง ในเรื่ อ งต่ า งๆ ที่ น ำมาหารื อ กั น โดยไม่ ใ ห้ รี บ ด่ ว นหาข้ อ สรุปผิดถูกในทันที หลั ง จากนั้ น มา ไม่ ว่ า ใครจะทำงานอะไรก็ จ ะนำมาเล่ า สู่ กั น แลก เปลี่ ย นกั น บางครั้ ง ก็ ม อบหมายกั น ไปทำเรื่ อ งนั้ น เรื่ อ งนี้ ต่ อ แล้ ว เอามา ติ ด ตามกั น เป็ น เวที ค วามคิ ด ที่ ทุ ก คนยิ น ดี ม าร่ ว มและมาทำงานโดยไม่ ไ ด้ ใ ช้ อำนาจในการสั่งการแบบองค์กร ไม่มีมติว่าใครผิดใครถูก แต่ เ ป็ น ที่ น่ า แปลกใจที่ เ วที ค วามคิ ด เช่ น นี้ ก ลั บ เต็ ม ไปด้ ว ยความ กระตือรือร้นที่จะทำงาน และที่ เ วที แ ห่ ง นี้ เ กิ ด ขึ้ น ได้ แ ละมี ค วามต่ อ เนื่ อ งมาได้ ถึ ง ทุ ก วั น นี้ ก็ เพราะมีอาจารย์ประเวศเป็นผู้ใหญ่หรือเป็นศูนย์รวมของพวกเรานั่นเอง สำหรับผม อาจารย์ประเวศให้ความเกื้อกูลกับผมทั้งในเรื่องงานและ ชีวิตส่วนตัว เมื่ อ ครั้ ง ที่ ผ มจะแต่ ง งาน อาจารย์ ป ระเวศก็ ก รุ ณ าเป็ น เถ้ า แก่ ไ ปสู่ ข อ ให้ นั บ ว่ า เป็ น ความกรุ ณ าต่ อ ผมและครอบครั ว เป็ น อย่ า งมาก และจนถึ ง ทุ ก วั น นี้ อาจารย์ ป ระเวศเป็ น ผู้ ที่ ใ ห้ ข้ อ คิ ด และกำลั ง ใจในการทำงานและการใช้ ชี วิ ต มาโดยตลอด โดยเฉพาะในเวลาที่ ผ มต้ อ งเผชิ ญ กั บ ชะตากรรมที่ ห นั ก หน่วง อาจารย์ไม่เคยที่จะไม่ยื่นมือมาช่วยเหลือหรือให้กำลังใจ 54

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


อาจารย์ ผู้ ใ หญ่ ที่ เ ป็ น ร่ ม เงาของผมอี ก ท่ า นหนึ่ ง คื อ ศาสตราจารย์ อ ารี วัลยะเสวี ซึ่งท่านเคยเป็นคณบดีคณะแพทยศาสตร์รามาธิบดีและเป็นผู้ที่บุก เบิ ก งานด้ า นโภชนาการ ในขณะที่ ผ มทำงานอยู่ ใ นชนบทที่ โ รงพยาบาล ราษี ไ ศล ท่ า นได้ น ำโครงการและการสนั บ สนุ น จากต่ า งประเทศหลาย โครงการไปทำในพื้นที่ ที่ผมดูแล ผมซึ่งเป็นศิษย์เก่ารามาฯ และมีแนวคิดที่ อยากจะทำงานพัฒนาชนบทอยู่แล้วจึงมีโอกาสได้ทำงานในพื้นที่และได้เรียน รู้มากขึ้นจากการทำงานกับองค์กรต่างๆ เหล่านั้น ทำให้ผมได้รู้จักเอ็นจีโอว่า เป็ น อย่ า งไร ได้ รู้ ว่ า อาสาสมั ค รคื อ อะไร อาสาสมั ค รหมอเบลเยี ย มที่ ไ ด้ ม า ทำงานช่วยเหลือผมก็มาจากการติดต่อผ่านอาจารย์อารี ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้ผมได้รู้ว่าโลกนั้นกว้างกว่าที่ตาเราเห็น เมื่ อ มี โ อกาสได้ ไ ปเรี ย นต่ อ ที่ ป ระเทศเบลเยี ย มและกลั บ มาทำ โครงการต่ อ เนื่ อ งอี ก หลายโครงการ แนวความคิ ด ที่ ว่ า เราแก้ ปั ญ หาเรื่ อ ง สุขภาพอย่างเดียวยังไม่พอ ต้องทำงานผสมผสานหรือประสานงาน ประสาน ความร่ ว มมื อ กั บ หน่ ว ยงานอื่ น ให้ ม าแก้ ปั ญ หาของชาวบ้ า นไปพร้ อ ม ๆ กั น ก็ เป็นแนวคิดที่ผมได้มาจากการทำงานร่วมกับอาจารย์อารีนี่เอง เมื่ อ ย้ า ยมาอยู่ ใ นกระทรวงผมได้ ท ำงานร่ ว มกั บ อาจารย์ อ ารี และ อาจารย์ประเวศในคณะกรรมการระบาดวิทยาแห่งชาติ ช่ ว งเดี ย วกั น นั้ น ก็ มี ก ารตั้ ง องค์ ก รเรี ย กว่ า สถาบั น ชุ ม ชนท้ อ งถิ่ น พั ฒ นา ซึ่ ง เริ่ ม ต้ น มาจากโครงการสนั บ สนุ น การทำงานในท้ อ งถิ่ น (LDAP, Local Development Assistant Program) ซึ่ ง ได้ รั บ ความช่ ว ยเหลื อ จาก รั ฐ บาลแคนาดาที่ ใ ห้ ก ารสนั บ สนุ น องค์ ก รพั ฒ นาเอกชนไทยในงานพั ฒ นา ต่ า ง ๆ ในชนบท ต่ อ มาได้ ใ ห้ เ งิ น ช่ ว ยเหลื อ ก้ อ นสุ ด ท้ า ยเป็ น เงิ น 5 ล้ า น เหรี ย ญเพื่ อ ให้ จั ด ตั้ ง มู ล นิ ธิ ชื่ อ มู ล นิ ธิ ชุ ม ชนท้ อ งถิ่ น พั ฒ นาขึ้ น และมี ส ถาบั น ชุมชนท้องถิ่นพัฒนา หรือ LDI (Local Development Institute) ขึ้นเพื่อ เป็ น องค์ ก รดำเนิ น งาน โดยมี อาจารย์ เ สน่ ห์ จามริ ก อาจารย์ ป ระเวศ งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 55


­² ²£¢l ­ ²£µ Á¥°­µ «¥²¢ h ² À s ££¡ ²£ h ² Ç Ä i ± § ëi ¡¡² h § ¢ à £°¢°Á£ Æ ±É ª²¡ h² µÈ ¡ ¥h²§¡²Á¥i§ À s ±É £h¡Ã« hà ² §²¡ ´ Á¥°Ã ² ²£ ³ ² ­ ¡ ¢± ¡µ­µ h² « ¶È µÈÀ s ¹iª ± ª ¸ ëi ¡Ä i ³ ² ­¢h² À Ç¡ µÈà ² ° ¹i ´ ± ´ ² Ç ·­ ­² ²£¢lÄ ´ £ §° ¸ £ h² À s Á ¢l µÀ h ª¡±¢ µÈ­¢¹h µÈ£ ¢² ²¥ i² Ä h ± «§± ­ Á h Á¥° h­¡² h² ÇÄ i ¢± ¢²¢Ä À s ²¢Á ¢l ª ² ²£ ª¸ ± «§± ­¢¹h µÈ ££² ªµ ¡ ² ¶È ¡Ä i ¡ ²£¹i ± Á¥° ³ ² ± h ² à ­ µÈ ¡ ² ³ ² ­¢¹h µÈ  £ ¢² ²¥ ± § ë h ± «§± ££² ªµ ¡ ² £° ±È À¡·È ­ h ² Ä i À i ² £± ³Á« h ¥± £° £§ ª² ²£ ª¸ h² Ç ± § Á¥°Ã«i­ ²ª ¡¡²À s ¹i h§¢ ¥± ¯ ­± µÈ £´ ³Á« h ¹i h § ¢ ¥± ¯ ° ³­°Ä£Ä¡h Ä i À ¥¢«² ¥± £° £§ Ä¡hª ± ª ¸ Á hà h§ ±É ¡ Ǫ²¡²£ µÈ ° ³À ´ ²£­°Ä£«¥²¢Æ 56

ı ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l


อย่ า งตามแนวคิ ด ที่ มี อ ยู่ โ ดยเฉพาะเรื่ อ งการประกั น สุ ข ภาพ ผมได้ มี ส่ ว นร่ ว ม อยู่ ใ นการออกแบบระบบประกั น สั ง คม การเปิ ด แผนกผู้ ป่ ว ยนอกนอกเวลา (O.P.D นอกเวลา) แห่งแรกในประเทศไทยที่โรงพยาบาลราชวิถี แนวคิดการ เปิด O.P.D นอกเวลาที่มาจากคณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี ซึ่งเกิดขึ้นที่โรง พยาบาลราชวิถีเป็นแห่งแรก งานเหล่ า นี้ ล้ ว นแต่ เ ป็ น รากฐานการพั ฒ นาไปสู่ ก ารจั ด การด้ า นการ เงิ น ภายใต้ ร ะบบหลั ก ประกั น สุ ข ภาพถ้ ว นหน้ า ในเวลาต่ อ มาทั้ ง สิ้ น อาจารย์ ไพจิ ต รจึ ง เป็ น ผู้ ส นั บ สนุ น และให้ โ อกาสผมได้ ก้ า วเข้ า มาเดิ น บนเส้ น ทางสู่ หลั ก ประกั น สุ ข ภาพถ้ ว นหน้ า อย่ า งเต็ ม ตั ว โดยมี อ าจารย์ อี ก หลายท่ า นเป็ น เสมื อ นผู้ จุ ด เที ย นนำทางและคอยชี้ แ นะให้ ผ มเติ บ โตทั้ ง ทางความคิ ด และ เครือข่ายการทำงานมาจวบจนทุกวันนี้ ถึ ง ทุ ก วั น นี้ ผมยั ง ดี ใ จและรู้ สึ ก ว่ า ตั ว เองโชคดี ที่ ตั้ ง แต่ เ ด็ ก จนโตมี ครอบครั ว ที่ อ บอุ่ น มี ค นดู แ ล เมื่ อ ทำงานก็ มี เ พื่ อ นร่ ว มงานที่ ดี มี อ าจารย์ หลายท่านที่สนับสนุนและคอยช่วยจุดประกายทางปัญญา แต่คนเราคงไม่มีใครโชคดีไปเสียทุกอย่าง อุปสรรคและขวากหนาม ย่ อ มต้ อ งมี เ ป็ น ธรรมดา เหมื อ นกั บ ความสุ ข และความทุ ก ข์ ที่ เ ป็ น ของคู่ กั น ครับ

งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 57


บ ท ที่ 4

หลักประกันสุขภาพ อุดมคติแห่งชีวิต ในช่วง 20 กว่าปีมานี้ โดยปกติแล้วผมมักจะอยู่ที่ทำงานถึงสองทุ่ม หรือถึง แม้ไม่อยู่ในสำนักงานก็ต้องมีนัดหมายไปประชุมหรือไปร่วมงานที่ไหนสักแห่ง แทบจะไม่ เ คยกลั บ บ้ า นก่ อ นหนึ่ ง ทุ่ ม เลย ซึ่ ง คงทำให้ ภ รรยาของผมต้ อ ง ลำบากไม่น้อย อั น ที่ จ ริ ง ผมกั บ ภรรยาได้ ท ำความเข้ า ใจและตกลงกั น ก่ อ นแต่ ง งาน แล้ ว ว่ า ผมเป็ น คนทำงานมากนะ ดู เ หมื อ นว่ า เขาก็ เ ข้ า ใจและยอมรั บ ได้ แต่ เขาก็คงไม่นึกว่าผมจะเป็นมากถึงขนาดนี้ มั น อาจจะเป็ น นิ สั ย ส่ ว นตั ว หรื อ อาจจะเป็ น เพราะความฝั ง ใจกั บ

ชี ว ทั ศ น์ ส มั ย ที่ ท ำกิ จ กรรมนั ก ศึ ก ษาในมหาวิ ท ยาลั ย ก็ แ ล้ ว แต่ ผมคิ ด ว่ า ผมมี ความชั ด เจนมากในเรื่ อ งการที่ อ ยากจะมี ชี วิ ต ที่ มี ค วามหมาย คื อ เกิ ด มาแล้ ว ไม่เสียเปล่า ขอให้ได้ทำสิ่งที่มีประโยชน์ต่อโลก ต่อส่วนรวม อะไรทำนองนั้น 58

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


Á h §²¡£¹iª¶ ¶ ´ µÉÀ s À£·È­ µÈ ¡Ä¡h h­¢­¢² ¹ ­ ± à £ ± °¡µ Ç Á h ª ´ µÈ ª¸ · ­ ££¢² ­ ¡À h ² ±É µÈ ¡Ä i ¹ ¸ ¢ Á¥°Ä i £h§¡£± £¹i µÈ ¡Ä¡h h­¢­¢² ¹ À£·È­ §²¡ ´ À£·È­ ²£ ¸h¡À µ§´ ëi ± ²£ ² Ç À £²°À £ §h ² µÈ Ä ¡h À i ² à °£¹i ª¶ «¡±È Īi «£· ­ Ä¡h Ç ­ ² ´ §h ² ¡À s °À¢­ °¢² ­¢² ¡µ ·È­Àªµ¢ À µ¢£ ´¢¨ ­¢² À s ë hÀ s Â Ä Àªµ¢­µ Á h ¥¶ Æ Á¥i § Á£ ± ²¢Ã £´ Æ · ­ ¡­¢² °À«Ç À­ ¥± ± ² µÈ À «Ç §h ² À s £°Â¢ l à «i À s £´ À ´ ¶É Ä¡h Ä i ­ ¢² Ä i ­ °Ä£¡² Ä §h² ±É À£µ ¢ §h ² ³ ² À £²° §²¡­¢² Á¥° i ² ² ª³À£Ç Ç À «¡· ­ mª¡­¢² n à §²¡Ã c r ­ ²£¡µ ± § Á µÉ ¡µ ±É i ­ µ Á ¥° i ­ Àªµ ¢ i ­ µ · ­ ³Ã«i ¡µ §²¡¡¸ ¡ ² ° ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

59


ไม่หวั่นต่ออุปสรรค แต่ข้อเสียก็คือ มันทำให้เกิดอัตตา การมีความ “อยาก” ทำให้เป็นทุกข์เวลาที่ทำแล้วไม่เป็นไปดังที่ใจอยากจะให้เป็น ถ้ า กิ เ ลสแปลว่ า ความอยากได้ อยากมี อยากเป็ น กิ เ ลสสู ง สุ ด ของ ผมคือความอยากจะเห็นงานสำเร็จ ดังนั้นทั้ง ๆ ที่ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ในเรื่ อ งการผลั ก ดั น หลั ก ประกั น สุ ข ภาพ แต่ แ ทนที่ ผ มจะล้ ม เลิ ก ไป ผมกลั บ คิดไปว่าต้องทำงานกัดติดแบบอุเบกขา คือ ทำต่อไปด้วยจิตว่างไม่ใช่ปล่อย วางแล้วเลิกทำไปกลางคัน ธรรมะข้ อ นี้ ผ มได้ ม าตอนที่ บ วชเรี ย นกั บ ท่ า นพระพรหมคุ ณ าภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตโต) ที่วัดญาณเวศกวัน เป็นธรรมะข้อที่ยากที่สุดแต่ก็เป็นสิ่ง ยึดเหนี่ยวจิตใจทั้งในการต่อสู้กับงานและจนมาถึงการต่อสู้กับมะเร็ง ผมเชื่ อ ว่ า คนเราหากมี ค วามรั ก ในงาน ทำงานด้ ว ยชี วิ ต จิ ต ใจที่ อ ยาก จะเห็ น งานสำเร็ จ เขาคนนั้ น จะเป็ น ผู้ ที่ โ ชคดี ที่ สุ ด คนหนึ่ ง ที่ ไ ด้ มี ค วามสุ ข กั บ การทำงานที่ แ ม้ ว่ า มั น จะเหน็ ด เหนื่ อ ยหรื อ เครี ย ด แต่ มั น ก็ จ ะนำมาซึ่ ง ความ ปิติ และย่อมจะดีกว่าคนที่ทำงานไปเพื่อทำมาหาเลี้ยงชีพไปเรื่อย ๆ ขาดแรง จูงใจหรือพลังผลักดันที่อยู่ข้างในว่าทำงานไปเพื่ออะไร เพราะเราแต่ ล ะคนมี ช่ ว งเวลาแห่ ง การทำงานที่ อ าจจะยาวนานถึ ง 20-50 ปี อี ก ทั้ ง ในแต่ ล ะวั น ต้ อ งใช้ เ วลากั บ การทำงานอย่ า งน้ อ ยก็ แ ปด ชั่วโมง หากการทำงานเป็นไปอย่างซังกะตายไร้จุดมุ่งหมาย คนคน นั้นจะน่า สงสารเป็นที่สุด สำหรั บ ผม ผมเป็ น คนที่ มี ค วามสุ ข กั บ งานแม้ ว่ า มั น จะเหนื่ อ ยและ เครี ย ด แต่ ง านที่ เ ป็ น ความฝั น ที่ อ ยากจะทำให้ ส ำเร็ จ ของผมนั้ น เป็ น งานที่ ค่ อ นข้ า งใหญ่ นั่ น คื อ ผมใฝ่ ฝั น ที่ จ ะได้ เ ห็ น คนไทยทุ ก คนสามารถเข้ า ถึ ง ระบบ หลั ก ประกั น สุ ข ภาพได้ อ ย่ า งถ้ ว นหน้ า และบริ ก ารที่ ไ ด้ รั บ ต้ อ งมี คุ ณ ภาพไม่ ใ ช่ บริการชั้นสองหรือชั้นสาม อาจเป็ น เพราะว่ า สภาพสั ง คมที่ ผ มได้ ใ ช้ ชี วิ ต ผ่ า นมาตั้ ง แต่ ส มั ย นั ก 60

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


¨¶ ©²¡² ¶ ª ² §²¡À s £´ µÈ Ä i À «Ç à ²£ ³ ² Ã Ä i ­ ¢É ³ ëi À «Ç ¶ §²¡ª³ ± ­ À£·È ­ µÉ ¡ ² ¶É Æ ¥²¢À s Á µÈ ² À ´ ­ µ§´ ¡ µÈ ± ¶É À£·È­¢ Æ i ² °¥­ § ¹ ¡ ´ §h ² §²¡ ´ À£·È ­ «¥± £° ± ª¸ ² ¡± ¥¶ ± À ¡² ¶É Æ ²¡§± À§¥² µÈ h ² Ä ±É Á h À s ± ¨¶ ©² Ç ¡µ ²£ ³ ´ ££¡¡µ ²£ ¹ ¶ Á¥° h ­ ª¹i À ·È ­ §²¡À s ££¡Ã ª± ¡ ± ¡² À¡·È ­ Ä ³ ² Ã Ç Ä i À «Ç §²¡¢² Ä£i §²¡ i ­ ¢Â­ ²ª µÈ °À i ² ¶ £´ ²£ ª¸ ² À«Ç r «²ª² ²£ ª¸ ¸ ¡´ ´ ²£ µÈÄ iÄ £¹iÄ À«Ç £°À ¨ µÈÀ ²À £´ Á¥i§§h²£° À ² µ­¢h² Ä£ Ç¢´È ³Ã«i¡µ¡Â ² µÈÁ h¡ ± ¡² ¶É Á¥°Ã c r ­¢¹h Àª¡­ µÈ °À«Ç ²£À ¥µÈ ¢ Á ¥ µÈ ° ³Ã«i ª´ ´ ±É ·É ² ­ £° ² À s £´ ²£¨¶ ©²Á¥° £´ ²£ª¸ ² §£ °À s ª´È µÈ £± ²¥ ± «²Ã«i Á ¥° £° ² ¸ §£ °Ä i£± ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

61


i² ¹ ¶ §²¡ £° ± à à £° «¥± £° ± ª¸ ² ­ h² £°À ¨ ¡¡± ° r ¶ £°À ¨ª§µ À à Á h µÈ §h ² À s £°À ¨ µÈ ³À ´ ¢ ²¢ ²¡ Á § ² ª± ¡ ´¢¡Á hÀ s ª± ¡ ´¢¡Á £° ² ´ Ä ¢ ¥h²§ ·­Ã ² ²£ À¡· ­ À ²Ã i §´ µ ²£À¥· ­ ±É À«¡· ­ £°À ¨Ã £° ­ £° ² ´ Ä ¢ Á h ¢ ²¢ ­ £± ° h­ Ä ² Á §ª± ¡ ´¢¡ ·­£± ³« i² µÈ ± «²ª§±ª ´ ²£ ·É ² ëi ± £° ² ¸ Àª¡­« i² ± Á hÄ¡hÄ i¥´ £­ ª´ ´Àª£µ ² ­ £° ² ¶È h² ² £°À ¨ ­¡¡´§ ´ª l ±§­¢h² À h À ²¡µ ¢ ²¢ ²£À Ç ²©µ µÈª¹ ¡² Á hà °À µ¢§ ± £± Ç Ã i ²©µ ±É Ä ¹ Á ¥ £° ² ­ À ²À s ­¢h ² µ Ä¡h ­ ´É à ª± ¡ Ä¡h ´É ëi à £«£· ­ £­ £± § à i ­ «¥h «£· ­ ­ À s ¹i ¢ ² Ä£i µÈ Ä ¡h ¡µ Á¡i Á h i ² § ° ´ «£· ­ i ² °­¢¹h Ä¡h ¡µ à £ ° i ­ ¥i ¡ ¥°¥²¢Ä À ·È ­ ² §²¡ À Ç c § ¢ ­ ± § À­ Ä¡h ³Ã«i §²¡À Ç c § ¢ ­ À­ «£· ­ §h ² ª¡² ´ à « ¶È à £­ £± § À s ²£° £° ±È à £­ £± § ±É i ­ À · ­ £i ­ 62

ı ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l


ดังนั้นคนของเขาจะมีคุณภาพชีวิตที่ใกล้เคียงกัน หลายประเทศในสแกนดิ เ นเวี ย หรื อ ว่ า ประเทศญี่ ปุ่ น เขามี รู ป แบบรั ฐ สวัสดิการเช่นนี้มานานแล้ว อย่ า งไรก็ ต าม การสร้ า งระบบหลั ก ประกั น สุ ข ภาพตามความฝั น ของ ผมนั้ น มั น เป็ น เรื่ อ งยากที่ ต้ อ งทำการปฏิ รู ป ระดั บ โครงสร้ า งที่ ใ หญ่ โ ตมาก ขณะที่ผมอยู่โรงพยาบาลชนบทก็ไม่คิดว่าจะทำให้มันเป็นจริงได้อย่างไร สิ่งที่ พอจะทำได้ก็คือ โครงการพัฒนาชนบทต่างๆ ดังที่ได้เล่าไปแล้ว จั ง หวะชี วิ ต ที่ ไ ด้ ย้ า ยเข้ า มาทำงานในกระทรวงสาธารณสุ ข ตั้ ง แต่ ปี พ.ศ. 2529 นับเป็นการเขยิบเข้าใกล้เส้นทางตามความใฝ่ฝันอีกก้าวหนึ่ง ผมมาเริ่ ม งานในกระทรวงครั้ ง แรกที่ ส ำนั ก งานคณะกรรมการ สาธารณสุขมูลฐานซึ่งเป็นงานที่เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน มีการจัดตั้ง ผู้ สื่ อ ข่ า วสาธารณสุ ข (ผสส.) และอาสาสมั ค รสาธารณสุ ข (อสม.) ทั่ ว ประเทศ งานเหล่ า นี้ ส อดคล้ อ งกั บ ความคิ ด ของผมที่ เ ชื่ อ ในเรื่ อ งการมี ส่ ว น ร่วมของประชาชนมาตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษา พอไปอยู่ในชนบทก็ทำกิจกรรม ที่ ร ะดมการมี ส่ ว นร่ ว มของประชาชนมาโดยตลอด เช่ น กองทุ น ยา เป็ น ต้ น เมื่อถูกชักชวนเข้ามาทำงานในกระทรวงจึงมาเริ่มต้นที่งานการมีส่วนร่วมของ ประชาชน แต่พอทำอยู่ได้สัก 2 ปี ก็มีความรู้สึกว่าการสร้างการมีส่วนร่วมของ ประชาชนแบบที่ ท ำอยู่ ใ นระบบราชการนั้ น มั น เป็ น การทำแบบสั่ ง การหรื อ ท็ อ ปดาวน์ (Top down) เพราะเอาเข้ า จริ ง ๆ แล้ ว ประชาชนไม่ ไ ด้ มี ก ารร่ ว ม คิดเท่าที่ควร ในที่ สุ ด จึ ง ขอย้ า ยมาอยู่ ที่ ก องแผนงานซึ่ ง เป็ น หน่ ว ยงานที่ ม องภาพ รวมของนโยบายการบริหารระบบสาธารณสุขทั่วประเทศ และที่กองแผนงานนี่เองที่ทำให้ผมคิดถึงเรื่องการปฏิรูประบบบริการ สุขภาพอย่างเป็นเรื่องเป็นราว งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 63


¡Ä i £± À ´ Ä £h § ¡Áª ² ²Â ¡¥ µ ¡ ­ à u ¨ ° ±É Á § §²¡ ´ À£·È­ ²£ ´£¹ £° £´ ²£ª¸ ² ­ ¡ Ç h­ i² ° ± À ­ª¡ §£Á¥i§ ²£ ² ² £±É ±É À£²À£´È¡ i§¢ ¸ «¡­ª¸§´ ¢l ²¢ Á ¢lª¸§´ ¢l §´ ¸¥ ¥ £°Àª£´ µÈ ¥h²§ ¶ §´ ¤ ´ ²£ l ­ £° ª² ²£ ª¸ Ä ¢ ¡µÀ ·É­«²ª³ ± À µÈ¢§ ± ª ² ²£ l£ Á¥° ²£À Ç c§¢ ­± £² ²£ ²¢ ² £ ª³ ± Æ ¶È ¡µ £¹ Á µÈ À ¥µÈ ¢ Ä ² à ­ µ µÈ À ¢À s r «²À µÈ ¢ § ± £ ´ À ·É ­ h ² Æ ¡²À s £ ² ¤ ´ ££¡ à ° µÈ §´ ¤ ´ ­ £° ª² ²£ ª¸ µÈ ¹ Á ¥ £° ² ¢± À s £° µÈ ±É £± Á¥°Ä¡h ª ²¡²£ ²¡ ± h ­ r «²Ä i ¯¥¯ ¡ ¹ À s µÈ ª ­ ¡µ À ·É ­ «²À£·È ­ Á § ² µÈ °Á i Ä r «² µÈ ª¸ §´ ¢l §h ² ħi  ¢Ã i ·È ­ «± § i ­ §h ² m¡´ ´ à «¡h £ ° £´ ²£ª² ²£ ª¸ n ¶È ±È · ­ £±É Á£ µÈ ¡ ¹ À£·È­ ´£¹ h­ª² ²£ °­¢h² À s À£·È­ À s £²§ Á¥°«¥± ² ±É ¡ Ç ¥²¢À s µÈ ¹ À ´ Ä ¹ à ²£ £° ¸ ¡ h ² Æ ¡² ¶É À£·È ­ ¢ Æ ¶È 64

ı ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l


ทำให้ผมต้องหาความรู้ เปิดมุมมองใหม่ ๆ มากขึ้น ๆ ไปด้วย การปาฐกถาถู ก ถอดออกมาเรี ย บเรี ย งเป็ น หนั ง สื อ เล่ ม เล็ ก ๆ ครั้ ง หลั ง สุ ด ที่ ห ยิ บ ขึ้ น มาอ่ า นผมยั ง รู้ สึ ก ตกใจ ไม่ น่ า เชื่ อ ว่ า วั น เวลาจะผ่ า นมากว่ า ยี่ สิ บ ปี ม าแล้ ว แต่ สิ่ ง ที่ ผ มได้ พู ด ไว้ ใ นวั น นั้ น ก็ ยั ง ไม่ ไ ปถึ ง ไหนเลย ดู เ หมื อ น ว่าการปฏิรูปจริงๆ นั้นเพิ่งจะเริ่มเมื่อไม่นานมานี้เอง ความคิดเรื่องการปฏิรูประบบบริการสุขภาพยังอยู่กับผมและผมก็ได้ เกาะติดกับเรื่องเดียวนี้มายาวนานทีเดียว ผมมาปะติดปะต่อความคิดตัวเอง ภายหลั ง ก็ รู้ สึ ก ว่ า สิ่ ง ที่ พู ด ไปเมื่ อ แสดงปาฐกถานั้ น มั น ก็ คื อ สิ่ ง เดี ย วที่ ผ มคิ ด มาโดยตลอด หากจะพูดว่านั่นคือจุดที่ผมค้นพบตัวเองก็คงไม่ผิด หลังจากนั้นการวางแผนชีวิตจึงเริ่มมีทิศทางมากขึ้น จะเห็นว่าแม้ผม จะต้ อ งย้ า ยไปทำงานในตำแหน่ ง อื่ น ๆ หลายต่ อ หลายรอบในช่ ว งที่ ผ มอยู่ ใ น กระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะเมื่อขึ้นมาถึงระดับผู้ช่วยปลัดกระทรวง ซึ่งก็ อาจจะขอย้ า ยไปไหนมาไหนได้ เช่ น ไปเป็ น สาธารณสุ ข จั ง หวั ด ไปอยู่ ก รม ต่ า ง ๆ เพื่ อ ที่ จ ะก้ า วไปเป็ น รองอธิ บ ดี หรื อ อธิ บ ดี แต่ ผ มก็ ไ ม่ เ คยขอย้ า ยไป อยู่ ก รมไหนเลย ยั ง คงปั ก หลั ก อยู่ ที่ ส ำนั ก งานปลั ด กระทรวง และยั ง ได้ เกี่ ย วข้ อ งเรื่ อ งของการวางนโยบายของระบบบริ ก ารสุ ข ภาพของประเทศมา โดยตลอด อาจารย์ ป ระเวศ วะสี เ คยพู ด ไว้ ว่ า “ระบบราชการเป็ น ระบบที่ ฆ่ า ผู้ เชี่ ย วชาญ” เพราะว่ า ทุ ก คนต่ า งมั ว แต่ ม องหาลู่ ท างที่ จ ะก้ า วหน้ า ในตำแหน่ ง โน้ น ตำแหน่ ง นี้ เมื่ อ ทำงานในตำแหน่ ง หนึ่ ง จนรู้ เ รื่ อ งดี ก็ ต้ อ งย้ า ยไปตำแหน่ ง อื่นเพื่อความก้าวหน้าจนทำให้ขาดความต่อเนื่องในการสร้างความเชี่ยวชาญ สุดท้ายกลายเป็นไม่เชี่ยวชาญอะไรเลย เพราะย้ า ยไปย้ า ยมาจนรู้ ทุ ก เรื่ อ งแต่ ไ ม่ เ ชี่ ย วชาญหรื อ ไม่ รู้ จ ริ ง

สักเรื่อง งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 65


ผมคิ ด ว่ า ในการทำเรื่ อ งหลั ก ประกั น สุ ข ภาพเราจำเป็ น ต้ อ งมี ค วามรู้ เฉพาะด้ า นบางเรื่ อ งอยู่ เ หมื อ นกั น ผมได้ มี โ อกาสเรี ย นรู้ เ กี่ ย วกั บ การเงิ น การ คลังสาธารณสุขมากขึ้นเรื่อย ๆ ผสมผสานกับการได้ปฏิบัติการจริงในการทำ โครงการงานวิจัยเชิงปฏิบัติการที่เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศ คือ หลัง จากทำงานที่ ร าษี ไ ศลได้ 5 ปี ผมก็ ไ ด้ ทุ น ของรั ฐ บาลเบลเยี่ ย มไปเรี ย นต่ อ ที่ เบลเยี่ยม ในชั้นเรียน อาจารย์ที่สอนก็มักยกแต่กรณีศึกษาจากแอฟริกา ยุโรป หรื อ อเมริ ก า จนพวกเราที่ เ รี ย นถึ ง กั บ บ่ น ดั ง ๆ ว่ า ไม่ เ ห็ น มี ก รณี ศึ ก ษาจาก แถบเอเชียบ้างเลย อาจารย์ จึ ง ชั ก ชวนให้ พ วกเราเมื่ อ เรี ย นจบกลั บ มาแล้ ว ให้ ม าทำวิ จั ย เป็ น กรณี ศึ ก ษาประเทศไทย เมื่ อ ผมเรี ย นจบกลั บ มาจึ ง ได้ จั ด โครงการต่ อ เนื่ อ งขึ้ น มาทดลองทำในลั ก ษณะการวิ จั ย เพื่ อ พั ฒ นาต้ น แบบ (Model development) โครงการแรกเริ่มทีเดียวก็คือโครงการขุนหาญ ซึ่งทำในพื้นที่ เพี ย งอำเภอเดี ย ว เป็ น เวลาเกื อ บ 5 ปี ในช่ ว งที่ ผ มอยู่ ที่ อ ำเภอบั ว ใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ต่ อ มาเมื่ อ ย้ า ยมาที่ ก ระทรวงก็ ม าทำโครงการอยุ ธ ยา ซึ่ ง ขยายพื้ น ที่ จากระดั บ อำเภอมาทำทั้ ง จั ง หวั ด แล้ ว ต่ อ มาก็ ท ำโครงการระดั บ ประเทศคื อ โครงการปฏิ รู ป ระบบบริ ก ารสาธารณสุ ข หรื อ Health Care Reform Project ผมได้ ใ ช้ ค วามรู้ แ ละเรี ย นรู้ เ รื่ อ งการเงิ น การคลั ง สาธารณสุ ข มาก ๆ อี ก ช่ ว งหนึ่ ง เมื่ อ เป็ น ผู้ อ ำนวยการกองแผนงาน ซึ่ ง ต้ อ งไปร่ ว มทำโครงการ ประกันสังคมอย่างใกล้ชิดและอีกช่วงหนึ่งเมื่อทำเรื่องงบผู้มีรายได้น้อย หรือ ระบบสวัสดิการประชาชนด้านการรักษาพยาบาล (สปร.) ซึ่งแม้จะต้องพบกับ มรสุ ม ของชี วิ ต ครั้ ง ใหญ่ ใ นช่ ว งนั้ น แต่ ใ นที่ สุ ด ก็ ผ่ า นพ้ น มาได้ แ ละก็ ถื อ ว่ า เป็ น จุดที่ได้ลงมือทำเรื่องการปฏิรูปจริง ๆ ไม่ใช่เป็นแค่การฝัน 66

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


²£ ´£¹ À£·È­ ¹i¡µ£²¢Ä i i­¢ «£·­ £° ª§±ª ´ ²£ £° ² i² ²££± ©² ¢² ²¥ ª £ µÉ ·­À s ²£ r Á¥° ²£§² «¡¸ «¡²¢ª³«£± ²£ ´£¹ £° £´ ²£ª¸ ² ±É £° à £°¢° h­¡² £´ Æ Á¥i§ à ²£ ´£¹ £° £´ ²£ª¸ ² ±É ­ À« ·­ ² À£·È­ ²£ ± ª££À ´ ¢± ° i ­ ³«¥²¢ Æ À£·È ­ £i ­ ¡ ± à u ¨ ½ ¡Ä i£± ²£ª ± ª ¸ ² ª« ² ¢¸Â£ &6 ëi ³Â £ ²£ )FBMUI $BSF 3FGPSN  ¢ ¢²¢À ´È ¡ ³ § ·É µÈ ² ± «§± ­¢¸ ¢²À s ± «§± À ·È­ °¨¶ ©²§h² i² ° i­ ´£¹ ±É £° À£·È­ ²£À ´ ²£ ¥± À£·È­ ¸ ¥² £ À£·È­ £° ªh h­£§¡ ±É £° £´ ²£­·È Æ §£À s ­¢h² Ä£ à ­ µÈ °À£´È¡ ³Â £ ²£ ±É ¡Ä i¥ ¡·­À µ¢ « ± ª·­À s À£·È­ À s £²§ ¶É ¡²À¥h ¡ « ¶È ·È ­ §h ² m ´ £¹ £° £´ ²£ª¸ ² Ä ¢n §²¡ ±É à Á h Á£ ´ §h² °Ã iÀ ·È­ ²£ª·È­ª²£ ± ¹i µÈÀ µÈ¢§ i­ Á hà ° µÈÀ µ¢ À ·È­Ã i ± ­·È Ç £² §h²¡± Ä i ³Ã«i §²¡ ´ ­ ¡À­ Ç ± À ¶É i§¢ ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

67


ความคิ ด ที่ แ จ่ ม ชั ด ขึ้ น ในการจั ด การปฏิ รู ป ระบบบริ ก ารสุ ข ภาพนี้ จ ะ ถื อ ว่ า เป็ น สู ต รการปฏิ รู ป ของผมก็ ไ ด้ ถ้ า จะพู ด อย่ า งคร่ า ว ๆ สู ต รนี้ ป ระกอบ ด้วย หนึ่ง การจัดระบบการเงินการคลังสุขภาพรวมหมู่ เพื่อให้มีการกำกับ ค่ า ใช้ จ่ า ยด้ า นสุ ข ภาพของประเทศให้ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ แทนที่ ป ระชาชนจะ ควั ก กระเป๋ า จ่ า ยเองตามสถานพยาบาลต่ า ง ๆ คนที่ ไ ม่ มี เ งิ น ก็ ไ ม่ ไ ด้ รั บ การ รั ก ษา ก็ เ ปลี่ ย นมาเป็ น ว่ า แต่ ล ะคนจ่ า ยตามฐานะของตั ว เอง ก็ คื อ จ่ า ยผ่ า น ระบบภาษี แ ล้ ว นำเงิ น มารวมกั น เป็ น กองทุ น ขนาดใหญ่ ซึ่ ง จะมี พ ลั ง กำกั บ ระบบบริ ก ารสุ ข ภาพให้ เ ป็ น ไปตามทิ ศ ทางที่ เ หมาะสมมากกว่ า ที่ จ ะจ่ า ยแบบ กระจัดกระจาย สอง การเน้ น พั ฒ นาสถานพยาบาลใกล้ บ้ า นให้ มี ค วามเข้ ม แข็ ง ใน ขณะที่ ก ระจายเทคโนโลยี ร ะดั บ สู ง หรื อ การแพทย์ เ ฉพาะทางออกไปอย่ า งทั่ ว ถึง ไม่ให้กระจุกตัวแต่ในเมืองใหญ่ เพื่อให้ผู้ที่อยู่ห่างไกลได้รับการดูแลอย่าง มี คุ ณ ภาพทั ด เที ย มกั บ คนในเมื อ งใหญ่ และประหยั ด ค่ า ใช้ จ่ า ยในด้ า น เทคโนโลยีสุขภาพที่มักจะมีการใช้เกินจำเป็น สาม คื อ การปรั บ ระบบความสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า งผู้ ป่ ว ยกั บ วิ ช าชี พ จาก ระบบที่ มั ก พู ด กั น ว่ า รั ก ษาแต่ โ รคไม่ รั ก ษาคน ก็ พั ฒ นาให้ มี ร ะบบหมอประจำ ครอบครัว ซึ่งสถานบริการใกล้บ้านสามารถพัฒนาคุณภาพไปในลักษณะที่จะ ให้บริการอย่างเป็นองค์รวม คือ ดูแลทั้งครอบครัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการ ส่ ง เสริ ม ป้ อ งกั น รั ก ษา โดยเฉพาะการส่ ง เสริ ม สุ ข ภาพป้ อ งกั น โรคนั้ น ถื อ ได้ ว่าหัวใจของความสำเร็จอยู่ที่สถานบริการขนาดเล็กใกล้บ้าน นอกจากนี้ต้อง พั ฒ นาให้ เ กิ ด ประชาคมสุ ข ภาพต่ า ง ๆ และให้ ป ระชาคมเหล่ า นี้ มี ส่ ว นร่ ว มใน การพัฒนาระบบ ซึ่งจะรวมไปถึงการพัฒนาระบบสิทธิของผู้รับบริการในเรื่อง ข้ อ มู ล ข่ า วสารก็ ดี ในเรื่ อ งการดู แ ลตนเองก็ ดี โดยสรุ ป ก็ คื อ ให้ ป ระชาชนกั บ วิ ช าชี พ มี ก ารสื่ อ สารแลกเปลี่ ย นกั น มากขึ้ น เป็ น ระบบความสั ม พั น ธ์ ที่ ไ ม่ ใ ช่ 68

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


£° ² ¶È ²§´ ² µ Á¥°§´ ² µ À s ¹i ± ª´ à À h² ±É À£·È ­ µÈ ªµÈ · ­ ²£ ´ £¹ £° ³¥± ª² ²£ ª¸ À ·È ­ £­ £± £° £´ ²£ª¸ ² ë¡h ¶È £­ ¥¸ ¡ ±É À£·È ­ ³ § ¸ ¥² £ Á¥° ± ©° §²¡£¹i §²¡ª²¡²£ µÈ ³À s £§¡Ä ¶ £° ª£i² Á£ ¹ à h² Æ i§¢ Á¥° À£·È ­ ª¸ i ² ¢ ° i ­ ¡µ £° § ²£ ² ª± ¡Ã«i À ´ ²£ £°« ± £¹i £h § ¡ ± à § §i ² Ä¡h à h ³ ± À µ ¢ Æ À ²°Ã § ²£Á ¢l Á ¥° ª² ²£ ª¸ À h ² ±É  ¢­²¨± ¢ £° § ²£ ² «¡²¢À ·È ­ µÈ °Ã«i À ´ ²£ ³À ´ ²£Ã £°¢°¢²§ À§¥² ¹ À£·È­ ´£¹ ¡ ° ¹ «¥± ²£ i­ µÉ¡² ¥­ ¶È Á h¥° i­ ¡ Ç Ä i ± À ¥·È ­ ¡² ­ª¡ §£ r ¸ ± ¡µ ¥¸h ¡ µÈ À i ² ¡²£h § ¡ ³ ² À ´ À s ¹i À µÈ ¢ § ² à £°À Ç À«¥h ² µÉ À ´È ¡ ¡² ¶É ±É µÈ ­ ¢¹h à ªh § ¥² Á¥°Ã ·É µÈ À£µ ¢ §h ² ¡µ ­ l §²¡£¹i « £· ­ ¡µ §´ ² ²£¡² ­Á¥i § ±É ­ h ­ Ä · ­ ²£ ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

69


ª£i² §²¡¡±È ² ¢ ²¢  ¢¡µ ²£ ³ ² £h§¡ ± ² £° ²ª± ¡Á¥° ª·È ­ h ² Æ i § ¢ r ¸ ± °À«Ç §h ² ¡µ ¹i ³ ² £° ² «¥²¢ µÈ ¡µ §²¡£¹i §²¡À i ² à À£·È ­ «¥± £° ± ª¸ ² ² À i ² à £°À Ç ² §´ ² ²£ ­ À£·È­ µÉ¡² Á¥° ÇÀ s ² À s Àªµ¢ Á £° ² Ä iÀ s ­¢h² µ ­± µÈ £´ Á¥i§ ¡À«Ç §²¡ª³ ± ­ ²£ ´£¹ ±É £° ·­ ±É À£·È­ ªh Àª£´ ¡ ª¸ ² d ­ ± £ ²££± ©² ¢² ²¥ ²£ wy ¹ ª¸ ² Á¥° ²£ ¸i ¡ £­ ¹i £´  À s ­¢h ² ¡² Á h µÈ ´ ³À£·È ­ £° £´ ²£ h ­ Á¡i §h ² ¡± °À s À µ ¢ ªh § « ¶È ­ £° ª¸ ² ±É «¡ Ç À £²°§h ² ªh § « ¶È ­ l §²¡ £¹i¡± ¡µ §²¡ ± À Á¥i§ª³«£± ¡ Á¥° µÈ ª ³ ± Ä Ã ± § ¡Ã À£·È ­ µÉ Á £ ¡² Á¥° ´ ­¢h ² ¡¸h ¡±È §h ² ° ³Ã«iª³À£Ç à £°¢°«¥± µÈ ²£ ´ £¹ i ² ­·È µÈ ª ³ ± Æ Ã £° ª¸ ² À ´ ¶É ¡ Ç Ä i À i ² Ä £h § ¡ i § ¢Â ¢ ¥­ À µ ¢ Á h §h ² ¸ À i « ± µÈ ¡ ³À Ç ¡ µÈ · ­ 70

ı ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l


เรื่ อ งการปฏิ รู ป ระบบบริ ก ารสุ ข ภาพ ซึ่ ง ผมเชื่ อ ว่ า จะเป็ น หนทางที่ จ ะทำให้ ประชาชนเข้าถึงหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้ จากความคิ ด ความใฝ่ ฝั น ที่ มี ม าตั้ ง แต่ เ ป็ น นั ก ศึ ก ษา มาถึ ง แรง บั น ดาลใจจากการทำงานกั บ สภาพชี วิ ต จริ ง ของชาวบ้ า นที่ ไ ด้ สั ม ผั ส ในชนบท และการที่ ไ ด้ แ ลกเปลี่ ย นกั บ ประเทศต่ า งๆ รวมทั้ ง การได้ ท ำงานทดลองบาง โครงการในพื้ น ที่ ดั ง ที่ เ ล่ า มาข้ า งต้ น เป็ น แรงผลั ก ดั น ที่ ท ำให้ เ กิ ด ความ ปรารถนาอย่ า งแรงกล้ า ที่ จ ะผลั ก ดั น นโยบายหลั ก ประกั น สุ ข ภาพถ้ ว นหน้ า ใน ระดับชาติ ดังนั้นเมื่อโอกาสทางนโยบายเปิดผมจึงไม่ลังเลที่จะขายความคิด นี้ต่อพรรคการเมืองที่กำลังจะหาเสียงเลือกตั้งในปี พ.ศ.2544 ผมไม่ รู้ ว่ า พรรคไหนจะได้ ค ะแนนเสี ย งข้ า งมาก ตอนนั้ น ผมได้ เ สนอ ความคิ ด ต่ อ พรรคการเมื อ งมากกว่ า หนึ่ ง พรรค และเป็ น พรรคไทยรั ก ไทยซึ่ ง ตอนนั้ น มี น ายแพทย์ สุ ร พงษ์ สื บ วงศ์ ลี เป็ น แกนนำของพรรคอยู่ ที่ ไ ด้ น ำ แนวคิดไปเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายหลักของพรรคในการหาเสียง จนกระทั่ง ทำให้เกิดนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือที่ทุกคนรู้จักดีในชื่อ “30 บาทรักษาทุกโรค” ซึ่งเริ่มดำเนินการในเดือนมกราคม พ.ศ.2544 จริ ง ๆ แล้ ว ก่ อ นหน้ า ที่ พ รรคการเมื อ งจะนำไปกำหนดเป็ น นโยบาย นั้น องค์กรภาคประชาชนที่นำโดย อ.จอน อึ๊งภากรณ์ และอีกหลาย ๆ ท่าน ที่ ไ ด้ ศึ ก ษาเรื่ อ งนี้ ม าด้ ว ยกั น ก็ ไ ด้ มี ก ารจั ด เวที ร ะดมความคิ ด กั บ ภาคประชาชน อย่ า งกว้ า งขวาง จนกระทั่ ง มี ก ารร่ ว มเสนอกฎหมาย พ.ร.บ.หลั ก ประกั น สุขภาพแห่งชาติภาคประชาชน โดยรวบรวมรายชื่อได้มากกว่า 60,000 ราย ชื่ อ แม้ ว่ า จะเสนอไม่ ทั น และร่ า งพ.ร.บ.ฉบั บ ของรั ฐ บาลก็ อ อกมาประกาศใช้ แต่ ก็ นั บ ว่ า ตั ว แทนภาคประชาชนจำนวนหนึ่ ง ได้ เ ข้ า ไปมี ส่ ว นร่ ว มในกลไก พิจารณากฎหมายฉบับนี้ด้วย ในที่ สุ ด ในเดื อ นพฤศจิ ก ายน พ.ศ.2545 ก็ มี ก ารออกกฎหมาย คื อ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ได้สำเร็จ เป็นกฏหมายที่จะ งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 71


£­ £± ëi ¢ ²¢ ²£ ´ £¹ £° £´ ²£ª¸ ² ¡µ §²¡À i ¡ Á Ç ¡±È h ­ Ä Á h §h² µÈ £ «¥± £° ± ª¸ ² Á«h ² ´ ° ¥­ ­­ ¡²Ä i ÇÄ¡hà h§h² ° Ä¡h¡µ­¸ ª££ £ ± i ² ¡ ¥± À s À§¥² µÈ ¡ i ­ À ´ ± §²¡À £µ ¢ ­¢h ² « ± ­µ À s ³£ ª­ À¡·È ­ ­­ £ «¥± £° ± ª¸ ² Á«h ² ´ ª ³À£Ç ±É ­ ² §²¡£¹iª¶ µÃ µÈ«¥± £° ± ª¸ ² i§ « i² ³¥± °À s £´ ¶É ¡² ¡ Ç¢± £¹i µ§h² ±È À s À µ¢ ²£À£´È¡ i ± « ¶È à £° § ²£ ´£¹ £° £´ ²£ª¸ ² À h ² ±É ¡£¹i µ §h ² ¢± ¡µ ¸ À ² §² « i ² ­µ «¥²¢¥¹ µÈ i ­ i ² § h ² À ·È ­ ± ² £° £´ ²£ª¸ ² ëi µ §h²À ´¡ 72

ı ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l


แต่ผมก็ไม่ได้หวั่นใจ ผมพร้อมที่จะทำงานหนักในขั้นต่อไป โดยที่ ไ ม่ ไ ด้ เ ฉลี ย วใจเลยว่ า ผมกำลั ง จะต้ อ งเผชิ ญ กั บ เงื่ อ นไขอื่ น ที่ ไม่ใช่เป็นแค่อุปสรรคในกระบวนการทำงานในอนาคตอันใกล้

งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 73


บ ท ที่ 5

ระบบราชการ ระบบที่ทำลายคน การผลักดันให้เกิดหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าจนสำเร็จนั้น แม้จะเกิดความ ปิ ติ อ ย่ า งยิ่ ง แต่ ข วากหนามและอุ ป สรรคบนเส้ น ทางที่ ต้ อ งทุ่ ม เทกำลั ง กาย กำลังใจนี้ก็ได้ทิ้งบาดแผลไว้กับชีวิตผมไม่น้อย ผมจะขอเล่ า ย้ อ นกลั บ ไปในช่ ว งเวลาก่ อ นที่ จ ะเกิ ด หลั ก ประกั น สุ ข ภาพถ้ ว นหน้ า สั ก นิ ด เพราะว่ า มั น มี เ หตุ ก ารณ์ ที่ มี ค วามสำคั ญ ต่ อ ชี วิ ต ผม เป็นอย่างมาก ตั้ ง แต่ ต รวจพบว่ า เป็ น มะเร็ ง ผมก็ พ ยายามวิ เ คราะห์ ว่ า มั น เกิ ด ได้ อย่างไร เพื่อว่าผมจะได้ลด ละ และเลี่ยงปัจจัยเหล่านั้น ในทางวิชาการนั้น ถือว่าความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งที่สำคัญของมะเร็ง ผมจึงจะขอทบทวนดูว่า ในชี วิ ต ผมมี ค วามเครี ย ดมากขนาดไหนหรื อ มั น มากจนสามารถกลายเป็ น ปัจจัยเกิดมะเร็งได้จริงหรือเปล่า 74

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


h ­ °À s ¡°À£Ç ¡ ³Ä i §h ² ¡µ §²¡À £µ ¢ £±É ë h Á¥°À s £±É µÈ ë h µÈ ª¸ à µ §´ · ­ §²¡À £µ ¢ µÈ À ´ ¶É h ­ « i ² µÈ °À ´ h ² § £ µ ¸ £´ ¢² ¶É à h§ u ¨ ° ±É ¡£± ´ ­ £°¡² À Ç ± §h²¥i² ² µÈà ià  £ ²££± ©² ¢² ²¥ ¹i¡µ£²¢Ä i i­¢ ª £ Á h ¡ ÇÄ¡hÄ iÀ µÈ¢§ i­ ± £ µ ¸ £´ ¢²Â ¢ £ Á h ¹ ¢ À i²Ä ²¡ ª ² ²£ l¡² §h² £°¡² £° £§ ª² ²£ ª¸ Á h ¥ ° u ¡µ ³ § À s «¥²¢«¡·È ¥i ² «¥²¢Â £ ²£¡µ £°¡² ª¹ À s ± ¥i ² Á¥°Ä¡h h ² À ·È ­ À¥¢§h ² £°¡² ¡«²¨²¥ ² µÉ ² £±É ¡± ª²¡²£ ± ª´ Ã Ä i  ¢ ¹i £´ « ²£À µ ¢ Ä¡h µÈ  ¢Á Ä¡h¡µ ²£ £§ ª­ ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

75


ลองคิ ด ดู ว่ า ถ้ า ข้ า ราชการประจำที่ ไ ม่ ซื่ อ สั ต ย์ ม าเจอกั บ นั ก การเมื อ ง ที่ฉ้อฉลมันจะเป็นยังไง ถ้ า ข้ า ราชการประจำคนนั้ น พยายามทำในสิ่ ง ที่ คิ ด ว่ า ถู ก ต้ อ ง คนคน นั้นก็ย่อมจะประสบกับความยากลำบาก แต่ถ้าข้าราชการชั่วจับมือกับนักการ เมืองเลว บ้านเมืองก็จะยากลำบากแทน แม้ ว่ า ผมจะรั บ ราชการมานานเกื อ บสามสิ บ ปี แต่ ผ มบอกได้ เ ลยว่ า ผมรู้ สึ ก ไม่ ดี กั บ ระบบราชการเอามาก ๆ และแม้ ว่ า ผมจะพอมี ท างเลื อ กที่ จ ะ ไปประกอบอาชี พ อื่ น ก็ ไ ด้ เพราะผมเป็ น แพทย์ แต่ ผ มก็ ยั ง ทำงานรั บ ราชการ เพราะเห็นว่ามันเป็นที่ที่เราจะทำประโยชน์ด้านสุขภาพให้กับประชาชนได้มาก ที่สุด และผมเชื่อว่าข้าราชการจำนวนไม่น้อยก็รู้สึกเช่นเดียวกันกับผม เรื่องที่นำความเครียดครั้งใหญ่ที่สุดมาสู่ชีวิตผมเกิดขึ้นในขณะที่ผม มีแนวคิดเรื่องการปฏิรูประบบบริการสุขภาพที่ค่อนข้างจะชัดเจนทั้งในแง่ของ องค์ ค วามรู้ แ ละพลั ง หรื อ ไฟที่ อ ยากจะเปลี่ ย นแปลง ผมอยากจะใช้ ง บ ประมาณสำหรั บ การดู แ ลผู้ มี ร ายได้ น้ อ ยนี้ ใ ห้ เ กิ ด ประโยชน์ ที่ สุ ด ให้ ค นยาก คนจนได้รับการดูแลอย่างมีคุณภาพ ผมจึ ง ตั้ ง ใจจะใช้ ก ารจั ด การงบประมาณก้ อ นนี้ เ ป็ น เครื่ อ งมื อ ในการ เปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดบริการสุขภาพที่มีคุณภาพสำหรับคนจน ผมอาจต้องพาท่านย้อนไปในประวัติศาสตร์ระบบหลักประกันสุขภาพ ของประเทศไทยสักหน่อย ระบบที่ จ ะช่ ว ยเหลื อ คนยากคนจนในเรื่ อ งการรั ก ษาพยาบาลนั้ น มี วิ วั ฒ นาการมาโดยลำดั บ เริ่ ม จากสมั ย ก่ อ นถ้ า คนจนเจ็ บ ป่ ว ยไปรั ก ษาในโรง พยาบาล เมื่ อ จะออกจากโรงพยาบาลก็ อ าจไปพบนั ก สั ง คมสงเคราะห์ ห รื อ อาจขอให้ ผู้ อ ำนวยการโรงพยาบาลยกเว้ น ค่ า รั ก ษาพยาบาลให้ ไ ด้ ซึ่ ง ทางโรง พยาบาลก็อาจจะขอให้จ่ายแค่ค่าบำรุงเล็ก ๆ น้อย หรือไม่ต้องจ่ายเลยก็ได้ ระบบที่ว่านี้เรียกคนไข้เหล่านั้นว่าคนไข้อนาถา 76

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


เวลาลงรายการในบั ญ ชี ร ายรั บ ของโรงพยาบาลเจ้ า หน้ า ที่ ก็ จ ะเขี ย น ตัวย่อว่า อน. ก็เป็นที่เข้าใจกัน ระบบแบบนั้นอาจจะดีในแง่ที่ทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่าหมอเป็นที่พึ่ง เป็น ผู้ ใ ห้ และจะมี ค วามเคารพนั บ ถื อ หมอมาก แต่ ก็ อ าจจะมี ช าวบ้ า นที่ รู้ สึ ก ลำบากใจในการที่ จ ะต้ อ งเอ่ ย ปากขอ และบางครั้ ง มั น ดู ไ ม่ มี ศั ก ดิ์ ศ รี เ อาเสี ย เลยที่จะต้องไปยกมือไหว้ใครสักคนเพื่อขอให้ยกเว้นค่ารักษาพยาบาลให้ ต่ อ มาในราวปี พ.ศ. 2518 รั ฐ บาลคึ ก ฤทธิ์ ปราโมชก็ ไ ด้ มี น โยบาย รั ก ษาพยาบาลฟรี ส ำหรั บ ผู้ มี ร ายได้ น้ อ ย และมี ก ารออกบั ต รสงเคราะห์ ใ ห้ กั บ ผู้มีรายได้น้อยรวมทั้งเด็กอายุต่ำกว่าสิบสองปีและผู้สูงอายุ การให้ ก ารสงเคราะห์ ต ามระบบอนาถาก็ เ ริ่ ม หมดไป ใครที่ ถื อ บั ต ร สงเคราะห์ ม าโรงพยาบาลก็ จ ะถื อ ว่ า มี สิ ท ธิ รั ก ษาพยาบาลฟรี ดู ดี ก ว่ า คนไข้ อนาถาหน่ อ ยเพราะไม่ ต้ อ งไปขอให้ ผู้ อ ำนวยการโรงพยาบาลอนุ มั ติ “อน.” เป็นครั้ง ๆ ไป แม้ ว่ า ระบบใหม่ ที่ ว่ า นี้ จ ะดี ขึ้ น แต่ ปั ญ หาก็ ยั ง มี อ ยู่ คื อ เรื่ อ งคุ ณ ภาพ บริ ก ารที่ ค นยากจนได้ รั บ มั น แย่ ม าก เหมื อ นกั บ มี ก ารเลื อ กปฏิ บั ติ ที่ ชั ด เจน มากว่าคนยากจนที่ถือบัตรสงเคราะห์จะได้รับบริการที่ไม่ดีเท่าไรนัก ยาก็เป็น ยาพื้ น ๆ บริ ก ารก็ เ หมื อ นไม่ เ ต็ ม ใจให้ เรื่ อ งร้ อ งเรี ย นก็ ม าก เป็ น ข่ า วทาง หนังสือพิมพ์ก็บ่อย ต่ อ มาระบบสวั ส ดิ ก ารการรั ก ษาพยาบาลมี ก ารพั ฒ นาไปอี ก ขั้ น โดย การให้ ป ระชาชนที่ ไ ม่ ไ ด้ รั บ สิ ท ธิ ผู้ มี ร ายได้ น้ อ ยสามารถที่ จ ะซื้ อ บั ต รประกั น สุ ข ภาพในราคา 500 บาทเพื่ อ รั บ การรั ก ษาเป็ น รายปี ระบบนี้ รั ฐ จั ด สรรงบ ประมาณสมทบให้อีกหัวละ 500 บาท เป็นพัฒนาการก้าวแรกในการจัดสรร งบแบบเหมาจ่ายรายหัว แต่ระบบบัตรสงเคราะห์ก็ยังคงมีอยู่ ปั ญ หาใหญ่ ข องระบบสวั ส ดิ ก ารผู้ มี ร ายได้ น้ อ ยนี้ อ ยู่ ที่ ร ะบบการ จัดสรรงบประมาณ งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 77


การจั ด สรรแบบเดิ ม นั้ น เป็ น การจั ด สรรงบประมาณตามจำนวนเตี ย ง ของโรงพยาบาล โดยที่ เ งิ น งบประมาณสำหรั บ คนจนนี้ ถู ก จั ด สรรเป็ น ก้ อ น เดียวให้กับโรงพยาบาล เงินก้อนนี้จึงถูกนำไปใช้กับทุก ๆ เรื่อง ขึ้นอยู่กับว่า ผู้บริหารจะเห็นความสำคัญของเรื่องอะไร บางทีก็ไม่ได้เอาไปใช้รักษาคนยากคนจน ยิ่ ง ไปกว่ า นั้ น การจั ด สรรตามขนาดของโรงพยาบาลนั้ น บางพื้ น ที่ มี คนจนมากกลั บ ได้ เ งิ น น้ อ ย จั ง หวั ด ที่ เ ศรษฐกิ จ ดี อ ยู่ แ ล้ ว กลั บ ได้ ม าก อย่ า งนี้ เป็นต้น แนวคิดที่อยากทำในขณะนั้น คือ อยากจะจัดสรรงบประมาณก้อนนี้ ด้วยวิธีใหม่ เรียกว่าการจัดสรรแบบเหมาจ่ายรายหัว โรงพยาบาลทุ ก แห่ ง จะต้ อ งสำรวจและทำบั ญ ชี ผู้ มี ร ายได้ น้ อ ยขึ้ น มา แล้วจึงจัดสรรงบประมาณให้ไปตามจำนวนคนจนที่แต่ละแห่งต้องให้การดูแล เพื่อให้มีความชัดเจนว่าเงินที่จัดสรรไปจะไปดูแลคนกลุ่มนี้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยั ง ได้ เ ปลี่ ย นชื่ อ เรี ย กจากระบบเดิ ม คื อ บั ต รสงเคราะห์ ม า เป็นระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลผู้มีรายได้น้อย หรือ สปร. เพราะต้องการ สื่ อ ว่ า นี่ เ ป็ น สวั ส ดิ ก ารที่ รั ฐ ให้ กั บ ประชาชนและเพื่ อ กระตุ้ น ให้ ก ารบริ ก ารคำนึ ง ถึงว่านี่เป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชน ไม่ใช่เรื่องการสงเคราะห์ การจะปฏิ รู ป การจั ด สรรเงิ น มาเป็ น แบบเหมาจ่ า ยรายหั ว จะทำได้ ก็ ต้ อ งร่ า งระเบี ย บขึ้ น มากำกั บ เพื่ อ จะได้ เ ป็ น กรอบทางกฎหมายและระเบี ย บ ราชการที่อ้างอิงได้ในทางปฏิบัติของฝ่ายต่าง ๆ มรสุ ม ความเครี ย ดมั น เข้ า มากระหน่ ำ ผมทั น ที ที่ เ ริ่ ม ทำเรื่ อ งนี้ เริ่ ม ตั้ ง แต่ ผ มถู ก นั ก การเมื อ งเรี ย กไปคุ ย พู ด ง่ า ยๆ ก็ คื อ ไม่ อ นุ ญ าตให้ ร่ า งระเบี ย บ เขาบอกว่ า ระเบี ย บร่ า งมาแล้ ว มั น จะมาผู ก คอตั ว เอง อย่ า ไปทำเลย น่ า จะ ปล่อยให้ผู้บริหารตัดสินกันเอง ตอนนั้ น ตำแหน่ ง ผมเป็ น ผู้ ช่ ว ยปลั ด กระทรวงและเป็ น ผู้ อ ำนวยการ 78

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


สำนักงานประกันสุขภาพ จริง ๆ แล้วถือว่าเป็นผู้รับผิดชอบงานโดยตรง แต่ นั ก การเมื อ งกลั บ บอกว่ า ผมน่ า จะปล่ อ ยให้ ผู้ บ ริ ห ารตั ด สิ น กั น เองว่ า จะบริ ห าร เงินก้อนนี้กันอย่างไร แต่เพราะขณะนั้นผมอยู่ในช่วงที่ไฟปฏิรูปลุกโชน ผมจึงบ่ายเบี่ยง “หมอหงวนเป็ น อย่ า งนี้ นี่ เ อง ถึ ง ไม่ ก้ า วหน้ า ไปไหนสั ก ที ” เลขา นั ก การเมื อ งคนนั้ น พู ด กั บ ผมตอนที่ ผ มยื น ยั น เรื่ อ งการร่ า งระเบี ย บการใช้ เ งิ น นี้ต่อไป จริ ง ๆ แล้ ว ผู้ บ ริ ห ารกระทรวงในช่ ว งนั้ น ก็ ไ ม่ ค่ อ ยจะชอบผมอยู่ แ ล้ ว เนื่องจากว่าผมทำงานหลายเรื่องทั้งในเชิงวิชาการและงานประสานงานต่างๆ กั บ ภายนอก พู ด ง่ า ย ๆ คื อ ผมไม่ ไ ด้ ท ำแต่ ง านราชการตามที่ ผู้ บ ริ ห ารมอบ หมายเท่านั้น อั น นี้ ก็ ค งเป็ น สาเหตุ ห นึ่ ง ว่ า ทำไมผมถึ ง เป็ น ผู้ ช่ ว ยปลั ด กระทรวงอยู่ ตั้งหลายปี แต่ ถึ ง จะไม่ ไ ด้ รั บ การโปรโมทให้ ก้ า วหน้ า ในระบบราชการ ผมก็ มี ง าน สนุกๆ ให้ทำมากมาย อย่างเช่นโครงการ Health Care Reform ที่ร่วมกับ ประชาคมยุ โ รปหรื อ EU ที่ เ ล่ า มาแล้ ว ในขณะนั้ น แทบจะกล่ า วได้ ว่ า ไม่ มี คนในแวดวงสาธารณสุ ข ไทยคนไหนที่ ท ำเรื่ อ งนี้ ม ากเท่ า ผม ผมจึ ง ได้ รั บ เชิ ญ ไปประชุมบ้างไปบรรยายบ้างในต่างประเทศอยู่บ่อย ๆ โดยเขาออกค่าใช้จ่าย ให้ทั้งหมด จำได้ ว่ า มี อ ยู่ ปี ห นึ่ ง ผมถู ก เชิ ญ ไปประชุ ม หรื อ บรรยายเรื่ อ งนี้ ใ นต่ า ง ประเทศถึง 18 ครั้ง เฉลี่ยเดือนละมากกว่า 1 ครั้ง การทำงานในแวดวงที่ ก ว้ า งทำให้ ผ มมี เ ครื อ ข่ า ยภายนอกมาก นั ก ข่าวก็รู้จักผมมาก หลั ง จากที่ ผ มไม่ ย อมยกเลิ ก ความคิ ด เรื่ อ งการร่ า งระเบี ย บการ บริ ห ารงบรายได้ น้ อ ย ผมก็ ยั ง ถู ก ผู้ บ ริ ห ารในระดั บ สู ง ในกระทรวงเรี ย กไปคุ ย งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 79


อีก ทำนองว่าขอแบ่งเงินในงบรายได้น้อยนี้ไปให้กับจังหวัดต่าง ๆ ประมาณ สิบกว่าจังหวัดได้หรือไม่ โดยอ้างว่าจังหวัดเหล่านั้นต้องการงบไปแก้ปัญหาที่ เกิ ด จากควั น พิ ษ จากเหตุ ก ารณ์ ไ ฟไหม้ ป่ า ในมาเลเซี ย ที่ ก ระจายเข้ า มาทาง ภาคใต้ของเรา ผมก็ เ สนอว่ า ปั ญ หาควั น ไฟป่ า ในภาคใต้ น่ า จะของบแยกต่ า งหาก เพราะเป็นกรณีเฉพาะ แต่ ผู้ บ ริ ห ารก็ ยั ง ส่ ง รายชื่ อ จั ง หวั ด 10 จั ง หวั ด มาให้ โ อนเงิ น ไปให้ จังหวัดละ 5 ล้าน รายชื่อจังหวัดที่ส่งมาให้โอนเงินให้นั้นมีเพียง 3 จังหวัด เท่านั้นที่อยู่ในภาคใต้ ข้ อ อ้ า งที่ บ อกว่ า จะเอาเงิ น ไปใช้ แ ก้ ปั ญ หาเรื่ อ งหมอกควั น จึ ง ไม่ เ ป็ น ความจริง เมื่ อ ผมเห็ น อย่ า งนั้ น ก็ ยิ่ ง ไม่ จั ด สรรเงิ น ให้ ถึ ง ตอนนั้ น เขาก็ ค งจะเห็ น ว่าเราหัวแข็งกับเขาแล้วอย่างชัดเจน เมื่อผมไม่ยอมโอนเงินให้ก็เริ่มมีใบปลิวออกมาโจมตีผมต่างๆ นานา พร้อม ๆ กับการถูกตั้งกรรมการสอบสวนตามที่มีจดหมายแจ้งจากสำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผมบอกได้เลยว่าระบบราชการนี่มันเป็นระบบที่ทำลายคนได้ง่ายมาก เพี ย งแค่ ใ ครสั ก คนเขี ย นบั ต รสนเท่ ห์ ส่ ง ไปที่ ส ำนั ก งานคณะกรรมการป้ อ งกั น และปราบปรามการทุ จ ริ ต แห่ ง ชาติ ( ป.ป.ช.) เท่ า นั้ น ป.ป.ช.ก็ จ ะทำจดหมาย มาถึ ง กระทรวงแจ้ ง ว่ า มี ผู้ ร้ อ งเรี ย นอย่ า งนี้ ๆ และให้ ก ระทรวงดำเนิ น การ สอบสวน เพราะฉะนั้ น หากผู้ บ ริ ห ารกระทรวงต้ อ งการกลั่ น แกล้ ง ผู้ ใ ต้ บั ง คั บ บั ญ ชาคนใดก็ จ ะสามารถใช้ จ ดหมายจากป.ป.ช.มาเป็ น เหตุ ผ ลในการตั้ ง กรรมการสอบสวนได้โดยง่าย แทนที่ป.ป.ช.จะมีระบบตรวจสอบของตัวเองที่ ดี ก ลั บ กลายเป็ น ว่ า ป.ป.ช.สามารถกลายเป็ น เครื่ อ งมื อ ให้ เ กิ ด การกลั่ น แกล้ ง 80

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


± à « h§¢ ² £² ²£Ä i h²¢ ¶É Á¥i§ °«² §²¡À s ££¡Ã £° £§ Ä i­¢h² Ä£ à À¡·È­£° ¡± Ç­´ ­¢¹h ± ¹i £´«²£ £° £§ ±È Á«¥° ­ ¸ ££¡ ²£ ° ££¡ ²£ i ² £² ²£ ¥À£· ­ ­ ­ £° £§ ¡µ­ l £° ­ «¥± Æ Ç ·­ ¹i £´«²£ £° £§ Á¥° ¥Ä h² Æ µÈ¡µ ­¢¹h ¡± Ç ª ²¡²£ ¹ µÉ ³Ä i  ¢ h ² ¢ ­¢h ² §h ² Á h ° ²¡«² §²¡À s ££¡À¥¢ ¡ ´ §h² £° § ²£ª­ ª§ ¡± À s ²£ ± ª´ µÈ¡µ ³ ­ ¥h§ « i²Á¥i§Àªµ¢ i§¢ ɳ ­ ±É ¡ ¹ ª­ ª§ i§¢ ³ § i­«² µÈ¡² ¶ i­«² ¶È h² ° ¹ ± ¶ À s ª ´ ´Â¥ à ´ À ª ¸j Ä i ¡µ i­«² h² Æ ¡² ¡²¢ À£·È­ «²§h² ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

81


ไม่โ ปร่ ง ใส เรื่อ งการอนุมั ติเ งิน เกิน อำนาจ เรื่อ งไปต่า งประเทศบ่ อยสงสัย ไป ทำธุรกิจ ไปจนกระทั่งเรื่องว่าผมปล้ำเมียเพื่อนตัวเอง ข้อหาที่สอบสวนกับที่เขียนในใบปลิวมันก็คล้าย ๆ กัน ตอนนั้ น ผมเข้ า ใจความหมายของคำว่ า ปั้ น น้ ำ เป็ น ตั ว ได้ อ ย่ า งซาบซึ้ ง เลยว่ามันเป็นอย่างไร คุ ณ ลองนึ ก สิ ว่ า คนอย่ า งผมที่ แ ค่ จ ะติ ด แอร์ ร ถยั ง กลั ว ว่ า คนจะหาว่ า ทำงานแบบเสพสุ ข กลั ว คนจะนิ น ทาว่ า ใช้ ร ถราชการมาทำให้ ตั ว เองสุ ข สบาย ผมยอมรับว่าผมกลัวจริง ๆ ครับ กลัวจะถูกมองว่าเป็นคนไม่ดี แล้วคนที่รัก ในเกียรติและพยายามรักษาตัวเองไม่ให้ใครเขาว่าได้ คนที่กลัวคนอื่นมองว่า เลวอย่างผมต้องมาเจอใบปลิวใส่ร้ายสารพัดออกมาเผยแพร่อย่างนั้น ผมจะ เครียดขนาดไหน ตอนนั้ น ผมรู้ สึ ก คิ ด มาก เครี ย ดมาก วิ ต กและแคร์ กั บ ใบปลิ ว พวกนี้ มาก รู้สึกว่าแม้แต่เพื่อนบางคนที่เจอหน้ากันก็มีท่าทีที่เปลี่ยนไป ในเวลานั้น ผมรู้สึกไม่สบายใจเลย เวลาเจอหน้าใครมันไม่แน่ใจว่าเขาได้อ่านใบปลิวหรือ เปล่านะ แล้วเขาเชื่อมันหรือเปล่านะ เขาเอาไปพูดต่อหรือวิพากษ์วิจารณ์ยัง ไงบ้างและอีกสารพัดที่ทำให้รู้สึกกดดันอย่างที่สุด ความทุกข์ของผมครั้งนั้น มีหลายคนที่รับรู้และช่วยแบ่งเบา “ดูอย่างภูเขาทองสิ สุนัขเดินมาฉี่รดอยู่ทุกวี่ทุกวัน ภูเขาทองก็บอก ชั่ ง มั น ปะไร ภู เ ขาไม่ ส ะเทื อ น เราทำงานใหญ่ เ งิ น ตั้ ง เจ็ ด พั น แปดพั น ล้ า นยั ง ไงๆ มันก็ต้องมีแบบนี้อยู่แล้ว ขอให้อดทนนะ” ผมยังจำคำตักเตือนและปลอบใจนี้จากพี่วิชัย โชควิวัฒน ได้ดี อย่ า งไรก็ ต าม ผมก็ ไ ม่ อ าจคลายจากความเครี ย ดไปได้ จนกระทั่ ง เพื่อนที่ใกล้ชิดอย่างสุวิทย์ (นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ) ยังเอ่ยปากกระเซ้า แรง ๆ ว่า “เอ็งนี่มันเสพติดแต่ความดี ยอมรับไม่ได้ที่ใครมาบอกว่าตัวเองไม่ดี” 82

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


คำพู ด นี้ ข องสุ วิ ท ย์ ท ำให้ ผ มมี ส ติ ขึ้ น มา พอที่ จ ะมี แ รงสลั ด เอา ความเครียดความทุกข์ออกไปได้บ้าง หลั ง จากนั้ น ผมก็ ตั้ ง ใจอดทนโดยคิ ด ว่ า มี ภ าระที่ จ ะต้ อ งทำงานให้ กั บ ประเทศชาติ ใ ห้ ส ำเร็ จ รออยู่ จึ ง เดิ น หน้ า ร่ า งระเบี ย บการใช้ เ งิ น นี้ ต่ อ แต่ เ มื่ อ คิ ด ว่ า การร่ า งเป็ น ระเบี ย บของกระทรวงสาธารณสุ ข คงออกไม่ ไ ด้ แ น่ น อน เพราะผู้บริหารจะไม่ยอมลงนาม ด้ ว ยความที่ รู้ ก ลไกราชการมานานผมจึ ง ร่ า งให้ เ ป็ น ระเบี ย บการเงิ น ของกระทรวงการคลั ง แทน ซึ่ ง จะต้ อ งไปขอให้ ก ระทรวงการคลั ง เป็ น ผู้ อ อก ระเบียบนี้ การที่ จ ะให้ อ อกระเบี ย บกระทรวงเป็ น เรื่ อ งที่ ยุ่ ง ยากมาก ผมต้ อ งวิ่ ง เต้นทุกช่องทาง ทั้งอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัว ทั้งอาศัยให้คนอื่นช่วย ตอน นั้นผมรู้จักกับคุณพิสิฐ ลี้อาธรรมซึ่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แต่ ก ว่ า จะได้ พ บคุ ณ พิ สิ ฐ ก็ ใ ช้ เ วลายาวนาน ต้ อ งดิ้ น รนไปรอพบหลายครั้ ง ต้ อ งผ่ า นด่ า นต่ า งๆ มาก ผมเคยไปนั่ ง รอเป็ น ชั่ ว โมงๆ โดยไม่ มี โ อกาสได้ พ บ เลย แต่ ใ นที่ สุ ด ก็ ไ ด้ พ บคุ ณ พิ สิ ฐ ด้ ว ยความยากลำบาก พอได้ พ บก็ ท ำให้ รู้ อี ก ว่ า รั ฐ มนตรี ช่ ว ยฯ ต้ อ งเห็ น ชอบแล้ ว เสนอรั ฐ มนตรี ล งนาม ทำให้ ผ มรู้ สึ ก แปลกใจมากว่ า รั ฐ มนตรี ช่ ว ยฯ ยั ง ไม่ ส ามารถลงนามได้ เ อง ต้ อ งรอเสนอให้ คุ ณ ธาริ น ทร์ นิ ม มานเหมิ น ทร์ อดี ต รั ฐ มนตรี ว่ า การกระทรวงการคลั ง เป็ น ผู้ ลงนาม กว่าจะทำระเบียบนี้ได้สำเร็จผมต้องวิ่งประสานงานอย่างเคร่งเครียด ต่อเนื่องกินเวลานาน 3-4 เดือนเลยทีเดียว การที่ ต้ อ งวิ่ ง เต้ น อยู่ 3 -4 เดื อ นนั้ น นอกจากจะเครี ย ดอย่ า งที่ สุ ด แล้ว ยังมีความรู้สึกว่า เกิดเป็นข้าราชการไทยอยากทำความดี ทำไมมันยาก จั ง ถ้ า ทำความชั่ ว คงง่ า ยกว่ า มากและยั ง ได้ ดี อี ก ด้ ว ย ถ้ า ยอมตามผู้ ยิ่ ง ใหญ่ งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 83


หรือถ้าไปกับนักการเมืองหรือผู้บริหารตอนนั้นก็คงได้ดีแล้ว แต่จิตสำนึกที่มีอยู่มันคอยบอกว่าทำไม่ได้ ด้ ว ยความรู้ สึ ก เครี ย ดจนท้ อ ถอยทำให้ ผ มตั ด สิ น ใจลาออกจาก ตำแหน่ ง ที่ รั บ ผิ ด ชอบอยู่ ทั น ที ที่ ง านเสร็ จ พอระเบี ย บนี้ ผ่ า นและมี ก ารประชุ ม กรรมการนัดแรกตามระเบียบฯนี้ วันรุ่งขึ้นผมก็ลาออก แต่ก็กลายเป็นความรู้ เท่าไม่ถึงการณ์ไปอีก เพราะการลาออกในจั ง หวะนั้ น กลั บ กลายเป็ น จุ ด ที่ ท ำให้ ค นอื่ น สงสั ย ว่าถ้าทำดีจริงทำไมต้องลาออก ใบปลิ ว มั น จึ ง ทะยอยออกมาอี ก ระลอก กล่ า วหาว่ า เป็ น เพราะเรามี ความผิดผู้บริหารจึงให้เราลาออกแทนการไล่ออก ผมเครียดมา 3-4 เดือน แล้วก็มาเจอเรื่องที่มันทำให้เกิดความทุกข์ ต่ออีกตั้ง 3-4 เดือน ช่วง 7-8 เดือนที่ว่านี้จึงเป็นช่วงที่ทุกข์หนักที่สุดในชีวิต ความทุ ก ข์ ใ นช่ ว งนั้ น มาคลี่ ค ลายหายไปเมื่ อ เกิ ด การเปิ ด เผยกรณี ทุ จ ริ ต ยา ถ้ า ไม่ มี ก ารเปิ ด เผยเรื่ อ งทุ จ ริ ต ยาตั ว ผมเองก็ ค งยั ง เป็ น ที่ เ คลื อ บ แคลงสงสัย ผมต้ อ งเล่ า เพิ่ ม สั ก เล็ ก น้ อ ยว่ า สถานการณ์ ข ณะนั้ น เกิ ด วิ ก ฤต เศรษฐกิ จ ขึ้ น กระทรวงใช้ จั ง หวะนั้ น ของบประมาณเพิ่ ม เติ ม โดยอ้ า งว่ า จะนำ ไปเพิ่มให้กับงบรักษาผู้มีรายได้น้อย เนื่องจากผู้มีรายได้น้อยได้รับผลกระทบ อย่างหนักจากวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่ ง ถ้ า เป็ น เช่ น นั้ น งบประมาณที่ ไ ด้ ม าต้ อ งมาเข้ า สู่ โ ครงการที่ มี ผ มเป็ น ผู้ ดู แ ลและตอนนั้ น ก็ มี ร ะเบี ย บใหม่ ร องรั บ อยู่ แ ล้ ว ระเบี ย บใหม่ ที่ ว่ า นี้ ท ำให้ นั ก การเมื อ งไม่ ส ามารถที่ จ ะใช้ เ งิ น สำหรั บ ผู้ มี ร ายได้ น้ อ ยไปทำอย่ า งอื่ น ได้ เนื่ อ งจากระเบี ย บที่ ผ มร่ า งไว้ นั้ น นอกจากจะกำหนดวิ ธี ก ารจ่ า ยเงิ น เป็ น แบบ เหมาจ่ า ยรายหั ว แล้ ว ผมยั ง ได้ เ ติ ม กรรมการคนนอกเข้ า ไปในคณะกรรมการ 84

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


พิจารณาจัดสรรงบประมาณอีกด้วย โดยผมได้ ใ ส่ ชื่ อ คนที่ ผ มคิ ด ว่ า เขาจะปกป้ อ งงบสำหรั บ คนยากจน เหล่านี้ไว้ได้ ยกตัวอย่างเช่น อาจารย์บรรลุ ศิริพานิช คุณวัลลภ ตังคณานุ รักษ์ หรือครูหยุย คุณสมหมาย ปาริจฉัตต์ ซึ่งเป็นนักหนังสือพิมพ์ เป็นต้น การที่ เ อาบุ ค คลภายนอกเหล่ า นี้ ม าเป็ น กรรมการก็ เ พื่ อ ให้ ค นนอกได้ ช่วยสอดส่องดูแล ปั ญ หาเกิ ด ขึ้ น เมื่ อ มติ ค ณะรั ฐ มนตรี อ นุ มั ติ เ งิ น เพิ่ ม สำหรั บ งบผู้ มี ร าย ได้น้อยจำนวน 1,400 ล้านบาท ซึ่งผมก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว แต่ ต่ อ มาในการประชุ ม ครม.ครั้ ง ถั ด ไปก็ ป รากฏว่ า มี ก ารขอเปลี่ ย นหมวดการใช้ เงิ น แทนที่ จ ะใช้ กั บ โครงการผู้ มี ร ายได้ น้ อ ยก็ ป รั บ ไปอยู่ ใ นโครงการที่ นั ก การ เมื อ งสามารถที่ จ ะเอาไปใช้ จ่ า ยได้ โ ดยที่ ไ ม่ มี ใ ครควบคุ ม ซึ่ ง ต่ อ มาเงิ น ก้ อ น แรก 1,400 ล้ า นบาทนี้ ก็ ถู ก กระจายไปตามจั ง หวั ด และกลายเป็ น ที่ ม าของ กรณีทุจริตยาอันลือลั่นที่สุดในประวัติศาสตร์การสาธารณสุขไทย ข่ า วเรื่ อ งนี้ ย าวนานเป็ น ระยะเวลา 1 ปี เต็ ม ๆ และผมเองก็ โ ดน หางเลขไปด้วย นอกจากใบปลิวแล้วยังมีข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์อีกว่าผมเป็นไอ้โม่ง อยู่ เ บื้ อ งหลั ง บั ญ ชาการการเปิ ด โปงทุ จ ริ ต ยาเพราะผมต้ อ งการโค่ น ผู้ บ ริ ห าร กระทรวง จริ ง ๆ แล้ ว หากผมได้ ท ำหน้ า ที่ ขุ ด คุ้ ย ทุ จ ริ ต และได้ รั บ เครดิ ต อย่ า ง นั้ น ก็ ค งจะดี น ะ แต่ ว่ า มั น เป็ น ความจริ ง ก็ เ ลยไม่ อ ยากรั บ เครดิ ต นั้ น ตอนนั้ น ผมจึ ง อยู่ ใ นสภาพที่ ย่ ำ แย่ เหมื อ นกั บ โดนกระหน่ ำ จากหลายทิ ศ หลายทาง และเป็นเวลานานเป็นปี ๆ ซึ่งในที่สุด การสอบสวนต่าง ๆ ก็สรุปว่าผมไม่มี ความผิดอะไรสักเรื่อง แต่ ก็ นั่ น แหละครั บ การที่ ผ มได้ ว างตั ว เองไว้ ว่ า อยากจะเป็ น คนที่ ข าว สะอาด ในช่ ว งเวลาที่ ถู ก กล่ า วหาจึ ง ทุ ก ข์ ห นั ก ที่ สุ ด ถ้ า เป็ น คนอื่ น เขาอาจจะ งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 85


ไม่ ทุ ก ข์ เ ท่ า ผมก็ ไ ด้ แต่ ส ำหรั บ ผมรู้ สึ ก ว่ า ชี วิ ต ต้ อ งมี ร อยด่ า งพร้ อ ยทั้ ง ๆ ที่ ตั้งใจทำดี ผมสรุ ป กั บ ตั ว เองในภายหลั ง ว่ า ความทุ ก ข์ ที่ เ กิ ด ขึ้ น ในตอนนั้ น เกิ ด มาจากสองด้าน ด้านหนึ่งคือทุกข์จากภายนอก คือสิ่งที่มากระทบต่อเรา ไม่ ว่ า จะเป็ น จากคำพู ด หรื อ การกระทำของคนอื่ น แต่ อี ก ด้ า นหนึ่ ง นั้ น เป็ น ความ ทุ ก ข์ ที่ เ กิ ด จากใจเราเอง ในแง่ ที่ มี ค วามคาดหวั ง ก็ ดี มี ค วามยึ ด มั่ น ก็ ดี ละวางไม่ได้ก็ดี ในช่ ว งเวลาหนึ่ ง ของชี วิ ต ที่ ผ มต้ อ งพบกั บ ทุ ก ข์ ทั้ ง สองด้ า นที่ บี บ อั ด เข้ามาหากันพร้อม ๆ กันต่อเนื่องนับเวลาเป็นปี มันคงทิ้งรอยแผลบาดลึกไว้กับชีวิตผมไม่น้อย

86

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 87


บ ท ที่ 6

ปฏิรูประบบบริการสุขภาพ ภารกิจที่ยังไม่เสร็จสิ้น กว่ า จะเกิ ด กฏหมายรองรั บ หลั ก ประกั น สุ ข ภาพถ้ ว นหน้ า นั้ น ผมต้ อ งทำงาน หนั ก มากและก็ เ ครี ย ดมากด้ ว ย แต่ อ าจเป็ น เพราะผมมี ป ระสบการณ์ ม ากขึ้ น จึ ง มี ภู มิ ต้ า นทานต่ อ ความทุ ก ข์ แ ละเผชิ ญ กั บ ความเครี ย ดในช่ ว งนั้ น ได้ ดี ขึ้ น อย่ า งน้ อ ยที่ สุ ด ผมก็ พ อจะลดความทุ ก ข์ ใ นด้ า นหนึ่ ง ที่ ผ มควบคุ ม ได้ คื อ การ ปล่อยวางต่อคำกล่าวหาและความไม่เข้าใจของคนอื่นได้มากขึ้น ไม่ ป ล่ อ ยให้ ตั ว เองถู ก กระทำทั้ ง จากภายในและภายนอกเหมื อ น อย่างที่แล้วมา ตั้ ง แต่ พ รรคไทยรั ก ไทยชนะการเลื อ กตั้ ง และประกาศนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ก็เกิดการเคลื่อนไหวขนานใหญ่ขึ้นในกระทรวงสาธารณสุข เรี ย กว่ า ในขณะนั้ น ไม่ มี เ รื่ อ งไหนที่ จ ะได้ รั บ ความสำคั ญ เท่ า กั บ เรื่ อ งหลั ก ประกันสุขภาพถ้วนหน้าอีกแล้ว 88

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


Á¡i§h²Ã Á h ­ ±È§Ä °£¹i ± ³§h² ² £± ©² ¸ £ ¡² §h² µÈ °À i²Ã À£·È­ «¥± £° ± ª¸ ² i§ « i² Ç ²¡ h § ±É Á h ¡ £² ¡ ¶ ¤¨ ´ ²¢ À s h § µÈ À £´È ¡ ³À ´ ¢ ²¢Ã«¡h Æ ¡µ ²£ ± ±É §­£l £¹ ¡ À s ¨¹ ¢l ¥² ²£ ´ ± ´ ²£ ¡µ ° ££¡ ²£ µÈ ³À£·È ­ «¥± £° ± ª¸ ² À s ²£À ²° ¶É à £° £§ ª² ²£ ª¸ À£² ³ ² « ± ± ±É £° £§ ¸ §± ± £l °¡µ ²£ £° ¸¡§­£l£¹ ¡ ´ ²¡ §²¡ · « i ² ¹ ¸ ¢ ¶ r «² §² Á ²£Á i Ä r «² à ­ À£´È ¡ i ³À ´ ² ²¡ ¢ ²¢À ·È ­ À d ² «¡²¢ ­ ²£ ´ £¹ £° £´ ²£ ª¸ ² ±É £° ±É i­ Á iÄ r «²À s £²¢§± ¹ h²¡² ¡µ ³ ¡À ¢ i­¢ Á h ¸ Ç£h§¡ ± ¸ ±È ³ ² ­¢h² À Ç¡ µÈ ­ ² ²£ ´ À ²°« i ² µÈ ° i ­ À£´È ¡ i ³À ´ ²£Ã«i £´ ²£ ²¡ ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

89


ระบบหลั ก ประกั น สุ ข ภาพถ้ ว นหน้ า แล้ ว ยั ง มี ป ระเด็ น ที่ จ ะต้ อ งวางระบบใน ระยะยาว โดยมีการเสนอให้ออกพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โชคดีที่ เรามี ร่ า งกฏหมายอยู่ ก่ อ นที่ พ รรคไทยรั ก ไทยจะเข้ า มาเป็ น รั ฐ บาล ทำให้ เ รา ทำงานได้เร็วแต่ยังมีประเด็นใหม่ในร่าง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ ต้ อ งจั ด ทำ และบางมาตราก็ เ ป็ น เรื่ อ งใหม่ แ ละมี ค วามอ่ อ นไหวต่ อ วิ ช าชี พ เช่น มาตรา 41 และ 42 มาตรา 41 เป็นเรื่องเกี่ยวกับการมีกองทุนที่จะช่วยผู้ป่วยที่ได้รับผล กระทบจากการรั ก ษาพยาบาลให้ ไ ด้ รั บ การช่ ว ยเหลื อ เบื้ อ งต้ น ในรู ป ของเงิ น จำนวนหนึ่ ง ซึ่ ง ไปผู ก กั บ มาตรา 42 ที่ ก ำหนดไว้ ว่ า หมอหรื อ บุ ค ลากรที่ ปฏิ บั ติ ง านแล้ ว มี ผู้ ไ ด้ รั บ ความเสี ย หายอาจจะต้ อ งถู ก ไล่ เ บี้ ย ซึ่ ง พอร่ า ง พ.ร.บ. ออกมาก็ มี ก ลุ่ ม แพทย์ อ อกมาเคลื่ อ นไหวคั ด ค้ า น แกนนำสำคั ญ คน หนึ่ ง ที่ คั ด ค้ า นในตอนนั้ น ชื่ อ คุ ณ หมอขวั ญ ใจ จั ก ษุ แ พทย์ ที่ ส ระบุ รี น้ อ งของ คุ ณ หมอขวั ญ ใจซึ่ ง เป็ น อั ย การได้ อ่ า นมาตราดั ง กล่ า วและบอกกั บ คุ ณ หมอ ขวั ญ ใจว่ า ไปยอมให้ อ อกกฏหมายอย่ า งนี้ ไ ด้ ยั ง ไง อี ก หน่ อ ยหมอจะถู ก คนไข้ ฟ้ อ งมากขึ้ น นะ และด้ ว ยความเชื่ อ นี้ ก็ ท ำให้ เ กิ ด การเคลื่ อ นไหวใหญ่ โ ตถึ ง ขนาดที่ แ พทย์ พยาบาล มี ก ารใส่ ป ลอกแขนดำประท้ ว งขึ้ น หน้ า หนึ่ ง หนังสือพิมพ์ มีการปลุกระดมวิชาชีพมาพบปลัดกระทรวง สรุปก็คือ มันเกิด ผลกระทบและเกิดความเครียดในระบบไปหมด จริง ๆ แล้วแพทย์หรือพยาบาลที่ประท้วงคัดค้านมาตรา 42 นั้นส่วน ใหญ่ ต่ า งก็ มี เ จตนาดี ต่ อ ระบบบริ ก ารด้ ว ยเกรงว่ า จะทำให้ ค วามสั ม พั น ธ์ ระหว่ า งวิ ช าชี พ กั บ ประชาชนมั น แย่ ยิ่ ง ไปกว่ า เดิ ม แต่ ใ นขณะเดี ย วกั น ก็ มี ห มอ บางส่ ว นที่ จ ะเสี ย ผลประโยชน์ จ าก พ.ร.บ.หลั ก ประกั น สุ ข ภาพฯ ก็ เ ข้ า มาร่ ว ม ด้วย พวกนี้เข้ามาอยู่เบื้องหลังเพราะอยากจะให้ระบบหลักประกันสุขภาพ นี้ถูกทำลายไป 90

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


ตอนนั้ น มี ค นที่ ถู ก โจมตี จ นเละที่ สุ ด อยู่ ส องคน คื อ ผมกั บ รั ฐ มนตรี

สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี คือทั้ง 2 คนโดนด่าอย่างสาดเสียเทเสียผ่านทางเว็บไซต์ ต่าง ๆ รวมทั้งทุกช่องทางที่มีการพูดคุยเรื่องนี้กัน เช่น บอกว่าผมน่าจะออก จากวิชาชีพแพทย์ได้แล้ว เป็นผู้ทรยศกับวิชาชีพปกป้องแต่คนไข้ ทำให้คนไข้ ฟ้องร้องแพทย์ ฯลฯ เนื่ อ งจากว่ า ผมเห็ น ว่ า กลุ่ ม คุ ณ หมอขวั ญ ใจเป็ น ผู้ ป รารถนาดี กลุ่ ม แพทย์ที่เป็นแกนนำหลาย ๆ คนก็เป็นน้อง ๆ ที่เคยไปออกค่ายชนบทในพื้นที่ ของโรงพยาบาลที่ ผ มเคยทำงานอยู่ จึ ง รู้ จั ก กั น บ้ า งและเชื่ อ ว่ า มี ค วาม ปรารถนาดี ใ นการออกมาคั ด ค้ า น ผมจึ ง ขอนั ด ประชุ ม เพื่ อ ไปชี้ แ จงอธิ บ ายให้ เห็นที่มาที่ไปว่าที่ทำมาตรานี้ไม่ได้คิดถึงแต่สิทธิของคนไข้แต่ต้องการปกป้อง หมอไปพร้ อ มกั น ด้ ว ย และก็ คิ ด ถึ ง ความสั ม พั น ธ์ ข องหมอกั บ คนไข้ ใ นระยะ ยาวเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ผมได้ชี้แจงไปว่า โลกปัจจุบันมัน เปลี่ ย นแปลงไปมาก และความสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า งแพทย์ กั บ คนไข้ ใ นปั จ จุ บั น ก็ เปลี่ ย นไปแล้ ว การเรี ย กร้ อ งให้ เ กิ ด การคุ้ ม ครองผู้ บ ริ โ ภคเป็ น กระแสโลกที่ ต้องเกิดขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะมีพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพหรือไม่ก็ตามการเรียกร้อง เรื่องคุ้มครองผู้บริโภคก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ ใ ช่ พ.ร.บ.หลั ก ประกั น สุ ข ภาพฯ ไปทำให้ ค นฟ้ อ งร้ อ งหมอมากขึ้ น เพราะไม่ว่าอย่างไร การฟ้องร้องก็เกิดมากขึ้นอยู่แล้ว ประเด็นอยู่ที่ว่าเราจะ ป้องกันไม่ให้สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความร้าวฉานมากกว่าเดิมได้อย่างไร ผมยกผลการศึ ก ษาจากประเทศสหรั ฐ อเมริ ก าซึ่ ง มี ก ารฟ้ อ งร้ อ ง แพทย์ สู ง ที่ สุ ด ในโลกมาเล่ า รวมทั้ ง ยกกรณี ตั ว อย่ า งประเทศอื่ น เช่ น ฟิ น แลนด์ ที่ พ ยายามจะค้ น หาวิ ธี แ ก้ ปั ญ หาการฟ้ อ งแพทย์ ซึ่ ง ก็ พ บว่ า วิ ธี ก าร แก้ ปั ญ หาที่ ดี ที่ สุ ด คื อ เมื่ อ ผู้ ป่ ว ยได้ รั บ ผลกระทบกระเทื อ นจากการรั ก ษา พยาบาล ถ้ามีผู้ที่มาทำการไกล่เกลี่ยแก้ไขและยิ่งถ้ามีกองทุนมาสนับสนุนให้ สามารถช่ ว ยเหลื อ เพื่ อ บรรเทาทุ ก ข์ จ ากความเสี ย หายก็ จ ะทำให้ ก ารฟ้ อ งร้ อ ง งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 91


Á ¢l µÈ i ­ ª¹i ± Ä ¶ £ ¶ ¨²¥ ±É ¥ i ­ ¢¥ Ä i ¶È ± § ­¢h ² µÈ ¡¢ ¡² Ç À s À£·È ­ £´ µÈ Ä i ¡µ ²£Á¥ À ¥µÈ ¢ £°ª ²£ l ± à £° ± ² ² ² ´ Á ¥° Ç ¡µ « ¥± ² ² §´ ² ²£§h ² à t Á¥ l Ç £°ª §²¡ª³À£Ç à ²£ ± ²£ ± r «² ± ¥h ² § Á¥° ° µÉ ´ § µ Á ¥ l ­£l À § Á¥°­µ «¥²¢ £°À ¨Á¡i Á h ­± ¤© Ç ³¥± ° ³Á À µ¢§ ± µÉ ¡À­ À s « ¶È µÈ ³ ¶ ¶ ª± ¡ ± ² £°«§h ² §´ ² µ ± £° ² À s ­¢h ² ¡² À ·È ­ ² ¡À ¢Ä i £± Á h ±É ëi À s £° ² ° ³ ² °« ¶È ­ Á ¢ª ² µÈ ¡µ « i ² µÈ « ² ² d ­ ± ²£ d ­ £i ­ Á ¢l µÈ ¡µ À ´È ¡ ¡² ¶É À£·È ­ ¢Æ ­ ±É à ° ³ ² ­ À£²Ä i ³ ²£¨¶ ©² i §i ² ­¢h² ¡² ¡µ ² §´ ±¢ ­ ¨ §´ ¹£¢l ­¶É £° ± l µÈÀ ¢ ³À­²Ä§i ­ §h²ª´È µÈÀ s µÈ i­ ²£ ­ Á ¢lÄ ¢¡² µÈª¸ À¡·È­ ¹ d­ £i­ ¶ ¨²¥­± ± Á£ ·­ i­ ²£À ·È­ ¹iëi ³ £¶ ©² µÈ i­ ²£À s ­± ± ª­ Ç ·­ ­¢² ëi¡µ ¡² 92

ı ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l


ช่ว ยแบ่ งเบาค่า ใช้จ่ ายที่ต้ องชดใช้ ให้ กับ ผู้เ สีย หาย เพราะว่าโดยสถิ ติแ ล้ว พบ ว่ า 80% ของเรื่ อ งที่ ฟ้ อ งร้ อ งศาลจะยุ ติ ก่ อ นที่ จ ะถึ ง กระบวนการตั ด สิ น จริ ง เนื่ อ งจากมี ก ารประนี ป ระนอมยอมความกั น ก่ อ น และในกรณี ที่ มี ก าร ประนีประนอมความกันนั้นประมาณ 20% ไม่มีการจ่ายเงิน อีก60% ต้องมี การจ่ายเงินชดใช้ และใน 60%ที่มีการจ่ายเงินนั้นส่วนใหญ่แพทย์จะต้องเป็น คนจ่ า ยเอง ไม่ มี ใ ครหรื อ หน่ ว ยงานใด รวมทั้ ง ไม่ มี โ รงพยาบาลไหนจะช่ ว ย จ่ายเงินให้ ซึ่งเป็นความทุกข์อย่างยิ่งของแพทย์ วั น นั้ น ผมพยายามยื น ยั น เจตนารมณ์ ใ นการออกมาตรานี้ ว่ า เป็ น ความพยายามที่จะปกป้องทั้งสองฝ่ายจริง ๆ แต่ก็เป็นดังที่โบราณว่านะครับ คื อ น้ ำ เชี่ ย วอย่ า ขวางเรื อ แม้ ว่ า ผมจะพยายามอธิ บ ายอย่ า งไรกลุ่ ม ผู้ ที่ ต่ อ ต้านก็ไม่ฟัง การประชุมวันนั้นที่พยายามอธิบายกว่า 3-4 ชั่วโมงก็ไม่ได้อะไร นอกจากจบลงด้ ว ยความเครี ย ด ผมกลั บ มาด้ ว ยความรู้ สึ ก หมดแรง คิ ด ว่ า หากขื น ยั ง พยายามจะไปอธิ บ ายอี ก ก็ ค งไม่ ไ ด้ ผ ลอะไร คงต้ อ งรอให้ เ วลา พิสูจน์เท่านั้น 2 ปี หลั ง จากที่ พ.ร.บ.ฯ ออกมาและมาตรา 41 ได้ ด ำเนิ น การไป ผมได้มาเจอคุณหมอขวัญใจอีกครั้ง เป็นวันที่ผมดีใจมากเพราะคุณหมอบอก ว่า “หนู เ ชื่ อ พี่ แ ล้ ว ที่ ว่ า ช่ ว ยให้ ค วามสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า งคนไข้ กั บ แพทย์ ดี ขึ้ น จริง การฟ้องร้องมีไม่มากขึ้นจริง” คำพูดสั้น ๆ แค่นี้ครับ แต่เป็นกำลังใจให้ผมได้มากทีเดียว แม้ ว่ า จะเป็ น เพี ย งคนคนหนึ่ ง แต่ ก ารที่ ไ ด้ รู้ สึ ก ว่ า เขาเข้ า ใจถึ ง เจตนา ดีของเรามากขึ้นทำให้ผมดีใจมากจริง ๆ และเวลานั้นเป็นเวลาที่ผมเริ่มป่วย แล้ว คุณหมอขวัญใจยังเคยส่งของมาเยี่ยมมาให้กำลังใจ ซึ่งเรื่องราวทำนอง นี้ ที่ มี ค นเข้ า ใจหลั ก คิ ด ของหลั ก ประกั น สุ ข ภาพถ้ ว นหน้ า มากขึ้ น นี้ เ ป็ น เสมื อ น น้ ำ ทิ พ ย์ ช โลมใจผม เช่ น เดี ย วกั บ ที่ ผ ลการสำรวจความคิ ด เห็ น ประชาชนโดย งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 93


สำนั ก วิ จั ย เอแบคโพลล์ ที่ พ บว่ า ประชาชนพึ ง พอใจต่ อ การดำเนิ น งานหลั ก ประกันสุขภาพถ้วนหน้ามากมาโดยตลอดทุกปี ซึ่งทำให้มีกำลังใจที่จะทำงาน ต่อ ท่ามกลางสารพันปัญหาและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ตอนที่ พ.ร.บ. ฯ เกิดขึ้นแล้ว และกำลังจะตั้งสำนักงานหลักประกัน สุ ข ภาพแห่ ง ชาติ (สปสช.) เพื่ อ มาทำหน้ า ที่ เ ป็ น ผู้ บ ริ ห ารงบประมาณกองทุ น หลั ก ประกั น สุ ข ภาพแห่ ง ชาติ ผมต้ อ งตั ด สิ น ใจอยู่ น านว่ า จะสมั ค รมาเป็ น เลขาธิการคนแรกดีหรือไม่ เพราะกลัวคนจะครหา (อีกแล้ว) ว่า ผลักดันกฏ หมายฉบั บ นี้ ขึ้ น มาเพื่ อ ที่ ใ ห้ มี อ งค์ ก รมารองรั บ ตั ว เอง ผมจึ ง ตั้ ง ใจว่ า จะไม่ ม า อยู่ สปสช.ในเทอมแรก แต่ มั น ก็ มี เ หตุ ปั จ จั ย หลายอย่ า งที่ ท ำให้ ผ มต้ อ ง เปลี่ยนใจ ประการแรก คือ นึกถึงทีมงานที่ร่วมกันทำงานมา ประการที่สอง คื อ คำพู ด ของอาจารย์ อั ม มาร์ สยามวาลา ที่ ไ ด้ พู ด กั บ ผมในช่ ว งที่ ผ มกำลั ง ตั ด สิ น ใจ ท่ า นบอกว่ า สิ่ ง หนึ่ ง ที่ ต้ อ งคำนึ ง ถึ ง ในการสร้ า งระบบหลั ก ประกั น สุ ข ภาพถ้ ว นหน้ า ก็ คื อ การสร้ า งวั ฒ นธรรมขององค์ ก รตั้ ง แต่ เ ริ่ ม ต้ น เพื่ อ ให้ เป็ น องค์ ก รตามเจตนารมณ์ ข องระบบหลั ก ประกั น สุ ข ภาพ เพราะถ้ า วัฒนธรรมองค์กรเสียตั้งแต่ต้น ปัญหาจะมีมากและแก้ไขได้ยากในภายหลัง ขณะเดี ย วกั น ผมเองก็ ไ ม่ มี ท างเลื อ กมากนั ก เพราะว่ า ตอนนั้ น รั ฐ มนตรี สุ ด ารั ต น์ กั บ นายกรั ฐ มนตรี ทั ก ษิ ณ ได้ เ สนอว่ า ถ้ า ผมจะไม่ ม าเป็ น เลขาธิ ก ารก็ อ ยากจะให้ เ ป็ น ผู้ ช่ ว ยรั ฐ มนตรี เจอทางเลื อ กแบบนี้ ผ มเองก็ ต้ อ ง คิดเหมือนกัน ผมยังไม่พร้อมจะเป็นนักการเมือง แล้วก็กลัวว่าถ้าหันไปเอาดี ทางการเมื อ งที ม งานที่ ท ำงานมาด้ ว ยกั น จะรู้ สึ ก กั บ เราอย่ า งไร สุ ด ท้ า ยก็ เ ลย เลือกที่จะมาเป็นเลขาธิการสปสช. ซึ่งผมถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูก และมัน ก็ไม่ใช่การเสียสละด้วย เพราะมั น กลายเป็ น ว่ า ผมเองเสี ย อี ก ที่ เ ป็ น ฝ่ า ยได้ รั บ ผลดี จ ากการ ตัดสินใจครั้งนี้ เอาเข้ า จริ ง แล้ ว การที่ ผ มมาอยู่ กั บ ที ม งานที่ มี ค วามใกล้ ชิ ด ผู ก พั น กั น 94

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


มาและมาอยู่ บ นทางที่ เ ป็ น ที่ ข องเรา มั น ทำให้ เ รามี ค วามสุ ข มากกว่ า แม้ ว่ า ต่ อ มาจะป่ ว ยเป็ น มะเร็ ง ก็ ไ ม่ ไ ด้ รู้ สึ ก ว่ า ลำบากใจมาก ยามที่ ผ มทำงานหนั ก ไม่ ได้ทุกคนก็ช่วยกันประคับประคอง ในยามที่ผมทำงานหนักได้เราก็ลุยไปด้วย กั น อี ก มั น กลายเป็ น ที ม งานที่ มี ค วามกลมเกลี ย ว อยู่ ด้ ว ยกั น อย่ า งพี่ อ ย่ า ง น้อง และทำให้ผมยังสามารถจะทำงานมาได้จนถึงวันนี้ สปสช.เป็นองค์กรที่มีภาระหนัก เรียกว่าต้องทำงานใหญ่ ผลกระทบ ในทางที่ ดี ก็ เ กิ ด กว้ า งขวาง คนยากคนจนจำนวนมากที่ ไ ม่ เ คยเข้ า ถึ ง บริ ก าร สุขภาพก็เข้าถึงมากขึ้น แต่การที่จะดูแลให้หลักประกันสุขภาพกับคนตั้ง 4748 ล้ า นคนก็ ต้ อ งวางระบบต่ า ง ๆ ให้ ดี งานแต่ ล ะโครงการมี ข อบเขต ครอบคลุ ม ทั่ ว ประเทศ ผลกระทบต่ อ ประชาชนก็ ม ากเช่ น เดี ย วกั บ ผลกระทบ ต่ อ คนบางส่ ว นที่ อ าจต้ อ งเสี ย ประโยชน์ ห รื อ บางที ก็ ไ ม่ ถึ ง กั บ เสี ย ประโยชน์ แ ต่ ต้ อ งเปลี่ ย นแปลงรู ป แบบการทำงาน ซึ่ ง ล้ ว นแต่ ต้ อ งการการบริ ห ารจั ด การที่ ดีในการแก้ปัญหาต่างๆ ประชาชนทั่ ว ไปอาจจะไม่ ท ราบรายละเอี ย ดว่ า การทำโครงการ 30 บาทฯ นั้นมีความยากลำบากอย่างไร จากข่าวที่ออกไปภายนอกคนอาจจะรับ รู้ ว่ า มั น มี ปั ญ หาเรื่ อ งเงิ น ไม่ พ อ หมอลาออก และโรงพยาบาลกำลั ง จะเจ๊ ง เหล่ า นั้ น เป็ น แค่ ป ระเด็ น ที่ ป รากฏเป็ น ข่ า วคึ ก โครมหรื อ บ่ อ ยครั้ ง เท่ า นั้ น แต่ ที่ ไม่ ป รากฏเป็ น ข่ า วมี ม ากกว่ า นั้ น มากมาย โดยเฉพาะการที่ จ ะบริ ห ารจั ด การ ระบบต่าง ๆ ประสานงานกับฝ่ายต่าง ๆ ให้ได้รับความร่วมมือที่ดีพอสมควร เรื่องหนึ่งที่เราต้องต่อสู้มาก คือ ความหวาดระแวงว่า โครงการ 30 บาทฯ จะไม่ ใ ช่ ห ลั ก ประกั น สุ ข ภาพที่ แ ท้ จ ริ ง แต่ เ ป็ น เพี ย งนโยบายประชานิ ย ม เพื่ อ การหาเสี ย งของพรรคไทยรั ก ไทย แต่ ว่ า ใครจะด่ า ว่ า อย่ า งไรก็ ต ามนะ ครับ พวกเราก็มั่นใจในตัวเราเองว่ายังไงก็จะต้องทำให้เรื่องนี้ลงหลักปักฐาน ให้มั่นคงในสังคมไทยให้ได้ และตอนนี้ก็เป็นโอกาสที่ดีแล้ว กว่าจะมาขนาดนี้ ไม่ ใ ช่ เ รื่ อ งง่ า ย เพราะฉะนั้ น ใครจะรั ก ใครจะชั ง ใครจะด่ า ว่ า เรารั บ ใช้ นั ก การ งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 95


เมือง เราก็รู้ตัวเราเองดีว่าเราไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่ เ คยมี ใ ครรู้ ห รอกว่ า เขาเสนอจะให้ ต ำแหน่ ง ทางการเมื อ งกั บ ผม แต่ผมก็ไม่เคยคิดที่จะรับเลย หรื อ ใครจะบอกว่ า เราทำให้ แ พทย์ ถู ก ฟ้ อ งร้ อ งมาก ผมก็ เ ชื่ อ ว่ า เวลา จะเป็นเครื่องพิสูจน์ต่อไป เมื่ อ ครั้ ง ที่ สปสช.ได้ ริ เ ริ่ ม ทำโครงการคลิ นิ ก ชุ ม ชนอบอุ่ น เพื่ อ ให้ มี สถานบริ ก ารในชุ ม ชนให้ ผู้ ถื อ บั ต รทองใช้ บ ริ ก ารได้ ส ะดวก โดยไม่ ต้ อ งไปรอ แออัดกันที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ ๆ ตลอดเวลา ผมตั้งชื่อตามที่ตั้งใจไว้นาน แล้ ว ว่ า “คลิ นิ ก ชุ ม ชนอบอุ่ น ” เนื่ อ งจากว่ า เรามี ศู น ย์ แ พทย์ ชุ ม ชน ศู น ย์ สุขภาพชุมชน แล้ว ก็ควรจะมีคลินิกชุมชนให้สอดรับกัน แต่เนื่องจากในช่วง นั้นกระแส “เอื้ออาทร” ของรัฐบาลทักษิณกำลังมาแรงมาก มีโครงการบ้าน เอื้ออาทร ประกันชีวิตเอื้ออาทร รวมทั้งแท็กซี่เอื้ออาทร ในการประชุ ม ครั้ ง หนึ่ ง ก็ มี ค นเสนอให้ เ ปลี่ ย นชื่ อ ว่ า ให้ เ ป็ น คลิ นิ ก เอื้ อ อาทร ซึ่ ง ผมก็ ไ ม่ ย อม ยื น ยั น ใช้ ชื่ อ เก่ า ซึ่ ง รั ฐ มนตรี สุ ด ารั ต น์ ท่ า นก็ ไ ม่ ก ล้ า บังคับ ปัจจุบันก็ยังเป็นคลินิกชุมชนอบอุ่น เราไม่ ค วรเอา สปสช.ไปผู ก กั บ สิ่ ง ที่ มั น เป็ น สั ญ ลั ก ษณ์ ข อง พรรคการเมือง แม้ แ ต่ ใ นการที่ นั ก การเมื อ งขอความร่ ว มมื อ ให้ สปสช.ไปออกหน่ ว ย ทำบัตรทองเคลื่อนที่ตามเขตต่างๆ ในกรุงเทพฯ ผมก็รู้ดีว่าเขาอยากจะให้เรา ไปช่ ว ยหาเสี ย งบ้ า ง แต่ ผ มก็ ไ ม่ ไ ด้ ท ำตาม ผมเห็ น ด้ ว ยกั บ การจั ด หน่ ว ย เคลื่อนที่เพราะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้มาก ประชาชน ได้ประโยชน์ แต่จะให้ออกหน่วยไปโดยมี สส.ไทยรักไทยปราศรัยหาเสียงไป ด้วย ผมไม่ยอมให้ทำ ถ้า ส.ส.จะไปหาเสียงด้วยการอ้างผลงานหรือนโยบาย 30 บาทฯ กันเองก็ทำไป 96

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


¡À ¢ ¸ ¢ ± £± ¡ £µ ­ ¢h ² £´ ± §h ² ª ª À s ­ l £ µÈ i ­ ³ ² à £°¢°¢²§ À£²Ä¡hª²¡²£ µÈ °£± à i ²£À¡·­ Ä i­¢h² ±É ±É Á h ¡µ ª ª ª´È À µ ¢ § µÈ ²£À¡· ­ ³Ã«i ¡­¶ ­± Ç · ­ §h ² Ä¡h Ä i à «i À ´ £°¡² ²¡ µÈ ¡ ­ À£²Ä i £°¡² i­¢ §h² µÈÀª ­Ä ¸ u ³Ã«i À ´ §²¡¢² ¥³ ² à ²£ ³À ´ ²£ Á h i ² ¹ ¶ À£·È ­ ²£ ³« £²¢ ¥°À­µ ¢ h ² Æ Ã ²£ ³À ´ ²£ ¡ ¹ Ä i ­ ¢h ² À Ç ¡ ² §h ² ¸ « ´ ª¸ ² £± l Á¥° ²¢ ¯ ± ©´ À ²Ä¡h Ä i ¡ ²¢¸h À¥¢ «¡­« § ° ³­°Ä£ Ç ³À¥¢ À£·È­ ­·È Æ À ²Ä¡hÀ i²¡²Á £ Á à £²¢¥°À­µ¢ ¡À ·È ­ §h ² i ² £² ²£Ä ¢ i ² À£² ³ ²  ¢ µÈ ¡µ À ·É ­ ­ À£²À­ ± ²£À¡· ­ À ² Ç Ä ¡h ¥i ² ³­°Ä£ ± À£² à £ µ ­ ¡ ¡Ä¡h Ä i Ä ²¡Ã ± ²£À¡· ­ Á h ± ²£À¡· ­ Ç Ã «i À µ ¢ £ ´ ¡ ­² °À s À £²°À ²À«Ç §h ² À£² ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

97


ทำเรื่องนี้มามากและเรารู้เรื่องนี้ดีกว่าเขา ถ้าเราสามารถยืนหยัดในหลักการ ทำงานและทำในสิ่ ง ที่ เ ราตั้ ง ใจได้ เราก็ มี ค วามภู มิ ใ จและสามารถเคารพตั ว เองได้อย่างเต็มตัว อย่ า งไรก็ ต าม ผลงานที่ เ ราทำให้ กั บ ประชาชน ซึ่ ง สุ ด ท้ า ยมั น ก็ เ ป็ น ผลงานของพรรคการเมืองด้วย เราก็ต้องใจกว้างในเรื่องนี้ด้วย นอกจากต้ อ งฟั น ฝ่ า ภาพลั ก ษณ์ น โยบายประชานิ ย มแล้ ว ยั ง มี แ รง ต้ า นจากภาควิ ช าชี พ ด้ ว ย ผมเองรู้ ดี ว่ า การทำระบบหลั ก ประกั น สุ ข ภาพจะ ต้ อ งกระทบต่ อ ผู้ ใ ห้ บ ริ ก ารทางการแพทย์ ค่ อ นข้ า งมาก โดยเฉพาะแพทย์ ที่ มี คลิ นิ ก ส่ ว นตั ว อาจจะได้ รั บ ผลกระทบโดยตรงชั ด เจนกว่ า กลุ่ ม อื่ น จริ ง ๆแล้ ว ตอนที่ ผ มไปทำงานต่ า งจั ง หวั ด ผมก็ เ ปิ ด คลิ นิ ก เหมื อ นกั น อย่ า งไรก็ ต ามตั้ ง แต่ ใ นตอนนั้ น ผมก็ มี ค วามคิ ด ว่ า หากประเทศมี ร ะบบบริ ก ารสุ ข ภาพที่ ดี ผ มก็ พร้ อ มที่ จ ะปิ ด คลิ นิ ก คื อ พร้ อ มที่ จ ะลดหรื อ ไม่ ไ ด้ รั บ ผลประโยชน์ ส่ ว นตั ว หากว่าระบบส่วนรวมมันดีขึ้น พอเอาเข้ า จริ ง ๆ ก็ มี เ หตุ ก ารณ์ ที่ เ กี่ ย วเนื่ อ งจากประเด็ น นี้ ทั้ ง ในเชิ ง ส่วนตัวและส่วนรวม เมื่ อ เริ่ ม ต้ น ทำโครงการ 30 บาทฯ ใหม่ ๆ แม้ แ ต่ ค ลิ นิ ก ของภรรยา ผมเอง ซึ่ ง เป็ น คลิ นิ ก ทั น ตกรรมก็ ไ ด้ รั บ ผลกระทบอย่ า งมากเช่ น กั น คื น หนึ่ ง ภรรยาผมถึงกับร้องไห้ เขาบอกว่าคลินิกของเขาคนไข้ลดลงมากทำให้รายได้ ลดลงอย่างชัดเจน หากเป็นแบบนี้ต่อไปเขาไม่รู้ว่าจะสู้ไหวหรือเปล่า เขากลัว ว่าจะต้องเลิกจ้างลูกน้องและกลัวว่าจะกระทบกับค่าใช้จ่ายในบ้าน ผมบอกอย่ า งไม่ อ ายเลยว่ า ภรรยาผมเป็ น คนที่ รั บ ภาระหลั ก ในเรื่ อ ง เศรษฐกิจของครอบครัวในขณะนั้น เขาเป็นคนหารายได้ให้กับครอบครัวและ มี ร ายได้ ม ากกว่ า ผมเนื่ อ งจากเขาเป็ น ทั น ตแพทย์ ภ าคเอกชนในขณะที่ ผ มรั บ ราชการมาโดยตลอด เรามีลูกสองคนที่ต้องส่งเสียเลี้ยงดูอีกหลายปี มีภาระ เรื่ อ งต่ า ง ๆ เหมื อ นกั บ ครอบครั ว ทั่ ว ไป ถ้ า หากรายได้ ข องเขาลดลงแล้ ว เรา 98

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


ย่ อ มจะต้ อ งประสบปั ญ หาเป็ น แน่ ผมเองเข้ า ใจเต็ ม อกเลยที เ ดี ย วว่ า หมอ หลายท่านต่อต้านนโยบายนี้เพราะอะไร แต่ในเมื่อคิดว่ามันเป็นผลประโยชน์ ของคนส่ ว นใหญ่ แ ล้ ว การที่ ค นส่ ว นน้ อ ยจะเสี ย ผลประโยชน์ บ างส่ ว น มั น ก็ เป็นสิ่งที่ควรจะต้องเดินหน้าต่อไปไม่ใช่หรือ ในความเห็นของผม การที่เราเสียผลประโยชน์ส่วนตัวไปบ้างจึงไม่ใช่ เป็นเหตุผลที่เราควรจะออกมาต่อต้านโครงการนี้ ตอนนั้ น ผมได้ แ ต่ บ อกภรรยาไปว่ า ผมคิ ด ว่ า เรื่ อ งของการให้ บ ริ ก าร สุ ข ภาพของรั ฐ คงไม่ ส ามารถพั ฒ นาให้ ดี ขึ้ น ได้ ใ นเร็ ว วั น ถึ ง ขนาดที่ จ ะทำให้ คนไข้ เ ลิ ก ใช้ บ ริ ก ารของเอกชนโดยทั น ที อี ก อย่ า งถ้ า เราบริ ก ารดี มี คุ ณ ภาพก็ จะยังมีคนอีกมากที่อยากจะใช้บริการของเราอยู่ อย่าไปกังวลกับมันมากเกิน ไปเลย บางที อุ ด มคติ กั บ ชี วิ ต จริ ง ก็ อ าจจะสวนทางกั น อยู่ บ้ า งนะครั บ ไม่ ว่ า กับชีวิตใครเหตุการณ์อย่างนี้ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ และเราก็ต้องตัดสินใจให้ดี ว่าจะยึดในหลักการหรือจะโอนอ่อนให้กับเหตุผลอื่น การปฏิรูประบบบริการสุขภาพนั้นเป็นเรื่องยากครับ ต้องใช้เวลาปรับ ระบบต่างๆ อีกนานเป็นสิบ ๆ ปี การทำ 30 บาทฯ ในช่วงแรกจึงเรียกว่ามี ความโกลาหลมากมาย ในการจั ด ระเบี ย บ วางรากฐาน และการชี้ แ จง ทำความเข้าใจกับทุก ๆ ฝ่าย เป็นงานหนักมากในช่วงนั้น ส่วนการถูกโจมตี นั้นแม้จะมีบ้างแต่ก็น้อยลง และผมก็ปล่อยวางได้ดีขึ้น แต่ ก็ ต้ อ งยอมรั บ ว่ า มั น เป็ น อี ก ช่ ว งหนึ่ ง ที่ ค วามเครี ย ดเข้ า มารุ ม เร้ า ชีวิต และเพี ย งแค่ ด ำเนิ น การไปได้ อี ก เพี ย งปี ค รึ่ ง ผมก็ พ บว่ า ตั ว เองเป็ น โรคมะเร็ง ใคร ๆ ที่ รู้ ข่ า วต่ า งก็ วิ เ คราะห์ ว่ า ผมเป็ น มะเร็ ง จากสาเหตุ ส ำคั ญ คื อ เรื่ อ งความเครี ย ด แต่ ต อนที่ พ บโรคใหม่ ๆ น้ อ งสาวของผมพาเกจิ อ าจารย์ งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı 99


¡µ ·È ­ Àªµ ¢ h ² « ¶È ¡² ¹ § ëi À ² ­ §h ² ¡À s £ À £²° ³À£·È ­ ² ¯ À £²°£± ²¥Ä¡h µ Á ¡Á ° ³Á r À¥¢§h²Ã«i¥²­­ Àªµ¢Á¥i§ ° «²¢ ¶È r ¹Á¥i§Ä¡hÀ s §´ ¢²¨²ª £lÀ¥¢Ã hÄ«¡ £± Á h µÈ ¡Ä¡h ³ ²¡Ä¡hà hÀ £²° ¡ ¹ ¹ §h²Ä¡hÀ s §´ ¢²¨²ª £l Á hÀ s À £²°§h ² ª³«£± ¡Á¥i § §²¡¡¸h ¡±È µÈ ° ³«¥± £° ± ª¸ ² i § « i ² ëi ª³À£Ç ±É ¡± ¡µ £ ² ­ §²¡ ´ µÈ « ¢±È ¥¶ ­¢¹h à µ §´ ­ ¡ ¡ i ² §¡²Ä ¥ ¡² Àªi ² µÉ ¡Ä¡hÄ i¡²­¢¹h £ ¸ µÉÁ ¹hÆ ÇÄ i£± ²£Á h ±É «£·­ ¹ ª±È ëi¡² ¡ h¡À ²° §²¡ ´ §²¡ r £°ª ²£ l Á¥°À £·­ h²¢ h² Æ ¡² ² ± ¢µÈª´ u ¡± ¶ Ä¡hà hÀ s Á h ² Á h ·­ µ§´ ­ ¡ ¡À ·È ­ à ª´È µÈ ³­¢h ² Ä¡h ¡µ i ­ ª ª± ¢ §h ² ¡ ³¥± ³Ã ª´È µÈ £° ² 100

ı ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l


โดยเฉพาะคนยากคนจนจะได้ รั บ ประโยชน์ ด้ ว ยเหตุ นี้ ไ ม่ ว่ า จะถู ก ต่ อ ต้ า นก็ ดี หรื อ มี เ หตุ ผ ลส่ ว นตั ว ก็ ดี ผมก็ ไ ม่ เ คยที่ จ ะล้ ม เลิ ก ความคิ ด หรื อ คิ ด ว่ า จะหั น หลังให้กับเรื่องนี้แม้แต่ครั้งเดียว ใช่ ค รั บ ...จนถึ ง วั น นี้ ผ มก็ เ ชื่ อ ว่ า ทั้ ง ชี วิ ต ที่ ผ่ า นมาในเรื่ อ งของการต่ อ สู้ เพื่อความเป็นธรรมในสังคม การทำกิจกรรมต่าง ๆในมหาวิทยาลัยมาจนถึง การทำเรื่ อ งหลั ก ประกั น สุ ข ภาพถ้ ว นหน้ า ผมทำด้ ว ยความปรารถนาดี ต่ อ สังคมส่วนรวม แม้อาจจะมีข้อผิดพลาด มีผู้ที่ได้รับบริการที่ไม่ดีบ้างได้รับผล กระทบบ้างในช่วงเริ่มต้น ก็เป็นเรื่องปกติในการเปลี่ยนแปลง ผมเชื่ อ ว่ า ผมไม่ ไ ด้ ท ำอะไรผิ ด และถ้ า ต้ อ งเริ่ ม ต้ น ใหม่ ผ มก็ จ ะทำแบบ เก่าที่ผมเคยทำมานั้นเอง

101 งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı


บ ท ที่ 7

ดรีมทีม พลังมหัศจรรย์ เกือบ 30 ปีในชีวิตการทำงานของผมนั้น ผมเป็นคนโชคดีที่ได้ผู้ร่วมงานที่ดี เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผมอยากจะเรียกว่า “ดรีมทีม” เป็นเรื่องน่าแปลกที่ทีมงาน ส่ ว นใหญ่ ข องผมนั้ น เป็ น นั ก กิ จ กรรมเก่ า จากมหาวิ ท ยาลั ย งานที่ ท ำส่ ว นใหญ่ จึงเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของผู้ร่วมงานที่รู้ใจกัน ทำให้งานออกมาสำเร็จ อย่างที่ทุกคนต้องการ ดรี ม ที ม ของผมที ม แรกเริ่ ม ต้ น ที่ โ รงพยาบาลชนบทที่ ร าษี ไ ศลซึ่ ง

เราอยู่ กั น เป็ น ครอบครั ว ดั ง ที่ ไ ด้ เ ล่ า ไว้ ใ นบทแรกๆ นอกจากผมแล้ ว เรามี คุ ณ หมอวิ ญ ญู เอี่ ย มชี ร างกู ร คุ ณ หมอเกิ ด ภู มิ มี น าภิ นั น ท์ คุ ณ หมอประที ป ธนกิจเจริญ ทันตแพทย์วิโรจน์ อภิสิทธิ์วิทยา เภสัชกรกิตติ พิทักษ์นิตินันท์ พยาบาลจากโรงพยาบาลรามาธิ บ ดี 4 คน ได้ แ ก่ คุ ณ กฤษณา คลอวุ ฒิ เสถี ย ร คุ ณ วั ล ลภา คุ ณ ทรงเกี ย รติ คุ ณ โสภิ ด า ทั ด พิ นิ จ และ คุ ณ อุ ส าห์ 102

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


¨¸ £ ± l ¡µ ± À ´ ²£Á ¢l ·­ ¸ ¸ £ À ´ ¹¨´¥ g ¶È À s ¥¸h¡ µÈ¡² ² £±É § ¡«²§´ ¢²¥± ¢ À µ ¢ § ± ±É ª´É Á¥°ªh § ë h À s ±É ¥² ² £­ £±§Ã £¸ À ¯ Á¥°À¡·­ ë hÁ hÀ¥·­ µÈ °¡²­¢¹hÁ¥° ³ ² à ­µª² §²¡ £° ± à µÈ £ ²©µ Ä ¨¥À s À£·È ­ §´ µ µ §´ §± ¢ « ¸h ¡ ª²§ µÈ ³¥± Áª§ «² Á¥°¡­ À«Ç ¸ ­¢h ² À s ¸ ¡ £± ¢l Á «h ²£À£µ ¢ £¹i ±É ª´É µÈ ª ³ ± Ä¡h§h² ²£ ³ ² °ª³À£Ç ¡² «£·­ i­¢ Á h µÈÀ ´ ¶É Á h Æ Ç ·­¡´ ´ ­ §²¡ ¹ ± ± µÈÁ h Á d ¡² ¡² £² À h² ¶ ¸ §± µÉ à ££ ² µ ¡ µÈ £ ²©µ Ä ¨¥¡µ À i ² À h ² ² £° ³ µÈ ­ ¢¹h ± ¡¡² ² µÈ ª¸ Ç ·­ ¸ «¡­ £° µ ´ À £´ ¶È À s £¸h i­ ± ´ ££¡ ¡«²§´ ¢²¡«´ ¥ µÈ ²¡ h ­ Ä ­¢¹h £ ²©µ Ä ¨¥ i § ¢ ± Á h i ­ Á¢ ± ³ ² à h § µÈ ¡Ä ­¢¹h ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

103


± § ë h Á¥i § ¡²£h § ¡ ² ± ­µ µ µÈ ­ Á ² À¡·È ­ ¡¡²À s ¹i ­ ³ §¢ ²£ ² ±É À ² ÇÄ À s ­ £ ¢² ²¥­³ ² À £´ ­À£´È¡¡µÂ £ ²£ ² ¯ ¶É ¡² £± ¡ £µ h§¢ ²¢Á ¢lª¸£ ©l ª· § ¨l ¥µ Ç Ä § ± ¡² h § ¢ ³ ² À s µÈ £¶ ©² À ·È ­ ² À s £¸h µÈ £¸h i ­ µÈ ³ ´ ££¡£h § ¡ ± ¡² £° ±È ¡²À s £­ À¥ ² ´ ²£ª ª ¶ r ¸ ± À £²° ° ±É ¸ «¡­ £° µ ¶ À s À«¡· ­ i ­ ²¢ « ¶È ­ ¡À¥¢ µ À µ¢§ ±É Á hª¡±¢À s ± ¨¶ ©² µÈ ¡« µÄ «¥ h­ ±§ ² ±¢ ²£À¡·­ À ² Ç¡²À¢µÈ¢¡Á¥° ²¡§h² ¡ °À i² c²«£·­Ä¡h ¶È ¡ ­ §h²Ä¡hÀ i² À ² ÇÀ«Ç i§¢ Á¥°À ² ÇÄ¡hÀ i² c²À«¡·­ ± ­ ±É § À£²­¢¹hà u ­ ± ¨¶ ©² µÈÄ¡hÀ«Ç i§¢ ± ²£ h­ª¹i i§¢§´ µ ²££¸ Á£ ¸ «¡­ £° µ ¡µ ¥± © ° ´È ¡ §¥Á¥°À s µÈ ³Ã«i §²¡ ´ µÈ £i ­ Á£ «£· ­ £¸ Á£ ¥²¢À s §²¡ ´ µÈ ¸h ¡ §¥Ä i °À µ ¢ § ± Ç À s µÈ 104

ı ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l


แสวงหาแนวร่วมได้มาก บุคลิกของเขาจะไม่ทำงานในแบบที่เป็นฮีโร่คนเดียว และไม่ ใ ช่ ลั ก ษณะที่ จ ะทำงานให้ เ กิ ด ข้ อ ขั ด แย้ ง มาก เวลาจะทำอะไรเขาจะหา แนวร่ ว มก่ อ น พู ด ง่ า ย ๆ คื อ เป็ น คนที่ บ ริ ห ารงานเชิ ง ลึ ก เก่ ง พวกทำงานเชิ ง ลึ ก เก่ ง จะไม่ ค่ อ ยชอบออกหน้ า แต่ มั ก ชอบช่ ว ยทำงานอยู่ ข้ า งหลั ง และเป็ น คนสำคั ญ ที่ ท ำให้ ง านออกมาสำเร็ จ ได้ โ ดยที่ มี ค วามร่ ว มมื อ อย่ า งกว้ า งขวาง จากหลาย ๆ ฝ่าย ตอนที่ ผ มไปตรวจร่ า งกายที่ ศิ ริ ร าช ก่ อ นที่ จ ะรู้ แ น่ ว่ า เป็ น มะเร็ ง คุ ณ หมอประที ป ไปติ ด ตามดู ผ ลการตรวจด้ ว ย ตอนนั้ น ผมเพิ่ ง ตรวจโดยการส่ อ ง กล้ อ งเสร็ จ อาจารย์ ห มอที่ ต รวจบอกว่ า ไม่ เ จออะไร ผลเอ็ ก ซเรย์ อ าจจะผิ ด ก็ ไ ด้ ผมสั ง เกตเห็ น คุ ณ หมอประที ป เขาดี ใ จ แต่ เ มื่ อ ผลการตรวจชิ้ น เนื้ อ หลั ง การผ่าตัดยืนยันว่าเป็นเซลล์มะเร็ง เขาเป็นคนที่ไม่ใช่คนในครอบครัวคนแรก ที่ผมแอบเห็นน้ำตาเขาซึมออกมา ความรู้ สึ ก ของผมต่ อ คุ ณ หมอประที ป จึ ง เป็ น ทั้ ง น้ อ ง ทั้ ง เพื่ อ นร่ ว ม ทุกข์ร่วมสุขมากที่สุดคนหนึ่งในชีวิตผม ดรี ม ที ม กลุ่ ม ที่ ส องที่ ผ มได้ พ บเมื่ อ ผมย้ า ยไปอยู่ ที่ โ รงพยาบาล บัวใหญ่ หลังจากทำงานที่โรงพยาบาลราษีไศลนาน 5 ปี ทีมงานหลัก ๆ มี อยู่ ห ลายคน อย่ า งเช่ น คุ ณ หมอสุ พั ต รา ศรี ว ณิ ช ชากร คุ ณ หมอเพิ่ ม ศิ ริ เลอมานุ ว รรั ต น์ (ประเสริ ฐ ศรี ) คุ ณ หมอนิ ต ยา อิ่ ม เสมอ (อั ศ วชั ย สุ วิ ก รม) คุ ณ หมอสมบั ติ ธนานุ ภ าพไพศาล คุ ณ หมออนุ ร าช กุ ล วานิ ช ไชยนั น ท์ เภสั ช กรเจริ ญ ลี้ ต ระกู ล นำชั ย และอาทร ริ้ ว ไพบู ล ย์ นั ก เทคนิ ค การแพทย์ สมสุ ข ปิ ต านุ เ คราะห์ รวมทั้ ง ทพญ.ปิ ย ดา (เสาวรั ติ ธ าดา) ประเสริ ฐ สม ซึ่ ง ทยอยกั น ไปอยู่ แม้ ว่ า ความสั ม พั น ธ์ ข องเราจะไม่ เ ข้ ม ข้ น เหมื อ นกั บ ดรี ม ที ม ที่ ราษี ไ ศลเมื่ อ ครั้ ง ที่ ก ระแสนั ก ศึ ก ษาอยากออกไปทำกิ จ กรรมชนบทยั ง แรงอยู่ แต่ เ ราก็ อ ยู่ กั น เป็ น ครอบครั ว ในลั ก ษณะคล้ า ยๆ กั น จ้ า งแม่ ค รั ว คนเดี ย วกั น เช้ า มานั่ ง ทานข้ า วกั น บ่ า ยทานอาหารกั บ เจ้ า หน้ า ที่ โ รงพยาบาล ตกเย็ น ก็ 105 งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı


กลับไปทานข้าวเย็นด้วยกันที่บ้านพัก และหลังจากนั้นก็ออกหน่วยกลางคืน ทุ ก คนมี จุ ด มุ่ ง หมายเดี ย วกั น โดยไม่ จ ำเป็ น ต้ อ งมานั่ ง ปรั บ หรื อ มานั่ ง ถกเถี ย งกั น มาก ทุ ก คนทุ่ ม เททำงานกั น เต็ ม ที่ และมี ก ารเสี ย สละช่ ว ยเหลื อ ซึ่งกันและกันมาก สิ่ ง ที่ ผ มประทั บ ใจในสปิ ริ ต ของที ม งานโดยเฉพาะที ม แพทย์ ก็ คื อ เรื่ อ ง การอยู่เวร โดยปรกติเวลาอยู่เวรในโรงพยาบาลชุมชน สำหรับแพทย์ 5 คน การจัดเวรก็จะตกคนละ 6 คืนต่อเดือน ซึ่งการอยู่เวรที่โรงพยาบาลบัวใหญ่ เป็ น งานที่ ค่ อ นข้ า งหนั ก เพราะมั ก จะถู ก ตามทั้ ง คื น เพราะบั ว ใหญ่ เ ป็ น อำเภอ ใหญ่ มีการคมนาคมสะดวก โอกาสถูกตามจึงมีมาก จำได้ ว่ า ช่ ว งนั้ น ผมเป็ น ประธานชมรมแพทย์ ช นบทอยู่ ด้ ว ย จึ ง ต้ อ งมี การเดิ น ทางเข้ า มาทำงานให้ ส่ ว นกลางค่ อ นข้ า งบ่ อ ย ก็ ป รากฏว่ า ที ม ที่ ท ำงาน ด้วยกันเห็นว่า “พี่หงวน” เหนื่อยเกินไป เพราะว่าต้องวิ่งทั้งส่วนกลาง ต้อง วิ่งทั้งพื้นที่ จึงลงมติกันว่าไม่ให้ “พี่หงวน” อยู่เวร และ 6 เวรที่พี่หงวนต้อง อยู่ในแต่ละเดือนนั้น แพทย์ทุกคนต้องเฉลี่ยกันมาอยู่ให้แทน ในตอนนั้ น ค่ า ตอบแทนการอยู่ เ วรไม่ ไ ด้ จู ง ใจมาก การที่ จ ะเพิ่ ม เวร อีกคืนหนึ่งไม่ใช่เรื่องสนุก แต่น้อง ๆ ทุกคนก็มีน้ำใจ ผมคิ ด ว่ า น้ อ ง ๆ แพทย์ ช นบทบางคนอาจจะเจอปั ญ หาเรื่ อ งการอยู่ เวรกั น อยู่ บ้ า ง โดยเฉพาะคนที่ ต้ อ งมาทำงานเรื่ อ งอื่ น ด้ ว ย หากที ม งานไม่ เข้ า ใจและไม่ ส นั บ สนุ น ก็ ค งมี ค วามลำบากใจ บางคนมาทำงานให้ ช มรม แพทย์ ช นบทมากไม่ ไ ด้ เ พราะว่ า เพื่ อ นแพทย์ ใ นโรงพยาบาลมี ปั ญ หา คล้ า ยๆ กับว่าการไปทำงานส่วนกลางเป็นการเอาเปรียบคนอื่นเพราะไม่ต้องอยู่รับผิด ชอบงานประจำ แต่ ที่ บั ว ใหญ่ ที ม งานมี ส ปิ ริ ต ดี ม าก ความจริ ง ในตอนนั้ น นอกจากงานชมรมแพทย์ ช นบทแล้ ว ผมยั ง มี โ ครงการโคราชพั ฒ นาที่ ก ำลั ง เร่ งกั นเพื่ อที่ จะให้บ รรลุความจำเป็นพื้ นฐาน (จปฐ.) ในทุก ครั วเรื อนชาวบ้ าน เพราะฉะนั้นผมจึงรับงานทั้งส่วนกลาง เป็นวิทยากรของจังหวัดแล้วก็รับงาน 106

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


·É µÈ À h ­­ « h§¢ «£·­ Ä ± ±É ­ ¸ «¡¹h i² i­ Æ ÇÀ¥¢¥ ¡ ´ ± ¢­¡£± ² « ± ¡² ¶É  ¢ ¡Ä¡hÄ i ­ ­± µÈ £´ À ² Ç £³ ² i § ¢ µÈ m µÈ « § n ­ ¡² ­Á¥ À§£­¢¹h À£·È­¢Æ À¥¢ ± µÈ« § ­­ Ä ² ²£­¢¹hÀ§£Àªµ¢À¥¢ °Ä i«¡ À£·È­ Ä ­¢² ° ² i­ ´ ´ « h­¢ª³«£± i­ Æ Á ¢l µÈ ³ ² ­¢¹h à ­ µÉ ¡µ«¥²¢ £± ² ¡² À«Ç Á¥i§ ¥i²¢ Æ ±§ ¡Ã ª¡±¢ h­ ·­À s §²¡ ±É à µ £° ·­£·­£i µÈ ° ³ ² Á h­¢h² Ä£ Ç ²¡­¢h²Ä i¥·¡ µÈ ° ¶ ¶ µ¡ ² ­ À£² h­ §h²¡µ ·É ² À s ­¢h² Ä£ À ²À i²Ã ª´È µÈÀ£² ³«£·­Ä¡h À ² À«Ç £°Â¢ l « £· ­ ¡µ À d ² «¡²¢£h § ¡ ± À£²«£· ­ Ä¡h i ² £¹i ª¶ §h ² ¢± Ä¡h À i ² à ± ¡ Ç ­Á ° ³§h²Ã«iÀ ¥² ² ªh§ ¥² ħi i² Á¥i§¡²¥ ³ ² ·É µÈëi¡² ¶É À ·È­Ä¡hëi µ¡ ² «¥± ­ À£²¡µ §²¡£¹iª¶ Ä¡h µ ± À£² Á¥°«² ¡µ­°Ä£ µÈÀ£² °Àªµ¢ª¥°À¥Ç Æ i­¢Æ Ä i Ç §£ ³À ·È­Ã«i i­ Æ À ²£¹iª¶ §h²À£²£± Á¥°­² £ h­ ± ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

107


สำหรับผม ในช่วงปีใหม่ผมมักจะอาสาอยู่เวรให้เป็นการตอบแทนแก่ น้องๆ ในช่วงที่ทุกคนเขาอยากจะหยุดงานเพื่อกลับบ้านกัน ในช่วงสิบปีที่ผม อยู่ ใ นโรงพยาบาลชนบททั้ ง ที่ โ รงพยาบาลราษี ไ ศล และโรงพยาบาลบั ว ใหญ่ ผมจึงอยู่เวรในช่วงปีใหม่เกือบทุกปี เป็นการแสดงออกเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยให้ น้ อ งๆ ที่ อ ยู่ ด้ ว ยมี ค วามรู้ สึ ก ที่ ดี ว่ า ทุ ก คนในที ม ต่ า งมี ค วามห่ ว งใยและเอื้ อ อาทรกัน การทำงานที่โรงพยาบาลบัวใหญ่ทำให้ผมได้น้องสาวที่ผูกพันทำงาน ร่วมกันมาจนถึงปัจจุบันนี้อีกคนหนึ่ง คือคุณหมอสุพัตรา ศรีวณิชชากร หรือ หมอช้ า ง ตอนที่ อ ยู่ ที่ โ รงพยาบาลบั ว ใหญ่ ใ นยามที่ ผ มไม่ อ ยู่ ต้ อ งวิ่ ง ไปวิ่ ง มา ทำงานหลายเรื่อง หมอช้างรับหน้าที่เป็นรองผู้อำนวยการที่ดูแลงานแทนผม แทบทั้ ง หมด เราจึ ง มี ค วามสนิ ท สนมกั น ตั้ ง แต่ ส มั ย นั้ น จนกระทั่ ง ย้ า ยตามกั น มาอยู่ในกระทรวงมาทำงานเกี่ยวกับบริการปฐมภูมิ อันที่จริง ในตอนนั้น คุณหมอสุพัตราไม่ได้ตั้งใจจะมาทำเรื่องการปฎิ รู ป บริ ก ารปฐมภู มิ (Primary care) อย่ า งที่ ท ำอยู่ ใ นปั จ จุ บั น เลย เธอชอบ งานด้ า นระบาดวิ ท ยาและเลื อ กไปเรี ย นทางด้ า นระบาดวิ ท ยา จะว่ า ไปแล้ ว เธอหลงใหลในงานระบาดวิทยามาก วันดีคืนดีพี่หงวนก็ชวนไปเรียนเรื่องการ จัดการบริการปฐมภูมิ ที่ประเทศเบลเยี่ยม หมอสุพัตราไม่อยากไป เธอบอก ว่าทางของเธอไม่ใช่ทางนี้ คิดว่าไปแล้วจะไม่ได้ใช้ประโยชน์ แต่พี่หงวนก็โน้ม น้ า วให้ ไ ปเรี ย นโดยบอกว่ า ไม่ ม าทำเรื่ อ งนี้ ก็ ไ ม่ เ ป็ น ไรแต่ ใ ห้ ไ ปเรี ย นซั ก ปี ห นึ่ ง ก็ แล้วกัน ต่อมาเมื่อเธอยอมไปเรียนจนจบกลับมา ก็มาทำงานเรื่องการปฏิรูป บริ ก ารปฐมภู มิ ต่ อ เนื่ อ งมาจนถึ ง ทุ ก วั น นี้ เราได้ ร่ ว มกั น ทำโครงการ Health Care Reform และหลั ง จากนั้ น ก็ ม าต่ อ ด้ ว ยการทำโครงการหลั ก ประกั น สุ ข ภาพถ้ ว นหน้ า มี อ ยู่ ค รั้ ง หนึ่ ง ที่ จ นถึ ง บั ด นี้ ผ มยั ง ไม่ ส บายใจไม่ ห ายที่ ไ ป ต่อว่าน้องเนื่องจากความเครียดของตนเองในขณะนั้น เพราะทำงานด้วยกัน 108

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


ไปมาเกิดข้อขัดแย้งกันในด้านความคิดเรื่องหนึ่ง ขณะนั้นพวกเราเร่งงานกัน ทุ ก คน จุ ด มุ่ ง หมายของพวกเราไม่ ใ ช่ แ ค่ ก ารสร้ า งหลั ก ประกั น สุ ข ภาพถ้ ว น หน้ า แต่ เ ป็ น การปฏิ รู ป ระบบบริ ก ารสุ ข ภาพ ตอนนั้ น เราเห็ น ว่ า บริ ก ารปฐมภู มิ เป็ น ยุ ท ธศาสตร์ ห ลั ก หนึ่ ง ของการปฏิ รู ป จึ ง มี ก ารขยายบริ ก ารปฐมภู มิ ไ ปทั่ ว ประเทศ คุณหมอสุพัตราเธอเป็นคนที่ใช้คำว่า พีซียู (PCU = Primary Care Unit) เป็นภาษาอังกฤษทับศัพท์บริการปฐมภูมิไปเลย เพราะเห็นว่าเป็นคำที่ สั้ น กว่ า จนคำว่ า PCU เป็ น คำที่ ติ ด ปากบุ ค ลากรสาธารณสุ ข ทั่ ว ประเทศมา จนถึงปัจจุบัน ผมกับคุณหมอสุพัตรามีความเห็นต่างกันในเรื่องการแยก PCU ของ โรงพยาบาลออกจากแผนกผู้ ป่ ว ยนอกให้ อ ยู่ กั น คนละที่ เพราะผมมี ค วาม กังวลว่าเมื่อผู้ป่วยมาถึงแผนกผู้ป่วยนอกและถูกบอกให้ไปรับการตรวจรักษา ที่ PCU ซึ่ ง อยู่ อี ก ที่ ห นึ่ ง จะมี ค วามความรู้ สึ ก ว่ า บริ ก าร PCU เป็ น บริ ก าร ชั้ น สอง ในขณะที่ คุ ณ หมอสุ พั ต รามี ค วามเห็ น ว่ า การจั ด แยกจะสามารถทำ PCU ที่ ส มบู ร ณ์ ไ ด้ เ พราะมี ก ารลงทะเบี ย น ติ ด ตามคนไข้ ที่ ชั ด เจน เนื่ อ งจาก ขณะนั้น งานอยู่ในช่วงเร่งรัด และเราต่างคนต่างก็เครียดด้วยกันทั้งคู่รู้สึกว่า ตอนนั้ น ผมจะไม่ พ อใจและไปต่ อ ว่ า หมอช้ า งทำให้ เ ธอสวนกลั บ ด้ ว ยความ น้อยใจว่า “ที่ ม าทำเรื่ อ งปฏิ รู ป บริ ก ารปฐมภู มิ ทั้ ง หมดนี้ นี่ ก็ เ พราะพี่ น ะจะบอกให้ และก็เพื่อพี่ทั้งนั้นเลยด้วย ถ้าพี่ว่ามันไม่ดีก็จะไม่ทำแล้ว” ครั้งนั้นผมก็อึ้งนะที่เธอต่อว่าผมเช่นนั้น เพราะว่าผมรู้สึกว่าได้ไปโน้ม น้าวเธอให้เปลี่ยนทางเดินชีวิตแล้วยังมากดดันเธออีก โดยคาดหวังจากเธอ ว่ า งานจะเป็ น อย่ า งโน้ น อย่ า งนี้ แต่ ก็ ยั ง ดี ใ จที่ น้ อ งสวนกลั บ ในขณะนั้ น เท่ า นั้ น เพราะต่อมาเธอก็ยังทำงานปฏิรูปบริการปฐมภูมิเหมือนเดิมและในขอบเขตที่ กว้างขวางขึ้นด้วย ความรู้สึกที่เราทำงานด้วยกันจึงมีความรู้สึกที่มากกว่าคน ทำงานปกติ คือเป็นความผูกพันที่สร้างงานร่วมกันมา 109 งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı


£µ¡ µ¡­µ µ¡« ¶È ·­ µ¡ µÈ¡² ³ ² i§¢ ± µÈ ­ Á ² r ¸ ± ·­ª³ ± ¢ ²¢Á¥°¢¸ ¨²ª £l ª³ ± ² ¥± £° £§ ª² ²£ ª¸ ­ ¡¢i ² ¢À i ² ¡²­¢¹h ªh § ¥² Á¥°ª¸ i ² ¢ Ç ± ¥± ± ¥¹ ¡ ²­¢¹h ­ Á ² ­Ä i À s ¹i ­ ³ §¢ ²£ ­ Á ² Ç Â µ µÈ ¡µ i ­ µÈ À ¢ ³ ² i § ¢ ± ±É Á h ª ¡± ¢ À s ± ¨¶ ©² Á¥° à ·É µÈ Ä i ¢i ² ¢À i ² ¡²­¢¹h i § ¢ ± «¥²¢ ¸ «¡­ £° µ Ç À s « ¶È ­ ±É Ç ¡µ ¸ «¡­Â ¡² £ ¶ Àª µ ¢ £ £± ¢l ¶È À ¢­¢¹h µÈ ± «§± ££² ªµ ¡ ² i § ¢ ± Á h ¥°­³À ­ ¸ «¡­§´  £ l ±É À £´ Àª µ ¢ £ µÈ À ¢ ³ ² i § ¢ ± ±É Á h ª ¡± ¢ ± ¨¶ ©² ¸ «¡­ª¸ ± £² ¨£µ § ´ ² £ ¸ «¡­ª¸§± l ´ ´ ´¥ ¸¥ ¶È À ¢ ³ ² À s µ¡ ± ¡ª¡±¢ ¡ À s ¹i ³ ± ¨¶ ©² ¸ «¡­¨¸ ª´ ´Ì ££ ²£¸  ± ¢ Á¥° ¸ «¡­ £«¡¡´ £l À¥´ ¨ ª¸ £´ ¢l À Ç ¡ ²­¢¹h £ °¢°« ¶È ¶È ¸ ¥i § ¡µ ·É ² À s ± ´ ££¡ À h² ±É ª´É 110

ı ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l


ด้ ว ยพื้ น ฐานดั ง ที่ ว่ า ก็ ดี ป ระกอบกั บ แต่ ล ะคนได้ ผ่ า นการทำงาน มี ความรู้ มี ป ระสบการณ์ กั น มากขึ้ น แล้ ว ตามอายุ ง านที่ เ พิ่ ม ขึ้ น เมื่ อ มารวมตั ว กั น ช่ ว งนั้ น จึ ง เป็ น ช่ ว งที่ มี ง านผลิ ด อกออกผลได้ ม าก ประกอบกั บ ปลั ด กระทรวง 2 คนต่อกันขณะนั้น คืออาจารย์อุทัย สุดสุข และอาจารย์ไพจิตร ปวะบุตร ก็สนับสนุนการทำงานของพวกเราอย่างเต็มที่ ในขณะที่รัฐมนตรีใน ขณะนั้นก็คือ อ.ไพโรจน์ นิงสานนท์ ก็ให้การสนับสุนนงานของเราอีกเช่นกัน เรี ย กว่ า เป็ น ช่ ว งที่ พ วกเราช่ ว ยผู้ บ ริ ห ารผลั ก ดั น งานไปได้ เ ร็ ว มาก กองแผน งานซึ่ ง ทำงานเกี่ ย วกั บ เรื่ อ งนโยบายและแผนงานต่ า งๆ ในกระทรวง สาธารณสุข สามารถประสานความสัมพันธ์กับองค์กรภายนอกโดยเฉพาะกับ คณะกรรมการระบาดวิ ท ยาแห่ ง ชาติ อ อกมาสู่ ก ารปฏิ บั ติ ไ ด้ อ ย่ า งรวดเร็ ว ไม่ ว่ า จะเป็ น เรื่ อ งการปฏิ รู ป โครงสร้ า งกระทรวงสาธารณสุ ข ที่ ค ณะวิ จั ย ซึ่ ง คณะ กรรมการระบาดวิ ท ยาแห่ ง ชาติ ไ ด้ ว่ า จ้ า งได้ มี ข้ อ สรุ ป เชิ ง ประจั ก ษ์ ว่ า งาน สาธารณสุขในขณะนั้นขาดองค์ความรู้ที่เป็นรากฐานการพัฒนา และเสนอให้ ปฏิ รู ป โครงสร้ า งโดยจั ด ให้ มี ส ถาบั น วิ จั ย ระบบสาธารณสุ ข ขึ้ น มา เพื่ อ สนับสนุนการวิจัยและสร้างองค์ความรู้ให้กับระบบสาธารณสุข นอกจากการจั ด ตั้ ง สถาบั น วิ จั ย ระบบสาธารณสุ ข แล้ ว การปฏิ รู ป ยั ง เสนอว่ า กองแผนงานเองมี บ ทบาทมากแต่ ว่ า องค์ ก รเล็ ก เกิ น ไป สมควรยก ฐานะจากหน่ ว ยงานระดั บ กองมาเป็ น สำนั ก นโยบายและแผน เรื่ อ งการ พัฒนากำลังคนที่มีความรู้ก็มีความสำคัญมากจึงมีการยกระดับกองฝึกอบรม ให้ เ ป็ น สถาบั น พั ฒ นากำลั ง คนซึ่ ง ต่ อ มาก็ ก ลายเป็ น สถาบั น พระบรมราชชนก และรวมทั้ ง การที่ ม องเห็ น ว่ า งานสุ ข ภาพจิ ต เป็ น เรื่ อ งสำคั ญ จึ ง มี ก ารยกระดั บ กองสุ ข ภาพจิ ต ขึ้ น เป็ น สถาบั น สุ ข ภาพจิ ต ให้ เ ป็ น หน่ ว ยงานระดั บ กรม และต่ อ มาได้กลายมาเป็นกรมสุขภาพจิต นอกจากนั้ น ก็ มี ก ารผลั ก ดั น ให้ มี ก ารปรั บ ปรุ ง บริ ก ารปฐมภู มิ ข นาน ใหญ่ โ ดยมี โ ครงการทศวรรษแห่ ง การพั ฒ นาสถานี อ นามั ย มี ก ารผลิ ต แพทย์ 111 งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı


และพยาบาลเพิ่ ม เพราะเห็ น ว่ า แพทย์ แ ละพยาบาลที่ มี อ ยู่ ไ ม่ เ พี ย งพอ เมื่ อ เห็นว่ามีความแตกต่างในเรื่องค่าตอบแทนมากระหว่างแพทย์ พยาบาล และ วิชาชีพอื่นๆ ในภาครัฐและภาคเอกชนก็มีการผลักดันให้เพิ่มค่าตอบแทนของ วิ ช าชี พ ต่ า งๆ เหล่ า นี้ ใ ห้ ม ากขึ้ น โดยให้ ส ามารถดำรงชี พ ได้ โ ดยไม่ ต้ อ งไป ทำงานภาคเอกชนเพื่อจะได้สามารถทุ่มเทกับงานราชการได้อย่างเต็มที่ ขณะ เดี ย วกั น ก็ พ ยายามที่ จ ะทำให้ เ ห็ น ว่ า บทบาทในการพั ฒ นางานสาธารณสุ ข นั้ น ไม่ ค วรเป็ น ของภาครั ฐ อยู่ ฝ่ า ยเดี ย ว ควรจะให้ ภ าคประชาชนและองค์ ก ร พัฒนาสังคมอื่น ๆ เข้ามามีบทบาทด้วย จึงมีการตั้งงบประมาณราว 1% ของ กระทรวงสาธารณสุ ข เพื่ อ สนั บ สนุ น แก่ อ งค์ ก รภาคเอกชน (NGO) ที่ ท ำงาน ด้านสาธารณสุข งบประมาณที่ ว่ า นี้ ถู ก วิ พ ากษ์ วิ จ ารณ์ แ ต่ ก็ ส ามารถจั ด ตั้ ง ขึ้ น ได้ ต่ อ มา งบประมาณนี้ ก็ ถู ก ตั ด ทอนให้ ล ดลงทุ ก ปี ใ นการพิ จ ารณาของกรรมาธิ ก ารงบ ประมาณ เนื่ อ งจากสมาชิ ก สภาผู้ แ ทนราษฎร (สส.) ส่ ว นหนึ่ ง ไม่ ช อบกลุ่ ม องค์ ก รภาคเอกชนเพราะเห็ น ว่ า พวกเอ็ น จี โ อชอบวิ จ ารณ์ แ ละตำหนิ รั ฐ บาล แต่ ก ระทรวงสาธารณสุ ข ในขณะนั้ น ก็ ต่ อ สู้ ใ นการที่ จ ะคงงบก้ อ นนี้ ไ ว้ ซึ่ ง ก็ มี ส่วนสนับสนุนให้เอ็นจีโอด้านสาธารณสุขเติบโตขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญมาก ๆ อีกเรื่องหนึ่งก็คือการผลักดันเรื่องประกันสังคมว่าจะ ไปในทิศทางไหน ในตอนนั้นทางกระทรวงมหาดไทยซึ่งรับผิดชอบงานประกัน สั ง คมอยู่ ก็ ไ ม่ มี ผู้ เ ชี่ ย วชาญทางด้ า นสาธารณสุ ข และต้ อ งการความช่ ว ยเหลื อ จากกระทรวงสาธารณสุข จึงเป็นการเปิดโอกาสให้พวกเราเข้าไปมีบทบาทใน การช่ ว ยในการวางระบบประกั น สั ง คม ในช่ ว งแรกนั้ น คุ ณ หมอวิ โ รจน์ เ พิ่ ง จบ ปริ ญ ญาเอกด้ า นเศรษฐศาสตร์ ส าธารณสุ ข จากประเทศอั ง กฤษมา จึ ง นำเอา ความรู้มาช่วยผลิตงานวิจัย ข้อมูลและเอกสารวิชาการต่างๆ ในเรื่องนี้ ส่วน คุ ณ หมอสุ วั ฒ น์ กิ ต ติ ดิ ล กกุ ล นั้ น ก็ ค ร่ ำ เคร่ ง ช่ ว ยในการกำหนดรายละเอี ย ด การให้ ค่ า ตอบแทนวิ ช าชี พ ต่ า งๆ โดยที่ ต นเองไม่ ไ ด้ รั บ อานิ ส งส์ ใ ดๆ จากการ 112

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


£± £¸ £±É ±É À £²°Á¡i °À s Á ¢l Á h ­ ¢¹h à ² £´ « ²£Ä¡h Ä i ­ ¢¹h à ² £´ ²£ ¡À­ ¡À ¢ ¸ «¡­ª¸§± l­¢¹h¥¶ Æ µÈÄ¡hÄ i ´ ¶ ±§À­ À¥¢ £§¡ ±É ¢± h § ¢ ¡Ã ²£ ³ ¢ ²¢À ´È ¡ ²£ ¥´ Á ¢l ¢² ²¥ ­¢h ² À s £° «¥²¢ u ²¡ §²¡À s Ä Ä i ­ ° h ² Æ Ã ¡«²§´ ¢²¥± ¢ Á¥°À¡·È ­ §h ² §²¡ ² Á ¥ ¢± ¡µ ¡ ² ¶ ¡µ ¢ ²¢ ²£À ´È ¡ ²£ ¥´ ¶É ­µ à ²¢ «¥± ªh § ¸ «¡­Â ¡² £Á¥° ¸ «¡­ £«¡¡´ £l Ç h § ¢ ¡Ã À£·È ­ ²£ ª ± ª ¸ ­ l £À­ /(0 Á¥° ² £° ²ª± ¡ ²£ ¥´ ­ ­­ ¥ ­ ² à h § ±É À s Ä ­¢h ² £§ À£Ç § £µ ¡ µ ¡ ±É «¡ i ­ £h § ¡ ± ³ ² « ± ¡² Á h Ç£¹iª¶ ¡µ §²¡ª¸ ± ¸ £µ ¡ µ ¡ ² à ¥¸h ¡ µÉ Ç ¢± ³ ² £h § ¡ ± ª· À ·È ­ ¡² ¶ r ¸ ±  ¢À ²°Ã À£·È ­ ²£ ¥± ± «¥± £° ± ª¸ ² i § « i ² Ç · ­ «¡­ ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

113


วิ โ รจน์ กั บ หมอศุ ภ สิ ท ธิ์ หมอวิ โ รจน์ กั บ ผมรู้ จั ก กั น ตั้ ง แต่ ส มั ย ที่ เ ขาเป็ น ประธานชมรมพุทธฯ ของมหาวิทยาลัยมหิดล พวกเราเรียกเขาว่า “หลวงพี่” เพราะว่าเขาฝักใฝ่ในธรรมะ ในขบวนการนั ก ศึ ก ษานั้ น นั ก ศึ ก ษามหิ ด ลมี ค วามสามารถในการ ทำงานเชิ ง ลึ ก และสร้ า งแนวร่ ว มก็ เ พราะว่ า ในเวลาที่ เ กิ ด การเจ็ บ ไข้ ไ ด้ ป่ ว ย ของนั ก ศึ ก ษาประชาชนหรื อ เวลาเกิ ด การบาดเจ็ บ จากการปะทะกั น ขึ้ น มา เนื่ อ งจากตอนนั้ น ขบวนการศึ ก ษาถู ก ตอบโต้ รุ น แรงจากฝ่ า ยที่ ไ ม่ เ ห็ น ด้ ว ยถึ ง ขนาดมี ก ารขว้ า งระเบิ ด ในขณะที่ มี ก ารเดิ น ขบวน นั ก ศึ ก ษามหิ ด ลก็ จ ะรั บ ผิ ด ชอบเต็ ม ที่ ใ นการตามดู แ ลผู้ บ าดเจ็ บ เพราะด้ า นสาธารณสุ ข เป็ น งานของเรา อยู่ แ ล้ ว ตอนนั้ น หมอวิ โ รจน์ จ ะเป็ น มื อ ไม้ ใ นการติ ด ตามให้ กั บ ผม และเขาก็ ติ ด ตามคนไข้ ไ ด้ ดี ม ากถึ ง ขนาดที่ ว่ า เหตุ ก ารณ์ ป ะทะผ่ า นพ้ น ไปหลายปี จ นคน ไทยลืมเลือนเหตุการณ์นั้นๆ ไปแล้ว แต่คุณหมอวิโรจน์ก็ยังติดตามดูแลผู้คน เหล่านั้นอยู่ไม่ห่างหาย แม้ ว่ า หลั ง จากเรี ย นจบเราแยกย้ า ยกั น ไปอยู่ ต่ า งจั ง หวั ด เราก็ ยั ง มี ความสัมพันธ์กันแน่นแฟ้น ผมอยู่ศรีสะเกษ ส่วนหมอวิโรจน์อยู่อุบลราชธานี พอเข้ า มาอยู่ ส่ ว นกลางคุ ณ หมอวิ โ รจน์ ซึ่ ง สนใจงานวิ ช าการ โดยไม่ คิ ด อยาก ได้ ต ำแหน่ ง ทางด้ า นบริ ห ารก็ ทุ่ ม เททางด้ า นวิ ช าการอย่ า งเต็ ม ที่ เขาเรี ย น ปริญญาเอกด้านการคลังสาธารณสุขมาโดยตรง ซึ่งเป็นความรู้ที่จำเป็นมาก ในการทำเรื่องหลักประกันสุขภาพ เพราะฉะนั้นในระยะสิบปีมานี้เขาเป็นคนที่ ช่วยวางรากฐานด้านวิชาการความรู้ให้กับระบบหลักประกันสุขภาพตลอดมา ส่ ว นคุ ณ หมอศุ ภ สิ ท ธิ์ ก็ จ ะเหมื อ นกั น กั บ คุ ณ หมอวิ โ รจน์ เรี ย นจบ ปริ ญ ญาเอกจากประเทศอั ง กฤษเช่ น เดี ย วกั น เราสามคนมี ค วามรั ก ใคร่ กั น อย่ า งแน่ น แฟ้ น และร่ ว มกั น ผลั ก ดั น เรื่ อ งหลั ก ประกั น สุ ข ภาพถ้ ว นหน้ า ด้ ว ยกั น ในลั ก ษณะที่ ท ำกั น คนละเรื่ อ งบ้ า ง ช่ ว ยกั น ทำในเรื่ อ งเดี ย วกั น บ้ า ง เราจะใช้ ยุ ท ธศาสตร์ “แยกกั น เดิ น รวมกั น ตี ” แยกกั น เดิ น คื อ ทำกั น คนละโครงการ 114

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


Á h ¸  £ ²£¥i § Á h À s ªh § « ¶È ­ ­ ² ´ ¡ l À µ ¢ § µÈ À £²£h § ¡£h ² ± ¡² ¸ «¡­¨¸ ª´ ´Ì À s µÈ h § ¢Ã ²£ £°À¡´ À£·È ­ ± £ £° ± ª¸ ² ¸ «¡­§´  £ l h § ¢À£·È ­ ²£ £°À¡´ £° ª§± ª ´ ²£ i ² £² ²£ ªh § ¡ Ç ¡ ² ¥± ± À£·È­ ª§±ª ´ ²£ ¹i¡µ£²¢Ä i i­¢ À£²£h § ¡Á£ £h § ¡Ã ³ ² ¡² i § ¢ ± À s À§¥² §h ² ª´ u §h ² ¢ ²¢ «¥± £° ± ª¸ ² °¡²À ´ À s £´ à u ¨ Á¡i§h² ­ µÉ § À£² °­¢¹h ¥°« h§¢ ² ± Á h ¸ §± µÉ § À£² Ç¢± À µ ¢ h ² À µ ¢ Ä«¥h à À£·È ­ «¥± £° ± ª¸ ² ¶ ± ¡µ À­h ¢ ² §h ² ¸ «¡­§´Â£ l­¢¹hà £° £§ ª² ²£ ª¸ Á h ³ ² ëiª ª ¡² À«¡·­ ± À s ª ª À¥¢ ªh § ¸ «¡­¨¸ ª´ ´Ì Á¡i À s µ °Á ¢¨²ª £l ¡«²§´ ¢²¥± ¢ À£¨§£ Ç ¢± ¡² h § ¢ ³À£·È ­ %3( ­ £° «¥± £° ± ª¸ ² i § « i ² § À ² ³ ²  ¢Ä¡h Ä i ´ §h ² §²¡ª³À£Ç ° i ­ À s ¥ ² ­ À ² Á h À s §²¡¡¸h ¡±È µÈ ° ³Ã«i £° ² ¡µ « ¥± £° ± ª¸ ² µÈ µ ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

115


ซึ่ ง เป็ น เรื่ อ งส่ ว นรวมร่ ว มกั น ผมคิ ด ว่ า ผมโชคดี ม ากๆ ที่ ไ ด้ พ บเจอกั บ คนที่ มี จิ ต ใจแบบนี้ และการสร้ า งหลั ก ระบบประกั น สุ ข ภาพก็ ยั ง มี อี ก หลายเรื่ อ งที่ ต้องการความรู้และประสบการณ์และความทุ่มเทของพวกเขาต่อไปอีก ดรีมทีมที่สี่ที่ผมพบก็คือ ทีมงานในช่วงที่ทำ Health Care Reform Project เราได้ ด รี ม ที ม เพิ่ ม ขึ้ น อี ก หลายคน มี ทั้ ง คนในพื้ น ที่ แ ละที่ ม าอยู่ ด้ ว ย กันในส่วนกลาง คนหนึ่งที่มาทำงานที่ส่วนกลางก็คือคุณหมอพงษ์พิสุทธิ์หรือ คุ ณ หมอพงษ์ เขาย้ า ยมาจากโรงพยาบาลชุ ม ชนในจั ง หวั ด อุ บ ลราชธานี โดย ผมเป็ น คนชั ก ชวนมา เนื่ อ งจากในอดี ต คุ ณ หมอพงษ์ พิ สุ ท ธิ์ เ ป็ น นั ก กิ จ กรรม เก่าที่ชอบพานักศึกษาไปออกค่ายสมัยผมอยู่ในพื้นที่ชนบท คุณหมอพงษ์คน นี้ เ ป็ น คนแข็ ง และตอนมาอยู่ กั บ ผมใหม่ ๆ ยั ง มี ป ระสบการณ์ ง านส่ ว นกลางไม่ มากขณะที่งานที่พวกเราทำในส่วนกลางเริ่มขยายใหญ่ขึ้น การทำงานด้วยกัน จึ ง มี ก ารถกเถี ย งกั น มาก ความที่ เ ขามี บุ ค ลิ ก เป็ น คนแข็ ง เป็ น คนที่ ไ ม่ ค่ อ ย ยอมใครก็เป็นข้อดี เพราะสำหรับผมหากต้องการจะสร้าง “ทีมเสือ” ก็มีคนที่ มีบุคลิกเช่นนี้ หนั ง สื อ แนวคิ ด การปฏิ รู ป ระบบสุ ข ภาพเล่ ม แรกที่ ผ มเขี ย นก็ เ ป็ น เพราะหมอพงษ์ นี่ แ หละ เพราะเวลาผมบอกว่ า ผมจะทำอย่ า งโน้ น อย่ า งนี้ จะ มี ทิ ศ ทางอย่ า งนี้ หมอพงษ์ ก็ จ ะบอกว่ า พี่ ห งวนก็ จ ะมี ไ อเดี ย มาอย่ า งโน้ น อย่ า งนี้ แต่ ไ ม่ เ คยเขี ย นรายละเอี ย ดออกมาเลย ไม่ เ คยทำให้ เ ข้ า ใจว่ า ภาพ รวมมันเป็นยังไง คนอื่นเขาตามไม่ทันและไม่เข้าใจหรอกว่าผมคิดอะไร โดย เฉพาะเขาจะไม่ ย อมรั บ ถ้ า ไม่ มี ก ารถกเถี ย งกั น จริ ง จั ง ว่ า เห็ น ด้ ว ยหรื อ ไม่ เ ห็ น ด้ ว ยอย่ า งใด นั่ น ทำให้ ผ มต้ อ งกลั บ มาตั้ ง หลั ก เขี ย นหนั ง สื อ “ปฏิ รู ป ระบบ สุขภาพบริการไทย” ในปี 2541 คือเขียนให้มันรู้กันไปเลยว่าที่ว่าจะปฏิรูปทั้งระบบมันเป็นยังไง เพราะเรามักต้องคุยกันแบบเคร่งเครียดมาตลอด นั่นเป็นสิ่งที่ผมจำ ได้ ฝั ง ใจเกี่ ย วกั บ หมอพงษ์ เมื่ อ มานั่ ง คิ ด อี ก ที ก็ เ ห็ น ว่ า เป็ น ความผิ ด ของผม 116

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


i § ¢ µÈ Ä ¡h Ä i ª·È ­ ª²£ ± À ²Ã«i £ i § À £²°§h ² ¡ ­ À s £±É Æ Ä¡h À ¢ ª·È ­ ª²£Ã ² £§¡§h ² ¡± À s ¢± Ä ³Ã«i µ ¡ ² ³ ² £h § ¡ ± ¥³ ² ¡Ã i À§¥² À ·­ à ²£À µ¢ « ± ª·­À¥h¡ ±É h­¢Æ ¥±È ª´È µÈ ±§À­ ´ ­­ ¡² Á¥i § £°¡§¥Ã«i ¡± £­ i ² Á¥i § ¶ h ­ ¢Æ h ­ À ´ ¡ h ­ ¢Æ ± ª¸ i ² ¢ ¶ Ä i« ± ª·­ª·È­ §²¡ ´ ­ ¡­­ ¡² « ± ª· ­ À¥h ¡ µÉ ¡µ ²£ ´ ¡ l É ³ ±É «¡ ¶ £±É Á¥° ¥²¢À s À £·È ­ ¡·­ª³ ± à ²£ª·È­ §²¡ ´ ­ ²£ ´£¹ ²¢«¥± «¡­ ©l À ² Ç ¡ ²­¢¹h µÈ ª ª ± ¡  ¢ ³« i ² µÈ À s ¹i ­³ §¢ ²£ª³ ± ¢ ²¢Á¥°Á ¡ µ à µÈ Ä i À «Ç À ²À ´  Á¥° ± ² u¡·­ ²£ ³ ² À h ¡² ¶É i§¢  £ ²£ )FBMUI $BSF 3FGPSN i ­ ²£ ³ ²£ ´ £¹ ëi À «Ç À s £´  ¢À£´È ¡ µÈ ·É µÈ h ­ ± ±É ­ ² µ ¡ ² à ªh § ¥² À£² ¶ ¡µ £µ ¡ µ ¡ µÈ­¢¹hà ·É µÈ­µ i§¢ µÈ­¢² ¹ ¶ ±É Á h µ¡ ·É µÈ­¢¸ ¢² ¶È £° ­ i§¢ ¸ ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

117


หมอรวินันท์ ศิริกนกวิไล คุณหมอสมชัย วิโรจน์แสงอรุณ คุณหมอทวีเกียรติ บุ ณ ยไพศาลเจริ ญ คุ ณ หมอยงยุ ท ธ พงษ์ สุ ภ าพ คุ ณ หมอนงน้ อ ย ภู ริ พั น ธุ ภิญโญ คุณหมอพิเชษฐ์ จันทอิสระ และคุณหมอวีระพล ธีรพันธุ์เจริญ พวกเราตั้ ง ใจจะทำให้ เ กิ ด การปฏิ รู ป ในพื้ น ที่ จั ง หวั ด อยุ ธ ยาก่ อ นที่ จ ะ เริ่ ม โครงการ Health Care Reform ด้ ว ยการสนั บ สนุ น จากคณะ แพทยศาสตร์ โ รงพยาบาลรามาธิ บ ดี คื อ อาจารย์ อ รรถสิ ท ธิ์ เวชชาชี ว ะ คณบดีในขณะนั้น รวมทั้งอาจารย์สุรเกียรติ อาชานานุภาพ หัวหน้าศูนย์เวช ศาสตร์ ชุ ม ชน ซึ่ ง มาช่ ว ยโครงการอย่ า งสม่ ำ เสมอ คุ ณ หมอรวิ นั น ท์ ศิ ริ ก นก วิ ไ ลกั บ ผมเรี ย นวิ ช าการจั ด ระบบบริ ก ารสุ ข ภาพระดั บ ปฐมภู มิ ที่ ป ระเทศเบล เยี่ยมด้วยกัน มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าร่วมกันในขณะที่เรียนว่าจะต้อง กลับมาสร้างระบบบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิที่ดีในประเทศไทยให้ได้ เพราะ หลั ก สู ต รที่ นั่ น พู ด ถึ ง แต่ รู ป แบบที่ ป ระเทศเบลเยี่ ย มได้ ไ ปช่ ว ยทำในแอฟริ ก า และอเมริกาใต้ โดยไม่เคยมีตัวอย่างจากประเทศในเอเชียเลย เมื่ อ เรากลั บ มาเมื อ งไทยและมี โ อกาสจึ ง เริ่ ม จั ด ที ม ลงทำงานร่ ว มกั น ที่จังหวัดอยุธยา คุณหมอสมชัยเป็นเพื่อนสนิทของคุณหมอรวินันท์ ตอนนั้น ผมอยู่ ที่ ก องแผนงานจึ ง ใช้ ก ำลั ง ภายในทางราชการย้ า ยคุ ณ หมอสมชั ย ให้ ม า อยู่ด้วยกันกับคุณหมอรวินันท์ คุณหมอทวีเกียรติอยู่ที่จังหวัดอยุธยาอยู่แล้ว ส่ ว นคุ ณ หมอยงยุ ท ธเป็ น แพทย์ จ บใหม่ เ พี ย งไม่ กี่ ปี ที่ ม าทำงานอยู่ ใ นจั ง หวั ด อยุธยา เมื่อถูกชักชวนให้เป็นหนูทดลองเพื่อสร้าง “แพทย์พันธุ์ใหม่” ก็ยินดี มาเป็นหนูทดลองให้ รู ป แบบที่ ต้ อ งการสร้ า งในขณะนั้ น ก็ คื อ ระบบบริ ก ารที่ มี ค นไข้ เ ป็ น ศูนย์กลาง แพทย์ในสถานบริการระดับต้นหรือปฐมภูมิจะต้องดูแลคนไข้แบบ รู้ จั ก คนไข้ ทั้ ง คน เป็ น เจ้ า ของคนไข้ ตามดู แ ลคนไข้ จ นหายจริ ง ๆ ไม่ ใ ช่ รั ก ษา คนไข้ ต ามที่ ค นไข้ ม าหาเป็ น ครั้ ง ๆ ซึ่ ง การที่ จ ะทำเช่ น นั้ น ได้ จ ะต้ อ งมี ก าร ประสานงานกันอย่างดีระหว่างสถานบริการระดับต้นกับโรงพยาบาลใหญ่ คือ 118

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


โรงพยาบาลจั ง หวั ด ดั ง นั้ น จึ ง มี คุ ณ หมอพิ เ ชษฐ์ ผู้ อ ำนวยการขณะนั้ น กั บ คุ ณ หมอวีระพล จากโรงพยาบาลจังหวัดมาร่วมงานด้วย รูปแบบที่สร้างขึ้นเป็นที่พอใจและสนใจจากจังหวัดอื่นๆ เช่น จังหวัด นครราชสีมา จังหวัดสงขลา จังหวัดพะเยา จังหวัดยโสธรฯจึงเกิดการขยาย งาน และทำการปฏิ รู ป ระบบการเงิ น การคลั ง ด้ า นสาธารณสุ ข ด้ ว ย เกิ ด เป็ น โครงการ Health Care Reform ขึ้น ตัวอย่างของผลกระทบจากการทดลอง ในโครงการอยุธยาก็คือ การมีบริการ “70 บาทรักษาทุกโรค” ซึ่งต่อมากลาย เป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของโครงการ “30 บาทรั ก ษาทุ ก โรค” ในนโยบายการสร้ า ง “ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” ด้วย จากจั ง หวั ด อยุ ธ ยาเราก็ ไ ด้ ด รี ม ที ม จากจั ง หวั ด นครราชสี ม าอี ก สอง คนคื อ คุ ณ หมอรุ จิ ร า มั ง คละศิ ริ ห รื อ หมอตุ๊ กั บ คุ ณ หมอสำเริ ง แหยงกระ โทก คุ ณ หมอตุ๊ ไ ด้ ร่ ว มงานกั น โดยเริ่ ม มาช่ ว ยโครงการอยุ ธ ยาเป็ น ระยะ เขา เป็ น รุ่ น น้ อ งผมหนึ่ ง ปี ที่ ม หิ ด ลและเป็ น นั ก กิ จ กรรมของคณะแพทยศาสตร์ โ รง พยาบาลรามาธิ บ ดี ค นหนึ่ ง ตอนนั้ น พวกเราทำโครงการอยุ ธ ยาซึ่ ง จะพั ฒ นา ระบบบริ ก ารปฐมภู มิ จ นเริ่ ม เป็ น รู ป เป็ น ร่ า งแล้ ว จึ ง อยากจะขยายพื้ น ที่ ไ ป จั ง หวั ด อื่ น ผมชวนหมอรุ จิ ร ามาร่ ว มทำ ปรากฏว่ า คุ ณ หมอรุ จิ ร า ด้ ว ยการ สนั บ สนุ น อย่ า งแรงจากคุ ณ หมอสำเริ ง พั ฒ นางานที่ น ครราชสี ม าไปได้ อ ย่ า ง รวดเร็ ว ในระยะเวลาสั้ น กว่ า ที่ เ ราทำกั น ที่ อ ยุ ธ ยามาก เพราะอยุ ธ ยามี ข้ อ ติ ด ขั ด ในเชิ ง ระบบพอควรเนื่ อ งจากเป็ น เมื อ งใหญ่ แ ละอยู่ ใ กล้ ก รุ ง เทพฯ ระบบบริ ก ารจึ ง สลั บ ซั บ ซ้ อ นกว่ า โคราช และที่ โ คราชคุ ณ หมอสำเริ ง และคุ ณ หมอตุ๊ ลุ ย ทำรู ป แบบบริ ก ารปฐมภู มิ ใ นเขตเมื อ ง เกิ ด ศู น ย์ แ พทย์ ชุ ม ชนได้ หลายแห่ ง รวดเร็ ว กว่ า อยุ ธ ยาและไปได้ ดี ม ากอี ก ด้ ว ย เหตุ ผ ลอี ก ส่ ว นหนึ่ ง เนื่องจากว่าที่นั่นมีพื้นฐานเรื่องงานภาคประชาสังคมค่อนข้างดีมาก่อนด้วย คุ ณ หมอรุ จิ ร าเธอเป็ น เพื่ อ นร่ ว มโรคเดี ย วกั น กั บ ผมด้ ว ย เธอป่ ว ยใน เวลาใกล้ เ คี ย งกั น ล่ า สุ ด เมื่ อ ผมต้ อ งเข้ า รั บ การรั ก ษาอี ก รอบหนึ่ ง เธอมาหา 119 งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı


ผมที่บ้านด้วยความเป็นห่วงมาก เธอคิดว่าผมอาจจะปฏิบัติตัวไม่ถูกต้องโรค จึงกำเริบขึ้นใหม่ เช่น ไม่ยอมอบสมุนไพร หรือ อาจจะทานอาหารไม่ถูกต้อง เพราะเธอได้ ศึ ก ษาและปฏิ บั ติ เ รื่ อ งแพทย์ ท างเลื อ กมามาก เธอจึ ง มาจั ด การ ติ ด ตั้ ง ที่ อ บสมุ น ไพร เปลี่ ย นอุ ป กรณ์ ก ารทำครั ว ต่ า ง ๆ ให้ เธอเชื่ อ ในเรื่ อ ง การไม่ กิ น น้ ำ มั น แต่ ใ ห้ ใ ช้ น้ ำ ผั ก แทน เรื่ อ งการเลื อ กใช้ วั ส ดุ ใ นการทำกั บ ข้ า ว และยังสอนวิธีทำอาหารให้กับแม่บ้านของผม รวมทั้งวิธีการอบสมุนไพร และ ให้กำลังใจ เธอชวนผมว่ า น่ า จะไปเป็ น วิ ท ยากรสอนเกี่ ย วกั บ เรื่ อ งโรคมะเร็ ง เพราะว่ า การไปสอนคนอื่ น จะเท่ า กั บ ได้ ป รั บ ปรุ ง ตั ว เองมากขึ้ น เรื่ อ ยๆ ตั ว เธอ ก็ ท ำอย่ า งนั้ น อยู่ วั น นั้ น เธอเอาสไลด์ ม าฉายให้ ผ มดู และร้ อ งคาราโอเกะ เพลง “พี่ ช ายที่ แ สนดี ” และบอกว่ า ผมเป็ น พี่ ช ายที่ แ สนดี ข องเธอ เธอถาม ผมว่ า รู้ ไ หมว่ า เธอทำงานตามความฝั น ของผมมาตลอดโดยเฉพาะเรื่ อ ง บริ ก ารปฐมภู มิ นั้ น เธอทุ่ ม เททำก็ เ พราะมี ผ มเป็ น แรงบั น ดาลใจ เธอพู ด ได้ แค่ นั้ น แล้ ว เธอก็ ร้ อ งไห้ ก่ อ นกลั บ เธอให้ ก ำลั ง ใจขอให้ ผ มผ่ า นการต่ อ สู้ กั บ โรคที่กลับมาใหม่หลังจากที่มันสงบไป 3 ปี ผมสัมผัสได้ถึงความห่วงใยของน้องสาวคนหนึ่งที่มีต่อผมจริงๆ ว่ า กั น ตามจริ ง แล้ ว เธอเป็ น คนที่ ไ ม่ ใ ช่ ค นในครอบครั ว คนที่ ส องที่ ผ ม ได้เห็นน้ำตาของความห่วงใย ถัดไปจากคุณหมอประทีป ดรี ม ที ม ล่ า สุ ด ที่ ผ มโชคดี ไ ด้ พ บก็ คื อ ดรี ม ที ม ที่ ส ำนั ก งานหลั ก ประกั น สุ ข ภาพแห่ ง ชาติ (สปสช.) ซึ่ ง สมาชิ ก หลายคนมี ป ระวั ติ ศ าสตร์ ก ารทำงาน ร่วมกันกับผมมานาน และมารวมกับคนใหม่ ๆ อีกจำนวนหนึ่ง แม้ว่าจะเป็น ที ม ที่ ใ หญ่ ขึ้ น แต่ เ นื่ อ งจากมี เ งื่ อ นไขที่ ดี ใ นแง่ ที่ ว่ า สปสช.เป็ น องค์ ก รใหม่ มี ความบริสุทธิ์ การที่จะสร้างอะไรก็ง่ายกว่า เช่น การสร้างวัฒนธรรมองค์กร ใหม่ ผู้ ที่ ใ ห้ ค วามคิ ด นี้ กั บ ผมก็ คื อ อาจารย์ อั ม มาร์ สยามวาลา อาจารย์ ไ ด้ บอกกั บ ผมในขณะที่ ผ มกำลั ง ลั ง เลว่ า จะมาทำงานที่ สปสช. หรื อ ไม่ เพราะ 120

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


เดิมผมตัดสินใจว่าจะไม่มาเป็นเลขาธิการ สปสช. เพราะไม่อยากถูกนินทาว่า ร่วมผลักดันกฎหมายฉบับนี้เพื่อให้ตนเองมาทำงาน แต่อาจารย์อัมมาร์ได้ยก ตัวอย่างธนาคารแห่งประเทศไทยว่าอาจารย์ป๋วยได้ผลักดันให้มีธนาคารแห่ง ประเทศไทยขึ้นมา และก็ยอมมาอยู่ที่นั่นเพื่อสร้างวัฒนธรรมใหม่ในระยะแรก ทำให้ อ งค์ ก รธนาคารแห่ ง ประเทศไทยมี ค วามเข้ ม แข็ ง มี วั ฒ นธรรมที่ ดี ผม เคยบอกอาจารย์ว่าที่ตัดสินใจมาที่นี่ส่วนหนึ่งเพราะคำพูดของอาจารย์ ไม่ น านมานี้ อ าจารย์ ยั ง บอกว่ า ผมว่ า เท่ า ที่ ดู สปสช.ก็ มี วั ฒ นธรรม องค์กรที่ใช้ได้ในระดับหนึ่ง สร้างได้ถึงขนาดนี้ก็ถือว่าดี ที่ สปสช. เราเริ่ ม ต้ น ด้ ว ยการคิ ด ว่ า จะจั ด ที ม อย่ า งไรจึ ง จะเหมาะสม ผมเองอยากให้ สปสช.มี ค วามกว้ า งขวางเป็ น ที่ ย อมรั บ ของทุ ก ฝ่ า ย จึ ง เริ่ ม ต้ น ด้ ว ยการคิ ด ว่ า จะต้ อ งมี ร องเลขาธิ ก าร 3 คน คนหนึ่ ง มาจากกระทรวง สาธารณสุ ข คนหนึ่ ง มาจากโรงเรี ย นแพทย์ และอี ก คนหนึ่ ง มาจากภาค เอกชน เริ่ ม ต้ น ที่ โ รงเรี ย นแพทย์ โชคดี ที่ อ ดี ต คณบดี ค ณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อาจารย์ปิยะ เนตรวิเชียร ซึ่งเป็นโรงเรียนแพทย์แห่ง แรกที่ เ ข้ า ร่ ว มโครงการหลั ก ประกั น สุ ข ภาพถ้ ว นหน้ า ยิ น ดี ม าร่ ว มด้ ว ย จาก กระทรวงสาธารณสุ ข ก็ นั่ ง คิ ด ถึ ง คนที่ ก ว้ า งขวางพอที่ จ ะเข้ า กั บ ผู้ บ ริ ห ารของ กระทรวงส่ ว นใหญ่ ไ ด้ รู้ จั ก นายแพทย์ ส าธารณสุ ข จั ง หวั ด ทั่ ว ประเทศพอ สมควร สุดท้าย ผมจึงชักชวน นายแพทย์วินัย สวัสดิวร ซึ่งมีประสบการณ์ เป็นนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหลายจังหวัด รู้จักผู้คนกว้างขวาง ซึ่งตอน นั้ น มี ต ำแหน่ ง เป็ น รองอธิ บ ดี ก รมการแพทย์ มี โ อกาสย้ า ยมาเป็ น ผู้ ต รวจ ราชการและรองปลั ด หรื อ แม้ แ ต่ ป ลั ด กระทรวงในอนาคต คุ ณ หมอวิ นั ย เคย ทำงานกับผมตอนที่เขาเป็นนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร ในโครงการ Health Care Reform เพราะจัง หวัดยโสธรตอนนั้นเป็นพื้นที่ หนึ่ง ในการทำ โครงการ ซึ่งสุดท้ายคุณหมอวินัยก็ยินยอมตอบรับมาร่วมงานด้วย สำหรั บ ตั ว แทนจากภาคเอกชนผมได้ ช วนรองประธานบริ ษั ท ประกั น 121 งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı


ภั ย ภาคเอกชนซึ่ ง เคยรั บ ผิ ด ชอบงานด้ า นประกั น สุ ข ภาพให้ กั บ บริ ษั ท ประกั น ภัย และได้มาร่วมให้ความเห็นตั้งแต่ตอนเริ่มโครงการ 30 บาทฯ ซึ่งก็ได้รับ การตอบรั บ ว่ า จะมาร่ ว มเป็ น อย่ า งดี แต่ เ มื่ อ เห็ น ระดั บ เงิ น เดื อ นของ สปสช. ก็เปลี่ยนใจ เพราะต่ำกว่าที่ตนเองได้รับอยู่เป็นอันมาก สุดท้ายผมจึงจำเป็น ต้องให้คุณหมอประทีป ธนกิจเจริญ ซึ่งเป็นคนกันเองเป็นรองเลขาธิการแทน ที่จริงก็ต้องขอบคุณในน้ำใจของคุณหมอประทีป เพราะเป็นผู้มีบทบาทสำคัญ อย่ า งมากในการผลั ก ดั น กฎหมายฉบั บ นี้ อ อกมา แต่ ด้ ว ยความที่ ท ำงานใกล้ ชิ ด สนิ ท กั บ ผมมากและเป็ น คนที่ ไ ม่ เ รี ย กร้ อ งตำแหน่ ง ใดๆ คุ ณ หมอประที ป เคยบอกกั บ ผมว่ า ที่ ติ ด ตามมาอยู่ ที่ สปสช. นี่ ก็ เ พราะเป็ น ห่ ว งว่ า ผมจะมี ผู้ ช่ ว ยเหลื อ งานไม่ พ อ เขาบอกว่ า ลึ ก ๆ ก็ ไ ม่ แ น่ ใ จว่ า ประเทศไทยจะสร้ า งระบบ หลั ก ประกั น สุ ข ภาพที่ มี คุ ณ ภาพในระดั บ ที่ ผ มใฝ่ ฝั น ได้ แต่ เ มื่ อ เริ่ ม แล้ ว ก็ ต้ อ ง ทำให้ ดี ที่ สุ ด เขาห่ ว งว่ า ผมจะมี ที ม ไม่ พ อที่ จ ะทำให้ ง านนี้ ดี ไ ด้ จ ริ ง ๆ จึ ง ตั ด สิ น ใจมาอยู่ที่ สปสช. ผมจึงรู้สึกเสมอว่าตลอดชีวิตการทำงานผมโชคดีที่เจอแต่ คนดีที่ไม่ค่อยคิดถึงตนเอง คิดถึงแต่งานส่วนรวมเป็นหลัก คนอื่น ๆ ที่มาอยู่ ส่ ว นใหญ่ ก็ เ ป็ น คนทำงานที่ เ คยร่ ว มทำกิ จ กรรมกั น มาและมี ค วามต้ อ งการ สร้ า งสั ง คมที่ ดี ไม่ ว่ า จะเป็ น คุ ณ หมอพงษ์ พิ สุ ท ธิ์ จงอุ ด มสุ ข คุ ณ หมอถาวร สกุ ล พาณิ ช ย์ คุ ณ หมอพี ร ะพล สุ ท ธิ วิ เ ศษศั ก ดิ์ คุ ณ เนตรนภิ ส สุ ช นวณิ ช คุณหมอประจักษวิช เล็บนาค คุณหมอชูชัย ศรชำนิ คุณหมอปรีดา แต้อารักษ์ คุ ณ ชื่ น สุ ข ฤกษ์ ง าม และอี ก หลายคน แม้ บ างคนจะไม่ ไ ด้ ต ำแหน่ ง ที่ ต น ต้องการก็ตาม สู ต รการจั ด ที ม ผู้ บ ริ ห ารระดั บ ปฏิ บั ติ ก ารก็ เ หมื อ นกั บ การจั ด ตำแหน่ ง รองเลขาธิ ก าร คื อ มาจากหลายแหล่ ง ทั้ ง โรงเรี ย นแพทย์ โรงพยาบาลทหาร เอกชน เราจึงได้ชักชวนคุณหมอวิทยา ตันสุวรรณนนท์ อาจารย์แพทย์อดีตผู้ ช่ ว ยอธิ ก ารบดี ม หาวิ ท ยาลั ย ศรี น คริ น ทรวิ โ รฒซึ่ ง เป็ น นั ก กิ จ กรรมเก่ า ของ มหิดลรุ่นเดียวกับคุณหมอประทีป และคุณหมอสุรจิต สุนทรธรรมซึ่งกำลังจะ 122

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


Ä i À s ¨²ª £² ²£¢l ­ °Á ¢l  £ ¢² ²¥ £°¡ ¸ ¯ ¶È ±É ¹h Ç ­ £± ¡²£h § ¡À s ­¢h ² µ à £° ± £ ¢² ²¥ ± «§± § À£² Ç ´ §h ² ³­¢h ² Ä£ °Ã«i ¹i ­ ³ §¢ ²£Â£ ¢² ²¥ ± «§± ±È § £°À ¨¢­¡£± ª ª ¶ Ä i ± § ¸ «¡­À£ ¹ ¨£µ ª ¡´ ­ µ £° ² ¡£¡Â£ ¢² ²¥¨¹ ¢l £ ¢² ²¥ ±È§Ä ¶È À£² Ç µ¡² µÈ µÈÀ£ ¹ Ç¢­¡£± µÈ °¡²£h§¡ i§¢ ²£ £°ª² ± ²¢Á ¢l ª ² ²£ ª¸ ± «§± ¶È Ä i £± ²£Á h ±É À s ¹i­³ §¢ ²£ª³ ± ² ª² ² ª ª £° ± ± «§± Á¡i¡µ ¸ «¡­§´ ±¢¡² ­¢¹hÁ¥i§ Ç­² °Ä¡hÀ µ¢ ­ À ·È­ ² À s ² µÈ¡µ ­ À §i² §² ¡² ¶ Ä i ± § ²¢Á ¢l§µ£°§± l ± l £¸ ­ µ ²¢Á ¢lª² ²£ ª¸ ± «§± «¥²¢ ± «§± ¶È ° ±É ³¥± ¡µ h ² §§h ² ¹ ² ²¡Ã«i Ä À s £­ ­ ´ µ £¡ à £¡« ¶È à £° £§ ª² ²£ ª¸ Á¡i i ­ à i §²¡ ¢²¢²¡«¥²¢ £±É ª¸ i ² ¢ ¸ «¡­§µ £ °§± l Ç ¥ ¡²£± ³Á« h µÈ ° i ­ £°ª² ²¢Á ¢l ª² ²£ ª¸ ± «§± ±È § £°À ¨Ã ª ª à i ² ²£ £°ª² ± ¸ ¡ Á¥° £° ² ¡ª¸ ² À£² Ç Â µ ­µ À h ± µÈ Ä i ¸ ­£ ´ l ³£¸ ª ¸ ¥ ª§± ª ´Ì ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

123


อดี ต รองผู้ อ ำนวยการกองทุ น เพื่ อ การลงทุ น ทางสั ง คม ซึ่ ง เป็ น โครงการ สนั บ สนุ น ขนาดใหญ่ มี ง บประมาณถึ ง 4,800 ล้ า นบาทเพื่ อ ช่ ว ยภาคประชา สังคมหลังวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศไทย แม้เธอจะอยู่ในภาคเอกชนและไม่ คุ้นเคยกับงานสาธารณสุขแต่ก็ยินยอมมาช่วยงานที่ สปสช. ผมพู ด ได้ ว่ า ที ม ที่ ม าอยู่ ร่ ว มกั น ที่ ส ปสช. นี้ เ ป็ น ที ม ที่ แ ข็ ง แกร่ ง มี ประสบการณ์ที่สำคัญคือ มีหัวใจต้องการสร้างสังคมที่ดีร่วมกัน ในระดั บ พื้ น ที่ ซึ่ ง สปสช. จะต้ อ งขยายหน่ ว ยงานออกไปเพื่ อ ให้ เ กิ ด การประสานงานที่ ดี ขึ้ น การก่ อ กำเนิ ด สำนั ก งานสาขาภู มิ ภ าคก็ ท ำให้ ต้ อ งมี การจัดคนอีกเช่นกัน ว่ากันตามจริงแล้ว สังคมไทยมีคนดีอยู่มาก แต่เราจะ ไปควานหาอย่ า งไรนั้ น เป็ น เรื่ อ งที่ ต้ อ งใช้ ค วามพยายาม และจะให้ ค นดี ที่ เ ป็ น ที่ ย อมรั บ มาอยู่ กั บ พวกเรานั่ น ก็ เ ป็ น ความพยายามที่ ย ากขึ้ น ไปอี ก แต่ ห ากมี ทีมที่แข็งแกร่งการขยายงานก็จะง่ายขึ้น ดังนั้นการระดมชักชวนก็ต้องเริ่มต้น ตั้ ง แต่ ส ำนั ก งานสาขาภู มิ ภ าคสาขาแรกซึ่ ง สำคั ญ มาก เนื่ อ งจากหากสาขา แรกได้ ค นที่ เ ป็ น ที่ ย อมรั บ มาอยู่ ก็ จ ะทำให้ ง านของ สปสช.ดี ขึ้ น ไปด้ ว ย ผมจึ ง ได้ ชั ก ชวนคุ ณ หมอศั ก ดิ์ ชั ย กาญจนวั ฒ นา อดี ต นายแพทย์ ส าธารณสุ ข จั ง หวั ด ที่ มี ผ ลงานผ่ า นมาหลายจั ง หวั ด จนเป็ น ที่ ย อมรั บ มารั บ ตำแหน่ ง คุ ณ หมอศักดิ์ชัยก็เป็นอดีตนักกิจกรรมเก่าของมหิดลเช่นกัน เคยร่วมงานกับผม สมั ย ผมเป็ น ผู้ น ำนั ก ศึ ก ษา แม้ คุ ณ หมอศั ก ดิ์ ชั ย จะไม่ ไ ด้ ล งพื้ น ที่ ที่ คุ ณ หมอ ต้องการคือ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งคุณหมอมีภูมิลำเนาอยู่ที่นั่น แต่ต้องมา ลงที่ จั ง หวั ด ขอนแก่ น เนื่ อ งจากจั ง หวั ด ขอนแก่ น ถู ก คั ด เลื อ กเป็ น สาขา ภูมิภาคสาขาแรก คุณหมอศักดิ์ชัยก็ยินดีมาทำงานให้ สาขาที่สองที่จังหวัดเชียงใหม่ การคัดเลือกคนก็ยังใช้สูตรเดิมคือให้ ได้ ค นจากหลากหลายเครื อ ข่ า ย เมื่ อ เราได้ อ ดี ต นายแพทย์ ส าธารณสุ ข จั ง หวั ด มาเป็ น ผู้ อ ำนวยการสาขาแรกแล้ ว ก็ ค วรหาอดี ต ผู้ อ ำนวยการโรง พยาบาลใหญ่ ซึ่ ง อาวุ โ สเป็ น ที่ ย อมรั บ พี่ เ รณู ก็ ช่ ว ยชั ก ชวน พี่ เ ขมรั ศ มี ขุ น ศึ ก 124

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


เม็ ง ราย ซึ่ ง เป็ น อดี ต ผู้ อ ำนวยการโรงพยาบาลหลายแห่ ง และขณะนั้ น เป็ น ผอ.รพ.ศู น ย์ ล ำปางมาเป็ น ผู้ อ ำนวยการ ซึ่ ง พี่ เ ขมรั ศ มี ก็ รั บ ที่ จ ะมาอยู่ สปสช. เมื่อสามารถคัดเลือกคนทำงานที่เป็นที่ยอมรับได้สองสาขา สาขาอื่นๆ ก็ง่าย ขึ้ น ในการที่ จ ะชั ก ชวนคนดี ที่ เ ป็ น ที่ ย อมรั บ ให้ ม าอยู่ สปสช. เราจึ ง ได้ ค นดี ๆ ทยอยมาสมทบจนครบทุกสำนักงานภูมิภาคทั้ง 12 เขตในปัจจุบัน สำหรั บ วั ฒ นธรรมการทำงานใน สปสช. นั้ น ความตั้ ง ใจของผมที่ อยากสร้ า งมากก็ คื อ เรื่ อ งของความกลมเกลี ย วกั น ผมไม่ อ ยากให้ มี วัฒนธรรมที่เหลวแหลก เช่น การให้ร้ายกัน การแทงข้างหลัง การแตกเป็น ก๊กเป็นเหล่า ถึงจะมีเรื่องที่ต้องถกเถียงกันบ้างก็ให้เป็นการแลกเปลี่ยนที่เอา ความเห็นคนส่วนใหญ่เป็นหลัก นอกจากนี้ผมยังอยากให้เป็นองค์กรที่ถือว่า ทุ ก คนมี ค วามสำคั ญ ต่ อ องค์ ก ร มี ค วามภาคภู มิ ใ จที่ ม าอยู่ เ ป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของ องค์กรที่ดี มีประสิทธิภาพ การสร้ า งหลั ก ประกั น สุ ข ภาพถ้ ว นหน้ า เป็ น เรื่ อ งที่ เ กิ ด ขึ้ น ได้ แต่ ก าร สร้ า งให้ เ ป็ น หลั ก ประกั น สุ ข ภาพที่ ดี นั้ น เป็ น เรื่ อ งที่ ท้ า ทาย ผมโชคดี ที่ ไ ด้ พ บ และร่ ว มงานกั บ คนจำนวนมากที่ มี แ นวคิ ด คล้ า ยกั น ถึ ง แม้ ว่ า อาจจะมี ร าย ละเอี ย ดต่ า งกั น บ้ า ง แต่ ก็ มี เ ป้ า หมายเดี ย วกั น การที่ มี เ ป้ า หมายเดี ย วกั น นี้ ทำให้ ก ารทำงานของเราทุ ก คนผสานเข้ า ด้ ว ยกั น กลายเป็ น พลั ง มหั ศ จรรย์ ที่ ก่ อ ให้ เ กิ ด เหตุ ก ารณ์ แ ละผลิ ต ผลแห่ ง การปฏิ รู ป ที่ เ พิ่ ม พู น ขึ้ น ตามวั น เวลาที่ ผ่านไป ทั้ ง ชี วิ ต การทำงานของผม แม้ จ ะมี อุ ป สรรคบ้ า งในบางช่ ว งของชี วิ ต แต่กับดรีมทีมที่ผมได้พบพานมาทั้งหมดนี้ ต้องบอกว่า ผมรู้สึกว่าผมเป็นคน โชคดีจริงๆ ที่ได้ทำงานร่วมกับทุกคน

125 งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı


บ ท ที่ 8

เพื่อน : มิตรภาพกับการให้ที่ ไม่มีเงื่อนไข ในการสำรวจผู้ ร อดชี วิ ต จากมะเร็ ง มี สิ่ ง ที่ น่ า สนใจคื อ การพบว่ า ผู้ ร อดชี วิ ต จากมะเร็ ง มั ก มี ก ารเปลี่ ย นแปลงและกลายเป็ น คนใหม่ ที่ มี พ ฤติ ก รรมและ ทั ศ นคติ ห ลายอย่ า งที่ ดี แ ตกต่ า งจากก่ อ นที่ จ ะพบว่ า ตนเองเป็ น มะเร็ ง พฤติ ก รรมและทั ศ นคติ ที่ ดี อ ย่ า งหนึ่ ง ที่ พ บก็ คื อ ผู้ ที่ ร อดชี วิ ต จากมะเร็ ง จะเป็ น คนที่ ใ ห้ ค วามรั ก แก่ ค นอื่ น ได้ โ ดยไม่ มี เ งื่ อ นไข (Unconditioned love) นั่ น ก็ คือให้โดยไม่คาดหวังสิ่งตอบแทนใดๆ จากการให้นั้น ๆ เป็นการให้ด้วยความรักที่หลุดพ้นจากสภาพปัจจุบันของสังคมที่ผู้คน มักจะคาดหวังจากกันและกันมากโดยมีอัตตาของตนเองเป็นที่ตั้ง แต่ ผู้ ร อดจากมะเร็ ง เหล่ า นั้ น จะมี พ ฤติ ก รรมที่ แ ตกต่ า งจากผู้ ค นโดย ทั่วไปในสังคม คือมีความสุขกับการให้โดยไม่คาดหวังว่าการให้ของตนนั้นจะ ต้องได้อะไรเป็นการตอบแทน 126

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


§h ² ± ²¡ £´ ²£Ã«i §²¡£±  ¢Ä¡h ¡µ À ·È ­ Ä Ä¡h ² «§± ª´È ­ Á ² ¹i £± À s ª´È µÈ À«Ç Ä i À h §²¡£± ­ h ­ Á¡h µÈ ¡µ à «i ± ¥¹ ª²¡µ µÈ¡µÃ«i ± ££¢²«£·­ ££¢² µÈ¡µÃ«i ± ª²¡µ À ·È­ £± µÈ¡µÃ«i h­ ± Á¡iª± ¡ r ¸ ± ° h ¡ À ²° ¹i ëi À «Ç Á h ± § ¡² ¶É h ­ Á¡h ² à ª¡± ¢ µÉ Ç ¡µ ²£ ëi §²¡£± µÈ ² «§± ² ¥¹ ¡² ¶É ª²¡µ ££¢² h ² Ç ² «§± ² ­µ c ² ¢ « ¶È ¡² ¶É ¯¥¯ Á h À £² Ç ¢± ²£Ã«i ² §²¡£± µÈ Ä ¡h ¡µ À ·È ­ Ä Ä i à ¹i µÈ ¡µ ´ à µ ²¡ «² °§h²Ä Á¥i§ ²£Ã«i i§¢ §²¡£± µÈÄ¡h¡µÀ ·È­ Ä ±É À s §²¡ ª¸ µÈ ²§£Á¥°¢±È ¢· Á h ¹i à «i Á¡i §h ² °Ä¡h Ä i ­ °Ä£À s ²£ ­ Á Ç ²¡ Á h §²¡ª¸ ² ²£Ã«i µÉ À ­ Ç À ´ ¸ £°Â¢ l Á h ¹i à «i ¶ ² µÈ h § ¢Ã ²£ ­¢¹h £ ­ ­ ¹i µÈ À s ¡°À£Ç i § ¢ É ³ Ä ²£Ã«i µÈ À ´ ² §²¡£± µÈ Ä ¡h ¡µ À ·È ­ Ä ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

127


จึงเป็นสิ่งที่ควรจะขยายให้มีการรับรู้และเรียนรู้มากขึ้น เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยน พฤติกรรมที่นอกจากจะทำให้ผู้ให้มีความสุขมากยิ่งขึ้นแล้วยังทำให้สังคมโดย รวมอยู่ ร่ ว มกั น อย่ า งมี ค วามสุ ข เพราะผู้ ค นในสั ง คมต่ า งก็ ช่ ว ยเหลื อ กั น และ กัน ให้ความรักแก่กันและกันอย่างบริสุทธิ์ใจ ผมเองเป็ น คนที่ โ ชคดี ที่ มี เ พื่ อ นมากมาตั้ ง แต่ เ ด็ ก ยิ่ ง อายุ ม ากขึ้ น ต้องออกสังคมมากขึ้นก็ยิ่งมีเพื่อนมากเป็นผลตามมา แต่การมีเพื่อนมากไม่ ได้หมายความว่าจะทำให้เรามีความสุขเสมอไป เพราะคนที่มีเพื่อนมากก็อาจ รู้ สึ ก เปล่ า เปลี่ ย วเงี ย บเหงา หากเพื่ อ นที่ ต นมี นั้ น เป็ น เพื่ อ นที่ ค บหากั น อย่ า ง ฉาบฉวย ผิวเผินและไม่ได้ลึกซึ้ง ไม่ได้มีการแบ่งปันความคิด ไม่ได้ร่วมเป็น ร่วมตายในการต่อสู้จนมีความรู้สึกที่เชื่อมั่นต่อกัน แม้ ต นเองจะต้ อ งเสี ย สละผลประโยชนส่ ว นตั ว เพื่ อ เพื่ อ นก็ เ ต็ ม อก เต็มใจทำอย่างเต็มที่ อย่างที่เรียกกันว่า“เพื่อนตาย” บางคนอาจจะมี เ พื่ อ นตายเพี ย งไม่ กี่ ค น แต่ เ ขาก็ รู้ สึ ก อบอุ่ น และมี ความรู้ สึ ก ดี ก ว่ า การมี เ พื่ อ นจำนวนมากมายแต่ ห าเพื่ อ นตายไม่ ไ ด้ แ ม้ สั ก คน เดี ย ว อาจเป็ น เพราะผมมี เ พื่ อ นที่ ผ่ า นเหตุ ก ารณ์ ต่ อ สู้ ร่ ว มกั น มาหลายครั้ ง ใน ชีวิต ทำให้ผมเองรู้สึกโชคดีที่ผมมีเพื่อนในลักษณะที่เรียกกันว่า “เพื่อนตาย” อยู่ ห ลายคน กระบวนการรวมกลุ่ ม ที่ มี ป ระวั ติ ศ าสตร์ ย าวนานในการรู้ จั ก กั น โดยมี ก ารทำกิ จ กรรมที่ มี เ ป้ า หมายร่ ว มกั น หรื อ พู ด ง่ า ย ๆ คื อ มี อุ ด มคติ มี อุดมการณ์คล้ายกันจะทำให้คนเรามี “เพื่อนตาย”ได้เป็นจำนวนมาก ในหมู่ ข องเพื่ อ นๆ ที่ เ ติ บ โตมาด้ ว ยกั น กระบวนการกลุ่ ม ที่ มี กิ จ กรรม ร่ ว มกั น และมี เ ป้ า หมายเดี ย วกั น ที่ ผ มโชคดี ไ ด้ ร่ ว มอยู่ ด้ ว ยนั้ น ก็ คื อ “กลุ่ ม สามพราน” กลุ่มสามพรานเกิดจากการรวมตัวกันของชาวแพทย์ชนบททั้งใน อดี ต และปั จ จุ บั น ที่ ไ ด้ ท ำงานโดยมี เ ป้ า หมายร่ ว มกั น ในการพั ฒ นางาน สาธารณสุ ข ในชนบทและการพั ฒ นาสั ง คมโดยรวม มี ก ารพบปะรวมตั ว กั น อย่ า งสม่ ำ เสมอเดื อ นละ 1 ครั้ ง เพื่ อ แลกเปลี่ ย นความคิ ด และประสานการ 128

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


ทำงานของแต่ละคน โดยมีผู้หลักผู้ใหญ่อย่าง ศ.นพ.ประเวศ วะสี เป็นผู้นำ ซึ่งหากไม่มีผู้ใหญ่เช่น อาจารย์ประเวศ กลุ่มสามพรานอาจจะไม่สามารถรวม ตั ว สม่ ำ เสมอประชุ ม ทุ ก เดื อ นมาได้ ถึ ง 20 ปี แ ละสมาชิ ก ของกลุ่ ม สามพราน ที่มาประชุมสม่ำเสมอที่สุดผู้หนึ่งก็คือ อาจารย์ประเวศนั่นเอง ผมคิ ด ว่ า แท้ ที่ จ ริ ง แล้ ว การรวมกลุ่ ม สามพรานขึ้ น นี้ ค งเป็ น วิ ธี ก าร หนึ่ ง ในการสร้ า งคนของอาจารย์ ป ระเวศ ผมเองได้ เ พื่ อ นจากคนกลุ่ ม นี้ ม าก ที่สุดและได้เรียนรู้เรื่องราวความรักและมิตรภาพระหว่างเพื่อนอย่างมากมาย แต่ ผ มจะขอเล่ า เฉพาะเรื่ อ งราวของเพื่ อ นบางคนให้ ฟั ง เป็ น ตั ว อย่ า งของ มิ ต รภาพและการให้ ที่ ไ ม่ มี เ งื่ อ นไขที่ เ กิ ด ขึ้ น ช่ ว งเวลาไม่ น านมานี้ เพราะหาก เล่าทั้งหมดก็คงต้องใช้เวลา และเรื่องราวก็จะยาวขึ้นมาก คุ ณ หมอวิ ชั ย โชควิ วั ฒ นเป็ น เพื่ อ นคนแรกที่ ผ มขอพู ด ถึ ง เนื่ อ งจาก เป็ น ทั้ ง เพื่ อ นและพี่ ที่ ใ ห้ ค วามอบอุ่ น แก่ น้ อ งเสมอทุ ก ครั้ ง ที่ น้ อ งมี ปั ญ หา พี่ วิ ชั ย เป็ น แบบอย่ า งของความเป็ น นั ก ต่ อ สู้ แ ก่ น้ อ งๆ และได้ แ สดงให้ เ ห็ น ถึ ง ความแน่วแน่ของการปฏิบัติตัวในการรับใช้สังคมและรับใช้ส่วนรวมมาตลอด ผมรู้ จั ก พี่ วิ ชั ย มาตั้ ง แต่ ส มั ย เป็ น นั ก ศึ ก ษา และตลอดหลายสิ บ ปี ที่ ไ ด้ รู้ จั ก กั น พี่ วิ ชั ย ได้ แ สดงให้ เ ห็ น ถึ ง มิ ต รภาพของการให้ อ ย่ า งไม่ มี เ งื่ อ นไขในหลาย เหตุ ก ารณ์ ที่ เ ราร่ ว มประสบกั น มา ความรั ก ความห่ ว งใย เป็ น สิ่ ง ที่ พี่ วิ ชั ย มี ใ ห้ กั บ ผมมาอย่ า งสม่ ำ เสมอ เมื่ อ ไม่ น านมานี้ เพื่ อ นๆ พี่ น้ อ งและครอบครั ว ได้ ช่ ว ยกั น จั ด งานเพื่ อ แผ่ เ มตตาจิ ต แก่ ผ มที่ ก ำลั ง ป่ ว ยด้ ว ยโรคมะเร็ ง ในวั น นั้ น พี่วิชัยประสบอุบัติเหตุข้อเท้าพลิกซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ควรพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน แต่พี่วิชัยก็สู้อุตส่าห์เดินขากะเผลกมาร่วมในงานแผ่เมตตาจิตแก่ผม เรื่องที่ เล่ า นี้ อ าจเห็ น เป็ น เรื่ อ งเล็ ก น้ อ ย แต่ ส ำหรั บ ผมที่ ไ ด้ รั บ ความรั ก และความ ห่ ว งใยจากพี่ วิ ชั ย มาตลอด เหตุ ก ารณ์ เ ล็ ก ๆ นี้ เ ป็ น เครื่ อ งยื น ยั น และตอกย้ ำ ถึงมิตรภาพและการให้ที่ไม่มีเงื่อนไขที่พี่วิชัยมีให้กับน้องๆ อีกครั้งหนึ่ง ไม่ใช่แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นที่พี่วิชัยให้ความใส่ใจกับน้องๆ แต่ 129 งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı


¡µ­µ «¥²¢À£·È­ Á¥° ² À£·È­ À s ²£Áª ­­ ¶ §²¡À s À ·È­ µÈ £i­¡ ° £h § ¡À s £h § ¡ ²¢¢´ ¢­¡Àªµ ¢ ª¥° £°Â¢ l À­ µÈ µÈ §´ ± ¢ Ä i Á ª ­­ ¶È À£·È ­ µÈ ¡ °Ä i À ¥h ² h ­ Ä À s À« ¸ ²£ l µÈ µÈ §´ ± ¢ ± µÈ ª¸ §´ ¢l Ä i Á ª £i ­ ¡ ± ¶ ¡´ £ ² Á¥° ²£Ã«i µÈÁ¡i ° i­ Àªµ¢ ¥ £°Â¢ l ­ À­ Ç¢´ ¢­¡ ¸ «¡­ª¸ §´ ¢l §´ ¸ ¥ ¥ £°Àª£´ À s À ·È ­ µÈ ª ­ µÈ ¡ ° ­ ¹ ¶ ¸ «¡­ª¸ §´ ¢l « £· ­ µÈ ª¸ §´ ¢l À s ± À£µ ¢ °Á ¢¨²ª £l £ ²¡² ´ µ  ¢Ä i À µ ¢ £ ´ ´ ¢ ¡­± ± « ¶È · ­ À s ± À£µ ¢ À«£µ ¢ ­ à ª¡± ¢ µÈ À £µ ¢ ­¢¹h °À µ ¢ § ± ¡Ä¡h Ä i ² §h ² µÈ ª¸ §´ ¢l °«± «¥± ëi  £ À£µ ¢ Á ¢l  ¢Ä¡h ¢­¡À s ­² ²£¢l Á ¢l « £· ­ Á ¢l ¹i À µÈ ¢ § ² Á µÈ ± À£µ ¢ Á ¢l À «£µ ¢ ­ ªh§ ë h ³ ± Á h ¥± ¸h¡À ² À s Á ¢l ¡² §h² u h­ µÈ °À i ² ¡² ³ ² ªh § ¥² µÈ £° £§ ª² ²£ ª¸ i § ¢ §²¡ µÈ ­ ¢¹h ¥° ±É u ± Á¥°ª¡±¢« ¸h¡ Æ h² Ç¡µ­± ² µÈÁ£ ¥i² ³Ã«i ¡ ± µÈª¸§´ ¢lÀ ´È °¡² £± à £h ± À s À ·È­ ± £´ Æ ± Æ Çà £°¢° u µÈ h² ¡² mÄ ² Ä ¥ ¶ °£¹i ³¥± ¡i ² ² À§¥² ¶ °£¹i É ³ à n À s ª¸ ²©´ µÈ ª ° i ­ ¶ §²¡ ª± ¡ ± l ­ À ·È ­ Æ Ã «¡¹h ­ À£²«¥²¢ Ä i À s ­¢h ² µ À £²°¢´È ¡µ ­ ²¢¸ ¡² ¶É §²¡£¹iª¶ À s À ·È­ µÈ«h§ â ± Á¥° ± Ç¢´È ¡µ¡² ¶É 130

ı ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l


ครั้ ง ที่ ผ มประทั บ ใจในความเป็ น เพื่ อ นของพี่ สุ วิ ท ย์ กั บ พี่ วิ ชั ย ที่ สุ ด ครั้ ง หนึ่ ง ก็ คื อ เมื่ อ พี่ สุ วิ ท ย์ ซึ่ ง ขณะนั้ น ทำหน้ า ที่ เ ป็ น มั น สมองของรั ฐ มนตรี ว่ า การ กระทรวงสาธารณสุขท่านหนึ่ง ท่านจะเรียกหาและใช้ให้คิดค้นงานต่าง ๆ ให้ เป็ น ประจำ ขณะนั้ น พี่ วิ ชั ย ก็ เ ป็ น รุ่ น พี่ ที่ รั ฐ มนตรี ว่ า การกระทรวงสาธารณสุ ข ท่ า นนี้ เ กรงใจและไว้ ว างใจมอบให้ เ ป็ น ที่ ป รึ ก ษาในงานสำคั ญ ๆ พี่ ทั้ ง สองจะ วางตั ว ช่ ว ยงานรั ฐ มนตรี ฯ ดั ง กล่ า วได้ เ ป็ น อย่ า งดี โดยที่ ยั ง คงความเป็ น ตั ว ของตั ว เอง ไม่ ไ ด้ อ่ อ นด้ อ ยคล้ อ ยตามในสิ่ ง ที่ ไ ม่ ถู ก ไม่ ค วร การที่ ข้ า ราชการ ประจำสามารถไปด้ ว ยกั น กั บ ข้ า ราชการการเมื อ งได้ เป็ น ที่ ย อมรั บ ของ ข้ า ราชการการเมื อ งและรั ก ษาความเป็ น ตั ว ของตั ว เองได้ ถื อ เป็ น สิ่ ง ที่ พ วกเรา ทุ ก คนมี ค วามพอใจและเต็ ม ใจในการที่ จ ะทุ่ ม เทกำลั ง กายให้ เพราะนโยบาย ที่ เ ป็ น ประโยชน์ กั บ ประชาชนจะเกิ ด มากขึ้ น และเป้ า หมายสุ ด ท้ า ยร่ ว มกั น ก็ คื อ ประชาชนมีความผาสุขและมีสุขภาพที่ดีขึ้น ในครั้งนั้นด้วยความที่รัฐมนตรีฯ เป็นนักการเมือง เมื่อออกไปเยี่ยม พื้ น ที่ แ ต่ ล ะพื้ น ที่ ก็ มั ก จะไปรั บ ปากที่ จ ะแก้ ไ ขเรื่ อ งความขาดแคลนที่ มั ก ถู ก ร้องขอ เช่น ตึก เตียง หรือห้องผ่าตัดให้กับพื้นที่โดยบางครั้งไม่ได้วิเคราะห์ ถึ ง ความเหมาะสม การไปรั บ ปากเช่ น นั้ น หมายความว่ า ต้ อ งมี ก ารใช้ ง บ ประมาณ ยิ่ ง ไปรั บ ปากมากก็ ยิ่ ง ต้ อ งใช้ ง บประมาณมาก ทั้ ง ๆ ที่ บ างจั ง หวั ด อาจจะมีทรัพยากรมากกว่าพื้นที่อื่นๆ เป็นจำนวนมากแล้ว แต่ก็อาจจะร้องขอ เนื่องจากในขณะนั้นๆ อาจจะมีปัญหาอยู่ในระดับโรงพยาบาลของตนเองและ ไม่ มี ก ารศึ ก ษาข้ อ มู ล ให้ ชั ด เจนจึ ง ไม่ ท ราบว่ า มี ท รั พ ยากรอยู่ เ พี ย งพอ ด้ ว ย ข้ อ มู ล ที่ ค ลาดเคลื่ อ นและคิ ด ว่ า งบประมาณในด้ า นการลงทุ น ที่ จ ะแก้ ไ ขความ ขาดแคลนทั้ ง หมดไม่ ว่ า จะเป็ น การเพิ่ ม เตี ย ง การเพิ่ ม ตึ ก การเพิ่ ม ห้ อ ง ผ่ า ตั ด ฯลฯ ให้ กั บ พื้ น ที่ จ ะอยู่ ที่ ส ำนั ก งานหลั ก ประกั น สุ ข ภาพแห่ ง ชาติ ห มด ทำให้รัฐมนตรีฯ ผู้นั้นเกิดความเข้าใจผิดและได้คุยกับผมในทำนองขอโอนงบ ประมาณราว 4,000 ล้านบาท ให้กับสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 131 งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı


ผมได้ เ รี ย นท่ า นรั ฐ มนตรี ฯ ว่ า งบประมาณในส่ ว นที่ ส ำนั ก งานหลั ก ประกั น สุ ข ภาพแห่ ง ชาติ มี นั้ น มี ค ณะกรรมการซึ่ ง ประกอบไปด้ ว ยผู้ แ ทนจาก ภาคี ทุ ก ภาคส่ ว นเป็ น ผู้ พิ จ ารณาดู แ ลจั ด สรรอย่ า งเป็ น ขั้ น ตอนเพื่ อ ให้ เ กิ ด ความโปร่งใส และตอบสนองต่อความจำเป็นจริง ๆ ของทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่ ใ ห้ ก ระจุ ก อยู่ เ ฉพาะที่ ใ ดที่ ห นึ่ ง และส่ ว นใหญ่ มี แ ผนการจั ด สรรในลั ก ษณะ ระยะยาวเช่น แผน 5 ปี เป็นต้น คงไม่สามารถที่จะโอนให้กับสำนักงานปลัด กระทรวงได้ ประกอบกั บ งบประมาณในส่ ว นของการลงทุ น ใหม่ ๆ ก็ มี อ ยู่ กระทรวงสาธารณสุ ข ซึ่ ง ท่ า นสามารถจั ด สรรงบประมาณในส่ ว นนั้ น ได้ อ ยู่ แ ล้ ว อย่ า งไรก็ ต ามคำชี้ แ จงผมอาจจะยั ง ไม่ เ ป็ น ที่ ก ระจ่ า งดี พ อ จึ ง ทำให้ ป ระเด็ น นี้ ทำท่าจะกลายเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกันระหว่างผมกับรัฐมนตรีฯ พี่วิชัยและพี่สุวิทย์ ซึ่งช่วยงานรัฐมนตรีฯ อยู่ในตอนนั้นทราบนิสัยผม ดี ว่าผมคงไม่ยอมและได้เคยเห็นผมต่อสู้กับผู้มีอำนาจในเรื่องคล้าย ๆ กัน มาแล้ ว ได้ แ สดงให้ เ ห็ น ถึ ง มิ ต รภาพของการให้ ที่ ไ ม่ มี เ งื่ อ นไขโดยบอกกั บ ผม ว่ า หากว่ า ต้ อ งขั ด แย้ ง กั น จริ ง ทั้ ง สองคนพร้ อ มจะถอนตั ว จากการสนั บ สนุ น งานรั ฐ มนตรี ฯ และพร้ อ มที่ จ ะมายื น อยู่ ข้ า งผม เหตุ ก ารณ์ ค รั้ ง นั้ น ทำให้ ผ ม รู้ สึ ก มี ค วามอบอุ่ น ใจที่ เ พื่ อ นแม้ จ ะได้ รั บ ความไว้ ว างใจจากผู้ มี อ ำนาจในขณะ นั้ น แต่ ก็ พ ร้ อ มที่ จ ะสละสิ่ ง ที่ ต นมี แ ละได้ รั บ อยู่ ก ลั บ มาสนั บ สนุ น เพื่ อ น มายื น เคียงข้างเพื่อนที่อาจจะรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวที่จะต้องขัดแย้งกับผู้มีอำนาจ แต่เพียงลำพัง เดชะบุญที่ภายหลังรัฐมนตรีฯ สาธารณสุขท่านดังกล่าวได้รับ ทราบข้ อ มู ล จากหลายแหล่ ง รวมทั้ ง จากพี่ สุ วิ ท ย์ แ ละมี ค วามเข้ า ใจที่ ถู ก ต้ อ ง มากขึ้น จึงวางมือไม่มายุ่งเกี่ยวกับงบของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่ง ชาติ อี ก ทำให้ ค วามขั ด แย้ ง หายไป ความสั ม พั น ธ์ ข องรั ฐ มนตรี ฯ ท่ า นนี้ กั บ ผมและกลุ่ ม ก็ ดี ขึ้ น มาเป็ น ลำดั บ แม้ จ นถึ ง ปั จ จุ บั น ก็ ยั ง มี ก ารติ ด ต่ อ กั น เป็ น ครั้งคราว คุณหมอศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดลเป็นเพื่อนคนถัดไปที่ผมอยากจะพูดถึง 132

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


ผมเจอพี่ศิริวัฒน์ครั้งแรกที่จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อไปทำงานในชนบทใหม่ ๆ พี่ ศิริวัฒน์ได้แสดงให้เห็นถึงความไม่เกรงกลัวต่ออำนาจของผู้บริหารตั้งแต่ครั้ง นั้ น โดยขั ด แย้ ง กั บ การใช้ อ ำนาจบริ ห ารในการกระจายแพทย์ ใ นพื้ น ที่ จั ง หวั ด ศรี ส ะเกษโดยที่ ไ ม่ ฟั ง ข้ อ มู ล และความเห็ น ของผู้ ป ฏิ บั ติ ง าน และมาพบ “ความใจถึ ง ” ในการต่ อ สู้ กั บ อำนาจของผู้ บ ริ ห ารที่ ไ ม่ เ ป็ น ธรรมอี ก ครั้ ง หนึ่ ง ก็ เมื่อเกิดความขัดแย้งในการแต่งตั้งผู้บริหารส่วนกลางในกระทรวง พี่ศิริวัฒน์ เป็ น คนพู ด น้ อ ยแต่ ต่ อ ยหนั ก เป็ น คนรั ก เพื่ อ น หากเห็ น ว่ า เพื่ อ นต้ อ งลำบาก จากการทำงานเพื่อส่วนรวมก็จะไม่เคยนิ่งดูดาย ในครั้งนั้นพี่ศิริวัฒน์ได้แสดง ถึงมิตรภาพที่มีให้เพื่อนโดยไม่มีเงื่อนไข โดยเป็นข้าราชการภูมิภาคคนแรกที่ ไม่ เ กรงกลั ว อำนาจบริ ห ารส่ ว นกลางออกมายื น ประท้ ว งอยู่ แ ถวหน้ า เป็ น กอง หน้ า กล้ า ตายอย่ า งใจถึ ง เช่ น เดี ย วกั บ ที่ อ อกมาเป็ น กองหน้ า ในการต่ อ สู้ กั บ นั ก การเมื อ งในเรื่ อ งการทุ จ ริ ต ยาที่ อื้ อ ฉาวของกระทรวงสาธารณสุ ข และใน ครั้ ง ที่ รั ฐ มนตรี ฯ สาธารณสุ ข เข้ า ใจข้ อ มู ล ผิ ด และมี ป ระเด็ น ขั ด แย้ ง กั บ ผม พี่ ศิ ริ วั ฒ น์ ก็ เ ป็ น คนที่ ส นิ ท และเป็ น ที่ ไ ว้ ว างใจของรั ฐ มนตรี ท่ า นนั้ น เช่ น กั น หาก ในครั้ ง นั้ น เกิ ด ความขั ด แย้ ง กั น ขึ้ น ผมก็ เ ชื่ อ ว่ า พี่ ศิ ริ วั ฒ น์ ก็ ค งจะมายื น อยู่ ข้ า ง ผมและสนับสนุนผม ดีไม่ดีอาจจะแสดงออกเป็น “กองหน้ากล้าตาย” แบบ ที่ พี่ เ ขาเคยแสดงมาโดยตลอด พวกเรานั บ ถื อ พี่ ศิ ริ วั ฒ น์ ทุ ก คนในฐานะที่ มี ความกล้าและมักจะออกโรงเป็น “กองหน้ากล้าตาย” ที่ออกมาสู้กับความไม่ เป็นธรรมหน่วยแรกเสมอ คุณหมออำพล จินดาวัฒนะเป็นเพื่อนที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นคู่แฝด ของคุ ณ หมอสุ วิ ท ย์ วิ บุ ล ผลประเสริ ฐ เนื่ อ งจากไม่ ว่ า จะมี ปั ญ หาอะไรทั้ ง คู่ จ ะ ออกโรงด้ ว ยกั น และปรึ ก ษากั น เสมอ จนเป็ น ที่ ป ระจั ก ษ์ แ ก่ ค นทั่ ว ไป ระยะ หลั ง ๆ พี่ สุ วิ ท ย์ มี ค วามสุ ขุ ม รอบครอบมากขึ้ น มี จิ ต วิ ญ ญาณแห่ ง ความเป็ น ผู้ ให้ ม ากขึ้ น ตามวั ย วุ ฒิ ที่ ม ากขึ้ น และหั น มาเน้ น บทบาทตนเองในด้ า นวิ ช าการ โดยช่วยเหลือทุกๆ คนทุกๆ ฝ่าย ทำให้ “คู่แฝด” มีกิจกรรมที่แยกกันออกไป 133 งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı


³¡² ¶É à ° µÈ µÈ ­ ³ ¥¡µ ² À s ¹i £± ´ ­ à ²£À ¥·È ­ Ä«§À ·È ­ ëi À ´ £ ª¸ ² Á«h ² ´ ¶È i ­ · ­ §h ² À s ¥ ² ´É  §l Á ­ µÈ­³ ¥ µÈ h² ¹¡´Ã µÈª¸ À £²°ª²¡²£ ¥± ± À ¥·È­ Ä«§ £ ª¸ ² Á«h ² ´ h ² §²¡¢² ¥³ ² ¥²¢À s «¡²¢ µÈ ¡µ ²£ ³À ´ ²£ à µÈª¸ ¡À­ Ä i£± ¡´ £ ² Á¥° ²£Ã«i ² µÈ­³ ¥¡² ¥­ µÈª³ ± µÈª¸ ·­ ²£Ã«i­ ±¢ µÈ µÈ­³ ¥¡µÃ«iÀª¡­À¡·È­ ²£ ³ ² ¡µ §²¡ ± Á¢i ± ¶È Ç¡± ¡µ ¶É ­¢¹h À ª¡­À s ´ ²£Ã«i ­ ± ¢ µÉ À ­ µÈ ³Ã«i ¡´ £ ² ­ À£² ­¢¹h Á ¥° ¢± h§¢À«¥·­ ± Ä iÀª¡­¡² ¸ «¡­ª¡¨± ´Ì ¸ «£±¨¡´Ì À s À ·È­ £± ­ ¡ ±É Á hª¡±¢ ± ¨¶ ©² À s ± ¨¶ ©² µÈ À s Á ­¢h ² à i ² §´ ² ²£ À ·È ­ ² ¡± ¢¡ ¥²¢À s ± À£µ ¢ Á¥°ª­ Ä i ¸ À¥h ² À£µ ¢ «¥§ «£· ­ µÈ À £µ ¢ ± §h ² m ¸ ´ ªl n Á h Á µÈ °­­ Ä ¨¶ ©² h ² £°À ¨Ã £°À ¨Ã Ç Ä i ²¡«¥± À l µÈ À t §i² §² ­ ¸ À¥h²À£µ¢ «¥§ Á h ¥± À¥·­ ¨¶ ©²Á ¢là £°À ¨À £²° ¡µ ­¸ ¡ ²£ l Á h § Á h µÈ ° ³ ² À ·È ­ ²£ª² ²£ ª¸ à ¸ «¡­ ª¡¨± ´Ì À s ± §´ ² ²£ µÈ ¡µ §²¡£± à §²¡£¹i ¡µ §²¡ª²¡²£ à ²£ §´ À £²°«l Á ¥°ª± À £²°«l ­ ¢h ² «² ± § ± ¢² Á¥° µÈ ª ³ ± · ­ ¡µ §²¡ ·È ­ ª± ¢l 134

ı ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l


สูงในการเสนอทางวิชาการ ไม่ได้เอาความเก่งมาบิดเบือนข้อมูลทางวิชาการ เพื่ อ เป็ น ประโยชน์ กั บ ตนเองหรื อ งานของตนเลย เวลาที่ มี เ รื่ อ งยากๆ ที่ ต้องการความรู้ความสามารถในการวิเคราะห์ศึกษา หากได้คุณหมอสมศักดิ์ มาร่ ว มด้ ว ยก็ จ ะทำให้ เ กิ ด ความกว้ า งและลึ ก ซึ้ ง ที่ จ ะเป็ น ประโยชน์ อ ย่ า งมาก ต่อการมองและพิจารณาปัญหา แม้คุณหมอสมศักดิ์จะมีภารกิจมากมายโดย เฉพาะจากต่ า งประเทศเนื่ อ งจากมั ก จะถู ก เชิ ญ ไปประชุ ม หรื อ ทำงานอยู่ บ่ อ ยๆ แต่ ก็ พ ร้ อ มที่ จ ะเป็ น ผู้ ใ ห้ แ ก่ เ พื่ อ นคนอื่ น ๆอยู่ เ สมอ เป็ น ผู้ ที่ มี ค วามสุ ข ใน ตนเอง ไม่มีความทะเยอทะยานในด้านอำนาจและตำแหน่งหน้าที่การงานกับ คนอื่ น ๆ จึ ง เป็ น ที่ รั ก ของทุ ก คนรวมกั บ ความที่ เ ป็ น คนเก่ ง ในด้ า นวิ ช าการที่ ใ ห้ ความช่วยเหลือกับงานหลายๆ ด้าน จึงเป็นที่ยอมรับจากคนหลายวงการโดย เฉพาะจากมหาวิ ท ยาลั ย กั บ ผมเองนอกจากจะเป็ น เพื่ อ นรั ก ตั้ ง แต่ นั ก ศึ ก ษา ดังกล่าว ก็ได้แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพของการให้ที่ไม่หวังผลตอบแทนต่อผม หลายๆ ครั้ ง โดยเฉพาะเมื่ อ ผมรั บ ผิ ด ชอบงานหลั ก ประกั น สุ ข ภาพและใน ระยะหลังเมื่อผมเกิดเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา คุ ณ หมอชู ชั ย ศุ ภ วงศ์ เป็ น เพื่ อ นรุ่ น เดี ย วกั บ ผมเช่ น กั น แต่ ต่ า ง สถาบั น แต่ ง งานกั บ คุ ณ หมอพรทิ พ ย์ ซึ่ ง เป็ น เพื่ อ นสนิ ท ของผมและคุ ณ หมอ สมศั ก ดิ์ ตั้ ง แต่ ส มั ย เป็ น นั ก ศึ ก ษา คุ ณ หมอชู ชั ย เป็ น นั ก เคลื่ อ นไหวที่ เ น้ น ใน เรื่องของธรรมาภิบาลและพร้อมที่จะออกมาต่อสู้เมื่อมีความไม่เป็นธรรมเกิด ขึ้ น ยิ่ ง ความไม่ เ ป็ น ธรรมนั้ น เกิ ด ขึ้ น กั บ เพื่ อ นที่ ท ำงานเพื่ อ ส่ ว นรวมก็ ยิ่ ง ออก มาต่อสู้อย่างเข้มแข็ง เป็นนักสู้ที่เรียกได้ว่าเหนียวแน่นและไม่ยอมคอยไม่ว่า อยู่ ใ นสถานะที่ ไ ด้ เ ปรี ย บหรื อ เสี ย เปรี ย บ เมื่ อ ได้ พิ สู จ น์ ร่ ว มเป็ น ร่ ว มตายกั บ เพื่ อ นในการต่ อ สู้ กั บ ความไม่ เ ป็ น ธรรมหลายครั้ ง จึ ง เป็ น ที่ ย อมรั บ และลึ ก ซึ้ ง ในมิ ต รภาพในการกล้ า ต่ อ สู้ กล้ า เสี ย สละกั บ เพื่ อ นหลายๆคน เป็ น ผู้ ที่ อ ยู่ เบื้ อ งหลั ง ของคนสร้ า งประวั ติ ศ าสตร์ ร วบรวมรายชื่ อ ของประชาชนได้ ถึ ง 6 ล้ า นรายชื่ อ เพื่ อ สนั บ สนุ น ในการรณรงค์ ต่ อ สู้ กั บ พิ ษ ภั ย ของบุ ห รี่ ซึ่ ง เป็ น การ 135 งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı


รณรงค์เคลื่อนไหวที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การสาธารณสุขไทย ซึ่งมีส่วน สำคั ญ ในการทำให้ ป ระเทศไทยประสบความสำเร็ จ ในการรณรงค์ เ พื่ อ การไม่ สู บ บุ ห รี่ จ นเป็ น แบบอย่ า งไปทั่ ว โลก ระยะหลั ง ๆ ออกไปทำงานทางด้ า นสิ ท ธิ มนุษยชนก็ได้เชื่อมโยงเรื่องสิทธิมนุษยชนกับเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่ม ผู้ด้อยโอกาส ผู้หญิงและเด็ก คุ ณ หมอโกมาตร จึ ง เสถี ย รทรั พ ย์ เป็ น เพื่ อ นรุ่ น น้ อ งที่ ร่ ว มงานมา ตั้ ง แต่ ส มั ย เป็ น แพทย์ ช นบทอยู่ ที่ โ คราชด้ ว ยกั น โดยได้ ร่ ว มกั น บุ ก เบิ ก งาน สาธารณสุ ข มู ล ฐานซึ่ ง เป็ น งานที่ ท ำร่ ว มกั น ใน 4 อำเภอคื อ บั ว ใหญ่ ที่ ผ มอยู่ อำเภอสู ง เนิ น ที่ ห มอสำเริ ง แหยงกระโทกทำอยู่ อำเภอประทายที่ ห มอสม ศักดิ์ทำ และที่อำเภอชุมพวงซึ่งหมอโกมาตรทำอยู่กับคุณหมอรวินันท์ (หมอ โต๋ ว ) และหมอบุ ษ กร (หมอป๋ อ ง) เป็ น คนที่ ส นใจงานสุ ข ภาพชุ ม ชนอย่ า ง จริ ง จั ง “หมอโก” กั บ ผมได้ ร่ ว มงานกั น มาในฐานะเพื่ อ นจนมาเป็ น ฐานะผู้ ใ ต้ บั ง คั บ บั ญ ชาที่ ก องแผนงานเมื่ อ ครั้ ง ที่ ผ มเป็ น ผู้ อ ำนวยการ หมอโกมาตรที่ ไ ด้ แสดงให้ เ ห็ น ถึ ง มิ ต รภาพของการให้ ที่ ไ ม่ ห วั ง อะไรตอบแทนกั บ ผมมาโดย ตลอด เพราะไม่ ว่ า ผมจะมี อ ะไรคุ ณ หมอโกมาตรช่ ว ยไม่ ว่ า จะเป็ น เวลาใด หรื อ มี ง านอื่ น ๆ มากมายแค่ ไ หน ก็ มั ก เต็ ม ใจจะมาช่ ว ยเหลื อ ทุ่ ม เทโดยไม่ เกี่ ย งงอน แม้ จ ะเป็ น เรื่ อ งที่ ไ ม่ ไ ด้ อ ยู่ ใ นหน้ า ที่ รั บ ผิ ด ชองโดยตรงก็ ต าม เช่ น การไปช่วยเหลือคุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ และคุณโสภณ สุภาพงษ์ ในการ ก่อตั้งมูลนิธิสื่อสร้างสรรค์ หรือการมาร่วมก่อตั้งสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา โดยการชั ก ชวนของ อ.ประเวศ วะสี ซึ่ ง ผมต้ อ งรั บ หน้ า ที่ ใ นการผลั ก ดั น และ ก่อตั้งสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา เพื่อให้การสนับสนุนการพัฒนาชุมชนโดย ภู มิ ปั ญ ญาของท้ อ งถิ่ น มี ผู้ ห ลั ก ผู้ ใ หญ่ อ ย่ า ง อ. เสน่ ห์ จามริ ก อ.ไพบู ล ย์ วั ฒ นศิ ริ ธ รรม อ.ระพี สาคริ ก เป็ น ผู้ ส นั บ สนุ น โดยเป็ น กรรมการสถาบั น ให้

ตั้งแต่ตอนต้น คุ ณ หมอโกมาตร ซึ่ ง เป็ น ผู้ ห นึ่ ง ที่ มี ค วามลึ ก ซึ้ ง และสนใจในภู มิ 136

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


r ² i ­ ´È Á¡i °¡µ £ª§££ l ªh § ± § à i ² ²£ ³ ² ¨´ ¥ ° «¡­  ¡² £ Ç ¡± Ä¡h ¢ ­¡ ³ ² ëi à £ h ² ¢Æ Á h « ¡­Â ¡² £ Ç À s ¹i ­ ­ Á À £·È ­ «¡²¢ ­ ª ² ± µÈ ¢± à i À s £²ª± ¥± © l ­ ª ² ± ¡² ¶ r ¸ ± µÈ £´ Á¥i§ ¸ «¡­Â ¡² £ Ä¡hÀ µ¢ Á h­­ Á £²ª± ¥± © l ­ ª ² ± À h ² ±É Á h À s ± ³ d ² ¢Ä¡i ·È ­ Á¥°ª± ¥± © l ­ ª ² ±  ¢ ¥ ¸ Ä À ´ À¥·­ ·É­Ä¡i ² Á §¢h² ¹À ² ­ ³Ä ëi h² Á °ª¥± d²¢ ´ ­¢¹h ± ¶ ª ² ± ¡² ¶ r ¸ ± À s ²£ ³ ²  ¢Ä¡h « §± ­°Ä£ ­ Á À¥¢Á¡i Á h ·È ­ Àªµ ¢ Á¡i r ¸ ± ¡À ·È ­ §h ² °¡µ À i ² « i ² µÈ « £· ­ Á¡iÁ h ££¡ ²£ª ² ± ³ § i­¢¡² µÈ £² §h² £²ª± ¥± © l £§¡ ±É d²¢ Ä¡i µÈ ´ ­¢¹h« i²ª ² ± ±É ¸ «¡­Â ¡² £À s ¹i­­ Á Á¥° ± ³ ¶É À¡·È ­ ¸ «¡­Â ¡² £¡µ  ­ ²ªÄ ¨¶ ©² h ­ µÈ ª «£± ­À¡£´ ² £´ ²À­ i ² ¡² ¸ © ¢§´ ¢²¡² Á h À ´ ¡ ¡ ´ ° § ëi ¡ ² ³ ² µÈ ª ³ ± ² «¥± £° ± ª¸ ² Á«h ² ´ ª ª i § ¢ ± Á h ¸ «¡­  ¡² £Ä i ­ ± ¡§h²À ²¡µ §²¡ r §h² °Ã i §²¡£¹i µÈÄ À£µ¢ ¡²À ·È­ ³ ² §´ ² ²£Ã ²£ª£i² §²¡«¡²¢Ã«¡h ­ ³§h²ª¸ ² ëi ± £° ² ¡Â¥ ¡ À­ ·È ¡ ± ²£¡µ §²¡ r Á¥° i ­ ²£Ã«i « ¡­Â ¡² £ª£i ² §²¡ r ëi ª³À£Ç ¶ ± ª´ à ġh § ¸ «¡­Â ¡² £¡² ³ ² µÈ ª ª Á h Ç Ã «i ²£ ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

137


สนับสนุนในขอบข่ายที่ผมสามารถทำได้เสมอ ในด้านส่วนตัวอยากจะบอกว่า คุณหมอโกมาตรนอกจะเป็นเพื่อนแล้วก็ถือเป็นน้องรักของผมคนหนึ่ง คุ ณ หมอสุ ภ กร บั ว สาย เป็ น เพื่ อ นที่ จ ะไม่ ก ล่ า วถึ ง ในที่ นี้ ไ ม่ ไ ด้ เนื่ อ งจากคุ ณ หมอสุ ภ กรได้ แ สดงออกถึ ง มิ ต รภาพของการให้ ที่ ไ ม่ มี เ งื่ อ นไขไป ในงานที่เกี่ยวข้องกับผมโดยตรงคืองานหลักประกันสุขภาพ ครั้งหนึ่ง ผมได้ รับการแต่งตั้งจากกระทรวงการคลังให้เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ จัดทำ ข้ อ เสนอที่ เ ป็ น รู ป ธรรมเพื่ อ ให้ เ ป็ น แผนแม่ บ ทการเงิ น การคลั ง เพื่ อ สั ง คม ซึ่ ง ผลักดันโดยคณะอาจารย์ประเวศ วะสี คุณไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม คุณโสภณ สุภาพงษ์ ในขณะที่ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง หน้ า ที่ ข องคณะทำงานมี 2 เรื่ อ ง คื อ 1. ทำข้ อ เสนอที่ เ ป็ น รู ป ธรรมเพื่ อ

ส่ ง เสริ ม ให้ อ งค์ ก รภาคเอกชนมี ส่ ว นร่ ว มในการสร้ า งเสริ ม สุ ข ภาพอย่ า งกว้ า ง ขวางในขอบข่ายทั่วประเทศ และ 2. ทำข้อเสนอสำหรับการสร้างหลักประกัน สุขภาพแก่ประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่ยากไร้ในสังคม ในการทำข้ อ เสนอทั้ ง สองดั ง กล่ า ว ผมได้ เ ชิ ญ อาจารย์ ป ระกิ ต วาที ส าธกกิ จ และคุ ณ หมอสุ ภ กร บั ว สายมาเป็ น แกนในข้ อ แรก เพราะทราบ ว่ า ขณะนั้ น มี แ นวความคิ ด ในการที่ จ ะจั ด ทำกองทุ น สร้ า งเสริ ม สุ ข ภาพใน ลั ก ษณะคล้ า ยกองทุ น Vichealth ในแคว้ น Victoria ประเทศออสเตรเลี ย

ที่ ใ ช้ ภ าษี บุ ห รี่ จ ากรั ฐ บาลมาเป็ น เงิ น ทุ น ในการดำเนิ น การขององค์ ก ร และใน ข้ อ ที่ ส อง ผมเป็ น แกนเองเนื่ อ งจากผมมี ร่ า งพระราชบั ญ ญั ติ ห ลั ก ประกั น สุ ข ภาพตุ น ไว้ ใ นกระเป๋ า อยู่ แ ล้ ว เมื่ อ สรุ ป ข้ อ เสนอได้ ทั้ ง หมด ผมจึ ง นำเสนอ ต่ อ คณะกรรมการตามแผนแม่ บ ทการเงิ น การคลั ง เมื่ อ สั ง คมซึ่ ง มี ป ลั ด กระทรวงการคลัง คือ หม่อมราชวงศ์ จตุมงคล โสณกุล เป็นประธาน โดย เสนอให้ มี พ ระราชบั ญ ญั ติ 2 ฉบั บ คื อ พระราชบั ญ ญั ติ ก องทุ น ส่ ง เสริ ม การ สร้างเสริมสุขภาพซึ่งนำเงินภาษีบุหรี่มาเป็นทุนในการดำเนินงานและพระราช บั ญ ญั ติ ห ลั ก ประกั น สุ ข ภาพแห่ ง ชาติ ซึ่ ง ใช้ เ งิ น ภาษี อ ากรมาเป็ น กองทุ น หลั ก 138

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


ประกั น สุ ข ภาพแห่ ง ชาติ ภายหลั ง ปรากฏว่ า โชคดี ที่ ข้ อ เสนอทั้ ง 2 ไม่ ไ ด้ เ ป็ น เพียงข้อเสนอในกระดาษแต่ได้เกิดขึ้นจริง ๆ แม้ว่าจะเกิดในรัฐบาลต่อๆ มา คื อ กองทุ น ส่ ง เสริ ม การสร้ า งเสริ ม สุ ข ภาพเกิ ด ขึ้ น ในสมั ย คุ ณ ชวน หลี ก ภั ย เป็นนายกรัฐมนตรี มีคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรีใน ขณะนั้ น เป็ น ผู้ ผ ลั ก ดั น โดยคณะรั ฐ มนตรี ท่ า นนายกชวนได้ เ พิ่ ม ให้ เ ก็ บ ภาษี สุ ร าด้ ว ยไม่ ใ ช่ เ ฉพาะภาษี บุ ห รี่ จนมาเกิ ด เป็ น กองทุ น สนั บ สนุ น การสร้ า ง เสริ ม สุ ข ภาพ หรื อ สสส. ในปั จ จุ บั น โดยประกาศใช้ ใ นตอนช่ ว งต้ น สมั ย รัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ส่วนกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ รับการผลักดันในช่วงรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร มีรัฐมนตรีสาธารณสุข คื อ คุ ณ หญิ ง สุ ด ารั ต น์ เกยุ ร าพั น ธ์ และรั ฐ มนตรี ช่ ว ยสาธารณสุ ข คื อ นาย แพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นกำลังสำคัญในการผลักดัน ก่ อ นที่ จ ะเกิ ด ความสำเร็ จ ต่ า ง ๆ ก็ ต้ อ งผ่ า นความยากลำบากระดั บ หนึ่ ง ผมช่ ว ยคุ ณ หมอสุ ภ กร บั ว สายผลั ก ดั น กองทุ น สสส. คุ ณ หมอสุ ภ กร เห็ น ผมผลั ก ดั น พระราชบั ญ ญั ติ ห ลั ก ประกั น สุ ข ภาพโดยนั ก วิ ช าการส่ ว นใหญ่ ยั ง ไม่ ไ ด้ เ ห็ น ด้ ว ย ทำให้ ผ มพบอุ ป สรรคทั้ ง ในการทำความเข้ า ใจ ทั้ ง ในการที่ จะระดมนั ก วิ ช าการให้ ม าช่ ว ยคิ ด ช่ ว ยทำข้ อ เสนอที่ เ ป็ น วิ ช าการ คุ ณ หมอ สุ ภ กร ในฐานะที่ ข ณะนั้ น เป็ น รองผู้ อ ำนวยการสถาบั น วิ จั ย ระบบสาธารณสุ ข หรือ สวรส. จึงได้เสนอให้มีการตั้งคณะทำงานพัฒนาข้อเสนอการดำเนินการ หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยมีอาจารย์อัมมาร์ สยามวาลา ซึ่งกรุณามา เป็ น ประธานคณะทำงานชุ ด นี้ และด้ ว ยบารมี แ ละของความขยั น ขั น แข็ ง เอา จริ ง เอาจั ง อาจารย์ อั ม มาร์ ท ำให้ เ กิ ด ทั พ นั ก วิ ช าการมาช่ ว ยกั น คิ ด ช่ ว ยกั น จั ด ทำข้อเสนอ และได้ดำเนินการมาเป็นลำดับจนถึงปัจจุบัน คนทั่ ว ไปมั ก ไม่ รู้ เ รื่ อ งที่ คุ ณ หมอสุ ภ กรเป็ น ผู้ ช่ ว ยผลั ก ดั น นั ก วิ ช าการ ออกมาช่ ว ยพั ฒ นาข้ อ เสนอสำหรั บ การดำเนิ น งานหลั ก ประกั น สุ ข ภาพ สำหรั บ ผมถื อ ว่ า คุ ณ หมอสุ ภ กรได้ แ สดงมิ ต รภาพของการให้ ที่ ไ ม่ มี เ งื่ อ นไข 139 งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı


อย่ า งชั ด เจนให้ กั บ ผม โดยความตั้ ง ใจนั้ น ไม่ ใ ช่ เ พื่ อ ผม แต่ เ พื่ อ งานส่ ว นรวม มี เ ป้ า หมายที่ ป ระชาชนเป็ น สำคั ญ คุ ณ หมอสุ ภ กรอาจจะอยู่ เ บื้ อ งหลั ง ความ สำเร็ จ ของการดำเนิ น งานอี ก หลายเรื่ อ งโดยที่ ไ ม่ ไ ด้ มี ก ารรั บ รู้ จ ากสาธารณชน เลย เป็นการให้ที่ไม่มีเงื่อนไข และไม่ได้อยู่ที่เพื่อนที่จะได้รับมิตรภาพนั้น แต่ อยู่ ที่ ป ระชาชนส่ ว นรวมจะได้ ป ระโยชน์ อ ะไรหรื อ เปล่ า จากการให้ นั้ น ๆ ว่ า กั น ตามจริ ง สั ง คมมี ผู้ ใ ห้ ที่ ไ ม่ มี เ งื่ อ นไขอยู่ เ ป็ น จำนวนมาก และเพราะไม่ มี เงื่อนไข ไม่ต้องการคนยอมรับ ไม่ต้องการชื่อเสียงหรือสิ่งตอบแทนใด ๆ จึง ทำให้ไม่มีการแสดงตนของผู้ให้ออกมา สำหรับผมคิดและเชื่อว่า ยิ่งสังคมที่ มีมิตรภาพของการให้ที่ไม่มีเงื่อนไขต่อกันและกันมากเท่าไร สังคมโดยรวมก็ จะเป็นสุขอย่างแท้จริงมากขึ้นเท่านั้น นอกจากในกลุ่ ม สามพรานแล้ ว ผมได้ รั บ มิ ต รภาพการให้ ที่ ไ ม่ มี เงื่ อ นไขจากเพื่ อ นอี ก หลายคน ซึ่ ง จะขอกล่ า วเพื่ อ ขอบคุ ณ คุ ณ อุ้ ย (อุ ษ า ภัคสิริกุล) เป็นเพื่อนที่ต้องกล่าวขอบคุณ ณ ที่นี้ คุ ณ อุ้ ย เป็ น อดี ต ผู้ ป่ ว ยที่ เ กื อ บตายมาแล้ ว จากโรคที่ ต นเองเป็ น ซึ่ ง หมอบอกว่าอย่างมากจะอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน ในภาวะที่ซึมเศร้า คุณอุ้ยได้ ปฏิ บั ติ ธ รรมและเข้ า หาพระธรรมอย่ ง ลึ ก ซึ้ ง คุ ณ อุ้ ย หายจากโรคและพ้ น จาก ความตายได้ คุ ณ อุ้ ย เธอเล่ า ให้ ฟั ง ว่ า เป็ น เพราะ “สติ ” เธอบอกว่ า เมื่ อ เธอ เริ่ ม รู้ สึ ก รู้ ตั ว ทั่ ว พร้ อ มเธอก็ ป ล่ อ ยวางกั บ การเจ็ บ ป่ ว ยของตนเองได้ แ ละมี ความมุ่ ง มั่ น ในการปฏิ บั ติ ต นใหม่ เช่ น ปรั บ ระบบการรั บ ประทานอาหารของ ตนเอง ออกกำลั ง กายด้ ว ยการฝึ ก ไทเก็ ก หรื อ การเคลื่ อ นไหวที่ ต้ อ งกำกั บ ด้ ว ยสติ ไ ปด้ ว ยเป็ น ประจำ อย่ า งน้ อ ยวั น ละ 3-4 ชั่ ว โมง เข้ า นอนแต่ หั ว ค่ ำ ฯลฯ เธอพยายาม ขอให้ ผ มทานอาหารแมคโครไบโอติ ก โดยถึ ง กั บ ลงทุ น ติ ด ต่ อ ร้ า น Lemon Farm ซึ่ ง มี บ ริ ก ารจั ด ทำอาหารแบบนี้ แ ละมี อ าสาสมั ค ร พร้ อ มจะมาทำอาหารให้ ท านที่ บ้ า นเป็ น เวลา 3-4 เดื อ น ผมได้ ล องทาน อาหารแมคโครไบโอติ ก เนื่ อ งจากผมเป็ น คนทานอะไรง่ า ยจึ ง มั่ น ใจว่ า คงจะ 140

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


ทานอาหารเหล่ า นี้ ไ ด้ แ ต่ พ อเอาเข้ า จริ ง อาจจะเป็ น เพราะผมยั ง มี จิ ต ใจที่ ไ ม่ แข็ ง แกร่ ง พอ หรื อ เพราะการมาลองให้ ผ มทานอาหารนี้ เ กิ ด ขึ้ น ในเวลาไม่ เหมาะสมเพราะผมอยู่ ใ นช่ ว งของการให้ เ คมี บ ำบั ด อาหารธรรมดาก็ ท านไม่ ได้อยู่แล้ว เมื่อมาเจออาหารแมคโครไบโอติก สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ แต่ คุ ณ อุ้ ย ก็ ไ ม่ ล ะความพยายาม เมื่ อ ไม่ ท านอาหารก็ ใ ห้ อ อกกำลั ง กายแทนโดยขอให้ผมออกกำลังกายเฉพาะที่มีสติ กับ ให้รู้ตัวทั่วพร้อมตลอด เวลาและจะช่วยให้โรคหาย เนื่องจากผมไม่เคยฝึกไทเก็กมาก่อน คุณอุ้ยถึง กั บ อาสามาสอนให้ ทุ ก วั น บั ง เอิ ญ เช่ น กั น ว่ า ช่ ว งที่ จ ะมาสอนอยู่ ใ นช่ ว งที่ ผ ม ให้ เ คมี บ ำบั ด หรื อ ไม่ ก็ อ ยู่ ใ นช่ ว งที่ ร่ า งกายมี อ าการปวด ทำให้ ก ารฝึ ก ดำเนิ น ไปอย่างไม่สม่ำเสมอ บางวันมาฝึกบ้าง บางวันมาฝึกช้า แต่คุณอุ้ยก็ไม่เคย แสดงความโกรธเคื อ ง ต่ อ ว่ า ต่ อ ขานหรื อ ไม่ พ อใจต่ อ ความไม่ ส ม่ ำ เสมอของ ผมเลย แม้คุณอุ้ยจะมาฝึกสอนถึงบ้านเพื่อให้ความสะดวกแก่ผมและภรรยา แต่ผมก็ไม่สามารถฝึกอย่างสม่ำเสมอจนเวลา 3-4 เดือนผ่านไป คุณอุ้ยไม่ แน่ ใ จว่ า ที่ เ ธออยากมาฝึ ก ให้ นั้ น เรารั บ ด้ ว ยความเกรงใจหรื อ ไม่ เธอจึ ง เปลี่ยนเป็นว่า วันไหนหรืออาทิตย์ไหนก็ตามที่ผมอยากฝึก เธอก็จะมาฝึกให้ ระยะเวลา 3-4 เดือนที่คุณอุ้ยได้พยายามฝึกให้ผมและเพื่อนอีกคน ซึ่ ง ผมชวนมาเพราะเป็ น โรคมะเร็ ง เหมื อ นกั น ผมได้ เ ห็ น ถึ ง มิ ต รภาพของการ ให้ที่ไม่มีเงื่อนไขจากคุณอุ้ยจริง ๆ เธอกับผมที่จริงก็อาจจะกล่าวได้ว่าไม่รู้จัก กันมาก่อน เป็นคนแปลกหน้า แต่เพียงเพราะผมเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา เธอก็ได้ มาทุ่ ม เทให้ เ พี ย งนี้ ผมคิ ด ว่ า เธอเป็ น แบบอย่ า งของการอุ ทิ ศ ตนและการมี ไมตรี จิ ต มิ ต รภาพให้ ค นอื่ น โดยไม่ มี เ งื่ อ นไข เพราะเธอจะไม่ เ คยรู้ สึ ก โกรธ เคือง น้อยใจ หรือต้องการอะไรตอบแทนจากการที่เธอให้กับคนอื่นเลย คิด แต่เพียงว่าหากผู้ป่วยทำได้แบบเธอ ก็อาจจะหายจากโรคที่ตนเองเป็นอยู่ได้ เธอบอกว่ า ผมเป็ น “คนเดื อ นตุ ล า” เช่ น เดี ย วกั บ เธอ และผมยั ง ทำ ประโยชน์ ใ ห้ สั ง คมได้ ม ากมาย เธอจึ ง ตั้ ง ใจช่ ว ยผมเพราะคิ ด ว่ า หากผมดี ขึ้ น 141 งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı


ผมก็คงจะสามารถทำประโยชน์ให้สังคมได้มาก จะเห็นได้ว่าลึก ๆ เป้าหมาย ของเธออยู่ที่สังคมโดยรวม คุ ณ มงคล ศิ ริ วั ฒ น์ หรื อ โม่ ง เป็ น อี ก คนที่ ผ มอยากกล่ า วถึ ง คุ ณ มงคลปั จ จุ บั น เป็ น อาจารย์ ส อนปรั ช ญาอยู่ ใ นคณะอั ก ษรศาสตร์ อยู่ ที่ มหาวิ ท ยาลั ย ศรี น คริ น ทรวิ โ รฒ อาจารย์ ส อนวิ ช าไทเก็ ก และปรั ช ญาตะวั น ออกแก่ นั ก ศึ ก ษา ที่ จ ริ ง อาจารย์ โ ม่ ง กั บ ผมรู้ จั ก กั น มาก่ อ นโดยอาจารย์ เ คย เป็ น อาสาสมั ค รที่ ท ำงานอยู่ ใ นหมู่ บ้ า นที่ ผ มรั บ ผิ ด ชอบสมั ย ที่ อ ยู่ โ รงพยาบาล ราษี ไ ศล อาสาสมั ค รที่ ท ำงานจนทางราชการในพื้ น ที่ ข ณะนั้ น เพ่ ง เล็ ง ว่ า เป็ น การเคลื่ อ นไหวของพรรคคอมมิ ว นิ ส ต์ แ ละมี เ รื่ อ งมี ร าวจนถึ ง กั บ รายงาน คุ ณ พ่ อ เสม ซึ่ ง ผมได้ เ ล่ า ไว้ ใ นตอน ร่ ม ใหญ่ กั บ แรงบั น ดาลใจ ก็ คื อ อาจารย์ โม่ ง นี้ เ อง เมื่ อ ออกจากการทำงานกั บ โรงพยาบาลราษี ไ ศล อาจารย์ โ ม่ ง ก็ กลับมาศึกษาต่อจนได้ปริญญา ทำงานอยู่ที่มูลนิธิโกมล คีมทอง อยู่พักใหญ่ ก่ อ นจะมาเป็ น อาจารย์ ส อนที่ ม หาวิ ท ยาลั ย ศรี น คริ น ทรวิ โ รฒ มาพบกั น อี ก ครั้งในขณะที่ผมไม่สบาย อาจารย์โม่งแวะมาเยี่ยมเยียนและอยากจะหาเวลา มา “นวด”ให้ ผ ม โดยการนวดครั้ ง นี้ เ ป็ น การนวดเพื่ อ ขั บ ลมที่ เ ป็ น พิ ษ ใน ร่างกายผมออกมา ผู้นวดเพื่อขับลมที่เป็นพิษได้นั้นจะต้องแข็งแกร่ง ไม่เช่น นั้ น พิ ษ จากผู้ ป่ ว ยก็ จ ะเข้ า สู่ ตั ว ผู้ น วดและเป็ น อั น ตรายต่ อ ตั ว ผู้ น วดเอง ด้ ว ย ความที่ ต่ า งคนต่ า งก็ ยุ่ ง งานหรื อ ไม่ ก็ มี ภ ารกิ จ ของตนเอง ทำให้ อ าจารย์ โ ม่ ง มานวดให้ ผ มได้ ทั้ ง หมดเพี ย ง 3 ครั้ ง นอกจากนั้ น อาจารย์ โ ม่ ง ยั ง มาร่ ว มกั บ คุณอุ้ยในการสอนไทเก็กแก่ผมด้วย จริ ง ๆ แล้ ว ยั ง มี เ พื่ อ นในกลุ่ ม สามพราน หรื อ กลุ่ ม ที่ ใ กล้ ชิ ด อี ก จำนวนมากที่ผมใคร่จะขอบคุณในมิตรภาพของการให้ที่ไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าจะ เป็นคุณหมอรวินันท์ ศิริกนกวิไล คุณหมอสมชัย วิโรจน์แสงอรุณ คุณหมอ สำเริ ง แหยงกระโทก คุ ณ หมอสุ ร เชษฐ์ สถิ ต นิ ร ามั ย คุ ณ หมออภิ สิ ท ธิ์ ธำรงวรางกูร คุณหมอวีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ ที่ได้แสดงมิตรภาพของ 142

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


การให้ที่ไม่มีเงื่อนไขแก่ผมมากมายหลายครั้งหลายคราด้วยกัน ซึ่งผมคงไม่ สามารถกล่าวถึงได้หมด ณ ที่นี้ ทุกๆ คนได้เอาใจใส่ในมิตรภาพอของการ ให้ที่ไม่มีเงื่อนไขแก่ผม ยิ่งหลังจากที่ผมป่วยเป็นโรคมะเร็ง ความรัก ความ หวั ง ดี ข องมิ ต รภาพยิ่ ง มาจากเพื่ อ นทั้ ง หลายเหล่ า นี้ แ ละเพื่ อ นคนอื่ น ๆ อี ก จำนวนมาก

143 งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı


บ ท ที่ 9

ที่ ใดอบอุ่นเท่าครอบครัวไม่มี คนที่มีครอบครัวควรจะบอกได้ว่าเป็นคนที่โชคดี ยิ่งใครที่มีครอบครัวที่อบอุ่น ด้ ว ยแล้ ว ยิ่ ง ถื อ ว่ า เป็ น คนที่ โ ชคดี ม ากขึ้ น มี ค นจำนวนไม่ น้ อ ยในสั ง คมที่ เ ป็ น ผู้ยากไร้ที่ขาดครอบครัว คนเหล่านั้นเป็นคนที่ขาดที่พึ่งพาที่จะให้ความอบอุ่น สังคมโดยรวมของพวกเราทุกคนจึงควรเป็นครอบครัวให้กับพวกเขา ให้พวก เขารู้ สึ ก ว่ า สั ง คมใหญ่ นั้ น เป็ น ครอบครั ว ใหญ่ ที่ ค นจะพึ่ ง พาซึ่ ง กั น และกั น ได้ ไม่มีความรู้สึกถูกทอดทิ้ง ผมเป็นคนโชคดีที่มีครอบครัวที่อบอุ่นที่ทำให้ผมสามารถทำอะไรก็ได้ ตามที่ ผ มปรารถนาและใฝ่ ฝั น คนบางคนอาจจะมี ค วามฝั น ความปรารถนา มากมายแต่ก็มีภาระในครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ เช่น ต้องดูแลพ่อแม่ ต้อง รั บ ผิ ด ชอบน้ อ ง ๆ ทำให้ เ ขาขาดโอกาสที่ จ ะทำอะไรดั่ ง ใจปรารถนาในการ สร้างสรรค์ความฝันของตน สำหรับผมเองนั้นสามารถโลดเล่น วิ่งเต้น ผลัก 144

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


±  h µÈ Ä i Ç À £²°§h ² ¡Á °Ä¡h i ­ £± ´ ­ ­°Ä£Ã £­ £± § À¥¢ ±É Á hÀ Ç §²¡£¹iª¶ §h² ¡ ° i­ ¡µ §²¡£± ´ ­ h­ £­ £±§À£´È¡À ´ ¶É £´ Æ Ç À ¡·È ­ ¡¡µ ¥¹ à i ² « ¶È ±É Ç £¹i ª¶ §h ² À s §²¡Â µ ­ À£² µÈ À £² À ´ ¡²Ä¡h i­ £± ´ ­ ­°Ä£¡² ± Á hà ­µ i² « ¶È ±É ¥¶ Æ À¡·È­Â ¶É Ç ¡µ §²¡£¹iª¶ ´ ­¢¹hÀ«¡·­ ± µÈÀ£²­² ° ¹Á¥ £­ £±§ ­ À£² i­¢À ´ Ä ± µÈ ¡Ä i ¥h²§Ä§ià i Æ §h² ¡À s ¥¹ ª¸ i­ à £­ £±§ µ ² ° ² ¥² h­Á¡h ³¡² i² ²¢­¢¹hà ¢h² À¢²§£² §²¡ µÈÀ s ¥¹ À¥Ç ­ µÈ i ­ ³Ã«i ¡Á Ä¡h i ­ £± ´ ­ ­°Ä£À¥¢À¡·È ­ À µ ¢ ± µÈ Æ Á h¥° ²£ µÈ £­ £±§¡µ ² ° ² ¥² ±É Á¥ ¡² ² ²£ ³ ² ­ h­ Á¡h Á¥° µÈÆ ¸ ¡µÁ h ¡À h² ±É µÈÁ Ä¡h¡µ ²£°­°Ä£À¥¢ ¡ ¶ À s À µ¢§Ã i² µÈ¡µÂ­ ²ªÀ£µ¢ ¡«²§´ ¢²¥±¢Ä i  ¢ µÈ µÈ Æ ­ ¡ ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

145


Á h¥° ±É i­ £h§¡ ± £± ´ ­ £­ £±§ ³Ã«i § À ²¡µÂ­ ²ª ² ²£ ¨¶ ©²Ä¡h À h ² ± µÈ ¡Ä i £± §²¡ µÈ ¡µ à £­ £± § ­¢ ¹ Á ¥ ¡­¢h ² µ ¡ ² ¥­ ³Ã«i µ§´ §±¢À Ç ­ ¡Á Ä¡h¡µ­°Ä£ ·È À i Â¥  «£·­ i­ ´É £ h§¢À«¥·­ À­ À h²Ä£ ± À¡·È­À£µ¢ ±É ¡± ¢¡ µÈ£ À£µ¢ À £µ¢¡­¸ ¡¨¶ ©² Ǫ­ À i²À£µ¢ h­ ¡«²§´ ¢²¥± ¢ Á ¡Ã ° ±É ª­ Ä i ¸  ¥± ¡  ¶È ° ³Ã«i ¡¡µ  ­ ²ªÄ À£µ ¢ à £° ± £´ ² £µ µÈ £°À ¨­­ªÀ £À¥µ ¢ ­µ i § ¢ §± µÈ £° ²¨ ¥§h ² ¡ª­ h ² i ­ À µ ¢ ¸  ¥± ¡  £ ± §± µÈ £° ²¨§h ² ¡ª­ À i ² ° Á ¢¨²ª £l ¡«²§´ ¢²¥± ¢ ¡«´ ¥Ä i ¡ ¶ ± ª´ à ª¥°ª´ ´Ì ¸  ¥± ¡  À £²° ° ±É ¸ Á¡h ¶È £± Á¥°«h§ â ¡¡²Â ¢ ¥­ À s «h§ §h² ¡À s ¥¹ À¥Ç Ä¡h À ¢ h § ¢À«¥· ­ ± § À­ ­°Ä£À¥¢ Ä¡h À ¢­­ «h ² ² i ² «² °Ä 146

ı ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l


อยู่ เ มื อ งนอกเมื อ งนาคงจะลำบาก จึ ง ไม่ อ นุ ญ าตให้ ผ มไป ตั ว ผมเองนั้ น เนื่ อ งจากทุ น ดั ง กล่ า วให้ โ อกาสไปเรี ย น 5 ปี แต่ ต้ อ งกลั บ มาเป็ น อาจารย์ มหาวิ ท ยาลั ย ชดใช้ ทุ น อี ก 10 ปี ความรู้ สึ ก ที่ เ ป็ น เสรี ช นไม่ อ ยากถู ก อะไร ผู ก มั ด ยาวนานถึ ง ขนาดนั้ น จึ ง ตั ด สิ น ใจสละสิ ท ธิ์ ทุ น ดั ง กล่ า ว การตั ด สิ น ใจใน ส่ ว นของผมนั้ น เป็ น ไปโดยที่ ผ มไม่ ไ ด้ บ อกคุ ณ แม่ แม่ จึ ง เข้ า ใจตลอดว่ า ที่ ผ ม ไม่ไปเรียนเมืองนอกเพราะแม่ห้ามไว้ไม่อนุญาตให้ไป เมื่ อ เข้ า ร่ ว มกิ จ กรรมนั ก ศึ ก ษาจนกระทั่ ง เกิ ด เหตุ ก ารณ์ 6 ตุ ล าคม 2519 และผมเป็ น ผู้ ห นึ่ ง ที่ ถู ก ประกาศตามจั บ ตั ว จากทางราชการ ต้ อ งหลบ ซ่ อ นจากการถู ก ตามจั บ กุ ม เหตุ ก ารณ์ ค รั้ ง นั้ น ทำให้ ผ มได้ เ ห็ น ถึ ง ความรั ก ความห่ ว งใยของแม่ ที่ มี ต่ อ เราอย่ า งแท้ จ ริ ง ผมหลบการตามจั บ อยู่ ที่ บ้ า น ญาติซึ่งแม่ได้มาอยู่เป็นเพื่อนด้วย คืนหนึ่ง ผมตื่นขึ้นมาตอนตี 2 ได้ยินเสียง แม่ ร้ อ งไห้ จึ ง เดิ น ออกมาถามแม่ ว่ า แม่ ร้ อ งไห้ ท ำไม แม่ บ อกว่ า ท่ า นคิ ด ไม่ ถึ ง เลยว่าผมจะต้องมาตกอยู่ในสภาพที่ต้องหลบหนีการตามจับจากทางราชการ เช่นนั้น รู้อย่างนี้ท่านไม่น่าจะห้ามไม่ให้ผมไปเรียนที่ประเทศออสเตรเลย ถ้า ให้ ผ มไป คงไม่ เ กิ ด เหตุ ก ารณ์ เ ช่ น นี้ ไม่ ต้ อ งมาหลบ ๆ ซ่ อ น ๆ เหมื อ นเป็ น ผู้ร้าย ผมบอกแม่ว่าผมไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้เป็นผู้ร้ายฆ่าคนหรือทำร้ายใคร เพี ย งแต่ มี ค วามคิ ด เห็ น ทางการเมื อ งต่ า งจากรั ฐ บาลเท่ า นั้ น และที่ ไ ม่ เ รี ย น ออสเตรเลียก็ไม่ใช่เพราะแม่ห้ามแต่เป็นการไม่ไปโดยที่ผมเป็นผู้ตัดสินใจเอง ด้ ว ย คราวนั้ น ผมรู้ สึ ก สะเทื อ นใจที่ เ รากลายเป็ น ภาระทำให้ ค นที่ รั ก เราต้ อ ง เสี ย ใจและห่ ว งใยเราเช่ น นั้ น นี่ ข นาดเราแค่ ห ลบซ่ อ นตั ว หากเราหนี เ ข้ า ป่ า หายไปเลย แม่จะยิ่งเสียใจขนาดไหน ความรู้สึกสะเทือนใจยิ่งเกิดมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปกว่า 20 ปีหลังจากนั้น ผมสังเกตเห็นคุณแม่ทานเจ ทุกปี ปีละ 1 เดือน ก็เลยถามแม่ว่าทำไมแม่ทานอาหารเจทุกปีแม่มีเหตุผล พิ เ ศษอะไรหรื อ เปล่ า คำตอบของแม่ ท ำให้ รู้ สึ ก ถึ ง ความรั ก ความห่ ว งใยของ แม่ที่มีให้ผม แต่ไม่เคยบอกให้ผมฟังมาเลยตลอดกว่า 20 ปีว่า ที่ท่านทาน 147 งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı


เจทุกปี ปีละ 1 เดือนนั้นเพราะตอนเกิดเรื่องที่ผมถูกตามจับ แม่ได้อธิษฐาน กั บ เจ้ า แม่ ก วนอิ ม ว่ า หากผมอยู่ ร อดปลอดภั ย จากเหตุ ก ารณ์ ค รั้ ง นั้ น แม่ จ ะ ทานเจทุ ก ปี ปี ล ะ 1 เดื อ นถวายเจ้ า แม่ ก วนอิ ม ซึ่ ง เมื่ อ ผมอยู่ ร อดพ้ น จาก เหตุการณ์ครั้งนั้นจริง ๆ แม่ก็เลยทานเจทุกปี ปีละ 1 เดือนมากว่า 20 ปี ตั้ง แต่นั้น แม่ จ ะคอยสั่ ง สอนผมอยู่ เ สมอว่ า “เวลาที่ เ ราคิ ด ว่ า เราแย่ ตกยาก ลำบากโชคร้าย ให้มองคนที่แย่ตกยากลำบากโชคร้ายกว่าเรา เวลาที่เราคิด ว่าเราดีมีความสำเร็จแล้ว ให้มองคนที่ดีมีความสำเร็จมากกว่าเรา” คำสอน นี้มีความสำคัญกับผมมาก เพราะหลาย ๆ ครั้ง ทำให้เรามีกำลังใจไม่ท้อถอย เมื่ อ เราประสบปั ญ หา ขณะเดี ย วกั น ทำให้ เ ราไม่ เ ย่ อ หยิ่ ง เมื่ อ เรารู้ สึ ก ประสบ ความสำเร็จ เมื่ อ คุ ณ แม่ ป่ ว ยด้ ว ยมะเร็ ง ตั บ อ่ อ น ซึ่ ง ผมก็ ป ระมาณว่ า คุ ณ แม่ ค งจะ อยู่ ไ ด้ อี ก ไม่ น าน ด้ ว ยความรู้ สึ ก ว่ า ผมได้ ดู แ ลคุ ณ แม่ ม าไม่ ม าก จึ ง ทำให้ ผ ม พยายามที่ จ ะใช้ ช่ ว งเวลาระหว่ า งนั้ น ให้ ดี ที่ สุ ด เพื่ อ ตอบแทนสิ่ ง ที่ คุ ณ แม่ เ คย ให้เรามาตลอดชีวิต ขณะนั้นคุณแม่อายุ 86 ปีแล้ว ผมจึงขอให้คุณหมอเรวัต ซึ่ ง เป็ น แพทย์ รุ่ น น้ อ งที่ ดู แ ลคุ ณ แม่ ผ มอย่ า งดี ใ ห้ ก ารรั ก ษาโดยเน้ น ที่ คุ ณ ภาพ ชีวิตของคุณแม่เป็นหลัก ไม่ต้องใช้ยาที่รุนแรงซึ่งจะทำให้คุณแม่ทรมาน และ ผมก็ถือโอกาสทำในสิ่งที่ตั้งใจมานานแต่ไม่มีโอกาสได้ทำ ก็คือบวชให้กับแม่ ซึ่ ง ผมพบว่ า เป็ น สิ่ ง ที่ ท ำให้ คุ ณ แม่ มี ค วามสุ ข เป็ น อั น มาก และเป็ น ความภาค ภู มิ ใ จอั น เดี ย วที่ ผ มได้ ท ำให้ กั บ คุ ณ แม่ คุ ณ แม่ อ ยู่ กั บ โรคมะเร็ ง ตั บ อ่ อ นได้ 3 ปีกว่าก็เสียชีวิต ในขณะที่มีอายุได้ 89 ปี ท่านเสียชีวิตไปครึ่งปีก่อนที่ผมจะ พบว่ า ตั ว เองเป็ น มะเร็ ง ยั ง คิ ด อยู่ ว่ า โชคดี ที่ ผ มมาพบว่ า เป็ น มะเร็ ง หลั ง จาก คุ ณ แม่ สิ้ น บุ ญ แล้ ว ไม่ เ ช่ น นั้ น ผมคงเป็ น ที่ ห่ ว งใยของท่ า นและทำให้ ท่ า นไม่ สบายใจอีกเป็นอันมาก แม่เป็นผู้หญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตคนที่หนึ่ง 148

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


¹i« ´ µÈ¢´È ë µÈª¸ µÈª­ Ç ·­ ££¢² ­ ¡ «¥± ² À« ¸ ²£ l « ¥ h ­ à £²§ ±É ³Ã«i ¡ ±É à §h ² «² °¡µ £­ £± § ­ À­ à ­ ² ££¢² ­ ¡ ° i ­ À s µÈ À «Ç i § ¢ ± ª´È µÈ À £² ³Á¥° £i ­ ¡ °£± ´ ­ ± £­ £± § h ­ ² À£² «² §h ² À£²¡µ §± µÈ ° i­ «¥ h­ «£·­« µÄ ­¢¹h µÈà µÈ« ¶È À«¡·­ µÈÀ ´ ¶É à §± ±É Á¥° ¥²¢ À s ¸ ª¡ ± ´ i­« ¶È ­ ¹i« ´ µÈ ¡ ´ §h² °Á h ² i§¢ §²¡ ´ À h ±É À¡·È ­ ¡² § ¢i ­ «¥± Á¡i £¹i ª¶ §h ² ° ¹ µ ª ³«£± ª± ¡ Á h Ç£¹iª¶ Ä¡hÀ s ££¡ ± ± ¹i« ´ µÈ i­ ¡²­¢¹h ± À£² Á¥°À £²°¡µ §²¡ ´ À h ±É ³Ã«i ¡Á h ² i ² §h ² À ·È ­ ¹ ªh § ë h ¢À ¥µÈ¢ ­ª¡ §£ ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

149


¡Ã iÀ§¥²Ã ²££¹i ± ± £´ Æ ± ¸ «¡­­ ´§± l ££¢² ­ ¡ À µ ¢ h § À§¥²ª±É Æ £²§ £¶È u h ­ µÈ À £² °Á h ² ± À ­ ­ ¡§h ² À ­ ­¢² ³Ã ª´È µÈ ¡ ³­¢¹h à c r ­¢¹h Á hÀ ­Ä¡h ± ± ±É À ­ ­À s ¹i h§¢Ã«i ¡ ³Ä ià ª´È µÈ ¡Ã c r ­¢² ³ µ §´ £­ £± § µÈ Á h ² ± ¡² i § ¢ §²¡ µÈ ¡Ä¡h À ¢£± ´ ­ £­ £± § ­°Ä£ ± µÈ ¥h ² §¡²Á¥i § À ­ ¶ À s µÈ £± ´ ­ £­ £± §  ¢ ªh § ë h Ä¡h §h ² °À s ²£ ± ²£ ²¢Ã i ² ²£ £± £¸ i ² ²£ ¹ Á ¥ §²¡ ² À«¥· ­ h ² Æ ­ i ² ¡À­ Ä i ¡µ ªh § £± ´ ­ à ²£ ¹ Á ¥Ä¡h ¡² ± ²¡ªÄ ¥l ¥¹ À¥Ç µÈ À ´  ¡²­¢h ² ¡µ ­·È ¹ Á ¥ ¡À£´È ¡ ¡²¡µ ªh § £h§¡ ¹Á¥ £­ £±§ £´ Æ ± Æ Ç h­À¡·È­À£²À£´È¡¡µ¥¹ i§¢ ± Á¥i§ 150

ı ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l


แม้ เ ธอจะบอกว่ า เธอแต่ ง งานกั บ ผมเพราะเธออยากเป็ น ผู้ ช่ ว ยให้ ผ ม ทำในสิ่งที่ผมใฝ่ฝันให้สำเร็จ แต่คงจะเป็นไปได้ยากมากในความเป็นจริงและ ก็คงจะไม่เป็นธรรมอย่างมากด้วย หากจะคิดว่าผู้หญิงคนหนึ่งแต่งงานอยู่กับ ผู้ ช ายอี ก คนหนึ่ ง เป็ น เวลานั บ สิ บ ๆปี เพี ย งเพื่ อ ในความฝั น ของผู้ ช ายนั้ น บั ง เกิ ด ผลเพราะโดยความเป็ น จริ ง มนุ ษ ย์ ทุ ก คนก็ ค วรจะมี ค วามฝั น ของ ตนเองด้วยกันทั้งนั้น ดั ง นั้ น ผมจึ ง สนั บ สนุ น ในเบื้ อ งต้ น ให้ เ ธอมี ค ลิ นิ ก ของตนเองที่ พ อจะ อยู่ ไ ด้ อ ย่ า งมั่ น คง ซึ่ ง เธอก็ ท ำได้ ส ำเร็ จ เป็ น อย่ า งดี เธอเองก็ ช่ ว ยเหลื อ ผม โดยดู แ ลครอบครั ว ไม่ ใ ห้ ผ มต้ อ งพะวงหน้ า พะวงหลั ง ในขณะที่ ก ำลั ง สร้ า ง ความฝั น ของตนเองซึ่ ง ผมต้ อ งยอมรั บ ว่ า หากขาดซึ่ ง เธอคอยรั บ ผิ ด ชอบหมั่ น ดู แ ลครอบครั ว ให้ ผมก็ ค งจะไม่ ส ามารถที่ จ ะทุ่ ม เทสร้ า งความฝั น ตามที่ ผ มมี ดั่งที่ได้ทำมา ดังนั้นหากผมจะเป็นผู้ที่ได้ทำอะไรให้กับสังคมบ้าง เธอเป็นผู้หนึ่งที่มี ส่ ว นอย่ า งมากในการร่ ว มทำสิ่ ง นั้ น ให้ เ กิ ด ขึ้ น โดยเฉพาะในการสร้ า งหลั ก ประกั น สุ ข ภาพถ้ ว นหน้ า เช่ น เดี ย วกั บ เพื่ อ นคนอื่ น ๆ ที่ ร่ ว มผลั ก ดั น งานอยู่ กั บ ผม ในวั น ที่ ผ มได้ ค้ น พบว่ า มะเร็ ง ได้ ม าเยื อ นผม เธอร้ อ งไห้ ทั้ ง คื น จนกระทั่ ง ผล็ อ ยหลั บ ไปอยู่ ใ นวงแขนของผม เธอบอกผมว่ า เธอประมาณการไม่ ไ ด้ ว่ า หลั ง จากนั้ น จะมี พ ายุ ที่ ร อถาโถมใส่ เ ราอยู่ อี ก กี่ ลู ก แต่ เ ธอแน่ ใ จว่ า วั น เวลา หลังจากนั้นที่ผมพบว่ามีมะเร็งในตัวนั้นชีวิตครอบครัวของเราคงจะไม่เหมือน เดิ ม แน่ ๆ เราคงจะต้ อ งพร้ อ มสำหรั บ การผจญกั บ เหตุ ก ารณ์ ต่ า งๆ และจะ ต้องเตรียมตัวรับไว้ให้ได้ เธอบอกผมว่ า ในชี วิ ต ของเธอนั้ น มี อ ยู่ เ พี ย งสองสิ่ ง เท่ า นั้ น ที่ เ ธอตาย ให้ได้นั่นก็คือสามี และลูก นั บ แต่ วั น นั้ น มา เธอได้ ค่ อ ยๆถ่ า ยงานในสำนั ก พิ ม พ์ ใ ห้ กั บ น้ อ งสาว ของเธอ ลดเวลาทำงานให้คลินิกของเธอจากสัปดาห์ละ 4 วัน เป็นสัปดาห์ 151 งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı


ละ 3 วั น กระทั่ ง จนเหลื อ สั ป ดาห์ ล ะวั น และไม่ ไ ด้ ท ำคลิ นิ ก เลยซั ก วั น ใน ปั จ จุ บั น เพื่ อ ที่ จ ะให้ เ วลากั บ การเป็ น เพื่ อ นผมไปรั บ การรั ก ษาพยาบาลทุ ก ครั้ ง หรื อ แม้ แ ต่ ก ารเป็ น เพื่ อ นผมในการไปเที่ ย วในที่ ต่ า งๆ ทั้ ง ๆ ที่ เ ธอเป็ น คนไม่ ชอบเที่ ย วเหมื อ นกั บ ผม ก่ อ นหน้ า นั้ น เราจึ ง ไปเที่ ย วกั น เป็ น ครอบครั ว กั บ ลู ก ด้ ว ยเฉลี่ ย แล้ ว ปี ห นึ่ ง 1-2 ครั้ ง เท่ า นั้ น ครั้ ง หนึ่ ง ในประเทศและครั้ ง หนึ่ ง ใน ต่ า งประเทศ เธอจะไปเที่ ย วสองต่ อ สองกั บ ผมน้ อ ยมาก เพราะเธอห่ ว งและ ไม่ต้องการให้ลูกอยู่กับบ้านนานๆ โดยที่เราสองคนไม่ได้อยู่ด้วยเนื่องจากลูก ของเรายังเล็ก เมื่อพูดถึงลูก ขณะที่มะเร็งมาเยือนผมนั้น ลูกของผมทั้งสองยังเด็ก คนโตชื่อน้องพลอยอายุอยู่ระหว่าง 13 ปีย่าง 14 ปี ในขณะที่คนเล็กชื่อน้อง เพื่อนอายุระหว่าง 11 ปีย่าง 12 ปี ยังเด็กและเล็กเกินกว่าที่พ่อแม่จะปล่อย วางความห่ ว งใยได้ หากน้ อ งพลอย-น้ อ งเพื่ อ นจบมหาวิ ท ยาลั ย แล้ ว ผมกั บ ภรรยาก็ ค งไม่ ต้ อ งมานั่ ง ห่ ว งใยในอนาคตของลู ก ทั้ ง สองในขณะที่ โ รคมะเร็ ง มาเยือน ว่ า กั น ตามจริ ง นั่ น เป็ น สาเหตุ ใ หญ่ ที่ สุ ด อั น หนึ่ ง ที่ ท ำให้ ผ มบอกกั บ ตนเองว่ า จะต้ อ งต่ อ สู้ ใ ห้ มี ชี วิ ต ยื น ยาวที่ สุ ด เท่ า ที่ จ ะยื น ยาวได้ เพราะยิ่ ง ผม สามารถอยู่ ม ากปี ขึ้ น ไปลู ก ทั้ ง สองก็ ค งโตขึ้ น มาเป็ น เงาตามตั ว และเมื่ อ ลู ก ๆ ทั้ ง สองโตขึ้ น อย่ า งน้ อ ยเข้ า เรี ย นในมหาวิ ท ยาลั ย ได้ ความเป็ น ห่ ว งของผมก็ คงจะลดลงมาก พ่ อ แม่ เ กื อ บทุ ก คนก็ ค งจะเป็ น คล้ า ยๆกั บ ผม ผมประมาณ การว่ า หากจะให้ เ ป็ น เช่ น นั้ น ได้ ผมจะต้ อ งต่ อ สู้ กั บ โรคมะเร็ ง และมี ชี วิ ต ต่ อ ให้ ยื น ยาวที่ สุ ด อี ก อย่ า งน้ อ ย 7 ปี แต่ ใ ครเล่ า จะไปกำหนดชี วิ ต ตั ว เองได้ ว่ า จะ อยู่ได้ยาวนานอีกแค่ไหน น้ อ งพลอย-น้ อ งเพื่ อ นโดยพื้ น ฐานเป็ น เด็ ก ที่ ฉ ลาด ผมกั บ ภรรยา พยายามจะปลู ก ฝั ง ให้ ลู ก ๆ มี ค วามฝั น ของตนเองที่ จ ะทำอะไรให้ เ กิ ด ผล สำเร็ จ ทั้ ง กั บ ครอบครั ว และสั ง คม พวกเราพยายามให้ ทั้ ง คู่ ไ ด้ รั บ การศึ ก ษา 152

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


£° ± ·É ² µÈ À µ ¢ ­Á h ²£¡µ ª± ¡ ¡²­² µ À ·È ­ À s À £·È ­ ¡· ­ µÈ ° ³Ã«i §²¡Ã c r ­ § À ² £°ª §²¡ª³À£Ç ±È À s §²¡ £²£ ² µÈ ¡À­ Ç Ä ¡h Á h à §h ² ¡µ µ §´ ­¢¹h ¢ ²§ ² ­ µÈ ° ³Ã«i § À ²¡µ §²¡ª²¡²£ à ²£ ¹ Á ¥ À­ µÈ µ °À µ ¢ § ± Ç ¡µ §²¡ r à µ §´ µÈ § À ² ° h ­ ª¹i À ·È ­ ëi µ §´ ¡µ ¸ h ² ±É ± À­ Á¥°ª± ¡ Ä i Á hÀ£² Ç i­ ¢²¢²¡ ³Ã«iÀ ´ ¶É ëi¡² µÈª¸ ¡ ± ££¢²Ä¡hÄ i t ± ¥¹ Æ Ã À£·È ­ ²£À Ç c § ¢ ­ ¡ Á h ° ¹ ­¢h ² ª£i ² §²¡À i ² à ëi ¥¹ À ·È­Ä¡hëi¥¹ À ´ §²¡ ± §¥¡² ± Á¥°Ã«iÀ ´ §²¡¡±È à §h² £­ £±§ ±É ¢± ¡µ §²¡¡±È £­ £± ­¢¹h ¸ £±É µÈ § À£² ¹ À£·È ­ ²£À Ç Ä i Ä i c § ¢ ­ ¡ ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

153


154

ı ² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l


ให้ ลู ก ฟั ง น้ อ งพลอยจะร้ อ งไห้ ทุ ก ครั้ ง ด้ ว ยความที่ เ ป็ น คนที่ อ่ อ นไหวกว่ า น้ อ ง เพื่อนที่เด็กเกินกว่าที่จะแสดงอะไรออกให้เห็นมากนัก อย่ า งไรก็ ต ามเป็ น ความภาคภู มิ ใ จอย่ า งมากสำหรั บ ผมที่ ก ำลั ง เจ็ บ ป่วย เมื่อน้องเพื่อนขณะที่อายุ 12 ปี ยินยอมที่จะบวชเป็นเณรเพื่ออุทิศบุญ กุ ศ ลให้ กั บ พ่ อ แม้ จ ะเพี ย งช่ ว งสั้ น ๆ ไม่ น านนั ก อาจเป็ น เพราะน้ อ งเพื่ อ นมี ความดีของตนตั้งแต่เด็กๆ บวกกับผลบุญที่ผมได้บวชอุทิศให้แม่ในขณะที่แม่ ป่วยทำให้น้องเพื่อนยินยอมบวชเป็นเณรเพื่อผม เมื่อถูกชักชวนจากแม่ ผมเองเชื่ อ มั่ น ว่ า น้ อ งพลอยถ้ า เป็ น เด็ ก ผู้ ช ายก็ ค งจะบวชให้ พ่ อ เช่ น กัน ความกตั ญ ญู ที่ ลู ก ๆได้ แ สดงออกทำให้ ผ มมี ค วามสุ ข และรู้ สึ ก โชคดี จริงๆที่เราได้มาอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น ผู้ ห ญิ ง ที่ ยิ่ ง ใหญ่ ค นที่ ส ามในชี วิ ต ผมก็ คื อ พี่ ส าวผมชื่ อ วี ร ะพร นิ ต ยา รัมภ์พงศ์ ว่ า กั น ตามจริ ง แล้ ว โดยทั่ ว ไปในครอบครั ว ในปั จ จุ บั น แม้ จ ะแยกบ้ า น เรื อ นออกไปเมื่ อ เติ บ โตขึ้ น ความสั ม พั น ธ์ ใ นหมู่ พี่ น้ อ งระหว่ า งครอบครั ว เดิ ม กั บ ครอบครั ว ที่ ส ร้ า งใหม่ ถึ ง จะยั ง มี ค วามสั ม พั น ธ์ ติ ด ต่ อ ดู แ ลกั น อยู่ บ้ า ง แต่ ก็ มีน้อยที่พี่น้องจะติดตามดูแลกันอย่างใกล้ชิด ผมเป็นคนโชคดีที่พี่ๆ ไม่ว่าจะ เป็นพี่ชาย พี่สาว โดยเฉพาะพี่วีระพรของผมจะติดตามดูแลน้อง ๆ ทุกคนไม่ ขาดโดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ ความที่ ค รอบครั ว เดิ ม ของผมทุ ก คนต้ อ งทำงานหนั ก อย่ า งที่ ผ มได้ กล่ า วแล้ ว แต่ ค นที่ ท ำงานหนั ก มากที่ สุ ด และเป็ น หลั ก ของครอบครั ว ก็ คื อ พี่ วีระพร แม้ว่าโดยทั่วไปในครอบครัวคนจีน ภาระหนักจะเป็นของพี่ชายคนโต แต่ เ นื่ อ งจากพี่ ช ายคนโตของผมในขณะนั้ น ยั ง โตไม่ พ อจะดู แ ลรั บ ผิ ด ชอบได้ มากนัก พี่วีระพรซึ่งเป็นพี่สาวจึงกลายเป็นคนดูแลครอบครัวมากกว่าคนอื่นๆ และด้วยความที่เป็นเช่นนั้น พี่วีระพรจึงดูแลผมต่อเนื่องมาโดยตลอด 155 งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı


เมื่ อ ผมพบว่ า เป็ น มะเร็ ง ภรรยาผมต้ อ งการให้ เ ราย้ า ยออกจากบ้ า น เดิ ม โดยเร็ ว เพราะอยากให้ ไ ปอยู่ ใ นบรรยากาศหมู่ บ้ า นที่ มี ต้ น ไม้ ที่ ร่ ม รื่ น กว่ า บ้ า นใหม่ ที่ ผ มอยู่ ใ นปั จ จุ บั น ครึ่ ง หนึ่ ง ของราคาบ้ า นที่ ซื้ อ นี้ พี่ ส าวคนนี้ ข องผม เป็นคนออกเงินให้ ความจริงพี่สาวผมได้เสนอให้ผมซื้อบ้านหลังใหม่มาหลายปีแล้วโดย ยินดีจะออกงบประมาณให้ครึ่งหนึ่งแต่ผมไม่ยอม เนื่องจาก รู้สึกว่าเราได้พึ่ง ครอบครัวมาแต่เด็กแล้ว เมื่อมีครอบครัวของตนเอง อยากมีบ้านใหม่ก็ควร จะหาซื้อด้วยลำแข้งของตนเอง นอกจากนั้น ตอนที่อยากจะซื้อบ้านใหม่อายุ ก็ย่างเข้า 50 ปีแล้ว อายุขนาดนั้นหากยังต้องพึ่งทุนทรัพย์จากพี่ของตนเอง อยู่ก็รู้สึกไม่สบายใจนัก แต่เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา การตัดสินใจจึงปล่อยให้ เป็ น ของภรรยาจะปรึ ก ษากั บ พี่ ส าวเองจนกระทั่ ง เราได้ ย้ า ยมาอยู่ ใ นบ้ า นที่ อ ยู่ ในปัจจุบัน ผมมารู้ สึ ก ว่ า พี่ ส าวเหมื อ นเป็ น แม่ ค นที่ ส องก็ เ มื่ อ แม่ ผ มจากไปแล้ ว และผมเจ็บป่วยขึ้นมา เพราะพี่จะมาเยี่ยมเกือบจะทุก 2 อาทิตย์ และทุกครั้ง ที่มาก็จะนำอาหารสุขภาพมาให้มากมาย พี่ ส าวผมค่ อ นข้ า งมี ค วามเชื่ อ มั่ น ว่ า ผมจะหายขาดจึ ง มาให้ ก ำลั ง ใจ ผมเป็นระยะๆ ผมเองก็ พ ยายามสร้ า งความเชื่ อ มั่ น ให้ กั บ พี่ ส าวเหมื อ นกั น ว่ า จะ หายขาดได้ เ พื่ อ ไม่ ใ ห้ พี่ ส าวและครอบครั ว เป็ น ห่ ว งทั้ ง ๆ ที่ ผ มกั บ ภรรยาก็ ไ ม่ สบายใจอยู่ ต ลอดเวลาที่ ตั ว ชี้ วั ด มะเร็ ง ในระดั บ เลื อ ดของผมไม่ เ คยกลั บ สู่ ระดับปกติเลยทั้ง ๆ ที่ได้ให้ยาอย่างสม่ำเสมอ และเมื่ อ ผ่ า นไป 3 ปี ก ว่ า ๆ อาการโรคของผมกำเริ บ ชั ด เจนอี ก ครั้ ง หนึ่ง ครั้งนี้ผมยิ่งเห็นความห่วงใยของพี่ที่มีกับผมที่ไม่แตกต่างไปจากแม่เลย เธอจะมาเยี่ ย มผมเกื อ บทุ ก อาทิ ต ย์ ไปไหว้ พ ระที่ เ ธอเคารพบู ช า ไป ทำการสะเดาะเคราะห์ ต ามแบบที่ เ ธอเชื่ อ ถึ ง ขนาดทราบมาว่ า เธอไปขอแลก 156

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


อายุเธอเพื่อมาต่ออายุให้กับผม ด้ ว ยความรั ก ความห่ ว งใยที่ ทุ ก คนในครอบครั ว มี ใ ห้ กั บ ผม ผมจึ ง รู้ สึกจริงๆ ว่า ที่ใดอบอุ่นเท่าที่ครอบครัวไม่มี

157 งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์ ı


บ ท ส่ ง ท้ า ย เป็นโชคดีของผมที่มีโอกาสได้ซึมซับวิธีคิดอย่างหนึ่งมาจากรั้วมหาวิทยาลัย ในยุ ค สมั ย ที่ นิ สิ ต นั ก ศึ ก ษาเป็ น กำลั ง สำคั ญ ของการพั ฒ นาประเทศและสั ง คม ไทย โชคดี ที่ ห ลั ง ออกจากมหาวิ ท ยาลั ย ผมได้ เ ข้ า สู่ ห้ อ งเรี ย นชี วิ ต ใน ชนบทที่ทุรกันดารที่สุด ผู้ ค นยากจนที่ สุ ด จนทำให้ ผ มเกิ ด ความตั้ ง ใจที่ จ ะเปลี่ ย นแปลงและ ได้ลายแทงชีวิตไปสู่สิ่งที่เรียกภายหลังว่า “หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” รอยเท้าที่เดินนำอยู่ก่อนหน้าของอาจารย์หลายท่าน เป็นโชคดีที่ช่วย ให้ ผ มเดิ น ไปบนเส้ น ทางที่ ตั้ ง ใจโดยไม่ ต้ อ งเสี ย เวลาพลั ด หลงไปเหมื อ นคน อื่น ๆ ทั้งยังดูแลโอบอุ้มให้ผมไปต่อได้ด้วยดีทั้งในเรื่องงานและครอบครัว 158

ı งานกั บ อุ ด มคติ ข องชี วิ ต นพ.สงวน นิ ต ยารั ม ภ์ พ งศ์


À ·È­ µÈ i­ µÈ£h§¡ ² ± ¡² ·­  µ ­ µ§´ µÈ ³Ã«i ² µÈ ¡ £± ¥²¢À s £¹ À s £h²  ¢ µÈ § À ² h² ¸h¡À ëi ± ²£ ³ ² ­¢h² À Ç¡ µÈ À £²°À£² h² ¡µÀ d²«¡²¢À µ¢§ ± Á¥°ª¸ i ² ¢ £­ £± § µÈ µ · ­ ² £² µÈ ª ± ª ¸ ¡ ±É Á h £±É ¢± À Ç À£µ¢ « ± ª·­ ³ ² Á¥° £° ±È ¹Á¥À¡·È­À Ç c§¢

¡ ´ §h²Ä¡h ´ ± µÈ ° ­ §h² m ¡À s  µn

² ± ­¸ ¡ ´ ­ µ §´ ª § ´ ¢²£± ¡ l ¨l ı

159



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.