สารเจาอาวาส พี่นองที่รัก ขอตอนรับเขาสูปใหม เปนปที่นารักมากๆ เลยครับ เพราะเปนปกระตาย ป 2011 นี้ เปนปที่ พวกเราจะฟ นฟู ชี วิ ตคริ สตชนของเรา ทํ าให เป นป ที่ มี ความสุ ขป หนึ่ งที เดี ยว เมื่ อเรามี พระอยู กั บเรา ความสุขก็ไมหนีไปไหน เมื่อไรเราอยูหางจากพระ อะไร ๆ ก็เริ่มที่จะไมสุขเสียแลวทุกครั้งไป อาทิตยนี้ ยังเปนวันสมโภชพระคริสตเจาแสดงองค คนโบราณแบบพอชอบเรียกวา ฉลอง Epiphany (เอบีฟานี ) เราระลึกถึงเรื่องสําคัญๆ 2 ประการนะครับ เรื่องสําคัญเรื่องแรกก็คือ พระผูไถเสด็จมา เพื่อคน ทุกชาติ ทุกภาษา พระองคแสดงพระองคเองแดทุกคน โดยมีนักปราชญสามทานจากชนชาติตางๆ เปนผูแทน แสดงวาทุกคนมีสิทธิ์แสวงหาพระผูไถพระองคนี้ได มีสิทธิ์ไดรับความรอดจากพระองค ดวยกันทุกคน ประการที่สอง เราระลึกถึงการให นักปราชญทั้งสามก็ เปนผูแทนเราอีกนั่นแหละ พวกทานนําเอาสิ่งที่ดีที่สุดและมีความหมายมากที่สุดมาถวายพระกุมาร เราคงตองถามตัวเองแลวละ ครับวา คริสตมาสปนี้เราคิดจะใหอะไรพระเยซูเจาบาง หรือยังไมไดคิดเลย อาว! แลวมัวแตไปคิดถึง อะไรอยูละ คิดถึงใครอยูละ ในเมื่อนี่คือวันเกิ ดของพระเยซูเจา แตเรากลับมัวแตไปหาของขวัญใหใคร ตอใคร และใหแกตัวเราเอง พอวาในเทศกาลนี้ถาจะมีใครสักคนสมควรไดรับของขวัญ ก็คงตองเปน พระเยซูกุมารนี้แหละครับที่ควรไดรับมากที่สุด วันนี้เราจึงตองมาคิดถึง “การให” และเราแตละคน สามารถใหอะไรไดบาง มีเด็กสาววัยรุนคนหนึ่งไปขอพบคุ ณพอเจ าวัดของเธอ เธอมีทองกับแฟนหนุมที่เธอรักมาก นี่คือปญหาใหญมากในชีวิตของเธอ และก็ไมรูจะไปพึ่งใครไดนอกจากพระสงฆ สิ่งที่เธอขอใหพอองคนั้น ช ว ยก็ คื อ ขอให ช ว ยเธอพ น จากป ญ หาด ว ยการทํ า แท ง คุ ณ พ อ ถามเธอว า “ทํ า ไมเธอจึ ง อยาก ทําแทง” คําตอบก็คือ เธอรักแฟนหนุมคนนี้มาก และเขาก็บอกวาถาเธอไมทําแทง เขาก็จะทิ้งเธอไป เธอไมอยากสูญเสียเขาไป พูดงาย ๆ ก็คือ ยอมฆาลูก เพื่อรักษาแฟนเอาไว คุณพอบอกเธอวา ขอให เธอทําตามที่พอขอรอง 3 ประการ แลวจะพบทางออกที่ดีซึ่งเธอก็ยอมทุกประการ คือ พอขอใหเธอ สวดภาวนาดวยกัน คุยกับคุณหมอที่พอรูจัก และสุดทายก็คือ นั่งชมวีดีโอเกี่ยวกับการใหกําเนิดดวยกัน หลังจากนั้น บางอยางดลใจผูหญิงคนนี้ เธอกลับบานไปดวยจิตใจที่สับสน คุณพอองคนั้นรูสึกเปนหวงจึงคุกเขาลงสวดภาวนาตอหนารูปแมพระแหงกวาดาลูเป ซึ่งเปน องคอุปถัมภของผูที่มีครรภทั้งหลาย ฝากเด็กสาวคนนั้นไวกับพระนาง จากนั้นหนึ่งป เด็กสาวคนนั้นมา เคาะประตูบานพอพรอมทั้งนําทารกนอย เปนเด็กผูหญิงมาดวย มาขอบคุณพอที่ชวยใหเธอพบสิ่งที่เธอ เรียกวา “สมบัติล้ําคา” ที่สุดในชีวิตของเธอ และที่แปลกไปกวานั้นก็คือ เธอไดกลายเปนผูที่มีความ ศรั ท ธาต อ แม พ ระแห ง กวาดาลู เ ปอย า งมาก เธอตั้ ง ใจจะสอนลู ก สาวของเธอให มี ค วามรั ก ต อ แมพระเชนกัน เห็นมั้ยครับ นีค่ ือการใหชีวิต แทนที่จะทําลาย เปลี่ยนมาเปนการให และเมื่อใหแลว ก็เปนการรับที่มีความสุขที่สุด พอนึกภาพเอาเองนะครับ ถาเด็กหญิงคนนี้ทําแทง เธอจะตองรูสึกผิดไป
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 2
ตลอดชีวิต เปนทุกขไปตลอดและก็ไมไดหมายความวา แฟนหนุมจะรักเธอมากขึ้น ดีไมดีอาจจะทิ้งเธอ ไปเลยก็ได เธอจะไดรับอะไรบาง เพียงการให “ชีวิต” เธอก็ไดรับความสุขที่สุดแลว การใหชีวิตกับใครสักคน ชวยใหเขามีชีวิตที่ดีขึ้น เปนกําลังใจใหเขา ใหมิตรภาพ ใหความสัมพันธ ที่ดี เปนของขวัญที่มีคามาก การใหอภัย การคืนดีกันก็เปนการใหที่มีคาอยางยิ่ง พวกเราสามารถเปน ผูใหไดโดยไมจําเปนตองไปหาซื้อที่ไหน ทุกสิ่งเหลานี้อยูในใจของเราทุก คน และเปนสิ่งที่มีความหมาย อยางมากที่สุดดวย ใหเราเขาไปหาพระกุมารเจาของเรา พรอมดวยของขวัญชิ้ นหนึ่ง เปนของขวัญที่มาจากหัวใจ ของเราแตละคน ไปบอกพระองค วา ของขวัญของเราคืออะไร แล วพี่นองจะเห็ นพระกุ มารยิ้มอยางมี ความสุข ความสุขนั่นก็เปนของเราดวย สวัสดีปใหม พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 2 มกราคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 3
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก อาทิตยนี้เราฉลองพระเยซูเจาทรงรับพิธีลาง แมวาจะเปนพระเจาและไมมีทางที่จะมีบาปอะไรเลย พระองค ก็ทรงถอมองคลงมาปฏิบัติตามกฎเกณฑของโมเสส นี่แหละครับเราถึงไดเห็นความสําคัญของศีลลางบาป เรื่องสําคัญ เรื่องแรกก็คือ ศีลลางบาปทําใหเราเปนบุตรสุดที่รักของพระ “ผูนี้เปนบุตรสุดที่รักของเรา เปนที่โปรดปรานของเรา” สิ่งที่ตามมาก็คือ เมื่อเราเปนบุตร เราก็เปนทายาทดวย นั่นคือมีสวนในอาณาจักรสวรรค เปนสมาชิกของพระศาสนจักร ความสําคัญของวันฉลองนีอ้ ีกอยางหนึ่งก็คือ พระเจาทรงเสด็จลงมาเปนเหมือนเรามนุษยทุกประการ เวนแตบาป ถาจะให พอ ใชคําแรงหนอยก็ตองใชคําวา พระเจาลงมาเกลือกกลั้วกับคนบาปอยางเราก็เพื่ออยูทามกลางเราและชวยเราพระองค ก็เลยทําทุกอยางเหมือนเรา เกิดเหมือนเรา ลางบาปเหมือนเรา มีทุกขมีรอนเหมือนเรา ก็เทากับเปนคนอยางเรา พอเปน เหมือนเรา เราก็เลยรับพระองคได เขาใจพระองคไดดีขึ้น พูดถึงเรื่องการลงมาเกลือกกลั้วกับคนบาปพอก็นึกถึงคุณพอ ดาเมียน พระสงฆชาวเบลเยี่ยม ตอนนี้ไดรับการประกาศเปนนักบุญแลว ใน ศต.ที่19 โรคเรื้อนไดระบาดในหมูเกาะฮาวาย จนตองสรางอาณานิคมสําหรับคนโรคเรื้อนขึ้นที่เกาะไมโลกาย คนโรคเรื้อนทั้งหมดถูกยายมาอยูที่เกาะแหงนี้หลายพันคน ครับ ไมมีพระสงฆองคไหนสมัครมาอภิบาลคนโรคเรื้อนเหลานี้ แตพอดาเมียน พระสงฆเพิ่งบวชมาใหม ๆ สมัครมาทํางาน คนโรคเรื้อนเหลานี้มีการปลอยตัว ไมสนใจพระแลว ใชชีวิตอยางสิ้นหวัง พอดาเมียน พยายามอยางไร พวกเขาก็ไมสนใจ ทานก็ยังพยายามสอน ทํางานเต็มที่แตก็ไมไดผล ทานก็ยิ่งใกลชิดกับพวกเขามากขึ้น วันหนึ่งในขณะที่ทานถวายมิสซา หลังจากที่ทํางานมา 4 ป ทานบอกกับผูมารวมมิสซาวา “พอมีขาวจะแจงใหทราบวา เวลานี้พอเปนคนหนึ่งในพวกของ เธอแลว พอเปนโรคเรื้อน ขอใหรับพอเปนสมาชิกในพวกเธอดวย” ทานลงมาเกลือกกลั้วเพื่อชวยพวกเขา เปนอยาง พวกเขา ทุกคนเห็นถึงความดีที่ทานทํา คอย ๆ ใหความรวมมือและรักทานมาก วันที่ทานเสียชีวิต คนโรคเรื้อน ทั้งเกาะ ไมโลกายมารวมพิธีฝงศพทาน ตัวอยางนี้เหมือนกับองคพระอาจารยเจาจริง ๆ ครับ พระองคเสด็จมาอยูทามกลางเรา เปนเหมือนเรา ทนทุกขทรมานยิ่งกวาเราซะอีก ในสมั ยที่ พระสั นตะปาปา เปาโลที่ 6 ปฏิ บั ติ หน าที่ เลขานุ การของพระองค คื อ พระสั งฆราช โทมั ส มาจี ทานรูสึกวาเปนผูที่ไมเหมาะสมที่จะทําหนาที่รับใชและติดตามพระสันตะปาปาเลย แตทานก็พยายามทําหนาที่อยางดี ทุก ๆ เชาทานจะเดินคูกับโปป ไปที่วัดนอยที่จะถวายมิสซาดวยกัน ทานจะทําหนาที่เปนเด็กชวยมิสซาโปปเสมอ วันหนึ่ง พระสั นตะปาปาตรั สกั บท านว า ตั้ งแต พรุ งนี้ เป นต นไป ท านจะเป นประธานในพิ ธี และโป ปจะทํ าหน าที่ เด็ กช วยมิ สซา ทานแทบจะเปนลม องคผูแทนพระคริสตเจาบนโลกนี้จะมาเปนเด็กชวยมิสซาใหแกทาน ทานรูสึกยิ่งไมเหมาะสมมากเขาไป อีก ทําไมพระองคจึงถอมองคลงถึงขนาดนี้ ทานนึกถึงนักบุญยอหน บัปติสตา ขึ้นมาทันที เวลาที่ยอหนจะลางบาปใหแก พระเยซูเจาทานตางหากที่ตองการการลางบาปจากพระองค แตนี่ทานกําลังจะลางบาปองคพระผูไถ พี่นองจําภาพประทับใจของในหลวงของเราไดดีนะครับ เวลาที่เราเห็นพระองคทานประทับที่สะพาน เหงื่อไหล ยอย เวลาที่พระองคทานเสด็จย่ําน้ําในที่การคมนาคมไมสะดวก ทรงประทับในเรือของชาวบาน ทรงคุกเขาลงสนทนากับ ชาวบาน อยางใกลชิดมาก ๆ ถาเหตุการณเหลานี้เกิดขึ้นกับเรา เราก็จะรูสึกถึงความรูสึกของนักบุญยอหน บัปติสตา เชนเดียวกันครับ พอเชื่อวา พระเจาทรงทําทุกสิ่งทุกอยางแลวจริง ๆ ที่จะชวยเรามนุษย ดังนั้นใหเราไดเห็นความสําคัญ ของศี ลล างบาปของเราเอง หน าที่ ของเราคริ สตชน อย าลื มว า พระเยซู เจ านั่ นทรงประทั บอยู ท ามกลางเราเสมอ เป นเหมื อนเราทุ กประการ เว นแต บาป ทุ กสิ่ งที่ พระองค สอนเราจึ งมี คุ ณค าอย างยิ่ ง ทุ กสิ่ งที่ พระองค ทรงกระทํ า ก็ยิ่งมีความหมายอยางยิ่งตอชีวิตคริสตชนของเราครับ ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 9 มกราคม 2011 ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 4
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก วั น ที่ 21 สิ ง หาคม 1879 แม พ ระได ป ระจั ก ษ ม าที่ บ ริ เ วณหน า วั ด แห ง หนึ่ ง ที่ เ มื อ ง Knox ในประเทศไอร แ ลนด นั บ เป น การประจั ก ษ ม าที่ ค อ นข า งแปลก แม พ ระประจั ก ษ ม าในลั ก ษณะที่ กําลังภาวนา แตงชุดขาว สวมมงกุฎทอง และบนศีรษะที่สวมมงกุฎนั้นมีดอกกุหลาบทองคําประดับ อยู ด ว ย ตรงนี้ ก็ ยั ง ไม แ ปลกอะไรครั บ ด า นขวาของพระนางมี นั ก บุ ญ ยอแซฟประจั ก ษ ม าด ว ย แตงชุดขาวลวน หันมาทางแมพระดวยทาทางเคารพอยางยิ่ง สวนดานซายนักบุญยวง อัครสาวก ผูนิพนธ พระวรสารยืน อยู สวมชุดขาวและดูเหมื อนชุดของสังฆราช ในมือซ ายถือหนังสือเลมหนึ่ ง ที่เปดอยู เขาใจวาจะเปนหนังสือพระวรสารของทานเอง ที่แปลกที่สุดก็คือ ดานขาง ๆ นักบุญยวงนี้เอง มี พ ระแท น ที่ มี ไ ม ก างเขนตั้ ง อยู และตรงกลางแท น ก็ มี ลู ก แกะตั ว หนึ่ ง ยื น อยู นั บ เป น ครั้ ง แรก และครั้งเดียวที่พระเยซูเจาประจักษมาในรูปของลูกแกะ และเปนการประจักษม าแบบครบทีมงาน สรางเลย เราเรียกทีมงานประวัติศาสตรแหงความรอดดีกวานะครับ การประจักษมาครั้งนั้นมีพยาน ที่ไดรับการประจักษทั้งหมดพรอมกัน 15 คน ตั้งแตอายุ 6 ขวบ ไปจนถึง 75 ขวบ มีทั้งเด็ก ผูชาย และ ผูหญิงครบถวน พวกเขายืนสวดสายประคําทามกลางฝนที่ตกลงมาตลอดเวลา 2 ชั่วโมง แตถึงกระนั้น ก็ไมมีฝนสักเม็ดเดียวที่ทําใหบริเวณนั้นเปยก สมเด็จพระสันตะปาปายอหน ปอล เสด็จมาที่สักการระ สถานแหง Knox นี้ในป 1979 โอกาสครบรอบ 100 ป แหงการประจักษ มีความหมายอยางยิ่ง เพราะเทียบไดกับการรับรองจากวาติกัน คุณแมเทเรซาแห งกัลกัตตา ก็มาเยือนสถานที่นี้ดวยในป 1993 และก็มีผูแสวงบุญมาที่นี่ปละ 1 ลานหาแสนคนทุกป ที่พอเลามาทั้งหมดนี้ พอก็ยังไมเคยไปเลย ใครมีโอกาสก็นาจะลองไปดูสักครั้งนะครับ พระเยซูเจาประจักษมาเปนรูปลูกแกะ ยอหน บัปติสตเห็นพระเยซูเจาเสด็จมาหาตนจึงกลาววา “นี่คือลูกแกะของพระเจา ผูทรงลบลางบาปของโลก” ทานรูทันทีวานี่คือพระเจา และจะเปนผูที่ตองสละ ชีวิตเพื่อผูอื่น เหมือนกับลูกแกะบริสุทธิ์ การประจักษมาที่ Knox ก็เทากับยืนยันวา พระเยซูเจาทรงเปน ลูกแกะพระเจา นักบุญยอหน บัปติสตามองเห็นพระเยซูเจ าในทามกลางฝูงชน มองปุบก็เห็นพระองค เปนดั่งลู กแกะทั นที เดี๋ ยวนี้พระองคก็ยั งคงให เรามองหาในทามกลางฝูงชนเชนเดี ยวกัน บางคนก็ มองเห็ น บางคนก็ ม องไม เ ห็ น คํ า สอนของพระองค บ อกเราอย า งชั ด เจนเลยครั บ ว า พระองค อ ยู ทามกลางเรา ใครจะอยูทามกลางเราตลอดเวลาไดนอกจากเพื่อนพี่นองของเรานั่นเอง ในขณะที่ม นุษย อยา งเราตอ งการใหคนมองเราในฐานะผูมี เกียรติ มี ความรู มีสกุ ล มี ฐานะ มีชื่อเสียง แตพระเจาใหเราพบพระองคไดในทามกลางผูต่ําตอยทั้งหลาย ในคนยากจน ขัดสน และ ตองการความชวยเหลือ คนที่หิวกระหาย เรากําลังอยูในระหวางการคนหาพระเจาครับ ในทามกลาง โลก ในป ค.ศ.383 จักรพรรดิ Theodosius แหงอาณาจักรโรมัน แตงตั้งลูกชายคือ Arcadius ใหเปนจักรพรรดิรวมกับพระองค ตอนนั้นมีลัทธิสอนผิด ๆ อยูลัทธิหนึ่งชื่อ Arianism สอนวา พระเยซูเจาไมมีสภาวะพระเจา เปนแตมนุษยเทานั้น และจักรพรรดิก็ดูเหมือนวาจะสนับสนุนการสอนนี้ ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 5
ซะดว ย พระสั งฆราช Amphilochus ก็ไ มคอ ยจะพอใจนัก วัน สวมมงกุ ฎจัก รพรรดิข อง Arcadius พระสังฆราชองคนี้เดินเขามาคํานับ Theodosius โดยไมยอมหันไปมองและทําความเคารพ Arcadius เลย จักรพรรดิจึงตําหนิวา “ทานไมใสใจลูกชายขา ที่ขายกขึ้นมาเสมอเปนจักรพรรดิเทาขาเลยหรือ ” พระสังฆราชหันไปอวยพร Arcadius และกลาววา “พระเจาจะวาอยา งไรเลา ในเมื่อทานลดระดับ พระบุตรแตองคเดียวของพระองคลงมาเปนเพียงมนุษยเทานั้น พระองคจําวันที่ยอหน บัปติสลางบาป พระองคที่แมน้ําจอรแดนไดหรือไม” เรามนุษยแสวงหาอะไรตอมิอะไร ในโลกนี้จนบางครั้งเราก็ไมไดแสวงหาพระเจา หรืออาจจะ แสวงหาพระบางก็ในเวลาที่เราตองการเทานั้น แตอยาลืมนะครับวา พระองคอยูทามกลางเราเสมอ ในทามกลางฝูงชน ในทามกลางพี่นองของเรา พระเจาประทับอยูครับ
ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 16 มกราคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 6
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก กอนอื่ นหมดในฐานะเลขานุ การเกาของพระคาร ดินัล มีชัย กิจบุ ญชู พ อขอใหพี่น องระลึกถึ ง พระคุณเจาเนื่องในโอกาสวันเกิดครบรอบ 82 ป ในวันพรุงนี้คือ 24 มกราคม 2011 วันเวลากําลัง ลวงเลยไปก็จริง แตก็ทําใหพอกลับคิดถึงวันเกา ๆ ของพระคุณเจามากขึ้น บางวันก็นึกอยากจะเขียน บทความ “คิดถึงพระคารดินัล” อยากจะเลาอะไร ๆ ใหฟงบางวาพระคุณเจาปกครองสังฆมณฑลดวยความ รอบคอบเพียงใด ดวยจิตใจที่เต็มไปดวยเมตตา เขาใจ และไดใจบรรดาพระสงฆและสัตบุรุษมาก เพียงใด พระคุณเจาไมคอยไดใชอํานาจไปตามใจตัวเอง แตจะทําดวยความรอบคอบและพิจารณาอยางดี แลวจริง ๆ พระคุณเจาจึงเปนผูที่มีบารมีซึ่งมาจากความรักและความเคารพของบรรดาพระสงฆและ สัตบุรุษทั่วไปอยูเสมอจนกระทั่งพนหนาที่แลว บารมีที่พอพูดถึงนี้ก็ยังมีอยูไมเสื่อมคลาย ขอใหพี่นองได สวดภาวนาสําหรับพระคุณเจาของเราเปนพิเศษดวยนะครับ ชีวิ ตของพระคาร ดินั ลเปรียบได กับ เรื่ อ งที่ พอ จะเลา ใหฟ งนี้ น ะครับ ที่อ าสนวิห ารของเมื อ ง โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมารก มีรูปปนอยูรูปหนึ่ง ปนจากดินเหนียว โดย Bertel Thorvaldsen ศิลปนผูมีชื่อเสียงของประเทศนี้ เขาปนรูปพระเยซูเจาที่กําลังเงยหนาขึ้นมองฟา พรอมทั้งยกมือทั้งสอง ขึ้นฟาดวย แสดงใหเห็นถึงพระเยซูคริสตเจาผูไดรับชัยชนะ เขานั่งมองรูปที่เขาเพิ่งปนเสร็จดวยความพึง พอใจ คืนนั้นเองน้ําทะเลไดเขามาทวมบานของเขารวมทั้งหองที่เก็บรูปปนนี้ดวย น้ําทะเลทําใหรูปปนดิน เหนียวนี้ออนตัวลง คราวนี้ก็เกิดเรื่องสิครับ ศีรษะของพระเยซูเจาที่เงยหนาขึ้นฟา กลับกลายเปนคอตก กมลงดิน มือทั้งสองขางก็พลอยตกลงมา ลําตัวของพระเยซูเจาก็โคงงอลงมาดวย มองดูก็คลาย ๆ กับ พนักงานโรงแรมที่คอยโคงตอนรับแขกที่จะมาพัก Thorvaldsen ผิดหวังมากเมื่อเขามาพบแบบนี้เขา เขาจับจองมองรูปนี้อีกครั้งหนึ่ง เขาพบวา พระเยซูเจาในมุมมองนี้ชางออนโยน สุภาพ แสดงถึง ความเปนผูมารับใช และเชื้อเชิญ เปนพระผูมีพระทัยเมตตากรุณา เขาจึงเก็บรูปนี้ไว และเขาเขียน ขอความที่ฐานของรูปนี้ดวยวา “จงเขามาหาเราเถิด” คนจํานวนมากที่ไดมาเห็นรูปนี้และรูประวัติของรูปนี้ ก็ไดรับการดลใจ และเขาใจพระผูทรงนารักอยางยิ่ง พระเยซูเจาเปนไดทั้งสองแบบครับ แบบที่ไดรับชัยชนะ หรือแบบที่สุภาพถอมตน รับใชและเชื้อเชิญ พระคารดินัลของเราเลือกแบบรับใชและเชื้อเชิญครับ พระวรสารอาทิตยนี้ ก็ชางมาตรงและเหมาะเจาะดีเหลือเกิน พระเยซูเจาทรงเลือกผูมารวมงาน พระองคเลือกชาวประมง เปโตรและอันเดร ยากอบและยอหน ชาวประมงที่มีขีดจํากัดทั้งเรื่องความรู และนิ สั ย ใจคอ พระองค เ ชื้ อ เชิ ญ คนเหล า นี้ ม าทํ า หน า ที่ ที่ สํ า คั ญ และก็ ส อนให พ วกเขารั บ ใช ด ว ย ความสุภาพถอมตน อยาไปทะเยอทะยานอะไร ประวัติศาสตรพระศาสนจักรก็สอนเราอยางชัดเจนวา ในบรรดาผูที่พระเรียกมาทํางานนี้ลวนแลวแตมีขีดจํากัดมีขอบกพรองดวยกันทั้งนั้น เปโตร ปากกลาแต ขี้ขลาด พระสันตะปาปา พระสังฆราชในพระศาสนจักรก็ลวนแตทําอะไร ๆ ที่ไมควรทํา มาแลวทั้งนั้น เราสามารถมองเห็นขอบกพรองของบรรดาพระสงฆ นักบวชทั้งหลาย ก็เพราะวา เขาก็ยังคงตองการ การเปลี่ ยนแปลง เขาก็เปนเหมื อนเราเหมือนกัน อภัยกั นเถอะครั บ อย าไปโกรธไปเกลี ยดกั นอี กเลย ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 7
ให โ อกาสแก กั น และกั น ในการแก ไ ขบ า ง ทํ า แบบพระเยซู เ จ า นะครั บ เอาหน า ก ม มองดิ น ดู ห น อ ย เอามือลงมา กมตัวลง เราก็จะเปนอีกคนหนึ่งในอีกมุมมองหนึ่งครับ พี่นองยังคงจําภาพพิธีฝงพระศพพระสันตะปาปายอหน ปอลที่ 2 ไดนะครับ (1 พ.ค. 2011 นี้ จะไดรั บการประกาศเปนบุญราศี แล วครับ ) เปนพิธี ฝงพระศพที่เรียบง ายที่ สุด โลงพระศพทําดวยไม ไมมีการตกแตงใด ๆ บนโลงพระศพ หรือแมแตรอบ ๆ โลงพระศพ ตั้งอยูกลางลานมหาวิหาร มิใช ในมหาวิ หาร แต อยู ท ามกลางบรรดาพระคาร ดิ นั ล สั งฆราช และพระสงฆ สั ตบุ รุ ษมากมายมหาศาล มาใหเกียรติกับพระสันตะปาปาผูสุภาพถอมตนมากที่สุดองคหนึ่ง พระองคกมลงจูบแผนดินที่พระองค เสด็จเยี่ยมดวยความเคารพและใหเกียรติ ทรงเยี่ยมเยียนคนทุกเผาพันธุ และที่สุดพระศาสนจักรกําลัง จะใหเกียรติแดพระองคเปน บุญราศีองคหนึ่ง นี่คือชีวิตที่มาจากความสุภาพ ถอมตน ผูที่ปกครอง พระศาสนจักร ดวยการรับใช และเชื้อเชิญ พระเยซูเจาทรงเชื้อเชิญเราทุกคน ใหทําแบบนี้เชนเดียวกันครับ “จงตามเรามาเถิด”
ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 23 มกราคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 8
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก ในป 1978 พระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 สิ้นพระชนม ในการประชุมเลือกตั้งพระสันตะปาปาองคใหม (Conclave) ไดเลือกพระคารดินัลชาวอิตาเลียนองคหนึ่งเปนพระสันตะปาปา ตอนนั้นไมมีใครคิดเลยวา พระคารดินัลองคนี้จะไดรับเลือกเพราะวาทานไมใชตัวเก็ง ทานมีนิสัยยิ้มแยมแจมใส สุภาพถอมตน และ ก็ไม มี เครื่ องหมายใดๆ บ งบอกเลยว าจะได รั บเลื อกพระสั นตะปาปาองค นี้ มี นามว า ยอห น ปอลที่ 1 นาเสียดายครับ พระองคสิ้นพระชนมหลังจากขึ้นดํารงตําแหนงเพียง 33 วันเทานั้น กําลังเปนที่รักของ บรรดาคริ สตชนเพราะความสุ ภาพถ อมตนที เดี ยว พระองค เคยตรั สกั บเลขานุ การของพระองค ว า ผูสืบตําแหนงของเราก็คือพระคารดินัลที่นั่งตรงขามเราเองในการเลือกตั้ง เลขานุการของพระองคก็ยัง ไมเขาใจจนกระทั่งมีการเลือกตั้งพระคารดินัลจากประเทศโปแลนด มาเปนพระสันตะปาปาที่มีพระนามวา ยอห น ปอลที่ 2 ไม เคยมี ใครคิ ดอีกเหมื อนกันว าจะมี การเลื อกพระสั นตะปาปาที่ ไม ใช ชาวอิ ตาเลี ยน ยิ่งกวานั้นยังมาจากประเทศคอมมิวนิสตอีกดวย แถมในการเลือกตั้งก็มิใชเปนที่รูจักและกลาวถึงเลย ที่ประชุ มพยายามเลื อกพระคาร ดินัลสององค แตก็ ไมสามารถลงเอยได ที่สุ ด พระจิตเจาก็นํ าใหเลือก พระสันตะปาปา ยอหน ปอลที่ 2 พระองคเปนผูสุภาพถอมตน มีความศรัทธาและสวดภาวนาเสมอ ทุมเท ทํางานในสังฆณฑลอยางเต็มที่ เรื่องที่แปลกก็อยูตรงนี้เองครับ เมื่อเลขานุการนั้นนําเอาแผนผังที่นั่งในที่ ประชุมเลือกตั้งยอหน ปอลที่ 1 มาดู ก็พบวา พระคารดินัลจากโปแลนดนั่งอยูตรงขามกับพระองคจริง ๆ ด ว ย พระสั น ตะปาปายอห น ปอลที่ 1 ทราบได อย า งไรว า ผู รั บตํ า แหน งของพระองค จ ะเป น ใคร แตพระองคไมทราบเลยว าจะรวดเร็วถึงขนาดนั้น พระเจาทรงเลือกผูรับใช พระองค จากบุคคลที่โลก ไมคาดคิด เลือกสรรคนไงเขลาในสายตามนุษยมารับใชพระองค ในป 1989 พระอัครสังฆราชแหงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส กําลังเทศนในอาสนวิหาร Notre Dame ทานไดเลาเรื่องหนึ่งใหบรรดาคริสตชนฟง ทานเลาวา มีชายหนุม 3 คนชอบทองเที่ยวไปตาม ที่ตาง ๆ ในทวีปยุโรป วันหนึ่งพวกเขาเขาไปชมอาสนวิหารแหงหนึ่ง เพื่อนสองคนเดินผานที่ฟงแกบาป จึงทาทายใหเพื่อนคนที่สามใหเขาไปที่ฟงแกบาปและไปสารภาพบาป (เลน ๆ) เพื่อนคนนั้นก็รับคําทา เดินเขาไปในที่ฟงแกบาป และบอกกับพระสงฆในที่นั่นวา “ผมรับคําทาทายของเพื่อนเขามาในนี้ คุณพอจะ พู ด อะไรก็ จ งรู ด ว ยว า ผมไม เชื่ อ อะไรทั้ ง นั้ น และไม ส นใจอะไรทั้ งนั้ น ” คุ ณพ อองค นั้ นจึ งตอบว า “ดูเหมือนวาเธอจะชอบการทาทาย อยางนั้นพอขอทาเธอใหเดินไปที่หนาแทน มองดูไมกางเขนและพูดวา “พระองคตายเพื่อผม แตผมไมสน” เขาก็รับคําทาเชนเดิมดวยใจคะนอง เดินมาที่หนาแทน มองดูกางเขน และพูดวา “พระองคตายเพื่อผม แต...” ถึงตอนนี้เขาพูดไมออก อํานาจและพลังของไมกางเขนไดเขามา อยูในจิตใจของเขา เขาไมกลาพูดวาไมสนใจกับเรื่องอยางนี้ เมื่อทานพูดมาถึงตรงนี้ พระคุณเจาก็อธิบาย ตอไปวา “พี่นองที่รัก เด็กหนุมคนที่พอเลานี้ ก็คือ พอเอง” ไมนาเชื่อเลยใชมั้ยครับ พระเจาจะทรงเรียก เด็กหนุมที่คึกคะนอง ไมมีความเชื่ออะไรเลย ปฏิเสธคําสั่งสอนตาง ๆ คนหนึ่งใหมาเปนพระสงฆและที่สุด
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 9
เปนพระอัครสังฆราชแหงปารีส พระคุณเจาองคนี้ตองสุภาพถอมตนอยางมากที่เลาเรื่องที่นาอับอายนี้ใหแก สัตบุรุษไดฟง “พระเจาทรงเลือกสรรคนที่โลกถือวาออนแอ เพื่อทําใหผูแข็งแรงตองอับอาย” จุดประสงคของพระก็คื อ “เพื่อมิใหมนุ ษยโออวด” นั่นก็คือให เราทุกคนเปนคนสุภาพถอมตน อยาจองหอง อยาทะเยอทะยาน ถาจะโออวด ก็จงโออวดในองคพระเปนเจาเถิด” พระเยซูเจาจึงทรงสอน บุญลาภ 8 ประการ ซึ่ งลวนแตสอนใหเราสุภาพถอมตน โลกของเราทุกวันนี้มีแตการโออวดตนเอง ที่ ร ายที่ สุ ดก็ คื อ โอ อวดว าตนเป นคนศั กดิ์ สิ ทธิ์ กลั บกลายเป นคนดู ถู กคนอื่ น มองคนอื่ นเป น คนไม ดี สรางกฎสรางเกณฑใหคนอื่นทําราวกับพวกฟาริสี ในขณะที่ใหคนอื่นมองตนใหสงู สง ดวยเหตุนี้พระเยซูเจา จึ งต องรั บมื อกั บพวกฟาริ สี และคั มภี ร จารย ค อนข างหนั ก เพราะคนเหล านี้ มั กจะออกแนว จองหอง เราทุกคนก็พึงระวัง บาปจองหองไวเสมอ ๆ นะ ทุกวันนี้เรายังมีฟาริสีใหเห็นอยูในทุกวงการเลย ครับ
ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 31 มกราคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 1 0
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก พอมีปญหาสองอยางเกี่ยวกับพระวรสารอาทิตยนี้ที่พระเยซูเจาสอนใหเราเปน เกลือ และแสงสวาง คือเปน เกลือดองแผนดิน และ เปนแสงสวางสองโลก สองใหเห็นพระเจาบนโลกใบนี้ ปญหาแรกของพอก็คือ ทําอยางไร จึงจะเรียกวาเปน เกลือและเปนแสงสวาง ปญหาที่สองก็คือ เราจะเปนเกลือดองโลกอันใหญโตนี้ และฉายแสงใหแก โลกใบนี้ไดอยางไรกัน มันคงใหญเกินไปสําหรับเราแน ๆ ประกาศกอิสยาหตอบเราวา เปนเกลือดองแผนดินก็ คือ “แบงปนอาหารกับผูหิวโหย นําคนยากจนเขามาในบาน ใหเสื้อผาแกผูที่ไมมี ใหความชวยเหลือพี่นอง” ก็แปลได วา เราตองชวยกันดองสังคมของเราดวยคําพูดที่บริสุทธิ์ ดวยความประพฤติที่บริสุทธิ์ และดวยความคิดที่บริสุทธิ์ ตัว เราต องเป นเกลื อเสีย กอนจึ งจะไปดองสัง คมได เราต องดองสั งคมของเราด วยการต อสู กับโรคร ายในสัง คม การคดโกง ความอยุติธรรม ยาเสพติด การพนัน การไรหลักศีลธรรม พูดงายๆ ก็คือเราอยาไปทําสิ่งเหลานี้เสียเอง ตรงขามเรากลับตองชวยเหลือผูอื่นใหหลีกพนจากสิ่งชั่วรายตาง ๆ ถาจะถามวาแลวเปนแสงสวางคืออะไร พอก็ วาจะเปนอะไรก็ไดที่เราทําแลว คนทั้งหลายมองเห็นพระ “เพื่อคนทั้งหลายจะไดเห็นกิจการดีของทาน และสรรเสริญ พระบิดาของทานผูสถิตในสวรรค” นี่ก็เห็นชัด ๆ แลววาไมใชเปนการทําความดีโชวใหเห็นถึงตนเอง ใหคนชม ถาเปน แบบนี้ก็คือพวกฟาริสี เราเปนแสงสวางเวลาที่เรามอบความรักของเรา เวลาที่เรา มีเมตตา กรุณา เวลาที่เราอภัย เวลาที่เรารับใชผูอื่นดวยความสุภาพถอมตน พอเชื่อเหลือเกินวาเราทุกคนตางมีประสบการณการเปนเกลือและแสง สวางมาแลวไมมากก็นอย ปญหาที่สองก็คือ เราจะดองโลกใบใหญใบนี้ไดอยางไรกัน จะฉายแสงใหแกคนทั้งโลกไดอยางไร มีอาจารย ทานหนึ่งกําลังเดินเลนที่ชายหาดทะเลอันกวางใหญและยาวไกลสุดลูกหูลูกตา เขามองเห็นเด็กคนหนึ่งกําลังเดินอยู ตามชายหาด กมลงหยิบอะไรสักอยางและขวางลงไปในทะเล ทําอยูอยางนี้ตลอดเวลา เขาเดินเขาไปถามเด็กคนนี้ วา ทําอะไรอยู คําตอบก็คือ ผมกําลังชวยชีวิตปลาดาวที่อยูตามริมหาด อาจารยคนนี้ก็เลยจะชี้ทางสวางใหแกเด็ก บอกวา เธอจะทําไปทําไม ปลาดาวมีอยูบนหาดไมรูกี่ลานตัวตลอดชายหาดอันยาวไกลสุดลูกหูลูกตา เธอไมมีทาง ชวยไดหมดหรอก เด็กคนนั้นก็กมลงหยิบปลาดาวขึ้นมาหนึ่งตัวและขวางลงไปในทะเล พูดวา ตัวนี้รอดครับ เด็กคนนี้คง ไมไดหวังการณใหญที่จะชวยปลาดาวทั้งหาด แตชวยปลาดาวเทาที่สามารถทําไดตางหาก คําตอบของเด็กกลับเปนแสง สวางใหแกเราได เพราะเด็กคิดอยางซื่อ ๆ และทําอะไรดวยใจซื่อ การกระทําและจิตใจแบบนี้ทําใหเราเห็นพระเจาได และเขาใจพระองคได มีแมคนหนึ่งพาลูกชายวัย 10 ขวบเขาไปชมวัดที่สวยงามมากแหงหนึ่ง ในวัดนี้มีกระจกสีอยู มากมาย และกระจกสีเหลานี้ ก็เปนรูปของบุคคลตาง ๆ รวมทั้งรูปของนักบุญตางๆ อยูดวย เด็กคนนี้ชี้ไปทาง กระจกสีที่มีรูปนักบุญแลวถามแมวา แมครับ นั่นใคร แมตอบวา พวกเขาเปนนักบุญ เด็กพูดขึ้นวา ผมรูแลววา นักบุญ คือใคร นักบุญก็คือคนที่แสงอาทิตยสองผานพวกเขาออกมาได ซื่อดีมั้ยครับ และก็เปน ความจริง เปนคําจํากัดความ ของนักบุญที่เขาใจงายที่สุด เรามองนักบุญเราเห็นแสงสวาง แสงสวางนีส้ องผานชีวิตของทานเพื่อใหเราไดเห็น โลกใบนี้กวางใหญจริง ๆ นะครับ พระศาสนจักรก็พยายามเต็มที่ที่จะดองโลกใบนี้ใหคงความดี ความงาม เอาไว พระศาสนจักรใชการถายทอดโทรทัศน ประกาศพระวรสาร จัดพิมพสื่อดี ๆ ตาง ๆ ตอสูกับสื่อที่ไมดีทั้งหลาย สงมิชชันนารีไปประกาศพระวรสารทั่วโลก ใชดาวเทียม ใชวิทยุและทุกสิ่งที่มีในโลกอินเตอรเน็ท พยายามเก็บปลาดาว ทั้งหาดโยนลงไปในทะเลเพื่อชวยชีวิตพวกมันไว จะไดแคไหนก็ไมรูนะครับ แตพวกเราก็สามารถที่จะเปนเกลือและเปน แสงสวางไดในบานของเราเอง ในครอบครัวเรา ในที่ทํางาน ในโรงเรียนของเรา ทุกแหงเพราะเราเปนคริสตชนในทุก หนแหง อยาลืมครับ ถาเราไมรักษาความเค็มไว เราก็ไรประโยชนจริง ๆ ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *
6 กุมภาพันธ์ 2011 ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 1 1
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก วันพรุงนี้คนจํานวนไมนอยจะเฉลิมฉลองวันวาเลนไทน วันแหงความรัก ฟง ๆ ดูก็นารักดีและ นาจะมีความหมายถาเรามนุษยรูจักใชวันนี้อยางถูกตอง ก็เทากับถือตามคําสอนของพระเยซูเจาไดเลย นาเสียดายจริง ๆ ที่คนจํานวนไมนอยจะใชวันนี้อยางโงเขลา และไรความหมายโดยสิ้นเชิง อาจจะนําไปสู ความผิดหลงครั้งใหญก็ได ขอใหพี่นองชวยกันระมัดระวังอิทธิพลอันไมถูกตองนี้ อยาใหเขามาระบาด ในครอบครั วของเราจนมากเกิ นไป ความหลงผิ ดเกิ ดขึ้ นได เสมอ พระวรสารอาทิ ตย นี้ พระเยซู เจ า ก็ทรงสอนใหเราพบกับบัญญัติตาง ๆ มีคําสอนในเรื่องศีลธรรมที่แตกตางกันไป พระองคจึงสอนเราให เขาใจอยางชัดเจนในเรื่อง บาปฆาคน บาปอุลามก การลวงประเวณี บาปสําคัญ ๆ ทั้งนั้นเลย รวมถึง การหยารางและการไมใหอภัยตอกัน ถาเราเขาไมถึงพระวาจาของพระ หรือเขาใจไมดีพอ ความผิดหลง ยอมเกิดขึ้นไดอยางไมนาเชื่อ พี่นองลองฟงเรื่องนี้ดูนะครับ George Barna เปนนักสังคมวิทยาและ เปนนักทําโพลที่มีชื่อเสียง ที่สําคัญคือเขาเปนคาทอลิกเมื่อเร็ว ๆ นี้เขาทํา การสํารวจในประเทศอเมริกา โดยสรุปไดวา “ชาวอเมริกันเคารพนับถือพระคัมภีร แตโดยสวนใหญแลว พวกเขาไมไดอานพระคัมภีร และ เพราะวาไมไดอานพระคัมภีร พวกเขาเปนชนชาติที่อานพระคัมภีรไมออก” เขาใชศัพทคําวา “Illiterate” ซึ่งแปลวาอานหนังสือไมออก ขอมูลที่เขาไดรับจากการสํารวจก็มีโดยสรุปไดแบบนี้ครับ - คนนอยกวาครึ่งหนึ่งของผูใหญในอเมริกาเทานั้นที่รูวาพระวรสารทั้งสี่เลมนั้น ชื่ออะไรบาง - ชาวอเมริกัน 60% ไมสามารถทองบัญญัติ 10 ประการได เขาจะทองไดไมเกิน 5 ขอ เทานั้น - 80 % เชื่อวาสุภาษิตอเมริกันที่กลาววา “พระเจาจะทรงชวยผูที่ชวยตนเอง” เปนคํากลาว ในพระคัมภีร (ซึ่งไมใช) - 12 % ของผูใหญคิดวา Joan of Arc เปนภรรยาของ โนอาห หรือ นอแอ (Noah) (เพราะวา Arc มีความหมายเปน เรือของ นอแอ) - 50 % ของนักศึกษาระดับอุดมศึกษา คิดวา โสดม และ โกโมราห เปน สามีและภรรยา กัน ทั้ง ๆ ที่เปนชื่อเมืองแท ๆ (ทั้งหมดนี้สํารวจในป 2006) นี่ถาหากเราไมฟงพระเยซูเจาอธิบายเรื่องบาปตาง ๆ ใหเราฟงวันนี้ บางทีเราก็อาจจะคิดว า หยารางกันเมื่อไรก็ไดหรือเราอาจจะคิดวา จะโกรธ เกลียดใครก็ได ทําบาปอุลามก ลวงประเวณีไมผิด เปนตน ความหลงผิดแบบนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นกับเราไดเชนเดียวกัน พระเยซูเจาทรงเปดเผยความจริง ทั้งหมดใหแกเรา เพียงแตเราฟงพระวาจาและมองดูชีวิตของพระองค เราก็สามารถเขาใจเรื่องเหลา นี้ ไดอยางดีทีเดียวครับ ในประเทศปารากวัย (Paraguay) ในอเมริกาใต หัวหนาครอบครัวหนึ่งเปนหมอ ไดพูดตอตาน การปกครองประเทศภายใตทหารรวมถึงเรื่องที่พวกเขาทําผิดตอสิทธิมนุษยชนในรูปแบบตาง ๆ รัฐบาล โกรธแค น จึ ง สั่ ง ให จั บ ตั ว ลู ก ชายของเขามาทรมาน และทรมานจนตาย หมอผู นี้ ไ ด ทํ า การคั ด ค า น ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 1 2
กับเรื่องนี้อยางที่สุด ในงานศพลูกชายเขาไมใหเอาศพใสโลง และวางไวบนเสื่อผืนหนึ่ง ใหทุกคนไดเห็น สภาพของลูกชายแบบที่เขาพบในคุก ในสภาพที่เปลือยเปลา รางกายเต็มไปดวยรองรอยของการถูก ไฟฟาจี้ รอยบุหรี่จี้ และรอยที่ถูกเฆี่ยนตี ทั้งนี้เพื่อใหคนทุกคนที่เห็นไดเห็นความจริงถึงความชั่วรายของ รัฐบาลนี้ นี่ เ ป น ตั ว อย า งที่ ดี ที่ ทํ า ให เ ราเข า ใจได ว า พระเป น เจ า ได ทํ า สิ่ ง เดี ยวกั น นี้ ที่ ภู เ ขากั ล วาริ โ อ พระบิดาไดใหพระบุตรของพระองคแสดงรอยแผลทุกอยางที่มนุษยคนบาปทําตอพระองคอยางแสน ทรมาน เห็นพระเยซูเจาในลักษณะนี้แลว เรายอมเห็นวา มนุษยเราชางทําบาปชั่วรายตาง ๆ มากมาย จริ ง ๆ นะครั บ หั นกลั บมาถื อ บัญ ญั ติต าง ๆ ของพระองค ดีก วา เราทุก คนจึ งต อ งพยายามเขา ถึ ง พระวาจาของพระใหมากที่สุด
ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 13 กุมภาพันธ 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 1 3
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก เราเคยพูดถึง “ผูศักดิ์สิทธิ์” ราวกับวาพวกเขาเปนคนพิเศษและอยูหางไกลจากเรามาก เราถูก สอนเสมอให คิ ดว า “เราเป นคนบาป” แทนที่ จะเป นผู ศั กดิ์ สิ ทธิ์ เราก็ เลยรู สึ กแบบนั้ น พ อคิ ดเสมอว า ผูถอมตนยอมรับความออนแอ และความบกพรองของตนเอง ก็เปนผูศักดิ์สิทธิ์ พระคัมภีรอาทิตยนี้ อธิบายใหเราฟงวา พระเจาคาดหวังใหเราเปน ชนชาติศักดิ์สิทธิ์ บางครั้งพระเยซูเจาก็พูดทํานองนี้โดยใช คําวา “เราจงเปนผูดบี ริบูรณ” คนเหลานี้เปนใครกันบางครับ ผูศักดิ์สิทธิ์ หรือคนดีบริบูรณ หมายถึง ใครก็ไดที่มีใจสุภาพถอมตน คนจองหอง อวดดี อวดตน อวดเกง แบบพวกฟาลิสี เปนไมได แนนอน หมายถึง ใครก็ไดที่ นอกจากรูจั กสวดภาวนา ใกลชิ ดกั บพระเจ ายั งมี หัวใจที่เต็มไปดวย ความรั ก ความเมตตา และหัวใจที่เต็มไปดวยการใหอภัย พ อ เชื่ อ ว า การดํ า เนิ น ชี วิ ต ด ว ยความรั ก ของพวกเราไม ย าก รั ก พระไม ย าก รั ก ลู ก หลาน รักครอบครัวก็ไมยาก การดําเนินชีวิตดวยความเมตตาก็ไมยาก เราพรอมที่จะทําบุญ พรอมชวยเหลือคน ยากจน คนดอยโอกาส เราตางก็ชอบทําบุญ ยากที่สุดก็เห็นจะไดแก การใหอภัยนี่แหละครับ ชางยากจริง ๆ พอก็เลยมาสรุปตรงที่วาใครก็ตามที่มีหัวใจพรอมจะใหอภัยเสมอ รักศัตรูของตนเองได ก็คือ ผูศักดิ์สิทธิ์ และเปนคนดีบริบูรณ ตัวอยางที่ชัดที่สุดก็คือ พระเยซูเจาเองที่ตรัสขอพระบิดายกโทษใหแกคนเหลานี้ ที่กําลังฆ าพระองค พวกเขาไมรู วากํ าลั งทําอะไร ใกล ๆ ตัวเราก็เปนพอนิ โคลาสที่เขียนจดหมายถึ ง พระคุณเจาแปรรอส ใหอภัยแกทุกคนที่ กลาวหาทานเป นพยานเท็จปรักปรําท าน บุญราศีที่ สองคอน ซิสเตอรที่เปนมรณสักขีก็เขียนจดหมาย ยกโทษใหแกผูที่ทํารายท าน มีคนจํานวนมากมายที่เจ็บแคน ศัตรู ถูกกระทําอยางแสนสาหัส และก็ยังมีหัวใจที่ใหอภัย กาวที่สําคัญที่สุดที่จะใหเราเปนผูศักดิ์สิทธิ์ ไดงาย ๆ ก็คือ การใหอภัยนี่เอง มีเรื่องที่นาประทับใจมากมายเกี่ยวกับการใหอภัย เวลาเดียวกันก็มีผูสาสมที่จะไมไดรับการอภัย มากมายเชนกั น จะสาสมหรื อไม สาสมก็คงไมมี ใครตอบไดนอกจากตัวเรา แตสํ าหรั บพระแลวทุกคนลวน สมจะไดรับการอภัยนะครับ คุณแมเทเรซาเคยพูดสอนเรื่องนี้เอาไววา ในโลกเรานี้มีผูคนที่ทํารายเราอยาง ไมถูกตอง ไมมีเหตุผล มีผูคนที่ประสงครายตอเรา แตพวกเราก็ตองใหอภัยเขาอยูดี ไมเคยมีใครบอกวา การใหอภัย เปนเรื่องงาย แตก็ไมมีใครเคยสอนวา การใหอภัยเปนเรื่องที่เปนไปไมได พี่นองคงเคยไดยินเรื่องของ ผูหญิ งชาวเวียดนามคนหนึ่ งชื่อ Kim Phúc หรือคิมฟุ ค ในระหวางสงครามเวียดนาม ทหารอเมริกันทิ้งบอมบหมูบานของเธอ พอแมพี่นองของเธอเสียชีวิต ตัวเธอ อายุเพียง 9 ขวบ ไฟลุกทวมตัว วิ่งหนีอยางตื่นตระหนกออกจากหมูบาน ไมมีเสื้อผาติดกายเลย เธอไดรับ การรักษาแผลไฟไหม เกือบ 30 ปผานไป เธอไดรับเชิญใหพูดตอหนาอนุสาวรียทหารผานศึกที่กรุงนิวยอรก เธอพู ดได ประทั บใจมากครั บ สรุ ปไดดั งนี้ คื อ “ดิ ฉั นทุ กข ทรมานอย างมาก ทั้งทางร างกายและจิ ตใจ จนบางครั้งคิดวา ไมสามารถมีชีวิตอยูไดอีกตอไป แตพระเจาประทานชีวิตใหดิฉัน พระองคประทาน ความเชื่อ และความหวัง ถาหากดิฉันมีโอกาสเผชิญหนากับนักบินที่ทิ้งระเบิดหมูบานดิฉัน ดิฉันก็จะบอก ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 1 4
กับเขาวา “เราไมสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นได แตเราควรพยายามชวยกันสงเสริมใหมีสันติภาพ ในปจจุบันและในอนาคต” หลังจากนั้นก็มีชายคนหนึ่งเขามาหาเธอ บอกเธอวา “ผมคือนักบินคนนั้นครับ ผมเสียใจ” คิมฟุคเดินเขาไปหาชายคนนั้น สวมกอดเธอ และบอกวา “ฉันรักคุณ ฉันยกโทษใหคุณ” ผูหญิง บานนอกชาวเวียดนามธรรมดาคนหนึ่งที่พระเยซูเจาสอนเธอใหรักและอภัยยังกลาหาญชาญชัยถึงขนาดนี้ เปนอํานาจที่ยิ่งใหญที่สุด แมแตผีปศาจยังตองสั่นเทาเมื่อตองเผชิญหนากับอํานาจแหงการใหอภัย ถ า เราอภั ยได เราพบความสุ ข ถ า ยั งอภั ยไม ไ ด เ รามี แ ต ทุ กข น ะครั บ อย า หมดกํ า ลั ง ใจครั บ เรื่องแบบนี้เราตองใชเวลาแตก็อยาใชเวลาทําใจ ใชเวลาใหอภัยจนตลอดชีวิตเราเลย มันนานเกินไป มันทํารายเรามากเกินไป ภาวนาใหพวกเขาเสมอ ๆ เมื่อเราสามารถภาวนาใหพวกเขาได วันหนึ่งอาศัย ความช วยเหลื อจากพระ เราจะอภั ยให ทุ กคนได อย างแน นอนจบทายด วยคํ าแนะนําว า สวดภาวนา ใหคนอื่น ๆ ทั้งหลายยกโทษใหเราดวยเชนกัน
ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 20 กุมภาพันธ 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 1 5
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก กอนพระเยซูเจ าจะสิ้ นพระชนม พระองค เรี ยกหาพระบิ ดาด วยขอความนี้ “พระบิ ดาเจ าข า เหตุไฉนจึงทอดทิ้งขาพเจาเลา” ดวยความทุกขทรมานแสนสาหัส พระองคคิดถึงพระบิดา คงอยากจะให พระบรรเทากายและใจ ทั้ง ๆ ที่พระองคไดยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นนี้ตั้งแตตนแลว ที่สุดพระองคตรัสวา “ข า พเจ า ขอมอบจิ ต วิ ญ ญาณไว ใ นพระหั ต ถ พ ระองค ” อาทิ ต ย นี้ บ ทอ า นที่ ห นึ่ ง ก็ เ ริ่ ม ด วยเสี ยงบ น ของมนุษย เสียงนั้นพูดวา “องคพระผูเปนเจาทรงละทิ้งขาพเจาองคพระผูเปนเจาของขาพเจาทรงลืม ขาพเจาเสียแลว” เวลาที่เราลําบาก เวลาที่เรามีปญหาในชีวิต เวลาที่เราเจ็บปวยทรมานมาก ๆ เราก็ อาจจะบนแบบนี้ เวลาที่เรายากจน ไมรวยสั กที หรือเวลาที่เราตกงาน และอื่น ๆ อีกมากมาย เราก็ อาจจะบนแบบนี้เหมือนกัน เราอาจคิดไดสองอยาง อยางแรก คิดวา ทําไมพระจึงใหเกิดสิ่งเหลานี้ กับฉัน หรืออยางที่สอง คิดวา พระเจาทอดทิ้งฉันเสียแลว ลืมฉันเสียแลวก็ได พอชอบคําตอบของพระในบทอานที่หนึ่ง พระองคตอบวา “หญิงคนหนึ่งจะลืมบุตรที่ยังกินนม และไมสงสารบุตรไดหรือ แมหญิงเหลานี้จะลืมได เราจะไมมีวันลืมเจาเลย” พระไมเคยลืมเราหรอก ไมเคยทอดทิ้งเราเลย มีแตพวกเราเทานั้นที่ตั้งเงื่อนไขใหพระ เรานี่แหละลืมพระและทอดทิ้งพระ เราจะตองสบาย ตองรวย ตองมีทุกอยางเสียกอน เราจึงจะไมลืมพระ บางที่ คิดดี ๆ นะครับ เวลาที่ เราสบายและมีทุกอยางนี่แหละ เราจะลืมพระ มนุษยเรามีความกังวลตาง ๆ ในชีวิตมากมาย เราไมใชแตหวงวาจะเอาอะไรกิน แตเราอยากมี กินเยอะ ๆ ไมใชแตมีเสื้อผาใส แตตองการเสื้อผาสวย ๆ มีสไตล มีแฟชั่นดวย ไมใชเรากังวลวาจะมี งานทําหรือเปลา แตอยากมีงานดี ๆ และมีตําแหนงสูง ๆ อีกดวย เรามนุษยนี่แหละครับที่ไมรูจักพอ และทําใหเรากัง วลกับเรื่องของโลกนี้มากจนเกินไป เรามีความตองการอะไรตออะไรมากเหลือเกิน ใครที่พอใจในทุกสิ่งที่พระใหก็มีความสุขจริง ๆ นะครับ ชายชาวเยอรมั น คนหนึ่ ง ชื่ อ Tauler เขาพบชายขอทานคนหนึ่ ง เลยพู ด อวยพรเขาว า “ขอพระเจาประทานวันที่ดีแกคุณนะ” ขอทานตอบวา “ผมขอบคุณพระเสมอที่ผมไมเคยมีวันที่แย ๆ เลย” ขอบคุณ พระที่ ผมไมเ คยไม มีความสุขเลย” Tauler แปลกใจเลยถามขอทานวา หมายความว าอะไร คําตอบก็คือ อากาศดีผมขอบคุณพระ ฝนตกผมก็ขอบคุณพระ เมื่อผมไดเงินขอทานมาก ผมก็ขอบคุณ พระ ผมไมมี อ ะไรจะกิ น ผมก็ ข อบคุ ณ พระองค น้ํ า พระทั ยของพระคื อ น้ํ า ใจของผม อะไรที่ ทํ า ให พระองคพอพระทัยก็ทําใหผมพอใจ ผมจะพูดวาผมไมมีความสุขไดอยางไร ในขณะที่ผมมีความสุขดี ” คําตอบนี้ทําให Tauler แปลกใจมากเลยถามขอทานวา “คุณเปนใครกันแน” ขอทานตอบวา ผมเปน กษัตริย Tauler ถามตอวา แลวทานเปนกษัตริยของที่ไหนกันล ะ คําตอบสุดทายก็คือ “เปนกษัตริย ในหัวใจผมเอง” ใครก็ตามที่สามารถปกครองหัวใจของตนเองไดก็เปนกษัตริย เขาพอใจทุกสิ่งที่ พระให เขามีความสุขอยูตลอดเวลา หากเราคาดหวังจากสิ่งตาง ๆ ในโลกนี้มากไป เราก็มีแตความทุกขใจ แมวาเราอาจจะมีอะไร ๆ มากกวาขอทานคนนั้นมากมายก็ตาม ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 1 6
อีกเรื่องหนึ่งนะครับ แมของ John เสียชีวิตเมื่อเขาอายุเพิ่ง 12 ป แมถูกนําสงโรงพยาบาล และจากนั้นวันเดียวแมเขาก็ตาย John คิดถึงแมมาก เขาชอบไปที่หองแมบอย ๆ มองดูเครื่องใช ไมสอยของแมวันหนึ่งเขาพบการดใบหนึ่ง เขาจําไดวาการดใบนี้แ มนํามาวางไวกอนไปโรงพยาบาล เขาเลยอานการดนั้นมีขอความวาดังนี้ “สําหรับความเจ็บปวดตาง ๆ ที่เราตองทน สําหรับภาระตาง ๆ ที่เราตองแบกนั้น ตางมีเหตุผล ของมัน สําหรับความโศกเศรา สําหรับน้ําตาทุกหยดของเรามนุษย ตางมีเหตุผลของมัน สําหรับการถูกทําราย สําหรับความโดดเดี่ยวตาง ๆ ของเรา ตางมีเหตุผลของมัน แตถาเราไวใจในพระเจา อยางที่เราควรจะทํา ทุกสิ่งเหลานี้จะเปลี่ยนเปนเรื่องที่ดี สําหรับเราเสมอ พระองคทรงทราบ “เหตุผล เหลานั้น” John บอกในทีหลังวา การดใบนี้ทําใหเขายอมรับความตายของแมได และความไวใจพระเจา ของแม ทําใหเขาคนพบความจริงที่สําคัญในชีวิตของเขา ความกังวลหลายอยางในชีวิตเราไมสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรไดเลย ใชชีวิตแตละวันใหดีดวย ความไวใจพระเสมอ แลวทุกสิ่งก็จะดีเองอยางแนนอน
ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 27 กุมภาพันธ 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 1 7
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก คนฉลาดสรางบานไวบนหิน ถาไมใชบนภูเขา ก็ตองสรางบานไวบนเสาเข็มซึ่งก็เปนหินนั่นเอง ที่ประเทศอินเดียมีหลุมฝงศพที่อาจจะเรียกไดวาใหญที่สุดแหงหนึ่งของโลก คือ ทัช มาฮาล สรางขึ้นมา ตั้งแตป 1632 จนถึงป 1645 เปนอนุสรณแหงความรัก หลุมฝงศพที่มหึมานี้ตองใช คนสรางถึงสองหมื่น คนดวยกัน ปรามิดที่ประเทศอียิปตใกล ๆ กับกรุงไคโรนั้นก็สรางขึ้นโดยใชเวลาทั้งหมดถึง 76 ป คราวนี้ ลองมาดูพระวิหารของกษัตริยโซโลมอนดูบางนะครับ กษัตริยโซโลมอนเกณฑแรงงานสามหมื่นคนและ จัดเวรละหนึ่งหมื่นคนไปขนของจากเลบานอน นอกจากนี้มีคนขน ของหนักอีกเจ็ดหมื่นคน คนสกัดหิน ในถิ่นเทือกเขาแปดหมื่นคน ขาราชการผูใหญสามพันคน เปนคนดูแลงาน พระองคสั่งใหสกัดหินกอนใหญ มี ค าออกมาเพื่ อวางรากฐานของพระนิ เวศน ด วยหิ น ที่ แต งแล ว ใช เ วลาสร า งทั้ ง หมดนี้ เ จ็ ด ป ค รึ่ ง ยังมีสิ่งกอสรางอีกมายมายบนโลกนี้ถูกสรางขึ้นอยาง นาพิศวง สิ่งกอสรางชั้นยอดมักจะถูกสรางขึ้น บนยอดเขาจนเรานึกไมออกเลยวาคนสมัยนั้นขึ้นไปสรางกันไดอยางไร แตสิ่งที่มีความเหมือนกันของทุก สิ่งกอสรางเหลานี้คือ ผูสรางตองการใหมันอยูยืนนานที่สุด เขาสรางบนหินทั้งนั้น พระเยซูเจาทรงตั้งพระศาสนจักรไวบนหิน นั่นคือ Petrus ซึ่งแปลวา หิน เปโตรจะเปนรากฐาน ของพระศาสนจักรไมไดเลยถาหากเปโตรไมปฏิบัติตามพระวาจาของพระเจา หรือถาหากเปโตรไมปฏิบัติตาม บทบัญญัติของพระเจา ดังนั้นผูใดก็ตามที่ฟงพระวาจาของพระเจาแลวปฏิบัติตามคือ แมและพี่นอง ของพระองคเอง เรื่องนี้เราฟงจากพระวรสารและผูที่ฟงพระวาจาและปฏิบัติตาม ก็เทากับผูที่สรางบาน ไวบนหิน เขาเปนคนฉลาด เพราะหากแตฟง แตไมปฎิบัติตาม เขาก็ไมไดเปนอะไรเลย เปนแคคนที่เรียก ขานนามพระ “พระเจาขา” “พระเจาขา” เทานั้น ซึ่งก็มิไดหมายความวา เขาจะไดไปสวรรค ถาจะใหเปรียบ งาย ๆ ก็เหมือนกับคนที่บอกเสมอ ๆ วา ผมเชื่อพระ ผมรักพระ แตไมเคยสวดเลย ไมเคยไปวัดเลย และก็ บอกวา พระอยูท ุกแหง เหมือนกับคนที่ฟงคําสอนเรื่อง การใหอภัย แตก็ไมเคยยกโทษใหแกคนที่ทําผิดตอ ตนเองเลย คนพวกนี้ฟงแตไมทํา เหมือนกับเปนคริสตังแตไมรักเพื่อนมนุษย “คนทั้งหลายจะรูวาทาน เปนศิษยของเราถาทานรักกันและกัน” สิ่งที่สําคัญที่สุดในชีวิตคริสตชนก็คือ พระเยซูเจา และคําสอนของพระองค พระวาจาของพระองค ซึ่งเราฟงทุกอาทิตยนี้แหละครับ บัญญัติแหงความรักของพระองคที่เรารูแลวนี่แหละ แตฟงอยางเดียวไม พอนะครับ ตองนําไปปฏิบัติดวย อาทิตยนี้พอเชิญคุณศรินทร เมธีวัชรานนท มาแบงปนประสบการณชีวิตแหงความเชื่อ ใหเราได รับรู เธอเปนคริสตังยืน มรสุมชีวิตที่เธอประสบมันยิ่งใหญและยากที่จะยอมรับและสูทน จนเธอเกือบจะ ยอมแพตอชีวิตอยูแลว ที่สุดพระเจาไดนําเธอมาเปนลูก สิ่งแรกที่เธอทําในฐานะ ลูกพระคือ อภัยทุกคน โดยไมมีเงื่อนไขเลย การอภัยที่เราตองบอกวา ยากที่จะอภัยไดจริง ๆ พระวาจาของพระที่เธอเพียงแครูไมได ตองทําดวย เธอพบวานี่คือสันติสุขที่พระเยซูเจานํามาให ตั้งแตนั้น เธอก็ใหพระวาจาของพระนําทางชีวิต ของเธอดวยความไววางใจในพระสิ้นสุดจิตใจ เธอมีพระคัมภีรเลมหนึ่ง ถาหากพี่นองมีโอกาสไปขอดู ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 1 8
พระคัมภีรเลมนั้นของเธอได จะเต็มไปดวยรอยคั่นหนาตาง ๆ ที่เธอทําตามที่พระองคตรัสโดยผานทาง พระคัมภีรนั้น เธอจะทําอะไรก็จะเปดพระคัมภีรนาอัศจรรยในทุกหนาที่เธอคั่นเอาไวลวนแตเปนอัศจรรย สําหรับชีวิตเธอทั้งสิ้น ทุกวันนี้เธอไดแบงปนเนื้อหา พระคัมภีรเหลานั้นโดยผานทางการเขียนหนังสื อ บทสวดของฉัน และหนังสือภูเขาเคลื่อนได นอกจากนี้ ยังชวยชี้ทางสวางใหแกคนจํานวนไมนอยที่เห็น ความเชื่อของเธอแลว รูสึกทึ่งวาเธอมีกําลังเอาชนะชีวิตไดอยางไร อยากใหพี่นองไดมาฟงประสบการณ เหลานี้ คุณศรินทรไดปวารณาตัวรับใชพระในทุกทางที่จะทําไดพระเจาทรงตอบแทนเธอดวยครอบครัว ที่มีลูกๆ ที่ดีและศรัทธา เปนครอบครัวที่อบอุนจนกระทั่งไมรูวาจะตอบแทนพระไดอยางไร ใครก็ตาม รวมทั้ งเราด วยครั บ หากฟ งพระวาจาของพระแล วปฏิ บั ติ ตาม เราเป นส วนหนึ่ งของครอบครั วของ พระเยซูเจาเอง เราตองสรางบานของเราไว บนหิน คือ พระวาจาของพระ
ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 6 มีนาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 1 9
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก อาทิตยนี้เปนอาทิตยที่หนึ่งในเทศกาลมหาพรต เราเลียนแบบอย างชีวิตของพระอาจารยเจ า ของเราโดยเริ่ มต นที่ การภาวนา ตามมาด วย การจํ าศี ลอดอาหาร และจบลงด วย การต อสู กั บ การประจญลอลวง พอมีสถิติที่นาสนใจจากการสํารวจลงนิตยสาร Discipleship journal ในป 1992 แมวา จะผานมาเกือบ 20 ปแลว แตวาความจริงเหลานี้ก็ยั งมีอยูจริงในปจจุบัน หัวขอในการสํารวจก็คือ มนุษยเราถูกทาทายดวยอะไรบาง? พูดใหงายกวานี้ก็คือ เราถูกประจญลอลวงดวยอะไรบาง? เขาสรุป ออกมาได 9 อยางดวยกันครับ คือ 1. วัตถุนิยม คือ หาความสะดวกสบาย เครื่องใชไมสอย การแตงตัว ความฟุมเฟอย 2. ความจองหอง ในความสําเร็จ ในฐานะของตน ในหนาที่การงาน 3. ความเห็นแกตัว ทําเพื่อตนเองกอน ตนเองถูกเสมอ 4. ความเกียจครานก็เปนนิสัยปกติของมนุษยเรา 5. ความโกรธเกลียด ไมยอมใหอภัย 6. ตัณหาทางเพศ เราถูกลอลวงใหตกเปนทาสของมันดวยวิถีทางมากมายบนโลกนี้ 7. ความอิจฉาริษยา 8. ความโลภ 9. การโกหกพกลม ที่จ ริง ทั้ ง 9 การประจญล อลวงนี้ ก็ คื อพยศชั่ วของเรามนุษ ย ที่เ ราก็ รูจั ก กัน ดี แล วนั่ น แหละ แตที่นาสนใจจากการสํารวจนี้ก็คือ 81 % จากผูตอบรับการสํารวจเชื่อวา การลอลวงเหลานี้มีพลังมากขึ้น เมื่อพวกเราละเลย ที่จะใหเวลากับพระ 51 % บอกวา การลอลวงมีพลังมากขึ้น เมื่อพวกเราเหน็ดเหนื่อย ถาเราเหนื่อยเราตกอยู ในการประจญลอลวงไดงายขึ้น 84 % เชื่อวา การภาวนา สามารถเอาชนะการประจญลอลวงนี้ไดดีที่สุด 76 % บอกวา เอาชนะการประจญลอลวงไดดวยการหลีกเลี่ยงสถานการณ หรือสภาพแวดลอม ที่จะทําใหเราพลาดพลั้งได คลาย ๆ กับคนที่ตองการเลิกบุหรี่ ตองพยายามอยาเดินไปที่รานขาย บุหรี่ เปนตน 66 % บอกวา ตองศึกษาพระคัมภีร จะทําใหเราเอาชนะได 52 % บอกว า การเอาใจใส ความต องการของผู อื่ น หั นเหความสนใจของเราไปยั งผู อื่ นบ าง ชวยใหเราเอาชนะได ที่จริง เรามีหลายวิธีที่จะตอสูกับการประจญลอลวง การสวดภาวนาก็ชวยได ศึกษาพระคัมภีร ก็ดี การจําศีลอดอาหาร การทําบุญใหทาน ชวยคนยากจนก็ชวยใหเราหลุดพนจากความเห็น แกตัว ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 2 0
การรูจักบังคับตนเองบางในเทศกาลนี้ก็เปนวิธีที่ชวยเราไดทั้งนั้น แสดงวาเทศกาลมหาพรตเปนชวงเวลา ที่มีประโยชนตอวิญญาณอยางแนนอน แตยังมีอีกอยางหนึ่งที่เราตองระวังดวย คือ อยาหันกลับไป มองบาปของเราอีกเลย หันกลับไปมองแวบเดียว เราก็อาจจะถูกนําไปทําบาปนั้นซ้ําอีก ตอนที่เทวดา ชวยครอบครัวของ ลอท ออกจากเมืองโสดม สั่งวา อยาไดหั นกลับไปมอง แตดวยความอยากรูอยาก เห็น ภรรยาของลอท หันกลับไปมองแวบเดียว เธอก็กลายเปนเสาเกลือ นักบุญเอากุสติน เลาเรื่อง ของเด็ ก หนุ ม คนหนึ่ ง ที่ ก ลั บ ใจ เลิ ก หนทางของโลกและมี ใ จศรั ท ธาต อ พระเยซู ค ริ ส ตเจ า แล ว เพื่อนของเขาชวนไปดูละคร เขาก็ไปเพราะไมสามารถต านทานคําชักชวนของเพื่อน เขาเอามือปดตา ตลอดเวลาเพื่อจะไดไมตองดูมหรสพทางโลก แบบนั้นจนเกือบจะจบอยูแลว เขาเพียงมองลอดนิ้วมือของ เขาเพียงนิดเดียวเทานั้น เขาก็ถูกชักพาใหรวมโหรองไปกับเรื่องราวของมหรสพทันที กษัตริยดาวิด เพียงแอบมองนางเบทเชบา เพียงครั้งเดียว ทานก็ตกอยูในบาปอุลามก และบาปฆาตกรรม เรามีวิธีเอาชนะบาปไดแนนอน เราสามารถตอสูกับการประจญลอลวงไดแนนอน อยูที่เราจะทํา หรือไมเทานั้น เทศกาลมหาพรตเปนชวงเวลาที่ดีที่เราจะตอสูกับบาปสักตั้งหนึ่ง มีผูรู ทานหนึ่ง กลาววา ถาทา นไม รูวาพระเจา ทรงเขี ยนอะไรไวในพระคั มภีร ก็เท ากับ วาผีป ศาจกําลัง กระซิบที่ หู ของทานอยู
ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 13 มีนาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 2 1
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก อาทิตยที่สองเทศกาลมหาพรตแลวครับ เวลาผานไปเร็วมาก อีกไมนานก็ปาสกาแลว วันนี้พระเยซูเจา พาศิษยสามคนขึ้นไปบนภูเขาและแสดงพระกาย มีโมเสสและเอลียาห มาสนทนากับพระองค ภาพนี้ทําใหเรา เขาใจไดทันทีเลยวา สิ่งที่พระเจาทรงสัญญาไวโดยผานทางโมเสสและเอลียาหเกี่ยวกับ พระผูชวยใหรอด นั้น กําลังจะเปนจริงโดยผานทางพระเยซูเจาผูนี้เอง เปโตรเห็นวามีความหมายตอประชากรของพระมาก ถึงกับเสนอพระเยซูเจาวา นาจะสรางพลับพลาขึ้นมาสามหลังเพราะที่นี่ดีเหลือเกิน ในพิ พิ ธภั ณฑ วาติ กั นที่ ถู กจั ดว าเป นพิ พิ ธภั ณฑ ที่ ทรงคุ ณค าที่ สุ ดแห งหนึ่ งของโลก มี ภาพวาด สีน้ํามันของจิตรกรที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของยุคฟนฟูวิทยาการ (Renaissances) นั่นคือ ราฟาเอลโล เขาวาดภาพการแสดงพระกายของพระเยซูเจา ที่จริงมีจิตรกรมากมายหลายสมัยไดวาดภาพนี้ไ ว เหมือนกัน แตภาพของราฟาเอลโลนี้แตกตางจากคนอื่น ๆ ที่วาด (ถาไมมีอะไรผิดพลาด พอไดนําภาพนี้ ขึ้นจอในวันอาทิตยนี้ดวย) ภาพของเขาแบงออกเปนสองสวน สวนบนเปนภาพของพระเยซูเจามีประกาย สองแสง มีโมเสสและเอลียาหอยูขาง ๆ และมีอัครสาวกทั้งสามอยูแทบเทา แตอีกสวนหนึ่งนั้นคือสวน ขางลางลงมาอีกมีรูปของประชาชนมากมายกําลังวอนขอใหพระเยซูเจาทรงชวยพวกเขาใหรอดพน เขามา ขอพึ่ งการไถ บาปของพระองค ราฟาเอลโลให จิ นตนาการในภาพว า 1 พระเยซู เจ าผู นี้ คื อพระผู ไถ ตามคําทํานาย และ 2 ผูเขามาขอพึ่งทาน จะไดรับความรอดพน ภาพนี้เปนภาพสุดทายที่เขาวาดกอนที่ เขาจะตาย ที่จริงยังวาดไมเสร็จดีดวย ลูกศิษยของเขาวาดตอจนเสร็จ แตก็ตองนับวาเปนการจินตนาการ ที่สมเหตุสมผลทีเดียว พอเคยพูดถึงนักบุญ โทมัส อาไควนัส (1225-1274) ทานเปนนักปรัชญาและนักเทววิทยาที่ยิ่งใหญ ที่สุดองคหนึ่งของพระศาสนจักร มีงานเขียนมากมายที่พระศาสนจักรนําไปสั่งสอนจนถึงปจจุบัน ทานยังมี ความศรัทธาพิเศษตอศีลมหาสนิท ทานเปนคนแตงเพลงที่เรายังใชอยูในปจจุบันคือเพลง Tantum Ergo Sacramentum และ O salutaris Hostia ฟงทีไรก็ซาบซึ้งกับการประทับอยูของพระเยซูเจา ในศีลมหาสนิททุกครั้งไป ในวันที่ 6 ธันวาคม 1273 ขณะที่ทานกําลังถวายบูชามิสซา ทานไดเห็นภาพนิมิต ของสวรรค หลังจากมิสซา ทานไดประกาศวา นับจากนี้ไปทานจะเลิกงานเขียนของทาน “พอจะไมเขียน งานอะไรอีกตอไปแลว สิ่งที่พอไดรับการเปดเผยไดบอกกับพอวางานเขียนทั้งหมดที่เขียนไปมีคาเทากับ ฟางเสนเดียว” อีกสองเดือนตอมา ทานก็เสียชีวิต สิ่งที่นักบุญโทมัส เห็นนี้ ทําใหทานพบวา งานทั้งหลายของทานนั้น ไมสําคัญเลย สิ่งที่นักบุญโทมัส เห็นนี้ ทําใหทานพบวา งานเขียนของทานมีคาเทากับ ฟางหญา ทานเห็นความยิ่งใหญดานชีวิตจิต และความไรคาของสิ่งตาง ๆ บนโลกนี้ ที่ทานเห็นก็คงคลาย ๆ กับที่บรรดาอัครสาวกทั้งสามไดเห็น ความยิ่งใหญของพระผูเปนเจา และก็ยังไดเห็นความไรประโยชน ของ ชีวิตมนุษย ของชื่อเสียง และอํานาจวาสนาตาง ๆ ของโลก นี้ดวย ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 2 2
มหาพรตเปนเวลาใหเราพบกับสิ่งที่ยิ่งใหญกวา สิ่งของของโลก รวมทั้งชีวิตบนโลกนี้ของเราไมมี ความสําคัญมากอยางที่เราคิดเลย เปนชวงเวลาที่เราควรใชใหใกลชิดกับพระมากที่สุด ลืมตนเองใหมากที่สุด เพิ่มพูนความรักในตัวเราใหมากที่สุดดวย มหาพรตเปนเวลาที่เราไดยินเรื่องของพระบิดาเจาตรัสกับเราวา “ทานผูนี้เปนบุตรสุดที่รักของเรา เราพึ ง พอใจยิ่ ง นั ก จงฟ งท านเถิ ด ” ให เราทุ กคนเข าพึ่ งการไถ กู ข องพระเยซู เจ าดั งในรู ปภาพของ ราฟาเอลโล และใหเราไดเห็นพระเปนเจาในชีวิตของเราเชนเดียวกับที่นักบุญโทมัสเห็นความยิ่งใหญ ของพระ และความไรคาของชีวิตทางโลก ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 20 มีนาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 2 3
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก อาทิตยที่สามเทศกาลมหาพรต บทอานทั้งสามบทพูดถึง “น้ําทรงชีวิต” พระคัมภีรพูดถึงโมเสส ตอนที่ทนการรบเราของชาวยิวเรื่องน้ํา พระเจาใหโมเสสเอาไมเทาเคาะหินเพื่อใหมีน้ําสําหรับพวกเขา นักบุญเปาโลเปรียบพระเยซูเจาเปนน้ําที่พระเจาทรงหลั่งลงในดวงใจของเรา พระวรสารก็เลาตอนที่ พระเยซู เจ า เสด็ จ ไปที่ แค ว นสะมาเรี ย ใกล ๆ กั บ บ อ น้ํ าของยาคอบที่ นั่ น พระองค ท รงพบกั บ หญิ ง ชาวสะมาเรียคนหนึ่ ง และนางก็ไ ดขอน้ํา ทรงชีวิ ตจากพระองค ที่นี่เ องพระองคประกาศต อ เธอว า “เราคือพระเมสิยาห” เทศกาลมหาพรตเปนเวลาที่เราทุกคนตองหาน้ําทุกชีวิตเชนเดียวกัน เพราะวา - พระเยซูเจาเปนชาวยิว หญิงนี้และแควนสะมาเรียนี้ เปนศัตรูกับชาวยิว - หญิ ง คนนี้ เ ป น คนบาป เธอมี ส ามี ม าแล ว ถึ ง ห า คน และกํ า ลั ง อยู กิ น กั บ สามี ค นที่ ห ก เปนคนบาปในสายตาของชาวสะมาเรียดวยกันอีกดวย พอคิดวานาจะอธิบายใหเขาใจสักหนอยวาทําไมชาวยิว กับชาวสะมาเรียจึงเปนศัตรูกันได เปน เวลานานมาก ๆ กอนหนาพระเยซูเจานานทีเดียวครับ ชาวอัสซีเรีย กวาดตอนชาวยิวทางภาคเหนื อไป เป น ทาส ชาวยิ ว เหล า นี้ เ ริ่ ม ละทิ้ ง ขนบธรรมเนี ย มเดิ ม ของตนโดยการแต ง งานกั บ ชาวอั ส ซี เ รี ย พวกเหล า นี้ ถู ก เรี ยกว า สามารี แ ตน (Samaritans) ชาวยิ ว ทางภาคใต ถื อ ว า ชนพวกนี้ มี เ ลื อ ดผสม ไม บ ริ สุ ท ธิ์ เมื่ อพวกนี้ ได รั บอิ สรภาพกลั บมาประเทศยิ วอี ก ความคิ ดเรื่ องพระเจ าของเขาก็ ไม เหมื อน คนทางใตแลว ชาวยิวทางใตก็เคยถูกกวาดตอนไปเปนทาสที่บาบิโลนเหมือนกัน แตเมื่อพวกเขากลับมา เขาภูมิใจวาพวกเขาตอตานกับวัฒนธรรมของบาบิโลน และรักษาขนบธรรมเนียมของตนอยางซื่อสัตย ชาวยิวตอนนั้นคิดจะสรางพระวิหารขึ้นมาใหม พวกยิวสะมาริตันเสนอตัวชวยสรางพระวิหาร ยิวทางใต เหลานี้จึงปฏิเสธไมยอมใหมาชวย ชาวยิวทางเหนือหรือสะมาเรียจึงสรางพระวิหารของพวกเขาขึ้นเองที่ภูเขา “เกรีซิม” มาถึงป 129 กอนพระเยซูเจาบังเกิด พวกยิวซึ่งไมพอใจชาวสะมาเรียก็ไปทําลายพระวิหารของ พวกเขา ทําใหชาวสะมารีแตนตางเคืองแคน เกลียดชังเพราะถูกดูถูกขมแหง และถูกเหยียดหยาม ทําให ทั้งสองพวกนี้เปนศัตรูกัน ไมคบคาสมาคมกัน ระหวางพวกสะมารีแตน และชาวยิว เล าเรื่ องความเป นศั ตรู ให ฟ งย อ ๆ แบบนี้ ก็ แล วกั นนะครั บ เรื่ องสํ าคั ญอยู ตรงนี้ ครั บ ตรงที่ พระเยซูเจาตั้งใจที่จะมาที่บอน้ําของยาคอบในเขตสะมาเรีย และมาพบหญิงคนบาปคนหนี้ ถาพระเยซูเจา จองหองแบบชาวยิวทั่วไปตองไมทําแบบนี้แน ๆ ชาวยิวจะไมคบคากับพวกนี้ และไมมีทางไปขอน้ําจาก ผูหญิงคนนี้ซึ่งเปนคนบาปดวย แตพระองคไมมีศัตรูในใจเลย และพระองคเสด็จมาก็เพื่อคนบาปจริง ๆ สุดทายก็ตามที่เราทราบ หญิงนี้ไดเปนพยานถึงพระองคและประกาศใหคนทั้งหลายรูจัก พระเมสิยาห องคนี้ เธอพบน้ําทรงชีวิตที่เธอกระหายมาทั้งชีวิต พระองคเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอโดยสิ้นเชิง เมื่อใด ก็ตามที่เราไมมีศัตรู และเมื่อใดก็ตามที่เราไมมีบาป เราพบน้ําทรงชีวิตแลว หญิงชาวสะมารี ตันผูนี้กวาจะไดพบน้ําทรงชีวิตก็ตองฝาฟนและรอคอยไมใชนอย เธออยูในบาป มานาน แสวงหาความสุขในชีวิตมานาน แตไมเคยอิ่มใจเลย จนกระทั่งมาพบพระเยซูเจาซึ่งไมรังเกียจเธอ ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 2 4
ตรงขามกับพยายามชวยใหเธอเห็นความจริงในชีวิตของเธอทั้งหมด การพบน้ําทรงชีวิตก็ตองลงทุนลงแรง กันหนอยนะครับ ชาวอาหรับคนหนึ่งชื่อ Musa Arami จบการศึ กษามหาวิทยาลัยแคมบริดจ เขาเชื่อแนว า มีน้ําอยูใตดินใตทะเลทรายจอรแดน ที่นั่นไมเคยปรากฏหลักฐานวามีน้ําเลย แหงแลงและรอนตลอดป ไมมีทางมีน้ําที่จะเพาะปลูกอะไรไดแนนอน Musa บอกวามีน้ํา ทุกคนพากันหัวเราะเยาะเขา ผูเชี่ยวชาญ ทั้งหลายก็ไมเห็นดวยที่จะทดลองขุด รัฐบาล นักวิทยาศาสตรตางก็ไมสนับสนุน Musa กับพวกผูอพยพ ตอนนั้นสองสามคนเริ่มตนขุดลงไปในทะเลทรายโดยมีจอบและเสียมเทานั้น จากวันเปนเดือน พวกเขา ขุดหาน้ําที่ไมเคยมีใครเคยขุดมากอนเลย หกเดือนผานไป ขุดลงไปลึกมาก ที่สุดพวกเขาคนพบน้ําที่หวาน บริสุทธิ์อยูขางใตทะเลทรายนั้น ชาวอาหรับทั้งหลายที่อยูในบริเวณนั้นถึงกับหลั่งน้ําตา น้ําที่พวกเขาไมเคยรู และพบมากอนเลย พวกเขาพบชีวิตแลว เวลานี้ทะเลทรายนั้นกลายเปนทีเ่ พาะปลูก พระเยซูเจาจะมอบน้ําทรงชีวิตใหแกเรา พระองคก็ตองมาหาเรา เราจะไดรับน้ําทรงชีวิตก็คงตอง ฝาฟนความยากลําบาก คงไมไดมางาย ๆ แน ๆ เราตองขุดลงไปในจิตใจของเรา ขุดลงไปในนิสัยตาง ๆ ของเรา ลงไปใหลึกที่สุดเทาที่จะทําได หัวใจที่แหงแลงของเราก็จะกลายเปนที่เขียวขจี เปนที่ปลูกผัก ผลไมตาง ๆ ขอใหมหาพรตนี้ พระเจาประทานน้ําทรงชีวิตลงมาในหัวใจของเราทุกคน
ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 27 มีนาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 2 5
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก พูดถึงคนตาบอดแลวตองยอมรับวาเปนคนที่นาสงสาร นาเห็นใจ คิดงาย ๆ วาถาวันหนึ่งเราตาบอดจะดวย เหตุผลอะไรก็ตาม เราคงตองรูสึกทรมานอยางมาก มองอะไรก็ไมเห็น ดูอะไรก็ไมไดเลย บางครั้งพวกเราก็อาจจะ ตาบอดก็ได ถาไมใชตาบอดทางกายก็เปนตาบอดทางจิตใจ บอดทางใจนี้มีหลายสาเหตุนะครับ สาเหตุหลักประการหนึ่ง ที่ทําใหเราเปนคุณบอดทางใจก็คือ จากที่ไมเคยมี กลายเปนคนมี เชนเคยมีคนถีบสามลอคนหนึ่งถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ไดเงินมาทั้งหมด 6 ลานบาท จากที่ไมเคยมีเงินมากมายก็เลยใชไมเปน เขาใชเงิน 6 ลานบาทหมดไปภายใน 3 อาทิตย เที่ยวสารพัด ซื้อสารพัดแบบไมยั้งคิด ตาของเขาบอดไปมองไมเห็นสิ่งที่ควรทํา และสิ่งที่ไมควรทํา เรื่องแบบนี้ก็เปรียบ ไดอีกกับคนที่ไมเคยมีอํานาจ พอมีตําแหนงมีอํานาจ คราวนี้ก็มองไมเห็นหัวคนอื่น ใชอํานาจสั่งการ ปราบคนนั้นสอนคน นี้ ใครทําอะไรไมไดดั่งใจก็ใชอํานาจของตนจัดการซะ พอวาคนที่มีอํานาจ และใชอํานาจไมเปน นอกจากจะตาบอดแลว ยังโงอีกดวย แปลกแตจริงนะครับ คนโงๆ แบบนี้แหละที่คิดวาตัวเองฉลาดกวาใคร ดีกวาใคร คนแบบนี้ยังมืดบอดได มากขึ้นอีก พอมีอํานาจแลวตําแหนงที่มีอยูก็ไมพอซะแลว ตองการที่จะใหญขึ้นไปอีก คราวนี้ก็เลย ทําอะไรก็จะทําเอา หนาเอาตา เอาชื่อเสียงเพื่อจะไดเกียรติยศ จะทําอะไรก็ตองใหเปนขาว เขียนขาวลงสื่อ ถายรูปลงสื่อใหมากๆ หวังวา คงมีใครที่มีอํานาจมากกวามอบตําแหนงที่มีเกียรติมากขึ้น มีอํานาจมากขึ้นไปอีกจะไดเทียบหนาเทียมตากับคนที่อยูสูง กวาได พี่นองวาคนประเภทนี้ฉลาดหรือโง แตพอวาคนเหลานี้นาสงสาร พระวรสารพูดถึงฟาริสี พวกนี้เปนคนเครงครัดในศาสนา แตก็ตองการใหไดรับเกียรติจากผูคน จะทําอะไรก็ ตองใหคนเห็นจะไดเยินยอสรรเสริญ พวกฟาริสีนี้แหละครับที่ตาบอดและก็ไมยอมใหพระเยซูเจารักษาความบอดนั้นดวย ไมเหมือนกับชายตาบอดในพระวรสารนี้เลย แมไมรูจักพระเยซูเจาแตก็เปนผูที่ขอใหพระองครักษาตนเองใหหาย เห็นมั้ย ครั บ แม แต ค นในศาสนา พอมี ตํ าแหน งมี อํ านาจก็ กลายเป นคนตาบอดได แบบเดี ยวกั บพวกฟาริ สี นี่ แหละครั บ เพราะฉะนั้นบรรดาพระสังฆราช พระสงฆ นักบวชทั้งหลายตองระวังตัวอยาเผลอไผลไปแบบสามลอถูกหวย เปดหูเปด ตามองหาพระเยซูเจาและอยาอยูหางจากพระองคเปนอันขาด เราทุกคนก็เปนกันครับตางก็มีความออนแอบางอยางที่ ปดหูปดตาของเรา กลายเปนบอดไปไดเหมือนกัน ตองใหพระเยซูเจาชวยนะครับ ทําอยางประกาศกซามูแอลในบทอาน ที่หนึ่ ง พระเจาใช ทานไปแตงตั้ งบุตรของเจสซีให เปนกษัตริ ย ท านมองดู คนที่ สงางาม ภู มิฐาน แต พระเจ าบอกว า อยามองดูรูปลักษณภายนอก เพราะพระเจามองดูภายใน ทานจึงเลือกดาวิดมาเปนกษัตริยองคที่สองของอิสราแอล ถาหากเรามองเพียงแตรูปลักษณภายนอก เราก็กลายเปนคนตาบอดเหมือนกัน ตองระวังจริง ๆ เพราะคนเราชอบมอง แตภายนอกซะดวย เทศกาลมหาพรตนี้เราขอความสวางและดําเนินชีวิตเปนบุตรแหงความสวางตามที่นักบุญเปาโล สอนเราดวย ชายคนหนึ่งเพิ่งเรียนคําสอนและรับศีลลางบาปเปนคริสตัง เพื่อน ๆ ของเขาซึ่งถือศาสนาอื่นก็สงสัยและก็ถาม เขาถึ งเรื่ องการกลั บใจและถามว าทําไมถึ งกลั บใจ คริ สตังใหม คนนี้ ตอบคํ าถามของเพื่อนไม ได เลย เช นถู กตามว า พระเยซูเจาเทศนกี่ครั้ง เทศนอะไรบาง ทําอัศจรรยกี่ครั้ง ถามขอโนนขอนี้ เขาก็ตอบไมได ที่สุดเขาก็เลยพูดกับเพื่อน ๆ “อายจริง ๆ ที่ไมรูอะไรมาก แตที่รูแน ๆ ก็คือวา สามปกอน ผมเปนคนขี้เมา มีหนี้สินมากมาย ครอบครัวกําลังแตกเปน เสี่ยง ๆ เมื่อมารูจักพระเยซูคริสตเจา ผมสามารถเลิกเหลาได ปลดหนี้สินจนหมด ครอบครัวมีความสุข ลูก ๆ ชอบมา คุยกับผม ทั้งหมดนี้พระเยซูเจาทรงกระทําตอผม นี่คือสิ่งที่ผมรูเกี่ยวกับพระองค” สํ าหรั บเราในเทศกาลมหาพรตนี้ พระเยซู ค ริ ส ตเจ าทรงเป น แสงสว างในชี วิ ต คริ ส ตั ง เป น แสงสว าง ในครอบครัวของเรา ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 03 เมษายน 2011 ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 2 6
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก แตละอาทิตยในเทศกาลมหาพรตใหความหมายสําหรับเราดีจริง ๆ พอจะทบทวนใหอานกันเล็กนอยนะครับ อาทิตยที่หนึ่ง สอนใหเราตอสูกับการประจญลอลวง พระเยซูเจาเองยังตองตอสูเลย เราอยาปลอยใหการประจญ เอาชนะเราได อาทิตยที่สอง สอนใหเราเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา พระเยซูเจาแสดงพระกายอันรุงโรจนของ พระองคแกเราแลว พระองคเปนแรงบันดาลใจใหเรารูจักเปลี่ยนแปลงและหาขอตั้งใจดี ๆ ในชีวิต มาถึงอาทิตยที่สาม สอนให เราเป นน้ํ าทรงชี วิ ตและนํ า น้ํ า ทรงชี วิ ต ไปให แ ก เ พื่ อ นพี่ น อ งของเรา อาทิ ต ย ที่ สี่ สอนให เ ราอยู ใ น ความสว า ง อย า ปล อ ยชี วิ ต ให อ ยู ใ นความมื ด พระเยซู เ จ าช ว ยเราได อาทิ ต ย ที่ ห านี้ พ ระองค ส อนให เ รามี ความหวังในการกลับเปนขึ้นมา มารธาเชื่อและมีความหวัง ไมใชเชื่อสําหรับตัวเธอเองเทานั้น แตสําหรับลาซาลัส พี่ ช ายของเธอด ว ย เราคริ ส ตั ง ทุ ก คนมี ค วามเชื่ อ เรื่ องนี้ แ ละมี ค วามหวั ง ด ว ยว า วั น หนึ่ ง หลั ง ความตายของเรา เราจะกลับเปนขึ้นมา แตไมรูวากลับเปนขึ้นมาอยางรุงโรจนแบบพระเยซูเจาหรือแบบนาหดหูแบบคนที่กําลังจะไปนรก หรื อเปล า พ อหวั งอย างยิ่งว าขอใหเราทุ กคนได พบกั น ในสวรรคเ ท านั้น ถาเป นอย างนั้ น จริ ง ๆ ละก็ คงเป น วั น เวลาที่ เราจะมี ค วามสุ ข ที่ สุ ด แบบบรรยายไม ไ ด เลย คิ ด ดู สิ ค รั บคนที่ เรารั ก และรู จั ก ทุ ก คนได พบหน ากั น อี ก และจะสามารถอยูดวยกันตลอดไปอีกดวย ใคร ๆ ก็มักจะบอกวาไปสวรรคยากจัง สวนพอมักจะสอนวาไปสวรรคงายจังเพราะพระก็ตองการใหเรา ไปสวรรคอยูแลว ยังใหพระบุตรลงทุนมาเปนมนุษยและตายเพื่อไถบาปเราอีก แถมยังสอนหนทางไปสวรรค ยังใหมี ศีลอภัยบาป มีพระองคเองในศีลมหาสนิท ยังมีโปรโมชั่นพิเศษใหมีโปป มีพระสงฆคอยชวยอยูตลอดเวลา มีแมพระ และนั ก บุ ญ ทั้ ง หลายคอยช ว ยเราอี ก แรงบนสวรรค ถึ ง ขนาดนี้ แ ล ว ถ าคนที่ ไ ม ไ ด ไ ปสวรรค ก็ คื อคนที่ ไ ม อยากไป เทานั้นเองครับ ถาอยากไปจริง ๆ ละก็ไดไปแน ๆ ชวย ๆ กันไปสวรรคหนอยนะครับ เราจะไดเจอกัน กลัวขึ้นไปแลว ไปเจอแตคนที่ไมรูจัก คงเหงาแยเลย ถาเราไมไปเกลือกกลั้วกับบาปตลอดเวลา ถาเราไมไปติดอยูกับความบาปของเรา เราไปสวรรคแน ๆ เลยครับ พอนึกถึงหนังไทยเรื่องหนึ่ง พี่นองคงรูจักดี เรื่องชั่วฟาดินสลาย พอไมรูวาจะเรียกพระเอกนางเอกดีหรือวา จะเรียกผูรายนางรายดี สองคนนี้หลงไปกับรูปรสกลิ่นสี ทําผิดทั้งจารีต ประเพณีและศีลธรรมและยังดีใจที่ไดทํา เชนนั้นดวย ตาบอดโดยแท อาพระเอกจึงมัดทั้งสองคนให อยูดวยกันตลอดเวลาจนตายไปแลวก็ยังตองอยูดวยกัน ทนทุกขทรมานดวยกันแมฝายหนึ่งตายไปแลวก็ยังตองอยูอยางนั้น พี่เลี้ยงตองมาตัดแขนคนตายทิ้งเพื่อใหฝายชาย พนจากสภาพนั้น ดูแลวนาสงสารและสมน้ําหนาในเวลาเดียวกัน พี่นองที่ดูเรื่องนี้แลวคงจะเขาใจ ถายั งไมเขาใจก็ อานเรื่องนี้ครับ สมัยโบราณมีการประหารชีวิตที่นาสะอิดสะเอียนมากอยางหนึ่งคือคนที่ถูกตัดสินประหารชีวิตจะถูก มัดติดอยูกับศพและใสไวในโลงศพ ทั้งสองรางนี้จะถูกมัดติดกันในสภาพที่หนาชนหนา จมูกชนจมูก เขาจะตองอยูกับ ศพที่คอย ๆ เนาเหม็น ทั้งกลิ่นทั้งเชื้อโรคตาง ๆ ทั้งความหิวกระหาย ความรูสึกและอารมณ อยูแบบนั้นจนกวาจะ ตายไปโดยไมมีใครใสใจเลย ตายทั้งเปนพรอมคนตาย แคนึกดูก็แยแลว บางทีเราคิดวาเปนหนังเปนละคร เปนเรื่อง ในอดีตที่ไมเกิดขึ้นอีกแลว แตที่จริงถาหากเราติดอยูกับบาป เราจะมีชีวิตใหมที่ดีคงไมได เทศกาลมหาพรตให ค วามหวั ง ในการกลั บเป น ขึ้ น มา ในการมี ชีวิ ต ใหม ก็ ข อให เราทุ ก คนสลั ด ทิ้ ง บางสิ่ ง บางอยางออกไปกอนที่มันจะมาติดอยูกับเราตลอดไปแบบนั้น มาคิดถึงสวรรคของเราตอกันดีกวาครับ ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 10 เมษายน 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 2 7
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก อาทิ ต ย ใ บลานทํ า ให เ ราระลึ ก ถึ ง เรื่ อ งที่ สํ า คั ญ ที่ สุ ด 2 เรื่ อ งคื อ การให เ กี ย รติ พ ระผู ไ ถ และความตายของพระผูไถ แถมยังทําใหเราคิดถึงความตายของเราเอง และการกลับคืนชีพของเราอีกดวย ชาวยิวมากมายเขาแถวเรียงรายตอนรับพระเยซูเจาโดยเขาใจวานี่แหละคือพระผูไถที่พระเจาทรงสัญญา ไว โห ร อ งต อนรั บ พระองค ด ว ยคํ า ว า “Hosanna” โฮซานนา เป น คํ าที่ พ วกเขาใช สํ า หรั บกษั ต ริ ย ของพวกเขาเองโดยมี ความหมายว า “ช วยเราให รอด” บางคนบอกว า วั น นั้ น มี ผู ค นชุ ม นุ ม กั น ถึ ง 1 แสนคน บางก็วาสองแสนคน นาจะเปนวันแหงความยิ่งใหญของพระเยซูเจา นาจะเปนวันแหงชัย ชนะแตกับไมใชครับ กับกลายมาเปนวันที่ทําใหวันนี้เราตองระลึกถึงความตาย และการกลับคืนชีพของ พระองค มีเรื่องเลาโบราณเกาแกเรื่องหนึ่งทีน่ าสนใจและก็ทาทายเราดวยในเวลาเดียวกัน เปนเรื่องเลา ของลาตัวหนึ่ง ตัวที่พระเยซูเจาใชขี่เขากรุงเยรูซาแลม ลาตัวนี้ภูมิอกภูมิใจมากที่มีคนมากมายโหรอง ตอ นรั บมั น คิด ว า มัน ช า งโชคดี เหลื อ เกิ น ที่ เ ปน ลาเพี ยงตั วเดี ยวที่ ไ ด รั บเกี ยรติ ม ากมายถึ งขนาดนี้ มันเริ่มติดใจรสชาตของเกียรติยศ มันตองการที่จะใหประชาชนโหรองใหมันอีกสักวันหนึ่ง มันไปถามแม มันวา มันจะขอเดินเขากรุงเยรูซาแลมอีกสักครั้งไดมั้ย คําตอบของแมลานี่แหละครับที่นาสนใจมาก แมลาตอบวา “ลูกเอย ถาลูกไมมีเขาผูนั้นอยูบนหลังเจา เจาก็ไมมีความหมายอะไรเลย” แตลูกลา ก็ไมเชื่อ มันยังคิดวามันสําคัญหรือบางที่สําคัญกวา “เขาผูนั้นที่เคยขี่หลังมัน”ดวย วันศุกรเปนวันดีเดย สําหรับมัน มันเดินเขากรุงเยรูซาแลมอยางสงา แตมันไมพบใครเลยที่ตอนรับมัน มันเห็นฝูงชนมากมาย กํา ลั ง พากั น เดิ น ไปบนภู เ ขาลู ก หนึ่ง มี ท หารและประชาชนมากมาย มั น พยายามเดิ น เข า ไปใกล ๆ เขาผูนั้นที่เคยขี่หลังมันซึ่งกําลังแบกไมกางเขน และโดนเฆี่ยนตี มันไมเขาใจหรอกวาเกิดอะไรขึ้น แตเมื่อมันพยายามเขาไปใกล ก็จะถูกทหารเฆี่ยนตี ไลมันใหไปพน ๆ ตอนนี้แหละครับที่มันเขาใจแลววา คําพูดของแมถูกตองที่สุด “ถาลูกไมมีเขาผูนั้นอยูบนหลังเจา เจาก็ไมมีความหมายอะไรเลย” พี่นองครับ บางทีเราคิดวาลาโง ที่จริงมันก็มีความฉลาดตามประสาของมัน แตบางที่มนุษยเรา ที่คิดวาตัวเองฉลาดนี่แหละครับ พยายามที่จะไปฉลาดเทา ๆ กับลา คือคิดไดเทานั้นวา ทุกคนจะตอง ใหเกียรติเขา ตองใหความสําคัญกับตัวเขาแบบลาตัวนั้น จนลืมไปวาถาหากเขาไมมีพระเยซูเจาบนหลัง ของเขา ตัวเขาก็ไมมีคาอะไรเลย บางคนก็ไมใหพระเยซูเจาขี่หลังนะครับ แตใหพระองคเดินขาง ๆ ไมใชเขาเดินขาง ๆ พระองค ทําเหมือนพระเยซูเจาเปนนักแสดงตัวประกอบซะงั้น เขาใหเกียรติตัวเอง มากเกินไป เพราะงั้นบางทีเราก็อาจจะเห็นผูหลักผูใหญในพระศาสนจักรของเราชางวางตัวมีเกียรติ เหลือเกิน สงางามเหลือเกิน อวดอางตําแหนงหนาที่ เหลือเกิน ทุกครั้งที่พอมีโอกาสเห็นพระสันตะปาปา พ อก็ มั กจะดี ใจที่ พระองค ช างสุ ภาพถ อมตนจริ ง ๆ แม แ ต พ ระคาร ดิ นั ล ของเรา ท า นก็ เ ป น กั น เอง และให เ กี ยรติ บ รรดาพระสงฆ อ ย า งสม่ํ า เสมอทั้ ง ต น และปลาย บางครั้ ง เราเห็ น ผู ใ หญ ที่ จ องหอง เราก็รูสึกไดเลยวาคนนี้ไมมีพระเยซูเจาอยูบนหลัง แตเขาเพียงจับพระองคมาเดินขาง ๆ เขาเทานั้นเอง
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 2 8
โชคดีนะครับที่เราไมคอยเจอคนประเภทนี้ ถา หากเจอ พระศาสนจักรเราก็คงตองเจอแตกฎของเขา ระเบียบของเรา ชื่อของเรา ตําแหนงของเขา อาทิตยนี้ คริ สตชนทุกคนเมื่ อมองเห็ นพระเยซูเจาแล วต องละทิ้งตนเอง หันมาให เกี ยรติ พระองคใหมากขึ้น หันมารวมทนทุกขทรมานกับพระองค บรรเทาใจพระองคมากขึ้น และที่สําคัญ ก็คือหันมาคิดถึงชีวิตอันไรคาของเรา คิดถึงความตายและความหวังในการกลับคืนชีพพรอมกับพระองค ทุกครั้งที่เรามาวัดก็เขามาดวยความถอมตน แตงตัวมาวัดก็ดวยความสุภาพ ทําอะไร ๆ ใหแกพระบาง ยอมรับทุกสิ่งตามน้ําพระทัยของพระ พระเยซูเจาเข ากรุงเยรูซาแลมอย างสุภาพถอมตนที่ สุด พระองคมิได ประทั บบนรถลาก รถม า แตบนหลังลาตัวหนึ่ง มิไดเขากรุงอยางผูทรงอํานาจ แตอยางผูรับใชคนหนึ่งเทานั้น นี่จึงเปนที่มาที่ให เราทุกคนดําเนินชีวิตของเราดวยความสุภาพถอมตน และรับใชซึ่งกันและกันใหมาก ๆ ดีกวานะครับ
ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 17 เมษายน 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 2 9
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก พออยากสงขอความนี้ใหพี่นองมานานแลว ขอความที่วา “สุขสันตวันปสกา” อวยพรใหพี่นอง มีความสุข ที่ไ ดอ ยูใ กล ชิดกั บพระ มี ความสุข ที่พ ระเยซู เจ าอยูกั บเรา อยู ในครอบครั วของเรา อาทิ ตย ป สกานี้ จะมี คริ สตั งจํ านวนมากมายกลั บเข ามาในวั ดอี กครั้ งหนึ่ งเหมื อนทุ ก ๆ ป ที่ ป สกามาถึ ง พวกเขาก็ มาถึ งเหมื อนกั น เป นวันที่ พระสงฆทั้ งหลายมีความสุ ขที่ สุดวั นหนึ่ งที่จะไดเห็ นพี่น องจํานวน มากมายรวมพิธีปสกาอันสงางามและมีความหมายอยางยิ่ง เราทุกคนมารวมพิธีปสกาก็เพื่อมาฟง และ มาประกาศเรื่องที่สําคัญที่สุดเพียงเรื่องเดียวนั่นคือ “พระเยซูเจาทรงพระชนมอยู” หมายความวาทรงชนะ ความตาย และสถิตอยูกับเราเสมอไป นี่ แหละครับความหวังอันยิ่งใหญของเรา วันหนึ่งเราทุกคนก็จะ กลั บ เป น ขึ้ น มาจากความตายเช น เดี ย วกั น และกลั บ เป น ขึ้ น มาคราวนี้ เราจะไม มี วั น ตายเลย (มารธา เจาเชื่อเชนนี้หรือ?) ในโลกของเรามีหลุมฝงศพที่มีชื่อเสียงอยูมากมาย และสําหรับบุคคลสําคัญ ๆ แลว พวกเขาจะ สรางที่ฝงศพใหยิ่งใหญและนาจดจําอยางเชน ปรามิดที่อียิปต ใชฝงฟาโรห ราชินี และคนสําคัญทั้งหลาย ของอียิปต แตละปมีผูคนมากมายไปเยี่ยมชมมัมมี่เหลานี้และชื่นชมความมหัศจรรยของ ปรามิด ที่จริงก็ คือที่ฝงศพนั่นเอง ทัชมาฮาลที่เมืองอัครา ประเทศอินเดียก็ไมใชอะไรอื่นก็คือที่ฝงศพของราชาและราชินี เปนอนุสรณแหงความรักอันยิ่งใหญ ที่มหาวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรม เปนที่ฝงศพของนักบุญเปโตร และบรรดาพระสันตะปาปามากกวาหนึ่งรอยองค รวมไปถึงหลุมศพของพระสันตะปาปายอหนที่ 23 ซึ่งเปนบุญราศีแลว และพระสันตะปาปายอหนปอลที่สองซึ่งกําลังจะเปนบุญราศีในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ดวย อั นที่จ ริง มีผู คนจํ านวนมากมายไปเยี่ ยมชมมหาวิห ารแหง นี้ และสว นใหญก็ ตอ งการไปคํ านั บ พระศพเหลานี้ ที่กรุงเยรูซาแลมก็มีสักการสถานแหงหนึ่งที่สรางอยูเหนือที่ฝงศพของพระเยซูเจา มีคริสตชนจํานวนมากมายไปยังสถานที่แหงนี้เพื่อภาวนาเหนือที่ฝงศพนี้ ที่แปลกกวาที่อื่นก็คือ ที่นี่ไมมี พระศพ แตจะมีปายหนึ่งเขียนเอาไวแทนบอกวา “He is not here” พระองคไมไดอยูที่นี่ ที่นี่มี ชื่อเสียงมากก็เพราะวา เปนหลุมศพที่วางเปลา เปนสถานที่ ที่พระเยซูเจาทรงกระทําอัศจรรยที่ยิ่งใหญ ที่สุด พิสูจนวา พระองคทรงอยูเหนือธรรมชาติและพระองคทรงเปนพระเจาเที่ยงแท หลังจากที่พระองค ไดพิ สูจนมาก อนหน านี้แลววา พระองคทรงเปนมนุ ษย แท ดว ยการรับ ทรมานและตายอย างทรมาน แบบมนุษยแท ๆ เหตุการณที่นี่พระองค ไดบอกกับบรรดาสานุศิษยเอาไวลวงหนา และเปนไปดังนั้นทุก ประการ นี่แหละครับพี่นอง ความยิ่งใหญของปสกาทําใหเรามีความเชื่อและความหวังในการกลับเปน ขึ้นมา และมีความเชื่อตอไปดวยคือ ชีวิตนิรันดร เราจะไมตายอีกเลย ประเด็นสําคัญตอมาก็คือ สําหรับเราคริสตชนแลว พระเจาทรงพระชนมอยูเสมอ ไมใชแตเพียง ทรงพระชนมอยูในศีลมหาสนิทและในศีลศักดิ์สิทธิ์ตาง ๆ เทานั้น แตอยูในชีวิตคริสตชนของเราเองดวย หมายความว า พระองค ทรงพระชนม อยูแมในขณะที่ เรามี ความสุ ข หรื อแม จะมีความทุ กข แ สนสาหั ส พระองคก็ประทับอยูที่นั่น อยูกับเรา พ อนึกถึงเรื่องของ โยบ ผูมีความเชื่อแมวาทานจะถูกทดลอง ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 3 0
มากกวา สูญเสียทรัพยสินทุกอยาง ฝูงแกะ แพะ วัว ควายทั้งหมด สูญเสียครอบครัวลูกเมีย เพื่อนฝูง ตางเยาะเยอทานวา พระเจาของแกอยูที่ไหนละ ทานก็ยังมีความเชื่อในพระเจาไมเสื่อมคลาย ทานพูด ไวอยางนาฟงมากวา “โอ ขาอยากใหถอยคําของขาไดถูกบันทึกไว โอ ขาอยากใหจารึกไวในหนังสือ โอ ขาอยากใหสลักไวในศิลาเปนนิตยดวย ปากกาเหล็กและตะกั่ว แตสวนขา ขาทราบวา พระผูไถของ ขาทรงพระชนมอยู และในที่สุดพระองคจะทรงปรากฏบนแผนดินโลก” ในชีวิตคริสตชนของเราก็อาจจะ พบแบบโยบเหมื อนกั น แต เราจะมี ความเชื่ อแบบโยบได หรื อไม ไม ว าฝนจะตก น้ํ าท วม แผ นดิ นไหว เหตุ เภทภั ยอั นตรายใด ๆ ไม ว าจะมี สิ่ งถู กกลายเป นผิ ด หรื อ สิ่ ง ผิ ด กลายเป น ถู ก ในสั ง คมของเรา ในชีวิ ต ของเรามากมายสั กเท าใดเราก็ ยั งคงสามารถพู ด ไว ดว ยความเชื่ อ มั่ นว า “พระผู ไถ ข องข า ทรงพระชนมอยู” อีกผูหนึ่งที่พูดคลาย ๆ กันนี้ ไดแก กษัตริยดาวิด ตอนที่ทานไดฆาอุรียา สามีของนางบัทเชบา และใหนางบัทเชบามาเปนภรรยาของตน พระเจาทรงใชประกาศกนาธานไปเตือนดาวิด นาธานเลาให กษัตริยดาวิดฟงวา มีเศรษฐีคนหนึ่งมีฝูงแกะ แพะ มากมาย ขาง ๆ บานมีชายยากจนคนหนึ่งมีแกะอยู ตัวเดียว ทนุถนอม เลี้ยงดูเหมือนลูกของตน เศรษฐีมีแขกมาที่บาน เสียดายแกะของตนใหไปเอาแกะ ของชายยากจนมาฆ า เลี้ ยงแขก กษั ต ริ ย ด าวิ ด โกรธมากถึ ง กั บ พู ด ขึ้ น มา “พระเจ า ทรงพระชนม อยูฉันใด ชายคนนั้นจะตองตาย” นาธานจึงบอกดาวิดวา “ชายคนนั้นก็คือ พระองคเอง” ดาวิดจึง รูสึกตัว เสียใจ ไดแตงบทเพลงสดุดีเพื่อขอโทษตอพระเจา เวลาที่ เราทราบวา “พระเจา ทรงพระชนม อยู ” พระองค กลั บเปนขึ้ นมาจากความตายและ อยูกับเราเสมอ ทําใหเรายอมรับทุกอยางในโลกนี้ได เหมือนกั บ โยบ และทําใหรูสึกตัวถึงความผิด ความไมเหมาะสมของเราเองจะทําใหเรารูจัก เปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา ใหใกลชิดกับพระเจามากขึ้น สุขสันตวันปสกา อัลเลลูยา ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 24 เมษายน 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 3 1
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก นอกจากเราจะสมโภชนั กบุ ญยอแซฟ กรรมกร ในอาทิ ตย นี้ แล ว วั นนี้ พระสั นตะปาปายอห น ปอลที่ สองของเราได รั บการแต งตั้ งเป น “บุ ญราศี ” (Blessed) คริ สตั งทั่ วโลกร วมใจกั นโมทนาคุ ณพระ พอเคยรวบรวมเรื่องราวและขอมูลเกี่ยวกับพระสันตะปาปายอหน ปอลที่สองไว เลยขอถือโอกาสนี้ นํามาใหพี่นองไดอานกัน เราจะไดรูจักพระองคดีขึ้นนะครับ เป นเวลา 26 ป แห งสมณสมั ยสมเด็ จ พระสั นตะปาปา ยอห น ปอล ที่ 2 เป นพระสั นตะปาปา ผูปกครองพระศาสนจั กรนานที่ สุ ด เป นลํ าดั บที่ 3 ของพระศาสนจั กร องค ที่ หนึ่ ง ได แก นั กบุ ญเปโตร พระสมณสมั ยทั้ งสิ้ น 34 - 37 ป องค ที่ 2 ได แก พระสันตะปาปา ป โอ ที่ 9 พระสมณสมัย 31 ป แทบ ไมนาเชื่อเลยวา 26 ปแหงพระสมณสมัยนี้ พระสันตะปาปา ยอหน ปอล ที่ 2 ทรงทํางานมากมายอยางไมรูจัก เหน็ ดเหนื่ อยจนกระทั่ งเป นที่ ประจั กษ ว า พระองค ทรงเป นพระสั นตะปาปาองค หนึ่ งที่ ยิ่ งใหญ ที่ สุ ด ในพระศาสนจักร และสมควรอยางยิ่งที่จะไดรับพระนามวา “John Paul the Great” หากเปนแบบกษัตริย ในโลกนี้ คงตองแปลวา “มหาราช” ในป ค.ศ. 2003 ไดมีพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ป แหงพระสมณสมัยของพระองคอยางยิ่งใหญ หากนับเฉพาะ 25 ป พระสันตะปาปา ยอหน ปอล ที่ 2 ทรงแสดงพระองคเปนนักเขียนผูยิ่งใหญพระองคหนึ่ง ทีเดียว ไดทรงออกสมณสาสนแบบตาง ๆ ไดแก Encyclicals 14 ฉบับ, Apostolic Exhortations 13 ฉบับ, Apostolic Constitutions 11 ฉบับ และ Apostolic letters อีก 42 ฉบับ นอกจากนี้ ยังมีงานเขียน และสุนทรพจนของพระองคในโอกาสตาง ๆ รวมไดถึงกวา 200 Volumns พระองคไดทรงประกาศแตงตั้ง นักบุ ญทั้งสิ้น 469 องค และสถาปนาบุญราศีอี ก 1,314 องค ซึ่งเปนจํานวนที่มากกว าพระสันตะปาปา ทุกพระองครวมกันแตงตั้ง นับตั้งแตมีการกอตั้งสมณกระทรวงวาดวยเรื่องนักบุญ ในป 1594 เปนตนมา พระองคยังทรงเปนพระสันตะปาปพระองคแรกที่ไดทรงเสด็จเยี่ยม Synagoque (โรงธรรม) ของชาวยิ ว ที่กรุงโรม ในป 1986 และสุเหลาของชาวมุสลิมในประเทศซีเรีย ในป 2001 พระองคทรงรอดชีวิตอยาง ปาฏิหาริยจากการลอบยิงในป 1981 ทรงปรากฏพระองคเหมือนดังพระสันตะปาปาที่ถูกลาวถึงในความลับ ขอที่ 3 แหงฟาติมา และยังเปนที่กลาวกันวา การสิ้นสุดของลัทธิคอมมูนิสตในยุโรป ป 1980 พระองค เปนปจจัยสําคัญหนึ่งของเรื่องนี้ดวย ในป 1983 พระองคไดประกาศใช “กฎหมายพระศาสนจักรฉบับใหม” ในป 1992 พระองคไดทรงออกหนังสือคําสอน “The Catechism of the Catholic Church” ซึ่งเปน หนังสือคําสอนทางการฉบับแรกดานคําสอน นับตั้งแตสังคายนาที่เมือง Trent ในศตวรรษที่ 16 เรื่องนาทึ่งอี กเรื่องหนึ่ง ไดแก การเดินทางอภิบาลของพระองค พระองคเปนพระสันตะปาปา ผูที่ เดิ น ทางเพื่ อ อภิ บาลสัต บุ รุษ มากที่สุ ด ในพระศาสนจั ก รและในประวั ติ ศาสตร นับ จนถึ งป 2003 พระองคเดินทาง 102 ครั้งใน 129 ประเทศ รวมประเทศไทยดวย 10-11 พ.ค. 1984 และหากนับ จํานวนที่เดินทางไปประเทศที่เคยเสด็จแลว พระองคเดินทางทั้งสิ้น 203 ครั้ง เทากับ 1,167,000 กิโลเมตร เดินทางรอบโลกไดประมาณ 30 รอบ นอกจากนี้ ยังเดินทางในประเทศอิตาลีอี ก 142 ครั้ ง ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 3 2
ทรงเยี่ยมวัดตาง ๆ ในสังฆมณฑลโรมถึง 301 วัดจากทั้งหมด 334 วัด สถิติทั้งหมดนี้ยังไมรวมของป 2004 พระองคทรงชราภาพมากแลว และสิ้นพระชนมในวันที่ 2 เม.ย. 2005 ดวยพระชนมายุ 84 ป สํ าหรั บเราคริ สตชนชาวไทย สมเด็ จพระสั นตะปาปา ยอห น ปอล ที่ 2 เป นพระสั นตะปาปา ผูที่มี ความหมายและความสําคั ญอยางยิ่ง ยวด พระองคไ ดท รงแตง ตั้งพระคาร ดินั ลองคแ รกใหแ ก ประเทศไทย ยั งทรงเสด็ จเยี่ ยมประเทศไทยอย างเป นทางการ เมื่ อวั นที่ 10 – 11 พฤษภาคม 1984 นําความปลาบปลื้มปติลนพนแกพวกเรามิรูลืมจนกระทั่งทุกวันนี้ ในบทเทศนของพระองคบทหนึ่ง ในพิธี บูชามิ สซาขอบพระคุ ณ ณ สนามศุ ภชลาศั ยสนามกี ฬาแห งชาติ วั นพฤหัสบดี ที่ 10 พฤษภาคม 1984 ยังกองอยูในความทรงจําเสมอความวา: “ท า นอาจจะเป น ส ว นน อ ยของประชาชนในประเทศของท า น และเป น ฝู ง แกะน อ ย ๆ ของบรรดาผูเปนศิษยพระคริสตเจา แตพระคริสตเจา พระชุมพาบาลผูพระทัยดี ทรงหวงใยทาน และทรงดูแลพวกทานดวยความรักพิเศษ” และอีกคําหนึ่งที่มีความหมายต อชาวเราอยางยิ่งก็คือ “พอรักเมืองไทย” เราทุ ก คนสามารถกล า วได อ ย า งเต็ ม ปากว า สมเด็ จ พระสั น ตะปาปา ยอห น ปอล ที่ 2 เปนของขวัญและพระพรอันล้ําคาที่พระเจาทรงประทานแกเรา พระเกียรติคุณของสมเด็จพระสันตะปาปา ยอหน ปอล ที่ 2 เปนที่ยอมรับของนานาประเทศทั่วโลก พระองคทรงเปนผูนําดานเสรีภาพ ดานศีลธรรม ดานงานอภิบาล และดานสันติภาพผูยิ่งใหญ มิใชเพียง สําหรับพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตสําหรับโลกของเราดวย ให เ ราโมทนาคุ ณ ขอบพระคุ ณ พระผู เ ป น เจ า สํ า หรั บ พระพรนี้ ให เ ราขอบพระคุ ณ สมเด็ จ พระสั น ตะปาปา ยอห น ปอล ที่ 2 สํ า หรั บ การอุ ทิ ศ ตน การเสี ย สละพละกํ า ลั ง ทั้ ง กายและใจ เพื่ อ พระศาสนจั ก ร จนกระทั่ ง วาระสุ ด ท า ย พระองค เ ดิ น ทางครั้ ง สุ ด ท า ย เดิ น ทางเพื่ อ ไปพบกั บ องคพระผูสูงสุด ผูซึ่งพระองคทานไดรับใชบนแผนดินนี้ ในฐานะผูแทนแหงองคพระมหาเยซูคริสตเจา ใหเราทุกคนเดินทางไปพรอมกับพระองคดวยคําภาวนาของเรา บัดนี้พระองคไดรับการประกาศวา “อาณาจักรสวรรคเปนของพระองคแลว เปนบุญราศี ใหเราเขามาพึ่งพาพระองค ดังเชนที่เราได เคยกระทําขณะที่พระองคมีชีวิตอยูบนโลกนี้เถิด” พระสันตะปาปา ยอหน ปอล ชวยวิงวอนเทอญ ขอพระองคไดรับการแตงตั้งเปนนักบุญของพระศาสนจักรโดยเร็วดวยเทอญ ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 01 พฤษภาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 3 3
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก สานุ ศิ ษย ของพระเยซู เจ าสองคน คนหนึ่ งชื่ อ เคลโอพาส อี กคนหนึ่ งไม ทราบชื่ อเดิ นทางไป เมืองเอมมาอุส เมืองเล็ก ๆ อยูทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเยรูซาแลมประมาณ 7 กิโลเมตร ศิษยสองคนนี้ กําลัง หัวใจสลาย ผิดหวัง สิ้นหวัง เพราะพระเยซูเจาซึ่งเปนอาจารยตองตายอยางทรมานและนาอดสู แทนที่จะเปนกษัตริยอยางที่พวกเขาคาดคิด เขาไมอยากอยูในเมือง ที่ตองหลบ ๆ ซอน ๆ เพราะความกลัว เลยตัดสินใจไปบนกันที่เมืองอื่นดีกวา เดินไปบนไป จนกระทั่ง ชายแปลกหนาคนหนึ่งมารวมเดินทางดวย ชายแปลกหนาคนนี้ไดมาอธิบายพระคัมภีรใหพวกเขาเขาใจไดอยางแปลกประหลาด แถมยังไดทานอาหาร ดวยกัน และอาหารมื้อนั้นกลับกลายเปน องคพระเยซูเจาเอง พวกเขาจําพระองคไดตอนนั้นเอง ตอนทีพ่ วก เขาอยูกับพระเยซูที่เขาไมรูจักและจําไมไดนี่แหละ ที่หัวใจของพวกเขากลับกลายเปน หัวใจที่แสวงหา พวกเขา เขาใจพระมหาทรมานและความตายของพระเยซูเจา และเมื่อเขาไดทานอาหารกับพระองคแลว เขาก็ตาสวาง และจําพระองคได สารภาพวา “ใจของเราไมไดเรารอนเปนไฟอยูภายในหรือเมื่อพระองคตรัสกับเราขณะ เดินทาง และอธิบายพระคัมภีรใหเราฟง” หัวใจของพวกเขากลายเปน “หัวใจที่รอนรน” ความรอนรนนี่เอง ทําใหพวกเขาเดินทางกลับเยรูซาแลมทันทีไปเลาใหศิษยคนอื่น ๆ ฟง และประกาศวา “องคพระผูเปนเจาทรง กลับคืนพระชนมชีพแลวจริง ๆ” เปนเรื่องที่พออาจจะเรียกไดวา เรื่อง “สามหัวใจ” คือ หัวใจสลายกอน หัวใจแสวงหา และหัวใจรอน รน คนทุ กคนต างก็ มี เรื่ องที่ ทํ าให หั วใจเราสลายได ทั้ งนั้ น แต เวลาเดี ยวกั นหากเรามี พระคั มภี ร และมี องคพระเยซูเจาแลว หัวใจของเราก็สามารถแปรเปลี่ยนเปนหัวใจที่แสวงหาและรอนรนไดเชนกัน ศิลปนที่มี ชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศดัช ชื่อ แรมบรานด (Rembrandt) วาดรูปพระเยซูเจานั่งบนโตะอาหาร กับสานุศิษยสองคนนี้ที่เอมมาอุส เขาพยายามวาดใหเห็นสายตาของศิษยสองคนนี้ที่จําพระเยซูเจาไดตอน บิขนมปง เปนสายตาแหงความประหลาดใจ ดีใจ และรอนรน ภาพนี้ตั้งอยูในพิพิธภัณฑซึ่งมีมัคคุเทศกคนหนึ่ง คอยอธิบายเบื้องหลังของภาพนี้ดวยการเลาอธิบายพระวรสารตอนทีเ่ ราฟงในอาทิตยนี้ นี่แหละครับ วันหนึ่ง ภรรยาของเขาเองเปนมะเร็ง และคอย ๆ เสียชีวิตอยางชา ๆ และทนทุกขทรมานมาก เขาไมเขาใจความหมาย ของความทุกขทรมานเลย สําหรับเขาแลวโลกกลายเปนโลกมืด หัวใจสลาย สิ้นหวังโดยสิ้นเชิง พอกลับไป ทํางานที่พิพิธภัณฑเขาอธิบายรูปนี้อยางที่เคยทํา แตไมมีชีวิตชีวาเลย พระวรสารที่เขากําลังเลาใหผูเยี่ยมชม ฟงนั้น เขาเคยเลามาแลวไมรูกี่ครั้ง วันหนึ่งขณะที่กําลังเลาแบบเครื่องจักรอยูนั้น พระวรสารนี้ไดสะกิดหัวใจ ของเขาอย างรุ นแรง เขาเริ่ มเข าใจ พระคั มภี ร เขารู สึ กว า พระเยซู เจ าอยู ข าง ๆ เขาที่ กํ าลั งสิ้ นหวั ง เหมือนศิษยสองคนนั้น เขารูสึกไดวา พระเยซูเจาทรงพระชนมอยูสําหรับตัวเขาเอง เขาบอกกับเพื่อนของเขา วา “อ านและเล าเรื่ องนี้ แลว ดู เหมื อนว าตาของเขาถู กเป ดและมองเห็ นสิ่ งต าง ๆ แตกต างไปจากเดิ ม และหัวใจของเขาเรารอนเปนไฟอยูภายใน” เปนความรูสึกและความคิดเดียวกับที่สานุศิษยทั้งสองนั้นมีทีเดียว มีเรื่องเลาที่นารัก ๆ ของบุญราศี ยอหน ปอลที่สองของเรา เมื่อเปนพระสันตะปาปาแลว พระองคชื่น ชอบที่จะพบปะผูคน วันหนึ่ง พระองคทรงดําเนินบนถนนนอกสํานักวาติกัน ผานรานขายของที่ระลึกรานหนึ่ง ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 3 4
ชื่อ Vittoria Janni ขณะที่ทรงสนทนากับพนักงานในราน พนักงานสาวคนหนึ่งรวบรวมความกลาและสติ เขามากลาวกับพระองควา “ลูกกําลังจะแตงงานในวันอาทิตยหนา พระองคจะถวายมิสซาแตงงานใหลูกได ไหมคะ ? พระสันตะปาปาแยมพระสรวลตอบไปทันที่วา “ไดซิ” อาทิตยตอมาพระองคใชวัดนอยนักบุญ เปาโลในวาติกันทําพิธีแตงงานใหเธอ คิดดูเถอะวาคูแตงงานคูนี้จะมีความสุขและรักพระสันตะปาปา องคนี้สักเพียงใด วันนั้นโปปมอบภาพแมพระใหเจาสาว และมอบพระคัมภีรปกหนังอยางดีใหเจาบาว Vittoria รวบรวมความกลาอีกครั้งหนึ่งและกลาวกับพระองควา “ลูกขออนุญาตจุมพิตพระองคสักครั้ง ไดหรือไม พระสันตะปาปายิ้มกอนที่จะตอบในทันทีวา “ทําไมจะไมไดละ” พระเยซูเจาและพระสันตะปาปายอหน ปอลที่สองทรงดําเนินอยูบนถนนหนทางตาง ๆ ที่เรา กําลังเดินอยูนี่เอง บางทีเราอาจจะจําพระองคไมได แตเมื่อเรามีพระคัมภีรแลว เราจะมองเห็นพระองค และพระองคจะใหเราเขาใจหลายสิ่งในชีวิตของเราเอง บางทีเราอาจจะอิจฉาสานุศิษยสองคนนั้นที่ได ฟงพระเยซูเจาอธิบายพระคัมภีรใหพวกเขาฟงดวยตนเอง แถมยังไดทานอาหารรวมกับพระองคดวย อันที่จริง เราทุกคนก็ไดทําเชนเดียวกัน เวลาที่เรารวมถวายมิสซา เราไดฟงพระคัมภีร และเราก็ไดรวม รับประทานอาหารกับพระองค อยาลืมนะครับวา พระเยซูเจาผูกลับคืนพระชนมชีพแลวทรงเดินอยูกับ เรา อยูขาง ๆ เราเปลี่ยนหัวใจของเราให “เรารอนเปนไฟอยูภายใน” ผูที่มีพระเจาในชีวิต จะไดรับ พระพรนี้เสมอ
ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 08 พฤษภาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 3 5
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก อาทิ ตย นี้เปนวั นภาวนาสากลเพื่อพระกระแสเรียก กระแสเรียกเพื่อใหมี “นายชุมพาบาลที่ดี ” (Pastor Bonus) นายชุมพาบาลที่ดีก็หมายถึง พระสันตะปาปาที่ดี พระสังฆราชที่ดี พระสงฆที่ดี นักบวชที่ดีนั่นเอง คนที่เปดประตูคอกแกะดูแลฝูงแกะดวยความเอาใจใส พอบวชเปนพระสงฆมา 30 ป (1981-2011) พอไดพบกับนายชุมพาบาลที่ดีมากมาย ทั้งพระสันตะปาปา พระคารดินัลและ พระสังฆราช รวมทั้งพระสงฆที่ดีมากมาย พอขอถือโอกาสนี้สดุดีทานเหลานั้นที่ใหแบบอยางการเปน นายชุมพาบาลที่ดีใหแกพอและบรรดาพระสงฆอีกมากมาย สุดแตวาจะเจริญรอยตามทานเหลานั้นไดมาก นอยแคไหนเทานั้นเอง บุคคลแรกที่พ อขอยกย องเทิดทู นเป นพิเศษก็ ได แกพระสั นตะปาปายอหนปอลที่ สอง บุญราศี ของเรา พระองค เ ป น นายชุ ม พาบาลที่ วิ เ ศษจริ ง ๆ ครั บ พี่ น อ งคงได อ า นประวั ติ ข องพระองค ม า พอสมควร ใครที่ ไ ด ช มวี ดี ทั ศ น ที่ ใ ช ใ นวั น ประกาศบุ ญ ราศี 1 พ.ค.’2011 ที่ พ อ นํ า มาฉายให ดู ใ นวั ด คงจะรูสึกรักพระองคมากขึ้น หลายคนซึ้งจนตองรองไหออกมา พอเองก็น้ําตาซึมเหมือนกัน วีดิทัศนชุดนี้ ตองขอบคุณคุณพอสุรสิทธิ์ ชุมศรีพันธุ พี่ชายพอเองที่ชวยแปลและจัดทําเปนภาษาไทยที่ใหความรูสึกดี มาก ใครตองการนําไปใชก็มาขอไดที่วัดนะครับ ประการแรกที่ทําใหพระองคเปนนายชุมพาบาลที่ยิ่งใหญ นั่นคือ พระองคเปนบุรุษแหงการภาวนา พระองคใชเวลาในการภาวนาวันละ 4 ชั่วโมง นอกเหนือจาก การถวายมิ ส ซาประจํ า วั น แล ว พระองค ส วดทํ า วั ต รอย า งสม่ํ า เสมอ หาเวลาสวดสายประคํ า สวดพระเมตตา รําพึงประจําวัน อานหนังสือศรัทธา และทุกวันศุกรพระองคจะเดินรูป 14 ภาคเสมอ วันกอนที่พระองคสิ้นพระชนม พระอัครสังฆราชที่เฝาพระองค ไดอานบทเดินรูป 14 ภาคใหพระองคฟง และพระองคก็จะทําสําคัญมหากางเขนในทุก ๆ ภาคดวยความศรัทธา ภารกิจหนาที่ของพระองคในฐานะ โปปนั้นมากมายจริง ๆ แตก็ยังมีเวลาที่จะภาวนามากถึงเพียงนี้ มีเวลาเทา ๆ กับที่พระองคบรรทม วั น ละ 4 ชั่ ว โมง คํ า แรกที่ พ ระองค ต รั ส กั บ ชาวโลกเมื่ อ ตอนรั บ ตํ า แหน ง พระสั น ตะปาปาก็ คื อ “จงอย า กลั ว เลย จงเป ด ประตู ต อ นรั บ พระคริ ส ตเจ า ” พระองค มิ ไ ด เ พี ย งเชิ ญ ชวนชาวเรา แตพระองคตรัสกับตัวเองดวยคําพูดนี้เชนเดียวกัน วันปลงพระศพของพระองคซึ่งพอไดมีโอกาสไดรวม พิธีอยูดวยที่กรุงโรม พระคารดินัลรัตซิงเกอร ซึ่งตอมาไดเปนโปปเบเนดิกตที่ 16 ไดสรุปบทเทศนของ พระองคไ วอย างน าฟง ดังนี้ ครับ “เราทุก คนไมเคยลืมวั นปส กาครั้งสุ ดทาย ในชีวิ ตของพระองคเลย แมวาจะทรงทรมานดวยอาการปวย พระองคเสด็จมาที่หนาตางพระราชวังวาติกัน ประทานพรใหแกโลก และจั กรวาลครั้งสุ ดทา ย ในวัน นี้เราทุก คนแนใจไดวา พระสัน ตะปาปาที่รัก ของเรา กํา ลังยื นอยู ที่ หนาตางบานพระบิดา พระองคกําลังมองและอวยพรเราเชนกัน ใชแลว บิดาผูศักดิ์สิทธิ์กรุณาอวยพร พวกเราดวย พวกเรามอบดวงวิญญาณสุดที่รักของพระองคไวกับพระมารดาพระเจา พระมารดาของ พระองคผูซึ่งไดนําทางพระองคทุก ๆ วัน และกําลังนําทางพระองคไปสูพระสิริรุงโรจนของพระบุตรของ พระองคตอพระเยซูคริสตเจา ตลอดนิรันดร อาแมน” จากนั้นพระคารดินัลรัตซิงเกอร ยื่นมือชี้ไปทาง ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 3 6
หนาตางที่พระองคเคยประทับ ทุกคนที่นั่นหันไปทางหนาตางและปรบมือดั งกึกกองทีเดียว ทุกคนตาง พากั น พู ด เป น เสี ย งเดี ยวกั นว า พระคาร ดิ นั ลรั ตซิ งเกอร เทศน ได ดี มาก ๆ เป นบทเทศน ที่ วิ เศษมาก และอีกไมกี่วั นตอมา พระคารดิ นัลรัต ซิงเกอรผูนี้ เองได รับเลื อกเป นพระสันตะปาปาใชพระนามว า เบเนดิกตที่ 16 พอเลามาถึงตรงนี้ก็ตองขอบอกกับพี่นองตรง ๆ วา พอไมรูจะเลียนแบบความศรัทธา และชีวิตแหงการภาวนาของพระองคไดอยางไร นายชุมพาบาลอีกทานหนึ่งที่พอชื่นชอบก็คือ โปปเบเนดิกตที่ 16 นี่เอง รับตําแหนงเมื่อมีอายุ 78 ปแลว แตพระองคเอาใจใสงานของพระศาสนจักรอยางไมนาเชื่อทีเดียว เข็มแข็งมากในการปกปอง ความเชื่อและคําสอนของพระศาสนจักร ประกาศปนักบุญเปาโลและ ประกาศปพระสงฆ พยายามทํางาน ใหมากที่สุด พระองคตรัสวางานมีมากมายเหลือเกิน ขอเวลาพระองคทํางานใหมากที่สุด พระองคจึง เสียสละที่จะใชเวลาในการตอนรับแขกและผูแสวงบุญทั้งหลาย บทเทศน ของพระองคแตละบทนั้นมา จากชีวิตที่เต็มไปดวยคําภาวนาและความรอบรู บางครั้งเราก็ดูไดจากบทเทศนวาชีวิตของคน ๆ นี้จะเปน นายชุมพาบาลที่ดีหรือไม บทเทศนที่มาจากชีวิตของเขาจะบอกถึงความเอาใจใส ความหวงใย เรื่องนี้ ปรากฏชัดมากทีเดียว เวลาที่เราไดยินบทเทศนของพระคารดินัลมีชัย กิจบุญชูของเรา ทานเทศนมาจาก ชีวิตดวยน้ําเสียงที่มีชีวิตชีวา แมวาพระคุณเจาจะอายุมากแลว แตเวลาเทศนนั้นมีพลัง เพราะเรารูถึง ความรูสึ ก ห วงใยและเอาใจใส ความรั ก ที่ท า นมีต อ ลู กแกะของท า น ทุ ก คนต า งรั บ รู วา พระคุ ณ เจ า เปนนักอภิบาลที่ดี เปนนายชุมพาบาลที่ดี คนดี คนเกง คนศักดิ์สิทธิ์ คนศรัทธา คนเหลานี้ไมตองการการโฆษณา ไมตองพยายามบอกหรือ พยายามแสดงตนว าเป นอย างนี้ อ ย างนั้ น เรื่ องเหล านี้ คนทางโลกเขาคิ ดกั น เรื่ อ งเหล านี้ คนอื่ น ๆ เขามองเห็นเรา เขาก็จะเห็นเองรูเอง เปนเรื่องที่ไมสามารถนํามาจองหองได เพราะฉะนั้นคนจองหองไม สามารถเปนคนเหลานี้ได ไมนาจะมีใครที่กลาพูดไดวาตนเองศักดิ์สิทธิ์ หรือศรัทธาจนตองใหคนอื่น มา เลียนแบบตนเอง บางทีพอเห็นบางคนทําอยางนั้นก็อดที่จะขําไมไดเหมือนกัน ดังนั้นจึงเหมาะแลวครับ ที่วันนี้พวกเรามาสวดภาวนาขอใหมี นายชุมพาบาลที่ดีมาก ๆ ใหมีกระแสเรียกมาก ๆ ขอใหทาน เหล า นั้ น มี จิ ต ใจสุ ภ าพ ถ อ มตน ขอให ก ระแสเรี ย กของพวกเขาทุ ก คนเข ม แข็ ง และทํ า หน า ที่ นายชุมพาบาลไดอยางดี ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 15 พฤษภาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 3 7
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก พระเยซูเจาเปน หนทาง เปน ความจริง และเปนชีวิตสําหรับเรา พวกเราทุกคนมาถูกทางแลว ครั บ แค ต ามพระองค ไ ปเท า นั้ น เราได รั บ ชี วิ ต นิ รั น ดร มี นั ก บุ ญ องค ห นึ่ ง มี ชี วิ ต อยู ใ นสมั ย ที่ มี การเบียดเบียนศาสนา ในยุคตนของพระศาสนจักร คือ นักบุญยอหน คริสซอสโตม ทานถูกจักรพรรดิ Arcadius ขมขูวาจะเนรเทศทานออกจากอาณาจักร ทานตอบจักรพรรดิวา “พระองคจะเนรเทศขาไป ไม ไ ด เพราะโลกนี้ คื อ บ า นของพระบิ ดาเจ า ” จัก รพรรดิ เ ลยตรัส ว า “อยา งนั้ น ขา จะฆ า เจ า เสี ย ” ท า นก็ ต อบจั ก รพรรดิ อี ก ว า “ไม ท า นทํ า เช น นั้ น ก็ ไ ม ไ ด เพราะว า ชี วิ ต ของข า อยู กั บ พระคริ ส ตเจ า ในพระเจา” “ทรัพยสมบัติของทานทั้งหมดจะตองถูกยืด” จักรพรรดิพูดดวยความโกรธ แตทานนักบุญ ก็ตอบไปอีกวา “ทานครับ พระองคทําเชนนั้นก็ไมได เพราะทรัพยสมบัติทั้ งหมดของขาอยูบนสวรรค และจิ ต ใจของข า ก็ อ ยู ที่ นั่ น ด ว ย” “ถ า อย า งนั้ น ข า ก็ จ ะขั บ ไล ท า นออกไปจากประชาชนของท า น ทานจะไมมีเพื่อนฝูงเหลืออยูเลย ทานนักบุญยังคงตอบอีกวา “เรื่องนี้พระองคก็ทําไมไดเชนเดียวกัน เพราะวา ขามีเพื่อนคนหนึ่งในสวรรคที่เคยพูดวา ขาจะไมทอดทิ้งเจาหรือลืมเจาเลย” สําหรับทาน นั ก บุ ญ ยอห น คริ ส ซอสโตม พระเยซู เ จ า เป น ทุ ก สิ่ ง ทุ ก อย า ง เป น ทั้ ง หนทาง ความจริ ง และชี วิ ต เปนทรัพยสมบัติ เปนเพื่อน เปนบานพัก และทานก็พรอมที่จะเผชิญหนากับทุกสิ่งทุกอยางรวมกับ พระเยซูเจาซึ่งเปนเพื่อนของทาน เวลาที่ เ รามี พ ระเยซู เ จ า เป น ทุ ก สิ่ ง ทุ ก อย า ง เราก็ ส ามารถทํ า อะไรได ห ลายอย า งนะครั บ ดูอยางสมัยอัครสาวกซิครับ ตอนนั้นกลุมคริสตชนมีปญหาเรื่องการแจกอาหาร พอมีปญหาในกลุม คริ ส ตชนก็ เ รี ย กประชุ ม ปรึ ก ษากั น ว า จะทํ า อย า งไรดี ทุ ก คนก็ เ ห็ น ชอบที่ จ ะเลื อ กคนจํ า นวนหนึ่ ง มาทําหนาที่แจกอาหารและใหบริการแกกลุมคนนั้น เปนกลุมคริสตชนก็มีความรักเปนน้ําหนึ่งใจเดียวกัน มีปญหาอะไรก็ชวยกันแกไข ปรึกษาหารือกัน ภาพที่สวยงามแบบนี้จะเกิดขึ้นไดก็ตอเมื่อมีเพระเยซูเจา เปน ศูน ยกลางและมีพ ระองค เป นทุ กสิ่ง ทุก อยา งเทา นั้นเอง ทุก วัน นี้เ วลาที่พ อเห็ นกลุม ตางๆในวั ด ของเรามาประชุ มกั น ปรึ กษากั น ว าจะทํ า โนน ทํ า นี้ ก็ รูสึ ก ดี ใ จและก็ รู ว าเราไม ได ทํ า อยู เพี ยงลํ า พั ง มีคริสตชนมากมายคอยชวยงาน ใหคําแนะนํา ทั้งสภาภิบาล วินเซนตเดอปอล พลมารีย และอื่นๆอีก มากมาย คนเหล า นี้ ต า งเสี ย สละหลายอย า งที่ จ ะมาทํ า งานเช น นี้ ไ ด ที่ เ ป น เช น นี้ ก็ เ พราะว า มีพระเยซูเจาเปนหนทาง ความจริงและชีวิต พระองคยึดเหนี่ยวพวกเราไวดวยกัน พี่นองทานใดที่มี เวลาพอ พอก็เชิญชวนใหเขามามีสวนรวมในงานบริการที่พระเยซูเจาปรารถนาไดเรารับใช ซึ่งกันและ กัน มีบางอยาง หรืออาจจะหลายอยางที่เราสามารถชวยเหลือกันไดอยางแนนอน มีเรื่องจริงเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นที่เมืองชิคาโก ในอเมริกา เสียงโทรศัพทดังขึ้นที่บานของคุณหมอ ผาตัด ชื่อ Leo Winters ในเวลาตีหนึ่ง เขาเปนหมอผาตัดที่เกงมากคนหนึ่งทีเดียว ทางโรงพยาบาล โทรมาแจงหมอวา เด็กหนุมคนหนึ่งไดรับอุบัติเหตุรถยนต อาการหนักมากและตองไดรับการผาตัดโดย ดวนที่สุด มีหมอเพียงคนเดียวเทานั้นที่จะชวยเขาไดตอนนี้ ขอใหรีบมาโดยเร็วที่สุด หมอรีบลุกขึ้น ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 3 8
แตงตั ว รีบ ไปที่ รถ แลวก็ ตัดสิน ใจใชเสน ทางลัด แตจะต องไปผา นบริเ วณชุ มชนค อนข างอัน ตราย เพราะมักจะมีพวกที่ชอบมั่วสุมกันเรื่องยาเสพติด หมอก็ยอมเสี่ยง แลวก็เปนจริง รถยนตของหมอ ถูกบังคับใหหยุด ชายคนหนึ่งมาเปดประตูรถ ดึงตัวหมอออกมาจากรถแลวก็กําลังจะขับรถออกไป หมอพยายามอธิบายเหตุผลใหฟง แตชายคนนั้นไมฟงเสียง ขับรถหายไปในตอนนั้นเลย หมอใชเวลาถึง 45 นาที กวาจะเดินไปหาโทรศัพทและเรียกรถแท็กซี่ได กวาจะถึงโรงพยาบาลก็ผานไปชั่วโมงกวาแลว หมอรีบวิ่งไปที่หองผาตัดทันที แตพยาบาลไดบอกวา หมอมาชาไปแลว เด็กหนุมเสียชีวิตในครึ่งชั่วโมง แลว บิดาของเด็กหนุมคนนี้กําลังเศราเสียใจมากและกําลังสวดภาวนาอยูในวัดนอย หมอไปพบกับบิดา ของเด็ก เพื่อจะปลอบโยนและใหกําลังใจ บิดาของเด็กหนุมที่ตายคนนี้ไมใช ใครที่ไหน เขาคือคนที่ผลัก ไสหมอคนนี้ เอารถของหมอไป เพื่อจะมาโรงพยาบาลนี้ พอเขาเห็นหมอเขาทราบทันทีวาเขาไดทํา ผิดพลาดอยางมหันต เขาผลักไสคนเดียวในเมืองนี้ที่จะชวยชีวิตลูกชายเขาไดออกไป มีชายเพียงคนเดียวที่เปนทุกสิ่งทุกอยางสําหรับเขา และเปนคนเดียวที่จะชวยวิญญาณของเรา ให ร อดได ระวั ง ดี ๆ นะครั บ อย า ผลั ก ไสพระองค อ อกจากชี วิ ต ของเรา อาจจะต อ งมานั่ ง ร อ งไห เสียใจเหมือนกับบิดาของเด็กหนุมคนนี้ก็ได พระเจาประทานพระพรบางอยางแกเราเสมอ เพื่อใหเรา สามารถรับใชซึ่งกันและกันได ดังนั้นหากมีอะไรใหเราทําได ก็ใหทําเถอะ เราไมตองกลัววาจะตองทํา อะไร หรือ ทําอยางไร เพราะเราทราบดีวา พระเยซูเจาเปนหนทาง เปนความจริงและที่สําคัญที่สุดก็คือ พระองคเปนชีวิตสําหรับเรา พระองคกลับเปนขึ้นมาจากความตาย และก็ยังมีพระชนมชีพอยูกับเรา และจะอยูกับเราเสมอไปจนสิ้นพิภพ ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 22 พฤษภาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 3 9
สารเจาอาวาส อาทิตยหนาเราสมโภชพระเยซูเสด็จขึ้นสวรรค และอาทิตยตอไป 12 มิ.ย. 11 เราจะสมโภช พระจิ ต เจ า ดั ง นั้ น พระวรสารในช ว งนี้ ก็ จ ะพู ด ถึ ง พระจิ ต เจ า มากขึ้ น ที ล ะเล็ ก ที ล ะน อ ย เรารู จั ก พระจิตเจาดวยบทเพลงที่ซึ้งมากๆ และเราก็รูจักกันดี รองเพลง “เชิญพระจิต ฤทธิเดช เสด็จมา เยื อนวิญ ญาณ ข า พระองค ที่ท รงสรร.......” ทีไ ร ก็รู สึ กดี พลั ง อํา นาจบางอยา งในชีวิ ต คริ สตชน ไดอยางนาประหลาด เรารับรูถึงพระจิตที่เรามองไมเห็น และโดยปกติวันสมโภชพระจิตเจาก็มักจะมี พิ ธี บ วชพระสงฆ ใ หม ป นี้ ก็ มี บ วช 3 องค ที่ บ า นเณรเล็ ก สามพราน ชายหนุ ม สามคนตั ด สิ น ใจ จะติดตามและรับใชพระเยซูเจา พระสังฆราชและบรรดาพระสงฆปกมือเหนือเขา เขาเปนพระสงฆ ตอนไหนก็ไมรูครับ รูแตวา พอพวกเขาออกมาจากพิธีบวช เขาจะมีอํานาจจากเบื้องบนเสกปงและ เหลาองุนใหเปนพระกายและพระโลหิตของพระเยซูเจาได และแมแตผูรวมพิธีมิสซาของเขาจะเปน ใครก็ตามไมวาจะเปนสังฆราชหรือคารดินัล ก็ยังตองคุกเขาลงและนมัสการศีลนั้น นอกจากนี้มือทั้ง สองของเขาซึ่งไดรับการเจิมก็ยังสามารถยกบาปใหแกผูที่มาสารภาพบาปกับเขาได เรามองไมเห็น บาปหลุดไปยังไงตอนไหน แตเรารับรูไดวา บาปหลุดไปเรียบรอยแลว พระจิตทํางานแบบนี้แหละครับ ทําโดยที่เรามองไมเห็น เราไดแตเพียงรับรูผลของการทํางาน ดั้งนั้นเราจึงไมคอยรูจักพระจิตมากนัก แตผลงานของพระจิตเจานั้น ทําใหเราไดรอด ทําใหพระศาสนจักรมั่นคง และทําใหชีวิตคริสตชน ของเรารอนรนขึ้น พระจิตเจายังทํางานอีกมากมายในพระศาสนจักรและในชีวิตของบรรดา พระสงฆ แต ก็ มิ ไ ช เ ท า นั้ น นะครั บ พระองค ยั ง คงทํ า งานในชี วิ ต คริ ส ตชนของเราด ว ย แตก็เหมือนเดิม คือทําในแบบที่เราเองมองไมเห็นพระองค แคเห็นผลงานของพระองค ผลงานของพระจิ ตเจาโดยผา นทางชี วิต ของพี่ น องคริ สตชนคื อ ผูใหญที่ กลั บใจ คนเรียน คําสอนผูใหญทั้งหลาย นาแปลกใจนะครับ สถิติของเราบอกวาทุกป มีผูใหญเรียนคําสอนและรับศีล ล า งบาปประมาณ 200 คน คนพวกนั้ น มาจากไหนกั น มี สั ก กี่ คนที่ พ ระสงฆ เ ป น คนชวนมาเรี ย น มาสนใจ เกือบ 100 % มาจากพี่นองชักชวน หรือ เปนแบบอยางที่ดี ดลใจเขาสะกิดใจเขา บางคนเพียงไดยินคริสตังคุยกันถึงพระ บางคนเห็น คริสตชนสวดกอนทานอาหาร บางคนเพียงใจ กวางกับผูอื่น บางคนเพราะเขายอมใหอภั ย เรื่องเหล านี้ ทําใหคนเหลานี้อยากรูจั กพระของเรา คริ ส ตั ง ใหม เ หล า นี้ เ ป น งานของพระจิ ต เจ า โดยผ า นทางเราครั บ เป น เรื่ อ งง า ยๆ ธรรมดาๆ แตพระจิตเจาทรงทําใหเปนงานแหงความรอด มีคริสตชนทิ้งวัดคนหนึ่ง เขาเปนคนชอบสงสัยและก็ไมคอยเชื่อในพระเจา มีคนพยายามไป เตือนเขาหลายครั้ง ใหมาวั ด จนในที่สุด เขาสัญญากั บพอเจาวัดของเขาวา จะมาฟ งเทศน ข องพ อ 4 อาทิตย เพราะพอคนนี้มีชื่อเสียงเรื่องการเทศนมาก และเขาก็มาจริงๆดวย หลังจาก 4 อาทิตยผาน ไป เขาไปหาคุณพอบอกวา ตั้งแตนี้เขาจะกลับมาวัด ขอใหพอตอนรับเขาซึ่งเปนคนบาปกลับมาดวย พอ และทุ กคนในวั ดดี ใจมาก พ อจึ งถามเขาว า บทเทศนข องพอ ตอนไหนหรื อ ที่ทํ าใหคุ ณรู สึก เช น นี้ เขาตอบวา หลังมิสซาวันหนึ่ง เขาเขาไปชวยหญิงชราคนหนึ่งเดินขามทางลื่นๆหนาวัด หญิงชราคนนั้น ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 4 0
หันมาขอบคุณผมแลวก็พูดวา “คุณรูจักพระเจาผูไถบาปของฉันหรือเปลา ฉันอยากใหคุณรูจักพระองค จริงๆเลย พระองคเปนทุกสิ่งทุกอยางในโลกนี้สําหรับฉัน”ดวยคําพูดงายๆของหญิงชราคนนี้ ทําใหเขา เข า ใจพระอย า งง า ยๆ และเปลี่ ย นจิ ต ใจของเขา มี พ ลั ง ยิ่ ง กว า บทเทศน ใ ดๆของคุ ณ พ อ องค นั้ น พระจิตเจาก็ทํางานแบบนี้เอง ผูหญิงคนหนึ่งกําลังขับรถอยูและก็บังเอิญไปเปดสถานีวิทยุแหงหนึ่งซึ่งกําลังออกรายการของ คาทอลิก ผูดําเนินรายการก็พูดเตือนใจเล็กนอยวา “ขับรถอยูก็ใจเย็นๆนะครับ และก็ใจกวางดวย แบงกันใชถนนดวยจิตตารมณของพระเยซูเจา” เธอสะกิดใจคําพูดเหลานี้ เธอเปนคนใจรอนและมักจะ ไมยอมใครเลยบนทองถนน ที่สําคัญก็คือ เธอมักจะกลาวคําพูดไมดี บอยๆ เวลาที่ไ มพอใจ ผูหญิงอีก คนหนึ่งกําลังขับรถและจะออกถนนใหญ ไมมีใครจอดรถใหเธอออกมาไดเลย เธอตัดสินใจจอดรถให ผูหญิงคนนั้นพยักหนาและโบกมือขอบคุณเธอ ไปถึงที่จอดรถซึ่งก็หายาก เธอเห็นมีอยูที่หนึ่งกําลังจะเขา ไปจอดอยูแลว รถอีกคันหนึ่งกําลังจะเขาจอดเหมือนกัน เธอตั ดสินใจยอมถอยใหเขาเขาไป แลวเธอก็ ขับรถหาที่จอดใหม ผูหญิงที่ขับรถเขาจอดคนนั้น เขามาทักทาย บอกวา เธอใจกวางมากที่ทําเชนนั้น ปกติไมเคยมีใครยอมใหที่จอดรถแกใครทั้งนั้น ที่สุดทั้งสองคนเปนเพื่อนกันและก็ไปวัดดวยกันในเวลา ตอมา เปนใครกันครับที่ทําใหเกิดสิ่งดีๆเหลานี้ขึ้นมา พระจิตเจาทรงทํางานแบบนี้ในตัวเราเสมอ ไมทํา อะไรซับซอน แตทําแบบเรียบงาย มีสิ่งดีเกิดขึ้นในชีวิตของพี่นองมากมายโดยพระจิตเจา คําพูดดีๆ ของเราบางคํา ความใจกวางของเราบางครั้ง ความศรัทธาของเราทุกครั้ง จะมีผลที่ดีตามมาเสมอ เพราะพระจิตเจากําลังทํางานอยู ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 29 พฤษภาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 4 1
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก อาทิตยนี้เราสมโภชพระเยซูเจาเสด็จขึ้นสวรรค มีคําสอนหลายขอทีเดียวครับจากการสมโภชนี้ พอจะขอยกมาเปนขอๆ ดังนี้นะครับ 1. คําสัญ ญา ความเชื่อ และแบบอย างสํ าหรับ เราว า ชี วิตนิรั นดรเปนจุ ดหมายปลายทาง ของเรา 2. เพื่อไปสูชีวิ ตนิรัน ดร พระองคสง พระจิ ตของพระองคล งมาเปนผู รวมเดินทาง เป นผูใ ห คําปรึกษาและดลบันดาลใจเรา ใหความสวางแกเรา ใหความเขาใจแกเรา 3. เรามีหนาที่ไปประกาศพระวรสาร ลางบาปผูมีความเชื่อ ใหเกียรติพระเยซูเจาดวยชีวิต คริสตชนของเรา แม เ ราจะเชื่ อ ว า สวรรค แ ละชี วิ ต นิ รั น ดรมี อ ยู จ ริ ง และเราทุ ก คนก็ ต อ งการที่ จ ะไปก็ ต าม แตถาหากถามวา พี่นองจะตองการไปสวรรคตอนนี้เลยมั้ย วันนี้เลยมั้ย พอเชื่อวาคําตอบก็คงจะเปนวา “รออีกหนอยก็ได พอ” หมายความวายังอยากอยูในโลกนี้ตออีกหนอย พูดงายกวานี้ก็คือ ยังไมอยาก ตายวันนี้หรอก เพราะจะไปสวรรคได เราจะตองตายเสียกอน คือ ตายตอตัวเองและก็ตองตายจริงๆ ด ว ย ดั ง นั้ น ตราบใดที่ เ รายั ง ไม ต าย เราจึ ง ต อ งดํ า เนิ น ชี วิ ต เพื่ อ เตรี ยมไปสู ชี วิ ต นิ รั น ดรให พ ร อ มไว พระเยซูเจาสัญญากับเราสามประการ คือ จะสงพระจิตของพระองคลงมา และสัญญาวาจะอยูกับเรา จนสิ้นพิภพ สุดทายสัญญากับเราวา จะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง พู ด ถึ ง เรื่ อ งการกลั บ มาอี ก ครั้ ง หนึ่ ง มี เ รื่ อ งที่ น า คิ ด ที เ ดี ย ว เกิ ด ขึ้ น ในระหว า งสงครามโลก ครั้งที่สอง วันที่ 11 มีน าคม 1942 ประวัติศาสตรของฟลิปปนสบันทึกไววา เปนวันที่ญี่ปุนบุกยึ ด ประเทศฟลิปปนส กองทหารของสหรัฐไมสามารถตานทานได นายพล MacArthur (แมคอาเธอร) ผูบัญชาการรบตอนนั้นจําเปนตองละทิ้งประเทศฟลิปปนส แตกอนออกจากประเทศนี้ ทานทิ้งคําพูดที่มี ชื่อเสียงมากประโยคหนึ่งวา “ขาพเจาจะกลับมา” มีคนมากมายวิพากยวิจารณความตั้งใจนี้หลายคน สงสัยวา แกบาไปแลว ไมมีทางเปนไปไดแนนอน แตคําวิพากยวิจารณ ความสงสัยเหลานี้ ไมสามารถ หยุดยั้งความตั้งใจอั นเด็ดเดี่ยวของนายพลแมคอาเธอรได สองปครึ่งตอมา นายพลแมคอาเธอร สามารถขั บ ไล ญี่ ปุ น ออกจากฟ ลิ ป ป น ส ไ ด ท า นกล า วกั บ ประชาชนชาวฟ ลิ ป ป น ส ว า “ประชาชน ชาวฟลิปปนสที่รัก ขาพเจากลับมาแลว” เรื่องของนายพลแมคอาเธอร ไมสามารถนํามาเปรียบกับ เรื่องการเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งของพระเยซูเจาได แตก็มีเรื่องที่นาคิดอยูเหมือนกัน เพราะบางครั้ง เราก็สงสัย บางครั้งเราก็วิจารณรื่องการกลับคืนชีพ การเสด็จกลับมาอีกครั้งของพระองค แตถึงเราจะ ทําแบบนั้น พระเยซูเจาก็จะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งแนนอน ชาวเราที่มีความเชื่ อ ก็จงดําเนินชีวิต รอคอยการเสด็จกลับมาของพระองค กอนเสด็จขึ้นสวรรคพระองคทรงสั่งอัครสาวกวา “จงคอยรับพระพรที่พระบิดาทรงสัญญาไว พระจิ ต เจ า จะเสด็ จ ลงมาเหนื อ ท า น ทํ า พิ ธี ล า งบาปให เ ขา เดชะพระนาม พระบิ ด า พระบุ ต ร ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 4 2
และพระจิต” พระองคมิไดจากเราไปและทิ้งเราไวเดียวดาย พระองคมอบพระผูชวยเราใหเปนเพื่อน เดิ น ทาง ให ป รี ช าญาณและการเป ด เผย ให ต าแห ง ใจของเราสว า งขึ้ น คํ า ที่ มี ความหมายเหล า นี้ อยู ใ นพระคั ม ภี ร อ าทิ ต ย นี้ ทั้ ง สิ้ น มี เ รื่ อ งของแม ค นหนึ่ ง พาลู ก ชายเข า เรี ยนอนุ บ าล เราก็ รู อ ยู ว า เด็กๆ ขนาดนี้มกั จะติดพอติดแม พวกเขาจะไมอยากจากพอแมไปไหนเลย แมพาลูกมาสงแลวก็บอกลา ลูก จูบลูก กอดลูกแลวก็พูดกับลูกวา “ลูกรัก แมจะปลอยใหลูกไดอยูกับคนที่ดีมากๆเลยนะ ตกลงมั้ย?” แม ค นนี้ ทํ า เช น นี้ ทุ ก วั น เวลามาส ง ลู ก ที่ โ รงเรี ย น เวลาผ า นพ น ไปหลายป ลู ก ชายเรี ย นจบแล ว แตงงานมีครอบครัว ส วนแมก็ แกชราลงและเริ่มที่จ ะหลงๆลืมๆ จนเปนป ญหาที่บ าน ที่สุ ดลูกชาย ตัดสินใจพาแมไปอยูบานพักคนชราที่ดีมาก มีระบบ มีการบริการที่ดีทุกอยาง ตอนที่ลูกชายจะลาแม เขาจูบแม กอดแม และบอกลาดวยคําพูดที่เขาไดยินมาตั้งแตเล็กๆทุกวัน “แมครับ ผมจะปลอยใหแมได อยู กั บ คนที่ ดี ม ากๆเลยนะครั บ ” พอได ยิ น คํ า นี้ แม ซึ่ ง หลงๆลื ม ๆกลั บ จํ า ทุ ก สิ่ ง ได ดี เธอเริ่ ม ร อ งไห เพราะเธอรูดีวา แมจะเปนคําพูดเดียวกัน แตการลาทั้งสองแบบนี้ชางตางกัน เธอใหลูกอยูกับคนที่เธอ ไวใจเพราะความรัก แตลูกใหเธออยูกับคนที่ไวใจดวยความรําคาญ ตัดปญหาของตนเอง พระเยซูเจาใหเราไดอยูกับผูที่พระองคไวใจมากๆ คือ พระจิต พระจิตเจาจะทรงสอนเราทุกสิ่ง ใหเ ราเติบ โตขึ้ นมีชี วิต ที่ดีเ ปน ของตนเอง มีอ นาคตที่ สดใส บางครั้ง ภาระหนา ที่ตา งๆ ความสลวน ในสิ่งตางๆในโลกนี้ ก็อาจทําใหเราหางเหินจากองคพระเยซูเจาได พระจิตเจาจะทํางานก็ไมงายนัก ให ชี วิ ต คริ ส ตชนของเรา ติ ด ยึ ด อยู กั บ พระเยซู เ จ า และพระจิ ต เจ า เสมอ ให ก ารเสด็ จ ขึ้ น สวรรค ของพระองค ทําใหชีวิตคริสตชนของเรามีชีวิตชีวา ดวยการสวดภาวนาและเปนพยานถึงพระองค
ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 05 มิถุนายน 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 4 3
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รกั อาทิตยนี้เราสมโภช “พระจิตเจา” ถาเปนคริสตังเกาหนอยก็เรียกวันนี้วา “เปนเตกอสเต” ซึ่งมาจากภาษากรีก แปลวา “ 50 วัน” สําหรับชาวยิวแลวพวกเขาฉลองนี้ 50 วัน หลังจากวันปสกา แตสําหรับเราคาทอลิก พวกเราฉลอง 50 วัน หลังจากพระเยซูเจากลับเปนขึ้นมาจากความตายครับ เหตุการณที่เกิดขึ้นในวันนี้มีหลายอยางมากลวนแตสําคัญๆทั้งนั้นเลย 1. เหตุการณแรกเลยก็คือ พระจิตเจาเสด็จลงมาเหนืออัครสาวกและแมพระในรูปของลิ้นไฟ เหตุการณนี้เกิดขึ้นหลังจากที่บรรดาอัครสาวกไดเลือก มัทธีอาส เปนอัครสาวกแทน ยูดาส ซึ่งทรยศพระเยซูเจา ตอนนั้นมีสาวกรวมๆกันไดราว 120 คน แตก็ไมใชทุกคนที่อยูในหอง ชั้นบนตอนพระจิตเสด็จลงมา 2. เหตุการณที่สอง ก็คือ บรรดาอัครสาวก ซึ่งชวงนั้นอยูในความหวาดกลัว กลัวอะไรหรือครับ ก็กลัวตายแบบพระเยซูเจานั่นแหละ ขนาดหัวหนาใหญยังตายแบบนี้เลย อยาไปวาอะไร อัครสาวกเลยครับ เปนเรา เราก็ตองกลัวเหมือนกัน แตเมื่อพระจิตเสด็จลงมาแลว ตั้งแต วิ น าที นั้ น ความกล า หาญไม รู ว า มาจากไหน ความรู ค วามสามารถไม รู ว า มาจากไหน เปลี่ยนแปลงพวกเขาใหเปนนักเทศนที่มีใจรอนรน เปนผูประกาศขาวดีของพระคริสตเจา ที่มีใจมุงมั่น พระจิตเจาทรงเจิมเขาดวยไฟในจิตใจ 3. เหตุการณที่ตามมาก็คือ เปโตรซึ่งเปนหัวหนาและก็เคยหวาดกลัวที่สุดคนหนึ่งไดเทศนสอน ประชาชน ภายนอกซึ่งมาจากหลายชาติหลายภาษา แปลกตรงที่วาทุกตนที่ฟงเปโตรพูด ก็ไดยินเปนภาษาของตนเอง พระจิตเจาก็ไดเจิมพวกเขาดวยไฟรอนรน และความเขาใจ เพราะนั้นใครก็ตามที่ฟงพระวาจาของพระดวยความตั้งใจ ก็จะไดรับพระคุณนี้ทุกครั้งไป พระจิตเสด็จลงมาทุกครั้งโดยผานทางพระวาจา 4. เหตุการณที่ตามมาอีกก็คือ บรรดาคริสตชนแรกเริ่มในตอนนั้น ซึ่งก็เปนคนธรรมดาๆอยาง เรา มีความกลัวไมตางจากอัครสาวก เมื่อถึงเวลาแหงการเบียดเบียนศาสนา พวกเขาถูก เปลี่ยนใหเปน คริสตชนที่มีความกลาหาญเด็ดเดียวที่จะเปนพยานยืนยันถึงพระเยซูเจา เปนพยานถึงความเชื่อดวยการยอมตาย ชวงนั้นมีมรณสักขีเกิดขึ้นมากมายที่เราก็ไมเขาใจ วาพวกเขาสามารถยอมรับความตายอยางทารุณปาเถื่อนแบบนั้นไดอยางไร แตพวกเขาก็ ทําได เราเรียกพวกเหลานี้วา มารตีร (Martyr) มาจากภาษากรีกแปลวา “พยาน” เหตุ การณ ที่เ กิ ด ขึ้น ในวัน นี้ วัน ที่ พระจิ ตเจ า เสด็ จ ลงมานี้ พระศาสนจั ก รถื อ ว า เป น “วันเกิดของพระศาสนจักร” พระศาสนจักรที่ซอนเรน อยูเงียบๆ กลับกลายมาเปน พระศาสน จักรที่มีชีวิตชีวา มีใจรอนรน วันนี้จึงเทากับเปนวันฉลองวันเกิดของพระศาสนจักรของเรา ความรอนรนหรือพระศาสนจักรที่มีชีวิตชีวา ถาเปนพวกเราก็มักจะใชคําวา “มีไฟ” พระจิตเจา
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 4 4
ก็เสด็จลงมาในรูปของลิ้นไฟ ไฟจึงมีความหมายถึงความรอนรน มีเรื่องเปรียบเทียบเรื่องไฟนี้อยู เรื่องหนึ่งนะครับ เปนเรื่องที่อยูในหนังสือพระคัมภีรของเรานี่เอง อั บ ราฮั ม มี ลู ก ชายชื่ อ อิ ส อั ค พระเจ า ทดลองใจอั บ ราฮั ม บอกให ท า นนํ า อิ ส อั ค ไปฆาถวายบูชาแดพระองค อับราฮัมก็ไมตอลอตอเถียง เชื่อฟงพระ แตในใจก็คงวุนวายอยูไม น อ ยหรอก ขึ้ น ไปถึ ง บนภู เ ขาพร อ มทั้ ง ฟ น และไฟ อิ ส อั ค แปลกใจถามว า พ อ เรามี ฟ น เรามีไฟ แลว แกะที่จะฆาถวายบูชาอยูไหน อับราฮัมก็ตอบวา พระเจาจะทรงเตรียมใหเอง ตอนกอนจะฆาอิสอัค พระเจาก็ใหเทวดาของพระองคลงมาบอกใหอับราฮัมหยุด เพราะพระเจา ทรงทราบแลววา ทานมีความเชื่ อ หลายพันปตอมาคือ สมัยของเรานี่แหละ พระศาสนจักร ของเรามี ฟน สําหรับการถวายบูชา ซึ่งนั้นก็หมายถึง ไมกางเขน เรามีเครื่องถวายบูชา คือ ลูกแกะปสกา ซึ่งหมายถึง พระเยซูเจา แตเรายังขาดไฟ ซึ่งก็หมายความวา พระจิตเจาทํางาน ไดยากในโลกปจจุบัน ความร อ นรนของพวกเราคริ ส ตชนลดน อ ยลง เราไม ค อ ยสนใจที่ จ ะอ า นพระคั ม ภี ร เราสวดภาวนาลดนอยลง รอนรนนอยลงที่จะมาวัด แกบาป รับศีล ไมคอยอยากรวมกิจกรรม ต า งๆของวั ด เพราะเสี ย เวลา ไม รู จั ก ใคร เราอาจมี เ หตุ ผ ลมากมายที่ จ ะต อ งรี บ มาวั ด และรีบกลับนะครับ แตที่แนๆก็คือวา ถาเราใหพระจิตทํางานในใจเรา เราจะมีเหตุผลที่ดีกวาที่ จะชวยกันทําใหวัดเรามีชีวิตชีวาขึ้นมา เรื่องแบบนี้อยูๆไมเกิดขึ้นมาเองนะครับ เราตองภาวนา วอนขอใหพระจิตเจาเสด็จลงมาในชีวิตของเรา แลวเราจะพบการเปลี่ยนแปลงแบบเดียวกัน ที่อัครสาวกและแมพระไดรับในวันนี้ครับ
ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 12 มิถุนายน 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 4 5
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก ระยะนี้มีการสมโภชสําคัญๆ หลายครั้ง อาทิตยนี้เราสมโภชพระตรีเอกภาพ อาทิตยหนาเราจะ สมโภชพระวรกายและพระโลหิ ต ของพระคริ ส ตเจ า จะมี ก ารแห ศี ล และอวยพรศี ล มหาสนิ ท ตามธรรมเนียม คริสตชนอี กด วย เวลาเราคิ ดถึ งพระตรีเอกภาพ เราระลึกถึ งพระบั ญญัติ ของ พระเจา ประการที่ 1 “จงนมัสการพระเจาผูเดียวของเจา ” ขอนี้มีความหมายที่ลึกซึ้งมากนะครับ คือ หมายถึง พระเจาองคเดียว สามพระบุคคล คือ พระบิดา พระบุตรและพระจิต เปนรหัสธรรม ที่สติปญญามนุษยไมสามารถเขาถึงได และก็ยังหมายถึง พระเจาองคเดียว ไมมี พระเจาอื่นใดอีก ที่เราจะไปนมัสการได ทั้งสองความหมายนี้ยังเปนคําสอนที่ทาทายเราอยางมากอีกดวย คือ ทาทาย สติปญ ญาของเรา แถมยังท าทายความเชื่อของเราอีก ตางหาก ที่พ อบอกวา ทาทายความเชื่อ ก็ เพราะวา เรามนุษยมักจะเชื่ออะไรๆหลายอยางมาก คนไทยเราจึงมีคําพูดบางคําที่แสดงถึงความเชื่อ หลากหลาย อยางเชน คําวา “ไมเชื่อก็อยาลบหลู” “ทุกศาสนาก็ดีทั้งนั้น” พอวาการทาทายความเชื่อนี้ มีผลรุนแรงมากกวาการทาทายสติปญญาเพราะ เหตุวา มนุษยเราสามารถยอมรับไดวา ไมสามารถ อธิบายหรือใหเหตุผลถึงทุกสิ่งทุกอยางได ขอพิสูจน อยางหนึ่งที่วา เรามักถูกทาทายความเชื่อเสมอๆ ก็คือ คําถามตางๆที่พี่นองถามพอเสมอๆก็คือ เราไปดูหมอไดมั้ย เราไปนั่งวิปสนาไดมั้ย ไปเดินจงกลม ไดมั้ย ตักบาตรไดมั้ย เขาทรงไดมั้ย อะไรทํานองนี้ มีทางออกเดียวที่เราสามารถทําไดก็คือ เมื่อมีบาง สิ่งทาทายความเชื่อของเรา เราก็ตองเพิ่มพูนความเชื่อของเราใหมากขึ้นนะครับ ทําใหความเชื่อ ของเราเขมแข็งขึ้นตามแบบอยางของบรรดาคริสตชนสมัยแรกเริ่ม สมัยนั้นการเปนคริสตชนก็คือ การเซ็นชื่อ ลงในใบมรณะบัตรนั้ นเอง อาศัยคํา ภาวนาและคํา สอนของพระเยซูเจา ความเชื่ อของ พวกเขาคืออัศจรรยที่ทําใหพระศาสนจักรมั่นคงมาจนถึงทุกวันนี้ เคยมีอารามแหงหนึ่งใน ศต.ที่ 17 และศต.ที่ 18 มีชื่อเสียงอยางมากในยุโรป มีอารามลูก เป น สาขาอยู ม ากมาย แต เ พราะความไม เ ชื่ อ ในพระ ของคนในศต.ที่ 19 ประกอบกั บ วั ต ถุ นิ ย ม ที่มีมากขึ้น ทําใหอารามแหงนี้ลดนอยลงอยางตอเนื่อง จนในที่สุด ในศต.ที่ 19 นั้น เหลืออารามแม อยูเพียงแหงเดียว และมีสมาชิกอยูเพียง 5 องคเทานั้น อธิการอารามแหงนี้จึงตัดสินใจเดินทางไป ขอคําแนะนําจากอธิการของอารามอีกคณะหนึ่ง เพราะวา แมมีอยูเพียง 5 องค แตทั้งหาคนนี้ก็ไมได มีความกระตือ รือรนหรือปฏิบัติตอกันดวยความรักเลย เมื่อไปพบกับอธิการของอีกคณะหนึ่งแลว ทานก็เลาใหฟงวาเกิดอะไรขึ้น ก็ไดรับคําตอบวา อารามของทานก็กําลังเกิดปญหานี้เหมือนกัน ดังนั้น จึงไมสามารถใหคําแนะนําอะไรไดเลย แตทั้งสองก็สนทนากันดวยความสุข อานพระคัมภีรดวยกัน กอนจะกลับ อธิการองคนี้จึงถามเปนครั้งสุดทายวา “ที่สุดแลว ทานไมมีอะไรจะแนะนําจริงๆหรือ ” คําตอบก็ยั งเหมื อนเดิมคื อ ” “เสียใจดว ย ไม มีคํา แนะนําอะไรจริงๆ เพราะในอารามของท านนั้ น มีผูกอบกูอยูคนหนึ่งแลว (Messiah)” คําตอบนี้ทําใหอธิการงงมาก ไมเขา ใจวาทานหมายถึงอะไร ในอารามของท า นมี ผู ก อบกู อ ารามอยู ค นหนึ่ ง เมื่ อ กลั บ มาถึ ง อาราม สมาชิ ก ทั้ ง ห า คนก็ ถ ามว า ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 4 6
มีคําแนะนําอะไรหรือไม ทานก็เลาถึงตอนนี้ใหฟง ทุกคนตางมองกันและกัน และคิดวาจะเปนใครไดที่ จะเป นผูกอบกูอาราม เมื่อ ตางคนตางคิดตา งคนต างดู ก็พบว าในแตละคนนั้น มีคุณสมบัติที่ ดีมาก เพียงแตพวกเขาไมเคยดูและมองสิ่งเหลานี้ในเพื่อนๆของตนเองเลย ตั้งแตนั้นมา พวกเขาก็ปฏิบัติตอ กันดวยความเคารพและดวยความรัก ประชาชนบริเวณนั้นไดยินชื่อเสียงเรื่องนี้ก็มาเยี่ยมอารามและ พบวาเปนสถานที่มีบรรยากาศแหงความรักและสงบดี หลายคนไดตัดสินใจมารวมในอารามแหงนี้มา เขาเรื่อยๆ จนในที่สุดอารามแหงนี้ก็ฟนตัวขึ้นมามีชีวิตชีวา เพราะแทจริงทุกคนที่มีพระในชีวิต มีคําสอนของพระเยซูเจาในชีวิต ก็คือ ผูที่กอบกูชีวิตของครอบครัว ชีวิตในสํานักงาน ชีวิตในวัด ของตนเอง วัดของเราก็สามารถเปนสถานที่ Amazing ได เมื่อเราปฏิบัติตอกันดวยความเคารพรัก เมื่อเราคริสตชนปฏิบัติตอกันเหมือนเราปฏิบัติตอองคพระคริสตเจาเอง ถาหากเปนเชนนี้ก็เทากับวา เรากําลังปฏิบัติตามคําสอนแหงความรักของพระคริสตเจา วัดของเราก็จะมีชีวิตชีวา มาวัดครั้งใดก็มี ความสุข อยากอยู อยากรูเรื่องพระมากขึ้น อยากรูจักกัน มีความสุขที่จะชวยเหลือกัน เมื่ อ เรามี พ ระเจ า องค เ ดียวกั น และมี อ งค เ ดี ยวเท า นั้ น เราสามารถทุ ม เทความรั ก ความเชื่ อ และ ความไวใจของเราทั้งหมดใหได เราสามารถรักพระและรักพี่นองของเราไดอยางเหลือเชื่อทีเดียว สิ่งนี้เกิดขึ้นในชุมชนคริสตชนที่มีองคพระเจาแตผูเดียวเปนศูนยกลางแหงพระหรรษทาน อยาใหอะไร เลยนะครับ มาทํารายความเชื่อขอนี้ของเรา แตตรงกันขาม ใหทําทุกสิ่ง เพื่อทําใหความเชื่อนี้ของเรา เขมแข็งมั่นคง
ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 19 มิถุนายน 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 4 7
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก อาทิตยนี้เราสมโภชพระกายและพระโลหิตของพระคริสตเจาในศีลมหาสนิท พระศาสนจักร ใหเราใหเกียรติตอศีลนี้เปนพิเศษเพื่อยืนยันความเชื่อ “พระเยซูเจาทรงประทับอยูในศีลนี้อยาง แท จ ริ ง เป น พระกายและพระโลหิ ต ของพระองค อ ย า งแท จ ริ ง ” และเราทุ ก คนก็ จ ะให เ กี ย รติ พระเยซูเจาดวยการแหพระองค เปนการยืนยันพระดํารัสที่วา “อยากลัวเลย เราจะอยูกับทาน เสมอไปจนสิ้นภิภพ” ปงและองุนในถวยกาลิกซไดเปลี่ยนเปน พระกายและพระโลหิตแทจริง ของพระเยซูเจา นี่คืออัศจรรยที่ยิ่งใหญและที่สําคัญก็คือ เปนอัศจรรยแหงความรอดของเราทุกคน ครับ มีผูส รา งภาพยนตร หลายคนพยายามสรา งภาพยนตร ที่มี ถ วยกาลิ กซ ที่พ ระเยซูเ จา ทรงใช ในระหวางอาหารค่ําครั้งสุดทายนั่นหรือจะเรียกวา เปนครั้งแรกที่พระองคทําใหปงและองุนในถวย กาลิกซไดเปนพระโลหิตของพระองค กอนที่พระองคจะหลั่งเลือดทั้งหมดบนไมกางเขน บางเรื่องก็ เกี่ยวกับการไลผี บางเรื่องก็เปนเรื่องการแสวงหาขุมทรัพย เชนในเรื่อง Indiana Jones เปนตน เรื่องเหลานั้น เปนเรื่องแตงขึ้นมาทั้งนั้น เรื่องจริงเกี่ยวกับถวยกาลิกซที่พระเยซูเจาใชในวันนั้น มีดังนี้ครับ ถวยกาลิกซนี้ ปจจุบันถูกเก็บรักษาไวอยา งดีในอาสนวิหารแหงเมือง บาเลนเซีย ในประเทศ สเปน มาอยูที่นี่ไดยังไง? พระศาสนจักรคงไมรับรองอะไรงายๆ ถาไมมีการพิสูจนเสียกอ น มี ก ารพิ สู จ น ท างโบราณคดี ทางประวั ติ ศ าสตร และทางธรรมเนี ย มปฏิ บั ติ สื บ ต อ กั น มา ผลการตรวจสอบอันยาวนาน อาจารยตางๆในมหาวิทยาลัยสําคัญๆของยุโรปที่ศึกษาเรื่องนี้สืบตอ กัน มายื นยั น วา กาลิ กซ นี้ มีความสมเหตุส มผลที่ สุด ที่จ ะเป น กาลิ กซ ที่ พระเยซู เจ า ทรงใช ใ นคื น ที่ ถูกทรยศนั้น เรื่องราวความเปนมามีดังนี้ อาหารค่ําครั้งสุดทายจัดขึ้นที่บานของ น.มารโก เปนบานที่มีฐานะดีคนหนึ่ง กาลิกซนี้ทํามา จากวัสดุที่คนมีฐานะเทานั้นจะใชได ไมนาแปลกใจอะไรที่นักบุญมารโกไดมอบใหกับนักบุญเปโตร เมื่ อ ทราบว า เปโตรกํ า ลั ง จะไปกรุ ง โรม นั ก บุ ญ เปโตรและบรรดาพระสั น ตะปาปายุ ค แรกๆนั้ น ใชกาลิกซนี้ถวายมิสซา จารีตมิสซาที่เราใชอยูปจจุบันก็สืบเนื่ องมาจากบรรดาพระสันตะปาปา เหลานี้เอง เพียงแคคําที่ใชในเวลาเสกศีลนั้นตางกัน ประวัติศาสตรสืบคนไดวา บทเสกศีลของ พวกทานนั้นใชคําที่บงบอกวาพวกทานใชกาลิกซที่พระเยซูเจาทรงใช โดยพูดวา “เมื่ออาหารค่ํา เสร็ จ แล ว พระองค ท รงหยิ บ ถ ว ยอั น สง า งามนี้ ในพระหั ต ถ อั น ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ แ ละน า เคารพ ยิ่ง ขอบพระคุณ อํานวยพรและมอบแดอัครสาวก และตรัสในทํานองเดียวกับที่พระองคไดทําตอ กาลิกซที่พระองคใชนี้” พระสันตะปาปายุคแรกๆนั้นหยิบถวยกาลิกซและพูดอยางชัดเจนวา กาลิกซ ที่ทานใชนั้นคือกาลิกซเดียวกับที่พระเยซูเจาใช
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 4 8
กาลิ ก ซ นี้ ถู ก ส ง มาที่ ป ระเทศสเปน ในป 258 โดยนั ก บุ ญ ลอเรนซ มรณสั ก ขี ตอนนั้ น มีการเบียดเบียนศาสนาทั่วอาณาจักรโรมันโดยจักรพรรดิวาเลเรีย พอนักบุญลอเรนซทราบวา พระสั น ตะปาปาซิ ก ตุ ส เป น มรณสั ก ขี ท า นก็ รี บ นํ า กาลิ ก ซ นี้ ไ ว ที่ ส เปน เพื่ อ ให ป ลอดภั ย จาก การเบียดเบียนกอนที่ทานเองก็เปนมรณสักขีในเวลาตอมา ในระหวางการยึดครองของพวกมุสลิม คริสตังชาวสเปนพยายามนํากาลิกซนี้ไปหลบซอนตามที่ตางๆในประเทศ จนกระทั่งป 1071 ไดมา อยูที่อาณาจักร Aragon ที่อารามนักบุญ John Of The Rock และก็อยูที่นี่นานถึง 300 ป ในป 1399 กาลิกซไดถูกสงมาที่บาเลนซีย (Valencia) และก็อยูที่นี่จนถึงปจจุบัน เรื่องที่นาตื่นเตนที่สุดก็คือในวันที่ 8 พฤศจิกายน 1982 พระสันตะปาปา ยอหน ปอลที่ 2 บุญราศีเสด็จมาเยี่ยมเมืองบาเลนเซีย พระองคเสด็จมาที่อาสนวิหาร คํานับกาลิกซใบนี้ และถวาย มิสซาที่นี่โดยใชกาลิกซใบนี้ของพระเยซูเจาดวย บรรดาคริสตชนทั้งหลายตางตกอยูในภวังคที่เห็น ภาพของผูแทนพระเยซูเจาชูถวยการลิกซใบเดียวกันกับพระอาจารยเจา คริสตชนจํานวนมาก มีความศรัทธาในถวยกาลิกซใบนี้อยางมากโดยเฉพาะคริสตชนชาวสเปน เรื่องยังไม จบนะครับ ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2006 พระสันตะปาปาเบเนดิกตที่ 16 หลังจากเปนพระสันตะปาปาเพียง ปเดียว พระองคเสด็จมาที่ประเทศสเปนและมาเยี่ยมเมืองบาเลนเซียแหงนี้ พระองคเสด็จมาเพื่อ คํ า นั บ แด ถ ว ยกาลิ ก ซ อั น ประเสริ ฐ นี้ ซึ่ ง เป น กาลิ ก ซ ที่ พ ระเยซู เ จ า ทรงใช เพื่ อ ให พ ระโลหิ ต ของพระองคหลั่งออกมาไถบาปของชาวเรา พวกเรารวมทั้งพอเองดวยคงนึกวา ถาเรามีโอกาสไปเมืองบาเลนเซียนี้ก็คงจะดี จะตองไป คํานับเยี่ยมชมสวดภาวนาตอหนากาลิกซนี้ใหไดเพื่อเปนบุญตาและบุญใจของเรา เผลอๆอาจได ดูฟุตบอลทีมบาเลนเซียดวยก็ ได แตแทที่จริงแลว พระเยซูเจาทรงหลั่งโลหิตของพระองคลงใน กาลิกซทุกใบในโลกนี้ ทุกครั้งที่พระสงฆถวายบูชามิสซานี่แหละครับ อัศจรรยศีลมหาสนิท อัศจรรย แห ง การไถ บ าป อั ศ จรรย แ ห ง ความรอดของเรา อย า ลื ม ไหว พ ระองค ทุ ก ครั้ ง ที่ เ ข า มาในวั ด และก็ อ ย า ลื ม คุ ก เข า ลงขอบพระคุ ณ พระองค สํ า หรั บ พระกายและพระโลหิ ต อั น ประเสริ ฐ ยิ่ ง นี้ ของพระองคทุกครั้งที่พระองคเสด็จมา ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 26 มิถุนายน 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 4 9
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก ในที่สุดวันที่สําคัญที่สุดวันหนึ่งของประเทศชาติบานเราก็มาถึงวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผูแทน ราษฎรทั่วประเทศ ในฐานะบรรพชิต พอไมสามารถไปเลือกตั้งได และก็ในฐานะบรรพชิตนี้แหละครับ พอก็มีหนาที่เตือนใจพี่นองทุกทานใหไปใชสิทธิของเรา อยานอนหลับทับสิทธิ์ ขอใหพี่นองไปใชสิทธินี้ โดยทั่วหนากัน ออ! พอตองเตือนอีกนิดหนึ่ง ดวยวา เราตางตองเคารพความคิดเห็นทางการเมืองของ กันและกัน อยา ไปทะเลาะกัน ดูถูก กัน กลาวหากั น หรือเยาะเยยกัน เลย เพราะเราก็มี สิทธิ์ ที่จะมี ความคิดเห็นที่แตกตางกันดวย อีกเรื่องหนึ่งที่พอควรพูดเรื่องนี้ก็คือ ขอขอบคุณพี่นองทุกทานที่ชวยกัน ทําใหวัดของเราไมตองหนักใจเกี่ยวกับเรื่องการหาเสียงของพรรคตางๆตามที่พอไดขอรองไป พอเอง ก็สบายใจและเชื่อวา เมื่อเปนเชนนี้ เราทุกคนก็สบายใจดวย ขอบคุณทุกทานอีกครั้งหนึ่งนะครับ พระวรสารอาทิตยนี้พระเยซูเจาเชิญชวนเราใหมาหาพระองค ใหพระองคชวยแบงเบาภาระหรือไมก็ บรรเทาใจจากภาระและพันธะมากมายในชีวิต “ทานทั้งหลายที่เหน็ดเหนื่อย และแบกภาระหนักจงมา พบเราเถิด เราจะใหทานไดพักผอน แอกของเราออนนุมและภาระที่เราใหทานแบกก็เบา” ทุกวันนี้เรา ตางคนตางมีพันธะ ภาระ ความวุนวายจากการงาน การเมือง การบาน มีความกลุมอกกลุมใจตางๆ นาๆจนไมรูจะทําอยางไร ไมรูจะหันหนาไปหาใคร พระเยซูเจาบอกวาใหมาหาเรา ไปบอกพระองคบาง วามันมีเรื่องอะไรกันนักหนา บางทีเราก็คิดวา พระก็รูอยูแลว แตที่แปลกก็คือวา ถา เราไมพูดกับพระ ถ า เราพู ด กั บ พระ เราได รั บ ผลทางจิ ต ใจแตกต า งกั น อย า งมาก เมื่ อ เราพู ด กั บ พระ เราจะได รั บ ความบรรเทาใจทั นที มีกํา ลังเดินหน าตอ ไปไดอย างประหลาดทีเดียว แตเพราะบางทีเราไม มาหา พระเลย เรามาเราก็ ไ ม พู ด อะไรส ว นตั ว กั บ พระเลย ลงเอยด ว ยเราไม ไ ด รั บ อะไรเลย ทุ ก วั น นี้ เรามีอารมณราเริง สนุกลดนอยลง บางคนลดนอยลงไปมาก เราอาจจะหัวเราะนอยลง ยิ้มนอยลงก็ได ก็ใหลองไปคุยกับพระเยซูเจาดูนะครับ นักจิตวิทยาคนหนึ่ง ชื่อ Dr.Richard Clark เปดคลินิกที่มีชื่อเสียงมากชื่อวา Mayo Clinic ช ว ยให ผู ป ว ยหลุ ด พ น จากความเหนื่ อ ยล า ทางอารมณ โ ดยให สู ต รสํ า หรั บ ชี วิ ต ไว ว า ทํ า งาน เล น รัก และนมัสการพระเจา อยาใหสวนหนึ่งสิ่งใดมากเกินไป หรือนอยเกินไป ใหพ อดีๆทั้งสี่ประการนี้ แลวชีวิตจะสมดุล อยาทํางานมากเกินไป อยาเลนมากเกินไป อยารักผิดทาง และอยานมัสการพระ นอยไป พอออกจะนอยใจนิดๆที่เอาเรื่องนมัสการพระเจาไวเปนลําดับสุดทาย เพราะฉะนั้น พอก็จะสอน แบบนี้ ครั บ ให พี่ น องสลั บเอา นมั ส การพระเจ า มาก อ นเลยแล ว ทํ า อี ก สามประการนั้น ให สมดุ ล กั น พอรับรองวาพี่นองจะไดรับทั้งความบรรเทาใจและกําลังใจในชีวิตของเรา จะทําอะไรก็อยาลืมสวดขอ พระกอน ให เวลากับ พระมากขึ้น เราจะไดรับ ความบรรเทาใจตลอดเวลา จะว าไปแลว ทฤษฎีของ Dr.Richard ก็ไมเลวนักนะครับ เพียงแตพอขอใหพระเปนผูน ําหนาทุกสิ่งเทานั้น นักบุญอันตน เจาอธิการ คนละองคกับนักบุญอันตน แหงปาดัว เคยนําบรรดาลูกศิษยลูกหา เขาไปในปาและใหทุกคนพักผอนตามสบาย จากที่เคยแตสวดในอาราม ทํางาน มีชีวิตศรัทธากับพระ ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 5 0
ทุกอยางลวนแตจริงจังตลอดเวลา ทานปลอยใหทุกคนอยากทําอะไรก็ทํา ใครอยากจะตะโกน วิ่งเลน รองเพลง เยาแหยกันก็ตามสบาย ตัวทานเองก็ผอนคลายตามสบาย นายพรานคนหนึ่งผานมาพบเขา เห็นบรรดานักพรตเหลานี้หัวเราะ รองเพลง เยาแหย วิ่งเลนกัน ก็รับไมได ทนไมไดจึงเขาไปตอวา นักบุญอันตน ทานก็หัวเราะแทนที่จะอารมณเสีย บอกกับนายพรานวา พอขอใหคุณโกงคันศรแลวก็ ยิงลูกศรออกไปในปาลึกดอกหนึ่ง นายพรานคนนั้นก็ทําตาม เสร็จแลวทานก็บอกวา คราวนี้ยิงไปอีก ดอกหนึ่ง นายพรานก็ทําตามอีก ทานก็บอกวา ใหทานยิงไปเรื่อยๆอยาหยุดเลย ที่สุดนายพรานคนนั้น ก็บอกวา ขืนทําอยางนี้ไมหยุด คันธนูจะตอ งหักแนๆ นักบุญอันตนจึงกลาววา พวกเราก็เหมือนกัน เราตองมีเวลาใหพระบรรเทาใจเราบาง เพราะพระองคใหเวลาแกเราที่จะบรรเทาใจเรา และใหกําลังใจ แกเรา ผูนําที่ดีสวนใหญมีอารมณขัน รูจักผอนคลาย เราไมเคยรับรูอารมณขันของผูนําที่เลวราย เชน ฮิตเลอร มุ สโสลินี หรื อเหมาเจอ ตุง แต เรามีเรื่ องสนุก ๆอารมณ ขัน ของพระเจา แผ นดิน ผูยิ่ง ใหญ ของเรา อารมณขันของพระสันตะปาปายอหนปอลที่สอง อารมณขันของพระคารดินัลมีชัย กิจบุญชู เปนอารมณขันของผู ที่มีจิต ใจดี ทั้งนั้ น ผูที่ ไมค อยมีอ ารมณขันก็ กลายเป นผูที่มี จิตใจขุนมั วมากกว า เบิกบาน ผูนําครอบครัว ไมวาจะเปน พอ แม ครูบาอาจารย พระสงฆ ก็ควรจะมีอารมณขันกันหนอย แมแตนักเรียนสมัยนี้ก็ตองแบกภาระการเรียนกันมากมาย ก็ขอใหมีพระเจาอยูในชีวิต และเราทุกคนก็ จะมี อ ารมณ ที่ เ บิ ก บานในชี วิ ต ของเรา เห็ น มั้ ย ครั บ พระเจ า ทรงทํ า ได ทุ ก อย า ง พระองค ส ามารถ เปลี่ ย นแปลงเรื่ อ งไม ดี เป น ดี ไ ด ที่ สํ า คั ญ ก็ คื อ พระองค เ ป ด เผยเรื่ อ งเหล า นี้ แ ก บ รรดาผู ต่ํ า ต อ ย ไมจองหอง และพระองคปดบังเรื่องเหลานี้จากพวกที่คิดวา มีปรีชาและรอบรูครับ
ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 03 กรกฎาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 5 1
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก ปการศึกษานี้ พอไดรับมอบหมายจากอธิการ เวโรนิกา ใหอบรมนักเรียนหนาเสาธงทุกวันจันทร พอสุพัฒนไดรับมอบหมายใหอบรมนักเรียนหนาเสาธงทุกวันพุธ อธิการและเซอรก็ใหการอบรมนักเรียน อยางสม่ําเสมอ นักเรียนคาทอลิกไดเรียนคําสอนทุกวัน คณะครูจิตตาภิบาลของโรงเรียนเอาใจใสเรื่อง นี้อยางดี นาชม เด็กๆ ไดรับศี ลอภัยบาปวันพฤหัสฯ กอนศุกรตนเดือน และมีมิสซาทุกศุกรตนเดือน ยังมีแถมมิสซาประจําหองอีก เทอมละครั้ง ยังมีอีกนะครับ นําเด็กไปแสวงบุญที่สักการะสถาน ปที่แลว ไปทุกชั้นเรียน นอกจากนี้ก็ยังมีการเขาเงียบใหเด็กคาทอลิก ใหเขาเงียบครูคาทอลิกดวย เด็กคาทอลิก ชั้น ป.3 จะไดรับศีลมหาสนิทครั้งแรก และ ป.6 จะไดรับศีลกําลัง ม.3 จะไดรับศีลสงา อธิบายเรื่องเด็ก คาทอลิกในโรงเรียนพระมารดามาซะยืดยาว พออยากบอกพี่นองเพียงวา เรามีหนาที่หวานเมล็ดพืช ลงในหัวใจของเด็กๆเหลานี้ ทั้งที่บานและที่โรงเรียน เราตองหวาน นั่นคือ ตองอบรม สั่งสอน ตองให เขารูจักฟงพระวาจาของพระโดยที่เราไมอาจทราบไดวา หัวใจของเด็กแตละคน เปน ดิน ชนิดไหนกัน แน แมไมรูแน แตก็ตองหวาน เพราะอาจจะเกิดผลอยางที่เราไมคาดคิดเลยก็ได เหมือนอยางชายชรา คนหนึ่งที่ชื่อ โทมัส โทมัสเปนคาทอลิกที่ดีมาก แตเพราะอายุมากแลวและอยูคนเดียว เขาจึงมีชีวิตที่โดดเดี่ยว คนในหมูบานก็ไมคอยรูจักเขา ในหมูบานที่เขาอยูเหลือเพื่อนรวมรุนอยูเพียงคนเดียวที่รูจักเขา พอโทมัส ตายไป เพื่อนคนนี้ก็คิดสงสารกลัววาจะไมมีใครไปรวมพิธีฝงศพเขาเลย เขาจึงตัดสินใจไปงานศพของ โทมัส ขบวนศพซึงมีเพียงพระสงฆองคหนึ่ง คนเข็นรถศพและเพื่อนคนนี้มาถึงประตูสุสาน มีทหารคน หนึ่ ง สวมเสื้ อ โคทอย า งดี ร ออยู เขามาร ว มพิ ธี ศ พโทมั ส หลั ง จากพิ ธี ฝ ง ศพแล ว ทหารผู นี้ เ ข า ไป ทําความเคารพ ยืนไวอาลัยแดโทมัส ราวกับวาโทมัสคือ กษัตริยองคหนึ่งของเขาเอง เพื่อนของโทมัส จึงเขาไปถามทหารผูนี้ และพบวา เขามียศเปนนายพลทีเดียว นายพลคนนี้เลาใหฟงวา “คุณคงแปลกใจ ว า ทํ า ไมผมมาที่ นี่ เมื่ อ ผมเป น วั ยรุ น โทมั ส คื อ ครู ส อนคํ า สอนของผม ตอนนั้ น ผมเป น เด็ ก เลวมาก ผมดื้ อ รั้ น และพยศต อ โทมั ส ทุ ก อย า ง แต ค รู โ ทมั ส ไม เ คยย อ ท อ ต อ ผมเลย เฝ า พร่ํ า สอน อบรมผม เตือนผม แมจะถูกปฎิเสธ โทมัสไมเคยรูเลยวาในใจผมไดรับสิ่งดีๆอะไรไวบาง ผมเปนหนี้ชีวิตทั้งชีวิต หากไมใชการอบรมสอนของโทมัส ผมจะไมมีวันนี้เลย ผมจึงตองมาขอบคุณโทมัสในวันนี้” แมเราไมรูวา การพร่ําสอนของเราจะเกิดผลหรือไมเรื่องแบบนี้เราใจรอนไมได แตเราก็ควรตองพร่ําสอนครับ ถาหาก หัวใจของลูกเราเปนคนดีละก็จะเกิดผลมหาศาลกับชีวิตของเขาอยางแนนอน เราจึงควรสอนลูกดวย ตนเอง ใหเขารูจักพระ รูจักฟงพระวาจาบาง รูจักสวดภาวนาดวยกัน เวลาอยูในวัดก็ ใชเวลาสอนเขา บางก็ดี วาควรรูจักอะไร ควรทําตัวอยางไร ผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นมหาศาลทีเดียว เราคงรูสึกดี และภู มิ ใ จไม น อ ย ถ า หากวั น หนึ่ ง มี ลู ก ของเรา หรื อ ศิ ษ ย ข องเรามาพู ด กั บ เราเหมื อ นนายพลคนนี้ อยากบอกกับโทมัสวา “พวกเราเปนหนี้การอบรมสั่งสอนของพอ ของแม ของครู”
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 5 2
ลองมาฟงอีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับการหวานแลวบังเกิดผลอยางประหลาด เปนเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ในสหรัฐอเมริกา หลายปมาแลว มีเด็กคนหนึ่ง เปนเด็กคาทอลิก ไดรับการสั่งสอนที่โรงเรียนวา รัสเซีย คื อ ศั ต รู ข องอเมริ ก าแต ที่ วั ด ครู คํ า สอนและคุ ณ พ อ สอนว า เราทุ ก คนเป น พี่ น อ งกั น เราต อ งรั ก กั น เขาเริ่มคิดวา เด็กๆรัสเซียจะเปนศัตรูของเขาไดอยางไรกัน เขาเชื่อวา เขากับเด็กๆรัสเซียสามารถเปน เพื่ อ นกั น ได เขาจึ ง เขี ย นจดหมายฉบั บ หนึ่ ง เขาเขี ย นว า “แด ส หายในรั ส เซี ย ผมอายุ เ จ็ ด ขวบ และผมเชื่อวา เราสามารถอยูรวมกันไดอยางสันติ ผมตองการเปนเพื่อนกับคุณไมใชเปนศัตรู คุณจะ เปนเพื่อนของผมไดมั้ย จะเขียนจดหมายมาหาผมไดมั้ย? รักและสันติ” เขาลงชื่อที่อยูของเขาแตไมได สงทางไปรษณีย เขาใสลงในขวดใบหนึ่ง ปดฝาแลวไปปลอยในทะเลสาบหนาบานเขาเอง และวันตอมา อีกฟากหนึ่งของทะเลสาบ มีคนนําจดหมายของเขาไปใหกับหนังสือพิมพทองถิ่น จากนั้นจดหมายของ เด็กคนนี้ก็ถูกนําไปตีพิมพทั่วประเทศ ตอนนั้นในอเมริกามีโครงการสงเด็กอเมริกันเปนทูตสันติไปที่ ประเทศรัส เซีย องคก รนี้ จึง ติดต อครอบครัว ของเขา และเชิญ ใหเ ขาไปเปน ทูตสั นติภ าพที่รัส เซี ย เด็กคนนี้กับพอของเขาจึงเดินทางไปรัสเซียในฐานะผูนําสันติและความรัก ผลอันยิ่งใหญนี้เกิดมาจาก คํา สอนเรื่อ งความรั ก ที่ เขาเรี ยนที่ วั ดนั่ น เอง ใครจะไปรู ครั บว า สิ่ง ต างๆที่เ ราพยายามสอนอยู นี้ จ ะ สามารถบังเกิดผลทวีขึ้นหลายรอยเทาตัวอยางที่พระเยซูเจาทรงสอนไวจริงๆ พี่นองลองตรวจสอบดูในใจเราเองนะครับวา หัวใจของเราไดรับคําสอนอะไรมาบางในชีวิต และคําสอนเหลานั้นไดบังเกิดผลแลวหรือยัง ถายังก็รีบๆหนอยนะครับ เวลาของเรามีนอย
ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 10 กรกฎาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 5 3
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก พอไมคอยเขาใจชัดเจนเกี่ยวกับความแตกตางของ “ขาวละมาน” กับ “ขาวสาลี” ที่พระเยซูเจา พูดถึงในพระวรสาร รูแตวา ขาวละมานเปนขาวพันธไมดี สวนขาวสาลีเปนขาวพันธดี ชาวยิวในสมัย พระเยซูเจาคงเขาใจเรื่องนี้ดี แตพูดแบบไทยๆเรา นาจะใชคําวา “วัชพืชในนาขาว” มากกวา ฟงแลว รูเลยวา หมายถึง สิ่งเลวๆทั้งหลายที่ปะปนอยูในสังคมของเรา หากจะใหรวมไปถึงชีวิตของเราแตละคน ก็นาจะหมายถึง ความไมดี ความบกพรอง ความเลวของเราที่ปะปนอยูในชีวิตของเราดวย วัชพืช เหลานี้แยงอาหารขาว ทําใหขาวเติบโตอยางยากเย็น และใหผลไมเต็มเม็ดเต็มหนวย เผลอๆ ถาหาก ไมกําจัดก็อาจทําใหเกิดความเสียหายอยางใหญหลวงดวย พระเยซูเจาก็จงใจเลาเรื่องนี้ เพื่อสอนเราให ระลึกอยูเสมอวา 1. ในชีวิตของเราและในสังคมของเรามีดี และไมดีปะปนกัน 2. พระเปนเจาทรงอดทน และรอคอย ใหคนที่ไมดีมีเวลาเปลี่ยนแปลงตนเอง มีเวลากลับใจ “จงปลอยใหขาวรวงชนิดงอกงามดวยกันจนถึงฤดูเก็บเกี่ยว” 3. ศัตรูของเราคือ ปศาจ มันพยายามจะทําให ความชั่ว ชนะความดี เปลี่ยนคนดีใหชั่วตาม คําสอนของพระเยซูเจาใหขอคิดดีๆกับเราหลายขอนะครับ ขอแรก : เราตองอดทนกับความเลวทั้งหลายที่มีอยูและอยาตัดสินวา คนอื่นเลวและผิดอยูเสมอ เรื่ อ งนี้ เ ป น เรื่ อ งยาก เพราะความเลวเดี๋ ยวนี้ มั น เกิ ด ขึ้ น แบบเลวมากๆ อย า งเช น คนที่ เ ลวขนาด “คามนุษย ” พอฟงเรื่องแบบนี้แลว ก็ยังอดที่จะโมโหแลวอยากจะสาปแชงคนพวกนี้ใหถูกทําลายไป ใหหมด คนพวกนี้ จับเด็ก ลักพาตั วเด็ก ตัดอนาคตของเด็ ก ทําลายหัวใจของพอ แมและครอบครั ว เด็กๆเหลานี้ถูกนําไปเปน ขอทาน กดขี่ใชแรงงานเยี่ยงทาส ถูกบังคับใหเปนโสเภณี บางกรณีถูกฆา เพื่อนําอวัยวะไปขายตอ ไมเคยนึกวาจะมีคนเลวไดถึงขนาดนี้ในสังคมของเรา นึกขึ้นมาทีก็สงสารเด็กๆ เหล า นั้ นจริ ง ๆ สงสารพอ แม ข องเขาด วย เคยมีก รณี ที่ แม ไ ปพบลูก ที่ ห ายไปของตนถู ก ทํ าให พิ ก าร เพื่อเปนขอทาน แมแทบขาดใจตายที่เห็นลูกในสภาพแบบนั้น เดี๋ยวนี้เราตองดูแลลูกใหดีขึ้นตองเตือน ลูกใหรูถึงภัยเหลานี้ เพราะหากเกิดขึ้นแลว การแกไขจะยากมากๆ มีกรณีนอยมากที่หลุดรอดมาจากภัย เหลานี้ได คนเลวๆ แบบนี้มีอยูปะปนกับพวกเราจริงๆ และพระเจาก็อดทนใหพวกเขาอยูกับพวกเรา ตอไป ใหเวลาพวกเราอดทน และใหเวลาพวกเขากลับใจ จิตใจของพระชางวิเศษกวาพวกเราจริงๆ ขอสอง : อยากระทํากับผูอื่นเหมือนกับเขาเปนวัชพืช บางทีเราก็ปฎิบัติตอผูอืนราวกับวา พวกเขา เปนคนโงเสียเหลือเกิน นั่นก็เพราะวาเราคิดวาเราเองฉลาดซะไมมี ปฎิบัติกับคนอื่นราวกับวาไมมีชีวิต จิตใจ จะดาวาอะไรก็ไดไมตองเกรงใจกันเลย ราวกับวาคนบางคนต่ําตอยเหลือเกิน สกปรกเหลือเกิน ไร ค า เหลื อ เกิ น คํ า พู ด ที่ เ ราใช ก็ จ ะออกไปในแนวดู ถู ก ดู แ คลน ตั ว เองดี คนอื่ น เป น คนสามานย ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 5 4
คนพวกพวกนี้ถูกวาอะไรไมได ถูกตําหนิอะไรไมได จะโกรธเปนฟนเปนไฟ เปนไฟที่อยากจะเผาผลาญ พวกวัชพืชใหหมดไปเลยก็วาได พูดแลวขนลุกนะครับ แตคนเหลานี้มีอยูในสังคมของเรา ขออยาใหเรา เปนแบบนี้เลย ตองเตือนตัวเราเสมอๆ อยามัวแตไปตัดสินผูอื่นอยูเลย ขอสาม : อยาตําหนิตัวเองมากเกินไป เพราะในตัวเราเองก็มีเมล็ดพันธที่ดีอยูดวย มีพลังแหงความดี อยูภายใน เมื่อถึงเวลาความดีเหลานี้ก็สามารถบังเกิดผลได เหมือนกัน คนเลวทั้งหลายยังรูจักทําดีกับ คนที่ เ ขารั ก เลย แสดงว า เรามี ค วามดี อ ยู ด ว ยเสมอ เพี ยงแค เ ราต อ งเอาชนะความไม ดี ข องเรา เทานั้นเอง เราอย า ตั ด สิ น กั น และกั น เลยเพราะเราไม ส ามารถรู ทุ ก สิ่ ง ทุ ก อย า งในคนแต ล ะคนได แ น ๆ อยาขมเหงกัน ดูถูกกัน แตรักกันและใหโอกาสกันใหมากที่สุด พี่นองคงไดยินชื่อ Susan Boyle เธอเปน ชาวบานอังกฤษที่แสนจะธรรมดา ไมมีหนาตาสะสวยอะไร รูปราง การแตงตัวไมไดบงบอกวา สามารถ เปนนักรองไดเลย ในรายการ Britain’s Got Talent คณะกรรมการตองตะลึงเมื่อเธออาปากรองเพลง เธอรองราวกับวาเปน นักรองโอเปราที่ยอดเยี่ยมมาก ภายนอกของเธอบอกสิ่งที่เธอมี ที่เธอเปนไปได เลย แตเมื่อไดโอกาส เธอจึงจะสามารถแสดงสิ่งที่ดีเลิศออกมาได ภายนอกของเราอาจจะวา เราไม สามารสอนใครได แตพระเจาก็สามารถใชเรา ประกาศพระวาจาได ไมทางใดก็ทางหนึ่ง พระเยซูเจา สอนเราใหโอกาสแก ขาวละมาน หรือวัชพืชบาง เชนเดียวกันที่พระองคใหโอกาสแกเราเสมอ
ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 17 กรกฎาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 5 5
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก เพลง “หนึ่ ง ในรอ ย” บรรยายถึง เพชรน้ํา ดี ต า งๆและสรุ ปตรงที่ วา “เพชรดี มี ห นึ่ งในร อ ย” ซึ่งก็หมายความวา เพชรดีนั้นหายากและถาหากใครพบและไดเปนเจาของยอมทําใหเกิดความปติยินดี อันใหญหลวง พวกเราคงเคยรูจักเพลงนี้กันดีแลว พอมีเรื่องที่นาภาคภูมิใจในพระศาสนจักรของเรา จะเลาใหฟงวา ในพระศาสนจักรของเรามีเพชรเม็ดงามล้ําคาอยูมากมาย เรื่องแรกเปนเรื่องของนักบุญ คาทารีนา แหง ซีเอนา ( Siena) ครับ คาทารีนาไมไดเกิดมาเปนเพชรเม็ดงามของครอบครัว เธอเปนลูกคนที่ 24 ของครอบครัว ที่จริงมีลูก 23 คน ก็นาจะเกินพอแลว ยิ่งถาหากพูดกันในสมัยนี้จะตองบอกวา บาแนๆ เลย ที่มีลูกถึง 2 โหล แตถาหากครอบครัวนี้ไมไดใหกําเนิดลูกสาวคนนี้ พระศาสนจักรของเราคงไมไดพบกับเพชรเม็ด งามเม็ดนี้แนๆ เธอเกิดมาในทามกลางความทุกขทรมานทั้งทางกายและใจของประชาชนในทวีปยุโรป ในศตวรรษที่ 14 ครับ ยุคนั้นกาฬโรคกําลังระบาด ซึ่งทําใหประชากรยุโรปตองลมตายไปถึง 1/3 ยุโรป ตอนนั้นมีประชากรรวมกวา 50 กวาลานคนเอง ตายไปซะ 15 ลานคนแลว ทุกคนกลัวโรคนี้ถึงกับ กลาวหาวา ชาวยิวเปนพวกที่นําโรคนี้มาสูยุโรป พระลงโทษชาวยิวที่ฆาพระเยซูเจา ก็เลยเริ่มมีการลาง เผ าพั น ธุช าวยิ วในยุโ รป ตั้ง แตนั้ น เป นต น มา อีก เหตุ การณห นึ่ง ที่ ทํา ใหยุ โรปเศร าหมองมากๆก็ คื อ พระสันตะปาปาตัดสินใจยายที่ประทับจากวาติกัน ไปอยูที่ อาวิญอง ในฝรั่งเศส อยูภายใตอิทธิพลของ กษัตริยฝรั่งเศสนานถึง 70 กวาป คาทอลิกทั้งยุ โรปพยายามขอใหพระสันตะปาปายายกลับมาอยู ที่ ว าติ กั น ก็ ไ ม เ ป น ผล มี ก ารส ง ผู แ ทนจากชาติ ต า งๆ มาขอร อ ง กษั ต ริ ย ช าติ ต า งๆก็ พ ากั น กดดั น พระสันตะปาปา นักเทววิทยาทั้งหลายเขียนจดหมายที่เต็มไปดวยเหตุผลสารพัด ขอใหพระสันตะปาปา ย า ยกลั บ ไปอยู ที่ ว าติ กั น แต ก็ ไ ม สํ า เร็ จ เลย พระเจ า ทรงดลบั น ดาลใจ คาทารี น า ซึ่ ง เป น ซิ ส เตอร คณะโดมินิกัน อายุเพียง 29 ป และก็ไมมีการศึกษาอะไรที่เดนเลย คําพูดซื่อๆของเธอที่อยูในจดหมาย ชนะใจพระสันตะปาปา ในป 1376 พระสันตะปาปาเกรโกรีที่ 11 ตัดสินใจยายกลับไปที่โรม ถึงขนาด ตองแอบหนีกลับไป พระองคก็ยอม สิ่งที่นักการเมือง นักเทววิทยา นักวิชาการทั้งหลาย เวลานั้นทํา ไมสําเร็จ คาทารีนาทําได เธอไดกลายเปนเพชรเม็ดงามของพระศาสนจักร เพชรเม็ดนี้ ตอมาไดกลับมา สูชีวิตเรียบงายแหงการภาวนา และอุทิศตนดูแลผูปวยกาฬโรคที่ไมมีใครตองการอยูใกล ที่สุดเธอก็ตาย ดวยอายุเพียง 33 ปเทานั้น อายุเดียวกับที่พระเยซูเจาสิ้นพระชนม คิดดูนะครับ หากไมมีเพชรเม็ดนี้ พระศาสนจักรของเราคงไมเจิดจรัสและสงางามแบบทุกวันนี้ เพชรที่พบจากซากแหงความทุกขทรมาน ทั้งกายและใจของยุโรป เปนนักบุญที่สําคัญที่สุดองคหนึ่งของเรา เปนนักบุญหญิงองคแรกที่ไดรับ การประกาศให เ ป น นั ก ปราชญ ข องพระศาสนจั ก ร งานเขี ย นต า งๆที่ เ ขี ย นจากความซื่ อ ๆง า ยๆ ไดกลายเปนงานที่เต็มไปดวยคุณคาทางจิตใจ ใครมีนักบุญนี้เปนองคอุปถัมภก็เทากับมีเพชรเม็ดงามอยู ในหัวใจแลวครับ
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 5 6
อยางที่พอบอก เพชรเม็ดงามในพระศาสนจักรมีอยูมากมาย ในยุคปจจุบันก็มีนักบุญอีกองคหนี่ง คือ คุณแมเทเรซา แหง กัลกัตตา ยังไมไดรับการแตงตั้งเปนนักบุญ แตก็เปนบุญราศีแ ลว เปนผูหญิง ตัวเล็กๆ ที่มีจิตใจและหัวใจประเสริฐ อุทิศตนทั้งชีวิตเพื่อชวยผูยากจน เจ็บปวย กําลังจะตาย กําลังทน ทุกขทรมาน โดยเฉพาะอยางยิ่งในประเทศอินเดีย เธอมองเห็นพระเยซูในคนเหลานี้เสมอ เธอทํา ทุกอยางราวกับวาเธอกําลังปฏิบัติรับใชองคพระเยซูเจาเอง คําสอนตางๆของเธอ คําพูดที่เธอใชสอน คนอื่นๆ โดยเฉพาะสอนบรรดาซิสเตอรในคณะของเธอ มีพลัง และมีอิทธิพลทําใหพระวรสารของ พระเยซูเจาเปนจริงขึ้นมาไดอยางประหลาด ทั้งโลกรับรูงานที่มีเกียรติของเธอ เกิดมีบุคคล องคกร มากมายเขามามีสวนในงานแหงความรักนี้ของเธอ เปนเพชรอีกเม็ดหนึ่งที่เราทุกคนภาคภูมิใจ ไมมีใครเกิดมาเปนเพชร แมแตเพชรเองก็ตองใชเวลานานมากๆกวาจะเปนเพชรได และเมื่อ เปนเพชรแลว ก็ไมใช ทุกเม็ด ที่เปนเพชรเม็ ดงาม แมแตก ษัตริยโ ซโลมอนเองก็ มิไดเกิ ดมาเป นเพชร กษัตริยโซโลมอน เปนผูแสวงหาเพชร และก็หาถูกทาง เวลาที่พระถามทานวา ทานตองการอะไรก็จง ขอเถิด โซโลมอน ขอปรีชาญาณ การแยกแยะวาระหวางดีและชั่ว พระเจาก็พอพระทัย ประทานปรีชา ญาณใหและแม ไมไ ดขอทรัพย สินเงินทอง อายุยื นยาว เกียรติ ยศชื่ อเสี ยง พระเจาก็ ยังแถมใหเอง อีกดวย เพชรเม็ดงามจึงอยูที่ตรงนี้ครับ อยูที่ปรีชาญาณ รูจักแยกแยะวาอะไรดี อะไรชั่ว ไมใชแสวงหา เงินทอง หรือขอตําแหนงหนาที่สูงๆ หรือ การแสวงหาความพึงพอใจฝายโลกและฝายเนื้อหนัง พระวรสารของพระเยซู เ จ า คื อ ลายแทงไปสู ส มบั ติ ที่ แ ท ในพระวรสารมี ป รี ช าญาณ มีการแยกแยะดี-ชั่ว มีหนทาง มีความจริง มีชีวิตนิรันดร นี่คือ หนทางไปสูชีวิตนิรันดร เราตองยอม ขายทุกสิ่งที่มี เพื่ อเปนเจาของสมบัติชิ้นนี้ใหได สละทิ้งทุกอยางที่ มันถวงเรา ใช พละกําลังทั้งหมด ปรีชาญาณทั้งหมด เพื่อจะไดสมบัตินี้มาเปนกรรมสิทธิ์ เราไมตองเปนนักบุญที่ยิ่งใหญ เชนเดียวกัน นักบุญคาทารีนา แหงซีเอนา หรือบุญราศีคุณแมเทเรซา แหงกัลกัตตา ใหทานโดดเดนอยูในพระศาสน จักรดีแลว แตเราก็สามารถเปน เพชรเม็ดงามตอเฉพาะพระพักตรของพระเจาไดเสมอ เพราะเรามี ลายแทงที่ชัดเจนแลวในพระวรสาร ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 24 กรกฎาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 5 7
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก ทุกครั้งที่ไดยินเรื่อง พระเยซูเจาทรงทวีขนมปงหากอนกับปลาสองตัว เลี้ยงประชาชนหลาย พันคน พอก็มักจะนึกถึงเด็กคนหนึ่งกําลังหยิบขนมปงหากอนกับปลาสองตัวนั้นใหพระเยซูเจาและก็จะ นึกชมจิตใจที่กวางขวางของเด็กคนนี้จริงๆ ใจกวาง ไมคิดถึงแตตนเอง ชวยเทาที่จะชวยได และ ก็คงไวใจในพระเยซูเจาอยางเต็มที่เลยแลวพอก็จะนึกถึงหญิงมายคนหนึ่งที่เอาเงินที่ตนมี ไปทําบุญ ที่วิหาร เงินที่เธอเองจําเปนตองใช แตเธอก็นึกถึงพระ นึกถึงผูอื่นกอน เปนรูปแบบของคนยากจนที่ ใจกวาง เศรษฐีก็ใจกวางเหมือนกันกับเพียงแคเขาไมเดือดรอน หากเขาทําบุญ นี่ก็แสดงวา ไมวาคนจน คนรวย ก็สามารถที่จะเปนคนใจกวาง รูจักแบงปนพระพรของพระใหแกเพื่อนพี่นอง คุณแมเทเรซาแหงกัลกัตตาเคยเลาเรื่องใหฟงวา เธอไปเยี่ยมครอบครัวชาวฮินดูครอบครัวหนึ่ง ซึ่งอดอาหารมาหลายวันแลว เธอนําเอาขาวสารไปให 1 ถุง มอบใหกับแมบานของครอบครัว ทันทีที่ เปด ถุงข าวสารออก แม บานคนนี้ ก็แบ งข าวสารออกเปนสองสวนเทา ๆกัน แล วนํ าเอาสว นหนึ่ งไป มอบใหแ กเพื่ อนบ านซึ่งเปนครอบครัว มุส ลิม คุณแมเทเรซาจึ งไปถามแมบ านคนนี้ วา ทําไมเธอถึ ง ทําเชนนี้ คําตอบของเธอ ทําใหคุณแมเทเรซาตื่นเตนยินดีอยางยิ่ง เธอบอกวา ครอบครัวของฉันมีชีวิต อยูไดจากขาวสารสวนนี้ แตครอบครัวมุสลิมนี้ มีลูกถึง 7 คน พวกเขามีความตองการมากกวาฉัน ลูกๆ ของเขากําลังจะอดตาย หัวใจที่เต็มเปยมไปดวยความรักจากชาวฮินดูที่มีตอชาวมุสลิม คนจนดวยกัน ที่ใจกวางตอผูที่มีความตองการมากกวา จะดีมากกวานี้สักเทาใด หากผูที่มีพระพรมากกวาสามารถ แบงปนพระพรของเขาแกผูที่มีนอยกวา พวกเขาคงสามารถแบงปนไดมากกวาคนจนดวยกันอยาง แนนอน อยาวาแตผูใหญเลยครับ บรรดาเด็กๆ เองก็ยังมีหัวใจที่กวางขวางอยางที่เราเองไมอาจคาด คิดได เด็กหญิงคนหนึ่ง ชื่อ Hattie May Wiatt มาจากครอบครัวที่ยากจนมาก กําลังยืนอยูหนาวัด หลังมิสซาวันอาทิตยดวยใบหนาเศราสรอย เดินเขาไปหาคุณพอเจาวัด Russell H.Conwell บอกวา ครูสอนคําสอนวันอาทิตยไมใหเขาไปในหองคําสอน เพราะที่เต็มแลว คุณพอ Russell ก็เลยพาเขาไป ในหองและหาที่เรียนคําสอนใหเธอได เธอรูสึกดีใจมากและประทับใจคุณพอมาก กอนนอนคืนนั้นเธอ พูดถึงหองคําสอนวา หองนั้นเล็กเกินไป เด็กๆหลายคนไมสามารถมีที่เรียนหลังมิสซาวันอาทิตยได สองปตอมา เธอนอนตายอยางสงบในหองนอนของเธอ พอแมจึงเรียกคุณพอ เจาวัด มาจัดการเรื่อง การฝงศพใหเพราะครอบครัวเธอยากจนและไมรูวาจะตองทําอยางไรบาง ขณะที่เคลื่อนยายศพ คุณพอ ได พ บกระเป า สตางค เ ก า ๆ ใบหนึ่ ง ตกลงมาจากเตี ย งนอนของเธอพร อ มทั้ ง มี จ ดหมายฉบั บ หนึ่ ง เขียนดวยลายมือแบบเด็กๆ เขียนวา “เงินจํานวนนี้เพื่อทําบุญสรางวัดเล็กๆและหองคําสอนของวัดให ใหญขึ้น เพื่อใหเด็กๆ เขาไปนมัสการพระในวัดไดมากขึ้น และเรียนคําสอนในหองที่ใหญขึ้น พวกเขา จะไดรูจักพระเยซูเจามากขึ้น” ในกระเปาเงินนั้นมีเงินอยู 57 เซนต พอ Russell อานไปน้ําตาไหลไป เด็ ก คนนี้ เ ก็ บ เงิ น อยู 2 ป เพื่ อ จุ ด ประสงค นี้ พ อ ได นํ า เอาจดหมายและเงิ น นี้ ไ ปอ า นให ลู ก วั ด ฟ ง ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 5 8
บนธรรมาสนและขอใหทุกคนชวยกันทําใหความฝนของหนูนอยคนนี้เปนจริง หนังสือพิมพไดทราบขาวนี้ ก็พากันลงขาวความใจกวางของเด็กคนนี้ เจาของที่ดินคนหนึ่งไดเสนอขายที่ดินผืนหนึ่งใหแกวัดดวยเงิน ในราคา 57 เซนต จากนั้นลูกวัด และคนจากที่ตางๆพากันทําบุญ รวบรวมไดทั้งหมด 250,000 เหรียญ ซึ่งเปนจํานวนมหาศาลสําหรับศตวรรษที่ 19 พระเปนเจาทรงทวีเงิน 57 เซนตของ Hattie ใหเปนเงิน 250,000 เหรียญ เพียงพอที่จะสรางวัดที่มีที่นั่ง เวลานี้ 3,300 ที่ มีมหาวิทยาลัย Temple University มี Good Samaritan Hospital และมีหองคําสอนที่ใหญโตมากสําหรับเด็กทุกคนที่ตองการเรียน และในอาคารเหลานี้เองมีภาพวาดของเด็กนอย Hattie ที่มีหัวใจงดงาม พรอมๆกัน ภาพวาดของพอ เจาวัดที่มีจิตใจดีงามดวย คุณพอ Russell รวมอยูดวย สถานที่นี้อยูในรัฐเพนซิลเวเนีย ในสหรัฐอเมริกา โลกของเราไม เ คยขาดคนมี น้ํ า ใจ คนไทยเป น ชนชาติ ห นึ่ ง ที่ มี หั ว ใจชอบช ว ยเหลื อ ผู อื่ น ถ า จะมี ค นเห็ น แก ตั ว ก็ มี บ า ง แต ไ ม ม ากเท า กั บ คนมี น้ํ า ใจ อาทิ ต ย ที่ ผ า นมา ฝ า ยสั ง คมของ วั ด นํ า พ อ แ ละ ค ณะ นํ า เ งิ น ทํ า บุ ญ จ า ก พี่ น อ งไ ป ช ว ย ผู ติ ด เชื้ อ เ อด ส ที่ วั ดพ ร ะ บา ทน้ํ า พุ เป น จํ า นวนเงิ น 115,000 บาท แม จ ะเป น จํ า นวนเพี ย งค า ใช จ า ยวั น เดี ย วของวั ด พระบาทน้ํ า พุ แต ทุ ก บาทนั้ น มาจากหั ว ใจที่ บ ริ สุ ท ธิ์ และกว า งขวาง มาจากหั ว ใจที่ ต อ งการแบ ง ป น พระพรของพระให แ ก ผู ที่ สิ้ น หวั ง วั น หนึ่ ง พระเยซู เ จ า จะทวี พ ระพรเหล า นี้ เ ลี้ ย งดู ค นจํ า นวนมาก ครับ
ดวยความเคารพรัก คุณพอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 31 กรกฎาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 5 9
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก พระเจาหลุยสที่ 14 เปนกษัตริยฝรั่งเศสสมัยเดี ยวกับสมเด็จพระนารายณมหาราชของเรา หลุ ย ส ที่ 14 ได รั บ การสรรเสริ ญ ให เ ป น “มหาราช” พระองค เ คยเขี ย นพระราชสาส น มายั ง พระนารายณของเราและแสดงพระประสงคชัดเจนดวยวาประเทศไทยของเราจะเปน บานพี่เมืองนอง กัน พระองคเปนคนรางเตี้ย หนาตาไมโดดเดนอะไร การศึกษาก็ปกติ แตพระองคเปนนักปกครองที่ดี และเกงมาก เกงจนกระทั่งไมตองการเปนแดกษัตริยที่ดี แตตองการเปนกษัตริยผูยิ่งใหญเหนือกษัตริย ทั้งมวล พระองคเริ่มสะสมงานศิลปะและหนังสือ พระองคสรางพระราชวังแวรซายสโดยใชคนงานถึง 35,000 คน ใช เ วลาถึ ง 30 ป เริ่ ม ริด รอนอํ า นาจบรรดาขุ น นางทั้ ง หลาย คํ าว า ยิ่ ง ใหญ ห รื อ คํ า ว า มหาราช ยังไมเพียงพอสําหรับพระองค ยังตองการ เกียรติ จากคนทั่วโลกอีกดวย พระองคถึงกับ ตรัสวา “กษัตริยแตเพียงผูเดียวปกครองอาณาจักร” และยังกลาวอีกวา “ขาพเจาคือรัฐ” พระองค ตองการอํานาจและก็ไดรับอํานาจนั้น ทรงปกครองฝรั่งเศสดวยกฎเหล็กมากมาย มีอิทธิพลอยางยิ่ง ตอยุโรปทั้งมวล พูดมาซะยาว เรื่องที่พอตองการจะเลาก็คือ กอนที่พระองคจะสิ้นพระชนมในป 1715 ตอนอายุ 72 ป พระองคไดเขียนคําสั่งสุดทายใหแก พระสังฆราช Massilou ซึ่งเปนหัวหนาพระศาสน จั ก รในฝรั่ ง เศสตอนนั้ น ว า พระศพจะต อ งอยู ใ นโลงศพทองคํ า และในในระหว า งพิ ธี ก รรมฝ ง ศพ ใหอาสนวิหารทั้งหมดมืดไมใหมีเทียนหรือแสงสวางอันใดเลย แตใหมีเพียงเทียนไขเลมเดียวที่จุดไฟ อยูบนโลงศพของพระองค เพื่อใหทุกคนรับรูถึงความยิ่งใหญของพระองคแตผูเดียว แมวาจะตายไปแลว ก็ตาม ในระหวางพิธีกรรมนั้น คนนับพันยืนสงบนิ่งอยูในความมืด พระสังฆราช Massilou เดินตรง มายังโลงศพ และกอนที่ทานจะพูดอะไร ทานก็เดินมาเปาเทียนเหนือโลงศพนั้นใหดับไฟพรอมทั้งพูดขึ้น วา “พระเจาเทานั้นทรงยิ่งใหญ” ไมว าใครก็ต าม เมื่อ อยูต อหน าพระเจาแลว ไมมี ใครยิ่งใหญ อีกต อไป มีแ ตผูต่ํ าตอ ยเท านั้ น ที่พระเจาจะทรงเชิดชูขึ้น แทที่จริงเวลาที่เราอยูกับพระเจา เราจะตองรูสึกต่ําตอยโดยทันที ตองสุภาพ ถอมตัวลงในทันที เวลาที่เปโตรขาดความเชื่อ เปโตรรองขอพระเยซูเจาที่นั่ นวา “ชวยดวย ผมกําลัง จมน้ํา” หลุยสที่ 14 ไมคิดจะขอพระชวย แตคิดวา จะยิ่งใหญที่สุด แมจะอยูในอาสนวิหาร เรามนุษย ทุกคนลวนแลวแตตองการความชวยเหลือจากพระเจาเทาเสมอกัน ไมวาเราจะเปนใครมาจากไหน เมื่อเราอยูในวัดตอหนาพระเจาผูยิ่งใหญ พวกเราเองก็ไมมีใครยิ่งใหญไปกวากัน เราเปนคนบาปและ ต่ําตอยในสายตาของพระเสมอ เคยมีคนถามพอในรายการ “ 10 นาที มีคําตอบ”วา พระสันตะปาปาแกบาปมั้ย ถาแกบาป พระองคแกบาปกับใคร เคยมีคนถามอีกวา พระสงฆตองแกบาปมั้ย ถาแกบาปแกกับใคร และถาหาก มีบาปหนักแลวถวายมิสซา มิสซานั้นเปนมิสซาหรือเปลา พระสงฆองคนั้นทําบาปหนักเพิ่มขึ้นหรือเปลา คําถามเหลานี้ทําใหพอนึกถึงเรื่องที่พระสังฆราชองคหนึ่งเลาใหฟงวา วันหนึ่ง ขณะที่ทานเดินเขาไป สวดภาวนาในมหาวิหารนักบุญเปโตร (Basilica San Pietro) ที่กรุงโรม ในนั้นมีนักทองเที่ยวอยู ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 6 0
มากมายกําลังเดินชมศิลปะและความยิ่งใหญตางๆอยู แตทานก็เห็นที่ฟงแกบาปเปดไฟอยูซึ่งแสดงวา มีพระสงฆฟงแกบาปกําลังทําหนาที่และก็มีแถวของผูแกบาปกําลังรอคิวของตนเองอยู ภาพที่ทานเห็น ตอนนั้นก็คือ ทานเห็นพระคารดินัลองคหนึ่ง รูปรางไมใหญนัก มี ผมสีเลาๆ ขาวๆ บนศีรษะ ทานจําได ทันทีวา นั่นคือ พระคารดินัล รัตซิงเกอร ซึ่งตอมาก็คือ พระสันตะปาปา เบเนดิกตที่ 16 ของเรานั่นเอง เรื่ อ งนี้ ทํ า ให เ รารู สึ ก ได ทั น ที เ ลยว า เราทุ ก คนเป น เหมื อ นกั บ นั ก บุ ญ เปโตรที่ ร อ งขอให พ ระเยซู เ จ า ทรงชวยเหลือ “ชวยดวย ผมกําลังจมน้ํา” ไมวาจะเปนพระสันตะปาปา,พระคารดินัล พระสังฆราชหรือ พระสงฆก็ตาม ตางตองการใหพระเยซูเจาทรงยื่นพระหัตถ ก็มาชวยทั้งนั้น บางครั้งเราก็หลงทางไป บางครั้งเราก็ขาดความเชื่อไปบาง เราพบกับวิกฤตในชีวิตและก็ไมรูวาจะทําอยางไร ใหเรารองหา พระเยซูเจาใหชวยเรา และพระองคก็จะทรงยื่นพระหัตถมาชวยเรา ดังนั้นอยายิ่งใหญอะไรในโลกนี้ มากนักเลย เพราะจะอยางไรก็ตาม ก็จะตองมีคนมาเปาเทียนบนหลุมศพของเราใหดับลงเหมือนกัน สําคัญอยูที่วา บางครั้งเราไมรูตัววาเราจองหอง วาเราถือตัวตัววาสําคัญ ถือคําวา เกงกวาผูอื่น มีหนา มีตากวาผูอื่น เคยมีคนมาถามพอองคหนึ่งวา เวลาที่อาดัมทําบาป อาดัมรูสึกอายและเวลาที่พระเจา เสด็จลงมาในสวนเอเดน พระองคทรงถามอาดัมวา “อาดัม เจาอยูไหน?” คําถามก็คือ พระเจาทรง ทราบดีวา อาดัมซอนอยูที่ไหน แลวจะไปถามอาดัมทําไม? คุณพอองคนั้นก็ตอบไปวา เปนคําถามที่ดี มาก พระเจาทรงทราบดีอยูแลวจริงๆวา อาดัมอยูที่ไหน แตพระองคตองการจะถามกลับไปยังอาดัมวา อาดัมเองนั้นแหละรูหรือไมวา อยูที่ไหน บางคนเวลาหลงทาง ก็หลงเลยครับ ไมรูดวยซ้ําวา เขาเปนใคร ตอหนาพระ ไมรูวยซ้ําวาอยูที่ไหน ฟงดูคลายๆกับหลุยสที่ 14 แมจะไมยิ่งใหญในความผิดพลาดเทากัน ก็ตาม มีแตพระเจาเทานั้นที่ยิ่งใหญ มีแตพระองคที่ทรงยื่นมือมาอภัยบาปผิดของเรา มีแตพระองค ที่ยื่นมือมาชวยเราจากการหลงทาง จากการจมน้ํา จากการหลงผิด ขอเพียงรองขอพระองคแบบเปโตร พระองคอาจจะตําหนินิดหนอย แตก็ยังคงยื่นมือมาชวยเราตลอดเวลา อยาลืมรองขอพระองคเสมอๆ นะครับ พระองคอยูที่นั่นกับเราตลอดเวลา ดวยความเคารพรัก คุณพอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 07 สิงหาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 6 1
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก สมโภชแม พ ระรั บ เกี ย รติ ย กขึ้ น สวรรค ทั้ ง กายและวิ ญ ญาณ และรํ า ลึ ก ถึ ง พระคุ ณ แม พอหมายความรวมถึงพระคุณของแมพระและพระคุณของแมบังเกิดเกลาของเราทุกคน สําหรับบางคน สูญเสียแมไปแลวก็จริง แตเราทุกคนไมเคยสูญเสียแมพระเลย เพราะพระนางไมเคยไปไหนไกลจาก เราเลย สําหรับแมที่จากโลกนี้ไปแลว เราทุกคนก็ยังคงระลึกถึงพระคุณทานไดดวยคําภาวนาและ การขอมิสซาอุทิศแดทานเปนพิเศษ อาทิตยนี้จึงเปนมิสซาเทิดเกียรติแมพระและระลึกถึงคุณแมทุกทาน เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ 1597 ที่เมืองนางาซากิ ประเทศญี่ปุน คริสตัง 26 คน ไดถูกประหารชีวิต ดวยการตรึงบนไมกางเขน โชกุนซึ่งปกครองประเทศอยูตอนนั้นหามชาวญี่ปุนนับถือศาสนาคริส ต โดยเด็ ด ขาด จึ ง ให ช าวญี่ ปุ น ทุ ก คนที่ นั บ ถื อ ศาสนาคริ ส ต อ อกจากประเทศและห า มกลั บ มาอี ก เลย มีคริสตังญี่ปุนจํานวนมากหนีออกมาจากประเทศ สวนหนึ่งก็เขา มาหนีภัยในประเทศสยามของเรา มารั บ ราชการทหารและมาทํ า การค า ขายด ว ย หมู บ า นญี่ ปุ น ในจั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ายาก็ เ ป น หลักฐานพยานเรื่องนี้ไดอยางดี เวลาเดียวกันก็มีคริสตังจํานวนมากไมยอมออกจากประเทศ มีพระสงฆ มากมายที่ไมยอมละทิ้งประเทศ แตยอมอยูในญี่ปุนเพื่อดูแลวิญญาณของคริสตังที่หลบๆ ซอนๆ อยูใน บรรดาผูที่ถูกประหารชีวิต มีเด็กหนุมคนหนึ่ง อายุ 17 ป ชื่อ โทมัส โคซากิ หนึ่งวันกอนที่เขาจะถูกตรึง กางเขน เขาเขียนจดหมายถึงแมของเขา มีใจความวาดังนี้ “แมครับ พวกเราคงถูกตรึงกางเขน ในวันพรุงนี้ที่นางาซากิ แมไมต องเปนทุกขเสียใจนะครับ พวกเราจะรอคอยแม อ ยู ใ นสวรรค ทุ ก สิ่ ง ทุ ก อย า งบนโลกใบนี้ จ ะสู ญ สลายไปเหมื อ นความฝ น ทําทุกอยางเพื่อที่จะไดมาซึ่งความสุขเที่ยงแทในสวรรคดีกวา อดทนและมอบความรักแดประชาชนของ เรา ที่สําคัญก็คือ ขอใหแมดูแลเอาใจใสนองชายของผมคือ มันโชและฟลิปโป อยาใหพวกเขาหันเหไป ทางคนตางศาสนาได แมครับ ผมขอมอบแมไวกับพระเสมอ” แมของโทมัส โคซากิ เปนที่พึ่งแหงความเชื่อ แมของเขาดูแลเอาใจใสลูกๆ ในเรื่องความเชื่อ ที่มั่นคง อดทนและตองตอสูกับความกลัวและการสูญเสีย พอเชื่อวาแมพระก็เชนกั นที่ตองอดทน ดูแล เอาใจใสวิญญาณของพวกเรา แมของโคซากิดีใจที่ไดอานจดหมายของลูกคนนี้ หากเราเขียนจดหมาย ถึงแมพระบาง ดวยความเชื่อที่เขมแข็งเชนนี้ แมพระก็คงดีใจมากแนๆ ความเชื่ อ ความศรั ท ธาของเราคริส ตั งต อแม พระมี มาตั้ งแตแ รกเริ่ม ทีเ ดี ยว พระศาสนจั ก ร ประกาศขอความเชื่อที่วา “พระนางมารียเปน พระมารดาพระเจา ” ในการสังคายนาที่เมืองเอเฟซัส ป 431 ตอมาประกาศขอความเชื่อที่วา “พระนางมารียปฏิสนธินิรมล” ในป 1854 กอนการประจักษ ที่เมืองลูรด 4 ป และตอมาประกาศขอความเชื่อที่วา “พระนางมารียรับเกียรติยกขึ้นสวรรคทั้งกายและ วิญญาณ” ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 1950 โดยพระสันตะปาปาปโอ ที่ 12 นอกจากนี้เรายังมีวันฉลอง แม พ ระอี ก มากมายในพระศาสนจั ก ร เดื อ นแม พ ระมี 2 เดื อ น คื อ พฤษภาคมและตุ ล าคม พระสันตะปาปา ยอหน ปอลที่สองก็เคยประกาศใหมี “ปแมพระ” มาแลวดวย คริสตังไทยแมมีจํานวน ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 6 2
ไมมาก แตความศรัทธาที่เรามีตอแมพระก็ไมนอยหนาใครในโลกเลย ความศรัทธาแบบนี้แหละที่โคซากิ ฝากแมของเขาไวใหดูแลนองชายของเขา เดือนตุลาคม ป 2011 นี้ ขอเชิญชวนพี่นองทุกคนเขารวมโครงการ “สวดสายประคําโลก” คริ ส ตั ง ทั่ ว โลกจะร ว มกั น สวดสายประคํ า เป น พิ เ ศษ สํ า หรั บ สั ง ฆมณฑลกรุ ง เทพ พระคุ ณ เจ า วี ร ะ อาภรณรัตน คุณพอสุรสิทธิ์ ชุมศรีพันธุ และกรรมการเฉพาะกิจ รณรงคใหคริสตังไทย สวดสายประคํา ใหครบ 3 แสนสาย โดยสวดตามจุดประสงค 3 ประการ คือ 1. เพื่อ 84 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว 2. เพื่อมิใหมีการทําลายชีวิตเด็กที่จะเกิดมา และ 3. เพื่อความสมานฉันทในประเทศของเรา มี เ งื่ อ นไขง า ยๆ ของการสวดก็ คื อ สวดตั้ ง แต ต น จนจบ และรายงานจํ า นวนสายที่ ส วด รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ กําลังจะออกมาใหพี่นองทราบ พอถือโอกาสสมโภชแมพระ อาทิตยนี้แจง ให พี่น องทราบกอ น สัง ฆมณฑลอื่ นๆก็เ ห็น ดว ยที่ จ ะช วยกัน รณรงค แต ของเรากรุ งเทพ,จะรณรงค 3 แสนสาย พี่นองวาจะไดหรือไมครับ? วัดเราเปนหนึ่งในวัดของแมพระ พอก็ขอเชิญชวนเปนพิเศษนะ ขอใหวันสมโภชนี้มีความหมายเปนพิเศษสําหรับเราทุกคนนะครับ ดวยความเคารพรัก คุณพอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 14 สิงหาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 6 3
สารเจาอาวาส พี่นองที่รัก “ซีมอน ทานคือศิลาและบนศิลานี้ เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา เราจะมอบกุญแจอาณาจักร สวรรคให” ตั้งแตนั้นมา เรามีเปโตรเปนพระสันตะปาปาองคแรกของเรา และพระศาสนจักรก็เริ่มตน ขึ้น ปจจุบันเรามีพระสันตะปาปาองคที่ 265 เปนชาวเยอรมัน คือ พระสันตะปาปาเบเนดิกตที่ 16 พระศาสนจักรมีอายุไดสองพันกวาปแลว มีปญหาใหญนอยมากมาย ลมลุกคลุกคลานทั้งจากปญหา ภายในและภายนอก แตคําสัญญาของพระเยซูเจาก็ยังคงเปนจริงเสมอ “ประตูนรก จะไมมีวันชนะ พระศาสนจักรได” เมื่อครั้งที่พอมีโอกาสติดตามพระคารดินัล มีชัย กิจบุญชู ไปเลือกตั้งพระสันตะปาปา เดือนเมษายน 2005 พอไดเขียนบันทึกซึ่งตอมา ทางมิสซังไดจัดพิมพเปนหนังสือ ชื่อวา “บันทึกพระ คารดินัลไทยไปเลือกตั้งพระสันตะปาปา” บันทึกเพื่อเตือนความจําของพอเอง ตอนแรกก็ไมไดตั้งใจ พิมพเปนหนังสือเลย เปนเหตุการณที่พิเศษอยางยิ่งที่พระคารดินัลไทยมีโอกาสไปเลือกตั้งผูรับตําแหนง จากนักบุญเปโตร มีอยูหลาย ตอนที่พอหยิบขึ้นมาอานใหม ก็รูสึกดีและภาคภูมิใจในพระศาสนจักร ของเรา ภาคภู มิ ใ จในพระสั น ตะปาปาของเรา ภาคภู มิใ จในพระคาร ดิ นั ลของเราด วย ตอนหนึ่ ง ที่ พอบันทึกไวเกี่ยวกับอํานาจของสันตะปาปาแสดงออกมาดวยเครื่องหมาย 2 อยาง อยางแรก คือ Pallium (อา นว า ป ล ลี อุม ) หมายถึ ง บ า หรื อ ไหลที่ ต อ งแบก เปน ผ า ทํ า ด ว ยขนแกะคล อ งคอ พระสันตะปาปา ผานี้จึงพาดไหลพระสันตะปาปาไว บนผามีเครื่องหมายกางเขน 5 อัน แทนรอยแผล ศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจา 5 แหง เครื่องหมายนี้แปลวา พระสันตะปาปาตองแบกกางเขนเทียบเทาองค พระเยซูเจาทีเดียว เปนภาระอันใหญหลวงที่จะตองรับแบก เครื่องหมายนี้ตอมา พระสันตะปาปาก็มอบ ใหแกบรรดาอัครสังฆราชทั่วโลกใหชวยพระองคแบกดวย เครื่องหมายอยางที่สองไดแก Fisherman’s Ring แปลไดวา แหวนของชาวประมง แหวนเปน เครื่องหมายของอํานาจหนาที่ สามีภรรยาสวมแหวนใหแกกัน หมายถึง มีหนาที่ตอกัน หนาที่ที่จะรัก และซื่อสัตยตอกัน กษัตริย ผูปกครองทั้งหลายตางก็พากันสวมแหวนที่มีคามากๆ แหวนของชาวประมง หมายเพียงแควา พระสันตะปาปาเปนชาวประมงจับมนุษย มีหนาที่รับใชและนําความรอด ตองจับปลา ใหไดมากๆ โลกนี้เปนเหมือนมหาสมุทรที่มีปลามากมายใหจับ แหวนนี้ปกติใชสําหรับตีตราประทับ จดหมายและเอกสารของพระสันตะปาปา ปจจุบันไมไดใชแหวนประทับตราแลว แตเปนเครื่องหมาย ของการยอมรับอํานาจ และการใหความเคารพตอพระสันตะปาปา ดวยการคุกเขาลงและจูบแหวน พระสันตะปาปา ธรรมเนียมปฏิบัตินี้ยังคงมีอยู และตอมาก็สืบตอธรรมเนียมนี้ไปยังบรรดาพระสังฆราช ดวย เมื่อพระสันตะปาปาสิ้นพระชนม แหวนของพระองคจะตองถูกทําลายตอหนาบรรดาพระคารดินัล เพื่อปองกันไมใหมีเอกสารของพระองคยอนหลังหรือเอกสารปลอมแปลง เพราะเหตุวาแหวนนี้ยังมี สัญลักษณเปนการรับรองเอกสารสวนตัวของพระสันตะปาปาได (ภาษาลาตินใชคําวา Annulus Piscatoris เผื่อมีคนอยากรูนะครับ)
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 6 4
มีเรื่องแปลกเกี่ยวกับการเลือกตั้งพระสันตะปาปาอยูเรื่องหนึ่งครับ ในป 1963 มีนวนิยาย เลมหนึ่งเขียนโดย Morris West ชื่อเรื่องวา “Shoes Of The Fisherman รองเทาของชาวประมง ตอมาไดนํามาสรางเปนภาพยนตรดวย ถือไดวาแปลกเพราะ เปนเรื่ องที่จากนิยายกลายเปนเรื่องจริง อย า งไม นา เชื่ อ เปน เหมื อ นหนั ง สือ ทํ านายพยากรณ เล า วา ปลายศตวรรษที่ 20 พระสัน ตะปาปา อิตาเลียนสิ้นพระชนม บรรดาพระคารดินัลถกเถียงกันวาจะเลือกใครเปน Pope องคใหม ที่สุดก็เลือก พระคาร ดิ นั ล ชาวสลาฟองค ห นึ่ ง ซึ่ ง เคยถู ก ขั ง คุ ก ถึ ง 20 ป โดยลั ท ธิ ค อมมิ ว นิ ส ต ใ ห ม าเป น พระสันตะปาปา ตั้งชื่อวา Pope Kiril I พระองคฝาฝนกฎระเบียบตางๆ โดยการออกไปพบประชาชน ตามทองถนนอยางลับๆ สอนเทววิทยาใหมๆ โดยเฉพาะดานอภิบาล พยายามทําความเขาใจ มีสัมพันธ กับประเทศรัสเซีย และจีน ซึ่งกําลัง ทําสงครามกันอยู และพรอมที่จะขายทรัพยสมบัติของวาติกัน เพื่อชวยเหลือผูอดอยากในประเทศจีน อยาลืมนะครับนี่เปนนวนิยาย เรื่ อ งนี้ แ ปลกตรงไหนครั บ ทั่ ว โลกต อ งตกตะลึง ครั บ เมื่ อ พระสั น ตะปาปา ยอห น ปอลที่ I สิ้นพระชนมลง หลังจากเปน Pope ไดเพียง 33 วัน พระองคเปนชาวอิตาเลียน บรรดาพระคารดินัล เลือกพระคารดินัลชาวสลาฟองคหนึ่งมาเปน Pope ชื่อวา ยอหน ปอล ที่ II ชื่อจริงคือ Karol (Kiril) พระองคลอบมาพบกับประชาชนตามทองถนน ใหเทววิทยาดานการอภิบาลแบบใหมๆ เปนผูที่โลก ยอมรั บ ว า มี อิ ท ธิ พ ลอย า งใหญ ห ลวงที่ ทํ า ให ป ระเทศรั ส เซี ย และประเทศบริ ว ารหลุ ด พ น จากลั ท ธิ คอมมิ ว นิส ตไ ด พระองค พ ยายามพบกั บคนทุ ก ชนชั้น เดิ น ทางมากที่ สุด และทํ าใหเ ห็ นบทบาทของ พระสันตะปาปา อํานาจและหนาที่ของพระสันตะปาปาไดอยางชัดเจนที่สุด ด ว ยเหตุ นี้ เ องครั บ ที่ พ ระเยซู เ จ า ทรงรั ก ษาสั ญ ญากั บ นั ก บุ ญ เปโตรและสื บ มาจนป จ จุ บั น พระองคอยูกับเราเสมอจนสิ้นพิภพ ประตูนรก เคยทําทาจะชนะพระศาสนจักร แตก็ไมเคยชนะเลย พระเปนเจาทรงรักษาสัญญาเสมอ พระองคทํางานในพระศาสนจักรในแบบที่เราเองไมคาดคิดครับ เวลานี้เรามีพระสันตะปาปาเบเนดิกตที่ 16 เปนนักปกปองความเชื่อ เปนผูปกปองศีลธรรม ปกปอง พระศาสนจั ก รที่ เ ข ม แข็ ง เป น นั ก คิ ด นั ก เทววิ ท ยาที่ ทั่ ว โลกยอมรั บ แม จ ะอายุ ม าก แต ก็ เ ข ม แข็ ง เหลือเกินครับ ติดตามพระศาสนจักรนะครับ และไวใจพระเสมอ ดวยความเคารพรัก คุณพอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 21 สิงหาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 6 5
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก คําสอนของพระวรสารอาทิตยนี้ชัดเจนมากครับ พระเยซูเจาสอนเราวา “จงเลิกคิดถึงตนเอง แบกไมกางเขนของเราและติดตามพระองค” อะไรในสามประการนี้สําคัญที่สุด ถาใหพอเลือกก็จะบอก วา เลิกคิดถึงตัวเองนี้แหละสําคัญที่สุด เราจะไมยอมแบกกางเขนแน เราจะไมยอมติดตามพระองคแนๆ หากเรายังคิดถึงแตตนเอง พี่นองวาจริงมั้ย มาดูกันหนอยครับวาเวลาเราคิดถึงแตตนเอง เราจะทํา อะไรแบบไหนกันบาง ลองคิดตามพอดูนะครับ การคิดถึงแตตนเอง หมายถึง วางตนเหนือ คนอื่นได ทํารายคนอื่นได (ทั้งดวยกาย-วาจา-ใจ) หาแตประโยชนใสตัว (ไมสนใจคนอื่นวาจะไดรับผลอยางไร ) สนองความตองการฝายเนื้อหนังของตน ทั้งเรื่องการกิน การดื่ม และความสนุกสนาน ชีวิตนี้ไมเคย พอเพียง ยอมตกเปนทาสของยาเสพติด กามรมณ โทสะ อํานาจ เงินทอง ชื่อเสียง หนาตา เกียรติยศ แบบนี้แหละครับที่เราเรียกวา “คิดถึงแตตัวเอง” ดังนั้นการเลิกคิดถึงตนเองแบบที่พระเยซูเจาสอน ก็หมายถึงงายๆวา อยาปลอยใหชีวิตของเราเปนทาสของความคิดและการกระทําแบบนั้น ทําใหเราเปน อิสระ พอเปนอิสระ เราก็สามารถแบกกางเขนของเราได เราสามารถติดตามคําสอนของพระเยซูเจาได พูดไปก็ดูเหมือนงายๆ นะครับ แตเรื่องการละทิ้งตนเองนี่แหละครับ คือสิ่งที่ทําไดยากที่สุด มนุษยเรา เอาตนเองเป น ศู น ย ก ลางเสมอ และตั ว ตนของเราก็ ก ลายเป น ศู น ย ก ลางของป ญ หาทุ ก ชนิ ด ความขัดแยงตางๆ การโตเถียงการทําลายลาง บาปการคดโกง เห็นแกตัว ทุกชนิดละครับ เราตกเปน ทาสของตนเองตลอดเวลา เปนกันทุกคนแหละครับ ขอย้ําวา เปนกันทุกคน เพราะฉะนั้นผูที่พยายาม ละทิ้งตนเอง แคพยายามก็นาสรรเสริญแลวละครับ และผูที่สําเร็จก็นายกยองเชิดชู เหมือนดั่งบรรดา นักบุญที่สละตนเอง ถวายตัวแดพระ และรวมทั้งสละชีวิตไดดวย เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 1838 ที่เกาะจาไมกา ชายคนหนึ่งชื่อ William Knibbs รวบรวมทาส จํานวนหนึ่งหมื่นคน เฉลิมฉลอง”การประกาศ ปลดปลอยทาส” ซึ่งหมายความวา ตั้งแตนี้ไปจะไมมี ระบบทาสใน เกาะจาไมกาอีกตอไป พวกเขาสรางโลงศพ ใบใหญมากใบหนึ่ง แลวก็นําเอาแส โซตรวน เครื่องมือลงโทษทาส เสื้อผาทาสทุกสิ่งที่เปนเครื่องหมายของระบบทาสใสไวในโลงศพใบนี้ พอถึงเวลา เที่ยงคืน ระฆังบอกเวลาก็ดังขึ้น William ก็ตะโกนขึ้นวา “สัตวรายกําลังจะตาย” ระฆังตีครั้งใด เขาก็ ตะโกนคํานี้จนมาถึงครั้งที่ 12 ฝูงชนหนึ่งหมื่นคนที่นั่นก็รองตะโกนขึ้นพรอมกันวา “สัตวรายตายแลว” สัตวรายตายแลว ฝงมัน” จากนั้นพวกเขาก็ฝงโลงศพในหลุมชวยกันกลบแลวก็กลับบานของตนดวย ความยินดี บัดนี้พวกเขาเปนอิสระแลว เหตุการณที่นาเศรามากเกิดขึ้น เพราะยังมีทาสอีกจํานวนหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยูกับนายอีกฟากหนึ่งของเกาะไมรูเลยวา พวกเขาเปน อิสระจากกฏหมายที่เพิ่งประกาศ พวกเขาเปนทาสตอไปเปนเวลาอีกหลายป เพราะเหตุวาพวกนายของพวกเขาสามารถเก็บเรื่องเหลานี้ ไมใหทาสของตนลวงรูไดนั่นเอง เปนการกระทําที่เห็นแกตัวอยางที่สุด มีคนนําเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกับ เรื่องที่พระเยซูเจาชนะบาปและความตายบนไมกางเขน พระองคประกาศการปลดปลอยทาสแกทุกคน
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 6 6
แต ก็ มี บ างคนที่ ยั ง ไม เ ข า ใจ ไม รู ว า ตนเป น อิ ส ระแล ว เพราะเหตุ ว า บรรดาผี ป ศาจพยายามปกป ด ความจริงนี้กับพวกเขา ดังนั้นก็ยังคงตองเปนทาสของบาปและปศาจตอไป นั ก บุ ญ เปโตรเองก็ เ กื อ บจะตกอยู ใ นสภาวะ คิ ด ถึ ง แต ต นเอง จนพระเยซู เ จ า ต อ งเตื อ นว า “เจาซาตาน ถอยไปขางหลัง เจาไมคิดอยางพระ แตคิดอยางมนุษย ” พวกเราก็เหมือนกัน อยาเผลอ แตจงระวังตัวเสมอ อยาตกเปนทาสของตนเองและปศาจ ใหงายนัก แตใหเราพิจารณาตนเองเสมอๆ วาในแตละวันของเรา เราตกเปนทาสของคําวา “ฉัน” มากนอยขนาดไหน อยาลืมวา เมื่อเราคิดถึง แตตนเอง เราก็ไมสามารถแบกกางเขนได ถนนสายที่เกาแกที่สุดสายหนึ่งของโรม มีชื่อวา อับปอา มีวัดอยูแหงหนึ่ง วัดนี้มีชื่อที่แปลกมาก ชื่อวา Quo Vadis, Domine? เปนภาษาลาตินแปลไดวา “พระเจาขา พระองคจะไปไหน” สรางเปน อนุสรณเตือนใจเรื่องการแบกไมกางเขน ในระหวางการเบียดเบียนศาสนาคริสตในสมัยจักรพรรดิเนโร บรรดาคริสตชนแหงโรม ขอรองใหนักบุญเปโตรหนีออกจากโรมโดยใหเหตุผลวา ชีวิตของทานมีคา ตอพระศาสนจักร หนีไปเถิด ไปยังที่ปลอดภัย เปโตรจึงรีบหนีออกจากโรมโดยใช ถนนเสนนี้ ระหวาง ทางทานพบกับพระเยซูเจากําลังเดินสวนทางกับทาน จึงถามพระองควา “พระเจาขา พระองคจะไป ไหน” พระองคจึงตรัสตอบวา “เราจะกลับไปที่โรมและถูกตรึงกางเขนอีกครั้งหนึ่ง ” พระองคยังถาม ตอ ไปว า “แล ว เจ า ละ จะไปไหน” เปโตรถึง กั บ รอ งไห แ ละเข า ใจทั น ทีว า ท า นคิ ดถึ ง ตนเองมากไป ทานควรแบกกางเขน ติดตามพระองคไป ทานจึงหันหลังกลับไปที่โรมอีกครั้งหนึ่ง ที่นั่น ทานถูกจับและ ที่สุดก็ถูกประหารชีวิตดวยการตรึงกางเขน ศีรษะลงดิน เพราะทานเห็นวา ทานไมสมควรที่จะตาย ในลักษณะเหมือนพระอาจารยเจา ทานไดละทิ้งตนเองจนหมดครับ ถาพระเยซูเจาทรงถามเราวา “ทานละ กําลังไปไหน” เราตองรวมใจกันตอบดังๆ เหมือนกับ ชาวทาสที่เกาะจาไมกาหนึ่งหมื่นคนวา “เราจะไปแบกกางเขน และตามพระองคไป” ดวยความเคารพรัก คุณพอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 28 สิงหาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 6 7
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก คําสอนที่ยากที่สุดสําหรับมนุษยที่จะปฏิบัติตามอยูในพระวรสารอาทิตยนี้ มีอยู 2 ขอครับ คือ 1. การใหอภัยและ 2. การตักเตือนกันและกัน ใครที่ทําไดแลวพอก็แสดงความยินดีดวย ใครที่ทําได เพียงขอเดียว พอก็ขอชมเชย สวนใครที่ยังทําตามไมได พอก็ขอใหกําลังใจนะครับ อยาเพิ่งทอถอยหรือ หมดกําลังใจ พยายามตอไป เพียงเราพยายาม พระเจาก็ชมเชยแลวและก็จะชวยใหเราทําไดสําเร็จครับ ทําไมเรื่องนี้จึงสําคัญนัก พี่นองลองนึกดูพระวรสารหลายๆ ตอนสิครับ พระเยซูเจาใหความสําคัญถึง เรื่ อ งนี้ อ ย า งมาก เช น เวลาที่ ส อนว า จงรั ก ศั ต รู เวลาที่ เ ปรโตรถามพระเยซู ว า ต อ งอภั ยให กี่ ครั้ ง ถึง 7 ครั้งหรือไม คําตอบก็คือ 7 ครั้ง 70 หน ซึ่งหมายความวา ตองอภัยใหเสมอ นอกจากนี้ก็ยังสอน อีกวา ทําดีแกผูที่ทํารายทาน เขาตบแกมขางหนึ่งก็ยื่นอีกขางหนึ่งใหเขาตบดวย คําสอนเหลานี้มีอยู ในพระวรสาร พอนึกถึงหนังสือเลมหนึ่งที่พอแฟรงค เจาอาวาส วัดดอน บอสโก แปลและพิมพหนังสือ เลมนี้ใชชื่อวา “ 7 ประโยค ที่พระเยซูเจาตรัสบนไมกางเขน” พออาจจะจําชื่อหนังสือนี้ไมถูกตองก็ได แตความหมายเหมือนกันคือ หนังสือนี้ตอ งการจะบอกวา ทุกประโยคที่พระเยซูเจาตรัสบนไมกางเขนนั้น มีความหมายลึกซึ้งจริงๆ พอก็ไปเปดดูพระวรสารทั้ง 4 เลาเรื่องมหาทรมานของพระเยซูเจา พี่นอง เดาไดมั้ยครับวา ประโยคแรกที่พระองคตรัสบนไมกางเขนคืออะไร นึกกอนนะครับ อยาเพิ่งอานตอ ........คําตอบก็คือ “พระบิดาเจาขา โปรดอภัยความผิดแกเขาเถิด เพราะเขาไมรูวากําลังทําอะไร” พระองคสอนอยางไร พระองคก็ปฏิบัติตามนั้น คําสอนที่สําคัญที่สุดของพระเยซูเจาก็คือ ประโยค แรกบนไมกางเขน การใหอภัย เวลาที่พระองคสอนใหเราสวดภาวนา พระองคก็ไมเคยลืมที่จะสอนให เราสวดเพือ่ รูจัก การใหอภัย แบบที่พระเจาทรงอภัยใหแกเราอยางไมมีเงื่อนไข เงื่อนไขที่มนุษยชอบใช ก็คือ ใหอภัย แตไมลืม ( Forgive But Not Forget) สวนพระเวลาใหอภัย พระองคลืม ไมจดจํา ความผิด ดังนั้นหากเมื่อไรเรามีความคิดที่จะใหอภัย ผุดแวบขึ้นมาในความคิดของเรา พอแนะนําวา ใหเราสวดบท “ขาแตพระบิดา...” ทันทีครับ เมื่อไมนานมานี้ ซิสเตอรเฮเลน พรีเจียน (Helen Prejean) เขียนหนังสือเลมหนึ่งชื่อวา Dead Man Walking เลาเรื่องจริงเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับคริสตังคนหนึ่งชื่อ Lloyd LeBlanc ลูกชายคนเดียว ของเขาถูกฆาตายอยูในไรออยของเขาเอง ฆาตกรก็คือ Patrick Sonnier ตอนที่เขากับนายอําเภอ เดินเขาไปในไรออย เพื่อระบุวาศพนี้คือลูกชายของเขาจริงๆ สิ่งแรกที่ LeBlanc ทําก็คือ เขาคุกเขาลง ขางๆ David ลูกชายซึ่งเสียชีวิต แลวสวดบทขาแตพระบิดาของขาพเจาทั้งหลาย พอเขาสวดมาถึง ตอนที่วา “โปรดประทานอภัยแกขาพเจา เหมือนขาพเจาใหอภัยแกผูอื่น ” เขารูซึ้งในใจทันทีวา นี่เปน คําสอนที่จะตองอุทิศตน อุทิศใจมากเพียงใดเพื่อปฏิบัติตามได เขาบอกกับตัวเองวา “ใครก็ตามที่เปน คนฆา David ฉันตองใหอภัยแกเขา” เขาสารภาพตรงๆกับซิสเตอร Helen วา ยากมากจริงๆที่จะ เอาชนะความรู สึ ก ขมขื่ น ความรู สึ ก ที่ ต อ งการการแก แ ค น ความรู สึ ก เหล า นี้ มั ก เกิ ด ขึ้ น เสมอๆ และโดยเฉพาะอยางยิ่งในวันเกิดของ David และตลอดทั้งชีวิตของเขา เขาก็ตองสวดบทภาวนาบทนี้ ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 6 8
ซ้ําแลวซ้ําเลา ในที่สุดเขาก็ชนะ ในวันประหารชีวิต Patrick เขาเดินทางไปรวมเปนสักขีพยาน ไมใช เพื่อการแกแคนหรือสมน้ําหนา เพียงแตหวังวา Patrick จะขอโทษเขาสักคําหนึ่งเทานั้น กอนที่ Patrick จะนั่งเกาอี้ไฟฟา เขาพูดกับ LeBlanc วา “คุณ LeBlanc ครับ ผมขอใหคุณอภัยผมในสิ่งที่ผมไดทําลง ไป” LeBlanc พยักหนา เปนเครื่องหมายบอกวา เขาใหอภัยและใหอภัยมานานแลวดวย บทภาวนาบท นี้ชางมีพลังมหาศาลจริงๆ เปนพลังที่สามารถควบคุมพลังแหงความเกลียด พลังแหงการแกแคนลงได ลําพังตัวเราเองคงไมสามารถมาถึงจุดนี้แบบที่ Le Blanc ทําไดแนๆ หากไมมีความชวยเหลือจาก พระบิดาเจาบนสวรรค การใหอภัยกันกับการไมใหอภัยใหผลทางจิตใจตางกันอยางมหาศาลดวย ตอนที่เราไมใหอภัย เราเหมือนตกอยูในนรก ไมมีความสุข มุงแตการแกแคน หงุดหงิด ตอใหแกแคนแลวก็หาความสงบ ในจิตใจไมได ตอนที่เราใหอภัยไดนั้น เราไดรับรูถึงสายตาแหงความเอ็นดูจากสวรรคตลอดเวลา พอเรา พูดถึงการใหอภัย เราก็มักจะคิดถึงการใหอภัยในเรื่องใหญๆ เรื่องหนักๆ ที่จริงมีเรื่องเล็กๆ นอยๆ ที่เรา ควรใหอภัยแกกันและกันทุกวัน บางครั้งการไมใหอภัยในเรื่องเล็กนอยนี้แหละครับ นําไปสูเรื่องใหญๆ ไดในภายหลัง และการใหอภัยในเรื่องเล็กๆ นอยๆ นี่แหละ ก็นําไปสูเรื่องราวที่แสนวิเศษไดเชนกัน หมูบานเล็กๆ แหงหนึ่งในประเทศยุโรปตะวันออก เด็กชวยมิสซาคนหนึ่งกําลังทําหนาที่ในวัด วันอาทิตย เขาบังเอิญทําแกวใสเหลาองุนตกแตก พระสงฆเจาวัดโกรธมาก ตบหนาเด็กคนนั้นแลว ตะคอกวา “ออกไปแลวไมตองกลับมาอีก เด็กคนนั้นไมไดกลับมาอีกเลย ตอมาเขาไดเปนผูนําลัทธิ คอมมิวนิสตที่สําคัญคนหนึ่งของยุโรปตะวันออก เขาคือ นายพลติโต เด็กชวยมิสซาอีกคนหนึ่งกําลัง ทําหนาที่ในวัดวันอาทิตยภายในอาสนวิหารแหงหนึ่งในอเมริกา เขาบังเอิญทําแกวใสเหลาองุนตกแตก เหมือนกัน พระสังฆราชซึ่งกําลังถวายมิสซานั้น ขยิบตาใหเด็กชวยมิสซาคนนั้น แลวกระซิบกับเขาเบาๆ วา “วันหนึ่งขางหนา เธอจะเปนพระสงฆ” เคาคนนี้ตอมาก็คือ พระสังฆราช Fulton Sheen ผูที่มี ความรักความศรัทธาตอพระเยซูเจาในศีลมหาสนิท กอตั้งองคกรที่ใหสมาชิกเฝาศีลมหาสนิท 24 ชั่วโมง เปนนักเทศน นักอบรมที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของอเมริกา ไมมีคําสอนขอใดในโลกนี้ที่มีพลังพิเศษ เทากับคําสอนแหงความรัก คําสอนแหงการใหอภัย คํา สอนแห ง การตัก เตือ นความเชื่อ ของกั นและกั น แก ไขความผิด ของกัน และกั น เราทุ กคนมีสิ ท ธิ เปนเจาของพลังนี้ไดเสมอครับ ดวยความเคารพรัก คุณพอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 04 กันยายน 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 6 9
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก วันที่ 11 กันยายน 2001 คือ เมื่อ 10 ปที่แลว เครื่องบิน 2 ลํา ซึ่งผูกอการรายบังคับใหพุงชน ตึกเวิลดเทรด เซ็นเตอรในกรุงนิวยอรก อีก 1 ลําพุงเขาชนตึกเพนตากอน อีกหนึ่งลําเตรียมเขาชนที่ วอชิงตัน ดีซี แตตกที่เพนซิลเวเนียเสียกอน เหตุการณนี้ ทําใหมีผูบริสุทธิ์เสียชีวิตมากกวาสามพันคน ที่มากไปกวานั้นก็คือไดสรางความเจ็บแคน ความเจ็บปวด ความอาฆาต ใหแกชาวอเมริกันอยางใหญ หลวง อเมริ ก าตอบโต ทั น ที ตามล า ตั ว บิ น ลาเดนทุ ก วิ ถี ท าง ถ า พี่ น อ งดู ข า ว CNN วั น ที่ อ เมริ ก า โดย โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศวา บิน ลาเดน เสียชีวิตแลว อเมริกาชนะแลว ภาพที่แสดง อยูในทีวี ก็คือ ชาวอเมริกันมากมายออกมาโหรองยิ นดี เฉลิมฉลองการตายของ บิน ลาเดน วันที่ บิน ลาเดนตาย คือ วันที่มีความสุขที่สุดวันหนึ่งของชาวอเมริกัน ความตายตองแลกดวยความตาย พวกเขารอคอยวันนี้มานานแลว มีพระสงฆองคหนึ่งในอเมริกาเองไดเทศนเตือนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว อยางนาคิดทีเดียวครับ “พวกเราบางครั้งลืมวันเกิดของคนบางคน บางครั้งเราลืมชื่อของเขาเสียดวย ซ้ํา เราลืมนัดหมาย บางทีเรายังเคยลืมแมกระทั่งคนที่เรารักมากๆได แตพวกเราไมเคยลืม “การถูกทํา ราย” “ความแคน” บางคนอาจทําเปนวาลืมไดแลว แตไมนานนัก ความแคนใจก็จะกลับมาอีกเสมอ” เราจึงพบวาคําสอนของพระเยซูเจาในเรื่องการใหอภัย รักแมศัตรู เปนคําสอนที่ยากที่สุดสําหรับ เรามนุษย แตสิ่งหนึ่งที่พระตอบแทนมาก็คือ เวลาที่คนๆหนึ่งสามารถอภัยใหกับผูที่ทํารายเขาอยาง แสนสาหัสได ก็เปนเรื่องที่สวยงามที่สุด สุขใจที่สุดในชีวิต เปนเรื่องที่ฟงแลวซาบซึ้งใจที่สุดเชนเดียวกัน แม ว า เรื่ อ งการอภั ย จะยากสุ ด เพี ย งใด ก็ มี ผู ติ ด ตามพระเยซู เ จ า จํ า นวนไม น อ ยที่ ไ ด พ ยายามทํ า และสําเร็จและนําสันติอยางที่เขาไมคิดวาจะไดมาอยูในจิตใจของเขา พูดงายๆ ก็คือ ยาก แตก็คุมคาที่ จะทําเปนเรื่องบังเอิญหรือวาตั้งใจก็ไมทราบ แตพระวรสารวันอาทิตยนี้สอนพวกเราถึงเรื่อง การให อภัย ซึ่งมาตรงกับวันที่ชาวอเมริกันกําลังระลึกถึงวันที่พวกเขาเจ็บแคนที่สุด พูดถึงเรื่องการใหอภัย พอชอบคิดถึงเรื่องพระสันตะปาปา ยอหน ปอลที่สอง พระองคถูก อาลี อักกา ลอบปลงพระชนมที่ลาน มหาวิหารนักบุญเปโตร เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 1981 ซึ่งก็ตรงกับวันฉลองแมพระประจักษที่ฟาติมา พระองคถึงกับตรัสวา เปนแมพระที่ชวยพระองคใหรอดชีวิต พระองคไดนํากระสุนที่ยิงพระองคไป วางไวที่มงกุฏ แมพระที่ฟาติมาดวย ภาพที่พอชอบคิดถึงก็คือ ภาพที่พระองคเสด็จไปพบ อาลี อักกา ในคุก ภาพที่พระองคใหอภัยเขา สวมกอดเขา เปนภาพที่ชาวโลกเห็นพระเยซูเจาอีกองคหนึ่งกําลัง มีชีวิตอยูในโลกของเราจริงๆ ภาพแบบนี้ดูแลวซาบซึ้งใจจริงๆ นะครับ ตอมา อาลี อักกา บอกวา พระสันตะปาปา ยอหน ปอลที่สอง เปนเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา เปนมิตรภาพที่สวยงามมากจากการให อภัย เมื่อหนึ่งรอยกวาปที่ผานมาเด็กอายุ 12 ขวบคนหนึ่ง ชื่อ มาเรีย กอเร็ตตี เปนเด็กนารักและมี ความศรั ท ธามาก เธอไปวั ด และสวดภาวนาอยู เ สมอๆ บิ ด าของเธอเสี ย ชี วิ ต ด ว ยโรคมาลาเรี ย ทิ้งครอบครัวใหตอสูกับชีวิตตอไปและตองไปอาศัยและทํางานกับครอบครัว Serenelli ลูกชายของ ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 7 0
ครอบครัวนี้คือ Alessandro พยายามเกี้ยวพาราสี มารีอา กอเร็ตตี อยูเสมอ แตเธอก็พยายามหลีกหนี และตอสูดิ้นรนโดยตลอด ปฏิเสธทุกอยางที่ Alessandro ตองการ จนในที่สุด วันที่ 5 ก.ค. 1902 Alessandro ซึ่งมีอายุ 20 ป ตัดสินใจจะขมขืนเธอ มาเรียปฏิเสธและพูดวา “มันเปนบาป พระเจาไม ตองการเชนนี้” Alessandro แทงเธอ 14 แผล เธอถูกนําสงโรงพยาบาลและทําการผาตัดสดโดยไมมี ยาชาเปน เวลา 20 ชั่ ว โมง ตลอดทางที่ มาโรงพยาบาลด วยรถม า นั้น เธอพูด ตลอดวา ฉัน ใหอ ภั ย Alessandro และสวดภาวนาเพื่อเขาดวย ไมนาเชื่อเลยวา นี่เปนคําพูดของเด็กหญิงอายุ 12 ขวบ วันที่ 6 ก.ค. 1902 เธอก็เสียชีวิต Alessandro ถูกตัดสินจําคุก 30 ป คืนหนึ่งขณะที่เขาอยูในคุกมาได 6 ป มารีอา กอเร็ตตีประจักษมาหาเขาในคุกนั้น เธอยิ้มใหเขา เธอมาพรอมกับดอกลิลลี่ที่สวยงามมาก เขารู ทันทีวา มารีอา กอเร็ตตี อภัยใหเขาแลว ตั้งแตนั้นมาชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป เขาพบกับความสงบ อยางที่ไมเคยมีมากอนเลย เขายอมรับโทษของเขาดวยความสงบ ประพฤติตัวดี จนไดออกจากคุก หลังจากติดคุกอยู 27 ป สิ่งแรกที่เขาทําเวลาออกจากคุกก็คือ เขาไปที่บานแมของมาเรีย กอแร็ต ตี และขอโทษเธอ แมของมาเรียไดทําเชนเดียวกับลูกสาว เธอยกโทษใหเขา วันคริสตมาสเขาพาแมของ มาเรียไปวัด และวันนั้น Alessandro ไดพูดตอที่ชุมนุมนั้น ขอโทษทุกคน ขอโทษพระในสิ่งที่เขาไดทํา ที่ประชุมไดยกโทษใหเขา ในป 1947 มารีอา กอเร็ตตี ไดรับการแตงตั้งเปนบุญราศี แมของเธอก็อยูใน พิธีแตงตั้งนั้นดวย และในป 1950 พระสันตะปาปา ปโอที่ 12 ประกาศใหเธอเปนนักบุญ มรณสักขี มีผูรวมพิธีแตงตั้งเธอมากเปนประวัติการณทีเดียว มีจํานวนถึง 5 แสนคน แมของเธอและนองๆอีก 4 คน ก็ อยู ร ว มพิ ธี ดว ย เป นครั้ ง แรกในประวั ติ ศาสตร ก ารแต ง ตั้ ง นัก บุ ญ ที่ มี แม อ ยู ใ นพิธี และที่ มี ความหมายมากเปนพิเศษก็คือ Alessandro ผูที่ฆาเธอก็อยูในพิธีนั้นดวย เขาตายในป 1970 กอนตาย เขาไดเขียนจดหมายฉบับหนึ่งสารภาพทุกสิ่งที่เขาคิด เขาทํา เตือนใจบรรดาเยาวชนทั้งหลาย อยาได ทําอยางที่เขาไดทําลงไป เขาพูดถึงคุณคาของการใหอภัย ใหชีวิตของเขาเปนบทเรียน และบทเรียนที่มี คาที่สุดก็คือ บทเรียนแหงการใหอภัยที่เขาไดรับจาก มารีอา กอเร็ตตี จากแมของเธอและจากชุมชน ของเขาเอง พอเชื่อวา เราทุกคนลวนมีผูที่เราจะตองไปขอโทษ และมีผูที่เราตองยกโทษให การไปขอโทษ คนใดคนหนึ่งก็เปนเรื่องยาก การใหอภัยคนอื่นยังยากกวา แตยากก็มิไดหมายความวาทําไมได มารีอา กอเร็ตตี และแมของเธอทําได เพราะวา เธอมีพระเจาในชีวิต ดวยการสวดภาวนา ดวยความรักที่มี ในคําสอนของพระเยซูเจา ดวยความตั้งใจจริงของเรา เราสามารถทําไดแนนอน สิ่งแรกที่เราตองทํา เพื่อการอภัย คือ การสวดภาวนาครับ ดวยความเคารพรัก คุณพอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 11 กันยายน 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 7 1
สารเจาอาวาส รั ฐ บาลใหม ข องเรากํ า ลั ง จะปรั บ ค า แรงงานขั้ น ต่ํ า อยู ที่ 300 บาท พ อ ไม ไ ด ต อ งการ ออกความเห็นเรื่องนี้ แตบังเอิญพระวรสารอาทิตยนี้พระเยซูเจาสอนเราในเรื่องคาแรง นายจางคนงาน ไปทํางานใน สวนองุน ไมวาจะไปทํางานตอนไหน นายจางก็จายคาแรงใหเทากันหมด บางคนก็บนวา ทํางานมากกวาอีกคนหนึ่ง แตไดคาแรงเทากัน ยังงั้นเรามาเปรียบพวกเราทุกคนเปนคนงานก็แลวกัน สวนองุนก็คือ โลกนี้ที่มีงานใหเราทํามากมาย บางคน ทํามากกวา บางคนนอยกวา เบากวา แตก็ยังคง ทํางานอยู คาแรง ตอบแทนเราเทากัน ก็คือ สวรรค เราจะอิจฉากันในเรื่องของการไปสวรรคทําไม เราพากันไปสวรรคมากๆ ไมดีกวาการไปสวรรคไมกี่คนไมใชหรือ เราจะบอกไดอยางไรวา พระไม ยุติ ธ รรม ในเมื่ อเราก็รู อ ยู แล ว ว า หากเราทํา งาน เราจะได รั บ คา ตอบแทนอะไร งานที่เ ราลงแรง ทําบนโลกนี้ตามกระแสเรียกของเราลวน มีคาตอบแทนเทากันคือ ความรอด “พระเจาตรัสวา ฝนและ หิมะ ทําใหแผนดินอุดม ทําใหพืชงอก มนุษยมีอาหาร ถอยคําที่ออกจากปากเรา จะไมกลับมาหาเรา โดยไมเกิดผล” แรงงานของเราตองเกิดผล และคาตอบแทนก็คุมคา ถาแรงงานเราไมเกิดผล นายก็คง ไมอยากจาย 300 บาท แนๆ เลยครับ พี่นองอานเรื่องนี้ดูนะครับและจะพบวาคาแรงเรา บนโลกนี้มีคา เพียงใด ในสมัยศตวรรษที่ 18 มีชางแกะสลักหินชาวเยอรมัน ชื่อ Johann Heinrich von Dannecker มีชื่อเสียงมาก ผลงานของเขาแตละชิ้น ทําใหหินดูมีชีวิต เปนที่รูจักกันดี เขาคิดที่จะสรางผลงานที่มี ความหมายที่สุดชิ้นหนึ่ง เขาแกะสลักรูปของพระเยซูเจา ตั้งใจจะใหเหมือนที่สุดและใหความรูสึกใกลชิด กับพระองคมากที่สุด เขาใชเวลาแกะสลักหินออนนี้ถึง 2 ปเต็ม อยางสุดฝมือ ดวยความตั้งใจและ ปราณีตที่สุด เขาพาสตรี คนหนึ่งเขามาที่หองทํางาน เปดผาคลุมรูปแกะสลักนี้ และถามสตรีนี้ว า “เธอรูหรือไมวานี่คือใคร” คําตอบทําใหเขาผิดหวังอยางมาก เธอตอบวา “ไมทราบเลย แตคงเปนคนที่ สําคัญมากคนหนึ่ง” เขารูทันทีวา งาน 2 ปของเขาลมเหลวอยางสิ้นเชิง แมจะทอถอยเพียงใด เขาก็ ขอลองดูอีกครั้งหนึ่ง เขาใชเวลาทํางานหนักถึง 6 ป คราวนี้เขาเรียกเด็กหญิงวันรุนคนหนึ่งเขามาที่ หองทํางาน เปดผ าคลุมรูป แกะสลัก ออกและถามเขาวาคุณรูห รื อไมวา นี่คือใคร เด็กหญิ งจองดูรู ป แกะสลักอยูครูหนึ่ง แลวน้ําตาก็หลั่งไหลออกมา เธอตอบวา “นี่คือองคพระเยซูเจา” งานนี้เปนงาน ที่ไดรับการยอมรับวา เปนงานชิ้นเอกของ Dannecker เขาเปดเผยควมลับกับเพื่อนของเขาวา รูปนี้ เหมื อ นพระเยซู เ จ า ก็ เ พราะว า ตลอด 6 ป ที่ แ กะสลั ก เขาเชื้ อ เชิ ญ พระเยซู เ จ า ให ม าอยู ใ นห อ งนี้ เขารูสึกใกลชิดกับพระองคมาก เขารับรูถึงความยิ่งใหญของพระองคอยางใกลชิดทีเดียว เขาทําเพียง แค ถ ายทอดพระองค ล งไปในหิ นอ อ นเท านั้ น เรื่ องยั งไม จบเทา นี้ นะครับ หลายป ต อมา จั ก รพรรดิ นโปเลี ย น โบนาปาร ต ได พ บผลงานของเขาและประทั บ ใจมาก เรี ย กเขาไปพบ ชมเชยเขา แลว มอบหมายงานให ทําชิ้ นหนึ่ งคือ ให เขาแกะสลั กรูป เทพเจา วีนัส ลงในหิ นออ น สํ าหรั บติด ตั้ง ที่ พิพิธภัณลูฟร ตองนับวา เปนเกียรติอันยิ่งใหญสําหรับนักแกะสลักที่ไดรับมอบหมายงานนี้ แต ทวา เขาปฏิเสธงานนี้ตอหนาจักรพรรดินโปเลียน พี่นองทราบมั้ยครับวา คาแรงที่เขาไดแกะสลักพระเยซูเจา ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 7 2
ตลอด 6 ป นั้น คืออะไร เขาตอบนโปเลียนวา “ใครก็ตามที่ไดเห็นพระเยซูเจาแลว จะไมสามารถ ใชพรสวรรคของเขาในการแกะสลักรูปเทพเจาอะไรทั้งนั้น ” ความเชื่อที่ลึกซึ้งคือ คาแรงของเขา จะมี อะไรมีคาเทานี้อีก พอยังประทับใจเรื่องจริงที่เกิดขึ้นอีกเรื่องหนึ่งในอเมริกา พอองคหนึ่งเลาใหฟงวา หลังมิสซา ของวันอาทิตย มีชายคนหนึ่งลุกขึ้นแลวขอพูดอะไรบางอยางตอหนาสัตบุรุษในวัด เขาบอกวา “นี่เปน ครั้งแรกใน 35 ป ที่ผมกลับมาวัดแหงนี้ ผมเคยเปนนักเรียนคําสอน วันนี้ผมเห็นครู Alton อยูที่นี่ดวย” เขาหันหนาไปที่ครู Alton พูดตอไปวา”ครูจําผมไดหรือไมครับ” เขายังพูดตอไปอีกวา “ผมมาวันนี้ เพื่อขอบคุณครู Alton และขอโทษคุณครู มีบางอยางที่ผมตองการเลาใหฟงและเชื่อวาครูจะตองดีใจ และมีความสุขแนๆ ผมเฝา รอวันนี้ มานานแล ว ตอนที่ เรี ยนคํ าสอน ผมเปน เด็ก ที่เ กเรที่สุ ดและยั ง ชักชวนเพื่อนๆใหเกเรดวย ผมทําความเดือดรอนใหแกครูทุกครั้งที่เรียน ทําทุกอยางที่จะกวนประสาท ทําลาย ขาวของ เถียงและตอตานทุกอยาง ครูก็ยังคงดีกับผมเสมอซึ่งผมไมสนใจเลย อาทิตยสุดทาย กอนที่บานผมจะยายไปจากที่นี้ ผมกลับมาที่หองเรียนเพื่อเอาของที่ทิ้งไว ผมมองเขามาทางหนาตาง หอง ผมเห็นครู Alton นั่งกมหนา ผมไดยินครูกําลังรองไห ผมไดยินครูสวดภาวนา พูดวา “ขาแต พระเจา โปรดชวยลูกดวยๆ ผมอยูที่ตรงนั้นอีกนานจนกระทั่งครูสวดจบ ตลอดระยะเวลา 5 ป จากนั้น ทุกครั้งที่ ผมคิดถึงคําภาวนาของครู Alton ผมรูสึกเจ็บปวด ผมทราบวาไดทําใหครูที่ดีกับผมอยางที่สุด ตองเจ็บปวดเพียงใด ผมไดทําใหหองเรียนคําสอนเปนนรก ทําใหครอบครัวผิดหวัง ผมทําตัวเปนฝาย ตรงข า มกั บ พระมาโดยตลอด ผมรู สึ ก เวทนาตั ว เองอย า งมาก ตั้ ง แต นั้ น มาผมมอบตั ว เองแด พ ระ ผมกลับเขามาในวัดอีกครั้งหนึ่งและทุมเททั้งชีวิตเพื่อพระเจาได ตองขอบคุณครู Alton ขอบคุณสําหรับ บทภาวนาที่ครูสวด วันนั้น ขอบคุณสําหรับงานหนักที่ครูทําเพื่อผม ผมอยากใหครูทราบวา ผมกลับมา วันนี้เพื่อขอบคุณพระ และคุณครู” คาแรงของครู Alton มิใชน้ําตา แตเปนความรอดของคนหนึ่ง เปนความเชื่อของคนๆหนึ่ง มีบางสิ่งที่ดีกวา การไปสวรรคนะครับ และมีบางอยางที่แยยิ่งไปกวาการตกนรกเสียอีก พี่นองคงสงสัย วา คือ อะไร คําตอบงายๆ ก็คือ สิ่งที่ดีกวาการไปสวรรคก็คือ การไมไดไปสวรรคคนเดียว มีบางคนที่ เรารักไปสวรรคกับเราดวย สิ่งที่แยกวาการตกนรกก็คือการพาใครบางคนที่เรารักไปนรกดวย นั่นแหละ ทําใหเราทรมานเพิ่มขึ้นเปนหลายเทาตัว คาแรงของเราบนโลกนี้มีคามากนะครับ ทุกคนเลย ดังนั้น ชวยๆกันทํางานนะครับ อยาไปอิจฉา กันเลย ชวยๆ กันไปรับคาแรงดีกวา ดวยความเคารพรัก คุณพอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 18 กันยายน 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 7 3
สารเจาอาวาส พี่นองที่รัก ลูกคนแรกตอบพอวา “ลูกไมอยากไป”(ทํางานในสวนองุน) แตตอมาก็เปลี่ยนใจไปทํางาน ลูกอีก คนหนึ่งตอบพอวา “ครับพอ”(ผมจะไปทํางาน) แตแลวก็เปลี่ยนใจไมไป สอนเรางายๆ ครับวา พูดอยาง เดียว ไมพอ เราตองปฏิบัติตามดวย เราแคบอกวา “รัก” ไมพอ เราตองมีกิจการแสดงใหเห็นดวยวา “รัก” เราแคบอกวา “อภัย” ไมพอ เราตองใหอภัยดวยใจจริงดวย เหมือนบอกเราตอนที่พูดวา ครับ ผม จะไปวัด แตแลว ก็ไมไดไป หลายคนพูดกับตัวเองวา อาทิตยนี้ไมไปดีกวา แตแลวก็เปลี่ยนใจไปวัดวัน อาทิตย ไปแบบฟงบาง ไมฟงบาง ตั้งใจบาง ใจลอยบาง แตก็ยังนั่งอยูในวัด ก็ยังนาชม เพราะอยาง นอยก็ยังตัดสินใจมาวัด ตามแบบอยางของลูกชายคนแรกเปยบเลย เรื่องไปวัดวันอาทิตยคริสตัง หลายคนก็มักจะหาเหตุผลที่จะไมไปเหมือนกัน หนึ่งในเหตุผลเหลานั้นก็คือ ”ฝนตก” มีคริสตังคนหนึ่งให เหตุผลที่นาสนใจมากกวา แมวาฝนจะตก เราก็ควรจะไปวัดวันอาทิตย เดี๋ยวนี้บานเราฝนตกบอยซะ ดวย พอก็จะขอนําเอาเหตุผลเหลานั้นมาเลาใหฟงนะครับ เขาบอกวา 1.แมวาวันอาทิตยฝนจะตก พระเจาก็ไมเคยหยุดที่จะอวยพรวันพระเจา (เผลอๆจะอวยพรมาก กวาเดิมดวย) 2. ต อ ให ฝ นตกหนั ก พ อ เจ า วั ด ก็ ยั ง คงไปที่ วั ด ท า นคงไม อ ยู แ ต ใ นบ า น ในวั น อาทิ ต ย แ น ๆ (พูดคลายๆ อยากเจอเจาวัดทุกอาทิตย) 3. ถาไมไป เราก็จะไมไดสวดภาวนา และไดขอคิดดีๆ (แสดงวาตั้งใจฟงพระคัมภีรและบทเทศน) 4. สําหรับเรื่องธุรกิจ หนาที่การงาน ฝนไมสามารถหามเราออกจากบาน ฝนก็ไมควรหามเรา ออก จากบานไปวัดเหมือนกัน 5. เปนโอกาสที่เราจะพิสูจนวา เรารักพระแคไหน รักแทอดทนนานและรักแทจะไมยอมพลาด นัดเด็ดขาด 6. ขอนี้สําคัญมากครับ เขาบอกวา เราควรไปวัด แมวาฝนจะตก เพราะเราไมรูวา พระจะใหเรา มีโอกาสไปวัดวันอาทิตยอีกกี่อาทิตยบนโลกนี้ เผลอๆ อาจเปนอาทิตยสุดทายก็ได (ตอนนี้ หลายคนที่อยากมาวัดทุกอาทิตย บางคนอยากมาทุกวัน แตเนื่องจากโรคภัยไขเจ็บ สังขาร ไมสามารถไปวัดได ขณะที่หลายคนยัง ไปได แตก็ไมอยากไปอยางนาเสียดาย) ที่จริงยังมีเหตุผลอีกบางขอ แตพอวาเทานี้ก็นาจะพอบอกกับเราไดวา เรายังสามารถหาเหตุผล ที่จะไมไปวัดไดอีกหลายขอ เชน เหนื่อย งวงนอน ขี้เกียจ มีภาระตองทําที่สําคัญกวา ตองหาเลี้ยงชีพ ฯลฯ พอก็แนะนําวา เราก็ยังควรที่จะทําตามลูกชายคนนี้ที่บอกวา “ไมไป” แตแลวก็ “ไป” แลวก็อาจจะ ขยายผลตอไปถึงคําตอบที่วา “ไมทํา” แตก็ “ทํา”
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 7 4
เราก็มีเหตุผลอีกมากมาย เรามีสภานการณในชีวิตอีกมากมายที่ดูเหมือนจะบังคับเราใหพูดวา - พระไมยุติธรรมกับเราเลย ทําไมพระใหเราจนกวา ลําบากกวา ทําไมพระใหเราเปนโรคราย ทําไมพระใหเราตกงาน ดูเหมือนวาพระจะกลั่นแกลงเราซะทุกเรื่องเลย เรื่องนี้คงตองมาคิดกันหนอยนะครับ ประกาศกเอเสเคียล เตื อนใจเรื่องนี้สั้นๆ งายๆ ครับวา พระไมยุติธรรมหรือเราไมยุติธรรมกับพระกันแน เราไมยุติธรรมตอเพื่อนมนุษยของเราดวยคิดดูงายๆ นะครั บ เรามี สิ ท ธิ ป ฏิ เสธพระ แต พ อพระปฏิเ สธคํ า ขอของเรา เราก็ ตํ า หนิพ ระ พระลํา บากได ใ ห พระเยซูเจามาลําบากได ใหแมพระทนทุกขแสนสาหั สได แตเราตองไมลําบาก ถาหากเรา ลําบาก เราก็ตําหนิพระได แบบนี้ยุติธรรม มั้ยเนี่ย - เราไมสามารถถือตามบัญญัติของพระไดหรอก เหตุผลอะไรบางครับ ที่เราสามารถอางไดที่จะไมทําตามบัญญัติของพระได เชน อภัยใหเขา ไมได เพราะเขาคนนั้นเลวจริงๆ ทํากับเราไดเจ็บปวดจนลืมไมลง ยอมตายซะดีกวาอภัยใหเขา ไมมีใครรู หรอกวาเขาทําอะไรกับเราไวบาง ฯลฯ คริสตังจํานวนไมนอย เคยมีเหตุผลเหลานี้นะครับ เคยคิด เคยพูดวา “ไมทํา” แตแลวอาศัย ความชวยเหลือของพระ พวกเขาก็ตัดสินใจ “ทํา” พระเยซูเจาถามเราในวันนี้วา “สองคนนี้ใครทําตามใจพอ” ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 25 กันยายน 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 7 5
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก ขอตอนรับพี่นองทุกทานเขาสู “เดือนแมพระ” ปนี้ประเทศไทยรวมใจรณรงครวมกับคาทอลิก ทั่วโลกสวดสายประคํากันอยางพรอมเพรียงเพื่อจุดประสงคตางๆ ประเทศไทยเรามีจุดประสงคพิเศษ เพราะเราสวดเพื่อเฉลิมฉลอง 84 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวของเราดวย พวกเรา ยังสวดภาวนา ขอแมพระชวยใหประเทศไทยอันเปนที่รักของเรามีความสงบ สันติ เปนหนึ่งเดียวกัน และยังสวดภาวนา เพื่อใหผูที่จะเปนแมทุกคน รักลูกที่กําลังจะเกิดมา ใหโอกาสลูกๆ ของพวกเขาไดมี ชีวิต พอเชื่อวาจะมีพี่นองรวมใจกันสวดภาวนาทั่วประเทศมากกวา สามแสนสาย วัดของเราตั้งเปาไว หนึ่งหมื่นสาย เพราะ พอเจาวัดคือ พอเอง หนาใหญ แตชื่อเล็ก หลายคนบอกวา หมื่นสายสบายมาก พอกําลังคิดและก็คิดไปคิดมาหลายตลบ สงสัยจะไมสบายมาก แตกลายเปนวา ลําบากมาก ขอแมพระ ชวยใหพวกเราเขมแข็งที่จะสวด สวดและสวดสายประคําตลอดเดือนนี้นะครับ มีอัครสาวกของพระเยซูเจาอยู 2 องคที่เรามักใชชื่อของทานมาลอเลียน พอจะเลาใหฟงวา ทําไม องคแรกคือ โทมัส พอเอยถึงโทมัส พวกเรามักจะใชลอเลียนเพื่อนเณรหรือพระสงฆ ที่ชอบสงสัย ในคําสอนหรือขอความเชื่อ เพราะโทมัสไมยอมเชื่องายๆ วาพระเยซูเจากลับคืนชีพจริง ตองเอานิ้วแหย ที่แผลซะกอน อีกองคหนึ่งก็คือ ยูดาส ผูทรยศพระเยซูเจา ชื่อยูดาสกลายเปนชื่อที่ไมมีผรั่งคนไหนตั้งให ลูกชายของตนเลย แถมเวลามีรายชื่ออัครสาวกในพระวรสาร ยูดาสก็จะเปนชื่อสุดทายเสมอ เรื่องนี้ไม ตองอธิบายก็รูวาทําไม ชื่อของเขากลายเปนเอกลักษณประจําตัวคือ การทรยศ ใครที่ทรยศเพื่อนฝูง หักหลังเพื่ อนฝูง เราก็จะเรี ยกเขาผู นั้นวา “ยูดาส” พ อเดาไม ออกว า คนทรยศเขาจะรูสึ กอยางไร เพราะคนทรยศก็มักจะไดบางสิ่งบางอยางที่เขาตองการ เขาจึงทรยศ แมวาผูที่ถูกทรยศจะเจ็บปวด เพียงใดก็ตาม ฝรั่งเขาเรียกกันวา “No Pain…No Gain” ยูดาสไดเงิน 30 เหรียญ ดีใจไดพักหนึ่ง แลวก็มาเสียใจจนฆาตัวตาย พอไมไดเห็นดวยกับการฆาตัวตาย แตก็รูสึกวาความเสียใจของยูดาส เปนเรื่องที่ดีและมีความหมาย เพราะเหตุวา คนหลายคนยอมทรยศตอพอแม ตอพี่นอง ตอเพื่อนรัก ของตนเอง แลวก็ยังไมรูสึกเสียใจ มีแตพอใจสิ่งที่ไดรับมา พอจึงพอเดาออกวาคนที่ถูกทรยศจะรูสึก อยางไร ยิ่งรักมาก คนที่ถกู ทรยศก็ยิ่งเจ็บปวดมากเทานั้น จูเลียส ซีซาร เปนจักรพรรดิโรมันผูยิ่งใหญมาก อาณาจักรแผไพศาล ทะเยอทะยานตองการ กุมอํานาจเบ็ดเสร็จทั้งหมดในอาณาจักร เปนคนแรกที่เรียกตัวเองวา Dictator สมัยนี้เราแปลวา เผด็จการ แตที่จริงสมัยนั้นหมายถึง ผูบัญชาการสูงสุด บอกอะไรตองทํา วางั้นเถอะ สามารถวินิจฉัย ทั้งทางการเมืองและทางศี ลธรรมดวย เพราะเหตุนี้จึ งมีศัต รู และศัตรู ที่รา ยกาจที่สุดของเขาก็คื อ เพื่อนๆ ที่เขารัก รวมทั้งหนุมคนหนึ่งที่เขารับมาเลี้ยงดูและรักเหมือนลูกในไสของเขาเอง นั่นก็คือ Marcus Junius Brutus พวกนี้วางแผนสังหารเขาโดยให Brutus เปนผูที่ไปเชิญจูเลียส ซีซารมาที่ ประชุม ที่นั่นเพื่อนๆ ของเขายืนลอมซีซารเปนครึ่งวงกลม แลวก็ชักมีดออกมาจวงแทงซีซาร ซีซาร พยายามตอสูดิ้นรน จนกระทั่งเขาเห็น Brutus ชักมีดออกมาและแทงเขา นักประวัติศาสตรโรมัน ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 7 6
อธิบายไววา ซีซารเสียใจอยางมากที่เห็น Brutus ถึงกับพูดขึ้นวา “เจาก็ดวยหรือบรูตุส” ตั้งแตนั้น เขาไมตอสูดิ้นรนอีก ปลอยใหเพื่อนๆ เขารุมแทงจนเสียชีวิตพรอมดวยบาดแผล 23 แผล เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 44 ปกอนพระเยซูเจาประสูติ จูเลียส ซีซาร รูสึกเจ็บปวดที่ถูกคนที่เขารักมากที่สุดทรยศ จนยอมตาย ไมนาเชื่อนะครับ คนเราสามารถทรยศกันไดเพียงเพื่อ อํานาจ หรือไมก็ ราคะตัณหา หรือไมก็ เงินทอง ไมนาเชื่อใชมั้ยครับวา คนเราจะสามารถโกงกั นได แมแตกับ พอแม พี่ นองทองเดียวกั น โกงกันได แมแต เพื่อนที่เคยรักกันมา โกงกันได ทรยศกันได แมแตคนที่ตนแตงงานดวย คงเดากัน ไมยากวา ผู ที่ถูกทรยศนั้ นจะรูสึ กอยา งไร ถายัง เดาไม ออกก็ ลองมานึกถึ งเรื่องที่ประกาศกอิสยาห กลาวถึงในวันอาทิตยนี้นะครับ เพื่อนรักคนหนึ่ง ปลูกสวนองุน สรางหอเฝา สกัดบอย่ําองุน ปลูกองุน ชนิดดี แลวก็รอคอย ที่สุดองุนที่ออกมากลายเปนองุนเปรี้ยว เจาของสวนถึงกับรองวา “มีอะไรอีกหรือ ที่ฉันจะทําได เพื่อสวนองุนของฉัน แตไมไดทํา” เขาอยากจะบอกวา ทําทุกอยางแลว ทําไมจึงเกิดผล เชนนี้ละ เหตุการณทํานองนี้เกิดขึ้นในพระวรสารเหมือนกัน เจาของสวนไววางใจ แต ที่สุดก็ถูกโกง เจาของสวนใจดีทุกอยางแตก็ไดรับการตอบแทนอยางเจ็บปวด ลูกชายของตนยังถูกคนเฝาสวนฆาตาย พอแมหลายคนไปพบพระสงฆ รองไหเสียใจ กลุมอกกลุมใจ เลาใหฟงวา พยายามอบรมสั่งสอน ลูกใหเปนคนดี ศรัทธา ทําทุกอยาง ทั้งสอนทั้งเตือน ที่สุดลูกกลับทําตัวเปนองุนเปรี้ยว ติดยาเสพติด เห็นผิดเปนชอบ ทิ้งวัดทิ้งวา เอาแตเที่ยว เอาแตสนุก ความรูสึกแบบนี้ก็คงเหมือนกัน เจาของสวนที่ทํา ทุกอยางแลว แตองุนก็ยังเปรี้ยวอยู แลวมีใครเคยถามพระบางไหมวาพระรูสึกอยางไร เวลาที่ถูก พวกเราทรยศ พระก็ทําทุกอยางแลวจริงๆ สําหรับความรอดของเขา ถึงขนาดสงลูกชายแตองคเดียว ก็ยอมทํา ผลที่ไดรับกลับไปก็คือ ตองสูญเสียลูกชายไป การทรยศหักหลังกัน การแทงกันขางหลัง การเลื่อยขาเกาอี้ มีอยูเสมอในประวัติศาสตรมนุษย เรา มีอยูในทุกวงการ แมแตในพระศาสนจักร ขออยาใหมีอยูในชีวิตของพวกเราเลย อยาใหมีอยูกับผูที่ เรารักเลย ผูที่ใกลชิดที่สุดกับเรา ถาหากยังมีอยูก็ขอใหเริ่มตนกันใหม คืนความรัก คืนความไวใจใหแก กันและกัน ชดใชสิ่งที่เราไดทําลงไปตอกันดีกวา ไมมีอะไรมีคา สําหรับเราในโลกนี้ มากกวา ความรัก ความไวใจ และความซื่อสัตยตอกันหรอกครับ ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 02 ตุลาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 7 7
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก พระเจาจัดงานเลี้ยงแตงงานมีความหมายวา พระเจาดีใจที่มนุษยและพระเยซูเจาเปนหนึ่ง เดียวกัน สวรรคและแผนดินไดมาอยูรวมกัน งานอยางนี้พระองคตองจัดเปนงานใหญแนๆ เรามนุษย ทุกคนเปนผูไดรับเชิญมารวมงานเลี้ยง นี่คือภาพของงานเลี้ยงในบูชามิสซา ปญหาใหญๆ ของงาน เลี้ยง ที่มีพระเจาเปนเจาภาพ และมีมนุษยซึ่งเปนผูไดรับเชิญก็คือ 1. ผูรับเชิญไมอยากมา ผูรับเชิญ ไมยอมมา ดวยเหตุผลตางๆ นานา ประเด็นนี้ เราคงตองไตรตรองรวมกันหนอยวา พวกเรามีเหตุผล อะไรบางนะ ที่ทําใหเราบางคน ไมอยากมา หรือไมยอมมางานเลี้ยง พูดงายกวานี้ก็คือ ทําไมบางคน ถึงไมอยากมาและไมยอมมาวัดรวมถวายบูชามิสซา พอก็ลองเดาๆ ดูนะครับ เหตุผล เชนว า ขี้เกียจ ตื่นนอนวันหยุด มีนัดแลว มีงานที่ตองทํา ไมชอบพระสงฆ ไมชอบฟงเทศน อากาศไมดี รถติด เปนตน ใครยั ง มี เ หตุ ผ ลอื่ น ๆ อี ก ช ว ยบอกพ อ หน อ ยก็ แ ล ว กั น ป ญ หาข อ ที่ 2 ผู รั บ เชิ ญ มางานเลี้ ย ง คื อ มามิสซา แตวางตัวไมดี ไมเหมาะสม นี่ก็เหมือนกัน พวกเราตองพิจารณาดูใหดีวา มีอะไรบางที่เรา ยังใหเกียรติงานเลี้ยง ใหเกียรติเจาภาพไมดีพอ พอก็ขอเดาอีกครั้งหนึ่ง เชนวา แตงตัวไมเหมาะสม มางวงนอน บางคนมาหลับเลยก็มี มาแลวก็ไมยอมทานอาหาร คือไมรับศีลนั่นแหละ บางคนก็เอาอะไร ก็ไมรูมาทานในวัดเหมือนมานั่งดูหนังเลย บางคนมาก็ไมทักทายเจาภาพเลย เขาใหทําอะไรในงานเลี้ยง ก็ไมอยากจะทําอะไรกับเขาเลย เปนตน พอบังเอิญไปพบอีเมลฉบับหนึ่ง อานดูแลวนาสนใจ คนเขียนตอวาเพื่อนที่ชวนใหเขาไปวัด เพื่อนบอกวา ไปวัดของฉันดูซิ แลวเธอจะชอบ เพื่อนคนนี้ก็ไป แตไมเจอเพื่อนคนนั้น เธอเขาไปในวัด ไหนๆ ก็ ม าแล ว แต เนื่ อ งจากเปน คนจากที่อื่ น ก็อ ยากจะนั่ง แถวหลั ง ๆ ก็ ป รากฏว า ที่นั่ ง ด านหลั ง เต็มหมด (วัดทุกแหงก็แบบนี้แหละ) สภาวัดก็ดีใจหายมาชวยพาไปหาที่นั่ง ที่นั่งดานหนานั้นวางมาก จริงๆ เธอรูสึกเขินมากเหมือนเดินสวนสนาม ไดที่นั่งแลว ก็เริ่มสังเกตุผูคนภายในวัดระหวางบูชามิสซา เธอเห็นเด็กๆ วิ่งเลนกัน ชวนคุยกัน พอแมคุยเลนกัน ลูกๆ ที่กําลังนารัก สงเสียงดังจนเห็นสีหนา ของคนที่อยูขางหลังไดวา ไมสนุกดวยเลย เธอบอกวา วันนั้น คุณพอเทศนดีซะดวย แตก็มีคนที่ไมคอย ชอบฟงเทศนเลย มีคนรองเพลงอยูไมกี่คน หลังจากมิสซาเลิก เธอพยายามชวนผูคนพูดคุยดวย แตก็ดู เหมือนวาไมคอยมีคนอยากคุยกับ คนแปลกหนา เธอรูสึกโดดเดียวและก็ไมรูจะอยูที่นั่นไปทําไม และก็ ไมรูวา จะไปที่นั่นอีกทําไม แถมยังไมเจอคนที่ชวนเธอไปดวย อานอีเมลนี้แลว พอก็เลยถือโอกาสนี้ พูดถึงเรื่องวัดของเราซะหนอย พูดใหดีก็จะพูดสิ่งที่ดีๆ ก อ นนะครั บ เรื่ อ งแรกที่ พ อ ชอบมากก็ คื อ มิ ส ซาที่ วั ด นี้ มี ชี วิ ต ชี ว าดี ม าก เรามี ผู เ ล น ออร แ กนที่ ม า สม่ําเสมอ พี่นองสามารถรองเพลงพรอมกันได เสียงดัง สงางามมาก พอเชื่อวา เวลาที่พี่ นองไมตอง เปดหนังสือเพลง หยิบหนังสือเพลง มองหาหนาหนังสือ คอยอานหนังสือเพลงตัวเล็กๆ ทําใหพี่นอง อยากร อ งเพลงมากขึ้ น พอทุ กคนรว มรอ งเพลงก็ทํ า ให เ พลงมี ชีวิ ต ชีว า หรื อ แม เ วลาสวดในมิ ส ซา ก็สามารถสวดพร อมกันได ทุกบท สายตาของพี่นองไมเคยกม ลงไปมองหนังสือ อี ก แตทุ กคนมองที่ ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 7 8
พระแทนไดตลอดเวลา พอชอบมาก เพราะทําใหเรามีสมาธิมากกวาที่จะวอกแวก เวลามีเพลงใหม บทภาวนาใหมๆ หรือแมแตการถายทอดในอินเตอรเน็ตในเว็บไซตของวัดก็ราบรื่นดีทุกอยาง ทั้งหมดนี้ โดยผานทางโปรเจ็คเตอร และการเอาใจใสของคุณกฤษณ คุณสม และ ม.วิทยา เรื่องที่สอง ก็คือ มาวัดตรงเวลามากขึ้น พอออกมาจากหองแตงตัวเห็นคนมากันมากแลวก็ดีใจ หากวาออกมาแลว เห็นที่ นั่งมากกวาคนนั่งก็ใจหาย แถมหลังๆ นี้ พี่นองแตงตัวมาวัดดีขึ้นมากทีเดียว แตงตัวภูมิฐาน สวยงาม เรียบรอย สะอาดสะอาน สุภาพสตรีก็แตงตั วสุภาพสมชื่อ อาจมีบาง บางคน ก็โปนิดๆ แตก็ไมมาก อันที่จริง ไมโปเลยจะดีกวานะครับ เรื่องที่สาม ก็คือ พี่นองแกบาปและรับศีลมาก ทําใหงานเลี้ยงมี ความหมายและมีชีวิตชีวา ดีจริงๆ เลย อีกอยางที่พอทุกองคชอบเหมือนกันก็คือ พี่นองที่นี่ตั้งใจฟง เทศนดีจัง พอจะเทศนดีไมดีก็ไมรู พอเห็นตั้งใจฟงกันดี ไมวาพอองคไหน จะเทศนสั้น จะเทศนยาว หนอย ก็เห็นมองมาที่ผูเทศนตลอด ขอบคุณพี่นองมาก ทําใหพวกพอมีมานะในการเตรียมเทศนใหดีสม กับที่พี่นองตั้งใจฟง คราวนี้มาถึงเรื่องที่ควรแกไขกันบางนะครับ อยาหาวาจู จี้จูกจิก อยาโกรธกันนะ ที่จริงก็เปน เรื่องที่ไมน าโกรธหรอก แต เปน เรื่องที่นารั กมากขึ้นตา งหาก เรื่ องแรก ก็คื อ เวลารับ ศีลมหาสนิ ท พี่นองหลายคนไมตอบ “อาแมน” คําตอบนี้สําคัญนะครับ เพราะวา เรากําลังบอกพระวา เรารูวากําลัง ไดรับผูที่สําคัญที่สุดในชีวติของเรา นอกจากนี้ยังทําใหพอสามารถปองกันผูที่ไมใชคาทอลิกมารับศีลได ดวย พี่นองบางคนก็ไมรับศีลตอหนาพอ แตจะเอาพระเยซูเจาไปรับที่หางไกล พอก็หวงวาพระเยซูเจา จะถูกลักพาตัว ก็ตองคอยมองจนกวาพี่นองจะรับศีล ถาเปนไปได พี่นองตอบอาแมน แลวก็รับศีล ตรงนั้นเลย ก็จะดีมาก เรื่องที่สอง บางตอนในมิสซาเดี๋ยวนี้จะมีชวงใหเงียบในระหวางชวงเหลานี้ พี่นองบางคนก็จะคุยกัน บางทีก็คุยกับลูกๆ ที่พามาวัด ที่จริง พอชอบมากใหพาลูกๆ มาวัด ลูกเล็ก เด็กแดง ไดทุกคน เด็กรองบาง ก็ไมเปนไร วิ่งเลนบางก็ไมเปนไร แตถาพอดังมากเขาๆ ก็พาออกไปขาง นอก จะไดไมรบกวนคนอื่น เทานี้พอก็ดีใจแลว เรื่องสุดทายที่พอจะแนะนําก็คือ วัดของเราโชคดีที่มี สภาอภิบาลที่เขมแข็ง และมีพี่นองที่พรอมจะรวมมือกับโครงการตางๆของวัดเสมอไมวาจะทําอะไร พี่นองก็สนับสนุนอยางดี แต สังเกตุเห็นวา พี่นองที่มีความสามารถ มีน้ําใจดี อีกหลายคน มีความรู ความสามารถ ไมคอยชอบมาเปนสมาชิกองคกรตางๆ ชอบชวยอยูหางๆ พอคิดวา พระใหอะไรที่ดี แกเรา เราก็ควรคืนใหพระ วิถีชุมชนวัดเปนหนทางใหมในการเปนวัด จะทําใหเราเขาใจวา แทที่จริงวัด ก็คอื ชีวติของเรา และชีวิตของเราก็คือวัดนั้นเอง เราทุกคนไดรับเกียรติ ไดรับเชิญมารวามงาน(เลี้ยง) ใหเราตอบรับดวยความยินดีนะครับ ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 09 ตุลาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 7 9
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก ประโยคที่ กิ น ใจที่ สุ ด ประโยคหนึ่ ง ของพระเยซู เ จ า ก็ คื อ “ของของซี ซ าร จงคื น ให ซี ซ าร และของของพระเจ า ก็ จ งคื น ให พ ระเจ า เถิ ด ” เหรี ยญเงิ น ที่ มี รู ป ของซี ซ าร เป น เครื่ อ งหมายแทน ความรุ ง เรื อ ง อํ า นาจทางโลก ความร่ํ า รวย ก็ ย อ มหมายความว า ความร่ํ า รวยของพระเยซู เ จ า ตองไมใชเงินและอํานาจของโลกนี้ พอเปรียบเทียบใหดูงายๆ นะครับ มงกุฏเปนเครื่องหมายสําคัญของ การเปนกษัตริย นับแตอดีตมาจนถึงปจจุบันทีเดียว พี่นองคงเคยไดยินชื่อของจักรพรรดิ ชารลเลอมาญ ในศต.ที่ 8 และ ศต.ที่ 9 เปนกษัตริยผูที่ยิ่งใหญ มีชื่อเสียงมาก นักประวัติศาสตรเรียกวา “มหาราช” แหงมหารราช” มงกุฏที่พระองคสวมเปนมงกุฏ 8 เหลี่ยม แตละเหลี่ยม ทําดวยทองคํา และประดับ ประดาดวยเพชรนิลจินดาและไขมุก นับวาเปนมงกุฏที่มีคามหาศาลทีเดียว สวนมงกุฏของพระเจา ริชารด ใจสิงห แหงอังกฤษนั้น เปนมงกุฏที่ทําพิเศษและมีน้ําหนักมาก ถึงขนาดที่ทุกครั้งที่สวมจะตองมี มหาดเล็ก 2 คนคอยพยุงศีรษะของพระองคเอาไว มงกุฏที่มีชื่อเสียงอีกอันหนึ่งเปนมงกุฏของราชินี เอลีซาเบธ แหงสหราชอาณาจักร มีมูลคาถึง 20 ลานดอลลาร สหรัฐ และพระเจาเอ็ดเวิรดที่สอง ก็เปนเจาของมงกถฏถึง 7 อันดวยกัน ยังไมมีใครลบสถิตินี่ไดเลย เห็นมั้ยครับ คนเราตองการมงกุฏ เปนเครื่องหมาย เดี๋ยวนี้แมแตนางงามก็ยังตองใชมงกุฏที่มีคามากๆ ตองแยงกันสวย ยอมทําทุกอยาง เพื่อไดมงกุฏนางงาม สวยที่สุดในโลกยังไมพอ ยังตองสวยที่สุดในจักรวาลดวย ไมรูวาดาวดวงอื่นๆ เขามีนางงามหรือเปลา แลวพวกเขาจะยอมรับวานางงามของโลกเราสวยกวาของเขาจริงหรือ คราวนี้ เ รามาดู ม งกุ ฏ ของพระเยซู เ จ า บ า ง พี่ น อ งก็ ค งนึ ก ออกทั น ที นั่ น คื อ “มงกุ ฏ หนาม” ชางแตกตางจากมงกุฏทางโลกอยางสิ้นเชิง แสดงวาพระองคไมตองการใหเราติดยึดอยูกั บสิ่งของ ของโลกนี้ อํานาจของโลกนี้ ความร่ํารวยของโลกนี้ อาจจะมีก็ได แตอยายึดติดกับมันจนลืมที่จะคืนของ พระใหแกพระ มงกุฏนี้มิไดทําขึ้นจากความบรรจงของชางทํามงกุฏเลย แตทําขึ้นหยาบที่สุด จากน้ํามือ ของทหารโรมัน ภายใตการเยาะเยย การสาปแชงตางๆนาๆ พระเยซูเจาไมเคยสอนใหเราสวมมงกุฏ หนาม เคยสอนแตใหเราแบกกางเขนตามพระองคไปเทานั้น สงสัยวา พระองคคงรูวา มันทรมานมาก ไปสําหรับเรา พระองคก็เลยสวมแทนพวกเราทั้งมนุษยชาติเลย พระองคคงหวังเพียงวา พวกเราจะ ไมมัวแตแสวงหามงกุฏทางโลกเทานั้น อะไรที่เปนของโลก ก็คืนโลกไปเถิด พอชอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณแมเทเรซา แหง กัลกัตตา เศรษฐีคนหนึ่งสนใจงานของ คุณแม วันหนึ่งไดติดตามคุณแมไป วันนั้น แมเทเรซา ไปดูแลคนโรคเรื้อน เธออาบน้ํา เช็ดตัวใหแก คนโรคเรื้ อ นคนหนึ่ ง เศรษฐี คนนี้ เ ห็ น แบบนี้ ก็ รู สึ ก ว า งานนี้ น า รั ง เกี ยจเหลื อ เกิ น พู ด กั บ คุ ณ แม ว า “คุณแมเทเรซาครับ ตอใหจางผม 1,000 รูป ผมก็จะไมยอมทํางานนี้เด็ดขาด” คุณแมเทเรซาตอบ เศรษฐี ค นนี้ ว า “ต อ ให คุ ณ ให เ งิ น ฉั น 10,000 รู ป ฉั น ก็ ไ ม ทํ า งานนี้ เ หมื อ นกั น หากฉั น ไม เ ห็ น องคพระเยซูเจาในคนโรคเรื้อนคนนี้ ” เปนคําตอบที่ถูกตองแลวครับ ! คุณแมมองเห็นพระเยซูเจา
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 8 0
ในคนโรคเรื้ อ น คนเจ็ บ ป ว ย การที่ น า สงสารทุ ก คน เธอ อยากจะถอดมงกุ ฏ หนามของพระองค เอามาสวมเอง ถาทําได เธอไมมองมงกุฏของโลกนี้เลย หลายครั้ง เรายอมคืนทุกสิ่งที่เปนของโลกใหแกโลกนะครับ เชน เราไปเสียภาษี ตามหนาที่ ของเรา เรายอมทํางานตามอาชีพของเรากี่ชั่วโมงก็ได แลวแตจะกําหนดขึ้นมา เราไปทําหนาที่ในการ เลือกตั้ง ยอมเขาแถว ยอมเสียเวลา หลายครั้งเราก็เสียเวลาไปกับเรื่องทางโลก ดูหนัง ดูละครได ไปเที่ ยวที่ ไ หนๆ ได แต พอถึ ง เวลาที่เ ราควรคื น ให แ ก พระ เรากลั บไม มี เวลา แม แ ต จะสวดภาวนา ไมมีเวลาจะไปวัดตามหนาที่ของเรา หรือ ใหเวลากับพระใหนอยที่สุดเทาที่จะทําได สูใชเวลาไปกับ การเรียน การทํางาน การเที่ยว ใชเวลากับเพื่อนๆ อะไร ทํานองนี้ คราวนี้เราคงตองมาพิจารณาดูอีก หน อ ยว า เราต อ งคื น อะไรให แ ก พ ระบ า ง เราจะไม มี แ ก จิ ต แก ใ จจะคื น อะไรให แ ก พ ระเลยนะครั บ ถาเรามองไมเห็นรูปของพระเยซูเจาในหัวใจของเรา ถาหัวใจเราเปนเหรียญเงิน รูปในเหรียญนั้นคือ รูปของพระเยซูเจานะครับ ดังนั้นกอนอื่นหมดเลย เราตองคืนหัวใจของเราใหแกพระ มอบความรัก ของเราใหแกพระซะกอน ตอไปก็มอบหนาที่ที่เราตองทํา เชน หนาที่ในการสวดภาวนา หนาที่ในการ ไปวั ด หน า ที่ ใ นการรั ก เพื่ อ นพี่ น อ งของเรา หน า ที่ ใ นการช ว ยเหลื อ ซึ่ ง กั น และกั น และอภั ย กั น ใหเราแสวงหามงกุฏหนามของพระเยซูเจาในโลกนี้ และนํามงกุฏหนามนี้ออกจากศีรษะของพระองค แมเราจะไมไดสวมเอง แคนําออกมาถือไวในมือของเราก็ยังดี พี่นองลองทองประโยคนี้ดูนะครับ และพี่นองจะเขาใจทันทีวา มีความหมายอยางไรในชีวิต ของเรา “ของของซีซาร จงคืนใหซีซาร และของของพระเจา ก็จงคืนใหพระเจาเถิด ” แตยกเวนอยาง เดียวที่เราไมทวงคืนใหพระองคอีก ก็คือ มงกุฏหนามไงละครับ ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 16 ตุลาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 8 1
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก บัญญัติแหงความรักของพระเยซูเจา ไดแก รักพระสุดจิตใจ และรักเพื่อนมนุษยดั่งรักตัวเอง เขามาในจิตใจของเราได สอดคลองกับสถานการณในปจจุบันดีเหลือเกิน ในขณะที่คนไทย เพื่อนรวม ชาติของเราประสบกับภัยน้ําทวมอยางแสนสาหัส ก็มีคนไทยนี่แหละที่ยื่นมือเขาไปชวยเหลือกันและกัน อยางเต็มทีส่ ุดความสามารถ เงินบริจาคของทุกวัด ขาวของ เครื่องใชตางๆ มากมายเปนเครื่องหมาย ที่บอกเราไดวา เราคนไทยและเราคริสตชนไทย เขาใจความหมายของคําวา “รัก” แตพี่นองจะรูสึก อยางไรครับ หากมีคนบอกกับพี่นองวา มีคนยักยอกเงินชวยเหลือคนที่ถูกน้ําทวม มีคนแอบเขาไป ขโมยทรัพยสินของคนที่กําลังเดือดรอนขนาดนี้ บางคนก็ขโมยของบริ จาค หลายคนถือโอกาสซ้ําเติม ผูเดือดรอนดวยการโกงราคาสินคา ขึ้นราคาสินคา ผูมีอํานาจหนาที่บางคนก็ชวยเฉพาะผูที่เปนญาติ พี่นองของตนเองและอื่นๆ ถาหากมีคนแบบนี้จริงๆ พวกเราคงโกรธและรังเกียจพฤติกรรมแบบนี้ จนไมรูจะบรรยายอยางไร นี่แหละครับในท ามกลางความรักของมนุษย เราก็ ยังมีคนที่ เห็นแกตั ว ในทามกลางการใหอภัยตอกัน ก็ยังมีความเคียดแค นพยาบาทอยูไมใชนอยเหมือนกัน แตเราก็ตอง ระลึกอยูเสมอวา คําสอนทุกขอก็ขึ้นอยูกับบทบัญญัติสองประการนี้ เหตุการณแบบนี้เกิดขึ้นในหนังสืออพยพ บทอานที่หนึง่ ของอาทิตยนี้ หญิงหมายที่สังคมบอกวา เปนคนลําบากมาก ยังถูกขมเหง พระเจาตรัสวา อยาขมเหงหญิงหมาย เห็นมั้ยครับ ขนาดคนลําบาก อยูแลวยังถูกขมเหงซ้ําเติม ยังมีอีกนะครับ คนยากจนที่มาขอยืมเงิน ในพระคัมภีรก็ยังบอกวาอยาไป เรียกรองเขาใหเสียดอกเบี้ย พระเจ าเปนผูมีเมตตากรุณา บัญญัติแหงความรักของพระองคเปน เคล็ดลับแหงความสุขและเปนเคล็ดลับแหงความรอดดวย เครื่องหมายที่ชัดเจนที่สุดของความรักก็คือ 1. ให 2. ใหอภัย ถาเรารัก เราก็พรอมที่จะใหและใหอภัยเสมอ ถาเรารักนอยลง เราก็ใหนอยลง ถาเราไมรัก เราก็ไมใหและไมใหอภัย มีคําพูดกินใจ คําพูดที่ใหขอคิดเกี่ยวกับเรื่องของการใหและใหอภัยไวมากมาย ครับ เชน นาย George Herbert เปนใครก็ไมรูนะครับ เขาใจวาคงเปนคนดังคนหนึ่ง เขาพูดไววา “ความรักพระเปนประหนึ่งสะพานซึ่งทําใหการคืนดีกันเปนไปได ถาหากเรานําสะพานนี้ออกไป ก็จะมี แตการแตกแยกเทานั้น ใครก็ตามที่ไมสามารถใหอภัยผูอื่นได ก็เปนผูทําลายสะพานที่เขาจําเปนตอง ขาม” เห็ นมั้ยครับ พอคนเราใหอภั ยกัน ไมไ ดก็จ ะเหลือแตความแตกแยกเทานั้ นเอง พ อสงสัยอยู นิดเดียวเทานั้นที่วา ทําไมนาย Herbert ผูนี้จึงบอกวา เราทุกคนจะตองขามสะพานนี้ไป นี่ก็ตอง หมายความวา เราทุกคนมีบางสิ่งบางอยางหรือมีคนบางคนที่เราตองใหอภัย พี่นองลองนึกดูสิครับวา เราแตละคน มีคนที่เราตองใหอภัยอยูในใจเราหรือเปลา ถาไมมีเลย พอก็ตองบอกวา “ดีเยี่ยม”ครับ และ “ดีใจดวย”
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 8 2
พอพึ่งไดรับจดหมายฉบับหนึ่งจากพี่นองวัดเรานี่เอง อานแลวก็รูสึกดีมาก บางทีพี่นองฟงพอ พูดเรื่องการใหอภัยมามาก คราวนี้ลองฟงดูวาคริสตชนดวยกันรูสึกอยางไรกับเรื่องนี้ ผูที่ไมออกนามนี้ เขียนวาอยางนี้นะครับ “การใหอภัยเปนสิ่งที่ยากและใชเวลา คุณพออธิบายตอบคําถามครั้งหนึ่งวา ถาเราใหอภัยให เขาแลว แตยังทนไมไดที่จะตองไปพูดคุยหรือสังสรรคกับเขา ก็ OK แตถาใหดีใหเราสวดใหเขา ในชีวิตของลูก ลูกเจอเหตุการณแบบนี้เหมือนกัน ในสมัยนั้นลูกคิดแตวาอยาไปยุงหรือไปอยูในสังคม ที่จะตองเจอคนๆ นี้จะดีกวา เพื่อที่วาเราจะไดไมไปมีความรูสึกโกรธหรือเกลียดอะไรมากขึ้น หรือ หมั่ น ไส ทํ า ตั ว ว า คนๆ นี้ ไ ม มี ตั ว ตนในโลก เขาจะรวยหรื อ จนก็ ช า งเขา เราไม รั บ รู แ ละไม ส นใจ จนกระทั่งวันหนึ่งไดฟงเทศนของคุณพอฝรั่งเรื่อง indifference วาเราในฐานะเปนคริสตัง เปนสิ่งที่ผิด และไมควรทํา แถมมาฟงคุณพอเทศนเรื่อง เศรษฐีกับลาซาลัส แลวทําใหลูกมีทัศนะคติใหม เรื่องอภัย ลูกอภัยนานแลว แตไมเคยคิดที่จะสวดใหเขา ลูกเริ่มพูดทักทาย ถามไถกับเขาแลว มันเปนความรูสึก ที่ดีมาก ลูกจะเริ่มสวดใหเขาและทุกๆ คนดวย ขอบคุณ คุณพอคะ” บอกตรงๆ วา อานจดหมายฉบับนี้ครั้งใด พอมีความสุขจริงๆ ชอบที่สุดตรงที่บอกวา “มันเปน ความรูสึกที่ดีมาก” การใหอภัยคนได การสวดใหเขาได ทําใหเรามีความสุขจริงๆ การสวดภาวนาก็คือ การสรางสะพานแหงการคืนดีกันนั่นเองครับ ขอบคุณผูที่เขี ยนจดหมายนี้มาหาพอ และเปนกําลังใจ ใหในการใหอภัย มีเรื่องเลาเกี่ยวกับการใหอภัยนี้มากมาย หลายๆ เรื่องก็เปนเรื่องที่อานแลวตื้นตันใจ บางเรื่อง พออานแลว ก็ยังตองรองไหดวยความปติยินดี มีเรื่องหนึ่งที่ทําใหเรารูวา พระเจาทรงใหอภัยแกเรา ถึงขนาดไหน บอกกอนนะครับ เรื่องนี้ไมแนใจนักวาเปนเรื่องจริง แตความจริงก็เปนไปตามเรื่องนี้ งงหรื อ เปล า ในโลกนี้ มี ห ลายคนอ า งว า พระเยซู เ จ า ประจั ก ษ ม าหา ซิ ส เตอร ค นหนึ่ ง ไปขอพบ พระสังฆราชอางวา พระเยซูเจาประจักษมาและบอกใหเธอไปพบพระสังฆราช พระสังฆราชผูนั้นไมเชื่อ ซักถามเธอมากมาย ที่สุดบอกกับซิสเตอรวา ครั้งตอไป ถาพระเยซูเจาประจักษมาอีก ใหถามพระองค วา กอนที่จะเปนพระสังฆราช เราไดทําบาปหนักอะไรไว พระองคจะตองทราบแนๆ ไมกี่วันตอมา ซิสเตอรคนนี้กลับมาพบพระสังฆราชอีก ทานจึงถามซิสเตอรวา แลวซิ สเตอรไดถามพระองคเรื่องบาป ของเราหรื อ เปล า ซิ ส เตอร บ อกว า ได ถ ามแล ว และพระองค ต อบว า อย า งไร ซิ ส เตอร ต อบว า พระเยซูเจาตรัสวา “เราลืมไปแลว” ไมวาเนื้อหาเรื่องนี้จะจริงหรือไม แตคําตอบสุดทายนี้เปนเรื่องจริงแนๆ เวลาที่พระใหอภัยบาป ของเรา พระองคไมเพียงใหอภัย พระองคยังลืมไปเลยดวย เหตุผลเดียว งายๆ ก็เพราะวา พระรักเรา หากเรารักเพื่อนมนุษยของเรา เราก็คงจะทําเชนเดียวกันครับ ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 23 ตุลาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 8 3
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก พ อ เข า ใจแล ว ว า ทํ า ไมพวกธรรมาจารย แ ละฟาริ สี จึ ง ได จ งเกลี ย ดจงชั ง พระเยซู เ จ า มาก ก็พระองคพูดกับพวกนี้แตละครั้งลวนเจ็บปวดทั้งนั้นเลยครับ บางทีก็บอกวาเปนพวกหนาซื่อใจคด บางทีก็วาเปนหลุมฝงศพภายนอกสวยงามแตขางในเนาเฟะ บางทีก็วาเปนพวกหนาไหว หลังหลอก เอาแต ห น า ชอบออกกฎสร า งภาระให คนอื่ น ทํ า แต ตั ว เองไม ต องทํ า อะไรเลยทํ า นองนี้ อาทิ ต ย นี้ พระเยซูเจาก็พูดไดอยางเจ็บแสบมาก พระองคพูดวา “ถาพวกธรรมาจารยและฟาริสีสั่งสอนเรื่องใด ทานจงปฏิบัติตามเถิด แตอยาปฏิบัติตามพฤติกรรมของเขา เพราะเขาพูด แตไมปฏิบัติ” พอวานี่เปน คําพูดที่รุนแรงมากและไมวาจะไปวาใครแบบนี้ก็ตองถือวารุนแรง สอนแตไมทําก็ไมรูวาจะสอนไปทํา ไม คือสอนใหคนอื่นทําแตตัวเองไมทํา เชน ครูอาจารยสอนศิษยวา อยาสูบบุหรี่ แตตัวเองสูบเฉย พอแม สอนลูกใหสวดใหไปวัด แตตัวเองไมไปเลย อะไรๆทํานองนี้ ที่จริงเรื่องแบบนี้เราจะมองอีกแบบหนึ่งก็ได นะครับ บางทีครูอาจารยหรือพอแมไมใชวาไมไดทําในสิ่งที่ตัวเองสอน หลายครั้งกําลังพยายามทําอยู แตยังทําไมสําเร็จเทานั้น มันตางกันนะครับ ระหวางคนที่ไมทํากับคนที่กําลังพยายามทํา พอวา พระ ชื่นชมคนที่พยายามทําอยูเสมอ พูดงายๆคือ ทําไมสําเร็จไมเปนไร ขอใหพยายาม พอเขาใจดีครับวา คําสอนของพระเยซูเจาบางอยางนั้นปฏิบัติตามไดยากจริงๆ แตยากเราก็ตองพยายามครับ พระเจา ทรงมองดูความตั้งใจของเราเปนสําคัญ พยายามแลวไมสําเร็จ ไมเปนไร พยายามตอไป สวดตอไป พูดถึงเรื่องสอน แตไมทํานี้ พอนึกถึงคุณแมเทเรซาแหงกัลกัตตา เธอตั้งบานเด็กขึ้นมาบานหนึ่ง ชื่อวา Shishu Bhavan (ก็แปลวา บานของเด็ก) ที่เมืองกัลกัตตา ประเทศอินเดีย ภายในบานมีปาย ข อ ความเขี ยนไว ด ว ยถ อ ยคํ า ของแม เ ทเรซา และเป น คํ า สอนที่ เ ธอสอนและเธอก็ ป ฏิ บั ติ ต ามด ว ย พอพยายามแปลใหใกลเคียงนะครับ เธอสอนไวอยางนี้ “คนเรามั ก จะไม มี เ หตุ ผ ล ไม มี ต รรกะ เอาตั ว เองเป น ใหญ ยั ง ไงก็ ใ ห เ รารั ก พวกเขา เมื่อเราทําดี แลวมีคนกลาวหาเราวา เราเห็นแกตัว มีผลประโยชนแอบแฝง ก็ใหเราทําดีตอไป เมื่อเราทํางานสําเร็จผล จะมีเพื่อนเลวและมีศัตรูแทๆเพิ่มขึ้น ก็ใหเราทํางานใหสําเร็จผลตอไป พรุงนี้ทุกคนจะลืมสิ่งดีๆ ที่ทานไดทําไป เราก็จงทําดีตอไปความซื่อสัตยและความจริงใจ ทําให เราถูกโจมตีและตําหนิไดงาย แตเราก็จงซื่อสัตยและจริงใจตอไป สิ่งที่เราใชเวลาหลายปสรางขึ้นมา อาจจะถูกทําลายไปในชั่วขามคืน เราก็จงสรางมันตอไป คนเราตองการความชวยเหลือ แตเมื่อเราชวยแลว เราก็จะถูกโจมตีวาราย เราก็จงชวยเขา เมื่อคุณใหสิ่งที่ดีที่สุดแกโลก แตแลวสิ่งที่เราไดรับตอบแทนคือการใหราย ทานก็จงใหสิ่งที่ดีที่สุด แกโลกตอไปเถิด”
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 8 4
สรุ ป ง า ยๆ ก็ คื อ แม ก ารทํ า ความดี จ ะยาก และมี อุ ป สรรคมากเพี ย งใด ก็ ใ ห เ ราทํ า ความดี กันตอไป อยาใหมีอุปสรรคอันใด ทําใหเราเลิก ทําความดีเลย นี่คือคําสอนที่เต็มไปดวยจิตตารมณ ของพระเยซูเจา “ทุกคนจะรูวาทานเปนศิษยของเรา ถาทานรักกันและกัน” ถาเราไมถือตามปฏิบัติขอนี้ เราก็ไมใชศิษยของพระองค พยายามตอไปนะครับ คําพูดหนึ่งของมหาตมะ คานธี บุคคลสําคัญที่สุดคนหนึ่งของอินเดีย ทําใหเราตองคิดเพิ่มขึ้นอีก หนอย ทานเคยสนใจคริสตศาสนา ทานศึกษาอยางจริงจัง แตเมื่อทานพบวา คําสอนของพระเยซูเจาดี แตผูคนไมไดทําตามสิ่งที่พระองคสอน ทานก็ไมสนใจอีกตอไป มีคนไปถามทานเกี่ยวกับพระเยซูเจา ทานตอบวาดังนี้ครับ “ผมชอบพระคริสตเจาของคุณ แตผมไมชอบคริสตชน เพราะเหตุวา พวกคุณ คริ ส ตชน ดํ า เนิ น ชี วิ ต ไม เ หมื อ นพระคริ ส ตเจ า ของคุ ณ ” ช า งเป น คํ า พู ด ที่ เ จ็ บ ปวดจริ ง ๆ เหมื อ น พระเยซูเจาตอวาพวกฟาริสีไมมีผิดเลย คราวนี้มาถึงคําพูดของนักบุญของเราบาง พอชอบคําพูดของ นักบุญฟรังซิสแหง อัสซีซี ทานพูดวา “จงเทศนสอนขาวดีของพระคริสตเจาใหแกโลก และถาหาก จําเปนใหใชคําพูดดวย “นี่ ก็เขาใจงายครับ ทานหมายถึงใหเราเทศนสอนดวยชีวิต ไมใชคําพู ด ยกเวน ถาจําเปนจริงๆ บางคนกลาววา แทที่จริง ชีวิตของเรานี่แหละคือพระคัมภีรที่มีบางคนสามารถมาอาน ได ในศต.ที่ 16 เรามีนักเทศนและผูศักดิ์สิทธิ์ผูยิ่งใหญมากองคหนึ่ง ชื่อ Girolamo Savonarola ทานเทศนสอนอยูในอาสนวิหารเมืองฟลอเรนซ ประเทศอิตาลี ทานสังเกตุเห็นหญิงชราคนหนึ่งที่มาวัด สม่ําเสมอ หลัง มิสซาแลวก็ ไปสวดที่รู ปแกะสลัก แมพระที่อยู ในอาสนวิ หาร นั่งมองรูป แกะสลักนั้ น ทานถามพระสงฆชราที่อยูที่นี่นานแลววา สตรีชราผูนี้คือใคร เหตุใดจึงมีความศรัทธาตอแมพระมาก ถึ ง ขนาดนี้ น า ชมจริ ง ๆ คุ ณ พ อ ท า นนั้ น ตอบว า “บางที เ ราก็ อ ย า มองดู แ ต ภ ายนอก หลายป ก อ น ชางแกะสลักรูปแมพระ วาจางสตรีสาวสวยคนหนึ่งมานั่งเปนแบบเพื่อแกะสลักรูปของแมพระ สตรีชรา คนนี้ก็คือหญิงสาวที่มานั่งเปนแบบ ทุกวันนี้เธอมาที่นี่ เพื่อมองดูตนเองในขณะที่ยังสาว เธอกําลังชื่นชม และบูชาตนเอง ไมรูวาเธอกําลังสวดอยูหรือเปลา” สังคมทุกวันนี้สอนใหเราบูชาตนเอง สอนใหเ ราเกงกวาคนอื่น สอนใหเราตองสวยกวาใคร ทฤษฎีของเรา คําสอนของเรา ความคิดของเราถูกตองเสมอ ความเห็นของใครตอใครลวนแลวแตไมได ความ เดี๋ยวนี้ไมคอยมีใครฟงใคร สังคมไทยทุกวันนี้มีแตว ากัน แกลงกัน ใสรายกัน ซ้ําเติมกัน ปากก็ บอกวา รักพอหลวง ฟงพอหลวง นี่แหละครับตัวอยางงายๆ ของเรื่อง ไมปฏิบัติตามคําสอน ขอใหเรา ทุกคนซื่อสัตยตอไปในคําสอนของพระอาจารยเจาของเรา อาจารยของเราสอนใหเรารักกันและกัน เราก็จงรักกันและกันตอไป แมวาเปน คําสอนที่ยากแสนยากก็ตาม
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 30 ตุลาคม 2011
ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 8 5
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก วันนี้เราสมโภชนักบุญทั้งหลาย ใครก็ตามที่อยูบนสวรรค เราสมโภชหมด เราสวดภาวนาขอให ทานชวยเรา เปนวันที่ เราคริสตชนบนโลกนี้ประกาศขอความเชื่อที่สําคัญๆหลายขอในเวลาเดียวกัน ขอแรก เราประกาศวา สวรรคและนรกมีอยูจริง ขอสอง เราประกาศวา เราสามารถไปสวรรคได ขอสาม เราประกาศวา พระเยซูเจาคือหนทางแหงความรอดที่แทจริงของเรา ขอสี่ เราประกาศวา บรรดานักบุญบนสวรรคสามารถชวยเราได เราเรียกความสัมพันธนี้วา สหพันธนักบุญ และดวย เหตุผลเดียวกันนี้เองที่ทําใหพวกเราซึ่งมีชีวิตอยูบนโลก สามารถสวดภาวนา ขอมิสซา ทําพระคุณ การุณย ชวยวิญญาณที่อยู ในไฟชําระไดดวย นี่แหละครับ ที่ทํ าใหเราเห็น ชัดเจนที่สุด วา แทที่จริ ง พระเจ า มิ ไ ด ส ร า งเรามาให ท ะเลาะกั น ต อ สู กั น เกลี ยดชั ง กั น หรื อ ทํ า สงครามกั น แต ส ร า งเรามา เพื่อใหพวกเรา “ชวยกันและกัน รักกันและกัน ” พอบอกไดตรงๆเลยครับวา นอกเหนือจากนี้มาจาก ปศาจทั้งนั้น ก็แปลกเหมือนกันนะครับ มนุษยเรายังอุตสาหเอาพวกปศาจมาฉลองกันดวย ที่เราเรียกวา วันฮาโลวีนไงละคับ ก็ชางพวกเขาเถอะนะครับ “พวกเขาไมรูวากําลังทําอะไร” สวนพวกเรามาฉลอง บรรดานักบุญกันดีกวา พวกทานยังชวยเราได แตไอพวกปศาจมันชวยใหเราตกนรกเทานั้น อยาไป ฉลองพวกมันกันเลย อยูหางๆมันไวเปนดี ไมกี่วันกอนนี้ พอไดคุยกับคุณหมอคนหนึ่งซึ่งเพิ่งจะรับศีลลางบาปเดือนที่ผานมานี้เอง หลังจาก เรียนคําสอนมาหนึ่งป เขาเลือกชื่อนักบุญองคอุปถัมภของศีลลางบาปของเขาวา “นักบุญกัสสปาร แบรโตนี” เปนนักบุญที่เราไมคุนชื่อกันแนๆ พอถามเขาวา ทําไมถึงรูจักและเลือกนักบุญทานนี้ คําตอบ ของหมอทําใหพอรูสึกดีใจมากครับ “ผมไดอานประวัตินักบุญหลายองคและผมรูสึกประทับใจในประวัติ ของนักบุญแบรโตนี” ในตอนนั้นพอถามตัวเองทันทีเลยวา มีคริสตังสักกี่คนที่สนใจอานประวัตินักบุญ รูจักนักบุญ ก็อยางที่พอเคยบอกพี่นองไว คริสตชนไทย รูจักนักบุญกันไมกี่คนหรอกครับ ยิ่งสมัยนี้เรา ลอกเลียนแบบนักบุญตามพอแมทูนหัวของเรา ก็จะมีนักบุญที่วนเวียนอยูในพระศาสนจักรเราไมกี่คน เลย แถมมีแลวหลายคนยังไมรูจักประวัติของทานซะอีกดวย พอก็เลยถือโอกาสชมเชยคุณหมอทานนี้ และขอยกมาเปนแบบอยางใหแกพวกเราดวย พอวาเปนแบบอยา งที่ดีที่เราควรรูจักนักบุญของเรา มากขึ้น และนักบุญตางๆในพระศาสนจักรใหมากขึ้นดวย เพราะในประวัติของทานเหลานี้มีบางสิ่ง บางอยางที่นาสนใจจริงๆสําหรับพวกเรา เราจะพบวา พวกทานเหลานี้เมื่อยังมีชีวิตอยูนั้นตองผาน การทดลองสารพัดทั้งทางกายและทางใจ สมกับคําที่หนังสือวิวรณอธิบายไววา “คนเหลานี้คือผูที่มา จากการเบี ยดเบี ย นครั้ ง ใหญ เขาซั ก เสื้ อ ของของเขาจนขาวในพระโลหิ ต ของลู ก แกะ” พ อ จะขอ ยกตัวอยางนักบุญที่มาจากที่และสถานะตางๆกันใหรูจักกันสักเล็กนอยนะครับ น.เอลีซาเบธ ราชินีแหงฮังการี แตกตางสุดฟากันเลยกับนักบุญเบเนดิ๊ก โจเซฟ ลาเบร ซึ่งเปน นักพเนจรเรรอน, น.ซิตา เปนแมครัว, น.คอนราด เปนคนเผาประตู, น.เจมมา เปนคนใฝสันโดด ,น.ยวง มารีย เวียนเนย เปนเจาอาวาสผูศักดิ์สิทธิ์ เรายังมีนักบุญที่มีอายุแกมากๆ อยางเชน ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 8 6
นักบุญอันตน แหงทะเลทราย มีอายุถึง 105 ป และก็มีนักบุญอายุนอยๆอยางเชน นักบุญ หลุยส กอนซากา และนั ก บุ ญ มารี อ า กอแรตตี เรามี นั ก บุ ญ ที่ เ ฉลี ยวฉลาดมากอย า งเช น นักบุญโทมัส อะไควนัส นักบุญ ออกัสติน และมีนักบุญที่มีสติปญญนอยมาก ถึงขึ้นที่เราสามารถ เรียกไดวา โง หรือทึ่ม เชนนักบุญโจเซฟ คูแปรติโน เรามีนักบุญที่แข็งและเด็ดขาดมากเชน นักบุญเทเรซา แหง อาวิลา และมีนักบุญที่ออนไหวงายเชนนักบุญเทเรซาแหงพระกุมารเยซู และทั้งสองเทเรซานี้ก็ ไดรับแตงตั้งใหเปนนักปราชญของพระศาสนจักรดวย ทั้งๆที่ไมไดเรียน อะไรตามภาษาโลกเลย แตพวกทานเรียนรูภาษาสวรรค เรามีนักบุญที่ซื่อใสบริสุทธิ์ไรเดียงสา แบบนักบุญโดมินิโก ซาเวรี โอ และก็มีนักบุญที่เคยเปนคนบาปหนามากอนอยางเชน นักบุญ ออกัสติน และก็ไมนาเชื่อครับวา นักบุญออกัสติน ผูนี้เองที่เคยเปนไมเบื่อไมเมากับนักบุญเยโรม ทั้งสองคนนี้เคยมีปากเสียงกัน อยูเสมอในเรื่องขอคําสอนแตทั้งสอง ก็ไดไปอยูสวรรคดวยกัน หวังวาคงไมไปทะเลาะกันตอในสวรรค และที่พระศาสนจักรภูมิใจมากที่สุด ก็คือบรรดานักบุญมรณสักขีครับ ตลอดประวัติศาสตร ของพระศาสนจักรมีจํานวนมากมายในสมัยอาณาจักรโรมัน มีผูยอมตายเพื่อพระเยซูเจาหลายแสนคน ในสมัยหลังๆ นี้ยังมีมากกวานั้น หลายแสนคนในประเทศจีน สองแสนกวาคนในเวียดนาม แสนกวาคน ในเกาหลีและในญี่ปุน ประเทศไทยเล็กๆอยางเราก็มี 8 องคดวยกัน พวกทานเหลานี้ยืนยันครับวา สวรรคมีอยูจริง และความตายก็คุมคาเพื่อจะไดสวรรค นี่เปนขอพิสูจนไดวา ใครๆ ก็สามารถเปนนักบุญได ไมวาพวกเขาจะมีอายุนอยหรืออายุมาก ไมวาจะมีอาชีพหรือไมมีอาชีพ มีบานหรือไมมีบาน ไมวาจะอยูในฐานะอะไร พระสงฆ ฆราวาส นักบวช กษัตริย ราชินี ขอทาน ทหาร นักรบ ไมวาจะฉลาดหรือโง พอชอบคําที่นักบุญออกัสติน เคยสอนไว ทานพูดวา “ถาใครๆ เขาสามารถเปนนักบุญได ทําไมฉันจะเปนไมได” (Si iste et ista, cur non ego?) เปนนักบุญไมยากอยางที่คิดนะครับ อยาคิดแตเพียงวาเราเปน “คนบาป” เชื่อวาพระเยซูเจา ก็คงจะไมดีใจเทากับเราที่เราจะคอยๆเปนผูที่บริบูรณดังพระบิดาเจาสวรรค ใหเรามาตั้งใจดวยกันที่จะ เปนนักบุญกันดีกวานะครับ ไมตองเปนนักบุญที่พระสันตะปาปาประกาศ แตเปนนักบุญที่พระเยซูเจา เองเปนผูประกาศครับ สวดภาวนาใหนักบุญองคอุปถัมภของเราชวยเราเสมอๆ นะครับ ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 06 พฤศจิกายน 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 8 7
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก อาทิตยนี้นักบุญเปาโลและพระเยซูเจาจับมือกัน สอนเราในเรื่องที่มีประโยชนมากจริงๆครับ เปาโลสอนวา เราตองเตรียมพรอมไวเสมอ เพราะเราไมรูวันและเวลา ไมตองบอกก็รูวา ทานสอนให เราเตรียมตัวตายอยางดี พระเยซูเจาก็ฉวยโอกาสนี้สอนเราวา ขณะที่ยังมีเวลาอยูนี้ใหเราใชพระคุณ ของพระในโลกนี้ใหเต็มที่ ใหคุมคา พระวรสารใชคําวา “ตาแลนตา” ภาษาอังกฤษเขาใชคําเดียวกันคือ Talent ถาใหพอแปลก็จะแปลไดแบบนี้นะครับ แปลวา พระพรก็ได พระคุณก็ได ความสามารถก็ได พูดถึงพระพร พอคิดถึงพระศาสนจักรของเราในยุคกลางก็ประมาณ 1,000-1,400 A.D. ก็แลวกัน หลายคนเรียกยุคนี้วายุคมืด พระศาสนจักรตกต่ํามากเพราะบรรดาพระสันตะปาปา คารดินัล สังฆราช พระสงฆ หันเหชีวิตไปในทางโลกอยางนาตกใจ คริสตชนสมัยนั้นไมมีที่พึ่งทางวิ ญญาณ พูดงายๆก็คือ พึ่งพวกนี้ไมได ถาอยากไปสวรรคตองไปเอง พระพรที่มีอยูตอนนั้นมีสองอยางครับ อยางแรก ก็คือ ไปแสวงบุญ เพื่อรับพระคุณการุณย แสวงบุญสมัยนั้นลําบากกวาสมัยเรามาก สถานที่แสวงบุญก็มี นอย เพราะพระศาสนจักรกําหนดไวไมกี่แหง กวาจะไดรับพระคุณการุณยก็แทบตาย อันที่จริงก็ตายไป ไม ใช น อย การแสวงบุญ อี กประเภทหนึ่ง ก็คื อ การเขา ร วมรบในสงครามครูเ สด ถา ตายในการรบ ไปสวรรคแนๆ เชื่อมั้ยครับ เด็กๆ ผูหญิง คนแกเฒาตางพากันสมัครไปรบกับเขาดวย เพราะตองการ พระคุณการุณย เผลอๆ ถาไมตาย กลับมายังไดทรัพยสินเงินทอง ที่ดิน เกียรติยศ พระพรอีกประการหนึ่งก็คือ ถาใครก็ตามไปเยี่ยมวัดที่ยังไมเคยไปมากอนเลย ก็สามารถ วอนขอพระพรจากพระไดสามประการ ความเชื่อนี้ก็มีที่มาที่ไปเพราะในสมัยกอนคริสตชนมีหนาที่ ตองฟงเทศนใหครบตามจํานวนที่กําหนด ในขณะที่พระสงฆที่สามารถเทศนไดนั้นมีไมกี่คน คริสตังคตอง ตามหาพระสงฆที่เทศน การกําหนดแบบนี้ ก็ทําใหคริสตังคตองไปหาวัดที่ ยังไมเคยไป พรสามขอก็เลย เปนการลอใจใหไปหาพระสงฆ ผูเทศนนั่นเองครับ สมัยนี้ใครจะเชื่ออีกก็ได สวนจะไดตามที่ขอทั้งสาม ขอหรือเปลา ก็แลวแตผูใหญที่อยูเบื้องบนนะครับ อานๆแลว พี่นองอาจจะวาพอทํานองออกแนวประวัติศาสตรมากไปหนอย เขาใจยาก ลองเรา มาเทียบกับสมัยนี้สิครับ เรามีโอกาสแสวงบุญมากมาย งายดาย สบาย หลายแหงสนุกดวย เรามี โอกาสฟงเทศน รวมมิสซาเทาที่เราตองการ สะดวกและรวดเร็ว เรามีโอกาสไปเยี่ ยมเยียนวัดที่เรา ไมเคยไป ไปเสกวัดใหม แตหลายๆ ครั้ง เราก็ใหความสนใจนอยกวาที่ควร เราใหพระพรและพระคุณ เหลานี้ผานพนเราไปอยางนาเสียดาย ถาดูเรางายๆนะครับ ขนาดกอนจบมิสซา หลายคนยังไมอยากรับ พรพระสงฆเลยครับ รีบๆออกจากวัดไปกอนก็มีทุกวัดนะครับ พอ เชื่อวายังมีพระพรในพระศาสนจักร อีกมากมายนะครับ ที่เราเองไมไดใสใจเทาที่ควร บางอยางพรผานมาเพียงครั้งเดียวเทานั้น เชน พรกอนตาย พรแตงงาน พอพยายามนึกวา พระเปนเจาใหพระพรอะไรแกพวกเราแลวบางนะครับ พอนึกได 3 อยาง พี่นองเห็นดวยหรือเปลาก็ไมรู ประการแรก พรแหงเวลา (Time) ถาใครยังอานสารวัดนี้อยู พรขอนี้ ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 8 8
ก็ยังมีอยูครบ เราทุกคนไดรับ ประการที่สอง พรแหงความสามารถ (Talent) พรใหเรามีเหมือนกัน บ า งต า งกั น บ า ง มากบ า ง น อ ยบ า ง แต ก็ มี เ หมื อ นกั น อี ก นั่ น แหละ ประการที่สาม พรแหงทรัพยสมบัติ (Treasure) ทรัพยสมบัติที่วานี้ก็ หมายถึงทรัพยสมบัติทางใจและทรัพยสมบัติทางกายดวย เดี๋ยวบางคน ก็จะมาเถียงพอวา ฉันไมเห็นไดมีทรัพยสมบัติอะไรเลย จนแลวจนอีกอยู เนี่ยแหละ ก็แปลกนะครับ พรทั้งสามขอนี้ เราสามารถจดจําไดงายๆ ดวยคําวา 3T (ไมใช 3G) พอคง ไมตองอธิบายมาก เพราะเราสามารถเขาใจพรทั้งสามขอนี้ดวยตนเองอยางงายดาย เราควรคิดถึงเรื่อง เหลานี้เพียงวา เวลาที่พระใหมานี้ เราทําอะไรใหพระและใหเพื่อนมนุษยบาง ความสามารถที่เรามีกัน แตกตางนี้ เราใชเพื่อใครบาง และทรัพยสมบัติของเราไมวาทางจิตใจหรือสมบัติฝายวัตถุมีประโยชน ตอใครบาง พี่นองวาจะไดรับคําตอบดวยตนเองครับ สําหรับพอก็เพียงตองการใหพี่นองเห็นความสําคัญของพระพรของพระใหมากขึ้น หมั่นรับพร เหลานี้เทาที่สามารถไมวาจะเปนพรหลังมิสซา พรพระมารดานิจจานุเคราะห พรเสกบาน พรเสกรถ เสกรูปพระสายประคํา พรของพระหลั่งไหลมาทุกรูปแบบและตลอดเวลา พี่นองจําเรื่อง ยากอบและ เอเซา ในพระคัมภีรไดนะครับ ยากอบตองการพรของบิดา แรกๆ ก็ใชโอกาสที่เอเซาหิวจากการลาสัตว ตมถั่วใหกิน แลกกับสิทธิความเปนพี่ (พี่จะเปนผูรับพระพรของบิดา) จากนั้นก็รวมมือกับนางรีเบคคา มารดาปลอมตัวเปนเอเซา หลอกรับพรจากบิดามาได พระคัมภีรไมสอนใหเราเปนคนขี้โกง หลอกลวง แตบอกเราวา พระพรของพระนั้นมีค วามสําคัญยิ่งสําหรับผูที่เชื่อ แตมนุษยก็ตองการแคพรสําหรับ ความรุงโรจนในโลกนี้เทานั้น ภายหลังยากอบก็เขาใจคําสอนขอนี้อยางดีครับ ใหเราทุกคนใชพระพร แหงเวลา พรแหงความสามารถ และพรแหงทรัพยสมบัติ เพื่อความเจริญรุงโรจนในชีวิตหนาดวยนะ ครับ ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 13 พฤศจิกายน 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 8 9
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก อาทิตยสุดทายของปพิธีกรรม A เราสมโภช “พระคริสตกษัตริย” อาทิตยหนาเราเขาสูป พิธีกรรม B และจะเริ่มตนดวยเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจา เราจะเตรียมรับคริสตมาสกันแลว ละครั บ พระศาสนจั ก รให เ ราป ด ป A อย า งยิ่ง ใหญ ด ว ยการประกาศว า “พระเยซู คริ ส ตเจ า เป น กษั ต ริ ย ” ปกติ เ ราจะมี แ ห ศี ล ระดั บ สั ง ฆมณฑลกั น ด ว ย แต ป นี้ ย า ยวั น ไปแห ใ นเดื อ นมิ ถุ น ายน เพื่ อ สมโภชพร อ มกั น ทั่ ว โลก โอกาสแห ศี ล มหาสนิ ท ระดั บ โลกที่ ป ระเทศไอร แ ลนด พระเยซู เ จ า เปนกษัตริยของเราดวยเหตุผลหลายขอครับ พระคัมภีรอาทิตยนี้ใหเหตุผลเราสามขอ พอก็จะใชเหตุผล ทั้งสามนี้ มาสนทนาธรรมกัน บทอานที่หนึ่ง ใหเหตุผลวา เพราะพระองคเปนนายชุมพาบาลที่ดี ดูแลฝูงแกะ เลี้ย งดูฝูงแกะ ตายเพื่อฝูงแกะบทอานที่สอง ใหเหตุผลวา เพราะพระองคเปนผูชนะความตาย กลั บเปนขึ้นมาและนํา เราใหพนความตายนิรันดร บทพระวรสารใหเหตุผลวา เพราะพระองคเปนผูพิพากษา ตัดสินเราในวันสุดทาย ชี้เปนชี้ตาย เรา กษัตริยที่ดี มีค วามรักนําหนา ผูนํ าที่ดีก็เช นเดียวกัน กษัตริยที่ดีทําทุกอย างเพื่อใหเราพนภั ย มีชีวิตที่ดี และกษัตริยที่ดี ก็ตองมีความยุติธรรมดวย แตพระองคก็ใชเมื่อเปนวิธีสุดทายจริงๆ และ ในการตัดสินนั้นก็มีทั้งการใหรางวัลและการลงโทษครับ เรื่องควมรักนําหนานี้ พอไดยินบอยมาก เพราะบางคนชอบบอกวา เราตองรักเขา เราตอง รัก เขา แตก็ ช อบใช วิ ธีข องตั ว เอง ไม ไ ด ใ ช วิธี ข องพระเยซู เ จ า เลย เพราะฉะนั้ น ความรั ก ของเขา หมายความวา เราตองตัดสินเขากอน เราตองแกไขเขาดวยวิธีตางๆ นาๆ เราตองลงโทษเขา เพื่อเปน การแกไข อะไรๆ ทํานองนี้ พอมักจะถามในใจวา ถาเปนพระเยซูเจา พระองคจะรักแบบนี้หรือไม พอเห็นแตวา พระองค ไมตัดสินคนบาป ไมลงโทษ ใหโอกาสเสมอ บอกเขางายๆ วา “อยาทําบาปอีก” เราก็ไมลงโทษเธอดวย” พอถือวา ถาจะติดตามความรัก เราติดตามพระเยซูเจาดีที่สุด ถาเราจะรัก เพื่อนพี่นอง ก็ตองรักตามวิธีของพระเยซูเจา ไมใชของตัวเองนะครับ เปนความรักของผูที่มีจิตใจ เปนนายชุมพาบาลจริงๆ อดทนนาน ใหโอกาส ไมจดจําความผิด ใครไดผูนําแบบนี้ตองบอกเลยวา เหมือนถูกหวยรางวัลที่ 1 แตถาเรามีผูนําที่มีแตการสรางภาพ สรางชื่อ เราก็ไมตองไปใหเกียรติมาก หรอกครับ ใหเกียรติกันแคตามภาพ ตามชื่อก็พอ ในวันสุดทายหรือในวันพิพากษาครั้งสุดทาย เราคงสงสัยวาพระเยซูเจาจะตัดสินเราดวยอะไร ความดี ความชั่ว บาปบุญคุณโทษ หรือดวยคําภาวนา ใครสวดมากไดไปสวรรคหรือดวยการไปมิสซา มาก พอบอกไดเลยครับวา มีสวนอยูแนๆ แตที่ แนกวานั้นก็คือ พระองคใชความรักเปนเกณฑตัดสิน ครั บ ดู คํ า ถามแต ล ะคํ า ถามในพระวรสารสิ ค รั บ พระเยซู เ จ า อธิ บ ายไว อ ย า งชั ด เจน พ อ ขอ ยกคําอธิบายเพียงขอเดียวครับ พระองคอธิบายวา “เมื่อเราหิว ทานใหเรากิน ” นี่ขนาดวันสุดทาย พระองคยังนึกถึงคนที่ไมมีจะกินและก็รูสึกทุกขรอนแทนพวกเขา พระองคสงสัยวา มนุษยคนอื่นเขาทํา ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 9 0
อะไรอยูจึงปลอยใหคนเหลานี้หิวเจียนตาย หนักกวานี้อีกนะครับ ถาวันนั้นพระองคหันพระพักตรไปยัง พวกคนตางศาสนาแลวบอกวา “เชิญพวกทานมาอยูกับเรา เพราะเมื่อเราหิว ทานใหเรากิน” เหมือนกับ จะบอกเราวา ดูสิ ขนาดคนที่ไมรูจักพระองค ยังรักเพื่อนมนุษยมากกวาพวกเรา เราคงอายไมใชนอย ทีเดียว เราคริสตชนควรเปนผูนําความรักแบบนี้ มีคนตางศาสนามากมายครับที่มีจิตตารมณความรัก เพื่อนพี่นอง มิใชดวยคําพูดหรือคําสอน แตดวยการกระทํานี่แหละครับ พระเยซูเจาตองการสอนเราวา ความรักดวยการกระทําตางหาก ที่สําคัญจริงๆ มีตัวอยางที่ซาบซึ้งใจอยูเรื่องหนึ่งเกิดขึ้นในประเทศของเราเอง ในระหวางสงครามโลกครั้งที่ สอง คายเชลยศึกญี่ปุนที่กาญจนบุรี มีนักโทษชาวสก็อตแลนดคนหนึ่งชื่อ Angus ถูกจับอยูดวย ค า ยเชลยศึ ก นั้ น เต็ ม ไปด ว ยความยากลํ า บากและทุ ก ข ท รมาน เชลยต า งก็ ห าทางเอาตั ว เองรอด แยง กัน ขโมยกัน ใส ความกัน กลายเปน คนที่ ทําทุ กอย างเพื่อ ตนเอง Angus เป นคนแข็ง แรงมาก รางกายใหญโต เขาถูกสอนมาใหรักเพื่อนตั้งแตเด็ก เขาตั้งใจวาจะทําทุกอยางเพื่อใหเพื่อนของเขา มีชีวิตรอด เพื่อนของเขาในคายถูกขโมยผาหมไป เขาก็เอาผาหมของเขาไปใหโดยบอกวา เขายังมีอีก ผืนหนึ่ง เวลาที่เพื่อนของเขารักษาตัวจากอาการปวย เขาก็เอาอาหารสวนของเขาไปใหเพื่อนโดยบอก วา เขายังมีอาหารที่จะกินไดอยู ในความเปนจริงปราศจากผาหม เขาก็นอนไมได และเขาก็บังคับเพื่อน ของเขากินอาหารสวนของเขาจนหมด เขาก็ไมไดกินอาหารเลย ตอนที่เพื่อนของเขาหายจากปวย เขาก็ลมลงและเสียชีวิต หมอวินิจฉัยวา เขาตายเพราะขาดอาหารและขาดการพักผอน รางกายของ เขาที่บึกบึนควรที่จะเปนคนสุดทายที่ตาย ขาวการตายของเขา ทําใหทหารทั้งคายช็อค ไมใชเรื่องความ ตาย แต เ ป น เรื่ อ งเหตุ ที่ เ ขาตายมากกว า “ไม มี ค วามรั ก ใดยิ่ ง ใหญ ก ว า ยอมตายเพื่ อ มิ ต รสหาย” (ยน.15:12) ตั้งแตนั้นมา ทหารเชลยศึกในคาย ตางเขาใจและเริ่มชวยเหลือซึ่งกันและกัน เปนกําลังใจ ใหกันและกันเพราะไดเห็นความยิ่งใหญของความรักที่เสียสละของ Angus เรื่องนี้คลายๆกับเรื่องชาวซะมาเรียผูใจดี คนหลายคนที่เปนคนชาติเดียวกัน อยูในฐานะที่ ควรจะชวยผูตกทุกขกลับไมชวย ชาวซะมาเรียเห็นเขาก็เขามาชวยเหลืออยางนาสรรเสริญ มีตัวอยาง มากมายในโลกนี้ครับ ที่ทําใหเราเห็นความยิ่งใหญของความรักที่เสียสละ ก็ขอใหเราอยาปล อยให โอกาสของเราที่จะรักเพื่อนพี่นองผานพนไปนะครับ เพราะมันนาเสียดาย ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 20 พฤศจิกายน 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 9 1
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก เวลาผานไปรวดเร็วมาก อาทิตยนี้พวกเราเดินทางมาถึงปพิธีกรรม B เริ่มตนดวยอาทิตยที่ 1 ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจา คนรุนเกา เขาเรียกกันวา อัคแวนโต แปลวา ผูที่กําลังมา พู ด แบบชาวคริ ส ต ก็ คื อ พระคริ ส ตเจ า กํ า ลั ง จะเสด็ จ มาและวั น ที่ พ ระองค เ สด็ จ มาก็ คื อ วั น เกิ ด ของพระองค ชาวโลกรูจักกันในชื่อ คริสตมาส ระยะนี้เราจะไดยินเพลงคริสตมาส อากาศก็เริ่มเย็นๆ หนาวๆ ที่บานเราใบไมรวง เพราะเปนหนาแลว เมืองนอกเขาก็กําลังรอหิมะ บอกไดเลยวาบรรยากาศ ชวงนี้เปนชวงเวลาที่ทําใหเรามีความสุขครับ ความสุขอยางหนึ่งของเราก็คือการจัดงานคริสตมาส ปนี้ทางวัดของเราก็ตกลงกันวา งานคริสตมาสของเราจะไมมีการขายบัตร ไมมีกิจการหาเงินกําไร ไมนําเอาการพนันเขามาในการจัดงาน เทศกาลนี้เปนเทศกาลแหงความยินดี เปนเวลาแหงการให พอก็เลยถือโอกาสนี้เลาใหพี่นองฟงวา งานคริสตมาสปนี้ (คืน 24 ธ.ค.) เราจะแจกบัตรรวมสนุกฟรี แตละคนจะไดรับบัตรสอยดาวคนละ 2 ใบ บัตรปงโก และบัตรเลนเกมส สรุปงายๆ ก็คือ ทุกคนที่มา รวมงานจะไดรางวัลรวมสนุกวันเกิดของพระเยซูคนละประมาณ 4-5 รางวัล รางวัลเล็กบาง ใหญบาง ก็ แ ล ว แต ด วง นอกจากนี้ ใ นเวลาหลั ง มิ ส ซา พระคริ ส ตสมภพก็ จ ะมี แ จกของศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ เ หมื อ นทุ ก ป ของแจกในวัดปนี้นํามาจากฟาติมา,ลูรดและโรม ทั้งหมดนี้ก็เพื่อใหเราทุกคนมีความสุขกับการเสด็จมา ของพระเยซู เ จ า ครั บ ส ว นของรางวั ล ต า งๆนั้ น มาจากไหน พ อ ก็ ข อบอกบุ ญ สํ า หรั บ ผู ที่ ส ามารถ ใหสปอนเซอรหรือมอบของใหมาเปนรางวัลไดมารวมสนุกกัน สวนที่ขาดอยูทางวัดก็จะจัดซื้อจัดหามา วัดควรเปนบุคคลแรกที่แสดงตนเปนผูใหในเทศกาลที่นายินดี แบบนี้ ใครที่ประสงคจะรวมเปนผูให พอก็ขอเชิญเขามารวมไดนะครับ นับแตบัดนี้เปนตนไป ติดตอมอบของหรือเงินชวยจัดงานไดทสี่ ภาวัด สิ่งสําคัญมิใชมีเพียงเรื่องของความสุขในโอกาสนี้ แต การเตรียมตัว เตรียมจิตใจของเราก็มี ความสําคัญไมแพกัน เทศกาลนี้มีเรื่องสําคัญที่นาคิดอยูมาก พระวรสารอาทิตยนี้เตือนใจเราวา 1. เวลาของเราบนโลกนี้ผานพนไปเร็วมาก และเวลาสุดทายของเราบนโลกนี้จะมาถึงเรา เมื่อไรก็ไมรู เราตองเตรียมตัวของเราใหพรอมเสมอ คําสอนขอนี้เราฟงกันมามากแลว และ เขาใจกันดี 2. เราทุกคนเปนผูแทนของพระคริสตเจาบนโลกนี้ ประกาศกอิสยาหบอกวา ”ขาพเจาทั้งหลาย เป น เหมื อ นดิ น เหนี ย ว พระองค ท รงเป น ผู ป น ข า พเจ า ทุ ก คนเป น ผลงานจากฝ พ ระหั ต ถ ” พระสรางเรามนุษยตามฉายาของพระ เราจึงเปนเหมือนผูแทนพระ เรามีชีวิตอยู เรารักกัน เราเดินอยูบนโลกนี้ เราตองทําทุกอยางแทนพระนะครับ นี่แหละถึงเห็นไดชัดวา พระคริสตเจา อยูกับเรา ซิสเตอรคนหนึ่งมองดูทุกขเวทนาของมนุษยในโลกดวยความไมเขาใจ ทําไมคนตองอดตาย ทําไมบางคนถึง ยากจนขน แคน หลายคนตองทนทุก ขทรมานด วยเหตุผลตางๆมากมาย แลว ทําไม พระเจายังอยูเฉยๆ ไมทําอะไรสักอยาง เธอคิดจนเอาไปฝน ในฝนนั้นเธอตอวาพระเจาวา “ทําไม ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 9 2
พระองคปลอยให สิ่งเหลานี้เกิดขึ้น โดยไมทําอะไรสักอยาง” พระเจาก็ตรัสกับเธอวา “เราทําแลว เราสรางเจามาอยางไรเลา” นี่ก็เทากับบอกเราวา เราตองเปนฉายาของพระ ทําแทนพระ เรามนุษย มีกันอยูตั้ง 7 พันลานคน ทําไมไมชวยกันทําละ เราตองไมปลอยใหคนจนอดตาย ไมปลอยใหผูที่ตกทุกข อยูโดยไมมีใครเหลียวแลและชวยเหลือ เราตางตองยื่นมือของเราออกมาชวยกันแทนพระเองตางหาก การเสด็จมาของพระองค จึงจะมีความหมาย ในเดือนมกราคม 1939 ผูวาการเมืองนิวยอรก มีชื่อวา La Guardia (ลากวาเดีย) ก็ไมใชใคร ที่ไหน เปนผูพิพากษามากอน ไดมีโอกาสวาความตัดสินคดีหนึ่ง หญิงชราคนหนึ่งถูกจับขอหาขโมย ขนมปง เจาของรานขนมปงยืนยันใหเอาผิดหญิงชราผูนี้ซึ่งใหการวา ครอบครัวเธอยากจนมาก ลูกสาว และหลานสองคน กํ า ลั ง จะอดตาย ไม มี ใ ครดู แ ลเลย เธอจึ ง ยอมให คนในครอบครั ว อดตายไม ไ ด ผูวาการเมืองตัดสินวา กฎหมายตองเปนกฎหมาย คนทําผิดตองไดรับโทษ จึงตัดสินใหจําคุก 7 วัน หรือ ปรับเปนเงิน 10 ดอลลาร (10 ดอลลารสมัยนั้นคงแพงไมใชเลนนะครับ) แนนอนหญิงชราคนนี้ไมมีเงิน และการเขาคุก 7 วัน ก็ยอมหมายความวาลูกและหลาน 2 คน จะตองลําบากกวาเดิมมาก ตัดสินแลว ผูว าการเมือ งก็ล วงแบงค 10 ดอลลา รอ อกมาวางไวใ นหมวก บอกว า นี่ คือ คา ปรั บ ส วนของผม ในฐานะผูวาการเมือ งและผมขอปรับทุกคนที่อยูใ นศาลนี้ คนละ 50 เซ็นต ในขอหาที่ปลอยใหมีคน ยากจนและลําบากถึงเพียงนี้จนตองขโมยเขากิน เปนคาตัดสินที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่เคยไดยินมาเลยครับ วันรุงขึ้นหนังสือพิมพลงขาวนี้ บรรยายวา ไดเงินคาปรับทั้งหมด 47.50 ดอลลาร มอบใหหญิงชรา คนนั้น และจายใหเจาของรานขนมปงไป 50 เซ็นต เทศกาลนี้เปนเทศกาลของการให เทศกาลแหงความรัก เราจะปลอยใหคนทุกขยากตอหนา ตอตาเราโดยไมชวยเหลือแทนองคพระคริสตเจาผูกําลังจะเสด็จมาไมไดนะครับ ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 27 พฤศจิกายน 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 9 3
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก นี่คงเปนครั้งแรกสําหรับวัดพระมารดานิจจานุเคราะหที่งดการฉลองวัดประจําป อันเนื่องมาจาก ความไมสะดวกจากอุทกภัยครั้งใหญ ที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศเรา แตอยางไรก็ตามพอก็ขอบันทึกไว ในสารวัดวา สัตบุรุษวัดพระมารดาก็ยังคงฉลองวัดของตนตามปกติ เพียงแคปรับรูปแบบมาทําการ ฉลองภายใน เปลี่ ย นแปลงเล็ ก น อ ยครั บ นั่ น คื อ เลื่ อ นมาเป น วั น อาทิ ต ย ที่ 4 ธั น วาคม’11 โดยมี พระคุณเจาเกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช มาเปนประธาน สวนตัวพอแลวพอวา การฉลองแบบนี้เปนเรื่องที่ดี มากครับ เพราะสัตบุรุษของวัดไดรวมใจกันฉลองวัดของตนเองอยางแทจริง มีโอกาสแหแมพระรวมกัน และทานอาหารรวมกันอยางอบอุน จัดแบบนี้ทุกปได พอก็วาดี ไมรูวามีใครเห็นดวยมั้ย พอก็ถือโอกาส นี้ ขอบพระคุณพระคุณเจาเกรี ยงศักดิ์ ในนามของวัดและพี่นองทุกทานที่ใหเกียรติมารวมฉลองวัด กับพวกเรา แมวาจะเปนเพียงการฉลองวัดภายในก็ตามครับ พี่น องคงทราบดีแ ลว วา คริส ตม าสมีความหมายอย างไรสํา หรั บเรา เทศกาลนี้เ ปน เทศกาล ที่นําความชื่นชมยินดี แตความสุขและความยินดีไมใชเรื่องที่เราจะไดมาเปลาๆ หรือไดมางายๆนะครับ แมวาจะรูความหมาย บางคนก็อาจจะไมทราบวา ควรตองเตรียมตัว เตรียมจิตใจสําหรับคริสตมาส อยางไร บางคนคิดวา คริสตมาสก็คือ งานเลี้ยงและของขวัญ บางคนก็คิดเพียงวาคริสต มาส ก็คือ วันหยุด วันที่เขาจะไปเที่ยวไหนก็ได ทําอะไรก็ไดที่มีความสุข ทั้งกินทั้งดื่ม เพื่อใหการเตรียมจิตใจ ของเรา เพื่อรับเสด็จพระเยซูได มีความหมายจริงๆ พอขอแนะนําพี่นองใหเตรียมตัวเพียง 2 อยาง เทานั้นครับ พอขอใชคํายอวา 2 ท (ไมใชปายทะเบียนรถนะครับ) ท.แรก แทนคําวา ทิ้ง ละทิ้งบางสิ่ง นิสัยบางอยาง อคติ ความเปนศัตรู ละทิ้งบาป หรืออะไร ก็ไดครับที่พี่นองทราบดีกวา ไมดี พอรับประกันไดครับวา ถาทิ้งได พี่นองจะมีความสุขครับ พออานเจอ เรื่องหนึ่งครับ นารักดี นาคิดดีดวยครับ เด็กนอยจอหนนี่กับพี่สาวไปพักกับปูยาที่ชนบท จอหนนี่ไดรับหนังสติ๊กอันหนึ่ง เขาเขาไปในปา ขางบาน พยายามลาสัตวดวยหนังสติ๊กของเขา แตก็ไมไดเลย กลับมาถึงบานก็เห็นเปดซึ่งคุณยาเลี้ยงไว เดินอยู ก็เลยลองวิชา ใชหนังสติ๊กยิงเปด เกิดโดนพอดี เปดตายครับ คราวนี้ก็เกิดเรื่องสิครับ หากยา รูเขาคงไมดีแน ก็เลยเอาไปฝงไวไมบอกใคร พี่สาวมาเห็นเขาพอดีและจอหนนี่ก็รูวาพี่สาวเห็นหมด ทุกอยาง แตพี่สาวก็ไมพูดอะไร คราวนี้พี่สาวก็เริ่มบทขูกรรโชกจอหนนี่ตลอดเลย ปูยาสั่งใหทําอะไร พี่สาวก็บอกใหจอหนนี่ทําโดยใชขออางวา “อยาลืมเรื่องเปดนะ” จอหนนี่จึงตองยอมตกเปนทาสใชงาน ของพี่สาว จนกระทั่งทนไมไหว สิ่งที่จอหนนี่ทําก็คือ ไปหายาและสารภาพกับยาวา เขาไดฆาเปดของ คุณยาตาย สิ่งที่คุณยาทําก็คือ ยาคุกเขาลงมาและกอดจอหนนี่ไวแนนเลย พูดวา “หลานรัก ยารูวาเธอ ฆาเปด บังเอิญวันนั้นยายืนที่หนาตางและก็เห็นเหตุการณทั้งหมด แตยารักเธอ ใหอภัยเธอ เพียงแตยา อยากจะรอดูวา เธอจะยอมตกเปนทาสของพี่สาวเธอนานเทาไหร ” คําสารภาพของจอหนนี่ทําใหเขา เปนอิสระครับ เหมือนกันครับ เมื่อเรายอมละทิ้งบาปและไปสารภาพบาปนั้น พระทรงทราบดีวาเราทํา ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 9 4
อะไรไปบาง แตถาหากเราไมละทิ้งบาป นั่นแหละทําใหเราเปนทาสของบาปอยูอยางนั้น เพราะฉะนั้น หากเราเปนทาสของอะไรอยู จงละทิ้งมันซะนะครับ เราจะเปนอิสระและมีความสุข ท.สอง แทนคําวา ทํา เพื่อใหการรับเสด็จของเราสมบูรณ ทิ้งอยางเดียวไมพอครับ ตองทําดวย ทําบางสิ่งบางอยางที่ดี ไมไชใหตนเอง แตใหคนในครอบครัวของเรา ใหคนที่ ดอยโอกาส ทําสิ่งที่มี ความสุขใหคนรอบขาง อาจเปนเพียงคําพูดคําเดียวเชนคําวา “ฉันรักเธอ” “ฉันขอโทษ” “ฉันใหอภัย” อาจเปนเพียงของขวัญเล็กๆนอยๆชิ้นเดียว ยิ้มจริงใจครั้งเดียว สิ่งเหลานี้มีความหมายอยางยิ่งใน เทศกาลคริสตมาส ทําใหคําสอนแหงความรักของพระเยซูเจาเปนจริงขึ้นมาในเทศกาลนี้กันเถอะครับ เรื่องที่ พอจะเลาตอ ไปนี้เป นเรื่อ งจริงนะครับ เกิดขึ้ นในป 1930 คุณแซทเลอร เพิ่ง สูญเสียภรรยา ที่เขารักไป ทําใหเขาเศราเสียใจมาก คิดถึงภรรยาจนไมสามารถทําอะไรได เขาเริ่มละเลยลูกสาว 3 คน ของเขา บานของเขากลายเปนเหมือนที่ฝงศพของเขาเองและลูก 3 คน คริสตมาสปนั้นก็เลยเงียบเหงา ลูกสาว 3 คนแกะหอของขวัญที่เขาจัดหาอยางแกนๆ ไมสนใจจิตใจของลูกเลย ตัวเขาเองนั่งที่โซฟา อยางไมมีชีวิตชีวาเลย ลูกสาวคนโตพานองสองคนมายืนต อหนาพอ พูดวา “พอขา หนูรูวาพอคิดถึง แมมาก วันนี้วันคริสตมาส หนูมีของขวัญใหพอแปลกใจ” เธอบอกใหพอปดตา และรอจนกวาเธอจะ บอกใหเปดตาได เมื่อเขาเปดตาขึ้นมา เขาพบวาลูกสาว 3 คน แตงตัวเปนโหราจารย 3 องค ลูกสาว คนโตจึ ง พู ด ขึ้ น ว า หนู ไ ม มี ท องคํ า คนสองพู ด ว า หนู ไ ม มี กํ า ยานและคนสุ ด ท า ยพู ด ว า “หนู ไ ม มี มดยอบ” แลวทั้งสามคนก็พูดวา “แตพวกเราทั้งสามคน มอบตัวหนูเองแดพอ” คุณแซทเลอรคนนี้ เขาใจไดทันทีวา เวลาที่ผานมาเขาไดละเลยลูกสาวของเขาเพียงใด เพิ่งสํานึกไดวาลูกสาวทั้งสามคนนี้ คือของขวัญที่สุดวิเศษของเขาที่เขามี เขาเขาไปกอดลูกสาวทั้งสามคนและรองไหดวยความปลื้มปติ ครอบครัวของเขาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมทันที ลูกสาวทั้งสามคนไดทําบางสิ่งที่ดีเหลือเกินสําหรับพอ และพอก็สามารถทําหลายสิ่งเพื่อลูกของเขา นอกจากพี่นองจะคิดวา ควรทิ้งอะไรแลว ก็ขอใหคิดตออีกนิดนะครับวา จะทําอะไรสําหรับ คริสตมาสปนี้ ทุกสิ่งที่พี่นองจะทําคือ พรคริสตมาสครับ ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 04 ธันวาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 9 5
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก งานฉลองวัด ภายในของเราผานพนไปดวยดี เรามี โอกาสรวมมิ สซาพรอมหน าพรอมตากั น รวมใจกันแหแมพระอยางสมเกียรติ รวมรับประทานอาหารดวยกัน พูดคุยกัน ดูทุกคนมีความสุขใจกันดี จนบางคนเริ่มมีความเห็นวาฉลองวัดแบบภายในนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะเปนงานของเราอยางแทจริง อยางไรก็ตามสังคมคริสตชนเราก็มิไดจํากัดอยูเฉพาะที่ใครที่มัน แตเปนสังคมใหญที่ตองรูจักกัน รักกัน รวมมือกันดวย ฉลองวัดปหนาเราฉลองวัดครบ 25 ป การสรางวัดนี้ขึ้นมา พี่นองทานใดมีขอเสนอดีๆ หรือประสงคจะสนับสนุนการฉลองดานใดก็เริ่มเสนอมาไดเลยนะครับ ขอบคุณแมพระนิจจานุเคราะห ดวยกันทีอ่ ุปถัมภพวกเรามาถึง 25 ปแลว คริสตมาสเปนเทศกาลแหงความสุข พระคัมภีรอาทิตยนี้พูดถึงเรื่องความสุขถึง 2 ตอนดวยกัน นาฟงทั้งสองตอน เพราะใหขอคิดที่ดีมาก ประกาศกอิสยาหบันทึกวา “ขาพเจาจะเปรมปรีดิ์อยางยิ่ง ในองคพระผูเปนเจา เพราะพระองคประทานความรอดพนแกขาพเจา ประทานความชอบธรรม ให ข า พเจ า ” ที่ จ ริ ง พระเจ า ประทานอะไรๆ มากมาย มากกว า สองประการนี้ แต ค วามรอดและ ความชอบธรรมก็ตองถือวาสุดยอดแหงของประทานแลวละครับ ตอนที่สอง เขียนโดยนักบุญเปาโล ทานบันทึกวา “จงราเริงยินดีเสมอ จงอธิษฐานภาวนาอยางสม่ําเสมอ จงขอบคุณพระเจาในทุก กรณี” เขาใจไดงายๆ เลยครับวา การสวดภาวนาและการขอบคุณพระเจา ทําใหเราราเริงได พูดถึง เรื่องนี้ก็มีตัวอยางที่เพิ่งสงมาถึงพอโดยผานทาง 10 นาทีมีคําตอบที่อยูในเว็ปไซตของวัด เลาใหพอฟง วา ตอนที่บานถูกน้ําทวม เขาก็บนวาพระตางๆนาๆ เวลานี้พระทําใหเขาเขาใจอยางดีวา แทที่จริงพระ ไมไดทอดทิ้งเขาเลย หลายสิ่งที่เขาคิดวาสูญเสีย ก็ไมไดสูญเสียไป กลับไดหลายสิ่งอยางกลับมาดวยซ้ํา เปนเวลาที่ขอบคุณพระสําหรับทุกสิ่งจริงๆ นี่แหละครับที่นักบุญเปาโลบอกไว “จงราเริงยินดีเสมอ” พอพยายามคิดวา อะไรบางนะที่สามารถทําใหเรา “เปรมปรีดิ์และยินดี” ไดในชีวิตของเรา พอก็มาสรุปไดสองประการใหญๆ นะครับ ประการแรก คือ การไดรับครับ การไดรับบางสิ่งบางอยางทําใหเรามีความสุข ยกตัวอยาง งายๆ การไดแตงงาน การไดบวช ไดรับความรักจากใครสักคน เปนที่ รักของทุกคน ไดรับอิสรภาพ ไดรับการอภัย ไดรับความเขาใจ ไดรับความรอด ไดรับโบนัส ไดรับรางวัล และอื่นๆ ทั้งกายและใจ ขอใหไดรับเถอะ ดีใจทั้งนั้น ประการที่สอง คือ การใหครับ สําหรับบางคน การใหมีความสุขยิ่งกวาอีก แตสําหรับบางคน เรียกวา การเสียสละ ถาเราใหแบบเสียสละก็คงไมสุขเทากับการใหดวยความรัก คงสุขเหมือนกัน แตไมเ ทากันครับ สิ่ งที่แปลกก็คือ ความสุขของเราเกิดจากการใหที่คล ายคลึง กับการไดรับ นั่นเอง อย า งเช น การให ค วามรั ก การให อ ภั ย การให อิ ส รภาพ การให ค วามอบอุ น การให ค วามเข า ใจ การใหรางวัลผูอื่น ตอบแทนผูอื่น การใหทาน การใหความชวยเหลือผูคน การใหความบรรเทาใจ การใหโอกาส ใหหนทางเดินหนาตอไป อื่นๆ อีกมากมาย ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 9 6
พอจึงชื่อวาความเปรมปรีดิ์และยินดี ในโอกาสคริสตมาสนี้ตองมาจากทั้งสองทางนี้พรอมๆ กัน ไปครับ คือทั้งการไดรบั และการให พี่นองลองนึกดูสักอยางสองอยางวา เราอยากไดรับอะไรและเราจะ ใหอะไร ถามพอวา จะรับกอนดีหรือจะใหกอนดี พอก็แนะนําวา ใหอะไร เราก็ไดอยางนั้นครับ ใหกอนดี ที่สุดครับ อาทิตยนี้ยังเปนอาทิตยพระคัมภีรดวยครับ ดานหนาวัดเรามี Bible Diary ขายดวย ขายแบบ ไมมีกําไร ยอมขาดทุนเล็กนอยดวย เพื่อใหพี่นองเอาใจใสเรื่องพระคัมภีรมากขึ้น สนใจพระวาจาของ พระที่ ต รั ส กั บ เราทุ ก วั น ในพระคั ม ภี ร ครั บ มี พ อ องค ห นึ่ ง เล า ให ฟ ง ว า เขาต อ งไปเข า เงี ย บเจ็ ด วั น ที่ ส วนเจ็ ด ริ น ที่ เ ชี ย งใหม เขาก็ เ ริ่ ม จั ด กระเป า เตรี ย มตั ว ไปเชี ย งใหม จั ด เสื้ อ ผ า ของใช ที่ จํ า เป น ของที่ระลึก หนังสืออานเลน จัดไปจัดมากระเปาก็เต็ม ลวนแลวแตของจําเปนทั้งนั้น สุดทายนึกถึง พระคัมภีรได หยิบพระคัมภีรขึ้นมายัดใสกระเปา แตก็ยัดไมไดแลว เลยคิดวา ไมเปนไร ที่โนนเขาคง มีพระคัมภีรให พอไปถึงที่เขาเงียบ พอผูเทศนบอกวาใหนํา พระคัมภีรมาดวย คราวนี้ก็เลยตองเดินไป พบพ อ ผู เ ทศน บ อกว า ไม ไ ด เ อาพระคั ม ภี ร ม าด ว ย บทเทศน บ ทแรกก็ เ กิ ด ขึ้ น เลยครั บ จํ า ไว เ ลยว า จะไปไหนก็ตาม ในฐานะที่เปนพระสงฆ โดยเฉพาะในการเขาเงียบ เตรี ยมพระคัมภีรลงในกระเปา เปนสิ่งแรก การะเปาเต็มแลวอยางอื่นที่ขาดใหไปหาเองขางหนา พูดงายๆก็คือ ทําตรงขามกับที่ทําอยู นั่นแหละ บางครั้ ง เราทุ ก คนพลาดสิ่ ง ดี ๆ ที่ มี อ ยู ใ นพระคั ม ภี ร ไ ปอย า งน า เสี ยดาย อาทิ ต ย นี้ เ รามาให ความสําคัญกับพระคัมภีรซึ่งเปนพระวาจาของพระเจาเอง ไมตองเขาใจพระคัมภีรแบบนักวิชาการ ทั้ ง หลายก็ ไ ด ค รั บ เพี ย งแต อ า นพระวาจาเท า นั้ น พระเจ า ก็ ด ลใจเราได ห ลายต อ หลายอย า งแล ว กลับไปดูพระคัมภีรที่บานของเราวาอยูตรงไหนนะครับ แลวหยิบมาอานกันในครอบครัวดูบางครับ
ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 11 ธันวาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 9 7
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก เราไดยินคําวา “แผนการของพระ” บอยๆ พระวรสารและบทอานอาทิตยนี้พูดถึงเรื่องแผนการ ของพระในการไถบาปเรา การประสูติของพระผูไถที่เบธเลแฮม ดังนั้นหากเราจะพูดถึงแผนการของ พระละก็ ความหมายแรกก็คือ พระมีแผนสําหรับไถบาปเรา ชวยเราใหรอดเทานั้น อยาไปกลาวหาพระ แบบบางคนวา ทําไมพระจะตองใหมีน้ําทวม แผนดินไหว สึนามิ สงคราม และอื่นๆ ที่ไมดี หลายครั้ง เปนเรื่องที่ตองเปนตามธรรมชาติและหลายอยางเรามนุษยใชเสรีภาพของเราทําขึ้นมา เชน สงคราม เปนตน เราพูดกันเรื่องแผนการแหงความรอดกันดีกวานะครับ ถาหากจะใหมนุษยรับรูเรื่องการไถบาปและความรอด พระตองมีการประชาสัมพันธครับ สมัยนี้เขาเรียกกันวา PR คงยอมาจาก Public Relationship และพระก็วางแผนการประชาสัมพันธไว อยา งดีม ากด วย พระเลือ กพระคั มภีร เปน อุปกรณก ารประชาสัม พัน ธครั บ แผนเรื่องนี้ก็ลึ กซึ้ง มาก พี่ น อ งนึ ก ย อ นหลั ง ไป 300 ป ก อ นพระคริ ส ตเจ า บั ง เกิ ด ตอนนั้ น มี จั ก รพรรดิ ห นุ ม ชื่ อ ก อ งโลกคื อ อเล็กซานเดอร มหาราช แหงมาซีโดเนีย นักรบผูยิ่ งใหญ ไมเคยแพใครเลย ขยายอาณาจักรออกไป กว า งขวางมาก เอาชนะกรี ก ทั้ ง หมดและเรื่ อ ยไปจนถึ ง อิ น เดี ย สร า งเมื อ งไว ห ลายเมื อ ง นํ า เอา อารยธรรมของกรีกเขาไปในเขตแดนตางๆจนในที่สุด ภาษากรีกและวัฒนธรรมกรีกไดแทรกซึมเขาไป ในอาณาจักรของพระองคทั้งหมด แมแตอาณาจักรโรมัน ตอนหลังก็ยัง ไมสามารถตานทานวัฒนธรรม กรีกได แมกรีกจะพายแพแลว ก็ตาม ใครจะไปคิดละครับวา ภาษากรีกคือภาษาที่พระคัมภีรใชกัน ทั่วอาณาจักรโรมันในเวลานั้น ใครจะไปคิดละครับวา พระเจาทรงใชพระเจาอเล็กซานเดอร มหาราช ปูทางการประชาสัมพันธงานแหงความรอดเอาไว มาถึงยุคอาณาจักรโรมันครองโลก ชาวโรมันมีความเชี่ยวชาญในการรบ การคา กฎหมาย สิ่งสําคั ญที่สุด ของชาวโรมันก็คื อการติ ดตอที่ รวดเร็ว พวกเขาสรางถนนเพื่อการทหารและการค า จนมีคําขวัญวา “ถนนทุกสาย มุงสูกรุงโรม” และถนนที่มุงสูกรุงโรม นี่แหละครับ แมวาพระเยซูเจา จะไมเคยเดินทางมาที่ศูนยกลางแหงนี้ แตบรรดาอัครสาวก บรรดามิชชันนารีก็ใชถนนเหลานี้เอง ประกาศถึงองคพระผูไถ ทําใหมีการกลับใจมากมาย จนในที่สุดกรุงโรมไดกลายเปนศูนยกลางแหง ความเชื่อของพวกเรา ใครจะไปคิดละครับวา พระทรงใชชาวโรมั นเหลานี้เอง ทําใหแผนการไถของ พระก า วหน า อย า งไม น า เชื่ อ เลย ยิ่ ง กว า นั้ น ตอนที่ เ อากุ ส ตุ ส ซี ซ าร ออกฎหมายให ทุ ก คนไป จดสํามะโนครัว เพื่อจะไดจัดเก็บภาษีไดงายขึ้นและมากขึ้นนั้นกลับกลายเปนการทําใหคําพยากรณ ที่มีอยูในพระคัมภีรที่วา พระผูไถจะทรงบังเกิดที่เมืองเบธเลแฮมเปนจริงขึ้นมา แมแตซีซารเองก็ยังไมรู เลยดวยซ้ํา พระเจาทรงวางแผนงานไถบาปมานานแลว ใหพอเดา พระก็คงวางแผนไวตั้งแตมนุษย ทําบาปแลวละ พอเชื่อเหลือเกินวา พระวางแผนการไถบาปเราทุกคนเอาไวแลว แตแผนการของพระ สําหรับเรานี้ตองการความรวมมือจากเราดวย ตองการน้ําใจจากเราด วย เราตองยอมรับแผนการนี้ ครับ พระสังฆราช ฟุลตัน ชีน ผูกอตั้งการเฝาศีล 24 ชั่วโมง เปนคนศักดิ์สิทธิ์และเปนที่รูจักกวางขวาง ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 9 8
มาก เล า ให ฟ ง ว า ขณะที่ ท า นฟ ง แก บ าป มี ส ตรี คนหนึ่ ง มาที่ ฟ ง แก บ าป พูด ว า ฉั น ไม ไ ด ม าแก บ าป แตแมบังคับฉันใหเขามาที่นี้ ทานฟุลตัน ชีน จึงถามถึงชื่อและชวนคุยเรื่องนี้เรื่องนั้น แตเธอไมสนใจ เธอบอกว า พระเจ า ไม เ คยสนใจฉั น เลย ฉั น เป น คนบาปมาก เป น คนเลวมากจนพระไม ส นใจเลย เธอเล าเรื่อ งที่ เธอเคยติด คุก ค ายา เป นโสเภณี และอื่ นๆ อี กมากมาย แล วก็ บอกว าเธอจะไปแล ว พอแลว ทาน ฟุลตัน ชีน ขอรองใหเธออยูตอ บอกวา มีสิ่งหนึ่งที่มีอยูในตัวเธอคือ ความรัก เธอรักแม จึงยอมมาที่นี่ ใครก็ตามที่มีความรักยังอยูในหนทางของพระเสมอ และพระมีวิธีสําหรับผูที่มีความรัก หญิงนั้นบอกวา ฉันจะไปและจะไม กลับมาอีกเลย ทานฟุลตัน ชีน พูดวา ไมหรอก พอจะรออยูที่นี่ และเธอจะกลับมาที่นี่อยางแนนอน ทานเลาใหฟงตอวา ทานฟงแกบาปเสร็จแลวก็นั่งรอจนกระทั่งคน ออกจากวัดหมดแลว รอจนกระทั่งเจาหนาที่วัดจะปดวัด ทานขอกุญแจวัดไวแลว บอกวาทานจะปด ใหเอง พี่นองครับ ทานรอจนกระทั่งเที่ยงคืน ผูหญิงคนนั้นก็กลับมาจริงๆ มารองไหกับทาน คราวนี้ มาขอสารภาพบาป คืนดีกับพระ ทานโปรดบาปทั้งหมดใหดวยความชื่นชมยินดี พระมีแผนการสําหรับ ทุกคนที่มีความรักในดวงใจ แมจะเพียงเล็กนอยก็ตามและแผนการไถบาปนี้ก็จะสําเร็จลงได ก็ตองให คนนั้นยินยอมรวมมือกับแผนการของพระดวย แบบสตรีคนนั้นนั่นแหละ พระมีแผนสําหรับเราเสมอครับ บางทีก็ใชหลายแบบ ฝรั่งชอบพูดวา แผน A แผน B แผน C พอหวังวา ขอใหพระใชแตแผนเดียวก็พอใหเรากลับใจ อยาตองใชแผนสํารองเลยนะครับ ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 18 ธันวาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 9 9
สารเจาอาวาส
พี่นองที่รัก สุขสันตวันคริสตมาสแดพี่นองทุกทานครับ ในนามของพอ พอสุพัฒน มาเซอร และสภาอภิบาล คืนนี้ วันนี้เปนวันแหงความสุขของพวกเรา เหตุผลก็คือ “พระเจาเสด็จมาประทับอยูทามกลางเรา” เราเรียกพระองควา “เอ็มมานูแอล” พอจึงตั้งชื่อถ้ําพระกุมารปนี้วา Emmanuel Home พอจงใจใช คําวา Home เพราะในความหมายของ Home ไมใชแคบาน แตเปนบานที่มีชีวิต มีความรัก มีความอบอุน เวลาทีพ่ ระเจา อยูกับเรา Merry Christmas ครับ ตลอดสี่อ าทิต ยที่ผ านมา พระวรสารได เตรี ยมจิ ตใจของเราใหพ บความหมายที่แท จริง ของ คริสตมาส ซึ่งมีอยูหลายอยางดวยกัน พอจึงขอนํามาสรุปรวมกันในอาทิตยนี้นะครับวา ความหมายของ คริสตมาสที่แทจริงมีอะไรบาง พี่นองชอบขอไหน ก็เลือกเอาสักขอหนึ่งไปปฏิบัติ หรือจะเลือกมากกวา หนึ่งก็ไมหาม หรือ จะเลือกทุกขอเลยก็ยิ่งดี เพราะทุกขอก็ลวนแตดีๆ ทั้งนั้น สามารถนําไปอธิบายและ สอนลูกหลานเราไดอยางดีดวย คริสตมาส หมายถึง เวลา 1. เวลาแหงความทรงจํา ระลึกถึงการบังเกิดมาของพระผูไถ พระเจาเสด็จลงมาในโลกนี้ จะสอนและสิ้นพระชนมเพื่อเรา และระลึกวาพระองคจะเสด็จลงมา อีกครั้งหนึ่ง 2. เวลาที่จะรัก เปนชวงเวลาที่เรารับรูความรักของพระ เปนเวลาที่เราตองรักพระ และรักเพื่อนพี่นองของเรา 3. เวลาที่จะใหอภัย ถือโอกาสนี้ใหอภัยกัน ยกโทษกันเสีย เพราะพระเจาก็ทรงทํากับเรา ทุกคน เชนนั้น การอภัยกันในเวลานี้ มีความหมายอยางที่สุดแลว 4. เวลาที่จะให การใหนําความสุขยิ่งกวาการรับ ใหเถอะครับในขณะที่เรายังใหได 5. เวลาที่จะชวยเหลือผูอื่นใหรอดพน เชนเดียวกับที่พระทรงชวยเราใหรอดได บางทีอาจจะ รอดจากการตกงาน รอดพนจากการถูกขมเหง รอดพนจากการถูก เขาใจผิด กลาวหาปรักปราม รอดพนจากการทุกขทรมานทางจิตใจ 6.เวลาที่ จ ะเปลี่ ย นแปลง ป ห นึ่ ง เปลี่ ย นแปลงอะไรๆให ดี ขึ้ น สั ก อย า งหนึ่ ง ที่ สํ า คั ญ ก็ คื อ เปลี่ยนแปลงตนเองใหดีขึ้นสักอยางหนึ่ง อะไรที่เรารูวาไมดี ที่จริง เราก็รู อ ยูแ ล ว ก็ เ ปลี่ ยนแปลงเถอะครั บ อยา งนอ ยก็ ตั้ง ใจว า จะ พยายามเปลี่ยนแปลงก็ยังดีครับ 7. เวลาที่จะยินดี อะไรที่ทําใหเรามีความยินดี เชน ฟงเพลงคริสตมาส การไปขอโทษ พระ ร ว มมิ ส ซา การร อ งเพลง การยิ้ ม หั ว เราะร ว มกั บ คนอื่ น นํ า ครอบครั ว มาร ว มยิ น ดี กั น เล า เรื่ อ งดี ๆ ให กั น ฟ ง สวดภาวนา ดวยกันลวนนําความยินดีมาสูจิตใจเราเสมอครับ
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 1 0 0
ทั้ง 7 ประการนี้ คือความหมายที่แทจริงของคริสตมาส นาคิด นาสอน และนาปฏิบัติทั้งนั้นครับ เปนขุมทรัพยแหงคริสตมาส สุดแตใครจะไขวควาขุมทรัพยนี้ไปเปนของตน สําหรับบางคนกวาจะไดรู ความหมายของคริสตมาสที่แทจริงก็ตองพบดวยตนเอง แมบานทานหนึ่งเขียนเลาเรื่องนี้ใหแกพอองคหนึ่ง เธอเล าวา ตองไปหาซื้อของขวัญมากมาย ที่หาง คนแนนมาก ที่จอดรถก็หายาก เดินจนเมื่อยมากจนตองถามตัวเองวา มาที่นี่ทําไม เธอซื้อของได เต็ มรถเข็ น แต ก็ต อ งมายื นรอคิว จา ยเงิ น ซึ่ง คิว ก็ ยาวมาก เธอคิ ดว า คงตอ งรอประมาณ 20 นาที เด็กชายและเด็กหญิง 2 คน รอคิวอยูขางหนาเธอ การแตงตัวก็นาบอกไดวาไมไดมาจากครอบครัว ที่มีฐานะอะไร เด็กผูชายถือเงินอยูในกํามือและเด็กหญิงถือรองเทาแตะมีลายทองคูหนึ่ง ทั้งสองคน รอคอยดวยความอดทน พลางฮัมมเพลงคริสตมาสไปดวย พอถึงคิวจายเงิน เด็กหญิงนํารองเทาวาง ที่เคาทเตอรอยางระมัดระวัง รองเทาแตะคูนั้นราคา 6 ดอลลาร เด็กชายสงเงินที่อยูในมือใหและก็ พยายามหาเพิ่มเติมในกระเปา รวบรวมไดทั้งหมด 3 ดอลลาร แลวก็พูดกับนองสาววา “สงสัยตอง นํ า ไปคื น แล ว ละ เรากลั บ มาวั น หลั ง ก็ ไ ด ” บางที พ รุ ง นี้ ก็ ไ ด เด็ ก หญิ ง ผิ ด หวั ง มากเลยพู ด ขึ้ น ว า “พระเยซู ต อ งชอบรองเท า คู นี้ แ น ๆ ”แล ว ก็ ร อ งไห เด็ ก ชายก็ ป ลอบน อ งว า เรากลั บ บ า นก อ นเถอะ อย า ร อ งไห น ะ เราจะกลั บ มาอี ก แม บ า นคนนี้ รี บ ส ง เงิ น อี ก 3 ดอลล า ร ใ ห พ นั ก งานทั น ที นี่ เ ป น วันคริสตมาสและเด็กก็ยังรอมา 20 นาทีแลว เด็กหญิงกระโดดมากอดเธอไว พู ดวา ขอบคุณมากคะ คุณผูหญิง เธอจึงถามเด็กหญิงวา พระเยซูจะชอบรองเทาคูนี้ เพราะอะไร เด็กชายตอบวา “แมปวย และกํ า ลั ง จะตายครั บ พอ บอกว า แม จ ะไปพบกั บพระเยซู เ จ า วั น คริ ส ต มาสนี้ ” เด็ ก หญิ ง พู ด ขึ้ น ว า “ครูที่โรงเรียนบอกวา ถนนบนสวรรคทําดวยทองคําคลายๆรองเท าคูนี้ แมจะสวยมาก ถาหากไดใส รองเทาคูนี้บนสวรรคคะ ” แมบานคนนั้นน้ําตาเออ ซาบซึ้งใจในความไรเดียงสาของเด็กทั้งสองคน แลวเธอก็ขอบคุณพระที่ใหมีคริสตมาส ขอบคุณพระที่ใชเด็กสองคนนี้เตือนเธอใหเขาใจความหมาย ที่แทจริงของการใหในเทศกาลคริสตมาส พระเจาทรงทําทุกวิถีทางที่จะใหเราเขาใจความหมายของการเสด็จมาของพระองค เมื่อเรา เขาใจแลว ก็ใหเราไดปฏิบัติตามความหมายที่แทจริงของคริสตมาสนะครับ Happy Birthday to Jesus ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ
*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 25 ธันวาคม 2011
ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 1 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น 1 0 1