Gift

Page 1


จ�ำเลยซาตาน ตอนพิเศษ Gift โดย Rain-at-Rose สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558

Genre Illust Editor Book Design

Contac Us

Romantic , Comedy Jirito De Las Espadas เสี้ยวดอกขาว เสี้ยวดอกขาว

http://www.navarattashop.com/ http://navaratta.thai-forum.net/ https://www.facebook.com/Navaratta navarattaboard@hotmail.com

พิมพ์ครั้งที่ 1 พฤศจิกายน 2559 Not for sale นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ ทั้งสิ้น



จ�ำเลยซาตาน Special Booklet ของขวัญ


กว่ า ที่ เ ทพยศจะจั ด การธุ ร ะเรื่ อ งหน้ า ที่ ก ารงานเสร็ จ เรี ย บร้ อ ย ส่วนใหญ่จะอยู่ที่กรุงเทพฯ มากกว่า ซึ่งนายหัวหนุ่มยอมเสียเวลาเทียวไป เทียวมาโดยที่อาทิตย์หนึ่งจะยอมอยู่สามวันก่อนจะกลับเกาะน�้ำใส เพราะเลื่อนสถานะเป็น ‘พ่อหลานเขย’ ของย่ารัมภา จึงมีสิทธิ์เข้า นอกออกในเรือนจันทร์ได้เกือบทุกซอกทุกมุมของบ้าน ซึ่งมีสิ่งหนึ่งที่เขาอด สงสัยไม่ได้ ตอนทีม่ องส�ำรวจบ้าน กระทัง่ คุณชายกลับมา เขาจึงเปิดปากถาม “แปลกดี” ภาพตะวันพูดเกริ่นขึ้น “อะไรเหรอครับ” คุณชายคนสวยเอ่ยตอบขณะที่ก�ำลังเก็บเสื้อผ้า ของนายหัวที่อยู่ในกระเป๋าเป้แขวนใส่ตู้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย “เพิ่งสังเกตแฮะว่าบ้านมึง กูไม่เห็นรูปพ่อกับแม่มึงเลย เห็นก็มีแต่ รูปบรรพบุรุษมึง” ที่รู้เพราะย่ารัมภาเป็นคนอธิบายตอนไปประจบขอของ อร่อยๆ กิน ระหว่างนั้นท่านก็จะเล่าเรื่องของคนในรูปเก่าๆ พวกนั้นเป็นใคร “เออ นี่ก็ห้องหอปะ ไหนรูปแต่งงานไม่มีเลยวะ” “วันพรุ่งนี้ว่างไหมครับ” เทพยศไม่ตอบค�ำถาม กลับถามเรื่องอื่น ซึ่งคนที่ไม่ได้ใส่ใจ แค่สงสัยจึงเปลี่ยนบทสนทนาตามน�้ำ “ก็ว่างทุกวัน รู้อยู่ จะถามท�ำไม” ปากคมกล้ากัดคืนหน่อยๆ “คุณซีเขาจะชวนไปทานข้าวที่วังน่ะครับ แต่คุณไม่สะดวกก็ไม่


เป็นไร เพราะผมเองก็ไม่อยากไป” “ก็กล้าชวนเนอะ ไล่ฆ่าเขาขนาดนั้น บ้านมึงนี่หนังหนาดี เหมือน มึงเดะๆ เลย” ภาพตะวันลืมเรือ่ งทีถ่ าม “ขีเ้ กียจไป อยูน่ ยี่ า่ รัมภาก็ทำ� กับข่าว อร่อยดี ไม่มีเหตุผลจะต้องไป” ปฏิเสธแบบทันที “ผมถึงปฏิเสธให้ลว่ งหน้าไงครับ วันนีย้ า่ ท�ำอะไรให้ลองชิมละ” เสียง เทพยศระรื่นผิดปกติหากแต่คนฟังไม่สังเกต “ขนมเบือ้ งญวน หร่อยดี ไม่เคยกินทีไ่ หนอร่อยขนาดนี้ มีนำ�้ มะพร้าว เผาด้วย” ตอบเหมือนเด็กๆ กระแสเสียงท้ายโอ่หน่อยๆ “ไปเอามะพร้าวมาจากไหนครับ” ถามก็เพราะเจ้าตัวอยากให้ถาม เหมือนเด็กๆ ท�ำงานฝีมืออวดพ่อแม่ “กูปีนเองนี่ล่ะ มีแช่ในตู้เย็น กินปะๆ” “เอาไว้ก่อนดีกว่าครับ” เทพยศปฏิเสธ “อุตส่าห์ปนี กับเผาเอง” บ่นพึมพ�ำไปตามเรือ่ งตามราว ก่อนเปลีย่ น เป็นเรือ่ งสัพเพเหระ โดยทีเ่ จ้าของค�ำถามไม่รตู้ วั เลยสักนิด ว่าถูกพาออกห่าง ค�ำถามที่ถาม โดยไม่มีค�ำตอบที่เจ้าตัวไม่อยากพูดออกมา แสงแรกอรุณสว่างทอทาบมุง้ ตาพริกไท ร่างก�ำย�ำทีน่ อนเปลือยท่อน บน สวมเพียงบ็อกเซอร์ยีหูยีตา พลางยันตัวเองลุกขึ้น ปากก็อ้าหาวกว้าง “ไปท�ำงานแล้วเรอะ” ถามไถ่เจ้าบ้านหนุม่ ทีแ่ ต่งตัวเงียบๆ อยูท่ โี่ ต๊ะ เครื่องแป้งแบบโบราณ “สายมากๆ รถจะติดน่ะครับ” เทพยศบอก “นีเ่ พิง่ จะหกโมงเอง คุณ จะนอนก่อนก็ได้ กว่าย่ารัมภาจะทานข้าวเช้าก็คงสักเจ็ดโมงกว่าๆ นั่นแหละ ครับ” ปากพูด มือก็ผูกปมเนกไท “ไปท�ำงานเช้าขนาดนี้ อยากย้ายไปอยู่เกาะน�้ำใสเร็วๆ ไหมวะ”


“ตื่นสายคุณก็บ่นอีก นอนกินบ้านกินเมือง” กลิ่นน�้ำหอมฟุ้งกระจายทั่วห้อง ร่างก�ำย�ำเปิดประตูมุ้งลงมายืดบิด ขี้เกียจ ก่อนที่จะฉวยโอกาสจู่โจมที่ต้นคอน่ากัด เทพยศเอี้ยวตัวหนี “แปรงฟันก่อนสิครับ” ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนเต็มความสูงที่น้อยกว่า นายหัวหนุ่มเล็กน้อย มือหนาเท้าเอวสอบ หรีต่ าส�ำรวจคนทีแ่ ต่งองค์ทรงเครือ่ งหล่อเหลา จนละสายตาไม่ได้ “ก็ไม่ได้เหม็นน�้ำลายขนาดนั้นนะ” “น่าเกลียด” คุณชายว่าให้ “ไม่เคยได้ยินเหรอครับ ตอนเช้าราศีจะ อยู่ที่หน้า ถึงต้องช�ำ--” “เทศน์อะไรแต่เช้า เทศน์แข่งพระรึไงฮึ ดมนิดดมหน่อยท�ำเป็นหวง” ภาพตะวันขยุม้ สูททีเ่ ทพยศบรรจงพาดไว้บนพนักเก้าอีโ้ ยนใส่มอื “ไปท�ำงาน เลยไป” “สูทผมยับหมด” เทพยศบ่น “นิสัยไม่ดีเลยครับ” คนโดนบ่นคลานขึน้ เตียง “เดีย๋ วตืน่ อีกคราวนีจ้ ะแปรงให้หรอก บ้วน ปากแถมด้วยเอ้า” นายหัวว่าประชด “เออ วันนี้ไม่กินข้าวเย็นด้วยนะ จะไป หาแม่ทบั ทิม” บอกเสร็จเรียบร้อย คนขยันของเกาะน�ำ้ ใสก็ดงึ หมอนหนุนของ เทพยศมานอนกอด คุณชายหนุ่มถอนหายใจเอือมระอาแต่คร้านจะบ่นว่า หลังจาก เทพยศออกจากเรือนจันทร์ไม่ถึงสิบนาที คนที่นอนกอดหมอนแกล้งหลับก็ ลุกขึ้น อาบน�้ำท�ำธุระส่วนตัว แล้วออกมาแต่งตัว ก่อนที่จะไปกราบสวัสดี ย่ารัมภา กินข้าวด้วย นายหัวหนุ่มก็ถือโอกาสบอกท่านว่าไปเยี่ยมเยือน แม่บุญธรรมจะกลับดึก จากนั้นก็ออกจากบ้านเดินทางไปหาคุณทับทิม “คิดถึงหม่าม้า” ภาพตะวันปากหวานใส่ผทู้ เี่ ปรียบเสมือนมารดาอีก


คนยามที่เจอหน้าค่าตา “อ้อนมาก่อนเชียว” คุณทับทิมเอ่ยเย้า “อยากได้อะไรละฮึถึงเลิก เฝ้าเกาะโผล่มาหาหม่าม้าได้” “ไม่ได้อยากได้เลย คิดถึงถึงแวะมา” มือหนาสอดกอดเอวท้วม “พอกันกับตรี รายนั้นก็เงียบเชียว เจอกันบ้างรึเปล่า” นางถามหา ตรีทศ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน และยังเป็นเพื่อนสนิทของหนุ่มหน้าดุ “ว่าไปก็ไม่เห็นมันมาเป็นเดือนละ โทรไปทีไรบอกติดงานตลอด หน้า ฝนนี่งานชุกเหรอฮะ” ภาพตะวันคลายอ้อมกอดแล้วถามอย่างสงสัย ตรี ท ศดู แ ลรี ส อร์ ท ซึ่ ง เป็ น กิ จ การของครอบครั ว ทางใต้ จั ง หวั ด เดียวกันกับเขา จึงมีโอกาสได้พบกันบ่อย แต่หลังจากเขาตัดสินใจคบหากับ เทพยศฉันผัวเมีย เพื่อนสนิทก็หายหน้าหายตาไปเลย “ใครเขาเที่ยวทะเลหน้ามรสุมกัน” คุณทับทิมว่า นางพอรู้เลาๆ ว่า ลูกชายรักคนตรงหน้าแบบฉันชูส้ าว หากแต่นางเห็นว่าพูดไปก็กระทบความ สัมพันธ์ จึงไม่พดู และภาพตะวันก็ไม่รสู้ กึ ตัวสักทีจนสงสารลูกชายครามครัน “งั้นมันคงหานักท่องเที่ยวเพิ่มมั้งฮะ” คุณทับทิมหลุดยิม้ ระอา ช่างไม่รเู้ ลยว่าอีกฝ่ายเขาหลบหน้าเลียแผล ใจ “คุณชายไม่มาด้วยเหรอจ๊ะ” นางถามถึงคนที่เป็นศัตรูหัวใจของลูกชาย ด้วยเสียงปรานี “ท�ำงานฮะ คงเคลียร์งานก่อนย้ายไปอยู่นู่น” นู่นที่ว่าคือเกาะน�้ำใส “ตัดสินใจได้แล้วเหรอ” “ไม่ได้กต็ อ้ งได้แหละ” ภาพตะวันว่า “เปลืองตายเทียวไปเทียวมา” “งกอะไรนักหนาฮึ นี่อย่าบอกว่านั่งรถทัวร์มา ค่าเครื่องบินก็พอๆ กันแท้ๆ” คุณทับทิมบ่น “นั่งรถทัวร์ดีแล้วฮะ” นายหัวงึมง�ำ “...เอ้อ มาก็ดีละ หม่าม้าฝากเอารูปให้ตรีเขาหน่อย” นางไหว้วาน


“รูป?” คุณทับทิมเรียกคนใช้ให้ไปหยิบอัลบั้มรูปออกมาหลายเล่ม “ตรีเขาอยากได้รูปไปอัดกรอบน่ะ หม่าม้าก็ไม่รู้เขาอยากได้รูปไหน ให้ไป เลือกเอา” “รูปเยอะดี” มือหนารับมาเปิดพลิกดู อัลบัม้ รูปเรียงเป็นตัง้ มีรปู ถ่าย ทุกคนในตระกูล แล้วยังมีรูปครอบครัวของเขา สมัยที่ถูกส่งมาอยู่กับคุณ ทับทิม เห็นรูปฝาแฝดสมัยเด็ก ความทรงจ�ำทีท่ งั้ ขม ทัง้ ยินดี ไหลหลัง่ ท่วมท้น “ตะวันอยากได้ก็บอกหม่าม้านะ เดี๋ยวหม่าม้าจะจัดการให้” “ไม่เป็นไรฮะ ที่บ้านก็มี...เออ พูดถึงรูป...” ภาพตะวันเพิ่งนึกออก ว่าเทพยศไม่ได้ตอบค�ำถามของเขา ซึ่งเขาเองก็ไม่ใส่ใจมาก เนื่องจากถาม ขึ้นมาลอยๆ เสียมากกว่า “อะไรจ๊ะ” คุณทับทิมถาม “เปล่าฮะ” ชายหนุ่มกล่าวตอบมารดาบุญธรรม “เห็นละนึกถึงไอ้ เอ่อ เทพ” ค�ำกลืนค�ำหยาบลงคอ ไม่เช่นนัน้ คงโดนเล็บทีเ่ คลือบสีแดงสดหยิก เอา “เมื่อคืนพูดถึงรูปพ่อแม่เขาพอดี แปลกดีไม่ยักเห็นสักกะรูป” เพิง่ นึกออกก็ตอนทีเ่ ห็นรูปวันแต่งงานของคุณทับทิมทีม่ แี ม่เขาเป็น เพื่อนเจ้าสาว “คุณชายไม่เล่าเรื่องพ่อแม่ให้ฟังหรอกเหรอ” คุณทับทิมแปลกใจ ทัง้ ทีค่ บหาดูใจจนถึงขัน้ ตัดสินใจอยูก่ นิ ฉันผัวเมียแล้ว บุตรชายบุญธรรมกลับ ไม่รู้เรื่องของคนรัก “เล่ามั่งไม่เล่ามั่ง” ภาพตะวันบอก “ท�ำไมฮะหม่าม้า” “หม่าม้าอยากให้ตะวันรู้จากปากคุณชายเองมากกว่า” “รู้จากหม่าม้ามันต่างกันตรงไหน” ชายหนุ่มกังขา “เฮ้อ เรานี่ก็ละเอียดอ่อนบ้างสิ” บ่นก่อนที่จะยอมเล่าในส่วนที่รู้ “เมื่อกระโน้น คุณแม่ของคุณชายเขาเป็นดาราดัง...ดังมากๆ มั่นใจ สวย จน


มีข่าวลือว่ามีรัฐมนตรีมาพัวพัน แต่มายุติความสัมพันธ์ตอนที่มีลูกกับท่าน ชายวราเทพนี่ละ” นางเล่าเท่าที่จดจ�ำได้ “พอเป็นสะใภ้นอกสมรสของ วังมาภาก็ไม่คอ่ ยออกงาน แล้วก็ดบั แสงไปจากวงการ มาเป็นข่าวอีกทีกต็ อน อุบัติเหตุนี่ละ” “อ้าว ไม่ได้แต่งกันเหรอฮะ” ภาพตะวันสะดุดกับค�ำว่า ‘สะใภ้นอก สมรส’ “ไม่รู้สิ หม่าม้าก็จ�ำได้แค่นี้ละ ข่าวเขาลงซุบซิบแค่นี้นี่” คิ้วหนาเป็นปื้นขมวดมุ่น “หม่าม้าตามข่าวซุบซิบด้วย?” “ต้องบอกว่าสนใจเรือ่ งของท่านชายมากกว่า เหมือนสาวๆ ตามข่าว ดาราสมัยนี้ละ ท่านชายน่ะสง่ามาก แต่คุณชายเหมือนแม่นี่นะ” “มีแค่นเี้ หรอฮะ” สุม้ เสียงผิดหวัง “กลับไปถามคุณชายดีกว่านะจ๊ะ” มารดาบุญธรรมทอดเสียงอ่อนโยน หลังจากทีอ่ ยูร่ บั ประทานข้าวเย็นกับแม่บญ ุ ธรรม ภาพตะวันก็กราบ ลาแล้วกลับเรือนจันทร์ ซึง่ นายหัวหนุม่ ยังเผือ่ ท้องไว้กนิ ข้าวกับย่ารัมภา แถม ขนมหวานอีกถ้วยใหญ่จนอิ่มอืดเหมือนงูหลาม เทพยศไม่กลับ หญิงชรา บอกว่าหลานรักโทรมาแจ้งว่าติดประชุม จึงเป็นโอกาสทองให้นายหัวถามไถ่ เรื่องที่สงสัย “พ่อแม่ของเทพไม่ได้แต่งงานกันเหรอครับ ท�ำไมผมไม่เห็นรูปเลย” หญิ ง ชราคิ ด ไม่ ถึ ง ว่ า พ่ อ หลานเขยจะกล้ า ออกปากถามเรื่ อ งที่ ทุกคนในอาณาจักรมาภาเลี่ยงที่จะพูดถึง “...งานแต่งน่ะไม่มีหรอก แต่เขาจดทะเบียนสมรสกัน แล้วมาผูก ข้อมือต่อหน้าย่านี่ละ” เนิ่นนานกว่าย่ารัมภาจะบอกเล่า “ไหงที่บ้านไม่มีรูปแม่เลยละ” เขาถามลุ่นๆ รูปหม่อมเจ้าวราเทพ


ยังพอมีบ้าง แต่คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘เมีย’ กลับไม่มีสักรูป “ปู่เขาไม่ชอบน่ะ เคยออกปากด้วยว่าไม่ให้มีรูปอยู่ในบ้าน” หญิง ชราเล่า “ปกติเขามีแต่แม่ผัวไม่ชอบลูกสะใภ้นี่นา” คนติดละครบอก “คงเป็นเพราะคิดว่าเลือกสะใภ้ผดิ กระมังครับ” เทพยศมาตัง้ แต่ตอน ไหนไม่รู้ ตอบค�ำถามนั้นเสียเอง ภาพตะวันเอี้ยวตัวไปมองคนที่เพิ่งกลับบ้าน ดวงหน้าคมคายเรียบ ตึง “กินข้าวกินปลามาหรือยังละพ่อเทพ” ย่ารัมภาถามหลานรัก “เรียบร้อยแล้วครับ” คุณชายเอ่ยเสียงที่อ่อนลง “ผมไปอาบน�ำ้ ก่อนนะครับ” พืน้ อารมณ์ยงั คุกรุน่ ด้วยความไม่พอใจ จากเรื่องที่ได้ยิน ซึ่งเขากลับมาได้สักพักจึงรู้เรื่องหลังแอบฟังโดยไม่ตั้งใจ ภาพตะวั น ยกมื อ ไหว้ ห ญิ ง ชราแผล่ บ ก่ อ นที่ จ ะลุ ก ตามเทพยศ นายหัวหนุ่มตามทันตอนที่เจ้าตัวเปิดประตูห้อง เขาเป็นฝ่ายดึงลั่นดาลปิด เสียเอง “เป็นไร” “เปล่า” ค�ำว่าเปล่าพูดเสียงสะบัด คนที่ฟังเหนี่ยวไหล่บาง “ไอ้ค�ำว่าเปล่านี่ขอซื้อได้ปะ งอนสักเรื่องก็ พูดว่าเปล่า บอกว่าไม่เป็นอะไร สะบัดสะบิ้งยังกับผู้หญิง” “ต้องให้พูดเหรอครับ ผมไม่พอใจ” ร่างโปร่งสบสานดวงตาดุที่ฉาย รอยห่วง “เรื่องไหน” “นี่คุณแกล้งโง่เหรอเนี่ย” เทพยศขืนตัวจากข้อมือที่เกาะเกี่ยวไหล่ เขาถอดสูทตัวนอกใส่ไม้แขวนเก็บเป็นระเบียบ ส่วนนายหัวยกมือเท้าเอว “ไม่รอู้ ะ กูโง่ นีย่ งั ไม่รเู้ ลยมึงโกรธทีก่ ถู ามเรือ่ งพ่อแม่จากย่า หรือมึง


โกรธย่าที่เล่าให้กูฟัง หรือว่าโกรธปู่ โกรธพ่อมึง” ภาพตะวันย้อนอย่างกวน โมโห “คุณ!” ความโกรธวาบผ่านจนหน้าร้อน มือเรียวยกขึน้ เตรียมสะบัด ฟาดบนแก้มสากระคาย หากแต่มือหนาจับข้อแขนไว้แน่น “ตบมาสิเทพ ตบกี่ทีกูจะจูบคืนจนขาดใจตายเท่าที่มึงตบนี่ละ” ค�ำ ขูแ่ สนจะน่ากลัวนักหนา คนทีพ่ ดู ท�ำหน้าตาจริงจัง “จูบตอนกูไม่แปรงฟันสัก สามวันด้วยเอ้า” เทพพยศชะงักก่อนที่จะทอดถอนใจ “ขอโทษครับ ผมแค่โกรธตัว เองที่รู้สึกไม่ดีเวลาต้องฟังเรื่องนี้” เขาบิดข้อมือออกจากมือหนาที่จับยึดไว้ แน่น แต่อีกฝ่ายก็รวบไว้ดั่งกุญแจมือ “ไม่ชอบก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน ท�ำไมต้องโมโห” “เพราะผมโตแล้วครับ แยกแยะได้” เทพยศบอกเสียงแข็งขึ้น “หลอกตัวเองว่าไม่รู้สึกหรือแกล้งท�ำเป็นไม่รู้สึก” ถามตรงๆ แล้ว ยอมปล่อยข้อแขนที่จับยึด “ผมไม่มีน�้ำตาเหลือให้เรื่องนี้มาหลายสิบปีแล้วครับ แผลมันเคย เหวอะหวะก็หายสนิทดีแล้ว และผมก็ไม่คิดจะเอามันมาเป็นปมให้คนอื่นเขา ท�ำร้ายผมได้อีกเหมือนคุณ” อดหลุดปากไม่ได้ นายหัวไหวไหล่ “ยอมรับว่าตัวเองมีแผลใจได้ คนที่ท�ำให้มันเจ็บได้ ก็มีแต่ตัวกูเองนี่ละ” เสียงกังวานก็จริงแต่เจือด้วยความเจ็บปวด “ผมปากเบาเอง ขอโทษครับ” คุณชายคนสวยพูดขึ้นอย่างรู้สึกผิด “ช่างเหอะ” ภาพตะวันไม่ได้ใส่ใจ ก่อนจะเลี่ยงออกจากห้อง ไปดู ละครกับย่ารัมภา ซึ่งหญิงชราเข้านอนก่อนที่ละครจะจบ ชายหนุ่มก็นั่งดูต่อ จนค่อนคืนถึงย่องเข้าห้อง เตรียมอาบน�้ำนอน ร่างก�ำย�ำขึ้นเตียงก็เห็นว่า เจ้าของห้องหลับแล้ว เขาก็หันตะแคงเข้าหาคนที่นอนหันหลังให้ ก่อนที่จะ กอดร่างโปร่งไว้แนบแน่น


บรรยากาศยามเช้าอึมครึม ภาพตะวันไม่ได้โกรธทีเ่ ทพยศเผลอพลัง้ ปากเรื่องพบจันทร์ เขาเองก็รู้ว่าเจ้าตัวรู้สึกผิด หากแต่ไม่ทันได้พูด คุณชาย คนสวยก็จะไปท�ำงาน “ไปด้วย” เจ้าของร่างก�ำย�ำบอกกล่าว แล้วถือวิสาสะตามขึ้นรถที่มี คนขับรถของบริษัทมารอรับ “จะตามไปท�ำไมน่ะครับ” เทพยศอยากซักไซ้ ทว่าก็ไม่สะดวกปาก เนื่องจากมีคนขับรถอยู่เป็นบุคคลที่สาม “ไหนว่าไอ้คุณซีอยากกินข้าวด้วยไง วันนี้จะให้เลี้ยงมื้อกลางวัน” “วันนี้ผมติดนัดทานข้าวกับผู้จัดการฝ่ายการตลาด แล้วคุณก็ไม่ได้ นัดคุณซี” เทพยศเอ่ยเหมือนก�ำลังดุเด็กไม่รู้จักกาลเทศะ “ก็นัดดิ โทรไป” นายหัวพูดง่ายๆ แล้วเอกเขนกอิงเบาะ ส่วนคน ข้างๆ ก็ได้แต่ทอดถอนใจ ศิวฒ ั น์ออกจะประหลาดใจทีน่ ายหัวภาพตะวันจะมากินข้าวกลางวัน ด้วย อันที่จริง พอเจ้าตัวมาถึง รู้ว่าเขาว่างงานก็ลากออกไปดื่มกาแฟที่ร้าน คอฟฟีชอบซึ่งอยู่ชั้นล่างของตึกมาภา “เป็นเกียรติมากครับที่ได้รับค�ำเชิญจากนายหัวก่อน นี่วางแผน นอกใจคุณชายเขาอยู่หรือเปล่าครับ” ศิวัฒน์กระเซ้า “มีธุระถึงมา” ภาพตะวันเอ่ยสั้นๆ ห้วนๆ เห็นท่าทางไม่สบอารมณ์ ศิวัฒน์ก็คลายยิ้มเล็กน้อย ก่อนถามด้วย ความจริงจังขึน้ กว่าเดิม “คงเป็นธุระส�ำคัญสินะครับ” เขาคิดไปถึงเรือ่ งธุรกิจ เรือ่ งหุน้ ไปจนถึงเรือ่ งการลงทุนในวงการอัญมณี ทว่าก็สงสัย เหตุใดถึงไม่คยุ กับเทพยศ หรือมีเรื่องระหองระแหง “อยากได้รูปคู่ของพ่อแม่ไอ้เทพ” ภาพตะวันบอก


“อะไรนะครับ” เขานึกว่าฟังผิด “รูปน่ะรูป รูปพ่อแม่ไอ้เทพไง” นายหัวพูดอย่างคนติดร�ำคาญ “ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีแหละครับ นี่ผมต้องมาเสียเวลากับเรื่อง เอ่อ สัพเพเหระทั้งช่วงเช้าเหรอเนี่ย” คนพูดพูดกึ่งขัน “ตกลงมีหรือไม่มี” ภาพตะวันจริงจังทั้งค�ำพูดและแววตา “ถ้าเป็นรูปแม่เขา...ที่วังไม่มีครับ อยู่ที่เรือนจันทร์อาจจะมี” ศิวัฒน์ เอ่ยเรียบๆ เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมตลกด้วย “ที่จริงคุณควรถามคุณชาย ดีกว่า มาถามผมนะครับ” “ก็บ้านมันไม่มี” นายหัวพูดห้วน “เห็นว่าเจ้าคุณปู่แกไม่ชอบ” “ผมก็ไม่เข้าใจ ท�ำไมต้องเอาเรื่องสัพเพเหระมาถามผม” “นัง...เอ้อ แฟนแกเป็นดารา คงหาภาพเก่าๆ ได้ ขอให้หน่อย” สมัย ที่มารดาของเทพยศยังโด่งดังนั้นอยู่ในยุคอนาล็อก แถมนางดังในช่วงเวลา สั้นๆ จึงหาภาพยากเย็นกว่าดาราดังดาวค้างฟ้ารุ่นเดียวกัน จะเจอก็แต่ภาพ โปสเตอร์ละคร คิ้วเรียวเลิกขึ้น มุมปากจุดยิ้มระอากับมารยาทที่ติดลบของนายหัว “นี่เรียกว่า ‘ขอร้อง’ เหรอครับ” “ไม่ได้ขอร้อง แต่เป็นค�ำสั่ง” ภาพตะวันโพล่ง “ไม่อยากเจอหน้าคู่ หมั้นแก” “ท�ำไมผมต้องมาเสียเวลาด้วยละครับ” ญาติผพู้ ขี่ องเทพยศเอนหลัง พิงพนักเบาะ “จะท�ำหรือไม่ท�ำ” นายหัวหนุ่มถลึงตาดุดันข่มขู่ญาติผู้พี่ของเทพ ยศ “ถ้าผมไม่ท�ำละ” ศิวัฒน์ยอกย้อนกลับ “...บอกย่ารัมภาดีไหมวะ คนร้ายตัวจริงน่ะมันใคร” ภาพตะวันพูด ลอยๆ ด้วยใบหน้ายียวน “คนแก่อายุปูนนี้จะช็อกตายไหมวะ พ่อหลานรัก


สองคนตามฆ่ากันเอง เฮ้อ...กูนี่ก็ดีเกินมนุษย์เนาะ มารับบทผู้ร้ายแทนแก เนี่ย” ความไม่พอใจแล่นริ้วจับใบหน้าคมสัน เรื่องมันจบลงโดยที่นายหัว ยอมเป็นแพะรับบาป เขาถึงไม่โดนย่าตัดออกจากกองมรดก “นีค่ อื วิธขี อร้อง เหรอครับ” เขาถามซ�้ำ “สัง่ ” นายหัวพูด “แกล้งมันก็แกล้งมาตัง้ แต่เด็กยันแก่ไม่ใช่รไึ ง ท�ำๆ ไปเถอะนา จะบอกไอ้เทพให้หรอกว่าแกช่วยหา ถือซะว่าไถ่โทษให้มันก็ได้ อีกอย่างนะ คู่หมั้นแกเจอหน้ากูบ่อยมากๆ หวั่นไหวขึ้นมาจะโทษใครได้วะ” ภาพตะวันไม่ปรารถนาจะพบกับแพรลดา ถ้าไม่จ�ำเป็นจริงๆ “...ผมไม่รับปาก แต่จะบอกน้องแพรให้นะครับ” สุดท้าย...ศิวัฒน์ก็ จ�ำใจรับปากเพียงเพื่อที่จะได้ล้างบุญคุณให้มันจบสิ้นไป เทพยศไม่ซักไซ้ว่าชวนญาติผู้พี่เขาออกไปกินข้าวด้วยกันท�ำไม ศิวัฒน์ก็ไม่ได้พูดถึง แค่บอกเขาว่าเรื่องไร้สาระ กระทั่งนายหัวกลับเกาะ ซึ่ง เขาจะตามไปทีหลังหลังจากเสร็จสิ้นภาระทางการงามในอีกสองอาทิตย์ ระหว่างนั้นภาพตะวันโทรมาถามไถ่ข่าวคราวและตบท้ายอย่างขัดเขินว่าจะ รอ... ผ่านพ้นสัปดาห์ยุ่งเหยิง แม้จะยังไม่สามารถจัดการเคลียร์งานได้ ตามเป้าหมาย เพื่อที่จะได้ย้ายไปอยู่เกาะน�้ำใสเลย เขาก็พาตัวเองกลับมาส ถานที่ที่ซึ่งเรียกได้ว่า ‘บ้าน’ ภาพตะวันมารับถึงท่าเรือ ดวงหน้าดุดนั มีรอยตืน่ เต้น พลางช่วยอุม้ ลงจากเรือ เมื่อทรงตัวบนสะพานปลา มือหนาก็ดึงให้เกินตาม “รีบร้อนจังครับ” เทพยศทัก “คิดถึงเหรอครับ” เขากระเซ้า “อื้อ” ภาพตะวันรับอือออ “เดี๋ยว...” ก่อนจะเดินเข้าบ้าน ร่างโปร่ง


ถูกดึงตัวไว้ “หลับตาก่อน” “มีเซอร์ไพรส์ต้อนรับกลับด้วยเหรอครับ” คุณชายประหลาดใจ “ของขวัญต้อนรับกลับบ้าน” เนื้อเสียงที่ห้วนเสมออ่อนโยนกว่าที่ เคยได้ยิน “รีบๆ หลับตาสิ” เปลือกตาบางปิดลงตามค�ำขอด้วยความข�ำขัน คุณชายหนุ่มคิดว่า จะได้เห็นดอกไม้ ลูกโป่ง เค้ก ป้ายต้อนรับในงานปาร์ตี้เล็กๆ “ห้ามลืมจนกว่าจะบอกนะ” คนที่จับจูงมือสั่ง รอยยิ้มแต้มที่ริมฝีปากหยัก ข�ำอีกฝ่ายที่สั่งเหมือนสั่งเด็กห้ามแอบ ดูปาร์ตี้วันเกิดทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าจัดให้ “ลืมตาได้” เสียงห้าวลิงโลด เทพยศเปิดเปลือกตา ตอนแรกยังพร่าๆ แต่พอเห็นชัดเจน คราวนี้ ตาพร่าด้วยหยดน�้ำที่เอ่อท้น “เขาไม่ให้ติดอยู่โน่น ก็เอามาติดบ้านนี้ก็ได้ ติดเยอะๆ เลย” ตรงหน้าเขาเป็นภาพวาดสีน�้ำมันของพ่อแม่ขนาดเท่าคนจริง มี ต้นแบบจากภาพที่เขาไม่เคยได้เห็น ทั้งคู่ดูมีความสุขสดชื่น “นังน้องแพรกับไอ้คุณซีหาให้” ภาพตะวันให้เครดิตศัตรู “หาจาก ไหนไม่รู้ ขุดมาได้แค่นี้ ภาพมันเล็ก ฟิล์มต้นฉบับก็ไม่ได้มา เลยขยายไม่ได้ เอามาวาดแทนก็สวยดี” พูดพลางมองใบหน้างามที่ละม้ายกับภาพวาดของ หญิงสาว “เขาบอกลูกชายหน้าเหมือนแม่จะไม่อาภัพ กูก็ว่างั้นนะ มึงมีบุญ ได้กูเลี้ยงสบายจะตาย” “...” ก้อนสะอื้นติดในล�ำคอ พูดไม่ออก มีแต่น�้ำตาไหลพรู ปลายนิ้ว โป้งปาดป้ายน�้ำตาจากพวงแก้ม “ขอบคุณครับ” เสียงพูดเครือ “มีผนังบ้านให้ติดรูปอีกเยอะแยะ” คนที่ไม่ถนัดพูดหวานหูเอ่ย เงอะงะ “บ้านกูมีรูปถ่ายพอถมทะเลละ”


หากหยุดน�ำ้ ตาได้ เทพยศก็อยากหยุด ร่องแก้มเปียกชืน้ แม้จะมีนวิ้ แข็งช่วยเกลี่ย “ผมไม่ได้อยากร้องนะ” “อยากร้องก็ร้องไห้พอเถอะ ความเจ็บปวดมันท�ำให้เรายังรู้สึกเป็น คนมีเลือดเนื้อ มีหัวใจ” ภาพตะวันพูด “มันยากตรงไหนที่จะบอกว่าตัวเอง เสียใจ ทรมาน” เทพยศไม่ได้ตอบ “ซบอกกูได้นะ กว้างพอซับน�้ำตามึงได้อยู่หรอก แล้วก็ไม่เอามาล้อ ด้วย” รอยยิ้มอ่อนหวานแต้มบนดวงหน้าคมคาย หัวใจที่คล้ายมีน�้ำแข็ง เกาะนั้นหลอมละลายด้วยความอบอุ่นที่ชื่อว่า ‘ตะวัน’ สุดปลายทางเขาไม่รู้ ว่ามันจะเป็นอย่างไร หากแต่เขาค้นพบแล้วว่า คนตรงหน้าคือคนทีเ่ ขารอทีแ่ ท้ จริง *****************


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.