With Wing of Love SP
รอยใจในสายหมอก
With Wing of Love SP รอยใจในสายหมอก โดย Rain-at-Rose สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
Genre Editor Book Design
Contac Us
Romantic เสี้ยวดอกขาว เสี้ยวดอกขาว
http://www.navarattashop.com/ http://navaratta.thai-forum.net/ https://www.facebook.com/Navaratta navarattaboard@hotmail.com
พิมพ์ครั้งที่ 1 เมษายน 2558 Not for sale นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ ทั้งสิ้น
รอยใจในสายหมอก
กาฝาก
ค�ำสัง่ เสียครัง้ สุดท้ายในพินยั กรรมของคุณปูท่ ำ� ให้เขาได้ของแถมโดยทีไ่ ม่ อยากได้สักนิด...ของแถมนั่นเป็นคนที่ถูกเรียกได้ว่า ‘ชู้รัก’ ของคุณปู่ “ผมต้องดูแลเขา?” สิริภาส หรือ ‘คุณภาส’ จ้องชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ใบหน้าออกหวานคมที่เข้ามามีส่วนร่วมในการเปิดพินัยกรรมในวันนี้ตาปริบๆ “ครับ เป็นค�ำสั่งเสียครั้งสุดท้าย...ของคุณทิศา” ทนายความวัยกลางคน บอก “ถ้าคุณภาสทอดทิ้งคุณหมอก ก่อนที่จะจบการศึกษา นอกจากหุ้นที่คุณทิศา ยกให้คุณหมอกแล้ว ทรัพย์สินทั้งหมดก็จะตกเป็นของคุณหมอกแทนครับ” ทรัพย์สินทั้งหมดที่ว่าคือห้างสรรพสินค้าชั้นน�ำหลายเครือที่ปู่เขาเป็นผู้ บุกเบิก สิรภิ าศเหลือบตามอง ‘คุณหมอก’ หรือ ‘อวัศยา’ ด้วยสายตาพินจิ พิเคราะห์ ยิ่งขึ้น ชายหนุ่มที่เขาเพิ่งเคยพบเมื่อหนึ่งปีก่อนจะเสีย คลุกคลีกับปู่เขาอย่างใกล้ ชิด อยู่ร่วมบ้านกับเขาโดยที่เขาต้องหนีไปอยู่กับย่า เพราะไม่อยากเห็นภาพน่า สะอิดสะเอียน กระทั่งสิ้นไปด้วยอาการโรคหัวใจก�ำเริบ ซึ่งหลายคนบอกเขาว่า คุณปู่ตายคาอกหนุ่มน้อยหน้ามนคนนี้ ชายหนุม่ ที่ร้วู ่าถูกมองคลีย่ ิ้มเบาบางตอบ ท�ำให้สายตาคมเบือนหนีอย่าง ไม่พอใจ นัน่ เป็นจุดเริม่ ต้นอันแสนจะคลุมเครือระหว่างเขากับคนทีถ่ กู เรียกว่า ‘ชูร้ กั ’ ของปู่ 5
รอยใจในสายหมอก
“ถ้าฉันจะขอซื้อหุ้นคืน เธอจะขายฉันไหม” สิรภิ าสคุยกับอวัศยาตรงไปตรงมา หลังจากรับรูข้ อ้ ความในพินยั กรรมนัน้ แล้ว ชายหนุ่มก็พาร่างสูงโปร่งมาทานอาหารญี่ปุ่น โดยเลือกห้องวีไอพีเพื่อความ เป็นส่วนตัว อวัศยาไม่ตอบในทันที มือเรียวจับตะเกียบคีบปลาดิบชิ้นโตเข้าปาก ลิ้ม รสชาติของอาหารช้าๆ คนรอฟังค�ำตอบออกจะหงุดหงิดกับอาการเล่นตัวของอีก ฝ่าย จึงเสยกแก้วชาเขียวร้อนขึ้นจิบ “ถ้าผมไม่ขายละครับ” ชายหนุ่มหน้ามนย้อนถาม “เธอมีสทิ ธิอ์ ะไรกับสิง่ ทีป่ ฉู่ นั ขวนขวายมาด้วยหยาดเหงือ่ แรงงานล่ะฮะ” ว่าจะไม่หัวเสีย แต่เห็นท่าทีไม่ยินดียินร้ายแบบอ้อยเข้าปากช้างแล้ว สิรภิ าสก็อดจะเสียดสีไม่ได้ คนทีอ่ อ่ นวัยกว่ากลับละเลียดอาหารจนกลืนปลาดิบชิน้ สุดท้ายแล้วบอก “ผมว่าผมมีสิทธิ์มากกว่าที่คุณคิดครับ แต่จะเป็นสิทธิ์ไหน รบกวนไปหา ค�ำตอบเอาเอง” ค�ำตอบเล่นลิ้นจนชายหนุ่มที่คิดว่าเย็นได้ส�ำรากค�ำพูดหยาบคาย “ใช้วธิ หี น้าตัวเมียละสิ ออดอ้อนปูย่ งั ไงฮะถึงท�ำให้ทา่ นยกสมบัตใิ ห้ได้นะ่ ” สีหน้าใสยังคงรอยยิ้มแย้ม “เอาไว้คุณภาสก็คอยดูสิครับขอบคุณที่เลี้ยง อาหาร ผมกลับมหา’ลัยก่อนนะครับ ช่วงนีม้ งี านกีฬา อาจจะค้างคืนกับเพือ่ นหลาย คืนนะครับ คงไม่กลับ บอกไว้เดี๋ยวจะห่วง” เอ่ยจบก็ลกุ ขึน้ โดยไม่ยกมือไหว้ตามมารยาทอันควร ทิง้ ให้คนแก่วยั กว่า ฮึดฮัดขัดใจกับคนร่วมบ้านที่ต้องดูแลตลอดชีวิต ดึกแล้วสิริภาสยังไม่นอน เขาอาบน�้ำเรียบร้อยก็ลงมาที่ห้องนั่งเล่น เจอ แม่บ้านก�ำลังทยอยปิดประตู เขาจึงเอ่ยถามหาคนที่ไม่เจอหน้าค่าตาหลายวันจน ไม่มีเวลาเกลี้ยกล่อมขอซื้อหุ้นคืน “หมอกกลับมาหรือยัง” “ยังเลยเจ้าค่ะ ช่วงนี้คุณหมอกว่าเธอไปค้างบ้านเพื่อน วันนี้คงจะเสร็จ งานของมหาลัย เอ...คุณหมอกเธอไม่บอกคุณผู้ชายหรือเจ้าคะ” แม่บ้านรายงาน 6
Rain-at-Rose
พร้อมถามอย่างฉงน “บอกแล้วละ แต่ยังไม่เห็นกลับมาสักที ช่างเถอะ ไปนอนเถอะไป เดี๋ยว ฉันรอเขาเอง” เจ้านายสัง่ เมตตา เธอจึงขอบคุณแล้วรีบออกจากตึก ทิง้ ร่างสูงทรุดนัง่ บน โซฟานุ่มหนาและโน้ตบุ๊กอีกหนึ่งตัว เพื่อท�ำงานรอเด็กในปกครอง จนกระทั่งเที่ยงคืนเขาถึงเห็นคนที่รอพบเข้ามาด้วยสภาพที่...ชวนอึ้ง สิริภาสละมือจากแป้นพิมพ์ ลุกขึ้นไปดักหน้าคนที่ก้าวยาวๆ หลบเขาอย่างจงใจ “ไม่ยักรู้ว่าชอบเป็นเพศตรงข้ามตัวเอง” สิริภาสทักทาย อวัศยาหน้าบึ้ง อุตส่าห์กลับดึกดื่นแล้วแท้ๆ แต่กลับมาเจอคนที่ไม่อยาก พบหน้ามากที่สุด “งานมหา’ลัยน่ะครับ” เขาบอกเรียบเฉยพลางมองชุดที่ไม่มีเวลาเปลี่ยน ชุดที่ใส่เป็นชุดนักศึกษาหญิงกับมินิสเกิร์ตสั้นจู๋ “มิน่าปู่ฉันถึงติดใจ วิธีหน้าตัวเมียแบบนี้นี่เอง” รอยยิ้มพาดหยันบน ริมฝีปาก “ย่าของฉันท่านยังไม่รู้เรื่องของเธอ ดังนั้นเรามาตกลงกันแบบแฟร์ๆ จะ ดีไหม” ยังไม่มีใครปูดให้คุณย่าที่ไปอยู่บ้านสวนเพราะเบื่อหน่ายความเจ้าชู้ของ สามีรับรู้ถึงอารมณ์ใคร่ที่กลับกลายว่าปู่เลี้ยงต้อยเด็กหนุ่มไว้บ�ำเรอกามนอกจาก สาวๆ สิรภิ าสสัง่ ห้ามเด็ดขาดและจะเอาโทษถึงทีส่ ดุ หากใครคายความลับนีอ้ อกไป อวัศยาเหลือบสายตามองผู้ชายที่พูดจาดูถูกตนซึ่งหน้า เขาเอ่ยปฏิเสธ “ผมเหนื่อยแล้วครับ ไม่ขอคุยตอนนี้ อ้อ ถึงยังไง ผมก็ไม่ขายหุ้นให้คุณครับ มัน เป็นสิทธิ์ของผม” เอ่ยจบก็เลี่ยงขอตัวขึ้นห้อง แต่มือหนาคว้าต้นแขนบีบแน่น “บ้าน...ฉันจะซื้อให้ ส่วนหุ้น เอาแบบไม่ใช่ราคาพาร์ ฉันจะซื้อให้สูงกว่า ค่าของมัน เอาสมบัติของตระกูลฉันมา” หนุ่มน้อยยิ้มแย้มใส่หน้าอย่างไม่เกรงตาเสือ “ไม่รังเกียจหรอกครับ ถ้า คุณจะซื้อบ้านให้ผมอีกหลัง ซื้อเมื่อไร ผมรอเซ็นรับโอนนะครับ อ้อ คุณทิศาบอก ให้ผมอยูท่ นี่ จี่ นกว่าจะพอใจ ผมรักษาสัญญากับท่าน ตอนนีผ้ มไม่พอใจจะย้ายครับ” สิริภาสขบกรามกรอดที่ถูกเด็กเมื่อวานซืนลูบคม สมองวิ่งเร็วจี๋ คิดแผน 7
รอยใจในสายหมอก
บีบคั้นที่ผุดวาบ สองมือจึงรั้งร่างโปร่งเข้ามาใกล้ กระชากลงบนโซฟา แล้วล้วงมือ ใต้กระโปรงสั้นที่ร่นขึ้น “ได้...งั้นมาดูกันว่าใครจะหมดความอดทนก่อนกัน”
8
ลูบคม
อวัศยาตาเบิกโต ยามมืออุ่นระอุลูบไปถึงต้นขาด้านใน “คุณภาสรังเกียจ ไม่ใช่หรือไงครับ แต่ยอมท�ำสิ่งที่เกลียดกับคนที่เกลียดนี่ ช่างลักลั่นเสียจริงๆ” เสียงนั้นเสียดสีกึ่งเยาะ หากแต่คนที่รวบมือเขาไว้แน่นแค่มือเดียวนั้น ส่ง รอยยิ้มไม่จริงใจตอบ “ใช่ รังเกียจ ไม่สิ เรียกว่าขยะแขยงเลยดีกว่า” มืออุ่นลูบโลมผิวใต้ร่มผ้า ทีเ่ นียนนุม่ ฝ่ามือ “แต่ฉนั ไม่ได้ทำ� ด้วยอารมณ์ใคร่เหมือนปูฉ่ นั นี.่ ..เพราะฉันจะข่มขืน เธอ” การลูบโลมแปรเปลี่ยนเป็นขย�ำรุนแรง เจ้าของผิวเนื้ออ่อนหน้าเบ้ด้วย ความเจ็บ ผงะหนีกรงเล็บของเจ้าบ้านหนุ่มผู้แปรเปลี่ยนตนเองเป็นซาตานร้าย “โสเภณี ไอ้ตัว หรือผู้ชายป้ายเหลือง จะให้เรียกว่าอะไรดี อ้อ แต่มันไม่ ส�ำคัญหรอก ถึงจะชินกับเรื่องอย่างว่า แต่คงไม่ชินที่จะถูกข่มขืนทุกวันใช่ไหม” “นี่คุณลงทุนลดตัวท�ำถึงขนาดนี้เลยเหรอฮะ!” อวัศยาไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ เมื่อเห็นอีกฝ่ายคลายปมชุดคลุมที่ สวมทับชุดนอนไว้ ด้วยมือข้างที่ลูบไล้ขาอ่อนเขา คราวนี้หนุ่มอ่อนวัยกว่าจึงคิดว่า ถึงคราวต้องเอาจริง “ฉันร้ายกว่าทีเ่ ธอคิดได้นะ ถ้ายังไม่ยอมเซ็นยกหุน้ กับมรดกแล้วออกจาก บ้านนี้ ไสหัวไปไกลๆ” สิริภาสตะคอกใส่ 9
รอยใจในสายหมอก
คนทีถ่ กู พันธนาการสูดลมหายใจลึก บิดข้อมือหนีแล้วลุกขึน้ ยืน แล้วสะบัด ก�ำปั้นฟาดใบหน้าของเจ้าของบ้านหนุ่มจังๆ “เก็บความถ่อยของคุณไปท�ำกับคนอื่นเถอะครับ ผมยอมนอนกับใครก็ ได้ฟรีๆ แต่ที่แน่ๆ หนึ่งในนั้นไม่ใช่คุณครับ” สิรภิ าสลูบใบหน้าซีกซ้ายปอยๆ เจ็บจนชา ความโกรธพุง่ ขึน้ จนแทบระงับ ไม่อยู่ สองมือหนาจับไหล่เล็ก เจ้าตัวเอียงไหล่หนีเพราะเจ็บ “กล้าดีนี่” “ท�ำไมจะต้องกลัวละครับ” อวัศยายอกย้อน “คุณภาส...ปล่อย ไม่งนั้ อย่า ว่าผมทีหลังนะ” ชายหนุ่มร่างใหญ่ไม่ปล่อย ยังบีบไหล่เล็กแน่นจนเป็นรอย ร่างโปร่งจับที่ รอยผ่าของกระโปรงสัน้ ฉีกแรงๆ จนมันขาดออกจากกันเพือ่ ให้กา้ วสะดวก แล้วจึง จับไหล่หนาไว้แน่น จากนั้นก็ส่งเข่ากระแทกจุดยุทธศาสตร์ที่รู้ดีว่าถ้าโดนจังๆ มี สิทธิ์สูญพันธุ์ ร่างใหญ่มือไม้อ่อน ใบหน้าคร้ามคมบูดเบี้ยว ร่วงกราวบนพื้น พร้อม กุมส่วนกลางของร่างกายไว้ ร้องโอดโอย “ผมออมแรงให้นะคุณภาส” สุม้ เสียงติดถือบุญคุณ “แล้วก็นะ ต่อให้เหลือ คุณเป็นคนสุดท้ายบนโลก ผมก็ไม่นอนกับคุณ!” เอ่ยจบก็สาวเท้าเร็วๆ ขึ้นบนห้อง ทิ้งเจ้าบ้านหน้าเขียวหน้าด�ำ แค้นจัด จนแทบกระอัก ผ่านไปเกือบสองอาทิตย์ อวัศยาอาศัยออกจากบ้านแต่เช้ามืดเพื่อหลบ เลี่ยงเจ้าบ้าน แล้วกลับค�่ำๆ มืดๆ ในช่วงเวลาที่คิดว่าสิริภาสขึ้นนอนแล้ว ไม่ก็แอบ เข้าประตูหลังที่คนใช้กับคนงานเดินเข้าออก ส่วนวันหยุด หนักเขาก็ค้างหอเพื่อน ฝูงเสีย สิริภาสเก็บตัวเงียบ ไม่มาท�ำร้ายเขาอย่างที่คิด แต่นั่นท�ำให้อวัศยากังวล เขารูผ้ ชู้ ายคนนัน้ ท�ำอะไรทีเ่ ลวร้ายกว่านีไ้ ด้เพือ่ บรรลุจดุ ประสงค์ของตัวเอง แต่เขา ก็ไม่ยอมปล่อยมือจากกองสมบัติที่เขามีสิทธิ์ครอบครอง ไม่ใช่เพราะโลภ นั่นเป็น สิทธิ์ของเขาที่เสียอะไรหลายอย่างแลกมา เขานึกชิงชังผู้ที่มอบสิ่งนี้ให้เขา จวบจน วาระสุดท้ายในชีวิตของตาแก่นั่น เขาก็ยังให้อภัยไม่ได้ “หมอก” เพื่อนหญิงในกลุ่มหน้าซีดเซียวเรียกอย่างกังวล ท�ำให้เขาต้อง 10
Rain-at-Rose
เงยหน้าจากชีทเรียนเอ่ยถาม “อะไร” ท่าทางเพื่อนในกลุ่มมีอะไรอยากถาม แต่ก็ไม่กล้า จนอีกคนเอ่ย ทะลุกลางปล้อง “มีข่าวลือว่านายขายตัว รู้ไหมนี่เม้าธ์กันให้แซดทั้งคณะแล้ว” อวัศยาเพียงเลิกคิ้ว ไม่ได้มีท่าทีแตกตื่นอย่างที่คิด “ข่าวมาจากไหน” “โอ๊ย มาจากไหนก็ช่างมันเหอะน่า ตัวก็หัดเดือดร้อนมั่งซี่ ตกลงว่าจริง ไหม เขาว่านายมีหลักฐานด้วยนะ” “หลักฐานอะไร” “จ�ำได้ไหม ตอนเราเปิดค่ายอาสาสร้างโรงเรียนบนดอยที่แม่ฮ่องสอนน่ะ เราไปขอสปอนเซอร์จากเครือห้างที่รุ่นพี่เราเป็นผู้จัดการน่ะ” อวัศยาพยักหน้าช้าๆ จ�ำได้แม่นย�ำ เพราะวันนั้น วันที่เขาไปพรีเซนต์ โครงการเพื่อขอบริจาคเงินทุน ชีวิตเขาถึงเปลี่ยนไป “นั่นแหละ แล้วเราก็ได้ทุนสนับสนุนกับของมาเพียบยิ่งกว่าปีอื่นๆ ที่เขา ได้กัน จนหลายกิจกรรมเค้าอิจฉาเราน่ะ ที่นี้มีคนว่าที่เราได้พิเศษกว่าคนอื่นเพราะ คนในชมรมอาสาฯ ขายตัวเข้าแลก เขามีหลักฐานด้วยนะเชื่อถือได้ด้วยว่า...นาย ยอมนอนกับเขาเพื่อขอทุนเพิ่ม” ไม่แปลกที่ข่าวคาวจะลงที่อวัศยาเพราะเขาเป็นเหรัญญิก และเป็นคนพรี เซนต์โครงการนี้ ซึ่งมันก็จริง ที่ตัวเขานั่นล่ะ แลกอะไรหลายอย่างจนได้ทุนมา มากมาย ถ้าเลือกย้อนเวลาได้ เขาจะยอมเขียนโครงการเสนอต่อผู้ให้ทุนรายอื่น... ไม่ใช่ที่นี่ “ข่าวลือก็คือข่าวลือ จะเดือดร้อนอะไรหนักหนา ถ้ามันจริงฉันคงดิ้นแล้ว สิ” รอยยิ้มเบาบางถูกส่งให้เพื่อนๆ ซึ่งเขาเองก็คิดว่าจบแค่ข่าวลือในกลุ่ม นิสิต แต่พอมันกระพือโหมปากต่อปาก คณบดีต้องเรียกเขาไปชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะถ้าไม่แก้ตัวหรือมีหลักฐานหนักแน่นพอ เขาคงได้ถูกพักการเรียนจนเสีย ประวัติ อวัศยาเข่นเขี้ยวในใจ รู้อยู่ว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลัง หมดเวลาหนีหน้า 11
รอยใจในสายหมอก
แล้ว มือเรียวกดต่อสายที่ถูกบันทึกไว้ในโทรศัพท์ทันที “คุณภาสคะ โทรศัพท์ค่ะ จากคุณอวัศยา” เลขาสาวก�ำลังโอนสาย แต่ สิริภาสส่ายศีรษะ “สายนี้ผมไม่รับนะ” เลขาสาวแจ้งว่าเธอได้รับโทรศัพท์ไม่ต�่ำกว่าห้าสาย ต้องบอกคนโทรมา ซ�้ำๆ ว่าเจ้านายไม่เรียนสายด้วย อีกฝ่ายจึงแพ้ไปเอง สิริภาสยกยิ้มสาแก่ใจ เห็นเค้าความพิบัติของอีกฝ่ายร�ำไร เขานึกอยู่ว่า เด็กนั่นสะดุดตาปู่ได้อย่างไร ที่แท้ก็โครงการค่ายอาสาที่ปู่เขาด�ำเนินการมาเกือบ จะยี่สิบเอ็ดปีนั่นเอง ได้ข่าวว่าเด็กนั่นมาพรีเซนต์โครงการที่บริษัท แต่คงท�ำหลาย ท่า ท่านประธานใหญ่ถึงติดใจ อนุมัติงบประมาณเกินหน้าเกินตาค่ายอาสาฯ อื่นๆ เขาถึงมีเรือ่ งให้เล่นงานอีกฝ่ายแม้จะกระทบต่อภาพลักษณ์บริษทั ก็ตาม แต่แลกกับ การแก้แค้นที่บังอาจท�ำร้ายกล่องดวงใจเขา แค่นี้ถือว่าไม่เสียเยอะ อวัศยากลับคฤหาสน์ที่ใช้เป็นที่ซุกหัวนอน อดทนรอคอยเจ้าบ้านกระทั่ง ดึกนั่นล่ะ ถึงได้เห็นหน้าสิริภาสซึ่งรู้จากแม่บ้านที่โทรไปรายงาน เขาจึงถ่วงเวลาที่ ผับประจ�ำ เอาคืนเรือ่ งทีอ่ กี ฝ่ายกล้าหลบหน้าเขาบ้าง เมือ่ เห็นเขาปุบ๊ ร่างโปร่งทีย่ งั แต่งชุดนิสิต เดินมาหาเขาพลางถาม “คุณจะระรานผมไปถึงไหน” ดวงตากลมเหมือนแมวเปอร์เซียวาววับ มือ ก�ำเข้าหากันแน่นราวกับใช้ระงับอารมณ์ไม่ให้กางกรงเล็บประทุษร้าย สิริภาสแย้มยิ้มยียวน “ออกไปจากบ้านฉัน ชีวิตฉัน แล้วคืนสมบัติของ พวกฉันมา” “อยากได้นักไม่บอกคนที่ให้มาล่ะว่าอย่ายกอะไรให้ผมทั้งนั้น เคาะโลง บอกตอนนี้ก็ได้นะ” อวัศยาหมดความอดทน ดวงตาคมหรี่ลง อารมณ์ไม่คงที่จากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เจือในร่าง เขาไม่ พอใจทีไ่ อ้ตวั ของปูห่ ยามหมิน่ ปูท่ เี่ ขารักเคารพ อุม้ ชูแทนบิดามารดาทีเ่ สียชีวติ พร้อม กันจากเหตุการณ์เครือ่ งบินตกตอนทีท่ งั้ สองไปเจรจาธุรกิจ บุตรชายเพียงคนเดียว 12
Rain-at-Rose
สิ้นไปพร้อมสะใภ้ ทิ้งไว้แต่หลานชายก�ำพร้า ปู่จึงทุ่มเททุกอย่างเพื่อเขา “เธอกล้าล�้ำเส้น” “ท�ำไมจะไม่กล้า” หนุ่มหน้ามนเถียงทันควัน “ทีคุณยังเล่นขี้โกงได้เลย กะอีแค่เศษเงินของคุณ หวงอะไรหนักหนาฮะ” “ฉันหวงสมบัตทิ กุ อย่างทีพ่ วกฉันใช้หงาดเหงือ่ แรงงานหามา ไม่ใช่เอามา บ�ำเรอไอ้ตัวอย่างเธอ” “ผมได้มาโดยชอบธรรม คนเต็มใจยกให้ ไม่ได้ไปบังคับให้เซ็น ถ้าอยาก ได้นัก ไปคุยกับทนายของผมเอา” กรามขบเข้าหากันแน่น เมื่ออีกฝ่ายสะกิดอารมณ์คุกรุ่น ที่เล่นงานทาง กฎหมายยาก เพราะอวัศยามีทนายของปู่ปกป้องสิทธิ์ให้เต็มที่ ไม่รู้คนหน้าซื่อใส ปรนเปรอท่าไหนให้ทนายนั่น ถึงจงรักภักดีหนักหนา “ฉันอยากจะรู้ เธอมีอะไรดี ตาแก่ทั้งหลายถึงปลื้มนัก” “ลีลามั้ง” อวัศยาตอบสะบัดประชดประชัน มือหนาบีบไหล่เขาแน่น แต่คราวนี้สิริภาสไม่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายท�ำร้าย เขาได้ “ขอให้ยอมถอยดีๆ ไม่ชอบใช่ไหม” ชายหนุ่มที่ใช้ไม้อ่อนไม้แข็งบังคับให้ อีกฝ่ายยอมเซ็นยกหุ้นใช้วิธีการรุนแรง ชกท้องน้อยอีกฝ่าย แล้วแบกขึ้นบ่า “คราวก่อนเธอท�ำร้าย ‘มัน’ แต่คราวนี้... ‘มัน’ จะท�ำร้ายเธอ” เสียงหัวเราะเย็นเยียบก้อง ร่างสูงเปิดประตูห้องนอนอันเป็นอาณาเขต ของตนเอง แล้วโยนร่างที่จุกจนพูดไม่ออกบนเตียง
13
ใครร้ายกันแน่
“คุณภาส...” อวัศยาครางอย่างอ่อนแรง มือกุมทีห่ น้าท้อง ขดตัวงอ “อย่า ท�ำแบบนี้ ถ้าคุณไม่อยากเสียใจ” น�้ำเสียงบอกขาดเป็นห้วงๆ “งั้นก็ขายหุ้นให้ฉัน ฉันจะซื้อในราคาเทรดให้” ร่างสูงเอนตัวลงนอนตะแคงเคียงข้างโดยใช้แขนเท้าใบหน้า อีกข้างยึด ปลายคางมนไว้ ดวงตาฉายความมุ่งร้าย อวัศยาหลับตาลง น�้ำตาเอ่อคลอแต่พยายามข่มมันไม่ให้ไหล ค่อยๆ สูด ลมหายใจ แล้วเอ่ยหนักแน่น แม้จะแผ่วเบาก็ตาม “ไม่ครับ” ดวงตาคูค่ มวาวโรจน์เรืองรองราวจะลุกเป็นไฟ “เธอยึดติดอะไรหนักหนา กับสิ่งที่ไม่ใช่ของเธอ ฉันว่าฉันแฟร์แล้วนะที่ขอซื้อราคาเทรดน่ะ แค่เงินค่าขายหุ้น เธอก็กินใช้ไม่หมด” “มันเป็นสิทธิ์ของผม” อวัศยาย�้ำ “หมอก!” ครัง้ แรกกระมังทีไ่ ด้ยนิ ชือ่ ตัวเองชัดหู “เธอบังคับให้ฉนั ต้องร้าย กับเธอเองนะ” ร่างสูงผุดลุกขึน้ ขึงร่างคนทีง่ อก่องอขิงด้วยเนกไทมัดแบบเงือ่ นตาย จาก นั้นก็ปลดกระดุมชุดนิสิตทีละเม็ดจนครึ่งแถว “ถ้ารูปเธอถูกปล่อยบนเวบบอร์ดมหา’ลัยจะเป็นยังไงนะ” “ได้โปรด...คุณภาส อย่าท�ำแบบนั้น” 14
Rain-at-Rose
น�ำ้ ตาทีไ่ ม่ได้รนิ ไหลมาตลอดเวลาหลายปีทะลักเป็นสาย เขาหนีไม่ได้ ช่วย เหลือตัวเองก็ไม่ได้ แต่ถ้าต้องตกเป็นของผู้ชายคนนี้ อวัศยาทนไม่ได้ “คุณภาส...” น�้ำเสียงแผ่วเครือวิงวอน “คุณจะเสียใจ อย่าท�ำแบบนี้...” “ฉันไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้ว” สิริภาสตอบอย่างไร้ความ เมตตา “เปลี่ยนค�ำตอบของเธอไหม บางทีฉันก็อาจจะเปลี่ยนใจก็ได้” ดวงตาทีว่ าวด้วยหยาดน�ำ้ ตานัน้ เปล่งประกายเรืองรอง ตอบช้าชัด “ไม่... ถ้าคุณภาสอยากได้มันคืนก็ต้องฆ่าผมให้ตายแล้วล่ะ” สิริภาสหัวเราะเบาๆ “ตายก็จบ ง่ายดี แต่มันไม่สมกับความดื้อด้านของ เธอ...ฉันยอมมองคนที่ดิ้นรนทุรนทุรายตายทั้งเป็นมากกว่า” อวัศยาปิดปากเงียบ โต้ตอบไปก็รังแต่จะเข้าเนื้อ อาการเจ็บจุกบรรเทา ลง ทว่าก็พาตัวเองหลุดจากเนกไทไม่ได้ สิริภาสมองดูการดิ้นรนเพื่อหนีให้พ้นเงื้อมมือเขา น�้ำเสียงวิงวอน ดวงตา นองน�้ำตา ใบหน้าขัดใจยามที่รู้ว่าหนีไม่พ้นนั้นก่อให้เกิดอาการคันระคายในหัวใจ แบบแปลกๆ จนต้องเบือนสายตาหนี แล้วลุกขึ้นไปอาบน�้ำอาบท่า ออกมาอีกครั้ง ก็เห็นเตียงยับย่นจากการดิ้นรนหนีของอวัศยา “ฉันว่านอนกับฉันมันดีกว่านอนกอดเนือ้ เหีย่ วๆ ของพวกตาแก่นะถึงฉัน จะข่มขืนเธอก็เถอะ” สิริภาสอดพูดไม่ได้เพราะหมั่นไส้อาการสะบัดสะบิ้งของอีก ฝ่าย “ผมยอมนอนกับตาแก่หนังเหี่ยวมากกว่าคุณครับ” อวัศยาไม่อ้อนวอน แล้ว แค่ให้อีกฝ่ายเห็นน�้ำตาก็เสียศักดิ์ศรีที่ยึดมั่นถือมั่นมาตลอดชีวิต “ใครบอกว่าเธอต้องยอม ฉันบังคับเลยล่ะ” ร่างสูงที่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวจับเรียวขาแยกออกกว้าง แล้วปลดเข็มขัด ดึงกางเกงสแลกพร้อมกางเกงในออกมา ชืน่ ชมเรือนร่างอีกฝ่ายผ่านสายตาวาววาม ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกันก็ตาม “หุ่นดีนี่” ชายหนุ่มเอ่ยชม “ค่อยกอดลงหน่อย” อวัศยาดิ้นรนหนีซึ่งปลุกอารมณ์กระสันของสิริภาส ที่ยกสะโพกสอบได้ รูปขึ้นสูง แล้วจดจ่อความแข็งแกร่งที่ร่องหลืบโดยไร้การหล่อลื่น ชายหนุ่มหน้ามน 15
รอยใจในสายหมอก
ตาเบิกโพลง พอถึงที่สุดแล้วเมื่อหนีไม่ได้ เขาก็ตัดสินใจอย่างที่มั่นใจกว่าครั้งไหน ในชีวิต อารมณ์ของสิริภาสลดฮวบยามเห็นเลือดทะลักจากปากของอีกฝ่าย เขา ลนลานหาผ้าสะอาดยัดใส่ปากไม่ให้อีกฝ่ายกัดลิ้นตัวเองอีก ร่างสูงเดือดดาลทั้งตัว เองกับคนที่ยอมท�ำร้ายตัวเองเพื่อหยุดเขา อะไรที่ท�ำให้อวัศยายึดมั่นถือมั่นกับมรดกชิ้นสุดท้ายของปู่ ทั้งที่ถ้าขาย ให้เขาในราคาเทรดอีกฝ่ายก็ได้กำ� ไร แต่...ส่วนลึกสิรภิ าสยอมรับกับตัวเองว่าเจ็บใจ ที่คนคนนี้กล้าปฏิเสธผู้ชายที่สมบูรณ์แบบอย่างเขา
16
หลงรัก
เพราะอวัศยาลงทุนท�ำร้ายตัวเอง จึงต้องเข้าโรงพยาบาลแถมยังพูดไม่ได้ หลายวันเนื่องจากแผลที่ลิ้นค่อนข้างสาหัสเอาการอยู่ คนที่เหมือนเป็นตัวต้นเหตุอย่างสิริภาสเลยใจอ่อนลงเล็กน้อย ยอมเลิก เล่นเกมแบล็กเมล์ เขาบอกตัวเองว่าก็เพื่อรักษาภาพพจน์บริษัทด้วย ร่างสูงก็ไม่ เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าคนที่งานยุ่งอย่างเขา กลับปรากฏตัวที่หน้าห้องพักฟื้น ของชู้รักปู่พร้อมของเยี่ยมเต็มไม้เต็มมือได้อย่างไร ระหว่างหาเหตุผลให้ตัวเอง มือก็ผลักประตู คนเจ็บเหลือบมองแล้วเบือน หน้าหนีเมือ่ เห็นว่าเป็นแขกไม่ได้รบั เชิญ มือหนาวางตะกร้าซึง่ แม่บา้ นจัดของบ�ำรุง มาให้หลายอย่างบนโต๊ะข้างเตียงแล้วทรุดนั่งข้างๆ “เป็นไง เจ็บใจสินะที่ไม่ตายสมใจ” สิริภาสถามห้วนๆ อวัศยาไม่สามารถตอบได้ เพียงแค่ใช้สายตาถลึงใส่ ทีแ่ ปลความหมายได้ ชัดเจนว่าไม่อยากให้ยุ่งเกี่ยว “อืมม์ พูดไม่ได้ก็ดีอย่างนะ ฉันจะได้ไม่ต้องทนฟังเสียงเธอ” เนื่องจากแผลยังสดใหม่ การจะอ้าปากเอ่ยแต่ละทีล�ำบาก ดวงตากลมยิ่ง โตเหมือนเวลาแมวขู่ฟ่อ สิรภิ าสหัวเราะหึๆ พลางหยิบแอปเปิลสีแดงน่ากินมาปอกเป็นชิน้ เข้าปาก ตัวเองต่อหน้าต่อตาคนเจ็บที่เขารู้จากปู่ว่าอีกฝ่ายชอบผลไม้ชนิดนี้นักหนา 17
รอยใจในสายหมอก
“กรอบ หวานด้วยแฮะ” อวัศยาขึงตาใส่คนที่รับประทานผลไม้ของโปรดอวดต่อหน้า เหลือบมอง ในตะกร้าก็มีแต่ของที่เขาชอบทั้งนั้น ปกติไม่นึกอยากจะขวนขวายมากิน แต่ยาม ที่ไม่สามารถกินมันได้ ของเหล่านี้กลับน่าอร่อยขึ้นมาเป็นเท่าตัวทันที ส�ำหรับนักธุรกิจหนุ่ม เขาเพิ่งค้นพบว่า การได้กลั่นแกล้งรังแกชู้รักของปู่ ให้ออกอาการแดดิ้นได้ เขามีความสุขอย่างบอกไม่ถูก “ขอบใจที่ท�ำให้เห็นฤทธิ์ ฉันจะได้ไม่ต้องเปลืองแรงปราบพยศ อ้อ คราว หน้าฉันจะหา ball gag1 มาให้กัดแทนนะ” ค�ำพูดยียวนนัน้ ส่งผลให้คนป่วยโมโหจัด หยิบหมอนปาใส่หน้าคนมาเยีย่ ม แล้วเค้นเสียงไล่ “ออกไอ!” แม้จะเจ็บจนน�้ำตาเล็ด แต่อวัศยาก็ฝืนสังขารไล่ เพราะไม่อยากทนฟัง เสียงเสียดสีอยู่ฝ่ายเดียว สิริภาสส่งเสียงหัวเราะ “ไม่ต้องไล่หรอกน่า เจียมสังขารไว้บ้าง มะรืนนี้ ออกจากโรงพยาบาลใช่ไหม เดี๋ยวฉันมารับ” มือหนาถือหมอนไปวางไว้บนเตียง บอก...ไม่สิ ‘สั่ง’ เรียบๆ แล้วไม่รอให้ อวัศยาปฏิเสธ ก็กลับออกไป ทิ้งคนเจ็บระบายอารมณ์ใส่หมอนใบนั้นตามล�ำพัง สริภาสรู้สึกชอบกับสถานการณ์แบบนี้ ในยามที่อวัศยาต้องมาพักฟื้นอยู่ บ้าน ที่น่ารื่นรมย์ที่สุดคือการเห็นท่าทางระแวงหวาดของหนุ่มน้อยที่หาทางรับมือ สงครามประสาทในยามทีเ่ ขาพูดกระแนะกระแหน อีกฝ่ายพูดตอบโต้ไม่ได้ นอกจาก ส่งตาขวาง ไม่กข็ งึ ตาใส่ หนักๆ เข้าก็ออู้ ดี้ า่ ไม่รเู้ รือ่ งค�ำสองค�ำแล้วก็เจ็บทัง้ กายและ ใจเอง กระนัน้ ...ในยามทีเ่ ห็นชูร้ กั ของปูน่ �้ำตาคลอ ชายหนุม่ ก็มอี าการเจ็บแปลบใน หัวใจเหมือนมีเข็มเล็กทิ่มต�ำ “อ้าปากสิ” สิรภิ าสสัง่ เมือ่ อยูก่ นั ตามล�ำพัง แม่บา้ นน�ำอาหารกลางวันมา ตั้งโต๊ะในสวนตามค�ำสั่งเจ้านายก็รีบออกไป 1
บอลคาบปาก อุปกรณ์ BDSM
18
Rain-at-Rose
อวัศยาที่ถูกบังคับให้มาร่วมโต๊ะกับคนที่ร้อยวันพันปีไม่กลับมาทานข้าว ที่บ้าน แต่วันนี้กลับโผล่หน้ามาหลังเขาออกจากโรงพยาบาลได้สามวัน แถมยังสั่ง ให้มาร่วมโต๊ะ ทัง้ ทีเ่ มือ่ ครัง้ คุณทิศายังมีชวี ติ อยูเ่ คยบอกไว้วา่ เห็นหน้าเขาแล้วพาน ทานข้าวไม่ลง ค�ำสัง่ ห้วนนัน้ ไม่ได้รบั การปฎิบตั ใิ นทันที คนทีช่ นิ กับการสัง่ จึงฉวยปลาย คางมนหมับ บีบแก้มนุม่ แน่นจนอวัศยายอมเผยอปากขึน้ ดวรตาคมกวาดมองเรียว ลิน้ ทีเ่ ป็นรอยแผลสียงั แดง แต่นา่ จะหายดีในเร็ววันก็ปล่อย จากนัน้ เขาก็ดงึ ชามซุป ทีม่ ฝี าปิด มาเปิดฝากระเบือ้ งออก ซุปไก่ใส่ครีมแบบข้นส่งกลิน่ หอม ชายหนุม่ หยิบ ช้อนคนให้อุ่น อวัศยาเหลือบตามองคนที่แย่งอาหารกลางวันของตนหน้าด้านๆ ทั้งที่มี ข้าวคลุกกะปิชาววังหน้าตาน่ากินตามที่สริ ิภาสสั่งว่าอยากกิน แต่ก็ยังแย่งของของ เขา มือหนายกช้อนขึ้นจ่อปากชิม พอใจแล้วก็ตักอีกครั้งยื่นไปตรงหน้าอวัศ ยา “กินสิ” สิริภาสสั่ง อวัศยาเบือนหน้าหนี บอกอู้อี้ “อมอินเองอ้าย” นักธุรกิจหนุม่ ดึงดัน ท�ำหน้าร�ำคาญ “พูดไม่รเู้ รือ่ ง จะกินไหม ไม่กนิ ก็อด” อวัศยาคร้านจะต่อล้อต่อเถียงไม่รจู้ บก็ยอมอ้าปากรับซุปอุน่ พอดีเข้าปาก ซึ่งคนป้อนมีท่าทางพอใจ ยกถ้วยซุปป้อนอีกราวกับอีกฝ่ายเป็นเด็ก สิริภาสปล่อย ให้กินดีๆ ครึ่งถ้วย ก็ยิ้มกริ่ม ตักซุปจ่อปากที่อ้ารอรับ พออวัศยาจะกิน ก็ดึงช้อน หนีจนซุปกระฉอก คนถูกแกล้งตาวาว อิ่มไม่อิ่มไม่รู้ ก่อนที่จะหมดความอดทนคว�่ำโต๊ะ ร่างโปร่งก็ลุกขึ้นเพื่อหนีเข้าบ้าน แล้วบอกตัวเองว่าค่อยไปหาอะไรกินทีหลัง ท่ามกลางเสียงหัวเราะไล่หลังมา ซึ่งเขาเดินคอตั้ง หน้าเชิด ไม่หันไปดูให้ตัวเอง เจ็บใจ ...แต่ถ้าอวัศยาเอี้ยวตัวไปมอง เขาจะเห็นคนขี้แกล้งตักซุปที่เหลือกินด้วย ช้อนเดียวกันอย่างไม่รังเกียจสักนิดเดียว
19
คืน
อวัศยารูส้ กึ ผวากับอาการ ‘คุม้ ดีคมุ้ ร้าย’ ของสิรภิ าส เขาไม่แน่ใจว่านีเ่ ป็น สงครามประสาททีอ่ กี ฝ่ายจงใจก่อเพือ่ กดดันเขา ระหว่างทีเ่ ขารักษาอาการบาดเจ็บ ยาม ‘คุม้ ดี’ นักธุรกิจหนุม่ จะปลีกเวลามากินข้าวด้วย หลอกล่อเอาใจเขาสารพัด แต่ พอ ‘คุ้มร้าย’ ค�ำต่อว่า เสียดสีประชดประชันก็ตามมา จนเขาเอือมระอาเต็มทน หนักเข้าก็อยากพูด ‘เรื่อง’ ที่เก็บง�ำไว้ในจิตใจ แต่ก็ต้องกล�้ำกลืนมันลงไป เหนือสิ่งอื่นใด เขายอมรับว่ากลัวสิริภาสล�้ำเส้นเพื่อข่มขืนเขา ความหวั่น หวาดค่อยๆ แทรกซึมความดึงดัน ที่ยึดเหนี่ยวรั้งสมบัติของตาแก่นั่น จนเขาคิดว่า ถึงเวลา...ต้องปล่อยมือ พอขบคิดได้และแผลบนลิ้นเริ่มหายดี อวัศยาก็ติดต่อ ทนายความที่ปกป้องผลประโยชน์ของเขาจากเสือร้ายที่ชื่อ ‘คุณภาส’ “เห็นว่าคุณหมอกเข้าโรงพยาบาล เพราะแบบนี้หรือเปล่าครับ คุณถึง ตัดสินใจยกหุ้นคืนคุณภาส ถ้าคุณภาสเธอท�ำร้ายร่างกายคุณ ผมสามารถฟ้องร้อง ให้ได้นะครับ ไม่ต้องกลัว” ทนายความถามไถ่อย่างห่วงใย ชายหนุ่มส่ายศีรษะ “ผมท�ำร้ายตัวเองน่ะ” อวัศยาบอกเรียบๆ “เขาต่อย ตีผม ผมไม่กลัวหรอกครับ แต่เขาล�้ำเส้นเกินไป...ผมทนไม่ได้” “คุณหมอกตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม” ทนายความวัยกลางคนเอ่ยถามชายหนุม่ ทีเ่ จ้านายให้ความเอือ้ เอ็นดูทเี่ ขา เพิ่งทราบเหตุผลตอนท่านจะแก้พินัยกรรมก่อนสิ้นใจ 20
Rain-at-Rose
อวัศยาทอดสายตาข้ามไหล่มองผนังห้อง “ของทีเ่ ขาให้ ความจริงมันก็ ไม่ใช่ของของผมแต่แรกแล้ว...ผมไม่อยากได้มันทดแทนสิ่งที่ผมเสียไปหรอกครับ ก่อนที่คุณภาสกับผมจะเสียใจไปมากกว่านี้ ผมต้องคืนของที่คุณภาสอยากได้ไป” “คุณหมอกขายคืนแค่หนุ้ บางตัวก็ได้นคี่ รับ ให้คณ ุ ภาสเป็นคนถือหุน้ สูงสุด เขาคงไม่กวนคุณแล้ว” ทนายความพยายามเกลี้ยกล่อม แต่อวัศยายืนยันค�ำตอบเดิม ชายวัย กลางคนจึงทอดถอนใจ “แล้วคุณหมอกจะใช้ชีวิตต่อยังไง” “เคยอยู่ยังไง ผมก็อยู่แบบนั้นละครับ” เขาเคยอยู่ได้ ท�ำไมต่อไปเขาจะ ยืนด้วยขาตนเองไม่ได้ ก่อนที่ใครสักคนจะเสียใจ เขาต้องไป ตกบ่ายแก่ๆ อวัศยากลับคฤหาสน์ หลังจากครุ่นคิดแผนอนาคตของตัว เอง เขามาพบสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงและไม่อยากเจอ แต่หนีไม่ได้หลบไม่พ้น เพราะเดินเหยียบปัญหาด้วยตัวเอง “คุณสร้อย...” ชายหนุ่มคอแห้งผาก น�้ำลายเหนียวหนึบเมื่อพบ ‘สร้อยสอาง’ ย่าของ สิริภาสและคู่ชีวิตของทิศา ที่มาเยี่ยมหลานชายกะทันหันโดยไม่บอกเจ้าตัว ตัวคุณสร้อยสอางเองก็ดูจะช็อกเมื่อเห็นเขาเช่นกัน นางอ้าปากค้าง คล้ายๆ จะพูดอะไรบางอย่างแต่พูดไม่ออก คนอ่อนวัยกว่าอยากหายตัวได้ในนาที นี้ เขาไม่ควรเจอนาง...ตามค�ำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับตาแก่นั่น และนางเองก็ไม่ควรรู้ ว่าเขามีตัวตน! “นังชอกการี่” ค�ำค�ำหนึ่งหลุดออกจากปากหญิงชรา ร่างผอมบางปรี่ตรง มาที่ชายหนุ่มที่ยืนรากงอก มือเหี่ยวย่นยกฟาดใบหน้าคมคายเต็มๆ อวัศยายืนนิ่ง ให้ตบ เขาไม่ตอบโต้ใดๆ น�้ำตาค่อยๆ ไหลเป็นสายยามได้ยินค�ำด่าทอ คุณสร้อยสอางกรีดร้องเสียงดังราวกับจะขาดใจ เรียกให้คนทั้งบ้านตื่น ตกใจ และโกลาหล เมื่อร่างชราเป็นลมล้มพับต่อหน้าชายหนุ่มที่ยืนเฉยดุจรูปปั้น
21
ซาตาน
สิรภิ าสกระหืดกระหอบออกจากห้องประชุมทีก่ ำ� ลังวางแผนเมกะโปรเจ็กต์ คือเปิดห้างหรูใจกลางกรุงเทพฯ เพราะแม่บ้านโทรมารายงานด้วยน�้ำเสียงแตกตื่น ว่าย่าสร้อยเข้าโรงพยาบาล ซึ่งพอเขามาถึงก็พบแม่บ้านกระวนกระวายรอเจ้านาย พร้อมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นคร่าวๆ ให้ฟัง ชายหนุ่มขบกรามกรอดยามได้ยินว่าอวัศยา เป็นต้นเหตุของเรื่อง เขาคาดเดาเอาเองว่าความลับเรื่องเด็กนั่นเป็นชู้กับปู่รู้ถึงหู ของย่า ชายหนุ่มเข้าพบแพทย์เจ้าของคนไข้ก็โล่งใจขึ้นมาเปลาะหนึ่ง เพราะ แพทย์แจ้งว่าย่าของเขาแค่สะเทือนใจหนักจนเป็นลม เขามองร่างผอมบางด้วยความ รักและเคารพจนพาลโกรธตัวต้นเหตุ ชายหนุม่ รอให้คณ ุ ย่าตืน่ เมือ่ ตอนเกือบๆ ทุม่ กว่าๆ พอหญิงชราเห็นหลานก็ผวาเข้าหา ชายหนุ่มต้องกอดประโลม “ภาส...ปู่เราเขาท�ำร้ายย่าไม่หยุดเลย” นางร้องห่มร้องไห้ฟังไม่รู้ความ สิรภิ าสต้องปลอบย่าให้ใจเย็นๆ แต่เห็นอีกฝ่ายฟูมฟายไม่หยุดจนเป็นลม อีกรอบ ก็โกลาหลอีกครั้ง กว่าชายหนุ่มจะเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อยพร้อมจ้าง พยาบาลพิเศษก็เลยเวลาสามทุ่ม ซึ่งกว่าจะกลับบ้านก็ปาเข้าไปห้าทุ่ม อารมณ์ของสิริภาสตอนนี้ทั้งเครียดเรื่องย่าผสมกับเรื่องงานที่ต้องทิ้งมา กลางคัน ทั้งโมโหชู้รักของปู่ที่กล้าท�ำร้ายคนที่เขารักเคารพ พอมาถึงคฤหาสน์ ชายหนุ่มก็ตามหาตัวอวัศยาเพื่อช�ำระความ ซึ่งกับเจ้าตัวที่ศาลาหกเหลี่ยมในสวน 22
Rain-at-Rose
รอบๆ สวนนี้เป็นสถานที่โปรดของปู่เมื่อครั้งยังมีชีวิต เด็กคนนี้ก็เคยพาปู่มาเดิน เล่นแถวนี้บ่อยๆ รอบๆ นั้นปลูกไม้หอมโดยเฉพาะต้นพุดซ้อนที่เยอะเป็นพิเศษ ดอกไม้หอมกลางคืนหอมเย็น แต่คนทีพ่ กความกรุน่ โกรธมาเต็มหัวใจไม่มกี ะจิตกะ ใจชื่นชม เขามองคนที่เอนศีรษะซบเสาหินอ่อนด้วยท่าทางอ่อนล้าเสียยิ่งกว่าเขา “คุณภาสรูไ้ หม พุดซ้อนมือ่ เรียกหนึง่ ว่าอินถวา” อวัศยาบอกเล่าเมือ่ เห็น ร่างสูง สิริภาสนิ่งงัน พูดตอบไม่ถูกเมื่อฟังค�ำพูดที่จับต้นชนปลายไม่ได้ “เธอไป พูดอะไรกับย่าของฉัน” ชายหนุ่มตะคอกถาม ดวงตาของอวัศยาจ้องอีกฝ่ายเลือ่ นลอย “ผมไม่ได้พดู อะไรสักค�ำ แต่หน้า ผมคงฟ้องมั้ง...ย่าคุณเลยตบตีผมจนเป็นลม” ท่าทางไม่ยินดียินร้ายเหมือนเทน�้ำมันราดลงบนกองไฟ ซึ่งไฟที่ชื่อว่า สิรภิ าสนัน้ ยามมีโทสะคือไฟโลกันตร์ เขาคว้าไหล่ของอวัศยาให้ลกุ ขึน้ ยืนเผชิญหน้า “เธอต้องการเท่าไรถึงยอมออกไปจากชีวิตพวกฉันสักที” ดวงตาคูส่ นิลร้าวรานแพ้พา่ ย “ผมไม่เคยต้องการสักนิด ถ้าเลือกได้ผมจะ ไม่รู้จักปู่คุณ ที่ส�ำคัญผมไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกคุณ” “ตอแหล...ถ้าไม่อยากได้ ทีฉันขอคืนท�ำไมเล่นตัวละฮะ” “ผมเหนื่อย...คุณเองก็คงเหนื่อยเหมือนกัน วางโทสะของคุณลงแล้วไป พักก่อนดีไหมครับ หายเหนื่อยแล้วค่อยมาคุยกันด้วยเหตุผล” อวัศยาขอพลางสบตาคู่มคมปลาบตรงๆ สายตามองนิ่งด้วยแววอ่อนล้า วอนขอ ทว่าร่างสูงกลับคว้าท้ายทอยไว้มั่น สบดวงตาที่ไหวระริก “เธอเป็นใครถึงกล้าสั่งฉัน” ค�ำถามเยือกเย็น แล้วประทับรอยจูบที่แสน จะเย็นชา อวัศยาตาเบิกกว้างกับทัณฑ์ที่ไม่ปรารถนา รสชาติที่ดูดกลืนแปลก ประหลาด กลิน่ หอมของดอกไม้เย็นจัดเร้าอารมณ์ ความเครียดราวกับถูกปลดปล่อย เมือ่ ทารุณอีกฝ่าย ร่างสูงผลักอวัศยาติดเสาหินอ่อน ฉีกทึง้ เสือ้ ผ้าอีกฝ่าย แล้วคลาย ปมเนกไทขย�ำยัดใส่ปากทีเ่ พิง่ ถอนจูบ เขาตีตราความดิบเถือ่ นทัว่ ร่างกาย ย�ำ่ ยีดว้ ย ตัณหา ท่ามกลางเสียงที่ร้องห้ามผสมเสียงเครือสะอื้นที่แผ่วเบาลง...กระทั่ง 23
รอยใจในสายหมอก
พระจันทร์ลับโค้งขอบฟ้า ใกล้รงุ่ สาง อวัศยาลืมตาปริบๆ ไม่รวู้ า่ มาถึงห้องนอนได้อย่างไร เขากัดฟัน ฝืนลุกโผเผไปอาบน�้ำ เงาที่สะท้อนในกระจกคือร่างที่ไร้วิญญาณ ร่างกายบอบช�้ำ จากการกระท�ำเยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน ดวงตาแห้งผาก ปากบวมช�้ำ บนเรือนร่างนั้น เป็นจุดแดงพร้อย ไม่นับตรงจุดนั้นที่แสบร้อน เจ็บราวกับร่างจะฉีก เจ็บเจียนตาย แต่เจ็บที่กายไม่เท่าเจ็บที่ใจ สิริภาสผลักเขาตกหุบเหวนรกซึ่งเขาไม่ปรารถนาจะตายทั้งเป็นแบบนี้ หากอีกฝ่ายรู้ความจริง เขาก็ไม่รู้ว่าใครจะเสียใจมากกว่ากัน แต่ที่รู้ตอนนี้เขาทน เห็นหน้าใครไม่ได้ เกลียดทุกสิ่งในตัวเขาที่มีความเกี่ยวข้องกับครอบครัวนี้ ทั้งที่เขาไม่ได้ผิด แต่กลับกลายเป็นคนรับกรรมทุกครั้ง พอกันที!
24
ความจริง
อวัศยาโทรนัดทนายความไว้ตอนเช้าวันต่อมา เขาฝืนสังขารตัวเองเพื่อ จัดการ ‘ตัดขาด’ ตัวเองกับครอบครัวนี้ ไม่ไยดีเงินมูลค่ามหาศาลทีจ่ ะเสียไป เพราะ สิ่งที่เขาเสียมันมากกว่าเงินเหล่านั้น ทนายความวัยกลางคนมองคนที่มีท่าทางอิดโรยด้วยความกังวล ดวงตา คมเฉียบจ้องร่างที่สวมเสื้อคอเต่าแขนยาวทั้งที่อากาศก็ร้อนอบอ้าว และถ้ามองไม่ ผิดเหมือนเห็นร่องรอยบางอย่างโผล่พ้นเสื้อผ้ายามเจ้าตัวขยับไม่ระวัง “รีบร้อนแบบนี้...แสดงว่าคุณภาสเขาท�ำร้ายคุณใช่ไหมครับ” หนุ่มใหญ่ เอ่ยถามอย่างกังวล อวัศยาหยิบถ้วยกาแฟขึน้ จิบ ปิดบังความทุกข์ทนบนสีหน้า ข่มใจได้แล้ว จึงวางแก้วลง บอกไร้ความรู้สึก “เขาฆ่าผมทั้งเป็น” “ถ้าคุณหมอกอยากด�ำเนินเรื่องฟ้องตามกฎหมาย...” ทนายความเกริ่น ทว่าอวัศยาส่ายศีรษะ “ผมทรมานมามากพอแล้วครับ รบกวนคุณจัดการตามความต้องการของ ผมได้ไหม” ชายหนุม่ บอกด้วยสีหน้าจริงจัง ไร้ความลังเลจนทนายความหนุม่ ใหญ่ตอ้ ง จัดการตามประสงค์ 25
รอยใจในสายหมอก
สิ ริ ภ าสเก็ บ กดทุ ก อารมณ์ ไ ว้ ภ ายใต้ สี ห น้ า เรี ย บเฉย...เมื่ อ ย�่ ำ รุ ่ ง โรงพยาบาลโทรมาบอกว่าย่าสร้อยอาการไม่ดี เขาต้องผละจากเหยื่ออารมณ์ที่เขา รุมทึ้งจนบอบช�้ำดุจซากดอกไม้ เพื่อมาดูย่าจนปลีกตัวไปไหนไม่ได้ “ภาส ท�ำไมนังพุดซ้อนมันกลับมาอีก” สิริภาสงุนงงว่าใครคือพุดซ้อน “ไม่มีใครมาครับย่า” เสียงทุ้มปลอบ กระนั้นคุณสร้อยสอางก็ไม่หยุดร้อง “ย่าเกลียดมัน!” กว่าย่าเขาจะยอมสงบก็ตอนที่เขาบอกว่าไล่คนที่ย่าเกลียดไปหมดแล้ว เขาอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ก็รู้ดีว่าหากสะกิดถามตอนนี้ ย่าของเขาอาการคง แย่ลง ชายหนุม่ เห็นว่าโดยรวมย่าไม่ได้เป็นอะไรมากนอกจากกระทบกระเทือน ทางจิตใจ จึงสัง่ ย้ายกลับไปรักษาพยาบาลทีบ่ า้ นสวน ซึง่ เขาต้องทิง้ งานทิง้ การเกือบ เป็นอาทิตย์ ขลุกดูอาการของย่า เพื่อเอาใจให้ท่านหายเร็วๆ และเล่าสิ่งที่เขาควรรู้ แต่ท่านก็ปิดปากเงียบ และเขาเองก็ไม่กล้ารบเร้า แม้อยากจะรู้ก็ตาม อีกสองวันถัดมา ในระหว่างทีเ่ ขาเทียวไปเทียวกลับบ้านสวนกับทีท่ ำ� งาน จนไม่มีเวลาโผล่หน้ากลับคฤหาสน์และยุ่งกับโปรเจ็กต์ยักษ์กระทั่งต้องละทิ้งใคร บางคนไว้ ทั้งที่อยากพูดคุย อยากเอ่ยบางอย่าง สิรภิ าสได้รบั การติดต่อจากทนายของปูข่ อพบ เพือ่ แจ้งเรือ่ งพินยั กรรมกับ เรื่องส�ำคัญ ชายหนุ่มต้องสละเวลาน้อยนิดในตอนพักกลางวันเพื่อรับแขก ในห้อง ท�ำงานส่วนตัว ซึ่งเขาเห็นท่าทางชายวัยกลางคนไม่ค่อยสู้ดีนัก เขายกมือไหว้ตามอาวุโส ก่อนที่ชายวัยกลางคนจะยื่นเอกสารให้ สิริภาส รับไปดูอย่างงุนงง ดวงตาคู่คมเบิกกว้าง เมื่ออ่านจบ “ก่อนอื่นผมขอเรียนคุณภาสว่า ผมมาในฐานะตัวแทนทางกฎหมายของ คุณหมอกก็จริง แต่ทผี่ มจะพูดในวันนีค้ อื ผมพูดในฐานะใกล้ชดิ กับครอบครัวคุณมา นาน” ทนายความเอ่ยช้าชัด “ตามทีค่ ณ ุ ภาสเห็นในเอกสาร คุณหมอกเซ็นสละสิทธิ์ ทั้งหมดในพินัยกรรมครับ ผมไม่ทราบคุณใช้วิธีไหนบังคับเขา” 26
Rain-at-Rose
ชายหนุ่ม
เสียงชายวัยกลางคนสั่นด้วยความเจ็บแค้นแทนอวัศยา “อีกเรื่องที่คุณควรทราบ คุณหมอกเธอลาออกจากมหา’ลัยแล้วครับ” “อะไรนะ!” สิรภิ าสตกใจ เพราะอีกแค่เทอมเดียว อวัศยาก็จะจบการศึกษา “เรื่องมันบานปลายถึงขั้นนี้ ผมเองคงต้องผิดสัญญากับคุณท่าน” มื อ เหี่ ย วย่ น หยิ บ รู ป ถ่ า ยเก่ า คร�่ ำ คราจากซองสี น�้ ำ ตาลวางตรงหน้ า
สิริภาสหยิบไปดู คนในภาพเป็นนิสิตหญิงยืนยิ้มสดใสให้กล้อง ใบหน้า หวานสวยคุ้นสายตาเขาอย่างบอกไม่ถูก พอมองชัดๆ ก็นึกออกว่าที่เขาคุ้นเคย เพราะเห็นตอนทีอ่ วัศยาแต่งชุดนิสติ นัน่ เอง เธอประพิมพ์ประพายคล้ายอวัศยาอย่าง มาก “ใคร...” สิริภาสถาม ล�ำคอแห้งผากจนต้องยกกาแฟเย็นชืดขึ้นจิบ “เธอชือ่ อินถวา หรือพุดซ้อน...เป็นคุณแม่ของคุณหมอก แล้วก็ยงั เป็น...” ชายหนุม่ ไม่แปลกใจกับประโยคบอกเล่านัน้ เพราะความละม้ายคล้ายคลึง ของทั้งสองคน ทว่าค�ำพูดต่อมาของทนายความท�ำให้เขาส�ำลักกาแฟ จนต้องวาง แก้วกระทบจานรองโครม น�้ำสีด�ำกระฉอกเลอะเทอะ ดวงตาคู่คมเบิกโพลง “...และก็ยังเป็นภรรยานอกกฎหมายของคุณปู่คุณ ส่วนคุณหมอก...” ทนายเอ่ยช้าชัด “ต้องเรียกว่า...เขาเป็นคุณอาแท้ๆ ของคุณภาสครับ” สิริภาสหนาวเยือก ค�ำพูดของอวัศยาแว่วสะท้อนก้องตลอดเวลาที่ข่มขืน อีกฝ่ายอย่างดิบเถื่อน ...แล้วคุณจะเสียใจ!...
27
ขอโทษ (อวสาน)
“ว่ายังไงนะ?” คนที่เพิ่งรู้ตัวว่ามีคุณอาอายุอ่อนกว่าตัวเองถามขึ้นอย่าง คนเพิ่งหาเสียงตนเองเจอ “คุณหมอกเป็นอาของคุณครับ” ทนายความย�ำ้ อีกรอบแล้วเล่าอดีตให้ฟงั “ย้อนไปเมือ่ สักยีส่ บิ กว่าปีกอ่ น ตอนทีห่ า้ งเราเปิดใหม่ๆ ตอนนัน้ คุณพุดซ้อนทีเ่ ป็น ประธานค่ายอาสาเข้ามาขอสปอนเซอร์สำ� หรับออกค่ายกับห้างเราครับ คุณท่านเอง ก็สะดุดตาคุณพุดซ้อนเป็นอย่างมาก ก็อย่างที่คุณภาสเห็นละครับว่าเธอน่ะสวย มาก” สิริภาสจ้อง ‘ย่าน้อย’ เขม็ง เห็นด้วยกับค�ำพูดของทนายความของปู่ อินถวาหน้าตาหวานคม น่ารักสดใส เธอเป็นแบบพิมพ์ให้กับอวัศยาทุกกระเบียด นิ้ว “คุณท่านถูกใจเธออย่างมาก จนท�ำทุกอย่างเพือ่ จะได้เธอมาครอบครอง” ชายหนุม่ นึกพิศวงทีห่ ญิงสาวยอมมาเป็นนางบ�ำเรอตาแก่ได้อย่างไร “เธอ ยอมเพราะเงินใช่ไหม” ทนายวัยกลางคนหัวเราะอย่างไม่เห็นขัน “คุณภาสนี่ชอบตัดสินคนอื่น ก่อนรู้ความจริงตลอด...เปล่าครับ เธอไม่ยอม ไม่สนใจด้วยซ�้ำ แต่เธอโชคร้ายที่มี เพื่อนเลว หลอกไปถวายปู่ของคุณ” คนที่รักปู่หน้ากระตุกยามรับฟังอดีตที่เลวร้ายของคนที่แสนเคารพ 28
Rain-at-Rose
“คุณท่านรักและหลงคุณพุดซ้อนมาก...จนมีปากเสียงกับคุณสร้อย เพราะ คุณพุดซ้อนขอมาอยู่ที่คฤหาสน์ด้วย...ตอนนั้นทั้งสองคนถึงกับแยกบ้านกันอยู่ คุณสร้อยย้ายไปอยู่บ้านสวนเพราะเรื่องนี้ละครับ” “หึ...ถึงยังไงก็จับปู่อยู่ดีไม่ใช่รึไง” สิริภาสส่งยิ้มหยันเยาะให้กับคนที่เพิ่ง ว่าเขาหยกๆ “ใครๆ ก็คดิ แบบนัน้ ละครับ คุณพุดซ้อนเองก็ยยุ งให้คณ ุ ท่านหย่าขาดกับ คุณสร้อย กับขอทรัพย์สนิ หลายอย่าง ตอนนัน้ คุณพ่อกับคุณแม่คณ ุ ก็วนุ่ วายพอดู” สิรภิ าสคลับคล้ายคลับคลาว่าตอนสมัยวัยรุน่ พ่อมีเรือ่ งทะเลาะกับปูห่ นักๆ ซึ่งตอนนั้นเขาเองก็ไม่ได้สนใจตามประสาเด็ก “คุณท่านเกือบจะหย่ากับคุณสร้อยแล้ว ถ้าไม่ติดว่าคุณสร้อยเสียใจจน ช็อก ท่านถึงรู้ว่าตัวเองตัดขาดกับคู่ชีวิตที่อยู่กินฟันฝ่าอุปสรรคกันมาเนิ่นนานไม่ ได้ คุณท่านจึงขอเลิกลากับคุณพุดซ้อน ตอนนัน้ ผมถึงรูว้ า่ คุณพุดซ้อนเธอแค่อยาก แก้แค้น ที่คุณท่านท�ำลายชีวิตเธอ” “แล้ว...” ชายหนุ่มกระตุ้นให้เอ่ยต่อ “คุณพุดซ้อนเธอออกไปจากชีวติ คุณท่านโดยไม่เอาอะไรไปเลย นอกจาก เด็กคนนึงที่เราไม่เคยรู้เลยว่าถือก�ำเนิดขึ้น ซึ่งกว่าจะรู้ก็ตอนที่คุณหมอกมาขอ ทุนรอนส�ำหรับออกค่ายทีน่ ลี่ ะครับ โชคชะตามันก็นา่ ตลกทีว่ นมาแบบเดิม คุณท่าน สะดุดที่หน้าคุณหมอก เลยสั่งให้สืบประวัติ จนรู้ว่าคุณหมอกเป็นลูกหลงที่เกิดกับ คุณพุดซ้อน” “เธอส่งลูกมาแก้แค้นสินะ” สิริภาสระแวง ทนายความหัวเราะขืน่ สงสารอวัศยายิง่ นัก “เปล่าครับ คุณหมอกเธอเสีย แม่ตั้งแต่ห้าขวบแล้ว คนที่เลี้ยงมาคือตากับยาย ซึ่งทั้งสองก็เสียตอนคุณหมอกอยู่ ปีสอง เรื่องนี้มีคนรู้แค่ผม ที่ท�ำเรื่องหย่าให้คุณท่าน คุณสร้อย กับพ่อแม่ของคุณ... กว่าคุณท่านจะขอร้องคุณหมอกให้มาอยู่ด้วยเพื่อท�ำหน้าที่พ่อในวาระสุดท้าย ผม เองก็เปลืองแรงไปมากโขเหมือนกัน ฟังแล้วคุณภาสว่าทรัพย์สนิ ส่วนทีค่ ณ ุ กรรโชก มาน่ะ คุณหมอกสมควรครอบครองไหม” “แล้วท�ำไมเขาถึงไม่บอกผม!” สิริภาสก�ำหมัดแน่น 29
รอยใจในสายหมอก
“เพราะคุณท่านขอไว้ก่อนตาย ให้เรื่องของคุณหมอกเปิดเผยได้ก็ต่อเมื่อ คุณสร้อยสิน้ บุญ...คุณท่านเองก็คงรูส้ กึ ผิดต่อคุณสร้อยล่ะครับ ซึง่ ผมเองก็ไม่คดิ ว่า มันยุติธรรมต่อคุณหมอก” ชายหนุ่มนิ่งงันจนเดาอารมณ์ไม่ถูก “ไม่ใช่ว่าผมไม่ส�ำนึกบุญคุณนะครับ ถ้าคุณภาสยังยืนยันว่าสมบัติต้อง เป็นของของคุณ ผมก็จะยืนยันว่าอยูข่ า้ งคุณหมอก พร้อมเรียกร้องสิทธิทคี่ ณ ุ หมอก ควรจะได้อย่างถึงทีส่ ดุ ...คุณสร้อยเป็นผูเ้ สียหายก็จริง แต่เราเองก็ทำ� กับคุณพุดซ้อน และคุณหมอกไว้ก็มาก ผมเองก็สุดจะรู้ว่าคุณหมอกเธอโตมายังไง รู้สึกแบบไหนที่ มีพ่อแก่คราวปู่ หรือมีหลานที่แก่กว่าตัวเอง แถมยังจ้องท�ำร้ายอยู่ตลอด” ทนายความหนุ่มทิ้งค�ำถามให้สิริภาสได้คิดก่อนจะขออ�ำลา ตกบ่าย นักธุรกิจหนุ่มยกเลิกงานทั้งหมด เร่งรีบกลับบ้านด้วยใจสับสน ยอมรับกับตัวเองว่าเขารู้สึกดีๆ กับอวัศยาแต่ความชิงชังบดบังหัวใจ พอกลายมา เป็นแบบนี้ เขาเองก็ไม่รจู้ ะต้องท�ำอย่างไร หวนนึกถึงยามทีเ่ ขาท�ำร้ายอีกฝ่ายอย่าง กับไม่ใช่คนแล้วก็ให้ละอายแก่ใจ แต่ตอนนัน้ เขานึกถึงจิตใจของคนทีเ่ ขารักทีส่ ดุ จน ไม่ยอมมองความทรมานของอีกฝ่าย “แล้วคุณจะเสียใจ” ใช่ เขาเสียใจ ทรมาน แต่คุณอาของเขาคงยิ่งกว่าตายทั้งเป็น สิรภิ าสติดต่อทางมหาวิทยาลัยเพือ่ ขอระงับการลาออกของอวัศาเป็นการ ดรอปเรียนแทน ชายหนุ่มสอบถามเพื่อนๆ ของอาก็ตกใจเช่นกันที่อวัศยาท�ำลาย อนาคตตัวเองโดยไม่บอกไม่กล่าวใคร นักธุรกิจหนุม่ เองก็รสู้ าเหตุทสี่ ายหมอกสลาย ไปเพราะความระย�ำในคืนนั้น อวัศยา2 หายไปจากชีวติ ของเขาและครอบครัวเกือบหกเดือน เหมือนสาย หมอกในยามสาย ไร้ร่องรอย ไร้ตัวตน แม้เขาจะเพียรทุ่มเทตามหา แต่ก็ไม่มีร่อง รอยรอยใดๆ ไม่รู้ว่าเป้าหมายของหมอกสายนั้นจะพัดผ่านไปที่ใด “แล้วคุณจะเสียใจ” 2
ชื่อของ “อวัศยา” แปลได้ว่า “หมอก”
30
Rain-at-Rose
ค�ำพูดของอวัศยาดังซ�้ำซาก จนเขาเองก็ไม่อาจจะรู้ว่า หากเจอคนที่เขา อยากขอโทษมากที่สุดนั้น...เขาจะยอมรับค�ำขอโทษ แล้วเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม อวสาน
31
Talk
“รอยใจในสายหมอก” เป็นเรื่องสั้นที่เคยลงในกรุ๊ปลับที่ชื่อตอนว่า “หากฉันรู้ความจริงในวันนั้น แล้วฉันจะขอโทษเธออย่างไร” เป็นแนวน้ำ� เน่าๆ พล็อตละครไทยค่ะ แต่ออกเป็น Incest ตอนแรกตั้งใจจะลงเป็นเรื่องยาว แต่ ว่าไม่มีเวลา เลยทอนรายละเอียดเป็นเรื่องสั้นแทนค่ะ และนำ�มารวมเล่มเป็นฉบับ Special Edition สมมนาคุณสำ�หรับผูส้ งั่ Delusion Romance แล้วค้างปี TTwTT ทางเราขอใช้เล่มนี้แทนคำ�ขอโทษนะคะ หวังว่าจะชอบ ในอนาคตอาจจะได้เจอคุณหมอกกับพี่ภาสในเรื่องยาวค่ะ ถ้ายังไม่ได้ลง ในไหดองเค็มดองเปรี้ยวก่อนนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ มีคอมเม้นท์หรืออยาก พูดคุยติดตามได้ที่หน้าแฟนเพจได้เลยค่ะ ด้วยรัก Rain-at-Rose