หนังสือพิมพ์ไทยเสรี ฉบับที่ 170-1

ปีที่ 16 ฉบับที่ 170 2561 ทั นประจำ ส �ถเดืาอนกรกฎาคม น ก า ร ณ์

w w w . t h a i s a e r e e .หน้ c oาm1

ติ ด ต า ม ข่ า ว ส า ร ไ ด้ ที่

ฉลองครบรอบ 6 ปี ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ. ขอนแก่น ร่วมแสดงความ ยินดีกับ คุณโฉมสุดา วโน ทยาโรจน์ ในโอกาสการจัด งาน “เฉลิมฉลองครบรอบ 6 ปี ตลาดต้นตาล” โดยมี หน่ ว ยงาน และนั ก ธุ ร กิ จ ร่วมแสดงความยินดี ณ เวที กลาง ตลาดต้นตาล ถนน มิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2561

ปีที่ 16 ฉบับที่ 170 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2561 ราคา 10 บาท

แหนมเนืองโอท็อปอุดร โกอินเตอร์สง่ ขายนอก หวังโกยเงิหนุนนสร้าสร้ า งงาน งโรงไฟฟ้า

ฟุตบอลเยาวชน “โตโยต้าแก่นนคร 7 FA Cup 2018” ; นายธีรนันท์ กิ่งแก้วเจริญชัย ผู้อำ�นวย การฝ่ายบริการหลังการจำ�หน่ายด้านเทคนิค บริษทั โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด รับมอบเงินสนับสนุนการ จัดการแข่งขัน “โตโยต้าแก่นนคร 7 FA Cup 2018” ปีที่ 4 รุ่นอายุไม่เกิน 11 ปี จาก นายวันชัย กาญ จนศิริ ผู้อำ�นวยการอาวุโส งานขายและเครือข่ายธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ 4 ธนาคารธนชาติ ขอนแก่น นายวรวรรณ ชิตะวณิช (โค้ชปํ้า) ณ สนามฟุตบอลหญ้าเทียมในร่ม เมเจอร์อารีน่า ขอนแก่น

“วีทแี หนมเนือง” โกอินเตอร์ Carbon Cleaning เอาใจคนรักรถ ตั้ ง โรงงานผลิ ต แหนม ชี ว มวลโพนพิ สั ย เนืองระบบสูญญากาศแช่ นวัตกรรมใหม่ ธุรกิจทีน่ า่ จับตามอง แข็ง คาดสิ้นปี 61 พร้อม Carbon Cleaning นวัตกรรมใหม่ ทำ�ความ ยั น ไม่ ส ร้ า งปั ญ หา ส่งออก เป้าหมายแรกมุ่งสู่ สะอาดเครื่องยนต์ด้วยระบบไฮโดรเจน ช่วยลด ฮ่องกง ประเทศ ค่าใช้จ่าย ประหยัดนํ้ามัน ยืดอายุการใช้งานของ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม สิละงคโปร์ 30 ตัน/เที่ยว สร้างราย เครือ่ งยนต์ นำ�เข้าจากฝรัง่ เศส มาใช้ในขอนแก่น “วิ ว รรธน์ ก ารเกษตร” เดิ น ได้และสร้างงานในท้องถิ่น เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย หน้ า จั ด เวที รั บ ฟั ง ความคิ ด กว่า 300 คน อยากมี บ า ้ นต้ อ งมา งานบ้ า น “ ข่ า เ ห ลื อ ง ” อ บ แ ห้ ง เห็น ยืนยันไม่มีผลกระทบ ส น ข . ศึ ก ษ า แ ผ น แ ม่ บ ท ธอส.เอ็ ก ซ์ โ ป@ขอนแก่ น ยกระดับ ส่งออกตลาดมาเลเซีย สิ่งแวดล้อม ตั้งประชาชนกว่า ระบบขนส่งสาธารณะอุดรธานี ธอส. เดินหน้าจับมือกับพันธมิตร และผู้ ม.ขอนแก่น หนุนตั้งกลุ่มปลูก ‘ข่าเหลือง’ ครึ่งเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ ทน.อุดรธานี เสนอให้ทำ�แผนแม่บท ประกอบการอสัง หาริม ทรัพ ย์ชั้ นนำ �ในภาค งสาธารณะ ให้สอดคล้อง ตลาดรับไม่อั้น ลงทุนน้อย ใช้พื้นที่นาปลูกช่วง ตรวจสอบ หวังสร้างงาน สร้าง ระบบขนส่ อีสาน จัดงาน “บ้าน ธอส.เอ็กซ์โป@ขอนแก่น ระบบหลั ก ระบบรอง และโครงการ ว่างเว้นจากการทำ�นา นำ�ไปแปรรูปเป็นสบูร่ กั ษา รถเมล์สาธารณะที่มีอยู่แล้ว และขอ ให้คนไทยมีบา้ นเป็นของตนเอง พบกับสินเชือ่ อาชี พ ให้ ค นในพื ้ น ที ่ ทำ � ให้ โรคผิวหนัง สเปร์ย์ดับกลิ่นคาว เป็นยาแก้ท้อง ให้ประชาชนในพื้นที่ต้องมีส่วนร่วม บ้านดอกเบีย้ ตํา่ ลดราคาบ้านใหม่ บ้านมือสอง เศรษฐกิจดีขึ้น อืด ท้องเฟ้อ ขับเสมหะ ทุกขั้นตอน และบ้านหลุดจำ�นอง คืนสู่เหย้า ใต้ร่มกาสะลอง 61 ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น และ รศ.ดร.กิตติ ชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดี มข. ร่วมแสดงความยินดีในงานคืนสู่เหย้า 40 ปี คณะ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ “ใต้รม่ กาสะลอง” โดยมี รศ.ดร.กุลธิดา ท้วมสุข คณบดี คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มข. พร้อมคณาจารย์ และศิษย์เก่ากว่า 400 คน ร่วมงาน ณ ศาลาพระราชทานปริญญาบัตร (เดิม) มหาวิทยาลัยขอนแก่น

อ่านต่อหน้า 2

อ่านต่อหน้า 11

อ่านต่อหน้า 11

อ่านต่อหน้า 11

อ่านต่อหน้า 11

อ่านต่อหน้า 11

หน้า 2 โรงไฟฟ้าชีวมวล • ต่อจากหน้า 11 กุล คณะเกษตรศาสตร์ ม.ขอนแก่น ผศ.ดร.ไกรเลิศ

ของโครงการประมาณ 5-3-1 ไร่ และพื้นที่แปลง ทดลองปลู ก อ้ อ ยและบ่ อ พั ก นํ้ า ที่ นำ � กลั บ มาใช้ ประโยชน์ใหม่ ประมาณ 300 ไร่ จึงมีการใช้ระบบ สาธารณูปโภคร่วมกัน และทำ�ให้สะดวกในงานของ การบริหารจัดการในภาพรวม ทัง้ ในส่วนของความ ปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในส่ ว นข้ อ กั ง วลของประชาชนในพื้ น ที่

และพื้นที่ใกล้เคียงในด้านสิ่งแวดล้อมทั้งอากาศ นํ้า และเสียงนั้น ตนขอยํ้าและทำ�ความเข้าใจอีกครั้งว่า กระบวนการดำ�เนินงานของทั้ง 2 โครงการนั้น มี การควบคุมทางกฎหมายที่ชัดเจนและได้มาตรฐาน นอกจากนีย้ งั จะมีการแต่งตัง้ คณะกรรมการขึน้ มาเพือ่ ควบคุมดูแล ซึ่งจะมีประชาชนและผู้นำ�ชุมชนเข้ามา ร่วมเป็นคณะกรรมการมากกว่าครึ่งหนึ่ง เพื่อมีหน้า ที่ตรวจสอบตั้งแต่เริ่มต้นการก่อสร้างโรงงานจนถึง โรงงานก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดดำ�เนินการ นายอวยชัย กล่าวต่อไปอีกว่า ทั้งโรงงานผลิ

ตนํ้าตาลทราย ที่จะมาตั้งในเขตพื้นที่อำ�เภอโพนพิสัย นัน้ เป็นนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมอาชีพด้าน การเกษตรแก่เกษตรกรโดยเฉพาะการส่งเสริมการปลูก อ้อยพื้นที่ อ.โพนพิสัย ซึ่งมีพื้นที่ปลูกอ้อยกว่า 3,600 ไร่ หรืออาจจะมากกว่าในโอกาสต่อๆ ไป รวมไปถึงการ ส่งเสริมปลูกอ้อยในพื้นที่ใกล้เคียงด้วย อีกส่วนหนึ่ง ก็จะมีโรงงานไฟฟ้าชีวมวลเกิดขึ้น เพื่อรองรับระบบ ไฟฟ้าและระบบไอนํ้าให้แก่โรงงาน โดยไม่มีผลกระ ทบในการใช้ไฟฟ้าของประชาชนในพื้นที่ ส่วนเรื่อง ที่สอบถามกันมามากว่า จะเกิดมลพิษในพื้นที่หรือไม่ นั้น ตนขอตอบว่า เทคโนโลยีปัจจุบันลํ้าสมัยไปมาก แล้ว เทคโนโลยีที่ทางโรงงานเลือกใช้นั้น มีมาตรฐาน และเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ทใี่ ช้กนั อย่างแพร่หลาย มี ระบบมาตรฐานตามทีก่ ฎหมายบังคับ เมือ่ โรงงานไม่มี มาตรฐาน โรงงานก็ไม่สามารถอยู่กับชุมชนได้ เพราะ ชุมชนเป็นกลไกในการตรวจสอบอยู่แล้ว

สำ�หรับโรงไฟฟ้าชีวมวลนั้น จะเป็นกระ บวนการที่จะมีการนำ�ชานอ้อยซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ พลอยได้ ที่ เ หลื อ จากกระบวนการหี บ อ้ อ ยของ โรงงานผลิตนํ้าตาลทราย (20,000 ตันอ้อย/วัน) มาผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ ต่ อ เนื่ อ งกั บ โรงงานผลิ ต นํ้ า ตาลทราย ทั้ ง นี้ ก าร ดำ�เนินโครงการฯ เข้าข่ายที่จะต้องจัดทำ�รายงาน การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามประกาศ กระทรวงทรั พ ยากรธรรมชาติ แ ละสิ่ ง แวดล้ อ ม เรื่องกำ�หนดประเภทและขนาดของโครงการหรือ กิจการซึ่งจะต้องจัดทำ�รายงานการประเมินผลก ระทบสิ่งแวดล้อมและหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบ ปฏิบตั แิ ละแนวทางการจัดทำ�รายงานประเมินผลก ระทบสิ่งแวดล้อม

ด้านนายพิลา ไกรโหล อายุ 57 ปี อยู่บ้าน เลขที่ 106 ม.7 ต.จุมพล อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ผู้ใหญ่บ้านบ้านอ่างเก็บนํ้า กล่าวว่า ในส่วนตัวเห็น ด้วยกับทั้ง 2 โครงการ เพราะจะเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่เยาวชน ประชาชน และเกษตรกร ในพื้นที่ การทำ�ประชาคมในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการ สร้างความมั่นใจกันอีกครั้ง เพื่อร่วมกันพิจารณา ว่าทั้ง 2 โครงการ จะสามารถดำ�เนินการไปได้หรือ ไม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชน และประชาชน ในด้านอาชีพการเกษตร การได้ประโยชน์จากการ ตั้งโรงงาน ซึ่งจะต้องพิจารณาให้ครบถ้วน

ทั้ ง นี้ ใ นห้ ว งระหว่ า งรอการดำ � เนิ น งาน ก็ ไ ด้ มี เ จ้ า หน้ า ที่ ข องหน่ ว ยงาน ส่ ว นราชการที่ เกี่ ย วข้ อ งเข้ า มาให้ ค วามเข้ า ใจ โดยการลงพื้น ที่ พบปะประชาชนกันบ้างแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่ นั้นก็เห็นด้วย เพราะเห็นว่าจะเป็นการสร้างอาชีพ สร้ า งรายได้ ใ ห้ ชุ ม ชน โดยเฉพาะการทำ � อาชี พ เกษตรกรรมปลูกอ้อย เยาวชนก็จะไม่ได้หลั่งไหล เดินทางไปทำ�งานที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จน เกิดเป็นความยั่งยืนทางพลังงานและรายได้ของ ชุมชนโดยรอบ ส่วนปัญหามลภาวะด้านอากาศ นาํ้ และเสียงนั้น คิดว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันนั้นมีการ พัฒนารุดหน้าไปไกลมาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคง มีการตรวจสอบอย่างถูกกฎหมาย แต่ถ้าเกิดมลพิษ ขึ้นมาชาวบ้านก็จะเป็นคนตรวจสอบเอง

ภายหลังการตอบข้อซักถาม ประชาชนใน พื้นที่ส่วนใหญ่ต่างเห็นด้วยกับโครงการฯ ที่จะเกิด ขึ้น โดยบอกว่าเป็นการสร้างงานในพื้นที่ ทำ�ให้ เศรษฐกิจในพื้นที่ดีขึ้น ลูกหลานไม่ต้องไปทำ�งาน ที่อื่น ส่วนปัญหาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หาก มีปญ ั หาชาวบ้านก็สามารถแจ้งให้ทางบริษทั ดำ�เนิน การปรับปรุงได้ เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ระหว่างผู้ประกอบการกับประชาชนในพื้นที่

ทวีกุล อาจารย์ภาควิชาส่งเสริมการเกษตร คณะ เกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้จัดอบรม เกษตรกรและผู้สนใจ เรื่อง ธุรกิจข่าเหลือง ตลาด แปรรูป และระบบนํ้าโซลาร์เซลล์ โดยมีวิทยากร คือ นายชัยยุทธ์ ไชยรัตน์ ผู้จัดการและฝ่ายหาผลิต Tops นางรัมภามาศ ฑีฆธนานนท์ ผู้จัดการตลาด ศรีเมืองทอง จ.ขอนแก่น ซึง่ มีเกษตรกรเข้าร่วมการ อบรม 200 คน

ผศ.ดร.ไกรเลิศ ทวีกุล กล่าวว่า “ข่า” เป็น พืชสมุนไพรอีกชนิดที่คนไทยนำ�มาใช้ประโยชน์ ทั้งเป็นเครื่องเทศปรุงแต่งกลิ่นและรสอาหาร เป็น ส่วนประกอบเครื่องยาสมุนไพร ที่มีสรรพคุณขับ ลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับเสมหะ เป็นวัตถุดิบ หลักในเครือ่ งแกงหลากชนิดทีป่ จั จุบนั มีผปู้ ระกอบ การผลิตส่งขายทั้งในและต่างประเทศ ทำ�ให้ความ ต้ อ งการของตลาดเพิ่ ม ขึ้ น คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงหนุนเกษตรกรปลูกด้วย มองว่ามูลค่าการตลาดสูง ลงทุนน้อย ใช้พื้นที่นา ปลูกได้ช่วงว่างเว้นจากการทำ�นา โดยได้ขับเคลื่อนการปลูกข่าเหลืองในภาค

ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ โดยมีศนู ย์กลาง การตลาดที่ จ.ขอนแก่น ตัง้ แต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบนั เป็นระยะเวลา 3 ปีกว่าๆ ตั้งแต่มูลค่าการตลาด 53.4 ล้านบาทต่อปี จนเป็น 300 ล้านบาท ในปี 2560 ด้วย การขับเคลื่อนที่เป็นระบบ มีเครือข่าย มีสมาชิก มี การควบคุ ม พื้ น ที่ ป ลู ก มี ก ารผลิ ต ตามคำ � แนะนำ � ทำ � ให้ เ กษตรกรที่ ผ ลิ ต ได้ ต ามคุ ณ ภาพตามตลาด ต้องการ มีรายได้ที่ดีและแน่นอน

“ตลาดรับซือ้ ข่าแหล่งใหญ่ในภาคตะวันออก เฉียงเหนืออยู่ที่ จ.นครราชสีมา และ จ.ขอนแก่น เฉพาะปี 2557 มีความต้องการข่าเหลืองกว่า 1,700 ตัน คิดเป็นมูลค่า 53.4 ล้านบาทต่อปี ราคาขายส่วน ใหญ่เป็นแบบเหมาสวนในราคา 1 แสนบาทต่อไร่ จากข้อมูลความต้องการของตลาดตรงนี้ ตนจึงคิด เป็นโมเดลการส่งเสริมเกษตรกรปลูกข่าเหลืองให้ เป็นรูปธรรม”

ผศ.ไกรเลิศ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเกษตรกร ไม่ให้ความสนใจมากนัก เพราะถือเป็นพืชใกล้ตัว ไม่รู้ว่าปลูกแล้วจะขายที่ไหน เพื่อสร้างความมั่นใจ ให้แก่เกษตรกร จึงคิดโมเดลส่งเสริมการปลูกที่มี ส่วนสำ�คัญคือตลาด เกษตรกร นักวิชาการส่งเสริม การเกษตร และแหล่งเงินทุน หลังสำ�รวจแล้วพบว่า ตลาดต้องการข่าเหลืองกว่า 1,700 ตัน คิดเป็นพืน้ ที่ ปลูก 400 ไร่ แต่ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกเพียง 60 ไร่ จึง รวมกลุ่มเกษตรกรในรูปเครือข่ายปลูกข่าเหลือง เพื่อวางแผนการปลูกไม่ให้ข่าล้นตลาด

ในอนาคตวางแผนเปิดตลาดข่าเหลืองส่ง ออกไปยังประเทศมาเลเซีย เพราะมีความต้องการ เป็นจำ�นวนมาก ระหว่างนี้อยู่ระหว่างการศึกษา เส้นทางการทำ�ตลาดส่งออก นอกจากนี้ยังเพิ่ม มูลค่าข่าเหลือง โดยการนำ�ไปอบแห้งส่งออกไปยัง ร้านอาหารในต่างประเทศ รวมถึงการขอความร่วม มือจากนักวิจัยในคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัย ขอนแก่น ในการพัฒนาทำ�เครื่องสำ�อางที่มีส่วน ผสมของข่าเหลืองด้วย

ผศ.ไกรเลิศ กล่าวต่อว่า ยังมีการเตรียม ความพร้อมที่จะยกระดับการปลูกข่าเหลืองแบบ อินทรีย์ให้เกษตรกรนำ�ไปแปรรูปเพื่อการส่งออก โดยเน้นการปลูกตรงตามระบบเกษตรดีที่เหมาะ สม หรือจีเอพี และได้รับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ทัง้ นี้ ถือเป็นการยกระดับการผลิตให้เกษตรกรเป็น สมาร์ทฟาร์มเมอร์ไปพร้อมกันด้วย

ด้าน น.ส.นครินทร์ ถาวรพันธ์ อายุ 44 ปี อยู่ บ้านเลขที่ 76 หมู่ 5 ต.นาเพียง อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า อดีตตนเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิตในโรงงาน แห่งหนึ่งใน กท. เป็นคนหนึ่งที่สนใจข่าเหลือง ด้วยความที่พืชชนิดนี้เป็นพืชที่ปลูกง่าย ไม่ต้อง ดูแลมากมาย จึงได้ปลูกข่าเหลืองในเนือ้ ที่ 6 ไร่ เมือ่ ข่าเหลืองตกเกรดจึงคิดแปรรูปด้วยการสร้างมูลค่า ให้กบั ข่าเหลือง เมือ่ คณะเกษตรศาสตร์ ม.ขอนแก่น ได้แนะนำ�ให้ให้น�ำ ข่าเหลืองมาทำ�สบู่ พร้อมนำ�สาร สกัดจากข่าเหลืองออกมาทำ�สเปร์ยดับกลิน่ คาว ได้ ดำ�เนินการมา 2 ปี ได้รับการตอบรับดีมากเพราะมี คนส่วนมากสนใจสั่งออเดอร์มาตลอด เพราะคน ได้นำ�ไปใช้พบว่ามีคุณภาพกำ�จัดโรคผิวหนัง เช่น กลาดเกลื้อน ผดผื่นคัน นํ้ากัดเท้า ลดการอักเสบ ของผิว

นอกจากนี้ ข่ า เหลื อ ง เป็ น ข่ า ที่ อ ร่ อ ย สี เหลืองสวย เมื่อทำ�เครื่องแกงก็จะได้สีสวย กลิ่น แรง หอม ไม่มีเสี้ยน จึงทำ�ให้ข่าเหลืองเป็นที่นิยม บ้ ริโภคโดยเฉพาะในพืน้ ทีภ่ าคอีสานและภาค ข่าเหลืองอบแห้ง • ต่อจากหน้า 1 ของผู ใต้ ตลาดมีความต้องการสูงและสามารถขายได้ใน

เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.61 ที่ห้องประชุมกวี จุติ ราคาที่สูงกว่าข่าชนิดอื่น เ อ ไ อ เ อ ส ต้ อ น รั บ เมื อ งไทยประกั น ชีวิต ในโอกาสดูงาน ที่ น ครราชสี ม า ; น า ง บุ ษ ย า ส ถิ ร พิ พั ฒ น์ กุ ล ร อ ง กรรมการผู้ อำ � นวย การ สายงานบริหาร ลูกค้าและการบริการ บริษทั แอดวานซ์ อิน โฟร์ เซอร์วิส จำ�กัด (มหาชน) หรือ AIS และคุณดุลยเดช ชินวัตร หัวหน้าส่วนงานลูกค้าสัมพันธ์นครราชสีมา บริษัท แอดวานซ์ คอนแท็ค เซ็นเตอร์ จำ�กัด หรือ ACC ให้การต้อนรับ คุณพิตราภรณ์ บุณยรัตพันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานสื่อสารการตลาด และสายงานสื่อสารองค์กร และ คุณเผ่าทอง ทองเจือ ทีป่ รึกษากรรมการผูจ้ ดั การ ด้าน CSR บริษทั เมืองไทยประกันชีวติ จำ�กัด (มหาชน) พร้อมคณะผู้บริหาร ในโอกาสศึกษาดูงานด้าน Call Center,การดูแลลูกค้า, การฝึกอบรม บุคลากร และการบริหารงานศูนย์ฝกึ อบรม ของ AISและ ACC ณ AIS Contact Center Development & Training Arena จ.นครราชสีมา

ปีที่ 16 ฉบับที่ 170 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2561

เอไอเอส เดิ น หน้ า สนั บ สนุ น วงการ “กีฬา E-Sports” ไทย ผลักดันสู่ระดับภูมิภาค

เอไอเอส ประกาศ สนั บ สนุ น วงการกี ฬ า ESports ในเมื อ งไทยทุ ก มิ ติ เพื่ อ สร้ า งโอกาส และเสริ ม ศั ก ยภาพให้ เ กมเมอร์ ช าว ไทยในการแข่ ง ขั น ในเวที ระดั บ โลก เดิ น หน้ า ผนึ ก พั น ธมิ ต รทุ ก ภาคส่ ว น ร่ ว ม ผลั ก ดั น E-Sports Ecosys tem ให้เติบโตอย่างยั่งยืน และ แข็งแกร่งไปด้วยกัน

จุ ด พลุ ค วามร่ ว มมื อ ระดั บ ภู มิ ภ าค จั บ มื อ สิ ง เทลกรุ๊ ป และโอเปอร์ เ รเตอร์ ใ นเครื อ รวม 6 ประเทศ พร้ อ มพั น ธมิ ต รชั้ น นำ � ด้ า นเกมของ โลก Razer, Garena, Blizzard และ Mineski Event Team จัดการแข่งขัน “PVP E-Sports Championship” เปิดเวทีประชันสองเกมสุดฮิตROV (Mobile Game) และ DOTA2 (PC Game) เฟ้นหาสุดยอดแชมป์ ESports ระดั บ ภู มิ ภ าค ที่ ป ระเทศสิ ง คโปร์ ชิ ง เงิ น รางวัลรวมมูลค่ากว่า 11.5 ล้านบาท โดยจัดแข่งขัน หาตัวแทนประเทศไทย ระหว่างเดือนกรกฎาคม ตุลาคม 2561 เริ่มเปิดรับสมัครผู้เข้าแข่งขันตั้งแต่วัน ที่ 25 กรกฎาคม 2561 นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร

กลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า วันนี้ E-Sports เป็ นเทรนด์กีฬาระดับโลกที่กำ�ลังมาแรง และได้รับการ ยอมรั บ ในวงกว้ า งจนถู ก ยกระดั บ จากเกม สู่ กี ฬ า อย่างเต็มตัว หลังจากได้รับการบรรจุเข้าเป็นกีฬาใน มหกรรมAsian Games 2018 ด้วยรูปแบบเฉพาะตัวที่ สอดคล้องกับ Skill ทักษะความสามารถด้านไอที และ เทคโนโลยีของคนกลุม่ มิลเลนเนียล และในประเทศไทย อุตสาหกรรม E-Sports กำ�ลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยการขยายตัวของกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และมีคอม มูนิตี้ผู้เล่นขนาดใหญ่ กว่า 30 ล้านคน ทั้งมือสมัครเล่น เกมเมอร์อาชีพ กลุ่มผู้ชมการแข่งขันเกม และมีโอกาส ขยายตัวได้อีกมาก

เอไอเอส จึงได้นำ�ศักยภาพของ Network Infrastructure ทีเ่ ราออกแบบให้พร้อมรองรับการใช้งา นของลูกค้าในทุก Segment โดยเกมคือดิจทิ ลั คอนเทน ต์ทไี่ ด้รบั ความนิยมอย่างมาก ซึง่ การเล่นเกมออนไลน์ ไม่เพียงต้องการอินเตอร์เน็ตสปีดสูงๆ เท่านั้น เรา จึงนำ�จุดแข็งด้านเครือข่าย ทั้ง Mobile และ Fixed Broadband ที่เร็ว แรง เป็นอันดับ 1 ของประเทศ รวม ทั้งพัฒนาเทคโนโลยีเครือข่ายให้มีค่า Latency น้อย ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อให้ตอบสนองได้เร็วที่สุด ทำ�ให้เล่นเกมได้ต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด พร้อมเดินหน้า ส่งมอบบริการที่ตอบไลฟ์สไตล์ของคอเกมชาวไทย ทั่วประเทศ

โดยความร่ ว มมื อ กั บ สิ ง เทลกรุ๊ ป จั ด การ แข่ ง ขั น “PVP E-Sports Championship” ถื อ เป็ น การผนึ ก ความแข็ ง แกร่ ง ในเครื อ เพื่ อ รุ ก ตลาด E-Sports สู่ลูกค้ากว่า 600 ล้านรายทั่วโลก สำ � หรั บ ประเทศไทยเราจะจั ด การแข่ ง ขั น ระดั บ ประเทศเพื่ อ เฟ้ น หาผู้ ช นะ 2 ที ม ทั้ ง ฝั่ ง Mobile Game และ PC Game ในรายการ “Thailand PVP E-Sports Championship Powered by AIS” เพื่อชิงเงินรางวัลรวม 1.6 ล้านบาท และยัง ได้ สิ ท ธิ์ เ ข้ า แข่ ง ขั น ระดั บ ภู มิ ภ าคในรายการ PVP

E-Sports Championship ที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อชิง รางวัล อีกกว่า 300,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 9.9 ล้ า นบาท โดยจั ด แข่ ง ขั น ระหว่ า งเดื อ นกรกฎาคม - ตุลาคม 2561 และเปิดรับสมัครผู้แข่งขัน ตั้งแต่ วั น ที่ 25 กรกฎาคม 2561ทาง https://www.ais. co.th/esports ซึ่งจะสร้างความตื่นเต้น และสีสัน ให้ ค อเกม E-Sports ในเมื อ งไทยเป็ น อย่ า งมาก พร้อมถ่ายทอดสดการแข่งขันให้ชมผ่านแอป AIS PLAY และกล่อง AIS PLAYBOX นอกจากนี้ เรา ยั ง จั ด แคมเปญการตลาดให้ ลู ก ค้ า ได้ ลุ้ น รั บ รางวั ล ตั๋ ว เครื่ อ งบิ น พร้ อ มที่ พั ก เพื่ อ ไปชมการแข่ ง ขั น รอบ Final ที่ประเทศสิงคโปร์อีก 40 ที่นั่ง รวมมูลค่า กว่า 1 ล้านบาท

วั น นี้ เ ราเชื่ อ มั่ น ว่ า ศั ก ยภาพของเกมเม อร์ ค นไทยพร้ อ มแล้ ว สำ � หรั บ เวที โ ลก และเอไอ เอส ยิ น ดี อ ย่ า งยิ่ ง ที่ จ ะสนั บ สนุ น การพั ฒ นา ESports Ecosystem ในประเทศไทยในทุ ก มิ ติ โดยเราเดิ น หน้ า ทำ � งานร่ ว มกั บ ทุ ก ภาคส่ ว น ในแวดวง E-Sports ทั้ ง เจ้ า ของเกม และผู้ ผ ลิ ต อุ ป กรณ์ ฮ าร์ ด แวร์ สำ � หรั บ เล่ น เกม สถาบั น และสมาคม เพื่ อ ร่ ว มกั น ทำ � ให้ อุ ต สากรรม ES p o r t s ใ น ป ร ะ เ ท ศ เ ติ บ โ ต อ ย่ า ง แ ข็ ง แ ก ร่ ง แ ล ะ เ ป็ น ที่ ย อ ม รั บ ใ น ร ะ ดั บ ส า ก ล ซึ่ ง เ ร า มั่ น ใ จ ว่ า ค ว า ม พ ร้ อ ม ด้ า น D i g i t a l Platform ของเอไอเอสจะทำ�ให้ขยายฐานเกมเมอร์ และผู้ชมอีกจำ�นวนมาก พร้อมเปิดโอกาสให้คนรุ่น ใหม่กา้ วเข้าสูส่ ายอาชีพนี้ และให้นกั กีฬา E-Sports ไท ยได้ โ ชว์ ศั ก ยภาพในทุ ก การแข่ ง ขั น แบบท็ อ ปฟอ ร์ม” นายปรัธนากล่าว

นายอาเธอร์ แลง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มสิงค์เทลอินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า คอนเทนต์ อย่าง E-Sports คือกุญแจสำ�คัญของกลยุทธ์ในการเ ข้าถึงผู้บริโภคของเรา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนมิล เลนเนียล โดยเกมบนมือถือได้รับความนิยมสูงมาก ในภูมิภาคนี้ เนื่องจากโทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ทเี่ ป็นตัวเลือกหลัก สำ�หรับสิงเทล กรุป๊ ในฐานะผู้นำ�ด้านเทคโนโลยีการสื่อสารของภูมิภาค นี้ เราตื่นเต้นอย่างมากกับการสร้างความตื่นตัวให้ กับวงการ E-Sports เพราะจะทำ�ให้เหล่าเกมเมอร์ และแฟนๆ ทั้ ง หลายได้ เ ข้ า ถึ ง การแข่ ง ขั น ESports รวมไปถึ ง ออริ จิ นั ล คอนเทนต์ และ โปรแกรมสุ ด เอ็ ก ซ์ ค ลู ซี ฟ ต่ า งๆ ทั้ ง ในระดั บ ประเทศ ระดั บ ภู มิ ภ าค และระดั บ โลก ส่ ว น เราเองก็ ห วั ง ว่ า การแข่ ง ขั น PVP E-Sports Championship จะเป็นส่วนสำ�คัญที่ทำ�ให้เกิดเวทีแข่ งขัน E-Sports ในระดับนานาชาติประจำ�ปีด้วย

เป็นหนี้ ต้องใช้หนี้

อยากมี เ งิ น เอาไว้ ซื้ อ สิ่ ง ของต่ า งๆ ที่ ต้องการ อยากมีบ้าน อยากมีรถ อยากกินอาหาร แพงๆ อยากใช้โทรศัพท์มือถือที่มันหรูๆ ดูดีมี ราคา และอยากมีเหมือนคนอื่น แต่พอมองเงินใน กระเป๋า รายได้แต่ละเดือนที่ได้รับ สิ่งเหล่านี้มัน ไกลเกินฝัน

พออยากได้อยากมี แต่เงินมีไม่พอ ก็เริ่ม หยิบยืมเพราะคิดว่าจะสามารถชำ�ระหนี้ไหว ช่อง ทางสร้างหนี้ในปัจจุบันก็มีให้เลือกมากมาย แถม โปรโมชั่นยังน่าดึงดูดใจอีกด้วย กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็กลายเป็นหนี้แบบพอกหางหมู

มองสิง่ ของทีต่ อ้ งแลกมาด้วยหนีม้ หาศาล ตรงหน้า อยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขก็ไม่ทนั แล้ว

แต่ก่อนจะหมดความหวัง เราลองลุกขึ้น มาสู้อีกสักตั้ง เอาแบบเห็นผลกันชัดๆ เปลี่ยน พฤติกรรมไม่กอ่ หนีข้ น้ึ มาอีก จะได้มชี วี ติ ทีเ่ ป็นสุข ปลดหนีใ้ ห้หมด พร้อมวางแผนการเงินทีม่ นั่ คงกัน ต่อไปได้อย่างสบายใจ

ไม่มใี ครอยากเป็นหนี้ และแน่นอนว่าบาง ครั้งหนี้ส่วนใหญ่ก็มาจากการที่เราไม่ใส่ใจกับ ระบบวางแผนการเงินของตัวเอง

สิง่ แรกทีต่ อ้ งทำ� ก็คอื ยอมรับความจริงว่า เราหนี ไม่จ่ายหนี้ไม่ได้ชัวร์ๆ

ต้องเผชิญหน้ากับปัญหา ยอมรับความ จริงที่เจออยู่ แล้วเตรียมพร้อมวางแผนใช้หนี้ให้ หมดเร็วที่สุด

เพราะหากเราเปลีย่ นพฤติกรรมและตัง้ ใจ จริงๆ รับรองว่าสามารถปลดหนี้ได้อย่างแน่นอน เพียงแค่ต้องใจเด็ด อดทน และอย่าใจร้อนจนเกิน ไปเท่านั้น จำ�เอาไว้ว่า การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ ไม่ เครียด สิ้นเดือนไม่ต้องมานั่งพะวงว่าใครจะมาท วงเงินที่เป็นหนี้

ลองเปลี่ ย นนิ สั ย ที่ ช อบใช้ เ งิ น ฟุ่ ม เฟื อ ย มาเป็นนิสัยชอบเก็บเงินมากกว่า แล้วไม่นานเรา จะเห็นว่าการเก็บเงินแล้วมีเงินออมมากพอ ช่วย สร้างความมั่นคงได้มากกว่า จะสนุกไปกับมัน แล้วชีวิตจะมีความสุขแบบยั่งยืนไปจนแก่ ไม่ใช่ ความสุขแบบชั่วคราวอย่างที่ผ่านมา

พั ฒ นาครู โ รงเรี ย นเทศบาล ให้ ก้ า วทั น เทคโนโลยี ยุ ค ใหม่

เทศบาลนครขอนแก่น จั ด โครงการอบรมพั ฒ นา ครู โ รงเรี ย นสั ง กั ด เทศบาล นครขอนแก่ น ให้ ก้ า วทั น เทคโนโลยี ยุ ค ใหม่ ภายใต้ ความเปลี่ยนแปลงของสังคม ในปั จ จุ บั น “Project-Based Learning” โดยมี โรงเรียนใน สังกัดเทศบาลนครขอนแก่น 11 โรงเรียน และคณาอาจารย์ นั ก เรี ย น จากโรงเรี ย นสาธิ ต มหาวิทยาลัยขอนแก่น โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัย มหาสารคาม เข้าร่วมอบรม ณ ห้องประชุมโรงเรียน เทศบาลบ้านตูม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2561

นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพนั ธุ์ นายกเทศมนตรีนคร ขอนแก่น กล่าวว่า กิจกรรมการเรียนรู้กระบวนการ เรี ย นแบบโครงงาน “Project-Based Learning” เป็นการเสริมสร้างความรูเ้ รือ่ งการพัฒนากระบวนการ จัดการเรียนรู้ด้วยโครงงาน เป็นการยกระดับและ พั ฒ นาศั ก ยภาพของครู อ ย่ า งต่ อ เนื่ อ ง และต้ อ ง สอดคล้องกับความถนัด ความสนใจ และพัฒนาการ ของผูเ้ รียนด้วย โดยเน้นฝึกทักษะกระบวนการคิด การ เผชิญสถานการณ์ การประยุกต์ความรู้เพื่อใช้ในชีวิต ประจำ�วัน การแก้ไขและประเมินสถานการณ์เฉพาะ หน้า

ยังมีเรื่องของการปลูกฝังคุณธรรม ค่านิยม คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ของสังคม การจัดโครงการ นี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการถ่ายทอดสู่นักเรียน ให้ เป็นคนดี คนเก่ง และมีความสามารถ จะเห็นได้ว่า ปัจจุบัน โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งถึง

สังคมเมือง ดังนัน้ การจัดกระบวนการเรียน การสอน แบบเดิม ภายใต้วิธีคิดแบบเดิม จึงไม่สามารถก้าวทัน โลกปัจจุบันได้ การสร้างโครงงานจะทำ�ให้เด็กได้มี ความรู้ แสวงหาแหล่งข้อมูล สังเคราะห์ได้ วิเคราะห์ เป็น จัดลำ�ดับความสำ�คัญของข้อมูล สู่การตัดสิน ใจ สู่การนำ�เสนอเป็น Present ซึ่งกระบวนโครงการ จะทำ�ให้พัฒนาทักษะชีวิต Blue Print ทางการศึกษา และเป็นประโยชน์กันนักเรียนในสังกัดเทศบาลนคร ขอนแก่น

นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวต่อว่า การจัดอบรม Project-Based Learning ในครั้งนี้ เพื่อ นำ�ไปประยุกต์รูปแบบให้กับลูกศิษย์ ซึ่งคณะครูต้อง จัดกระบวนการและเชื่อมโยงให้ลูกศิษย์เข้าใจ ให้เด็ก เรียนรู้ และก้าวทันเทคโนโลยี มีความรู้รอบตัว โดย เฉพาะการเรียนรู้ภาษาประเทศเพื่อนบ้าน และภาษา สากล (อังกฤษ จีน) และหวังว่า อนาคตของเยาวชน ทีจ่ ะโตขึน้ มา “ภายใต้โลกทีม่ กี ารเปลีย่ นแปลงไปอย่าง รวดเร็ว จะมีความพร้อมและสามารถปรับตัวเข้ากับ ความเปลี่ยนแปลงได้ เชื่อมั่นว่า ครูเทศบาลมีความ สามารถในการถ่ายทอดประสบการณ์ได้เป็นอย่างดี

เครือข่ายสุขภาพเพื่อประชาชนภาคอีสาน ระดม กำ�ลังเตรียมจัดงานมหกรรมสานพลังสร้างสุข

กขป.7 ประชุมเตรียมความพร้อมจัดงาน มหกรรมสานพลังสร้างสุข ภาคอีสาน ระดมกำ�ลัง สร้างภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนงานสุขภาวะในพื้นที่ และเสริมพลังในระหว่างประเด็น ทัง้ แบบข้ามพืน้ ที่ และข้ามประเด็น

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 ณ ห้องประชุม ฉัททันต์ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชาออคิด จ.ขอนแก่น นายสุทธินนั ท์ บุญมี ประธานกรรมการ เขตสุขภาพเพือ่ ประชาชน เขตพืน้ ที่ 7 (กขป.7) เป็น ประธานการประชุมคณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อ ประชาชน เขตพืน้ ที่ 7 ครัง้ ที่ 2/2561 โดยมี กรรมการ กขป.7 พร้อมผู้แทนส่วนราชการส่วนภูมิภาค และ รัฐวิสาหกิจ เข้าร่วมประชุม

นายสุทธินันท์ กล่าวว่า คณะกรรมการเขต สุขภาพเพือ่ ประชาชน เขตพืน้ ที่ 7 (กขป.7) ประกอบ ด้ ว ยผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ จ ากด้ า นต่ า ง ผู้ แ ทนจากหน่ ว ย งานราชการ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่น และองค์กรพัฒนาเอกชน ทุกภาคีเครือข่ายใน พื้นที่เข้ามาเป็นคณะกรรมการฯ มีบทบาทหน้าที่ หลักในการเชื่อมประสานงาน สานพลังสังคมสู่ สุขภาวะ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัด ร้อย แก่นสารสินธุ์ (ร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม และ กาฬสินธุ์) สุขภาพดี มีสุขอย่างยั่งยืน และมีพันธกิจ ในการสร้างความร่วมมือภาคีเครือข่าย โดยกำ�หนด ปัญหาสุขภาพพื้นที่เป็นฐานบูรณาการกลไกการ ทำ�งาน และสร้างการเรียนรู้โดยพัฒนาระบบการ สื่อสารเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนการทำ�งานสร้าง เสริมสุขภาวะ และการสร้างนโยบายสาธารณะอย่าง มีส่วนร่วม

สำ�นักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ได้สนับสนุนให้เขตสุขภาพเพื่อประชาชน

ทั้ง 13 เขต จัดกิจกรรมรวบรวมสถานการณ์ องค์ ความรู้ และนวัตกรรมการพัฒนาและการขับเคลือ่ น สุขภาวะในพื้นที่เขตสุขภาพเพื่อประชาชน เพื่อนำ� เสนอในงานมหกรรมสานพลังสร้างสุขในระดับ ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และ กรุงเทพฯ เพือ่ แลกเปลีย่ นเรียนรูแ้ ละพัฒนาชุดความ รูเ้ พือ่ การแก้ไขปัญหาสุขภาพในเขตพืน้ ที่ สร้างภาคี เครือข่ายขับเคลื่อนงานสุขภาวะในพื้นที่ และเสริม พลังในระหว่างประเด็น ทั้งแบบข้ามพื้นที่และข้าม ประเด็น

นายสุทธินันท์ กล่าวต่อว่า สำ�หรับ กขป.7 นอกจากจะเตรียมการเพื่อเข้าร่วมงาน “มหกรรม สานพลังสร้างสุข ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” กับ กขป.8 ,9 และกขป.10 แล้ว ยังได้รับมอบหมายให้ ทำ�หน้าที่ประสานงานและเป็นเจ้าภาพหลัก ใน การจัดงานดังกล่าว โดย กขป.ภาคอีสานจะจัดงาน “มหกรรมสานพลังสร้างสุข ภาคอีสาน” ขึน้ ระหว่าง วันที่ 28-30 พฤศจิกายน 2561 ในเบือ้ งต้นคาดว่าจะมี การจัดงานที่ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น (KICE) อ.เมือง จ.ขอนแก่น และ สนาม กีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น คาดว่าจะ มีผู้มาร่วมงานประมาณกว่าหมื่นคนจากทุกจังหวัด ในภาคอีสาน “นอกจากนี้ ก ารประชุ ม ครั้ ง นี้ ยั ง มี ก ารพิ จ ารณา ประเด็นปัญหาสุขภาพในพื้นที่ เพื่อนำ�เสนอในงา นมหกรรมฯ รวม 4 ประเด็น ด้วยกัน คือ ประเด็นที่ 1.การเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ ประเด็นที่ 2.การขับเคลื่อนระบบอาหารปลอดภัย ในภาคอีสาน ประเด็นที่ 3. พระสงฆ์กบั ความมัน่ คง ทางสุขภาพ และประเด็นที่ 4. ปัญหาการปลอมปน ยาในอาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพ”

หน้า 3

ปีที่ 16 ฉบับที่ 170 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2561

ดีแทคชี้เงื่อนไขการประมูลคลื่น 900 MHz มีความเสี่ยง ดีแทคเทอร์โบ คลื่นใหม่ มาแรง เอาใจลูกค้าเก่าและ ดีแทคเทอร์โบ คลื่นใหม่ มาแรง เอาใจลูกค้าเก่าและ ต่อผู้ชนะประมูลและอุตสาหกรรมโทรคมนาคมระยะยาว ลูกค้าใหม่ จับมือ บิก๊ ซี มอบส่วนลดสูงสุด 6,000 บาท ลูกค้าใหม่ จับมือ เจมาร์ท มอบส่วนลดสูงสุด 6,000 บาท

ดีแทคเข้าปรึกษา กสทช อีกครั้งในวันนี้ (17 ก.ค.) ยํ้าเงื่อนไขเพิ่มเติมในการประมูลคลื่น ความถี่ 900 MHz อาจส่งผลต่อภาระให้ผู้ชนะการ ประมูลไม่สามารถปฏิบตั ไิ ด้จริง ก่อให้เกิดประเด็น การรบกวนสัญญาณคลืน่ ความถีไ่ ม่ได้แก้ไข และส่ง ผลคุณภาพโครงข่ายระยะยาวสำ�หรับผูใ้ ช้โทรศัพท์ เคลื่อนที่ทั่วประเทศ

นายราจีฟ บาวา รองประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร กลุม่ กิจการองค์กรและพัฒนาธุรกิจ บริษทั โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำ�กัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “การประมูลคลื่นความถี่ถือ เป็นก้าวสำ�คัญของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมใน ประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำ�หรับคลื่นความ ถี่ตํ่าย่าน 900 MHz ซึ่งมีความสำ�คัญในการสร้าง สัญญาณครอบคลุมทั่วประเทศโดยเฉพาะนอกพื้ นที่เขตเมือง ขณะนี้ ดีแทคจึงต้องปรึกษาร่วมกับ กสทช. เพื่อให้มั่นใจว่าการประมูลคลื่นความถี่จะ สร้างประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุดสำ�หรับ ทั้งรัฐและลูกค้า”

ยํ้าประเด็นหลักต่อเงื่อนไขการประมูลใบ อนุญาต 900 MHz

1. เงื่อนไขในการอนุญาตข้อ 16 ที่กำ�หนด ให้ผู้ชนะการประมูลจะต้องมีหน้าที่รับผิดชอบใน การป้องกันและแก้ไขปัญหาการรบกวนกันของ คลื่นความถี่และการรบกวนระบบอาณัติสัญญาณ ของระบบคมนาคมขนส่ ง ทางรางทั้ ง หมดแต่ เพียงผู้เดียว โดยมีภาระในการติดตั้งวงจรกรอง สัญญาณ (filter) ให้แก่ผู้รับใบอนุญาตรายเดิมที่ใช้ คลืน่ ความถีย่ า่ น 850 MHz และผูใ้ ห้บริการระบบค มนาคมขนส่งทางราง จำ�นวน 4โครงการซึง่ ในเบือ้ ง ต้น คาดว่าจะมีประเด็นปัญหา คือ - ค่าใช้จ่ายในการดำ�เนินการที่เชื่อว่าจะ สูงกว่าจำ�นวนเงินที่ กสทช. ลดราคาขัน้ ตาํ่ ของการ ประมูลให้จำ�นวน 2,000 ล้านบาทมาก - ปัญหาในทางปฏิบัติที่ผู้ชนะการประมูล

จะเข้าไปดำ�เนินการติดตั้ง filter ในสถานีฐาน ของผู้รับใบอนุญาตรายเดิมทั้งหมดที่มีอยู่ ณ วัน ที่ออกประกาศการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ฉบับนี้ ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก - ปัญหาในทางเทคนิคและทางปฏิบัติใน การดำ�เนินการติดตัง้ filter ให้ระบบคมนาคมขนส่ง ทางรางซึง่ ณ ขณะนี้ ยังไม่ทราบว่าเป็นระบบอะไร 2. เงือ่ นไขในการอนุญาตข้อ 17. กสทช. สงวนสิทธิ์ ที่จะปรับเปลี่ยนการใช้คลื่นความถี่เป็นช่วง 885890/930-935 MHz ในกรณีที่จำ�เป็น โดยผู้ชนะ การประมูลจะต้องมีหน้าที่รับผิดชอบดำ�เนินการ ป้องกันการรบกวนคลืน่ ความถีซ่ งึ่ ในกรณี จะต้อง ติดตัง้ วงจรกรองสัญญาณ(filter) ณ สถานีฐานของ ผูร้ บั ใบอนุญาตให้ใช้คลืน่ ความถีย่ า่ น 900 MHz เพิ่ มเติมจากที่ต้องดำ�เนินการในกรณีแรกตามเงื่อน ไขข้อ 16

ทั้ ง นี้ เงื่ อ นไขการประมู ล เพิ่ ม เติ ม ดั ง กล่ า วส่ ง ผลกระทบอย่ า งมี นั ย สำ � คั ญ ต่ อ การ ประเมิ น มู ล ค่ า คลื่ น ความถี่ ย่ า น 900 MHz ที่ กสทช. นำ�ออกมาประมูล ซึ่งดีแทคได้เข้าหารือ กับ กสทช. เพื่อให้การประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz ประสบความสำ�เร็จ โดยสามารถนำ�คลื่น ความถีต่ าํ่ มาใช้ประโยชน์ได้สงู สุดต่ออุตสาหกรรม เร่ ง ขยายโครงข่ า ยให้ ค รอบคลุ ม พื้ น ที่ ใ ห้ โทรคมนาคม และประโยชน์ของประชาชนมากยิง่ บริการอีก 37 จังหวัด คาดมีผู้ใช้บริการกว่า 4 ล้าน ขึ้น รวมทั้งจะส่งผลสร้างรายได้ให้รัฐบาลอีกด้วย ราย ภายในสิ้นปีนี้

ดีแทคเปิดให้บริการคลื่นใหม่ 2300 MHz ดีแทคเทอร์โบ ที่จังหวัดขอนแก่น ในพื้นที่ที่มีการ ใช้งานดาต้าอินเทอร์เน็ตหนาแน่นในแหล่งชุมชน ตลาด ย่านเศรษฐกิจและการค้า ตลาด เช่น ย่านถนน หน้าเมือง ย่านถนนศรีจันทร์ ตลาดบางลำ�พู บึงแก่น นคร ตลาดนัดต้นตาล ประตูนํ้าขอนแก่น ถนนคน เดินขอนแก่น เพื่อให้พ่ีน้องชาวขอนแก่น ได้ใช้งาน อินเทอร์เน็ต รับส่งข้อมูล ดูหนัง วิดีโอ เล่นโซเชียล ได้เสถียรกว่า

ปั จ จุ บั น ดี แ ทคมี ค ลื่ น ย่ า นความถี่ สู ง เพิ่ ม มากกว่าเดิม 10 MHz จากคลื่นใหม่ 2300 MHz ที่ จะนำ�มาให้บริการสำ�หรับคลื่นย่านความถี่สูงอย่าง พอเพียง ดีแทคได้ถือครองความถี่ย่าน 2100 MHz วิธีทำ�กิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยทำ�ในแบบออฟไลน์ จำ�นวน 2x15 MHz และมีคลืน่ ใหม่ความถี่ 2300 MHz มาเป็นออนไลน์เพิ่มขึ้น อาทิ การจองและซื้อตั๋ว จำ�นวน 1x60MHz ซึ่งเป็นคลื่นความถี่เดียวที่กว้าง โดยสาร การจองห้องพักโรงแรม การฟังเพลง ที่สุดในประเทศไทย คลื่น 2300 MHz ได้ถูกนำ�มาให้ การดูภาพยนตร์ และการบริการรับส่งเอกสาร บริการ 4G TDD เพื่อ ตอบสนองการใช้งานดาต้าที่ ส่วนกิจกรรมที่นิยมทำ�เมื่อใช้อินเทอร์เน็ตมาก เน้นการดาวน์โหลด สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้า ที่ สุ ด 5 อั น ดั บ แรก ได้ แ ก่ ก ารใช้ โ ซเชี ย ลมี เ ดี ย ทีห่ นั มานิยมการรับชมวิดโี อผ่านสมาร์ทโฟนจำ�นวน (86.9%) การค้นหาข้อมูล (86.5%) การรับส่ง หลายชั่วโมงต่อวัน พร้อมกันนี้ ดีแทคยังได้มอบข้อ อีเมล (70.5%) การดูทีวีและฟังเพลงออนไลน์ เสนอพิเศษให้พนี่ อ้ งในขอนแก่น กับแพ็กเกจเล่นเน็ต (60.7%) การซื้ อ สิ น ค้ า ออนไลน์ (50.8%) และอุปกรณ์มือถือราคาพิเศษสุดๆอีกด้วย นายปัญญา เวชบรรยงรัตน์ รองประธานเจ้า สำ � หรั บ โซเชี ย ลมี เ ดี ย ที่ ค นไทยนิ ย มใช้ ม าก ทีส่ ดุ ได้แก่ YouTube (97.1%), Facebook (96.6%), หน้าที่บริหาร กลุ่มงานพาณิชย์ บริษัท โทเทิ่ล แอ็ค Line (95.8%), Instagram (56%), Pantip (54.7%), เซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำ�กัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าว ว่า “ขอนแก่นเป็นเมืองสำ�คัญของภาคอีสาน เป็น Twitter (27.6%) และWhatsApp (12.1%)

ปัจจุบันลูกค้ามีความต้องการใช้ความเร็ว ศูนย์กลางเชือ่ มโยงการค้า การลงทุน และการบริการ อินเทอร์เน็ตสูงและต่อเนื่องไม่สะดุด ดังนั้น เพื่อ ของกลุม่ ประเทศลุม่ นํา้ โขง ดีแทคจึงได้เปิดให้บริการ เป็นการตอบโจทย์ประสบการณ์บนมือถือให้ดี ดีแทคเทอร์โบ ไปพร้อมๆกับ กรุงเทพฯ ภูเก็ตและ ยิ่งขึ้น ดีแทคเทอร์โบ จึงมอบข้อเสนอแพ็กเกจรา เชียงใหม่ โดยมีกลยุทธ์ในการเปิดให้บริการในพื้นที่ คาพิเศษ ในโอกาสฉลอง ดีแทคเทอร์โบ คลื่น ที่มีการใช้งานดาต้าอินเทอร์เน็ตหนาแน่นในแต่ละ ใหม่ อาทิ สำ�หรับลูกค้าโพสต์เพด แพ็กเกจ Super พื้นที่อย่างเร็วที่สุด” “การมาเปิดให้บริการดีแทคเทอร์โบ ครั้งนี้ Non-Stop เน็ตแรง เต็มสปีด ใช้ไม่หมดให้ทบไป จะเป็ น การเสริ มศักยภาพของเทคโนโลยีโครงสร้าง เดือนหน้าได้ รายละเอียดแพ็กเกจ http://www. dtac.co.th/postpaid/products/super-non-stop. พื้นฐาน การใช้อินเทอร์เน็ตจากมือถือของบรรดา htmlสมัครแพ็กเกจตั้งแต่ 599 บาทขึ้นไป แพ็กเกจ ประชาชน ผู้ประกอบธุรกิจ ในจังหวัดขอนแก่น ที่ เสริมอินเทอร์เน็ตใหม่สำ�หรับลูกค้าพรีเพด Super จะช่วยสนับสนุนในการติดต่อสื่อสาร ได้อย่างไร้ขีด Max-Net ให้เน็ตเยอะสุด แรงทะลุจอ บนคลืน่ ใหม่ จำ�กัด ช่วยธุรกิจ SME ตลอดถึงการค้าขายสินค้าทาง รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.dtac.co.th/prepaid

นอกจากนี้ ยั ง มี ม หกรรมลดราคาสมา ร์ทโฟน Super Speed Super Sale ส่วนลดสูงสุด 15,000 บาท พิเศษสุด! ดีแทคแจกคูปองส่วนลดค่า ดี แ ท ค เ ข้ า รั บ เ อ ก ส า ร ก า ร ป ร ะ มู ล เครือ่ งเพิม่ อีก 2,300 บาท ใช้ได้ทงั้ ลูกค้าเติมเงินและ ค ลื ่ น ค ว า ม ถี่ ย่ า น 9 0 0 M H z แ ล ะ 1 8 0 0 รายเดือน สำ�หรับลูกค้าแบบรายเดือน Samsung Galaxy A6 จากราคาปกติ 8,900 บาท รับส่วนลด MHz ที่จะจัดประมูลขึ้นโดยสำ�นักงาน กสทช. ใน เพิม่ จากคูปองส่วนลด 2,300 บาทเหลือเพียง 2,600 วันที่ 18-19 สิงหาคมนี้ พร้อมเข้าร่วมการชี้แจงการ บาท (เมื่อชำ�ระค่าบริการล่วงหน้า 2,000 บาท ประมูล (Information Session) นายราจี ฟ บาวา รองประธานเจ้ า หน้ า ที่ พร้อมสมัคร หรือ มีแพ็กเกจเริ่มต้น 699 บาท) บริ ห าร กลุ่มกิจการองค์กรและพัฒนาธุรกิจ บริษัท Samsung Galaxy S9+256GB จากราคาปกติ 37,900 บาท รับคูปองส่วนลด 2,300บาท เหลือ โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำ�กัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า “ดีแทคเข้าร่วมการชีแ้ จงการประมูล เพียง

22,100 บาท (เมื่อชำ�ระค่าบริการล่วงหน้า (Information Session) โดยมีความกังวลต่อข้อกำ�หน 5,000 บาท พร้อมสมัครหรือมีแพ็กเกจเริ่มต้น ดเงื่อนไขการประมูลใหม่ ในเงื่อนไขในการอนุญาต 1,099 บาท) iPhoneX จากราคาปกติ 41,000 บาท ข้อ 16, 17 และ 18 ที่กำ�หนดให้ผู้ชนะการประมูล รับส่วนลดจากคูปอง 2,300 บาท เหลือเพียง 24,700 คลืน่ 900 MHz จะต้องมีหน้าที่รับผิดชอบในการป้อ บาท (เมื่อชำ�ระค่าบริการล่วงหน้า 5,000 บาท งกันและแก้ไขปัญหาการรบกวนกันของคลืน่ ความถี่ พร้อมสมัครหรือมีแพ็กเกจเริ่มต้น 1,499 บาท) และการรบกวนระบบอาณัตสิ ญั ญาณของระบบคมน และสำ�หรับลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิม รับส่วนลด าคมขนส่งทางรางทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว รวมถึงรับ ค่าเครื่องเพิ่มอีก 1,500 บาท หรือดูรายะเอียดเพิ่ม ผิดชอบแก้ไขให้แก่ผู้รับใบอนุญาตคลื่นความถี่ 850 เติม http://www.dtac.co.th/camp/device/best-deal. MHz และ 900 MHz รายอื่นด้วย”

ดีแทคชีแ้ จงประเด็นหลัก 2 ข้อทีก่ �ำ หนดเพิม่ html นายปัญญา กล่าว ให้ผู้ชนะที่ได้รับใบอนุญาตคลื่น 900 MHz คือ

เปิดตัว ดีแทคเทอร์โบ คลื่น 2300MHz ที่ขอนแก่น

ดี แ ทค เร่ ง ขยายโครงข่ า ย บริ ก ารคลื่ น 2300MHz ดี แ ทค เทอร์โบ โดยเปิดพื้นที่ให้บริการคลื่น 2300MHz กับชาวขอนแก่นในพื้นที่ ที่มีการใช้งานดาต้าอินเทอร์เน็ตหนา แน่ น ในแหล่ ง ชุ ม ชน เมื่ อ วั น ที่ 29 มิถุนายน 2561 ณ ตลาดชุมขน ลาน กี ฬ าต้ า นยาเสพติ ด ริ ม บึ ง ก่ น นคร และเพิ่ ม พื้ น ที่ ใ ห้ บ ริ ก ารครอบคลุ ม อีก 37 จังหวัดภายในสิ้นปีนี้ คาดมีผู้ ใช้บริการกว่า 4 ล้านราย

นายปัญญา เวชบรรยงรัตน์ รองประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานพาณิชย์ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็สคอมมูนเิ คชัน่ จำ�กัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ขอนแก่น เป็นหัวเมืองทีม่ คี วามสำ�คัญของ ภาคอีสาน เป็นศูนย์กลางเชือ่ มโยงการค้า การลงทุน และการบริการ ของกลุ่มประเทศลุ่มนํ้าโขง ดีแทค จึงเปิดให้บริการ “ดีแทคเทอร์โบ” คลื่น 2300MHz พร้อมกับ กรุงเทพฯ ภูเก็ต และ เชียงใหม่ โดยมี กลยุทธ์ในการเปิดให้บริการในพื้นที่ที่มีการใช้งาน ดาต้าอินเทอร์เน็ตหนาแน่นในแต่ละพื้นที่อย่างเร็ว ที่สุด

การเปิดให้บริการดีแทคเทอร์โบ เป็นการ เสริมศักยภาพของเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน การใช้อินเทอร์เน็ตจากมือถือ ทั้งการใช้งานของ ประชาชน ผู้ประกอบธุรกิจในจังหวัดขอนแก่น เป็นการช่วยสนับสนุนในการติดต่อสื่อสาร ได้ อย่างไร้ขีดจำ�กัด ช่วยธุรกิจ SME ธุรกิจการค้าขาย สินค้าทางออนไลน์ มีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่ง ขึ้น โดยเฉพาะขอนแก่น เป็นเมืองที่เหมาะกับการ ลงทุน ช่วยผลักดันให้ยุทธศาสตร์เมืองก้าวสู่การ เป็นเมืองสมาร์ทซิตี้ ได้อย่างมั่นคงในอนาคต นาย ปัญญา กล่าวและว่า

“ดี แ ทคเทอร์ โ บ ให้ บ ริ ก ารบนคลื่ น 2300 MHz โดยความร่ ว มมื อ กั บ ที โ อที มอบ ประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นกว่า โดยครอบคลุมพื้นที่ สำ�คัญด้านเศรษฐกิจการท่องเทีย่ ว และพืน้ ทีช่ มุ ชน โดยเฉพาะในเขตอำ�เภอเมือง ซึง่ ในจังหวัดขอนแก่น มีลูกค้าที่ใช้งาน 4G ถึง 140,000 คน เชื่อว่า ลูกค้า ดีแทคจะมีประสบการณ์การใช้ดาต้าที่ดีขึ้น อีกทั้ง ยังให้บริการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ดีแทค ยัง ได้เตรียมโปรโมชั่นพิเศษ สุดคุ้ม มอบให้กับลูกค้า ที่ใช้ 2G ให้อัพเกรดประสิทธิภาพการใช้งานไปสู่ 4G ด้วยข้อเสนอที่น่าสนใจ โดยมอบโทรศัพท์มือ ถือที่รองรับการใช้งาน 4G TDD ผ่านช่องทาง การ ขายตรง การโทรติดต่อ การส่งมอบให้ถึงบ้านหรือ ที่ทำ�งาน และการส่ง SMS ให้ลูกค้าทราบ ซึ่ง ดี แทค กำ�ลังเร่งผลักดันให้มีมาตรการคุ้มครองการ ใช้งานตามประกาศของกสทช. ซึ่งนั่นหมายความ ว่า ดีแทคยังสามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีซิมดับ ลูกค้า 3G บนคลื่น 850 MHz ยังได้รับ ประโยชน์จากการเร่งขยายโครงข่าย 2100 MHz เพือ่ การใช้งานได้ครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้น

นายปัญญา กล่าวต่อไปว่า จากผลสำ�รวจ พฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ปี 2560 ของสำ�นักงาน พั ฒ นาธุ ร กรรมทางอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ (องค์ ก าร มหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวง ดิ จิ ทั ล เพื่ อ เศรษฐกิ จ และสั ง คม ชี้ ใ ห้ เ ห็ น ว่ า คน ไทยมีไลฟ์สไตล์ดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเปลี่ยน

ดี แ ทค เดิ น หน้ า ชู โ รง ฉลอง คลื่ น ใหม่ ดี แ ทคเทอร์ โ บ ใหญ่ ก ว่ า ลํ้ า กว่ า ลื่ น กว่ า ด้ ว ยคลื่ น ความถี่ 60 MHz รายเดียวที่ลํ้ากว่าด้วยเทคโนโลยี TDD เพิ่มช่องสัญญาณ ช่วงการใช้งาน หนาแน่น และลืน่ กว่า ด้วยประสบการณ์ รับส่งข้อมูล ผ่านมือถือ ให้ลกู ค้าปัจจุบนั และลู ก ค้ า ใหม่ ไ ด้ ใ ช้ บ ริ ก ารในราคาที่ คุ้มค่า คุ้มราคา จับมือช่องทางการจัด จำ � หน่ า ยรายใหญ่ เจมาร์ ท โดยมี น าย ปัญญา เวชบรรยงรัตน์ รองประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร กลุ่มงานพาณิชย์ (ขวา) และนายอรรค พงศ์ ลินพิศาล ผู้อำ�นวยการอาวุโส สายงานช่อง ทางการจัดจำ�หน่าย กลุ่มงานพาณิชย์ (ที่ 2 จาก ขวา) บริ ษั ท โทเทิ่ ล แอ็ ค เซ็ ส คอมมู นิ เ คชั่ น จำ�กัด (มหาชน) หรือดีแทค ร่วมกับนายสุทธิ พงศ์ จนั ทร์ภกั ดี (ที ่ 2 จากซ้าย) ผูช้ ว่ ยผูอ้ �ำ นวยการ ธุรกิจโทรศัพท์มอื ถือ บริษทั บิก๊ ซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำ�กัด (มหาชน) จัดแคมเปญ Super Speed Super Sale ในบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ที่ร่วมรายการ เริ่ม ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน - 31 สิงหาคม 2561 นี้ เท่านั้น · มือถือราคาพิเศษสุด! เช่น Huawei P20 Pro (ราคาปกติ 27,990 บาท) Samsung Galaxy S9+ 256GB (ราคาปกติ 37,900 บาท) Oppo R15 Pro (ราคาปกติ 1 9,990 บาท) Vivo X21 (ราคาปกติ 19,990) · ลู ก ค้ า เปิ ด เบอร์ ใ หม่ ร ายเดื อ น หรื อ

ลู ก ค้ า ที่ เ ปลี่ ย นจากเติ ม เงิ น เป็ น รายเดื อ นรั บ ส่วนลดค่าเครื่องเพิ่ม 6,000 บาท เมื่อชำ�ระล่วง หน้ า 3,000 บาท พิ เ ศษพร้ อ มรั บ ส่ ว นลดค่ า บริการรายเดือนเพิ่มอีก 2300 บาท สำ�หรับลูกค้า ที่สมัครแพ็กเกจ Super Non-Stop 899 บาทขึ้น ไป โดยลูกค้าปัจจุบันที่ใช้บริการมาแล้ว 90 วัน ขึ้นไป เมื่อซื้อเครื่องยังคงได้รับสิทธิ์พิเศษ ฟรี เน็ต 24GB เดือนละ 2GB นาน 12 เดือน ที่สมัคร แพ็กเกจ Super Non-Stop 399 บาทขึ้นไป · ลกู ค้าเติมเงิน เมือ่ สมัคแพ็กเกจ Super Max-Net 299 บาทขึน้ ไป รับเงินคืนสูงสุด 1,000 บาท พร้อม ฟรีเน็ตสูงสุด 10GB โดยลูกค้าใหม่ รับเงินคืน Cash back สูงสุด 1,000 บาท (100บาท/เดือน) พร้อมฟรี เน็ตสูงสุด 10GB (1GB/เดือน) ลูกค้าปัจจุบัน รับ ฟรีเน็ตสูงสุด 10GB (1GB/เดือน) ดู ร ายละเอี ย ดแคมเปญ Super Speed Super Sale ในร้านบิ๊กซี ที่ร่วมรายการได้ที่ http://www. dtac.co.th/device/

ดี แ ทค เดิ น หน้ า ชู โ รง ฉลอง คลื่ น ใหม่ ดี แ ทคเทอร์ โ บ ใหญ่ ก ว่ า ลํ้ า กว่ า ลื่ น กว่ า ด้ ว ยคลื่ น ความถี่ 60 MHz รายเดี ย วที่ ลํ้ า กว่ า ด้ ว ยเทคโนโ ลยี T DD เพิ่ ม ช่ อ งสั ญ ญาณ ช่ ว งการ ใช้ ง านหนาแน่ น และลื่ น กว่ า ด้ ว ย ประสบการณ์รับส่งข้อมูล ผ่านมือถือ ให้ ลู ก ค้ า ปั จ จุ บั น และลู ก ค้ า ใหม่ ไ ด้ ใ ช้ บริการในราคาที่คุ้มค่า คุ้มราคา จับมือ ช่องทางการจัดจำ�หน่ายรายใหญ่ เจมาร์ ท โดยมีนายปัญญา เวชบรรยงรัตน์ รองประธาน เจ้ า หน้ า ที่ บ ริ ห าร กลุ่ ม งานพาณิ ช ย์ (ที่ 2 จาก ขวา) และนายอรรคพงศ์ ลินพิศาล ผู้อำ�นวยการ อาวุโส สายงานช่องทางการจัดจำ�หน่าย กลุ่มงาน พาณิชย์ (ขวา) บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิ เคชั่น จำ�กัด (มหาชน) หรือดีแทค ร่วมกับนายดุสิต สุขุมวิทยา (ที่ 2 จากซ้าย) และนางสาวศุภมาศ ไข่ แก้ว (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท เจ มาร์ท จำ�กัด (มหาชน) จัดแคมเปญ Super Speed Super Sale ในร้านเจมาร์ท ทีร่ ว่ มรายการ เริม่ ตัง้ แต่วนั ที ่ 25 มิถนุ ายน - 31 สิงหาคม 2561 นีเ้ ท่านัน้

มือถือราคาพิเศษสุด! เช่น Huawei P20 Pro (ราคาปกติ 27,990 บาท) Samsung Galaxy S9+ 256GB (ราคาปกติ 37,900 บาท) Oppo R15 Pro (ราคาปกติ 1 9,990 บาท) Vivo X21 (ราคาปกติ 19,990)

ลูกค้าเปิดเบอร์ใหม่รายเดือน หรือลูกค้าที่ เปลีย่ นจากเติมเงินเป็นรายเดือนรับส่วนลดค่าเครือ่ ง

เพิ่ม 6,000 บาท เมื่อชำ�ระล่วงหน้า 3,000 บาท พิ เ ศษพร้ อ มรั บ ส่ ว นลดค่ า บริ ก ารรายเดื อ น เพิ่ ม อี ก 2300 บาท สำ � หรั บ ลู ก ค้ า ที่ ส มั ค รแพ็ ก เกจ Super Non-Stop 899 บาทขึ้นไป โดยลูกค้า ปัจจุบันที่ใช้บริการมาแล้ว 90 วันขึ้นไป เมื่อซื้อ เครื่องยังคงได้รับสิทธิ์พิเศษ ฟรีเน็ต 24GB เดือน ละ 2GB นาน 12 เดือน ที่สมัครแพ็กเกจ Super Non-Stop 399 บาทขึ้นไป

ลูกค้าเติมเงิน เมือ่ สมัคแพ็กเกจ Super MaxNet 299 บาทขึ้นไป รับเงินคืนสูงสุด 1,000 บาท พร้ อ มฟรี เ น็ ต สู ง สุ ด 10GB โดยลู ก ค้ า ใหม่ รั บ เงินคืน Cash back สูงสุด 1,000 บาท (100บาท/ เดื อ น) พร้ อ มฟรี เ น็ ต สู ง สุ ด 10GB (1GB/ เดือน) ลูกค้าปัจจุบนั รับฟรีเน็ตสูงสุด 10GB (1GB/ เดือน)

ดูรายละเอียดแคมเปญ Super Speed Super Sale ในร้านเจมาร์ท ทีร่ ว่ มรายการได้ท ี่ http://www. dtac.co.th/device/

ดีแทค เปิดให้บริการคลืน่ 2300 MHz ดีแทคเทอร์โบ ให้ชาวขอนแก่นใช้ได้แล้ววันนี้ ออนไลน์ เพราะขอนแก่นเป็นเมืองที่เหมาะกับการ ลงทุน ช่วยผลักดันให้ยทุ ธศาสตร์เมืองขอนแก่นก้าว เข้าสู่เมืองสมาร์ทซิตี้ได้อย่างมั่นคง” “ดีแทคเทอร์โบ ให้บริการบนคลื่น 2300 MHz โดย ความร่วมมือกับทีโอที มอบประสบการณ์ใช้งานที่ ลืน่ กว่า โดยครอบคลุมพืน้ ทีส่ �ำ คัญด้านเศรษฐกิจการ ท่องเที่ยวและพื้นที่ชุมชน โดยเฉพาะในเขตอำ�เภอ เมือง ซึ่งในจังหวัดขอนแก่นมีลูกค้าที่ใช้งาน 4G ถึง 140,000 คน เราเชือ่ ว่าลูกค้าจะมีประสบการณ์การใช้ ดาต้าทีด่ ขี นึ้ ดีแทคยังให้ค�ำ มัน่ ทีจ่ ะให้บริการอย่างต่อ เนือ่ ง และได้เตรียมโปรโมชัน่ สุดคุม้ เป็นพิเศษสำ�หรับ ลูกค้าทีใ่ ช้ 2G ให้อพั เกรดประสิทธิภาพการใช้งานไป สู่ 4G ด้วยข้อเสนอจูงใจในการมอบโทรศัพท์มอื ถือที่ รองรับการใช้งาน 4G TDD ผ่านช่องทาง การขายตรง การโทรติดต่อ การส่งมอบให้ถึงบ้านหรือที่ทำ�งาน และการส่ง SMS ให้ลูกค้าทราบ ดีแทคกำ�ลังเร่งผลัก ดันให้มีมาตรการคุ้มครองการใช้งานตามประกาศ ของ กสทช. ซึ่งนั่นหมายความว่า ดีแทคยังสามารถ ให้บริการได้อย่างต่อเนื่องไม่มีซิมดับ ลูกค้า 3G บน คลืน่ 850 MHz ยังจะได้รบั ประโยชน์จากการเร่งขยาย โครงข่าย 2100 MHz เพื่อการใช้งานได้ครอบคลุม พื้นที่มากยิ่งขึ้น”

จ า ก ผ ล สำ � ร ว จ พ ฤ ติ ก ร ร ม ผู้ ใ ช้ อิ น เทอร์ เ น็ ต ปี 2560 ของสำ � นั ก งานพั ฒ นา ธุ ร กรรมทางอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ (องค์ ก ารมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อ เศรษฐกิจและสังคม ชี้ให้เห็นว่าคนไทยมีไลฟ์สไตล์ ดิจทิ ลั มากขึน้ เรือ่ ย ๆ โดยเปลีย่ นวิธที �ำ กิจกรรมต่าง ๆ ทีเ่ คยทำ�ในแบบออฟไลน์มาเป็นออนไลน์เพิม่ ขึน้ เช่น การจองและซื้อตั๋วโดยสาร การจองห้องพักโรงแรม การฟังเพลง การดูภาพยนตร์ และการบริการรับส่ง เอกสาร ส่วนกิจกรรมที่นิยมทำ�เมื่อใช้อินเทอร์เน็ต มากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ การใช้โซเชียลมีเดีย (86.9%) การค้นหาข้อมูล (86.5%) การรับส่งอีเมล (70.5%) การดูทวี แี ละฟังเพลงออนไลน์ (60.7%) การ ซื้อสินค้าออนไลน์ (50.8%) สำ�หรับโซเชียลมีเดียที่ คนไทยนิยมใช้มากที่สุด ได้แก่ YouTube (97.1%), Facebook (96.6%), Line (95.8%), Instagram (56%), Pantip (54.7%), Twitter (27.6%) และWhatsApp (12.1%)

นายปั ญ ญา กล่ า วเพิ่ ม เติ ม ว่ า “ปั จ จุ บั น

ดีแทคห่วงข้อกำ�หนดผู้ชนะประมูล 900 MHz กระทบต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคม

1. ค่าใช้จ่าย – จำ�นวนเงินที่ กสทช. ลดราคาขั้นตํ่า ของการประมูลให้จำ�นวน 2,000 ล้านบาท เชื่อว่า ไม่ครอบคลุมงบประมาณในการดำ�เนินการสร้าง ระบบป้องกันคลื่นสัญญาณรบกวน (Filter) ให้กับผู้ ทีใ่ ห้บริการโทรคมนาคมรายอืน่ และระบบคมนาคม ขนส่งทางราง แม้ขณะนีจ้ ะยังไม่ได้มผี ลวิเคราะห์งบ ประมาณอย่างแน่นอน ดีแทคประเมินว่าค่าใช้จา่ ยจะ สูงกว่าการลดราคาขั้นตํ่าของการประมูลมาก

2. ความเสี่ยงในการดำ�เนินงาน – นอกจาก ค่าใช้จา่ ยแล้ว ผูช้ นะการประมูลจะต้องรับความเสีย่ ง จากการเข้าไปดำ�เนินการติดตั้งระบบป้องกันคลื่น สัญญาณรบกวน (Filter) ในสถานีฐานของผู้รับใบ อนุญาตรายเดิมทั้งหมดที่มีอยู่ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก ในทางปฏิบัติ นอกจากนี้ กสทช. ยังได้สงวนสิทธิ์ ที่จะปรับเปลี่ยนช่วงคลื่นความถี่ในกรณีที่จำ�เป็น โดยผู้ชนะการประมูลยังจะต้องมีหน้าที่รับผิดชอบ ดำ�เนินการในการป้องกันการรบกวนคลืน่ ความถี่ ณ สถานีฐานของผูร้ บั ใบอนุญาตให้ใช้คลืน่ ความถีย่ า่ น 900 MHz เพิม่ เติมจากทีไ่ ด้ด�ำ เนินการไปแล้วในช่วงค ลืน่ ความถีเ่ ดิม ดังนัน้ จึงทำ�ให้มคี วามเสีย่ งและความ

ลู ก ค้ า มี ค วามต้ อ งการใช้ ความเร็ ว อิ น เทอร์ เ น็ ต สู ง และลื่นขึ้นเพื่อจะตอบโจทย์ ประสบการณ์บนมือถือให้ดี ยิ่งขึ้น การทำ�การตลาดและ การขาย ดีแทคเทอร์โบ จึง ได้มอบข้อเสนอแพ็กเกจให้ ลู ก ค้ า ได้ เ ล่ น อิ น เทอร์ เ น็ ต สำ � หรั บ ลู ก ค้ า ทั้ ง โพสต์ เ พด และพรี เ พด และอุ ป กรณ์ มือถือราคาพิเศษ ในโอกาส ฉลอง ดีแทคเทอร์โบ คลื่น ใหม่”

ลูกค้าโพสต์เพด แพ็ก เกจ Super Non-Stop เน็ต แรงลํ้า เต็มสปีด กับเน็ตที่ ให้มากกว่า พร้อมใช้ไม่หมด ให้ ท บไปเดื อ นหน้ า ได้ ราย ละเอียดแพ็กเกจ http://www. dtac.co.th/postpaid/products/ super-non-stop.html สมัคร แพ็กเกจตั้งแต่ 599 บาทขึ้น ไป รับสิทธิ์ ดีแทค รีวอร์ด ได้ทันที

แพ็กเกจเสริมอินเทอร์เน็ตใหม่ส�ำ หรับลูกค้า พรีเพด Super Max-Net ให้เน็ตเยอะสุด แรงทะลุจอ บนคลื่นใหม่ รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.dtac.co.th/ prepaid

มหกรรมลดราคาสมาร์ทโฟน Super Speed Super Sale ส่วนลดสูงสุด 15,000 บาท พิเศษสุด! ดี แทคแจกคูปองส่วนลดค่าเครื่องเพิ่มอีก 2,300 บาท จำ�นวน 1,500 ใบ จากสมาร์ทโฟนราคาพิเศษ สำ�หรับ ชาวขอนแก่น รับสิทธิใ์ นงาน “ดีแทคชีวติ ติด Turbo” ณ สวน 200ปี ในวันที่ 29 มิ.ย.จำ�นวน 300 ท่านแรก และอีกที่เหลือรับได้ที่ศูนย์บริการดีแทคสาขาใน ขอนแก่นที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย เป็นต้น ไป ใช้ได้ทั้งลูกค้าเติมเงินและรายเดือน สำ�หรับลูกค้าแบบรายเดือน Samsung Galaxy A6 ราคาเพียง 2,600 บาท (จากราคาปกติ 8,900 บาท รวมส่วนลดเพิ่มจากคูปองส่วนลด 2,300 บาทแล้ว) เมื่อชำ�ระค่าบริการล่วงหน้า 2,000 บาทพร้อมสมัคร หรือมีแพ็กเกจเริ่มต้น 699 บาท

Samsung Galaxy S9+ 256GB ราคาเพียง 22,100 บาท(จากราคาปกติ 37,900 บาท รวมส่วนลด เพิ่มจากคูปองส่วนลด 2,300 บาทแล้ว) เมื่อชำ�ระค่า บริการล่วงหน้า 5,000 บาทพร้อมสมัครหรือมีแพ็ก เกจเริ่มต้น 1,099 บาท

iPhoneX ราคาเริม่ ต้นเพียง 24,700 บาท (จาก ราคาปกติ 41,000 บาทรวมส่วนลดเพิ่มจากคูปอง ส่วนลด 2,300 บาทแล้ว) เมือ่ ชำ�ระค่าบริการล่วงหน้า 5,000 บาท พร้อมสมัครหรือมีแพ็กเกจเริ่มต้น 1499 บาท

พิเศษลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิมรับส่วนลดค่า เครื่องเพิ่ม 1,500 บาท

รายะเอียดเพิ่มเติม http://www.dtac.co.th/ camp/device/best-deal.html

dtac TURBO เริ่มใช้ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ใน ขอนแก่น ลูกค้าที่สนใจและอยู่ในพื้นที่ให้บริการ สังเกต dtac-T เช็คความพร้อมที่โทร. *2300# และ www.dtac.co.th/network สามารถติดตามความคืบ หน้าได้ที่ www.dtac.co.th/network

ขอเข้ า ร่ ว มประมู ล ค ลื่ น 9 0 0 M H z และ 1800 MHz ; นายนฤพนธ์ รั ต น สมาหาร (ที่ 3 จาก ซ้ า ย) ผู้ อำ � นวยการ อาวุโส สายงานรัฐกิจ สั ม พั น ธ์ บริ ษั ท โท เทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิ เคชั่น จำ�กัด (มหาชน) หรื อ ดี แ ทค เป็ น ตั ว แทนบริ ษั ท ฯ เข้ า รั บ เอกสารคำ�ขอเข้าร่วมประมูลคลื่น 900 MHz และ 1800 MHz จากนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ (ที่ 2 จากซ้าย) เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่สำ�นักงาน กสทช. เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2561 ไม่แน่นอนด้านงบประมาณค่าใช้จา่ ยและการดำ�เนิน ชัดเจนในการใช้งานคลื่น 850 MHz เพื่อให้บริการลู งานเพิ่มขึ้นอีกมาก กค้าระหว่างการดำ�เนินการปรับเปลี่ยนดังกล่าว

นอกจากนั้ น ตามที่ ดี แ ทคได้ ส่ ง หนั ง สื อ ทั้ ง นี้ ดี แ ทคได้ ยํ้ า ถึ ง ความตั้ ง ใจในการ ถึง กสทช. เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดย พิ จ ารณาเงื่ อ นไขการประมู ล คลื่ น ความถี่ ก่ อ นจะ ระบุว่า การเปลี่ยนเป็นคลื่น 900 MHz เพื่อให้บ สรุปแนวทางการเข้าร่วม โดยยังคงเดินหน้าปรึกษา ริการครอบคลุมทั่วประเทศด้วยสถานีฐานประม หารือกับ กสทช. ในการแก้ไขประเด็นดังกล่าว และ าณ 13,000 สถานี จะต้องใช้เวลาในการติดตัง้ อุปกรณ์ ให้แน่ใจว่าคลื่นความถี่ 900 MHz สามารถนำ�มาปร ใหม่ประมาณ 24 เดือน ดังนั้น ดีแทคจึงขอความ ะมูลด้วยเงื่อนไขที่เหมาะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หน้า 4

ร่วมบันทึกเทปถวายพระพร ; พันโท พิสษิ ฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือ ข่าย นสพ. วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน นำ�คณะกรรมการบริหาร และที่ปรึกษา เข้าร่วมบันทึกเทปถวายพระพร เนื่องในโอกาสวันเฉลิม พระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรา งกูร 28 กรกฎาคม 2561 ณ ห้องแสดง สถานีวทิ ยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดขอนแก่น

ปีที่ 16 ฉบับที่ 170 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2561

สนับสนุนวันศรีนครินทร์ ; คุณนภาพร ถุนารินทร์ ผู้ช่วยผู้อำ�นวยการฝ่าย ขายและการตลาด โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชาออคิด เป็นตัวแทน โรงแรมฯ ร่วมสนับสนุนกิจกรรมวันศรีนครินทร์ โดยมี ผศ.นพ.ธเนศ รัง ษีขจี รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและการสื่อสารองค์กร และคุณวัฒนา พุทธิสวัสดิ์ ผู้จัดการกองทุนวันศรีนครินทร์ฯ เป็นผู้รับมอบ ณ สำ�นักงาน กองทุนวันศรีนครินทร์ฯ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ทำ�ดี ทำ�ง่าย ให้เลือด ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธาน มอบเกียรติบตั รให้กบั เยาวชนในสถานศึกษาตามโครงการ “ทำ�ดี ทำ�ง่าย ให้ เลือด โครงการทีก่ าชาดไทย ร่วมกับ เครือเจริญโภคภัณฑ์ สนับสนุนเยาวชน ไทยให้โลหิต ปี 2561 โดยมีเยาวชนจากสถานศึกษา 30 แห่ง ในจังหวัด ขอนแก่น เข้าร่วมโครงการ ณ โรงแรมกรีน โฮเต็ล ขอนแก่น

รวมใจ ปั่น ปลุก ลุกสร้างกระแส ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานปล่อยขบวนปั่นจักรยาน โครงการ “6 x 4 รวมใจ ปั่น ปลุก ลุกสร้างกระแส” รณรงค์โครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทยเทิดไทองค์ ราชัน โดยกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ สสส. จัดกิจกรรมเพือ่ สร้างกระแส ให้ประชาชนหันมาออกกำ�ลังการใส่ใจสุขภาพของตนเอง เป็นการปลุก กระแสร่วมกันทั้งประเทศ

สถานการณ์ยาเสพติดตามแนวชายแดน ; พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รอง นายกรัฐมนตรี และรมว.ยุติธรรม พร้อมคณะ ตรวจติดตามสถานการณ์ยา เสพติดตามแนวชายแดน โดยมีนายรณชัย จิตรวิเศษ ผวจ.หนองคาย พร้อม ด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ ณ ด่านสะพานพรมแดนมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย

ประชารัฐร่วมใจกำ�จัดผักตบชวา ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น นำ�ประชาชาชนและจิตอาสา ร่วมกิจกรรมทำ�ความดี กำ�จัดวัชพืชภายใน ลำ�ห้วย ในโครงการประชารัฐร่วมใจกำ�จัดผักตบชวา “เพื่อคลองสวย นํ้า ใส” แก้ไขปัญหานํ้าท่วมเขตเทศบาลนครขอนแก่น และปรับปรุงภูมิทัศน์ แม่นํ้าลำ�คลอง ณ บริเวณสะพานข้ามลำ�ห้วยพระคือ บ้านพระคือ ต.พระ ลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น

สร้างฝายชาวบ้าน ฝายประชารัฐ ; นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัด อุดรธานี เป็นประธานเปิดโครงการฝายชาวบ้าน ฝายประชารัฐ โดยมีนาย วิมล สุระเสน นายอำ�เภอหนองวัวซอ นายชัยวัฒน์ ลิม้ ลิขติ อักษร ผูอ้ �ำ นวย การสำ�นักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และ จิตอาสาเราทำ�ความดีดว้ ยหัวใจ ทหาร ตำ�รวจ นักเรียน-นักศึกษา ประชาชน ร่วมงานกว่า 300 คน ณ ป่าสงวนแห่งชาติป่าหมากหญ้า ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภาคอีสาน ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น ร่วมกับ ดร.อภิญาณ์ หทัยธรรม รองผู้อำ�นวยการองค์การ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) เป็นประธานเปิดงาน“มหกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติระดับภูมิภาค ครั้งที่ 3” ในภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ จัดโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หวังขยาย โอกาสการเรียนรู้ด้วย “วิทย์สร้างคน” สร้างแรงบันดาลใจสู่เยาวชนภาค อีสาน ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น

รพ.ธีรวัฒน์ จับมือ ส.นวอ.อีสาน จัดโครงการ “ฟ้าสวย ตาใส” ตรวจ คัดกรองโรคต้อกระจกตา คืนแสงสว่างให้ผู้ป่วยต้อกระจกและต้อเนื้อ ให้ ประชาชนเข้าถึงบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.61 ที่ห้องรับรอง โรงพยาบาลธีรวัฒน์ จ.กาฬสินธุ์ พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่าย นสพ. วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน นำ�คณะกรรมการบริหาร เข้าพบ นพ.ธีรวัฒน์ ร่มไทรทอง ผอ.โรง พยาบาลธีรวัฒน์ จ.กาฬสินธุ์ เพือ่ แลกเปลีย่ นข้อคิดเห็น การดำ�เนินโครงการ “ฟ้าสวย ตาใส” ตรวจคัดกรองโรคต้อกระจกตา คืนแสงสว่างให้ผู้ป่วย ต้อกระจกและต้อเนือ้ ให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ขึ้น

นพ.ธีรวัฒน์ ร่มไทรทอง กล่าวว่า คนบางคนอาจจะเห็นว่าไม่สำ�คัญ แต่สำ�หรับบางคนอาจจะต้องการแสงสว่างเพื่อที่จะทำ�ให้การใช้ชีวิตมีค่า และช่วยเหลือตัวเองได้มากกว่าอยูใ่ นความมืดมัว โรคตาต้อกระจกเป็นปัญหา ที่สำ�คัญโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ โดยแต่ละปีมีผู้สูงอายุราว 60,000 ราย เป็น ผู้ป่วยตาบอดจากต้อกระจกรายใหม่และจำ�เป็นต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยน เลนส์ตา

โรคต้อกระจกตา ต้อตา เป็นอาการทางสายตาที่พบมากในผู้สูงอายุ อาการตามัว ตาฟางหรือเห็นเป็นม่านสีขาวทำ�ให้ผู้สูงอายุมองไม่ชัดเหมือน เดิม พบมากในผูส้ งู อายุทมี่ อี ายุตงั้ แต่ 60 ปีขนึ้ ไป ซึง่ สาเหตุหลักมาจากความ ชราและความเสื่อมของร่างกายตามปกติ แต่ในบางรายที่มีอาการต้อกระจก ตอนอายุน้อยกว่า 60 ปี อาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่นได้เช่นกัน การรักษา โรคต้อกระจกตา ต้อตาในปัจจุบันสามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัดต้อกระจก ตา เมือ่ ผ่าตัดนำ�แก้วตาทีม่ ลี กั ษณะขาวขุน่ ออกแล้วแพทย์จะใส่เลนส์แก้วตา เทียมเข้าไปแทนที่ ทำ�ให้ผสู้ งู อายุทเี่ ข้ารับการผ่าตัดกลับมามองเห็นได้ชดั เจน และเป็นการรักษาที่ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน

“ผูป้ ว่ ยจะต้องเข้ารับการตรวจรักษาจากแพทย์ผเู้ ชีย่ วชาญเฉพาะทาง เท่านัน้ จึงจะได้รบั การดูแลอย่างดีทสี่ ดุ โรงพยาบาลธีรวัฒน์ เป็นโรงพยาบาล ชั้นนำ�ที่มีทีมจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ใส่ใจทั้งการตรวจอาการทางสายตา

ต่างๆ การผ่าตัดโรคต้อกระจกตา รวมทัง้ คำ�แนะนำ�ในการปฏิบตั ติ นหลังจาก การผ่าตัดต้อกระจก เพือ่ ทำ�ให้ผปู้ ว่ ยสามารถดูแลรักษาและใช้สายตาได้อย่าง เป็นปกติและยาวนานยิ่งขึ้น” นพ.ธีรวัฒน์ กล่าว

พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ กล่าวว่า โครงการ “ฟ้าสวย ตาใส” ตรวจคัด กรองโรคต้อกระจกตา คาดว่าจะช่วยลดการสะสมผู้ป่วยตาต้อกระจกที่รอ การผ่าตัดในแต่ละปี เข้าถึงการรักษาอย่างทั่วถึง นอกจากช่วยลดความทุกข์ ทรมานของผูป้ ว่ ยจากตาทีเ่ ลือนรางและมองไม่เห็นแล้ว ยังเป็นการยกระดับ คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุให้สามารถกลับมาดำ�เนินชีวิตประจำ�วันได้ปกติ

โรงพยาบาลธีรวัฒน์ จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับ สมาคมเครือข่าย นสพ. วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน ดำ�เนินโครงการผ่าตัดตาต้อกระจก เพื่อ เป็นการช่วยเหลือผูป้ ว่ ยสายตาเลือนรางจากเลนส์ตาขุน่ มัวทีร่ อการผ่าตัดตา ต้อกระจก ซึ่งนอกจากจะสามารถลดจำ�นวนผู้ป่วยที่รอคิวผ่าตัดใน รพ.ของ รัฐ แล้ว ยังก่อให้เกิดการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานและภาคีเครือ ข่ายที่เกี่ยวข้อง นำ�ไปสู่การพัฒนาการบริหารจัดการผ่าตัดต้อกระจกที่มี ประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ป่วยตาต้อกระจกเข้าถึงบริการรักษา ได้อย่างมีคุณภาพและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

“ฟ้าสวย ตาใส” คืนแสงสว่างให้ผปู้ ว่ ยต้อกระจก

วอนคนขอนแก่นร่วมทำ�บุญคนละบาท สานฝันเยาวชนที่รักเรียน

แข่งขันหุ่นยนต์บังคับมือ ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัด ขอนแก่น มอบของที่ระลึกให้กำ�ลังใจกับ ด.ช.รัฐพล โม้ตา และ ด.ช.ภานุ พันธ์ ชํ่าชอง นักเรียนชั้น ม.3 จาก โรงเรียนชุมแพศึกษา ซึ่งเป็นตัวแทน ประเทศไทย เข้าร่วมการแข่งขันหุ่นยนต์บังคับมือชิงแชมป์ประเทศโลก “SUMO Legged 2018” ทีป่ ระเทศจีน ในระดับชัน้ มัธยมศึกษาตอนต้น โดย มีกำ�หนดการแข่งขัน ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2561

ตลาดนัดสัญจร “คนขอนแก่นอุดหนุนกัน” ; นายคำ�นวณ สุวรรณดี พาณิชย์ จังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดงานตลาดนัดสัญจร “คนขอนแก่น อุดหนุนกัน” เพือ่ เป็นการช่วยเหลือ และสนับสนุนผูป้ ระกอบการในพืน้ ที่ จังหวัดขอนแก่น ให้มชี อ่ งทางการจัดจำ�หน่ายสินค้าของตัวเองมากขึน้ ตาม โนบาย โครงการตลาดประชารัฐ โดยมี นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธาน หอการค้าจังหวัดขอนแก่น และ บริษัท เอ็นเค แอพพาเรล จำ�กัด (สาขา บ้านทุ่ม) ร่วมให้การสนับสนุนกิจกรรม

ออกแบบชุดรีไซเคิล ; เพื่อให้เกิดการตระหนักรู้ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อนำ� ไปสูก่ ารเป็นสังคมรีไซเคิล โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด เปิดเวที อิสระจัดกิจกรรมภายในสำ�หรับพนักงาน ในการสร้างสรรค์ออกแบบชุด เสื้อผ้าจากวัสดุเหลือใช้ภายในแผนก ซึ่งถือเป็นการดำ�เนินกิจกรรมตาม แนวทางการพัฒนาความยัง่ ยืน ‘โครงการ PLANET 21 – ‘Acting Here’’ ที่ ทางโรงแรมในเครือแอคคอร์โฮเต็ลได้ตั้งปณิธานไว้

อุดรพร้อมเสิร์ฟความสุขทุกเมนู ; นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.อุดรธานี เป็น ประธานเปิดงาน “อุดรพร้อมเสิร์ฟความสุขทุกเมนู” ภายใต้โครงการ Thailand Shopping and Dining Paradise 2018 ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม 2561 จัดโดยจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับ ททท. และหอการค้า จังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม 2561

พูลแมนขอนแก่นฯ ร่วมปลูกป่าในเมือง ; โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด ร่วมปลูกต้นไม้ในป่ากลางเมือง ตามโครงการ “สวนป่าประชารัฐ เพือ่ ความสุขของคนไทย” เพิ่มพื้นพื้นที่สีเขียว ช่วยลดมลพิษ และสร้างสภาพ แวดล้อมทีด่ ขี องชุมชน เนือ่ งในวันต้นไม้แห่งชาติ ซึง่ ตรงกับวันวิสาขบูชา ซึ่งงาน “ปลูก อนาคต ปลูกป่าในเมืองขอนแก่น “ จัดโดยสำ�นักจัดการ ทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันสร้าง LANDMARK แห่ง ใหม่ให้ตวั เมืองขอนแก่น ด้วยถนนอุโมงค์ตน้ ไม้ระยะทางรวม 46 กิโลเมตร บนถนนเลี่ยงเมือง และเพื่อช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองขอนแก่น ซึ่ง กิจกรรมในงานได้จดั ให้มกี ารให้ความรูป้ ลูกจิตสำ�นึก จำ�หน่ายผลผลิตจาก ป่าชุมชน และผูเ้ ข้าร่วมงานยังได้รนื่ รมย์กบั คอนเสิรต์ ในสวนจาก 2 ศิลปิน ชื่อดังจาก LOVEiS คุณป๊อด ธนชัย อุชชิน และคุณนภ พรชำ�นิ Nop Ponchamni อีกด้วย

มูลนิธิเพื่อการศึกษาขอนแก่นมอบทุนการศึกษา ปี 61 จำ�นวน 127 ทุน เป็นเงิน 930,000 บาท ให้นักเรียน นักศึกษาใน อำ�เภอต่างๆ ใน จ.ขอนแก่น ที่มีความประพฤติดี เรียนดี ฐานะ ยากจน ที่ผ่านมามอบทุนการศึกษา 16 ครั้ง เป็นเงิน 11,584,400 บาท เงินทุนเหลือติดมูลนิธฯิ น้อยมากต้องขอคนขอนแก่นทำ�บุญ คนละบาทเพื่อมีเงินให้ทุนทุกปี

เมื่อวันที่ 14 ก.ค.61 ที่หอประชุมองค์การบริหารส่วน จังหวัดขอนแก่น นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ประธานมูลนิธเิ พือ่ การศึกษาจังหวัดขอนแก่น ครบ 200 ปี พ.ศ.2540 เป็นประธาน พิธีมอบทุนการศึกษา ประจำ�ปี 2561 ของมูลนิธิเพื่อการศึกษา จังหวัดขอนแก่นครบ 200 ปี พ.ศ.2540 โดยมี นายสมศักดิ์ จังตระ กุล ผวจ.ขอนแก่น คณะกรรมการเหล่ากาชาด จ.ขอนแก่น พร้อม ด้วยนายอำ�เภอทั้ง 26 อำ�เภอของจังหวัดขอนแก่น พระภิกษุ สามเณร พ่อค้า ประชาชน นักเรียน และนักศึกษา ได้รว่ มเป็นสักขีพยาน และมอบทุนให้กบั มูลนิธิฯอีกด้วย

เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาของเด็กนักเรียนและเยาวชน พระภิกษุ สามเณร ที่มีภูมิลำ�เนาอยู่ใน จ.ขอนแก่น ที่มีฐานะยากจนให้ มี โ อกาสได้ รั บ การศึ ก ษาต่ อ ในทุ ก ระดั บ อย่ า งต่ อ เนื่ อ ง ดำ � เนิ น การเพื่ อ สาธารณประโยชน์ หรือร่วมกับองค์กรการกุศลอื่นๆ เพื่อสาธารณะ

นางระเบียบรัตน์ กล่าวว่า มูลนิธเิ พือ่ การศึกษาจังหวัดขอนแก่น ครบ 200 ปี ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2542 เพื่อการศึกษาของบุตรหลาน โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนใน จ.ขอนแก่น จึงได้เริม่ ในการก่อตัง้ มูลนิธขิ นึ้ มาตัง้ แต่ตน้ ปี 2541 และสามารถ ก่อตั้งแล้วเสร็จในปี 2542

สำ�หรับการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาของเด็กนักเรียนและ เยาวชน ได้มอบทุนการศึกษาไปแล้ว 15 ครั้ง จำ�นวน 1,958 ทุน เป็นเงิน 10,654,400 บาท สำ�หรับมอบทุนการศึกษา ประจำ�ปี 2561 เป็นการมอบทุน การศึกษา ครัง้ ที่ 16 จำ�นวน 127 ทุน เป็นเงิน 930,000 บาท ประกอบด้วยภิกษุ สามเณร จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน และ มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จำ�นวน 10 ทุน และ นักเรียนนักศึกษาจากสถานศึกษาในอำ�เภอต่างๆ ใน จ.ขอนแก่น จำ�นวน 127

ทุน เมื่อรวมการมอบทุนการศึกษา จำ�นวน 16 ครั้ง จำ�นวน 2,085 ทุน เป็น เงิน 11,584,400 บาท

“ปัจจุบันนี้ มูลนิธิเพื่อการศึกษา จ.ขอนแก่นครบ 200 ปี ไม่สามารถ รับนักเรียน นักศึกษาใหม่เข้ามาพิจารณาคัดเลือกในการรับทุนฯ ได้อกี แต่จะ ดูแลภิกษุ สามเณรนักเรียน นักศึกษา ทีไ่ ด้รบั ทุนการศึกษาของมูลนิธฯิ อย่าง ต่อเนือ่ งจนสำ�เร็จตามเป้าหมายของมูลนิธฯิ เพราะว่าไม่สามารถหารายได้มา เป็นทุนการศึกษาให้กบั นักเรียนเยาวชนทีเ่ รียนดี แต่ยากจน ตัง้ แต่ปี 2562 ขึน้ ไป ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ขอให้ประชาชนชาว จ.ขอนแก่น โดยเฉพาะภาคเอกชนมา ร่วมทำ�บุญบริจาคเงินให้กับมูลนิธิฯ เพื่อนำ�มาเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็ก นักเรียนของมูลนิธิฯด้วย ขอนแก่นมีประชากรกว่า 1.7 ล้านคน ถ้าเพียง คนละ 1 บาท ก็จะได้ 1 ล้านบาทขึ้นไป ก็เพียงพอกับการให้โอกาสกับลูก หลานที่เรียนดี ความประพฤติดี แต่ยากจน และเป็นครอบครัวผู้ด้อยโอกาส อีกด้วย ที่มีความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเรียนเพื่ออนาคตทางการศึกษาของเขา ดัง นั้นขอให้ประชาชนทำ�บุญให้กับมูลนิธิฯไม่ว่าในโอกาสงานมงคล งานศพ งานบวช เพื่อช่วยให้เด็กและเยาวชนที่รักการศึกษา และความก้าวหน้าใน อนาคตของเขา ได้สมหวังตามทีป่ รารถนา โดยมูลนิธฯิ จะเป็นผูค้ อยดูแลและ ให้ทุนการศึกษาในพิธีมอบทุนการศึกษากับเด็กและเยาวชนที่ จ.ขอนแก่น ทุกปีตลอดไป” นางระเบียบรัตน์ กล่าว สั ง ค ม ส ร้ า ง สุ ข พ ลั ง ส ร้ า ง ช า ติ ; นายจิรศักดิ์ ศรีคชา รอง ผวจ.หนองคาย เป็ น ประธานเปิ ด โครงการสั ง คมสร้ า ง สุข พลังสร้างชาติ เพื่อส่งเสริมและสร้าง ความปรองดองในพื้นที่ ร่วมกับแรงงาน นอกระบบและประชาชน โดยผ่ า นกล ไกลประชารัฐ มีอาสาสมัครแรงงาน กลุ่ม แรงงานนอกระบบ พี่ เ ลี้ ย งอาสาสมั ค ร แรงงานและเจ้าหน้าที่ สำ�นักงานแรงงาน จังหวัดหนองคาย เข้าร่วมอบรม จำ�นวน ทั้งสิ้น 170 คน ณ ห้องประชุมโรงแรมพัน ล้าน อ.เมือง จ.หนองคาย

หน้า 5

ปีที่ 16 ฉบับที่ 170 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2561

“ราชภัฏอุดรธานี” ซิวรางวัล “อ่านฟังเสียง” และ “มารยาทไทย” เวที “ธนชาต ริเริ่ม...เติมเต็ม เอกลักษณ์ไทย”

ความสัมพันธ์ที่เกี่ยวเนื่องกันของ 7 โรคทางในช่องปากของผู้สูงอายุ

สวัสดีครับ พบกันอีกครัง้ กับ คอลัมน์ ก้าว ทันโลกกับโรงพยาบาลทันตกรรม ฉบับนีเ้ รายังคุย กันในเรือ่ งของ 7 โรคหลัก ในผูส้ งู อายุ สำ�หรับวัน นี้เราจะมาทำ�ความเข้าใจในเรื่องของ “โรคฟันผุ และรากฟันผุ” ด้วยกันนะครับ

“โรคฟันผุและรากฟันผุ” เกิดขึ้นได้จาก ปากแห้งและนาํ้ ลายน้อย เกิดด้วยกันหลายสาเหตุ ส่วนมากเกิดจากยาที่ผู้สูงอายุทาน เช่น ยาขับ ปัสสาวะ ยาลดความดันโลหิตสูง ลักษณะรอยฟัน ผุของผูส้ งู อายุนนั้ เหมือนคนโดยทัว่ ไป แต่บริเวณ ทีผ่ จุ ากแตกต่างกัน เนือ่ งจากสภาวการณ์ของปาก แห้งและนํ้าลายน้อย จึงทำ�ให้ไม่มีการชะล้างของ คราบจุลินทรีย์ หรือที่เรียกกันว่าขี้ฟันบริเวณคอ ฟัน หรือใกล้เหงือก เมื่อทำ�ความสะอาดไม่ได้ บริเวณของแผ่นคราบจุลินทรีย์เหล่านี้ก็จะมีการ สร้างกรดจากแบคทีเรียเกิดขึ้น กรดเหล่านี้ก็จะ ทำ�ให้เนื้อฟันมีการกร่อน และเป็นรอยผุเกิดขึ้น ตามมาในภายหลัง ซึ่งถ้าได้รับการตรวจวินิจฉัย อย่างทันท่วงที ก็จะสามารถรักษาได้ ผู้สูงอายุจึง ควรไปพบทันตแพทย์ในทุกๆ 6 เดือน เพื่อตรวจ สุ ข ภาพฟั น รอยโรคว่ า มี ก ารเกิ ด ขึ้ น ใหม่ ห รื อ ไม่ เพราะถ้าตรวจพบแล้วเร่งในการอุดฟันก่อน หน้าที่จะลุลามแล้วค่อยมาอุดก็จะดีกว่า

สำ�หรับยาทีม่ ผี ลต่อการเกิดอาการปากแห้ง และนํ้าลายน้อยนั้น มีอยู่ด้วยกันหลายสาเหตุ เช่น การใช้ยาที่เกี่ยวการรักษาโรคความดันโลหิตสูง ยา แก้แพ้บางชนิด นอกจากนัน้ ยังเกิดประสิทธิภาพใน การสร้างนาํ้ ลายของต่อมนํา้ ลายเองอีกด้วย ร่างกาย ของมนุษย์มีต่อมนํ้าลายอยู่เป็นจำ�นวนมาก ต่อ มนํ้าลายคู่หลักจะมีอยู่ด้วยกัน 3 คู่ คือ คู่ที่อยู่หน้า ต่อหูซ้าย-ขวา เรียกว่า Parotid gland ต่อมนํ้าลาย คู่ที่อยู่ใต้คาง เรียกกว่า Submaxillary gland หรือ Submandibular gland และต่อมนํ้าลายคู่ที่อยู่ใต้ ลิ้นเรียกว่า Sublingual gland ซึ่งทั้งสามคู่นี้จะผลิ ตนํ้าลายออกมาเลี้ยงในช่องปาก บวกกับต่อมนํ้า ลายขนาดเล็กทีก่ ระจายอยูท่ วั่ ไปในปาก ปัญหาของ คนที่ปากแห้งและนํ้าลายน้อยจะรู้สึกได้เยอะเมื่อ ต่อมนํา้ ลายทีอ่ ยูห่ น้าต่อหูมกี ารหยุดทำ�งาน ซึง่ อาจ เกิดจากปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุเอง ภูมิคุ้มกัน บางโรค เช่น โรคในกลุ่มเดียวกันกับโรคพุ่มพวง (SLE) กลุ่ ม โรค โชเกร็ น ซิ น โดรม (Sjögren’s Syndrome) ทำ�ให้ตอ่ มนํา้ ลายเกิดความห่อลีบไม่ผลิ ตนํ้าลายออกมา ดังนั้นผู้สูงอายุจึงเคี้ยวข้าวลำ�บาก ไม่สามารถเคี้ยวข้าวให้เป็นก้อนๆ ได้ นอกจากนั้น ยังมีสาเหตุมาจากการใช้ยาสเตียรอยด์ในช่องปาก เช่น ผู้ป่วยที่ใช้ยาขยายหลอดลม นอกจากจะทำ�ให้

เกิดภาวะปากแห้งนํา้ ลายน้อยแล้ว ยังส่งผลให้เกิด เชื้อรา แบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัส บริเวณคอของผู้ สูงอายุได้

สำ�หรับแนวทางการป้องกันนั้น ทำ�ได้ หลายวิธีตามสภาพของผู้อายุ คือ

1.อุดฟันอย่างเร่งด่วน ใช้วัสดุอุดฟันที่ มีการปล่อยฟลูออไรด์ออกมา เพื่อส่งเสริมการ ดูดกลับของแร่ธาตุสร้างความแข็งแรงของตัว ฟั น และอาจใช้ ส ารนํ้ า หรื อ นํ้ า ลายเที ย มร่ ว ม ด้ ว ย ช่ ว ยให้ เ กิ ด ความชุ่ ม ชื้ น และป้ อ งกั น การ บาดเจ็ บ ในช่ อ งปาก ให้ ก ารดำ � เนิ น ชี วิ ต ดี ขึ้ น

2. ดูแลทำ�ความสะอาด แปรงฟันอย่าง ถูกวิธี หรือกรณีที่ผู้สูงอายุไม่สามารถทำ�ได้ เช่น อัมพาต เส้นเลือดในสมองแตก ต้องมีผู้ดูแลต้อง ทำ�ความสะอาดให้ ซึ่งอาจต้องใช้สารเคมี ฟลูออ ไรด์วานิช หรือคลอร์เฮกซิดนี Chlorhexidine ร่วม ด้วย

การดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของผู้ สูงอายุ เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความเข้าใจในหลาย เรื่องเป็นองค์รวม ยังมีอีกหลายโรคที่เราต้องต้อง ตระหนักและให้ความสำ�คัญ นะครับ พบกันใหม่ ฉบับหน้า สวัสดีครับ

ปักธงพัฒนาศรีจันทร์ สู่ย่านสร้างสรรค์แห่งแรกในขอนแก่น

ประชาคมเมื อ งขอนแก่ น ระดมสมองพั ฒ นาย่ า น สร้างสรรค์ศรีจันทร์ ถือเป็นความท้าทาย “ถนนศรีจันทร์” เป็น ถนนที่มีเอกลักษณ์ เป็นย่านการค้าดั้งเดิม และยังเป็นเสน่ห์ สำ�คัญของเมืองขอนแก่น

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2561 ที่ห้องดอกคูน ชั้น 4 โรงแรมเจริญธานีขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายก เทศมนตรีนครขอนแก่น เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อการ พัฒนาย่านสร้างสรรค์ศรีจันทร์ จัดโดย ศูนย์สร้างสรรค์งาน ออกแบบหรือ Thailand Creative & Design Center (TCDC) โดย มี นายกิตติรตั น์ ปิตพิ านิช รักษาการผูอ้ �ำ นวยการศูนย์สร้างสรรค์ งานออกแบบ นายอิชวุฒิ ฤทธาภัย ธนารักษ์พื้นที่ขอนแก่น, รศ.รังสรรค์ เนียมสนิท ประธานกรรมการมูลนิธชิ มุ ชนขอนแก่น ทศวรรษหน้า, นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล หนึ่งในผู้ก่อตั้ง บริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง (KKTT) จำ�กัด, นายเจริญลักษณ์ เพ็ชรประดับ เลขานุการและกรรมการมูลนิธิฯ และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมสัมมนากว่า 50 คน

นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพนั ธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า แนวทางพัฒนาย่านสร้างสรรค์ (Creative District) ที่ผ่านมา โครงการที่กำ�ลังดำ�เนินอยู่ อาทิ โครงการ “ฟื้นใจ เมืองขอนแก่นกับธนารักษ์” โดยปรับปรุงอาคารธนาคารแห่ง ประเทศไทย สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถนนกลางเมือง เพือ่ ใช้เป็นพิพธิ ภัณฑ์เหรียญกษาปณ์ไทย เครือ่ งราชอิสริยาภรณ์ ธนบัตร, โครงการปรับปรุงตลาดโบ๊เบ๊, โครงการปรับภูมิทัศน์ ตลอดเส้นทาง ซึง่ จากภาพร่างทีไ่ ด้ออกแบบร่วมกันไว้แล้ว หาก ภาคส่วนทีเ่ กีย่ วข้องทัง้ หน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนพีน่ อ้ ง ชุมชน ได้จุดประกายความคิดก่อเกิดแรงบันดาลใจ นำ�ไปต่อย อดขยายผลให้เกิดขึ้นจริง ก็จะสร้างความเคลื่อนไหว สร้างฟื้น เศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ได้ต่อไป

นอกจากนี้ ยังมีย่านสร้างสรรค์อื่นๆ รวม 7 แห่ง ได้แก่ แห่งที่ 1 ถนนศรีจันทร์ / ถนนกลางเมือง / อาคารธนาคารแห่ง ประเทศไทย สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (แบงค์ชาติเก่า) / ตลาดโบ๊เบ๊, แห่งที่ 2 บริเวณ บขส.1 / สวนสาธารณะรัชดานุ สรณ์ / ตลาด อ.จิระ / ศูนย์เยาวชนและครอบครัวเทศบาลนคร ขอนแก่น / หอภาพยนตร์แห่งชาติ, แห่งที่ 3 รอบบึงแก่นนคร / รถรางรอบบึง (Mini Tram), แห่งที่ 4 รอบบึงทุ่งสร้าง / Khon Kaen Eye / หอสมุดแห่งชาติ / พระบรมราชานุสาวรีย์, แห่งที่ 5 พื้นที่รอบสถานีรถขนส่งสาธารณะ LRT (Transit Oriented Development : TOD) ซึ่งเป็นพื้นที่ของศูนย์วิจัยข้าวขอนแก่น, แห่งที่ 6 มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ แห่งที่ 7 ศูนย์รวมโรงเรียน

ธนาคารธนชาตเปิดเวทีโครงการ “ธนชาต ริเริ่ม...เติมเต็ม เอกลักษณ์ไทย” ปี 2561 รอบคัดเลือก ภาคอีสาน มีโรงเรียนเข้าร่วม 181 แห่ง นักเรียนเข้า แข่งขัน 1,193 คน เป็นปีแรกให้ผู้บกพร่องทางการ มองเห็นเข้าร่วมแข่งขัน อ่านอักษรเบรลล์

นายเกรียงไกร ภูรวิ ทิ ย์วฒั นา ผูช้ ว่ ยกรรมการ ผูจ้ ดั การ สำ�นักประธานกรรมการบริหารและประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารธนชาต จำ�กัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เป็นประจำ�ทุกปีที่ธนาคารธนชาตได้จัด โครงการ “ธนชาต ริเริม่ ...เติมเต็ม เอกลักษณ์ไทย” โดย ปีนี้จัดขึ้นเป็น ครั้งที่ 47 ประจำ�ปี 2561 วัตถุประสงค์ เพื่อธำ�รงและรักษาไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความเป็นไทย ทั้ง การอ่านฟังเสียงภาษาไทย และการปฏิบัติเกี่ยวกับ มารยาทไทย ในชีวิตประจำ�วัน เป็นการปลูกจิตสำ�นึก ให้เยาวชนของชาติร่วมกันรักษาวัฒนธรรมไทยไว้ให้ คงอยู่คู่สังคมไทยตลอดไป

ปีที่ผ่านมา ธนชาตได้จัดกิจกรรมสนับสนุน โครงการฯ ในหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้โครงการฯ เข้าถึงและรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น มีการจัด กิจกรรม “กว่าจะก้าวขึ้นเวที” ที่ให้ผู้เข้าแข่งขันส่ง คลิปการฝึกฝนก่อนจะเข้าประกวดและตัดสินจาก ผลโหวต และเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้จัดอบรม “ครู ต้ น แบบมารยาทไทย” ขึ้ น โดยให้ ส ถาบั น การ ศึกษาส่งตัวแทนครู อาจารย์ผู้สอนมารยาทไทย เข้า รับการฝึกอบรมมารยาทไทยโดยตรงจากวิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิจากกระทรวงวัฒนธรรม และกรมส่ง เสริมวัฒนธรรม เพื่อเป็นต้นแบบที่ถูกต้องและนำ�ไป ถ่ายทอดให้แก่นักเรียน นักศึกษาให้ปฏิบัติมารยาท ไทยในชีวติ ประจำ�วันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ซึง่ ทัง้ สองกิจกรรมได้รับความสนใจเป็นอย่างดี และส่งผล ให้ยอดผู้สมัครในปีนี้สูงขึ้นจากปีที่แล้ว 30% ซึ่งทุก กิจกรรมเราได้รบั การสนับสนุนอย่างดีจากองค์กรภาค รัฐเช่นทุกปี ทัง้ สำ�นักงานราชบัณฑิตยสภา สำ�นักงาน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรมส่ง เสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม และสำ�นักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รวมถึง สถาบันการศึกษาที่จัดโครงการฯ

“ปี นี้ เ พื่ อ ตอกยํ้ า ความสำ � เร็ จ ของโครง

การฯ ธนชาตได้เพิ่ม ประเภทการแข่งขัน โดยเปิ ด โอกาสให้ เยาวชนผู้ บ กพร่ อ ง ทางการมองเห็ น เข้ า ร่ ว มประกวด ประเภทการอ่ า น ฟังเสียงจากบทร้อย แก้ ว อั ก ษรเบรลล์ เป็ น ครั้ ง แรก ซึ่ ง ผู้ ช นะเลิ ศ ในทุ ก ประเภทจะได้ รั บ รางวั ล ถ้ ว ย พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี เงินรางวัล ทุนการศึกษา และเกียรติ บัตร นับได้ว่าขณะนี้โครงการ “ธนชาต ริเริ่ม...เติม เต็ม เอกลักษณ์ไทย” ได้จดั การแข่งขันด้านการอนุรกั ษ์ ความเป็นไทยเข้าถึงคนทุกกลุ่มทุกวัยแล้ว และหวัง ว่าเยาวชนจะหันมาให้ความใส่ใจกันมากขึ้นถึงแม้ยุค สมัยและค่านิยมจะมีการเบีย่ งเบนไปทางออนไลน์มาก ขึ้นก็ตาม” นายเกรียงไกร กล่าว

“การแข่งขันอ่านฟังเสียง” และ “การประกวด มารยาทไทย” เปิดรับสมัคร 5 ระดับชั้น คือ ระดับ ประถมต้น ประถมปลาย มัธยมต้น มัธยมปลายปวช. และอุดมศึกษา-ปวส. โดยจัดแข่งขันรอบคัด เลือกทั้ง 4 ภาค โดยถัดจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะตามด้วย ภาคเหนือ วันที่ 13-14, 16 ก.ค. 2561 ที่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภาคใต้ วันที่ 21-23 ก.ค. 2561 ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช ส่วน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก รวมกรุงเทพฯ วันที่ 31 กรกฎาคม – 15 สิงหาคม และรอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง วันที่ 10 – 14 กันยายน 2561 ทีธ่ นาคารธนชาต อาคาร สวนมะลิ กรุงเทพฯ ส่วน “การประกวดมารยาทไทย ของผู้บกพร่องทางการได้ยิน” และ “การแข่งขันอ่าน ฟังเสียงของผู้บกพร่องทางการมองเห็น” รับสมัคร วันนี้ถึง 16 สิงหาคม แข่งขันรอบคัดเลือกและรอบ ชิงชนะเลิศ (ภายในวันเดียวกันทัว่ ประเทศ) ทีธ่ นาคาร ธนชาต อาคารสวนมะลิ ระหว่างวันที่ 27-31 สิงหาคม 2561 ที่ธนาคารธนชาต อาคารสวนมะลิ กรุงเทพฯ

โครงการ “ธนชาต ริเริม่ ...เติมเต็ม เอกลักษณ์ ไทย” ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รบั ความสนใจจาก

เยาวชนเพิ่มขึ้นทุกปี ในปีนี้มีสถาบันการศึกษาเข้า ร่วมโครงการทั้งสิ้น 181 สถาบัน นักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมแข่งขัน จำ�นวน 1,193 คน โดยแบ่งเป็น การ แข่งขันอ่านฟังเสียง จำ�นวน 493 คน จาก 135 สถาบัน การศึกษา และการประกวดมารยาทไทย จำ�นวน 700 คน จาก 103 สถาบันการศึกษา

ซึ่งผลการแข่งขันของทั้ง 2 ประเภท จากทุก ระดับชัน้ ได้แก่ ชิงชนะเลิศ ประเภทอ่านฟังเสียง ชายหญิง ระดับ ป.๑ - ป.๓ ด.ช.ชยากร บุญเลิศ โรงเรียน อนุบาลยโสธร ยโสธร และ ด.ญ.รินรดา แสงห้าว โรงเรียนเซนต์เมรี่ อุดรธานี ระดับ ป.๔ - ป.๖ ด.ช.พีร พล สระแก้ว โรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ และ ด.ญ.ญาฑิ ตา คำ�หนองไผ่ โรงเรียนหนองขามวิทยาคาร ขอนแก่น ระดับ ม.๑ - ม.๓ ด.ช.แสงตะวัน แก้วงาม โรงเรียน พระกุมารร้อยเอ็ด และ ด.ญ.กมลวรรณ ชมชัยรัตน์ โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล ระดับ ม.๔ - ม.๖ และ ปวช. นายนาธัส เต็มเมธาวิทยาเลิศ โรงเรียนอุดรพิทยานุกลู และ น.ส.ชาญญาดา ศิริแสง โรงเรียนขอนแก่นวิทยา ยน ระดับ อุดมศึกษา และ ปวส. นายเมืองมล ด้วงชรา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี และ น.ส.ธัญวลัย บง แก้ว มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี

ประเภทมารยาทไทย ระดั บ ป.๑ - ป. ๓ โรงเรี ย นเซนต์ เ มรี่ อุ ด รธานี ระดั บ ป.๔ - ป. ๖โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถม ศึกษา ระดับ ม.๑ - ม.๓ โรงเรียนสารคามพิทยาคม ระดั บ ม.๔ - ม.๖ และ ปวช. โรงเรี ย นจตุ ร มิ ต ร วิทยาคารระดับ อุดมศึกษา และ ปวส. มหาวิทยาลัย ราชภัฏอุดรธานี

ระดมทุ น สร้ า งห้ อ งผ่ า ตั ด หั ว ใจแบบไฮบิ ด รองรั บ ผู้ ป่ ว ยโรคหั ว ใจและหลอดเลื อ ด

กวดวิชา ถนนหน้าเมือง (Tutor Street) ซึ่งเป็นพื้นที่ในโครงการปรับปรุงให้เป็น “ย่าน สร้างสรรค์” ของเมืองขอนแก่น

นายธีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำ�หรับกิจกรรมทีจ่ ะเริม่ ดำ�เนินการพัฒนาย่านสร้างสรรค์ ที่ 1 คือ “ถนนศรีจันทร์” ซึ่งนับเป็นถนนที่มีเอกลักษณ์ มีเรื่องราวของการปรับเปลี่ยน ควบคู่กับกับพัฒนาจังหวัดขอนแก่น อีกทั้งเป็นย่านการค้าดั้งเดิม เป็นวิถีชุมชนที่สืบทอด จากรุ่นสู่รุ่น จึงเป็นเสน่ห์ที่สำ�คัญของเมืองขอนแก่น ดังนั้น ในบริบทของพัฒนาย่าน ศรีจันทร์สู่ย่านสร้างสรรค์ จึงถือเป็นความท้าทาย โดยเฉพาะผู้ที่มีส่วนได้ และมีส่วนเสีย การหลอมรวมแนวคิด วิสัยทัศน์และก้าวสู่การพัฒนา แต่ยังคงรักษาภาพลักษณ์ของย่าน ศรีจันทร์ให้เป็นเอกลักษณ์ของเมืองขอนแก่น จำ�เป็นต้องมีการแลกเปลี่ยนเพื่อให้เกิดการ พัฒนาอย่างเป็นระบบและยั่งยืนต่อไปในอนาคต

“เทศบาลนครขอนแก่น พร้อมสนับสนุน ร่วมมือพัฒนาให้เกิดเป็นพืน้ ทีท่ สี่ ามารถ ขยายโอกาสทางการเรียนรูแ้ ละความคิดสร้างสรรค์ เป็นแหล่งเชือ่ มโยงทางธุรกิจ ดึงดูดการ ลงทุน ตลอดจนการส่งเสริมแรงงาน ผู้ประกอบการท้องถิ่นที่มีทักษะฝีมือ สร้างสินค้าที่ หลากหลาย ต่อยอดด้วยองค์ความรู้ใหม่ๆ อันจะเป็นการสร้างรายได้ให้กับเมืองขอนแก่น ได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน” นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าว

ถนนศรีจนั ทร์ เป็นถนนสายหลักของเมืองขอนแก่น ทีป่ จั จุบนั มีราคาทีด่ นิ สูงทีส่ ดุ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตลอดถนนศรีจันทร์ ช่วงใจกลางเมือง ความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร มีสิ่งปลูกสร้างทั้งโรงแรม คอมมูนิตี้มอลล์ ตลอดจน ร้านค้าของผู้ประกอบการ ทั้งในและนอกท้องถิ่น สะท้อนการเติบโตของย่านพานิชยกรรมแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี

การเติ บ โตทางเศรษฐกิ จ และสั ง คมของเมื อ งขอนแก่ น ในรอบ 10 ปี ที่ ผ่ า น มา เป็นการเติบโตในอัตราเร่ง มีประชากรในทะเบียนราษฎร์และประชากรแฝง รวมกัน มากกว่า 2 แสนคน ในอนาคต ยังมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นด้วย เห็นได้จาก โครงการก่อสร้าง คอนโดมิเนียม กว่า 2,000 ยูนิต ในย่านใจกลางเมือง

เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงและผลกระทบที่เกิดขึ้น เทศบาลนครขอนแก่น จึง มีโครงการพัฒนา รองรับการเติบโตของย่านธุรกิจหลายอย่าง อย่างเช่น โครงการพัฒนา ทางเท้าเพื่อการใช้งานของคนทุกกลุ่ม โครงการเดินสายไฟฟ้าระบบใต้ดิน และโครงการ ติดตั้งสตรีตเฟอร์นิเจอร์ในพื้นที่สาธารณะ ฯลฯ

ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯ ขอนแก่น จัดงาน “esports” เพื่อระดมทุนสร้างห้อง ผ่าตัดหัวใจแบบไฮบิด งบกว่า 85 ล้านบาท รักษาผูป้ ว่ ยกลุม่ โรคหัวใจและหลอด เลือด สามารถทำ�การผ่าตัดหัวใจและหลอดเลือด ร่วมกับการรักษาผ่านทางสวน หัวใจในคราวเดียวกัน

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.61 ที่ห้องประชุมนพดล ทองโสภิต ชั้น 3 อาคาร ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ผศ.นพ.ภัทรพงษ์ มกรเวส ผู้ อำ�นวยการศูนย์หัวใจสิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และคณะผู้บริหารศูนย์ หัวใจสิริกิติ์ฯ ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน “esports” เพื่อระดมทุนสนับสนุน การจัดสร้างห้องผ่าตัดหัวใจ แบบไฮบิด หรือ Hybrid operating Room” ณ ศูนย์ หัวใจสิริกิตติ์ฯ

ผศ.นพ.ภัทรพงษ์ มกรเวส กล่าวว่า เนือ่ งด้วยศูนย์หวั ใจสิรกิ ติ ิ์ ภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้าน โรคหัวใจและหลอดเลือด เปิดให้บริการรักษาพยาบาลผู้ป่วยทางด้านโรคหัวใจ และหลอดเลือด ปัจจุบันมีจำ�นวนผู้ป่วยเข้ารับการรักษาผ่าตัดโรคหัวใจอัตรา เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการรักษาด้วยการผ่าตัดหัวใจมีความซับซ้อนมากขึ้น เมื่อโรคหัวใจเป็นโรคที่มีความเสี่ยงสูงสุดในการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของ ประเทศตะวันตก เช่นเดียวกับประเทศไทย โดยเฉพาะประชาชนในภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ มีความเสี่ยงสูงที่เป็นโรคหัวใจมากกว่าภาคอื่นๆในประเทศ และเป็นโรคหัวใจใกล้เคียงกับกรุงเทพฯ เมื่อศูนย์หัวใจสิริกิติ์ ฯ เปิดให้บริการ ประชาชนมามากกว่า 10 ปี โดยให้บริการด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด ทั้งใน เชิงรับและเชิงรุก เช่น บริการตรวจรักษาผูป้ ว่ ยนอก ผูป้ ว่ ยใน การตรวจพิเศษด้วย เครื่องมือที่ทันสมัย การผ่าตัดหัวใจ โดยมีสถิติอยู่ในอันดับ 1 ของประเทศไทย ส่วนมากจะเป็นประชาชนใน 20 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เพื่อรองรับการให้บริการที่มีคุณภาพและการนำ�เทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯมีแผนการจัดสร้างห้อง

ผ่าตัดหัวใจแบบไฮบริด หรือ Hybrid operating Room ในอาคารศูนย์หัวใจสิ ริกิติ์ฯ โดยลักษณะห้องผ่าตัดหัวใจแบบไฮบริด เป็นพัฒนาการก้าวใหม่ทาง เทคโนโลยีทางการแพทย์ในด้านการรักษาผูป้ ว่ ยกลุม่ โรคหัวใจและหลอดเลือด ที่ ต้องใช้การผ่าตัดร่วมกับการใช้เครือ่ งเอ็กซเรย์พเิ ศษทีม่ เี ทคโนโลยีสมรรถภาพสูง สามารถทำ�การผ่าตัดหัวใจและหลอดเลือดร่วมกับการรักษาผ่านทางสวนหัวใจ ในคราวเดียวกัน ซึ่งต้องใช้งบประมาณการก่อสร้างพร้อมครุภัณฑ์ เป็นจำ�นวน เงิน 85 ล้านบาท

“ทั้งนี้ เพื่อให้การบริการเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้บริการ และตาม ภารกิจและปณิธานทีต่ งั้ มัน่ ศูนย์หวั ใจสิรกิ ติ ฯิ์ ทีเ่ ป็นศูนย์กลางทัง้ ทางการแพทย์ เพื่อการช่วยเหลือผู้ป่วยให้พ้นความทุกข์ทรมานจากโรคภัย และเพื่อคุณภาพ ชีวติ ของคนไทยทีด่ ขี นึ้ ต่อไป สำ�นักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจทิ ลั หรือ depa ร่วม กับ twitch,VGI,มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ Focus Arena ร่วมกันจัดกิจกรรม “esports”เพื่อระดมทุนสนับสนุนจัดสร้างห้องผ่าตัดหัวใจแบบไฮบริด ณ ศูนย์ หัวใจสิริกิติ์ฯ ในงาน Digital Thailand Big Boadshow 2018 ระหว่างวันที่ 6 - 8 ก.ค. 2561 ณ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา สาขอนแก่น โดยรายได้จากการ แข่งขันทั้งหมดจะมอบให้ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ ฯ สำ�หรับจัดสร้างห้องผ่าตัดหัวใจ แบบไฮบริด ณ อาคารศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯ จ.ขอนแก่น” ผศ.นพ.ภัทรพงษ์ กล่าว

หน้า 6

ปีที่ 16 ฉบับที่ 170 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2561

ปีที่ 16 ฉบับที่ 170 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2561

หน้า 7

หน้า 8

ปีที่ 16 ฉบับที่ 170 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2561

มหกรรมวิทย์ฯแห่งชาติ รณรงค์ ล ดใช้ ซ า ้ ํ แปรรู ป ขยะจากต้ น ทาง จุดพลังสร้างแรงบันดาลใจเด็กภาคอีสาน

เมื่อวันที่ 11 ก.ค.61 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE) ถ.มิตรภาพ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว. วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานในพิธเี ปิดงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ ระดับภูมภิ าค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น โดย มี นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมหัวหน้าส่วนราชการภาครัฐ ภาค เอกชน ร่วมเปิดงาน

จากข้อมูลพบว่าผู้เข้าชมที่มีโอกาสได้ศึกษาเรียนรู้ความก้าวหน้าด้าน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาจากภาคกลางเป็นส่วนใหญ่ มีจ�ำ นวน ผู้เข้าชมจากภูมิภาคต่าง ๆ ค่อนข้างน้อยทำ�ให้พลาดโอกาสที่จะได้เรียนรู้ความ ก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ไปอย่างน่าเสียดาย เพือ่ เป็นการขยายโอกาสการเรียนรูด้ า้ นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเยาวชน และประชาชนคนไทยในภูมิภาคต่างๆ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) จึงได้ดำ�เนินการจัด งาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ระดับภูมิภาค” ที่จังหวัด ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 11-17 กรกฎาคม 2561 เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับ เด็ก เยาวชน และผูเ้ ข้าร่วมงานได้ตนื่ ตัวกับการพัฒนาศักยภาพและเพิม่ ขีดความ สามารถทางความรู้ ความเข้าใจในวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมทีท่ นั สมัย อีกทัง้ ยังเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับเยาวชนไทยให้กา้ วไปสู่ Thailand 4.0 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยจะมีนิทรรศการที่นำ�เสนออัตลักษณ์ของ “มหกรรมวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ ระดับภูมิภาค สื่อสารด้วยโครงสร้างรูปทรงพันธะทาง เคมีของโมเลกุล เป็นหน้าทางเข้าหลัก และขยายความเข้าใจด้วย LED Pillars ตกแต่งอยูด่ า้ นใน เพือ่ นำ�เสนอ lmagery VDO ความมหัศจรรย์ทางวิทยาศาสตร์ ที่อยู่รายรอบตัวเรา การค้นพบใหม่ๆ ปรากฎการณ์สำ�คัญๆของโลกที่สามารถ อธิบายได้ดว้ ยวิทยาศาสตร์ ฯลฯ และเพือ่ สือ่ สารเชิงสัญลักษณ์ และปรับ Mood

ของผูช้ มงาน เพือ่ พร้อมก้าวข้ามจากโลกปัจจุบนั สูโ่ ลกมหัศจรรย์ใบใหม่ ทีส่ รรพ สิ่งอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ดร.สุวทิ ย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า สำ�หรับ งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ระดับภูมภิ าค ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น ตัง้ เป้าผูเ้ ข้าชมงานประมาณ 8 แสนคน ซึง่ จะมีเด็กๆ และ เยาวชนในภาคอีสานเข้ามาในงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่ง ชาติ” ครั้งนี้เพื่อได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ทีน่ า่ สนใจมากมาย ช่วยเปิดประสบการณ์ในโลกของวิทยาศาสตร์และเผชิญกับ ความ ท้าทายใหม่ๆ ของเทคโนโลยี เพื่อให้สอดรับกับนโยบาย “วิทย์สร้างคน” ของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ทีจ่ ะปลูกฝังทัศนคติทดี่ แี ละกระตุน้ การเรียนรูน้ อก ห้องเรียนให้กับเด็กและเยาวชนไทย มุ่งขับเคลื่อนเพื่อให้วิทยาศาสตร์เป็นเรื่อง ใกล้ตวั สำ�หรับเยาวชนคนไทย อันจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวติ และความ แข็งแกร่งของประเทศได้ในอนาคต

ต่ อ ผู้ ว่ า ราชการจั ง หวั ด พร้ อ มพิ จ ารณา สำ � รวจ ตรวจสอบแนวเขตที่ ดิ น ให้ ค รอบคลุ ม ทั้ ง แนว ลึ ก และแนวยาว ความ พร้อมของอาคาร สถานที่ สภาพแวดล้อม ลานจอด รถ แนวทางการบริ ห าร จัดการของท่าเรือ บริเวณ จุ ด ผ่ อ นปรนบ้ า นหม้ อ อำ�เภอศรีเชียงใหม่ ถึงท่าเรือศรีเชียงใหม่เฟอร์รี่ ต.บ้านหม้อ โดยพิจารณาจากความคิดเห็นของ ประชาชนในพืน้ ที่ การรวบรวมประชาพิจารณ์จาก ทางอำ�เภอ ทั้งความจำ�เป็น เหตุผล ผลกระทบที่จะ ตามมา กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับประเทศเพื่อนบ้าน รัฐได้ประโยชน์จากการขยายจุดผ่อนปรนดังกล่าว หรือไม่ เพื่อที่จังหวัดจะได้รวบรวมข้อมูลคู่ขนาน ดังกล่าวเสนอต่อ “สภาความมั่นคงแห่งชาติ” หรือ สมช.ต่อไป

สำ�หรับท่าเทียบเรือขนานยนต์ศรีเชียงใหม่ (บริษัทศรีเชียงใหม่เฟอร์รี่ จำ�กัด) ตั้งอยู่หมู่ 8 ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย จัดตั้งขึ้น เพือ่ กิจกรรมการดำ�เนินงานเกีย่ วกับสิง่ อำ�นวยความ สะดวกของท่าเรือ (ยกเว้นการขนถ่ายสินค้า) แต่ เมื่อปลายปี 2559 ที่ผ่านมา บริษัทได้ผลักดันให้มี การเปิดใช้ท่าเทียบเรือในการนำ�เข้าแร่แบไรท์จาก สปป.ลาว จำ�นวนมากเข้ามา แต่ได้เกิดปัญหาข้อขัด แย้งกับชุมชนเสียก่อนเนือ่ งจากประชาชนหวัน่ ผลก ระทบกับสิง่ แวดล้อม และการคมนาคม จึงทำ�ให้ไม่ สามารถดำ�เนินการต่อเนือ่ งได้ และสือ่ มวลชนได้น�ำ เสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง กระทั่งมีการผลักดันให้มี การขยายจุดผ่อนปรนมายังท่าเทียบเรือแห่งนี้ เพื่อ ให้เกิดการใช้ประโยชน์จากท่าเรืออย่างจริงจัง

ซึง่ ตัวแทนหน่วยงานทีเ่ ข้าร่วมพิจารณาใน ครัง้ นีต้ า่ งให้ความเห็นว่า การขยายแนวเขตจุดปรน ผ่อนบ้านหม้อนั้นเป็นไปได้ยาก เพราะเกี่ยวข้อง กับกฎหมายการนำ�เข้า-ส่งออกสินค้าทั้งไทยและ ลาว ที่ดินที่จะขยายจุดผ่อนปรนก็เป็นที่ดินเอกชน ติดขัดปัญหาด้านความมั่นคง และติดเงื่อนไขของ จุดผ่อนปรน จุดที่เปิดเพื่อให้ประชาชนบริเวณ

ที่มีเสน่ห์ ดึงดูดให้นัก ท่ อ งเที่ ย วเข้ า มาเยี่ ย ม เยื อ น และใช้ จ่ า ยเงิ น ในชุมชน

ดั ง นั้ น จึ ง ต้องมีการสร้างความ รู้ ความเข้ า ใจในการ ดำ � เนิ น โครงการของ ชุ ม ช น ท่ อ ง เ ที่ ย ว OTOP นวั ต วิ ถี แก่ ค ณ ะ ทำ � ง า น ผู้ นำ � ชุมชน และผู้ที่มีส่วน เกีย่ วข้อง เพือ่ เป็นการสร้างความร่วมมือ และความ สามัคคีในชุมชน โดยมีกลุ่มเป้าหมาย เป็นแกนนำ� จากหมู่บ้านต่างๆ จำ�นวน 40 หมู่บ้าน ใน 9 อำ�เภอ ของจังหวัดหนองคาย หมู่บ้านละ 5 คน พร้อมเจ้า หน้าที่จากพัฒนาการอำ�เภอ รวม 225 คน

จากนั้น นายจิรศักดิ์ ศรีคชา รอง ผวจ. หนองคาย พร้อมด้วย นายชัยยันต์ เพ็ชรใต้ ท่อง เที่ ย วและกี ฬ าจั ง หวั ด หนองคาย, นางมนนิ ภ า โกวิทศิริกุล ประธานบริษัทประชารัฐรักสามัคคี (วิ ส าหกิ จ เพื่ อ ชุ ม ชน จำ � กั ด ), นายวรากร เจี ย ร เสริมสิน นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยว

ช่วงกิจกรรม “ค่ายศิลปะการ ดำ�นา(ปลูกข้าว)” ค่ายลำ�ดับที่ 61การจัดกิจกรรม “ค่ายศิลปะ การดำ�นา” ในครั้งนี้เป็นค่าย เล็กๆ รับเด็กอายุ 3-13 ขวบ ขึ้นไป จำ�นวน 14 คน เพื่อการ ดู แ ลได้ ทั่ ว ถึ ง และมี คุ ณ ภาพ โดยกิจกรรมในครัง้ นีจ้ ะทำ�ให้ ผูป้ กครองได้มสี ว่ นร่วมในการ ปลูกฝังให้บุตรหลานได้เรียน รู้วิถีชีวิตของเกษตรกรไม่ให้ลืมรากเหง้าความเป็น ไทย ซึ่งผลที่ได้จะทำ�ให้เด็กมีความสุขที่ได้เข้าร่วม กิจกรรมรวมทั้งสร้างจิตสำ�นึกที่ดีให้เด็กรู้คุณค่า ของชีวิตชาวนา

โดยกลุ่มเด็กๆได้รับความรู้เกี่ยวกับการใช้ กระโซ่ ซึ่งเป็นอุปกรณ์การวิดนํ้าในสมัยโบราณ นอกจากนั้นยังได้เรียนรู้การดำ�นาในรูปแบบต่างๆ

ทั้งการทำ�นาโยน การทำ�นาหว่านและการปักดำ�นา ซึ่งเด็กๆได้ร่วมเรียนรู้ และลงมือปฏิบัติจริง สร้าง ความสนใจและความสนุกสนานแก่เยาวชนเป็น อย่างมาก ก่อนที่ในช่วงบ่ายเด็กๆได้เรียนรู้การวาด ภาพและศิลปะต่างๆ เพื่อเป็นการสร้างสมาธิและ ความคิดสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นแก่เยาวชน

สร้างขวัญและกำ�ลังใจ ซ่อมบ้านให้พนักงานราชการพิทักษ์ป่า ราชการพิทักษ์ป่า ชื่อ นายเกียรติชัย แก้วนํ้าคำ� เป็ น เจ้ า หน้ า ที่ พิ ทั ก ษ์ ป่ า ในจั ง หวั ด สกลนคร มี ภูมลิ �ำ เนาบ้านอยูอ่ าศัย อยูท่ บี่ า้ นส่องดาว ต.ส่องดาว อ.ส่องดาว จ.สกลนคร บริเวณบ้านตัง้ อยูใ่ นพืน้ ที่ 3 งาน 44 ตร.ว. มีผู้อยู่อาศัยในบ้านดังกล่าวจำ�นวน 9 คน ซึ่งสภาพของตัวบ้านมีสภาพทรุดโทรม และ เจ้าของบ้านเป็นพนักงานราชการ/ลูกจ้าง ที่ปฏิบัติ งาน เข้าเกณฑ์กำ�หนดที่สมควรที่ได้รับการช่วย เหลือตามหลักการ

จึงให้เจ้าหน้าที่ได้ทำ�การประเมินค่าใช้จ่าย ในการทำ�การซ่อมแซมประมาณ 50,000 บาท โดย จะต้องเปลี่ยนหลังคา ฉาบผนังบ้านใหม่ ซ่อมแซม ตั ว บ้ า นใหม่ เ กื อ บทั้ ง หลั ง โดยรั ก ษาโครงสร้ า ง

ตั ว บ้ า น เ อ า ไ ว้ เ ห มื อ น เดิ ม ทั้ ง นี้ ใ น เรื่ อ งของงบ ประมาณจะ ไ ด้ จ า ก ก า ร บ ริ จ า ค จ า ก หั ว หน้ า ส่ ว น และเจ้าหน้าที่ ในสังกัดของสำ�นักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 10 และ จะต้องทำ�การซ่อมแซมให้เสร็จเรียบร้อยภายใน วันที่ 31 กรกฏาคม 2561 และจะทำ�การมอบบ้าน หลังดังกล่าวให้กับครอบครัว นายเกียรติชัย แก้ วนํ้าคำ� ต่อไป

มหกรรมการค้าชายแดนหนองคาย OTOP Fair 2018

นวัตวิถี เพิ่มคุณค่าทางภูมิปัญญา พัฒนาการท่องเที่ยว

พช.หนองคาย จัดโครงการชุมชนท่องเทีย่ ว OTOP นวัตวิถี เพื่อเตรียมความพร้อมด้านชุมชน ท่องเที่ยว ด้วยการต่อยอดทางภูมิปัญหาเคียงคู่วิถี ชีวิตชุมชน

นายจิรศักดิ์ ศรีคชา รองผูว้ า่ ราชการจังหวัด หนองคาย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการชุมชน ท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี กิจกรรมเตรียมความ พร้อมการเป็นชุมชนท่องเที่ยว OTOP ด้วยสิ่งคิด ค้นใหม่ๆ จากถูมิปัญหาตามวิถีชีวิตชุมชน หรือ นวัตวิถ ี ประจำ�ปี 2561 ณ ห้องคอนเวนชัน่ โรงแรม หนองคายธาวิลลา อ.เมืองหนองคาย

นายภั ค วั ต ร คำ � พวง หั ว หน้ า กลุ่ ม งาน ยุทธศาสตร์การพัฒนา สำ�นักงานพัฒนาชุมชน จังหวัดหนองคาย กล่าวว่า การจัดโครงการดัง กล่าวเป็นการส่งเสริมการสร้างรายได้การสร้าง ความเข้มแข็งของชุมชนด้วยการยกระดับพัฒนา ผลิตภัณฑ์ OTOP ให้เชือ่ มโยงกับการท่องเทีย่ ว ภาย ใต้โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เพื่อ ให้เกิดการสร้างรายได้ที่มาจากการขายสินค้าและ บริการในชุมชนจากกิจกรรมการท่องเที่ยว โดย ใช้การประดิษฐ์คิดค้นการ ใช้เสน่ห์ภูมิปัญญา วิถี ชีวิตวัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์รวมทั้ง มีการเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวระดับชุมชน

สำ�นักการสาธารณสุขและสิง่ แวดล้อมเทศบาลเมืองหนองคาย จึงได้ จัดโครงการดังกล่าวขึน้ เพือ่ ชีแ้ จงผลการดำ�เนินกิจกรรมกองทุนสงเคราะห์ จากขยะรีไซเคิลตลอด 2 ปีที่ผ่านมาให้กับสมาชิกได้รับทราบ และกระตุ้น ให้สมาชิกมีความรู้เรื่องการคัดแยกขยะตามแนวทาง 3 Rs –ประชารัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคัดแยกขยะอินทรีย์ในครัวเรือน เพื่อลดและการใช้ ประโยชน์จากขยะอินทรีย์ตามนโยบายของกรมส่งเสริมการปกครองท้อง ถิน่ และคัดแยกขยะอันตรายในครัวเรือน เพือ่ รวบรวมไปกำ�จัดอย่างถูกต้อง ตามหลักวิชาการต่อไป

ปลู ก ฝั ง ให้ เ รี ย นรู้ วิ ถี ชี วิ ต ของชาวนา

วันที่ 15 ก.ค. 2561 เวลา 09.00 น. ที่บ้าน ทุง่ ศิลป์ครูแดง ต.นํา้ โมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นาย ศรัณย์ศักดิ์ ศรีเครือเนตร นายอำ�เภอท่าบ่อ เป็น ประธานเปิดโครงการ “ค่ายศิลปะการดำ�นา (ปลูก ข้าว)” ค่ายลำ�ดับที่ 61 โดยมี นายบุญธรรม ดีหมั่น ประธาน กต.ตร.สภ.ท่าบ่อ ส.ต.ท.ชวลิต ชัยวี ปลัด องค์การบริหารส่วนตำ�บลนํา้ โมง และ เด็กๆ พร้อม ผู้ปกครองร่วมในพิธี ทั้งนี้กิจกรรมในครั้งนี้ได้รับ เกียรติจากอาจารย์ไพบูลย์ ธรรมเรืองฤทธิ์หรือครู เบิ้ม เติมศิลป์ ศิลปินระดับประเทศมาให้ความรู้ เกี่ยวกับงานศิลปะอีกด้วย

นายเฉลิ ม ศั ก ดิ์ ธรรมเรื อ งฤทธิ์ ห รื อ ครู แดง ประธานชมรมศิ ล ปะเด็ ก บ้ า นศิ ล ป์ ไ ทย/ ชมรมบ้านทุ่งศิลป์ครูแดง กล่าวว่า สืบเนื่องจาก ทางชมรมได้จัดกิจกรรมทุกฤดูกาลเพาะปลูกและ ชายแดนสามารถติดต่อค้าขายแลกเปลี่ยนผลผลิต การเก็บเกี่ยวผลผลิต ในช่วงหน้าฝน ฤดูกาลทำ�นา ของตน และสินค้าอุปโภค บริโภคเล็กๆ น้อยๆ ที่ ของทุกปีระหว่างเดือน มิถุนายน-กรกฎาคม เป็น จำ�เป็นในชีวิตประจำ�วัน เท่านั้น

จุดผ่อนปรนบ้านหม้อ ได้เปรียบจุดผ่อน ปรนทุกจุดในจังหวัดหนองคายเพราะอยู่ตรงกับ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว โดยที่ผ่านมาจะ มีชาว สปป.ลาว เดินทางข้ามมาเลือกซื้อสินค้ากัน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำ�นวยการ เป็นจำ�นวนมาก สร้างความคึกคักให้กับเศรษฐกิจ สำ�นักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 10 อุดรธานี เปิดเผย ในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี โดยที่จุดผ่อนปรนจะมีเจ้า ว่า สำ�นักพื้นที่อนุรกษ์ 10 มีพื้นที่รับผิดชอบ 6 หน้าที่ทั้งฝ่ายปกครอง ตำ�รวจ ทหาร คอยอำ�นวย จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี หนองบัวลำ�ภู ความสะดวกให้กบั ชาว สปป.ลาว รวมทัง้ การตรวจ เลย หนองคาย บึงกาฬ และจังหวัดสกลนคร ได้ ยาเสพติดเพือ่ มิให้มกี ารลักลอบนำ�ยาเสพติดเข้ามา รั บ นโยบายจากรั ฐ มนตรี ว่ า การกระทรวง ในประเทศ ทรั พ ยากรธรรมชาติ แ ละสิ่ ง แวดล้ อ ม ผ่ า นมา

โดยปัจจุบันนี้จังหวัดหนองคาย ได้เปิดจุด ทางอธิบดีกรมทรัพยากรธรรมชาติ ให้ทำ�การ ผ่อนปรนกับแขวงเวียงจันทน์ และแขวงบอลิคำ� สำ�รวจความเป็นอยู่ การดำ�เนินชีวิตประจำ�วัน ไซ สปป.ลาว อยู่ตามอำ�เภอต่าง ๆ 4 แห่ง ประกอบ ของเจ้าหน้าที่ พนักงานราชการ ในสังกัดว่าเป็น ด้วย จุดผ่อนปรนบ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จุดผ่อน อย่างไร ซึ่งทางสำ�นักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 10 ได้ ปรน อ.สังคม จุดผ่อนปรน อ.โพนพิสัย และจุด ทำ�การสำ�รวจพื้นที่รับผิดชอบแล้ว ผ่อนปรน บ้านเปงจาน อ.รัตนวาปี โดยจุดผ่อนปรน พบว่ า มี บ้ า นพั ก อาศั ย ชองพนั ก งาน แต่ละแห่งอยู่ห่างไกลจากที่ตั้งของด่านศุลกากร หนองคาย ที่สำ�คัญการค้าที่จุดผ่อนปรนต่างๆ มี แนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้า อุปโภค บริโภค ผักผลไม้ และพืชผลการเกษตรที่ ส่งออกไป สปป.ลาว ซึ่งศุลกากรหนองคายเตรียม เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 ณ ลานแสดง หาแนวทางเพื่อวางมาตรการในการดูแลสินค้า ต่างๆเพื่อจัดเก็บเป็นรายได้เข้าประเทศ ทั้งนี้จุด สินค้า ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า จ.อุดรธานี ผ่อนปรนบ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ตรงข้าม นายรณชัย จิตรวิเศษ ผวจ.หนองคาย เป็นประธาน กับด่านเก้าเลี้ยว นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เปิดงานมหกรรมการค้าชายแดนหนองคาย OTOP เป็นจุดผ่อนปรนที่มีมูลค่าการค้ามากกว่าทุกจุด Fair 2018 โครงการเพิ่มศักยภาพการค้าการลงทุน ตามแนวชายแดนและเชือ่ มโยงระเบียงเศรษฐกิจอนุ ผ่อนปรนในจังหวัดหนองคาย ภูมิภาคลุ่มนํ้าโขง กิจกรรมส่งเสริมช่องทางการจัด จำ�หน่ายและการตลาด

นายภั ค วั ต ร คำ � พวง หั ว หน้ า กลุ่ ม งาน ยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน รักษาราชการแทน พัฒนาการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า รัฐบาลได้มีน โยบายเพิม่ ประสิทธิภาพการบริหารจัดการโครงการ หนึง่ ตำ�บลหนึง่ ผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP เพือ่ ให้แต่ละ ชุมชนสามารถใช้ทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่น ในการพัฒนาสินค้า โดยรัฐบาลให้การสนับสนุน ชุมชนเข้าถึงองค์ความรูส้ มัยใหม่ แหล่งเงินทุน และ พัฒนาขีดความสามารถในการบริหารจัดการและ

รัฐหรือเอกชนได้ประโยชน์ ขยายจุดผ่อนปรนบ้านหม้อ

ผลั ก ดั น ขยายจุ ด ผ่ อ นปรนบ้ า นหม้ อ ไป จนถึงท่าเทียบเรือเอกชน หน่วยงานด้านความ มั่ น คงมองเป็ น ไปได้ ย าก ติ ง ใช้ ที่ เ อกชน หวั่ น ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ และมีปญ ั หาความมัน่ คง

เมือ่ วันที่ 16 กรกฎาคม 2561 ทีห่ อ้ งประชุม อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายจิรศักดิ์ ศรีคชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธาน การประชุมคณะทำ�งานพิจารณา ศึกษา การขอ อนุญาตขยายจุดผ่อนปรนบ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ประชุมอย่างพร้อมเพรียง

ทัง้ นี้ มติทปี่ ระชุมคณะกรรมการความร่วม มือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนจังหวัด หนองคาย ได้เสนอเรื่อง “การขออนุญาตขยาย จุดผ่อนปรนบ้านหม้อ อำ�เภอศรีเชียงใหม่” ให้ ครอบคลุมมายังท่าเทียบเรือขนานยนต์ศรีเชียงใหม่ โดยขยายพื้นที่ออกไปอีก จากเดิมระยะ 55 เมตร เป็ น 500 เมตร จนถึ ง ท่ า เที ย บเรื อ ของ บริ ษั ท ศรีเชียงใหม่เฟอร์รี่ จำ�กัด ตามความยาวของแม่นํ้ าโขง ไปทางทิศเหนือประมาณ 500 เมตร เข้า พิจารณาในที่ประชุม

ซึ่งที่ประชุม ได้มีมติมอบหมายให้จังหวัด แต่ ง ตั้ ง คณะทำ � งาน เพื่ อ ศึ ก ษารายละเอียดข้อดี ข้อเสีย และประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับจาก การขยายจุดผ่อนปรนดังกล่าว ดังนั้นเพื่อให้การ พิจารณาการขออนุญาตขยายจุดผ่อนปรนบ้านหม้อ อำ � เภอศรี เ ชี ย งใหม่ เป็ น ไปด้ ว ยความเรี ย บร้ อ ย โดยอยู่บนพื้นฐานการบริหารข้อมูลที่มีความถูก ต้อง ครบถ้วนจึงอาศัยอำ�นาจตามความในมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ แผ่นดิน พ.ศ.2535 และแก้ไขเพิม่ เติม (การอนุญาต หรือการดำ�เนินโครงการหรือกิจกรรมใดที่อาจมี ผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัย คุณภาพชีวิต หรือส่วนได้เสียสำ�คัญอื่นใดที่เกี่ยว กับตนหรือชุมชนท้องถิ่น และมีสิทธิแสดงความ คิ ด เห็ น ของตนต่ อ หน่ ว ยงานที่เ กี่ยวข้องเพื่อนำ� ไปประกอบการพิจารณาในเรื่องดังกล่าว) เพื่อให้ คณะทำ�งานพิจารณาศึกษาการขยายจุดผ่อนปรน บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ ได้พิจารณากลั่นกรอง ข้อมูล ให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน เพื่อเสนอ

นายกำ�ภล เมืองโคตร นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย เป็น ประธานเปิดโครงการอบรมสมาชิกกองทุนสงเคราะห์จากขยะ รีไซเคิล เทศบาลเมืองหนองคาย เพือ่ ลดและใช้ประโยชน์จากขยะ ณ หอประชุมเทศบาลเมืองหนองคาย อ.เมือง จ.หนองคาย โดยมี สมาชิกกองทุนสงเคราะห์จากขยะรีไซเคิลเทศบาลเมืองหนองคาย เข้าร่วมอบรม จำ�นวน 300 คน

นายทวนทอง เปี ย จำ � ปา ผู้ อำ � นวยการสำ � นั ก การ สาธารณสุขและสิง่ แวดล้อม กล่าวว่า เทศบาลเมืองหนองคาย ได้ รณรงค์แก้ไขปัญหาขยะมูลฝอย ตามแนวทาง 3 Rs ได้แก่ Reduce ลดการใช้, Reuse การใช้ซํ้า และ Recycle การแปรรูปใหม่ สินค้า หรือผลิตภัณฑ์ ผ่านกิจกรรมกองทุนสงเคราะห์จากเทศบาลเมือง หนองคาย ซึ่งดำ�เนินการมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2559

โดยให้ประชาชน คัดแยกขยะรีไซเคิลตัง้ แต่ตน้ ทาง คือ จากบ้านเรือน/ ชุมชน แล้วนำ�มาขายขยะให้กับกองทุน หากมีสมาชิกในครัวเรือนเสียชีวิต จะได้รับเงินสงเคราะห์โดยหักจากสมาชิกทั้งหมด ครัวเรือนละ 20 บาท ซึ่ง ปัจจุบันกองทุนสงเคราะห์จากขยะรีไซเคิลของเทศบาลเมืองหนองคาย มี สมาชิกเข้าร่วมโครงการประมาณ 1,860 ครัวเรือน จาก 42 ชุมชน สามารถลด ปริมาณขยะทีน่ �ำ ไปกำ�จัดตัง้ แต่เดือนพฤศจิกายน 2559 ถึงปัจจุบนั ได้ จำ�นวน 542.70 ตัน มีรายได้จากการขายขยะรีไซเคิล จำ�นวน 1,750,999 บาท และมี สมาชิกทีเ่ สียชีวติ จำ�นวน 43 ราย ได้รบั เงินสงเคราะห์เป็นเงิน 1,063,720 บาท

จ.หนองคาย และนายภัควัตร คำ�พวง หัวหน้า กลุ่ ม งานยุ ท ธศาสตร์ ก ารพั ฒ นา รั ก ษาราชการ แทนพัฒนาการจังหวัดหนองคาย ร่วมแถลงข่าว ต่อสื่อมวลชนถึงแนวคิดและการพัฒนาโครงการ ดั ง กล่ า ว ถึ ง กิ จ กรรมที่ จ ะเกิ ด ขึ้ น ทั้ ง กิ จ กรรม พัฒนาบุคลากร, พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สิ่งอำ�นวย ความสะดวก, พัฒนาสินค้า และบริการ, พัฒนา เส้นทางการท่องเที่ยวกิจกรรมส่งเสริม และการ จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในชุมชน เพื่อให้ โครงการดังกล่าว สร้างรายได้ให้ประชาชนอย่าง มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

การตลาด

โดยมอบหมาย ให้ ก รมการพั ฒ นาชุ ม ชน ดำ�เนินการเพิ่มศักยภาพผู้ ผลิต ผู้ประกอบการ การ พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยองค์ ความรู้ แ ละนวั ต กรรม รวมถึ ง การส่ ง เสริ ม ช่ อ ง ทางการตลาด เพื่ อ ให้ ชุมชนได้น�ำ ภูมปิ ญ ั ญาท้อง ถิ่นมาเพิ่มมูลค่า จนเกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากของ ประเทศให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน

กิ จ กรรมในครั้ ง นี้ จึ ง เป็ น การเพิ่ ม ช่ อ ง ทางการตลาด ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ได้มีช่องทางการจำ�หน่ายสินค้า โดยมีผู้ประกอบ การ OTOP ของจังหวัดหนองคาย เข้าร่วมโครงการ

สนับสนุนเด็กหนองคายสูร่ ะดับโลก ; นายรณชัย จิตรวิเศษ ผวจ.หนองคาย และ นพ.สรร สุนทรธนากุล นายกเทศมนตรีต�ำ บลโพนพิสยั และประธาน ชมรมกอล์ฟสิงห์หนองคาย มอบเงินเพือ่ สนับสนุนค่าใช้จา่ ยให้กบั “น้องฟ้า ใส” ด.ญ.ปลายนภา เชือ้ คำ�จันทร์ ตัวแทนเด็กไทยเข้าร่วมแข่งกอล์ฟ รายการ เยาวชนโลก ณ เมืองซานดิเอโก้ ประเทศสหรัฐอเมริกา

จำ�นวน 113 ราย แยกเป็นประเภทอาหาร 48 ราย, เครื่องดื่ม 6 ราย, ผ้าและเครื่องแต่งกาย 26 ราย, ของใช้ ของตกแต่ ง ของที่ ร ะลึ ก 27 ราย และ ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร 6 ราย โดยจะจัด จำ�หน่าย ณ ลานแสดงสินค้า ชั้น 4 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลพลาซ่า จ.อุดรธานี ระหว่างวันที่ 5 - 9 กรกฎาคม 2561 นี้

เพิ่มศักยภาพสตรีจัดการท่องเที่ยว ; นายรณชัย จิตรวิเศษ ผวจ.หนองคาย เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพและพัฒนาบทบาทสตรีในการ จัดการท่องเที่ยว ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย โดยมี นาย วรรณพล ต่อพล นายอำ�เภอศรีเชียงใหม่ นางสำ�ราญ เพิ่มสิน พัฒนาการ อำ�เภอศรีเชียงใหม่ พ.จ.อ.พิเชษฐ์ ไพรพะยอม นายก อบต.พระพุทธบาท และกลุ่มสตรีตำ�บลพระพุทธบาท ร่วมในโครงการฯ ณ ศาลาวัดบ้านห้วย ช้างเผือก หมู่ 9 ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

หน้า 9

ปีที่ 16 ฉบับที่ 170 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2561

Toyota ยกระดับวงการฟุตบอลไทย ค้นหาเยาวชนสู่เวทีสากล

ที่สนามกีฬากลางจังหวีดขอนแก่น นายอ ชิตะ คุณวาสี ที่ปรึกษาด้านการตลาด บริษัท โตโย ต้าแก่นนคร จำ�กัด ได้ให้การตอบรับน้องๆ ที่ลง ทะเบียนกับ โตโยต้าแก่นนคร มากกว่า 300 คน และ สนับสนุนเครือ่ งดืม่ และอาหารกลางวัน พร้อมมอบ อุปกรณ์กฬี าทีร่ ว่ มกิจกรรม Toyota Junior Football Clinic 2018” โครงการฝึกสอนและพัฒนาทักษะ กีฬาฟุตบอลให้แก่เยาวชนไทยทั่วภูมิภาค พร้อม สนับสนุนให้เข้าร่วมแข่งขันระดับสากล

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำ�กัด ร่วมกับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ใน พระบรมราชูปถัมภ์ และ มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิรวิ ฒ ั นา พรรณวดี จัด “Toyota Junior Football Clinic 2018” ในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 6 เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนอา ยุตํ่ากว่า 12 ปี ซึ่งเป็นรุ่นอายุเริ่มแรกของการฝึกฝน สู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพควรได้รับการฝึกสอน พร้อมปูพื้นฐานด้านฟุตบอลที่ดี เพื่อพัฒนาสู่การ เป็นนักฟุตบอลอาชีพในอนาคต

กิจกรรมฟุตบอลคลินกิ จัดขึน้ ในทุกภูมภิ าค ทั่ ว ประเทศ เพื่ อ เป็ น การให้ ค วามรู้ แ ละพั ฒ นา ทั ก ษะพื้ น ฐานฟุ ต บอลให้ กั บ เยาวชนไทย โดยมี คุณปิยะพงษ์ ผิวอ่อน โตโยต้า ฟุตบอลแอมบาสเด อร์ และอดีตตำ�นานนักฟุตบอลทีมชาติไทย รับ หน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน พร้อมทั้งได้ทำ�การ คัดเลือกเยาวชนที่มีความสามารถโดดเด่นจากทั่ว

ประเทศ เพื่ อ เข้ า รั บ การ อบรมปรับพืน้ ฐานฟุตบอล ตามแบบ Thailand’s way กับ สถาบัน เอคโคโน เมธอด ซอคเกอร์ เซอร์วิส ที่ศูนย์พัฒนาศักยภาพกีฬา ฟุ ต บอล ตลอดจน เข้ า ร่วมเป็น ตัวแทนเยาวชน ที ม ชาติ ไ ทย รุ่ น อายุ ไ ม่ เกิน 12 ปี ในการแข่งขัน ฟุ ต บอลรายการ Toyota International Junior Club ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อเสริมสร้างโอกาสฝึกฝน ทักษะและประสบการณ์ในรูปแบบการแข่งขัน ทัวร์ นาเมนท์ระดับสากล อันเป็นการสนับสนุนเยาวชน ไทยที่ มี ค วามสามารถให้ ไ ด้ พั ฒ นาสู่ ก ารเป็ น นั ก ฟุตบอลอาชีพในอนาคตควบคู่ไปกับการส่งเสริม วงการฟุตบอลไทยอย่างแท้จริง

กิจกรรมโตโยต้า จูเนียร์ ฟุตบอล คลินกิ 2018 ในครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 6 เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนอา ยุตํ่ากว่า 12 ปี ซึ่งเป็นรุ่นอายุเริ่มแรกของการฝึกฝน สู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพควรได้รับการฝึกสอน พร้อมปูพ้ืนฐานด้านฟุตบอลที่ดี เพื่อพัฒนาสู่การ เป็นนักฟุตบอลอาชีพในอนาคต

บริ ษั ท โตโยต้ า มอเตอร์ ประเทศไทย จำ � กั ด มุ่ ง มั่ น ที่ จ ะเป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ในการส่ ง เสริ ม รากฐานฟุตบอลไทยให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่

ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพในระดับเยาวชน ผ่าน โครงการพัฒนาและผลักดันเยาวชนไทย โตโยต้า จู เนียร์ ฟุตบอล คลินิก รวมถึงการเป็นผู้สนับสนุน หลักการแข่งขันฟุตบอลทั้งในระดับประเทศและ นานาชาติ ตลอดจนสนับสนุนทีมฟุตบอลทีมชาติ ไทยอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การเป็นผู้สนับสนุน หลักการแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศ “โต โยต้า ไทยลีก” รวมถึงการจัดการแข่งขัน “โตโยต้า ลีกคัพ” ตลอดจนได้ให้ความสำ�คัญกับการพัฒนา และส่งเสริมการกีฬาของประเทศต่อเนื่องมาโดย ตลอด ทั้งในรูปแบบของการจัดการแข่งขัน ตลอด จนเป็นผูใ้ ห้ความสนับสนุนแก่วงการกีฬาต่างๆ เพือ่ พัฒนาการกีฬาของชาติ พัฒนานักกีฬาเพื่อเตรียม ความพร้อมสำ�หรับการแข่งขัน และเป็นกำ�ลังใจให้ กับนักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ

ขอนแก่น Smart City ปลุกกระแสนำ� เทคโนโลยี ดิ จิ ทั ล มาใช้ ใ นท้ อ งถิ่ น

“Digital Thailand Big Bang Regional 2018” งานแสดงเทคโนโลยีดิจิทัลแห่งอนาคตยิ่ง ใหญ่แห่งปี เปิดฉากครั้งแรกที่เมืองหมอแคน ปลุก กระแสการนำ � เทคโนโลยี ดิ จิ ทั ล มาใช้ ใ นท้ อ งถิ่ น รองรับการขยายดิจิทัลขับเคลื่อนภูมิภาคอย่างมี ศักยภาพ

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดงานแสดงเทคโนโลยีดิจิทัล ภายใต้ชื่อ “Digital Thailand Big Bang Regional 2018” โดยมี ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อ เศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานเปิดงาน ณ ห้อง คอนเวนชัน่ ฮอลล์ ชัน้ 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 6-8 กรกฎาคม 2561 โดยมีผู้ สนใจทัง้ ผูป้ ระกอบการ นักพัฒนาดิจทิ ลั ซอฟต์แวร์ เกมส์เมอร์ นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ และ ประชาชนทัว่ ไปลงทะเบียนเข้าร่วมงานตลอด 3 วัน กว่า 1 หมื่นคน

ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยเข้าสู่สังคมดิจิทัล และมีการ พัฒนาเทคโนโลยีให้มีความทันสมัยมากขึ้นอย่าง ต่ อ เนื่ อ ง ดั ง นั้ น กระทรวงดิ จิ ทั ล เพื่ อ เศรษฐกิ จ และสังคม โดยสำ�นักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ร่วมกับ เครือข่าย หุ้นส่วนต่างๆ จัดงาน “Digital Thailand Big Bang 2018” ลงไปทุกภูมิภาคใน ประเทศ เพื่อให้บริการเด็ก เยาวชน และประชาชน ได้เรียนรู้ และสามารถนำ�ไปใช้ประโยชน์ได้ในชีวิต ประจำ�วันและในอนาคต อีกทั้ง เพื่อปลูกฝังให้เด็ก ไทย สามารถเข้าถึงพัฒนาต่อยอดได้ พร้อมกันนี้ ยัง ได้จัดให้มีการสัมมนาเพิ่มความรู้ในแง่มุมต่างๆ ทั้ง การพัฒนาคน การพัฒนาเทคโนโลยี ทัง้ นี้ ดิจทิ ลั จะ เป็นประโยชน์ตอ่ สังคมไม่เพียงเฉพาะเรือ่ งเศรษฐกิจ เท่านั้น แต่จะช่วยทำ�ให้คุณภาพชีวิตของประชาชน ดีขึ้นด้วย

จั ง หวั ด ขอนแก่ น เป็ น เมื อ งศู น ย์ ก ลางที่

มี ค วามสำ � คั ญ ของภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ อีก ทั้งความร่วมมือระหว่าง หน่ ว ยงานภาครั ฐ ภาค เอกชน ซึ่งมีความพร้อม และตื่ น ตั ว มี ค วามเข้ ม แข็งในการร่วมกันพัฒนา บริหารจัดการเมืองในรูป แบบ Smart City ที่เป็น รูปธรรม จับต้องได้ และ มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ ระบบขนส่ง สาธารณะอย่างโมเดลรถราง Smart Mobility รวมทัง้ อุตสาหกรรมดิจิทัลอื่นๆ อาทิ Smart Living (Smart Health and Medical Hub), Smart Economy และ Smart Governance อีกทั้งมีการเชื่อมต่อและบูรณา การข้อมูลเพื่อให้ได้รับบริการได้อย่างรวดเร็ว และ มีประสิทธิภาพมากขึ้น สอดคล้องกับการเป็นเมือง MICE City ทีค่ รบทุกด้านทุกมิติ และทีน่ า่ ชืน่ ชมคือ ขอนแก่น ยังได้รับรางวัลชนะเลิศ 2018 WINNER IDC Smart City ASIA PACIFIC AWARDS ใน สาขา Public Health and Social Services ทำ�ให้เชือ่ ได้ ว่า การดำ�เนินงานของทุกฝ่ายมีศกั ยภาพและสัมฤทธิ ผลด้วยทิศทางทีถ่ กู ต้อง และสามารถพัฒนาได้อย่าง ต่อเนือ่ ง รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงดิจทิ ลั ฯ กล่าวและ ว่า

สำ�หรับโครงการเมืองอัจฉริยะ (Smart City) นั้น ขณะนี้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เร่งขยายพืน้ ทีอ่ อกไปในหลายจังหวัด โดยร่วมมือ กับพันธมิตรทัง้ ในภาครัฐ และเอกชน อาทิ กระทรวง พลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม สำ�นักงานส่งเสริม เศรษฐกิจดิจิทัล (depa) สำ�นักงานนโยบายและ แผนพลังงาน (สนพ.) และสำ�นักงานนโยบายและ แผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นหน่วยงาน หลักในการขับเคลื่อนให้เกิดเมืองใหม่อัจฉริยะ โดย ภายในปีนี้ พัฒนา 7 เมือง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร

เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และ ระยอง และมีเป้าหมายเพิ่มเป็น 30 จังหวัด ในปี 2565 นอกจากนี้ในระดับนานาชาติต่างก็ตระหนัก ถึงการพัฒนาเมืองเพื่อตอบสนองความต้องการ ของประชาชน โดยในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 32 ที่ผ่านมา ผู้นำ�อาเซียนได้ตกลงที่จะจัด ตั้งเครือข่ายเมืองอัจฉริยะ (Smart Cities Network: ASCN) เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ องค์ความรู้ เทคโนโลยี ตลอดจนสร้างความร่วมมือในการพัฒนา เมืองอัจฉริยะร่วมกันในภูมภิ าค รวมไปถึงการเชือ่ ม ต่อเครือข่ายไปนอกภูมิภาคด้วย

การจัดงาน Digital Thailand Big Bang Regional 2018 นอกจากสร้างความตระหนักและ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงด้านนวัตกรรมดิจิทัลอย่าง เท่าเทียมกันของประชาชนในภูมิภาคแล้ว เยาวชน ยังได้รว่ มสัมผัสนวัตกรรมเทคโนโลยีทลี่ าํ้ สมัย และ เป็นการจุดประกายให้เกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆ อีก ทั้ง ยังสามารถเข้าร่วมงาน Digital Thailand Big Bang 2018 Big Data ซึ่งเตรียมจัดขึ้นที่ เมืองทอง ธานี กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 19-23 กันยายน 2561 เชือ่ ว่า การนำ�ดิจทิ ลั เข้ามาพัฒนาและยกระดับ ชีวิตความเป็นอยู่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้มีความ พร้อมในทุกด้าน จะทำ�ให้เป็นศูนย์กลางของภูมภิ าค และเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยจะก้าวสู่อนาคตด้วยเท โนโลยีดิจิทัลอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ซ่อมสี 60 นาที รอรับได้เลย ; นายสายันต์ ทรัพย์ปัญญาดี ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการ และคณะผู้บริหาร บริษัท โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด รับมอบใบ ประกาศนียบัตร โครงการ Express BP “ซ่อมสี 60 นาที รอรับได้เลย” จาก นายชัชวาล โอภานุมาศ ผู้อำ�นวยการฝ่ายบริการตัวถังและสี บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำ�กัด ในงานเปิดตัวโครงการ “ซ่อมสี 60 นาที รอรับได้ เลย” ที่ บริษัท โตโยต้าแก่นนคร ข้างบิ๊กซี เป็นศูนย์บริการซ่อมตัวและสี เจ้า แรกในจังหวัดขอนแก่น ที่ให้บริการงานซ่อมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ใหม่ ที่ตัวถังรถเฉพาะจุด “สีกระเทาะ, รอยครูด เเละ รอยยุบ” เริ่มต้นที่ 1,500 บาท และรอรับรถใน 60 นาที ด้วยงานคุณภาพมาตรฐานการซ่อมของ โตโยต้า

เตรียมเปิดฉาก สุดยอดมหกรรม เชื่อมโยงการค้าของดีทั่วไทย

เตรียมจัดงานมหกรรมเชื่อมโยงการค้า ของดีทั่วไทย มางานเดียวจบครบเครื่องเรื่องการ ค้า ทั้งงานแสดงและจำ�หน่ายสินค้าจากเครือข่าย MOC Biz Club ภาคอีสาน การเจรจาจับคู่ธุรกิจ ให้ค�ำ ปรึกษาแนะนำ�ธุรกิจ สร้างองค์ความรูพ้ ฒ ั นา ศักยภาพอย่างมืออาชีพ

เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 61 ณ ห้องเฟิร์ส คลาส ชั้น 1 โรงแรมประจักษ์ตรา ดีไซน์ โฮเต็ล อ.เมือง จ.อุดรธานี นายสาโรจน์ สุวัตถิกุล รอง อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พร้อมด้วย นาย ประเสริฐ ฝ่ายชาวนา พาณิชย์จังหวัดอุดรธานี นายสุเมธ มั่งคั่ง ประธานเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และนายวรา ยุส์ ตรีวัฒนสุวรรณ ประธานเครือข่าย MOC Biz Club จังหวัดอุดรธานี ได้รว่ มกันแถลงข่าวการจัด งาน “มหกรรมเชื่อมโยงการค้าของดีทั่วไทย” ซึ่ง จะจัดระหว่างวันที่ 20-22 ก.ค.2561 ณ ศูนย์การ เซ็นทรัล พลาซา จ.อุดรธานี โดยมีหัวหน้าส่วน ราชการ นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และประชาชน เข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวคับคั่ง

นายสาโรจน์ สุวัตถิกุล รองอธิบดีกรม พัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจัดงาน MOC this Club Expo 2018 มหกรรมเชื่อมโยงการค้า ของดีทั่วไทยระดับภาคครั้งที่ 2 ในภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ มีเป้าประสงค์เพื่อแสดงศักยภาพ และความเข้มแข็งของผู้ประกอบการเครือข่าย ธุรกิจ MOC Biz Club ของภาคอีสาน ไม่เพียงแต่ มุ่งเน้นการสร้างโอกาสทางการตลาด และรวม ถึงการพัฒนาองค์ความรู้ไปประยุกต์และปรับใช้ ให้เหมาะสมกับธุรกิจของตนเองและเครือข่าย รวมถึงเป็นสะพานเชื่อมโยงธุรกิจในภูมิภาค ที่ จะนำ�ไปสู่การต่อยอดทางธุรกิจ สร้างมูลค่าเพิ่ม ให้กบั สินค้าและบริการ เพือ่ ก้าวสูต่ ลาดระดับต่าง ประเทศอย่างมั่นคง

โดยภายในงานตลอด 3 วัน จะมีกิจกรรม ที่น่าสนใจประกอบด้วย งานแสดงและจำ�หน่าย สินค้าทีน่ �ำ เสนอสินค้าและบริการของดีจากเครือ ข่ายธุรกิจ MOC Biz Club 20 จังหวัดในภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ, การเจรจากับคู่ธุรกิจ Business Matching เพื่อสร้างโอกาสเติบโตทางการค้าใน การต่อยอดธุรกิจ และพบปะพันธมิตรทางการ ค้าทั้งในและต่างประเทศ, การให้คำ�ปรึกษาและ

แนะนำ � ธุ ร กิ จ จากผู้ เ ชี่ ย วชาญผู้ มี ป ระสบการณ์ เ ฉพาะด้ า นฟรี แบบไม่มคี า่ ใช้จา่ ยเช่นการพัฒนา ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ก ารบริ ห ารจั ด การ ด้านการตลาดการเงิน และการ สั ม มนา เสวนา และเชื่ อ มโยง ธุรกิจ เพื่อสร้างองค์ความรู้ใน การพัฒนาศักยภาพทางการตลาด และมาตรฐานการประกอบธุรกิจ อย่างมืออาชีพ

นายสาโรจน์ กล่าวต่อว่า การจัดงาน MOC Biz Club Expo 2018 : มหกรรมเชื่อมโยงการค้า ของดีทั่วไทย จะจัดขึ้นทั้งหมดรวม 5 ครั้ง ทั้งใน กรุงเทพมหานคร และอีก 4 ภูมิภาค ได้แก่ ครั้ง ที่ 1 ภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 6 – 8 กรกฎาคม 2561 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า จ.ลำ�ปาง ครั้งที่ 2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 19 – 21 กรกฎาคม 2561 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่ า จ.อุ ด รธานี ครั้ ง ที่ 3 ระดั บ ประเทศ (กรุงเทพฯ) ระหว่างวันที่ 26 – 29 กรกฎาคม 2561 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ครั้งที่ 4 ภาคตะวันออกและภาค กลาง ระหว่างวันที่ 17 – 19 สิงหาคม 2561 ณ ศูนย์การค้า เซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต จ.นนทบุรี และ ครั้งที่ 5 ภาคใต้ ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม - 2 กันยายน 2561 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติ ฉลองสิริ ราชสมบัติครบ 60 ปี หาดใหญ่ จ.สงขลา

นายประเสริฐ ฝ่ายชาวนา พาณิชย์จังหวัด อุดรธานี กล่าวว่า สำ�หรับงาน MOC Biz Club Expo 2018 มหกรรมเชื่อมโยงการค้าของดีทั่วไทย ซึง่ จะจัดระหว่างวันที่ 20-22 ก.ค. 2561 ณ ศูนย์การ เซ็นทรัล พลาซา จ.อุดรธานี จะเป็นแรงในการขับ เคลือ่ นเศรษฐกิจระดับท้องถิน่ Local Economy อีก ทั้งยังช่วยสร้างงานสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับผู้ ผลิตและผู้ประกอบการ โดยกระทรวงพาณิชย์มีน โยบายให้สำ�นักงานพาณิชย์จังหวัด บูรณาการการ ทำ�งานร่วมกับ MOC Biz Club อย่างใกล้ชดิ พฒ ั นา และดำ�เนินกิจกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการ ที่แท้จริงของผู้ประกอบการในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง นับเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการทุกระดับ ที่ มองหาโอกาสทางการค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อต่อยอดธุรกิจเพื่อพัฒนาธุรกิจ ภาคตะวันออก

เฉียงเหนือให้เติบโตมากขึ้น

ส่วน ดร.สุเมธ มั่งคั่ง ประธานเครือข่าย ธุรกิจ MOC Biz Club ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ภายในงานนอกจาก จะเชิญผูป้ ระกอบการ ธุรกิจจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มาออกบูธแสดงสินค้าร่วมกันซึ่งผู้ประกอบการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถเจรจาธุรกิจการ ค้าเพื่อให้เกิดการต่อยอดทางธุรกิจและการเชื่อม โยงทางการค้าภายในภูมิภาคและระดับประเทศ เพือ่ ให้สนิ ค้าของดีของไทยก้าวไกลสูร่ ะดับประเทศ และช่วยเรื่องการส่งออกสินค้าได้อีกช่องทางหนึ่ง อีกทั้งยังได้นำ�เทคโนโลยีการใช้จ่ายผ่าน QR Code เพิม่ ความสะดวกสบายให้กบั ผูข้ ายและผูซ้ อื้ อีกด้วย นายวรายุส์ ตรีวัฒนสุวรรณ ประธานเครือข่าย MOC Biz Club จังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า งาน MOC Biz Club Expo 2018 มหกรรมเชื่อมโยง การค้าของดีทั่วไทยครั้งที่ 2 ที่ภาคตะวันออกเฉียง เหนือ ซึ่งจะจัดระหว่างวันที่ 20-22 ก.ค. 2561 ณ ศูนย์การเซ็นทรัล พลาซา จ.อุดรธานี นี้ มีสินค้า ของดีประจำ�ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิเช่น ข้าวหอมมะลิ 105 ตรา Love summer ขนมเปี๊ยะ สดพิชญาแก้ว กาแฟทำ�จากไม้มงคลอย่างไม้ตาล ผ้าพันคอตะไคร้หอมกันยุง ผ้าฝ้ายทอมือ ผ้าไหม ลายตำ�นานปราสาทศรีขรภูมิ และสินค้าอื่นๆ อีก มากมายกว่า 100 ธุรกิจ ซึ่งผู้ที่ซื้อสินค้าจะมีสิทธิ์ ลุ้นรับสร้อยคอทองคำ�หนัก 1 สลึง จำ�นวน 4 เส้น ทุกวัน และลุน้ รางวัลใหญ่เมือ่ ซือ้ สินค้าภายในงาน ครบทุกๆ 300 บาท อีกทัง้ สินค้าลดราคาช่วงโปรโม ชั่นนาทีทองมากมาย พร้อมชมมินิคอนเสิร์ตจาก ศิลปินก้อง ห้วยไร่ และซานิ AF หรือหน้ากากอีกา เผือก จากเวทีเดอะแมสซิงเกิลอีกด้วย

ย ก ร ะ ดั บ ผ้ า ท อ อี ส า น รุ ก ข ย า ย ต ล า ด ทั้ ง ใ น แ ล ะ น อ ก ป ร ะ เ ท ศ

พาณิ ช ย์ ข อนแก่ น ยกระดั บ ผ้ า ทออี ส าน “E-SAN Fabrics: Brand Building..Brand Blooming” ให้กบั กลุม่ ผูป้ ระกอบการ สร้างโอกาสทางการตลาด และสามารถแข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ

เมื่ อ วั น ที่ 1 กรกฎาคม 2561 ที่ โ รงแรม เจริญธานี จ.ขอนแก่น นายพิทักษ์ อุดมชัยวัฒน์ ผู้ ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิด โครงการยกระดับผ้าทออีสาน E-SAN Fabrics: Brand Building....Brand Blooming โดยมีกลุม่ ผูผ้ ลิต และผู้ประกอบการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้า ร่วมอบรมกว่า 150 คน ภายในงานมีการบรรยายใน หัวข้อ “ปัน้ แบรนด์ให้ดงั สร้างกลยุทธ์ให้โดน Brand Building” “ออกแบบอย่างไร ให้โดนใจตลาด Product Development” “สร้างแบรนด์ ผ่านการออกแบบ บรรจุภัณฑ์ Packaging Design” รวมถึงการบรรยาย ในหัวข้อ Success Case Study กิจกรรม Workshop พร้อมการให้คำ�ปรึกษาในเชิงลึกจากวิทยากรมาก ประสบการณ์และผู้ประกอบการธุรกิจชั้นนำ�

นายพิทักษ์ อุดมชัยวัฒน์ ผู้ตรวจราชการ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ภาคอีสาน เป็นภูมภิ าคทีม่ ี ศักยภาพในการผลิตผ้าทอ ผลิตภัณฑ์มคี วามโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก และเป็นสินค้า ส่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ อาทิ ผ้าไหมมัดหมี่ชนบท จังหวัดขอนแก่น ผ้าไหมแพรวา จังหวัดกาฬสินธุ์ ผ้า ไหมกาบบัว จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งสามารถสร้าง งาน สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และผู้ประกอบการที่

เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ผู้ผลิต ผู้ แปรรู ป และผู้ ค้ า เป็ น ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่ มี คุ ณ ภาพ สามารถสร้ า งความเข้ ม แข็ ง ในการแข่ ง ขั น เชิ ง ธุรกิจได้ การสร้างโอกาส ทางการตลาด และช่อง ทางการจัดจำ�หน่ายเพิ่ม ขึ้น

การจัดโครงการ ยกระดั บ ผ้ า ทออี ส าน “E-SAN Fabrics: Brand Building....Brand Blooming” ในครั้งนี้ นอกจากจะทำ�ให้ผู้ผลิต ผู้ ประกอบการมีรายได้เพิ่มแล้ว ยังเป็นการพัฒนา ศักยภาพด้านการผลิต การตลาดในอนาคตด้วย พร้อมทั้งสามารถเชื่อมโยงเครือข่ายทางการค้าของ ผูผ้ ลิตผูป้ ระกอบการในต่างภูมภิ าค เสริมสร้างความ สามารถทางการแข่งขันโดยพัฒนาและส่งเสริมการ ค้า การบริการไปสู่การยกระดับให้เป็นเศรษฐกิจ สร้างสรรค์ในการเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการให้ สามารถแข่งขันทั้งในและต่างประเทศได้

นายคำ � นวณ สุ ว รรณดี พาณิ ช ย์ จั ง หวั ด ขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการยกระดับผ้าทอ อีสาน “E-SAN Fabrics: Brand Building Brand Blooming” นอกจากส่งเสริมให้ผปู้ ระกอบได้พฒ ั นา ศักยภาพการผลิต และการค้าในตลาดสากลแล้ว ยัง

จิตประภัสสรตั้งแต่นอนอยู่ในครรภ์ ; “จิตประภัสสรตั้งแต่นอนอยู่ใน ครรภ์” Facebook live สด จากเสถียรธรรมสถานให้คุณแม่ตั้งครรภ์ สามี และผู้ที่กำ�ลังวางแผนจะมีบุตร ได้ฟังธรรมะ จากแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต และทำ�กิจกรรม Work shop กิจกรรมนีจ้ ดั ขึน้ เป็นประจำ�ทุกวันอาทิตย์แรก ของเดือน ครั้งถัดไปตรงกับวันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม 2561 จัดโดยเสถียร ธรรมสถาน ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น และโรงแรมโฆษะ

ได้จัดให้มีการอบรมเชิงปฎิบัติการ ซึ่งเป็นกิจกรรม ย่อยอีก 2 กิจกรรม คือ การจัดอบรมเชิงปฎิบัติการ การสร้าง Brand Building และ Product Design ใน ระหว่างวันที่ 1-3 กรกฎาคม 2561 ณ โรงแรมเจริญ ธานีขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น และวันที่ 8-10 ณ โรงแรมบุรีเทล จังหวัดบุรีรัมย์

“นอกจากนี้ ยั ง มี กิ จ กรรมทดลองตลาด Show Caseวันที่ 15-19 สิงหาคม 2561ณ ห้างสรรพ สินค้า เซ็นทรัลพลาซ่าบางนา กรุงเทพมหานคร โดย การคัดเลือกผูป้ ระกอบการจากการอบรมเชิงปฎิบตั ิ การ จำ�นวน 40 รายเข้าร่วมงาน เชื่อว่า โครงการ ยกระดับผ้าทออีสาน Brand Building....Brand Blooming จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถนำ�ไป ปรับใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อไป” พาณิชย์ จังหวัดขอนแก่น กล่าว

อิ่มบุญเดือนเกิดเทิดพระคุณพ่อแม่ ; ผู้บริหาร พนักงานโรงแรมโฆษะ และ ลูกค้า ทำ�บุญตักบาตร ในโครงการ”อิ่มบุญเดือนเกิดเทิดพระคุณ พ่อแม่” ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2561 โดยได้นิมนต์พระสงฆ์ จาก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยายาเขตขอนแก่น มารับ บิณฑบาตที่บริเวณหน้าโรงแรมโฆษะ

หน้า 10

ปีที่ 16 ฉบับที่ 170 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2561

อัญมณีกับเดือนเกิด

ความเชือ่ เป็นสิง่ ทีอ่ ยูค่ กู่ บั มนุษย์โลกของเรา มายาวนาน ในแต่ละพื้นที่ก็จะมีความเชื่อที่แตกต่าง กันออกไป โดยเฉพาะการหาซื้อเครื่องประดับ หลาย คนจะคำ�นึงถึงความเชื่อ รวมไปถึง เรื่องการช่วยส่ง เสริมดวงด้านต่างๆ วันนี้ มีเรือ่ งของตระกูลพลอยหรือ อัญมณี ที่เหมาะสมกับวันเกิด มานำ�เสนอ ใครเกิดวัน ไหนเช็คกันได้เลย

คนเกิดวันอาทิตย์ เป็นคนที่ค่อนข้าง กล้า หาญ มีบุคลิกลักษณะเป็นผู้นำ� กล้าคิดกล้าตัดสินใจ อัญมณีประจำ�วันเกิดที่เหมาะกับคนเกิดวันอาทิตย์ ควรใส่เป็น “ทับทิม หรือ พลอย” จะช่วยเสริมใน เรื่องอำ�นาจบารมี และเรื่องการงานโชคลาภ ปกติคน ที่เกิดวันอาทิตย์ เป็นคนที่ค่อนข้างมีโชคอยู่แล้ว หาก ประดับด้วยอัญมณีประจำ�วันเกิด จะส่งเสริมให้มโี ชค ลาภมากยิง่ ขึน้ หรือ ถ้าเสริมในเรือ่ งบุคลิก ความมัน่ ใจ ควรใส่คู่กับเพชรทรงเรียว ขนาดพอดี

คนเกิดวันจันทร์ ถือเป็นคนเจ้าเสน่หท์ สี่ ดุ เลย ก็ว่าได้ อัญมณีประจำ�คนที่เกิดวันจันทร์ ควรใส่เป็น “บุษราคัม หรือ อัญมณีสีเหลือง” เพราะนอกจากจะ เป็นสีประจำ�วันเกิดแล้ว ยังช่วยเสริมบุคลิกให้ดูอ่อน โยนใจเย็น และเสริมให้มีความมั่นใจมากขึ้น ส่วนใน เรื่องความหมายของบุษราคัม คือ ช่วยเสริมดวงเรื่อง การงาน ให้เจริญรุง่ เรือง ถ้าใส่คกู่ นั กับเพชรหรือไข่มขุ จะส่งเสริมในเรื่องความรักและเสน่ห์ดึงดูดใจ

คนเกิดวันอังคาร จุดเด่นของคนเกิดวันอังคาร อาจเป็นคนใจร้อน คิดเร็วทำ�เร็ว ทำ�อะไรโผงผาง ไม่ ค่อยมีความรอบคอบ ไม่มีความระมัดระวังเท่าไหร่ ควรสวมใส่เป็น “อัญมณีสีชมพู” เพราะความอ่อน หวานของสีชมพูจะช่วยให้ ความใจร้อน โกรธง่าย ลด ลงได้บ้าง แนะนำ�ให้ใส่เป็นพลอยสีอ่อนๆ หรือโอปอ สีชมพูออ่ น จะทำ�ให้จติ ใจสงบ อารมณ์เย็นลง หรือถ้า ใส่คกู่ บั เพชร จะช่วยเสริมในเรือ่ งความรัก เสน่ห์ และ มิตรภาพ และที่สำ�คัญ จะส่งเสริมเรื่องเงินทองให้รํ่า รวยอีกด้วย

คนเกิ ด วั น พุ ธ เป็ น คนสมถะ เรี ย บง่ า ย สบายๆ ไม่จริงจังกับอะไรเท่าไหร่นัก ไม่มีความกล้า ที่จะตัดสินใจเอง คนเกิดวันพุธ ควรใส่เครื่องประดับ อัญมณีที่เป็น “หยก หรือมรกต” เสริมในเรื่องความ มั่นใจ อำ�นาจบารมี คนเกิดวันพุธ กลางคืน ควรใช้ เครื่องประดับ หรือ อัญมณีที่เป็นสีเขียว เรียกว่า “อินทนิล หรือแก้วไพฑูรย์” หากต้องการเพิ่มบริวาร เพิ่มเรื่องเสน่ห์ ควรใส่คู่กับเพชร

คนเกิดวันพฤหัสบดี เอกลักษณ์ของคนเกิด วันพฤหัสบดี เป็นคนเจ้าระเบียบ รักสันโดษ ไม่ชอบ ความวุน่ วาย ไม่ชอบออกสังคม และจะไม่คอ่ ยสมหวัง เรื่องความรักเท่าไหร่ อัญมณีที่คนเกิดวันพฤหัสบดี เลือกใส่ ควรเป็น “โอปอล แบบกลม” เพราะโอปอจะ มาเสริมเรือ่ งความสมหวัง เสริมเสน่หใ์ ห้เรือ่ งความรัก คูค่ รอง ดีขนึ้ และถ้าอยากเสริมเรือ่ งความมัน่ ใจในการ ออกสังคมควรใส่คู่กับเพชรทรงกลม จะช่วยในเรื่อง การตัดสินใจ และบุคลิกให้ดียิ่งขึ้น

คนที่เกิดวันศุกร์ เป็นคนมีลักษณะค่อนข้าง เด่น เพราะเป็นคนจริงใจ คิดอะไรก็พูดแบบนั้น เป็น คนเปิดเผย ไม่ชอบมีความลับ รักในความถูกต้อง การ พูดตรงเกินไปสามารถสร้างศัตรูได้งา่ ย ดังนัน้ อัญมณี ที่คนเกิดวันศุกร์ควรใส่คือ “ไพริน หรือเพทายสีฟ้า” จะเสริมในเรื่องเสน่ห์การพูดจา การงาน และการ ติดต่อธุรกิจ ค้าขาย ถ้าใส่คกู่ บั ไข่มขุ หรือเพชร จะช่วย เรื่องความมั่นใจให้มากขึ้น

คนเกิ ด วั น เสาร์ มี จุ ด เด่ น คื อ ความทะเยอ ทะยาน จะเต็มที่ในเรื่องการทำ�งาน แต่ไม่ค่อยสนใจ เรื่องความรักเท่าไหร่นัก ดังนั้น คนที่เกิดวันเสาร์ ควร จะเลือกอัญมณีที่เป็นสีเข้มอย่างเช่น “นิลสีดำ�” เพราะ นิลจะเสริมในเรื่องเสน่ห์ สีดำ� จะทำ�ให้ดูสุขุมมากขึ้น และส่งเสริมเรื่องความรักให้มั่นคง หรือถ้าอยากจะ เสริมเรื่องการงาน ให้ทุกอย่างราบรื่น ประสบการณ์ ความสำ�เร็จควรใส่เป็น เพชร รูปทรงสี่เหลี่ยม

SP. สถาพรจิวเวอรี่

ก ั ร ่ ู ค บ ั ร ห � ำ ส ั น ่ โปรโมช นายสถาพร บัวใหญ่

ผู้บริหารร้าน “สถาพรจิวเวอรี่” จัดโปรโมชั่นพิเศษ ลด แจก แถม สำ�หรับลูกค้าที่สั่งซื้อเพชร ทั้งสร้อย แหวน กำ�ไล มาเป็นคู่ รับสิทธิพิเศษ ซื้อ 1 แถม 1 โดยมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง หรือ ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.facebook.com/spjewelry/ Line : deer-supho Line :deer.supho Tel : 083-1511992 : หรือ 51 ถ.รื่นรมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น โทร : 081-5925539

หน้า 11

ปีที่ 16 ฉบับที่ 170 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2561 วีทีแหนมเนือง

• ต่อจากหน้า 1 Carbon Cleaning

นายทอง กุลธัญวัฒน์ เจ้าของร้าน วีทีแหนมเนือง อาหารเวียดนาม”แหนมเนือง” ที่เป็นสินค้าโอท็อป ห้าดาวเมืองอุดรธานี และเป็นผู้บริหาร “แหนมเนือง คอมมูนติ ”ี้ เปิดเผยว่า โครงการแหนมเนืองคอมมูนติ ี้ แห่งใหม่ ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว และมีการขยาย พืน้ ทีจ่ ากเดิม 18 ไร่ ออกเป็น 27 ไร่ ทีร่ มิ ถนนมิตรภาพ สายอุดรธานี-ขอนแก่น ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี อยู่ห่างจากตัวเมืองอุดรธานี ประมาณ 4 ก.ม. และ เปิดให้บริการแก่ลูกค้าแล้ว

สำ�หรับแผนการในระยะต่อไปตามที่วางเอา ไว้คือ การผลิตแหนมเนืองด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ด้วยระบบสูญญากาศแช่แข็งสามารถเก็บรักษาเอาไว้ ได้ไม่ตาํ่ กว่า 3 เดือน เพือ่ การส่ง”แหนมเนือง”ออกไป ต่างประเทศ กำ�หนดภายในสิ้นปี 2561 นี้ ขณะนี้ได้ ยื่นขอใบรับรองอาหารและยา (อย.) จากกระทรวง สาธารณสุ ข แล้ ว และได้ รั บ การให้ ก ารรั บ รอง แล้ว เหลือเพียงเอกสารการรับรองคุณภาพ และอยูใ่ น ขั้นตอนของการรับรองคุณภาพเพื่อการส่งออก โดย มีเป้าหมายแรกได้แก่ ประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกง ประเทศละ 30 ตัน/เที่ยว จะสามารถสร้างรายได้เข้า สูจ่ งั หวัดได้สว่ นหนึง่ และส่งเสริมให้มงี านทำ�สำ�หรับ แรงงานท้องถิ่นได้มากกว่า 300 คน

นายทองฯ กล่าวต่อไปว่า สำ�หรับแหนมเนือง คอมมูนติ แี้ ห่งใหม่นี้ ได้มกี ารขยายโครงการจากเดิมที่ จะใช้งบประมาณก่อสร้างจำ�นวน 600 ล้านบาท และ พื้นที่ประมาณ 18 ไร่ มาเป็นพื้นที่ 27 ไร่เศษ เพิ่มงบ ประมาณเป็น 1000 ล้านบาท และมีการปรับปรุง รายละเอียดโครงการจากเดิมเล็กน้อย เดิมโครงการ ประกอบด้วย 4 อาคาร ได้แก่ อาคารตลาดชุมชน ขนาด 2 ชัน้ เพือ่ เป็นตลาดจำ�หน่ายสินค้า ของทีร่ ะลึก สินค้าโอท็อปจากชุมชนต่างๆในจังหวัดอุดรธานี สำ�หรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางกลับบ้าน, อาคาร ร้านอาหารพื้นเมือง โดยเฉพาะร้านจำ�หน่ายอาหาร ไทย เวียดนาม คืออาหารเช้า กาแฟ อาหารกลาง วัน แหนมเนือง และอาหารเวียดนามหลากหลาย ชนิด พร้อมสถานทีพ่ กั ผ่อนแบบสวนหย่อม สามารถ นัง่ รับประทานอาหารแบบเอาท์ดอร์ มีการแบ่งพืน้ ที่ ส่วนหนึ่งสำ�หรับจัดงานเลี้ยงนอกสถานที่ หรืองาน จัดเลี้ยงเช่น งานแต่งงานเอาไว้ด้วย และพื้นที่บริการ แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงจังหวัดอุดรธานีใน ตอนเช้า สำ�หรับล้างหน้า แปรงฟัน ก่อนทีจ่ ะเดินทาง ต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ

ในส่วนที่ 3 เป็นพื้นที่สำ�หรับเป็นโรงงาน ผลิตอาหารเวียดนามทุกชนิด เพื่อป้อนร้านแหนม เนื อ งแห่ ง เดิ ม ในตั ว เมื อ งอุ ด รธานี แ ละที่ แ ห่ ง ใหม่ นี้ และสาขาทั่วประเทศทั้ง 16 สาขาทั้ง 4 ภาค เช่น จังหวัดขอนแก่น นครราชสีมา สระบุรี เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ และที่เพิ่มเติมขึ้นมาได้แก่ ส่วนที่ เป็ น โรงงานสำ � หรั บ ผลิ ต อาหารแหนมเนื อ งด้ ว ย เทคโนโลยีสมัยใหม่ด้วยระบบสูญญากาศแช่งแข็ง เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ ซึ่งเป็นโรงงานระบบปิด ตามมาตรฐานที่กำ�หนด และนอกจากนี้ยังสร้างเป็น อาคารพาณิชย์ให้ลูกค้าเช่าจำ�นวน 40 คูหา

นายทองฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำ�หรับโรงงาน สำ�หรับผลิตแหนมเนืองแช่แข็งส่งไปต่างประเทศ และเป็นโรงงานระบบปิดตามมาตรฐานกำ�หนด ใน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการให้การรับรองคุณภาพเพื่อ การส่งออกไปต่างประเทศ คาดว่าจะได้รบั การรับรอง ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งการผลิตแหนมเนืองแช่แข็งเพื่อส่ง ออกไปต่างประเทศ จะเป็นการผลิตทีส่ ามารถให้การ ตรวจสอบได้ทกุ ขัน้ ตอน และเป็นไปตามทีห่ น่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกำ�หนด สำ�หรับแหนมเนืองแช่แข็งของ วีทีแหนมเนือง หลังผ่านการผลิตจะเก็บรักษาอยู่ที่ อุณหภูมลิ บ 30 องศา และจะอยูไ่ ด้นานถึงกว่า 3 เดือน โดยในเบื้องต้นนี้มีเป้าหมายอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกง ประเทศละ 30 ตัน/เที่ยว และต่อไปคือ กลุม่ ประเทศอาเซียน เช่น ประเทศเวียดนาม และบาง ประเทศในเอเซีย เช่น เกาหลี

“สำ�หรับทีม่ าของการผลิตแหนมเนืองแช่แข็ง ส่งไปต่างประเทศนัน้ ต้องการทีจ่ ะเผยแพร่อาหารพืน้ เมืองให้ชาวต่างประเทศ คนไทย และคนเวียดนาม ที่อาศัยอยู่ในประเทศต่างๆ ได้มีโอกาสทานแหนม เนืองเหมือนกับที่อยู่ในประเทศไทย สำ�หรับราคาก็ จะอยู่ในราคาที่เหมาะสมและอยู่ในความสามารถที่ ลูกค้าหาซื้อได้ และเป็นอาหารที่มีคุณภาพที่สามารถ แข่งขันกับต่างประเทศได้” นายทองฯ กล่าว

• ต่อจากหน้า 1 ขอใช้บริการรวม 5 คันขึน้ ไป จะไม่มคี า่ ใช้จา่ ยในการ อาศัยแห่งปีทรี่ วมโปรโมชัน่ สุดพิเศษไว้ในงานเดียว

นายสมพงค์ สายจีน ผู้จัดการ SP Carbon Cleaning Thailand เปิดเผยว่า รถยนต์ เป็นพาหนะ คูก่ ายทีเ่ ราต้องฝากชีวติ ไว้ในการเดินทางทัง้ ใกล้และ ไกล การใส่ใจดูแลรักษาเครื่องยนต์ให้มคี วามพร้อม ทุกการเดินทางจึงเป็นเรื่องสำ�คัญที่ไม่ควรมองข้าม และต้องทำ�อย่างสมํ่าเสมอ ยิ่งเราดูแลรถดีเท่าไหร่ รถก็จะรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เจ้ า ของรถดี เ ท่ า นั้ น สั ง คมไทยในปั จ จุ บั น ทุ ก ครอบครัวต่างมีรถยนต์ใช้ อาจ 1-2 คัน หรือมากกว่า ตามสถานะความจำ�เป็นของแต่ละครอบครัว ดังนัน้ รถยนต์จงึ กลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของใช้ชวี ติ ประจำ�วัน หรือแม้กระทั่งนักเรียน นักศึกษาที่ใช้รถยนต์ขับ ไปโรงเรียน และเชื่อว่า กว่า 60% ไม่รู้จักการบำ�รุง ดูแลรักษาเครื่องยนต์ หรือรู้วิธีการบำ�รุงรักษาเบื้อง ต้น แต่ไม่เคยทำ� เมื่อเกิดปัญหาต่างๆ มักส่งเข้าศูนย์ บริการ หรืออู่ซ่อมรถเท่านั้น

ปัจจุบัน เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามามีบทบาท มากยิ่งขึ้น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบรับการใช้ ชีวิตของสังคมเมืองที่ต้องการความสะดวก ง่าย รวดเร็ว และราคาไม่แพง สอดคล้องกับรายจ่ายที่ ไม่ทำ�ให้เกิดผลกระทบต่อครอบครัวจึงกลายเป็น ปัจจัยทีน่ า่ จับตามองมากทีส่ ดุ Carbon Cleaning เป็น นวัตกรรมใหม่ทสี่ ามารถทำ�ความสะอาดเครือ่ งยนต์ ด้วยระบบไฮโดรเจน เป็นเครื่องนำ�เข้าจากประเทศ ฝรั่งเศส ราคาเครื่องละ 550,000 บาท โดย บริษัท SP Carbon Cleaning Thailand เป็นผู้แทนจำ�หน่าย แต่เพียงผูเ้ ดียวในประเทศไทย ทีเ่ พิง่ จะนำ�เข้ามาใช้ใน ประเทศไทยเพียง 5 สัปดาห์ มีรถทีไ่ ด้รบั การทดลอง ด้วยเครื่อง Carbon Cleaning ประมาณกว่าพันคัน โดยการบอกต่อทำ�ให้มีคิวรอรับบริการจากเครื่อง Carbon Cleaning อีกเป็นจำ�นวนมาก

นายสมพงค์ กล่าวต่อว่า การเปลี่ยนถ่ายนํ้า มันเครื่อง การเปลี่ยนหม้อกรองอากาศ หรืออื่นๆ เป็นปัจจัยความสิ้นเปลื้องที่จำ�เป็นต้องเปลี่ยนตาม วงรอบของการใช้รถยนต์ แต่ปัญหาของเครื่องยนต์ คือการที่ใช้รถเป็นประจำ� ทำ�ให้เกิดการสะสมของ ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซค์ (CO) เป็นผลให้การ ทำ�งานของสมรรถนะเครื่องยนต์ลดลง ผลที่ตาม มาคือ สิ้นเปลืองนํ้ามันเชื้อเพลิง การสึกหรอของ อะไหล่เครื่องยนต์ เกิดคราบเขม่าในเครื่องยนต์ ทำ�ให้เครือ่ งยนต์มเี สียงดัง เครือ่ งวิง่ สะดุด เร่งเครือ่ ง ไม่ขนึ้ รวมไปถึง ปริมาณควันจากท่อไอเสียมาก และ ไม่ผา่ นการทดสอบการปล่อยมลพิษของรถยนต์ตาม ที่ขนส่งระบุไว้ โดยเฉพาะรถยนต์ที่ผ่านการใช้งาน มาแล้วมากกว่า 50,000 KM ขึ้นไป ที่จะเริ่มมีอาการ ดังกล่าว

เครือ่ ง Carbon Cleaning เป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ใช้ทำ�ความสะอาดเครื่องยนต์ โดยฉีดไฮโดรเจน เข้าไปในเครื่องยนต์ ใช้เวลาเพียง 30 นาที สามารถ ปริมาณก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซค์(CO) ได้ถงึ 75% สามารถลดปัญหาการเสื่อมสมรรถนะของอะไหล่ รถยนต์ ลดปริมาณควันขาว-ควันดำ�จากท่อไอเสีย ยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ ลดการสะดุดของ อัตรารอบเร่งเครื่องยนต์ เชื่อว่า หากเจ้าของรถยนต์ ที่มีปัญหาแก้ไม่ตกในเรื่องต่างๆ ของเครื่องยนต์ และได้ใช้ Carbon Cleaning จะเป็นผู้ตอบโจทย์ของ การใช้นวัตกรรมเครื่องทำ�ความสะอาดเครื่องยนต์ ปัจจุบัน เครื่อง Carbon Cleaning ได้นำ�เข้ามาใช้ใน จังหวัดขอนแก่นเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย

“Carbon Cleaning สมารถทำ�ความสะอาด รถยนต์ และจักรยานยนต์ ทุกประเภท โดยใช้เวลาใน การทำ�ความสะอาดขจัดคราบเขม่าประมาณ 30-50 นาทีต่อคัน ราคารถยนต์คันละ 1,500 -2,000 บาท ส่วนรถจักรยานยนต์คันละ 300-500 บาท ในแต่ละ วันสามารถใช้เครื่อง Carbon Cleaning ทำ�ความ สะอาดรถยนต์ ได้ไม่เกิน 15 – 20 คันต่อวัน โดยมี บริษัทรถยนต์มือสองติดต่อใช้บริการไปแล้ว อาทิ บริษัท NIG PERMIUMCARS จำ�กัด, ธรรมนูญ เต็นท์รถ, ค่าย ร.8, หมู่บ้านนครินทร์ และอีกหลาย แห่งที่ยังรอใช้บริการ” นายสมพงค์ กล่าวและว่า

การใช้บริการ หากเป็นในพื้นที่อำ�เภอเมือง ขอนแก่น สามารถนัดวัน เวลา และสถานที่ เพื่อใช้ บริการจากเครื่อง Carbon Cleaning ได้โดยไม่มีค่า ใช้จ่ายใดๆ เพิ่ม หากเป็นนอกพื้นที่ อาทิ อ.ชุมแพ อ.บ้ า นไผ่ อ.พล จะมี ค่ า ใช้ จ่ า ยในการเดิ น ทาง ประมาณ 2,300 – 2,500 บาท แต่ทั้งนี้ หากมีรถยนต์

เดินทางเพิม่ เช่นเดียวกัน แต่ทงั้ นี้ สำ�หรับผูใ้ ช้รถยนต์ ทีต่ อ้ งการใช้บริการในทุกพืน้ ทีท่ วั่ ประเทศ สามารถ เรียกใช้บริการได้ โดยอาจมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อยู่ที่การตกลงเงื่อนไขในการใช้บริการ

นายสมพงค์ กล่าวต่อว่า จากปริมาณการใช้ ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ในประเทศไทย และทุก ภูมิภาค ทุกชุมชน เชื่อว่าเครื่อง Carbon Cleaning จะเป็นธุรกิจที่สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ดัง นั้น การลงทุนจึงไม่มีปัจจัยเสี่ยงแต่อย่างใด เพราะ เป็นการลงทุนตํ่า แต่สามารถสร้างและขยายเครือ ข่ า ยได้ อ ย่ า งรวดเร็ ว โดยเฉพาะผู้ ที่ ไ ด้ ท ดลองใช้ บริการจากเครือ่ งดังกล่าวแล้ว จะเป็นกระบอกเสียง ที่ประชาสัมพันธ์แบบบอกต่อ แต่อย่างไรก็ตาม ได้ วางแผนการตลาดไว้วา่ จะไม่ให้เครือข่ายเกิดการทับ ซ้อนซึง่ กันในแต่ละพืน้ ที่ โดยจะเปิดรับตัวแทนเพียง จังหวัดละ 3 เครือ่ งเท่านัน้ ปัจจุบนั มีผแู้ ทนจำ�หน่าย ที่กำ�ลังติดต่อ แฟรนส์ไชส์ เครื่อง Carbon Cleaning ไปให้บริการ อาทิ จ.พะเยา, จ.นครศรีธรรมราช, ภูเก็ต และพัทยา โดยอาจขอใช้เงินทุนกู้ยืมจากผู้ ประกอบการ SMEs เป็นการลงทุนที่ให้ผลคุ้มค่า และคืนทุนเร็ว สำ�หรับท่านใดที่สนใจร่วมทำ�ธุรกิจ กับบริษัท SP Carbon Cleaning Thailand สามารถ ติดต่อสอบถามได้ตลอดเวลา ที่โทรศัพท์ 080-234 3376 หรือ ID-LINE stbb0809 นายเรวัตร พิลิ นักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช มงคล วิทยาเขตขอนแก่น กล่าวว่า บ้านอยู่จังหวัด กาฬสินธุ์ แต่มาอยู่หอพักช่วงเรียน ทุกวันศุกร์จะ ขับรถกลับบ้านประจำ� ใช้รถมา 3 ปี เป็นเรื่องปกติ ธรรมดาของเครื่องยนต์ที่ผ่านการใช้งานมานานปี ถึงจะบำ�รุงรักษาอย่างไร ก็ต้องมีบ้างที่จะเกิดคราบ เขม่า อัตราเร่งไม่แรงเท่าที่ควร โดยปกติเป็นคนที่ ชอบศึกษาเครื่องยนต์อยู่แล้ว เรื่องการบำ�รุงรักษา ผมมีความมั่นใจพอสมควร

“เครื่อง Carbon Cleaning ก็คิดว่าจะเป็น เพียงเครือ่ งล้างธรรมดา ไม่ได้พเิ ศษอะไรมากนัก แต่ อยากทดลองซึง่ หลังจากทำ�ความสะอาดเครือ่ งยนต์ ด้วย Carbon Cleaning เสร็จแล้ว เหมือนผมได้ขับ รถใหม่ป้ายแดงอีกครั้ง ทั้งการออกตัว อัตราการเร่ง สัมผัสได้หลังการล้างเครื่องยนต์” นายเรวัตร กล่าว

ธอส.เอ็กซโป

• ต่อจากหน้า 1

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.61 นายเลอพงษ์ ชูประยูร รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานสาขาภูมิภาค และ รักษาการรองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานสาขา นครหลวง ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นประธานในการจัดงานมหกรรม “บ้าน ธอส. เอ็กซโป @ ขอนแก่น ประจำ�ปี 2561” ณ โรงแรม พิมานการ์เดนท์ ถ.กลางเมือง ในเขตเทศบาลนคร ขอนแก่น โดยมี นายชาญณรงค์ บุรสิ ตระกูล นายก สมาคมอสังหาริมทรัพย์ จ.ขอนแก่น ผูป้ ระกอบการ อสังหาริมทรัพย์หลายจังหวัดในเขตภาคอีสานตอน บน ร่วมในการประชุมครั้งนี้จำ�นวนมาก

เพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้าประชาชนใน โอกาสที่ ธอส.จะครบรอบ 65 ปี ของการดำ�เนิน งานในวันที่ 24 ก.ย.2561 พร้อมสนับสนุนนโยบาย รัฐบาลที่ต้องการสร้างโอกาสให้ประชาชนผู้มีราย ได้น้อยได้เข้าถึงที่อยู่อาศัย ธอส.ในฐานะสถาบัน การเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีพันธกิจ “ทำ�ให้คน ไทยมีบ้าน” จึงได้จัดงาน “บ้านธอส. เอ็กซโป @ ขอนแก่น ปี 61” ในพื้นที่ภาคอีสานที่ จ.ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 20 - 22 ก.ค.2561 ณ ศูนย์การค้าเซ็น ทรัลพลาซา สาขาขอนแก่น โดยรวบรวมโปรโม ชั่นพิเศษทั้งของ ธอส. และหน่วยงานพันธมิตร รวมกว่า 30 บริษัท พร้อมใจกันจัดทำ�ขึ้นเพื่อขับ เคลื่อนยุทธศาสตร์ที่อยู่อาศัยของรัฐบาลเพื่อทำ�ให้ คนไทยในภาคอีสานตอนบนมีบ้าน พร้อมกระตุ้น เศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยมีทอี่ ยูอ่ าศัย ทุกระดับราคามาจัดจำ�หน่าย พร้อมโปรโมชัน่ พิเศษ ซึ่งมีไฮไลท์สำ�คัญภายในงานตลอด 3 วัน

นายเลอพงษ์ ชู ป ระยู ร เปิ ด เผยว่ า เพื่ อ เป็นการสร้างโอกาส “ทำ�ให้คนไทยมีบ้าน” ตาม พันธกิจของธนาคาร พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจผ่าน ภาคอสังหาริมทรัพย์ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ ประชาชนได้มีบ้านเป็นของตนเอง ธอส.จึงได้ร่วม กับผูป้ ระกอบการอสังหาริมทรัพย์ชนั้ นำ�ในภูมภิ าค ต่างๆ จัดงาน “บ้าน ธอส.เอ็กซ์โป” มหกรรมที่อยู่

ภายในงานธนาคารได้เตรียมโปโมชั่นสินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ยสุดพิเศษ 0.25% ต่อปี นาน 11 เดือนแรก ยกเว้นค่าธรรมเนียม 3 ฟรี (1) ฟรีค่าประเมินราคา หลั ก ประกั น ทุ ก วงเงิ น กู้ (2) ฟรี ค่ า จดทะเบี ย น สิ ท ธิ แ ละนิ ติ ก รรม และ(3) ฟรี ค่ า ธรรมเนี ย ม การยื่นกู้ พร้อมนำ�ทรัพย์ NPA คุณภาพดีทำ�เล เด่น พ่วงแคมเปญดอกเบี้ย 0% นาน 24 เดือน นอกจากนีย้ งั มีโปรโมชัน่ โดนใจจากผูป้ ระกอบการ อสังหาริมทรัพย์ทนี่ �ำ ทีอ่ ยูอ่ าศัยมาจำ�หน่ายในราคา พิเศษพร้อมของแถมอีกมากมาย

นอกจากนี้ ธอส. ยังได้คดั ทรัพย์ NPA หรือ บ้านมือสอง คุณภาพดี ทำ�เลเด่น มาจำ�หน่ายใน ราคาสุดคุม้ เพือ่ เพิม่ ทางเลือกให้กบั ผูท้ กี่ �ำ ลังมองหา ที่อยู่อาศัย แคมเปญพิเศษสำ�หรับผู้ซื้อทรัพย์ NPA ของ ธอส. รับเงือ่ นไขผ่อนชำ�ระเงินดาวน์ 20% ของ ราคาซื้อขาย ดอกเบี้ย 0% นานถึง 24 เดือน หรือ หากเงินดาวน์ 20% ของราคาซื้อขาย ส่วนที่เหลือ อีก 80% รับสินเชื่อดอกเบี้ย 0% นาน 24 เดือน เช่นกัน นอกจากนี้ภายในงานธนาคารได้เตรียมเจ้า หน้าทีใ่ ห้ความรูใ้ นการเข้าถึงสินเชือ่ ในระบบ หรือ Financial Literacy ตามโครงการ ธอส. โรงเรียนการ เงิน อีกด้วย

“ประชาชนทีต่ อ้ งการมีบา้ นเป็นของตนเอง แต่ยงั ไม่มคี วามพร้อม อาทิ เรือ่ งการเตรียมเอกสาร หลักฐานเพื่อแสดงที่มาของรายได้ สามารถขอรับ คำ � แนะนำ � จากเจ้ า หน้ า ที่ ข อง ธอส.ที่ พ ร้ อ มให้ ความรู้ในการเข้าถึงสินเชื่อในระบบตามโครงการ ธอส.โรงเรียนการเงิน ซึ่งผู้ที่ปฏิบัติตามเงื่อนไข ที่ธนาคารกำ�หนดสามารถยื่นคำ�ขอสินเชื่อตาม เงื่อนไขของโครงการได้ต่อไป”

แผนแม่บทระบบ

• ต่อจากหน้า 1

นายสิธิชัย จินดาหลวง รอง ผวจ.อุดรธานี

กล่าวว่า ปัญหาของชุมชนเมืองใหญ่ๆ โดยเฉพาะ ปั ญ หาของการจราจรเมื อ งอุ ด รธานี ก็ ค งเป็ น ปัญหาที่มีความคล้ายๆ กันกับหัวเมืองใหญ่ๆทั่ ว ประเทศ ประกอบกับการปฏิบตั ติ ามกฎหมายจราจร ในพื้นที่ ในบางครั้งอาจจะมีการหย่อนยานไปจึง ทำ�ให้เกิดปัญหาการใช้รถ ใช้ถนน อย่างไรก็ตาม ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องของจังหวัด ได้มีการแก้ไข ปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอดและต่อเนื่อง

กระทรวงคมนาคม โดย สำ�นักงานนโยบาย และแผนขนส่งและจราจร ( สนข.) ได้เลือกเอา พื้นที่จังหวัดอุดรธานีเป็นพื้นที่เป้าหมาย ในการ ทำ�การศึกษาแผนแม่บท เพื่อวางแผนพัฒนาระบบ ขนส่ ง สาธารณะอย่ า งเป็ น ระบบ ซึ่ ง การทำ � การ ศึกษาของ สนข.ครั้งนี้ถือว่าสำ�คัญมากต่อสภาพ ต่างๆ ของเมืองอุดรธานี เพือ่ ทีจ่ ะมีการรวบรวมเอา ปัญหาต่างๆ ไปสะท้อนถึงการพัฒนาระบบขนส่ง สาธารณะของเมืองต่อไป

นายชั ย วั ฒ น์ ทองคำ � คู ณ ผู้ อำ � นวยการ สำ�นักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า การประชุมสัมมนารับฟังความ คิดเห็นครั้งนี้ เป็นโครงการศึกษาทำ�แผนแม่บท ขนส่งสาธารณะของจังหวัดอุดรธานี โดยบริษัทที่ ปรึกษาของ สนข. กระทรวงคมนาคม เป็นระยะ เวลา 15 เดือน จะสิ้นสุดในเดือนกรกฏาคม 2562 ซึ่งแผนการศึกษาจะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนคือ 1.จัด ทำ�แผนแม่บทระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งจะเป็นรูป แบบที่เหมาะสมกับเขตเมืองอุดรธานีว่าสมควร ที่จะเป็นระบบใด อย่างไรและอะไร 2.เป็นการจัด ทำ�โครงการนำ�ร่องระบบขนส่งสาธารณะที่เห็นว่า มีความคุ้มค่าเหมาะสมกับเมืองอุดรธานี เป็นการ ออกแบบเบือ้ งต้นให้เห็นภาพว่าสามารถทีจ่ ะพัฒนา เป็นระบบขนส่งสาธารณะในเขตเมืองอุดรธานีได้ ในอนาคต

3.จะเป็นของการศึกษาระบบจราจรของ จังหวัดอุดรธานี เพราะเรือ่ งการจราจรเมืองอุดรธานี ก็เป็นเรื่องปัญหา ซึ่งจะต้องเป็นการศึกษาเร่งด่วน รวมไปถึงการวางแผนการแก้ไข ไปถึงหากเมื่อมี การก่อสร้างระบบขนส่งสาธารณะในอนาคตด้วย ว่าจะต้องแก้ไขกันอย่างไร และ 4.การพัฒนาพื้นที่ ที่เกิดจากการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในเขต เมือง หลังจากที่ สนข.ได้ท�ำ การศึกษาเสร็จเรียบร้อย แล้ว ก็จะได้เสนอต่อรัฐบาล เพื่อให้ความเห็นชอบ ต่อโครงการ และนำ�เอาโครงการมาดำ�เนินการ

นายชั ย วั ฒ น์ กล่ า วต่ อ ว่ า งานศึ ก ษา แผนแม่ บ ทพั ฒ นาระบบขนส่ ง สาธารณะของ จั ง หวั ด อุ ด รธานี เป็ น งานการศึ ก ษาที่ สนข.มี ความตั้งใจที่จะนำ�เอามาใช้ในการพัฒนาจังหวัด อุดรธานี เนื่องจากว่ารัฐบาลมียุทธศาสตร์ในการ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ไม่ว่าจะ เป็นโครงการรถไฟรางคู่ หรือรถไฟความเร็วสูงก็ดี และอื่นๆก็ดี ที่ สนข.ดำ�เนินการ ส่วนสำ�คัญก็ได้แก่ การเตรียมการความพร้อมสำ�หรับจังหวัดอุดรธานี ในการทีจ่ ะมีระบบขนส่งสาธารณะทีเ่ หมาะสม เพือ่ ทีจ่ ะให้เกิดการขนส่งและการเดินทางทีต่ อ่ เนือ่ ง ซึง่ สิ่งเหล่านี้ ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมที่สำ�คัญ มาก

“โครงการนีจ้ ะสำ�เร็จหรือไม่ นอกจาก สนข. จะทำ�แผนให้มีความชัดเจนแล้ว จังหวัดอุดรธานี และชาวอุดรธานีจะต้องเข้ามามีสว่ นร่วมสนับสนุน โครงการอย่างใกล้ชิด” นายชัยวัฒน์ฯ กล่าวยํ้า

นายอิ ท ธิ พ นธ์ ตรี วั ฒ นสุ ว รรณ นายก เทศมนตรีนครอุดรธานี กล่าวว่า โครงการศึกษา ระบบขนส่งมวลชนดังกล่าว เป็นการดำ�เนินการ ของสำ�นักงาน สนข. ซึ่งเป็นหน่วยงานจากส่วน กลางในการดำ�เนินงานศึกษาความเหมาะสมในพืน้ ที่ทุกๆพื้นที่ในประเทศ เพื่อนำ�เอาผลการศึกษาไป ทำ�การวางแผนแม่บท ระบบขนส่งมวลชน ระบบ การจราจรในแต่ละเมืองให้เกิดความเหมาะสม คาด ว่าจะใช้เวลาในการศึกษาประมาณ 15 เดือน จึงแล้ว เสร็จ

สำ�หรับจังหวัดอุดรธานี ได้รับการแจ้งว่า สนข.ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา ให้มาทำ�หน้าที่ดัง กล่าว เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงเมืองและเหมาะสม กับพื้นที่อื่นๆ ของเมืองอุดรธานี ซึ่งในการประชุม รับฟังความคิดเห็นเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2561 ที่ ผ่านมานัน้ ผูอ้ �ำ นวยการ สนข. เข้าร่วมประชุมชีแ้ จง ต่อหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ให้รับทราบในเรื่องของการ ศึกษาและรูปแบบของการศึกษา รูปแบบของระบบ ขนส่งมวลชนต่างๆ เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ ภาค เอกชน ประชาชน องค์กรต่างๆ รับทราบ และรับ ฟังข้อเสนอแนะ ไปรวบรวมนำ�เอากลับมารับฟังข้อ เสนอแนะในการประชุมรับฟังความคิดเห็นครัง้ ที่ 2 ซึง่ คาดว่าจะมีการประชุมอีกใน 2 เดือนข้างหน้า ซึง่ การประชุมรับฟังความคิดเห็น เน้นไปทีใ่ ห้เกิดมีการ ส่วนร่วมของภาคประชาชนให้มากที่สุด

สำ�หรับการทำ�การศึกษารูปแบบและความ เหมาะสมของระบบขนส่งมวลชนสาธารณะเมือง อุดรธานีและเขตเทศบาลนครอุดรธานีนั้น ก่อน หน้านี้เทศบาลนครอุดรธานี ได้เคยว่าจ้างบริษัท ที่ ป รึ ก ษา ให้ ม าทำ � การศึ ก ษารู ป แบบและความ เหมาะสมมาก่อนนี้แล้ว และได้นำ�เอาเข้าเสนอให้ กับบริษัทที่ปรึกษาเพื่อต่อยอด คือระบบเทรม เป็น ระบบที่มีความเหมาะสมกับเมืองอุดรธานี ด้วย เหตุผลหลายประการ

ส่ ว นข้ อ เสนอแนะจากเทศบาลนคร อุดรธานีต่อบริษัทที่ปรึกษาคือ จะต้องเป็นระบบ ขนส่ ง มวลชนสาธารณะ ที่ เ ป็ น ระบบที่ มี ค วาม สอดคล้องกับสภาพของเมืองอุดรธานี และให้เกิด การเชื่อมโยงกับระบบหลัก และระบบรองของ เมืองอุดรธานีทเี่ อือ้ ประโยชน์กับประชาชนทีเ่ ป็นผู้ ใช้ ซึง่ ก็จะขึน้ กับการศึกษากายภาพของเมือง สภาพ เศรษฐกิจ สังคมเมือง โดยเฉพาะจะต้องให้เกิดการ เชื่อมโยงกับระบบรถเมล์สาธารณะที่เทศบาลนคร อุดรธานี ได้ทำ�การศึกษาและได้รับความเห็นชอบ จากคณะกรรมการ การขนส่งจังหวัด และได้รับ อนุมัติความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบก เรียบร้อยแล้ว ทั้ง 2 เส้นทางดังกล่าวนั้นด้วย

นายอิทธิพนธ์ฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนีแ้ ล้ว ก็ต้องการให้มีการศึกษาพื้นที่สาธารณะที่อยู่ใน พื้นที่ของโครงการขนส่งมวลชนสาธารณะต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้พื้นที่ดังกล่าวมีประโยชน์และ ทำ�ให้เมืองอุดรธานี เช่นพื้นที่ของเรือนจำ�กลาง อุดรธานี หากต้องถูกย้ายออกไปเพื่อทำ�เป็นศูนย์ รวมระบบขนส่งมวลชน ควรที่จะต้องคิดทำ�อะไร ในพืน้ ทีข่ า้ งเคียงทีจ่ ะทำ�ให้เกิดระบบเศรษฐกิจเมือง หรือพื้นที่อื่นๆของเมืองก็น่าจะต้องวางแผนการ เพื่อนำ�เอามาพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์ในพื้นที่ บริเวณโครงการ

สิ่งที่เทศบาลนครอุดรธานีต้องการให้เกิด

มากที่สุดในขณะนี้ไปจนถึงโครงการต่างๆเกิดขึ้น มา คือ ต้องการให้ประชาชนเมืองและใกล้เคียง จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการติดตาม ดูแลผล ประโยชน์ของเมือง ต่อรูปแบบของระบบขนส่ง มวลชนสาธารณะของเมืองอุดรธานี จะเป็นไป ในทิ ศ ทางใด รู ป แบบเป็ น อย่ า งไร ทั้ ง นี้ เ พื่ อ ผล ประโยชน์โดยตรงกับประชาชนเอง ต้องการให้ ประชาชนได้ติดตามดูแล รักษาผลประโยชน์ของ ตัวประชาชนเองอย่างใกล้ชิด หากประชาชนมี ข้อคิดเห็น มีข้อเสนอแนะอะไร ก็สามารถแสดง ความคิ ด เห็ น และเสนอแนะต่ อ บริ ษั ท ที่ ป รึ ก ษา หรือกับเทศบาลนครอุดรธานี เพือ่ เอาไปเสนอแนะ ต่ออีกทอดหนึ่ง

โรงไฟฟ้าชีวมวล

• ต่อจากหน้า 1

ภายหลั ง ที่ มี ก ารทำ � ประชาคมหมู่ บ้ า น เกี่ยวกับการจัดตั้งโครงการก่อสร้าง “โครงการ โรงงานผลิตนํ้าตาลทราย” ของบริษัท วิวรรธน์ การเกษตร จำ�กัด ซึง่ จะดำ�เนินการจัดตัง้ ณ บ้านนา อ่าง ต.จุมพล อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย พร้อมจัด ตั้งโครงการต่อเนื่องในพื้นที่ คือ โรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 30 เมกะวัตต์ โดยได้มีการทำ�ประชาคมกับ ประชาชนในพื้นที่ไปแล้วเมื่อวันที่ 27 มี.ค.61 ที่ ผ่านมา

เมื่อวันที่ 11 ก.ค.61 ที่ศาลาวัดจอมนาง ต.จุมพล อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย นายปิยะ ปิจนำ� นายอำ�เภอโพนพิสัย เป็นประธานในพิธีเปิดการ ทำ�ประชาคมหมู่บ้านเกี่ยวกับการจัดตั้งโครงการ ก่อสร้าง “โครงการโรงงานผลิตนํ้าตาลทราย” ของ บริษัท วิวรรธน์การเกษตร จำ�กัด โดยมีนายกิตติ วัฒน์ ธนพัฒน์ไพบูลย์ ผู้ชำ�นาญการสิ่งแวดล้อม บริษัท ไอเอสอีที (ประเทศไทย) จำ�กัด ได้นำ�เสนอ ข้อมูลรายละเอียด ของโครงการฯ พร้อมตอบข้อ ซักถามร่วมกับนายอวยชัย เจริญยิ่งสุขจินดา ผู้ แทนของบริษัท วิวรรธน์การเกษตร จำ�กัด ซึ่งการ ประชุมรับฟังความคิดเห็นฯ ครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาส ให้ประชาชนผู้มีส่วนได้เสีย รวมทั้งส่วนราชการ และหน่ ว ยงานที่ เ กี่ ย วข้ อ ง ได้ เ ข้ า มามี ส่ ว นร่ ว ม ในการแสดงความคิดเห็น หรือข้อห่วงกังวลต่อ ขอบเขตและแนวทางการศึกษาการประเมินผลก ระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการฯ และเพื่อสรุป ประเด็น ข้อกังวล และข้อเสนอแนะจากประชาชน ผู้มีส่วนได้เสียจากการประชุมรับฟังความคิดเห็น ครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นฯ ไม่ รวมตัวแทนจากบริษัทที่ปรึกษาและเจ้าของโครง การฯ เกือบ 800 คน

หลั ง การประชุ ม ชี้ แ จงรายละเอี ย ดโครง การฯ ก็ได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุม ได้แสดง ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อวิตกกังวล ซึ่ง โดยสรุปไม่ได้แตกต่างจากประชุมรับฟังความคิด เห็นฯ ในครั้งแรก คือวิตกกังวลในเรื่องของผลก ระทบสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในเรื่อง มลพิษทาง อากาศจากฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดจากการเผา ไหม้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้า ที่อาจจะส่งผลก ระทบต่อสุขภาพอนามัยของคนในชุมชน ในขณะ ที่บางคนมีความวิตกกังวลในเรื่องของนํ้าเสียของ โรงงานทีอ่ าจจะรัว่ ซึมเข้าสูร่ ะบบนาํ้ ใต้ดนิ ในชุมชน นอกจากนี้ยังมีผู้เข้าประชุมฯ บางส่วนได้คัดค้าน การสร้างโรงงานฯ โดยให้เหตุผลว่ามลพิษต้องตาม มาเหมือนในหลายพื้นที่ที่มีการสร้างโรงงานไฟฟ้า ชีวมวล แล้วก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ จนส่งผล สุขภาพของคนที่อยู่ในชุมชน

นายอวยชัย เจริญยิง่ สุขจินดา ผูแ้ ทนบริษทั วิวรรธน์การเกษตร จำ�กัด กล่าวว่า โครงการโรงงาน ผลิตนํ้าตาลทราย 20,000 ตันอ้อย/วัน ของบริษัท วิวรรธน์การเกษตร จำ�กัด ซึ่งตั้งอยู่ในที่บ้านนา อ่าง ต.จุมพล อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย และมี โครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ต่อเนื่องกับพื้นที่ของโรง ไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 30 เมกะวัตต์ มีขนาดพื้นที่ โดยรวมประมาณ 1009-3-72 ไร่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่ ตั้งโรงงานประมาณ 704-0-71 ไร่ พื้นที่บ่อผันนํ้า อ่านต่อหน้า 2

สนใจพื้นที่โฆษณา ติดต่อ คุณสุพัตรา thaisaeree@gmail.com thaisaeree@yahoo.com

หน้า 12

ปีที่ 16 ฉบับที่ 170 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2561

ที่ปรึกษา นายบุญยง แก้วฝ่ายนอก, พล.ต.อ.ศักดา เตชะเกรียงไกร,ธนพงษ์ คงศิลป์ทรัพย์, รศ.ดร.ธีระ ฤทธิรอด, ดร.อาทิตย์ ฉัตรชัยพลรัตน์, ฉัตร ศรีพันธุ์, สิทธิโชค บุญโท, พ.อ.สมศักดิ์ สงทามะดัน, พีระ วีระชัย, ยงยุทธ ขาวโกมล เจ้าของ/บรรณาธิการบริหาร พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ บรรณาธิการ/ผู้พิมพ์และผู้โฆษณา สุพัตรา ศุขโข กองบรรณาธิการ อนุสรณ์ ศุขโข ,เพ็ญศิริ นาคทน,มณฑล ศุขโข,รณชิต ชาญเจริญ,นาฏยาภรณ์ ชาญเจริญ,

ประคอง หนู ร าช,พั น ธ์ ศั ก ดิ์ วี ร ะชั ย ,เสริ ม ศั ก ดิ์ ขาวโกมล สำ � นั ก งาน 76 ม.20 ถ.กสิ ก รทุ่ ง สร้ า ง ต.ศิ ล า อ.เมื อ ง จ.ขอนแก่ น 40000 โทรศั พ ท์ 08-9422-0228 โทรสาร 0-4324-4584 E-mail : Thaisaeree@gmail.com, Thaisaeree@yahoo.com ศูนย์อุดรธานี 152/3 ถ.อุดรดุษฏี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 โทรศัพท์ 08-6864-0678 โทรสาร 0-4224-7905 E-mail: ps_veerachai@hotmail.com ศูนย์หนองคาย ภัทรวินทร์ ลีปาน 92 หมู่ 1 ต.บ้าน ่ รึกษากฎหมาย สังคม พุทธา สำ�นักงานทนายความประสพสุขธุรกิจและกฎหมาย ออกแบบ/กราฟฟิค เอือ้ ดีไซน์ 08-1262-3959 ว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย 43110 โทรศัพท์ 087-8627979 E-mail : pattarawin2519@hotmail.co.th ทีป