ปีที่ 16 ฉบับที่ 171 ทั นประจำ ส �ถเดืาอนสิ น งกหาคม า ร2561 ณ์
ติ ด ต า ม ข่ า ว ส า ร ไ ด้ ที่
w w w . t h a i s a e r e e .หน้ c oาm1
รางวัล “คนดีศรีอสี าน” ประจำ�ปี 2561 ; รศ.ดร.กุ ล ธิ ด า ท้ ว มสุ ข คณบดี ค ณะ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มข. รับ รางวัลเกียรติยศ “คนดีศรีอีสาน” ประจำ� ปี 2561 จากนายวิ จ ารณ์ สิ ม าฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม ทัง้ นีร้ างวัลดังกล่าวเพือ่ ส่งเสริม คนดีที่อุทิศตนเพื่อประโยชน์ของสังคม โดยไม่หวังผลตอบแทน ยึดมั่นในความ ซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 37 ณ หอ ประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
ปีที่ 16 ฉบับที่ 171 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2561 ราคา 10 บาท
“ม.ศรีปทุม-บินไทย” เปิดติวเข้ม สานฝันอาชีพนักบิน แอร์-สจ๊วต เปิดโอกาสคนอี“ฟูจสิฟาน ลดค่ า ใช้ จ า ่ ย ิล์ม”รุกเปิดฟูจิ
นักข่าวมือถือ มืออาชีพ ยุค 4.0 ; นายเพชรเหล็ก ทองภูธร ผอ.สถาบันพัฒนาฝีมอื แรงงาน ภาค 5 นครราชสีมา เป็นประธานปิดการอบรมและมอบวุฒบิ ตั รให้กบั ผูเ้ ข้ารับการอบรมเชิงปฎิบตั กิ ารเรือ่ ง “นักข่าวมือถือ มืออาชีพ ยุค 4.0” โครงการพัฒนาศักยภาพสื่อมวลชนภาคอีสาน ครั้งที่ 1/2561 จัด โดย สมาคมเครือข่าย นวอ.ภาคอีสาน ระหว่างวันที่ 17-19 สิงหาคม 2561 ณ โรงแรม ดิ อิมพีเรียล โฮเต็ล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จ.นครราชสีมา
ม.ศรีปทุม ขอนแก่น จับมือ เทศกาลอาหารอีสาน “หนองคาย ฟู้ด การบินไทย เปิดหลักสูตรติว มก่อนเข้าสูอ่ าชีพแอร์-สจ๊วต เฟสติวัล 2018” แซบหลาย แซบอีหลี ฟิล์ม โฟโต้ สเตชั่น เข้และนั กบิน ตอบสนองความ พ่อเมืองหนองคาย โชว์ฝีมือปรุงอาหารใน ตอกยํา้ ความเป็นผูน้ �ำ ต้องการของธุรกิจการบิน เผย งานแถลงข่าวเตรียมจัดงาน “หนองคาย ฟู้ด นมหาวิทยาลัยแห่งเดียวใน เฟสติวัล 2018” กระตุ้นเศรษฐกิจการท่อง ดิ จิ ต อลพริ้ น ท์ ติ้ ง เป็ภาคอี สานทีม่ คี วามพร้อมผลิต เที่ยว ระดมร้านอาหารอีสานกว่า 150 ร้าน ฟู จิ ฟิ ล์ ม เดิ น หน้ า เปิ ด ฟู จิ บุคคลากรป้อนอุตสาหกรรม มาจัดแสดงและจำ�หน่าย ฟิล์ม โฟโต้ ที่อุดรธานี พลิก การบิน เปิ ด เวที ส งฆ์ ไ ทยไกลโรค ‘ไทยโก้’เดินสายสร้างความเข้าใจ โฉมร้านปริ้นภาพรูปแบบใหม่ ธุ ร กิ จ เสื้ อ ผ้ า น่ า เป็ น ห่ ว ง วอนเลิกถวายอาหารเสี่ยงโรค หลังเจอกระแสค้านตัง้ โรงไฟฟ้า ครบวงจรงานพริ้นท์ติ้งระดับ กำ�ลังซื้อหด ยอดขายติดลบ วอนชาวพุทธเลิกใส่บาตรอาหารมีไขมัน มอบคืนโฉนดทีด่ นิ ; แก้ปญ ั หาหนีน้ อกระบบ ; พลเอกประวิตร วงษ์สวุ รรณ รองนายก รัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม เป็นประธานมอบคืนโฉนดที่ดินให้แก่ ประชาชนในภาคอีสานตอนบน 12 จังหวัด และมอบนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้สิน นอกระบบ โดยมีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาการกู้เงินนอกระบบ เข้า ร่วมในพิธี เป็นจำ�นวนมาก ณ บริเวณสนามทุ่งศรีเมือง อ.เมือง จ.อุดรธานี
‘ไทยโก้’ เร่งให้ความรู้ชาวบ้านโดยรอบโครงการ ทีต่ งั้ โรงไฟฟ้า ก่อนทำ�ประชาพิจารณ์ ชูประเด็น สร้างรายได้ให้ชมุ ชน ลดปัญหาขยะมูลฝอย หลัง กลุ่มค้านฯ ยื่นหนังสือให้ยกเลิกโครงการ อ้าง จะสร้างมลภาวะเป็นพิษ อ่านต่อหน้า 2
อ่านต่อหน้า 11
อ่านต่อหน้า 11
้อผ้าเหงาต่อเนื่อง ลูกค้า พรีเมีย่ มคุณภาพสูง ตอบสนอง ตลาดขายเสื หายกว่าครึ่ง หนีไปใช้เสื้อมือสองแบ ไลฟ์ ส ไตล์ ค นรุ่ น ใหม่ ใ นยุ ค รนด์ เ นมแทน ที่ สำ � คั ญ ผู้ ป ระกอบ การรายใหม่ หั น ไปซื้ อ ขายในตลาด ดิจิตอล ตั้งเป้าปี 62 ขยายให้ ออนไลน์ ลงทุนน้อย สะดวก ตอบสนอง ครอบคลุมทั่วประเทศ พฤติกรรมของคนไทย อ่านต่อหน้า 11
อ่านต่อหน้า 11
สูง เร่งดูแลสุขภาพพระสงฆ์อีสาน ฉันท์ อาหารให้พออิ่มเป็นประโยชน์กับสุขภาพ ไม่เสี่ยงโรคหัวใจ ความดันสูง ตั้งเป้าปี 2562 ให้ได้วัดต้นแบบทั่วประเทศไม่ อ่านต่อหน้า 11 น้อยกว่า 5,000 วัด
หน้า 2 ฟูจิฟิล์ม
ปีที่ 16 ฉบับที่ 171 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2561
• ต่อจากหน้า 11 เปิดดำ�เนินการโครงการเต็มรูปแบบ
สามารถขยายสาขา FPS ให้ได้ประมาณ 30 แห่ง ซึง่ จะเป็นร้านที่มีรูปแบบที่เหมือนกันทุกแห่ง ส่วน มูลค่าการลงทุนในแต่ละแห่งจะทำ�การธุรกิจใน ลักษณะของเฟรนซายส์ ระยะเวลา 3 ปี วงเงิน 5 แสนบาท และอุปกรณ์ทเี่ จ้าของร้านเป็นฝ่ายลงทุน เองราคาตั้งแต่ 8 แสนบาท ถึง 2.8 ล้านบาท และที่ สำ�คัญการเปิดร้านถ่ายรูประบบ FPS นี้ เป็นการ ขยายธุรกิจในประเทศไทยเป็นประเทศแรก แม้ กระทั้งในประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศแม่ของ ธุรกิจก็ยังไม่มี ส่วนเรื่องคู่แข่งทางธุรกิจถ่ายภาพ ในปัจจุบันนี้ หลังจากที่เคยมีการแข่งขันค่อนสูง สูง ปัจจุบันนี้ธุรกิจดังกล่าวลดน้อยลงไปแล้ว นายสิ ท ธิ เ วชฯ กล่ า วต่ อ ไปว่ า ฟู จิ ฟิ ล์ ม เล็ ง เห็ น โอกาสการเติ บ โตของธุ ร กิ จ ดั ง กล่ า ว ในประเทศไทย จึ ง ร่ ว มมื อ กั บ ร้ า นโฟโต้ ไ ลฟ จ.อุดรธานี เปิดตัว ฟูจิฟิล์ม โฟโต้ สเตชั่น(FPS) สาขาอุดรธานี โดยเป็นร้านต้นแบบ ซึ่งคาดว่าการ ร่วมมือกันในครั้งนี้จะสร้างมิติใหม่ให้กับผู้บริโภค และเป็นที่ยอมรับของตลาด ได้ทำ�การปรับโฉม ภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัย การตกแต่งร้านใหม่ที่ดู โมเดิรน์ ภายใต้แนวคิด ฟูจฟิ ลิ ม์ โฟโต้ สเตชัน่ หรือ FPS โดยมีบริการ พริ้นท์ติ้ง ภาพแบบครบวงจร ด้วยเครื่อง Frontier 570 จากฟูจิฟิล์ม ที่พิมพ์ภาพ ได้หลากหลายรูปแบบ และเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ Acuity LED 1600 จากฟูจิฟิล์ม ที่สามารถพริ้นท์ ติ้งภาพขนาดใหญ่ และมีคุณภาพสูงระดับพรีเมี่ยม ซึ่งเรามีบริการ พริ้นท์ติ้งภาพได้หลากหลายขนาด และสามารถพิมพ์ภาพได้ใหญ่หน้ากว้างสูงถึง 1.6 เมตร ลงบนวัสดุที่หลากหลาย เช่น Canvas ผสม ผสานกันอย่างลงตัวกับรูปแบบการบริการ นายสืบพงศ์ สืบสารคาม ผูจ้ ดั การร้านโฟโต้ ไลฟ จ.อุดรธานี กล่าวว่า ร้านโฟโตไลฟ จ.อุดรธานี ได้ดำ�เนินธุรกิจเกี่ยวกับการถ่ายภาพมายาวนาน ตั้งแต่วิวัฒนาการของแล็บสีจากระบบซิลเวอร์ ฮาไลด์ มาสูย่ คุ ของดิจติ อล ปัจจุบนั การถ่ายรูป ล้าง รูป มีคนส่วนน้อยยังใช้อยู่ เราจึงมีการปรับปรุง ร้านเพื่อดึงดูดลูกค้า ตกแต่งร้านให้ทันสมัย ดูน่า ใช้ เพื่อสามารถดึงดูดลูกค้าได้ทุกเพศทุกวัย เอาใจ วัยรุ่นมากขึ้น เมื่อก่อนการล้างรูปจะมีการนำ�ไฟล์ ใส่แฟลชไดซ์ หรือเขียนใส่แผ่นซีดีมา แต่ทุกวันนี้ แค่นำ�มือถือมาก็สามารถที่จะพริ้นท์ภาพได้เลย ถ้า ไม่ขยายก็สามารถรอรับได้เลย ขณะเดียวกันเราก็มี สถานที่ให้ลูกค้าได้ตกแต่งภาพตามที่ต้องการก่อน จะพริ้นท์ รวมถึงจำ�หน่ายกล้องและอุปกรณ์เสริม ภายใต้แบรนด์ฟูจิฟิล์ม ครบทุกโซลูชั่น แห่งการ สร้างสรรค์งานพิมพ์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ในยุค ดิจิตอล
ไทยโก้
• ต่อจากหน้า 1
ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงาน แห่ ง ชาติ ครั้ ง ที่ 1/2560 วั น ที่ 17 กุ ม ภาพั น ธ์ 2560 ได้ ม อบให้ ค ณะกรรมกำ � กั บ กิ จ การพลั ง หรื อ กกพ. ไปดำ � เนิ น การกระบวนการรั บ ซื้ อ ไฟฟ้ า จากพลั ง งานหมุ น เวี ย นในรู ป แบบ Hybrid FIRM สำ�หรับผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก ในการ นี้บริษัท ไทยโก้ เทคโนโลยี จำ�กัด หรือ TTC ซึ่ง เป็นการลงทุนของสมาชิกสภาอุตสาหกรรมแห่ง ประเทศไทย สามารถผ่านการคัดกรองจากคณะ กรรมการฯ ได้รับการโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียน 4 โครงการ อยู่ในภาคใต้ 3 แห่ง และอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี 1 แห่ง ซึ่งในขณะนี้ อยู่ในขั้นการศึกษาและจัดทำ�รายงานการประเมิน ผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อนำ�ไปสู่การทำ�ประชา พิจารณ์ และถูกประชาชนชาวบ้านคัดค้านโครงการ เต็มที่หัวชนฝา นายศิ ริ ศั ก ดิ์ เลิ ศ พุ ฒิ ภิ ญ โญ ที่ ป รึ ก ษา บริษัท ไทยโก้ เทคโนโลยี จำ�กัด หรือ TTC. เปิด เผยว่ า บริ ษั ท ฯ ได้ รั บ การคั ด เลื อ กจากคณะ กรรมการกำ�กับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ให้ ได้รับดำ�เนินการโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจาก พลังงานหมุนเวียน จำ�นวน 4 โครงการ อยู่ในภาค ใต้ 3 โครงการ คือ ที่ อ.ประทิว อ.สวี จ.ชุมพร อ. คลองท่อม จ.กระบี่ และอยู่ในภาคอีสาน 1 แห่ง คือที่จังหวัดอุดรธานี สถานที่ตั้งโครงการ อยู่ที่ บ้านป่าก้าว ม.12 บ้านป่าก้าว หลัก ก.ม.25-26 ถนน สายอุดรธานี-หนองหาน ต.ผักตบ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี โดยมีกำ�ลังผลิตไฟฟ้าทั้ง 4 โครงการ รวมประมาณ 69 เม็ ก กะวั ต ต์ จะขายไฟฟ้ า ใน โครงการ 15% ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต งบลงทุน ประมาณ 6900 ล้านบาท เฉพาะโรงงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ที่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานีเป็นโครงการก่อสร้าง โรงไฟฟ้ า ผลิ ต ไฟฟ้ า จากพลั ง งานหมุ น เวี ย นใน แบบ SPP.Hybrid Firm พ.ศ.2560 ขนาด 20 เม็ก กะวัตต์ งบลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท ขาย ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิต 16 เม็กกะวัตต์ ส่วนที่เหลือ ใช้ในกิจการและพื้นที่ใกล้เคียง ตัวโครงการตั้งอยู่ บนพื้นที่ประมาณ 154 ไร่ ซึ่งได้ทำ�สัญญาจะซื้อ จะขาย เป็นที่เรียบร้อยแล้วบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 25-26 ถนนสายอุดรธานี-อ.หนองหาน เชื้อเพลิง ที่ใช้ในโครงการดังกล่าวเป็นเชื้อเพลิงผสม ได้แก่ เศษวัสดุการเกษตร เช่น ไม้ยางพารา ใบอ้อย ฟาง ข้าว เหง้ามันสัมปะหลัง และเชื้อเพลิงมูลฝอยที่ เผาไหม้ได้ ( Refuse-Derived Fuel:RDF) ซึ่งทาง โครงการได้มีการสร้างความมั่นคงทางเชื้อเพลิง ว่าจะมีเชื้อเพลิงป้อนให้โครงการได้โดยไม่มีปัญหา ด้วยการตกลงรับซื้อวัสดุเหลือใช้การเกษตรดัง กล่าวในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และพื้นที่ใกล้เคียง ในรูปแบบสัญญา เช่น จังหวัดหนองบัวลำ�ภู เลย หนองคาย เพื่อทำ�ให้มั่นใจว่าโครงการฯ จะไม่เกิด สภาวะขาดแคลนเชื้อเพลิง สำ�หรับโครงการฯ เมื่อ
ในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาและจัด ทำ � รายงานการประเมิ น ผลกระทบสิ่ ง แวดล้ อ ม โครงการ การจัดเวทีให้ความรู้เกี่ยวกับโครงการ และปัญหาอื่นๆแก่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้เป็น ไปตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พ.ศ.2561 ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่ ง แวดล้ อ ม (ฉบั บ ที่ 7) พ.ศ.2559 และที่ บริษัทฯตัดสินใจเลือกเอาพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เป็ น ที่ ตั้ ง โครงการ เพราะจั ง หวั ด อุ ด รธานี เ ป็ น จังหวัดใหญ่ มีศักยภาพและที่สำ�คัญเป็นพื้นที่ที่มี สายไฟฟ้ารองรับ นายศิริศักดิ์ฯ กล่าวให้รายละเอียดเพิ่มเติม ว่า ขณะนีโ้ ครงการฯดังกล่าว ยังอยูใ่ นระหว่างระยะ ทำ�การชีแ้ จงให้ความรูแ้ ก่ประชาชนโดยรอบในรัศมี 5 ก.ม. ไม่ใช่เป็นการทำ�ประชาพิจารณ์ตามทีพ่ นี่ อ้ ง ประชาชนเข้าใจ แต่อย่างไรก็ตามโครงการก่อสร้าง โรงไฟฟ้าผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนฯดัง กล่าว ได้มีกลุ่มเครือข่ายคัดค้านตั้งโรงงานไฟฟ้า ชีวมวล ต.ผักตบ นำ�คณะครู,นักเรียน และชาวบ้าน ในพื้นที่ ต.ผักตบ ยื่นหนังสือร้องเรียนผ่านทาง จังหวัดอุดรธานี ไปยังนายกรัฐมนตรี ขอให้ยกเลิก โครงการดังกล่าว อ้างเหตุผลว่าจะสร้างมลภาวะ เป็นพิษ และความเดือดร้อนให้กับพื้นที่ ให้เกิดขึ้น แก่หมูบ่ า้ น ชุมชนของผูอ้ ยูอ่ าศัยในบริเวณดังกล่าว และใกล้เคียง นายศิ ริ ศั ก ดิ์ ฯ ยั ง กล่ า วเพิ่ ม เติ ม อี ก ว่ า นอกจากโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าจาก พลังงานหมุนเวียน แล้ว บริษัทยังมีการดำ�เนิน โครงการกำ�จัดมูลฝอยแบบบูรณาการในระบบปิด ตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย เรื่องการ จัดมูลฝอย พ.ศ.2560 โดยมีที่ตั้งโครงการอยู่ที่ริม ถนนสาย อ.หนองหาน- ต.สะแบง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี โดยเป็นการศึกษาค้นคว้าเทคโนโลยี ของบริษัทฯร่วมกับนักวิชาการจากประเทศจีน จนได้ เ ทคโนโลยี ที่ ทั น สมั ย สามารถกำ � จั ด ขยะ มูลฝอยอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่ง แวดล้อม และโครงการกำ�จัดมูลฝอยแบบบูรณาการ ในระบบปิดดังกล่าว จะเป็นโครงการที่จะเข้าไป เสริมด้านความมั่นคงด้านเชื้อเพลิงของโครงการ โรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน อีกด้วย ทั้งนี้โครงการกำ�จัดมูลฝอยแบบบูรณาการระบบ ปิด ดังกล่าวจะสามารถรับมูลฝอยจาก อปท.ที่เป็น เครือข่ายคลัสเตอร์ของ ทต.หนองหาน จำ�นวน 37 แห่ง จำ�นวน 187 ตัน/วัน ได้ทั้งหมด แต่โครงการ สามารถทำ � การกำ � จั ด มู ล ฝอยได้ วั น ละประมาณ 300 ตัน/วัน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นมูลฝอยที่เผาไหม้ได้ ก็จะส่งขายให้กับโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงาน หมุนเวียน “สามารถสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนจากการ ขายสิ่งเหลือใช้ภาคเกษตรกรรม ได้แก่ ไม้ยางพารา ใบอ้อย ฟางข้าว เหง้ามันสำ�ปะหลัง เป็นต้น ช่วยลด ปัญหาการบริหารจัดการเชือ้ เพลิงมูลฝอยทีเ่ ผาไหม้ ได้ จากการจัดเก็บในพื้นที่ มีส่วนช่วยเหลือพัฒนา ชุมชน ผ่านกิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ และกองทุน พัฒนาไฟฟ้า ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนใน ภาพรวม สร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานไฟฟ้า ในพื้นที่” นายศิริศักดิ์ฯ กล่าว โดยบริษัท TTC มีแนวทางดำ�เนินการ มุ่งเน้นการพัฒนาพลังงานทดแทน และอนุรักษ์ พลังงาน รวมทั้งโครงการที่พัฒนาชุมชนและสิ่ง แวดล้อม ขณะนี้บริษัทฯ ได้รับสิทธิในการเข้าทำ� สัญญาซือ้ -ขาย ไฟฟ้า กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต สำ�หรับ โครงการผลิ ต ไฟฟ้ า จากพลั ง งานหมุ น เวี ย นใน แบบ SPP Hybrid Firm จำ�นวน 4 โครงการ บริษัท ไทยโก้ เทคโนโลยี จำ�กัด : TTC มีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท และมีแผนการเพิ่มทุนจดทะเบียน เป็น 2,000 ล้านบาท ภายในปี พ.ศ.2563 เป็นบริษทั ในเครือ บริษัท ไทย แอพพลาย แอนซ์ อินดัสตรี่ จำ�กัด (มหาชน) ( Thai Appliance Industry Public Company Limited) ก่อตั้งเมื่อเดือนมิถุนายน 2559 บริษัท ไทย แอพพลาย แอนซ์ อินดัสตรี่ จำ�กัด (มหาชน) หรือ บมจ.ไทยโก้(Thaico) เกิดขึ้น โดยการรวมตัวของสมาชิกในกลุ่มอุตสาหกรรม ไฟฟ้า อีเลคทรอนิคส์และโทรคมนาคม ของสภา อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2546 ปัจจุบัน บมจ.Thaico ได้ยกฐานะขึ้นเป็นบริ ษัทมหาชนจำ�กัด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2558 และ เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 516 ล้านบาท สำ�นักงาน ใหญ่ ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 99/29 ชั้น 6 อาคารซอฟท์แวร์ ปาร์ค เขตอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์ประเทศไทย สำ � นั ก งานพั ฒ นาวิ ท ยาศาสตร์ แ ละเทคโนโลยี (สวทช) ถ.แจ้งวัฒนะ เขตปากเกร็ด จ.นนทบุรี
พัฒนาศักยภาพสื่อมวลชนภาคอีสาน
ดีแทค ร่วมถวายความจงรักภักดี “สมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” ใน รัชกาลที่ ๙ พระชนมพรรษา ๘๖ พรรษา
เ นื่ อ ง ใ น โ อ ก า ส ม ห า ม ง ค ล เ ฉ ลิ ม พระชนมพรรษา สมเด็ จ พระนางเจ้ า สิ ริ กิ ติ์ พระบรมราชินนี าถ ในรัชกาลที่ ๙ พระชนมพรรษา ๘๖พรรษา วันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๑ คณะผู้ บริหารและพนักงาน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอม มูนิเคชั่น จำ�กัด (มหาชน) หรือดีแทค ได้ร่วมถวาย ความจงรักภักดีต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ โดย มี นางสาวนาฎฤดี อาจหาญวงศ์ รองประธาน เจ้ า หน้ า ที่ บ ริ ห าร กลุ่ ม งานบริ ห ารทรั พ ยากร บุคคล และ นายดิลิป ปาล รองประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร กลุม่ การเงิน เป็นผูแ้ ทนบริษทั ฯ ทำ�พิธเี ทิด พระเกียรติฯ ขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิง่ ยืนนาน ทรงสถิตเป็น มิ่งขวัญร่มเกล้าของเหล่าพสกนิกรชาวไทยตลอด ไป โดยร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลง สดุดีมหาราชา พร้อมลงนามถวายพระพรต่อหน้า พระบรมฉายาลักษณ์ ณ ดีแทคเฮ้าส์ จามจุรีสแคว ร์ บรรยากาศเต็มไปด้วยความปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่ง ตลอดระยะเวลาที่ ผ่ า นมา “สมเด็ จ พระบรม ราชินีนาถ” ในรัชกาลที่ ๙ ได้ทรงบำ�เพ็ญพระ ราชกรณี ย กิ จ ทั้ ง ในฐานะ “พระผู้ เ ป็ น ที่ พึ่ ง ของ ปวงชนชาวไทย”และในฐานะ “คู่บุญ คู่พระราช หฤทัย” ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช ทรงช่วยแบ่งเบาพระราชภารกิจ
ในการบำ�บัดทุกข์บำ�รุงสุขแก่อาณาประชาราษฏร์ ทรงไปเยีย่ มราษฎรในชนบททัว่ ทุกภูมภิ าค โดยมิได้ ย่อท้อต่อความยากลำ�บากหรือเหน็ดเหนื่อยแม้จะ ต้องตรากตรำ�พระวรกาย พระองค์ทรงรักและเอื้อ อาทรต่อราษฎรประดุจความรักของมารดาที่มีต่อ บุตรโดยแท้ สมเด็ จ พระนางเจ้ า สิ ริ กิ ติ์ พระบรม ราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ทรงเป็น “พระราชินี” ผู้ทรงคุณธรรมอันประเสริฐ เปี่ยมล้นไปด้วยพระ มหากรุณาธิคุณและพระเมตตาคุณ ที่มีต่อราษฎร์ ทุกชีวิตที่อาศัยอยู่ใต้ร่มพระบารมี ได้อยู่ร่มเย็น เป็นสุขทั่วหน้ากัน ถือได้ว่าเป็นบุญกุศลของผู้ที่ได้ เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทย ภายใต้รม่ พระบารมีอย่าง แท้จริง และจะประทับอยู่ในดวงใจของคนไทยทุก คนตลอดไป ข้าพระพุทธเจ้า ในนามผู้บริหารและพนัก งานดีแทค สำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณพร้อม น้อมนำ�พระจริยวัตรอันงดงามนีไ้ ปปฏิบตั เิ พือ่ เป็น แนวทางในการทำ�ความดีให้กับแผ่นดินไทยตลอด ไป และขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล ขอ พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษม สำ�ราญ ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ ทรง สถิตเป็นมิ่งขวัญ ร่มเกล้าของเหล่าพสกนิกรชาว ไทยตราบนานเท่านาน
AIS คว้าคลืน่ 1800 MHz เสริมศักยภาพเครือข่าย ประกาศถือครองคลืน่ ความถี่ ที่ได้รับจาก กสทช. มากที่สุด ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม เ อ ไ อ เ อ ส ป ร ะ ก า ศ ถื อ ครองคลื่ น ความถี่ ที่ ไ ด้ รั บ จากกสทช.มากที่ สุ ด ใน อุตสาหกรรมโทรคมนาคม ห ลั ง ป ร ะ มู ล ค ลื่ น ความถี่ 1800 MHz ได้ เพิ่ ม อี ก 1 ใบอนุ ญ าตใน มู ล ค่ า 12,511 ล้ า นบาท โดยเฉพาะคลื่น 1800 MHz มีคลื่นกว้างถึง 20 MHz ทำ�ให้ลูกค้ากว่า 40 ล้านเลขหมายทั่วประเ ทศได้รับประสบการณ์การใช้งานเพิ่มมากขึ้นทั้ง บริการผ่านเสียง และบริการดาต้าจากมาตรฐาน เทคโนโลยี 4G ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และเตรียม ก้าวสูเ่ ทคโนโลยี 5G ในอนาคต พร้อมเพิม่ ขีดความ สามารถการแข่งขันในการเป็นผูน้ �ำ ด้านดิจทิ ลั ไลฟ์ นายสมชั ย เลิ ศ สุ ท ธิ ว งค์ ประธานเจ้ า หน้ า ที่ บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส กล่ า วว่ า บริ ษั ท แอดวานซ์ ไวร์ เ ลส เน็ทเวอร์ค(เอดับบลิวเอ็น) บริษัทในเครือเอไอ เอส ซึ่ ง เข้ า ร่ ว มประมู ล ใบอนุ ญ าตให้ ใ ช้ ค ลื่ น ความถี่ สำ � หรั บ กิ จ การโทรคมนาคมย่ า น 1800 MHz และสามารถประมู ล ได้ ค ลื่ น 1800 MHz จำ� นวน 1 ใบอนุญาตจำ�นวน 5 MHz ด้วย มูลค่า 12,511 ล้านบาท ทำ�ให้บริษัทฯถือเป็นผู้ ให้ บ ริ ก ารสื่ อ สารโทรคมนาคมและเทคโนโลยี ดิ จิ ทั ล ไลฟ์ ที่ ถื อ ครองคลื่ น ความถี่ ที่ ไ ด้ รั บ จาก สำ � นั ก งานคณะกรรมการกิ จ การกระจายเสี ย ง กิ จ การโทรทั ศ น์ และกิ จ การโทรคมนาคม แห่ ง ชาติ ( กสทช.) มากที่ สุ ด ในอุ ต สาหกรรม โทรคมนาคม รวมกับการใช้โรมมิ่งกับบริษัท ทีโอ ที จำ�กัด (มหาชน) ส่งผลให้มคี ลืน่ ในการให้บริการ มากถึง 60 MHz โดยเฉพาะคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่มีรวมกันถึง 20 MHz ทำ�ให้ลูกค้ากว่า 40
ล้านเลขหมายทั่วประเทศได้รับประสบการณ์การ ใช้งานเพิ่มมากขึ้นในเรื่องคุณภาพทั้งบริการผ่าน เสี ย ง และบริ ก ารดาต้ า ที่ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพสู ง สุ ด ตามมาตรฐานเทคโนโลยี 4G ที่สำ�คัญ เป็นการ ยกระดับความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐาน ด้านโทรคมนาคมในประเทศไทย เพื่อก้าวสู่ไทย แลนด์ 4.0 “การประมู ล ครั้ ง นี้ ทำ � ให้ เ อไอเอส มี ค ลื่ น ค ว า ม ถี่ 1 8 0 0 M H z จำ � น ว น 2 0 MHz ซึ่งถือเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยี 4G เพียงรา ยเดียวทีม่ คี ลืน่ ความถีต่ ดิ กันมากทีส่ ดุ ทำ�ให้รองรับ ความเร็วของการใช้งานบริการดาต้าของลูกค้าผ่าน โทรศัพท์มอื ถือสามารถรองรับในปริมาณทีม่ ากขึน้ ด้วยความเร็วที่สูงขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง ในการเป็นผู้นำ�ในตลาด รวมทั้งยังสามารถสร้าง โอกาสและเตรียมความพร้อมในการรองรับคลื่น ความถี่ 5G ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต” อีกทั้งคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่บริษัท ประมูลได้มานัน้ มีความเหมาะสมและความคุม้ ค่า สูงสุดสำ�หรับการขยายความจุโครงข่ายเพือ่ รองรับ การเติบโตของ4G โดยเป็นการเพิ่มช่องสัญญาณ จากเดิม และใช้ได้กับอุปกรณ์โครงข่าย 4G บน คลื่น 1800 MHz ที่มีอยู่ ซึ่งช่วยให้บริษัทประหยัด งบประมาณการลงทุนในระยะยาว
ดีแทค ไตรเน็ตชนะประมูลใบอนุญาตคลื่น 1800 MHz บริ ษั ท โทเทิ่ ล แอ็ ค เซ็ ส คอมมู นิ เ คชั่ น จำ�กัด (มหาชน) หรือดีแทค รายงานว่าดีแทค ไตร เน็ตชนะประมูลคลื่น 1800 MHz จำ�นวน 1 ใบ อนุ ญ าตขนาด 2x5 MHz โดยชนะ ประมู ล ใน ราคา 12,511 ล้ า นบาท ซึ่ ง การประมู ล จั ด ขึ้ น โดย สำ � นั ก งาน กสทช เพื่ อ จั ด สรรใบอนุ ญ าต คลื่นความถี่เพื่อใช้ในกิจการโทรคมนาคม และได้ ประกาศรายชื่อผู้ชนะใบอนุญาตอย่างเป็นทางการ เรียบร้อย นายลาร์ ส นอร์ ลิ่ ง ประธานเจ้ า หน้ า ที่ บริหาร บริษทั โทเทิล่ แอ็คเซ็ส คอมมูนเิ คชัน่ จำ�กัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า คลื่น 1800 MHz ที่ ได้จากการประมูลจะนำ�มาให้บริการอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของลูกค้า 2G ที่มีฐานลูกค้าเป็นจำ�นวน มาก และรวมถึงการนำ�คลื่นความถี่ดังกล่าวมา
ใช้ เ พื่ อ เพิ่ ม ประสิ ท ธิ ภ าพ โครงข่ า ยบริ ก าร 4G ตอบ สนองความต้องการการใช้ งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือที่ เติบโตอย่างรวดเร็ว “ ดี แ ท ค ต้ อ ง ข อ ขอบคุณรัฐบาล และ กสทช. สำ�หรับการจัดประมูลคลื่น ความถีท่ ปี่ ระสบความสำ�เร็จ โดยคำ�นึงถึงข้อคิดเห็นอย่าง กว้างขวาง ดีแทคมั่นใจเป็น อย่างยิง่ ว่า กสทช. จะอนุมตั แิ ผนมาตรการคุม้ ครอง ระทบต่ อ การใช้ ง านของลู ก ค้ า หลั ง จากสิ้ น สุ ด ลูกค้าใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งถือเป็นหน้าที่ สัมปทาน” นายลาร์ส กล่าว ต้องแสดงความรับผิดชอบร่วมกันระหว่างผู้ให้ บริการ และ กสทช. เพื่อไม่ให้ซิมดับและมีผลก
สมาคมเครือข่าย หนังสือพิมพ์ วิทยุ และ สื่อออนไลน์ ภาคอีสาน หรือ ส.นวอ.อีสาน ได้รับ การจดทะเบียนจัดตั้งสมาคม จากนายทะเบียน จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2560 ถ้า นับถึงวันนี้ก็ประมาณ 8 เดือน เป็นสมาคมสื่อฯ น้องใหม่ ชื่อหลายท่านอาจยังไม่คุ้น แม้กระทั่ง กรรมการเองก็ยอมรับว่า ชือ่ ยาวและจำ�ยาก ในการ ประชุมใหญ่สามัญประจำ�ปี ซึ่งจะจัดขึ้นภายใน เดือน พ.ค.2562 คงจะมีวาระขอแก้ไขชือ่ สมาคมฯ ให้กระชับและจำ�ง่ายกว่านี้ ส.นวอ.อีสาน เป็น 1 ใน 3 ขององค์กรด้าน การสื่อสารมวลชน ที่เป็นผู้แทนองค์กรเอกชน ด้ า นสิ ท ธิ ม นุ ษ ยชนและสภาวิ ช าชี พ ที่ ไ ด้ ก าร รับรองจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เมือ่ เดือน ก.ค. 61 สมาคมฯ ได้รว่ มกับ โรง พยาบาลธีรวัฒน์ จ.กาฬสินธุ์ จัดทำ�โครงการ “ฟ้า สวย ตาใส” ด้วยการนำ�ผูป้ ว่ ยทีเ่ ป็นโรคต้อกระจก ตาเข้ารับการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนเลนส์ตา โดยการ ประชาสัมพันธ์เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับทราบถึงสิทธิ ที่มี และเข้าถึงการให้บริการ ทำ�ให้มีผู้สูงอายุจาก จังหวัดต่างๆ ในพืน้ ทีภ่ าคอีสาน ได้กลับมาใช้ชวี ติ อย่างมีความสุขอีกครั้ง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเมื่ อ วั น ที่ 17 – 19 ส.ค.ที่ ผ่ า นมา
สมาคมฯก็ได้จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ พัฒนาศักยภาพสื่อมวลชนภาคอีสาน ประจำ�ปี 2561 เรื่อง “นักข่าวมือถือ มืออาชีพ ยุค 4.0” ณ ดิ อิมพีเรียล โฮเต็ล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อพัฒนาศักยภาพให้ สื่อมวลชนภาคอีสาน ก้าวทันในยุคไทยแลนด์ 4.0 และเพิ่มพูนความรู้ ในอาชีพสื่อมวลชนในยุค ดิจิทัล หรือสื่อออนไลน กระบวนการผลิตข่าว ผ่านสือ่ ออนไลน์ สามารถนำ�ไปปรับใช้กบั องค์กร และนำ�ไปใช้ได้จริงในการทำ�งานและชีวิตประจำ� วัน ได้วิทยากรระดับเทพ อ.กุลพัฒน์ จันทร์ ไกรลาส (อ.ต่ อ ง), อ.จำ � รั ส จั น ทนาวิ วั ฒ น์ (อ.หมิ่น) และ อ.วนาภรณ์ ตลอดไธสง (อ.กิ๊ก) มา ถ่ายทอดให้ความรูต้ ลอดระยะเวลาหนึง่ วันครึง่ มี สือ่ มวลชนจากทุกสาขา และจากจังหวัดต่างๆ ใน ภาคอีสาน เข้าร่วมอบรมกว่า 50 คน โครงการพัฒนาศักยภาพสื่อมวลชนภาคอีสาน เป็นอีกวัตถุประสงค์หนึ่งที่ทางสมาคมฯ ได้วาง แนวทางเพื่อต้องการที่จะพัฒนาสื่อมวลชน และ สมาชิกในภาคอีสาน ได้เพิม่ พูนความรูใ้ หม่ๆ เกีย่ ว กับเทคโนโลยี และนำ�ความรู้ที่ได้จากการอบรม ครั้งนี้ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในอาชีพต่อไป
เปิ ด “คลิ นิ ก สะไภ้ ไ ทย - เขยฝรั่ ง ” ใ ห้ คำ � ป รึ ก ษ า ปั ญ ห า ชี วิ ต คู่ กั บ ส า มี ฝ รั่ ง “คลินิกสะไภ้ไทย - เขย ฝรั่ง” แห่งแรกในไทย เตรียม ความพร้อมหญิงไทยก่อนไปใช้ ชีวิตในต่างแดน ให้คำ�ปรึกษา ในการชีวิตคู่กับสามีฝรั่ง ถูก หลอกไปค้ า ประเวณี แ ละค้ า มนุษย์ ต้องการกลับเมืองไทย เมื่ อ วั น ที่ 22 ส.ค. 61 ที่ ศู น ย์ เ รี ย นรู้ ก ารพั ฒ นา สตรี แ ละครอบครั ว รั ต นาภา ต.ศิ ล า อ.เมื อ ง จ.ขอนแก่ น พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานพิธีเปิด “คลินกิ สะไภ้ไทย - เขยฝรัง่ ” พร้อม นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบัน ครอบครัว นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น หน.ส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน สะไภ้ไทย และเขยฝรั่ง เข้าร่วมในพิธีจำ�นวนมาก พล.อ.อนันตพร กล่าวว่า สืบเนื่องจากรัฐบาลไทย มีความห่วงใยต่อประชากรไทยทุกคน แม้ว่าจะไม่ ได้พำ�นักอยู่ในราชอาณาจักรไทยก็ตาม โดยเฉพาะ นโยบาย พม.กับภารกิจเพื่อคนไทยในต่างประเทศ มีสตรีไทยเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักและเป็นสะไภ้ ไทย - เขยฝรั่ง ที่อยู่ในประเทศแถบอเมริกาใต้ 12 คน อเมริกาเหนือ 210 คน แอฟริกา 58 คน แถบ ยุโรป 495 คน เอเชีย 7,457 คน เขตโอเชียเนีย 175 คน ในประเทศไทยหญิงไทยแต่งงานกับชาว ต่างชาติโดยเฉพาะคนใน จ.อุดรธานี จ.ขอนแก่น มีคู่ชีวิตเป็นชาวยุโรปเป็นส่วนมาก และภาคอีสาน มีคู่ชีวิตเป็นชาวต่างชาติมากที่สุดกว่าทุกภาคใน ประเทศของเรา สถิติ ณ ปัจจุบันมีร่วม 8,000 คน จึ ง ไปประสบปั ญ หาในชี วิ ต ของแต่ ล ะคน เพราะวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนกัน กฎหมาย ภาษา ก็แตกต่างกัน ดังนั้นกรมกิจการสตรีและสถาบัน ครอบครั ว พม. จึ ง ได้ เ ปิ ด คลิ นิ ก ให้ คำ � ปรึ ก ษา สำ � หรั บ หญิ ง ไทยในสั ง คมพหุ วั ฒ นธรรม หรื อ คลินิกสะไภ้ไทย - เขยฝรั่ง เพื่อให้คำ�ปรึกษาเขย ฝรัง่ -สะไภ้ไทย ในการทีจ่ ะตัดสินใจกับชาวต่างชาติ หรือแต่งงานแล้วจะแก้ปัญหาชีวิตอย่างไร โดยเข้า มาปรึกษากับคลินคิ สะไภ้ไทย - เขยฝรัง่ จ.ขอนแก่น ซึง่ เป็นแห่งเดียวและแห่งแรกในประเทศไทย ซึง่ จะ
มีทปี่ รึกษาทางด้านต่างๆจากกระทรวงต่างประเทศ สาธารณสุข ยุติธรรม และมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพือ่ แนะนำ�ให้กบั สะไภ้ไทย-เขยฝรัง่ ทีไ่ ด้มาปรึกษา ปัญหาชีวิต ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด เพื่อ ป้องกันการถูกหลอก ถูกทำ�ร้ายร่างกาย และสิ่งที่ ไม่ดี นอกจากนี้หญิงไทยที่คิดจะมีคู่ชีวิตเป็นชาว ต่างประเทศมีการตัดสินใจที่ถูกต้อง นายเลิ ศ ปั ญ ญา กล่ า วว่ า คลิ นิ ก สะไภ้ ไทย - เขยฝรั่ง ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและ ครอบครัวรัตนาภา จ.ขอนแก่น ถือเป็นแห่งแรก ที่ตั้งอยู่ในภาคอีสานซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีสถิติของผู้ หญิงที่สมรสกับชาวต่างชาติค่อนข้างสูง เพราะ ส่ ว นหนึ่ ง มาจากครอบครั ว ที่ มี ค่ า นิ ย มส่ ง เสริ ม สนับสนุนให้ลูกสาวแต่งงานกับชาวต่างชาติ โดย คาดหวังว่าครอบครัวจะมีฐานะดีขึ้น แต่ทั้งนี้ ก็มี ผู้หญิงหลายรายที่ถูกชาวต่างชาติหลอกลวง เมื่อ แต่งงานไปแล้ว พบว่า ไม่ได้มีชีวิตที่สุขสบายตาม ทีค่ าดหวัง และบางคนถูกกระทำ�ความรุนแรง หรือ ถูกนำ�ค้าประเวณีและค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่ง ผลกระทบต่อความมั่นคงของครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ดังนั้น “คลินิกสะไภ้ไทย - เขยฝรั่ง” ที่ จ.ขอนแก่น จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับเปลี่ยน เจตคติของครอบครัว และลดความเสี่ยงที่อาจจะ เกิดขึ้นภายหลังการสมรสหรือก่อนตัดสินใจไปใช้ ชีวิตในต่างประเทศ ถ้าเกิดประสบกับปัญหาความ เดือดร้อนของสะใภ้ไทย - เขยฝรัง่ สามารถโทรจาก ต่างประเทศ (หมายเลข +66 99 130 1300) และแอพ พลิเคชั่นไลน์ hotline 1300 ได้อีกด้วย ถ้าต้องการ กลับมาประเทศไทย พม.ก็พร้อมประสานกับกรม การกงสุล ที่จะให้ความช่วยเหลือเพื่อให้กลับมา เมืองไทย และช่วยเหลือด้านพัฒนาอาชีพ ดังกล่าว
ปีที่ 16 ฉบับที่ 171 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2561
หน้า 3
หน้า 4
ครอบครัวโฆษะอิ่มบุญวันเกิด ;โรงแรมโฆษะ จัดกิจกรรมทำ�บุญตักบาตร ในโครงการ “ครอบครัวโฆษะอิ่มบุญวันเกิด...เทิดพระคุณพ่อแม่” ประจำ� เดือน สิงหาคม 2561 โดยมีผบู้ ริหารและพนักงานโรงแรมโฆษะ ร่วมทำ�บุญ ตักบาตรพระสงฆ์ จากมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น มา บิณฑบาต ที่บริเวณหน้าโรงแรมโฆษะ อ.เมือง จ.ขอนแก่น
ปีที่ 16 ฉบับที่ 171 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2561
ชาวขอนแก่นจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิ ติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ; วันที่ 12 สิงหาคม 2561 เวลา 19.00 น. ณ หอประชุมประภากร มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อำ�เภอ เมือง จังหวัดขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผูว้ า่ ราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะ ทูลเกล้าฯ ถวายพานพุ่มทอง พานพุม่ เงิน เบือ้ งหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรม ราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 มีรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ศาล ทหาร ตำ�รวจ อัยการ พ่อค้าประชาชน นักเรียนนักศึกษา และและประชาชนชาวจังหวัดขอนแก่นทุกหมูเ่ หล่า ต่างแสดงออกถึงความ จงรักภักดี และเป็นการสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณ จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นำ�จุดเทียนชัยถวายพระพร ชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เนื่อง ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา 12 สิงหาคม 2561 เพือ่ แสดง ความจงรักภักดี และสำ�นึกในพระกรุณาธิคณ ุ ทีท่ รงมีตอ่ พสกนิกรอีกด้วย
เพิม่ ประสิทธิภาพศูนย์ดำ�รงธรรมขอนแก่น ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ. ขอนแก่น เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ “ศูนย์ ดำ�รงธรรมจังหวัดขอนแก่น” โดยมีคณะเจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน ร้อง ทุกข์ ประจำ�ศูนย์ด�ำ รงธรรมอำ�เภอ จนท.จังหวัดขอนแก่น และผูแ้ ทนส่วน ราชการทีเ่ กีย่ วข้องกับการรับเรือ่ งร้องเรียน ร้องทุกข์ เข้าร่วมการอบรม ณ โรงแรมโฆษะ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2561
ให้การต้อนรับองคมนตรี ; คุณชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ ประธานกรรมการ บริหารโรงแรมโฆษะ ให้การต้อนรับท่านพลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการบริหาร มูลนิธริ าชประชานุเคราะห์ฯ และคณะ ในโอกาสเข้าพักที่โรงแรมโฆษะ
แลกเปลี่ ย นข้ อ คิ ด เห็ น ; ผศ.ดร.จรรยา พุ ค ยาภรณ์ รองอธิ ก ารบดี ม.ศรีปทุม ขอนแก่น ให้การต้อนรับ พ.ท.ดร.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายก สมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน และคณะ ในการหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในการจัดกิจกรรม เพื่อพัฒนาศักยภาพ สือ่ มวลชนภาคอีสาน ในการปรับเปลีย่ นภูมทิ ศั น์สอื่ ยุคใหม่ ณ ห้องรับรอง ม.ศรีปทุม ขอนแก่น
เจ้าภาพสวดอภิธรรมศพ ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่าย หนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน ร่วมคณะกรรมการ กต.ตร และคณะที่ปรึกษา กต.ตร.จังหวัดขอนแก่น เป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพ คุณแม่นวลศรี ธาตุดี มารดาภรรยาของ พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคำ�ไพ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ที่วัดศรีนวล ต.ในเมือง อ.เมือง จว.ขอนแก่น
บันทึกเทปโทรทัศน์ถวายพระพร ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคม เครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน พร้อมคณะ กรรมการบริหารและสมาชิก เข้าร่วมการบันทึกเทปถวายพระพร เนื่อง ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงเจริญ พระชนมพรรษา 86 พรรษา 12 สิงหาคม 2561 ณ สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย สำ�นักประชาสัมพันธ์ เขต 1 ขอนแก่น
นายชัชวาล โอภานุมาศ ผู้อำ�นวยการฝ่ายบริการตัวถังและสี บริษัท โต โยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำ�กัด พร้อมคณะผูเ้ ชีย่ วชาญด้านตัวถังและสี สาธิต การการทำ�งานในโครงการ “ซ่อมสี 60 นาที” นวัตกรรมสีพน่ รถยนต์สตู รนํา้ ภาย ใต้คอนเซพท์การใช้งานง่าย รวดเร็ว ฉับไว แม่นยำ� รักษ์โลก และเป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม โดยมี นายสายันต์ ทรัพย์ปญั ญาดี ผูช้ ว่ ยกรรมการผูจ้ ดั การ บริษทั โตโย ต้าแก่นนคร จำ�กัด พร้อมคณะเจ้าหน้าทีร่ ว่ มให้การต้อนรับ และรับฟังการสาธิต ณ ศูนย์บริการซ่อมตัวถัง และสี บริษัท โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด ถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อเร็วๆ นี้ นายชัชวาล เปิดเผยว่า โตโยต้าแก่นนคร ได้รบั ใบประกาศให้เปิด “ศูนย์ บริการซ่อมด่วนตัวถังและสี BP Express ภายใน 60 นาที” เจ้าแรกในภาคอีสาน เป็นศูนย์บริการที่มีความพร้อม ได้มาตรฐานโตโยต้า สำ�หรับบริการซ่อมด่วน BP Express ที่เปิดให้บริการ นับเป็นงานซ่อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ที่ จะให้ความพึงพอใจกับลูกค้ามากที่สุด เพราะให้ความสะดวก รวดเร็ว และได้ มาตรฐาน ตามเวลาที่กำ�หนด สำ�หรับรอยแผลทีส่ ามารถทำ�การซ่อมในโครงการซ่อมด่วนตัวถังและสี BP Express ภายใน 60 นาที ด้วยผลิตภัณฑ์ “แนกซ์ อีคิวบ์ (Nax E-Cube WB)” ที่สุดแห่งนวัตกรรมสีพ่นรถยนต์สูตรนํ้า ภายใต้คอนเซพท์การใช้งานง่าย เร็ว ฉับไว และรักษ์โลก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ รอยขีด รอยครูด จะต้องมี ความลึกไม่เกิน 10 มม. รอยยาวไม่เกิน 20 ซม. ราคาเริ่มต้นที่ 1,500 บาทขึ้นไป สามารถรอรับรถใน 60 นาที ด้วยงานคุณภาพมาตรฐานการซ่อมของโตโยต้า นายสายันต์ ทรัพย์ปญั ญาดี ผูช้ ว่ ยกรรมการผูจ้ ดั การ บริษทั โตโยต้าแก่น นคร จำ�กัด กล่าวว่า ด้วยมาตรฐานของโตโยต้า พนักงานที่ให้บริการได้ผ่านการ ฝึกอบรม และรับรองการปฏิบตั ติ ามมาตรฐานของ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย
(TMT) นอกจากนี้ เครือ่ งมือ และเทคโนโลยีทที่ นั สมัย ทีม่ คี วามพร้อมในการให้ บริการ จะทำ�ให้ลูกค้าได้รถกลับไปใช้โดยเร็วที่สุด รถทุกคันที่ผ่านกระบวนการของการซ่อมตัวถัง และสี จะได้รับการ ตรวจสอบ ควบคุมคุณภาพในทุกๆ ขั้นตอน ลูกค้าจึงมีความมั่นใจได้ว่า รถจะ กลับมาในสภาพเหมือนใหม่เช่นเดิม เพิ่มความมั่นใจ ด้วยการรับประกันงาน ซ่อมสีนานถึง 12 เดือน ประเมินราคาด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ พนักงานที่มีความเชี่ยวชาญมากด้วยประสบการณ์ การทำ�งานด้วยระบบ New TPS Line ทีเ่ ปรียบเสมือนสายพานการผลิตของโตโยต้า ทีม่ คี วามแม่นยำ� รวดเร็ว ตรงเวลานัดหมาย เหมาะสำ�หรับงานซ่อมแผลขูดขีดงานเบา อีกทั้งผลิตภัณฑ์ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงทำ�ให้ผู้ใช้บริการ กลายเป็นส่วนหนึ่งในการร่วม อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยการเลือกใช้สีซ่อมรถยนต์สูตรนํ้า ที่เป็นมิตรต่อสิ่ง แวดล้อม
โตโยต้าแก่นนคร เปิดศูนย์ซ่อมด่วน 60 นาที
จัดเวิร์คช็อป “นักข่าวมือถือ มืออาชีพ ยุค 4.0” ติวเข้มสื่อภาคอีสาน ก้าวทันสื่อออนไลน์
แลกเปลี่ยนมุมมองปัญหาเศรษฐกิจ ; นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผอ.อาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำ�นักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดสภา กาแฟ เพือ่ ปรึกษาแลกเปลีย่ นมุมมองปัญหาเศรษฐกิจ และแนวทางรองรับ ความเปลี่ยนแปลงของผู้ประกอบการและผู้บริโภค ณ ห้องจินตปัญญา ธนาคารแห่งประเทศไทย สำ�นักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ริมบึงแก่น นคร อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อเร็วๆ นี้ .
บ้านธอส.เอ็กซ์โป@ขอนแก่น ; นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธาน กรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ นายสุชัย บุตรสาระ รองผู้ว่าราชการ จังหวัดขอนแก่น ร่วมเปิดงาน “บ้านธอส.เอ็กซ์โป@ขอนแก่น” ประจำ� ปี 2561 พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อให้ประชาชนที่ต้องการบ้านพัก อาศัยได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินกู้มากขึ้น ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น เมื่อเร็วๆ นี้
ถวายพระพร ๖๖ พรรษา ร.๑๐ ; เนือ่ งในโอกาสพระราชพิธมี หามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพย วรางกูร (รัชกาลที่ ๑๐) คณะผู้บริหาร พนักงาน และแขกผู้มีเกียรติของ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด ร่วมจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เพื่อเฉลิมพระเกียรติและแสดงความจงรักภักดี วันเสาร์ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๙.๐๐ น. บริเวณหน้าโรงแรมฯ
ตลาดประชารัฐ โมเดล เทรด ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานเปิดโครงการ “ตลาดประชารัฐ โมเดล เทรด @ ดูโฮม” เพื่อให้ผู้ ประกอบการราย่อย ผู้ประกอบการ SMEs เกษตรกรที่ปลูกผักปลอดสาร พิษ ใช้เป็นตลาดกระจายสินค้าและเป็นทางเลือกในการส่งเสริมสินค้า และ ผลิตภัณฑ์ชุมชน ตามนโยบายของรัฐบาล โดยมี นายณัฐพงศ์ เสนาณรงค์ ผอ.กลุ่มส่งเสริมการประกอบธุรกิจการค้าและการตลาด สนง.พาณิชย์ จังหวัดขอนแก่น ร่วมให้การต้อนรับ สำ�หรับตลาดประชารัฐกำ�หนดจัด ระหว่างวันที่ 1 - 7 สิงหาคม 2561 ที่ ห้างดูโฮม ถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น
เชื่อมความสัมพันธ์สื่อฯภาคอีสาน ; คุณเฉิน บิน รองผู้จัดการสาขา Bank of China (Thai) Public Company Limited สาขาขอนแก่น และคุณนรภทร ณรงค์ศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการ สาขาขอนแก่น เข้าพบ พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่าย นสพ. วิทยุ และสือ่ ออนไลน์ ภาคอีสาน และเจ้าของ ไทยเสรี เพื่อหารือ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านเศรษฐกิจ และการนำ� เสนอข่าวสาร ของสื่อมวลชนในพื้นที่ภาคอีสาน
มอบเงิน “นํ้าใจชาวไทยสู่พี่น้องลาว” ; คุณชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ ประธาน กรรมการบริหารโรงแรมโฆษะ มอบเงิน”นํ้าใจชาวไทยสู่พี่น้องลาว” ที่พี่ น้องชาวขอนแก่นร่วมบริจาค ณ จุด”รับบริจาคโรงแรมโฆษะ 24 ชั่วโมง” จำ�นวน 306,225 บาท แด่ทา่ นไชสมพอน พมวิหาน ประธานศูนย์กลางแนว ลาวสร้างชาติ เพือ่ นำ�ไปซือ้ สังกะสี ไม้ ตะปู สำ�หรับการซ่อมและสร้างบ้าน ให้กับผู้ประสบภัย สปป.ลาว ตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาค
ส.นวอ.อีสาน ติดอาวุธทางปัญญา เชิญวิทยากรระดับ เทพ ติวเข้มสื่อภาคอีสาน เรียนรู้การผลิตข่าวด้วยมือถือ เป็นสื่อ มืออาชีพในภูมิทัศน์ใหม่ ให้โดนใจผู้บริโภค และสามารถนำ�ไป ต่อยอดใช้ได้จริงในชีวิตประจำ�วัน เมื่อเร็วๆ นี้ นายณรงค์ ไตรกิจวัฒนกุล ผู้อำ�นวยการโรง ไฟฟ้านํ้าพอง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็น ประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพสื่อมวลชนภาคอีสาน ครั้ง ที่ 1/2561 การอบรมเชิงปฎิบัติการเรื่อง “นักข่าวมือถือ มืออาชีพ ยุค 4.0” และบรรยายพิเศษเรื่อง “กฟผ.4.0” จัดโดย สมาคมเครือ ข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน ระหว่างวันที่ 17-19 สิงหาคม 2561 ณ โรงแรม ดิ อิมพีเรียล โฮเต็ล แอนด์ คอน เวนชั่น เซ็นเตอร์ จ.นครราชสีมา โดย นายฐิ ติ รั ต น์ พงษ์ พุ ท ธรั ก ษ์ นายกสมาคมนั ก ข่ า วจั ง หวั ด นครราชสีมา กล่าวต้อนรับ และ นพ.ธีรวัฒน์ ร่มไทรทอง ผู้อำ�นวยการโรง พยาบาลธีรวัฒน์ จ.กาฬสินธุ์ บรรยายพิเศษเรื่อง “ฟ้าสวย ตาใส” นอกจากนี้ ยังได้รบั เกียรติจาก นายเพชรเหล็ก ทองภูธร ผูอ้ �ำ นวยการสถาบันพัฒนาฝีมอื แรงงาน ภาค 5 นครราชสีมา เป็นประธานปิดการอบรมและมอบวุฒบิ ตั รให้ กับผู้เข้ารับการอบรม โดยมีสื่อมวลชนสาขา นสพ., วิทยุ, เคเบิ้ลทีวี และสื่อ ออนไลน์ จากจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน เข้าร่วมอบรมกว่า 50 คน พ.ท.พิสษิ ฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และ สื่อออนไลน์ ภาคอีสาน กล่าวว่า ปัจจุบันทุกคนสามารถเป็นนักข่าวได้ ผู้ที่ มีมือถือสมาร์ทโฟน เมื่ออยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ สามารถที่จะทำ�หน้าที่เป็นผู้ผลิต ข่าว และรายงานข่าวได้ด้วยตัวเอง เป็นการรายงานเหตุการณ์สด ได้รวดเร็ว อย่างไรก็ตามอาชีพคนทำ�ข่าว หรือนักหนังสือพิมพ์กไ็ ม่ได้สญ ู หายไปไหน แต่ ต้องมีการปรับตัวมากขึ้น นักข่าวจะต้องเปลี่ยนบทบาทตัวเอง ไม่ใช่แค่การ เขียนลงหนังสือพิมพ์ วิ่งไปทำ�ข่าวในที่เกิดเหตุ แล้วกลับมารายงานข่าวผ่าน สือ่ ทีต่ นรับผิดชอบ แต่ตอ้ งปรับเปลีย่ นวิธกี ารทำ�ข่าว เปลีย่ นเป็นการรายงาน ผ่านสื่อออนไลน์ การทำ� LIVE เหล่านี้คือบทบาทของนักข่าวที่จำ�เป็นต้อง เปลี่ยนอย่างแน่นอน ดังนั้น สมาคมเครือข่าย หนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาค อีสาน ได้เล็งเห็นความสำ�คัญของเทคโนโลยีดจิ ติ อลทีม่ กี ารเปลีย่ นแปลงอย่าง รวดเร็ว จึงจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ พัฒนาศักยภาพสื่อมวลชนภาค อีสาน ประจำ�ปี 2561 เรื่อง “นักข่าวมือถือ มืออาชีพ ยุค 4.0” เพื่อให้ผู้เข้า
ยกระดับมาตรฐานแหล่งท่องเทีย่ ว ; นายสุชาติ ทีคะสุข รองผวจ.หนองคาย เป็นประธานเปิดการอบรมการอำ�นวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัย นักท่องเที่ยวและสถานที่ท่องเที่ยว Amazing Thai Host โดยมีนายวรา กร เจียรเสริมสิน นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจและการท่องเที่ยวจังหวัด หนองคาย ร่วมพิธี ณ ห้องประชุมโรงแรมอัศวรรณ อ.เมือง จ.หนองคาย
ร่วมอบรมได้เข้าใจและเรียนรู้การผลิตข่าวด้วยมือถือ โดยให้กลุ่มเป้าหมาย เป็นศูนย์กลาง วิธีการนำ�เสนอ เพื่อสร้างความเข้มแข็ง และให้เข้าถึง โดนใจ ผู้บริโภคในยุคดิจิตอลนี้ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถนำ�ไปใช้ได้ จริงในการทำ�งานและชีวิตประจำ�วัน ซึ่งโครงการนี้จะเป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการ ที่จัดขึ้นเพื่อพัฒนา ศักยภาพสื่อมวลชนภาคอีสาน ได้เพิ่มพูนความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยี กระบวนการผลิตข่าวผ่านสือ่ ออนไลน์ มีทกั ษะทางด้านการรายงานข่าวด้วย มือถือ อันจะนำ�ไปสูค่ วามเป็นนักข่าวมืออาชีพ สามารถทำ�หน้าทีข่ องตนเอง อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป นำ�ไปปรับใช้กับองค์กร และนำ�ไปต่อยอดใช้ให้ เกิดประโยชน์ในอาชีพสื่อสารมวลชนต่อไป การอบรม “เล่าเรื่องยุคดิจิทัลด้วยมือถือ” โดยวิทยากร ประกอบ ด้วย อ.กุลพัฒน์ จันทร์ไกรลาส (อ.ต่อง), อ.จำ�รัส จันทนาวิวัฒน์ (อ.หมิ่น) และ อ.วนาภรณ์ ตลอดไธสง (อ.กิ๊ก) บรรยายในหัวข้อ การทำ�ข่าวในยุค สื่อ ออนไลน์, หลักคิดเรื่อง วารสารศาสตร์มือถือ (Mobile Journalism), การนำ� ไปใช้ในการผลิตเนื้อหาสำ�หรับสื่อออนไลน์ประเภทต่างๆ, รู้จักมือถือ ทำ� อะไรได้บ้างในยุคสื่อออนไลน์ 4.0, มารู้จักแอพพลิเคชั่นดี ๆ สำ�หรับการใช้ มือถือทำ�งานผลิตเนือ้ หาข่าว, หลักการถ่ายภาพด้วยมือถือ และการแต่งภาพ เพื่อนำ�ไปใช้งาน, แนะนำ�การใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ขาตั้ง ตัวประคอง โทรศัพท์มอื ถือ และไมโครโฟน, เข้าใจการทำ�งานผลิตวีดโี อเพือ่ิ การเล่าเรือ่ ง การวางแผน การถ่ายทำ� และการตัดต่อ การพากย์และการลงเสียงให้น่าฟัง การเปิดหน้าพูดกับกล้อง การสัมภาษณ์ เป็นต้น ผู้เข้าอบรมได้รับความรู้ทั้งภาคทฤษฎี และได้ฝึกปฏิบัติจริง ทั้งการ วางแผน การเล่าเรื่อง การถ่ายทำ� การตัดต่อ การทำ�กราฟฟิค และการลง เสียงบรรยาย จากนั้นทั้ง 7 กลุ่ม ได้นำ�เสนอผลงาน โดยคณะวิทยากรได้ให้ คำ�แนะนำ� ชี้แนะ เพื่อปรับปรุงแก้ไขผลงานให้สมบูรณ์ โดยทุกขั้นตอนการ ผลิตใช้เพียงโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ซึ่งผลงานทั้ง 7 กลุ่ม คณะวิทยากรได้ พิจารณาคัดเลือกให้ได้รับรางวัล ดังนี้ รางวัลชนะเลิศ เรื่อง ท่องเที่ยววัดใน ประวัตศิ าสตร์ นครราชสีมา รองชนะเลิศอันดับ 1 รายการทีวแี ขมร์ พาเทีย่ ว วัดศาลาลอย และรองชนะเลิศอันดับ 2 เรื่อง เที่ยวปราสาทพนมวัน “สมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน จะจัดโครงการพัฒนาศักยภาพสื่อมวลชนภาคอีสาน ครั้งที่ 2/2561 ภายใน เดือนพฤศจิกายน 2561 ที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อเป็นการต่อยอดและขยายผล เพื่อให้สื่อมวลชนภาคอีสาน ได้เกิดทักษะ และเพิ่มศักยภาพในการผลิตข่าว เชิงคุณภาพทีด่ ๆี ให้กบั สังคม และเป็นการปรับเปลีย่ นภูมทิ ศั น์สอื่ ใหม่ รวม ทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้ผทู้ ี่พลาดการอบรมในครั้งที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเข้า รับการอบรมฯ โดยรายละเอียดต่างๆ จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป และขอ ขอบคุณผูใ้ ห้การสนับสนุนการจัดโครงการฯ ในครัง้ นีท้ กุ ท่าน หวังเป็นอย่าง ยิ่งว่าจะได้รับความอนุเคราะห์จากท่านในครั้งต่อๆ ไป”
หน้า 5
ปีที่ 16 ฉบับที่ 171 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2561
เอสซีจี ขยายฐานการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารปลอดภัยเฟสท์ การแปรงฟันแบบแห้ง...มีด้วยหรือ สวัสดีครับ พบกันอีกครั้งกับ คอลัมน์ ก้าวทันโลกกับโรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันต แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กับความ รู้ดีๆ เพื่อการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันเบื้อง ต้น หลายคนอาจสงสัยว่า การแปรงฟันแบบแห้ง มีด้วยหรือ ดีกว่าหรือแตกต่างกับการแปรงฟัน ปกติอย่างไร วันนี้เรามาทำ�ความเข้าใจกับ “การ แปรงฟันแบบแห้ง” กันนะครับ ปั จ จุ บั น การป้ อ งกั น ฟั น ผุ ที่ ดี ที่ สุ ด คื อ การแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์ แต่ใน ปัจจุบันเราใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์แต่กลับไม่ ได้รับประโยชน์เท่าที่ควร การแปรงฟันแบบแห้ง หรือการแปรงฟันแล้วไม่ตอ้ งบ้วนนํา้ ทิง้ จึงถูกนำ� มาใช้เพื่อรักษาปริมาณฟลูออไรด์ที่อยู่ในยาสีฟัน ให้มีความเข้มข้นมากที่สุด โดยมีงานวิจัยเปรียบ เที ย บปริ ม าณฟลู อ อไรด์ ร ะหว่างการแปรงฟัน
แบบแห้ง และการแปรงฟันแล้วบ้วนนํ้า พบว่า กา รบ้วนนํ้า 1 ครั้งหลังแปรงฟันจะทำ�ให้ปริมาณฟลู ออไรด์ลดลง 1-2 เท่า และถ้าหากบ้วน 2 ครั้ง จะ ทำ�ให้ปริมาณฟลูออไรด์ลดลง 4-5 เท่า ดังนัน้ การแปรงฟันแบบแห้งจึงดีกว่าการแปรงฟัน แบบปกติที่มีการบ้วนนํ้าทิ้ง เพราะทำ�ให้ฟันได้รับ ฟลูออไรด์มากกว่า ช่วยป้องกันฟันผุได้มากกว่า อย่างไรก็ตามหลายๆ คนอาจกังวลถึงอันตรายของ สารเคมีในยาสีฟันที่อาจตกค้างในช่องปาก หาก ไม่บ้วนนํ้าทิ้ง แต่เนื่องจากปัจจุบันมีการยืนยันถึง ความปลอดภัยของส่วนประกอบในยาสีฟนั หากใช้ ในปริมาณทีก่ �ำ หนดก็จะไม่เกิดอันตรายต่อร่างกาย โดยการแปรงฟั น แบบแห้ ง มี ขั้ น ตอน ง่ า ยๆ ดั ง นี้ 1.ก่ อ นแปรงฟั น ให้ มี บ้ ว นนํ้ า เ พื่ อ กำ � จั ด เ ศ ษ อ า ห า ร ที่ ติ ด อ ยู่ ที่ ฟั น อ อ ก 2.นำ�แปรงสีฟันผ่านนํ้าเล็กน้อยก่อนบีบยาสีฟัน
ผศ.ดร.ทพ.อชิรวุธ สุพรรณเภสัช รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา ศิษย์เก่าและชุมชนสัมพันธ์ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ที่ มี ส่ ว นผสมของฟลู อ อไรด์ ใ ส่ แ ปรงสี ฟั น 3.แปรงฟั น ให้ ค รบทุ ก ซี่ ต ามปกติ โดยควร ให้ ย าสี ฟั น อยู่ ใ นช่ อ งปากอย่ า งน้ อ ย 2 นาที 4 . บ้ ว น ฟ อ ง อ อ ก โ ด ย ไ ม่ ต้ อ ง ใ ช้ นํ้ า 5ไม่ควรรับประทานนาํ้ หรืออาหารหลังแปรงฟัน ทันที ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 30 นาที หลัง แปรงฟัน “ ก า ร แ ป ร ง ฟั น แ บ บ แ ห้ ง ” แ ม้ จ ะ รั ก ษาปริ ม าณฟลู อ อไรด์ ที่ อ ยู่ ใ นยาสี ฟั น ได้ ดี แ ต่ ก็ ต้ อ งปรึ ก ษาทั น ตแพทย์ เ พื่ อ สุ ข ภาพ ช่ อ งปากและฟั น ที่ ดี ทุ ก 6 เดื อ นนะครั บ แ ล้ ว พ บ กั น ใ ห ม่ ฉ บั บ ห น้ า ส วั ส ดี ค รั บ
เด็กอีสานไอคิวตํา่ กว่าเกณฑ์ ไม่วางแผนก่อนท้อง
พลิกวิกฤติเด็กอีสาน พัฒนาสู่ไอคิวเกิน 100 สร้างคนไทยรุ่นใหม่ หลังพบ เด็กอีสานไอคิวตํา่ กว่าเกณฑ์ พัฒนาการล่าช้า กระตุน้ พ่อ-แม่ตอ้ งมีการวางแผนเตรียม ความพร้อมก่อนตั้งครรภ์ เมื่อวันที่ 20 ส.ค.61 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธาน โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ “ขับเคลื่อนความสำ�เร็จ ESAN SMART KIDS 4.0” หรือ พลิกวิกฤติเด็กอีสาน พัฒนาสูไ่ อคิวเกิน 100” ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จ.ขอนแก่น โดยการดำ�เนินงานของ นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย และศูนย์อนามัยที่ 7,8,9 และ 10 ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมสัมมนา ในโครงการดังกล่าว ประมาณ 500 คน สืบเนื่องจาก สถานการณ์ปัญหาสุขภาพเด็ก ปฐมวัยใน 20 จังหวัดของภาคอีสานที่ผ่านมา พบว่า เด็ก 0 - 5 ปี สูงดีสมส่วนมีน้อย มาก นอกจากนี้พบปัญหาเด็กพัฒนาการล่าช้า ไอคิวตํ่ากว่าเกณฑ์มาตรฐาน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากนโยบายของกระทรวง สาธารณสุข ว่าด้วยการส่งเสริมการเกิดและการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ ที่จะลด ปัญหาการเกิดน้อยด้อยคุณภาพ ดังนัน้ กรมอนามัยจึงต้องประชุมเชิงปฏิบตั กิ ารสร้าง คนไทยรุ่นใหม่ เป็น 4.0 คนไทยที่สมาร์ท มีความรอบรู้ ความทันสมัย พร้อมปรับตัว ได้ทุกสภาพของการเปลี่ยนแปลงของสังคม จึงต้อง “ขับเคลื่อนความสำ�เร็จ ESAN SMART KIDS 4.0” เพราะภาคอีสานเด็กส่วนมาก”บกพร่องทางสติปัญญาสูงกว่า มาตรฐานสากล” ไอคิวเด็กอีสานตํ่ากว่าภาคอื่นๆในประเทศ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ด�ำ เนินงานมหัศจรรย์ 1,000 วันแรกของชีวติ เพือ่ ส่งเสริมการเกิดที่มีคุณภาพ เริ่มตั้งแต่ช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์จนถึงอายุ 2-3 ปี ซี่งเป็น ช่วงเวลาสำ�คัญที่สุดในชีวิตของลูก หรือเป็นเวลาทองของการสร้างพัฒนาการการ เรียนรูข้ องมันสมอง เพราะการเจริญเติบโตของสมองส่วนการเรียนรู้ ความจำ� พัฒนา อย่างรวดเร็วสูงสุดใน 1,000 วันแรกของชีวิต ดังนั้น ทุกจังหวัดในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องใน 4 กระทรวงหลัก และศูนย์วิชาการต่างๆ ได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว อย่างเข้มข้น เชื่อมโยงและครบวงจร อาทิเช่น การดำ�เนินงานตามคลีนิกฝากครรภ์ และคลินิกสุขภาพเด็กดีมีคุณภาพ การกำ�กับติดตามให้หญิงตั้งครรภ์และเด็กปฐมวัย ได้รบั การมีวติ ามินเสริมธาตุเหล็กตามชุดสิทธิประโยชน์ การเชือ่ มประสานกับองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นในการสนับสนุนไข่และนมให้หญิงตั้งครรภ์และเด็กปฐมวัย
ตลอดจนการดำ�เนินงานตามมาตรฐานศูนย์เด็กเล็กแห่งชาติ เป็นต้น “เด็กอีสานในเรื่องพัฒนาการอ่อนด้อยกว่าภาคอื่นในประเทศ ไอคิวตํ่ากว่า มาตรฐาน จึงต้องมีการขับเคลือ่ นความสำ�เร็จพลิกวิกฤติเด็กอีสาน พัฒนาสูไ่ อคิวเกิน 100 โดยเริม่ ต้นด้วยคุณพ่อ คุณแม่ ต้องมีการวางแผนก่อนมีการตัง้ ครรภ์ เมือ่ ปฏิสนธิ แล้วต้องบำ�รุงครรภ์ คุณแม่ต้องมีความสมบูรณ์เพราะต้องนำ�อาหารไปสู่ทารกใน ครรภ์ 270 วัน และคุณแม่ต้องฝากครรภ์แต่เนิ่นๆ ถ้าพบปัญหาสุขภาพของคุณแม่ และทารกในครรภ์ต้องรีบแก้ไขทันที เพราะมีระบบประกันสุขภาพฟรี” อธิบดีกรม อนามัย กล่าว นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวถึงโครงการดังกล่าว เมื่อหน่วย งานราชการพบเห็นปัญหาเด็กอีสานด้อยคุณภาพ ไอคิวตํ่ากว่าเกณฑ์ จึงต้องมีพลิก วิกฤติเด็กอีสาน โดยเฉพาะ จ.ขอนแก่นพัฒนาสูไ่ อคิวเกิน 100 โดยส่งเสริมพัฒนาการ ในสถานบริการสาธารณสุขทุกระดับ พร้อมให้ความสำ�คัญต่อเด็กทีม่ ภี าวะเสีย่ งให้ได้ รับการช่วยเหลือแก้ไขได้เร็วทีส่ ดุ ส่งเสริมการเตรียมความพร้อมก่อนการเข้าเรียน ทัง้ ทักษะการอ่าน การคำ�นวณ ผ่านกลไกการเลี้ยงดูและการเล่นที่ถูกต้องในครอบครัว และศูนย์เด็กเล็ก มีเครื่องมือที่ทุกฝ่ายจะใช้ร่วมกันในการกระตุ้นพัฒนาการเด็ก ดัง นั้น เมื่อเกิดปฏิสนธิในครรภ์มารดาคุณแม่จะต้องไปฝากครรภ์ “ท้องคุณภาพ” เพื่อ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้คนรุ่นใหม่มีความสมาร์ต มีสติปัญญาที่ดี มีจริยธรรม ด้วย การควบคุมอารมณ์ที่อยู่ร่วมกัน ไม่ใช่เกิดมาแล้วมีปัญหาเหมือนที่คนส่วนมาก พูดว่า “พ่อแม่รังแกฉัน” คนที่เริ่มตัดสินใจมีคู่ครองขอให้ตรวจสภาพร่างกาย เพื่อได้ ลูกชาย- ลูกสาว ทีเ่ ป็นคนเก่งในด้านสติปญั ญา มีความสมาร์ท ทัดเทียมตามมาตรฐาน สากล มีการเรียนรู้ที่ดีและปรับตัวเองเข้าสู่สังคมรุ่นใหม่ได้อย่างดี
จั ด เต็ ม มหกรรมกี ฬ าหมอลำ � ขนหางเครื่องประชันล้นสนาม
มหกรรมกี ฬ าวงหมอลำ � “เสี ย งแคน เกมส์2018” แต่งตัวเต็มยศร่วมเดินขบวนพาเหรด แข่งขันกีฬาเสียงแคนเกมส์ 2018 สานสัมพันธ์ความ รักความสามัคคีในคณะหมอลำ�ทั้ง 8 คณะ รณรงค์ เชื้อ HIV ในกลุ่มชายรักชาย เมือ่ วันที่ 19 ส.ค.61 นายเกียรติชยั สารเศวต ผูช้ ว่ ยผูอ้ �ำ นวยการสำ�นักงานป้องกันและควบคุมโรค ที่ 7 จังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธีเปิดการ แข่งขันมหกรรมกีฬาหมอลำ� “เสียงแคนเกมส์2018” ภายใต้การจัดงานของกลุ่ม M-REACH ขอนแก่น เพื่อรณรงค์และป้องกันโรค HIV ในกลุ่มชายที่มี เพศสัมพันธ์กับชายและสาวประเภทสอง ณ สนาม วอลเล่ย์บอล ภายในสนามกีฬาองค์การบริหารส่วน จังหวัดขอนแก่น ถ.เหล่านาดี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น
โดยมีคณะหมอลำ�ชือ่ ดังในจังหวัดขอนแก่น 8 คณะเข้า ร่วมการแข่งขัน ประกอบด้วย 1.คณะประถมบันเทิง ศิลป์ 2.คณะคำ�ผุน ร่วมมิตร 3.คณะแก่นนครบันเทิง ศิลป์ 4.คณะศิลปินชุมแพ น้องใหม่ เมืองชุมแพ 5.คณะ นาฏศิลป์ สมจิตร บ่อทอง 6.คณะระเบียบวาทศิลป์ และ 7.คณะรัตนศิลป์อินตาไทยราษฎร์ โดยแต่ละ คณะจัดเต็มทั้งการแต่งกาย เสื้อผ้า หน้า ผม ขนทีม งานมาทั้งคณะร่วมพันคน แข่งขันกีฬา 3 ประเภท คือ 1.ส้มตำ�ลำ�ซิ่ง 2.ชักกะเย่อ 3. วอลเล่ย์บอล ก่อนเข้าสู่ สนามกีฬาได้ตั้งขบวนพาเหรดบริเวณหน้าโรงเรียน เทศบาลวัดกลาง จากนั้นเดินเข้าสู่สนามวอลเลย์บอล ท่ามกลางประชาชนและนักท่องเทีย่ วมาดูขบวนอย่าง เนืองแน่น เพราะเป็นขบวนพาเหรดสุดยิง่ ใหญ่ อลังการ ของแต่ละคณะ จัดเต็มชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใคร โดย
เฉพาะขบวนพาเหรดของคณะสีเขียว คำ�ผุน ร่วมมิตร ทีส่ ามารถเรียกเสียงฮือฮาจากผูช้ มทีย่ นื อยูร่ มิ ถนนต่าง หยิบจับโทรศัพท์มอื ถือขึน้ มาบันทึกภาพเอาไว้ ทัง้ ลีลา การเต้น ทีส่ มัครสมาน สามัคคีพร้อมเพรียงกัน สะกด ทุกสายตาของผู้ชมได้เป็นอย่างมาก ว่าที่ร้อยตรี ครรชิต ชัยกิจ ประธานกลุ่ม M-REACH ขอนแก่น กล่าวว่า การแข่งขันมหกรรม กีฬาเสียงแคนเกมส์ 2018 ในวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ให้บุคลากรในวงหมอลำ� ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชายรัก ชายและสาวประเภทสอง ได้รับความรู้ความเข้าใจ ในเรือ่ งเชือ้ HIV โรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการใช้สารหล่อลื่น รวมถึงสถานบริการต่างๆ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ความรู้ ความเข้าใจ พร้อมทั้งเป็นการส่งเสริมให้บุคลากรในวงหมอลำ� เข้าถึงการบริการในการตรวจเลือดโดยสมัครใจ และ ส่งเสริมความสามัคคีและสร้างความสัมพันธ์ให้กับ คณะหมอลำ�ในจังหวัดขอนแก่น โดยการแข่งขันกีฬา วอลเล่ย์บอล และชักกะเย่อ ชิงถ้วยรางวัลและของ รางวัลอีกมากมาย พร้อมทั้งยังได้รับอุปกรณ์ในการ ป้องกันและสารหล่อลื่นที่ได้รับมาตรฐานจากหน่วย
มุง่ พัฒนาบรรจุภณ ั ฑ์เยือ่ ธรรมชาติ สะอาด ปลอดภัย เป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม พร้อมบริการ เฟสท์ โซลูชนั่ ตอบโจทย์ลกู ค้าอย่างครบวงจร เอสซีจี ตอบรับการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ของธุรกิจอาหารและบริการเดลิเวอรี่ พร้อมตอบ โจทย์เทรนด์รกั ษ์สงิ่ แวดล้อม เพิม่ ฐานการผลิตบรรจุ ภั ณ ฑ์ อ าหารปลอดภั ย เฟสท์ มู ล ค่ า การลงทุ น กว่ า 800 ล้านบาท และพัฒนาบรรจุภัณฑ์เยื่อธรรมชาติ เฟสท์สู่ตลาด ด้วยคุณสมบัติที่แข็งแรงยิ่งขึ้นจากเยื่อ ยูคาลิปตัส สะอาด ปลอดภัย สามารถอุ่นร้อนโดย เข้าไมโครเวฟได้ พร้อมบริการ เฟสท์ โซลูชั่น ให้ คำ�ปรึกษาด้านการออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ สร้างสรรค์ดไี ซน์แปลกใหม่ ทีม่ เี อกลักษณ์เฉพาะและ สร้างความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน นางวิมล จันทร์เทียร Fest Brand Director กล่าวว่า “บรรจุภัณฑ์อาหารปลอดภัยเฟสท์ (Fest) เริ่มต้นจากความใส่ใจสุขภาพและความปลอดภัย ของผูบ้ ริโภค จึงได้พฒั นาบรรจุภณ ั ฑ์อาหารทีส่ ะอาด ปลอดภั ย สามารถสั ม ผั ส อาหารได้ โ ดยตรงตาม มาตรฐานด้านอาหาร (Food Direct Contact) ซึ่งเฟส ท์ได้ผลิตเข้าสู่ตลาดมาแล้วเป็นเวลา 2 ปี จากปริมาณ ความต้องการใช้งานบรรจุภณ ั ฑ์ทมี่ กี ารขยายตัวอย่าง ต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจอาหารและธุรกิจบริการอาหารเดลิ เวอรี่ และเทรนด์ส�ำ คัญของโลกในปัจจุบนั ทีต่ ระหนัก ในเรื่องสิ่งแวดล้อม เฟสท์จึงพัฒนาบรรจุภัณฑ์เยื่อ ธรรมชาติเฟสท์ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ โดยผลิตจาก เยื่อยูคาลิปตัสจากป่าปลูก ที่มีการพัฒนาสายพันธุ์ที่ เหมาะสม มีความแข็งแรงมากกว่าเยื่อจากไม้ล้มลุก ทั่วไป นำ�มาผ่านเทคโนโลยีการผลิตของเฟสท์ ทำ�ให้ ได้บรรจุภณ ั ฑ์อาหารทีม่ คี วามขาว ผิวเรียบเนียน แข็ง แรง รองรับการเรียงซ้อนได้ สามารถทนนํ้าและนํ้า มัน ไม่รั่วซึม อีกทั้งยังสามารถอุ่นร้อนโดยการเข้า ไมโครเวฟได้ มีดีไซน์ที่หลากหลาย มีขนาดและรูป ทรงที่แตกต่างกัน สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ ในทุกรูปแบบ เหมาะกับสังคมเมืองในยุคปัจจุบัน ด้ ว ยศั ก ยภาพของเอสซี จี ที่ มี ค วามพร้ อ ม ในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับตลาดบรรจุภัณฑ์ อาหารในประเทศและการส่งเสริมให้ผู้บริโภคได้
ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัย เพื่ อ คุ ณ ภาพชี วิ ต ที่ ดี ยิ่ ง ขึ้ น เฟสท์ จึ ง ได้ เ พิ่ ม ฐาน การผลิ ต ใหม่ จำ � นวน 2 โรงงาน ได้ แ ก่ โรงงาน ขึ้ น รู ป บรรจุ ภั ณ ฑ์ ก ระ ดาษเฟสท์ จ.สมุทรสาคร และโรงงานผลิ ต บรรจุ ภัณฑ์เยื่อธรรมชาติเฟสท์ จ.ขอนแก่น ด้วยเงินลงทุน มูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งเป็นโรงงานที่มี มาตรฐานความสะอาดปลอดภัยสูงระดับสากล ได้ รับการรับรองมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practices), The BRC (British Retail Consortium) Global Standard, HACCP (Hazard Analysis Critical Control Point) และควบคุมกระบวนการ ผลิตในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบที่ผ่าน การรับรองมาตรฐาน US-FDA โดยส่งวัตถุดิบตรง ผ่านท่อลำ�เลียงเพื่อป้องกันสิ่งปนเปื้อน รวมถึงช่วย ลดการใช้พลังงานในการผลิต นับได้ว่าเป็นโรงงาน ผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารจากเยื่อยูคาลิปตัสรายแรกใน ประเทศไทยทีไ่ ด้รบั การรับรองมาตรฐานระดับสากล ตลอดกระบวนการผลิต ทำ�ให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ใน ความสะอาดและปลอดภัย “เฟสท์ยังคงมุ่งมั่นในการคิดค้นและพัฒนา บรรจุภัณฑ์อาหารปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง โดยยึด ความต้องการของลูกค้าเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนา สินค้าและบริการ มีหลักสำ�คัญคือการคัดสรรวัตถุดบิ ที่สามารถย่อยสลายได้ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยร่วมมือกับทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเอส ซีจีอย่างใกล้ชิด เพื่อคิดค้นวัสดุทดแทนที่มีคุณภาพ สูง ตอบโจทย์ทั้งลูกค้า และเป็นส่วนหนึ่งในการ ร่วมพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีบริการ เฟสท์ โซลูชั่น ให้คำ�ปรึกษาด้านการออกแบบและ ผลิตบรรจุภณ ั ฑ์ส�ำ หรับลูกค้า ผูป้ ระกอบธุรกิจอาหาร
อย่างครบวงจร เพื่อสร้างความพิเศษและเอกลักษณ์ เฉพาะให้กับร้าน โดยคำ�นึงถึงความเหมาะสมกับ ประเภทอาหาร ทำ�ให้อาหารที่ส่งถึงมือลูกค้าน่ารับ ประทานและสะดวกในการรับประทานทันที พร้อม อำ�นวยความสะดวกในการสัง่ ผลิตตามความต้องการ ของลูกค้าอีกด้วย” คุณวิมลกล่าวเพิ่มเติม ภายหลั ง จากการขยายฐานการผลิ ต และ แนะนำ�บรรจุภัณฑ์อาหารปลอดภัยใหม่ เฟสท์คาด การณ์วา่ ในปี 2566 จะมีสว่ นแบ่งทางการตลาดร้อยละ 10 ของมูลค่าตลาดบรรจุภณ ั ฑ์อาหารในประเทศไทย หรือมียอดขายประมาณ 3,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 300 เมื่อเทียบกับปี 2561 บรรจุภัณฑ์อาหาร ปลอดภัยเฟสท์ พร้อมแล้วที่จะร่วมยกระดับคุณภาพ ชีวติ ของคนไทยและสังคมไทยอย่างยัง่ ยืนด้วยการเพิม่ ทางเลือกให้กบั ลูกค้าและผูบ้ ริโภคได้ใช้บรรจุภณ ั ฑ์ที่ มั่นใจได้ในความสะอาดและปลอดภัย โดยผู้ที่สนใจ สามารถหาซื้อได้ที่ช่องทาง Modern Trade แม็คโคร ท็อป บิ๊กซี และฟู้ดแลนด์ นอกจากนี้ เฟสท์ ได้เร่งขยายช่องทางการจัด จำ�หน่ายครอบคลุมทั่วทั้งประเทศผ่านร้านแพคเกจ จิ้งช็อปกว่า 1,000 สาขา และที่ร้าน Fest Shop ที่เอส ซีจีสำ�นักงานใหญ่ บางซื่อ ติดสถานีรถไฟฟ้า MRT บางซื่อทางออก 1 รวมทั้งช่องทางออนไลน์ www. festforfood.com และ call center 02-586-1000
สื่อมวลชนขอนแก่นสัญจร ศึกษา ดูงานธุรกิจและกิจกรรมกลุ่ม ปตท.
คลั ง ปิ โ ตรเลี ย ม บริ ษั ท นํ้ า มั น และการค้ า ปลี ก จำ � กั ด (มหาชน) พร้อมคณะผู้บริหาร และสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ศึกษาดูงานธุรกิจและกิจกรรมกลุ่ม ปตท. ในพื้นที่ (EEC) ณ ศูนย์ ปฏิบัติการชลบุรี จังหวัดชลบุรี งานมหัศจรรย์ไม้เมืองหนาว และ ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์ จังหวัดระยอง ระหว่างวันที่ 9-11 สิงหาคม 2561 นายพีรทักษ์ อุตะเดช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปฏิบัติ การคลังปิโตรเลียม บริษัท นํ้ามันและการค้าปลีก จำ�กัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท. มีการดำ�เนินงานในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และ จังหวัดระยองมายาวนาน ซึง่ การนำ�สือ่ มวลชนเยีย่ มกิจการในพืน้ ที่ ครั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างเสริมความรู้ความเข้าใจ ความเป็นมาของ การเลือกพืน้ ทีส่ ว่ นหนึง่ ของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ พิเศษ ภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ภายใต้นโยบายไทย แลนด์ 4.0 ในช่วงระยะแรก มีพื้นที่ครอบคลุมจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และจังหวัดระยอง โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมการ ลงทุนเชิงอุตสาหกรรมยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตได้ในระยะยาว สำ�หรับศูนย์ ปฏิบัติการชลบุรี จังหวัดชลบุรี นับเป็นศูนย์ปฏิบัติงานหลักในการ ดำ�เนินงานควบคุม และงานวางแผนปฏิบตั กิ ารรับส่งก๊าซธรรมชาติ ตลอดแนวท่อก๊าซทั่วประเทศ รวมทั้งควบคุมรักษาความปลอดภัย ระงับเหตุฉุกเฉิน และดูแลสิ่งแวดล้อมรอบพื้นที่ โดยระบบท่อส่ง ก๊าซธรรมชาติของ ปตท. ประกอบด้วย ระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ บนบก และระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติใต้ทะเล ซึ่งจะเชื่อมแหล่ง ก๊าซธรรมชาติตา่ งๆ ในอ่าวไทย สถานี แอลเอ็นจี รวมทัง้ ท่อส่งก๊าซ ธรรมชาติ จากแหล่งยาดานา เยตากุน และซอติกา้ สหภาพเมียนมาร์ บริเวณชายแดนไทย-สหภาพเมียนมาร์ เข้ากับผู้ผลิตไฟฟ้าโรงแยก ก๊าซธรรมชาติ และลูกค้าอุตสาหกรรม
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวต่อไปว่า นอกจากเข้าศึกษาระบบการบริหารจัดการ ของศูนย์ปฏิบัติการชลบุรี แล้ว ยังได้นำ�คณะสื่อมวลชนเข้าชมงาน “มหัศจรรย์ไม้เมืองหนาว” ครั้งที่ 7 ทิวลิปบานที่ระยอง ภายใต้แนวคิด The Blooming Of Happiness ทิวลิปบานเทศกาล แห่งความสุข ดำ�เนินการจัดโดย โรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง บริษัท ปตท.จำ�กัด (มหาชน) ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 9- 15 สิงหาคม 2561 ณ สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นการต่อยอดองค์ความรู้ในการนำ�ทรัพยากรเหลือใช้ คือพลังงานความเย็นมาพัฒนายืดอายุการเก็บรักษาพืชผลทางการเกษตร จากงาน มหัศจรรย์ไม้เมืองหนาว ทิวลิปบานที่ระยอง ผู้บริหารกลุ่มงาน ปตท. ยังได้ นำ�คณะสื่อมวลชนเข้าศึกษาการบริหารงานของ “ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์” จังหวัดระยอง ซึ่ง เป็นพื้นที่รวบรวมองค์ความรู้พัฒนางานวิจัยด้านการปลูกฟื้นฟูและจัดการป่าไม้ โดยน้อมนำ� แนวพระราชดำ�ริฯ “ปลูกป่าในใจคน” โดยมุ่งให้เป็นห้องเรียนขนาดใหญ่ เป็นตัวอย่างของการ พัฒนาพื้นที่สีเขียวด้านระบบนิเวศรวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่สำ�คัญในภาคตะวัน ออก เพือ่ สร้างแรงบันดาลใจในการรักป่าไม้ อีกทัง้ เพือ่ ฟืน้ ฟูปา่ ต้นนํา้ คลองขุนอินทร์ให้กลับมา อุดมสมบูรณ์อีกครั้ง ศูนย์เรียนรูป้ า่ วังจันทร์ ยังเป็นหน่วยงานแรก ทีเ่ ข้าร่วมโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาค สมัครใจในสาขาป่าไม้ และได้รบั รางวัลการประกวดแบบภูมสิ ถาปัตยกรรมระดับนานาชาติ ใน ประเภทการพัฒนาหรือสร้างสรรค์แหล่งที่อยู่ความหลากหลายทางชีวภาพและสัตว์ป่า ซึ่งถือ เป็นเครื่องยืนยันถึงประสิทธิภาพในการดำ�เนินงานของศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์ได้เป็นอย่างดี
หน้า 6
ปีที่ 16 ฉบับที่ 171 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2561
ปีที่ 16 ฉบับที่ 171 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2561
หน้า 7
หน้า 8
ปีที่ 16 ฉบับที่ 171 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2561
ยกความแซบมา ESAN EXPO 2018 ช้อป ชม ชิม กันเต็มที่ กลุม่ จังหวัดสบายดี อีสานตอนบน 1 เดิน หน้าจัดงาน ESAN EXPO 2018 กระตุน้ เศรษฐกิจ และการลงทุน ชูจดุ เด่นอัตลักษณ์ แซบอีสานตอน บน ดินแดนแห่งโอกาส อีสานดีหลาย ESAN Deligh Plus เมือ่ วันที่ 20 สิงหาคม 2561 ทีโ่ รงแรมเซน ทาราอุดรธานี นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.อุดรธานี นายจิรศักดิ์ ศรีคชา รองผวจ.หนองคาย นาย เวียงชัย แก้วพินจิ รองผวจ.หนองบัวลำ�ภู นางสาว สิการย์ เฟือ้ งฟุง้ พาณิชย์จงั หวัดเลย และนายชาญ ยุทธ วันดี พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ แถลงข่าวการ จัดงาน ESAN EXPO 2018 โดยมีหัวหน้าส่วน ราชการทั้งภาครัฐ เอกชน ร่วมงาน นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.อุดรธานี ใน ฐานะหัวหน้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียง เหนือตอนบน 1 หรือกลุ่มจังหวัดสบายดี กล่าว ว่า เมื่อวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2561 กลุ่มจังหวัด สบายดีได้ยกของดีแต่ละจังหวัด ทัง้ อาหาร ดนตรี วิถชี วี ติ วัฒนธรรม แหล่งท่องเทีย่ ว รวมทัง้ แสดง ศักยภาพด้านการค้าการลงทุนของดินแดนแห่ง โอกาสอีสานตอนบน 1 บุกเซ็นทรัลเวิรด์ กรุงเทพ ได้ รั บ การตอบรั บ เป็ น อย่ า งดี มี ผู้ ร่ ว มชมงาน 270,000 คน ยอดจากการจำ�หน่ายสินค้าจากผู้ ประกอบการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 8,039,590 บาท การเจรจาเชื่อมโยงธุรกิจด้านการค้า การบริการ และการท่องเที่ยว มูลค่ากว่า 24 ล้านบาท และ รวมยอดมูลค่าจากการจัดงานในครั้งนี้กว่า 30 ล้านบาท นายวั ฒ นา กล่ า วต่ อ ว่ า ในวั น ที่ 28 สิงหาคม ถึง 2 กันยายน 2561 กลุ่มจังหวัดได้
กำ�หนดจัดงาน ESAN EXPO 2018 ยกความแซบมา ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าอุดรธานี โดยใช้พื้นที่ จัดงานกว่า 2,500 ตารางเมตร เพื่อกระตุ้นและส่ง เสริมภาพรวมของเศรษฐกิจการค้า การบริการและ การท่องเทีย่ ว การเกษตรในกลุม่ จังหวัด การจัดงาน ครั้งนี้แต่ละจังหวัดยกขบวนของดีมาให้ ช้อป ชม ชิม กันอย่างเต็มที่ สมกับความเป็น “อีสานดีหลาย หลาย ESAN Delght Plus” กลุ่ ม จั ง หวั ด อี ส านตอนบน 1 เป็ น กลุ่ ม จังหวัดที่มีอัตลักษณ์และความโดดเด่น จากการ เป็นแหล่งกำ�เนิดอารยะธรรมภาคอีสาน การดำ�รง วิถีชีวิตของผู้คนในกลุ่มแม่นํ้าโขง ที่มีจุดเด่นด้าน อาหารการกิน ดนตรี ศิลปะ มีแหล่งท่องเที่ยวทาง ธรรมชาติ และแหล่งธรรมะ ที่มีคุณค่าต่อการก้าว สู่อีสานยุคใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของการ จัดงานในครั้งนี้คือ E S A N สื่อความหมายของ ตัวอักษรว่า Esting เอกลักษณ์ด้านอาหารการกิน เฉพาะตัว เช่น ข้าวเหนียว ส้มตำ� Song เอกลักษณ์ ด้ า นดนตรี แ ละศิ ล ปะการแสดง เช่ น หมอลำ � โปงลาง Amazing Destination หมายถึงสถานที่ ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น ทะเลบัวแดง วัดป่า ภูก้อน ภูทอก และ Natural Life เอกลักษณ์ด้านวิถี ชีวิตผู้คนที่อยู่กับธรรมชาติอย่างกลมกลืน ความ งดงามด้านจิตใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเป็นมิตรกับ ผู้มาเยือน ในด้านเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดสบายดี มี ศักยภาพโดดเด่นด้านภูมิศาสตร์ที่สามารถเชื่อม โยงการคมนาคม ขนส่งในกลุ่มประเทศอาเซียน มี โครงการรถไฟฟฟ้าทางคู่ที่กำ�ลังดำ�เนินกการ สาย ขอนแก่น-หนองคาย และเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ One Belt One Road ของจีนด้วย กล่าวได้ว่ากลุ่ม
จังหวัดสบายดี กำ�ลังก้าวสู่ความเป็นอีสานยุคใหม่ ที่มีแนวโน้มการเติบโต ทางเศรษฐกิจสูง พร้อมๆกับการเป็นดินแดนแห่งโอกาส The Land of opportunities สำ�หรับผู้ประกอบการ นักลงทุน รวมถึงประชาชนในพื้นที่ นายวัฒนา กล่าวอีกว่า นอกจากการแสดงและจำ�หน่ายผลิตภัณฑ์ พื้นถิ่นคุณภาพกว่า 100 คูหา ยังเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการและนักธุรกิจทั้ง ในและต่างประเทศ สามารถเจรจาเชื่อมโยงธุรกิจด้านการค้า การบริการและ การท่องเที่ยวระหว่างกัน นิทรรศการแนะนำ�แหล่งท่องเที่ยวอีสานที่น่าทึ่ง นิทรรศการมีชีวิตจากวิถีธรรมชาติและความเรียบง่ายของชาวอีสาน การจัด แสดงอีสานยุคใหม่ ดินแดนแห่งโอกาส(Land of opportunities) กิจกรรม ประกวดอาหารท้องถิน่ อีสาน การประกวดร้องเพลงและศิลปะท้องถิน่ อีสาน การประกวดภาพถ่ายวิถีชีวิตและแหล่งท่องเที่ยว การประกวดออกแบบชุด แต่งกายผ้าพืน้ เมืองตามแนววิถธี รรมชาติของคนอีสาน แบบอนุรกั ษ์และแบบ ร่วมสมัย พบกับดาราศิลปินมากมาย แฟชั่นโชว์จากนางแบบกิตติมศักดิ์และ นางแบบมืออาชีพ สินค้านาทีทองและสินค้าราคาพิเศษ ร่วมสนุกกับการชิง ของรางวัลมากมาย สำ�หรับการจัดงาน ESAN EXPO 2018 ครัง้ นี้ กลุม่ จังหวัดอีสานตอน บน 1 ประมาณการรายได้จากการจำ�หน่ายสินค้าของผู้ประกอบการในงาน กว่า 8 ล้านบาท และประมาณการผูม้ าเทีย่ วงานจากทัง้ ในและต่างจังหวัดกว่า 100,000 คน
โตโยต้าเปิดศูนย์การเรียนรู้ “ธุรกิจชุมชนพัฒน์ แห่งที่ 2” สอนให้ชุมชนทำ�ธุรกิจด้วยตัวเอง บ ริ ษั ท โตโยต้ า มอเตอร์ ประเทศไทย จำ � กั ด นำ � ค ว า ม รู้ ใ น ก า ร ทำ � ธุ ร กิ จ ของโตโย ต้า ซื่งเป็นที่ยอมรับ ในระดับสากล อาทิ วิถีโตโยต้า (Toyota Way) ระบบการผลิต แบบโตโยต้า (Toyota Production System) และปรัชญาลูกค้าเป็นที่หนึ่ง (Customer First) ถ่ายทอดสูผ่ ปู้ ระกอบการ OTOP และ SMEs เพือ่ พัฒนาศักยภาพให้สามารถดำ�เนินธุรกิจได้อย่าง มืออาชีพ อันเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้ธรุ กิจ รากหญ้าของประเทศไทย ภายใต้โครงการ “โตโย ต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” พร้อมเปิดศูนย์การเรียน รู้ “ธุรกิจชุมชนพัฒน์ แห่งที่ 2” โดยมี นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำ�กัด นาย สมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น นายโชคชัย คุณวาสี ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโย ต้าแก่นนคร จำ�กัด นายกมลพงศ์ สงวนตระกูล ผู้ ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้าขอนแก่น ผู้จำ�หน่ายโตโยต้า จำ�กัด ร่วมพิธีเปิด ณ กลุ่ม วิสาหกิจชุมชนบ้านโคกสว่าง ข้าวแตนสมุนไพร สายทิพย์ ต.คอนฉิม อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น เมื่อ วันที่ 2 สิงหาคม 2561 นายวุ ฒิ ก ร สุ ริ ย ะฉั น ทนานนท์ รอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำ � กั ด กล่ า วว่ า โตโยต้ า ได้ นำ � นวัตกรรมความคิดเพื่อสังคมรูปแบบใหม่ “โตโย ต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” ที่ว่าด้วยการนำ�ปัจจัยแห่ง ความสำ�เร็จขององค์กร ส่งต่อให้ธรุ กิจชุมชนของ ไทยเป็น SMEs มืออาชีพ โดยถ่ายทอดความรูแ้ ละ ประสบการณ์ทสี่ ะสมมา สูธ่ รุ กิจชุมชน วิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม เป็นการนำ�แนวคิด การทำ�งาน และวิธีการปฏิบัติงานของโตโยต้า มา ประยุกต์ใช้กับผู้ประกอบการที่อยู่ในชุมชน โดย เล็งเห็นว่า ธุรกิจชุมชนนั้น มีความสามารถสูง ในการสร้างสรรค์ผลผลิตจากภูมิปัญญาท้องถิ่น แต่ปัญหาของชุมชนคือ ยังไม่มีระบบการบริหาร จัดการ ไม่วา่ จะเป็นเรือ่ งของต้นทุน ความต้องการ ของลูกค้า ส่งผลให้มีต้นทุนสูง และอาจทำ�ให้ผล การดำ�เนินงานของธุรกิจชุมชนเหล่านี้ต้องลดตํ่า ลงไปอย่างน่าเสียดาย หลักการดำ�เนินงานของโครงการ “โตโย ต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” ยึดหลัก “ไคเซน” (Kaizen) หรือ การปรับปรุงและแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง โดยแบ่งการทำ�งานออกเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่ “รู้ เห็น เป็น ใจ” คือ รู้ ปัญหา ในทุกกระบวนการ ภาย ใต้ระบบบ TPS เห็น ปัญหา ภายใต้แนวทางแก้ไข ปัญหาตามหลักไคเซน เป็น คือ ทำ�เป็น สอนให้ ธุรกิจชุมชนทำ�เป็นด้วยตัวเอง ใจ คือ เข้าใจ ใส่ใจ ถูกใจ ตามหลักปรัชญาลูกค้าเป็นที่หนึ่ง และจาก การศึกษา โตโยต้าพบว่า ผู้ประกอบการของไทย ส่วนมาก มีทักษะในการสร้างสินค้า และบริการ ที่ ดี แต่ ข าดทั ก ษะในการบริ ห ารธุ ร กิ จ อย่ า งมี ประสิทธิภาพ ซึ่งโตโยต้าได้จำ�แนกปัญหาที่จะ เข้าไปช่วยจัดการออกเป็น 5 ประเด็นหลักๆ อาทิ การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต การปรับปรุง ด้านคุณภาพ การปรับปรุงการส่งมอบงานตรง
เส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ; นายสุชาติ จุลพูล ผอ.ศูนย์หม่อนไหม เฉลิมพระเกียรติฯห นองคาย เป็นประธานเปิดเสวนาเส้นทางท่องเทีย่ วเชิง วัฒนธรรมและการส่งเสริมการจำ�หน่ายผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ณ พิพธิ ภัณฑ์ เฮือนผ้าไทย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.หนองคาย เวลา การบริหารสินค้าคงคลัง และ การบริหาร ต้นทุนในกระบวนการผลิต โดยโตโยต้าหวังว่า นวัตกรรมความคิดจะเป็นประโยชน์ในการดำ�เนิน ธุ ร กิ จ ทำ � ให้ เ กิ ด การพั ฒ นาความสามารถ และ สร้างความยัง่ ยืนแก่เศรษฐกิจฐานราก นำ�ไปสูค่ วาม มัน่ คง มัง่ คัง่ ยัง่ ยืนกับประชาชนและเศรษฐกิจของ ประเทศไทยต่อไป นายวุฒกิ ร กล่าวต่อว่า จากการดำ�เนินธุรกิจ “ข้าวแตนสมุนไพรสายทิพย์” อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้รบั การยกระดับธุรกิจให้กลายเป็น “ศูนย์เรียน รู้โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ แห่งที่ 2” ต่อจากกลุ่ม ตัดเย็บเสื้อโปโล ฮาร์ท โอทอป จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีการถ่ายทอดประสบการณ์ ความรู้ ให้กับผู้ ประกอบการ OTOP และ SMEs รวมทั้งหน่วย งานภาครัฐมาแล้วกว่า 4,000 คน โดยโตโยต้าหวัง ว่า กลุ่มวิสาหกิจบ้านโคกสว่าง ข้าวแตนสมุนไพร สายทิพย์ จะสามารถต่อยอดความสำ�เร็จในการ ถ่ายทอดความรู้สู่ชุมชนอื่นๆ และนำ�มาปรับใช้ใน ธุรกิจอื่นในภาคอีสานต่อไป ปั จ จุ บั น โตโยต้ า ถ่ า ยทอดความรู้ ใ ห้ กั บ ธุรกิจชุมชนทั้งหมด 12 แห่ง ใน 12 จังหวัดทั่ว ประเทศไทย และยังเดินหน้าขยายโครงการ “ธุรกิจ ชุมชนพัฒน์” เพิม่ ในอีก 10 ธุรกิจชุมชน 10 จังหวัด ทั้ ง นี้ เพื่ อ ให้ ค รอบคลุ ม ทั่ ว ประเทศในปี 2565 ควบคู่การนำ�ความรู้ ประสบการณ์จากการดำ�เนิน โครงการ มาถ่ายทอดเพือ่ พัฒนาศักยภาพธุรกิจ ภาย ใต้นโยบายประชารัฐ โดยความร่วมมือกับ Thailand Smart Center หอการค้าไทย และกรมส่งเสริม อุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงยุตธิ รรม ทัง้ นี้ โตโย ต้า มุง่ หวังให้ผปู้ ระกอบการ OTOP และ SMEs ซึง่ เป็นภาคธุรกิจฐานรากมีความเข้มแข็ง และดำ�เนิน ธุรกิจได้เองอย่างมืออาชีพ และยังเป็นส่วนสำ�คัญ ต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย นางสายทิพย์ ลามา ประธานกลุม่ ข้าวแตนสมุนไพร สายทิพย์ กล่าวว่า กลุ่มแม่บ้านโคกสว่าง เมื่อปี 2541 ได้ชักชวนญาติ เพื่อนบ้าน 4 คน ทดลอง ทำ�ข้าวแตนตามสูตรที่คิดขึ้นเอง โดยทำ�เป็นแผ่น สี่เหลี่ยม ส่งขายตามร้านค้าภายในหมู่บ้าน และ หมู่บ้านใกล้เคียง ซึ่งยังไม่มีชื่อและยี่ห้อ ต่อมาได้ มีการพัฒนารูปแบบการปั้น และได้นำ�สมุนไพร “กระพังโหม” มาใส่ในข้าวแตนทำ�ให้ข้าวพองตัว กรอบ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด ขับลม ขับ ปัสสาวะ รักษาแผลในลำ�ไส้ อีกทัง้ ได้พฒ ั นารสชาติ แบบใหม่เฉพาะตัว ถูกปากคนพื้นบ้าน เป็นที่นิยม ของผู้บริโภค จากการสำ�รวจของบุคลากรโตโยต้าพบ ว่ า ปั ญ หาหลั ก ของธุ ร กิ จ คื อ การผลิ ต ที่ ไ ม่ เ ต็ ม ประสิทธิภาพ การควบคุมคุณภาพผลผลิต การ จัดการสินค้าคงคลัง และการส่งมอบสินค้าอย่าง ไม่เป็นระบบ หลังความร่วมมือกันในการปรับปรุง ธุรกิจ โดยได้ท�ำ การปรับแม่พมิ พ์การผลิตใหม่ ให้มี มาตรฐาน ทำ�ให้สามารถเพิ่มผลิตภาพได้ถึง 2 เท่า
สคบ.เข้ ม ตรวจสิ น ค้ า ตลาดท่ า เสด็ จ ส่ ว นใหญ่ ไ ม่ มี ฉ ลากสิ น ค้ า OTOP Lanna สานสัมพันธ์สองแผ่นดิน ; นายจิรศักดิ์ ศรีคชา รองผวจ. หนองคาย เป็นประธานเปิดงาน “OTOP Lanna สานสัมพันธ์สองแผ่นดิน” ระหว่างวันที่ 22 – 26 ส.ค. 61โดยมีนายอภิวัฒน์ ธีระวาสน์ พัฒนาการ จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมพิธีเปิด ณ ศูนย์การค้าอัศวรรณ ช็อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ 1 อ.เมือง จ.หนองคาย มิ นิ ค อนเสิ ร์ ต เบี ย ร์ พร้ อ มพงษ์ แชมป์ ศึ ก วั น ดวลเพลง 18 สมั ย และแชมป์ ส งคราม เทพบุ ต ร มาพร้ อ มซิ ง เกิ้ลใหม่ล่าสุด “ฝ้ายผูก แขนเปื้อนเหงื่อ ” และ ชมการแสดงวงโปงลาง พร้ อ มมอบความสุ ข สนุกแบบพืน้ บ้านอีสาน ให้ กั บ ทุ ก ท่ า น ในวั น ที่ 14 กันยายน 2561 นี้ ที่ โ รงแรมโฆษะ บั ต ร ราคาโต๊ะละ 2,499 บาท (สำ�หรับ 4 ท่าน) พร้อม อาหารและเครื่ อ งดื่ ม ซื้อบัตรได้ที่เคาน์เตอร์ โรงแรมโฆษะ โทร. (043) 233 – 883 จาก 600,000 ชิ้นต่อเดือน เป็น 1,200,000 ชิ้นต่อเดือน จากนั้นก็ต้องมีการ ควบคุมคุณภาพ ลดต้นทุนของเสีย โดยปรับการทำ�งานในกระบวนการ ปั้น – ตาก – โรยนํ้าตาล เพื่อลดความสูญเปล่าในกระบวนการผลิต จากเดิมพบแผ่น ข้าวแตกหรือหักในกระบวนการผลิตที่ 11% (15 กิโลกรัมต่อวัน) ซึ่งหลังจาก การปรับปรุงสามารถลดของเสียจากการผลิตเหลือเพียง 0.01% ซึ่งคิดเป็น มูลค่ากว่า 3,000 บาทต่อวัน นางสายทิพย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ โตโยต้า สอนการวางแผนธุรกิจ แผนขาย แผนผลิต ภายใต้ระบบการผลิตแบบทันเวลาพอดี (Just in Time) จัดระบบการทำ�งานให้เป็นระเบียบมากขึน้ ผ่านการทำ�แบบฟอร์ม บอร์ดแห่ง การมองเห็น และสนับสนุนให้มีการจัดประชุมระหว่างฝ่ายต่างๆ เพื่อให้ทุก คนสามารถมองเห็นถึงจำ�นวนงานเข้า-ออก และปัญหาต่างๆ ร่วมกัน เพื่อให้ สามารถวางแผนการผลิตและส่งมอบสินค้าได้ดขี นึ้ ป้องกันการผิดพลาด รวม ถึงจัดการสินค้าคงคลังได้อย่างเป็นระบบมากขึน้ แม้ตลาดจะมีการขยายตัวเพิม่ ขึ้นก็ตาม
สคบ.จัดโครงการเฝ้าระวังและตรวจสอบสินค้าทีอ่ าจไม่ ปลอดภัย ลงสุ่มตรวจตลาดท่าเสด็จ พบร้านขายส่วนใหญ่ไม่มี ฉลากสินค้า และฉลากสินค้าไม่ถกู ต้อง แต่ไม่พบสินค้าอันตราย เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2561 สำ�นักงานคณะกรรมการ คุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)จัดโครงการ “เฝ้าระวังและตรวจ สอบสิ น ค้ า ที่ อ าจไม่ ป ลอดภั ย บริ เ วณพื้ น ที่ ช ายแดนของ ประเทศ ครั้งที่ 2 ณ จังหวัดหนองคาย” โดยมีนายจิรศักดิ์ ศรี คชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวต้อนรับ และ พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการ คุ้มครองผู้บริโภค เป็นประธานเปิดโครงการฯ พร้อมบรรยาย พิเศษเรื่อง “นโยบายการคุ้มครองผู้บริโภค” นอกจากนี้ยังมีการ เสวนาในหัวข้อ “การเฝ้าระวังและตรวจสอบฉลากสินค้า สินค้า อันตรายและสินค้าทีอ่ าจไม่ปลอดภัย รวมทัง้ แนวทางการเยียวยา ให้กับผู้บริโภค” โดยวิทยากรจากกองคุ้มครองผู้บริโภคด้าน ฉลาก สคบ. ณ ห้องประชุมแกรนด์บอลรูม โรงแรมอัศวรรณ อ.เมือง จ.หนองคาย พล.ต.ต.ประสิทธิ ์ เฉลิมวุฒศิ กั ดิ์ กล่าวว่า การจัดสัมมนา ดังกล่าว เพือ่ สร้างความตระหนักรูใ้ ห้แก่ประชาชน และผูบ้ ริโภค ได้รู้ได้เข้าใจ และรับทราบถึงความสำ�คัญของฉลากสินค้า ก่อน ตัดสินใจซื้อสินค้าและใช้บริการต่างๆ รู้จักและมีส่วนช่วยสอด ส่องเฝ้าระวังการจำ�หน่ายสินค้าอันตราย รวมถึงสินค้าที่อาจไม่ ปลอดภัย ซึ่งอาจจะมีการลักลอบจำ�หน่ายในพื้นที่ชายแดน ใน ขณะเดียวกันผู้ประกอบการจะได้รับทราบถึงแนวทางในการ ปฏิบตั ขิ องการจัดทำ�ฉลากสินค้าให้ถกู ต้อง ครบถ้วน และปฏิบตั ิ ตามกฎหมายทีเ่ กีย่ วข้องอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะสินค้าทีน่ �ำ เข้า มาตามชายแดนต่างๆ ของประเทศไทย ที่มีทั้งสินค้าอันตราย สินค้าที่อาจจะก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยและสินค้าทั่วไปที่ มักจะไม่มีการระบุข้อมูลรายละเอียดสินค้าที่เป็นภาษาไทย ซึ่ง อาจจะส่งผลให้ผู้บริโภคนำ�ไปใช้ที่ผิดวิธี หรือนำ�ไปใช้งานที่ไม่ ถูกต้องเหมาะสม จนอาจเป็นสาเหตุให้เกิดความไม่ปลอดภัยได้
เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้ประชาชนผู้บริโภคได้รู้ เข้าใจ และ ทราบถึงความสำ�คัญของฉลากสินค้า ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า และใช้บริการต่างๆ รู้จักและมีส่วนช่วยสอดส่อง เฝ้าระวังการ จำ�หน่ายสินค้าอันตราย รวมถึงสินค้าที่อาจไม่ปลอดภัยซึ่งอาจ มีการลักลอบจำ�หน่ายในพื้นที่เขตชายแดน ในขณะเดียวกันผู้ ประกอบธุรกิจจะได้รับทราบถึงแนวทางในการปฏิบัติ การจัด ทำ�ฉลากสินค้าให้ถูกต้อง ครบถ้วน และปฏิบัติตามกฎหมายที่ เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2561 นายฐิตินันท์ สิงหา ผู้ อำ�นวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก และเจ้าหน้าที่ สคบ. พร้อมผู้แทนจากศูนย์ดำ�รงธรรมจังหวัดหนองคาย และด่าน ศุลกากรท่าเสด็จ ประชุมเพื่อหารือแนวทางการตรวจสอบการ จัดทำ�ฉลากสินค้า และตรวจสอบสินค้าที่อาจไม่ปลอดภัย สินค้า ที่ไม่มีคุณภาพและไม่มีมาตรฐาน รวมทั้งสินค้าอันตรายที่คณะ กรรมการคุม้ ครองผูบ้ ริโภคสัง่ ห้ามขายบริเวณพืน้ ทีต่ ลาดชายแดน ซึง่ อาจมีการลักลอบฝ่าฝืนนำ�เข้ามาจำ�หน่ายในประเทศไทย พร้อม ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดตรวจท่าเรือหายโศก ตรวจกระบวนการ ขนส่งสินค้า ตรวจด่านศุลกากรหนองคายคุณธรรม เพื่อตรวจ เยี่ยมการส่งออกและนำ�เข้าสินค้าไป สปป.ลาว และตรวจสอบ สินค้าเขตชายแดนตลาดอินโดจีน (ตลาดท่าเสด็จ) ผลการตรวจ ไม่พบสินค้าอันตราย โดยร้านที่เจ้าหน้าที่ได้ทำ�การสุ่มตรวจสอบ ได้แก่ ร้าน ขายอุปกรณ์เครือ่ งใช้ในครัวเรือน ร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึง่ ส่วน ใหญ่ไม่มีการจัดทำ�ฉลากสินค้า และจัดทำ�ฉลากสินค้าไม่ถูกต้อง ตามมาตรา 30 และ 31 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบประกาศคณะกรรมการ ว่าด้วยฉลาก โดยไม่ระบุ ที่อยู่ของผู้ผลิต ไม่ระบุราคา และแสดง ฉลากเป็นภาษาต่างประเทศ เป็นต้น ซึ่ง สคบ. จะได้นำ�ผลการ ตรวจสอบให้จังหวัดหนองคายเพื่อดำ�เนินการติดตามตรวจสอบ ผู้ประกอบการให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป พลั ง ชาวโคกคอน “จิ ต อาสา สร้างป่า รักนํ้า” ; นางสาวอรนุช ศรี น นท์ ผู้ ต รวจราชการสำ � นั ก นายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการ ที่ 10 เป็ น ประธานเปิ ด งาน โครงการท้ อ งถิ่ น อาสาปลู ก ป่ า เฉลิมพระเกียรติ “จิตอาสา สร้าง ป่า รักนํ้า” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ิตพิ์ ระบรม ราชินนี าถ ในรัชกาลที่ 9 ณ บริเวณ พื้นที่หนองแฝก หมู่ 6 บ.โคกคอน ต.โคกคอน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย
ปีที่ 16 ฉบับที่ 171 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2561
หน้า 9
หน้า 10
ปีที่ 16 ฉบับที่ 171 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2561
เครื่องสำ�อาง THREE ยึดขอนแก่นขยายฐาน
ผลิตภัณฑ์เพือ่ ความงาม THREE ขยายฐาน ปักหมุด โรบินสันขอนแก่น เพือ่ ให้ผบู้ ริโภคในพืน้ ที่ ภาคอีสานได้เข้าถึงเครื่องสำ�อางค์ที่ผลิตจากพืช พรรณธรรมชาติ โดยเปิดบูธพร้อมให้บริการอย่าง เป็นทางการ ณ โรบินสัน ชัน้ 1 ศูนย์การค้า เซ็นทรัล พลาซ่า ขอนแก่น เมือ่ วันที่ 6 สิงหาคม 2561 เป็นต้น ไป คุ ณ ศิ ริ พ ร แผลงจั น ทึ ก ผู้ ช่ ว ยกรรมการ ผู้จัดการ บริษัทในกลุ่มเซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้ง กล่าว ว่า ปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสำ�คัญกับ ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ โดยเฉพาะการทำ�งาน อย่างสอดคล้องสมดุล ร่างกาย จิตใจ และผิวพรรณ ที่จะสามารถเชื่อมโยงถึงกัน เป็นการดึงพลังความ งามจากภายในให้กลายเป็นความสุข เปล่งประกาย สดใสเป็นพลังสร้างความมั่นใจ สู่ความสำ�เร็จ และ ยังเป็นบทพิสูจน์พลังจากธรรมชาติใน THREE ที่ สร้างสมดุลทางจิตใจ เจิดจรัสจากภายในสูภ่ ายนอก “THREE” ผลิ ต ภั ณ ฑ์ เ พื่ อ ความงามที่ มี ประสิทธิภาพ ความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร และมี อัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ในพื้นที่ภาคอีสาน ในโอกาสเฉลิมฉลองความสุข ปีท่ี 5 ในประเทศไทย กับ 5 ผลิตภัณฑ์ THREE
เคล็ดลับความงามยุคใหม่ที่ได้รับการ ตอบรับสูงสุด อาทิ เอสเซนเชี่ยลออ ยล์ ข อง THREE สกั ด จากพื ช พรรณ ธรรมชาติจากการเพาะปลูกแบบออร์ แกนิ ค ผ่ า นการรั บ รองจาก องค์ ก าร Eco Cert และ Soil Association รวมทั้ง ส่วนผสมที่เพาะปลูกด้วยกรรมวิธีแบบ ดั้งเดิมในประเทศญี่ปุ่น โดยร่วมกับสถาบันวิจัยและ มหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อศึกษาถึงคุณประโยชน์ของ เอสเซนเชี่ยล ออยล์ และส่วนผสมอื่นๆ ที่มีคุณค่าต่อ ผิวพรรณ THREE BALANCING CLEANSING OIL ส่วนผสมจากธรรมชาติ 88% คลีนซิ่งออยล์ล้างหน้า พร้อมปรับสมดุลผิว ให้ประสิทธิภาพในการทำ�ความ สะอาด ผสานส่วนผสมจาก Japanese Tea Seed Oil ปราศจากเคมี ปลอดภัย และอ่อนโยนต่อผิว สำ�หรับ Did you know? โดยปกติแล้วเรามักใช้ประโยชน์ จากใบชาเท่านั้น และทิ้งส่วนที่เป็นเมล็ด แต่ออยล์สี เหลืองอำ�พันอันเป็นเอกลักษณ์ของ THREE นำ�เมล็ด ชามาจาก มากิโนฮาร่า (Makinohara) จังหวัดชิซุโอ กะ (Shizuoka) อันเป็นแหล่งเพาะปลูกชาที่ดีที่สุดใน ประเทศญีป่ นุ่ คัดสรรเมล็ดทีม่ คี ณ ุ ภาพ นำ�ไปสกัดเย็น
อันป็นวิธที ชี่ ว่ ยคงคุณค่าของส่วนผสมได้ดที สี่ ดุ โดย ออยล์ 1 ขวดใช้เมล็ดชาในการสกัดถึง 117 เมล็ด คุ ณ ศิ ริ พ ร กล่ า วต่ อ ว่ า นอกจากนี้ ยั ง มี ผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากธรรมชาติ อีกหลายชนิด อาทิ THREE BALANCING FOAM ส่ ว นผสมจาก ธรรมชาติ 90 % ให้ฟองโฟมนุ่มละมุน, THREE ULTIMATE DIAPHANOUS LOOSE POWDER, สกินแคร์ในรูปแบบเบสเมกอัพ เพื่อความมั่นใจใน แบบฉบับที่เป็น มีทั้งหมด 4 สูตร เพื่อตอบโจทย์ ความต้องการผิวทุกแบบ พร้อมฟินิชลุคได้ตาม ความต้องการ “พิสูจน์พลังธรรมชาติ” ได้ที่บูธเครื่องสำ� อางค์ THREE โรบินสัน ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า ขอนแก่น ได้ทุกวัน ตัวแทนแห่งความงามยุคใหม่ที่ ทุกคนปรารถนา สร้างความมั่นใจในความแตกต่าง
โรงแรมพูลแมนขอนแก่นฯ ร่วมการแข่งขัน พูลแมน ขอนแก่นฯ ร่วมจัดเลี้ยง ณ อันซีนหินช้างสี ประกวดแกะสลักผักผลไม้ ประจำ�ปี2561 โรงแรมพูล แมน ขอนแก่ น ร า ช า อ อ คิ ด ร่ ว มส่ ง ที ม เข้ า ร่วมการแข่งขัน ประกวดแกะ ส ลั ก ผั ก ผ ล ไม้ - ผสานงาน ใบตอง ฯ ชิงถ้วย พระราชทานจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมกับคว้ารางวัลชนะเลิศ อันดับที่ 4 จากทีมตัวแทนทั่วประเทศที่เข้าร่วมแข่งขันถึง 29 ทีม การแข่งขันแกะสลักผักและผลไม้ฯ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 20 ในหัวข้อ “สลักเสลาผักผลไม้ไทยวิถี เฉลิมพระบารมีสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ใน รัชกาลที่ 9” ณ โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว กรุงเทพ ฟอร์จนู ในวันที่ 3 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยความร่วมมือของตัวแทนพนักงานจากทุกฝ่าย ทั้งแผนก ออกแบบ พ่อครัว แม่บ้าน ในโอกาสนี้ คุณอรวรรณ พัฒนพีระเดช กรรมการ ผูจ้ ดั การโรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด ได้รว่ มแสดงความยินดีพร้อม กับกล่าวชื่นชมซึ่งถือเป็นกำ�ลังใจให้พนักงานและผู้บริหารโรงแรมฯ ทุกคน
เ พื่ อ เ ป็ น ก า ร สนับสนุนและแนะนำ� สถานที่ท่องเที่ยว หลัง จ า ก มี ก า ร ป รั บ ป รุ ง ภู มิ ทั ศ น์ ข องจุ ด ชมวิ ว หิ น ช้ า งสี อุ ท ยานแห่ ง ชาติ นํ้ า พอง จั ง หวั ด ขอนแก่น ให้เป็นแลนด์มาร์คทางการท่องเที่ยวแห่งใหม่ สมาคมธุรกิจการท่อง เที่ยวจังหวัดขอนแก่นเจ้าภาพการจัดประชุมเดือนกรกฎาคม 2561 ของ 8 องค์กร เศรษฐกิจจังหวัดขอนแก่น ได้เชิญหัวหน้าหน่วยงาน/ตัวแทน จากภาคส่วนต่างๆ ร่วมหารือแนวทางในการขับเคลือ่ น และพัฒนาเมืองทัง้ ทางด้านเศรฐกิจและสังคม ในโอกาสนี้ทางโรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิดฯ หนึ่งในสมาชิก สมาคมฯ ได้รว่ มสนับสนุนโดยการจัดอาหารเลีย้ งรับรองผูร้ ว่ มงานประชุม ซึง่ ถือ ได้วา่ เป็นครัง้ แรกในการจัดเลีย้ ง ณ สถานทีท่ อ่ งเทีย่ วอันซีนแห่งนี้ ณ จุดชมวิวหิน ช้างสี สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเขื่อนอุบลรัตน์ที่อยู่เบื้องล่าง บนหอยคอย สูง 360 องศา หรือสามารถเดินชมวิวทัว่ บริเวณบนสะพานไม้ยาวพาดไฟตามไหล่ หน้าผา ทั้งที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกจุดหนึ่งอีกด้วยสามารถ มองเห็นวิวทิวทัศน์ของเขื่อนอุบลรัตน์ที่อยู่เบื้องล่าง บนหอยคอยสูง เดินชมวิว ทั่วบริเวณ บนสะพานไม้ไหล่หน้าผา ทั้งยังยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม อีกจุดหนึ่ง
หน้า 11
ปีที่ 16 ฉบับที่ 171 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2561
ม.ศรีปทุม-การบิน • ต่อจากหน้า 1 คณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ และพนักงานต้อนรับบน จังหวัดจะนำ�เอาอาหาร ผัก ผลไม้ วัตถุดิบที่ขึ้นชื่อ สุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พ.ศ.2560” ซึ่งเป็นก ภาวะของพระสงฆ์และนำ�ไปสูก่ ารเจ็บป่วยด้วยโรค ยุคเศรษฐกิจตกตํ่าแบบนี้” นายฉัตร กล่าว
เมือ่ วันที่ 18 สิงหาคม 2561 ทีห่ อ้ งฟ้ามุย่ โรงแรมพูล แมน ขอนแก่น ราชาออคิด ผศ.ดร.จรรยา พุคยาภ รณ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีปทุม ขอนแก่น เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วม มือ (MOU) ระหว่าง มหาวิทยาลัยศรีปทุม ขอนแก่น กับบริษัทไทย ไฟลท์ เทรนนิ่ง จำ�กัด (มหาชน) ภาย ใต้การกำ�กับของบริษทั การบินไทย จำ�กัด (มหาชน) ในโครงการพัฒนาศักยภาพและการเตรียมความ พร้อมเข้าสู่เส้นทางอาชีพนักบิน และพนักงาน ต้อนรับบนเครื่องบิน โดยมี เรืออากาศโท กัปตัน อิทธิพล เจริญสุข กรรมการผู้จัดการบริษัทไทย ไฟลท์ เทรนนิ่งฯ และ นายนนท์ฉัตร วีรานุวัตติ์ ประธานโครงการพัฒนาศักยภาพและการเตรียม ความพร้อมเข้าสู่เส้นทางอาชีพพนักงานต้อนรับ บนเครือ่ งบินและอาชีพนักบิน พร้อมคณะผูบ้ ริหาร คณาจารย์ และนักศึกษา ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี ผศ.ดร.จรรยา พุ ค ยาภรณ์ เปิ ด เผยว่ า มหาวิทยาลัยศรีปทุม ขอนแก่น เป็นมหาวิทยาลัย เอกชน ที่มีการพัฒนาด้านการเรียนการสอนและ บริ ห ารจั ด การองค์ ก รเพื่ อ ให้ เป็ น บ่ อ เกิ ด แห่ ง วิชาการ เป็นมหาวิทยาลัยที่มีความโดดเด่นด้าน วิชาการ เทคโนโลยีและความรับผิดชอบต่อสังคม นอกจากนี้ ยังเป็นทางเลือกที่จะตอบสนองความ ต้ อ งการของนั ก ศึ ก ษาและเยาวชนคนรุ่ น ใหม่ ท่ี มี ค วามใฝ่ ฝั น ในอาชี พ ธุ ร กิ จ การบิ น ม.ศรี ป ทุ ม ขอนแก่น จึงประสานความร่วมมือ และลงนามข้อ ตกลง MOU กับ บริษัท ไทยไฟลท์ เทรนนิ่ง จำ�กัด (มหาชน) จัดโครงการพัฒนาบุคลากรทีม่ คี ณ ุ ภาพใน อุตสาหกรรมการบิน การท่องเทีย่ ว และการบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการ ธุรกิจการบินในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และ ระดับนานาชาติ ปัจจุบัน อัตราการเติบโตของธุรกิจการบิน ภายในประเทศไทย และระดับนานาชาติ มีการขยาย ตัวสูงขึน้ อย่างต่อเนือ่ ง ปริมาณผูโ้ ดยสารทีใ่ ช้บริการ เครื่องบินเพื่อเดินทางเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากความ สะดวก รวดเร็ว และราคาก็ไม่สูงมาก ทำ�ให้ความ ต้องการบุคลากรบนเครื่องบินมีอัตราเพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลากรในกลุ่มนักบิน หรือพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน อีกทั้ง ยังเป็น อาชีพในดวงใจของนักศึกษาจบใหม่ และผู้ที่กำ�ลัง มองหาอาชีพทีม่ นั่ คง รายได้ดี มหาวิทยาลัยศรีปทุม ขอนแก่ น ตอบสนองความต้ อ งการของคนรุ่ น ใหม่ที่ต้องการเข้าสู่ธุรกิจการบิน โดยจัดโครงการ พัฒนาศักยภาพ และการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ เส้นทางอาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และ อาชีพนักบิน โดยเปิดอบรมที่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ขอนแก่น และทีมวิทยากรจาก ไทย ไฟลท์ เทรน นิ่ง ภายใต้การกำ�กับของ บริษัท การบินไทย จำ�กัด (มหาชน) ทั้งนี้ เพื่อลดปัญหาค่าใช้จ่ายในการเดิน ทาง และยังเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนในพืน้ ที่ ภาคอีสานเข้าถึงอาชีพบนเครือ่ งบิน โดยผูเ้ ชีย่ วชาญ จากสายการบินไทย “ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยศรีปทุม ขอนแก่น เป็ น มหาลั ย เอกชนเพี ย งแห่ ง เดี ย วในภาคตะวั น ออกเฉียงเหนือ ที่ได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท ไทย ไฟลท์ เทรนนิ่ง จำ�กัด ภายใต้การกำ�กับของ บริษัทการบินไทย จำ�กัด (มหาชน) ในการจัดทำ� หลักสูตรระดับปริญญาตรีในเรือ่ งของธุรกิจการบิน ซึ่ ง ได้ เ ปิ ด สอนหลั ก สู ต รนี้ เ ข้ า สู่ ปี ที่ 19 ดั ง นั้ น มหาวิทยาลัยศรีปทุม ขอนแก่น จึงมีความพร้อมใน ระบบการเรียนการสอนด้านนี้มาก” ผศ.ดร.จรรยา กล่าว ด้าน เรืออากาศโท กัปตันอิทธิพล เจริญสุข กรรมการผูจ้ ดั การ บริษทั ไทยไฟลท์ เทรนนิง่ จำ�กัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการพัฒนาศักยภาพและ การเตรียมความพร้อมเข้าสูเ่ ส้นทางอาชีพพนักงาน ต้อนรับบนเครื่องบินและอาชีพนักบิน นั้น มีเป้า หมายเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับอาชีพ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และความรู้เบื้อง ต้นในด้านธุรกิจการบิน เป็นการแนะนำ�แนวทาง การเตรียมตัวสมัครเข้าสูต่ �ำ แหน่งพนักงานต้อนรับ บนเครือ่ งบินอย่างถูกต้อง เพือ่ ให้ผเู้ ข้ารับการอบรม มีความพร้อม มีความมัน่ ใจในการเข้าสูเ่ ส้นทางการ เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินอย่างมืออาชีพ “โดยวิทยากร หลักสูตรอบรม ล้วนเป็น
เครือ่ งบินจากบริษทั การบินไทย ใช้ระยะเวลาอบรม ทั้งหมด 5 สัปดาห์ โดยหลักสูตรแรกที่เปิด เริ่มต้น ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ และในอนาคตอันใกล้นี้ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ขอนแก่น และ Thai Flight Training จะมี โ ครงการที่ ช่ ว ยพั ฒ นาบุ ค ลากรที่ มีคุณภาพในอุตสาหกรรมการบิน การท่องเที่ยว และการบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของ ผูป้ ระกอบการธุรกิจการบินในระดับประเทศ ระดับ ภูมิภาค และระดับนานาชาติต่อไป” เรืออากาศโท กัปตันอิทธิพล กล่าวและว่า คุ ณ สมบั ติ ข องผู้ เ ข้ า รั บ การฝึ ก อบรม โครงการเตรียมพร้อมสู่ฝันอาชีพนักบิน ไม่จำ�กัด เพศ อายุไม่เกิน 30 ปี หากเป็นชายต้องพ้นพันธะทาง ทหาร จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ไม่จ�ำ กัดสาขา หรือกำ�ลังศึกษา และจะได้ Transcript ฉบับสมบูรณ์ และใบรับรองจบเรียบร้อย มีสุขภาพ และสายตาดี และต้องตาไม่บอดสี กรณีสายตาสัน้ ต้องมีคา่ สายตา ไม่เกิน (–) 100 หรือถ้ามากกว่าต้องทำ�การแก้ไขค่า สายตา (Lasik) ให้เรียบร้อย ไม่มีประวัติอาชญากร ที่สำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติ ค่ า ใช้ จ่ า ยการอบรมตลอดโครงการ 10 สัปดาห์ รวมทัง้ สิน้ 21,000 บาท เมือ่ ได้รบั การอบรม ครบตาม ชม.ทีก่ �ำ หนด จะได้รบั ใบรับรองการอบรม จากบริษทั ไทยไฟล์ เทรนนิง่ จำ�กัด ภายใต้การกำ�กับ ดูแลโดย บริษทั การบินไทย จำ�กัด (มหาชน) ซึง่ เป็น หน่วยงานที่ได้รับการรับรองจาก สำ�นักงานการ บินพลเรือนแห่งประเทศไทย / The Civil Aviation Authority of Thailand (CAAT) ผู้ ส นใจสามารถสมั ค รและศึ ก ษาราย ละเอียดในการเข้ารับการอบรมได้ 4 ช่องทาง ได้แก่ ที่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ขอนแก่น เลขที่ 182/12 หมู่ 4 ถนนศรีจันทร์ ตำ�บลในเมือง อำ�เภอเมือง จังหวัด ขอนแก่น 40000 LINE : @airhostess Facebook : เปิดโลกการบินSPUKK เบอร์โทร : 063-7569029
หนองคายฟูด๊ เฟส
• ต่อจากหน้า 1
เมื่อวันที่ 14 ส.ค.61 ที่ห้องประชุมโรงแรม อั ศ วรรณ อ.เมื อ งหนองคาย จ.หนองคาย นาย รณชัย จิตรวิเศษ ผวจ.หนองคาย นางชลทิชา ลัด ดาวัลย์ พาณิชย์จังหวัดหนองคาย นายเสกสรร ศรีไพรวรรณ ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำ�นักงานอุดรธานี นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ รองนายก อบจ.หนองคาย นายทวนทอง เปี ย จำ�ปา ผอ.สำ�นักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองหนองคาย และนายอาทร จันทร์พิลา ประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย ร่วมแถลงข่าว การเตรียมจัดงาน เทศกาลอาหารอีสานตอนบน 1 Nongkhai Food Festival 2018 “แซบหลาย ซำ�บายดี แซบอีหลี ซำ�บายใจ” ระหว่างวันที่ 22 – 26 ส.ค.61 นี้ ณ ลานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราช สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หรือ ลานนํา้ พุพญานาค โดยมีการแสดงหุ่นละครเล็ก ชื่อชุด หนุมานจับ นางสุพรรณมัจฉา การแสดงแซบอีสาน และผู้ว่า ราชการจังหวัดหนองคาย ได้โชว์ฝมี อื การทำ�อาหาร เมี่ยงปลานิล และยำ�ปลานิล ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มีอยู่ ในท้องถิ่น ให้กับผู้ร่วมงานได้ชิมด้วย สำ�หรับการ จัดงาน Nongkhai Food Festival 2018 เทศกาล อาหารอีสานตอนบน 1 จะมีจังหวัดในภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือตอนบน 5 จังหวัด “กลุ่มสบาย ดี” ประกอบด้วย จังหวัดอุดรธานี หนองคาย เลย หนองบัวลำ�ภู และบึงกาฬ ซึ่งผู้ประกอบการร้าน อาหารแต่ละจังหวัดจะนำ�วัตถุดิบในพื้นที่ที่เป็น อัตลักษณ์ของตนมาจัดแสดงและจำ�หน่าย พร้อม กั บ แปรรู ป เป็ น เมนู อ าหารหลากหลายประเภท จำ�นวน 150 บูธ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของกลุ่ม จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 หรือ กลุ่มสบายดี นายรณชัย จิตรวิเศษ ผวจ.หนองคาย กล่าว ว่า กลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนบน 1 “กลุ่มสบาย ดี” ได้ร่วมกันคิดว่าจะกระตุ้นภาคเศรษฐกิจโดย นำ � อาหารเชื่ อ มโยงกั บ การท่ อ งเที่ ย ว และเลื อ ก จ.หนองคาย เป็นสถานที่จัดงาน จึงใช้ชื่อว่า หนอง คายฟู้ด เฟสติวัล 2018 แซบอีสาน ระหว่างวันที่ 22-26 ส.ค. 61 ณ ลานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระ เทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งแต่ละ
ของท้องถิ่นมาจัดจำ�หน่ายและแปรรูป ให้เกิดการ จับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีฝน ตกในช่วงการจัดงาน เพราะจัดภายในโดมขนาด ใหญ่ มีการแสดงบนเวทีให้ได้ความบันเทิงตลอด ช่วงการจัดงาน จังหวัดหนองคายมีความพร้อมรับ นักท่องเที่ยวแล้ว ทั้งด้านอาหาร ที่พักและสถานที่ ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่หลากหลาย ด้านนางชลธิชา ลัดดาวัลย์ พาณิชย์จังหวัด หนองคาย กล่าวว่า ในงานนี้จะมีการออกบูธ 150 บูธ แบ่งเป็นบูธอาหารสด อาหารแปรรูป พร้อม จำ�หน่าย 100 บูธ และผู้ประกอบการปรุงสดพร้อม รับประทานอีก 50 บูธ มีโต๊ะ เก้าอี้ไว้ให้บริการนั่ง รับประทาน ซึ่งทุกบูธได้คัดเลือกจาก 5 จังหวัด ที่มั่นใจได้ว่าเป็นร้านค้าหรือนำ�วัตถุดิบที่สะอาด ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย รสชาติดมี าให้บริการ คาด ว่าจะมีเงินหมุนเวียนในช่วงการจัดงานไม่ตํ่ากว่า 5 ล้านบาท ขณะที่ นายเสกสรร ศรีไพรวรรณ ผอ.ททท. เขต 4 อุดรธานี กล่าวว่า การจัดงานนีจ้ ะช่วยกระตุน้ ภาคการท่องเทีย่ วของภาคอีสาน ซึง่ ในช่วงหน้าฝน เป็นช่วงทีภ่ าคอีสานเขียวชอุม่ และอุดมสมบูรณ์ นัก ท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสดชื่นและรับ ประทานอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ผสมผสานกับรูป แบบอาหารทันสมัยแบบตะวันตก เป็นความหลาก หลายทางวัฒนธรรมด้านอาหารที่พร้อมให้ทุกคน ได้มาสัมผัสและท่องเที่ยวที่จังหวัดหนองคาย นายวรากร เจียรเสริมสิน นายกสมาคม ส่ ง เสริ ม ธุ ร กิ จ การท่ อ งเที่ ย วจั ง หวั ด หนองคาย/ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีจังหวัดหนองคาย เปิด เผยว่า เทศกาลอาหารอีสานตอนบน 1 Nongkhai Food Festival 2018 “แซบหลาย ซำ�บายดี แซบ อีหลี ซำ�บายใจ” เป็นการจัดงานแสดงและจำ�หน่าย สินค้าประเภทอาหารกิจกรรมการประกวดการ ประกอบอาหาร การจับสลากลุ้นรางวัลสำ�หรับผู้ ร่วมงาน โดยสินค้าภายในงานได้เน้นในกลุม่ อาหาร ทั้งอาหารแปรรูป อาหารสำ�เร็จรูป อาหารปรุง สดพร้อมรับประทาน ผลิตภัณฑ์แปรรูปผลผลิต ทางการเกษตร เพือ่ เป็นการประชาสัมพันธ์วฒ ั นธรรมด้าน อาหารที่มีเอกลักษณ์ ตามภูมิปัญญาท้องถิ่นของ กลุ่มชนวัฒนธรรมลุ่มนํ้าโขง ให้เป็นที่รู้จักอย่าง แพร่หลาย สร้างโอกาสทางการค้า ในการเพิ่มและ ขยายช่องทางการตลาดสินค้าด้านอาหาร พืชผล ทางการเกษตร สินค้าประมง ปศุสัตว์ แบบครบ วงจร รวมทั้งธุรกิจที่ให้บริการด้านอาหาร และ เพือ่ ช่วยกระตุน้ เศรษฐกิจในพืน้ ที่ ส่งเสริมการท่อง เที่ยวในจังหวัดหนองคายและกลุ่มจังหวัดอีกทาง หนึ่งด้วย
เวทีสงฆ์ไทย
• ต่อจากหน้า 1
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2561 หน่วยงาน ภาคี ขั บ เคลื่ อ นธรรมนู ญ สุ ข ภาพพระสงฆ์ แ ห่ ง ชาติ ทั้ ง ฝ่ า ยสงฆ์ แ ละฆราวาส ร่ ว มกั น จั ด เวที “เปิดตัวการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ แห่งชาติสู่พื้นที่” ณ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราช วิทยาลัย (มจร.) วิทยาเขตขอนแก่น ต.โคกสี อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รอง นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการสุขภาพ แห่งชาติ เป็นประธานเปิดเวทีเสวนา ซึง่ จะเป็นการ นำ�เสนอสถานการณ์ด้านสุขภาพพระสงฆ์ ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นอันดับแรก ผู้เข้าร่วมเปิดตัวการขับเคลื่อน อาทิ พระ พรหมวชิรญาณ (ปสฤทธ์ เขมงฺกโร) ประธาน กรรมการฝ่ายสงฆ์ นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา ประธานกรรมการฝ่ายฆราวาส ของคณะกรรมการ ขั บ เคลื่ อ นธรรมนู ญ สุ ข ภาพพระสงฆ์ แ ห่ ง ชาติ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวง สาธารณสุข นพ.พลเดช ปิ่นประทีป เลขาธิการ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์ วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ นายสมศักดิ์ จัง ตระกุ ล ผวจ.ขอนแก่ น และหน่ ว ยงานภาคี ขั บ เคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ ทั้งฝ่าย สงฆ์และฆราวาส พล.อ.ฉัตรชัย สาริกลั ยะ เปิดเผยว่า รัฐบาล ให้ความสำ�คัญกับการดูแลสุขภาพพระสงฆ์เป็น อย่างมาก โดยเร่งรัดการขับเคลื่อน “ธรรมนูญ
รอบและแนวทางสร้างสุขภาวะให้กับพระสงฆ์ ทั่วประเทศกว่า 3 แสนรูปในทุกด้าน เพื่อฟื้นคืน บทบาทสถาบันทางศาสนาให้เป็นเสาหลักในการ ดูแลสุขภาพพระสงฆ์ดว้ ยกันเอง ประชาชน ชุมชน และสังคมไทย ได้ ม อบนโยบายให้ สำ � นั ก งานคณะ กรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) เป็นแกนประสาน นำ�นโยบายของหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้องมาร่วมกันขับ เคลื่อนธรรมนูญพระสงฆ์สู่การปฏิบัติให้เห็นผล เป็นรูปธรรม โดยให้นำ�โครงการสำ�คัญ ได้แก่ “วัด โรงพยาบาล/รพ.สต.” ซึ่งเป็นการจับคู่การดูแล สุขภาพพระสงฆ์กับสถานบริการสุขภาพ อย่าง น้อยโรงพยาบาล/รพ.สต.ละหนึ่งวัด ที่กระทรวง สาธารณสุขเริ่มดำ�เนินการแล้วตั้งแต่วันวิสาขบูชา ที่ผ่านมา และโครงการขับเคลื่อนชุมชนคุณธรรม พลัง บวร (บ้าน วัด โรงเรียน) ที่กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้รับนโยบายของรัฐบาล โดยกำ�หนดให้วัด/ศาสนสถาน บ้าน (ชุมชน) และ โรงเรียน พลังประชารัฐ เป็นกลไกขับเคลื่อนการ ดำ�เนินงานจากการมีส่วนร่วม ความเสียสละของ คนในชุมชน และการบูรณาการความร่วมมือจาก ภาคส่วนต่างๆ ในพื้นที่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า วันนีไ้ ด้มอบ ให้หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียง เหนือ เร่งนำ�ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ ฉบับแรกไปขับเคลื่อนให้เกิดรูปธรรมความสำ�เร็จ โดยมุ่งขยายสู่ทั่วประเทศ เริ่มจากเป้าหมายการขับ เคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงห์แห่งชาติสู่พื้นที่ ในระยะสั้น 2 เดือนนี้ คือ ภายในเดือนกันยายน 2561 เราจะมีวัดต้นแบบ 1 วัด 1 รพ./รพ.สต. ที่ ดำ�เนินการให้ได้ผลรูปธรรม 20 วัดโดยเริม่ จากพืน้ ที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือนี้ก่อน จากนั้นเป้าหมาย ระยะสั้น 5 เดือน คือถึงธันวาคม 2561 จะเริ่มขยาย ไปในภาคอื่นๆ โดยจะเพิ่มวัดต้นแบบ 1 วัด 1 รพ./ รพ.สต. ให้ได้อย่างน้อย 50 วัด และปี 2562 ตั้งเป้า หมายขยายผลให้ได้วัดต้นแบบทั่วประเทศไม่น้อย กว่า 5,000 วัด ซึ่งต้องอาศัยความเมตตาของคณะ สงฆ์ในการมอบหมายงานผ่านกลไกปกครองสงฆ์ ทุกระดับด้วย พระเทพวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครพนม ในฐานะบทบาทและการมีส่วนร่วมของคณะสงฆ์ ต่อการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ และ รูปธรรมการดำ�เนินงานในพื้นที่ หนตะวันออก กล่าวว่า ขณะนี้มีโครงการขับเคลื่อนสงฆ์ไทยไกล โรค เพื่อการดูแลโภชนาการพระสงฆ์ในระดับ ประเทศ “บาตรไทย ไกลโรค 4.0” เพราะที่ผ่านมา ชาวพุทธทำ�อะไรไปถวายก็ต้องฉันท์ พร้อมบังคับ ให้ฉนั ท์ให้หน่อยนะ พระสงฆ์จ�ำ เป็นต้องฉันท์ พระ สงฆ์ยุคนี้ต้องขอให้แยกแยะด้วย ฉันท์อาหารให้ เป็นประโยชน์กบั สุขภาพตัวเอง พร้อมกับบอกโยม โดยตรงฉันท์เข้าไปเป็นอันตรายกับสุขภาพตัวเอง ขอละเว้นไม่ฉันท์ ปัจจุบันกรมอนามัย กระทรวง สาธารณสุข ได้เข้ามาดูแลพระสงฆ์ พร้อมกับให้ ความรูก้ บั พระสงฆ์ทวั่ ประเทศ โดยภาคตะวันออก เฉียงเหนือเป็นจังหวัดแรก ที่ต้องเข้าร่วมโครงการ ขับเคลื่อนสงฆ์ไทยไกลโรค เพื่อการดูแลพระสงฆ์ ในระดับประเทศไทย “บาตรไทย ไกลโรค” โดย เฉพาะชุมชนที่อยู่รอบวัดต้องช่วยกันดูแลสุขภาพ พระสงฆ์ในเรื่องการถวายอาหารให้กับพระสงฆ์ ฉันท์ ซึ่งเป็นอาหารใส่บาตรสุขภาพ ต้องเสริมข้าว กล้อง เสริมผัก เสริมปลา เสริมนม ลดเค็ม ลดมัน “สมัยนี้จะพบพระสงฆ์อาพาธด้วยโรคไขมันใน เลือดสูง โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากพระสงฆ์จะฉันอาหารที่ได้รับจากการ บิณฑบาตหรือมีผู้ทำ�บุญถวาย ให้พออิ่มโดยไม่ เลือกและไม่ติดรสชาติอาหาร เพื่อให้ร่างกายมี พลังงานดำ�รงชีวิตและปฏิบัติศาสนกิจประจำ�วัน เท่านัน้ ด้วยเหตุนจี้ งึ ทำ�ให้มพี ระสงฆ์จ�ำ นวนไม่นอ้ ย อาพาธด้วยโรคทีเ่ กีย่ วข้องกับภาวะโภชนาการ เช่น โรคหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันสูง เกาต์ ไตวาย เป็นต้น โดยพบว่าอาหารที่ พุทธศาสนิกชนนำ�ไปทำ�บุญถวายพระสงฆ์ มักเป็น อาหาร ทีม่ ไี ขมันสูง เช่น แกงกะทิ ขนมหวานต่างๆ นอกจากนี้ พระสงฆ์บางรูปสูบบุหรี่ ดื่มกาแฟ ดื่ม เครื่องดื่มชูก�ำ ลังเกิน 2 ขวดต่อวัน และฉันอาหาร ที่ปรุงไม่ถูกสุขลักษณะ จึงทำ�ให้กระทบต่อ สุข
เรือ้ รังต่างๆ จึงต้องเชือ่ คำ�แนะนำ�ของทางการ และ ฉันท์อาหารห้ามเอาไว้ พร้อมบอกญาติโยมถวาย อาหารทีเ่ ป็นประโยชน์กบั ร่างกายพระสงฆ์เท่านัน้ ” พระเทพวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครพนม กล่าว
ธุรกิจเสื้อผ้า
• ต่อจากหน้า 1
นายฉัตร ศรีพันธุ์ ผู้บริหารร้านจำ�หน่าย เสื้อผ้า ตุ๋ย-ต้อย ตลาดประตูนํ้าขอนแก่น กล่าว ว่า บรรยากาศการขายเสื้อผ้าปัจจุบันยังไม่กลับ มาฟื้ น ตั ว มากนั ก ถึ ง แม้ ว่ า รั ฐ บาลจะมี ก ารกระ ตุ้นให้ประชาชนหันมาใส่เสื้อสีเหลืองตลอดช่วง เดือนกรกฎาคมที่ผ่าน และให้ใส่เสื้อสีฟ้าในเดือน สิ ง หาคม เพื่ อ เป็ น การร่ ว มเฉลิ ม ฉลองเนื่ อ งใน โอกาสมหามงคลวั น เฉลิ ม พระชนมพรรษา 66 พรรษา ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 และวันแม่แห่ง ชาติ แต่ทั้งนี้ บรรยากาศตลอดช่วงเดือนกรกฎาคม และต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ประชาชนพากัน ออกมาหาซือ้ เสือ้ สีเหลืองและสีฟา้ บ้าง แต่ไม่คกึ คัก มากนัก ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีประชาชนมา เดินตลาดประตูนาํ้ หนาแน่นสักหน่อย หากเป็นช่วง วันปกติ แทบไม่มีลูกค้าเดินตลาด และร้านค้าบาง ร้าน บางวัน ไม่ได้เปิดบิลขายสินค้าเลยก็มี ในปีนี้ พ่อค้า-แม่ค้าได้เตรียมเสื้อเหลืองมา จำ�หน่ายหลากหลายแบบ ราคาเริ่มตั้งแต่ตัวละ 80 -450 บาท ขึ้นอยู่ที่แบบเสื้อ เนื้อผ้า และการดีไซน์ ถือว่าราคาไม่สูงมากนัก โดยรวมตลาดเสื้อผ้าใน ขอนแก่ น ที่ พ อจะคึ ก คั ก มากหน่ อ ย จะเป็ น ช่ ว ง ของกระแสการแต่งกายด้วยชุดไทย จากภาพยนตร์ เรื่องบุพเพสันนิวาส โดยมีประชาชนที่ให้ความ สนใจหาซื้อชุดไทยแทบทุกแบบ ทั้งของเด็กและ ผู้ใหญ่ ซึ่งทำ�ให้ตลาดเสื้อผ้าเฟื่องฟูมาก เมื่อละคร จบ กระแสการแต่งกายชุดไทยก็จางหายไป และ กลับมาซบเซาเหมือนเดิม มองว่า หากไม่มีการกระ ตุ้นให้ประชาชนหันมาใส่เสื้อสีเหลืองและสีฟ้า ใน ช่วงทีผ่ า่ นมา อาจทำ�ให้ตลาดเสือ้ ผ้าดิง่ ตํา่ ลงมากขึน้ ก็เป็นได้ นายฉั ต ร กล่ า วต่ อ ว่ า ในส่ ว นของร้ า น จำ�หน่ายเสื้อผ้า ตุ๋ย-ต้อย ซึ่งเปิดให้บริการมานาน กว่า 20 ปี โดยจำ�หน่ายทั้งปลีกและส่ง มีลูกค้า ขาประจำ�ที่มารับเพื่อนำ�ไปจำ�หน่ายแบบเปิดท้าย ตามหมู่บ้าน หรือชุมชนต่างๆ ทำ�ให้พอรับมือกับ สถานการณ์ชะลอตัวของตลาดเสื้อผ้าได้บ้าง ไม่ ส่ ง ผลกระทบมากนั ก แต่ อ ย่ า งไรก็ ต าม มองว่ า ปัจจุบัน พื้นที่ค้าขายโดยเฉพาะพื้นที่เปิดตลาดใหม่ ในขอนแก่นเยอะมาก พ่อค้า-แม่ค้ามักแสวงหาพื้น ที่ใหม่ๆ เพื่อลองตลาด รวมถึงการเปิดขายเสื้อผ้า บนโซเชียลออนไลน์ ทำ�ให้เกิดการแชร์ตลาด ส่ง ผลกระทบต่อธุรกิจ SMEs ซึ่งผู้ประกอบการต้อง ลงทุนเปิดเช่าหน้าร้าน มีต้นทุนสูงกว่า ล้วนเป็น ปัจจัยทำ�ให้ลูกค้าลดลงไปตามสัดส่วน แต่ขึ้นอยู่ที่ การปรับตัวของผู้ประกอบการด้วยเช่นกัน เพราะ พฤติกรรมการบริโภคของลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลง ไปจากเดิมมาก ทำ�ให้ธุรกิจเกือบทุกประเภทที่เปิด ค้าขายหน้าร้านมียอดจำ�หน่ายลดลง คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดซื้อขายออนไลน์ ก็ ส่งผลกระทบอย่างมาก ไม่ต้องเสียเวลา อยู่ที่บ้าน หรือที่ทำ�งานก็สามารถสั่งซื้อได้ตามต้องการ ที่ สำ�คัญธุรกิจประเภทนี้ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล ประกอบกับขั้นตอนการเริ่มต้นธุรกิจก็ไม่ยุ่งยาก เหมื อ นในอดี ต ส่ ง ผลให้ มี ผู้ ป ระกอบการหน้ า ใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นก้าวเข้ามาทำ�ธุรกิจนี้ มากขึ้น ที่เห็นชัดเจนคือตลาดในกลุ่มแฟชั่นและ เครื่องแต่งกาย ตอบสนองพฤติกรรมการใช้งาน อินเทอร์เน็ตของคนไทยมีแนวโน้มสูงขึน้ เรือ่ ยๆ ไม่ ว่าจะเพื่อการค้นหาข้อมูล ดาวน์โหลดแอพฯ เล่น เกม หรือทำ�ธุรกรรมในด้านต่างๆ และทีอ่ ยูใ่ นความ สนใจของหลายๆ คนในยุคนีก้ ค็ งหนีไม่พน้ เรือ่ งการ ‘ซื้อขายสินค้าออนไลน์’ นั่นเอง “นอกจากนี้ สาเหตุการชะลอตัวของตลาด เสื้อผ้า ยังมีปัจจัยธุรกิจเสื้อผ้ามือสอง ที่ได้รับความ นิ ย มมากในยุ ค เศรษฐกิ จ ชะลอตั ว ทำ � ให้ ค วาม ต้องการเสื้อผ้ามือสองเติบโตขึ้นตามไปด้วย โดย เฉพาะเสือ้ มือสองแบรนด์เนม ทีม่ สี ภาพเหมือนใหม่ แม้ผ่านการใช้งานมาแล้วก็ตามซึ่งเป็นอีกทางเลือก หนึง่ ในการเลือกซือ้ สินค้าราคาถูก แต่มคี ณ ุ ภาพดีใน
ด้าน นางสุภาพร ทิมดี พนักงานบริษัทเอกชนแห่ง หนึ่ง กล่าวว่า มาเดินเลือกซื้อเสื้อสีเหลือง และสี ฟ้าอย่างละหนึ่งตัว โดยกำ�หนดราคาไว้ในใจแล้ว ว่าเสื้อ 2 ตัว ราคาจะต้องไม่เกิน 350-380 บาท เพื่อ ใช้ในโอกาสสำ�คัญที่ต้องการรวมกลุ่มทำ�กิจกรรม ของบริษัท โดยใช้สลับกับเสื้อสีเหลืองเดิมที่มีอยู่ แล้ว ปัจจุบัน ต้องระวังเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะได้รับ เงินวันเดียว แต่จา่ ยทุกวัน หากไม่จ�ำ กัดจะทำ�ให้เงิน ใช้ไม่เพียงพอในแต่ละเดือน อะไรทีไ่ ม่ส�ำ คัญจะเลิก ซื้อ และเลิกเดินห้าง เลิกเดินตลาดไปเลย เพื่อหลีก เลี่ยงการจ่ายเงิน โดยเฉพาะเสื้อผ้า จะใช้ของเดิมที่ มีอยู่แล้วเท่านั้น
ฟูจิฟิล์ม
• ต่อจากหน้า 1
นายสิทธิเวช เศวตพัชร์ ผูจ้ ดั การอาวุโสฝ่าย การตลาด บริษัทฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำ�กัด ได้ เปิดเผยที่จังหวัดอุดรธานี ในโอกาสเดินทางร่วม เปิด”ฟูจิฟิล์ม โฟโต้ สเตชั่น” FUJI FILM PHOTO DTATION” แห่งที่ 5 ของประเทศ และแห่งแรก ของจังหวัดอุดรธานี ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนศรีสุข เขต เทศบาลนครอุดรธานี ตรงข้ามกับสถานีตำ�รวจ ภูธรอำ�เภอเมืองอุดรธานี ว่า FPS: หรือ FUJIFILM PHOTO STATION เป็ น รู ป แบบใหม่ ข องกา รถ่ า ยภาพครบวงจร เป็ น แห่ ง แรกของจั ง หวั ด อุดรธานี และแห่งที่ 5 ของประเทศไทย ซึ่งก่อน หน้านี้นั้นได้มีการเปิดศูนย์ FPS ไปแล้ว เช่นที่ จังหวัดนครสวรรค์ แพร่ และขอนแก่น จะมีการ เปิดที่จังหวัดลำ�ปาง มหาสารคาม และ ฯลฯ โดย ถึงเดือนธันวาคมนี้ จะมีทั้งหมดประมาณ 10 แห่ง ซึ่ ง เป็ น นโยบายภายใต้ ส โลแกนที่ ว่ า นวั ต กรรม อันทรงคุณค่าหรือ Value From Innovation เพื่อ มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมสู่สากลอ ย่างต่อเนื่องจากรูปแบบการถ่ายรูปแบบเดิมๆ สู่ ระบบดิจิตอลครบวงจร ที่มีความเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ถือว่าเป็นก้าวใหม่ที่ย่ิงใหญ่ สำ�หรับ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำ�กัด เป็นการตอบ โจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและเทคโนโลยี ยุคสมัยใหม่ บริษทั ฟูจฟิ ลิ ม์ (ประเทศไทย) จำ�กัด มีเป้าที่ ชัดเจนในการเปลีย่ นแปลงปรับปรุงธุรกิจแบบใหม่ คาดหวังว่าการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการถ่าย รูปแบบใหม่ครบวงจรครัง้ นี ้ พร้อมการสร้างมูลค่า เพิ่มแก่วงการธุรกิจ เป็นการเปิดวงการถ่ายภาพใน รูปแบบใหม่ และเป็นทางเลือกสำ�หรับผู้บริโภค รุ่ น ใหม่ ม ากยิ่ ง ขึ้ น ตามปรั ช ญาของบริ ษั ท ฟู จิ ฟิล์ม (ประเทศไทย) จำ�กัด คือ การสร้างนวัตกรรม พัฒนาวัฒนธรรมการถ่ายภาพดิจิตอลพริ้นท์ติ้ง หรือ Culture of Photography นายสิทธิเวชฯ กล่าวอีกว่า ในปัจจุบันนี้ พฤติกรรมของการถ่ายภาพ และเทคโนโลยีการ ถ่ายภาพโดยทั่วไป มีความพัฒนาและเปลี่ยนไป อย่างรวดเร็ว การแข่งขันที่ผ่านมาค่อนข้างรุนแรง นโยบายของบริษัทแม่ในต่างประเทศ มีนโยบายที่ ต้องการพัฒนาเปลี่ยนแปลงร้านถ่ายรูปแบบเดิม ให้เกิดความทันสมัยและบริการอย่างรวดเร็วตาม ยุคสมัย มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้คน รุ่นใหม่ๆเข้ามาใช้บริการได้มากขึ้น เริ่ ม ต้ น ด้ ว ยการตกแต่ ง เปลี่ ย นแปลง ปรั บ ปรุ ง ร้ า นถ่ า ยรู ป เดิ ม ๆ ให้ เ กิ ด การสวยงาม มี ก ารบริ ก ารที่ ห ลากหลายขึ้ น มี มุ ม พั ก ผ่ อ น ไลฟ์ ส ไตล์ ปลอดโปร่ ง เห็ น การบริ ก ารภายใน ร้ า นได้ พิ เ ศษสุ ด คื อ ลู ก ค้ า สามารถปฏิ บั ติ การพริ้ น ท์ รู ป ได้ ด้ ว ยตนเอง หรื อ การทำ � DIY โดยการแนะนำ�ของพนักงานในร้าน สำ�หรับเป้าหมายการขยายธุรกิจ FPS ทาง บริ ษั ท มี เ ป้ า หมายที่ จ ะทำ � การขยายไปใน จั ง หวั ด ต่ า งๆทั่ ว ประเทศ แต่ ด้ ว ยข้ อ จำ � กั ด ของ กระบวนการ ที่ จ ะทำ � การปรั บ ปรุ ง ได้ เ พี ย งละ1 ร้าน/เดือน จะสามารถเปิดบริการได้ 10 แห่ง ถึง เดือนธันวาคม และในปีหน้าจะเพิ่มทีมงานเพื่อให้ อ่านต่อหน้า 2
สนใจพื้นที่โฆษณา ติดต่อ คุณสุพัตรา thaisaeree@gmail.com thaisaeree@yahoo.com
หน้า 12
ปีที่ 16 ฉบับที่ 171 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2561
ที่ปรึกษา นายบุญยง แก้วฝ่ายนอก, พล.ต.อ.ศักดา เตชะเกรียงไกร,ธนพงษ์ คงศิลป์ทรัพย์, รศ.ดร.ธีระ ฤทธิรอด, ดร.อาทิตย์ ฉัตรชัยพลรัตน์, ฉัตร ศรีพันธุ์, สิทธิโชค บุญโท, พ.อ.สมศักดิ์ สงทามะดัน, พีระ วีระชัย, ยงยุทธ ขาวโกมล เจ้าของ/บรรณาธิการบริหาร พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ บรรณาธิการ/ผู้พิมพ์และผู้โฆษณา สุพัตรา ศุขโข กองบรรณาธิการ อนุสรณ์ ศุขโข ,เพ็ญศิริ นาคทน,มณฑล ศุขโข,รณชิต ชาญเจริญ,นาฏยาภรณ์ ชาญเจริญ,
ประคอง หนู ร าช,พั น ธ์ ศั ก ดิ์ วี ร ะชั ย ,เสริ ม ศั ก ดิ์ ขาวโกมล สำ�นั ก งาน 76 ม.20 ถ.กสิ ก รทุ่ ง สร้ า ง ต.ศิ ล า อ.เมื อ ง จ.ขอนแก่ น 40000 โทรศั พ ท์ 08-9422-0228 โทรสาร 0-4324-4584 E-mail : Thaisaeree@gmail.com, Thaisaeree@yahoo.com ศูนย์อุดรธานี 152/3 ถ.อุดรดุษฏี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 โทรศัพท์ 08-6864-0678 โทรสาร 0-4224-7905 E-mail: ps_veerachai@hotmail.com ศูนย์หนองคาย ภัทรวินทร์ ลีปาน 92 หมู่ 1 ต.บ้าน ่ รึกษากฎหมาย สังคม พุทธา สำ�นักงานทนายความประสพสุขธุรกิจและกฎหมาย ออกแบบ/กราฟฟิค เอือ้ ดีไซน์ 08-1262-3959 ว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย 43110 โทรศัพท์ 087-8627979 E-mail : pattarawin2519@hotmail.co.th ทีป