อร่อยเหาะ
อาหารร้าน “ครัวสุโข” ของโครงการเกษตรอินทรียสนามบินสุโขทัย เปนรายการอาหารแบบโฮมเมด ใช้วัตถุดิบที่ผลิตได้ในโครงการฯ จึงเปนอาหารปลอดสารที่มีคุณค่าและรสชาติอร่อย
เปนชาวนาที่สนามบินสุโขทัย Text and Photography by Piyalak Nakayodhin
ภาพ
ที่มองลงมาขณะเครื่องบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สก�าลังลด ระดับลงสู่ท่าอากาศยานสุโขทัย คือความเขียวชอุ่มของท้องทุ่งนา ครั้นเมื่อลงจาก เครื่องบินมายังอาณาบริเวณของสนามบินฯ ฝูงควาย ยีราฟ ม้าลาย ที่เราเห็นในฟาร์ม เลี้ยงสัตว์ชวนให้คิดว่าที่แห่งนี้เป็นมากกว่าสนามบินเพื่อการสัญจร ความที่ยังมีพื้นที่โล่งอีกมากรายรอบสนามบินสุโขทัย ผนวกกับเจตนารมณ์ของ นายแพทย์ปราเสริฐและคุณวัลลีย์ ปราสาททองโอสถ ที่ตั้งใจสร้างประโยชน์กลับคืนสู่ สังคม จึงพลิกฟื้นทุ่งโล่งให้เป็นพื้นที่เกษตรกรรม โดยเริ่มทดลองท�านาแบบไม่พึ่งสารเคมี ในพื้นที่ 3 ไร่ เมื่อปี พ.ศ.2542 ขยับขยายเป็นแปลงนามากกว่า 200 ไร่ในอีก 6 ปีต่อมา ครั้นปี พ.ศ. 2549 จึงเข้าสู่ระบบเกษตรกรรมอินทรีย์เต็มรูปแบบภายใต้ชื่อ “โครงการ เกษตรอินทรีย์สนามบินสุโขทัย” โดยมีคุณศุทธาวดี เจริญรัถ เป็นผู้จัดการโครงการฯ และอาจารย์สมเดช อิ่มมาก เป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวพร้อมกับทีมงานซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ ชาวไร่ชาวนาที่มาร่วมกันปลูกข้าวแบบไม่ใช้สารเคมี ลองผิดลองถูกกันจนถึงวันนี้พื้นที่กว่า 400 ไร่มีทั้งนาข้าว แปลงผักสวนผลไม้ สร้างผลผลิตอินทรีย์ที่มากพอจ�าหน่ายให้คนทั่วไป ไม่ใช่แค่ครัวสายการบินกรุงเทพและพนักงานบริษัทในเครือเช่นเมื่อแรกเริ่ม ทั้งยังเปิดให้ ผู้สนใจได้เข้าชมโครงการเกษตรอินทรีย์สนามบินสุโขทัยเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตเกษตรอินทรีย์ และได้ลองเป็น “ชาวนา” ดูสักครั้ง
108 COMPASS
การท่องเที่ยวเชิงเกษตรอินทรีย์ของโครงการฯ แบบระยะสั้นคือทัวร์ครึ่งวัน พร้อมอาหารกลางวัน โดยมีเสื้อกางเกงม่อฮ่อมให้แปลงร่างเป็นชาวนา ดู นิทรรศการความรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์เป็นการปูพรม จากนั้นนั่งรถอีแตนพาชม แปลงนา แปลงเพาะพันธุ์ เปิดโอกาสให้ขึ้นขี่ควาย ทดลองถอนกล้า ด�านา ชมโรงสี ไปเล้าเป็ดเก็บไข่เป็ด แปลงผักออร์แกนิก สวนผสมที่ปลูกผลไม้หลายชนิด เช่น มะละกอ กล้วย มะม่วงพันธุ์มหาชนก (อร่อยมาก) เที่ยวชมเสร็จก็มารับประทาน อาหารที่ให้บรรยากาศและรสชาติโฮมเมด รายการอาหารตามแต่ผลผลิตที่มีในวัน นั้นๆ เช่น สลัดผักออร์แกนิก ไข่เจียวผักโขม ไข่ต้มยางมะตูม น�้าพริกลงเรือไข่เค็ม ส้มต�าผักน�้า ขนมหวานไทยตามฤดูกาล (เช่น มะยงชิดลอยแก้ว กระท้อนลอยแก้ว) และยังสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อินทรีย์ และอินทรีย์แปรรูปของโครงการฯ ได้ อาทิ “ข้าวหอมสุโข” ข้าวอินทรีย์ระดับพรีเมียม ข้าวกล้องหอมด�า ข้าวกล้อง หอมแดง ข้าวซ้อมมือสีชมพู ผัก ผลไม้ ไข่เป็ด น�้าใบข้าว (สกัดจากใบข้าวอ่อน) น�้ามะม่วงมหาชนก ทั้งนี้ รายการน�าชมก็แล้วแต่เวลา และความสนใจของผู้เข้าชม ซึ่งสามารถเดินชมด้วยตนเองได้ หากต้องการผู้บรรยายพึงติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า หรือใครมีเวลามากหน่อยจะค้างสักคืนสองคืนก็ได้ มีที่พักแบบโรงแรม (โรงแรม สุโขทัย-Sukhothai Heritage Resort) และแบบโฮมสเตย์ให้บริการ เพราะรายการ น�าเที่ยวที่นี่เป็นแบบสบายๆ จัดสรรกิจกรรมได้อย่างยืดหยุ่น
ผู้เขียนจึงขอไปนอนโฮมสเตย์ที่ไร่อิ่มเอมซึ่งเป็นกลุ่มบ้านพักของทีมงานใน โครงการฯ ไปขอกินข้าวกับพี่ๆ น้องๆ ในครัวยืมจักรยานไปขี่รอบๆ โครงการฯ ขี่ฉิวไปถึง อาคารผู้โดยสารสนามบินสุโขทัย ซึ่งใกล้ๆ กันเป็นเหมือนสวนสัตว์ขนาดย่อมให้ชม ม้าลาย ยีราฟ หงส์ขาว กวางดาว ละมั่งฯลฯ มีพิพิธภัณฑ์จีน พิพิธภัณฑ์สุโขทัย หอพระพุทธ โรงทอผ้า ไปขอความรู้จากป้าๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ท�างานกับโครงการฯ ถึงวิธีการ คัดเลือกเมล็ดข้าว การสีข้าวการท�าปุยหมัก มูลไส้เดือน กลเม็ดในการเกษตรอย่างการ ปล่อยกองทัพเป็ดนาลงในช่วงที่ข้าวยังไม่ออกรวงเพื่อก�าจัดหอยเชอรี่ ศัตรูตัวฉกาจของ ต้นข้าว การแปรรูปสิ่งเหลือใช้ทางการเกษตรทั้งแกลบ มูลเป็ด มูลวัวควาย ร�าข้าว หอยเชอรี่ เป็นปุยอินทรีย์และน�้าหมักชีวภาพ เป็นการฟื้นฟูธาตุอาหารในดินและบ�ารุง ผลผลิตให้งอกงาม ที่ส�าคัญคือผู้เขียนได้ตามติดอาจารย์สมเดช นักปรับปรุงพันธุ์ข้าวที่ มีประสบการณ์หลายสิบปี ผู้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการศึกษาวิจัยเพื่อคัดเลือกและ พัฒนาข้าวสายพันธุ์ต่างๆ ที่ปลูกในโครงการฯ แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการวิจัยพันธุ์ข้าวจะมี มูลค่าหนึ่งในสาม แต่ทางโครงการฯ ก็เล็งเห็นถึงความส�าคัญในองค์ความรู้เพื่อพัฒนา ผลิตผลให้ได้คุณภาพและคุณประโยชน์ หน่วยนาข้าวของโครงการฯ จึงเริ่มตั้งแต่ขั้นต้น ในการเตรียมแปลงนา คัดเลือกพันธุ์ข้าว ตกกล้า ปกด�า ปกป้องข้าวจากศัตรูพืชและโรค พืช หมักปุยอินทรีย์ บ�ารุงดินในแปลงนา เก็บเกี่ยวข้าวขึ้นยุ้ง โดยมีหน่วยวิจัยและ พัฒนาพันธุ์ข้าวของอาจารย์สมเดชคอยสนับสนุนภายในโรงเรือนกางมุ้งคือที่เพาะพันธุ์ และปรับปรุงสายพันธุ์ข้าวด้วยการปลูกลงกระถาง คอยเก็บข้อมูล ดูการเจริญเติบโต จากการผสมพันธุ์ข้าวที่อาศัยการเก็บเกสรตัวผู้จากต้นข้าวพันธุ์ที่ต้องการมาใส่ใน กระเปาะเกสรตัวเมียของดอกข้าวแล้วใช้พลาสติกคลุมไว้เพื่อป้องกันเกสรตัวผู้ตัวอื่น ลอยมาติด ซึ่งอาจท�าให้เกิดการผสมพันธุ์กันเองหรือกลายพันธุ์ท�าให้ไม่ได้ผลลัพธ์ที่ ต้องการ ได้ทดลองน�าเกสรตัวผู้ที่ฟุ้งกระจายแล้วคีบใส่ทีละดอกๆ พบว่าต้องใช้สมาธิ ความนิ่ง และความตั้งใจมาก ท�าแล้วก็ยังไม่เห็นผลต้องใช้เวลาและคอยดูการเติบโต อย่างอดทน ครั้นเดินไปแปลงทดลองข้าวสาลี พันธุ์สะเมิง 60 ซึ่งออกรวงให้เก็บเกี่ยวได้ แล้ว จึงได้ลองฝดข้าวตามที่อาจารย์สมเดชท�าให้ดู การฝดข้าวคือการแยกเมล็ดข้าว และเปลือกข้าวออกจากกัน อาจใช้การต�าในครกเพื่อกะเทาะเปลือกข้าวออก แต่เราใช้ วิธีกะเทาะมือด้วยการก�าและถูรวงข้าวสาลีไปมาจนเมล็ดและเปลือกข้าวแยกตัวอยู่ใน กระด้ง แล้วค่อยฝด (กระดกกระด้งขึ้นๆ ลงๆ) เปลือกข้าวออก นัยว่าเปลือกข้าว (แกลบ) ซึ่งเบากว่าเมล็ดข้าวจะปลิวตกออกจากกระด้งที่เราฝดถูมือกับข้าวสาลีจนมือชา ฝด กระด้งจนหัวเกือบหมุน สงสัยว่าไอ้ที่ท�าๆ ไป เมล็ดข้าวสาลีคงตกไปพร้อมกับแกลบจน เหลือข้าวอยู่ในกระด้งไม่มาก ไม่รู้ว่าเขาเอาข้าวสาลีไปอบขนมปงได้สักกี่มากน้อย! โครงการเกษตรอินทรีย์สนามบินสุโขทัย ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย 64110 โทรศัพท์ 055-647-290 เว็บไซต์ www.kaohomsukhothai.in.th
แปลงนาปูย่าตายาย พื้นที่สาธิตการทํานาของชาวนาไทยโบราณที่ทุกขั้นตอนพึ่งพาแรงงาน คนและควาย ซึ่งเปนจุดที่ผู้เยี่ยมชมสามารถทดลองเปนชาวนาได้ด้วยตนเอง โดยอาคาร ด้านหลังคือร้านอาหารครัวสุโข ที่ชั้นล่างมีครัวแยกเปนชุดๆ ให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้และ ทําอาหาร เช่น ผัดผักอย่างไรให้อร่อย หรือสอนชาวต่างชาติเจียวไข่แบบไทยๆ
คุณปาวัยเลยเกษียณ แต่ยังมีแรงทํานา และคัดเลือกเมล็ดข้าว
ผลิตภัณฑอินทรีย อินทรียแปรรูป และของที่ระลึกต่างๆ มีจําหน่ายที่ร้านขายของ ของโครงการเกษตรอินทรียสนามบินสุโขทัย และร้านข้าวธรรมชาติ ที่อาคาร บริษัทการบินกรุงเทพ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ อาจารยสมเดช อิ่มมาก นักปรับปรุงพันธุข้าว ของโครงการเกษตรอินทรียสนามบินสุโขทัย ระหว่างพาไปดูการผสมพันธุข้าวภายในโรงเรือนกางมุ้ง COMPASS 109