หนังสือพิมพ์เมืองคนดีนิวส์

Page 1

วารสารข่าว... ของชาวสุราษฎร์ฯ MKD SURAT JOURNAL

แพเชี่ยวหลาน @SURATTHANI

คุณพรปวีณ์ ทองคำ� (คุณฝน) 064-289-4656 สำ�นักงานขาย 098-445-1929 คุณสุรีย์ ทองคำ� (คุณอ้อย) 080-041-8395

ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 เดือนพฤษภาคม 2561

ปักหมุดที่เที่ยว

การไฟฟ้าฝ่ายผลิต เขื่อนรัชชประภา

๕๓ หมู่ ๓ ตำ�บลเขาพัง อำ�เภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โทร.๐๗๗ ๒๔๒๕๕๕ ต่อ ๕๐๖๑-๓

กับเมืองคนดีนิวส์

แหล่งท่องเที่ยว Unseen 4 อำ�เภอ... อำ�เภอพนม บ้านตาขุน คีรีรัฐนิคม และวิภาวดี

ผู้ว่าฯ เร่งเต็มสูบ

รถไฟอ่าวไทย-อันดามัน เชื่อมั่น นำ�เศรษฐกิจสุราษฎร์ฯ สู่ศูนย์กลางท่องเที่ยว นายก อบจ.สุราษฎร์ฯ

อ่านต่อหน้า 2

เร่งพัฒนาถนน พร้อมดันรวมกลุ่มท่องเที่ยวเป็นโซน

ผอ. กฟผ.เขื่อนรัชชประภา อ่านต่อหน้า 7 อ.บ้านตาขุน เดินหน้าสานต่องานเพื่อชุมชน

ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กำ�หนดยุทธศาสตร์ พัฒนาจังหวัด 4 ปี (2561-2564) มุ่งนำ�จังหวัดสุราษฎร์ฯ สู่ “เมืองเกษตรคุณภาพ การท่องเที่ยวยั่งยืน สังคมเป็นสุข” อ่านต่อหน้า 2 อ่านต่อหน้า 3

สมาคม ‘พนมขุนคีรีวิภาวดีฯ’

เตรียมแผนพัฒนาท่องเที่ยว 4 อำ�เภอสร้างรายได้

โรงเรียนสอนการอาชีพเรือสำ�ราญ และการโรงแรม สุราษฎร์ฯ ปั้นบุคลากรป้อนตลาดท่องเที่ยว

ผวจ.สุราษฎร์ฯ มอบเรือ อ่านต่อหน้า 3

ติดเครื่องยนต์

อ่านต่อหน้า 5

เเพภูผาวารี

Phupha waree Floating house

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง https://www.facebook.com/phuphawaree/ http://phupha-waree.com 077-397-185, 091-0369-119, 088-333-1733

เสนอประเด็น ป่าในเมือง ชายหาดปลอดบุหรี่ แก้ไขปัญหาขยะทะเล ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง อ่านต่อหน้า 5 และจัดสร้างปะการังเทียม


2 เมืองคนดี#นิวส์

ปีที่ 1 ฉบับที่ 1

เดือนพฤษภาคม

2561

จังหวัดสุราษฎร์ธานี

สุ ร าษฎร์ ธ านี เ ป็ น จั ง หวั ด ใหญ่ ที่ มี อำ�เภอมากถึง 19 อำ�เภอ แต่ละอำ�เภอ เกิ ด การพั ฒ นามี ค วามเปลี่ ย นแปลง หรือเกิดเหตุการณ์อะไร ที่ ไหน เมื่อไร อย่างไร เป็นเรื่องที่ชาวสุราษฎร์ฯ ต้องการรู้ แม้ ว่ า วั น นี้ ก ารสื่ อ สารผ่ า นโลกออนไลน์ จ ะมี ข้ อ ได้ เ ปรี ย บตรงสามารถ เข้าถึงได้ง่ายและฉับไว แต่มันก็หายไปจากหน้าจอและความทรงจำ�ในเวลา รวดเร็วด้วยเช่นกัน ประกอบกับยังมีกลุ่มพี่น้องประชาชนอีกจำ�นวนไม่น้อย ที่ ไม่ถนัดการใช้เทคโนโลยีสื่อสาร จึงไม่สะดวกที่จะติดตามข่าวผ่านช่องทาง ต่างๆ ของสื่อสมัยใหม่ ผลก็คือตกข่าวบางข่าวที่ควรรู้ไปอย่างน่าเสียดาย ในขณะเดียวกันท่านผู้เป็นคณะบริหาร ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐ หน่วยงาน ปกครองส่วนท้องถิ่น หรือท่านผู้นำ�ชุมชนก็ดี ท่านก็ต้องการบอกกล่าวและ รายงานความคืบหน้าในสิ่งที่ท่านได้ทุ่มเททำ�งานเพื่อพัฒนาสังคมให้เจริญ ก้าวหน้าเพื่อพี่น้องประชาชนได้อยู่ดีกินดี แต่กลับมีสื่อกลางที่มีอายุข่าวสาร ยาวนานและสามารถเข้าถึงพี่น้องประชาชนในท้องถิ่นไม่มากพอ นี่เป็นเหตุให้ ‘นิตยสารเมืองคนดี’ แตกยอดออกมาเป็น ‘เมืองคนดี #นิวส์’ โดยมุ่งหวังให้เป็นวารสารข่าวสำ�หรับชาวสุราษฎร์ฯ เพื่ออัพเดทข่าวสารความ เคลื่อนไหว โดยเฉพาะด้านการพัฒนาสังคมในรูปแบบของสื่อสิ่งพิมพ์ควบคู่ ไปกับ ‘เมืองคนดีนิวส์ ออนไลน์’ เป็นสื่อสองรูปแบบคู่ขนาน เพื่อเผยแพร่บทความที่สอดแทรกบทสัมภาษณ์หรือทัศนะ ของผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนั้นๆ เพื่อสร้างการรับรู้และความ เข้าใจแก่พี่น้องประชาชนว่า อ้อ...เรื่องนั้นหน่วยงานนี้ เดินหน้าไปถึงโน่นแล้ว เรื่องนี้อืดเชื่องช้าเพราะอะไร โดย กำ�หนดขอบข่ายของเนื้อหาแต่ละฉบับแบ่งตามโซนอำ�เภอ หมุนเวียนสลับไป ฉบับปฐมฤกษ์นี้เป็นคิวของ 4 อำ�เภอโซน ตะวันตก ได้แก่ พนม บ้านตาขุน คีรีรัฐนิคม และวิภาวดี คณะผู้จัดทำ� เมืองคนดี#นิวส์ หวังเพียงสามารถทำ�หน้าที่สื่อกลางเพื่อ รายงานและบันทึกความเป็นไปของการพัฒนาสังคมสุราษฎร์ฯ โดยหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องไปสู่ชาวสุราษฎร์ฯ ทุกๆ กลุ่ม เพื่อประโยชน์ของชาวสุราษฎร์ฯ ไป จนกว่าจะไม่สามารถทำ�หน้าที่ได้เท่านั้นเอง

บก.ป้อม เมืองคนดี บรรณาธิการบริหาร 084 940 2289

นายก อบจ.สฎ. เร่งพัฒนาถนน

(ต่อจากหน้า 1)

เรื่องการบริหารจัดการด้านส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศนั้นอยู่ในการกำ�กับ ดูแลของกระทรวงท่องเทีย่ วและกีฬาและการท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทย แต่หากพูดถึง การดูแลรักษาแหล่งท่องเที่ยวและการส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ เป็นหน้าที่ของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อบจ.สฎ.จึงมีนโยบายด้านการท่องเที่ยว โดยนายทนงศักดิ์ ทวีทอง นกยก อบจ.สฎ. ได้เผยว่า... “ด้านการดูแลแหล่งท่องเที่ยวนั้น อบจ.สฎ. มีความพยายามเต็มที่ในการดำ�เนินการ ซึ่งในทางปฏิบัติจริงนั้นเราสามารถดูแลได้ ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยว ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานรัฐต่างๆ อาทิ กรมป่าไม้ กรมอุทยาน แห่งชาติ จะต้องขออนุญาตเจ้าของพืน้ ทีเ่ สียก่อน ผมก็ฝากไปถึงหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้องว่า อบจ.สฎ. มีเป้าหมายจะก่อสร้างถนนเชือ่ มโยงเส้นทางคมนาคมขนส่งทัว่ ทัง้ จังหวัดให้ได้ ...ก็อยากให้หน่วยงานต่างๆ ให้ความร่วมมือช่วยกันพัฒนา ส่วนด้านนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว หลายปีที่ผ่านมาต่อเนื่องถึงปีนี้ อบจ.สฎ. พยายามทีจ่ ะค้นหาแหล่งท่องเทีย่ วใหม่ๆ จัดสรรงบฯ เพือ่ นำ�ไปพัฒนาด้านสาธารณูปโภค พืน้ ฐาน โดยเฉพาะอย่างยิง่ การก่อสร้างและปรับปรุงถนนเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถ เข้าถึงแห่งท่องเที่ยวได้สะดวกและมีความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งแนวคิดนี้อาจจะสวนทาง กับกลุ่มนักอนุรักษ์ที่ไม่ต้องการให้มีสิ่งก่อสร้างใดไปใกล้ชิดธรรมชาติ ปัญหานี้เราก็ให้ ความสำ � คั ญ โดยการพู ด คุ ย ทำ � ความเข้ า ใจและดู แ ลการออกแบบก่ อ สร้ า งให้ มี ความสอดคล้องกลมกลืนกับธรรมชาติมากที่สุด อีกนโยบายหนึ่งที่สำ�คัญและ อบจ.สฎ. กำ�ลังเร่งการส่งเสริมก็คือการรวมกลุ่มกัน ของชุมชนท่องเที่ยวให้เป็นโซน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดพลังในการดำ�เนินการด้านส่งเสริมการ ท่องเทีย่ วอย่างมีความสามัคคี ตัวอย่างทีส่ �ำ เร็จไปแล้วก็คอื การรวมตัวของกลุม่ 4 อำ�เภอ โซนตะวันตก ได้แก่ พนม บ้านตาขุน คีรีรัฐฯ วิภาวดี ที่ ได้จัดตั้งเป็น ‘สมาคมพนม ขุนคีรีวิภาวดีเพื่อการท่องเที่ยวและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม’ มีสมาชิก 17 อบต. 5 เทศบาล ขณะนี้ อบจ.สฎ. ได้เร่งให้ความสนับสนุนการจัดตัง้ โซนท่องเทีย่ ว โดยเชิญให้ผนู้ �ำ ท้องถิน่ มาร่วมหารือและนำ�แนวการทำ�งานของสมาคมพนมขุนคีรีวิภาวดีมาเป็นตัวอย่าง”

แม็คโคร สุราษฎร์ธานี

(ต่อจากหน้า 1)

ผู้ว่าฯ เร่งเต็มสูบ รถไฟอ่าวไทย-อันดามัน

ปั จ จุ บั น อุ ต สาหกรรมบริ ก ารการท่ อ งเที่ ย วและ ระบบโลจิสติกส์นับเป็นเครื่องมือสำ�คัญในการผลักดัน เศรษฐกิจของประเทศ จังหวัดสุราษฎร์ธานีจึงได้เร่งรัด โครงการต่างๆ ให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลเพื่อการ พัฒนาเส้นทางการคมนาขนส่งทั้งทางบก ทางน้ำ� และ ทางอากาศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพัฒนา ระบบรางเพื่อขนส่งมวลชน และการบริหารจัดการระบบ ส่งสินค้าและการบริการ โดยได้เร่งรัดผลักดันให้มีการ ดำ � เนิ น การก่ อ สร้ า งโครงการรถไฟท่ อ งเที่ ย วเส้ น ทาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี-พังงา-ภูเก็ต เพื่อเชื่อมโยงดินแดน สองฝั่งทะเล “อันดามัน-อ่าวไทย” เนือ่ งจากจะสามารถ สร้ า งมู ล ค่ า เพิ่ ม ด้ า นท่ อ งเที่ ย วของจั ง หวั ด อั น นำ � ไปสู่ การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในระดับภูมิภาคและ ระดับโลก ทัง้ ยังสนับสนุนการก้าวไปเป็นประตูสเู่ ศรษฐกิจ ของเอเชียใต้ โดยนายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ได้กล่าวถึงรายละเอียดของโครงการดังกล่าวว่า “โครงการรถไฟท่องเที่ยวเส้นทางจังหวัดสุราษฎร์ฯพังงา-ภูเก็ต เป็นโครงการทีจ่ งั หวัดสุราษฎร์ธานีได้พยายาม มาโดยตลอดทีจ่ ะเร่งรัดและผลักดันให้สำ�นักงานนโยบาย และแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ดำ�เนินการศึกษา เพื่อขยาย เชื่อมโยงโครงข่ายทางรถไฟเพื่อการท่องเที่ยว ระหว่ า งฝั่ ง ทะเลด้ า นอ่ า วไทยกั บ พื้ น ที่ ฝ่ั ง ทะเลด้ า น อั น ดามั น โดยเชื่อ มต่ อ เข้ า กั บ ระบบขนส่ ง มวลชนของ จ.ภูเก็ต ทัง้ นีเ้ พือ่ เพิม่ ขีดความสามารถของการแข่งขันด้าน การท่องเที่ยวและอำ�นวยความสะดวกในการเดินทาง ให้แก่ประชาชน โดยเส้นทางนี้จะยึดแนวเดิมของกรม

รถไฟที่เคยสำ�รวจไว้ คือจากสถานีบ้านทุ่งโพธิ์ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ถึงบ้านท่านุ่น อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา มีระยะ ทางประมาณ 161 กม. โดยการรถไฟฯ ได้ก่อสร้างเส้น ทางแล้วเสร็จจนถึง อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี และใน อนาคตจะเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟสายนี้กับรถไฟสายใต้ จนถึงดอนสัก ระยะทาง 78 กิโลเมตร ชึ่งอยูร่ ะหว่าง ศึ ก ษาออกแบบโดยสำ � นั ก งานนโยบายและแผนการ ขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม สำ�หรับรูปแบบและ ระบบการให้บริการนั้นจากการศึกษามีข้อสรุปว่าจะเป็น ทางคู่ มีระบบรางเป็นทางกว้าง 1 เมตรเช่นเดียวกับทาง รถไฟในปัจจุบันเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกันได้ และจะให้ บริการตามรูปแบบที่ รฟท. ใช้อยู่ในปัจจุบันคือรถท้องถิ่น รถเร็วรถธรรมดา รถด่วน รถด่วนพิเศษ และเพิ่มขบวนรถ ท่องเที่ยวเป็นบริการรูปแบบใหม่ ส่วนการให้บริการขบวน รถสินค้าจะมีการก่อสร้างลานกองเก็บตู้สินค้าในพื้นที่ที่ มีศักยภาพ ผมเชื่อมั่นว่าเมื่อโครงการแล้วเสร็จจะเป็น ประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวให้แก่จังหวัดในฝั่งอันดามัน และอ่าวไทยอย่างมาก ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีโดย เฉพาะที่อยู่ในเส้นทางของโครงการ เช่น อำ�เภอคีรีรัฐนิคม อำ�เภอบ้านตาขุน อำ�เภอพระแสง อำ�เภอพนม ซึ่งอำ�เภอ เหล่ า นี้ มี แ หล่ ง ท่ อ งเที่ ย วธรรมชาติ ที่ มี ศั ก ยภาพสู ง หลายแห่ง อาทิ หินพัด เขื่อนรัชชประภา กุ้ยหลินเมืองไทย อุทยานแห่งชาติเขาสก ฯลฯ ก็จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมา เพิ่ ม ขึ้ น อี ก หลายเท่ า ตั ว และเป็ น ผลดี ต่ อ การแข่ ง ขั น ด้านโลจิสติกส์ของประเทศ” ปั จ จุ บั น โครงการดั ง กล่ า วอยู่ ร ะหว่ า งการศึ ก ษา ออกแบบและวิเคราะห์ผลกระทบสิง่ แวดล้อม (EIA) โดย คาดการณ์ว่าจะสามารถดำ�เนินก่อสร้างในอนาคตอันใกล้ คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในปี 2564-2565 (ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2561)

หอการค้าสุราษฎร์ฯ เชื่อมั่นสุราษฎร์ฯ เดินหน้าสู่

นายธีระชัย ศรีโพธิ์ชัย

ประธานหอการค้า จ.สุราษฎร์ฯ

MICE ในอนาคตอันใกล้

นายธีระชัย ศรีโพธิ์ชัย ประธานหอการค้าจังหวัด สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัด ที่มีศักยภาพสูงเพราะมีความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ที่ แวดล้อมด้วยภูเขา ทะเล และยังมีแม่น้ำ�ตาปีไหลผ่าน เมื่อมาพิจารณาถึงอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ช่วงระยะ 10 ปี ที่ผ่านมาก็อาจกล่าวได้ว่าสุราษฎร์ธานี มีแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามา จำ�นวนมหาศาล ประธานหอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังมีความเห็นต่อไปว่าอีกปัจจัยหนึ่งที่เป็นไปได้สูงและ สามารถส่งเสริมให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นศูนย์กลาง

กองบรรณาธิการ

เศรษฐกิ จ ที่ ส มบู ร ณ์ แ บบได้ ก็ คื อ การสนั บ สนุ น ให้ จังหวัดเดินหน้าสู่การเป็น ‘ไมซ์’ (MICE : Meetings, Incentive Travel, Conventions, Exhibitions) เพราะมีความพร้อมทั้งในด้านสถานที่ และทรัพยากร การท่องเที่ยว เนื่องจากอุตสาหกรรมไมซ์จะสามารถนำ� นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่มีคุณภาพ (Quality Visitors) เข้ามาสูจ่ งั หวัดได้เป็นจำ�นวนมาก และนักท่องเทีย่ วกลุม่ นี้ มีระดับการใช้จ่ายสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป 3-4 เท่า หอการค้าฯ จึงเร่งผลักดันให้มีการกำ�หนดทิศทางร่วมกัน ระหว่างจังหวัดและหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ผลิตโดย สุราษฎร์ ทเวนตี้ บรรณาธิการบริหาร ว่าที่ร้อยตรีณรงค์ศักดิ์ พฤกษาไพบูลย์ บรรณาธิการเนื้อหา ศศิวิมล บุญบรรเทิง ฝ่ายโฆษณา ชัยชนะ 084 940 2289 ไอดี ไลน์ mkd999 ฝ่ายสมาชิก ประยุทธ 088 043 4114 ไอดี ไลน์ mkdnews

คู่คิด ธุรกิจคุณ

ช่องทางเผยแพร่

วิทยุ คลื่น FM 95.00 MHz สุราษฎร์ฯ เสาร์ 11.00 น. อี-แมกกาซีน www.issue.com/pomdemandgroup เฟสบุ๊ก แฟนเพจ facebook/mkd999 ไลน์กลุ่มข่าว mkdnews ทวิตเตอร์ @BorKorPom


ปีที่ 1 ฉบับที่ 1

เดือนพฤษภาคม

เมืองคนดี#นิวส์ 3

2561

โรงเรียนสอนการอาชีพเรือสำ�ราญ และการโรงแรม สุราษฎร์ธานี ปั้นบุคลากรป้อนตลาดท่องเที่ยวรับไทยแลนด์ 4.0

สมาคม ‘พนมขุนคีรีวิภาฯ’ จัดแผนรับท่องเที่ยว จับมือ

ทต.บ้านตาขุน เนรมิตสวนป่าชมพู่น้ำ� / เกาะกลางถนน (ต่อจากหน้า 1)

เทศบาลตำ � บลบ้ า นตาขุ น โชว์ ผ ลงานเนรมิ ต สวนป่ า ชมพู่นำ้� เป็ น สวนสาธารณะ เพือ่ ศึกษาระบบนิเวศและเป็นลานกีฬาแห่งใหม่ และปรับปรุงภูมิทัศน์เกาะกลางถนน ใจกลางอำ�เภอบ้านตาขุนตลอดสาย พร้อมให้สมาคมพนมขุนคีรีวิภาวดีฯ ดันท่องเที่ยว ชุมชนเชื่อม 4 อำ�เภอ พนม บ้านตาขุน คีรีรัฐนิคม วิภาวดี เน้นธรรมชาติแปลกใหม่ ปลอดภัย คุ้มค่า หวังดึงดูดนักท่องเที่ยว

นายวิวัฒน์ สรรพา ที่ปรึกษาสมาคมฯ

นายธีรศักดิ์ สอนมี นายกสมาคมฯ

นายธีรศักดิ์ สอนมี นายกเทศมนตรีตำ�บลบ้านตาขุน ได้เผยว่า ปัจจุบันกระแส ความนิ ย มด้ า นการท่ อ งเที่ ย วเชิ ง ธรรมชาติ แ ละการกี ฬ าของนั ก ท่ อ งเที่ ย วกลุ่ ม รักสุขภาพทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นและมีแนวโน้มว่านักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวจะขยายตัวมาก ขึน้ ทุกปี เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวเทศบาลตำ�บลบ้านตาขุนจึงได้ดำ�เนิน โครงการ ‘สวนสาธารณะป่าชมพู่น้ำ�’ ตั้งอยู่ในพื้นที่เขาวง ห่างจากเขื่อนรัชชประภา 12 กม. เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเทีย่ วเชิงธรรมชาติและศึกษาระบบนิเวศ เนื่องจากชมพู่น้ำ� เป็นไม้ถิ่นชุ่มน้ำ�ที่ใกล้สูญพันธุ์ โดยป่ามีเนื้อทั้งหมด 30 ไร่ เป็นพื้นที่น้ำ� 10 ไร่ มีต้น ชมพู่น้ำ�ขนาดใหญ่อยู่ 500 - 600 ต้น นอกจากนี้เทศบาลฯ ยังพัฒนาสวนป่าชมพูน่ �ำ้ ให้เป็น ปอดและที่ออกกำ�ลังกายของชาวเมืองและนักท่องเที่ยว ในปัจจุบันสวนสาธารณะ ป่าชมพู่น้ำ�สามารถรองรับกิจกรรมกีฬาได้ 12 ประเภทคือ วิ่ง ปั่นจักรยาน ฟุตซอล บาสเกตบอล ตะกร้อ ปิงปอง แอโรบิก แบดมินตัน เปตอง วอลเล่ย์บอล รำ�ไม้พลอง นายธีรศักดิ์ยังกล่าวต่อไปว่า เทศบาลตำ�บลบ้านตาขุนยังได้ดำ�เนินการปรับภูมิทัศน์เกาะ กลางถนนในเขตเทศบาลฯ มีระยะทาง 4 กม. แล้วเสร็จ ส่วนด้านการส่งเสริมการ ท่องเที่ยวทางสมาคม ‘พนมขุนคีรีวิภาวดี เพื่อการท่องเที่ยวและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม’ ซึ่งเป็นการรวมตัว 5 เทศบาล 17 อบต. ร่วมด้วยชุมชนท่องเที่ยวต่างๆ ใน 4 อำ�เภอ คืออำ�เภอพนม อำ�เภอบ้านตาขุน อำ�เภอคีรีรัฐนิคมและอำ�เภอวิภาวดีได้เร่งการสนับสนุน การสร้างเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงเพื่อดึงดูดใจนักท่องเที่ยวในแง่ความแปลกใหม่ ของธรรมชาติและวิถีชีวิต ตลอดจนความสะดวกคุ้มค่าในการเดินทาง เป็นการกระจาย รายได้ โดยใช้แหล่งท่องเที่ยวแม่เหล็กชักนำ�ไปสู่แหล่งท่องเที่ยวชุมชนต่างๆ ต่อไป

อาจารย์ก้อง คุณจิระภา มีวงศ์

(ต่อจากหน้า 1) การผลักดันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลในปีที่ผ่านมาส่งผลให้ภาคเศรษฐกิจของประเทศมีการปรับตัว อย่างมาก นอกจากมีความตื่นตัวด้านการประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านสื่อโซเชียลแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่มองข้ามไม่ได้ คือการพัฒนาศักยภาพบุคลากร สำ�หรับจังหวัดสุราษฎร์ธานีก็เริ่มมีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวขยับตัว เช่น การ ปรากฏตัวของ “โรงเรียนสอนการอาชีพเรือสำ�ราญและการโรงแรม สุราษฎร์ธานี” โดย นางสาวจิระภา มีวงศ์ ผู้บริหารสถาบันฯ ได้เปิดเผยว่า....“สถาบันของเราเกิดขึ้นด้วยวัตถุประสงค์คือข้อแรกเพื่อตอบสนองนโยบาย 4.0 ของรัฐบาล ข้อที่สองคือเพื่อการพัฒนาฝีมือแรงงานที่มีคุณภาพสู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย โดยเน้นการสร้าง ศักยภาพของบุคลากรให้มีมาตรฐานทัดเทียมมาตรฐานโลก โรงเรียนได้เปิดสอนด้วยหลักสูตรเข้มข้นมีระยะเวลา 6 เดือน ผู้เรียนต้องสำ�เร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า มีค่าบำ�รุงการศึกษา 59,000 บาท รวมค่าเครื่องแบบและหนังสือ จะมีการฝึกฝนด้านต่างๆ เช่น ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการติดต่อสื่อสาร ทักษะบาริสต้าและการบริการ การฝึกบุคลิกภาพ การฝึกหลักสูตรรักษาความปลอดภัย STCW พร้อมทั้งการ ออกฝึกภาคสนามในโรงแรม 4 - 5 ดาว โดยนักเรียนที่สอบผ่านตามมาตรฐานของสถาบันจะได้รับมอบวุฒิบัตร” สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 08 4185 6402, 08 4654 0559, 09 3535 9052 ผู้บริหารโรงเรียนฯ

สนง.คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ

เดินหน้าโครงการพัฒนากลไกจิตอาสาประชารัฐ จ.สุราษฎร์ฯ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ศอรัฐ มากบุญ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศอรัฐ มากบุญ ผู้ประสานงานโครงการพัฒนากลไกจิตอาสาประชารัฐจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวถึงรายละเอียดของโครงการฯ ว่า... “เป้าหมายของโครงการฯ คือการพัฒนาศักยภาพจิตอาสาให้มคี ณ ุ ภาพทัง้ ด้านจิตใจคือความมีคณ ุ ธรรม จริยธรรม และด้านทักษะต่างๆ เพือ่ การบำ�เพ็ญประโยชน์ทม่ี ปี ระสิทธิภาพสูงสุดต่อสังคมและประชาชน การดำ�เนินงานขัน้ แรก ของโครงการฯ คือการสำ�รวจจำ�นวนผู้ที่ทำ�งานด้านจิตอาสา ปัจจุบันนี้จังหวัดสุราษฎร์ฯ มีจำ�นวนจิตอาสาที่ ได้รับ การสำ�รวจรายชื่อแล้วกว่า 20,000 ราย จากนั้นเราก็จะเชิญชวนจิตอาสาเหล่านี้มาร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น การ สำ�รวจผู้ยากลำ�บากที่รายชื่อตกหล่นจากการสำ�รวจของหน่วยงานรัฐต่างๆ หรือการลงพื้นที่ประสบภัยพิบัติเพื่อ สำ�รวจและช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่หน่วยงานอื่นเข้าไม่ถึง ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนที่ยากลำ�บากเหล่านั้นได้เข้าถึง ระบบสวัสดิการหรือการช่วยเหลือเยียวยาของรัฐอย่างเท่าเทียมกัน สำ�หรับที่สุราษฎร์ฯ เราดำ�เนินโครงการมา ระยะหนึ่งแล้ว ที่ผ่านมาเราพบจำ�นวนผู้ยากลำ�บากที่ตกหล่นอยู่ราว 500 กว่าราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งทำ�แผน เพื่อช่วยเหลืออย่างเหมาะสมตามลักษณะของความยากลำ�บากนั้นเป็นรายกรณีไป ส่วนด้านการเสริมทักษะเพื่อ เพิ่มพูนศักยภาพของจิตอาสานั้นเราทำ�ไปพร้อมๆ กับการจัดตั้งกองทุนจิตอาสาเพื่อรองรับการทำ�งานของจิตอาสา ในอนาคตซึ่งขณะนี้เรามีเงินกองทุนแล้วประมาณ 50,000 บาท เหตุที่ต้องมีกองทุนก็เพราะการทำ�งานของจิตอาสา หลายครั้งต้องเดินทางไปยังท้องที่ทุรกันดารหรือพื้นที่ประสบภัยซึ่งมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยสูง ถ้าเกิด อุบัติเหตุกับจิตอาสาในระหว่างการทำ�งาน เขาก็ จะได้รับการช่วยเหลือจากกองทุนโดยไม่ต้องไป รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งจำ�เป็น ต้องผ่านระบบระเบียบมากมาย และยังเป็นการ สร้างขวัญและกำ�ลังใจให้แก่จิตอาสาด้วย ส่วน แผนงานในปี ห น้ า เราก็ ยั ง สานต่ อ โครงการนี้ ไ ป อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เราก็มีความพยายามที่ จะจัดตั้งมูลนิธิจิตอาสาประจำ�จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อให้การทำ�งานเป็นปึกแผ่นมีทิศทางเดียวกัน และเพื่ อ ความสะดวกโปร่ ง ใสในการรั บ ความ สนั บ สนุ น ทั้ ง จากสนง.คณะกรรมการสุ ข ภาพ แห่งชาติเอง และภาคีอื่นต่อไป โดยส่วนตัวผมและคณะกรรมการโครงการฯ เรามีความเต็มใจอย่างยิ่งที่จะดำ �เนินการจนเต็ม ความสามารถ เพราะเราต้องการให้สุราษฎร์ธานี เป็นเมืองต้นแบบด้าน ‘เมืองคุณธรรม’ เราอยาก เห็นสุราษฎร์ฯ เป็นเมืองคนดีวถิ ธี รรม ซึง่ นอกจากจะ เป็นเมืองทีเ่ ต็มไปด้วยคนทีม่ เี มตตาแล้ว ยังมีหวั ใจ จิตอาสา มีวนิ ยั และซือ่ สัตย์สจุ ริตซึง่ จะส่งผลให้เมือง มีความน่าอยู่อาศัยและน่าท่องเที่ยวยิ่งขึ้นครับ...”


4 เมืองคนดี#นิวส์

ปีที่ 1 ฉบับที่ 1

อำ�เภอคีรีรัฐนิคม

เดือนพฤษภาคม

2561

Khiri Rat Nikhom District

ชมรมกำ�นัน-ผญบ.คีรีรัฐฯ จับมือชมรมจักรยานฯ จัดปั่นหาทุนการศึกษาน้องยากไร้

นายปราโมท แก้วพิชัย นายก อบต.ท่าขนอน

อบต.ท่าขนอน พัฒนาหินพัด

รองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มทุกกลุ่มปี 2561 ตำ�บลท่าขนอน อำ�เภอคีรีรัฐนิคม นับว่าเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติสูง อีกแห่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพราะแวดล้อมไปด้วยขุนเขา ป่าไม้ และสายธาร ซึ่งมีถ้ำ�สวย น้ำ�ตกงาม อยู่หลายแห่ง ที่สำ�คัญตำ�บลท่าขนอนยังเป็นที่ตั้งของหินมหัศจรรย์ ‘หินพัด’ ที่ปัจจุบันกลายเป็นแม่เหล็กของการท่องเที่ยว บนบกของจังหวัดไปแล้ว ด้วยเหตุนี้ อบต.ท่าขนอน จึงได้เร่งพัฒนาหินพัดและแหล่งท่องเที่ยวอื่นในท้อง ที่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยวและพัฒนา ไปสู่การเป็นตำ�บลนำ�ร่องเพื่อการท่องเที่ยวสำ�หรับ ผู้พิการด้วย โดยนายปราโมทย์ แก้วพิชัย นายก อบต.ท่าขนอน ได้เปิดเผยว่า... “อบต.ท่าขนอน มีเป้าหมายสำ�คัญว่าเราจะสร้าง สถานที่ ท่ีมีความสวยงามตามธรรมชาติในตำ�บลให้ เป็ น แหล่ ง ท่ อ งเที่ย วชุ ม ชนแห่ ง ใหม่ เ พื่ อ เพิ่ ม ราย ครัวเรือนได้ ให้ชาวชุมชน ดังนั้นตลอดระยะ 2-3 ปี ที่ผ่านมาเราจึงเร่งประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ของรั ฐ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งเพื่ อ พั ฒ นาเส้ น ทางคมนาคม ระบบสาธารณูปโภค รวมถึงปรับปรุงภูมิทัศน์สถาน ที่ ท่ อ งเที่ ย วในหลายจุ ด เพื่ อ ให้ ส ามารถรองรั บ และ อำ � นวยความสะดวกให้ แ ก่ นั ก ท่ อ งเที่ ย วได้ ทุ ก กลุ่ ม ไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติ ชาวไทย เด็ก คนชรา โดย เฉพาะอย่างยิ่งผู้พิการ ยกตัวอย่างเช่นที่หินพัด อบต. ท่าขนอน ก็ได้ประสานกับ อบจ.สฎ. เพื่อมาพัฒนา ขณะนี้ หิ น พั ด มี ค วามพร้ อ มทุ ก ด้ า นทั้ ง ถนนทางขึ้ น ไฟฟ้า ประปา จุดชมวิว ลานจอดรถ ล่าสุด อบจ.สฎ. ก็ได้จัดงบฯ มาสร้างทางเท้าคอนกรีตยกระดับพร้อม แนวรั้วกันตก ระยะทางประมาณ 250 เมตร และ สร้างห้องสุขา 2 จุด ที่ลานจอดรถและจุดชมวิว ที่จุด ชมวิ ว เป็ น ห้ อ งน้ำ � ที่ ร องรั บ ผู้ พิ ก ารที่ ใ ช้ วี ล แชร์ ไ ด้ นอกจากนี้ ยั ง สร้ า งถนนทางลาดให้ แ ก่ ผู้ ใ ช้ วี ล แชร์ ด้วยเพื่อให้เดินทางไปถึงจุดชมวิวสะดวกที่สุด ส่วน ความพร้อมด้านการสื่อสารนั้น อบต.ท่าขนอน ได้

ประสานเอกชนเจ้าของเครือข่ายเพื่อทำ�การติดตั้ง เสาสัญญาณแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จเร็วๆ นี้ ที่สำ�คัญ อีกเรื่องคือการพัฒนาด้านการบริการ อบต.ท่าขนอน ได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเพื่อประสานกับกลุ่มท่องเที่ยวต่างๆ ใน ชุ ม ชนเพื่ อ การให้ คำ � แนะนำ � ข้ อ มู ล แหล่ ง ท่ อ งเที่ย ว ตลอดจนจัดเส้นทางการท่องเที่ยวพร้อมไกด์อาสา อาหารและรถรับส่ง หากนักท่องเทีย่ วต้องการพักแรม ชมดาวหรือทะเลหมอกก็มีลานกางเต็นท์ที่ปลอดภัย นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.thakhanoncity.go.th นักท่องเที่ยวที่เดินทางมา เป็นหมู่คณะและต้องการพักแรมควรติดต่อล่วงหน้า มาที่ อบต.ท่าขนอน โทร 077 310974 (เวลาทำ�การ) และเบอร์มือถือ / นอกเวลาทำ�การ 061 172 2121 (นายกฯ) 084 294 7269 (ท่องเที่ยวท่าขนอน)” สำ�หรับปี 2561 อบต.ท่าขนอน มีแนวคิดพัฒนา หินพัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางจิตวิญญาณ โดยมี โครงการระดมทุนจัดสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่เพื่อ เป็ น ที่ ป ฏิ บั ติ ส มาธิ สำ � หรั บ พุ ท ธศาสนิ ก ชนทั่ ว โลก นอกจากนี้ อบต.ท่าขนอน ยังคงให้ความสำ�คัญกับการ ประสานความร่ ว มมื อ กั บ อบต.ทุ ก แห่ ง ในอำ � เภอ เพื่อเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวเป็นเครือข่ายเนื่อง จากอำ�เภอคีรีรัฐนิคมมีสถานที่มหัศจรรย์มากมาย เช่น พระธาตุหินนิลเปา ป่าต้นน้ำ�บ้านน้ำ�ราด คลองน้ำ�ใส ฯลฯ จึงคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาหินพัด และสถานที่ ท่ อ งเที่ ย วในชุ ม ชนเพิ่ ม มากขึ้ น และจะ สามารถสร้างรายได้ครัวเรือนให้ชาวคีรีรัฐฯ ได้จำ�นวน มากกว่าปีที่ผ่านมา

one day trip

นายสุริยา ไทยชนะ กำ�นันตำ�บลถ้ำ�สิงขร และประธานชมรมกำ�นัน-ผู้ ใหญ่บ้านอำ�เภอ คีรีรัฐนิคม ร่วมด้วยอำ�เภอคีรีรัฐนิคม และชมรมต่างๆ จัดงานปั่นจักรยานสานสัมพันธ์ เพื่อ ส่งเสริมการท่องเที่ยวและแข่งนกกรงหัวจุกเมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อหารายได้ช่วยทุน การศึกษาเด็กเรียนดีแต่ยากไร้และครอบครัวนักปั่นที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต โดยนายสุริยา ได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมาชมรมกำ�นัน-ผู้ ใหญ่บ้านอำ�เภอคีรีรัฐนิคม ได้พบว่าเยาวชนในโรงเรียนอำ�เภอคีรีรัฐฯ ซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้น 31 โรงเรียน ยังมีเด็กที่เรียนดีแต่มี ฐานะยากจนจึงมีอุปสรรคในการศึกษาต่อเนื่องเป็นจำ�นวนมาก แม้ว่าจะมีหน่วยงานภาครัฐให้ การช่วยเหลือดูแล แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพื่อเป็นการลดภาระของภาครัฐ ทางชมรมฯ จึงได้หารือ กับนายชาญวิทย์ สิรภักดี นายอำ�เภอคีรีรัฐฯ และนายอำ�นาจ เจริญพร ประธานชมรม จักรยานทำ�เนียบ-เขาวง นายอานนท์ ทองชิต ประธานชมรมจักรยานสุราษฎร์ธานี เพื่อจัดทำ� โครงการปั่นและแข่งนกกรงหัวจุกช่วยน้อง หารายได้เป็นทุนการศึกษา โดยจัดให้มีกิจกรรม 2 ส่วนคือ “ปั่นเพื่อน้อง ท่องคีรีรัฐ” และการแข่งขันนกกรงหัวจุก นอกเหนือจากการจัดหาทุนการศึกษาแล้ว รายได้ส่วนหนึ่งทางชมรมฯ จะได้มอบให้ ครอบครัวนายมนัส กล่อมชลธาร นักปั่นที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะปั่นจักรยาน เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 60 ทีผ่ า่ นมา และโครงการนีย้ งั ช่วยประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเทีย่ วชุมชนในอำ�เภอคีรรี ฐั นิคม โดยได้นำ�ภาพแหล่งท่องเที่ยวแต่ละแห่งมาสกรีนลงบนเสื้อของนักปั่น ทั้งนี้ในเส้นทางการปั่น จะผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ วัดถ้ำ�สิงขร วัดเขาราหู คลองน้ำ�ใสสะพานคลองยัน เป็นต้น นายอำ�นาจ เจริญพร ประธานชมรมจักรยานฯ ยังเผยว่าปัจจุบันนี้การท่องเที่ยว ชุมชนได้รับความนิยมมากขึ้นจึงสามารถสร้างรายได้ ให้แก่ท้องถิ่นได้มาก อีกทัง้ การปัน่ จักรยาน สามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวประเภทนี้ ได้ดีและนักท่องเที่ยวยังได้รับประโยชน์จากการออก กำ�ลังกายอีกด้วย

อบต.บ้านทำ�เนียบ เร่งของบฯ พัฒนา ถนนสู่แหล่งท่องเที่ยว

นายวิชิต จิตสม ประธานกลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ บ้านยวนสาว แนะนำ�เส้นทางท่องเที่ยว one day trip เริ่ม เวลา 9.00 น. เพื่อไปชมหินช้าง จากนั้นไปชมวิวพานอรามา ริมผาและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ “หินพัด” ช่วงสาย เดินป่าสู่น้ำ�ตกบ้านยวนสาว น้ำ�ตกขนาดกลางที่สวยงามมาก เมื่อถึงน้ำ�ตกแวะทานข้าวหลามไม้ไผ่ห่อใบเร็ด ทานคู่กับน้ำ� พริกตะไคร้และปลาทูแดดเดียว แล้วจึงลงเล่นน้ำ�ใสสะอาด และเย็นฉ่ำ� รับนักท่องเที่ยวขั้นต่ำ� 5 คน สามารถติดต่อ สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.081 085 9843

ป่าต้นน้ำ�บ้านน้ำ�ราดเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนแห่งใหม่ของตำ�บลบ้านทำ�เนียบที่กำ�ลังได้รับความสนใจจาก นักท่องเที่ยวที่สนใจศึกษาระบบนิเวศและหลงใหลในเสน่ห์ธรรมชาติ โดยเฉพาะในวันหยุดจะมีนักท่องเที่ยวคับคั่ง ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว อบต.บ้านทำ�เนียบจึงให้การสนับสนุนด้านการพัฒนาปรับปรุงเส้นทาง เข้าสูแ่ หล่งท่องเทีย่ วโดยนายกิตติกร ปิน่ รัตน์ นายก อบต.บ้านทำ�เนียบ ได้กล่าวถึงรายละเอียดว่า “ขณะนี้เส้นทางเข้าสู่ป่าต้นน้ำ�บ้านน้ำ�ราดยังคงมีถนนส่วนที่เป็นลูกรังอยู่อีก 4 กิโลเมตร ที่ผ่านมาทางอบต. ได้ส่งเสริมโดยการจัดทำ�ป้ายบอกทาง วางท่อระบายน้ำ�และเกรดถนนให้เรียบทุกเดือน แต่เพื่อการปรับปรุงถนน ให้เป็นประโยชน์ต่อชาวบ้าน เพิ่มรายได้ครัวเรือนจากการท่องเที่ยวในอนาคต ทาง อบต. จึงได้ประสานงานและร่าง นายกิตติกร ปิ่นรัตน์ โครงการพัฒนาถนนผ่านไปทางจังหวัดเพือ่ ของบฯ พิเศษจากท่านรองนายกรัฐมนตรีจำ�นวน 10 ล้านบาท ซึ่งเงิน นายก อบต. บ้านทำ�เนียบ จำ�นวนนี้สามารถนำ�มาสร้างถนนคอนกรีตได้ระยะทาง 2 กิโลเมตร ก็คาดว่าจะได้รับอนุมัติงบประมาณเร็วๆ นี้”

นิตยสารฟรีก็อปปี้ “เมืองคนดี”

ติดตามอ่านออนไลน์กับหลากหลายช่องทาง อี-แมกกาซีน www.issuu.com/pomdemandgroup เฟสบุ๊ก พิมพ์ เมืองคนดี หรือ facebook/mkd999 ไลน์ ไอดี mkd999 ทวิตเตอร์ @borkorpom

สมัครสมาชิก/โฆษณา โทร 084 940 2289


ปีที่ 1 ฉบับที่ 1

เดือนพฤษภาคม

เมืองคนดี#นิวส์ 5

2561

อบต.กะเปา พัฒนาพระธาตุหินฯ พร้อมรับนักท่องเที่ยว

ปรารถนา จันทร์พฤกษ์ นายก อบต.กะเปา

ตำ�บลกะเปา อำ�เภอคีรีรัฐนิคม นับเป็นพื้นที่แห่งหนึ่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่มีแหล่ง ท่องเที่ยวมหัศจรรย์ทางธรรมชาติหลายแห่งและสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวได้ เช่น พระธาตุหนิ นิลเปา ถ้�ำ เขาพง วัดโกศาวาส ซึง่ เป็นที่ ประดิษฐานสรีระสังขารของพระครูวิรัชพิริยาทร วิริยนน์ โท ที่ไม่เน่าเปื่อย นอก จากนี้ยังเป็นแหล่งค้นพบหม้อสามขา โบราณวัตถุชิ้นสำ�คัญอันเป็นหลักฐาน แสดงว่าดินแดนแถบนี้เป็นแหล่งอารยะธรรมของภูมิภาคเพราะเคยเป็นที่ตั้ง ถิ่นฐานของมนุษย์มายาวนานนับแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เพื่อสนองตอบต่อ นโยบายของภาครัฐที่เน้นการส่งเสริมการการท่องเที่ยวชุมชน อบต.กะเปาจึงได้ ดำ�เนินการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่มีศักยภาพสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง พระธาตุหินนิลเปา ...ปัจจุบัน อบต.กะเปาได้เร่งประสานงานกับ อบจ.สฎ. และกรมทางหลวงชนบทให้จดั สรรงบฯ พัฒนาถนนเพือ่ อำ�นวยความสะดวกแก่นกั ท่องเทีย่ ว ในการเข้าชม โดยนายปรารถนา จันทร์พฤกษ์ นายก อบต.กะเปา ได้กล่าวถึงความคืบหน้าว่า... “ตอนนี้ถนนทางเข้าพระธาตุฯ เราก่อสร้างไปแล้วกว่า 80% โดย อบจ.สฎ. ได้จัดสรรงบฯ มาพัฒนาและขณะนี้อบต.กะเปา ได้ประสานกับ อบจ.เพื่อจัดสรรงบฯ ปรับภูมิทัศน์ เช่น การ สร้างวอร์คเวย์เพื่อความสะดวกในการเดินชม และสร้างน้ำ�ตกเทียมเพิ่มความร่มรื่น ซึ่งคาด ว่าจะได้รับงบฯ เร็วๆ นี้ อีกเรื่องหนึ่งที่เราดำ�เนินการแล้วเสร็จโดยใช้งบฯ อบต. ก็คือประปา ภูเขา โดยดึงน้ำ�จากน้ำ�ตกยวนสาวมาใช้บริโภคอุปโภค ซึ่งไม่เพียงพื้นที่ท่องเที่ยวคือพระธาตุฯ อำ�เภอเมือง อำ�เภอเคียนซา

อำ�เภอบ้านตาขุน

อำ�เภอวิภาวดี อำ�เภอดอนสัก

เท่านั้น ชาวบ้านในพื้นที่ระยะ 19 ก.ม.จากต้นน้ำ� ได้แก่ หมู่ 3 หมู่ 4 หมู่ 7 หมู่ 9 และหมู่ 10 ก็มีน้ำ�ใช้ด้วย ซึ่งโครงการนี้ อบต. กะเปา ถือเป็นต้นแบบของ อำ�เภอคีรีรัฐฯ ในด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ�จาก ธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ และเรายังได้ประสาน ไปยังกรมทางหลวงชนบทเพือ่ ให้เร่งดำ�เนินการ พัฒนาถนนในส่วนทีก่ รมรับผิดชอบอยูใ่ ห้มคี วาม ต่อเนื่อง เพราะถ้าแล้วเสร็จ เราจะมีถนนเชื่อม จากเขือ่ นรัชชประภาผ่านตำ�บลกะเปาและท่าขนอน ไปสิ้นสุดที่น้ำ�ตกวิภาวดี ทำ�ให้นักท่องเที่ยวที่เดินทาง มาชมเขือ่ นฯ หรือกุย้ หลินเมืองไทยสามารถเดินทางต่อมา แหล่งท่องเที่ยวในแถบนี้สะดวกขึ้น พร้อมกันนี้เราก็ประสานเรื่องการ ติดตั้งเสาไฟส่องสว่างตามจุดสัญจรสำ�คัญสู่พระธาตุฯ และอืน่ ๆ เพือ่ เพิม่ ความปลอดภัย และได้จัดสถานที่จำ�หน่ายสินค้าโอทอป บริเวณริมทาง ในหมูท่ ่ี 2 หมู่ 4 และหมู่ 8 ซึง่ เป็นเส้นทางผ่านพระธาตุฯ เรียกว่าในด้าน ความพร้อมของการต้อนรับนักท่องเที่ยวเราใกล้ถึงจุดหมายแล้วครับ...”

อำ�เภอท่าชนะ อำ�เภอเวียงสระ

“กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝัง่ กับโครงการชายหาดปลอดบุหรี่ 24 หาด”

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมด้วย นายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และนายอภิชัย เอกวนากุล ผอ.สำ�นักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 (สุราษฎร์ธานี) ได้กล่าวกับสื่อฯ ถึงมาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและ ชายฝั่งบริเวณชายหาด ที่ห้ามทิ้งขยะ ปล่อยน้ำ�เสียใน 24 หาดทั่วประเทศ โดยมี 2 หาดที่อยู่ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ฯคือหาดโฉลกบ้านเก่า ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ฯ และหาดบ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ฯ หากพบเห็นผู้กระทำ�ผิดมี โทษจำ�คุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำ�ทั้งปรับ

สปสช. เขต 11 สฎ. จัดประชุมเพื่อติดตามผล

อ.ต.ก.เชิญชวนร่วมงาน “ตลาดสินค้าเกษตรคุณภาพ อ.ต.ก. จังหวัดสุราษฎร์ธานี”

นายกมลวิศว์ แก้วแฝก ผอ.องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ได้กล่าวเชิญชวนประชาชนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และใกล้เคียงร่วมเลือกซื้อสินค้าเกษตรในงาน “ตลาดสินค้าเกษตรคุณภาพ อ.ต.ก.จังหวัดสุราษฎร์ธานี” ณ ลาน โปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 16 - 20 พฤษภาคม 2561 ทั้งนี้องค์การ ตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกระทรวงได้ กำ�หนดนโยบาย ปี 2561 ให้เป็นปีแห่งการยกระดับการบริหารจัดการมาตรฐานสินค้าเกษตร สู่เกษตร 4.0

สมาคมการศึกษาฯ จัด “100 ปี การศึกษาเอกชน” วันที่ 7-8 ก.พ. 2561 ที่โคออฟ (CO/OP) ได้ มีกิจกรรม งาน “100 ปี การศึกษาเอกชน” โดย สมาคมการศึ ก ษาเอกชนจั ง หวั ด สุ ร าษฎร์ ธ านี มีกิจกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ “ฉ่อย 3 น้า (น้าโย่ง น้าพวง น้านง)” “ชิงธงแชมป์ภาคใต้ จินตคณิต” “พิชิตทักษะทางวิชาการ” “พิพิธด้าน การแสดงของนักเรียนและครู” “ดูนิทรรศการ ทางการศึกษา” “การแข่งขันจินตคณิต” เป็นต้น

ผวจ.สุราษฎร์ฯ มอบเรือติดเครื่องยนต์

นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ได้มอบ เรื อ ไฟเบอร์ ก ลาสพร้ อ มเครื่ อ งยนต์ ให้แก่นาย สมเกียรติ แก้วภมร ชาวบ้านหมู่ 1 ต.ย่านยาว อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีผู้เข้าร่วมใน พิธีส่งมอบเรือครั้งนี้ อาทิ นายชาญวิทย์ สิรภักดี นายอำ�เภอคีรีรัฐนิคม นายธีระพงค์ แก้วประสงค์ กำ�นันตำ�บลย่านยาว และนายโกสุม ศรีนาวา นายก อบต. ตำ�บลย่านยาว เป็นต้น

เปิด “ชมรมนักบริหารทรัพยากรมนุษย์ จ.สุราษฎร์ธานี (SHRM)”

ชมรม SHRM. เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยมี นายเชาวฤทธิ์ บุญญานุกิจ ผู้อำ�นวยการ ศูนย์ความปลอดภัยในการทำ�งานเขต 8 ให้ เกียรติมาเป็นประธานเปิดงาน และมีประธาน ชมรม SHRM. นายไพโรจน์ โสภณสุขสถิตย์ และอ.อรรจน์ สีหะอำ�ไพ วิทยากรพิเศษจาก สถาบันจ็อบคนดี เป็นผู้ ให้การต้อนรับ

สำ�นักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต 11 สุราษฎร์ธานี จัดการประชุม “โครงการวิชาการ ติ ด ตามและประเมิ น ผลการดำ � เนิ น งานกองทุ น หลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่และ การจัดบริการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำ�หรับ ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึงพิง” ณ ห้องประชุม โรงแรม บรรจงบุรี อำ�เภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

อำ�เภอบ้านตาขุน สมาคมพนมขุนคีรวี ภิ าวดีฯ ร่วมจัดงาน “14 กุมภา วิวาห์เขาสามเกลอ”

กิจกรรมวันแห่งความรัก “14 กุมภา วิวาห์เขา สามเกลอ” ที่อำ�เภอบ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ปีนี้ ผ่ า นไปด้ ว ยความสำ � เร็ จ โดยได้ รั บ ความสนใจจาก นักท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นจำ�นวนมาก ปีนี้มีนาย วิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี พร้อมนางอุรสา จินโต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ ให้เกียรติ มาร่วมเป็นประธานเปิด

วิสาหกิจชุมชน

ผู้ ใหญ่แต๊ก นันทพล โมรา หมู่ 5 ต.ต้นยวน อ.พนม

กล้วยฉาบ บ้านถ้ำ�ผึ้ง โทร. 098 976 7429


6 เมืองคนดี#นิวส์

อำ�เภอวิภาวดี

ปีที่ 1 ฉบับที่ 1

เดือนพฤษภาคม

2561

Vibhavadi District

วิภาฯ เร่งของบฯ ปรับปรุงถนน

เพื่อรองรับการท่องเที่ยวและพัฒนาโลจิสติกส์ ปั จ จุ บั น อำ � เภอวิ ภ าวดี เ ป็ น อี ก หนึ่ ง อำ � เภอ ของจั ง หวั ด สุ ร าษฎร์ ธ านี ที่ เริ่ ม มี นั ก ท่ อ งเที่ ย ว เดินทางเข้ามายังพื้นที่อย่างคึกคัก เนื่องจากมี สถานทีท่ อ่ งเทีย่ วธรรมชาติ อาทิ อุทยานแห่งชาติ แก่งกรุง อีกทั้งมีอาณาเขตติดต่อกับอำ�เภอ คีรีรัฐนิคม อำ�เภอบ้านตาขุน และอำ�เภอพนม ซึง่ ต่ า งก็ มีแ หล่ ง ท่ อ งเที่ย วธรรมชาติ ท่ีมีช่ือ เสี ย ง นอกจากนี้ประชากรอ.วิภาฯ ส่วนใหญ่ยึดอาชีพ เกษตรกรรม ต้องขนส่งสินค้าไปจำ�หน่ายยังที่ ต่างๆ ในระยะ 2-3 ปี ที่ผ่านมาองค์การปกครอง นายมงคล สาคร ส่ ว นท้ อ งถิ่น และจั ง หวั ด สุ ร าษฎร์ ธ านี จึง เร่ ง รั ด ส.อบจ.เขตอำ�เภอวิภาวดี การพัฒนาด้านคมนาคม โดยเฉพาะเส้นทางหลัก ที่เชื่อมต่อระหว่างอำ�เภอและเส้นทางเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายมงคล สาคร ส.อบจ. วิภาวดี ได้กล่าวถึงความคืบหน้าของการดำ�เนินการว่า “ที่ผ่านมาผมได้ทำ�หน้าที่เป็นผู้ประสานงานโครงการกับทางอบจ.สฎ. และทางจังหวัดสุราษฎร์ฯ เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณดำ�เนินการซ่อมสร้างและปรับปรุงถนนสายหลักสำ�คัญๆ ในพื้นที่อำ�เภอ วิภาวดีดังนี้ 1.ถนนสายน้ำ�ตกวิภาวดี งบฯ 25 ล้านบาทเศษ (ดำ�เนินการแล้วเสร็จ) 2.ถนนสายบ้าน หัวสะพาน ม.12 บ้านเทพนิมิต ม.11 ของ อบจ.สฎ. ระยะทาง 2,400 ม. งบฯ 9 ล้านบาททเศษ ของ จังหวัดสุราษฎร์ฯ ระยะทาง 4,900 ม. งบฯ 20 ล้านบาทเศษ 3.ถนนสาย บ้านยาง อ.คีรีรัฐฯ-ตะกุก เหนือ อ.วิภาวดี อบจ.สฎ. ระยะทาง 10,525 ม.งบฯ 37ล้านบาท 4.ถนนสายบ้านท่านหญิงฯ-คลองมุย ต.ตะกุกเหนือ อบจ.สฎ. 2 โครงการระยะทาง 4 พันกว่าเมตร งบฯ 16 ล้านกว่าบาท งบประมาณทั้งหมดที่กล่าวมาร่วมร้อยล้านบาท ผมต้องขอขอบคุณทางคณะผู้บริหาร อบจ.สฎ. และจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นอย่างสูง”

อำ�เภอพนม

นายสุรชัย เมืองประเทศ ผู้ ใหญ่บ้าน หมู่ 8

‘วิภาวดี’ เป็นอำ�เภอที่เล็กๆ มีภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงสลับกับภูเขาซับซ้อนซึ่งอุดมด้วยป่าเขียวที่มี ความบริสุทธิ์สูง และป่าได้ก่อเกิดประติมากรรมธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่งแต่ที่เป็นจุดเด่นของ การท่องเที่ยวในอำ�เภอนี้ก็คือการล่องแก่งผจญภัยในคลองยัน การเดินป่าส่องสัตว์ ในอุทยานแห่งชาติ แก่งกรุง การเดินป่าชมน้ำ�ตกงาม ชึ่งน้ำ�ตกที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนอำ�เภอวิภาวดีนั่นก็คือ ‘น้ำ�ตกวิภาวดี’ น้ำ�ตกขนาดใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ของอำ�เภอ สามารถเดินทางโดยรถยนต์ น้ำ�ตกแห่ง นี้มีความสูง 9 ชั้นและมีน้ำ�ไหลแรงตลอดปี ชั้นที่ 2 มีความสวยงามและมีแอ่งให้เล่นน้ำ�เย็นฉ่ำ�อย่าง ปลอดภัยรอบบริเวณน้ำ�ตกมีความร่มรื่นเหมาะแก่การปิกนิก ขณะนี้กลุ่มท่องเที่ยวชุมชนในพื้นที่นำ�โดย ผู้ ใหญ่ชัย หรือนายสุรชัย เมืองประเทศ ผู้ ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ต.ตะกุกใต้ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี ได้คดิ ริเริม่ จัดทริปนำ�พาคณะนักท่องเทีย่ วทีต่ อ้ งการพิชติ น้�ำ ตกวิภาวดีทง้ั 9 ชัน้ เดินเท้าตัง้ แต่น�ำ้ ตกชั้นล่าง ไปจนถึงชั้นที่ 9 มีอาหารเที่ยงระหว่างทาง 1 มื้อ สอบถามรายละเอียดได้ โทร. 087-2768408

Phanom District

“ผาสวนกวางฟาร์ม”

ปศุสัตว์แนวใหม่ ต่อยอดรายได้จากท่องเที่ยว

อำ�เภอพนม จุดเชื่อมระหว่าง

แหล่งท่องเที่ยวดังๆ ในโซนอันดามันและอ่าวไทย อำ�เภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานีในมุมมองของภาครัฐนั้นยังถูกจัดเป็นพื้นที่ชนบทที่ห่างไกล เพราะ ที่ตั้งซึ่งอยู่ไกลจากตัวอำ�เภอเมืองค่อนข้างมาก ภูมิประเทศก็แวดล้อมด้วยขุนเขา ป่าไม้ และประชากร ยังยึดอาชีพเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลัก 100% แต่ถ้ามองในแง่การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแล้วอำ�เภอ พนมถื อ ว่ า เป็ น พื้ น ที่ ที่ มี ศั ก ยภาพสู ง เพราะมี ส ถานที่ ส วยงามมากมายและมี ร ะบบนิ เวศของป่ า ฝน ที่อุดมสมบูรณ์อย่างยิ่ง จึงเป็นแหล่งกำ�เนิดพืชถิ่นหาชมยาก เช่น ดอกบัวผุด ฉบับนี้เราจึงมีมุมมองของ นายสิทธิชัย ไทยเจริญ นายอำ�เภอพนม มาฝาก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทัศนะที่น่าสนใจและหลายฝ่ายควรเข้า มาช่วยเติมเต็ม... “อำ�เภอพนมปัจจุบันมีประชากรมากถึง 38,000 คน แบ่งเป็น 6 ตำ�บล 56 หมู่บ้าน ซึ่งกินพื้นที่ กว้างมาก และประชากรยึดอาชีพเกษตร 100% ทำ�เลของอำ�เภอพนมนั้นเป็นจุดเชื่อมระหว่างแหล่ง ท่องเที่ยวดังๆ ในโซนอันดามันและอ่าวไทย ถือเป็นเส้นทางบกสายหลักที่นักท่องเที่ยวต้องสัญจรผ่าน ไปมาระหว่างจังหวัดกระบี่ ตรัง ภูเก็ต พังงา กับแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ�ของสุราษฎร์ฯ เช่นกุ้ยหลิน เมืองไทยและเกาะต่างๆ จากสถิติพบว่ามีนักท่องเที่ยวแวะเข้ามาเที่ยวในพื้นที่เพิ่มขึ้นทุกปี และ 90% มาจากยุโรปและสแกนดิเนเวียซึ่งมีกำ�ลังซื้อสูง แต่การส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวให้ได้ผลก็ต้องอาศัย ปัจจัยหลายอย่าง เช่น การประชาสัมพันธ์ ในโซเชียลมีเดียที่สร้างการรับรู้ได้ ในวงกว้าง รวดเร็วและ ยังง่ายต่อการประชาสัมพันธ์อย่างสม่ำ�เสมอ แต่ที่สำ�คัญกว่าก็คือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และ ระบบโทรคมนาคมเพื่อให้รองรับการเติบโตของการท่องเที่ยวได้

หากจะพูดถึงการเลี้ยงกวางถือได้ว่าเพิ่งเริ่มเป็นที่นิยมในหมู่เกษตรกรไทยไม่นานนัก ปัจจุบันจึงมี เกษตรทั่วประเทศยึดอาชีพเลี้ยงกวางเพียงหลักร้อย เนื่องจากเกษตรกรยังขาดองค์ความรู้ ในการเลี้ยง และขาดแหล่งพันธุ์กวาง อีกประการหนึ่งเป็นเพราะกวางถือเป็นสัตว์ป่าสงวน การนำ�กวางออกจาก พื้นที่มาเลี้ยงเพื่อการค้าจึงเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่วนั นีก้ ารเลีย้ งกวางอย่างถูกต้องตามกฎหมายนัน้ เป็นเรือ่ งทีส่ ามารถทำ�ได้ และมีเกษตรกรประสบ ความสำ�เร็จจากการเลี้ยงกวางโดยมีรายได้เฉลี่ยต่อปีหลายแสนบาท เนื่องจากผลผลิตจากกวาง โดย เฉพาะเขากวางอ่อนเป็นที่ต้องการของตลาดและยังสามารถต่อยอดให้เป็นการท่องเที่ยวได้ ดังเช่นที่ ‘ผาสวนกวางฟาร์ม’ อำ�เภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ฯ ทัง้ นีน้ ายเชวง สมพังกาญจน์ อดีตกำ�นันแหนบทองคำ� และอดีตนายก อบต.ตำ�บลต้นยวน อำ�เภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งปัจจุบันคือเจ้าของผาสวนกวาง ฟาร์มได้เผยว่า... “ปัจจุบันนี้ในฟาร์มของผมมีอยู่ 160 ตัว มีทั้งกวางพันธุ์ลูซ่า กวางลูกผสม และกวางพันธุ์ดาวอินเดีย ซึ่งมีลักษณะสวยงามและเชื่องมากสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ ส่วนต้นทุนค่าอาหารสำ�หรับกวาง ก็ไม่สูงหลักๆ คือหญ้าและผลไม้ การดูแลสุขภาพก็ง่ายเพราะเป็นสัตว์ที่ทนทานต่อแมลงและเชื้อโรค โรคที่ต้องดูแลเป็นพิเศษก็คือโรคพยาธิจึงต้องมีการถ่ายพยาธิเป็นประจำ� ที่ผมหันมาเลี้ยงกวางก็เพราะเขาอ่อนกวางมีราคาเริ่มต้นสูง เมือ่ ได้ผลผลิตก็สง่ ไปขายทีส่ หกรณ์เพือ่ แปรรูปเป็นยาสมุนไพรแคปซูลหรือนำ�ไปสไลด์และดอง และยังนำ�ไปทำ�เวชสำ�อาง เช่น ครีมกันแดด โลชั่น เพราะเขากวางอ่อนได้รับการวิจัยมาแล้วว่ามีคอลลาเจนสูงมาก และยังมีสารอาหารอื่นๆ ที่มี ประโยชน์ โดยเฉพาะด้านการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ชะลออาการกระดูกเสื่อมและกระตุ้นการสร้าง เซลล์ ใหม่... ส่วนกวางตัวเมียเราก็คัดตัวที่สมบูรณ์ไว้เป็นแม่พันธุ์เพื่อขายและขยายพันธุ์ ในฟาร์มเรา ตอนนี้ที่ผมต่อยอดแล้วก็คือการท่องเที่ยว เพราะเมื่อมีกวางมากขึ้นก็เริ่มมีเด็กนักเรียนและชาวบ้าน มาขอดูกันมาก ผมเริ่มมา 2 ปีแล้ว และถือเป็นที่แรกของอำ�เภอพนมที่ทำ�ฟาร์มกวางกึ่งท่องเที่ยว ที่ผ่า นมาเนชั่นฯ ก็เพิ่งจะจัดทริปปั่นจักรยานมาชมเพราะฟาร์มตั้งอยู่ระหว่างทางไปแหล่งท่องเที่ยวสำ�คัญ เช่น อุทยานธรรม เร็วๆ นีก้ จ็ ะต่อยอดไปสูศ่ นู ย์การเรียนรูก้ ารเพาะเลีย้ งกวางและฟาร์มสเตย์ ถ้าเกษตรกร หรือนักท่องเที่ยวท่านใดมีความสนใจก็แวะมาได้ ติดต่อที่ โทร. 086 269 9602”

นายสิทธิชัย ไทยเจริญ นายอำ�เภอพนม

ทีผ่ า่ นมาภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ก็มคี วามพยายามจะพัฒนาในประเด็นทีผ่ มพูด ทาง อำ�เภอและผมก็พยายามเร่งการประสานงานกับจังหวัดโดยเฉพาะเรื่องถนน เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าถึง แหล่งท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาลและต้องมีความปลอดภัยสูง ผมก็อยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมมือกัน ผลักดันให้เกิดโดยเร็วเพราะถ้าเนิ่นช้าอำ�เภอพนมอาจจะเสียโอกาสไปอย่างน่าเสียดายครับ”

นายเชวง สมพังกาญจน์ เจ้าของ / ผู้บริหาร


ปีที่ 1 ฉบับที่ 1

เดือนพฤษภาคม

เมืองคนดี#นิวส์ 7

2561

อำ�เภอบ้านตาขุน

Ban Ta Khun District

ทต.เชี่ยวหลาน ยกระดับความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ตั้งศูนย์กู้ชีพ กู้ภัยทางน้นโยบายการพั ำ� ตอบรั บ MOU ใหม่ ฒ นาท้ อ งถิ่ น ขององค์ ก ารปกครองส่ ว น

ท้องถิ่นในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่ว่าจะเป็นองค์การบริหาร ส่วนจังหวัด เทศบาลตำ�บล และองค์การบริหารส่วนตำ�บลต่าง มุ่งเน้นให้ประชาชนมีความอยู่ดีมีสุข ดังนั้นจึงจำ�เป็นต้องมุ่ง ดำ � เนิ น นโยบายและสร้ า งกลยุ ท ธ์ เ พื่ อ พั ฒ นาคุ ณ ภาพชี วิ ต ของประชาชนใน 3 ประการหลักคือ การพัฒนาและยกระดับ การศึกษา การดูแลสุขภาพอนามัย และการประกอบอาชีพ แต่ สำ � หรั บ เทศบาลตำ � บลเชี่ ย วหลานซึ่ ง อยู่ ใ นพื้ น ที่ ที่ มี แหล่งท่องเที่ยวระดับประเทศ เช่น ‘กุ้ยหลินเมืองไทย’ จำ�เป็น ต้องให้ความสำ�คัญกับการพัฒนาด้านอาชีพมากกว่าอื่นๆ ดังที่ นายเชาวลิต ช่วยสงค์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำ�บลเชีย่ วหลาน ได้เผยว่า.... “ปัจจุบันที่กุ้ยหลินฯ เรามีเรือให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ ประมาณ 200 กว่าลำ� มีแพพักของเอกชนอยู่ 12 แพ ของ อุทยานแห่งชาติเขาสกอีก 4 แพ มีความสามารถในการ รับรองนักท่องเที่ยวเข้าพักแรมได้ประมาณ 1,000 คนต่อคืน แต่ถ้าเป็นการท่องเที่ยว One Day Trip จะสามารถรองรับได้ ราว 3,000 คนต่อวัน ด้วยนักท่องเที่ยวจำ�นวนมากขนาดนี้เรา จำ�เป็นต้องมีมาตรการด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้นโดย นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ฯ ให้ความสำ�คัญอย่างมาก ในเรื่องนี้ โดยเมื่อปีใหม่ที่ผ่านมาท่านผวจ.ก็มาเป็นประธาน

เขื่อนรัชชประภา

(ต่อจากหน้า 1)

สานต่องานเพื่อชุมชน

เพิ่ ง ผ่ า นพ้ น ไปไม่ น านสำ � หรั บ งานเสวนาชุ ม ชนเขื่ อ นรั ช ชประภาซึ่ ง เป็ น การทำ � งานร่ ว มกั น ระหว่ า งเขื่ อ น รัชประภากับผู้นำ�การปกครองท้องถิ่น ผู้นำ�ชุมชน และภาคเอกชนใน 4 อำ�เภอ ได้แก่ อำ�เภอพนม อำ�เภอบ้านตาขุน อำ�เภอคีรีรัฐนิคม และอำ�เภอวิภาวดี เพื่อพัฒนาชุมชนร่วมกัน และในปี 2561 เขื่อนรัชชประภาก็ยังคงให้ความ สำ�คัญกับการทำ�งานอย่างใกล้ชิดร่วมกับภาคีต่างๆ เพื่อเดินหน้าพัฒนาชุมชน ทั้งนี้ นายชัยวัฒน์ มานะพันธุ์พงศ์ ผู้อำ�นวยการเขื่อนฯ ได้เผยทิศทางการทำ�งานว่า.. “นโยบายหลักข้อหนึง่ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต เขือ่ นรัชชประภา ก็คอื การให้ความสนับสนุนและพัฒนาชุมชน ขณะ นีส้ ง่ิ ทีช่ มุ ชนอยากให้เขือ่ นฯ สนับสนุนอย่างมากก็คอื เรือ่ งความรู้ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ความรูเ้ พือ่ นำ�มาพัฒนาและเพิม่ มูลค่าผลิตภัณฑ์ชมุ ชน เขือ่ นฯ จึงมีแผนงานดำ�เนินการในปีน้โี ดยทำ�หน้าทีเ่ ป็นตัวกลางเชือ่ มความร่วมมือจากสถาบัน การศึกษาต่างๆ เพือ่ นำ�ความรูท้ เ่ี หมาะสมเข้าไปสูช่ มุ ชน นอกจากนี้เขื่อนฯ ยังคงเน้นการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้าง ความสามัคคีความเข้าใจอันดีและเสริมสร้างสุขภาพ เช่น กิจกรรมวันเด็ก และการแข่งขันฟุตบอลเชีย่ วหลานคัพ ทีเ่ พิง่ ผ่านพ้นไป โดยเราได้เชิญทีมฟุตบอลจากโรงเรียนในจังหวัดสุราษฎร์ฯ ที่มีความเข้มแข็งมาร่วมแข่งด้วยเพื่อสร้าง แรงบันดาลใจ และให้เด็กในพื้นที่ได้เรียนรู้เทคนิคการเล่น ส่วนเรื่องสนามกีฬานั้นทางเขื่อนฯ ก็บำ�รุงรักษาอย่างดี เพื่อให้เป็นสนามมาตรฐานสำ�หรับการแข่งขันครับ”

ในการลงนามMOUหรือบันทึกข้อตกลงด้านความปลอดภัย ระหว่างหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่กับตัวแทนผู้ ประกอบการแพและชมรมผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยว ซึ่งมี กติการ่วมกันในประเด็นที่สำ�คัญๆ คือในทุกการเดินทางทาง น้ำ�ต้องสวมใส่ชูชีพ 100% หมายความว่านักท่องเที่ยว ไกด์ ผู้ขับเรือ เด็กติดเรือ แม้แต่ชาวบ้านที่ทำ�ประมงต้องสวมใส่ ชูชีพทุกครั้งที่เดินทางเพื่อป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุใน เบื้องต้น นอกจากนี้ก็ยังมีนโยบายเพิ่มทักษะผู้บริการเพื่อ การเป็นเจ้าบ้านที่ดี เช่น การฝึกโต้ตอบภาษาต่างประเทศ เบื้องต้น การปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิตผู้ประสบภัย ไป นายเชาวลิต ช่วยสงค์ นายกฯ ทต.เชี่ยวหลาน จนถึงกริยามารยาทและบุคลิกภาพ แต่แม้เราจะดำ�เนินการเพื่อป้องกันอุบัติเหตุอย่างรัดกุมเพียงใด ก็ยังมีความเป็น ไปได้ที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้น เราจึงต้องเตรียมการรับมือด้วย โดย ทต.เชี่ยวหลาน ได้จัดตั้ง ศูนย์กู้ชีพ กู้ภัยทางน้ำ�ขึ้น ดำ�เนินการไปแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีลักษณะ เป็นแพตั้งอยู่บริเวณจุดกึ่งกลางอ่างเก็บน้ำ�ซึ่งสามารถเดินทางถึงทุกจุดท่องเที่ยว ในอ่างเก็บน้ำ�ได้ ในเวลา 15 นาที ทั้งนี้เพื่อเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ประสบเหตุหรือ ผู้เจ็บป่วยกะทันหันให้ไปถึงสถานพยาบาลเร็วที่สุด ที่ศูนย์นี้จะมีเจ้าหน้าที่ประจำ�ตลอด 24 ชม. มีสปีดโบทที่ติดตั้งอุปกรณ์กู้ภัยกู้ชีพประจำ�การ 2 ลำ� เมื่อคนเจ็บมาถึงฝั่งแล้วก็ จะส่งไม้ต่อให้เป็นหน้าที่ของศูนย์กู้ชีพ กู้ภัยทางบก ที่ทต.เชี่ยวหลานดำ�เนินการมาก่อน หน้าแล้ว ทั้งนี้หากประชาชนและนักท่องเที่ยวไม่ได้รับความสะดวกสบาย ไม่ได้รับการบริการ ที่ดี ถูกเอารัดเอาเปรียบ หรือเสี่ยงต่อความปลอดภัย สามารถร้องเรียนได้ที่เจ้าหน้าที่ ทต.ที่ประจำ�อยู่ ณ ท่าเรือ หรือที่ที่ทำ�การ ทต.เชี่ยวหลาน โทร. 077 346098”

ตาขุน พนม ติดลมบน

การแถลงทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวปี 2561 โดย ททท. นำ�แนวคิด Thailand4.0 มาสร้างการรับรู้ต่อจุดขายหลัก “Thai Local Experience” ทำ�ให้ นักธุรกิจโรงแรมและทีพ่ กั ต่างเชื่อมั่นว่าจะได้รับอานิสงส์จากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น อีกในปีนี้และปีถัดไป สำ�หรับจังหวัดสุราษฎร์ธานีซ่งึ ถือเป็นจังหวัดศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว แห่งหนึ่งของภาคใต้ ก็มีอัตราการเติบโตและการแข่งขันของธุรกิจโรงแรมสูงขึ้น โดยเฉพาะทำ�เสริมถนนผ่านเข้าสู่เขื่อนรัชชประภาและกุ้ยหลินเมืองไทย นายศิวดล สอนมี เจ้าของและผู้บริหาร ‘ตาขุน เมาท์เทน วิว’ ตำ�บลเขาวง อำ�เภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี หนึ่งในผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กเผยว่า มีความเชื่อมั่นว่า นักท่องเที่ยวจะเดินทางมายังพื้นที่เพิ่มเป็นเท่าตัวทุกปี เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยว ของทั้งสองอำ�เภอมีความโดดเด่นด้านธรรมชาติที่หาชมยากและความหลากหลาย ของกิจกรรมท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางจากฝั่งอ่าวไทยสู่ อันดามัน ประกอบกับนโยบายที่ชัดเจนและต่อเนื่องของภาครัฐ กลยุทธ์การทำ�ตลาด ของการท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทย การสนับสนุนของจังหวัดและองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น และการสนับสนุนด้านแหล่งเงินทุนจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) จะสามารถเกือ้ กูลให้อตุ สาหกรรมโรงแรมและ ธุรกิจบริการท่องเที่ยวขนาดเล็กอยู่รอดได้ นายศิวดลยังกล่าวต่อไปอีกว่า อีกหนึง่ ปัจจัยทีจ่ ะทำ�ให้ธรุ กิจโรงแรมขนาดเล็กยัง่ ยืน ก็คือการพัฒนาขีดความสามารถด้านการบริการของตนให้ได้มาตรฐานและมีความคิด สร้างสรรค์ท่โี ดดเด่น และต้องร่วมมือกันดูแลรักษาสิง่ แวดล้อมของแหล่งท่องเทีย่ ว ตลอดจนร่วมมือสร้างแพ็กเกจท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่สามารถดึงดูดใจนักท่องเที่ยวด้วย

สำ�หรับโรงเรียน

ครูแก้ว - นิตยา รัตนพันธ์ โทร. 084-442-8181

ไทยสินยานยนต์ จ.สุราษฎร์ธานี

091-0344434 / 077-273526 อุ๊/ติ๊ก

ผู้บริหาร

ยอดนักท่องเที่ยวพุ่ง โรงแรมอนาคตใส

จินตคณิต สาขาสุราษฎร์ธานี

นายศิวดล สอนมี

บริษัท สุราษฎร์อินเตอร์ทัวร์ จำ�กัด

095-4100011, 095-4100022


8 เมืองคนดี#นิวส์

ปีที่ 1 ฉบับที่ 1

เดือนพฤษภาคม

2561

ปักหมุดที่เที่ยว กับเมืองคนดีนิวส์ เที่ยวสุราษฎร์ฯ กับ บก.ป้อม เมืองคนดี

สแกน NOW

ถ้าพูดถึงการท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานีหลายคนมักนึกไปถึงชายหาดและโลกใต้น้ำ�ที่สวยงามก่อนอื่นใด เพราะได้รับความนิยมติดอันดับโลกไปแล้ว แต่ที่จริงแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานียังมีอีกหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งนอกจาก จะมีความบริสุทธิ์ของธรรมชาติสูงมากแล้ว แต่ละแห่งยังมีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ สามารถผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen แห่งใหม่ได้

084 940 2289

1

3 1 4

2 3 2

2 4 ในแถบพื้นที่อำ�เภอพนม บ้านตาขุน คีรีรัฐนิคม และ วิภาวดีนั้นนับโซนที่มีแหล่งท่องเที่ยว Unseen ใหม่ที่เพิ่ง เปิดตัวสู่สาธารณะอยู่มากมาย ในฉบับนี้ขอแนะนำ� 4 แห่ง ที่รับรองว่าคนรักธรรมชาติต้องถูกใจ

1.จุดชมวิวเขา ต.เต่า

ตัง้ อยูห่ มูท่ ่ี 6 ในเขตพืน้ ทีอ่ ทุ ยานแห่งชาติเขาสก เดิน ทางด้วยรถยนต์ได้สะดวกโดยใช้ทางหลวงแผ่นดินสาย 401 (สายสุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า) เมื่อผ่านสามแยกทับคริสต์ มาราว 3 กิโลเมตร จะผ่านโรงเรียนมัธยมเปี่ยมรัก วัด พังกาญจน์ ให้ชะลอความเร็วเพื่อเลี้ยวขวา แล้วเดินทาง ต่อมาจนพ้นหลัก กม.ที่ 78 ก็จะพบป้าย “หน่วยพิทักษ์ อุทยานเขาสกที่ ขส.1 (เขาต.เต่า)” จุดชมวิวเขา ต.เต่า เป็นจุดชมทะเลหมอกแดนใต้อีก แห่งหนึ่งที่คนรักธรรมชาติไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เพราะมี ทั ศ นี ย ภาพสวยงามด้ ว ยมุ ม มองแบบพานอรามาจาก เนินสูง สามารถเห็นเขือ่ นรัชชประภาและความอุดมสมบูรณ์ ของป่าไม้รอบอาณาบริเวณคลองพุมดวงได้กว้างไกล แทบ ทุกเช้าจะมีสายหมอกหนาลอยปกคลุมยอดเขาใหญ่น้อย ให้ความรู้สึกเสมือนยืนอยู่บนแดนสวรรค์ ติดต่อสอบถาม รายละเอียดการเข้าพักแต่เนิ่นๆ ที่อุทยานแห่งชาติเขาสก โทร. 077-395-154-5 หรือติดต่อที่หน่วยพิทักษ์อุทยาน ต.เตา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา

2.ถ้ำ�หนองไหล

ตั้งอยู่หมู่ 11 ต.บ้านยาง อ.คีรีรัฐนิคม เป็นถ้ำ�ที่ถูกค้นพบ โดยบรรพบุ รุ ษ ชาวบ้ า นยางและถู ก เล่ า ขานสื บ ต่ อ ถึ ง ความสวยงามมาหลายชั่วอายุคน ในสมัยก่อนถ้ำ�นี้เป็นที่ รู้จักเฉพาะคนในพื้นที่เท่านั้น แต่ปัจจุบัน อบต.บ้านยาง ได้สนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาทางเข้าเพื่อความ สะดวกของนักท่องเที่ยว ภายในถ้ำ�แบ่งเป็นห้องใหญ่น้อย หลายห้อง ทุกห้องต่างก็มีหินงอกหินย้อยรูปทรงแปลกตา แต่ละก้อนต่างแข่งกันสะท้อนแสงระยิบระยับเมื่อต้องไฟ นอกจากนี้ในบางจุดจะต้องโหนเชือกเดินลอดไปตามทาง เดินแคบๆ หรือปีนบันไดไม้สูงชันเพื่อขึ้นสู่อีกห้องหนึ่ง ซึ่ง สร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยได้ดี จุด เด่นของถ้ำ�นี้คือสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ ต ลอดทั้ ง ปี แม้ ในหน้าฝนจะมีน้ำ�หลากท่วมจนเกือบเต็มพื้นที่ถ้ำ� แต่ ก็ ส ามารถใช้ เ รื อ พายเข้ า ชมความงดงามของหิ น งอก หินย้อยที่อยู่ลึกภายในได้สะดวก ทั้งยังสร้างบรรยากาศ การท่องเที่ยวที่ ไม่ซ้ำ�ใคร ส่วนในฤดูแล้งสามารถเดินจาก ปากถ้ำ�เข้าชมห้องต่างๆ โดยมีทางออกจากถ้ำ�หลายทาง ใช้เวลาเดินชมทั่วถ้ำ�ราว 2 ชม. โดยมีไกด์ท้องถิ่นเป็นผู้นำ� เยี่ยมชม ติดต่อสอบถามที่ ผญ.สุวัตร โสมเกิด โทร. 08 1271 1388

3

3.จุดชมวิวม่านฟ้าผาลม ป่าชุมชนเขาวังลาน

2

ตั้งอยู่ที่หมู่ 14 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี จากจุดจอดรถนักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าขึ้นยอดเขาใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น ก็จะถึง “ผาลม” ซึ่ง เป็นจุดชมวิวเปิดมุมมอง 360 องศา ในวันที่อากาศโปร่งสามารถมองเห็นอำ�เภอวิภาวดีได้ทั้งอำ�เภออย่างชัดเจน โดยทิศเหนือมองเห็นโรงเรียน บ้านท่านหญิง ทิศใต้เห็นน้ำ�ตกวิภาวดี ทิศตะวันออกเห็นชุมชนเมืองใจกลางอำ�เภอ ทิศตะวันตกเห็นแนวป่าเขียวชอุ่มบนภูเขาใหญ่ ไฮไลท์ที่จัดว่า เด็ดของสถานที่นี้มีหลากหลายทั้งการชมทะเลหมอกสวยๆ ซึ่งจะมีให้ชมทุกเช้ามืดนับตั้งแต่ย่างเข้าปลายฝนยาวไปจนสิ้นสุดฤดูหนาว และยังสามารถ เดินไปชมความงามยามพระอาทิตย์ขึ้นได้ ในจุดชมวิวอีกแห่งซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก นอกจากนี้ยังได้ชมความงามอันเป็นอัตลักษณ์เพราะไม่สามารถพบได้ ในเขาละแวกใกล้เคียงก็คือ “ฝอยลม” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “สร้อยขี้ลม” หรือ “สร้อยม่านฟ้า” ซึ่งเป็นไลเคนแบบเส้นสาย (Fruticose) มีลักษณะเป็นเส้นกลมคล้ายท่อห้อยระย้าลงมาจากกิ่งไม้ มีสีเขียวอ่อนจนถึงเขียวเข้ม เมื่อต้องสายลมจะปลิวพลิ้วสร้างความสบายตาสบายใจแก่ผู้ที่ ได้พบเห็น ฝอยลมนั้นจัดเป็นเครื่องมือธรรมชาติสำ�หรับวัดความบริสุทธิ์ของอากาศ ถ้าพื้นที่ใดพบฝอยลมแสดงว่ามีอากาศบริสุทธิ์สูง ส่วนบนพื้นดิน ก็มีเฟิร์นให้ชมและศึกษาหลายพันธุ์ อาทิ กระปรอกสิงห์ ชายผ้าสีดา กูดเกี๊ยะ ฯลฯ แต่ที่สร้างเสน่ห์แปลกตาก็คือ “มอสขนนก” ซึ่งขึ้นกระจายไปทั่ว พื้นดินเป็นวงกว้างราวกับถูกปูไว้ด้วยพรมสีเขียวหนานุ่มที่ผ่านการถักทอมาอย่างดี สำ�หรับท่านที่คลั่งไคล้ความท้าทายสามารถเลือกเส้นทางลงเขา ด้วยการไต่เชือกเลาะริมผา ซึ่งมีไกด์ท้องถิ่นคอยอำ�นวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยตลอดทาง ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่ สารวัตร กำ�นัน สุบิน ศักดา 08 5784 2608 ผญ.ประวิง จันทร์สุด 08 9867 0688 และผู้ช่วยประสงศ์ โตยัง 08 2279 9919

4.ป่าต้นน้ำ� บ้านถ้ำ�ผึ้ง

ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 ต.ต้นยวน อ.พนม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ เหมาะมากสำ�หรับผู้ที่ต้องการศึกษาเรียนรู้ด้านระบบนิเวศ จุดที่ ไม่ควรพลาดชมก็คือ “ตาน้ำ�” หรือ “ต้นน้ำ�” ซึ่งเป็นแหล่งกำ�เนิด สรรพชีวิตในผืนป่าอันอุดมแห่งนี้ และยังเป็นแหล่งน้ำ�ดิบที่นำ� มาผลิตเป็นน้ำ�ประปาสำ�หรับชาวบ้านถ้ำ�ผึ้งทั้งตำ�บลได้อุปโภค บริโภคตลอดทั้งปี นอกจากนี้ธารน้ำ�ที่ทะลักไม่ขาดสายยังไหลลง สู่คลองชะอุ่น คลองพุมดวง และแม่น้ำ�ตาปี โดยมีอ่าวบ้านดอน เป็นสุดปลายสายน้ำ�ซึ่งเป็นเรื่องที่น้อยคนนักจะรู้ สถานที่นี้จึง เป็นมหาวิทยาลัยธรรมชาติแห่งสายน้ำ�ที่น่าศึกษาอย่างยิ่ง อีกทั้ง ระบบนิเวศของป่าดิบเขารอบชุมชนยังมีความอุดมสมบูรณ์สูง จึงเหมาะกับการศึกษาพันธุ์ไม้ นอกจากนี้ชาวชุมชนบ้านถ้ำ�ผึ้ง ยังถือว่าเป็นนักอนุรักษ์ ในสายเลือด เนื่องจากมีวิถีชีวิตอยู่ท่าม กลางธรรมชาติอย่างเข้าใจมาหลายชั่วอายุคน หากต้องการพัก แบบโฮมสเตย์ ร่ ว มกั บ ชาวบ้ า นถ้ำ � ผึ้ ง เพื่ อ สั ม ผั ส ความเป็ น อยู่ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการอนุรักษ์ พวกเขาก็พร้อม ต้อนรับสอบถามรายละเอียดที่ ผู้ ใหญ่แต๊ก นันทพล โมรา โทร. 08 3393 7222


วารสารข่าว... ของชาวสุราษฎร์ฯ MKD SURAT JOURNAL ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 เดือนพฤษภาคม 2561

mkdnews เมืองคนดีนิวส์ mkdtv surat

วารสารข่าว... ของชาวสุราษฎร์ฯ MKD SURAT JOURNAL


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.