MKD 22
Ban’s Pool Villa From the moment you step onto the wooden bridge leading you along the dramatic staircase up to your villa, you can feel the luxury. The mix of contemporary and traditional Thai architecture in addition to the beautiful panoramic views over Koh Tao and the Gulf of Thailand, will take your breath away. Enjoy the stunning infinity pool with views overlooking the sparkling blue sea and Koh Nang Yuan.
Ban’s Diving Resort
MKDธานี 2 84360 3/1 หมู่ที่ 1 ตำ�บลเกาะเตาะ อำ�เภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์
The Ban’s Pool Villa is luxury and service at it’s best.
Reception : +66 77 456 466 (International) MKD 3 077 456 466 (Thailand)
จังหวัดสุราษฎรธานี
EDI TOR TAL K
editor in chief
บก.ป้อม
ณรงค์ พฤกษาไพบูลย์
สวัสดีครับชาวสุราษฎร์ธานีทุกท่าน ขอต้อนรับท่านสู่นิตยสาร “เมืองคนดี” ฉบับ ปฐมฤกษ์ครับ... กว่าที่เวลาจะเดินทางมาจนถึงเดือนมิถุนายน’56 ซึ่งเป็นเดือนที่พวกเราทีมงาน “เมืองคนดี” ถือเป็นนิมิตหมายในการแนะนำ�ตัวกับผู้อ่านชาวสุราษฎร์ฯ นั้น พวกเรา ได้ทุ่มเทพลังกายและใจมานานนับปีทีเดียวครับเพื่อหาข้อมูลในการจัดทำ�นิตยสาร ฉบับนี้ โดยหวังว่าจะให้เป็นสื่อกลางในการสนับสนุนเชิดชู “คนดี” ผู้เป็นแบบอย่างแก่ สังคมทั้งในการดำ�เนินชีวิต ตลอดจนการบำ�เพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวม พร้อมกันนั้น ก็เป็นกระบอกเสียงในการประชาสัมพันธ์ทกุ เรือ่ งราวทีน่ า่ สนใจของจังหวัดไปสูส่ าธารณะ ขณะเดียวกันก็หยิบเอาสาระประโยชน์ที่แฝงไว้ด้วยความบันเทิง จากภายนอกมา บอกกล่าวให้คนในบ้านเราได้ตามทันกระแสโลกด้วย ทำ�ไมเราจึงตั้งความหวังเอาไว้แบบนั้นน่ะหรือครับ.... เหตุมนั เกิดมาจากมุมมองของพวกเราทีว่ า่ ปัจจุบนั โลกได้กา้ วสูย่ คุ ของ Social Media อย่างแท้จริงแล้ว วันนี้ ไม่เพียงช่องทางในการเสพข่าวสารจะเกิดขึน้ อย่างมากมายเท่านัน้ หากเรายังมีอุปกรณ์ไอทีที่สามารถสื่อสารกับคนทั่วทั้งโลก พกติดตัวอยู่ตลอดเวลาด้วย แต่เคยสังเกตไหมครับ...ว่าช่องทางข่าวสารใน Social ที่มีมากมหาศาลนั้นกลับมีแต่ เรื่องราวของคนอื่นที่ไกลตัว และแทบไม่มีเรื่องราวของ ‘คนดี’ ในสังคมสุราษฎร์ฯ บ้าน เราเลย... มีปราชญ์และคนดังของโลกหลายคนเคยกล่าวไว้ว่า ‘คน’ คือตัวการผลักดันสังคม สังคมจะดีหรือล่มจมก็ขึ้นอยู่กับคนว่าจะคิดดีทำ�ดีเพื่อตนเองและเพื่อบ้านเกิดมากน้อย แค่ไหน และเพื่อตอบสนองต่อความคิดนี้พวกเราจึงผลิตนิตยสารเมืองคนดีขึ้นมา และ พยายามอย่างยิ่งที่จะพัฒนาให้กลายเป็นสื่อที่ดีบนโลก Social ในอนาคตอันใกล้ เพื่อ เป็นแรงบันดาลใจให้ ‘คน’ ไม่วา่ จะเป็นใครก็ตามลุกขึน้ มาทำ�ดีเพือ่ ตนเองและสังคมด้วย โดยในฉบับแรกนี้ เราเริ่มต้นด้วย Theme “The City of Good People” ซึ่งพ้อง กับชื่อนิตยสารและนามนัยของจังหวัดในภาษาไทย โดยมีเนื้อหาอัดแน่นด้วยสาระ และหลักคิดของบุคคลที่เราได้ ไว้วางใจให้เข้ามาเป็นตัวแทนในการทำ�หน้าที่พัฒนา บ้านเกิด โดยเฉพาะบริเวณ 3 เกาะสวรรค์อันเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวของ จังหวัดและประเทศ รวมไปถึงคอลัมน์ประจำ�ทีห่ ลากหลาย ทัง้ เรือ่ งกิน ดืม่ เทีย่ ว ข่าวสาร ในแวดวงสังคมสุราษฎร์ฯ สุขภาพ การเงินการลงทุน การพัฒนาความคิด ไปจนถึงศิลปะ... หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่านิตยสารจะเป็นประโยชน์ต่อชาวเมืองคนดีทุกคน และ ขอกราบขอบพระคุณสปอนเซอร์ทุกท่านทุกองค์กรที่ ได้ ให้การสนับสนุนตั้งแต่ฉบับ ปฐมฤกษ์ เหนือสิ่งอื่นใดคือท่านผู้อ่านทุกท่านที่ ได้ ให้ โอกาสและต้อนรับ ‘เมืองคนดี’ ขอบพระคุณจากใจจริงครับ ณรงค์ พฤกษาไพบูลย์ บรรณาธิการบริหาร
กรรมการผูจ้ ดั การ / บรรณาธิผพ ู้ มิ พ์ ผู้โฆษณา / บรรณาธิการบริหาร ณรงค์ พฤกษาไพบูลย์ บรรณาธิการเนื้อหา ศศิธร บุญบรรเทิง กองบรรณาธิการ สมฤทัย ณรงค์เปลี่ยน ฝ่ายภาพ ดีมานด์ กรุ๊ป ฝ่ายโฆษณา วิลาวัลย์ มณีจันทร์สุข ฝ่ายศิลป์ บ.คิด ทำ�ดี มีเดีย จก. การเงินและ สมาชิก 081 684 6242, 084 940 2289 อีเมล์ demandgroup@gmail.com MKD 8 เฟสบุ๊ค www.facebook.com/demandgroup เว็บไซต์ www.demandgroup.net
advisor
บก.จอย
ยงยุทธ ติณพันธุ์
Managing Director / Publisher / Editor in Chief Narong Pruksaphiboon Editor Sasitorn Bunbanthoeng Editor Staff Somruethai Narongplian Account Excutive Wilawan Maneejansuk Distribution / Member 081 684 6242, 084 940 2289
MKD 9
CONTENT
vol.1 issue 1
the city of good people 008 010 012 018 020 022 026 030 034 036 038 040 042 044 048 054 056 058
editor talk content today’s surat today’s surat (gossip) world update man@work : life without a rest man@work : simplicity of style man@work : dreamer by nature make money : interesting investment art & career : everywhere has monsters soul & pirit : that speed it will slow heath secret speak out : being in working order woman@work : BAN’S always on my mind on the way : a nice day on the top of surat celebrity dish : nong view restaurant car club : chevrolet trailblazer good thing from song : good people (Jack Johnson)
บริษัท คิด ทำ�ดี มีเดีย จำ�กัด สำ�นักงานใหญ่ : 77/47 ถนนพระยาสุเรนทร์ แขวงบางชัน เขตคลองวามวา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10510 สำ�นักงานสาขา : 236/32 หมู่ 4 ถนนอำ�เภอ ตำ�บลมะขามเตีย้ อำ�เภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ฯ 84000 โทรศัพท์ 08 4940 2289, 08 1684 6242 (Line, WhatsApp, ChatOn, WeChat) อีเมล์ kidtamdeemedia@gmail.com เฟสบุก๊ www. facebook.com/demandgroup เว็บไซต์ www.demandgroup.net ทวิตเตอร์ www. twitter.com/demandgroup อินสตาแกรม demandgroup วางแผง-รวมห่อ ดีมานด์ กรุ๊ป demandgroup@gmail.com บทความและภาพที่ตีพิมพ์ ในนิตยสาร เมืองคนดี ขอสงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย การนำ10 �บทความหรือภาพในนิตยสาร เมืองคนดี ไม่ว่าจะเป็นบางส่วนหรือทั้งหมดไป MKD ตีพิมพ์ อ้างอิงหรือประโยชน์อื่น ต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท คิด ทำ�ดี มีเดีย จำ�กัด เท่านั้น
MKD 11
TOD A Y’S SU RA T
Story : Madam
Photo : Pom
kohtao festival 2013
เปิดโลกใต้ทะเลเกาะเต่า ครั้งที่ 10
เมื่อวันที่ 18-19 มิถุนายน 2556 สมาคมท่องเที่ยวเกาะเต่า และ ชมรมเรารักษ์เกาะเต่า ร่วมด้วยกลุ่มนักธุรกิจท่องเที่ยวเกาะเต่า ได้ ร่วมมือกันจัดงาน “เปิดโลกใต้ทะเลเกาะเต่า ครั้งที่ 10” ขึ้น โดยมี นายมนตรี เพชรขุ้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เกียรติเป็นประธานและเปิดงาน โดยมีวตั ถุประสงค์เพือ่ ส่งเสริม การท่องเทีย่ วเชิงอนุรกั ษ์ เพือ่ เผยแพร่ความรูด้ า้ นการอนุรกั ษ์ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมให้แก่นักท่องเที่ยวตลอดจนคนในชุมชน ภายใน งานมีกจิ กรรมทีน่ า่ ตืน่ ตาตืน่ ใจมากมาย อาทิ ขบวนพาเหรดจักรยาน ลดโลกร้อน กิจกรรมปล่อยเต่าและหอยมือเสือคืนสู่ท้องทะเล นิทรรศการต่างๆ พร้อมทั้งเกมการละเล่น และการแสดงมากมาย
MKD 12
MKD 13
TOD A Y’S SU RA T
Story : Madam
Photo : Jakkrabrande
เกาะพะงัน Ride to the Moon ครั้งที่ 2
เมื่อวันที่ 22-23 มิถุนายน 2556 สมาคมท่องเที่ยวเกาะพะงัน ร่วมด้วยนัก ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมเกาะพะงัน ได้จัดงานสุดอลังการ “เกาะพะงัน Ride to the Moon ครั้งที่ 2” มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมีนายมนตรี เพชรขุ้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นประธานเปิดงาน ทั้งนี้ การจัดงานได้รับการตอบรับจากบรรดานักขับขี่มอเตอร์ ไซค์หรูจากทั่วประเทศ ที่เดินทางมาร่วมงานอย่างคับคั่ง และภายในงานยังจัดให้มีกิจกรรมปาร์ตี้ท่ามกลาง แสงจันทร์ ในคืนเดือนเพ็ญ พร้อมการแสดงบนเวทีของศิลปินชื่อดังมากมาย นอก จากนี้ยังได้จัดจำ�หน่ายเสื้อที่ระลึกเพื่อการกุศล โดยนำ�รายได้ส่วนหนึ่งมอบให้ องค์กรต่างๆ บนเกาะ อาทิ วัด โรงเรียน รวมทั้งองค์กรพิทักษ์และอนุบาลสัตว์ เพื่อ ปฏิบัติกิจกรรมจรรโลงสังคมต่อไป
เปิดโลกมรดกอารยธรรมเมืองไชยา
เมื่อวันที่ 24-25 พฤษภาคม 2556 ณ วัดพระบรมธาตุไชยา อำ�เภอ ไชยา ได้ร่วมกับเทศบาลตำ�บลพุมเรียงและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยความสนับสนุนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมด้วยสภาวัฒนธรรม เมืองไชยา และสภาวัฒนธรรมอำ�เภอพุนพิน จัดงาน “เปิดโลกมรดกอารยธรรม เมืองไชยา” อย่างยิง่ ใหญ่ เพือ่ ส่งเสริมการท่องเทีย่ วเชิงวัฒนธรรม โดยภายใน งานมีกจิ กรรมน่าสนใจมากมาย อาทิ การออกบูทจำ�หน่ายสินค้าพืน้ เมืองไชยา การแสดงแสง สี เสียง ตลอดจนประเพณีแห่ผ้าห่มพระบรมธาตุไชยา และเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ โดยมีนาย วิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานในพิธี ร่วมด้วย นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาและผังเมือง นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสุริยัณห์ จิรสัตย์สุนทร นายอำ�เภอไชยา และดร.อรทัย ฉัตรภูติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี
MKD 14
HAADYAO BAYVIEW RESORT & SPA 57 Moo.8 Tambon. Koh Phangan, Koh Phangan, Suratthani Thailand 84280 Tel: +(66)77 349 141, +(66)77 349 193-4 Fax: +(66)77 349 140
MKDE-mail 15 : info@haadyao-bayviewresort.com www.haadyao-bayviewresort.com
TOD A Y’S SU RA T
Story : Madam
Photo : Pom
เปิดตัว CrossRoad หมู่บ้านหรูแห่งใหม่
“ภราดร พรหมเมศวร์” บอสหนุม่ คนเก่งแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์เมืองคน ดี แถลงเปิดตัวหมู่บ้าน “ครอสโรดส์ โฮม” โครงการพ่อขุนทะเล ซอย 12 ไป เมื่อ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา ภายใต้คอนเซปต์สุดเท่ “ชิค แอนด์ คูล” ณ ครอ สโรดส์ ผับ แอนด์ เรสเตอรองค์ โดยมีศิลปินเสียงนุ่มอมตะ “อ๊อด คีรีบูน” มา ร่วมสร้างความบันเทิงให้แก่แขกเหรือ่ ทีเ่ ดินทางมาร่วมงานอย่างคึกคัก นอกจาก นี้ยัง มีธนาคารธนชาติ นำ�โดยนพพร จันทบูรณ์ CEO ธนาคารภาคใต้ 2 มา ร่วมมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าที่จับจองบ้านภายในงาน โดยครอสโรดส์ โฮม ไม่เพียงเป็นหมู่บ้านหรูที่เหมาะกับครอบครัวอบอุ่นของคนรุ่นใหม่เท่านั้น หาก ยังอยู่ในทำ�เลทองที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติ และสะดวกต่อการเดินทาง เพราะ อยู่ใกล้สถานที่สำ�คัญๆ ของสุราษฎร์ธานีหลายแห่งอีกด้วย
ครบรอบ 9 ปี โรงพยาบาลกรุงเทพ สมุย
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2556 โรงพยาบาลกรุงเทพ สมุย จัดงานครบรอบ 9 ปี โรงพยาบาลกรุงเทพ สมุย “ก้าวสู่...ทศวรรษ” โดยชักชวนชาวเกาะสมุย และใกล้เคียงก้าวข้ามโรคภัย ภายใต้ปณิธานขององค์กรที่มุ่งมั่นสร้างชุมชน เกาะสมุยให้เป็นชุมชนทีแ่ ข็งแรง มีความปลอดภัยด้านสุขภาพ โดยมีนายประเสริฐ จิตมุ่ง นายอำ�เภอเกาะสมุย และนายแพทย์ประยุทธ สมประกิจ ประธานคณะ ผู้บริหารกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพภาคตะวันออกและภาคใต้ เป็นประธาน เปิดงาน ภายในงานจัดให้มีการเสวนาพิเศษ เรื่อง “นาทีวิกฤติกู้ชีพประชาชน ในพื้นที่อำ�เภอเกาะสมุย” และนิทรรศการแนะนำ�ศักยภาพทางการแพทย์ 3 ด้าน คือ 1.) Quality & Safety Health Care 2.) Excellent Medical Team 3.) Green Health Hospital ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักของร้านค้าหลากหลาย และบริการพิเศษของหน่วยงานต่างๆ ในราคาประหยัด โดยมีพนี่ อ้ งชาวสมุยและ นักท่องเที่ยวมาร่วมงานตลอดทั้งวันจนเต็มพื้นที่ด้านหน้าโรงพยาบาล
งานแต่งงานคู่รักแห่งปี
ในทีส่ ดุ “คูร่ กั แห่งปี” เรือตรีหญิง ปนิตา จิตมุง่ (ชมพู) บุตรีนายประเสริฐ จิตมุง่ นายอำ�เภอเกาะสมุย และนางศิรพิ ร จิตมุง่ ภริยา กับ เรือโท ภาณุพงศ์ จำ�เริญวงศ์ (บาส) ก็สมรสสมรักไปอย่างชืน่ มืน่ โดยเมือ่ ค่�ำ วันที่ 20 พฤษภาคม 2556 ทัง้ คู่ ได้จดั งานเลีย้ งฉลองสมรสอย่างยิง่ ใหญ่ ณ โรงแรมสยามธานี โดยมีนายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และดร.อรทัย ฉัตรภูติ นายกเหล่า กาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายธีระ วงศ์สมุทร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ นายดำ�ริห์ บุญจริง อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธี และมีแขกผูม้ เี กียรติในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเดินทางมาร่วม เป็นสักขีพยานและอวยพรอย่างคับคั่ง
MKD 16
MKD 17
T OD A Y’S SU RA T [ G OSSI P]
นพพร จันทบูรณ์
รำ�ลึก อัศวชิน
เป็นที่รู้กันดีว่า ‘พี่ขาว’ นายใหญ่แห่งธนาคารธนชาติ ภาค ใต้ 2 และส.อบจ.บ้านนาสารนั้นเป็นคนอารมณ์ดีและแสนจะติดดิน แม้จะเป็นถึงผู้บริหารระดับสูง แต่เมื่อถึงคราวต้องพบปะใครๆ พี่ขาวเป็นต้องขว้างยิ้มงามๆ ไปทักทายตามมาด้วยยกมือสวัสดี จนน้องนุ่งแทบรับไหว้ ไม่ทัน วันก่อนทีมงานเมืองคนดีแวะไป สอบถามเทรนด์การลงทุนเป็นข้อมูลเขียนคอลัมน์ พี่ขาวก็ยังเฮฮา เหมือนเดิม และเพราะเป็น ‘Someone’ ในแวดวงธนาคาร เรา เลยสะกิดถามว่าเทรนด์กำ�ลังไปดีอย่างนี้พี่ ไม่คิดจะมีธุรกิจเป็นของ ตัวเองสักอย่างสองอย่างหรือ...พี่ขาวยิ้มจนเห็นฟันขาวก่อนตอบ กลัว้ เสียงหัวเราะว่า “แหะ แหะ จะรวยไปไหนว้า ต่อให้มรี อ้ ยล้านพัน ล้านก็ตายเหมือนกัน หอบเงินไปได้เมื่อไรไอ้น้องเอ๊ยยย สู้เอาเวลา ไปดูแลลูกเมีย...ง่า...เอาไปกินล่งกินเหล้ายังดีกว่า!?!” เอิ่มมมม... กำ�ลังชื่นชมอยู่ดีๆ ว่าใจพี่เนี่ยช่างขาวววววสมชื่อ แต่พอฟัง ประโยคจบ น้องเรยยยไปต่อไม่ถูก ก็คุณพี่เล่นขึ้นต้นเป็นมะลิซ้อน พอแตกใบอ่อนเป็นมะลิลา อีแบบนี้น้องจะอนุโมทนา หรืออาเมน กะคุณพี่ดีล่ะ...
ดำ�รัส โพธ์ประสิทธิ์
ด้วยเป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่ยกั ษ์บนเกาะเต่า ‘คุณลึก รำ�ลึก อัศวชิน’
จึงมีลูกน้องในความดูแลทั้งที่เป็นคนไทยและเพื่อนบ้านตกหลักร้อย และ ก็เป็นที่รู้ดีว่าใจคุณลึกนั้นกว้างใหญ่ราวมหาสมุทร มีแขกเหรื่อไปเยือนถึง เรือนชานคราใดก็ต้อนรับไม่เคยบกพร่อง เมื่อทราบว่าทีมงานหนุ่มแห่ง ‘เมืองคนดี’ หอบหิ้วสมบัติพะรุงพะรังขึ้นเกาะเพื่อถ่ายทำ�วิดีโอโปรโมท การท่องเที่ยว คุณลึกผู้มากน้ำ�ใจจึงสละพาหนะคันงามให้ขับ ว่าแล้วก็ ยกหูแจ้งลูกน้องก่อนหันมาบอกให้ ไปรับกุญแจที่แผนกต้อนรับ ทีมงาน จึงแบกของหอบแฮ่กไปทันที แต่เพราะหนุ่มน้อยฝ่ายต้อนรับกำ�ลังนุ่ง นังกับการต้อนรับฝรั่ง ทีมงานเลยขอไปหยิบกุญแจเอง เจ้าหนุ่มจึงส่ง สายตาหวานให้แล้วบอกด้วยเสียงดังฟังชัดว่า “ต้องเลีย ต้องเลีย!!” เล่น เอาทีมงานของเราตะปบมือกุมเป้าปั๊บ..พลางยืนคิดว่าเพื่อรถจะยอมเป็น แมนเหนือแมนดีรึเปล่าว้า...ข้างพนักงานหนุ่มเห็นทีมงานละล้าละลังก็ร้อง ย้ำ�ว่า “ต้องเลีย ต้องเลีย!” แต่ก่อนที่เรื่องจะบานปลาย เจ้าหน้าที่สาวที่ยืน อยูแ่ ถวนัน้ ก็วงิ่ ไปหยิบกุญแจรถทีว่ างอยูข่ า้ งเรือจำ�ลองมายืน่ ให้พร้อมเฉลย ว่า “น้องเขาบอกว่าข้างเรือๆ ค่ะ” อั๊ยย่ะ!!!...เห็นทีเปิดโรงเรียนสอนภาษา อังกฤษอย่างเดียวคงไม่พอแล้วล่ะคุณลึก ต้องเปิดโรงเรียนสอนภาษาไทย ให้พม่าเรียนอีกโรงด้วยยยยย...
มีโอกาสได้ปะหน้า ‘หัวหน้าดำ�รัส’ แห่งอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองเมื่อ เดือนก่อน ในโอกาสที่ติดสอยห้อยตามคณะข้าราชการไปต้อนรับ ‘ท่านชวน ศิรินันท์ พร’ อธิบดีกรมการปกครองทีม่ าตรวจราชการถึงถิน่ เมืองคนดี โดยหน.ดำ�รัสได้ตระเตรียม ข้าวปลาอาหารอย่างดีมารับรองซึ่งไม่พลาดกุ้ง ปู ปลาไซส์ XXL และแล้วเหล่ากุ้งปลาก็ พร้อมใจหายวับในเวลาอันสั้น จะเหลือก็แต่ปูม้านึ่งที่ยังนอนสีส้มแปร๊ดอยู่บนจาน เดือน ร้อนให้หน.ดำ�รัสต้องเดินตรวจว่าไฉนปูที่คัดแบบซูเปอร์สดมาจึงตกอันดับอาหารยอด ฮิตไปได้ มาถึงบางอ้อก็ตอนที่เห็นชาวคณะเก้ๆ กังๆ ใช้ส้อมแคะเนื้อปูเอาเป็นเอาตาย ว่าแล้วก็จัดการสาธิตวิธีการแกะจนเนื้อปูหลุดจากก้ามอย่างว่องไวจนชาวคณะร้องชม เซ่งแส้ แต่ยังไม่ทันสิ้นเสียง หน.ดำ�รัสก็พูดขึ้นว่า “แขกไปใครมาผมก็ต้องสอนอย่างนี้ ทุกที จะไม่สอนคนเดียวเท่านั้นก็คือเมีย!!!” ด้วยลีลาการพูดเคร่งขรึมชาวคณะจึงหลงคิด ไปว่า แหม...ท่านคงจะดูแลให้ภรรยาอยู่ในโอวาทได้เป็นอันดี มาสะดุ้งก็อีตรงประโยค ต่อไปว่า “คนนั้นเขาเก่ง ขืนไปสอน เดี๋ยวเขาบ่นผมตายเรยยย...” โถ..คุณพระ! ที่แท้ก็มี ผบ.สูงสุดประจำ�ตัวกะเขาเหมือนกัน ตะว่า...ลับหลังยังเกรงใจถึงเพียงนี้ แล้วต่อหน้าจะ ขนาด หนายยยยกัลละทั่นนน....
MKD 18
MKD 19
W ORL D UPD A TE Story : GooGoo
ปรอทวัดไข้ไฮเทค
และแล้วโลกของเราก็ก้าวสู่ยุคไฮเทคโนโลยีเต็มตัว เพราะไม่ว่าจะหันซ้ายหันขวาก็จะเจอแต่อุปกรณ์ อัจฉริยะ ไม่เว้นแม้แต่ปรอทวัดไข้ วันนี้ ‘Kinsa’ ได้พัฒนา ‘Smart Thermometer’ ปรอทวัดไข้อัจฉริยะที่สามารถ ใช้กับไอโฟนเพียงเสียบมันเข้าที่ช่องหูฟัง จากนั้นก็เปิดแอพพลิเคชั่นของ Kinsa ขึ้นมา ที่เก๋ก็คือแอพฯ ตัวนี้ ไม่ใช่ ปรอทวัดไข้ธรรมดาๆ แต่มนั ยังช่วยวินจิ ฉัยอาการป่วยเบือ้ งต้นของคุณ แถมยังพยากรณ์อาการล่วงหน้า เป็นบันทึก ข้อมูลสุขภาพ และมีระบบ Social ที่สามารถเข้าไปสืบค้นข้อมูลของโรงพยาบาลได้อีกด้วย พระเจ้าจอร์จ... ใครที่ อยากมีเจ้าปรอทฉลาดๆ ติดกระเป๋า อดใจรอไม่นาน เพราะจะวางจำ�หน่ายในเดือนพฤศจิกายนนีแ้ ล้วในราคาเบาๆ $25 หรือประมาณ 750 บาท แต่จะมีเฉพาะเวอร์ชนั่ สำ�หรับ iOS เท่านัน้ นะ ส่วนเวอร์ชนั่ แอนดรอยด์ตอ้ งรออีกนิด แว่วมาว่าเขากำ�ลังพัฒนาอยู่อย่างขมักเขม้นจ้า...
LIMBO สมาร์ทโฟนไฮเทคในรูปแบบนาฬิกาข้อมือสุดล้ำ�
ก้าวไปอีกขั้นกับอนาคตของมือถือด้วย ‘Limbo Flexible Smartphone’ ดีไซน์ โดยนักออกแบบชาว เกาหลีใต้ สมาร์ทโฟนรุ่นนี้สามารถพับงอให้กลายเป็นนาฬิกาข้อมือได้ มีหน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว กล้องหน้า ความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ใช้งานเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน WiFi และ Bluetooth นอกจากนั้นยังรองรับเทคโนโลยี 5G ด้วย ข่าวร้ายก็คือมันยังเป็นเพียงมือถือตัว คอนเซ็ปต์เท่านั้น เล่นเอาสาวกไฮเทคคอตกไปตามๆ กัน ถึงแม้จะไม่มีข่าวชัดเจนว่าจะผลิตเพื่อจำ�หน่าย เมื่อไร แต่ถ้าของเขาดีจริง นานแค่ไหนก็รอได้เสมอ จริงไหมล่ะตะเอง...
เรือหลวงนราธิวาสแวะอวดธงในนครโฮจิมินห์
เรือหลวงนราธิวาสพร้อมลูกเรือและทหารเรือใหม่กว่า 120 ชีวิต เข้าเทียบท่าที่ท่าเรือไซ่ง่อนใน วันศุกร์ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา เพื่อกระชับสันถวไมตรีกับเวียดนามโดยมีระยะเวลาในการเยือน 5 วัน นับเป็นความร่วมมือด้านกลาโหมทีแ่ สดงถึงความแน่นแฟ้นระหว่างกองทัพเรือของสองประเทศ เรือหลวง นราธิวาสเป็นเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชั้นปัตตานี ติดจรวดฮาร์พูน 1 ใน 2 ลำ�ของราชนาวีไทย ระหว่าง การเยือนนี้ ผู้แทนจากเรือหลวงไทยนำ�โดย พล.ร.ต.สมภพ สุวิทยาลังการณ์ รน. เสนาธิการกองทัพเรือ ภาคที่ 2 ได้นำ�พวงหรีดไปคำ�นับอนุสรณ์สถานอดีตประธานโฮจิ มินห์ และเข้าเยี่ยมหารือข้อราชการ พร้อมทั้งแข่งขันวอลเลย์บอลกับนักเรียนและครูอาจารย์ โรงเรียนทหารช่างกองทัพเรือเวียดนามด้วย ถือเป็นนิมติ หมายอันดีของความสัมพันธ์ของประเทศในภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะว่าไปเวียดนาม ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกันทั้งนั้น...
รัฐสภา-กาสิโน’มะกันผวา ‘แว่นอัจฉริยะกูเกิล’
ยังไม่ทนั จะวางตลาด ‘แว่นตาอัจฉริยะกูเกิล’ หรือ ‘กูเกิล กลาส’ (Google Glass) นวัตกรรมลูกผสม ระหว่างคอมพิวเตอร์พกพากับแว่นตาซึ่งสามารถบันทึกวิดีโอและเล่นเน็ตได้ ก็สร้างความกังวลให้กับ ชาวอเมริกันจนกลายเป็นข้อถกเถียงกันเสียแล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็นสมาชิกรัฐสภาหรือผู้ดำ�เนินการ บ่อนกาสิโนต่างมองว่าเจ้าเครื่องมือนี้อาจละเมิดความเป็นส่วนตัว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม บางคนกังวลว่า มีความเป็นไปได้สงู ว่าจะมีคนนำ�แว่นนี้ ไปใช้ ในทางทีผ่ ดิ เพราะสามารถบันทึกวิดโี อได้ โดย ที่เป้าหมายแทบไม่มีโอกาสรู้ตัว ส่วนกูเกิลเองและผู้ทดลองใช้บางคนก็ออกมาเถียงว่า อู้ยย..นั่นก็ พูดโอเว่อร์ เพราะเวลาบันทึกวิดโี อจะมีแสงเล็ดลอดออกมาให้คนถูกถ่ายรูต้ วั เหมือนกล้องทัว่ ไปนัน่ แหละ... แม้วันนี้ผลสรุปจะไม่ชัดเจนว่าแว่นตานี้มีผลดีผลเสียหรือไม่ อย่างไร แต่ว่า...ถ้าไม่ทำ�อะไรผิดจะกลัว ไปทำ�ไม...ต่อให้ยกกล้องมาตั้งถ่ายกันดื้อๆ ก็เถอะ MKD 20
เพียงครึ่งชั่วโมงจากสมุยเทานั้น เพียงครึ่งชั่วโมงจากสมุยเทานั้น
ลอยฟา เนเชอรัล รีสอรท
ที่ที่คุณจะพักผอนอยางเต็มสุขทามกลางบรรยากาศริมชายหาดที่หรูหรา เปนสวนตัว และโอบลอมดวยความอบอุนแหงทองทะเลและขุนเขา
LOYFA NATURAL RESORT
Loyfa Natural Resort is found at Sri Thanu on the western coast of Koh Phangan. Loyfa boasts a private beach with a range of both luxury and budget accommodation that stretches from the shoreline to the crest of the hilltop. The resort was formerly known as Loyfa Bungalows.
www.loyfanaturalresort.com
Booking NOW
loyfanaturalresort@gmail.com
ลอยฟา เนเชอรัล รีสอรท (LoyFa Natural Resort) MKD 21
14/1 หมู 8 หาดศรีธนู เกาะพะงัน สุราษฏรธานี โทร. 077-377-319, 077-349-022 โทรสาร 077-349-080
life without a rest
montri phetkum
MKD 22
M A N @ W ORK
Story : Peeraya
“มนตรี เพชรขุ้ม” ความสำ�เร็จของชีวิต คือความพึงพอใจ ของชาวเมืองคนดี ในชีวิตของมนุษย์คนหนึ่ง ต่างก็ต้องการ “ความสำ�เร็จ” ด้วยกันทัง้ สิน้ แต่ความสำ�เร็จใดๆ ก็ตามไม่อาจเกิดได้ โดยง่าย หาก ต้องอาศัยความมุ่งมั่น ทุ่มเท ยิ่งต้องการความสำ�เร็จมากเท่าไร ก็ยิ่งต้องพยายามอย่างสาหัส เช่นเดียวกับเขาคนนี้ “มนตรี เพชรขุ้ม” นายกองค์การ บริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทีม่ คี วามใฝ่ฝนั จะเป็นนักการเมือง มาตั้งแต่เยาว์วัยทั้งที่หนทางแสนตีบตัน ด้วยไม่มีญาติพี่น้อง ในแวดวงการเมืองเลยแม้สักคน... “ที่มาถึงตรงนี้ ได้ เป็นเพราะผมมีความเชื่อมั่นว่าจะทำ� ประโยชน์ ให้บ้านเกิดได้ แล้วประชาชนมองเห็น อีกประการหนึ่ง คือครอบครัวสนับสนุนครับ” เขาตอบแทบจะทันทีเมือ่ ถามว่าอะไร คือแรงผลักดันให้กล้าทำ�ตามความฝัน และนั่นก็คือประเด็นที่ ทำ�ให้เราเดินทางมาพูดคุยกับเขาถึงบ้านพัก เพื่อค้นหาเคล็ดลับ และปัจจัยที่นำ�ไปสู่ความสำ�เร็จ เป็นแรงบันดาลใจแด่คนที่มีฝัน แต่ขาดโอกาสทุกคน และในเมื่อเขาเป็นนักบริหารท้องถิ่นที่ ชาวเมืองคนดีเลือกให้มาทำ�งานแทน เราย่อมอยากรู้ว่าที่ผ่าน มาเขาได้ทำ�งานอย่างเต็มที่เพื่อแก้ปัญหาที่มีนานัป รวมไปถึง การพัฒนาเมืองคนดีให้เดินหน้าอย่างที่ควรจะเป็นหรือไม่... ซึ่ง คุณมนตรีก็ยินดีเปิดใจในทุกเรื่องว่า....
กรรมกรผู้ไม่มีวันหยุด
“ผมคิดมาตั้งแต่เด็กนะครับว่าอยากจะเป็นนักการเมือง แต่ไม่รู้จะไปอย่างไร ญาติเป็นนักการเมืองก็ไม่มี แค่เป็นผู้ ใหญ่ บ้านก็ยังไม่มีเลยนะครับ (หัวเราะ) แต่พอจบปริญญาโทก็คิดว่า MKD 23
Photo : Pom
ทำ�ไมไม่ลองดูในเมื่อมีความตั้งใจ ก็ตัดสินใจลงสมัคร เริ่มจาก สมาชิก อบต. มาตามลำ�ดับ การเป็นนักการเมืองต้องใช้ความ พยายามที่สุดนะครับ ซึ่งไม่ใช่แค่พัฒนาความรู้เท่านั้น แต่ต้องมี ร่างกาย จิตใจที่อดทนมากด้วย เช่นเรื่องการเดิน (ยิ้ม)...ผมเดิน ตั้งแต่ยังไม่เป็นนักการเมืองจนวันนี้ ไม่เคยหยุดเลย คนถามว่า โอ้...ทำ�ไมยังเดินไหว เคล็ดลับคือต้องกินให้น้อย กินเยอะเมื่อไร จะมอด (หัวเราะ) เช้าถึงเทีย่ งผมดืม่ กาแฟแก้วเดียว บางวันภารกิจ ติดพัน เที่ยงก็ยังไม่ได้กินนะครับ มารวบ 3 มื้อตอนเย็นเลย แต่ ผมจะติดอยูอ่ ย่างหนึง่ คือก่อนนอนต้องขอกิน (ยิม้ ) อย่างน้อยมาม่า สักห่อก็ยังดี ผมเป็นคนกินง่าย ข้าวผัด ข้าวแกงได้หมด ถ้าแวะ งานศพ ผมก็กินงานศพ (หัวเราะ) ที่ต้องอดทนมากอีกอย่างคือความพร้อมทำ�งานทุกเวลา ตอนน้ำ�ท่วมใหญ่ผมอดนอนอยู่เกือบเดือน จะได้นอนช่วงเช้าไม่ กีช่ วั่ โมง และก็นอนไม่หลับด้วย กังวลว่ามีชาวบ้านค้างบนหลังคา บนต้นไม้เท่าไร กินอะไรกันหรือยัง จนเกือบเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ปากเบีย้ วไปเลยนะครับ เช้ามืดก็ตอ้ งออกไปแล้ว พกวิทยุเครือ่ งหนึง่ มีผตู้ ดิ ตามขับรถสิบล้อบรรทุกของบริจาคไปคันหนึง่ เรามีอปุ กรณ์ พร้อม ใครลงไม่ได้ อบจ. ลงได้ แม้แต่ที่โรงพยาบาลท่าโรงช้างซึง่ เข้ายากมาก เราก็ไปอพยพออกมาได้หมด ผมสั่งเจ้าหน้าที่ อบจ. ทุกคนสับเปลี่ยนสแตนบายตลอดเวลา และให้นโยบายว่า อบจ. ต้องทำ�ทุกวิถีทางเพื่อลงไปช่วยเหลือชาวบ้านได้ทกุ คนและอย่าง เร็วที่สดุ ด้วย ทีป่ ระทับอยูใ่ นใจผมมาถึงวันนีค้ อื ตอนทีล่ งพืน้ ที่ไป ช่วยพีน่ อ้ งครอบครัวหนึง่ เราได้รบั แจ้งว่ามีเด็กเล็กหลายคนติดอยู่ กับพ่อแม่แล้วยังมีคนแก่ดว้ ย ตรงนัน้ กระแสน้�ำ เชีย่ วและลึกมาก ผมพาทีมไปด้วยตัวเอง พอช่วยสำ�เร็จก็ปลาบปลื้มใจมาก (ยิ้ม) สำ�หรับผมนักการเมืองต้องทำ�ได้ทกุ อย่างนะครับ ไม่ใช่เอาแต่ นัง่ โต๊ะ ความสุขของพีน่ อ้ งประชาชนจะเป็นกำ�ลังใจในการทำ�งาน ที่ดีครับ ถึงกายจะไม่ไหวแล้ว แต่ใจมีแรงไปต่อ ไปมองหาปัญหา ให้เจอแล้วแก้ไข ดังนัน้ ผมไม่มวี นั หยุด เพราะปัญหามีทกุ วันครับ”
กิจวัตรของตัวเอง แต่ชีวิตเป็นของผู้อื่น
แก้ไขกฎหมายให้เหมาะสมกับพืน้ ทีข่ องตนได้ตราบใดทีย่ งั อยูภ่ ายใต้กรอบ “นายก อบจ. มีภารกิจในแต่ละวันเยอะมากครับ กิจวัตรประจำ�วันของ กฎหมายรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นต้องมองให้ทะลุไปข้างหน้าว่าจะสร้างสรรค์ ผมต้องเริ่มเร็ว ไม่เกิน 6 นาฬิกาผมต้องตื่นแล้ว และไม่เกิน 7 นาฬิกา เรือ่ งอะไร แม้วา่ เป็นเรือ่ งทีย่ าก ก็ตอ้ งสู้ ไม่เช่นนัน้ ก็เท่ากับเราอยูแ่ บบไม่มี ล้อหมุนทันที ในช่วงเช้าจะเป็นการลงพืน้ ทีพ่ บปะประชาชน สุราษฎร์ฯ เป็น วิธีการ ไม่มองอนาคต คืออยู่ไปเฉยๆ รอวันให้มันถอยหลังเท่านั้นเอง....” จังหวัดทีม่ พี นื้ ทีก่ ว้างทีส่ ดุ ในภาคใต้นะครับ แต่บางวันคิวห่างไกลกันคนละ ผลสำ�เร็จของงานคือความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิต มุมเมืองเลย ผมต้องไป เป้าหมายคือไปให้ครบทุกหมู่บ้านทั้ง 19 อำ�เภอ “เรื่องใหญ่ในชีวิตของผมคืองาน ดังนั้นงานไหนที่ประชาชนพอใจ แล้วผมจะแบ่งเวลาช่วงบ่ายเข้าไปสำ�นักงาน อบจ. เพราะมีเรื่องเร่งด่วน ที่ต้องพิจารณา บางวันมีเอกสารรอเซ็นถึง 200 แฟ้มนะ (ยิ้ม) ต้องอ่าน ก็ถอื เป็นความภูมิใจของผมทั้งหมดครับ แต่ถา้ จะพูดโดยสรุปมีอยู่ 4 เรือ่ ง อย่างเร็ว ซึง่ ไม่ล�ำ บาก เพราะผมเป็นผูอ้ อกนโยบายและทราบรายละเอียดดี ใหญ่ๆ ครับ ประการแรกคือการสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน คือด้วย อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อน หรือมีปัญหาก็เรียกข้าราชการที่ ลักษณะภูมิศาสตร์เราย่อมเลี่ยงภัยธรรมชาติที่หลากหลายไม่ได้ เมื่อ ได้รับมอบหมายทุกคนมาหารือ โดยผมจะตั้งกรอบให้ว่างานนั้นๆ ควรจะ ถึงหน้าแล้งก็ต้องมีปัญหาภัยแล้ง พอถึงหน้ามรสุมก็เกิดปัญหาน้ำ�ท่วม แล้วเสร็จเมือ่ ไร และจะต้องได้รบั รายงานความคืบหน้าเป็นระยะ ส่วนช่วง ดินถล่ม ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรโดยตรง และสร้างความเสียหาย เย็น ภารกิจจะเป็นงานพิธีการ ตั้งแต่งานแต่ง งานศพ ขึ้นบ้านใหม่ ผม กับที่อยู่อาศัย ถนน สะพานก็พังหมด เป็นปัญหาใหญ่ของชีวิต ผลงานที่ ต้องไปทัง้ หมดที่ได้รบั เชิญ ไม่ไปก็เหมือนเราตัดญาติขาดมิตร กว่าจะกลับ ภาคภูมิใจของผมประการแรกอยู่ตรงนี้เองครับ คือ อบจ. ได้สร้างถนน ถึงบ้านก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว แต่ยังไม่ได้นอนนะครับ (ยิ้ม) ต้องเตรียม หนทางให้แก่ประชาชนมากมายหลายเส้นทาง โดยเฉพาะในถิน่ ทุรกันดาร งานของวันพรุง่ นีต้ อ่ จากนัน้ จึงอาบน้�ำ ก่อนนอนก็เปิดทีวหี รืออ่านหนังสือ ซึง่ ช่วยให้เกิดความสะดวกในการดำ�รงชีพและการทำ�มาหากิน ส่งเสริมให้ เช็คข่าวสารสักหน่อย รวมแล้วมีเวลานอนนิดเดียว ผมจะอาศัยงีบเอาใน ภาคเกษตรและอุตสาหกรรมเติบโต ประการที่ 2 ก็คอื งานส่งเสริมสาธารณสุข เราได้ ให้ความสนับสนุน รถ แต่เวลาที่ดีที่สุดในการคิดงานใหม่ๆ ก็คือตอนเข้าห้องน้ำ� (หัวเราะ) โดยเฉพาะช่วงที่สายน้ำ�หล่นมารดร่างกายนี่ สมองจะคิดดีมาก วางแผน งบฯ แก่สาธารณสุขเพื่อจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ รวมทั้งเครื่องไม้เครื่องมือ ไปถึงพรุ่งนี้ มะรืนนี้ว่าจะทำ�อะไร สรุปงานด้วยว่าเดือนนี้งานเสร็จไป แพทย์ที่จำ�เป็นลงไปในพื้นที่ที่ขาดแคลน เพราะถ้ารองบฯ จากกระทรวง กีอ่ ย่างแล้ว อะไรยังค้างอยู่ และจะจัดการอย่างไรต่อ ทุกอย่างไหลลืน่ ออก สาธารณสุขอย่างเดียวคงไม่ทนั การ และผลงานนีก้ ท็ �ำ ให้ อบจ.สุราษฎร์ธานี ได้รับรางวัลที่ 1 ระดับประเทศด้านการส่งเสริมสาธารณสุขนะครับ แต่ มาตอนนี้เองครับ (ยิ้ม)” โครงการที่ผมเชื่อมั่นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากก็คือการสร้าง โรงพยาบาลองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งพร้อมจะเปิด “โจทย์” คือสิ่งที่นักบริหารที่ดี ไม่ปฏิเสธ “ผมคิดว่าคุณสมบัติของนักบริหารที่ดี ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร อีกไม่นานนี้ นี่เป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่มี อบจ. ไหนทำ�มาก่อน และจะเป็น บ้านเมือง หรือแม้แต่ผู้บริหารองค์กรใดๆ เองก็ตาม จะต้องเป็นคนมี โรงพยาบาลแรกทีร่ กั ษาฟรีทกุ โรค แต่ทงั้ นีผ้ มก็วางรูปแบบให้ โรงพยาบาล วิสยั ทัศน์ดี มีอดุ มการณ์ทแี่ จ่มชัด และต้องเป็นผูท้ สี่ ามารถบริหารคน คือทำ� มีผลประกอบการที่ดีด้วยครับ ประการที่ 3 คือการส่งเสริมการศึกษา ที่ผ่านมา อบจ. ได้จัดงบ ให้ผู้ ใต้บงั คับบัญชาเข้าใจว่านโยบายของผูบ้ ริหารเป็นเรือ่ งทีต่ อ้ งทำ�ให้เกิด เป็นรูปธรรม ไม่ท�ำ ไม่ได้... นักบริหารบ้านเมืองมีหลักบริหารภายใต้พนื้ ฐาน ประมาณจัดจ้างครูเพิม่ เติมให้แก่โรงเรียนในสังกัด ดำ�เนินการพัฒนาอาคาร 3 อย่างคือ ต้องอยูภ่ ายใต้กรอบของกฎหมาย ต้องไม่สร้างความเดือดร้อน เรียน ห้องสมุด เราติดแอร์ ให้หมดนะครับ และสนับสนุนอุปกรณ์การเรียน ให้ประชาชน และต้องไม่สร้างความเสียหายให้รฐั ผมยึดหลักการทำ�งานว่า การสอนกับชุดนักเรียนฟรีให้เด็กด้วย คนละ 3 ชุดรวมชุดกีฬา ส่วนโรงเรียน ทุกโครงการ ทุกนโยบายต้องเป็นสิง่ ทีเ่ ป็นไปได้ และเป็นประโยชน์ตอ่ บ้านเมือง นอกสังกัดอีกกว่า 600 โรง อบจ. ก็เข้าไปมีสว่ นร่วมในการพัฒนาหลักสูตร และประชาชน ไม่ใช่หันไปลอกตำ�ราที่ ไหน หรือลอกโครงการของใคร โดยเฉพาะการจัดจ้างครูด้านภาษา เราส่งไปเสริมราว 300 กว่าคน ประการที่ 4 ผมได้รเิ ริม่ และผลักดันให้มกี ารแก้กฎหมายจัดเก็บภาษี มาทำ�โดยไม่ศึกษาพื้นที่และผลกระทบ อีกประการหนึ่งผมเป็นคนชอบ ความสร้างสรรค์ (ยิ้ม) ผลงานต่างๆ ที่ผ่านมาของ อบจ.สุราษฎร์ฯ ในยุค น้�ำ มัน ซึง่ จะเพิม่ รายได้ทอ้ งถิน่ อีกนับ 100 ล้านบาทต่อปี และเราสามารถ นำ�เงินจำ�นวนนี้มาพัฒนาจังหวัดได้ โดยไม่ต้องรองบฯ จากส่วนกลาง โดย ผมจึงไม่ใช่เรื่องเดิมๆ ผมเน้นการลงพืน้ ทีม่ ากนะครับ ผูบ้ ริหารบ้านเมืองต่างจากผูบ้ ริหาร ได้รับความเห็นชอบจากกรม กระทรวงที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งทุกจังหวัดใน องค์กรตรงที่ ไม่ใช่ “เจ้านาย” (ยิ้ม) ประชาชนคือผู้บอกเราว่าต้องทำ�เรื่อง ภาคใต้ และจังหวัดสุราษฎร์ฯ จะเป็นจังหวัดนำ�ร่องในการจัดการครับ (ยิม้ )” นั้นเรื่องนี้นะ และในการแก้ปัญหาภูมิปัญญาของประชาชนในท้องถิ่น ฝันสูงสุดคืออนาคตที่รุ่งรืองของเมืองคนดี คือเครื่องมือที่ดีที่สุดนะครับ ดังนั้นผู้บริหารบ้านเมืองไม่ว่าจะระดับไหน “ผมเชื่อว่าในอนาคตเราจะเป็นศูนย์กลางคลังสินค้าของภาค เป็นข้าราชการ หรือนักการเมืองจะปฏิเสธการลงพื้นที่ ไม่ได้ อีกประการ ทีส่ �ำ คัญมากก็คอื ต้องกล้าคิดสิง่ ใหม่ การบริหารส่วนท้องถิน่ มีอ�ำ นาจทีจ่ ะ ใต้ตอนบน จะเป็นเมืองที่คึกคักด้วยผู้คน ซึ่งรถจะติดมาก (ยิ้ม) สิ่งที่ MKD 24
ผมอยากให้เกิดเพื่อรองรับการเติบโตนี้ก็คือการแก้ไขกฎหมายในเรื่อง ความสูงของอาคารโดยเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี และอยากให้รัฐเข้ามา ขยับขยายถนนให้ได้มาตรฐาน ผมฝันว่าผังเมืองจะได้รบั การปรับปรุงและ ขยายพื้นที่ ไปสู่รอบนอกและมีความเป็นสากลอย่างยิ่ง เพราะการเข้า สูป่ ระชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะทำ�ให้ปา้ ยข้างถนนเป็นภาษาอังกฤษทัง้ หมด (ยิ้ม) สิ่งที่ฝันต่อมาก็คือ ลูกหลานเราต้องมีทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษดี เพราะเราเป็นเมืองท่องเที่ยว อีกอย่างหนึ่งก็คือความร่วมมือของ ผู้ประกอบการ ถึงแม้รัฐ ราชการ และท้องถิ่นจะร่วมมือกันพัฒนาแหล่ง ท่องเทีย่ วให้ดขี นึ้ และให้เป็นสาธารณประโยชน์ แต่ผปู้ ระกอบการยังไม่เห็น แก่ส่วนรวม สร้างอาคารปิดสถานที่ ทำ�ให้การเข้าไปสร้างสาธารณูปโภค เพิ่มเติมทำ�ได้ยากหรือไม่ได้เลย การท่องเที่ยวนี่ทำ�รายได้ ให้จังหวัดมา เป็นอันดับ 3 รองจากภาคการเกษตรและอุตสาหกรรม เราต้องช่วยกัน จรรโลงให้ดีครับ อย่าเอาแต่ได้เฉพาะหน้า ถ้าบ้านเมืองดี ทุกคนก็จะได้ รับสิ่งดีๆ ทั่วถึงกัน มันจะเป็นความสุขที่ยั่งยืนครับ”
คุณพ่อผู้ไม่มีเวลา แต่มากคุณภาพทุกวินาที”
“กับลูกชายบอกตรงๆ ว่าตอนนีผ้ มไม่คอ่ ยมีเวลาได้อยูก่ บั เขาเท่าไร แต่ถ้ามีเวลาก็ต้องคุยกัน ถึงผมจะอยู่นอกบ้านก็ต้องกลับมาคุยแล้วค่อย ไปต่อ (หัวเราะ)... ผมไม่เคยคาดหวังอะไรในตัวเขานอกจาก 2 เรื่อง คือ ให้เขาตั้งใจเรียนให้ดี และต้องประพฤติตัวดี ถ้าวันไหนเขาเกเร วันนั้นจะ เป็นวันที่ผมเสียใจมากที่สุด ผมจะแนะนำ�ลูกแบบค่อยเป็นค่อยไป จังหวะ ที่อยู่ด้วยกันเห็นอะไรดีไม่ดีผมจะบอกว่าทำ�แบบนี้ ไม่ดีนะ เพราะอะไร แต่จะไม่ยัดเยียด เพราะเด็กยังรับไม่ได้ เรื่องซน เรื่องดูการ์ตูน ผมปล่อย เขาตามสบาย แต่มีอยู่วันหนึ่งเขามาถามว่า พ่อ... ไม่ไปเรียนได้ไหม... ผมก็ถามว่า อ้าว...ทำ�ไมล่ะ... เขาบอก ก็พ่อเป็นหัวหน้าแล้ว ไม่ต้องเรียน ก็ได้ (หัวเราะ) ผมก็ตอบว่า พ่อเป็นหัวหน้าก็จริง แต่คนเป็นหัวหน้า ต้องทำ�งานแทนคนอื่น ฉะนั้นลูกต้องทำ�ตัวให้ดี จะได้ดูแลตัวเองได้ เขา ก็เข้าใจในระดับหนึ่งครับ” การพูดคุยเดินทางมาถึงประโยคสุดท้าย พร้อมๆ กับที่นายก หนุ่มนาม “มนตรี เพชรขุ้ม” ขอตัวไปทำ�งานที่เขารักต่อโดยไม่มีร่องรอย ของความเหนื่อยล้าให้เห็น ทันใดนั้นเราก็รำ�พึงกับตัวเองว่า ความเป็น นักต่อสู้ที่แสนทุ่มเท เข้มแข็ง จริงใจ และชาญฉลาดนี่เอง คือสิ่งที่ทำ�ให้ เขาเดินทางมาจนถึงวันนี้ วันแห่งความสำ�เร็จที่เขาฝันมาแต่วัยเยาว์
MKD 25
M A N @ W ORK
Story : punpassa
Photo : Pom
“รามเนตร ใจกว้าง” นำ�สมุยเดินหน้าสู่เมืองท่องเที่ยว ของภูมิภาคเอเชีย กว่าที่เกาะงามนาม “สมุย” สถานที่ท่องเที่ยวอันเปรียบเสมือนถิ่นสวรรค์กลางอ่าวไทยจะเดินทาง มายืน ณ จุดทีเ่ รียกว่าเป็น World Destination เช่นวันนี้ ได้ ต้องอาศัยทรัพยากรทีม่ คี วามโดดเด่นหลายด้าน และ ผ่านการผลักดันด้วยกลยุทธ์มากมายจากหลายฝ่าย แต่แม้ว่าสมุยจะเป็นแชมป์ด้านตลาดท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของภาคใต้ตอนบนมาหลายสมัย นั่นก็มิได้ มีความสำ�คัญเท่าการรักษาความเป็นแชมป์เอาไว้ เพื่อเป็นสถานที่ในฝันของนักท่องเที่ยวตลอดกาล คำ �ถาม ก็คือ...เราจะต้องทำ�อย่างไรเพื่อให้สมุยเป็นแบบนั้น ไม่มีใครตอบได้ดีเท่ากับเขาคนนี้ “คุณรามเนตร ใจกว้าง” หรือ “โกปุ๊” ของชาวเกาะสมุย ผู้ซึ่งมิได้เป็นเพียงผู้นำ�ท้องถิ่นคนสำ�คัญในฐานะนายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย เท่านั้น หากเขายังเป็นลูกหลานชาวเกาะสมุยที่มองเห็นพัฒนาการของบ้านเกิดอย่างต่อเนื่องมาตลอดทั้งชีวิต
การเดินทางของชีวิตท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของเกาะ
เราเริ่มต้นการพูดคุยกับเขาด้วยการถามถึงความทรงจำ�เกี่ยวกับภาพบ้านเกิด เมื่อครั้งที่เขายังเป็นเพียง เด็กชายตัวน้อย นายกปุ๊คลี่ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะรำ�ลึกความหลังให้ฟังด้วยเสียงนุ่มทุ้ม... “ผมเป็นคนสมุยแท้ๆ เลยครับ เกิดที่บ้านหัวถนน ตําบลมะเร็ต เรียกว่าเกิดและเติบโตบนเกาะ สมัยที่ ผมยังเด็ก สมุยเป็นเกาะที่เต็มไปด้วยทรัพยากร ถึงจะแวดล้อมไปด้วยน้ำ�ทะเล แต่บนเกาะอุดมสมบูรณ์มาก นะครับ เรามีป่าไม้มากมาย มีน้ำ�ตกซึ่งเป็นแหล่งน้ำ�จืดขนาดใหญ่ ในอดีตเราถึงทำ�การเกษตรกันเป็นหลัก เรา ปลูกข้าว ทำ�สวนมะพร้าว สวนผลไม้ และยังทำ�ประมง ชาวบ้านก็อยู่กันอย่างเรียบง่าย เป็นสังคมเครือญาติ ขนาดใหญ่ คนสมุยรู้จักกันหมดล่ะครับ สืบไปสืบมาจะรู้ว่าเป็นเครือญาติกันทั้งเกาะ ผมอยู่บนเกาะจนเรียนจบ มัธยมปลาย แล้วถึงออกจากเกาะไปเรียนต่อระดับปริญญาตรีทกี่ รุงเทพฯ โดยลงเรียนทีม่ หาวิทยาลัยรามคำ�แหง แต่เรียนได้แค่ 3 ปี ก็ตอ้ งกลับมาบ้านเกิดเพือ่ มาลุยทำ�ธุรกิจ ซึง่ ช่วงนีเ้ องครับทีส่ มุยเริม่ เปลีย่ นแปลงไป ตอนนัน้ นักท่องเที่ยวเริ่มรู้จักเกาะสมุยจากการขอติดเรือชาวประมงมาท่องเที่ยว แล้วก็บอกกันต่อๆ ไปแบบปากต่อปาก จนได้รับความนิยม ผมจึงกลับมาเริ่มต้นสร้างอาชีพใหม่ ก็เริ่มจากธุรกิจเล็กๆ คือบังกะโลก่อนครับ จากนั้น ก็ขยับขยายมาเรื่อยๆ ผมลุยงานจนธุรกิจเริ่มอยู่ตัว ถึงมีโอกาสกลับไปร่ำ�เรียนอีกครั้งจนจบปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏที่สุราษฎร์ธานีครับ.... ตั้งแต่จำ�ความได้ผมก็อยู่กับ ‘คน’ มาตลอดครับ เพราะเมื่อก่อนที่บ้านเป็นร้านขายน้ำ�ชาและขายอาหาร ตอนเช้าๆ จะมีชาวบ้านในหมู่บ้านมาที่ร้านกันเยอะ มาดื่มชา มาพูดคุยแลกเปลี่ยนข่าวสารและความคิดเห็นกัน ทำ�ให้ผมพลอยได้รับรู้และสัมผัสทุกเรื่องในหมู่บ้าน ผมก็เลยค่อนข้างเป็นเด็กที่โตกว่าวัย และชอบที่จะนั่งฟัง นั่งคุยกับผู้ ใหญ่มากกว่าที่จะไปเล่นกับเด็กในวัยเดียวกัน ผมชอบฟังเนื้อหาสาระที่ผู้ ใหญ่คุยกัน ใจมันอยากรู้ ว่าสังคมทั้งภายในหมู่บ้านและภายนอกเป็นอย่างไร คนเขาคิดอะไรกันอยู่ และทำ�ไมเขาถึงต้องคิดอย่างนั้น ส่วนใหญ่เรื่องที่คุยกันก็เป็นเรื่องการเมือง การพัฒนาหมู่บ้าน ปัญหาที่ต้องการการแก้ ไข สมัยนั้นเวลา MKD 26
simplicity simplicity of style of style ramnateprateep chaikwang touyjaroen
นักการเมืองลงไปหาเสียงก็มกั จะมาทีร่ า้ นผมนะครับ เพราะเราเป็นแหล่ง ศูนย์รวมชาวบ้านที่ค่อนข้างจะมีวิสัยทัศน์ และพ่อของผมก็ให้ความสนใจ การบ้านการเมืองด้วย เวลาจะเลือกตั้งจะคอยเอาโปสเตอร์ของนักการ เมืองมาติดเต็มบ้านไปหมด เพือ่ ให้ชาวบ้านได้รกู้ นั ทัว่ ๆ ว่ามีใครขันอาสามา ทำ�หน้าที่แทนเราบ้าง คนติดก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ผมนี่เอง (ยิ้ม) ถีบจักรยาน ไปติดในหมู่บ้านก็ทำ�นะครับ มันก็เลยเป็นการปลูกฝังให้เราซึมซับความ ชอบในเรือ่ งการเมืองมาตัง้ แต่นนั้ สมัยนัน้ ผมมีนกั การเมืองคนหนึง่ ทีอ่ ยูใ่ น ใจ ผมค่อนข้างชื่นชอบในแนวคิดของท่านที่ต้องการทำ�เพื่อชาวบ้านจริงๆ ท่านชือ่ ‘นายเชือ้ การแขก’ สังกัดพรรคแรงงาน ทีช่ อบเพราะพรรคนีเ้ ป็น ตัวแทนของคนจน คนระดับรากหญ้า และผมก็ประทับใจในความเป็นนักสู้ กับความตั้งใจจริงของท่านด้วย ลงสมัครเป็นสิบครั้ง แม้จะไม่ได้รับเลือก ก็ไม่ท้อ ยังสู้ลงสมัครต่อ”
การเมืองคือเวทีเพื่อบ้านเกิด
“ผมเข้าสูส่ นามการเมืองท้องถิน่ เพราะมีแรงบันดาลใจว่าเราอยาก ดูแลชุมชน อยากดูแลสังคม ผมว่าคนเราทุกคนจะมีสำ�นึกรักบ้านเกิดอยู่ ในจิตใจด้วยกันทั้งนั้น แต่จะทำ�ได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจ และกำ�ลังของตัวเอง ผมตัดสินใจลงเลือกตั้งครั้งแรกด้วยการสมัคร สข. เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ก็เพราะคิดว่าเรารู้จักบ้านของเรา เราสะสมความรู้ ความต้องการของประชาชนมาจนพร้อมแล้วที่จะอาสา และเราก็มีเวลา มีก�ำ ลังใจกำ�ลังกายมากพอทีจ่ ะดูแลคนอืน่ สมัยนัน้ เลือกแค่ฝงั่ สมุยนะครับ รับแค่ 9 คนเท่านัน้ แต่มผี ลู้ งสมัครประมาณ 35 คน ซึง่ ผมได้คะแนนมาเป็น ที่ 1 คิดว่าคงเป็นเพราะผมได้สัมผัสกับคนในพื้นที่มามาก และรู้จักพื้นที่ สมุยแทบทุกตารางนิ้ว เพราะผมไปเรื่อยทุกจุดไม่ได้อยู่นิ่ง และคะแนน ตรงนีก้ เ็ ป็นเครือ่ งจุดประกายว่าเราจะเป็นแนวหน้าในการแก้ปญ ั หาให้คนสมุย อย่างเต็มที่ และผมดีใจมากนะครับที่ทำ�ได้ เพราะจากหลายปีที่ทำ�งาน ท้องถิ่นมา ผมก็ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นให้บ้านเกิด หลายอย่าง ทุกวันนีต้ ารางงานของผมแน่นมาก เป็นการลงพืน้ ทีเ่ สียเยอะครับ จะอยู่ที่เทศบาลน้อยหน่อย เพราะผมเชื่อว่าการลงพื้นที่จะทำ�ให้เรามอง เห็นว่าปัญหามีอะไร จะแก้อย่างไร วันๆ หนึ่งผมเดินเยอะมาก ก็ดีครับ ถือว่าได้ออกกำ�ลังกายไปด้วย (ยิ้ม) ถึงจะทำ�ให้เราบกพร่องเรื่องอาหาร การกินไปบ้าง เพราะทานไม่ตรงเวลา บางวันก็ไม่ครบมือ้ แต่ผมมีความสุข ที่ได้เดินครับ เพราะพอได้เจอคนเยอะๆ เข้ามาทักทาย มาพูดคุยเล่าเรือ่ ง ของเขา เรื่องที่ผมกำ�ลังเครียดอยู่ก็หายไปได้เหมือนกัน เรื่องเครียดของ ผมก็หนีไม่พ้นปัญหาเร่งด่วนของสมุยที่ต้องแก้ไขซึ่งมีหลายด้าน เพราะ เราเป็นเมืองท่องเที่ยวและมีพื้นที่มาก ปัญหาที่คาราคาซังมานานก็คือ เรื่องน้ำ�ท่วม ซึ่งความจริงแล้วด้วยสภาพภูมิศาสตร์เราไม่น่าจะมีปัญหา นี้ แต่เป็นเพราะไม่มีการวางผังเมืองที่ดีมาตั้งแต่แรก จึงมีการสร้าง สิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำ�จนโครงสร้างเมืองผิดพลาดไปหมด ซึ่งเป็น เรื่องที่ผมเหนื่อยมากพอสมควร เพราะเราต้องตามแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
แต่ก็พยายามมากที่สุดในการหาทางรับมือ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบ ระบายน้ำ� และการประสานกับกรมทางหลวงให้มาร่วมแก้ไขด้วย เพราะ เรามีถนนรอบเกาะ ซึ่งก็ช่วยให้น้ำ�ระบายออกได้เร็วขึ้นมาก ส่วนปัญหา เรื่องไฟฟ้าไม่เพียงพอนั้นเป็นปัญหามานานแล้วเช่นกัน แต่เป็นเรื่องของ รัฐที่ต้องเข้ามาดูแลจัดการอย่างเร่งด่วน ทางเทศบาลเรามีหน้าที่อำ�นวย ความสะดวกทุกทางเท่าที่จะทำ�ได้ครับ หลังจากที่มีปัญหาไฟดับครั้งใหญ่ รัฐก็ได้เร่งดำ�เนินการสร้างเคเบิ้ลสายใหม่ นี่ก็เพิ่งเสร็จครับ และใน อนาคตใกล้ๆ นี้รัฐจะสร้างเคเบิ้ลภายในเพิ่มเติม ซึ่งผมเชื่อว่าปัญหาเรื่อง ไฟฟ้าจะหมดไปได้ อีกปัญหาหนึ่งคือขาดแคลนน้ำ�จืด เพราะคนบนเกาะ เพิ่มจำ�นวนขึ้นเยอะมาก และยังมีธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทมากมาย ซึ่งแต่ ละแห่งก็มีความต้องการน้ำ�จืดมหาศาล แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ และรัฐเองก็ได้อนุมัติงบประมาณ 3 พันกว่าล้านบาทเพื่อดำ�เนินการ ส่งน้ำ�จากเขื่อนเชี่ยวหลานและแม่น้ำ�พุมดวงมาที่นี่ แต่เราก็นิ่งนอนใจ ไม่ได้ครับ ต้องช่วยตัวเองเท่าทีจ่ ะทำ�ได้ดว้ ย ตอนนีจ้ งึ ได้จดั หาสถานทีก่ กั เก็บ น้ำ�ไว้ ใช้ ช่วงไหนน้ำ�มากเราก็เอามาเก็บสำ�รองไว้ ใช้ตอนแล้ง ไม่ปล่อยให้ ไหลลงไปทะเลเปล่าๆ เหมือนเมื่อก่อน การแก้ปัญหาทั้ง 3 เรื่องที่ผม พูดนี้ถือเป็นนโยบายหลักของเทศบาลนครในตอนนี้ครับ ส่วนนโยบายทีเ่ ราวางไว้เพือ่ อนาคต ผมแบ่งออกเป็น 2 ส่วน หนึง่ คือเรื่องใหม่ๆ ที่เราริเริ่มลงมือทำ�เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดใน เวลาอันใกล้ สองคือการมองภาพอนาคต เป็นการคาดการณ์วา่ โลกวันหน้า จะเป็นอย่างไร แล้วสมุยต้องทำ�อะไรเพื่อให้ทัน เราเคยมีบทเรียนราคา แพงมาแล้วจากโครงสร้างชุมชนที่ไม่มผี งั เมืองรองรับ วันนีผ้ มจึงพยายาม ที่จะปรับปรุงเรื่องสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ดี ให้มีความยั่งยืน อีกเรื่องที่ ผมให้ความสำ�คัญมากคือการดูแลคุณภาพชีวติ คน โดยเฉพาะเรือ่ งสาธารณสุข และการศึกษา เราพยายามผลักดันให้มีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่รองรับ ผู้ป่วยได้เป็น 1,000 เตียงเพิ่มเติม และต้องมีความทันสมัยของเครื่องไม้ เครื่องมือแพทย์ด้วย ขณะเดียวกันก็เข้าไปปรับปรุงลักษณะทางกายภาพ ของโรงเรียนต่างๆ ช่วยจัดหาครูให้เพียงพอ และสนับสนุนอุปกรณ์ การเรียนการสอน ตอนนี้ผลงานก็เริ่มเป็นรูปธรรมขึ้นมาแล้วครับ”
หัวใจของนักบริหาร คือ “ให้ใจ” ตามกฎกติกา
พักจากเรือ่ งการพัฒนาบ้านเกิด เราเปลีย่ นบรรยากาศมาล้วงลึกถึง หลักการบริหารที่นายกปุ๊ยึดถือในการทำ�งาน รวมไปถึงเรื่องราวของชีวิต ครอบครัวที่น้อยคนนักจะรับรู้ ซึ่งนายกปุ๊ก็ยอมเปิดใจให้ฟังว่า... “คุณสมบัติที่ดีของนักบริหารสำ�หรับผมก็คือต้อง ‘ให้ ใจ’ กับ ผู้ร่วมงาน แต่เราจำ�เป็นต้องพิจารณาด้วยว่าผู้ร่วมงานคนนั้นทำ�งานจริง หรือไม่ เพราะการให้ โอกาสคนโดยไม่มกี ติกา มันก็ท�ำ ให้ทงั้ ระบบล้มเหลว ได้เหมือนกัน ในการทำ�งานใหญ่จะเป็นเรื่องอะไร อาชีพอะไรก็แล้วแต่ จะทำ�คนเดียวไม่ได้ ผมก็เหมือนกันครับ ทำ�งานคนเดียวไม่ได้ ต้องมีคน หลายๆ ฝ่ายเข้ามามีสว่ นร่วม เรือ่ งทีส่ �ำ คัญคือคนทำ�งานควรต้องมีอดุ มการณ์ ร่วมกัน หมายความว่ามองเห็นภาพรวมที่จะเกิดไปทางเดียวกัน ไม่อย่าง
MKD 28
นั้นจะเกิดความขัดแย้งสูง ซึ่งจะกลายเป็นอุปสรรคของการทำ�งานไป ผมไม่ได้หมายความว่าเห็นต่างไม่ได้นะ เราเห็นต่างได้ ในวิธีการ เพราะ บางครั้งความเห็นทีต่ า่ งก็ทำ�ให้ได้วธิ แี ก้ปญ ั หาใหม่ๆ ทีด่ เี หมือนกัน แต่มัน ต้องมีกติกา เพราะฉะนั้นบางเวลาผมก็มีไม้แข็งบ้าง เพื่อให้การทำ�งาน เป็นไปได้ แต่ในด้านชีวิตส่วนตัวผมเป็นคนง่ายๆ นะครับ กับลูกๆ ผม ก็เลี้ยงแบบพื้นๆ ติดดิน ใจผมอยากให้ลูกอยู่ได้แบบที่เราเคยอยู่เมื่อสมัย เด็กๆ และไม่ได้เน้นว่าจะสอนอะไรเป็นพิเศษ ไม่ได้คาดหวังอะไรจากเขา นอกจากให้เป็นคนดีของสังคม ผมคิดว่าถ้าเขาอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เขา จะถูกกล่อมเกลาให้เป็นคนดีได้ วันนี้ก็ดีใจครับที่เขามีส่วนคล้ายผม (ยิ้ม) คือเป็นคนโอบอ้อมอารี เผือ่ แผ่ และคำ�นึงถึงส่วนรวม เท่านีผ้ มพอใจแล้ว”
อ่านมาถึงบรรทัดนี้ คุณคงคิดเหมือนเราว่า เส้นทางของ ‘สมุย’ ในวิถขี องการท่องเทีย่ วนัน้ ไม่ได้หยุดยัง้ อยูเ่ พียงแค่ภมู ภิ าคเอเชีย แต่มนั สามารถเติบโตต่อไปในระดับโลกได้ และก็เป็นหน้าที่ของ ‘พวกเรา’ ชาว สมุย ชาวเมืองคนดี และชาวไทยเองที่จะลงมือทำ�ให้เป็นเช่นนั้น ถ้าวันนี้ คุณกำ�ลังเดินอยู่บนแผ่นดินอันมีนามว่า ‘สมุย’ ช่วยถามตัวเองสักคำ�เถิด ว่าได้ทำ�อะไรเพื่อรักษาสมุยให้คงอยู่ในใจตลอดไปแล้วหรือยัง...
“สมุย” เกาะท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชีย
ก่อนจะลาจากเราถามคำ�ถามปิดท้ายถึงอนาคตที่เขาวาดฝันจะให้ สมุยเป็น ในฐานะที่เขาเป็นตัวแทนที่ชาวสมุยเลือกมาเพื่อทำ�งานพัฒนา ท้องถิ่น นายกปุ๊ตอบด้วยแววตาเป็นประกาย ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นว่า... “วันนีส้ มุยไม่ได้เป็นเมืองท่องเทีย่ วทีส่ �ำ คัญของประเทศเท่านัน้ นะ ครับ แต่กำ�ลังมีความสำ�คัญในระดับภูมิภาคเอเชียไปแล้ว และต่อจากนี้ ไปก็จะยิ่งมีนักท่องเที่ยวมากขึ้นๆ ผมเชื่อว่าสมุยจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่อยู่ในใจนักท่องเที่ยวตลอดกาลได้ แต่เราต้องพยายามดูแลรักษาบ้าน ของเราให้เกิดความสมดุลระหว่างความทันสมัยกับทรัพยากรธรรมชาติ ที่ผ่านมาเราต้องยอมรับว่าเราใช้และทำ�ลายทรัพยากรธรรมชาติไปเยอะ และเทรนด์การท่องเที่ยวในอนาคตจะออกมาในแนวที่ว่า ยิ่งเมืองไหน สามารถลดการใช้พลังงานและมีการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดีได้มาก เมือง นั้นก็จะยิ่งมีแรงดึงดูดด้านการท่องเที่ยวมากขึ้น ผมและเทศบาลจึงเร่ง รณรงค์ ให้เกาะสมุยเป็น ‘เกาะสีเขียว’ อย่างจริงจัง ซึ่งตอนนี้เราก็จับมือ กับการท่องเทีย่ วและธุรกิจโรงแรมต่างๆ เพือ่ ดำ�เนินการด้านนี้ และก็เป็น นิมิตหมายที่ดีว่าวันนี้เราได้รับเลือกให้เป็น ‘เมืองโลว์คาร์บอน’ แล้วครับ ลองคิดดูนะครับ จากสถิตินับสิบปีที่ผ่านมา เราจะเห็นเลยว่าแม้ การคมนาคมของเราจะไม่เอือ้ เพราะค่าเครือ่ งบินยังมีราคาแพงมาก การ เดินทางทางอื่นก็ต้องใช้เวลานาน หลายขั้นตอน ไฟฟ้าก็มีให้ ใช้จำ�กัด แต่ นักท่องเที่ยวก็ยังหลั่งไหลมา อีกข้อเท็จจริงหนึ่งที่น่าสนใจก็คือมี การประเมินว่านักท่องเที่ยวที่เกษียณอายุแล้วนิยมมาซื้อบ้านอยู่ที่สมุย ตอนนี้มีชาวยุโรปหลายคนหอบเงินมาสร้างบ้านเป็นร้อยล้าน ก็หมาย ความว่า เขาต้องรักสมุยมากจนเลือกให้เป็นที่พักในช่วงสุดท้ายของชีวิต ถ้าเรามองจริงๆ ก็ถือว่าสมุยเป็นเกาะที่มีค่ามากในสายตาของคนทั่วโลก ก็เหลือแต่คนของเราทีจ่ ะต้องทำ�ให้เกิดความรู้ เกิดความตระหนักให้ได้วา่ เกาะที่มีค่าไม่ได้อยู่ที่ความทันสมัยความสะดวกสบายอย่างเดียว แต่มัน ต้องสมดุลไปกับการรักษาธรรมชาติ เพราะตรงนี้เป็นเครื่องมือหลักของ การท่องเที่ยวด้วยเหมือนกัน บ้านช่องและความทันสมัยเราสร้างได้ ใน ไม่กี่ปี แต่ชายหาดสวยๆ น้ำ�ตกงามๆ เราสร้างเองไม่ได้ ดังนั้นอย่าปล่อย ให้ความเจริญไปทำ�ลายทรัพยากรเหมือนที่ผ่านๆ มาครับ” MKD 29
dreamer by nature prateep touyjaroen
MKD 30
M A N @ W ORK Story : Peeraya
“ประทีป ทวยเจริญ” ความเจริญของการท่องเที่ยว ควบคู่การอนุรักษ์คือฝันสูงสุด เป็นที่ทราบกันดีว่า “เกาะพะงัน” เป็นเกาะที่มีอิทธิพลต่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการ ท่องเที่ยวของ “เมืองคนดี” ไม่แพ้เกาะใหญ่นามสมุย ด้วยมีปาร์ตี้ริมหาดท่ามกลางแสงจันทร์เป็น แม่เหล็กคอยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากแดนไกลให้เดินทางมาไม่ขาดสาย แต่อีกไม่ช้าไม่นาน ประเทศก็จะเข้าสู่ความเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งจะ นำ�พาความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงมาสู่แดนดินถิ่นเกิด เราจะเตรียมพร้อมรับมืออย่างไร ใน เรื่องอะไร นั่นเป็นคำ�ถามที่ชาวเมืองคนดีกระหายใคร่รู้ จนเป็นเหตุให้เราต้องดั้นด้นมาพบ “คุณ ประทีป ทวยเจริญ” ผูเ้ ป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลตำ�บลเกาะพะงัน เพือ่ การไขข้อข้องใจนี้ พร้อมกัน นั้นก็ถือโอกาสล้วงลึกถึงความเป็นมาเป็นไปในชีวิตและหลักการทำ�งานมาฝากเสียด้วยเลย เพราะ ทราบมาว่าชีวิตของท่านผู้นี้ มิได้เดินทางสู่ความสำ�เร็จโดยง่าย หลังจากที่เดินทางถึงหาดริ้นอันเป็นจุดนัดพบเพียงไม่นานนัก “ลุงขาว” หรือ “นายกขาว” ของชาวเกาะพะงันก็เดินยิ้มแย้มออกมาทักทาย ก่อนจะนั่งลงพูดคุยถึงชีวิต หลักการทำ�งาน และ มุมมองของตนด้วยความเป็นกันเองว่า...
เส้นทางที่ ไม่ ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
“ผมเป็นชาวเกาะสมุยครับ สมัยเด็กบอกตามตรงว่าไม่เคยคิดฝันเลยว่าโตขึ้นจะเป็นอะไร เพราะสมัยนั้นข้อมูลความรู้อะไรก็ยังไม่กว้างเหมือนสมัยนี้ คิดอย่างเดียวว่ามีหน้าที่เรียนหนังสือ ก็ทำ�ไปให้ดี แต่ก็เรียนได้ถึงแค่ ม.6 เท่านั้น เพราะทางบ้านก็ไม่มีกำ�ลังที่จะส่งเสียให้เรียนต่อ ผมก็เลยต้องออกมาดิ้นรนทำ�มาหากินไปเรื่อยเปื่อย ไปเป็นเด็กเสิร์ฟก็เคย และไปทำ�สวนที่ขนอม ซึง่ พ่อแม่ของผมพอมีบา้ นมีทมี่ ที างอยู่ อยูไ่ ปอยูม่ าผมก็คดิ ว่า เอ...ชีวติ มันเหนือ่ ยมากนะ ถ้าปล่อย ให้เป็นแบบนี้คงไม่มีวันลืมตาอ้าปาก อีกอย่างหนึ่งผมมีความเชื่อว่าคนเราเลือกที่เกิดไม่ได้ แต่เรา เลือกทีท่ จี่ ะตายได้ ผมเลยตัดสินใจเปลีย่ นชีวติ ตัวเองด้วยการหาทางออกไปหาประสบการณ์ หาช่อง ทางใหม่ในโลกภายนอก แล้วก็มาตกร่องปล่องชิ้นที่เกาะพะงัน ผมมามีครอบครัวที่นี่เองครับ (ยิ้ม) เริ่มต้นก็ทำ�ธุรกิจท่องเที่ยวเล็กๆ ก่อน ทุ่มเททำ�งานมาจนธุรกิจเติบโตมาเรื่อยๆ มีเรือข้ามระหว่าง สมุยกับพะงัน ซึง่ จะมาขึน้ ทีท่ า่ พระใหญ่ จากนัน้ ก็ท�ำ รีสอร์ท และธุรกิจท่องเทีย่ วครบวงจรทัง้ หมด...”
MKD 31
ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงด้วยความตั้งใจ
“จากนักธุรกิจผมเข้ามาสู่การเมืองก็ด้วยความคิด ความตั้งใจ ที่จะสร้างเกาะพะงันให้น่าอยู่ ในเมื่อเราหวังจะให้ที่นี่เป็นที่ตายของเรา แล้ว และเห็นความเปลี่ยนแปลงของเกาะมาตลอด จากที่ ไม่ค่อยมี บ้านคนจนกลายมาเป็นเมืองท่องเทีย่ วทีม่ คี นมาก พอผมเริม่ ลืมตาอ้าปาก ได้ ก็มาคิดว่าเราพอมีก�ำ ลัง ควรจะทำ�อะไรเพือ่ จรรโลงบ้านของเราให้ดดี ว้ ย ไม่ใช่เอาแต่ดแู ลแต่ธรุ กิจของตัวเอง เพราะการจัดการหรือบริหารบ้านเมือง ต้องอาศัยคนท้องถิน่ ทีม่ คี วามคิดทีด่ ี ก็ไปประจวบกับความคิดของรัฐบาล ตอนนัน้ หม่อมราชวงศ์คกึ ฤทธิ์ ปราโมช เป็นผูน้ �ำ ท่านมีความคิดว่าจะสร้าง ชนบทให้น่าอยู่ ซึ่งตรงกับความคิดของผม ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนชีวิต จากนักธุรกิจมาลงสมัคร สจ. และได้รับเลือกติดต่อกันหลายสมัย แต่หลังจากนัน้ ผมมีความจำ�เป็นต้องมาดูแลธุรกิจทีก่ �ำ ลังขยาย ก็เลยหยุด ทำ�งานการเมืองไปพักหนึ่ง พอธุรกิจแข็งแรง ผมจึงกลับมาขออาสาเป็น นายกเทศมนตรี เทศบาลเกาะพะงัน โดยมีความหวังว่าต่อไปนี้เป็นเวลา ที่จะทำ�งานทดแทนคุณแผ่นดินแล้ว ตอนนี้ก็ทำ�งานในตำ�แหน่งนายกฯ มาได้เกือบ 2 ปีแล้วครับ”
งานธุรกิจควบคู่ชีวิตนักการเมืองของประชาชน
“ต้องอธิบายก่อนว่าเทศบาลตำ�บลในเกาะพะงันนีม้ อี ยู่ 3 แห่งครับ คือเทศบาลตำ�บลบ้านใต้ เทศบาลตำ�บลเพชรพะงัน และเทศบาลตำ�บล เกาะพะงัน ซึง่ เป็นเทศบาลทีผ่ มดูแล มีอาณาเขตปกครองพืน้ ทีค่ รอบคลุม หาดท้องศาลาทั้งหมด และผมมีความคิดว่าจะรวมทั้ง 3 เทศบาลเป็น หนึ่งเดียว เพื่อจะได้ ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณ และเพื่อให้การบริหาร ดูแลท้องถิ่นมีความคล่องตัว ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งตอนนี้ผมก็ทำ�เรื่อง เสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว คาดว่าจะได้รับความเห็นชอบใน ไม่ช้านี้ครับ ส่วนกิจวัตรประจำ�วัน ผมจะตื่นแต่เช้ามืด เพื่อเดินตรวจตรา งานในธุรกิจของตัวเองก่อน เพราะผมทำ�ธุรกิจท่องเที่ยวบนเกาะที่เป็น หน้าเป็นตาของจังหวัด ต้องดูแลไม่ให้มีความบกพร่องจนไปกระทบความ รูส้ กึ ของนักท่องเทีย่ ว ยิง่ เราเป็นนายกฯ ดูแลท้องถิน่ ยิง่ ต้องคำ�นึงว่าธุรกิจ ของเราต้องทำ�เพือ่ ชาวเกาะพะงัน คือเป็นแบบอย่างทีด่ ใี ห้เขา สร้างอาชีพ ให้เขา และต้องนำ�พาความเจริญมาสู่เกาะ จากนั้นก็จะแวะไปดื่มกาแฟ อ่านหนังสือพิมพ์ หรือพูดคุยกับชาวบ้านที่มารอพบที่บ้านหรือรีสอร์ท สักแปดโมงกว่าๆ ผมถึงจะเข้าไปเทศบาลเพื่อตรวจงานเอกสารและ งานต่างๆ ว่ามีการดำ�เนินการไปอย่างไรแล้ว และจะอยู่ที่นั่นจนกว่า งานประจำ�วันเสร็จ เย็นๆ ผมจะกลับมาพักผ่อนและเดินตรวจงานธุรกิจ อีกครั้ง ผมใช้เวลาตอนเดินตรวจงานนี่ล่ะครับเป็นการออกกำ �ลังกาย ส่วนเรื่องอาหาร ผมก็ชอบกินอาหารพื้นบ้าน เพราะเราชิน กินมาตั้งแต่ เกิด อาหารอื่นๆ ไม่ถูกปากเท่าไร และอาหารใต้มีครบทั้งผักทั้งปลา เป็นอาหารสุขภาพกินแล้วแข็งแรง ไม่ต้องพึ่งหยูกยาครับ”
พืน้ ทีแ่ ละความต้องการของชาวเกาะพะงันคือโจทย์ ในการทำ�งาน
“ในการทำ�งานบริหารท้องถิ่นผมไม่เคยมี Idol เลย เพราะแต่ละ พื้นที่มีลักษณะเฉพาะไม่เหมือนกัน นโยบายหรือโครงการบางอย่างใช้ ที่อื่นได้ผลดี แต่เอามาใช้ที่นี่ก็อาจจะไม่เหมาะ ผมจะดูความต้องการ ของประชาชนและพื้นที่เป็นหลัก แต่ก็ใช่ว่าไม่สนใจโลกเลย ผมจะดูว่า ถ้าในพื้นที่ที่คล้ายคลึงกับเรามีโครงการไหนที่เขาทำ�สำ�เร็จไปแล้ว ผม ก็จะนำ�มาศึกษาเพื่อเป็นต้นแบบ เอามาดูผลกระทบว่าถ้าจะทำ�ที่พะงัน ต้องปรับเปลี่ยนแก้ไขอย่างไร จะลอกเลียนแบบมาเลยไม่ได้ จุดเด่นของเกาะพะงันคือเป็นเมืองท่องเที่ยว ขณะเดียวกันเรา มีทรัพยากรธรรมชาติเยอะ ผมให้ความสำ�คัญกับการดูแลทั้งสองเรื่องนี้ ให้ไปด้วยกันให้ได้ นโยบายหนึ่งที่สำ�คัญของเทศบาลตำ�บลเกาะพะงัน ภายใต้การนำ�ของผมก็คือ นักท่องเที่ยวคือ ‘ของสงวน’ ที่ชาวเกาะพะงัน ต้องดูแล เพราะพวกเขาคือสิ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สถานที่ท่องเที่ยว ดีๆ มีอยู่ทั่วโลกนะครับ เราต้องคิดว่าทำ�อย่างไรจึงจะรับรองเขาให้เกิด ความประทับใจได้ เพื่อให้เขาเลือกเรา เลือกเมืองไทยเป็นจุดหมายปลาย ทาง เพราะแน่นอนว่าเมื่อเขามาถึงที่นี่แล้ว ย่อมไม่เที่ยวอยู่ที่เดียว ขณะ เดียวกันเราก็ต้องดูแล อนุรักษ์ทรัพยากรเอาไว้ด้วย โดยเฉพาะพื้นที่ป่า ผมกล้าพูดว่าวันนี้มาดูได้เลยว่าพื้นที่สีเขียวที่เกาะพะงันยังมีเยอะ ต้นไม้ ต้นใหญ่ๆ ก็ยังคงอยู่ เพราะเราไม่ไปแตะต้องมัน ปล่อยให้ธรรมชาติเป็น ไปของมันเอง อีกเรื่องหนึ่งที่ผมเน้นคือการกำ�จัดขยะมูลฝอย เพราะเป็น ปัญหามานาน ผมออกนโยบายให้ทำ�ลายวันต่อวันเลย และสนับสนุนการ ศึกษาโดยเราไปสร้างโรงเรียนเทศบาลตำ�บลเกาะพะงัน เพราะที่มีอยู่นี้ มันคับแคบ นอกจากนีก้ ็ได้ตอ่ เติมสำ�นักงานเทศบาลเพือ่ สร้างบรรยากาศ ทีด่ แี ละความสะดวกสบายให้แก่ขา้ ราชการ ตรงนีส้ �ำ คัญ คนเราจะทำ�งาน ดีๆ ได้ ต้องมีความเป็นอยู่ดีก่อน ส่วนโครงการที่ผมกำ�ลังผลักดันให้มี บนเกาะในอนาคตใกล้ๆ นีค้ อื การสร้างท่าเรือเพิม่ ขณะนีผ้ มได้ของบประมาณ จากรัฐบาลไปแล้ว ระหว่างนี้ก็ทำ �การพัฒนาท่าเรือสากลที่มีอยู่ให้ มีภูมิทัศน์สวยงาม มีความสะดวกสบาย ตอนนี้ผมนำ�เรือหลวงพะงันมา ตัง้ ไว้เพือ่ ทีจ่ ะปรับปรุงทำ�เป็นพิพธิ ภัณฑ์ กำ�ลังดำ�เนินการของบฯ อยูค่ รับ”
เกาะท่องเที่ยวได้ทั้งปี คือพะงันในวันพรุ่งนี้
“จากประสบการณ์ทผี่ มทำ�ธุรกิจการท่องเทีย่ วมาหลายปี และอยูท่ ี่ พะงันมาตัง้ แต่ยงั ไม่มอี ะไร ผมมองเห็นว่าเมือ่ เราเข้าสูป่ ระชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน (AEC) การท่องเทีย่ วก็ยงั คงเป็นตัวแปรหลักในการพัฒนาเกาะพะงัน เพือ่ เตรียมพร้อมเราจำ�เป็นต้องสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านให้เขาเห็นความ สำ�คัญของการอนุรกั ษ์สงิ่ ทีเ่ คยมีให้คงอยู่ การพัฒนาสังคมทีด่ ตี อ้ งทำ�ควบคู่ กันไประหว่างการพัฒนาและการอนุรกั ษ์ เราต้องรักษาสิง่ ทีเ่ รามีอยูใ่ ห้ได้ไม่วา่ จะธรรมชาติหรือวัฒนธรรมประเพณีก็ตาม เพราะมันจะช่วยชะลอให้ สังคมเปลี่ยนแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่เร็วมากนัก ชาวบ้านก็จะปรับตัวทัน
MKD 32
ทีผ่ า่ นมานอกเหนือจากส่งเสริมฟูลมูนปาร์ตแี้ ล้ว ผมจึงมีความพยายามที่ส่งเสริมประเพณีเก่าๆ ของเราอย่างมากด้วย อย่างงานชักพระกลางเล เราก็มีการจัดกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่ และนำ�เอาการ ละเล่นพื้นบ้านต่างๆ มาจัดแสดงให้ชม ส่วน ในเรื่องของการพัฒนานั้น สิ่งสำ�คัญคือด้าน การคมนาคม ต้องมีความสะดวกมากขึน้ ผมฝันว่า จะให้มีสนามบินที่เกาะพะงัน เพราะผมเห็น ตัวอย่างจากประเทศภูฏานที่มีนักท่องเที่ยว เดินทางไปเทีย่ วกันทัง้ ปีจนต้องจองตัว๋ ล่วงหน้า ไม่ต่ำ�กว่า 4 เดือน แล้วมามองดูศักยภาพของ เกาะพะงันแล้ว ผมว่าเราทำ�ได้ เพราะนอกจาก จะมีฟูลมูน เรายังมีเทศกาลประเพณีท้องถิ่น มีชายหาด มีน้ำ�ตก มีวัดวา มีร้านอาหารที่ดี แต่ควรมีกฎหมายควบคุมการเดินทางที่รัดกุม เป็นสากลด้วย ไม่ใช่มาไปกันง่ายๆ อีกอย่าง ผมว่าเราต้องทำ�ความเข้าใจกับชาวบ้านและ นักธุรกิจบนเกาะสมุยกับเกาะเต่า รวมไปถึงตาม สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสุราษฎร์ฯ ให้เกิด ความร่วมมือเป็นหนึง่ เดียวกัน ช่วยกันส่งเสริม ให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง ไม่ใช่ ว่าสมุยก็คือสมุย พะงันก็พะงัน แบบนี้จะดึง นักท่องเทีย่ วได้นอ้ ย ทีจ่ ริงไม่วา่ จะเป็นเรือ่ งอะไร ก็แล้วแต่ เมื่อไรที่แยกกันต่างคนต่างทำ� เมื่อ นั้นการพัฒนาจะไม่ไปไหน วันนี้สิ่งที่ผมอยาก จะติงมีอยู่เรื่องเดียวก็คือ ค่าบริการเครื่องบิน บนเกาะสมุยทีม่ รี าคาแพงเกินไป และยิง่ จะแพง มากขึน้ ทุกวันๆ ทีจ่ ริงรัฐบาลควรจะเข้ามาควบคุม ราคาให้เหมาะสม เพราะถ้ามองในแง่ผู้บริโภค แล้วเขาเดือดร้อน สังคมเรามีหลักยึดมั่นว่า ค่าบริการขึ้นกับระยะทาง ส่วนค่าน้ำ�มันนั้น ก็เป็นที่ยอมรับว่าสามารถปรับขึ้นลงตามราคา ตลาดอันสมควรแก่เหตุ แต่ที่เป็นอยู่วันนี้ทำ�ให้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกที่จะนั่งรถแล้วมา ต่อเรือเพราะสูร้ าคาไม่ไหว แล้วระยะทางก็ไกล เหลือเกิน ต้องใช้เวลานานเกือบสิบชั่วโมง ถึง เกาะแล้วก็ยังมาติดขัดแออัดที่ทางขึ้นเกาะอีก โดยเฉพาะเกาะพะงันทีท่ างเข้าเป็นคอขวด ตรงนี้ เป็นเหตุหลักที่ทำ�ให้ผมมีแนวคิดว่า น่าจะ
เกาะอนุรักษ์ เกาะท่องเที่ยว เกาะแห่งความสุข
ผลักดันให้เกาะพะงันมีสนามบิน เพื่อให้มีคู่แข่งด้านราคา แต่ลำ�พังเทศบาลเองคงเป็นเรื่องยาก ลำ�บากในการดำ�เนินการ ก็คงต้องฝากแนวคิดนี้ให้ผู้หลักผู้ ใหญ่ของประเทศและจังหวัด รวมถึง ทุกฝ่ายที่ดูแลการท่องเที่ยวพิจารณาครับ” ถึงจะเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำ�รวย แต่ชีวิตกลับเปลี่ยนแปลงเป็นมั่งคั่งได้ด้วยความกล้า ที่จะหลุดออกจากกรอบเดิมๆ ผสานไว้ด้วยความอดทนเพียรพยายาม และเมื่อพบความสำ�เร็จแล้ว ก็ใช่ว่าจะเพิกเฉยต่อสังคม นี่นับเป็นแบบอย่างที่ดีของ “คนใช้ชีวิตเป็น” เพราะคุณค่าทุกวินาที บนโลกใบนี้ ไม่ได้มีไว้เพื่อตนเองเพียงเท่านั้น หากยังเป็นคุณงามความดีต่อผู้อื่น และบ้านเกิด เมืองนอนอีกด้วย.... MKD 33
M A KE M ONEY Story : Smartman
Interesting
investment
แม้จะผ่านพ้นเทศกาลงานบุญ “วันวิสาขบูชา” ไปแล้ว แต่เชื่อไหมครับว่าบรรยากาศขลังๆ ที่มาก ด้วยแรงศรัทธาของชาวเมืองคนดีขณะที่เดินเวียนเทียนรอบพระบรมธาตุไชยายังติดตาประทับใจ ผมอยู่เลย... พืน้ ทีจ่ งั หวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดใกล้เคียงละแวกกัน อาทิ ชุมพร ทีน่ บั ถือศาสนาเดียวกันกับเรา เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย ไต้หวัน จีน นครศรีธรรมราช และพัทลุงนัน้ ได้ชอื่ ว่าเป็น “เมืองธรรมะ” ด้วยความเจริญ ญีป่ นุ่ ปัจจุบนั นีก้ ารเช่าพระจึงพัฒนาไปมาก มีทงั้ การประมูล auction ผ่าน ของพุทธศาสนาดำ�เนินต่อเนื่องมายาวนานจนฝังรากหยั่งลึกในจิตใจคน อินเทอร์เน็ต การโอนเงินเข้าบัญชี มีการประกันกำ�กับการซือ้ ขายด้วยการ บรรพบุรษุ ของเราก่อสร้างวัดวาอารามไว้มากมาย และแน่นอนว่าแต่ละวัด ออก certification พร้อมแนบรูปถ่ายการันตีว่าของแท้ชัวร์ๆ และไม่ค่อย ต้องสร้างพระพุทธรูป นัยว่าเป็นองค์แทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสมือนเป็น มีแหล่งเช่าใหญ่ๆ กล้าหักหลังผู้ซื้อ เพราะเป็นการดิสเครดิตตัวเองไป องค์ประธานในการปฏิบตั ิพธิ ีกรรม รวมไปถึงเพือ่ กราบไหว้บูชา จนพัฒนา เปล่าๆ แต่ถ้ามีปัญหาจะด้วยเหตุใดก็ตามที ก็สามารถเคลมได้เต็มราคา มาสูพ่ ระเครือ่ งห้อยคอทีเ่ ป็นทัง้ เครือ่ งยึดเหนีย่ วใจ และเป็นเครือ่ งรางของ พระเครือ่ งจึงเป็นสินทรัพย์ลงทุนทีม่ มี ติ คิ รบทัง้ จำ�นวนหมุนเวียน ทำ�ให้เกิด ขลังที่เชื่อกันว่าป้องกันได้ทั้ง “ภัย” และ “ผี” สภาพคล่อง มีแหล่งข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่น่าเชื่อถือ มีเครื่องมือ ช่วงที่หนัง “พี่มาก...พระโขนง” กำ�ลังบูมสนั่นประเทศ ผมเอง การวิเคราะห์ก่อนการตัดสินใจคือมีมาตรฐานบ่งชี้ลักษณะได้ชัดเจนมาก ก็ถูกกระแสนิยมผลักให้ตีตั๋วดูกับเขาด้วย ก็ยังพบว่าหนังได้สะท้อน ขึ้น และมีมูลค่าสภาพคล่องเป็นที่ยอมรับ แม้จะไม่คงที่เหมือนเงินสด ความเชือ่ ทีข่ น้ คลัก่ นีอ้ อกมาเต็มๆ ในฉากทีพ่ มี่ ากจอมเกรียนถอดสร้อยพระ หรือทองคำ� แต่ก็มีระดับราคาที่อิงกับประเภทพระและภาวะเศรษฐกิจได้ ออกจากคอเพื่อให้ผีน้องนาคเมียรักเข้าใกล้ได้ มีขอ้ มูลจากบริษทั ศูนย์วจิ ยั กสิกรไทยไว้ ในปี 2547 ว่าราคาพระเครือ่ ง นอกจากจะเป็นเครือ่ งรางแล้ว วันนีพ้ ระเครือ่ งยังเป็นช่องทางหนึง่ ลดลง 40-50% ในช่วงปี 2540-2544 เพราะวิกฤติต้มยำ�กุ้ง แผงพระ ที่คุณๆ สามารถลงทุนได้ และขอย้ำ�เลยว่าเป็นช่องทางที่น่าสนใจมากเสีย ที่เปิดเป็นงานเป็นการลดจำ�นวนลงเห็นได้ชัด แต่กลับมีจำ�นวนแผงจร ด้วย สังคมเรานิยมสะสมพระเครือ่ งด้วยหลายเหตุผล บ้างก็ศรัทธาเลือ่ มใส เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากคนตกงานขุดเอาพระเครื่องที่สะสมไว้ออกมา ในพุทธคุณที่เสกเป่าโดยพระเกจิผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ บ้างก็ชื่นชอบใน ให้เช่า แต่พระเบญจภาคีและพระเครื่องยอดนิยมหลักๆ ราคากลับลดลง ความสวยงามเชิงศิลปะ บ้างก็เพื่อแสดงฐานะอันล่ำ�ซำ�ต่อสังคม และมี แค่ 10-20% เท่านั้น ไม่ได้ดิ่งลงเหวจนหัวใจจะวายตายเหมือนราคาหุ้น ไม่น้อยเลยที่สะสมเพื่อการลงทุนสถานเดียว ซึ่งประการหลังนี้ต้องเป็น แต่หลังจากปี 2545 เป็นต้นมา วงการพระเครื่องเริ่มฟื้นตัวตามกระแส ผู้เชี่ยวชาญและรักจริง หมายความว่าต้องตามติดเรื่องของพระพอๆ กับ เศรษฐกิจของประเทศที่คึกคักขึ้น เราเริ่มกลับมาเห็นป้ายโฆษณาการ ตามหุน้ เลยทีเดียว ไม่เช่นนัน้ จะเกิดสถานการณ์ทเี่ รียกว่า “more risk” ได้ สร้างวัตถุมงคลและพระเครื่องตามทางด่วนและไฮเวย์กันอีกครั้ง และ รูปแบบของพระเครื่องนั้นมีหลากหลายครับ สามารถแยกได้ตาม ยังพบว่ามีเม็ดเงินหมุนเวียนในธุรกิจพระเครื่องและธุรกิจที่เกี่ยวข้องใน มวลสาร เช่น ประเภทเนื้อผง ดิน โลหะ เหรียญ ไปจนถึงล็อกเกตภาพ ปี 2547 ไม่ต่ำ�กว่า 10,000 ล้านบาท!!! ธุรกิจเกี่ยวข้องกับพระเครื่องนั้น ส่วนมูลค่าก็ขนึ้ อยูก่ บั ความเก่าแก่หรือความโด่งดังของพระเกจิผสู้ ร้าง แต่ กว้างขวางมาก ตั้งแต่ธุรกิจสร้างพระที่มีกระบวนการทำ�แม่พิมพ์ วัตถุดิบ ก็ใช่ว่าพระเครื่องที่มีอายุมากจะมีราคาสูงเสมอไป กระแสความนิยมเป็น การจัดพิธีพุทธาภิเษก ไปจนถึงธุรกิจแผงพระ และบริการถ่ายรูปพระ ตัวแปรที่สำ�คัญมากครับ ดูอย่างปรากฏการณ์ขายเบนซ์แลกจตุคามราม ใส่กรอบพระด้วย ไม่เว้นแม้แต่ธรุ กิจโฆษณา แค่ตวั เลขเฉพาะการลงโฆษณา เทพเมื่อหลายปีก่อนเป็นตัวอย่างก็ได้ หนังสือพิมพ์รายวันก็สูงถึง 100-200 ล้านบาทต่อปีแล้ว สังคมพระเครื่องนั้นมี scale ใหญ่มาก มีคนทุกระดับอาชีพตั้งแต่ ถ้าคุณมีสายป่านยาว ลองฝึกความสามารถในการพิจารณา เจ้าสัวเงินถุงเงินถังติดอันดับต้นของประเทศ ไปจนถึงนักการเมือง นั ก พระเครื่องดูสักที พอมีฝีไม้ลายมือแล้วก็ช้อนพระเครื่องดีๆ เก็บใส่เซฟ ธุรกิจ ข้าราชการ พ่อค้า กรรมกร ประชาชนคนทั่วไป และความสนใจยัง ธนาคารไว้บา้ ง เพราะมีโอกาสสูงมากทีจ่ ะเพิม่ มูลค่า ตาดีตาร้ายอาจเบ่งบาน ได้ขยายไปต่างประเทศมาหลายปีแล้วด้วย โดยเฉพาะเพือ่ นบ้านใกล้เคียง ไปดันเซฟจนแตกเลยก็ได้นะครับ MKD 34
MKD 35
A RT & CA REER
Artist : jirawat pramphet Photo : olga and tanya
everywhere has monsters
ผมสร้างตัวประหลาดจากองค์ประกอบทุกอย่างรอบตัว รอยแตกของกำ�แพง คราบน้ำ�ฝนบนพื้น ร่องรอย ขูดขีด และอีกหลายๆ อย่าง จากจินตนาการ ผูกเป็นเรื่องราว เพื่อบอกเล่า และเสียดสี กิจกรรม ความเป็นอยู่ของ คนในสังคม
จีรวัฒน์ พราหมณ์เพชร หรือจี เล่าถึงไอเดียอันเป็นหัวใจในการ สร้างงานศิลปะตามแบบฉบับของเขา ก่อนที่จะเล่าความเป็นมาและ แนวความคิดในการทำ�งานต่อไปว่า... “ผมเป็นคนนครฯ ครับ มาค้นพบตัวเองว่าชอบศิลปะทุกชนิดตอน ที่เรียนจบ ม.ต้นจากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช ที่จริงผม คลุกคลีกับศิลปะมาตั้งแต่เด็กนะ เพราะคุณตาและคุณแม่เรียนจบที่ วิทยาลัยเพาะช่าง และเป็นแรงบันดาลใจให้ผมเลือกเรียนทางนี้ โดยสอบ เข้าคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร พอเรียนจบก็มาทำ�งานด้าน โฆษณา และ Productions พักใหญ่ แต่ปัจจุบันผมกับเพื่อนที่รักศิลปะ ร่วมกันเปิด Arts Studio ชื่อว่า V64 Arts Studio ในซอยวิภาวดี 64 กรุงเทพฯ เราตั้งใจให้เป็นสถานที่สำ�หรับคนรักศิลปะทุกคน และมีร้าน อยู่ในตลาดนัดสวนจตุจักร โครงการ 7 ซึ่งรับเขียนภาพตามออเดอร์ ให้ กับโครงการอสังหาริมทรัพย์และโรงแรม รีสอร์ทต่างๆ ด้วย ผมเป็นคนหลายใจ... ชอบไปหมด ถ้าจะต้องให้เลือกว่าอันไหนเป็น แรงบันดาลใจของอะไรก็ต้องใช้เวลาคิดกันเลยล่ะ เพราะไม่รู้จะทิ้งอัน ไหนเพือ่ เลือกอันไหนดี ตอบรวมๆ ก็คงจะเป็นทุกอย่างทีเ่ ข้าใจในช่วงชีวติ อดีต-ปัจจุบัน ใกล้-ไกล เรียบ-ขรุขระ ธรรมชาติ-ไม่ธรรมชาติ มืด-สว่าง แคบ-กว้าง ขึ้นอยู่กับว่า ช่วงไหนเราสนใจอะไร ชอบเรื่องอะไร ก็จะดึงเข้าไปใช้ ในงานไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือแนวความคิด ด้วยที่มาแบบนี้ถ้าถูกถามว่ารูปชุดนี้เป็นรูปอะไร หมายถึงอะไร มักจะ
ต้องใช้เวลานึกนาน หรืออาจจะไม่มีคำ�ตอบเอาเสียเลย เพราะมันไม่ได้ เกิดขึ้นมาจากสิ่งเดียว มันเกิดจากสิ่งต่างๆ หลากหลาย รวมๆ กันแล้ว ก็ออกมาเป็นแบบนี้ ในเวลานี้ บางคนทำ�งานเขามีชื่อภาพเพื่อทำ�ให้คนดูเข้าใจที่มาที่ ไปง่ายขึ้น แต่ สำ�หรับผมหลายครัง้ ไม่ปรากฏชือ่ ภาพในความรูส้ กึ ของผมเลย แต่ผมชอบ มันมาก บางชิ้นก็ชอบมากมาก เวลาใครมาถามถึงความหมายของงาน Abstract (นามธรรม) ใน ความเห็นของผมแล้วน่าจะมีความหมายว่า คนใจกว้าง ทำ�งานให้ คนใจกว้าง จะหาคำ�ถามคำ�ตอบ ความหมายจากงานก็คงต้องไปคิดกันเอา เองนะ ผมชอบทำ�งานนามธรรม โดยเหตุผลส่วนตัวของผม (เท่านั้น ไม่เกีย่ วกับคนอืน่ ) ผมคิดว่าไม่จ�ำ เป็นทีจ่ ะต้องให้คนมาดูรปู ของผมแล้วเข้าใจ เหมือนผม ผมไม่ตอ้ งการจำ�กัดความคิดของใคร ไม่ตอ้ งคิดเหมือนผมก็ได้ ผมออกจะแปลกใจนะที่เวลาเห็นคนอื่นบอกว่า ชอบงานคนนี้ เกลียด งานคนโน้น เพราะถ้าถามผมคงจะต้องใช้เวลานึกนาน คงเป็นเพราะหลาย ใจก็ได้ เพราะจริงๆ แล้วชอบงานหลายแบบ หลายสไตล์ ทัง้ งานรุน่ เก่า-รุน่ ใหม่ งานไทย-งานฝรั่ง ศิลปะเด็ก เซรามิก ผ้าทอ ร่องรอยแตกแยกขูด ขีดต่างๆ กราฟฟิก ฯลฯ ผมว่าดีนะ เพราะเวลาชอบหลายอย่างทำ�ให้เรามีโอกาสชื่นชม งานที่เราชอบเรื่อยๆ เหมือนมี Art Exhibition อยู่รอบๆ ตัวทุกวัน”
MKD 36
MKD 37
that speed it will slow ยิ่งให้เร็ว นั่นแหละจะยิ่งช้า
ไม่สังเกต คุณๆ ก็คงจะเห็นกันอยู่แล้วว่าชีวิตของผู้คนในโลกทุกวันนี้ ช่างดำ�เนินไปอย่างเร็วรี่และร้อนรน... อ้าว...ก็จะไม่ ให้เป็นอย่างนั้นได้อย่างไร ในเมื่อกาลเวลาเดินหน้าไปไม่รีรอ เผลอแป๊บๆ อายุปาเข้าไป 35 - 40 อั๊ยย่ะ! จนปูนนี้ฉันยังไม่พบเจอสิ่งที่เรียกว่าความสำ�เร็จในชีวิตเลย ช้าไปไหมเนี่ย... MKD 38
SOUL & SPI RI T
Story : Roybun Illustration : Pom Demand
นัน่ เป็นคำ�อธิบายเหตุผลทีม่ กั จะพรัง่ พรูออกจากปากของคนเกือบ ทุกผู้ทุกนามในยุค 2013 เมื่อถูกถามว่าชีวิตจะรีบไปไหน...เรื่องระยะเวลา สู่ความสำ�เร็จเป็นเรื่องที่คนในวันนี้เข้าใจกันว่า “ยิ่งเร็วเท่าไร ยิ่งดี” และ สังคมก็ยอมรับชื่นชมว่าเป็นเรื่องงดงามอันควรทำ� จนคนยุคใหม่เอาไป สร้างเป็นอุดมการณ์ของชีวติ ว่า ฉันจะต้องเป็นอย่างนัน้ อย่างนีเ้ มือ่ นัน่ เมือ่ นี่ แล้วพยายามทำ�ทุกอย่างที่คิดว่าต้องทำ�เพื่อไปสู่จุดนั้น จนเกิดอาการ ที่เรียกว่า “อยากได้ ต้องได้” ครั้นพอถามว่า แล้วทำ�ไมต้องได้ทุกอย่าง ที่อยากได้ด้วยล่ะ คนส่วนใหญ่อีกเหมือนกันที่ตอบว่า... “ก็มนั ไม่ได้ ไม่ได้นหี่ ว่า” ตอบกวนไปไหม...โคตรจะกำ�ปัน้ ทุบดินเลย แต่เมื่อเก็บเอามาคิดดีๆ ก็มองเห็นว่า เออจริง... ไม่ได้ ไม่ได้ เพราะมัน ทนรับทุกข์ที่จะเกิดจากความผิดหวังที่ ไม่ได้ไม่ไหว ฉะนั้นมันจึงต้องได้! 5555+... นั่นเองก็เลยทำ�ให้คนวันนี้วิ่งไปข้างหน้าราวกับมีตัวอะไรไล่ฟัด ตามหลัง แต่มันดีหรือ...มันถูกหรือ..วิ่งไปก็ถามตัวเองไป มีนิทานเซนเรื่องหนึ่งที่เล่าต่อกันมานานกาเล แม้จุดเริ่มต้นของ นิทานเรื่องนี้จะเกิดในยุคอดีตย้อนหลังไปนับร้อยๆ ปี แต่แก่นของเรื่อง ยังคงทันสมัย ซึ่งยืนยันได้ดีเหลือเกินว่า ‘ธรรมมะคือธรรมชาติที่เป็น จริง’ จึงเป็นสัจจะมั่นคงข้ามกาลเวลา โดยมิต้องตั้งข้อสงสัยในความ น่าเชื่อถือ เรื่องมีอยู่ว่า... มีหนุม่ คนหนึง่ ใฝ่ฝนั จะเป็นนักฟันดาบทีเ่ ก่งกาจ เขาเพียรพยายาม เสาะหาอาจารย์จนได้พบผู้เฒ่าคนหนึ่งที่มีฝีมือดาบเยี่ยมยอด ในวันที่ เขาเข้ากราบคารวะผู้เฒ่าเพื่อขอเป็นศิษย์นั้น เขาก็ถามอาจารย์ด้วย ความกระหายใคร่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาฝึกฝนร่ำ�เรียนสักกี่ปี จึงจะสำ�เร็จ สุดยอดวิชาดาบตามที่ปรารถนา... “7 ปี” อาจารย์เฒ่ากล่าว...หลังฟัง คำ�ตอบ ใจของศิษย์ผมู้ าใหม่กท็ รุ นทุราย ด้วยมองว่าเวลา 7 ปีนนั้ ช่างเนิน่ ช้า เขาต่อรองผูเ้ ป็นอาจารย์วา่ จะพยายามจนสุดกำ�ลังเท่าทีก่ ายและใจจะทำ�ได้ เพื่อศึกษาและฝึกฝน ถ้าเป็นเช่นนี้จะต้องใช้เวลาสักกี่ปี “ถ้าเช่นนัน้ ต้องใช้เวลา 14 ปี” ด้วยความงุนงงและความทุกข์ โหม กระหน่ำ�ใจมากกว่าเดิม ศิษย์หนุ่มจึงโอดครวญขึ้นว่า... “บิดาของข้าชรามากแล้ว เจ็บออดแอดจะตายวันตายพรุ่งมิอาจรู้ ข้าตั้งใจว่าจะพยายามอย่างยิ่งเพื่อให้บิดาของข้าได้ทันเห็นฝีมือฟันดาบ ให้เป็นที่ชื่นใจ เป็นการสนองคุณที่ได้ ให้กำ�เนิดและเลี้ยงดูมา ในเมื่อข้ามี ความตั้งใจที่จะฝึกฝนด้วยความจำ�เป็นอย่างนี้แล้ว ท่านอาจารย์จงตรอง ดูดีๆ อีกครั้งเถิดว่าจะต้องใช้เวลาสอนนานเท่าไร” “ยิ่งต้องนานเป็น 21 ปี” ผู้เฒ่าตอบด้วยท่าทีนิ่งเฉย... ศิษย์หนุ่ม รูส้ กึ ขัดอกขัดใจในตัวอาจารย์อย่างยิง่ แต่ครัน้ จะเดินทางไปเสาะหาอาจารย์ คนใหม่ก็อับจนปัญญา ด้วยไม่มีใครในแผ่นดินที่จะมีฝีมือดาบทัดเทียม และมีความสามารถในการสอนดีกว่านี้ เขาจึงต้องทนอยู่กับอาจารย์เฒ่า ไปอย่างซังกะตาย
แต่แทนทีจ่ ะถ่ายทอดวิชาดาบ อาจารย์เฒ่ากลับเอาแต่เรียกใช้ศษิ ย์ หนุ่มให้ทำ�งานรับใช้ ทั้งตักน้ำ� ผ่าฟืน หุงหาอาหาร ทำ�ความสะอาดที่พัก จนหลายวันผ่านไป... แล้วจู่ๆ ในวันหนึ่งขณะที่ศิษย์หนุ่มกำ�ลังปรุงอาหาร อยูใ่ นครัว อาจารย์เฒ่าก็คว้าดาบด้วยสองมือ แล้ววิง่ ผลุนผลันเข้าไปจูโ่ จม ศิษย์ โดยไม่เปิดโอกาสให้ตั้งตัว ศิษย์หนุ่มหลบหลีกเป็นพัลวัน เขาฉวย หยิบสิง่ ของในครัวขึน้ มาตัง้ รับผูเ้ ฒ่าไปตามสถานการณ์ แต่แล้วเพียงสอง สามอึดใจต่อมาอาจารย์เฒ่าก็หยุด และเดินกลับบ้านพักไปอย่างไม่รู้สึก รู้สา จากนั้นศิษย์หนุ่มก็ถูกจู่โจมจากผู้เป็นอาจารย์อีกหลายครั้งหลายครา ต่างสถานการณ์ไป จนวันหนึง่ ...อาจารย์เฒ่าก็เรียกผูเ้ ป็นศิษย์ไปพบ และ เอ่ยปากด้วยความเมตตาว่า... “เจ้าจงกลับบ้านเถิด” ขณะที่ศิษย์หนุ่มกำ�ลังงงงวยและตกใจ อาจารย์เฒ่าก็กล่าวต่อไปว่า “บัดนีข้ า้ ได้ถา่ ยทอดวิชาฟันดาบของข้าให้แก่ เจ้าจนหมดสิ้นแล้ว”... ศิษย์หนุ่มเข้าใจเรื่องราวในทันใด เขาก้มกราบลา อาจารย์ด้วยความเคารพก่อนจะเดินทางกลับมาพบบิดา และได้แสดง ลีลาฟันดาบให้ชมดังใจปรารถนา ต่อมาภายหลังเขายังได้รับการยกย่อง จากผู้คนให้เป็นนักดาบผู้เก่งกล้าคู่แผ่นดิน ‘ท่านพุทธทาสภิกขุ’ ผูเ้ คยเล่านิทานเซนเรือ่ งนี้ให้สานุศษิ ย์ฟงั ใน คราวหนึ่ง ได้สรุปถึงคติธรรมที่แฝงสะท้อนเอาไว้ดังจะตัดตอนมาพอ สังเขป เพื่อให้คุณพิจารณาและตัดสินใจเอาเองว่า ชีวิตยังจะวิ่งสู้ฟัด ต่อไปไหม... ท่านกล่าวว่า... “การทำ�อะไรด้วยความยึดมั่นถือมั่นว่า ‘ตัวตน’ ว่า ‘ของๆ ตนนั้น’ ใช้ไม่ได้ ไม่มีทางที่จะเป็นผลดีเลย ถ้าหนุ่มคนนี้ยังคิดว่ากูจะดี กูจะเด่น อยู่ละก็ มันจะมีตัวกูที่ใหญ่เอาการมาฝึก ถ้ายิ่งจะทำ�ให้ดีที่สุด เก่งที่สุด เร็วที่สุดอย่างนี้ด้วยแล้ว ไอ้ตัวกูมันยิ่งขยายใหญ่โตออกไปอีก ยิ่งเร่งร้อน จิตยิ่งเต็มอัดอยู่ด้วยตัวกู กลัดกลุ้มไปด้วยตัวกูของกู ไม่เป็นจิตว่าง จิตจึงไม่สามารถแสดงสมรรถภาพเดิมแท้ของจิตออกมาได้ แต่ขณะที่ เขาอยู่ในครัวนั้น เขาไม่มีความรู้สึกว่า กูจะเอาใน 7 ปี หรือจะให้ทันบิดา เห็น เป็นเพียงจิตที่ว่างอยู่ แม้ว่าอาจารย์จะผลุนผลันเข้าไปในลักษณะ อย่างไร ปฏิภาณของจิตว่างหรือจิตเดิมแท้นี้ก็มีมากพอที่จะต่อสู้ออกไป อย่างถูกต้องได้ มันเป็นการเรียกร้องขึน้ มา หรือปลุกขึน้ มาจากหลับตามวิธี ของอาจารย์ที่เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ จนมาเป็นจิตที่เบิกบานเต็มที่ ซึง่ ต่อไปก็เอาไปใช้ได้เลย เขาจึงเป็นผูส้ �ำ เร็จหลักสูตรโดยวิธปี ระหลาดนัน้ ภายในเวลาสั้นๆ ได้.... ฉะนั้นอย่าทำ�จิตให้สั่นระรัวด้วย ‘ตัวกู ของกู’ เพราะว่าการทำ�อย่างนั้น ‘ยิ่งจะให้เร็ว มันจะยิ่งช้าที่สุด’ หรือพูดได้ว่าจะ เอาให้ ได้ มันยิ่งจะไม่ได้เลย แต่เมื่อไม่มีตัวเราที่จะเอาอะไรเลยแล้ว มันจึงได้มาหมด...” “ถ้าลองเปิดใจมองดูตวั เองด้วยจิตว่าง คุณก็จะรูว้ า่ ชีวติ ของเราใน วันนีต้ า่ งเดินไปด้วยตัวกูของกูที่ใหญ่โตจนคับเมือง จะแบกตัวกูหรือจะทิง้ ตัวกู นั่นก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้ว”
MKD 39
H EA TH SECRET
Story : DR.Q / สนับสนุนโดยโรงพยาบาลกรุงเทพฯ
ข่การกรนส่ าวดีงผลให้ ของคนนอนกรน เกิดอาการง่วงตลอดทัง้ วันและเหนือ่ ยหน่าย เนื่องจากการ
นอนหลับไม่เต็มอิม่ และยังส่งผลให้เกิดปัจจัยเสีย่ งสูงต่อการเกิดโรคกล้ามเนือ้ หัวใจ ตายเฉียบพลัน เนือ่ งจากภาวะการขาดเลือด หัวใจเต้นผิดจังหวะ ลิน้ หัวใจโต โรคหลอด เลือดในสมอง ตลอดจนสมรรถภาพทางเพศทีเ่ สือ่ มลง ในผูท้ มี่ อี าการกรนในระดับน้อย คุณสามารถรักษาด้วยตัวเอง โดยการปรับเปลีย่ นพฤติกรรมบางอย่าง เช่น นอนตะแคง ลดน้�ำ หนัก หลีกเลีย่ งเครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์และบุหรี่ รวมทัง้ ยาทีท่ �ำ ให้เกิดอาการง่วงนอน รักษาโรคอืน่ ๆ ทีม่ ผี ลต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคภูมแิ พ้ และออกกำ�ลังกายอย่าง สม่�ำ เสมอ แต่หากว่าคุณมีอาการกรนอย่างต่อเนือ่ ง แพทย์กจ็ ะใช้เครือ่ งมือช่วยในการ รักษา เช่น ผ่าตัดหรือยิงเลเซอร์ตดั ลิน้ ไก่ทงิ้ แต่ปจั จุบนั แพทย์คน้ พบวิธกี ารรักษาแบบ ใหม่ทชี่ ว่ ยลดอาการนอนกรนได้ถงึ 70-80 เปอร์เซ็นต์ได้ โดยไม่ตอ้ งผ่าตัด นัน่ คือการนำ�เอา วัสดุทางการแพทย์ทเี่ รียกว่า “พิลลาร์” ซึง่ เป็นด้ายที่ใช้เย็บลิน้ หัวใจ มีขนาดเล็กเท่าไส้ดนิ สอ จำ�นวน 3 ชิน้ ไปฝังไว้ทเี่ พดานอ่อนหรือลิน้ ไก่ ซึง่ วิธนี ี้ จะช่วยลดการสัง่ สะเทือนของเพดานอ่อนลงอย่างเห็นได้ชดั ซึง่ การรักษาด้วยวิธนี ี้ใช้เวลาแค่ 10 นาที มีผลข้างเคียงน้อย ถึงจะมีคา่ รักษาทีค่ อ่ นข้างสูง สักหน่อย แต่เพื่อสุขภาพจิตของคนที่นอนข้างๆ ก็คุ้มนะ...
กินปลาดิบสุ่มสี่สุ่มห้า เป็นภัยต่อสุขภาพ แฟนพันธุแ์ ท้ “ซูช”ิ คงต้องกลืนน้�ำ ลายหักห้ามใจกันเป็นแถว หลังจากอ่าน
ข่าวนีจ้ บ องค์กรเอ็นจีโอ “ก็อท เมอร์ครู ”ี ในสหรัฐฯ ออกมาประกาศเตือนว่า การ หม่ำ�ซูชิก็คล้ายกับการเล่นรัสเซียนรูเลตต์ เนื่องจากร้านอาหารญี่ปุ่นนิยมใช้ปลา ตัวใหญ่อายุมากๆ มาทำ�ซูชิ เพราะเนื้อมีรสชาติดี แต่ขณะเดียวกันก็มีสารปรอท สะสมในตัวมาก และซูชิยังมีสารต้าน “ไทอามีน” ทำ�ให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึม วิตามินบี 1 ถ้าขยันกินก็จะส่งผลให้คุณเป็นโรคเหน็บชา แขนขาไม่มีเรี่ยวแรง ได้งา่ ย นอกจากนีข้ นั้ ตอนเตรียมซูชจิ ะต้องสัมผัสโดยตรงด้วยมือของพ่อครัว และ ไม่ผ่านความร้อนใดๆ จึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อ รวมไปถึงพยาธิต่างๆ ที่อยู่ในตัวปลาเอง ดังข่าวที่เคยปรากฏว่ามีหญิงคนหนึ่งต้องถูกนำ�ตัว เข้าผ่าตัดสมองด่วน เพราะพยาธิตัวจี๊ดเข้าไปชอนไชจนเกือบเป็นอัมพาตหลังจากสวาปามซูชิเข้าไป แต่ก็นั่นล่ะนะ..ความอร่อยไม่เข้า ใครออกใคร ถ้ายังตัดใจจากซูชิไม่ได้ ควรเลือกร้านใหญ่ที่มีมาตรฐานในการดูแลคุณภาพอาหารอย่างดี และหลีกเลี่ยงการซื้อซูชิที่จัดวาง ในตู้ โชว์เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะประเภทแพคคู่ที่รอขายตอนปิดร้าน น่ากลัวสุดๆ นะนั่น!
โรคเจ้ า นายเป็ น พิ ษ หากคุณทำ�งานออฟฟิศและมักจะมีอาการปวดศีรษะ ไอ เคืองนัยน์ตา น้ำ�มูกไหล หรือเหนือ่ ย
โดยไม่มีสาเหตุ อย่าเพิ่งปักใจว่าตัวเองเป็นไข้หวัด เพราะไม่แน่ว่าคุณอาจจะป่วยด้วยอาการเจ้านาย เป็นพิษก็ได้... เฮ้อ..ดูเหมือนวันนี้โลกเราจะมีโรคแปลกๆ เกิดขึ้นถี่จริงๆ เช่นเดียวกับโรคนี้ที่พบผล วิจัยว่าเกิดจากความเครียด ความไม่พึงพอใจในการทำ�งาน เนื่องจากความสัมพันธ์อันเลวร้ายกับ หัวหน้างาน ทัง้ การถูกควบคุม การได้รบั มอบหมายให้ท�ำ งานหนักเกินไปโดยขาดความเมตตา รวมไป ถึงการถูกดุด่า ตำ�หนิ หรือดูถูกเหยียดหยามจากหัวหน้าโดยไม่เป็นธรรม ผลพวงต่อมาก็คือผลงานที่ ขาดประสิทธิผล คือแม้จะสามารถทำ�งานเสร็จลุล่วง แต่กลับไม่เกิดความสำ�เร็จเท่าที่ควรจะเป็น เสียทั้งขึ้นทั้งล่องแบบนี้ เห็นท่าว่าเจ้านายควรต้องปรับพฤติกรรมใหม่เสียแล้ว MKD 40
MKD 41
SPEA K OUT
Story : Sasivimol
Photo : Pom
being in working order สุฟ้าง แซ่หว่อง
รองนายกองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ไม่วา่ จะเป็นชาวเมืองคนดีคนไหนๆ ก็คงมีฝนั เกีย่ วกับบ้านเกิดแบบเดียวกันว่า อยากให้สรุ าษฎร์ธานี เป็นเมืองมากศักยภาพและน่าอยู่ติดอันดับที่โลกกล่าวขวัญถึง นิตยสาร “เมืองคนดี” ในฐานะทีเ่ ป็นสือ่ มวลชนเพือ่ สังคมสุราษฎร์ฯ จึงขอใช้พื้นที่คอลัมน์นี้มาเป็นเวทีให้ชาวเมืองได้ “Speak out” แสดง ทัศนะ ความคิด ความเห็นอย่างสร้างสรรค์ เพื่อการพัฒนาบ้านเกิดให้ ก้าวทันโลกอนาคต และในฉบับปฐมฤกษ์นี้ เราได้รับเกียรติจากรองนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานีนาม “สุฟา้ ง แซ่หว่อง” หนุม่ ใหญ่ ทีช่ อื่ บอกชัดว่ามีเชือ้ สายจีนอยูเ่ ต็มตัว แต่เพราะเกิดและเติบโตทีน่ ี่ เขาจึง รักและผูกพันกับสุราษฎร์ธานีมากไม่แพ้ชาวเมืองคนดีคนไหน ด้วยความที่เป็นคนมีจิตอาสามาตั้งแต่เด็กๆ และเขียนอ่านทั้ง ภาษาไทยและจีนได้ดีเยี่ยม คุณสุฟ้างจึงถูกสมาคมชาวจีนแทบทุกองค์กร ในจังหวัดชักชวนให้ไปช่วยงานสังคม เริ่มจากงานบันทึกเล็กๆ น้อยๆ จน ขยับขึน้ สูก่ ารจัดการทุกชนิดตัง้ แต่งานศพ งานล้างป่าช้า ไปจนถึงงานกูภ้ ยั เขาเล่าว่าการทำ�งานการกุศลที่หลากหลายช่วยปลูกฝังความรักในคุณค่า ความเป็นมนุษย์ จนยากที่จะนิ่งดูดายต่อส่วนรวม และเพราะเหตุนี้ เขา จึงถูกผู้ ใหญ่แนะนำ�และผลักดันให้ก้าวสู่สนามการเมืองท้องถิ่น “ที่จริงผมไม่เคยฝันจะเป็นนักการเมืองเลยนะครับ แต่ที่ลงเพราะ ต้องการเวทีที่จะทำ�งานเพื่อสังคม ครั้งแรกผมสมัคร สท. ตอนนั้นผม ได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งของเขต เมื่อได้รับความไว้วางใจมากขนาด นั้น ผมก็มานั่งคิดว่า เมื่อก่อนตอนผมทำ�งานให้มูลนิธิ ผมไม่เคยมีเงิน ดาวเงินเดือนอะไร ชาวบ้านก็ยังมีความสุขมากขึ้นได้ นี่เราได้รับเลือกตั้ง
มีโอกาส มีเงินเดือนจากประชาชน เราจะทำ�เท่าเดิมไม่ได้แล้ว แต่ตอ้ งทำ� มากขึน้ ๆ ให้สมกับทีเ่ ขาวางใจเลือกเรามา จนผมได้ชอื่ ว่าเป็น สท.ปากมาก ในสภาฯ (หัวเราะ) อาจเป็นเพราะอย่างนี้ก็ได้นะ พอสมัยที่สองผมก็ชนะ เลือกตั้ง ได้เป็น สท.อีกครั้ง” แม้วา่ ในเวลาต่อมาเขาจะอกหักในสนามเลือกตัง้ นายกเทศบาลนคร สุราษฎร์ฯ แต่เพราะความทุ่มเททำ�งานเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ทำ�ให้ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองนายก อบจ.สุราษฎร์ธานีในปัจจุบัน...และเมื่อเรา ขอให้เขาแสดงทัศนะด้านการพัฒนา “เมืองคนดี” ว่าควรจะเร่งมืออย่าง เข้มข้นในเรือ่ งใดเพือ่ รองรับการเข้าสูป่ ระชาคมอาเซียน รองนายกฯ คน ใหม่ให้คำ�ตอบอย่างน่าคิดว่า... “ที่ผ่านมาผมว่าสังคมสุราษฎร์ฯ เล่นเกมการเมืองมากเกินไปนะ (ยิม้ )... ผมเชือ่ ว่าการบริหารบ้านเมืองต้องยึดความต้องการของประชาชน เป็นหลัก ซึง่ จะเข้าใจได้กต็ อ้ งลงไปสัมผัสพืน้ ทีจ่ ริงจัง ปัญหาทีผ่ า่ นมาหลาย ยุคก็คอื ประชาชนมีโอกาสพบปะพูดคุยกับผูบ้ ริหารบ้านเมืองน้อยเกินไป โดยเฉพาะประชาชนทีอ่ ยูใ่ นพืน้ ที่ไกลๆ ทำ�ให้ศกั ยภาพของพวกเขาถูกจำ�กัด คือคิดได้ แต่ทำ�ไม่ได้ เพราะขาดการสนับสนุน และยังขาดสาธารณูปโภค พื้นฐานที่ดีพอ วันนี้จะตัดถนนใหม่สักสาย บางท้องที่ต้องรอเวลาเป็น สิบปี หลายแห่งเอกชนต้องเข้าไปทำ�เอง แล้วมอบให้เทศบาลดูแลต่อ ซึ่งก็จะมีผลเสียด้านผังเมือง ด้านโลจิสติกส์ตามมา
MKD 42
“การพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน และเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงคือการขับเคลื่อนสุราษฎร์ฯ” ผมยังประทับใจคำ�พูดของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ สมัยที่ท่านยังดำ�รงตำ�แหน่งนายกรัฐมนตรี ว่าจะพัฒนาสุราษฎร์ฯ ให้เป็น เมืองหลวงของภาคใต้ตอนบน ได้ยินแล้วผมดีใจมากนะที่ผู้หลักผู้ ใหญ่ ของประเทศมองเห็นศักยภาพของบ้านเรา แต่หลังจากวันนั้นสุราษฎร์ฯ กลับขาดโอกาสไปหลายสิบปี โดยเฉพาะการพัฒนาสาธารณูปโภค พืน้ ฐาน ทัง้ ๆ ทีม่ คี วามสำ�คัญต่อการพัฒนาบ้านเมืองมาก ถนนหนทางเรา ต้องปรับปรุง ต้องสร้างเพิม่ ขยายออกไปรอบนอก เพราะไม่วา่ จะเป็นภาค การเกษตร อุตสาหกรรม การท่องเทีย่ ว ต้องอาศัยถนนทัง้ นัน้ อีกเรือ่ งหนึง่ ก็คอื การเร่งพัฒนาการท่องเทีย่ วเป็นโซน ถามว่าวันนีเ้ ราทำ�อยูไ่ หม ก็ท�ำ อยู่ แต่ผมคิดว่ายังไม่เข้มข้น ถ้าการท่องเที่ยวดี ประชาชนก็จะอยู่ดีกินดีไป ด้วย เรือ่ งการอพยพย้ายถิน่ ฐานก็จะไม่เกิด บ้านเรามีแหล่งท่องเทีย่ วสวยๆ อยูท่ กุ อำ�เภอ สามารถทำ�เส้นทางเชือ่ มโยงได้ทงั้ ทางน้�ำ และทางบก เราต้อง คิดว่าทำ�อย่างไรทีจ่ ะเชิญชวนให้นกั ท่องเทีย่ วใช้เงินต่อเนือ่ งจากจุดหนึง่ ไป จุดหนึง่ แค่การพัฒนาด้านความสวยงามยังไม่พอ เราต้องมีสาธารณูปโภค พืน้ ฐานครบและทันสมัย และต้องผลักดันชุมชนในเรือ่ งการพัฒนาสินค้า พื้นเมือง รวมถึงการใช้ภาษาอังกฤษและภาษาเพื่อนบ้าน ขณะเดียวกัน
ก็ตอ้ งประชาสัมพันธ์ ให้หลากหลายด้วย เป็นการป้อนข้อมูลให้นกั ท่องเทีย่ ว เกิดภาพประทับใจ ผมว่าถ้าเราเร่ง 2 เรื่องนี้ สุราษฎร์ฯ จะไปไกลกว่านี้ อีกเยอะครับ” ก่อนจากลา เราเอ่ยปากถามถึงสิ่งที่เขาอยากจะเห็นในจังหวัด บ้านเกิด เขายิ้มน้อยๆ และออกตัวว่าขอพูดในฐานะที่เป็นประชาชน ชาวเมืองคนดีคนหนึ่ง หาใช่ในฐานะนักการเมืองไม่... “ผมคิดว่าชาวสุราษฎร์ฯ ทุกคนฝันอยากจะเห็นบ้านของเราเป็น ศูนย์กลางของภาคใต้ตอนบน ซึง่ จะเป็นแบบนัน้ ได้เราต้องคำ�นึงถึงประโยชน์ ส่วนรวมเป็นอันดับหนึ่ง ที่ผมอยากจะฝากก็คือ อยากให้ชาวสุราษฎร์ฯ วางใจให้เป็นกลาง อย่ามองความเป็นพรรคพวกจนลืมพิจารณาถึงความ สามารถ ความตั้งใจจริงของคนทำ�งาน ผมเชื่อว่าถ้าบ้านเราได้คนดี คนเก่งมาทำ�งาน สังคมก็ยอ่ มดีตามมาครับ และก็อยากฝากให้ไปถึงท่านที่ พอจะมีก�ำ ลังว่า เราต้องออกมาทำ�ประโยชน์เพือ่ บ้านของเรา ช่วยกันดูแล สังคม แล้วเมืองคนดีจะเป็นเมืองที่แข็งแรงในอนาคตครับ” แล้วคุณล่ะ เห็นด้วยกับทัศนะของเขาไหม...
MKD 43
W OM A N @ W ORK Story : Ravi
BAN’S
always on my mind rumluek assavachin
“คุณลองคิดดูสิคะว่าจากลูกชาวประมง ธรรมดาๆ ใครจะคิดว่าจะเป็นไปได้ แต่คงเป็นด้วยจังหวะและโอกาสของชีวิต ที่นำ�พามาสู่ธุรกิจโรงแรม และเดินมาถึงจุดที่เป็นอยู่ ในวันนี้...”
คำ�ตอบทีก่ งั วานก้องออกจากเรียวปากได้รปู ของสุภาพสตรีมากเสน่หท์ นี่ งั่ อยู่ตรงหน้า ทำ�ให้ ‘เรา’ ผู้ป้อนคำ�ถามว่า เธอเคยคิดฝันที่จะมายืนอยู่บนแถว หน้าของธุรกิจท่องเทีย่ วบนเกาะเต่าบ้างไหม ถึงกับทึง่ ปนฉงน... ในนาทีถดั มา “คุณรำ�ลึก อัศวชิน” กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี แอนด์ บี ทราเวลเอเจนซี่ จำ�กัด และหุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำ�กัด แบนไดฟ์วิ่งรีสอร์ท ก็ระบาย ยิ้มงาม ก่อนจะขยายความอย่างรู้ ใจผู้ถามที่ใคร่รู้ความเป็นมาของเธอว่า... “ดิฉันมีพื้นเพเป็นคนเกาะพะงันค่ะ มีพี่น้อง 7 คน ดิฉันเป็นลูกคนที่ 6 ครอบครัวเราประกอบอาชีพชาวประมงพื้นบ้าน ความเป็นอยู่ไม่สู้ดีนัก ตอน อายุได้ 10 ขวบเรียนจบประถมศึกษาปีที่ 4 ก็ต้องย้ายไปอยู่กับพี่สาวคนโต ที่นครศรีธรรมราชเพื่อเรียนต่อ ในระหว่างที่ศึกษาอยู่ชั้นประถมปีที่ 6 คุณ พ่อก็มาเสียชีวิต พี่สาวจึงส่งเสียให้เรียนหนังสือต่อจนจบมัธยมต้น จากนั้นก็ รู้สึกว่าไม่อยากเป็นภาระของพี่สาว และสงสารคุณแม่ที่ต้องทำ�งานหนักด้วย เลยตัดสินใจไม่เรียนต่อ และเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตการทำ�งานอย่างจริงจัง โดยการมาเป็นลูกจ้างร้านขายของชำ�บนเกาะเต่าแห่งนี้เมื่อปี 2531ค่ะ” แต่ทันทีที่ฟังจบความกระหายใคร่รู้ ในใจของเรากลับยิ่งโหมทวีว่า แล้ว อะไรกันล่ะที่ทำ�ให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้สามารถพลิกชีวิตจากศูนย์มาสู่ร้อย กลายเป็นนักธุรกิจคนดัง ที่ ไม่เพียงเป็นเจ้าของรีสอร์ทงามบนหาดทรายรี เท่านั้น หากยังเป็นเจ้าของกิจการ Sunshine Divers ร้านสะดวกซื้อ Ban’s 24 สองสาขา ร้านเสริมสวย Bella ร้าน The Coffee House และอื่นๆ อีก มาก ซึ่งเธอก็ยินดีไขความข้องใจนี้กับ ‘เมืองคนดี’ ด้วยหวังให้เรื่องราวของ เธอเป็นแบบอย่างแก่ ‘คนสู้ชีวิต’ ในรุ่นหลังว่า...
วัยเด็กที่เรียบง่ายสู่เจ้าของรีสอร์ท
“เด็กๆ ดิฉันขี้อายมากค่ะ แต่มีความตั้งใจมากว่าจะต้องมีงานทำ�เพื่อ ช่วยเหลือครอบครัว ดังนัน้ พอจบมัธยมต้นจากโรงเรียนเชียรใหญ่วิทยา ดิฉัน ก็ย้ายมาทำ�งานบนเกาะเต่าตามที่เล่าไป ระหว่างนั้นก็เรียนที่ศูนย์การศึกษา นอกโรงเรียนอำ�เภอเกาะพะงันไปด้วยจนจบมัธยมปลาย และปัจจุบันนี้ดิฉัน จบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ในโครงการจัดการศึกษา สำ�หรับนักธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ... หลังจากทำ�งานบนเกาะได้สักพัก ดิฉันกับสามี (คุณนิรัตน์ อัศวชิน) ก็มาเปิดร้านดำ�น้ำ�เล็กๆ มีอุปกรณ์ไม่ถึง 10 ชุด ที่ท่าเทียบเรือเกาะเต่า ร้านของเราเป็นร้านดำ�น้ำ�แห่งที่ 2 ของเกาะ เต่านะคะ และเป็นร้านแรกทีม่ คี นไทยเป็นเจ้าของ (ยิม้ ) ต่อมาเราได้ขยับขยาย มาสร้าง Ban’s Diving Resort ที่หาดทรายรี โดยเปิดให้บริการห้องพักเป็น บังกะโลและโรงเรียนสอนดำ�น้ำ�ค่ะ เส้นทางธุรกิจของดิฉนั เดินทางไปพร้อมๆ กับการเติบโตของเกาะเต่าค่ะ จะว่าเป็นเพราะโชคชะตาไหม... คิดว่าก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งนะคะ แต่ที่สำ�คัญ กว่าก็คือ การมองหาโอกาสและคว้ามันไว้ ให้ได้ เมื่อเกาะเต่าเริ่มเป็นที่รู้จัก ดิฉนั กับสามีกร็ วู้ า่ เราต้องพยายามหาช่องทางรองรับความต้องการนักท่องเทีย่ ว MKD 44
MKD 45
ให้ได้ และต้องทำ�ให้ดที สี่ ดุ แต่แบบไหนถึงจะเรียกว่าดีทสี่ ดุ ตรงนีด้ ฉิ นั ยึด หลักว่าต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราค่ะ ดิฉนั พยายามมองย้อนว่า เมือ่ เราเป็น ลูกค้า เราอยากได้รบั การบริการทีด่ ที สี่ ดุ อย่างไร ในราคาเท่าไรเพือ่ ให้เป็น ธรรม รวมไปถึงความซือ่ สัตย์และจริงใจในการให้บริการด้วย ความต้องการ ทีจ่ ะมอบสิง่ ทีด่ ที สี่ ดุ ให้กบั ลูกค้า ไม่วา่ จะเป็นการจัดการหรือการบริการคือ สิง่ ทีท่ �ำ ให้ธรุ กิจของเราอยูไ่ ด้และเติบโตอย่างมัน่ คง เรือ่ งสำ�คัญอีกอย่างที่ ขาดไม่ได้กค็ อื เราต้องใฝ่หาความรูเ้ พิม่ เติมอยูต่ ลอดเพือ่ ปรับปรุงให้ธรุ กิจ สามารถแข่งขันกับการเปลีย่ นแปลงทีเ่ กิดขึน้ ทุกวัน ความรูจ้ ะทำ�ให้เราเกิด ความคิด ตรงนีด้ ฉิ นั ถือเป็นหัวใจเลย เพราะการแข่งขันทีแ่ ท้จริงไม่ใช่การ มองคู่แข่งเท่านั้นนะคะ แต่ต้องแข่งขันกับตัวเองด้วยค่ะ”
ตัวดิฉนั เองกว่าจะมาถึงวันนี้ ได้กเ็ คยได้รบั ความช่วยเหลือจากผู้ ใหญ่หลายๆ ท่านที่ให้ความเมตตาโดยไม่ได้หวังสิง่ ตอบแทนใดๆ ทำ�ให้ดฉิ นั ซาบซึง้ ใจและ นำ�หลักความ ‘มีน้ำ�ใจ’ นี้มาใช้ควบคู่กับหลักจริยธรรมของผู้บริหาร ดิฉัน ดูแลพนักงานเสมือนญาติมิตร ให้ความสำ�คัญกับทุกๆ กิจกรรมของพวก เขา ไม่ว่าจะเป็นงานศพ งานแต่งของพนักงานเอง หรือคนในครอบครัว ก็ตาม และจะคอยถามไถ่ความเป็นอยู่ของเขาเสมอ เพื่อที่จะให้ความ ช่วยเหลือเขาได้ ในเวลาที่เขาต้องการ เมื่อเราหวังดีและทำ�ดีกับเขาด้วย ความจริงใจ พนักงานก็จะตั้งใจทำ�งานด้วยความจริงใจค่ะ นอกจากคนแล้ว การบริหาร ‘งาน’ ก็ต้องทำ�คู่กันไป วันนี้ดิฉัน มองว่า การเพิม่ พันธมิตรทางธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเทีย่ วเป็นเรือ่ งจำ�เป็น มากค่ะ เพราะการร่วมมือจะทำ�ให้เกิดการแลกเปลี่ยนกลุ่มลูกค้า และ บริหาร ‘คน’ ควบคู่กับบริหาร ‘งาน’ จะเป็นช่องทางในการเพิม่ ลูกค้าในอนาคตอย่างมัน่ คง ดิฉนั ให้ความสำ�คัญ “เคล็ดลับของการบริหารธุรกิจสำ�หรับดิฉันคือ ต้องบริหารคน ‘เป็น’ กับวิธีการสร้างเครือข่ายธุรกิจการท่องเที่ยว ตอนนี้ก็กำ�ลังขยายกิจการ โชคดีที่ดิฉันเคยเป็นลูกจ้างเขามาก่อน ทำ�ให้มีความเชื่อว่าการที่คนเรา ในพืน้ ทีเ่ ดิมและพืน้ ที่ใหม่ เพือ่ รองรับการแข่งขันในตลาดโลกทีจ่ ะเกิดขึน้ เช่น จะได้รับความรักความจริงใจจากคนอื่นต้องหยิบยื่นสิ่งนั้นให้เขาก่อน สร้างห้องพักสำ�หรับกลุม่ ลูกค้าทีม่ กี �ำ ลังซือ้ สูง ให้บริการด้าน Fitness และ MKD 46
ตอนนี้เราได้เปิด ‘ศูนย์เรียนรู้รักษ์แบน’ เพื่อให้ความรู้ด้านของการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ถูกต้อง แก่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ และเป็นศูนย์ศึกษาด้านการผลิตผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรด้วย สปา และประชาสัมพันธ์ผา่ นช่องทางการตลาดต่างๆ เพือ่ แสดงถึงจุดเด่น ของการบริการทีม่ ี ตอนนีเ้ ราได้เชือ่ มต่อ Website กับผูป้ ระกอบการรายอืน่ ๆ ในธุรกิจใกล้เคียงกัน อีกเรือ่ งหนึง่ ทีด่ ฉิ นั ทำ�เพือ่ ยกระดับมาตรฐานการบริการ ท่องเทีย่ วของบ้านเราก็คอื การเปิดโรงเรียนสอนภาษา ตรงนีเ้ ป็นการเพิม่ โอกาส ทางธุรกิจ และยังช่วยเพิม่ ความสะดวกสบายให้แก่นกั เรียนดำ�น้�ำ ชาวต่างชาติ ด้วยค่ะ เพราะการเรียนดำ�น้ำ�ในระดับสูงจะมีหลักสูตรที่กินเวลานาน หลายเดือน แต่กฎระเบียบของทางราชการ นักเรียนดำ�น้ำ�เหล่านี้เป็นนัก ท่องเทีย่ ว สามารถให้ VISA ได้ไม่เกิน 3 สัปดาห์เท่านัน้ ทำ�ให้ตอ้ งเดินทาง ไปประเทศใกล้เคียง เช่น พม่า เวียดนาม มาเลเซีย และอื่นๆ เพื่อขอต่อ VISA กลับเข้ามาในไทยเพือ่ เรียนดำ�น้�ำ ต่อให้จบ บางคนต้องเดินทางออก ไปต่อ VISA หลายรอบ เมื่อเราเปิดโรงเรียนสอนภาษา นักเรียนดำ�น้ำ� ก็สามารถขอ VISA เพือ่ เรียนภาษาได้ ซึง่ มีเวลาเพียงพอทีจ่ ะเรียนดำ�น้�ำ ไป พร้อมกัน แล้วก็เป็นการเพิม่ โอกาสให้กบั เยาวชน พนักงาน และคนทัว่ ไป บนเกาะเต่าให้มีแหล่งศึกษาภาษาเพื่อประกอบอาชีพต่อไปด้วยค่ะ ส่วน แผนงานภายในองค์กร เราพยายามผลักดันให้พนักงานทำ�งานเชิงรุก เพราะตลาดท่องเที่ยวในปัจจุบัน มีการแข่งขันกันอย่างสูงมาก โดยให้ พนักงานทุกคนมีส่วนรับรู้ค่าใช้จ่ายที่องค์กรต้องแบกรับ เพื่อร่วมกัน กำ�หนดแนวทางในการปฏิบัติงานของแต่ละแผนกว่าทำ�อย่างไรจึง จะเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งวิธีนี้ ไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่ายได้นะคะ แต่ยังสร้างความภูมิใจให้พนักงานที่ได้มีส่วนร่วมพัฒนาองค์กรค่ะ”
นักธุรกิจและนักพัฒนาเกาะเต่า
“จากทีด่ ฉิ นั คลุกคลีกบั ธุรกิจท่องเทีย่ วมานาน ก็อยากจะฝากให้ทกุ คน ช่วยกันในเรือ่ งการอนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติคะ่ ลองคิดดูนะคะว่าการท่อง เทีย่ วจะเติบโตได้ตอ้ งอาศัยอะไร ถ้าเราไม่มชี ายหาดสวยๆ ไม่มโี ลกใต้ทะเล ที่งดงาม ก็คงไม่มีใครอยากมาเที่ยว (ยิ้ม) ทุกวันนี้ปณิธานของเราในการ พัฒนาธุรกิจก็คือ ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามแนวความคิด Green Resort เรามีโรงบำ�บัดน้ำ�เสียที่นอกจากจะดูแลภายในรีสอร์ทแล้ว ยังรับ น้�ำ เสียจากแหล่งชุมชนมาบำ�บัดด้วย และมีโครงการการลดการใช้พลาสติก โฟม และคัดแยกขยะ แม้แต่เศษผักผลไม้เราก็นำ�มาทำ�น้ำ�หมักชีวภาพ เรายังมีโครงการผลิตก๊าซชีวมวลด้วยค่ะ สำ�หรับเป็นพลังงานทางเลือก ในอนาคต นอกจากนี้เราก็มีแปลงปลูกผัก ผลไม้ไร้สารพิษ ซึ่งทุกวันนี้ก็ นำ�มาปรุงอาหารรับรองลูกค้า และตอนนีเ้ ราได้เปิด ‘ศูนย์เรียนรูร้ กั ษ์แบน’ เพื่อให้ความรู้ด้านของการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ถูกต้องแก่ผู้ประกอบการ รายอื่นๆ และเป็นศูนย์ศึกษาด้านการผลิตผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรด้วย สุดท้ายคือการจัดให้มฤี ดูอนุรกั ษ์เพือ่ ทำ�ความสะอาดพืน้ ที่ใต้น�้ำ ของเกาะเต่า โดยเชิญลูกค้าและนักดำ�น้�ำ ทีเ่ คยมาใช้บริการใน Resort ให้มาทำ�กิจกรรม ร่วมกันในสโลแกน ‘ครอบครัว Ban’s diving Resort อนุรกั ษ์สงิ่ แวดล้อม’ นอกจากงานธุรกิจแล้ว ดิฉันยังเป็นที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำ�บล เกาะเต่าด้วยค่ะ ที่เข้ามาก็เพราะต้องการให้เกาะเต่าเติบโตไปในทิศทาง
ที่ควรจะเป็น เพราะเกาะเต่าคือที่ที่ให้ชีวิตใหม่แก่ดิฉันและครอบครัว ใน เมื่อวันนี้มีความพร้อม ก็อยากจะขอใช้เวลาที่เหลืออยู่ทำ�งานตอบแทน คุณแผ่นดินบ้าง ก่อนหน้านี้ดิฉันและเพื่อนกลุ่มธุรกิจรีสอร์ทจำ�นวนหนึ่ง เราได้ก่อตั้ง ‘ชมรมรักษ์เกาะเต่า’ เพื่อทำ�งานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว วันนี้เกาะเต่าของเราได้รับรางวัล ‘Travellers’ Choice Islands Awards’ จากการโหวตของนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการ เว็บไซต์ Tripadvisor ให้เป็นสุดยอดเกาะน่าเที่ยวอันดับที่ 1 ของทวีป เอเชีย แต่น่าเสียใจว่าทรัพยากรของเราเสื่อมโทรมลงไปมาก ตอนนี้ถึง เวลาที่เราต้องร่วมมือกันดูแล ไม่เช่นนั้นก็เท่ากับว่าเราทุบหม้อข้าวตัวเรา เอง เราพยายามสร้างความสัมพันธ์ของชมรมกับผูป้ ระกอบธุรกิจบนเกาะ เต่าให้แน่นแฟ้น เพือ่ ให้มกี ารกำ�หนดข้อปฏิบตั ริ ว่ มกัน ปัญหาเร่งด่วนก็คอื เรื่องบำ�บัดน้ำ�เสียและการจัดการขยะ เราคุยกันว่าจะใช้บรรจุภัณฑ์ ย่อยสลายตามธรรมชาติหรือใช้วัสดุธรรมชาติโดยตรง ซึ่งได้รับความร่วม มืออย่างดีค่ะ ส่วนในข้อกำ�หนดอื่นๆ เช่น ปัญหาการรุกล้ำ�แนวชายหาด ปัญหาแหล่งน้ำ�จืด ก็จะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันต่อไปค่ะ ส่วนเรื่องส่ง เสริมการท่องเที่ยวเราได้จัดให้มีงาน ‘เปิดโลกใต้ทะเลเกาะเต่า’ นอกจาก วัตถุประสงค์ด้านการท่องเที่ยว งานนี้ยังเกิดขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ด้าน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่ชุมชนและเพื่อพัฒนาศักยภาพและบทบาท ของนักธุรกิจ ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของคน ท้องถิ่นในการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนด้วยค่ะ”
วันว่างและบุคลิกภาพ
“ก่อนหน้านีด้ ฉิ นั โหมทำ�งานหนักมากค่ะ ทำ�ให้สขุ ภาพไม่สดู้ นี กั (ยิม้ ) เลยเริม่ หันมาออกกำ�ลังกายมากขึน้ และพยายามทานผัก ผลไม้ ดืม่ น้�ำ ให้ เยอะๆ ลดเนื้อสัตว์และอาหารพวกไขมันลง นอกจากนี้ต้องนอนหลับให้ เพียงพอด้วย แต่ที่สำ�คัญคือต้องทำ�จิตใจให้สงบ รู้จักปล่อยวาง และขึ้น ชือ่ ว่าเป็นผูห้ ญิงก็ตอ้ งรักสวยรักงามเป็นธรรมดานะคะ (ยิม้ ) ดิฉนั ก็ชอบที่ จะให้ตวั เองดูดคี ะ่ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องใช้เสือ้ ผ้าแบรนด์เนมหรือใส่ ตามแฟชัน่ ดิฉนั ชอบแต่งกายเรียบง่าย ออกแนวหวาน เน้น Mix & Match มากกว่า จะยีห่ อ้ อะไรก็ได้คะ่ ขอเพียงถูกใจแบบ และเลือกใส่ให้เหมาะสม กับกาลเทศะ ส่วนน้ำ�หอมอันนี้จำ�เป็นต้องแบรนด์เนมค่ะ เพราะกลิ่นกาย สำ�คัญมาก (ยิ้ม) ถ้ามีวันพักผ่อนดิฉันชอบที่จะเข้าสวนปลูกต้นไม้ สรรหา ต้นไม้แปลกๆ มาประดับรีสอร์ท รวมไปถึงการ Shopping ของตกแต่ง ดิฉันชอบเดินเที่ยวสวนจตุจักรมากๆ ค่ะ (หัวเราะ) ชอบเดินดูนั่นดูนี่หา ของมาตกแต่งรีสอร์ท มีความสุขค่ะ” คุณคิดเหมือนเราไหม..ว่าความสำ�เร็จที่ยั่งยืนนั้น ไม่ได้อาศัยจังหวะ เพื่อการกอบโกยสถานเดียว แต่ยังต้องรู้จักทำ�สิ่งเดิมๆ เพื่อตอบแทน แผ่นดินและสังคมด้วย นัน่ จึงจะเรียกว่าผูป้ ระสบความสำ�เร็จอย่างแท้จริง...
MKD 47
MKD 48
ON TH E W A Y
Story : Mr.Ronram Photo : Pom / 500 Rai
a nice day on the top of surat
กุ้ยหลินเมืองไทย เสียงเพรียกจากแมกไม้และสายธาร “เมืองคนดี” มิใช่มีดีเฉพาะ “คน” หากยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็น “ที่สุด” อี ก หลายแห่ ง ซึ่ ง มิ ไ ด้ จำ � กั ด เพี ย งเกาะแก่ ง ที่ ส วยงามนั บ ร้ อ ยดั ง คำ�ขวัญเมือง แต่ยังมีขุนเขาอิงแอบสายลำ�ธารที่งดงามราวดินแดน สวรรค์ ให้ชื่นชม...
ณ อำ�เภอบ้านตาขุน ซึง่ อยูห่ า่ งจากอำ�เภอเมืองสุราษฎร์ธานีเพียง 90 กิโลเมตร คือทีต่ งั้ ของ “เขือ่ นรัชชประภา” อันมีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร” และเป็นโชคดีของเมืองคนดีเหลือเกินที่ผลพ่วงจากการ สร้างเขือ่ นแห่งนี้ ได้กอ่ เกิดอ่างเก็บน้�ำ สีมรกตทีป่ ระดับประดาไว้ดว้ ยเกาะแก่งใหญ่นอ้ ย เกิดเป็นความงามอัศจรรย์ จนถูกนำ�ไปเปรียบเทียบกับ “กุย้ หลิน” สถานทีท่ อ่ งเทีย่ วชือ่ ดังก้องโลกว่าช่างมีความคล้ายคลึงกันราวเมืองแฝด นั้นเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศเดินทางมาตามเสียงเพรียกร้องของแมกไม้และสายธาร เพื่อค้นหา และตักตวงความประทับใจที่ไม่สามารถหาได้จากที่ใดในโลก ไม่เว้นแม้แต่ผม... จริงอยู่ว่าการเดินทางมาท่องเที่ยวยังแดนสวรรค์แห่งนี้สามารถทำ�ได้หลายรูปแบบ ทั้งการท่องเที่ยวระยะ สั้นและระยะยาว แต่เพื่อให้เกิดความอิ่มเอมจนเกิดเป็นพลังใจกลับไปสู้งานในวันข้างหน้า ผมและผองเพื่อน จึงเลือกวันว่างในช่วงเทศกาลหยุดยาว เพื่อให้มีเวลามากพอที่จะแวะทำ�กิจกรรมทั้งในสายน้ำ�และบนบกโดย ไม่พลาดที่สำ�คัญแม้สักที่...และแล้วเมื่อถึงเวลา 9.00 น. ของวันหยุดวันแรก พวกเราก็มายืนหน้าสลอนที่ร้าน อาหารบริเวณท่าเรืออันเป็นสถานที่นัดพบ หลังจากอัดข้าวผัดรองท้อง เราก็เร่งรี่ไปลงเรือที่ว่าจ้างไว้เพื่อนำ�พา ไปสู่ที่พักในคืนนี้ “แพ 500 ไร่” ...เรือหางยาวโดยสารเหล่านี้ทางอุทยานฯ ได้อนุญาตให้ชาวบ้าน ซึ่งเดิมยึด อาชีพประมงน้ำ�จืดเพียงอย่างเดียวได้มีโอกาสสร้างรายได้เพิ่ม ทั้งยังเป็นการเสริมมาตรการความปลอดภัย ด้วย เพราะชาวเรือล้วนมีความชำ�นาญในเส้นทางสูง และมีวินัยในการรับจำ�นวนคนตามพิกัด ที่สำ�คัญมีชูชีพ ครบพร้อม เบาใจเรื่องอันตรายไปได้ “แหม...แดดแรงได้ ใจเลยอ่ะ” เจ้าโจ้เพื่อนจอมซ่าของผมมองลอดแว่นกันแดดพลางทำ�ตาหยี...แต่นั่นไม่ได้ เป็นอุปสรรคเลย เพราะอีกไม่ถึงสิบนาทีต่อมา ขณะที่กำ�ลังล่องแล่นอยู่กลางท้องน้ำ�จนลมพัดทรงผมเท่ๆ กระเซิง ภาพทัศนียภาพเบื้องหน้าก็มากระแทกสายตาจนทำ�ให้เราลืมแสบผิวไปสนิท ... “สวยยยยจังงงง...ว่ะ” ผมป้องปากตะโกนคุย ขณะที่ใจก็ตื่นตะลึงไปกับความจริงตรงหน้า นี่กระมังที่ภาษิตโบราณเขาว่า “สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น” ดูในภาพว่าสวยแล้วแต่ของจริงสวยกว่าเป็นไหนๆ ผมอดไม่ได้ทจี่ ะยกกล้องขึน้ มาบันทึกภาพโดย เฉพาะจุดชมวิวที่เรียกว่า “เขาสามเกลอ” ซึ่งปรากฏยอดเขาหินปูน 3 ยอด โผล่พ้นน้ำ�ทิ้งระยะเคียงกันอย่าง มีจงั หวะจะโคน... พวกเราหลงมนต์ความงามจนแวะถ่ายรูปทีน่ แี่ ละตรงจุดอืน่ ๆ นานเกือบ 1 ชัว่ โมง ก่อนทีส่ ารถี จะพาไปชมฝูงปลาที่แพนางไพร แพพักริมน้ำ�ของอุทยานฯ ซึ่งมีร้านอาหารบริการสำ�หรับนักท่องเที่ยวที่เดินทาง ท่องเที่ยวแบบ One Day Trip MKD 49
แพพักริมน้�ำ ในบริเวณกุย้ หลินเมือง ไทยมีให้เลือกหลายแห่ง ที่เป็นของ อุทยานฯ เองก็ยงั มีอกี หลายทีแ่ ฝงตัวอยู่ ตามจุดต่างๆ ห่างไกลกันออกไป อาทิ แพ คลองคะ แพโตนเตย แพไกรสร และ ยังมีแพในความดูแลของกรมป่าไม้ แม้อุปกรณ์อำ�นวยความสะดวกอาจ จะไม่หรูหราเทียบเท่าแพของเอกชน แต่ก็มีความสวยงามกลมกลืนไปกับ ธรรมชาติ...ชมฝูงปลาเพียงชัว่ ครูสารถี ก็ต้อนพวกเราลงเรืออีกครั้งแล้วมุ่ง ตรงสู่ที่พัก เพราะยังมีกิจกรรมเดินป่า ท่องถ้ำ�รออยู่ในภาคบ่าย ทันทีที่ถึงจุดหมาย พวกเราได้รับ การทักทายจากกลิน่ แกงส้มหอมกรุน่ ที่ โชยมาแตะจมูก เล่นเอาท้องร้อง และ ก็ไม่ผดิ หวังครับ เพราะปลาแม่น�้ำ ทีท่ าง แพนำ�มาต้อนรับในมื้อเที่ยงนี้ตัวใหญ่ เนือ้ แน่น หวานและสดอย่าบอกใคร สม คำ�ร่�ำ ลือว่าเป็นถิน่ ปลาแม่น�้ำ รสเยีย่ ม ก็ เติบโตตามธรรมชาติแท้ๆ แถมน้�ำ แสน สะอาด ธาตุอาหารบริบูรณ์ขนาดนี้ มีหรือจะทำ�ให้ลิ้นผิดหวังต่อจากนั้น เวลาของกิจกรรมท่องเที่ยวที่ถือเป็น “สุดยอด” ก็เดินทางมาถึง พวกเราไม่ อิดออดที่ลงเรือและมุ่งหน้าตรงไปยัง ภูเขาหินปูนกลางน้ำ�อันเป็นที่ตั้งของ “ถ้ำ�ปะการัง” แม้ว่าหลังจากเทียบท่า เราต้องเดินเท้าข้ามเขาเล็กๆ ไปอีก 2 ลูก ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง แต่ แปลกทีค่ วามเหนือ่ ยล้าไม่มากร้�ำ กราย อาจเพราะมัวแต่ตื่นตาที่ ได้ชมดอกไม้ ป่าหน้าตาดีจนห้ามมือไม่ให้กดชัดเตอร์ ไม่ได้ ระหว่างทางยังได้ชมนกทีส่ ยายปีก มาอวดโฉมเป็นระยะ ยิ่งได้ชมหินงอก หินย้อยภายในถ้ำ�ที่มีลักษณะคล้าย ปะการังใต้ทะเลอย่างน่าทึ่ง พวกเราก็ ยิ่งลืมที่จะยกมือขึ้นปาดเหงื่อ ดื่มด่ำ�กับความงามของถ้ำ�ผาจน บ่ายคล้อย สารถีกห็ อ้ เรือมาส่งยังทีพ่ กั ให้พวกเราได้อาบน้�ำ ชำ�ระร่างคราบไคล้ แต่เรื่องจะอะไรจะอาบแบบธรรมดาๆ ล่ะครับ ในเมือ่ สายตาปรายไปเห็นคายัค สีสดใสลอยเท้งเต้งอยูต่ งั้ หลายลำ� ว่าแล้ว ก็กระโจนลงน้�ำ ... “อู.้ ..เย็นชืน่ ใจ” ส่วน
เจ้าเพื่อนที่ไม่ถนัดพายก็ดำ�ผุดดำ�ว่ายในน้ำ�ใสๆ เสียหลายชั่วโมง แต่ยังครับ... เรื่องสนุกๆ ยังไม่จบ จะว่าไป ที่ผมเล่ามายังเดินทางมาไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ� เพราะหลังจากอาหารค่ำ�แล้ว ยังมีกิจกรรม “ส่องสัตว์กลางคืน” รออยู่ โชคดีเป็นบ้าที่เรามาในช่วงเดือนมืดซึ่งสามารถมองเห็นสัตว์ได้ถนัดถนี่ ความตื่นเต้นของกิจกรรม นี้เริ่มตั้งแต่ลอยลำ�เรือฝ่าความมืดออกจากที่พักเลยทีเดียว และเมื่อสารถีพาเรือไปจอดยังชายเขาและ สาดไฟส่องเข้าไป เราก็เริ่มสังเกตเห็นดวงตาสีแดงของสัตว์นานาชนิดที่ทะยอยออกมาเปิดตัว ทั้งชะนีและ ลิงที่ห้อยโหนยอดไม้ไปมา ไหนจะกวางฝูงย่อม สารถีเล่าว่าวันดีคืนดีจะได้เห็นกระทิง และช้างป่าที่มักลงมา หาโป่งกินตามชายน้ำ�ด้วย ปิดท้ายวันท่องเที่ยวแรก พวกเรานอนมองดาวที่ลอยเต็มฟ้า ก่อนจะถูกเสียงแมลงและคลื่นน้ำ�ขับกล่อม ให้หลับใหล มาสะดุ้งตื่นอีกทีตอนที่สัมผัสฝ่าเท้าหยาบๆ ของใครคนหนึ่งใกล้ผิวหน้า “เฮ้ย...” ผมร้องเสียง หลงด้วยความตกใจ เจ้าโจ้หัวเราะก๊ากก่อนจะบอกให้ผมรีบตั้งกล้องเพราะใกล้เวลาที่พระอาทิตย์จะมาเยือน เต็มที โอ้...คุณพระ เวลาช่างเปลี่ยนแสงทองของดวงตะวันให้สวยไม่ซ้ำ�เลยสักวินาที ยามเช้าตรู่ สายหมอก ลอยต่�ำ ละเลียดผิวน้�ำ จนเอือ้ มมือสัมผัสไอเย็นทีเ่ คลือ่ นผ่านกายได้ จนผมเกือบเลือกไม่ถกู ว่าจะเอารูปไหนมา ลงในคอลัมน์นี้เพื่อให้คุณๆ ได้ดูกันดี... MKD 50
MKD 51
วันที่สองของการท่องเที่ยว สารถีพาเราล่องเรือไปชมถ้ำ�อีกแห่งหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่กลางป่าลึก ถ้ำ�นี้ มีชื่อว่า “ถ้ำ�น้ำ�ทะลุ” หรือ “น้ำ�หลุ” เราแล่นเรือไปไกลยังหน่วยฯ โตนเตย แล้วเดินเท้าไปตามผืนป่า ดงดิบ ต้องลุยน้ำ� ข้ามลำ�ธารหลายช่วง ระหว่างนั้นมวลหมู่ผีเสื้อหลากพันธุ์ก็บินมาทักทาย เมื่อมา ถึงปากถ้ำ�ความตื่นเต้นก็เริ่มถูกกระตุ้นให้แสดงตัว เพราะมองเห็นสายน้ำ�ไหลลอดเข้าไปภายในแล้ว หายลับไปกับความมืด แต่เมื่อเข้าไปภายในถ้ำ�ดีกรีความตื่นเต้นกลับถูกพัดโหมมากขึ้นไปอีก เพราะมี สายน้ำ�ทิ้งตัวจากหลืบผาไหลรดลงบนผนังถ้ำ�ส่งเสียงดังซ่า พวกเราต้องเดินลัดเลาะผ่านม่านสายน้ำ� จนตัวเปียกปอน ก่อนจะได้ชมความงามของหินงอกหินย้อยที่ส่องประกายล้อแสงไฟ และหากมอง เหนือเพดานถ้�ำ จะเห็นค้างคาวห้อยหัวอยูเ่ ต็มไปหมด ทีจ่ ริงเราสามารถเดินทางออกจากถ้�ำ อีกทางหนึง่ ซึ่งต้องล่องน้ำ�สูงท่วมศีรษะ โดยมีเชือกให้เกาะพยุงตัวไปตลอดทาง แต่เนื่องจากวันนั้นน้ำ�มากเกินไป จนท่วมปิดปล่องหมด เลยอด..ได้แต่สัญญากับตัวเองว่าต้องมีครั้งที่สอง สถานทีอ่ นั เป็นจุดหมายต่อไปก็คอื จุดชมวิวที่อยู่บนยอดเขาอีกลูกห่างจากถ้ำ�น้ำ�ทะลุอึดใจใหญ่ ถึงต้องตะกายขึ้นเขาจนหอบแฮ่ก แต่ก็คุ้มแสนคุ้ม เพราะจากจุดนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ ในมุมสูง ของทะเลสาปสีเขียวทีม่ ขี นุ เขากลางน้�ำ แต่งแต้มและยังเห็นสันเขือ่ นรัชชประภาชัดเจนด้วย... ชมความ งามของธรรมชาติจนหนำ�ใจเราจึงเดินทางกลับสูแ่ พทีพ่ กั ผมกับเพือ่ นก็เลือกทีจ่ ะละลายความเมือ่ ยล้า ด้วยการนอนแช่สายน้ำ�เย็นๆ หน้าแพพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เฮ้อ...หายเหนื่อย วันสุดท้ายของการท่องเทีย่ วพวกเราเดินทางออกจากทีพ่ กั พร้อมท้องทีอ่ มิ่ แปร้ วันนีต้ งั้ ใจจะไปชมสนาม กอล์ฟรัชชประภาเสียหน่อย เพราะได้ยนิ ชือ่ เสียงมานานว่าทัง้ สวยจัดทัง้ ยังท้าทายฝีมอื นักกอล์ฟ แล้วก็ สมใจจริงๆ ...สนามกอล์ฟรัชชประภาเป็นสนามมาตรฐานขนาด 18 หลุม ที่มี “เขาพัง” ตั้งตระหง่าน เป็นฉากหลัง ออกรอบตอนเช้าตรูจ่ ะได้เห็นสายหมอกพาดผ่านขุนเขาสีฟา้ อมเทา สวยราวกับภาพวาด... หลุมที่ท้าทายคือหลุมที่ 9, 10, 15 และหลุม 18 เพราะต้องใช้สมาธิและทักษะในการตีลูกสูง หลังจาก ออกรอบผมกับเพือ่ นแวะปิดทริปกันทีร่ า้ นอาหารป่าในอาณาบริเวณเขือ่ น และแน่นอนว่าต้องไม่พลาด เมนูปลาแม่น้ำ� ที่จริงความเมื่อยล้าก็ทำ�ให้ผมอยากจะพักค้างในที่พักของการไฟฟ้าเสียอีกคืน ที่นี่มี โรงแรมรับรองหลายระดับหลากสไตล์ แต่ด้วยความจำ�เป็นที่ต้องกลับไปทำ�งาน ก็เลยต้องตัดใจลา ก่อนจะแยกย้ายเราคุยกันถึงโปรแกรมเที่ยวคราวหน้า แต่ยังสรุปกันไม่ได้เสียทีว่าจะไปไหนกันดี เอาเป็นว่าฉบับหน้าได้รู้กันครับ... MKD 52
500 Rai Floating Resort
1 ÊÔ§ËÒ¤Á 2556 ºÃÔ¡ÒÃÃѺ-Ê觨ҡ Í.àÁ×ͧ ¨.ÊØÃÒÉ®Ãì¸Ò¹Õ
á¾ 500 äÃè @ à¢×è͹ÃѪª»ÃÐÀÒ (àªÕèÂÇËÅÒ¹) ιѡàÍ¡ª¹ ·ÕèãËé¤ÇÒÁÊÓ¤ÑޡѺ¤ÇÒÁÊÐÍÒ´ ʧº ÊèǹµÑÇ »ÅÍ´ÀÑ Êѧ¤Á áÅÐÊÔè§áÇ´ÅéÍÁ µÑé§ÍÂÙèã¹àÇÔ駹éÓÊØ´·éÒ¢ͧà¢×è͹ÃѪª»ÃÐÀÒ «Öè§áÇ´ÅéÍÁ´éÇÂáËÅ觷èͧà·ÕèÂÇ·ÕèÊÓ¤ÑÞ àªè¹ ¹éÓµ¡á»´à«Õ¹ ¨Ø´ªÁÇÔÇä¡ÃÊà ¶éÓ¹éÓ·ÐÅØ ¨Ø´ªÁÊѵÇì»èÒ¤Åͧáʧ ÃÇÁ¶Ö§¼×¹»èÒ·ÕèÊÁºÙóì ÀÙà¢ÒËÔ¹»Ù¹·ÕèÊÙ§ÊÅѺ«Ñº«é͹ ¼×¹¹éÓÊÕà¢ÕÂÇÁáµ ÊÒÂËÁÍ¡ÂÒÁàªéÒ ·Õè·èÒ¹ÊÑÁ¼ÑÊä´éµÅÍ´àÇÅÒà¢éҾѡ
“ ÁËÑȨÃÃÂìàÁ×ͧä·Â à¾×èÍ¡Òþѡ¼è͹ÍÂèÒ§á·é¨ÃÔ§ ”
Êͺ¶ÒÁÃÒÂÅÐàÍÕ´à¾ÔèÁàµÔÁ Êӹѡ§Ò¹ãËÞè Í.ºéÒ¹µÒ¢Ø¹ ¨.ÊØÃÒÉ®Ãì¸Ò¹Õ 077-953013 (Íѵâ¹ÁÑµÔ 8 ¤ÙèÊÒÂ) ÊÒ¢ÒÀÙà¡çµ 077-953014 (Íѵâ¹ÁÑµÔ 8 ¤ÙèÊÒÂ) MKD 53 www.500rai.com, www.suratintertour.com e-mail : info@suratintertour.com
CEL EBRI TY D I SH
Story : Silver Spoon Photo : Pom Demand
nong view
restaurant
ร้านอาหาร “น้องวิว” เกาะพะงัน
มีโอกาสเดินทางมาถึงเกาะงาม นามว่าพะงัน แถมยังได้รับเกียรติ พบปะพูดคุยกับคนดังประจำ�เกาะอย่าง “นายกขาว ประทีป ทวยเจริญ” ทั้งที....
คอลัมน์ CELEBRITY DISH ฉบับปฐมฤกษ์นี้จึงถือโอกาส เจาะลึกถึงอาหารจานโปรดและร้านเด็ดดังประจำ�ใจของนายกขาว พร้อมกับ นำ�เรื่องราวอันเป็นเสน่ห์ของอาหารพื้นถิ่นดั้งเดิมของชาวเกาะกลาง อ่าวไทยมาฝากคุณๆ ด้วย ร้านอาหารมากมีฝีมือปรุงในใจของนายกขาวนั้นมีชื่อว่า “ร้าน น้องวิว” ร้านอาหารพื้นบ้านบนหาดบ้านค่าย ถือเป็นร้านเก่าแก่ที่คน พะงันรูจ้ กั ดีและต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวว่าถ้าจะกินอาหารพืน้ ถิน่ ของชาว เกาะให้อร่อยลิน้ หรือต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ต้องมาทีน่ เี่ ท่านัน้ ...ส่วน เมนูเด็ดทีน่ ายกขาวไม่เคยพลาดทีจ่ ะสัง่ สักครัง้ ก็คอื น้ำ�พริกมุงมัง วายคัว่ กะปิย่าง ว่ากันว่าอาหารเหล่านี้ถือกำ�เนิดขึ้นพร้อมๆ กับการก่อตั้งชุมชน บนเกาะสมุยเมือ่ หลายร้อยปีกอ่ นเลยทีเดียว และถือเป็นอาหารชัน้ ดีทจี่ ะ ปรุงเมื่อถึงวันสำ�คัญๆ หรือเลี้ยงพระ ต่อเมื่อชาวเกาะสมุยคิดขยับขยาย มาตัง้ รกรากทีเ่ กาะพะงันก็น�ำ เอาภูมปิ ญ ั ญาในการปรุงอาหารนีต้ ดิ ตามมาด้วย ดัน้ ด้นมาจนถึงร้านน้องวิวซึง่ มีบรรยากาศเรียบง่าย สะอาดสะอ้าน แล้ว จะไม่ไถ่ถามถึงความเป็นมาของร้านและบริการก็ใช่ที่ “คุณเยีย่ มศรี ทองนวล” ผูเ้ ป็นเจ้าของร้านและเป็นชาวเกาะพะงันแท้ๆ จึงเล่าให้ฟงั ว่า.... “ดิฉนั เป็นคนชอบทำ�กับข้าวมาตัง้ แต่เด็กๆ ค่ะ และจะได้รบั คำ�ชม อยูบ่ อ่ ยๆ ว่าทำ�กับข้าวอร่อย (ยิม้ ) ก็เลยมีความฝันว่าอยากทำ�ร้านอาหาร พอมีโอกาสก็ลองทำ�โดยเอาชือ่ ลูกสาวคนโตมาตัง้ เป็นชือ่ ร้าน ตอนนีเ้ ปิด มา 8 ปีแล้ว จุดเด่นของร้านอยูท่ รี่ สชาติคะ่ เพราะของเราเข้มข้น สด และ สะอาด ดิฉันไปจ่ายตลาดเอง น้ำ�พริกเครื่องแกงก็ทำ�เองค่ะและลงมือ ปรุงเองด้วย (ยิม้ ) น้องวิวตอนนีก้ ม็ าเป็นลูกมือด้วย เริม่ เก่งแล้วค่ะ อาหาร ขึ้นชื่อที่ลูกค้าจะสั่งกันแทบทุกโต๊ะก็คือ 3 จานที่ว่านี่แหละค่ะ แล้วก็มี แกงเลียง จานนี้ท่านนายกขาวชอบสั่งมากินคู่กัน รสชาติจะเข้ากัน ดีมากค่ะ นอกจากนีก้ ย็ งั มี ยำ�สาหร่ายทะเล และแกงคัว่ เห็ดหลุบ เห็ดหลุบ นี่เป็นดอกไม้ทะเลนะคะ จะมีมากช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม และ เรารับจัดเลี้ยงด้วย รับได้เต็มที่ 120 คน แต่ต้องรบกวนให้จองล่วงหน้า สัก 1-2 วันนะคะ เพราะจะได้ตระเตรียมอาหารสดๆ ไว้ได้ค่ะ” ระหว่างที่พูดคุยอยู่นั้น เราสังเกตว่ามีลูกค้ามารับบริการจนแน่น ร้าน แม้จะเลยเวลามื้อเที่ยงไปพักใหญ่แล้วก็ตาม นอกจากนี้ยังมีฝรั่ง ผมทองมาเป็นกลุ่มๆ แถมยังนั่งทานอาหารพื้นบ้านกันอย่างเอร็ดอร่อย เห็นกับตาแบบนี้เป็นอันเชื่อสนิทใจว่า วันนี้ร้านน้องวิวกลายเป็นจุดขาย Acrylic & oilานค่onายตามที canvas่นายกขาวออกปากจริงๆ ของหาดบ้ แล้วคุณล่ะ จะไม่แวะมาชิมให้เป็นบุญท้องสักครั้งเชียวหรือ....
MKD 54
น้ำ�พริกมุงมัง เครื่องปรุง กะปิกุ้งอย่างดี 3 ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูสดซอย 6-7 เม็ด หอมแดงซอย 4 หัว เนื้อผลมุงมังซอย 10 ผล (ตะลิงปลิง) น้ำ�ตาลมะพร้าว 1 ช้อนชา วิธีทำ� นำ�เครื่องปรุงทุกอย่างใส่ภาชนะ จากนั้นใช้มือขยำ�เบาๆ จน เข้ากันดี จัดใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมผักสดนานาชนิด
วายคั่ว
เครื่องปรุง วายสด 1 ถ้วยตวง หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมไทยสับ 4-5 กลีบ หอมแดง 4 หัว ขมิ้นชัน 1 ท่อนขนาด 1 องคุลี ตะไคร้ทุบ 1-2 ต้น พริกขี้หนูสด 3-4 เม็ด วิธีทำ� นำ�วายมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำ�มาลวกในน้ำ�เดือด ใส่เกลือ ทะเลเล็กน้อย จากนั้นสรงขึ้น ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่หัวกะทิ ตามด้วย วาย พอเดือดใส่กะปิ กระเทียม หอมแดง ตะไคร้ ขมิ้น คั่วจนน้ำ�งวด ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยพริกขึ้หนูสด
กะปิย่าง
เครื่องปรุง กะปิกุ้งอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ มะพร้าวขูด 1 ช้อนชา น้ำ�ตาลมะพร้าว 1 ช้อนชา พริกขี้หนูสด 2 เม็ด วิธีทำ� นำ�กะปิกกุ้งคลุกเคล้ากับมะพร้าวขูดและน้ำ�ตาลให้เข้ากัน จากนั้น นำ�ใส่ในกะลามะพร้าว ใช้มือหรือช้อนบี้กะปิให้แผ่เป็นแผ่นทั่วกะลา แล้ว นำ�ไปย่างไฟอ่อน หรือจะใช้หม้ออบไฟฟ้าก็ ได้ เมื่อกะปิสุกเหลืองได้ กลิ่นหอม ยกขึ้นแล้วโรยหน้าด้วยพริกสด MKD 55
ร้านน้องวิว เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 – 22.00 น. สำ�รองโต๊ะที่คุณเยี่ยมศรี ทองนวล โทร. 077-238 334
CA R CLUB
Story : CarBug
chevrolet trailblazer its new mid-size SUV. ที่สุดของสมรรถนะและความสบายเหนือชั้น เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ แน่นอนว่าสำ�หรับคนที่มีสมาชิกภายในครอบครัว หลายคน เมื่อเขาต้องเลือกพาหนะคู่ ใจสักคัน “รถยนต์ อเนกประสงค์” คือคำ�ตอบที่ “ใช่” ที่สุดแล้ว แต่สำ�หรับคนที่มีทั้งครอบครัวใหญ่ มีทั้งเพื่อนฝูงร่วมแก๊งส์มากมาย แถม ยังมีไลฟ์สไตล์ท้าทาย ชื่นชอบความตื่นเต้นแบบนักผจญภัยด้วยแล้ว แค่คำ�ว่า อเนกประสงค์คงไม่พอ เพราะรถยนต์ที่จะตอบโจทย์นี้ ได้ต้องมีคุณสมบัติเท่ๆ เพิ่มมาอีกหลากหลาย ใช่มีแค่ความโอ่โถง สะดวกสบายภายในครบถ้วนเท่านั้น แต่รูปลักษณ์ภายนอกก็ต้องสามารถผสมผสานความหรูหราเคร่งขรึมให้เข้ากับ ความบึกบึนอย่างลงตัว แล้วยังต้องมีสมรรถนะสูง ตอบสนองไวเพื่อความมั่นใจ ในการขับขี่หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่สบายๆ ในเมืองใหญ่ หรือการขับขี่ ทางไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางที่สมบุกสมบัน โดยที่ผู้ โดยสารยังสัมผัสได้ ถึงความนุ่มนวลในการนั่ง ฟังดูเรือ่ งเยอะ!! รถอะไรจะจับเอาความต้องการทีเ่ หมือนคูต่ รงข้ามมารวม ไว้ ในคันเดียวแบบนัน้ ได้... แต่ในเมือ่ เป็นความต้องการของผูบ้ ริโภค ผูผ้ ลิตยานยนต์ ก็มีหน้าที่คิดๆๆ และสร้างสรรค์สินค้ามาตอบสนองความต้องการจนได้ โดยวัน นี้ค่ายรถยนต์ยักษ์ ใหญ่แห่งอเมริกา “เชฟโรเลต” ซึ่งเข้าใจความต้องการที่ว่านี้ เป็นอย่างดี ได้ส่ง “เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์” ยานยนต์ที่กล้าพูดได้ว่าตอบโจทย์ ครอบครัวแอดเวนเจอร์ได้ตรงจุดออกมาสู่ตลาด ชูโรงด้วยสิ่งที่ถือเป็นจุดขายซึ่ง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น และครุยส์ คอนโทรล สร้างให้เทรลเบลเซอร์กลายเป็นรถยนต์อเนกประสงค์จอมลุยตัวจริง เรียกได้ว่า ด้วยชุดควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย พร้อมปุ่มเชื่อมต่อ “แค่มีใจ มีเทรลเบลเซอร์ ไม่ว่าจะที่ไหน ก็ไปถึง” อาทิ โทรศัพท์มือถือผ่านสัญญาณ Bluetooth และ Cruise Control (ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัต)ิ อีกขัน้ ของการตอบสนอง เพือ่ ทีส่ ดุ 2.5 / 2.8 Diesel Engine ด้วยเครือ่ งยนต์ ดูราแม็กซ์ ดีเซล ลิขสิทธิเ์ ฉพาะของเชฟโรเลตทีม่ ใี ห้เลือก ของความสะดวกสบาย พร้อมเบาะนัง่ คนขับปรับไฟฟ้า (เฉพาะรุน่ 2 แบบคือ 2.5 ลิตร ระบบคอมมอนเรล 4 สูบ 16 วาล์ว 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด LTZ และ LTZ1) ให้การควบคุมทุกอิรยิ าบถอยูเ่ พียงปลายนิว้ สัมผัส 350 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที และ 2.8 ลิตร ระบบคอมมอนเรล 4 สูบ 16 เครื่องเล่น DVD แบบมัลติมีเดีย พร้อมระบบเนวิเกชั่น วาล์ว 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ที่ให้ความ ด้วยหน้าจอขนาด 7 นิ้ว จึงสามารถเพลิดเพลินกับการ แรงขึ้น ประหยัดขึ้น ด้วยระบบหัวฉีดไดเร็คอินเจคชั่นที่มาพร้อมกับระบบต่างๆ ที่ ดูหนังและฟังเพลงได้ตลอดการเดินทาง พร้อมระบบเนวิเกชั่น ต่างกันไปในแต่ละรุ่น เพื่อความเหมาะสมกับการใช้งานจริงของผู้ขับขี่ ที่สามารถแสดงแผนที่แบบ 3 มิติ พร้อมหน้าจอระบบสัมผัส MKD 56
ปรับเปลี่ยนโหมดการขับเคลื่อน 4WD ด้วยไฟฟ้า
ติดตั้งสวิตช์การปรับเปลี่ยนโหมดการขับเคลื่อน 2WD / 4WD Hi / 4WD Lo โดย จัดวางในตำ�แหน่งที่เหมาะสม ให้ความสะดวกใช้งานง่าย และควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติและแบบแยกส่วนสำ�หรับผู้โดยสารตอนหลัง
ควบคุมอุณหภูมภิ ายในห้องโดยสารตอนหน้าให้คงทีด่ ว้ ยปลายนิว้ สัมผัส พร้อมระบบ ปรับอากาศแบบแยกส่วน ที่กระจายความเย็นอย่างสม่ำ�เสมอและทั่วถึงให้แก่ผู้ โดยสารที่ นั่งเบาะหลังทั้งแถวที่ 2 และ 3
ดีไซน์ภายในหรูหรา สะดวกสบาย กว้างขวาง
ด้วยระบบที่นั่งแบบ 5+2 ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามต้องการ สามารถพับเบาะ นั่งแถวที่ 2 และ 3 ให้เรียบไปกับพื้น เพิ่มพื้นที่บรรจุสัมภาระด้านหลัง
HDC (Hill Descent Control)
ในขณะที่รถวิ่งลงทางลาดชันเพียงกดปุ่ม เพื่อเปิดการทำ�งานของ HDC ระบบจะ สัง่ ให้เครือ่ งยนต์และเบรกทำ�งานสัมพันธ์กนั โดยอัตโนมัติ เพือ่ จำ�กัดความเร็วของรถให้การ ขับขี่ในขณะลงทางลาดชันปลอดภัยยิ่งขึ้น
HAS (Hill Start Assist)
ในขณะที่รถหยุดบนทางลาดชัน ระบบ HAS จะสั่งการโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกัน รถยนต์ไม่ให้ไหลลงจากทางลาดชันในขณะออกตัว เพื่อให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยคุณสมบัตขิ องเทรลเบลเซอร์ทจี่ บั มาเล่าข้างต้นกับคำ�ยืนยันของผูเ้ ชีย่ วชาญด้าน การขับขี่ที่ได้การันตีไว้ว่า “สอบผ่าน” ในฐานะเป็นรถครอบครัวขาลุย แถมยังมีราคาค่าตัว คุ้มค่า ไม่ต้องปวดหัวเวลาควักกระเป๋า เทรลเบลเซอร์ ในวันนี้จึงถือเป็นม้าตัวใหม่ที่คนเก่ง หัวใจแกร่งและรักครอบครัวเป็นชีวติ ควรมองเป็นอย่างยิง่ ไม่เชือ่ ก็ตอ้ งไปดูให้เห็นกับตา... MKD 57
G OOD TH I NG F ROM SONG Artist : Jack Johnson
good people
by : Jack Johnson
เอาล่ะ ผมยอมแพ้ เชิญคุณ (ทีวี) เถอะ แล้วคุณจะให้ผมดูอะไรล่ะ ใช่สินะ คนเขาเปิดทีวีเพื่อดูว่ามีรถไฟกี่ขบวนที่เผชิญ โศกนาฏกรรม เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ต้องรู้ ไม่งั้นจะตกข่าวที่แสนเศร้า แย่เหลือเกิน และมันแย่ลง แย่ลงเรื่อยๆ... แล้วคนปกติดีๆ หายไปไหนกันหมดล่ะ ผมเปลี่ยนช่องก็แล้วไม่เห็นจะเจอพวกเขาเลย คนปกติดีๆ หายไปไหนกันหมดหรือ คนเราทำ�อะไรก็ต้องได้อย่างนั้น* ผู้คนโชคร้ายเหล่านั้นก็เช่นกัน จะโทษใครได้ล่ะ ข่าวร้ายๆ ถูกเพิกเฉย เพราะความสูญเสียมีอยู่ดาษดื่น บอกความจริงมาที ว่านี่พวกเรากลายเป็นอะไรไปแล้ว** จะพูดอะไรก็บอก ผมเปิดทีวีแล้ว ผมพร้อมที่จะเชื่อฟังทำ�ตามคำ�สั่งบัญชา แต่ตอนนี้...* นั่งดูอยู่ตรงนี้ รู้สึกว่าห่างไกล แต่ถึงจะห่างอย่างไร ก็รับรู้ได้ถึงความโศกเศร้าอาลัย คุณละ รูส้ กึ บางมัย้ คุณดึงผมออกมาจากวงสนทนาอันรืน่ รมย์ เพื่อบอกว่าเรื่องนี้มันใหญ่โตขนาดไหน คุณอาจจะรู้ว่าผมลังเล ใช่สิ มันอาจจะสำ�คัญสำ�หรับคุณแต่ไม่ใช่สำ�หรับผม หืม... ลองมองข้ามเหตุผลของคุณดูสิ เอาเถอะ ยังไงก็เปิดแล้ว และสิ่งเดียวที่ผมอยากรู้คือ * ,** เอาเถอะนะ ทุกที่ ทุกวัน ไม่ว่าคุณจะพูดอะไร จะผิดหรือจะแน่นอน ก็คงต้องทนรับต่อไป สถานีนี้ แล้วก็สถานีนั้น ความรู้สึกพวกเราด้านชา ไม่รู้สึก ไม่รู้สา อะไรแล้ว...
You win it’s your show now. So what’s it gonna be. ‘Cause people will tune in how many train wrecks do we need to see. Before we lose touch of we thought this was low. It’s bad, getting worse so… Where’d all the good people go? I’ve been changing channels . I don’t see them on tv.shows. Where’d all the good people go? We got heaps and heaps of what we sow.* They got this and that with a rattle a tat testing, one, two,now watcha gonna do. Bad news misused, got too much to lose. Gimme’ some truth now whose side are we on?** Whatever you say turn on the boob tube. I’m in the mood to obey, so lead me astray. And by the way now… * Sitting’round, feeling far away. So far away but I can feel the debris. Can you feel it? You interrupt me from a friendly conversation. To tell me how great it’s all gonna be. You might notice some hesitation. It’s important to you, it’s not important to me. hmm… Way down by the edge of your whole reason. Well, it’s beginning to show. And all I really wanna know is…. * ,** Everyway, everyday, ok, whatever you say. Wrong or resolute but in the mood to obey. Station to station, desensitizing the nation. Going, going, gone….
Good People เป็นผลงานของ “แจ็ค จอห์นสัน” นักร้อง นักแต่งเพลงและนักสร้างหนังอินดี้ชาวฮาวายที่โด่งดัง เพลงนี้ถูกบรรจุ
อยู่ในอัลบั้ม “In Between Dreams” ซึ่งเป็นซิลเกิ้งเดี่ยวลำ�ดับ 3 ในสังกัดค่ายเพลงที่เขาเองเป็นเจ้าของ เนื้อหาของเพลงต้องการประชดประชัน คนวงการทีวีในโลกวันนี้ ที่ต่างพยายามสร้าง “ข่าว” และยัดเยียดให้แก่สังคมโดยไม่สนอะไรนอกจากเรตติ้งที่พุ่งกระฉูด ขณะเดียวกันก็เสียดสีคนดู ที่ ไม่พยายามทำ�อะไรเพื่อปกป้องกระบวนการล้างสมองนี้ คน “คิดดี ทำ�ดี” กลายเป็นสิ่งที่ ไม่จำ�เป็นสำ�หรับคนทีวีไปแล้ว ก็ ไม่ว่าจะ “ดี” สักแค่ไหน มันก็ ไม่ได้ทำ�ให้ช่องขายโฆษณาได้มากขึ้นสักหน่อย แล้วจะเอามาออกให้เสียพื้นที่เปล่าๆ ปรี้ๆ ทำ�ไม! เฮ้อ...ชักจะเหมือนทีวีเมืองไทยเข้าไปทุกที... อ้าว! ฝรั่งเขาเลียนแบบเรา หรือเราเลียนแบบเขากันล่ะนี่.... MKD 58
MKD 59
MKD 60