Ban’s Pool Villa From the moment you step onto the wooden bridge leading you along the dramatic staircase up to your villa, you can feel the luxury. The mix of contemporary and traditional Thai architecture in addition to the beautiful panoramic views over Koh Tao and the Gulf of Thailand, will take your breath away. Enjoy the stunning infinity pool with views overlooking the sparkling blue sea and Koh Nang Yuan.
Ban’s Diving Resort
3/1 หมู่ที่ 1 ตำ�บลเกาะเตาะ อำ�เภอเกาะพะงัน จังหวัดสุรMKD าษฎร์ธ2านี 84360
The Ban’s Pool Villa is luxury and service at it’s best.
Reception : +66 77 456 466 (International) 077 456 466 (Thailand) MKD 3
จังหวัดสุราษฎรธานี
CONTENT
vol.1 issue 2 the wind beneath my wings 010 content 012 editor talk - ณรงค์ พฤกษาไพบูลย์ 014 today’s surat 020 today’s surat (gossip) 022 world update 024 woman @ work : hands of creation - สุจิตรา ยาวิละ : wind beneath the wings - มยุรีย์ แซ่เหง่า 032 make money : nothing is certainly, but insurance 034 adver : surat optic - อัครา อินทรสวัสดิ์ 036 adver : bandon pire night bazaar - ธาดา บุรประภัสสร 038 adver : one fine day with pretty girl - เรือนวารินทร์ 040 soul & pirit : the secret of success 042 heath secret 044 scoop : ban’s koh tao 046 man@work : a man who’s outspoken, but good heart - วิรัช พงศ์ฉบับนภา 050 speak out : rajjaprapha dam - นิพนธ์ อรุณศรี 052 on the way : from unseen samui to natural beauty of koh phangan (part 1) 060 celebrity dish : delicious on a hill at phunisa restaurant 062 adver : rice fram villa - ปัญญา แสงสุริยัน 064 your taste : nira’s home bakery / ต้นกล้วย cafe 065 scoop : dreamer by nature - ดวงพล ชิตินทร 065 good thing from song : wind beneath my wings บริษทั คิด ทำ�ดี มีเดีย จำ�กัด สำ�นักงานใหญ่ : 77/47 ถนนพระยาสุเรนทร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10510 สำ�นักงานสาขาสุราษฎร์ฯ : 62/20 หมู่ 9 ตำ�บลขุนทะเล อำ�เภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000 โทรศัพท์ 08 4940 2289, 08 1684 6242 (Line, WhatsApp, ChatOn, WeChat) อีเมล์ kidtamdeemedia@gmail.com เฟซบุ็ก www.facebook.com/demandgroup เว็บไซต์ www.demandgroup.net ทวิตเตอร์ www.twitter.com/demandgroup วางแผง ดีมานด์ กรุ๊ป demandgroup@gmail.com บทความและภาพที่ตีพิมพ์ ในนิตยสาร เมืองคนดี ขอสงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย การนำ�บทความหรือภาพในนิตยสาร เมืองคนดี ไม่ว่าจะเป็นบางส่วนหรือทั้งหมดไป ตีพิมพ์ อ้างอิงหรือประโยชน์อื่น ต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท คิด ทำ�ดี มีเดีย จำ�กัด เท่านั้น
ED I TOR TA LK
สถานการณ์ โลกตอนนี้ดูเหมือนว่าอะไรๆ ก็อึมครึมไปหมดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจการเงิน การเมือง ไปจนถึงเรื่องดินฟ้า อากาศ... และนับวันยิง่ จะแปรปรวน สับสน จนคนทั่วทั้งโลกใจรุม่ ร้อนอยู่ ไม่เป็นสุข สิ่งที่หลายคนสงสัยและตั้งคำ�ถามก็คือ ทำ�ไมจึงเป็นเช่นนี้.... ถ้าตอบตามคำ�สอนในพุทธศาสนาที่ยึดหลักว่า “กรรมคือผลแห่ง การกระทำ�” เราก็สามารถอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดในวันนี้ ได้ว่า เป็นผลมาจากการกระทำ�ของเราเองในอดีต แต่ละเหตุไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ดีหรือร้าย ต่างต้องการเวลาในการสะสมการกระทำ�ยาวนานไม่เท่ากัน บางเรือ่ งทำ�ปุบ๊ ส่งผลปับ๊ ขณะทีบ่ างเรือ่ งต่อให้ท�ำ อย่างสม่�ำ เสมอนานนับ ร้อยปี ผลยังไม่เกิด แต่สิ่งที่ ไม่อาจปฏิเสธได้คือ ทำ�สิ่งใดไว้ย่อมต้อง ได้รับผลของการกระทำ�นั้นเสมอ มิอาจเลี่ยงได้... ในความเห็นของผมและผู้จัดทำ� “นิตยสารเมืองคนดี” จึงมองว่า ป่วยการที่จะมาถามกันว่าทำ�ไมเหตุร้ายๆ จึงเกิดขึ้น แต่ควรถามว่านาทีนี้ เราควรทำ�อย่างไรเพือ่ ชะลอ บรรเทา และแก้ไขเรือ่ งนัน้ ให้หมดไป แน่นอนครับ ว่าคำ�ถามนี้ ได้กอ่ ให้เกิดความเห็นทีแ่ ตกต่างมากมาย แต่แม้จะมีความคิดต่าง อย่างสุดขัว้ เพียงใด เราก็เชือ่ ว่าหากทุกคนมีเป้าหมายเพือ่ รักษาไว้ซงึ่ ความสุข สงบที่แท้จริงของมวลมนุษยชาติ มิใช่เพื่อผลประโยชน์เฉพาะตัว เราก็จะสามารถหาทางเดินทีด่ ที สี่ ดุ เพือ่ แก้ปญ ั หาร่วมกัน ทัง้ ยังเป็นกำ�ลังใจ ให้กันและกันได้ คำ�ถามต่อมาคือ แล้วเราจะทำ�เพื่อมวลมนุษยชาติอย่างไร ฟังดูช่าง ยิง่ ใหญ่เสียเหลือเกิน...มีอดีตท่านผูว้ า่ ราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีทา่ นหนึง่ ซึง่ เป็นผูท้ ผี่ มเคารพรักเคยกล่าวไว้วา่ “ความสำ�เร็จทีย่ งิ่ ใหญ่มาจากความ สำ�เร็จของจุดเล็กๆ หลอมรวมกัน” แค่เราทุกคนต่างดำ�รงตนให้ดีพร้อม รอบด้าน เพียงเท่านีก้ ช็ ว่ ยโลกได้ อย่าว่าแต่ชว่ ยประเทศเลย.. หมายความว่า ใครเป็นพ่อแม่ เป็นสามีภรรยา เป็นลูก หรือใครมีอาชีพการงานใดจะเป็น เจ้านายหรือลูกน้อง จะเป็นเจ้าของธุรกิจหรือรับจ้าง ก็เพียรทำ�หน้าทีน่ นั้ ๆ ของตนให้สมบูรณ์ด้วยใจมีธรรมและคำ�นึงถึงส่วนรวม แล้วทุกคนจะเป็น “ลมที่พยุงใต้ปีก” ของกันและกัน ไม่มีวันที่ชีวิตจะร่วงลงเหว... และนั่นเป็นเหตุที่พวกเราจัดทำ�เนื้อหาของนิตยสารฉบับนี้ ให้มุ่งเน้น ไปทีก่ ารนำ�เสนอแง่คดิ ของบุคคลที่ไม่เพียงมุง่ มัน่ ทำ�หน้าทีข่ องตนให้สมบูรณ์ หากยังเสียสละเพือ่ ส่วนรวมด้วย หวังเป็นอย่างยิง่ ว่าข้อคิดและการปฏิบตั ติ วั ของแต่ละท่านจะช่วยทำ�ให้ผอู้ า่ น “ใจร่มๆ” และมีไฟแห่งการ “คิดดี ทำ�ดี” ดำ�รงอยู่ตลอดไปครับ... ณรงค์ พฤกษาไพบูลย์ (บก.ป้อม)
happy to be alive narong pruksaphiboon
บรรณาธิการบริหาร Managing Director / Editor in Chief
กรรมการผูจ้ ดั การ / บรรณาธิการบริหาร ณรงค์ พฤกษาไพบูลย์ บรรณาธิการเนือ้ หา ศศิธร บุญบรรเทิง กองบรรณาธิการ สมฤทัย ณรงค์เปลี่ยน ฝ่ายภาพ ดีมานด์ กรุ๊ป ฝ่ายโฆษณา วิลาวัลย์ มณีจันทร์สุข ฝ่ายศิลป์ ดีมานด์ กรุ๊ป / ปฏิพร ประวิทย์ การเงินและสมาชิก 08 4940 2289 อีเมล์ demandgroup@gmail.com เฟซบุ็ก www.facebook.com/demandgroup เว็บไซต์ www.demandgroup.net ติดต่อโฆษณา 08 1684 6242, 08 9893 3224
TOD A Y’S SU RA T
Story : Madam
Photo : Pom Demand
พิธีเปิดป้ายศูนย์เรียนรู้รักษ์แบนเกาะเต่า (องค์กรสาธารณประโยชน์)
วันที่ 19 เดือนกันยายน นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และคณะประเมินอุทยานแห่งการเรียนรู้ สำ�นักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมเป็นเกียรติเปิดศูนย์ เรียนรู้สู่องค์กรสาธารณประโยชน์ ปี 2556 ที่ได้ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการส่งเสริมการจัด สวัสดิการสังคมแห่งชาติ ให้เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ตามมาตรา 13 (15) และมาตรา 34 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัตสิ ง่ เสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ. 2556 โดยมีคณ ุ รำ�ลึก อัศวชิน ประธานศูนย์เรียนรูร้ กั ษ์แบนเกาะเต่า และนายไชยันต์ ธุระสกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำ�บลเกาะเต่า ให้การต้อนรับ
MKD MKD 14 14
MKD 15
TOD A Y’S SURA T
Story : Madam
Photo : Pom Demand
อำ � เภอพุ น พิ น อั ญ เชิ ญ พระบรมรู ป ร.5 ประดิษฐาน
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา อำ�เภอพุนพิน โดยนายไพศาล ตรีธญ ั ญา นายอำ�เภอพุนพิน ร่วมด้วยเหล่าข้าราชการ ทหาร ตำ�รวจ กำ�นัน ผู้ ใหญ่บา้ น ผูบ้ ริหารและสมาชิกองค์การการปกครองส่วนท้องถิน่ พ่อค้า และประชาชนชาวสุราษฎร์ฯ ได้รว่ มกันจัดพิธบี วงสรวงดวงพระวิญญาณ พร้อมทัง้ อัญเชิญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั ขึ้นประดิษฐาน ณ ที่ว่าการอำ�เภอพุนพิน ทั้งนี้เพื่อแสดงถึงความสำ�นึก ในพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระปิยะมหาราชที่ทรงอุทิศพระวรกาย ทรงงานอย่างหนักตลอดพระชนม์ชีพ อันนำ�มาซึ่งความสุขสงบและ ความเจริญของชาติบ้านเมือง และเป็นรากฐานสู่การพัฒนาประเทศมา จนปัจจุบัน โดยมีนายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธี
เปิดร้านแว่นหรู Surat Optic
และแล้วสุราษฎร์ธานีก็มีร้านแว่นตามากด้วยคุณภาพ และเยี่ยมยอด ด้านบริการเกิดขึ้นอีกราย... เมื่อนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง คุณอัครา อินทรสวัสดิ์ ประธาน ผจก.ศูนย์แว่น สุราษฎร์ออพติค ได้ทำ�พิธีเปิดร้าน อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยมีท่าน วิทยา หะยีหมัด รองอธิบดี ศาลอุทธรณ์ ภาค 8 พ.ต.อ บุญเพ็ญ บำ�เพ็ญบุญ กรรมการกฤษฎีกา คุณศิลปชัย สุนทรเศวต ประธานกรรมการบริษทั SCG 1995 และคุณพงษ์ศกั ดิ์ ธนศรีวนิชยั กรรมการบริษทั ไทยวัฒน์วศิ วการทาง ให้เกียรติเป็นประธานตัดริบบิน้ ร่วมด้วยแขกคนดังแห่งสังคมสุราษฎร์ฯ อาทิ คุณรำ�ลึก อัศวชิน คุณโชคชัย เฮ่าตระกูล ทีม่ าร่วมแสดงความยินดีและให้ กำ�ลังใจ โดยไฮไลท์ของงานคือการแสดงแฟชั่นโชว์แว่นตาแบรนด์หรู นำ� โดยพระเอก ป้อง ณวัฒน์ และนางแบบนายแบบคับคั่ง บรรยากาศงาน จึงคึกคัก เก๋ไก๋ สมกับเป็นฝีไม้ลายมือของนักบริหารรุ่นใหม่จริงๆ
เขื่ อ นรั ช ชประภา เป็ น เจ้ า ภาพทอดกฐิ น สามัคคี ณ วัดนาพอ
นายนิพนธ์ อรุณศรี ผูอ้ �ำ นวยการเขือ่ นรัชชประภา ผูบ้ ริหาร ผูป้ ฏิบตั งิ าน จ้างเหมา และครอบครัวเขื่อนรัชชประภา ชมรมผู้สูงอายุตำ�บลเขาพัง เดิน ทางไปร่วมทอดกฐินสามัคคี ณ วัดนาพอ หมู่ที่ 15 ตำ�บลทุ่งหลวง อำ�เภอ เวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเขื่อนรัชชประภาเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน สามัคคีในครั้งนี้ โดยเขื่อนรัชชประภา ผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงานจ้างเหมา และครอบครัว ร่วมสมทบทุนจำ�นวน 380,000 บาท เพื่อสร้างอุโบสถที่ยัง ไม่แล้วเสร็จ ณ วัดนาพอ โดยมีพระนิพนธ์ นิติโร ประกอบพิธีสงฆ์ เมื่อ วันที่ 20 ตุลาคม 2556
MKD 16
MKD 17
TOD A Y’S SURA T Photo : Pom Demand
งานประเพณีชักพระ ทอดผ้าป่า และแข่งเรือยาว จ.สุราษฎร์ธานี ปี 2556 This is Festival in South of Thailand Chak Phra Festival Suratthani 2013
ประมวลภาพความยิ่งใหญ่ของมหานครแห่งเมืองพุทธ พลังศรัทธาที่สืบต่อกันมานานนับ 100 ปี ของชาวสุราษฎร์ธานี กับประเพณีชักพระ ทอดผ้าป่า และแข่งเรือยาว งานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงเทศกาลออกพรรษาของชาวสุราษฎร์ธานีที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาว เมืองคนดี เป็นที่รู้จักกันทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
นิตยสาร “เมืองคนดี” ร่วมกิจกรรมเพื่อสังคม
กิจกรรม “ชมรมจิตอาสาเพือ่ นพ้องน้องพี”่ และวงดนตรี The Sea Ghost ร่วมกับคุณณรงค์ พฤกษาไพบูลย์ บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร “เมืองคนดี” และคุณพรสิณี “Ponsinee Property” ได้ร่วมกันทำ�กิจกรรมนำ�หนังสือ สื่อการเรียน ส่งมอบให้ โรงเรียนสหกรณ์นิคม หมู่ที่ 4 ตำ�บลตะกุกเหนือ อำ�เภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยมีผู้อำ�นวยการโรงเรียน นายสมบูรณ์ มีโพธิ์ พร้อมคณะอาจารย์ ให้การต้อนรับ
MKD 18
T O DA Y’S SU RA T [ G OSSI P]
ปรัชญา ศรีสวัสดิ์
ได้ยินกิตติศัพท์มานานว่า คุณใหญ่ ปรัชญา ศรีสวัสดิ์ MD แห่ง โครงการหมู่บ้านวงสุดาและเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆ ในสุราษฎร์ฯ นั้นเป็นนักบริหารที่ใช่เพียงมีวิสัยทัศน์กว้างไกลเท่านั้น แต่ยงั จริงจังกับงานมากกกก... กระทัง่ ทีมงาน ‘เมืองคนดี’ ได้มโี อกาส รับหน้าทีถ่ า่ ยรูปหมูบ่ า้ นเพือ่ ทำ�โบชัวร์ จึงประจักษ์กบั สายตาว่า คุณใหญ่ นัน้ มีความพิถพี ถิ นั ในการทำ�งานสูงสมคำ�ร่�ำ ลือ! ลำ�พังจ้างเครนยักษ์มา ถ่ายภาพมุมสูงยามพระอาทิตย์ขึ้นเพียงช็อตเดียวก็ว่าลงทุนมากแล้ว แต่คุณใหญ่ยังขนรถหรูนับสิบคันมาประกอบฉาก พร้อมเกณฑ์เหล่า พนักงาน และตัวเองมาเป็นนางและนายแบบ ตามด้วยคำ�สั่งเฉียบ ว่าให้แอคชั่นชนิดมืออาชีพชิดซ้าย แต่ดาวเด่นงานนี้ ไม่มีใครเกินคุณ ใหญ่ ที่สลัดภาพนักบริหารมาสวมวิญญาณนักจ๊อกกิ้งได้เนียนสุดๆ เพราะแม้ช่างภาพจะขอให้วิ่งจิ๊บๆ ด้วยเกรงว่าจะเหนื่อยที่ต้องถ่าย หลายมุม แต่คุณใหญ่ก็ยัง ‘Keep Character’ วิ่งครบรอบสนามมัน ซะทุกรอบ (ระยะทาง 1 รอบคือ 1,100 เมตร) จนช่างภาพมองหน้า กันเลิก่ ลัก่ ว่าเกิดอะไรขึน้ ว้า... มาถึงบางอ้อก็ตอนทีค่ ณ ุ ใหญ่เฉลยหลัง จากทุเลาหอบว่า “ผมต้องการให้ภาพสมจริงน่ะ คุณจะถ่ายกี่มุม ผม ก็วิ่งให้ได้”... อุต๊ะ!!! แค่เห็นร่างเพียงนิด ไม่เห็นหน้าสักกะจิ๊ด ยังมี ‘อินเนอร์’ นักแสดง ‘แรงส์’ จนเหงื่อกระเซ็นปานนี้ คงไม่ต้องแปลก ใจล่ะ ว่าทำ�ไมธุรกิจที่คุณใหญ่ทำ�ถึงวิ่งฉิวน่ะ ..
พันตำ�รวจตรีปรัชญา ไบเตะ
ไพศาล ตรีธัญญา วันปิยะมหาราชที่ผ่านมา นอภ.ไพศาล ตรีธัญญา แห่งอำ�เภอพุนพิน และชาวอำ�เภอพุนพินได้ร่วมกันจัดพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 พร้อมทั้งอัญเชิญพระบรมรูปขึ้น ประดิษฐานหน้าทีว่ า่ การอำ�เภอ โดยในระหว่างประกอบพิธไี ด้เกิดเหตุการณ์ เหนือธรรมชาติอันเป็นมหามงคล เมื่อพบว่าภาพที่ท่านนายอำ�เภอได้ ใช้ มือถือบันทึกไว้นั้น ปรากฏกลุ่มควันขนาดใหญ่ ประชาชนจึงเชื่อว่าเป็น พระบุญญาบารมีที่พระองค์ทรงแสดงให้ประจักษ์ว่าทรงห่วงใยพสกนิกรไม่ เสือ่ มคลาย จากนัน้ ยังเสด็จลงประทับทรงให้ประชาชนเข้าเฝ้าอย่างใกล้ชดิ ท่านนายอำ�เภอเห็นเป็นนิมติ หมายดี จึงนำ�แบงค์พนั ใหม่เอีย่ มไปมอบให้แก่ ผู้ร่วมงานรายหนึ่งเพื่อถวายร่างทรงเป็นสิริมงคล จนกลายเป็นประเด็น ‘เลขเด็ดสุดฮอต’ ที่ใครๆ ก็จ้องถามทุกทีที่เจอหน้า แต่ความที่ Busy จัด ท่านจึงลืมถามเลขจากคนทีเ่ ก็บแบงค์ไปสนิท รูต้ วั อีกทีกด็ เี ดย์ซะแล้ว เรือ่ ง จะไม่ยุ่งเล้ยยย...ถ้าผลสลากไม่ออกมาตรงเผง จากที่หูแฉะเพราะถูกถาม เลยกลายเป็นหูเกือบตึงเพราะฟังคนบ่นเสียดายวันละหลายร้อยรอบ... ใกล้ดีเดย์งวดหน้า ถ้าใครบังเอิญเห็นท่านไพศาลนั่งพนมมือแต้อยู่หน้า พระบรมรูปเป็นนานสองนาน อย่าเพิง่ สงสัย ก็แค่ตอ้ งแก้ตวั ใหม่อกี รอบ เพือ่ ประชาชน แฮ่..หนักทัง้ งานราษฎร์งานหลวงจริงจริง๊ นายอำ�เภอเมืองไทย!!!
เมื่อครั้งที่ทีมงาน ‘เมืองคนดี’ ต้องข้ามน้ำ�ข้ามทะเลไปเกาะสมุย เพื่อถ่ายภาพ พันตำ�รวจตรีปรัชญา ไบเตะ หรือ ‘สารวัตรดีน’ แห่งสภอ.เกาะพะงันเพื่อประกอบ คอลัมน์รถ ด้วยความที่ ไม่คุ้นพื้นที่ช่างภาพจึงขอความกรุณาให้สารวัตรแนะนำ� โลเกชัน่ โดยมีโจทย์วา่ ต้องเห็นทิวทัศน์งดงามระยะไกล ถ้าเห็นทะเลก็ยงิ่ แจ่ม ด้วย หัวใจรักงานบริการประชาชน สารวัตรจึงรับปากมัน่ เหมาะ ใกล้เวลานัดหมาย สารวัตรก็ กริง๊ กร๊างมาว่าจะขอพกไกด์รบั เชิญชาวฝรัง่ เศสทีช่ �ำ นาญพืน้ ทีท่ กุ ซอกมุมติดมาด้วย 2 หนุ่ม โดยสารวัตรดีนขันอาสาเป็นล่าม แต่ทันทีที่ปะหน้ากัน สารวัตรก็แนะนำ�ตัว แต่ละฝ่ายให้รู้จักกันด้วยภาษาไทยชัดเป๊ะ จากนั้น 4 หนุ่มก็จับงูปลามาพ่นใส่กัน ไม่ยงั้ ฝ่ายตากล้องใช้ไทยปนอังกฤษ ข้างฝรัง่ ก็งดั อังกฤษปนฝรัง่ เศส โดยมีสารวัตร นัง่ ยิ้มตาหวานแปลไทยให้เป็นไทยปนอังกฤษอยูข่ า้ งๆ พระเจ้าช่วยกล้วยไข่!! ผ่าน ไปครึ่งชั่วโมง สารวัตรและฝรั่งก็พาช่างภาพยกโขยงไปถ่ายทำ�จนเสร็จแถมได้ภาพ สวยสมใจ เล่นเอาทีมงานที่เหลืองงจนตากลับว่าเขาคุยกันรู้เรื่องนาทีไหน นี่ถ้าไม่ เห็นกับตา ฟังกับหู คงไม่มที างเชือ่ คำ�ทีส่ ารวัตรดีนออกตัวไว้แต่แรกว่า ‘ภาษาไม่ใช่ อุปสรรคของการสื่อสาร’ ถ้าใครจะเถียงว่าไม่จริง มาพบสารวัตรดีนด่วนนนน !!!
MKD 20
MKD 21
W ORLD UPD A TE Story : GooGoo
มาแล้ว...รองเท้าบูทสุดเท่รุ่นใหม่จากไนกี้
พูดถึงรองเท้าบูทปับ๊ คนส่วนใหญ่เป็นต้องนึกถึงความเรียบหรูปบุ๊ แต่วนั นีภ้ าพของรองเท้าบูทมิได้เป็นเช่น นั้นอีกต่อไปแล้ว เพราะ ‘ไนกี้’ แบรนด์รองเท้ากีฬาดังระดับ ‘ตัวพ่อ’ ของโลก ขอลุกขึ้นมาตีตลาดรองเท้าแฟชั่น ด้วยการส่งรองเท้ารุ่นล่าสุด ‘LunarTerra Arktos’ วางตลาด โดยเป็นฝีมือการออกแบบของ ‘Nate VanHook’ ดีไซเนอร์แถวหน้าของไนกี้ และก็สร้างความฮือฮาให้กับสาวกไนกี้ รวมไปถึงบรรดาแฟชั่นนิสต้าจนอดไม่ได้ที่ จะสอยมาประดับเท้า เพราะนอกจากมีรูปลักษณ์เท่แล้ว ยังมีสีสันสุดเจ็บ ทั้งสีเขียวมะนาว สีม่วงสดใส โดยไม่ พลาดสีดำ�อมตะ และแน่นอนว่าไนกี้ ไม่ยอมทิ้งคุณสมบัติเด่นที่เป็นจุดขาย นั่นคือการนำ�เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้า มาช่วยเนรมิตรองเท้าให้มีน้ำ�หนักเบา สวมใส่สบาย ทั้งยังทนทานจนสามารถใส่วิ่ง หรือเล่นบาสก็ยังได้ ส่วนหนัง ที่นำ�มาตัดเย็บก็เป็นชนิดกันน้ำ� เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยตอนนี้จริงๆ เหนืออื่นใดคือไม่หงุดหงิดในการ ใส่และถอด เพราะมีซิปอยู่ด้านข้าง สนนราคาแค่ 190 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 5,750 บาท) แว่วมาว่ารุ่นสีดำ� ที่ปล่อยออกมาเป็น Limited Edition ในสหรัฐฯ หมดเกลี้ยงไปแล้ว สาวกไนกี้ในเมืองไทยกรุณาพุ่งตรงไปโชว์รูม ให้เร็ว ช้าอด จะมาว่ากันไม่ได้เชียว...
รถถังสอดแนม ของเล่นใหม่ของคนขี้ระแวง
เรื่องของความระแวงไม่เคยเข้าใครออกใคร โดยเฉพาะคนที่เคยเจ็บมาจนช้ำ� วันดีคืนดีแฟนจอมเจ้าชู้ หันไปคว้าเพื่อนสนิทเอามากิน ไม่นับรวมกิ๊กรายทางอีกนับสิบ แถมเงินในบ้านยังหายไปอย่างไร้ร่องรอย ชะช้า... อย่างนี้จะปล่อยไว้ได้อย่างไร ว่าแล้ว ‘iSpy Tank’ ก็กำ�เนิดขึ้นมาบนโลก... มันคือรถถังบังคับวิทยุที่ควบคุมการ เคลื่อนที่ไปในทิศทางต่างๆ ผ่าน iPhone หรือ iPad นอกจากจะมีขนาดเล็กและหน้าตาดูดีแล้ว iSpy Tank ยังมี ฟังก์ชันพิเศษนั่นก็คือกล้องวิดีโอที่มีฐานยกขึ้นลง และยังสามารถถ่ายภาพนิ่งได้ด้วย มันจึงเดินทางไปสอดแนม จับภาพที่คุณต้องการส่งมาให้ดูบนหน้าจออุปกรณ์ iOS โดยคุณสามารถควบคุมการเคลื่อนที่อย่างง่ายดายด้วย แอพฯ บน iPhone ผ่านการสื่อสารระบบ Wi-Fi ซึ่งมีรัศมีควบคุมไกลถึง 20 - 30 เมตร และด้วยล้อตีนตะขาบ มันจึงกระดืบไปได้มนั่ คงแม้พนื้ ผิวจะขรุขระ หรือลาดเอียงไม่เท่ากัน ราคาอยูท่ ี่ 99 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3,000 บาท) นอกจากจะใช้จับผิดแฟนแล้ว ใช้จับผิดลูกน้องจอมอู้ ขี้นินทาก็ยังได้ด้วยนะเอ้า...
อาคาร “ตัวต่อไม้” กลางเมือง
คุณว่าไหมว่าจีนเป็นชนชาติที่เก๊งเก่ง... นอกจากจะมีภูมิปัญญาของตัวเองที่คนทั่วโลกยกย่องในความ ชาญฉลาดแล้ว คนจีนยังมีฝีมือในการต่อยอดวิทยาการทั้งปวงที่ชาวบ้านคิดค้น ไม่ว่าจะเป็นวิทยาการทางการ แพทย์ อุตสาหกรรม หรือเทคโนโลยี ก็คิดดู๊...ฝรั่งอุตส่าห์คิดค้นสมาร์ตโฟนรุ่นเอกอุนานเป็นชาติ แต่เปิดตัวไม่ ถึงอาทิตย์ คุณพี่จีนก็มีรุ่นใกล้เคียงมากที่สุดวางขายเกร่อ มิเพียงชาวจีนจะสามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ในด้านการต่อยอดวิทยาการเท่านั้น แต่จีนยังไม่เคยเป็นรองใครในด้านสถาปัตยกรรม โดยมีกำ�แพงเมืองจีนเป็น หลักฐานมานับพันปี และวันนี้จีนก็ได้สร้างความน่าทึ่งให้เกิดขึ้นอีกครั้งด้วย ‘อาคารตัวต่อไม้’ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ ใจกลางเมืองก่วงโจว ในมณฑลก่วงตง อาคารนี้เป็นที่ทำ�การสำ�นักงานและศูนย์จัดแสดงสินค้าและนิทรรศการ ผาโจว ด้วยงบก่อสร้างสูงถึง 5,000 ล้านหยวน หรือราว 25,000 ล้านบาท ผู้เป็นเจ้าของตึกนี้ก็คือ Nan Fung Group บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ ใหญ่ของฮ่องกงที่ร่วมลงทุนกับบริษัทสินทรัพย์แห่งหนึ่งในก่วงโจว ภายในตัว อาคารประกอบด้วยโถงจัดแสดงนวัตกรรมยานยนต์ สินค้าและผลิตภัณฑ์ทันสมัย รวมถึงเป็นที่ทำ�การสำ�นักงาน และภัตตาคารจีนระดับ 5 ดาวอีกด้วย ถ้าคุณมีแพลนจะเดินทางไปก่วงโจว อย่าลืมแวะไปชมเป็นบุญตา แล้ว ชักรูปอัพเฟสด้วยล่ะ จะตามไปกดไลค์...
ตายเพราะเครื่องบินบังคับชน!!
ภาษิตโบราณว่า ‘ไม่ถงึ ทีต่ ายก็ไม่วายชีวาวาด’ แต่หนุม่ น้อยผู้ โชคร้ายนามว่า ‘โรมัน ปิโรเซค จูเนียร์’ วัย 19 ปีคนนี้ คงถึงทีจ่ ริงๆ เพราะโดนเฮลิคอปเตอร์บงั คับของตัวเอง ทีต่ วั เองเป็นคนบังคับพุง่ ชนจนดับคาที.่ .. เหตุการณ์ ตายแปลกนี้เกิดขึ้นในกรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และเขานับเป็นผู้ โชคร้ายรายที่ 2 ของสหรัฐฯ ที่ต้องมาจบชีวิต สดใสลงด้วยเหตุเดียวกัน โดยร่างไร้วิญญาณของเขาถูกพบในสวนสาธารณะย่านบรู๊คลิน ซึ่งเป็นสนามประลอง ฝีมือของนักเล่นเครื่องบินบังคับทั้งหลาย หลังการชันสูตรศพ แพทย์ลงความเห็นว่านายโรมันเสียชีวิตเพราะ เสียเลือดมาก เนือ่ งจากถูกใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ปาดเข้าทีศ่ รี ษะและลำ�คอจนเส้นเลือดใหญ่ขาดกระจุย จากการ สืบสวนของตำ�รวจพบพยานระบุว่า หนุ่มน้อยโรมันพยายาม ‘โชว์ของ’ โดยบังคับเฮลิคอปเตอร์ ให้บินผาดแผลง แต่มันก็พลาด และเมื่อตรวจสอบเฮลิคอปเตอร์ตัวต้นเหตุก็พบว่า ใบพัดของมันเมื่อกางออกจนสุดจะมีความยาว ถึง 1.4 เมตร ยาวกว่า ‘อีดาบ’ บ้านเราตั้งวา! ใครที่หลงใหลในการเล่นเครื่องบินบังคับจงใช้เรื่องนี้เป็นอุทธาหรณ์ ไม่เช่นนั้นแทนที่จะ ‘ดัง’ เพราะฝีมือ อาจจะ ‘ดัง’ เพราะอย่างอื่นแบบนายคนนี้ก็เป็นได้
MKD 22
500 Rai Floating Resort 500 Rai Floating Resort
¬¶ ´ £ ¥¶ ´¥¥³ ¬Ê ´ ¬¶¯ ¬º ´ £ ¯ £¹ ¥´« ¥Î ´ · ¥¶ ´¥¥³ ¬Ê ´ ¯ £¹¯ ¬º¥´« ¥Î ´ ·
Ã Æ¥Ê #  ¹Ê¯ ¥³ ¥²¢´  ·Ê¤©§´
Ã Æ¥Ê #  ¹Ê¯ ¥³ ¥²¢´  ·Ê¤©§´
à ³ ¯ ·ÊÅË ©´£¬µ ³ ³ ©´£¬²¯´ ¬ ¬Ê© ³© §¯ ¢³¤ ¬³ £ 粬¶Ê é §Ë¯£ ³Ë ¯¤»ÊŠ©¶Ë ˵¬º Ë´¤ ¯  ¹Ê¯ ¥³ ¥²¢´ ¸Ê é §Ë¯£ Ë©¤Ã§Ê ʯ  ·Ê¤© ·Ê¬µ ³ Â Ê Ëµ à  ·¤ º £©¶©Æ ¥¬¥ ˵ ˵ ²§º º £¬³ ©Î Ê´ §¯ ì ¥©£ ¸ ¹ Ê´ ·Ê¬£ »¥ Î Ã ³ ¯ ·ÊÅË ¢»©´£¬µ ³ © §¯ ¢³¤ ¬³ £ 粬¶´Ê · é §Ë £ ³ Ë Ëµ¬º Ë´ ³¤ ¯  ¹  ´¶ » · ³Ê¬ » ©´£¬²¯´ ¬ ¬Ê ¬§³ ³ ˯ ¹ ˵¬·© ³  ·¤©£¥ ¬´¤£¯ ¤´£Â Ë Ê Ê´¯ ¬³ £ ³Ë ¬¯¤»Æ ËÊŠ©¶ §¯ ©§´Â Ë Ê¯ ¥³ ¥²¢´ ¸Ê é §Ë¯£ Ë©¤Ã§Ê ʯ  ·Ê¤© ·Ê¬µ ³ Â Ê Ëµ à  ·¤ º £©¶©Æ ¥¬¥ ˵ ˵ ²§º º £¬³ ©Î Ê´ §¯ ì ¥©£ ¸ ¹ Ê´ ·Ê¬£ »¥ Î ¨ÃÃÂì à¾×èÍ¡Òþѡ¼è͹ÍÂè´ · Ò§á·é ¨ÃÔ£§ ³”¬Æ Ë §¯ ©§´Â Ë´ ³ ¢»Â ´¶ » ·Ê¬» ¬§³ “ ³ ÁËÑ Ë¯È ¹ ËàµÁ׬·Í ·§ä·Â ¤©£¥ ¬´¤£¯ ¤´£Â Ë Ê Ê´ ¬³
“ ÁËÑȨÃÃÂìàÁ×ͧä·Â à¾×èÍ¡Òþѡ¼è͹ÍÂèÒ§á·é¨ÃÔ§ ”
AW
AW
¬¯ ´£¥´¤§²Â¯·¤  ¶Ê£Â ¶£ ¬µ ³ ´ Å Ê ¯ Ë´ ´ º ¬º¥´« ¥Î ´ · ¯³ Ä £³ ¶ »Ê¬´¤
¬¯ ´£¥´¤§²Â¯· ¤  ¶Ê£Â ¶£ Ä £³ ¶ »Ê¬´¤
¬´ ´¢»Â É ¯³ MKD 53ʬ´¤
¬µ ³ ´ Å Ê ¯ Ë´ ´ º ¬º¥´« ¥Î ´ · ¯³ Ä £³ ¶ » ZZZ UDL FRP ZZZ VXUDWLQWHUWRXU FRP H PDLO LQIR#VXUDWLQWHUWRXU FRP ¬´ ´¢»Â É ¯³ Ä £³ ¶ »Ê¬´¤
MKD 53 ZZZ UDL FRP ZZZ VXUDWLQWHUWRXU FRP H PDLO LQIR#VXUDWLQWHUWRXU FRP 1.indd 53
19/7/2556 10:19:57
1.indd 53
19/7/2556 10:19:57
W OM A N @ W ORK
Story : Malila
Photo : Pom
“สุจิตรา ยาวิละ” สองมือคือผู้สร้าง
คุณเคยถามตัวเองเล่นๆ ไหมว่าใครหนอคือผู้สร้างโลก... พระเจ้า พระพรหม หรือมันเป็นอยู่ของมันเอง... หลากหลายคำ�ตอบจากหลากหลายความคิด ความเชื่อ ต่างไม่มีคำ�ตอบไหนผิด แต่ถ้าถามเฉพาะเจาะจงลงไปว่าถ้า “โลก” ในที่นี้หมายถึงสังคมมนุษย์เรา คราวนี้คำ�ตอบคง พุ่งตรงมาที่คนเดินดินนี่แหละ และมันก็ป่วยการเถียงว่าคนไหน ใครกันเล่าคือผู้ทำ �หน้าที่ที่ยิ่งใหญ่นี้ เพราะแท้จริงแล้วเราทุกคนคือคำ�ตอบ แต่เราจะสร้างโลกให้สวยงามได้มากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับ พลังใจของแต่ละคนที่มีพื้นฐานมาจากการคิดดี ทำ�ดี หรือที่คนยุคนี้เรียกว่า “คนคุณภาพ” และคนๆ หนึ่งที่เราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ามีบทบาทอย่างยิ่งในการปั้นคนให้มีคุณภาพก็คือ ผู้หญิงที่ ได้ชื่อว่าเป็น “ภรรยา” และ “แม่” ซึ่งเรื่องราวที่สะท้อนออกมาจากการพูดคุยกับเธอคนนี้ “คุณสุจิตรา ยาวิละ” ภริยา พ.ต.อ.เสน่ห์ ยาวิละ รองผู้บังคับการตำ�รวจภูธรจังหวัดภูเก็ต น่าจะช่วย ยืนยันได้ไม่มากก็น้อย...
แม่บ้านนักธุรกิจ
ในนาทีที่สตรีรูปร่างสูงสง่า เดินตรงเข้ามาหาด้วยความกระฉับกระเฉงมาดมั่น พร้อมมอบ รอยยิ้มหวานให้ เราก็บอกตัวเองว่า จากภาพลักษณ์ที่เห็น เธอน่าจะเป็นนักบริหารระดับสูงของธุรกิจ ใหญ่ในเมืองหลวง มากกว่าจะเป็นภริยาของนายตำ�รวจใหญ่ดงั ทีเ่ ป็นอยู่ และกาลเวลาทีเ่ ดินทางมาจนถึง วัยกลางคนก็ไม่ได้ทำ�ลายความงามของเธอลงอย่างที่ควรจะเป็น... “ดิฉันไม่ได้ดูแลตัวเองมากมายเลยค่ะ และเป็นคนนอนน้อยมาก กว่าจะนอนก็ตีสามตีสี่ ตื่น แปดโมงเช้า แต่เป็นคนชอบทำ�งาน ก็เหมือนออกกำ�ลังกายตลอดเวลา เลยไม่อว้ น ส่วนผิวพรรณจะดูแลบ้าง เพราะเข้าครัวต้องเจอไอร้อน ก็ทาครีมป้องกันไว้ อาหารก็ทานง่าย ชอบอาหารไทยๆ ค่ะ ปลาช่อนนานีช่ อบ มาก เจอไม่ได้ตอ้ งซือ้ แล้วก็ทาน ผัก ผลไม้ ดืม่ น้�ำ มากหน่อย เรือ่ งจิตใจก็ตอ้ งดูแลค่ะ ดิฉนั ไม่คอ่ ยเครียด และเมือ่ ไรทีร่ ตู้ วั ว่าเครียดแล้วจะขอไปนัง่ นิง่ ๆ ในห้องคนเดียว เพราะเป็นคนพูดตรง ถ้าปล่อยออกไปตอนนัน้ ก็จะกระทบความรูส้ กึ คนอืน่ เราก็นงั่ ทำ�สมาธิไป เหมือนเสือจำ�ศีลในถ้�ำ (หัวเราะ) พอสงบแล้วค่อยออกมา....” เธอเล่าด้วยความเป็นกันเอง ก่อนจะต้อนรับคณะของเราด้วยเย็นตาโฟ และผัดไทยกุ้งสด รสเข้มข้น ซึ่งเป็นจานเด็ดของร้านอาหารที่เธอเป็นเจ้าของ จากนั้นเราจึงพูดคุยกันถึงความเป็นมาใน ชีวิต ซึ่งนั่นช่วยไขข้อข้องใจได้ว่า เพราะบทบาทความเป็นนักธุรกิจนี่เอง เธอจึงมีภาพลักษณ์ต่างไปจาก แม่บ้านข้าราชการชั้นผู้ ใหญ่โดยทั่วไป... “ทีจ่ ริงดิฉนั ไม่เคยคิดจะทำ�ธุรกิจร้านอาหารเลย เด็กๆ ฝันอยากเป็นครูดว้ ยซ้�ำ เพราะได้แรงบันดาล ใจมาจากหนังเรือ่ ง ‘ครูบา้ นนอก’ (หัวเราะ) พอจบ ม.ศ.5 ที่โรงเรียนทหารอากาศบำ�รุง ดอนเมือง ก็เลือก เรียนคณะศึกษาศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ โทจิตวิทยา ทีม่ หาวิทยาลัยรามคำ�แหง จบแล้วก็มาเป็นครูตาม ที่ฝันที่โรงเรียนพาณิชย์แห่งหนึ่ง แต่สอนอยู่ได้แค่ 10 เดือนเท่านั้น ก็พบความจริงว่าไม่ใช่ตัวเรา ที่จริง MKD 24
hands of creation suchitra yawila
MKD 25
วางแผนเอาไว้วา่ จะไปสอบเป็นข้าราชการครูนะคะ แต่พอรูต้ วั เอง ว่าเป็นคนหัวแข็ง เลยคิดว่ารับราชการไม่รุ่งแน่ๆ (ยิ้ม) แล้วพอดี มาแต่งงานและตั้งท้องลูกคนแรก ดิฉันเลยลาออกมาเป็นแม่บ้าน นานเกือบ 2 ปีค่ะ จากนั้นก็มาทำ�งานที่โรงแรมเอเชียที่กรุงเทพฯ ในตำ�แหน่งรูมเซอร์วิส ที่จริงโรงแรมจะจับให้อยู่แผนกต้อนรับนะ คะ เพราะเราได้ภาษา แต่ดิฉันขอเป็นรูมเซอร์วิส เพราะเป็นคนมี โลกส่วนตัวสูง (หัวเราะ) ดิฉันทำ�งานที่โรงแรมเอเชียอยู่นาน 4 ปี สามีก็เลื่อนขึ้น เป็นสารวัตรและต้องตามนายไปประจำ�ทีล่ �ำ ปาง ก็เลยต้องลาออก มาดูแลบ้านอีกรอบ แต่เราเป็นคนแอคทีฟ อยู่ว่างๆ ได้พักเดียวก็ เบื่อ จังหวะว่าน้องสาวย้ายตามสามีมาทำ�ธุรกิจที่เกาะสมุย ดิฉัน เลยขอตามมาช่วย เขาก็ให้ดูแลร้านอาหาร เพราะเป็นงานถนัด ทำ�อยู่หลายปีค่ะ จนปี 2536 ถึงได้ตัดสินใจเปิดร้านของตัวเอง เพราะรู้แล้วว่าเป็นงานที่ทำ�ได้ดีที่สุด ทั้งที่ ไม่ชอบทำ�อาหารเลย นะคะ และไม่เคยไปฝึกหรือเข้าคอร์สอะไรเลย ถนัดเป็นนักชิม มากกว่า (ยิ้ม) แต่ประสบการณ์จากรูมเซอร์วิส ทำ�ให้รู้ว่าคนไทย คนต่างชาติ ชอบ ไม่ชอบอะไร เราก็ทำ�ออกมาให้ดีที่สุด เมื่อก่อน ดิฉันมีร้านอาหารหลายที่ค่ะ แต่พออายุเยอะขึ้นก็อยากให้เวลา กับตัวเองมากขึ้น เลยยุบไป เหลือร้าน Will Wait Restaurant ที่ หาดเฉวงไว้รา้ นเดียว เอาไว้แก้เบือ่ กลัวสมองไม่แล่น (หัวเราะ) ทีน่ ี่ ขายอาหารไทยเป็นหลักค่ะ มีทงั้ อาหารจานเดียว และตามออเดอร์ จุดเด่นคือรสชาติเข้มข้นแบบที่ฝรั่งก็รับได้และคนไทยก็ชอบ ที่ทำ�ธุรกิจร้านอาหารประสบความสำ�เร็จได้ ดิฉันคิดว่า นอกจากเรื่องรสชาติ การบริการ และทำ�เลแล้ว ยังต้องมีการวาง ระบบบริหารจัดการที่ดีด้วย ถ้าระบบดีแล้วก็ไม่ต้องลงไปทำ�ทุก อย่างเอง ปล่อยให้ลกู น้องทำ�ตามหน้าที่ไป เราแค่ตรวจสอบ อย่าง เรื่องวัตถุดิบ ดิฉันมีดีลกับผู้ขายซึ่งเขาจะมาส่งให้ถึงร้าน การปรุง ก็ทำ�ให้เป็นสูตร ถึงจะเปลี่ยนแม่ครัวไป รสชาติก็ไม่เพี้ยน เรื่อง รั่วไหลก็ยากค่ะ และเราใส่ใจเรื่องความสะอาดมาก เพราะดิฉัน ถูกปลูกฝังจากคุณแม่มาตั้งแต่เด็กๆ ว่าให้เป็นคนรักสะอาด แม้ ร้านจะดูเรียบง่าย แต่ทั้งอาหาร จาน ชาม ทุกอย่างในร้านต้องดูดี สะอาด เป็นระเบียบค่ะ”
นิยามของคำ�ว่า “ภรรยา” และ “แม่”
การพูดคุยของเราเริม่ ออกรสมากยิง่ ขึน้ เมือ่ เข้าถึงประเด็น บทบาทของแม่บ้านและการดูแลครอบครัว เพราะไม่เพียงเธอ จะเปิดเผยเรื่องราวความรักที่เธอออกตัวว่าไม่โรแมนติกเอาเสีย เลย แต่เรากลับมองว่าเธอและสามีคือ “คู่แท้” ที่หาได้ยากยิ่ง ในโลกใบนี้ อีกทั้งยังมีข้อคิดดีๆ ในเรื่องการดูแลกันและกัน จน ทุกคนในครอบครัวกลายเป็นคนคุณภาพของสังคม ที่น่าเอาเป็น แบบอย่างยิ่ง.... “ดิฉันรู้จักท่านรองมาตั้งแต่ยังเด็กค่ะ (ยิ้ม) เราเป็นรุ่นพี่รุ่น น้องเรียนโรงเรียนเดียวกัน มาเจอท่านที่สัตหีบ ตอนนั้นคุณพ่อ ทำ�งานอยู่ที่สนามบินอู่ตะเภา จ.ชลบุรี ดิฉันต้องย้ายตามมาด้วย
ก็มาเรียนที่โรงเรียนประจำ�ในจังหวัด แต่ความทีย่ งั เด็กมากๆ ดิฉนั เลยไม่ทราบว่าท่านรองมาปิ๊ง (หัวเราะ) แต่พอแยกย้ายไปเรียน ต่อ ท่านก็ยังตามมาเทคแคร์ ดิฉันก็เริ่มประทับใจว่าท่านเป็นคน เสมอต้นเสมอปลาย มีนิสัยเรียบๆ เงียบๆ น่าจะไม่ค่อยวุ่นวาย กับเรานัก เพราะดิฉันเป็นคนที่เป็นตัวของตัวเองมาก (หัวเราะ) และไม่โรแมนติกเลย คือเป็นคนที่คบใครแล้วจะให้ ใจเต็มร้อย ก็เลยตกลงคบกัน ก็นาน 40 กว่าปีแล้วนะคะที่อยู่ด้วยกันมา แต่งงานไปได้สักพัก ดิฉันถึงได้รู้ว่าจริงๆ แล้วท่านรองเป็น คนละเอียดอ่อนมาก ทีเ่ คยคิดว่าท่านค่อนข้างแข็งกลายเป็นเรามอง ผิด (หัวเราะ) ท่านอ่อนไหวค่ะ ใส่ใจทุกเรือ่ งและรักครอบครัวมาก ไม่ใช่แค่ดิฉันกับลูกนะคะ ท่านรักคุณพ่อของท่านมากด้วย เพราะ เป็นลูกชายโทน ทันทีทมี่ เี วลาก็จะไปเยีย่ ม ท่านรองเป็นแบบอย่าง ที่ดีมากในเรื่องความกตัญญูค่ะ ส่วนเรื่องงานท่านมีอุดมการณ์ ใน การทำ�งานสูง ตรงไปตรงมา อันไหนทำ�ไม่ได้ ต่อให้ ใครจะมาพูดกับ ท่านอย่างไร ก็ไม่ได้ และท่านไม่เอาเปรียบใคร ซึง่ บางครัง้ ก็ท�ำ ให้ ท่านถูกเอาเปรียบได้ง่าย ดิฉันต้องคอยให้กำ�ลังใจท่าน ตั้งแต่แต่งงานมาดิฉันก็บอกตัวเองว่า คนเป็นตำ�รวจต้อง เสียสละ จะไม่มเี วลาให้ครอบครัว เสาร์-อาทิตย์ไม่คอ่ ยได้กลับบ้าน การเป็นภรรยาตำ�รวจจึงไม่ใช่เรือ่ งง่ายค่ะ เพราะนอกจากเป็นภรรยา ทีด่ แู ลตัวเองได้แล้ว ยังต้องเป็นทัง้ พ่อและแม่ของลูกในเวลาเดียวกัน แล้วต้องเป็นกำ�ลังใจให้สามีในด้านอื่นด้วยนะคะ (ยิ้ม) บังเอิญว่า ดิฉนั ทำ�ธุรกิจร้านอาหาร เรือ่ งการดูแลรับรองเจ้านายและเพือ่ นฝูง ของสามีจงึ ไม่ใช่เรือ่ งลำ�บากอะไร และธรรมชาติของดิฉนั ก็ชอบช่วยคน ชอบบริการอยู่แล้ว ท่านรองมีภาระในหน้าที่ที่หนักมาก อะไรที่คน เป็นภรรยาอย่างเราช่วยแบ่งเบาได้ ก็ต้องทำ�เต็มที่ค่ะ เพราะปัจจุบันนี้ท่านดำ�รงตำ�แหน่งรักษาการผู้บังคับการ ตำ�รวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ดิฉนั จึงมีตำ�แหน่งรักษาการประธานชมรม แม่บ้านตำ�รวจภูธรจังหวัดภูเก็ตด้วย ซึ่งขอสารภาพว่าต้องปรับตัว มาก (หัวเราะ) เพราะไม่ชอบออกสังคมเท่าไร และมีธรุ กิจทีต่ อ้ งดูแล แล้วบุคลิกของดิฉนั ก็ลยุ ๆ ง่ายๆ อย่างทีเ่ ห็น แต่เวลาออกงานพิธกี าร ของทางราชการ เราก็ตอ้ งเป็นอีกแบบเมือ่ ต้องทำ�ก็พยายามทำ�ให้ดี ที่สุด จะมาคิดว่านั่นไม่ใช่ตัวเราไม่ทำ�แบบนั้นไม่ได้ค่ะ นิยามคำ�ว่า ‘ภรรยา’ สำ�หรับดิฉันไม่ใช่ช้างเท้าหลัง แต่เรา ต้องเดินไปด้วยกัน เกื้อกูลกัน ถ้าสามีต้องการความสนับสนุน ด้านการงาน ภรรยาก็ต้องพร้อมที่จะเสียสละตัวเองเพื่อสามี ใน ขณะที่สามีก็สามารถช่วยเหลือดูแลลูกๆ ได้้ เรื่องลูกๆ ท่านรอง ทำ�หน้าที่พ่อได้สมบูรณ์แบบค่ะ และเป็นฝ่ายดูแลเป็นหลัก ดิฉัน เน้นปลูกฝังเรื่องจิตใจให้คิดดี ใฝ่ดี และเรื่องความรับผิดชอบ ต่อตัวเอง เสือ้ ผ้า ห้องหับ ต้องทำ�ความสะอาดเองได้ ทำ�อาหารเป็น ให้สมกับเป็นลูกผู้หญิง ส่วนเรื่องเรียนดิฉันยึดตัวลูกเป็นหลัก เราแค่ส่งเสริมให้เขาเดินไปตามนั้นอย่างดีที่สุดเท่าที่เขาและเรา จะทำ�ได้ ยิง่ ช่วงทีล่ กู โตเข้ามหาวิทยาลัย ท่านรองยิง่ ใส่ใจดูแลลูกมากขึน้ (ยิม้ )เพราะตอนนัน้ ต้องดูแลธุรกิจหนักมาก ซึง่ ท่านรองก็มาเติมความ มีเหตุมีผล ความซื่อสัตย์ ความมีวินัย ความเคารพต่อผู้อื่นและ
MKD 26
ต่อสังคม ท่านจะบังคับให้ลกู ทุกคนช่วยงานแม่ ลูกจะได้ท�ำ ทุกอย่าง ทัง้ รับออเดอร์ เสิรฟ์ อาหาร เก็บจานชาม เช็ดโต๊ะ ซึง่ ฝึกให้ลกู เป็น คนติดดิน ไม่ใช่ฟุ้งเฟ้อ ทำ�ตัวโอเว่อร์ว่าฉันเป็นลูกนายตำ�รวจใหญ่ ทุกวันนี้ลูกๆ ไม่มีใครอวดตำ�แหน่งพ่อ ตัวท่านรองเองจะ ไปไหนมาไหน ท่านก็ไม่เคยบอกว่าท่านเป็นใคร เคยขับรถแล้วมี อุบตั เิ หตุ ท่านก็ลงไปเจรจา ถูกขูเ่ อาว่าจะต้องจ่ายเท่านัน้ เท่านี้ ท่าน ก็เฉย...(ยิม้ ) จนดิฉนั ต้องลงไปบอกคูก่ รณีวา่ มากไปแล้ว... (หัวเราะ) ท่านรองกับดิฉันจะไม่ตามใจหรือลงโทษลูกโดยไม่มีเหตุผล เราจะ คุยกันก่อน แต่อะไรที่ท่านคิดว่าจำ�เป็น เช่น รถยนต์ ท่านจะซื้อให้ เป็นการซือ้ ความสะดวกปลอดภัย จะได้เอาเวลาไปทำ�งานให้เต็มที่ และโดยส่วนตัวท่านก็ชอบรถอยูแ่ ล้ว เงินส่วนใหญ่กห็ มดไปกับรถ นี่แหละค่ะ (ยิ้ม) ในฐานะทีเ่ ป็นทัง้ แม่และภรรยา ดิฉนั คิดว่าพวกเรามีบทบาท ต่อสังคมมากนะคะ จะพูดว่าพวกเราคือเบือ้ งหลังความสำ�เร็จของ สามีและลูกๆ ก็ได้ค่ะ สำ�หรับสามี ถ้าคนเป็นภรรยาไม่ทำ�ตัวให้คน ยอมรับนับถือ ไม่เข้าใจ ไม่ส่งเสริมสนับสนุน หรือให้กำ�ลังใจสามี ในบางครั้ง สามีจะสร้างความสำ�เร็จที่ยิ่งใหญ่ในอาชีพไม่ได้ หรือ ถ้าได้ ก็อาจจะไม่รุ่งเท่าที่ควร ซึ่งที่ผ่านมาดิฉันก็ดีใจนะคะที่เป็น ส่วนหนึ่งให้สามีประสบความสำ�เร็จอย่างทุกวันนี้ ได้ สำ�หรับลูกๆ ถ้าคนเป็นแม่เป็นแบบอย่างที่ดีไม่ได้ ไม่เอาใจใส่ อบรมสั่งสอน หรือไม่สร้างโอกาสให้เขาได้เรียนรู้ ทั้งในเรื่องการเรียนและสังคม อย่างถูกต้องตามที่เขาต้องการภายใต้กติกาสังคม เขาก็จะยืนบน ขาตัวเองได้ยาก ดีไม่ดีกลายเป็นปัญหาของพ่อแม่ครอบครัว แล้ว ส่งผลไปถึงสังคมด้วย สำ�หรับดิฉัน คำ�ว่า ‘แม่’ และ ‘ภรรยา’ เป็นหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ มาก ดิฉันเองที่เป็นตัวเป็นตนมาได้ก็เพราะเห็นตัวอย่างจากแม่ คุณแม่ของดิฉันท่านอดทนและเสียสละมาก เพราะคุณพ่อเจ้าชู้ มากๆ แต่แม่ก็ให้อภัย เพราะต้องการอยู่ดูแลดิฉันและพี่น้อง จน เรามีโอกาสเรียนจบและดูแลตัวเองได้ ทุกวันนี้ที่พวกเราพี่น้อง ไม่แตกกระสานซ่านเซ็นกันไป และประสบความสำ�เร็จกันทุกคน เพราะมีแม่เป็นหลักยึด วันนีเ้ ราก็ยงั กลับไปดูแลคุณพ่อ เราไม่เคย รูส้ กึ ไม่ดกี บั อดีต ดิฉนั โชคดีกว่าแม่ทที่ ่านรองไม่มเี รือ่ งนีเ้ ลย และ ดิฉนั เองก็ไม่ไปวุน่ วายด้วย เรือ่ งนีถ้ อื เป็นการให้เกียรติกนั ของสามี ภรรยาซึ่งสำ�คัญมากนะคะ เราจึงช่วยเหลือดูแลกันได้เต็มที่ ไม่มี อะไรมาบั่นทอน สำ�หรับลูกๆ ดิฉันก็ภูมิใจที่วันนี้ลูกได้เดินไปตามทางที่เขา อยากจะเป็น และเป็นคนดีของสังคม ลูกสาวคนโต ‘ปนัดดา’ พอ เรียนจบจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ดิฉันก็ส่งไปเรียน ต่อโทที่นิวซีแลนด์ ตอนนี้แต่งงานแล้วค่ะ มีหลานสาวให้ดิฉันคน หนึง่ แล้ว (ยิม้ ) ปัจจุบนั ทำ�งานทีบ่ ริษทั บางกอกแอร์เวย์ ในตำ�แหน่ง กราวน์ออฟฟิศอยู่ที่สนามบินเกาะสมุย ส่วนคนที่สอง ‘ มัณฑนา’ จบคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ แล้วไปเรียนต่อโทที่อังกฤษ คนนี้ขยัน เรียนมากจนได้เกียรตินยิ ม (ยิม้ ) ตอนนีร้ บั ราชการเป็นรองสารวัตร ฝ่ายสนธิสญ ั ญาและกฎหมาย กองการต่างประเทศ กรมตำ�รวจ ทำ�
หน้าที่เป็นล่ามและดูแลงานด้านการต่างประเทศ ส่วนคนสุดท้อง ‘อนัตตา’ จบด้านการท่องเที่ยวจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตอนนี้ก็มาช่วยบริหารงานที่ร้านค่ะ...” ถึงแม้ว่าลูกและสามีจะเดินทางมาถึงวันแห่งความสำ�เร็จ แต่เมื่อเราถามว่าหน้าที่ความเป็นแม่และภรรยาของเธอจบลง แล้วหรือยัง เธอยิ้มแล้วตอบด้วยน้ำ�เสียงสูงตามบุคลิกที่เชื่อมั่น ในตัวเองว่า... “โอ๊ย...ยังหรอกค่ะ ยังคงต้องเป็นกำ�ลังใจ เป็นที่พึ่งทาง ใจของสามีและลูกๆ ต่อไป ซึ่งก็รวมถึงลูกเขย และคงเลยไปถึง หลานๆ ของยายด้วย (ยิ้ม) ” ไม่ว่าวันนี้คุณจะเป็นใคร ไม่ว่าคุณจะได้ลิ้มรสความสุขจาก คำ�ว่า “สำ�เร็จ” แล้ว หรือกำ�ลังท้อแท้จากความล้มเหลว สองมือ ของสตรีผู้ได้ชื่อว่าเป็น “แม่” และ “เมีย” ก็พร้อมโอบประคอง คุณไว้ดว้ ยความรักและปรารถนาดีอย่างบริสทุ ธิใ์ จ คงไม่ผดิ กระมัง ถ้าจะพูดว่าเธอเหล่านี้ คืออีกหนึ่งพลังสำ�คัญที่อยู่เบื้องหลังการ สร้างโลกของเราให้งดงาม ...
ขอขอบคุณ www.pawanthornsamui.com สถานที่ถ่ายทำ� Pawanthorn Samui โทร. 077 248 500
อาหาร Will Wait Restaurant หาดเฉวง
MKD 27
wind beneath the wings mayuree saengao
MKD 28
W OM A N @ W ORK
Story : Ravi
Photo : Pom
“มยุรีย์ แซ่เหง่า” ลมที่อยู่ ใต้ปีก
ว่ากันว่าเบื้องหลังความสำ�เร็จที่ยิ่งใหญ่ของคนๆ หนึ่ง ต้องมีคนอีกคนอยู่เบื้องหลังเสมอ
แม้แต่อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐฯ “บิล คลินตัน” ก็ยงั เคยออกมายอมรับกับสาธารณชน อย่างหน้าชื่นว่า เขาจะไม่มีวันก้าวเข้ามาในทำ�เนียบขาวได้ ถ้าขาดการสนับสนุนจาก “ฮิลลารี” ศรีภรรยา ในขณะทีซ่ เู ปอร์สตาร์ระดับโลกก็มกั จะขอบคุณภรรยาต่อหน้าชาวโลกบนเวทีประกาศ รางวัล ในฐานะที่เป็นกำ�ลังใจสำ�คัญให้คว้ารางวัลสูงสุดในชีวิตการเป็นศิลปินมาครอง ... เช่นเดียวกับเขาและเธอคู่นี้ คนหนึ่งนั้นคือ คุณประโคม แซ่เหง่า ส่วนอีกคนคือคุณ พรพรรณ แซ่เหง่า เจ้าของธุรกิจรีสอร์ท “หาดยาว เบย์วิว รีสอร์ท แอนด์ สปา” แห่งเกาะพะงัน ที่บอกกับใครต่อใครด้วยความยินดีเสมอว่า เบื้องหลังความสำ�เร็จในชีวิตของเขาและเธอ ก็คือ ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มีนามว่า “มยุรีย์ แซ่เหง่า” ผู้ซึ่งเป็น “ภรรยา” และ “แม่”
ชีวิตพลิก เพราะสู้สุดลมหายใจ
“ดิฉันเป็นสาวบ้านนอกของแท้...” คุณมยุรีย์ออกตัวอายๆ แต่น้ำ�เสียงนั้นแจ่มใส ก่อนที่ เล่าถึงชีวิตในอดีตตามที่เราร้องขอ ด้วยความใคร่รู้ว่าเหตุใดทั้งสามีและลูกสาวจึงยกให้เธอเป็น ผู้อยู่เบื้องหลังความสำ�เร็จ “ดิฉันเกิดที่สมุยค่ะ แต่ย้ายมาอยู่เกาะพะงันตั้งแต่เล็กๆ เลยผูกพันกับที่นี่มาก และ คิดว่าตัวเองเป็นคนเกาะพะงัน พอเรียนจบชั้นมัธยมต้นก็ออกมาช่วยพ่อแม่ทำ�งาน อายุแค่ 19 ปี ก็แต่งงานมีครอบครัวแล้ว เรียกว่ามีชีวิตแบบชาวชนบททั่วไป วันๆ ก็ช่วยสามีทำ�ประมง ทำ�สวนมะพร้าว ดูแลลูก ดูแลบ้าน เป็นวัฏจักรเหมือนที่พ่อแม่ญาติพี่น้องทำ�มา ถึงจะเคยฝันว่า อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ก็ไม่รู้จะทำ�อย่างไรได้ ..(ยิ้ม)” เมือ่ สัก 25-30 ปีทแี่ ล้ว ถ้าพูดถึงเกาะพะงัน รับรองว่าคนนอกพืน้ ที่ไม่มใี ครรูจ้ กั ค่ะ เพราะ อยู่ไกล การเดินทางไปมาลำ�บากที่สุด ต้องใช้เรือ ซึ่งก็มีแค่เรือประมงกับเรือหางยาว กว่าจะถึง หลายชั่วโมงค่ะ การเดินทางบนเกาะก็ลำ�บากพอกัน ไม่ต้องถามถึงรถนะคะ เพราะถนนยังไม่มี เลย (หัวเราะ) ไฟฟ้าก็ไม่มีค่ะ เป็นเกาะธรรมชาติจริงๆ แต่สวยมาก โดยเฉพาะชายหาด เพราะ อยู่ไกลจากแผ่นดินใหญ่ หาดมีแต่ทรายขาวเม็ดละเอียด น้ำ�ทะเลก็สะอาด ใสเหมือนกระจก ต่างจากสมุยค่ะ ที่นั่นน้ำ�จะค่อนข้างขุ่นเพราะอยู่ใกล้ปากแม่น้ำ�ตาปี แต่หลังจากสมุยโด่งดัง นักท่องเที่ยวต่างชาติก็เริ่มข้ามฝั่งมาที่นี่ ติดเรือประมงมา แล้ว มาขอพักกับชาวบ้าน อยู่กันแบบโฮมสเตย์จริงๆ ชาวบ้านอยู่อย่างไร กินอะไร นักท่องเที่ยวก็อยู่ อย่างนัน้ ค่ะ เวลาอยากไปว่ายน้�ำ หรือไปเทีย่ วหาดไหน ก็ขอติดเรือประมงไป แล้วให้คา่ ตอบแทน พอนักท่องเทีย่ วมากันมากขึน้ ดิฉนั ก็มาคิดว่าตรงหาดยาวทีเ่ ราอยูท่ �ำ เลดี เลยปรึกษาสามี ว่าน่าจะสร้างเรือนพักไว้รบั รองนักท่องเทีย่ ว เขาจะได้อยูส่ ะดวกขึน้ สามีกเ็ ห็นด้วย เราเริม่ สร้าง ในปี 2535 และเป็นการสร้างด้วยสองมือจริงๆ นะคะ (ยิ้ม) ไม้ที่ใช้ทำ�เสา สามีก็ลุยขึ้นเขาไป
MKD 29
ตัดมา จะขุด จะเลื่อย ตอกตะปู ทำ�กันเองทั้งนั้นค่ะ ญาติพี่น้อง มาช่วยกันหมด เหนื่อยมากที่สุด จะขนปูนมาสักกระสอบ เอาอิฐ มาสักพันก้อน ต้องใส่เรือนอนจากบ้านดอน มาขึ้นที่ท่าศาลาแล้ว ขนมาที่นี่อีกที พอหน้ามรสุมทางถูกตัดขาดอีก ต้องเดินแบกของ จากหาดศรีธนูมา ไกลแค่ไหนก็ต้องเดินค่ะ (ยิ้ม) แต่ดิฉันบอกสามีว่าถึงจะเหนื่อยแค่ไหนก็ขอสู้เท่าที่ลม หายใจมี ไม่อย่างนั้นเราจะเปลี่ยนชีวิตไม่ได้ ที่อยากเปลี่ยนเพราะ คิดถึงลูก ถ้าไม่ทำ� ชีวิตของลูกก็คงจบที่ชาวสวน ชาวประมง ก็ เลยเกิดความพากเพียร แต่ทำ�ไปน้ำ�ตาไหลไปนะคะ ส่วนสามีพอ เขาเหนื่อยมากก็เริ่มท้อ ดิฉันก็ต้องคอยให้กำ�ลังใจว่าโอกาสมา แล้วต้องคว้าไว้ พยายามพูดให้สามีเชื่อว่ามีแสงสว่างรอข้างหน้า สร้างเสร็จเราก็ตั้งชื่อเรือนพักว่า ‘หาดยาว เบย์วิว รีสอร์ท’ ฝรั่งที่มาพักมาช่วยคิดด้วยค่ะ เป็นเรือนแถวไม้ง่ายๆ ห้องน้ำ�รวม มีห้องเดี่ยวห้องน้ำ�ในตัวอยู่แค่ 2-3 ห้องเท่านั้นค่ะ ไฟฟ้าไม่มีเรา ก็ไปหาเครื่องปั่นมา สี่ทุ่มก็ต้องปิดแล้ว จากนั้นก็อาศัยแสงจาก ตะเกียงรั้วเอา แม้แต่พัดลมยังไม่มีเลยนะคะ แขกจะนอนก็ต้อง กางมุ้ง (หัวเราะ) จากนั้นเราก็พัฒนามาเรื่อยๆ อาศัยนักท่องเที่ยวเป็น ‘ครู’ คอยเรียนรู้จากเขาว่าความต้องการเขาเป็นอย่างไร เราก็หา มาเสริม พยายามบริการให้ดที สี่ ดุ ตอบโจทย์ไปทีละขัน้ ... 20 กว่าปี ทีผ่ า่ นมาเราปรับปรุงพืน้ ทีแ่ ละการบริการมาตลอดค่ะ กว่าจะกลาย เป็นห้องพักทันสมัย มีห้องจัดเลี้ยง มินิมาร์ท ร้านอาหาร รถเช่า สปา นวดแผนไทย และอืน่ ๆ อย่างทีเ่ ห็นนี่ไม่งา่ ยเลยค่ะ ถึงตอนนี้ ก็ยังหยุดพัฒนาไม่ได้ เพราะโลกเปลี่ยนตลอด เราต้องตามเพื่อ รักษามาตรฐานที่ดีเอาไว้ เพราะกว่านักท่องเที่ยวจะเดินทางข้าม ประเทศมาถึงเราได้ เขาต้องทำ�งานหนัก เก็บเงินเก็บทองมา เป็นปีๆ เราจึงต้องบริการให้เขามีความสุข คุม้ ค่าเงินและเวลาของ เขามากที่สุดค่ะ...”
เรียนรู้การบริหารด้วยหัวใจ
แต่ธุรกิจบริการนั้นไม่ใช่เรื่องที่ใครๆ ก็สามารถทำ�สำ�เร็จได้ แม้แต่คนทีม่ เี งินถุงเงินถัง มีความรูเ้ ฉพาะทางติดปลายนวม ก็ยงั ต้อง พบกับอุปสรรคต่างๆ นานา ทีเ่ ข้ามาทดสอบไม่เว้นแต่ละวัน นัน่ จึง ทำ�ให้เราฉงนว่า อะไรคือปัจจัยที่ทำ�ให้รีสอร์ทแห่งนี้เป็นแหล่ง พักกายที่นักท่องเที่ยวนิยมต่อเนื่องยาวนาน ทั้งๆ ที่เธอและสามี ไม่ได้มีความรู้ด้านการบริหารเลย “ที่เราทำ�สำ�เร็จเพราะช่วยกันค่ะ สามีภรรยาก็เหมือนคนๆ เดียวกัน เขาลำ�บาก เราก็ตอ้ งลำ�บาก ต้องช่วยกันหาบช่วยกันคอน แบ่งหน้าที่ไปตามความถนัด ฟังเหตุผลกันและกัน ทีส่ �ำ คัญคือเรา ใช้ ‘ใจ’ ทำ�งานค่ะ ดิฉันเชื่อว่างานบริการต้องใช้ ‘ใจ’ สัมผัสว่า นักท่องเที่ยวต้องการอะไร แล้วทำ�สิ่งนั้นให้ดีที่สุด จะมายึดความ คิดตัวเองไม่ได้คะ่ และต้องสูก้ บั ปัญหา ไม่มงี านไหนไม่มปี ญ ั หาค่ะ (ยิ้ม) แขกจะว่าอะไร ขออะไร เราต้อง ‘ยิ้ม’ และ ‘yes’ และแก้ไข ปัญหาให้เขาเร็วที่สุด ดิฉันจะสอนลูกน้องว่า ไม่ว่าจะเป็นปัญหา ส่วนตัวของเขา หรือปัญหาของแขก อย่าทิ้งไว้เฉยๆ เพราะมันจะ
ดึงให้ทุกอย่างแย่ลง อีกอย่างคือเราต้องพร้อมที่จะพัฒนาตลอด เวลา อย่าหยุดนิ่ง งานหนักที่สุดของดิฉันคือการบริหารคน (ยิ้ม) ตอนนี้เรามี พนักงานทีต่ อ้ งดูแลอยูเ่ กือบ 90 ชีวติ ค่ะ ส่วนใหญ่เป็นต่างด้าว ซึง่ เขา จะมีวิถีชีวิตและทัศนคติไม่เหมือนคนไทย ก็ต้องคอยจัดระเบียบ ทัง้ ในเวลางานและนอกเวลางาน ไม่ให้มปี ญ ั หาไปกระทบส่วนรวม ดิฉนั ยึดหลักว่าทำ�ด้วยใจทีป่ รารถนาดี เมือ่ เขารับความรูส้ กึ นี้ ได้ เขาจะ เข้าใจและยอมรับเรา สิ่งที่ตามมาคือการทำ�งานด้วยความจริงใจ ซึ่งทำ�ให้แขกมีความสุขค่ะ ถ้าถามว่าวันนีค้ ดิ ว่าตัวเองประสบความสำ�เร็จแล้วหรือยัง... ก็ตอ้ งบอกว่าถ้ามองในแง่ชวี ติ เราสำ�เร็จเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะ การเป็นเจ้าของธุรกิจเป็นเรือ่ งเกินคาดหวังของคนทีม่ ตี น้ ทุนความ รูแ้ ค่มธั ยมอย่างเรา เรามาจากศูนย์ แต่ถา้ มองในเรือ่ งการทำ�งาน เราเดินมาเพียงครึ่งทางเท่านั้น ยังต้องพัฒนาอีกเยอะค่ะ”
คือแรงลมพยุงปีก
นอกจากความสำ�เร็จในเรือ่ งธุรกิจทีม่ เี ธอเป็นแรงผลักดันที่ สำ�คัญแล้ว เรื่องของคนในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกสาว หัวแก้วหัวแหวน ก็เป็นเรือ่ งทีเ่ ธอบอกว่าขอทุม่ สุดกำ�ลังเพือ่ ให้ลกู พบกับคำ�ว่า “สำ�เร็จ” พร้อมทั้งเล่าแนวคิดที่ฟังแล้วอดยิ้มตาม ไม่ได้ ด้วยดีใจแทนสาวน้อยที่มีคุณแม่คอยทำ�หน้าที่ “โค้ช” คอย วางแผนเกมชีวิตให้อย่างชาญฉลาด “ลูกสาวจบบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มา ช่วยงานด้านการตลาดและดูแลการเงินที่หาดยาวได้ 2 ปีแล้วค่ะ (ยิ้ม) เพราะมีลูกคนเดียว ดิฉันก็คุยกับสามีว่าเราต้องเลี้ยงเขาให้ ‘ดีทสี่ ดุ ’ แต่ไม่ใช่ ‘สบายทีส่ ดุ ’ ตอนทีเ่ ปิดรีสอร์ทใหม่ๆ ลูกสาวอายุ แค่ 3 ขวบ ดิฉันต้องฝากลูกไว้กับแม่ เพราะที่หาดยาวยังกันดาร มาก แม่ของดิฉันอยู่ที่หินกองซึ่งเป็นแหล่งชุมชน จะเดินทาง ไปเรียน หรือไปหาหมอก็สะดวกกว่า แต่ทุกเสาร์-อาทิตย์จะต้อง ไปรับลูกมาอยู่ด้วย ช่วงนั้นดิฉันเปิดร้านขายของชำ�อยู่ที่ศรีธนู และหาดสลัดด้วย ก็สอนให้ลูกช่วยขายของ ขายน้ำ�มัน สมัยนั้น ยังเป็นลูกแก้วหมุนๆ (ยิม้ ) พอมาอยูร่ สี อร์ทก็ให้ลกู ช่วยเสิรฟ์ อาหาร ล้างจาน พยายามให้ทำ�ทุกอย่างเท่าที่เด็กอย่างเขาจะทำ�ได้ เพื่อ ให้เขาเรียนรูเ้ รือ่ งความรับผิดชอบ และรูว้ า่ ถึงจะมาจากครอบครัว ที่ลำ�บาก แต่เราก็ลืมตาอ้าปากได้ ถ้ารู้จักทำ�งาน พอลูกเริ่มโต เราเองก็พอมีเงินมีทองแล้ว แต่ดิฉันก็ไม่คิด จะส่งลูกไปอยูโ่ รงเรียนประจำ� เพราะจะขาดความใกล้ชดิ ทำ�ให้ไม่ เข้าใจเหตุผลของพ่อแม่ในบางเรือ่ ง ซึง่ อธิบายให้เข้าใจได้ยาก มัน ต้องซึมซับจากการมองเห็น เช่น ความรักงาน ความรักบ้านเกิด ถึงเราจะพยายามบอกเขาว่า วันใดทีพ่ อ่ แม่ไม่ได้อยูก่ บั หนูแล้ว หนู ต้องตรึงทีต่ รงนี้ ไว้ ให้ได้ อย่าให้ตกไปถึงนายทุนคนไหน ต้องอนุรกั ษ์ หาดยาวให้สวยเหมือนทีเ่ คยเป็น แต่การพูดอย่างเดียวไม่ได้ท�ำ ให้ ซึมลงไปในใจ ลูกต้องเห็นสิง่ ทีเ่ ราทำ�ด้วยค่ะ พ่อกับแม่กเ็ หมือนกับ ‘ลมที่อยู่ใต้ปีก’ คอยประคองให้ลูกบิน ไม่ใช่จับลูกหันซ้ายหันขวา ดิฉันกับสามีเราแค่ทำ�ให้ลูกดูเป็นแบบอย่าง คอยปูพื้นฐานและ
MKD 30
เป็นที่ปรึกษา ถ้าพื้นแน่นดีแล้ว ลูกจะเดินเองโดยไม่ทำ�ให้ผิดหวัง แต่ถา้ มีอบุ ัติเหตุให้ตอ้ งผิดพลาดขึน้ มา พ่อแม่กต็ อ้ งคอยประคอง ลูกให้ลุกขึ้นได้เร็ว ตอนนี้ก็ดีใจค่ะที่เขาดูแลตัวเองได้ดี ช่วยงานธุรกิจได้มาก และเชื่อว่าเขาจะเป็นกำ�ลังในการดูแลหาดยาวและเกาะพะงันใน อนาคตได้ ไม่ใช่แค่ดูธุรกิจของตัวเองเท่านั้น (ยิ้ม) เพราะตอนนี้ นักท่องเทีย่ วรูจ้ กั เกาะพะงันแค่ฟลู มูนปาร์ตี้ แต่จดุ เด่นของเกาะเรือ่ ง ความเป็นธรรมชาติไม่คอ่ ยมีใครพูดถึง และฟูลมูนก็เอาความเจริญ เข้ามาเร็ว ใจดิฉนั อยากให้มสี มาคมทีร่ วมตัวกันอนุรกั ษ์หรือโปรโมท การท่องเที่ยวธรรมชาติอย่างจริงจัง เพราะธรรมชาติคือสิ่งที่ดึง นักท่องเที่ยวเข้ามาและทำ�ให้เรามีวันนี้ แต่ตอนนี้เท่าที่เราทำ�ได้ก็คือปลูกฝังพนักงานในเรื่องการ อนุรักษ์ที่ที่เราอยู่ ทุกเช้าพนักงานทุกคนต้องไปกวาดหาดเหมือน กับกวาดลานบ้านตัวเอง ต้นไม้ที่อยู่รอบหาด เราก็เป็นหูเป็นตา
คอยดูแล และขอความร่วมมือกับฝรั่งที่ ไปดำ�น้ำ� ไม่ให้เดินลาก ถังออกซิเจนลงไปในทะเล เพราะจะไปโดนปะการังเสียหาย แต่ให้ นั่งเรือออกไป ในรีสอร์ทก็พยายามใช้ของธรรมชาติให้มากที่สุด ดูแลเรื่องกำ�จัดขยะและบำ�บัดน้ำ�เสียให้ดี เราเป็นคนท้องที่ ทำ�ธุรกิจบนความรักบ้านเกิด ไม่ใช่เพือ่ เงินอย่างเดียว ดิฉนั หวังว่า ลูกจะสืบทอดจุดยืนนี้ ไว้ และมีโอกาสได้มีส่วนร่วมในการดูแล พื้นที่อื่นๆ บนเกาะพะงันด้วยค่ะ” คุณคิดหมือนเราไหมว่า... ไม่ใช่แค่ความบังเอิญ หรือโชคชะตา แน่ๆ ที่ผลักดันให้เธอและครอบครัวมีวันนี้ หากต้องแลกมาด้วย หยาดเหงื่อ แรงกาย และความกล้าที่จะเดินออกจากกรอบของ โลกใบเดิม เหนืออื่นใดคือ “หัวใจ” ที่สู้ไม่ถอยของเธอ และเธอเองคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำ�เร็จของทุกคน ในบ้าน อย่างที่สามีและลูกให้เครดิตเอาไว้จริงๆ
MKD 31
M A KE M ONEY Story : Smartman
nothing is certainly, but insurance
มีสำ�นวนฝรั่งที่ฟังแล้วชวนให้มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายพากันสะดุ้งว่า Nothing is certainly, but tax and dead. แปลเป็นไทยง่ายๆ ได้ว่า ไม่มีอะไรแน่นอน นอกจากภาษีและความตาย !!
แต่สำ�นวนนี้เห็นทีจะใช้ ไม่ได้ ในปัจจุบันแล้วครับ... และถือ เป็นเรื่องดีเสียอีก เมื่อสำ�นวนนี้ถูกเติมต่อด้วยคำ�ไพเราะเข้าไปอีกคำ� นัน่ คือ “insurance” ใช่ครับ... ผมกำ�ลังจะพูดถึงการลงทุนในประกันชีวติ เราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า ชีวิตมีความเสี่ยง ที่แย่กว่านั้นคือ เราไม่อาจคาดเดาได้ว่าเรื่องร้ายๆ จะเข้ามาเมื่อไร และในรูปแบบใด ต่อให้พยายามวางแผนการดูแลตัวเองอย่างดีแค่ไหน ก็ยังไม่สามารถ ทำ�ให้ค่าความเสี่ยงกลายเป็นศูนย์ ผมมีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เขาทานอาหารมังสวิรัติมาตั้งแต่อายุ 25 ปี ไม่ดื่ม ไม่สูบ ออกกำ�ลังกายเป็นประจำ� นั่งสมาธิทุกวัน เรียกว่า ทัง้ กายและใจแข็งแรงมาก แล้ววันดีคนื ดีเขาก็ขบั รถพาภรรยาไปเยีย่ ม บ้านเกิดทีต่ า่ งจังหวัด จูๆ่ มีรถกระบะจากอีกฝัง่ ถนนเหาะข้ามมาชนจน เสียชีวิตคาที่ ส่วนภรรยาถูกไฟคลอกอาการสาหัส ต้องรักษาตัวนาน แรมปี โชคยังดีที่ทั้งคู่ไม่มีลูก แต่พ่อแม่ของเพื่อนผมซิครับ แค่ทุกข์ ใจที่ต้องสูญเสียลูกก็นับว่าสาหัสแล้ว ยังต้องมาทุกข์กาย เพราะลูก ที่จากไปคือเสาหลักของครอบครัว ถูกแล้วครับ...ทั้งคู่ไม่ได้ทำ�ประกัน ชีวิตไว้เลย มีเพียงเงินเก็บตกหลักหลายแสน แต่มันก็หมดไปกับการ รักษาภรรยาแค่ในช่วงปีแรก หนำ�ซ้ำ�ยังต้องออกจากงาน โดยได้เงิน ช่วยเหลือจากบริษัทเพียงก้อนหนึ่งเป็นทุนต่อชีวิต ถ้าทั้งคูล่ งทุนทำ�ประกันชีวติ ไว้ เรื่องก็คงไม่เศร้าอย่างนี้ เพราะ บริษทั ประกันชีวติ จะเข้ามาทำ�หน้าทีช่ ดเชยความสูญเสียทีเ่ กิดขึน้ โดย รับผิดชอบค่าชดเชยในการจากไปกะทันหัน รวมทั้งค่ารักษาพยาบาล อย่างน้อยก็ในช่วงทีผ่ เู้ อาประกันช่วยเหลือตนเองไม่ได้ เพือ่ ไม่ให้คนที่ เกี่ยวข้องต้องล้มตามเป็นโดมิโน... และแม้วา่ จะไม่มเี รือ่ งร้ายใดๆ เกิด ขึ้นกับผู้เอาประกันเลยตลอดระยะสัญญา ผู้เอาประกันก็จะได้รับเงิน คืนเต็มจำ�นวนทุนประกัน หมายความว่าได้รับค่าเบี้ยประกันที่ชำ�ระไป คืนทุกบาททุกสตางค์ โดยมีดอกเบีย้ เป็นของแถม มันจึงเป็นการออม เงินที่ดีมากด้วย ยกตัวอย่างเช่น นาย ก. ซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตมีทุนประกัน 1 ล้านบาท ระยะสัญญา 40 ปี ชำ�ระเบี้ยปีละ 10,000 บาท เท่ากับ นาย ก. จ่ายค่าเบีย้ ประกันทัง้ สิน้ 400,000 บาท เมือ่ ครบสัญญา นาย ก. จะได้รับเงินคืน 1 ล้านบาทตามทุนประกันที่ทำ�ไว้ เท่ากับได้กำ�ไร ไปเหนาะๆ ถึง 600,000 บาท ที่เป็นเช่นนี้ ได้ก็เพราะธุรกิจประกันชีวิตนั้น เป็นการลงทุนร่วม กันของบรรดาผูซ้ อื้ กรมธรรม์ โดยมีบริษทั ประกันเป็นผูบ้ ริหารการลงทุน หมายความว่าเมื่อบริษัทได้รับเงินชำ�ระค่าเบี้ยประกันจากบรรดาผู้เอา ประกันแล้ว ก็จะนำ�เงินนัน้ ไปลงทุนในกิจการต่างๆ ให้ออกดอกผล เมือ่ ผู้เอาประกันเสียชีวิต หรือมีเหตุอันเข้าเงื่อนไขการชดเชยตามสัญญา บริษัทก็จะนำ�เงินชดเชยที่ต้องจ่ายให้แก่ผู้เอาประกันคนนั้นมาเฉลี่ย ออกจากค่าเบี้ยประกันที่เก็บมาจากผู้เอาประกันทั้งหมด เท่ากับว่า ผู้เอาประกันแต่ละรายช่วยกันจ่ายเงินชดเชยคนละไม่เท่าไร ส่วน
ดอกผลที่บริษัทนำ�ไปลงทุนในกิจการอื่นๆ นั้นก็นำ�มาจ่ายคืนเมื่อครบ สัญญา หรือในรูปเงินปันผลต่างๆ แน่นอนครับว่ามันย่อมมีเหลือมหา ศาลซึ่งเป็นผลกำ�ไรแก่บริษัทประกันนั้นๆ เอง ที่ผมนำ�เรื่องนี้มาพูด ก็เพราะอยากแนะนำ�ให้คนไทยหันมา ลงทุนในประกันชีวิตให้มากขึ้นครับ นอกจากจะช่วยบรรเทาความ สูญเสียดังที่ผมเล่ามาแล้ว การทำ�ประกันชีวิตยังมีข้อดีอีกมากมาย ประการแรกคือใช้เม็ดเงินต่ำ� และแทบไม่มคี วามเสีย่ งเลย ไม่วา่ ภาวะ เศรษฐกิจจะย่�ำ แย่อย่างไร ผูเ้ อาประกันจะได้ผลตอบแทนแน่นอน ทัง้ นี้ เพราะธุรกิจการประกันชีวิตมีพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 ควบคุมเฉพาะ ซึ่งกำ�หนดกรอบการดำ�เนินธุรกิจของบริษัทประกัน ชีวิตไว้ว่าห้ามมิให้ลงทุนในกิจการที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อป้องกันไม่ให้ เงินของผู้เอาประกันต้องสูญไป และทุกบริษัทต้องส่งเงินเข้ากองทุน กลางตามสัดส่วนของเบี้ยประกันภัยรับในแต่ละปี ดังนั้นต่อให้บริษัท ประกันนั้นจะล้มไป ก็ยังมีเงินจากกองทุนกลางนี้คืนให้แก่ผู้ลงทุนได้ ประการต่อมาคือเงินได้ตามสัญญากรมธรรม์ประกันชีวติ ได้รบั ยกเว้นภาษี และผูเ้ อาประกันสามารถนำ�ค่าเบีย้ ประกันทีช่ �ำ ระไปหักลดหย่อนภาษี รายได้ประจำ�ปีได้สูงสุดถึง 100,000 บาท ในประเทศทีพ่ ฒ ั นาแล้ว อย่างอเมริกา และญีป่ นุ่ ประชากรของ เขามีกรมธรรม์ประกันชีวิตเฉลี่ยคนละ 3 เล่มทีเดียว ข้างฝั่งอาเซียน เช่น มาเลเซียและสิงคโปร์กม็ ปี ระชากรถือกรมธรรม์ราว 60% แต่ธรุ กิจ ประกันภัยของไทยเริม่ เติบโตอย่างเห็นได้ชดั เมือ่ ไม่กปี่ มี านี่ โดยตัง้ แต่ ปี 2550-2555 มีอัตราเติบโตเฉลี่ย 14% ต่อปี และในปี 2555 โตขึ้น ถึง 19% โดยในปี 2554 เบีย้ ประกันภัยรวม (ชีวิต และวินาศภัย) อยูท่ ี่ 4.4% ของ GDP ซึ่งยังต่ำ�กว่าสิงคโปร์และมาเลเซีย แม้จะสูงกว่า อินโดนีเซียและฟิลปิ ปินส์กต็ าม ข้อเท็จจริงหนึง่ ทีค่ นไทยส่วนใหญ่ยงั ไม่รู้ก็คือ การเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตนั้นส่งผลต่อความเข้มแข็ง ของเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศด้วย เพราะมันแปลว่าประชากรมี เงินออมมาก และเงินออมนี้ส่วนหนึ่งก็ถูกนำ�ไปลงทุนในกิจการต่างๆ โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาล แต่ก็นับว่าเป็นทิศทางที่ดีครับ ที่วันนี้มีบริษัทประกันภัยที่ แข็งแกร่งจากต่างชาติเข้ามาลงทุนซื้อหุ้นในบริษัทประกันภัยของไทย ซึง่ ผูเ้ ชีย่ วชาญต่างเชือ่ ว่าจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้บริษทั ประกัน ชีวิตไทยในด้านความชำ�นาญเฉพาะทาง และสนับสนุนแผนงานที่จะ เติบโตในภูมิภาคอาเซียนได้อย่างดีด้วย ทุกวันนีบ้ ริษทั ประกันภัยแต่ละแห่ง รวมไปจนถึงธนาคารพาณิชย์ ต่างมีรปู แบบการประกันชีวติ ให้เลือกหลากหลาย จะเลือกลงทุนแบบ ไหน กับที่ใดนั้น คุณควรพิจารณาถึงวัย ความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เป็น มรดกจากพันธุกรรม กำ�ลังทรัพย์ วิถชี วี ติ ไปจนถึงความน่าเชือ่ ถือของ บริษัทประกันและความพึงพอใจในการบริการ ถ้ามีกำ�ลังมากพอ จะ ลงทุนซื้อกรมธรรม์มากกว่า 1 เล่มกับบริษัทที่หลากหลายก็ยิ่งดีครับ
MKD 32
ใหคุณไดมากกวาคำวา “บาน”
โครงการพอขุนทะเล ซอย 12 บานเดี่ยว 2 ชั้น สไตล Tropical Modern เนื้อที่ 60-80 ตารางวา 3 หองนอน 3 หองน้ำ 1 หองแมบาน 2 ที่จอดรถ
เติมเต็มชีวิต กับพื้นที่ใชสอย 222 ตารางเมตร พรอมชุดตกแตงภายในจาก Index บริษัท ครอสโรดส โฮม จำกัด 15/3 ถ.ฝงบางใบไม ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎรธานี โทร. 091-0345918, 089-7680744 www.crossroads-surat.com
A DV ER : SURA T OPTI C Story : Pomme’
surat optic
เมื่อแว่นตาเป็นมากกว่า สิ่งที่ทำ�ให้มองเห็น.... อัครา อินทรสวัสดิ์ ประธาน ผจก.ศูนย์แว่น สุราษฎร์ออพติค
ด้วยความที่คลุกคลีกับธุรกิจแว่นตามาตั้งแต่ยังเล็ก ทำ�ให้ “อัครา อินทรสวัสดิ์” ชายหนุ่ม รุ่นใหม่ ไฟแรงคนนี้...ตัดสินใจเปิดธุรกิจร้านแว่นตาของตัวเองในนาม ‘Surat Optic’... โดยมีจดุ เริม่ ต้นจากความประทับใจเล็กๆ ในตัวน้าสาว ทีเ่ ปิดร้าน นาฬิกาและแว่นตาในอำ�เภอทุ่งสง ชื่อว่า ‘ทุ่งสงการแว่น’ ซึ่งเขาได้ มีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยียนอยู่บ่อยครั้ง และได้เห็นพัฒนาการที่ดีของ ร้านมาโดยตลอด ซึ่งเป็นเพราะการเอาใจใส่ลูกค้าโดยให้ความสำ�คัญ กับการบริการด้วยความจริงใจ จนทำ�ให้ทุ่งสงการแว่นกลายเป็นร้าน แว่นตาที่ใหญ่ทสี่ ดุ ในอำ�เภอ... เมือ่ มาผสานกับแรงบันดาลใจทีเ่ หนือกว่า นั่นคือความหลงใหลในแว่นตาที่เขาย้ำ�ว่า มันไม่ได้เป็นแค่ ‘สิ่งที่ทำ�ให้ มองเห็น’ หากเป็นเครื่องมือที่ช่วยเปิดมุมมองความคิด และสร้าง ชีวิตให้มีความต่างในแบบฉบับที่เป็นตัวเองได้... นั่นจึงทำ�ให้ Surat Optic เปิดตัวอย่างสง่างาม และพร้อมจะมอบสิง่ ดีทสี่ ดุ ให้ ‘คนรักแว่น’ ตามที่เขาตั้งปณิธานไว้... “ที่ผมหลงรักแว่นตาก็เริ่มจากคุณน้านี่แหละครับ ที่มักจะให้ ของขวัญเป็นแว่นตาหรือนาฬิกาเสมอเวลาที่ผมไปเยี่ยม ตอนแรกผม แค่ชอบที่จะสวมเท่ๆ แต่ต่อมาการใส่แว่นกลับทำ�ให้ผมรู้ว่า แว่น เป็น มากกว่า แว่น! มันไม่ได้เป็นเพียงสิง่ ทีช่ ว่ ยแก้ปญ ั หาเรือ่ งการมองเห็น แต่มนั ยังช่วยเปิดวิสยั ทัศน์ ในการมองโลก ซึง่ ส่งผลดีตอ่ การพัฒนาชีวติ ด้วย เพราะสายตาทีค่ มชัดจะทำ�ให้คนเราเรียนรู้ ในเรือ่ งต่างๆ ได้สะดวก ไม่ใช่แค่หาความรู้จากในหนังสือนะครับ แต่การทำ�กิจกรรมแต่ละวัน ไม่วา่ จะเป็นการเดิน การทำ�งาน ขับรถ ดูทวี ี เล่นกีฬา ฯลฯ ทุกนาทีจะเป็น ไปได้ดตี อ้ งใช้สายตาทัง้ นัน้ ครับ นอกจากนีม้ นั ยังเป็นเครือ่ งถนอมสายตา ยิง่ ทุกวันนี้ Social Network มีความจำ�เป็นมาก เราแทบจะขาดสมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์ไม่ได้เลย แล้วส่วนประกอบในการผลิตหลอดภาพของ อุปกรณ์พวกนี้ใช้หลอด LED ซึ่งจะปล่อยแสงสีน้ำ�เงินที่เป็นอันตราย ต่อดวงตาเมือ่ มองนานๆ แว่นตาทีม่ คี ณ ุ ภาพสูงในการถนอมสายตาจึง กลายเป็นสิ่งสำ�คัญในยุคนี้
และแว่นตายังช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพด้วย ทุกวันนี้ ได้มีการ คิดค้นวัสดุที่มีคุณภาพ มีน้ำ�หนักเบามาทำ�แว่นตา และยังพัฒนาให้มี ดีไซน์และสีสนั หลากหลาย เพือ่ รองรับรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของคน ทุกเพศทุกวัยได้ แว่นตาจึงเป็นเครื่องประดับอย่างหนึ่งที่สร้างความ โดดเด่นให้บุคลิกของผู้สวมได้ ดูอย่างดาราฮอลลีวู้ด หรือในสังคม ไฮโซ หรือวงการบันเทิงบ้านเราก็ได้ครับ ที่ตอนนี้ให้ความสำ�คัญกับ การสวมแว่นตาเสริมบุคลิกมากขึ้น ทั้งที่ ไม่ได้มีปัญหาด้านการมอง เห็นมากมาย... เมือ่ ผมเปิดร้านของตัวเอง ผมคำ�นึงถึงสิง่ เหล่านี้ ดังนัน้ ลักษณะ การตกแต่งร้านของเราจึงมีความสวยงามสามารถโชว์ความโดดเด่น ของสินค้าให้ลูกค้าสัมผัสได้ง่ายขึ้น ส่วนใหญ่เป็นสินค้าแบรนด์เนม ครับ แต่ที่ผมให้ความสำ�คัญมากที่สุดไม่ได้อยู่ที่ความหลากหลาย ของสินค้า แต่คือการบริการที่จริงใจและเอาใจใส่ เรามีผู้เชี่ยวชาญ ด้านสายตาที่สามารถตอบปัญหาให้ลูกค้าได้ และมีเจ้าหน้าที่คอยให้ คำ�แนะนำ�วิธีการเลือกแว่นให้เหมาะกับบุคลิกและงบประมาณ รวม ไปถึงคำ�แนะนำ�ในการดูแลรักษา และบริการหลังการขายที่อบอุ่น เมื่อสินค้ามีปัญหาด้วยครับ” ไม่เพียง Surat Optic จะมีสินค้าดี บริการเป็นยอดเท่านั้น ใน อนาคตคุณอัครายังได้จดั เตรียมโปรโมชัน่ มากมายเพือ่ เซอร์ไพรส์ชาว สุราษฎร์ฯ ในช่วงเทศกาลต่างๆ ด้วย แต่ถา้ ไม่อยากรอ เพราะต้องการ มีแว่นตาใหม่สุดเท่ เพื่อใส่ไปฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่ารับปีใหม่ ทีก่ �ำ ลังจะมาเยือน แวะไปชมของดีทรี่ า้ นได้เลย... เพราะตอนนีท้ างร้าน จัดโปรโมชั่นลดราคากรอบแว่นและแว่นกันแดดแบรนด์ดัง 30-50% ข่าวดีอย่างนี้ ‘คนรักแว่น’ รอช้าไม่ได้แล้ว ....
MKD 34
MKD 35
A DV E R : B A N D ON PI RE NI G H T BA ZA A R Story : GooGoo Photo : Pangmun
bandon pire night bazaar ธาดา บุ ร ประภั ส สร ประธานชุมชนตลาดท่าเรือ
ย้อนกลับไปในอดีตกว่าร้อยปีมาแล้ว ‘ชุมชนตลาดท่าเรือบ้านดอน’ จัดว่าเป็นศูนย์กลาง การค้าที่ ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของสุราษฎร์ฯ แม้ ในปัจจุบันความคึกคักที่มีเสน่ห์นั้นก็ยังไม่ จางหายไปจากชุมชนแห่งนี้... ด้วยมีที่ตั้งติดริมแม่น้ำ�ตาปี อันเป็นท่าเรือนอนที่มุ่งหน้า สู่เกาะท่องเที่ยวชื่อดังกลางอ่าวไทย อีกทั้งในยามค่ำ�จะมีร้านรวง และแผงขายอาหารเลิศรสมาตัง้ ร้านมากมาย ดังนัน้ ทีน่ จี่ งึ คลาคล่�ำ ไปด้วย นักท่องเที่ยวตลอดจนนักชิมที่ชื่นชอบความอร่อย สะดวก ประหยัด และนับเป็น ‘ข่าวล่ามาดี’ ของนักช้อปและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง ที่วันนี้ชาวชุมชนตลาดท่าเรือบ้านดอน ได้จัดโครงการตลาดนัดชุมชน ขึ้น ภายใต้ชื่อ ‘ตลาดนัดชุมชนบ้านดอนเพลินไนท์บาซ่าร์’ (Bandon Pire Night Bazaar) ในรูปแบบตลาดนัดแนววินเทจ เพือ่ ให้สอดคล้อง กับบรรยากาศความเป็นชุมชนเก่าแก่ทยี่ งั คงฉายมนต์ขลังผ่านรูปแบบ สถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 โดย มีความพิเศษต่างๆ ดังที่ ‘คุณธาดา บุรประภัสสร’ ประธานชุมชนตลาด ท่าเรือบ้านดอนเล่าว่า... “โครงการนี้เป็นผลงานที่ชาวชุมชนคิดและชุมชนทำ� โดย มีเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีเป็นผูส้ นับสนุนตามแผนยุทธศาสตร์เทศบาล 7 นคร เนื่องจากเราต้องการฟื้นฟูและเชิดชูสิ่งที่มีคุณค่าในชุมชน ให้คงอยูแ่ ละเป็นทีร่ บั รูข้ องคนทัว่ ไป และเป็นการสร้างเครือข่ายให้กลุม่ แม่บ้าน กลุ่มแกนนำ�สตรี และกลุ่มผู้สูงอายุได้มีบทบาทร่วมในการ พัฒนาชุมชนด้วย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผมที่ ได้ประกาศไว้ ตอนที่ลงสมัครเลือกตั้งประธานชุมชน เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2554 โดยผมได้เลือกบริเวณสะพานลอยโบราณของอาคารโบราณตึก ขุนเศรษฐภักดี ซึ่งมีประวัติยาวนานกว่า 70 ปีให้เป็นสัญลักษณ์และ เป็นที่ตั้งของตลาด และสร้างเอกลักษณ์ ให้ โดดเด่นด้วยการคัดเลือก สินค้าแนววินเทจมาจำ�หน่าย อาทิ สินค้าของเก่า สินค้าที่ระลึก สินค้า สะสม ของตกแต่งบ้าน สินค้าแฮนด์เมด สินค้าไอเดียดีจำ�พวก D.I.Y. ภาพวาดและงานศิลปะต่างๆ นอกจากนีย้ งั มีโซนสินค้าแฟชัน่ ทัว่ ไปและ อาหารพื้นบ้านด้วยครับ... ในอนาคตผมหวังว่าเราจะสามารถต่อยอด ตลาดนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดได้ อาจจะมีการทาสีอาคาร ตึกขุนเศรษฐภักดีเพือ่ ปรับภูมทิ ศั น์ ให้สวยงาม ซึง่ จำ�เป็นต้องได้รบั การ สนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานต่างๆ แต่ทสี่ �ำ คัญมากในตอนนีก้ ค็ อื ความสนับสนุนของชาวสุราษฎร์ฯ ครับ ผมเชื่อว่าด้วยคุณภาพ ของสินค้าและเสน่ห์ของบรรยากาศจะสร้างความประทับใจให้แก่ นักช้อปได้ และผมต้องขอขอบคุณ ทีมงาน “กลุม่ ปักษ์ ใต้สร้างสรรค์”
คุณอนันต์ วัณไวทยจิตร คุณศรชัย เห้งทัพ คุณศิธา วงศ์วรพรรณ ตลอดจนชาวชุมชนตลาดท่าเรือบ้านดอนทุกท่านที่ได้ ให้ความสนับสนุน โครงการด้วยดีครับ...” มีของดีของเด็ดมากมายอย่างนี้ ถ้าพลาดทีจ่ ะไปดูให้เห็นกับตา คงเสียดายแย่ ว่าแต่เย็นนีค้ ณ ุ ว่างไหม...จะชวนไปเดินชิลล์ๆ ช้อปของเท่ๆ ที่ ‘ตลาดนัดชุมชนบ้านดอนเพลินไนท์บาซ่าร์’ ด้วยกันสักหน่อย... อ้อ! จะบอกว่าตลาดนัดเขามีทุกวันอาทิตย์ เวลา 17:00 น. – 23:00 น. ถนนเศรษฐภักดี หลังธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนหน้าเมืองนะ
MKD 36
A D VERTORI A L
Story : Ralinda
Photo : Pom Demand
one fine day with pretty girl ถ้ามีวันว่าง 1 วันเต็มๆ คุณจะทำ�อะไร เพื่อให้รางวัลกับตัวเอง.... สำ�หรับคนที่รักการท่องเที่ยว ย่อมต้องตอบว่าก็หาที่เที่ยวซิ เช่นเดียวกับคนที่ชื่นชอบการกิน ที่จะตอบว่าขับรถตะเวนหาของอร่อยๆ ใส่ท้องดีกว่า แต่สำ�หรับหญิงสาวที่นิยมความดูดีของบุคลิก และใส่ ใจในสุขภาพ คงไม่มีอะไรดี ไปกว่าการได้ดูแลปรนนิบัติร่างกายให้สวยพร้อมทั้งเรือนร่าง และเติมเต็มความสดชื่นผ่อนคลายให้กับจิตใจอีกแล้ว... เช่ น เดี ย วกั บ สาวสวยคนนี้ “เบสท์ พิมพ์ชนก คุตชนม์” ที่มีเวลาว่างเมื่อไร เป็น ต้องตรงดิ่งมาที่ “เรือนวารินทร์” สถาน ออกกำ�ลังกายครบวงจรและสปาหรูกลาง ใจเมืองสุราษฎร์ฯ...ที่ที่เธอบอกว่าสามารถ ให้รางวัลแก่ตวั เองได้อย่างโดนใจ และวันนีเ้ ธอ อนุญาตให้เราเกาะติด เพือ่ ตามดูวา่ เธอใช้เวลา ว่างอย่างคุม้ ค่าในหนึง่ วัน ณ สถานทีน่ อี้ ย่างไร... “เบสท์รตู้ วั ว่าชอบการแสดงมาตัง้ แต่เด็กๆ เลยค่ะ สักประมาณ ป.3 ก็อยากเต้น ชอบรำ� แล้ว (หัวเราะ) คุณแม่ก็เลยสนับสนุนให้ไป เรียนจริงจัง ตอนนี้ก็เรียนแจ๊สแดนซ์และรำ� ไทยอยู่ เบสท์ชอบทีจ่ ะสมัครเข้าประกวดในเวที ต่างๆ นะคะ เพราะเป็นการสร้างประสบการณ์ และทดสอบฝีมือตัวเองด้วยว่ายังมีจุดอ่อน ตรงไหน เราจะได้พฒ ั นาถูก ทีผ่ า่ นมาก็พยายาม สมัครเข้าประกวดทุกอย่างทุกเวทีเท่าที่จะทำ� ได้คะ่ ไปคนเดียวบ้าง ไปกับเพือ่ นๆ ในกลุม่ เต้น บ้าง เคยได้รางวัลชนะเลิศด้านรำ�ไทยมาด้วย (ยิ้ม) เบสท์ว่าการได้เจอเพื่อนใหม่ๆ หรือผู้ ใหญ่หลายๆ คนในเวทีประกวดช่วยให้เบสท์มี
โลกที่กว้างขึ้นมากเลยค่ะ และช่วยให้เราจับความถนัดของตัวเองได้ว่าควรจะไปทางไหน หรือ เพิ่มเติมอะไร ตอนนี้ก็เบสท์ก็กำ�ลังจะไปเรียนดนตรีและการร้องเพลงเพิ่มค่ะ นอกจากการพัฒนาฝีมือแล้ว เบสท์ว่าเรื่องการดูแลตัวเองก็สำ�คัญนะคะ เพราะการเต้น การรำ�ต้องใช้พลังเยอะมากค่ะ ถ้าไม่แข็งแรงก็จะเต้นได้ไม่นาน ทำ�ให้เราฝึกซ้อมไม่เต็มที่ เรือ่ ง รูปร่างและผิวพรรณก็สำ�คัญมากค่ะ ถ้าเราดูดีเวลาประกวด ก็เหมือนกับได้กำ�ไรไปก่อนแล้ว และคุณแม่ของเบสท์ก็เป็นคนรักสุขภาพ คุณแม่จะสอนเสมอว่าการดูแลร่างกายหรือความ สวยความงามต้องเริ่มตั้งแต่เด็กๆ ต้องฝึกให้เป็นนิสัย มันถึงจะอยู่กับเราไปนานๆ เบสท์ก็เลย ให้เวลากับการออกกำ�ลังกายและดูแลผิวพรรณเยอะหน่อยค่ะ เฉลี่ยอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง MKD 38
ที่เลือกเป็นสมาชิกของเรือนวารินทร์ เพราะที่นี่มีทั้งห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำ� ห้องซาวน่า แยกโซนผูห้ ญิงผูช้ าย ส่วนด้านหลังเป็นสปาและนวดไทย คือมาทีน่ ที่ เี่ ดียวเบสท์ได้ครบทุกอย่าง ที่ต้องการค่ะ ส่วนใหญ่เบสท์จะเข้าฟิตเนสออกกำ�ลังก่อนสัก 1-2 ชั่วโมง แล้วก็จะไปทำ�สปา มีทรีตเม้นท์ ให้เลือกเยอะมากค่ะ หรือถ้าวันไหนเมื่อยจากการซ้อมเต้นมาก เบสท์ก็ว่ายน้ำ� อบซาวน่า แล้วค่อยจะมานวดไทยหรือนวดเท้าต่อ พีๆ่ หมอนวดทีน่ เี่ ก่งค่ะ ส่วนสถานทีก่ ส็ ะอาด สวยงาม ที่ชอบมากอีกอย่างคือโซนด้านหน้าที่มีร้านอาหาร พอเบสท์เสร็จธุระแล้ว ก็จะมา นั่งทานเค้กกับกาแฟรอคุณแม่ที่นี่ แต่ถ้าวันไหนหิวมากหน่อย เบสท์ก็ชวนคุณแม่ทานข้าว เลย เพราะอาหารอร่อยค่ะ (ยิ้ม)” เห็นสาววัยใสดูแลตัวเองอย่างมีความสุขขนาดนี้ เชื่อว่าคุณๆ ที่รักสุขภาพและให้ความ สำ�คัญกับบุคลิกภาพทั้งหลายคงเกิดแรงบันดาลใจ และมีพลังที่จะดูแลตัวเองเพิ่มขึ้น ถ้า เช่นนั้นวันว่างที่จะมาถึงข้างหน้านี้อย่ารอช้า... ลงมือทำ�เลย เพราะนอกจากจะมีเสน่ห์ของ เรือนกายเป็นรางวัลแล้ว คุณยังจะได้รับลาภที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกา ดังคำ�บาลีที่ว่า “อโรคยา ปรมาลาภา” ด้วย....
Promotion .... พิเศษ
เป็นสมาชิกรายปี (12 เดือน) ในราคา 12,000 บาท เป็นสมาชิกรายเดือน ในราคา 2,000 บาท ใช้บริการรายวัน ครั้งละ 180 บาท คอร์สเจ้าสาว เพียง 2,890 บาท สมาชิกแสดงบัตรเมื่อใช้บริการที่ห้อง อาหารและสปา ที่เรือนวารินทร์ จะได้รับ ส่วนลด 10 % เรือนวารินทร์ 296/59 ถ.โฉลกรัฐ อ.เมืองสุราษฎร์ฯ จ.สุราษฎร์ธานี หรือ โทร. 077 603 740-2
นางแบบ : “น้องเบสท์” พิมพ์ชนก คุตชนม์ MKD 39
SOUL & SPI RI T Story : Roybun
the secret of success “เคล็ดลับแห่งความสำ�เร็จ”
บ่ า ยวั น หนึ่ ง ขณะที่ ผู้ เ ขี ย นกำ � ลั ง นั่ ง ดื่ ม ชากุ ห ลาบไปปั่ น ต้ น ฉบั บ ไปอย่ า งสบายอารมณ์ อยู่ ในร้านกาแฟริมสวนสวย จู่ๆ เพื่อนสาวรุ่นน้องก็กระหน่ำ�ไลน์เข้ามาหาไม่ยั้ง เสียงสั่นประสาท เสียจนอารมณ์ชิลล์กระเพื่อม... หยิบโทรศัพท์มาอ่านไปได้ไม่เท่าไร คุณน้องคนต้นเรื่องก็ยิงมาหา พร้อมส่งเสียงแหลมเฟีย้ วยาวเหยียด สรุปใจความได้วา่ เธอถูกเจ้านาย คาดโทษทีด่ �ำ เนินโปรเจกต์ ใหม่ผดิ พลาด ทัง้ ที่โปรเจกต์นกี้ เ็ ป็นผลงาน จากสมองของเธอล้วนๆ เธอเหมาเอาว่าถูกเจ้านายสะกัดดาวรุ่ง ด้วย ความอิจฉาที่เธอทั้งเก่งแถมยังเป็นที่รักของเพื่อนๆ... “น้องจะประสบความสำ�เร็จในอาชีพได้ไงคุณพี่ มีหัวหน้าแบบนี้ ต่อให้คิดโปรเจกต์ดีให้ตายก็ไม่เจริญ คืบหน้าช้าหน่อย ก็จิกกัดว่า แพลนงานไม่เป็น น้องอยากจะปาใบลาออกใส่หน้าจริงๆ ต่อนี้ ไปจะ สมัครงานทิ้งๆ ไว้ ถ้ามีปัญหาอีกจะออกให้ดู”
“ถ้าไม่มีเขาเป็นเจ้านาย น้องคิดว่าตัวเองยังจะประสบความสำ�เร็จ ในอาชีพอยูไ่ หม” ผูเ้ ขียนโยนคำ�ถามด้วยความอยากรู้ เธอนิง่ ไปพักหนึง่ ก่อนตอบว่า “มันก็ขนึ้ อยูก่ บั ว่าเจ้านายคนใหม่เป็นอย่างไร ถ้าเป็นคนดี มีความยุติธรรม น้องคงได้รับการสนับสนุน” “งั้นความสำ�เร็จของน้องก็ขึ้นอยู่กับเจ้านายเท่านั้นล่ะซิ” คราวนี้ จอมโวยวายเงียบสนิท... “พี่มีนิทานเรื่องหนึ่ง ฟังหน่อยไหม เผื่อจะสบายใจขึ้น...” เมื่อเห็น ปลายสายเงียบ ผู้เขียนจึงเริ่มเล่านิทาน เรื่องมีอยู่ว่า...
MKD 40
ณ วัดบนเขาสูง วันหนึ่งมีการบวชพระใหม่จำ�นวนมาก ทุกรูปต่าง มีความต้องการที่จะเป็นพระดีและถึงนิพพานให้จงได้ แต่หลังจาก ทำ�วัตรและนั่งสมาธิตามที่พระอาจารย์สอนสั่งมานานหลายเดือน ก็ไม่ก้าวหน้า บรรดาพระลูกศิษย์จึงเริ่มกังขาและรวมตัวกันมาถาม พระอาจารย์ว่า “ทำ�อย่างไรถึงจะประสบความสำ�เร็จ” พระอาจารย์ ยิ้มและตอบว่า “พวกเจ้าจงทำ�อย่างเดิมต่อไป” “แต่ข้าว่ามันน่าจะมีวิธีอื่นที่ง่ายกว่านี้” หัวหน้าพระใหม่แย้งขึ้น... พระอาจารย์ยังคงยิ้มด้วยความเมตตาดุจเดิม แล้วพูดขึ้นว่า ...“ถ้า เช่นนั้นข้าจะสอนให้เจ้าทำ�เรือ่ งทีง่ ่ายที่สุด” แล้วพระอาจารย์ก็สอนให้ พระทุกรูปแกว่งแขนพร้อมกำ�ชับว่า “จากนี้ ไปจนครบ 1 ปี จงแกว่ง แขนเช่นนี้ทุกเช้าวันละ 300 ครั้ง แล้วพวกเจ้าจะรู้ว่าอย่างไรจึงจะ ประสบผลสำ�เร็จ” จากนั้นพระอาจารย์ก็ไม่มาสอนลูกศิษย์อีกเลย หนึง่ เดือนต่อมา พระอาจารย์เดินเข้ามาในห้องทำ�วัตรและถามบรรดา พระใหม่ว่า “ใครยังแกว่งแขนอยู่บ้าง...” พระใหม่ทุกรูปตอบอย่าง มัน่ คงว่ายังทำ�อยู่ ฟังเช่นนัน้ แล้วพระอาจารย์กเ็ ดินจากไปโดยไม่ปริปาก ใดๆ... อีก 3 เดือนต่อมา พระอาจารย์กลับมาอีกครั้งพร้อมถาม คำ � ถามเดิ ม คราวนี้ เ หลื อ พระใหม่ เ พี ย งครึ่ ง เดี ย วที่ ต อบว่ า ยั ง แกว่งแขนอยู.่ ..เวลาผ่านไปจนครบกำ�หนด 1 ปี พระอาจารย์มาปรากฏตัว ที่ห้องทำ�วัตรและถามคำ�ถามเดิมเป็นครั้งสุดท้าย แต่เหลือพระใหม่ เพียงรูปเดียวเท่านั้นที่ตอบด้วยเสียงหนักแน่นว่ายังแกว่งแขน ทุกวันตามที่พระอาจารย์สั่งอย่างเคร่งครัด “ตอนนีเ้ จ้ารูแ้ ล้วใช่ไหมว่าทำ�อย่างไรจึงสำ�เร็จ” พระอาจารย์ถาม... “ขอรับ...” พระรูปนั้นตอบ และก้มลงกราบพระอาจารย์ด้วยความ เคารพอย่างสุดซึ้ง ก่อนพูดต่อไปว่า...“เรื่องทำ�ง่ายที่สุด บางทีก็เป็น เรื่องทำ�ยากที่สุด และเรื่องทำ�ยากที่สุด บางทีก็เป็นเรื่องทำ�ง่ายที่สุด แต่ไม่วา่ จะอย่างไร ถ้าได้ลงมือทำ�จริงสม่�ำ เสมอแล้ว ย่อมนำ�ไปสูค่ วาม สำ�เร็จได้ และอุปสรรคที่ใหญ่หลวงก็ไม่ได้อยู่ที่ใครอื่น หากอยู่ที่ใจ ของตัวเองขอรับ” พระอาจารย์จงึ หันไปพูดกับบรรดาพระใหม่ทเี่ หลือว่า “ความต้องการ ประสบความสำ�เร็จเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา มิเพียงเพศบรรพชิต ทีม่ เี ป้าหมายคือพระนิพพาน แม้เป็นฆราวาสต่างก็อยากมีความสำ�เร็จ ในอาชีพทีต่ นยึดถือ...โชคชะตา ฐานะ การศึกษา รูปร่างหน้าตา เจ้านาย ครูอาจารย์ บิดามารดา แม้แต่ทวยเทพผู้มากบารมีบนสรวงสวรรค์ ก็มิอาจมอบความสำ�เร็จให้ ใครได้ ถ้าคนผู้นั้นไม่ลงมือปฏิบัติจน รู้แจ้งเห็นจริงในการงานนั้นๆ ด้วยตนเอง” ฟังนิทานจบ เวิรก์ กิง้ วูแมนคนเก่งก็ยงั ไม่หายมึนตึบ้ เพราะใจยังเต็ม ไปด้วยความโกรธ เลยชวนไปว่าวันรุ่งขึ้นจะพาเธอไปโยนโทสะทิ้ง... เรานัดกันตั้งแต่ตะวันยังไม่พ้นฟ้าที่ตลาดแม่ครู หาซื้อดอกบัวงามมา หนึ่งกำ�ใหญ่ พร้อมด้วยอาหารคาวหวาน แล้วปรี่มาจัดสำ�รับรอพระที่ วัดใหม่ (วัดพัฒนาราม) ใส่บาตรเสร็จสรรพก็พากันมากราบสักการะ มณฑปหลวงพ่อพัฒน์...แล้วจู่ๆ เพื่อนผู้น้องก็พูดขึ้นว่า... “พ่อท่านพัฒน์ จากเราไปนานแล้วนะ คำ�สอนที่ท่านเคยเขียนไว้ บนข้างฝากุฏิเมื่อตอนท่านยังมีชีวิตอยู่ว่า ‘ดีอยู่ที่ละ พระอยู่ที่จริง นิพพานอยูท่ ี่ความสงบ’ ก็ถูกลบหายไปหมดแล้ว แต่คำ�สอนของท่าน จะอยู่ในใจเราไปตลอดกาลนะคุณพี่” รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของผู้เขียนทันที มันคือยิ้มจากความสุข ที่แสนอิ่มเอม เพราะได้รู้ว่ามีสมาชิกใหม่ที่เข้าใจคำ�ว่า “เคล็ดลับของ ความสำ�เร็จ” เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคนแล้ว...
นวัตกรรมใหม่ ของการดูแลสุขภาพในรูปแบบเจล ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็วภายใน 3-15 นาที สารอาหารสกัดจากธรรมชาติ 100%
สนใจผลิตภัณฑ์ โทร. 081 969 9550 นิรันดร์ www.a-gellife.com
ID Line : 0842441133 z
FM 95.00 MH าง ้ ท ได ู ” ภ ย า น “ พบ กหญ้า” า ร น ค น ช ม ุ ช “ าร รายก
09.00 น. เวลา 06.00 น. งบ่าย รายการ สำ�หรับรายการช่ว นายภู” น า ้ บ พ า ภ ข ุ ส อ ื่ พ เ “ นพื้นที่ของท่าน... ใ ุ ย ท ิ ว ี าน ถ ส าง ท ก ออ
คอยดูแลเรื่องของสุขภาพและความงาม ด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (ผ่าน อย.) มั่นใจได้ภายใต้คำ�แนะนำ�จากนายภู “นายภูรู้ทุกเรื่อง”
MKD 41
HEA TH SECRET
Story : DR.Q / สนับสนุนโดยโรงพยาบาลกรุงเทพฯ สมุย
ผิวสวยใสด้วย “ข้าวหมาก”
ขึน้ ชือ่ ว่าผูห้ ญิง ไม่วา่ จะชาติไหน วัยใด ต่างก็อยากจะให้ตวั เองสวยในสายตาผูช้ าย เสมอ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นผู้หญิงหลายคนยอมซื้อเครื่องสำ�อางราคาเป็นหมื่น มาประทินโฉม ไม่ก็แวะเข้าคลินิกศัลยกรรมให้คุณหมอจัดการเพิ่มเสน่ห์ ส่วนคนที่มีเบี้ย น้อยหอยปานกลางก็นิยมบริโภคอาหารเสริมความงาม โดยเฉพาะชนิดที่มีสรรพคุณให้ ผิวขาวใสดูอ่อนวัย ยิ่งกินง่ายและราคาถูกก็ยิ่งขายดี ไม่เชื่อก็ลองไปดูยอดขายเครื่องดื่ม ผสมคอลลาเจน โยเกิรต์ หรือนมเปรีย้ วดูก็ได้ แต่...คุณจะเชือ่ ไหมถ้าจะบอกว่า “ข้าวหมาก” ของว่างโบราณของพี่ ไทยมีคุณค่าทางโภชนาการเหนือกว่าสินค้าเหล่านั้นอักโข เพราะ นอกจากจะมี “โปรไบโอติก” ชนิดเดียวกับที่นมเปรี้ยวและโยเกิร์ตนำ�มาเป็นจุดขายแล้ว ข้าวหมากยังอุดมด้วยสารต้านอนุมลู อิสระ แคลเซียม และสังกะสี ซึง่ ช่วยบำ�รุงผิวพรรณ ให้ขาวสดใส ไร้สิว ฝ้า แถมยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ที่เหนือกว่านั้นคือช่วยบำ�รุงกระดูกและเม็ดเลือด ช่วยกำ�จัดสารก่อมะเร็งและไวรัส ลดอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคกระเพาะอาหาร โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคตับ โรคภูมิแพ้ และลดการอักเสบของแผล ทุกชนิด ซึ่งเป็นคุณประโยชน์ที่ ไม่พบในสินค้าข้างต้น..อ๊ะ! อย่าเพิ่งเถียงว่าเดี๋ยวนี้หาซื้อข้าวหมากยากตายชัก ขอบอกว่าเขามีขายตามซูเปอร์ มาร์เก็ตแล้วจ้า ได้ประโยชน์สูง แล้วยังช่วยรักษาภูมิปัญญาของชาติ อย่างนี้ รอช้าไม่ได้แล้ว...
นวัตกรรมใหม่รักษาโรคเอดส์
นานกว่า 30 ปีแล้วที่บรรดาแพทย์และนักวิทยาศาสตร์พยายามคิดค้นวิธีรักษาโรคเอดส์ โดยเริ่มมีข่าวดีเป็นระยะตั้งแต่ปี 2546 ที่กลุ่มนักวิจัยทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกาได้ค้นพบ ยา “PA-457” ที่หยุดการเจริญเติบโตของเชื้อ HIV ได้ โดยตรง ต่อมาในปี 2555 สำ�นักงานอาหาร และยาสหรัฐได้อนุมัติยาตัวใหม่ชื่อ “Stribild” แต่ยาตัวนี้ก็มีผลข้างเคียงให้คลื่นไส้และท้องร่วง จึง ยังต้องศึกษาหาทางแก้กนั ต่อไป ด้านนักวิทยาศาสตร์ออสเตรเลียก็รายงานว่าได้คน้ พบวิธดี ดั แปลง โปรตีนในเชื้อ HIV ให้ยับยั้งเชื้อโรคได้และกำ�ลังอยู่ในระหว่างการทดลองกับสัตว์ แต่ข่าวที่สร้าง ความตื่นเต้นไปทั่วโลกเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนมีนาคมนี่เอง โดยแพทย์อเมริกาได้ออกมาประกาศว่า สามารถรักษาเด็กหญิงที่ติดเชื้อเอดส์ โดยกำ�เนิดได้สำ�เร็จด้วยวิธีการให้ยาต้านไวรัสทันทีตั้งแต่ แรกคลอด ขณะทีแ่ พทย์ไทยก็ไม่นอ้ ยหน้าเมือ่ “รศ.พญ.จินตนาถ อนันต์วรณิชย์” แห่งศูนย์วจิ ยั โรคเอดส์ สภากาชาดไทย ได้ประกาศผลสำ�เร็จ เบื้องต้นในการทดลองกับอาสาสมัครเกือบ 100 คนของคลินิกนิรนาม ด้วยการให้ยาต้านไวรัสสูตรพื้นฐานทันทีกับผู้ที่ตรวจพบเชื้อในระยะ เริ่มแรกไม่เกิน 1 สัปดาห์ ที่น่าวิตกก็คือข่าวนี้อาจส่งเสริมให้คนไทยมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่ป้องกัน ทั้งที่การรักษาจะได้ผลก็ต่อเมื่อตรวจพบ เชื้อในระยะแรกและได้รับยาทันทีเท่านั้น ถ้ารู้ตัวว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงคุณจะต้องป้องกันและขยันตรวจร่างกาย เกิด “หวย” มาออกที่คุณ จะได้ ไม่ต้องมานั่งกินยาเป็นกำ�ๆ ไปตลอดชีวิต
เลี่ยงอันตรายจากสารปรอทปนเปื้อนในอาหารทะเล
เหตุน้ำ�มันดิบรั่วไหลจนทำ�ให้ “เกาะเสม็ด” ดินแดนแห่งหาดทรายขาวกลายเป็นสีดำ�สนิท ไปชั่วพริบตา พลอยปลุกให้กระแสความตื่นกลัวสารปรอทปนเปื้อนในอาหารทะเลถูกโหมขึ้นมา อีกครั้ง จนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องพิษจากโลหะหนัก สมาคมแพทย์อาชีวเวชศาสตร์และสิ่งแวดล้อม แห่งประเทศไทย ต้องออกมาให้ความรูว้ า่ การเกิดพิษจากสารปรอทนัน้ มี 2 ลักษณะ คือพิษเฉียบพลัน ที่เกิดจากการกินสารปรอทโดยตรง ซึ่งสร้างความเสียหายต่อเยื่อบุทางเดินอาหาร จนมีอาการ ปวดท้องรุนแรง อาเจียน อุจจาระเป็นเลือด ฯลฯ และพิษเรื้อรังเนื่องจากการบริโภคหรือสัมผัส อาหารปนเปื้อนสารต่อเนื่อง ซึ่งจะทำ�ลายระบบประสาทส่วนกลาง ทำ�ให้ไม่สามารถควบคุมอวัยวะ หรือประสาทรับความรู้สึกสูญเสียไป ส่วนอาการจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณของสารและความแข็งแรงของร่างกาย และยังไม่มีการ พบว่าสารปรอทที่เจือปนในน้ำ�สามารถผ่านเข้าทางผิวหนังมนุษย์ได้ ยกเว้นกินน้ำ�ทะเลเข้าไปมาก แต่แน่นอนว่าสารปรอทที่ปนเปื้อนจะมีผล กระทบกับห่วงโซ่อาหารของสัตว์ทะเล แม้จะพบผลการตรวจว่าสัตว์น้ำ�ในบริเวณที่มีการปนเปื้อนไม่พบสารพิษเกินค่ามาตรฐาน แต่ก็ไม่อาจ วางใจได้ เพราะสารเหล่านี้ต้องใช้เวลาสะสม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องทำ�การตรวจสอบเป็นระยะและประกาศให้ประชาชนทราบข้อมูล ที่ถูกต้อง ส่วนผู้บริโภคอย่างเราๆ ก็ไม่ต้อง “นอยด์” จนถึงขั้นหย่าขาดกับอาหารทะเลถาวร แค่เลี่ยงการบริโภคสัตว์ทะเลที่จับได้ ในบริเวณนั้น ในปริมาณมากและต่อเนื่อง โดยเฉพาะสัตว์ขนาดใหญ่ที่มีวงจรอายุยาว ก็อร่อยแซ่บต่อไปได้ไร้กังวล MKD 42
MKD 43
SPECI A L SCOOP
Story : Pran Photo : Pom Demand
ban’s koh tao. conservation learning center นับเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่วันนี้ “สุราษฎร์ธานี” บ้านของเรามีองค์กรอิสระ ที่ ไม่หวังผลประโยขน์ถือกำ�เนิดขึ้น อย่างเป็นทางการแล้ว และนับเป็นองค์กรแรก ของจังหวัด โดยองค์กรแห่งนี้มีนามว่า “ศูนย์เรียนรู้รักษ์แบนเกาะเต่า”...
ฟังเพียงชื่อก็พอจะรู้ว่าองค์กรแห่งนี้ต้องมีบทบาทเกี่ยวข้องกับ เกาะเต่า แต่ตั้งขึ้นมาเพราะอะไรนั้น จะทำ�อะไร และเพื่อใครนั้น ยังเป็นที่ฉงน “เมืองคนดี” ฉบับนี้จึงเดินทางมาเกาะเต่าเพื่อพูดคุย ถึงที่มาที่ไปของศูนย์ฯ กับคณะผู้บริหาร นำ�โดย “คุณรำ�ลึก อัศวชิน” ประธานกรรมการ และ “คุณต่อศักด์ ยวนานนท์” รองประธานกรรมการ
ก่อนอื่นอยากให้อธิบายให้ชาวสุราษฎร์ฯ ได้เข้าใจว่า “องค์กร อิสระ” คืออะไร
คุณรำ�ลึก : “ถ้าพูดเป็นทางการ องค์กรอิสระก็คอื องค์กรภาคเอกชน ที่ ได้รับการรับรองให้ดำ�เนินงานด้านการจัดสวัสดิการสังคมตาม พระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ. 2546 ค่ะ ซึ่ง รับรองโดยคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ถ้าพูดให้งา่ ยหน่อยก็คอื องค์กรทีเ่ กิดจากความร่วมมือของภาคเอกชน เพื่อทำ�งาน หรือทำ�กิจกรรมในด้านต่างๆ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้าง ความเป็นอยู่ที่ดีให้ประชาชน และประชาชนได้รับการคุ้มครองด้าน สิทธิเสรีภาพบนพืน้ ฐานความเข้าใจในข้อเท็จจริงทีถ่ กู ต้อง ซึง่ จะทำ�ให้ ชุมชนมีความเข้มแข็งตามมา โดยในการทำ�งานขององค์กรจะมีความ เป็นอิสระจากภาคการเมือง เพือ่ ให้มคี วามโปร่งใสและสามารถถ่วงดุล กับภาคการเมืองได้ ซึ่งองค์กรลักษณะนีม้ ใี นเมืองไทยมานานแล้วค่ะ แต่ในช่วงแรกๆ จะรับรู้อยู่ในกลุ่มนักวิชาการมากกว่า และการทำ�งาน ก็มุ่งไปในเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก แต่ตอนหลังก็มีพัฒนาการโดยมี จุดมุ่งหมายของการทำ�งานที่หลากหลายขึ้น เช่น เพื่อสิทธิสตรี เพื่อ เด็กพิการ เพื่ออนุรักษ์สัตว์ เพื่อการเกษตร ฯลฯ จนพัฒนามาถึงยุคนี้ ทีเ่ ป็นการประสานความร่วมมือในลักษณะเครือข่าย เป็นการรวมกลุม่ กันขององค์กรสาธารณประโยชน์ต่างๆ ที่มีจุดประสงค์ ในการทำ�งาน คล้ายกัน เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นค่ะ”
“ศูนย์เรียนรู้รักษ์แบนเกาะเต่า” กำ�เนิดขึ้นได้เพราะอะไร และ เพื่ออะไร
คุณต่อศักดิ์ : “ตอนนี้ศูนย์เรียนรู้รักษ์แบนเกาะเต่า ได้รับการ รับรองสถานะเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ตามกฎหมาย โดยได้รับ ใบสำ�คัญแสดงการเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ ประกาศแจ้งใน ราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้วนะครับ และที่องค์กรนี้เกิดขึ้นมาก็ เพราะเกาะเต่ามีปัญหาสิ่งแวดล้อม และเราต้องการแก้ไขปัญหานั้น เกาะเต่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลก แต่ละปีมีนักท่องเที่ยว มาที่นี่กว่า 1 ล้านคน ประชากรบนเกาะก็เพิ่มขึ้นมาก ประชากรแฝง ก็เยอะ ดังนั้นเราต้องเจอปัญหาขยะและน้ำ�เสียที่เพิ่มขึ้น เฉพาะ น้ำ�เสียก็มีปริมาณเฉลี่ย 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และน้ำ�เสียพวก นี้ถูกปล่อยลงสู่ลำ�คลองสาธารณะและทะเลโดยไม่มีการบำ�บัดก่อน ทำ�ให้ชายหาดบางจุดลงเล่นน้ำ�ไม่ได้แล้ว ซึ่งไปกระทบการท่องเที่ยว MKD 44
และคุณภาพชีวิตของคนเกาะเต่าเอง ซึ่งเรามองว่าทางแก้ที่ดีที่สุด ก็คอื การเพิม่ ศักยภาพของคนเพือ่ ช่วยกันดูแลชุมชนของเขาเอง และ กระตุ้นให้สถานประกอบการมีบทบาทในการจัดการน้ำ�เสียและดูแล ทรัพยากรธรรมชาติในชุมชนครับ” คุณรำ�ลึก : “ดิฉนั เองก็เป็นผูป้ ระกอบการคนหนึง่ ค่ะ และมีจติ สำ�นึก ที่ต้องการทดแทนแผ่นดินที่ทำ�ให้อยู่ดีมีสุขจนทุกวันนี้ ดิฉันพยายาม ลดการทำ�ลายสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุดด้วยการบริหารจัดการภายใน มานานแล้ว เราลดปริมาณขยะโดยการใช้วัสดุธรรมชาติ ถ้าจำ�เป็น ต้องใช้อย่างอื่นก็จะนำ�ไปผ่านกระบวนการให้นำ�กลับมาใช้ ใหม่ให้คุ้ม ค่า เราให้ความสำ�คัญกับการคัดแยกขยะ และบำ�บัดน้ำ�เสียอย่างถูก วิธี ในสถานที่ของดิฉันทุกแห่งไม่ใช้สารเคมี แม้แต่น้ำ�ยาล้างห้องน้ำ� เราก็ใช้น้ำ�หมักชีวภาพ พืชผักผลไม้เราก็ปลูกเอง สบู่ แชมพู น้ำ�ยา ล้างจานเราก็ผลิตเองจากสมุนไพร และเราเปิดให้ผู้ประกอบการ รายอื่นๆ รวมถึงประชาชนทั่วไปได้เข้ามาศึกษามาอย่างต่อเนื่องค่ะ ทีเ่ ราก่อตัง้ ศูนย์ฯ นีข้ นึ้ มาก็เพือ่ จะสานต่องานด้านอนุรกั ษ์สงิ่ แวดล้อม ให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น หวังให้เป็นศูนย์เรียนรู้ต้นแบบที่ผลักดันให้ คนเกาะเต่าเฝ้าระวัง ป้องกัน บำ�บัด และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ศูนย์ฯ นี้จะเป็นทั้งแหล่งเรียนรู้และแหล่งบริการข้อมูลข่าวสารด้าน สุขภาวะ เป็นพืน้ ทีส่ าธิตการทำ�งานและแลกเปลีย่ นเรียนรู้ เสมือนเป็น ทีจ่ ดุ ประกายความคิดสร้างสรรค์ และทำ�หน้าทีร่ กั ษา เผยแพร่ภมู ปิ ญ ั ญา ในด้านการทำ�ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยด้วยค่ะ”
มิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่วนพันธกิจของเราคือ สร้างแรงบันดาลใจ...สู่ การใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาวะของทุกคนในองค์กร ดังนั้นศูนย์ฯ ของเรา จะไม่อยูน่ งิ่ เราจะจัดให้มกี ารพบปะสมาชิกและประชาชนเพือ่ ให้ความ รูเ้ รือ่ งการจัดการสิง่ แวดล้อมอย่างยัง่ ยืนตลอดเวลา อาจอยูใ่ นรูปของ นิทรรศการ การบรรยาย การประชุมหรืออบรม หมุนเวียนกันไปครับ สิ่งที่เราต้องการให้เกิดมากที่สุดก็คือความศรัทธาที่จะทำ�ให้เกาะเต่า น่าอยู่ และความเคารพในความเห็นที่แตกต่าง เพราะมันเป็นไป ไม่ได้ที่ทุกคนจะคิดเหมือนกัน เราอยากให้ทุกคนได้เรียนรู้ว่าความสุข ทีแ่ ท้จริงคือสุขจากการเป็นผู้ ให้ และรักษาธรรมชาติ ไม่ใช่ตกั ตวงเอาแต่ ผลประโยชน์ โดยไม่สนว่าธรรมชาติจะเสียหายอย่างไร เพราะสิ่งนี้ คือความสุขที่ยั่งยืนครับ” คุณรำ�ลึก : “ดิฉันเชื่อว่าการสร้างเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เป็นเรื่อง สำ�คัญมากค่ะ ศูนย์ฯ ของเราจะไม่ได้เป็นเพียงสำ�นักงาน แต่จะเป็น พื้นที่ของกัลยาณมิตร เราเปิดรับภาคีที่มีแนวคิดเดียวกับเรา และ คนเกาะเต่าทุกเพศทุกวัยสามารถสมัครเป็นสมาชิกได้ โดยสมาชิกจะ ได้รบั สวัสดิการต่างๆ ตามทีศ่ นู ย์ฯ กำ�หนดไว้ และมีสทิ ธิเสนอความคิด เห็นเกี่ยวกับการดำ�เนินการของศูนย์ฯ รวมไปถึงสิทธิเข้าร่วมประชุม ต่างๆ และการร้องขอต่อคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบเอกสารบัญชี ไปจนถึงได้เข้ารับการฝึกอาชีพจากฐานเรียนรู้ต่างๆ ของศูนย์ฯ โดย สมาชิกจะต้องปฏิบัติตามระเบียบของศูนย์ฯ และให้ความร่วมมือ ในการดำ�เนินการต่างๆ เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมค่ะ” เมืองไทยของเรานัน้ เป็นสถานทีเ่ พียงไม่กแี่ ห่งในโลกทีม่ คี วามอุดม สมบูรณ์พร้อมด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ดินแดนทุกตารางนิ้วตั้งแต่ ผืนดินจรดผืนน้ำ�ล้วนมีทรัพย์มากค่าให้นำ�มาใช้ประโยชน์ได้มหาศาล แต่ถึงกระนั้น...มันก็มีวันสิ้นสูญหากไม่รักษา คงไม่ต้องเตือนกันว่า วันนี้ถึงเวลาแล้วที่คนไทยต้องลุกขึ้นมาดูแลธรรมชาติ แต่อยากจะ บอกเหลือเกินว่าช่วยลงมือทำ�กันเสียทีเถิด อย่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ ของผู้ ใดแต่เพียงคนเดียว หรือกลุ่มเดียวอีกต่อไปเลย....
แผนการดำ�เนินงานหลัก หรือเรื่องเร่งด่วนขององค์กรในช่วง เริ่มแรกนี้คืออะไร
คุณต่อศักดิ์ : “วิสยั ทัศน์ของศูนย์ฯ คือแนวคิดสร้างสุข เพือ่ ความ สุขของทุกคน ทุกๆ ที่คือแหล่งเรียนรู้ เราคือองค์กรสีเขียวที่เป็น MKD 45
ศูนย์เรียนรู้รักษ์แบนเกาะเต่า 5/56 หมู่ 1 ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี โทร. 077-456063
M A N @ W ORK
Story : Pijitra Phpto : Pom Narong Pruksaphiboon
a man who’s outspoken, but good heart. หากเอ่ยถึงเกาะสมุยแล้ว แน่ล่ะว่าเกือบทุกคนจะต้องนึกถึงเฉวงและละไม ชายหาด แสนงาม ที่ที่เต็มไปด้วยรีสอร์ท สปาสุดหรู และสีสันความคึกคักของร้านรวง รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งยามราตรี เพราะเป็นจุดเด่นที่ถูกชูเป็นจุดขายมายาวนาน... รองลงมาก็คือธรรมชาติของน้ำ�ตกสวย ตามมาด้วยหินตา-หินยาย ปฏิมากรรมธรรมชาติที่น่าทึ่ง และวัดวาอาราม ต่างๆ ที่สะท้อนความงดงามของสถาปัตยกรรมไทย และความเชื่อในวิถีพุทธมหายาน....กระทั่งได้บังเกิดสถานที่ แห่งหนึ่ง อันเป็นศาสนสถานของชาวไทยเชื้อสายจีนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนเกาะสมุย และเป็นที่ประดิษฐานเทพเจ้าจีน ขนาดยักษ์ที่งดงามอลังการ เกาะสมุยจึงมี ‘สิ่งมหัศจรรย์แห่งใหม่’ มาประดับและแต่งแต้มให้การท่องเที่ยวมีสีสัน มากยิ่งขึ้น...และสถานที่นั้นคือ ‘ศาลเจ้ากวนอู’... กำ�เนิดของศาลเจ้ากวนอูนั้น เริ่มต้นขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2400-2405 โดยชาวจีนไหหลำ� แซ่โย้ และแซ่ลิ้ม รวม 3 คน คือโย้กมิ ยี่ ลิม้ เทียนว่า และลิม้ เทียนหยู โดยทัง้ 3 ได้สงั่ ทำ�เทวรูปแกะสลักกวนอู พร้อมองครักษ์อกี 2 องค์แล้วอัญเชิญ มาประดิษฐานที่ศาลเจ้าไม้เล็กๆ บริเวณหาดบ้านค่าย เรียกว่าศาลเจ้าบุ่นเถ่ากง หรือศาลเจ้าหน้าค่าย ต่อมา ได้มีการย้ายศาลจากตลาดหน้าค่ายมายังตลาดหัวถนน เมื่อ พ.ศ. 2478 โดยยังคงสร้างเป็นอาคารไม้เคี่ยม จนกระทัง่ ปี พ.ศ. 2551 ‘คุณวิรชั พงศ์ฉบับนภา’ หรือทีช่ าวเกาะสมุยรูจ้ กั กันดีในนาม ‘โกฉุย’ เจ้าของและกรรมการ บริหาร โรงแรมพาวิลเลียนสมุย บูติค รีสอร์ท ผู้เป็นลูกหลานชาวจีนไหหลำ�ผู้จัดสร้างองค์กวนอูนั้น และดำ�รงตำ�แหน่ง ประธานคณะกรรมการศาลเจ้าฯ จึงได้คดิ พัฒนาปรับปรุงศาล โดยได้รวบรวมเงินบริจาคจากประชาชนชาวเกาะสมุยและ ชาวสุราษฎร์ฯ ผู้มีความศรัทธาและอุดมการณ์เดียวกัน รวมกับทุนทรัพย์ส่วนตัว โดยทำ�การขยายพื้นที่ศาล และรักษา อาคารไม้เคี่ยมหลังเดิมไว้ พร้อมทั้งสร้างหอศาลารายใหม่ รวมค่าที่ดินและการก่อสร้างรวม 70 ล้านบาท พร้อมกับวางแผนจัดหาทุนสร้างองค์กวนอูสัมฤทธิ์ในอนาคต ขนาดความสูงองค์ 12 เมตร ความสูงรวมฐาน 16 เมตร มูลค่าราวๆ 20 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการหาทุนและการหล่อ เพื่อให้เป็นศูนย์รวมใจของ คนไทยเชื้อสายจีน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเกาะสมุย และเป็นไอคอนใหม่ของเกาะสมุยในอนาคตอีกทั้ง ยังเตรียมแผนจัดทำ�พิพิธภัณฑ์บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของคนจีนไหหลำ�บนเกาะสมุยให้คนทั่วไปได้ศึกษา รวมทั้งวางแผนสร้างอาคารชุมชนจีนโบราณในเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 8 ไร่ และเมือ่ ทีมงาน ‘เมืองคนดี’ ได้มาเห็นศาลเจ้ากวนอูประจักษ์แก่สายตา ความคิดก็ดงั ขึน้ ในหัวทันทีวา่ คนทีจ่ ะสร้าง สถานที่อย่างนี้ ได้ต้องไม่ใช่คนธรรมดา แต่คนๆ นั้นต้องเป็นทั้ง ‘นักบุญ นักคิด นักวิเคราะห์ และเป็นนักออกแบบ’ ที่มี มันสมองเฉียบคม และจากคำ�ร่ำ�ลือของชาวสมุยทำ�ให้รู้ว่านอกจากจะเป็นเช่นนั้นแล้ว เขายังเป็นนักวิจารณ์ฝีปากกล้า แต่มีจิตใจดีงามบนพื้นฐานของความมุ่งมั่นพัฒนาบ้านเกิด... ‘คนดี’ ผู้เป็นศรีแห่งเมืองคนดีเช่นนี้ มีหรือที่เราจะพลาด... และแล้วเราก็ได้ โอกาสพบปะพูดคุยกับโกฉุย ในเย็น วันหนึ่ง ท่ามกลางอาหารรสเลิศและบรรยากาศสบายๆ นั้น เขาได้เล่าถึงความเป็นมาของตนเองสั้นๆ ว่า.... “ผมเป็นคนหาดละไม หรือเรียกกันว่าหมู่บ้านชายทะเล เติบโตร่ำ�เรียนอยู่บนเกาะนี้ตั้งแต่เล็กๆ จนจบมัธยมต้น จากนั้นก็สอบเข้าเรียนต่อมัธยมปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ในกรุงเทพฯ พอจบก็เอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย ของรัฐตามวิถีของนักเรียนในยุคนั้น และสอบติดคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เรียนจบผมก็ออกมา สมัครเข้าทำ�งานในบริษัทขายปุ๋ย ทำ�ได้พักหนึ่งก็กลับมาบ้านเกิด และบุกเบิกทำ�บังกะโลบนที่ดินซึ่งเป็นมรดกตกทอด จากตระกูล จากนั้นก็ขยับขยายมาเรื่อยๆ จนเป็นอย่างที่เห็น...” MKD 46
virach
pongchababnapa วิ ร ั ช พงศ์ ฉ บั บ นภา MKD 47
การพัฒนา “สมุย” ในมุมมองของ ‘โกฉุย’
...แต่สงิ่ ทีเ่ ราต้องการจากการพูดคุยกับ ‘นักคิด’ เช่นเขาในครัง้ นี้ หาใช่ประวัตคิ วามเป็นมาในชีวติ หรือการทำ�งานธุรกิจ หากเป็นเรือ่ ง ที่ยิ่งใหญ่กว่า นั่นคือมุมมองเกี่ยวกับพัฒนาแดนดินถิ่นเกิด เราจึง พุ่งประเด็นไปตรงนั้น และเขาก็ยินดีที่จะฉายภาพแนวทางการแก้ ปัญหาบนเกาะสมุยและจังหวัดสุราษฎร์ฯ ทีม่ คี วามน่าสนใจอย่างยิง่ ว่า.. “ผมว่าการจะพัฒนาบ้านเมืองจะต้องมีการวางแผนครับ และ การวางแผนที่ดีที่สุดต้องนึกเสมือนว่า เราจะสร้างบ้าน สิ่งสำ�คัญ อย่างแรกจึงเป็นการออกแบบผังเมือง โดยทำ�เป็นโมเดลทั้งเกาะ เสียก่อน แล้วค่อยแยกออกเป็นโมเดลย่อยสูแ่ ต่ละหาด เพราะแต่ละ ที่มีความต้องการและมีความจำ�เป็นต่างไป แล้วเชิญตัวแทนหรือ ผู้นำ�พื้นที่ต่างๆ มาปุจฉา วิสัชนากัน เป็นการผลักดันให้ประชาชนมี ส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ผมเคยไปทีเ่ ซีย่ งไฮ้ ประเทศจีน ทีน่ นั่ มีหอขนาดใหญ่มาก ในนัน้ มีหอ้ งๆ หนึง่ ทีท่ �ำ เป็นโมเดลเมืองเซีย่ งไฮ้ ในอนาคต เขาคิดไว้หมดเลย ทุกระบบ และไม่ได้คดิ สุม่ สีส่ มุ่ ห้านะ ขนาดประเทศเขาเป็นคอมมิวนิสต์ ยังมีการระดมความคิดเห็นประชาชน และทำ�การศึกษาจริงจัง แล้วถึง มาฉายภาพเป็นรูปธรรมด้วยโมเดล และเขาก็จะเดินไปตามนั้น บ้านเมืองของเราเป็นประชาธิปไตย แต่ทำ�ไม่ได้เท่าเขา เราไม่มีการ วางผังเมืองทีด่ ี ไม่มกี ารศึกษาจริงจังต่อเนือ่ ง ไม่ถามคน ไม่ใช่แค่สมุยนะ ทุกที่เลย เพราะอย่างนี้เราถึงมีคำ�ถามว่า ทำ�ไมใช้งบประมาณตั้ง ไม่รู้กี่ล้านๆ บาท แต่บ้านเมืองของเราก็ยังทรงอยู่ที่เดิม ตรงนี้... โดยส่วนตัวผมเป็นคนชอบออกแบบ และผมก็ยินดีแชร์นะ ถ้า มีใครอยากเข้ามา ผมมองวิธแี ก้ปญ ั หาสมุยมาตลอด และคิดว่าสมุย ต้องทำ�ผังเมืองทแยงให้ออกลักษณะสีเ่ หลีย่ มผืนผ้ามากทีส่ ดุ อย่าง ทุ่งนาในละไมนี่ ถ้าเราขยายพื้นที่ชุมชนออกไป ตัดถนนเป็นสี่แยก หมากรุกและมีบ่อน้ำ�เสียเชื่อมลงคลอง ผมเชื่อว่าหาดละไมจะสวย
รุ่งเป็นดินแดนบูติค และไม่มีปัญหาน้ำ�ท่วม แล้วเจ้าของที่ในทุ่งนา จะร่ำ�รวยถ้วนหน้า... (ยิ้ม) แต่การแก้ไขปัญหานี่ เราทำ�ตูมเดียวไม่ได้หรอกครับ เพราะเงิน เราไม่พอ ต้องทำ�แบบค่อยเป็นค่อยไป ตามแผนเป็นสเต็ป ก็เหมือน ต่อจิก๊ ซอว์นะ่ จะแก้ไขเรือ่ งไหนก่อนก็ตอ้ งไล่ล�ำ ดับความสำ�คัญ อย่าง ปัญหาเรื่องน้ำ�ท่วม เรื่องมลพิษที่แย่มาก เราก็มาดูว่าตรงไหนคือ จุดทีห่ นัก ตอนนีห้ าดเฉวงและละไมเปรียบได้กบั เมืองหลวงของสมุย เราก็ต้องให้ความสำ�คัญกับการแก้ปัญหาพื้นที่นี้ก่อน อย่าปล่อยให้ ลำ�คลองอุดตัน และดูแลควบคุมบ่อน้ำ�เสียให้อยู่ในสภาพดี ผมมี ไอเดียว่าถ้าเราระดมเอาขยะพวกเศษอาหารในโรงแรมมาทำ� EM คือซื้อกากน้ำ�ตาลมาหมักเป็นจุลินทรีย์ แล้วต่อเข้ากับน้ำ�ดี คล้ายๆ กับผสมน้ำ�ร้อนกับน้ำ�เย็นแล้วปล่อยทิ้งในลำ�คลอง น่าจะเป็นผลดี เพราะได้ก�ำ จัดขยะ แล้วจุลนิ ทรียย์ งั ไปช่วยบำ�บัดในน้�ำ ลำ�คลองให้ดดี ว้ ย ซึ่งลงทุนไม่มากเลย ในเรื่ อ งการคมนาคมขนส่ ง ผมว่ า บ้ า นเมื อ งเรายั ง เป็ น monopoly เดีย๋ วนีก้ ารเดินทางทีส่ ะดวกทีส่ ดุ คือเครือ่ งบิน แต่ทสี่ มุย ไม่มกี ารแข่งขันในเรือ่ งนีเ้ ลย คุณลองคิดดูวา่ ระยะทางจากกรุงเทพฯ ไปภูเก็ต มันไกลกว่ากรุงเทพฯ สมุยนะ แต่ค่าโดยสารกลับถูกกว่า เพราะมีคู่แข่ง...คนที่จะอนุมัติให้ราคาขึ้นลงได้คือกรมการพาณิชย์ ผมก็ไม่เข้าใจว่าเขากำ�ลังทำ�อะไร ดูๆ ไปก็เท่ากับเป็นการกีดกันไม่ ให้คนไทยมาเที่ยวสมุย สายการบินมันเป็น Infrastructure ของ การท่องเที่ยว ไม่ควรให้ ใครผูกขาด เราควรมีกฎหมายควบคุม เช่น เอกชนสามารถทำ�สนามบินได้ แต่หลังจากนั้น 20-30 ปี ควรตก เป็นของรัฐ เพราะคุณได้ประโยชน์จากตรงนั้นไปจนเกินคุ้มแล้ว เมื่อสนามบินตกเป็นของรัฐ แอร์ไลน์ต่างๆ ก็จะสามารถแข่งกันใน ราคาและบริการ ซึ่งแน่นอนว่าคนได้ประโยชน์คือประชาชนทุกคน
MKD 48
อีกอย่างทีผ่ มอยากให้เราเร่งให้เกิดก็คอื รถไฟความเร็วสูง คงจำ� ได้วา่ เมือ่ ไม่นานมานีม้ กี ารแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชียที่ โคราช ถ้าประเทศเรามีรถความเร็วสูงจากกรุงเทพฯ ไปโคราช วันนัน้ จะมีคนไทยและนักท่องเทีย่ วกีล่ า้ นคนมุง่ หน้าไปเชียร์กฬี าทีน่ นั่ แล้ว นครราชสีมาจะได้ประโยชน์จากการท่องเทีย่ วมากเท่าไร... ผมเคยนัง่ รถไฟความเร็วสูงจากกรุงโซลไปปูซาน ใช้เวลาแค่ 3 ชัว่ โมงกว่า พบว่า วันหนึ่งๆ มีนักท่องเที่ยวเยอะมาก เพราะมันสะดวก ปลอดภัย สำ�หรับภาคใต้นั้น ผมคิดว่าควรทำ�จากกรุงเทพฯ ถึงพุนพิน แล้วให้เลี้ยวไปดอนสัก อย่าไปทุ่งสงนะ แล้วผ่านสิชล ท่าศาลา สู่ นครศรีธรรมราช เลี้ยวขวาร่อนพิบูลย์ ออกตรัง กระบี่ พัทลุง และ สิ้นสุดที่หาดใหญ่ ลองคิดดูสคิ รับว่าจาก กทม. มาดอนสัก สมมุตใิ ช้เวลา 4 ชัว่ โมง ราคา 1,500 บาท อะไรจะเกิดขึ้น... นักท่องเที่ยวกรุ๊ปจะลงมาทางนี้ กันมาก ในเพลา เขาพลายดำ� สิชล จะเกิดเมืองท่องเที่ยวใหม่ สมุย ก็ได้อานิสงส์ ต่อเรือเร็วแค่ 30 นาทีถงึ ไม่ตอ้ งบ่นราคาแพง บางกอก แอร์เวย์ปัจจุบันไปกลับ 9,600 บาท โหดขนาดไหน ทั้งที่ผูกขาด น่าจะถูก นักการเมืองไม่วา่ พรรคไหนก็ไม่สนใจหรอก ถ้าเป็นแบบนี้ เขาต้องลงราคาแน่ อาจเหลือไปกลับ 5,000 บาท และเชื่อมทะเล อ่าวไทยกับอันดามันดัวย...ความเร็วคือ Mass และ Mass ก็คือเงิน ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจจะสะพรั่งทันตาเห็น”
อนาคตของสุราษฎร์ฯ ที่อยากเห็น
“ผมเป็นคนสุราษฎร์ฯ ก็มคี วามห่วงใยพีน่ อ้ งคนสุราษฎร์ฯ เป็น ธรรมดานัน่ แหละครับ สิง่ ทีผ่ มหวังหรือคิดมันก็เลยหนักไปเรือ่ งคิด แก้ไขปัญหาทีก่ �ำ ลังเป็นอยู่ ตอนนีเ้ รือ่ งเด่นๆ ในภาคใต้เรา นอกจาก มีการท่องเที่ยวแล้ว ก็จะเป็นภาคเกษตรกรรม เราเป็นแหล่งผลิต อาหารทะเล เป็นแหล่งผลิตยางพาราและกาแฟที่ใหญ่ของประเทศ แต่ตอนนีเ้ รามีปญ ั หาทุกเรือ่ งทีพ่ ดู มา ในสุราษฎร์ฯ และหลายจังหวัด ใกล้เคียง มีเกษตรกรทำ�นากุ้งกันเยอะ และกำ�ลังมีปัญหาเรื่องขี้กุ้ง ทีท่ �ำ ให้น�้ำ ทะเลและดินเสือ่ มโทรม ผมเคยศึกษามาว่าป่าโกงกางจะ ช่วยได้ เพราะรากโกงกางจะช่วยดูดสารพิษทัง้ หลายก่อนออกสูท่ ะเล ทำ�เป็น Project ยักษ์เลย ขุดคลองใหญ่ระยะยาว จากกาญจนดิษฐ์ ถึงระโนด และทุกระยะ 1-2 กิโลเมตร ปลูกป่าโกงกางเสีย เป็นพืน้ ที่ 1-2 ตารางกิโลเมตร ทำ�คลองเป็นรูปลำ�ไส้วกไปมาออกสูท่ ะเล หมุนน้�ำ ดี ปลอดโรคกลับเข้านากุง้ เราก็ได้นากุง้ ที่ไม่ทำ�ลายทรัพยากรแล้ว ผมคิดว่า สุราษฎร์ฯ หรือทะเลสาบสงขลา สามารถเปิดทะเล ทำ� customs ได้ ซึ่งทำ�ให้การส่งออกสามารถทำ�จากตรงนี้เลย ไม่ต้องตีรถไปมหาชัย เพราะการคมนาคมเราก็พร้อม และสามารถวางแผนโลจิสติกส์ ให้ดไี ด้ ถ้ามีการให้สิทธิพิเศษแก่บริษัทส่งออก เมื่อคนใดเอากุ้งมาลงที่นี่ ก็ให้สิทธิพิเศษรูปแบบต่างๆ เช่น ไม่ต้องเสียภาษีในระยะ 5-10 ปี แล้วตัง้ คณะกรรมการสามฝ่าย โดยมีรฐั บาล ชาวนากุง้ และพ่อค้าช่วยกัน ดูแลราคากุง้ น่าจะเป็นการแก้ปญ ั หาทีย่ งั่ ยืน ยิง่ ถ้ามีธนาคารกุง้ รองรับ เกษตรกรก็จะเลีย้ งกุง้ ได้รอบไว รายได้ครัวเรือนเพิม่ รายได้ประเทศก็เพิม่ เพราะแค่ 3-4 เดือนก็ได้เงินล้าน และยังได้รักษาระบบนิเวศ ป่าโกงกาง ปูด�ำ และอืน่ ๆ อยูไ่ ด้ และเป็นแหล่งท่องเทีย่ วชุมชนอีกด้วย เรือ่ งยางพาราก็เช่นกัน ผมคิดว่าเราน่าจะรวมตัวตัง้ เป็นศูนย์กลาง ยางภาคใต้ที่เวียงสระ อาจทำ�เป็นเมืองพิเศษหรือที่เรียกว่านิคม อุตสาหกรรม โดยตัดถนนให้เป็นเส้นทางรองรับเพื่อการส่งออกซึ่ง
สามารถทำ�ได้หลายทางมาก และส่งเสริมให้ โรงงานผลิตยางรถยนต์ ขนาดใหญ่มาตั้งที่นี่ โดยบริษัทสามารถเขียนสเปคขอสิทธิพิเศษได้ แต่ละปีน�ำ ผูส้ งั่ เข้ายางจากจีนมาจัดงานพบผูซ้ อื้ และผ้ขู ายทีเ่ วียงสระ มาประมูลยางที่นี่ สหกรณ์ยางสามารถคุยกับผู้สั่งซื้อโดยตรงได้ ก็น่าจะเป็นการดีต่อพี่น้องสวนยางบ้านเรา ส่วนเรือ่ งกาแฟ ชุมพรคือศูนย์กลางใหญ่ และชุมพรก็มสี หกรณ์ อยูแ่ ล้ว เช่น สหกรณ์พะโต๊ะ พวกเราน่าจะช่วยกันผลักดันให้สหกรณ์ ใหญ่ขึ้น เข้มแข็งขึ้น ให้ Know How ผลิตกาแฟรูปแบบต่างๆ เช่น เมล็ดกาแฟสดใช้ ในโรงแรม เราอาจขอความร่วมมือกับสมาคมโรงแรม ให้ทกุ โรงแรมช่วยกันส่งเสริมกาแฟไทยของชาวใต้ โดยซือ้ ผลิตภัณฑ์ ไปใช้ ในโรงแรม หรือขอความร่วมมือ หรือออกกฎข้อบังคับกระทรวง พาณิชย์กบั บรรดาร้านค้าสะดวกซือ้ โดยเฉพาะทีเ่ ป็นเชนต่างชาติ เช่น Lotus, Bic C, 7-Eleven ว่าให้มีพื้นที่กี่ตารางเมตรต่อพื้นที่ทั้งหมด เพือ่ เป็น Cornor เกษตรกร หรือโอทอป แบบนี้ ไม่ตอ้ งจัดหาสถานที่ หรือจ้างคนเลย เพราะห้างมีอยู่แล้ว เป็นต้น และรัฐบาลก็สามารถส่งเสริมด้วย Package Incentive เช่น ปีแรก ถ้าซื้อ 10,000 บาท สามารถนำ�ไปลดภาษีได้เลย 3 เท่า คือ 30,000 บาท ร้านค้าก็ได้กำ�ไร และนำ�เอา Incentive นี้ ไปหักภาษี รายได้เช่นกัน ผมว่าถ้าเป็นแบบนี้ ได้ ทุกฝ่ายก็ได้ผลประโยชน์ครับ คือเกษตรกร โรงแรม หรือผูซ้ อื้ และผูข้ ายคือห้างสะดวกซือ้ เหล่านัน้ win win ด้วยกันทุกฝ่าย เห็นไหมครับ ไม่ตอ้ งสร้างอาคาร ไม่ตอ้ งจ้างคน แล้วยังขายดีด้วย ทุกเรือ่ งทีผ่ มพูดนี่ ผมไม่ได้บงั อาจสอนใครนะครับ ผมเพียงแต่ คิดบนพืน้ ฐานความจริง และอยากจะแชร์ความคิดไปสูค่ นอืน่ ๆ เพราะ ถ้าคนในชุมชนไม่รจู้ กั ดูแลรักษา หรือเป็นปากเป็นเสียงเพือ่ ชุมชนของ ตนเองแล้ว ต่อไปในอนาคตลูกหลานของเราก็คงไม่มีที่จะยืนครับ ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน บอกตามตรงว่าผมมอง ตรงข้ามกับคนอื่นนะ (ยิ้ม) สโลแกนของผมคือ 1) กินให้มีคุณภาพ งาบให้มีคุณธรรม 2) กินแล้วให้เกิดประสิทธิภาพ งาบแล้วให้เกิดประสิทธิผล คือถ้ากิน แล้วงานสำ�เร็จ เช่น สุวรรณภูมกิ นิ แล้วเสร็จ นักท่องเทีย่ วจาก 10 ล้าน เพิม่ เป็น 22 ล้านคน ผมก็ชอบมากกว่าไม่กนิ แต่ไม่มผี ลงาน คือให้ win ทุกฝ่าย ถ้าประชาชนชนะ บ้านเมืองชนะ ผูป้ กครองชนะ แต่อย่ามากเกิน ผมว่า ทีเ่ หลือก็ชนะหมด คุณว่าเวลารถติดหล่มใช้รถโฟร์วลี ดีกว่ารถธรรมดา ไหมล่ะ รถโฟร์วลี ติดหล่มมันขึน้ ได้ แต่ถา้ วีลเดียวเราขึน้ ไม่ได้ คือวิน เดียวขึ้นไม่ได้ แต่โฟร์วิน ขึ้นได้ จริงไหม... ก็เพราะสัจธรรมทีผ่ มเห็นว่า ไม่มพี รรคการเมืองไหนไม่คอร์รปั ชัน เมืองไทยห้ามไม่ให้นกั การเมืองคอร์รปั ชัน ก็เหมือนห้ามพระอาทิตย์ ไม่ขึ้นทิศตะวันออกและตกทิศตะวันตก (ยิ้ม) ผมเป็นคนชอบมอง ความจริง ไม่บ้าอุดมคติครับ” แม้สิ่งที่คุณวิรัช หรือ ‘โกฉุย’ พูดมาจะเป็นเพียงแนวคิด แต่ ก็ตงั้ อยูบ่ นการวิเคราะห์ขอ้ เท็จจริงอย่างมีเหตุมผี ล และตัง้ มัน่ อยูบ่ น ความบริสุทธิ์ใจเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นที่ยั่งยืน หวังเพียงว่า... ถ้ามัน ดังไปถึงหูใครทีเ่ กีย่ วข้อง และสามารถนำ�ไปศึกษาต่อยอด ตลอดจน ปรับปรุงให้เกิดการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมจนสามารถสร้างประโยชน์ ให้ชาวสมุยและคนสุราษฎร์ฯ ได้ ก็จะเป็นเรื่องน่ายินดีมาก และเรา หวังอย่างยิ่งที่จะให้มันเป็นเช่นนั้น...
MKD 49
SPEA K OU T
Story : Narong
Photo : Pom Demand
เพื่อชาวสุราษฎร์ฯ
MKD 50
rajjaprapha dam นิพนธ์ อรุณศรี
ผู้อำ�นวยการเขื่อนรัชชประภา เป็ น ที่ รู้ กั น ดี ว่ า การไฟฟ้ า ฝ่ า ยผลิ ต นั้ น คื อ รั ฐ วิ ส าหกิ จ สั ง กั ด กระทรวงพลั ง งาน ที่ มี หน้ า ที่ ใ นจั ด หาพลั ง งานไฟฟ้ า แก่ ป ระชาชน ให้ เ พี ย งพอต่ อ ความต้ อ งการ และมี ร ะบบ ไฟฟ้าที่มั่นคงในราคาที่เหมาะสม... แต่นอกเหนือจากงานอันเป็นนโยบายหลักดังกล่าวแล้ว กฟผ. ยังให้ความสำ�คัญอย่างมากต่อการพัฒนาสังคมชุมชน โดยเฉพาะชุมชน ทีอ่ ยูใ่ นพืน้ ทีท่ มี่ หี น่วยงานของ กฟผ. ตัง้ อยู่ ดังเช่นทีอ่ ำ�เภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี อันเป็นที่ตั้งของ ‘เขื่อนรัชชประภา’ ซึ่ง กฟผ. ได้ เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาชุมชนมาอย่างต่อเนือ่ งนับตัง้ แต่กอ่ สร้าง เขื่อนจนกระทั่งปัจจุบัน และในอนาคต กฟผ. ก็ยังคงยืนหยัดเดิน หน้าเคียงคู่ชาวสุราษฎร์ธานี ดังที่ ‘คุณนิพนธ์ อรุณศรี’ ผู้อำ�นวยการ เขื่อนรัชชประภา ได้กล่าวว่า... “งานหลักของพวกเราชาว กฟผ. ก็คือการนำ�นโยบายจากส่วน กลางมาปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม ซึ่งคือการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อบริการ ประชาชนอย่างเพียงพอและมีคณ ุ ภาพ เราจึงเน้นการดูแลโรงไฟฟ้าพลัง น้ำ�ของเราให้ดีที่สุด ด้วยการใส่ใจในการบำ�รุงรักษา การบริหารจัดการ และการพัฒนาบุคลากร ทัง้ นีเ้ พือ่ ให้เกิดความพร้อมในการแก้ไขอุปสรรค ทีจ่ ะเกิดขึน้ ทุกรูปแบบ นอกจากนีเ้ รายังให้ความสัมพันธ์ทดี่ กี บั ชุมชน หรือ ทีเ่ ราเรียกว่า CSR โดยส่วนตัวผมค่อนข้างให้ความสำ�คัญกับชุมชนมาก ครับ เพราะเมือ่ องค์กรการไฟฟ้าไปตัง้ อยูท่ ี่ไหน ทีน่ นั่ ก็เปรียบเสมือนเป็น บ้านหลังที่สองของเรา ผมจึงได้ส่งเสริมให้ชาว กฟผ. ทุกคนนำ�ความ ปรารถนาดีเข้าไปหาคนในชุมชน โดยเฉพาะชุมชนรอบข้าง ถ้ามีสงิ่ ไหน ที่เป็นปัญหา เราก็พร้อมที่จะลงไปช่วยแก้ไข แม้ว่าบางเรื่องการไฟฟ้า จะไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่น ระบบไฟฟ้าตามหมู่บ้านก็ดี น้�ำ ประปาก็ดี แต่เราก็ยนิ ดีทจี่ ะเป็นตัวกลางประสานงานเพือ่ ให้เกิดการ แก้ไขต่อไป หรืออย่างที่ผ่านมา ชาวอำ�เภอบ้านตาขุนได้ริเริ่มโครงการ จัดสร้างอนุสาวรียพ์ ระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรงั สิต เราก็ได้ ให้ความสนับสนุนโดยจัดสรรสถานที่ในการก่อสร้างให้ ซึง่ มีก�ำ หนดแล้ว เสร็จประมาณเดือนเมษายน 2557 ครับ อีกประการหนึง่ ทีผ่ มและชาว กฟผ. ตัง้ ใจอย่างยิง่ ว่าจะต้องทำ�ให้ ดีทสี่ ดุ ก็คอื การอนุรกั ษ์สงิ่ แวดล้อม เพราะเขือ่ นรัชชประภาและบริเวณ อ่างเก็บน้�ำ หรือ “กุย้ หลินเมืองไทย” นัน้ ถือเป็นแหล่งท่องเทีย่ วสำ�คัญ
ของจังหวัดทีม่ คี วามแข็งแกร่งมากในด้านความสวยงามของธรรมชาติ เราจึงต้องรักษาสิ่งแวดล้อมไว้ ให้คงคุณค่าอย่างนี้ตลอดไป และเพื่อ ให้เกิดการทำ�งานที่ประสานกันอย่างมีประสิทธิผล ทาง กฟผ. และ หน่วยงานรัฐ อาทิ นายอำ�เภอ กำ�นัน ผู้ ใหญ่บ้าน ตลอดจนผู้นำ�ชุมชน และชมรมต่างๆ จึงได้จัดกิจกรรมจิบน้ำ�ชาประจำ�เดือน เพื่อพบปะพูด คุยกันถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงทุกข์สุขต่างๆ ของชุมชน และหารือทิศทางแก้ปญ ั หาร่วมกัน นอกจากนี้ กฟผ. ยังให้ความสำ�คัญ กับการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยครับ เพราะเราตระหนักดีว่าการ ท่องเที่ยวสามารถสร้างรายได้แก่ชาวบ้านให้อยู่ดีมีสุขได้ เราจึงต้อง ดูแลความเรียบร้อยของสถานที่และพัฒนาสิ่งอำ�นวยความสะดวก ด้านการท่องเที่ยวที่อยู่ในความรับผิดชอบของเราให้อยู่ในระดับ มาตรฐาน ไม่วา่ จะเป็นสนามกอล์ฟ โรงแรม ทีพ่ กั ร้านอาหาร และการ บริการเรือพาหนะ ขณะนีผ้ มได้วางกรอบนโยบายทีจ่ ะผลักดันให้เขือ่ น รัชชประภามีนักท่องเที่ยวมากขึ้น โดยร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท ท่องเที่ยวต่างๆ ให้นำ�นักท่องเที่ยวมาที่นี่ ซึ่งจะทำ�ให้เกิดการสร้าง อาชีพใหม่ เช่น ไกด์ชุมชน ซึ่งอาจเป็นนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการ ฝึกภาษาและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และเรากำ �ลังจะพัฒนา ป้ายบอกทางภายในเขื่อนและตามถนนเส้นหลักสู่ตัวเขื่อนให้มี จำ�นวนมากขึ้น โดยมีภาษาต่างชาติต่างๆ กำ�กับด้วยครับ ผมและชาว กฟผ. เชื่อว่าการพัฒนาท้องถิ่นคือกุญแจที่จะ นำ�พาประเทศไปสู่ความสำ�เร็จครับ แต่เราต้องมีสิ่งสำ�คัญนั่นคือ ความร่วมมือร่วมใจโดยคำ�นึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก เพราะลำ�พังแต่ละองค์กร แม้จะมีความคิดดีทจี่ ะพัฒนา ก็ไม่อาจทำ�ให้ สำ�เร็จโดยง่าย ด้วยต่างมีภาระหน้าที่หลักอยู่ แต่หากมีการผนึกกำ�ลัง ของหลายภาคส่วนทีเ่ กีย่ วข้อง ต่อให้การงานนัน้ จะมีปญ ั หาเลวร้ายแค่ ไหนก็สำ�เร็จลงได้ด้วยดี และเราชาว กฟผ. พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่ง ที่ผลักดันให้เกิดความสำ�เร็จของคนสุราษฎร์ฯ ครับ”
MKD 51
ON TH E W A Y
Story : Mr.Ronram Photo : Pom Demand
from unseen samui to natural beauty of koh phangan (part 1)
เจ้าประคุณเอ๊ยยยย!!! กว่าที่ผมและผองเพื่อนจะถกกันจบว่าจะพา คุณๆ ผู้อ่านไปเที่ยวที่ ไหนกันดีในฉบับนี้ ก็เล่นเอาหมดกาแฟไปหลายแก้ว พาลให้นั่งตาค้างเป็นนกฮูกทั้งคืน...
เรื่องของเรื่องเป็นเพราะสาวเหนือแฟนหมาดๆ ของเพื่อนโจ้สมาชิกแก็งค์ดันลาพักร้อนได้ยาว และขอตามมาด้วย... เป็นธรรมดาของชาวเหนือที่โตมากับยอดดอย พอได้ โอกาสย่อมอยากสัมผัส ทะเลให้เต็มตา เล่นเอาหนุ่มๆ อย่างพวกผมเซ็งจัดเพราะแอบประชุมลับกันไว้คร่าวๆ ว่าทริปนี้ จะขับโฟร์วีลลุยไปชมความงามในป่าเขียวสักหน่อย แต่อย่างว่าล่ะครับ เถียงกับผู้หญิง...ต่อให้ชักมหาสมุทรทุกทวีปมาหว่านล้อมอย่างไร เธอก็ไม่ๆๆๆ ท่าเดียว แล้วบทสรุปก็มาจบที่เกาะสมุยและพะงัน ที่ที่เราเคยคุ้นจนพูดได้ว่าตรงไหนฮิตเราก็ไปมา จนปรุ ร้อนถึงเพื่อนโจ้ที่ทนเห็นอาการไฟมอดของสมาชิกไม่ไหว เลยอาสาว่าจะกลับไปทำ�การบ้าน หา Unseen มาเสนอ ฟังแล้วผมได้แต่หัวเราะหึๆ ก่อนจะกระซิบใส่หูมันไปว่า... “ถ้าทำ�ให้ประทับใจได้ ตรูใ ห้เหยียบ แต่ถ้าไม่ ขอสักป้าบ จะให้หายกลัวหญิงซะที ” ********* หนึง่ สัปดาห์ผา่ นไป...สมาชิกอันประกอบด้วย ชายหนุม่ 6 หญิง 2 ก็มายืนหน้าสลอนอยู่ ณ เกาะสมุย หลังอัดมื้อเช้าเข้าท้อง โจ้กุลีกุจอต้อนเราขึ้นรถตู้ ก่อนจะประกาศว่าทริปนี้ขอเป็นผู้นำ�ทัวร์ และทุกคน จะต้องปฏิบัติตามคำ�สั่งอย่างเคร่งครัด! คำ�สั่งแรกคือ “เช้านี้เราจะไปชมของแปลกที่วัดสำ�เร็จ...” ที่ จริงผมเคยได้ยินชื่อวัดสำ�เร็จมาบ้าง แต่ไม่เคยได้ไป จนเมื่อมาเห็นกับตา ผมถึงกับด่าตัวเองว่าพลาด ได้อย่างไรเนี่ย... ตามคำ�บอกเล่าของชาวบ้านที่เล่าสืบต่อกันมา เชื่อกันว่าวัดสำ�เร็จเป็นวัดที่สมเด็จพระเจ้าตากสิน มหาราชทรงมีพระดำ�ริให้สร้างขึน้ โดยมีขรัวพุดสอน เจ้าอาวาสรูปแรกเป็นผูด้ �ำ เนินการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ ครั้นถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้เสด็จประพาสเกาะสมุยตามรอย เส้นทางพระราชดำ�เนินของพระเจ้าตากสินจนมาถึงที่วัดนี้ และภายหลังยังเสด็จมาทรงนมัสการ สถูปขรัวพุดสอนอีกหลายครั้ง .... สิ่งแรกที่ตรึงสายตาพวกเราก็คือเจดีย์ โบราณ และสิ่งปลูกสร้าง ต่างๆ ที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างไทยจีนอย่างกลมกลืน ตามมาด้วยพระพุทธรูป ที่มีลักษณะพุทธศิลป์หาชมยาก อาทิ พระพุทธรูปปางไสยาสน์ ในวิหารพระด้านทิศใต้ที่แตกต่าง ไปจากองค์อื่นๆ คือพระเศียรหันไปทางทิศตะวันตก หันพระพักตร์ไปทิศเหนือ และยังมีพระพุทธรูป บริวารอีก 76 องค์ สร้างจากหินปะการังล้วนๆ แต่ที่ทำ�เอาพวกผมอ้าปากค้าง คือพระศิลายวง พระประธานในอุโบสถที่มีพุทธลักษณะแบบพม่า ว่ากันว่ากว่าจะได้พระองค์นี้มา คณะพระภิกษุนำ�โดย พ่อท่านขิก และภิกษุดำ�ต้องธุดงค์รอนแรมไปถึงเมืองมัณฑะเลย์ จนพ่อท่านขิกล้มป่วยและมรณะภาพ
MKD 52
MKD 53
MKD 54
ลงระหว่างทางด้วยไข้ทรพิษ หลังจากนั้นคณะพระยังถูกโจรดักปล้น อยูห่ ลายครัง้ แต่กแ็ คล้วคลาดมาได้ เชือ่ ว่าเป็นเพราะบุญญาบารมีของ องค์พระ และเมือ่ พระศิลายวงเดินทางมาถึงเกาะพะงันเมือ่ พ.ศ. 2450 คณะสงฆ์นำ�โดยพระเกจิในยุคนั้นได้จัดพิธีสมโภชเบิกเนตรนานถึง 3 วัน แล้วจึงนำ�มาประดิษฐานที่วัดสำ�เร็จจนทุกวันนี้... “ทีต่ อ่ ไปคือน้�ำ ตกขุนศรี” โจ้ประกาศ.... บอกตามตรงว่าได้ยนิ ชือ่ ครัง้ แรก ผมมัน่ ใจทีเดียวว่าเพือ่ นโจ้คงเล่นตลกแล้ว เพราะหันไปถามใครก็มแี ต่ คนส่ายหน้า ไม่รจู้ กั แต่ดว้ ยความอยากรู้ เรายอมตามใจโจ้จนรถมาจอด ทีล่ านร่มรืน่ หนาทึบไปด้วยแมกไม้ โดยมีคณ ุ สุเทพ สุขเกษม ซึง่ โจ้แนะนำ�ว่า เป็นเจ้าของพื้นที่และเป็นผู้บุกเบิกและอนุรักษ์น้ำ�ตกนี้ให้เป็นแหล่ง ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของสมุยรอต้อนรับคณะของเราด้วยความยินดี “ทีด่ นิ ของผมเป็นทางเข้าสูน่ �้ำ ตกครับ และผมก็เห็นว่าน้�ำ ตกนี้ น่าจะ สร้างประโยชน์ ให้คนสมุยได้ ในฐานะแหล่งท่องเทีย่ วธรรมชาติ ผมก็เลย เปิดพืน้ ที่ให้นกั ท่องเทีย่ วเดินทางไปชมน้ำ�ตกได้ โดยไม่ตอ้ งเสียค่าใช้จา่ ย และพยายามอนุรักษ์ธรรมชาติดั้งเดิมรอบบริเวณนี้เอาไว้มากที่สุด ตอนนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาชมมากขึ้นทุกวันครับ เพราะน้ำ�ตกนี้มีความพิเศษคือสูงถึง 11 ชั้น ชั้นที่สวยงามที่สุด คือชัน้ ที่ 9-11 โดยเฉพาะชัน้ ที่ 9 มีหน้าผาสูงราว 20 เมตร เมือ่ น้�ำ ตกไหลผ่าน จะกระจายเป็นละออง พอสะท้อนประกายแดดจะมองเห็นรุ้งกินน้ำ� ตัวเล็กๆ น่าประทับใจมากครับ” จากนัน้ คุณสุเทพก็น�ำ เราเดินฝ่าดงไม้ ไต่โขดหินไปชมน้�ำ ตก แหม...ถูกใจ คนรักป่าอย่างผมจริงๆ บางช่วงมีเถาวัลย์ยกั ษ์หอ้ ยระย้ามาจากต้นไม้ เหมือน กำ�ลังเดินอยูใ่ นป่าแถวกาญจนบุรอี ย่างไรอย่างนัน้ จากจุดจอดรถเราใช้เวลา เดินเพียงสิบนาทีกม็ าถึงบริเวณน้�ำ ตกชัน้ ที่ 8 แล้วไต่ผาชิลล์ๆ ต่อมาอีก ไม่ถงึ ครึง่ ชัว่ โมงก็ถงึ ชัน้ ที่ 9 ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนีน้ �้ำ เยอะกำ�ลัง น่าเล่นทีเดียวครับ...และแล้วพวกเราก็พร้อมใจกันลงไปแช่น้ำ�ใสแจ๋ว อู้ว์...เย็นชื่นใจ... “เป็นไงเล่า” โจ้ยดื อกทันทีทลี่ อ้ หมุน ผมอมยิม้ เพราะใจเริม่ ยอมรับ ว่า Unseen ของโจ้สร้างความตืน่ เต้นได้ไม่นอ้ ย จนอดไม่ได้ทจี่ ะถามว่า คำ�สัง่ ต่อไปคืออะไร โจ้ยมิ้ กริม่ ก่อนจะแย้มให้ฟงั สัน้ ๆ ว่า คืนนีพ้ วกเรา จะได้นอนอาบแสงจันทร์อย่าง “โคตะระ” โรแมนติก แต่ไหนๆ ก็เปียก แล้ว ขอพาไปเปียกต่อเนือ่ งด้วยการสน็อกเกิลลิง่ เสียก่อน ว่าแล้วก็พา มุง่ หน้ามาทีท่ า่ เรืออ่าวท้องกรูด เราแวะทานอาหารกลางวันง่ายๆ ทีร่ า้ น ริมหาดแถวนั้น แล้วโจ้ก็บังคับให้เราจัดสัมภาระที่จำ�เป็นสำ�หรับการ ค้างแรมในหนึง่ คืนลงเรือหางยาว.... ไม่ถงึ 20 นาทีครับ พวกเราก็มาลอย เท้งเต้งอยูก่ ลางทะเลในอาณาเขตของเกาะมัดสุม ที่โจ้ภมู ใิ จนำ�เสนอว่า
คุณสุเทพ สุขเกษม
The first introduced tourist attraction is an old temple, locatedat Tambol Mared and called Samret Temple. It was built in late Ayudhya to early Thonburi. It was the mostly first temple on the island. Its ancient pagoda is remarkable including buildings. Thai and Chinese architectural styles were blended beautifully. The Buddha statue was devoted to artificial decoration. The Reclining Buddha image with 76 small Buddha images is located in the southern area. They were built from coral stones and mortar. Their hair of the images was made from local shells. “Phra Si Lay Wong”, the main MKD 55
第一个景点是Samret庙，位于Tambol Mared的 一座古庙。修建于大城府后期到吞武里早期，它是 潘安岛上最早的寺庙。把中泰建筑风格完美融为 一体，它的古塔和建筑都堪称精美绝伦。佛像多 体现艺术。 倾斜的大佛像和76尊小佛像位于岛的 南部。这些佛像由珊瑚石和砂浆建成，头发来自 岛上的贝壳。主佛像叫做“Phra Si Lay Wong”， 既美观又神圣。它已有300年历史，由曼德勒人 用白玉雕刻而成。在泰国，白玉雕成的佛像仅有 4尊，其珍惜程度可见一斑。
“ตรงนีค้ อื จุดดำ�น้�ำ ทีม่ ปี ะการังสมอง ปะการังเขากวาง บางจุดมีฟองน้�ำ สีสดให้ดดู ว้ ยนะ ปลาก็เยอะมาก” ฟังจบผมกระโจนลงไปทันทีเพราะชอบ ดำ�น้�ำ อยูเ่ ป็นทุน แล้วก็พบว่าแม้จะไม่สวยจัดแบบเกาะเต่า แต่กม็ อี ะไรให้ดู เพลินจนลืมเวลา มารูต้ วั ว่าต้องขึน้ จากน้�ำ ก็ตอนทีท่ อ้ งร้องดังสนัน่ โจ้เลย แย้มว่า “เย็นนีม้ มี อื้ อร่อยรออยูท่ เี่ กาะแตน” เอาอีกแล้วครับ... ชือ่ ไม่คนุ้ และ ดูเหมือนโจ้จะเดาใจออก จึงเล่าความพิเศษของเกาะให้ฟังว่า ... “เกาะนีม้ เี รือ่ งแปลกคือหมาอยูไ่ ม่ได้ ถ้าใครฝืนเอาหมามาเลีย้ ง รับรอง ไม่เกิน 2 อาทิตย์เป็นตายทุกตัว ส่วนคนทีเ่ อาหมาขึน้ เกาะครอบครัวจะมีอนั เป็นไปทุกราย เชือ่ ว่าเป็นเพราะเจ้าทีท่ ดี่ แู ลเกาะท่านไม่ชอบหมา และมีเรือ่ ง เล่าว่าครัง้ หนึง่ ในหลวงพร้อมพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จประพาสเกาะสมุย มีสนุ ขั ทรงเลีย้ งของสมเด็จย่าตามเสด็จด้วย พอเรือพระทีน่ งั่ เข้าใกล้เขต เกาะแตน สุนัขทรงเลี้ยงก็มีอาการตื่นกลัว ทุรนทุราย แต่พอออก นอกเขตก็เป็นปกติ กรมธรณีวิทยาเคยเอาเรื่องนี้ ไปศึกษา และตั้ง ข้อสันนิษฐานว่าบริเวณเกาะน่าจะมีคลื่นแม่เหล็ก หรือคลื่นเสียงที่มี ความถีส่ งู ซึง่ ไปรบกวนระบบประสาทการฟังของหมา มันเลยป่วยและ ตาย แต่แมวกลับไม่เป็นไร เลี้ยงได้ แถมโตเอาๆ ด้วย”
Buddha image, is both beautiful and holy. It is 300 years old. It was carved from white jade by Mandalay people. In Thailand, there are only 4 white jade Buddha images. Next, Khun-Sri waterfall is located at Lamai beach. It is 11 levels high. The 9-11 waterfall levels are the most beautiful. The cliff of 9th waterfall floor is approximately 20 m. high. The waterfall flows through the sunshine and reflects little rainbow. The new impressive attractions can be seen at Khun-Sri waterfall. Luckily, the owner of this land has recently allowed visitors to pass freely the entrance towards the waterfall. Lastly, Koh Tan is a part of Koh Samui. You reach this small island by a longtail boat from Koh Samui. Go to Thongkrut, for 20 minutes. The island is dominated by ecotourism. This island is appropriate to study local lifestyles of the people. There are only around 10 families living on Koh Tan and it is unspoiled from mass tourist still. The interesting tourist attractions are mangrove forest, and snorkeling along the beach. Koh MKD 56
ฟังโจ้เล่าเรือ่ งเกีย่ วกับสุนขั แล้ว ผมยังฉงนว่ามันจริงหรือ... จึงถาม ชาวเกาะแตนที่มาต้อนรับ และก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ครับ แต่ทที่ �ำ ให้เราทึง่ ยิง่ ไปกว่า ก็คอื ธรรมชาติอนั งดงามของเกาะ เมือ่ 30-40 ปีทแี่ ล้วเคยสวยอย่างไร วันนีก้ ย็ งั คงสวยอย่างนัน้ ปัจจุบนั ชาว เกาะแตนที่หลงเหลืออยู่ประมาณ 10 ครัวเรือน ยังมีวิถีชีวิตเรียบง่าย และพอเพียง ถ้าจะจำ�กัดความ ผมอยากพูดว่าเกาะแตนคือ “เกาะแห่ง ความสันโดษที่มีเสน่ห์” แต่ใช่ว่าจะกันดารจนอยู่ยากนะครับ เพราะมี นักธุรกิจจากเกาะสมุยมาลงทุนสร้างรีสอร์ทชิลล์ๆ ริมหาด ซึ่งมีไม่กี่ที่ และหนึง่ ในนัน้ เป็นทีพ่ กั ของเราคืนนี้ แว่บแรกผมตัง้ ใจจะพุง่ ไปอาบน้�ำ ล้างเนื้อตัว แต่พอได้กลิน่ หอมฉุยเท่านั้น ขาทัง้ สองก็พามาหยุดยืนอยู่ ข้างเตาที่กำ�ลังย่างสารพัดอาหารทะเลสด ตามมาด้วยกลิ่นหอมของ แกงใต้ฝีมือของชาวเกาะแตน “จานนี้เขาเรียกว่า แกงคั่วปลาขี้กะโท้ง หรือปลาอินทรีย์ ส่วน จานนี้หอยไฟไหม้ผัดใบโหระพา ชาวบ้านขุดหาจากหน้าหาดนี่แหละ จานนี้ปลากระพงทอดน้ำ�ปลา นี่หมึกต้ม ทุกอย่างชาวประมงหามาได้ Khun-Sri瀑布在拉迈海滩上。瀑布高11米，9 到 11 米高处的景色最美不胜收。相当于 9 层楼的悬 崖将近 20 米高。阳光穿过瀑布映射出七色的小彩虹。这里的主人最近允许游客自由进出这里， 我们才有幸欣赏到这动人心魄的美景。 Tan岛是苏梅岛的一部分，游客可以从苏梅岛乘船到达。这个岛以生态旅游为主题，并且很适合 用来了解当地居民的生活方式。岛上的居民仅十户左右，来的游客也不多，因此保持了原生态。 岛上有趣的景点是红树林，沿着沙滩蜿蜒延伸。Mud-Sum 岛在Tan岛附近。你可以在 Thong Krud 沙滩的码头乘船和导游一起去 Mud-Sum 岛。如果预先告知导游，你还可以享受到当地的泰国美食。 在那儿，有几个度假村可供你选择，以飨大自然的美丽风光。 敬请关注有关潘安岛的生态旅游游记，带您预先领略这个壮观、让人流连忘返的文化圣地。
MKD 57
เมื่อเช้า ถ้วยนี้น้ำ�พริกมุงมัง ส่วนผักแกล้มนี่เรียกว่าผักราดเล ขึ้นอยู่ ริมหาดนัน่ ไง ...” โจ้ชี้โบ๊ชเี้ บ๊ ขณะทีพ่ วกเรานัง่ กินปากมันไปเรียบร้อย... ตกค่ำ�เราหอบไวน์มานั่งจิบที่ริมหาดท่ามกลางแสงจันทร์นวล ส่วน เจ้าโจ้ก็คว้ากีตาร์มาบรรเลง แหม...บรรยากาศ “โคตะระ” โรแมนติก อย่างที่โจ้ โฆษณาไว้ครับ แม้ระหว่างนัน้ เราจะเห็นแสงสีและได้ยนิ เสียง ดนตรีเร้าอารมณ์ดังแว่วมาจากฝั่งสมุย แต่กลับไม่มีใครร่ำ�ร้อง อยากสัมผัส...ก่อนแยกย้ายไปนอน เราบังคับให้ โจ้เฉลยอีกแล้วว่า คำ�สั่งเที่ยววันพรุ่งนี้คืออะไร... “อันดับแรกคือการตักบาตรที่สำ�นักสงฆ์วัดบ่อม่วง มีพระจาก วัดสวนโมกข์หมุนเวียนมาวิปัสนากรรมฐานทุกปี จากนั้นจะพาไปเดิน ชมชุมชนเก่าของชาวเกาะ และไปดูป่าชายเลนที่ยังสมบูรณ์มากที่สุด สายๆ ค่อยข้ามกลับมาฝั่งสมุย ให้สาวๆ ได้ทำ�สปากันสักหน่อย ส่วน พวกเมิง... ก็นวดเท้า นวดไทยตามอัธยาศัย บ่ายแก่ๆ ค่อยนั่งเรือเร็ว ต่อไปพะงัน ที่นั่นมีธรรมชาติงามๆ รออยู่ ไม่ได้มีดีแค่ฟูลมูนนะเฟ้ย จะบอกให้....” เฮ้อ...หรือว่าเที่ยวนี้ ผมต้องถูกโจ้เหยียบเอาซะแล้ว เพราะที่ ผ่านมา Unseen สมุยทำ�ให้ผมประทับใจอย่างแรง แต่ก็ไม่แน่ว่าผม อาจจะรอด ถ้าโจ้น�ำ เสนอทริปทีพ่ ะงันไม่โดนใจ ผลจะเป็นอย่างไร ฉบับ หน้าว่ากันต่อภาคสองครับ...
ขอขอบคุณ
เอื้อเฟื้อที่พัก Thongtakian Resort โทร. 077 230 978 เอือ้ เฟือ้ อาหาร Pavilion Samui Boutique Resort โทร. 077 424 029
Mud-Sum is near Koh Tan. You ask for a longtail boat to Koh Mud-Sum with a tourist guide from the pier of Thong Krud beach. You can enjoy good local Thai food by telling a tourist guide in advance. There are a few lovely resorts to select to touch natural scenery. For next issue, please follow an ecotourism story of the natural and cultural attractions in Koh Phangan where is spectacular, impressive and valuable culture. MKD 58
การเดินทางสู่วัดสำ�เร็จ เกาะสมุย
เริ่มจากท่าเรือเกาะสมุย เราออกเดินทางจากท่าเรือมุ่งหน้าหาดละไม ขับตรงมาเรื่อยๆ ให้สังเกตศาลจังหวัดเกาะสมุย ถัดจากศาลมา 100 เมตร วัดสำ�เร็จจะอยู่ทางขวามือ
การเดินทางสู่น้ำ�ตกขุนศรี เกาะสมุย
ให้ ใช้เส้นทางสายละไม-แม่น้ำ� ขับตรงมาจนถึงซอยแม่น้ำ� ซอย 1 เลี้ยว เข้ามาในซอยนั้นจนถึงที่ดินส่วนบุคคลของคุณสุเทพ สามารถสอบถาม รายละเอียดได้ที่คุณสุเทพ โทร. 08 6267 4373
การท่องเที่ยวเกาะแตน
ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่คุณปอ โทร. 08 1258 1692 MKD 59
CEL EBRI TY D I SH
Story : Silver Spoon Photo : Pom Demand
ไพศาล ตรีธัญญา
จิดาภา เย็นมาก “ไหนๆ มาสุราษฎร์ฯ ทั้งที เราอยากชิมอาหารปักษ์ ใต้ของแท้ แต่ อย่าเผ็ดมาก เพราะเราพาเพือ่ นต่างชาติมาด้วย ถ้ามีเมนูกงุ้ แม่น�้ำ ตาปี จะดีมาก เพราะได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว ขอชิมเป็นบุญปากสักที แต่ ต้องเป็นร้านที่บรรยากาศดีๆ ไม่อึกทึกนะ จะได้คุยธุรกิจได้ ถ้าเห็นวิว สวยแบบพานอรามา มองเห็นสายน้�ำ แถมด้วยการยลพระอาทิตย์ตกดิน จะดีมาก เอาแบบว่าให้ชาวต่างชาติประทับใจจนต้องจำ�สุราษฎร์ฯ ไป อีกนานเลยน่ะ....” เจอโจทย์เยอะจัดขนาดนี้ ช้อนเงินเลยต้องขอพึง่ ตัวช่วยสักหน่อย... ว่าแล้วก็กดไปหาท่านผู้กว้างขวาง เจ้าของสมญานายอำ�เภอใจแม่น้ำ� แห่งพุนพิน ‘คุณไพศาล ตรีธัญญา’ ให้ช่วยแนะนำ�อีกต่อ แล้วก็ ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะทันทีที่เล่าความต้องการจบ นายอำ�เภอไพศาล ก็เอ่ยชื่อร้านๆ หนึ่งขึ้นมา ‘ภูณิศา’ ร้านชื่อดังแห่งตำ�บลเขาหัวควาย ในอำ�เภอพุนพิน ของกำ�นันจิ๋ม ‘คุณจิดาภา เย็นมาก’ นี่เอง “ร้านนี้ผมมักจะพาแขกบ้านแขกเมืองไปทานบ่อยๆ เพราะอาหาร ใต้ของเขารสเข้มข้น แต่ไม่เผ็ดจัดจนทานลำ�บาก เมนูเด็ดมีหลายอย่าง นะครับ แต่ที่ผมติดใจและอยากให้ลองสั่งมาทานคือ ‘แกงส้มปลากด หน่อไม้ดอง’ ‘น้�ำ พริกไข่ป’ู ‘ใบเหรียงผัดไข่’ ของทีน่ กี่ เ็ ยีย่ มครับ เพราะ เขาใส่กุ้งแก้วลงไปด้วย ต่อมาอันนี้หาทานยากหน่อย ‘ปลาซิวทอด ขมิ้น’ กินแกล้มน้ำ�พริกเข้ากันดี แล้วตัดรสเผ็ดด้วย ‘กุ้งแม่น้ำ�ผัดซอส มะขาม’ จานนีเ้ พือ่ นต่างชาตินา่ จะชอบมาก และตรงตามทีเ่ พือ่ นของคุณ อยากทานด้วย ส่วนบรรยากาศร้านนี้มีครบอย่างที่เพื่อนคุณต้องการ ลองไปดูครับ รับรองว่าไม่ผิดหวัง...” จบการคุย ช้อนเงิน ก็รีบโทร.ไปปิดการขายกับเพื่อน และแน่นอน Acrylic oil�on ว่าต้&องทำ หน้าcanvas ที่สารถี เราขับรถออกจากสนามบินสุราษฎร์ฯ ตรงดิ่งไป ทีห่ ลัก กม. 0 ของทางหลวงสาย 411 สุราษฎร์ฯ-ตะกัว่ ป่า แล้วมุง่ หน้า สูโ่ รงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ขับผ่านทางรถไฟไปสักระยะ ทางซ้ายมือก่อน ถึงโรงไฟฟ้าจะพบซอยเล็กๆ ซึ่งปากซอยปรากฏป้ายชื่อร้านภูณิศา ชัดเจน เราขับเลียบริมคลองเข้าไปไม่ช้าไม่นาน ก็แลเห็นร้านตั้งเด่น
delicious on a hill at phunisa restaurant
หลายวันก่อนมีเพื่อนจากกรุงเทพฯ เดินทางมาทำ�ธุระที่อำ�เภอเมืองสุราษฎร์ฯ พอเท้าแตะรันเวย์ปุ๊บ เพื่อนก็โทร.หา ‘ช้อนเงิน’ ปั๊บ เพื่อให้แนะนำ� ร้านอาหารรสเลิศให้ ก่อนจะสาธยาย ความต้องการยาวยืดว่า...
MKD 60
เป็นสง่าอยู่บนเนินเขาลูกเล็กๆ พอได้เห็นบรรยากาศร้านถนัดถนี่ เท่านั้น เพื่อนฝรั่งถึงกับยกนิ้วโป้งกดไลค์ เพราะประทับใจในวิว เบื้องล่างที่มองเห็นสายน้ำ�ลัดเลาะไปกับแนวสวนปาล์มของชาว บ้าน โดยมีทิวเขาสีฟ้าอมเทาไกลลิบเป็นแบคกราวน์ และแล้วอาหาร จานเด็ดที่นายอำ�เภอไพศาลแนะนำ�ไว้ ก็ทะยอยมาเรียงรายบนโต๊ะ ในเวลาที่พระอาทิตย์กำ�ลังทอแสงสุดท้ายก่อนตกดินพอดี สวยน่า ประทับใจจนเพื่อนของช้อนเงินต้องแชะภาพอัพเฟซเสียหลายมุม และผลก็เป็นดังทีน่ ายอำ�เภอไพศาลคาด เพือ่ นของช้อนเงินและแขก ฝรัง่ ติดใจ ‘กุง้ แม่น�้ำ ผัดซอสมะขาม’ จนต้องสัง่ เป็นจานทีส่ อง แถมด้วย เมนูเสริมทัพรสกลมกล่อมที่ทางร้านแนะนำ�เพิ่มอย่าง ‘ซี่โครงหมูอบ’ ที่เคี่ยวจนน้ำ�เข้าเนื้อ เปื่อยได้ที่แทบจะละลายในปาก พูดได้ว่า นอก จากบรรยากาศชนะเลิศแล้ว รสมือปรุงของภูณิศายังเป็นเยี่ยมด้วย และเคล็ดลับสำ�คัญนั้นกำ�นันจิ๋มบอกว่า... “อยูท่ เี่ ราให้ความสำ�คัญกับเครือ่ งปรุงค่ะ ทุกอย่างเราใช้ของดี ไม่วา่ กะปิ น้�ำ ตาล เกลือ หรือซอสปรุงรส ส่วนเนือ้ สัตว์อย่างกุง้ แม่น�้ำ นีต่ อ้ ง สดจริงๆ เราจะไม่สต๊อกของไว้ค่ะ จะสั่งวันต่อวัน ขายหมดก็คือหมด ค่ะ เวลาลูกค้าติดต่อมาว่าต้องการจัดเลี้ยง ทางเราจะถามว่าต้องการ กุ้งแม่น้ำ�มากน้อยแค่ไหน เพื่อจัดหามาให้พอดี เราอยากให้ลูกค้าได้ ทานอาหารที่มีคุณภาพจริงๆ ค่ะ” หลังมื้อค่ำ�แสนอร่อย คณะเพื่อนของช้อนเงินเดินยิ้มกว้างขวาง ออกจากร้าน ใช่เพียงอิ่มท้อง หากยังอิ่มใจมาก เพราะไม่เพียงได้ชม ความงามของพระอาทิตย์ตกท่ามกลางมุมสวยที่สะท้อนความเป็น ถิ่นใต้เท่านั้น หากการงานที่เจรจาก็สำ�เร็จสมมุ่งหมาย... นี่แหละหนา ที่เขาว่าบรรยากาศเป็นใจ ใครอยากจะเลียนแบบก็ลุยเลย...ไม่ว่ากัน
ร้านอาหารภูณิศา 11/1 หมู่ 1 ถนนข้างโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ต.เขาหัวควาย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี โทร 08-0529-6111, 08-0529-7111 เปิดเวลา 11.00 น.-20.00 น. ร้านหยุด วันที่ 16-17 ของทุกเดือน MKD 61
A D VERTORI A L
Story : Narong
rice farm villa
Photo : Rice Farm Villa
วิลล่าหรูล้อมแปลงนา หนึ่งเดียวในไทย ในยามที่คุณยกโขยงครอบครัวไปท่องเที่ยว เรื่องยากที่ต้องทำ�ให้สำ�เร็จเป็นอันดับแรก ก็คือการสรรหาที่พักอันสะดวกสบาย ที่สามารถรองรับความต้องการหลากหลาย ของสมาชิกที่มีความต่างเรื่องวัย ใช่หรือไม่!..
และเรือ่ งทีแ่ สนยากนีจ้ ะยิง่ สร้างความลำ�บากให้คณ ุ มากขึน้ เมือ่ ต้องหาทีพ่ กั ณ จุดอันเป็นใจกลางเมืองใหญ่ เช่นอำ�เภอเมืองสุราษฎร์ฯ !! แต่วันนี้... ได้บังเกิดที่พักหรู ‘Rice Farm Villa’ ซึ่งมิเพียงปัญหาวุ่นๆ เรือ่ งหาทีพ่ กั จะถูกแก้ ให้หมดไป หากสถานทีน่ ยี้ งั ได้ ‘ให้’ สิง่ ทีม่ ี ‘ผลดี’ ต่อความคิดของคนไทยมากเกินกว่าที่พักแห่งใดจะทำ�ได้อีกด้วย... ผู้เป็นเจ้าของไอเดียแปลกที่สามารถเนรมิตวิลล่าหรูล้อมแปลง นาข้าวแห่งนี้ ก็คอื ‘คุณปัญญา แสงสุรยิ นั ’ ซึง่ นอกจากจะเป็นนักธุรกิจ คนดัง เจ้าของโรงแรมร้อยเกาะ และโรงแรมอืน่ ๆ อีกหลายแห่งแล้ว เขายัง เป็นนักคิดผู้ ใส่ใจในปัญหาสังคม โดยเขาได้เล่าถึงที่มาของไอเดีย แหวกแนวในการสร้างวิลล่าแห่งนี้ว่า.... “ปีนี้โรงแรมร้อยเกาะย่างเข้าปีที่ 13 ของการดำ�เนินธุรกิจแล้ว ครับ ผมยังจำ�ได้ว่าเมื่อก่อนที่บริเวณนี้ยังเป็นป่า และผมน่าจะเป็น คนแรกที่เข้ามาพัฒนาป่าที่ ไม่มีใครมองเลย แต่วันนั้นผมวิเคราะห์ว่า ด้วยศักยภาพและตำ�แหน่งทีต่ งั้ ทีต่ รงนีค้ อื หัวใจของจังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วมันก็เป็นเช่นนัน้ จริง โรงแรมร้อยเกาะจึงเติบโตมาเรือ่ ยๆ โดยมีหา้ ง ใหญ่ๆ เกิดตามหลังรายรอบ แต่กลับมีที่ข้างๆ โรงแรมอยู่แปลงหนึ่ง ซึง่ เจ้าของอยูต่ า่ งประเทศ แกมาขีดเส้นฟุตบาทให้เช่า จนตรงนัน้ กลาย เป็นสลัมหน้าบ้านและกลายเป็นมลภาวะของเมืองไป ผมจึงต้องขอ ซือ้ ที่ เพราะต้องการปรับปรุงภูมทิ ศั น์ของโรงแรมและของเมืองเสียใหม่ แม้จะต้องกู้เงินเพื่อมาซื้อ ก็ต้องทำ� ที่จริงถ้าผมเอาที่ 4 ไร่นี้ ไปทำ�คอนโดขาย อย่างน้อยต้องได้กำ�ไร 40 ล้านบาท แต่ทำ�อย่างนั้นได้แค่เงิน ไม่ได้อะไรอย่างอื่นอีกเลย...ผม เองเป็นคนที่เสียสละและสนใจในปัญหาสังคม เลยคิดว่าควรจะทำ� สิ่งที่เป็นสาธารณประโยชน์ด้วย...ก็มาย้อนคิดว่าในอดีตอาชีพหลัก
MKD 62
“ศูนย์โอทอปร้อยเกาะ” เป็นจุดจำ�หน่ายสินค้าโอทอปแห่งใหม่ของจังหวัดสุราษฎร์ฯ รองรับ นักท่องเที่ยวกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ช่วยเหลือชุมชนให้ร่วมกันอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ของคนไทยคือทำ�นา แต่วันนี้ทุกคนกลับลืมนาหมด เมื่อก่อนชาวบ้าน พึง่ พาตัวเองได้ หมูไก่กเ็ ลีย้ งเอง ปลาก็หาจับเอาในคลอง แต่พอความ เจริญเข้าไป คนทุกหมูบ่ า้ นต้องจ่ายค่าไฟฟ้า น้�ำ ประปา น้�ำ มัน แม้แต่คา่ มือถือ เงินได้ไหลออกจากหมูบ่ า้ นอย่างเชีย่ วกรากไปจมอยูต่ า่ งประเทศ หมด ผมจึงตกผลึกว่าเราทำ�เป็น Rice Farm Villa เพื่อดึงบรรยากาศ ครอบครัวขนาดใหญ่ทอี่ บอุน่ ของคนไทยกลับมา เราสร้างให้แต่ละห้อง มีระเบียงกว้าง เพือ่ ให้ยา่ กับหลานมานัง่ เล่นตอนค่ำ� ให้คนรุน่ เก่าได้เล่า เรือ่ งราวอันเป็นรากเหง้าให้คนรุน่ ใหม่ฟงั เหมือนส่งมอบจิตสำ�นึกจาก เจเนอเรชั่นสู่เจเนเรชั่น... ส่วนด้านหน้าเราก็สร้างเป็นอาคารโอทอป เปิดเป็นเวทีให้ชาวบ้านได้เอาเงินเข้าหมู่บ้านบ้าง โดยนำ� Material มาบวกภูมิปัญญาสร้างเป็นโปรดักส์ขึ้นมา เราเน้นวางสินค้าพื้นถิ่น ของภาคใต้ที่เป็นสินค้าทำ�มือ เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาเอาไว้ไม่ให้กลาย เป็นอุตสาหกรรมไปหมด ที่ผมทำ�ทั้งหมดนี้เพราะเรามุ่งเรื่องสาระ เรือ่ งสติ เรือ่ งการระลึกได้ ไม่ใช่ก�ำ ไรสูงสุดทีเ่ ป็นเงิน แต่คอื กำ�ไรสูงสุด ที่เป็นชาติ เป็นคนไทยครับ”
ในโลกทุนนิยมนั้น คำ�ว่า “กำ�ไร” หมายถึงเงินสุทธิที่ ได้รับจาก การดำ�เนินธุรกิจนั้นถือว่าเป็นเป้าหมายสูงสุด แต่ในโลกของความสุข ที่จริงแท้ยั่งยืน คำ�ว่า “กำ�ไร” หาใช่ตัวเงินไม่ หากเป็นความมีน้ำ�ใจ ความมั่นคงปลอดภัย ความเป็นตัวของตัวเอง และการอยู่ร่วมกับ ธรรมชาติอย่างเป็นมิตร ซึ่งทุกอย่างถูกสะท้อนผ่านพื้นที่ทุกตารางนิ้ว ของ Rice Farm Villa แม้คุณจะมีเวลาเพียงคืนเดียวอันแสนสั้น แต่เชื่อเหลือเกินว่า กลิ่นรวงข้าวหอมฟุ้ง ณ ริมระเบียงห้อง จะสามารถนำ�ความสุข ความ ผูกพันของครอบครัวแบบไทยทีม่ ากเสน่หม์ าให้คณ ุ สัมผัสได้ และบางที... ความสุขนั้น อาจเรียก ‘สติ’ ให้คุณมองเห็นว่า อะไรคือเป้าหมายชีวิต แท้จริงที่คุณควรจะเดินไปให้ถึงในวันข้างหน้า...
Rice Farm Villa
19/6 หมู่ที่ 3 ถ.เลี่ยงเมือง ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000 โทรศัพท์ 077 201150-4 โทรสาร 077 201159
MKD 63
YOU R TA STE
Story : Silver Spoon
คอกาแฟทั้งหลายต้องรัก “ช้อนเงิน” เป็นแน่... เพราะ ‘Your taste’ ฉบับนี้ ผมสู้อุตส่าห์ตะเวนเสีย จนทั่วสุราษฎร์ฯ เพื่อเสาะหาร้านกาแฟใหม่ๆ ที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านรสชาติของกาแฟคุณภาพดี และมีบรรยากาศเยี่ยมมาฝากถึง 2 ร้าน...
Nira’s Home Bakery นีร่าส์ โฮม เบเกอรี 74/10 หมู่ 1 ตำ�บลเกาะพะงัน อำ�เภอเกาะพะงัน สุราษฎร์ธานี โทร. 08 6595 0636 เปิดทุกวัน เวลา 07.00 - 19.00 น. หยุดทุกวันที่ 10 ของเดือน ด้วยความที่ตั้งอยู่บนถนนเลียบชายหาด ใกล้ท่าเรือเฟอร์รี่ จึง เหมาะมากที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศจะแวะเวียนมานั่งพัก ชิลล์ๆ ก่อนที่จะเดินทางต่อ ร้านนี้มีบรรยากาศให้เลือกนั่งจิบกาแฟ ถึง 2 โซน คือภายในร้านที่ติดแอร์เย็นฉ่ำ� กับหน้าร้านโอเพ่นแอร์ รับลมทะเล นอกจากจะตกแต่งร้านได้เท่และมีกาแฟชั้นดีไว้บริการ แล้ว ที่นี่ยังมีเบเกอรีและเค้กต่างๆ ที่ทำ�แบบโฮมเมดสดใหม่ทุกวัน จะกินคู่กับเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นก็สามารถเรียกความสดชื่นที่หาย ไปจากการเดินทางไกลให้คนื กลับมาได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนีย้ งั มี อาหารฝรั่งจานด่วนรสชาติแบบมือโปรให้เลือกชิมหลายเมนู เหตุนี้ เอง ‘นีร่าส์ โฮม เบเกอรี’ จึงคลาคล่ำ�ไปด้วยลูกค้าผมทองตลอด ทัง้ วัน แถมยังมีลกู ค้าขาประจำ�แวะเวียนมาซือ้ เบเกอรีกลับไปยังทีพ่ กั รายละหลายๆ ถุง แค่นกี้ ก็ ารันตีได้แล้วว่าเบเกอรีของทีน่ เี่ ยีย่ มยุทธ แค่ไหน ลงเรือปุ๊บแวะไปชิมได้เลย ไม่ผิดหวังครับ
ต้นกล้วย CAFE 1/4 ม.4 กม.18 ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี โทร. 077-357065 เปิดตั้งแต่ 08.00 - 21.00 น. มีชื่อเก๋ว่า ‘ต้นกล้วยคาเฟ่’ ตั้งอยู่หน้าโรงแรมดิโอวาเลย์ อำ�เภอพุนพิน อย่าเพิ่งงงว่าต้นกล้วยมาเกี่ยวกับกาแฟได้อย่างไร จริงๆ แล้วชื่อชวนฉงนนี้ มีที่มาจากชื่อเล่นของเจ้าของร้าน ‘คุณต้น’ และ ‘คุณกล้วย’ นั่นเองครับ ร้านนี้โดดเด่นมากด้วยรสชาติของกาแฟทีเ่ ข้มข้น แต่กลมกล่อมและหอมกรุน่ ติดจมูก ชืน่ ใจคอกาแฟอย่างผมเป็นอย่างยิง่ และแน่นอนว่าบรรดาเบเกอรี ทั้งหลายที่มีบริการก็อร่อยเป็นเลิศ แต่ที่ติดใจผมมากที่สุดก็คือบรรยากาศ ที่เจ้าของบรรจงออกแบบจนได้ความรู้สึกอบอุ่นและหรูหราผสมผสานอยู่ ในที เหมาะที่จะเป็นสถานที่พบปะพูดคุยครับ เพราะมี Wi-fi ฟรี นอกจากนี้ ยังมีอาหารจานเดียวและอาหารทานเล่นไว้บริการด้วย อาทิ สเต็ก ชิกเก้นโรล สลัด และยำ�ต่างๆ เปิดทุกวัน ผ่านเมื่อไร อย่าลืมแวะไม่อย่างนั้นจะเสียดาย ขอบอก....
MKD 64
Story : Ralinda
SCOOP
Photo : Pom Demand
dreamer by nature
ดวงพล ชิตินทร
“เห็ดฟางคุณชิ” ...ชีวิตสำ�เร็จได้ด้วยความพยายาม
สัจธรรมข้อหนึ่งของชีวิตมนุษย์ก็คือ ไม่มีใครเลยที่จะสามารถครอบครองความสุขไว้ได้ตลอดเวลา และก็ ไม่มี ใครเลยที่จะเป็นเจ้าของชะตากรรม อันเลวร้ายไปตลอด... แม้การ ‘มีขนึ้ ’ ย่อม ‘มีลง’ จะเป็นของธรรมดา แต่เมื่อถึงเวลาลง หลายคนกลับยอมรับความ ‘พ่ายแพ้’ เพราะมิรู้จะต่อสู้อย่างไร ไม่ก็ท้อแท้ เกินกว่าจะลุกเดิน แต่มิใช่ชายคนนี้... ‘คุณชิ หรือ ดวงพล ชิตินทร’ “ผมเริ่มทำ�งานตั้งแต่เรียนอยู่ ม.3 เพราะ ครอบครัวมีฐานะไม่สดู้ ี ผมจึงต้องช่วยพ่อแม่สง่ เสียน้องๆ ให้ได้เรียน รับจ้างไปทัว่ สารพัดครับ (ยิม้ ) จนมาจับการค้าส่งผักสดบนเกาะสมุย จน รูว้ า่ ผักทีน่ ยิ มมากและเป็นทีต่ อ้ งการตลอดเวลา ก็คอื เห็ด โดยเฉพาะเห็ดฟาง แต่ปญ ั หาก็คอื บาง ฤดูกาลเห็ดขาดตลาด ด้วยความสงสัยกับความ ต้องการที่จะรักษายอดขายเอาไว้ ผมจึงหันมา ศึกษาวิธกี ารเพาะเห็ดอย่างจริงจัง พร้อมกับลงมือ ทำ�ไปด้วย จนรูว้ า่ วิธกี ารเพาะเห็ดให้ได้ผลผลิตดีและ มีตลอดปีนั้นจำ�เป็นต้องมีความรู้เรื่องเชื้อรา ทุกชนิดอย่างดีว่าแต่ละชนิดต้องการสภาพ อากาศและความชืน้ อย่างไร พอเริม่ เชีย่ วชาญ ผมก็หนั มาขยายฐานการผลิต โดยลงทุนให้คนที่ สนใจลองทำ� โดยมีผมเป็นพีเ่ ลีย้ งให้ค�ำ ปรึกษา ตรงนีย้ งิ่ ทำ�ให้ผมได้เห็นปัญหาของการเพาะเห็ดทุก รูปแบบ ซึง่ ช่วยเสริมให้ผมได้ฝกึ ประสบการณ์ จนมีทกั ษะมากขึน้ ครับ ตอนนีผ้ มสามารถผลิต เห็ดฟางได้ตลอดปี และทำ�ให้เห็ดขึน้ ด้านล่างด้วย ซึ่งจะเพิ่มผลผลิตมากขึ้นเป็น 2 เท่า
การเพาะเลีย้ งเห็ดฟางมีขอ้ ได้เปรียบกว่าเห็ดอืน่ ๆ อยูห่ ลายอย่างครับ ข้อแรกคือไม่ตอ้ งใช้ พืน้ ทีม่ าก มีแค่ไร่สองไร่กท็ �ำ ได้แล้ว ใช้พนื้ ทีว่ า่ งในสวนยาง สวนปาล์มก็ยงั ได้ และใช้เงินลงทุน น้อยกว่าเห็ดนางฟ้าถึง 3 เท่า แต่ให้ผลผลิตเร็วกว่ามาก ทีส่ �ำ คัญคือราคาดี สามารถสร้างรายได้ ต่อเดือนถึงหลักหมื่นโดยที่ ไม่ยุ่งยากเลย ถึงจะมีข้อเสียคือมีอายุไม่นานเท่าเห็ดชนิดอื่นๆ จำ�เป็นต้องขายวันต่อวัน แต่วนั นีเ้ ราหาวิธเี ก็บรักษาเห็ดให้คงความสดอยูไ่ ด้ ด้วยการน็อกเห็ด ไว้ ในห้องเย็น และวิธีการนึ่งก่อนจะบรรจุในหีบห่อสุญญากาศ วันนี้ผมสามารถสร้างเครือข่าย เล็กๆ ที่สามารถส่งเห็ดได้ทั่วจังหวัดสุราษฎร์ฯ และในกรุงเทพฯ อีกทั้งกำ�ลังต่อยอดไปสู่ตลาด ต่างประเทศในอาเซียน โดยเฉพาะมาเลเซียและสิงคโปร์ครับ ถ้าถามว่าวันนี้ผมประสบความสำ�เร็จหรือยัง... ก็ถือว่าผมเดินมาไกลจากสิ่งที่เคยมี เพราะ ครอบครัวของผมไม่ได้มีทุนรอนอะไร ผมคิดเสมอว่าถ้ายังมีชีวิตอยู่ ก็ต้องสู้กันไป แต่เมื่อจับ สิ่งไหนได้ ต้องทุ่มเททำ�มันให้สุดตัว ผมจะไม่จมอยู่กับความท้อแท้ เพราะไม่มีงานไหนไม่มี อุปสรรค สุดท้ายคือการพัฒนาตัวเองครับ หาความรู้ ใหม่ๆ ใส่ตัวเสมอ อย่าไปปิดกั้นตัวเองว่า เรียนมาน้อย เราสามารถหาความรู้ได้หลายทาง ไม่จำ�เป็นต้องจากการเขียนการอ่าน อย่างผม ที่รู้เรื่องเห็ดมากก็ไม่ใช่จากการอ่านตำ�รา ตำ�รามีแต่เรื่องพื้นฐานแค่นั้นเอง ผมได้จากการ พูดคุย ทดลองทำ� แล้วแสวงหาคำ�ตอบของปัญหาที่เจออยู่ ตรงนี้จะช่วยให้เรามองเห็นโอกาส ที่ซ่อนอยู่ครับ...” ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำ�ลังประสบปัญหาชีวิต เชื่อว่าความคิดและวิธีการของเขาคนนี้จะ จุดประกายไฟแห่งการต่อสูข้ นึ้ มาได้ไม่นอ้ ย และถ้าสนใจศึกษาเรือ่ งเห็ด หรือต้องการสัง่ สินค้า สามารถติดต่อได้ที่ คุณชิ ดวงพล ชิตินทร โทร. 08 0534 1299 หรือ Facebook ค้นหาด้วย คำ�ว่า “เชื้อเห็ดฟาง สุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช” MKD 65
G OOD TH I NG F ROM SONG Story: Keeta
It must have been cold there in my shadow, มันคงจะเหน็บหนาวที่คุณคอยอยู่ ใต้เงาของฉัน to never have sunlight on your face. ไม่เคยมีแสงตะวันฉายต้องใบหน้าของคุณ You were content to let me shine, that’s your way. สิ่งที่คุณทำ� คือพร้อมที่จะมอบความเจิดจรัสนั้นให้แก่ฉัน You always walked a step behind. คุณยังคงเดินข้างหลังฉันหนึ่งก้าวเสมอ So I was the one with all the glory, ฉันจึงเป็นคนเฉิดฉายที่ยิ่งใหญ่ while you were the one with all the strength. ขณะที่คุณคือคนที่เข้มแข็งเหนืออื่นใด A beautiful face without a name for so long. ใบหน้าสวยนั้นปราศจากชื่อ เพราะคอยสนับสนุนฉันตลอดมา A beautiful smile to hide the pain. รอยยิ้มสวยนั้นซ่อนความรวดร้าวไว้ภายใน *Did you ever know that you’re my hero, คุณเคยรู้บ้างไหมว่าคุณคือวีรบุรุษของฉัน and everything I would like to be? และเป็นทุกอย่างที่ฉันอยากเป็น I can fly higher than an eagle, ฉันสามารถบินได้สูงกว่าอินทรี for you are the wind beneath my wings. เพราะคุณคือลมที่พยุงใต้ปีกของฉัน It might have appeared to go unnoticed, มันอาจเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น but I’ve got it all here in my heart. แต่ฉันกลับรับรู้ได้ ที่นี่...ในหัวใจของฉัน I want you to know I know the truth, of course I know it. ฉันอยากให้คุณรู้ว่าฉันรู้ความจริงนั้น.. ใช่ ฉันรู้ I would be nothing without you. Repeat * ฉันคงไม่มีอะไรเลย ถ้าขาดคุณ... Did I ever tell you you’re my hero? ฉันเคยบอกคุณไหมว่าคุณคือวีรบุรุษของฉัน You’re everything, everything I wish I could be. คุณคือทุกสิ่ง...ที่ฉันปรารถนาจะเป็น Oh, and I, I could fly higher than an eagle, โอ้...ฉันสามารถบินได้สูงกว่าอินทรี for you are the wind beneath my wings, คุณคือลมที่พยุงใต้ปีกของฉัน ‘cause you are the wind beneath my wings. เพราะ...คุณคือสายลมใต้ปีกของฉัน Oh, the wind beneath my wings. โอ้ สายลมภายใต้ปีกของฉัน You, you, you, you are the wind beneath my wings. คุณ...คือลมที่พยุงใต้ปีกของฉัน Fly, fly, fly away. You let me fly so high. บิน...บิน...บินไกล คุณส่งให้ฉันบินสูงเหลือเกิน Oh, you, you, you, the wind beneath my wings. โอ้ คือคุณ...สายลมใต้ปีกของฉัน Oh, you, you, you, the wind beneath my wings. คือคุณ... สายลมใต้ปีกของฉัน Fly, fly, fly high against the sky, บิน...บิน...บินให้สูงเสียดฟ้า so high I almost touch the sky. สูงจนฉันแทบสัมผัสฟากฟ้าได้ Thank you, thank you, ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ thank God for you, the wind beneath my wings. ขอบคุณพระเจ้าแด่คุณ... ผู้เป็นสายลมใต้ปีกของฉัน...
wind beneath my wings
artist : bette midler
wind beneath my wings เป็นเพลงเอกในภาพยนตร์ดราม่าเรื่อง Beaches ออกฉายในปี ค.ศ. 1988 นำ�แสดงโดย Bette
Midler ผู้ร้องเพลงนี้ และ Barbara Hershey เนื้อหาของหนังว่าด้วยมิตรภาพระหว่างเพื่อนสองคน ซาบซึ้งกินใจเสียจนคนดูน้ำ�ตาร่วง ในขณะที่เพลง ก็ประสบความสำ�เร็จจนคว้ารางวัล Grammy Awards ในปี ค.ศ.1990 ถึง 2 รางวัล คือ Record of the Year และ Song of the Year “Bette” เกิดมาเพื่อเป็นศิลปินโดยแท้ เพราะไม่เพียงเป็นนักร้องที่มีพลังเสียงสุดยอด แต่เธอยังเป็นนักแสดงและนักพูดที่เก่งฉกาจ และแม้จะ สูงวัยแล้ว แต่น้ำ�เสียงในวันที่เธอนำ�เพลงนี้ขึ้นร้องสดคลอเปียโนบนเวที Yankee Stadium ในนิวยอร์ก เมื่อปี ค.ศ. 2001 ภายหลังเหตุวินาศกรรม 9/11 ยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจชาวโลก เพราะสามารถดึงพลังความสามัคคีของชาวอเมริกันทั้งประเทศให้หลอมรวมได้ แหม..ถ้ามีมนต์จะเสกให้ป้าแก มาเกิดเป็นคนไทยแล้วร้องเพลงให้ฟังบ้าง “ใจ” พวกเราจะได้ “ติดร่มMKD ” ช่วงนี้ร66 ้อนนนนกันเหลือเกิ๊นนน
The Ban’s Pool Villa is luxury and service at it’s best.
Reception : +66 77 456 466 (International) 077 456 466 (Thailand) MKD3 67 MKD
MKD 68