วารสารยุติธรรม ปีที่ 19 ฉบับที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2562

Page 1


san 2.5 mm

21 x 29.7 cm

กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ สายด่วนยุติธรรม 1111 กด 77 62-03-082 cover yutitam i_coated-dic.indd 2

62-03-082 incover yutitam i_coated-dic

6/4/19 9:49 PM


บทบรรณาธิการ ปีที่ 19 ฉบับที่ 2 ประจำ�ปี 2562

JUSTICE MAGAZINE

ที่ปรึกษา ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ นายธวัชชัย ไทยเขียว พันตำ�รวจเอก ดุษฎี อารยวุฒิ นายวิทยา สุริยะวงค์ พันตำ�รวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ

ปลัดกระทรวงยุติธรรม รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รองปลัดกระทรวงยุติธรรม

บรรณาธิการบริหาร นางสาววราภรณ์ พรประสาทศิลป์ ผู้อำ�นวยการกองกลาง บรรณาธิการ นางสาวจินตวลัย จาตุรนต์ หัวหน้ากลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กองบรรณาธิการ นางสาวชญาภา ยงค์ศรี นักประชาสัมพันธ์ชำ�นาญการ นายกิตติพัทธ์ ศรีเจริญ นักประชาสัมพันธ์ชำ�นาญการ นางสาวธิดาทิพย์ หอมมะลิ นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ นางสาวมานิตา วนิชาชีวะ นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ นางสาววรัญญา ชูเนตร นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ นางสาวพิมล สายวารีรัตน์ นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ นางสาวเสาวลักษณ์ ตั้งจิตต์วัฒนา นักประชาสัมพันธ์ นายปัญจกฤตย์ วารายานนท์ นักประชาสัมพันธ์ นางสาวอุมาภรณ์ อ่องสอาด นักประชาสัมพันธ์ นางสาวณริสา มีแก้ว นักจัดการงานทั่วไป ฝ่ายภาพและศิลปกรรม นายกฤษดา สรวงศักดา นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำ�นาญการ นายชัชวาล ศิริสังข์ไชย เจ้าพนักงานโสตทัศนศึกษาปฏิบัติงาน นายพิษณุ มลแก้ว เจ้าหน้าที่โสตทัศนศึกษา นายอรรถโกวิท คงยิ่ง เจ้าหน้าที่โสตทัศนศึกษา นายสุกฤษฎิ์ สุวรรณเวียง นักวิชาการโสตทัศนศึกษา ฝ่ายบริหารจัดการ กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กองกลาง สำ�นักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ออกแบบ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำ�กัด (มหาชน) เจ้าของ สำ�นักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม พิมพ์ที่ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำ�กัด (มหาชน) สำ�นักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม กองบรรณาธิการวารสารยุติธรรม โทรศัพท์ 0 2141 5149 โทรสาร 0 2143 8246 สายด่วน ยุ ต ิธรรม เว็บไซต์ www.moj.go.th 1111 E-mail : pr.gad@moj.go.th กด 77 Facebook : กระทรวงยุติธรรม Ministry of Justice,Thailand

ไม่ขอทิ้งช่วงให้รอนาน วารสารยุติธรรม ฉบับที่ 2 มาพร้อม กับเรื่องราวข่าวสารและความเคลื่อนไหวในแวดวงยุติธรรม ประเดิมด้วยบทความ และเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ พระราชพิธบี รมราชาภิเษก รัชกาลที่ 10 อาทิ พิธสี รงพระมุรธาภิเษก พิธรี บั น�ำ้ อภิเษก เครือ่ งเบญจราชกกุธภัณฑ์ เรือพระทีน่ งั่ สุพรรณหงส์ เป็นต้น ในคอลัมน์ “รู้ไว้ใช่ว่า” รวมถึงค�ำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในคอลัมน์ “ภาษายุติธรรม” “เรื่ อ งจากปก” น�ำเสนอสาระส�ำคั ญ ของการประชุ ม ทางวิ ช าการระดั บ ชาติ ว ่ า ด้ ว ยงานยุ ติ ธ รรม (The National Symposium on Justice Administration) ครั้งที่ 17 พัฒนา กระบวนการยุตธิ รรม สร้างความเชือ่ มัน่ น�ำความยุตธิ รรมสูป่ ระชาชน ทีม่ ผี บู้ ริหารกระทรวงยุตธิ รรม หน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน เข้าร่วมเมื่อวันที่ 22-23 เมษายน 2562 ณ ห้อง Royal Jubilee อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี คอลั ม น์ “คนยุ ติ ธ รรม” พบกั บ “Fantastic Four” กลุ่มเยาวชนแกนน�ำจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชาย บ้านอุเบกขา จังหวัดนครปฐม ผู้คว้าแชมป์ระดับโลกโครงการ Generation Unlimited Youth Challenge เยาวชนกล้าคิด สะกิดสังคม จัดโดยองค์การ ยูนิเซฟ ด้วยไอเดียการสร้างเว็บไซต์ จั ด หางาน “Change to Chance เปลี่ยนเพื่อโอกาส” ที่มี จุดประสงค์มุ่งส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานในหมู่เยาวชนที่เคย กระท�ำผิด และเป็นเวทีกลางให้ผู้ประกอบการได้พิจารณาถึง ศักยภาพ และความตัง้ ใจจริงของเยาวชนผูก้ ระท�ำผิดในการกลับตัว เป็นคนดีและได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง ในหน้ า “ก�ำแพงมิ อ าจกั้ น ” พาไปยั ง ทั ณ ฑสถานหญิ ง เชียงใหม่ ที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในเรื่องงานทอผ้าไหม จากฝีมือของผู้ต้องขัง จนกระทั่งผลงานบางส่วนได้เดินทางไป อวดโฉมไกลถึ ง ต่ า งแดนผ่ า นโครงการความร่ ว มมื อ ระหว่ า ง กระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ โครงการก�ำลังใจในพระด�ำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และบริษัท made in prison จากประเทศเดนมาร์ก ยังมีสาระอื่นๆ ในเล่มอีกมาก ไม่ว่าจะเป็น “เรื่องเล่า ยุตธิ รรม” กับภารกิจกระทรวงยุตธิ รรมกับการสร้างความเป็นธรรม บนรากฐานของความเท่าเทียม และ“กฎหมายสามัญประจ�ำบ้าน” ที่บอกให้รู้ว่าการโทร.ก่อกวนหมายเลขฉุกเฉินมีความผิดอย่างไร การคัดชือ่ “คนหนีคดี” พ้นทะเบียนบ้าน และพ่อค้า-แม่คา้ ออนไลน์ ต้องจ่ายภาษี E-Payment

แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้า

หมายเหตุ : วรรณกรรม บทความ หรือข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏในวารสารยุติธรรม เป็นผลงานของผู้เขียนโดยเฉพาะ กองบรรณาธิการไม่จำ�เป็นต้องเห็นด้วย


วารสารยุติธรรม

สารบัญ

ปีที่ 19 ฉบับที่ 2 ประจำ�ปี 2562 ยุติธรรมเพื่อประชาชน

18 30

3

ที่นี่ แจ้งวัฒนะ

รู้ ไว้ใช่ว่า...

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ภาษาอังกฤษในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

23

5 7

การตรวจสอบ การบุกรุกที่ดิน ด้วย DSI Map

เรื่องเล่ายุติธรรม

ภาษายุติธรรม

เดินหน้ายุติธรรม

20

for

กระทรวงยุติธรรม ส่งมอบหนังสือเสียง “กฎหมายสามัญประจำ�บ้าน” แก่โรงเรียนและมูลนิธิคนตาบอดทั่วประเทศ พร้อมเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อให้ผู้พิการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม อย่างเท่าเทียม

26

ภารกิจกระทรวงยุติธรรม กับการสร้างสังคมแห่งความเชื่อมั่น บนรากฐานของความเท่าเทียม

คนยุติธรรม

“Fantastic Four” เยาวชนจากบ้านอุเบกขา คนกล้าคิด ผู้พิชิตรางวัลระดับโลก

เรื่องจากปก

10

การประชุมวิชาการระดับชาติ ว่าด้วยงานยุติธรรม ครั้งที่ 17 พัฒนากระบวนการยุติธรรม สร้างความเชื่อมั่น นำ�ความยุติธรรมสู่ประชาชน

32 35

ทุกทิศทั่วยุติธรรม กำ�แพงมิอาจกั้น

ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ เปลี่ยนนักโทษเป็นนักทอ ยกระดับสู่สากล

กฎหมายสามัญประจำ�บ้าน

14 2

คุ้มครองคน คุ้มครองสิทธิ

รู้ ไว้ ได้ประโยชน์ : การพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

38

โทร.ก่อกวนหมายเลขฉุกเฉิน มีความผิด! คัดชื่อ “คนหนีคดี” พ้นทะเบียนบ้าน พ่อค้า - แม่ค้าออนไลน์ ต้องจ่ายภาษี E-Payment


พระราชพิธี บรมราชาภิเษก ตามราชประเพณีในสยามประเทศนี้ ถือเป็นตำ�รามาแต่โบราณว่า พระมหากษัตริย์ซึ่งเสด็จผ่านพิภพ ต้องทำ�พระราชพิธีบรมราชาภิเษกก่อน จึงจะเป็นพระราชาธิบดีโดยสมบูรณ์

พระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามิ น ทราธิ เ บศรราชวโรดม บรมนาถบพิ ต ร พระวชิ ร เกล้ า เจ้ า อยู่ หั ว จั ด ขึ้ น ระหว่ า งวั น ที่ 4 - 6 พฤษภาคม 2562 ณ พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

“เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”

รู้ ไว้ ใช่ว่า…

กองบรรณาธิการ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 10 ครั้งแรกในรอบ 69 ปี พระราชพิ ธี บ รมราชาภิ เ ษก พุ ท ธศั ก ราช 2562 จัดขึ้นในรอบ 69 ปี หลังจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร เมื่ อ วั น ที่ 5 พฤษภาคม 2493 ซึ่งขณะนั้นประเทศไทยมีประชากรประมาณ 19 ล้านคน ขณะที่ พ ระราชพิ ธี บ รมราชาภิ เ ษก พุ ท ธศั ก ราช 2562 จะประจักษ์ต่อพสกนิกรไทยกว่า 66 ล้านคน พระปฐมบรมราชโองการ นับแต่ตน้ กรุงรัตนโกสินทร์ หลังจากพราหมณ์ทูลเกล้าฯ ถวายเครื่องเบญจราช กกุธภัณฑ์ และเครือ่ งราชูปโภคแล้ว พระปฐมบรมราชโองการ นับตั้งแต่รัชกาลที่ 1 จนถึงรัชกาลปัจจุบัน จะมีเนื้อความ เปลี่ยนแปลงมาตามยุคสมัย ซึ่งล้วนแต่แสดงพระราชปณิธาน ในฐานะทรงเป็นผู้รับพระราชภาระแห่งบ้านเมือง

พระปฐมบรมราชโองการ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว วันที่ 4 พฤษภาคม 2562

น้ำ�ศักดิ์สิทธิ์ เป็นขัน้ ตอนหนึง่ ทีส่ �ำคัญยิง่ ในพระราชพิธบี รมราชาภิเษก คือ พิธีสรงพระมุรธาภิเษก (การรดน�้ำที่พระเศียร) ถือเป็น การเปลี่ยนพระราชสถานะสู่ความเป็นพระมหากษัตริย์ และพิธี รั บ น�้ ำ อภิ เ ษก (การรดน�้ ำ ที่ พ ระหั ต ถ์ ) แต่ เ ดิ ม ราชบั ณ ฑิ ต และพราหมณ์เป็นผู้ถวายน�้ำอภิเษก แต่ในหลวง รัชกาลที่ 9 เป็ น พระมหากษั ต ริ ย ์ พ ระองค์ แ รกที่ ท รงรั บ น�้ ำ อภิ เ ษกจาก ผูแ้ ทนสมาชิกรัฐสภาประจ�ำทิศทัง้ แปด เป็นนัยแสดงถึงความเป็น พระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย ประกอบด้วย น�้ำมุรธาภิเษก มาจากสระน�้ำ 4 สระ ในจังหวัด สุพรรณบุรี และน�ำ้ จากแม่นำ�้ ส�ำคัญทัง้ 5 หรือ “เบญจสุทธคงคา” ได้แก่ แม่นำ�้ บางปะกง แม่นำ�้ ป่าสัก แม่นำ�้ เจ้าพระยา แม่นำ�้ ราชบุรี และแม่น�้ำเพชรบุรี นำ�้ อภิเษก มาจากแหล่งนำ�้ ศักดิส์ ทิ ธิ์ จ�ำนวน 108 แหล่ง ประกอบด้ ว ย แหล่ ง น�้ ำ ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ ข องจั ง หวั ด 76 จั ง หวั ด จ�ำนวน 107 แหล่ ง และน�้ ำ ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ จ ากหอศาสตราคม ในพระบรมมหาราชวัง 1 แหล่งน�้ำ วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

3


เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ เป็นเครือ่ งหมายแห่งความเป็นพระราชา ซึง่ พราหมณ์ ผู้ท�ำพิธีจะน�ำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย ในวันที่ ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นเครื่องแสดงว่า ได้ เ สด็ จ เถลิ ง ถวั ล ยราชสมบั ติ เ ป็ น พระเจ้ า แผ่ น ดิ น ถูกต้องสมบูรณ์แล้ว ซึง่ ประกอบด้วยพระมหาพิชยั มงกุฎ พระแสงขรรค์ชัยศรี ธารพระกร วาลวิชนี (พัดและแส้) และฉลองพระบาท

เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ล�ำปัจจุบัน สร้างขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่ อ พุ ท ธศั ก ราช 2454 โดยตั้ ง ชื่ อ ตามเรื อ พระที่ นั่ ง โบราณของสมเด็ จ พระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอยุธยา คือ เรือศรีสพุ รรณหงส์ หรือเรือพระทีน่ งั่ ชัยสุพรรณหงส์ สร้างขึ้นเมื่อพุทธศักราช 2091 หัวเรือพระที่นั่งนี้มีโขนเรือ รูปหัวของหงส์ ล�ำตัวเรือทอดยาวคือส่วนตัวหงส์ จ�ำหลักไม้ลงรักปิดทอง ประดับกระจกมีพหู่ อ้ ย ปลายพูเ่ ป็นแก้วผลึก ภายนอกทาสีด�ำ ท้องเรือทาสีแดง ตอนกลางล�ำเรือมีทปี่ ระทับเรียกว่า “ราชบัลลังก์กญ ั ญา” ส�ำหรับพระเจ้าอยูห่ วั หรือพระราชวงศ์ชนั้ สูง เรือมีความยาว 46.15 เมตร กว้าง 3.17 เมตร ลึกจนถึง ท้องเรือ 94 เซนติเมตร กินน�้ำลึก 41 เซนติเมตร น�้ำหนัก 15 ตัน ใช้ก�ำลังพล ประกอบด้วย ฝีพาย 50 คน นายเรือ 2 คน นายท้าย 2 คน คนถือธงท้าย 1 คน พลสัญญาณ 1 คน คนถือฉัตร 7 คน และคนขานยาว 1 คน ซึ่งจะท�ำ หน้าที่เป็นผู้ร้องขานเพลงเรือ โดยมีฝีพายร้องเห่เรือพร้อมกันไปตามจังหวะ ร่วมกับเรือล�ำอื่น ๆ “เรือพระทีน่ งั่ สุพรรณหงส์ได้รบั รางวัลยกย่องให้เป็น “เรือมรดกโลก” จากองค์กรที่เรียกว่า World Ship Trust เมื่อพุทธศักราช 2535” ขอบคุณข้อมูล 1. https://phralan.in.th 3. https://siamrath.co.th 5. https://www.sanook.com

4

2. https://www.bbc.com 4. https://www.khaosod.co.th

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

พระที่นั่งภัทรบิฐ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระมหากษัตริย์เมื่อทรงรับน้ำ�อภิเษกที่พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพร ราชอาสน์แล้วเสด็จพระราชดำ�เนินประทับพระที่นั่งภัทรบิฐ ทรงรับการถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ พระแสงอัษฎาวุธ เครื่องราชูปโภคและราชสมบัติ

พระราชทานอภัยโทษผู้ต้องราชทัณฑ์ เว็ บ ไซต์ ร าชกิ จ จานุ เ บกษา ได้ เ ผยแพร่ พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พุทธศักราช 2562 ความว่ า พระบาทสมเด็ จ พระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพล ราชวรางกูร กิตสิ ริ สิ มบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศร ราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มี พ ระราชโองการโปรดเกล้ า ฯ ให้ ป ระกาศว่ า โดยที่ทรงพระราชดำ�ริเห็นว่าในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษก นับเป็นอภิลักขิตกาล สำ � คั ญ เพื่ อ เป็ น การแสดงพระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ ในสมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว สมควรพระราชทาน อภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อให้โอกาสแก่บุคคล เหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็น คุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป


ภาษายุติธรรม

นางสาวเพ็ญพรรณ จินดานิล นักวิเทศสัมพันธ์ชำ�นาญการ กองการต่างประเทศ

ภาษาอังกฤษใน พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในช่วงเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม 2562 นี้ นับเป็นห้วงเวลาแห่งความปลื้มปีติของปวงชน ชาวไทย ทีป่ ระเทศไทยของเราได้มพ ี ระราชพิธอี นั สำ�คัญยิง่ กล่าวคือพระราชพิธเี นือ่ งในการบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็ จ พระปรเมนทรรามาธิ บ ดี ศ รี สิ น ทรมหาวชิ ร าลงกรณ มหิ ศ รภู มิ พ ลราชวรางกู ร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในโอกาสนี้ คอลัมน์ภาษายุติธรรมจึงขอนำ�เสนอคำ�ศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้เกี่ยวข้องกับพระราชพิธี ข้างต้นแก่ท่านผู้อ่านค่ะ

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก The Royal Coronation Ceremony พิธีสรงน�้ำพระมุรธาภิเษก The Ablution or Purification Ceremony น�้ำสรงพระมุรธาภิเษก Sacred Water for Ablution พิธีถวายน�้ำอภิเษก The Anointment Ceremony น�้ำอภิเษก The Holy Water / Water for Anointment พระมหาเศวตฉัตร The Royal Tiered Umbrella

พระสุพรรณบัฏ The Royal Golden Plaque พระราชลัญจกรประจ�ำรัชกาล The Royal Seal of State ดวงพระบรมราชสมภพ The Royal Horoscope

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

5


พระปฐมบรมราชโองการ First Royal Command พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร The Ceremony of the Assumption of the Royal Residence

เครื่องราชกกุธภัณฑ์ The Royal Regalia พระมหาพิชัยมงกุฎ The Great Crown of Victory พระแสงขรรค์ชัยศรี The Sword of Victory วาลวิชนี The Royal Fan and Fly Whisk ธารพระกร The Royal Scepter ฉลองพระบาทเชิงงอน The Golden Slippers

กระบวนพยุหยาตราทางสถลมารค Royal Procession on Land กระบวนพยุหยาตราทางชลมารค Royal Barge Procession เสด็จออกสีหบัญชร Granting a Public Audience

นอกจากค�ำศัพท์ส�ำคัญเหล่านี้ที่ได้ยินบ่อยครั้งในระหว่างการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว ท่านที่สนใจ ค�ำศัพท์อื่นๆ หรือรายละเอียดการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ สามารถติดตามเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ของกระทรวงวัฒนธรรม (https://www.m-culture.go.th/th/ebook_more.php?gid=27) ซึ่งได้จัดท�ำหนังสือ ภาษาไทย “พระราชพิธบี รมราชาภิเษก” และหนังสือภาษาอังกฤษ “The Royal Coronation Ceremony” ในรูปแบบหนังสือ อิเล็กทรอนิกส์ (E-book) หรือเว็บไซต์คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธบี รมราชาภิเษก (https://phralan.in.th) ขอบคุณข้อมูล 1. https://www.m-culture.go.th 3. https://thailand.prd.go.th 5. https://www.thairath.co.th

6

2. https://phralan.in.th 4. https://www.silpa-mag.com

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม


เดินหน้ายุติธรรม

กองบรรณาธิการ

กระทรวงยุติธรรม ส่งมอบหนังสือเสียง

“กฎหมายสามัญประจำ�บ้าน”

for

แก่โรงเรียนและมูลนิธิคนตาบอดทั่วประเทศ

พร้อมเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อให้ผู้พิการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียม สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นผู้ริเริ่มโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อช่วยให้ผู้พิการสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และสามารถดำ�รงชีวิตอยู่ในสังคมด้วยความเสมอภาคหรือใกล้เคียงกับคนปกติ เนื่ อ งในโอกาสมหามงคลวั น คล้ า ยวั น พระราชสมภพ สมเด็ จ พระกนิ ษ ฐาธิ ร าชเจ้ า กรมสมเด็ จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 64 พรรษา 2 เมษายน 2562 กระทรวง ยุติธรรมซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณที่ทรงพระเมตตาประกอบพระราชกรณียกิจในหลากหลายด้านนานัปการ เพื่อราษฎรทั้งปวง มิเว้นแม้แต่กระทั่งผู้พิการ โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นผู้ริเริ่มโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อช่วยให้ผู้พิการสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และสามารถดำ�รงชีวติ อยูใ่ นสังคมด้วยความเสมอภาคหรือใกล้เคียงกับคนปกติ ดังตัวอย่างในช่วงกลางปี พ.ศ. 2545 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งสำ�นักงานผลิตหนังสือเสียงระบบเดซี (DAISY) ซึ่งเป็นสื่อทางเลือกทางการอ่านสำ�หรับ ผู้พิการทางสายตา ณ อาคารมูลนิธิราชสุดา

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

7


เพือ่ สนองพระราชปณิธานในการส่งเสริมและสนับสนุน ให้ ผู้ พิ ก ารทางสายตามี สื่ อ ประชาสั ม พั น ธ์ ที่ เ หมาะสมกั บ การเรี ย นรู้ เ กี่ ย วกั บ กฎหมายที่ จำ � เป็ น ในชี วิ ต ประจำ � วั น กระทรวงยุ ติ ธ รรมได้ จั ด โครงการ “สร้ า งความยุ ติ ธ รรม ด้วยพลังหนังสือเสียง (Justice for the Blind) เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 64 พรรษา วันที่ 2 เมษายน 2562” เมือ่ วันอังคารที่ 9 เมษายน 2562 ณ ห้องรับรองกระทรวงยุติธรรม ชั้น 2 อาคารราชบุรี ดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โดยโครงการฯ ดังกล่าว เป็นการสานต่อโครงการจัดทำ�หนังสือเผยแพร่ความรู้ เรือ่ งกฎหมาย : กฎหมายสามัญประจำ�บ้าน (ฉบับอักษรเบรลล์) ที่ สำ � นั ก งานปลั ด กระทรวงยุ ติ ธ รรมได้ ริ เ ริ่ ม จั ด ทำ � ขึ้ น เมื่อปี พ.ศ. 2556 ที่ผ่านมา ในการนี้ ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุตธิ รรม เป็นประธานเปิดโครงการฯ พร้อมกับ มอบหนังสือเสียง “กฎหมายสามัญประจำ�บ้าน” ให้แก่ผู้แทน จากมูลนิธิคนตาบอดไทย และหน่วยงานเครือข่าย โดยมี นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายนิมิต ทัพวนานต์ ผูช้ ว่ ยปลัดกระทรวงยุตธิ รรม ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ กระทรวงยุติธรรม พร้อมแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมฯ ภายในงานมี ก ารจั ด นิ ท รรศการเฉลิ ม พระเกี ย รติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แสดงพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวเนื่องกับงานด้านยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทรงงานเพื่อช่วยเหลือผู้พิการ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการอ�ำนวยความยุติธรรม มุ่งมั่น ที่จะให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการ ได้ อ ย่ า งทั่ ว ถึ ง เป็ น ธรรม และเท่ า เที ย ม โดยที่ ผ ่ า นมา กระทรวงยุ ติ ธ รรมมุ ่ ง มั่ น ขั บ เคลื่ อ นการส่ ง เสริ ม พั ฒ นา ศักยภาพและคุณภาพชีวิตผู้พิการมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่า จะเป็นด้านการจ้างงาน การพัฒนาอาชีพ ไปจนถึงการผลิต สื่ อ ประชาสั ม พั น ธ์ ส�ำหรั บ ผู ้ พิ ก าร เพื่ อ ให้ ผู ้ พิ ก ารเข้ า ถึ ง กระบวนการยุติธรรม อันจะเป็นการลดความเลื่อมล�้ำ ภายใต้ วิสัยทัศน์กระทรวงที่ว่า “สร้างสังคมแห่งความเป็นธรรม บนรากฐานของความเท่าเทียม”

8

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม


ในงานเดียวกันนี้ ยังเปิดเวทีเสวนาในหัวข้อ “การผลิตสื่อประชาสัมพันธ์และการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ของคนพิการ” โดยมี นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิวนารถ หงษ์ประยูร ผู้ช่วย ผู้อำ�นวยการหลักสูตรนิเทศศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ Executive Producer รายการโทรทัศน์ เพื่อคนพิการ นางสาวชลทิพย์ ยิ้มย่อง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการระบบข้อมูลข่าวสารสำ�หรับคนตาบอด มูลนิธิคนตาบอดไทย และนายดำ�เกิง มุ่งธัญญา ครูสอนวิชาภาษาอังกฤษ โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับ การผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ให้ตรงตามความต้องการของผู้พิการ และเพื่อให้ผู้พิการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม และข้อมูล ข่าวสารได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และสามารถดำ�รงชีวิตอยู่ในสังคมได้ด้วยความเสมอภาค

ทั้ ง นี้ หนั ง สื อ เสี ย ง “กฎหมายสามั ญ ประจ�ำบ้าน” ฉบับดังกล่าว ได้ถูกถ่ายทอดเสียง จากตั ว แทนอาสาสมั ค รของหน่ ว ยงานในสั ง กั ด กระทรวงยุติธรรมและประชาชนทั่วไป โดยได้รับ ความร่วมมือในการบันทึกเสียงจากมหาวิทยาลัย ธุรกิจบัณฑิตย์ และมูลนิธิคนตาบอดไทย หลังจากนี้ กระทรวงยุติธรรมจะน�ำหนังสือเสียง “กฎหมาย สามั ญ ประจ�ำบ้ า น” ที่ ผ ลิ ต เสร็ จ เรี ย บร้ อ ยแล้ ว จ�ำนวน 589 ชุ ด ส่ ง มอบให้ กั บ โรงเรี ย นสอน คนตาบอดและมูลนิธิคนตาบอด จ�ำนวน 118 แห่ง ทัว่ ประเทศ รวมทัง้ เผยแพร่ผา่ นทางห้องสมุดออนไลน์ เว็บไซต์ Tab 2 Read ต่อไป

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

9


เรื่องจากปก

กองบรรณาธิการ

การประชุมวิชาการระดับชาติว่าด้วยงานยุติธรรม ครั้งที่ 17

พัฒนากระบวนการยุติธรรม

สร้างความเชื่อมั่น

นำ�ความยุติธรรมสู่ประชาชน

สืบเนื่องจากช่วงเวลาที่ผ่านมาได้เกิดกรณีส�ำคัญหลายประการเกี่ยวกับการด�ำเนินคดี การอ�ำนวยความยุติธรรม และการสื่อสารเรื่องกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมไปยังประชาชนที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ของประชาชน ซึ่งสะท้อนจากเหตุการณ์สูญเสียหรือความเสียหายของเหยื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการอ�ำนวยความยุติธรรม ทัง้ ทางแพ่งและอาญา และจากความส�ำคัญเรือ่ ง “สถานการณ์ความเชือ่ มัน่ ของประชาชน ต่อกระบวนการยุตธิ รรม” กระทรวงยุตธิ รรม โดยส�ำนักงานกิจการยุตธิ รรม จึงได้จดั ให้มกี ารประชุมทางวิชาการระดับชาติวา่ ด้วยงานยุตธิ รรม (The 17 th National Symposium on Justice Administration) ครั้งที่ 17 “พัฒนากระบวนการยุติธรรม สร้างความเชื่อมั่น น�ำความยุติธรรมสู่ประชาชน” ระหว่าง วันที่ 22-23 เมษายน 2562 ณ ห้อง Royal Jubilee อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี การประชุมทางวิชาการระดับชาติว่าด้วยงานยุติธรรมจัดขึ้นเพื่อสะท้อนมุมมองของภาคส่วนต่าง ๆ ที่มีต่อ กระบวนการยุติธรรม รวมทั้งเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนทัศนะ มุมมอง ประสบการณ์ องค์ความรู้ ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่าง ๆ ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน สถาบันการศึกษา องค์กรระหว่างประเทศ และสื่อมวลชน เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างกันในการแก้ไขปัญหา และอุปสรรคที่ส่งผลต่อการอำ�นวย ความยุตธิ รรมให้กบั ประชาชน รวมถึงยกระดับคุณภาพการให้บริการของหน่วยงานในกระบวนการยุตธิ รรม เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและได้รับบริการที่เหมาะสมและเท่าเทียมจากรัฐ และสร้างการรับรู้ และการสือ่ สารเกีย่ วกับกระบวนการยุตธิ รรมทีถ่ กู ต้องไปยังประชาชน อันจะนำ�มาซึง่ ความเชือ่ มัน่ ของประชาชน ที่มีต่อกระบวนการยุติธรรม พิธีเปิดการประชุมและการปาฐกถาพิเศษ “พัฒนากระบวนการยุติธรรม สร้างความเชื่อมั่น นำ�ความยุติธรรมสู่ประชาชน” โดย พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวใจความตอนหนึ่งถึงแนวทางในการสร้าง ความเชื่อมั่นด้านกระบวนการยุติธรรมให้แก่ประชาชน 4 ประการ ได้แก่ 1. พัฒนาคนทุกคน โดยการสร้าง Mind Set การเคารพกติกาในการอยู่ร่วมกันในสังคม เคารพสิทธิและเสรีภาพ รับรู้สิทธิของตนเอง รวมถึงไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น 2. พัฒนาการให้บริการของหน่วยงานของรัฐ ผ่านการด�ำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพือ่ ให้การให้บริการของรัฐมีประสิทธิภาพ เสมอภาค และลดความเหลื่อมล�้ำในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของประชาชน รวมถึงปรับปรุงกระบวนการท�ำงานตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ให้ประชาชนได้รับการดูแลจากหน่วยงานอย่างเป็นธรรม มีมาตรฐาน เป็นมืออาชีพ

10

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม


3. พัฒนาเทคโนโลยี ให้มีส่วนช่วยในการส่งต่อข้อมูล ของผู้ให้บริหารไปยังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในลักษณะของ two ways communication ได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว 4. พัฒนากฎหมายให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถ ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างกันได้ ลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล รวมถึง การกำ�หนดโทษทางอาญาเท่าทีจ่ �ำ เป็นตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 77 และให้มี การใช้โทษทางเลือก

เวทีเสวนา แบ่งออกเป็น 4 Session Session “พัฒนาองค์กร ในกระบวนการยุติธรรม 1 เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น ของประชาชน”

ในการเสวนานี้ ผู ้ เ ข้ า ร่ ว มเสวนาถ่ า ยทอดมุ ม มองและ ประสบการณ์ของผู้บริหารในกระบวนการยุตธิ รรม ตัง้ แต่กระบวนการ ต้นน�้ำ กลางน�้ำ จนถึงปลายน�้ำ เกี่ยวกับสถานการณ์ความเชื่อมั่น ของประชาชนต่อกระบวนการยุตธิ รรม ผ่านการสะท้อนปัญหา อุปสรรค หรือข้อจ�ำกัดของการให้บริการ หรือการด�ำเนินงานในกระบวนการ ยุ ติ ธ รรม ที่ ส ่ ง ผลต่ อ ความเชื่ อ มั่ น ของประชาชน และผลกระทบ ต่อกระบวนการยุติธรรมที่เกิดจากการน�ำเสนอข้อคิดเห็นผ่านสื่อ การปรั บ ทั ศ นคติ ห รื อ วั ฒ นธรรมการให้ บ ริ ก ารของหน่ ว ยงาน ในกระบวนการยุตธิ รรม เพือ่ ให้เป็นทีเ่ ชือ่ มัน่ และยอมรับของประชาชน ในการนี้ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวในเวทีเสวนา ใจความตอนหนึ่งว่า ภาพรวมความเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรม เป็ น สิ่ ง ที่ มี ค วามส�ำคั ญ มากแม้ ไ ม่ มี ผ ลวั ด เพราะเมื่ อ ไหร่ ก็ ต ามที่ ความเชื่อมั่นถูกท�ำลายลง ย่อมส่งผลต่อกระบวนการท�ำงาน โดยเฉพาะ กระบวนการยุติธรรม ซึ่งการสร้างความเชื่อมั่นนั้นไม่สามารถสร้าง หรือขับเคลื่อนได้โดยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่ต้องเกิดจาก ความร่วมมือของหน่วยงานทุกภาคส่วน รวมทัง้ ต้องมีจดุ ประสงค์หลัก ของกระบวนการยุติธรรมที่ต้องปรับและท�ำให้ได้ คือ ความถูกต้อง ความเป็นธรรม และความสะดวกรวดเร็ว เพราะนี่คือสิ่งที่เป็นพื้นฐาน และมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรม และจากการเสวนาสามารถ สรุปประเด็นข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมเสวนาทั้ง 4 ท่าน ได้ดังนี้ 1. การพัฒนากระบวนการสอบสวนให้มีมาตรฐานและ กำ�หนดเวลาในการส่งมอบสำ�นวนการสอบสวนให้ฟ้องร้องชัดเจน • การจะทำ� ให้เกิด ความเชื่อ มั่ น ในชั้ น พนั ก งานอั ย การ จะต้ อ งดำ � เนิ น การใน 3 เรื่ อ ง คื อ (1) การทำ � สำ � นวนสอบสวน ต้องสิ้นกระแสความ มีพยาน หลักฐานครบถ้วน (2) มีระยะเวลา ในการทำ�งาน เนื่องจากการมีเวลาไม่เพียงพอในการสั่งสำ�นวน จะเป็น เหตุให้หลายครั้งต้องปล่อยตัวผู้ต้องหา ซึ่งกระทบต่อความรู้สึกเชื่อมั่น ของประชาชน และ (3) มีความเป็นอิสระในการพิจารณาสั่งคดี โดยปราศจากการแทรกแซง (ศาสตราจารย์พิเศษเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด) • การพัฒนาองค์กร ตำ�รวจควรดำ�เนินการโดยการนำ� เทคโนโลยีมาปรับใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ให้มากขึ้น การลดการใช้ ดุ ล พิ นิ จ ของเจ้ า พนั ก งานตำ � รวจ การพิ จ ารณาความเหมาะสม ของพฤติกรรมการปฏิบัติงานทั้งในและนอกเวลาการปฏิบัติหน้าที่

รวมทั้งการปรับปรุงระบบการทำ�งานของตำ�รวจ (พลตำ�รวจโท ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำ�รวจแห่งชาติ) 2. การเสริมสร้างการรับรู้กฎหมายและความเข้าใจสิทธิ ของบุคคลในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา • การควบคุมคุณภาพของผู้ให้และผู้รับบริการจะต้องมี การให้ข้อมูลบุคลากรที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม เพื่อที่จะส่งผ่าน ข้อมูลที่ถูกต้องไปยังประชาชน และการสร้างความรับรู้ด้านกฎหมาย ให้กบั ประชาชนและสังคมอย่างต่อเนือ่ งและยัง่ ยืน การให้ความเป็นธรรม เป็นทรัพย์สมบัตขิ องประชาชน รวมทัง้ รัฐต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือ ประชาชนโดยไม่ต้องรอให้ประชาชนร้องขอ เช่น การดำ�เนินการ ของสำ � นั ก งานยุ ติ ธ รรมในพื้ น ที่ หรื อ โครงการยุ ติ ธ รรมใส่ ใ จ (ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม) 3. การพั ฒ นาระบบการตรวจสอบถ่ ว งดุ ล ภายนอก หน่วยงานและทบทวนหรือปรับปรุงกฎหมายหรือระเบียบทีเ่ กีย่ วข้อง • แนวทางการพัฒนาองค์กรสามารถดำ�เนินการได้หลาย รูปแบบ เช่น การร่วมการสอบสวนกับองค์กรอื่นในระดับที่เหมาะสม ความร่วมมือกับเจ้าพนักงานตำ�รวจในการดำ�เนินการคดีค้ามนุษย์ ซึ่ ง ประสบความสำ � เร็ จ เป็ น อย่ า งดี และส่ ง ผลต่ อ ความเชื่ อ มั่ น ของประชาชน การมีกระบวนการช่วยเหลือทางกฎหมาย (Legal Aid) และการมีทนายความที่รัฐจัดให้ (Defense lawyer) 4. การพิจารณาแก้ไขเพิม่ เติมกฎหมายเพือ่ ประสิทธิภาพ ในการลงโทษและการบังคับโทษ • การเพิม่ ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำ�เนินการ ผ่านการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย โดยสำ�นักงานศาลยุตธิ รรมได้ด�ำ เนินการ โดยยึดหลัก 5 ประการ คือ (1) ความถูกต้อง (2) ความเป็นธรรม (3) ความสะดวก (4) รวดเร็ว (5) ความประหยัด ซึ่งที่ผ่านมาได้มี การแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยให้ จำ � เลยนำ � เสนอพยานหลั ก ฐานในชั้ น ไต่ ส วนมู ล ฟ้ อ งได้ รวมถึ ง การขยายสิทธิในการปล่อยตัวชั่วคราวจาก 5 ปี เป็น 10 ปี โดยไม่ต้อง ใช้หลักประกัน กรณีการใช้ Electronic Monitoring หรือ EM เป็ น ทางเลื อ กในการปล่ อ ยตั ว ชั่ ว คราว โดยไม่ ต้อ งใช้หลักประกัน และการตราพระราชบัญญัตมิ าตรการกำ�กับและติดตามจับกุมผูห้ ลบหนี การปล่อยชั่วคราวโดยศาล พ.ศ. 2560 (ดร.ศุภกิจ แย้มประชา รองเลขาธิการศาลยุติธรรม)

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

11


Session “กระบวนการยุติธรรม กับความเชื่อมั่น 2 ระหว่างประเทศ” ผู้เข้าร่วมเสวนาได้ถ่ายทอดมุมมอง แนวทางด้านการพัฒนา ข้อก�ำหนดและมาตรฐานทีเ่ กีย่ วกับกระบวนการยุตธิ รรมในระดับต่าง ๆ อาทิ ในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค (Regional) และระดับสากล (International) โดยครอบคลุมถึงตัวชี้วัดต่าง ๆ ของกระบวนการ ยุ ติ ธ รรม เช่ น ตั ว ชี้ วั ด ของโครงการระดั บ โลกด้ า นความยุ ติ ธ รรม (World Justice Index) ตัวชี้วัดด้านสิทธิมนุษยชน (Universal Human Rights Index – UHRI) และตัวชี้วัดตามเป้าหมายการพัฒนา ที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals - SDGs) โดยเฉพาะ เป้าหมายที่ 16 ที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม และข้อเสนอแนะ ในการน�ำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับบริบทของประเทศไทย เพื่อน�ำไปสู่ การสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม การประชุมในครั้งนี้ได้มีข้อเสนอจากนักวิชาการทั้งจากไทย และต่างประเทศ ต่อการพัฒนาตัวชีว้ ดั ทีส่ อดคล้องกับบริบทของสังคม ไทยและมีมาตรฐานทีเ่ กีย่ วข้องกับกระบวนการยุตธิ รรมในระดับต่าง ๆ อาทิ ในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับสากล โดยครอบคลุม ถึงตัวชี้วัดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม โดยวิทยากร ทั้ง 4 ท่าน ได้ให้ข้อเสนอแนะผ่านเวทีเสวนา ดังนี้ 1. แม้ประเทศไทยจะมีการปรับเปลี่ยนกฎหมายหลายครั้ง แต่กเ็ ป็นเพียงการทำ�ให้กฎหมายทันสมัยขึน้ (Legal Modernization) แต่ ใ นวิ ธี ป ฏิ บั ติ ไ ม่ ค่ อ ยมี ก ารเปลี่ ย นแปลง เพราะไม่ มี ก ารเปลี่ ย น กระบวนทัศน์ของบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม (Paradigm Shift) มากนัก ดังนั้น การกำ�หนดตัวชี้วัดด้าน Criminal Justice ควรให้ ความสำ � คั ญ กั บ การปรั บ กระบวนทั ศ น์ ข องบุ ค ลากรครอบคลุ ม ถึงการดำ�เนินการด้านต่าง ๆ เช่น กระบวนการสอบสวนทีม่ ปี ระสิทธิภาพ การใช้ระยะเวลาที่เหมาะสม กระบวนการบังคับโทษที่จะช่วยลด พฤติกรรมอาชญากรรม และต้องคำ�นึงถึงความถูกต้องทางสารัตถะ

ไม่ใช่เพียงเพือ่ ทำ�ตามหลักเกณฑ์ในทางพิธกี รรมเท่านัน้ (ศาสตราจารย์ ดร.สุ ร ศั ก ดิ์ ลิ ข สิ ท ธิ์ วั ฒ นกุ ล ประธานกรรมการบริ ห ารสถาบั น เพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย) 2. ตั ว ชี้ วั ด เป็ น เพี ย งเครื่ อ งมื อ ไม่ ใ ช่ คำ � ตั ด สิ น ที่ มี ต่ อ ประเทศนัน้ ๆ เพราะแต่ละประเทศมีบริบทในแต่ละด้านทีแ่ ตกต่างกัน แต่ ตั ว ชี้ วั ด เป็ น สิ่ ง ที่ ทำ � ให้ รู้ ว่ า ปั จ จุ บั น ประเทศนั้ น ๆ อยู่ ใ นจุ ด ใด และนำ�มาปรับปรุงสิ่งที่บกพร่องเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน และการทำ�งานของหน่วยงานให้ดที สี่ ดุ (Mr. Matti Joutsen Special Advisor, Thailand Institute of Justice) 3. การใช้ตวั ชีว้ ดั เพือ่ ตรวจสอบความก้าวหน้า ควรเชือ่ มโยง กับการวางแผนยุทธศาสตร์ โดยต้องสอดคล้องกับความจำ�เป็นเร่งด่วน ของประเทศ ซึ่งต้องครอบคลุมกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด มีความ ผสมผสานระหว่างมาตรการต่าง ๆ และตอบสนองความต้องการของ กลุม่ คนทีม่ คี วามแตกต่างกัน โดยเฉพาะกลุม่ เปราะบาง และกลุม่ เสีย่ ง ที่ต้องปฏิบัติได้จริง (Mr. Nicholas Booth Team Leader a.i., Governance and Peace building Team and Advisor Conflict Prevention UNDP และ Ms. Liviana Zorzi, Programme Analyst Transparency & Accountability in the Governance Team UNDP) 4. การพัฒนามาตรฐานระหว่างประเทศเกีย่ วกับการทุจริต คอร์รปั ชัน่ โดยเฉพาะมิตขิ องผูป้ ฏิบตั งิ านมีสว่ นในการสร้างความเชือ่ มัน่ ให้แก่ประชาชน โดยเห็นว่า “การขัดกันแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) ของผู้พิพากษาสามารถเกิดขึ้นได้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะต้อง ได้รับการอธิบายและแถลงให้ชัดเจน โดยต้องอยู่บนหลักการสากล เพราะผูพ้ พิ ากษาเป็นวิชาชีพทีส่ �ำ คัญและมีบทบาทสูงในการตัดสินคดี” (Mr. Francesco Checchi, UNODC Regional Office for Southeast Asia and the Pacific)

Session “มาตรการ ด้านความเชื่อมั่น 3 ของภาคประชาสังคม” ผู้เข้าร่วมเสวนาได้กล่าวถึงปัญหา อุปสรรค หรือข้อจ�ำกัด ของการให้บริการหรือการด�ำเนินงานในกระบวนการยุตธิ รรมของภาครัฐ ทีส่ ง่ ผลต่อความเชือ่ มั่นของประชาชน การปรับทัศนคติหรือวัฒนธรรม การให้บริการของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งถือเป็นเรื่อง ที่ ส�ำคั ญ รวมถึ ง ได้ แ ลกเปลี่ ย นข้ อ คิ ด เห็ น ข้ อ เสนอแนะในการ ให้การสนับสนุนของแต่ละภาคส่วน เพือ่ ร่วมเปลีย่ นแปลงและยกระดับ คุณภาพ การให้บริการด้านกระบวนการยุติธรรมให้เป็นที่ยอมรับ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนผ่านการน�ำเสนอจากผู้แทน หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม

12

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

จากเวทีเสวนาได้มีการพูดถึงประเด็นปัญหาเรื่องความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมขั้นพื้นฐาน ของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ (Lack of Basic Understanding) พบว่า เกิดจากการให้ข้อมูล หรือการเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจ ด้ า นกฎหมายและกระบวนการยุ ติ ธ รรม ยั ง ไม่ ทั่ ว ถึ ง และไม่ ต รง กลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมเสวนาทั้ง 4 ท่าน ยังได้ให้ ข้อเสนอแนะ ดังนี้ 1. บทบาทหัวหน้าส่วนราชการในระดับพืน้ ที่ ต้องมีภาวะผูน้ �ำ ในการแก้ปญ ั หาหรือสถานการณ์ เพือ่ สร้างความเชือ่ มัน่ ให้กบั ประชาชน “ถ้าเราชัดเจน รวดเร็ว ทุกคนจะเชื่อมั่น ความเชื่อมั่นสำ�คัญที่สุด”


และการแก้ไขและพัฒนาปรับปรุงกระบวนการยุตธิ รรมต้องใช้หลักการ สำ�คัญคือ “ทำ�อย่างไรจะเข้าไปวิ่งในใจของชาวบ้านได้” ถ้าสามารถ ถ่ายทอดความรู้ได้อย่างรวดเร็ว เข้าถึงประชาชนถูกเวลา จะสามารถ แก้ไขปัญหาของประชาชนได้ (นายณรงค์ศกั ดิ์ โอสถธนากร ผูว้ า่ ราชการ จังหวัดพะเยา) 2. หน่ ว ยงานราชการต้ อ งปรั บ ตั ว และเปลี่ ย นแปลง เพื่อที่จะสามารถตอบสนองตามความต้องการของประชาชนได้อย่าง แท้จริง ทัง้ การปรับเปลีย่ นดังกล่าวต้องกระทำ�อย่างเป็นระบบ (พลเอก เอกชั ย ศรี วิ ล าส ผู้ อำ � นวยการสำ � นั ก สั น ติ วิ ธี แ ละธรรมาภิ บ าล สถาบันพระปกเกล้า) 3. ภาคเอกชนต้องเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนภาครัฐ เพื่อนำ�ไปสู่การเปลี่ยนแปลง “ความเชื่อมั่นคือความไว้วางใจ ซึ่งต้อง

Session 4

ดำ�เนินการอย่างจริงจัง มีกลยุทธ์ มีระบบแนวทางในการจัดการเพือ่ ให้เกิด ความยั่งยืน โดยบริษัทจะต้องไม่คิดถึงแต่ตนเอง แต่ต้องคิดถึงคนอื่น คิดถึงสังคม ชุมชน ประเทศชาติ รวมถึงความสำ�คัญกับเด็กและเยาวชน ทีก่ ระทำ�ความผิดด้วย” (นายโตมร จันทรา ผูจ้ ดั การทัว่ ไป บริษทั ซีพี ออลล์ จำ�กัด) 4. “หลักนิตธิ รรม” กับ “วัฒนธรรมแห่งการเคารพกฎหมาย และกติ ก า” ไม่ ใ ช่ เ พี ย งส่ ง เสริ ม ซึ่ ง กั น และกั น แต่ ส องสิ่ ง นี้ ต้ อ ง สอดคล้องกันอย่างแยกกันไม่ได้ โดยองค์ประกอบวัฒนธรรมในการ เคารพกฎหมายประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ คือ (1) การเห็นร่วมกัน ของคนในสังคม (2) การเปลี่ยนพฤติกรรมร่วมกันของคนในสังคม (3) การไม่ยอมทนกับบุคคลที่ไม่เคารพในกฎกติกา (นางสาวเอด้า จิรไพศาลกุล กรรมการผูจ้ ดั การ เทใจดอทคอม)

“สื่อมวลชนกับบทบาท ในกระบวนการยุติธรรม”

ในช่วง Session สุดท้ายนี้ ผูเ้ ข้าร่วมเสวนาได้ถา่ ยทอดมุมมอง และประสบการณ์ของผู้ปฏิบัติงานด้านสื่อสารมวลชนและผู้เกี่ยวข้อง ของการนำ � เสนอของสื่อ มวลชนแขนงต่ า ง ๆ เกี่ย วกั บ มาตรฐาน และจริยธรรมทางวิชาชีพ การนำ�เสนอข้อมูลข่าวสารหรือคดีทเ่ี กีย่ วข้อง กับกระบวนการยุติธรรม สถานการณ์ การนำ�เสนอข้อมูลข่าวสาร ของสื่อมวลชนที่นำ�ไปสู่การตัดสินถูกหรือผิดล่วงหน้า หรือ Trial by Media และข้อเสนอแนะในการแสวงหาทางออกร่วมกันในการนำ�เสนอ ข้อมูลข่าวสารหรือคดีท่ีได้รับความสนใจเป็นการเฉพาะ เพื่อนำ�ไปสู่ การสร้างความเชือ่ มัน่ ให้กบั ประชาชน นอกจากนี้ ยังมีขอ้ เสนอแนะเกีย่ วกับการบูรณาการร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมให้เป็นศูนย์กลางข้อมูล ที่ถูกต้อง และรวดเร็วแก่ประชาชนและสื่อมวลชนในลักษณะ Task Force หรือสร้างกลไกการให้ขอ้ มูลคดีทไ่ี ด้รบั ความสนใจเป็นการเฉพาะ (Specific Case Management) ผ่านระบบ Website ในลักษณะ Web Based Resource รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายทัว่ ไปอย่างเคร่งครัด กรณีมีผ้ไู ด้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบทั้งทางแพ่งและอาญา และควรมีการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นมาตรการเฉพาะ สำ�หรับสื่อมวลชน ทนายความ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐ บุคคล หรือองค์กรที่ให้คำ�ปรึกษาหรือให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายเป็น การเฉพาะ และผูเ้ ข้าร่วมเสวนาทัง้ 4 ท่าน ยังได้ให้ขอ้ เสนอแนะ ดังนี้ 1. บทบาทของทนายความ การเผยแพร่ความรูท้ างกฎหมาย เป็นเรื่องที่ควรผลักดันและสนับสนุน แต่ผู้แสดงความเห็นจะต้องมี ความระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นผ่านสือ่ ซึง่ เป็นช่องทางในการ เผยแพร่ข้อมูลออกไปสู่สาธารณะได้อย่างรวดเร็วด้วย นอกจากนี้

การใช้มาตรการทางสังคม (boycott) อาจเป็นกลไกหนึง่ ทีอ่ าจนำ�มาใช้ นอกเหนือจากการใช้กฎหมายได้ (ว่าที่ร้อยตรี ดร.ถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความ) 2. สังคมไทยต้องคิดให้เป็น ต้องเปลี่ยน “สังคมบ่นก่นว่า ปัญหา สูส่ งั คมฐานความรู”้ (Knowledge - based Society) เพือ่ ให้ ประชาชนรู้จัก ฟั ง ให้ เ ป็ น กล้ า แลกเปลี่ย นความคิ ด เห็ น พร้ อ มทั้ง สร้างกระบวนการเรียนรูแ้ ละปลูกจิตสำ�นึกของความเป็นพลเมืองทีต่ น่ื รู้ ในการช่วยเหลือสังคม และสร้างการเรียนรู้ในชุมชนโดยไม่ต้องรอ การพึง่ พาจากภาครัฐแต่เพียงอย่างเดียว เพือ่ ให้ “เราทุกคน คือนักปฏิรปู ” (อาจารย์อภิษฎา ทองสะอาด ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา สถาบันอาศรมศิลป์) 3. “กระบวนการยุตธิ รรมทีล่ า่ ช้าคือความไม่ยตุ ธิ รรม” ดังนัน้ ประชาชนต่างมีความคาดหวังกับกระบวนการยุตธิ รรมทีร่ วดเร็ว รอบคอบ รัดกุม ไม่เพิกเฉย และต้องปรับตัวพร้อมกับยุคดิจิทัลที่เป็นสังคม Disruptive นอกจากนี้ “สังคมไม่ได้ตอ้ งการความยุตธิ รรมแค่เพียงผลลัพธ์ ทีย่ ตุ ธิ รรม แต่สงั คมต้องการบรรยากาศแห่งความยุตธิ รรม สือ่ ในฐานะ ผูส้ ง่ ข่าวกระบวนการยุตธิ รรมจึงต้องสือ่ สารกับสังคม ให้ความรูก้ ฎหมาย และใช้เทคโนโลยีชว่ ยเสริมประสิทธิภาพการให้ความรูแ้ ก่ประชาชนด้วย” (นายธาม เชือ้ สถาปนศิริ นักวิชาการอิสระด้านสือ่ คณะกรรมการบริหาร สถาบันอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีรตั นโกสินทร์) 4. “สื่อมวลชนคือคนบวกจรรยาบรรณ ทำ�หน้าที่นำ�เสนอ อธิบาย ยกระดับ ดังนัน้ ทุกคนเป็นสือ่ มวลชนได้ แต่ตอ้ งมีจรรยาบรรณ และความรับผิดชอบ” (นายพีรพล อนุตรโสตถิ์ พิธีกรรายการชัวร์ ก่อนแชร์)

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

13


คุ้มครองคน คุ้มครองสิทธิ

นายอิสระพงษ์ บุญญา นักวิชาการยุติธรรมปฏิบัติการ

รู้ไว้ได้ประโยชน์ : การพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ กรมคุ้ ม ครองสิ ท ธิ แ ละเสรี ภ าพ กระทรวงยุ ติ ธ รรม จั ด ตั้ ง ขึ้ น ตาม พระราชบัญญัติปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 โดยมี “กองพิทักษ์ สิ ท ธิ แ ละเสรี ภ าพ” เป็ น หน่ ว ยงานหลั ก ในการจั ด ระบบบริ ห ารจั ด การ านการคุม้ ครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ซึง่ มีภารกิจหน้าทีใ่ นการพัฒนา การพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ ด้ระบบและมาตรการส่ งเสริมให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมาย เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นและคุ้มครอง ด้ ว ยความรวดเร็ ว ทั่ ว ถึ ง รั บ เรื่ อ งราวร้ อ งทุ ก ข์ ที่ เ กี่ ย วกั บ การละเมิ ด สิ ท ธิ ประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่อการถูกละเมิด และเสรีภาพ ให้คำ�ปรึกษาแนะนำ�ด้านกฎหมายและสิทธิต่าง ๆ แก่ประชาชน สิทธิที่พึงมีพึงได้ตามกฎหมาย ประสานงานให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนทีต่ กเป็นเหยือ่ อาชญากรรม รวบรวม และวิเคราะห์ขอ้ มูลเกีย่ วกับอรรถคดีเพือ่ การปรับปรุง แก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบ และตามหลักสิทธิมนุษยชน หรือข้อบังคับอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ รวมถึงการติดตาม อย่างเท่าเทียมกัน ประเมินผลการดำ�เนินงานเกี่ยวกับการพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ

ภารกิจในการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ การพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นและคุ้มครองประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่อการถูกละเมิดสิทธิ ที่พึงมีพึงได้ตามกฎหมายและตามหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ให้ตกเป็นผู้เสียหายหรือเหยื่อ หรือผู้ไม่ได้รับ ความเป็นธรรมจากการถูกละเมิด โดยการผลักดันให้มีการพัฒนามาตรการและกลไกในการคุ้มครองประชาชนกลุ่มเสี่ยง ทุกกลุม่ เป้าหมาย ส่งเสริมการน�ำไปสูก่ ารปฏิบตั ทิ กุ รูปแบบอย่างเป็นรูปธรรม และก�ำกับติดตามผลการด�ำเนินงานให้เป็นไป ตามมาตรการกลไกที่ก�ำหนดไว้

14

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม


คลินิกยุติธรรม โครงการคลินกิ ยุตธิ รรมของกรมคุม้ ครองสิทธิและเสรีภาพเริม่ ต้นด�ำเนินงานเมือ่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์บริการประชาชนในด้านการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ให้ความช่วยเหลือ ประชาชนทางกฎหมายและเป็นช่องทางให้ประชาชนสามารถเข้าถึงกระบวนการยุตธิ รรมได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และทั่วถึง ประกอบด้วย การให้ค�ำปรึกษาแนะน�ำด้านกฎหมายและสิทธิต่างๆ แก่ประชาชน หรือส่งต่อ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจัดให้มีที่ปรึกษากฎหมายประจ�ำคลินิกยุติธรรมทั่วประเทศ จ�ำนวนทั้งสิ้น 86 แห่ง คอยให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

15


สายด่วนยุติธรรม 1111 กด 77

สายด่วนยุติธรรม

สายด่วนยุติธรรม 1111 กด 77 (Call Center) เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการคุ้มครอง สิทธิและเสรีภาพ และช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือได้รับผลกระทบ จากกระบวนการยุติธรรมให้สามารถได้รับการอ�ำนวยความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล�้ำ ในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม โดยสามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ง่ายและไม่เสีย ค่าใช้จา่ ย ประกอบด้วย การขอรับค�ำปรึกษาทางกฎหมาย การรับเรือ่ งราวร้องทุกข์ การขอรับ ค่าตอบแทนผูเ้ สียหาย ค่าทดแทนและค่าใช้จา่ ยแก่จ�ำเลยในคดีอาญา การขอรับเงินสนับสนุน จากกองทุนยุติธรรม การคุ้มครองพยาน หรือค�ำแนะน�ำสวัสดิการสังคมอื่น ๆ

การส่งเสริมสิทธิผู้ต้องหาในชั้นสอบสวนตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญามาตรา 134/1

16

จากเจตนารมณ์ ที่ รั ฐ ต้ อ งการให้ ค วามช่ ว ยเหลื อ ประชาชนทางกฎหมาย โดยการให้มีทนายความเพื่อเป็น ที่ปรึกษา ให้ค�ำแนะน�ำ และช่วยเหลือทางกฎหมายตลอด ระยะเวลาการสอบสวน กระทรวงยุติธรรมจึงได้ด�ำเนินการ ออกกฎกระทรวง ก�ำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่พนักงานสอบสวนต้องปฏิบัติในการจัดหาทนายความให้แก่ ผู้ต้องหาในคดีอาญา พ.ศ. 2549 และระเบียบกระทรวง ยุตธิ รรมว่าด้วยการจ่ายเงินรางวัลและค่าใช้จา่ ยแก่ทนายความ ที่รัฐจัดหาให้แก่ผู้ต้องหาในคดีอาญา พ.ศ. 2550 การเข้าถึงสิทธิที่จะได้รับความช่วยเหลือในการ จัดหาทนายความจากรัฐ 1. เป็นผู้ต้องหาในคดีที่มีอัตราโทษประหารชีวิต และไม่มีทนายความ 2. เป็นผู้ต้องหาที่มีอายุไม่เกินสิบแปดปี ในวันที่ พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาและไม่มีทนายความ (ในกรณีที่ 1, 2 กฎหมายก�ำหนดให้รัฐต้องจัดหา ทนายความให้แก่ผู้ต้องหา ไม่ว่าผู้ต้องหาจะต้องการหรือไม่ ก็ตาม) 3. คดีท่ีผู้ต้องหามีอัตราโทษจ�ำคุก ไม่มีทนายความ และต้องการให้รัฐจัดหาทนายความให้ เมื่ อ ผู ้ ต ้ อ งหาถู ก จั บ กุ ม พนั ก งานสอบสวนจั บ กุ ม ก่อนด�ำเนินการสอบสวน พนักงานสอบสวนจะแจ้งให้ผตู้ อ้ งหา ได้ ท ราบถึ ง สิ ท ธิ ที่ จ ะได้ รั บ ความช่ ว ยเหลื อ ในการจั ด หา ทนายความให้ผู้ต้องหาทราบ โดยทนายความที่รัฐจัดหาให้ มีหน้าที่ว่าต่างแก้ต่างแก่ผู้ต้องหาเช่นเดียวกันกับทนายความ ในคดีทวั่ ไป รวมทัง้ จะต้องเข้าร่วมการสอบปากค�ำในชัน้ สอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดี และให้ค�ำแนะน�ำ ทางกฎหมายแก่ผู้ต้องหา ซึ่งผู้ต้องหามีสิทธิที่จะปฏิเสธไม่รบั ทนายความทีพ่ นักงานสอบสวนจัดหาให้ หากเห็นว่าทนายความ วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

1111 กด 77 ตลอด ชั่วโมง

ที่ จั ด หาให้ ไ ม่ ส ามารถปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ท นายความได้ อ ย่ า ง เต็มความสามารถ ผู้ต้องหามีสิทธิในการร้องขอให้บุคคลอื่น จัดหาทนายความให้แทนพนักงานสอบสวนได้ โดยการร้องขอต่อ ผูแ้ ทนกระทรวงยุตธิ รรมหรือร้องขอต่อผูแ้ ทนสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทั้ ง นี้ การได้ รั บ ความช่ ว ยเหลื อ ในการจั ด หา ทนายความจากรัฐ ผู้ต้องหาไม่ต้องจ่ายเงินค่าตอบแทนหรือ ค่าใช้จ่ายใด ๆ ให้แก่ทนายความ เนื่องจากกระทรวงยุติธรรม จะจ่ า ยเงิ น รางวั ล และค่ า ใช้ จ ่ า ยแก่ ท นาย ตามระเบี ย บ กระทรวงยุตธิ รรมว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินรางวัลและค่าใช้จา่ ย แก่ทนายความทีร่ ฐั จัดหาให้แก่ผตู้ อ้ งหาในคดีอาญา พ.ศ. 2550


การจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ได้รับรองสิทธิเสนอเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนไว้ ในมาตรา 59 บัญญัติว่า “บุคคลย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องราวร้องทุกข์ และได้รับแจ้งผลการพิจารณาภายในเวลาอันรวดเร็ว” จึงได้ออกระเบียบส�ำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ พ.ศ. 2552 ก�ำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ ในการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อบรรเทาและเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีมาตรฐานเดียวกัน กรมคุ ้ ม ครองสิ ท ธิ แ ละเสรี ภ าพจึ ง ได้ ก�ำหนดให้ มี ก ลุ ่ ม งานจั ด การเรื่ อ งราวร้ อ งทุ ก ข์ ขึ้ น มี อ�ำนาจหน้ า ที่ ใ นการ ให้ความช่วยเหลือประชาชนทีถ่ กู ล่วงละเมิดสิทธิและเสรีภาพหรือไม่ได้รบั ความยุตธิ รรม ด้วยการช่วยบรรเทาปัญหาในเบือ้ งต้น หรือประสานส่งต่อเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อด�ำเนินการต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ

การยื่นเรื่องราวร้องทุกข์ ผูร้ อ้ งทุกข์จะต้องร้องทุกข์ดว้ ยตนเอง เว้นแต่ผรู้ อ้ งทุกข์เจ็บป่วย หรือไม่สามารถร้องทุกข์ดว้ ยตนเองได้เพราะเหตุจ�ำเป็นอืน่ ผู้ร้องทุกข์จะมอบฉันทะให้ผู้อื่นร้องทุกข์แทนก็ได้ ในกรณีที่ผู้ร้องทุกข์ตกอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถร้องทุกข์ด้วยตนเองได้ และไม่สามารถมอบฉันทะให้ผู้ใดร้องทุกข์แทนได้ สามารถให้บุพการี ผู้สืบสันดาน สามี ภริยา หรือผู้มีส่วนได้เสียเป็นผู้จัดการ ร้องทุกข์แทนได้ การยื่นเรื่องราวร้องทุกข์ สามารถกระทำ�ได้ 4 ช่องทาง

1. ยื่นด้วยตนเอง

ส่วนกลาง ยื่นเรื่องราวร้องทุกข์ได้ที่ กองพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ต่างจังหวัด ยื่นเรื่องราวร้องทุกข์ได้ที่ ส�ำนักงานยุติธรรมจังหวัด ทุกจังหวัดทั่วประเทศ

2. ทางไปรษณีย์

กองพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ชั้น 2 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210

4. ทางเว็บไซต์ : www.rlpd.go.th

3. สายด่วนยุติธรรม 1111 กด 77

สายด่วนยุติธรรม

1111 กด 77

ตลอด ชั่วโมง

ในกรณีที่การจัดการเรื่องราวร้องทุกข์อยู่นอกเหนือเขตอ�ำนาจของกรมคุม้ ครองสิทธิและเสรีภาพ กรมจะด�ำเนินการ ส่งต่อเรื่องร้องทุกข์ไปให้หน่วยงานที่มีอ�ำนาจหน้าที่ในการจัดการเรือ่ งราวร้องทุกข์นนั้ โดยจะแจ้งรายละเอียดเกีย่ วกับหน่วยงาน ซึง่ รับเรือ่ งราวร้องทุกข์ไปด�ำเนินการต่อไปให้ผยู้ นื่ ทราบและกรมจะด�ำเนินการติดตามผลการให้ความช่วยเหลือและแจ้งผล ให้ผู้ยื่นเรื่องราวร้องทุกข์ทราบเป็นระยะ วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

17


สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเปิด “ห้องสมุดพร้อมปัญญา” ณ เรือนจำ�กลางนครพนม

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำ�เนินไปทรงเปิด “ห้องสมุดพร้อมปัญญา” โดยมีพลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม พันตำ�รวจเอก ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายจรูญ เหง่าลา ผูบ้ ญ ั ชาการเรือนจำ�กลางนครพนม พร้อมข้าราชการและเจ้าหน้าทีก่ รมราชทัณฑ์ เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ เรือนจำ�กลางนครพนม ตำ�บลขามเฒ่า อำ�เภอเมือง จังหวัดนครพนม

กระทรวงยุติธรรม ผนึกกำ�ลังร่วม 15 หน่วยงาน ลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือ เพื่อการป้องกัน เฝ้าระวัง และแก้ไขปัญหา ผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต อันเนื่องมาจากการใช้ยาเสพติด

พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วย ความร่วมมือ เพื่อการป้องกัน เฝ้าระวัง และแก้ไขปัญหา ผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต อันเนื่องมาจากการใช้ยาเสพติด โดยมี 15 หน่วยงาน เข้าร่วมลงนาม บันทึกข้อตกลง คือ กรมสุขภาพจิต ส�ำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กรมควบคุมโรค ส�ำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กรมส่งเสริมการปกครอง ท้ อ งถิ่ น ส�ำนั ก งานต�ำรวจแห่ ง ชาติ ส�ำนั ก งานปลั ด กระทรวงการพั ฒ นาสั ง คมและความมั่ น คงของมนุ ษ ย์ กรมพั ฒ นาสั ง คมและสวั ส ดิ ก าร กรมประชาสัมพันธ์ และส�ำนักงาน ป.ป.ส เพื่อร่วมด�ำเนินการป้องกัน ลดปัญหา รวมถึงผลกระทบที่เกิดจากผู้มีอาการทางจิต อันเนื่องมาจาก การใช้ยาเสพติด ทีม่ พี ฤติกรรมรุนแรง และเป็นอันตรายต่อสังคม เพือ่ ไม่ให้กลับมามีอาการทางจิตซ�ำ้ และสามารถใช้ชวี ติ ได้อย่างปกติสขุ ณ ห้องแมจิก 2 ชั้น 2 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ

“ยุติธรรม” ร่วมลงนาม MOU บันทึกข้อตกลงว่าด้วยการปฏิบัติและประสานงาน การให้ความคุม้ ครองพยานในคดีอาญา กับกระทรวงกลาโหม ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวง

ยุติธรรม พร้อมด้วย พลเอก ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการปฏิบัติและประสานงานการให้ ความคุ้มครองพยานในคดีอาญาแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) ระหว่าง กระทรวงยุติธรรมกับกระทรวงกลาโหม โดยมีสาระสำ�คัญเพื่อประสาน ความร่วมมือให้ทหารสามารถคุ้มครอง ดูแลความปลอดภัยให้กับพยาน ในคดีความผิดทีอ่ าจมีผลกระทบต่อความมัน่ คงแห่งราชอาณาจักร ในเขต จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยมี นายสมณ์ พรหมรส อธิบดี กรมคุม้ ครองสิทธิและเสรีภาพ และ พลเรือเอก ปรีชาญ จามเจริญ เจ้ากรม พระธรรมนูญ ร่วมลงนามในฐานะพยาน ณ ห้องรับรองกระทรวงยุตธิ รรม ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ กรุงเทพฯ

18

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม


ที่นี่แจ้งวัฒนะ

กองบรรณาธิการ

กระทรวงยุติธรรม ขับเคลื่อนงานยุติธรรมผ่านคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ

พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการ บริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ โดยมีศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม คณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม และกรรมการจากหน่วยงานต่าง ๆ ในกระบวนการยุติธรรม เข้าร่วมฯ ที่ประชุมรับทราบรายงานความคืบหน้า การดำ�เนินงานตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ภายใต้กรอบการขับเคลื่อนภารกิจของคณะกรรมการ กพยช. ผลการดำ�เนินงาน ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ความคืบหน้าการดำ�เนินงานของคณะอนุกรรมการ ระหว่างเดือนธันวาคม 2561 – ปัจจุบัน และพิจารณาร่างแผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2562 – 2565) ร่างรายงานประจำ�ปี 2561 คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุตธิ รรมแห่งชาติ การแต่งตัง้ คณะอนุกรรมการส่งเสริม พัฒนาและขับเคลือ่ นการดำ�เนินงานการไกล่เกลีย่ ข้อพิพาท ณ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (เดิม) ชั้น 2 สำ�นักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำ�เนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ

กระทรวงยุติธรรม จัดโครงการ โรงเรียนยุติธรรมอุปถัมภ์ ณ วิทยาลัย การอาชีพกาญจนาภิเษกหนองจอก

กระทรวงยุติธรรม เดินหน้าขับเคลื่อนทิศทางและนโยบาย แผนปฏิบัติราชการกระทรวงยุติธรรม ปีงบประมาณ 2562

พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงยุตธิ รรม เป็นประธาน ในพิธเี ปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบตั กิ ารเพือ่ ขับเคลือ่ น นโยบายและยุทธศาสตร์กระทรวงยุติธรรม ประจำ�ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 เพื่ อ ขั บ เคลื่ อ นนโยบายและยุ ท ธศาสตร์ ก ระทรวงยุ ติ ธ รรมให้ ทุ ก หน่ ว ยงาน ในสังกัดกระทรวงยุติธรรมมีกรอบและแนวทางการกำ�หนดทิศทางของหน่วยงาน ให้ตอบสนองต่อกระแสความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน จัดโดยกองยุทธศาสตร์ และแผนงาน สำ�นักงานปลัดกระทรวงยุตธิ รรม โดยมีคณะผูบ้ ริหารกระทรวงยุตธิ รรม และหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรมจากทั่วประเทศ กว่า 600 คน เข้าร่วมฯ ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 4 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ

ศาสตราจารย์ พิ เ ศษวิ ศิ ษ ฏ์ วิ ศิ ษ ฏ์ ส รอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดโครงการโรงเรียน ยุติธรรมอุปถัมภ์ สำ�นักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม โดยมี นายนิมติ ทัพวนานต์ ผูช้ ว่ ยปลัดกระทรวงยุตธิ รรม คณะผูบ้ ริหาร หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม นายณัชพล ฉลูทอง รองผู้อำ�นวยการฝ่ายแผนงานและความร่วมมือ วิทยาลัย การอาชีพกาญจนาภิเษกหนองจอก คณะครู อาจารย์ นักเรียน รวมกว่า 300 คน เข้าร่วมฯ โดยหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัด กระทรวงยุตธิ รรมได้ออกบูธจัดนิทรรศการ เล่นเกมให้ความรู้ ด้านกฎหมายและบทบาทภารกิจของหน่วยงานในสังกัด กระทรวงยุติธรรมให้แก่นักเรียนซึ่งเป็นเยาวชนมีภูมิคุ้มกัน ที่ดี สามารถป้องกันตนเองจากภัยสังคมในรูปแบบต่าง ๆ รูจ้ กั นำ�ตนเองให้หา่ งไกลยาเสพติด และร่วมต่อต้านการทุจริต คอร์รัปชั่น มุ่งหวังให้เด็กและเยาวชนในวัยเรียนเป็นคนดี ควบคูก่ บั การเป็นคนเก่งทีพ่ ร้อมด้วยคุณธรรม จริยธรรม และ สามารถดำ�รงชีพได้อย่างปกติสุขในอนาคต ณ วิทยาลัย การอาชีพกาญจนาภิเษกหนองจอก กรุงเทพฯ

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

19


ยุติธรรมเพื่อประชาชน

พันตำ�รวจตรี ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม

การตรวจสอบ การบุกรุกที่ดิน

โครงการระบบแม่ข่ายแผนที่ผ่านอินเทอร์เน็ต หรือ DSI Map กำ�เนิดขึ้นด้วยความตั้งใจของหลายฝ่าย ที่มีจิตอาสาที่ต้องการเห็นประเทศไทยของเราปลอดจาก การบุกรุกพื้นที่สงวนหวงห้าม โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความ อุ ด มสมบู ร ณ์ ด้ ว ยทรั พ ยากรป่ าไม้ ต้ อ งการเห็ น คนไทย ทั้งประเทศช่วยกันเฝ้าระวังป้องกันมิให้ผู้ใดเข้ามายึดถือ ครอบครองพืน้ ทีเ่ หล่านัน้ แต่การทีจ่ ะบอกว่าบุคคลเหล่านัน้ เข้ามาชอบหรือไม่นนั้ เป็นเรือ่ งทีป่ ระชาชนและคนทัว่ ไปไม่อาจ ตรวจสอบได้ และไม่มีเครื่องมือที่จะมาช่วยในการวิเคราะห์ ดังกล่าว โดยโครงการนี้เป็นโครงการที่นักวิชาการหลายฝ่าย คาดหวังว่า จะให้กรมสอบสวนคดีพเิ ศษเป็นตัวกล่าวในการนำ� เครือ่ งมือเหล่านีไ้ ปแนะนำ�กับประชาชน และเปิดให้ประชาชน และข้ า ราชการได้ เ ข้ า มาใช้ ง านอย่ า งเปิ ด เผย พร้ อ มกั บ การฝึกอบรมให้รจู้ กั วิธกี ารใช้และวิเคราะห์ ซึง่ เป็นการใช้งาน โดยผ่านระบบอินเทอร์เน็ตและมีการประมวลผลอย่างง่าย อันเป็นการสร้างองค์ความรูใ้ นการตรวจสอบให้กบั ข้าราชการ และประชาชนทัว่ ไป เพือ่ ทำ�หน้าทีเ่ ป็นหน่วยเฝ้าระวังในพืน้ ที่ เป็นการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการเข้าตรวจสอบและจับกุม ผูก้ ระทำ�ผิดมาลงโทษตามกฎหมาย และยังเป็นการตรวจสอบ การเข้าไปในพื้นที่สงวนหวงห้ามที่ประชาชนทั่วไปควรจะรู้ และช่วยกันรักษาป่าไม้ไว้เป็นสมบัติของลูกหลานของคน ในชุมชนนั้น ๆ สืบไป เดิมการตรวจการบุกรุกที่ดินของรัฐ กรมสอบสวนคดีพเิ ศษใช้เวลานานในการดำ�เนินการ เนือ่ งจาก

20

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

ด้วย

DSI Map

โครงการระบบแม่ข่ายแผนที่ ผ่านอินเทอร์เน็ต หรือ DSI Map กำ�เนิดขึ้นด้วยความตั้งใจ ของหลายฝ่ายที่มีจิตอาสา ที่ต้องการเห็นประเทศไทยของเราปลอด จากการบุกรุกพื้นที่สงวนหวงห้าม ไม่มฐี านข้อมูล หรือระบบ ให้ท�ำ การตรวจสอบ ต่อมากรมสอบสวน คดีพิเศษ ได้มีการจัดทำ�ระบบการตรวจสอบ และการทำ�งาน ด้วยระบบภูมิสารสนเทศ และมีการสร้างระบบแม่ข่ายแผนที่ ผ่านอินเทอร์เน็ตขึน้ มาใช้ในการปฏิบตั งิ าน ด้วยระบบแม่ขา่ ย แผนทีผ่ า่ นอินเทอร์เน็ต DSI Map ทำ�ให้การตรวจสอบลดขัน้ ตอน และเป็นไปอย่างรวดเร็ว ช่วยให้การป้องกันและปราบปราม คดีสิ่งแวดล้อม เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ในการตรวจสอบพืน้ ทีจ่ ะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ การตรวจสอบการบุกรุกแบบมือเปล่า คือ ไม่มหี ลักฐานแสดงสิทธิ ในที่ดิน และการตรวจสอบการบุกรุกแบบมีเอกสารสิทธิ คือ การร่วมมือกับเจ้าหน้าทีข่ องรัฐบางคนในการออกเอกสารสิทธิ โดยมิ ช อบ ใช้ แ นวคิ ดในการตรวจสอบ “ใครมาก่อนกัน รัฐมาก่อนหรือประชาชนมาก่อน”


ขั้นตอนที่ 1 นำ�เครื่องจับค่าพิกัด GPS หรือ

โทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน ที่มีเครื่องมือจับพิกัด ทางดาวเทียมโดยเฉพาะ ทำ�การตรวจสอบว่า พื้นที่ดังกล่าวมีค่าพิกัดเท่าใด

ขัน้ ตอนที่ 3 หากเป็นป่า ให้สอบถามคนในพืน้ ที่

ทีอ่ ยูม่ านาน ว่าเคยมีคนเข้ามาอยูใ่ นตำ�แหน่งนัน้ ก่อนประกาศเขตป่าหรือไม่ หากเป็นการบุกรุกทีด่ นิ แบบมือเปล่า สามารถวิเคราะห์ได้เลยว่าบุคคล ทีเ่ ข้ามาอยูห่ ลังปี พ.ศ. ทีป่ ระกาศเขตป่าในระบบ DSI Map เป็นผูบ้ กุ รุก มีมลู เชือ่ ว่าเป็นผูก้ ระทำ�ผิด

ขั้ น ตอนที่ 2 เข้ า ระบบแม่ ข่ า ยแผนที่ ผ่ า น

อินเทอร์เน็ต DSI Map นำ�ค่าพิกดั ทีไ่ ด้ใส่ในระบบ ก็จะปรากฏตำ�แหน่งพื้นที่ทำ�การตรวจสอบอยู่ ในพื้นที่ป่าหรือไม่ หากมีแนวเขตสงวนหวงห้าม ที่ต้องการตรวจสอบอยู่ในพื้นที่นั้น ก็จะปรากฏ ขอบเขตขึ้นมาให้เห็น

ขั้นตอนที่ 4 แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ

เจ้ า หน้ า ที่ ที่ รั บ ผิ ด ชอบจะเข้ า มาตรวจสอบ โดยละเอียดอีกครั้ง ว่าบุคคลเหล่านั้นได้เข้ามา ในทีส่ งวนหวงห้ามของรัฐโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่ อย่างไร

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

21


ต่อมาได้มีการพัฒนา DSI MAP on Smart Phone เป็ น โปรแกรมอำ � นวยความสะดวกที่ ใ ช้ ใ นการตรวจสอบ ตำ�แหน่งที่ตั้งที่ดิน และมีชั้นข้อมูลต่าง ๆ ที่สามารถใช้ตรวจ สอบที่ดินของรัฐ โดยมีเงื่อนไข “เป็นการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่สามารถนำ�ไปใช้อา้ งอิงในทางกฎหมายใด ๆ ได้” โดยสามารถ นำ�มาใช้บนโทรศัพท์มือถือ (Smartphone) ระบบปฏิบัติการ Android และ IOS มี เ ครื่ อ งมื อ ในการใช้ พื้ น ฐาน เช่ น การวาดพื้นที่ วาดเส้น รัศมี (Buffer) ค้นหาเส้นทาง นำ�ทาง นำ�เข้าข้อมูล kml, kmz, Street View วัดพื้นที่ด้วยตำ�แหน่ง ปัจจุบัน วัดระยะทางด้วยตำ�แหน่งปัจจุบัน และเครื่องมือ อีกหลายรายการที่มีประโยชน์กับผู้ใช้งาน

22

การตรวจสอบการบุกรุกแบบมีเอกสารสิทธิ ทำ�การตรวจสอบเหมือนการตรวจสอบแบบการบุกรุกทีด่ นิ มือเปล่า แต่สงิ่ ทีค่ วรรูค้ อื เงือ่ นไขใดทีท่ �ำ การออกเอกสารสิทธิ ได้ในพื้นที่ป่าสงวนหวงห้าม ใช้หลักการเดียวกัน “ใครมาก่อน รัฐมาก่อนหรือประชาชนมาก่อนเขตสงวนนั้น ๆ” การแจ้งการครอบครอง ส.ค.1 บางแห่งอาจถูกเขตสงวนหวงห้ามครอบไปด้วย รัฐจึงเปิดโอกาสให้ผทู้ ไี่ ด้แจ้งการครอบครอง โดยชอบด้วยกฎหมายที่มี ส.ค.1 นำ�หลักฐานดังนั้นกล่าวมายื่นคำ�ร้องขอออกเอกสารสิทธิได้ เหตุผล “ประชาชนทำ�ประโยชน์ มาก่อนการประกาศเป็นเขตของรัฐ” แต่การตรวจสอบต้องถือแนวคิดในเรื่องการทำ�ประโยชน์อยู่เช่นกัน ส.ค.1 ดังกล่าว จะต้องครอบครองและทำ�ประโยชน์ จึงจะได้สิทธิ และเอกสารดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่าง 1 ธันวาคม 2497 ถึงวันที่ 1 มิถุนายน 2498 ซึง่ เป็นเวลาทีเ่ กิดขึน้ ก่อนการประกาศเป็นเขตสงวนหวงห้ามต่าง ๆ ฉะนัน้ เมือ่ นำ� ปี พ.ศ. ทีไ่ ด้จากการตรวจสอบไปสอบถาม คนในพื้นที่ว่าบริเวณที่ดินที่ทำ�การตรวจสอบนั้นก่อนปี พ.ศ. ที่ระบุไว้ใน DSI Map เคยมีคนเข้ามาทำ�ประโยชน์ในที่นั้นหรือไม่ ถ้าไม่มี แสดงว่า ส.ค.1 ฉบับที่นำ�มาอ้างออกนั้น อาจเป็นหลักฐานของที่ดินแปลงอื่น หรือเรียกว่า “ส.ค.1 บิน” ผู้ตรวจสอบ จะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบเพื่อความถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม


เรื่องเล่ายุติธรรม

กองบรรณาธิการ

ภารกิจ กระทรวงยุติธรรม กับการสร้างสังคมแห่งความเชื่อมั่น บนรากฐานของความเท่าเทียม

การขับเคลื่อนภารกิจต่างๆ ให้ประสบผลสำ�เร็จได้นั้น สิ่งที่จำ�เป็นอย่างยิ่งคือ

กระทรวงยุติธรรมมุ่งเน้นการดำ�เนินงาน ให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบทบาทภารกิจที่กระทรวง ยุตธิ รรมมีความเกีย่ วข้องโดยตรง ได้แก่ การอำ�นวย ความยุ ติ ธ รรมให้ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ เป็ น ธรรม กำ�หนดระยะเวลาดำ�เนินงานทุกขัน้ ตอนอย่างชัดเจน เพื่ อ ให้ ป ระชาชนเข้ า ถึ ง กระบวนการยุ ติ ธ รรม ได้ อ ย่ า งสะดวก รวดเร็ ว การกำ � หนดกลไก การช่ ว ยเหลื อ ประชาชนผู้ ข าดแคลนทุ น ทรั พ ย์ ให้สามารถเข้าถึงกระบวนการยุตธิ รรมได้ ตลอดจน การสร้างกลไกเพื่อให้มีการบังคับตามกฎหมาย อย่ า งเคร่ ง ครั ด เพื่ อ ลดความเหลื่ อ มล้ำ � และ ความไม่เป็นธรรมในสังคม อันถือเป็นมาตรการ สำ � คั ญ ส่ ว นหนึ่ ง ในการป้ อ งกั น อาชญากรรม ในสังคม ทั้งหมดนี้ เมื่อรวมเข้าด้วยกัน จึงเป็นที่มา ของนโยบายการดำ�เนินงานของกระทรวงยุติธรรม ในช่วงปี พ.ศ. 2561 และเป็นแนวทางของการบริหาร ราชการ กระทรวงยุตธิ รรม 5 - 4 - 3 ของรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงยุติธรรม

การกำ�หนดกรอบและทิศทาง การบริหารราชการ ของกระทรวงยุติธรรม

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

23


แนวทางในการบริหารราชการ ตามหลัก “5 – 4 – 3” ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

จ�ำเป็นต่อเนื่อง

อ�ำนวยความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล�้ำ ขจัดความทุกข์ยาก สร้างประชาสามัคคี ส่งเสริมคนดีสู่สังคม

จ�ำเป็นเร่งด่วน

เร่งรัด ต้านภัยยาเสพติด ปราบทุจริตคอร์รัปชั่น คุ้มครองสิทธิเสรีภาพ คู่คุณธรรม สร้างกระบวนการ ยุติธรรมให้ยั่งยืน

ส่วนภารกิจเพือ่ มุง่ ลดความเหลือ่ มลำ�้ สร้างความเป็นธรรม และความสงบสุขในสังคม ได้ก�ำหนดแนวทางการด�ำเนินงานไว้ 6 ด้าน ด้วยกัน ได้แก่ 1) ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด 2) สร้างสังคมปลอดภัยและความสงบสุขในสังคม 3) อ�ำนวยความยุติธรรมลดความเหลื่อมล�้ำ 4) พั ฒ นากฎหมายและกระบวนการยุ ติ ธ รรมให้ มี ความทันสมัยสอดคล้องกับมาตรฐานสากล 5) ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมด้านความมัน่ คง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการบังคับใช้กฎหมาย 6) เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ซึ่ ง ที่ ผ ่ า นมานั้ น ทุ ก ส่ ว นราชการในสั ง กั ด กระทรวง ยุตธิ รรม ต่างให้ความส�ำคัญ และน�ำไปขับเคลือ่ นการด�ำเนินงาน ตามภารกิจ จนส่งผลให้การด�ำเนินงานในภาพรวมของกระทรวง เป็นที่ประจักษ์และเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง รวมทั้งยังเป็น ที่สนใจถูกจับตามองในทุกระดับและทุกภารกิจที่กระทรวง ยุติธรรมด�ำเนินการ หรือเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

24

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

จ�ำเป็นยั่งยืน

สร้างการรับรู้กฎกติกา ร่วมพัฒนาเครือข่ายอาสา มุ่งเดินหน้าสามัคคีปรองดอง


อย่างไรก็ตาม ต่อจากนี้ไปเป็นช่วงเวลาส�ำคัญของ การด�ำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (2561– 2580) ของรัฐบาล ซึ่งกระทรวงยุติธรรมพร้อมที่จะขับเคลื่อน ตามนโยบายดังกล่าว เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีทั้งประสิทธิภาพ และประสิทธิผล และที่ส�ำคัญคือ เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุด ให้แก่ประชาชนทุกคน การขับเคลือ่ นภารกิจต่าง ๆ ให้ประสบผลส�ำเร็จได้นนั้ สิง่ ทีจ่ �ำเป็นอย่างยิง่ คือ การก�ำหนดกรอบและทิศทางการบริหาร ราชการของกระทรวงยุติธรรม โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม 2562 พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายก รัฐมนตรีและรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงยุตธิ รรม ได้เป็นประธาน ในพิธเี ปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบตั กิ ารเพือ่ ขับเคลือ่ นนโยบาย และยุทธศาสตร์กระทรวงยุติธรรม ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 โดยให้ทุกหน่วยงานในสังกัดมีกรอบและแนวทาง การก�ำหนดทิ ศ ทางของหน่ ว ยงานตนเองที่ ต อบสนองต่ อ กระแสความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน จัดโดย กองยุทธศาสตร์ และแผนงาน ส�ำนั ก งานปลั ด กระทรวงยุ ติ ธ รรม งานนี้ มีคณะผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวง ยุติธรรมจากทั่วประเทศกว่า 600 คน เข้าร่วม ณ ห้องแกรนด์ บอลรู ม ชั้ น 4 โรงแรมมิ ร าเคิ ล แกรนด์ คอนเวนชั่ น กรุงเทพมหานคร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐ มนตรี ว่ าการกระทรวง ยุตธิ รรม กล่าวว่า “ทิศทางและนโยบายของกระทรวงยุตธิ รรม ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ต้องน�ำสิ่งที่ได้ด�ำเนินการแล้ว มาวิเคราะห์เพือ่ หาแนวทางทีจ่ ะน�ำไปสูก่ ารพัฒนาการท�ำงาน ที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยเป้าหมายหลักในการท�ำให้ ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ประเด็นที่เป็นวาระ แห่งชาติ คือ การปราบปรามยาเสพติด และการด�ำรงสิทธิ มนุษยชนที่ต้องด�ำเนินควบคู่ไปกับคุณธรรมและจริยธรรม ซึง่ ในการด�ำเนินงานนัน้ จะต้องตอบโจทย์ภาพรวมของประเทศ ในเรื่องการช่วยกันสร้างการรับรู้กฎหมายบ้านเมือง และ

รณรงค์ให้ประชาชนเข้ามามีสว่ นร่วมในเรือ่ งจิตอาสา ส่งเสริม ให้สังคมมีความสามัคคี และปรองดองกัน ที่ ผ ่ า นมาต้ อ งขอชื่ น ชมบุ ค ลากรทุ ก ท่ า นที่ ป ฏิ บั ติ หน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยกันขับเคลื่อนกระบวนการ ยุตธิ รรมให้เห็นความชัดเจน และขอให้ทกุ ท่านคงรักษาสิง่ นีไ้ ว้ พร้อมกับพัฒนา เรียนรู้ และขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวง ยุติธรรมสู่การพัฒนาประเทศในล�ำดับต่อไป” ในงานเดี ย วกั น นี้ ศาสตราจารย์ พิ เ ศษวิ ศิ ษ ฏ์ วิศษิ ฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุตธิ รรม บรรยายพิเศษในหัวข้อ “กลไกน�ำยุ ท ธศาสตร์ สู ่ ก ารขั บ เคลื่ อ นการปฏิ บั ติ ง าน ของกระทรวงยุตธิ รรม ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562” มีใจความ ส�ำคัญตอนหนึ่งว่า “ความยากล�ำบากของการขับเคลื่อนแผน คือ การเขียนแผนให้ดี มีเป้าประสงค์ชัดเจน มีเป้าหมายหลัก มีตัวชี้วัด และมีแนวทางในการปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมาย ตามบริ บ ทของบทบาทและภารกิ จ ของหน่ ว ยงานนั้ น ๆ ซึ่ ง ทุ ก หน่ ว ยงานล้ ว นแต่ มี เ ป้ า หมายหลั ก เดี ย วกั น คื อ แผนการด� ำ เนิ น งานนั้ น จะต้ อ งสอดคล้ อ งกั บ นโยบาย ของกระทรวงยุติธรรม และการท�ำงานทุกครั้งต้องประเมิน ความส�ำเร็จและเรียนรู้ได้ว่า ใครคือผู้น�ำในการด�ำเนินงาน เพือ่ น�ำไปสูก่ ารพัฒนาบุคลากรในหน่วยงานให้มปี ระสิทธิภาพ ต่อไป” กระทรวงยุติธรรมพร้อมจะด�ำเนินการตามภารกิจ เพื่อประชาชนอย่างเต็มความสามารถ รวมถึงเพื่ออ�ำนวย ความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล�้ำในสังคม โดยการใช้ ทรัพยากรทีม่ อี ย่างคุม้ ค่า และเต็มประสิทธิภาพ ขจัดการทุจริต ประพฤติมิชอบ เน้นความโปร่งใส และตรวจสอบได้ เพื่อให้ กระทรวงยุตธิ รรมเป็นหน่วยงานทีไ่ ด้รบั ความเชือ่ มัน่ ศรัทธา การยอมรับจากภาคประชาชนและสังคมอย่างแท้จริง และ ก้าวเดินไปสู่การเป็น “สังคมแห่งความเชื่อมั่นบนรากฐาน ของความเท่าเทียม” ในที่สุด วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

25


คนยุติธรรม

กองบรรณาธิการ

เยาวชนจากบ้านอุเบกขา

คนกล้าคิด ผู้พิชิตรางวัลระดับโลก

Change to Chance เปลี่ยนเพื่อโอกาส

สำ�หรับคนที่เคยทำ�ผิดพลาดพลั้งไป

“โอกาส”

คือสิ่งสำ�คัญที่พวกเขา ต้องการจากสังคม

26

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

สำ � หรั บ คนที่ เ คยก้ า วพลาด “โอกาส” คื อ สิ่ ง สำ � คั ญ ที่ พ วกเขาต้ อ งการจากสั ง คม เยาวชนไทยกลุ่มหนึ่งที่ครั้งหนึ่งพวกเขาก็ เ คย ทำ�ผิดพลาด ได้ใช้ “โอกาส” ในขณะทีอ่ ยูใ่ นศูนย์ฝกึ และอบรมเด็ ก และเยาวชนชายบ้ า นอุ เ บกขา จังหวัดนครปฐม รวมตัวกันเพื่อ “ส่งต่อโอกาส” ให้กบั เยาวชนผูเ้ คยก้าวพลาดคนอืน่ ด้วยการคิด และพัฒนาเว็บไซต์จดั หางาน “Change to Chance เปลี่ยนเพื่อโอกาส”


บอล

หมี

“Fantastic Four” กลุ่มเยาวชนแกนนำ� ของศูนย์ฝึก และอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านอุเบกขา จังหวัดนครปฐม ประกอบด้วย - นายชลชาติ พานทอง (แม็ก) อายุ 23 ปี - นายพิชิตชัย นวนทอง (โอ๊ต) อายุ 21 ปี - นายภานุวัฒน์ แซ่ฉี (บอล) อายุ 22 ปี - นายอัครพล เสนีวงศ์ ณ อยุธยา (หมี) อายุ 22 ปี พร้อมด้วย ครูตอ้ ง หรือ นางเพชรดารินทร์ ชูพรธีระไชย นักวิชาการอบรมและฝึกวิชาชีพชำ�นาญการ ครูผู้ดูแล

ครูต้อง

โอ๊ต

แม็ก

คว้าแชมป์ โครงการ “Generation Unlimited Youth Challenge เยาวชนกล้าคิด สะกิดสังคม” โครงการที่ให้เยาวชนได้เสนอนวัตกรรมแก้ไข ปัญหาเด็กและเยาวชน ซึง่ จัดโดยองค์การยูนเิ ซฟ โดยทีม “Fantastic Four” เลือกแข่งขันในหัวข้อ “โอกาสในการพัฒนาทักษะ ความรู้ การสร้างศักยภาพ ที่จำ�เป็น เพื่อการมีงานทำ�ในอนาคต และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ” และได้ชนะใจกรรมการคว้ารางวัลชนะเลิศระดับโลกด้วยไอเดียการสร้าง เว็บไซต์จัดหางานที่ชื่อ “Change to Chance เปลี่ยนเพื่อโอกาส” ที่มี จุ ดประสงค์ มุ่ ง ส่ ง เสริ ม ให้ เ กิ ดการจ้ า งงานในหมู่ เ ยาวชนที่ เคยกระทำ � ผิ ด โดยเว็บไซต์ดังกล่าวจะทำ�หน้าที่เป็นเวทีกลางให้ผู้ประกอบการได้พิจารณา ถึงศักยภาพและความตั้งใจจริงของเยาวชนผู้กระทำ�ผิดในการกลับตัวเป็น คนดีและได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สดใสในสังคมอีกครั้ง ทั้งนี้ Fantastic Four เป็น 1 ใน 5 ทีมผู้ชนะจาก 32 ทีมที่เข้ารอบ สุดท้าย จากทั้งหมด 16 ประเทศ ซึ่งแต่ละทีมที่ชนะจะได้รับเงินทุนราว 640,000 บาท (US$ 20,000) เพื่อนำ�ความคิดไปขยายผลเป็นรูปธรรมต่อไป โดยอีก 4 ทีมชนะเลิศ ได้แก่ กลุ่มเยาวชนจากนอร์ทมาซิโดเนีย นำ�เสนอ ไอเดียด้านสื่อสารเพื่อยุติการกลั่นแกล้ง กลุ่มเยาวชนจากซิมบับเว ต้องการ นำ�การศึกษาไปสูช่ มุ ชนทีห่ า่ งไกล กลุม่ เยาวชนจากซูดาน ไอเดียการสร้างรายได้ ให้กับผู้อพยพย้ายถิ่น และกลุ่มเยาวชนจากปากีสถาน ที่ต้องการส่งเสริม สุขอนามัยช่วงการมีประจำ�เดือนสำ�หรับเด็กและผู้หญิงที่ขาดโอกาส

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

27


เว็บไซต์ “Change

to Chance เปลี่ยนเพื่ อโอกาส”

คืออะไร ?

ส�ำหรับเว็บไซต์ “Change to Chance เปลี่ยนเพื่อโอกาส” เป็นสื่อกลางระหว่างเยาวชน ผูก้ ระท�ำผิดและผูป้ ระกอบการให้ได้มาพบกันในจุดทีล่ งตัว และเป็นทีพ่ งึ พอใจของทัง้ สองฝ่ายมากทีส่ ดุ โดยภายในนัน้ จะมีขอ้ มูลของเยาวชนแต่ละคนอย่างละเอียด เพือ่ ให้ผปู้ ระกอบการได้รจู้ กั ตัวตนทีแ่ ท้จริง ทั้งรอยสัก ประวัติคดี รวมทั้งส่วนที่แสดงความรู้และทักษะที่ผ่านการน�ำเสนอในรูปแบบวิดีโอด้วย ขณะเดียวกันตัวเยาวชนผู้กระท�ำผิดเองก็จะได้รับข้อมูลของผู้ประกอบการด้วยเช่นกัน เพื่อช่วยให้ พวกเขาสามารถเลือกสมัครงานได้ตรงกับความสนใจของตนเองจริง ๆ หมี อัครพล… “โครงการของเราเป็นการแก้ปญ ั หาการว่างงานของผูท้ เี่ คยก้าวพลาด อยากให้พวกเขามีงานท�ำ มีโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และลดโอกาสในการกลับไปกระท�ำความผิดซ�้ำ ที่ผ่านมา เมือ่ เยาวชนเหล่านีไ้ ด้รบั โทษและถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว สังคมส่วนมากยังไม่ให้การยอมรับ จนกลายเป็น ปัจจัยหนึง่ ทีผ่ ลักให้เขาย้อนกลับเข้ามาอยูใ่ นวงจรของการกระท�ำผิดซ�ำ้ อีก ด้วยเหตุผลนี้ ท�ำให้เรายิง่ อยาก จะแก้ปัญหานี้ให้ได้” แม็ก ชลชาติ...

อุปสรรคในการทำ�งาน

ทัง้ เรือ่ งเวลา เครือ่ งมืออุปกรณ์สอื่ สาร รวมทัง้ ทีมอืน่ ก็เก่ง ๆ กันทัง้ นัน้ เพราะการแข่งเปิดกว้างมาก บางครั้งไปนั่งฟังอบรม ซึ่งวิทยากรเป็นชาวต่างชาติก็ฟังไม่รู้เรื่อง จนคิดว่าเราคงสู้เขาไม่ได้ แต่ก็พยายาม คิดว่าเราโชคดีทไี่ ด้รบั โอกาสจากส่วนต่าง ๆ รวมถึงมีครูทเี่ ป็นเหมือนผูจ้ ดั การส่วนตัวคอยดูแล และเป็นคน ที่ทำ� ให้เรามีวันนี้ครับ” โอ๊ต พิชิตชัย...

สิ่งที่อยากบอกกับทุกคน…

อย่าคิดว่าตัวเองเอาดีไม่ได้ ขนาดพวกผมสีค่ นยังท�ำได้เลย ขอแค่คณ ุ เปลีย่ นความคิด ชีวติ ก็เปลีย่ น ขอแค่คณ ุ ตัง้ ใจท�ำ ผมเชือ่ ว่าคุณท�ำได้ บอล ภานุวัฒน์...

28

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม


พลอากาศเอก ประจิน จัน่ ตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงยุตธิ รรม พร้อมด้วยผูบ้ ริหารระดับสูง มอบเกียรติบตั รและให้ก�ำ ลังใจทีม Fantastic Four

“ในฐานะคนที่ทำ�งานใกล้ชิดกับกลุ่มเยาวชนที่เคยกระทำ�ผิด ต้องอาศัยการทำ�งานด้วยหลัก 3 ป. ได้แก่ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และปกป้อง

1 ป. : ปรับปรุง ปรับปรุงนิสัยของเยาวชนที่เข้ามาอยู่ในบ้าน เพราะแต่ละคนมาจาก หลากหลายพื้นเพ ส่วนใหญ่ที่พบคือ ครอบครัวขาดความอบอุ่น เราเลยต้องเข้าใจปัญหาของเขา ให้มากขึ้น และให้เด็กยอมบอกทุกอย่างกับเรา เพื่อที่จะแก้ปัญหาได้ถูกจุด 2 ป. : เปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแปลงเขาไปในทางที่ดี ด้วยการสอนทักษะชีวิต ทักษะวิชาชีพ รวมถึงการพัฒนาทางอารมณ์ สังคม และจิตใจ ให้เป็นไปในทางที่ดี เพื่อให้เขาพร้อมกลับออกไป ใช้ชีวิตในสังคมได้ 3 ป. : ปกป้อง วางแผนเตรียมความพร้อมให้เด็กก่อนปล่อยตัว และหลังจากปล่อยตัว ไปแล้ว จะมีนกั สังคมสงเคราะห์คอยติดตามต่ออีก 1 ปี เพือ่ ให้รวู้ า่ เด็กเป็นอย่างไร รวมทัง้ ทำ�ความเข้าใจ กับครอบครัวของเด็กด้วย เพื่อวางแผนในการแก้ปัญหาร่วมกัน เพราะความรู้สึกเหมือนเป็น คนในครอบครัวเดียวกันไปแล้ว” ครูต้อง เพชรดารินทร์...

สุดท้ายอยากฝากบอกน้อง ๆ หลายคนที่ไม่เคยทำ�อะไรผิดพลาด และยังมีโอกาสครับว่า ให้คว้าโอกาส นัน้ ไว้ แล้วลงมือทำ�มัน อย่ามัวแต่คดิ ว่าทำ�ไม่ได้หรอก ทัง้ ทีย่ งั ไม่ได้ลองเลย โดยเฉพาะการทำ�สิง่ ดี ๆ ให้กบั สังคม และคนอืน่ เพราะขนาดพวกผมทีม่ โี อกาสน้อยกว่ายังทำ�สำ�เร็จเลย ขอให้คดิ ไว้เสมอครับว่า ชีวต ิ ในอนาคต ข้างหน้าของเราผูกพันกับการตัดสินใจในปัจจุบันเสมอ ” ชลชาติ เป็นตัวแทน ของเพื่อนทั้งกลุ่มฝากข้อคิดทิ้งท้าย วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

29


ที่นี่แจ้งวัฒนะ

กองบรรณาธิการ

“ยุติธรรม” ขับเคลื่อนแนวทางการเผยแพร่กฎหมาย ผ่านรถให้ความรู้กฎหมายเคลื่อนที่

พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ ขั บ เคลื่ อ นแนวทางการเผยแพร่ ก ฎหมาย เพื่ อ สร้ า งการรั บ รู้ ใ ห้ แ ก่ ประชาชน และหน่วยงานภาครัฐ (ปี 2) รถให้ความรู้กฎหมายเคลื่อนที่ “ชื่นใจคนไทยรู้กฎหมาย” ตอน “รู้กฎหมายไว้ ใช้กฎหมายเป็น” เพื่ อ ให้ ป ระชาชนได้ เ ข้ า ถึ ง ข้ อ มู ล ผ่ า นรู ป แบบและวิ ธี ก ารให้ ค วามรู้ ด้านกฎหมายและกระบวนการยุตธิ รรม ทัง้ ในระดับชุมชนห่างไกล และ ชุมชนเมือง เพื่อ “กระตุ้น” “พัฒนา” “สนับสนุน” และ “บูรณาการ” โดยเน้นส่งเสริมบทบาทการมีส่วนร่วมของสำ�นักงานยุติธรรมจังหวัด และศูนย์ยุติธรรมชุมชน ให้เกิดความร่วมมือและแสดงถึงศักยภาพ การช่ ว ยเหลื อ ประชาชนในพื้ น ที่ ตามแนวคิ ด “Justice Care ยุ ติ ธ รรมใส่ ใ จ” ณ ลานทิ ศ เหนื อ ชั้ น 2 อาคารราชบุ รี ดิ เ รกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ กรุงเทพฯ

นายกรัฐมนตรี เยีย่ มชมกิจกรรมผลงานเด่นของกระทรวง ยุตธิ รรม “ยุตธิ รรมใส่ใจ ... เพือ่ ความปลอดภัยของสังคม”

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี ได้เยีย่ มชมกิจกรรมการน�ำเสนอผลงานเด่นของกระทรวงยุตธิ รรม (Justice Roadshow) ภายใต้กจิ กรรม “ยุตธิ รรมใส่ใจ...เพือ่ สังคมแห่งความปลอดภัย ของทุกคน” โดยมี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงยุตธิ รรม พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พเิ ศษวิศษิ ฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม น�ำคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม เข้าพบนายกรัฐมนตรี โดยได้น�ำเสนอผลงานเด่นผ่านนิทรรศการสือ่ สร้างสรรค์ ภายใต้ กิ จ กรรม “ยุ ติ ธ รรมปลอดภั ย ...เพื่ อ สั ง คมแห่ ง ความปลอดภั ย ของทุกคน” ซึง่ เป็นการด�ำเนินงานเชิงรุกสอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาล ในการอ�ำนวยความยุติธรรม เพื่อลดความเหลื่อมล�้ำในสังคม ที่ต้องการ น�ำความเป็ น ธรรมไปสู ่ ป ระชาชนในระดั บ พื้ น ที่ โ ดยไม่ ต ้ อ งร้ อ งขอ ณ ตึกบัญชาการ 1 ท�ำเนียบรัฐบาล

กระทรวงยุติธรรม ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ บริษัท ปตท.น้ำ�มันและค้าปลีก จำ�กัด (มหาชน) หรือ พีทีที โออาร์ เรื่องการศึกษาความเป็นไปได้เพื่อส่งเสริมการสร้างงาน โดยการอุดหนุนผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการจากผู้กระทำ�ผิด ที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของกระทรวงยุติธรรม

30

พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงยุตธิ รรม เป็นประธานในพิธลี งนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรือ่ งการศึกษา ความเป็นไปได้เพื่อส่งเสริมการสร้างงาน โดยการอุดหนุนผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ จากผู ้ ก ระท�ำผิ ด ที่ อ ยู ่ ภ ายใต้ ก ารควบคุ ม ดู แ ลของกระทรวงยุ ติ ธ รรม ระหว่ า ง กระทรวงยุตธิ รรม และบริษทั ปตท.น�ำ้ มันและค้าปลีก จ�ำกัด (มหาชน) หรือ พีทที ี โออาร์ โดยมีนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท ปตท.น�้ำมันและค้าปลีก จ�ำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และคุณจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.น�้ำมันและค้าปลีก จ�ำกัด (มหาชน) เป็นผู้ลงนาม ณ ห้องพลังไทย 1 อาคาร 1 ชั้น 3 บริษัท ปตท. จ�ำกัด (มหาชน) ส�ำนักงานใหญ่

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดงานมหกรรมวิชาการและวิชาชีพจังหวัดชายแดนภาคใต้

พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการเปิดงานมหกรรมวิชาการ และวิชาชีพจังหวัดชายแดนภาคใต้ “4 ปีการศึกษา พัฒนาชายแดนใต้” และประชุมหน่วยงานในกำ�กับด้านยุติธรรม พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ แก่นักเรียน นักศึกษา ที่มีผลการยกระดับคุณภาพการศึกษา ในผลการทดสอบ O-Net และผลการทดสอบ I-Net ได้คะแนนเต็ม 2 วิชา ปีการศึกษา 2561 จำ�นวน 6 คน ณ วิทยาลัยเทคนิคปัตตานี อำ�เภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี

กระทรวงยุติธรรม ร่วมลงนาม MOU บันทึกข้อตกลง ว่าด้วยความร่วมมือโครงการนิคมอุตสาหกรรมร่วมใจ ต้านภัยยาเสพติด

พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วย ความร่วมมือโครงการนิคมอุตสาหกรรมร่วมใจต้านภัยยาเสพติด เพือ่ รณรงค์ ส่งเสริมให้เกิดความเข้มแข็ง สร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดให้แก่แรงงานและ ผู้ประกอบการในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ไม่ให้เป็นพื้นที่ แพร่ระบาดของยาเสพติด อันจะเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่าง หน่วยงานภาคี ภาครัฐ ผูป้ ระกอบการและผูใ้ ช้แรงงานในการพัฒนากลไก การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในกลุม่ แรงงานและสถานประกอบการ ต่อไป โดยมี นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วยผู้บริหาร จากหน่วยงานภาคี ประกอบด้วย การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สํานักงาน ตํารวจแห่งชาติ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมการปกครอง กรมการแพทย์ และกรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมลงนามในบันทึก ข้ อ ตกลง MOU ดั ง กล่ า ว ณ ห้ อ งประชุ ม แอมเบอร์ 2-3 อิ ม แพ็ ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชื่นชมและให้กำ�ลังใจ ทีม Fantastic Four แชมป์โลกโครงการ Generation Unlimited Youth Challenge เยาวชนกล้าคิด สะกิดสังคม ขององค์กร UNICEF

พลอากาศเอก ประจิน จัน่ ตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีวา่ การ กระทรวงยุตธิ รรม พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พเิ ศษวิศษิ ฏ์ วิศษิ ฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ร่วมแสดง ความยินดี และมอบเกียรติบตั รให้กบั ทีม Fantastic Four ประกอบด้วย นายชลชาติ พานทอง นายพิชิตชัย นวนทอง นายภานุวัฒน์ แซ่ฉี นายอัครพล เสนีวงศ์ ณ อยุธยา และนางเพชรดารินทร์ ชูพรธีระไชย ครู ผู้ ดู แ ล จากศู น ย์ ฝึ ก และอบรมเด็ ก และเยาวชนชายบ้ า นอุ เ บกขา จังหวัดนครปฐม ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากโครงการ Generation Unlimited Youth Challenge เยาวชนกล้าคิด สะกิดสังคม ซึ่งจัดโดย องค์การยูนิเซฟ ด้วยไอเดียการสร้างเว็บไซต์ “Change to Chance เปลี่ยนเพื่อโอกาส” ที่มุ่งส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานในหมู่เยาวชนที่เคย กระทำ�ผิด โดยเว็บไซต์นี้จะเป็นแพลตฟอร์มระหว่างผู้ประกอบการ และเยาวชนที่กระทำ�ผิด ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พิจารณาถึง ศักยภาพ และความตั้งใจจริงของเยาวชนผู้กระทำ�ผิดในการกลับตัว เป็นคนดีในสังคมและเริ่มต้นชีวิตใหม่

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

31


ทุกทิศทั่วยุติธรรม

กองบรรณาธิการ

การสร้างความเป็นธรรม และความสุขสงบในสังคม คือ หนึ่งในภารกิจส�ำคัญที่กระทรวง ยุ ติ ธ รรมมุ ่ ง เน้ น เพื่ อ ลดความ เหลื่ อ มล�้ ำ ในการเข้ า ถึ ง กระบวนการ ยุตธิ รรมให้แก่ประชาชน ดังนัน้ ตลอดเวลา ที่ ผ ่ า นมา จึ ง เห็ น ได้ ว ่ า ทุ ก ส่ ว นราชการ ในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ต่างขับเคลื่อน ให้เกิดกิจกรรมต่าง ๆ มากมายทั่วทุกภูมิภาค ของประเทศ เพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์ดังกล่าว ซึง่ ได้รวบรวมและน�ำมาเสนอให้ทราบกันในคอลัมน์นี้

ตรวจหาสารเสพติดพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะช่วงเทศกาลสงกรานต์

ปปส.ภ.5 ตรวจหาสารเสพติดพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะช่วงเทศกาลสงกรานต์...ระหว่างวันที่ 16-17 เมษายน 2562 ส�ำนักงาน ปปส.ภ.5 ร่วมกับส�ำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่/เชียงราย และล�ำปาง ปฏิบัติการ “สงกรานต์ กลับบ้านปลอดภัยไร้ยาเสพติดและแอลกอฮอล์” ประจ�ำปี 2562 ณ สถานีขนส่งเชียงใหม่/เชียงราย และล�ำปาง วัตถุประสงค์ เพื่อป้องปราม ยับยั้ง สกัดกั้น การล�ำเลียงยาเสพติดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้รับทราบ และร่วมมือ ไม่ค้า ไม่ขน ไม่เสพ ยาเสพติด ให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติด ไม่รับฝากสิ่งของจากบุคคลอื่น รับมอบอุปกรณ์การประกอบอาชีพแก่สมาชิกคุมประพฤติ นายสมพร บุญมี ประธานอาสาสมัครคุมประพฤติ อ�ำเภอเมือง จังหวัดล�ำปาง มอบอุปกรณ์การประกอบอาชีพ แก่สมาชิกคุมประพฤติ กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม กรณีที่ขอความอนุเคราะห์ถังแก๊สพร้อมหัวเตาให้แก่สมาชิก คุมประพฤติ และสมาชิกชมรม TO BE NUMBER ONE จ�ำนวน 1 ราย ที่ได้ยื่นค�ำร้องขอรับการสงเคราะห์ทุนประกอบอาชีพ ค้าขายไก่ทอด และผ่านการพิจารณาให้ได้รับการสงเคราะห์ เพื่อน�ำไปประกอบอาชีพตามความเหมาะสมต่อไป

32

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม


การขับเคลื่อนมาตรการป้องกันอาชญากรรมในระดับพื้นที่

ส�ำนักงานยุติธรรมจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วยหน่วยงานสังกัดกระทรวงยุติธรรมในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ร่วมกับมหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตสระแก้ว จัดโครงการขับเคลือ่ นมาตรการป้องกันอาชญากรรมในระดับพืน้ ที่ ครัง้ ที่ 2 วันที่ 13 มีนาคม 2562 ณ ห้องประชุมศานิตย์ นาคสุขศรี มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตสระแก้ว อ�ำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว กิจกรรมจิตอาสา “ทำ�ความดีด้วยหัวใจ”

สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดอ�ำนาจเจริญ น�ำคณะเจ้าหน้าที่ท�ำกิจกรรมจิตอาสา “ท�ำความดี ด้วยหัวใจ” โดยร่วมเก็บเศษขยะโดยรอบบริเวณอาคารที่ท�ำการ และบริเวณทางเข้าศาลากลางจังหวัดอ�ำนาจเจริญ เปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์

ส�ำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมด้วยเครือข่ายยุติธรรมชุมชน อาสาสมัครคุมประพฤติ และผู้ถูก คุมความประพฤติ และสมาชิก TO BE NUMBER ONE จ�ำนวนกว่า 48 คน ร่วมพิธเี ปิดศูนย์ปฏิบตั กิ ารป้องกันและลดอุบตั เิ หตุ ทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2562 เพื่อรณรงค์เสริมสร้างความตระหนักและสร้างจิตส�ำนึกด้านความปลอดภัย ให้เกิดความระมัดระวังในการใช้รถ ใช้ถนน เคารพกฎหมาย และอ�ำนวยความสะดวกการจราจรให้แก่ประชาชน โดยมี นายสุเทพ วงษ์พานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานในพิธีฯ ณ บริเวณด้านหน้าป้ายอุทยานสวรรค์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

33


ขับเคลื่อนมาตรการป้องกันอาชญากรรมในระดับพื้นที่และการจัดการความขัดแย้งในชุมชน

ส�ำนักงานยุตธิ รรมจังหวัดปัตตานี จัดโครงการขับเคลือ่ นมาตรการป้องกันอาชญากรรมในระดับพืน้ ทีแ่ ละการจัดการ ความขัดแย้งในชุมชน โดยส่งเสริมกลไกคุตบะห์ (ธรรมกถา) วันศุกร์ปอ้ งกันอาชญากรรม โดยมีนางชญาทิตย์ จิตหลัง ยุตธิ รรม จังหวัดปัตตานี เป็นประธานในพิธีเปิด ซึ่งจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมความรู้แนวทางการป้องกันอาชญากรรมให้แก่ผู้น�ำในพื้นที่ รวมถึงจัดท�ำหนังสือคุตบะห์ เพือ่ ใช้เป็นแนวทางในการอ่านให้แก่ประชาชนฟังในวันศุกร์ ส่งเสริมความรูเ้ รือ่ งปัญหาอาชญากรรม และแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยมีผู้แทนชมรมอีหม่าม คอเต็บ บิหลัน ผู้แทนจากชมรมก�ำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน ทั้ง 12 อ�ำเภอ ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยศูนย์ยุติธรรมชุมชน และเยาวชนตามโครงการยุติธรรมเคลื่อนที่ เข้าร่วมฯ ณ โรงแรม ปาร์ควิวรีสอร์ท อ�ำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี การสร้างกำ�ลังใจโดยให้ศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ

กรรมการอิสลามจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เข้าอบรมผู้ต้องขังชายและหญิงที่นับถือศาสนาอิสลาม และได้มอบผ้าละหมาด จ�ำนวน 100 ผืน แก่ผู้ต้องขัง เพื่อเตรียมความพร้อมในการถือศีลอด (รอมฎอน) ในช่วง เดือนพฤษภาคม 2562 ณ เรือนจ�ำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำ�นักงานยุติธรรมจังหวัดเยี่ยมประชาชนผู้ประสบอุบัติเหตุ แจ้งสิทธิฯ ตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ของส�ำนักงานยุติธรรมจังหวัดก�ำแพงเพชร ลงพื้นที่เข้าเยี่ยม ผู ้ ป ระสบอุ บั ติ เ หตุ จ ากกรณี ร ถเก๋ ง ชนประตู ร ะบายน�้ ำ พลิ ก ตกคลองบริ เ วณ คลองชลประทาน ถนนเส้นบ้านของแผ่นดิน ต�ำบลสระแก้ว อ�ำเภอเมือง จังหวัด ก�ำแพงเพชร เพื่อแจ้งสิทธิฯ การได้รับความช่วยเหลือจาก พ.ร.บ. ค่าตอบแทน ผู้เสียหายฯ ซึ่งเหตุดังกล่าวท�ำให้มีผู้เสียชีวิต จ�ำนวน 2 ราย บาดเจ็บสาหัส จ�ำนวน 1 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย จ�ำนวน 1 ราย ซึ่งถูกน�ำตัวส่งโรงพยาบาลก�ำแพงเพชร ในเวลาต่อมา การด�ำเนินงานตามบทบาทหน้าที่และภารกิจของกระทรวงยุติธรรม เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ในประเทศโดยเท่าเทียมกันจะยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และแน่วแน่ในแนวทางปฏิบัติเช่นนี้ เพื่อสร้างสังคม แห่งความเป็นธรรม บนรากฐานของความเท่าเทียม

34

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม


กำ�แพงมิอาจกั้น

กองบรรณาธิการ

ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ เปลี่ยนนักโทษเป็น

นักทอ

ยกระดับสู่สากล

ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ ขึ้นชื่อที่สุดเรื่องงานทอผ้าไหม ตัดเย็บผ้าไหมส่งไปจำ�หน่าย ยังอีกซีกโลกหนึ่ง โดยบริษัทเอกชนจากประเทศเดนมาร์ก ภายใต้ชื่อแบรนด์ “Carcel”

ณ ห้องงานทอผ้าในทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ ทีน่ ดี่ แู ตกต่าง จากโรงงานทอผ้าทัว่ ไป ด้วยมีกที่ อผ้ามากถึงเกือบ 40 หลัง ตัง้ เรียงราย อยู่หลายแถวในห้องโถงใหญ่บนชั้น 3 ของอาคารศูนย์ฝึกอาชีพ ยังไม่นบั รวมกีเ่ อง และส่วนงานปักเย็บทีใ่ ช้ฝมี อื แรงงานร่วม 100 ชีวติ ถัดไปไม่ไกลนักมีห้องสิ่งประดิษฐ์ และห้องตัดเย็บเสื้อผ้า ซึ่งใช้แรงงาน ผู้ต้องขังหญิงที่ผ่านการคัดเลือกและอบรมพัฒนาฝีมือแล้วเพียง 10 ชีวิต ทำ�หน้าที่ตัดเย็บผ้าไหมส่งไปจำ�หน่ายยังอีกซีกโลกหนึ่ง โดยบริษัทเอกชนจากประเทศเดนมาร์ก ภายใต้ชื่อแบรนด์ “Carcel” เรื่องนี้ถือเป็นก้าวสำ�คัญ ของงานฝีมือ ผู้ต้องขังในประเทศไทย ทีจ่ ะได้เดินทางไกลไปสู่ลูกค้าทั่วโลก เนื่องจากผลงานทุกชิ้นจะมีการระบุ ถิ่นที่มาและชื่อของคนทำ�เอาไว้ให้ทราบด้วย รวมทั้งยังเป็นก้าวสำ�คัญ ของการสานสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจระหว่างคนทั่วไปกับผู้ที่มีชีวิต ผกผันต้องหันหลังให้อิสรภาพชั่วคราว แสงจันทร์ ภูวปัญญา เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ปฏิบัติงาน ผู้ดูแล ฝ่ายงานทอผ้าให้ข้อมูลว่า เส้นไหมจำ�นวน 3 กิโลกรัม ทอผ้าได้ยาว 4 เมตร และใช้เวลาประมาณ 4 เดือน หากใช้เวลาทอวันละ 5 ชัว่ โมง โดย 2 เดือนแรก เป็นการสาวไหม อีก 2 เดือนที่เหลือ สำ�หรับการทอให้เป็นผืน จนกล่าวกัน เป็นทีเล่น แต่แฝงนัยจริงว่า เหมาะกับผู้ต้องขังโทษสูง ด้วยว่ากว่าที่จะ ทอผ้าไหมได้แต่ละผืน กินเวลายาวนาน 3 - 4 เดือน “งานทอผ้ า เป็ น ศิ ล ปวั ฒ นธรรมของเราที่ จ ะต้ อ งรั ก ษาเอาไว้ เพราะตอนนี้ข้างนอกหันไปทอเครื่องกันหมดแล้ว การทอด้วยมือแบบนี้ หายากมาก ที่นี่เราเป็นแหล่งใหญ่และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ให้ที่อื่นเข้ามา ศึกษามาเก็บข้อมูลเรื่องการทอผ้า รวมถึงมีคนข้างนอกมาจ้างเราทอ เพื่อที่ เขาจะเอาไปขายด้วย”

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

35


ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ขนึ้ ชือ่ ทีส่ ดุ เรือ่ งงานทอผ้าไหม ชิ้นงานที่ได้มีวางขายกันตั้งแต่ในโรงทอสำ�หรับคนที่เข้ามาศึกษา ดูงาน หน้าร้านในสถานที่เยี่ยมญาติ และร้านอาหารชวนชม เรือนจำ�ชั่วคราวกลางเวียง ไปจนถึงการออกงานนิทรรศการ ราชทัณฑ์ และงานออกร้านในวาระต่าง ๆ ที่มีตลอดทั้งปี “งานต่าง ๆ ไม่ว่าที่ไหนถ้ามีหนังสือเชิญมา เราจะไป โดยเฉพาะงานราชทัณฑ์จะขายดีมาก เพราะว่าจะนำ�ผ้าไหมยกดอก ซึง่ เป็นเอกลักษณ์ของเรา และเป็นทีน่ ยิ มในหมูล่ กู ค้าคนไทยไปขาย ถึงแม้จะเป็นลายที่ใช้เวลาทำ�นานทุกขั้นตอนจนคนอาจรู้สึกว่า ราคาแพงไป แต่เวลาออกงานเราไปเห็นของที่อื่นแพงกว่าอีก เลยคิ ด ว่ า ถ้ า ไม่ ซื้ อ ก็ ไ ม่ เ ป็ น ไร ถื อ ว่ า แค่ ไ ด้ แ สดงให้ เ ขาเห็ น ว่ า ในเรือนจำ�มีการฝึกอาชีพก็พอแล้ว แต่พอคนเห็นว่ามีตรากำ�ลังใจ ก็มักจะซื้อ” ตามกฎแล้ว โรงงานทอผ้าของทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ จะรับผู้ต้องขังโทษ 5 ปีขึ้นไปเข้าทำ�งาน “ผู้ต้องขังที่มีกำ�หนดโทษสูงจะไม่ถึงเกณฑ์ของการออก กองนอกไปนวด ก็จะมาเรียนทอผ้า เสร็จเป็นผืนขายได้ก็แบ่ง เงินปันผลให้เขาเป็นรายได้เหมือนกับออกนวดข้างนอก แต่รายได้ อาจแตกต่างกันบ้าง อยูท่ ปี่ ระมาณ 300-500 ต่อเดือน ซึง่ เพียงพอ ที่จะซื้อของใช้จำ�เป็นในชีวิตเขา เพราะปกติแล้วไม่ว่าอาหาร เครือ่ งนุง่ ห่ม หรือยารักษาโรค ทางเรือนจำ�มีให้อยูแ่ ล้ว ส่วนรายได้ เอาไว้ซื้อหรือใช้จ่ายสิ่งที่เป็นส่วนเสริม หรือไม่ผู้ต้องขังก็จะเอา เงินนี้ไปจุนเจือแก่ครอบครัว ส่งให้กับที่บ้านได้” แสงจันทร์พูดถึง ผู้ต้องขังกลุ่มที่อยู่ในความดูแลของเธอ

36

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

“งานทอผ้าตอนนี้เรารับผู้ต้องขังที่โทษสูง เพราะว่า การทอผ้าไหมกว่าจะเกิดความช�ำนาญต้องใช้เวลา 2-3 ปี และพอ พ้นโทษออกไปแล้ว ถ้าเขาต้องการจะท�ำงานทอผ้าไหมก็สามารถ ท�ำได้เลย ผู้ต้องขังที่ติดคุกส่วนมากเป็นคดียาเสพติด เราจึงต้อง สร้างรายได้ให้เขา โดยการฝึกวิชาชีพให้ เพราะถ้าไม่สอน พอเขา ออกไปแล้วไม่รู้จะท�ำอะไร ก็จะกลับไปท�ำอย่างเดิมซ�้ำอีก” สาเหตุ ที่ ผ ้ า ไหมทอมื อ มี ร าคาสู ง กว่ า ผ้ า ทอโรงงาน แสงจั น ทร์ แ จกแจงถึ ง ต้ น ทุ น ว่ า เส้ น ไหมแท้ ร าคากิ โ ลกรั ม ละ ประมาณ 2,700 บาท การทอผ้าไหมม้วนหนึง่ ใช้เส้นไหมประมาณ 3 กิโลกรัมได้ผ้าประมาณ 4 ผืน โดย 1 ผืน น�ำมาตัดเป็นเสื้อผ้า ได้ 1 ชุด ทว่าต้นทุนที่มีมูลค่าสูงกว่านั้น ได้แก่ การลงแรง ความเพียรพยายาม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งภูมิปัญญาพื้นบ้าน ที่สืบทอดกันมาเนิ่นนานแล้ว “เราได้ไหมมาเป็นไจปกติเส้นมันจะพันกัน ก็เอามากรอ ให้เป็นระเบียบแล้วถึงมาตั้งหลอด จากนั้นขึ้นเป็นผืนเรียกว่า สาวไหม แล้วใส่หวั ม้วน พอขึน้ หัวม้วนเสร็จค่อยคัดลวดลายลงกราฟ 1 ตารางคือ 1 เส้นไหม 40 - 50 เส้น จะได้ผ้ากว้างเท่ากับ 1 นิ้ว” เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ปฏิบัติงานยังอธิบายรายละเอียด ยิบย่อยอีกมาก ซึ่งซับซ้อนและยากต่อการท�ำความเข้าใจ ดังนั้น กว่าที่ใครสักคนจะทอผ้าได้ จึงต้องได้รับการสอนถ่ายทอดวิชา จากผู้รู้และฝึกฝนลงมือท�ำซ�้ำ ๆ อยู่นาน ท�ำให้ต้องย้อนกลับไป ถามถึงที่มาของวิชาทอผ้าในทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ว่าเกิดขึ้น ได้อย่างไร “ตอนแรกมี ป ราชญ์ ด ้ า นการทอผ้ า ไหมในท้ อ งถิ่ น หลายท่าน และจากหลายหน่วยงานเข้ามาสอนให้ หลังจากนั้น เราจะจัดให้คนที่ทอผ้าเป็นกับคนที่ยังทอไม่เป็นประกบคู่กัน ให้เขาค่อย ๆ หัดกันไป ตอนหลัง สกว. เข้ามาท�ำวิจัยสอนให้ ผู้ต้องขังเป็นครูสอนทอผ้าไหม ท�ำให้ตอนนี้เรามีผู้เชี่ยวชาญ ในแต่ละขั้นตอน มีคนสืบต่อรุ่นต่อรุ่นแล้ว แตกต่างจากการทอผ้า พืน้ บ้านข้างนอกทีท่ ยอยหายไป แต่เรายังคงรักษาไว้ไม่มสี ญ ู หาย” ปัจจุบันสภาพภายในศูนย์ฝึกวิชาชีพทัณฑสถานหญิง เชียงใหม่แลดูเหมือนโรงงานทอผ้าย่อมๆ มีก่ีทอผ้า 35 หลัง ใช้ส�ำหรับทอผ้าฝ้าย 10 หลัง และทีเ่ หลือใช้ทอผ้าไหม มีทงั้ ผ้าไหม สีพื้นและผ้าไหมยกดอก ไม่เพียงเท่านั้น ยังถือเป็นแหล่งรวบรวม ลายผ้ า ไหมที่ ส�ำคั ญ แห่ ง หนึ่ ง ในเวลานี้ ด ้ ว ย โดยเฉพาะลาย “ก�ำลังใจ” ที่ ท างศู น ย์ ฯ คิ ด ค้ น และพั ฒ นาขึ้ น มาเองจนเป็ น เอกลักษณ์ของที่นี่เท่านั้น


อย่างไรก็ตาม แค่ผืนผ้าไหมสีพื้นเรียบ ๆ เพียงสีเดียว ตอนนี้ก็เป็นที่ต้องการของตลาดต่างชาติอย่างมาก ถึงขนาดมาตั้ง เป็นโรงงานตัดเย็บกันในทัณฑสถานเลยทีเดียว โดยช่วงกลางปี 2561 มีบริษทั จากประเทศเดนมาร์กติดต่อผ่านกรมราชทัณฑ์ให้ผตู้ อ้ งขัง ทั ณฑสถานหญิ ง เชียงใหม่ตัดเย็บ ผ้าไหมเป็นผลิตภัณ ฑ์ อาทิ ถุงย่าม กระเป๋าหลากแบบ เสื้อแจ็คเก็ต กางเกง กระโปรง หมวก ฯลฯ โดยเริ่มจากคัดผู้ต้องขังเข้ารับการอบรมพัฒนาฝีมือจ�ำนวน 20 คน จากนั้นคัดเลือกเฉพาะคนที่มีฝีมือเข้าเกณฑ์ 10 คน พร้อมกับจัดหาวัตถุดิบทั้งหมดมาให้ ซึ่งบางส่วนได้มาจากโรงทอ ในทัณฑสถานเชียงใหม่นเี่ อง ส่วนทีม่ าจากแหล่งอืน่ ก็ยงั คงเป็นไหม ที่ทอในประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งมีที่เป็นผ้าไหมจากเรือนจ�ำเช่นกัน เช่น เรือนจ�ำชัว่ คราวแคน้อย จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึง่ มีการปลูกหม่อน เลี้ยงไหมในเรือนจ�ำด้วย บุษบา ศักรางกูร ผู้อ�ำนวยการทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ เล่าถึงความเป็นมาของโครงการนี้ว่า “หน่วยงานผ้าไหมของเราผ่านการรับรองมาตรฐาน ผ้าไหมแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้มีโครงการพิเศษร่วมกับบริษัท จากเดนมาร์ก made in prison ภายใต้ชื่อแบรนด์ Carcel แปลว่า เรือนจ�ำในภาษาของเขา บริษทั นีม้ งุ่ ท�ำธุรกิจเพือ่ ช่วยเหลือ ผู้ต้องขัง เคยท�ำกับกลุ่มผู้ต้องขังหญิงที่ประเทศเปรู เขาได้มา ส�ำรวจทีเ่ รือนจ�ำในประเทศไทย เพือ่ ช่วยเหลือผูต้ อ้ งขังหญิงพบว่า ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่มีการทอผ้าไหมอยู่ จึงเสนอโครงการ ไปที่กรมราชทัณฑ์ว่าต้องการมาสอนผู้ต้องขังเรื่องการตัดเย็บ เสื้อผ้าไหม และน�ำไปขายผ่านระบบออนไลน์ เป็นโครงการ โดยกระทรวงยุ ติ ธ รรม กรมราชทั ณ ฑ์ โครงการก� ำ ลั ง ใจ ในพระด�ำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ร่วมกับ ทางบริ ษั ท made in prison ร่ ว มลงนามตกลงกั น น� ำ ร่ อ ง ที่ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่เป็นที่แรก” ตลอดทั้ ง วั น ของทุ ก วั น ราชการ ช่ า งตั ด เย็ บ ที่ ผ ่ า น การคัดเลือก 9 คน กับล่ามอีกคน จะท�ำงานในห้องคาร์เซล ร่วมกับ ทีน่า ตัวแทนบริษัทฯ ผู้ท�ำหน้าที่เป็นทั้งดีไซเนอร์ ควบคุม การผลิต และสอนการตัดเย็บ “ท�ำไปเรือ่ ยๆ ค่ะ เราเน้นทีค่ ณ ุ ภาพไม่เน้นปริมาณ ท�ำให้ ดีที่สุด เสร็จแล้วถึงส่งไปให้บริษัทแม่ที่ประเทศเดนมาร์ก” ทีน่า ให้สัมภาษณ์ผ่านล่าม เธอบอกว่างานแต่ละชิ้นจะมีชื่อของคนท�ำ เช่น ย่ามผ้าไหมชิน้ หนึง่ มีชอื่ “น้อง” เป็นคนเย็บ “นุช” เป็นคนปัก มาจาก “เชียงใหม่ ไทยแลนด์” เล่งลี้ (นามสมมุติ) ชาวดอยแม่สลอง ผู้ต้องขังหนึ่งใน ทีมช่างฝีมอื ดีทกี่ อ่ นหน้านีไ้ ม่เคยเกีย่ วข้องกับงานตัดเย็บมาก่อนเลย จนกระทั่งได้เข้าโครงการฯ “ตอนอยูข่ า้ งนอกขายปาท่องโก๋ อาหารตามสัง่ พอเข้ามา ในนี้หนูท�ำงานเย็บทั่วไป พวกกระเป๋า ตะกร้า ส่วนเสื้อผ้าเย็บเป็น แต่ไม่รู้ขั้นตอน พอมาเจอโครงการนี้เขาสอนให้ดูลายผ้า ดูตะเข็บ เป็น ตอนนีใ้ กล้จะพ้นโทษแล้ว จากเมือ่ ก่อนทีเ่ คยกลัวว่าไม่รจู้ ะท�ำ อะไรกิน ตอนนี้หนูมั่นใจเต็มร้อยว่าเรากลับบ้านไปเปิดร้านได้ แน่นอน”

ส่วนเรือ่ งผลตอบแทน ทางบริษทั ฯ จะจ่ายค่าแรงให้ตาม เกณฑ์ค่าแรงท้องถิ่น คิดรวมๆ แล้ว ผู้ต้องขังจะได้ค่าตอบแทน ราว 5,000 บาทต่อเดือน ถือเป็นส่วนงานที่ผู้ต้องขังจะได้รับ ค่าแรงแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ต่างจากรูปแบบเงินปันผล ซึ่งใน มุมหนึ่งนี่คือการช่วยให้ผู้ต้องขังมีทุนรอนเพียงพอส�ำหรับน�ำไป ใช้ตงั้ ตัวหลังจากพ้นโทษ และทีส่ �ำคัญยังเป็นการพัฒนาผูต้ อ้ งขัง ให้กลับมาเป็นที่ยอมรับในสังคม จนกล่าวได้ว่า ผ้าไหม 1 ผืน จากฝี มื อ ผู ้ ต ้ อ งขั ง มิ ไ ด้ ส ร้ า งแค่ ชื่ อ เสี ย งงานศิ ล ปหั ต ถกรรม ของไทยให้ เ ป็ น ที่ ย อมรั บ ในระดั บ สากลเท่ า นั้ น แต่ ยั ง สร้ า ง คนหนึ่งคน ให้มีชีวิตใหม่ที่สดใสกว่าเดิมด้วย

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

37


กฎหมายสามัญประจำ�บ้าน

กองบรรณาธิการ

น ิ เฉ ก ุ ฉ ข เล ย า ม ห น ว ก อ ่ ก โทร. มีความผิด!

หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติ คือเลขหมายที่สำ�นักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดไว้เพื่อใช้เป็นหมายเลขโทรศัพท์สำ�หรับรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ได้ แ ก่ เหตุ ด่ ว นหรื อ เหตุ ร้ า ยที่ ผู้ป ระสบเหตุ ป ระสงค์ แ จ้ ง เพือ่ ขอรับความช่วยเหลือเป็นการด่วน เพือ่ ให้ตนเองหรือผูอ้ นื่ พ้นจากอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน หรือเหตุอื่น ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นการด่วน

เพลิงไหม้

เจ็บป่วยฉุกเฉิน

เหตุด่วน หรือเหตุร้าย

เพื่อขอรับ ความช่วยเหลือ เป็นการด่วน

อุบัติเหตุ, กู้ภัย

38

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

เหตุด่วนเหตุร้าย


หากผู้ใดใช้หรือเรียกเลขหมายโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติ โดยไม่มีเหตุฉุกเฉิน หรือมีพฤติกรรมอันเป็นการก่อกวน การปฏิบัติงานของผู้รับแจ้ง

ต้องระวางโทษจำ�คุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำ�ทั้งปรับ

ข้อมูลจาก : มาตรา 34/5 พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำ�กับการประกอบกิจการ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562

คัดชื่อ

“ ค น ห นี ค ดี ”น

พ้นทะเบียนบ้า

อำ�เภอกอไก่

1234-1234XX-X

บุ ค คลใดที่ ศ าลออกหมายจั บ

ตามคำ�ร้องขอของพนักงานฝ่ายปกครอง หรือ ตํารวจ หากบุ ค คลนั้ น ไม่ ม าแสดงตน หรื อ ยั ง จั บ ตั ว ไม่ ไ ด้ ภ ายใน 180 วั น นั บ แต่ วั น ที่ ศาลออกหมายจับ “บุคคลนัน้ จะถูกย้ายชือ่ ออก จากทะเบียนบ้าน” และ “เพิ่มชื่อและรายการ ของผู้ นั้ น ไว้ ใ นทะเบี ย นบ้ า นกลาง” และให้ หมายเหตุวา่ “อยูใ่ นระหว่างการติดตามตัว

ตามหมายจับ”

1

00/00 หมู่ที่ 2 ตำ�บลขอไข่ อำ�เภอกอไก่ จังหวัดงองู บ้าน 10 ม.ค. 2561 นายเอบีซี เออีไอ 10 ม.ค. 2562 X-X 1234-1234X ไทย

โต นายนกฮูก ตา 2x-xx-x 3-2099-000 ปอปลา อออ่าง

ผู้อาศัย

อยใู ่ นระหวา่ ง จับ หมาย การติดตามตัวตาม

1

ชาย

20 ม.ค. 2540

ไทย ไทย

(นายเอบีซี

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

เออีไอ)

39


ทะเบียนกลาง

ถ้าหากบุคคลนัน้ ประสงค์จะย้ายออกจากทะเบียนบ้านกลาง ต้องมาแสดงตนต่อนายทะเบียน พร้อมทัง้ หลักฐานว่าได้เพิกถอน หมายจับ หรือปฏิบัติตามหมายจับเสร็จสิ้นแล้ว ดั ง นั้ น “บุ ค คล” ที่ มี ชื่ อ อยู่ในทะเบียนบ้านกลาง ไม่สามารถ ใช้ อ้ า งอิ ง หรื อ ยื น ยั น ที่ อ ยู่ ข องตน ตามทะเบียนบ้านได้ เพราะบ้านเลขที่ ตามทะเบี ย นบ้ า นกลาง คื อ ที่ ต้ั ง ของสำ � นั ก งานเขต หรื อ ที่ ตั้ ง ของ สำ�นักทะเบียนราษฎรในแต่ละท้องที่

อยูในระหว การติดตาม่ ตัวตาม่าง หมายจับ

ลาง

ียนก

ทะเบ

ข้อมูลจาก : มาตรา 13 พระราชบัญญัติ การทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562

พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์

ต้องจ่ายภาษี

E-Payment

พ่อค้า-แม่คา้ ออนไลน์ ทีม่ ธี รุ กรรมทางการเงิน โดยมีการฝาก หรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกัน ตัง้ แต่ 3,000 ครัง้ ขึน้ ไป หรือมีการฝาก หรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกันตัง้ แต่ 400 ครัง้ และมียอดรวม ของธุรกรรมฝาก หรือรับโอนเงินรวมกันตัง้ แต่ 2,000,000 บาท ขึน้ ไป ถือเป็นธุรกรรมลักษณะเฉพาะ ที่สถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ จะต้องรายงานข้อมูลธุรกรรมทางการเงินต่อ กรมสรรพากร ครั้งแรกภายในวันที่ 31 มีนาคม 2563 รายงาน ข้อมูลธุรกรรม ทางการเงิน

หากผู้มีหน้าที่รายงานข้อมูลดังกล่าว ไม่ ป ฏิ บั ติ ต าม ภายในระยะเวลาที่ อธิบดีกรมสรรพากรกำ�หนด มีโทษ ปรับทางปกครองไม่เกิน 100,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาท ตลอดเวลาทีย่ งั ฝ่าฝืนอยูห่ รือจนกว่า จะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง ข้อมูลจาก : พระราชบัญญัตแิ ก้ไขเพิม่ เติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 48) พ.ศ. 2562 มาตรา 3 สัตตรส มาตรา 3 อัฏฐารส และมาตรา 5

40

วารสารยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม


san 2.5 mm

21 x 29.7 cm

กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ สายด่วนยุติธรรม 1111 กด 77 62-03-082 cover yutitam i_coated-dic.indd 2

62-03-082 incover yutitam i_coated-dic

6/4/19 9:49 PM



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.