มายาคติเรื่อง วัฒนธรรมการออกกาลังกาย ง่ายๆภายใน 25 นาที (T25)
การออกกาลังกายแบบ T25 ในปัจจุบันเป็นที่นิยมอย่างมาก เริ่มจากดาราฮอลลิวู้ดที่ออกกาลังกายด้วย T25 ส่งผลให้น้าหนักลด และสร้างซิกเเพคได้ภายใน 25 นาทีเป็นประจาทุกวัน จนมาถึงการ review ในสังคมไทยที่เริ่มจากดารามีการทาตามและสังคมกลุ่ม คนชนชั้นกลางที่เสพสื่อมีการเข้าถึงสื่อได้ง่าย ทาให้สามารถวิเคราะห์มายาคติการออกกาลังกายด้วย T25 ในแง่ของสื่อคือ การทางานของสื่อผ่านบริบททางสังคมอย่างไร? >> การเต้น T25 มาจากการ review ผ่านสื่อ online มีรูปภาพยืนยัน อ้างอิง ชัดเจน ว่าก่อนเต้น มีพุง หลังเต้นอีกสองอาทิตย์ พุง หายแทนที่ด้วยซิกเเพค ซึ่งเบื้องหลังของรูปภาพที่เราเห็นนี้อาจจะมีการ Retruch หรือถูกเติมแต่งมาให้มีกล้ามหน้าท้อง โดยที่เรา ไม่รู้เบื้องหลังการทางานของภาพแทนสิ่งนี้เลย >> มีการตั้ง pageใน Facebook สาหรับกลุ่มคนที่รักสุขภาพให้มาสนใจ T25 เต้นตาม youtube นอกจากจะได้รู้เกี่ยวกับการเต้น T25 แล้วการบริโภคอื่นๆที่ตามมาคือ แนะนาอาหารเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ส่งเสริมสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เสริมสร้างความแข็งแรง ให้ร่างกายตามลาดับ การเต้นตาม youtube ทาให้เราเป็นผู้ตามอย่างชัดเจน และมีการแทนตัวเองลงไป สมมุติตัวเองว่ากาลังอยู่ใน สถานการณ์นั้นๆ กาลังเต้น T25 เต้นแล้วหุ่นต้องออกมาเหมือน trainer ที่สอนเราอยู่แน่นอน ทั้งนี้เรื่องของ trainer ก็เป็นมายาคติ ในเรื่องของกายวิภาค สรีระ เรื่องของความงามที่ยึดถือ บุคลิกภาพ รูปร่าง สัดส่วนที่บ่งบอกว่า ร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ตาม รูปแบบของคนที่มีสุขภาพดีเป็นอย่างไร ซึ่งบุคลิกภาพภายนอกดี ภายในก็ต้องดีด้วย นั่นคือการยิ้มแย้มและ interactive ของ trainer ที่สื่อออกมาเวลาเต้น ทั้งนี้สื่อมีการทางานที่หลากหลาย บังคับให้เราเกิดการ บริโภคนิยม ตามมาคือ ถ้าอยากเต้นให้ครบ ทุกสัดส่วนเพื่อร่างกายที่แข็งแรงต้อง มีการซื้อแผ่นเต้นมา มีวิธีการสอนที่ดีกว่าใน youtube และใช้การตลาดในเรื่องของ การ review ก่อนทา-หลังทา มาเป็นแรงจูงใจให้เราซื้อ มาตอบสนองตัณหาในเรื่องสุขภาพ เพราะเราคิดว่าการใช้จ่ายแบบนี้เป็นการใช้ จ่ายโดยใช้เงินที่ไม่เสียฟรีเพราะการซื้อแผ่น T25 มาทาให้เต้นตามได้ถูกวิธี สุขภาพดีก็ตามมา เงินที่เสียไปถือว่าเป็นทุนชีวิตที่ซื้อ สุขภาพ ทาให้เราไม่เสียดายเงินที่จ่ายไปเมื่อเทียบกับสุขภาพที่แข็งแรง
เมื่อการเต้น T25 ถือเป็น Popular culture ในเรื่องของการรักษาสุขภาพ วงการแพทย์ที่ว่าด้วย "วิทยาศาสตร์สุขภาพ"เข้ามามี อิทธิพลในวิถีชีวิต เช่น มีการยอมรับจากนักกายภาพบาบัดและผู้เชี่ยวชาญทางด้านอุปกรณ์การแพทย์ ที่ออกมารองรับ
สังคมเชื่อว่าเมื่อมีการพิสูจน์จากวงการแพทย์มันเป็นเหตุเป็นผล มันพิสูจน์ได้ เกิดการครอบงาของวงการแพทย์เกิดขึ้น วงการแพทย์ส่งผลให้สังคมเชื่อ และทาตาม มีอิทธิพลในการใช้ชีวิตของผู้คนอย่างมาก คนกลัวตาย ใส่ใจสุขภาพเพิ่มขึ้นในอีกแง่มุม อื่นนอกจากการออกกาลังกายแบบT25 แล้วยังเกี่ยวเนื่องไปในเรื่องของการกินผัก ผลไม้ การกินอาหารเพื่อสุขภาพ การเสพ ผลิตภัณฑ์ที่ว่าด้วย 100% เช่นน้าผักผลไม้100% เครื่องดื่มที่ไม่มีไขมัน แคลอรี่ต่า แคลอรี่น้อย โดยที่ผู้บริโภคไม่ได้ศึกษาข้อมูล เพิ่มเติมเลยเพราะเชื่อว่ามีการพิสูจน์มาแล้วทั้งสิ้นเป็นการบริโภคนิยมที่ครอบงาโดยวงการวิทยาศาสตร์สุขภาพ >> วงการ วิทยาศาสตร์ วงการนี้ยังเรียกร้องการสนับสนุนจากทางภาครัฐได้มากกว่าวงการอื่นๆเพราะเชื่อว่า จารีต และความรู้แบบ วิทยาศาสตร์ทาให้สังคมดีขึ้น จึงเกิดคาถามที่ว่าญาณวิทยาแบบวิทยาศาสตร์กลายเป็นภารกิจของรัฐตั้งแต่เมื่อไหร่ ? รัฐส่งเสริมทุก อย่างที่วงการวิทยาศาสตร์เสนอให้เพราะมันดีต่อสังคม ดีอย่างไร? และสุดท้ายรัฐก็ยอมจานนให้วงการนี้มีอิทธิพลในการตัดสินใจ เช่น T25 สังคมไทยรับมาจากสังคมตะวันตก ให้มีการสร้างทัศนคติว่ามีความเป็นอารยะกว่าเป็นองค์ความรู้ที่สูงกว่า ผ่านทางสื่อ ออนไลน์ ทาให้เป็นที่สนใจของวงการแพทย์ วงการวิทยาศาสตร์สุขภาพทีม่ ีการหยิบยกไปศึกษาและวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียออกมาให้ ประชาชนรับรู้โดยอ้างอิงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพหรือจากนักวิทยาศาสตร์การกีฬาทาให้มีอิทธิพลอย่างมากในข้อมูล และความน่าเชื่อถือ การซึมซับเหตุและผลของวงการแพทย์นามาสู่ความคิดในเรื่องของ การสร้างอัตบุคคลขึ้นมาให้เป็นประเด็นที่คนเรา ยอมรับเป็นความหมายที่แท้จริงจนเราต้องตกเป็นทาสของความหมายนั้น เป็นกระบวนการที่ ปั้นน้าเป็นตัว หรือ การปั้นความคิด ให้เป็นวัตถุ เป็นสัญลักษณ์ที่ตายตัวเช่น คนที่มีสุขภาพดี ต้องผอม ต้องสวยความเข้าใจนี้ถูกสร้างมาให้ครอบงาตัวเราเอง(เพราะเชื่อ ว่าเป็นจริง) ความหมายพวกนี้เป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเป็นความหมายตายตัวในแง่ที่ว่า สุขภาพดี ต้องผอม ต้องสวย ต้องมีซิกแพค ถึงจะนิยามว่าเป็นบุคคลที่ใส่ใจสุขภาพจนบางทีเราก็ยึดติดมากเกิน เพราะเราสร้างความหมายนั้นขึ้นมา นอกจากเราจะสร้างความหมาย และปั้นความคิดให้เป็นวัตถุแล้วสังคมเมือ งเมื่อมีการแบกรับงานและภาระในแต่ละวันตาม สภาพสังคมที่เต็มไปด้วยการแข่งขันจึงทาให้เกิดความเชื่อในเรื่องของ "เวลา" เกิดขึ้นด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่มีเวลาออกกาลังกาย T25 ช่วยคุณได้ แค่ 25 นาที ต่อวัน ก็ทาให้ผอม หุ่นดี พุงยุบ และสังคมเมืองที่มีการใช้ชีวิตเร่งรีบ การออกกาลังกาบแบบ T25 เป็น ตัวเลือกหนึ่งทีผ่ นวกเข้ากับชีวิตประจาวัน ไม่ว่าจะเป็น แม่บ้าน พนักงานออฟฟิต ข้าราชการ สาวโรงงาน วัยรุ่น ก็สามารถออกกาลัง กายด้วยT25 ได้ด้วยพื้นที่ทจี่ ากัด จะเต้นถูกหรือผิด เต้นแบบไหนก็ไม่อายใครเพราะเป็นการปฎิบัติกิจกรรมในที่ส่วนตัว ในห้อง ไม่ มีปฎิสัมพันธ์กับคนหมู่มาก ซึ่งเป็นการสร้างพื้นที่ส่วนตัว(Private Space)ให้ตัวเอง ในเรื่องของการกาหนดขอบเขตพื้นที่ของแต่ ละบุคคล ทาให้เห็นได้ชัดในเรื่อง “วัฒนธรรมการใช้ชีวิตของสังคมเมืองและสังคมท้องถิ่น” สังคมเมือง มีพื้นที่การใช้ชีวิตจากัด ชีวิตรีบเร่ง แข่งขันกับเวลา ทุกอย่างต้องรวดเร็ว ช่วงชิงอานาจและพื้นที่การใช้ ชีวิต ทาให้ T25 นิยมมากในหมู่คนในเมืองเพราะแค่ 25 นาที ก็สามารถทาได้และสุขภาพดีด้วย เปรียบเทียบกับสังคมท้องถิ่นที่เป็นชาวบ้าน มีวัฒนธรรมในการประกอบกิจกรรม ร่วมกัน มีพื้นที่และสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย ไม่ต้องรีบเร่ง ทุกสิ่งทุกอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไปจะกลับบ้านตอนไหนก็ได้ รอพระ อาทิตย์ตกดินหรือจนกว่าจะเล่นจนพอใจ ทาให้การออกกาลังกายของชุมชนในหมู่บ้าน ก็ยังคงความสนุกสนานเพลิดเพลิน การเต้น แอโรบิคชุมชน วันละ 1-2 ชั่วโมงมีตัวแทนนาเต้นและเพลงที่มีการมิกซ์ผสมระหว่างเพลงสากลและลุกทุ่งได้อย่างลงตัว ท่าเต้น ที่ หลากหลาย การแตะตะกร้อระหว่างผู้นาชุมชนและชาวบ้าน การตีแบตของวัยรุ่นชุมชน การกระโดดยางของเด็กๆ ทุกกิจกรรม ทา ให้ตัวชุมชนมีปฎิสัมพันธ์ที่หลากหลาย บนลานกว้าง ตัวพื้นที่ถูกใช้อย่างไม่จากัด ดังนั้นชาวบ้าน จึงไม่เข้าใจการเต้นแบบT25 ที่กลุ่ม คนในเมืองเข้าใจและไม่เข้าใจว่าทาไมต้องเต้นแบบนี้ด้วยซ้าในขณะที่พวกเขาก็มี แอโรบิกหมู่บ้านให้เต้นเป็นประจา เต้นไปฮาเฮไป โดยไม่ได้คิดและคานึงถึงซิกแพคและท่วงท้าที่สวยงาม พร้อมกันนั้นยังรับรู้ถึงเรื่องราว แลกเปลี่ยนเรื่องราวของกันและกันหลังเต้น เสร็จ การเต้นไปอวดชุดสวยๆสีบาดตา รองเท้าที่เพิ่งซื้อมา ของกันและกันได้อย่างสนุกสนาน เกิดเป็นความสัมพันธ์ที่ ไร้ขอบเขตมา กาหนดวิถีชีวิต และความเป็นธรรมชาติของกิจกรรมที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้นวัฒนธรรมการเต้น T25 ถือเป็นมายาคติของกลุ่มชนชั้นกลางที่เข้าถึงสื่อง่าย ตกเป็นทาสของวงการแพทย์ วงการ วิทยาศาสตร์สุขภาพ และตกอยู่ภายใต้อานาจของการบริโภคนิยมที่สมบูรณ์แบบ ถ้าให้ป้าที่สอนแอโรบิกประจาหมู่บ้าน มาอัดคลิป T25 ขายหรือแจกฟรีให้เราเต้น เชื่อว่า เราต้องเกิดการสับสนระหว่างท่าเต้น จังหวะ และการโยกย้ายร่างกาย ที่ไม่เหมือน trainer ในT25 หรือบางครั้งเพลงที่ป้าใช้อาจจะเป็นลูกทุ่งในการปลุกเร้าจังหวะ ทาให้แผ่น T25 ของป้าทางานได้ไม่เต็มที่เมื่ออยู่ในกลุ่มชน ชั้นกลางที่บริโภควัฒนธรรมตะวันตกที่ดูมีความน่าเชื่อถือมากกว่า