40 Positive Thinking

Page 1

40 PO SIT IV E THINKING


การคิดบวก เป็นจุดเริ่มต้นของความสุข ความสุข เป็นจุดเริ่มต้นของความสําเร็จ

40 POSITIVE THINKING 2


ก่อนที่คิด จะเปลี่ยนทุกอย่าง

ขอให้เริ่มต้น เปลี่ยนความคิดก่อน

40 POSITIVE THINKING 3


ข้อดี อย่างหนึ่ง ของ มนุษย์ คือ

ความคิด พัฒนาได้

มนุษย์ และ ต้องการจะให้สิ่งต่างๆ มากมายเปลี่ยนแปลงไป ตามที่ใจของเราต้องการ

ซึ่งสิ่งนี้เอง ทําให้มนุษย์ ความทุกข์ โดยไม่รู้ตัว ความสําคัญ ของ การมีชีวิต ไม่ได้อยู่ที่ว่า...เราต้องได้ทุกอย่างที่เราคิด แต่ ความสําคัญ ของ การมีชีวิต อยู่ คือ การลงมือทําในสิ่งที่ถูกต้อง

ตามที่เราคิด กับ สิ่งที่เราฝันไว้ ต่างหาก

คนที่อมความทุกข์ไว้มากมาย ต้องประสบกับปัญหาชีวิตเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มันเกิดจาก ความคิดที่ติดลบ กระท่ังทําให้ มันมีพลังดึงดูด เรื่องเลวร้ายให้เข้ามาหาตัวอย่างไม่หยุดหย่อน และ ไม่มีที่ส้ินสุด 40 POSITIVE THINKING 4


พลังความคิด ไม่มีที่สิ้นสุด

แต่

พลังความคิด ทําให้ชีวิตคนสิ้นสุดลงได้ ถ้าใช้ พลังความคิด ไม่ถูกวิธี

40 POSITIVE THINKING 5


นายบวก ถูกสอนให้ ชื่นชมคนอื่น นายลบ ถูกสอนให้ ดูถูกคนอื่น นายบวก ถูกสอนให้ แบ่งปันเพื่อนร่วมชาติ นายลบ ถูกสอนให้ คดโกงเพื่อนร่วมชาติ นายบวก ถูกสอนให้ ยกย่อง นับถือ คนดี นายลบ ถูกสอนให้ กราบไหว้ บูชา คนรวย นายบวก ถูกสอนให้ พูดดี คิดดี ทําดี นายลบ ถูกสอนให้ อิจฉาดี ตาร้อนเก่ง นักเลงโต นายบวก ถูกสอนให้ เห็นถูก เป็นถูก และ เห็นผิด เป็นผิด นายลบ ถูกสอนให้ เห็นผิด เป็นชอบ และ เห็นถูก เป็นผิด นายบวก ถูกสอนให้ รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น นายลบ ถูกสอนให้ ฆ่าได้ หยามไม่ได้ ห้ามเหยียดหยามกัน นายบวก ถูกสอนให้ ทําสิ่งดี เมื่อมีโอกาส นายลบ ถูกสอนให้ กอบโกยเข้าหาตัว เมื่อมีโอกาส นายบวก ถูกสอนให้ ไม่ทําร้ายผู้อื่น ไม่ทําร้ายผู้มีพระคุณ นายลบ ถูกสอนให้ อย่าได้เผลอ เคี๋ยวจะแทงข้างหลังทันที

40 POSITIVE THINKING 6


การเปลี่ยนความคิด หรือ ยกระดับความคิด จากเด็กไปสู่ผู้ใหญ่ หรือ จากวัยรุ่นไปสู่วัยทํางาน จะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง ที่เรียกว่า

“PARADIGM SHIFT” (ทัศนคติ) เมื่อ PARADIGM SHIFT หรือ ทัศนคติ เปลี่ยน มุมมองของเราจะเปลี่ยนตามไปด้วยทั้งหมด

ปัจจุบัน คนมากมายต่าง ติด กับดักทางความคิด ด้วยการศึกษาแบบผิดวิธี ติด กับดักทางความรู้ ด้วยรายการเบาสมองไร้สาระ ติด กับดักทางปัญญา ด้วยวัตถุ เงินทอง และ ชื่อเสียง สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดความสับสนระหว่าง ความทุกข์ กับ ความสุข ที่แท้จริง อยากใช้รถราคาแพง แต่กลัวเปลืองน้ํามัน อยากง้อแฟนแต่กลัวเสียแหลี่ยม อยากกินข้าวขาหมูแต่กลัวอ้วน ฯลฯ

ความสับสนขัดแย้งที่เกิดขึ้นนี้เรียกว่า PARADOX THINKING หมายถึงเรายังไม่ได้ใช้ชีวิตประจําวันอย่างสมดุลย์

อยากจะ คิดดี คิดบวก คิดให้ คิดแบ่งปัน แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นทุกข์ ดังนั้น 40 วิธีง่ายๆ ในการใช้ชีวิตแบบคิดบวก จะทําให้คุณมี ความสุข โดยไม่ต้องมีทุกข์

40 POSITIVE THINKING 7



หนังสือเล่มนี้ แนะนำ�

วิธีสร้างความ

คิดบวก

แบบง่ายๆ ที่สามารถนําไปใช้ในชีวิตประจําวันได้ อย่างสบายๆ


01

หาเรื่อง...(ดีๆ)...ใส่ตัว MEET AND GREET

จะมีใครคุณพบเป็นคนแรก...ถ้าไม่ใช่ตัวคุณ ธรรมชาติ สร้างสรรค์ความเป็นระบบใน ความคิดมุนษย์ แต่มนุษย์กลับปรุงแต่งส่ิงต่างๆ มากมาย ธรรมชาติ สร้างให้ คนไม่คิดมาก มีความสุขง่ายๆ ธรรมชาติ สร้างให้ คนคิดมาก มีความสุขยากๆ ธรรมชาติ สร้างให้ คนปล่อยวาง มีความสุขอย่างไม่ยึดติด ธรรมชาติ สร้างให้ คนรักวัตถุ มีความทุกข์ เมือ่ วัตถุนั้นชํารุด ธรรมชาติ สร้างให้ คนแบ่งปัน มีคนร่วมรู้สึกสุขไปด้วยกัน ธรรมชาติ สร้างให้ คนอิจฉาริษยา มีความทุกข์ เมื่อเห็นคนอื่นได้ดีกว่าตน ธรรมชาติ สร้างให้ คนอยู่ร่วมกันเป็นสังคม มีความสุขกับการเกื้อหนุนกัน ธรรมชาติ สร้างให้ คนชอบตําหนิ มีความทุกข์ เมื่อเห็นสิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจ 40 POSITIVE THINKING 10


สิ่งหนึ่งที่มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่ได้ทํา คือ การทักทาย และ ยิ้มให้กับตัวเอง

38% ผู้ชาย ตื่นขึ้นมาแล้วจะเข้าห้องน้ํา 42% ผู้หญิง ตื่นขึ้นมาแล้วจะเข้าห้องน้ํา 15% ผู้ชาย ตื่นมาแล้วจะแปรงฟันทันที 34% ผู้หญิง ตื่นมาแล้วจะแปรงฟันทันที 5% ผู้ชาย ตื่นมาแล้วจะดื่มน้ําทันที 1% ผู้หญิง ตื่นมาแล้วจะดื่มน้ําทันที 8% ผู้ชาย ตื่นมาแล้วจะดูทีวี หรือ ฟังวิทยุ ทันที 1% ผู้หญิง ตื่นมาแล้วจะดูทีวี หรือ ฟังวิทยุ ทันที 76% ของ คนติดบุหรี่ จะสูบบุหรี่ ก่อนทานอาหารเช้า แต่น้อยคนนักที่จะทักตัวเองในกระจกทุกเช้าว่า... “สวัสดี” “แหะ...แหะ...แหะ...สวัสดี” “สวัสดี...พ่อรูปหล่อ” “งัยจ๊ะ...แม่ก้นงอน” ลองพูดไปแล้ว มองเห็นคนในกระจกหน้าตาทุเรศ หัวยุ่ง ปากเหม็น กับ รอยตีนกาแบบเน้นๆ ก็อย่าตกใจไป เพราะ คุณกําลังจะพยายามเปลี่ยนหน้านั้นให้สวยงาม ให้น่ามองแล้ว (ถ้าคุณไม่กล้ามองหน้าตัวเองแล้วล่ะก็ ใครล่ะ...จะกล้า???)

40 POSITIVE THINKING 11


}

หากแบ่ง มนุษย์ ออกเป็น

ประเภท

กลุ่มที่ 1 คนตําหนิตนเอง และ กลุ่มที่ 2 คนตําหนิตนเอง แต่ กลุ่มที่ 3 คนชื่นชมตนเอง แต่ กลุ่มที่ 4 คนชื่นชมตนเอง และ

ตําหนิคนอื่น ชื่นชมคนอื่น ตําหนิคนอื่น ชื่นชมคนอื่น

}

กลุ่มท่ี 1 คนตําหนิตนเอง และ ตําหนิคนอ่ืน เป็น คนที่มีทัศนคติแง่ลบ ชอบดูถูกตนเอง คิดว่าตนเองไม่สามารถทําอะไรได้และ คิด ว่าคนอื่นก็ทําไม่ได้เช่นกัน คนคิดลบประเภทนี้นอกจากชอบดูถูกคนอื่นแล้ว ยังชอบติ เตียนตัวเอง ไม่กล้าเผชิญหน้า ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่คิดว่า ตนมีความสามารถที่ซ่อนเร้น อยู่ภายใน เม่ือคิดอย่างนี้ทุกวัน ก็จะทําให้ สิ่งที่คิดทุกวันนั้น กลายเป็น ความจริงขึ้น มาได้ในเวลาไม่นาน กลุ่มท่ี 2 คนตําหนิตนเอง แต่ ชื่นชมคนอื่น คนเหล่านี้ มักจะเกิดจากตอนเด็กๆ มีปมด้อย ถูกพ่อแม่ หรือ ญาติผู้ใหญ่ ดุด่ามาตั้งแต่ เด็ก ลงมือทําอะไร ก็มักจะถูกต่อว่าเสมอ ถูกตักเตือนบ่อยๆ ทําให้ ถูกปลูกฝังตั้งแต่ใน วัยเยาว์ ว่าตนเองนั้น “ไม่ดีพอ” “ไม่เก่งพอ” “ไม่คู่ควร” ความไม่เชื่อมั่น ถูกปลูกฝัง โดยการกระทําของผูใ้ หญ่ แต่ถงึ อย่างไร ก็ไม่ใช่คนคิดลบจนสุดขัว้ เพราะว่า ยังมองเห็น ส่วนดีของคนอื่น มองเห็นส่วนสวยงามที่ยังมีอยู่บนโลกบ้าง

40 POSITIVE THINKING 12


กลุ่มที่ 3 คนชื่นชมตนเอง แต่ ตําหนิคนอ่ืน เป็น คนท่มี ที ศั นคติแง่ลบ มากกว่าประเภททีส่ อง เพราะทุกวัน คอยแต่ยงุ่ เร่อื งของคนอืน่ จับผิดคนอ่ืน ดูถูกคนอื่น ไม่ให้เกียรติคนอ่ืน กิจวัตรประจําวัน คือ การดุด่า สามี หรือ ภรรยา และ ลูกของตนเองสุดท้ายในบั้นปลายชีวิต คนประเภทนี้จะมีสีหน้าหมองคล�้ำ เห่ียวเฉา และ อยู่ตัวคนเดียว ถ้าจะมีเพ่ือนสนิท ก็จะเป็น ประเภทเดียวกัน ประเภท ชอบจับผิด ยุแยงให้ครอบครัวคนอื่นแตกแยก สุดท้าย ก็จะเหลือ ตัวคนเดียว เพราะ ทะเลาะกับคนรอบข้างทุกคน ไม่เว้นแม้แต่คนในครอบครัว กลุ่มที่ 4 คนช่ืนชมตนเอง และ ชื่นชมคนอื่น คนเหล่านี้ ถูกปลูกฝังให้ มองโลกแบบสวยงามอย่างทีเ่ ป็น ตัง้ แต่ยงั เป็น เด็กเล็กๆ เพราะ พ่อแม่ผู้ปกครองรู้วิธีการเลี้ยงดู อย่างถูกวิธี รู้วิธีการใช้ชีวิตอย่างถูกต้อง หนึ่ง คือ การให้สิ่งดีๆ กับเด็กๆ เหล่านั้น สอง คือ สอนให้รู้จักรักธรรมชาติ รักส่ิงแวดล้อม รักสัตว์เลี้ยง สาม คือ การสอนให้รู้จักแยกแยะ ส่ิงดีคืออะไร และ สิ่งไม่ดีนั้น เป็นอย่างไร ควรทํา หรือ ไม่ควรทํา สี่ คือ สอนให้รู้จัก วิธีการแก้ปัญหาต่างๆ โดยไม่ใช้ความรุนแรง ห้า คือ การสอนให้รู้จักการกล่าวคําช่ืนชมคนอื่นรอบข้าง อาจจะหาตัวอย่างคนดี มาสอนลูก อย่างสม�่ำเสมอ เม่ือการปลูกฝัง ถูกทํามาตั้งแต่เด็กจะทําให้เกิดคิดดี และ มีความสุข 40 POSITIVE THINKING 13


สําหรับ เด็กๆ นั้น จะใช้วิธี การปลูกฝัง ให้เขาทีละเล็ก ทีละน้อย

ความคิด

จากการดูภาพยนตร์ ฟังเพลงบ้าง เล่นเกมบ้าง...

การดุด่า หรือ การต่อว่า ไม่ทําให้ ความคิดดี เกิดขึ้นได้เสมอไป... การสอน ควรจะกระทําเมื่อผู้ใหญ่ มี สติ

พอท่ีจะอบรมส่ังสอน มิใช่อยู่ในอารมณ์ โกรธ เกลียด เคียดแค้น ชิงชัง

เพราะ ผู้ใหญ่ มักจะทําอะไรโดยไม่รู้ตัว ด้วยอารมณ์ กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็อาจจะสายเกินไปเสียแล้ว

40 POSITIVE THINKING 14


ถ้าเราเริ่มต้นชีวิตดี

ชีวิตเราก็จะดี

ถ้าเราอยากจะให้ชีวิต ดีขึ้นไปอีก เราควรจะคิดแต่เร่ืองดีๆ 

การคิดสิ่งดีๆ

การพูดส่ิงดีๆ การตอกย้ําส่ิงดีๆ ทุกๆ วัน

จะทำ�ให้ชีวิตดี

40 POSITIVE THINKING 15


WHAT IS YOUR FACE IN EVERY MORNING ???

40 POSITIVE THINKING 16


เราอยากจะคุยกับใครมากกว่ากัน ระหว่าง

คนหน้าบึ้ง กับ คนหน้าตึง หรือ

ไม่อยากคุยกับใครเลย ??? (แล้วหน้าของเรา บึ้ง+ตึง หรือเปล่า ???)

40 POSITIVE THINKING 17


02

หาเรื่อง...(ดีๆ)...ใส่ตัว INPUT AND OUTPUT

หากคุณใช้ชีวิตที่ต้องพึ่งการทํางานของสมองทุกวัน คุณก็ควรให้สมองได้เตรียมพร้อมก่อนการทํางานหนัก ตลอดทั้งวัน โดยการนั่งสมาธิ การทํางานของคลื่นสมอง ที่วัดด้วยเครื่องมือ EEG (Electroencephalogram) จากนักประสาทวิทยา ทําให้เราทราบว่า คลื่นสมอง แบ่งออกเป็น 4 ประเภท 1) คลื่นเบต้า (BETA) ความถี่ 14 - 30.0 Hz : สภาวะ เรียน + ทํางาน + ใช้ชีวิตปกติ (ถ้าเครียดมากอาจจะขึ้นสูงมากกว่า 30 Hz ได้) 2) คลื่นอัลฟ่า (ALPHA) ความถี่ 8 - 13.9 Hz : สภาวะสมองของเด็กที่มีความสุข และ ผู้ใหญ่ที่มีการฝึกจิต สมาธิ (สภาวะสบายๆ) 3) คลื่นเธต้า (THETA) ความถี่ 4 - 7.9 Hz : สภาวะหลับ หรือ มีการผ่อนคลายสูง ผู้ท่ีมีการฝึกจิต สมาธิขั้นสูง มองโลกแง่ดี เกิดปัญญาญาณ มีความคิดสร้างสรรค์สูง 4) คลื่นเดลต้า (DELTA) ความถี่ 0.1- 3.9 Hz : สภาวะหลับลึก โดยไม่มีการฝัน หรือ การเข้าสมาธิลึกๆ ระดับฌาน 40 POSITIVE THINKING 18


การเรียนรู้เรื่อง ทางจิต หรือ การฝึกฝนจิต ไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติ การฝึกฝนจิตที่ดีนั้น ทําให้ผู้ฝึกฝน รู้จักวิธีการ ควบคุมอารมณ์ และ จิตใจ ได้

การฝึกฝนจิต ทําให้เรารู้จักศิลปะในการดํารงชีวิต เรียนรู้ที่จะใช้สติสัมปชัญญะในการแก้ไขปัญหา ด้วยปัญญา สามารถใช้สมองเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ ในการทํางาน และ การดํารงชีวิต ได้

แท้ที่จริงแหล่งกําเนิดพลังความคิดที่ยิ่งใหญ่ อยู่ในสมองของเราเอง เราเลือกที่จะปฏิบัติได้ เลือกที่จะทําได้ เลือกที่จะบริโภคได้ไม่จํากัด เพราะ สมองมนุษย์ มีหน่วยความจํา ที่ไม่จํากัด เหมือน ฮาร์ มากกว่า คอมพิวเตอร์ การทําสมาธิในช่วงเช้าก่อนออกไปทํางาน หรือ การทําสมาธิก่อนนอน จะทําให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น ได้ใช้สมองคิดอย่างมีสติ ก่อนที่จะลงมือทําอะไรก็ตาม

40 POSITIVE THINKING 19


40 POSITIVE THINKING 20


บางคน อยากนั่ง

สมาธิ เพื่อที่จะได้

ขึ้นสวรรค์ แต่สําหรับ คนคิดบวก ขอแค่ได้มี และ เกิด ก็พอ

สมาธิ สติ​ิ

40 POSITIVE THINKING 21


03

หาเรื่อง...(ดีๆ)...ใส่ตัว INPUT AND OUTPUT

สมองมนุษย์ รับรู้ได้จาก ประสาทสัมผัสทั้งห้า ตา ประสาท การมองเห็น หู ประสาท การได้ยิน จมูก ประสาท การรับกลิ่น ล้ิน ประสาท การรับรส มือ หรือ ผิวหนัง ประสาท การสัมผัส

เมื่อเรารับรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า ส่ิงเร้าเหล่านั้น จะถูกบันทึกอยู่ในสมองของเรา และ เราเรียกความทรงจําเหล่านั้น กลับมาได้ เมื่อถึงเวลาที่เราต้องการ และ ในบางครั้ง เราไม่ต้องการมันก็จะมาของมันเอง เพลงประจําตัวของบางคน เป็นเพลงอกหัก เมื่อฟังครั้งใดก็มีความรู้สึกเหมือนกับคนอกหักแบบวัยรุ่น นั่งฟังก็ร้องไห้ นอนฟังก็ร้องไห้ แต่บางคนมีเพลงสนุกสดใส เป็นเพลงประจําตัว ทุกครั้งที่ได้ยินเพลงนี้ ก็จะรู้สึกมีความสุข อยากจะลุกขึ้นมาเต้น มีความสุขขึ้นมาโดยฉับพลัน 40 POSITIVE THINKING 22


จุดเริ่มต้น ของ การคิด ของ สมอง

คือ วิธีการเริ่มต้น ใส่ข้อมูล ลงไปใน หัวสมอง ตั้งแต่แรก ถ้าหากเรา บริโภค เรื่องร้ายๆ ใส่เรื่องไม่ดี เข้าไป ทุกเช้า ในที่สุด สมองคุณ ก็จะ มีแต่เรื่องร้าย และ จะทําให้ ชีวิตเหี่ยวเฉา เหมือนกับ คอมพิวเตอร์ที่โดนไวรัสเล่นงานจนแฮงก์ เหมือนดั่ง คนเราที่ได้รับเชื้อไวรัสจนเป็นหวัดงอมแงม เราปฏิบัติอย่างผิดๆ มาโดยตลอด เราปฎิบัติไม่ถูกต้องมา โดยตลอด ที่เราเป็นคนอย่างนี้ เพราะพฤติกรรมของเราเอง และ นั่นถ้าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของคุณ จงอย่าไปโทษใคร จงอย่าไปโทษสิ่งที่คุณมองไม่เห็น

จงอย่าโทษสิ่งที่คุณพิสูจน์ไม่ได้ จงโทษตัวของคุณเอง

40 POSITIVE THINKING 23


สมมุติว่า มีคนสองคนใช้ชีวิตคล้ายๆ กัน แต่แตกต่างกันที่ คนแรกตื่นขึ้นมาแล้ว ดูหนังสนุก ฟังเพลงที่หวานๆ มีความสุข คนที่สองเริ่มต้นตอนเช้า ฟังเพลงรักอกหักทุกช่วงที่มีเวลา ดูหนังผี หนังฆาตกรรมสยดสยอง หนังที่ใช้ความรุนแรง ดูทุกวันก่อนเข้านอน

ชีวิตของคนสองคนนี้จะแตกต่างกันหรือไม่? และ ทําไม?

40 POSITIVE THINKING 24


อาจจะต่างกัน หรือ ไม่ต่างกันก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคน แต่ที่แน่ๆ คือ การสะสมของสิ่งดีๆ มักจะเกิดขึ้นกับคนแรกมากกว่า ส่วนคนที่สอง ก็ใช้ชีวิตปกติ ในขณะจิตปกติอยู่

แต่ถ้าขาดสติเมือ่ ไร ก็จะหันมาใช้ความรุนแรงโดยไม่รู้ตัว

40 POSITIVE THINKING 25


04

เป้าหมาย...ที่ต้องการ GOAL AND TARGET

หากให้คนที่กําลังหิวมาก ไปเดินซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ต แน่นอนเลย ผลลัพธ์ที่ได้คือ อาหารมากเกินความจําเป็น หากเมื่อไรท่ีเราไม่ได้ทํารายการสิ่งของท่ีเราต้องการ แล้วเราได้มีโอกาสไปเดินสถานที่ มีของเร้าใจมากๆ อย่างเช่น ในซุปเปอร์มาร์เก็ต รับรองได้เลยว่า เมื่อเราเดินผ่านอะไรแล้ว เราก็จะ หยิบ...หยิบ...หยิบ...อะไรต่างๆ เราจะได้สินค้าที่เราต้องการมามากมาย บางครั้งก็เกินความจําเป็นด้วยซ�้ำ แต่วันไหนที่เราจัดทํารายการสิ่งของที่เราต้องการ แล้วไปช้อปปิ้ง ตามรายการสินค้าที่จําเป็นจริงๆ เราก็จะได้สิ่งของตามรายการที่เราเขียนเอาไว้ หรือ อาจจะมีแถมอะไรมา อีกนิดหน่อย นอกเหนือจากรายการที่จดไป

40 POSITIVE THINKING 26


สําหรับเรื่องการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นวันเรียบง่าย หรือ วันรีบร้อน ก็ตาม

ถ้าเรารู้จักวิธีการทํารายการของสิ่งที่จําเป็น ในการทําแล้ว หนึ่ง คือ เราจะไม่หลงลืม สิ่งที่จําเป็นของ เราไป สอง คือ เราจะรู้จักความรับผิดชอบในหน้าที่ ที่เราต้องทํา หากทุกเช้า เราไม่ตั้งเป้าหมายให้แก่ตัวเอง ว่า วันนี้จะทํางานอะไรให้เสร็จ เราจะอ่านหนังสือจบกี่เล่ม กี่บท เราก็จะมีเรื่องที่เข้ามาวุ่นวายในชีวิตมากมาย จนบางครั้งเราก็อาจจะกลับมาคิดอีกทีเมื่อหมดวันไปแล้ว ว่าวันนี้เราไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ดังนั้น อย่างน้อยควรจะมีอะไรบางอย่าง ที่เป็นเป้าหมายเล็กๆ สําหรับแต่ละวัน เพื่อที่จะให้สําเร็จได้ดั่งใจ

แม้บางครั้งเราตั้งใจที่จะทําอะไรบางอย่าง แต่เราก็อาจจะไม่ได้ทํา เพราะ ชีวิตวุ่นวายกับเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจมากมาย

40 POSITIVE THINKING 27


40 POSITIVE THINKING 28


ถ้าเรามีเป้าหมายชัดเจน เราก็จะไม่หลงทาง จงเขียนเป้าหมายของแต่ละวัน ในช่วงเช้า ก่อนออกจากบ้าน ลองทําดูสิ รับรองว่า คุณจะได้งานเป็นชิ้นเป็นอัน ถ้าคุณทําตามเป้าหมายได้

(เพราะ ถ้าเรามีเป้าหมายที่ดีแล้ว เราก็จะไม่หลงไปคิด หรือ ไปทําในสิ่งที่ไม่ดี...ใช่มั้ย ???)

40 POSITIVE THINKING 29


05

ทานอาหารเช้า...ทุกวัน BREAKFAST AND START

หากให้คนที่กําลังหิวมาก ไปเดินซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ต แน่นอนเลย ผลลัพธ์ที่ได้คือ อาหารมากเกินความจําเป็น เด็กเล็ก 1-3 ปี ร่างกายต้องการ พลังงาน วันละ 1,200 กิโลแคลอรี่ เด็กเล็ก 4-6 ปี ร่างกายต้องการ พลังงาน วันละ 1,450 กิโลแคลอรี่ เด็กเล็ก 7-9 ปี ร่างกายต้องการ พลังงาน วันละ 1,600 กิโลแคลอรี่ เด็กผู้ชาย 10-12 ปี ร่างกายต้องการ พลังงาน วันละ 1,850 กิโลแคลอรี่ เด็กผู้ชาย 13-15 ปี ร่างกายต้องการ พลังงาน วันละ 2,300 กิโลแคลอรี่ เด็กผู้ชาย 16-19 ปี ร่างกายต้องการ พลังงาน วันละ 2,400 กิโลแคลอรี่ เด็กผู้หญิง 10-12 ปี ร่างกายต้องการ พลังงาน วันละ 1,700 กิโลแคลอรี่ เด็กผู้หญิง 13-15 ปี ร่างกายต้องการ พลังงาน วันละ 2,000 กิโลแคลอรี่ เด็กผู้หญิง 16-19 ปี ร่างกายต้องการ พลังงาน วันละ 1,850 กิโลแคลอรี่

สําหรับการเริ่มต้นวันควรทานอาหารทุกเช้า เพราะ สมองของเราจะใช้ได้ดี เมื่อมีอาหาร และพลังงานไปเลี้ยงสมอง ตําราเรื่องสมองส่วนใหญ่ มักจะแนะนําให้ทานอาหารเช้า เพราะ ร่างกายมนุษย์ต้องการพลังงาน ต้องการอาหาร ให้ร่างกายขับเคลื่อนได้ดี และ สมองก็ต้องการเช่นกัน 40 POSITIVE THINKING 30


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.