ธรรมะพ่ อท่า(๔๘๒) น : คอร์สอาการวางใจ น.๔ / กรณีศึกษาการล้างพิษตับกับมงคลตื ่นข่าว น.๙1 ฉบั บที่ ๔๖๐ ข่าวอโศก
พ่อครูพาบูชาดิน-น้ำ�-ลม-ไฟ รู้รักษ์สิ่งแวดล้อม
ชาวทะเลธรรมจัดงานที่ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร มีการเปิดตลาดอาริยะที่โรงปุ๋ยควรธรรม
ในงานภราดรฯ ทีภ่ าคใต้ สสฐ.ร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติ
อ่านต่อหน้า
๖
ฉบับที่ ๔๖๐(๔๘๒) ปักษ์หลัง กรกฎาคม ๒๕๕๘
ชาวบุญฯร่วมงานครบรอบ ๒๒๓ ปี อุบลฯ วันเปิด “เกษตรอินทรีย์ วิถีเศรษฐกิจพอเพียง”
อ่านต่อหน้า
๕
หมู่สมณะรักษาพุทธประเพณี วันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา
อ่านต่อหน้า
๒
2
ปักษ์หลัง กรกฎาคม ๒๕๕๘ )
วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาชาวอโศก ปี ๒๕๕๘
(ต่อจากหน้า ๑)
“มุง่ สร้างวิถอี าริยธรรมกันเถอะ” ถ้าเราเดินทางไปชุมชนไหน แล้วมี คนในชุมชนมาถามว่า “คุณเป็นพวกไหน” “คุณเป็นฝ่าย ไหน?” ก็ เ ป็ น คำ � ถามที่ สั น นิ ษ ฐานได้ ว่ า ชุมชนนั้นมีความขัดแย้งกันสูง จนเกิด ความแตกแยกภายในชุมชน ในระดับที่ ควรมีการปรับปรุงโดยเร่งด่วน ชุมชนทีม่ คี วามแตกแยก หรือมีความ ขัดแย้งกันจนแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่ายดังกล่าว ควรเชื้อเชิญ หรือรับคนภายนอกเข้ามา ศึกษาวิถีอาริยธรรมในชุมชนหรือไม่? หรือชุมชนดังกล่าวควรมุ่งปรับปรุง ภายในให้ลงตัว จนเหลือแค่มคี วามขัดแย้ง อย่างพอเหมาะหรือไม่ ไม่ควรมุ่งเผยแพร่ธรรมะให้กว้างไกล ใช่หรือไม่ เปรียบประดุจดังคนในครอบครัว มี ความขัดแย้งกันสูง ไม่อบอุ่น คอยดูหมิ่น กั น และกั น แล้ ว เราจะรับ คนมาศึก ษา ครอบครัวของเราว่ามีความอบอุ่น น่าอยู่ อาศัยหรือ? ในขณะที่คนในครอบครัว หลายคนคิดจะย้ายออกจากบ้าน หรือ ออกจากชุมชน ฉะนั้นถ้าชุมชนของเรายังมิใช่ชุมชน บุญนิยมทีด่ พี อ หรือยังไม่เข้าสูว่ ถิ อี าริยธรรม มากพอ คนในชุมชนยังเอาแต่ใจ ผู้หลัก ผู้ใหญ่ยังไม่ยอมรับเสียงส่วนใหญ่ ยังใช้ อารมณ์หรือเอาทิฏฐิของตัวเองเป็นใหญ่ ถ้ามีการเผยแพร่วถิ ชี มุ ชนเช่นนี้ ก็ยอ่ ม เป็นการเผยแพร่ลักษณะความล่มสลาย ของชุมชน มากกว่า การสร้างชุมชนเข้ม แข็งสู่วิถีอาริยธรรมที่แท้ จริงไหม? เจริญธรรมสำ�นึกดีคะ่ ท่านผูร้ กั สุขภาพ ทุกท่าน ต่อจากฉบับที่แล้วค่ะเรามาทบทวน ๗ อาการ ที่ผู้ป่วยมักมีอาการมาพบแพทย์ บ่อยกันก่อนนะคะ อาการดังนี้ ๑.อาการ ปวดกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ปวดตามข้อต่างๆ ๒.อาการจุกแน่นท้องเรื้อรังรับประทานยา โรคกระเพาะอาหารมาหลายปีก็ไม่หายขาด ๓. อาการปวดศีรษะข้างเดียว ๔.อาการเจ็บ หลังเจ็บเอว ๕.อาการปวดท้องน้อยเวลา มีประจำ�เดือนจะปวดมากขึ้น ทำ�การตรวจ ภายในหลายครั้งหลายที่แล้วก็ไม่พบความ ผิดปกติที่มดลูก ๖.มีอาการร้อนที่บริเวณ เอวด้านใดด้านหนึ่ง ชาวบ้านเรียกออกร้อน ที่สีข้าง ๗.อาการอ่อนเพลียทำ�งานได้น้อย หงุดหงิด วิตกกังวล นีแ่ หละค่ะ มักจะเป็นอาการทีเ่ กิดจาก นิ่วยูริกขนาดเล็กๆ ที่ไม่สามารถตรวจพบ ด้วยเครื่องเอกซเรย์ธรรมดาๆได้ ต้องตรวจ
วันอาสาฬหบูชา เป็นวันเพ็ญเดือน ๘ ปีนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๓๐ ก.ค. ๒๕๕๘ สมณะทุกพุทธสถานลงสวดปาติโมกข์ โดย ปี นี้ พ่ อ ครู นำ � หมู่ ส งฆ์ พุ ท ธสถานราชธานี อโศก ลงปาติโมกข์ที่แพโบสถ์บ่ายวันที่ ๓๐ ก.ค.นี้ เพื่อสืบทอดพระธรรมวินัย และเพื่อ ความเป็นอยู่ผาสุกของสงฆ์ ซึ่งวันนี้ในสมัย พุทธกาลเป็นวันที่กำ�เนิดพระสงฆ์องค์แรก ของโลก เมื่อพระพุทธเจ้าได้ไปเทศนา ธัมม จักกัปปวัตนสูตร แก่ปัญจวัคคีย์ แล้วอัญญา โกณทัญญะก็ได้ดวงตาเห็นธรรม ทำ�ให้มี สงฆ์ผู้มาเข็นกงล้อพระธรรมจักร ให้สืบทอด ต่อไปอีกให้ครบ ๕,๐๐๐ ปี มาบัดนี้แล้ว ก็
ด้วยเครื่องอัลตราซาวน์ เป็นนิ่วที่ไม่ต้อง รักษาด้วยการผ่าตัด สามารถหลุดเองได้ด้วย การปฏิบัติตัว ส่วนใหญ่จะมีอาการเพิ่มเมื่อ รับประทานหน่อไม้ ไก่ แมลง ซึ่งเป็นอาหาร ที่แสลงต่อผู้ป่วยโรคเกาต์ และมีอาหารแส ลงอื่นๆที่มีผลเสียต่อไตซึ่งต้องงดเว้นได้แก่ ผงชูรส น้ำ�ปลา รสดี คนอร์ ซีอิ๊วขาว ขนม ที่มีผงชูรสทุกชนิด หน่อไม้ ยอดหวาย ยอด กระถิน ยอดมะพร้าว ผักชะอม เห็ดทุกชนิด ของดองทุกชนิดและขนมจีน ปลาทีไ่ ม่มเี กล็ด เนื้อสัตว์ทุกชนิดและเครื่องใน ไก่ เป็ด ไข่ มดแดงและแมลง ดักแด้ กบ เขียด ฮวก และ อาหารที่ เราควรรั บ ประทานคื อ ผลไม้ ทุ ก ชนิด เห็ดหลินจือ ถั่งเช่า น้ำ�มะนาว ท่านแนะนำ�การดื่มน้ำ�อย่างน้อย ๒ ลิตรต่อวัน หรือคำ�นวณด้วยการใช้น�ำ้ หนักตัว ( ก.ก. ) คูณด้วย ๔๐ เช่น ถ้าหนัก ๕๕ x ๔๐ =๒,๒๐๐ ซีซี ต่อวัน ควรดื่มน้ำ�ก่อนกินข้าว
ยั งเป็ น ไปได้ ยั งมี สงฆ์ ท ี ่ ปฏิบัติตามรอย พระศาสดาและสังฆะที่กำ�เนิดมากว่าครึ่ง พุทธกาล กิจกรรมในช่วงเย็นของวันอาสาฬหบูชา มีกจิ กรรมเวียนธรรม คือให้สมณะ สิกขมาตุของ แต่ละพุทธสถาน ผลัดเปลี่ยนกันมาบรรยาย ธรรมะสั้นๆรูปละ ๒-๓ นาที แต่ที่พิเศษ คือ ช่วงท้ายของการเวียนธรรมที่ราชธานี อโศกจะมีพ่อครูมาให้ธรรมะวันเข้าพรรษา ปิดท้ายด้วย งานนี้มีการถ่ายทอดสดทาง บุญนิยมทีวี โดยถ่ายทอดการเวียนธรรม ของพุทธสถานราชธานีอโศก, สันติอโศก, ศีรษะอโศกและปฐมอโศก สลับกันไป หมู่สงฆ์แต่ละพุทธสถานชาวอโศก อธิษฐานพรรษา ประจำ�ปี ๒๕๕๘ วันเข้าพรรษาปีนต้ี รงกับวันที่ ๓๑ ก.ค. ๒๕๕๘ เป็นพุทธประเพณีที่พระสงฆ์ใน พระพุทธศาสนาต้องอธิษฐานพรรษาที่จะ อยู่ประจำ�อาวาส ไม่ไปค้างแรมที่ไหนหาก ไม่จำ�เป็น ซึ่งหมู่สงฆ์แต่ละพุทธสถานได้ ทำ�การอธิษฐานพรรษากันในแต่ละพุทธสถาน ซึ่ง ปี น้ีพ่ อ ครู นำ � หมู่ ส มณะราชธานี อ โศก
จำ�นวน ทั้งหมด ๓๒ รูป อธิษฐานพรรษาที่ แพโบสถ์ สมณะผูจ้ ะเข้าอยูจ่ �ำ พรรษาจะต้องตัง้ จิตอธิษฐาน เปล่งวาจาว่า จะขออยูจ่ �ำ พรรษา ในวัด สถานที่ใดสถานที่หนึ่งสถานที่เดียว จนครบกำ�หนดถ้วนไตรมาส ๓ เดือน การอยู่ประจำ�พรรษานี้ เพื่อจะได้ไม่ เป็ น การไปเดิ น เบี ย ดเบี ย นย่ำ � ข้ า วชาวนา ในครั้งสมัยพุทธกาล นอกจากนี้ก็ทำ�ให้ สงฆ์ ได้มีเวลาที่จะอยู่ศึกษาพระธรรมวินัย ได้อย่างเต็มที่ ทำ�ให้สงฆ์เกิดเอกีภาวะมาก ขึ้น รวมทั้งเป็นเวลาที่ญาติโยมจะได้ตั้งตบะ เข้าพรรษา รวมทั้งมาปฏิบัติธรรม สนทนา ธรรมกับสมณะที่อยู่ประจำ�พรรษาในแต่ละ พุทธสถาน.
โรคอีสานรวมมิตร (๒)
๓๐ นาที เพื่อให้เนื้อเยื่อกระเพาะอาหาร ชุ่ ม ชื่ น พร้ อ มที่ จ ะย่ อ ยอาหารและหลั ง กิ น ข้าวเสร็จ ๒ ชั่วโมงไปแล้ว เพราะว่าการ ดื่ ม น้ำ � ทั น ที ห ลั ง รั บ ประทานอาหารจะ ทำ�ให้ไปเจือจางน้ำ�ย่อยที่กระเพาะอาหาร หลั่ ง ออกมาซึ่ ง ทำ � ให้ ก ารย่ อ ยอาหารไม่ สมบูรณ์ อยากจะขอแนะนำ�ว่ า ช่วงบ่ า ยๆ บางท่านทำ�งานเพลินจนลืมนึกถึงการดื่มน้ำ� จึงควรมีขวดใส่น้ำ�พกประจำ�ตัวไว้เสมอเพื่อ สะดวกต่อการดื่ม มี ก ารศึ ก ษาผู้ ป่ ว ยที่ เ ป็ น โรคนิ่ ว ในโรง พยาบาลรามาธิบดี ที่ได้รับประทานยาชง หญ้าหนวดแมวทุกวัน วันละ ๓ ครั้ง เป็น ระยะเวลา ๒-๖ เดือน จากการศึกษาพบ ว่ามีอาการดีขึ้น โดยสามารถลดขนาดของ ก้อนนิ่ว ๒๓ ราย มีนิ่วหลุด ๔๐% และมี อาการดีขึ้น ๒๐% และมีข้อควรระวังใน การดื่มด้วย สำ�หรับผู้ที่เป็นโรคไตแล้วหรือ
โรคหัวใจไม่ควรใช้สมุนไพรหญ้าหนวดแมว เพราะสมุนไพรชนิดนี้มีสารโพแทสเซียมสูง มาก ถ้าหากไตไม่ปกติก็จะไม่สามารถขับ โพแทสเซียมออกมาได้ ทำ�ให้เกิดโทษต่อ ร่างกายอย่างร้ายแรง และยังมีฤทธิ์ในการ ขับปัสสาวะให้ออกมามากกว่าปกติ และเกรง ว่าขนาดของโพแทสเซียมที่สูงมากนั้น อาจ จะไปกระตุ้นหัวใจให้เต้นเร็วผิดปกติ จึงอาจ ส่งผลกระทบต่อโรคหัวใจได้ค่ะ สมุนไพร ทุกอย่างมีทั้งคุณและโทษ เราควรเรียนรู้ใน การใช้ให้เหมาะสมเพื่อรับคุณประโยชน์และ ป้องกันการเกิดอาการแทรกซ้อนด้วย ฉบั บ หน้ า มี เรื่ อ งดี ๆ มาฝากแน่ น อน อย่าลืมติดตามอ่านนะคะ อย่าลืมรักษา สมดุ ล ของร่ า งกายและจิ ต ใจให้ ดี เ พื่ อ ชี วี เป็นสุขค่ะ. กิ่งธรรม
ฉบับที่ ๔๖๐ (๔๘๒)
ข่าวอโศก
3
การปรับโครงสร้างดิน (Soil Structure)
หรือห่อหมกดิน
...ถ้าดินแห้ง ดินแข็ง คือดินตาย อย่าได้หมาย ได้ปลูก พืชใดสิ้น หากคิดปลูก ต้องรู้ ต้องปรุงดิน เพิ่มชีวิน จุลินทรีย์ ให้ดินเอย... สูตรการหมักดิน หรือปรับโครงสร้างดิน คือ E = D (c80+s10+e10) ดังนี้ 1. c = carbon คือ ธาตุคาร์บอนจากสิ่งที่มีชีวิตเป็นอินทรีย์วัตถุ (Organic) = ๘๐% ได้จากซากพืช ซากสัตว์ ฯลฯ 2. s = soil คือ สิ่งที่ไม่มีชีวิต เป็นอนินทรีย์วัตถุ (Nonorganic) = ๑๐% ได้จาก หิน ดินร่วนซุย แร่ธาตุ 3. e = enzyme คือตัวการสำ�คัญทีท่ �ำ ให้เกิดกระบวนการย่อยสลาย (Fertilization) = ๑๐ % ได้จากเชื้อจุลินทรีย์ชีวภาพที่เป็นประโยชน์ เช่น เชื้อรา ยีสต์ ผมขอประกาศว่า “ทฤษฎีนี้ยิ่งใหญ่มาก มันเป็นความอยู่รอดของมวลมนุษยชาติ เพราะอาหารเป็นหนึง่ ในโลก และกระบวนการผลิตอาหารต้องยัง่ ยืน ไม่ท�ำ ลายสิง่ แวดล้อม ผู้ที่ใช้สารเคมี คือผู้ที่ทำ�ลายความมั่นคงเรื่องอาหาร และเป็นเหตุแห่งโรคในมนุษย์ยุคนี้ (โดย อ.กมล พรหมมาก)
4 ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘ รายการวิถี อาริยธรรม ที่สวนธรรมชาติอโศก
“คอร์สวางอาการใจ”
ส.แสนดินถามพ่อครูว่า…. “เมื่อสัก ครู่ คุณอมรได้เล่าเรือ่ งการเจ็บป่วยจากการ เป็นมะเร็งในลำ�ไส้ของตนเอง ที่เกิดจาก การสะสมพิษ ที่พอกพูนจากการไม่ได้เรียน รู้อาการ ที่แม้เป็นอาการ ๓๒ ที่เขาฟ้อง อยู่เสมอว่า ไม่สมดุลแล้ว แต่จิตก็ยังจะ กินเข้าไป ใส่เข้าไป เอาสารพิษเข้าไป จน อาการ ๓๒ จับตัวเป็นฆนะ เป็นก้อน จนเป็น มะเร็งในที่สุด อยากให้พ่อครูอธิบายคำ�ว่า อาการและรูปกาย นามกายอย่างช้าๆ และ ละเอียดครับ” พ่อครูวา่ …. “คำ�ว่าอาการ นัน้ ยิง่ ใหญ่ มากในภาษาธรรมะ คำ�ว่าอาการทุกคน เข้ า ใจว่ า อาการคื อ อะไร อาการคือ การ เคลื่อนไหว แม้แต่นิ่งอยู่ก็ยังเรียกว่า อาการ เลย แต่แท้จริงอาการที่เราจะรู้นี้คือ รู้ รูป นาม ต้องรู้ในธรรมะสอง ต้องมีสภาพสองอย่าง อย่างน้อยทีส่ ดุ ๑. สิ่งที่ถูกรู้ กับ ๒. ผู้รู้ ทั้งสองอย่างนี้เท่านั้น สิ่งที่ถูกรู้กับผู้รู้ แล้วไม่มีอะไรอีกเลยเคลื่อน ไปจากสองนี้ ไม่มีสาม ไม่มีอะไรเป็นภาวะ สาม มันก็จะมีธรรมะสองนี้อยู่เฉยๆ ก็เลยรู้ สิ่งที่มันอยู่นิ่งๆอยู่ ถ้าอันหนึ่งคือ ๐ อีกอันหนึ่งคือ ๑ ถ้า ๑ มันเป็นนามธรรมหรือปัญญาก็รู้ ๐ ถ้า ๐
ชื่อเดิม : มานพ รักษ์พงษ์อโศก อายุ : ๖๐ ปี การศึกษา : มัธยม สถานภาพ : สมรส (ไม่มีบุตร) ภูมลิ ำ�เนาเดิม : จ. ลำ�ปาง ชีวิตก่อนรู้จักชาวอโศก ? “ครอบครัวมีมารดา และพี่ชาย ๑ คน ครอบครัวค่อนข้างลำ�บาก บิดาเสียชีวติ ตัง้ แต่ ๖-๗ ขวบ ก็ได้รับการช่วยเหลือจากคุณตา คุณยาย ซึ่งมีฐานะดีระดับหนึ่ง ต่อมาคุณ ตาซึ่ ง เป็ น เสาหลั ก ของครอบครั ว เสี ย ชี วิ ต ทำ�ให้ตัวเราต้องออกจากบ้านไปอาศัยอยู่ กับญาติเพื่อเรียนหนังสือจนจบชั้นมัธยมต้น ต่อมาได้เรียนต่อที่วิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในช่วงเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ตนเอง
ปักษ์หลัง กรกฎาคม ๒๕๕๘ มันอยู่กับ ๐ ก็ไม่รู้อะไร เพราะ ๐ มันไม่ใช่ ธาตุรู้ ธาตุรู้นี่แหละ จะเป็นผู้รู้ธาตุ ๐ แต่ธาตุ ๐ มันเป็นตัวเป็น ธาตุรู้ คนที่อวิชชาจะถูกบงการด้วย อำ�นาจใหญ่บงการ คือกิเลสตัวสำ�คัญใน จิตวิญญาณ ตัวซาตานนี่แหละยิ่งใหญ่กว่า พระเจ้า เพราะมันแอบตีท้ายครัวเราตลอด เวลา พระเจ้าก็ไปช่วยคน แต่ว่าท้ายครัวถูก ตีเอาๆ ต้องหันกลับมาดูท้ายครัวตัวเองว่า เป็นอย่างไร ในธรรมะสอง พระไตรฯ ล.๑๖ ข.๖๐ ธรรมะสอง รวมลงไปในเวทนา เป็นหนึ่งใน เวทนา (เทฺว ธมฺมา ทฺวเยน เวทนาย เอกสโม สรณา ภวนฺติ ฯ ) ทำ�ให้เป็นเวทนาที่เป็นเอก ให้รวมลง สโมสรณา ให้จติ เราทีเ่ ป็นสองให้เป็นหนึง่ ให้ได้ เป็นเอกนี้ต้องรู้ว่าเป็นเอกที่ยิ่งใหญ่ เราต้อง รู้เวทนา ที่เป็นสองอย่างคือ มโนปวิจาร ๑๘ เวทนา ๑๘ คืออาการอย่างไร อาการ อย่างนี้คือ เคหสิตเวทนา… อาการอย่างนี้ กำ�ลังทำ�ออก ทำ�ออกจากเคหสิตะ ที่เป็น ปุถุชนโลกีย์ เริ่มแต่ปริตตัง กำ�หนดขอบเขต ตนเอง ถือศีลข้อเดียวเป็นต้น … เมื่อได้ ปริตตัง หรือบริบท ก็เรียกไป กรอบหนึ่ง ของเรา แล้วก็ปฏิบัติ ต้องอ่านอาการของ รูป อาการของนามเป็น พระพุทธเจ้าสอน ให้รู้ได้ด้วย อาการ ลิงค(เพศ) นิมิต อุเทส และสำ�คัญต้องได้ฟังผู้รู้ สัตบุรุษ เทศน์ให้ ฟัง บรรยายให้ฟัง อย่างสัมมาทิฏฐิ ถ้าไม่ สัมมาทิฏฐิไม่ใช่สัตบุรุษ เมื่อได้ฟังแล้วเราก็ จะปฏิบัติให้รู้ความต่างของอาการ อาการ อย่างนี้เรียกว่าภาวรูปของอิตถีภาวะ ต้อง
ทำ�ให้เป็นเอกบุรุษ ปุริสภาวะเป็นอย่างไร เป็นหนึ่งอย่างไรเราก็ต้องรู้… อาการของ กิเลสต้องอ่านออกว่า นี่คือโลภ นี่คือโกรธ นี่คือกาม นี่คือพยาบาท ต้องมีวิชชาอ่าน ออก อ่านกาม อ่านพยาบาทออก เมื่อจิต มันเกิดอาการ เรียกว่ารู้มิจฉาสังกัปปะ (กาม พยาบาท วิหิงสา) ตัววิหิงสาเป็นรายละเอียด ขั้นต้นทำ� กามกับพยาบาทออก ผู้อ่านไม่ออก ไปทำ� สังกัปปะ ๗ จะไปจัดการอภิสังขารไม่ได้ การปฏิบัติธรรมมรรคองค์ ๘ ต้องอ่านหรือ มนสิการขั้นสังกัปปะ ๗ ได้ด้วย จึงต้องมี ปัญญารู้ ว่านี่คือ อาการของนามธรรม คือ อาการกาม อาการอย่างนี้นะพยาบาท เมื่อ รู้อาการเราถึงจะกำ�จัดมันได้ไม่ใช่ว่าไปนั่ง สมาธิแล้วจดจ้องได้กสิณให้จติ หยุดๆๆ ดับเลย จะทำ�สังกัปปะ ๗ เป็นต้องปฏิบัติ สมาธิแบบพุทธ มีผัสสะทางทวาร ๖ กระทบ ปั๊บเกิดเวทนา เช่น มังคุดนี่ผิวสวย ไม่มีรู แมลงวันทองเจาะเลย สัมผัสแล้วเราก็ชอบ เลย เรียกว่าอิฏฐารมณ์ จิตวิญญาณก็ ชอบใจ ใคร่อยากเป็นกามแล้ว ไม่รู้ของใคร ไม่มีใครอยู่ก็ขโมยเลย แต่คนสุจริตดีอยาก ได้อยู่นะ ก็จะว่าขายไหมนี่ เอาเลยๆ เขา ให้ก็หยิบเอาไปกิน กิเลสก็อ้วนเลย คิดถึงตัว เองตลอด เราอยากเดินเราก็เดิน เราอยาก หยุดก็หยุด เราอยากบิดขีเ้ กียจเราก็บดิ กิเลส อ้วนตลอดทุกอาการกิริยาของมนุษย์ กิเลส มันยิง่ กว่า....พระพุทธเจ้าว่าคนทีเ่ กิดแล้วตาย นีไ่ ปนรก จะได้สวรรค์จริงๆเท่ากับดินที่ติดขี้เล็บ มา นอกนั้นดินในปฐพีไปนรกหมด ต้องตีกรอบว่า เอาแค่นก้ี อ่ นให้ท�ำ แค่ศีล
๕ ไล่ไป มีโมเดล ที่เราจะทดลองทำ� ปฏิบัติ แล้วได้ตัวอย่างไปเรื่อยๆ อย่างนี้เป็นต้น คำ�ว่า อาการนีแ่ หละเป็นตัวทีเ่ ราต้องเรียนรู้ จริงๆว่า อาการนีค้ อื กาม คือพยาบาทได้ไหม เธอพึงทราบความแม้นี้เพราะนามรูป เป็นปัจจัยจึงเกิดผัสสะ ปสาทรูป กับโคจรรูป มาเกี่ยวข้องกระทบกัน เป็นปฏิฆสัมผัสโส ก็ มีสภาพ เกิดการสัมผัสโดยการกระทบก็เกิด วิญญาณ นามรูป ตัวถูกรู้คือรูป ตัวรู้คือนาม เราก็ไม่รู้อาการเลย ดูกรอานนท์การบัญญัตนิ ามกาย ทีจ่ ะอ่าน ว่าองค์ประชุมของผี หรือกิเลสมันจะเกิดใช่ ไหม อ๋ออาการอย่างนี้กิเลสนะ แต่เราอ่าน อาการไม่เป็น ในนามกาย ต้องรูไ้ ด้ดว้ ยอาการ ลิงค(เพศ) นิมิต อุเทส ต้องอ่านตัวนี้ให้ออก อ่านอาการแล้วมันจะต่างกันกับอาการตัวอืน่ เรียกว่าลิงคหรือเพศ และต้องพร้อมด้วยนิมติ กำ�หนดอาการนี้ว่าใช่แล้ว เรียนมา เครื่องหมายมันตรงกับที่เราเรียนมา หมาย ถูกตรงเลย เพราะได้เรียนมาก็อ่านอาการ ออก ถูกต้องจริงก็จะจำ�ไว้ แล้วทีหลังต่อ ไปทำ�อีก ต่อๆไปหลายครั้งขึ้น คุณกำ�หนด อีกก็จะแม่นขึ้น พ้นวิจิกิจฉาไปเรื่อยๆ การ บัญญัตนิ ามกาย ต้องพร้อมด้วยอาการ ลิงค นิมิต อุเทส เมือ่ อาการ เพศ นิมติ อุเทส นัน้ ไม่มี การ สัมผัสแต่เพียงชื่อในรูปกายจะมีอยู่ไหม?… ก็เมื่อไม่รู้มาแต่ต้นจะกำ�หนดอธิวจน สัมผัสโสไม่ได้ ต้องได้ฟังคำ�จากสัตบุรุษแล้ว กำ�หนดรู้เอาชื่อนี้ไปใส่ การที่จะบัญญัติรูปกาย เมื่อไม่รู้อาการ เพศ นิมิต อุเทส ก็ไม่สามารถบัญญัติได้…”
มีความสนใจในเรื่องการเมือง และเป็นตัว หลักในการต่อสู้เพื่อชาวนา เมื่อมีการปราบ ปรามนักศึกษา ทำ�ให้ต้องหนีเข้าไปอยู่ใน ป่าที่จ.แม่ฮ่องสอน แต่อยู่ไม่นานก็พบว่า เป็นสังคมที่ไม่ใช่ดั่งที่คิดไว้ จึงออกจากป่า ไปทำ�อาชีพดำ�แร่ที่จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นอาชีพที่ เสี่ยงมากๆแต่รายได้ดี ตอนนั้นใช้ชีวิตแบบ สำ�มะเลเทเมาอยูช่ ว่ งหนึง่ และก็ได้มาทบทวน ตนเองว่าชีวิตแบบนี้ไม่มีค่า จึงต้องการบวช เพื่อทำ�ให้จิตใจตนเองสงบ และได้ทดแทน บุญคุณบิดามารดา รูจ้ กั อโศกได้อย่างไร และหลังรูจ้ กั แล้ว ชีวติ เปลีย่ นไปอย่างไร ? รู้จักชาวอโศกเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๒๕ ขณะ นั้นอายุ ๒๘ ปี ได้บวชเป็นพระที่จ.ลำ�ปาง แต่ก็พบว่าพระมีแต่พิธีกรรม บางรูปก็แย่ง กิจนิมนต์กนั ขณะกำ�ลังบิณฑบาตมีคนบอกว่า มีพระบ้าอยู่ในป่าช้า จึงได้ไปพูดคุย ก็ได้ เห็นข้อวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัด ไม่ฉันเนื้อสัตว์ ไม่ใส่รองเท้า ก่อนกลับท่านได้มอบหนังสือ แสงสูญ เราเอามาอ่านคืนเดียวจบทั้งเล่ม อ่านจบก็รู้สึกศรัทธามาก เริ่มทานมังสวิรัติ ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบันและเช้าวันรุ่งขึ้น จึ ง ขออุ ปั ช ฌาย์ ม าอาศั ย อยู่ กั บ พระรู ป นี้ เพื่อศึกษาตลอดพรรษา เมื่อออกพรรษา
พระรูปนี้ท่านพาเดินจาริกจาก จ.ลำ�ปาง มาสันติอโศก ทำ�ให้ได้รู้จักชาวอโศก หลัง จากลาสิกขาจากพระผ้าเหลือง ก็มาช่วย งานที่ชมร.จตุจักรในยุคของคุณพรพิชัย อยู่ ไม่ น านก็ เ ลื ่ อนฐานะจนถึ งเณร แต่เกิด มี ค วามสงสั ย บางเรื่ อ งจึ ง ขอหยุ ด ออกไป ศึกษาธรรมะกับหลวงพ่อดวงดี ไม่นานก็ กลับมาสมัครบวชในหมู่กลุ่มชาวอโศกอีก ครั้ง ได้ฉายา มนุสโก ซึ่งช่วงนั้นก็พอดีกับ มีคดีสันติอโศก ซึ่งเราเองในอดีตก็เป็นหนึ่ง ในแกนนำ�นักศึกษา ยังมีชื่ออยู่ในบัญชีของ ตำ�รวจ จึงตัดสินใจสู้คดีให้จบก่อนจนถึง ศาลฎีกา แต่ด้วยความเป็นห่วงว่าถ้าแพ้คดี ต้องเข้าคุกอาจทำ�ให้ผา้ กาสาวพัสตร์มวั หมอง ไปด้วย จึงตัดสินใจลาสิกขาก่อนจะมีค�ำ ตัดสิน ของศาลฎีกา เมือ่ เป็นฆราวาสก็ยงั คงช่วยงานส่วนกลาง ที่ชมร.เชียงใหม่อยู่หลายปีและเป็นผู้รับใช้ ก็ได้พบแม่บ้านคือคุณตู่ (ใบอโศก) จึงทำ�ทัง้ ธุรกิจส่วนตัวและช่วยงานที่ชมร.เชียงใหม่ จนกระทั่งมีนโยบาย “ไร้สารพิษ สุจริต แท้” ของพืชไร่เมื่อประมาณปี ๒๕๕๗ เรา เองก็มีความถนัดเรื่องพืชไร่ ก็คิดว่าน่าจะ ช่วยส่วนกลางในเรื่องจัดหาวัตถุดิบได้ จึง ขอเป็นจิตอาสาเข้ามาช่วยงานด้านนี้ รวม
ถึ ง มี ค วามตั้ ง ใจอยากจะเห็ น ระบบการค้ า แบบบุญนิยม ๔ ระดับเป็นรูปธรรม ชัดเจน และต่อเนื่องที่ชมร.เชียงใหม่ ในวันที่ ๑ ธ.ค. ๒๕๕๗ จึงมาช่วยแผนกเท่าทุน คือ จำ�หน่ายข้าวสารไร้สารพิษ ทุกชนิดในราคา เท่าทุน และส่งเสริมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย คือ หากท่านใดที่มาซื้อข้าวแล้วนำ�ถุงผ้ามา เองจะจำ�หน่ายข้าวสารในราคาต่ำ�กว่าทุน อีก ๕% และในบางโอกาสก็มีตลาดอาริยะ จำ�หน่ายสินค้าที่จำ�เป็น เช่น น้ำ�มันในราคา ต่ำ�กว่าทุน การปฏิบัติธรรมของตนเองหรือมีวิธี การฝึกฝนตนเองอย่างไร ? ทุกวันนีก้ ใ็ ช้ชวี ติ แบบเรียบง่ายและทำ�งาน เสียสละตามความรู้ความสามารถเท่าที่มี” อยากจะฝากแง่คิดอะไรถึงเพื่อนนัก ปฏิบตั ธิ รรม ? “อยู่ให้ใจเป็นสุข ถูกผิดไม่ใช่เรื่องจีรัง”.
ฉบับที่ ๔๖๐ (๔๘๒)
ข่าวอโศก
ชาวบุญฯร่วมงานครบรอบ ๒๒๓ ปี อุบลฯ (ต่อจากหน้า๑) ปีชวดเดือน ๘ วันจันทร์ แรม ๑๓ ค่ำ� พ.ศ. ๒๓๓๕ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงมีพระบรม ราชโองการแต่งตั้ง พระปทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำ�ผง) เป็นเจ้าเมืองคนแรก ครองเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัย ประเทศราช ซึ่งคือจังหวัดอุบลราชธานีนั่นเอง วันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เป็นวันครบรอบ ๒๒๓ ปี ของการตั้งเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัย พระครูวิลาสกิจจาทร เจ้าอาวาสรูปที่ ๑๑ ของวัดหลวง ซึ่งเป็นวัดแรกที่พระปทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำ�ผง) ได้มี ดำ�ริให้สร้างเป็นวัดคู่เมือง ได้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ซึ่งได้ รับความร่วมมือจากหลายๆหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชนจังหวัดอุบลราชธานี เข้ามาร่วมเฉลิมฉลองใน ครั้งนี้อย่างอบอุ่น อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงาน ในสังกัด, ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๒๒, ผู้บังคับการ ตำ�รวจภูธร, สนง.พุทธศาสนาจังหวัด, กลุ่มประชาชนทั่วไป และที่สำ�คัญคือ เกษตรจังหวัดและพี่น้องจากหมู่บ้านชุมชน ราชธานีอโศก ซึ่งได้มาจัดนิทรรศการวันเปิด “เกษตรอินทรีย์ วิถีเศรษฐกิจพอเพียง” ในวันครบรอบ ๒๒๓ ปี ของเมือง อุบลราชธานีในครั้งนี้ กิจกรรมของงาน เช้า..เริ่มจากการใส่บาตร จากผู้มาร่วมงานแก่พระภิกษุ ๒๒๓ รูป การปล่อยปลาตะเพียน, ปลาสวาย จากแกนนำ�ที่มา ร่วมงาน ๒๒๓,๐๐๐ ตัว ๐๙.๐๐ น. ท่านประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัด เปิดงาน และทำ�พิธบี วงสรวงพญานาค ซึง่ ได้รบั การสนับสนุน
พระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา
จากททท.จังหวัดอุบลราชธานีให้เป็นสัญลักษณ์คู่วั ด หลวง ริมฝั่งแม่น้ำ�มูน ต่อด้วยการปลูกต้นไม้หลักของเมืองอุบล โดยใช้ปุ๋ย อินทรีย์จากราชธานีอโศก ๑๐.๐๐น. ทำ�พิธีบวงสรวง กล่าวคำ�สดุดี วางพวงมาลา ถวายแด่พระปทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำ�ผง) โดยท่านพลตรี นิรุท เกตุศิริ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๒๒ ตามด้วยพิธีทางศาสนา นำ�โดยพระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา กรรมการมหาเถรสมาคม ซึ่งท่าน เป็นลูกหลานเมืองอุบลโดยตรง นำ�สวดมนต์เฉลิมฉลอง ก่อนฉันเพล ผู้มาร่วมงานชมนิทรรศการ “การเกษตรอินทรีย์ วิถี เศรษฐกิจพอเพียง” จากผูท้ �ำ สวนอุทยาน ๔ ภาค (อาธงชนะ), สวนไม้ผลพันปี (อาไม้ผล), สวนไวพลัง (พ่อสมพงษ์) และ หลายๆท่าน จากเกษตรจังหวัด, หน่วยงานทหาร ทั้งสาธิต แจกพันธุ์ไม้ แจกปุ๋ยอินทรีย์ นำ�เสนอผลผลิต เปิดโรงบุญ อาหารมังสวิรัติ ผักไร้สารพิษ อาหารท้องถิ่น เครื่องดื่มฟรี ตลอดงาน
พระครูวิลาสกิจจาทร เจ้าอาวาสวัดหลวง
5
ต่อไปนี้เป็นความรู้สึกของผู้ร่วมจัดงานนี้ ท่านพลตรีนริ ทุ เกตุศริ ิ ผูบ้ ญ ั ชาการมณฑลทหารบก ที๒่ ๒ “ท่านนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำ�การกตัญญูกตเวทีต่อผู้มี พระคุณ วันนี้เราสืบสานวัฒนธรรมต่อบรรพชนผู้มีพระคุณ และจุดประกายวิถีชุมชนเกษตรอินทรีย์ เศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งได้รับการขานรับจากท่านผู้ว่าฯ,ท่านรองฯและหน่วยงาน เกษตรจังหวัด อย่างน่าพอใจ ส่วนหน่วยงานทหารของเรา มีศูนย์เรียนรู้ทางการเกษตรฯอย่างต่อเนื่อง ยินดีหากพี่น้อง ประชาชนสนใจจะเข้าไปเรียนรู้ครับ” ท่านสุรพันธ์ ดิสสะมาน รองผูว้ า่ ฯ ”จังหวัดเราเป็นเมือง นักปราชญ์ เมืองพุทธศาสนา ชายแดนติดลาว, กัมพูชา เรายังยืนยันให้ความสำ�คัญต่อดิน น้ำ� พืช กสิกรรมหลัก ทางเศรษฐกิจ มีข้าวหอมมะลิ ๑๐๕ เป็นหลัก วันนี้ก็มี ตัวอย่างจำ�หน่าย ตามด้วยมันสำ�ปะหลัง อ้อย ยางพารา การเกษตรแนวอุตสาหกรรมใช้ไม่ได้กบั บ้านเรา ประชากรเรา ๑,๘๐๐,๐๐๐ ๒๕อำ�เภอ ๑๗๕ตำ�บล อย่างน้อย๕๐% ใช้ ปุ๋ยอินทรีย์ การคมนาคมสะดวก ของเกษตรจังหวัดเรามี ศูนย์เรียนรู้จากหลายกลุ่ม และที่ราชธานีอโศก” พระครูวิลาสกิจจาทร เจ้าอาวาส “วัดหลวงมีความ ยินดีที่หลายหน่วยงานหลักมาเชื่อมวันนี้” ผู้ร่วมจัดงานทั้ง๓ท่านได้แสดงความขอบคุณราชธานี อโศก ที่เอื้อเฟื้อปุ๋ย ๒๕ ตัน ๑,๐๐๐ กระสอบ มาแจก ประชาชน ให้ความรู้ด้านการเกษตรและโรงบุญอาหาร มังสวิรัติฟรี ๑๖.๐๐ น. โดยประมาณ ท่านเจ้าอาวาสวัดหลวง มาให้ พรและอนุโมทนาแก่กลุม่ นิสติ วนบ. และชาวชุมชนบ้านราชฯ ก่อนเดินทางกลับได้สง่ มอบเครือ่ งดืม่ กับโรงบุญ ให้บริการพีน่ อ้ ง ถึงช่วงค่ำ�ต่อจนจบงาน.
6
งานภราดรภาพซาบซึ้งใจ ปี ๒๕๕๘
ปักษ์หลัง กรกฎาคม ๒๕๕๘
(ต่อจากหน้า ๑)
รำ�ลึก ๒๕ ปี ธรรมชาติอโศก บูชา ดิน น้ำ� ลม ไฟ พระพิรุณงดเว้นฝนให้ ๒ วัน งานภราดรภาพซาบซึง้ ใจ เป็นงานประจำ�ปีของชาวอโศก ทางภาคใต้ที่จะหมุนเวียนกันจัดงานเป็นปีๆไป ระหว่างที่ ทะเลธรรม ที่ชเลขวัญและที่ธรรมชาติอโศก ซึ่งปีนี้ก็เป็น วาระทีจ่ ะจัดงานภราดรภาพซาบซึง้ ใจ ทีส่ วนธรรมชาติอโศก ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ในระหว่างวันที่ ๑๗-๑๙ ก.ค. ๒๕๕๘ ซึ่งก็เป็นปีที่ครบรอบ ๒๕ ปีธรรมชาติอโศกพอดี วันที่ ๑๗ ก.ค. ๒๕๕๘ พ่อครูและปัจฉาสมณะเดินทาง ถึงโรงปุ๋ยควรธรรม อ.หลังสวน จ.ชุมพร ในเวลา ๐๘.๕๓ น. และพ่อครูได้เทศนาก่อนฉัน ในเวลา ๐๙.๐๐-๑๐.๐๐ น. หลังเทศน์ก่อนฉัน พ่อครูเดินชมตลาดอาริยะ ที่ได้เปิดขาย สินค้าราคาบุญนิยมให้แก่ประชาชน ตั้งแต่ ๐๘.๓๐ น. มี ประชาชนให้ความสนใจซื้อหาสินค้าเป็นจำ�นวนมาก เป็น ที่น่าอัศจรรย์ที่ประชาชนยังสนใจมาซื้อหาสินค้าจำ�เป็นต่อ ชีวิตในราคาบุญนิยมมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ๑๖.๓๐น. พ่อครูเดินทางถึงสวนธรรมชาติอโศก ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ที่ห่างจากโรงปุ๋ยควรธรรมไปประมาณ ๑๐๐ กม. ทีม่ บี รรยากาศเป็นเขตป่าดิบชืน้ มีตน้ ไม้ใหญ่เขียว
ครึ้มตลอดทาง เมื่อพ่อครูมาถึงแล้วก็ได้เดินไปเยี่ยมชมสวน ธรรมชาติอโศก ที่มีพื้นที่ทั้งหมดกว่า ๒๐๐ ไร่ มีพื้นที่ราบที่ เป็น นส.๓ อยู่ไม่มาก นอกนั้นเป็นพื้นที่ป่าเขา ที่เป็นพื้นที่ อนุรกั ษ์ ทีช่ าวอโศกทีเ่ ป็นเจ้าของพืน้ ทีร่ าบเชิงเขา มีสทิ ธิดแู ล ๑๘.๓๐ น. พ่อครูได้จัดรายการเอื้อไออุ่นชาวธรรมชาติ อโศกและผู้ร่วมงานที่ศาลาเชิญเพื่อน (ศาลาฉัน) โดยพ่อครู มาสนทนาด้วยประมาณ ๓๐ นาที จากนั้น จึงให้ท่านสมณะ เดินดิน ดำ�เนินรายการเอือ้ ไออุน่ ชาวธรรมชาติโศกต่อไปแทน เพื่อจะได้ให้พ่อครูได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ วันที่ ๑๘ ก.ค. ๒๕๕๘ ๐๗.๐๐ น. พ่อครูน�ำ หมูส่ มณะและสิกขมาตุออกบิณฑบาต มีญาติธรรมรวมทั้งเด็กนร.สัมมาสิกขาปฐมอโศกทั้งหมด โรงเรียน ทีม่ าเรียนบูรณาการพร้อมกับมาช่วยเตรียมงานด้วย มารอใส่บาตร ท่ามกลางบรรยากาศขุนเขา ป่าไม้ สายหมอก อันงดงาม ๐๘.๓๐-๑๑.๓๐ น. พ่อครูเทศน์กอ่ นฉัน ทีศ่ าลาเชิญเพือ่ น หลังจากพ่อครูแสดงธรรมจบ ท่านได้เดินไปชมบริเวณที่เปิด โรงบุญหน้าศาลาเชิญเพื่อน มีญาติธรรมหลายท่านมาเปิด โรงบุญมังสวิรตั ทิ ง้ั จากชเลขวัญ กลุม่ แพทย์วถิ ธี รรมด้วย
พิธีบูชา ดิน น้ำ� ลม ไฟ วัฒนธรรมสำ�คัญที่ต้องปฏิบัติทุกครั้งในการมาเยือน ธรรมชาติอโศกคือการประกอบยัญพิธีบูชา ดิน น้ำ� ลม ไฟ เวลา ๑๖.๓๐ น.พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ ท่านสมณะ พระ อาคันตุกะ ท่านสิกขมาตุ ได้นำ�พาญาติธรรมและนักเรียน สัมมาสิกขา มาประกอบยัญพิธีบูชา ดิน น้ำ� ลม ไฟ ที่ บริเวณหน้าศาลาพระพุทธาภิธรรมนิมิต พ่อครูได้เทศนาธรรมก่อน จากนั้นจึงได้พากล่าวคำ� บูชา ดิน น้ำ� ลม ไฟ แล้วพ่อครูก็เทศนาธรรมต่อ ท่ามกลาง ป่าเขา ท่ามกลางดิน น้ำ� ลม ไฟ เป็นธรรมะที่มีความรื่นเริง ในธรรม มีธรรมรส จนถึง ๑๘.๓๐ น. เป็นอันจบยัญพิธีบูชา ดิน น้ำ� ลม ไฟ ซึ่งเป็นยัญพิธีที่มีผลต่อจิตวิญญาณของผู้ ที่มาร่วมงานทุกคนเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อ สิ่งที่ก่อกำ�เนิด ให้รู้ถึงคุณค่าของดิน น้ำ� ลม ไฟ รู้คุณค่าของ ธรรมชาติ รู้คุณค่าของธรรมะที่อยู่เหนือธรรมชาติ ซึ่งเป็น ความมหัศจรรย์ทางจิตวิญญาณของดิน น้ำ� ลม ไฟ และ ธรรมชาติที่อยู่ร่วมกัน เกื้อกูลซึ่งกันและกัน วันที่ ๑๙ ก.ค. ๒๕๕๘ ๐๗.๐๐ น. เช้าวันที่ ๒ ของการมาเยือนธรรมชาติอโศก
ฉบับที่ ๔๖๐ (๔๘๒)
ธรรมชาติยังเอื้ออำ�นวย อากาศสดใส สดชื่น เย็นฉ่ำ� ท่ามกลางขุนเขา พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ ท่านสมณะ พระ อาคันตุกะ ท่านสิกขมาตุได้ออกบิณฑบาต มีญาติธรรมและ นักเรียนสัมมาสิกขาปฐมอโศกมารอใส่บาตรเป็นแถวกัน ยาวเหยียด ๐๘.๓๐ น. รายการสุดท้ายสำ�หรับงานภราดรภาพ ซาบซึง้ ใจในวันนี้ เป็นรายการวิถอี าริยธรรมภาคพิเศษสัญจร ท่านสมณะเดินดิน ติกขวีโรและท่านสมณะแสนดิน ภูมพิ ทุ โธ ดำ�เนินรายการแทนพ่อครู ได้สมั ภาษณ์คณ ุ ณรงค์และคุณอมร เวลา ๙.๕๐ น.พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ได้มาแสดงธรรม โปรดลู ก ๆหลานๆในการดู แ ลสุ ข ภาพที่ ต้ อ งเริ่ ม จากจิ ต วิญญาณเป็นประธานสิ่งทั้งปวง โรคภัยไข้เจ็บ ทุกข์จากการ เจ็บป่วยเป็นสิ่งที่ทั้งร่างกายและจิตใจของเราร่วมดูแลกันอยู่ แล้ว อยู่ที่พวกเราต้องประมาณ พยายามดูแลตัวเองให้ดี รู้ เท่าทันจิตจับอาการให้ได้ สิ้นเสียงสาธุการจากผู้ที่มาฟังธรรมในศาลาเชิญเพื่อน เป็นสัญญาณสิ้นสุด จบงานภราดรภาพซาบซึ้งใจ ในเวลา ๑๐.๔๕ น. พระพิรุณได้โปรยปรายลงมาอย่างหนัก ทั้งที่ ก่อนที่จะเริ่มจัดงานฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ผู้จัดเองยัง
ข่าวอโศก
เกรงว่าจะเป็นอุปสรรคในการจัดงาน แต่พ่อครูมาถึง เริ่ม งานภราดรภาพซาบซึ้งใจ พระพิรุณได้พักยกหยุดตก ๒ วัน ทำ�ให้งานเป็นไปอย่างราบรื่น ต้องขอบคุณธรรมชาติ ดิน น้ำ� ลม ไฟ ที่เอื้อความสมดุลทางธรรมชาติให้งานสำ�เร็จลุล่วงไป อย่างงดงาม ความรู้สึกของผู้มาร่วมงาน คุณณรงค์และคุณมงคล จันทร์ทรง ได้เล่าว่า “พืน้ ทีป่ า่ เขา รอบๆสวนธรรมชาติอโศก ตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อ ก่อนมากเพราะว่าวัฒนธรรมของคนเมืองได้เข้ามาครอบงำ� วัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวใต้ เป็นหายนธรรม ที่ทำ�ให้คนมุ่ง ไปรวย เอาเงินเป็นใหญ่ ทำ�ให้เกิดการตัดไม้ทำ�ลายป่า เพื่อ นำ�พืน้ ทีม่ าปลูกต้นปาล์ม ทีแ่ ต่กอ่ นได้ราคาดีมาก ซึง่ เมือ่ ปลูก แล้ว จะทำ�ให้พน้ื ป่าต้นน้�ำ ทีเ่ กิดความแห้งแล้ง กว่าเดิมอย่างมาก ต่อมาปาล์มราคาตกลงมาก ทำ�ให้ชาวบ้านเป็นหนี้สิน ล้นพ้นตัว พ่อครูให้แง่คดิ ว่าวัฒนธรรมเมืองก็คอื หนีส้ นิ นัน่ เอง เมืองคือหนี้ แม้ว่าพื้นที่รอบๆจะแห้งแล้งขึ้น แต่ที่สวน ธรรมชาติอโศกแห่งนี้ ยังคงความเป็นป่าไว้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งเราก็ได้ปลูกต้นไม้เสริมเข้าไปอีกด้วย มีต้นไม้ใหญ่ๆอยู่ มากมาย คุณณรงค์ว่า อาจเป็นผืนป่าที่มีต้นไม้ใหญ่สมบูรณ์
7
เป็นแหล่งสุดท้ายก็เป็นได้ ประทับใจที่พ่อครูได้พาทำ�พิธีบูชา ดิน น้ำ� ลม ไฟ อย่างมีสัมมาทิฐิ และดิน น้ำ� ลม ไฟ ก็เหมือนรับรู้ไปด้วย ฝนหยุดตกในเวลา ๒ วันที่จัดงาน ทั้งที่ก่อนและหลังพิธี ฝน ตกลงมาอย่างหนัก ซึ่งก็เป็นเรื่องอจินไตย ทุกอย่างมาแต่ เหตุ ไม่มีสิ่งบังเอิญในโลกนี้ พ่อครูได้สอนให้ชาวอโศกอยูร่ ว่ มกับธรรมชาติอย่างสร้าง ธรรมชาติ ทั้งภูเขา ป่าไม้ ลำ�ธาร น้ำ�ตก และสิ่งแวดล้อม ที่ดีอันจะเป็นเสนาสนสัปปายะให้บุคคล คือชาวอโศก และกัลยาณมิตรได้อาศัยเสนาสนะเหล่านี้ ฝึกฝนจิตใจให้ อยู่เหนือธรรมชาติทเ่ี ป็นความโลภ โกรธ หลง ได้อย่างเทีย่ ง แท้ยั่งยืน หยุดกอบโกยเอาเปรียบธรรมชาติได้ตลอดกาล แล้วธรรมชาติซ่งึ มีพลังงานอุตุและพีชะก็จะสังเคราะห์ตัวเอง สร้างตนเองให้คนและโลกได้อาศัยใช้สอย อย่างเกื้อกูลกัน และกัน ปราศจากโทษภัยต่อกันและกันอย่างยั่งยืน อย่างที่ ธรรมชาติอโศกได้ปรากฏให้เห็นและเป็นอยู่อย่างดี ยั่งยืน มั่นคง มาจนถึงบัดนี้เป็นเวลาถึง ๒๕ ปี ธรรมชาติอโศก” น้ำ� ไฟ ลม ที่เอื้อความสมดุลย์ทางธรรมชาติให้งาน สำ�เร็จลุล่วงไปอย่างงดงาม.
8
ปักษ์หลัง กรกฎาคม ๒๕๕๘
สมณะ สิกขมาตุจำ�พรรษา ปี๒๕๕๘ สมณะจำ�พรรษา
๑๒. สมณะดินทน ธีรภัทโธ
๑. สมณะสมณะพิสุทธิ์ พิสุทโธ ๒. สมณะเลื่อนลิ่ว อรณชีโว ๓. สมณะน่านฟ้า สุขฌาโน ๔. สมณะเมืองแก้ว ติสสวโร ๕. สมณะกอบชัย ธัมมาวุโธ ๖. สมณะขยะขยัน สรณีโย ๗. สมณะชนะผี ชิตมาโร ๘. สมณะเพาะพุทธ จันทเสฏโฐ ๙. สมณะซาบซึ้ง สิริเตโช ๑๐. สมณะเบิกบาน ธัมมนิยโม ๑๑. สมณะคมลึก เมตตจิตโต ๑๒. สมณะกล้าจริง ตถภาโว ๑๓. สมณะลานบุญ วชิโร ๑๔. สมณะดงเย็น สีติภูโต ๑๕. สมณะชัดแจ้ง วิจักขโณ ๑๖. สมณะลั่นผา สุชาติโก ๑๗. สมณะธรรมทาบฟ้า รวิวัณโณ ๑๘. สมณะแด่ธรรม ธัมมรักขิโต ๑๙. สมณะขยันยอม วิริยธโร ๒๐. สมณะแม่นใจมั่น จิตตถาวโร
๑. สมณะถ่องแท้ วินยธโร ๒. สมณะดวงดี ฐิตปุญโญ ๓. สมณะผองไท รตนปุญโญ ๔. สมณะพอจริง สัจจาสโภ ๕. สมณะสอน โสปาโก
พุทธสถานสันติอโศก ๒๐ รูป
พุทธสถานปฐมอโศก ๑๓ รูป ๑. สมณะกรรมกร กุสโล ๒. สมณะเสียงศีล ชาตวโร ๓. สมณะฝุ่นฟ้า อัคคชโย ๔. สมณะนาทอง สิงคีวัณโณ ๕. สมณะดาวดิน ปฐวัตโต ๖. สมณะบินก้าว อิทธิภาโว ๗. สมณะตรงมั่น อุชุจาโร ๘. สมณะวิเชียร วิชโย ๙. สมณะพันเมือง ภทันโต ๑๐. สมณะเมฆฟ้า นภมังคโล ๑๑. สมณะธาตบุญ ธาตุปุญโญ
พุทธสถานศีรษะอโศก ๕ รูป
พุทธสถานศาลีอโศก ๔ รูป ๑. สมณะลือคม ธัมมกิตติโก ๒. สมณะเน้นแก่น พลานีโก ๓. สมณะเลื่อนฟ้า สัจจเปโม ๔. สมณะจนแจ้ง อัสสกจาโร
พุทธสถานสีมาอโศก ๕ รูป ๑. สมณะสร้างไท ปณีโต ๒. สมณะฝนธรรม พุทธกุโล ๓. สมณะดินทอง นครวโร ๔. สมณะชุบดิน วิชชานันโต ๕. สมณะสยาม สัจจญาโณ
พุทธสถานภูผาฟ้าน้ำ� ๙ รูป ๑. สมณะผืนฟ้า อนุตตโร ๒. สมณะกล้าดี เตชพหุชโน ๓. สมณะร่มเมือง ยุทธวโร ๔. สมณะโพธิสิทธิ์ โพธิสิทโธ ๕. สมณะฟ้ารู้ นโภคโต ๖. สมณะค้ำ�ดิน ภูมิปูรโณ ๗. สมณะคมเย็น ถามวโร ๘. สมณะถักร้อย ธัมมธโร ๙. สมณะสู่บุญ ปุญญคโต ๑๐. สามเณรพ้นพิษ สิ้นป่าโลกีย์
พุทธสถานราชธานีอโศก ๓๒ รูป ๑. พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ โพธิรักขิโต ๒. สมณะเดินดิน ติกขวีโร ๓. สมณะบินบน ถิรจิตโต ๔. สมณะเด็ดขาด จิตตสันโต
๕. สมณะพอแล้ว สมาหิโต ๖. สมณะแน่วแน่ สีลวัณโณ ๗. สมณะแดนเดิม พรหมจริโย ๘. สมณะคิดถูก ทิฏฐุชุกัมโม ๙. สมณะฟ้าไท สมชาติโก ๑๐. สมณะเด่นตะวัน นรวีโร ๑๑. สมณะสมชาย ตันติปาโล ๑๒. สมณะคมคิด ทันตภาโว ๑๓. สมณะแก่นเกล้า สารกโร ๑๔. สมณะคำ�จริง วจีคุตโต ๑๕. สมณะถนอมคูณ คุณกิตตโณ ๑๖. สมณะแก่นผา สารุปโป ๑๗. สมณะดินไท ธานิโย ๑๘. สมณะหินกลั่น ปาสาณเลโข ๑๙. สมณะมือมั่น ปูรณกโร ๒๐. สมณะหนักแน่น ขันติพโล ๒๑. สมณะข้าฟ้า ฐานรโต ๒๒. สมณะหินมั่น สีลาปากาโร ๒๓. สมณะแก่นหล้า วัฑฒโน ๒๔. สมณะถักบุญ อาจิตปุญโญ ๒๕. สมณะใต้ดาว เหฏฐานักขัตโต ๒๖. สมณะขุนศึก อโยมโน ๒๗. สมณะด่วนดี สุชีโว ๒๘. สมณะฮังดิน ภูมิคโต ๒๙. สมณะเพียงพอ สันตุฏฐิธัมโม ๓๐. สมณะหินจริง วีรปาสาโณ ๓๑. สมณะแสนดิน ภูมิพุทโธ ๓๒. สมณะอ้วน อภิมันโต ๓๓. สามเณรอุดม อาสาสะนา
สังฆสถานทะเลธรรม ๔ รูป ๑. สมณะดินดี สันติจิตโต ๒. สมณะนึกนบ ฉันทโส ๓. สมณะเทินธรรม จิรัสโส ๔. สมณะนาไท อิสสรชโน
สิกขมาตุจำ�พรรษา
พุทธสถานสันติอโศก ๘ รูป
๑. สิกขมาตุสัจฉิกตา ตั้งเผ่า ๒. สิกขมาตุหยาดพลี อโศกตระกูล ๓. สิกขมาตุบุญจริง พุทธพงษ์อโศก ๔. สิกขมาตุฝนเย็น อโศกตระกูล ๕. สิกขมาตุพุทธพอนวล ชาวหินฟ้า ๖. สิกขมาตุมาลินี โภคาพันธ์ ๗. สิกขมาตุใจขวัญ เบญจโศภิษฐ์ ๘. สิกขมาตุเทียนคำ�เพชร อโศกตระกูล
พุทธสถานปฐมอโศก ๖ รูป
๑. สิกขมาตุบุญแท้ ปลาทอง ๒. สิกขมาตุต้นข้าว อโศกตระกูล ๓. สิกขมาตุพูนเพียร ชาวหินฟ้า ๔. สิกขมาตุมนทิพย์ เรืองศรี ๕. สิกขมาตุทองพราย ชาวหินฟ้า ๖. สิกขมาตุเป็นหญิง อโศกตระกูล
พุทธสถานราชธานีอโศก ๘ รูป
๑. สิกขมาตุอ่านตน อโศกตระกูล ๒. สิกขมาตุรินฟ้า นิยมพุทธ ๓. สิกขมาตุกล้าข้ามฝัน อโศกตระกูล ๔. สิกขมาตุสร้างฝันใหม่ อโศกตระกูล ๕. สิกขมาตุผาแก้ว ชาวหินฟ้า ๖. สิกขมาตุแสงฝน อโศกตระกูล ๗. สิกขมาตุตรงธรรม ลีฬหรัตนรักษ์ ๘. สิกขมาตุศิริพร วิภาษา
ฉบับที่ ๔๖๐ (๔๘๒)
ข่าวอโศก
9
กรณีศึกษาการล้างพิษตับ กับมงคลตื่นข่าว
โดย กองงานปัจ ฉาสมณะ
อ ค รู ว่ า ...วั น นี้ วั น เ ส า ร์ ที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๘ แรม ๒ ค่ ำ � เดื อน ๘ ปีม ะแม มีจดหมายฉบับหนึ่งเขียนมาว่า ฝากเรียน ถามสมณะด้วยค่ะ น่าสงสารปฐมอโศก สมณะใส่ใจเรื่อง สุขภาพมาก แต่ไม่ใส่ใจในประเพณีเดิมของ การเข้าพรรษา การตั้งตบะธรรมที่เคยมี เงียบหาย ไม่มีใครให้คำ�ตอบได้ว่า ทำ�ไม ไม่ทำ�เหมือนทุกปี คุณอยากทำ�คุณก็ตดิ ต่อ ประสานเองอาตมาไม่ได้คยุ กันเรือ่ งนี้ อาตมา ไม่ทราบ ถามองค์โน้นถามองค์นี้ เงียบ สุขภาพมาแรง กลบความนิยมในการตั้งตบะ ธรรม จะฟ้องใครดี ทำ�ไมมันเป็นเช่นนี้ จะ จั ด สรรสุ ข ภาพกั บ ประเพณีใ ห้ไ ปพร้อ มกัน หรื อ ว่ า เป็ น หน้ า ที่ ญ าติ โ ยมจะต้ อ งมาเป็ น หลักในเรื่องนี้ เคีย่ วเข็ญให้คนไปเกาะสมุย ถ้าคุณไม่ไป คุณไม่ต้อง........อาตมาจะไม่ช่วยเหลือคุณ เอาการไปเกาะสมุ ย มาเป็ น สิ่ ง สำ � คั ญ ที่สุด ของชีวิต นักปฏิบัติธรรมเชื่อเขาไปหมด เขา เก่ง เขามีของเก่า เขาทำ�นายถูกทั้งหมด ใครเคยกินเหล้า เป็ดไก่ เขารู้หมด ใคร นิ ส ั ย อย่ า งไรรู ้ หมด ทำ � นายยัง กับ ตาเห็น เป็ น โรคอะไรก็ ร ั ก ษาได้ หมด อาตมาเห็น ทางออกแล้ว ปฐมอโศกอันตรายมากถ้า สมณะมีความเห็นยึดมั่นอย่างนี้ ฝากกราบเรียนพ่อท่านในความรู้สึกนี้ ด้วยค่ะ หากผู้นำ�ไม่ชัดเจนในการดูแลจิต วิญญาณญาติโยม พ า ญ า ติ โ ย ม ไ ป ใ น ทิ ศ ท า ง ที่ ฝื ด มากกว่านี้ จะแก้ลำ�บาก การกินอาหาร เป็ น คำ � ตอบของสุ ข ภาพและจิ ต วิ ญ ญาณ ล้างพิษตับไม่ใช่คำ�ตอบ คนที่อยู่ในภาวะ ขาดสารอาหาร กินน้ำ�มันมะกอกกันใหญ่ แก้วที่ ๕ แล้ว เย็นนี้แก้วที่ ๖ และจะโชว์ ความแกร่งแข่งกันว่าเก่ง กินได้หลายแก้ว น่าสงสารคนป่วย ใครว่าอะไรดีเอาหมด เพราะอยากหายป่วย เพราะคำ�ตอบอยู่ที่ ล้างพิษตับ สมณะควรจะวางตัวเป็นกลางในเรื่องนี้ ไม่ใช่เชียร์สุดๆ ท่านทำ�ของท่านไป แต่การ มาต้อนญาติโยมไปสมุย มันมากไปค่ะ (โยม จิตใจปกติแล้วค่ะ ทีแรกตอนทีเ่ ขียนจิตไม่ดคี ะ่ หลังจากทบทวนแล้วก็สรุปได้ว่าถูกต้องแล้ว ทีเ่ ขียนให้ขอ้ มูล แต่ไม่ถกู ต้องทีจ่ ติ ขุน่ เคืองค่ะ) กราบขอบพระคุณค่ะ อีกเจ้าหนึ่งเขียนมาว่า...กราบนมัสการ ท่านสมณะค่ะ
การล้างพิษที่เกาะสมุยมีการทำ�นาย.... โดยการดูอุจจาระ เจ้าสำ�นักดูอุจจาระราย หนึ่งบอกว่ารายนี้ดูจากอุจจาระแล้วอยาก พบแกมากเลย สมณะเจ้าของอุจจาระรู้สึก ทึ่งแล้วบอกไปว่าคุณรู้ได้อย่างไรว่าอาตมา อยากพบคุณ อันนี้แล้วแต่วิจารณญาณว่านี่ ไม่ได้เกี่ยวกับสุขภาพ กลายเป็นทายใจโดย ผ่านทางอุจจาระ (อาเทสนาปาฏิหาริย์หรือ อย่างไร) ดูแล้วพ่อครูและพระผู้ใหญ่จะติง อย่างไรสุดแล้วแต่จะโปรดพวกเขาด้วยเถิด ดูจะจิตอ่อนกันไปหมด ต้องล้างพิษสุขภาพ จึงจะดีกลายเป็นต้องไปให้เขาดูอุจจาระถึง เกาะสมุย เขาเจาะตลาดนักบวช ฆราวาสก็ ต้องเชือ่ เพราะนักบวชนำ� กลายเป็นไม่พง่ึ ตน ต้ อ งพากั น ล้ า งพิ ษ และที่ แ ย่ คื อ ชวนกั น ไป ล้างถึงเกาะสมุย ฝากท่านกรุณาแจ้งพ่อท่าน และพระผู้ใหญ่ด้วยค่ะ พ่ อ ครู ว่ า ...อาตมาก็ ดู ก ระบวนการ นี้ เป็นลำ�ดับก็เห็นว่าเวอร์ เป็นอาการที่ใน ภาษาพระเรียกว่า “มงคลตื่นข่าว” คือมี ข่าว เช่นเขาว่ามีต้นตะเคียนวิเศษเก่ง ช่วย คนได้ ก็กรูกันไป หรือมีคนมาแสดงอย่าง โน้นอย่างนี้ก็ไปกัน ตื่นข่าวกันไป ยิ่งเป็นการ รักษาผนวกกับอาเทสนาปาฏิหาริย์ ทาย อุจจาระได้ด้วย มันต้องทึ่งสิ ทายได้ผ่าน อุจจาระคนก็ต้องทึ่ง
เราลองมาพิ จ ารณาเรื่ อ งของ มงคลตื่นข่าวตามที่พระพุทธเจ้าได้ ตรัสไว้ จาก. จัณฑาลสูตร (พระไตรปิฎก เล่ม ที่ ๒๒) [๑๗๕] ดู ก รภิ ก ษุ ท ั ้ งหลาย อุ บาสกผู้ ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ ย่อมเป็น อุบาสกผูเ้ ลวทราม เศร้าหมอง และน่าเกลียด ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ อุบาสกเป็นผู้ ไม่มีศรัทธา ๑ เป็นผู้ทุศีล ๑ เป็นผู้ถือมงคล ตื่นข่าว เชื่อมงคล ไม่เชื่อกรรม ๑ แสวงหา เขตบุญภายนอกศาสนา ๑ ทำ�การสนับสนุน ในที่นอกศาสนานั้น ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เป็นอุบาสกผู้เลวทราม เศร้าหมอง และน่า เกลียด ฯ และนันทปัญหาที่ ๗ (พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕) [๔๓๑] นันทมาณพผู้ทูลถามปัญหาว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค สมณพราหมณ์ เหล่ า ใดเหล่ า หนึ่ ง กล่ า วความบริ สุ ท ธิ์ ด้ ว ย ความเห็นบ้าง ด้วยการฟังบ้าง ด้วยศีลและ พรตบ้าง ด้วยมงคลตื่นข่าวเป็นต้นเป็นอัน
มากบ้าง ข้าแต่พระผู้มีพระภาคผู้นิรทุกข์ สมณพราหมณ์เหล่านั้น ประพฤติอยู่ใน ทิฐิของตนนั้น ตามที่ตนเห็นว่าเป็นเครื่อง บริสทุ ธิ์ ข้ามพ้นชาติและชราได้บา้ งหรือไม่ ? พ. ดูกรนันทะ สมณพราหมณ์เหล่าใด เหล่าหนึ่ง กล่าวความบริสุทธิ์ด้วยความเห็น บ้าง ด้วยการฟังบ้าง ด้วยศีลและพรตบ้าง ด้วย มงคลตืน่ ข่าวเป็นต้น เป็นอันมากบ้าง สมณ พราหมณ์เหล่านั้นประพฤติอยู่ในทิฐิของตน นั้น ตามที่ตนเห็นว่าเป็นเครื่องบริสุทธิ์ก็จริง ถึงอย่างนั้น เรากล่าวว่าสมณพราหมณ์เหล่า นั้น ข้ามพ้นชาติและชราไปไม่ได้ ฯ น. สมณพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง กล่าวความบริสุทธิ์ด้วยการเห็นบ้าง ด้วย การฟังบ้าง ด้วยศีลและพรตบ้าง ด้วย มงคลตื่นข่าวเป็นต้นเป็นอันมากบ้าง ข้าแต่ พระองค์ผู้เป็นมุนี ถ้าพระองค์ตรัสว่า สมณ พราหมณ์เหล่านั้นข้ามโอฆะไม่ได้แล้ว ข้าแต่ พระองค์ผู้นิรทุกข์ เมื่อเป็นเช่นนี้ ใครเล่าใน เทวโลกและมนุษยโลก ข้ามพ้นชาติและชรา ได้แล้วในบัดนี้ ? พ. ดูกรนันทะ เราไม่กล่าวว่า สมณ พราหมณ์ทั้งหมด อันชาติและชราหุ้มห่อ ไว้แล้ว แต่เรากล่าวว่า คนเหล่าใดในโลก นี้ ละเสียซึ่งรูปที่ได้เห็นแล้วก็ดี เสียงที่ได้ ฟังแล้วก็ดี อารมณ์ที่ได้ทราบแล้วก็ดี ละ เสียแม้ซง่ึ ศีลและพรตทัง้ หมดก็ดี ละเสียซึง่ มงคลตื่นข่าวเป็นต้น เป็นอันมากทั้งหมด ก็ดี กำ�หนดรู้ตัณหาแล้ว เป็นผู้หาอาสวะ มิได้ คนเหล่านั้นแลข้ามโอฆะได้แล้ว ฯ น. ข้าแต่พระผู้มีพระภาคผู้โคดม ข้า พระองค์ยินดียิ่งซึ่งพระดำ�รัสของพระองค์ ผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ ธรรมอันไม่มีอุปธิ พระองค์ทรงแสดงชอบแล้ว แม้ข้าพระองค์ก็ กล่าวว่า คนเหล่าใดในโลกนี้ ละเสียซึ่งรูปที่ ได้เห็นแล้วก็ดี เสียงที่ได้ฟังแล้วก็ดี อารมณ์ ที่ได้ทราบแล้วก็ดี ละเสียแม้ซึ่งศีลและพรต ทั้งหมดก็ดี ละเสียซึ่งมงคลตื่นข่าวเป็นต้น เป็นอันมากทั้งหมดก็ดี กำ�หนดรู้ตัณหาแล้ว เป็นผู้หาอาสวะมิได้ คนเหล่านั้นข้ามโอฆะ ได้แล้ว ฉะนี้แล ฯ เอาเฉพาะข้ อ มงคลตื่ น ข่ า วข้ อ เดี ย ว พระพุทธเจ้าตรัสไว้ทั้งหมดแล้วว่า ต่อให้ มงคลตื่นข่าวนั้นเป็นจริงด้วยก็อย่ามีใจไป ตื่นเต้น หลงจนลืมกิจน้อยใหญ่ เสียการงาน หรือการปฏิบัติธรรมอันพึงทำ� กลับไปเห็น ว่าอันโน้นเป็นเรื่องเด่น ผู้ที่ทำ�เรื่องนี้ได้ดีก็ ดีแล้ว ช่วยคนได้ก็ดีแล้ว มันเป็นการซับซ้อน ถ้าเป็นเรื่องเห่อ ฟีเวอร์ เราเป็นนักปฏิบัติ
ธรรมก็ต้องพยายามสังวร เพราะคนทางโลก ไม่ได้ศึกษาอาการแฝงในใจ มันปรารถนาดี แล้วจะมีอะไรแฝงหรือไม่ก็ได้ แต่มันจะมาก จะแรง จนเราไม่ถ่วงดุลไว้บ้างมันจะพากัน หลงคลั่งไคล้มากเกินไป เช่นปีติ ๕ อย่าง การตื่นเต้นดีใจ ถ้า ดีใจเกินไปเป็นโทษ อย่างอุพเพงคาปีติ เสีย กิริยา เสียสุขภาพ ปีติจนน้ำ�หูน้ำ�ตาไหล น้ำ�ลายไหลยืด ร้องไห้ ดีดเต้นกันอย่างคน โลกๆทำ�กัน สารพัดจะเป็นโดยไม่เรียนรู้ ระงับให้พอดี การที่มีโอกกันติกาปีติ คือปีติ ที่หยั่งลงในจิตแล้วเราไปยึดถือ มันก็จะเป็น อุปกิเลส แม้จะดี แต่ถ้าสั่งสมมากจนเป็น อุพเพงคาปีติ จะเสียหายเป็นภัยต่อชีวิต พรหมจรรย์อย่างแท้จริง ส่วนทางโลกเขาไม่รู้ ก็แสดงออกเวอร์ๆ กรีด๊ ๆๆ ล้วนเป็นอาการ ปีติ โลกสมัยนี้มีเยอะ หนักเข้าก็แย่งกันตี กัน ยึดถือแรงก็เป็นภัยเป็นโทษ การละเล่น มหรสพ บันเทิงเริงรมย์เดีย๋ วนีม้ มี าก จนวิปริต วิตถาร เกินพอดีที่มนุษย์ควรแสดงออก ไม่ ได้ศึกษาจิตก็จะหนักหน้าไปเรื่อยๆ กรณีทเ่ี กิดขึน้ นี้ ถ้าใครเข้าใจว่า อันนี้ เป็นมงคลตื่นข่าวก็คงจะเข้าใจ ทำ�ให้เสีย กิริยาเสียกิจน้อยใหญ่ที่ควรทำ� กลายเป็น บกพร่องเสียการเสียงาน การต้องเสียสิ่ง ที่ควรเป็นก็เกิดความเสื่อมได้ แล้วยังมีคน มองในแง่เดรัจฉานวิชชาอีกด้วย อาตมาก็ อธิบายได้อย่างนี้ สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุการณ์ หนึ่งที่ว่าก็ดีที่รักษาสุขภาพกัน แต่มีคนก็ ตั้งข้อสังเกตว่าระวัง อย่าไปเกินไป เราไม่รู้ ระยะยาว ในระยะสั้นก็เห็นว่าดี แต่เราก็ไม่รู้ จักหยุดจักพอ หลงเพลิดไป อีกหน่อยก็จะ ต้องกินน้ำ�มันมะกอกร้อยแก้ว พันแก้วก็จะ เกินขอบเขตจนถึงตายได้ ก็ให้สติไว้วา่ เราควรรูก้ าลควรว่าแค่ใดๆ ไม่หลงเตลิดเปิดเปิง ตอนนี้เห็นผลว่าน่าทึ่ง ก็น่าทึ่ง มีพิเศษสำ�คัญก็ควรมีการวิจัยใน หลักวิชา อย่างอาตมามีสิ่งพิเศษในตนเอง ที่คนไม่ค่อยเข้าใจ หรือเป็นสิ่งพิเศษที่หาไม่ ได้ง่ายๆ ที่จะเป็นผู้รู้ธรรมลึก เขาไม่รู้ว่านี่ เป็นสิ่งที่เป็นมงคลจริงๆ คุณมาตื่นมงคล จริงๆนีด่ กี ว่าไปตืน่ เรือ่ งเดรัจฉานวิชชาโลกียน์ ะ มงคล ทีม่ ี ๓๘ ข้อทุกข้อเป็นมงคลดี ๆ ทัง้ นัน้ แต่ถ้าไม่เข้าใจหลงเห่ออะไรก็ผิดหมด ก็ต้อง เอาอย่างพอควร ที่จริงมงคลจริงจะเอายาก ส่วนมาก เห่อ “อมงคล” หลงโลกีย์กัน ! (จากรายการ_ธรรมาธรรมะสงครามบ้านราชฯ เรื่อง อย่าเชื่อมงคลตื่นข่าว ๑ ส.ค. ๒๕๕๘)
10 “เด็จพี”่ นอนคุก
ปักษ์หลัง กรกฎาคม ๒๕๕๘ (ต่อจากหน้า ๑๒)
ทั้งสองร่วมกันให้ข่าว สื่อมวลชนแขนงต่างๆ ทำ�นองว่า โจทก์ให้ตัวแทนพรรค ประชาธิปัตย์เข้าพบเป็นการส่วนตัว ระหว่างที่มีการพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ และ กล่าวหาว่าโจทก์ประพฤติตนไม่เหมาะสม ไม่น่าเชื่อถือ ขัดต่อจริยธรรมของตุลาการ ขาด ความยุตธิ รรม ขาดความเป็นกลาง และอื่นๆ ซึ่งล้วนเป็นเท็จ ทำ�ให้โจทก์ต้องเสื่อมเสียชื่อ เสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชังฯ เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. และที่อื่นเกี่ยวพัน กัน โจทก์จึงขอให้ศาล พิพากษาลงโทษจำ�เลยตามความผิดด้วย ทั้งนี้ศาลชั้นต้นมีคำ�พิพากษา เมื่อวันที่ ๓๑ ก.ค.๕๕ เห็นว่า จำ�เลยทั้งสอง กล่าวหา ใส่ความโจทก์โดยไม่มีมูลความจริง ไม่ตรวจสอบข้อเท็จให้ได้รับความชัดเจนจริงกล่าวการ แถลงข่าว จึงไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ให้จำ�คุก จำ�เลยคนละ ๑ ปี ปรับคนละ ๕๐,๐๐๐ บาท แต่จำ�เลยทั้งสองไม่เคยได้รับโทษทางอาญามาก่อน จึงให้รอการลงโทษไว้มี กำ�หนด ๒ ปี โดยให้จำ�เลยทั้งสอง ร่วมกันเผยแพร่คำ�พิพากษาย่อใน นสพ.ไทยรัฐ มติชน และ กรุงเทพธุรกิจ เป็นเวลา ๗ วันติดต่อกัน จำ�เลยยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดี ศาลอุทธรณ์ได้มีคำ�พิพากษาวันที่ ๑๒ ธ.ค.๕๖ เห็นว่าการ กระทำ�ของจำ�เลยทั้งสองเป็นการหมิ่นประมาท ฯ ขณะที่จำ�เลยที่ ๑ จบการศึกษาระดับดุษฎี บัณฑิตและเป็นอาจารย์หลายสถาบัน ส่วนจำ�เลยที่ ๒ จบปริญญาตรี เป็นส.ส.พรรคเพื่อ ไทย จ.อุดรธานี และยังเป็นกรรมาธิการและรองกรรมาธิการหลายคณะ เป็นคนมีเกียรติ มี ความน่าเชื่อถือของบุคคลทั่วไป ควรทำ�ตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีให้สังคม ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็น เยี่ยงอย่าง ศาลอุทธรณ์จึง พิพากษาแก้โทษเป็นว่า ให้จำ�คุกจำ�เลยทั้งสอง คนละ ๑ ปี โดย ไม่รอการลงโทษ ส่วนโทษปรับให้ยกไป จำ�เลยทั้งสองยื่นฎีกา ต่อสู้ว่า การแถลงข่าวและแจกเอกสารข่าว เป็นการแสดงความ คิดเห็นเกี่ยวกับการพิจารณาคดี ขอให้ศาลฎีกาพิจารณาลงโทษสถานเบาและขอให้รอการ ลงโทษจำ�เลยไว้ก่อน ศาลฎีกา ตรวจสำ�นวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า โจทก์ เบิกความว่า วันที่ ๑๐ พ.ค. ๕๓ โจทก์เดินทางเข้าห้องทำ�งานที่ศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ตั้งแต่ เช้า และไม่เคยเชิญตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์เข้าพบที่ห้อง และไม่เคยพบกับนายทศพล เพ็งส้ม ตัวแทนประชาธิปัตย์ที่เดินทางมายื่นหนังสือเกี่ยวกับคดียุบพรรค สอดคล้องกับ เลขานุการฯของโจทก์ เบิกความว่า ได้เข้าปฏิบัติงานตั้งแต่เวลา ๗.๔๐ น. ถึง ๑๖.๐๐ น. ไม่พบว่ามีใครเข้าพบโจทก์เป็นการส่วนตัวที่ห้องทำ�งาน โดยนายทศพล เพ็งส้ม ส.ส.ของ พรรคประชาธิปัตย์ ก็เป็นพยาน เบิกความด้วยว่า พยานเดินทางไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เวลา ๙.๐๐ น.เศษ เพื่อยื่นเอกสารเกี่ยวกับคดีที่ชั้น ๒ ศูนย์ราชการ ฯ โดยไม่เคยได้พบกับโจทก์ เป็นการส่วนตัว พยานโจทก์ล้วน ไม่เคยมีเหตุโกรธเคืองกับจำ�เลยมาก่อน จึงไม่มีเหตุสงสัย ว่า จะเบิกความปรักปรำ�ใส่ร้ายจำ�เลยทั้งสองให้ต้องรับโทษ ส่วนที่จำ�เลย อ้างว่า ทราบเรื่องตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์เข้าพบโจทก์ที่ห้องทำ�งาน จากเจ้าหน้าที่ ๒ คน แต่ในชัน้ พิจารณาคดี จำ�เลยก็ไม่น�ำ เจ้าหน้าที่ ๒ คนดังกล่าวมาเบิกความ ยืนยัน ดังนัน้ การให้ขา่ วของจำ�เลยต่อสือ่ มวลชน จึงเป็นการให้ขอ้ ความอันเป็นเท็จ ขณะที่ช่วง เวลาดังกล่าวมีการพิจารณาคดียุบพรรค และตัวจำ�เลยก็ได้ยื่นหนังสือคัดค้านโจทก์การเป็น องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ การกระทำ�ของจำ�เลยจึงเสมือนใช้สื่อมวลชน เป็นเครื่อง มือหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ ทำ�ให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดได้ว่า โจทก์ไม่มีความเป็นกลาง ซึ่ง จำ�เลยเล็งเห็นอยูแ่ ล้วสือ่ จะนำ�ข้อมูลจากเอกสารทีจ่ �ำ เลยแจกไปเผยแพร่ การทีจ่ �ำ เลยอ้างว่าการ แถลงข่าวและแจกเอกสารไม่ได้เป็นการหมิ่นประมาทฯ โดยการโฆษณา แต่เป็นการแสดง ความคิดนั้นจึงฟังไม่ขึ้น และที่จำ�เลยขอให้ศาลฎีกาลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษนั้น ศาลฎีกา เห็นว่า การกระทำ�ของจำ�เลย เป็นการให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ มีการเผยแพร่ด้วย เอกสาร จึงเป็นการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสารที่ทำ�ให้โจทก์ซึ่งตุลาการศาล รัฐธรรมนูญได้รับความเสื่อมเสีย บุคคลอื่นเข้าใจว่าไม่มีความเป็นกลาง ฎีกาจำ�เลยฟังไม่ขึ้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำ�คุก จำ�เลยทั้งสอง คนละ ๑ ปี โดยไม่รอลงการลงโทษนั้น เหมาะสมแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย พิพากษายืน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฟังคำ�พิพากษาศาลฎีกาแล้ว นายพิชิฎ ชื่นบาน อดีตที่ ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดิน ได้เข้ามาสวมกอด ให้กำ�ลังใจนายพร้อมพงศ์ ซึ่งมีสีหน้าสลด อย่างเห็นได้ชัด และกล่าวสั้นๆว่า ไม่เป็นไร ยัง ไหวอยู่ ส่วนนายเกียรติอุดม มีญาติเดินทางมาให้กำ�ลังใจ ต่อมาในช่วงบ่าย เจ้าหน้าทีร่ าชทัณฑ์ได้น�ำ ตัวนายพร้อมพงศ์ ซึง่ มีสหี น้ายิม้ แบบเจือ่ นๆ ถูกใส่กญ ุ แจมือ สวมเสือ้ ยืดสีขาว กางเกงสามส่วน สวมรองเท้าแตะหูคบี ส่วนนายเกียรติอดุ ม ถูกใส่กญ ุ แจมือ สวมเสือ้ โปโลสีครีมลายทางขึน้ กางเกงขาสัน้ รองเท้าแตะหูคบี ขึน้ รถเรือนจำ� ไปคุมขังไว้ที่เรือนจำ�พิเศษกรุงเทพ ตามคำ�พิพากษาศาลฎีกาต่อไป โดยน้องสาวของนาย พร้อมพงศ์ และภรรยาของนายเกียรติอุดม ถึงกับร่ำ�ไห้เสียใจ (โดย แนวหน้า ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๘)
รับน้องม.นเรศวร ลงแขกดำ�นา
(ต่อจากหน้า ๑๒)
วันที่ ๑๕ ส.ค. ๕๘ บนโลกออนไลน์มกี ารแชร์ภาพ “การรับน้อง” ของคณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก ที่จัดขึ้นเมื่อวัน ที่ ๗ ส.ค.๕๘ ที่ผ่านมา โดยเป็นการจัดกิจจกรรมรับน้องสร้างสรรค์ “ดำ�นาปลูกข้าว” ไหว้ พระแม่โพสพกลางท้องนา เพื่อสร้างความสมานสามัคคี ละลายพฤติกรรมและเรียนรู้วิถี ชีวิตชาวนาไทย โดยจะให้รุ่นพี่แนะนำ�วิธีดำ�นาให้รุ่นน้องปี ๑ คณะเกษตรศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อม เพือ่ เป็นการสอนให้รถู้ งึ ความลำ�บากในการทำ�นา รูจ้ กั การอดทน สมานความ สามัคคีและสอนให้รู้จักใช้ชีวิตร่วมกันในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งนิสิตจะได้เรียนรู้และปฏิบัติจริง นอกเหนือจากการเรียนภาคทฤษฏีในห้องเรียน ณ แปลงสาธิตเกษตร มหาวิทยาลัยนเรศวร ขอบคุณภาพจาก “มหาวิทยาลัยนเรศวร” และเดลินิวส์ (เทพฤทธิ์ นาคดี /พิษณุโลก)
ฉบับที่ ๔๖๐ (๔๘๒)
เจริญธรรมสำ�นึกดี พบกับน.ส.พ.ข่าวอโศก ฉบับที๔่ ๖๐(๔๘๒) ปักษห์ ลัง กรกฎาคม ๒๕๕๘
v กินทุเรียนเป็นยา ช่วงประชุมชุมชนบ้านราชฯ มีรายงาน ผลเกี่ ย วกั บ การเข้ า คอร์ ส สุ ข ภาพของ คุณกุศลา ธัมมา ...หลังเข้าคอร์ส รู้สึก อ่อนเพลีย ..ฯลฯ เธอจึงได้กินทุเรียนไป หลายลูก แล้วทำ�ให้ร่างกายดีขึ้น ..จีด๊ จีด๊ ..จิง้ หรีดหูตง้ั เลยฮะ..ต่อไปเรา จะกินทุเรียนดีกว่า อย่าไปเข้าคอร์สเลย.. ทันทีก็มีคำ�เตือนจากผู้รู้ว่า ทุเรียนมีธาตุ บางอย่ า งจึ ง ช่ ว ยทดแทนส่ ว นที่ ห ายไป เมือ่ เข้าคอร์ส แต่กร็ าคาแพงและอาจไม่เป็น เหมือนกันทุกคนด้วย...จี๊ดๆๆ อดเลย!! v สามีฉันยังไม่ตาย! จิ้ ง หรี ด เกาะอยู่ บ นตู้ เ ย็ น ในร้ า น มังสวิรัติปฐมอโศก (มรป.) ก็เห็นคนถือ ผ้าดิบเอามาให้คุณแมวที่กำ�ลังช่วยเก็บ เงินจากลูกค้า บางรายก็ไม่ได้เก็บเพราะ มี 0 บาทก็ทานได้ เช่นที่ชมร.เชียงใหม่ เช่นที่มร.ส. เช่นที่ ชมร.กทม. คุณแมวเห็นผ้าดิบที่มีคนเอามาให้ก็ นึกฉงนอยูใ่ นใจ ยิง่ ได้ยนิ คนทีเ่ อามาให้พูด ว่า มีคนฝากมาให้คุณแมวใช้ห่อกระดูก สามีที่เพิ่งฌาปนกิจในเมรุปฐมอโศก คุณแมวได้ยินดังนั้นก็สะดุ้ง เพราะ สามีของคุณแมวยังมีชวี ติ อยู่ จึงบอกคน เอาผ้าดิบให้ห่อกระดูกสามีว่า สามีฉัน ยังไม่ตาย พอดีคุณแมวจากรร.ผู้นำ�ของ พล.ต.จำ�ลอง ศรีเมือง จ.กาญจนบุรี กำ�ลังนั่งรับประทานก๋วยเตี๋ยวอยู่ในร้าน คุณแมวจากปฐมอโศก เจอชี้ให้เอา ผ้าดิบไปให้คุณแมวเมืองกาญจนบุรี โดย บอกว่า สามี (อ.ชำ�นาญ เจริญสอน) ของ คุณแมวคนนัน้ เขาเผาทีเ่ มรุปฐมฯ เอาผ้าให้ ภรรยาของเขาคือคุณแมวไปเก็บกระดูก เรื่ อ งนี้ จิ้ ง หรี ด ก็ เ ลยถึ ง บางอ้ อ ว่ า แมวเหมือนกัน แต่คนละแมว นี่ดีนะฮะ ที่คุณแมวจากบ้านราช คุณแมวจากสันติ คุณแมวที่มาช่วยงานอยู่ชมร.เชียงใหม่ คุณแมวจากหินผาฟ้าน้ำ� ไม่ได้นั่งอยู่ใน ร้านมรป.ด้วย มิฉะนั้นคงเกิดเรื่องสับสน กันน่าดูในร้านมรป.เลยเชียว...จี๊ดๆๆ v เป็นไท จิ้งหรีดบินไปเกาะที่ศูนย์เจาะฯของ ปฐมอโศกได้ยนิ อาทิวเมฆ ประธานชุมชน พูดถึงปฐมอโศกว่า มาถึงวันนี้ภาวะ
ข่าวอโศก เศรษฐกิจก็มีความลงตัวมากขึ้น สามารถ เสียสละแบ่งปันให้พี่น้องชาวบุญนิยมได้ มากขึ้น โดยสามารถใช้คืนเงินเกื้อส่วน กลางและส่วนอื่นๆได้ทั้งหมดเมื่อปี’๕๒ ก็ถือว่าชุมชนได้เป็นไท ชุมชนอื่นๆที่เป็น ไทในเรื่ อ งเงิ น เกื้ อ ก็ มี ชุ ม ชนสี ม าอโศก ชุมชนภูผาฟ้าน้ำ� เป็นต้น ส่ ว นชุ ม ชนราชธานี อ โศกจากเงิ น เกื้อราว ๔๐-๕๐ ล้าน ตอนนี้ก็เหลือเงิน เกื้อไม่ถึง๑๐ ล้าน ได้ยินว่าอีกไม่นานคง ได้เป็นไท ทีจ่ ง้ิ หรีดยังห่วงอยูก่ ช็ มุ ชนศีรษะอโศก มีเงินเกื้ออยู่ไม่น้อยที่ต้องชดใช้ไม่ต่ำ�กว่า ๒๐ ล้านบาท แต่ตอนนีก้ ม็ ขี า่ วดีขน้ึ แล้วฮะ เพราะเริ่มมีเงินคืนส่วนกลางได้ทุกเดือน อย่างนีส้ ว่ นกลางคงไม่ตอ้ งห่วงว่า จะเป็น แบบประเทศกรีซนะฮะ...จี๊ดๆๆ v พัฒนาการ ด้ ว ยความรั ก ชาติ - ศาสน์ - กษั ต ริ ย์ ทำ�ให้ ๒ สามีภรรยาคือ คุณอ๋ากับคุณ นกได้รจู้ กั ชาวอโศก แม้จะเปิดร้านขายสินค้า ที่เกี่ยวกับเด็ก ในตัวเมืองกำ�แพงเพชร มี ยอดขายทีน่ า่ พอใจ ลูกค้าในจ.กำ�แพงเพชร ก็นิยมมาจับจ่ายซื้อสินค้าในร้าน ด้วย บุคลิกของเจ้าของร้านที่พูดจาแบบตรง ไปตรงมา ราคายุติธรรม น่าเชื่อถือ กิจการจึงก้าวหน้าเป็นร้านใหญ่ร้านหนึ่ง ในเรื่องสินค้าเกี่ยวกับเด็ก ทั้งเสื้อผ้า และ ของใช้ต่างๆ แต่มาถึงวันนี้ ๒ สามีภรรยา ก็มาสนใจใฝ่ธรรม ดังเช่น ชาวกองทัพ ธรรมที่ เ ธอรู้ จั ก และศรั ท ธาในแนวทาง การดำ�เนินชีวิต หลังจากที่ได้รู้จักในที่ ชุมนุม และพบปะคบคุ้นจนมาถึงปัจจุบัน เมื่อมีสมณะมาประชุมกลุ่มที่ชุมชน เพชรผาภูมิ คุณอ๋ากับคุณนกก็จะจัดแจง เตรี ย มพร้ อ มที่ จ ะเดิ น ทางมาทำ � บุ ญ ฟังธรรม โดยไม่ห่วงรายได้เช่นแต่ก่อน เดี๋ยวนี้ ๒ สามีภรรยาก็เริ่มขยับเข้ามา ร่ ว มรั บ รู้ ค วามเป็ น ไปในชุ ม ชนจากการ ร่วมประชุมชุมชน และหากชาวชุมชนมี งานการอะไรจะให้ชว่ ย ก็พร้อมจะเดินทาง มาช่วยด้วยความยินดี ถ้าไม่เกินกำ�ลังที่ จะช่วย ล่ า สุ ด จิ้ ง หรี ด ได้ ยิ น คุ ณ นกรายงาน สภาวธรรมกับสมณะ ก็ได้พูดถึงกิจการที่ ร้านว่าตอนนี้เริ่มขายสินค้าตามแนวทาง ชาวอโศก คือขายต่ำ�กว่าท้องตลาด รู้สึก มีความสุข แม้จะเหนื่อยเพิ่มขึ้นก็เป็น ประโยชน์ ต่ อ ชาวบ้ า นที่ มี ร ายได้ น้ อ ย เพราะไม่ได้เอากำ�ไรมากเหมือนเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ก็เกิดแนวคิดขึ้นมาอีกว่า จะขายสินค้าในราคาขาดทุน โดยเปิด ขายแบบสินค้าในตลาดอาริยะ สมณะได้ ฟังแล้วก็กล่าวอนุโมทนา จิ้ ง หรี ด ได้ ยิ น แนวทางความตั้ ง ใจ ของคุณนกกับคุณอ๋า ก็รู้สึกอนุโมทนากับ พัฒนาการของ ๒ สามีภรรยา ที่มาคบ คุ้นกับชาวอโศกในชุมชนเพชรผาภูมิ
อีกทั้งจิ้งหรีดยังรู้ความ(ไม่)ลับมาอีก ว่า ๒ สามีภรรยาคู่นี้ แต่งงานแล้วไม่มี ลูก ซึ่งในทางพระพุทธศาสนา ถือว่าเป็น ผู้มีบุญ จะกล่าวไปไยถึงสาวโสดหนุ่มโสด และจิง้ หรีดก็ยงั เป็นโสดอยูน่ ะฮะ...จีด๊ ๆๆ v ลูกกตัญญู จิ้ ง หรี ด เกาะอยู่ ข อบหน้ า ต่ า งที่ โรง พยาบาลศิริราช เห็นหมู่สมณะ สิกขมาตุ และญาติธรรมทั้งใกล้และไกลมาเยี่ยมดู อาการแม่เต็มใจ ฉิมพลี ก็ด้วยความเป็น ผู้ปกครองนักเรียนพุทธธรรมมายาวนาน จนลูกเรียนจบสัมมาสิกขาทั้งที่สันติฯและ ปฐมฯ อีกทั้งยังเป็นพนักงานอยู่ที่บจ.แด่ ชีวิต จนมาถึงบจ.พลังบุญ (บุญนิยม) ใน ปัจจุบนั นัน่ เอง จิง้ หรีดจึงไม่สงสัยว่าเหตุใด จึงมีผู้มาเยี่ยมเยียนเป็นจำ�นวนมาก โดยเฉพาะ ๒ พี่น้อง สาธิตกับ น้ำ�ฝน ซึ่งตอนนี้หลายคนที่ไม่ได้เจอ ๒ พี่น้องมานานตั้งแต่เป็นเด็กนักเรียนวัด สองพี่น้องมาดูแลแม่ทุกวันหลังจากเลิก งาน แม่ซึ่งป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล ช่วงนี้ ก็ผอมลงกว่าเดิมมาก แต่หน้าตาสดใส การพูดจาก็ดูเหมือนไม่เจ็บป่วยอะไร แม้ จะมีโรคร้ายรุมเร้าอย่างหนัก ยั ง ไงๆจิ้ ง หรี ด ก็ ข อชื่ น ชมสาธิ ต กั บ น้ำ�ฝนที่มาเยี่ยมให้กำ�ลังใจแม่ทุกวันแม้ จะทำ�งานมาทั้งวัน ก็รีบเดินทางมาดูแล แม่ แม้จะดึกๆดื่นๆแล้วก็กลับไปนอนพัก ที่บ้าน เตรียมไปทำ�งานในวันรุ่งขึ้นอย่าง เต็มใจ ดังชื่อของคุณแม่ที่พ่อครูตั้งให้ สม เป็นลูกกตัญญูของพ่อแม่นะฮะ..จี๊ดๆๆ v สะเก็ดข่าวจากปฐมอโศก ในค่ายอุโบสถศีล “ทำ�บุญสูช่ วี ติ ที่ ดีกว่า” จิ้งหรีดเห็นการเอาภาระอย่าง มีชีวิตชีวาของคุณน้ำ�ดิน ก็รู้สึกชื่นชม บางรายก็เป็นแฟนพันธุ์แ ท้แ ม้จ ะอยู่ ถึ ง จ.อุทยั ธานี ก็ยงั มาแถมยังพาญาติๆมาร่วม เข้าค่ายพัฒนาทางจิตวิญญาณอีกด้วย จิ้ ง หรี ด ได้ เ ห็ น ผู้ ป กครองนั ก เรี ย น พุทธธรรมสันติอโศกอยู่ ๒ คน ที่มา ร่วมเข้าค่ายอุโบสถศีลด้วย พอได้พบกับ สมณะบิ น บนที่ ม าเยี่ ย มเยี ย นจากปฐม อโศก ในช่วงค่ายอุโบสถศีลก็ได้ทักทาย กันเหมือนญาติสนิทที่ไม่ได้เจอกันนาน ยังไงยังงั้นเลยฮะ...จี๊ดๆๆ ในวั น ฌาปนกิ จ ศพอ.ชำ � นาญ เจริญสอน จิ้งหรีดได้เห็นพล.ต.จำ�ลอง กับ พต.หญิง ศิริลักษณ์ ศรีเมืองมาร่วม พิธดี ว้ ย ช่วงก่อนฌาปนกิจศพท่านเดินดิน ได้เป็นประธานจุดเพลิงเผาศพ ท่านได้ ให้ข้อคิดที่จิ้งหรีดฟังแล้วทำ�ให้รสู้ กึ ประทับ ใจในธรรมะของพระพุ ท ธเจ้ า ที่ ส ามารถ เปลี่ยนแปลงชีวิตของครูขี้เมาคนหนึ่งให้ มาเป็ น ครู ที่ ส อนให้ บุ ค คลหลายอาชี พ ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองในทางที่ดีขึ้น รวมทัง้ คนในตระกูลของตัวเองด้วย...จีด๊ ๆๆ จิ้งหรีดร้านมรป.(มังสวิรัติปฐม อโศก) ได้รายงานเรื่องเหลือเชื่อ เพราะ
11
ได้เห็นแม่ใจบุญที่มาช่วยอยู่โต๊ะคิดเงิน หน้าตายิม้ แย้มเบิกบาน แม้จะเป็นสว.(สูง วัย) ระดับ ๗๐ อั๊พแล้วก็ตาม จิ้งหรีดหายสงสัยเมื่อได้ยินแม่ใจบุญ เปิดใจกับสมณะว่า “อยู่ฐานนี้หัวเราะได้ ทุกวัน” ทั้งๆที่ที่ร้านปรับมาขายแบบ “๐ บาทก็ทานได้” คนก็มาใช้บริการมากขึ้น ทั้งคนภายในและภายนอก หรือเพราะ ปรับมาขาย “๐ บาทก็ทานได้” เลยทำ�ให้ หัวเราะได้ทุกวัน ยังไงๆใครเครียดก็ลอง มาช่วยงานที่ฐาน ร้านมรป.ได้นะฮะ อาจ จะช่วยให้จติ ใจแช่มชืน่ ดีแบบแม่ใจบุญ ที่ สามารถหัวเราะได้ทุกวัน หรือใครสงสัยว่าแม่ใจบุญหัวเราะได้ ทุกวันเพราะอะไรก็ไปสังเกตการณ์ได้นะฮะ จิ้ ง หรี ด ขอย้ำ � เรื่ อ งแปลกเหลื อ เชื่ อ เรือ่ งนีว้ า่ “หัวเราะได้ทกุ วัน” ไม่ใช่ “หัวเราะ ได้ทง้ั วัน” นะฮะ เพราะถ้าหัวเราะได้ทง้ั วัน ดูมันจะแปลกเกินไป ไม่รู้จะกินข้าวยังไง นะซิฮะ...จี๊ดๆๆ v สะเก็ดข่าวจากศาลีอโศก จิ้งหรีดประทับใจชาวศาลีอโศก เห็นอดีตข้าราชการหลายคนมาเข้าคอร์ส สุขภาพ หมอแก้วและชาวชุมชนอื่นๆก็ เอาภาระดี แต่ไม่ลืมคนใน ใครมีปัญหา ก็ช่วยกันหาทางช่วยเหลือ ใครไม่เชื่อก็ สอบถามสมณะลือคมได้เลยนะฮะ...จีด๊ ๆๆ ป้านุม่ ลึกแม้อายุจะอยูใ่ นวัยสว.ก็ ยังมีไฟช่วยชุมชน กำ�ลังเปิดอีกร้านที่ เน้นสินค้ากสิกรรมช่วยชาวบ้านอีก ๑ ร้าน ศิษย์เก่าคนไหนสนใจติดต่อป้าได้ ป้าคง ยินดี...จีด๊ ๆๆ คุ ณ ปราณี ที่ ดู แ ลร้ า นค้ า ที่ ศ าลี อโศกฯมาไม่ต่ำ�กว่า ๒๐ ปี คือ ตั้งแต่สาว จนมาเป็นสว.ของชุมชนอีกคน กระซิบ บอกจิง้ หรีดว่า ตอนนีไ้ ม่ได้เลีย้ งหมาเหมือน แต่ก่อนแล้ว ก็อนุโมทนากับคนรักหมา ที่รักศาสนามากกว่า เลยปล่อยหมาให้ เป็ น อิ ส ระไม่ ผู ก พั น กั บ มั น จนข้ า มชาติ นะฮะ...จี๊ดๆๆ
v มรณัสสติ ๑. อ.ชำ�นาญ เจริญสอน สิริอายุ รวม ๗๖ ปี เสียชีวิตวันที่ ๒๓ ก.ค. ๕๘ ที่บ้าน จ.สิงห์บุรี ฌาปนกิจศพวันที่ ๒๕ ก.ค. ณ เมรุปฐมอโศก ๒. น.ส.พอตา พีรแสงทอง เสียชีวติ วันที่ ๒๖ ก.ค. ๕๘ ที่หมู่บ้านชุมชน ราชธานีอโศก ฌาปนกิจศพวันที่ ๒๙ ก.ค. ณ เฮือนสุดชีวิต หมู่บ้านชุมชน ราชธานีอโศก ๓. คุรุเหมาะหมาย มรมิ่ง (เล็ก) เสียชีวิตวันที่ ๒๘ ก.ค. ๕๘ ด้วยโรค มะเร็งถุงน้ำ�ดี ฌาปนกิจศพวันที่ ๓๐ ก.ค. ณ เฮือนสุดชีวิต หมู่บ้านชุมชน ราชธานีอโศก พบกันใหม่ฉบับหน้า
12
ปักษ์หลัง กรกฎาคม ๒๕๕๘
นายกฯ ชวนประชาชนร่วมงดเหล้าช่วงเข้าพรรษา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวเชิญชวนประชาชนให้งดดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษา ตลอด ๓ เดือนนี้ (ส.ค. - ต.ค.๕๘ ) โดยระบุว่า เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาชาติ ด้วย การเลิกเป็นทาสสุรา พร้อมแนะนำ�ให้ยึดแนวทาง ลด-ละ-เลิก
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การดืม่ แอลกอฮอล์หรือสุราเถือ่ น ไม่เพียงจะผิดกฎหมาย เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อระบบประสาทการมองหรืออาจทำ�ให้ตาบอดได้เพราะมีระดับ แอลกอฮอล์เกินค่ามาตรฐานกำ�หนด (โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๘)
โทษ ๑ ปีไม่รอลงอาญา ฉบับที่ ๔๖๐ (๔๘๒) ปัก ษ์หลัง กรกฎาคม ๒๕๕๘
ปรบมือดังๆ!! “ม.นเรศวร”
‘เด็จพี่’ นอนคุก
หมิน่ อดีตปธ.ศาลรธน.
จัดรับน้องสร้างสรรค์
พี่พาน้อง “ลงแขกดำ�นา”
โลกออนไลน์แห่ชื่นชม!! “ม.นเรศวร” จัดกิจกรรมรับน้องสร้างสรรค์ ชวนน้อง “ดำ�นาปลูกข้าว” หวังสร้างสามัคคี-เรียนรู้วิถีชีวิตชาวนาไทย ปลูกฝังความอดทนและ การใช้ชีวิตร่วมกันในรั้วมหาวิทยาลัย (อ่านต่อหน้า ๑๐)
ที่ห้องพิจารณา ๘๐๕ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา ๑๐.๐๐ น. วันที่ ๒๔ ก.ค. ศาล อ่านคำ�พิพากษาฎีกา ให้จำ�คุกนายพร้อมพงศ์นพฤทธิ์ อดีตสส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรค เพื่อไทย และนายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ อดีต สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย คนละ ๑ ปี โดยไม่รอลงอาญา ในความผิด ฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖ และ ๓๒๘ คดีนี้นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายพร้อมพงษ์ และนายเกียรติอุดม จำ�เลยที่ ๑ และ ๒ เมือ่ วันที่ ๑๕ มิ.ย.๕๓ ระบุความผิดสรุปว่า เมือ่ วันที่ ๘ มิ.ย.๕๓ เวลากลางวัน จำ�เลย (อ่านต่อหน้า ๑๐)