บันทึกการเดินทาง.... ความสุขและรอยยิ้ม เราอยากจะเริ่มต้นด้วยคำว่า “ขอบคุณ” สำหรับการตอบรับกับหนังสือ เล่มนี้ ทุกข้อความบน Facebook Sansiri Family ทุกสายที่โทรเข้ามา ที่ Sansiri Call Center ทุกสายที่โทรมาที่โต๊ะ จดหมายที่ติดแสตมป์ มาจากตรัง ข้อความใน Twitter ทั้งคำชื่นชม และความน้อยใจที่ไม่ได้ รับหนังสือ พวกเราอ่านกันทุกข้อความ ทุกช่องทาง ด้วยความสุขและ ความเข้าใจของทีมงานที่ทำหนังสือเล่มนี้ เราอยากเป็นหนังสือทีค่ ณ ุ รอคอย เราอยากให้การเปิดหนังสือเป็นเหมือน การเปิดกล่องของขวัญ ทีท่ กุ คนลุน้ ไปกับเราว่าเล่มนีเ้ ราจะซ่อนอะไรเอาไว้ เราอยากเป็นหนังสือทีอ่ า่ นง่ายๆ เราอยากเป็นหนังสือทีถ่ กู อ่านจากคุณพ่อ คุณแม่ และมีลูกๆ ได้สนุกไปด้วย สุดท้ายเราอยากเป็นหนังสือที่วางเก็บ ไว้เป็นของสะสมตั้งโชว์ในบ้าน พวกเราแสนสิริจากบ้านเลขที่ 475 ได้ส่งต่อความรักในงานที่เราทำ ในรูปแบบหนังสือ SANSIRI NO.475 ไปยังทุกๆ บ้าน ทุกรายละเอียดของ หนั ง สื อ เล่ ม นี้ จึ ง เป็ น เหมื อ นดี เ อ็ น เอของที ม งานแสนสิ ริ ทุ ก คน และ เตรียมพบกับ Community Sansiri NO.475 บนเว็บไซต์ที่จะเป็นอีกหนึ่ง ช่องทางให้เราได้รู้จักและพูดคุยกันมากขึ้น และพิเศษสำหรับเล่มนี้ เราอยากให้คุณได้สัมผัสและเป็นส่วนหนึ่งของ การเดินทางไปกับเรา ผ่านสิทธิพเิ ศษต่างๆ ทีจ่ ะทำให้การเดินทางครัง้ ใหม่ ของคุณเต็มไปด้วยความสุข
เริม่ ...เล่มต่อไป เอกสิทธิเ์ ฉพาะลูกบ้านแสนสิริ โปรดลงทะเบียนเพือ่ ยืนยันรับนิตยสาร SANSIRI NO.475 สำหรับท่านที่อยากสะสมหนังสือเล่มนี้ เราจะส่งให้ทุกคน ที่เข้าไปลงทะเบียนนะคะ
เริม่ ต้นการสะสมหนังสือ Sansiri NO.475 ด้วยการโทรศัพท์ มาที่ SANSIRI CALL CENTER โทร. 02 201 3999
แจ้งลงทะเบียนตอบรับการรับนิตยสารด้วยการแจ้ง บ้านเลขที่และโครงการตั้งแต่วันนี้ – 15 พ.ค. 55
รอรับนิตยสาร Sansiri NO.475 อย่างต่อเนือ่ งได้ทบ่ี า้ น
* เงือ่ นไขต่างๆ เริม่ มีผลตัง้ แต่ฉบับที่2 ของปี 2555 เป็นต้นไป สงวนสิทธิ์ เฉพาะลูกบ้านในเครือแสนสิรทิ ท่ี ำสัญญาแล้วและผูท้ เ่ี ช่าอาศัยอยูใ่ น โครงการในเครือแสนสิรเิ ท่านัน้ ในกรณีทบ่ี า้ นยังสร้างไม่เสร็จ หรือยัง ไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์ หรือไม่ได้พกั อาศัยในโครงการ ทางบริษทั ฯ จะจัด ส่งนิตยสารให้ตามทีอ่ ยูใ่ นปัจจุบนั สำหรับโครงการทีอ่ ยูใ่ นความดูแล ของ Plus Property ทางนิตบิ คุ คลจะเป็นผูด้ แู ลเรือ่ งการจัดส่งนิตยสาร ให้แก่ลกู บ้าน ส่วนโครงการไม่ได้อยูใ่ นความดูแลของ Plus Property ทางบริษทั ฯ จะจัดส่งนิตยสารให้ทางไปรษณีย์ OWNER บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ชั้น 16 อาคารสิริภิญโญ 475 ถนนศรีอยุธยา แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 Sansiri Public Company Limited 16th Fl. Siripinyo Bldg. 475 Sri Ayutthaya Rd., Rajthevi, Bangkok 10400 THAILAND. สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SANSIRI Call Center 02 201 3999
denmark
_COPEN H AGEN pa g e 1 4
S O U T H K O REA
_SEO U L
pa g e 38
I TA LY
_F L ORENCE
J A PAN
pa g e 6 0
_T O K YO
usa
pa g e 72
_s a n f r a n c i s c o pa g e 48
C O N T EN T S
_ECO T RAV E L L ING
AUS T RA L I A
_M E L B O U RNE pa g e 26
ISSUE/YEAR
PAGE NO.
01.2012
014
D E S T I N AT I O N
WEIGHT
FLIGHT NO.
--S TAT I O N
SSR475 TIME OF ARRIVAL
DENMARK
__ : __
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
16
01/2012
DENMARK
C O P EN H AGEN
C O P EN H AGEN I N GREEN
01/2012
17
OUTBOUND
C op e n h a g e n General Info: • เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน เดนมาร์ก • เป็นเมืองที่ว่ากันว่าประชากรมี คุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก • ขณะเดียวกันก็จัดว่าเป็นเมืองที่มี ค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกเช่นกัน
COPENHAGEN IN GREEN
ระหว่างเดินทางเข้าเขตแดนเดนมาร์กผ่านรางรถไฟทีแ่ ล่นเลาะ ทะเลเหนือทางฟากตะวันตกมาสูท่ ะเลบอลติกทางฝัง่ ตะวันออก ที่คาบสมุทรจัตแลนด์ (Jutland) อันถือเป็นแผ่นดินใหญ่ของ เดนมาร์ก เราก็ทึ่งกับทัศนียภาพทุ่งหญ้าที่ล้อสายลมปลิวไสว ตื่นตากับกังหันลมสมัยใหม่สามใบพัดบนเสาต้นมหึมา (Wind Turbine) รายเรียงเป็นสิบๆ ต้นกลางทุง่ ข้าวสาลี เมือ่ รถไฟเคลือ่ น ขบวนผ่านท้องทะเลก็เห็นกังหันลมตัง้ เรียงกันเป็นกลุม่ อยูน่ อก ชายฝัง่ (Offshore Wind Farm) สะท้อนแดดระยิบดูตระการตา แต่ก็เป็นภาพที่ธรรมดามากของชาวเดนมาร์ก ค่าที่ประเทศนี้ นำพลังงานลมจากกังหันมาผันเป็นพลังงานไฟฟ้าใช้กันอย่าง เป็นล่ำเป็นสัน มีการศึกษาวิจัยด้านพลังงานทดแทนที่เป็น มิตรกับสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่ยุค 1970 ทุ่งกังหันนอกชายฝั่ง แห่งแรกของยุโรปซึ่งเป็นผู้นำด้านพลังงานลมของโลกก็ติดตั้ง ขึน้ ในเดนมาร์กตัง้ แต่ ค.ศ. 1991 แสดงถึงความเป็นผูบ้ กุ เบิกด้าน พลังงานลมทีแ่ สนจะเป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม เพราะมาทดแทน เชือ้ เพลิงฟอสซิลพวกถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ไม่ตอ้ งกังวล กับภาวะผันผวนของราคาเชื้อเพลิง ทั้งช่วยลดปริมาณการ
ปล่ อ ยก๊ า ซคาร์ บ อนไดออกไซด์ สู่ ชั้ น บรรยากาศและภาวะ เรือนกระจก ไม่มมี ลพิษทางอากาศ มลพิษทางเสียงก็นอ้ ยมาก (ทุ่งกังหันในระยะ 350 เมตรให้ระดับเสียง 35 - 45 เดซิเบล รถยนต์ที่ขับด้วยความเร็ว 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในระยะ 100 เมตรเสียงยังดังกว่าอยู่ที่ 55 เดซิเบล) สร้างคน สร้างงาน สร้างรายได้ เพราะไม่เพียงบริษัทใหญ่ๆ ผู้ผลิตกังหันเท่านั้น แต่คนในชุมชนก็สามารถให้เช่าพื้นที่เพื่อติดตั้งกังหันได้ มีการ ยกเว้นภาษีสำหรับบ้านหรือชุมชนที่ใช้พลังงานลม บ้านไหน สนใจก็ซื้อหาไปติดตั้งใช้เป็นพลังงานภายในบ้าน ลดบิลค่าไฟ ไปได้เยอะ หรือจะรวมตัวตั้งเป็นสหกรณ์เจ้าของกังหันกันเอง ในหมู่บ้านก็มีรัฐบาลส่งเสริม คุณภาพชีวิตดีขึ้นทันตาเห็น แล้วลมมันพัดมาพัดไป ไฉนไม่เก็บกักมาไว้ใช้เป็นประโยชน์ ยิง่ กับลมนอกชายฝัง่ ทะเลยุโรปด้วยแล้วพัดแรงจัดเต็ม ทุกวันนี้ จึงมีทุ่งกังหันนอกชายฝั่ง 39 แห่งใน 9 ประเทศของยุโรป (อาทิ เดนมาร์ก เยอรมนี สเปน เบลเยียม สหราชอาณาจักร) ที่ผลิตพลังงานได้รวมกันถึง 2,063 เมกะวัตต์ทีเดียว
ประเทศที่เอาดีจริงจังด้านสภาพแวดล้อมก่อนใครเพื่อนต้องยกให้เดนมาร์ก ซึ่งก่อตั้ง กระทรวงสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่ ค.ศ. 1971 และเป็นประเทศแรกของโลกที่บังคับใช้กฎหมาย สิ่งแวดล้อม (Environmental Law) เมื่อ ค.ศ. 1973 รัฐบาลเดนมาร์กลงนามในข้อตกลง นานาชาติด้านสิ่งแวดล้อมและสภาวะโลกร้อนหลายฉบับ อันมีผลให้ปริมาณการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของประเทศลดลงอย่างมาก ขณะทีร่ าชวงศ์เดนมาร์ก ซึง่ สมเด็จพระราชินนี าถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่ ง เดนมาร์ ก (Her Majesty Queen Margrethe II of Denmark) เป็นประมุขสูงสุดปกครองประเทศภายใต้ระบอบ ประชาธิปไตยแบบรัฐสภาก็รว่ มรณรงค์อย่างแข็งขัน ทรงปฏิบตั ิ พระองค์เป็นตัวอย่างเช่นเดียวกับประชาชน เป็นต้นว่าเปลี่ยน ฮีตเตอร์ในพระราชวังทีป่ ระทับอามาเลียนบอร์ก (Amalienborg Palace) อันช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไปได้ 150 ตั น ต่ อ ปี ส่ ว นเมื อ งหลวงอย่ า งโคเปนเฮเกน (Kobenhavn ในภาษาเดนิช) ไม่ว่าจัดอันดับเมืองที่เป็นมิตร กั บ สิ่ ง แวดล้ อ มจากสำนั ก ใดก็ ติ ด อั น ดั บ ท็ อ ปไฟว์ ท็ อ ปเท็ น ทุกสำนักไป อย่างล่าสุดก็ครองอันดับหนึ่งของเมืองสุดยอด
อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสะอาด (CleanTech) ด้วยความเป็น เมืองที่เอื้อต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีสะอาดในการพัฒนา ขยับขยาย และส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนรูปแบบใหม่ๆ และผลิตภัณฑ์คุ้มค่าพลังงานต่างๆ เพราะเมืองโคเปนเฮเกน เข้ ม ข้ น กั บ การวิ จั ย พั ฒ นา ลงทุ น กั บ เทคโนโลยี เ ป็ น มิ ต ร สิง่ แวดล้อม ทัง้ ได้ประกาศตัวโจ่งแจ้งว่าจะเป็นเมืองหลวงปลอด ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แห่งแรกของโลกภายใน ค.ศ. 2025 ซึ่งได้ลงมือปฏิบัติกันไปแล้วตามมาตรการลดปริมาณการ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ 20 เปอร์เซ็นต์ ใน ค.ศ. 2005 - 2015 เบ็ดเสร็จแล้วก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงถึง 500,000 ตันในอีกสี่ปีข้างหน้า
01
02
0 1 ทิวทัศน์ของทุ่งดอกไม้ ทุ่ง
ข้าวสาลี โดยมีกังหันลม
เป็นฉากหลัง 0 2 พลังงานเป็นมิตรกับ
สิ่งแวดล้อม คือกังหันลม ทีอ่ ยู่นอกเมือง
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
18
01/2012
DENMARK
C O P EN H AGEN
C O P EN H AGEN I N GREEN
01/2012
19
INSIDE COPENHAGEN ครั้นมาถึงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงที่มีประชากร 539,542 คน ในจำนวนประชากรเดนมาร์กทั้งสิ้น 5,560,628 คน เราก็ยังคงพบสิ่งที่หมุนติ้วเป็นวงอยู่เกลื่อนเมือง ไม่ใช่ ใบพัดกังหันยุคใหม่ หากคือสองล้อของจักรยาน พาหนะ สีเขียวสุดๆ ที่มีจำนวนมากกว่าชาวเมืองเสียอีก โดย 55 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีถิ่นฐานในโคเปนเฮเกนใช้จักรยาน เป็นพาหนะประจำในการไปเรียน ไปทำงาน ไม่แปลกที่ใน แต่ละวันจะมีผู้คนขี่จักรยานกันในโคเปนเฮเกนเป็นระยะทาง รวม 1.2 ล้านกิโลเมตร ในเวลาที่การจราจรสองล้อหนาแน่น ที่สุดบนท้องถนนนั้นถูกจับจองด้วยนักปั่น 20,000 - 30,000 คนต่อวัน ขณะที่ทางการเมืองโคเปนเฮเกนได้สร้างเส้นทาง จักรยานไว้รองรับนักปั่นแล้ว 350 กิโลเมตร เลนจักรยาน 20 กิโลเมตร สะพานคนข้ามและจักรยานข้ามเพื่อช่วยย่น ระยะทางการขับขี่ สิง่ อำนวยความสะดวกเพือ่ การขับขีป่ ลอดภัย ที่จอดรถจักรยานอีกเพียบ สัญญาณไฟจราจรสำหรับจักรยาน โดยเฉพาะที่ให้สิทธิ์คนขี่จักรยานก่อนคนขับรถยนต์ (ไฟเขียว จักรยานขึน้ ก่อนไฟเขียวรถ 4 วินาที) และยังมีการสร้างเส้นทาง จักรยานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าการสร้างเส้นทางจักรยาน 1 กิโลเมตรจะต้องใช้เงิน 8 ล้านโครน (1 Danish Krone DKK ประมาณ 5.6 บาท) คงเทียบกันยากกับงบ 1 พันล้าน โครนเพื่ อ สร้ า งทางรถไฟใต้ ดิ น 1 กิ โ ลเมตร งบ 70 - 100 ล้านโครนในการสร้างมอเตอร์เวย์ 1 กิโลเมตร และทุกครั้งที่เส้นทางจักรยานใหม่เกิดขึ้น ตัวเลขคนขี่จักรยาน จะเพิม่ ขึน้ 20 เปอร์เซ็นต์ และคนใช้รถยนต์นอ้ ยลง 10 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่แท็กซี่ทุกคันก็จะต้องมีรางบรรทุกจักรยานได้ 2 คัน ไว้ด้วย บรรดาครอบครัวลูกสองก็จะมีจักรยานบรรทุกของ (Cargo Bike) หรือจักรยานพ่วง (Bicycle Trailer) ไว้ใช้งาน โรงแรมส่วนใหญ่มักมีจักรยานให้แขกยืมหรือเช่าไปขี่ช่วยให้ ผู้มาเยือนเป็นส่วนร่วมกับชาวเมืองที่มองว่าการขี่จักรยานเป็น วิธีที่รวดเร็ว ง่าย ได้ออกกำลัง ราคาถูก สะดวก เหตุผลทาง สิ่งแวดล้อมนั้นเป็นผลพลอยได้ที่ดีเยี่ยมเท่านั้น
การออกท่ อ งไปในเมื อ งโคเปนเฮเกนด้ ว ยสองล้ อ แรงปั่ น ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อโลกจึงเป็นวิธีการดีที่สุด ถึงจะไม่ทันได้ ขี่จักรยานจากโรงแรมก็ไม่เป็นไร เพราะเมืองนี้มีจักรยานให้ ยืมฟรีด้วยรางจอดจักรยานกว่า 110 แห่งทั่วเมือง เลือกมา สักคันแล้วจัดการหยอดเหรียญ 20 โครนที่ล็อกเกอร์เพื่อปลด จักรยานออกไปขี่เล่นสบายใจเฉิบได้เลย หมดเรี่ยวแรงแล้ว ก็เอาจักรยานคืนเข้ากับรางจอดจักรยานที่เจอ เหรียญ 20 โครนก็จะกลับคืนมา แม้กำลังวังชาต้องใช้เวลาฟื้นฟูอีกนิด แต่คงไม่เท่าไหร่ เพราะจักรยานฟรีนี้จำกัดพื้นที่ให้ขี่แค่ภายใน เขตกลางเมืองและมีให้ยมื ขีไ่ ด้ในเดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน เท่ า นั้ น ละช่ ว งหน้ า หนาวไว้ ใ ห้ ช าวโคเปนเฮเกนสู้ ส ายลม ยะเยือกปะทะผิวยามขี่เอาเองเถิด สำหรับใครที่ขี่ไม่คล่อง ขี่ ไ ม่ เ ป็ น ขี่ ไ ม่ ไ หว สองเท้ า ก็ เ ที่ ย วเมื อ งได้ ดี ไ ม่ แ พ้ ส องล้ อ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อยู่ในระยะเดินถึง หรือแม้บางที จะคิดสะระตะแล้วว่าวันหนึ่งๆ นั้นเดินเที่ยวเมืองไปน่าจะ 3-5-7-9 กิโลเมตรแล้วแต่ระยะของแต่ละคน ก็เชือ่ แน่วา่ จะเป็น การเดินที่รื่นรมย์ เพลิดเพลิน สนุกสนาน สร้างสรรค์ แปลกตา สำราญใจ เพราะสิง่ ทีอ่ บอวลอยูใ่ นเมืองโคเปนเฮเกนเป็นเช่นนัน้
02 01
03
0 1 เมืองหลวงของนักขีจ ่ กั รยาน
มุมมองจาก Christiansborg Palace 0 2 ถึงไม่ได้นำพาจักรยานมา ก็สามารถเช่าได้ 0 3 รูปปั้นนางเงือกน้อย หรือที่ เรียกกันว่า Den Lille Havfrue
Den Lille Havfrue นอกจากจักรยานจะเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแล้ว เงือกน้อย อาจคื อ ความหมายเดี ย วกั น กั บ โคเปนเฮเกน นั ย ว่ า รู ป ปั้ น เงื อ กน้ อ ยนั่ ง คอยเจ้ า ชายอยู่ ริ ม ทะเลจั ด เป็ น จุ ด หมายหลั ก ที่ นั ก ท่ อ งเที่ ย วต้ อ งไปเช็ ค อิ น ถ่ า ยรู ป กั บ นางเงื อ กจึ ง จะได้ ชื่อว่า “ถึง” เราผู้ไม่อนาทรกับอาการถึงหรือไม่ถึงที่ว่ายังต้อง ขอไปทักทายดูใบหน้าเศร้าสร้อยของเงือกน้อยกับเขาด้วย เพราะชอบเทพนิ ย ายของฮั น ส์ คริ ส เตี ย น แอนเดอร์ สั น (Hans Christian Andersen) นักประพันธ์ชาวเดนิชที่โด่งดัง ไปทั่วโลก รูปปั้นเงือกน้อยหรือที่ชาวเดนิชเรียกว่า Den lille Havfrue มีที่มาย้อนกลับไปเมื่อ ค.ศ. 1909 คาร์ล จาคอบเซ่น (Carl Jacobsen) ผู้ก่อตั้งโรงเบียร์คาร์ลสเบอร์ก (Carlsberg Breweries) เข้าไปชมบัลเล่ต์ ณ โรงละครหลวง เรือ่ ง The Little Mermaid ที่ Hans Beck และ Fini Henriques ออกแบบ ท่าเต้นโดยอิงจากเทพนิยายของฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน แล้วเกิดความประทับใจกับเรื่องราวและการแสดงอย่างสุดซึ้ง จึงไปว่าจ้างประติมากรเอ็ดวาร์ด เอริกเซ่น (Edvard Eriksen) ให้ ปั้ น นางเงื อ กชวนหลงใหล ฝ่ า ยเอริ ก เซ่ น ก็ ล งมื อ ทำงาน ทั น ที โ ดยอาศั ย ภรรยาของเขาเป็ น นางแบบ เมื่ อ เสร็ จ แล้ ว จาคอบเซ่ น ก็ ม อบให้ เ มื อ งโคเปนเฮเกน ซึ่ ง พาเธอไปอยู่ ที่ Langelinie Harbourfront Promenade ใน ค.ศ. 1913 โดยไม่มีการย้ายไปไหนเลย (มีมือดีมาตัดศีรษะเธอหลายครั้ง แต่ละครั้งเล่นเอาเศร้าโศกกันไปทั้งเมือง และมีการแต่งโฉม เธอใหม่ให้เป็นมิ่งขวัญแด่ชาวเมืองสืบไป) จะมีครั้งหนึ่งที่เธอ ได้เดินทางออกนอกประเทศเป็นครัง้ แรกเมือ่ ไปปรากฏตัวอยูใ่ น พาวิลเลียนของเดนมาร์กในงานเซี่ยงไฮ้เอ็กซ์โป (World Expo 2010 Shanghai, China) ที่ผ่านมานี่เอง เห็นไหมว่าเธอเป็น สัญลักษณ์ของเดนมาร์กจริงๆ
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
20
01/2012
DENMARK
C O P EN H AGEN
C O P EN H AGEN I N GREEN
01/2012
21
Nyhavn
ผ่ า นไปผ่ า นมาได้ ทิ้ ง เศษเหรี ย ญให้ เ ขายั ง ชี พ ต่ อ บางคนมี รายได้เป็นกอบเป็นกำ ฝีมือไม่ธรรมดา มีซีดีวางขายให้ซื้อ กลับไปฟังต่อได้ด้วย
แลนด์มาร์กอีกแห่งของโคเปนเฮเกนคือ Nyhavn ท่าเรือใหม่ (New Haven) ที่ เ ก่ า แก่ ม าจากการเป็ น ท่ า เรื อ พลุ ก พล่ า น ที่เรือสินค้าจากทั่วโลกมาลงของรับของกันที่นี่ เดิมทีจึงคับคั่ง ไปด้วยกะลาสี สาวๆ ผับ โรงเหล้า ตอนนี้อาคารบ้านเรือน เก่าๆ ได้รับการทาสีใหม่แต่ความเอนๆ เอียงๆ ของแนวอาคาร ยังคงอยู่เป็นเสน่ห์ให้หวนนึกไปถึงทศวรรษก่อนๆ และสืบสาน ลมหายใจแห่งปัจจุบันด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขนม บาร์ ที่ สร้างเสริมบรรยากาศให้เป็นย่านกินดื่มหย่อนใจที่มีชีวิตชีวา ที่สุดของเมือง ใครชอบบรรยากาศกลางแจ้งสบายๆ ก็อาจ เข้าร้านของชำ ร้านค้า ซื้อเบียร์ (ยี่ห้อเดนมาร์ก Tuborg หรือ Carlsberg) มาสั ก กระป๋ อ ง น้ ำ ผลไม้ สั ก ขวด ถั่ ว ทอด มั น ฝรั่ ง กรอบ ช็ อ กโกแลต มาเคี้ ย วเล่ น ดื่ ม จริ ง ระหว่ า งนั่ ง หย่ อ นเท้ า ตรงแนวท่ า เที ย บเรื อ มองเรื อ นำเที่ ย วที่ ล่ อ ง ลำคลองแล้วอดใจไม่ไหวอยากร่วมทัวร์ด้วยก็ติดต่อที่ท่าเรือ ได้เลย หรือจะค่อยๆ เดินดูบ้านริมคลอง ซึ่งบ้านเลขที่ 9, Nyhavn ได้รับการบันทึกเป็นบ้านเก่าที่สุดของย่าน เพราะ สร้างมาตัง้ แต่ ค.ศ. 1681 ยังคงดีไซน์ดงั้ เดิมไว้ไม่เปลีย่ นแปลง บ้ า นหลายหลั ง แถบนี้ ยั ง เคยเป็ น ที่ พั ก อาศั ย ที่ ท ำงานของ ศิ ล ปิ น ดั ง ๆ หลายคน หนึ่ง เดี ย วคนนี้อ ย่ า งฮั น ส์ คริ ส เตี ย น แอนเดอร์ สัน ก็ เ คยอยู่ แ ถวนี้ ม ากกว่ า ยี่ สิ บ ปี เปลี่ ย นบ้ า น ไปสามหลังที่บ้านเลขที่ 67, 18 และเลขที่ 20 ซึ่งเป็นหลัง ที่ เ ขานั่ ง เขี ย นเทพนิ ย ายเรื่ อ ง Tinder-Box, Little Claus and Big Claus และ The Princess and The Pea เมื่อเดินจนสุดย่านริมคลองก็จะไปพบกับ Kongens Nytorv ลานกว้างที่เราโชคดีไปเจองานเทศกาลแจ๊ซบรรเลงให้ฟังฟรี อย่างเมามัน Copenhagen Jazz Festival มีจัดทุกปีในช่วง เดือนกรกฎาคมทีห่ น้าร้อนอากาศกำลังดี ท้องฟ้าสว่างจนค่ำคืน มีนักดนตรีชื่อดังของเดนมาร์ก สแกนดิเนเวีย ยุโรป อเมริกา ทั้งสายคลาสสิก บิ๊กแบนด์ โมเดิร์นแจ๊ซ เวิลด์มิวสิก มาแสดง ทัง้ ให้ชมฟรีและจ่ายสตางค์ดกู นั ในฮอลล์ บาร์ คาเฟ่ พิพธิ ภัณฑ์ โดยเป็นเทศกาลดนตรีทดี่ ไู ด้ทงั้ ครอบครัว เพราะมีกจิ กรรมและ มีโชว์สำหรับเด็กด้วย บางโชว์ไปเล่นในทิโวลี (Tivoli Gardens) สวนสนุกสุดโปรดของชาวเมือง วงบิ๊กแบนด์ของทิโวลีเองก็มา เล่นสวิงแจ๊ซให้ฟังสนุกๆ ตลอดหน้าร้อนเลยทีเดียว
ย่านสตรอยก์ไม่เพียงถูกใจนัก (วินโดว์) ช็อปปิ้งเท่านั้น นัยว่า ยังอัดแน่นไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ งามๆ ของเมือง โคเปนเฮเกนอันเต็มไปด้วยเสาด้วยหอคอยของอาคารศาลา ว่าการเมือง (Copenhagen City Hall Tower), โบสถ์ (Church of Our Lady หรือ Vor Frue Kirke), น้ำพุ (The Stork Fountain หรือ Storkespringvandet), โรงละคร (The Royal Danish Theatre), จัตุรัส (Amagertorv Square) ที่มองข้ามคลองไปก็ จะเห็นพระราชวังคริสเตียนสบอร์ก (Christiansborg Palace) ทีต่ งั้ ของรัฐสภาและศาลสูงสุด ส่วนพระราชวังอามาเลียนบอร์ก (Amalienborg Palace) วังที่ประทับของราชวงศ์นั้นโดดเด่น ด้วยสถาปัตยกรรมโรโคโคแบบเดนิชด้วยอาคารเท่ากันสี่ด้าน แผ่ออกไปรอบคอร์ตยาร์ดรูปแปดเหลี่ยม มีทหารรักษาการณ์ ผลัดเปลี่ยนเวรยามประจำวันเป็นกิจวัตรที่นักท่องเที่ยวมักไป ชะเง้อชะแง้ถ่ายรูป ขณะที่พระราชวังอีกแห่งใจกลางเมืองคือ Rosenborg Castle สวยงามด้วยเป็นวังพักผ่อนพระราชหฤทัย ของกษัตริย์คริสเตียนที่ 4 ที่ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์แสดง ประวัติศาสตร์ 400 ปีของราชวงศ์เดนมาร์ก
Stroget สตรอยก์ (Stroget) เป็นย่านช็อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของเมือง และเป็ น ถนนคนเดิ น สายยาวที่ สุ ด ในโลกด้ ว ยความยาว 1.1 กิโลเมตรจากจัตุรัสซิตี้ฮอลล์ (Radhuspladsen) จนถึง Kongens Nytorv เป็ น ย่ า นช็ อ ปปิ้ ง ถ้ อ ยที ถ้ อ ยอาศั ย กั บ กระเป๋าสตางค์ของทุกคน เพราะมีตั้งแต่ร้านค้าแบรนด์เนม ระดับโลก ของหรูหรา แบรนด์ราคากลางๆ สินค้าราคาถูก ตลอดจนงานดีไซน์ วินเทจ ของเฉพาะอย่าง หนังสือ เครือ่ งเขียน ดนตรี และของที่ระลึก หน้าร้อนมักคลาคล่ำไปด้วยนักแสดง ละครเร่ตามท้องถนน นักมายากล นักดนตรีพเนจร ทีผ่ ลัดเปลีย่ น กั น มาแสดงความสามารถมอบความบั น เทิ ง ให้ ค นที่ เ ดิ น
01
02
0 1 บรรยากาศหน้าร้อนที่ชวน
ให้ชาวเมืองออกมาใช้ชวี ติ กลางแจ้งที่ Nyhavn 0 2 ภาพสะท้อนจากคาเฟ่ ใกล้กับ Christiansborg Palace
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
22
01/2012
DENMARK
C O P EN H AGEN
C O P EN H AGEN I N GREEN
01/2012
23
น้อยกว่ารถยนต์และรถเมล์ทั่วไป เพราะเป็นรถเมล์ขับเคลื่อน ด้วยพลังงานไฟฟ้า โรงแรมมากกว่าครึง่ ก็ดำเนินนโยบายใส่ใจ สภาพแวดล้อม ดูทั้งน้ำ การทำความสะอาด กำจัดของเสีย ซักรีด การใช้พลังงาน อาหาร บุหรี่และสภาพอากาศภายใน อาคาร ขณะที่ อ าหารจานด่ ว นที่ ใ ครๆ มองว่ า เป็ น จั ง ก์ ฟู้ ด อย่ า ง ฮอตด็อก โคเปนเฮเกนก็มีซุ้มขายฮอตด็อกอุดมสุขภาพชื่อ DOP อยู่ตรงหอคอยกลม (Dop ved Rundetarn) โดยวัตถุดิบ ทุ ก อย่ า งเป็ น ออร์ แ กนิ ก หมดตั้ ง แต่ เ นื้ อ หมู เนื้ อ วั ว ที่ เ อา มาทำไส้กรอก หัวหอมทอด มันบดกับหัวผักกาด ขนมปัง ก็เป็นแบบโฮลเกรน มีร้านขายเนื้ออายุกว่าร้อยปีที่ยังใช้วิธี แล่เนื้อแบบดั้งเดิม Butcher at Kultorvet ขายเนื้อออร์แกนิก มาตั้งแต่ ค.ศ. 1997
สำหรับผู้สนใจศิลปะ เดนิชดีไซน์เป็นที่ร่ำลือในความเรียบง่าย สุดเนี้ยบ คุณภาพดี สไตล์เท่ไม่มีล้าสมัย จะสนใจซื้อหางาน ศิ ล ปะก็ มี ใ ห้ เ ลื อ กตามแกลเลอรี่ ร้ า นเฟอร์ นิ เ จอร์ บู ติ ก ดี ไ ซน์ ต่ า งๆ หรื อ สนใจเดิ น ชื่ น ชมงานศิ ล ป์ ก็ มี พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ หลากหลายตั้ ง แต่ ยุ ค โบราณ คอนเทมโพรารี ส มั ย ใหม่ เป็นต้นว่า Danish National Gallery จัดแสดงจิตรกรรม ประติมากรรม งานกราฟิก, ARKEN Museum of Modern Art จั ด แสดงงานเจ๋ ง ๆ ของศิ ล ปิ น โมเดิ ร์ น นิ ส ต์ แ ละร่ ว มสมั ย , Ny Carlsberg Glyptotek พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ศิ ล ปะที่ ก่ อ ตั้ ง โดยคาร์ล จาคอบเซ่นแห่งโรงเบียร์คาร์ลสเบอร์ก จัดแสดง งานศิลป์โบราณและสมัยใหม่เพื่อฉายประวัติศาสตร์ศิลปะ 3,500 ปี ตั้ ง แต่ ศิ ล ปะอี ยิป ต์ กรี ก อี ท รั ส คั น โรมั น รวมทั้ ง ภาพวาดและรูปปั้นของเดนมาร์กกับฝรั่งเศสในช่วงศตวรรษ ที่ 19-20 ด้วย มีถนนสายศิลปิน Art Street Rorholmsgade รายเรียงด้วยแกลเลอรี่ของศิลปินมากถึง 25 ราย ที่ทุกวัน อาทิตย์แรกของเดือนจะรวมตัวกันเปิดแกลเลอรี่ให้คนทั่วไป เข้าชม มี Danish Museum of Art and Design และ Danish Design Centre (DDC) ศูนย์ดีไซน์ที่สถาปนิกเดนิชชื่อดัง เฮนนิ่ง ลาร์เซน (Henning Larsen) ออกแบบโดยให้ฟาซาด ด้ า นหน้ า เป็ น กระจก ดู เ รี ย บหรู เ ชิ ญ ชวนให้ เ ข้ า ไปเดิ น ดู นิทรรศการงานดีไซน์ ขณะทีร่ า้ นขายของก็มขี องทีร่ ะลึก ของใช้
ของประดั บ งานอาร์ ต เก๋ ๆ ดี ไ ซน์ แ ปลกๆ ไว้ ล่ อ ตาล่ อ ใจ ให้ซอื้ หามากมาย รวมถึง National Museum of Photography ซึ่งหอสมุดแห่งชาติ (The Royal Library) ได้เก็บรวบรวม ภาพถ่ายมากกว่า 50,000 ภาพ ทั้งจากช่างภาพชาวเดนิช และนานาชาติที่ถ่ายไว้ตั้งแต่ ค.ศ. 1839 พิพิธภัณฑ์ภาพถ่าย แห่งนี้ตั้งอยู่ชั้นล่างของอาคารส่วนขยายของหอสมุดแห่งชาติ ที่เรียกกันว่า The Black Diamond ด้วยตัวอาคารกระจก สีดำด้านหากเป็นประกายเจิดจ้าอยูเ่ บือ้ งหน้าทะเลและท้องฟ้า เหนือท่าเรือ ภายในมีภาพวาดอลังการขนาด 200 ตารางเมตร ฝีมือเพอร์ เคิร์กบี (Per Kirkeby) ประดับบนเพดาน มีหอสมุด ร้านหนังสือ คาเฟ่ ร้านอาหาร ดาดฟ้า ฮอลล์จัดคอนเสิร์ต และการแสดงที่จุผู้ชมได้ 600 คน และเมื่ อ ถึ ง คราวจะจั บ จ่ า ยใช้ ส อยไปกั บ ข้ า วของ อาหาร เครื่องดื่ม หรือจับจ่ายวันเวลาไปอย่างเพลิดเพลินโดยอิงความ เป็ น สี เ ขี ย วไม่ ท ำร้ า ยสิ่ ง แวดล้ อ ม โคเปนเฮเกนก็ มี ส วน สาธารณะมากมาย น้ำสะอาด พืน้ ทีก่ ลางแจ้งให้อากาศบริสทุ ธิ์ ร้านอาหารออร์แกนิก เบียร์ปลอดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ร้านค้าต่างๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แม้แต่รถเมล์นำเที่ยว ของเมือง CityBus 11A ซึ่งแล่นผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ จะคดเคี้ยวอย่างไรก็ไปได้ แถมยังปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
ห้างสรรพสินค้าเพื่อไลฟ์สไตล์สีเขียวแห่งแรกของเดนมาร์ก EcoEgo เปิดตัวเมื่อ ค.ศ. 2008 ด้วยการนำข้าวของที่เป็น มิ ต รกั บ สิ่ ง แวดล้ อ มทั้ ง หลายมาขายให้ ค นเลื อ กซื้ อ กั น ได้ ครบถ้วนในทีเ่ ดียว มีหา้ งสรรพสินค้าขนาดจิว๋ ชือ่ K29 ขายของ สุดเก๋แนวอีโค่ที่เจ้าของร้านออกแบบเอง และมีแบรนด์ที่ใช้ แต่วสั ดุออร์แกนิกอย่างไม้ไผ่ ฝ้าย โพลีเอสเตอร์ทไี่ ด้มาจากการ รีไซเคิลขวดพลาสติก
ในย่านกินดื่มสุดคึกคักที่ Nyhavn ก็มีร้านอาหารออร์แกนิก Cap Horn แซมแทรกอยู่ในบ้านเก่าที่ยังรักษาการตกแต่ง ดั้ ง เดิ ม ด้ ว ยกำแพงเก่ า พื้ น ไม้ เตาผิ ง เก้ า อี้ และจานที่ ดู ไม่ เ ข้ า กั น เท่ า ไรแต่ เ ต็ ม ที่ ไ ปด้ ว ยบรรยากาศอบอุ่ น แบบ บ้านๆ เสิร์ฟอาหารโฮมเมดออร์แกนิกทั้งมื้อบรันช์ กลางวัน และมื้อค่ำ ที่คัดสรรเมนูตามฤดูกาลและวัตถุดิบสดๆ ที่พบ ในตลาดวั น นั้ น ๆ มาปรุ ง อาหารรสดี คุ ณ ภาพเยี่ ย มในย่ า น เฟรเดริกสเบิร์ก (Frederiksberg) มีซูเปอร์มาร์เก็ตออร์แกนิก แห่งแรกของเมืองหลวงอย่าง Egefeld ที่ตกแต่งสไตล์ร้าน ของชำดั้งเดิมของชาวเดนิช มีคาเฟ่ออร์แกนิกบริการกาแฟ น้ำผลไม้คั้นสด มัฟฟิน สคอน ขนมอบต่างๆ หรือถ้าจะให้ ได้บรรยากาศสีเขียวสุดๆ ก็เดินเลือกซื้อผัก ผลไม้ เครื่องดื่ม ขนมปั ง ของกิ น ทั้ ง หลายไปปิ ก นิ ก กั น ในสวนสาธารณะ ริมคลอง หรือที่แบล็กไดมอนด์หน้าอ่าว ปล่อยกายปล่อยใจไปกับวันเวลาอย่างไม่รีบร้อน สูดอากาศ บริสุทธิ์ให้เต็มที่ แล้วทิ้งไว้เพียงรอยเท้าหรือรอยล้อจักรยาน เช่นที่ชาวโคเปนเฮเกนปฏิบัติกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
24
01/2012
DENMARK
C O P EN H AGEN
C O P EN H AGEN I N GREEN
01/2012
25
แล้ ว ก็ ฟ ลุ ก ไปเจอนิ ท รรศการภาพถ่ า ยทางอากาศ ‘World seen from the heavens’ ของช่ า งภาพฝรั่ ง เศส Yann Arthus-Bertrand ที่ ต อนนี้ รู้ จั ก กั น เยอะ ตระเวนแสดงไป ทั่ ว โลก บ้ า นเราก็ เ คยมาจั ด ที่ เ ซ็ น ทรั ล เวิ ล ด์ ซึ่ ง ภาพถ่ า ย น่าตื่นตาตื่นใจมาก กระตุ้นเรื่องสิ่งแวดล้อม มีย่านกินดื่ม ริมคลอง (Nyhavn) มีเทศกาลดนตรีแจ๊ซ ถึงจะเป็นเมืองหลวง แต่ บ รรยากาศเมื อ งสบายๆ เหมื อ นเมื อ งในยุ โ รปที่ ใ ช้ ชี วิ ต สบายๆ สำราญ มี ศิ ล ปะ คื อ เป็ น เมื อ งที่ ค นอยู่ เ พื่ อ ใช้ ชี วิ ต ใช้ ค วามเป็ น มนุ ษ ย์ ใ ห้ คุ้ ม ทุ ก อย่ า งสอดคล้ อ ง ครบเครื่ อ ง จั ด ให้ ค รอบคลุ ม ไม่ ใ ช่ เ มื อ งแห้ ง ๆ ถ้ า มองเรื่ อ งดี ไ ซน์ ท าง สแกนดิ เ นเวี ย กิ น ขาด มี ค วามนิ่ ง เท่ เนี้ ย บ ดู มี คุ ณ ภาพ เป็นที่โจษจันอยู่แล้ว พอไปเจอก็จริงตามนั้น วัสดุดีมาก ดูนิ่ง เป็นเซน คือเรื่องความนิ่งนี่เหมือนเขาเป็นญี่ปุ่นของยุโรปนะ เป็นยุโรปที่นิ่ง ไม่หวือหวา ถ่อมตน ไปดูแล้วก็รู้สึกดี
ข้ อ มู ล การท่ อ งเที่ ย ว คลิ ก ไปที่ เ ว็ บ ไซต์ ก าร ท่องเที่ยวโคเปนเฮเกน www.visitcopenhagen.com
A TRIP TO RE MEMB ER
สมคิด เปี่ยมปิยชาติ
บรรณาธิการสำนักพิมพ์ FULLSTOP
Green Addresses:
ฮอตด็อกออร์แกนิก DOP Ecological Hotdog Dop ved Rundetarn ทีห่ อคอยกลม เปิดวันจันทร์ถงึ ศุกร์ เวลา 11.30-18.00 น. และวันเสาร์ 11.00-17.00 น. ร้านขายเนื้อ Butcher at Kultorvet (Slagteren ved Kultorvet) - Frederiksborggade 4, Copenhagen ห้างสรรพสินค้า EcoEgo - Norre Farimagsgade 82, Copenhagen, www.ecoego.com ซูเปอร์มาร์เก็ต Egefeld Okologisk supermarked - Gammel Kongevej 113, Copenhagen ห้างสรรพสินค้าแนวอีโค่ K29 - Kompagnistraede 29, Copenhagen BioM - Fredericiagade 78, Copenhagen, www.biom.dk ร้านอาหารออร์แกนิกราคาปานกลาง มีสลัด แซนด์วชิ ซุป ของหวานเสิรฟ์ ในร้านอาหารสไตล์รว่ มสมัย
ร้านอาหาร Cap Horn - Nyhavn 21, Copenhagen, www.caphorn.dk เปิดวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 10.0024.00 น. วันเสาร์ถึงอาทิตย์ 09.00-24.00 น. Crowne Plaza Copenhagen Towers Orestads Boulevard 114-118, Copenhagen, www.copenhagentowers.dk โรงแรมหรูตกแต่งด้วย เฟอร์นิเจอร์สไตล์สแกนดิเนเวีย ใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่ ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ Hotel Kong Arthur - Norre Sogade 11, Copenhagen, www.kongarthur.dk โรงแรมสี่ดาวที่ดำเนินกิจการ แบบครอบครัว มีสวนเล็กๆ สงบๆ ให้หย่อนใจ Cafe Dansk at Danish Design Centre - H.C. Andersens Boulevard 27, Copenhagen, www.ddc.dk คาเฟ่ในศูนย์ดีไซน์ที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์เรียบง่าย มีแซนด์วิชเปิดหน้าสไตล์เดนิช (Smorrebrod) ให้เลือก รับประทาน ขณะที่ DDC Shop ร้านขายของ มีงานเก๋ๆ อาร์ ต ๆ หนั ง สื อ ศิ ล ปะและสถาปั ต ยกรรมให้ เ ลื อ ก มากมาย
สมคิด เปี่ยมปิยชาติ นอกจากจะเป็นบรรณาธิการสำนักพิมพ์ Fullstop เขายั ง เป็ น ช่ า งภาพฝี มื อ ระดั บ เซี ย นที่ มี ค วามคิ ด คมคายยิ่งนัก เราลองมาเดินทางไปเมืองโคเปนเฮเกนอีกครั้ง ผ่านมุมมองของเขา “ก่อนไปมีภาพเดนมาร์กน้อยมาก จำได้แค่ปีเตอร์ ชไมเคิล (ผูร้ กั ษาประตูทมี ชาติเดนมาร์ก เล่นให้ทมี แมนเชสเตอร์ยไู นเต็ด ยุค 1990) กับทีมชาติเดนมาร์กได้แชมป์ฟุตบอลยุโรปแบบ ส้มหล่น “พอไปแล้วก็ได้ภาพหลายๆ อย่างที่ไม่คาดคิด เรานั่งรถไฟ ข้ามคืนมาจากอัมสเตอร์ดัมที่เราไปตามล่าถ่ายรูปกังหันลม พอมาถึงเดนมาร์กก็เห็นกังหันลมเยอะเลย อยู่นอกชายฝั่งบ้าง เรียงเป็นแถวกลางทุ่งบ้าง ก็เลยไปตามถ่ายรูปกังหันลมต่อ สนุกมาก ได้ภาพกังหันดีๆ แบบไม่คาดคิด ได้ภาพทุ่งข้าว สาลีสวยๆ เลยรู้ว่าเดนมาร์กมีทุ่งกังหันลมใช้ผันเป็นพลังงาน ไฟฟ้าเยอะมาก พอมาถึงโคเปนเฮเกนก็ชอบบรรยากาศเมือง อย่างไปดูรูปปั้นเงือกน้อยก็ไม่เท่าไหร่นะ แต่บรรยากาศรอบๆ มันได้ มีสวนหย่อนใจ ทางเดินริมน้ำ มีโชว์หุ่นกระบอกในสวน
“หรือตอนที่ไปบ้านเกิดฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สันที่เมือง โอเดนเซ (Odense) ก็ตื่นเต้นมากกับบรรยากาศเมืองนิทาน เขาสามารถสร้างบรรยากาศจากประวัติศาสตร์ของเมืองได้ ครอบคลุมมาก คือไม่ต้องถึงกับประวัติศาสตร์จริงจังอะไร เป็ น นิ ท านก็ ส ร้ า งเมื อ งนิ ท าน มี ที่ ท างมี กิ จ กรรมเล่ น ละคร เล่านิทานกันในสวน แล้วก็ไม่ใช่แบบเด็กๆ ดูนา่ รักอะไรแบบนัน้ แต่ เ ข้ า ถึ ง หมดทั้ ง เด็ ก ทั้ ง ผู้ ใ หญ่ อย่ า งบ้ า นเราไปดู สุ น ทรภู่ เห็นรูปปั้นตัวเดียวจบเลย เป็นเรื่องที่เราอิจฉาเขานะ คือเรา มีของให้เล่นเยอะมาก สนุกด้วย บ้านเราร้อนก็คึกคัก ของเขา หนาว เบือ่ ต้องหาอะไรทำ เรามีทกุ อย่างแต่ขาดการจัดระเบียบ ขาดการมองเห็น ขาดการโหยหาความต้องการในการเสพ สุนทรียะ ของน่ารักๆ ก็มีทำไมไม่มาวางขายในที่ดีๆ น่าเดิน มากระตุ้นกันให้แสดงออก เอาของดีๆ มาโชว์กัน มีทางเดิน ริมน้ำที่ใช้ทำกิจกรรมได้เต็มที่ เราว่าต้องช่วยๆ กันนะ”
ISSUE/YEAR
PAGE NO.
01.2012
026
D E S T I N AT I O N
WEIGHT
FLIGHT NO.
--S TAT I O N
SSR475 TIME OF ARRIVAL
AUSTRALIA
__ : __
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
28
01/2012
AUS T RA L I A
ME L B O URNE
GREA T O C EAN R O AD , O N C E I N A L I F E T I ME
01/2012
29
GREAT OCEAN ROAD ONCE IN A LIFETIME
Robe
Great Ocean Road มีชอื่ เรียกสัน้ ๆ ว่า GOR เป็นเส้นทาง ในฝันของนักเดินทางผูร้ กั ธรรมชาติทวั่ โลก เพราะน้อยนัก ที่ จ ะพบเส้ น ทางสุ ด แสนจะสวยงาม ผ่ า นทั้ ง ชะง่ อ นผา ชายหาด ทั้งยังจะได้พบกับแท่งหิน Twelve Apostles ที่เชื่อกันว่าเป็นหินสาวกทั้ง 12 ของพระคริสต์ g r e at oc e a n r o a d General Info: • ระยะทางของ The Great Ocean Road เท่ากับ 243 กิโลเมตร • สร้างขึน้ ในช่วง ค.ศ. 1919 - 1932 เพื่ออุทิศให้กับทหารที่เสียชีวิต ในสงครามโลกครั้งที่ 1 • ทุกปีจะมีการแข่งวิ่งมาราธอน ระหว่างเมือง Lorne และ Apollo
02 01
0 1 ถนนคดโค้งเลาะเลียบ
ชายฝั่ง สวยงามตลอดทั้ง การเดินทาง นี่ล่ะคือ The Great Ocean Road 0 2 คาเฟ่เล็กๆ เสิร์ฟอาหาร แบบโฮมเมดคือเอกลักษณ์ อันน่าสนใจของเมือง Robe
ย้อนกลับไปใน ค.ศ. 1919 -1932 คือช่วงเวลาการก่อสร้างถนน เส้นนีเ้ พือ่ ตัง้ ใจให้เป็นเส้นทางอันน่าตืน่ ตะลึงของโลก การขับรถ ท่องเทีย่ วไปตามระยะทางหลายร้อยกิโลเมตรแห่งนีเ้ ลาะเลียบ ฝั่งมหาสมุทรที่แหว่งเว้า อีกขนาบข้างหนึ่งอุดมสมบูรณ์ด้วย ป่ า ฝนโบราณที่ ต้ น ไม้ สู ง ใหญ่ ค ล้ า ยหลุ ด เข้ า ไปในโลกอดี ต การจะเข้าถึงธรรมชาติผา่ นเส้นทางสีเขียวแห่งนีค้ วรเลือกทีพ่ กั ในแต่ละจุดพักทั้งแบบฟาร์มสเตย์หรือ Bed and Breakfast ที่มีกระจัดกระจายอยู่ทุกเมือง การใช้ชีวิตแบบชาวเมืองจริงๆ จะทำให้รู้จักและเข้าใจการท่องเที่ยวได้มากขึ้นกว่าเท่าตัว มีนักขับรถไม่ใช่น้อยเริ่มต้นออกเดินทางจากเมลเบิร์นแล้ววิ่ง ย้อนกลับเส้นทางเดิม แต่ก็มีอีกมิใช่น้อยที่เริ่มต้นการเดินทาง ที่เมืองเลียบทะเลเล็กๆ แห่งนี้ โรบ (Robe) อยู่ทางด้านใต้ของ แอดิเลด (Adelaide) เมืองขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างจากเมลเบิร์น ราว 653 กิโลเมตร นับเป็นเมืองแรกๆ ที่เริ่มเส้นทางเลียบ มหาสมุทร โรบเคยเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของผู้คนในรัฐเซาท์ออสเตรเลียตั้งแต่ ก่อร่างสร้างเมือง ทั้งยังมีท่าเรือน้ำลึกที่สร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1847 ช่วงหน้าร้อนเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนจน เมืองคึกคัก ขณะเดียวกันก็เป็นเทศกาลจับกุ้งที่นับเป็นธุรกิจ หัวใจของเมือง บริเวณท่าเรือบีชพอร์ต (Beachport) ที่นิยมไปถ่ายรูปกันนั้น ในอดีตเคยใช้เป็นท่าเรือล่าปลาวาฬ ทุกวันนี้หลงเหลือเพียง เรือประมงสีสันสดใสจอดเรียงราย ถ้าโชคดีไปถูกเวลาจะได้ เห็นชาวประมงขนย้ายกุ้งกันให้ตื่นตาตื่นใจ และนอกจากเป็น ท่าเรือแล้วยังเป็นแหล่งชุมชนที่มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ และโรงแรมในอาคารเก่าแก่ ถั ด จากตั ว เมื อ งไปไม่ ไ กลมี ท ะเลสาบถึ ง 4 แห่ ง ให้ ชื่ น ชม แนะนำให้ไป Little Dip Conservation Park อยู่ห่างจาก ตัวเมืองไปราว 14 กิโลเมตร ระหว่างทางขึ้นเขาจะมองเห็นวิว อย่างสวยของทะเลสาบ Eliza และทะเลสาบ St. Clair
I n f o : ระยะทางจากแอดิเลดถึงโรบ 330 กิโลเมตร E at:
• • •
The Gallerie เสิร์ฟอาหารเช้า กลางวัน เย็น พร้อม ไวน์พื้นถิ่นรสเลิศ Robe Seafood & Takeaway สั่ง fish and chip ไว้เป็นทุนสำรองระหว่างขับรถ รสชาติใช้ได้ Sails ร้านสวยเก๋ที่เสิร์ฟอาหารทะเลสดใหม่ ขอให้ลอง ล็อบสเตอร์ทใ่ี ห้รสหอมหวานเพราะความสดของวัตถุดบิ
Sl e e p :
•
•
Robe Hotel โรงแรมติดทะเล ควรเลือกห้องมีระเบียงไว้ รับลมทะเลสดชืน่ สุดใจ ชัน้ ล่างเปิดเป็นร้านอาหารทะเล ฝีมอื ไม่ธรรมดา www.robehotel.com.au ราคา 70-135 เหรียญออสเตรเลีย Caledonian Inn ตึกเก่าแบบอังกฤษที่เต็มไปด้วยเถา ไอวีเ่ ลือ้ ยเกาะผนัง บรรยากาศคล้ายอยูใ่ นชนบทอังกฤษ ไม่ผิดเพี้ยน ที่นี่เปิดเป็นห้องพักและวิลล่าเป็นหลังมอง เห็นวิวทะเล www.caledonian.net.au ราคา 85 - 210 เหรียญออสเตรเลีย
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
30
01/2012
AUS T RA L I A
ME L B O URNE
GREA T O C EAN R O AD , O N C E I N A L I F E T I ME
01/2012
31
02 01
port fairy
0 1 มุมมอง The Great Ocean
I n f o :
• •
• • •
เมื่อมาถึงพอร์ตแฟรี่โปรดใช้เวลาไม่จำกัดในการเฝ้ามองบ้าน หลังเล็กหลังน้อยทีเ่ รียงรายไปตามริมแม่นำ้ พร้อมด้วยเรือประมง ทีท่ ำให้ภาพเติมเต็มความงดงาม ด้วยชือ่ ของเมืองก็บอกอยูแ่ ล้ว ว่าเป็นท่าเรือเทพธิดา ความงดงามของเมืองจึงกลายเป็นจุด สนใจให้นกั ท่องเทีย่ วต่างเดินทางมา และเช่นเดียวกัน พอร์ตแฟรี่ แห่งนีเ้ มือ่ ครัง้ อดีตเคยเป็นชุมชนคนล่าปลาวาฬ แต่กไ็ ด้เปลีย่ น โฉมหน้าเป็นเมืองจับกุ้งและต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกฤดูร้อน
Road แบบ Bird's Eye View ท่าเรือพอร์ตแฟรี่ ดินแดน ทีท่ ำให้เรารูส้ กึ ว่าเหมือนอยู่ ในสวรรค์กับเหล่านางฟ้า 0 3 ต้นไม้ใหญ่ของเมืองสูงเด่น เป็นสง่า และทำให้รู้ว่า ชาวเมืองรักธรรมชาติ ขนาดไหน 02
ระยะทางจากโรบถึงพอร์ตแฟรี่ 292 กิโลเมตร ทัวร์ถำ้ และสนอร์เกิลต้องมีเจ้าหน้าทีใ่ ห้การดูแล ติดต่อ CDAA (Cave Divers Association of Australia) www.environment.sa.gov.au/parks
E at:
จากโรบขับรถรับแสงแดดยามเช้าไปยังพอร์ตแฟรี่ (Port Fairy) ระหว่างทางจะเห็นสีน้ำเงินเข้มของท้องทะเลส่องประกาย ระยิบระยับแข่งกับสีฟ้าของท้องฟ้า เส้นทางช่วงนี้รื่นรมย์มาก ขับได้ครึ่งทางจะผ่านภูเขาแกมเบียร์ (Mount Gambier) ถ้ามี เวลาเหลือเฟือควรแวะเทร็กกิง้ สามารถซือ้ ทัวร์หนึง่ วันไปเทีย่ ว ถ้ำหรือดำสนอร์เกิลในสระน้ำใสแจ๋วที่ Piccaninnie Ponds Conservation Park และ Ewens Ponds Conservation Park
03
หลายคนทีเดียวเลือกพักร้อนอยูเ่ มืองนีอ้ ย่างไม่สนใจเวลาเพราะ มีกิจกรรมแทบไม่ซ้ำในแต่ละเดือน สิ่งที่ต้องทำเลยคือการ เดินเล่นไปตามแม่น้ำมอยน์ (Moyne River) ที่อุดมไปด้วย กลิ่นอายของยุควิกตอเรียนในศตวรรษที่ 19 ทั้งยังมีเส้นทาง Port Fairy Heritage Walk ที่เดินชมอาคารสุดคลาสสิกได้ ทั่วเมือง นอกจากจะเพลิดเพลินกับทิวทัศน์แสนสวย เมืองนีย้ งั เป็นแหล่ง รวมงานเทศกาลอีกด้วย ทุกๆ หน้าร้อนจะมีงาน Moyneyana Festival ที่มีการแข่งเรือพายในแม่น้ำเป็นไฮไลต์ และในช่วง อี ส เตอร์ จ ะมี ก ารแข่ ง ขั น เรื อ ยอชต์ ป ระจำปี ใ ห้ รื่ น เริ ง ส่ ว น นักฟังเพลงก็ไม่ควรพลาดเพราะกลางเดือนตุลาคมจะเป็นช่วง เทศกาลดนตรีที่มีทั้งดนตรีแจ๊ซ คลาสสิก ไปจนถึงโอเปร่า ให้ได้ร่วมสนุก
Caledonian Inn เรียกว่าเป็นผับเก่าแก่อีกแห่งของรัฐ วิกตอเรีย เปิดมาตั้งแต่ ค.ศ. 1844 Rebecca’s เสิร์ฟมื้อเช้า กลางวัน และของว่างเบาๆ กาแฟที่นี่รสดีใช้ได้ทีเดียว Time & Tide Café ร้านเก๋ที่คู่ควร ถึงจะอยู่นอกเมือง ไปนิดแต่ก็มีทั้งแกลเลอรี่เล็กๆ และวิวชายหาดสวยๆ เสิร์ฟอาหารทะเลสดใหม่ไม่ควรพลาด
Sl e e p :
•
•
•
Comfort Inn โรงแรมในอาคารเก่ า แก่ แ ต่ ภ ายใน ตกแต่งโมเดิร์นสะดวกสบาย มีหลายแบบให้เลือกทั้ง ห้องพักและวิลล่าเป็นหลัง ทำเลที่ตั้งไม่ติดแม่น้ำแต่ก็ ไม่ไกลนัก www.seacombehouse.com.au ราคา 100 เหรียญออสเตรเลียขึ้นไป Douglas On River โรงแรมอยู่ติดแม่น้ำ ให้บริการทั้ง แบบบ้ า นหลั ง และห้ อ งพั ก บางห้ อ งมองเห็ น วิ ว แม่นำ้ ชัดเจน www.portfairyabed.com ราคา 135-275 เหรียญออสเตรเลีย Maisies on Moyne บ้านที่ดัดแปลงเป็น Bed and Breakfast สุดแสนน่ารัก อยู่ติดแม่น้ำพร้อมวิวจาก กระจกทัง้ ผนังจากห้องนอน ทำให้อยากตืน่ มาชมวิวทุกเช้า www.portfairyholidays.com.au ราคา 100 - 400 เหรียญออสเตรเลีย
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
32
01/2012
AUS T RA L I A
ME L B O URNE
GREA T O C EAN R O AD , O N C E I N A L I F E T I ME
01/2012
33
LORNE The Twelve Apostles I n f o : เส้นทางเทร็กกิ้งวัดใจที่ใครหลายคนลองมาแล้วคือ Great Ocean Walk ระยะทาง 100 กิโลเมตรพอดิบพอดี สำหรับ นั ก ปั่ น น่ อ งทองมี เ ส้ น ทางจั ก รยานเมาเท่ น ไบค์ ใ ห้ ท ดสอบ ฝีมือจากป่าลึกปั่นสู่ชายหาด และที่กำลังอินตอนนี้คือการ กระโดดร่มพร้อมครูฝึกเพื่อรับชมวิวอันแสนอัศจรรย์ ติดต่อที่ The Great Ocean Road Visitor Information Centre
จากพอร์ ต แฟรี่ จ ะเดิ น ทางมาถึ ง พอร์ ต แคมป์ เ บลล์ (Port Campbell) อันเป็นบริเวณทีต่ ั้งของ Twelve Apostles แท่งหิน ขนาดมหึมาตั้งชื่อตามนักบวชที่ได้รับยกย่องว่าเป็นผู้เผยแพร่ คริสต์ศาสนาในยุคแรก เสียดายว่ากาลเวลาพัดพาให้แท่งหิน ผุกร่อน ทุกวันนีห้ นิ สาวกเหลือไม่ครบ 12 แท่งเพราะถูกกัดเซาะ หล่นหายไปในทะเลเสียแล้ว แต่กระนั้นตลอดแนวชายฝั่งกว่า 32 กิโลเมตรยังคงเป็นแนวหน้าผาหินปูนสูงชันให้เราได้ชื่นชม ประติมากรรมธรรมชาติอนั งดงาม ว่ากันว่าประติมากรรมล้ำค่า ชิ้นนี้ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นมาจากหินปูน โดยใช้เวลากว่า 26 ล้านปี ในการกลายเป็นชั้นหินปูนหนาหลายร้อยเมตรจากพื้นทะเล ไม่ไกลกันนักมีโขดหินหน้าตาคล้ายสะพานโค้ง เรียกว่า Loch Ard Gorge และ London Bridge ที่หน้าตาใกล้เคียงสะพาน ข้ามแม่น้ำเทมส์ในกรุงลอนดอน ซึ่งใน ค.ศ. 1990 ช่วงกลาง ของสะพานเพิ่งถูกน้ำทะเลพัดทรุดพังลงไป ทุกวันนี้จึงเหลือ แค่ฐานสะพานสองด้านเท่าที่เห็น นอกจากละอองทะเลและลมแรงจากหน้าผา เขยิบเข้าไป ไม่ไกลจากมหาสมุทรมีป่าฝนโบราณที่อุทยาน Lorne Forest Park ทางเดิ น เทร็ ก กิ้ ง นั้ น จะพาเราไปเห็ น เฟิ ร์ น ยั ก ษ์ ต้นยูคาลิปตัสยอดสูงลิบลิ่ว รวมไปถึงต้นสักเก่าแก่เต็มบริเวณ
เมืองสวรรค์ของนักเซิร์ฟแห่งนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวมาตั้งแต่ จำความได้ ใครที่ผ่านไปมาบนเส้นทาง GOR ต่างต้องแวะพัก เพราะความเป็นเมืองเล็กๆ น่ารักทัง้ ยังเชือ่ มต่อแม่นำ้ เออร์สกิน (Erskine River) สู่ท้องทะเล ผู้คนที่อยู่ประจำเมืองมีราวพันคน แต่ทันทีที่ฤดูร้อนเดินทางมาถึง นักท่องเที่ยวกว่าสองหมื่น ชีวิตจะยกพลมายังเมืองนี้เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลรื่นเริงต่างๆ โดยเฉพาะเทศกาล Pier to Pub Swim การแข่งขันว่ายน้ำที่ ใหญ่ทสี่ ดุ ในโลก ระยะทาง 1,200 เมตรจากท่าเรือไปยังชายหาด หลักของเมือง จากตัวเมืองออกไปพอสมควรจะพบเห็นประภาคารขนาดใหญ่ มาก Aireys Inlet ตัวประภาคารสีขาวตัดกับสีแดงของหลังคา ทั้งขนาดของมันก็มหึมาเมื่อเทียบกับขนาดกะทัดรัดของเมือง บริ เ วณประภาคารมี ค าเฟ่ แ ละร้ า นกาแฟให้ นั่ ง พั ก เหนื่ อ ย หลังจากต้องเดินหอบใหญ่ขึ้นเนินมาชมประภาคารแห่งนี้
I n f o : ระยะทางจาก Port Fairy ถึง Lorne 272 กิโลเมตร E at:
• • •
Ba Ba Lu Bar and Restaurant ร้านอาหารเอาต์ดอร์ น่ารักที่เสิร์ฟอาหารสเปนและละตินอเมริกา Beach Buns Bakery Shop แหล่งรวมเบเกอรี่และ ของว่างสำหรับจัดไปปิกนิกริมชายหาด เปิดตลอดทัง้ วัน The Lorne Deck ไฮไลต์ทสี่ ดุ คือทีน่ งั่ ชัน้ ดาดฟ้ามองเห็น ทะเลสุ ดสายตา ถึงจะเปิดทั้งวันแต่ก็เหมาะกับการ ดินเนอร์ชมพระอาทิตย์ตกทะเล
Sl e e p :
•
•
•
Cumberland Apartments เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ที่ หันหน้าหาชายหาด มีระเบียงส่วนตัวในแต่ละห้อง พร้อมทัง้ สระว่ายน้ำ สนามเทนนิส และบริการให้เช่าเซิร์ฟบอร์ด หรือจักรยานเมาเท่นไบค์ www.cumberland.com.au ราคา 270-600 เหรียญออสเตรเลีย Great Ocean Road Cottages กระท่อมสร้างจาก ไม้สนขนาดใหญ่พร้อมระเบียงชมความงามของท้องทะเล www.greatoceanroadcottages.com ราคา 130 - 170 เหรียญออสเตรเลีย Lorne Hotel เป็นโรงแรมที่เปิดเป็นผับและลานเบียร์ เอาต์ดอร์ ถึงจะทิวทัศน์ดี เหมาะกับคนรักเสียงดนตรี แต่อาจเสียงดังอยูบ่ า้ งยามค่ำคืน ถ้าเป็นสายปาร์ตอ้ี ยูแ่ ล้ว ไม่นา่ ห่วง www.lornehotel.com.au ราคา 120 - 180 เหรียญออสเตรเลีย
01
03
02
0 1 นัง่ เฝ้ามอง Twelve Apostles
ได้ทุกเวลา ทั้งเช้า สาย บ่าย ค่ำ ได้บรรยากาศที่ แตกต่างกันไป 0 2 ประภาคารระหว่างทางไป เมือง Lorne 0 3 เมืองสวรรค์ของนักโต้คลื่น โดยเฉพาะเมื่อฤดูร้อน เดินทางมาถึง
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
34
01/2012
AUS T RA L I A
ME L B O URNE
GREA T O C EAN R O AD , O N C E I N A L I F E T I ME
01/2012
35
MELBOURNE
ประตูเข้าไปเรามักได้พบกับโต๊ะกลางตัวใหญ่ที่ต้องนั่งแชร์ ด้วยกันราวกับนัง่ กินข้าวในโรงอาหารสมัยเป็นนักเรียน Journal Canteen แห่งนี้ก็จุบรรยากาศแบบคาเฟ่สำหรับผู้ใหญ่หัวใจ นักศึกษาไว้เช่นกัน ใครรักการปาร์ตเี้ ป็นชีวติ จิตใจคงอดไม่ได้ที่ จะเวียนเข้าเวียนออกร้านนี้มากกว่าหนึ่งหน ด้วยติดใจในการ ได้ผกู มิตรกับเพือ่ นใหม่ชนิดไม่ตอ้ งใช้จา่ ยในราคาแพง อาหาร ที่ร้านนอกจากจะอร่อยแล้วยังมีราคาย่อมเยา มัฟฟินอุ่นๆ กับ กาแฟหอมกรุ่นสักชุดก็เพียงพอต่อการนั่งอมยิ้มและเฝ้ามองดู ผู้คนแปลกหน้าที่พูดคุยทักทายราวกับรู้จักกันมานาน”
I n f o : ระยะทางจาก Lorne ถึง Melbourne 200 กิโลเมตร E at:
• • •
Cup of Truth (Degraves Street Subway) ร้านกาแฟ ที่ เ หมาะมากสำหรั บ นั่ ง เฝ้ า มองเมื อ งเคลื่ อ นไหว เพราะอยู่ใต้สถานีฟลินเดอร์พอดิบพอดี Jasper Coffee (267 Brunswick Street) ร้านกาแฟ ที่ ไ ม่ มี ที่ นั่ ง ให้ ชิ ล ล์ เ พราะขายเมล็ ด กาแฟหอมกรุ่ น ไปทั่ว Mario’s (303 Brunswick Street) ร้านเปิดทัง้ วันก็จริง แต่ที่เข้าคิวยาวก็เพราะมื้อเช้าแสนอร่อย โดยเฉพาะ Egg Benedict ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องรสชาติ
WHY I L OVE MEL B OURNE
อุ้ม-สิริยากร พุกกะเวส
นักแสดง, นักเขียน, เจ้าของสำนักพิมพ์ OOM และชาวนา
Sl e e p :
•
•
•
01
02
01 Flinders Street Station
สถานีรวมศูนย์ที่คนไทยใน เมลเบิร์นเรียกกันเล่นๆ ว่า หัวลำโพง 02 ร้านมาริโอส์ คาเฟ่ที่ขึ้นชื่อ ลือชาว่าต้องมาลองชิม
ยิ่งเดินทางเข้าใกล้เมืองเมลเบิร์นยิ่งรู้สึกได้ถึงความวุ่นวาย ที่ เ พิ่ ม ขึ้ น เรื่ อ ยๆ จากธรรมชาติ แ สนสงบ สี เ ขี ย วของต้ น ไม้ ในป่าโบราณ สีน้ำเงินเข้มของท้องทะเลตลอดการเดินทาง ที่ได้พบเจอ อาจจะต้องใช้เวลานิดหน่อยในการปรับโหมดให้ เข้าสูบ่ รรยากาศคึกคักของเมืองใหญ่ แต่กไ็ ม่ใช่เรือ่ งใหญ่อะไร เพราะเมลเบิร์นเป็นเมืองนักอนุรักษ์ธรรมชาติ จึงยังคงมีสวน สาธารณะขนาดใหญ่อยู่ทั่วทั้งเมือง นั่นทำให้จังหวะของการ เดินทางเข้าเมืองไม่กระโดดข้ามจังหวะจนเกินไปนัก ความเป็น Green City ของเมลเบิร์นอีกข้อหนึ่งคือการคงใช้ รถรางเป็ น พาหนะหลั ก ในการสั ญ จร ซึ่ ง แทบไม่ ก่ อ ให้ เ กิ ด
Alto โรงแรมรั ก สิ่ ง แวดล้ อ มอยู่ บ นถนน Bourke ได้ รั บ รางวั ล การั น ตี ด้ า นสิ่ ง แวดล้ อ มมากมาย พลังงานไฟฟ้าในโรงแรมใช้แบบ Green Earth Electricity www.altohotel.com.au ราคา 245 - 335 เหรียญออสเตรเลีย Mantra on Russell อยู่ห่างจากไชน่าทาวน์ เ พี ย ง แค่สองนาทีเดินเท่านั้น ที่นี่มีทั้งสระว่ายน้ำ จากุซซี่ และครั ว ในห้ อ งพั ก สามารถโชว์ ฝี มื อ การทำอาหาร รั บ ประทานเองได้ ส บาย www.mantra.com.au ราคาตั้งแต่ 242 เหรียญออสเตรเลีย Melbourne Metro YHA Backpackers ถึ ง จะเป็ น ที่ พั ก สำหรั บ นั ก แบกเป้ แต่ ก็ เ ป็ น YHA ที่ ไ ด้ รั บ รางวั ล เรื่ อ งสิ่ ง แวดล้ อ ม ทั้ ง ยั ง ประยุ ก ต์ อาคารเก่ า แก่ ใ ห้ ก ลายเป็ น ที่ พั ก สุ ด เก๋ ลองใช้ ชี วิ ต สนุกๆ พักรวมกับนักเดินทางหลายเชื้อชาติ อาจได้ เพื่อนใหม่ไม่รู้ตัว www.yha.com.au
มลพิษใดๆ นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีปริมาณนักปั่นจักรยาน ลำดับต้นๆ ของโลก นอกจากพิพธิ ภัณฑ์ แกลเลอรี่ และศูนย์แสดงศิลปะขนาดใหญ่ เมลเบิร์นยังเต็มไปด้วยห้างร้านและคาเฟ่น่ารักน่านั่งเต็มเมือง ให้ ใ ช้ เ วลาช่ ว งท้ า ยๆ ของการเดิ น ทางเติ ม สี สั น อย่ า งสนุ ก สุดเหวี่ยง ก่อนจะเก็บความทรงจำทั้งหมดใส่กระเป๋ าแล้ ว เดินทางกลับบ้าน
W H Y M E LB O U RNE
“เมลเบิ ร์ น เป็ น เมื อ งที่ น่ า รั ก เต็ ม ไปด้ ว ยผู้ ค นที่ ช อบศิ ล ปะ รักการใช้ชีวิต หอมกรุ่นกลิ่นกาแฟ และเต็มไปด้วยร้านอาหาร อร่อย คุณสามารถเดินเล่นในเมืองเมลเบิร์นได้โดยไม่เบื่อเลย “เชื่อไหมว่าคนเมลเบิร์นไม่ไปโบสถ์ในวันอาทิตย์ แต่กลับไป รวมตัวกันอยู่ที่ร้านกาแฟแทน ด้วยความที่มาตรฐานกาแฟ ของเมื อ งนี้ ค่ อ นข้ า งสู ง กาแฟทุ ก แก้ ว ในเมลเบิ ร์ น จึ ง หอม กลมกล่อมและอร่อยมาก อีกทั้งอากาศของเมลเบิร์นค่อนข้าง หนาวกว่าเมืองอื่นอย่างซิดนีย์ คนเลยอยากออกไปเดินเล่น บนท้องถนน ไปนั่งจิบกาแฟในคาเฟ่เพื่อพบปะผู้คนให้หาย หดหู่ใจ นอกจากนี้เมลเบิร์นยังเป็นเมืองที่ไม่ว่าจะไปเยือนใน ช่วงใดของปีกต็ ามมักมีงานสนุกๆ ให้เราร่วมเป็นส่วนหนึง่ เสมอ เช่น เทศกาลดนตรี เทศกาลศิลปะ เทศกาลหนัง การแข่งขัน เทนนิส แข่งรถ ฯลฯ อุ้มพบว่าข้อเสียเพียงอย่างเดียวของ เมลเบิ ร์ น ก็ คื อ มี เ รื่ อ งสนุ ก ๆ ให้ ท ำเยอะเกิ น ไป อุ้ ม อยากมี เวลาอ้ อ ยอิ่ ง ในเมื อ งน่ า รั ก แห่ ง นี้ ใ ห้ น านกว่ า การเป็ น แค่ นักท่องเที่ยวที่ไปแวะเยี่ยมชมในระยะเวลาอันแสนสั้น” W H ERE TO SI T: J O U RNA L CANT EEN
“เอกลักษณ์รว่ มกันอย่างหนึง่ ของคาเฟ่ในเมลเบิรน์ คือ เมือ่ เปิด
W H ERE YO U CAN ’T M ISS : H EIDE M U SEU M
“ด้ ว ยประวั ติ อั น น่ า สนใจของสถานที่ แ ห่ ง นี้ ที่ เ ต็ ม ไปด้ ว ย รายละเอี ย ดราวกั บ นิ ย าย เมื่ อ ชายหนุ่ ม รู ป งามเชื้ อ สาย ตระกูลผู้ดีเก่าแก่แห่งเกาะอังกฤษพบรักกับหญิงสาวทายาท ตระกู ล ที่ ร่ ำ รวยที่ สุ ด ในออสเตรเลี ย ทั้ ง คู่ ซื้ อ ที่ ดิ น ผื น ใหญ่ ผืนนี้เพื่อปลูกต้นไม้ท้องถิ่นและไม้หายากนานาพันธุ์จนเต็ม สวน ประกอบกับความเป็นคนรักงานศิลปะของทั้งคู่จึงได้ เชิ ญ ศิ ล ปิ น ชั้ น นำของออสเตรเลี ย มาพั ก ที่ บ้ า นหลั ง นี้ เ พื่ อ สร้ า งผลงาน และสร้ า งตำนานให้ ส ถานที่ แ ห่ ง นี้ ก ลายเป็ น a gallery to be lived จนต่อมาได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ที่เปี่ยมด้วยความมีชีวิตชีวาและความรู้สึกเหนือจริงในทุก อณูรายละเอียด”
NO.
COLUMN
ISSUE/YEAR
NO.
36
B L O GGER T R I P b y P AN I T I
01/2012
37
http://twitter.com/Aceimage คุณเอซ Photography นิตยสารชั้นแนวหน้าของเมืองไทยกับ ผู้สรรค์สร้าง www.portfolios.net http://twitter.com/Andymjb คุณแอนดี้ ทีมจาก UNICEF East Asia and Pacific มาร่วมทริปโรงเรียนในไร่ส้มด้วยกันเพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการ ช่วยเหลือเด็กๆ ให้สงั คมได้รบั รูแ้ ละร่วมเป็นส่วนหนึง่ ด้วยอีกทางหนึง่ ก่อนการเดินทางทุกคนมานัดรวมตัวกันที่ออฟฟิศของยูนิเซฟเพื่อ ทำความเข้าใจว่า องค์การยูนิเซฟเป็นใคร ทำหน้าที่อะไร ตลอดจน เรื่องสิทธิของเด็กที่พึงมีและเราจะไปทำอะไรให้โรงเรียนในไร่ส้ม พวกเราที่เป็นทีมงานก็เตรียมกระเป๋า Survival Kits ให้กับเหล่า Blogger ทุ ก คน ในกระเป๋ า นั้ น เราเตรี ย มสมุ ด โน้ ต ปลั๊ ก ต่ อ ยากันยุง ไฟฉาย และ Sony bloggie สำหรับถ่ายทำ Blog ซึ่งเป็น อภินันทนาการจากแสนสิริ แจกเพื่อเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้งานใน การออกทริปในครั้งนี้
12 จิตอาสา.. พลังคนออนไลน์ สู่โรงเรียนในไร่ส้ม ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทแสนสิริร่วมกับองค์การยูนิเซฟได้ออก เดินทางร่วมกันหลายทริปไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือหรือภาคอีสาน ก่อนการเดินทางทุกครัง้ เรามีการประชุมร่วมกันเพือ่ ทำความเข้าใจ ถึงปัญหาของเด็กๆ ที่เกิดขึ้น ตลอดการประชุมเราได้ยินชื่อย่อของ หน่วยงานมากกว่า 10 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเด็กใน ประเทศไทย และจากผลของการประชุมทำให้พวกเราได้เห็นว่า เรื่องของเด็กไม่ได้เป็นแค่เรื่องของพ่อ แม่ แต่เป็นเรื่องของพวกเรา ทุกคนที่ต้องใส่ใจ และตลอดเวลาที่ได้ทำงานช่วยเหลือเด็กๆ มุมมองที่แตกต่างจาก สมาชิกใหม่เป็นเรือ่ งทีแ่ สนสิรแิ ละยูนเิ ซฟต้องการเสมอ ‘แอนดี’้ ซึง่ เป็น ทีมงานขององค์การยูนเิ ซฟ ลอนดอนทีไ่ ด้เข้ามาเป็นส่วนหนึง่ ในการ ประชุมครัง้ นี้ ได้เปิดประเด็นทีเ่ ป็นทีส่ นใจมากในวงสนทนาของเรานัน่ คือ เรือ่ งพลังของ Social Network ทีเ่ ป็นกำลังสำคัญทีผ่ ลักดันให้สงั คม เคลือ่ นทีไ่ ปข้างหน้า ดังนัน้ เพือ่ เปิดมุมมองใหม่ๆ ของการช่วยเหลือเด็กๆ ในสังคม @dhanis ทีม Social Network ของแสนสิรจิ งึ รับหน้าทีเ่ ชิญ เหล่า Blogger จากหลากหลายวงการอย่างเช่น http://twitter.com/Sresuda คุณต่าย ศรีสุดา นักข่าวสายไอที จาก MCOT http://twitter.com/@kafaak คุณบอล หนุ่มจากวงการไอที Blogger กาฝากน้อย ย่อยข่าว
http://twitter.com/Dj_maymey คุณเมเม่พาชิม สาวอารมณ์ดที ชี่ วน ให้เพลิ้นเพลิน ทั้งกินและเที่ยว http://twitter.com/Offerreffo คุณอ๊อฟ DJ หนุ่มหน้าใสจิตอาสา จากคลื่น PYNK 98 FM http://twitter.com/BubblyBubble คุณบับเบิ้ล Digital Marketer & Nail Art จาก Brand Baker http://twitter.com/Fateyeslim คุณอาย fateyeslim beauty blogger จาก www.jeban.com http://twitter.com/Pooyingnaka คุณนก www.pooyingnaka.com เว็บผู้หญิงเก่าแก่ของไทย http://twitter.com/Nusineja คุณทราย ทีเ่ ผยเคล็ดลับความงาม เว็บผูห้ ญิงอันดับ 1 www.jeban.com http://twitter.com/Noofah คุณฟ้า สาวมั่นจาก www.jeban.com
หลังจากการเดินทางโดยอาศัยรถโฟร์วีลที่ค่อยๆ ไต่ผ่านเนินดินที่ ขรุขระ เป็นหลุมบ่อ เราก็ไปถึงไร่ส้มแห่งหนึ่งในอำเภอฝาง สิ่งแรก ทีพ่ วกเราเห็นคือ เด็กๆ กลุม่ ใหญ่ประแป้งจนหน้าขาวนวลโดดลงมา จากรถกระบะ เสียงหัวเราะและพูดคุยก็ดังขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวน เด็กที่เพิ่มขึ้น แล้วเด็กทุกคนก็พากันถือไฟฉายแล้วเดินหายเข้าไป ในเพิงไม้ ภาพที่เราเห็นในเวลาต่อมาคือ เด็ก 4 - 5 คนช่วยกันกาง ผ้าใบผืนใหญ่ลงบนพืน้ ดิน เดินไปหยิบลังส้มมาวางคว่ำลงแทนโต๊ะ หนังสือ แล้วนั่งล้อมวงมองตรงไปที่คุณครูอาสาที่ยืนสอนหนังสือ อยู่หน้ากระดานเพื่อเรียนหนังสืออย่างตั้งใจ
บ้างถ่ายทอดจากการจดบันทึก และความรู้สึกประทับใจที่แอบ จดไว้ในกระดาษยับๆ ใบหนึ่ง
เมเม่ “เด็ ก ต้ อ งการความรั ก ต้ อ งการคนไปคุ ย และสนใจเค้ า ครูอาสามีหัวใจที่ยิ่งใหญ่มาก” น้องอ๊อฟ “ได้เห็นช่องว่างของโอกาสในการศึกษาระหว่างเด็กไทย และเด็กต่างด้าวที่อยู่ในประเทศเดียวกับเรา อ๊อฟอยากจะเอา เรื่องราวที่เจอไปบอกต่อ อยากให้ทุกคนมีส่วนร่วม” บับเบิ้ล “ประทับใจการทำงานของยูนิเซฟ ได้รู้ว่ายูนิเซฟไม่ได้แค่ รับกล่องบริจาค แต่เข้าถึงปัญหาจริงๆ” นก “ได้เห็นความลำบากของเด็กที่มาเรียน ใจที่สู้เพื่อได้เรียน หนังสือของเด็กๆ พี่จูงน้องถือไฟฉายมาเรียน” เอซ “ตอนแรกที่เชิญมาก็ไม่รู้ว่าต้องทำอะไร unicef เป็นใคร แต่ ภาพที่เห็นคือเด็กต่างด้าวเหมือนไม่มีตัวตนในสังคม ก็น่าสงสาร ไม่แพ้กับเด็กที่กำพร้าไร้พ่อแม่” ขอบคุณเหล่าอาสาสมัคร #Uniblog ทุกคนทีม่ าเป็นพลังคนรุน่ ใหม่ ช่วยกันเผยแพร่เรื่องราวของเด็กๆ ร่วมกับเรา บริษัทแสนสิริและ องค์การยูนิเซฟแห่งประเทศไทย เจอกันทริปหน้าค่ะ @nongster
ภาพเด็กนักเรียนต่างด้าว ครูอาสา ในห้องเรียนเพิงไม้และโต๊ะหนังสือ ลังส้มที่อยู่ใต้พระจันทร์กลมโตติดลงไปในหัวใจของพวกเราทุกคน เด็กๆ ต่างด้าวที่ต้องเดินทางแสนไกลมาเรียนให้อ่านออกเขียนได้ เพื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีอนาคตที่ไม่ถูกเอาเปรียบในสังคมนั้น ทำให้พี่ๆ ลืมความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง และน้องๆ ก็คง ไม่เข้าใจว่าพีๆ่ พวกนีม้ ายืนกดมือถือกันตลอดเวลา เพือ่ ในขณะเดียว กับที่หัวใจและสมองของพี่ๆ เริ่มต้นทำงานอย่างหนัก และนั่นเป็น เวลาที่ Timeline ใน Twitter จากพีๆ่ กลุม่ นีม้ แี ต่การถ่ายทอดเรือ่ งราว จากสิ่งที่ได้เห็น ด้วยมุมมองที่หลากหลาย และพวกเราก็ไม่ลืม ที่จะติด Hash Tag # Uniblog ตามกฎกติกาของ @dhanis หลั ง จากนั้ น ในห้ อ งสั ม มนาหลายความเห็ น หลากความรู้ สึ ก ก็ พรั่ ง พรู อ อกมา บ้ า งถ่ า ยทอดจากความทรงจำในภาพที่ เ ห็ น
สนับสนุนข้อมูลโดย http://twitter.com/unicef_thailand สนับสนุนการเดินทางโดย http://twitter.com/sansiriplc
ISSUE/YEAR
PAGE NO.
01.2012
038
D E S T I N AT I O N
WEIGHT
FLIGHT NO.
--S TAT I O N
SSR475 TIME OF ARRIVAL
SOUTH KOREA
__ : __
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
40
01/2012
S O U T H K O REA
SE O U L
H I SE O U L !
01/2012
41
HI S E O U L! หาใช่เพียงส่งออกวงดนตรี นักร้องหน้าตาดีท่าเต้นเด็ดสู่ สังคมโลก โซล ประเทศเกาหลีใต้กำลังเป็นคลื่นลูกใหม่ที่ น่าสนใจอย่างยิ่งในฐานะเมืองสีเขียว ในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา เมืองหลวงแห่งนี้แทบจะพลิก โฉมหน้า จากเมืองปิดที่ไม่ค่อยต้อนรับนักท่องเที่ยวกลับ เปิดประตูรับนักเดินทางผู้สนใจศิลปวัฒนธรรมแดนโสม อย่างเต็มที่ และไม่ใช่ว่าจะเปิดเมืองเพียงอย่างเดียว การ ปรับปรุงเมืองได้เริ่มต้นขึ้นก่อนหน้านั้น ทั้งปลูกฝังศิลปะ ดนตรี การออกแบบ วัฒนธรรม งานแสดง แหล่งช้อปปิ้ง รวมถึงอาหารการกิน เพื่อเตรียมพร้อมในการก้าวไปสู่ อีกขั้นของเมืองท่องเที่ยว
seoul General Info: • กรุงโซลตั้งอยู่ห่างจากชายแดน เกาหลีเหนือราว 50 กิโลเมตร • มีพื้นที่ 600 ตารางกิโลเมตร • แวดล้อมด้วยภูเขา 8 ลูก โดยมี ภูเขานัมซานเป็นศูนย์กลาง • โซลมีประชากรราว 10.3 ล้านคน
คลองชองเกชอน ตามประวัติความเป็นมาต้องย้อนกลับไป เมื่ อ 600 กว่ า ปี ก่ อ น กษั ต ริ ย์ ย องโจได้ สั่ ง ให้ ค นงานกว่ า 200,000 ชี วิ ต ขุ ด พื้ น ที่ ใ ห้ ก ระแสน้ ำ ไหลเป็ น ทางตรง เมื่ อ ระบบกษัตริย์จบสิ้นลง เกาหลีผ่านสงครามทำให้บ้านเมือง เสียหาย รวมถึงคลองที่เน่าเสียจากสิ่งแวดล้อมซึ่งถูกทำลาย จนกระทั่งอดีตนายกเทศมนตรีเกาหลี อีมยองพัก คิดโปรเจ็กต์ “กู้คลอง” นี้ขึ้นมา โดยใช้เวลาในการฟื้นฟูราว 2 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 2003-2005 จนทำให้คลองชองเกชอนความยาวราว 6 กิโลเมตรกลับมาสวยงามได้ ทุกวันนี้คลองน้ำใสกลายเป็น สถานทีพ่ กั ผ่อนสำหรับชาวเมืองโซล ช่วงเย็นๆ จะเห็นครอบครัว พากันมาเดินเล่น หนุ่มสาวเดินจูงมือกระหนุงกระหนิง เหล่า วัยรุ่นก็มานั่งจับกลุ่มทำกิจกรรมต่างๆ นอกจากคลองที่น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา โซลยังเป็นเมือง รักต้นไม้ เพราะทั่วทั้งเมืองจะมองเห็นต้นไม้ใหญ่สูงๆ ยืนต้น ให้สีดอกใบตามฤดูกาล หน้าหนาวต้นแปะก๊วย เมเปิ้ลใบจะ กลายเป็นสีสดใสไปทัง้ ถนน ทีน่ า่ รักคือจะมีกจิ กรรมผลัดเปลีย่ น มาสร้างความสุขให้คนเมือง อาทิ ดนตรีคลาสสิกเล่นสดกลาง สนามหญ้าซึ่งอยู่หน้า City Hall อีกที นั่นทำให้บรรยากาศของ เมืองดูผ่อนคลายและน่ารื่นรมย์อย่างยิ่ง
G R EEN D REA M
รักจะเป็นนักอนุรักษ์ก็ต้องทำให้เต็มที่ ล่าสุดโซลเปิดที่ทำการ สถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ หรือ NIER ซึ่งอยู่ที่เมือง อินชอน ไม่ไกลจากโซลนัก ตึกทัง้ หลังเป็นอาคารปลอดมลภาวะ ภายในเต็มไปด้วยเทคโนโลยีพลังงานธรรมชาติ ทั้งการใช้ พลั ง งานแสงอาทิ ต ย์ พลั ง งานความร้ อ นใต้ ดิ น พลั ง งาน หมุนเวียน ม่านกันแดดอัตโนมัติ ฉนวนกันความร้อน รวมไปถึง หลอดไฟแอลอีดี อาคารสีเขียวแห่งนีใ้ ช้เงินลงทุน 8 ล้านเหรียญ สหรัฐเพื่อตอบโจทย์แนวคิด Green Growth ของรัฐบาลที่ มุ่ ง หวั ง จะลดการปล่ อ ยก๊ า ซคาร์ บ อนไดออกไซด์ ล งให้ ไ ด้ ร้อยละ 30 ภายในปี พ.ศ. 2563
นอกจากย่ า นการค้ า ที่ เ ต็ ม ไปด้ ว ยร้ า นค้ า มากมาย โซลยั ง ขึ้ น ชื่ อ ว่ า เป็ น เมื อ งที่ รั ก สิ่ ง แวดล้ อ มเป็ น ลำดั บ ต้ น ๆ ในเอเชี ย ที่ เ ห็ น เด่ น ชั ด คื อ การเปลี่ ย นคลอง ชองเกชอน (Cheonggyecheon) ทีเ่ คยสกปรกน้ำเน่าเสีย แวดล้ อ มด้ ว ยชุ ม ชนแออั ด จนกลายเป็ น คลองที่ ใ ส สะอาดขนาดว่ามีปลาให้ชาวบ้านจับ และเด็กๆ ลงไปเล่นน้ำ ได้ ในวันหยุด สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเดินเล่นริมคลอง อาจนึ ก ไม่ ถึง ว่ า ครั้ง หนึ่ง คลองแสนสวยจะเคยผ่ า น เหตุการณ์เลวร้ายขนาดนั้น
หลังจากรัฐบาลมีนโยบาย Green Growth องค์กร หน่วยงาน ต่ า งๆ ก็ อ อกมาช่ ว ยเหลื อ รวมทั้ ง สถานที่ ท่ อ งเที่ ย วเองก็ ปรับตัวให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งนักท่องเที่ยวทั่วไปอาจ ไม่ทันได้สังเกตว่าถังขยะในกรุงโซลมีการแบ่งประเภท ขยะ ที่ทิ้งแต่ละชิ้นอาจนำไปรีไซเคิลกลับมาใช้ได้อีก เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ก็ไม่ควรมองข้าม หรือในระดับที่ใหญ่ขึ้นมา คือรถ ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ให้บริการตรงจุดรับส่งนักท่องเที่ยวยอดฮิต อย่างภูเขานัมซานอันเป็นที่ตั้งของหอคอยกรุงโซล ถ้าช่าง สั ง เกตหน่ อ ยจะเห็ น ว่ า เป็ น รถบั ส ที่ ใ ช้ ไ ฟฟ้ า ถึ ง จะไม่ ไ ด้
วิง่ เร็วจีโ๋ ดนใจ แต่พลังงานไฟฟ้าทีใ่ ช้ในการขับเคลือ่ นนัน้ ไม่กอ่ ให้เกิดมลพิษใดๆ ส่วนทีก่ ำลังต้องลุน้ ระทึก ก็คอื โครงการก่อสร้าง Dongdaemun Design Plaza & Park เมกะโปรเจ็กต์ขนาดยักษ์ที่กำลัง ก่อสร้าง ว่ากันว่าถ้าสร้างเสร็จจะเปลี่ยนโฉมหน้ากรุงโซลให้ กลายเป็นเมืองสีเขียวแบบวิ่งเข้าเส้นชัยเลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อว่าเมืองเล็กๆ แห่งนี้มีประชากรมากกว่า 10 ล้านคน แต่ ยั ง มี ก ารบริ ห ารจั ด การเรื่ อ งสิ่ ง แวดล้ อ มได้ อ ย่ า งน่ า ทึ่ ง คี ย์ เ วิ ร์ ด ที่ ส ำคั ญ คื อ การที่ ช าวเมื อ งช่ ว ยกั น คนละไม้ ล ะมื อ ในการดูแลรักษา ด้วยความหวังว่าจะส่งต่อสิ่งแวดล้อมที่ดี ให้กับลูกหลานของพวกเขา
01 02 03
0 1 คลองชองเกชอนไหลผ่าน
กรุงโซล ทิวต้นสนที่เกาะนามิ โซลวันหิมะตก ผู้คนดูจะ รื่นเริงกว่าทุกครั้ง
02 03
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
42
01/2012
S O U T H K O REA
SE O U L
H I SE O U L !
01/2012
43
Hongdae
ย่านนี้เป็นย่านมหาวิทยาลัยศิลปะ Hongik แหล่งสำหรับ หนุ่มสาวผู้รักงานออกแบบ โดยเฉพาะวันเสาร์ที่มีกิจกรรม พิเศษเป็นประจำ ทัง้ การแสดง งานออกร้านของนักเรียนศิลปะ ที่ทำสินค้าน่ารักๆ ออกมาวางขาย นอกจากช้อปปิ้งยามบ่าย อย่างเพลิดเพลิน ย่านฮงแดยังเป็นแหล่งแฮงเอ๊าต์ยามค่ำคืน ที่เต็มไปด้วยสีสัน ย่านนี้อุดมไปด้วยร้านกาแฟน่านั่ง ไม่ว่าจะเป็น Café 10x10, Coffee Prince สาขาเดียวกับที่ถ่ายละคร และ Café Sukkara ร้านที่เสิร์ฟอาหารเครื่องดื่มออร์แกนิกล้วนๆ แนะนำให้ลอง ลาเต้ถั่วเหลืองรสเยี่ยม
I N SI D E SEO UL
Sinsa-dong การท่ อ งเที่ ย วในกรุ ง โซลนั้ น สะดวกสบายง่ า ยดาย เพราะรถไฟฟ้ า ใต้ ดิ น เชื่ อ ม ทุ ก ย่ า นเข้ า หากั น ทั้ ง ยั ง มี ท างเดิ น ใต้ ดิ น ที่ ผ่ า นร้ า นค้ า ไปโผล่ ห้ า งสรรพสิ น ค้ า โรงแรม และสถานที่ต่างๆ นอกจากการเดินทางที่สะดวกสบาย สถานที่ท่องเที่ยวยัง กระจายตามย่านต่างๆ มีลักษณะเด่นของย่านนั้นๆ ที่ทำให้เพลิดเพลินไปได้ทั้งวัน 03
01
02
01 โซลทาวเวอร์ สถานที่
ท่องเที่ยวที่ใครไปโซลแล้ว ไม่ได้แวะไป คล้ายยังไป ไม่ถงึ 02 มหาวิทยาลัย Ewha สถาปัตยกรรมเข้ากับ สภาพแวดล้อมที่ตั้งอยู่บน ภูเขา 03 นอกจากจะบำบัดน้ำเสีย จนใสสะอาด ทุกวันนีค้ ลอง ชองเกชอนกลายเป็นที่ พักผ่อนหย่อนใจของ ชาวเมือง
Insa-Dong
ย่านเก่าแก่แห่งนีอ้ ยูร่ ะหว่างพระราชวังเคียงบ็อกกับตึก Jongno มีความเก่าปนใหม่ของเมือง สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ สูงใหญ่ทมี่ อี ายุยาวนาน มีคาเฟ่ ร้านอาหาร แกลเลอรีอ่ ยูท่ วั่ ไป นักท่องเทีย่ วทีช่ อบความเงียบสงบควรมาเทีย่ วชมในวันธรรมดา เดิ น ลั ด เลาะตามตรอกซอกซอย ส่ ว นวั น เสาร์ แ ละอาทิ ต ย์ จะปิดถนนเพือ่ ให้รา้ นขายของมาเปิดกลางถนน รวมทัง้ กิจกรรม ถนนคนเดินทั้งหลายทั้งปวง ที่อินซาดงมีไฮไลต์คือช้อปปิ้งพลาซ่า Ssamziegil มีสามชั้น ทางเดิ น เป็ น ทางเวี ย นขึ้ น ไปเรื่ อ ยๆ โดยไม่ ต้ อ งขึ้ น บั น ได แถวทางเข้าอาคารมีซุ้มถ่ายรูป ให้ถ่ายรูปแล้วส่งอีเมล์ไปหา คนทางบ้านได้ด้วย
บนชั้น 4 ของ Ssamziegil มีร้านกาแฟน่านั่งชื่อ Between Pages Café ตัง้ อยูบ่ นดาดฟ้า ซ่อนตัวอยูใ่ นสวนสีเขียว เป็นร้าน ของผูร้ กั การเขียน เพราะทุกมุมเต็มไปด้วยกระดาษโน้ตให้ลกู ค้า ได้นั่งเขียนบันทึกเล็กๆ แล้วติดไว้ในร้าน มาถึงอินซาดงแล้ว ห้ามพลาดการเข้าชมพระราชวังเคียงบ็อก Kukje Gallery งานศิลปะหมุนเวียนตลอดเวลา ทั้งของเกาหลี เองและจากต่างประเทศ Arariio Gallery แกลเลอรี่เล็กๆ ที่ แทรกตัวอยู่ระหว่างร้านก๋วยเตี๋ยว แต่งานศิลปะที่เลือกมา จัดแสดงไม่ธรรมดา The Books ร้านหนังสือที่คัดสรรหนังสือ จากสำนักพิมพ์เล็กๆ แต่ละเล่มน่าอ่าน มีคาเฟ่ไว้ให้นั่งอ่าน นกว่าจะพอใจ Jongno Tower ตึกสูงที่สามารถขึ้นไปชมวิวที่ ชั้น 33 ได้สบายๆ
ย่ า นเก๋ จั ด ของโซลที่ เ ต็ ม ไปด้ ว ยร้ า นค้ า ร้ า นอาหาร และ คาเฟ่คอนเซ็ปต์จัด เรียกได้ว่าน่าแวะเข้าไปชมทุกร้านเพราะ ตลอดสองข้างทางเป็นตึกทรงสวยๆ ทาสี แต่งร้านกันเต็มที่ และที่ไม่เคยลืมเลยคือต้นไม้ กระถางต้นไม้ที่มีอยู่ทุกซอก ทุกมุมทำให้ย่านซินซาดงเป็นสถานที่ในใจใครหลายคน แนะนำ Café Papergarden ข้างล่างเปิดเป็นคาเฟ่ ข้างบนเป็น ร้านเสือ้ ผ้า หนังสือ ของแต่งบ้าน Sett Sensitive Pancake Café ร้านสำหรับมื้อสายๆ ของวัน แพนเค้กร้านนี้อร่อยมาก ราคาก็ สบายกระเป๋า Mug of Rabbit คาเฟ่ชื่อดังที่มีเมนูต้องลอง ลาเต้วาซาบิและขิง
Ewha
ย่านนีเ้ ป็นทีต่ งั้ ของมหาวิทยาลัยอีฮวา (Ewha) เป็นมหาวิทยาลัย ผู้หญิงล้วน ร้านรวงประดามีจึงเน้นไปที่ร้านเสื้อผ้าหน้าผม เสริมสวยให้นักศึกษา ส่วนตึกเรียนก็สวยสุดใจ เพราะสร้างตึก ล้อไปกับเนินเขา ได้มุมมองทางสถาปัตยกรรมที่ทำให้ไปเที่ยว แล้วอยากย้อนอายุกลับไปเป็นนักศึกษาอีกครั้ง เดินเล่นแถว อีฮวาก็อย่าได้แปลกใจทีส่ าวๆ จะขาเรียวเล็กก็เพราะเดินช้อปปิง้ ตามตรอกซอกซอยที่ต้องขึ้นลงเนินตลอดเวลา
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
44
01/2012
S O U T H K O REA
SE O U L
H I SE O U L !
01/2012
45
EC O F R IE N D LY SHOP
แหล่งช้อปปิ้งต่างๆ ทั่วกรุงโซลจะว่าไปแล้วก็เป็นแม่เหล็ก ดึงดูดนักท่องเที่ยว รวมถึงกระตุ้นการจับจ่ายของผู้คน ในเมือง ที่น่าสนใจคือการบวกรวมเอาต้นไม้ร่มรื่นตลอด สองข้างทาง ได้ความรูส้ กึ ผ่อนคลาย และทำให้บรรยากาศ การเดินเล่นบนท้องถนนไม่ใช่เรื่องชวนปวดหัวอีกต่อไป นอกจากสีเขียวบนท้องถนน ร้านค้าต่างๆ เริ่มมีแนวโน้ม ของการเป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อมมากยิง่ ขึน้ มีรา้ นค้าจำนวน ไม่น้อยที่เปิดตัวว่าใช้วัสดุจ ากธรรมชาติ วัสดุรี ไซเคิล รวมไปถึงสินค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมต่างๆ
Eco Party Mearry
แบรนด์ ที่ มี หั ว ใจหลั ก ในการออกแบบโดยใช้ วั ส ดุ รี ไ ซเคิ ล เริ่มเปิดตั้งแต่ปี 2002 คำขวัญเขาก็เด็ดโดนใจว่า “We share. We recycle. We make the world a beautiful place.” จุดเริ่มต้นแบรนด์นี้ขายสินค้ามือสองที่ได้รับบริจาคเพื่อมา สร้ า งเป็ น ของชิ้ น ใหม่ ที่ ใ ครเห็ น ก็ อ ยากได้ มี ตั้ ง แต่ ก ระเป๋ า เสื้อผ้า เครื่องเขียน และอีกมากมาย ทุกวันนี้มีร้านมากกว่า 10 สาขาขายของรีไซเคิลดีไซน์จัด ทั้งยังโกอินเตอร์ไปขาย ต่างประเทศ และผลิตภัณฑ์ของแบรนด์เคยไปจัดแสดงที่ร้าน MoMa New York มาแล้ว
I think so
แบรนด์ขายสินค้ากระจุกกระจิกตั้งแต่เครื่องเขียน กระเป๋าผ้า ของแต่งบ้าน และนานาสารพันทีท่ ำเอาอดใจไม่ไหว ความน่ารัก ของแบรนด์นคี้ อื สีทเี่ ลือกใช้จะออกโทนพาสเทลนุม่ ๆ ทัง้ ยังเลือก ลวดลายจากธรรมชาติมาเป็นกิมมิก เวลาหยิบจับมาใช้แต่ละ สิง่ รูส้ กึ เป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อมยิง่ นัก ภายในร้านจัดมุมดิสเพลย์ สินค้าได้นา่ รัก คล้ายกับว่าไปนัง่ เล่นบ้านเพือ่ นจนจุใจ แล้วค่อย คิดว่าจะซื้อหาอะไรติดมือกลับบ้านดี
10x10
จั ด หนั ก กั บ สิ น ค้ า ที่ อ อกแบบมาแล้ ว ว่ า โดนใจแน่ ๆ จะของแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า เครื่องเขียน เครื่องนอน ฯลฯ มีให้เลือกสรร นอกจากสินค้าของตัวเอง ยังเป็นร้านที่ รวมเอาแบรนด์เล็กๆ น้อยๆ มารวมไว้ จัดเป็นมุมต่างๆ เข้า คอนเซ็ปต์ครบทุกสิ่งให้เลือกสรร ที่เก๋มากคือแบรนด์ 10x10 เขาเปิดสาขาพิเศษที่สถานี Hongdae จัดเป็นคาเฟ่น่านั่ง ของแต่งในร้านสามารถหยิบจับมาเล่นได้ทุกชิ้น กำลังเป็นที่ ถูกอกถูกใจของคนรุ่นใหม่ในกรุงโซล
MMMG
หรือย่อมาจาก Millimeter Milligram อีกหนึง่ ร้านขายเครือ่ งเขียน ที่จะได้กลิ่นกระดาษหอมๆ โดยเฉพาะสาขา Anguk ที่เป็นทั้ง ร้านขายของและคาเฟ่ในตัว ร้านนี้เป็นแหล่งรวมตัวของคนเก๋ ทีใ่ ช้เวลายามสายละเลียดกาแฟพร้อมอ่านหนังสือ เขียนหนังสือ หรือจับกลุม่ คุยกันเบาๆ มุมทีร่ กั ธรรมชาติอย่างมากเห็นจะเป็น มุมข้าวของรีไซเคิลที่ทางแบรนด์นำเอาเศษกระดาษที่เหลือใช้ มารวมร่างใหม่เป็นกระดาษโน้ต สมุดบันทึก ปฏิทนิ ฯลฯ ทัง้ ยัง ขายในราคาประหยัดจนอดที่จะอุดหนุนไม่ได้
02 03 01
0 1 คลองชองเกชอนในอีก
มุมหนึ่ง ร้านขายเครื่องเขียน i think so ที่จัดมุมให้แวะ เขียนเล่นไว้ภายในร้าน 0 3 ประดับตกแต่งหน้าร้าน น่ารักแถบการุโซกิล 02
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
46
01/2012
S O U T H K O REA
SE O U L
H I SE O U L !
01/2012
47
จะเริ่มจากการเขียนลายมือก่อน แต่เกาหลีเริ่มจากตัวพิมพ์ ผมต้องเล่าย้อนไปว่าแต่ก่อนเขาใช้ภาษาจีน เพราะว่าถูกนับ เป็นพาร์ทหนึง่ ของจีน เกาหลีเขาไม่ได้เปลีย่ นภาษาพูด เปลีย่ น แต่ ภ าษาเขี ย น เพราะต้ อ งการสร้ า งตั ว ตนให้ ต่ า งจากจี น เขาเลยประดิษฐ์ตัวพิมพ์ขึ้นมา มันเลยทำให้เกิดแบบตัวพิมพ์ มาก่อนตัวเขียน เหตุผลนี้ทำให้ตัวอักษรดูกราฟิก จะว่าไป กราฟิกกว่าตัวอักษรญี่ปุ่นอีกนะ เพราะญี่ปุ่นบางตัวหยิบยืม คาแรกเตอร์ตัวอักษรจีนขึ้นมา นี่เป็นแค่เรื่องหนึ่งที่เกาหลี พยายามสร้างความแตกต่างให้ประเทศเขา เพื่อจะได้เป็น อาณาจักรโดยไม่ต้องไปเกี่ยวข้องกับจีน
อนุทิน วงศ์สรรคกร นักออกแบบเลขนศิลป์และอักขรศิลป์ นอกจากเป็นนักออกแบบที่มีแบบตัวอักษรปรากฏต่อสายตา ผู้คนจำนวนมากผ่านชุดตัวอักษรพิเศษของบริษัทชั้นนำอย่าง AIS, DTAC, กสท, Tesco Lotus และนิตยสารวอลล์เปเปอร์ เขายังเป็นนักออกแบบทีม่ กั มีมมุ มองน่าสนใจเกีย่ วกับสิง่ ต่างๆ ที่ได้พบเจอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวระหว่างการเดินทางที่ อนุทนิ บอกว่าเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานออกแบบของเขา
ศัลยกรรมบ้านเขาเลยเติบโตมาก ถ้ามันสร้างความมั่นใจใน ตัวเองให้คนได้ คนก็จะมีความมั่นใจในการทำอย่างอื่นต่อไป “ผมชอบโซลที่ความสะอาดและ organize แล้วเขาวางแผน พัฒนาเมืองสำหรับอนาคตไว้หมด ถนนหกเลน แปดเลนกว้างๆ ถนนได้มาตรฐาน แล้วทางเดินใต้ดินก็เหมาะกับสภาพอากาศ บ้านเขา ถ้าหนาวก็ไม่ต้องออกมาเดินบนถนน ลงใต้ดินได้ดี เหมือนกัน มันช่วยลด Traffic ของคนที่เดินบนถนน แล้ว ทางเดินใต้ดินก็เชื่อมทั้งโรงแรมทั้งห้างสรรพสินค้าไว้ด้วยกัน สวนทางกับบ้านเราที่อะไรก็ลอยฟ้าหมด
“โซลในมุมมองผมจะมีสองภาคคือภาคเกาหลีเก่ากับเกาหลี ใหม่ แล้ ว คนก็ เ ป็ น สองประเภทเหมื อ นกั น คื อ มี ทั้ ง คนที่ หน้าตาแบบเดิมๆ กับคนรุ่นใหม่ที่เหลาคางมาแล้ว ผมชอบ agenda เขามากเลยนะ ที่โปรโมตเรื่องศัลยกรรม มันเป็น การสร้ า งความยอมรั บ กั บ ตั ว เองก่ อ นจะยอมรั บ เรื่ อ งอื่ น
“เท่าทีท่ ราบนโยบายเรือ่ ง Green Growth ของเขาจริงจังทีเดียว อย่างเรื่องหนึ่งที่เห็นชัดคือเขาเอาระบบอินเทอร์เน็ตเข้ามา ช่วยได้เยอะ ตอนนี้ทราบว่าเกาหลีอินเทอร์เน็ตเร็วสุดในโลก แล้วเกาหลีจะเป็นเจ้าแรกทีจ่ ะปล่อยอินเทอร์เน็ตทางสายไฟฟ้า เขาถือว่าสายไฟฟ้าเข้าถึงทุกครัวเรือนอยู่แล้วแค่ใช้ตัวแยก สั ญ ญาณเท่ า นั้ น เอง ไม่ ต้ อ งเดิ น สายใหม่ เทคโนโลยี นี้ จ ะ ช่ ว ยเรื่ อ งสิ่ ง แวดล้ อ มได้ ม าก ด้ ว ยความที่ อิ น เทอร์ เ น็ ต ความเร็วสูง คนก็หันมาอ่าน e-book กันมากขึ้น สังเกตได้ว่า นิตยสาร กับหนังสือพิมพ์เล่มๆ ไม่ค่อยมี ซึ่งตรงนี้ช่วยลด ปริมาณหมึกพิมพ์ กระดาษ ไฟฟ้าในการดำเนินงาน น่าจะ เห็นผลได้ชัดทีเดียว”
“ผมเพิ่งกลับจากเกาหลีใต้ ผมไปด้วยความสงสัยว่าทำไม เกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้เขาถึงไม่ถกู เคลมว่าเป็นส่วนหนึง่ ของ จี น แผ่ น ดิ น ใหญ่ ผมว่ า เขาพยายามอย่ า งหนั ก มากในการ พยายามแยกตัวออกมา อย่างตัวหนังสือเกาหลีนเี่ พิง่ มีมา 600 กว่าปีเองนะ แล้ววิวฒ ั นาการของมันกลับข้าง คือปกติตวั หนังสือ
ECO TIPS :
โซลหวังใจว่าในปี 2020 ท้องถนนเมืองโซลจะมีรถ พลังงานไฟฟ้ามากกว่า 120,000 คัน โดยใช้เทคโนโลยี จากค่ า ยรถยนต์ ข องประเทศ นั่ น ยิ่ ง สร้ า งความ ภาคภูมิใจได้สุดๆ
นโยบายของกรุงโซลคือเป้าหมายพื้นที่สีเขียว 33 ล้านตารางเมตร ภายในปี 2020
ร้านกาแฟยักษ์ๆ ของกรุงโซล อาทิ Hollys Coffee, Café Bene และ Angel-in-us เปิดโปรโมชั่นลด ราคาให้กบั ลูกค้าทีน่ ำแก้วมาจากบ้าน ซึง่ แก้วกาแฟ กระดาษนั้นถูกใช้ปีหนึ่งมากกว่า 309 ล้านแก้ว
Danahan คือแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีที่ใช้ส่วน ประกอบจากพืชสมุนไพร โดยเฉพาะไลน์ Danahan Ecopure ที่ไม่ใส่สารเคมีใดๆ ลงในผลิตภัณฑ์ ทั้งยัง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสูงสุด
Rain ซูเปอร์สตาร์ชาวเกาหลี มีเพลง True Love เพื่อหวังให้คนฟังจะช่วยกันปกป้องสิ่งแวดล้อมให้ มากขึ้น
Sumsung มีแผน PlanetFirst เขาตั้งใจว่าจะลดการ ปล่อยไอเสียจากโรงงานของตนให้ได้ครึง่ หนึง่ ภายใน ปี 2013 และเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัท จะมีมาตรฐานรักษาสิ่งแวดล้อมที่สูงที่สุดในโลก
ISSUE/YEAR
PAGE NO.
01.2012
048
D E S T I N AT I O N
WEIGHT
FLIGHT NO.
--S TAT I O N
SSR475 TIME OF ARRIVAL
USA
__ : __
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
50
01/2012
T H E UN I T ED S T A T ES O F AMER I C A
SAN F RAN C I S C O
T H E S O UND O F SAN F RAN C I S C O
01/2012
51
THE SOUND OF SAN FRANCISCO ในขณะที่โลกหมุนไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เทรนด์การ ท่องเที่ยวเริ่มเปลี่ยนไปตามวิถีชีวิตของผู้คน ณ ปัจจุบัน ขณะเชื่อได้ว่านักเดินทางหลายคนกำลังหลงใหลไปกับ เสน่ ห์ ใ หม่ ข องเมื อ งซานฟรานซิ ส โกตามสโลแกนที่ ว่ า “San Francisco is green, clean, and organic.” เพียงประโยคสั้นๆ แต่พลังของมันเชิญชวนให้นักเดินทาง ยุคใหม่ในเชิง Eco Traveling หันมาสนใจเมืองนี้ในอีก มุมมอง แล้วก็ยิ่งสร้างความป๊อปปูลาร์ ให้กับมหานคร แห่งนี้ยิ่งขึ้นไปอีก จนได้รับการยกย่องว่าเป็น America’s Premier Green City และเป็นหนึ่งในเมืองที่ ได้รับการ จัดอันดับให้เป็น One of America’s greenest อยากชวนคุ ณ ไปรู้ จั ก เมื อ งน่ า ท่ อ งเที่ ย วแห่ ง นี้ ใ ห้ ลึ ก ซึ้ ง ทัง้ มุมมองความโรแมนติกอันแสนคลาสสิก และความใส่ใจ โลกและสิ่งแวดล้อม แล้วคุณจะพบว่าเมืองนี้มีหัวใจสีเขียว
ONLY IN SAN FRANCISCO
• มีประชากร 7.5 ล้านคน พื้นที่ขนาด 121 ตารางกิโลเมตร • ซานฟรานซิสโกเป็นเมืองทีม่ ี ประชากรสูงสุดเป็นอันดับที่ 13 ของสหรัฐอเมริกา • เริ่มสร้างเมืองในปี ค.ศ. 1776 และช่วงตื่นทองในปี ค.ศ. 1849 เป็นช่วงก่อร่างสร้างเมืองทีม่ คี วาม เติบโตอย่างมาก
ถึงแม้ว่าในซานฟรานซิสโกจะมีบ้านเรือนสไตล์วิกตอเรียน สวยๆ ที่ชาวเมืองร่วมกันอนุรักษ์กระจัดกระจายแทรกตัวอยู่ มากมาย แต่บ้านเก่าที่สวยเก๋ด้วยการเล่นสีพาสเทลซึ่งโด่งดัง ที่สุดนั้นก็คือบ้านสวยทั้ง 6 หลังที่เรียงรายอย่างสง่างามราว กุ ล สตรี อ ยู่ บ นเนิ น ย่ า นอะลาโมสแควร์ (Alamo Square) นั่ น เอง นอกจากภู มิ ทั ศ น์ ที่ ส วยงามมากแล้ ว สาวงามทั้ ง หกนี้ยังกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นหลังจากเอลิซาเบธ โพมาดา (Elizabeth Pomada) และไมเคิล ลาร์เซน (Michael Larsen) หยิบไปเขียนหนังสือ Painted Ladies: San Francisco’s Resplendent Victorians ใน ค.ศ. 1978
ไม่ว่าจะมาครั้งแรกหรือมาแล้วกี่ครั้งก็ตาม นักท่องเที่ยว และนักเดินทางส่วนใหญ่มักเลือกที่จะย้อนกลับไปซึมซับ ความประทั บ ใจอย่ า งไม่ มี วั น เบื่ อ กั บ สถานที่ ท่ อ งเที่ ย ว อันเป็นเอกลักษณ์แห่งซานฟรานซิสโก ก่อนจะเทีย่ วเจาะลึก แบบคนท้องถิ่น เราลองมาเที่ยวเจาะรู้แบบนักเดินทาง ทำความรู้จักกับ Top Icon ของเมืองนี้กันก่อน
Golden Gate Bridge
สะพานชื่อดังก้องโลกที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองนี้ สร้างทอดข้ามช่องแคบ Golden Gate เพื่อเชื่อมฝั่งซานฟราน ซิสโกกับมารีน่าคันทรี (Marina Country) ได้รับการยกย่องว่า เป็นสะพานที่สวยงามมากที่สุดในโลก แถมยังครองตำแหน่ง สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลกมาหลายสิบปีตั้งแต่เริ่มเปิดใช้ เมื่อ ค.ศ. 1937 ซึ่งเอกลักษณ์อันโดดเด่นนั้นก็เห็นจะเป็นการ ผสานงานอาร์ตเข้ากับงานวิศวกรรมได้อย่างยอดเยี่ยมลงตัว นอกจากศิลปะแบบอาร์ตเดคโคที่ใส่ลงไปในการออกแบบ รายละเอียดสะพานแล้ว จุดเด่นจนเป็นเอกลักษณ์ที่สุดก็คือ สีของสะพานแห่งนี้ นัน่ คือสี International Orange (ส้ม+แดง) ที่คิดค้นขึ้นในยุคนั้นด้วยความต้องการหลีกหนีความจำเจ เดิมๆ ของสะพานสีดำและสีเทา แต่นัยที่มีความหมายยิ่งกว่า นั้ น คื อ สี นี้ วิ จั ย มาแล้ ว ว่ า สามารถตั ด หมอกมองเห็ น ใน ทัศนวิสัยเลวร้ายได้ดีที่สุดนั่นเอง
Alcatraz Island (The Rock) s a n F RAN C I S C O General Info:
Painted Ladies (Postcard Row)
เกาะกลางอ่ า วซานฟรานซิ ส โกที่ โ ด่ ง ดั ง ติ ด อั น ดั บ โลกนี้ คื อ อดี ต คุ ก ที่ ใ ช้ คุ ม ขั ง นั ก โทษอุ ก ฉกรรจ์ ข องโลกไว้ ห ลายต่ อ หลายคน ตั้งแต่ George "Machine Gun" Kelly, Robert Franklin Stroud (the Birdman of Alcatraz), Alvin Karpis และนักโทษชื่อก้องโลกอย่าง Al Capone ซึ่งสมัยก่อนนั้นว่า กันว่าที่นี่เป็นนรกบนโลกที่โหดร้ายที่สุดในโลก แต่บ้างก็ว่ากัน ว่าทีน่ คี่ อื สวรรค์ทแี่ สนสบายทีส่ ดุ ในโลกเช่นกัน หลังจากทีค่ กุ นี้ ถูกยกเลิกไปเมื่อ ค.ศ. 1963 ที่แห่งนี้ก็กลายมาเป็นสถานที่ ท่ อ งเที่ ย วที่ มี ชื่ อ เสี ย งก้ อ งโลก กลายเป็ น ฉากในซี รี่ ส์ แ ละ ภาพยนตร์ดังระดับโลกหลายเรื่อง และกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ แห่งการเรียนรู้ที่เก๋อย่างน่าสนใจ
California Academy of Sciences
ถึงแม้จะเป็นพิพิธภัณฑ์เชิงการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และ สิ่งแวดล้อม แต่โฉมใหม่ของสถาบันอันเก่าแก่ที่เพิ่งเปิดตัว อีกครั้งไปเมื่อ ค.ศ. 2008 นี้กลับเปลี่ยนลุคตัวเองได้อย่าง เก๋ กู๊ ด จนกระโดดขึ้ น มาเป็ น แหล่ ง ท่ อ งเที่ ย วชั้ น นำได้ อ ย่ า ง รวดเร็ว สถาปัตยกรรมและการตกแต่งที่ดูทันสมัยนั้นเข้ากัน อย่างลงตัวกับสิ่งแวดล้อม
Lombard Street
เส้นทางสั้นๆ ราว 400 เมตรของถนนสายยาวตรงช่วงระหว่าง ถนนไฮด์ (Hyde) กับถนนลีเวนเวิร์ท (Leavenworth) คือถนน ที่โด่งดังที่สุดในซานฟรานซิสโกเลยก็ว่าได้ เพราะนี่คือถนน ประหลาดที่ซิกแซ็กลงเนินอย่างคดเคี้ยว ความแปลกนี้ทำให้ Ripley’s Believe It or Not! ตั้งฉายาบรรจุลงไปในลิสต์ สิ่งประหลาดของตนว่านี่คือ Crookedest Street หรือถนน ทีค่ ดเคีย้ วทีส่ ดุ ในโลก จนทำให้ถนนสายนีโ้ ด่งดังขึน้ มาในทันใด ยิง่ บวกกับสวนดอกไม้โดยรอบทีไ่ ด้รบั การดูแลอย่างดีไปจนถึง บ้านเรือนในละแวกนั้นที่สวยงามทุกหลัง ทำให้ถนนสายนี้ กลายมาเป็นเอกลักษณ์สำคัญของเมือง และกลายเป็นสถานที่ ท่ อ งเที่ ย วยอดฮิ ต จุ ด หนึ่ ง ไปเลยที เ ดี ย ว นั่ น ยั ง ไม่ นั บ รวม วิวธรรมชาติสวยๆ ที่สัมผัสได้ด้วยตาเปล่าจากบนเนินอันมี เสน่ห์แห่งนี้
บริเวณ The Rainforest of the World ป่าดิบชืน้ ในโดมกระจกแก้ว และ The Living Roof หลังคาเนินสนามหญ้าที่แซมด้วยช่อง กระจกแก้วกลม โดดเด่นในเชิงสถาปัตยกรรมจนได้ลงสื่อ ระดับโลกหลายเล่ม ยังไม่นับรวมโซนไลฟ์สไตล์เก๋ๆ ด้านในที่ ตกแต่งใหม่และรวบรวมร้านเก๋ๆ ดังๆ ของเมืองนี้ไว้เพียบ (www.calacademy.org)
01 02 03
0 1 เนินหญ้าที่ Alamo Square
ทีเ่ ห็น Painted Ladies และ วิวเมืองมุมสูงอันสวยงาม 0 2 วิวเมืองมุมสูงที่มองลงมา จากด้านบนของ Lombard Street 0 3 The Living Roof สถาปัตยกรรมสุดเก๋ที่ เข้ากับธรรมชาติได้อย่าง กลมกลืนใน California Academy of Sciences (ขอขอบคุณการเอื้อเฟื้อ ภาพถ่ายเพิ่มเติม ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ California Academy of Sciences)
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
52
01/2012
T H E UN I T ED S T A T ES O F AMER I C A
SAN F RAN C I S C O
T H E S O UND O F SAN F RAN C I S C O
01/2012
53
The Walt Disney Family Museum
เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ เมื่อปลาย ค.ศ. 2009 นี้เอง สำหรับ พิพิธภัณฑ์อย่างเป็นทางการของวอลต์ ดิสนีย์ (Walt Disney) บุ ค คลสำคั ญ ผู้ ท รงคุ ณ ค่ า บุ ค คลหนึ่ ง ของโลก ภายในนั้ น จัดแสดงตั้งแต่ประวัติส่วนตัวของครอบครัวดิสนีย์ การกำเนิด การ์ตูนสำคัญๆ ต่างๆ รวมไปถึงตัวการ์ตูนที่ดังที่สุดในโลก อย่างมิกกี้เมาส์ การกำเนิดดิสนีย์แลนด์ ไปจนกระทั่งวาระ สุดท้ายของวอลต์ ดิสนีย์ ซึ่งทุกเรื่องราวนั้นจัดเป็นนิทรรศการ ความรู้ได้อย่างสวยงามและน่าสนใจ (waltdisney.org)
The Contemporary Jewish Museum
โฉมหน้ า ใหม่ ข องพิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ศิ ล ปะร่ ว มสมั ย แห่ ง ชาวยิ ว ที่ เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อ ค.ศ. 2008 ดูแลการออกแบบโดยแดเนียล ลิเบอสกินด์ (Daniel Libeskind) สถาปนิกชาวอเมริกันที่ฝาก ผลงานออกแบบตึกเท่ๆ ไว้ทั่วโลก ความโดดเด่นของภายนอก นั้นก็เจ๋งไม่แพ้งานที่จัดแสดงภายในซึ่งคัดสรรงานศิลป์ของ ศิลปินเชื้อสายยิวมาอย่างดีเยี่ยม และนั่นเองทำให้หอศิลป์ แห่งนี้เข้าไปติดโผแนะนำในลิสต์ A Must และ Best List ของ ไกด์บุ๊กชื่อดังอย่างไม่ต้องสงสัย (www.thecjm.org)
San Francisco Ferry Building
หอนาฬิกาโดดเด่นอยู่ริมอ่าวซานฟรานซิสโกนี้คือส่วนหนึ่ง ของตึกเก่าแก่กว่า 100 ปี อันเป็นสัญลักษณ์ทรงคุณค่าของเมือง ถูกปรับโฉมภายในใหม่หมดให้เป็นศูนย์การค้าเก๋ๆ เดินชิลล์ๆ แต่ก็คงโครงสร้างอันสวยงามทั้งภายนอกและภายในไว้อย่าง ในอดีต แถมยังคงทำหน้าที่เป็นท่าเรือในการคมนาคมเช่นเคย มาจนถึ ง ปั จ จุ บั น จุ ด เด่ น ที่ มี ชื่ อ เสี ย งอี ก อย่ า งของที่ นี่ ก็ คื อ The Ferry Plaza Farmer Market ตลาดเกษตรกรที่ได้รับการ การันตีจากรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเกษตรกรทัง้ หลายจะนำผลผลิต สดใหม่จากฟาร์มมาขายให้กบั ผูบ้ ริโภคโดยตรง แถมส่วนใหญ่ ยังเป็นผลผลิตออร์แกนิกที่ราคาย่อมเยาอีกด้วย ตลาดนี้จะ เปิดขายกัน 3 วันต่อสัปดาห์ คือ วันอังคาร วันพฤหัสบดี และ วันเสาร์ (www.ferrybuildingmarketplace.com)
EAT FOR EARTH / GREEN DINING ว่ากันว่าถ้าหากยกให้มหานครนิวยอร์กคือเมืองหลวงแห่ง อาหารเลิศรสของฝัง่ ตะวันออกของอเมริกาแล้ว เมืองหลวง ของอาหารรสเลิศทางฝั่งตะวันตกนั้นเห็นจะต้องยกให้ ซานฟรานซิสโกนีล่ ะ่ เพราะนอกจากจะมีอาหารหลากหลาย เชือ้ ชาติแถมมีความอร่อยให้ลองชิมทุกระดับชัน้ แล้ว ทีน่ ยี่ งั เป็นแหล่งรวมตัวของเชฟฝีมือเยี่ยมมากมายรวมไปถึง เซเลบริตี้เชฟชื่อดังแห่งอเมริกาอย่าง Traci Des Jardins, Elizabeth Falkner, Nancy Oakes และอีกหลายต่อ หลายคนที่ใช้ชีวิตอยู่เมืองนี้เป็นหลักและมีร้านอาหารดีๆ ของตัวเองเสิร์ฟความอร่อยให้ลิ้มลองในมหานครแห่งนี้ อีกด้วย แต่นั่นก็ยังไม่สำคัญเท่าวิถีชีวิตการบริโภคของ คนเมืองทีใ่ ส่ใจในคุณภาพและวัตถุดบิ ไปจนกระทัง่ ร่วมกัน ส่ ง เสริ ม ผลิ ต ภั ณ ฑ์ อ อร์ แ กนิ ก แต่ นั่ น ก็ ยั ง ไม่ เ จ๋ ง เท่ า อุดมการณ์ของชาวเมืองทั้งคนขายและคนบริโภคที่ช่วย กันส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ ในท้องถิ่นเพื่อคุณภาพชีวิต ที่ดีและสังคมที่ยั่งยืน ไหนๆ ก็แพ็กกระเป๋าก้าวเท้าท่องโลกแบบ Eco Traveling กันแล้ว วันนี้เลยอยากพาไปลองลิ้มรสความอร่อยแบบ Eco Dining กันบ้าง รับรองได้เลยว่าความอร่อยที่คัดมา นั้นต้องยกนิ้วกด Like
>> Fourbarrel กลิ่นไม้เคล้ากลิ่นกาแฟคือเสน่ห์ดิบๆ แบบธรรมชาติที่ชวนเราให้เข้ามานั่งในร้านนี้ ร้านที่อาจบอก ได้ว่าเป็นร้านกาแฟเจ๋งอันดับต้นๆ ของอเมริกาเลยทีเดียว ร้านกาแฟออร์แกนิกแบบไม่มสี าขานีเ้ ปิดบริการเมือ่ ค.ศ. 2008 ซึ่งเจ้าของก็คือเจเรมี ทูเกอร์ (Jeremy Tooker) อดีตผู้ร่วม ก่อตัง้ แบรนด์กาแฟดังของซานฟรานซิสโกอย่าง Ritual Coffee Roasters ทีไ่ ด้รบั การยกย่องว่าเป็น 1 ใน 10 แหล่งคัว่ บดกาแฟ ได้ดีที่สุดในอเมริกา ความเก๋นั้นเริ่มต้นตั้งแต่ตัวร้านที่ตกแต่ง ในสไตล์โมเดิรน์ คันทรี แซมดีไซน์เรียบเท่เข้ากับงานไม้ได้อย่าง ลงตัว แต่ความโดดเด่นนั้นเห็นจะเป็นการทำร้านสูงโปร่งใน กลิ่นอายโรงคั่วบดกาแฟ โดยด้านหลังร้านนั้นตกแต่งแบบ Open Factory ที่โชว์คั่วบดกาแฟจริงๆ ไปด้วย ทำให้รู้สึกถึง บรรยากาศที่บุกมาดื่มด่ำอรรถรสยังแหล่งผลิตจริงๆ
01 03 02
0 1 โถงนิทรรศการศิลป์ท่ี The
I n f o & d e ta i l : ที่ต้งั : 375 Valencis Street (ใกล้กับแยกที่ตัดกับ 15th Street) ย่าน Mission / เปิด-ปิด: วันจันทร์-เสาร์ 07.00-20.00 น., วันอาทิตย์ 08.00 20.00 น. / โทร. 415-252-0800 / fourbarrelcoffee.com
Contemporary Jewish Museum (ขอขอบคุณการเอื้อเฟื้อ ภาพถ่ายเพิ่มเติม ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ The Contemporary Jewish Museum) 0 2 โถงช้อปปิง้ ทีถ ่ กู รีโนเวทใหม่ ในอาคารเก่าอย่าง San Francisco Ferry Building 0 3 มุมจิบกาแฟเก๋ๆ หน้า เครือ่ งคั่วในร้าน Fourbarrel
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
54
01/2012
T H E UN I T ED S T A T ES O F AMER I C A
SAN F RAN C I S C O
T H E S O UND O F SAN F RAN C I S C O
01/2012
55
<< Farmerbrown’s Little Skillet ตรอก
<< Dynamo Donut & Coffee ร้านโดนัท
เล็กๆ ระยะสั้นๆ ที่เชื่อมระหว่างสองถนนนี้ไม่ได้อยู่ในย่าน การค้ า หรื อ แหล่ ง ช็ อ ปปิ้ ง แต่ อ ย่ า งใด แถมเงี ย บไร้ ผู้ ค น แต่ เ ชื่ อ ไหมว่ า ในตรอกนั้ น มี ส องร้ า นอิ น ดี้ เ ล็ ก ๆ น่ า รั ก ๆ สุ ด ฮิ ต ที่ เ ปิ ด บริ ก ารแบบ take away นี่ คื อ หนึ่ ง ในร้ า นดั ง ของเมืองอย่าง Blue Bottle Coffee และ Farmerbrown นั่ น เอง ร้ า นนี้ เ สิ ร์ ฟ ความอร่ อ ยอย่ า งพิ ถี พิ ถั น ด้ ว ยหั ว ใจ แบบ Farm-fresh soul food ในสไตล์ Southern America Classic สนับสนุนเครือข่ายของฟาร์มชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ให้เกษตรกรมีรายได้และทำการเกษตรแบบยั่งยืนอีกด้วย
ไซส์ เ ล็ ก น่ า รั ก นี้ อ ยู่ ใ นโซนอิ น ดี้ ข องเมื อ งและไม่ มี ส าขาแต่ อย่างใด ซึ่งความอร่อยนั้นทำให้คนเก๋ๆ มาต่อแถวยาวไม่แพ้ โดนัทแบรนด์ดังไหนๆ เสน่ห์เบื้องต้นที่เห็นได้ชัดก็คือโดนัท ที่ไม่กลมดิกอย่างร้านทั่วไป ความบูดๆ เบี้ยวๆ นี่แหละคือ ผลผลิตความอร่อยในแบบ Delicious Handmade ที่ทำ สดใหม่ ด้ ว ยมื อ ทุ ก วั น ดู แ ลโดยเชฟซาร่ า สเปี ย ริ น (Sara Spearin) ที่บรรจงเลือกวัตถุดิบชั้นเยี่ยมอย่างพิถีพิถันแถม ยังเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกของท้องถิ่นแทบทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าที่นี่จะครีเอตโดนัทหน้าต่างๆ น่ากินกว่า 23 รสชาติ แต่ทางร้านจะหมุนเวียนเลือกมาทำเพียงวันละ 7-10 แบบ เท่านัน้ และขายกันพอประมาณแบบไม่ให้เกิดขยะทางอาหาร โดยร้านนี้เพิ่งจะเปิดตัวเมื่อ ค.ศ. 2009 นี้เอง
สิ่งสำคัญที่ทำให้ร้านตรอกเล็กๆ นี้กลับโด่งดังในวงกว้างขึ้นก็ เห็นจะเป็นการที่สื่อท้องถิ่นยักษ์อย่าง 7X7 ลุกขึ้นมาจัดอันดับ สุดยอดของกินทีห่ า้ มพลาด The 2010 Big Eat SF: 100 Things to Try Before You Die in San Francisco ซึ่งเมนู Chicken & Waffles นี้นอกจากจะอยู่ในลิสต์เมนูต้องหม่ำแล้วยังถูกนำ ไปขึ้นปกนิตยสารในธีมดังกล่าวจนเรียกน้ำย่อยความอยาก ให้ทุกคนมุ่งไปลองชิม
I n f o & d e ta i l : ทีต่ ง้ั : 2760 24th Street (ระหว่าง York Street กับ Hampshire Street) ย่าน Mission / เปิด-ปิด: วันอังคาร-เสาร์ 07.00-17.00 น., วันอาทิตย์ 09.00-16.00 น. หยุดวันจันทร์ / โทร. 415-920-1978 / www.dynamo donut.com
I n f o & d e ta i l : ทีต่ ง้ั : 360 Ritch Street (ระหว่าง 3rd Street กับ 4th Street) ย่าน SOMA / เปิด-ปิด: วันจันทร์-เสาร์ 09.00-14.30 น. (หยุดวันอาทิตย์) / โทร. 415777-2777 / www.littleskilletsf.com
>> Tartine Bakery & Café คาเฟ่เท่ๆ แบบกะทัดรัด
>> Kara’s Cupcakes ร้านคัพเค้กทีด่ หู รูหราคุณหนูจา๋ นี้ แทบไม่นา่ เชือ่ ว่าหัวใจจะเป็นสีเขียวใส่ใจโลกอย่างเอาจริงเอาจัง เริ่มตั้งแต่การทำคัพเค้กที่เชฟอย่างคาร่า ลินด์ (Kara Lind) ทำ ด้วยมือของเธอเองแบบสดใหม่ทกุ วัน นอกจากใส่ใจขนมอย่าง เต็ ม พิ กั ด แล้ ว เธอยั ง ใส่ ใ จทุ ก อณู ข องแบรนด์ ด้ ว ยปณิ ธ าน We are green ตัง้ แต่บรรจุภณ ั ฑ์ทเ่ี ป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม การสร้าง และตกแต่งร้านให้มมี าตรฐาน Green Certification Standard ทุกรายละเอียด การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบชีวภาพ ไปจนกระทั่งการใช้รถแบบ Ultra Low Emission Vehicles (ULEV) ขนส่งคัปเค้กไปยังร้านต่างๆ
กลิ่ น อายปารี เ ซี ย งนี้ โ ด่ ง ดั ง ด้ ว ยขนมปั ง อบที่ อ ร่ อ ยอย่ า งมี คุณภาพไม่แพ้ตน้ ตำรับทีฝ่ รัง่ เศส จนได้รบั การขนานนามว่าเป็น ขนมปังทีห่ อมอร่อยทีส่ ดุ ในซานฟรานซิสโกเลยทีเดียว ครัวเล็กๆ แบบโฮมเมดนี้ดูแลโดยสองเชฟสามีภรรยาแชด โรเบิร์ตสัน (Chad Robertson) และเอลิซาเบธ พรูเอตต์ (Elisabeth Prueitt) ที่ เ คยไปฝึ ก ปรื อ ฝี มื อ ในปารี ส อยู่ ห ลายปี หั ว ใจสำคั ญ ของ ที่นี่คือการใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพเยี่ยมแถมยังเป็นออร์แกนิก จากฟาร์มพื้นถิ่นทั้งหมด แม้กระทั่งเค้กและทาร์ตที่จะทำตาม ผลไม้ในแต่ละฤดูกาล รวมไปถึงเนื้อในทุกเมนูนั้นก็มาจาก ฟาร์มคุณภาพอย่าง Niman Ranch ผลิตภัณฑ์นมจากฟาร์ม Straus Family Creamery กาแฟออร์แกนิกจากเพื่อนบ้าน ชื่อดังอย่าง Fourbarrel
I n f o & d e ta i l :
I n f o & d e ta i l :
ทีต่ ง้ั : สาขา Ghirardelli Square (สาขาทีส่ ะดวกทีส่ ดุ ในซานฟรานซิสโก) 900 North Point Street (ใกล้กับช่วงที่ตัดกับ Larkin Street) ย่าน Fisherman’s Wharf / เปิด-ปิด: วันจันทร์-เสาร์ 10.00-21.00 น., วันอาทิตย์ 10.00-20.00 น. / โทร. 415-315-2253 / www.karascupcakes.com
ทีต่ ง้ั : 600 Guerrero Street (ช่วงที่ตัดกับ 18th Street) ย่าน Mission / เปิด-ปิด: วันจันทร์ 08.00-19.00 น., วันอังคาร-พุธ 07.30-19.00 น., วันพฤหัสบดี-ศุกร์ 07.30-20.00 น., วันเสาร์ 08.00-20.00 น., วันอาทิตย์ 09.00-20.00 น. / โทร. 415-487-2600 / www.tartinebakery.com
01
03
02
04
0 1 ร้านดังแบบไม่มโี ต๊ะนัง่ ที่
Farmerbrown's Little Skillet 0 2 อร่อยรักษ์โลกที่ Kara’s Cupcakes 0 3 โฮมเมดโดนัทอร่อยๆ ที่ Dynamo Donut & Coffee 0 4 Open Face Sandwich หนึ่งในเมนูฮิตที่ Tartine Bakery & Café
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
56
01/2012
T H E UN I T ED S T A T ES O F AMER I C A
SAN F RAN C I S C O
T H E S O UND O F SAN F RAN C I S C O
01/2012
57
sleep
ที่พักในซานฟรานซิสโกนั้นมีหลากระดับหลายสไตล์ ถ้าเป็น นักเดินทางขาลุยแนะนำให้ลองหาที่พักดีๆ ราคาประหยัด ได้ใน hostelworld.com และ hostelbookers.com แต่ถ้า เป็นนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักอยากจะหาที่พักชิคๆ เก๋ๆ ดูดี มีสไตล์แนะนำให้เข้าไปดูที่พักในเครือ Joie de Vivre ได้ที่ jdvhotels.com
The Orchard Garden ที่พักหรูหัวใจรักษ์โลกแห่งนี้ได้รับ การการันตีด้านสิ่งแวดล้อมจากองค์กรต่างๆ มากมาย ซึ่งที่นี่ ใส่ ใ จเรื่ อ งสิ่ ง แวดล้ อ มในทุ ก รายละเอี ย ดตั้ ง แต่ ใ ช้ วั ส ดุ ไ ม่ ทำร้ายสิ่งแวดล้อม การบริหารการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า การบริการอาหารออร์แกนิก ไปจนถึงการทำความสะอาดที่ เป็นมิตรต่อโลก และนี่ก็คือ America’s First LEED - Certified Hotels โรงแรมแห่งแรกทีไ่ ด้รบั การรับรองมาตรฐาน Leadership in Energy and Environmental Design จาก U.S. Green Building Council (USGBC) และยั ง อยู่ ใ นลิ ส ต์ แ นะนำ ของไกด์มาตรฐานสูงอย่าง Michelin Guide 2010 อีกด้วย (www.theorchardgardenhotel.com)
info
การเดินทางในซานฟรานซิสโกนั้นสามารถใช้ขนส่งมวลชน ของเมือง (SFMTA) ที่ให้บริการรถเมล์ (MUNI Bus), รถไฟฟ้า (MUNI Metro), รถรางไฟฟ้า (Street Car F Line) ราคาตั๋ว $2 สามารถโดยสารรถในระบบทุกประเภทกี่ต่อก็ได้ภายในระยะ เวลา 90 นาที (www.sfmta.com)
รถราง (Cable Car) ถึงแม้จะอยู่ในบริษัทเดียวกับ SFMTA แต่ ก็ เ ก็ บ ค่ า โดยสารแยกต่ า งหากและไม่ ส ามารถใช้ ต่ อ รถ อื่นๆ ได้ โดยรถรางนั้นให้บริการทั้งหมดสามสาย ราคาตั๋ว $6 ต่อเที่ยว (www.sfcablecar.com) ถ้าต้องการเดินทางประหยัดแบบคุ้มสุดๆ แนะนำให้ซื้อบัตร MUNI Passports ซึง่ สามารถใช้เดินทางในระบบขนส่งมวลชน ทุกประเภทรวมไปถึงรถราง (Cable Car) ได้อย่างไม่จำกัดเทีย่ ว โดยราคาบัตรนั้นมี 3 แบบ คือ 1-day Passport ราคา $14, 3-day Passport ราคา $21, 7-day Passport ราคา $27 หาข้ อ มู ล เก๋ ๆ ดี ๆ ก่ อ นเดิ น ทางได้ ที่ เ ว็ บ ขององค์ ก ารการ ท่องเทีย่ วซานฟรานซิสโก (San Francisco Travel Association) www.sanfrancisco.travel / 7X7 สื่อดังสไตล์ดีข้อมูลโดน www.7x7.com / San Francisco Magazine www.sanfranmag.com
PARADISO SAN FRANCISCO
ปัทม์-กัลยพัชร ภักดีผดุงแดน นักธุรกิจ, เจ้าของร้าน Saluté Bistro & Wine Bar ศิษย์เก่า Lincoln University มีเรือ่ งเล่าตลอด 4 ปีทสี่ นุกไม่รลู้ มื กับเมืองใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยทะเล ปัทม์-กัลยพัชร มีรอยยิ้มใน ดวงตาเสมอเมื่อย้อนนึกถึงวันเหล่านั้น “ปั ท ม์ เ คยมาซานฟรานซิ ส โกตั้ ง แต่ ส มั ย เด็ ก ๆ ค่ ะ ชอบเมืองนี้มาก หลงรักแล้วก็อยากกลับมาอีก วิวเมืองที่มี อ่าวและทะเลล้อมรอบ ตึกรามบ้านช่องสวยๆ ถนนหนทาง ที่วิ่งขึ้นลงเนินเขา มันสวยเหมือนในโปสต์การ์ดจริงๆ สมแล้ว ที่เขาว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่โรแมนติกของโลก “ปัทม์จบ MBA สาขา International Business ที่ Lincoln University ตอนอยู่ที่นั่น 4 ปีสนุกมากๆ เลยค่ะ เพราะนอกจาก เมื อ งจะสวยแล้ ว ที่ ซ านฟรานซิ ส โกยั ง มี กิ จ กรรมดี ๆ ตลอด
อย่างช่วงมิถนุ ายนของทุกปีจะมี San Francisco Pride Parade สำหรับชาวเพศที่สาม ซึ่งเป็นเทศกาลใหญ่ระดับโลกและสนุก มากๆ หรือช่วงวันชาติอเมริกา 4th of July ก็จะมีการจุดพลุ เฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ที่ Fisherman’s Wharf ช่วงตุลาคม ก็จะมี San Francisco Fleet Week เทศกาลโชว์เครื่องบิน ผาดโผนของกองทัพสหรัฐฯ ทีบ่ นิ โชว์เหนือน่านน้ำซานฟรานซิสโก อันนี้ก็ไม่เคยพลาดเลยสักปี “ปั ท ม์ อ ยากแนะนำให้ ล องไป Golden Gate Park สวนสาธารณะใหญ่แห่งเมืองทีม่ สี วน Japanese Tea Garden อยู่ด้านใน ปัทม์ชอบไปนั่งเล่นและจิบชาในสวน เหมือนหลุด ไปอยูญ ่ ปี่ นุ่ จริงๆ เลย แล้วถ้าข้ามไปอีกฝัง่ ของสะพาน Golden Gate ก็จะเจอ Sausalito เมืองชายทะเลเล็กๆ น่ารักมาก มีร้านอาหารอร่อยๆ ที่ช้อปปิ้งเก๋ๆ เดินเล่นจนเพลิน “ซานฟรานซิ ส โกเป็ น เมื อ งที่ ขึ้ น ชื่ อ เรื่ อ งอาหารมาก มีร้านอร่อยอยู่มากมาย ร้านที่ชอบไปก็จะมี Steps of Rome เป็นอาหารอิตาเลียน อยูย่ า่ น North Beach เป็นย่าน Little Italy ของเมืองนี้ อีกร้านคือ House of Prime Rip สเต็กเนื้อทุกชนิด ที่ นี่ อ ร่ อ ยมากๆ อยู่ บ นถนน Van Ness แถมบรรยากาศ โรแมนติกสุดๆ อีกที่ก็ The Cheesecake Factory เลยค่ะ ปัทม์ชอบไปกินทีบ่ นชัน้ 8 ของห้าง Macy's ตรง Union Square ร้านนี้ดังมาก แถมวิวสวยมากๆ ด้วย แล้วถ้าพูดถึงวิวสวย อีกที่ที่ปัทม์ชอบก็ร้าน Ozumo ถนน Steaurat St. ย่าน The Embarcadero เป็นซูชิบาร์เก๋ๆ โดยเฉพาะตอนเย็นไปจนถึง ค่ำเราจะเห็นสะพาน Bay Bridge สวยมากๆ “ซานฟรานซิสโกเป็นเมืองที่สวยและโรแมนติกมากๆ ปัทม์รกั เมืองนีแ้ ละรูส้ กึ ผูกพันมาก นึกถึงทีไรแล้วก็ยมิ้ มีความสุข ทุกครั้ง และคิดถึงทีไรก็จะหยิบเพลงเก่าอย่าง I Left My Heart in San Francisco มาฟังทุกที เป็นเพลงที่ทำให้เรายิ้ม ได้เสมอๆ”
GREEN WA Y
C a bl e C a r ที่นี่คือระบบรถรางแห่งเดียวและแห่ง สุดท้ายในโลกที่ยังคงอนุรักษ์ระบบเดินรถรางแบบบังคับ ด้ ว ยมื อ มนุ ษ ย์ ไ ว้ ซึ่ ง นอกจากจะได้ นั่ ง รถรางรั บ ลม ชมวิวเมืองสวยๆ แล้วก็ยังปลอดภัยจากมลพิษอีกด้วย (www.sfcablecar.com)
St r e e t C a r ( F L i n e ) รถรางแบบสตรีตคาร์ใช้ ระบบไฟฟ้าในการขับเคลื่อน วิ่งผ่านถนนสายหลักอย่าง Market Street แล้วเลี้ยวเลียบชายฝั่งอ่าวซานฟรานซิสโก ไปตามถนน The Embarcadero Street ก่อนทีจ่ ะไปสิน้ สุด ทีย่ า่ นฮิตอย่าง Fisherman’s Wharf (www.streetcar.org)
B i k e ซานฟรานซิสโกเป็นอีกเมืองที่มีการส่งเสริมการขี่ จักรยานอย่างเป็นระบบ นอกจากนัน้ วิธกี ารท่องเทีย่ วยอด นิยมของเมืองนี้อีกวิธีหนึ่งก็คือการขี่จักรยานเที่ยว ซึ่งที่นี่ มีบริษัทชั้นนำหลายแห่งให้บริการเช่าจักรยานดีๆ และมี แผนที่แนะนำเส้นทางการขับขี่เก๋ๆ มากมาย
Go C a r รถเก๋งจิ๋วสีเหลืองเป็นยานพาหนะท่องเที่ยว ยุคใหม่ที่เริ่มบุกเบิกการท่องเที่ยวด้วยระบบ GPS โดยรถ สีเหลืองหัวใจเขียวนีพ้ ฒ ั นาเครือ่ งยนต์สรู่ ะบบลดมลภาวะ ได้มาตรฐานดีเยีย่ มจนได้รบั การรับรองจากองค์การชัน้ นำ อย่าง CarbonNeutral® (www.gocartours.com)
S e g way เครื่องอำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยว ชิ้นใหม่นี้กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก ซึ่ง Segway นี้ เป็นการท่องเที่ยวด้วยรถใช้ไฟฟ้าที่ให้ความรู้สึกเหมือน เดินเทีย่ วแต่ไม่เหงือ่ ตก แถมไม่ปล่อยมลพิษสูส่ งิ่ แวดล้อม (www.electrictourcompany.com)
NO.
COLUMN
ISSUE/YEAR
NO.
58
D I G I TA L by @ D h a n i s
01/2012
59
F U N & FREE APPS FOR TRAV EL SAVV Y ! เมื่อใกล้เข้ามาถึงหน้าร้อน หลาย ๆ ครอบครัวคงกำลังเตรียม แผนการเดินทางท่องเทีย่ วกันอยู่ ซึง่ คุณผูอ้ า่ นทราบหรือไม่วา่ iPhone ที่คุณใช้กันเป็นประจำทุกวันนั้น ช่วยให้การวางแผน การเดินทางเป็นไปอย่างง่ายดาย สนุก และทีส่ ำคัญ ช่วยให้คณ ุ ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น ลืมกรุ๊ปทัวร์และเอเจนซี่ไปได้เลย จัดของ คว้ากระเป๋า ชาร์จแบตไอโฟนของคุณให้เต็มแล้วไปใช้เวลา ในวันหยุดกับการออกเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเองให้เต็มที่ เพราะวันนี้ SANSIRI NO.475 จะพาคุณไปรู้จัก iPhone Application ที่พลาดไม่ได้สำหรับการไปท่องเที่ยวครั้งหน้า ของคุณและครอบครัว
Agoda.com ค้นหาและจองโรงแรมทั่วโลก ในราคาถูกกว่าใคร agoda เป็นเว็บไซต์ที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่อง ราคาโรงแรมที่ถูกกว่าใคร ซึ่ง iPhone app ทำให้คุณยิ่งสะดวกสบาย และได้ราคาดีเหมือนเดิม โดย agoda เป็นแอพพลิเคชั่นที่สามารถพิกัดระยะทางที่คุณใช้ไอโฟนอยู่ และ สแกนหาโรงแรมต่างๆ รอบตัวคุณ และแสดงผลได้ทันที เหมาะ อย่างยิ่งสำหรับใครที่ชอบท่องเที่ยวแบบ Backpacker อีกทั้งคุณ ยังสามารถเลือกดูการแสดงผลในรูปแบบต่างๆ ได้มากมายตาม ความต้องการ เช่น เรียงลำดับตามราคา, ความนิยม ฯลฯ หรือจะ ระบุชื่อเมืองที่คุณต้องการจะเดินทางไปก็ได้ หากได้โรงแรมที่ ถูกใจแล้ว ก็สามารถกดจองโรงแรมและจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต ได้ทันที
Foodspotting ของอร่อย บางทีก็อยู่รอบๆ ตัวเรา เมื่อได้ที่พักถูกใจแล้ว ก็ถึงเวลาของการ หาของอร่อย Foodspotting ทำให้คุณรูจ้ กั ร้านอาหารและเมนูจานใหม่ๆ รอบตัวคุณ จนคุณเองอาจจะต้องแปลกใจ หลายครั้งที่เราใช้แอพพลิเคชั่นนี้
และค้นพบว่าแท้จริงมีร้านอร่อยอยู่รอบๆ บ้านเรามากมาย จนลืม ร้านอาหารฮอตฮิตในเมืองทีเ่ ต็มไปด้วยผูค้ นและการจราจรทีต่ ดิ ขัด ทำให้คุณและครอบครัวใช้เวลาแห่งความสุขในย่านที่คุณอยู่ได้ มากขึน้ อีกเยอะ ประโยชน์ของแอพพลิเคชัน่ นีส้ ำหรับการท่องเทีย่ ว นัน้ ง่ายดาย เพียงแค่คณ ุ เปิดแอพพลิเคชัน่ ระบบจะแสดงร้านอาหาร พร้อมเมนูจากผู้ใช้แอพพลิเคชั่นท่านอื่นที่เคยถ่ายรูปและโพสต์ เอาไว้ให้คุณได้เลือกชิมตามชอบ ดังนั้นคราวหน้าหากคุณไปเจอ ร้ า นอาหารและเมนู เ ด็ ด จานไหน อย่ า ลื ม หยิ บ ไอโฟน เปิ ด Foodspotting ถ่ายรูปและให้คะแนนเมนูจานนั้นๆ แบ่งปันข้อมูล ให้ผู้ใช้แอพพลิเคชั่นท่านอื่นลองความอร่อยด้วยนะคะ ถือเป็น แอพพลิ เ คชั่ น ที่ ใ ช้ เ ทรนด์ Social มาประยุ ก ต์ ใ ช้ ไ ด้ อ ย่ า งสนุ ก และน่าสนใจ
ParkBuddy เพื่อนคู่ใจของคนขี้ลืม แอพพลิ เ คชั่ น ที่ เ หมาะอย่ า งยิ่ ง สำหรั บ คนขี้ลืม หลายครั้งที่เราขับรถไปเที่ยวในที่ ที่ไม่คุ้นเคย และมักจะลืมว่าเราจอดรถไว้ ที่ไหน กว่าจะหารถเจอบางทีเสียเวลาไปแล้วหลายชั่วโมงทำให้ ทริ ป หมดสนุ ก ไปได้ ParkBuddy จะช่ ว ยให้ ปั ญ หานี้ ห มดไป โดยทุ ก ครั้ ง ที่ คุ ณ จอดรถ เพี ย งแค่ เ ปิ ด แอพพลิ เ คชั่ น เพื่ อ สั่ ง ให้ จำพิ กั ด ที่ เ ราจอดรถอยู่ พร้ อ มทั้ ง ยั ง สามารถบั น ทึ ก เสี ย งหรื อ พิมพ์ note สั้นๆ กันลืม (เช่น ชั้น หรืออาคาร ฯลฯ) กดปุ่ม Park จากนั้นคุณก็สามารถเดินไปช้อปปิ้ง หรือท่องเที่ยวโดยไม่ต้อง กังวลว่าจะลืมที่จอดรถอีกต่อไป และเมื่อใดที่คุณลืมว่าจอดรถไว้ ที่ไหน เพียงแค่กดปุ่ม Return แอพพลิเคชั่นจะบอกเส้นทางการ เดินทางไปยังตำแหน่งที่คุณจอดรถได้อย่างแม่นยำ สายการบินไหนก็ใช้ iPhone Book ได้! ไม่ว่าสายการบินโปรดของ คุณจะเป็นสายการบินไหน ตอนนี้ ทุ ก สายการบิ น ใน เมืองไทยมีบริการ search และ book ตัว๋ เครือ่ งบินผ่าน แอพพลิ เ คชั่ น บนไอโฟน กั น หมดแล้ ว เลิ ก ยกหู โทรศัพท์ หรือหาคอมพิวเตอร์เพื่อเปิดเว็บเพื่อจองตั๋ว อีกต่อไป แล้วใช้ ไอโฟนค้นหาและจองตัว๋ แทน สะดวกง่ายดาย และในบางครัง้ ยังมาพร้อมกับโปรโมชั่นดีๆ ที่สายการบินมอบให้เ ฉพาะผู้ จ อง ผ่านไอโฟนเท่านั้นด้วยค่ะ
xe currency เช็ค/แปลงค่าเงินจากทุกสกุลเงินทั่วโลก xe ถือเป็นเว็บชือ่ ดังทีห่ ลายคนใช้ประโยชน์ ในการค้ น หาอั ต ราแลกเปลี่ ย นเงิ น ตรา ทุกสกุล ซึ่งถือเป็นเว็บอันดับ 1 ในด้านนี้ มานาน หากลอง search บน google ว่า currency เราจะเจอ xe.com เป็ น ผลลั พ ธ์ อั น ดั บ 1 ซึ่ ง ค่ า เงิ น ของเว็ บ นี้ เ ชื่ อ ถื อ ได้ มาโดยตลอด วันนี้ xe.com มาในรูปแบบ application ดังนั้น จึงทำให้การค้นหา เปรียบเทียบ หรือแปลงค่าเงินเป็นไปได้อย่าง สะดวกสบายมากขึน้ วิธกี ารใช้กง็ า่ ยดาย แนะนำว่าเข้า App Store แล้วลองดาวน์โหลดมาใช้ คุณจะเข้าใจวิธีการใช้ได้ด้วยตนเอง อย่างง่ายดายค่ะ
Free City Maps and Walks ( 4 7 0 + C it ie s ) รู้จักเมืองใหม่ๆ ด้วยไอโฟนในมือคุณ สำหรับทีเ่ ป็นนักท่องเทีย่ วแบบ Backpacker ต้องติดใจแอพพลิเคชั่นนี้ ที่นำเสนอแผนที่ สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกกว่า 470 เมือง แถมใครที่ไม่รู้จักเมืองนั้นๆ มาก่อนเลย แอพพลิเคชั่นก็ยังสามารถ แนะนำจุ ด ท่ อ งเที่ ย วสำคั ญ ๆ ที่ คุ ณ ไม่ ค วรพลาด พร้ อ มบอก ระยะทางจากจุดที่คุณอยู่ไปยังปลายทางว่าอยู่ไกลแค่ไหน ควร เดินทางไปด้วยการเดินหรือโดยรถยนต์ ฯลฯ ซึง่ จากประสบการณ์ตรง ต้ อ งบอกว่ า เพี ย งแค่ ใ ช้ แ อพพลิ เ คชั่ น นี้ อาจทำให้ เ ราลื ม การ ท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ที่หลายคนอาจจะเบื่อหน่ายกับการต้อง ท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กับคนจำนวนมากไปได้เลย
TripAdvisor แอพที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมี ถื อ เป็ น แอพพลิ เ คชั่ น ครอบจั ก รวาลที่ นักท่องเทีย่ วทุกคนควรมี เพราะ Trip Advisor สามารถให้คำแนะนำทัง้ โรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ที่ไม่ควรพลาด ไฟลท์ใกล้ตัวคุณและที่เหมาะสมกับคุณ มากที่ สุ ด โดยเป็ น location based application ดั ง นั้ น จึ ง สามารถค้นหาข้อมูลโดยอ้างอิงจากพิกัดที่คุณอยู่ พร้อมทั้งยัง สามารถอ่ า นและพู ด คุ ย เกี่ ย วกั บ สถานที่ ห รื อ เมนู นั้ น ๆ ร่ ว มกั บ ผู้ ใ ช้ อื่ น ๆ ทั่ ว โลกได้ อี ก ด้ ว ย แอพพลิ เ คชั่ น นี้ ไ ด้ รั บ การยอมรั บ จากผู้ใช้ทั่วโลก ด้วยคะแนนนิยมระดับ 4.5 ดาว ดังนั้นคุณมั่นใจ ได้เลยว่า ข้อมูลที่คุณได้จากแอพพลิชั่นนี้น่าเชื่อถือและน่าสนใจ จริงๆ
SANSIRI FAMILY PRIVILEGES สิทธิพิเศษสำหรับลูกบ้านคนพิเศษ มาถึ ง แอพพลิ เ คชั่ น ที่ ลู ก บ้ า นแสนสิ ริ ทุกท่านต้องมี SANSIRI FAMILY (หรือ 360 privileges ในเวอร์ชันเก่า) แอพฯ นี้จะช่วยให้การเข้าถึงข้อมูล สิทธิพิเศษต่างๆ ที่แสนสิริคัดสรรมาให้คุณ ทั้งในกรุงเทพฯ หัวหิน และภู เ ก็ ต เป็ น ไปได้ อ ย่ า งง่ า ยดายและสะดวกยิ่ ง ขึ้ น โดย แอพพลิ เ คชั่นนี้จะนำเสนอส่วนลด และสิทธิพิเศษจากร้านค้า ร้านอาหาร โรงหนัง ฯลฯ จากหมวดหมู่ที่จัดแบ่งไว้ให้หลากหลาย เมนู พร้อมแสดงรายละเอียดส่วนลด แผนที่ร้านค้า และวิธีการใช้ สิทธิประโยชน์อย่างง่ายดาย แอพพลิเคชั่นนี้พฒ ั นาผ่านเทคโนโลยี Location based service ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ในพื้นที่ไหน ที่มีโครงการแสนสิริอยู่ (เช่น กรุงเทพฯ หัวหิน ภูเก็ต) คุณก็สามารถ เลือกดูข้อมูลสิทธิพิเศษรอบๆ ตัวคุณใกล้หรือไกลได้ทันที
ISSUE/YEAR
PAGE NO.
01.2012
060
D E S T I N AT I O N
WEIGHT
FLIGHT NO.
--S TAT I O N
SSR475 TIME OF ARRIVAL
ITALY
__ : __
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
62
01/2012
I TA LY
F L O REN C E
F EE L F L O REN C E , “ AER O P O R T O D I F I REN Z E ” 0 1 / 2 0 1 2
Green Ride ในอดีต ฟลอเรนซ์เคยติดอันดับเมืองที่มีมลภาวะทาง อากาศมากที่สุดเมืองหนึ่งของอิตาลี โดยเฉพาะมลภาวะ จากการจราจรซึ่ ง แปรผั น ตามจำนวนนั ก ท่ อ งเที่ ย วที่ หลั่งไหลมาชมความงามของเมือง แต่มาในวันนี้ ภาพที่เห็นระหว่างทางจากสนามบินมาถึงที่พัก คือประชากรจักรยานที่มีไม่น้อยไปกว่ารถยนต์ส่วนตัวและ พาหนะอื่นๆ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะชาวฟลอเรนทีนเองหันมาใช้ จักรยานกันมากขึ้น เพื่อตัดปัญหาเรื่องการหาที่จอดรถยาก ปัญหาการจราจร ประหยัดค่าน้ำมัน ทัง้ ยังไม่สร้างมลพิษให้กบั เมืองที่พวกเขารักอีกด้วย ฝ่ า ยนั ก ท่ อ งเที่ ย วเองก็ เ กาะติ ด เทรนด์ นี้ เ หมื อ นกั น เพราะ นอกจากจะประหยัดค่าแท็กซี่แล้วยังได้เปรียบตรงที่สามารถ ปั่นไปได้ทั่วทุกมุมของเมือง รวมถึงโซนถนนคนเดินตามย่าน สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หลายแห่งที่ห้ามรถทุกชนิด ผ่านเข้าไปเว้นแต่จักรยานเท่านั้น
Feel Florence “A eroport o di Firenze” F L O REN C E General Info: • เมืองฟลอเรนซ์ตง้ั อยูบ่ นริมฝัง่ ของ แม่น้ำอาร์โน • มีประชากรราว 370,000 คน • ประกาศเป็นเมืองมรดกโลกโดย ยูเนสโกในปี 1982 • นิตยสาร Forbes เคยจัดให้เป็น เมืองที่สวยที่สุดในโลก
ใครๆ ก็บอกว่าฟลอเรนซ์ (Florence) ที่ออกเสียงแบบคนอิตาเลียนว่า ฟิเรนเซ (Firenze) เป็นหนึ่งในเมืองที่โรแมนติกที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง ไม่ว่าจะพลิกไกด์บุ๊กสำนักไหนก็มีคำว่า “โรแมนติก” ปนอยู่ทั้งนั้น 12 ชั่ ว โมงในการเดิ น ทางจากกรุ ง เทพฯ มาถึ ง เมื อ งนี้ จึ ง มากพอที่จ ะใช้ ไ ปกั บ การ วางแผนทำความรู้จักกับเมืองหลวงของแคว้นทัสกานี ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี ว่ากันว่าสถาปัตยกรรมยุคกลางและยุคเรอเนสซองซ์ที่ทอดตัวยาวขนานไปกับฝั่งแม่น้ำ อาร์โน (Arno) จะทำให้คนต่างถิ่นตกหลุมรักเมืองนี้และอยากกลับมาที่นี่อีกครั้ง นอกเหนือจากความโรแมนติกแล้ว ฟลอเรนซ์จะมีเสน่ห์อะไรซ่อนอยู่อีกบ้างไหมนะ
ความสวยงามของบ้านเมืองและถนนหนทางที่เป็นใจทำให้ อดคิดไม่ได้ว่าจะมีความสุขแค่ไหนถ้าได้ชวนคนรู้ใจมาปั่น จักรยานลัดเลาะไปตามเมืองเก่าของอิตาลีดว้ ยกัน เพือ่ เก็บตก รายละเอียดความโรแมนติกที่ซุกซ่อนอยู่ตามตึกรามบ้านช่อง อายุหลายศตวรรษของเมืองฟลอเรนซ์
ISSUE/YEAR
NO.
63
01
Where to Get a Bike 02
เกสต์เฮาส์และโรงแรมหลายแห่งในฟลอเรนซ์มีบริการให้เช่า จักรยาน แต่ถ้าโรงแรมที่พักบังเอิญไม่มีบริการนี้ก็ไม่เป็น ปัญหา นักท่องเที่ยวสามารถเช่าจักรยานได้จาก • Florence by Bike Shop & Rental (Via S. Zanobi, 120/R, 50129 Florence / Tel. 055-488-992, 055-480-814 / www.florencebybike.it) • Segway & Bike Rental (Via dei Cimatori, 9R, 50121 Florence / Tel. 055-239-8855 / www.segwayfirenze.com) • Olim Riscio (Via del Leone, 35, Florence / Tel. 328-591-0979 / www.olimfireze.com)
Where to Grab a Map
วางแผนเส้นทางล่วงหน้าได้ที่ www.mapmyride.com หรือ www.ibikeflorence.com ที่ให้ข้อมูลทั้งเรื่องแผนที่ ระยะทาง และจุดที่จะผ่านตลอดเส้นทางนั้น
0 1 สีสน ั ของฟลอเรนซ์ในยาม
ค่ำคืนไม่ได้เป็นสีฉดู ฉาด คึกคัก แต่เป็นสีสนั ทีด่ ู คลาสสิก เจือด้วยความ โรแมนติก ตามแบบฉบับ เมืองเก่า 0 2 นักท่องเที่ยวและจักรยาน กลายเป็นภาพคุ้นตาภาพ ใหม่ของเมืองฟลอเรนซ์ที่ กลมกลืนไปกับวิถีของชาว Florentine เอง ทัง้ นีเ้ ป็นผล จากการรณรงค์ให้หัน มาใช้จักรยานกันมากขึ้น
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
64
01/2012
I TA LY
F L O REN C E
F EE L F L O REN C E , “ AER O P O R T O D I F I REN Z E ” 0 1 / 2 0 1 2
เป้ า หมายแรกของการเดิ น ทางคื อ Galleria degli Uffizi พิพิธภัณฑ์รวบรวมงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซที่เปิดตั้งแต่ 08.15 น. แต่มที ริกนิดหน่อยว่าต้องจองไว้ลว่ งหน้า ไม่อย่างนัน้ เวลาครึ่งวันเช้าอาจหมดไปกับการเข้าคิว
Feel Florence in 24 Hours
งานศิลปะภายในพิพิธภัณฑ์นี้มีมากกว่า 1,500 ชิ้น โดยจัด แสดงอยู่ในห้องต่างๆ กว่า 50 ห้อง การเดินชมงานศิลปะโดย เรียงตามลำดับเวลาจะทำให้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงของ อิตาลีในยุคต่างๆ ได้อย่างชัดเจนขึ้นนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 เป็นต้นมา ก่อนออกจากพิพธิ ภัณฑ์แวะไปรีเฟรชตัวเองด้วยการสูดอากาศ บริสุทธิ์ให้เต็มปอดและมองวิวของ Palazzo della Signoria ให้เต็มตาที่ Rooftop Café ซึ่งตั้งอยู่ชั้นบนสุดของ Galleria degli Uffizi
ถ้าใครมีเวลาจำกัด แต่อยากสัมผัสความเป็นฟลอเรนซ์ให้ ครบรสทั้งมุมสวยคลาสสิกและสวยโรแมนติกแล้ว เวลา 24 ชัว่ โมงก็อาจจะเพียงพอต่อการทำความรูจ้ กั เมืองนีถ้ า้ วางแผน ให้ดีและเตรียมการให้พร้อม เริม่ ต้นวันด้วยการตืน่ แต่เช้าตรู่ ซึง่ ไม่นา่ จะเป็นเรือ่ งยากสำหรับ คนที่พักในเมืองฟลอเรนซ์ โดยเฉพาะที่พักแบบ B&B ที่มักจะ ปลุกเราด้วยกลิน่ หอมๆ ของอาหารเช้าปรุงเสร็จใหม่ๆ และกาแฟ อิตาลีร้อนๆ เป็นนาฬิกาปลุกแบบฉบับของฟลอเรนซ์ที่ช่วยให้ เราเริ่มต้นด้วยรอยยิ้มและอิ่มท้อง
NO.
65
01
02
ออกจากพิพิธภัณฑ์แล้ว แวะไปทักทายรูปปั้นเดวิด (David) อันลือลัน่ ทีอ่ ยูต่ รง Palazzo Signoria แต่รปู ปัน้ ตรงนีเ้ ป็นเวอร์ชนั่ จำลองของเดวิดตัวจริงผลงานของมิเกลันเจโล (Michelangelo) ซึ่งย้ายไปจัดแสดงใน Accademia Gallery ตั้งแต่ ค.ศ. 1873 เป็ น ต้ น มา ซึ่ ง หลั ง จากย้ า ยของจริ ง ไปอยู่ ใ นอิ น ดอร์ แ ล้ ว ทางเมืองฟลอเรนซ์จึงได้นำของใหม่มาแสดงไว้ ณ จุดที่เคย เป็นที่ตั้งของ Original David นั่นเอง จุดแวะพักลำดับต่อไปคือ The Duomo มหาวิหารขนาดใหญ่ ตัวแทนศิลปะแบบโกธิก อันเป็นส่วนหนึ่งของ Basilica di Santa Maria del Fiore แห่งศาสนจักรโรมันคาทอลิก ดูโอโม เป็นสัญลักษณ์ของเมืองฟลอเรนซ์ที่แฟนหนังสือญี่ปุ่นเรื่อง Blu และ Rosso คงจำกั น ได้ เพราะเป็ น สถานที่ ที่ ตั ว เอก ชาวญี่ปุ่นทั้งสองคนสัญญาว่าจะกลับมาเจอกันที่นี่อีกครั้ง เมื่อเวลาผ่านไปครบ 10 ปี เรื่องที่ห้ามพลาดเด็ดขาดเมื่อมาถึงที่นี่คือการขึ้นบันได 463 ขั้นของดูโอโม ที่นอกจากจะได้ชื่นชมผลงานของบรูเนลเลสกี (Brunelleschi) ยอดสถาปนิกแห่งยุคเรอเนสซองซ์ผู้ออกแบบ ที่นี่แล้ว เมื่อขึ้นไปถึงยอดโดมจะได้พบกับวิว 360 องศาของ นครฟลอเรนซ์ทั้งเมืองที่สวยคุ้มค่าจนลืมความเมื่อยล้าในการ ขึ้นบันไดสูงเกือบ 90 เมตรนี้ทันที
หากวัดกันที่ขนาดพื้นที่ ฟลอเรนซ์ ไม่ใช่เมืองใหญ่ สเกล ของตัวเมืองจริงๆ นั้นพอที่จะเดินทอดน่อง เรียนรู้ผู้คน และทำความรู้ จั ก แต่ ล ะมุ ม ของเมื อ งได้ เ พี ย งในไม่ กี่ วั น แต่สิ่งที่ทำให้เมืองนี้เป็นเมืองใหญ่ในความรู้สึกก็เพราะ ปริมาณนักท่องเที่ยวที่ใจตรงกัน อยากมาเห็นมหาวิหาร ดูโอโม (Duomo di Milano) สักครั้งในชีวิต จนต้องเผื่อ เวลาส่ ว นหนึ่ ง ไว้ ส ำหรั บ การต่ อ แถวรอเข้ า ชมสถานที่ สำคัญระดับแลนด์มาร์กของประเทศนี้
ISSUE/YEAR
0 1 Palazzo Vecchio
03
ทาวน์ฮอลล์เก่าแก่แห่ง Firenze ด้านหน้าของ อาคารนี้คือ Piazza della Signoria อีกหนึ่งสถานที่ เที่ยวชื่อดังของเมือง 0 2 รป ู ปัน้ David บริเวณจัตรุ สั Signoria ซึ่งเป็นของใหม่ที่ สร้างขึน้ แทนรูปปัน้ ออริจนิ ลั ซึ่งย้ายไปจัดแสดงไว้ใน Accademia Gallery 0 3 Duomo แห่งเมืองฟลอเรนซ์ สัญลักษณ์ประจำเมืองที่ ทุกคนไม่ควรพลาด ในวันที่ ฟ้าใส จาก Duomo จะมอง เห็นทิวทัศน์ของเมืองได้ สุดสายตา
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
66
01/2012
I TA LY
F L O REN C E
F EE L F L O REN C E , “ AER O P O R T O D I F I REN Z E ” 0 1 / 2 0 1 2
ISSUE/YEAR
01
02
NO.
67
04
03
0 1 ม้าหมุนนอกสวนสนุก
บริเวณ Piazza della Repubblica 0 2 เช่นเดียวกับเมืองอื่นๆ ในอิตาลี อาหารหลักของ Florentine จึงหนีไม่พ้น พิซซ่าที่มีให้เลือกอร่อย สารพัดหน้า 0 3 Piazza della Repubblica ในวันนี้นอกจากจะเป็น สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ของฟลอเรนซ์แล้ว ยังเป็น พื้นที่ให้ศิลปินแนว street art ได้โชว์ไอเดียและฝีมือ กันอย่างเต็มที่ด้วย 0 4 ธงประจำสหภาพยุโรป ธงชาติอติ าลี และธงประจำ เมืองฟลอเรนซ์
จากดูโอโมมุง่ หน้าสูป่ อนเตเวคคิโอ (Ponte Vecchio) สิง่ ก่อสร้าง ในยุคกลางที่ทอดตัวอยู่เหนือแม่น้ำอาร์โน เชื่อกันว่าเริ่มสร้าง ครั้งแรกตั้งแต่อิตาลียังเป็นอาณาจักรโรมัน โดยเริ่มต้นจาก การเป็นสะพานก่อนทีจ่ ะมีการต่อเติมจนเป็นสะพานข้ามแม่นำ้ ที่มีอาคารร้านค้าอยู่บนนั้น ปัจจุบันปอนเตเวคคิโอกลายเป็น แหล่งรวมร้านขายจิวเวลรี่ เน้นงานดีไซน์ ข้าวของที่วางขาย ส่วนใหญ่จึงเป็นเครื่องประดับแนวแฮนด์เมด ควรมาถึงปอนเตเวคคิโอก่อนเวลาพระอาทิตย์ตกดิน แล้วเดินดู ร้านค้าสองข้างทางจนได้เวลาพระอาทิตย์ตก จึงค่อยหามุม เหมาะริมฝั่งแม่น้ำนั่งมองท้องฟ้าเปลี่ยนสียามพระอาทิตย์ ค่อยๆ ลับขอบฟ้าโดยมีปอนเตเวคคิโอเป็นฉากหลัง แล้วจะ เข้าใจว่าทำไมนักท่องเที่ยวจำนวนมากถึงโหวตให้ริมฝั่งแม่น้ำ อาร์โนเป็นจุดชมวิวที่โรแมนติกที่สุดในฟลอเรนซ์ ปิ ด ท้ า ยวั น ด้ ว ยการทำตั ว กลมกลื น ไปกั บ ชาวฟลอเรนที น ด้วยการแต่งตัวดีๆ แล้วใช้เวลาหลังอาหารมาเดินเล่นทอดน่อง ตามย่านดังของเมือง โดยเฉพาะบริเวณ Piazza della Signoria ทีเ่ ราจะได้เห็นชาวเมืองฟลอเรนซ์แต่งตัวเริดพาสุนขั มาเดินเล่น และแวะทักทายพูดคุยกับคนรู้จักที่บังเอิญเจอระหว่างทาง ...เพียงเท่านี้ก็ feel Florence ได้ภายใน 1 วันแล้ว
Green Must Go ชวนมาหลงทางย้อนกาลเวลาในเขาวงกตที่สวนหลังบ้าน ของตระกูลเมดิชิ (Medici) ตระกูลเก่าแก่ที่เคยมีอิทธิพล อย่างมากในฟลอเรนซ์ Boboli Gardens หรือ Giardino di Boboli เป็นสวนเก่าแก่ หลายร้อยปีที่เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง เพราะนอกจากจะพา เราย้อนกลับไปในยุครุ่งเรืองของตระกูลเมดิชิด้วยการจัดสวน วินเทจแบบที่นิยมในอิตาลียุคนั้นแล้ว บริเวณรอบๆ และภาย ในสวนยังเต็มไปด้วยประติมากรรมชั้นเยี่ยมหลายชิ้นที่ตั้งอยู่ อย่างกลมกลืนกับต้นไม้นานาพันธุ์และน้ำพุแบบบาโรก ถ้ายังไม่เหนื่อยและอยากเห็นภาพที่เหมือนถอดแบบมาจาก นิยายเรื่อง The Secret Garden ของฟรานเซส ฮอดจ์สัน เบอร์เนตต์ (Frances Hodgson Burnett) ให้เดินจากสวนโบโบลิ (Giardino di Boboli) มาไม่ ไ กลจะพบกั บ สวนบาร์ ดิ นี (Giardino di Bardini) ที่แม้ขนาดของสวนและความโด่งดัง
จะสู้สวนแห่งแรกไม่ได้แต่ชนะเลิศในเรื่องของความโรแมนติก เพราะสวนสไตล์อังกฤษของที่นี่ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ยุคเรอเนส ซองซ์ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ภายในสวนมีบันไดสไตล์ บาโรกที่ทอดตัวขึ้นไปยังเนินเขา ซึ่งเมื่อมองลงมาจะเห็นภาพ พาโนรามาของฟลอเรนซ์ทสี่ วยสะกดสายตา คลอด้วยเสียงนก นานาชนิดที่บินโฉบมาให้เห็นอยู่เสมอ สวนสวยในเมืองเก่ายังไม่หมดเท่านี้ เก็บแรงและเผื่อเมมโมรี่ การ์ดในกล้องไว้สำหรับสวนเซมพลิชิ (Giardino dei Semplici) อีกหนึ่งสินทรัพย์ของตระกูลเมดิชิซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1545 ทุกวันนี้สวนเก่าแก่แห่งนี้ทำหน้าที่เป็นเหมือนสวนสาธารณะ และเรือนกระจกขนาดใหญ่ ปลูกพรรณไม้ทใี่ ห้กลิน่ หอมภายใน เรือนกระจก ส่วนสวนด้านนอกนั้นแน่นขนัดไปด้วยสมุนไพร และเครื่องเทศของแคว้นทัสกานี และดอกไม้ป่าจากเทือกเขา แอเพนไนน์ (Appennies)
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
68
01/2012
I TA LY
F L O REN C E
F EE L F L O REN C E , “ AER O P O R T O D I F I REN Z E ” 0 1 / 2 0 1 2
G r e e n T h i n g s Yo u w i ll S p ot R e c y c l i n g B i n : ถังขยะสีน้ำเงินสำหรับขยะประเภท
พลาสติก แก้ว และโลหะ ถังขยะสีเหลืองสำหรับกระดาษ ส่วนถังขยะทีไ่ ม่ใช่ 2 สีนจี้ ะไว้สำหรับทิง้ ขยะอืน่ ๆทีน่ ำมารีไซเคิล ไม่ได้ นอกจากนีท้ างเมืองยังมีตารางวันเก็บขยะแต่ละประเภท ด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแยกขยะของประชาชน
R e f i ll e d Wat e r C a n : วางใจได้เลยว่าน้ำประปาทีน่ ี่
ดืม่ ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แถมทีพ่ กั บางแห่งยังเพิม่ ความมัน่ ใจด้วย การติดเครื่องกรองน้ำให้อีกชั้น ชาวฟลอเรนทีนจำนวนไม่น้อย จึงพกกระบอกน้ำที่เติมน้ำประปามาจากบ้านไว้ติดตัว เพื่อลด ปริมาณขยะจากขวดพลาสติก Pl a s t i c - B o ttl e G a r d e n : ลองแหงนหน้ า ขึ้ น
Green Project คงต้องขอบคุณสายตาอันซุกซนระหว่ า งขี่ จั ก รยานไป ตามตรอกซอกซอยของฟลอเรนซ์ที่ทำให้บังเอิญสะดุด ตากับกล่องพลาสติกสีขาวที่วางอยู่หน้าบ้านหลายหลัง เมื่อผ่านตาหลายครั้งเข้าจึงตัดสิน ใจย้ อ นกลั บ ไปถาม เจ้ า ของบ้ า นถึ ง ที่ ม าที่ ไ ปของกล่ อ งพลาสติ ก ที่ มี ต้ น ไม้ สีเขียวแทงยอดแตกหน่ออยู่ในนั้น 01
01 Ponte Vecchio สะพาน
เก่าแก่ซึ่งเป็นที่รู้จักเพราะ นอกจากจะเป็นสะพาน ทอดข้ามแม่น้ำ Arno แล้ว ยังเป็นทั้งอาคารและ ร้านค้าด้วย
คำตอบทีไ่ ด้รทู้ ำให้นกึ อยากปรบมือให้กลุม่ Guerilla Gardener เจ้าของความคิด ผู้ริเริ่มโปรเจ็กต์ Community Garden ขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในฟลอเรนซ์และกระตุ้น ให้คนที่นี่คำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หลักการของโปรเจ็กต์นั้นเรียบง่ายแต่ได้ผล เพราะแค่จ่ายเงิน เพียง 25 ยูโร ก็จะได้รับกล่องพลาสติก IKEA สีขาวใบใหญ่ ใส่ดินและเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัวที่ปลูกไว้ก่อนแล้ว เงินจำนวน นี้ แ ลกกั บ ระยะเวลา 6 เดื อ นที่ จ ะต้ อ งดู แ ลรั ก ษาสิ่ ง มี ชี วิ ต
สี เ ขี ย วในกล่ อ งสี ข าวให้ ง อกงาม และมี สิ ท ธิ์ ที่ จ ะเก็ บ เกี่ ย ว ดอกผลของพืชต่างๆ เหล่านีม้ าทำอาหาร หรือนำไปแลกเปลีย่ น กับเพื่อนบ้านที่ปลูกผักต่างชนิดกัน เป้าหมายระยะยาวของโปรเจ็กต์นคี้ อื การหาพืน้ ทีจ่ ริงๆ ทีไ่ ม่ใช่ แค่กล่องพลาสติก แต่เป็นพื้นที่ถาวรที่คนในชุมชนจะได้มี ส่วนร่วมสร้าง Community Garden ที่ทุกคนใช้ประโยชน์ ร่วมกันได้ ถ้าชาวฟลอเรนทีนยังคงรักษาระดับความกระตือรือร้นและ ตื่นตัวในเรื่องนี้ไว้ได้ต่อไป มาฟลอเรนซ์ครั้งหน้านิยามความ งามของเมืองอาจเปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่ความสวย คลาสสิก โรแมนติก และขลัง แต่คงต้องเพิ่มความสบายตาเข้าไปด้วย เพราะเชื่อว่าฟลอเรนซ์ยุคใหม่จะสวยแปลกตาไปด้วยสีเขียว ของต้นไม้ที่กำลังจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของฟลอเรนซ์ยุคนี้
มองตามอาคารบ้านเรือนของคนฟลอเรนทีนโดยเฉพาะในฝั่ง เมื อ งเก่ า จะเห็ น ต้ น ไม้ ใ นขวดพลาสติ ก ห้ อ ยร้ อ ยอยู่ ต าม ระเบี ย ง นั บ เป็ น ความตั้ ง ใจของคนที่ นี่ ที่ พ ยายามจะเพิ่ ม พื้นที่สีเขียวโดยเอาชนะข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ S e e d B o mb : ถ้าเห็นต้นไม้ขึ้นอยู่ในที่ที่นึกไม่ถึงในเมืองนี้
ให้เดาไว้ก่อนว่าอาจเป็นผลผลิตจาก Seed Bomb ระเบิด เมล็ดพันธุ์ฝีมือ Seed Bomber รักสิ่งแวดล้อมที่ใช้ดินเหนียว หุ้มเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ ไว้ เพื่อให้มั่นใจว่ามีทั้งความชื้นและ สารอาหารเพียงพอต่อการเจริญเติบโต แล้วแอบทิ้งระเบิด เหล่านี้ไว้ตามจุดต่างๆ ที่พวกเขาเห็นว่าน่าจะมีต้นไม้ขึ้นอยู่ ในบริเวณนั้น E c o Pa r k ( i n g ) D ay: กิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมที่มี จุดเริม่ ต้นทีซ่ านฟรานซิสโก ก่อนจะขยายไปยังเมืองใหญ่หลาย เมืองทั่วโลก รวมถึงฟลอเรนซ์ด้วย Eco Font: ฟอนต์ตวั หนังสือในงานพิมพ์ทบี่ ริษทั และห้างร้าน หลายแห่งเจาะจงใช้ เพราะผ่านการวิจยั มาแล้วว่าช่วยประหยัด หมึกได้มากกว่าฟอนต์ที่ใช้กันอยู่ทั่วไป Fl o r e n c e G r e e n Fa i r : เทศกาลน้องใหม่ในเดือน
เมษายนของเมืองฟลอเรนซ์ที่เพิ่งจัดติดต่อกันเป็นปีที่ 2 งานนี้ ใช้สีสันและความสนุกสนานของบรรยากาศงานเทศกาลมา เชิญชวนให้เห็นข้อดีของการใช้ชีวิตแบบ Green Life
ISSUE/YEAR
NO.
69
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
CITY
TITLE
70
01/2012
I TA LY
F L O REN C E
F EE L F L O REN C E , “ AER O P O R T O D I F I REN Z E ” 0 1 / 2 0 1 2
G r e e n G u i d e to th e C ity
G r e e n & Styl i s h
• Alta Rosa: ร้านเก๋สำหรับสาวนักช็อปที่ชื่นชอบความ หรูหรามีสไตล์ ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะคิดถึงสิ่งรอบข้าง เพราะเสือ้ ผ้าทุกตัวของ Alta Rosa ทำขึน้ โดยใช้วตั ถุดบิ จาก ธรรมชาติเท่านัน้ ทุกคอลเล็กชัน่ จึงเป็นเสือ้ ผ้า eco-friendly ที่ร่วมสมัยและมีเอกลักษณ์ของทัสกานีสอดแทรกอยู่ด้วย (Alta Rosa, Via San Gallo, 84 Rosso, 50129 Florence / Tel. 055-462-5190 / www.altarosa.it) • Stile Biologico: แบรนด์เสือ้ ผ้าแนว less is more ทีน่ า่ จะ เป็นกรีนแฟชั่นแห่งแรกๆ ในอิตาลี eco-line ของแบรนด์ นี้มีทั้งเสื้อผ้าเครื่องประดับสำหรับผู้หญิง ผู้ชาย และเด็ก โดยยื น ยั น หลั ก การออกแบบที่ ค ำนึ ง ถึ ง เรื่ อ งธรรมชาติ เป็ น หลั ก ตลอด 15 ปี ที่ ผ่ า นมา (Stile Biologico, Piazza Pitti, 6R, 50125, Florence / Tel. 055-277-6275 / www.stilebiologico.com) • Local Leather Brands: ฟลอเรนซ์ เ ป็ น เมื อ งแห่ ง เครื่องหนัง ที่นี่ยังมีช่างทำเครื่องหนัง ทำกระเป๋า-รองเท้า ด้วยมือ โดยใช้เครื่องมือและเทคนิควิธีการที่สืบทอดกัน มาหลายต่อหลายรุ่น แม้แบรนด์เหล่านั้นจะไม่ใช่แบรนด์ ดังบนรันเวย์แฟชัน่ แต่กเ็ ป็นงานแฮนด์เมดทีท่ ำขึน้ ทีละชิน้ ต่ า งจากเครื่ อ งหนั ง ที่ ผ ลิ ต ในระบบโรงงานโดยสิ้ น เชิ ง ห้องทำงานของช่างฝีมือเหล่านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในย่าน ออลตราร์โน (Oltrarno)
Green Dish
• Panino Tartufato: จานเด็ดที่แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ ว่า Truffle Pate Sandwich ใช้สุดยอดวัตถุดิบอย่างเห็ด ทรัฟเฟิลที่มีเฉพาะฤดูและอร่อยที่สุดในเดือนพฤศจิกายน มาบดจนเนียนและปรุงรสกับเครื่องปรุงต่างๆ Order this at Proccacci ( Via Tornabuoni, 64r, 50123 Florence / Tel. 055-211-656 / www.proccaci1885.it)
แล้วพอข้ามแม่น้ำก็จะค่อยๆ เห็นภาพที่อยู่อาศัยสมัยปัจจุบัน ภาพทิวทัศน์ ภาพความเป็นธรรมชาติของฟลอเรนซ์
• Zucchini Tempura: ความอร่อยแบบฟิวชั่นเพราะใช้ วัตถุดบิ ขึน้ ชือ่ ของแคว้นทัสกานีอย่างซูกนิ มี าทอดแบบเทมปุระ Order this at Momoyama (Borgo San Frediano, 10, 50124 Florence / Tel. 055-291-840 / www.momoyama.it) • Contorni: ผักย่างทีด่ งึ เอาความอร่อยของวัตถุดบิ ออกมา อย่างเต็มเปี่ยม เป็นการปรุงในสไตล์ดั้งเดิมของทัสกานี Order this at Il Chicco di Caffe (Via della Chiesa, 16r / Tel. 335-692-3465) • Santa Trinita: เจลาโตหรือไอศกรีมอิตาลีสูตรพิเศษ ชื่อเดียวกับชื่อร้าน แต่ถ้าชิมแล้วไม่ถูกใจจะสั่งรสอื่นๆ ก็ อร่อยไม่แพ้กัน เพราะร้านนี้ขึ้นชื่อความสมดุลของรสชาติ ไม่หวานเกินไปและไม่มันเลี่ยน Order this at Gelateria Santa Trinita (Piazza Frescobaldi, 11-12/r, 50125 Florence / Tel. 055-238-1130 / www.gelateriasantatrinita.com)
“สถานทีท่ ปี่ ระทับใจในตัวเมืองคือตรงสะพาน Ponte Vecchio ที่มีร้านขายของอยู่เต็มไปหมด แล้วเอ็มเซอร์ไพรส์มากเพราะ ของที่ขายอยู่ตรงนั้นส่วนใหญ่จะเป็นพวกจิวเวลรี่ที่เป็นงาน ดีไซน์แทบทัง้ นัน้ ไม่ใช่ของโหลๆ เลย แต่ละร้านมีธมี ของตัวเอง การใช้วัสดุก็ไม่ได้มีแค่เพชร พลอย ทับทิม มรกต เพราะวัสดุ หลากหลายมาก บางเจ้าใช้หนิ เทอร์ควอยส์ ใช้หนิ ปะการัง แล้ว ดีไซน์ออกมาให้สวยเก๋แต่ยงั คงลักษณะธรรมชาติของมันไว้ได้ แต่ละชิน้ แค่หยิบมาดูกร็ เู้ ลยว่าเป็นงานแฮนด์เมด ไม่เหมือนใคร สมกับที่ที่นี่เป็นเมืองของการออกแบบ
FAL L IN L OVE WITH FL ORENCE
คุณเอ็ม-ศิรประภา จีระพันธุ์ PR & Marketing Manager - Prima Prime Co., Ltd.
E c o - f r i e n d ly Pl a c e s t o Stay
• Casa Rovai: B&B กลางเมืองทีป่ ฏิบตั ติ ามนโยบาย ecofriendly อย่างเต็มที่ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และลดการใช้พลังงานแทบทุกรายละเอียด ขณะเดียวกัน ก็ไม่บกพร่องเรื่องความสะดวกสบายและความสวยใน สไตล์นโี อคลาสสิก (Casa Rovai, Via Fiesolana, 1, 50122 Florence / Tel. 347-485-2643 / www.casarovai.it) • Hotel Kursaal & Ausonia: โรงแรมสไตล์โมเดิร์น แต่อบอุ่น ใกล้กับสถานีรถไฟ Santa Maria Novella ที่ใช้ ระบบประหยัดพลังงานทั้งโรงแรม และปันกำไรที่ได้ไป บริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์เป็นประจำทุกปี (Hotel Kursaal & Ausonia, Via Nazionale, 24, 50123 Florence / Tel. 055-496-547 / www.kursonia.com) • Abatjour Bed & Breakfast: อีกหนึ่ง B&B ที่วาง โพสิชั่นไว้ว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ ของแม่นำ้ อาร์โน มีจกั รยานให้เช่าในราคาไม่แพง (Abatjour Bed & Breakfast, Via Cadorna, 12, 50129 Florence / Tel. 055-485-688 / www.abatjourflorence.it)
ภาพของศิรประภา จีระพันธุ์ เต็มไปด้วยความสดใส ร่าเริง ถึงจะวุ่นวายกับการทำงาน แต่เธอยังคงจัดสมดุลชีวิตด้วย การเดินทางเพื่อเปิดกว้างโลกทางความคิด และสามารถนำ ประสบการณ์ที่ได้รับมาต่อยอดงานที่เธอทำ “เอ็ ม ไปฟลอเรนซ์ ตั้ ง แต่ ส มั ย เรี ย นปริ ญ ญาโทอยู่ ที่ อั ง กฤษ เอ็มกับพี่สาวนั่งรถไฟไปด้วยกัน ที่เลือกไปอิตาลีเพราะอยาก ไปดูบ้านเมืองของแต่ละที่ เนื่องจากแต่ละเมืองก็มีเอกลักษณ์ ของตัวเอง อาจจะมีอะไรที่คล้ายกันอยู่บ้าง แต่ถ้ามองดีๆ จะ เห็นว่าแต่ละเมืองมีเสน่ห์เฉพาะตัวทั้งนั้น “สำหรับเอ็ม ฟลอเรนซ์เป็นเมืองหนึ่งที่มีเสน่ห์มาก เป็นเมืองที่ ทำให้มองเห็นภาพชีวิตของคนอิตาลีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะเป็นเมืองที่มีทั้งความเก่าใหม่รวมอยู่ด้วยกัน ส่วนใหญ่ พอพูดถึงฟลอเรนซ์คนมักจะนึกถึงอะไรที่เก่าๆ ก่อน อย่างพวก สถานที่สำคัญๆ ที่เป็นศิลปะหลายร้อยปีก่อน แต่จริงๆ แล้ว ฟลอเรนซ์ก็มีความเป็นปัจจุบันอยู่ด้วยไม่น้อย เพราะตอนที่ เอ็มนั่งรถจากในตัวเมืองเก่าออกไป Outlet Mall ที่อยู่นอก ตัวเมือง เอ็มได้เห็นภาพไล่ไปเรื่อยๆ เริ่มจากตัวเมืองเก่าก่อน
“แล้วก็คงเป็นเพราะอิตาลีเป็นเมืองแฟชั่น คนที่นี่เลยแต่งตัว กันดีมาก เอ็มเองเป็นคนชอบแต่งตัวอยู่แล้ว ตอนจัดกระเป๋า ก็เลยสนุกกับการคิดว่าวันไหนจะใส่ชุดอะไร ถ้าเช็คสภาพ อากาศแล้ววันไหนฝนตกน้อยก็ใส่เสื้อแบบมีฮู้ดกันไว้ แต่ถ้า วันไหนเช็คแล้วท้องฟ้าแจ่มใส สัญลักษณ์เป็นพระอาทิตย์ ดวงโตๆ มาเลย ก็ขอมีผา้ โพกหัวเป็นสีๆ บ้าง จัดไว้เป็นชุดๆ เลย “ถ้ามีโอกาสก็อยากจะกลับไปเมืองนี้ เพราะเอ็มมีเพื่อนเรียน ดีไซน์อยู่ที่ฟลอเรนซ์คนหนึ่ง ทุกครั้งที่เขาถ่ายรูปในเมืองมา ให้ดู เอ็มเห็นเลยว่ายังมีอีกหลายมุมของฟลอเรนซ์ที่เรายัง ไม่เคยสัมผัส เลยอยากจะกลับไปอีกครัง้ เพือ่ จะได้เห็นบ้านเมือง ของเขาในมุมที่เรายังไม่เคยเห็น และได้เรียนรู้วัฒนธรรมของ คนที่นั่นมากยิ่งขึ้น”
ISSUE/YEAR
NO.
71
ISSUE/YEAR
PAGE NO.
01.2012
072
D E S T I N AT I O N
WEIGHT
FLIGHT NO.
--S TAT I O N
SSR475 TIME OF ARRIVAL
JAPAN
__ : __
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
D E S T I N AT I O N
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
74
01/2012
J A P AN
TOKYO
T O K Y O : AR T S AND DA Y L I G H T
01/2012
75
พิพธิ ภัณฑ์ญป่ี นุ่ เป็นมากกว่าทีจ่ ดั แสดงศิลปะ เพราะเป็นสถานที่ ที่ครอบครัวได้มารวมตัวกันทำกิจกรรมในวันเสาร์-อาทิตย์ หนุ่มสาวต่างก็เลือกมาเดตกันในพิพิธภัณฑ์ ส่วนเด็กๆ ได้ใช้ เวลาช่วงปิดเทอมในการทำการบ้านและทำวิจัย และไม่เชื่อก็ ต้องเชื่อว่าพิพิธภัณฑ์ญี่ปุ่นนั้นเต็มไปด้วยคนวัยเกษียณ ซึ่ง ตรงกันข้ามกับพิพธิ ภัณฑ์ในเมืองไทยทีอ่ าจจะดูเงียบเหงากว่า
TO K Y O : ART A N D DAY LIGHT
ประสบการณ์ในการเป็นนักเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ญี่ปุ่น เราจะ สั ง เกตเห็ น ว่ า ผู้ ค นมาต่ อ คิ ว รอดู ง านแสดงภาพของปิ กั ส โซ หลายชัว่ โมงก่อนพิพธิ ภัณฑ์จะเปิด พอเปิดแล้วผูค้ นก็กรูเข้าไป เต็มจนแทบมองไม่เห็นอะไรเลยทีเดียว มีอยู่ครั้งหนึ่งที่มีการ จัดนิทรรศการเกี่ยวกับ Impressionism ที่พิพิธภัณฑ์ใหม่ ในโตเกียว ตากับยายวัยเกษียณจูงมือกันมาดู พูดกันเองว่า “Impressionism นี่ดูแต่รูปในหนังสือจะไปรู้เรื่องอะไร ต้องมา ดูของจริงถึงจะเข้าใจ” เป็นคำพูดที่ซาบซึ้งที่สุดในการเดินทาง ทีเดียว
to k yo General Info: • เริม่ ต้นก่อร่างสร้างเมืองโตเกียว ในปี ค.ศ. 1943 • เป็นเมืองหลวงทีเ่ ป็นศูนย์กลาง ทางเศรษฐกิจระดับเดียวกับ นิวยอร์กและลอนดอน • มีประชากรราว 13,200,000 คน • โตเกียวจะเป็นเจ้าภาพในการจัด แข่งขันโอลิมปิกฤดูรอ้ นในปี ค.ศ. 2020
โตเกียวไม่ได้มีแค่ชิบุยะ ชินจูกุ และอากิฮาบาระ ไม่ได้เป็นแค่ เมืองแห่งแสงสีและแหล่งช็อปปิง้ ทีแ่ สนทันสมัยแต่โตเกียวนัน้ เป็นขุมทองของคนทีช่ นื่ ชอบศิลปะ... ชืน่ ชอบศิลปะ? โตเกียว นะเหรอ? ทำไมไม่ไปยุโรป? หลายๆ คนอาจจะคิดแบบนี้อยู่ แต่เชือ่ หรือไม่วา่ การไปโตเกียวทีเ่ ดียวเราจะได้ชมงานศิลปะ จากทั่วโลก กระทั่งว่าพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ประเทศฝรั่งเศสและ National Gallery of Art (Washington D.C.) สหรัฐอเมริกา ครั้งหนึ่งก็เคยโดนยกมาจัดแสดงที่โตเกียวมาแล้ว เคยมี อยูเ่ หมือนกันทีน่ กั ท่องเทีย่ วเดินทางไปถึงพิพธิ ภัณฑ์ลฟ ู ร์ แล้วพบป้ายเขียนไว้ว่า “ขออภัย งานชิ้นนี้ขณะนี้ถูกนำไป จัดแสดงที่โตเกียว!” มาโตเกียวคุม้ ขนาดนี้ คนรักศิลปะอย่าได้ลงั เลเก็บกระเป๋า ก้าวเท้าตามไปด้วยกัน
หากพูดถึงในแง่ของปริมาณ โตเกียวมีพิพิธภัณฑ์นับเฉพาะ ที่เป็นแบบร่วมสมัยบวกแกลเลอรี่ใหญ่ๆ ลบแกลเลอรี่เล็กๆ แล้วเกือบ 350 แห่ง เฉลี่ยแล้วใน 1 ปีไปได้ไม่ซ้ำหน้า แต่หลัง จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ ผ่านมา พิพิธภัณฑ์และมิวเซียมเกิดผลกระทบจากการที่ไฟฟ้า มีไม่พอใช้ ซึง่ ความเป็นจริงแล้วเป็นนิสยั ขีเ้ กรงใจแบบคนญีป่ นุ่ ทีย่ อมหยุดกิจการชัว่ คราวเพือ่ ให้ไฟฟ้ามีใช้พอเพียงกันทุกบ้าน เพราะคิดว่ากิจการของตนไม่สำคัญเท่าความเป็นอยู่ของคน ทัว่ ไป น่าดีใจทีว่ า่ ภายหลังจากสถานการณ์คลีค่ ลายไปได้ดว้ ยดี พิพิธภัณฑ์ทั้งหลายทั้งปวงก็เริ่มกลับมาเปิดบริการตามปกติ และงานศิลปะเกือบทัง้ หมดอยูใ่ นสภาพสมบูรณ์ไม่ได้เสียหาย ไปกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวครัง้ นัน้ ต้องขอบคุณสถาปนิกชาว ญี่ปุ่นที่ออกแบบตึกให้รองรับแรงแผ่นดินไหวได้ดีขนาดนี้ น่ า นั บ ถื อ คนญี่ ปุ่นที่พลิกวิกฤตเป็นโอกาส เพราะปัญหาที่ ฟุกุชิมะทำให้คนญี่ปุ่นประหยัดไฟฟ้ามากขึ้น กรุงโตเกียวใน ช่วงนีอ้ าจจะมืดกว่าปกติอยูบ่ า้ ง แต่นา่ อัศจรรย์ทโี่ ตเกียวมีงาน ศิลปะให้ดอู กี มากมายโดยไม่ตอ้ งเปิดไฟ เพราะใช้แสงธรรมชาติ ทีส่ ามารถเปลีย่ นสีและเปลีย่ นอารมณ์ของงานศิลปะได้ตามแต่ ห้วงเวลา แสงธรรมชาติในโตเกียวต่างกันไปตามฤดู เป็นบ้านเราอาจ จะเข้าใจง่ายหน่อยตรงที่แดดเปรี้ยงตลอดแทบจะ 365 วัน ขณะที่โตเกียวถ้าเป็นฤดูหนาวแสงจะออกสีฟ้าๆ เทาๆ ซีดๆ วันไหนเมฆเยอะ แดดน้อย อาจจะรู้สึกเหงาๆ แต่ก็สวยงาม การจะท่องเที่ยวตามแหล่งที่อาศัยแสงธรรมชาตินั้นอาจต้อง สนใจการพยากรณ์อากาศสักหน่อย เพราะถ้าวันไหนเมฆมาก แสงน้อย หรือมืดเร็ว อาจจะพลาดมุมดีๆ สวยๆ ที่เกิดจาก การตกกระทบของแสงไป และใครทีเ่ ริม่ สงสัยว่าจะเชือ่ กรมอุตฯุ ญี่ปุ่นได้หรือไม่ ขอบอกว่าพยากรณ์อากาศที่นี่เชื่อถือได้แทบ จะ 100% (วันต่อวัน) สามารถติดตามได้จากโทรทัศน์ทุกช่อง ในช่วงเช้า
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
D E S T I N AT I O N
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
76
01/2012
J A P AN
TOKYO
T O K Y O : AR T S AND DA Y L I G H T
01/2012
77
M ejiro Station / Zoushigaya Station: St. M ar y’s Cathedral ยั ง คงวนเวี ย นอยู่ ที่ เ มจิ โ ระ เดิ น ออกจากซอกเล็ ก ซอยน้ อ ย เมื่อครู่มาสู่ถนนใหญ่ เดินเลียบถนนใหญ่ไปเรื่อยๆ ดูนู่นดูนี่ ไปสักพักจะเจอโบสถ์ St. Mary’s ไม่ได้แปลว่าต้องเป็นคริสเตียน จึงจะไปโบสถ์ได้ เพราะที่สวยๆ แบบนี้เขาเปิดให้คนทั่วไปมา ทัศนศึกษาได้ โบสถ์นี้เป็นโบสถ์คาทอลิก ออกแบบโดยเคนโซ ทังเกะ (Kenzo Tange) สถาปนิกคนสำคัญอีกคนหนึง่ ของญีป่ นุ่ ทัง้ ๆ ทีส่ ร้างขึน้ ใน ค.ศ. 1963 แต่ตวั ตึกดูภายนอกกลับให้ความ รูส้ กึ เป็นโลกอนาคตด้วยวัสดุโลหะ พอก้าวเท้าเข้าไปภายในให้ ความรู้สึกหนาทึบด้วยวัสดุคอนกรีตจนไม่อยากจินตนาการว่า ต้องใช้คอนกรีตมากเท่าไรในการสร้างโบสถ์แห่งนี้ แต่กด็ ว้ ยเหตุ นั้นจึงทำให้ที่นี่รู้สึกปลอดภัยและศักดิ์สิทธิ์อย่างบอกไม่ถูก
TH E M U S EU M
เสน่หข์ องโตเกียวคือการเดินท่องเทีย่ วไปในย่านต่างๆ โดย ที่แสงสีธรรมชาติแต่ละวันเปลี่ยนแปรไปได้ตลอดเวลา
M e j i ro S t a t i o n : J i y u G a k u e n M y o n i chikan เริม่ สตาร์ตจากย่านเมจิโระ ซึง่ เป็นย่านโรงเรียนและทีอ่ ยูอ่ าศัย ที่เงียบสงบและไฮโซ ที่นี่ไม่มีร้านปาจิงโกะ และมีดอกซากุระ บานสวยให้ ช มฟรี ทุ ก ปี ใ นมหาวิ ท ยาลั ย ที่ ตั้ ง อยู่ ห น้ า สถานี สองข้างถนนเป็นร้านดอกไม้ ร้านอาหารอิตาลี คาเฟ่ต่างๆ ทั้งๆ ที่เป็นสถานีที่อยู่คั่นระหว่างสถานีอิเคบุคุโระ (Ikebukuro Station) ที่แสนวุ่นวายและสถานีทาคาดะโนบาบะ (Takadanobaba Station) ซึง่ เต็มไปด้วยนักศึกษา แปลกดีเหมือนกัน ที่เมจิโระเป็นที่เงียบๆ รถวิ่งไม่ขวักไขว่ และซอยเล็กซอยน้อย เต็มไปด้วยบ้านญี่ปุ่นสวยๆ เก่าๆ และต้นไม้สีเขียวครึ้ม
01
02
01 ตรงนีเ้ คยเป็นอดีตโรงอาหาร
ของโรงเรียน เส้นของ โครงสร้างตึกตัดกันไปมา สลับกับไฟดวงกลมทำให้ รู้สึกถึงความเป็นกราฟิก ดีไซน์ในงานสถาปัตยกรรม 02 ภายนอกโบสถ์ ถ้ามาตอน ใกล้ๆ พระอาทิตย์ตก แสงแดดจะย้อมตึกให้ กลายเป็นสีส้ม
การเดินเล่นลัดเลาะซอยเล็กๆ เลียบทางรถไฟไปเรื่อยๆ สนุก ตรงที่จะได้เจอร้านอาหารและคาเฟ่เล็กๆ สลับกับบ้านคน ไม่ต้องใช้แผนที่เพราะทางเดินตามตรอกซอกซอยเยอะมาก เดินสะเปะสะปะถ่ายรูปเล่นไปเรือ่ ยเปือ่ ย ถ้าหลงก็ถามทางกับ คนญี่ปุ่นใจดีได้ หากโชคดีระหว่างทางจะได้เจอบ้านไม้เก่าแก่ หลังหนึ่งสร้างบ้านอ้อมต้นไม้ใหญ่ที่น่าจะเก่าแก่กว่าตัวบ้าน หลายเท่า บ้านหลังนี้ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าคนญี่ปุ่นใช้ชีวิตอยู่ กับธรรมชาติจริงๆ เพราะลองเป็นบ้านเราหน่อย ถ้าต้นไม้มัน เกะกะก็จะถูกตัดทิ้งอย่างไม่แยแส หลงเข้าไปลึกๆ อีกหน่อยจะได้เห็นตึกทรงโบราณแปลกตา และรู้ได้ทันทีว่าไม่ธรรมดาโผล่ตระหง่านอยู่ตรงหน้า หลังจาก ยื น อ้ า ปากหวออยู่ พั ก ใหญ่ เ ราจะสั ง เกตได้ ว่ า มี ป้ า ยเป็ น ภาษาอั ง กฤษและภาษาญี่ ปุ่ น เขี ย นอธิ บ ายเอาไว้ ที่ นี่ คื อ
Jiyu Gakuen Myonichikan แปลได้ว่า Freedom School ตัวตึกสวยเด่นนีอ้ อกแบบโดยแฟรงก์ ลอยด์ ไรต์ (Frank Lloyd Wright) สถาปนิกคนสำคัญของโลกคนหนึ่ง และอาราตะ เอนโดะ (Arata Endo) สถาปนิกคนสำคัญของญี่ปุ่นอีกคน ที่นี่เคยเป็นโรงเรียนสำหรับคุณหนูผู้ดีในอดีตมาก่อน ปัจจุบัน ปิดกิจการไปแล้วแต่ยังคงเก็บไว้ให้ทัศนศึกษาหรือจัดงาน แต่งงาน ด้านหน้ามีสวนกว้างใหญ่รูปตัว U ตัวตึกติดกระจก ตัดสไตล์เฉพาะตัวของสถาปนิกประดับอยู่ และจะสวยงาม ยิ่งขึ้นเมื่อแสงแดดสาดส่องผ่านกระจกไปตกกระทบพื้นและ ตัวอาคารด้านใน ภายในอาศัยโคมไฟเล็กๆ ไม่กี่ดวงเท่านั้น นอกนั้นเป็นแสงแดดที่ส่องผ่านกระจกเข้ามาให้บรรยากาศ สุดคลาสสิก ถึงไม่เปิดแอร์แต่ตัวตึกก็เย็นสบายจากโครงสร้าง ที่ปล่อยให้ลมผ่าน จะทัศนศึกษาจากภายนอกอย่างเดียวก็ได้ หรือจะเสียค่าผ่านประตู 400 เยนเข้าไปชมภายใน หรือ 600 เยนแถมเซตขนมและกาแฟให้นั่งกินและนั่งคุยได้ในสเปซ สงบสบาย ถ้าอยากเข้าไปนั่งข้างในแนะนำให้รีบไปแต่หัววัน ในขณะที่แดดยังสวยอยู่ ส่วนวันไหนที่มีการจัดงานแต่งงาน จะปิดภายใน แต่ยังสามารถชมภายนอกได้ ก่อนไปอย่าลืมดู รายละเอียดวันและเวลาทำการได้ท่ี www.jiyu.jp/index-e.html I n f o สามารถเดินทางมาถึงเมจิโระได้ง่ายๆ ด้วยรถไฟสาย JR Yamanote ที่วิ่งวนเป็นวงกลม
หากวันไหนมีการจัดงาน ภายในโบสถ์จะกระหึ่มไปด้วยเสียง ออร์แกนเพราะความโปร่งโล่งภายในโบสถ์ จนทำให้คนตัวเล็กๆ อย่างเราๆ รูส้ กึ ได้วา่ มันช่างกว้างขวางและเงียบสงัด แค่กระซิบ ก็ให้ความรู้สึกเหมือนจะเกิดเสียงสะท้อนได้ ที่น่าสังเกตคือ ตัวตึกทั้งตึกเป็นรูปไม้กางเขน มองขึ้นไปบนเพดานจะเห็นว่า เจาะเพดานเป็นรูปไม้กางเขนให้แสงส่องลงมา I n f o การเดิ น ทางไปโบสถ์ St. Mary’s สามารถเดิ น จากสถานี เ มจิ โ ระ (Mejiro Station) ใช้เวลาประมาณ 20 นาที หรือจะขึ้น Tokyo Metro สายสีนำ้ ตาลฟุคโุ ตะชิน (Fukutoshin Line) ลงทีส่ ถานีโซชิกายะ (Zoushigaya Station) แล้วเดินต่ออีก 10 นาทีก็ได้ ตัวโบสถ์หาไม่ยากเพราะ โดดเด่นขึ้นมาท่ามกลางบ้านเรือนผู้คน
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
D E S T I N AT I O N
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
78
01/2012
J A P AN
TOKYO
T O K Y O : AR T S AND DA Y L I G H T
01/2012
79
Nogizaka Station: The National Art Center Tokyo Roppongi St at ion: Roppongi H ill s Sky D es k
01
02
03
01 มองโตเกียวจากมุมสูงทำ
ให้เห็นว่าตรงไหนคือปอด ตรงไหนคือหัวใจของ โตเกียว 02 วันแดดดีๆ แสงจะสะท้อน กระจกวิบวับสวยงาม ส่วนวันเมฆมากกลับให้ ความรู้สึกขรึมและเท่ 03 ภายในห้องสมุดมัวแต่สนใจ ตัวตึกสุดอลังการจนแทบ จะลืมดูไปว่ามีหนังสือ เกี่ยวกับศิลปะอยู่เต็ม ไปหมด
หลายๆ ท่านอาจรู้จัก Roppongi Hills ดีกันอยู่แล้ว แต่ทราบ ไหมว่าบนนัน้ มีจดุ ชมวิวอยู่ ซึง่ ถ้าซือ้ ตัว๋ เข้าชม Mori Art Center ราคา 1,500 เยน จะมีบัตรแถมให้เข้าไปชมวิวได้ที่ Tokyo City View จากชั้น 50 ของตึก ความสูงของตึกทำให้มองเห็นวิวทั้ง กลางวันและกลางคืนสวยงามมาก มีรา้ นอาหารบริการข้างบน และมีงานอีเวนต์มาจัดกันเป็นประจำ นอกจากนี้ถ้าวันไหน อากาศดีเขาจะเปิดให้ขึ้นไปข้างบนชั้น 52 จุดชมวิวที่สูงที่สุด ของตึกชนิดที่อาบแดดกันเต็มๆ มีแค่รั้วกั้นด้านข้าง มืออาจจะ สัน่ พับ่ ๆ เพราะความสูงและลมแรง แต่ไม่ตอ้ งห่วงเพราะมีนอ้ ง สาวพนักงานให้บริการถ่ายรูปให้ดว้ ย จากตรงนัน้ สามารถมอง เห็นโตเกียวได้ 360 องศา จะมาในตอนเช้า กลางวัน หรือตอน พระอาทิตย์ตกก็สวยทั้งนั้น ก่อนเดินทางเช็คสภาพอากาศได้ที่ www.roppongihills.com/ tcv/en/index.html จะบอกเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและตกเอาไว้ สามารถเล็งเวลาไปให้ตรงได้
ขึ้นชื่อว่าเป็นนักท่องพิพิธภัณฑ์ในระดับเข้มข้น ดังนั้นความถี่ ในการเยือนพิพธิ ภัณฑ์จงึ ไม่แพ้วยั รุน่ ทัว่ ไปในโตเกียว และการ ติดตามข่าวความคืบหน้าของ The National Art Center Tokyo ก็เรียกว่าเกาะติดมานานตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จ จน ในที่สุดตึกกระจกทรงบิดเบี้ยวไหลเป็นคลื่นนี้ก็ได้กลายเป็น พิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ล่าสุดของโตเกียว และยังเป็นผลงานชิ้น สุดท้ายของสถาปนิกรุน่ ใหญ่คโิ ช คุโรคาวะ (Kisho Kurokawa) ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลงใน ค.ศ. 2007 ภายในเป็นลานกว้าง เพดานสูงสุดลูกหูลูกตาเห็นไปถึงชั้น บนสุด โครงสร้างแปลกประหลาดพิสดาร ใครมาครั้งแรก พนันได้เลยว่าต้องอ้าปากค้าง มองขึน้ ไปถึงเพดานมีคาเฟ่สดุ เก๋ ลอยเคว้งอยู่บนยอดเสา พื้นที่จัดแสดงงานก็ใหญ่โตมโหฬาร ที่นี่มักจะมีงานเด็ดๆ จากต่างประเทศมาจัดแสดงอยู่บ่อยๆ เรี ย กว่ า งานของแทบจะทุ ก ศิ ล ปิ น ที่ อ ยู่ ใ นบทเรี ย นวิ ช า ประวัติศาสตร์ศิลปะได้มาเยือนพิพิธภัณฑ์แห่งนี้แล้ว The National Art Center Tokyo คือโอกาสให้คนทั่วไปได้ สัมผัสทางสายตากับงานระดับโลกที่หาดูได้ไม่บ่อยนัก
ตึกในมหาวิทยาลัยแห่งนีอ้ อกแบบโดยสถาปนิกชือ่ ดังโตโย อิโต (Toyo Ito) ทีเ่ ราคงจะคุน้ ชือ่ กันดี ห้องสมุดในอาคารเปิดให้เข้าฟรี นัน่ ทำให้ตลอดทัง้ ปีจงึ เต็มไปด้วยนักท่องเทีย่ ว แต่จะต้องเตรียม พาสปอร์ตหรือสำเนาไปด้วย เพราะเพื่อความปลอดภัยของ นักศึกษาเขาจะขอบันทึกชื่อผู้เข้าชมที่ไม่ใช่นักศึกษาเอาไว้ ชั้นล่างมีนิตยสารญี่ปุ่นพร้อมกับพื้นที่ให้นอนอ่านสบายๆ มี ดีวีดีหนังอาร์ตและแอนิเมชั่นดีๆ ให้ดู ส่วนชั้นบนเป็นโซน หนังสือศิลปะและออกแบบ และเพราะมีหน้าต่างบานใหญ่ทุกทิศทางทำให้แทบจะไม่ต้อง ใช้ไฟฟ้าในเวลากลางวัน หรือสามารถเปิดไฟตั้งโต๊ะเองได้ถ้า คิดว่าแสงไม่พอ แต่โดยรวมๆ แล้วแสงจากภายนอกสว่างและ ให้ความรู้สึกดีกว่า มองออกนอกหน้าต่างบานใหญ่ไปจะเห็น วิวภูเขาไกลๆ จนแทบไม่น่าเชื่อว่ายังอยู่ในโตเกียว I n f o
I n f o ขึ้นรถไฟ Toei สายสีชมพูโอเอโดะ (Oedo Line) หรือ Tokyo Metro สายสีเทาฮิบยิ ะ (Hibiya Line) มาลงทีส่ ถานีรปปงงิ (Roppongi Station) หรือจะขึ้นรถบัสมาจากสถานีชิบุยะ (Shibuya Station) ก็ได้
Hashimot o S t a t i o n : Tama Ar t Un i v e r s i t y L i b r a r y
I n f o เดิ น ทางด้ ว ยรถไฟ Tokyo Metro สายสี เ ขี ย ว ลงสถานี โ นกิ ซ ากะ (Nogizaka Station) หรือจะเดินมาจากรปปงงิก็ได้
การเดินทางมา Tama Art University ให้ขึ้นรถไฟ Keio จากชินจูกุไป ลงสุดสายสถานีฮาชิโมโตะ (Hashimoto Station) แล้วต่อรถเมล์สาย 76 มาลงสุดสาย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.tamabi.ac.jp/index.htm
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
D E S T I N AT I O N
TITLE
ISSUE/YEAR
NO.
80
01/2012
J A P AN
TOKYO
T O K Y O : AR T S AND DA Y L I G H T
01/2012
81
Sl e e p Claska บูตกิ โฮเต็ลสุดเก๋ตงั้ อยูท่ เี่ มกุโระ ชัน้ บนมีแกลเลอรีแ่ ละ ร้านขายของแนวซัคคะและงานศิลปะ ห้องพักภายในโรงแรมมี ทัง้ ห้องแบบญีป่ นุ่ และแบบตะวันตกให้เลือก ชัน้ ดาดฟ้าจะเปิด เป็ น เทศกาลเพลงแจ๊ ซ หรื อ บอสซ่ า มี เ ล่ น สดให้ ช มกั น ด้ ว ย พักที่นี่นอกจากจะเก๋จัดแล้วยังเป็นที่ที่อาจโชคดีได้เจอเซเล็บ โดยไม่รู้ตัว อย่างเช่นได้เจอ Pata จากวง X-Japan นั่งชิลล์ คุยงานอยูท่ คี่ าเฟ่ชนั้ 1 ของโรงแรม เป็นต้น www.claska.com/ hotel/index.html
Ki c h i j o j i S t a t i o n / Mit aka S t a t i o n : I n o k a s h i ra Par k ย่านนี้อาจจะมีชื่อเสียงในด้านการเป็นแหล่งชมซากุระหรือ แหล่งช็อปปิ้งข้าวของแนวซัคคะ (zakka ของกระจุกกระจิก) แต่ถ้าเดินทะลุย่านช็อปปิ้งเข้าไปสู่ปลายทางจะเจอสวนใหญ่ ทีส่ วนสาธารณะอิโนะคาชิระ (Inokashira Park) นีจ้ ะมีตลาดนัด ขายของทำมือและการแสดงต่างๆ ให้เดินดูเพลินๆ ในทุก วันหยุดสุดสัปดาห์ ที่นี่เป็นที่ที่จะทำให้รู้สึกว่ามาถึงญี่ปุ่นแล้ว เพราะเป็นสวนที่จะทำให้ได้ซึมซับวัฒนธรรมสมัยใหม่ของ คนญี่ ปุ่ น ที่ อ ยู่ ที่ นี่ จ ริ ง ๆ ไม่ ว่ า จะเป็ น นั ก ศึ ก ษาศิ ล ปะที่ ว าด โปสต์การ์ด ถักหมวก หรือทำเครื่องประดับทำมือขาย คุณป้า ที่นั่งวาดภาพสีน้ำ หนุ่มสาวที่ออกมาเล่นกายกรรม ลุงที่ขน ไวโอลินออกมาเล่นโชว์ เรียกว่าใครมีฝีมืออะไรก็งัดออกมา โชว์กัน ของขายก็ราคามิตรภาพ ไม่ได้ขายเอารวย ส่วนการ แสดงก็ขอแค่เสียงปรบมือเป็นค่าตอบแทน
01
02
01 มาในวันแดดดีๆ นัง่ อาบแดด
ในอากาศเย็นๆ มองดู ผู้คนก็เพลินแล้ว 02 แม้แต่กราฟิกดีไซน์และ อินทีเรียดีไซน์ของร้านนี้ ก็ยงั เป็นฝีมอื ของระดับท็อป ของที่นี่
จากสวนนี้ ส ามารถเดิ น ทะลุ ไ ปถึ ง สวนสั ต ว์ ไ ด้ และไฮไลต์ ของสวนสัตว์นี้คือเจ้าตัวมาร์มอต (Marmots) ที่เด็กๆ มักจะ รุมล้อมพยายามจับมาอุ้มเล่น จนมีพี่สาวพนักงานใจดีมาถาม ว่าอยากอุม้ ตัวไหน จะจับให้ น่าแปลกทีต่ วั มาร์มอตทีด่ นิ้ พราดๆ ตอนถูกจับลอยขึ้นจากพื้นนั้นกลับสงบเสงี่ยมเงียบนิ่งเมื่ออยู่ บนตักคน ลูบหัวลูบขนนิ่มๆ ไปนั่งยิ้มไปอยู่คนเดียว ที่น่ารัก คือพอเราอุ้มเสร็จแล้วบริเวณด้านหลังมีที่ให้ล้างมือพร้อมสบู่ ฆ่าเชื้อเตรียมไว้ให้พร้อมสรรพ I n f o เดิ น ทางมาสถานี คิ ชิ โ จจิ (Kichijoji Station) แล้ ว ขากลั บ ใช้ ส ถานี มิตากะ (Mitaka Station) เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศก็ได้
EAT
Tokyo Station: Pass the Baton ไหนๆ ก็ไหนๆ เราพูดเรื่องรักษาสิ่งแวดล้อมกันแล้ว ร้านนี้ เป็นร้านขายของรีไซเคิลที่มีคอนเซ็ปต์พิเศษน่าสนใจ ไม่ใช่ การขายของที่ไม่ใช้แล้ว แต่เป็นการขายของที่รักมากเพื่อให้ เปลี่ยนผ่านไปสู่มือคนอื่นต่อไป เหมือนกับเปลี่ยนไม้ในการวิ่ง ผลัด ของแต่ละชิ้นจึงมีประวัติที่มาเขียนกำกับว่าเคยเป็นของ ใครและมาจากไหน แต่ละชิน้ ผ่านการคัดมาแล้วทัง้ สิน้ ข้าวของ ส่วนใหญ่จึงออกไปทางวินเทจเสียมากกว่า การจัดร้านตระการตาสวยงามและตั้งอยู่ในทำเลเก๋ใจกลาง โตเกียว รอบๆ มีรา้ นอาหารฝรัง่ เศสและพิพธิ ภัณฑ์ Mitsubishi Ichigokan Museum ร้านนีม้ อี กี สาขาหนึง่ อยูท่ โี่ อโมเตะซันโดะ (Omotesando) และยังสามารถสั่งซื้อได้ทางอินเตอร์เน็ตและ ส่งให้ทว่ั โลกด้วย ขอเตือนไว้วา่ ระวังให้ดี เพราะนอกจากจะตาลาย แล้วยังหมดตัวอีกต่างหาก www.pass-the-baton.com
ใครมีโอกาสแวะไปที่โอโมเตะซันโดะหรือโตเกียวมิดทาวน์ (Tokyo Midtown) ที่นั่นมีร้านขนมญี่ปุ่นชื่อดังที่สืบทอดกันมา หลายปีตั้งแต่อดีตอย่าง Toraya ตัวร้านสวยจนดูเหมือนจะ เป็นแกลเลอรี่ได้ บวกกับขนมญี่ปุ่นในร้านนั้นจัดว่าเทพมาก แต่ละฤดูกาลไม่ซำ้ กัน มาในแพ็กเกจดำสนิทปัม๊ นูนเป็นรูปเสือ สวยงาม ซื้อเป็นของฝากได้ไม่อายใครเพราะคนญี่ปุ่นเองก็ นิยมซื้อของร้านนี้และมอบให้กันเป็นของขวัญ นอกจากนี้ ภายในยังมีคาเฟ่ให้นงั่ กินขนมกับจิบชาหอมๆ พักเหนือ่ ยอีกด้วย www.toraya-group.co.jp/english
T IPS คนที่ลังเลว่าจะซื้อ JR Rail Pass ดีไหม ขอแนะนำว่าถ้าไม่ได้ ออกต่างจังหวัดไกลๆ อาจจะไม่คุ้ม เพราะปัจจุบันนี้มีบัตรเติม เงินวิเศษ Passmo หรือ Suica แค่ใบใดใบหนึง่ ใบเดียวก็สามารถ ขึน้ รถไฟทุกสาย รถเมล์ทกุ คัน ซือ้ ของจากตูก้ ดหรือร้านสะดวก ซื้อในสถานีได้ด้วย ส่วนใครที่กังวลเรื่องกัมมันตภาพรังสี หายห่วงได้ จากรายงาน ล่าสุดบอกว่าโตเกียวปลอดภัยเพราะอยู่ห่างจากรัศมีไกลโพ้น มีกแ็ ค่ให้ระวังเรือ่ งมาตรการประหยัดไฟทีอ่ าจจะทำให้รา้ นรวง ปิดเร็วกว่าปกตินิดหน่อยเท่านั้น
NO.
ISSUE/YEAR
D E S T I N AT I O N
82
01/2012
J A P AN
I ’ M A M U SE U M LOV ER
พยูณ วรชนะนันท์
นักศึกษา/นักวาดรูป/นักเขียนอิสระ สำหรับผู้สนใจงานศิลปะและงานภาพประกอบคงจะคุ้นหูชื่อ ของยูน หรือพยูณ วรชนะนันท์อยู่ไม่ใช่น้อย ยูนมีผลงานภาพ ประกอบและมีคอลัมน์เป็นของตัวเองอยูใ่ นนิตยสารไทยหลาย หัว นอกจากความสามารถเฉพาะตัว ยูนยังเป็นคนไทยที่ไปใช้ ชีวิตในเมืองโตเกียวมาแล้ว 6 ปี ทั้งยังเป็นเจ้าของงานเขียน พ็อกเก็ตบุ๊ก Ok Go Tokyo!
Q: เสน่ห์ของโตเกียวที่จะนึกถึงเป็นสิ่งแรกๆ Yune: “งานออกแบบที่มีเกลื่อนท้องถนน เกลื่อนจริงๆ ไปไหน ก็ได้ดูได้เห็น” Q: ฤดูไหนในโตเกียวที่ชอบที่สุด Yune: “ถ้ า เที ย บฤดู ห นาวเป็ น ตอนกลางคื น ฤดู ใ บไม้ ผ ลิ เป็นตอนเช้า ฤดูร้อนเป็นตอนกลางวัน และฤดูใบไม้ร่วงเป็น ตอนเย็น ตอนเย็นชนะคะแนนตอนเช้าไปนิดเดียว ฤดูใบไม้ ผลิเป็นฤดูแห่งการเปลีย่ นแปลงโยกย้าย ซึง่ แปลว่าเป็นฤดูแห่ง การลาจากและการเริ่มต้นใหม่ ในขณะที่ฤดูใบไม้ร่วงให้ความ รูส้ กึ ว่าตัง้ ตัวได้และเริม่ ชินกับสิง่ แวดล้อมแล้ว จึงเป็นฤดูทชี่ อบ ที่สุดเพราะได้ออกเที่ยว เป็นฤดูที่รู้สึกได้ว่าผ่านพ้นฤดูร้อน นรกแตกมาได้แล้ว (และกำลังจะเจอฤดูหนาวทีแ่ สนโหดอำมหิต)
ต้นไม้ที่เต็มไปด้วยสีแดงเหลือง แสงแห้งๆ อากาศเย็นๆ และ อาหารอร่อย เป็นฤดูที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้นและสงบในคราว เดียวกัน” Q: ร้านหรือสถานที่แห่งใดที่ยูนไปบ่อยมากๆ ในโตเกียว Yune: “ร้านหนังสือเก่า Hyakunenn ที่ Kichijoji มีหนังสือดีๆ เก่าๆ เยอะ หนังสือเกีย่ วกับศิลปะและออกแบบ แบบหายากก็มี ที่น่าหงุดหงิดคือคนขายดันรู้ทัน รู้ราคาหนังสือหายาก ทำให้ บางเล่มอยากได้แต่ไม่มีปัญญาซื้อ เลยทำได้แค่ไปเดินๆ จับๆ เปิดดูบ่อยๆ ให้แกค้อนเล่น” Q: ถ้าได้รับตำแหน่งเป็นทูตวัฒนธรรมประจำโตเกียว ยูน จะแนะนำหนังเรื่องใดให้เพื่อนคนไทยได้ดูแล้วเข้าใจโตเกียว มากยิ่งขึ้น Yune: “เรื่องนี้เก่าแล้ว แต่ก็แนะนำ Honey and Clover เรื่อง นีเ้ ป็นการ์ตนู มาก่อนทีจ่ ะเป็นหนัง จำได้วา่ เข้าฉายตอนมาเรียน ที่ญี่ปุ่นใหม่ๆ ความสามารถภาษาญี่ปุ่นอยู่เลเวลเดียวกับลิง ฟังไม่รู้เรื่องเลย แต่ว่าเป็นข้อดีที่ทำให้เราพินิจพิจารณาภาพ มากเป็นพิเศษ รูส้ กึ ว่าเรือ่ งนีเ้ ป็นอีกมุมมองของโตเกียว คือทำให้ เห็นภาพชีวิตเด็กนักเรียนศิลปะในโตเกียวชัดดี คิดว่าถ้าเรียน จบกลับไทยไปเมือ่ ไหร่ มาย้อนดูหนังเรือ่ งนี้ (แบบฟังรูเ้ รือ่ งแล้ว) ตอนนั้นคงคิดถึงชีวิตในโตเกียวมาก” Q: ช่ ว ยบอกชื่ อ ศิ ล ปิ น ประจำเมื อ งโตเกี ย วที่ ยู น หลงรั ก และอยากแนะนำให้รู้จัก Yune: “อืม มีเยอะมาก รักเท่ากันหมด เอาที่ล่าสุดไปเจอ ตัวจริงมาก็ Yorifuji Bumpei คิดว่าคงรู้จักกันแล้ว เพราะเขา เป็นคนเขียนหนังสือ Uncocoro (ภาษาไทยใช้ชื่อว่า หัวใจอึ) เขาทำงานลงสือ่ หลากหลายทีน่ ี่ งานเยอะมาก และน่ารักทุกงาน มีอารมณ์ขัน เรียบง่าย และจริงใจ เจ้าตัวก็เป็นคนน่ารัก นิสัย ดีมาก” Q: ข้อสุดท้าย นอกจากโตเกียว มีเมืองอะไรในญี่ปุ่นที่อยาก แนะนำเพื่อนให้เดินทางไปเที่ยว Yune: “แนะนำแถบพื้นที่ประสบภัย ตอนนี้บางส่วนฟื้นตัว เต็ ม ร้ อ ยแล้ ว และกำลั ง ต้ อ งการนั ก ท่ อ งเที่ ย วไปช่ ว ยฟื้ น ฟู เศรษฐกิจและกำลังใจ ถ้ามีเวลาจะเลยขึน้ ไปอาโอโมริ (Aomori) ก็ได้ มี Aomori Museum of Art อยู่ และสามารถนั่งรถไฟ ข้ามไปแวะเมืองท่าของฮอกไกโด เมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) ได้ด้วย ฮาโกดาเตะเป็นเมืองเล็กๆ ออกแนวฝรั่งผสมญี่ปุ่น เดินทางด้วยรถ tram และมีออนเซ็นให้แช่เท้าทุกสีแ่ ยกไฟแดง! สามารถเที่ยวหมดได้ในวันเดียว ที่สำคัญอาหารทะเลสดและ อร่อยมาก”