Let Your Life Speak: Listening for the Voice of Vocation

Page 1

OhMyGod Books

ค้นพบความหมายชีวิต และสิ่งที่คุณเกิดมาเพื่อเป็น

เสียงเพรียกแห่งชีวิต

Let Your Life Speak

ปาร์คเกอร์ เจ. พาล์มเมอร์ เขียน

นายแพทย์ กิจจา เจียรวัฒนกนก แปล


เสียงเพรียกแห่งชีวิต

Let Your Life Speak

S&P Book Awards: One of the Best Spiritual Books of 1999

งานเขียนแห่งปัญญาญาณ เพื่อการค้นพบ ตัวตนที่แท้จริง และภารกิจของคุณในชีวิตนี้  ...เมื่ อ เราใช้ ชี วิ ต จากตั ว ตนที่ แ ท้ จ ริ ง ไม่ เ พี ย งแต่ เ ราจะพบกั บ ความสำ� เร็ จ พลั ง แฝงเร้ น  และความหมายลึ ก ล้ำ � หากยังได้พบหนทางเฉพาะตัวในการ มี ชี วิ ต ร่ ว มกั บ ผู้ อื่ น  และพบวิ ถี ท าง อั น จริ ง แท้ ที่ จ ะตอบสนองต่ อ ความ ต้องการขั้นลึกของโลกใบนี้... ...เมื่อนั้น เราจะเป็นของขวัญที่แท้จริง แก่ทง้ั ตัวเอง ผูค้ นรอบข้าง และสังคม...

u


หนังสือที่เปี่ยมด้วยพลังชีวิต ถ่ายทอดผ่านอารมณ์ความรู้สึกที่เด่นชัด สั่นสะเทือนข้างในผม อย่างลึกซึ้งจนไม่อาจ (และไม่ต้องการ) สลัดคำ�ถามซึ่งผุดขึ้นมาและค้างอยู่ในหัวให้ออกไปได้ พลังของหนังสือเล่มนี้ทะลวงถึงจิตวิญญาณ มันจะกระตุกให้คุณต้องสำ�รวจชีวิตภายใน และความรู้สึกนึกคิดของคุณให้ลึกซึ้งถี่ถ้วนยิ่งขึ้นอย่างไม่อาจเลี่ยงได้ ถือเป็นความสำ�เร็จ อันเยี่ยมยอดไม่ธรรมดา ~ Jim Kouzes ผู้ประพันธ์ร่วม The Leadership Challenge และประธาน Tom Peters Group / Learning Systems สะกดให้เราต้องคล้อยตาม และให้ความเข้าใจได้อย่างเหลือเชื่อ ...คือหนังสือเล่มที่ดีที่สุด เท่าที่มีอยู่ สำ�หรับผู้ที่เฝ้าหาคำ�ตอบว่าตนเกิดมาเพื่อสิ่งใด สำ�หรับผู้ที่มีคำ�ถามเกี่ยวกับ ภารกิจแห่งชีวิต พาล์มเมอร์มีสิ่งลึกซึ้งมากมายที่จะบอกกล่าวกับเรา ~ Spirituality and Practice Book Review งานเขียนของพาล์มเมอร์เปรียบดั่งกระแสธารจากที่สูง มีความกระจ่างใส เปี่ยมพลังชีวิต และซื่อตรงไม่ปนเปื้อน หากคุณรู้สึกราวกับชีวิตกำ�ลังลอยผ่านคุณไป หรือมองไม่เห็นหนทาง เบื้องหน้าใด โปรดจงใคร่ครวญและซึมซับปัญญาจากหนังสือเล่มนี้ และให้มันนำ�พาชีวิตคุณ เข้าใกล้กับตัวตนที่แท้จริงในส่วนลึกของคุณเองให้มากยิ่งขึ้น ~ John Mogabgab บรรณาธิการ Weavings Journal ผลงานอันสงบล้ำ�ทว่าตราตรึงในความรู้สึก หนังสือเล่มนี้มีคุณสมบัติเทียบชั้นได้กับ คำ�สอนทางจิตวิญญาณชั้นยอด วิธีการเขียนแสดงถึงปัญญาซึ่งผ่านการขัดเกลา สลักเสลาจากวันเวลา ~ Publishers Weekly ...ชีวิตดีๆ ทีละเล่ม...

OhMyGod Books

Changing Lives, One Book At A Time

ohmygodbooks.com

ohmygod.books@gmail.com


Let

You r

Life

Speak : Listening for the Voice of Vocation


เสียงเพรียกแห่งชีวิต

Let Your Life Speak

ปาร์คเกอร์ เจ. พาล์มเมอร์ เขียน นายแพทย์ กิจจา เจียรวัฒนกนก แปล


เสียงเพรียกแห่งชีวิต

Let Your Life Speak

ปาร์คเกอร์ เจ. พาล์มเมอร์ เขียน

นายแพทย์ กิจจา เจียรวัฒนกนก แปล

บรรณาธิการ : อัฐพงศ์ เพลินพฤกษา กองบรรณาธิการ : ปรีชา สุนทรวิวัฒน์, อนุชา ธีรานุวัฒน์, กนกธิป ยั่งยืน ออกแบบปก / รูปเล่ม : กนกธิป ยั่งยืน ภาพปกโดย : Som Amorn ชมผลงานศิลปะของ Som Amorn (ครูส้ม) ได้ที่ http://somsketch.blogspot.com http://som-calligraphy.blogspot.com http://www.myspace.com/lunarize

เลขมาตรฐานสากลประจำ�หนังสือ : 978-616-90656-2-3 ราคา 180 บาท พิมพ์ที่ : ออฟเซ็ท ครีเอชั่น

พิมพ์ครั้งแรก : ตุลาคม 2553

จัดจำ�หน่ายโดย : สายส่งศึกษิต บริษัท เคล็ดไทย จำ�กัด โทร 02-225-9536-40 Copyright © 2010 by Oh My God Publishing Co., Ltd. All rights reserved. This translation published under license Copyright © 2000 by John Wiley & Sons, Inc. All rights reserved.


สำ�นักพิมพ์ Oh My God 111/214 หมู่บ้านบัวทอง ซอย 13/22 ถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ตำ�บลบางรักพัฒนา อำ�เภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี 11110 โทร 02-925-2308 แฟกซ์ 02-925-0952 ohmygodbooks.com | ohmygod.books@gmail.com

องค์กร หน่วยงาน สถาบัน หรือกลุ่มบุคคลที่ต้องการสั่งซื้อจำ�นวนมากในราคาพิเศษ กรุณาติดต่อสำ�นักพิมพ์ Oh My God โทร 02-925-2308, 089-499-1972 หรืออีเมล ohmygod.books@gmail.com



สารบัญ v

จากใจสำ�นักพิมพ์ ˙ จากใจผู้แปล ˙ คำ�ขอบคุณ บทที่ 1 ฟังเสียงของชีวิต ˙ 25

บทที่ 2 เป็นตัวของตัวเอง ˙ 41 บทที่ 3 เมื่อหนทางปิดตาย ˙ 91 บทที่ 4 คืนอันมืดมิด ˙ 127

บทที่ 5 ภาวะผู้นำ�จากภายใน ˙ 159 บทที่ 6 ฤดูกาลของชีวิต ˙ 199 เกี่ยวกับผู้เขียน ˙ เกี่ยวกับผู้แปล



จากใจสำ�นักพิมพ์ v

สารภาพว่าในฐานะผูอ้ า่ นคนหนึง่ ไม่รจู้ ะสรรหาถ้อยคำ�ใดมากล่าว ถึงหนังสือเล่มนี้ได้เทียบเท่ากับความรู้สึกที่มี ไม่รู้จะพูดหรือนำ� เสนอความสุดยอดของหนังสือออกมาอย่างไรถึงจะตรงกับสิง่ ทีอ่ ยู่ ข้างใน คำ�พูดเท่าทีค่ ดิ ได้ตอนนีม้ เี พียงว่า Let Your Life Speak เป็นหนังสือที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งเท่าที่เคยอ่านมา ...ลึกซึ้ง เฉียบขาด กระจ่างชัด ไม่อ้อมค้อม และทำ�ให้ต้องหันกลับมาทบทวนชีวิตตัว เองมากมาย... ซึ่งในที่นี้อยากให้ผอู้ ่านค่อยๆ สัมผัสเนือ้ หาข้างใน ด้วยตัวเอง นอกเหนือจากนั้นแล้ว สำ�นักพิมพ์ฯ อยากแสดงความ ขอบคุณต่อ พีต่ งุ้ คุณสุภาพร พัฒนาศิริ และ คุณณิชา หลีหเจริญกุล สำ�หรับข้อคิดเห็นที่มีค่าในการจัดทำ�ต้นฉบับ ขอบคุณ พี่ส้ม


สมพร อมรรัตนเสรีกลุ ทีอ่ นุญาตให้น�ำ ภาพ “รูปหัวใจ” อันสวยงาม พลิว้ ไหวมาใช้เป็นปกของหนังสือเล่มนี้ และสุดท้าย ขอบคุณผูแ้ ปล คุณหมอ กิจจา เจียรวัฒนกนก ที่ทำ�ให้ได้รู้จักหนังสือเล่มนี้ และ วางใจให้ส�ำ นักพิมพ์ฯ เป็นผูจ้ ดั พิมพ์ อีกทัง้ ยังถ่ายทอดเนือ้ หาออก มาด้วยความใส่ใจและละเมียดละไม ส่งต่อเป็นของขวัญล้ำ�ค่าแก่ ผู้อ่านชาวไทยต่อไป

ด้วยความขอบคุณ สำ�นักพิมพ์ Oh My God 6 ตุลาคม 2553


จากใจผู้แปล v

เป็นเวลาหลายเดือนทีผ่ มใช้ชวี ติ ร่วมกับหนังสือ เสียงเพรียกแห่ง ชีวิต (Let Your Life Speak) ของ ปาร์คเกอร์ เจ. พาล์มเมอร์ การได้อ่านหนังสือเล่มนี้อย่างช้าๆ เพื่อทำ�ความเข้าใจในการแปล ทำ�ให้ผมได้รับมุมมอง แรงบันดาลใจใหม่ๆ และซึมซับในสิ่งที่อยู่ ลึกลงไปกว่าข้อความตัวอักษรมากขึ้น ยิ่งเมื่อได้กลับมาอ่านทวน ใหม่ก็ยิ่งมองเห็นความงดงามที่แฝงอยู่ในแต่ละประโยคที่ผู้เขียน บรรจงเขียน ในการแนะนำ�หนังสือเล่มนีต้ อ่ ผูอ้ า่ น ผมจึงอยากเขียน ถึงหนังสือเล่มนีผ้ า่ นมุมมองของตนเอง แม้วา่ ผูเ้ ขียนจะเขียนคำ�นำ� ของเขาอย่างวิเศษไว้แล้วในบทที่หนึ่งก็ตาม หนั ง สื อ เล่ ม นี้ ใ นแง่ มุ ม หนึ่ ง ก็ มี วั ต ถุ ป ระสงค์ ค ล้ า ยกั บ หนังสือ How to ต่างๆ ที่บอกเราว่าจะค้นพบตัวเองได้อย่างไร


แต่ที่แตกต่างคือผู้เขียนไม่ได้บอกถึงวิธีเพื่อพบกับความสำ�เร็จใน ชีวิตตามคำ�นิยามของคนทั่วไป ไม่ว่าการเข้าถึงความร่ำ�รวย ชื่อ เสียง หรือกระทัง่ การเป็นคนดีทโี่ ลกยกย่อง ไม่มคี ำ�มัน่ สัญญาใดๆ ว่าผู้อ่านจะสามารถกำ�หนดให้ชีวิตประสบความสำ�เร็จได้อย่างที่ ต้องการ ไม่มีบทเรียนว่าเราจะเป็นเจ้านายของชีวิตตัวเองได้ อย่างไร สิง่ ทีเ่ ราจะได้พบจากหนังสือเล่มนีค้ อื การเรียนรูผ้ า่ นวิกฤต ด้านภายในตัวตนเพือ่ ได้เข้าถึงในส่วนลึกทีส่ ดุ ของชีวติ เรียนรูจ้ าก ความล้มเหลวทีผ่ เู้ ขียนได้นำ�เสนอผ่านเรือ่ งเล่าของชีวติ ตนเองซึง่ ยังรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของแผลที่บาดลึกอยู่ หากเปรียบว่าหนังสือเล่มนี้เหมือนกับการเดินทาง มันก็ เป็นการเดินทางที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการเดินทางท่องเที่ยว ในการท่องเที่ยวนั้น เราจดจ่ออยู่กับเป้าหมายปลายทาง อาจเป็น สถานที่อันงดงามทำ�ให้หัวใจเราฟูขึ้นด้วยความสุข สิ่งที่เราคาด หวังจากการท่องเที่ยวคือการพาตัวเองไปพ้นจากบ้าน หรือที่ ทำ�งานอันจำ�เจ เราหวังว่าจะพบกับความสวยงามและสะดวกสบาย แต่การเดินทางทีผ่ เู้ ขียนพาเราไปในหนังสือเล่มนี้ เป็นการเดินทาง ผ่านประสบการณ์ชีวิตในด้านที่เป็นเงามืด ด้านที่เราปิดตา หรือ


หันหลังให้มาตลอด เราถูกสอน (และสอนตัวเอง) ให้กลบเกลื่อน ความจริงของชีวิตเราในส่วนนี้ไว้ และลงท้ายเมื่อพบกับความผิด หวัง เราก็มกั ตัง้ คำ�ถามว่าเหตุใดความทุกข์ ความอยุตธิ รรม ความ ล้มเหลวทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นซ้ำ�ๆ ซากๆ กับชีวิตเรา การจะเข้าใจ เรื่องนี้ได้ แม้ว่าผู้เขียนจะบอกเล่าจากประสบการณ์ของตนเอง ถ้อยคำ�ของเขาได้จุดประกายความกล้าหาญในใจของผู้อ่านให้ สามารถมองเห็นส่วนที่ซ่อนอยู่ในเงามืดของชีวิตตัวเอง และต่อ เมือ่ เราได้มองเห็นชีวติ ทีผ่ า่ นมาได้อย่างหมดจด ไม่วา่ จะอยูใ่ นแสง สว่างและในเงามืด เราจึงจะสามารถได้ยินเสียงของชีวิต อันเป็น ส่วนลึกที่สุดได้อย่างชัดเจน และใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างเต็มเปี่ยม ระหว่างหลายเดือนทีผ่ มแปลหนังสือเล่มนี้ ผมมีความสุข ที่ได้อ่านและพยายามทำ�ความเข้าใจในสิ่งที่ผู้เขียนพยายามนำ� เสนอผ่านตัวหนังสือของเขา ความไพเราะของภาษาทำ�ให้ผมอด ไม่ได้ที่จะพยายามคงประโยคของเขาให้มากที่สุด แม้อาจทำ�ให้ อ่านยากขึน้ กว่าการถอดความแต่เนือ้ หาเป็นภาษาไทยอย่างเดียว อยู่บ้าง อีกประการหนึ่ง ผมขออนุญาตแนะนำ�ในการอ่านหนังสือ เล่มนีส้ กั เล็กน้อย หนังสือเล่มเล็กๆ เล่มนีไ้ ม่เหมาะสำ�หรับการอ่าน


เพือ่ ความเข้าใจเรือ่ งราวโดยรวดเดียวจนจบ แต่ผมขอเชิญชวนให้ ผู้อ่านใช้เวลากับแต่ละบทของหนังสือโดยอ่านอย่างช้าๆ เพราะ แต่ละบทนั้นมีสาส์นของตนเองซึ่งต้องการเวลาในการซึมซับ ผม มีความหวังเล็กๆ ว่าความสุขใจ และแรงบันดาลใจที่ผมได้รับจาก การทำ�งานนี้ ผูอ้ า่ นคงได้รบั ความสุขใจและแรงบันดาลใจนีไ้ ม่แตก ต่างกัน มีเพือ่ นหลายคนทีอ่ ยูเ่ บือ้ งหลังการแปลหนังสือเล่มนี้ ผม อยากขอบคุณเพือ่ นเหล่านัน้ ทีไ่ ด้กรุณาอ่านและให้ค�ำ แนะนำ�ในการ แปล ให้ก�ำ ลังใจ และแบ่งปันความสุขทีไ่ ด้จากการอ่านหนังสือเล่ม นี้ สำ�หรับครอบครัว ผมขอบคุณทีไ่ ด้ให้การสนับสนุนและความรัก ทีไ่ ด้รบั มาตลอด และสุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณสำ�นักพิมพ์ Oh My God ที่ ได้สนใจจัดพิมพ์หนังสือเล่มนีข้ น้ึ มา กิจจา เจียรวัฒนกนก แม่แตง เชียงใหม่ พฤษภาคม 2553


คำ�ขอบคุณ v

นอกจากบทที่หนึ่งแล้ว บทอื่นๆ ล้วนมาจากข้อเขียนซึ่งผมเคยใช้ พิมพ์ในโอกาสอื่นๆ มาก่อน ผมได้ปรับปรุงบทความเหล่านี้ใหม่ อีกครั้ง แทบจะเขียนใหม่เกือบทั้งหมด ทั้งนี้เพราะผมต้องการทำ� หนังสือเล่มใหม่ ที่ไม่ใช่เพียงการรวบรวมบทความเก่าในเรื่อง ภารกิจแห่งชีวติ แต่เป็นการหาความเชือ่ มโยงระหว่างภารกิจแห่ง ชีวิตที่มีส่วนสัมพันธ์กับการมีชีวิตที่ดีกว่าของพวกเรา ผมกล่าวถึงที่มาของข้อเขียนเหล่านี้ก็เพราะผมให้ความ สำ�คัญกับการบอกให้ทราบถึงทีม่ า และอีกประการหนึง่ ทีส่ ำ�คัญคือ ผู้ที่เชิญให้ผมเขียนบทความเหล่านี้ในชั้นแรก ด้วยความไว้วางใจ ของพวกเขา ล้วนเป็นผูม้ สี ว่ นสำ�คัญต่องานอันเป็นภารกิจแห่งชีวติ ของผมเอง


บททีส่ อง “เป็นตัวของตัวเอง” เขียนขึน้ จากการปาฐกถา จี.ดี. เดวิดสัน ที่วิทยาลัยวอร์เรนวิลสัน ในเมืองสวอนนาโนอา นอร์ธแคโรไลนา และพิมพ์เป็นแผ่นพับของวิทยาลัย จากความ ต้องการพิเศษของผูเ้ ชิญจึงกลายเป็นจุดเริม่ ต้นให้กบั แนวคิดหลัก ของหนังสือนี้ ผู้เชิญอยากให้ผมสะท้อนเรื่องราวชีวิตผ่านแนวคิด ของภารกิจแห่งชีวิต “บทเรียนที่ได้รับจากความผิดหวัง ความล้ม เหลว เช่นเดียวกับบทเรียนจากความสำ�เร็จ” และต้องการให้ผู้ฟัง ที่เ ป็ น วั ย รุ่ น และผู้ ใ หญ่ เข้ า ใจได้ ผมเป็ น หนี้ บุ ญ คุ ณ ดุ ง ออร์ อธิการบดีของวิทยาลัย ผูเ้ ป็นเพือ่ นของผม ในการเพิม่ เติมความ ต้องการนี้ในคำ�เชิญ ผมขอบคุณ ดอน และ แอนน์ เดวิดสัน ผู้ สนับสนุนการบรรยายอันเป็นการจุดประกายความคิดในครั้งนั้น และขอบคุณชุมชนของวอร์เรนวิลสัน ทีใ่ ห้การต้อนรับผมอย่างดียง่ิ บทที่สาม “เมื่อหนทางปิดตาย” เขียนขึ้นครั้งแรกเพื่อลง ในนิตยสารวีฟวิงส์ ซึ่งเป็นนิตยสารด้านจิตวิญญาณรายไตรมาส ตามคำ�ขอของ จอห์น โมแกบแกบ ผู้เป็นบรรณาธิการ จอห์นเป็น เพือ่ นทีด่ ขี องผมมาหลายปี และเป็นหนึง่ ในสหายร่วมทางทีด่ ที สี่ ดุ ในการแสวงหาทางจิตวิญญาณ และนิตยสารวีฟวิงส์ ก็เติบโตขึ้น


อย่างมาก ได้รบั การยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึง่ ในนิตยสาร ทางด้านจิตวิญญาณที่ดีที่สุด บทที่สี่ “คืนอันมืดมิด” เขียนขึ้นครั้งแรกสำ�หรับนิตยสาร วีฟวิงส์ฉบับพิเศษ ภายใต้หวั ข้อ “ผูเ้ ยียวยาทีม่ บี าดแผล” ในความ ทรงจำ�ของ เฮนรี นูเวน ผู้จากไป เฮนรีเป็นเพื่อนและครูของทั้ง จอห์น โมแกบแกบ และผม เรื่องราวในบทนี้เป็นการยืนยันพลัง แห่งมิตรภาพในการเยียวยา เป็นการเขียนถึงประสบการณ์ภาวะ ซึมเศร้าของผม ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมไม่สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง โดยปราศจากการให้กำ�ลังใจจากเพื่อนทั้งหลาย บทที่ห้า “ภาวะผู้นำ�จากภายใน” เขียนขึ้นครั้งแรกเป็น สุนทรพจน์สำ�หรับ อินเดียนา ออฟฟิศ ออฟ แคมปัส มินิสทรีย์ส และพิมพ์เป็นแผ่นพับ ผมรูส้ กึ เป็นหนีบ้ ญ ุ คุณ แมกซ์ เคส ผูอ้ ำ�นวย การ ที่เชื้อเชิญและให้การสนับสนุนในการพูดครั้งนั้น ผมรู้สึก ขอบคุ ณ ต่ อ ผู้ ฟั ง ซึ่ ง เป็ น นั ก บวชจากโบสถ์ ต่ า งๆ ทั่ ว ประเทศ นักบวชผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยช่วยให้ผมผ่านก้าวแรกของการเดินทาง ตามเสียงเพรียกแห่งชีวิตเมื่อสามสิบปีก่อน ในเวลานั้น ศาสนา เปิดโอกาสให้ตงั้ คำ�ถามต่อคำ�สอนน้อยกว่าในยุคนีม้ าก อย่างน้อย


ก็ในทีส่ าธารณะ โชคดีทปี่ จั จุบนั สถานการณ์ได้เปลีย่ นแปลงไปแล้ว บททีห่ ก “ฤดูกาลของชีวติ ” เขียนขึน้ ตามคำ�ขอของ ร็อบ เลห์แมน ประธานของสถาบันเฟตเซอร์ ผูซ้ งึ่ เป็นเพือ่ นในทางส่วน ตัว และเป็นเพื่อนร่วมงานในการช่วยงานศูนย์อบรมภาวนาของ สถาบันเฟตเซอร์ สถาบันได้ตีพิมพ์บทความนี้เป็นแผ่นพับที่วาง ไว้ในห้องนอนของศูนย์อบรมภาวนา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ มาอบรมได้น�ำ มาใคร่ครวญอย่างลึกซึ้ง ผมคิดว่าแผ่นพับนี้เทียบ ได้กับการวางมินท์ไว้บนหมอนอันเป็นเสน่ห์ของห้องพักโรงแรม ฮิลตันทีเดียว ทั้งนี้ ร็อบ เลห์แมน เป็นผู้บุกเบิกในการสนับสนุน ให้พวกเราจำ�นวนมากได้สืบค้นชีวิตด้านภายในอันมีส่วนสัมพันธ์ กับชีวิตภายนอกอย่างซับซ้อน ขอบคุณเป็นพิเศษสำ�หรับ ซาราห์ โพลสเตอร์ บรรณาธิการ ของผมทีส่ �ำ นักพิมพ์ จอสซีส-์ เบส เธอเป็นคนแรกทีม่ องเห็นความ เชื่อมโยงของข้อเขียนเหล่านี้ในเรื่องของภารกิจแห่งชีวิต และมี ความเชื่อมั่นว่าข้อเขียนเหล่านี้จะพิมพ์ขึ้นเป็นหนังสือได้ งาน บรรณาธิการของเธอช่วยให้ข้อเขียนเหล่านี้ถักทอร้อยเรียงกัน อย่างกลมกลืน ดีกว่าที่ผมจะทำ�ได้ด้วยตัวเอง


ผมขอบคุณต่อสมาชิกคนอื่นๆ ในสำ�นักพิมพ์ จอสซีส์เบส ได้แก่ แครอล บราวน์, โจแอน แคลปป์ ฟุลลาการ์, พอลลา โกลด์สไตลน์, แดเนียล เนวี, โจแอนนา ฟอนเดลิง, และ เจนนิเฟอร์ วิทนีย์ ที่ได้ทำ�งานอย่างยอดเยี่ยมในการจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้ เรือ่ งราวจำ�นวนมากในหนังสือเล่มนีม้ ที มี่ า หรือได้รบั แรง บันดาลใจจากสมาชิกของครอบครัว ผมไม่ได้บรรยายรายละเอียด ในที่นี้เพราะเรื่องราวเหล่านั้นเป็นของพวกเขาโดยเฉพาะ ที่ผม สามารถเล่าได้มแี ต่เรือ่ งราวของตนเองเท่านัน้ ครอบครัวเป็นส่วน สำ�คัญของการเดินทางแสวงหาของผม และผมก็คดิ ถึงและขอบคุณ พวกเขาอยู่เสมอ แด่ แซลลี่ พาล์มเมอร์, เบร็ทต์ พาล์มเมอร์, ทอดด์ พาล์ม เมอร์, และ แครี่ พาล์มเมอร์ ขอบคุณสำ�หรับความรักที่พวกคุณ มอบให้ตลอดมา แด่ ฮีทเธอร์ พาล์มเมอร์ ขอบคุณที่หลานทำ�ให้ตาได้ สัมผัสความรักครั้งใหม่และนำ�เสียงหัวเราะมาสู่ชีวิตของตา แต่จะ ขอบคุณยิ่งขึ้นหากหลานจะเลิกคอยเตือนให้ตาทานผักในจานให้ หมดเสียที


สำ�หรับ ชารอน พาล์มเมอร์ ขอบคุณสำ�หรับการตรวจ ทานต้นฉบับอย่างวิเศษ เป็นของขวัญทีส่ �ำ คัญยิง่ สำ�หรับงานเขียน อันเป็นภารกิจแห่งชีวิตของผม และขอบคุณสำ�หรับความรักที่ ทำ�ให้ผมมีชีวิตอยู่มาจนได้เรียนรู้ที่จะรับฟังเสียงเพรียกแห่งชีวิต ของตนเอง ปาร์คเกอร์ เจ. พาล์มเมอร์ เมดิสัน, วิสคอนซิน กรกฎาคม 1999




แด่ หลานสาวของผม ฮีทเธอร์ มารี พาล์มเมอร์ ขอให้เธอได้ใช้ชีวิตที่เป็นตัวเธออย่างแท้จริง....



1 : Listening to Life :

ฟังเสียงของชีวิต v



 บทที่ 1

ฟังเสียงของชีวิต บางครั้งแม่น้ำ�ที่เป็นน้ำ�แข็งถามผมถึงความผิดพลาดในอดีต ถามผมว่าสิ่งต่างๆ ที่ได้กระทำ�ไปนั้นเป็นชีวิตของตนเองใช่ไหม ภาพของคนอื่นค่อยๆ ลอยผ่านเข้ามาในความคิด บ้างก็ปลอบโยน บ้างก็ตำ�หนิ ถามว่าผมได้อะไรจากความรัก หรือความเกลียดชังของพวกเขาบ้าง ผมจะตั้งใจฟังในสิ่งที่คุณพูด คุณกับผมอาจหันหน้ามองไปยังแม่น้ำ�และเฝ้าคอย เรารู้ว่ากระแสน้ำ�ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ผืนน้ำ�แข็ง มันไหลมาจากที่ห่างออกไปหลายไมล์ และมุ่งสู่สถานที่ไกลโพ้น แต่แม่น้ำ�ยังคงสงบนิ่งอยู่เบื้องหน้าเรา สิ่งที่แม่น้ำ�พูด คือคำ�ตอบของผม

- วิลเลียม สแตฟฟอร์ด (William Stafford, “Ask Me”)


เสียงเพรียกแห่งชีวิต

Let Your Life Speak

“ถามผมว่าสิง่ ต่างๆ ทีไ่ ด้กระทำ�ไปนัน้ เป็นชีวติ ของตนเองใช่ไหม” บางคนอาจรูส้ กึ ว่าคำ�พูดประโยคนีช้ า่ งไร้สาระ เป็นเพียงถ้อยคำ�ที่ บทกลอนพาไป ปราศจากความหมายทั้งทางภาษาและตรรกะ แน่นอนว่าสิ่งที่เราได้ทำ�ไปนั้นคือชีวิตของเรา หาไม่แล้วเราจะไป เปรียบความเป็นตนเองได้กับอะไรอีก แต่สำ�หรับบางคน รวมทั้งผม ถ้อยคำ�ในบทกวีนี้ช่างตรง กับสิ่งที่อยู่ลึกภายในใจ ช่วยให้ผมรำ�ลึกถึงบางห้วงเวลา ให้มอง เห็นอย่างชัดเจนว่าการดำ�เนินชีวติ ของผมในเวลานัน้ ไม่ใช่สงิ่ เดียว กับทีค่ วามจริงแท้ในตัวผมต้องการให้เป็น ในเวลานัน้ บางครัง้ ผม สามารถมองเห็นชีวิตอันแท้จริงได้รางๆ เหมือนกับกระแสน้�ำ ซึ่ง ซ่อนตัวอยูใ่ ต้ผนื น้ำ�แข็ง และด้วยเหตุผลเดียวกับความนัยของบท กวีนี้ ทำ�ให้ผมเฝ้าถามตนเองว่าผมเกิดมาเพือ่ ทำ�สิง่ ใด และผมควร จะดำ�เนินชีวิตอย่างไร ผมเริ่ ม ถามคำ � ถามเรื่ อ งการใช้ ชี วิ ต อย่ า งจริ ง จั ง ในวั ย สามสิบปีต้นๆ โดยทั่วไปแล้วชีวิตผมกำ�ลังดำ�เนินไปด้วยดี นอก เสียจากจิตวิญญาณของผมถูกผลักเก็บซ่อนไว้ข้างในสุด ผลจาก 30


ฟังเสียงของชีวิต

การแสวงหาชีวิตที่มีความหมายมากกว่าเพียงสะสมทรัพย์สมบัติ อำ�นาจ ชัยชนะในการแข่งขัน หรือมีงานอาชีพอันมั่นคง ทำ�ให้ผม เริ่มตระหนักว่า อาจเป็นไปได้ที่คนเรากำ�ลังใช้ชีวิตในแบบซึ่งผิด แปลกไปจากชีวิตที่แท้จริงของเขาเอง ผมเริ่มหวาดกลัวว่าตัวเอง กำ�ลังเป็นเช่นนัน้ อยู่ ทัง้ ยังไม่แน่ใจว่าชีวติ ทีแ่ ท้จริงของผมคืออะไร ผมจะเข้าถึงมันได้ไหม ความหวาดผวานี้ทำ�ให้ผมตื่นขึ้นกลางดึก และไม่อาจข่มตาหลับได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง แล้วผมก็ได้มาพบกับคำ�สอนของเควกเกอร์ทวี่ า่ “ให้ชวี ติ ของท่านพูด : Let your life speak.” คำ�พูดประโยคนี้ทำ�ให้ ผมมีความหวัง และผมคิดว่าตนเองเข้าใจความหมายของคำ�สอน นี้ว่าหมายถึง “ให้ความจริงและคุณค่าอันสูงสุดส่องนำ�ทาง นำ� บรรทัดฐานอันสูงส่งมาใช้ในทุกสิง่ ทีค่ ณ ุ กระทำ�” ด้วยผมมีวรี บุรษุ วีรสตรีในใจหลายคน ผู้ซึ่งดูเหมือนว่าได้ใช้ชีวิตเช่นเดียวกับคำ� สอนนี้ ความคิดนี้เองเป็นแรงบันดาลใจอันแรงกล้าให้ผมพยายาม ดำ�เนินชีวิตตามแบบบุคคลเหล่านั้น นั่นคือใช้ชีวิตในแบบ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง, โรซา ปาร์คส์, มหาตมะ คานธี, หรือ โดโรธี เดย์ ผู้อุทิศ 31


เสียงเพรียกแห่งชีวิต

Let Your Life Speak

ชีวิตเพื่อคุณค่าอันสูงส่ง ดั ง นั้ น ผมจึงมุ่งหน้าไปตามความคิดว่า ผมจะค้นพบ หนทางและประสบความสำ�เร็จกับแนวทางเหล่านั้น ทว่าผลลัพธ์ ทีไ่ ด้สว่ นใหญ่มกั เป็นทีน่ า่ ขบขันมากกว่าน่าชืน่ ชม และบางครัง้ ผล ที่ได้ก็ดูออกจะผิดธรรมชาติ สิ่งที่เกิดขึ้นมีแต่ชีวิตปลอมๆ เป็นแต่ เพียงความบิดเบือนของตัวตนที่แท้จริงของผม เพราะมันเป็นผล จากการใช้ชวี ติ ทีต่ อ้ งอิงอยูก่ บั ปัจจัยภายนอก ไม่ใช่ชวี ติ ทีง่ อกงาม ออกมาจากภายใน สิ่งที่ผมค้นพบเป็นเพียงวิธีใช้ชีวิตอย่างบุคคล ทีน่ า่ นับถือ หาใช่การใช้ชวี ติ ทีเ่ ป็นของตนเองไม่ เป็นชีวติ ทีร่ บั แบบ อย่างมาจากวีรบุรุษแทนที่จะมาจากการรับฟังเสียงหัวใจตนเอง ในวันนี้ เมื่อสามสิบปีให้หลัง ประโยค “ให้ชีวิตของท่าน พูด” มีความหมายแตกต่างออกไป เป็นความหมายที่ตรงกันทั้ง ในด้านถ้อยคำ�และประสบการณ์ชีวิตอันซับซ้อนยุ่งเหยิงของผม ทุกวันนี้ผมคิดว่ามันหมายถึง “ก่อนที่คุณจะบอกว่าต้องการอะไร จากชีวิต ให้ฟังเสียงของชีวิตว่ามันต้องการอะไรจากคุณ ก่อนจะ บอกถึงความจริงแท้และความดีงามใดๆ ทีค่ ณ ุ ต้องการจะใช้น�ำ ทาง 32


ฟังเสียงของชีวิต

ชีวติ ให้ชวี ติ ได้บอกคุณถึงความจริงแท้ทมี่ อี ยูใ่ นตัวคุณ และความ ดีงามซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นตัวคุณ” ความเข้าใจความหมายของ “ให้ชวี ติ ของท่านพูด” ในวัย หนุ่ ม นำ � ผมสู่ ก ารแสวงหาความดี ง ามสู ง สุ ด เท่ า ที่ ต นเองจะ จินตนาการได้ จากนั้นก็พยายามอยู่ภายใต้กรอบของความดีงาม นัน้ โดยไม่สนใจว่ามันจะเหมาะสมกับผมหรือไม่ หากสิง่ ทีก่ ล่าวมา นี้ฟังดูคล้ายเป็นสิ่งที่เราพึงกระทำ�ต่อคุณค่าความดีงามทั้งหลาย นั่นก็เป็นเพราะพวกเราถูกสั่งสอนมาอย่างนั้น เป็นความมักง่าย ทางศีลธรรมของพวกเราที่พยายามลดทอนสิ่งอันควรกระทำ�ใน ชีวติ ให้เหลือเพียงหัวข้อรายการซึง่ ตรวจสอบได้งา่ ย และหลังจาก นั้นก็เพียงทำ�ตัวเป็นเด็กดีที่จะไม่ประพฤติตนออกนอกกรอบ อาจมีบางช่วงบางตอนของชีวติ ซึง่ เรายังไม่มคี วามมัน่ คง พอ ในเวลานั้นเราต้องอาศัยการยึดถือคุณค่าความดีงามที่ถูกสั่ง สอนมาเป็นหลักยึด ราวกับเปลือกของหอยที่ช่วยยึดร่างกายของ มันไว้ แต่จะเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์หากเรายังคงเป็นเช่น นั้นเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ การใช้ชีวิตตามอย่างผู้อื่นที่ไม่ใช่ของ 33


เสียงเพรียกแห่งชีวิต

Let Your Life Speak

ตนเอง หรือใช้ชวี ติ ตามคุณค่าความดีงามทีร่ บั มาจากผูอ้ นื่ ล้วนนำ� ไปสู่ความล้มเหลว กระทั่งอาจนำ�มาซึ่งความเสียหายอย่างใหญ่ หลวง ภารกิจแห่งชีวิต (Vocation) ตามวิถีที่ผมเคยแสวงหา ในวัยหนุ่ม กลายเป็นการกระทำ�ของเจตจำ�นง (will) เป็นความ มุง่ มัน่ อย่างไม่ลดละทีจ่ ะนำ�ชีวติ ไปสูห่ นทางหนึง่ โดยไม่ฟงั ว่าชีวติ จะต้องการหรือไม่ วิธกี ารนีอ้ าจเป็นเรือ่ งถูกต้องหากว่าจิตวิญญาณ ของมนุษย์ถูกขับเคลื่อนด้วยบาป และหนทางเดียวที่จะทำ�ให้มัน อยู่ในกรอบคุณธรรมก็คือการใช้อำ�นาจกวดขันบังคับ แต่ถ้าจิต วิญญาณของมนุษย์ไม่ได้เป็นสิ่งชั่วร้าย หากเป็นส่วนหนึ่งของ ความเป็นหนึ่งเดียวอันศักดิ์สิทธิ์อย่างที่ผมเชื่อ การมุ่งมั่นไปตาม ภารกิจแห่งชีวติ ในแบบทีก่ ล่าวมากลับเป็นการกระทำ�ทีท่ �ำ ร้ายตัว ตนของเรา เป็นการทำ�ร้ายในนามของคุณธรรมอันสูงส่ง เป็นการ กระทำ�ซึ่งปิดโอกาสที่ชีวิตจะได้เติบโตงอกงาม เพราะมันผลักไส ความเป็นตัวตนทีแ่ ท้จริงของเราออกไป เมือ่ ความเป็นตัวตนทีแ่ ท้ จริงถูกทำ�ร้าย มันจะต่อต้าน บางครั้งก็สร้างความสูญเสียอย่าง 34


ฟังเสียงของชีวิต

ใหญ่หลวง มันจะคอยดึงให้ชวี ติ เราติดหล่มไม่อาจก้าวไปข้างหน้า จนกว่าเราจะสามารถยอมรับความจริงของตนเอง ภารกิจแห่งชีวิตนั้นไม่ได้มาจากความมุ่งมั่นทุ่มเท หาก มาจากการรับฟัง ผมต้องฟังเสียงจากชีวิตตนเองและพยายาม เข้าใจความหมายที่แท้จริงของเสียงนั้น หาไม่แล้ว ชีวิตผมคงจะ ไม่อาจเป็นตัวแทนของความจริงแท้ใดๆ ในโลกนี้ได้เลย ไม่ว่าผม จะมีความมุ่งมั่นตั้งใจมากเพียงใด ความเข้าใจในเรื่องนี้แฝงอยู่ในความหมายของคำ �ว่า vocation อันมีรากศัพท์จากภาษาละตินซึง่ มีความหมายเดียวกับ “voice” หรือ “เสียง” ภารกิจแห่งชีวติ ไม่ได้หมายถึงเป้าประสงค์ ที่ผมต้องการบรรลุ หากหมายถึงเสียงเพรียกที่ผมสามารถได้ยิน ก่อนที่จะบอกชีวิตว่าผมต้องการทำ�อะไรกับมัน ผมต้องรับฟังว่า ชีวิตกำ�ลังบอกว่าผมเป็นใคร ผมต้องฟังว่ามีความจริงแท้และ คุณค่าความดีงามใดทีอ่ ยูใ่ นตัวตนของผม ไม่มมี าตรฐานใดทีบ่ อก ว่าผมต้องมีชีวิตอย่างไร นอกเสียจากสิ่งซึ่งผมไม่อาจฝ่าฝืนได้ เพราะว่ามันคือชีวิตของผมเอง 35


เสียงเพรียกแห่งชีวิต

Let Your Life Speak

เบื้องหลังความเข้าใจเรื่องภารกิจแห่งชีวิต คือความจริง ซึ่งอัตตาไม่ต้องการจะรับรู้ เพราะความจริงนี้จะคุกคามพื้นที่ใน การดำ�รงอยู่ของอัตตา ในส่วนลึกของทุกคนยังมีอีกชีวิตหนึ่งซึ่ง แตกต่างจากสิ่งที่เรารับรู้ว่าเป็น “ตัวฉัน” ในชีวิตประจำ�วัน เป็น ชีวิตที่พยายามแสดงถึงการดำ�รงอยู่ของตนผ่านทาง “ตัวฉัน” นี่ คือสิ่งที่ทั้งผู้ประพันธ์บทกวีนี้และคำ�สอนในศาสนาต่างๆ สอนไว้ นัน่ คือ มีทะเลอันกว้างใหญ่ขวางอยูร่ ะหว่างพืน้ ทีซ่ งึ่ อัตตาต้องการ จะบอกว่าเราเป็นใคร กับพื้นที่ของความเป็นตัวตนที่แท้จริง ซึ่ง อัตตาปิดบังเอาไว้ดว้ ยหน้าฉากกับเรือ่ งราวทีม่ นั แต่งขึน้ เพือ่ ไม่ให้ เราได้มองเห็นตัวตนที่แท้จริง ต้องอาศัยเวลาและประสบการณ์อันยากลำ�บากกว่าจะ รู้สึกได้ถึงความแตกต่างระหว่างตัวตนที่อัตตาบอกเรากับความ เป็นตัวตนที่แท้จริง ระหว่างความรู้สึกจากตัวตนระดับผิวพื้นแห่ง ประสบการณ์ที่เราเรียกว่าชีวิตของเรา กับสิ่งที่อยู่ลึกกว่าและจริง แท้กว่าซึ่งรอให้เรารับรู้ เพียงแค่นี้ก็ทำ�ให้การ “รับฟังเสียงของ ชีวิต” เป็นเรื่องยากลำ�บาก ความยุ่งยากนี้เกิดขึ้นจากการเรียนรู้ 36


ฟังเสียงของชีวิต

ในอดีต ตั้งแต่วันแรกที่เข้าโรงเรียน เราถูกสอนให้รับฟังต่อทุกสิ่ง และทุกคน เว้นแต่เสียงของตนเอง เพื่อจะได้รู้จากคนอื่นและอำ�นาจอื่นๆ ที่คอยบอกว่าเราควรใช้ชีวิตอย่างไร ในบางครั้งที่ผมเป็นผู้นำ�การอบรม ภายหลังการอบรมผู้ เข้ า ร่ ว มให้ ผ มดู บั น ทึ ก ที่ เขาจดไว้ ลั ก ษณะของการบั น ทึ ก จะ คล้ายคลึงกันคือ แต่ละคนจดบันทึกว่าวิทยากรได้พูดอะไรบ้าง บางทีก็มีคำ�พูดดีๆ ของคนในกลุ่ม แต่น้อยครั้ง หรือแทบไม่มีเลย ที่เขาจะบันทึกคำ�พูดของตัวเอง ประหนึ่งว่าเราฟังคำ�แนะนำ�จาก ทุกหนทุกแห่งนอกจากเสียงภายในของตัวเราเอง ผมแนะให้ผู้รับการอบรมเปลี่ยนวิธีจดบันทึกใหม่ เพราะ บ่อยครัง้ คำ�พูดทีเ่ ราพูดออกมามีค�ำ แนะนำ�ทีเ่ รากำ�ลังบอกกล่าวกับ ตัวเองอยู่ พวกเรามักเข้าใจกันเองว่าสิ่งที่เราพูดนั้นเป็นเรื่องที่เรา เข้าใจความหมายของมันอยูแ่ ล้ว แต่บอ่ ยครัง้ กลับตรงกันข้าม โดย เฉพาะเมื่อเป็นการพูดจากส่วนที่อยู่ลึกกว่าความคิดหรืออัตตา เป็นคำ�พูดที่ผุดขึ้นมาเมื่อครูภายในของเรารู้สึกปลอดภัยพอที่จะ บอกให้เราฟังถึงความจริงแท้ของตน ในเวลานั้น เราจำ�ต้องรับฟัง 37


เสียงเพรียกแห่งชีวิต

Let Your Life Speak

สิง่ ซึง่ ชีวติ กำ�ลังบอกเราและจดบันทึกไว้ เพือ่ ไม่ให้ลมื ความจริงแท้ ของตนหรือปฏิเสธว่าเราไม่เคยได้ยินมาก่อน ไม่เพียงแต่การใช้คำ�พูดเท่านั้นที่เราจะได้ยินเสียงแห่ง ชีวิตของเรา ชีวิตยังพูดกับเราผ่านการกระทำ�และปฏิกิริยาตอบ สนองของเรา ผ่านปัญญาญาณและสัญชาตญาณ ผ่านความรู้สึก และสภาวะทางร่างกาย บางทีมันชัดเจนยิ่งกว่าคำ�พูดของเราเสีย อีก การปรับตัวเข้าหาประสบการณ์บางอย่างและถอยหนีจาก ประสบการณ์บางอย่างของเรานัน้ ไม่ตา่ งอะไรกับการปรับตัวของ พื ช ที่ เ อนลำ � ต้ น เข้ า หาแสงอาทิ ต ย์ หากเราเรี ย นรู้ ที่ จ ะเข้ า ใจ ปฏิกริ ยิ าทีเ่ รามีตอ่ ประสบการณ์ ซึง่ เป็นเหมือนข้อความทีเ่ ราเขียน ขึ้นอย่างไม่รู้ตัวระหว่างดำ�รงชีวิตอยู่ในทุกๆ วัน เราก็จะได้รับคำ� แนะนำ�ที่จำ�เป็นต่อการมีชีวิตที่จริงแท้มากยิ่งขึ้น ในการฟังเสียงแห่งชีวิต ไม่เพียงแต่ผมต้องฟังสิ่งที่ผม ชอบและสามารถบอกกล่าวต่อคนอืน่ ๆ ได้ดว้ ยความภูมใิ จเท่านัน้ หากยังต้องฟังสิ่งที่ผมไม่ชอบและไม่อยากเล่าให้ใครฟังอีกด้วย ชีวิตของผมมิได้มีแต่ศักยภาพด้านบวกหรือด้านสูงส่ง แต่ยัง 38


ฟังเสียงของชีวิต

เกี่ยวข้องกับจุดด้อยและข้อจำ�กัด รวมถึงความผิดพลาดและด้าน มืดของตัวผมเอง เรามักละเลยสิ่งซึ่งจำ�เป็นต่อการเรียนรู้เหล่านี้ แต่เพื่อที่จะเข้าถึงชีวิตอันอุดม เราต้องโอบรับทั้งสิ่งที่เราไม่ชอบ หรือเรือ่ งน่าละอายของตัวเองอย่างเท่าเทียมกับสิง่ ที่เรามัน่ ใจและ ภาคภูมใิ จ นีค่ อื เหตุผลทีบ่ ทกวีเขียนว่า “ถามผมถึงความผิดพลาด ในอดีต” ในบทต่อไป ผมพูดถึงความผิดพลาดของตนเองหลาย ครั้ง ทั้งการตัดสินใจผิดพลาด และการเข้าใจความหมายของชีวิต ตนเองผิด เพราะสิ่งที่ซ่อนอยู่ในความผิดพลาดเหล่านั้นมีความ สำ�คัญต่อการรับรู้ถึงเสียงเพรียกแห่งชีวิตของผม ซึ่งแม้บางครั้ง ผมจะเศร้าใจที่ความผิดพลาดเหล่านั้นทำ�ให้ผู้อื่นต้องเจ็บช้ำ� แต่ ผมก็ยังรู้สึกมีความหวังเช่นเดียวกับผู้แต่งบทกวีนี้ เพราะชีวิตเรา คือ “การทดลองความจริงแท้” (ยืมคำ�พูดจากอัตชีวประวัติของ คานธี) และในการทดลองที่ผลลัพธ์ไม่น่าพอใจนั้นมีความสำ�คัญ ไม่ยงิ่ หย่อนไปกว่าการทดลองทีป่ ระสบความสำ�เร็จ ผมคิดไม่ออก ว่าเราจะเรียนรู้ความจริงแท้ของตนเองและเสียงเพรียกแห่งชีวิต 39


เสียงเพรียกแห่งชีวิต

Let Your Life Speak

โดยไม่ตอ้ งอาศัยความผิดพลาดได้อย่างไร แม้วา่ ด้วยวิธนี ผี้ มควร เขียนหนังสือที่ยาวกว่านี้มาก จึงจะบันทึกบทเรียนจากความผิด พลาดทั้งหมดได้ก็ตาม คำ�ถามทีน่ า่ สนใจต่อการสืบค้นต่อไปคือ เราจะรับฟังเสียง ของชีวิตได้อย่างไร ในวัฒนธรรมตะวันตก วิธีรวบรวมข้อมูล ข่าวสารของเรามักไม่เหมาะที่จะนำ�มาใช้กับสาส์นแห่งชีวิตซึ่งมา จากจิตวิญญาณมนุษย์ เพราะว่าจิตวิญญาณไม่ได้ตอบเราเหมือน กับการสอบพยานในศาล อย่างดีทสี่ ดุ มันจะยืนอยูใ่ นคอกพยานได้ แค่ถึงช่วงแถลงสิทธิของพยานตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น ในกรณีที่ เลวร้าย มันจะกระโจนหนีออกไปและไม่สามารถตามตัวกลับมาได้ อีก จิตวิญญาณจะพูดความจริงแท้ของมันก็ต่อเมื่ออยู่ในความ เงียบสงบ มีบรรยากาศอันเชิญชวน และน่าไว้วางใจเท่านั้น จิตวิญญาณนั้นเหมือนกับสัตว์ป่า ตรงที่มันทนทานต่อ ความยากลำ�บาก เมือ่ บาดเจ็บก็สามารถฟืน้ ตนเองได้อย่างรวดเร็ว เปี่ ย มด้ ว ยความฉลาด และสามารถยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตัวเอง กระนัน้ มันก็ขอี้ ายอย่างยิง่ ถ้าเราต้องการเห็นสัตว์ในป่า การวิง่ ไล่ 40


ฟังเสียงของชีวิต

เข้าไปในป่าตะโกนร้องเรียกให้มันออกมา คงเป็นวิธีการสุดท้ายที่ เราพึงกระทำ� แต่หากเราเพียงเดินเงียบๆ ในป่าและนั่งคอยโดย ไม่ส่งเสียงใดๆ เป็นเวลาหนึ่งหรือสองชั่วโมง สัตว์ป่าที่เรารอคอย อาจค่อยๆ ปรากฏ และย่องเดินผ่านให้เราได้เห็นภาพอันล้ำ�ค่า ของมันในเวลาเพียงชั่วครู่เดียว นีค่ อื เหตุผลทีบ่ ทกวีในตอนเริม่ ต้นบทนีจ้ บลงทีค่ วามเงียบ และเป็นเหตุผลเดียวกับทีผ่ มรูส้ กึ ละอายเล็กน้อยเมือ่ มาถึงช่วงท้าย ของบทนี้ ผมได้น�ำ ผู้อ่านผ่านบทนี้มาด้วยการพูด หน้าแล้วหน้า เล่า ไม่ใช่ผ่านความเงียบ ผมได้แต่หวังว่าคำ�พูดของผมจะซื่อตรง ต่อสิ่งที่ผมได้ยินจากความเงียบและจากจิตวิญญาณของตนเอง และหวังว่าผู้ที่อ่านหนังสือเล่มนี้จะสามารถได้ยินความเงียบซึ่ง อบอวลอยู่รอบตัวเราผ่านถ้อยคำ� ทั้งในขณะที่มันถูกเขียนขึ้นและ ในขณะที่คุณกำ�ลังอ่าน มันคือความเงียบที่เชิญชวนให้เราสืบค้น ลงลึกหาความหมายของการมีชีวิต และบอกเราอยู่เสมอถึงส่วน ลึกสุดของความหมายซึ่งถ้อยคำ�ไม่อาจไปถึง  41



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.