คำ�นำ� หนังสือ “พระวาจากับชีวิต ปี A” เล่มนี้ จัดทำ�ขึ้นเพื่อตอบสนองแผนงานอภิบาล ของพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย ปีคริสตศักราช 2010-2015 ทีว่ า่ “พระศาสนจักร คาทอลิกในประเทศไทยได้กำ�หนดงานอภิบาลหลักในงานเสริมสร้างศิษย์และพัฒนา ความเชื่อโดยพระวาจา ศีลศักดิ์สิทธิ์ และการอธิษฐานภาวนาดังนี้คือ ให้พระสงฆ์และ สัตบุรุษร่วมกันทำ�ให้วันอาทิตย์เป็นการฉลองวันพระเจ้าอย่างแท้จริง และต่อเนื่องในการ ดำ�เนินชีวิต ซึ่งเป็นหน้าที่ของพระสงฆ์ที่จะต้องให้ความสำ�คัญเป็นอันดับแรกกับพิธีบูชา ขอบพระคุณวันอาทิตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเทศน์ประกาศพระวาจาและการฉลอง ศีลมหาสนิท”(แผนงานอภิบาลฯ ข้อ 18) หนั ง สือ “พระวาจากับ ชีวิต ปี A” เล่มนี้ ทางศูนย์ค ริส ตศาสนธรรมฯ ต้อง ขอขอบคุณคณะภคินีเซนต์ปอล เดอ ชาร์ตร ที่ได้จัดแปลบทเทศน์จากหนังสือ 2 เล่ม คือ Sunday Homilies ของ Mark Link, S.J. และ Pray with the Bible ของ Noel Quesson เพื่อให้สมาชิกของคณะได้ใช้ในการรำ�พึงกับพระวาจาในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งผมเห็ นว่าน่าจะมีประโยชน์เช่นเดียวกันสำ�หรับพระสงฆ์ในการเตรียมเทศน์ รวมทั้งพี่น้องคริสต ชนในการรำ�พึงกับพระวาจาในทุกๆ สัปดาห์ จึงขออนุญาตนำ�มาจัดพิมพ์ การรำ � พึ ง พระวาจาของพระเจ้ า นั้ น ช่ ว ยให้ พ ระวาจาเติ บ โตและบั ง เกิ ด ผล ในตัวเราดังที่พระเยซูเจ้าตรัสว่า “พระอาณาจักรของพระเจ้ายังเปรียบเสมือนคนที่นำ� เมล็ดพืชไปหว่านในดิน เขาจะหลับหรือตื่น กลางคืนหรือกลางวันเมล็ดนั้นก็งอกขึ้น และ เติบโตเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรเขาไม่รู้” (มาระโก 4:26-27) บาทหลวงเอกรัตน์ หอมประทุม ผู้จัดการแผนกคริสตศาสนธรรมฯ 20 ตุลาคม 2013
สารบัญ หน้า
• สัปดาห์ที่หนึ่งเทศกาลเตรียมรับเสด็จ • สัปดาห์ที่สองเทศกาลเตรียมรับเสด็จ • สมโภชพระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล • สัปดาห์ที่สามเทศกาลเตรียมรับเสด็จ • สัปดาห์ที่สี่เทศกาลเตรียมรับเสด็จ • สมโภชพระคริสตสมภพ • ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ • สมโภชพระนางมารีย์ พระชนนีพระเป็นเจ้า • สมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์ • ฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง • สัปดาห์ที่หนึ่งเทศกาลมหาพรต • สัปดาห์ที่สองเทศกาลมหาพรต • สัปดาห์์ที่สามเทศกาลมหาพรต • สัปดาห์ที่สี่เทศกาลมหาพรต • สัปดาห์ที่ห้าเทศกาลมหาพรต • อาทิตย์มหาทรมาน • สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ - วันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ - วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ - วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ • วันเตรียมสมโภชปัสกา • สมโภชปัสกา พระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพ • สัปดาห์ที่สองเทศกาลปัสกา • สัปดาห์์ที่สามเทศกาลปัสกา
1-11 12-22 23-29 30-41 42-53 54-69 70-80 81-91 92-103 104-114 115-126 127-138 139-150 151-163 164-176 177-189 190-202 203-215 216-226 227-238 239-248 249-260 261-271
สารบัญ • สัปดาห์ที่สี่เทศกาลปัสกา • สัปดาห์์ที่ห้าเทศกาลปัสกา • สัปดาห์ที่หกเทศกาลปัสกา • สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ • สมโภชพระจิตเจ้า • สัปดาห์ที่เจ็ดเทศกาลปัสกา • สัปดาห์ที่เจ็ดเทศกาลธรรมดา • สัปดาห์ที่สองเทศกาลธรรมดา • สัปดาห์ที่สามเทศกาลธรรมดา • สัปดาห์ที่สี่เทศกาลธรรมดา • สัปดาห์ที่ห้าเทศกาลธรรมดา • สัปดาห์ที่หกเทศกาลธรรมดา • สัปดาห์ที่เจ็ดเทศกาลธรรมดา
หน้า
272-283 248-295 296-306 307-318 319-329 330-338 361-372 339-350 351-362 363-374 375-385 386-397 398-409
1
วันอาทิตย์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จ อิสยาห์ 2:1-5; โรม 13:11-14; มัทธิว 24:37-44 บทรำ�พึงที่ 1 เครื่องจำ�ลองสถานการณ์ พระเยซูเจ้าจะเสด็จมาเป็นครั้งที่สองในเวลาที่เราไม่คาดหมาย เราจึงควร เตรียมพร้อมไว้เสมอ เมื่อหลายปีก่อน นักประพันธ์ชื่อ ฮัล เฮลแมน ได้เขียนบทความ หนึง่ ทีน่ า่ ประทับใจในนิตยสาร Omni ซึง่ กล่าวถึงเครือ่ งจำ�ลองสถานการณ์ และการฝึกใช้เครื่องจำ�ลองนี้ เพียงย่อหน้าแรกก็ทำ�ให้ผู้อ่านสนใจได้แล้ว บทความนี้กล่าวไว้ดังนี้ “ผมไม่เคยขับเครื่องบินมาก่อนเลยในชีวิต ผมจึงรู้สึกประหม่า เมื่อผมเข้าควบคุมเครื่องบินพาณิชย์ลำ�หนึ่งในไมอามี่ และเตรียมนำ�ขึ้น บินไปยังวอชิงตัน ดี.ซี. การเดินทางครั้งนี้มีเรื่องตื่นเต้นมากกว่าที่ผม หรือผู้ช่วยนักบิน ที่มีประสบการณ์ของผม คาดหมาย เครื่องยนต์เครื่องหนึ่งหยุดทำ�งาน สายน้ำ�มันเชื้อเพลิงเกิดรั่ว และหางเสือของเครื่องบินก็ติดขัด แต่ปัญหา ใหญ่เกิดขึ้นเมื่อเราเตรียมลงจอดที่สนามบินวอชิงตัน เราเห็นได้ในทันใด ว่าทางวิ่งพุ่งเข้ามาหาเราอย่างรวดเร็วเกินไป บทเทศน์ ปี
A
2
มีเสียงดังโครม! เรากระแทกพื้นทางวิ่งอย่างแรง แล้วกระดอนขึ้น ร่อนลง และกระแทกพื้นอีกครั้งหนึ่ง ผู้ช่วยนักบินของผมตะโกนบอกให้ ผมจับคันบังคับให้มั่น จากนั้นเขาก็เบรกอย่างแรง เมื่อเขาทำ�เช่นนั้น เรา หยุดนิ่งพร้อมกับเสียงดังสนั่น เราอยู่ห่างจากหายนะเพียงไม่กี่ฟุตเท่านั้น หัวใจของผมเต้นรัวราวกับตีกลอง แต่แล้วผมก็เริ่มผ่อนคลาย ผมนึกขึน้ ได้วา่ เราไม่เคยออกจากไมอามีเ่ ลย เราอยูใ่ นเครือ่ งจำ�ลองการบิน ประสบการณ์ครั้งนั้นชัดเจน และเหมือนจริง จนผมต้องใช้เวลาหลายนาที กว่าจะรวบรวมสติได้อีกครั้งหนึ่ง” ในบทความของเขา เฮลแมนบรรยายถึงบทบาทสำ�คัญของเครื่อง จำ�ลองสถานการณ์ และการฝึกใช้เครื่องจำ�ลองสถานการณ์ ที่มีต่อชีวิต สมัยใหม่ เช่น โรงพยาบาลจำ�ลองสถานการณ์ภัยพิบัติ เพื่อจะได้รู้ว่าแพทย์ พยาบาล และอุปกรณ์ต่างๆ จะรับมือกับเหยื่อจำ�นวนมากมายอย่างไร โรงเรียนจำ�ลองสถานการณ์เพลิงไหม้ เพื่อหาวิธีที่เร็วที่สุดที่จะ อพยพเด็กนักเรียนหลายพันคนออกจากห้องเรียน 70 หรือ 80 ห้อง กองทัพจำ�ลองสถานการณ์การโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อ ค้นหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่สุดที่จะประสานงานระหว่างเครื่องบิน เรือ และเรือดำ�น้ำ� ในกรณีที่เกิดภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุด พระศาสนจั ก รต้ อ งการให้ เรามองเทศกาลเตรี ย มรั บ เสด็ จ โดย ให้ คิ ด ว่ า เป็ น การจำ � ลองเหตุ ก ารณ์ เช่ น นี้ ให้ เราถื อ ว่ า เรากำ � ลั ง จำ � ลอง เหตุการณ์ที่พระเยซูเจ้าเสด็จมาในโลกของเรา และพระศาสนจักรไม่เพียง ต้องการให้เราจำ�ลองเหตุการณ์การเสด็จมาของพระองค์เมื่อวันพระคริสตสมภพครั้งแรก แต่ยังต้องการให้เราจำ�ลองเหตุการณ์การเสด็จมา ครั้งที่สองเมื่อสิ้นพิภพด้วย การเสด็ จ มาครั้ ง ที่ ส องของพระเยซู เจ้ า นี้ เ องที่ พ ระศาสนจั ก ร เน้นย้ำ�ในวันอาทิตย์แรกของเทศกาลเตรียมรับเสด็จนี้ ดังนั้น ขอให้เราให้ ความสนใจกับเรื่องนี้อย่างเต็มที่เถิด บทเทศน์ ปี
A
3 เรื่องแรกที่พระศาสนจักรบอกเรา คือ การเสด็จมาเป็นครั้งที่สอง ของพระคริสตเจ้าอาจใกล้กว่าที่เราคิด ดังนั้น นักบุญเปาโลจึงบอกไว้ใน บทอ่านทีส่ องของวันนีว้ า่ “กลางคืนล่วงไปมากแล้ว กลางวันก็ใกล้จะมาถึง” เรื่องที่สองที่พระศาสนจักรบอกเรา คือ การเสด็จมาครั้งที่สองของ พระคริสตเจ้าจะเกิดขึน้ โดยทีเ่ ราไม่รตู้ วั มัทธิว บอกเราว่า “สมัยของโนอาห์ เป็ น เช่ น ไร เมื่ อ บุ ต รแห่ ง มนุ ษ ย์ เ สด็ จ มาก็ จ ะเป็ น เช่ น นั้ น ในสมั ย ก่ อ น น้ำ�วินาศนั้น ผู้คนกินดื่ม แต่งงานกัน จนถึงวันที่โนอาห์เข้าไปในเรือ ไม่มีใครนึกระแวงว่าอะไรจะเกิดขึ้น” มัทธิวสรุปว่า “ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน จงเตรียมพร้อมไว้ เพราะว่าบุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จมาในเวลาที่ท่านมิได้คาดหมาย” ใครบางคนเคยบอกว่า วันที่อันตรายที่สุดในชีวิตของเรามาถึง เมื่อเรารู้จักคำ�ว่า “วันพรุ่งนี้” ในวันนั้น เราเริ่มทำ�ตัวเหมือนว่าเรามีเวลา มากมายที่จะทำ�สิ่งใดก็ตามที่เราปรารถนา นักเทววิทยาชาวสก๊อต ชื่อวิลเลียม บาร์เคลย์ เล่าเรื่องปีศาจสาม ตัวที่กำ�ลังเตรียมตัวมาฝึกงานล่อลวงมนุษย์บนโลก ก่อนออกเดินทาง ปีศาจแต่ละตัวเข้ารับการสัมภาษณ์จากซาตาน เจ้าแห่งปีศาจ ซาตานถามปีศาจตัวแรกว่า “เจ้าวางแผนจะหลอก และทำ�ลาย มนุษย์อย่างไร” ปีศาจตัวแรกตอบว่า “ข้าจะทำ�ให้เขาเชือ่ ว่าพระเจ้าไม่มจี ริง” ซาตานถามปีศาจตัวที่สองว่า “แล้วเจ้าล่ะ เจ้าวางแผนจะหลอก มนุษย์อย่างไร” ปีศาจตัวทีส่ องตอบว่า “ข้าจะทำ�ให้เขาเชือ่ ว่านรกไม่มจี ริง” ซาตานถามปีศาจตัวที่สามว่า “แล้วเจ้าล่ะ” ปีศาจตัวที่สามตอบว่า “วิธีการของข้าไม่ต้องใช้สติปัญญามาก ข้าเพียงแต่วางแผนจะทำ�ให้ มนุษย์เชื่อว่าเขายังมีเวลาเหลือเฟือที่จะเตรียมตัวตาย และเตรียมตัว สำ�หรับการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูเจ้า” ซาตานยิ้ม และบอกปีศาจตัวที่สามว่า “จงทำ�ดังนั้นเถิด แล้วเจ้า จะล่อลวงคนได้จำ�นวนมาก” บทเทศน์ ปี
A
4
ประเด็นของเรื่องนี้ คือ มีบางสิ่งบางอย่างในชีวิตที่เราไม่ควรผลัด ผ่อนไปถึงวันพรุ่งนี้ เพราะเราไม่มีทางรู้แน่ว่าวันพรุ่งนี้จะมาถึงสำ�หรับเรา คำ�ถามข้อใหญ่ที่พระศาสนจักรต้องการถามเราในวันอาทิตย์แรก ของเทศกาลเตรียมรับเสด็จนี้ คือ “เรามีความพร้อมมากน้อยอย่างไรที่จะ พบกับพระเยซูเจ้า ถ้าพระองค์เสด็จมาในนาทีนี้” ถ้าเรามีเวลาเตรียมตัวตายเพียง 5 นาที เราจะใช้เวลา 5 นาทีนั้น อย่างไร ไม่ว่าเราจะเตรียมตัวอย่างไร นั่นคือสิ่งที่พระศาสนจักรต้องการให้ เราทำ�ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จ หญิงชราคนหนึง่ จะกวาด และเช็ดบ้านทุกคืนก่อนเข้านอน คืนหนึง่ สามีของเธอพูดกับเธอว่า “ที่รัก คืนนี้คุณเหนื่อยมากแล้ว ทำ�ไมคุณ ไม่กวาดและเช็ดบ้านเช้าวันพรุ่งนี้เล่า ไม่มีใครมาเยี่ยมเรากลางดึกหรอก” ภรรยาของเขาตอบว่า “ที่รัก พระเยซูเจ้าอาจเสด็จมากลางดึก พระองค์อาจเสด็จมารับคุณ หรือรับฉันไปก็ได้ ไม่ว่าพระองค์จะเสด็จมา รับใคร ฉันก็ไม่ต้องการให้พระองค์เสด็จเข้ามาในบ้านที่สกปรก” คำ�ตอบของหญิงชราตรงกันจิตตารมณ์ของเทศกาลเตรียมรับ เสด็จ โดยเฉพาะจิตตารมณ์ของวันอาทิตย์ทหี่ นึง่ เราสรุปความคิดของเธอ ได้ว่าเราควรเตรียมพร้อมสำ�หรับความตาย หรือสำ�หรับการเสด็จมาครั้งที่ สองของพระเยซูเจ้าในทุกนาทีในชีวิตของเรา เราจะสรุปบทรำ�พึงของเราด้วยบทภาวนาสั้นๆ ดังนี้ ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า พระองค์ไม่ได้ทรงเผยให้เรารู้ว่าพระองค์จะเสด็จมาเมื่อใด เราเพียงแต่รู้ว่าพระองค์จะเสด็จมาอย่างแน่นอน เมื่อพระองค์เสด็จมา ขอให้พระองค์ทรงพบว่าบ้านของเราได้รับการกวาดถูจนสะอาด ขอให้พระองค์ทรงพบว่าเรากำ�ลังตื่นเฝ้า และสวดภาวนา และพร้อมจะต้อนรับพระองค์ด้วยเทอญ บทเทศน์ ปี
A
บทรำ�พึงที่ 2 มัทธิว 24:37-44
5
นี่คือวันเริ่มต้นปีพิธีกรรมใหม่ ซึ่งเป็นปี A ในวันอาทิตย์แต่ละ สัปดาห์ เราจะอ่านบทอ่านจากพระวรสารตามคำ�บอกเล่าของนักบุญ มัทธิว (ปี B เป็นบทอ่านจากพระวรสารของนักบุญมาระโก และปี C เป็น บทอ่านจากพระวรสารของนักบุญลูกา) สมัยของโนอาห์เป็นเช่นไร เมือ่ บุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นเช่นนัน้ เราอยูใ่ นเทศกาลเตรียมรับเสด็จ (Advent) คำ�นีม้ าจากภาษาละติน adventum แปลว่า “การมาถึง” ... “การมา”... นี่คือหัวข้อของพระวรสารตอนนี้ คือ ใครบางคนจะมา ... เขา กำ�ลังมา พระเยซูเจ้าไม่ทรงแนะนำ�พระองค์เองเสมือนว่าทรงเป็น “บุรุษ จากอดีต” แต่ทรงเป็นบุรุษแห่งอนาคต พระองค์ตรัสถึงการเสด็จมาของ พระองค์ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ยังจะต้องเกิดขึ้น การฉลองวันพระคริสตสมภพที่ใกล้เข้ามาไม่ใช่โอกาสสำ�หรับเรา ที่จะจัดฉากละคร เหมือนกับว่าเราเพียงกำ�ลังจำ�ลองเหตุการณ์ในอดีต เมื่อประชาชนรอคอยใครบางคน ซึ่งเคยมาเยือนเขาแล้ว และเรากำ�ลัง รำ�ลึกถึงเรื่องราวอันน่าพิศวงของเขาอย่างมีความสุข... พระเยซูเจ้าทรงบอกเราว่าพระองค์กำ�ลังเสด็จมา “เมื่อบุตรแห่ง มนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นเช่นนั้น”... พระเจ้ากำ�ลังเสด็จมา เราจงยอมให้พระเจ้าเสด็จมาเถิด... พระเจ้าเสด็จมาหาเราทุกเช้า... บทเทศน์ ปี
A
6 ในสมัยก่อนน้ำ�วินาศนั้น ผู้คนกิน ดื่ม แต่งงานกันจนถึงวันที่โนอาห์ เข้าไปในเรือ... คนที่ความคิดตื้นเขินอาจสงสัยว่า ทำ�ไมต้องย้อนกลับไปพูดถึง เรื่องน้ำ�วินาศ และเรือของโนอาห์ เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเรา... พระเยซูเจ้าทรงคิดว่าเรายังอยู่ – และจะอยู่เสมอไป - ใน “สมัยของ โนอาห์” และกิจกรรมที่พระองค์ทรงบรรยายว่าทำ�ให้มนุษย์วุ่นวายก็เป็น ภาพที่สะท้อนสังคมร่วมสมัยอย่างชัดเจน คือ เราทำ�งาน เรากิน เรา แต่งงานกัน ... ไม่มีอะไรประหลาดพิสดารในกิจกรรมเหล่านี้... ปฐมกาล 6:5-13 บอกเล่าว่าน้ำ�วินาศเป็นการลงโทษความไร้ศีลธรรม ของมนุษย์ในยุคนัน้ “พระเจ้าทรงเห็นว่าความชัว่ ร้ายของมนุษย์มมี าก บนแผ่นดิน และใจของเขาคิดแต่สง่ิ ชัว่ ร้ายอยูต่ ลอดเวลา” ธรรมประเพณี ของรับบี บรรยายเหตุการณ์นี้อย่างรุนแรงว่า “ความต่ำ�ช้าทางเพศ ของคนร่วมสมัยของโนอาห์ ซึ่งนำ�ไปสู่การไม่เคารพกฎเกณฑ์ใดๆ ทางศีลธรรม ... และทำ�ให้เกิดสภาวะตกต่ำ�ทางศีลธรรมและสังคม จนมนุษยชาติกำ�ลังทำ�ลายตนเองโดยไม่มีความหวังว่าจะดำ�รงอยู่ ต่อไปได้” (คำ�อธิบาย “หนังสือปฐมกาล” ของราชี (Rachi)) ตรงกันข้าม พระเยซูเจ้าไม่ได้ตรัสถึงความไร้ศีลธรรมเลย พระองค์ ไม่ทรงกล่าวหาว่ามนุษย์มีพฤติกรรมวิปริต อันที่จริง มนุษย์ไม่ได้ทำ�อะไร ผิด เขาเพียงแต่กำ�ลังวุ่นวายกับการดำ�รงชีวิตตามปกติ โดยไม่มีเหตุจูงใจ ซ่อนเร้น ... เขาเพียงแต่กำ�ลังสนุกกับชีวิตของเขา ถ้าเช่นนัน้ มนุษย์ท�ำ อะไรผิด ... พระเยซูเจ้าทรงตำ�หนิเขาในเรือ่ งใด... ... ไม่มีใครนึกระแวงว่าอะไรจะเกิดขึ้น จนกระทั่งน้ำ�วินาศมากวาด พวกเขาไปหมดสิ้น... บทเทศน์ ปี
A
7 เหตุผลที่ทรงตำ�หนิไม่ใช่บาป หรือความลุ่มหลงในโลกีย์วิสัย แต่ เป็นเพราะพวกเขา “ไม่นึกระแวง” เขาไม่สงสัยเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขา เห็นแก่ตัว ... เขาไม่สนใจสิ่งที่จำ�เป็นและสำ�คัญ คือ การประทับอยู่อย่าง แท้จริงของพระเจ้า และความห่วงใยเพื่อนมนุษย์ที่กำ�ลังขัดสน... เรายังคงอยู่ “ในสมัยของโนอาห์”... มนุษย์ในยุคปัจจุบันอยู่ในสภาพที่เหมือนกับกำ �ลังสลบ ความ ก้าวหน้าทางวัตถุทำ�ให้เราหลับไหล เราดำ�รงชีวิตในโลกนี้ และคิดว่าโลกนี้ จะดำ�รงอยู่ต่อไปตลอดกาล ... จนกระทั่งถึงเวลาที่เราถูกปลุกให้ตื่นอย่าง กะทันหัน ซึ่งเป็นเสมือน “น้ำ�วินาศ” ยุคใหม่ เช่น ภาวะเงินเฟ้อที่ไหลท่วม ระบบเศรษฐกิจทั่วทั้งโลก ... สินค้าที่จำ�เป็นต่อชีวิตมีราคาสูงขึ้น (เหมือน คลื่นไต้น้ำ�) ... การเจ็บป่วยที่ไม่คาดคิด ... อุบัติเหตุ ... ความมั่นคงทุกด้าน ของเรา “ถูกกลืนหายไป”... ... เมื่อบุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นเช่นนั้นด้วย พระเยซูเจ้าทรงใช้คำ�ว่า “เสด็จมา” เป็นครั้งที่สอง คำ�นี้คือ parousia ในภาษากรีก และหมายถึง “การอยู่ที่นั่น (presence) ... การมาถึง (arrival) การอยู่เคียงข้าง” ... ในโลกของชาวกรีก-โรมัน คำ�นี้หมายถึง “การเสด็จเยือนอย่างเป็นทางการของจักรพรรดิ” เรามักคิดว่า Parousia หมายถึงอวสานกาล เป็นเหตุการณ์ที่ ห่างไกลมากจนไม่มีทางที่เราจะได้เห็นจุดจบของโลก พระเยซูเจ้าทรง เตือนเราไม่ให้อ่านสัจภาพ หรือความเป็นจริง นี้ผิดๆ พระองค์ทรงกำ�ลัง บอกเราว่า พระองค์เสด็จมาเยือนเราอย่างเป็นทางการท่ามกลางกิจวัตร ประจำ�วันที่แสนจะธรรมดาของเรา ... ในสถานที่ทำ�งานของเรา ... ในบ้าน ที่เรากิน และดื่ม ... ในความสัมพันธ์ของเรากับมนุษย์ชายหญิงทั่วไป... บทเทศน์ ปี
A
8
ในทุ ก นาที เราต้ อ งเตรี ย มพร้ อ มสำ � หรั บ “การเสด็ จ มา” หรื อ Parousia นี้ - เราต้องพร้อมจะต้อนรับการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้า... เวลานั้น คนสองคนอยู่ที่ทุ่งนา คนหนึ่งจะถูกรับไป อีกคนหนึ่งจะถูก ทิ้งไว้ หญิงสองคนที่กำ�ลังโม่แป้งอยู่ คนหนึ่งจะถูกรับไป อีกคนหนึ่ง จะถูกทิ้งไว้ นี่คือชีวิตประจำ�วัน... พระเยซูเจ้าเสด็จมาเยือนเราขณะที่เรากำ�ลังประกอบอาชีพของ เราตามปกติ พระองค์เสด็จมาหาชาวนาที่กำ�ลังไถนา หรือเก็บเกี่ยวพืชผล พระองค์เสด็จมาหาแม่บ้านที่กำ�ลังทำ�งานภายในบ้าน และเราอาจเพิ่มเติม ก็ได้ว่า พระองค์เสด็จมาหาเราในสำ�นักงาน หรือบนถนนขณะที่เรากำ�ลัง ขี่รถจักรยาน... จงตื่นเฝ้าระวังเถิด เพราะท่านไม่รู้ว่านายของท่านจะมาเมื่อไร พระเยซูเจ้าทรงแนะนำ�ให้เราลุกขึ้น และตื่นขึ้น – จงเฝ้าระวัง! พระองค์ตรัสโดยใช้ค�ำ กริยาในรูปปัจจุบนั กาล “จะมา (is coming)” เพราะการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ทุกวัน... การเสด็ จ มาของพระเยซู เจ้ า ยั ง เป็ น การเลื อ กอย่ า งหนึ่ ง ด้ ว ย มนุษย์มองไม่เห็นความแตกต่างระหว่างชายสองคนในทุ่งนา และหญิง สองคนที่กำ�ลังโม่แป้ง แต่พระเจ้าทรงเห็นความแตกต่าง เพราะคนหนึ่ง พร้อม ในขณะที่อีกคนหนึ่งไม่พร้อม ... คนหนึ่งอยู่ “กับพระเจ้า” ดังนั้น จึงอยู่ในแสงสว่าง อีกคนหนึ่งอยู่โดย “ปราศจากพระเจ้า” ดังนั้น จึงอยู่ใน ความมืด... เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยพลการอย่างแน่นอน ข้อความใน พระคัมภีร์ตลอดเล่มย้ำ�ว่า “พระเจ้าทรงช่วยให้รอดพ้น” และการทำ�ความ บทเทศน์ ปี
A
9 เข้าใจคำ�บอกเล่าเรื่องน้ำ�วินาศในทางที่ถูกต้อง จะทำ�ให้เรามองเห็นการ ช่วยให้รอดของพระองค์ เมื่อมนุษย์มุ่งหน้าไปหาภัยพิบัติ กระแสของ ประวัติศาสตร์จะพลิกกลับ อาศัยการเข้าแทรกแซงช่วยเหลือของพระเจ้า และมนุษยชาติใหม่ก็เกิดขึ้น โนอาห์ คือ “มนุษย์ผู้ที่พระเจ้าทรงช่วยให้ รอดพ้น”... แต่ขอให้สนใจว่าวันนี้ “เรือ” นั้นพร้อมแล้วสำ�หรับ “น้ำ�วินาศ” ส่วนตัวของท่านหรือยัง พระคริสตเจ้าพระผู้ไถ่ ทรงดำ�ลงสู่น้ำ�แห่งความ ตาย ทรงนำ� “เรือ” คือพระศาสนจักรของพระองค์ หรือมนุษย์ทุกคนที่ ยอมติดตามพระองค์ ในขณะที่พระคัมภีร์บอกเราว่ามนุษย์ในสมัยของโน อาห์ถูกกวาดล้างจนเกือบหมดสิ้น พระเยซูเจ้าตรัสว่ามนุษย์ 50% ได้รับ ความรอดพ้น กล่าวคือ คนหนึ่งจากสองคน ... หญิงสาวที่ฉลาดห้าคน รอดพ้น ในขณะที่หญิงสาวที่โง่ห้าคนไม่รอดพ้น (มธ 25:12) ... และ แน่นอน เรารู้ว่าจำ�นวนนี้ไม่ใช่ผลจากการคำ�นวณทางคณิตศาสตร์... พระเยซูเจ้าไม่ทรงต้องการทำ�ให้เราตื่นตระหนก แต่ทรงต้องการ ปลุกมนุษย์ให้ตื่นขึ้น ลุกขึ้น และเฝ้าระวัง ความเสี่ยงที่มีอยู่ในชีวิตของ เราทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และครอบครัว เรียกร้องให้เราระมัดระวัง และ เตรียมพร้อมเสมอ ผูบ้ ริหารทีเ่ กียจคร้านย่อมนำ�กิจการของเขาไปสูห่ ายนะ เยาวชนที่ไม่สนใจเตรียมความพร้อมสำ�หรับอนาคตย่อมต้องรับผิดชอบ ความล้มเหลวในชีวิตของตนเอง ... ชาย หรือหญิง ที่ไม่คิดถึงพระเจ้าอาจ จะพลาดการเสด็จเยือนของพระองค์ก็ได้... ดังนั้น จงเฝ้าระวังเถิด เพราะท่านไม่รู้เวลาที่องค์พระผู้เป็นเจ้า ของท่านจะเสด็จมา...
บทเทศน์ ปี
A
10 พึงรู้ไว้เถิด ถ้าเจ้าบ้านรู้ว่าขโมยจะมาในยามใด เขาคงจะตื่นเฝ้า... อย่า “หลับ” ไปจนตลอดชีวติ ของท่าน ... จงตืน่ และเฝ้าระวังเสมอ เพื่อจะเฝ้าระวัง เราต้องตื่นตัวเหมือนกับเสือที่กำ�ลังออกล่าเหยื่อ “การเฝ้าระวัง” ไม่ได้หมายถึงการแสวงหาความมั่นคงปลอดภัย หรือล็อก ประตูบา้ นเพือ่ ป้องกันโจรปล้น ... การเฝ้าระวังหมายความว่าเราต้อง “พร้อม” สำ�หรับการเผชิญหน้า เตรียมพร้อมเสมอสำ�หรับปฏิบตั กิ าร ... การเฝ้าระวัง ตรงกันข้ามกับการนิ่งนอนใจ ปล่อยปละละเลย และรักความสนุกสบาย... ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดในภายหลังว่า “ถ้าฉันรู้อย่างนี้” ... เพราะเรา ได้ยนิ คำ�เตือนอย่างชัดเจนแล้ว ถ้าเจ้าของบ้านรูว้ า่ ขโมยจะมาในเวลาใด... ... ไม่ปล่อยให้ขโมยงัดแงะบ้านของตนได้ ภาพลักษณ์ของขโมยทำ�ให้เรากลัว ดังนั้น การเฝ้าระวังหมายถึง “ความวิตกกังวล” หรือ... เราสามารถอ่านภาพลักษณ์นี้จากแง่มุมอื่นได้แน่นอน พระเยซูเจ้า ทรงบอกว่าขโมยจะมาทำ�ไม ... ขโมยมาเพื่อเจาะรูในกำ�แพงบ้าน ... เพื่อ เปิ ด สิ่ ง ที่ ปิ ด อยู่ ถ้ อ ยคำ � จากอุ ป มานี้ ทำ � ให้ เราค้ น พบความหมายเชิ ง สัญลักษณ์อันน่าพิศวงทันทีว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาเสมอเพื่อเปิด โลกที่ปิดต่อตนเอง เมื่อพระองค์เสด็จมาถึงประตูบ้านของเรา พระองค์ เสด็จเข้ามาเพื่อประทับอยู่กับผู้ที่ตื่นเฝ้าเพื่อจะเปิดประตูรับพระองค์ ... แต่น่าเศร้าสำ�หรับผู้ที่ปล่อยให้พระองค์เสด็จมาโดยที่เขาไม่รู้ตัว เพราะ เมือ่ นัน้ พระองค์ยอ่ มไม่สามารถเสด็จเข้ามาโดยไม่งดั แงะให้บา้ นเสียหายได้... เราจะยอมพลาดโอกาสที่จะเปิดประตูต้อนรับโลกของพระเจ้า หรือ...
บทเทศน์ ปี
A
11 ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน จงเตรียมพร้อมไว้ เพราะว่าบุตรแห่ง มนุษย์จะเสด็จมาในเวลาที่ท่านมิได้คาดหมาย คริสตชนควรเป็นคนที่ไม่วิตกกังวลกับ “เวลานัดหมาย” เขาควร สมัครใจ และพร้อมอยู่เสมอ... ถู ก แล้ ว บุ ต รแห่ ง มนุ ษ ย์ ส ามารถเสด็ จ มาได้ ทุ ก นาที ใ นชี วิ ต ของเรา การเสด็จมาของพระองค์เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และอย่างเรียบง่าย และ ดูเหมือนว่าเป็นเวลาที่เราคาดไม่ถึงเสมอ... เราจะเชื่อคำ�เผยแสดงของพระเยซูเจ้าข้อนี้อย่างจริงจังหรือไม่...
บทเทศน์ ปี
A