ธรรมนูญข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค

(1)

ธรรมนูญข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค พุทธศักราช ๒๕๕๘ หมวดที่ ๑ บททั่วไป ข้อ ๑ ธรรมนูญนี้เรียกว่า “ธรรมนูญข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค พุทธศักราช ๒๕๕๘” ข้อ ๒ ธรรมนูญนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ เป็นต้นไป ข้อ ๓ คานิยามในธรรมนูญนี้ ๓.๑ ข่ายงาน หมายถึง ข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค ๓.๒ คณะกรรมการอานวยการ หมายถึง คณะกรรมการอานวยการข่ายงานห้องสมุด มหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค ๓.๓ ประธานคณะกรรมการอานวยการ หมายถึง ประธานคณะกรรมการอานวยการ ข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค ๓.๔ รองประธานคณะกรรมการอานวยการ หมายถึง รองประธานคณะกรรมการ อานวยการข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค ๓.๕ เหรัญญิก หมายถึง เหรัญญิกของคณะกรรมการอานวยการข่ายงานห้องสมุด มหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค ๓.๖ เลขานุการ หมายถึง เลขานุการของคณะกรรมการอานวยการข่ายงานห้องสมุด มหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค ๓.๗ สมาชิก หมายถึง สมาชิกห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค ๓.๘ คณะทางาน หมายถึง กลุ่มบุคคลที่คณะกรรมการอานวยการแต่งตั้งเป็นคณะทางาน ชุดต่าง ๆ เพื่อดาเนินภารกิจร่วมกันของข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค

(2)

ข้อ ๔ ความเป็นมาของข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค ข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค หรือ พูลิเน็ต (Provincial University Library Network-PULINET) เป็นข่ายงานความร่วมมือระหว่างห้องสมุดมหาวิทยาลัย ส่วนภูมิภาค ที่ก่อตั้งเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๙ เป็นผลสืบเนื่องที่ประชุมอธิการบดี มหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ ในวาระ "โครงการ ความร่วมมือทางวิชาการของมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค" โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ ห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค พิจารณาคิดรูปแบบโครงการความร่วมมือที่เหมาะสม ในการแลกเปลี่ ยนข้ อมู ล กั นได้ อ ย่า งรวดเร็ว คล่อ งตัว และประหยั ดงบประมาณ โดย สานักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เป็นผู้ริเริ่มและเป็นผู้นาในการจัดตั้งข่ายงาน ฯ เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ การพัฒนาฐานข้อมูล การ พั ฒ นาบริ ก ารสารสนเทศ และการใช้ ทรั พ ยากรสารสนเทศร่ ว มกั น ระหว่ า งห้ อ งสมุ ด มหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค ข้อ ๕ ให้ประธานคณะกรรมการอานวยการรักษาการตามธรรมนูญนี้ และให้มีอานาจออก ข้อบังคับ ระเบียบ และประกาศเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามธรรมนูญนี้

หมวดที่ ๒ ชื่อ ตราสัญลักษณ์ และวัตถุประสงค์ ข้อ ๖ ข่ายงานนี้มีชื่อว่า "ข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค" ชื่อภาษาอังกฤษ "Provincial University Library Network" ชื่อย่อ "PULINET"

| ธ ร ร ม นู ญ ข่ า ย ง า น ห้ อ ง ส มุ ด ม ห า วิ ท ย า ลั ย ส่ ว น ภู มิ ภ า ค

(3)

ข้อ ๗ ตราสัญลักษณ์ของข่ายงานมีลักษณะดังรูป แนวคิดการออกแบบตราสัญลักษณ์ ประกอบด้วย การใช้จุดวงกลมเพื่อวางตาแหน่ง ของแต่ละมหาวิทยาลัยในภูมิภาคต่าง ๆ ลดจานวนลงให้เหลือเป็นกลุ่มหลัก ๆ โดยยึด ตาแหน่งได้ 6 จุดแล้วใช้เส้นลากไปยังตาแหน่งต่าง ๆ เพื่อเชื่อมโยงถึงกัน มีลักษณะเป็น อักษรภาษาอังกฤษ คือตัว “P” ซึ่งเป็นอักษรตัวแรกของคาว่า “PULINET” แล้ววาง ข้อความ “PULINET” อยู่ด้านขวา และ “ข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค” อยู่ด้านล่าง รู ป แบบตั ว อั ก ษรที่ ใ ช้ กั บ สั ญ ลั ก ษณ์ อั ก ษร P และค าว่ า PULINET คื อ HandelGotDBol ส่ ว นรู ป แบบตั ว อั ก ษรของค าว่ า “ข่ า ยงานห้ อ งสมุ ด มหาวิ ท ยาลั ย ส่วนภูมิภาค”คือ PSL OmyimAD และคู่สีที่ใช้คือ “ม่วงสิรินธรกับเทาเข้ม”เพื่อสื่อถึงการ รวมกลุ่มกันแบบไร้ขอบเขตและเทคโนโลยีที่ทันสมัยของสื่อต่าง ๆ ของห้องสมุด สีที่ใช้สาหรับตราสัญลักษณ์ P คือ สีม่วงสิรินธร รหัสสี C60 M90 Y0 K0 ส่วนสีที่ใช้กับ คาว่า PULINET และคาว่าข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค คือสีเทาเข้ม รหัสสี C30 M0 Y0 K70 ข้อ ๘ วัตถุประสงค์ของข่ายงาน ๘.๑ เพื่อร่วมมือกันระหว่างสมาชิกในการให้บริการทรัพยากรสารสนเทศ อันจะนาไปสู่การ ใช้ประโยชน์ของทรัพยากรสารสนเทศอย่างคุ้มค่า ๘.๒ เพื่อร่วมมือกันพัฒนาเครื่องมือ วิธีการ กระบวนการทางาน และนวัตกรรมอันจะ ส่งเสริมให้ภารกิจของสมาชิกบรรลุเป้าหมาย และสอดคล้องกับความก้าวหน้าของ วิทยาการ | ธ ร ร ม นู ญ ข่ า ย ง า น ห้ อ ง ส มุ ด ม ห า วิ ท ย า ลั ย ส่ ว น ภู มิ ภ า ค

(4)

๘.๓ เพื่อร่วมมือระหว่างข่ายงาน หน่วยงานวิชาการ และองค์กรอื่น ๆ ในการจัดกิจกรรม ทางวิชาการ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุน ภารกิจการจัดการและการบริการสารสนเทศ ให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ๘.๔ เพื่อให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแก่สานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาเกี่ยวกับ แนวทางและมาตรฐานการจั ดการและการบริ การสารสนเทศของห้ องสมุ ด ถาบั น อุดมศึกษา

หมวดที่ ๓ สมาชิกภาพ และการขาดจากสมาชิกภาพ ข้อ ๙ สมาชิก ห้องสมุดหรือหน่วยงานที่มีภารกิจเป็นห้องสมุดแต่เรียกชื่อเป็นอย่างอื่น ซึ่งเป็น หน่วยงานเทียบเท่าคณะที่มีการบริหารงานเบ็ดเสร็จในตัวเอง และสังกัดมหาวิทยาลัยส่วน ภูมิภาคที่สถาบันเป็นสมาชิกของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยที่เป็นสมาชิกของ ข่ายงาน ข้อ ๑๐ หน้าที่ของสมาชิก ๑๐.๑ ปฏิบัติตามธรรมนูญ ข้อบังคับ ระเบียบ คาสั่ง ประกาศ และมติของคณะกรรมการ อานวยการ รวมทั้งให้การสนับสนุนรักษาคุณธรรม จริยธรรม และเผยแพร่ชื่อเสียง ของข่ายงานให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ๑๐.๒ ให้ความร่วมมือ และสนับสนุนการดาเนินกิจการต่าง ๆ ของข่ายงาน ๑๐.๓ ชาระค่าสมาชิกข่ายงานตามมติของคณะกรรมการอานวยการ ข้อ ๑๑ การสมัครเข้าเป็นสมาชิก ให้ยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อประธานคณะกรรมการอานวยการ และต้อง ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการอานวยการไม่น้อยกว่า ๓ ใน ๔ ของ จานวนสมาชิก

| ธ ร ร ม นู ญ ข่ า ย ง า น ห้ อ ง ส มุ ด ม ห า วิ ท ย า ลั ย ส่ ว น ภู มิ ภ า ค

(5)

ข้อ ๑๒ การขาดจากสมาชิกภาพ ๑๒.๑ ลาออก โดยยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อประธานคณะกรรมการอานวยการ และที่ประชุมคณะกรรมการอานวยการได้พิจารณาอนุมัติ โดยสมาชิกรายนั้นต้อง ชาระหนี้สินที่ยังติดค้างอยู่กับข่ายงานเป็นที่เรียบร้อย ๑๒.๒ ที่ประชุมคณะกรรมการอานวยการได้พิจารณาลงมติให้ออกจากการเป็นสมาชิก โดยได้รับความเห็นชอบไม่น้อยกว่า ๓ ใน ๔ ของจานวนสมาชิก

หมวดที่ ๔ การบริหารข่ายงาน ข้อ ๑๓ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า "คณะกรรมการอานวยการข่ายงานห้องสมุด มหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค" ซึ่งมาจากผู้บริหารสูงสุดของสมาชิก เพื่อทาหน้าที่ต่าง ๆ ดังนี้ ๑๓.๑ ประธานคณะกรรมการ ๑๓.๒ รองประธานคณะกรรมการ คนที่ ๑ ๑๓.๓ รองประธานคณะกรรมการ คนที่ ๒ ๑๓.๔ กรรมการ ๑๓.๕ เหรัญญิก ๑๓.๖ เลขานุการ ส่วนกรรมการตาแหน่งอื่น ๆ ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการอานวยการเห็นสมควร กาหนดให้มีขึ้น ข้อ ๑๔ การได้มาซึ่งคณะกรรมการอานวยการ เพื่อการทาหน้าที่ในตาแหน่งต่าง ๆ ดังนี้ ๑๔.๑ ประธานคณะกรรมการอ านวยการได้ ม าจากการเลื อ กตั้ ง จากที่ ป ระชุ ม คณะกรรมการอานวยการ โดยได้รับคะแนนเสียงสูงสุด ๑๔.๒ ให้ประธานคณะกรรมการอานวยการเลือกรองประธานคณะกรรมการอานวยการ คนที่ ๑ รองประธานคณะกรรมการอานวยการคนที่ ๒ เหรัญญิก และเลขานุการ โดยได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการอานวยการ | ธ ร ร ม นู ญ ข่ า ย ง า น ห้ อ ง ส มุ ด ม ห า วิ ท ย า ลั ย ส่ ว น ภู มิ ภ า ค

(6)

ให้ประธานคณะกรรมการอานวยการจัดทาคาสั่งแต่งตั้งกรรมการตาแหน่งต่าง ๆ และนาเสนอต่อสถาบันการศึกษาต้นสังกัด และสานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เพื่อรับทราบ ทั้งนี้ให้ดาเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๙๐ วัน หลังการเริ่มวาระ ในกรณีที่มีกรรมการข้อ ๑๓ ลาออกหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ หรือ หมดสภาพ สมาชิก ให้คณะกรรมการอานวยการพิจารณาดาเนินการให้ได้มาซึ่งกรรมการทดแทน ข้อ ๑๕ หน้าที่ของคณะกรรมการอานวยการ ๑๕.๑ ประธานคณะกรรมการอานวยการ (๑) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอานวยการ (๒) บริหารงานและกิจกรรมของข่ายงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ (๓) อนุมัติค่าใช้จ่ายของข่ายงานโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการอานวยการ ๑๕.๒ รองประธานคณะกรรมการอานวยการ (๑) ทาหน้าที่ช่วยประธานคณะกรรมการอานวยการในการบริหารกิจการของ ข่ายงาน ประสานงานกิจกรรมของข่ายงาน ปฏิบัติหน้าที่ตามทีไ่ ด้รับ มอบหมาย (๒) ทาหน้าที่แทนในกรณีที่ได้รับมอบหมายจากประธานคณะกรรมการ อานวยการ หรือ กรณีที่ประธานคณะกรรมการอานวยการไม่สามารถปฏิบัติ หน้าที่ได้ ทั้งนี้ในการทาหน้าที่แทนประธานคณะกรรมการอานวยการ ให้รอง ประธานคณะกรรมการอานวยการตามลาดับตาแหน่งเป็นผู้กระทาการแทน ๑๕.๓ เหรัญญิก (๑) จัดเก็บรายได้ต่าง ๆ ตามข้อ ๒๑ (๒) ควบคุมดูแลการใช้จ่ายของข่ายงาน จัดทารายงานการเงิน และจัดเก็บ หลักฐานเอกสารการเงินทั้งหมด (๓) จัดเตรียมและนาเสนอรายงานการเงินที่ถูกต้องครบถ้วนต่อที่ประชุม คณะกรรมการอานวยการ (๔) เสนอร่างงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณของปีถัดไป ๑๕.๔ เลขานุการ (๑) ประสานงานกิจกรรมของข่ายงาน (๒) จัดทาวาระและรายงานการประชุมคณะกรรมการอานวยการ | ธ ร ร ม นู ญ ข่ า ย ง า น ห้ อ ง ส มุ ด ม ห า วิ ท ย า ลั ย ส่ ว น ภู มิ ภ า ค

(7)

(๓) ทาหน้าที่เลขานุการในการประชุมคณะกรรมการอานวยการ (๔) ปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ตามที่ประธานคณะกรรมการอานวยการมอบหมาย ๑๕.๕ กรรมการ และกรรมการตาแหน่งอื่น ๆ มีหน้าที่ร่วมบริหารงานและกิจกรรมของ ข่ายงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ข้อ ๑๖ วาระการดารงตาแหน่งของคณะกรรมการอานวยการ ๑๖.๑ ให้ประธานคณะกรรมการอานวยการอยู่ในตาแหน่งได้คราวละ ๒ ปี ทั้งนี้ ก่อนครบ วาระการบริหารงานอย่างน้อย ๙๐ วัน ให้คณะกรรมการอานวยการเลือกตั้ง ประธานคณะอานวยการคนใหม่ และมอบงานให้แล้วเสร็จ ภายใน ๙๐ วัน นับตั้งแต่วันเลือกตั้งประธานคณะกรรมการอานวยการ เมื่อบริหารงานครบตาม วาระแล้ว ประธานคณะกรรมการอานวยการมีสิทธิ์ที่จะได้รับการคัดเลือกจาก ทีป่ ระชุมคณะกรรมการอานวยการได้อีก ในกรณีกรรมการทดแทน ให้ดารง ตาแหน่งได้เท่าวาระของกรรมการเดิม ๑๖.๒ กรรมการตาแหน่งต่าง ๆ ตามข้อ ๑๓ หมดวาระตามวาระของประธาน คณะกรรมการอานวยการคนนั้น ข้อ ๑๗ การพ้นจากตาแหน่งของประธานคณะกรรมการอานวยการ ๑๗.๑ ปฏิบัติงานครบวาระ ๒ ปี ๑๗.๒ พ้นจากการดารงตาแหน่งผู้บริหารสูงสุดของสมาชิก ๑๗.๓ ลาออก ๑๗.๔ ตามมติของคณะกรรมการอานวยการไม่น้อยกว่า ๓ ใน ๔ ของจานวนสมาชิก ๑๗.๕ พ้นจากการเป็นสมาชิก ๑๗.๖ ตาย ข้อ ๑๘ อานาจและหน้าที่ของคณะกรรมการอานวยการ ๑๘.๑ ออกข้อบังคับ ระเบียบ คาสั่ง และประกาศต่าง ๆ เพื่อให้สมาชิกปฏิบัติ โดยต้องไม่ ขัดต่อธรรมนูญฉบับนี้ ๑๘.๒ แต่งตั้งคณะทางานชุดต่าง ๆ หรืออนุกรรมการ | ธ ร ร ม นู ญ ข่ า ย ง า น ห้ อ ง ส มุ ด ม ห า วิ ท ย า ลั ย ส่ ว น ภู มิ ภ า ค

(8)

๑๘.๓ จัดทาแผนงานประจาปีงบประมาณ งบประมาณรายรับและรายจ่ายของข่ายงาน ประจาปีงบประมาณ ๑๘.๔ บริหารงานและกิจกรรมต่าง ๆ ของข่ายงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ๑๘.๕ หน้าที่อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการอานวยการมีมติให้ดาเนินงาน ข้อ ๑๙ การประชุมคณะกรรมการอานวยการ ๑๙.๑ ต้องจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการอานวยการ อย่างน้อยปีละ ๓ ครั้ง ๑๙.๒ ต้องมีกรรมการเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่า กึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด มติของที่ ประชุมคณะกรรมการอานวยการที่ไม่ขัดกับธรรมนูญ ข้อบังคับ ระเบียบ คาสั่ง และประกาศของข่ายงาน ให้ถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ แต่ถ้าคะแนนเสียง เท่ากัน ให้ประธานคณะกรรมการอานวยการในการประชุมเป็นผู้ชี้ขาด ๑๙.๓ กรณีที่ประธานคณะกรรมการอานวยการ และรองประธานคณะกรรมการ อานวยการไม่อยู่ในที่ประชุม หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการที่เข้า ประชุมในคราวนั้นเลือกกรรมการคนใดคนหนึ่งทาหน้าที่เป็นประธานในการ ประชุมครั้งนั้น ข้อ ๒๐ ในกรณีที่ต้องมีการตีความตามธรรมนูญ ข้อบังคับ ระเบียบ คาสั่ง หรือประกาศ ให้ถือการ ตัดสินของคณะกรรมการอานวยการเป็นที่สิ้นสุด

หมวดที่ ๕ การเงินและทรัพย์สิน ข้อ ๒๑ ข่ายงานอาจมีรายได้และทรัพย์สินจากที่มา ดังต่อไปนี้ ๒๑.๑ ค่าสมาชิกข่ายงาน ๒๑.๒ เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาค ๒๑.๓ รายได้จากการจัดกิจกรรมหรือทรัพย์สินของข่ายงาน ข้อ ๒๒ ให้เหรัญญิกจัดทารายงานสถานะทางการเงินของข่ายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการ อานวยการรับทราบ และให้การรับรองทุกครั้งในการประชุมคณะกรรมการอานวยการ | ธ ร ร ม นู ญ ข่ า ย ง า น ห้ อ ง ส มุ ด ม ห า วิ ท ย า ลั ย ส่ ว น ภู มิ ภ า ค

(9)

ข้อ ๒๓ การโอนหรือการจาหน่ายทรัพย์สินอื่น ๆ ของข่ายงานที่มใิ ช่เงินสด จะกระทาได้โดยมติ ของที่ประชุมคณะกรรมการอานวยการเท่านั้น ข้อ ๒๔ การบริหารการเงินให้เป็นไปตามระเบียบของข่ายงาน

หมวดที่ ๖ การเปลี่ยนแปลงแก้ไขและการยุบเลิกข่ายงาน ข้อ ๒๕ ธรรมนูญ ข้อบังคับ และระเบียบของข่ายงานจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้โดยมติของที่ประชุม คณะกรรมการอานวยการเท่านั้น และจะต้องได้รับความเห็นชอบไม่น้อยกว่า ๓ ใน ๔ ของจานวนสมาชิก ข้อ ๒๖ การยุบเลิกข่ายงาน จะกระทาได้โดยมติของที่ประชุมคณะกรรมการอานวยการ โดยได้รับ ความเห็นชอบไม่น้อยกว่า ๓ ใน ๔ ของจานวนสมาชิก ยกเว้นเป็นการยุบเลิกเพราะเหตุ ของกฎหมาย ข้อ ๒๗ หากข่ายงานต้องยุบเลิกไปโดยเหตุใด ๆ ก็ตาม ให้มอบทรัพย์สินทั้งหมดของข่ายงานที่ เหลืออยู่ แก่สถาบันการศึกษา หรือองค์กรอื่น ๆ หรือตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ อานวยการ

บทเฉพาะกาล ข้อ ๒๘ การรับรองธรรมนูญครั้งแรกให้เป็นไปตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการอานวยการ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๘ วันที่ ๒๓-๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ณ สานักหอสมุด มหาวิทยาลัย บูรพา

| ธ ร ร ม นู ญ ข่ า ย ง า น ห้ อ ง ส มุ ด ม ห า วิ ท ย า ลั ย ส่ ว น ภู มิ ภ า ค

(10)

ข้อ ๒๙ ให้ห้องสมุด หรือหน่วยงานที่มีภารกิจที่เป็นห้องสมุดแต่เรียกชื่อเป็นอย่างอื่นจานวน 20 แห่งตามรายชื่อที่แนบท้ายที่เป็นสมาชิกอยู่ก่อนการประกาศใช้ธรรมนูญฉบับนี้ ยังคงเป็น สมาชิกต่อไป ประกาศ ณ วันที่ ๒๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘

(รองศาสตราจารย์อิ่มจิต เลิศพงษ์สมบัติ) ผู้อานวยการสานักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ประธานคณะกรรมการอานวยการข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค

| ธ ร ร ม นู ญ ข่ า ย ง า น ห้ อ ง ส มุ ด ม ห า วิ ท ย า ลั ย ส่ ว น ภู มิ ภ า ค

(11)

รายนามสมาชิกข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค (Provincial University Library Network-PULINET)

| ธ ร ร ม นู ญ ข่ า ย ง า น ห้ อ ง ส มุ ด ม ห า วิ ท ย า ลั ย ส่ ว น ภู มิ ภ า ค

(12)

สมาชิกข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค 1. สานักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 2. สานักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 3. สานักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 4. สานักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี 5. สานักทรัพยากรการเรียนรู้คุณหญิงหลงอรรถกระวีสุนทร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ 6. สานักหอสมุด มหาวิทยาลัยนเรศวร 7. สานักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยศิลปากร 8. สานักหอสมุด มหาวิทยาลัยบูรพา 9. สานักหอสมุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 10. สานักหอสมุด มหาวิทยาลัยทักษิณ 11. สานักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 12. สานักบรรณสารสนเทศ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช 13. ศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี 14. ศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 15. ศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 16. สานักหอสมุด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน 17. งานห้องสมุด กองบริการกลาง สานักงานวิทยาเขตศรีราชา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา 18. สานักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยนครพนม 19. ศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยพะเยา 20. กองส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์

| ธ ร ร ม นู ญ ข่ า ย ง า น ห้ อ ง ส มุ ด ม ห า วิ ท ย า ลั ย ส่ ว น ภู มิ ภ า ค