แผนธุรกิจเครื่องสาอาง 1. สถานะการฦณ์ทางการตลาดในปัรรุบัน อุตสาหกรรมเครื่องสาอางค์นั้นเจริญเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจเป็นอย่างมากเนื่องจากไม่ว่า เศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร หญิงสาวก็ต้องสวย เพื่อเพิ่มความมั่นใจ และเสริมบุคลิกภาพให้ตนเองเสมอ ตลาดเครื่องสาอางค์จึงเติบโตอย่างรวดเร็วในหลายปีที่ผ่านมา เครื่องสาอางค์ที่ทางบริษัทได้รับมาจัด จาหน่ายนั้นได้รับมาตรฐาน GMP แล้วทั้งสิ้นจึงปลอดภัยไร้ความกังวล เครื่องสาอางค์มาตราฐาน GMP คืออะไร GMP ในปัจจุบันธุรกิจเครื่องสาอางมีมูลค่าไม่น้อยกว่าธุรกิจด้านอื่นๆ ทั้งยังมีการแข่งขันกัน ระหว่างเครื่องสาอางที่นาเข้าจากต่างประเทศและเครื่องสาอางที่ผลิตในประเทศ ในระดับสูง อย. มีมาตรการ ส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมเครื่องสาอางในประเทศไทยให้มีความสามารถผลิต เครื่องสาอางคุณภาพดี เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก เพื่อส่งออกเป็นการสร้างรายได้เข้าประเทศ และคนไทยก็ จะได้มีโอกาสใช้เครื่องสาอางคุณภาพดีตามนโยบายที่กาหนดไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7 (พ.ศ.2535-2539)ได้กาหนดให้มีการจัดทาหลักเกณฑ์ที่ดีในการผลิต เครื่องสาอาง (Good Manufacturing Practice : GMP) เพื่อให้ผู้ประกอบการนาไปใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อพัฒนาคุณภาพของ เครื่องสาอาง ปัจจุบันนี้มีสถานที่ผลิตเครื่องสาอางได้รับหนังสือรับรองมาตรฐานการผลิต เครื่องสาอางรวมทั้งสิ้นกว่า 30 แห่ง แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่(พ.ศ.2540-2544)ยังคงสนับสนุนการพัฒนาการผลิต เครื่องสาอางในประเทศต่อไป โดยมุ่งพัฒนาสถานที่ผลิตเครื่องสาอางทั้งที่เป็นโรงงานขนาดใหญ่ รวมทั้ง โรงงานขนาดเล็ก และอุตสาหกรรมในครัวเรือน ด้วย โดยแบ่งเป็น 2 ระดับคือ 1. โรงงานผลิตเครื่องสาอางขนาดใหญ่ และขนาดกลาง ที่มีความพร้อมทาง ด้านเงินทุน เทคโนโลยี่ และบุคคลากร อย.จะสนับสนุนให้มีการยกระดับมาตรฐานการ ผลิตเครื่องสาอาง ตามเกณฑ์ GMP ที่จะช่วยให้ทุกขั้นตอนของการผลิตเป็นไปตามหลักวิชาการ โดยเริ่ม ตั้งแต่ความเหมาะสมของอาคารสถานที่ผลิต อุปกรณ์การผลิต การคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ กรรมวิธีที่ดี ในการผลิต บุคคลากรที่มีความรู้ความสามารถ และมีทักษะในการดาเนินการ รวมทั้งระบบเอกสารที่ ครบถ้วน เพื่อจะได้ผลิตเครื่องสาอางที่มีคุณภาพดีสม่าเสมอ เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ
2. โรงงานผลิตเครื่องสาอางขนาดเล็ก และอุตสาหกรรมในครัวเรือน มักมี ข้อจากัดในเรื่องของเงินทุน เทคโนโลยี และบุคคลากร ยากที่พัฒนาการผลิตให้ถึงระดับตามเกณฑ์ GMP ได้ แต่หากไม่ปรับปรุง พัฒนาขั้นตอนการผลิต ผู้บริโภคจะมีความเสี่ยงต่อการได้รับเครื่องสาอางที่ ด้อยคุณภาพ ไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะการปนเปื้อนของโลหะหนัก และจุลินทรีย์ ดังนั้นจึงมีการกาหนดเกณฑ์ มาตรฐานเพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง เรียกว่า หลักเกณฑ์ว่าด้วยสุขลักษณะที่ดีในการผลิตเครื่องสาอาง (Good Hygienic Practice) หรือเรียกย่อๆว่า GHP ซึ่งจะมีความเข้มงวดน้อยกว่า GMP โดยจะเน้นในเรื่องของความ สะอาด และสุขลักษณะที่ดีในการผลิตเครื่องสาอางเป็นสาคัญ นอกจากการพัฒนาการผลิตเพื่อยกระดับ มาตรฐานของเครื่องสาอางแล้ว ยังมีการพัฒนาการผลิตในกรณีที่เครื่องสาอางมีปัญหาเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัย อีกด้วย
2. วิเคราะห์สถานการณ์ (SWOT Analysis) Strengths: จุดแข็ง 1. รูปแบบสวยงามดึงดูดผู้ใช้ 2. ราคาถูก เหมาะสาหรับทุกวัย 3. คุณภาพสินค้าเป็นที่ยอมรับ 4. มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะผลิตภัณฑ์ 5. สินค้ามีหลากหลายประเภท 6. หาซื้อได้ง่าย 7. มีบริการส่งสิ้นค้าฟรี 8. มีเครื่อข่ายในการขายสินค้าเยอะ 9. สินค้ากระจายตัวได้เร็ว 10.มีแพ็กเก็จที่ดี Weakness: จุดอ่อน 1. สินค้ามีวางขายตามตลาดทั่วไป ทาให้มีคู่แข่งมาก 2. ลูกค้ามีทางเลือกมาก 3. หากคู่แข่งวางสินค้าขายถูกกว่า จะไม่ประสบความสาเร็จ 4.การขายผ่านอินเตอร์เน็ต ไม่ค่อยน่าเชื่อถือ
Opportunity: โอกาส 1. สินค้าติดตลาด จาหน่ายง่าย 2. ธุรกิจมีอัตราการเจริญเติบโตสูง 3. ช่องทางการจัดจาหน่ายมีหลากหลาย 4. เป็นสินค้าที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องใช้ 5.การขายทางอินเตอร์เน็ต สินค้าจะกระจายไปได้เร็ว Threats: อุปสรรค 1. สภาพเศรษฐกิจทาให้จานวนผู้ซื้อสินค้าลดลง 2. คู่แข่งขันมากเนื่องจากเป็นสินค้าที่สามารถทดแทนกันได้ 3. ไม่่ได้มีสื่อในการโฆษณามากเท่าไหรทาให้คนค่อยไม่่รู้จัก
3. วัตถุประสงค์ของกิจการ - เพื่อสร้างกาไรจากการจาหน่ายสินค้า - เพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจาหน่าย - เพื่อแสดงภาพลักษณ์ของธุรกิจให้เป็นที่รู้จักของตลาด - เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น - เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้า
4. กลยุทธ์ทางการตลาด ในการวางกลยุทธ์ทางการตลาดนั้นเราจะใช้ กลยุทธ์การตลาดอิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่มาอ้างถึงดังนี้ 4Cs กลยุทธ์การตลาดแนวใหม่ ในยุคทองของอินเทอร์เน็ต ถ้าบอกว่าสูตรสาเร็จด้วยวิธีการทางการตลาดแบบ 4Ps ที่มี Product, price, Place, Promotion นั้น ไม่เพียงพออีกต่อไปแล้วก็ว่าได้ ที่เป็นอย่างนั้นเพราะวิวัฒนาการของโลก ได้เปลี่ยนแปลงไปไกล กว่ายุค
เดิมหลายช่วงตัว ว่าไปแล้วสิ่งที่ทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคือเครื่องมือสื่อสารยุคใหม่เข้ามามี บทบาทสาคัญ นั่นคือ อินเทอร์เน็ต „ หากมองย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วมีใครคิดบ้างว่าอินเทอร์เน็ตจะมีบทบาทได้ถึงเพียงนี้ เพราะ ตอนนั้น มันถูกใช้อยู่ในวงจากัด ถ้าเป็นเมืองไทยก็ใช้เฉพาะนักวิชาการ นักวิจัย และองค์กรข้ามชาติ บางรายเท่านั้น แต่พอถึงยุคนี้ อินเทอร์เน็ตได้กลายเป็นเครื่องมือจาเป็นอย่างหนึ่งในการประกอบ ธุรกิจไปแล้ว „ เมื่อสาคัญเช่นนี้ อินเทอร์เน็ตจึงจัดให้อยู่ในระดับสาคัญมากในภาคการตลาดและการสื่อสาร การตลาด และแล้วก็เป็นที่มาของการเกิดกลยุทธ์ใหม่ที่นามาใช้ร่วมควบคู่ไปกับ 4Ps นั่นคือ 4Cs หรือบางสูตรว่า 4Cs เข้าไปแทนที่ 4Ps „ 4Cs ประกอบด้วย Consumer, Cost, Convenience, Communications ทั้ง 4 มีหัวใจรวมศูนย์ที่ให้ ความสาคัญต่อลูกค้า หรือ โฟกัสลูกค้าเป็นสาคัญ „ Consumer เน้นความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก หรือหากบอกให้ตรงใจ คือเข้าถึงใจผู้บริโภคให้ ได้มากที่สุด รวมไปถึงบริหารความสัมพันธ์ของลูกค้า หรือที่เรียกว่า CRM Customer Relation Management)โดยต้องยึดหลักการสรรค์สร้างสินค้าและบริการให้ตรงใจลูกค้าใน ทุกๆ กลุ่ม „ Cost ทาให้ต้นทุนต่าที่สุดเพื่อให้จะได้กาหนดราคาขายถึงมือผู้บริโภคต่าไปด้วย ซึ่งจะเป็นที่ ได้เปรียบในการแข่งขัน ด้านราคากับคู่แข่ง „ Convenience ช่องทางการจัดจาหน่ายต้องอานวยให้ผู้บริโภคสะดวกซื้อมากที่สุด ยิ่งมีช่องทาง หรือ หน้าร้านมากเท่าไร โอกาสที่ผู้บริโภคจะซื้อมากเท่านั้น เพราะผู้บริโภคในปัจจุบันมิได้ยึดติดกับ สถานที่เดิม สักเท่าไร „ Communications เป็นเรื่องที่สาคัญยิ่ง และมีองค์ประกอบหลายด้าน จากความหมายตรงตัวที่แปลว่า การสื่อสาร จึงรวมตั้งแต่การติดต่อสื่อสารที่ต้องสะดวก ง่าย รวดเร็ว การสื่อสารที่สร้างความรับรู้ให้ ผู้บริโภคและตลาด ซึ่งได้แก่การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขาย รวมถึงสื่อสารแบบ กระตุ้นตลาด ได้แก่การจัดงานแสดงสินค้า การจัดนิทรรศการงานโชว์ การตลาดเชิงรุกหรือ การตลาดแบบตรงและเข้าถึงลูกค้ารายตัว ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ หากนาไปผนวกรวมกับกลยุทธ์ 4Ps เดิมก็จะยิ่งเสริมให้การตลาดแข็งแกร่งยิ่งขึ้น แต่ที่ ขาดไม่ได้ของกลยุทธ์โฉมใหม่ทั้ง 4 เรื่องหลัง (4Cs) จะต้องมีตัวช่วย ตัวช่วยนั้นคือสื่อยุคใหม่ หรือ อินเทอร์เน็ต เพราะอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสาคัญที่จะทาให้เจ้าของผลิตภัณฑ์ใช้เป็น เครื่องมือทาง การตลาดอันจะแจกแจงได้ว่าอินเทอร์เน็ตช่วยในแต่ละ C อย่างไรบ้าง
- Consumer อินเทอร์เน็ตช่วยลดความห่างระหว่างผู้ประกอบการและผู้บริโภคให้น้อยลง ตัวอย่างเช่น ผู้บริโภคสามารถส่ง Comment ถึงตรงผู้ประกอบการได้ ซึ่งตรงนี้จะเป็นข้อมูลสาคัญเพื่อนาไปปรับปรุง แก้ไขในสิ่งที่ลูกค้าบอกว่า ได้ ส่วนผู้ประกอบการเองก็สามารถเข้าถึงใจผู้บริโภคได้มากขึ้น - Cost ต้นทุนดาเนินการลดลงได้หากใช้อินเทอร์เน็ต เช่นใช้อีเมลล์แทนการส่งแฟกซ์/ส่งรูปต่างๆ เหล่านี้ ล้วนมีส่วนลดค่าดาเนินการทั้งสิ้น - Convenience อินเทอร์เน็ตช่วยให้สะดวกขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายผู้สั่งซื้อ หรือผู้เสนอขาย หลายท่าน คุ้นเคยการสั่งซื้อของผ่านช่องทางนี้ - Communications หัวข้อนี้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสาคัญ ทั้งการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ที่ใช้ อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อได้เป็นอย่างดี การส่งเสริมการขายก็สามารถทาผ่านอินเทอร์เน็ตได้ ข้อดีของอินเทอร์เน็ต คือทาให้การโฆษณาประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขายนั้นจะแผ่ขยายวงการออกไปไม่เฉพาะที่ใดที่หนึ่ง สื่อใดสื่อหนึ่ง แต่หมายถึงสร้างความรับรู้ได้ทั่วโลกเลยในคราเดียว การสร้างตลาดอิเล็กทรอนิกส์นั้นจึงได้เปรียบทั้งเชิงการลงทุนที่ต่าสามารถขยายกลุ่มลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และสามารถประเมินกิจการได้ง่ายเพราะเป็นช่องทางที่สามารถโต้ตอบกันได้ระหว่างกิจการและลูกค้าทาให้ เราสามารถรับรู้ได้ว่าลูกค้าต้องการสินค้าและบริการแบบใด
5. แผนการดาเนินงาน „ กลยุทธ์ระดับองค์กร (Corporate Level Strategy) จากการประเมินศักยภาพของ ธุรกิจเครื่องสาอางออนไลน์ ให้พร้อมเผชิญหน้ากับการแข่งขันทางธุรกิจ กล ยุทธ์ระดับองค์กรที่เลือกใช้ คือ เน้นกลยุทธคงตัว (Stability Strategy) ไม่มีการลงทุนใด ๆ ในช่วงนี้ แต่ มุ่งเน้นในธุรกิจเดิมให้เข้มแข็ง เพื่อ ในการขยายธุรกิจต่อไปในอนาคต „ กลยุทธ์ระดับธุรกิจ (Business Level Strategy) จากการวิเคราะห์จุดแข็งของกิจการ ผนวกกับกลยุทธ์ระดับองค์กรที่เลือกใช้ เห็นว่า่ธุรกิจเครื่องสาอาง ออนไลน์ ควรเลือกใช้กลยุทธ์ระดับธุรกิจ เน้นความแตกต่างของสินค้า โดยนาศักยภาพในด้าน สินค้าใหม่ ๆ ให้กับสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ของผู้บริโภคมาใช้เครื่องสาอางออนไลน์กันมากขึ้น „ กลยุทธ์ระดับปฏิบัติการ (Functional Level Strategies)
ด้านการบริหารจัดการ 1. เน้นดาเนินงานที่ก่อให้เกิดคุณภาพที่สูงที่สุด 2. สรรหาบุคคลกรที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีความสามารถสูง
ด้านการตลาด 1. พยายามทาการตลาดในทุกรูปแบบเพื่อนาเสนอความแตกต่างในตัว สินค้าและบริการ แก่ลูกค้า 2. มีการออกแบบที่สร้างความแตกต่าง โดยความแตกต่างนั้นลูกค้าต้องรับรู้และยอมรับได้ ด้านการผลิต 1. มีคุณภาพได้มาตรฐาน 2. คุณลักษณะถูกต้องตรงตามความต้องการของลูกค้าในกลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่/ขอบเขตกว้าง ด้านการเงิน 1. เน้นการใช้เงินไปในสิ่งที่ช่วยเพื่อเพิ่มคุณภาพของสินค้าและบริการ 2. การกู้เงินหรือขายหุ้นเพิ่มทุน จะทาไม่ว่าสถานการณ์ทางด้านการเงินในขณะนั้นจะเป็นเช่นไรก็ตาม
6, แผนการปฏิบัติงาน „ รูปแบบธุรกิจ ธุรกิจเครื่องสาอางออนไลน์ ดาเนินงานมาแล้วเป็นเวลา 5 เดือน ในรูปแบบของห้างหุ้นส่วน ภายหลังเมื่อมี การดาเนินงานตามแผนธุรกิจแล้วจะไม่มี การปรับเปลี่ยนการบริหาร ทั้งนี้เพื่อ ช่วยกันบริหารงานไปอย่าง ต่อเนื่อง „ โครงสร้างองค์กร และผังบริหาร ปัจจุบันโครงสร้างการบริหารงานภายในองค์กรสามารถเขียนเป็นแผนผังได้ ดังนี้
„ ทีมผู้บริหารและหลักการบริหารงาน o รายชื่อคณะกรรมการ และกรรมการบริหาร ปัจจุบันคณะกรรมการของกิจการประกอบด้วย 1. นางสาวขวัญกมล จันมิตร
ตาแหน่ง ผู้จัดการร้าน
2. นางสาวสุกัญญา นวลเกลี้ยง ตาแหน่ง ฝ่ายคลังสินค้า 3. นางสาวอรนุช
ณ พัทลุง ตาแหน่ง ดูแลเว็บ
ภายหลังการดาเนินงานตามแผนธุรกิจจะมีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการเป็นดังนี้ 1. นางสาวขวัญกมล จันมิตร
ตาแหน่ง ผู้จักการร้าน บัญชี
2. นางสาวสุกัญญา นวลเกลี้ยง ตาแหน่ง ฝ่ายคลังสินค้าและจัดซื้อ 3. นางสาวอรนุช
ณ พัทลุง ตาแหน่ง ดูแลและพัฒนาเว็บไซต์
o ลักษณะการบริหารงาน ในด้านการบริหารงานมีลักษณะ เป็นคณะกรรมการ โดยมีนางสาวขวัญกมล จันมิตร
เป็นผู้บริหารที่
มีอานาจการตัดสินใจสูงสุด ในตาแหน่งผู้จักการ้าน การทางานในส่วนของสานักงานเข้าทางานเวลา 8.00 ถึง17.30 น. ในภายหลังเมื่อมีการดาเนินงานตามแผนธุรกิจแล้วจะปรับเปลี่ยนระบบการบริหาร งานเป็น การรวมอานาจ โดยมี
1.นางสาวขวัญกมล จันมิตร
ตาแหน่ง ผู้จักการร้าน บัญชี
2. นางสาวสุกัญญา นวลเกลี้ยง ตาแหน่ง ฝ่ายคลังสินค้าและจัดซื้อ 3. นางสาวอรนุช ณ พัทลุง
ตาแหน่ง ดูแลและพัฒนาเว็บไซต์
การทางานในส่วนของสานักงานเข้าทางานเวลา 8.00 ถึง17.30 น. แผนด้านบุคลากร o กาลังคนในปัจจุบัน อัตราการหมุนเวียนของพนักงาน และแผนด้านกาลังคน ปัจจุบันกิจการมีพนักงานทั้งสิ้น 3 คน แบ่งเป็น อัตราการหมุนเวียนของพนักงานเฉลี่ย 3 คน / เดือน และมีแผนการสรรหา และป้องกันการขาดแคลนแรงงานฝีมือที่สาคัญต่อกระบวนการผลิต โดย 1. จัดหาการอบรมเพิ่มในแต่ละส่วน 2. จัดหาการไปดูงานนอกสถานที่ในแต่ละส่วนงาน
7.แผนการเงิน ๐ การลงทุนในกิจการ
รายการ
1. สินทรัพย์ถาวร 1.1 ที่ดิน 1.2 อาคาร 1.3เครื่องจักรและอุปกรณ์ 1.4 รถยนต์ 1.5 เครื่องใช้สานักงาน
แหล่งที่มา
รวม
ส่วนของเจ้าของ
แหล่งที่มา เจ้าหนี้(กู้ยืม)
0 0 0 200,000 0
0 0 0 300,000 0
0 0 0 500,000 0
1.6 อื่นๆ รวมสินทรัพย์ถาวร 2.ค่าใช้จ่ายก่อนการดาเนินงาน รวมค่าใช้จ่ายก่อนการดาเนินงาน 3. เงินทุนหมุนเวียน 3.1 สินค้าคงเหลือเตรียมไว้ขาย 3.2 สินค้าที่ขายเป็นเงินเชื่อ 3.3 เงินสดสารองไว้ใช้ในการ ดาเนินงาน รวมเงินทุนหมุนเวียน รวมต้นทุนโครงการทั้งสิ้น อัตราส่วนเจ้าของ/เงินกู้
200,000 500,000 500,000
300,000 400,000 400,000
500,000 900,000 900,000
80,000 50,000 120,000
50,000 30,000 100,000
130,000 80,000 220,000
350,000 1,050,000
180,000 880,000 6 ต่อ 4
530,000 1,930,000
๐ ประมาณการทางการเงินของกิจการในอนาคต 5 ปี - การประมาณยอดขาย จะพิจารณาจากปัจจัย ดังนี้ 1. จานวนของแต่ละช่องทางการจาหน่าย ช่องทางการจาหน่าย ร้านค้า เคาน์เตอร์ สถานส่งเสริมการขาย ออเดอร์ทางอีเมล์
2012 0 0 1 2
2013 0 0 1 3
2014 0 0 0 3
2015 0 0 0 3
2016 0 0 0 3
2.จานวนลูกค้าที่คาดว่าจะซื้อสินค้าในแต่ละช่องทางจาหน่ายต่อวันและจานวนเงินที่ลูกค้าแต่ละรายใช้จ่าย ในการซื้อต่อครั้งจากจากแต่ละช่องทางการจาหน่าย
ช่องทางการจาหน่าย
จานวนลูกค้าต่อวัน(คน)
ร้านค้า เคาน์เตอร์ สถานที่ส่งเสริมการขาย ออเดอร์ทางอีเมล์
0 0 20 6-9
จานวนเงินที่ลูกค้าจ่่ายในการซื้อต่อ ครั้ง(บาท) 0 0 220-230 300-350
3. ปัจจัยด้านฤดูกาล เนื่องจากสินค้าเป็นสินค้าอุปโภค ซึ่งมีการใช้อยู่เป็นประจา จึงไม่มีผลกระทบจากปัจจัย ด้านฤดูกาล แต่ในการประมาณยอดขายได้คานึงถึงผลกระทบเกิดจากการเพิ่มการบริโภคในช่วงเทศกาล ต่างๆไว้แล้ว ๐ การประมาณการต้นทุนสินค้า 1. ราคาต้นทุนสินค้าที่กาหนดมาจากผู้ผลิต „
ยาสระผม
„ ครีมนวดผม
20 บาท 24 บาท
„ สบู่ก้อน
6 บาท
„ สบู่เหลว
20 บาท
„ ครีมล้างหน้า
17 บาท
„ ครีมบารุงหน้า
24 บาท
„ โลชั่น
20 บาท
„ แป้งตลับ
150 บาท
„ ลิปสติก
60 บาท
„ บรัชออน
85 บาท
„ มาสคาร่า
50 บาท
„ อายเลนส์เนอร์
75 บาท
2. ค่าใช้จ่ายในการขนส่ง(คิดเป็น%ของราคาต้นทุน) „ โรงงาน-สานักงาน
1.0-3.0%
„ ค่าขนส่งแบบ “Delivery”
10.0%
„ สานักงาน-สถานที่ส่งเสริมการขาย 3.0% ๐ การประมาณค่าใช้จ่ายจ่ายต่างๆ 1. ค่าใช้จ่ายการดาเนินงาน
245,000 บาท
2. ค่าใช้จ่ายในการบริหาร „ เงินเดือนพนักงาน - กรรมการผู้จัดการ - ผู้จัดการฝ่ายการตลาด
20,000 บาท 15,000 บาท
- ผู้จัดการฝ่ายการเงิน
15,000 บาท
- ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ
15,000 บาท
- เภสัชกร
12,000 บาท
- พนักงาน
7,000 บาท
โดยมีอัตราการเพิ่มเงินเดือนอยู่ประมาณปีละ 5% „ ค่าเช่าสานักงาน
20,000 บาท ต่อ เดือน
„ ค่าสาธารณูปโภค
17,000 บาท ต่อ เดือน
„ ค่าชื่อเว็บไซด์(Domen name)
12,500 บาท ต่อ ปี
„ ค่าพื้นที่เว็บไซต์(Bฺ usiness plan)
8,000 บาท ต่อ ปี
„ ค่าจัดทาเว็บไซต์
5,000 บาท ต่อ ปี
3. ค่าใช้จ่ายในการขาย
ค่าตกแต่งสถานที่ขาย เงินเดือนพนักงานขาย ค่าเช่าสถานที่ขาย ค่านายหน้าและส่วนลด
ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม
ร้่านค้า 0 6,000 0 5%ของ ยอดขาย
เคาน์เตอร์ 0 6,000 0 25%ของยอดขาย
บริการจัดส่ง 0 7,000 0 ไม่มีค่านายหน้า
ซุ้มสินค้า 0 300 บาท/วัน 0 5%ของยอดขาย
3,000/คน
8. stp Segmentation:ยี่ห้อนี้ เป็นเครื่องสาอางที่มีคุณภาพดีปานกลางและราคาปานกลางไม่สูงมาก เหมาะสาหรับ เด็กวัยรุ่น กลุ่มบริโภค ก็จะเป็นเด็กวัยรุ่นตั่งแต่อายุ 13ปี-35ปี Target Market :เครื่องสาอางยี่ห้อนี้ ก็จะโฆษณา โดยบอกสรรพคุณของสินค้านั้น ว่าดีอย่างไรสามารถติด ทนนานได้ดีแค่ไหน ก็จะสามารถดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อมากขึ้น ยิ่งถ้าเป็นสินค้าใหม่ คนก็จะสนใจมากยิ่งขึ้น Positioning :ยี่ห้อนี้ เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสาอางที่ให้ความสวยงามแก่ผู้หญิง กลุ่มเป้าหมายของสินค้า คือ กลุ่มวัยรุ่นเพศหญิง ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปี ขึ้นไป โดยมีระดับชั้นของกลุ่มสังคมคือระดับชั้นปานกลาง