เล่ม 5. อัศจรรย์ทันตา ปาฏิหาริย์ทันใจ แก้เรื่องงาน เงิน โชคลาภ

Page 1



ขออนุโมทนาคุณงามความดีบุญกุศลทั้งหมดที่เกิดขึ้น ในหนังสือเล่มนี้ น้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา น้อมถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่ องค์ปฐมจนถึงพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน พระปัจเจกพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอรหันต์เจ้า พระมหาโพธิสตั ว์ พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ ที่เคยเกิดขึ้นมาในทุกกัป ทุกกัลป์ พรหมเทพเทวาทัว่ สากลโลก พ่อแม่บพุ การีทงั้ ที่ เป็นมนุษย์และอมนุษย์ ครูบาอาจารย์สืบๆ กันมา ผูม้ พี ระคุณในทุกภพชาติ ทุกพระองค์ ทุกองค์ ทุกท่าน อีกทั้งเจ้ากรรมนายเวรในทุกภพชาติ เหล่าสรรพสัตว์ สรรพวิญญาณ ท่านผูร้ ว่ มสร้างบุญหนังสือเป็นธรรมทาน ท่านผู้ อ่านทุกท่าน พบแต่ความสุข ความเจริญ ขอให้ความไม่มี ไม่พอ อุปสรรคทัง้ หลายอย่าได้มี อย่าได้เกิดจวบจนถึง พระนิพพานเทอญ


แก้เรื่องงาน เงิน โชคลาภ แ บ บ ทั น ต า เ ห็ น ปาฏิหาริย์วิชาศักดิ์สิทธิ์ ๕


ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมาในชีวิต... เราเป็นผู้สร้างขึ้นมาเองทั้งสิ้น ปัญหาและอุปสรรคในเรือ่ งการงานและการเงิน ถือเป็น อีกปัญหาใหญ่ของมนุษย์ในโลกปัจจุบันจากเดิมมาก นอกเหนือจากเรื่องอื่นๆ ของเหล่าสรรพสัตว์ที่ยังต้อง เวียนว่าย ตาย เกิด โดยมี “ก®แห่งกรรม” เป็นผูล้ ขิ ติ ให้เกิด เรื่องราวต่างๆ ขึ้นมาทั้งสิ้น


5

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

การแก้ไขกรรมในหลักของพระพุทธศาสนานั้น ไม่ใช่การนัง่ ทางในมีนมิ ติ ย้อนเวลาไปหยุดหรือแก้ไขใน สิง่ ทีท่ าำ มาแล้ว ซึง่ ไม่มที างเป็นไปได้ หรือไปทำาพิธกี รรม แปลกๆ เพื่อลบล้างกรรมที่ทำามาซึ่งก็ไม่ได้อีกเช่นกัน เพราะไม่มอี าำ นาจใดในโลกนีล้ บล้างกรรมได้ ไม่มอี าำ นาจ วิเÈษอะไรมาหยุดกรรมไม่ให้ส่งผลได้ และการแก้ไขกรรมในหลักของพระพุทธศาสนา นั้น เป็นการเปลี่ยนกรรมใหม่จากที่อาจจะไม่ดีให้กลับ มาดี ไม่ใช่การก้มหน้านิ่งยอมจำานน ยอมรับผลกรรม เก่าโดยไม่ทาำ อะไรเลย แต่พระพุทธองค์สอนให้รถู้ งึ เหตุ ถึงวิธแี ก้ไขเปลีย่ นแปลงกรรมเพือ่ ให้ชวี ติ ในปัจจุบนั และ อนาคตดีขึ้นด้วยมือของเราเอง เพร�Ðเร�เองคือ ผู้สร้�ง ผู้ผูกกรรมนัéน ขึ้นมา เราต้องลงมือแก้ไขเอง ไม่มีอำานาจใด ãครอื่น สิ่งอื่นม�ทำ�แทนเร�ได้ทัéงสิéน


6

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

และทีบ่ อกว่า “ทันตาเหçน” นัน้ ครูบาอาจารย์ทา่ น หมายความว่า จะได้เห็นกันถึงชะตาชีวิตที่เปลี่ยนใน ชาติน้ี บางคนอาจจะช้า บางคนอาจจะไม่กว่ี นั ไม่กเ่ี ดือน เรื่องนี้ขึ้นอยู่ที่บุญและกรรมของคนคนนั้น รวมถึงต้อง เป็นการเปลี่ยนกรรมที่ถูกต้องและต้องเป็นผู้ที่เปลี่ยน กรรมแบบ “ทำาดีให้สุดขั้ว หนีชั่วให้สุดชีวิต” คำาว่า “¡รรม” ในพระพุทธศาสนานัน้ หมายถึง “การกระทำา” ลัทธิหรือความเข้าใจเรือ่ งกรรมทีผ่ ดิ จะก่อผลร้าย ต่อผูท้ มี่ คี วามเชือ่ ทีผ่ ดิ นัน้ มีอยู่ ๓ รูปแบบทีค่ วรทราบ ก่อนอื่นใด ๑. ลัทธิแล้วแต่กรรมเก่า หลายคนเชื่อว่าในชีวิตของเราทุกวันนี้เป็นผล มาจาก “¡รรมเ¡่า” ที่ทำาไว้แต่ชาติปางก่อน½†ายเดียว ทั้งสิ้น และไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว ในชาตินี้


7

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ความคิ ด ความเชื่ อ นี้ เ ป็ น สิ่ ง ที่ อั น ตรายและ ผิดเพีย้ นมาก เป็นความเชือ่ ทีส่ วนทางกับก®ธรรมชาติ และก®แห่งกรรมมาก ผูท้ เี่ ชือ่ แบบนีจé Ðกล�ยเปšนบุคคลปรÐเภท ขี้ แ พ้ ต ลอดกาล ประเภท “ยอมจำ า นนต่ อ ชÐต�กรรมของตนเองอย่�งไม่คิดที่จÐแก้ไข อะไรเลย” เพราะความเชือ่ ในลัทธิกรรมเก่าทีผ่ ดิ ๆ นีท้ าำ ให้ เมือ่ เจอปัญหาหรืออุปสรรคอะไรในชีวติ อาจจะหลงทาง จนแก้ไขอะไรไม่ได้ เช่น คนที่ได้ประกอบอาชีพธุรกิจ การงานอย่างสุจริต แต่กลับถูกคดโกงหรือทำาธุรกิจ การค้าพลาดจนหมดเนื้อหมดตัว แทนทีจ่ ะเรียนรูจ้ ากการผิดพลาด ค้นหาวิธแี ก้ไข ป้องกันระงับไม่ให้เกิดขึน้ อีก หรือรีบยับยัง้ รีบหยุดปัญหา นัน้ ไม่ให้ลกุ ลามใหญ่โต ตัง้ สติยอ้ นกลับไปดูวา่ เหตุทที่ าำ ให้เกิดเป็นแบบนัน้ เพราะอะไร มีปจั จัยอะไรทีไ่ ปสนับสนุน ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น


8

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

โดนเขาโกงเพราะเราขาดปัญญาทางโลกหรือไม่ เช่น ปล่อยเครดิตมากไปหรือเปล่า ทำาธุรกิจเสีย่ งเกินไปไหม เปอร์เซ็นต์ทจี่ ะขาดทุนมากกว่ากำาไร หรือเราดูแลลูกค้า ดีหรือเปล่า ทำาเลที่ตั้งค้าขายดีไหม ความสามัคคี ในกลุ่มลูกน้องคนทำางานดีหรือไม่ มั่นใจเกินเหตุโดย ไม่¿ังใครเขาไหม ฯลฯ มีทั้งเหตุและป˜จจัยมากมายที่ไม่ใช่กรรม เก่าอะไรเลย แทนที่ จ ะมาหาเหตุ แ ละลงมื อ แก้ ไ ขจุ ด อ่ อ น เหล่านี้ ก็มัวแต่นั่งรอรับชะตากรรมคิดว่าช่างมันเถอะ ปล่อยให้เขามาเอาเปรียบ มาโกง หรือให้เรื่องร้ายๆ เข้ามาเรือ่ ยๆ นีม่ นั คงเป็นกรรมเก่าของเราเองทีเ่ คยไป ทำาไว้กับใครเขามาแต่ชาติปางก่อน เพราะเชือ่ แบบล้านเปอร์เซ็นต์วา่ เป็นกรรมเก่าจึง ไม่ยอมแก้ไขอะไร พอครอบครัวแตกแยก ความรักมีปญั หา ก็โทษไปโน่นเลยว่าชาติกอ่ นเราคงไปทำาใครเขาไว้ เคยไป สร้างความเดือดร้อน ทัง้ ๆ ทีอ่ าจจะมาจากตัวเราเอง


9

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

การดูแลเอาใจใส่ของเราที่บกพร่อง นิสัยหรือ สันดานเสียๆ ของเราทีเ่ ราไม่ยอมลดราวาศอก ไม่ปรับตัว เข้าหากัน หรือมัวเมาในกามารมณ์ไม่มีสติยับยั้งจน เกิดเรื่องราวขึ้นมา คนที่เจ็บป†วยแล้วไม่ยอมไปรักษา ทั้งๆ ที่หมอ เก่งๆ มีมากมาย กลับไปโทษเจ้ากรรมนายเวร เหมาไปเอง เลยว่าเป็นโรคเวรโรคกรรม ขอชดใช้กรรม ใครคิด แบบนี้ก็คงได้ตายสมใจแน่ จริงอยู่ในบางโรคนั้นเป็นโรคเวรโรคกรรมที่เคย ทำามาแต่ปางก่อน แต่ไม่ใช่ทกุ โรค อุบตั เิ หตุทที่ าำ ให้เจ็บ หนักหรือขัน้ ตายได้นนั้ มาจากความประมาท ความไม่มี สติ ความมึนเมา เจ้ากรรมนายเวรเขาไม่ได้ทาำ อะไรเลย แม้แต่ปลายเล็บ เราเองนัน่ แหละเป็นผูท้ าำ ให้เกิดขึน้ ... อย่า ไปโทÉãครเข�เลย


10

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ความเชือ่ ทีว่ า่ อะไรๆ ในชีวติ ก็แล้วแต่กรรมเก่า ที่จะบันดาลให้เป็นไป½†ายเดียว แก้ไขอะไรไม่ได้นั้น ไม่ใช่คำาสอนในพระพุทธศาสนา เป็นความเชื่อเรื่อง กรรมเก่าแบบบ้าคลั่งที่มีมาก่อนพระพุทธศาสนา และ กดคนไว้ไม่ให้โงหัวลุกขึ้นมาพั²นาอะไรดีๆ ในชีวิต พรÐพุท¸เจ้�เปšนผู้ม�ลบล้�งคว�มเชื่อที่ ดูโง่งมง�ยเหล่�นีอé อกไปจ�กโลก จ�กãจมนุÉย ที่ยังไม่ตื่นทุกคน คำาสอนในพระพุทธศาสนา ทำาให้เรารูว้ า่ สิง่ ต่างๆ ใน ชีวติ ของเราทีเ่ กิดขึน้ นัน้ ล้วนต้องมีเหตุ มีปจั จัยแวดล้อม ต่างๆ มากมายหนุนให้เกิดขึน้ มีทง้ั กรรมใหม่และกรรมเก่า เป็นผู้กำาหนด ชีวิตจะเป็นอย่างไร ดีเลว ประณีตหรือ ชั่วช้าต่ำาทราม ทุกข์หรือสุข มาจากการกระทำาของ ตัวเราทั้งสิ้น ไม่ใช่มีชีวิตในแต่ละวัน รอให้กรรมเก่าบันดาล ชีวิตให้เป็นไปตามวิถีของกรรมเก่าแล้วก็จบกัน ไม่ได้ แก้ไขอะไรให้ดีขึ้นเลย


11

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

หากใครทีย่ งั คิดแบบนีร้ บั รองว่าชีวติ ทีเ่ หลือมีแต่ ตกต่ำาลงและคงไม่มีทางพบกับความเจริญแน่นอน ๒. ลัทธิแล้วแต่ “พระเจ้า เทพเจ้าบันดาล” ในความเชื่อของลัทธินี้ เขาเชื่อกันอย่างสุดจิต สุดใจว่าทุกสิง่ ทุกอย่างไม่ได้เกิดขึน้ จากการกระทำาของ ตนเองหรือเหตุปัจจัยใดๆ เลย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมี พระเจ้าหรือเทพเจ้าเป็นผู้ลิขิตให้เป็นไป ชีวติ จะดีหรือร้าย จะรวยหรือจน จะเจ็บ จะตาย จะเกิดอะไรขึ้นก็เป็นเพราะพระเจ้าหรือเทพเจ้าเป็นผู้ กำาหนดไว้แล้วอย่าได้ขดั ขืน อย่าต่อต้าน ถ้าต่อต้านหรือ แค่นงิ่ เ©ยไม่เชือ่ ¿ัง ไม่ทาำ ตาม ก็จะพบกับเรือ่ งเลวร้าย และถูกลงโทษอย่างหนักด้วย จนกว่าจะหันกลับมายอม เชื่อ ยอมจำานนถึงจะยกโทษให้ ผู้ ที่ เ ชื่ อ อย่ า งนี้ ก็ มั ก จะเป็ น ผู้ ที่ มี ปั ญ หาชี วิ ต ตลอดเวลา มักเป็นผูง้ อมืองอเท้า ทิง้ โอกาสดีๆ ในชีวติ ไป ไม่ยอมทำาอะไรปล่อยให้เทพเจ้าหรือพระเจ้าเป็น ผู้กำาหนด


12

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

หรือวันๆ นัง่ คอยแต่อาำ นาจอืน่ ทำาให้ จะกระทำา เพียงอย่างเดียวคือ การสวดอ้อนวอนหรือการกราบไหว้ ด้วยวัตถุบูชา และเชือ่ ว่าการกระทำาด้วยการกราบไหว้ สวดมนต์ ท่องคาถาเ©ยๆ ก็เป็นสิง่ ทีเ่ พียงพอแล้ว เพราะจะทำาให้ เทพเจ้าพอใจและให้ในสิง่ ทีต่ นเองปรารถนา ใครทีม่ ชี วี ติ แบบนีน่ า่ สงสารมากๆ เพราะเกิดมาเพือ่ “ขอ” อย่างเดียว ไม่คิดจะลงมือทำาอะไรด้วยตัวเองเลย ๓. ลัทธิแล้วแต่ “โชคชะตา” จะพาให้เป็นไป ลั ท ธิ นี้ ก็ เ ป็ น การเปลี่ ย นจากตั ว พระเจ้ า หรื อ กรรมเก่า เป็น “โชคลาง” คิดเอาว่า “โชคชะตา” นัน่ แหละ เป็นผูก้ าำ หนด ทุกสิง่ ทุกอย่างเป็นไปเพราะการเคลือ่ นไหว ของดวงดาว หรือมาจากเหตุบงั เอิญ ไม่สามารถอธิบาย เหตุผลได้ เช่น เกิดมาร่ำารวยก็เพราะโชคดีบังเอิญได้ พ่อแม่รา่ำ รวย ทำาธุรกิจการงานประสบความสำาเร็จเพราะ มีโชค ประสบความล้มเหลวก็เพราะว่าโชคร้าย ชีวิต ดีขึ้นเพราะดาวดวงนั้นย้ายมาโคจรอีกทางหนึ่ง ฯลฯ


13

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

คนที่เชื่อแบบนี้ก็น่าสงสาร มีชีวิตก็เหมือนไม่มี เพราะทุกอย่างถูกดวงดาวหรือโชคชะตาเอาไปเสียแล้ว ๓ ลัทธิทกี่ ล่าวมาทัง้ หมดนีเ้ ป็นการเชือ่ โดยไม่มี เหตุผลและล้วนแต่อ้างถึงสิ่งอื่น อำานาจอื่นที่ไม่ได้เกิด จากการกระทำาของตนเองทั้งสิ้น ผู้ที่เชื่อมั่นในลัทธิ เหล่านี้ก็จะไม่มีการแก้ไขชีวิตให้ดีขึ้น นอกจากไม่แก้ ไขแล้วย่ิงจะทำาให้ชีวิตประมาทยิ่งขึ้นด้วย เพราะไม่ได้ สนใจถึงแก่นแท้ที่ทำาให้เกิดเรื่องราวในชีวิต หรือก็คือ เหตุและปัจจัยที่ช่วยทำาให้เกิด àÍÒªÕÇµÔ ·Ñ§é ªÕÇµÔ ¢Í§µ¹àͧ ËÃ×ÍÍÒ¨¨ÐÁÕ ¤¹Í×¹è ´ŒÇÂ㹤Ãͺ¤ÃÑÇ ä»Â¡ãËŒ¡ºÑ ÍíÒ¹Ò¨Í×¹è ¤¹Í×¹è àÊÕÂËÁ´ ໚¹ÍÐä÷չè Ò‹ ʧÊÒÃÁÒ¡ à¡Ô´ ÁÒªÒµÔ¹Õé·Ñé§·Õ äÁ‹ÁÕÊÔ·¸Ôì·Õè¨Ð·íÒÍÐäÃàÅ แต่เรื่องของกรรมนั้นมีรายละเอียดปลีกย่อยไป อีกมาก โดยเ©พาะในเรือ่ งของผลแห่งการกระทำา หรือ “วิบากกรรม”


14

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ซึ่งก็มีคนสงสัยกันว่าเมื่อทำาอย่างนี้แล้วจะได้ ผลอย่างนั้นจริงหรือ มีข้อถกเถียงที่เกิดขึ้นว่าเพราะ เหตุใด เมื่อหลักกรรมกล่าวมาอย่างนี้แล้ว แต่บางราย ได้รบั ผลของการกระทำาทีต่ รงกันข้าม เช่น เห็นคนทำาดี กลับได้รับผลร้าย คนที่ทำาไม่ดีกลับได้รับผลดี ครูบาอาจารย์ทา่ นบอกว่าเรือ่ งแบบนีเ้ รามองไม่ ตลอดสาย มองไม่ครบทุกภพชาติ ทุกมิติ เห็นเพียงสัน้ ๆ แค่สายตาคู่หนึ่งของเราตรงหน้าเท่านั้น อย่าเพิ่งไป ตัดสินอะไรด้วยตาของเรา อาทิ คนทีท่ าำ ดีกลับได้ผลร้าย ก็เปรียบเหมือนผู้ร้ายฆ่าคนตายจากดินแดนหนึ่ง แล้ว หนีมาอยู่อีกดินแดนหนึ่ง แม้พยายามกลับตัวเป็นคนดี แต่กรรมที่ฆ่าคนตายนั้นลบล้างไม่ได้ก็ต้องได้รับโทษ ในที่สุดเมื่อกรรมตามมาทัน สำาหรับผลแห่งกรรมนัน้ มีทงั้ กรรมดีและกรรมชัว่ จะหนักหรือเบาแค่ไหน มีปัจจัยสำาคัญอยู่ ๓ ประการ คือ ๑. วัตถุ ๒. ประโยค ๓. เจตนา


15

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

“วัตถุ” หมายถึง คน สัตว์ สิง่ ของ หรือเรือ่ งทีเ่ ป็น ตัวกรรมที่เป็นผู้สร้างและผู้ได้รับผลกระทบจากการ กระทำานั้นทั้งทางตรงและทางอ้อม “ประโยค” หมายถึงความพยายาม คือการ กระทำาทางกาย วาจา ถ้าพยายามทำาดีมาก บุญก็มาก ถ้าพยายามทำาบาปมาก บาปก็มาก ถ้าพยายามน้อย บาปก็น้อย “เจตนา” หมายถึง ความจงใจ ไม่มีเจตนา ตั้งใจทำาก็ไม่เป็นบุญ ไม่มีเจตนาทำาก็ไม่เป็นบาป ในทางดี เช่น เราตัง้ ใจใส่บาตรเพือ่ ถวายแด่พระสงฆ์ เพือ่ ให้ทา่ นมีเรีย่ วแรงได้สบื ทอดพระศาสนา เราสรรหา สิ่งที่ดีมีประโยชน์จริงๆ เหมาะสมกับท่านที่ไม่จำาเป็น ต้องแพงอะไร เพียงได้พจิ ารณามาอย่างดี ลงมือทำาอย่างดี ตื่นขึ้นมาแต่เช้ามืดเตรียมของใส่บาตรอย่าง ประณีต รอท่านมาบิณ±บาตด้วยจิตทีย่ นิ ดีปรีดาแบบนี้ ครบทัง้ วัตถุ ประโยค เจตนา ผิดกับคนทีต่ ดิ รถคนอืน่ ไป ใส่บาตร เห็นเขาใส่บาตรก็เพิง่ นึกขึน้ ได้ เห็นของวางขาย ข้างทางก็ไม่ได้สนใจพิจารณา หยิบๆ ส่งๆ ไป อย่างนี้ แรงบุญผิดกันลิบ


16

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

หรือชาวประมงมีชีวิตอยู่โดยการจับสัตว์มาทำา อาหาร เอามาขายเพื่อประทังชีวิตเลี้ยงดูครอบครัว พ่อแม่ทแี่ ก่เ²่า กับคนทีไ่ ปตกปลาเล่น ไล่ยอื้ กันกับปลา ทีม่ เี บ็ดในปาก ๓-๔ ชัว่ โมง แน่นอนว่าปลาต้องทุกข์ทรมาน มากๆ ได้ปลามาก็โยนเล่น ไม่ได้นำามาทำาประโยชน์ อะไร แบบนี้ผลของกรรมก็ผิดกันลิบลับ เมือ่ เราทราบถึงปัจจัย ๓ ประการทีท่ าำ ให้ผลกรรม แตกต่างกัน เราควรจะรูด้ ว้ ยว่าระยะเวลาการให้ผลของ กรรมนั้น “อะไร” เป็นตัวการสำาคัญที่ทำาให้บางกรรม ให้ผลในชาตินี้ บางกรรมให้ผลในชาติหน้า ตัวก�รสำ�คัÞที่ทำ�ãห้เกิดกรรมแลÐผล กรรมที่แตกต่างกัน ระยะเวลาการให้ผลกรรม ต่�งกันนั่นคือ “เจตน�” การกระทำาจะส่งผลให้หนักหรือเบา ให้เกิดขึ้น เร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับ “เจตนา” เป็นสำาคัญ ถ้าไม่มี เจตนา ผลของกรรมก็เกิดขึน้ น้อยหรืออาจจะไม่เกิดผล ขึ้นเลย


17

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

การกระทำานั้นจึงเป็นเพียงแค่ “กริยาอาการ” หรือ “สัญชาตญาณ” เท่านัน้ เราต้องเข้าใจแยกให้ออก ไม่เช่นนั้นก็จะสับสนกลัวกรรมกันจนเกินเหตุจนจิตตก พระพุทธศาสนาแบ่งระดับการให้ผลของกรรม ตามระดับของ “เจตนา” ไว้ ๑. ครุกรรม เป็นกรรมหนักทีส่ ดุ ตามศัพท์วา่ “ครุ” แปลว่า ใหญ่หรือหนัก หมายถึงมีเจตนามากในการสร้าง การกระทำานัน้ ๆ รุนแรงและเกิดผลมากต่อผูถ้ กู กระทำา เช่น การฆ่าพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ หรือผู้ที่มีคุณธรรม สูงส่งอย่างนักบวชที่หมดกิเลสแล้ว การทรยศต่อผู้มี พระคุณ ยุยงให้คนอื่นแตกแยกกัน กรรมชนิ ด นี้ จ ะส่ ง ผลกรรมตามเจตนานั้ น หนักตามไปด้วย และมีสทิ ธิท์ จี่ ะต้องรับผลกรรมหนักนัน้ ก่อน หรือผลกรรมนัน้ เกิดขึน้ อย่างรวดเร็ว เป็นกรรมทีม่ ี พลังอำานาจมาก ให้ผลก่อนกรรมอืน่ ๆ และไม่มกี รรมใด มาขวางกัน้ ได้ มีพลังแรงอย่างทันตาเห็นในชาติปจั จุบนั และสามารถส่งผลถึงชาติหน้าได้


18

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

๒. พหุลกรรม เป็นกรรมหรือการกระทำาทีก่ อ่ เกิด จากการค่อยๆ ทำา ค่อยๆ สะสมด้วยความเคยชิน เช่น ชอบหยิบของคนอื่นโดยคิดว่ายืมใช้ก่อน ไม่น่าจะเป็น อะไร เขาไม่ถือสา การพูดโกหกไปเรื่อยไม่ว่าเรื่องเล็ก เรือ่ งใหญ่ พูดแบบให้หลุดๆ ปากไป ฯลฯ ซึง่ ได้กระทำา อย่างไม่รู้สึกผิดและทำาไปด้วยความเคยชิน ด้ ว ยลั ก ษณะกรรมอย่ า งนี้ เ ป็ น การสะสม บาปกรรม ทำาให้ส่งผลอย่างช้าๆ เช่น ทำาให้คนอื่น คนรอบข้างไม่มคี วามเชือ่ ถือ ไม่ให้ความไว้วางใจ เพราะ เจ้าของกรรมเป็นผู้ที่มีลักษณะนิสัยอย่างนี้มาตั้งแต่ต้น และเปลี่ยนแปลงยาก ó. อาสันน¡รรม เป็นกรรมที่นำาไปเกิดเมื่อ จวนเจียนจะตายเพราะอุปาทาน ทีย่ งั ยึดมัน่ ถือมัน่ ในสิง่ ที่ตนเองทำาไว้ เป็นสัญญาหรือความทรงจำาที่จดจำาไม่ ลืม เมือ่ ใกล้จะตายอุปาทานเหล่านัน้ ก็จะผุดขึน้ มานำาให้ ไปเกิดตามอุปาทานนั้น


19

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ถ้ามีอุปาทานที่ไม่ดีสั่งสมมากก็จะนำาไปเกิดใน ภพภูมิที่ไม่ดี ตรงกันข้ามถ้าสะสมความดีไว้มาก มี แต่อุปาทานที่ดีงามเกิดขึ้นก็จะน้อมนำาให้ไปเกิดในภพ ภูมิที่เป็นสุข ô. ¡ตัตตา¡รรม กรรมชนิดนี้เรียกได้ว่าเป็น กรรมที่ให้ผลเบาที่สุด เพราะเจตนาต่ำา เช่น มีอาชีพ ในการฆ่าสัตว์เพื่อนำามาเป็นอาหาร มีเจตนาที่ต่ำากว่า การล่าสัตว์ให้ตายเพื่อความสนุกสนาน เมื่อถึงเวลาที่ กรรมส่งผล ผลกรรมชนิดนี้จึงเบากว่าชนิดอื่นๆ หรือ ให้ผลช้ากว่าอย่างอื่น แต่ก็จะได้รับผลกรรมนั้นอย่าง หลีกเลี่ยงไม่ได้ ระยะเวลาให้ผลของกรรม ข้อนีเ้ ป็นหลักอธิบายทีจ่ ะทำาให้เข้าใจว่า เหตุใด ทำาดีได้ดชี า้ หรือเหตุใดทำาชัว่ แล้วได้ดี นัน่ เพราะระยะเวลา แห่งการให้ผลแห่งกรรมมีความแตกต่างไปตามเจตนา


20

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ถ้ามีเจตนาหนักๆ อย่างได้ทำาครุกรรมไว้ก็จะ ได้รบั ผลกรรมก่อน เช่นเดียวกันถ้าทำาผลแห่งความดีที่ เป็นบุญมากๆ ก็จะได้รับผลก่อนเช่นกัน แบ่งได้ ๔ ระยะ ๑. กรรมทีใ่ ห้ผลแบบปัจจุบนั ทันด่วน (ทิ°ธรรมเวทนียกรรม) เช่น ชายคนหนึง่ ไปลงมือสังหารคนทีม่ คี ณุ ธรรม สูงอย่างพระสงฆ์มาได้ไม่นานก็ถูกตำารวจจับ และถูก ยิงตาย นั่นเพราะเจตนาแห่งการสร้างกรรมนั้นแรง ผู้ ที่ถูกกระทำาก็เป็นผู้ที่มีเนื้อนาบุญความดีสูง กรรมจึง ให้ผลเร็ว หรือคนที่ถูกกระทำานั้นเป็นเจ้ากรรมนายเวร ที่ผูกเวรกรรมกันมานาน อย่างนี้เป็นต้น ๒. กรรมทีใ่ ห้ผลในชาติหน้า (อุปปัชชเวทนียกรรม) กรรมชนิดนีเ้ ป็นผลกรรมทีย่ งั ไม่เห็นผลในชาตินี้ เพราะเจตนาทีส่ ร้างกรรมนัน้ เบาบางกว่ากรรมชนิดแรก หรือมีผลแห่งความดีงามที่เคยสร้างมาได้มาเกื้อหนุน ให้ยังไม่ได้รับผลกรรมที่ไม่ดี


21

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เช่น ในช่วงชีวติ นีไ้ ด้เกิดมาเป็นนักการเมืองทีม่ ี อำานาจมีบารมี มีทรัพย์มาก แต่ได้ทำากรรมไม่ดีคือ คดโกงประเทศชาติประชาชนไว้มากเช่นกัน ชีวติ ในชาตินกี้ ไ็ ม่ได้ตกต่าำ ลงมากนัก เพราะผล กรรมดีที่ทำาไว้ทั้งชาติที่แล้วและชาติปัจจุบันเกื้อหนุน อยู่ ได้ใช้ชีวิตในชาตินี้อย่างสุขสบายจนถึงแก่อายุขัย แต่ชาติหน้าต่อไปต้องเกิดมายากจน ลำาบาก และถูก คดโกงอยู่ตลอดเวลา เพราะผลกรรมไม่ดีที่ได้ทำาไว้ใน อดีตตามส่งผล ๓. กรรมทีใ่ ห้ผลในชาติถดั ไป (อปราปริยเวทนียกรรม) กรรมที่ให้ผลชนิดไล่ตามติดกันไปแบบสุนัข ล่าเนือ้ เมือ่ มันไล่ทนั แล้วก็จะกัดทำาร้ายทันที เช่น ผูท้ ไี่ ป ขโมยของและทำาร้ายเจ้าของทรัพย์ด้วย ได้พยายาม หลบหนีซึ่งก็หลบหนีไปได้ แม้ในชาติหน้าก็ยังไม่ได้รับ ผลกรรมที่ได้ก่อคดีขโมยของนั้น เพราะกรรมดีอื่นๆ คอยส่งผลเกื้อหนุนอยู่


22

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

แต่เมื่อใดก็ตามที่กรรมอื่นหมดการให้ผลแล้ว กรรมทีไ่ ด้ทาำ ไว้นกี้ จ็ ะตามให้ผลทันที ดังทีใ่ ครหลายคน สงสัยและตั้งคำาถามขึ้นมาว่า ทำาไมบางคนที่เห็นว่า ตลอดชีวิตเป็นผู้ที่กระทำาความดีอยู่ในศีลธรรมตลอด กลับต้องเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ อย่างน่าสงสาร ๔. กรรมทีห่ มดโอกาสจะให้ผลแล้ว (อโหสิกรรม) กรรมชนิดนีห้ มดโอกาสให้ผล เหมือนพืชทีส่ นิ้ ราก ปลูกอย่างไรก็ไม่ขึ้น เป็นการให้อภัยซึ่งกันและกัน ไม่ ผูกใจเจ็บ เช่น คนคนหนึง่ ได้โกงเงินจากเจ้าหนีไ้ ปแล้ว เกิดสำานึกได้จึงทำาการขออภัยขอโทษต่อการกระทำา ของตน และได้นำาเงินไปคืน เจ้าหนี้ก็เกิดใจอ่อน จาก ทีเ่ คยคิดจะ¿้องร้องดำาเนินคดีเรียกร้องค่าเสียหาย ก็ให้ อภัยต่อการกระทำานั้น ไม่คิดถือสาเอาความอีก ไม่มี จิตอาฆาตจองเวรกันอีกต่อไป


23

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ความจริ ง แล้ ว หลั ก แห่ ง กรรมของพระพุ ท ธศาสนานั้นยังมีการอธิบายเรื่องกรรมอย่างละเอียด ปลีกย่อยลงไปอีกในพระอภิธรรม แต่ขอนำาก®แห่งกรรม ว่าด้วยเจตนาและระยะเวลาของการให้ผลแบบย่อๆ มาอธิบายไว้ เพื่อทำาความเข้าใจเบื้องต้นง่ายๆ เพียง เท่านี้ก็คงพอจะช่วยทำาความเข้าใจเรื่องกรรมและการ ให้ผลที่ชัดเจนขึ้นในระดับหนึ่ง และอยากให้ ทุ ก ท่ า นได้ ร ะวั ง เรื่ อ ง “มโนกรรม” หรือ “กรรมทางใจ” เป็นอันดับแรก เพราะเป็นบ่อเกิด เป็นจุดเริม่ ต้นแห่งกรรม เพราะ ความคิดก่อให้เกิดการกระทำา เพราะการกระทำาก่อให้ เกิดนิสยั เพราะนิสยั ก่อให้เกิดบุคลิก เพราะบุคลิกจะเป็น ตัวกำาหนดชะตากรรมทัง้ ปวง ในบทต่อไปเราจะมาพูด ถึงเรื่อง วิ¸ีการเปลี่ยนกรรม ที่ได้ผลและเข้าใจ กันง่�ยæ ทำ�ได้สบ�ยæ ทุกคน


เปลี่ยนกรรมชีวิตเปลี่ยน

การ “เปลี่ยนกรรม” จากที่ไม่ดีให้กลายเป็นดี ถือเป็นการกระทำ�ดีที่น่าสรรเสริญยกย่องมาก เพราะการเปลี่ ย นแปลงนี้ จ ะทำ �ให้ ชี วิ ต ดี ขึ้ น และเป็นการไม่ประมาทในชีวิต


25

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เพราะทัง้ “ซ่อมและสร้างชีวติ ขึน้ มาใหม่” ซึง่ ต้อง เข้าใจตรงกันก่อนว่าที่บอกนี้ไม่ใช่การ “แก้กรรม” ให้ หายไปเลย แบบทันทีทันใด แบบเหลือเชื่อที่โฆษณา จนคนเสียเงินเสียทอง เสียเวลา หรือที่หลายคนบอก ว่าเสียค่าโง่ ขอย้าำ เลยว่า “กรรมนัน้ แก้ไม่ได้” เพราะ เกิดขึน้ แล้ว อุปมาดังข้าวสารทีห่ งุ เป็นข้าวสวย แล้วไม่สามารถทำาให้เป็นข้าวสารอีกได้ แต่เป็น “วิธกี าร” เปลีย่ นชีวติ ให้ดไี ด้ ไม่สนิ้ เปลือง อะไร โดยมีหลักใหญ่ๆ สำาคัญ ๒ ประการคือ ๑. การสร้างกรรมดีใหม่ บุญใหม่ และอุทÈิ บุญ กุÈลใหม่ ทำาเพือ่ การไปขออโหสิกรรม เป็นการสร้างบุญ แล้วอุทิศบุญคุณงามความดีใหม่ให้เจ้ากรรมนายเวร เพื่อแสดงออกถึงการสำานึกในสิ่งที่เคยทำาและต้องการ ให้เขายกโทษให้อภัย จนถึงให้อโหสิกรรม ยุตเิ วรกรรม ทั้งปวง สำาหรับ “เจ้ากรรมนายเวร” นัน้ หมายถึง ผูท้ ไี่ ด้รบั ผลจากกรรมหรือการกระทำาของเราทั้งทางตรงและ ทางอ้อม


26

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เพราะเขาเป็นผูส้ ญู เสียไม่วา่ เรือ่ งใดก็ตาม ทำาให้ เขามีจิตพยาบาทอาฆาตต่อเราอยู่ทั้งที่เป็นดวงจิต วิญญาณและที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน ทั้งที่เป็นญาติและ ไม่ใช่ญาติ เจ้�กรรมน�ยเวรส่วนม�กที่ต้องก�รคือ อยากให้เราได้สำานึกผิดจริงๆ ว่าผิด ไม่ใช่ไม่ ยอมรับ หนี ป˜ดคว�มรับผิดชอบ รวม¶Öงãน เจ้ากรรมนายเวรบางท่านต้องการให้ชดใช้ในสิง่ ที่ทำาลงไปกับเขา เจ้ากรรมนายเวรที่เป็นดวงจิตวิญญาณอาฆาต นัน้ เป็น “áรงส่ง” เป็น “ปัจจัยร่วม” ในการเกิดเรือ่ งร้ายๆ อุปสรรคต่างๆ ทีบ่ อกว่าเป็น “แรงส่ง” และ “ปัจจัยร่วม” เพราะตัวเขาเองทำาอะไรเราไม่ได้โดยตรง สิ่งที่ทำาให้ เกิดเรื่องโดยตรงคือกรรม เป็นผลของกรรมที่ออกดอก ออกผล แต่เขาร่วมทำาให้เกิดขึ้นได้และทำาให้แรงกรรม หนักกว่าเดิม


27

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ดังเช่น ในช่วงทีผ่ ลกรรมไม่ดสี ง่ ผล เราต้องเจอกับ อุบัติเหตุที่ทำาให้เลือดตกยางออกเหมือนที่ทำากับเขา ในผลกรรมเก่านั้นอาจจะไม่ถึงตาย แต่ถ้าเขาร่วม ช่วยด้วย คือบังตาให้เรามองไม่เห็นรถทีก่ าำ ลังวิง่ สวนมา ผลก็คอื เราหนักกว่าเก่าหลายเท่า หรือลาภทีเ่ ราควรได้ มาก เขาก็มาทำาให้เรามองไม่เห็นเสียอย่างนัน้ เป็นต้น เขาทำาแบบนัน้ เพือ่ ให้เราได้รบั รู้ จนถึงขัน้ รูส้ าำ นึก ในกรรม ในสิ่งไม่ดีที่ทำากับเขา ยอมรับผิดแบบสำานึก เข้าไปในจิตจริงๆ และส่วนมากเขาปรารถนาให้เราได้ กลับเนือ้ กลับตัวเสียใหม่ ให้เราได้กระทำาสิง่ ทีถ่ กู ต้องดีงาม ให้เกิดผลดี เกิดผลบุญ แล้วนำาผลทีไ่ ด้นน้ั กลับไปตอบแทน หรือชดใช้เขาเพื่อให้หมดหนี้ต่อกัน หรือด้วยอำานาจ แห่งบุญนั้นช่วยให้เขาพ้นทุกข์ในภพภูมิที่ทนไม่ได้ ซึ่ ง เจ้ า กรรมนายเวรบางรายนั้ น เขามี ค วาม ต้องการแตกต่างกันตามกรรมทีเ่ ราได้ทาำ กับเขาไว้ตาม ภูมิธรรม ตามสภาวะของเจ้ากรรมนายเวรด้วย


28

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เจ้ากรรมนายเวรบางรายทีม่ ภี มู ธิ รรมสูง เขาอาจ ขอแค่เพียงเรารู้สึกสำานึกผิดอย่างจริงใจ เพียงถือศีล ทำาทาน หรือทำาสมาธิแล้วอุทศิ บุญไปให้เขาเพือ่ ขอขมา ขออโหสิกรรมนั้น เขาก็ยอมยกโทษให้แล้ว เพราะตัว เขาเองก็คงไม่ปรารถนาจะติดในบ่วงกรรมข้ามภพ ข้ามชาติ จนไม่ได้ไปเกิดในภพภูมิอื่นตามกรรมที่เขา ทำามา แต่ ท ว่ า มี อี ก มากมายหลายกรณี ที่ แ ม้ จ ะได้ กระทำาตามแบบที่บอกไว้เช่นนี้แล้วเขายังไม่ยอมให้ อโหสิกรรม เพราะเจ้ากรรมนายเวรนั้นมีแรงแค้นมาก บางรายถึงกับต้องการเอาชีวิตเพราะเขาไม่ยอม ยิ่ง เจอเจ้ากรรมนายเวรทวงหนี้ใกล้ๆ กันแบบหนักหน่วง บางรายต้องบวชชดใช้เขา บางรายต้องเจ็บป†วยปางตาย หรือต้องล่มจมหมดเนื้อหมดตัว หรือได้รับผลกรรมที่ เลวร้ายที่แย่กว่าเขาหรือหนักกว่า เขาถึงจะหายแค้น และยอมให้อโหสิกรรม


29

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

การสร้างบุญกุศลอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรเป็น เรือ่ งดีไม่เสียหายอะไร ทำาง่ายๆ สบายๆ ไม่ตอ้ งใช้เงิน มาก และมีมากมายที่ไม่ต้องใช้เงินเลย ด้วยจิตที่มี กำาลังครบ ด้วยทานที่บริสุทธิ์ ด้วยเนื้อนาบุญหรือผู้รับ บริสุทธิ์ ๒. แก้ไขกรรมชาติปจั จุบนั เพือ่ การเปลีย่ นชะตา ชีวิตใหม่ เป็นการเปลี่ยนแปลงพÄติกรรมของเราเอง ทัง้ กาย วาจา ใจเสียใหม่ ให้เป็นผูท้ คี่ ดิ ดี ทำาดีตลอดเวลา จากมืดมาสู่สว่าง จากสว่างก็ให้สว่างขึ้นไปอีก มีศีล มีธรรมกำากับชีวติ อันคนเรานัน้ ไม่วา่ จะเคยทำาอะไรมา ไม่ดีแค่ไหนก็สามารถกลับตัวบนทางของการสร้าง คุณงามความดีได้ทั้งสิ้น เพร�Ðทุ ก คนมี ° �นบุ Þ เก่ � ส�ม�ร¶ ต่อบุญได้เพราะถ้าไม่มบี ญ ุ ติดตัวมาเลย รับรอง ว่�ช�ตินีéไม่ได้เกิดม�เปšนคนแน่นอน


30

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ด้วยอานิสงส์แห่งบุญใหม่ที่เพียรสร้างเพียรทำา จะส่งผลทำาให้พบแต่ความสุขความเจริญ ผ่อนคลายจาก วิบากกรรมหรือผลกรรมที่ได้รับอยู่จากหนักให้กลาย เป็นเบา จากที่เบาให้หายไป ที่บอกอย่างนี้โปรดอย่า เข้าใจผิดว่า “บุญนั้นล้างบาปได้” บุญล้างบาปไม่ได้ ไม่มีอะไรล้างบาปได้ เพราะเหตุเกิดขึ้นจนสำาเร็จแล้ว ทีค่ รูบาอาจารย์ทา่ นเมตตาบอกเสมอว่า ให้สร้าง บุญ สร้างบ่อยๆ ตามกำาลังเรา สร้างด้วยจิต½†ายดีทมี่ ี กำาลัง ผลบุญใหม่ที่เราทำา จะพาเราหนีกรรมที่ กำาลังจะมาส่งผลหรือที่กำาลังส่งผลได้ ยิ่งไปรวมกับกรรมดีที่เราต้องเคยทำามาในภพ ชาติอนื่ ทีร่ อส่งผล เป็นผลกรรม½†ายดีทมี่ อี าำ นาจมากขึน้ ก็จะทำาให้ชวี ติ เจริญมีความสุขขึน้ ไม่ใช่เอาไปล้างกรรม แก้กรรมอะไร มันทำาไม่ได้


31

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ผลกรรมนัน้ เหมือนหมาล่าเนือ้ กวาง หากเนือ้ กวาง มีกาำ ลังมากกว่า หมานัน้ ก็ตามงับไม่ทนั หรืออาจจะไล่มา แบบสูสีโดนแบบถากๆ ไม่เจ็บไม่ปวดเท่าไร ก่ อ นที่ จ ะทราบถึ ง วิ ธี แ ก้ ไ ขกรรมและเคล็ ด อัศจรรย์ทันตาปา¯ิหาริย์ทันใจต่างๆ ที่มาจากครูบา อาจารย์นั้น สิ่งสำาคัญที่สุดที่จะทำาให้เคล็ดวิชาเหล่านี้ ได้ผล คือ เราต้องปรับตนเองให้ดี ให้บริสทุ ¸ิเì สียก่อน ยิ่งดีมาก บริสุท¸ิìมาก ก็จะเกิดผลดีมากตาม กำาลังนั้น โดยการสร้างบุญบารมีให้เป็นฐานแห่งบุญใหม่ คอยรองรับให้ถกู วิธี ให้ถกู ต้องตรงทางด้วยความอดทน และเพียรกระทำาอยู่อย่างสม่ำาเสมอ เมื่อเหตุปัจจัยถึง พร้อมแล้วผลก็จะเกิดขึน้ เอง ครูบาอาจารย์ทา่ นบอกว่า “เมื่อบุญถึง จะทำาอะไรก็สำาเร็จ ไม่มี อำานาจใดมาขวางทางบุญได้”


32

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

แม้ว่าอดีตจะย้อนกลับไปแก้ไขกรรมไม่ได้แล้ว ก็ตาม แต่กส็ ามารถทำาให้ผลแห่งวิบากกรรมนัน้ ห่างออก ไป หรือส่งผลได้นอ้ ย ด้วยการสร้างบุญบารมีและดำาเนิน ชีวติ ในทางแห่งบุญและความดี ชีวติ จะประสบความสุข และความสำาเร็จ การแก้ไขกรรมทีถ่ กู ต้องควรป¯ิบตั ิ ๓ ประการ คือ หนÖ่ง ลÐเว้นจ�กก�รทำ�บ�ปทังé ปวง ก็คอื ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ด้วยก�รรักÉ�Èีลมั่นคง สอง ก�รทำ�คว�มดีãห้¶Öงพร้อม ก็คือ สร้างบุญกุÈลให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ สร้างทานที่ มั่นคง ส�ม ชำ�รÐจิตãจãห้ผ่องãสบริสุท¸ิì ก็คือ การเจริญภาวนา ทุกคนทีม่ ปี ญั หาและความทุกข์ทงั้ เรือ่ งงาน เงิน หรือเรื่องใดก็ตาม ควรเริ่มต้นใหม่ สร้างบุญที่ถูกต้อง ตามหลักพระพุทธศาสนานีใ้ ห้เป็นพืน้ ฐานบุญ พืน้ ฐาน ชีวิตใหม่


33

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

อย่างน้อยก็ทำาให้เราไม่ต้องตกต่ำาลำาบากหรือ ต้องเจอเรือ่ งร้ายๆ ไปกว่าทีเ่ รากำาลังเจออยูอ่ กี ควรทำา ให้ครบในทุกๆ วันทุกๆ เวลา เริ่มจาก ๑. หมั่นให้ทาน มีคนจำานวนมากทีย่ งั เข้าใจกันผิดๆ ว่าต้องทำาทาน กันด้วยเงินทองเยอะๆ ด้วยการให้หรือสร้างวัตถุทาน ชิน้ ใหญ่ๆ ถึงจะได้บญุ มากๆ ซึง่ ในเรือ่ งนีน้ นั้ ยังไม่ถกู ต้อง กับความจริงทั้งหมด เพราะในการทำาบุญนั้นตัวของ วัตถุหรือเงินทองอะไรก็ตามที่เป็นวัตถุทานนั้นไม่ใช่ ประเด็นสำาคัญว่าจะได้บญุ มากตามค่าของวัตถุทานนัน้ เสมอไป เพร�Ðบ�งครัéงก�รทำ�บุÞด้วยเงินเปšน ล้านบาทอาจจะได้บุญน้อยกว่าเงินสลึงเดียว เสียด้วย«้าำ หากว่าเงินทีน่ าำ มาทำาบุญนัน้ มาจาก การทำาบาป มาจากการเบียดเบียนผู้อื่น เป็น วัตถุทานที่ไม่บริสุท¸ิì


34

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เหตุที่ไม่ดีย่อมส่งผลที่ไม่ดี ในเรื่องของมูลค่า ของทรัพย์ที่ทำาบุญนั้น ในบางครั้งเราไม่สามารถจะวัด ถึงผลของอานิสงส์บุญได้เพียงเพราะวัตถุนั้นมีค่ามาก หรือน้อย การทำาทานให้ได้บุญมากนั้นมีองค์ประกอบ ๓ ประการคือ ๑. วัตถุบริสทุ ธิì คือสิง่ ทีน่ าำ มาให้ทาน ต้องได้มา ด้วยความสุจริตถูกต้อง มิได้ไปเบียดเบียนมา ไม่วา่ จะเป็น เงินที่นำามาซื้อวัตถุทานที่ไม่ได้มาจากการ©้อโกงผู้อื่น หรือได้วัตถุนั้นมาโดยมิชอบ เราจึงเห็นว่านักการเมือง หรือนักธุรกิจบางคนบริจาคเงินทีละ ๑๐ ล้าน ๒๐ ล้าน น่าจะได้บญุ มาก แต่ทาำ ไมถูกจับกุม ถูกคนเขาสาปแช่ง นอกจากเงิ น ที่ ต้ อ งบริ สุ ท ธิ์ แ ล้ ว ยั ง รวมถึ ง ส่วนประกอบในวัตถุทานนั้นด้วย เช่น ไม่ได้ไปขโมย สิ่งของใครเขามาทำาทาน ไม่ได้ไปบังคับข่มขู่เพื่อนำา สิ่งของนั้นมาทำาทาน


35

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

๒. เจตนาบริสุทธิì คือ “ผู้ให้” หรือตัวเราเอง นี่แหละให้แบบไม่ได้หวังผลตอบแทน หรือไม่มีเจตนา แอบแ½งหวังประโยชน์ ทำาบุญแบบไม่เอาหน้า ไม่แข่งขัน กัน และเมื่อให้แล้วก็ไม่นึกเสียดายภายหลัง ทำาแล้วก็ ปล่อยวางไม่เสียดาย และที่สำาคัญมากคือ การตั้งจิต ให้บริสทุ ธิท์ งั้ ก่อนให้ กำาลังให้ และหลังให้ ครบทัง้ ๓ วาระ ก็จะทำาให้ยงิ่ ได้บญุ มาก ถ้าพร่องในเรือ่ งเจตนาเรือ่ งใด อานิสงส์บุญก็จะลดน้อยถอยลงไปตามนั้น ๓. บุคคลบริสทุ ธิì คือ “ผูร้ บั ” เป็นผูม้ ศี ลี บริสทุ ธิ์ มีคณุ ธรรม ยิง่ มีคณุ ธรรมมากเท่าใด บุญก็ยงิ่ ได้มากขึน้ ไปตามระดับภูมิธรรมและบุญของผู้รับ ที่เราเรียกว่า “เนือ้ นาบุญ” เช่น ทำาบุญกับคนไม่มศี ลี ย่อมน้อยกว่าคน มีศีล ๕ ถ้ า ยิ่ ง ทำ า บุ ญ กั บ คนที่ มี ศี ล บริ สุ ท ธิ์ ม ากขึ้ นไป เท่าใดบุญก็จะยิ่งมากเป็นลำาดับ ขึ้นอยู่กับผู้รับนั้นมี ศีลบริสุทธิ์เท่าใด ยิ่งผู้ที่รับมีศีลมาก ป¯ิบัติดีมาก มี คุณค่ามาก ผลบุญก็มากตาม


36

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

การทำาบุญของเราทุกครัง้ หากครบเงือ่ นไขดังกล่าว คือ วัตถุ เจตนา บุคคลผูใ้ ห้ และผูร้ บั มีความบริสทุ ธิแ์ ล้ว แน่นอนว่าบุญจากการทำาทานทีม่ เี จตนาสูงนีม้ อี านิสงส์ สูงและพร้อมจะส่งผลได้ทันทีแน่นอน ๒. การรักษาÈีล “Èีล” ในความหมายแล้วแปลว่า “ปกติ” หรือ ความเป็นปกติ (ศีล ๕) เพือ่ ความสงบสุขของตนเองและ สังคม ต้องมีเจตนางดเว้นจากการเบียดเบียน ซึง่ ถือเป็น คุณธรรมในทางป¯ิบัติที่เห็นผลได้ชัดเจนอย่างเป็น รูปธรรมมากในเรือ่ งผลแห่งการกระทำาคือ ชีวติ จะได้มา ซึ่งความสงบปลอดภัยอย่างเห็นได้ชัดนับตั้งแต่วินาที แรกที่ตั้งใจจะรักษาศีล อย่างไรก็ตามการไปรับศีลจากพระโดยทัว่ ไปนัน้ เรามักไม่คอ่ ยมีโอกาสได้กระทำากันบ่อย จิตก็เลยอาจจะ ไม่ได้ระลึกถึงศีลอยู่อย่างสม่ำาเสมอ


37

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

วิธกี ารทีส่ ะดวกทีส่ ดุ ทีจ่ ะทำาให้เราสามารถตัง้ ใจ สมาทานศีลเองได้ ก็โดยการกระทำาในทีพ่ กั อาศัยของเรา โดยกระทำาต่อหน้าพระพุทธรูปหรือนึกถึงพระรัตนตรัย และควรสมาทานศีลให้ได้ทงั้ เช้า-ค่าำ โดยให้ตงั้ จิตตัง้ ใจ ให้ดีว่าจะรักษาศีลให้ดีที่สุดในแต่ละวัน เริ่มในเวลาเช้า เมื่อตื่นนอนรู้สึกตัวก็ให้ทำาเลย ก่อนที่จะไปทำางานหรือไปศึกษาเล่าเรียน ทำาภารกิจ ประจำาวันต่างๆ ส่วนในเวลาค่าำ ก็ให้ทาำ ก่อนนอนทุกๆ วัน ในระหว่างวัน ถ้ารูต้ วั ว่าละเมิดศีล ผิดศีลในข้อใดข้อหนึง่ ให้รีบสมาทานศีลใหม่หมดทุกข้อทันที และก่อนที่จะสมาทานศีลในตอนค่ำานั้น ให้เรา ตรวจดูศลี อีกครัง้ หนึง่ หากพิจารณาเห็นว่าศีลสมบูรณ์ ดีแล้ว ก็โมทนาสาธุให้กับตนเอง และขอน้อมถวาย บุญกุศล อันเกิดจากการที่เรารักษาศีลมาได้สมบูรณ์ ครบถ้ ว นบริ บูรณ์ดีแล้วในวันนี้ บูชาพระรัต นตรั ย อธิษฐาน ให้ผลบุญนี้เป็นพละ (กำาลัง) ปัจจัย ให้เรา ประสบความสำาเร็จในสิง่ ทีป่ รารถนาแก้ไขเรือ่ งต่างๆ ที่ ถูกศีลถูกธรรม ไม่หลงทาง


38

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

แต่ ถ้ า หากเราตรวจดู แ ล้ ว เห็ น ว่ า บกพร่ อ ง ผิดพลาดในศีลไป ก็ให้อโหสิกรรม (ยกโทษ) ให้กบั ตนเอง ไม่ตอ้ งไปเสียใจหรือวิตกกังวลกับสิง่ ทีผ่ ดิ พลาดบกพร่อง ไปแล้ว และให้ตงั้ ใจว่าในครัง้ ต่อไป วันต่อไป เราจะทำา ให้ดีที่สุดในการรักษาศีลและพยายามระมัดระวังไม่ให้ มีการผิดพลาดบกพร่องขึ้นอีก ให้หมั่นทำาเป็นประจำา ทุกวัน เมือ่ ทำาอย่างนีเ้ ป็นประจำาทุกวันแล้ว ศีลของเรา ก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ จนเรามีศีลมั่นคง ซึ่งเป็นคุณสมบัติ อย่างหนึ่งของอริยบุคคลขั้นต้น (พระโสดาบัน) การมีศีลมั่นคงก็คือ จะไม่มีการผิด/ละเมิดศีล (ศีล ๕) อีกต่อไปตลอดชีวติ ไม่วา่ จะมีอะไรมากระทบ บีบคัน้ อย่างไรก็ไม่อาจจะไปละเมิดศีลหรือผิดศีลได้ จน แม้กระทั่งสามารถยอมสละชีวิตได้ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว จะได้มีการสมาทานศีล หรือไม่ก็ตามก็ไม่จำาเป็นแล้ว เพราะศีลได้เข้าไปอยู่ใน จิตใจแล้วอย่างแท้จริง เรียกว่า “มีสติสมบูรณ์ในÈีล” แล้วนั่นเอง


39

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

หากถามว่า ถ้าเรามุง่ มัน่ จะรักษาÈีลให้มนั่ คงแล้ว เราจำาเป็นต้องสมาทานÈีลไหม ตอบว่า “จำาเป็น” เพราะ อานิสงส์ของศีลนัน้ เกิดจากจิตทีต่ งั้ ใจ (เจตนา) งดเว้น จากการเบียดเบียน การอยูเ่ ©ยๆ โดยไม่ได้แสดงเจตนา งดเว้นจากการเบียดเบียน จึงไม่ได้เป็นการรักษาศีล เป็นแต่เพียงยังไม่ได้ไปผิดศีลเท่านั้นเอง ดังนั้นจึงยัง มิได้รับอานิสงส์ในส่วนของการรักษาศีลแต่อย่างใด ให้ลองนึกถึงตัวอย่างง่ายๆ เช่น คนเจ็บไข้ได้ปว† ย ที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล ที่เขาไม่ได้ระลึกถึง ศีลเลย แต่เขาก็ไม่ได้ไปละเมิดศีล หรือทำาผิดศีลเลย แม้แต่เพียงข้อเดียว นัน่ ก็ยงั ไม่ถอื ว่าเขาผูน้ นั้ รักษาศีล/ ถือศีลแต่อย่างใด ก็เพราะเขามิได้มีเจตนางดเว้นจาก การเบียดเบียน การทีจ่ ะเป็นผูท้ ม่ี เี จตนางดเว้นจากการเบียดเบียน ได้ตลอดเวลาทุกขณะจิต (มีสติในศีล) คือการมีศลี มัน่ คง แล้วนัน้ ก็ตอ้ งมีวธิ กี ารเพือ่ ให้จติ ระลึกถึงศีลได้ โดยเริม่ ต้น จากการสมาทานศีลก่อน


40

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ศีลจึงเป็นเรือ่ งสำาคัญมากต่อการประพÄติป¯ิบตั ิ ทีม่ กั จะมองข้ามกัน ดูแล้วน่าจะเป็นเรือ่ งง่ายๆ แต่คน ส่วนใหญ่ก็ยังป¯ิบัติกันได้ยาก ต้องมีกำาลังใจ และ สติปัญญา กระทำาด้วยความอดทนหมั่นเพียร หากศีลไม่สมบูรณ์บริบูรณ์แล้ว ก็อย่าเพิ่งก้าว ข้ามขั้นไปศึกษาประพÄติป¯ิบัติและเรียนรู้ธรรมใน ขั้นสูงยิ่งๆ ขึ้นไป การรักษาศีล ๕ อย่างมัน่ คงนัน้ ครูบาอาจารย์ ท่านบอกว่าสำาคัญมาก เปรียบได้กบั การปิดรูรวั่ ในชีวติ คื อ ป้ อ งกั นไม่ ใ ห้ ค วามดี ไ หลออกและป้ อ งกั นไม่ ใ ห้ ความชั่วเข้ามา บุ ญ กุ ศ ลที่ ทำ า มาก็ จ ะได้ รั บ แบบเต็ ม เม็ ด เต็มหน่วยไม่หายไป ยิ่งรักษาศีลให้ดีก็ยิ่งมีโอกาสที่จะ ร่ำารวยมากขึ้น ยิ่งศีลดียิ่งเจริญรุ่งเรืองไม่มีตกต่ำา และ เคล็ดลับสำาคัญทีจ่ ะช่วยให้Èลี มัน่ คงในจิตคือ ไม่ทาำ ผิดÈีล ไม่ยินดีที่เห็นคนผิดÈีล และไม่สนับสนุนให้คนผิดÈีล


41

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

๓. การเจริญÀาวนา การเจริญภาวนาถือเป็นการสร้างบุญทีม่ อี านิสงส์ สูงสุด เหนือกว่าศีล เหนือกว่าทาน โดยแบ่งออกเป็น ๑) สมถÀาวนาหรือสมถกรรม°าน คือการทำา สมาธิ คือทำาจิตให้ตั้งมั่นแน่วแน่อยู่ในอารมณ์เดียว นัน่ เอง ซึง่ ก็มหี ลายวิธี (กรรมฐาน ๔๐ กอง) กรรมฐาน มาตรฐานที่ครอบคลุมกรรมฐาน ทุกอารมณ์ ก็คือ อานาปานัสสติกรรมฐาน (ระลึกรู้ลมหายใจ) ในเบือ้ งต้นแนะนำาให้ใช้ “พุท-โธ” เป็นคำาบริกรรม ควบคู่ไปด้วย สมถภาวนานี้เป็นการรวมจิตให้นิ่งสงบ แต่ยังไม่เกิดปัญญา ๒) วิปสั สนาÀาวนาหรือวิปสั สนากรรม°าน คือ การพิจารณาให้รแู้ จ้งเห็นจริงตามความเป็นจริง ซึง่ ก็คอื “ตัวปัญญา” ซึง่ ในทีน่ ขี้ อยกมากล่าวไว้ให้ทราบคร่าวๆ เท่านั้นเกี่ยวกับขั้นการเจริญภาวนาอันเป็นพื้นฐานใน การประพÄติป¯ิบัติภาวนาในขั้นสูงต่อไป


42

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ซึ่งรายละเอียดของการประพÄติป¯ิบตั ิ จำาเป็น ต้องศึกษาและได้รบั คำาแนะนำาจากครูบาอาจารย์ทที่ า่ น รู้จริงอยู่เสมอ การป¯ิบตั ใิ นขัน้ เจริญภาวนาในเบือ้ งต้นนัน้ ขอ ให้เรารู้จักไหว้พระสวดมนต์ อันเป็นการทำาจิตให้สงบ แบบพื้นๆ ก่อน เอากันเท่านี้ก็สามารถสร้างความสุข สงบใจได้ในระดับหนึ่งแล้ว ถ้ามากไปกว่านัน้ ก็ให้รจู้ กั การทำาสมาธิ และการ พิจารณาธรรม อันเป็นการเจริญปัญญาซึ่งเป็นการ ป¯ิบัติในขั้นที่เรียกว่า “วิปัสสนา” ต่อไป อย่างไรก็ตาม ตามทีก่ ล่าวไปแล้วว่าการกระทำา ทั้งหมดต้องเป็นไปตามลำาดับขั้นและทำาให้ครบ การ ศึ ก ษาประพÄติ ป ¯ิ บั ติ ธ รรมหรื อ การสร้ า งคุ ณ งาม ความดีกเ็ หมือนกับการสร้างตึก อาคาร บ้านเรือน ต้อง เริม่ จากการสร้างฐานล่างให้มนั่ คงแข็งแรงสมบูรณ์กอ่ น เช่น การตอกเสาเข็ม เทพื้นคอนกรีต ฯลฯ


43

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

การป¯ิบัติตนให้พ้นทุกข์ ก็ต้องเริ่มจากการ สร้างบุญบารมีให้เกิดขึ้นด้วยทานและศีลเป็นเบื้องต้น ก่อน หากไม่มีแล้วการเจริญภาวนาก็เป็นไปได้ยาก และเมื่อได้สร้างบุญสำาเร็จแล้ว ไม่ว่าจะด้วย จากการทาน ศีล ภาวนาแล้ว ก็ต้อง “รู้จักใช้บุญนั้น” ให้เป็นประโยชน์ คือใช้ในการอธิษ°านและการอุทÈิ บุญ ไปให้เจ้ากรรมนายเวรทุกครั้ง เพือ่ เป็นการขออโหสิกรรมต่อเขาเพือ่ ให้เขายินดี พอใจให้อโหสิกรรมและถอนตัวจากอุปสรรคต่างๆ ทีเ่ ขา เข้ามามีส่วนทำาให้เราต้องทุกข์ทรมานหรือมีปัญหา เรื่องเงิน เรื่องงาน การทำาการค้าอยู่ในปัจจุบันซึ่งมีอยู่ ๒ วิธีคือ ๑. การอธิษ°าน การอธิษฐานเป็นการตั้งเป้าหมายในหนทางที่ จะเดินไปข้างหน้าตามผลที่เราต้องการอย่างมุ่งมั่นไม่ ย่อท้อ ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยแห่งความสำาเร็จและขอให้ บุญกุศลที่เราทำานั้นเป็นพลังสำาคัญหรือพลวปัจจัย


44

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

แต่การจะไปให้ได้ถงึ ปัจจัยแห่งความสำาเร็จ จะ ต้องมีอีก ๓ ปัจจัย รวมแล้วเป็น ๔ ปัจจัยที่จะได้ผล ตามความมุ่งหมาย ที่เรียกกันง่ายๆ ว่า “ต้องทำาเหตุ ให้สมบูรณ์ตรงกับผล” ได้แก่ หนึง่ ตัง้ ความปรารถนาในความสำาเร็จนัน้ อย่าง แรงกล้า หรือ “©ันทД ในทีน่ กี้ ค็ อื อธิษฐานจิตนัน่ เอง แต่ต้องเป็นการอธิษฐานจิตด้วยใจมุ่งมั่นว่าจะต้อง เป็นเช่นนั้นให้ได้ อย่างเช่น อธิษฐานว่าขอให้มีความ สมบูรณ์ในชีวิต ความขัดข้องจงอย่าบังเกิดอีก ให้ตงั้ จิตให้แน่วแน่ ใจอย่าตก จิตอย่าอ่อน มิ©ะนัน้ ก็เหมือนอธิษฐานจิตแบบนกแก้วนกขุนทอง ความ ปรารถนาจะไม่เกิดขึ้น สอง มีความเพียรทีจ่ ะไปให้ถงึ เป้าหมายนัน้ ให้ได้ หรือ “วิรยิ ะ” อันหมายถึงการลงมือทำางานทำาหน้าที่ ด้วย ความมุมานะอุตสาหะอย่างเต็มที่ที่สุดเท่าที่จะทำาได้ กรณีของการอธิษฐานนีก้ ต็ อ้ งทำาด้วยความเพียรทำา คือ ทำาอยู่เป็นประจำาทุกวัน ทำาให้จิตแน่วแน่เข้มแข็งขึ้น


45

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

สาม มีใจจดจ่อที่จะทำาให้ได้ตามเป้าหมายนั้น ทุกวินาทีหรือตามที่นึกได้ หรือ “จิตตะ” หรือความ เอาใจใส่ ใ นการอธิ ษ ฐานอยู่ ต ลอดเวลาเพื่ อให้ จิ ต มี ความตั้งมั่น สี่ มีเทคนิควิธกี ารทีค่ ดิ ค้นด้วยปัญญาทีไ่ ด้ศกึ ษา หาความรูม้ าว่าทำาอย่างไรจะไปให้ถงึ เป้าหมายนัน้ หรือ “วิมังสา” คือนอกจากรู้ว่าจะทำาอย่างไรให้ได้ตามคำา อธิษฐานแล้ว ยังตริตรองอยูต่ ลอดเวลาว่าสิง่ ทีไ่ ด้ลงมือ อธิษฐานไว้ไม่ผดิ ไปจากความตัง้ ใจทีแ่ ท้จริง และจิตหรือ ความปรารถนาของเราจะไม่ไขว้เขวออกนอกทางอย่าง แน่นอน ๒. การเชื่อมบุญหรือการอุทิÈบุญ การอุทิศบุญ ครูบาอาจารย์ท่านเรียกว่า “¡าร เชื่อมบุญ” คือการตั้งจิตยกบุญที่เราทำาแล้วให้แก่ผู้อื่น ซึ่งทำาได้แบบทั้งเจาะจงและไม่เจาะจง ไม่ว่าจะเป็น ท่านใดเพื่อปรารถนาให้ท่านเหล่านั้นได้มีความสุข จากบุญ


46

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

โดยเ©พาะเจ้ากรรมนายเวรทีเ่ ป็นดวงจิตวิญญาณ นัน้ “บุญ” เป็นสิง่ ทีเ่ ขาปรารถนาอยากได้ทสี่ ดุ บุญจะ ช่วยให้เขาพ้นทุกข์และปรับภพภูมทิ สี่ งู ขึน้ ได้ เพราะเขา ไม่มีร่างกายสร้างบุญกุศลเองไม่ได้ สำาหรับเจ้ากรรมนายเวรทีม่ ชี วี ติ นัน้ ไม่วา่ จะเป็น พ่อแม่ ลูก พีน่ อ้ ง ญาติสนิทมิตรสหาย เป็นเจ้านาย ลูกน้อง ลูกค้า หุน้ ส่วน เพือ่ นบ้าน แม้แต่สตั ว์เลีย้ ง ล้วนแต่เป็น เจ้ากรรมนายเวรที่ผูกพันกันมาและตามมาเกิด เพื่อ ใช้กรรมซึ่งกันและกัน ที่มีทั้งกรรมดีและกรรมไม่ดี ถ้ากรรมดีมมี าก ความสัมพันธ์กด็ มี คี วามสุข แต่ถา้ กรรม ไม่ดีมากกว่า เจอกันทีไรมีแต่เรื่องที่ทุกข์ทั้งนั้นทั้ง ทุกข์กายทุกข์ใจ บุญกุÈลทีเ่ ราอุทÈิ ให้นี้ จะช่วยเชือ่ มบุญ ãห้ผู้ที่มีคว�มเกี่ยวพันกับเร�ไม่ว่�ãคร จÐได้มี บุญบารมีมากขึน้ จนเกิดป˜ญญาทีถ่ กู ¸รรมและ มีเมตตา นำามาถึงการให้อภัย รวมถึงให้อโหสิกรรม ต่อเร�ได้ เพร�Ðเข�ได้รับสิ่งที่ดีคือบุÞเปšนสิ่ง ตอบแทนอยู่ตลอดเวลา


47

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ดังนั้นเพื่อการมีชีวิตที่ดี สมบูรณ์ เพื่อให้กรรม ระงับด้วยการอโหสิกรรม เมื่อเราสร้างบุญกุศลไม่ว่า เรือ่ งใด เราควรจะทำาการอธิษฐานและอุทศิ บุญทุกครัง้ อย่างไรก็ตามการแก้ไขในเรือ่ งกรรม การเปลีย่ นกรรมนี้ ขอเรียนให้ทราบไว้อีกอย่างหนึ่งว่า เราต้องทำาแบบสม่าำ เสมอ มากพอ นานพอ เพื่อที่จะแก้ไขได้ลุล่วง เพราะเราทุ ก คนนี้ ไ ม่ ไ ด้ มี เ จ้ า กรรมนายเวร คนเดียวท่านเดียว หรือได้สร้างวิบากกรรมที่ไม่ดีมา แค่กรรมเดียว เพราะกว่าจะมาเกิดเป็นคนในชาตินี้ เราต้ อ งเคยเกิ ด มาแล้ ว หลายร้ อ ยชาติ แ สนชาติ ในภพภูมิต่างๆ สร้างทั้งกรรมดีและกรรมไม่ดี จึงมี เจ้ากรรมนายเวรในแต่ละชาติมากมายมหาศาล ในบางเรื่องที่เราพบกับปัญหาอุปสรรคต่างๆ เมื่อเราแก้ไขไปแล้วครั้งหนึ่ง เจ้ากรรมนายเวรรายนั้น เขาพอใจก็จากไป แต่กม็ เี จ้ากรรมนายเวรเจ้าอืน่ ทีร่ อคิว อยู่เข้ามาอีก จึงต้องทำาอยู่ตลอดเวลาเพื่อความไม่ ประมาทในชีวิต


48

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เพราะถึงแม้วา่ กรรมบางเรือ่ งจะยุตไิ ม่สง่ ผลแล้ว บุญที่เราเพียรทำาไม่หยุดยั้งจะเป็นกำาลังสำาคัญที่จะ ช่วยหนุนให้เราพบกับความเจริญ ความมั่งคั่งไม่มีตก และเป็นเสบียงบุญติดตัวเราไปทุกภพชาติ ในส่วนของ บทต่อไปนีจ้ ะเป็นการจำาแนกเรือ่ งกรรมเกีย่ วกับการงาน และการเงินไปทีละหัวข้อทีละประเด็นว่า ผลกรรม เกี่ยวกับเรื่องเงินเรื่องงานที่เรากำาลังประสบปัญหากัน อยู่ในทุกวันนี้มีสาเหตุจากสิ่งใด และที่เขียนบอกทั้งหมดเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ได้ รับความเมตตาจากเหล่าครูบาอาจารย์ ผูท้ รงคุณความดี หลายท่านทีไ่ ด้รบั การถ่ายทอดมา ท่านทีไ่ ม่เชือ่ ให้ถอื ว่า เป็นความรูอ้ กี แขนงหนึง่ ซึง่ มีจดุ มุง่ หมายอยากให้ทกุ คน ได้เข้าใจถึงเหตุแห่งกรรมและวิธแี ก้ไขทุกข์เหล่านี้ เพือ่ ให้มชี วี ติ ทีด่ มี คี วามสุขตามหน้าบุญของทุกท่านทีท่ าำ มา ต่อไป ส่วนจะเชือ่ หรือไม่อยูท่ วี่ จิ าร³ญา³ของ ท่านเอง และการตัดสินใจว่าจะลงมือทำาหรือ ไม่ทำา


ทำ�งานหนักมาก...

แต่ไม่ค่อยได้ผล ไม่มีคนยอมรับ

• เหตุอาจจะมาจากกรรมเก่า ครูบาอาจารย์ท่านเมตตาบอกว่า คนที่ทำ�งาน หนักแล้วไม่ค่อยได้ผลนั้นอาจจะมีสาเหตุทั้งอดีตชาติ และชาติปจั จุบนั อยูห่ ลายประการร่วมกัน เช่น ในอดีตชาติ เวลาไปทำ�บุญทำ�ทานที่วัด เมื่อพบของทำ�ทานเหลือ จากพระสงฆ์และท่านได้อนุญาตแล้วให้คนรับต่อไปได้


50

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

แทนที่จะทำาทานต่อไปให้กับคนที่ทุกข์ยากกว่า หรือคนที่ต้องการ กลับแอบเอาไปเป็นของตนเองเกิน ความจำาเป็น เรียกว่าปิดทางไม่ให้คนอื่นได้บุญนั้น หรือเอาของเหล่านัน้ ไปซ่อน ไปทิง้ เสีย ไม่เจือจานไปยัง ผู้อื่นตามเจตนาของเนื้อนาบุญ หรื อ กรณี ใ นการขั ด ขวางไม่ ใ ห้ ค นอื่ นได้ บุ ญ ด้วยหรือรับปากทำาแล้วไม่ทำา เช่น เขาเอาซองผ้าป†า หรือกฐินมาบอกบุญก็รับเพื่อเอาหน้า แต่เอาซองไปทิ้ง เสีย หรือไม่สนใจวันเวลาทีต่ อ้ งไปสร้างบุญนัน้ ทำาให้ซอง ที่มาจากเงินบุญที่บริสุทธิ์นั้นเสียไป หรือเคยทำาบุญมามากก็จริง แต่วัตถุที่นำามา ทำาบุญนั้นไม่ได้เป็นของบริสุทธิ์ เป็นคนที่จิตใจไม่ แน่นอน ตั้งใจจะไปทำาทานแล้วไม่ทำา นัดหมายกับ คนอื่นทำาบุญแล้วให้คนอื่นรอเก้อ กรรมที่มาจากการรับปากใครแล้วไม่ทำาตาม ทีร่ บั ปาก ผิดคำาพูดบ่อยๆ จนคนอืน่ ได้รบั ความเดือดร้อน จากคำาพูดของตนเองก็เป็นสาเหตุสำาคัญ


51

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เช่น บอกว่าจะช่วยเหลือเขา แต่พอถึงเวลากลับ เสียดายหรือทำาไม่ได้ตามทีพ่ ดู หลบหน้าไม่รบั โทรศัพท์ หรือให้คนอืน่ มารับหน้าแทน หรือไปกลัน่ แกล้งบีบคัน้ ให้ คนและสั ต ว์ ทำางานหนักโดยไม่ให้ค่าตอบแทนหรื อ อาหาร บางครั้งก็ทำาเป็นลืมๆ ไป ปล่อยให้เขาต้อง ทำางานหนักและทนทุกข์ทรมาน การเลีย้ งดูบตุ รหลานอย่างเข้มงวดเกินไป ทุบตี หรือให้ทำางานที่เกินกำาลังของเขา หรือบังคับให้เขาทำา ผิดศีลทัง้ ๆ ทีร่ ู้ แล้วเอาเงินนัน้ มาบำาเรอความสุขของตน ปล่อยให้ลูกหลานทุกข์ทรมาน ซึ่งลูกหลานใกล้ตัวนั้น นับเป็นเจ้ากรรมนายเวรประเภทหนึ่งด้วย เพราะเขา มาเกิดแล้วเขาจึงเป็นเจ้าหนี้ โดยเขาเป็นคนเลือกพ่อแม่ ที่เป็นลูกหนี้ด้วย ที่ สำ า คั ญ อาจเคยดู ห มิ่ น ผู้ ป ¯ิ บั ติ ธ รรมหรื อ สิง่ ศักดิส์ ทิ ธิต์ า่ งๆ ทัง้ ทีต่ งั้ ใจและไม่ตงั้ ใจ เพราะคิดว่า ตนเองบู ช าขอพรหรื อ บนบานเจ้ า ที่ เ จ้ า ทางแล้ วไม่ ศักดิ์สิทธิ์จริงเพราะไม่ได้ช่วยเหลือตน


52

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

จึ งไปลบหลู่ ถ อนศาลเสี ยโดยไม่ ไ ด้ พิ จ ารณา การกระทำ า และบุ ญ ของตนเองว่ า ถึ ง เวลาจะได้ รั บ หรือไม่ จะเห็นได้วา่ เหตุเพราะกรรมเก่านัน้ มีหลายสาเหตุ • เหตุอาจจะมาจากกรรมใหม่ กรรมที่ทำาให้เดือดร้อนนี้มักเกี่ยวข้องกับความ ตระหนี่มากๆ บางคนมีพÄติกรรมตระหนี่หวงแหนทั้ง ของตนและไม่ใช่ของตน เช่น เคยไล่ที่คนอื่นที่มาขอ อาศัยใช้พื้นที่ของตนหรือพื้นที่ที่ตนเองมีหน้าที่ดูแลอยู่ ถึ ง แม้ ต นเองจะไม่ ไ ด้ ป ระโยชน์ แ ต่ ค นอื่ น ก็ อย่าได้มีสิทธิ์ที่จะใช้ เช่น การเอาโต ะเก้าอี้ไปตั้ง ขวางทางหน้าบ้าน ทั้งๆ ที่พื้นถนนหน้าบ้านนั้นเป็นที่ ของหลวง กลับไปเขียนห้ามจอดรถหรือกั้นที่ทางไว้ไม่ ให้คนอื่นใช้ประโยชน์ นอกจากนั้นยังมีอุปนิสัยส่วนตัว เป็นคนใจแคบ เวลาเห็นคนอืน่ ตกทุกข์ได้ยากซมซานมา ขอความช่วยเหลือก็ไม่ยอมช่วย เพราะคิดว่าไม่ใช่เรือ่ ง ของตน และทำาไมต้องช่วย


53

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เมือ่ เห็นว่าไม่มผี ลประโยชน์รว่ มจึงไม่ชว่ ยทัง้ ๆ ที่ ตนเองมีทรัพย์ มีความสามารถพอจะช่วยเหลือแบ่งปัน ได้ หรือกระทั่งตนเองเป็นผู้ที่เพียบพร้อมมีกำาลังทรัพย์ และสติปัญญาดีอยู่แล้วแต่ไม่เคยคิดและทำางานเพื่อ ส่วนรวม วันๆ มุง่ เอาแต่ผลประโยชน์ของตนเองเป็นทีต่ งั้ เสมอ โดยไม่คาำ นึงถึงวิธกี ารในการทำามาหากินว่า ตนเอง จะไปขัดขวางประโยชน์ของใครแม้จะเป็นการทำาบุญ ก็ตามก็ไม่ส่งเสริมหรือกระทั่งไปขัดขวางเขา การเบียดบังของส่วนรวมหรือของในที่ทำางาน เป็นของตนเอง ทัง้ ในทีล่ บั และทีแ่ จ้ง ข้าราชการแอบเอา “ของหลวง” มาใช้โดยไม่มสี ทิ ธิแ์ ละไม่ได้รบั อนุญาต เช่น ทำางานโรงพยาบาลแอบเอายา ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัวของใช้ ต่างๆ มาใช้ทบี่ า้ น เอารถหลวง น้าำ มันหลวงมาใช้ธรุ ะ ส่วนตัว หรือแม้แต่ครูบาอาจารย์ทใี่ นวันทำางานมีหน้าที่ สอนหนังสือกลับขโมยเวลาไปค้าขาย ทำาธุรกิจส่วนตัว เรียกว่าเบียดบังเวลาทำางาน อะไรที่ควรทำาไม่ทำาเสีย อย่างนั้น


54

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เหตุแห่งกรรมเหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนที่ทำาให้ ทำาอะไรก็ไม่เจริญก้าวหน้า ไม่วา่ จะทำางานหนักแค่ไหน ก็ไม่มีคนเห็น ไม่มีคนชม • วิธีการแก้ไขเปลี่ยนกรรม การแก้ไขควรหมัน่ ออกไปทำาทานอย่างสม่าำ เสมอ เพือ่ ลดความตระหนีเ่ ห็นแก่ได้ลง ครูบาอาจารย์ทา่ นหนึง่ เมตตาแนะนำาให้คนที่เจอผลกรรมประเภทนี้ไปทำาบุญ ด้วย “น้าำ สะอาด” และเจริญวิปสั สนาแบบง่ายว่า “น้าำ ที่ สะอาดช่วยในการชำาระล้างจิตใจ ลดความตระหนีถ่ เ่ี หนียว ที่เป็นยางเหนียวเกาะกุมใจไม่ให้ผ่องใสให้กลับมาใส สะอาด” น้ำาสะอาดที่ว่าเป็นได้ทั้งน้ำาดื่มและน้ำาใช้ หรือ ถวายเครื่องกรองน้ำาให้พระภิกษุสงฆ์เพื่อให้ท่านได้ใช้ ประโยชน์เพือ่ การส่วนรวม หรืออาจใช้วธิ ที าำ บุญด้วยการ บริจาคค่าน้าำ ค่าไ¿ให้กบั วัดถือเป็นการ “ชำาระหนีส้ ง¦์” เพราะกรรมในอดีตชาติเราส่วนมากจะติดหนี้สงฆ์รวม อยู่ด้วย


55

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เพียงแค่เผลอหยิบเอากิ่งไม้เศษไม้ในวัดออกมา ใช้ประโยชน์หรือเพียงเศษดินเศษทรายที่ติดเท้ามา แม้เป็นสิ่งของที่พระสงฆ์ท่านจะไม่ใช้แล้วแต่ท่านยัง ไม่อนุญาต ก็ถือว่าเป็นการติดหนี้สงฆ์ทั้งสิ้น ยังไม่รวมกับการรับปากว่าจะทำาอะไรหรือตัง้ ใจ จะทำาอะไรให้กับพระพุทธศาสนาแล้วยังไม่ได้ทำาให้ ไม่ว่าด้วยเหตุอันใดก็ตาม ขอให้ใช้วิธีบริจาคทานเพื่อ กิจของสงฆ์และชำาระหนี้สงฆ์เสียให้หมดเรียบร้อยจะ เป็นการดีมาก หากมีโอกาสก็ให้ร่วมทำาทานสร้างบุญใหญ่ๆ ร่วมด้วย เช่น เป็นเจ้าภาพร่วมในการสร้างถาวรวัตถุทาง พระพุทธศาสนา เช่น พระพุทธรูปขนาดใหญ่ พระมหาเจดีย์ โบสถ์ วิหาร หรือสิง่ ใดๆ ทีจ่ ะเป็นประโยชน์ในการ ป¯ิบัติธรรม เพราะเป็นถาวรวัตถุที่มีความคงทนต่อ กาลเวลา บางแห่งอยู่ได้เป็นหลายร้อยหลายพันป‚และ แต่ละวันมีผู้ศรัทธาเดินทางมาสร้างบุญอย่างมากมาย เราจะเป็น “ต้นบุญ” ทีไ่ ด้อานิสงส์บญุ ทีส่ าำ เร็จครบถ้วน มากมายมหาศาล


56

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เมือ่ ทำาบุญกุศลใดๆ แล้ว ก็ให้ตงั้ สัจจะอธิษฐาน และแผ่เมตตาทุกครั้ง โดยการแผ่เมตตานั้นถือเป็น การ “ให้” ทีย่ งิ่ ใหญ่อกี ประการหนึง่ เป็นการแผ่กระแส ความรักความเมตตาปรารถนาดีของตนไปยังผูอ้ นื่ และ ทำาให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายเกิดความพอใจในบุญ ที่เราอุทิศแผ่เมตตาไปให้ซึ่งเจ้ากรรมนายเวรต้องยินดี ในบุญนัน้ เขาถึงจะรับได้ วิธกี ารให้เขารับรูแ้ ละมารับบุญ เราต้องกล่าวเชิญเขาก่อน โดยกล่าวง่ายๆ ว่า “¶Ö§à¨ŒÒ¡ÃÃÁ¹ÒÂàÇâͧ¢ŒÒ¾à¨ŒÒ·Ø¡À¾·Ø¡ªÒµÔ ºÑ´¹Õ¢é ÒŒ ¾à¨ŒÒä´ŒÊÌҧºØÞ¡ØÈÅÍØ·ÈÔ ãËŒ·Ò‹ ¹ ¢ÍãËŒ·Ò‹ ¹ä´Œ ÃѺÃÙŒáÅÐÁÒËÇÁâÁ·¹ÒºØÞ¹Õé ËÒ¡·‹Ò¹ÂÔ¹´ÕÃѺºØÞ¡ØÈÅ ¹Õé¢Í·‹Ò¹àÁµµÒãËŒÍÀÑ ãËŒÍâËÊÔ¡ÃÃÁá¡‹¢ŒÒ¾à¨ŒÒ´ŒÇ à·ÍÞ” จากนัน้ ให้หมัน่ สวดมนต์และเจริญภาวนาอยูเ่ ป็น ประจำา เพราะการสวดมนต์เป็นการรวมจิตให้มีความ มั่นคงผ่องใสใจมีกำาลัง½†ายดี


57

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เริ่ ม สวดโดยการอั ญ เชิ ญ เทวดาลงมาร่ ว ม โมทนาบุญ และทำาการกล่าวสมาทานศีล ๕ ก่อนสวดมนต์ เจริญภาวนาทุกครัง้ ถ้าจำาภาษาบาลีไม่ได้พดู แบบง่ายๆ ได้เพราะอยู่ที่ “เจตนา” เป็นสำาคัญ สำาหรับในทางโลกการทำางานหนักแล้วได้ผลน้อย ต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้าน หากว่ากันที่เราเห็นได้ ชัดแล้วเราควรต้องพิจารณาถึง “วิธคี ดิ และการทำางาน ที่ตรงประโยชน์ใหม่” เพื่อให้ได้ผลมาก ต้องย้อนกลับไปทีเ่ หตุ ไปดูไปค้นหาว่าเป็นเพราะ อะไร หาให้เจอแล้วไปแก้ไขปรับปรุงข้อบกพร่องนัน้ ขอ แนะนำาว่าให้เริ่มจากตัวเองก่อนและค่อยไปดูปัจจัยอื่น ที่นอกเหนือจากตัวเอง เป็นการ½ƒกจิตด้วย เพราะ ส่วนมากเมื่อมีปัญหาในงานมักจะโทษคนโน้นคนนี้ โทษงานโทษที่ทำางาน เรียกว่า “โทÉสิง่ อืน่ หมดนอกจากตัวเอง” อันนีéอันตร�ยม�กãนก�รทำ�ง�น ¶้�คิดแบบนีé จÐป ดท�งป ดอน�คตตนเองเลย


58

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ควรต้องดูหลายๆ ด้านและต้องยอมรับความจริง เช่น ความสามารถยังไม่ถงึ ผลงานทีอ่ ยากได้ ทำายังไม่ตรง เป้าหมาย ขาดความสามัคคีในการทำางานร่วมกัน เป็นต้น ถ้าทำางานหนักแล้วได้เงินน้อยก็ต้องคิดให้มาก อาจจะต้องเปลี่ยนเครื่องมือหรือแนวการทำางานให้ ทำางานง่ายขึน้ และเบาแรงลง เหมือนเราจะขุดดินหลุม ใหญ่ๆ เพื่อสร้างสระว่ายน้ำา แทนที่จะใช้จอบเสียมขุด กันเป็นเดือนๆ ก็เปลีย่ นวิธเี ป็นขุดด้วยรถ แม้จะลงทุน สูงกว่าแต่ผลงานจะออกมาได้มีประสิทธิภาพกว่า การกระทำางานอย่างนีเ้ รียกว่า ทำางานให้©ลาดขึน้ ไม่ใช่ทำางานหนักขึ้นอย่างเดียว คือต้องมีการกำาหนด ทิศทางในการทำางานให้ถกู ต้องเสียก่อน เพราะทิศทาง สำาคัญกว่าความเร็ว เรียกว่าต้องทำางานให้ถูกทิศทาง และทำาอย่าง©ลาด จะได้ไม่ต้องเหนื่อยมากนัก และ ที่สำาคัญผลงานก็จะออกมาใกล้เคียงกับที่คาดหวังไว้ มากกว่า


59

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

นอกจากนัน้ ต้องมีความเป็น “มืออาชีพ” ในการ ทำางานทุกเรื่อง ซึ่ง “มืออาชีพ” จะมีความแตกต่างไป จากพวก “มือสมัครเล่น” คือมือสมัครเล่นนัน้ ไม่สามารถ อดทนทำางานให้เสร็จได้ ความอดทนและอดกลั้นถือเป็นสิ่งสำาคัญที่จะ ช่วยให้การทำางานประสบความสำาเร็จและได้เนื้องาน ตรงตามเป้าหมาย เราต้องรูจ้ กั โลกและรูท้ นั โลก คือรูจ้ กั ความต้องการที่สมดุลทั้งความต้องการของตนเองและ ผูอ้ นื่ และรูจ้ กั ศักยภาพในตัวของเราทัง้ หมด เพือ่ จะทำา อะไรก็ทาำ ให้สดุ ความสามารถและไม่อาจเอือ้ มไปทำางาน ใหญ่ที่เกินความสามารถของตนเอง และสุดท้ายที่ต้อง½ƒก½นแก้ไขตนเองก็คือ ¡าร รูจ้ กั เป็นคนมีนา้ำ ใจเอือ้ เฟือ้ เผือ่ แผ่ อย่างทีก่ ล่าวไปแล้วว่า สาเหตุที่ทำางานไม่ได้ผลแม้จะทำางานหนักล้วนมาจาก สาเหตุของความตระหนี่ น้ำาใจและการเสียสละจึงเป็น ทางแก้ไขที่ตรงจุด


60

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

หมัน่ ช่วยทำางานทีน่ อกเหนือจากงานของตนเอง บ้างและเสียสละแรงกายหรือทรัพย์เพื่อคนอื่นๆ บ้าง เพราะจะทำาให้คนอื่นรักและให้ความเกรงใจ เคารพ นับถือ ถือว่าเป็นการสร้างทัง้ “บุญกลุม่ ” ทีห่ นุนให้งาน ยากๆ สำาเร็จโดยง่าย และยังเป็นการสร้างบุญบารมี ให้เพิ่มขึ้นในตัวอีกด้วย ขอให้ให้เชื่อเถิดว่า “บุญนั้นเป็นที่พึ่งได้จริง” ในทุกเรื่องใน โลกนี้


กรรมที่ทำ�งานดีแต่มีคนคอยกลั่นแกล้ง ให้ชีวิตวุ่นวายเดือดร้อนเสมอ

เชือ่ ว่าหลายคนทีเ่ ป็นคนเก่งและมีความสามารถมากๆ ในการทำ�งานอาจจะประสบปัญหาเหล่านีไ้ ด้ ซึง่ มีสาเหตุ หลายๆ ประการ • เหตุอาจจะมาจากกรรมเก่า ในอดีตเราอาจเคยไปสร้างกรรมเอาไว้ ในการพูด หรือกระทำ�การใดก็ตามเป็นการใส่รา้ ยป้ายสีเขามาก่อน หรือเคยปิดทางความเจริญของเขา


62

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

หรือไปขัดขวางในสิ่งที่เขาควรจะได้ทำาให้เขา ไม่ได้ หรืออาจจะทำาให้เขาเดือดร้อนมาก เขาจึงผูกอาฆาต ตามจองเวรกันมา เหตุเพราะจิตเดิมเคยเป็นเจ้ากรรม นายเวรกันมาก่อน กรรมพามาให้เจอกันและยังไม่มี การอโหสิกรรมให้แก่กันและกัน บางครั้งกายเนื้อในชาตินี้ดูเหมือนเป็นมิตรกัน แต่ในใจคิดทำาลายล้างกัน บางครั้งก็ไม่รู้ตัว ประเภท ทำางานร่วมกันทีไรมีแต่ความ©ิบหายล่มจม หรือขัดแย้ง กันตลอด ทั้งๆ ที่ภายนอกดูเหมือนดีไม่มีอะไรก็ตาม • เหตุอาจจะมาจากกรรมใหม่ เรื่ อ งของกรรมใหม่ นั้ น อาจจะเป็ น เรื่ อ งของ “ทัÈนคติ” และ “นิสยั ” ของตัวเราและเพือ่ นร่วมงานเอง เป็นเหตุ แต่ละคนมีเป้าหมายในชีวิต มีวิธีการคิดและ ทำาคนละแบบกัน บางครั้งอาจเป็นที่ตัวเราเองที่มีนิสัย บางอย่างที่ไม่สมควรอันเป็นที่รังเกียจและก่อความ รำาคาญให้ผู้อื่น


63

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เช่น อาจเป็นผู้อวดตัว อวดเบ่ง อิจ©าริษยา อยากได้อยากมี ฯลฯ อาจจะไปตั้งแง่คิดแบบด้านลบกับเขาก่อน ที่ เรียกว่า “อคติ” ที่อธิบายไม่ได้อยู่ในใจ คือเป็นได้ทั้ง “©ันทาคติ” คือไม่ชอบคนนีก้ ห็ าเรือ่ งไปเข้าข้างอีก½†าย ที่เราชอบพอกว่า “โทสาคติ” คือมีอคติเพราะเกลียด โกรธกันมาก่อน “Àยาคติ” ถืออคติเพราะเกรงกลัวกัน มาก่อน และ “โมหาคติ” คือถืออคติเพราะความไม่รจู้ กั ตัวตนที่แท้จริงของเขามาก่อน สิ่งที่เป็นอคติเหล่านี้จึงเป็นสาเหตุทำาให้การ ทำางานร่วมกันเป็นไปอย่างยากลำาบาก เมื่อมีความ ไม่ชอบพอต่อกัน ต่างคนต่างมีจิตอาฆาตอันเป็น ธรรมชาติของมนุษย์จึงได้กระทำาการสร้างกรรมใหม่ ขึ้ น อี กโดยการไปใส่ ร้ า ยหรื อ กลั่ น แกล้ ง กั น เพื่ อให้ อีก½†ายได้รับความเดือดร้อน และสุดท้ายก็จะเป็น ผลกรรมผูกพันกันไปโดยไม่มีที่สิ้นสุด


64

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

• วิธีแก้ไขเปลี่ยนกรรม ให้หมั่นขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรเสีย ทำาได้บอ่ ยๆ ในทุกวัน ยิง่ ทำามากยิง่ ดี ถ้ายิง่ เรารูช้ อื่ คนที่ คอยกลั่นแกล้งหรือมีปัญหากับเรายิ่งดี ให้ระบุชื่อเขา ลงไปเลยในการอุทศิ บุญขออโหสิกรรม สำาหรับเจ้ากรรม นายเวรที่เราไม่รู้หรือเป็นดวงวิญญาณไม่ว่าจะทำาอะไร ทีเ่ ป็นบุญให้อทุ ศิ ไปให้เขาทันที พูดแบบง่ายๆ ยกบุญนัน้ ให้เขาทุกครั้ง หมั่นทำาทานโดยเน้นไปที่เจตนาจะ ช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อนตรงตามที่เขา ต้องการจริง เคล็ดสำ�คัÞที่ครูบ�อ�จ�รย ท่�นแนÐนำ� ทีจ่ Ðช่วยคล�ยวิบ�กกรรมเร็วก็คอื ก�รãห้แบบ ตรงกั บ คว�มต้ อ งก�รของคนที่ ม �ขอคว�ม ช่วยเหลือแลÐก�รสงเคร�Ðห สัตว สำาหรับการไปไถ่ถอนชีวติ โค กระบือ การปล่อย สัตว์ประเภทนก ปลา หอยต่างๆ มีเคล็ดอยู่ที่ต้องเอา สัตว์นั้นมาถวายพระสงฆ์เสียก่อน


65

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เพื่อให้ท่านโมทนาบุญ แล้วผาติกรรมหรือซื้อ แลกคืนจากท่าน มีข้อแม้ว่าจำานวนเงินที่ซื้อคืนต้อง เท่ากันหรือมากกว่าทีเ่ ราซือ้ สัตว์นนั้ มา เช่น ซือ้ มา ๒๐ บาท ต้องซื้อคืนเกิน ๒๐ บาทขึ้นไปห้ามต่ำากว่า เพราะถ้าต่าำ กว่าจะเป็นการติดหนีส้ งฆ์เข้าไปอีก (นอกจากท่านอนุญาติ) แต่ถา้ มากกว่า ๒๐ บาทส่วนที่ เกินนัน้ จะเป็นบุญเพิม่ บุญงอกกับตัวเราเอง หรือจะใช้วธิ ี ทำ า บุ ญ ถวายอาหารแก่ พ ระสงฆ์ โ ดยไม่ ร ะบุ เ จาะจง ให้เป็นสังฆทาน เลี้ยงเด็กอนาถาและคนชราด้วยก็ได้ กระแสบุญที่ทำาเพื่อคนอื่นที่ทุกข์ร้อนกว่าเรา จะช่ ว ยให้ เ ราปราศจากศั ต รู มี แ ต่ ค นเมตตาและ อำานวยพรให้ หรือใช้วิธีการบริจาคเงินสร้างหีบศพ เพื่อศพอนาถาไม่มีที่เผาหรือ½ัง โดยบริจาคผ่านมูลนิธิ หรือหากมีกาำ ลังทรัพย์พอก็ให้บริจาคหีบศพ ๑ ใบ โดย เขียนชื่อบุคคลนั้นๆ (ผู้ที่เกลียดเรา) ว่าเป็นผู้บริจาค เพื่อให้พระท่านโมทนาบุญให้


66

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

สิ่ ง สำ า คั ญ ที่ สุ ด ก็ คื อ ต้ อ งให้ อ Àั ย ทานให้ กั บ เจ้ากรรมนายเวรเสมอ เผาผลาญความอาฆาตในใจเรา ให้ออกไปให้หมดเท่าที่จะทำาได้ การให้ “อÀัยทาน” เป็นทานที่สูงค่าที่สุดยิ่งกว่าทานใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากทำาทานด้วยวัตถุทานและอภัยทานแล้ว ยังต้องเร่งรักษาศีล ๕ ให้ครบ โดยเ©พาะข้อที่ ๔ คือ อย่าไปผิดคำาพูดกับใครทำาให้เกิดความไม่สบายใจ ผิดใจ อาฆาตกันอีก รับปากใครแล้วก็ต้องทำาตามให้ได้ อย่างที่พูด ถ้าทำาไม่ได้ให้นิ่งเสียอย่าไปสัญญา ทั้งหมั่นสวดมนต์เจริญภาวนาให้จิตนิ่ง มีกำาลัง อยูเ่ สมอ เพือ่ เป็นการละลายความเกลียดและโกรธทีม่ อี ยู่ ออกจากจิตใจ อีกทั้งจะช่วยให้จิตใจมีกำาลังมากขึ้น เมือ่ มีปญั หาอุปสรรคใหม่ๆ เข้ามาแล้วจิตจะได้ไม่ตก และให้ใช้หลักพรหมวิหาร ๔ ในการให้อภัย ทัง้ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา


67

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

หรือคนที่ยังขี้โกรธทำาใจให้อภัยไม่ได้ให้เริ่มจาก อุเบกขาก่อน “ช่างมึง ช่างมัน ช่างแม่ง” อาจจะไม่สภุ าพ แต่ใช้ได้ผลและค่อยๆ ขยับเป็น เมตตา กรุณา มุทติ า จะทำาให้การให้อภัยสำาเร็จได้ง่าย สำ า หรั บ การแก้ ไ ขในทางโลกนี้ ค่ อ นข้ า งเป็ น เรื่องยากในการป¯ิบัติ เพราะเป็นเรื่องของการ “ปรับ ความคิด” หรือปรับทัศนคติให้เป็นบวก การรูจ้ กั เปิดใจ ให้กว้างรับ¿ังความคิดเห็นของคนอื่นบ้าง นักบริหาร ผูน้ าำ และคนทีเ่ ก่งๆ เขาใช้ ๓ คำาคือ “สวัสดี ขอโทษ ขอบคุณ” ในทุกวันทำางาน เป็นการคิดบวกและทำาบวกให้เกิดความสบายใจ ไม่ใช่การยอมแพ้ใครหรืออะไร รวมถึงเป็นการ½ƒกให้เรา เป็นคนที่อ่อนน้อมถ่อมตนด้วย ¢ÍãËŒ Ë ÁÑè ¹ á¡Œ ä ¢à»ÅÕè  ¹¡ÃÃÁẺ µÑé§ã¨¨ÃÔ§ ¤Ô´´Õ ·íÒ´Õ äÁ‹Ç‹Ò¨Ð¡Ñºã¤ÃáÅÐ àÃ×Íè §ÍÐäà ·‹Ò¹¨Ð໚¹¼Ù·Œ ·Õè Òí §Ò¹à¨ÃÔÞÃا‹ àÃ×ͧ µÅÍ´ä»


ทำ�งานใดๆ แล้วไม่เจริญรุ่งเรืองในอาชีพ ปัญหาเรื่องงานแบบนี้เชื่อว่าหลายคนอาจเคยประสบ คือ ทำ�งาน ทำ�ธุรกิจการค้ามานานแล้วไม่ค่อยประสบ ความสำ�เร็จในอาชีพที่ตนเองทำ� ต้องเปลี่ยนงานใหม่ อยู่เรื่อยๆ พอเปลี่ยนแล้วก็ยังไม่ดี ถึงจะทำ�ดีแค่ไหน พยายามอย่างไรก็ไม่เจริญก้าวหน้ามากนัก ทุม่ เทแรงกาย แรงใจเต็มที่แต่ทำ�อย่างไรก็ไม่ประสบความสำ�เร็จ ไม่ รวยสักที ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ล้วนมีที่มาที่ไปจากเหตุ แห่งกรรมทั้งสิ้น


69

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เหตุอาจจะมาจากกรรมเก่า อาจเกิดจากเหตุในอดีตชาติเคยอธิษฐานผูกมัด ตนเองไว้ เช่น ในอดีตชาติเคยเป็นทหารแล้วไม่สมหวัง ในอาชีพนี้ และได้ทาำ การอธิษฐานขอให้ชาติหน้าพ้นจาก ความเป็นทหารไม่ตอ้ งข้องเกีย่ วกับอาชีพทหารอีกต่อไป พอมาถึงชาติปัจจุบันยังมีกรรมผูกพันเดิมอื่นๆ ที่มี ผลกรรมแรงกว่า จึงทำาให้กลับมาเป็นทหารอีก หนีกรรม ไม่ได้ แต่เพราะในอดีตเคยปรารถนาให้พ้นจากทหาร ก็เลยไม่เจริญก้าวหน้าในอาชีพนี้ ไม่ว่าจะพยายาม แค่ไหนก็ตาม บางคนทำาอาชีพหนึ่งไม่รุ่งเสียทีแต่พอเปลี่ยน อาชีพใหม่กลับเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว นัน่ เพราะอาจ เคยอธิษฐานจิตไว้หรือเคยไปขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไว้ในอดีตชาติ รวมถึงมีความทรงจำาเดิมหรือสัญญาเดิม ที่เคยทำามาหลายชาติถึงเวลาส่งผลด้วย


70

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เช่น พอลาออกจากทหารแล้วหันมาจับการค้า ก็เจริญรุง่ เรืองได้ (ก็เพราะชาติหนึง่ เคยเป็นพ่อค้าวาณิช ที่รวยมากๆ มีความเก่งในการค้า) ดังที่เราเห็นๆ กัน ในผูน้ าำ คนหนึง่ เคยเป็นตำารวจไม่รงุ่ แต่ตอ่ มาเป็นพ่อค้า รวยแสนล้าน คนนั้นนั่นแหละคงไม่ต้องเอ่ยชื่อ นอกจากสาเหตุเรือ่ งการอธิษฐานแล้ว ยังเกิดจาก จิตทีส่ ง่ ผลกรรมมาก คือมีจติ ริษยา เป็นจิตเห็นผิด เห็น ผูใ้ ดได้ดกี ว่าก็จะชอบจ้องจับผิดและสร้างเรือ่ งหลอกลวง ให้คนคนนั้นเสื่อมเสียชื่อเสียงและคอยใส่ร้ายคนอื่น อยู่ตลอดเวลา หรือคอยแต่เพ่งโทษผู้อื่นอยู่เสมอ หรือ อาจเป็นผู้ที่ชอบเยาะเย้ยผู้ที่ป¯ิบัติธรรมหรือแม้แต่ ขัดขวางไม่ให้เขาเจริญในธรรมได้ ไม่วา่ ด้วยวิธกี ลอุบาย ใดก็ตาม • เหตุจากกรรมใหม่ สาเหตุหลักๆ ของคนทีไ่ ม่เจริญก้าวหน้าก็เพราะ เป็นผูท้ าำ งานแบบไม่ใส่ใจ เช้าชามเย็นชาม ไม่เอาใจใส่ ไม่พั²นาในเนื้องานที่ตนทำา


71

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

นอกจากนั้นยังเป็นผลมาจากการที่ชอบทำาชั่ว ปะปนอยู่เสมอแม้ว่าตัวเองจะทำาบุญเป็นประจำาก็ตาม เช่น ทำางานในหน้าทีเ่ ก่ง แต่เป็นต้นเหตุแห่งความบาป ชอบชวนคนอืน่ ไปกินเหล้าเข้าหาอบายมุข หรือมีชอื่ เสียง ในทางด้านชู้สาว ถ้าเป็นหัวหน้างานก็มนี สิ ยั ชอบส่งเสริมให้บริวาร นัน้ ทำาผิด ไม่คอยห้ามปรามกลับส่งเสริมให้ทาำ ความชัว่ เป็นผูท้ ชี่ อบเอาความดีเข้าตัวแต่เอาชัว่ ให้คนอืน่ ไม่เคย ตอบแทนบริวารในสิ่งที่เขาควรจะได้ หรือปิดกั้นทาง เจริญของผู้อื่นด้วยกลอุบายเพราะไม่อยากให้ลูกน้องที่ เก่งๆ หนีไปจากตน จึงหน่วงเหนี่ยวไม่ให้เขาแยกตัว ออกไปพบกับความเจริญก้าวหน้า • วิธีการแก้ไขเปลี่ยนกรรม ครูบาอาจารย์ท่านเมตตาสอนให้ลองทำาดังนี้ หากใครประสบกับปัญหาดังกล่าว เริ่มจาก


72

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

- ให้ถอนคำาอธิษ°านเสียก่อน หากพบว่าตนเอง ทำางานไม่มคี วามสุข ไม่เจริญก้าวหน้า ถูกบังคับกดดัน หรือเจริญก้าวหน้าได้ช้า ภายหลังจากที่ทำาบุญมาแล้ว อย่างสม่ำาเสมอก็ต้องทำาการ “ปลดล็อกตัวเอง” ด้วย คื อ กล่ า วถอนคำ า อธิ ษ ฐานที่ เ คยมี ม าตั้ ง แต่ อดีตชาติเพือ่ ทีจ่ ะได้หมดสัญญากรรมนัน้ ไป วิธกี ล่าวก็ ง่ายๆ สบายๆ ตั้งจิตให้มั่น กล่าวดังนี้ “¢ŒÒ¾à¨ŒÒ¹ŒÍÁ¶ÇÒºØÞ¡ØÈÅ·Õè·íÒÁÒ㹤ÃÑ駹Õé áÅÐã¹·Ø¡À¾ªÒµÔ á´‹¾Ãоط¸ ¾ÃиÃÃÁ ¾ÃÐʧ¦ ¢ÍÍíÒ¹Ò¨áË‹§ºØÞ¡ØÈŹÕéâ»Ã´´ÅºÑ¹´ÒÅãËŒ¢ŒÒ¾à¨ŒÒ ໚¹¼ÙŒÁÕºØÞ¡ØÈÅ ÁÕ¡íÒÅѧºØÞÊíÒ¤ÑÞ㹡ÒâͶ͹¤íÒ Í¸ÔÉ°Ò¹àÃ×èͧÍÒªÕ¾áÅзءàÃ×èͧ·Õè» ´¢ÇÒ§¤ÇÒÁà¨ÃÔÞ ÃØ‹§àÃ×ͧã¹À¾ªÒµÔ¹Õé¹ÑºµÑé§áµ‹ºÑ´¹Õé໚¹µŒ¹ä»” - ทำาสัง¦ทานใหญ่ หรือตามกำาลังทรัพย์ทมี่ กี าร ทำาสังฆทานโดยปกติจะกระทำาเพียงถวายเครือ่ งไทยธรรม โดยไม่จำาเพาะเจาะจงกับภิกษุรูปใด ถ้าเป็นไปได้ควร ถวายพระพุทธรูปประจำาวันเกิดของตนเองอย่างน้อย หน้าตักหรือสูง ๕ นิว้ ขึน้ ไป หรือจะร่วมสร้างก็ได้ทงั้ สิน้


73

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เครื่องบวชให้ครบชุดรวมไปถึงหนังสือธรรมะ โดยเวลาถวายให้ทำาเหมือนการทอดผ้าป†า คือหากิ่งไม้ มาปักที่ชุดของสังฆทาน แล้วเอาผ้าไตรจีวรของต่างๆ มาพาดบนไม้ให้พระสงฆ์ท่านได้ชักผ้าไตรจีวรออก เป็นการแสดงการรับทานทีเ่ ราทำา เดียë วนีม้ ที าำ ทีว่ ดั และ สำานักป¯ิบตั ธิ รรมทัว่ ไปแล้วแบบเป็นชุดบริจาคบาทสอง บาท สิบบาทก็ได้ไม่จำาเป็นต้องใช้เงินมาก - งดเว้ น การรั บ ประทานเนื้ อ สั ต ว์ สั ป ดาห์ ละครั้ง การงดเว้นเนื้อสัตว์เป็นข้อวัตรที่ส่งเสริมศีล ข้อที่ ๑ ซึง่ ไม่เว้นก็ได้ แต่ถา้ ทำาได้กจ็ ะเป็นผลดี เป็นการ ½ƒกจิต ลดตัวตนลง มีความเมตตาต่อสรรพสัตว์ตา่ งๆ รู้จักพอ รู้จักการให้ และร่างกายก็ดีด้วยเพราะได้พัก จากการทำางานหนักในทุกส่วน - ต้องถือÈีล ๕ ให้เคร่งครัดตลอดไป ศีลทีต่ อ้ ง ให้การใส่ใจและเน้นเป็นพิเศษก็คอื Èีลข้อ ๑ และข้อ ๒ เรื่องของการฆ่าสัตว์ เบียดเบียนคนอื่นหวังเอาทรัพย์ คนอืน่ โดยมิชอบ โดยเ©พาะยิง่ ถ้าเจ้าของเขาไม่อนุญาต


74

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เพราะหากยังทำาจะเป็นการสร้างกรรมที่ จ ะ ขวางทางความสำาเร็จความร่ำารวยของตนเอง ถ้าเป็น ไปได้ควรรักษาศีล ๘ สำาหรับศีล ๘ นั้นถือในวันศีล หรือวันพระก็ได้ไม่จำาเป็นต้องถือทุกวัน ก็จะยิ่งเพิ่ม บุญกุศลให้ตัวเองมากขึ้นไปอีก - หมั่นบูชาขอพรสิ่งÈักดิìสิทธิìให้เป็นประจำา สิง่ ศักดิส์ ทิ ธิน์ นั้ ขอให้เรายึดหลักการ “ป¯ิบตั บิ ชู า” เป็น สำาคัญ คือศึกษาประวัติของท่านแล้วน้อมนำาคุณธรรม คุณงามความดี วัตรป¯ิบตั ขิ องท่านมายึดถือป¯ิบตั ติ าม ถือเป็นการป¯ิบัติบูชาท่านแบบสูงสุด เช่น พระอุปคุตอรหันต์เจ้า พระคุณความดีที่ ท่านชนะมารทั้งปวงคือการให้ทานและให้อภัย เราก็ ยึดหลักข้อนีไ้ ว้ให้มน่ั ป¯ิบตั ติ ามท่านให้ได้ และเวลาขอพร จากท่านก็คือขอพรเ©ยๆ ขอให้จิตเรามีกำาลังในการให้ อย่าได้ไปติดสินบนทำาการบนบานเป็นอันขาด เพราะ จะเป็นการลดบุญตนเอง ทำาให้จิตตกลงไม่เป็นกุศล หรืออย่าขอพรในสิ่งที่เป็นไปในทางผิดหลักศีลธรรม


75

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เพราะนอกจากจะไม่ได้สมปรารถนาแล้วยัง เป็นการสร้างกรรมขวางทางเจริญขึน้ มาใหม่อกี ต่างหาก สำาหรับเรือ่ งทางโลก เราต้องพิจารณาอยูเ่ สมอว่า งานที่เราทำานั้นเราได้ทำาอย่างสุดความสามารถแล้ว หรือยัง เพียงพอแล้วกับความสำาเร็จที่เราสมควรได้รับ หรือไม่ และงานนัน้ เป็นประโยชน์กบั ตัวเองและคนอืน่ ๆ เพียงใด โดยต้องเพิ่มขีดความสามารถให้ครบ ๕ ประการ ๑. เพิ่มความสามารถในการทำางาน การเพิ่ม ขีดความสามารถในการทำางานอันหมายถึงต้องขยัน มากขึ้น เคยทำางานในปริมาณงานเดิมก็ต้องทำาให้มาก ขึน้ หากเป็นเจ้าของกิจการเคยเปิดร้าน ๘ ชัว่ โมง ก็ลอง ขยายเวลาเปิดร้านเพิม่ และลงมือทำางานอย่างเต็มความ สามารถ ๒. เพิม่ ความสามารถในด้านมนุษยสัมพันธ์ คำา ว่า “มนุษยสัมพันธ์” นั้นมีส่วนสำาคัญต่อความเจริญ ก้าวหน้าเป็นอย่างมาก


76

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

งานใดที่เกินขีดความสามารถก็ต้องใช้มนุษยสัมพันธ์ขอร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นอย่างจริงใจ และควรตอบแทนความช่วยเหลือของผู้ที่มาให้ความ ช่วยเหลือเราอย่างสมเหตุสมผลด้วย ๓. เพิม่ ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ คน ทีจ่ ดุ เดือดต่าำ แม้จะมีมนุษยสัมพันธ์ดี แต่กจ็ ะทำาให้ขาด เสน่หไ์ ปอย่างสิน้ เชิง หากทำาตัวเป็นเม่นคอยพองขนไม่ ให้คนเข้าใกล้ ก็จะทำาให้ไม่มีคนอยากร่วมงานด้วย ๔. เพิ่มความสามารถในการประสานงาน การ ประสานงานนั้นมีความคล้ายคลึงกับความสามารถ เชิงมนุษยสัมพันธ์ แต่ความสามารถในการประสานงาน ยังมีความหมายรวมไปถึงความสามารถในการติดต่อ สือ่ สาร คือไม่ใช่แค่มมี นุษยสัมพันธ์ดี แต่ตอ้ งเป็นคนที่ ©ับไวกระ©ับกระเ©ง สือ่ สารได้ชดั เจน พูดจาชัดถ้อยชัดคำา และมีความมั่นใจ


77

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เมื่อรวมกับความสามารถในด้านมนุษยสัมพันธ์ แล้ว ก็จะทำาให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างบุคคลต่อ บุคคล คู่ค้า หรือลูกค้าของหน่วยงานที่เราทำางานอยู่ ๕. เพิ่มความสามารถในการวางแผนของชีวิต กล่าวโดยรวมทั้งสามด้าน คือชีวิตการทำางาน ชีวิต ครอบครัว และชีวิตส่วนตัวให้ลงตัวไม่เหลื่อมล้ำา ให้ สมดุลกันและกัน เพราะหากเหลื่อมล้ำากันไปด้านใด ด้านหนึ่งมากแล้วก็จะเกิดภาวะกดดันในชีวิตทันที บางคนโหมงานมากไปจนชี วิ ต ส่ ว นตั ว และ ครอบครัวไม่มีความสุข ความเจริญก้าวหน้าก็อาจ เกิดขึ้นได้จริงแต่ก็คงไม่สามารถมีความสุขที่แท้จริงได้ ใครที่มีปัญหาในเรื่องนี้ขอให้ลองทำากันดู ป�¯ิ ห �ริ ย จ Ðเกิ ด ขÖé น กั บ คนที่ ทำ � จริ ง เท่านั้น


ทำ�งานหรือค้าขาย เจอแต่อุปสรรคหรือสิ่งที่ไม่คาดคิดอยู่เสมอ บางท่านอาจจะเคยพบเจอหรือกำ�ลังเผชิญอยู่ในการ ทำ�งานหรือประกอบธุรกิจการค้า เช่น ลูกค้าเลือ่ นจ่าย เงินบ่อยทำ�อะไรก็ติดขัด เกือบจะได้อยู่แล้วแต่สุดท้าย ก็ไม่ได้งาน หรือการค้าเกิดความเสียหายทำ�ให้ล่าช้า ทัง้ ๆ ทีด่ แู ล้วไม่นา่ จะเกิดเหตุการณ์ทจ่ี ะก่อความเสียหาย เหล่านั้นขึ้นได้เลย เรื่องราวเหล่านี้มักจะเป็นเรื่องที่ ไม่คาดคิด หลายคนอาจถึงขนาดหมดเนื้อหมดตัว เสียอนาคต


79

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

• เหตุอาจจะมาจากกรรมเก่า ครัง้ หนึง่ หรือในภพหนึง่ อาจจะเคยทำากรรมไว้กบั พ่อแม่ผู้มีพระคุณไม่ว่าทางใดก็ตามทั้งกาย วาจา ใจ กรรมนี้ถือเป็นกรรมหนักปิดทางเจริญเลยเมื่อกรรมมา ส่งผล หรืออาจเป็นผู้เคยสร้างกรรมโดยเคยไม่รักษา สัญญาทีใ่ ห้ไว้กบั พระสงฆ์ ผูป้ ¯ิบตั ธิ รรมหรือสิง่ ศักดิส์ ทิ ธิ์ เช่น เคยบอกกล่าวท่านว่าจะเป็นธุระเรื่องนั้น เรื่องนี้ให้แต่ก็ไม่ได้ทำาตาม ปล่อยให้ท่านต้องไปทำาเอง หรือบนบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้แล้วไม่ทำาตามสัจจะ ก็จะส่งผลให้เวลาทำามาค้าขายจะเจอโรคเลือ่ นจ่ายบ่อย เพราะตนเองเคยผิดนัดกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ ส่วนกรรมที่ทำาให้เจออุปสรรคประเภทกำาลัง จะได้แล้วไม่ได้ในนาทีสุดท้าย เป็นกรรมที่เคยพราก ประโยชน์ผู้อื่นทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น เคยเป็น ทหารไปสู้รบในศึกสงครามและจุดไ¿เพื่อไล่ศัตรูโดย ไม่สนใจว่าไ¿นั้นจะไหม้ลุกลามไปยังที่แห่งใดบ้าง


80

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เช่น ทำาให้วัดวาอาราม เรือกสวนไร่นาของ ส่วนรวมเสียหายใหญ่หลวง หรือเป็นผู้เคยพลาดพลั้ง ทำาร้าย ทำาลายชีวิตผู้อื่นโดยไม่ตั้งใจ • เหตุอาจจะมาจากกรรมใหม่ ต้องพิจารณาถึงสาเหตุทที่ าำ ให้เกิดความขัดข้อง นัน้ ว่าอาจจะมาจากการกระทำาใดในปัจจุบนั เราอาจจะ ไม่มีสัจจะในการรักษาสัญญากับคนอื่นก่อน จนทำาให้ คนอืน่ ได้รบั ความเดือดร้อนและเสียหายจากการกระทำา ของเรา เขาจึงเลื่อนจ่ายเราบ้าง ส่วนเรื่องของการเจอแต่อุปสรรคในการทำางาน นัน้ อาจจะเป็นเพราะการทำางานในแต่ละขัน้ ตอนเต็มไป ด้วยความประมาทไม่มีความเอาใจใส่ในเนื้องานที่ทำา เพียงพอ ทำาให้งานล่าช้าหรือเสียหาย ไม่เรียนรู้สิ่งที่ ทำาพลาดมาแล้วและประมาทมากเกินไป


81

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

• การแก้ไขเปลี่ยนกรรมทำาให้ชีวิตดีขึ้น เคล็ดสำาคัญมากข้อหนึง่ ก็คอื ให้ไปกราบเท้าพ่อ แม่ ไปขออโหสิกรรมต่อท่าน ให้หาน้ำาสะอาดล้างเท้าพ่อแม่แล้วเช็ดเท้าให้ ท่าน เอ่ยขอให้ทา่ นให้อโหสิกรรม ตัง้ จิตสัจจะอธิษฐาน ขอเป็นลูกที่ดี ทำาทุกอย่างให้ท่านสุขกายสุขใจ และ ขอพรจากท่านให้สำาเร็จในการงานที่ทำา เพราะพรของ พ่อแม่Èักดิìสิทธิìยิ่งกว่าพรของเทวดาชั้นใดทั้งสิ้น ต้องหมั่นทำาทานแก่ส่วนรวมให้มาก เพราะเรา อาจเคยไปทำากรรมที่ก่อความเสียหายต่อผู้อื่นและใน “ของส่วนรวม” เอาไว้ การแก้ไขก็ตอ้ งพยายามทำาทาน แบบเพือ่ ส่วนรวมให้บอ่ ยครัง้ ขึน้ เช่น การทำาบุญด้วยการ ถวายอาหารเป็นสังฆทานพระสงฆ์ครั้งละ ๔ รูปขึ้นไป หรือเลี้ยงเด็กยากจนอนาถาผู้ยากไร้หรือคนชราไร้บ้าน ให้เขามีความสุข ให้แบบไม่ตอ้ งเลือก ให้ไปโดยไม่ตอ้ ง เสียดาย


82

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

หากไม่มีกำาลังทรัพย์มากพอก็ให้ทานด้วยกำาลัง หรือด้วยเลือดเนือ้ ชีวติ ของตนเอง เช่น ไปทำาการบริจาค ร่างกายหรืออวัยวะไว้เพื่อประโยชน์แก่ผู้เจ็บป†วยทั่วไป หรือบริจาคเลือดเพื่อต่อชีวิตผู้อื่น หรือช่วยร่วมทำาบุญ ที่เกิดประโยชน์ทางสาธารณะให้มากที่สุด เช่น การไปขัดห้องน้ำาให้วัด การช่วยขนปูน ขนทรายร่วมสร้างวัด ร่วมสร้างโรงพยาบาล บริจาค เงินซือ้ เครือ่ งมือแพทย์บริจาคให้โรงพยาบาล สร้างถนน หนทาง สร้างสะพาน บุญเหล่านีเ้ ป็นบุญใหญ่ทเี่ กิดขึน้ ต่อเนื่องเพราะมีคนใช้ประโยชน์ในสิ่งนั้นมาก นอกจากเรื่องดังกล่าวแล้วต้องรักษาศีลอย่าง น้อยศีล ๕ อย่างเคร่งครัด เพราะอานิสงส์ของศีล ๕ จะช่วยเป็นเกราะป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิด ขึ้นมาได้ กรรมไม่ดีก็จะไม่มีกำาลังพอที่จะเจาะเกราะ แห่งบุญที่เกิดจากศีลได้


83

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เพราะศีลเป็นเครือ่ งกัน้ ความชัว่ ร้ายทัง้ มวลและ ป้องกันไม่ให้บุญงามความดีรั่วไหลออกจากตัวอีกด้วย ศีลจะเก็บกักบุญทีเ่ ราทำาให้สง่ ผลเร็วขึน้ ทำาให้ชวี ติ ดีขนึ้ อย่างรวดเร็ว อีกทัง้ ต้องหมัน่ สวดมนต์ภาวนา ทำาสมาธิเพือ่ ให้ ตนเองเกิดกำาลังใจทีเ่ ข้มแข็ง และสุดท้ายก็ขอให้ตงั้ จิต อธิษฐานขออโหสิกรรมจากเจ้ากรรมนายเวรทัง้ หลายให้ เขาทั้งหมดถอนตัวไปจากเรา หรือจะใช้วิธีสวดมนต์ อุทิศบุญเพื่อปรับภพภูมิให้เจ้ากรรมนายเวรนั้นเป็นผู้มี ความสุขขึ้นเจริญขึ้นก็สามารถทำาได้ สำาหรับการแก้ไขในทางโลก ให้พยายามพิจารณา ว่าเหตุที่ทาำ ให้อปุ สรรคเกิดขึ้นเพราะอะไร ให้ใช้ธรรมะ ในการทำางาน ที่อยากจะขอแนะการทำางานให้เกิดผล มากขึน้ ตามหลักของกรรม ว่าด้วย วัตถุ ประโยค และ เจตนา


84

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

วัตถุกรรม คือการทำางานให้เนื้องานนั้นเกิดผล มากที่สุด ทำาทุกอย่างให้งานนั้นเกิดประโยชน์สูงสุด แก่ทุกคน ทำางานด้วยความคิดดี คิดบวก ด้วยความ เต็มใจเต็มทีก่ บั ลูกค้า เพือ่ นคูค่ า้ หรือแม้แต่ลกู น้องใน ปกครองเพื่อการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีสร้างมิตรภาพ ในงาน ประโยคกรรม ก็คอื คนทีม่ คี วามพยายามมากกว่า ขยันขันแข็งกว่า จะยังผลให้สาำ เร็จได้เร็วกว่าและความ ผิดพลาดก็จะน้อยกว่าด้วย เมื่อพบปัญหาแม้ตัวเองจะ แก้ไขไม่ได้ก็ไม่ยอมหยุดนิ่งที่จะไปขอความช่วยเหลือ จากผู้ที่ชำานาญงานกว่าช่วยแก้ปัญหาให้ พยายามทุก วิถีทางเพื่อให้งานสำาเร็จอันไม่ผิดไปจากศีลจากธรรม ก็ จ ะได้ รั บ ความชื่ น ชมและเป็ น การป้ อ งกั น ตั ว เอง ออกจากความเดือดร้อนที่จะเกิดจากงานนั้นด้วย เจตนากรรม ก็คือมีความมุ่งหวังที่จะสร้างงาน ทำางาน ธุรกิจการค้านัน้ เพือ่ ประโยชน์สว่ นรวมเป็นทีต่ งั้


85

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เช่น ตั้งใจทำาสินค้าที่มีคุณภาพดีแต่ราคาถูก จำาหน่ายไปทั่วประเทศเพื่อให้คนที่มีโอกาสน้อยได้ร่วม ใช้สินค้าหรืองานนั้นได้ไม่ยากนัก คนทีท่ าำ งานมีเจตนาแบบนีจ้ ะร่าำ รวยขึน้ ไปเรือ่ ยๆ และร่ำารวยมั่นคงไม่มีตก ผิดกับคนที่ทำางานการค้า แบบ©าบ©วย คือลดราคา ลดต้นทุน ลดคุณภาพลง เพียงเพื่อหวังให้ตนเองกำาไรเยอะๆ แม้จะร่ำารวยเร็ว ในตอนแรกๆ แต่ความสำาเร็จนั้นจะไม่ยั่งยืนแน่นอน หลักการทำางานว่าด้วยวัตถุ ประโยค และเจตนานี้ ½ากให้ทกุ ท่านได้พจิ ารณาร่วมกัน แต่ถา้ หากได้กระทำา การครบทุกอย่างตามนี้แล้วยังประสบปัญหาต่างๆ ไม่ หยุดหย่อนก็แสดงว่าบุญของเรายังไม่มากพอที่จะรับ หน้าทีค่ วามรับผิดชอบนีเ้ ปรียบเหมือน งานนัน้ มันเกินบุญของเรา ต้องเร่งสร้างบุญบารมีเพิม่ ด้วยวิธกี าร ที่กล่าวมาทั้งหมด คือหลักแห่งทาน Èีล Àาวนาโดย เร่งด่วนเพื่ิอให้บุญมากพอจะรองรับได้


กรรมต้องเจอแต่คดีความ

เรื่องร้ายๆ

โดยไม่คาดคิด

เรือ่ งของคดีความและเรือ่ งร้ายๆ นัน้ คงเป็นสิง่ ทีท่ กุ คน ไม่อยากเจอ บางคนไม่ตงั้ ใจก็ตอ้ งเจอ หนีไม่ได้ บางคน อยู่ดีๆ คิดทำ�ดีแล้วก็ยังเจอเพราะเหตุใด • เหตุอาจจะมาจากกรรมเก่า เรื่ อ งนี้ อ าจเกิ ด จากกรรมโดยการที่ เ คยไป ใส่ความคนอืน่ หรือทำ�ให้เขาถูกจองจำ�ทุกข์ทรมาน หรือ คอยยุยงส่งเสริมให้คนอื่นทำ�ความชั่ว


87

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

หรือหลอกให้คนอื่นทำาความชั่วแทนตนเพื่อให้ เขาต้องรับกรรมไปแต่เราได้ผลประโยชน์ หรือร่วมกัน ทำาผิดต่อบ้านเมือง ต่อผูอ้ นื่ หรือแม้แต่เห็นคนทีร่ ว่ มงาน ทำาผิดก็ไม่สนใจที่จะห้ามปรามเพราะมีผลประโยชน์ ร่วมทัง้ ๆ ทีเ่ ป็นหน้าทีข่ องตน เช่น เป็นเจ้าพนักงานทีเ่ ห็น แก่อามิสสินจ้าง เป็นพ่อค้าที่เห็นแก่ได้คอยติดสินบน เป็นพ่อค้าทีเ่ อาเปรียบพ่อค้าด้วยกัน โกหกคดโกงลูกค้า ทั้งๆ ที่สินค้าไม่ดีก็หลอกว่าดีจนทำาให้ผู้อื่นเกิดความ เสียหาย หรือเป็นคนปากไม่ดีว่าร้ายเขาไปทั่ว ทำาให้ คนอื่นเจ็บช้ำาน้ำาใจอย่างหนัก • เหตุอาจจะมาจากกรรมใหม่ พื้นฐานที่ทำาให้เกิดคดีความก็คือ เป็นคนที่มี ความประมาทอยู่ในชีวิตอยู่ตลอดเวลา คือไม่รู้จัก ระมัดระวังการกระทำาในสิง่ ใดๆ ให้รอบคอบ เห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัวโดยไม่ละอายต่อบาปที่เกิดขึ้น คือไม่มีสติ นิ่งพอที่จะพินิจพิจารณาในการกระทำาสิ่งนั้น


88

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

หรือเพราะอาจเห็นแก่ตัวมากจึงเป็นเหตุให้เกิด ความเดือดร้อนกับผู้อื่น นอกจากนั้นยังเกี่ยวข้องกับ ความมีกิเลสในเรื่องของความโลภและความโกรธคอย ครอบงำาจิตใจตลอดเวลา ไม่รจู้ กั ระงับอารมณ์ความอยาก หรือความโกรธได้ เช่น เมื่อถูกท้าให้แข่งขันใดๆ ก็ไม่ สามารถระงับความโกรธได้ มักกระทำาการอย่างขาดสติ • การแก้ไขเปลี่ยนชีวิต ครูบาอาจารย์ท่านเมตตาบอกว่า ผู้ที่เจอกับ คดีความบ่อยๆ มักจะมาจาก “สติ” การคิดไม่รอบคอบ ทำาให้ประมาท สิ่งแรกที่ควรทำาคือ½ƒกสมาธิให้เกิด ปัญญาและรู้เท่าทัน การ½ƒก “สติ” คือต้องรู้ตัวอยู่ตลอดเวลาว่าเรา กำาลังทำาอะไรอยู่ คือรูว้ า่ งานหรือเครือ่ งมือหากินทีท่ าำ นัน้ เป็นงานสุจริตหรือไม่ เพราะหากเป็นสิง่ ทีไ่ ม่ดไี ม่สจุ ริต ก็ยอ่ มมีโอกาสสูงทีจ่ ะต้องเผชิญหน้ากับตัวบทก®หมาย และต้องขึ้นโรงขึ้นศาลอย่างแน่นอน


89

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ควร½ƒกการควบคุมอารมณ์ในการกระทำาต่อ ทุกๆ สิง่ โดยวางอารมณ์ให้เป็นปกติเรียบเ©ย (อุเบกขา) ไม่อยากได้ ไม่อยากมีในสิ่งที่ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่บุญ ของเรา เรื่องใดที่แก้ไขไม่ได้หรือเป็นไปแล้วก็ให้วางจิต ลงอย่าไป¿ุง้ ซ่าน อย่าใช้อารมณ์แบบขาดสติจนเป็นเหตุ ให้เกิดคดีความ พยายามทำางานหรือทำาธุรกิจอย่าง ตรงไปตรงมาที่สุด ให้เป็นเกราะป้องกันและเป็นทางทีด่ ที สี่ ดุ ในการ ป้องกันการถูก¿้องร้องให้เกิดคดี รวมไปถึงเรื่องการ จ่ายเงินภาษีด้วยเพราะมีหลายๆ บริษัทที่ประกอบ กิจการงานดีทกุ อย่าง ทำางานเป็นระบบ สินค้าก็เป็นของดี มีคณุ ภาพและเป็นธรรมกับผูบ้ ริโภค แต่ไม่ยอมจ่ายภาษี หรือตกแต่งบัญชีปลอมไปหลอกเจ้าหน้าที่ ก็กลายเป็น เหตุแห่งคดีความได้เช่นกัน นอกจากนัน้ ยังอาจเสีย่ งต่อ การถูกใส่ร้ายป้ายสีอีกด้วย


90

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ควรหมั่นไปทำาบุญทำาทานด้วยการให้หนังสือ เสื้อผ้า อาหาร และของใช้อันจำาเป็นต่อชีวิตประจำาวัน กับคนทีถ่ กู จองจำา คนทีด่ อ้ ยโอกาส คนป†วย หากมีเงิน พอเหลือควรไปซื้อโลงศพทำาบุญทำาทานให้ผู้เสียชีวิตที่ อนาถา ¶้�กรรมหนักนันé ครูบ�อ�จ�รย ท�่ นแนÐนำ� ให้บวช ถ้าบวชพระ บวชชีสละเพȦราวาสไม่ได้ ขอãห้เข้�ไปบวชเนกขัมมÐหรือบวชพร�หม³ ป¯ิบัติ¸รรมที่วัด ¶ือÈีล ø อย่�งเคร่งครัด และถ้าได้รว่ มสร้างพระประธานหรือพระใหญ่ๆ แล้วอุทิศบุญไปให้เจ้ากรรมนายเวรเสียยิ่งเป็นการดี มากๆ ทีจ่ ะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ พยายามถือศีล ๕ ให้เคร่งครัดที่สุด โดยเ©พาะข้อ ๒ เรื่องการเอาทรัพย์ ผู้อื่นโดยมิชอบ ทำาบุญทุกครัง้ ต้องอุทศิ บุญเจาะจงให้แก่เจ้ากรรม นายเวรโดยเ©พาะคูก่ รณีหรือคูค่ วามของตนเองทีก่ าำ ลัง มีปัญหาต่อกันอยู่เป็นประจำา


91

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เพราะการทีค่ นเราต้องเกิดมาเจอกันและผูกพัน กันจนต้องก่อเวรก่อกรรมให้เป็นคดีความนั้นก็เพราะ เคยสร้างกรรมที่ไม่ดีร่วมกันมาก่อนและผูกเวรต่อกัน จึงทำาให้เดือดร้อนสร้างกรรมกันต่อไปไม่รู้จบ เมือ่ คดีความคลีค่ ลายแล้วให้หมัน่ ขออโหสิกรรม เจ้ากรรมนายเวรตลอดเวลาให้เป็นนิสัย เพราะถ้า เจ้ากรรมนายเขาพอใจให้อโหสิกรรม ผลกรรมหนักที่ ต้องเจอก็ห่างหรือหายไปแล้วส่วนหนึ่ง ทีเ่ หลือก็อยูท่ ตี่ วั เราจะสร้างเวรกรรมต่อ อีกหรือไม่ ก็สุดแต่บุญและกรรมเถิด

ËÁÒÂà赯 ãËŒÊÇ´Á¹µ º·ÍØ·ÔȺØÞáÅк·¢ÍÍâËÊÔ¡ÃÃÁ ãËŒº‹Í·ÕèÊØ´à·‹Ò·Õè¨Ð·íÒä´Œ º·ÊÇ´Á¹µ ·ÕèÍÂÒ¡¨Ðá¹Ð¹íÒ¤×ͺ·ÊÇ´ ¾ÃЪÑÂÁ§¤Å¤Ò¶ÒËÃ×Í·ÕèàÃÕ¡¡Ñ¹Ç‹Ò “º·ÊÇ´¾ÒËاÁËÒ¡ÒÏ” áÅÐ “º·ÊÇ´¾ÃÐÁËҨѡþÃôԔ ¢Í§ËÅǧ»Ù†´Ù‹ ÇÑ´ÊÐá¡ ¨Ñ§ËÇÑ´ÍÂظÂÒ


เงินขาดมือ ไม่พอใช้ตลอด เพราะเหตุใด • เหตุอาจจะมาจากกรรมเก่า คนที่มีปัญหาเรื่องเงินขาดมืออยู่บ่อยๆ อาจจะ เกิดจากการกระทำ�ในอดีตชาตินนั้ เคยทำ�ทานมาไม่ครบ ตามเหตุและปัจจัย ซึง่ หมายถึง เวลาในการทำ�ทานนัน้ ยังมีจิตที่ตกอยู่ ยังคงเสียดายทานที่ทำ�ไป ตั้งใจว่าจะ ทำ�ทานด้วยอาหารคาวหวาน ๔ อย่าง ผลไม้ ๕ อย่าง


93

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

พอเอาเข้าจริงหรือเวลาลงมือป¯ิบัติในทานนั้น กลับรู้สึกเสียดายหรือว่าด้วยเหตุอะไรก็ตามจึงทำาทาน นั้นน้อยลงไปจากที่เคยตั้งใจไว้ รวมถึงการไปขอพร ตั้งสัจจะกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วไม่ทำาตามสัจจะนั้นด้วย ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งท่านได้เมตตากล่าวถึง การตั้งใจสร้างบุญหรือไปรับปากพระสงฆ์แล้วไม่ได้ทำา หรือทำาเกินทีร่ บั ปาก ซึง่ อาจจะมีผลต่อเรือ่ งเงินทองมาก โดยให้พิจารณาดังนี้ ๑. ทำาน้อยกว่าที่ตั้งใจ เงินทองจะขาดมือบ่อย มักจะมีแต่ปัญหาการเงินตลอดเวลา คาดหวังว่าจะได้ เงินก็มักจะพลาดไม่ได้ดังใจหวัง ๒. ทำาเท่ากับทีต่ งั้ ใจ จะมีความสุขตามบุญทีท่ าำ เงินทองไม่ขาดมือ มีใช้แต่ไม่คอ่ ยเหลือเก็บ ยังช่วยเหลือ ใครไม่ได้หรือช่วยได้แต่น้อยมาก ๓. ทำามากกว่าทีต่ งั้ ใจเอาไว้ เงินทองจะมากมาย เหลือกินเหลือใช้ โชคลาภเข้ามาอย่างไม่ทนั ตัง้ ตัว อยูๆ่ ก็มีเงินทองเข้ามาและเป็นเงินที่เข้ามาอย่างถูกต้อง ถูกธรรมด้วย


94

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

และสามารถไปช่วยเหลือคนอื่นได้ตลอดเวลา เป็นบุญงอกที่งอกเงยทำาให้คนผู้นั้นพบกับความสุข ความเจริญ ซึ่งทั้ง ๓ ประเภทนี้ใครอยากรวย อยาก มีเงินก็ขอให้คิดเอาเองว่าจะทำาบุญแบบไหนดีเมื่อได้ ตั้งใจเอาไว้แล้ว การทีเ่ งินทองต้องขาดมือบ่อยๆ หมุนไม่ทนั นัน้ อีกสาเหตุหนึ่งมาจากการที่วัตถุทานที่เอามาสร้างบุญ นั้นไม่บริสุทธิ์ อาจจะมีบาปเจือปนคือวัตถุทานนั้น อาจจะซื้อมาด้วยเงินที่ไม่บริสุทธิ์ เป็นเงินที่มาจากการ ได้มาทางอบายมุขหรือผิดศีล ด้ ว ยเหตุ นี้ บุ ญ กุ ศ ลที่ เ คยทำ า มาจึ ง มี ลั ก ษณะ แบบครึง่ ๆ กลางๆ ขาดๆ หายๆ เดียë วก็มเี งินทองมาก เดียë วก็หมดอีกวนเวียนไปมา ประเภท “รวยไม่ทน จน ไม่นาน” ถ้าเป็นผูม้ บี ญุ กลุม่ น้อย ขาดบุญทีม่ ตี อ่ กัลยาณมิตร จะไปหยิบยืมใครเขาก็ยากเพราะไม่มีบุญเชื่อมกับเขา ไว้พอ


95

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

หรือเกิดความยากลำาบากต้องเจอกับอุปสรรค ก่อน กว่าจะได้รับการช่วยเหลือ บางครั้งต้องโดนเขา ต่อว่าต่อขานหรือดูถกู เอา ซึง่ คนทีเ่ ขาต่อว่าดูถกู เหล่านี้ เขาอาจเคยเป็นเจ้ากรรมนายเวร คือเคยเป็นเจ้าของ วัตถุทานทีเ่ ราเคยไปขโมยไปยืมเขาแล้วไม่ใช้เขามาก่อน • เหตุอาจจะมาจากกรรมใหม่ การที่เราหาเงินได้แบบชักหน้าไม่ถึงหลังนั้น ไม่ใช่วา่ จะเกิดจากกรรมเก่าเพียงอย่างเดียว เราต้องมา พิจารณาว่าเราทำาเหตุให้ตรงกับผลหรือไม่ด้วย คือ พิจารณาจากการกระทำาในปัจจุบนั ซึง่ เห็นได้ชดั เจนกว่า กรรมเก่าในอดีตเสียอีก ยกตัวอย่างเช่น ในการประกอบอาชีพเราเป็นคน ใจเร็ว ตัดสินใจพลาด ในบางครัง้ อาจจะทำาให้ชวดโอกาส สำาคัญ หรือตัวของเรายังเป็นคนที่ใช้เงินด้วยอารมณ์ มากกว่าเหตุผล ใช้เงินเกินความจำาเป็นจริง


96

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

รายจ่ายมากกว่ารายได้ หรือขาดปัญญาในการ ใช้เงินก็ย่อมต้องมีปัญหาทางการเงินอยู่ตลอดเวลา การแก้ไขควรเป็นไปทั้งสองทางทั้งทางโลกและทาง ธรรมเพื่อให้เกิดการเสริมแรงซึ่งกันและกัน • การแก้ไขเปลี่ยนชีวิต ทางแก้ไขในเรือ่ งนีแ้ บบเร่งด่วนให้ได้ผลทันใจนัน้ ครูบาอาจารย์ท่านเมตตาแนะนำาว่า ให้ “สร้างบุญ หนีกรรม” ควรหมั่นสร้างบุญด้วยการทำาทาน เรียกว่า “มหาทาน” ประกอบไปด้วยทาน ๓ อย่างทีเ่ กิดผลบุญ มากอย่างสม่ำาเสมอในทุกๆ วันหรือมีโอกาส คือ วัตถุทาน ธรรมทาน และอÀัยทาน - วัตถุทาน เอาแบบทีต่ งั้ ใจทำาแบบไหน แค่ไหน ให้ทำาแบบนั้น อยากทำา ๑ บาท ก็ ๑ บาท อยากทำา ๑๐๐ บาท ก็ ๑๐๐ บาท อยากถวายข้าวเปล่าก็ขา้ วเปล่า ไม่ต้องเสียดาย


97

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ในการทำาทานทุกครั้งควรระวังอย่าให้จิตตก ไปพะวงว่าคนทีร่ บั ทานนัน้ เขาจะเอาวัตถุทานหรือปัจจัย นั้นไปทำาอะไร ยิ่งวัตถุทานนั้นเป็นสิ่งที่จำาเป็นมากต้อง ใช้ในชีวิตของเราแต่เราเสียสละให้คนอื่นได้ ก็จะยิ่งมี อานิสงส์มาก - ธรรมทาน คือการเอาความรู้ไปช่วยให้เขา พ้นทุกข์ (วิทยาทาน) ไม่วา่ จะเป็นทางโลกและทางธรรม เช่น ไปสอนเขาปลูกผักให้ถกู ต้อง ไปสอนเขาทำาอาหาร ให้ดใี ห้เก่ง สอนวิชาช่างไปทำาเป็นอาชีพได้ บอกทางให้ เขาได้เดินชีวติ ถูกต้อง การให้กาำ ลังใจเขาให้สชู้ วี ติ การ ไปร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะหรือหนังสือสวดมนต์ หรือแม้แต่เราไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว ก็เป็น ผู้นำาบุญไปบอกไปเชิญชวนให้คนมาร่วมพิมพ์หนังสือ หรือชวนคนทำาบุญ เหล่านี้ถือว่าเป็นธรรมทานทั้งสิ้น - อÀัยทาน เรื่องนี้เป็นบุญใหญ่ที่สุด ลักษณะ การทำานั้นสามารถทำาได้ง่ายด้วยตัวเองไม่ต้องเสีย เงินทอง


98

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

แต่อภัยทานแม้รูปแบบจะทำาได้ง่าย แต่ทว่า กลับทำาได้ยากที่สุดในทานทั้งหมด เพราะว่าวิสัยของ ปุถุชนย่อมมีความโกรธ ความอาฆาตพยาบาทอยู่ใน กมลสันดานอยูแ่ ล้ว ซึง่ ต้องหมัน่ ½ƒก½นทำาให้เป็นประจำา ซึง่ ถ้ามีพรหมวิหาร ๔ คือเมตตา กรุณา มุทติ า อุเบกขาเป็นหลักก็จะช่วยให้ง่ายขึ้นและสำาเร็จได้แบบ สบายๆ (บอกวิธีไปแล้วในบทก่อนหน้านี้) การให้อภัยนั้นควรเริ่มจากการตั้งจิตให้สงบ เสียก่อน คือให้ละจากอารมณ์โกรธเคียดแค้นใดๆ ให้ได้ ก่อนแม้ความขัดเคืองในใจยังมีอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องทำาให้จิตสงบนิ่งให้ได้ ขอให้คิดว่ากรรมใดๆ เรื่อง ร้ายๆ ทีเ่ กิดขึน้ นัน้ เราเคยไปสร้างกรรมเวรไว้กบั เขา เมือ่ ถึงเวลาเขาก็ตอ้ งมาเอาคืน เป็นการดีแล้วทีเ่ ราใช้หนีเ้ ขา ไปเสียจะได้ไม่ติดค้างกันอีก หมดสิ้นกันเสียที จากนัน้ ให้อโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรเขาเสีย ไม่ให้มเี วรกรรมติดค้างผูกพันกันอีก ต่อมาคือให้อภัยต่อ คนรอบข้างทัง้ หมดไม่วา่ จะเป็นใคร เป็นพ่อแม่ พีน่ อ้ ง ลูก


99

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ญาติมิตร คนร่วมงานกัน คู่ค้า ลูกค้า สัตว์เลี้ยง สรรพสัตว์ต่างๆ หมั่นให้อภัยทานบ่อยๆ จิตเราจะมีกำาลังมาก ทำาอะไรก็สาำ เร็จ ไม่มกี รรมมาเหนีย่ วมาขวางเอาไว้ แต่ ต้องให้อภัยทัง้ หมดทัง้ กาย วาจา และใจ และทีส่ าำ คัญ พยายามให้ ค นรอบข้ า งที่ มี ส่ ว นในชี วิ ต ของเราให้ อโหสิกรรมต่อกันและกัน การสร้างทานใหญ่ดว้ ย วัตถุทาน ¸รรมทาน อภัยท�น ควรทำ�ãนทุกæ วัน ยิง่ วันลÐหล�ยครังé ก็จÐยิ่งดีขÖéนอย่�งทันต�เห็น โดยมีเคล็ดลับ สำ�คัÞคือ ก�รทำ�ท�นãห้เปšนปรÐโยชน แก่คน หมู่มาก เพราะยิง่ เกิดประโยชน์มากเท่าใด ครูบาอาจารย์ ท่ า นบอกไว้ ว่ าโชคลาภจะหลั่งไหลมาสู่ไม่ขาดสาย เงินทองจะไม่ขาดมือ ไม่มีขัดสน


100

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เมื่อทำาบุญครั้งใดเสร็จสิ้นก็ให้อุทิศบุญไปให้ เจ้ากรรมนายเวรเขาทันที พูดด้วยภาษาง่ายๆ ก็ได้เพือ่ ให้เขามารับบุญกุศลนี้ ถ้าเขาพอใจแล้ว ยินดีในบุญแล้ว ขอให้เขา อโหสิกรรมให้ ถอนตัวไปจากการขัดขวางในเรือ่ งเงินนี้ ต้องระบุไปอย่างเจาะจงเลย การที่เราไม่บอกแบบ เจาะจงว่าเดือดร้อนเรือ่ งอะไร เจ้ากรรมนายเวรอาจนึก ว่าเป็นดอกเบี้ยกรรมจึงนิ่งเ©ยไม่ถอนตัวออกไปเพราะ เขาไม่รู้ว่าเราต้องการอะไรกันแน่ นอกจากเจ้ากรรมนายเวรแล้วเราต้องอุทิศบุญ ให้กับเทวดาประจำาตัว ดวงวิญญาณที่ดูแลคุ้มครอง เราอยู่ ซึ่งจะบอกให้ทราบว่าทุกคนมีเทวดาประจำาตัว แน่นอนอย่างน้อย ๒ ตนขึ้นไป และดวงวิญญาณที่ คุม้ ครองด้วย ซึง่ ท่านเหล่านีม้ าจากคนทีร่ กั เรา เมตตาเรา อย่างจริงใจและมีกรรมดีผูกพันกันมา


101

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

อาจจะเป็นบรรพบุรุษในอดีตชาติ พ่อแม่ ปู†ย่า ตายาย พีน่ อ้ ง ลูก ญาติ เพือ่ นสนิท หรือครูบาอาจารย์ ที่ตายไปแล้วและอยู่ในภพภูมิอื่น แต่ท่านยังเป็นห่วง จึงมาดูแลเราอยู่ เราต้องหมั่นอุทิศบุญส่งไปให้ท่านเพื่อให้ท่านมี บุญเพิ่มขึ้น และสายใยแห่งบุญที่เหนียวแน่นมั่นคงจะ ทำาให้ท่านรักและเมตตาเรามากขึ้นไปอีก ท่านเหล่านี้ มีอำานาจในระดับหนึ่งที่จะช่วยดลใจให้เราพบช่องทาง การหาเงินที่ถูกต้องถูกธรรม ไม่มีกรรมชั่วติดมาด้วย ช่วยดลใจให้เราพบคนดีที่จะช่วยเหลือ ดลใจให้เราพบ โชคลาภที่ถึงเวลาจะได้จากที่เคยช้าก็จะเร็วขึ้น ใครที่ เ ป็ น หนี้ เ ป็ น สิ น คนอื่ น อยู่ ต้ อ งอย่ า หลบ อย่าหนี ให้ติดต่อเจ้าหนี้เพื่อแสดงความรับผิดชอบ เท่าทีก่ าำ ลังจะทำาได้ หากยังไม่พร้อมจะเจอไม่วา่ จะด้วย เหตุใดให้เชื่อมบุญหรืออุทิศบุญไปให้เขาตลอดเวลา


102

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ให้บุญช่วยให้เขารับ¿ัง ให้โอกาสเราได้แก้ไข ได้ใช้หนี้ให้เสร็จสิ้น กรรมทั้งหลายอาจคลายตัวให้ เบาบางลง (รายละเอียดเรื่องนี้ให้ไปดูในหนัง สือ สร้างบุญเพื่อเป็นธรรมทานเรื่อง “ปา¯ิหาริย์เชื่อมบุญ ปลดกรรม ชีวิตดี©ับพลัน” บอกไว้หมดแล้ว) ทุกความรูท้ กุ เรือ่ งทีบ่ อกต้องอดทน ต้องมีความ เพียรพยายาม หมั่นประพÄติในคุณงามความดี มั่นใจ ในก®แห่งกรรม ทำาดีต้องได้ดี เร�ต้องเพิ่มกรรมดีãห้ม�กที่สุดแลÐป ด ทางชั่วให้หมดที่สุด ถึงจะแก้ได้


เก็บเงินไม่อยูเ่ พราะเหตุใด

อาการที่เรียกกันว่า “กระเป๋ารั่วเก็บเงินไม่อยู่” เชื่อว่า หลายท่านคงจะประสบปัญหานีท้ งั้ ๆ ทีบ่ างคนมีอปุ นิสยั ในการใช้จา่ ยเงินอย่างประหยัด แต่เงินกลับไม่คอ่ ยเหลือ ต้องมีเหตุสุดวิสัยให้ต้องจ่ายเงินออกไปอยู่ตลอดนั้น พบเห็นกันมากมาย ซึ่งขอให้พิจารณาจากกรรมเก่า และกรรมใหม่ดังนี้


104

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

• เหตุอาจจะมาจากกรรมเก่า กรรมในลักษณะนี้อาจเป็นเพราะในอดีตชาติ หรือแม้แต่ภพชาติปัจจุบัน อาจจะเคยไปหยิบยืมเงิน ใครมาแล้วไม่ยอมใช้คนื ทำาให้เจ้าของเขาเป็นทุกข์รอ้ น และอาฆาตพยาบาทด้วยเหตุทยี่ มื เงินแล้วไม่ยอมใช้คนื หรือเคยทุจริตเงินทองของคนอืน่ เช่น ไปหลอกลวงเขา หรือให้เขาเสียผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งที่เขาควร จะได้กแ็ อบไปเบียดบังมา หรือการเอาทรัพย์นนั้ มาเป็น ของตนโดยไม่ขออนุญาตเขาเสียก่อน สมัยเด็กๆ มีนิสัยชอบโกหกพ่อแม่ บอกขอเงิน จะเอาไปทำาอย่างหนึ่งแต่กลับไปใช้อีกอย่างหนึ่ง เช่น ขอเงินพ่อแม่ไปจ่ายค่าเทอมแต่ขอมากกว่าค่าเทอมจริง ตั้งใจหลอกพ่อแม่ผู้ปกครองเพื่อเอาส่วนที่เหลื อไป เทีย่ วเล่นหรือใช้จา่ ยส่วนตัวก็เป็นทุจริตกรรม ย่อมมีผล ให้ชาตินี้ทำาให้ปัจจุบันนี้เราจึงมีปัญหาเรื่องเงินทอง เก็บเงินไม่อยู่ เป็นหนี้สิน


105

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

หากเป็นกรรมที่หนักมากๆ ก็อาจล้มละลาย ถูกหลอก ถูกโกง ถูกเอาเปรียบเรื่องเงิน เสียผู้เสียคน ยิ่งมีกรรมด้านอื่นด้วยแล้วจะยิ่งหนักอีกหลายเท่า หรืออาจเป็นกรรมที่เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณ ก็คือในอดีตเคยทำาแท้งหรือมีส่วนร่วมในการทำาแท้ง คือให้เงินคนอืน่ ไปทำาแท้งทัง้ ทีร่ ตู้ วั และไม่รตู้ วั ถ้ารูแ้ ล้ว ยังให้เงินไปอีกรับรองว่ากรรมทางการเงินจะหนักมาก เพราะถือเป็นการสนับสนุนการฆ่าสิ่งมีชีวิตที่ประเสริฐ อย่างเด็กทารก ทำาให้วิญญาณนั้นตามอาฆาตทำาให้ ต้องเดือดร้อนเรื่องความเป็นอยู่เสมอ • เหตุอาจจะมาจากกรรมใหม่ กรรมใหม่นั้นยังพอที่จะหาสาเหตุได้ง่ายกว่า กรรมเก่า ในเรื่องของกรรมที่ทำาให้เก็บเงินไม่เคยอยู่นี้ มาจากบางคนเก็บเงินไม่อยูเ่ องก็เพราะนิสยั ชอบใช้จา่ ย สุรยุ่ สุรา่ ย ได้เงินมาก็เอาไปใช้หมดเพือ่ สนองปรนเปรอ กิเลสตนเอง


106

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ถื อ ความปรารถนาตนเองเป็ น ที่ ตั้ ง เสมอ เนื่องจากในวัยเด็กอาจถูกเลี้ยงดูมาจนเคยตัว พ่อแม่ ตามใจจึงไม่คอ่ ยเห็นคุณค่าของเงิน ไม่รจู้ กั การเก็บออม • วิธีแก้ไขเปลี่ยนชีวิต การแก้ไขคือให้หมั่นออกไปทำาทานตามกำาลัง ทรัพย์ทมี่ ี อย่าไปคิดว่าต้องทำาทานด้วยเงินมากๆ แล้ว จะได้ผลเร็วๆ ให้ทำาน้อยๆ แต่ทำาบ่อยๆ ด้วยจิตที่มี กำาลังสูง หรือทำาทานช่วยเหลือแก่ผดู้ อ้ ยโอกาสทัง้ หลาย พยายามทำาให้บ่อยครั้งขึ้นกว่าเดิมหรือจะทำาบุญถวาย สังฆทานที่วัดก็ได้ โดยขอให้ทำาให้บ่อยครั้งที่สุดเท่าที่ จะทำาได้ โดยที่ไม่บังคับหรือ½„นฐานะของตัวเองที่จะ สังฆทานในแต่ละครั้ง การทำาสังฆทานทีว่ ดั นัน้ สำาหรับคนทีเ่ คยทำาแท้ง หรือมีสว่ นร่วมนัน้ ควรถวายบ้านหลังเล็กๆ และเสือ้ ผ้า ขวดนมของเล่นเด็กไปให้ลูกที่ตายด้วย


107

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เพื่อให้เขาได้รับเป็นของทิพย์ได้ใช้ในภพภูมิ ของเขาและให้อโหสิกรรมให้กับเรา ให้เขาถอนตัวจาก อุปสรรคต่างๆ ทีเ่ ขาขวางเอาไว้ ช่วยเปิดทางให้เงินทอง ความสุขความเจริญไหลเข้าสู่ชีวิตตามบุญที่เราทำามา ภายหลังการทำาทานในแต่ละครัง้ แล้ว ก็ขอให้ตงั้ จิตเป็น กุศลนึกถึงบุญที่ทำามาทั้งหมด ยิ่งนึกถึงได้มากก็ยิ่งดี แล้วอธิษฐานจิตว่า “ËÒ¡¢ŒÒ¾à¨ŒÒà¤ÂÁÕ¡ÃÃÁà¡ÕèÂǡѺàÃ×èͧà§Ô¹·Í§ ¡Ñº¼ÙŒã´ ËÃ×Íà¤Â·íҷبÃÔµ ¹íÒà§Ô¹·Í§ã¤ÃÁÒâ´ÂäÁ‹ ªÍº¸ÃÃÁã¹Í´Õµ·Õ輋ҹÁÒ ·Ñ駷Õ袌Ҿ਌ҨíÒä´ŒËÃ×ͨíÒ äÁ‹ä´Œ¡ç´Õ ·Ñ駷ÕèµÑé§ã¨ËÃ×ÍäÁ‹µÑé§ã¨¡ç´Õ ´ŒÇ¼ÅáË‹§·Ò¹·Õè ¢ŒÒ¾à¨ŒÒä´Œ¡ÃзíÒáÅŒÇ㹤ÃÑ§é ¹Õé ¢ÍãËŒËÁ´àÇÃËÁ´¡ÃÃÁ àÃ×èͧà§Ô¹·Í§µÑé§áµ‹ºÑ´¹Õé໚¹µŒ¹ä»à¶Ô´” เคล็ดลับสำ�คัÞม�กอีกปรÐก�รหนÖ่งที่จÐ ช่ ว ยเหลื อ เราให้ พ้ น จากเหตุ เ รื่ อ งเสี ย เงิ น เก็บเงินไม่อยู่นีéม�กก็คือ เรื่องของก�รรักÉ� Èีลãห้ครบทุกข้อ


108

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

โดยเ©พาะÈีลข้อที่ ò และÈีลข้อที่ ô เพร�Ðเปšนต้นเหตุที่จÐทำ�ãห้เร�เสียทรัพย แลÐ คว�มน่�เชื่อ¶ือ โดยเ©พาะข้อที่ ๔ เรื่องการพูดโกหกเพื่อให้ได้ ทรัพย์หรือพูด©้อ©ลเพือ่ ให้ได้ประโยชน์สว่ นตนมากทีส่ ดุ เป็นสิ่งที่ต้องเลิกกระทำาทันที นอกจากจะเป็นการป้องกันไม่ให้เราเสียทรัพย์ เพิ่มแล้วยังเป็นทางมาแห่งทรัพย์เพิ่มขึ้นอีกด้วย การ รักษาสัจจะรักษาคำาพูดนัน้ จะเป็นการสร้างบารมีให้กบั ตนเองที่ดีที่สุด เป็นการสร้างเครดิตให้กับตัวเองด้วย การกระทำาที่ถูกต้องที่สุด สำาหรับคนทีท่ าำ มาค้าขาย การโกหกนัน้ ต้องระวัง เป็นพิเศษ เพราะเราไม่รู้คิดว่าไม่เป็นอะไรแต่ที่จริง กรรมทางวาจานั้นจะไปขวางไม่ให้ทำาการค้าเจริญ อย่างเช่น มีลกู ค้าถามว่าลดราคาอีกได้ไหม เรา ก็โกหกไปว่าลดราคาไม่ได้แล้ว เท่านีก้ ข็ ายขาดทุนแล้ว หรือต้นทุนมันสูงได้กาำ ไรน้อยนิดหรือซือ้ มาเท่านัน้ เท่านี้


109

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ทัง้ ๆ ทีจ่ ริงเรารูอ้ ยูแ่ ก่ใจแต่ตงั้ ใจโกหกเพือ่ อยาก จะได้กาำ ไรมากๆ ให้เปลีย่ นวิธพี ดู เสียใหม่วา่ ลดได้เท่านี้ จริงๆ ขายพอมีกำาไรเลี้ยงครอบครัวได้ เป็นต้น จากนั้นให้หมั่นเจริญภาวนาอุทิศส่วนบุญกุศล ไปให้ เ จ้ า กรรมนายเวรทั้ ง ที่ มี ชี วิ ต และไม่ มี ชี วิ ต อยู่ ให้บ่อยที่สุด โดยทำาการอุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เหล่า เจ้ากรรมนายเวรด้วยบทอธิษฐานอุทิศส่วนบุญกุศล และแผ่เมตตาอยู่เป็นประจำา ก่อนที่จะแผ่เมตตาให้กับคนอื่นควรจะเมตตา ให้ตนเองด้วย จะทำาให้จิตมีพลังมากขึ้นโดยเ©พาะผู้ที่ เคยมีสว่ นร่วมหรือเคยไปทำาแท้งมา ซึง่ ควรกระทำาบ่อยๆ ส่วนจะหมดเวรหมดกรรมเมือ่ ไรนัน้ ก็ดทู ผี่ ลแห่งวิบาก กรรมนั้นจะหนักหนาแค่ไหน คือดูจากความยาก ลำาบากในชีวิตปัจจุบัน หากในปัจจุบันชีวิตยังมีความลำาบากมากก็คือ ผลกรรมยังหนักอยู่มาก ก็อาจต้องทำาบ่อยมากขึ้นอย่า ท้อถอย


110

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ขอให้เชือ่ ในพลังแห่งบุญ ทีย่ งั ลำาบากอยูก่ เ็ พราะ วิญญาณอาฆาตของเจ้ากรรมนายเวรนัน้ ยังคงมีอยูแ่ ละ มีความรุนแรง แต่เมือ่ ใดก็ตามทีเ่ ราได้สร้างบุญอยูเ่ ป็น ประจำาเช่นนีแ้ ล้วจะเห็นผลการเปลีย่ นแปลงทีเ่ ห็นได้ชดั เมือ่ สังเกตว่าเงินทองเริม่ เก็บได้เป็นกอบเป็นกำามากขึน้ ชีวติ สะดวกสบายขึน้ กว่าเดิม ก็แสดงว่าเจ้ากรรมนายเวร ทั้งหลายอาจจะผ่อนปรนอดโทษหรือให้อภัยแล้ว แต่ก็ ต้องกระทำาบุญส่งบุญต่อไปให้ต่อเนื่องเป็นประจำา และเพือ่ ชีวติ ทีด่ ขี นึ้ ตลอดไปในปัจจุบนั ต้อง½ƒก และแก้ที่ “ใจ” ก่อนอื่น เพราะใจที่หมกมุ่นในวัตถุ ภายนอกทำาให้เกิดปัญหา โดย½ƒกระงับความต้องการ และต้องเปลีย่ นแปลงพÄติกรรม ยกตัวอย่างเช่น เมือ่ ก่อน เคยชอบที่จะออกไปกินอาหารนอกบ้านเป็นประจำา ก็ลองเปลี่ยนแปลงพÄติกรรมหันมาประหยัดขึ้น


111

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

หรือลองทำาบัญชีรายรับรายจ่ายในครอบครัว หรือบัญชีส่วนตัวก็จะพบว่าเงินที่เคยเสียไปกับเรื่องที่ สามารถละเว้นได้ในแต่ละเดือนนัน้ มีจาำ นวนไม่นอ้ ยและ สามารถละเว้นได้จริงๆ โดยชีวิตไม่เดือดร้อนมากนัก และยังได้สร้างความรักความเข้าใจในครอบครัวมากขึน้ หากมีโชคจากการทำางานมีลาภก้อนใหญ่กย็ งั ไม่ สามารถเก็บเงินได้อกี ก็ขอให้ลองเปลีย่ นวิธเี ก็บเสียใหม่ เช่น ขอให้เอาเงินที่ได้มาไปซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือ ทรัพย์สินอย่างอื่นเก็บไว้บ้าง เรียกว่าโยกย้าย แปรรูป ทรัพย์ให้เป็นทรัพย์ที่เคลื่อนที่ไม่ได้แทน ซึ่ ง วิ ธี นี้ เ ป็ น การช่ ว ยลดรอยรั่ ว ของเงิ น ที่ จ ะ สูญเสียไปได้มากทางหนึง่ หรือถ้าหากทำาไม่ได้จริงๆ ก็ ขอให้คนอื่นที่ไว้ใจเก็บเงินแทนเรา เพราะเขาผู้นั้นมี พืน้ ฐานพลังบุญบารมีเรือ่ งนีม้ ากกว่า คือเป็นคนทีไ่ ม่เคย ทำากรรมที่ทำาให้ผู้อื่นเสียเงินมาก่อน บางครอบครัวให้ สามีหรือภรรยาเป็นผู้เก็บเงินแทนเงินจะได้ไม่รั่วไหล ง่ายและถือเป็นการให้เกียรติให้ความเคารพซึ่งกัน และกัน


กรรมที่ทำ�ให้อาภัพอับโชค

เชือ่ ว่าคนทุกคนต้องการโชค และคงเคยเห็น เคยสงสัย ว่าทำ�ไมบางคนอาจจะไม่ได้เป็นคนดีหรือแม้แต่ทำ�งาน เก่งกาจอะไรเลย แต่เขาจึงได้ดีมีโชคหรือมีคนคอย ช่วยเหลือเขาตลอดเวลา ทีเ่ ป็นเช่นนีก้ เ็ พราะบุญเก่าของเขาทีส่ ะสมเอาไว้ เมื่อในภพชาติก่อน พอมาในชาตินี้บุญนั้นย้อนกลับมา ส่งผลถึงเขาเมื่อปัจจัยแห่งบุญและเวลาเต็มบริบูรณ์


113

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เช่น คนทีจ่ ๆู่ ถูกหวยรวยเป็นล้านๆ เป็นมหาเศรษฐี ได้ในคราวเดียวทั้งที่ชีวิตเคยประสบความยากลำาบาก มาทั้งชีวิต ก็เพราะกรรมดีที่เคยได้ทำาบุญไว้ได้มาเป็น กรรมตัดรอน½†ายกรรมไม่ดี ที่มาพลิกชีวิตจากที่จน ให้รวยในพริบตา ด้วยเหตุทใี่ นภพก่อนเคยทำาบุญกับผูม้ ี เนือ้ นาบุญสูง เช่น พระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึง่ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ พระอริยสงฆ์ที่มี เนือ้ นาบุญมากๆ เช่น ใส่บาตรกับท่านทีก่ าำ ลังออกจาก นิโรธสมาบัติ คือได้เคยถวายทรัพย์ ข้าว น้ำา อาหาร เพื่อช่วยบำารุงท่านโดยทำาแบบไม่เสียดายแม้แต่น้อย เพียงเพราะต้องการจะทำาบุญด้วยใจเท่านั้นจริงๆ กรรมเหล่านี้เองที่เป็นตัวสนับสนุนส่งเสริมให้ คนบางคนมีโชคลาภอยูเ่ สมอ บางคนก็มลี าภก้อนใหญ่ เสียด้วย ดังนัน้ เมือ่ พิจารณาเหตุของคนทีถ่ กู หวยมีลาภ ก็ลองคิดย้อนกลับดูว่าเหตุใดเราจึงอาภัพอับโชคไม่มี ลาภลอยเช่นเขาบ้าง นั่นก็เป็นเพราะกรรมหลาย ประการ


114

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

• เหตุอาจจะมาจากกรรมเก่า เหตุทที่ าำ ให้ไม่มโี ชคเลยก็เพราะในอดีตชาติหรือ ในชาติปัจจุบันไม่เคยทำาบุญทำากุศลด้วยทานใดๆ เลย แม้เพียงเล็กน้อย หรือจะทำาทานอะไรก็ให้แบบเสียไม่ได้ ให้โดยทีย่ งั มีความตระหนีอ่ ยูใ่ นใจ หรือไม่เคยช่วยเหลือ ใครมาก่อน ไม่เคยเกื้อกูลใครด้วยจิตใจเมตตาอารีอย่าง แท้จริง หรือทำาบุญทำาทานเพื่อเอาหน้า เอาชื่อเสียง จอมปลอม หรือหากจะช่วยใครแล้วต้องมีผลประโยชน์ เกี่ยวข้องจึงจะยอมทำา หากเป็นผูเ้ คยทำาทานด้วยแก้วแหวนเงินทองหรือ ของมีค่าอะไรก็ตาม ก็เป็นของที่ได้มาโดยไม่บริสุทธิ์ คือไปลักขโมยหรือ©้อโกงเขามา ไปเบียดบังมาแล้ว แอบอ้างว่าจะนำาไปทำาบุญแต่เก็บเอาไว้เอง หรือเอาไป ทำาที่วัดอื่นที่ตัวเองศรัทธา หรือถืออำานาจแบ่งเงินใน ซองนั้นโดยไม่ขออนุญาตเจ้าของเงินที่เขาโมทนาบุญ ไว้แล้ว


115

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

หรือบางคนไม่เคยรักษาศีลเจริญภาวนาใดๆ มาก่อนเลย สังเกตได้จากในปัจจุบนั จะจำาคำาสวดมนต์ ได้ยาก แม้แต่บทสวดง่ายๆ เช่น แค่ท่องนะโมฯ หรือ กล่าวสมาทานศีล ๕ ก็จำาและท่องไม่ได้ อีกทัง้ ยังชอบทำาผิดศีลข้อที่ ๒ อยูเ่ ป็นประจำาคือ อาจจะไม่ได้ขโมยของโดยตรง แต่ใช้กลวิธีอุบายต่างๆ หรือถือเอาตามวิสาสะเอาไปโดยไม่ได้รบั อนุญาต โดยที่ เจ้าของไม่รมู้ าก่อน และยังไม่ได้เอ่ยปากว่าจะให้ ฯลฯ หากเป็นกรรมในระดับกรรมหนักอาจจะเคยสร้าง กรรมประเภทตัดรอนผู้อื่นคือ ในอดีตชาติเคยฆ่าสัตว์ พรากชีวิต ทรมานผู้อื่นแม้ว่าจะเป็นหน้าที่ก็ตาม บุญนั้นอยู่ส่วนบุญ บาปนั้นอยู่ส่วนบาปที่ต้อง ให้ ผ ลทั้ ง สองด้ า นเจ้ า กรรมนายเวรจึ ง มี จิ ต อาฆาต มาคอยบดบังโชคเอาไว้ไม่ให้คนผู้นั้นประสบความ สำาเร็จและเจริญก้าวหน้า


116

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

• เหตุอาจจะมาจากกรรมใหม่ คำาว่า “โชค” นัน้ ได้มผี ทู้ ไี่ ด้ทาำ การพิสจู น์มาแล้ว มากมายว่าคนเราจะมีโชคหรือไม่นนั้ อยูท่ ตี่ นเองกล้าจะ สร้างโชคขึน้ มาหรือไม่ คนทีไ่ ม่มโี ชคเลยก็คอื ณ ปัจจุบนั เป็นคนที่เกียจคร้านไม่ยอมออกไปแสวงหา “โอกาส” ให้ตวั เอง ชาตินคี้ งจะพบกับคำาว่าโชคลำาบากเสียหน่อย แต่ เ มื่ อ คิ ด ได้ แ ละพยายามขวนขวายทำ า งานออก เสาะแสวงหาโอกาสทีด่ อี ยูเ่ สมอ โชคจึงจะเข้ามาสูช่ วี ติ ยกตัวอย่างเช่น นาย ก. คิดอยากจะค้าขายให้ดี มีเงินทองเยอะๆ แต่ไม่เสาะแสวงหาทำาเลทีด่ ที เี่ ป็นทำาเล เป็น คือมีคนพลุกพล่านและมีโอกาสที่จะขายของได้ เสมอ มัวแต่เชื่อมั่นแต่ตัวเองว่า½‚มือดีเดีëยวใครก็มา กินเองไม่ตอ้ งขวนขวายทำาอะไรมากมาย จึงต้องทำางาน หนักและต้องพบกับการขาดทุนอยู่เสมอ การที่คนเราจะมีโชคหรือไม่มีนั้นอยู่ที่ “ความ ขยั น แสวงหาทรั พ ย์ อ ย่ า งสุ จ ริ ต อย่ า งชาญ©ลาด” มากกว่าการวิ่งไปติดสินบนสิ่งศักดิ์สิทธิ์


117

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

หรือหลงมัวเมาซือ้ หวยหลายๆ เบอร์จนหมดเนือ้ หมดตัว เอาเงินทุม่ ไปกับสิง่ ทีเ่ ชือ่ ว่าจะเป็นลาภลอยมา ในคนทีม่ โี ชคหรือมีบญุ เก่ามามาก เมือ่ ถึงบุญเก่าส่งผล อยู่เ©ยๆ ที่บ้านก็มีคนเอาลาภมาส่งให้ • การแก้ไขเปลี่ยนชีวิต พระพุทธเจ้าตรัสว่า โลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นเหตุ บังเอิญ ทุกอย่างเป็นไปตามเหตุ มีสิ่งนั้นจึงมีสิ่งนี้ หากต้องการจะเป็นผู้มีโชคลาภทำามาค้าขึ้น ค้าขายได้ ร่ำารวย มีแต่คนสนับสนุนส่งเสริมอยู่ตลอดเวลา ก็ควร พึงป¯ิบัติทำาเหตุนั้นให้ดีสมบูรณ์พร้อม เมือ่ เหตุดผี ลย่อมดีเสมอ ควรหมัน่ ทำาบุญทำาทาน ด้วยหลักแห่งการทำาทานที่บริสุทธิ์ โดยที่ทานนั้นขอให้ มุ่งหวังเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่นอยู่เสมอ หรือ เป็นทานที่เป็นไปเพื่อส่วนรวม เช่น การร่วมถวายผ้า กฐินผ้าป†า หรือว่าร่วมสร้างร่วมบริจาคปัจจัยให้เป็น ประโยชน์แก่วัด ชักชวนคนให้มาทำาบุญ และเลือกคบ แต่คนดีเป็นกัลยาณมิตรที่จะช่วยเกื้อกูลกันได้


118

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ทำาทานที่เป็นวัตถุนั้นอาจทำาได้ด้วยการให้ทาน คนยากไร้คนด้อยโอกาส จากนัน้ ให้ทาำ การอุทศิ ส่วนกุศล ให้แก่ดวงวิญญาณเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ครูบ�อ�จ�รย ท�่ นหนÖง่ แนÐนำ�ว่� ãห้¶ว�ย เงินเพื่อชำ�รÐหนีéสง¦ บ่อยครัéงเท่�ที่จÐทำ�ได้ จะทำาให้ผลกรรมในเรื่องนี้คลายตัวลงเร็ว และ ต้องถือศีลในข้อ ๑ เรือ่ งฆ่าสัตว์ตดั ชีวติ และข้อ ๒ เรือ่ ง ของการลักทรัพย์เบียดบังผู้อื่น ต้องอย่าบกพร่องเป็น อันขาด ถ้าวันไหนศีลขาดต้องสมาทานศีลใหม่ ตั้งใจ ใหม่ทันที หมั่นสวดมนต์เจริญภาวนาอยู่เป็นประจำา หาก เปิด กิจกาจค้าขาย ห้างร้าน ควรทีจ่ ะบูชาสิง่ ศักดิส์ ทิ ธิ์ เจ้าทีเ่ จ้าทางทีเ่ ขาดูแลสถานทีแ่ ห่งนัน้ ด้วยความเคารพ ไม่ทำาอะไรที่ผิดศีลผิดธรรมในสถานที่แห่งนั้น หมั่นบูชาองค์เทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทที่ า่ นเด่นนเกีย่ วกับ โชคลาภความร่ำารวยเอาไว้เพื่อความเป็นมงคล


119

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

อย่างเช่น พระอรหันต์อย่างพระสีวลีผู้เป็น เอตทัคคะแห่งโชคลาภ หรือบูชาครูบาอาจารย์ที่มี เมตตาเด่นเรือ่ งนี้ เช่น หลวงพ่อเงิน พระอริยะเรียกทรัพย์ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค โดยหมั่นสวดพระคาถา พระปัจเจกพระพุทธเจ้าหรือพระคาถาเงินล้าน เพื่อ เสริมด้านโชคลาภและการเป็นที่รักของผู้อื่น ซึง่ การบูชาท่านทีด่ ที สี่ ดุ คือการป¯ิบตั บิ ชู า ยึดเอา วัตรป¯ิบตั ขิ องท่านมาดำาเนินชีวติ เช่น พระสีวลีทา่ นเด่น ในการ “ให้” เราต้องเป็นผูใ้ ห้แบบท่าน เวลาประกอบ อาชีพก็ควรให้ลกู ค้าอย่างดีทสี่ ดุ เท่าทีเ่ ราทำาได้ และต้อง หมั่นใส่บาตรทุกวันเป็นการสร้างทานบารมี ถ้าใส่บาตรทุกวันไม่ได้ให้หยอดเงินใส่กระปุก หรือใส่ซองไว้ เมื่อมีโอกาสรีบเอาไปถวายพระตั้งจิต ถวายให้เป็นค่าภัตตาหาร ข้อที่ห้ามเด็ดขาดก็คือ ห้ามเล่นการพนันและดื่มสุราเป็นอันขาด


120

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

สำาหรับทางโลกนัน้ เราต้องทำาให้ตนเองมีความรู้ ที่ถูกต้องว่าสถานะปัจจุบันของเราเป็นอย่างไร สำารวจ ตรวจตราตนเองอย่างซื่อสัตย์ว่าตัวเรานั้นเป็นอย่างไร มีจุดเด่นจุดด้อยในตัวเองอย่างไรบ้าง เก่งอะไรและ ทำางานอย่างไหนได้ดกี ค็ วรทุม่ เทแบบสุดพลัง เท่านีโ้ ชค ในการทำางานจึงจะตามมา และต้องพั²นาสิง่ ทีต่ นเอง อ่ อ นด้ อ ยหรื อ ขจั ด จุ ด อ่ อ นในตั ว เองให้ ม ากที่ สุ ด เท่าทีจ่ ะมากได้ เพือ่ ไม่ให้เหนีย่ วรั้งความสำาเร็จที่กาำ ลัง จะเกิดขึ้นซึ่งอาจหมายถึงเงินทองด้วย ควรมีการกำาหนดเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจนว่า สิง่ ทีเ่ ราต้องการจริงๆ นัน้ คืออะไร เพือ่ เป็นการกำาหนด ทิศทางให้ตวั เองเดินทางไปถึงเป้าหมายนัน้ และขัน้ ตอน สุดท้ายก็คอื มีการวางแผนทีช่ ดั เจนและได้ทาำ ตามแผนที่ ตัวเองวางไว้อย่างครบทุกขั้นตอน หากเราเป็นผู้ขยัน หมัน่ เพียร อยูใ่ น½†ายบุญกุศลแล้ว ถึงแม้บญุ เก่าเราจะ น้อยก็อย่าไปเสียใจ ขอให้จำาคำาครูบาอาจารย์ไว้ บุญวาสนาแข่งกันไม่ได้ แต่เราสร้างเพิม่ ได้ตลอดเวลา


กรรมโดนยืมเงิน

แล้วโดนเบี้ยวเงินตลอด

คนที่มีจิตใจกว้างขวางมีอะไรก็เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่คนอื่น เสมอ แต่ตอ้ งประสบเคราะห์กรรมอยูเ่ สมอคือ พอมีเงิน ทีไรก็มักจะมีคนมาขอความช่วยเหลือแล้วถูกโกงถูก เอาเปรียบเรือ่ งเงินอยูต่ ลอดเวลา ทัง้ ๆ ทีเ่ ราเองก็ไม่เคย เอาเปรียบหรือคดโกงใคร มีแต่ความปรารถนาดีให้ คนอื่นเสมอ เหตุใดเราจึงต้องรับผลกรรมเช่นนั้น


122

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

• เหตุอาจจะมาจากกรรมเก่า การทีเ่ ราถูกโกงถูกเบีย้ วเรือ่ งเงินทองอยูเ่ สมอนัน้ ก็เพราะในอดีตชาติหรือแม้ในชาติปจั จุบนั เป็นเจ้าหนีท้ ี่ หน้าเลือด คิดดอกเบีย้ มากๆ เกินความเป็นจริง สร้าง ความทุกข์ให้ผู้อื่นเพิ่มขึ้น หรือเคยเป็นผู้ที่ว่ายืมเงิน เขาแล้วไม่ยอมคืน เวลาใครมาทวงก็ป¯ิเสธพัลวันว่า ไม่ได้ไปยืมมาเพราะไม่มีหลักฐานอะไรหรือมีหลักฐาน แต่หมดอายุความ ยิ่งไปสร้างกรรมทางใจหนักเข้าไป อีก หรือเวลาทีท่ าำ บุญไปแล้วมักคิดเสียดายในภายหลัง คือเจตนาภายหลังการให้ไม่บริสทุ ธิ์ หรือตัง้ ใจจะทำาบุญ แล้วเปลี่ยนใจไม่ยอมทำาภายหลัง อาจเป็นผู้ที่ชอบนินทาว่าร้ายคนที่จะทำาบุญ หรือผูท้ รงศีล ผูท้ ดี่ แู ลรักษาผลประโยชน์ให้กบั ส่วนรวม ให้กบั วัดโดยไม่มมี ลู ไม่มเี หตุ ตัง้ ใจว่าร้ายด้วยจิตทีเ่ ป็น อคติ และเคยอธิษฐานตั้งใจจะทำาบุญใดๆ ไว้แล้วไม่ ยอมทำาตามคำาอธิษฐานนั้น


123

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

ประเภทได้แล้วไม่ยอมทำาตามซึ่งทำาให้ไปก่อ เจ้ากรรมนายเวรเพิม่ หรือเคยไปสร้างกรรมหนักประเภท ขโมยของของวัด ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ อะไรที่เขายัง ไม่อนุญาตก็นึกเองเออเอง หยิบ©วยเอาไป • เหตุอาจจะมาจากกรรมใหม่ กรรมที่ทำาให้ถูกโกงถูกเบี้ยวอยู่เสมอหากมอง ในแง่ปัจจุบันก็คือตัวเราเอง ที่มีส่วนทำาให้ถูกโกงหรือ สร้างโอกาสให้ตวั เองถูกโกงถูกเบีย้ วอยูแ่ ล้ว เขาเรียกว่า พาตัวเองไปสูค่ วามเสีย่ ง พาตัวเองให้ตกลงไปในทางเสือ่ ม เพราะส่วนหนึ่งอาจจะไปคบหากับ “คนพาล” คือ คนไม่รับผิดชอบ ไม่มีวินัยทางการเงิน ซึ่งคนไทยหรือ คนจีนทีท่ าำ การค้าเก่งๆ เขาจะให้โอกาสคนแค่ครัง้ เดียว ซึ่งหากเป็นคนมีสัจจะรักษาคำาพูดก็จะช่วยเหลือกัน ไปจนกว่าจะตาย แต่ถ้าให้ยืมเงินแล้วไม่คืนเพียงแค่ ครั้งเดียวก็เป็นการยากในครั้งต่อไป


124

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

หรืออาจเกิดจากการที่เราเคยโกงเงินคนอื่นมา ก่อนโดยเ©พาะคนใกล้ตัว อาจเคยคดโกงญาติพี่น้อง หรือถ้าเป็นคนทำางานก็เคยโกงค่าแรงลูกจ้างอย่าง ไม่เป็นธรรม ไม่จ่ายในสิ่งที่ควรจ่าย ปล่อยให้คนอื่น ต้องรอด้วยความหวังลมๆ แล้งๆ นอกจากนั้นโดย ส่วนตัวเองแล้วยังเป็นคนที่ชอบหมกมุ่นมัวเมาอยู่ใน อบายมุข โดยเ©พาะชอบเล่นการพนันเป็นประจำา • การแก้ไขเปลี่ยนชีวิต ต้องสร้างกรรมดีโดยทำาบุญทำาทานด้วยการ ถวายสั ง ฆทานอยู่ เ ป็ น ประจำ า ทุ ก เดื อ นหรื อ ตามแต่ กำาลังทรัพย์ที่มี และที่สำาคัญอย่าพึงเสียดายในทานที่ ให้แก่บุคคลใดหรือกับใครก็ตาม หากมีคนมาขอความ ช่วยเหลือเรื่องเงินอีก ถ้าสามารถให้ยืมได้โดยที่ตนเอง ไม่เดือดร้อนแม้ว่าเขาจะคืนหรือไม่ก็ควรให้ไปโดยพึง ระลึกเสียว่าเมื่อตั้งใจได้ให้เป็นทานไปแล้ว แม้จะได้ คืนหรือไม่ก็ไม่ขอติดใจอะไร ยกให้เป็นบุญเสีย


125

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

เพราะหากไม่ได้คืนก็จะไม่เจ็บแค้น ผูกโกรธ ผูกอาฆาตกันต่อไปอีก และถือเป็นการชดใช้คืนแก่ เจ้ากรรมนายเวรไป นอกจากนั้นให้ทำาทานในลักษณะ ของการสละทรัพย์บริจาคในงานบุญกุศล หรือบริจาค เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยต่างๆ ตามแต่กำาลังที่มี ถือเป็นบุญใหญ่หรือบุญเพือ่ การสาธารณะ เงินสงเคราะห์ ต่างๆ เคล็ดลับสำาคัญ ให้อโหสิกรรมกับคนที่มาเบี้ยว เงินเสีย ให้คิดเสียว่าเราใช้หนี้เวรหนี้กรรมหมดไปแล้ว ในชาตินี้ อย่าไปสร้างกรรมอะไรต่อกันเลย หากอยาก ได้เงินคืนให้อุทิÈบุญไปให้เขาและเทวดาประจำาตัวเขา อธิษ°านจิตว่าถ้าเรายังเป็นเจ้าหนี้ขอให้เขานำาเงินมา ชดใช้ จะได้สิ้นเวรสิ้นกรรมกันไป ไม่ผูกพันกันอีก ในข้อศีลนัน้ ควรรักษาศีลให้ดโี ดยเ©พาะศีลข้อที่ ๒ ทีต่ อ้ งระวังเรือ่ งการเบียดเบียนทรัพย์ผอู้ นื่ ในลักษณะ การขอยืมแล้วไม่คืน การถือวิสาสะนำาของไปใช้โดยไม่ บอกกล่าว


126

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

แม้จะเป็นคนทีค่ นุ้ เคยหรือเป็นญาติพนี่ อ้ งพ่อแม่ ก็ตาม หากจะนำาสิ่งใดไปใช้ต้องขออนุญาตก่อนเสีย ทุกครั้ง การหมั่นเจริญภาวนาอุทิศส่วนบุญกุศลไปให้ เจ้ากรรมนายเวรทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตอยู่ให้บ่อย ทีส่ ดุ โดยเ©พาะคนทีเ่ บีย้ วหนีค้ ดโกงเรานัน้ ขอให้ตงั้ ใจ อธิษฐานบทอุทศิ บุญให้เขาเป็นพิเศษเพือ่ เป็นการคลาย กรรมที่เคยผูกพันกันมาให้เป็นอิสระต่อจากกัน ซึ่งจะ เป็นเหตุให้เราสามารถอภัยให้เขาได้ เมือ่ ให้อภัยได้กจ็ ะ เกิดผลบุญทีเ่ รียกว่า “อโหสิกรรม” คือกรรมทีเ่ คยผูกพัน ให้เดือดร้อนนั้นจะไม่มีผลต่อกันอีกต่อไป สำาหรับทางโลก การที่เราจะป้องกันไม่ให้เกิด เหตุการณ์ถกู ยืมเงินแล้วเบีย้ วหรือถูกโกงอีก เราต้องรูจ้ กั “เลือกทีจ่ ะให้” คือพยายามเลือกคนทีม่ ศี ลี มีสจั จะ ใคร ที่เคยมาขอยืมของแล้วเอามาคืนก็พึงให้ยืมอีก


127

áกŒàร×èͧ§า¹ à§ิ¹ âช¤ÅาÀ Ẻทั¹µาàหç¹

แต่ถ้าใครมาขอยืมของแล้วไม่รักษาคำาพูด ไม่ ระมัดระวังเงินที่ให้ไป หรือเงินนั้นไปก่อให้เกิดความ เสียหายกับชีวติ ของเขาหรือคนอืน่ หรือไม่ยอมนำามาคืน ก็อย่าพึงให้ยมื อีกเป็นอันขาด เป็นการป้องกันไว้ชนั้ แรก รวมถึงเป็นการช่วยดัดนิสัยเขาทางอ้อมด้วย ¢ÍÍíÒ¹Ò¨áË‹§¤Ø³¾ÃÐÃѵ¹µÃÑ ÊÔè§ÈÑ¡´ÔìÊÔ·¸Ôì ÍÒ¹ÔÊ§Ê ¼ÅºØޢͧ¢ŒÒ¾à¨ŒÒ ·Õèä´ŒºíÒà¾çÞÁÒµÑé§áµ‹ã¹ Í´ÕµªÒµÔ¨¹¶Ö§ªÒµÔ»˜¨¨ØºÑ¹ âÁ·¹ÒÍØ·ÔÈãËŒ¼ÙŒÍ‹Ò¹·Ø¡·‹Ò¹ä´Œ¾º¡Ñº¤ÇÒÁÊØ¢ ¤ÇÒÁà¨ÃÔÞ ¤Ãͺ¤ÃÑÇËÁàÂç¹à»š¹ÊØ¢ äÁ‹ÁÕâäÀÑÂÁÒ àºÕ´àºÕ¹ ÃèíÒÃÇÂà§Ô¹·Í§ à¡ÕÂõÔÂȪ×èÍàÊÕ§ ÊÁ´Ñ§ ·Õè·‹Ò¹»ÃÒö¹Ò·Ø¡»ÃСÒÃà·ÍÞ ขอบุญรักษาทุกท่าน... ตลอดไปทุกÀพชาติ


แก้เรือ่ งงาน เงิน โชคลาภ แบบทันตาเห็น โดย ธ.ธรรมรักษ์

 สงวนลิ ข สิ ท ธิ์ ห้ามนำ�ส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ไปลอกเลียน ทำ�สำ�เนา ถ่ายเอกสาร หรือนำ�ไปเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต หรือสือ่ ชนิดอืน่ ๆ ไม่วา่ ในรูปแบบใด นอกจากจะได้รบั อนุญาตเป็นลาย ลักษณ์อกั ษรเท่านัน้ ข้อมูลทางบรรณานุกรมของหอสมุดแห่งชาติ ธ.ธรรมรักษ์ แก้เรือ่ งงาน เงิน โชคลาภ แบบทันตาเห็น.--กรุงเทพฯ : เสบียงบุญ, ๒๕๕๘. ๑๒๘ หน้า ๑. กรรม. ๒. ธรรมะกับชีวิตประจำ�วัน. I. ชื่อเรื่อง. ๒๙๔.๓๑๒๒ ISBN : ๙๗๘-๖๑๖-๒๙๒-๓๕๙-๓ พิมพ์ที่

บริษัท โรงพิมพ์มิตรสัมพันธ์กราฟฟิค จำ�กัด

๕๒๐-๕๓๐ ซอยเพชรเกษม ๔ ถนนเพชรเกษม แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ ๑๐๖๐๐

จัดทำ�โดย

สำ�นักพิมพ์เสบียงบุญ ในโครงการบุญธ.ธรรมรักษ์ ๑/๑๔๒ หมู่ ๙ ถ.วงแหวนรอบนอก ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐ โทรศัพท์ ๐-๕๓๐๒-๑๓๒๐ โทรสาร ๐-๕๓๐๒-๑๓๒๑

จัดทำ�รูปเล่มโดย

แฮปปี้กราฟิก ท่ า นที่ ต้ อ งการหนั ง สื อ สร้ า งบุ ญ นี้ เ ป็ น จำ � นวนมากเพื่ อใช้ ใ นการสร้ า งบุ ญ ต่ า งๆ ใช้แจกเป็นธรรมทานหรือเป็นหนังสือที่ระลึกในวาระโอกาสสำ�คัญ ติดต่อได้ที่ ๐๙-๕๖๙๐-๐๔๔๔

ราคา ๔๙ บาท


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.