PHANTHARIN THAMKRONGART
Light Painting art Photography
Photograph by Phantharin Thamkrongart
LIGHT UP THE DARKNESS Light Painting art Photography
Light Up the Darkness
3
4
Foreword
หลายๆครั้งที่ได้เห็น ได้ดูรูป หรือแม้กระทั่งได้ถ่าย ภาพถ่ายในตอนกลางคืนอย่างเช่นภาพถ่ายพลุ หรือ ภาพถ่ายไฟกลางคืน แสงไฟจากรถยนต์ที่วิ่งไปมาทำ�ให้ เกิ ด แสงสี แ ดงและสี เ หลื อ งนวลตั ด กั น จากทั้ ง สองฝั่ ง ถนน ภาพที่อาศัยความสวยงามของไฟเหล่านี้ล้วน ทำ�ให้ภาพเกิดความน่าสนใจได้อย่างประหลาด จนกระทั่ ง วั น หนึ่ ง ที่ ไ ด้ มี โ อกาสรู้ จั ก และศึ ก ษา ภาพถ่ายแนวLight Painting ในคลาสเรียน ได้มี โอกาสดูผลงานภาพถ่ายจากรุ่นพี่หลายๆคน ที่มีความ สร้างสรรค์แต่กต่างกันไป แต่รู้สึกว่าภาพแนวLight Painting ของคนไทยที่เห็นมันดูง่ายเกินไป จึงเข้าไป ค้นคว้าข้อมูลในโลกออน์ไลน์แล้วก็ได้พบกับแรงบันดาล ใจมากมาย ในหลายๆรูปแบบ ทั้งแบบง่ายดายและซับ ซ้อน ด้วยเหตุนี้เอง จึงเกิดสิ่งดลใจให้เกิดการศึกษา เกี่ยวกับภาพถ่าย Light Painting อย่างจริงจัง จน กระทั้งได้มีโอกาสทำ�หนังสือเล่มนี้ Light Up the Darkness จึงเป็นหนังสือที่ผู้ เขียนได้รวบรวม สร้างสรรค์ และทดลองเทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับ Light Painting โดยใช้เวลารวบรวมกว่า 6 เดือน จึงออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้ ผูเ้ ขียนหวังเป็นอ่านยิง่ ว่าคุณจะได้รบั แรงบันดาลใจ และความอิ่มเอมในการเสพภาพการสร้างสรรค์ที่รอให้ คุณได้เปิดดูอยู่ภายในเล่ม.
Every time, when I look at photos from magazines, photos books or taken photos myself at night time I found them very interesting and beautiful. I am intrigued by the result of the light sources that can create so many colors and effects. For example, the photos of firework, photos of lights at night time or the lights from the cars on the street. One day, I have a chance to learn more about Light Painting in my classroom and saw some samples from many seniors and they are very creative. Everyone has their own style and creation. I found that most of Light Painting images that created by Thai people seem too simple, so I started to do more research online. I found many informations and saw different techniques both simple and complicated. Many of them are amazing and inspired me to study seriously about Light Painting and have an opportunity to produced this book. This “Light Up the Darkness” photo book project, I used different kinds of light sources and tried many techniques to create interesting effect. It took me more than 6 months to complete this book, and I really hope that you will enjoy and get inspiration by my dedication and endeavor. Light Up the Darkness
5
Contents
Setting 8 PYrotechnics 13 Mysterious Man 33
Human monster 53 Unknown 83 INDEX 105
SETTING Tools
8
Preparing
สิ่งที่ควรมีในการถ่าย Light Painting
What will you need for Light Painting?
• กล้อง จะให้ดีควรเป็นกล้อง DSLR • ขาตั้งกล้อง เพื่อทำ�ให้ภาพนิ่ง และเพื่อป้องกัน การสั่นไหวของภาพ เนื่องจากภาพถ่ายแนวนี้จะ อ่อนไหวมากกับแรงสั่นสะเทือน • รีโมตชัตเตอร์ หรือสายลั่นชัตเตอร์ สำ�หรับควบคุม การสั่งถ่ายภาพในระยะไกล • อุปกรณ์ที่ให้แสงสว่างต่างๆ อาทิเช่น ไฟฉาย ไฟเย็น ไฟLED แฟลช และอื่นๆ สำ�หรับการนำ�มาประยุกต์ และ สร้างสรรค์ภาพ
• A DSLR camera • A tripod for keeping your camera steady • A Remote shutter or remote release for long distance control or use self-timer • Light sources, such as a flash light, sparklers, LED light, flash or other equipments that can help create an interesting result • Darkness either a darkroom or at night time Light Up the Darkness
9
Camera Setting
10
เริม่ ต้นทีป่ รับโหมดกล้องไปที่ M คือแบบแมนนวล เพื่อที่เราได้จะสามารถควบคุมกล้องได้ตามต้องการ หรือในกล้องบางรุน่ อาจจะมีโหมด B มาให้เลย โหมด นีเ้ หมือนโหมดแมนนวลทุกประการ แต่ตา่ งตรงทีเ่ รา สามารถกดชัตเตอร์คา้ งไว้นานเท่าไหร่กไ็ ด้ตามต้องการ สำ�หรับกล้องทีไ่ ม่มโี หมด B มาให้ดว้ ย ก็ตอ้ งไปตัง้ ค่า ตรงสปีดชัตเตอร์ให้กลายเป็นโหมด Bulb
Use a manual setting, in order for you to have more control. Some cameras might have “B mode” setting which is the same as Manual. The difference is that you can press and hold the shutter as long as you like. For cameras that don’t have a B mode, you must set the speed shutter to Bulb.
ค่า F stop หรือค่ารูรับแสงถือเป็นองค์ประกอบ หลักในการถ่ายภาพ เพื่อการควบคุมแสงในการถ่าย ภาพไลต์เพ้นติ้ง ลองเริ่มจากการเซตค่าไว้ในระดับ กลางประมาณ F11 แต่ทั้งนี้การปรับลดค่า F stop จะขึ้นอยู่กับไฟและอุปกรณ์ที่คุณใช้ด้วย หากไฟสว่าง มากก็ควรปรับค่า F stop ให้แคบขึ้น
The number of F Stop or aperture is very important for Light Painting. You should start around F11 but it ultimately depends on the light source you plan to use. If it is very bright, the F stop should be a low number.
ISO เป็นส่วนสำ�คัญในการควบคุมการรับแสง ของกล้อง ยิ่งตัวเลขสูงมากความอ่อนไหวต่อแสงใน ภาพก็จะเพิ่มมากขึ้น แต่ยิ่งตัวเลขสูงก็ต้องระวังเรื่อง ของnoise ไว้ด้วย เพื่อหลีกเลี่ยง noise เราจะตั้งค่า ISO ไว้ต่ำ�ๆ อย่าง ISO 100 หรือ ISO200
Use low ISO numbers to ensure the camera picks up on the low light source. This will also help to prevent your images from getting any distracting noise or grain, (which can lower the quality of your capture).
Focus Point ในความมืด กล้องจะไม่สามารถโฟกัสได้ดีเท่าตอน กลางวัน ดังนั้นควรปรับไปที่ Mannual Focus หลัง จากที่ใช้ Auto Focus ในการโฟกัสเรียบร้อยแล้ว ในเมื่อเราไม่สามารถมองอะไรเห็นใน view finder วิธีที่ง่ายที่สุดในการโฟกัสคือ ใช้ไฟฉายเล็กๆ ส่องเข้า มาที่หน้ากล้อง ในตำ�แหน่งที่ต้องการโฟกัส ปรับเป็น Auto Focus แล้วให้คนที่ถือไฟฉายเลื่อนไฟฉายไปให้ ตรงกับตำ�แหน่งโฟกัสในกล้อง ในระยะที่ต้องการ เมื่อ กล้องสามารถจับโฟกัสได้แล้วจึงปรับไปที่Mannual Focus เพื่อล็อคโฟกัสและป้องกันภาพเบลอ
The camera cannot focus as well in the dark than in the day light. You should also set it to manual focus after using Auto focus. You cannot see anything in view finder, so the easiest way is to use a small flashlight and shine it at the camera where you would like to focus. You should then change to auto focus and then ask the person to move the light to the position where the camera is focused. Once the focus is correct, change to Manual focus to lock it and the image will be cleared.
หรืออีกวิธีหนึ่ง หากคุณมีไฟฉายแรงๆ อาจใช้คน หรือสิ่งของที่อยู่หน้าเลนส์เป็นระยะโฟกัสไปเลยก็ได้ โดยการส่องไฟฉายไปที่จุดๆนั้น เพื่อให้กล้องสามารถ จับจุดถูกต้องตามต้องการ
Another method if you have a bright flashlight, is to use an object or a person as a focus point. Point the light to that object and find the focus point where you want it.
Light Up the Darkness
11
PYrotechnics
“carnival”
“Fire light balls”
“eye open”
“owl”
“alliance”
“Raining inside”
“eye of Sauron”
“spider”
“Entrance”
Title : Rain Fire Camera : Canon EOS 5d mark 2 Lens : Canon EF 16-35 mm f/2.8 L ll USM Exposure Time : 5 seconds F Number : 8.0 ISO : 400
How to.. Step 3 ตั้งค่ากล้อง อย่ายึดติดตามค่าที่ให้มาด้านบน ควรดูตามความเหมาะสม ในภาพตัวอย่างตั้ง ISO ไว้ที่ 400 เพื่อเก็บบรรยากาศท้องฟ้าข้างหลัง ใช้ Manual focus เพื่อความคมชัดของภาพที่จะได้ออกมา For the camera setting, do not follow the sample above. Use a setting according to your location and surrounding areas. In this image, setting ISO at 400 will help keep Step 2 อุปกรณ์ที่ใช้ในการเหวี่ยงไฟคือ Steel Wool ยัดใส่ลงไปในที่ตีไข่ และผูก the background of the sky behind. Use Manual Focus for ปลายด้วยเชือก โซ่ หรือสายสลิงค์ Steel Wool สามารถหาซื้อได้ตาม better result. ร้านขายของชำ�ทั้งร้านราคาเดียวจากญี่ปุ่น ซึ่งมันมีคุณสมบัติติดไฟได้ ต่างจากฝอยขัดหม้อทั่วไป เมื่อติดไฟแล้วจะกลายเป็นสะเก็ดค่อยๆหลุด Step 4 ก่อนที่จะเริ่มเหวี่ยงไฟควรแต่งกายให้มิดชิดควรใส่ถุงมือและหน้ากาก ไม่ ออกมา Use steel wool as a light source by inserting it in a whisk. ฉะนั้นคุณอาจจุถูกสะเก็ดไฟที่ร่วงลงมาที่ส่วนของร่างกายและทำ�ให้พองได้ Then use a robe or a chain and tie the handle of the whisk. เมื่อเริ่มเหวี่ยงและเริ่มเป็นวงกลมแล้วค่อยกดชัตเตอร์ค้างไว้ เมื่อไฟเหวี่ยง The length of the rope is up to you. For this image, it is ได้เต็มที่และสะเก็ดไฟออกมาเป็นที่พอใจแล้วจึงหยุด about 1 meter long. You can buy steel wool from Daiso Before you start, you should wear safety cloth to cover (Japanese store). It is different from Thai steel wool as it your body including wearing gloves and a mask. Otherwise is easier to light and once it burns the spark of the fire will you can get burned from the sparks of the wool steel that has burned and fallen out. When you start to move the fall off slowly. light source (wool steel) and form a circle, press and hold the shutter once you are satisfied with the result (then stop). . Step 1 หาทำ�เลที่ปลอดภัย ไม่ควรไปใช้วิธีนี้ในที่ที่มีหญ้าแห้งเพราะจะเสี่ยงกับการ เกิดไฟไหม้ได้ Find a safe location and avoid areas of dry grass as this can cause a fire.
Mysterious Man
“visitors”
“safe house”
“track”
“consulting of light men”
“murdered”
“nervous”
“wizard”
“stranger”
“fishing trip”
Title : Surviver Camera : Canon EOS 5d mark 2 Lens : Canon EF 16-35 mm f/2.8 L ll USM Exposure Time : 118 seconds F Number : 5 ISO : 100
How to.. Step 1 หาอุปกรณ์ไฟที่มีลักษณะเป็นแท่ง ที่มีลักษณะไม่ยาวจนเกินไป อย่างเช่น ไฟแท่งคอนเสิร์ตที่มีความยาวประมาณ 6 นิ้ว Use light source that is thin and not too long, such as LED Glow Stick. Step 2 ใช้คนในการเป็นแบบให้กับงานนี้ ให้คนไปยืนอยู่ในตำ�แหน่งที่กำ�หนดไว้ Use a person, and make him stand in the location you want. Step 3 เมื่อตั้งค่ากล้องพร้อมถ่าย กดชัตเตอร์ แล้วก็เริ่มด้วยการนำ�ไฟแท่งพัน ไปตามตัวคนที่เป็นแบบทีละส่วนเหมือนกับวิธีพัน Mummy จนครบทั่ว ทั้งตัว เวลาทำ�ควรให้ไฟแนบชิดกับแนบมากที่สุด เพื่อจะได้ไม่เกิดช่องว่าง ระหว่างพัน After setting and getting ready, press the shutter. Then use an LED Glow Stick to circle around the person one section at a time (like a Mummy) from head to toe. Make sure to circle around close to the body with no gap between the circles.
Human monster
“Four Hands”
“ink splatter”
“light machine”
‘welding”
60
“good intention” Light Up the Darkness
61
“appear”
“let me out”
“Mr.Green”
“trap”
“demon”
“worship”
“light beam boy”
“cowboy”
“lemon construction”
“outlander”
Title : Yoga Camera : Canon EOS 5d mark 2 Lens : Canon EF 16-35 mm f/2.8 L ll USM Exposure Time : 10 seconds F Number : 9 ISO : 100
How to.. Step 1 เตรียมไฟ LED ที่มีความสว่างสูงในการทำ�ภาพนี้ Use a bright LED light for this image Step 2 กำ�หนดท่าโพสต์ของคนที่มาแบบเพื่อความสร้างสรรค์ Design an interesting post for the model to do. Step 3 เมื่อกดชัตเตอร์ ให้คนที่เป็นนแบบโพสต์ท่าค้างไว้ ให้นิ่งที่สุด Ask the model to hold still when you press the shutter. Step 4 นำ�ไฟLED มาหมุนด้านหลัวตัวแบบเพื่อให้เกิดเงามืดดังภาพ Use the LED light and circle behind the model to create a shadow like in the image.
Unknown
“mission impossible”
“blue space”
“alien attack”
“armor”
Light Up the Darkness
95
“light ball”
“reborn”
“baby love to dance in the dark�
Light Up the Darkness
101
“solar flare”
“Wherever there is light, one can photograph.� Alfred Stieglitz ,Photographer
INDEX
Light Up the Darkness ไลท์ อัพ เดอะ ดาร์คเนส หนังสือเล่มนี้จัดทำ�ขึ้นภายใต้โครงการจุลนิพนธ์ของ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สาขานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร “โครงการจัดทำ�หนังสือสร้างสรรค์ภาพด้วยแสง” ที่ปรึกษาโครงการ อาจารย์ ปรัชญา เปี่ยมการุณ ถ่ายภาพ ภัณธรินทร์ ธรรมครองอาตม์ ปกและรูปเล่ม ภัณธรินทร์ ธรรมครองอาตม์ พิมพ์ครั้งแรก มกราคม 2555
Thank you the following people for their help and support
ที่ปรึกษาโครงการ อาจารย์ ปรัชญา เปี่ยมการุญ ขอบคุณอาจารย์ปรัชที่คอย อวยแลเชียร์ตั้งแต่ต้น
ผู้สนับสนุนด้านอุปกรณ์ ประจงสุข ธรรมครองอาตม์ ขอบคุณพ่อที่ประดิษฐ์อุปกรณ์สุด วิเศษ และสอนการทำ�งานอย่างมีระบบให้กับลูก
ผู้ให้คำ�แนะนำ�ด้านภาพและเนื้อหา ดร.จารุวัส หนูทอง ที่ให้คำ�แนะนำ�และวิจารณ์ภาพถ่ายอย่าง ตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม ผู้ช่วยช่างภาพ ศิริรัตน์ วงศ์เหลือง, ธนภัทร ทั่งมั่งมี ขอบคุณทั้งสองคนที่ คอยอยู่ช่วยงานจนเกือบเช้า ขอบคุณเบ๊นซ์เป็นพิเศษสำ�หรับ ตำ�แหน่งนายแบบจำ�เป็นกับมือเหวี่ยงไฟ และขอบคุณพี่กระต่าย เป็นพิเศษสำ�หรับน้ำ�ใจและความอดทน ขอบคุณทั้งสองคน จริงๆที่มาช่วยกันทำ�ให้เกิดเป็นเล่มนี้
ผู้สนับสนุนด้านการเงิน รุ่งอรุณ ฉัตรเงิน ขอบคุณแม่ที่สนับสนุนปัจจัยหลัก และคอย อยู่เป็นกำ�ลังใจให้จนดึกดื่นเวลาที่ต้องออกไปถ่ายงานข้างนอก ผู้แปล ฤดี ฉัตรเงิน ขอบคุณน้าดีที่ช่วยแปลภาษาไทยให้เป็นอังกฤษ และทำ�ให้หนังสือเล่มนี้สมบูรณ์ขึ้น Andy Vance Thank you for making my english parts are correct and perfect! กำ�ลังใจ ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้เปิดหนังสือเล่มนี้ ขอบคุณจริงๆที่ ติดตาม
เกี่ยวกับผู้ถ่ายภาพและเขียน ปุณ ภัณธรินทร์ ธรรมครองอาตม์ Phantharin Thamkrongart ภาพ Light Painting ถึงแม้จะทำ�ให้นอนเช้าอยู่บ่อยๆ แต่ก็อยากถ่ายอีกถ้ามีโอกาส ชอบวาดรูปเวลาว่างๆ ชอบตีเทนนิส ใช้ชีวิตอยู่แถวห้างพาราไดซ์
ผลงานที่ผ่านมา
อาร์ตไดเรคเตอร์ นิตยสารARS และหนังสือพิมพ์ลูกศิลป์ของคณะ Facebook www.facebook.com/ipoooon Blog ygnp.tumblr.com/ Mail yognnoop@gmail.com
Thank you for your attention Phantharin Thamkrongart
จุลนิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาหลักสูตรปริญญานิเทศศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชานิเทศศาสตร์ คณะเทคโนโลยรสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยศิลปากร ปีการศึกษา 2555 ลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยศิลปากร