สี่ แ ผ่ น ดิ น

Page 1


สี่แผนดิน - คํานํา

Page 1 of 2

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช คํานํา หนังสือเรื่อง "สี่แผนดิน" นี้ ผูเขียนไดแตงขึ้น และนําลงในหนังสือพิมพสยามรัฐรายวัน ติดตอกันมา เปน เวลาปเศษ ในขณะที่เขียนนั้น ก็มิไดคํานึงถึงขนาดของเลม ถาหากจะพิมพเปนเลมขึ้น แตเมื่อไดมาเห็นขนาด เมื่อไดรวบรวมพิมพเปนเลมขึ้นแลว ผูเขียนออกจะรูสึกตกใจไมนอยไปกวาทานผูอานอีกหลายคน เพราะขนาด หนังสือนั้นโตเกินคาด จําเปนตองแบงพิมพเปนสองเลม แมกระนั้นแลว หนังสือแตละเลมก็โต จนผูเขียนเองก็ เห็นวาอุยอายไป ถาหากวาจะพิมพแบงออกเปนสามเลม ก็อาจเบามือกวาในรูปนี้ แตจะทําใหความสําคัญของ หนังสือลดนอยลงไป เพราะผูเขียนเจตนาจะใหเลม ๑ นับรวบรวมเหตุการณที่เกิดในยุคหนึ่ง และเลม ๒ นั้นเกี่ยว กับเหตุการณในยุคตอมา ในระหวางที่เรื่อง "สี่แผนดิน" ยังลงพิมพอยูในสยามรัฐรายวันนั้น ไดมีผูเขียนจดหมายมาถามบอยครั้งวา เรื่อง "สี่แผนดิน" นั้นเปนเรื่องจริงหรือไฉน และ "แมพลอย" ตัวเอกของเรื่องนั้น เปนบุคคลจริงๆหรืออยางไร ปญหาเชนนี้จะตอบแตสั้นๆ ไดโดยยาก จําตองใชวิธีอุปมาอุปไมย ถาจะเปรียบใหเห็นชัด ก็ตองเปรียบกับการ แสดงละคร ตามปกติในการเลนละคร ยอมตองมีฉาก แตฉากละครนั้นเปนของสมมุติ ตกแตงใหละมายคลายคลึง กับของจริง สวนตัวละครที่แสดงนั้น เปนคนจริงๆ มีชีวิตและมีเนื้อหนังเหมือนคนดูทั้งหลาย หนังสือเรื่อง "สี่แผน ดิน" นั้น เปนของกลับกันกับ วิธีการแสดงละคร คือฉากทั้งหลายทั้งปวง ที่ผูเขียนไดนํามาใช ในการเขียนเรื่องนี้ เปนของจริงทั้งสิ้น และไดพยายามสอบสวนใหตรงกับความจริง ตลอดจนเมื่อรวบรวมพิมพขึ้นเปนเลมครั้งนี้ ก็ได พยายามจนสุด ความสามารถที่จะใหเหตุการณ และรายละเอียดแหงชีวิต ที่ไดนํามาบรรยายนั้นถูกตองตรงตอ ความเปนจริง ใหมากที่สุดเทาที่จะทําได ฉะนั้นฉากละครแหงเรื่อง "สี่แผนดิน" จึงเปนของจริงทั้งหมด แตตัว ละครนั้นกลับเปน ของสมมุติ คือ "แมพลอย" ก็ดี วงศาคณาญาติตลอดจนเพื่อนฝูงของ "แมพลอย" ที่เขามามี บทบาทในทองเรื่องก็ดี ลวนแลวแตเปนบุคคลที่ไดเกิดขึ้นดวยจินตนาการของผูเขียน แตในการสรางบุคคลิกลัก ษณะของบุคคลเหลานี้ ผูเขียนก็ไดพยายามยึดถือเอาความจริงเปนหลัก คอยกีดกันมิใหบุคคลเหลานี้พูดหรือทํา สิ่งใดที่อาจเกินความจริง ไปไดเลย เพราะฉากเบื้องหลังตัวละครนั้น ผูเขียนไดนําของจริงมาใชเสียแลว ดั่งที่ได กลาวมาแตตน แมแตเครื่องแตงตัวของ "แมพลอย" จะนุงหมสีอะไรก็ตรงตอความจริง แตดวยเหตุนี้ ตัวบุคคลใน เรื่อง จึงกลายเปนจริงขึ้นมาในความรูสึกของผูเขียน และบุคคลเหลานี้ ไดเขามาดําเนินเรื่องของตัวเอง จนบาง เวลาขณะที่เขียนอยูนั้นเผลอไป เหมือนกับมีใครมากระซิบบอกใหเขียนอยูใกลๆ เจตนาของผูเขียนในการเขียนหนังสือนี้ ก็เพื่อจะบันทึกภาพรายละเอียดเบื้องหลังเหตุการณตางๆ ที่ได เกิดขึ้น ตั้งแตสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว ลงมาจนถึงสิ้นแผนดิน พระบาทสมเด็จพระเจาอยู หัวอนันทมหิดล ในระยะเวลาที่คอนขางจะนานนี้ ไดมีเหตุการณตางๆ เกิดขึ้นเปนอันมากในเมืองไทย และไดมี การเปลี่ยนแปลงที่สําคัญเกิดขึ้นมากมายหลายเรื่อง เหตุการณและการเปลี่ยนแปลงตางๆนี้ เปนเรื่องที่ประวัติ ศาสตรตองจารึกไว จึงเปนสิ่งที่ใครๆก็ยอมทราบ แตสิ่งที่ประวัติศาสตรมิไดจารึก ก็คือรายละเอียดเกี่ยวกับชีวิต และความเปนอยู ตลอดจนความคิดเห็นของคน ที่ตองประสบเหตุการณและการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ สิ่งเหลานี้นับ วา เปนรายละเอียดเบื้องหลังประวัติศาสตร และยอมมีความสําคัญอยูไมนอย เพราะการอบรมประเพณีและราบ ละเอียดเล็กๆนอยๆแหงชีวิต ยอมเปนมูลฐาน ของความคิดเห็นและกระทําใหบุคคลเกิดปฏิกิริยาแตกตางกันไป ในเมื่อมีเหตุการณหรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ มากระทบตัว หากเราไดทราบรายละเอียดตางๆนั้นไดบางพอ สมควร เราก็สามารถที่จะเขาใจความคิดเห็น บางอยาง ความรูสึกนึกคิดบางอยาง และปฏิกิริยาตางๆนั้นไดมาก ขึ้น แตถาเราไมสามารถรูรายละเอียดเหลานี้ เสียเลยแลว ตอไปเราก็ไมอาจอยูในฐานะที่จะอธิบายมูลเหตุ ของ เหตุการณที่เกิดขึ้นในอดีตไดแจมแจง และไมอาจเขาใจวา เพราเหตุใดจึงไดมีปฏิกิริยาบางอยางเกิดขึ้น หลังจาก ที่ไดมีเหตุการณนั้นๆเกิดขึ้นแลว ดวยเหตุตางๆที่ไดกลาวมานี้ ผูเขียนจึงมีเจตนาที่จะใหหนังสือ "สี่แผนดิน" นี้ เปนที่รวบรวม "รายละเอียดเบื้องหลัง ประวัติศาสตร" ตางๆเหลานี้ไวอีกอยางหนึ่ง นอกจากจะกอความบันเทิงให แกผูอานแตอยางเดียว ถาหากวา จะเปรียบเหตุการณสําคัญที่เกิดขึ้นนั้น เปนลายโครงบนผืนผาลายอยางไทยๆ ผูเขียนก็มีเจตนาที่จะใหหนังสือเรื่อง "สี่แผนดิน" นี้เปนลายประกอบ เพื่อจะไดทําผาลายผืนนั้นมีลวดลายเต็มขึ้น และวิจิตรพิศดารยิ่งขึ้น ผูเขียนจะไดกระทําสําเร็จสมดั่งความเจตนาหรือไม ก็ยังไมกลารับรอง ในการอธิบายรายละเอียดตางๆ ซึ่งเปนเรื่องที่เกิดขึ้นกอนกําเนิดของผูเขียนนั้น ผูเขียนไดรับความ อุปการะ จากทานผูอานมากมายหลายทานดวยกัน บางทานก็กรุณาใหความรูอันหาคามิได บางทานก็กรุณาตัก เตือนความผิดพลาด และขอบกพรองตางๆ ซึ่งทําใหผูเขียนสามารถแกใขปรับปรุง ฉบับที่เปนรูปเลมนี้ ใหถูก ตองตอความเปนจริงยิ่งขึ้น บางทานก็มีความกรุณาใหกําลังใจสนับสนุน โดยวิธีเขามารับนับเปนญาติโยมของ "แมพลอย" ไตถามทุกขสุขและสงของมาใหตามแตโอกาส ซึ่งพระคุณเหลานี้ ผูเขียนขอจารึกไวมิรูลืม และขอ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy_perface.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - คํานํา

Page 2 of 2

อุทิศความดีแหงหนังสือเลมนี้ทั้งหมดเทาที่มี ใหแกผูมีอุปการคุณ ดั่งที่ไดกลาวมาแลว หนังสือเรื่อง "สี่แผนดิน" นี้ใชเวลานานในการเขียน และใชเวลาอีกนานในการตรวจแกการเรียงพิมพ เมื่อ ไดทําสําเร็จมาเปนรูปเลม ถึงมือทานผูอาน ผูเขียนก็ออกจะภูมิใจเปนธรรมดา และความภูมิใจนั้นจะมากยิ่งขึ้น ถาหากวาหนังสือนี้ สามารถใหความบันเทิงและประโยชนแกทานผูอาน ไดตามสมควร ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ๑๘ กรกฎาคม ๒๔๙๖

http://www.geocities.com/siamstory/ploy_perface.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 6

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑ (หนาที่ ๑) "พลอย" เสียงแมเรียก ขณะที่เรือกําลังบายหนาออกตากคลองบางหลวง มุงตรงไปยังทาพระ "พลอยจํา คําแมไวใหดี ถาเจาจะมีลูกมีผัวตอไปก็หาคนที่เขาใจเดียว อยาไปไดผัวเจาชูเมียมาก จะตองรอนใจเหมือนแม" แมนิ่งอยูครูหนึ่ง แลวพูอตอไป "แลวก็อยาไปเปนเมียนอยใครเขาเปนอันขาด จําไวนะ" พลอยหันหนามามองดูแมแลวก็เหลียว กลับไปมองนอกเกงเรือ ดูเรือแจวพายที่ผานไปมา ดูเรือนริมน้ํา และแพที่เต็มไปดวยของวางขายตางๆ ดูผูคนริมตลิ่ง และในเรือที่ผานไปมา ดวยความตื่นตาตื่นใจ อยางบอกไม ถูก เพราะครั้งนั้นเปนครั้งแรกที่พลอยไดออกจากบาน มาไกลถึงเพียงนี้ และเมื่อกอนที่จะออกจากบาน แมก็ บอกแลววา ไปแลวไปเลย เปนตายชาตินี้จะไมกลับมาเหยียบหัวกระไดบานนี้อีก บานพลอยอยูในคลองบางหลวง เรียกไดวาเปนบานใหญ มีกําแพงอิฐเสริมรั้วเหล็กกั้นตลอดริมน้ํา ที่ทา น้ํา มีศาลาหลังใหญ ทําดวยไม ขึ้นจากกระไดทาน้ํา เดินผานลานกวาง ก็ถึงตัวตึก เปนที่อยูของเจาคุณพอ ตึก นั้น จะพูดไปก็เปนตึกทันสมัย สําหรับระยะเวลาระหวาง พ.ศ. ๒๔๒๕ ถึง พ.ศ. ๒๔๓๕ อันเปนเวลาในรัชสมัย ของ สมเด็จพระพุทธเจาหลวงมหาราช ในกรุงรัตนโกสินทรนี้ ตึกนั้นเปนตึกกอนอิฐฉาบดวยปูนขาว หลังคา มุงกระเบื้องจีนเปนลูกฟูก หนาตึกเปนบันไดขึ้นสองขางมาบรรจบกัน ตรงกลางเปนชาลายอมๆ แลวจากนั้น มี บันไดขึ้นตรงไปชั้นบนของตึก บนตึกมีเฉลียงเดินไดรอบ ลูกกรงมีลูกมะหวด กระเบื้องสีเขียวแก พนจากเฉลียง เขาไป ก็มีหองใหญๆสามหอง เปนที่อยูเจาคุณพอ มีหองเล็กๆอีกหองหนึ่ง สําหรับเจาคุณพอไวพระ และอัฐิเจา คุณปู และคุณชวดทั้งหลาย เมื่อพลอยยังเด็กๆ อายุ ๖-๗ ขวบ เคยขึ้นไปบนตึกตอนบาย เพื่อไปหาเจาคุณพอ พลอยเคยรูสึกกลัวหองนี้เปนพิเศษ เพราะเปนหองที่ปดไวเงียบ ปหนึ่งจะเปดครั้งเดียว เวลาเจาคุณพอทําบุญ และในเวลาที่เปดพลอยเคยเห็นโกศอัฐิ ตั้งอยูบนมาหมูเปนแถว พลอยเคยถูกเรียกตัวใหเขาไปจุดธูปเทียน กราบเจาคุณปูคุณยาและเจาคุณชวดอีกหลายคน ตั้งแตนั้นมา ก็ใหเกรงกลัวหองนี้เปนพิเศษ เฉลียงหลังตึกนั้น เปนที่สําราญของเจาคุณพอ เวลาทานอยูบานก็มักจะอยูที่เฉลียงหลังนั้นเอง รับประทานขาวก็ที่นั่น ตึกชั้นบนปู ดวยกระดานแผนโตๆ อาศัยแรงคนเช็ดถูกันมาหลายสิบป ดูขึ้นเงา เปนมัน เจาคุณพอทานปูพรมเล็กๆ นั่งอยูที่ เฉลียงหลัง รอบๆตัวก็มีเชี่ยนหมาก กาน้ําขันน้ํา กระโถน หีบบุหรี่ และพานใสชุดจัดบุหรี่ตั้งไว เมื่อวันที่พลอย จะออกจาก ก็ขึ้นไปลาทานที่นั่น โดยที่แมปลอยใหขึ้นไปคนเดียว เวลานั้นพลอยอายุ ๑๐ ขวบ พอจะมีความสัง เกตุสิ่งตางๆ ไดถนัดถนี่ ตอมาอีกหลายสิบป พลอยนึกถึงเจาคุณพอขึ้นมาครั้งใด ก็ยังเห็นภาพทานนั่งขัดสมาธิ อยูบนพรม เจาคุณพอนุงผาลายสีจันทน ปลอยลอยชายตามสบาย เมื่อพลอยขึ้นไปกราบลา ยังนึกจําไดวาทาน มองดูหนา ลูกสาวคนเล็กของทาน อยางพินิจพิเคราะห คลายกับวาจะดูไวใหจําไดแมนยํา แตทานก็มิไดปริปาก พูดจาทักทาย หรือหามปราม คงมองแตหนาพลอยจนพลอยคลานกลับลงมา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๕ พลอยมีอายุไดสิบขวบ ถาใครไปถามพลอยในขณะนั้นวา ใครเปนบิดา พลอยก็ตอบวา ชื่อ พระยาพิพิธ ฯ มารดาชื่อแชม เปนเอกภรรยาของพระยาพิพิธ แตไมใชในฐานะคุณหญิง เพราะคุณหญิงทาน ชื่อเอื้อมเปนคนอัมพวา ไมไดอยูกับเจาคุณพอ แตกลับไปอยูบานเดิมของทานเสีย ตั้งแตกอนพลอยเกิด คง เหลืออยูแตบุตรของคุณหญิงอยูในบานสามคน คือคุณอุนพี่สาวใหญ อายุสิบเกาป คุณชิดพี่ชายคนรอง อายุสิหก ป คุณเชยพี่สาวคนเล็ก แกกวาพลอยสองป พลอยมีพี่ชายรวมมารดาอีกคนหนึ่ง อายุแกกวาพลอยปเศษ ชื่อพอ เพิ่ม และมีนองสาวคนละมารดาอีกคนหนึ่ง เกิดจากแมแวว ภรรยาเจาคุณพอ คนรองแมลงไป ชื่อหวานออนกวา พลอยสองป กับพี่นองเหลานี้ นอกจากพอเพิ่มพี่รวมทอง พลอยคุนเคยกับคุณเชยเปนพิเศษ เพราะอายุรุนราว คราวเดียวกัน และคุณเชยเปนเด็กชอบเลนปายปน ไปในที่ตางๆ ซึ่งถูกกับนิสัยของพลอย คุณอุนพี่สาวคนใหญ นั้น พลอยเห็นวาเปนผูใหญที่นาเกรงขาม เพราะเธออยูรวมบนตึกกับเจาคุณพอ ในหองใหญอีกหองหนึ่ง ซึ่งเปน หองเก็บเครื่องเงินเครื่องทอง คุณอุนเปนผูถือกุญแจแตผูเดียว แมแตการจับจายใชสอยทุกอยางในบาน คุณอุนก็ เปนผูทําทั้งสิ้น เจาคุณพอทานไวใจวาเปนลูกสาวใหญ สวนแมของพลอย ซึ่งคนทั้งบานเรียกวา แมแชมนั้น เจา คุณพอทานปลูกเรือนฝากระดานหาหองให อยูอีกหลังหนึ่งใกลๆกับตัวตึก ในบริเวณบาน มีสํารับสงตางหาก จากโรงครัว ซึ่งกินกันสามคนแมลูก กินเสร็จแลวก็มีนางพิศ บาวซึ่งแมชวยมาไวใช มีคาตัว ๑๒ ตําลึง เปนผูกิน เหลือและลางถวยชาม การปดกวาดบาน ปูที่หลับที่นอน ตลอดจนซักผาที่เรือนแม เปนหนาที่ของพิศ พี่ของพลอยอีกสองคน คือ คุณชิตและพอเพิ่มนั้น พลอยเกือบจะไมรูจักเสียเลย คนหนึ่งคือคุณชิต ผูซึ่ง เวลานั้น เปนหนุมเต็มตัว อายุ ๑๖ บางทีพลอยเคยเห็นคุณชิตตอนเย็นๆ นุงผาสีใสเสื้อกระบอกแพรเลี่ยน หวี ผมใสน้ํามันแปร ติดยาแกปวดหัวทั้งสองขมับ ตามธรรมเนียมหนุมๆ สมัยนั้น เดินไปเดินมาอยูแถวทาน้ํา พอ พลบค่ํา คุณชิตก็แอบลงเรือขาฟาก ไปเที่ยวกับทนายหนุมๆ ของเจาคุณพอ ครั้งหนึ่งพลอยจําไดวา คุณชิตหาย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy101.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 6

ไปหลายวัน แตพอกลับมาก็เกิดเรื่องใหญ เพราะเจาคุณพอทานมัดมือ เฆี่ยนที่หนาตึก ทั้งคุณชิตและทนาย เสียง รองกันใหลั่นบานไปหมด พลอยไปแอบดูอยูหลังพุมตนแกวรอบตึกกับคุณเชย ผูซึ่งดีใจที่พี่ชายถูกเฆี่ยน แลว ปรารภกับพลอยวาสมน้ําหนา อีกครั้งหนึ่งพลอยเห็นคุณชิตเจ็บผอมแหง นอนแบบอยูที่เรือน ที่เธออยูกับบาว หนุมๆ รุนเดียวกัน เห็นบาวตมยาตมใหกินเปนหลายหมอ คุณเชยแอบมากระซิบบอกพลอยวา "แมพลอยฉัน บอกอะไรให อยาพูดไปนะ คุณชิตเปนโรคบุรุษ ขืนพูดไปฉันโกรธจริงๆดวย" พอเพิ่มพี่ชายของพลอยนั้น ดูสวามิภักดิ์คุณชิตมากกวาพี่นองอื่นๆ แตพอเพิ่มก็ตองแอบไปมาหาสู มิให แมเห็น เพราะถาแมรูวาพอเพิ่มไปคบกับคุณชิตทีไร เปนเฆี่ยนเอาทุกที สวนหวานนองคนละแม ลูกแมแววนั้น ยังเด็กเกินไปที่พลอยจะสนใจ วันหนึ่ง พลอยถามแมถึงเรื่องพี่นองเหลานี้วา ทําไมคนจึงเรียกลูกเจาคุณพอวา คุณอุน คุณชิต คุณเชย แลวทําไมจึงเรียกลูกอื่นวา พอเพิ่ม แมพลอย แมหวาน แมมองหนาพลอยครูหนึ่ง แลวหัวเราะตอบวา "เพราะพวกเอ็งมันลูกเมียนอย นั่นทานลูกคุณหญิง ก็ตองเปนคุณไปหมด เขาไมเรียกวา อีพลอย ก็ดีถมไปแลว" ตั้งแตพลอยจําความไดมาจนถึงอายุ ๑๐ ขวบ พลอยมีความรูสึกวา แมและคุณอุนพี่สาวใหญ มีเรื่องตึงๆ กันอยูเสมอ จริงอยูทั้งสองมิไดโกรธเคืองกันถึงวิวาทเปนปากเสียง และตอหนาเจาคุณพอ ก็พูดจาปราศรัยกัน เทาที่มีเรื่องจะพูด แตพลอยสังเกตดวยความรูสึกของเด็กวา แมมักจะใชถอยคํา ที่สุภาพเปนพิเศษกับคุณอุน เสมอ เปนตนวาเรียกคุณอุนวา "คุณใหญ" เรียกตัวเองวา "ดิฉัน" อยางชัดถอยชัดคํา และใชคําเจาคะเจาขา ตลอดจนกิริยาที่นอบนอมอยางเฉียบขาดเยือกเย็นปราศจากความรูสึก แตบางเวลาแมแสดงความในใจ ใหพลอย เห็นวาแมไดรับความกดดัน และบังคับใจอยูเปนนิจ เนื่องจากฐานะแมบาน และการเปนผูบังคับบัญชาของคุณอุน ผูซึ่งแมถือวาเปนเพียงลูกของเจาคุณ แตตัวแมเองนั้นเปนเมีย ยิ่งเจาคุณพอทานเชื่อฟง ยอมใหคุณอุนปกครอง บานโดยเด็ดขาด แมก็ยิ่งมีความคับใจยิ่งขึ้น แมเคยรองไหปรับทุกขกับพลอยวา เจาคุณพอทานเลี้ยงแมเปนบาว หรือคนอาศัย แมไมมีสิทธิอะไรในบานนี้ ไดแตอยูไปวันหนึ่งๆ สวนแมแววภรรยาของเจาคุณพอ อีกคนหนึ่งนั้น สนิทสนมกับคุณอุน อยางมากมาย อยูดวยกันไดวันยังค่ําเกือบไมคลาดกัน เพราะแมแววแกกวาคุณอุน เพียงสี่ หาป เคยเปนตนหองของคุณอุนมากอน และแมบอกพลอยวา คุณอุนเปนคนยกบาวของตน ขึ้นเปนเมียเจาคุณ พอ เพื่อจะกําจัดแมใหออกจากบาน แมบอกดวยวาครั้งนั้นก็เกิดเรื่อง "หึงนางแวว" ตามคําของแม จนถึงเกือบจะ ออกจากบานไปเสียแลว แตเห็นลูกยังเล็กนัก แมก็ตองอดใจทนอยูไป พลอยอยูมาทามกลางความตึงเครียด ระหวางแมและคุณอุน จนบางทีพลอยรูสึกกลัวทั้งสองฝาย ไมอยาก เขาใกล คนที่บรรเทาความตึงเครียด ที่พลอยตองไดรูสึกไปดวย ก็คือเจาคุณพอ เพราะเจาคุณพอ ทานเปนคนรัก เด็กทุกๆคน ไมวาเปนลูกทานหรือลูกใครๆ บางทีตอนเย็นๆ เจาคุณพอทานเรียกเด็กๆในบาน ใหมาวิ่งเลนกันให ทานดู ที่ลานหนาตึก ใครจะสงเสียงดังเทาไรก็ได และคนที่สงเสียงดังที่สุด และหัวเราะดังที่สุด ก็คือเจาคุณพอ เอง แตลูกที่โตเปนหนุมเปนสาวแลว ดูเจาคุณพอทานเฉยๆไป อยางคุณอุนทานก็เกรงใจ หรืออยางคุณชิต ก็มัก มีเรื่องเคืองใจกันอยูเสมอ เขาหนากันไมติด ลูกทุกคน เจาคุณพอทานเปนคนตั้งชื่อ และตั้งชื่องายๆ พยางคเดียว ทุกคน พลอยเคยไดยินเจาคุณพอทานหัวเราะเยาะ เพื่อนฝูงขุนนางบางคน ที่ตั้งชื่อลูกยาวๆ วาทําเทียมเจา เทียมนาย จัญไรจะกิน อยางที่บานพระพิพัฒนใกลๆกัน ตั้งชื่อลูกคลองจองกัน เปนจังหวะวา เพ็ญพิสมัย ใส สุคนธรส สดสําราญจิต สนิทเสนหา เจาคุณพอทานเคยเอามารองใหแมฟง เปนจังหวะ แลวบอกวาดังเหมือน เพลงแขกเจาเซ็น เมื่อกอนที่พลอยจะออกจากบาน พลอยสังเกตเห็นความตึงเครียดระหวางแมและคุณอุนมีมากกวาปกติ ในกระบวนบาวสาวๆ ที่คุณอุนมีอยูหลายคนนั้น มีคนหนึ่งชื่อเยื้อน หนาดีดีเพื่อน แมบอกกับแมพลอยวา "คุณ ใหญกําลังจะยกนังเยื้อนใหเจาคุณ" และพลอยก็รูสึกวาเรื่องใหญกําลังจะเกิดขึ้น ในที่สุด เรื่องใหญที่ทําใหชีวิตของพลอยเปลี่ยนแปลงไปมาก ก็เกิดขึ้นจริงๆ คืนหนึ่งแมขึ้นไปหาเจาคุณ พอ บนตึกแตหาทุม พลอยอยูที่เรือนนอนคอยแมจนหลับไป มาตกใจตื่นขึ้นอีกทีหนึ่ง ตอนตีสามกวาๆ เห็นแม เขามาจุดตะเกียงในหอง แลวตรงเขามาปลุกพลอย มีพอเพิ่มซึ่งนอนอยูขางนอก เดินเขามาอยางงงๆ "พลอยไปกับแม" เสียงแมพูดอยางแคนใจ ใบหนาของแมอาบไปดวยน้ําตา "เมื่อทานไมเลี้ยงแมแลว แมก็ จะไปตามยถากรรม เราก็คนมีชาติมีสกุลเหมือนกัน ใครจะไปยอมใหกดหัวกันอยางขี้ขา พอเพิ่มเปนลูกผูชาย ตองอยูทางนี้ เจาคุณพอทานไมยอมใหแมเอาไป อยูทางนี้ละก็ฝากเนื้อฝากตัวกับทานใหดีๆ สวยพลอยแมไม ยอมทิ้งไว เดี๋ยวมันจะรุมกันขมเหง ถึงแมจะไมมีปญญาเลี้ยง เจานายของเราก็ยังมี แมจะเอาพลอยไปถวาย เสด็จ" พูดแลวแมก็กมหนานรองไหไปพลาง เอาชายผาแถบยอมกานดอกกรรณิการ ที่แมหมอยูขึ้นซับน้ําตาไป พลาง เหมือนหนึ่งใจแมจะขาด ฝายพอเพิ่มพอไดยินแมบอกวาจะละไวที่บาน ก็ยืนรองไหโฮลั่นบาน ทั้งกลางดึก พอไดยินแมบอกวา จะเอาไปถวายเสด็จ พลอยก็เขาใจทันที เพราะพลอยเคยไดยินเรื่องเสด็จของแม จาก ปากแมอยูเสมอ เสด็จประทับอยูในวังหลวง แมเคยอยูที่นั่นตั้งแตเด็กๆ จนทูลลาออกมาอยูกับเจาคุณพอ เพราะ ญาติทางแมชักนําให แมบอกวาความจริงแมเปนพระญาติเสด็จเหมือนกัน พอของแมหรือตาของพลอย เปน หลานของเจาจอมมารดาของเสด็จ แตแมบอกแตเทานี้ แลวบอกพลอยวา "อยาพูดไป เราเปนขาทาน ไปนับญาติ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy101.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 6

กับเจานายไมดี เดี๋ยวเหาจะขึ้นหัว" เรื่องเหาขึ้นหัวหรือจัญไรจะกินเมื่อไปเกี่ยวกับเจานายนี้ พลอยเคยไดยิน เสมอ ถาเจาคุณพอไมพูดแมก็พูดบอยๆ จนพลอยเคยนึกวา เจานายคนนั้น ถาจะเปนเหากันชุกชุม เหมือนกับ นางชุบลูกครอกในบาน พลอยไปเลนดวยทีไร เปนติดเหามาทุกที พลอยเคยถามเรื่องนี้กับเจาคุณพอ เห็นทาน หัวเราะงอหาย แลวก็ไมพูดวากระไร เรื่องที่เกี่ยวกับเสด็จนั้นแมเคยบอกวา ถาพลอยโตขึ้นอีกสักหนอยก็จะสงตัวไปถวาย แมเคยขออนุญาต เจาคุณพอแลวในเรื่องนี้ ทานก็ไมขัดของ บอกวา "ดีเหมือนกัน เด็กมันจะไดมีความรู" แตแลวทานก็ขอผลัดวา อยาเพิ่งสงไป เพราะทานไมมีลูกเล็กๆจะเลนดวย ฉะนั้นพอแมเอยปากวา จะพาตัวไปถวายเสด็จ พลอยก็เขาใจ ทันที แตโดยที่เห็นแมรองไหมาก และพอเพิ่มก็สงเสียงดังลั่น พลอยก็ไดแตนั่งตกตลึง ดูจะพูดจาอยางไรก็ไม ออก แมเห็นพอเพิ่มรองไหดังๆ ก็ดึงตัวมากอดไว แลวกระซิบปลอบโยนเบาๆ ตัวแมเองก็หยุดรองไหลงบาง เพราะกลัวพอเพิ่มจะเอะอะไปใหญ พอเห็นพอเพิ่มสงบลงบางแลว แมก็ใชใหไปตามนางพิศมาชวยเก็บของ คืนนั้นทั้งคืน แมเก็บของอยูกับนางพิศ พอรุงสาง แมก็ใหนางพิศขนของไปไวที่ศาลาทาน้ํา และใหไป ตามเรือมาลําหนึ่ง สําหรับพลอยนั้น แมจับลางหนาเกลาจุก แตงตัวเตรียมไวแตกอนรุง และใหนั่งคอยอยูที่ เฉลียงหนาเรือน ระหวางที่คอยอยูนั้นเอง พลอยไดยินเสียงใครเรียกเบาๆ ที่ขางเรือน พอชะโงกหนาออกไปดู ก็ เห็นคุณเชยมายืนหนาตื่นๆอยู ในมือถือหออะไรหอหนึ่ง "แมพลอย" เสียงคุณเชยเรียกเบาๆ "อยาเอะอะไป ลงมานี่เดี๋ยว" พลอยเหลือบไปดูเห็นแมยังวุนอยูในเรือน จึงคอยๆยองลงบันได พอเดินไปถึงตัวคุณเชย คุณเชยก็ควา ขอมือ ดึงตัวพลอยเขาไปใตถุนเรือน แลวถามดวยเสียงสั่นๆวา "นี่แมพลอยจะไปจริงๆหรือ คุณอุนบอกฉันเมื่อกี้นี้เอง แตฉันยังไมเชื่อ" พลอยเห็นหนาคุณเชยซีดๆ แลวนึกถึงที่เคยวิ่งเลนกันอยูทุกวัน ก็ตื้นตันใจ ไดแตพยักหนา คุณเชยยังไม ปลอยแขนพลอย และมือที่กําแขนพลอยนั้นเย็นเฉียบ พอเห็นพลอยพยักหนารับคํา น้ําตาเม็ดโตๆ ก็รวงจากนัยนตาของคุณเชย และไหลลงมาถูกแขนของ พลอย หลายเม็ด "โธแมพลอย" คุณเชยพูดเสียงเครื่อ "แมพลอยไปเสียแลวฉันจะเลนกับใครละ แมพลอยอยาลืม ฉันนะ" คุณเชยพูดซ้ําๆ อยูหลายหน เมื่อไดยืนดูหนากันอยูอีกสักครูหนึ่ง คุณเชยก็ยื่นหอที่ถือมาดวยนั้นให พลางกลาววา "นี่แมพลอย ฉันให จันอับ ฉันแอบขโมยคุณอุนเธอมาจากบนตึก แมพลอยเอาไวกินกลางทางก็แลวกัน" พลอยรับหอจันอับจากมือคุณเชย เหมือนอยางกับเปนของอันมีคาเปนเสียที่สุดแลว จะพูดจากับคุณเชย อยางไร ก็พูดไมออก เพราะคอนั้นตีบตันไปดวยความรูสึก มองดูหนาคุณเชยก็เห็นพราไปหมด เพราะนัยนตา นั้น มีน้ําตาไหลลนมากบอยู พอดีเสียงแมเรียกชื่อพลอยเบาๆ สองสามครั้งบนเรือน พลอยก็ไดโอกาส สะบัด แขนหลุดจากมือคุณเชย รีบหันหลังใหวิ่งหนีกลับขึ้นเรือนไปหาแม "พลอยมานี่" เสียงแมเรียกในหองอีกครั้งหนึ่ง พลอยก็รีบเขาไปนั่งขางๆตัว แมเก็บของเสร็จเรียบรอย แลว ของใชตางๆเปนพวก ถวยโถโอชาม แมถือวาเปนของบานนี้ จึงรวบรวมไวตางหากอีกที่หนึ่ง คงเก็บแตเสื้อ ผา ขาวของจุกๆจิกๆสวนตัวของแมแทๆ ใสหีบไมบุหนังสีดําเปนลายทอง รูปหงสมังกรสองใบ สวนผาผอนของ พลอยนั้น แมรวบรวมใสหีบชนิดเดียวกันแตสีแดง ใบยอมกวาอีกใบหนึ่ง ที่นอนหมอนมุงตางๆ แมทิ้งไวที่เรือน พอเพิ่มอยูตอไปจะไดใช ตัวแมเองจะไปหาเอาขางหนา พลอยยิ่งเห็นขาวของ ที่เคยใชรวมกันอยูทุกวัน ถูกแบง สรรปนสวน ก็ยิ่งมีความรูสึกมากขึ้น เพราะทุกอยางก็เห็น เปนอาการของ บานแตกสาแหรกขาดแทๆ น้ําตาที่ อยูในลูกตาก็หลั่งไหลออกมา จะหามเทาไรก็ไมหยุด แมเอาผาเช็ดน้ําตาไห พลางเหลือบเห็นหอของที่พลอยถืออยูในมือ จึงถามขึ้นวา "พลอย นั่นหออะไรลูก" "หอ..." พลอยหยุดสะอื้นแลวกลาวตะกุกตะกักตอไป "หอจันอับจะแม" "ใครให" แมถาม แตแลวก็เดาออกพูดตอไปทันทีวา "คุณเชยหรือ" พลอยไดแตพยักหนารับคํา แมกําลังปดหีบอยูก็หยุดนิ่ง เอามือวางพาดไวบนฝาหีบครูหนึ่ง ตาเหมอ มองออกไปนอกหนาตาง เหมือนจะตรึกตรองตัดสินใจอะไรอยู แตแลวแมก็ถอนใจใหญสลัดหนา พลางหันมา ทางพลอย เอาผาเช็ดน้ําตาใหอีก แลวหลังลูบหัวพลอยพูดวา "นิ่งเสียพลอย อยารองไหไปเลยทูนหัวของแม แมเปนคนที่รักพลอยมากที่สุด ไมมีใครจะรักลูกเกินไป กวาแมได ไปเสียกับแมเถิด แมรักลูกจึงอยากใหลูกไดดี ไปอยูในวังที่ตําหนักเสด็จ อีกหนอยก็จะสนุกสบาย ไม คิดถึงบานเสียอีก" แมนิ่งอยูอีกครูหนึ่ง แลวกระซิบดวยเสียงสั่นเครือวา "พลอย ขึ้นไปบนตึกไปกราบลาเจาคุณพอเสีย เสร็จแลวตามไปที่ทาน้ํา แมจะคอยอยูที่นั่น" วาแลวแมก็ หันหนาหนี เริ่มยัดของลงหีบอยางกุลีกุจอ และปดฝาหีบอยางแรง เหมือนกับจะใชอาการ และเสียงนั้น ชวยเพิ่ม ความแนนอน ในการตัดสินใจใหยิ่งขึ้น พลอยคอยๆ ยองออกจากหอง เดินผานเฉลียงลงบันไดอยางชาๆ เพราะมันเปนครั้งสุดทาย ที่พลอยจะ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy101.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 6

ลงจากเรือน ที่อยูมาตั้งแตเกิด ฝาเรือนทุกฝาจะมีตําหนิ มีรอยอยางไรที่พลอยรูจักดี ตําหนิและรอยตางๆ เหลา นั้น ก็เหมือนจะเดนออกมา ใหเห็นไดชัดในคราวนี้ รองกระดานทุกรอง ที่พลอยเคยนั่งทับ นอนทับ และแอบทิ้ง ของลงไปขางลาง ดูเหมือนจะเรียกรอง ใหพลอยหยุดร่ําลา จนถึงขั้นบันได แตละขั้นที่เคยถดขึ้นลง และราว บันได ที่เคยโหนเลนกับคุณเชยเปนประจํา ดูเหมือนจะโตกวาเกา เดนกวาเกา เพิ่มความสําคัญขึ้น ในคราวที่จะ จากกันไปในวันนี้ คุณเชยหายไปจากใตถุนบานแลว ไมทราบวาไปหลบอยูที่ไหน พลอยเดินขามลานบานชาๆ เหลียวดู รอบๆตัว เหมือนกับจะสั่งลาสถานที่ และสิ่งแวดลอมที่เห็นกันมาทุกวัน ตนปบตนใหญทีไดอาศัยรม เลนหุงขาว หุงแกงกับคุณเชย และเคยชวยกันเก็บดอกไปใหแม ผสมกับยาเสนมวนบุหรี่ใหเจาคุณพอ พลอยนึกขึ้นมาวา แมไปเสียแลวใครจะเปนคนมวนบุหรี่ เพราะแมเคยทําอยูคนเดียว และเปนการใหญเต็มที เพราะไหนจะตองตม น้ําผึ้ง น้ําสับปะรดและชะเอมไวคลุกกับยาเสนเมืองสอง ไหนจะตองมวนยาเสน เขาแบบกระดาษทิ้งไวเปนตัว ไหนจะตองรีดใบตองแลวตัดใหพอดี ของเหลานี้ถาแมไมทําใหใครจะทํา พลอยเดินผานตนเขี้ยวกระแต ซึ่งแม เคยเก็บไปรอยมาลัยใสจุกให ผานตนกรรณิการ ซึ่งแมสั่งใหมาเก็บดอกที่รวง ไปใหแมทุกเชา เพราะแมจะไดตัด เอากานตากแดดไวยอมผาแถบ ผานตนชะลูดซึ่งสงกลิ่นไกล แตหาดอกไมใครพบ ทุกอยางลวนแตเรียกพลอย ใหหยุด ใหเหลียวมอง แตพลอยก็กาวขาเดินไปจนถึงบันไดหลังตึก พอถึงเฉลียง พลอยก็ลงคลาน พอเขาไปใกล ตัวเจาคุณพอ ก็ลงกราบ แลวก็นั่งกมหนา เอามือแคะกระดานแกขวยน รอฟงวาทานจะพูดวาอยางไร เมื่อนั่งอยู สักครูหนึ่ง ไมมีเสียงอะไร จากเจาคุณพอเลย นอกจากเสียงกระแอมและเสียงบวนน้ําหมาก พลอยก็ลงกราบอีก ครั้ง แลวคลานถอยไป ทางบันได "พลอย" เสียงคุณอุนเรียกออกมาจากในหอง "มานี่" พลอยสะดุงสุดตัว ลังเลจะเขาไปดีหรือไมดี เมื่อ ตัดสินใจไมถูก ก็เหลียวไปดูหนาเจาคุณพอ เห็นทานพยักหนาเขาไปทางในหอง เหมือนกับจะบอกใหพลอยเขา ไป พอดีเสียงคุณอุนเรียกอีกครั้งหนึ่ง พลอยก็คลานเขาไปในหอง หองนั้นมืดครึ้มอยูเปนประจํา เพราะคุณอุนเธอไมชอบแสงแดด วาจะทําใหผิวเสีย ในหองนั้นอบอวลไป ดวย กลิ่นอบกลิ่นร่ํา ฝาผนังสามดานมีตูวางเรียงไวหลายใบ ในตูบรรจุเครื่องเงิน และเครื่องถมเปนอันมาก นอก จากนั้นก็มีกําปนเหล็กวางอยูอีกหลายใบในเงามืด บรรจุเครื่องเพชรเครื่องทอง ที่คุณอุนถือกุญแจแตผูเดียว คุณ อุนนั่งอยูกลางหอง มีเชี่ยนหมากเงิน กระโถนเงินวางอยูใกลๆ วันนั้นเปนวันพุธ คุณอุนนุงผาลายเขียว ขัดเปน มันแข็งกราง หมผาแถบสีจําปาแก คุณอุนเปนคนมีระเบียบ การแตงตัวแตละวันนั้น ก็เรียบรอยเปนอยางยิ่ง คุณ อุนหวีผมที่ใสน้ํามันไวอยางเรียบรอย ไมมีกระดิก ที่ไรผมนั้นก็กันไว เรียบรอยตามปกติ พอเห็นพลอยคลานเขา มา คุณอุนก็หยิบตลับงาใสขี้ผึ้งสีปาก มาเปดเอาขี้ผึ้งพังแพวขึ้นสี แลวถามดวยน้ําเสียงที่ไรความปรานีวา "จะไปกับแมหรือแมตัวดี" พลอยนิ่งเงียบ กมหนามองกระดานไมกระดุกกระดิก รูสึกหนาวเย็นตามเนื้อตัวขึ้นมาอยางบอกไมถูก "ไปละกอไปใหพนนะยะ" คุณอุนพูดตอ "อยาทํากลับไปกลับมา จะเสียรัศมีแมผูดีแปดสาแหรก" พลอย นิ่งเงียบอีก เพราะถึงจะตอบก็ไมรูจะตอบอยางไรถูก "ไป ! ไปใหพน" คุณอุนไลสง "นังคนนี้ลูกแม ลูกเสือ ลูกตะเขเลี้ยงไมได" คําอําลาของคุณอุนมีเพียงเทานั้นเอง พลอยกมลงไหวแลวรีบคลานออกจากหอง ผานเฉลียงหลังอยาง รวดเร็ว เพราะใจพลอยนั้น กลับเปลี่ยนเปนอยากไปเสียใหพน พอลงจากตึกไดพลอยก็รีบวิ่ง ตรงไปยังทาน้ําที่ แมคอยอยูกับนางพิศ มีพอเพิ่มมายืนกอดเสารองไห กระซิกๆอยู เมื่อพลอยมาถึงทาน้ํา แมก็ไมไดพูดจาไตถามวาอะไรทั้งสิ้น รีบเรงใหนางพิศบาว พาพลอยเขาไปในเกง เรือ แมตรงเขาไปกอดพอเพิ่ม กระซิบสั่งอะไรเบาๆ อีกสองสามคํา เสียงพอเพิ่มสะอื้นถึ่เขาและดังขึ้นกวาเกา แลวแมก็รีบลงมาในเรือ สั่งคนแจวใหออกเรือ พลอยมองออกไปนอกเรือทางบาน เห็นแตเสาศาลาที่ปกอยูในน้ํา พอเรือออกจากทามาไกลอีกเล็กนอย จึงไดเห็นหลังคาตึกเจาคุณพอ เห็นรั้วเหล็กกําแพงบาน และศาลาทาน้ําทั้ง หลัง มีพอเพิ่มยืนกอดเสารองไหสะอึกสะอื้นอยูในทาเกา ครั้นแลวภาพเหลานั้นก็เริ่มไกลออกไปทุกที จนในที่สุด ก็ลับตาไป มีภาพบานอื่นๆ ภาพเรือกสวนขางคลอง เขามาแทนที่ ยิ่งใกลปากคลองเขาไป บานชองและแพสอง ขางทางก็หนาแนนขึ้น ผูคนที่สัญจรไปมาทั้งทางน้ํา และทางบกก็จอแจยิ่งขึ้น พลอยเพงดูภาพตางๆ ที่เต็มไป ดวยสีสัน และผานไปประดุจฉากเคลื่อนที่ได อยางตื่นตาตื่นใจ พอเรือออกจากคลองแมพูดดวย พลอยก็หาสนใจ ไม เพราะความรูสึกตระหนกตกใจ ที่ไดรับแตเมื่อคืนตอนดึก เมื่อแมมาปลุก ความเศราสลดใจตอนที่จะตองจาก บาน และความขมขื่นใจ จากถอยคําของคุณอุน เมื่อตอนจะจากกัน กระทําใหประสาทความรูสึกของพลอยมึนชา อยู ประกอบกับมาไดเห็น ของใหมที่นาตื่นเตนตางๆ ทําใหพลอยมีความสนใจคําพูดของแมแตนอย พอเรือมาถึงกลางแมน้ํา พลอยมองดูฃฝงตรงขามก็ยิ่งรูสึกตื่นเตนยิ่งขึ้น ถึงกับอดใจไวไมได ตองสะกิด ถามแมวา "แมจานั่นอะไรนะแม" พลอยชี้มือไปที่หลังคากระเบื้องสี มีชอฟาปดทองระยับริมตลิ่ง "ตําหนักแพไงลูก" เสียงแมตอบ พลอยไมเขาใจวาตําหนักแพนั้นคืออะไร เปนของใคร และมีไวทําไม เพราะความสนใจและความอยากรูอยากเห็นนั้น กําลังเปลี่ยนไปโดยเร็ว และยิ่งเพิ่มขึ้นทุกที พลอยชี้มือขาม

http://www.geocities.com/siamstory/ploy101.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑ (หนาที่ ๑)

Page 5 of 6

ตําหนักแพไป แลวถามแมวา "แลวโนนละแม ที่ยอดสูงๆนั่น พระเจดียอะไร วัดอะไร จะแม ใหญโตเสียเหลือเกิน" แมหัวเราะกิ๊กกอดพลอยไวแลวตอบวา "ไมใชวัดดอกลูก นั่นแหละวังหลวงที่ลูกจะไปอยูละ ที่ยอดแหลมๆ สูงๆ นั่นคือยอดพระมหาปราสาท ที่เห็นเหมือนหลังคาโบสถนั้นคือ พระมณเทียร ประเดี๋ยวเราไปขึ้นจากเรือ ที่ ทาพระ แลวเดินยอนไปหนอย ก็เขาประตูศรีสุดาวงศไปในวัง" "แลวเสด็จทานประทับอยูหลังไหนละแม ที่ยอดสูงๆนั่นหรือจะ" แมหัวเราะอีก "เปลาลูก ทานไมไดประทับที่นั่นหรอก ถาแมไปทูลเสด็จวา พลอยถามอยางนี้ เปนไดทรง พระสรวลไปนานทีเดียว เสด็จทานก็ประทับอยูที่ตําหนักของทาน อีกหลังหนึ่งตางหาก มองจากนี่ไมเห็น ... พลอย ! อยาชะโงกจากเรือใหมากนัก เดี๋ยวรวงลงน้ําไป" พลอยรีบถอยเขามาในเรือตามคําแม นั่งอยูในเรือพลางหัวใจเตนตึกตัก ดวยความตื่นเตน "นั่นหรือคือที่ อยูของเราตอไป" พลอยนึกแตในใจ "ชางใหญโตสวยงามเสียจริงๆ ตึกเจาคุณพอวาใหญโตแลว ยังไมเทาซีก เดียวของวังหลวง" นึกขึ้นมาพลอยชักเฉลียวใจ ถามแมวา "วังหลวงนี้เปนของเสด็จหรือจะแม" "ไมใช" แมรองเสียงหลง "วังหลวงก็เปนของพระเจาอยูหัวทานซีลูก ที่พลอยเห็นนั่นแหละ เปนพระที่นั่ง ที่ ประทับของทานทั้งนั้น เสด็จและเจานายอื่นๆ ทานมีตําหนักอยูขางใน ผูชายเขาไปไมได มีแตพวกเราผูหญิง ลวนๆ ถาผูชายเขาไปได แมก็ไมตองทิ้งพอเพิ่มไว นี่เพราะจนปญญาแมจริงๆ จึงไมไดเอามา" "แลวแมจะไปอยูกับพลอยในนั้นหรือแม" พลอยถามดวยความเปนหวง แมนิ่งไปครูหนึ่ง แลวถอนใจใหญตอบวา "แมจะไปอยูกอน แตแลวแมก็จะตองไปทํามาหากิน ... อยาไปพูดถึงมันเลย ดูกันไปกอนเถอะลูก" ระหวางนั้น เรือเขาไปจอดที่ทาพระ แมจูงมือพลอยขึ้นจากเรือ แลวใหนางพิศจัดการเอาของขึ้น สวนหนึ่ง ใหฝากเขาไวที่ทากอน สายๆจะจางคนเขาขนเขาไปในวัง สวนหีบของพลอยใบเล็ก แมใหนางพิศแบก ตามมา เลยทีเดียว สองแมลูกเดินเลาะกําแพงวังเรื่อยมา มีนางพิศตามหลัง เดินไดสักครูหนึ่งก็เลี้ยวเขาประตูชั้นนอก พลอย ก็ยิ่งตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น เพราะภายในบริเวณวังนั้น ดูเต็มไปดวยตึกกราม ซึ่งพลอยเห็นวาใหญโตมหึมา ผูคนที่ เดินเขาออก ก็ดูยัดเยียดเบียดเสียดกัน ตลอดจนหาบของขายและของที่วางขาย ก็ดูมีมากมายเหลือขนาด ตรง หนาพลอยเขาไป มีกําแพงสูงอีกชั้นหนึ่ง เปนกําแพงทึบ มีประตูใหญเปดกวางอยู สังเกตดูคนที่เดินเขาประตู และออกจากประตูดูสับสนไปหมด บางคนก็รองทักกันเอะอะ บางคนก็เดินกมหนากมตารีบไป เหมือนหนึ่งมีธุระ รอน คนทั้งหมดเปนผูหญิงทั้งสิ้น แตงกายแปลกๆกัน ที่เปนผูใหญหรือกลางคน ก็หมผาแถบขางใน หมผาแพร จีบทับขางนอกอีกผืนหนึ่ง ลางคนที่สาวหนอยก็ใสเสื้อจีบเอว แขนพวง มีตั้งแตเสื้อเรียบๆ จนติดโบวยิบไปทั้งตัว พลอยดูผาหมแมและกิริยาที่เดิน ดูเหมือนกับคนอื่นๆ การแตงกายของแม และทาทางเปนแบบเดียวกันกับคนที่ เดินเขาๆออกๆ อยูนั้น คนบางคนเห็นแมก็รองตะโกน ทักวา ไปไหนมา ไมไดเห็นเสียนาน บางคนแมก็ยกมือ ไหวอยางนอบนอม สวนบางคนมองแมจนเหลียวหลัง แตแมก็ทําเมินเสีย แตปากนั้นบนปรารภดังๆ กับนางพิศ วา "คนเราบางคนมันชางตายยากเสียจริงๆ นะพิศนะ" และมีเสียงนางพิศตอบสวนควันมาทันทีวา "บาวก็วา อยางงั้นแหละเจาคะ" แลวก็มีเสียงนางพิศถมน้ําหมาก ดวยเสียงอันดัง "ออ ! พลอย" แมพูดขึ้นเหมือนอยางกับเพิ่งนึกอะไรออก "เวลาเขาประตูละก็ ตองขามธรณีประตูให พน เทียวนะ อยาไปเหยียบหรือเอาเทาไปเตะเขา เดี๋ยวจะเกิดเรื่อง" พูดแลวแมก็นําพลอยรีบเดินใกลประตูเขาไป พลอยสะดุงสุดตัว ความสนใจหลุดจากของแปลกอื่นๆ มา รวมอยูที่ธรณีประตู ที่เห็นอยูขางหนาทันที ธรณีประตูนั้น ทําดวยไมเหลี่ยมคอนขางใหญ แตไมใหญถึงกับ จะ ขามไมพน มีรอยคนมาปดทองไวบาง เปนระยะๆ และใกลๆ ขอบประตูนั้น ก็มีธูปปกอยูที่ริมขอบประตู ดานใน นั้น มีผูหญิงสาวบางแกบาง นั่งอยูสองขาง พลอยมาทราบทีหลังวา หญิงเหลานั้น มีหนาที่เฝาประตูวัง และ หนาที่อื่นๆ อีกมากมายหลายอยางในวัง เปนขาราชการอยูในกรมโขลน ชาววังทั่วๆไป เรียกกันวา โขลน ถาหากแมไมเตื่อนพลอยขึ้นมาโดยกระทันหัน เรื่องธรณีประตูวัง พลอยก็อาจไมรูความสําคัญ และไม สนใจ และดวยเหตุนั้น พลอยจึงอาจกาวขามธรณีประตูนั้น เขาไปโดยมิตองพะวังอยางใดเลย แตพอแมพูดขึ้นมา ความสนใจของพลอย ก็หลุดจากที่อื่นมาอยูที่ธรณีประตูนั้นแหงเดียว และเพงเล็งธรณีประตูนั้น ดวยความวิตก วิจารณเปนอยางยิ่ง พลอยยิ่งเดินใกลธรณีประตูนั้นเขาไป ธรณีประตูนั้นก็ยิ่งดูทั้งสูงทั้งใหญ เพิ่มความนาสะพึงกลัว ยิ่งขึ้น ทุกที สิ่งอื่นๆที่อยูรอบๆตัวนั้น ดูเลือนรางหายไปหมด แมแตคนที่เดินเขาเดินออกกัน อยางสับสนนั้น ก็จางลงไป เห็นแตเปนเงาๆ สิ่งที่เดนอยูในสายตาของพลอย และยิ่งเดนขึ้นทุกกาวที่พลอยเดินใกลเขาไป ก็คือธรณีประตู ที่ ปดทองไวเปนแหงๆ นั้นเอง จนดูเหมือนกับวา ไดเปลี่ยนสภาพจากทอนไม ธรรมดาสามัญที่สุด มาเปนสัตวราย อันนาสยดสยอง นอนขูคํารามขวางทางอยู และสัตวนั้นดูเหมือนจะรองวา "อยาเขามา ! อยาเขามา ! อยา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy101.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑ (หนาที่ ๑)

Page 6 of 6

เหยียบ ! อยาเหยียบ ! เขามาแลวตองกาวใหพน !" สวนในใจของพลอยนั้น ก็นึกดวยความหวาดวา "ไมพนแน ไมพนแน ! ที่นี่เปนวังหลวง วังของ ในหลวง ใครทําผิดอะไรนิดเดียวเขาเอาไปเฆี่ยน ไปขังคุก ไปตัดหัว ใครเหยียบธรณีประตูเขาเอาไป ตัดหัว ! ดูซี ! ไมมีใครกลาเหยียบสักคน ใครเดินเขาเดินออกตองกระโดดขามทุกคน แตเรากาวขาม ไมพนแน เพราะใหญออก อยางนั้น สูงออกอยางนั้น" ใจพลอยเตนระทึกดวยความประหมา ตาทั้งสองจองดูธรณีประตูนั้นเขม็ง และมือทั้งสองนั้นก็กําแนน พลอยรูสึกวาเหงื่อมือออก เปยกไปหมดในอุงมือ เทาทั้งสองขางที่เดินตามแมก็กาวชาลง นางพิศที่เดินถือหีบ ตามมาขางหลังรองเรงวา "เดินเร็วๆซี แมพลอย อยาไถล ดูซีคุณแมเขาประตูไปแลว" จริงอยางนางพิศวา แมกาวขามธรณีประตู เขาไปอยางกระฉับกระเฉง พรอมกับหันไปทักทาย กับใครคนหนึ่งที่นั่งอยูขางประตู เสียงแมเรียกคนๆนั้นวาจา พลอยตัดสินใจโดยรวดเร็ว เปนตายอยางไรก็จะตองตามไปใหถึงตัวแมจนได พลอยรีบสาวเทากาวเดิน ตรง เขาไปที่ประตู พอถึงประตูก็รูสึกตัวเย็นวูบ หลับตาทั้งสองขาง ยกเทาขางหนึ่งใหสูงที่สุด และกาวออกไป เทาที่ นึกวาเปนกาวที่ยาวที่สุดในชีวิต พอวางเทาลงบนพื้นพลอยก็ลืมตาขึ้น แลวก็เห็นวาตัวเอง กําลังยืนอยูบน ธรณีประตูนั้นพอดี พลอยใจหายวาบ เหงื่อไหลประทุออกมาพรั่งพรู ไมมีใจที่จะมองเห็นโขลนที่นั่งอยู อาปากตกตลึง ไมได เหลียวไปดูวา นางพิศที่เดินตามมาขางหลัง ยกมือตบอกดังผลุง พลอยเผนลงจากธรณีประตู วิ่งตรงไปที่ตัวแม อยางไมคิดชีวิต "หยุด !" เสียงใครคนหนึ่งรองราวกับฟาผา "หยุดเดี๋ยวนี้ ! กลับมานี่กอน !" เสียงนั้นรองสําทับมาอีก พลอยวิ่งมาถึงตัวแม และดวยอารามตกใจ จะวิ่งเลยไปอีก แตแมควาแขนพลอยไว แลวรองถาม ดวย ความตกใจวา "พลอย ! อะไรกันลูก ! หยุดกอน ลูกไปทําอะไรมา !" แตแลวแมก็เขาใจทันที ทรุดตัวลงนั่งกอดพลอยไว แลวหัวเราะจนน้ําตาไหล "พลอย !" แมพูดพลางหัวเราะพลาง "นี่ไปเหยียบธรณีประตูวังเขาแลวสิ แมก็เผลอไปเองไมทันดู" แลว แมก็หัวเราะตอไปอีก อยางขบขันเสียเต็มประดา เมื่อเห็นแมหัวเราะอยางขบขัน พลอยก็ใจชื้นขึ้นเปนกอง คอยๆเหลียวหนาไปดูทางประตูที่เกิดเหตุ เห็น โขลนคนที่สงเสียงเรียก กําลังชี้ใหพวกพองดูพลอย แลวก็กวักมือเรียกพลอย ใหกลับไปที่ประตู พลอยเห็นดัง นั้น ก็มองตาแม แตแมพยักหนาบอกวา "ไปเถิดลูก แมจะไปดวย ไปกราบธรณีประตูเสีย ก็หมดเรื่อง ไมมีใคร เขาทําอะไรหรอก" แลวแมก็กระซิบที่หูพลอยเบาๆวา "พลอยจะอยูในวัง ตอไปจําไวใหดี อยาไปเกิดเรื่องกับ โขลน แกดายับทีเดียว เราสูเขาไมไดหรอก" แมจูงมือพลอยกลับมาที่ประตู เสียงผูหญิงอายุกลางคน ที่แมเรียกจาถามวา "นั่นลูกแมแชมหรือ ถาจะไม เคยเขาวังละซี" "ลูกฉันเองละคะ" แมตอบ "จะเอามาถวายเสด็จ ฝากคุณจาดวยนะคะ" พลอยไดยินแมพูดก็เหลือบไป เห็นจานั่งอยูบนเสื่อ กําลังเอายาฉุนขึ้นสีฟน แลวจุกกับหมาก จานั้นเปนหญิงที่แตงตัวแปลกที่สุด ที่พลอยเคย เห็น จานุงผาพื้นสวมเสื้อจีบที่เอว แขนยาวแบบเสื้อกระบอก หมผาทับขางนอก ที่แปลกทีสุดสําหรับพลอย ก็คือ บนแขนเสื้อจานั้น ติดบั้งสี่บั้ง ความอลเวงเฉพาะหนาเรื่องเหยียบธรณีประตูวัง ทําใหพลอยสนใจจาโขลนแตเพียงวา เปนผูหญิงคน แรก ที่เคยเห็นติดบั้ง เพราะแตกอนเคยเห็นแตผูชาย ขณะนั้นคนที่อยูรอบๆประตูวัง พากันหันมามองพลอย เปนตาเดียวกัน คนที่กําลังเดินเขาออกก็พากันหยุด เพื่อคอยดูพลอยตองรับโทษ โดยการกราบธรณีประตู ฝาย โขลนที่เฝาประตู และไดเรียกพลอยใหหยุด ก็หันหนามาจองพลอยเขม็ง คอยดูมิใหพลอยหลบหนีไปไหนได พลอยตัวรอนแลวก็เย็น เย็นแลวก็รอน เหงื่อนั้นมิรูวามาจากไหน ออกจากรางกายพรั่งพรูไปทุกขุมขน แมปลอย แขนพลอยแลว บอกใหไปกราบธรณีประตูเสีย อยามัวชักชา ฝายพลอยก็กมหนาคอยๆยองเขาไป เพราะอาย เสียแทบจะแทรกแผนดินหนี ไมกลามองสบสายตา กี่รอยกี่พันคูที่กําลังจองมองดูอยางสนุก ถึงกระนั้น พลอยก็ ยังอดแลเห็นไมไดวา คนกําลังเรียกใหกันหยุดดู บางก็พูดจาวิจารณกันอยางขบขัน บางก็หัวเราะอยู อยางสนุก พอถึงธรณีประตู พลอยก็ทรุดตัวลงคุกเขา พนมมือวางลงบนธรณีประตู แลวก็หลับตาแนน กมตัวลงกราบ เสียง คนหัวเราะเกรียวกราวรับกันเปนทอดๆไป แมแตโขลนที่นั่งอยูริมประตู ก็ดูเหมือนจะหัวเราะ แตพลอยไมมีกําลัง ใจที่จะเหลียวไปดูวา ใครจะทําอะไร เพราะขณะนั้นถาสามารถละลายหายไปได พลอยก็จะทําดวยความอาย พลอยรีบลุกขึ้นยืนโดยเร็ว เมื่อกราบแลว และหันหลังไดออกวิ่งตื๋อตรงไปยังแม อยางไมคิดชีวิต อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy101.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 6

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑ (หนาที่ ๒) แมจูงแขนพลอยเดินตอไป ผานโรงละครในวัง ซึ่งเปนโรงโถง แลดูกลางวันก็เหมือนศาลาวัดกวางๆ ไมมี ความหมาย มีคนนั่งเลนอยูแถวนั้นสองสามคน เดินตอไปแมชี้ใหดูสระน้ํา บอกวา สระองคอรทัย ผานทิมโขลน ซึ่งพลอยตองสะดุงกลัวอีกครั้ง เพราะกาวแรกที่ยางเขามาในวัง ก็รูจักอํานาจโขลนเสียแลว ที่ทิมโขลนนี้ พลอย สังเกตเห็นโขลนนั่งอยูมาก บางคนก็แตงตัวครบ คือใสเสื้อหมผาจีบตามระเบียบ บางคนก็แตง ลําลอง หมผา แถบผืนเดียว กําลังทําธุระสวนตัวอยู โขลนหลายคนที่นั่งอยูนั้นรูจักแม โดยเฉพาะคนที่มีอายุมาก เสียงรอง ตะโกนทักกันเอิกเกริก บางก็อางวาไมไดพบกันหลายปแลว ไมเห็นหนาตาเปลี่ยนไปเลย บางคนก็รองถามแมวา ยังซนเหมือนแตกอนหรือเปลา บางคนก็รองถามวา พลอยเปนใครมาจากไหน "แมแชม ไปเอาเด็กที่ไหนมา" เสียงรองถาม แมตะโกนตอบวา "ลูกฉันเอง จะเอามาอยูที่ตําหนัก" เสียงรองตอบมาวา "ดีแลว จะชวยดูให" แลว ก็มีเสียงขัดคอมาวา "ถาซนเหมือนแมเมื่อเด็กๆ ใครจะไปดูไหว" ตอจากนี้ ทั้งแมและคนที่โตตอบกัน ก็หัวเราะ กันอยางขบขัน รื่นเริง แมถามโขลนคนตอไปวา "หลวงแมเจาเปนอยางไรบาง" ก็มีเสียงตอบมาวา "ก็ยังงั้นๆ แหละ เจ็บๆไขๆ อายุทานมากแลว" พลอยเกิดความสนใจขึ้นมาใหม เพราะชื่อคนวา หลวงแมเจา นี้ไมเคยไดยินมาแตกอน อดความอยากรู ไว ไมไหว ตองกระตุกแขนแม แลวกระซิบถามวา "แมจา หลวงแมเจานี่ใครกันจะแม" แมหันมาบอกวา "นั่นแหละนายโขลนละ พลอยจําไวเถิด" แลวแมก็จูงมือพลอยเดินตอไป ถนนหนทาง ตอนนี้ มีทางแยกไปเปนหลายสาย ถนนทุกสายปูหินแผนใหญๆ และไมวาจะมองไปทางใด ก็มีตําหนักหรือเรือน ใหญบาง เล็กบาง ปลูกอยูสลับซับซอนกันไป แมพาพลอยเดินเลี้ยวไปทางหนึ่ง ที่ริมทางเดินมีตึกยาวติดตอกัน เปนสองชั้น แบงเปนหองๆ พลอยสังเกตดูมีคนอยูในตึกนั้นมากมาย ครั้นถามวา ตึกยาวนั้นเรียกวาอะไร แมก็ ตอบสั้นๆวา "แถวเตง" "แลวใครอยูที่แถวเตงนี่จะแม" พลอยซักตอ "โอย ! ใครตอใครเยอะแยะไปหมด" แมตอบ "คุณพนักงานก็ มี คุณเฒาแกก็มี คุณหองเครื่องก็มี ขาหลวงที่บนก็มี" พลอยเดินสนใจชื่อแปลกๆตางๆ เหลานี้ขึ้นมาทันที แมพูดถึงคนชนิดใหมๆ อีกหลายชนิด แตพลอยก็ยัง จําไมไดวาใครบาง จําไดแตชื่อสุดทาย ขาหลวงที่บน จึงถามแมแตเทาที่จําไดวา ขาหลวงพระตําหนักเปนใคร แมก็ตอบวา "เปนขาหลวงสมเด็จที่บนไงละ" แลวแมก็หันไปทักทายกับคนที่รูจักกันตามแถวเตง เหมือนกับวาคําตอบ ที่ไหแกพลอยนั้นแจมแจง เพียงพอแลว พลอยรูไดวา ตามแถวเตงนั้น มีคนอยูเต็มไปหมด ไมมีที่วาง สังเกตดูจากผูคนที่นั่งบางยืนบาง หรือ กําลังทําธุระสวนตัวตางๆ อยูบนนั้น บางก็ตากผา บางก็เอาหีบออกมาเปดผึ่งแดดหนาหอง บางแหงก็มีของวาง ขายกระจุกกระจิก เปนของใชเล็กๆนอยๆบาง เปนขนมและของกินเลน พวกไสกรอกปลาแนม และอื่นๆ มึคน ผานไปผานมา ซื้อขายหรือหยุดทักทายพูดคุยกันไมรูจบ พลอยมาเขาใจวา ในวังนี้มิใชบานคน อยางธรรมดา เสียแลว แตเปนเมืองอีกเมืองหนึ่ง มีระเบียบแบบแผน และความเปนอยูของตัวเอง ไมเกี่ยวและไมสนใจตอโลก ภายนอก และภายในเมืองที่พลอยกําลังเขามาอยูใหมนี้ พลเมืองทุกคนเปนผูหญิง ไมมีผูชายเขามาปะปนอยูเลย ในที่สุด แมก็จูงมือพลอยเดินมาถึงตึกใหญ สี่เหลี่ยมหลังหนึ่ง ฝาฉาบปูนขาวแลวทาสีเหลือง คล้ําไปดวย ความเกา ตามขอบหนาตาง ขอบประตูมีลายปูนปนเปนชอดอกไม บานหนาตางประตูที่ปดไว เปนสวนมากนั้น เปนบานเกล็ด และดูเขาไปทางประตูตําหนักดานหนา และดูมืดครึ้ม ทางขึ้นตําหนักเปนบันไดหิน เตี้ยๆ ไมกี่ขั้น แมบอกใหนางพิศนั่งคอยอยูกอน แลวพาพลอยเดินเบาๆ เขาไปขางใน ดานหนาตําหนักมีหองปดไวบาง และเปดไวใหแลเห็นภายในไดบาง พลอยแลเห็นโตะเกาอี้ มีลวดลาย ประณีตวางไวในหอง มีตูกระจกลักษณะเดียวกัน ใสของตางๆ ซึ่งยังสังเกตไมทันวา เปนอะไรบาง แมหันมากระ ซิบ สั่งพลอยใหเดินเบาๆ เพราะเสด็จคงยังไมตื่นบรรทม แตความจริงแมไมจําเปนตองหาม เพราะความมืดครึ้ม เยือกเย็น ของสถานที่ ความแปลกและใหมของตําหนัก และความรูสึกเคารพยําเกรง วาที่นี่เปนตําหนักของ เสด็จ ทําใหพลอยเดินอยางเบาที่สุดอยูแลว แมพาพลอยเดินตรงไปยังหองๆหนึ่ง ทางดานหลังตําหนัก ผาน บันไดใหญ ซึ่งพรุงตรงขึ้นไปยังชั้นบน กอนจะถึงแมหันมากระซิบ บอกวาจะพาไปหา คุณสาย ซึ่งเปนขาหลวง ตนตําหนักของเสด็จ ความจริงแมไดเคยเลาเรื่องคุณสาย ใหพลอยฟงมาแลวหลายครั้งวา คุณสายเปนขาหลวง เสด็จ มาตั้งแตเสด็จยังทรงพระเยาว และคุณสายยังเปนเด็ก คุณสายอยูกับเสด็จตลอดมา จนเปนที่ไวเนื้อเชื่อ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy101_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 6

พระทัย มอบใหดูแลกิจการสวนพระองคทุกอยาง และใหดูแลวากลาว ขาหลวงทุกคนในตําหนัก แมเลาวา คุณ สายเปนคนใจดีมาก ไมถือตัววาเปนคนโปรด คอยชวยเหลืออุปการะขาหลวงตําหนักเดียวกันเสมอ คุณสายเปน ผูใหญแลวเมื่อแมยังเปนเด็ก และเคยเลี้ยงดูใหความอุปการะ ตลอดจนถายทอดวิชาความรู ใหหลายอยาง แม เคยบอกวานอกจากเสด็จแลว ก็ยังมีคุณสายอีกคนหนึ่ง ที่เปนผูมีพระคุณตอแม ขอใหลูกไดจําไว ดวยเหตุที่ได ยินมาเสมอวา คุณสายเปนคนใจดี พลอยจึงเดินตามแมไป โดยปราศจาก ความสะทกสะทาน เมื่อไปถึงหองคุณ สายแลว ทรุดตัวลงนั่ง กมลงกราบตามคําแมสั่ง และไดเงยขึ้นดูคุณสาย ซึ่งอยูกลางหอง พลอยก็รูทันทีวาที่แม เลามา ถึงความใจดีอารีอารอบของคุณสายนั้น เปนความจริงทุกประการ คุณสายเปนคนเจาเนื้อ หนาตาเปนคนอารมณดี ผิวเนื้อสองสี ถึงแมเปนคนมีอายุมากแลว และผมที่ตัด สั้น ตามสมัยนั้นหงอกประปราย คุณสายก็ยังไมมีใบหนาที่แสดงริ้วรอย ของความโกรธหรือความทุกขที่ผาน คุณสายนุงผาลายขัดสีเหล็ก หมผาแถบจีบสีจําปา นอนคว่ําอยางสบายอยูบนพื้นกระดาน ที่เย็นและเปนมัน ไม มีฝุนละอองจับเลย ตรงหนาคุณสายมีกระดงไมไผสาน ในนั้นมีพลูวางอยูเปนอันมาก ทั้งที่จีบแลว และยังไมได จีบ ขางๆตัวมีเตาปูนใบใหญ บรรจุปูนที่หอมไปดวยใบเนียม และพิมเสน คุณสายกําลังจีบพลูยาว ชนิดมีหาง ยาวเปนพิเศษ แมแตพลูที่คุณอุนจีบอยูเสมอก็ไมเทา ขางตัวคุณสายมีเชี่ยนหมาก ซึ่งขาดเสียไมได สําหรับสตรี สมัยนั้น และยังมีชามฝาอีกสองใบ วางไวใกลๆกัน พอคุณสายแลเห็นแม ก็ลุกขึ้นนั่งตอนรับดวยความดีใจ เสือกกระดงพลูไปอีกทางหนึ่ง เรียกแมเขาไป ใกลๆ แลวลูบหลังลูบหนา ถามเรื่องราวอยางคนที่ไมไดพบกันมานาน ฝายแมก็เลาเรื่องทางบาน ใหคุณสายฟง เบาๆ พอพูดไปไดหนอยหนึ่งแมก็รองไห แตแลวก็เลาเรื่องใหคุณสายฟงตอไปอีก คุณสายก็พยักพเยิด ดวย ความเห็นใจบาง ปลอบแมใหหยุดรองไหบาง เหมือนกับผูใหญปลอบเด็ก ระหวางนั้นพลอยก็ไดแตสังเกต ดูของ ตางๆ ภายในหองของคุณสาย ทางฝาดานหนึ่งที่เปนฝาทึบ คุณสายตั้งตูไวสองสามใบเก็บขาวของ จิปาถะ อีก ดานหนึ่งที่มีหนาตาง คุณสายก็วางหีบอีกหลายใบ และโถลายครามใบใหญๆ ลายดอกไมและผีเสื้อ สําหรับใสผา หมที่จีบแลว อีกหลายใบอยูเหมือนกัน ทางฝาดานใกลประตู พลอยมองไปเห็นก็ใจเตน เพราะเชาวันนั้น พลอย เพิ่งรูตัววา ยังไมไดกินขาว ทองกําลังจะเริ่มรองเมื่อเดินทางมาถึงที่หมาย สิ่งที่เตือนใหพลอยรูตัววายังไมไดกิน ขาว ก็คือชั้นเตี้ยๆ ที่วางอยูชิดฝาดานขางประตู บนชั้นนั้นมีขวดโหล วางเรียงรายอยูเปฯแถว ในขวดโหลนั้นใส ขาวตัวกะทิบาง น้ําพริกเผาบาง หมูยอง มะขามฉาบ ปลาแหงผัด พริกกะเกลือ ฝอยทองกรอบ ขนมอะลัว และ ของอื่นๆ ที่นาสนใจสําหรับเด็กอายุ ๑๐ ขวบขนาดพลอยเปนอันมาก คุณสายกําลังนั่งคุยกับแมอยูอยางสนใจ แตนานๆ ก็ไมวายเหลือบมามองดูพลอยสักครั้งหนึ่ง ครั้นเห็น พลอย นั่งพิศดูชั้นที่ตั้งของกินอยางเพลิดเพลิน คุณสายก็ไดคิด ถามออกมาดังๆวา "นี่กินขากันมาแลวหรือยัง" แมไดยินดังนั้นก็ยกมือทาบอก รองขึ้นวา "โถ ! พลอยลูกแม ตั้งแตเชามายังไมไดกินขางเลย นี่ก็สายจนปานนี้แลว !" "พุทโธแมเชม" คุณสายพูด "มัวแตทะเลาะกับผัวเสียจนลูกเตาอดขาว นี่มิหิวแยแลวหรือ" วาแลวคุณสาย ก็กวักมือ เรียกใหพลอยไปนั่งใกลๆ พอพลอยคลานเขาไปเกือบถึงที่คุณสายนั่งอยู คุณสายก็เลื่อนชามฝา ที่ วางอยูสองใบใกลๆตัวมาให แลวพูดวา "กินนี่เลนไปกอนนะพลอย ปาจะใหเขาไปจัดสํารับมาใหเดี๋ยวนี้" วาแลวคุณสายก็จับผาหมใหรัดกุม แลว เดินเบาๆออกไปขางนอก ฝายแมก็บอกกับพลอยวา "กินอะไรกันกอนเถิดพลอย แมก็หิวเหมือนกัน อยูนี่ไมตองกลัวใครเขามาดูถูกหรอก ตองถือเสียวา ที่นี่ เปนบานของแม ดีกวาบานฟากขางโนนเปนไหนๆ" แลวแมก็เปดชามฝาสองใบนั้นขึ้นดู "แหม ! ดีจริง ไมไดกิน มาเสียนาน" พลอยมองดูของกินที่อยูในชามฝาสองชามนั้น แลวก็ตกตะลึง ดวยไมเคยเห็นมาแตกอน และไมนึกวา จะ เปนไปได ชามใบหนึ่งนั้น ใสไขแมงดาทะเล ซึ่งพลอยเคยเห็นแตเขาแกงคั่วกับสับปะรด และชามอีกใบหนึ่งนั้น ใสกุงตะเข็บ ซึ่งพลอยเคยเห็นเขาทํากุงเค็ม หรือใชผัดใชแกง แตไขแมงดาทะเลและกุงที่เห็นในวังนี้ กลายเปน ของใหมสําหรับพลอย เพราะทั้งสองอยางนั้นเชื่อมน้ําตาล มีน้ําตาลจับจนแข็ง พลอยเหลียวไปดูแม เพื่อจะหา ความรู ก็เห็นแมกําลังหยิบกุงเชื่อม หรือถาจะเรียกใหถูกก็ตองเรียกวา กุงแชอิ่มนั้น ขึ้นใสปากเคี้ยวกิน อยาง เอร็ดอรอย "แม" พลอยกระซิบพลางเขยิบตัวเขาใกล "ฉันกินไมเปนหรอก อะไรก็ไมรู" แมหัวเราะแลวหยิบไขแมงดาใสปากพลอย ปากก็บอกวา "ลองกินดูสิพลอย อรอยดีนะ" พลอยลองเคี้ยวดูแลวก็ตองรีบกลืนใหหมด เพราะหวานแสบไส แตแลวก็ตองนิ่ง ไมถามแมวากระไรตอ เพราะกลัวแมจะปอนของที่ไมเคยกินเขาไปอีก อีกสักครู คุณสายก็เดินกลับเขามาในหอง มีคนยกสํารับตามเขามา พรอมดวยถวยชามขาวอีกสองใบ เอามาวางตรงหนาพลอยกับแม เด็กอีกคนหนึ่งยกกระโถนขันน้ํา และผาเช็ดมือเขาตั้ง เสียงคุณสายสั่งคนยก สํารับ ซึ่งเธอเรียกชื่อเฉยๆวาผาด ใหแบงผัดปลาแหงที่ใสขวดโหลไวมาเติม ฝายพลอยนั้นใจคอไมคอยจะดีเลย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy101_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 6

เพราะเดาไมถูกวาในชามตางๆ ในสํารับนั้นจะมีกับขาวชาววัง ที่แปลกประหลาดพิสดารอยางไรอีกบาง แตพอ ผาดเปดฝาชามออก พลอยก็คอยคลายใจ เพราะพบกับขาวที่รูจักแลวทั้งนั้น เปนตนวาแกงบอน ผัดถั่วฝกยาว ยําไขปลาดุก ระหวางนั้นคุณสายก็บนเอากับแมวา "จะไปจะมาก็ไมรูจักกัน ถารูตัวกอนฉันจะไดหาของที่แมแชมชอบไวใหกิน" แมหัวเราะแลวตอบวา "คุณละกอ ตามใจฉันเสียจนเสียคน อยูกับใครไมไดนาน ตองกลับมาหาคุณอีก ทุกที" ระหวางที่พลอยนั่งกินขาวอยูกับแมนั่นเอง คุณสายก็เดินไปไขตู ที่ตั้งอยูขางฝาในหอง หยิบเอาพานทอง ออกมาใบหนึ่ง แลวเดินไปที่อีกตูหนึ่ง เปดหยิบเอาธูปเทียนแพออกมาหนึ่งแพ ขณะที่เดินกลับมายังที่นั่ง คุณ สายก็บอกผาดใหไปหาใบตองมาอีก จะเย็บกระทงดอกไม แมมองตาคุณสายดวยความสงสัย แลวถามขึ้นวา "นั่นคุณจะทําอะไรคะ" "อาว" คุณสายตอบ "ก็จัดดอกไมธูปเทียนใหพลอยถวายตัวเสด็จไงเลา" "ตองถึงยังงั้นทีเดียวหรือคุณ" แมทวงขึ้นมา "ก็พลอยเปนลูกฉัน ก็เปนขาเสด็จอยูแลว จะตองถวายตัวอีก ทําไม" "แมแชมนี่เมื่อไรจะโตเสียที" คุณสายบน "พลอยเปนลูกแมแชมเสียคนเดียวเมื่อไหรละ พอเขาเปนพระ น้ํา พระยา แลวก็กกฟากขางโนน เอาลูกเขามาทําดีไมดี เดี๋ยวญาติเขาจะมาพลอยวาฉันดวย ไหนๆก็จะเอา พลอย มาถวายทานแลว ทําเสียใหมันถูกเรื่องถูกราว แลวเรื่องมันก็ไมยากเย็นอะไรนักหนา ขาวของเราก็มีอยู แลว" แมหัวเราะแลวบอกพลอยวา "พลอยดูไวนา คุณทานร่ํารวย ขาวของอะไร ทั้งตําหนักนี่ ของทานทั้งนั้นแหละ" คุณสายหัวเราะกี๊ก แลวรองวา "เอ ! อยามาพูดดีไป พานใบนี้ของฉันจริงๆนะ ไมใชของเสด็จหรอก..." "แลวธูปเทียนแพนั่นของคุณอีกเหมือนกันซี" แมขัดคอขึ้นมา "โฮย ! ฉันไมกลาเถียงหรอกแมคุน !" คุณสายรองอยางอารมณดี "หนาอยางฉันใครเขาจะมาถวาย ดอกไมธูปเทียน ก็ของทานนะแหละ ทานเที่ยวรับของใครๆ เขาไวออกเปนกายเปนกอง นานๆ ฉันก็เอาถวาย คืน ทานไปอีก ทานจะไปทรงจําไดอยางไร" พูดแลวทั้งคุณสายและแมก็พากันหัวเราะอยางขบขัน สวนพลอยซึ่งไมสูจะสนใจฟงนัก ก็นั่งกมหนาเปบ ขาว อยางคนหิว ระหวางนั้นขาวที่แมกลับเขาวังก็คอยๆกระจายออกไป ขาหลวงเสด็จหลายคน ทยอยกันเขามา ในหอง คุณสาย บางคนก็มาจากที่อื่น เพื่อทักทายถามทุกขสุขกับแม จนในที่สุดหองคุณสายเต็มไปดวยผูหญิง แกบาง สาวบาง ลวนแลวแตเปนเพื่อนฝูงคนรูจัก ของแมทั้งสิ้น ทุกคนทักทายกับพลอยเปนอันดี บางคนก็กอด จูบ ลูบ หลัง พลอยรูสึกทั้งอายทั้งตื่นเตน เพราะตั้งแตเกิดมาเปนตัว ก็ยังไมเคยไดรับความสนใจ จากคนเปนจํานวน มาก ถึงเพียงนี้ แตความกระดากอาย ก็มิไดขัดขวางพลอยมิใหสังเกตเห็นวา สตรีทุกคนที่เขามา ในหองนั้น แตง กายสะอาดสะอาน เปนแบบเดียวกัน ทุกคนนุงผาลายหมผาแถบสีประจําวัน อยางเดียวกัน จะผิดกันก็ที่แหวน หรือสายสรอย เครื่องประดับกาย ทุกคนหอมกรุนไปดวยกลิ่นอบ กลิ่นร่ํา นั่งที่ไหน ก็หอมติดกระดาน ผมใส น้ํามันหวีเรียบ แตละคนขัดสีฉวีวรรณ รางกายตนมาแลวอยางยอดเยี่ยม เมื่อเห็นหนาเพื่อนฝูงเกาๆ แมก็ดูเหมือนจะลืมความทุกขทั้งสิ้น ที่ผานมา จนทําใหถึงตองหอบลูก ออก จากบาน เมื่อเชานี้เอง แมพูดคุยกับเพื่อนฝูง อยางสนุกดวยความเบิกบาน เสียงหัวเราะตอกระซิกกันอยู ไม หยุดหยอน พลอยสังเกตเห็นแมเปลี่ยนไปเปนคนละคน กวาเมื่ออยูที่บาน เมื่อครั้งอยูที่บานนั้น แมทําตัวเหมือน คนแก มีอารมณเฉียวบอยๆ บางเวลาก็นั่งเหมอมึนตึงเฉยๆ นอยครั้งที่พลอยเคยเห็นแม พูดจาเลนหัวกับใคร แตพอเขามาในวังได ไมกี่ชั่วโมง ไดเขามาอยูในหมูเพื่อนฝูง ที่รูจักคุนเคยกันมาแตเดิม ไดกลับมาสูบรรยากาศ อันรมเย็น ไรความรําคาญจุกจิก แมก็ดูกลับเปนสาว กระชุมกระชวยขึ้นทันที เริ่มพูดจาสัพยอกกับคนที่อยู รอบๆตัว และทุกคนที่มาหาแมก็ดูเหมือน จะคอยจับฟงทุกคําพูดของแม ดวยความเลื่อมใส ไมวาแมจะพูดสิ่งใด ออกมาก็เห็นเปนขบขัน เสียงหัวเราะตอนรับคําพูดของแม มีอยูไมขาดระยะ พลอยกับแมอิ่มขาวไปนานแลว และผาดก็ยกสํารับกลับออกไปแลว เปนนานเหมือนกัน ระหวางที่แมคุย กับเพื่อนฝูง คุณสายก็นั่งเย็บกระทงดอกไมฟงอยู อยางอารมณดี นานๆก็รวมหัวเราะกับคนอื่นๆดวย พลอยซึ่ง บัดนี้ ไมมีใครสนใจ เพราะทุกคนพากันนั่งลอมแม คุยกันดวยเรื่องที่พลอยไมเขาใจ และไมสนใจนัก ก็ไดแตนั่งดู คุณสายเย็บกระทง แตกระทงหรือสิ่งที่คุณสายเรียกวากระทงนั้น แปลกประหลาดกวาที่พลอยเคยเห็น ในขั้น แรกคุณสายเอาใบตองดีๆ มาฉีกออกเปนชิ้นเทาๆกันกอน ซึ่งพลอยก็นึกงงงวยเต็มทีวา คุณสายทําไมจึงทําเชน นั้น แตแลวคุณสายก็เอาใบตองที่ฉีกไว แตละชิ้น มาพับจีบใหไดรูป แลวเอาไมกลัด กลัดปะติดปะตอกลับเขาไป อีก จนในที่สุด ไดรูปกระทงเล็กๆ ซึ่งวิจิตรพิสดารกวาที่พลอยเคยเห็นมาแตกอน คุณสายแกหอใบตองอีกหอ หนึ่ง หยิบดอกจําปาซึ่งมีอยูในนั้นสองสามดอก ใสในกระทง แลวเอาใบตอง มาตัดเย็บเปนกรวยครอบไวอยาง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy101_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 6

เรียบรอย ครั้นแลวคุณสาย ก็เอาธูปเทียนแพขึ้นตั้งบนพาน เอากระทงดอกไม ตั้งอยูบนธูปเทียน เมื่อเสร็จแลว คุณสาย เหลือบมาเห็นพลอยนั่งตั้งตาอยู ดวยความสนใจก็ยิ้มดวย แลวถามวา "สวยไหม พลอย" พลอยไมรูจะตอบวาอยางไร ก็ไดแตยิ้ม แลวก็กมหนาดูกระดานตอไป อยูกับปาไป วันหลังปาจะสอนใหทํา กลัวแตพอคุนกันเขา ก็จะซนเหมือนแม เลยทําอะไรไมเปนจนบัดนี้" เสียงคุณสายพูดตอ "คา !" เสียงแมรองตอบออกมาจากกลุมเพื่อนๆ "อะไรไมดีก็ซัดดิฉันเขาไวเถอะ ลูกเตามันหมดนับถือ คราวนี้เอง" แลวทุกคนในที่นั้นก็พากันหัวเราะ ขณะนั้น มีหญิงสาวอีกคนหนึ่ง เดินผานหองคุณสาย จะไปทางหลังตําหนัก คุณสายเห็นเขาก็รองเรียก หญิงนั้นก็เขามาคุกเขา อยูตรงประตูหอง "แมลมัย" คุณสายถาม "บรรทมตื่นแลวหรือยัง" "ตื่นนานแลวละคะ" แมลมัยตอบ "อิฉันกําลังจะไปเรียกเครื่อง" พอไดยินดังนั้น คุณสายก็หันมากุลีกุจอ จับพานดอกไมธูปเทียน แลวพูดวา "แมแชม ขึ้นเฝากันเสียทีเถิด เฝาตอนเสวยนี่แหละดี จะไดไปชวยคุยใหเสวยได" แมไดยินดังนั้นก็รองวา "นี่พอทอดพระเนตรเห็นฉัน เปนกริ้วตายแน ออกไปมีผัวเสียกี่ปๆ ไมเคยเขามา เฝาเลย จะมากับเขาสักที ก็ตองหอบลูกมาทิ้งใหทานเลี้ยง" แตแลวแมก็ลุกขึ้น จับผานุงหมใหเรียบรอย แลวบอกใหพลอยตามออกไปขางนอก เมื่อออกมานอกหอง คุณสายก็เดินถือพานดอกไมธูปเทียนไปขางหนา แมและพลอยเดินตามไปติดๆ คุณสายพาเดินไปตามทางเดิน ที่มืดสลัวๆ ผานหองที่ปดไวหลายหอง แลวก็เริ่มขึ้นบันไดใหญ ที่พลอยเห็นเมื่อ ตอนเชา พอกาวขึ้นบันได พลอยก็เริ่มใจเตนดวยความประหมา เพราะแมเคยเลาถึงเสด็จ ใหฟงมาแตจําความ ได และเทาที่รู เสด็จก็เปนยอดแหงความนับถือเคารพบูชาของแม วันนี้เปนวันแรก ที่พลอยจะไดเฝาเสด็จ อีก สักครูก็จะไดเห็น เพราะเสด็จประทับอยูชั้นบนของตําหนัก หางกันดวยบันไดไมกี่ขั้นนี้ เทานั้นเอง เมื่อไปถึงกลางบันได คุณสายก็สงพานดอกไมธูปเทียน มาใหพลอยถือ แลวคุณสายก็ขึ้นบันได นําหนา ตอไป เมื่อมาถึงเพียงนี้ พลอยสังเกตไดทันทีวา บรรยากาศของชั้นบนแหงตําหนัก และชั้นลางนั้น ผิดจากกัน ไกลอยู ที่ชั้นลางนั้น ใครจะเดินเหินพูดจาก็อยางเปนกันเอง และไมตองระมัดระวังตัวเทาไรนัก แตพอขึ้นบันได มาไดครึ่งหนึ่ง อากัปกิริยาของคุณสายและแมก็ผิดไป แมแตจะขึ้นบันได หรือสงพานธูปเทียน ก็ทําดวยความ สํารวม มิใชทําตามสบายเหมือนเมื่ออยูชั้นลางของตําหนัก ลมโชยจากชั้นบนของตําหนัก ผานมาวูบหนึ่ง พาเอา กลิ่นอบร่ําและน้ําอบหอมมาเขาจมูกพลอย ไดยินเสียงคนพูดเบาๆ และมีเสียงหัวเราะเบาๆ เชนกัน พอคุณสายขึ้นไปถึงบันไดชั้นสุดยอด ก็คลานตอไปตามพื้นเฉลียง ทั้งแมและพลอยคลานตามติดๆไป พลอยประหมาเสียจน ไมสามารถจะเงยหนาขึ้นดูสิ่งที่อยูรอบๆตัวได ประกอบกับมือหนึ่งตองถือพานดอกไม ซึ่ง ดูเหมือนจะเพิ่มน้ําหนักขึ้นทุกที ครั้นจะจับพานดวยมือทั้งสอง แลวคลานเขา พลอยก็ไมกลา เพราะจะตองเงย หนาขึ้น จึงไดแตจับพานไวมือหนึ่ง อีกมือหนึ่งและเขาทั้งสอง คลานตามอยางประดักประเดิด สิ่งที่เห็นชัดทีสุด ในขณะนั้น คือเทาของคุณสาย ซึ่งคลานอยูขางหนา คุณสายคลานนําเรื่อยไปมิรูวานานเทาไร แตในที่สุดก็หยุด หลีกทางออกไปหนอยหนึ่ง แลวก็หมอบอยู พลอยเหลือบดูแม เห็นหยุดคลาน หมอบกราบไปขางหนา พลอยก็ วางพานลงตรงหนาแลวทําตาม แตแลวพลอยก็หมอบกมหนานิ่งอยู ไมกลาเงยหนาขึ้น ดูวาใครเปนใครอยูนั่น เอง "นั่นสายพาใครขึ้นมา" เสียงสตรีผูหญิงถามขึ้น และเสียงนั้นดังมาจากขางหนา พลอยก็เขาใจเอาวา เสด็จรับสั่งถาม เมื่อไดยินเชนนั้น พลอยก็ยิ่งกมหนาลงไปอีก แตกอนที่คุณสายจะทูลตอบ เสด็จก็รับสั่งขึ้นมา ทันทีวา "แชมไมใชรึนั่น" พลอยแอบชําเลืองมองดูแม เห็นหมอบกราบอีกหนหนึ่ง พลอยก็เลยกราบตามไปอีก "เอา ! นั่นอะไรกัน" เสด็จรับสั่งตอ "ถามทีกราบที เปนยังไงแชม หายไปกี่ปแลวไมรู เพิ่งจะโผลหนามา ขานึกวาเจาตายเสียแลว" "วันนี้พาลูกสาวมาถวายตัวมังคะ" พลอยเพิ่งเคยไดยินคนพูดราชาศัพทกับเจานายในวันนี้ แมเคยสอนให พลอยพูด ตั้งแตอยูบาน แตก็ไมไดสอนละเอียด เปนตนวาใหใชคําวา "เพคะ" เวลาตอบรับ แตครั้นเอาจริงเขา แมก็ไมไดพูดวา "เพคะ" สักหนอย เสียงแมพูดดัวคลายๆ "มังคะ" โดยออกเสียงตัว "มัง" แตเพียงครึ่งเดียวเทา นั้น "เด็กนั่นนะรึลูกสาว" เสด็จรับสั่งตอ "ขาเคยเห็นเจาวิ่งเลนอยูแถวๆนี้ ตั้งแตตัวเล็กๆ แลวก็หายไป กลับ มาอีกที ก็หอบลูกมาใหขาเลี้ยง พวกเจานี่เลี้ยงไมรูจักโตสักที ตัวหายไปแลวลูกก็มาแทน" เสียงผูหญิงที่หมอบเรียงรายอยูตามเฉลียง หัวเราะเบาๆหลายคน "อยูดีๆไมวาดี" เสด็จรับสั่ง "อยากออกไปมีผัว แลวก็ไปเปนเมียนอยเขาเสียดวย นี่ผัวเขาไลมา หรือเจา มาเอง แชม"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy101_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑ (หนาที่ ๒)

Page 5 of 6

"มาเอง มังคะ" แมตอบ "แตเขาก็ไมหาม" "ยังพูดเกงอยูนั่นเอง" เสด็จทรงพระสรวล "ลูกชื่ออะไร อายุเทาไหร" รับสั่งถามตอไป "ชื่อพลอยมังคะ" แมกราบทูล "อายุ ๑๐ ขวบ" "ไหนเงยหนาขึ้นซิพลอย" เสด็จรับสั่ง "มาหมอบกมหนาเปนลิงลมอยูได" พอไดยินเสด็จรับสั่งกับตัวโดยตรง พลอยก็แทบจะแทรกแผนดินไปดวยความประหมา และความอาย แต แมรีบเอื้อมมือมาสะกิด พลอยก็ตองจําใจเงยหนาขึ้นตามรับสั่ง เมื่อพลอยเงยหนาขึ้นดวยความจําใจเชนนั้น ก็ไดเห็นสิ่งตางๆ ที่อยูโดยรอบ ที่ๆพลอยหมอบอยู เปน เฉลียงยาว พื้นขัดถูจนเปนมัน ดานหนึ่งเปนหนาตางมีแสงสวางเขามาตลอด สวนอีกดานหนึ่งเปนประตู เปดเขา ไปในหองตางๆ บนตําหนัก ตรงหนาพลอยออกไปมีพรมสีเขียว ปูอยูใกลๆทางฝาดานใน เสด็จประทับอยูบน พระที่สี่เหลี่ยมเล็กๆ เย็บติดกับที่อิงเย็บเปนรูปหมอนขวาน ทั้งเบาะและหมอนที่อิง หุมดวยแพรดอกสีแดงเขม รอบๆที่เสด็จประทับ พลอยเห็นมีของกระจุกกระจิก วางอยูหลายอยาง เปนตนวา กระโถน ขันน้ํา เชี่ยนหมาก กาน้ํารอน และพานเล็กพานนอยใสของเครื่องใชตางๆอีกมาก เสด็จเปนคนวัยเดียวกับคุณสาย จะแกกวาคุณสายก็ไมกี่ป พลอยสังเกตุเห็นเสด็จขาวกวาคุณสาย และ จะเปนเพราะประทับตรงที่ๆ มีแสงสวาง หรือเพราะเหตุใดก็ตาม พลอยรูสึกวาเสด็จมีราศี ผุดผองกวาคนอื่นๆ ที่ หมอบเรียงรายอยูบนเฉลียงที่ประทับนั้น ทั้งที่เสด็จแตงพระองค ไมผิดกับคนอื่นๆเลย คือทรงผาลายและผาหม เปนแบบเดียวกับชาววังอื่นๆ ที่พลอยไดเห็น สิ่งที่ดึงดูดความสังเกต ของพลอยมากกวาอื่นๆ ในพระองคเสด็จ ก็คือพระเนตรทั้งคู ซึ่งดําขลับและเปนประกาย พระเนตรคูนั้นดูเหมือนจะมองดูพลอย และมองทะลุไปตลอดลํา ตัว พลอยรูสึกทันทีวา พระเนตรคูนั้นมีอํานาจ บังคับคนได แตขณะเดียวกันก็รูสึกดวยวา พระเนตรคูนั้นเต็มไป ดวย ความเมตตา อาจยึดถือเปนที่พึ่งอันแทจริงไดเชนกัน บนเฉลียงนั้นมีขาหลวงวัยสาวหมอบอยูอีกหลายคน และพลอยอดนึกไมไดวา แตละคน ชางสวยสดงด งามไปสิ้น พอพลอยเงยหนาขึ้น ตาทุกคูก็หันมาจองพลอย และทุกคนรวมทั้งเสด็จ ตางก็ยิ้มอยางปรานี ขณะที่ พลอยกําลังมวนหนากลับลงไปอีก ดวยความอาย แมก็สะกิดอีกทีหนึ่ง แลวกระซิบวา "พลอย เอาดอกไมธูปเทียนเขาไปถวายตัวเสีย" แลวแมก็ทูลดังๆวา "ยังขี้อายมังคะ" ไมเคยออกจากบาน เพิ่งจะพาออกมาวันนี้" "ดีแลวละ" เสด็จรับสั่งตอบ "ถาเกงอยางแมของมันเมื่อเด็กๆ ขาก็ชักจะเข็ดเหมือนกัน กลัวเลี้ยงมันไม ไหว" พลอยลุกขึ้นขยับเขยื้อนมือหนึ่งจับพาน จะคลานก็คลานไมคอยจะออก เพราะยังประหมาอยูมาก แตแม เอื้อมมือมาเสือกขาออกไปขางหนา พลอยก็คอยๆคลานอยางขลุกขลัก ไปจนถึงพรมสีเขียว พอถึงก็ชะงัก ไมแน ใจวาจะคลานตอไป หรืออยางไร พอดีเสด็จรับสั่งวา "เขามาใกลๆ สิพลอย" พลอยก็แข็งใจคลานเขาไปถึงพระองค พอถึงก็หลับตาเสือกพานดอกไมธูปเทียน ออกไปขางหนา แลวก็ หมอบกราบใจเตนอยู ไมรูจะทําอยางไรตอไป "ดูสิ กรวยดอกไมก็ยังไมไดเปด" เสียวเสด็จรับสั่ง "เปดกรวยดอกไมเสียกอนพลอย" เสด็จรับสั่งตอ พลอยเอื้อมมือไปเปดกรวยดอกไมขึ้น แตก็ยังไมรูวาจะทําอยางไรตอไป จนเสด็จรับสั่งวา "ยกพานสงเขามา" พลอยก็ทําตาม เสด็จทรงรับดอกไมธูปเทียน ไปวางไวขางพระองค แลวเอื้อมพระ หัตถ มาลูบพลอยเบาๆ พลางรับสั่งวา "ยังไมประสาเสียเลย จะคุนคนงายหรือยากก็ไมรู เดี๋ยวมากลัวเห็นขาเปนยักษเปนมาร อยูดวยกัน ก็ไม ตองกลัวกันนะพลอย" เสด็จเอาพระหัตถเชยคางพลอยขึ้น ทอดพระเนตรดูหนา แลวทรงพระสรวล รับสั่งวา "หนาตานาเอ็นดู สวยกวาแมอีก ผิวพรรณก็ดี สมเปนลูกพระน้ําพระยา" พลอยไดยินดังนั้นก็แทบจะตัว ลอย เพราะอยูบานไมเคยมีใครชมวาสวย อยางดีก็บอกวานาเอ็นดู แตเสด็จรับสั่งชมวาสวย ทําใหพลอยปลื้ม จนบอกไมถูก "เอามาใหแลวละก็ใหขาขาดนะ" เสด็จรับสั่งกับแม "ประเดี๋ยวก็จะมาเอาตัวออกไปเสียอีก โตขึ้นก็จะหา ผัว ใหกันเทานั้น" "โธ ไมทําหรอกมังคะ" เสียงแมตอบ "มอบถวายเด็ดขาด แลวแตจะทรงพระกรุณาชุบเลี้ยง ถาหมอมฉัน เขามายุงละก็แลวแตจะลงพระอาญาทีเดียว" "เจาก็ดีแตพูด" เสด็จรับสั่งตอบ "แมลูกกันจะไปตัดกันขาดไดอยางไร ขาก็ไดแตคอยเลี้ยงจนโตเทานั้น วายังไง พลอย" แตพลอยก็ไดแตกมหนา ไมรูจะทูลตอบวาอยางไรถูก "แลวตัวเจาละแชม จะทําอยางไรตอไป" เสด็จรับสั่งถามแมตอไปอีก "รอจนผัวมารับซีนะ นังตัวดี" เสด็จ รับสั่งสัพยอกแลวก็ทรงพระสรวล

http://www.geocities.com/siamstory/ploy101_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑ (หนาที่ ๒)

Page 6 of 6

"ชาตินี้ทั้งชาติ แชมเห็นจะไมมีวันกลับไปอีกได" แมทูลตอบ "เมื่อหมอมฉันอยูในวังเคยแตมีสุข ไมรูทุกข ออกไปแลวจึงไดรู เมื่อรูจักทุกขแลว ก็เห็นจะกลับไปหาทุกขอีกไมได" "พวกเจาก็เหมือนกันทุกคน" เสด็จรับสั่ง "อยูสบายๆไมชอบ วาคับแคบไปละ ถูกกดขี่ละ อยากออกไปมี ลูก มีผัวเปนคุณหญิง เปนทานผูหญิง จะไดเบิกบานใหเต็มที่ เสร็จแลวก็เห็นแตบนกันไปทุกคน ขาก็ไมรูจะไป ชวยเหลือไดอยางไร จริงๆ นะแชม เรื่องลูกเรื่องผัว ขาไมอยากเกี่ยว โกรธกันก็มาฟอง พอดีกันเขา ก็จะมารุม เลนงานเอาขาเขาอีก" "โบราณเขาวา" คุณสายทูลขึ้นมา "เรื่องความผัวความเมีย อยาไปเกี่ยวมังคะ" "ออ" เสด็จทรงพระสรวล "สายก็เคยมีผัวกับเขาเหมือนกันรึ" ทุกคนในที่นั้น หัวเราะกันเกรียว "วุย ! " คุณสายรองเสียงหลง "เสด็จรับสั่งอะไรอยางนั้นก็ไมรู หมอมฉันวา โบราณเขาวาดอกมังคะ !" "แลวสายไปรูไดอยางไรวา โบราณเขาวาถูกหรือผิด ถาเราไมเคย" ทุกคนในที่นั้น ก็พากันหัวเราะกันขึ้น อีก ขณะนั้นขาหลวงอีกสองคน เชิญเครื่องเสวยขึ้นมา พลอยเหลียวไปมองดูแม เห็นขยิบตาพยักหนา ใหพลอย ถอยออกไป พลอยก็หยิบพานคลานถอยไปหมอบอยูใกลๆกับแม พวกที่เชิญเครื่องขึ้นมานําเครื่องไปตั้งตรงพระพักตรเสด็จ เครื่องนั้นใสจานเงิน วางอยูบนโตกเงินเล็กๆ พลอยรูสึกวาเปนของเล็กๆนอยๆเหลือเกิน ครั้งหนึ่งพลอยเคยเห็นที่บานตั้งขาวพระ ถวายพระพุทธ ใสชามเล็ก ชามนอย พลอยยังนึกวา พระพุทธจะฉันอยางไรอิ่ม มาเห็นเครื่องเสด็จคราวนี้ ก็ดูไมนาจะอิ่มเชนเดียวกัน เสด็จทรงบวนพระโอษฐแลวก็เริ่มเสวย ขณะที่เสวยก็รับสั่งคุยกับแมและคุณสาย ถึงเรื่องทางบานของแม บาง หรือเรื่องเกาๆ ที่ทรงนึกขึ้นได แตสวนมากนั้นแมเปนผูคุย พลอยเห็นเสด็จทรงพระสรวลอยูบอยๆ เสด็จ เสวยเรื่อยๆ คลายกับไมสนพระทัยในอาหาร ที่กําลังเสวยอยู พลอยสังเกตเห็นขาวที่เสวยนั้น ดูเหมือนจะมีอยู ประมาณสองชอนถวย แตเสด็จเสวยเทาไร ก็ไมรูจักหมดสักที กวาจะเลื่อนเครื่องคาวออก แลวตั้งเครื่องหวาน ก็ ดูนานหนักหนา "สาย" เสด็จรับสั่ง "บายนี้มีสวดมนตบนพระที่นั่ง ขาวาจะขึ้นไปสักหนอย เสด็จตําหนักบนจะขึ้นไปหรือ ไม ก็ไมรู ถาไปจะไดไปดวยกัน" "หมอมฉันจะใหไปทูลถามดูก็ไดมังคะ" คุณสายทูลตอบ แตพอคุณสายพูดยังไมทันขาดคํา ก็มีเสียงคน เดินขึ้นบันไดมา เสียงขาหลวงที่หมอบอยูใกลๆ ทางขึ้นทูลวา "แมมาลัย มาจากตําหนักบนมังคะ" และทันใดนั้น ก็มีสตรีวัยกลางคนอีกคนหนึ่ง โผลหนาขึ้นมากราบ เสด็จ ตรงทางขึ้น แลวทูลอยางเร็วปรื๋อวา "สวดมนตเย็นบนพระที่นั่งบายวันนี้มังคะ เสด็จใหมาทูลถามเสด็จวาจะเสด็จหรือไมเสด็จ ถาเสด็จจะ เสด็จ เสด็จจะเสด็จดวย " พลอยไมเคยไดยินใครพูดราชาศัพท ใชคําวา 'เสด็จ' คําเดียวแตไดความทั้งประโยคและรวดเร็วเชนนั้น ดวยความแปลกใจจึงหันไปดู เสด็จทรงพระสรวลกี๊ก รับสั่งวา "พลอยถาจะยังไมเคยไดยินภาษาชาววัง ไหนพลอยบอกมาลัยเขาสิวา เสด็จใหไปทูลเสด็จวา เสด็จจะ เสด็จ ถาเสด็จจะเสด็จดวย เสด็จก็จะดีพระทัยมาก" ทุกคนรวมทั้งแมมาลัยหัวเราะกันเกรียว ทําใหพลอยตองหมอบ กมหนาต่ําลงไปอีก

http://www.geocities.com/siamstory/ploy101_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๒

Page 1 of 8

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๒ บายวันนั้น เสด็จขึ้นไปบนพระที่นั่ง ที่ตําหนักจึงเงียบกวาปกติ พอกลับจากเฝาลงมาถึงหองคุณสาย แม ก็บนวางวง เพราะเมื่อคืนนี้ไมไดนอนเลย แตพลอยกลับรูสึกตรงกันขาม ดวยความแปลกถิ่น ความรูสึกที่จะงวง หรือแมแตจะลงนอนไมมีเลย พอเขามาถึงในหองคุณสายแลว แมก็ไปหยิบหมอนมาจากหลังตูใบหนึ่ง เอาวางลง กับพื้นกระดาน แลวแมก็เสือกตัวลงนอน อีกสักครูก็หลับอยางสบาย สวนคุณสายก็กลับมานั่งที่เดิม หยิบผาหม ที่ซักแลวมากองหนึ่ง บอกวาเปนของเสด็จ เรียกพลอยเขาไปนั่งใกลๆ แลวบอกใหชวยกันจีบ โดยคุณสายทําให ดูกอน แลวใหพลอยลองทําดูบาง ซึ่งพลอยก็ทําไดทันที เพราะเคยชวยแมมาแลว ตั้งแตอยูบาน คุณสายกับพลอยนั่งอยูดวยกันไดสักครูหนึ่ง ก็ไดยินเสียงใครเขามาที่ประตู คนๆนั้นเปนเด็กอายุรุนราว คราวเดียวกับพลอย สังเกตดูหนาตาทาทางและเครื่องนุงหม ที่คอนขางจะมอมแมม พลอยก็รูวาเปนเด็กที่ซนอยู ไมนอย พอเด็กคนนั้นโผลหนาเขามาในหอง และพอมองสบตากับพลอย เด็กคนนั้นก็แลบลิ้นให ทําเอาพลอย ตองสะดุงและหลบตากลับทันที คุณสายพอเหลียวไปเห็นเด็กคนนั้น ก็เอามือเคาะกระดานใกลๆ แลวเรียกวา "ชอย ! มานี่เดี๋ยวนี้ มานั่งใกลๆ ประเดี๋ยวฉันจะเฆี่ยน หายไปไหนมาแตเชายะแมตัวดี" พอไดยินคุณสายเรียก เด็กที่ชื่อวาชอยก็หนามอย คลานเขามานั่งตรงที่ๆคุณสายเคาะกระดานเรียก "ดูซี !" คุณสายเรียก "เกงแสนจะเกงแลวยังมานั่งทําสีหนาอีก หายไปไหนมาบอกมาเสียดีๆ ตอนเสด็จ เสวย ก็ไมเห็นขึ้นไปเฝา บอกมาดีๆนะ" "ไปแถวเตง" ชอยตอบเหมือนกับเสียไมได "ไปหาใครที่แถวเตง" คุณสายซักตอไป "ไปหองคุณลมาย คะ" "ลมายไหน" "ลมายพนักงาน" ชอยตอบเรื่อยๆ "ไปทําไม" คุณสายไมยอมหยุดซัก "ไปเลนกับแมลมุนนองคุณลมาย" "เลนอะไรตั้งแตเชาจนบาย แลวทําอะไรอีก" คุณสายถามอยางจะเอาเรื่องใหได "แลวก็ไปที่หองปาเขียน" "ไปกินขนมละซี" "รับประทานไสกรอกปลาแนม" ชอยตอบเรื่อยไปอยางไมลดละเหมือนกัน "แลวไปไหนอีก บอกมาใหหมดนะ เดี๋ยวเถอะจะโดนตี" คุณสายขูตอไปอีก "แลวก็ ... แลวก็ไปที่หองคุณเฒาแกกลีบ" "ตาย ! " คุณสายรองอุทาน "ไปทําไมกันจนถึงที่นั่น" "ไปดูตุกตาชาววัง" ชอยตอบอยางไมติดขัดตามเคย คุณสายดูเหมือนจะหมดความอดทนตรงนี้เอง ยกมือฟาดเผียะ ลงไปที่ขาของชอยแลวพูดขึ้นวา "นี่แน ! ตุกตาชาววัง ! " คุณสายหันมามองพลอย แลวพูดตอไปวา "พลอยมาอยูในนี้แลวอยาไปเอาอยาง แมเจาประคุณชอยของฉันเขานะ เด็กอะไรก็ไมรู ดื้อก็เทานั้น ซนก็ เทานั้น เพื่อนฝูงอะไร มันชางมากมาย เขาโนนออกนี่ไปทุกหัวระแหง วันหนึ่งๆ ไมตองเห็นหนากัน เลี้ยงเสีย ขาวสุก นี่ถาไมใชเปนลูกเปนหลานแทๆ ฉันเลิกเลี้ยงเสียนานแลว" ฝายชอยเมื่อถูกตีเพียงหนึ่งที ก็กมหนาลงรองไหฟูมฟาย เหมือนกับวาใครมาทําใหบาดเจ็บแสนสาหัส น้ําตาเม็ดโตๆ รวงลงกับพื้นไมขาดสาย คุณสายเหลียวไปดูแลวก็รองขึ้นวา "ดูซี ! วาเขายังมาบีบน้ําตารองไห นิ่งเดี๋ยวนี้ทีเดียวนะ ไมยังงั้นเปนโดนใหญทีเดียว !" บางทีชอยจะรูใจคุณสายดีวา เปนคนเอาจริงเมื่อถึงเวลาอันควร หรือบางทีชอยจะรองไหเสียจนน้ําตา หมด ก็ไมมีใครรูได แตพอคุณสายพูดออกมาดังนั้น ชอยก็เลิกรองไหเปนปลิดทิ้ง เช็ดน้ําหูน้ําตาแหงเปนปกติ มือก็เอื้อม ไปเขี่ยเชี่ยนหมากของคุณสายเลน เหมือนกับไมมีอะไรเกิดขึ้นเลย "นี่รูจักกันไวเสียซี" คุณสายแนะนํา "นี่เขาชื่อพลอย ลูกแมแชม คนที่นอนหลับเปนทศกรรฐลมอยูนั่น แหละ เพิ่งมาถวายตัววันนี้ นี่ชอยหลานปาไงพลอย รุนเดียวกัน แลวก็ตองอยูดวยกันตอไป ชอยคอยดูพลอยให อาดวยนะ บอกใหรูจักที่ทาง แตไมตองพาไปซน จําไวนะ !" คุณสายขึ้นเสียงกําชับ ในตอนทาย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy102.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๒

Page 2 of 8

จากคําพูดของคุณสาย พลอยก็พอจะจับเนื้อความไดวา ชอยเปนหลานอาของคุณสาย และตองเปนคน ที่ อยูในวังมานานแลว เพราะชอยมีเพื่อนฝูงมาก ตลอดจนรูที่เลนที่กินขนม และที่ดูตุกตาชาววัง ซึ่งพลอยนึกถึง คุณเชยพี่สาวทางบาน และพอนึกถึงคุณเชย พลอยก็ใจหาย ปานฉะนี้คุณเชยคงเหงาเต็มประดา เพราะพลอยไม อยู แลวจะไดใครมาเลนดวย ทันใดนั้น พลอยก็นึกถึงหอจันอับที่คุณเชยยัดเยียดใหมาแตเชามืด จําไดวานางพิศ บาว ถือติดมือเขามาดวย และคงวางอยูขางๆหีบเสื้อผา ซึ่งยังอยูตรงประตูหองคุณสายนั้นเอง ระหวางที่คุณสายกําลังแนะนําบอกชื่อใหรูจักกันอยูนั้น ชอยก็มองดูพลอยแลวยิ้มอยางหวานที่สุด แตพอ คุณสายเหลียวหนากลับไปทําธุระกับผา ที่กําลังจีบอยู ชอยก็เอานิ้วจี้ที่ขาพลอยแรงๆ พอพลอยเหลียวไปดู ชอย ก็แลบลิ้นแลวก็เอานิ้วแหกตาใหดูอีกดวย พลอยเห็นชอยทําอาการกิริยาวิตถารดังนั้น ก็หลบหนาไปเสียทางหนึ่ง ความรูสึกขณะนั้นจะวาอายก็ไม ใช จะวาโกรธก็ไมใชแนๆ พลอยรูสึกขบขันในการกระทําของชอย และใจนั้นใหนึกรักตั้งแตแรก เพราะถึงแมวา พลอย จะไมใชคนเกงและซน แตพลอยก็นึกรักและนับถือเด็รุนเดียวกันที่เกงและซนอยูเสมอ เพราะคนที่เกงและ ซน เชนคุณเชย มักจะมีนิสัยโอบออมอารี ไมคอยจะเอาเรื่องเอาราวกับคนเชนพลอย เมื่อพลอยรูวาชอยทั้งเกง ทั้งซน ก็ใหนึกนับถือและอยากสมาคมดวยตั้งแตแรก พลอยนั่งชวยคุณสายจีบผาอยูอีกนาน ฝายชอยก็นั่งอยูที่นั่น คนเชี่ยนหมากคุณสาย และหยิบอะไรตอ อะไร ออกมาเลน เปนตนวา ไมควักหู หรือเอากระจกอันเล็กๆ ออกมาสอง เอาขี้ผึ้งออกมาละเลงเลน จนคุณ สายตองหัน ไปตวาดดุเอาบอยๆ ขณะนั้นแมก็ตื่นแลว แตยังนอนลืมตามองดูคุณสายและพลอยอยูนิ่งๆ "คุณอาคะ" ชอยเรียกขึ้น "หือ" คุณสายขานรับ "วาไงชอย" "เมื่อเชาหลานพบคุณสายหยุดที่หองคุณละมาย เธอสั่งใหมาถามคุณอาวา เรื่องหีบนั้นคุณอาวาอยางไร ไมทราบ" "โฮย ! " คุณสายรองขึ้น พลางกระแทกผาที่จีบเสร็จแลวผืนหนึ่ง ลงกับพื้น เหมือนกับจะชวยระบาย อารมณ "ไปบอกคุณสายหยุดของหลอนทีเถิดแมคุณ วาฉันไมใชเศรษฐี จะไดกินหีบหมายราคา ๒๐ ชั่ง ๓๐ ชั่ง แลวก็คนหนาอยางฉันจะไปกินหีบทองไดยังไง" "คุณสายหยุดบอกวาเอา ๑๐ ชั่งเทานั้นแหละคะ" ชอยทวงขึ้น "เอ ! เด็กคนนี้นี่ !" คุณสายตวาด "รูเกินเด็กไปเสียแลวละ มันเรื่องราวอะไรของตัว" ชอยไดยินคุณสายตวาดก็เลิกพูด แตแมนอนฟงอยูกลับเกิดสนใจ ถามขึ้นมาวา "หีบอะไรคะคุณ ตั้ง ๒๐ - ๓๐ ชั่ง" "ก็หีบหมากคุณสายหยุด ญาติขางผัวของหลอนนะซี แมแชม" คุณสายตอบ "ไหน !" แมถามอยางสนใจ "สายหยุดเศรษฐีที่เคยอยูตําหนักเจาคุณฯ นะหรือ" "นั่นแหละ !" คุณสายตอบ "จะมีสายหยุดที่ไหนเสียอีกละ ถือวาเปนลูกผูดี พอเปนเจาพระยา ปูยาตาทวด เปนเจาคุณราชินิกุล มีเงินจนไมรูจะทําอะไรหมด แมแชมจําไดไหม เมื่อแมแชมยังเด็กๆ ใครเปนคนเอาขนมปง เขามาเลี้ยงเพื่อนในวังกอนคนอื่น ใครที่เจาคุณพอสั่งน้ําแข็งมาจากสิงคโปร แลวสงเขามาให ตัวเองไมกลากิน ใหบาวลองกินดูกอน มันรองสามบานเจ็ดบานวาลิ้นจะขาด" แมหัวเราะแลวลุกขึ้นนั่ง แสดงอาการสนใจขึ้นมาทันที "ออ ! สายหยุดนั่นนะหรือ" แมรองขึ้น "แลวยังไงคะคุณ" "ก็จะยังไงละ" คุณสายเลาตอ "ทีแรกพอโกนจุกไดไมกี่วัน เขาก็เที่ยวคุยวา คนอยางเขาไมมีเสียละ ที่จะ ตองหาหีบหมากใช อยางเขาตองกินหีบหลวง ตอนนั้นเขายังไปมาหาสูกับฉันอยู ฉันก็ไดแตเตือนวา 'อยาพูดไป แมสายหยุด ! น้ําพระทัยเจาฟาเจาแผนดินเรา อยาไปประมาท' แตเขาไมฟง เขาวาเจาคุณพอทานพูดวา หมอดู เขามาแตเกิดวาจะมีบุญ ทานสงเขามาอยูในวัง ก็เพราะทานอยากเปนขรัวตา จะไดมีหลานเปนพระองคเจา เล็กๆไวเลน" แมหัวเราะงอหาย "เขาพูดถึงอยางนั้นเทียวหรือคุณ" "โธ ! ฉันยังจําไดเหมือนพูดเมื่อวานซืนนี้เอง" คุณสายตอบ แมคลานมานั่งที่เชี่ยนหมาก หยิบหมากใสปากเคี้ยว แลวถามตอไปวา "แลวเรื่องเปนยังไงกันตอไป" "ก็เปลาทั้งเพ" คุณสายเลาตอ "เขาก็อยูที่ตําหนักทําใหญโต นั่งคอยบุญวาสนาจะเปนเจาจอม แตก็ไม เห็นไดเปน นานเขาเขาจะนึกอยางไรขึ้นมากระมัง เห็นออกไปบานชั่วคราว แลวกลับมาอีก คราวนี้กินหีบทอง หรูหรา ใบที่จะมาขายฉันนี่แหละ เขาวาเจาคุณพอทานสั่งมาจากนอก เปนหีบทอง ฝามีวงกลมเปนตาขายฝง เพชร บนตาขายมีงูทําดวยมรกตเม็ดเล็กๆ ปมะเส็งปเกิดของเขาไงละ พอเขากินหีบใบนี้ เขาก็เริ่มคุยตอไปวา หีบหลวงเขาไมเห็นอยางกิน เพราะซ้ํากับคนอื่นดาดดื่น เวลาขึ้นก็เฟองฟูไปประเดี๋ยวเดียว แลวก็ตองไปหมอบ ประจําหองเหลือง เบื่อจะตาย สูกินหีบเจาคุณพอไมได ฉันเห็นเขาเขามาเขื่องอยูพักหนึ่ง แลวสักสองสามปตอ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy102.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๒

Page 3 of 8

มาก็หายไป ไดขาววาเขาไปแตงงาน ที่บานมีงานใหญโตมาก เจานายตางกรมเสด็จไปรดน้ํา หลายองค เจา คุณฯ ก็ออกไปแตง เขาเลากันวา ทานรับไหวดวยเครื่องทับทิมทั้งชุด แตนั้นมาฉันก็ไมไดขาวคราวไปนาน พอ อยูๆ เมื่อสิบกวาวันมานี้ก็กลับเขามาในวัง มาเที่ยวนอนอยูตามหองเพื่อนฝูง ผอมผิดรูปผิดรางจําไมได เขาวา กันวาเจาคุณพอก็ตาย ผัวที่แตงกันก็ปอก เสียหมดตัว เมื่อวานซืนนี้เอง มาหาฉันที่ตําหนัก เห็นถือหอผาอะไร พอแกออกที่ไหนได หีบปมะเส็งใบนั้นเอง แลวก็เอามายัดเยียดจะใหฉันซื้อ บอกราคาตั้ง ๒๐ ชั่ง ขันจะตาย คน อยางฉัน จะเอาอัฐฬลที่ไหนมาซื้อ และถึงจะมีซื้อเขาได ฉันก็ไมมีหนาจะไปกินหีบขนาดนั้น คนเขาจะไดหัวเราะ ตาย แลวฉันก็เปนคนปขาล ไมใชปมะเส็ง เลยวุนวายกันไปใหญ แตดูอาการทาจะรอนเงินเอาการ วันนี้สั่งฝาก แมชอยตัวดีนี่มาวา จะเอาเพียง ๑๐ ชั่งเทานั้น" พลอยฟงคุณสายเลาชีวิตคนในวังดวยความสนใจ และตั้งขอสังเกตไวหลายอยาง อยางที่หนึ่งคนในวัง ที่ มีบุญวาสนา จะตองไดเปนเจาจอม คนที่เปนเจาจอมนี้เปนอยางไร จะตองสืบถามดูใหรูเรื่อง ขณะนี้รูแตวา การ จะเปนเจาจอมกินหีบหมากของหลวงไดหรือไมนั้น อยูที่น้ําะพระทัยเจาฟาเจาแผนดิน อยางที่สอง คนในวังนี้มี ขึ้นมีตก จะขึ้นไปไหนหรือตกจากอะไร ก็ตองหาความรูตอไป ขณะนี้รูแตเพียงวา ถาตกแลว จะตองไปหมอบอยู ในหองเหลือง ซึ่งพลอยก็ยังไมรูวาเปนหองอะไรอยูที่ไหน แตไดยินเพียงเทานี้ ก็ชักจะกลัวเสียแลว เพราะคนที่ หมอบอยูในหองเหลืองนั้น คุณสายวาจะตองหมอบประจําอยูตลอดไป ไมมีที่สิ้นสุด "คิดๆ ดูก็นาสงสารนะคุณ" เสียงแมพูดขึ้น "คุณสายหยุด เธอรุนใหญกวาดิฉัน จําไดเห็นเธอในวัง เธอ เปนสาวแลว ดิฉันออกไปอยูบานเจาคุณก็ไมไดขาว เพราะเจาคุณนั้นกกฟากขะโนนบานบน คุณสายหยุดเธอ บานลาง ไมคอยจะไดติดตอกัน แตถึงกระนั้นก็เถอะ คนเรามีบุญวาสนาเปนใหญเปนโตสุขสบาย พอตกอับลงก็ ใหอดสงสารไมได" "ฉันก็นึกสงสารเหมือนกันแมแชม" คุณสายตอบ "แตมานึกดูตัวเราทุกวันนี้ ก็ชวยอะไรเขาไมได เตี้ย แลวจะไปอุมคอย แลวเวลาเขาร่ํารวย ใชเขาจะมามองดูเราเสียเมื่อไร จะไปไหนก็มีแตคนประจบประแจง จะพูด จาอะไรก็มีแตคนคอยประสม ไมมีใครตักเตือน พอจนลงเขาก็ทิ้ง เพื่อนฝูงเขาใหอาศัยอยูเวลานี้ ก็ใชวาเขาจะ เต็มใจเมื่อไร เขาขัดไมได พูดไมออกเขาก็ทนๆใหอยูไปอยางนั้น แตก็คงไมนานหรอก" คุณสายถอนใจใหญ แลวปรารภขึ้นวา "นี่แหละหนาคนเรา !" แมฟงคุณสายเลาเรื่องจบก็บนวารอน อยากไปอาบน้ํา หันมาพยักหนาชวนพลอยใหไปอาบดวยกัน เสียง คุณสายพูดกับแมวา "ดีเหมือนกัน ไปอาบน้ําอาบทาใหลูกเสียที อาบเสร็จแลวก็มาแตงตัวเสียในหองนี้ละ น้ําอบน้ํารม อยูที่ ไหนมีอะไรบาง แมแชมก็รูอยูแลว" แมพาพลอยออกไปนอกหอง ชอยก็ตามออกมาติดๆกัน เมื่อถึงประตูหองคุณสาย ก็แลเห็นหีบเสื้อผา ขาวของๆ แม ที่นางพิศกลับไปขนจากทาพระมาอีกเที่ยวหนึ่ง วางอยูริมประตู แมก็ทรุดนัวลงนั่งไขหีบ และ หยิบสิ่งของที่จําเปนตองใชออกมา ระหวางที่แมเปดหีบขึ้น ชอยก็เขามาชะโงกดูของในหีบอยางสนใจ ซึ่งแมก็ไม หาม ซ้ําอยางหยิบโนนนี่ใหดูอีกอยางใจดี ระหวางที่แมนั่งเลือกผาหมอยูนั่นเอง ธรรมชาติถูกระงับไป ตั้งแตเชาดวยความตื่นเตน ก็เริ่มเรียกรอง เอาแกพลอย ธรรมดาเมื่ออยูบานนั้น พลอยนั่งกระโถนเปนกิจวัตร เสร็จแลวนางพิศก็เอาไปเทที่ทา แตเมื่อมาถึง ตําหนัก ที่ทางจะนั่งกระโถนไดก็ดูจะไมมีเอาเสียเลย เหลียวดูนางพิศก็ไมทราบวาหายหนาไปหลบ อยูที่ไหน อยางไรก็ตาม เรื่องนี้เปนเรื่องใหญ ถาจะอยูในวังตอไป ก็ตองรูวิธีไววาชาววังขนาดพลอย เขาทําอยางไรกัน พลอยเหลียวซายแลขวาอยูอีกครูหนึ่ง เห็นวาทาไมไดการ จึงตองกระซิบเบาๆ ที่หูแม ทั้งที่อายชอย ซึ่ง นั่งอยูติดๆกัน แตแมกลับหัวเราะออกมาดังๆรองวา "เอาละซี ! พลอย เอายังงี้ดีกวาแมจะไปอาบน้ํากอน พลอยไปกับแมชอยนี่ก็แลวกัน" แมหันไปทางชอย แลวบอกวา "แมชอยพาพลอยไปอุโมงคสักทีเถิด จะไดรูจักที่ไว" กับพลอยแมสั่งวา "พอเสร็จธุระแลวรีบกลับนะพลอย อยาไถล แมจะคอยอาบน้ําใหทางนี้" พลอยหันมาดูหนาชอยอยางสงสัย เพราะกระซิบบอกแมเรื่องหนึ่ง แตแมกลับสั่งใหชอยพาไปอุโมงค ที่ เรียกวาอุโมงคนั้นจะเปนอะไรก็ไมรู ฟงชื่อดูก็ชักจะนากลัวเสียแลว แตชอยกลับยิ้มดวยแลวลุกขึ้นยืน พยักหนา ใหตามไป เมื่อเปนคําสั่งของแม ใหตามชอยไปอุโมงค พลอยก็ลุกตามไปทั้งที่ยังสงสัย ชอยเดินนําหนาออกไปนอกตําหนัก พลอยก็รีบสาวเทาเดินตามไปติดๆ เดินไปสักหนอย ชอยก็หันมา ถามวา "ปวดมากไหม" "ไมเทาไหรนักดอกแมชอย" "อยามาอวดดีเรียกฉันวาแมชอยนะ !" ชอยตะคอกให ฝายพลอยก็รูสึกวาตัวเองเล็กลงไปอีกมา เพราะ ชอยเปนหลานคุณสาย ซึ่งแมเรียกวาคุณทุกคํา บางทีพลอยจะเรียกผิดไปกระมัง ถาจะเรียกใหถูก ควรจะตอง เรียกวาคุณชอยตามคุณสายไปก็ได คิดไปคิดมาพลอยก็ตอบตะกุกตะกัก แบบคนมาอยูใหมวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy102.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๒

Page 4 of 8

"คะ ... คุณชอย" ชอยหัวเราะลั่นถนนที่เดินอยู แลวรองวา "เด็กบา ! ใครเขาไปใชใหเรียกวาคุณ เรียกฉันวาชอยเฉยๆ ก็แลวกัน แลวฉันจะเรียกเธอวาพลอย ใครๆ เขาก็เรียกฉันวาชอย เฉยๆ ทั้งนั้น มีแตผาดของคุณอาคนเดียวเรียกวา คุณชอย" พลอยไดยินดังนั้นก็ใจชื้นขึ้นถนัด ความนิยมที่มีอยูในตัวชอยตั้งแตแรกเห็น ก็เพิ่มมากขึ้นทันที และดวย เหตุนี้พลอยจึงกลาถามขึ้นวา "ชอย ไปอุโมงคนี่เขาไปทําไมกันจะ" "อาว แลวกัน !" ชอยตอบ "ก็เมื่อกี้พลอยบอกวาจะไปทุง ไมใชหรือ" "ถูกแลว" พลอยตอบ "แลวทําไมตองไปอุโมงค" "ก็ถาไมไปอุโมงค จะไปทุงที่ไหนกันละ" ชอยตอบอยางไมพยายามอธิบายอะไรทั้งสิ้น แลวพูดตัดบทวา "รีบๆเดินเขาเถอะ เดี๋ยวจะมาราดกลางทาง อายคนเขาตาย" ชอยรีบสาวเทาเดินเร็วขึ้น ทําใหพลอยตองรีบเดินตาม ทางที่ไปนั้นเปนถนนปูหินแผนใหญ ที่พลอยเดิน มาเมื่อเชานี้ ผานตําหนักใหญตําหนักเล็กสองขางถนน ไปจนถึงแถวเตงชั้นใน ชอยพาลอดประตู ออกไปแถว เตงชั้นนอก วกไปผานประตูศรีสุดาวงศ ซึ่งพลอยเกิดเรื่องเหยียบธรณีประตูเมื่อเชา ชอยเดินเรื่อยไป ถึงจะมี เพื่อนฝูง และผูใหญรองทักทายประปราย ชอยก็มิไดหยุดใหเสียเวลา จนในที่สุด ถึงสิ่งกอสรางอันหนึ่ง ลักษณะ นั้นเปนอุโมงคจริงๆ อยางที่เรียก ชอยพาพลอยเขาไปทางปากอุโมงค อันเปนทางเขา และพอพลอยโผลเขาไป ก็ใจหายวาบ เพราะตั้งแตเกิดมาเปนตัว ก็ยังไมเคยตองปลดเปลื้องทุกข ในลักษณะเชนนี้ ในอุโมงคนั้นมีทางเดินกลาง สองขางยกพื้นสูงพอกาวขึ้นได ตั้งถังขางลางตลอดเปนแถว บนยกพื้นกั้น เปนฝาเปนคอก สําหรับบังไดเฉพาะตัวคน ซึ่งเมื่อนั่งลงยองๆแลว ฝานั้นก็กั้นขึ้นมา เสมอพนหนาอกเล็กนอย ในคอกที่กั้นไวบนยกพื้นนั้น มีคนนั่งโผลหนาใหเห็นไดอยูแลว เปนอันมาก ทั้งสาวทั้งแกทั้งเด็ก ทุกคนปฏิบัติกิจ นั้นอยางเปนของธรรมดาที่สุด ไมมีอับอายหรือเห็นแปลกอะไรเลย บางคนที่นั่งอยูใกลกันหรือมองหนากันเห็น ก็ คุยกันอยูเซ็งแซ บางคนกําลังเดินเขาไปหรือออกมา เมื่อพบหนาคนรูจัก ก็ทักทายกันอยางรื่นเริง เปนปกติ พลอยเมื่อเห็นภาพอันจอแจ ปราศจากความระโหฐานเชนนั้น ก็ชะงักยืนอยูกับที่ แลวรองเบาๆขึ้นวา "ชอย ! ฉันทําไมไดหรอก คนมากมายออกอยางนี้" "เชอ ! " ชอยรองอยางเบื่อหนาย "รีบๆขึ้นไปนั่งเสียเถิดนะ มันแตดัดจริตอยู เดี๋ยวก็ไมตองทําอะไรกัน อีกหนอยก็เคยไปเอง ใครๆเขาก็มาที่นี่ทั้งนั้น" แตพลอยก็ยังอิดเอื้อนอยูนั่นเอง จนชอยอดรนทนไมไหว ตรงเขาจูงมือพลอยขึ้นไป แลวบอกวา "มามะ ! ฉันจะขึ้นไปนั่งเปนเพื่อน" ขณะที่พลอยนั่งอยูในคอกหนึ่ง ชอยก็เขาไปนั่งอยูในคอกขางๆ โผลหนาขึ้นมาอยางคนอื่นๆ และชวน พลอยพูดคุยอยูไมขาดปาก ทําใหพลอยหายเกอ และรูสึกเปนหนึ้บุญคุณชอยเสียตั้งแตแรกเริ่ม พลอยนั่งอยูในอุโมงคไดไมนาน เพราะยังไมคุนสถานที่ รีบชวนชอยกลับตําหนัก เมื่อออกมาขางนอก แลว ชอยก็เดินทอดนองอยางไมรีบรอน ชี้บอกที่ตางๆใหพลอยดู ตําหนักไหนเปนของเจานายพระองคใด เรือน ใดเปนของใคร ดูชอยจะรูจักไปเสียหมด สุดที่พลอยจะจดจําไดในคราวเดียว ระหวางนั้นใกลพลบเขามาแลว เดินผานทางประตูวัง เห็นโขลนกําลังปดประตู เสียงดังโกรงกราง พลอยก็ใจหายบอกไมถูก จริงอยูเมื่ออยูบาน พลอยก็ไมเคยไปไหน แตที่บานนั้นเย็นลงก็ไมถึงกับกวดขัน ปดประตูมิใหคนเขาออก แลวปดประตูไปจนถึงรุง สวาง จึงเปดอีกได มาถึงในวังพาค่ําลงก็รูวาเขาตองปดประตูแข็งแรง และตามคําบอกเลาของชอยก็วา เมื่อปด แลวก็จะตองปดเรื่อยไปจนพรุงนี้เชา ไมมีใครเปดได ไมวาจะมีเรื่องใดๆ พลอยก็ใจหายและวังเวงชอบกล ความ รูสึกเหมือนเวลาแมลงโทษขังหอง พอผานประตูวังมา ชอยก็เตือนใหรีบกลับตําหนัก บอกวาเดี๋ยวค่ําจะลําบาก เพราะไมไดเอาเทียนมาดวย พลอยก็สงสัยถามขึ้นวา "เทียนอะไรกันชอย" "อาว ! " ชอยตอบ "เดินในวังกลางคืนตองจุดไฟจําไวนะพลอย เดินมืดๆเปนเกิดเรื่อง" แตพลอยก็ยังไมเขาใจ ดูลักษณะทั่วๆไป ในวังก็ไมนามืดถึงกับตองเดินจุดไฟ หรือวาจะมีคนคอยทํา อันตราย หรืองูชุม หรือผีดุ พลอยนึกเอาอยางเด็กๆ แลวก็เริ่มกลัวขึ้นมาอีก อดรนทนไมไหว ก็ตองถามชอยอีก ตอไป "เกิดเรื่องอะไรจะชอย" "โขลนจับ ! " ชอยตอบอยางเด็กอีกเหมือนกัน เพราะชอยเอง ก็ไมรูวามีระเบียบวางไว ในพระราชฐาน ชั้นในวา ผูใดเดินตามถนนหนทางในวังในเวลาค่ําคืน จะตองถือไฟ ชอยรูแตเพียงวา ถาใครไมถือเทียนหรือโคม ไฟ เวลาไปไหนมาไหนกลางคืน เปนตองถูกโขลนจับ และคําตอบของชอย ก็เปนคําอธิบายที่เพียงพอสําหรับ พลอย เพราะเข็ดขยาดฝมือโขลน มาแตเมื่อกาวแรกที่ยางเขาวังเสียแลว พอไดยินชอยพูด พลอยก็เรงฝเทาเร็ว ขึ้น เพื่อใหถึงตําหนักเสียโดยเร็ว เพราะถาถูกโขลนจับตัว เวลาไมมีแมคอยแกไข พลอยก็นึกไมออกวาจะทํา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy102.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๒

Page 5 of 8

อยางไรถูก พอมาถึงตําหนัก ชอยก็พาเดินผานหองคุณสายออกไปทางเบื้องหลัง ที่นั้นเปนลานกวาง ปูดวยหินแผน ใหญๆ อยางที่ปูถนนทั่วไปในวัง สามดานของลานนั้น ลอมรอบดวยเฉลียง ตําหนักชั้นลาง มีกระถางตนไมใบ โตๆ ใสตนไมดอกวางอยูเปนระยะ สลับดวยอางมังกรปลูกบัว อีกดานหนึ่งเปนกําแพงทึบ ไมสูงนัก มีประตู เล็กๆ เปดออกไปนอกบริเวณตําหนักไดบานหนึ่ง และริมกําแพงนั้น ปลูกตนแกวและตนเข็ม สลับกัน มุมสุด กําแพงดานโนนมีตนพิกุลใหญขึ้นอยู และมีตุมมังกรใสน้ําอาบวางอยูหลายใบ แมอาบน้ําที่นั้นเสร็จแลว แตยังมิ ไดกลับมาแตงตัว นั่งที่ขอบอิฐที่กอไว รอบโคนตนพิกุล คุยกับขาหลวงเสด็จอีกคนหนึ่ง ที่กําลังนั่งอาบน้ําอยูบน มานั่งเล็กๆ แมเห็นพลอยไปถึง ก็หันมาขอบอกขอบใจชอย ที่พากลับโดยมิไดพาไถล พรอมกับสัญญาวา อีก ประเดี๋ยวหนึ่งจะมีรางวัลให แลวแมก็อาบน้ําใหพลอย เหมือนกับเมื่ออยูบาน อาบน้ําเสร็จแมพาพลอย กลับมา หองคุณสาย นั่งที่มาเครื่องแปง ทาน้ําอบประแปงใหพลอย และผลัดเสื้อผาใหพลอยกอน แลวแมจึงเริ่มแตงตัว ของแมเอง พลอยสังเกตเห็นแมแตงตัวประณีตเปนพิเศษ ไมแตงลวกๆเหมือนกับอยูที่บาน แมทาน้ําอบไทยทั่วตัว แลวก็เอาพัดๆจนแหง แตแลวก็ทาน้ําอบทับอีกตลบหนึ่ง จึงไดลงแปง แมมองดูหนาตัวเองในกระจกอยูนาน คอยๆหวีผมอยางบรรจง เอาไมสอยคอยๆสอยตามหนาผม และลูกผมเล็กๆ ที่ขึ้นอยูบางก็ถอนออก พลอยดู อาการกิริยาของแมแลว ก็พอจะเดาออกวา แมกลับเขามาอยูในหมูคน ที่แตงกายอยางที่แมเคยทํามาแตกอน แมก็กลับตัวผิดไปจากเมื่ออยูบาน เมื่อประแปงทาน้ําอบเสร็จแลว แมก็ไปนั่งที่หีบเสื้อผา ซึ่งบัดนี้นางพิศยกมา ตั้งไวในหอง แมเรียกพลอยไปนั่งดวย แลวก็เปดหีบ หยิบผาลาย ผาหมออกมากอง เลือกสีใหถูกกัน ขณะนั้น คุณสายกลับเขามาในหอง เห็นแมหยิบของอยู ก็ถามขึ้นวา "นั่นรื้อสมบัติอะไรกัน แมแชม" "เปลาหรอกคะ " แมตอบ "หยิบผานุงผาหมออกมาดู ไปอยูนอกวังเสียนาน ไมไดเอาใจใส จะนุงจะหม หยิบอะไรไดก็นุงเขาไปอยางนั้น คนขางนอกเวลานี้เขาก็แปลก นึกจะนุงสีอะไร หมสีอะไร เขาก็เอาแตใจเขา บางทีก็แตงเปนชุดผานุงผาหมสีเดียวกัน ไมตัดสีเหมือนอยางพวกเราในนี้ อยางลูกสาวใหญของเจาคุณอิฉันที่ บาน เขาแตงตัวตามแตจะเห็นงาม ฉันเคยไปทักเขาเขาหนหนึ่งวา แตงตัวไมเหมือนชาววัง เขาโกรธฉันไปตั้ง หลายวัน พลอยนี่ก็เถิด ถาทิ้งไวบานก็จะแตงตัวเหมือนพวกพี่ๆ ไปเสียเทานั้น" แลวแมหันมาทางพลอยแลวสอนวา "พลอยดูใหดีนะ แมจะจัดผานุงผาหมสีประจําวันใหดู อยูในวังโตขึ้น จะไดแตงตัวถูก" "นี่สําหรับวันจันทร นุงเหลืองออนหมน้ําเงินออน หรือจะหมบานเย็นก็ได แตถาวันจันทรจะนุงสีนี้ น้ําเงิน นกพิราบตองหมจําปาแดง" แลวแมก็หยิบผาหมสีดอกจําปาแกๆ ออกวางทับบนผาลายสีน้ําเงินเหลือบ ที่วางไว "วันอังคาร" แมอธิบายตอ "วันอังคารนุงสีปูนหรือมวงเม็ดมะปรางแลวหมโศก หรือถานุงโศกหรือเขียว ออน ตองหมมวงออน วันพุธนุงสีถั่วก็ได สีเหล็กก็ไดแลวหมจําปา วันพฤหัสนุงเขียวใบไม หมแดงเลือดนก หรือ นุงแสดหมเขียออน วันศุกรนุงน้ําเงินแกหมเหลือง วันเสารนุงเม็ดมะปรางหมโศก หรือนุงผาลายพื้นมวง ก็หม โศกเหมือนกัน นี่ผืนนี้แหละผาลายพื้นมวงนี่เหมือนกัน แตหองหมสีนวล วันอาทิตยจะแตงเหมือนวันพฤหัสก็ได คือนุงเขียวหมแดง หรือไมยังงั้นก็นุงผาลายพื้นสีลิ้นจี่ หรือสีเลือดหมู แลวหมโศก จําไวนะพลอย อยาไปแตงตัว เรอราเปนคนบานนอก เดี๋ยวเขาจะหาวาแมเปนชาววังแลวไมสอน" "แมเชมก็" คุณสายพูด "บทจะสอนลูกก็สอนรวดเดียวจบ เด็กตัวเทานี้จะไปจําอะไร คอยอยูไปคอยดูไป ก็จะรูไปเอง" เมื่อแมแตงตัวเสร็จแลว ก็นั่งคุยกับุคณสายตอไปในหอง เพื่อนฝูงของแมที่เพิ่งไดขาววาแมกลับมาในวัง ก็มาหาในตอนกลางคืนบางประปราย พลอยเห็นแมนั่งคุยกับเพื่อนฝูงอยางสนุกสนาน ในเรื่องที่ตนไมสนใจ ก็ เริ่มมองหาอะไรทํา แตเหลือบไปเห็นชอยมาพยักพเยิดอยูนอกประตู พลอยก็คลานออกไปหา เมื่อผานหีบของ ก็ ไมลืมที่จะหยิบหอจันอับ ติดมือออกไปดวย ชอยชวนพลอยไปนั่งเลนบริเวณหลังตําหนัก ซึ่งบัดนี้มีแสงสวาง ที่ ไดรับจากจากโคมที่จุดอยูในหองตางๆ ทําใหสวางแตบริเวณรอบๆ สวนตรงกลางหรือใตตนไมนั้น ดูมืดครึ้มอยู พอออกมาถึงประตู ชอยก็ชวนนั่งลงตรงนั้น แลวพูดวา "นั่งเลนตรงนี้แหละ กลางคืนฉันไมกลาไปไหน กลัวคุณอาเฆี่ยน" ชอยหยุดนิ่งอยูครูหนึ่ง แลวถามขึ้นวา "นั่นหออะไร พลอย" "หอจันอับ" พลอยตอบ "ฉันไดมาจากบานเมื่อเชานี้ กินดวยกันซีชอย" วาแลวพลอยก็แกหอจันอับออก วางบนตัก ชอยหยิบจันอับไปเคี้ยวกิน โดยไมพูดไมจาอะไรอยูสักครูหนึ่ง แลวถามขึ้นหวนๆวา "คิดถึงบานไหม พลอย" พอไดยินชอยถาม พลอยก็รูสึกวาที่คอตื้นตันขึ้นมาทันที ความจริงพลอยรูสึกชอบกล มาตั้งแตตอน บายๆแลว อยูๆก็ใหนึกอยากรองไห จะมองอะไรตอนเย็นใหรูสึกวาเหว วังเวงอยางบอกไมถูก แตพอไดยินชอย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy102.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๒

Page 6 of 8

ถาม พลอยก็รูสึกตัววา ความรูสึกที่บอกไมถูกนั้นเองคือความคิดถึงบาน คิดถึงสิ่งแวดลอมตางๆ ที่มิเคยจากมา เลยชั่วชีวิต ที่บานเปนอยางไร มีกลิ่นไออยางไร เมื่อตอนพลบค่ําเขาไตเขาไฟนี้ ยังอยูในความทรงจําของ พลอยอยางเดนชัด ปานนี้เจาคุณพอคงจะเพิ่งกลับขึ้นตึก และถายังอยูที่บาน พลอยก็คงจะกลับขึ้นเรือนแม ความอบอุนในใจที่เคยมีเมื่ออยูที่บานนั้น บัดนี้ดูจะหมดสิ้นไปจากหัวใจ จริงอยู ในวังมีสิ่งที่ทําใหพลอยตื่นตาตื่น ใจอยูเปนอันมาก แตเวลาพลบค่ํา ในสถานที่อันกวางเชนนี้ สําหรับเด็กตัวเล็กๆอยางพลอย ก็มีแตความเปลา เปลี่ยว จะเอาแมเปนที่พึ่งก็ไมได เพราะแมกําลังสนใจกับเพื่อนฝูง ที่ไมไดพบกันนาน เมืออยูบานพลอยก็รูสึกวา ตัวเปนคนสําคัญของแม แตมาวันนี้กลับรูสึกวา แมมีคนอื่นๆอีกมาก พลอยจะตอบชอยวาคิดถึงบาน ก็ตอบไมออก เพราะความรูสึกขึ้นมาตื้นตันคอหอย จึงไดแตพยักหนารับ ชอยก็ตอบวา "พลอยยังเกงกวาฉันเปนกอง ฉันเขามาใหมๆ รองไหไปตั้งสามวัน ขาวไมกิน กินแตกับ คุณอาจะสงฉัน กลับเสียแลว ที่ฉันคิดถึงมากที่สุดก็คือพี่เนื่อง เพราะเลนกันอยูทุกวัน คุณอาไปรับตัวฉันมาคนเดียว เพราะพี่ เนื่องแกเปนผูชาย เลยตองอยูที่บาน" จากคําบอกเลาตอไปของชอย พลอยก็รูวาชอยเปนหลานอาของคุณสาย บิดาผูเปนพี่ชายคุณสายนั้น เปนขาราชากรมีบานอยูแถวนางเลิ้ง ชอยมีพี่ชายอีกคนหนึ่งชื่อเนื่อง แกกวาชอยสองป มีอยูดวยกันสองคนเทา นั้น "คุณพอบอกวาฉันวิ่งเลนกับพี่เนื่องทุกวัน จนจะกลายเปนเด็กผูชายไป จึงสงตัวมาใหคุณอาดัดสันดาน ในนี้" ชอยอธิบายตอ แลวก็ปรารภถึงคุณสายผูเปนอาวา "คุณอาบทจะใจดีก็ดี บทจะดุก็แสนดุ เมื่อเชานี้วาฉันวาเลี้ยงฉันเสียขาวสุก พลอยไดยินไหม คอยดูไป เถอะ ฉันไมกินหรอกขาวสุกของคุณอา อยากมาวาฉันดี" พลอยฟงแลวก็แปลกใจแตก็ไดแตนิ่ง "พลอยกลัวผีไหม" ชอยถามขึ้นมาฌฉยๆ พลอยไดยินชอยถามมาดังนั้นก็ขนลุกซู เพราะบรรยากาศที่มืดครึ้มวังเวงนั้น ทําใหพลอยใจไมดีเสียแลว แตแรก "ที่ตนจันทรนอกตําหนักนี่แหละผีดุ" ชอยพูดตอไปโดยไมรอใหพลอยตอบ "เขาวาใครก็ไมรูมาผูกคอตายที่นั่น เวลาเดินผานกลางคืน ฉันกลั๊วกลัว ตองชวนคนเขาไปเปนเพื่อน เสมอ" พลอยเห็นชอยกําลังจะเลาเรื่องผี ก็อยากจะเปลี่ยนเรื่องพูด พลอยมองออกไปขางหนา ขามกําแพง ตําหนักออกไป เห็นยอดพระมหาปราสาทไดสลัวๆ เยื้องไปทางโนนเปนตึกใหญสูงตระหงาน มีดาดฟาใหญยื่น ออกมาเบื้องหลัง และมีสะพานยาวตอจากดาดฟานั้นไปยังที่อื่น ขณะนั้นบนตึกใหญเริ่มจุดไฟ แพรวพราว เหมือนกับมีงาน พลอยก็คอยอุนใจขึ้น "ที่นั่นอะไรนะชอย" พลอยถามขึ้นเพื่อเปลี่ยนเรื่องพูด "ที่นั่นแหละที่บน" ชอยตอบ "ที่ประทับพระเจาอยูหัวและสมเด็จ ดาดฟานั่นสวนสวรรค ฉันยังไมเคยขึ้น ไปสักที สะพานยาวนั้นเปนถึงตําหนัก มาดูทางนี้ซี" ชอยฉุดขอมือพลอยไปยืนกลางลาน หลังตําหนัก แลวชี้ใหดู ตึกใหญอีกหลังหนึ่ง จุดไฟสวางไสวเชนเดียวกัน "นั่นไงพระตําหนัก" ชอยเอามือชี้ "หลังใหญๆ นั่นแหละ ตึกหลังเล็กๆ ที่สะพานผานไปติดๆ นั้นตําหนัก มรกต" พลอยยืนดูแสงไฟสวางนั้นดวยความเพลิดเพลินขึ้นบาง ทุกหนาตางที่บนมีแสงไฟสองออกมา พลอยพอ จะมองผานหนาตางเขาไป เห็นความโอโถงของพระราชฐาน เห็นกําแพงสีตางๆ ซึ่งประดับลวดลายปดทองอัน อยูเบื้องใน "คุณชอยมาอยูนี่เอง" เสียงผาดพูดขึ้นใกลๆตัว "คุณอาใหมาตามไปรับขาว รีบๆเขาเถิด เดี๋ยวจะถูกดุอีก" ชอยกับพลอยเดินกลับเขาตําหนัก แตชอยบอกวา "พลอยเขาไปกอนเถิด เดี๋ยวฉันจะตามเขาไป" แลว ชอยก็แยกทางหายไปคนเดียว พลอยเขาไปในหองเห็นแมกับคุณสาย เริ่มจะลงมือกินขาวอยูแลว คุณสายพอเห็นพลอย ก็เรียกใหไปนั่ง ขางๆ แลวชวนกินขาวพลางถามถึงชอย ซึ่งพลอยก็ตอบวาประเดี๋ยวจะตามมา ตามที่ชอยบอกไว ทั้งสามคนนั่งกินขาวอยูสักครูหนึ่ง ชอยก็คลานกระโดกกระเดกเขามาในหอง มือหนึ่งถือกระทงใบใหญ "ชอย ! ไปเอาอะไรมา" คุณสายรองถาม "ขาวสุก" ชอยตอบหนาตาเฉย "ไปเอาขาวสุกมาทําไม" คุณสายรองถามอยางฉงน "ขาวที่นี่เปนกอง" "ฉันวานเขาไปซื้อมาแตตอนบาย" ชอยตอบอยางฉาดฉาน "เห็นคุณอาบอกวา เลี้ยงฉันเสียขาวสุก เลย ซื้อมาเอง จะขอรับประทานแตกับ" แมสําลักขาวพรวดใหญ แลวกมหนาหัวเราะในกระโถน จนน้ําหูน้ําตาไหล ฝายคุณสายก็ไดแตเอามือ ตบ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy102.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๒

Page 7 of 8

กระดานรองวา "ดูซี เด็กคนนี้ !" แลวหัวเราะจนน้ําตาไหลเชนเดียวกัน ระหวางนั้นชอยก็เขามานั่งที่สํารับ เปบ ขาวจากกระทงกินกับกับขาวในสํารับ เหมือนกับไมมีอะไรเกิดขึ้น ระหวางที่กินขาวกันอยูนั้นเอง พลอยก็ไดยินแมคุยกับคุณสาย ดวยขอความบางอยาง ที่ทําใหพลอยรูสึก วิตกกังวลยิ่งขึ้น คุณสายถามแมขึ้นวา "แมแชมเขามาคราวนี้จะมาอยูนานสักเทาไร ใจฉันอยากใหอยูนานๆ เพราะจะไดเห็นหนาไดพูดคุยกัน" แมตอบวา "ยังไมแนนอนหรอกคุณ ฉันมันคนใจแตกเสียแลว มาอยูในนี้ก็สบายทุกอยาง แตมันอึดอัดใจอยางไร บอกไมถูก แลวอีกอยางหนึ่ง มาอยูในนี้ก็ตองอยูเฉยๆ วันหนึ่งๆก็กินก็ใชไป อัฐฬสที่พอมีอยูบาง ก็จะหมดไป เปลาๆ ใจฉันอยากจะออกไปทํามาหากิน ญาติฉันมีทางฉะเชิงเทรา เขาเคยชวนใหไปที่นั่น ฉันวาจะออกไปดู ลาดเลาเหมือนกัน เผื่อจะมีทางทํามาหากินกับเขาบาง" พลอยไดยินแมพูดก็เขาใจไดวา แมเขามาอยูในวังเปนการชั่วคราว ระหวางนี้เทานั้นเอง แตพลอยจะ ตองอยูตลอดไป ทั้งหมดนี้มีความหมายวา พลอยจะตองอยูในวังตอไปคนเดียวโดยไมมีแม คําพูดของแมตอไปก็ ยิ่งยืนยัน ความเขาใจของพลอยยิ่งขึ้น "ถาฉันไปเมื่อไร ก็ตองขอฝากพลอยไวกับคุณ ใหชวยดูแลดวย นานๆฉันจึงจะเขามาเยี่ยมบาง" แมพูด อยางไมมีความรูสึกอะไรเลย "ไมเปนไร" คุณสายรับคํา "ลูกแมแชมก็เทากับหลานของฉัน บางทีก็จะดูงายกวาหลานจริงๆคนนี้เสีย อีก" คุณสายเอามือชี้ไปทางชอย แลวก็หันมาพูดกับพลอยวา "พลอยอยูกับปาไปเถิดนะ ไมตองกลัวอะไรทั้งสิ้น ปาจะดูใหดีที่สุด ทําตัวใหเสด็จทานทรงพระเมตตา ตอ ไปเราจะทําอะไรก็สะดวก เพราะมีเจานายเปนที่พึ่ง เวลานี้พลอยยังเล็กอยู ไมตองทําอะไรมาก แตตองหมั่นขึ้น เฝาเสมออยาไดหลบ เห็นหนาทุกวันก็ขี้เกียจจะโปรดไปเสียอีก แลวอีกอยางหนึ่งเสด็จทานโปรด คนกลาพูดกลา ทูล แตเราก็ตองระวังตัวอยาประมาท และอยากลาจนเกินไปนัก เห็นทานโปรดแลวก็อยาเหลิง น้ําพระทัยเสด็จ นั้นใครไมอยูใกลมานานๆ ก็ไมรู เวลาโปรดถูกพระทัยขึ้นมาละก็ จะเอาอะไรก็ได ไมมีที่ไหนเหมือน แตถาทรง จับไดวา เราเหลิงเสียหนหนึ่งแลวละก็ ทีนี้ไมมีเสียอีกละ" "ฉันก็รูวาาอยางนั้นเหมือนกัน" แมพูดขึ้นมา "ทีแรกมาอยูก็กลัวถูกกริ้ว แตอยูไปพอรูพระทัยแลวก็ไม เปนไร กริ้วไดเทาไรกริ้วไปฉันไมหนี เพราะนึกเสียวาทานอยากใหเราดี ทานจึงกริ้ว ตอนฉันจะออกจากวังไปมี เรือน คุณจําไดไหม ถูกกริ้วเสียใหญไปเลย ความจริงทานก็กริ้วของทานถูก เพราะลูกเมียเขาก็มีอยู แตเรามัน ยังเด็กออนความคิด มองอะไรดีไปหมด เชื่อฝปากคนก็ตามเขาไป มารูสึกตัวก็สายไปเสียแลว แตถึงกระนั้นตอน ฉันไปทูลลาออกจากวัง เสด็จยังประทานเงินไปเปนทุนถึง ๑๐ ชั่ง ฉันเอาไปทําดอกเบี้ยดอกหอย ไดอาศัยกินมา จนบัดนี้ เดี๋ยวนี้ตัวเปลา ก็วาจะเอาเงินที่ประทานไวนั่นแหละ ไปทําทุนคาขาย" พลอยไดยินแมพูดเรื่องจะออกไปหลายหน ก็ยิ่งเปนทุกขหนักขึ้น จะพูดกับแมในตอนนั้นก็เกรงใจ เพราะ อยูตอหนาคุณสาย พลอยก็ไดแตนั่งกมหนาน้ําตากลบลูกตา ขาวที่เปบเขาปากนั้นหมดรส เคี้ยวเหมือนแปง กลืนฝดคอ ในที่สุดก็ตองอิ่ม เมื่อกินขาวเสร็จแลวสักครู คุณสายก็ชวนแมขึ้นไปเฝาเสด็จขางบนอีก แตสั่งชอยใหอยูเปนเพื่อนพลอย ในหอง ถางวงก็ใหนอนเสียกอน เมื่อคุณสายกับแมออกไปแลว ผาดก็เขามาจัดแจง ปูที่หลับที่นอน มีนางพิศเขา มาชวย กางมุงไวสองหลัง หลังหนึ่งสําหรับคุณสาย นอนกับชอยตามปกติ อีกหลังหนึ่งสําหรับพลอยนอนกับแม ระหวางนั้นชอยไปหอบเอาตุกตาชาววัง ออกมามากมาย แลวชวนพลอยใหเลนดวย ชอยสะสมตุกตาไวนาน จึง มีมาก ตลอดจนเครื่องใชตางๆสําหรับตุกตา ถาเปนในยามปกติ พลอยก็คงจะตื่นเตนไมนอย แตเพราะเหตุวามี เรื่องไมสบายใจอยู พลอยจึงซังกะตาย เลนไปอยางเสียไมได คนที่สนุกจริงคือนางพิศ ซึ่งเขามารวมวงเลนตุกตา ดวย และคุยกับชอยสนุกสนาน หัวรอเปนการเอิกเกริก พอดึกเขาสักหนอย ชอยก็บนวางวงและมุดเขามุงไป นอนกอน สวนพลอยก็เขานอนในมุง ที่แมเตรียมไวให มีนางพิศนั่งสัปหงกเปนเพื่อนอยูกลางหอง พลอยนอนพลิกตัวไปมาอยางกระสับกระสาย เพราะใจพะวงอยูที่เรื่องแมจะจากไป พยายามเบิกตา คอย ใหแมกลับเพื่อจะไดถามใหแนนอน แตคอยอยูเปนนาน แมก็ไมกลับมาสักที ในที่สุดก็มอยหลับไป พลอยมาตื่นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อดึกมากแลว รูสึกตัววาแมมานอนอยูขางๆ และยังไมหลับ พลอยจึงเบียด ตัว เขาไปชิดแลวกระซิบถามวา "แมจา แมจะไปจริงๆหรือ" แมถอนใจใหญแลวกอดพลอยไวแนน พลางกระซิบตอบวา "นอนเสียเถิดพลอย" แมนิ่งอยูนาน แตแลวก็กระซิบตอไปวา "ขอใหพลอยจําไวเสมอวา แมรักพลอย มากกวาอะไรทั้งหมด ตอไปถาแมจะทําอะไร ก็จงรูไวเถิด วาแมทําเพื่อความดีของพลอยเอง พลอยอยานึกไป อยางอื่น" คําพูดของแมไมไดอธิบาย ใหพลอยเกิดความเขาใจดีขึ้นกวาเกาเลย แตโดยเหตุที่แมมานอนอยูใกลชิด พลอยก็รูสึกอุนใจและหลับตอไปอีกจนสวาง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy102.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy102.html

Page 8 of 8

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๓ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๓ (หนาที่ ๑) พลอยมาอยูในวังไดหลายวัน แตแมก็ยังไมแสดงอาการวาจะจากไป พลอยก็คอยคลายใจขึ้นทุกวัน ที่อยู ตอไปนั้นพลอยไดรับความรูใหม ไดเห็นของใหมไมมีที่สิ้นสุด หลังจากเขามาอยูในวังสองวัน คุณสายก็ใหเรียน หนังสือพรอมกับชอย หัดอานจากหนังสือมูลบทบรรพกิจในตอนเชา ที่เรียนก็คือในหองของคุณสาย โดยมีคุณ สายเปนครูผูควบคุม ขณะเดียวกัน คุณสายก็ทําอื่นไปดวย โดยไมตองเสียเวลา นานๆก็หันมาบอกตอนที่ติด ทั้ง ชอยและพลอยมีหนังสือคนละเลม ของชอยขาดมากกวา และมีกานธูปคนละอัน สําหรับชี้ตัวหนังสือที่อาน หนังสือเลมของชอยนั้นมีรอยสีกานธูปตกเปอนกระดาษเต็มไป เพราะพอถึงเวลาเรียนหนังสือ ชอยก็เริ่ม อาละวาด ถาอานติดที่ตรงไหนคุณสายดุก็รองไห น้ําตารวงหยดถูกกานธูปที่ถือ เปนสีชมพูเปอนไปทั่ว แตพอ หมดเวลาเรียน ลงกราบหนังสือตามที่คุณสายสั่ง น้ําตาของชอยก็แหงหายไปไดทันทีเหมือนกัน นอกจากเวลาเฝาเสด็จตอนเชา คุณสายก็มักจะหาเวลาตอนบาย สอนกิจกรรมตางๆใหเสมอ ตามปกติ คุณสายเปนคนเจียนหมากจีบพลูยาว ใสเชื่ยนหมากเสวยของเสด็จ ตลอดจนดูแลภูษาเครื่องทรงตางๆ พลอยจึง ไดหัดทําสิ่งเหลานี้กอน แตพระภูษาหรือผาลายที่เสด็จทรงนั้น เมื่อซักแลวก็สงไปใหคนขัดหลังตําหนัก ซึ่งออก จะเปนเรื่องใหญมาก เพราะขัดดวยหินโมราผูกมัดไวกับไมไผลําหนา อีกปลายหนึ่งมัดดวยหวายไวกับขื่อ คลี่ผา ลายที่ซักแลว ออกไปเบื้องลาง แลวก็โยกลําไมไผไปมา ใหหินโมรานั้นกดถูเนื้อผาจนขึ้นมัน ขัดไปทีละสวน จน หมดผืน พลอยเคยลองโยกไมขัดผาดูบาง แตก็ไมไหวเพราะตัวยังเล็ก ตองใชผูใหญที่ล่ําสันแข็งแรงเอาการอยู เวลากลางคืนคุณสายหัดใหพลอยพัด เพื่อจะไดไปถวายอยูงานพัดเสด็จ หรือเจานายพระองคอื่นได ใน วันหลัง เรื่องนี้คุณสายก็ออกจะถือวาเปนเรื่องใหญ กวดขันเอาอยางมาก พรอมกับบนใหฟงดวยวา "คนเดี๋ยวนี้ พัดไมเปน พัดคนเหมือนพัดไฟ" วิธีหัดนั้น คุณสายเอาแพรบางๆ ยาวประมาณสักศอกหนึ่ง มาผูกไวกับเกาอี้ ใหพลอยถือดามพัดขนนกใหญๆ แลวพัดเขาไปที่แพร การพัดนั้นใหพัดเบาๆ แลวตวัดขอมือ ดูอยาใหลามขาด สาย เวลาแพรที่ผูกไวนั้นถูกลมจากพัด แพรก็จะปลิวออกไป พลอยตองคอยดูอยาใหแพรนั้นตกนาน ถาทําอยาง ไรไมใหตกไดเลยก็เปนเกง ตามปกติเวลาตอนกลางวันเปนเวลาวาง นอกจากคุณสายจะมีอะไรใหทําพิเศษ หรือมีอารมณไมดี ตอง การจะเก็บตัวเด็กเปนพิเศษ ตอนกลางวันนั้น เปนเวลาที่พลอยไดติดตามชอยออกไปเที่ยว นอกตําหนัก ไป เที่ยวหาเพื่อนฝูงหรือไปวิ่งเลนเฉยๆ พลอยไดสังเกตเห็นวา เจานายหรือเจาจอมมารดาหรือเจาจอมในวังนี้ ฐานะไมเทาเทียมกัน บางพระองคหรือบางทานก็อยูตําหนักเล็ก ที่คอนขางจะเกาแกผุพัง บางทานก็อยูตําหนัก ใหญสูงหลายชั้น ประกอบไปดวยเครื่องตกแตงโอโถง ตําหนักแตละหลังมีบรรยากาศ แตกตางกันไป บาง ตําหนักก็ขายขนมขายน้ําอบแปงร่ําเครื่องหอม บางตําหนักก็เปดเปนหางขายผา ขายแพรและเครื่องใชตางๆ ตลอดจนเครื่องเพชร บางตําหนักที่เจาของเปนชาวเมืองเพชร ก็พูดสําเนียงเปนชาวเมืองเพชรไปทั้งตําหนัก ที่ มาจากปกษใตก็พูดปกษใต สวนตําหนักใหญสูงสี่ชั้น มียอดหอคอยกลาง ที่ชอยบอกวาเปนตําหนักเจาดารา นับ วาแปลกกวาที่อื่นทั้งสิ้น เพราะขาหลวงนุงซิ่น ไวผมมวย แตงกายอยางชาวเมืองเชี่ยงใหม พูดภาษาเมืองเหนือ ทั้งตําหนัก และเปนที่เดียวที่มีเมี่ยง แจกกันกินเปนประจํา ชอยเปนคนรูจักคนมาก จึงพาพลอยแทรกแซงเขาไป ไดทั่ว แตชอยบนเสมอวา เที่ยวตามตําหนักไมสนุก เพราะตองระวังตัว สูเที่ยวตามแถวเตงไมไดสบายใจกวา เพราะที่แถวเตงนั้น ทุกคนแสดงกิริยาเปนกันเองไดมากกวา และบางเวลาถาจะสงเสียงดังไปบาง ก็ไมมีใครคอย หาม นอกจากเที่ยวไปหาคนโนนคนนี้แลว ที่ๆพลอยและชอย ชอบไปวิ่งเลนทุกครั้งที่มีโอกาส ก็คือสวนเตา อัน เปนสวนอยูในวัง มีตนไมขึ้นครึ้ม และมีสระน้ําที่ไมลึกพอลุยได กนสระนั้นปูดวยหิน มีตะไครน้ําจับจนลื่น ชอย เปนคนสอนใหพลอยเลนไถลลื่น คือวิ่งออกไปแลวยืนทําขาใหแข็ง ปลอยตัวใหลื่นไปตามตะไครน้ํา กอนที่จะทํา เปน พลอยก็ลมเปยกปอนไปทั้งตัวเปนหลายครั้ง แตตามตําหนักตางๆเหลานี้ อาจมีอาการไมกินเกลียวกันบางระหวางขาหลวงในตําหนัก สําหรับคนที่ เปนผูใหญก็เปนแตเพียงมึนตึง ไมพูดไมจากันถาไมจําเปน แตสําหรับเด็กอยางชอย ที่ขึ้นชื่อวาเปนหัวโจก ก็มี อาการกิริยาที่คอนขางจะรุนแรง และแปลกประหลาด พลอยจําไดวา ชอยไมชอบคนในอีกตําหนักหนึ่งอยูใกลๆ เวลาเดินสวนกัน ชอยมักจะพูดจากระทบกระเทียบอยูเสมอ แตวันหนึ่งเกิดปะทะกันจังหนา โดยเด็กขนาดเดียว กับชอยจากตําหนักนั้น เดินสวนทางกับชอยและถลึงตาเขาใส ชอยก็ถลึงตาเขาใสบาง ทั้งสองฝายตางหยุดเดิน ยืนถลึงตาเขาใสกันอยูเปนนาน คนที่เดินผานมาตางก็พากันหัวเราะ บางคนก็มายืนดูและคอยหนุน แตโดยเหตุ ที่ชอยมีเพื่อนฝูงมาก จึงมีคนยกเกาอี้มาใหนั่ง และเอาน้ําเอาขนมมาใหกิน ซึ่งชอยก็ลงนั่งและกินน้ํากินขนม โดยไมลดสายตาลงเลย จนในที่สุดคุณสายตองมาตามตัว และลากขอมือกลับไปเฆี่ยน แตถาวาตามความเห็น

http://www.geocities.com/siamstory/ploy103.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๓ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 5

ทั่วไปแลวชอยเปนฝายชนะ ซึ่งชอยก็คุยโตไปหลายวัน และพลอยก็รูสึกภูมิใจไปหลายวันเหมือนกัน ทั้งที่ชอยมีชื่อวา เปนคนหัวโจกแกกมะเหรกในกระบวนเด็กรุนเดียวกันนั้นเอง พลอยก็รูอยูวาในใจจริง นั้น ชอยเปนคนใจดีหาที่เปรียบไดยาก เพื่อนฝูงขนาดเดียวกันไมวาใคร หากจะบังเกิดมีเคราะหหามยามราย ชอยเปนตองใหความเห็นใจชวยเหลือเสมอ กับคนที่มีฐานะอันดี มีลูกหลานวานเครือหรือบริวารคอยปฏิบัติ ชอยดูจะไมคอยสนใจนัก บางทีก็ลอเลียนเอาลับหลัง แตสําหรับคนแกอีกประเภทหนึ่ง ที่อยูในวังมาชานาน จน คนลืม มีฐานะที่คอนขางจะยากจน และปราศจากลูกหลานบริวารคอยปฏิบัติ ชอยมักจะเอาใจใสเปนพิเศษ ถามี เวลาก็ไปหาพูดคุยดวยถึงที่อยู บางทีก็หาของเล็กๆนอยๆ เทาที่จะหาไดติดมือไปฝาก และคอยชวยเหลือทําสิ่ง ตางๆให เทาที่จะทําได เวลาจะพูดจาดวยก็ใชคําออนหวานนาฟง เปนที่รักแกพวกคนแกในวังที่อยูเฉยๆ หรือ ขนาดพนักงานเฝาหอพระนั้นเปนอยางดียิ่ง กับเด็กเล็กๆ ชอยมักจะทําตัวเปนผูคอยคุมครองปองกัน บางทีก็อุม บางจูงบาง เวลาไปไหนมักจะมีเด็กเล็กๆตามเปนแถว และโดยเฉพาะกับสัตวแลว ชอยเปนรักดูดดื่มทุกชนิด ไม วาจะเปนสัตวชนิดใด ตั้งแตลูกนกกระจอก ที่ตกจากชายคาตําหนัก ไปจนถึงกับสัตวที่คนอื่นขยะแขยง เชนลูก หนูและจิ้งจก ครั้งหนึ่งชอยหายไปขางนอกตําหนัก กลับมาหอบออยที่ตัดเปนทอนสั้นๆ มาหลายทอน ชอยเรียก พลอยมาดู แลวแบงทอนออยสั้นๆ นั้นใหครึ่งจํานวน แลวบอกใหชวยกันเลี้ยง พรอมทั้งอธิบายวา ในทอนออย นั้นมีตัวดวงมะพราว ซึ่งชอยไปรับอาสาคนที่หองเครื่องตนวา จะเอามาเลี้ยงใหจนครบกําหนด เมื่อถึงเวลาที่เขา ตองการดวงมะพราวเหลานี้ ไปทอดตั้งเครื่อง ก็จะนําไปคืน ชอยบอกใหพลอยเอาออยฟงที่หู พลอยก็ทําตาม ได ยินเสียงตัวดวงกัดกินออยอยูขางในถนัด ชอยและพลอยเปนหวงใยดวงเหลานั้นเปนวักเปนเวร แมเวลานอนก็ เอาไปวางขางหมอน เพื่อฟงเสียงดวงกัดออย จนหลับไปกลับที่ พอครบกําหนดที่จะตองสงคืน ที่หองเครื่อง ทั้ง ชอยและพลอยก็หอบออยไป ชอยถึงกับรองไหดวยความอาลัยดวง ที่จะตองตายในเวลาเร็ว พอไปถึงหองเครื่อง พลอยก็เห็นเขาผาออยเอาตัวดวงซึ่งอวนกวาหัวแมมือและสีขาว เอาลงใสอางซึ่งเต็มไปดวยหัวกะทิ ปลอยให ดวงกินกะทิตอไปอีก แตชอยก็ยังไมยอกกลับ ตองนั่งรอจนเขาจับดวงเปนๆนั้น ลงทอดในกระทะน้ํามันรอนๆ จนตัวดวงนั้นเหยียดยาวออกไป แลวก็เอาขึ้นมาหั่นเปนแวนๆ พรอมที่จะจิ้มน้ําจิ้ม ชอยจึงกลับ ระหวางที่เดิน ทางกลับชอยก็รองไหสะอึกสะอื้น จนคนที่รูจักเห็นเขาถามวาใครตาย นิสัยเหลานี้ทําใหพลอยนึกนิยมในตัวชอยยิ่งขึ้นทุกวัน พลอยเปนคนเฉยๆไมคอยแสดงความรูสึกของตน ใหปรากฎ คนทั่วไปก็วากันวาพลอยเปนเด็กขี้อาย แตพลอยก็ไดอาศัยชอย ซึ่งเปนคนเกงไมขี้อายนั้นเอง ชวย ทําใหหายเหงา และชักนําสิ่งที่นาสนใจตางๆมาใหพบเห็น ถาไมมีชอย พลอยก็ไมแนใจ วาจะไดรูจักกับคนอื่นๆ หรือไม พลอยก็ไมแนใจนัก สวนนิสัยเมตตาอารีของชอย ที่แฝงอยูเบื้องหลังความซุกซน เกงกาจนั้น พลอยเขา ใจเปนอยางดี เพราะพลอยมีนิสัยเชนนั้นอยูในตัว ในที่สุดวันที่พลอยเฝาคอยอยู ดวยความประหวั่นพรั่นพรึงก็มาถึง เชาวันหนึ่งแมบอกอยางกระทันหัน วาแมจะออกไปจากวัง และไดทูลลาเสด็จไวตั้งแตเมื่อตอนกลางคืน ระหวางที่พลอยหลับ ขณะที่แมบอกนั้น พลอยเพิ่งอิ่มขาว และเวลาก็เปนตอนเชาแดดออกจา แตพอพลอยไดยินแมพูดดังนั้น ความรูสึกที่เกิด เหมือน กับหิวขาวขึ้นมาใหม และหิวอยางมากจนมือเย็นเทาเย็น และเหงื่อแตกทวมตัว ทั้งที่รูสึกหนาว แสงสวางของ แดด ในยามเชาดูเหมือนจะถูกอะไรบดบัง จนมืดครึ้มไปทั่ว พลอยไมสามารถลุกขึ้นจากที่นั่ง หรือขยับเขยื้อน กายได ไดแตนั่งนิ่งๆ ปลอยใหน้ําตาไหลออกมาไมขาดสาย แมแตจะสงเสียงสะอึกสะอื้น พลอยก็รูสึกวาไมมี กําลังพอ แมเขามากอดพลอยไวแนน พลางกระซิบที่หูวา "อยารองไหสิพลอย ชวยแมหนอยเถิดทูลหัวของแม ถาพลอยรองไหแบบนี้ ใจแมจะขาดเสียกอน" แมกอดพลอยอยูนาน และพลอยรูวาแมก็รองไหเหมือนกัน เพราะเห็นแมยกชายผาหมขึ้นซับน้ําตา บอยๆ "นิ่งเสียเถิดพลอย" เสียงแมกระซิบสั่งตอไป "นิ่งเสียเถิดคนดีของแม แมเปนคนมีกรรม ก็ตองไปตาม ยถากรรม แตแมไปแลวไมใชไปเลย แลวแมจะกลับมาเยี่ยมบอยๆ พลอยอยากไดอะไร แมจะไดหามาใหจาก บานนอก" พลอยไดยินแมพูดวา จะกลับมาบอยๆ ก็ใจชื้นบาง แมสั่งตอไปวา "ขาวของเครื่องแตงตัวของแม แมไมไดเอาไปเลย ยกใหพลอยทั้งหมด แมฝากคุณสายไวทั้งหีบ และ ถวายบัญชีของไวที่เสด็จดวย ของเหลานี้ลูกโตขึ้นจะไดใชแตงตัว ถึงจะมีไมมากก็คงจะไมขายหนาคนอื่นเขา จี้ ทับทิมอันใหญเปนของเสด็จประทานแม แหวนบางสายสรอยบาง เปนของแมหาเอาทีหลัง คุณพอพลอยใหบาง แหวนนพเกาอีกวงเปนของเกา คุณตาของพลอยใหแมไว ถาโตขึ้นพลอยจะขายหรือเปลี่ยนก็ทําเถิด ของอื่นๆ แมไมวา แตแหวนวงนี้ ขอใหเก็บไวถึงลูกหลาน" แมรองไหอีกพักใหญ และกอดจูบพลอยอีกนาน ในที่สุดก็ตัดสินใจเด็ดขาดแบบของแม คือผละจากพลอย รองเรียกนางพิศใหมายกขาวของไปคอยนอกวัง แมไปลาคุณสายและคนในตําหนัก แลวก็รีบกาวเดินออกจาก ตําหนัก ตรงไปประตูศรีสุดาวงศ มีพลอยเดินตามไปดวย พอถึงหนาประตู แมก็หันมากอดพลอย แลวจูบแกมทั้งสองขาง แลวสั่งวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy103.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๓ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 5

"อยูใหดีๆนะพลอย หมั่นขึ้นเฝาเสด็จ แลวก็อยาดื้อ คุณสายเธอสั่งอะไรก็รีบทําตาม อีกหนอยแมจะเขา มาเยี่ยม" แลวแมก็หันหลังให เดินกาวขามธรณีประตูปะปนกับฝูงคนขางนอก หายลับไปจากสายตาของพลอย ผู ซึ่งยืนน้ําตาไหลพราก และมีความรูสึกเปลี่ยนจากเด็กในอกแม กลายเปนผูใหญที่ตองเลี้ยงตัวเองไปทันที "พลอย !" เสียงชอยเรียกดังๆ จากขางหลัง "มาวิ่งแขงกันกลับตําหนักดีกวา ใครถึงกอนเปนคนเกง !" แลวชอยก็ออกวิ่ง มีพลอยวิ่งตามไปติดๆทั้งน้ําตํา เมื่อวิ่งกลับมาถึงตําหนัก พลอยก็ผละจากชอย วิ่งเขาหองโดยไมยอมฟงเสียงชอยจะชวนเลนอะไร ตอมิ อะไรตอไปอีก คุณสายกําลังนอนพังพาบรอยมาลัยดอกพุทธชาดอยูกลางหอง เห็นพลอยเขาก็ถามเบาๆวา "กลับมาแลวหรือพลอย" แทนคําตอบ พลอยก็ยิ่งสะอื้นหนักเขา และน้ําตาที่ไหลรินๆอยูแตเชานั้น ดูเหมือนกับจะไหลเทออกมา อยางหนัก "มานั่งใกลๆปานี่แนะ" คุณสายเรียก และเมื่อพลอยเขาไปถึงก็สั่งวา "ชวยเด็ดกานดอกไมใหหนอยซีพลอย" พลอยชวยคุณสายเด็ดกานดอกไม ทั้งที่เกือบจะมองไมเห็น เพราะน้ําตามีอยูเต็มลูกตาทั้งสอง แตก็ยังดี กวานั่งอยูเฉยๆ พลอยนั่งอยูกับคุณสายจนรอยพวงมาลัยเสร็จไปสามพวง คุณสายก็ทําอะไรจุกจิกตอไป อีก หลายอยาง ในที่สุดก็พูดวา "ปาจะขึ้นไปเฝาเสด็จสักหนอย วันนี้พลอยจะนั่งเลนที่นี่กอนก็ได" แลวคุณสายก็ออกจากหองไปเงียบๆ พลอยนั่งรองไหอยูคนเดียวในหองนั้นมิรูวานานเทาไร ใจนั้นนึกไดแตเรื่องที่แมจากไป ทิ้งพลอยไวใหเหลืออยู คนเดียว กับคนเปนอันมากที่ยังไมคุนเคยนัก แมจะไปไหนจะเปนอยางไร พลอยก็ไมสามารถจะเดาไดถูก เพราะโลกภายนอกสําหรับพลอย ดูกวางขวางเหลือประมาณ พลอยไดยินแมพูดวาจะไปฉะเชิงเทรา ซึ่งพลอย พอจะเดาไดวา เปนหัวเมืองบานนอก แตก็คงไกลสุดหลาฟาเขียว ถาแมกลับไปบานก็จะมิสูกระไรนัก เพราะ พลอยรูแลววาบานกับวังนั้นใกลกับกันเพียงใด แตเมื่อแมไปไกล ถึงเพียงนี้ แมอาจไมกลับมาอีก แมอาจเจ็บไข ตายไปเสียกอนที่จะไดกลับ หรือพลอยอยูทางนี้เกิดเจ็บไข ใครจะมาคอยดู หรือถาเกิดเรื่องราวทําอะไรผิดพลาด ใครจะมาแกไข พลอยยิ่งนึกไปก็ยิ่งวิตก และใจนั้นก็นึกไป จนถึงรายละเอียดตางๆ เปนตนวาใครจะอาบน้ําแตง ตัวให ใครจะนอนดวย ถาตื่นขึ้นมาตอนดึก ไมมีแมนอนอยูขางๆ จะเปนอยางไร ระหวางนั้นพลอยรูสึกวามีใคร โผลประตูหองดูอยูหลายหน ซึ่งพลอยเขาใจวา คงเปนชอย แตชอยเห็นพลอยกําลังรองไหอยู ก็กลับไปอีกไมเขา มารบกวน เพราะคุณสายสั่งไว เมื่อตอนออกไปจากหองวา ใหปลอยใหพลอยรองไหจนนิ่งไปเอง ดีกวาที่จะเขา ไปปลอบ ถาชอยไมฟง เขาไปยุง คุณสายจะตีใหรองไห ไปอีกคนหนึ่ง พลอยมอยหลับไปเองในที่สุด มารูสึกตัวตื่นขึ้นเอาตอนบาย เพราะคุณสายเขามาปลุก แลวก็บอกวา "เสด็จรับสั่งใหหาแนะพลอย ไปลางหนาลางตาเสียกอน แลวขึ้นไปดวยกัน" เมื่อพลอยลางหนาแลว คุณสายก็พาขึ้นไปชั้นบนตําหนัก เสด็จประทับอยูที่อีกมุมหนึ่งของเฉลียง กําลัง ทรงทําอะไรอยูในอางน้ําใบยอมๆ ที่วางอยูตรงหนา มีขาหลวงหมอบอยูใกลๆ อีกสองสามคน ทุกคนก็กําลังกม หนาทําอะไรอยูเหมือนกัน พอพลอยคลานเขาไปถึงพรอมกับคุณสาย ก็รับสั่งวา "ออ มาแลวหรือพลอย เขามานี่ มาหัดทําผักไปบาง" พลอยเขาไปใกลแลวจึงไดเห็นวา เสด็จและขาหลวงกลุมนั้น กําลังทําผักสําหรับบรรจุเปนผักดองในขวด ทุกคนกําลังปอกและสลักผักตางๆ อยางประณีต บางก็สลักขิงใหเปนรูปดอกไมอันสวยงาม บางก็สานผักบุง ที่ ซอยออกแลวเปนสายเล็กๆใหเปนรูปปลาตะเพียน คุณสายคลานไปถึงก็หยิบมีดมา ลงมือทําตอไปทันที "เขามานั่งใกลๆ ขาตรงนี้" เสด็จรับสั่ง "แลวปอกขิงนี่ไป เอามีดเลมนี้แนะทื่อหนอย เดี๋ยวจะบาดมือเขา" แลวเสด็จก็สงขิงใหพลอยสองสามหัว พรอมกับมีดเล็กๆเลมหนึ่ง ซึ่งพลอยก็เริ่มลงมือปอกขิงไปตามรับสั่ง อีก สักครูหนึ่ง เสด็จก็เอาพระหัตถชอนผักที่ทําเสร็จแลว ขึ้นมาหลายชิ้นใหพลอยดู แลวรับสั่งถามวา "สวยไหมพลอย" "สวยมังคะ" พลอยตอบ "ไหนลองชี้มาซิ อันไหนสวย หยิบออกวางไวในจานนั้นแหละ ชอบอันไหนก็หยิบอันนั้น" พลอยเลือกผักที่สลักอยางประณีตที่สุดออกมาสองสามชิ้น แลวก็วางไวในจาน เสด็จทรงพระสรวล แลว รับสั่งวา "ดูซิ ! มันเลือกชิ้นของขาทั้งนั้นแหละ" "ก็เสด็จทรงไดงามจริงๆ นี่มังคะ" คุณสายทูลและพูดตอไปวา "หมอมฉันทาจะแกเสียแลว หูตามองไม คอยจะเห็นเหมือนกอน ทําผักหยาบไปเปนกอง" "โฮย ดัดจริต !" เสด็จรับสั่ง "เด็กเมื่อวานซืน ! ออนกวาขาเปนหลายป ยังจะมาอางวาแก ขี้เกียจนะไม วา"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy103.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๓ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 5

คุณสายกมหนาหัวเราะแลวทําผักตอไป ระหวางนั้นเสด็จทรงวางมีด หันไปหยิบหมากเสวย แลวทอด พระเนตรพลอยปอกขิงอยูสักครูหนึ่ง พลอยไดยินเสียงถอนพระทัยเบาๆ แลวก็ไดยินรับสั่งถามขึ้น เบาๆวา "คิดถึงแมมากไหมพลอย" "มากมังคะ" พลอยทูลตอบเสียงสั่น น้ําตาเริ่มจะซึมๆ ออกมาอีก "นั่นซี ขาก็เห็นใจ" เสด็จรับสั่งอยางทรงพระเมตตา "แตจะทําอยางไรได แมเจาเขาก็ตองทํามาหากิน ไป ฉะเชิงเทรามันก็ไมไกลอะไรนักหนา อีกหนอยก็คงกลับมาอีก" พลอยไดยินเสด็จรับสั่งวา ฉะเชิงเทราไมไกลนัก ก็ใขชื้นขึ้นเปนกอง "อยูกับขาไปเถิดพลอย ไมเปนไรหรอก แมลูกกันจะไปไหนเสีย ไปแลวก็จะตองกลับมาหากันอีก และเม เจานะ ขารูจักดี มันไปไหนไมไดนานหรอก อีกหนอยก็กลับมาเอง ไมเชื่อก็คอยดูไป" เสด็จเอื้อมพระหัตถมาลูบหัวพลอยเบาๆ แลวรับสั่งปรารภขึ้นวา "นาสงสาร ตัวยังเล็กนัก สายชวยดูให ดีๆ หนอย" ทรงหยุดนิ่งอยูอีกครูหนึ่ง แลวรับสั่งกับพลอยวา "พลอยหมั่นขึ้นมาอยูกับขานะ ไมตองกลัวอะไร อยากไดอะไรก็บอก มีทุกขรอนอะไรก็บอกกันได ขาไม วาอะไร เราเปนเด็กไมตองกลัวผูใหญ ผูใหญก็สั่งสอนไมถูก ถาเผอิญเปนเรื่องที่จะตองชวยเหลือกัน ก็เลยชวย กันไมทัน ถามีแมยังอยูดวยคอยชวยดู ขาจะไมหวงเจาเทาไร นี่แมเขาก็ตองออกไปเสียดวย" แลวเสด็จก็รับสั่ง ปรารภขึ้นลอยๆ เหมือนกับจะพูดกับคนทั้งตําหนักวา "เฮอ ! นางพวกนี้เลี้ยงไมรูจักโตเสียที พอโตพอจะใชงานได ก็หายหนากันไปหมด แลวก็เอาลูกตัวเล็กๆ มาใหขาเลี้ยง" คุณสายซึ่งหมอบทําผักฟงอยู กมหนาหัวเราะหึๆ อยูในคอ สวนขาหลวงสาวๆ อีกสองสามคน ก็กมหนา ยิ้มไปตามกัน ตั้งแตแมออกจากวังไปตอนเชา ในหัวใจของพลอยมีแตความวางเปลา มีความรูสึกเหมือนกับหลงทาง อยูในที่ๆ ไมรูจัก ไมรูวาจะหันหนาไปทางทิศใดจึงจะถูก สิ่งที่พลอยตองการมากที่สุด ก็คือคนที่จะหันหนาเขาหา แลวยึดเอาไวเปนหลักได การที่ตองจากกับแมคราวนี้ เปนทุกขอันยิ่งใหญครั้งแรก ที่พลอยตองประสบในชีวิต จึงอยากใหมีใครสักคนหนึ่ง ที่เห็นใจแลวเอาใจใสในทุกขสุข แตคุณสายผูซึ่งแมฝากพลอยไวก็เปนคนนิ่ง ถือหลัก วาความทุกขนั้นถาปลอยไว ไมแตะตองก็จะหายไปเอง หรือบางทีคุณสายจะเห็นวาพลอยเปนเด็ก เกินกวาที่จะ ทุกขไดจริงจัง หรืออาจเคยเห็นอาการเด็กที่ตองจากพอแม มาอยูวังมาแลวมากตอมาก คุณสายจึงไมพยายาม ปลอบโยนเอาใจในยามนี้ แตปฏิบัติตอพลอยเหมือนในยามปกติ สวนชอยที่เปนเพื่อนคนแรกของพลอยในวัง พลอยก็รูสึกวาชอยคงเห็นใจตนอยูไมนอย แตวิธีของชอยไมเหมือนกับคนอื่น แทนที่จะปลอบโยนเอาใจในยาม ทุกข ชอยกลับชวนวิ่งแขง ปายปนไปตามเรื่อง ซึ่งถาแมวาพลอยจะทําดวยได ก็ไมทําใหความทุกขนั้นคลายลง ไป อนึ่งสิ่งที่พลอยตองการ ก็คือคนที่จะมาแทนแม ซึ่งชอยแทนไมไดแน เพราะเปนเด็กรุนเดียวกันเทานั้น เสด็จเปนคนแรก ที่พูดวาเห็นใจและสงสารพลอย คุณสายนั้น เมื่อรูวาพลอยมีทุกขหนัก เพราะแมออก จากวัง ก็พยายามหลีกเลี่ยงไมเอยถึงแมใหพลอยไดยิน เพราะกลัววาพลอยจะทุกขเพิ่มขึ้นอีก แตเสด็จมิไดทรง หลีกเลี่ยงเรื่องนั้น กลับเอามารับสั่งโดยเปดเผย และรับสั่งวาทรงเห็นใจและสงสารพลอย พรอมกับแสดงพระ อาการที่ทรงพระเมตตา ดวยการลูบศีรษะพลอย พลอยรูสึกตื้นตันไปหมด เพราะคาดไมถึงวา คนขนาดเสด็จจะ มีพระทัย มารวมทุกขกับเด็กตัวเล็กๆ ที่ไมมีความสําคัญอะไรเลยเชนพลอย เมื่อแมยังอยู พลอยก็สังเกตวา เสด็จไมสนพระทัยในตัวกี่มากนอย แตในวันที่แมไปนั้นเอง เสด็จก็ทรงพระกรุณาเปนพิเศษ แสดงน้ําพระทัยให ประจักษ พลอยรูตัวทันทีวา คนทั้งโลกที่จะเขามาใหความวางเปลาในหัวใจเต็มขึ้นมาได ก็คือเสด็จพระองคเดียว เทานั้น เมื่อนึกไดดังนั้นแทนที่พลอยจะหยุดรองไห พลอยกับรองไหมากขึ้น น้ําตาที่แหงหายไปเมื่อตื่นนอนแลว กลับซึมออกมาอีก เมื่อเสด็จรับสั่งถึงแมก็เริ่มไหลพรั่งพรูออกมา และพลอยก็เริ่มสะอื้น โดยที่ตัวเองก็ไมอยากทํา ตอหนาพระพักตรเสด็จ พลอยเริ่มเหลียวซายแลขวาทั้งน้ําตา เพื่อดูคนอื่นๆที่อยูรอบตัววาจะทําอยางไรบาง ขาหลวงสาวๆ สอง สามคนทําหนาไมดี เหมือนกับจะรองบาง แตพอสบตากับพลอยก็รีบกมหนาลงทําผักตอไป เหมือนกับวาไม อยากจะเห็น คุณสายมองดูหนาพลอยอยางหนักใจ เมื่อสบตากับคุณสายๆก็สายหนาชาๆ ขมวดคิ้วเหมือนกับ จะบอกใหพลอยหยุดรองไห ซึ่งพลอยก็พยายามกล้ํากลืนน้ําตา แตก็ไมสามารถทําตามได "อยาไปหามมันเลย สาย" เสด็จรับสั่ง "ปลอยใหรองไปเถิด ขาเห็นใจ ไฟฟนที่ติดขึ้นมาเขาใชน้ําดับ แต ความทุกขในหัวใจคนนั้น ตองดับดวยน้ําตาอยางเดียวเทานั้น" อีกสักครูหนึ่ง เสด็จก็รับสั่งเรียกขาหลวงคนหนึ่งขึ้นวา "สรอย วานไปหยิบหีบใบที่วางอยูขางมาเครื่องแปงใหที" แมสรอยขาหลวงคลานหายเขาไปในหองบรรทมครูหนึ่ง แลวก็กลับออกมาพรอมดวยหีบยอมๆ ใบหนึ่ง ซึ่งแมสรอยเอามาวางถวายตรงที่เสด็จประทับอยู แลวก็หมอบลงกราบ "พลอยมานี่" เสด็จรับสั่งเรียก "กระเถิบเขามานั่งขางๆขาตรงนี้ จะใหดูอะไร" เมื่อพลอยเขาไปถึงพระองค เสด็จก็เปดหีบนั้นขึ้น ฝาหีบดานในมีกระจกเงาติดอยู ในหีบนั้นมีหีบเล็กหีบ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy103.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๓ (หนาที่ ๑)

Page 5 of 5

นอยและตลับลงยา พรอมดวยของจุกจิกอื่นๆ อีกหลายอยาง "พอทีพลอย" เสด็จรับสั่ง "เลิกรองไหเสียทีเถิด ดูซี" เสด็จทรงชี้ใหพลอยดูหนาตัวเองในกระจก "ดูซีไม สวยออก ยิ่งรองนานๆ เดี๋ยวตาบวมแดงไปหลายวัน สวยตายละ !" พลอยดูหนาในกระจกแลวเห็นจริง เริ่มเช็ดน้ําตาใหแหงลงได ดวยความกลัววาจะเสียโฉม เสด็จทรงเปดตลับและหีบนั้นอยูหลายใบ ในที่สุดทรงหยิบสายสรอยทองสามสีเล็กๆสายหนึ่ง มีกุญแจ เล็ก ฝงทับทิมแขวนไว เสด็จทรงเอาสรอยนั้นใสขอมือประทานให แลวรับสั่งวา "เอา ! ขาใหพลอยเปนคาจางใหเลิกรองไห ถาเจาไมเลิกขืนรองตอไป ประเดี๋ยวนางพวกเหลานี้ ดัดจริต บีบน้ําตารองกันหมด" พลอยตัวเย็นวูบไดดวยความปติ ที่ไดประทานของดวยพระหัตถแและดวยความดีใจ พลอยก็ลงกราบ เสียชิดพระองค เกือบกราบลงไปบนพระเพลา แตพอเงยขึ้นมาก็สะอื้นอีกสองครั้งติดๆกัน เพราะอาการรองไห ยังไมหายสนิท "เอ ! ยังไมพอ" เสด็จรับสั่งยิ้มๆ "เอาๆ นี่อีกอยางเอาไปเลนไป" เสด็จทรงหยิบหีบใบเล็กขึ้นมา แลวทรง ไขลานที่ใตหีบ แลวก็ทรงเปดฝาหีบนั้นขึ้น สิ่งที่พลอยเห็นทําใหพลอยตาลุกโพลง ดวยความตื่นเตนดีใจ เพราะ ทันใดที่ฝาหีบนั้นเปดออก นกตัวเล็กๆตัวหนึ่งลงยาดวยสีสวยสด ก็พุงตัวขึ้นมาจับคอน ขยับปกรองเพลง ดวย เสียงอันเจื้อยแจว บางทีเสด็จจะไมทรงทราบวา อีกหลายสิบปตอมา เมื่อพลอยมีอายุมากแลว หีบนกรองเพลงใบนั้น ไดถูก พลอยเก็บไวที่หนาบูชาพระ และเวลาพลอยมีทุกขรอนอันใด พลอยก็มักจะเปดหีบนั้น เพื่อฟงเสียงนกรองเพลง เสมอ อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy103.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๓ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๓ (หนาที่ ๒) ตั้งแตแมจากไปแลว คุณสายก็เอาพลอยเขามานอนไวดวยในมุงเดียวกัน รวมทั้งชอยอีกคนหนึ่งเปนสาม คน ความสนิทสนมระหวางเด็กทั้งสองก็มีมากขึ้นกวาเกา และเมื่อพลอยไปไหนมาไหนกับชอยเสมอ พลอยก็ได รูจักเพื่อนฝูงในวังมากในเวลาอันไมชานัก คืนหนึ่งตอนเขานอน ชอยบอกพลอยวา "พลอยพรุงนี้ไปเที่ยวประตูวังกันนะ" "ไปซี" พลอยตอบออยๆ "มีอะไรที่นั่นหรือชอย" "ไมมีอะไรดอก" ชอยตอบ "แตพรุงนี้เปนวันพระกลางเดือน คุณพอมาหาฉันเสมอ แตบางทีก็ไมมา เรา ไปคอยดูที่หนาประตูแลวกัน ถามาก็ออกไปหา" "คุณปาไมวาเอาหรือชอย" พลอยถาม เพราะเห็นคุณสายเคยดุชอย เรื่องไปเที่ยวไกลๆเสมอ "ไมวาหรอก คุณอารูอยูแลว เผื่อฉันไมไปเสียอีกคุณอาจะวาเอา เพราะคุณพอมีของมาฝากคุณอา เกือบ ทุกครั้ง บางทีถาเผื่อคุณอาอยากพบคุณพอก็ออกไปดวย" เชาวันรุงขึ้น ชอยตื่นขึ้นอาบน้ําอาบทาแตเชา แลวชวนพลอยใหรีบกินขาว พอพลอยเปบขาวเขาปาก ยัง ไมทันกี่คํา ชอยก็อิ่ม แลวก็เรงใหพลอยอิ่มตาม บอกวาจะตองรีบไป และเมื่อพลอยอิ่มขาว ชอยก็ชวนเดินออก จากตําหนัก มุงหนาไปยังประตูวังชั้นใน ชอยไปยืนเมียงมองที่หนาประตู สักครูก็หันมาบอกพลอยวา "นั่นแนะมาแลวละ" แลวชอยก็รีบออกไป นอกประตู มีพลอยเดินตามไปใกลๆ ในหมูคนที่มีทั้งหญิงและชาย เพราะเปนที่นอกพระราชฐานชั้นใน ชอยชี้ไปยังชายสูงอายุคนหนึ่ง นุงผา พื้นใสเสื้อกระบอกสีขาว มีเด็กผูชายรูปรางผอมโปรง ผิวเนื้อสองสี แลดูเหมือนเพิ่งจะโกนจุกไดไมนานนัก เพราะผมยังตั้งเปนนกเอี้ยง ทั้งที่เจาตัวพยายามที่จะหวีดัดใหเปนทรง แบบฝรั่งอยางที่คนหนุมๆนิยมกัน สวน ผูชายคนผูใหญนั้น ไวผมมหาดไทยแบบเดิม "พี่เนื่อง ! พี่เนื่อง ... ทางนี้ฉันอยูทางนี้" คนทั้งสองพอเห็นชอยก็หัวเราะ และหลีกคนเดินตรงเขามาหา ชอยวิ่งเขาไปหาพอ ยกมือไหวที่เอว อยางลุกลี้ลุกลน แลวก็ฉุดขอมือไปที่ริมกําแพงดานหนึ่ง "สบายดีหรือชอย" พอของชอยถามอยางอารมณดี "สบายคะ" ชอยตอบแลวก็ถามขึ้นตอไปอยางไมหยุดหายใจวา "นั่นชะลอมอะไรคะ" "ลูกพลับ" พอพูด "พอเห็นมันนากินก็เอามาฝาก แลวแมเขาฝากน้ําพริกเผามาใหแมสายดวย ... อาวนี่ แมสายไมมาหรือ" "คุณอามีธุระคะวันนี้" ชอยตอบแทนเสร็จ "ฉันมากับเพื่อน" ชอยหันมาทางพลอยแลวพูดวา "นี่ไงพลอย คุณพอของฉัน" เสียงชอยพูดเหมือนกับอวดของที่มีราคาสูง ที่เปนกรรมสิทธิ์ของตัว ทําใหพลอยชักเลื่อมใส ยก มือขึ้นไหวพอของชอยอยางนอบนอม "แลวนี่ไงละพี่เนื่อง คนที่ฉันเลาใหฟงนะพลอย พี่เนื่อง นี่ไง พลอยเพื่อนฉัน" พี่เนื่องมองดูพลอยอยูครูหนึ่ง แลวก็วิจารณขึ้นมาอยางเสียหายวา "เด็กขี้ประติ๋ว หนาตาขี้แยพิลึก ! " พลอยไมเคยมีใครมาวาเอาตรงๆ เชนนี้ พอไดยินเขาก็ชักหนาเสีย พอของชอยสังเกตมองเห็นสีหนา พลอย ก็หัวเราะพูดขึ้นวา "เจาเนื่อง ! จะพูดจากับชาวรั้วชาววังก็ระวังปากบาง ตอไปเขาจะคุณขางใน ไมใชลูกศิษยวัดอยางเอ็ง" ฝายพลอยก็โกรธปะหลับปะเหลือก ออกรับแทนพลอยวา "ดูซี่พี่เนื่อง อยามาวาเพื่อนฉันนะ ตัวนะซีขี้แย" ฝายพี่เนื่องโดนขนาบทั้งสองดานก็หัวเราะแลวพูดวา "ก็ตามใจซี" แลวก็มองดูอื่นตอไป ระหวางนั้น ชอย ก็พูดจาถามทุกขสุขกับพอ ถามถึงเรื่องทางบาน และถามอะไรตออะไร จนฟงไมไดศัพท ซึ่งพอก็ลูบหัวชอยไป บาง ตอบปญหาตางๆ บางอยางอารมณดี จนในที่สุดชอยหันไปทางพี่เนื่องแลวถามขึ้นวา "เออ ! พี่เนื่อง อีดางของฉันเปนอยางไรบาง" "ออกลูกมาอีกครอกหนึ่งหาตัว รองหนวกหูจะตายไป" ชอยไดยินดังนั้นก็ดีใจเปนการเอิกเกริก เริ่มซักถามพี่เนื่องถึงเรื่องอีดางหมาที่เลี้ยงไวที่บานตอไป เปน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy103_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๓ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 5

การยืดยาว ฝายพอของชอยก็หันมาสนใจกับพลอยแลวถามวา "แมหนูลูกใคร" เมื่อพลอยบอกชื่อเจาคุณพอใหแลว พอของชอยก็บอกวา "ออ ! ฉันรูจักทานดีทีเดียว เคยเที่ยวดวยกันมาแตหนุมๆ ใจทานดีหาที่ไหนไมไดอีกแลว แมของแมหนู ละ ชื่ออะไร" "ชื่อแมแชม" พลอยตอบคอยๆ เพราะยังอายอยู "แชมไหน แชมที่เคยอยูตําหนักเสด็จนะรึ" พลอยพยักหนา "อือ ! " คุณพอของชอยอุทานอยางสนใจ "ฉันเคยรูจักแตเขายังรุนสาว เห็นไปไหนมาไหนกับแมสาย เสมอ หายไปหนอยเดียวมีลูกโตจนปานนี้แลว ยังสวยเหมือนแตกอนไหมแมหนู" พลอยไมรูจะตอบชมแมของตัวอยางไรถูก ก็ไดแตยิ้ม ฝายพอของชอย พิจารณาดูพลอยอยูอีกครูหนึ่ง แลวรําพึงดังๆวา "เมื่อตอนนั้นแมแชมเขาสวยเอาการอยู ถึงลือออกไปนอกวัง ใครก็พูดถึง" พอของชอยหยุดมองดูพลอย ตอไป แลวก็บอกวา "แมหนูพลอยนี่ก็เถิด หนาตาประพิมพประพายดี โตขึ้นก็เห็นจะไมแพแม" แลวชอยก็เขามาขัดจังหวะคุยกับพอตอไป สวนพี่เนื่องนั้นยืนยิ้มดูนองสาว พอเหลือบมาเห็นพลอยมองดู อยูก็ยิ้มดวย ในที่สุดพอของชอยก็พูดขึ้นวา "ชอยกลับเขาไปเถิด บอกอาเจาดวยวาพอคิดถึง เอาละ พอไปกอน มีธุระจะไปที่โรงโมสักหนอยหนึ่ง" เมื่อร่ําลากันแลว ชอยกับพลอยก็หันหลังเดินจะกลับเขาวัง แตพลอยเดินคลอยมาไมทันกี่กาว ก็ไดยิน เสียงพี่เนื่อง พูดแกมหัวเราะวา "ระวังอยาขี้แยใหมันมากนักนะ" ซึ่งทําใหพลอยตองเดินลงสนเพราะความโกรธ และชอยก็หันไปคอนใหหลายวง พรอมกับบนวา "พี่เนื่องเดี๋ยวนี้ฉันเกลียดเสียจริงๆ ตั้งแตโกนจุกแลวไมเหมือนเมื่อกอน ทําหนุมอะไรก็ไมรู ขวาง ! " ระหวางที่เดินกลับตําหนัก ชอยก็พูดถึงพี่เนื่องพี่ชายขึ้นวา "พี่เนื่องถามฉันถึงพลอยเหมือนกันแหละ" "ถามวาไง" พลอยซัก "ก็ถามวาอยูที่ไหน มาเมื่อไรและใจคอเปนอยางไร อะไร เหลานั้นแหละ" "แลวชอยบอกเขาวายังไงเลา" พลอยซักตอ "ฉันก็บอกวาพลอยเปนเพื่อนฉัน ฉันรักพลอยมากและเราอยูตําหนักเดียวกัน อะไรเทือกนั้น" "ชอยรูไหม" พลอยปรารภขึ้น "ฉันเกลี๊ยดเกลียดเด็กผูชาย ตั้งแตอยูที่บานแลว ฉันไมเคยเลนดวยเลย ทะเลนออกจะตายไป" "นั่นซี" ชอยตอบ "ฉันก็เหมือนกัน อยางพี่เนื่องนี่เมื่อฉันอยูบานไมมีใคร ตองเลนกันไปอยางนั้น เดี๋ยวนี้ นานๆพบที ฉันก็ไมชอบเหมือนกัน" พลอยก็รูสึกพอใจที่ชอยมีความเห็นตรงกันในเรื่องนี้ และนึกในใจวา เห็นจะคบชอยไปไดอีกนาน แต อยางไรก็ตาม ทั้งที่ถูกเนื่องลอเสียตั้งแตหนแรกที่พบกัน พลอยก็ยังเก็บเอามาครุนคิด แตแรกนั้นก็คิดถึงตัว อยากจะใหมีญาติพี่นองหรือพอแม มาหาจากนอกวัง มีของเล็กๆนอยๆมาฝาก ทําใหผูที่ไดรับนั้นรูสึกตัววา สําคัญขึ้น อยางชอยถาพอแมมาหาทีไร ก็มักมีของมาฝาก บางทีก็เปนสมสูกลูกไม หรือของแหงของสวน ซึ่งมี จํานวนมากพอที่คุณสายจะแบงตั้งเครื่องเสด็จบาง แจกจายเพื่อนฝูงเปนของกํานัลบาง ซึ่งชอยก็มักจะพลอยได หนาไดตา วาเปนของพอชอยสงเขามา และยิ่งกวานั้น คนมีญาติโยมไปมาหาสูจากนอกวัง เปนสิ่งที่เพิ่มความ อบอุนในหัวใจ และทําใหผูมีญาติโยมมาหานั้นมีหลักฐาน มิใชคนสิ้นไรไมตอก ฉะนั้นถึงแมวา ในขั้นแรกพลอย รูสึกอายๆ พี่เนื่องและพอของชอยอยูก็ตาม แตคราวหลังๆ เมื่อชอยชวนออกไปพบกันอีก พลอยก็มักจะไปเสมอ เพราะคนเยี่ยมนั้นทําใหเกิดมีของแปลกและใหมขึ้นมาบาง สําหรับชีวิตจําเจ อยูเปนประจําทุกวัน และถึงแมวา คนทั้งสองจะมิใชญาติโดยตรงของพลอย แตก็เปนญาติของชอย ซึ่งเปนเพื่อนสนิท ทําใหพลอยไดรับสวนแบง เรื่องความสําคัญบางเปนบางสวน อยูตอมาอีกหลายเดือนพลอยก็รูจักกับพอ และพี่ชายของชอยจนคุนเคย และพอของชอยก็บังเกิดความ ปราณี รักพลอยเหมือนกับลูกสาวอีกคนหนึ่ง ถามาครั้งใดพลอยไมออกไปก็ถามถึง และมักจะมีของกินเล็กๆ นอยๆ ติดมือมาฝากพลอยเสมอ ซึ่งสําหรับพลอย ที่ในขณะนั้นปราศจากญาติโยม ก็เปนของที่มีคามาก และทํา ใหพลอยตองตั้งหนาคอยวันที่คนทั้งสองจะมาหาใหมเทาๆกับชอยนั้นเอง เมื่อพลอยไดพบกับเนื่องหนตอๆมา เนื่องก็มิไดลอเลียนเหมือนหนแรก แตพูดจาปราศรัยดวยโดยดี สวน มากพลอยก็ไมคอยไดพูดดวยเทาไรนัก เพราะไมมีเรื่องที่จะพูด ไดแตฟงชอยคุยกับพอและพี่ ถึงเรื่องทางบาน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy103_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๓ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 5

บาง ชอยเลาถึงเรื่องที่ตําหนักบาง แตถึงกระนั้นก็ตาม ครั้งใดที่คนทั้งสองหายไปไมมาตามกําหนด พลอยก็รูสึก วาเหวเสียใจไมนอยไปกวาชอย และบางครั้งพอของชอยมาคนเดียว ไมมีเนื่องตามหลังมาดวย พลอยก็ตองถาม ถึง ถาหากชอยไมถามเสียกอน บางครั้งบางคราวเนื่องก็มีของมาฝากเหมือนกัน แตตองมีการแอบใหมิใหพอเห็น เพราะของฝากของเนื่อง สวนมากเปนของแสลงเสาะทอง ซึ่งถาพอเห็นแลว เปนตองหามเด็ดขาด เนื่องมักจะเอา หอของเหลานี้ แอบยัดเยียดใหแกพลอย ในระหวางที่ชอยชักชวนพอคุย และหันหนาไปเสียทางอื่น เมื่อแรกๆที่แมจากไปพลอยคิดถึงอยูหลายวัน ถึงเสด็จจะทรงพระเมตตา ทําใหพลอยคลายความวิตก ตางๆ ลงไปบาง แตความคิดถึงนั้นก็ยังมีบางเปนครั้งเปนคราว แตก็มีหางๆกันออกไปทุกที เพราะพลอยเริ่มมี ชีวิตใหมที่วัง และมีความคุนเคยตอสิ่งแวดลอมตางๆมากขึ้น พอที่จะดึงดูดความสนใจอยูเปนนิจ พลอยเริ่มเขาใจ เรื่องตางๆ ที่คนพูดกัน เริ่มรูวาชาววังรักใครชอบใคร ใครเกลียดกับใครบาง ใครรักกับใครบาง ตําแหนงหนาที่ ตางๆ เชนคุณจอมมารดา คุณจอม ทาวนางเฒาแกพนักงาน ตลอดจนโขลนจาและกรมวัง พลอยก็เริ่มจะรูจักและ เขาใจ กรณีพิพาทกินใจระหวางตําหนักไหนกับตําหนักไหน หรือพวกไรกับพวกไร ตลอดจนความไมถูกัน ระหวางตัวบุคคล พลอยก็เริ่มจะรูเรื่อง และปฏิบัติตนไดถูกับแตละฝาย หนาที่ตางๆ ที่เปนของๆตัว เปนตนวาขึ้น เฝาเสด็จคอยรับใช หรือถวายอยูงานพัดในเวลาเสวย ทําใหพลอยไดรูเหตุการณหลายอยาง ทั้งในวังและนอกวัง เพราะเสด็จรับสั่งถึง และการฝมือการทําดอกไม ทํากับขาว ทําขนม พลอยก็เริ่มจะไดรับการอบรมสั่งสอนโดยไม รูตัว เพราะอาศัยแตดูผูใหญทํา หรือถูกเรียกใหชวยทํา จนในที่สุด ศัพทแสงที่ใชกันในวัง ซึ่งคนขางนอกไมรู พลอยก็เขาใจ และใชไดถูกตอง เปนตนวามีงานการอยางใหญ ตองตระเตรียมมาก ก็มักจะพูดกันวา "ราวกับรับ ซาเรวิช" ซึ่งพลอยก็เขาใจวาเปนงานใหญ โดยไมตองรูวา "ซาเรวิช" นั้นคือ พระเจาซารนิโคลาสที่ ๒ เมื่อเสด็จ เมืองไทย สมัยเปนมกุฏราชกุมารประเทศรุสเซีย ทางวังเตรียมรับเสด็จกันเปนการใหญ จนกลายเปนคําพูดติด ปาก หรือคําวา "แฟรน" ที่ใชสําหรับชาววังที่รักกันมากจนเกินขนาดนั้น ก็พอจะเดาความหมายไดรางๆ ทั้งๆที่ ไมรูวา คํานั้นมาจากภาษาอังกฤษวา "Friend" แปลวา "เพื่อน" เมื่อพลอยอยูในวังตอมาอีกสองสามเดือน จนความคิดถึงแมนั้นเกือบจะจางหมดไป มีแตความระลึกถึง กลาวคือ เมื่อนึกถึงแมทีไร ก็นึกถึงดวยความรักและความปติ มิไดประกอบดวยความทุกข อันเกิดจากความ ปรารถนาที่จะอยูใกลกับตัวแม หรือติดตามแมไปไหนๆอีกตอไป ชีวิตในวังของพลอย ชั่วระยะเวลาหาเดือนเศษ ทําใหพลอยเปนเด็กที่เลี้ยงตัวไดเอง ไมตองมีผูใหญมาคอยหวง เรื่องจะกินจะนอน หรือจะอาบน้ํา วันหนึ่งขณะที่พลอยหมอบถวายอยูงานพัดเสด็จอยู ขณะที่เสวยเครื่องกลางวัน ฟงเสด็จทรงเลาเรื่อง เมื่อ ครั้งทรงพระเยาวอยูอยางเพลิดเพลินนั้นเอง ชอยผูซึ่งขึ้นมาทางบันไดหลังตําหนัก ก็คลานกระหืดกระหอบ เหงื่อ ทวมตัวเขามาหมอบอยูขางๆ เอามือควาดามพัดไปจากพลอย แลวก็ถวายงานแทน พลางกระซิบอยางตื่นเตนวา "พลอยรีบลงไปที่หองเถิด ฉันจะถวายอยูงานแทน" "เรื่องอะไรกันชอย" พลอยกระซิบถาม "รีบลงไปเถอะนา" ชอยตอบ "คุณอาสั่งไมใหฉันบอก เดี๋ยวพลอยรูเองก็แลวกัน" พลอยคลานถอยหลังออกมาดวยใจเตนตึกตัก พอคลานถึงหัวมุมระเบียงดานหลัง ลับพระเนตรเสด็จ พลอยก็ลุกขึ้นวิ่งเบาๆลงบันไดหลัง แลวก็วิ่งตรงไปยังหองคุณสายทันที เมื่อไปถึงหนาประตูหอง ยังไมทันจะเขา ไปขางใน หัวใจพลอยก็พองโตแทบจะระเบิด ดวยความดีใจ เลือดฉีดแรงจนรอนซูไปทั้งตัว แทบจะทนไมไหว เพราะพลอยไดยินเสียงแมพูด อยูในหองคุณสายอยางชัดเจน "แม ! " พลอยรองขึ้นไดคําเดียว แลวก็โผตัวเขาไปในหอง ไปรูสึกตัวเอาอีกทีหนึ่ง ก็เมื่อตัวไดขึ้นไปอยูบน ตักแม กอดตัวแมไวแนน แลวก็หัวเราะและรองไหไปพรอมกัน "พลอย ! " แมรองขึ้นพลางรัดตัวพลอยไวแนน แลวก็จูบแลวจูบอีก "พลอย ! ดูซีโตขึ้นเปนกองเกือบจําไม ได แลวก็กระโดดเขาใสแมเสียเต็มแรง ขาแขงแมจะหักตาย" แลวแมเองก็กอดจูบพลอย พลางหัวเราะทั้งน้ําตา ดวยความดีใจเชนเดียวกัน สวนคุณสายนั้นนั่งอมยิ้มดูอยางพอใจเสียเปนที่สุดแลว "แมมาถึงเมื่อไหร" พลอยถามขึ้น "เพิ่งมาถึงเดี๋ยวนี้แหละลูก ยังไมไดลูบเนื้อลูบตัวเลย พอขึ้นจากเรือมาจากฉะเชิงเทรา แมก็เขามาทีเดียว พลอยเปนอยางไรบางลูก เจ็บไขหรือเปลา ดื้อหรือเปลา คิดถึงแมมากไหม" "โธแม" พลอยตอบ "คิดถึงจะตายไป แมทําไมไปนานนักละจะ" "ก็นั่นแหละลูก" แมตอบ "แมออกไปอยูหัวเมือง ไปมาไมใชงายๆ คิดถึงลูกใจจะขาดแมจึงไดมา นี่เคราะห ดี ญาติของแมเขาหาเรือมาสง ไมยังงั้นก็ยังไมไดเขามาหรอก ไหนออกนั่งหางๆ ใหแมดูไดทั่วสักที วาพลอยลูก แม โตขึ้นเทาไหนแลว" พลอยกระเถิบออกนั่งหางตัวแม ตามที่แมบอก แมยิ้มนอยยิ้มใหญ มองพลอยตั้งแตหัวไปจนทั่วตัว เหมือนกับวาจะดูไมเบื่อ "ผิวพรรณดีขึ้นกวาแตกอนเปนกอง จริตกิริยาก็เปนชาววังเขาแลว" แมรําพันขึ้นมาคนเดียว แลวก็หันไป ถามคุณสายวา "คุณสายคะ ลูกสาวฉันนี่โตขึ้นจะสวยเอาการเที่ยวนะ"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy103_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๓ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 5

"ฉันก็วาอยางนั้นแหละ" คุณสายตอบ "เห็นจะสวยไมแพแมทีเดียว" "วุย ! คุณก็" แมทวงขึ้น "ฉันไปสวยงามเสียแมไหรละ เมื่อเด็กๆเทานี้ขี้ริ้วจะตายไป พลอยเขาสวยกวา เปนกอง" ขณะนั้นนางพิศและผูหญิงแกๆ หนาตาเปนชาวบานอีกคนหนึ่ง ก็เริ่มขนขาวของๆแมเขามาวางในหอง ผูหญิงแกคนนั้น แมบอกวาชื่อยายเสม เปนบาวที่แมชวยไวเพิ่มเติมจากนางพิศอีกคนหนึ่ง เพราะอยูบานนอก นางพิศคนเดียวไมพอทํางานหนัก ฝายนางพิศพอเห็นหนาพลอย ก็รองไหโฮเหมือนกับใครตาย คลานตะปุบตะ ปบ เขามาจับตัวพลอยขึ้นทูนหัวทูนเกลาแลวรองวา "โอโฮ คุณพลอย โตขึ้นจนบาวผิดตา บาวคิดถึงคุณเหลือเกิน" แลวก็เริ่มจะรองไหตอไปอีก จนแมตองดุ ไลใหไปขนของตอ จึงถอยไป ของที่แมเอามาคราวนี้ ดูมากมายนักหนา นับของที่ใสชะลอมก็สิบกวาชะลอม มีลูกไมกลวยออยจากบาน นอกบาง ซึ่งแมบอกวาเอามาฝากเพื่อนฝูง ไขทั้งจืดทั้งเค็มและปลาแหงปลากรอบ ซึ่งแมบอกวาจะเอามาถวาย เสด็จ ไดคัดเลือกเอามาลวนอยางดีจริงๆทั้งนั้น ทําใหคุณสายตองสัพยอกขึ้นวา "ฉันอิจฉาเสด็จเสียวแลวละ ขาหลวงทานชางดีเสียจริงๆ ไปไหนมาเจ็ดรอยยานน้ํา ก็ตองหาของมาถวาย เสียจนขนตั้งครึ่งคอนวันก็ไมหมด" "คุณไมตองอิจฉาหรอกคะ" แมตอบ "ของฝากคุณดิฉันก็หามาพอๆ กับของถวายนั่นแหละ" "สาธุ ! แมคุณ" คุณสายหัวเราะ "ฉันก็พลอยใหญโต มีของถวายไปดวยคราวนี้เอง" แมหันไปหยิบชะลอมมาใบหนึ่ง แลวก็เรียกพลอยเขามาดูใกลๆ "พลอยมาดูอะไรนี่ซิ" แมบอก "แมหามาฝาก" แลวแมก็หยิบชะลอมเล็กๆ นาเอ็นดูเปนที่สุดขึ้นมาหลายชะลอม ของในชะลอมนั้นเมื่อพลอยเห็น ก็เกือบ จะลิงโลดดวยความดีใจ ชะลอมหนึ่งมีปลากรอบตัวเล็กๆเทานิ้วกอย เขาไมตับไวอยางกับของจริงๆ อีกชะลอม หนึ่งมีมะขามปอมลูกเล็กๆไดขนาด อีกชะลอมหนึ่งใสไขเตาเปลือกขาวสะอาด สวนอีกชะลอมหนึ่งนั่นใสไขเค็ม ทําดวยไขนกกระจาบ พอกขี้เถาสีดําลูกเล็กๆ ไมเกินปลายหัวแมมือ แตสิ่งสุดทายที่แมลวงจากชะลอม ก็คือ ทุเรียนกวนพวงหนึ่ง หอกาบหมากเรียบรอยเปนหอเล็กๆ แตละหอนาเอ็นดูเพียงจะขาดใจ คุณสายซึ่งนั่งดูของที่แมนํามาฝากพลอย ถึงกับอดไมได ตองอุทานออกมาวา "ตาย ! ชางทํานาเอ็นดูเสียจริงๆ แมแชมนี่แกไมทิ้งนิสัยชาววัง ไมวาจะไปไหนก็ชางคิดชางทําอยูเสมอ" สวยพลอยนั้นไดแตนั่งตะลึง ไมกลาจับตองของเหลานั้น เพราะความดีใจที่แมกลับ และความตื่นเตนใน ของแปลก ที่นารักนาเอ็นดู ที่แมหามาให พลอยจําไดวาแมเคยบอกพลอยไวหลายครั้งหลายหนวา แมรักพลอยมากกวาสิ่งใดหรือผูใดทั้งสิ้น บาง คราวเมื่อแมไมแสดงสนใจตอตน หรือในระยะเวลาที่แมหายไปนาน พลอยก็ชักจะสงสัยในคําพูดของแม แตใน วันนี้ความสงสัยนั้นหายไปโดยสิ้งเชิง เพราะของที่แมเอามาฝากแกพลอยโดยเฉพาะนั้น มิใชของที่หาได โดย ปกติธรรมดา แตเปนของที่ตองใชเวลาใชความคิด เปนของที่คนซึ่งรักกันและคิดถึงกันจริงๆเทานั้น จะหามาให แกกันได "ถูกใจไหมลูก" แมหยิบของตางๆออกวางกับพื้นหอง แลวก็หันมาถามพลอย แตแทนคําตอบ พลอยก็โผ เขากอดแมไวแนนอีกครั้งหนึ่ง เพราะความรูสึกที่มีในใจนั้นมากเกินคําตอบ พลอยสังเกตเห็นของเล็กๆนอยๆ ที่แมเอามาฝากแตละอยางนั้น มีอยูอยางละสองชะลอมบาง สาม ชะลอมบาง สวนมากยังคงอยูในชะลอมใหญ ที่แมใสรวมมา จึงถามแมอยางเกรงใจวา "แมจา ของนี่ฉันแบงใหคนอื่นไดบางไหม" "ไดซีลูก" แมตอบ "แมก็นึกแลววาพลอยตองมีเพื่อนมีฝูงมาก จึงหาของมาเผื่อใหพอ พลอยจะไดแจก เพื่อนฝูงใหสบายใจ" พลอยไดยินดังนั้นก็ใจพองขึ้นอีก กระเถิบเขาไปนั่งที่ชะลอมใหญ ลวงหยิบของชะลอมเล็กๆ ออกมาวาง คัดไวเปนพวกๆ ใจก็คิดถึงจํานวนเพื่อนฝูงวาจะแจกใครบาง และใครควรจะไดอะไร ไมสนใจกับคําพูดของแม ในขณะนี้เริ่มคุยกับคุณสายตอไป "ถาคาขายไปไดอยางนี้" เสียงแมพูด "ฉันก็เห็นพอจะตั้งตัว ลืมตาอาปากกับเขาได" "แมแชมคาขายอะไรนะ" คุณสายถาม "ก็รับซื้อของพวกผักปลาจากชาวบาน" แมตอบ "ฉันซื้อแพเขาไว พวกพองเขาขายใหถูกๆ รับซื้อจากเรือ ก็เอาขึ้นแพไว บางทีก็มีเรือจากกรุงเทพฯเขาไปรับซื้อ แตพอฉิมเขาบอกวากําไรไมงาม เขามีเรือหลายลํา เขาวา ใหเอาใสเรือมาสงกรุงเทพฯ แลวซื้อของกรุงเทพฯ พวกผาผอนถวยโถโอชาม กลับไปขายไดอัฐมากกวา ฉันมา คราวนี้ก็เอาของใสเรือมาดวย นึกวาจะซื้อของกลับไปเหมือนกัน" "พอฉิมนี่ใคร" คุณสายถามพลางดูหนาแมอยางเอาจริง สวนพลอยพอไดยินเสียงแมเอยถึงคนอื่น ก็สนใจ ขึ้นมาบาง "เขาเปนญาติหางๆกับฉันเองแหละ" แมตอบแลวหลบสายตาคุณสาย และจะเปนดวยอุปาทาน หรือจะ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy103_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๓ (หนาที่ ๒)

Page 5 of 5

เปนดวยแสงสวาง ที่เขามาทางหนาตางก็สุดที่จะเดา พลอยสังเกตเห็นหนาแมเปนสีชมพูเรื่อๆ "ฉันก็เคยบอกคุณแลววา ฉันมีญาติอยูทางฉะเชิงเทรา" แมอธิบายตอ "ถาเปนญาติเปนโยมไวใจกันไดก็แลวไป" คุณสายพูดแลวก็ถอนใจใหญ มือหนึ่งดึงเชี่ยนหมาก เขามาไว ที่หนาตัก แลวก็กมหนาลงคนอะไรตออะไร เหมือนกับวาไมอยากสบตากับแมเหมือนกัน "แมแชมกับฉันก็คนโตๆ อยูดวยกันแลว" คุณสายพูดตอ "แมแชมจะทําอะไรก็เปนเรื่องของแมเชม ฉันก็ ไมควรจะเขาไปยุงไปเกียว แตนั่นแหละ แมเชมกับฉันก็อยูดวยกันมาแตกอน ฉันรักแมแชมเหมือนนอง ลูกแม แชมฉันก็รักเหมือนลูกในไส จึงอยากจะพูดแตเพียงวา แมแชมจะทําอะไรก็ขอใหคิดใหดีๆ ไมคิดถึงตัวก็คิดถึงลูก บาง เพระเด็กมีชาติมีสกุล ดีไมดีเขาจะวาได" "ก็เพราะฉันเห็นแกลูกซิคุณ" แมเถียงเสียงแข็ง "ฉันจึงยอกทนลําบาก ตอไปเด็กจะไดไมนอยหนาใครๆ ที่เขาดูถูกพากันหมายหนาไววา จะไมมีวันดี" "ถึงอยางนั้นก็เถอะ" คุณสายพูด "คนอยางฉันอยางแมแชม เกิดมาเปนตัวก็เคยอยูสบายกินสบาย อาศัย บุญเจานายคุมครองตัว งานหนักงานหนาก็ไมเคยทํา แมแชมจะไปทําไหวหรือคนเดียว ถึงจะมีญาติผูชาย มา ชวยคิดชวยอาน แมแชมก็ดูเสียใหดีหรือเปลาวาเขาจะมาอีทาไหน พลาดพลั้งลงไปก็จะเสียถึงลูก" แมเหลือบชําเลืองมองพลอยแลวก็กมหนานิ่ง คุณสายนั่งมองแมอยูครูหนึ่ง แลวก็พูดขึ้นอยางปลงตกวา "แมแชมอยามาถือสาฉันเลย ฉันมันคางคกในกะลา ไมมีหูมีตาเคยเห็นอะไรขางนอก รักใครก็อยากใหดี ฉันพูดมากไปเองแลวละ ไปลูบเนื้อลูบตัวเสียเถิด เดี๋ยวจะไดขึ้นเฝาเสด็จดวยกัน ของถวายเปนกายเปน กองอยางนี้ ดีพระทัยตายแน" แมหัวเราะแลวก็ออกไปลูกตัวนอกหอง หลังจากนั้นก็ขึ้นเฝาเสด็จพรอมดวยของถวาย ซึ่งทําใหพลอย ดีใจ จนบอกไมถูก เพราะเสด็จทรงตื่นเตนของจากบานนอก ที่แมหามาถวายจริงๆ ที่พลอยดีใจมาก็เพราะวา ของเหลานั้นแมของพลอยเปนผูถวาย และผูที่ไดรับก็คือเสด็จของพลอยเอง พลอยยังเด็กไปที่จะรูวา ที่เสด็จดี พระทัยเปนการเอิกเกริก ก็เพราะโปรดตัวผูให ถาหากแมจะนําเอาไขเปดเพียงลูกเดียว หรือปลากรอบเพียงตัว เดียวหอผามาถวาย เสด็จก็คงดีพระทัยเทากัน คืนวันนั้นเอง พลอยก็ไดนอนกับแมอีกดวยความอุนใจเปนที่สุดที่แลว แมกอดพลอยไวขางๆตัว แลวก็ กระซิบถามวา "รักแมไหมพลอย" "รักจะแม" พลอยตอบ "รักเทาไหน" "รักเทาฟาจะ" พลอยตอบอยางเคยทุกทีที่แมถาม แมหัวเราะเบาๆ จูบแกมพลอย แลวกระซิบถามวา "พลอยถาแมจะมีพอใหมให พลอยจะวาอยางไร" "ก็พลอยมีเจาคุณพออยูแลวนี่จะแม" พลอยตอบอยางสงสัย เพราะไมรูจริงๆวาจะมีพอพรอมๆกันสองคน ไดอยางไร แมนิ่งอยูนาน แตในที่สุดก็พูดขึ้นวา "นอนเสียเถิดพลอย แมเอาเรื่องอะไรมาพูดก็ไมรู" อีกครูหนึ่ง แมก็ปรารภขึ้นเบาๆกับความมืดวา "ลูกไม หลนไมไกลตน แตตนอยูฟากขางโนน ไมไดอยูในมุงนี่" ซึ่งพลอยก็ไมไดสนใจเทาไร เพราะเกือบหลับอยูแลว

http://www.geocities.com/siamstory/ploy103_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๔ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๔ (หนาที่ ๑) แมเขามาอยูในวังราวๆ ๑๐ วัน แตในระหวาง ๑๐ วันนั้น พลอยไดพบกับแมเฉพาะตอนเชาและตอนบาย เพราะเวลากลางวันแมออกไปนอกวังทุกวัน อางวาจะไปทําธุระเรื่องคาขาย และทุกวันที่แมกลับมาจากขางนอก แมก็จะตองมีขนมหรือของกินมาฝากเสมอ พลอยสังเกตเห็นอาการกิริยาของแมผิดแปลกไปอีก เพราะบางทีแม ก็นั่งเหมอ เหมือนกับจะคิดอะไรอยางใจลอย บางคราวก็เหมือนกับนึกถึงสิ่งรื่นรมยใจ แลวก็ซอนยิ้มไวในใบหนา แตบางคราวเวลานอนอยูดวยกันกลางคืน แมเอื้อมแขนมากอดพลอยไว แลวก็ถอดใจใหญบอยครั้ง หลังจากคืน แรกที่แมมาถึงแลว แมก็มิไดเอยปากพูดถึงคนอื่น หรือตั้งปญหาถามพลอย เรื่องจะมีพอใหมอีกดีหรือไมอีกเลย เมื่อแมอําลาวาจะกลับไปฉะเชิงเทรา เพราะธุระกิจทางกรุงเทพฯเสร็จแลว และเรือที่อาศัยเขามานั้นคอยอยู พลอยก็มิไดรูสึกเสียใจเหมือนคราวกอน เพราะเห็นจริงเสียแลววา ถึงแมจะตองจากไป แมก็จะตองกลับมาอีกใน วันขางหนา และของตางๆที่แมนํามาฝากจากบานนอกนั้น ดูเหมือนจะคุมกับความคิดถึงแมที่พลอยตองอดทน และเมื่อแมจากไปอีกเปนหนที่สอง พลอยก็มิไดรูสึกวา ตนถูกทอดทิ้งเหมือนเมื่อครั้งแรก เพราะขณะนี้ พลอย รูสึกวาตนมีสวนอยูในชีวิตในวังหลวง มีพวกพองเพื่อนฝูง ที่ยอมรับวาพลอยเปนคนหนึ่งในหมูของตน มีเสด็จ เปนศูนยกลางแหงชีวิตในวัง และมีหนาที่เล็กๆนอยๆ ที่จะตองทําทุกๆวัน ทําใหเวลาแตละวันผานไปได โดยไม เปลาเปลี่ยว พลอยเริ่มรูสึกตัววา ชีวิตในวังนั้นมิใชวาจะคงที่เปนปกติอยูตลอดไป ตามธรรมดาชีวิตประจําวัน ก็มีเรื่อง ตางๆ เกี่ยวกับสวนตัวบุคคลสําหรับพูด สําหรับวิจารณ ซึ่งทําใหพลอยซึ่งยังเปนเด็ก ไดแตคอยฟงอยูเสมอ แต นอกจากนั้นยังมีงานตางๆในวัง ซึ่งทําใหพลอยตองใจเตนระทึกอยูเสมอ ดวยความหวังวา จะไดเที่ยวไดสนุก งานที่พลอยเห็นวาสนุกเปนหนักหนา และอีกหลายสิบปตอมา ถึงแมวาพลอยจะมีอายุมากแลว แตเมื่อนึกถึงก็ ยังอดใจเตนไมได ก็คืองานโสกันตทูลกระหมอมฟา พระเจาลูกยาเธอ กอนจะถึงกําหนดที่จะมีงานโสกันต ขาว ลือก็มักจะผานมาทางปากผูใหญ วาจะมีอะไรบาง ใครจะไดเปนนางสระเขากระบวนแห ใครจะไดถือมยุรฉัตร ใครจะไดเปนนางเชิญเครื่องและนางพัด ทานกําหนดใหแตงตัวอยางไร จะสวยหรือไม ตอไปก็ถึงเรื่องทูล กระหมอมที่จะโสกันตนั้น จะทรงเครื่องอยางไรบาง ในงันฟงสวดทั้งสามวัน และในวันโสกันตหรือวันสมโภช และเขาไกรลาสที่จะมีงานโสกันตนั้น จะตกแตงดงามและนาสนุกสักเพียงใด เรื่องเลากันทั้งหมดนี้ พลอยฟงไมมี เบื่อ และยิ่งใกลกําหนดวันเขามา พลอยก็ยิ่งเรงวันเรงคืน จะใหถึงกําหนดงานเร็วๆ บางคืนคิดถึงแตเรื่องจะ เที่ยวงาน จนนอนไมหลับ และในเทศกาลเชนนี้ ก็เปนเวลาที่ชาววัง จะตองตระเตรียมเครื่องแตงตัว ขางของ เครื่องประดับ ของบางรายที่เที่ยวจํานําไว ก็ตองหาหนทางไถถอนเอามาแตงตัวใหได ยิ่งใกลวันมีงานเขาไปอีก ทั้งพลอยและชอยก็อดรนทนไมไหว กลางวันวางๆก็ตองชวนกันเล็ดลอด หนี จากตําหนัก แลวออกทางประตูย่ําค่ํา ไปดูเขาสรางเขาไกรลาสที่ขางๆ พระที่นั่งอัมรินทร เริ่มดูตั้งแตเขาไกรลาส ยังเปนโครงไมไผสาน จนถึงเวลาที่เขาเอาแผนดีบุกหุม แลวทาสีใหเหมือนศิลาจริงๆ ทุกครั้งที่ไปดูก็จะเห็นเขา ไหรลาส อันเปนที่สรงน้ําหลังโสกันตนั้นผิดตาไปทุกครั้ง จนในที่สุด เมื่อใกลวันงานเขา มณฑปใหญยอดเขาก็ สรางเสร็จ บุษบกที่สรงก็เสร็จลงขางๆกัน เจาพนักงานเริ่มใสตนไมตางๆ และตอน้ําพุในเขา และกั้นราชวัตรปก ฉัตรโดยรอบบริเวณเขาไกรลาส ในเรื่องความเคลื่อนไหวตางๆเหลานี้ พลอยและชอย ดูเหมือนจะรูมากกวา ใครๆในตําหนัก แมแตเสด็จก็ตองรับสั่งถามบอยๆ จนชอยและพลอยกลายเปนพนักงาน รายงานเกือบทุกเวลา เสวย วาอะไรคืบหนาไปแคไหนแลว จนในที่สุดก็ถึงวันที่เฝาคอยกันอยูทุกคน คือวันที่เจานายโสกันต เสด็จออกฟงสวดวันแรก ชอยและ พลอยไปคอยดูแหอยูตั้งแตกลางวัน จนตกบายจึงจะไดเห็นกระบวนแห ผานจากพระราชฐานชั้นใน ออกมายัง เขตพระราชฐานชั้นนอก ในระหวางที่คอยดูแหอยูนั้น ทั้งพลอยและชอยรูสึกรอนจนเหงื่อตกเปยกชุม ไปทั้งตัว เพราะไหนจะแดดที่กระทบกับพื้นหิน เปนไอรอนกลับขึ้นมา ไหนจะตองเบียดเสียดกับคน ที่มาคอยดูแหเชนกัน ทั้งชอยและพลอยตกลงวาจะจูงมือกันไวแนน ไมยอมใหพลัดกันไปได พอพระเจาอยูหัว เสด็จออกสงทูล กระหมอมขึ้นพระยานมาศ เสียงประโคมสังขแตรจากขางใน บอกใหพลอยรูวา กระบวนแหจะเริ่ม ความรอนก็ หายไปเพราะความตื่นเตน ทําใหพลอยลืมทุกอยาง นอกจากจะดูใหเห็นสิ่งที่ไมเคยเห็น ตนกระบวนแหนั้น เปนทหารเดินแถวเปาแตรวง มีทหารแบกปนเดินกาวเทาพรอมกันไดจังหวะ เดิน ผานไปกองรอยหนึ่งกอน เสียงกองใหญแตรวงตีเปนจังหวะเราใจ ทําใหหัวใจพลอยเตนเขาจังหวะตาม พอเสียง แตรวงไกลออกไป เสียงกลองแขกคูหนึ่งที่นําขบวนหลังก็ดังใกลเขามา และเสียงปชวาเจื้อยแจว ก็ดังขึ้นแทน เสียงแตรฝรั่ง ที่คอยๆเบาลง มีขุนนางเดินประณมมือเปนคูเคียงเปนคูๆ ถดจากนั้น ไปถึงคูแหมหาดเล็ก เดิน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy104.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๔ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 4

เปนคูๆเชนเดียวกัน แลวจึงถึงกระบวนเด็กๆ ที่มาเขากระบวนแห ตามติดๆ มาดวยหมวดกลองชนะและแตร สังข ซี่งเปาเปนระยะๆ สองขางเปนพวกเครื่องสูง มีคนแตงเปนอินทรพรหม เดินถือเครื่องสูงพวกฉัตรและ บังแทรก แลดูสลางเหมือนกับตนไมที่เดินได จากนั้นก็ถึงพวกพราหมณที่เขากระบวน มีทั้งพราหมณเปาสังข และแกวงกลองเล็กๆ สองหนามีเสาปกกลางมีลูกตุมแขวน ที่เรียกวาไมบัณเฑาะว เสียงดังปงปง และมี พราหมณโปรยขาวตอก ในระหวางเครื่องสูงที่เชิญมาสลับสลอนนั้น มีมหาดเล็กถือพระแสง เดินแซงอยูดวย ตอ จากนั้นไปพวกผูหญิงที่มาดูแหซุบซิบกันดวยความสนใจ และสะกิดกันใหดู จุดที่สนใจก็คือ เด็กผูชายเล็กๆ สอง คนแตงตัวสวยงามถือขนนกการเวก เสียงกระซิบกันวา "นารัก" หรือ "นาเอ็นดู" ดังอยูทั่วไป แลวจึงถึง นางมยุรฉัตรอีกคูหนึ่ง แตงกายนุงยกจีบหมผานางประดับอาภรณเครื่องทองของจริง เดินถือหางนกยูงตามติดๆ มาดวย เด็กผูหญิงอีกคูหนึ่งแตงกายคลายๆกัน แตในมือถือกิ่งไมเงินทอง แลวจึงถึงพระยานมาศ อันมีทูล กระหมอมประทับอยู แตงองคดวยเครื่องเพชรลวน ตองแสงแดดตอนบาย เปนประกาย ทุกคนที่คอยดูแหอยู อด อุทานมิไดวา "งามจริง ! " ถัดจากนั้นไปก็เปนกระบวนขุนนางตามเสด็จ และนางเชิญเครื่อง และนางพัดอีกเจ็ด คน แลวจึงถึงพวกนางสระและพวกขาหลวงตามเสด็จ ตอนนี้ที่ความสนใจของคนดูมีมากขึ้น เพราะคนนี้ก็รูจัก คนนั้น คนนั้นก็รูจักคนโนน ตางพากันสะกิดใหดูกันอยูทั่วๆไป พลอยและชอยไมสนใจกระบวนแหตอนทายเทาไรนัก เพราะพอไดฤกษเคลื่อนกระบวน การมหรสพทั้ง หลายทั้งปวงที่มีอยูในสนามขางหนา ก็เริ่มลงโรงพรอมกัน พอไดโอกาสทั้งพลอยและชอย ก็จูงมือกันเตรไปทาง ดานโรงมหรสพ ที่ตรงสนามหลังวัดพระแกว มีการละเลนที่นาดูหลายอยาง มีไมลอย ซึ่งคนปนไมสูงขึ้นไปยืนอยู บนยอด มีไตลวดและการแสดงโลดโผนอื่นๆ ที่พลอยชอบมากที่สุด ก็เห็นจะไดแก กระอั้วแทงควาย มีคนสอง คนเขาไปอยูในผาคลุม ถือหัวควายแสดงกิริยาเหมือนควายจริงๆ มีชายคนหนึ่ง เลนเปนผัวนางกระอั้ว ถือหอก ไลแทงควาย และมีคนแตงเปนนางกระอั้ว อยางตลกนาหัวเราะ ถือรมขาด และกระเดียดกระจาดคอยวิ่งตาม หลัง สวนควายนั้นก็วิ่งไลขวิดคนทั้งสอง ซึ่งหนีบางสูบาง ดวยทาทาง ที่ทําใหคนดูตองหัวเราะ ทองคัดทองแข็ง ดูเทาไรก็ไมเบื่อ สวนการละเลนที่เรียกวา โมงครุมและระเบงนั้น ผานไปดูไดประเดี๋ยวหนึ่ง ชอยก็ชวนไปที่อื่น บอกวาเบื่อไมเห็นมีอะไร รองซ้ําๆ ซากๆ อยูได พอตกค่ําถึงเวลาเริ่มจุดไฟ ทั้งชอยและพลอยก็ไมมีตาสําหรับจะดูที่อื่น นอกจากเขาไกรลาส เดินวนกัน อยูไมรูจักเหน็ดเหนื่อย จนนับรอบไมถวน เพราะเวลากลางคืนและแสงไฟที่ประดับประดาไว ไดเปลี่ยนสภาพ เขาไกรลาสที่ทําดวยไมไผและดีบุก ใหกลายเปนเขาไกรลาสในเทพนิยายไปจริงๆ ตนไมตางๆที่ปลูกไวบนเขา ดูระยิบระยับ ไดดวยดอกไมที่ถูกแสงไฟและลูกแกวสีตางๆ ที่แขวนไว รูปภาพตางๆ ถูกแสงไฟเขาก็กลับมีชีวิต ไมวาจะเปนรูปเทวดาหรือรูปสัตว ที่เรียงรายอยูทั่วไป ตามเชิงเขาไกรลาสนั้น ทําเปนคูหา แตละคูหาก็ตั้งตุกตา ไขกลไกกระดิกตัวเคลื่องไหวได เหมือนคนจริงๆ แตละคูหาก็แสดงเรื่องตางๆ มีรามเกียรติ์บาง อิเหนาบาง สังข ทองบาง จับเอาตอนใดตอนหนึ่งมาแสดง ซึ่งแสดงเปนภาพตุกตากล ซ้ําอยูไมรูจบ และพลอยก็ยืนดูอยูไดไมรู เบื่อ ความรูสึกหิวขาวหรืองวงนอนนั้นเปนอันวาลืมไดสนิท แมแตจะหนาวจะรอนก็ไมรูสึก จนตกดึกน้ําคางเริ่ม ลงจึงกลับตําหนัก พรอมดวยความเหนื่อยออนและอิ่มใจ ที่ไดเที่ยวสนุก แตพอรุงขึ้นพลอยก็กระวนกระวาย อยากไปดูงานอีก และก็ไดดูตลอดงานซึ่งกินเวลาหลายวัน พอเสร็จงานแลวเสด็จถึงกับทรงทักวา "นังพลอย เที่ยวงานเสียผอม" เมื่อมีงานคราวนี้ พลอยไดเห็นทั้งพระเจาอยูหัวและสมเด็จฯ ตลอดจนเจานายพระองคอื่นๆอยางใกลชิด พลอยไดเห็นพระเจาอยูหัวหลายครั้ง ขณะที่เสด็จออกรับพระกรทูลกระหมอมในงานโสกันต และตอนกลางคืน ขณะที่ยืนดูเขาไกรลาสเพลินอยู เสียงโขลนรองลากเสียงมาแตไกลวา "หามคนใหหยุด ... " เปนสัญญานวา เสด็จลงทอดพระเนตรงาน แตแรกพลอยกําลังเดินเพลินไมรูตัว จึงยืนเฉยๆ อยู รูสึกตัวเอาตอนชอยฉุดตัว ใหลง หมอบ และพอเงยหนาขึ้นมาอีกทีหนึ่ง ก็แลเห็นพระเจาอยูหัวและสมเด็จฯ พรอมดวยเจานายทรงพระเยาว อีก หลายพระองค เสด็จพระราชดําเนินผานมาใกลๆ ถาหากพลอยเอื้อมแขนของตนออกไปจนสุด นิ้วมือก็จะแตะ พระบาทไดพอดี พลอยขนลุกซูไปทั้งตัว และรูสึกวาหัวใจพองโต การอบรมสั่งสอนที่ไดรับ จากพอแม และ บรรพบุรุษมิรูกี่ชั่วคน ใหจงรักภักดีใหกตัญูตอพระเจาอยูหัว และใหเกรงกลัวอาญา จากเจาชีวิตของตนนั้น เดือดพลานอยูในหัวใจ ทั้งที่พลอยยังเปนเด็ก ความรูสึกในขณะนั้นบอกไมถูก จะเรียกวาเปนความปติยินดีสุด ขีด ที่ไดเฝาแหนจนใกลชิดก็ได หรือจะเรียกวาเปนความเกรงกลัว ขนาดขนพองสยองเกลาก็ไดอีกเหมือนกัน พลอยรีบฟุบหนาลงกราบแลวก็กมหนานิ่งอยู ไมกลาเงยหนาขึ้นมองดูตอไป แตมีความรูสึกบอกไดวา ไดเสด็จ พระราชดําเนินผานไปอยางชาๆ ไดยินเสียงเจานายเล็กๆ ทรงพระสรวล และตอมาก็ไดยินเสียงขางในตามเสด็จ คุย และหัวรอกันเบาๆ พลอยหมอบอยูอีกนานไมกลาเงยหนา จนรูสึกชาที่ขาพับเหมือนกับจะเปนเหน็บ ชอยเอื้อมมือมาสะกิด แลวบอกวา "พลอยดูซี เสด็จก็เสด็จ" และทันใดนั้น เสียงของเสด็จที่พลอยไดยินอยูจนเจนหู ก็ดังขึ้นวา "อาว ! นางพลอยกับนางชอยมาหมอบกระแตอยูนี่เอง"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy104.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๔ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 4

ทั้งชอยและพบอยเงยหนาขึ้นยิ้ม ชอยนั้นยิ้มอยางกวางขวาง ถึงเห็นฟนตลอด "ดูซิ ! " เสด็จทรงพระสรวล "พอทักเขาหนอย เลยทําทาเฝาแหนราวกับเปนพระญาติ เอา ! ถือนี่ไป" แลวเสด็จก็ทรงยื่นกลองหมากเสวย ใหพลอยถือตามเสด็จ พลอยเชิญกลองหมากเสวยตามเสด็จไป เหมือนกับกลองหมากนั้นมีชีวิต ตองถนอมดวยความบรรจง อยางยิ่ง สวนชอยก็เดินตามมาขางๆ ทั้งสองคนหนาบาน เพราะกลายเปนคนสําคัญไดเขากระบวน ชอยนั้นเดิน ใชสายตาสอดสาย ดูคนที่หมอบเรียงรายอยูทั่วไป เผื่อพบหนาคนรูจักจะไดยิ้มดวย และถามองเห็นคนที่ไมชอบ จะไดทําปนปงเมินหนาใหเห็นชัด แตพอเดินตามเสด็จไดสักหนอย ชอยคงรูสึกตัววา ถูกมองหนักเขา ก็หัน มากระซิบกับพลอยวา "พลอย อีกสักครูใหฉันเชิญกลองหมากเสวยบางนะ เดินมือเปลาๆ ฉันชักเกอแลวละ" งานโสกันตที่พลอยเห็นวาสนุกหนักหนานั้น เปนงานจรมิใชวาจะมีทุกปไป งานที่พลอยเห็นวา สนุกเปน อยางยิ่ง และเปนงานประจําป ถึงแมวาจะผานไปแลว ก็เฝาเรงวันเรงคืนใหถึงอีก คืองานลอยกระทง ซึ่งมีใน กลางเดือน ๑๒ เสด็จตามเสด็จพระเจาอยูหัวออกแพที่ทาขุนนาง และโปรดใหชอยและพลอยตามเสด็จ เพราะ รับสั่งวา งานอยางนี้เด็กๆ ไดดูสนุกกวาผูใหญ และเมื่อพลอยและชอยไดตามเสด็จ ก็เปนโอกาสที่คุณสาย จะ เปดหีบหยิบของแตงตัวออกแตงใหทั้งสองคน อยางเต็มยศ เพราะมีหนาที่ตามเสด็จเปนงานออกหนาออกตา เวลาที่เสด็จลงแพนั้นในราวสองยาม ซึ่งเปนเวลาที่พลอยหลับแลวในยามปกติ แตในคืนวันงานนั้น ถึงแม วาจะงวงแสนงวง พลอยก็ตองถางตาไวมิใหหลับเสียกอน พอตอน ๕ ทุมก็ตองถึงกับตองลางหนาใหหายงวง คืน วันเพ็ญเดือน ๑๒ เวลาสองยามนั้น อากาศเยือกเย็นทองฟาแจมใสปราศจากเมฆ และพระจันทรดวงโตที่สุด ใน รอบป ลอยอยูตรงกลางศีรษะพอดี พอถึงเวลาเสด็จออกทามกลางเสียงประโคม ทุกอยางที่เตรียมไวพรอม ก็เริ่ม มีชีวิต พลอยยังจําไดดีถึงเสียงโขลนรองลากเสียงบอกกันตอไป เวลาเจานายเสด็จออกจากวังวา "เปดขาง !" แลวมีเสียงรองรับกลับมาวา "เปดขางแลว !" เปนสัญญานวาไดเปดประตูขางใหเจานายเสด็จผาน พระเจาอยูหัว เสด็จออกประทับเรือบัลลังก จอดอยูหนาตําหนักแพพรอมดวยเจานายขางใน ฝายพลอยและชอยก็ปะปนอยูกับ หมูขาหลวงตามเสด็จ พยายามกระเถิบออกไปจนไดที่นั่งชิดริมน้ําที่สุด เพื่อจะดูกระทงใหเต็มตา เบื้องหนาออก ไป ในทองน้ํามีเรือลอมวง จอดอยูเรียงราย มีเสียงปพาทยและกลองแขกดังอยูไมขาด ระหวางเรือลอมวง มีทุน หยวกปกไตจุดสวางทอดไวเปนระยะ กําหนดบริเวณมิใหใครเขามากล้ํากราย นอกทุนออกไปเปนเรือราษฎร ที่ มาดูงานและมาเฝาในหลวงมากมายหลายพันลํา ดูมืดเต็มทองน้ําไปหมด และมีเรือจางพนักงานปกโคมบังพาย ขึ้นลองคอยตรวจตรารักษาความสงบ ที่หนาเรือบัลลังกนั้น เจาพนักงานจอดเรือพระที่นั่งอนันตนาคราชเตรียมไว บนบุษบกตั้งพระชัย หัวทาย เรือพระที่นั่งจุดโคมกระจกสีตางๆ ดูแพรวพราว ที่หนาบุษบกอันเปนที่ตั้งพระพุทธรูป ตั้งเครื่องนมัสการ มีธูป เทียนตอชนวนมายังเรือบัลลังก เมื่อพระเจาอยูหัวทรงจุดชนวน ในพริบตาเดียวเทียนหนาพระ ก็สวางพรึบขึ้น พรอมกัน ตอจากนั้นเจานายขางในทรงจุดเทียนภายในเรือนั้นอีกจนทั่ว ทําใหเรือพระที่นั่งลํามหึมานั้น สวางแจง ดวยแสงประทีป แสงไฟกระทบลวดลายสลักที่ปดทองลองชาด และติดกระจก บังเกิดแสงสะทอนดูเหมือนกับวา เรือพระที่นั่งนั้นมีชีวิต และเปนสัตวที่แสนจะงดงาม ลอยมาจากอีกโลกหนึ่ง เมื่อทรงจุดเทียนเสร็จฝพายในเรือ พระที่นั่ง ก็เริ่มพาย และเรือพระที่นั่งก็เคลื่อนที่ ออกไปชาๆ พรอมดวยเสียงเหเรือและเสียงฝพายรับกึกกอง ตอ จากนั้นเรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส ก็ลอยเขามาเทียบหนาเรือบัลลังก เพื่อใหทรงจุดเทียนเชนเดียวกับเรือพระที่ นั่งลํากอน จากเรื่อลําใหญซึ่งลอยลําออกไปกลางน้ํา สองแสงสวางจากลําเรือ ไปรอบบริเวณ เหมือนพระอาทิตย พระจันทรในทามกลางความมืด และแสงสวางนั้น จับใบหนาคนหลายพัน ที่อยูในเรือเล็กเรือนอย ที่มาคอยชม อยู ใหแลเห็นไดชัด ตอจากนั้นก็มีการปลอยเรือกระทงเล็กๆ ทําเหมือนเรือพระที่นั่งและเรือกราบของจริง จุด เทียนราย ตลอดลํา ลอยมาทั้งกระบวน แลวจึงถึงสําเภาแบบของจริง แตยอสวนเล็กลงไปหมด จุดเทียนและโคม สวาง ทั่วทั้งลํา ภาพทั้งหมดนี้เปนภาพที่พลอยจําไดติดตา ไมมีวันลืมเลือนอีกภาพหนึ่ง เวลาที่พลอยรูสึกวาสนุกที่สุดก็คือตอนจุดดอกไมไฟ ซึ่งเริ่มตนหลังจากทรงดอกไมเพลิงเปนสัญญาน ที่ หนาเรือบัลลังก บัดเดี๋ยวใจ ทงทองน้ําก็ดูเหมือนจะเต็มไปดวยดอกไมเพลิง เพราะเรือตางๆที่จอดอยู นับจํานวน ไมถวนนั้น ตางพากันจุดดอกไมเพลิงขึ้นพรอมกัน บางอยางก็นาดู เชนพุมตะไลที่เขาจุดตามทุน บางอยางก็นา กลัว เชนพลุและรัดทาซึ่งสงเสียงดัง ภายในระยะเวลาติดๆกัน บนทองฟาก็เต็มไปดวยดาวสีตางๆ ที่รวงพรูกลับ ลงมา แลวก็เสียงพลุเสียงพะเนียง เกิดเปนดาวกระจายเต็มทองฟาแทนกันอยูไมขาด ในน้ําเบื้องหนา มีแต ดอกไมน้ําทุกขนาด สงเสียงมุดน้ําหรือพนไฟออกจากตัว อยูไมขาดระยะ เจาพนักงานจัดดอกไมน้ําทุกชนิด แต ขนาดยอมกวาธรรมดาไวแจกถวายเจานายขางในทรงจุด และมีเหลือพอสําหรับขางในที่ไมใชเจานาย ตลอดจน ถึงพลอยและชอย ตอนนี้เปนตอนที่สนุกที่สุด เพราะจะสงเสียงวีดวายกันบางก็ได ดวยเสียงดอกไมเพลิง นั้นดัง กวา คอยกลบเสียงคนอยู ชอยถือโอกาสที่ผูใหญกลัวดอกไมเพลิง จุดดอกไมหลายดอกแตไมโยนลงน้ํา กลับทํา รวงเขาไปในหมูชาววังที่นั่งอยู ทําใหเกิดหวีดรองและลุกหนีกันชุลมุน แตเพราะความกลานั่นเอง พอถึงตําหนัก ก็ปรากฏวา ผานุงของชอยไหมเปนรูโหวไปหลายรูเหมือนกัน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy104.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๔ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 4

ดวยชีวิตอันอยูในกรอบแวดลอมไปดวยระเบียบประเพณีตางๆ พลอยก็อยูในวังตอมาจนความรูสึกเรื่อง บานเดิมที่เคยอยูนั้นเลือนรางไปจากความทรงจํา ถึงจะนึกถึงบางก็เปนบางเวลา พลอยก็มองเห็นแตภาพรางๆ ผิดกับภาพที่แจมใสชัดเจนที่เคยนึกเห็นได เมื่อจากบานใหมๆ รายละเอียดตางๆ ที่เคยจําไดวา สิ่งใดอยูที่ไหน และตรงไหนมีอะไรบาง หรือคนที่บานหนาตาเปนอยางไรนั้น ยิ่งวันคืนลวงไปก็ยิ่งเลือนรางไปทุกที พลอยเขามา อยูในวังเดือนหนึ่งก็แลวสองเดือนก็แลว แตก็ไมปรากฏวาใครทางบานมาติดตอ หรือสงขาวคราว มาใหทราบ สวนแมนั้นสองเดือนสามเดือนก็มาเยี่ยมพลอยครั้งหนึ่ง พรอมดวยของฝากนานาชนิด และความรัก ของแมที่มี ไวใหพลอยเสมอ แตถึงวาแมจะเปนฝายไปมาหาสูตลอดมา โดยมิไดมีคนทางบานเกี่ยวของเลยก็ตาม ในใจจริง ของพลอยก็ยังไมรูสึกวา ขาดจากบานคลองบางหลวง ทุกครั้งที่นึกถึงบาน ก็มีแตบานนั้นที่พลอยเห็นเปน ของ ตัว และตัวเปนสวนหนึ่งของบาน ถาจะคิดไปในทางที่วาผูใดจะเปนผูมีอํานาจสั่งการ เกี่ยวกับชีวิตของพลอย ได เด็ดขาด คือบอกใหพลอยทําสิ่งใด พลอยก็ทําตามแลว พลอยก็เห็นวามีเจาคุณพออีกคนหนึ่ง นอกจากเสด็จ และมีอยูเพียงสองคนเทานั้น สวนแมนั้นเปนวัตถุแหงความรักและความยินดี แตก็ไมรูสึกวามีสวนสําคัญในการที่ จะบันดาลใหชีวิตของพลอยเปนไปในทางใด สวนผูที่อบรมนิสัย อบรมมารยาท ตลอดจนประสิทธิ์ประสาทวิชา ความรูตางๆ ใหแกพลอยนั้นคือคุณสาย ซึ่งพลอยรูสึกทั้งรักทั้งกลัว และเพราะความกลัวนั้น จึงมิสูกลาจะเปน กันเองกับคุณสาย ทั้งที่กินนอนอยูกับคุณสายทุกวันเปนประจํา ในที่สุดพฤติการณบางอยางเกี่ยวกับแม ก็ทําใหพลอยตองรูสึกเหินหางออกไปอีก แมเขามาเยี่ยมในวัง สามสี่ครั้ง แลวก็หายไปนาน จนวันหนึ่งนางพิศหอบขาวของพะรุงพะรัง เขามาที่ตําหนัก ขณะที่พลอยนั่งกินขาว เชาอยูกับคุณสายและชอย นางพิศเขามาในหองแลวก็ทรุดตัวลงนั่งยกมือไหวคุณสาย สวนพลอยดีใจวาแมมาเยี่ยม จึงถามขึ้นวา "แมอยูไหนละ" "คุณแมไมมาหรอกเที่ยวนี้" นางพิศตอบกมหนา "ใหบาวมาคนเดียว และเอาของมาใหคุณ" พลอยหนาเสียลงไปทันที เพราะของที่แมเอามาใหนั้นหมดความสําคัญทั้งสิ้น ถาหากวาแมไมมาดวย สิ่ง แรกที่วูบขึ้นมาในหัวใจก็คือ แมตองเจ็บไข หรือมีอันจะเปนอะไรแลว และทาทางของนางพิศ ก็ชักจูงใหคิด ไป ทางนี้ "แมเปนอะไรไปพิศ" พลอยถามเสียงสั่น "คุณอยาเพิ่งรูเดี๋ยวนี้เลย" นางพิศตอบ "แลวบาวจะเลาใหฟง" พลอยน้ําตากลบลูกตาทันที จะไตถามตอไปก็สิ้นปญญา เหลียวดูหนาคุณสายเหมือนกับวา จะขอความ ชวยเหลือ ฝายคุณสายเห็นความทุกขที่ปรากฏอยูบนหนาพลอย ก็ยื่นมือเขาชวยทันที "แมเชมเปนอะไรไป พิศ" คุณสายถามอยางเอาจริง "บอกมาเถิดไมตองปดบัง ถึงพลอยไมรูเดี๋ยวนี้ ก็ตอง รูเขาวันหนึ่ง" "ไมเปนไรหรอกเจาคะ" นางพิศตอบแลวกมหนาเอามือเขี่ยพื้นกระดาน "คุณเธอบอกวามาในวังไมได อายเขา" พลอยน้ําตารวงพรูทันที เมื่อไดยินคําพูดของนางพิศ แมเปนอะไรจึงตองอับอายขายหนาถึงกับเขาวังไม ได จะเจ็บไขเปนอะไรจนเสียโฉม หรือวาจะยากจนผาผอนขาด จนไมกลามาหาพลอย "ไฮ ! เปนอะไร ถึงตองอับอายถึงเพียงนั้น" คุณสายถามอยางไมเชื่อหู นางพิศนิ่งอิดออดไมยอมตอบ แตเห็นคุณสายก็นิ่งรอคําตอบอยู สวนพลอยก็ชักจะสะอื้นถี่เขา นางพิศก็ รองไหโฮ ยกผาหมขึ้นปดหนา แลวก็สะอึกสะอื้นแลวกลาววา "คุณเธอมีครรภเจาคะ" คุณสายตกตะลึงจังงังไปครูหนึ่ง แตแลวก็ไดสติถามนางพิศ ขึ้นเบาๆวา "มีทองกับใคร พอฉิมตัวดีนั่นละซี" "เจาคะ นั่นแหละเจาคะ" นางพิศตอบ คุณสายนิ่งอยูนาน ระหวางนั้นก็อิ่มขาว ลางไมลางมืออยางชาๆ เหมือนกับจะใหสะอาดเปนพิเศษ แลวก็ เอาขี้ผึ้งสีปากขึ้นมาสีอยางบรรจง เอาหมากใสปากเคี้ยวชาๆ จนเกือบหมดคําแลวจึงพูดขึ้นวา "พิศ ไปหาขาวกินเสียที่หลังตําหนักกับผาด ชอยขึ้นไปอยูกับเสด็จขางบนเดี๋ยวนี้อยาร่ําไร" และเมื่อคน ทั้งสองออกไปนอกหอง เหลือกันสองตอสอง คุณสายก็เริ่มอธิบายใหพลอยฟง ถึงเรื่องการมีเรือน การเปนผัว เปนเมีย แลวก็มีลูก และคนที่มีลูกกับคนๆหนึ่งนั้น อาจไปมีลูกกับคนอื่นอีกก็ได และสรุปความวา ถึงแมวาแมจะ ไปมีลูก ซึ่งเปนนองของพลอยตอไปอีกกี่คน เทาที่คุณสายรูใจ แมก็คงยังรักพลอยมากที่สุด อยูนั่นเอง ซึ่งมิได ทําใหพลอยมีความรูสึกดีขึ้นอยางไรเลย อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy104.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๔ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๔ (หนาที่ ๒) ตลอดวันนั้นทั้งวันคุณสายไมยอมใหพลอยคลาดจากสายตาไปได เรียกใหชวยทําโนนทํานี่ เพื่อเก็บตัว พลอยไวใกลๆ ทั้งที่พลอยอยากจะไปถามรายละเอียดเรื่องแมจากนางพิศ แตก็ไมกลา เพราะคุณสายทําเฉยๆ คลายๆกับไมอยากใหพลอยไตถามเรื่องนี้มากนัก แตคุณสายจะไดขึ้นไปทูลเสด็จไวแลวอยางไรก็ไมทราบได เพราะเมื่อพลอยขึ้นไปเฝารับใชตอนกลางวัน เห็นเสด็จทอดพระเนตรมาทางพลอยบอยๆ เหมือนกับจะสน พระทัย วาพลอยรูสึกอยางไร แตพลอยก็อยูในวังมานานพอที่ซอนความรูสึก มิใหปรากฏตอพระพักตรเจานาย ของตน เสด็จจึงมิไดรับสั่งเรื่องแมไดสามีใหม แตอยางใด แตพอตกบาย ขณะที่พลอยเฝาอยูพรอมกับคุณสาย และชอย เสด็จก็รับสั่งขึ้นวา "สาย นังชอยนี่อายุครบโกนจุกแลว ขาจะโกนจุกให" คุณสายพูดพึมพําขอบพระเดชพระคุณแลวก็กราบ แตแลวก็หันมาตาเขียวกับชอย ซึ่งหมอบแหงนหนาดู นกกระจอกสองสามตัว ที่ชายคาตําหนักเพลิดเพลิน ทําเอาชอยตองหนามอยลงกราบเสด็จเชนเดียวกัน "แตนังพลอยนี่จะวายังไง" เสด็จรับสั่งตอ "เด็กมันอยูกับขา ขาก็อยากโกนจุกใหพรอมๆกัน แตพลอยเขา มีพอเปนขุนนาง จะทําไปโดยลําพัง เขาจะวาอยางไรก็ไมรู" "ถาเสด็จรับสั่งไปก็เห็นจะไมขัดดอกมังคะ" คุณสายทูล "นั้นซี ถาอยางไรเจาออกไปถามเขาดู ใหไดเรื่องไดราวก็จะดี ถาไปละก็พาพลอยไปดวย ไปเยี่ยมพอเขา เสียดบาง" "มังคะ" คุณสายรับคําที่เสด็จรับสั่ง พลอยไดยินขอความที่เสด็จรับสั่งก็ดีใจ อีกทางหนึ่งในเรื่องที่จะไดโกนจุก ใจจริงนั้นอยากโกนจุก พรอม กับชอย และการที่จะกลับไปโกนจุกที่บานนั้น พลอยนึกไปไมถึงวาจะกลับไปไดอยางไร แตเมื่อไดยินเสด็จ รับ สั่งใหคุณสายพาไปเยี่ยมบาน ก็ดีใจที่จะไดกลับไปพบคุณเชย พี่สาวคนเล็ก ซึ่งพลอยยังคิดถึงอยูเสมอ พลอยยัง เด็กเกินไป ที่จะเดาพระทัยเสด็จออกวา ทรงเปนหวงพลอยมากขึ้น หลังจากที่คุณสายไดขึ้นมา กระซิบทูลวา แม แชมไดสามีใหมเปนญาติหางๆทางบานนอก และขณะนี้กําลังตั้งครรภ ซึ่งทําใหเสด็จทรงพระเมตตาพลอยวา เปนเหมือนเด็กกําพรา เพราะทางพอก็ดูเนือยๆไมสนใจ ทางแมก็ไปมีเรื่อง ผูกพันเพิ่มเติม เสด็จจึงตั้งพระทัยที่ จะทรงอุปการะพลอยมากขึ้นกวาเกา และขณะเดียวกันก็มีพระประสงค จะใหพลอยไดกลับไปบานเดิมบาง แม จะเปนชั่วครูชั่วยามก็ยังดี พลอยจะไดไมขาดตอนจากพี่นองเสียเลย ความดีใจที่จะไดโกนจุก และจะไดไปเที่ยวบาน ก็ยังหาทําใหพลอยลืมเรื่องแมลงไปดวยไม จนคืนวันนั้น คุณสายขึ้นไปบนตําหนักตามปกติ และพลอยเขานอนกอน นางพิศจึงเขามาชวยไลยุงในมุง และถือโอกาสเลา เรื่องแมใหฟง "คุณพลอยอยาไปเสียอกเสียใจอะไรเลย" นางพิศเริ่มกลาวอารัมภบท "คุณแมไมเปนอะไรหรอก มีทองมี ไส ใครๆเขาก็มีกัน คุณแมก็ยังไมแกเฒาอะไรหนักหนา ไปอยูหัวเมืองจะไปอยูคนเดียวไดยังไง เธอก็ตองหาที่ พึ่งไวบาง" "แลวพอฉิมนี่เขาเปนอยางไรบางพิศ" พลอยถาม "บาวก็วาเขาเค็มไปหนอย แตคุณเธอวาของเธอดีไวใจได บาวก็ตองนิ่ง" นางพิศตอบ แลวก็พูดตอไป ทันทีวา "แตทาเขาจะดีจริงๆกระมัง คุณพลอยอยาไปวิตกไปเลย ถาไมดีจริงแมจะไปตกลองปลองชิ้น กับเขา หรือ คุณเธอเปนผูดี ตาเธอก็ตองสูง ดูอะไรก็รูเรื่อง ไฮ ! นังพิศ เอ็งเปนขี้ขาเขาแลวยังไมเจียมตัว สะเออะไป เที่ยววา เขาอยางนั้นอยางนี้ หลังจะลายไมรูตัว" นางพิศเริ่มเทศนาเตือนสติตัวเอง "เวลานี้แมอยูที่ไหน" พลอยซักตอ "ก็อยูบานที่ไปอยูแตแรกซีคุณพลอย ทีแรกไปอยูกับบาวสองคน แลวก็หาคนบานนอกมาไวใชอีกคนหนึ่ง ตอมาเห็นบนวาวาเหว พอฉิมเขาก็เลยพานองสาวเขา ชื่อแมปลั่งมาอยูเปนเพื่อน เขามากันสองคนพี่นอง เขาวา เพื่อกันคนนินทา แลวเดี๋ยวนี้ก็เลยอยูกินกันเปดเผย ใครๆเขาก็รูกันทั่วแลว" "พิศมาเสียอยางนี้ แมจะไดใครใชเลาพิศ" พลอยปรารภขึ้นอยางเปนหวง นางพิศยกมือขึ้นเช็ดน้ําตาแลวพูดวยเสียงเครือๆวา "ทูนหัวของพิศ ตัวเล็กเทานี้ยังมีน้ําใจเผื่อแผถึงคุณแม คุณพลอยไมตองเปนหวงหรอก พิศไมมีทิ้งนาย ของตัวเสียละ จะเปนจะตายก็ใหมันรูกันไป อีกสองสามวันพิศก็จะกลับ เวลานี้ก็ยังไมเปนไร เพราะคุณยังไมเจ็บ ไมไข ตอไปก็จะตองคอยดูกันมากกวานี้"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy104_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๔ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 5

"พิศ" พลอยถามตอไปอีก "แมปลั่งนองพอฉิมที่เขามาอยูนะ เขาทําอะไรบาง" "ฮึ ! " นางพิศรองในคอ "ก็มาเปนนายของอีพิศอีกคนนะซี ทีแรกมาก็ดี เอาใจคุณแม ปฏิบัติวัตถาก ทุกอยาง ไมวาจะพูดวาอะไร เปนเห็นจริงไปหมด แตพอเขาเปนนองสะใภเทานั้นแหละคุณพลอยเอย เปลี่ยนไป เปนคนละคน ทีเดียว เขาทํายังกะเปนบานของพี่ชายเขา นิดก็ไมได หนอยก็ไมได เปนผิดใจไปหมด พี่ชายเขาก็ รักนองสาว คุณเธอก็รักผัว เลยตองกลายเปนปฏิบัตินองผัวไป แตคุณเธอใจดี อยางฉันละก็ทนไมไหวละ ทั้งๆที่ อีพิศมีคาตัว อยางนี้แหละ ขืนแหลมมาวันไหนละแมตบลางน้ํา ใหลือกันสักที ไมกลัวหวายกลัวตรวนหรอกคอย ดูไปซี" แลวนางพิศก็เอามือตบปากตัวเองเผียะใหญ พลางรองวา "อีพิศ อีเวร มึงเอาอะไรมาพูดใหลูกนายกูฟง" แลวก็หัวเราะชอบใจ หยิบพัดมาพัดใหพลอย แลวบอกวา "พอทีคุณพลอย นอนเสียเถอะ บาวจะเลานิทานใหฟง" ฝายพลอยก็นอนหลับตาฟงนิทานของนางพิศ เรื่องตาเถรกินหอยจุบแจง ซึ่งเปนนิยายที่ไดฟงนางพิศเลาใหฟงมาแตเด็กๆจนเดี๋ยวนี้ ไดฟงทีไรเปนหลับทุกที อีกราวๆอาทิตยหนึ่งตอมา คุณสายก็บอกใหพลอยรูตัววา ในวันรุงขึ้นจะพาพลอยออกจากวังในตอนเชา เพื่อไปเยี่ยมบาน และคุณสายก็บอกใหรูตัวดวยวา การไปคราวนี้จะไมมีเวลาอยูไดนานนัก เพราะเมื่อคุณสาย พูดธุระกับเจาคุณพอเสร็จ และใหโอกาสพลอยไดปราศรัย ถามทุกขสุขกับพี่นองตามสมควรแลว ก็จะรีบกลับ ทันที แตถึงจะรูตัวลวงหนาอยางนี้แลวก็ตาม พลอยก็ยังตื่นเตนกระหายที่จะไป เพราะจากบานมาไดเกือบแปด เดือน ยังมิไดเคยพบหนาคนทางบานหรือไดขาวคราวอยางใดเลย จึงคอยเวลาที่จะออกเดินทางไปบาน ดวย ความตื่นเตน รุงขึ้นเชาอีกวันหนึ่ง คุณสายใหพลอยกินขาวแตเชา แลวก็แตงตัวใหดูหมดจดเปนพิเศษ เปดหีบหยิบ ของแตงตัวมาใสใหพลอย พลางอธิบายใหพลอยฟงวา การแตงเนื้อแตงตัวเปนพิเศษนั้น มิใชวา จะไปโออวดใคร แตจําตองทําเพื่อกันนินทา และปองกันความสงสัยวา พลอยจะไดรับการเลี้ยงดูที่ไมดี และเตือนสติวา เมื่อไปถึง บานแลว ใหพลอยระวังกิริยาวาจาใหจงดี เพราะถาไปแสดงสิ่งใดใหเปนที่ตําหนิได จะขายพระพักตรเสด็จผูเปน เจานายของตน และขายหนาคุณสายผูเปนผูดูแลเลี้ยงดู พลอยอดสงสัยมิไดวา คุณสายกับเจาคุณพอ จะรูจักคุน เคยกันเพียงใด จึงถามออกไปขณะที่แตงตัวอยู "คุณพอพลอยนะหรือ" คุณสายพูดยิ้มๆ "ปารูจักมานานแลว ตั้งแตทานเปนมหาดเล็กอยูในวัง ตอนนั้น ปา จะโตกวาพลอยสักหนอย และทานก็ยังเปนหนุม ตอนทานชอบแมของพลอย ปาก็เลยไดโอกาสคุนเคยกับ ทาน ไปดวย ถาไมรูจักกัน ปาจะออกไปหาทานไดอยางไร" เมื่อแตงตัวเสร็จ คุณสายก็พาพลอยออกจากวัง มีผาดถือหีบหมากตามหลัง บายหนาไปลงเรือที่ทาพระ แลวเรือก็เริ่มขามแมน้ํามุงไปยังคลองบางหลวง ครั้งนี้เปนครั้งแรกที่ออกจากวัง หลังจากวันที่พลอยเขาไปกับแม สิ่งตางๆที่ไดพบเห็นระหวางเดินทาง ก็ยังเรียกรองความสนใจจากพลอยอยูไมนอย พลอยรูสึกวาโลกภายนอกนี้ กวางใหญเอาการ เต็มไปดวยคนที่ไมรูจัก บางคนก็มีกิริยาวาจากักขฬะไมนาดู เสียงแมคาที่วางหาบอยูใกล ทางลงเรือสงเสียงพูดกัน ทําใหพลอยตองเมินหนา และทําใหคุณสายตองรีบสาวเทาเดิน เพื่อใหผานไปเสียเร็วๆ แตพอเรือเริ่มออกแจวขามแมน้ํา กิริยาอาการของคุณสายก็โกลาหล คุณสายกําหนดที่ใหพลอยนั่งตรงกลางลํา มิใหเอียงไปทางกราบไหนไดเปนอันขาด เพราะเกรงวาเรือจะลม คุณสายนั่งอยางระวังตอนทายเรือ บังคับให ผาด นั่งตอนหัวเรือพรอมกับสั่งใหนั่งนิ่งๆ เหมือนกับวาผาดเปนเด็กเล็กๆเทากับพลอย พอเรือออกจากทาไปได ไมเทาไร ความกลัววาเรือจะลมของคุณสาย ก็เพิ่มมากขึ้น พรอมทั้งความวุนวายตางๆ คุณสายนั่งอยูกึ่งกลาง เรือ มือทั้งสองจับกราบเรือๆไวแนนขางละกราบ พอเรือเอียงทีหนึ่งก็รองวายทีหนึ่ง แลวก็รองบอกละล่ําละลักให ผาด เปลี่ยนที่นั่งทุกทีไป เพื่อขืนใหเรือมิใหเอียง ฝายผาดก็ขวัญออนอยูมิใชเลน พอคุณสายรองวายทีหนึ่ง ผาด ก็พลั้ง ทีหนึ่งดวยถอยคําแปลกๆ เปนตนวา ตาเถน ! บาง กระโถนหก ! บาง แมแตของอื่นซึ่งไมนาตกหรือหก ได ผาดก็ นําเอามาตกและหกลงในเรือทุกครั้ง ที่เรือเอียงแมแตนอย พลอยวายน้ําเปนมาแลวจากตีนทาหนา บาน ฉะนั้นจึงไม กลัวเรือลม แตนั่งดูความกลัวของคุณสาย และคําพลั้งของผาดอยางสนุกเต็มที่ เมื่อปรากฏวา คุณสายรองวาย ทีหนึ่ง ผาดก็พลั้งทีหนึ่ง พลอยก็นั่งภาวนาในใจใหเรือเอียงบอยๆ เพราะอยากไดยินวาผาดจะ พลั้งวาอะไรตอไป ระหวางที่เรือกําลังแจวขามแมน้ํา คุณสายและผาดซึ่งนั่งหัวเรือและทายเรือก็รองรับกันอยู เรื่อยๆ จนตาแก ซึ่งเปนคนแจวเรือออกสนุก เคี้ยวหมากไปและหัวเราะหึๆ อยูในคอ พลอยเหลียวไปดูตาแกก็ ยิ้มแลวพยักหนาให ทันใดนั้นก็วาดแจวใหเรือเอียงอยางนากลัว เปนเหตุใหคุณสายรองดังกวาปกติ และผาดก็ พลั้งยืดยาวกวาธรรมดา การเปนไปอยางนั้นจนเรือเขาคลองบางหลวง จึงคอยสงบลง เพราะเรือแจวเลียบริม ตลิ่งไปใกลๆ เมื่อวันที่แมพาออกจากบานพลอยรูสึกวาไกลแสนไกล แตขากลับไปเยี่ยมบานนี้ พลอยรูสึกวาระยะทาง ใกล ไปหมด นั่งเรือมาไดครูเดียว ก็แลเห็นศาลาทาน้ําลิบๆ และในระยะเวลาอีกไมนานนัก พลอยก็เห็นเด็กสอง คน โหนศาลาทาน้ําอยู คนหนึ่งนั้นคือคุณเชย คุณเชยคนเกาที่ยังมิไดเปลี่ยนแปลงไปเลย อีกคนคือพอเพิ่ม พี่ ชายรวมทองของพลอย ซึ่งยังเหมือนคนเกาอยูเชนกัน พลอยรูทันทีวา ตั้งแตตัวจากไปแลว คุณเชยคงไมมีใคร จะเลนดวย ตองหันมาเลนกับพอเพิ่ม ระหวางที่เรือแลนเขาไปยังตีนทานั้น คนทั้งสองที่อยูบนศาลา ยังมิไดทันสังเกตวาใครอยูในเรือ แตพอ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy104_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๔ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 5

เรือ จะเขาเทียบทา พอเพิ่มก็เหลียวมาเห็นพลอยเขากอน พอเห็นพลอยตาพอเพิ่มก็เบิกกวาง อาปากรองลั่นวา "คุณเชย ! ดูซี ใครมานั่นแนะ" ฝายคุณเชย เมื่อไดยินเสียงพอเพิ่มก็เหลียวมาดู พอเห็นพลอย คุณเชยก็เกาะเสาดวยความดีใจรองวา "แมพลอย ! แมพลอยมาแลวๆๆ" รองซ้ําๆอยูดังนั้น คุณสายและพลอยขึ้นบันไดไปบนศาลา คุณสาย ถามขึ้น กอนวาพอเพิ่มเปนใคร พอพลอยบอกคุณสายก็วาเคยเห็นมาแตยังแบเบาะ สวนคุณเชยนั้นคุณสายบน อุบอิบอยู ในคอวา กิริยาอยางกับเด็กผูชาย เมื่อไดความวาเจาคุณพอกําลังลงมาดูไมดัดอยูขางตึก คุณสายก็ ตรงเขาไป มีผาดถือหีบหมากตามหลังไปติดๆ ตอจากนั้นก็มีพลอยเดินกลาง คุณเชยและพอเพิ่มเดินขนาบขาง สนทนาทักถามกันอยางตื่นเตนเปนที่สุด หลังจากที่ไมไดพบกันมาเปนเวลานาน เจาคุณพอกําลังเดินดูไมดัดอยูขางตึกจริงๆ อยางที่คุณเชยไดบอกไว พลอยเองก็รูอยูแลววา ตามปกติ เจาคุณพอตื่นแตเชาแลวก็ลงขางลางเดินเลน หรือดูตนไมที่ปลูกอยูจนสายจึงกลับขึ้นตึก วันนั้นพลอยรูสึกวา เจา คุณพอกําลังสบายอารมณ เพราะเดินชาๆดูไมดัดอยางพินิจพิจารณา เจาคุณพอแตงกาย อยางอยูกับบาน คือ นุงผาลอยชาย แตพอเห็นคุณสายซึ่งเปนคุณขางใน เดินตรงเขาไป เจาคุณพอก็ใชเทาขางหนึ่ง ตวัดชายผาขึ้น มาเปนโจงกระเบนไดอยางแคลวคลอง พลางพนมมือรับไหวคุณสาย ซึ่งทรุดตัวลงนั่งไหว แลวก็ถามขึ้นวา "คุณสบายดีหรือ มาธุระอะไรแตเชา" แลวก็เหลือบมาเห็นพลอย เจาคุณพอก็ยิ้มดวยแลวทักวา "อาว พลอยก็มา ทาทางเปนชาววัง ผิดไปแทบจําไมได" หลังจากทักทายปราศรัยกันตามธรรมเนียมแลว เจาคุณพอก็เชิญคุณสายขึ้นบนตึกดานหนา สวนพลอย ซึ่งยังขนาบขางดวยคุณเชยและพอเพิ่มก็ตามขึ้นไปดวย คุณสายเขาไปนั่งพูดอยูกับเจาคุณพอ ที่เฉลียงใหญ หนาตึก สวนพลอยและคุณเชยและพอเพิ่มหยุดตรงบันไดใกลๆกัน "แมพลอย" คุณเชยกลาวขึ้น "ฉันคิดถึงออกจะตายไป แมพลอยไปอยูในวังเปนอยางไรบาง สนุกไหม" "ฉันก็คิดถึงคุณเชยมากเหมือนกัน" พลอยตอบ "อยูในวัง สนุกสนุก ฉันอยากใหคุณเชยไปอยูดวย จะได เลนดวยกัน" "เฮอ ! ชาววังรังกะตุย" คุณเชยพูด "ไมเอาหรอก หมอบๆคลานๆ สูอยูบานไมได สบายกวา" "พลอยพบแมบางหรือเปลา" พอเพิ่มถาม "แมเขามาหาฉันหลายหนเหมือนกัน" พลอยตอบ "แลวพอเพิ่มละ" "ฉันก็พบสองสามหน" พอเพิ่มพูด "แมแกมาเรือ แตไมยอมขึ้นบาน ใหคนมาเรียกฉันลงไปคุยในเรือ ครง หลังนี่แกบอกฉันวา ... อา... พลอยรูเรื่องแลวไมใชรึ" พอเพิ่มไมยอมพูดเรื่องแมไปมีสามีใหม แตพลอยก็เขาใจ และรูสึกกระดากคุณเชยขึ้นมาทันที แตครั้นเหลือบไปดูคุณเชย เห็นนั่งทําเปนไมรูไมชี้ จึงตอบพอเพิ่มวา "รูแลวละ แลวทางนี้เขาวาอยางไรกัน" พลอยลดเสียงลงเปนกระซิบ "อยาเอะอะไป" พอเพิ่มกระซิบตอบ "ใครก็ไมรูไปบอกเจาคุณพอ ทานโกรธใหญ เลยสั่งหามฉันวา ถาแม มาหาอีกไมใหลงไปพบ ถาขืนไมฟงทานจะไลออกจากบาน" พลอยสงสารพอเพิ่มขึ้นอยางจับใจ เพราะพลอยเพิ่งรูวาพอเพิ่มอาจไมมีโอกาสไดพบแมอีก สวนพลอย นั้น เมื่ออยูที่ตําหนักเสด็จ อาจมีโอกาสพบแมไดบอยๆ เพราะที่นั่นมีแตคนที่รักแม คงไมมีใครหามปราม "แลวพอเพิ่มเปนอยางไรบาง" พลอยถามตอ "เดี๋ยวนี้พอเพิ่มอยูกับใคร" "ก็สบายดี ไมเปนไรหรอก" พอเพิ่มตอบ "เจาคุณพอทานใหฉันขึ้นมานอนที่เฉลียงหลัง ขางหองนอนทาน ทีแรกฉันจะไปอยูกับคุณชิต แตทานไมยอม ทานวาคุณชิตจะทําเสีย" "ฮึ ! " คุณเชยรองสอดขึ้นมา "ก็จริงๆของทานนะแหละ คุณชิตชนออกจะตายไป เกิดเรื่องไมไดหยุด" "คุณเชยหาเรื่อง" พอเพิ่มไมยอมเห็นดวย "ก็คุณชิตเธอโตแลว จะใหเหมือนเราเด็กๆไดอยางไร" "ฉันไมรูละ" คุณเชยเถียงอยางไมฟงเสียง "เจาชูออกจะตายไป ฉันเกลี๊ยดเกลียด หนาก็ไมอยากมอง คุณ ใหญซีรักคุณชิต ขออะไรแอบใหกันทุกที ไมใหคุณพอรู" พอไดยินคุณเชยเอยถึงคุณอุนพี่สาวใหญพลอยก็ใจเสีย เกิดหนักใจขึ้นมาทันที เมื่อกลับมาเยี่ยมบานนั้น พลอยดีใจวาจะไดพบพวกพี่รุนเดียวกัน และจะไดเห็นสิ่งแวดลอมตางๆที่เคยชิน ยังลืมไมไดนึกถึงคุณอุน แตพอ คุณเชยพูดถึงก็หนักใจ เพราะรูวาอีกประเดี๋ยวเจาคุณพอก็คงสั่งใหเขาไปพบ "เสด็จทรงพระเมตตาพลอยมาก" เสียงคุณสายพูดกับเจาคุณพอ "แตก็ทรงเห็นวาพลอยก็เปนลูกเจาคุณ เมื่อถึงคราวจะโกนจุก ก็ไมแนวาเจาคุณจะประสงคอยางไร จึงใหฉันออกมาเรียนถาม" "ผมระลึกถึงพระเดชพระคุณเสด็จอยูเสมอ ที่ทรงพระกรุณาชุบเลี้ยงลูก ลูกคนนี้เมื่อถวายแลวก็ขอถวาย ขาด แลวแตเสด็จจะทรงเห็นอยางไร ผมไมขัดทั้งนั้น ที่จะทรงพระเมตตาโกนจุกประทาน ผมก็ยินดีเปน เกียรติยศแกเด็ก ถากําหนดวันเมื่อถึงเวลา ก็ใหคนมาบอกแลวกัน" "ดิฉันก็นึกแลววาเจาคุณคงไมขัด แลวก็ไดทูลเสด็จไวแลว แตทานรับสั่งใหมาถามเสียกอน เพราะเปนลูก เจาคุณ แลวดิฉันจะเขาไปกราบทูลอยางที่ทานเจาคุณพูด" "อาวนีพลอยไปไหน" เสียงเจาคุณพอถามหา พลอยไดยินเสียงก็โผลหนาเขาไปจากบันได แลวก็คลาน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy104_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๔ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 5

ขึ้น ไปนั่งขางๆคุณสาย เจาคุณพอยิ้มมองดูพลอยแลวก็พูดวา "กิริยามารยาทดูเรียบรอยขึ้น เห็นจะไดอาศัยคุณชวยขัดเกลา ผมก็ขอฝากใหคุณชวยกวดขันใหดีดวย อยาไดเกรงใจเลย" คุณสายอมยิ้มมองดูพลอยแลวก็นิ่งไมพูดวาอะไร อีกครูหนึ่ง วาระที่พลอยนึกกลัวอยูก็มาถึง เจาคุณพอ กลาวขึ้นวา "พลอย ไปหาแมอุนเขาเสียซี เขาบนถึงอยูเหมือนกัน" แตทั้งที่พลอยไมไดสมัครใจเลยเชนนั้นก็ตาม เมื่อเปนคําสั่งของเจาคุณพอ พลอยก็จําตองปฏิบัติ ตามอยาง ไมมีทางหลีกเลี่ยง พลอยคลานขามเฉลียงเขาไปยังหองกลาง แลวก็เดินเลาะฝาตรงไปยังหองคุณอุน แตละกาวที่เดินไปนั้น ชางรูสึกฝนใจเสียเต็มประดา คุณอุนนั่งอยูกลางหองที่เกาเหมือนกับวันที่พลอยมาลาไปจากบาน ทุกอยางที่อยูในหองนั้น ก็คงอยูอยาง เดิมมิไดเปลี่ยนแปลง ตลอดจนความมืดครึ้มทั่วไป ซึ่งคุณอุนเห็นวาเปนของจําเปนในการบมผิว มิใหกราน ตรง หนาคุณอุนมีหีบเหล็กใบหนึ่ง ซึ่งพลอยรูวาเปนหีบเครื่องเพชร เพราะคุณอุนกําลังหยิบแหวนเพชร หลายวงจาก หีบนั้นขึ้นมาใสนิ้ว แลวก็เหยียดแขนออกไป ใหมือถูกแสงสวาง พลางพลิกมือไปมา เพื่อใหเพชรพลอยที่แหวน ถูกแสงสวางเปนประกาย พอเห็นพลอยเขาไปในหอง แลวกมหัวลงไหวกับพื้น อยางนอบนอม คุณอุนก็ปดหีบ นั้นอยางรวดเร็วและแรง จนมีเสียงดังเหมือนกับพลอยจะเขาไปแยงชิงของจากหีบ พลางรองขึ้นวา "แหม ! แมชาววัง ! กลับมาเมื่อไรยะ นี่ตองซมซานกลับมาแลวซี" พลอยก็อัดอั้นตันปญญา ไมรูจะโตตอบกับคําบริภาษอยางไรถูก ไดแตกมหนามองพื้น "มาจากที่ไหนก็เชิญแมกลับไปที่นั่นเถิด" คุณอุนพูดตอไป อยางไมลดละ "ฉันมากับคุณปาสายคะ" พลอยตอบอยางลอยๆ เพราะอยากจะบอกใหคุณอุนรูวา มิไดกลับมาอยูเลย อยางที่เธอเขาใจ "โอย ! วงศวานวานเครือมากเสียจริงๆ ! " คุณอุนรอง "ไมตองเอามาขูฉันหรอกฉันกลัวแลวละ แลวมา ธุระอะไร" คุณอุนถามขึ้นในที่สุด เพราะความอยากรู "เสด็จใหมาเรียนถามเจาคุณพอเรื่องโกนจุก" พลอยตอบ "จุกใคร จุกหลอนนะรึ ฮะ" คุณอุนหัวเราะอยางประชด "เสด็จจะโกนจุกประทาน" พลอยตอบดวยเสียงที่เบาเกือบจนจะไมไดยินอยูแลว "ก็ดีแลวนี่จะตองมาบอกฉันทําไม" คุณอุนพูดแลวก็สะบัดหนา "เจานายใหญโต โกนจุกประทานจึงจะสม กับ คนใหญคนโตอยางหลอน บานฉันมันเล็กไป ไมพอรับญาติพี่นองขางแมหลอนหรอก" พลอยไดยินคุณอุนพูดถึงแมก็เสียใจ เพราะไมรูวาคุณอุนจะพูดอะไรใหเจ็บช้ําน้ําใจตอไปอีก จึงเปลี่ยน เรื่องพูดวา "เจาคุณพอใหดิฉันเขามาหาคุณพี่" "ก็ยังงั้นซี" คุณอุนพูดสวนขึ้นมาทันที "อยางแกจะมาหาฉันเองละก็ไมมีเสียละ สันดานลูกเสือลูกตะเข ก็ ตองคอยแวงเอามือที่ขุนมันนะแหละ" พลอยรูสึกตัววาหมดความอดทน เพราะคุณอุนวาไดวาเอาอยางไมมีทางสู และเมื่อคุณอุนถึงกับเปรียบ ตัวเองวาเปนมือที่เคยขุนตัวมา พลอยก็ยิ่งช้ําใจ เพราะไมเคยไดรับความอุปการะอยางใดจากคุณอุนเลย ตั้งแต เกิดมาเปนตัว ขณะนั้นพลอยกมหนานิ่ง รูสึกตัววาน้ําตารอนๆเริ่มจะไหลออกมา ถาขืนอยูตอไปก็มีทางที่ คุณ อุนจะหาเรื่องเอาไดอีก จึงกมตัวลงไหวแลวก็คลานออกนอกหอง สวนคุณอุนนั้นพอถึงตอนนี้ ก็นั่งเมินหนาเฉย ทําไมเห็นเอาทีเดียว ระหวางที่อยูในหองกลางบนตึก พลอยก็รีบเช็ดน้ําตาใหแหง เพราะไมอยากใหเจาคุณพอแลเห็น แตพอ ถึงเฉลียงเห็นเจาคุณพอ กําลังนั่งคุยกับคุณสายถึงเรื่องเกาๆในวังอยู พลอยก็รีบคลานผานไปยังที่ๆคุณเชย กับ พอเพิ่มนั่งอยูตรงบันได พอเพิ่มเห็นหนาพลอยก็รูวามีอะไรเกิดขึ้น แตไมกลาพูดจาไตถามอะไร คุณเชยก็เดาออกเชนเดียวกัน เพราะเบะหนาแลวกระซิบกับพลอยวา "โดนเขาแลวใชไหมแมพลอย ฉันนึกแลวไมมีผิดทีเดียว คนอะไรก็ไมรูใจยักษใจมาร ฉันอยูทางนี้ยังโดน ดา ไมเวนแตละวัน ทําอะไรเปนผิดไปหมด ถาตายเสียเมื่อไรฉันจะดีใจ" พลอยไดยินคุณเชยแสดงความเห็นใจ จนถึงแชงคุณอุนใหตาย ก็อดยิ้มไมได "จริงๆนะ แมพลอย ใหฉันโตอีกหนอยเถอะ ฉันไมยอมหรอก" คุณเชยพูดอยางเอาจริง ขณะนั้นคุณสายคุยกับเจาคุณพอหมดเรื่อง ทําอาการหยิบโนนหยิบนี่เหมือนกับจะเตรียมตัวกลับ แลวก็ เหลียวมากวักมือเรียกพลอย ใหเขาไปลาเจาคุณพอ ซึ่งพลอยก็ปฏิบัติตามอยางเต็มใจ เพราะความตื่นเตน ที่ได จากการมาเยี่ยมบานนั้นหมดสิ้นไปแลว นับแตขณะแรกที่โผลหนาเขาไปหาคุณอุน เจาคุณพอเรียกพลอยเขาไปถึงตัว พลอยกมลงกราบชิดกับขาเจาคุณพอ และรูสึกวามือเจาคุณพอ ลูบหัว เบาๆ พรอมกับเสียงเจาคุณพอพูดวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy104_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๔ (หนาที่ ๒)

Page 5 of 5

"รักษาตัวใหดีๆนะพลอย ถึงอยางไรๆเจาก็ยังเปนลูกพอ" แลวคุณสายก็พาพลอยลงจากตึก เดินกลับไปลงเรือ มีคุณเชยกับพอเพิ่มตามมาสงถึงตีนทา กอนจะลง เรือ คุณเชยยังกระซิบสั่งเปนครั้งสุดทายอีกวา "ลากอนนะ แมพลอย ไวฉันโตอีกหนอย ฉันจะเขาไปหาใหถึงในวัง"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy104_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑) ตั้งแตกลับจากบานครั้งที่ไปกับคุณสายนั้นแลว ชีวิตของพลอยก็คงอยูอยางเดิมตอไป ที่มีเปลี่ยนแปลง จน พลอยสังเกตเห็นไดงายก็คือ เสด็จทรงสนพระทัยในตัวพลอยมากกวาแตกอน รับสั่งถามพลอยในเรื่องตางๆ ที่ พลอยทําอยูทุกวันนั้นบอยครั้ง และทุกคราวที่เสด็จจะทรงทําสิ่งใดเปนพิเศษ ก็มักจะรับสั่งใหหาพลอย ใหขึ้นไป เฝาเพื่อจะไดเห็นไดทําการฝมือตางๆไวเปนความรู พลอยเริ่มรอยมาลัยเปน ถึงจะยังไมงาม ก็พอเขารูป คุณสาย หัดใหพลอยปอกมะปรางริ้ว ซึ่งตองลงทุนไปดวยมะปรางเปนอันมาก และแผลที่นิ้วมือของพลอย หลายแผล และ เมื่อพลอยปอกมะปรางพอแลเห็นริ้วได เสด็จก็รับสั่งใหหาขึ้นไปปอกถวายทอดพระเนตร และทรงตักเตือนสั่ง สอนวิธีปอกใหหลายอยาง จุดสนใจเปนที่สุดก็คือ การโกนจุกที่จะมาถึงตอไปในเวลาอีกหกหรือเจ็ดเดือนขางหนา งานโกนจุกนั้น เสด็จ รับสั่งใหมีที่บานชอย และใหพอของชอยเปนเจาของงานรวมกับคุณสาย เสด็จประทานอุปการะในเรื่องคา ใชจาย ทั้งหมดในงาน และของแตงตัวของเด็กทั้งสองคนนั้น จัดออกไปจากตําหนัก ตั้งแตเครื่องแตงตัวฟงสวด มนต ไปจนถึงวันโกนจุกและทําขวัญ เสด็จสนพระทัยมาก และทรงสนุกในการคาหาเครื่องแตงตัวของชอยและ พลอย ใหเขาชุดกัน ถึงกับตองเรียกคุณสายขึ้นไปปรึกษาเรื่องนี้อยูบอยๆ ยิ่งใกลวันเขามา เรื่องโกนจุกเด็กทั้ง สองคน ก็ดูจะเปนเรื่องใหญขึ้น กลายเปนธุระหนานที่ใหตองวุนวายกันไปทั้งตําหนัก เปนเหตุใหขาหลวงใน ตําหนัก หลายคนที่โตๆเปนสาวแลว เรียกงานโกนจุกนั้นวา "งานโสกันตแมพลอย" บาง หรือ "งานโสกันต แมชอย" บาง ตามแตจะนึกออก แตทุกคนก็มิไดรังเกียจ เพราะตางคนตางก็นึกสนุกอยูดวยกัน มีคนสมัครออก ไปชวยงาน กับคุณสายที่บานชอยก็หลายคน แตแรกๆ พลอยก็มิสูจะสนใจเทาไรนัก เพราะยังมองไมเห็นวาตัวเองจะเกี่ยวของอยางไร และนึกไปไมถึง วา จะเปนบุคคลสําคัญในงานนั้นเพียงไหน ที่พลอยดีใจวาจะไดโกนจุกนั้น ก็เพราะวาจะไดหมดจุก อันเปนภาระ ที่ตอง เกลาวันละหลายหนนั้นประการหนึ่ง เมื่อโกนแลวก็จะไดพนการทรมานจากการโกนศีรษะสวนอื่นโดยมีด โกนทื่อๆ ซึ่งทําใหตองเจ็บ และการถอนไรจุกบางครั้ง ซึ่งเจ็บไปกวาเปนประการที่สอง และประการที่สามที่ออก จะสําคัญ มากก็คือ ผูที่โกนจุกแลวนั้นนับวาไดกาวยาง พนความเปนเด็กออกไปอีกขั้นหนึ่ง ซี่งเปนสิ่งที่ควรจะ สบายใจ เพราะการพนจากภาระที่เปนเด็ก ที่ตองถูกดุถูกวาอยูเปนนิจ แลวไดเปนผูใหญที่อิสระแกตัวทําอะไรทํา ไดนั้น เปนของที่พลอยเรงวันเรงคืนใหถึงเร็วๆอยูไมนอย สวนชอยนั้นดูไมคอยสนใจตอรายละเอียดเรื่องโกนจุก เทาไรนัก สิ่งที่ชอยคอยวันคอยคืนอยูนั้น คือการที่จะไดกลับออกไปอยูที่บานชั่วคราวในระหวางงาน ซึ่งคุณสาย บอกวา จะตองไปอยูถึง ๗ วันเปนอยางเร็ว อยางชาก็ ๑๐ วัน เพราะไหนจะตองไปเตรียมงาน แลวก็จะตองมี เวลาเก็บของ อีกสองสามวัน จึงจะกลับเขาวังได พลอยเห็นความดีใจอยางมากมายของชอย ที่จะไดกลับบาน แลวบางครั้งก็อด นึกอิจฉาไมได เพราะตั้งแตชอยรูวาพลอยจะไดออกไปคางที่บานดวยกัน ชอยก็เริ่มคุยอวด คุณสมบัติวิเศษตางๆ ที่บานตน จริงบางไมจริงบาง ตามประสาเด็กที่รักบาน ซึ่งเคยไดรับความสุขจากพี่นอง ที่ หอมลอมอยูทางบาน เทาที่ไดฟงชอยคุย พลอยก็รูไดวาบานชอยไมใหญโตกวางขวาง เทากับบานฟากขางโนน ของตน แตพลอยก็รูตัว วาไมอยูในฐานะที่จํานําเรื่องทางบาน เลาอวดชอยและชวนชอยไปคางบานเปนการตอบ แทนได เพราะแมแต ตัวพลอยเองจะไดกลับไปอีกหรือไมก็ไมแนใจ ถาทางบานฟากขางโนนมีเพียงเจาคุณพอ คุณเชยและพอเพิ่ม ถึงแมจะอยูหรือไมก็ไมสูกระไรนัก แตการที่มีคุณอุนอยูที่บานนั้นดวย และอยูในฐานะเจาของ บาน ทําใหพลอย ไมกลานึกอาจเอื้อมไปถึงได ความสนใจของพลอยเกี่ยวกับการโกนจุกมาเพิ่มขึ้น จนเขาขีดตื่นเตนก็เมื่อใกลวันงานเขาไปอีก ถึงตอนที่ เสด็จเริ่มทรงจัดของแตงตัวประทาน ความตื่นเตนของพลอยเริ่มมีขึ้น เมื่อเห็นของแตงตัวที่ถูกเตรียมไวสองชุด เกี้ยวที่ทําดวยทองคําประดับเพชรพลอยแวววาม ผายกทองสีสดที่พลอยจะไดนุง ชวนตาใหตองชําเลืองคอยดู บอยๆ ครั้นแลวก็ถึงตอนปกนวม ซึ่งทั้งสองคนจะตองสวมรอบคอในงานนั้น ในขั้นแรกคุณสายเรียกพลอยละชอย ไปวัดคอและสวนกวางของไหล ใหไดขนาดที่จะเย็บนวมนั้นดวยผา ตอจากนั้นไปก็เปนเวลาที่จะตองตรึง เครื่อง เพชรตางๆ เขาไปกับที่เย็บไวนั้น มีแหวนสายสรอยจี้ ตลอดจนของอื่นๆ อีกเปนอันมาก ซึ่งมารวมกันเขา ทําให นวมนั้นกลายเปนอาภรณที่แพราวพราวไปดวยเพชรนิลจินดา พลอยเห็นความพยายามของคนทั้งตําหนัก ตั้งแต เสด็จลงมาที่จะชวยกันทําใหตน ไดแตงกายอยางสวยงามที่สุดในงานโกนจุกนั้นแลว ก็อดที่จะปลื้มใจเสียมิได และความรูสึกที่สําคัญนั้นก็คือ ถึงแมวาแมของตนจะอยูไกล มีอุปสรรคกีดขวางมิใหพลอยไปมาไดสะดวกก็ตาม แตก็ยังมีเสด็จซึ่งเปนเจานายใหญโต และคนอีกกลุมหนึ่งที่ยังมีความเมตตาตอตน เห็นพลอยเปนคนที่ยังมีความ สําคัญอยู

http://www.geocities.com/siamstory/ploy105.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 5

พอถึงกําหนดวันงานเขาจริง คุณสายก็บอกใหรูวา จะตองพาพลอยและชอยออกไปอยูที่บานขางนอกวัง กอนวันงานถึงเจ็ดวัน เพราะมีเรื่องที่จะตองทํามากมาย คุณสายรับตรงๆวาไมไวใจพี่สะใภ คือมารดาของชอย ผู อยูทางบาน บอกวาเปนผูที่มีอารมณดีเกินไป ดีแตนั่งนัดยานัตถุ ถาปลอยใหเปนผูอํานวยการของงานที่จะมีขึ้น โดยคุณสายไมออกไปดูเอง งานนั้นอาจลมเหลวทั้งงานก็ได เพราะเหตุนั้น คุณสายจึงพาพลอยและชอยขึ้นไปทูลลาเสด็จพรอมกัน และหอบขาวของพะรุงพะรัง ออก จากประตูวังในเชาวันหนึ่ง มีพลอยชอยและผาดพรอมดวยคนอื่นๆ ที่สมัครใจไปชวยงาน ติดตามถือของไป พรอมกัน ที่หนาประตูวังชั้นนอกมีรถมาคอยอยูสองคัน พี่เนื่องยืนยิ้มกํากับอยู บอกวาคุณพอใหมารับ คุณสาย ขึ้นรถมาคันเดียวกับเด็กๆ และพี่เนื่องพรอมกับหีบของแตงตัวตางๆ ที่คุณสายไมยอมใหใครถือ สวนคนอื่นๆนั้น ขึ้นรถมาอีกคันหนึ่งตามมาติดๆกัน ระหวางทางชอยก็คุยกับพี่เนื่อง มาตลอด สวนพลอยนั้นนั่งมองสิ่งตางๆสอง ขางทาง ดวยความตื่นเตนอยูไมนอย เพราะครั้งนี้เปนอีกครั้งหนึ่ง ที่พลอยเดินทางไปในทางที่ไมเคยผานในชีวิต รถมาสองคันแลนฝุนตรลบมาเปนเวลาที่พลอยรูสึกวา นานเอาการ ทุกครั้งที่คนขับลงแสมา หรือเพียง ขยับแสที่ปกไวขางๆตัว คุณสายก็รองตะโกนบอกวา "อยาไปทํามันเลยบาป" ครั้งแรกๆ ที่คุณสายเขาขางมาลากรถ พี่เนื่องก็ไดแตมองดูหนาพลอยและชอยแลวยิ้ม แตเมื่อคุณสาย รอง บอยเขาจนเปนระยะ ทั้งสามคนก็ตองกลั้นหัวเราะกันอยางสุดกําลัง เพราะกลัวคุณสายจะดุ พลอยนั้นดู เหมือนจะ อาการหนักกวาเพื่อน เพราะไปนึกถึงความเอะอะของคุณสาย ตอนนั่งเรือเขามาประกอบดวย จึงตอง นั่งกลั้นหัวเราะ จนเกือบทนไมได ในที่สุดรถก็มาจอดอยูริมถนน ตรงปากตรอกซึ่งมีสะพานยาว ทําดวยไมกระดานเปนทางเดินเขาไปขาง ใน ชอยรองขึ้นวา "ถึงแลว ! " แลวก็ลงจากรถกอนคนอื่น จนคุณสายตองดุใหระวังกิริยาจะลงจากรถ เมื่อทุกคน ลงจากรถ คุณสายสํารวจขาวของจนครบถวนแลว ก็พากันยกกระบวนเดินไปตามสะพาน ซึ่งตองเดินเรียงหนึ่งมี คุณสายนําหนา และมีผาดหอบขาวของมากกวาคนอื่นเดินรั้งทาย อีกครูหนึ่งก็ถึงบานชอย แลเห็นคุณพอของ ชอย ยืนยิ้มคอยรับอยูบนหัวบันไดเรือน บานชอยเปนบานแบบโบราณ อันประกอบดวยเรือนฝากระดานหลายหลัง เชื่อมตอกันตลอดดวยนอก ชาน เบื้องลางเปนใตถุน มีสัมภาระตางๆกองไวบาง แตไมถึงกับรก พอพวกที่ไปถึงขึ้นบันไดเรือน แมของชอยก็ กระวีกระวาดออกมาคอยรับอีกคนหนึ่ง พลอยเพิ่งจะมารูจักชื่อพอแมของชอยในวันนี้ ดวยไดยินคุณสายเรียก พอของชอยผูเปนพี่วา "พี่นพ" และเรียกแมของชอยผูเปนพี่สะใภ "แมชั้น" เฉยๆ เพราะแมของชอยนั้นดูเหมือน จะมีอายุออนกวาคุณสาย พลอยกะวาเปนคนรุนราวคราวเดียวกับแมของตน ชอยเห็นแมของตัวก็วิ่งเขาไปกอด รัดอยางแรง จนแมชั้นตองหัวเราะแลวรองวา "ชอย ! ระวังหนอย เดี๋ยวแมตกกระไดตาย ! " แตความดีใจของชอยที่ไดพบปะบิดามารดา ดูเหมือนจะกินเวลาไมนานนัก เพราะพอขึ้นไปบนเรือน และ ลงนั่งพูดจากันไมไดนาน ชอยก็สะกิดพลอยแลวกระซิบวา "พลอย ไปขางลางกันเถิด" วาแลวชอยก็ลุกขึ้น พาพลอยเดินเลาะลัดไปลงบันไดหลัง โดยที่ผูใหญไมทันสังเกต เมื่อลงบันไดแลว ชอยก็พาพลอยวกเขาใตถุนเรือน ตรงไปยังแครเกาๆตัวหนึ่งที่วางอยู บนแครมีสุนัขพันธทางสีขาวดางน้ําตาล เปนขี้เรื้อนจนขนรวงไปหมดหลายแหง นอนอยูอยางสบาย พอชอยเห็นก็รองขึ้นอยางดีใจวา "อีดาง ! " สวน สุนัข นั้นก็ลุกขึ้นกระดิกหางอยางดีใจ ที่ไดพบชอยเชนเดียวกัน "อีดาง ! เอ็งคิดถึงขาบางไหม" ชอยถามแลวก็ตรงเขากอดสุนัขนั้นอยางปราศจากความรังเกียจ สวน "อี ดาง" ก็ตอบคําถามของชอย ดวยวิธีเลียตลอดตั้งแตศีรษะลงไปจนถึงปลายแขน พรอมดวยการกระดิกหาง อยาง แรงไปมา "นี่ไงพลอย อีดางของฉัน" ชอยเริ่มแนะนํา "ดูซีไมไดพบกันตั้งนาน มันยังจําฉันไดเลย ทีแรกฉันจะเอาไป ในวังดวยแลว แตคุณอาไมยอม กลัวมันจะไปเหาหนวกหู นาเอ็นดูไหม" พลอยมองดู "อีดาง" แลวก็ไดแตยิ้ม เพราะ "อีดาง" นั้นมีวัยและสังขารเกินนาเอ็นดูเสียแลว จะเปนเพราะ ออกลูกมาก หรืออะไรก็ตามที แต "อีดาง" นั้นผอมโกโรโกโส และเปนขี้เรื้อนมากกวาที่พลอยนึก เมื่อมองเห็นแต ไกล ระหวางที่ชอยยังกอดจูบกับอีดางอยูดวยความสนิทสนมนั้นเอง พลอยก็เริ่มเหลียวมองดูบริเวณบาน ของ ชอยทั่วๆไปดวยความสนใจ บานของชอยเปนบานที่คอนขางจะเกาแก แตก็กวางขวางแสดงฐานะผูอยูวาเปนผูมีอันจะกิน ความจริง บานนี้เปนบานของตระกูลชอย อยูสืบเนื่องกันมาหลายชั่วคน จนบานนั้นมีอายุเหมือนจะมีจิตใจ ของตนเอง และ จิตใจนั้นเปนจิตใจที่เปนมิตร ตอนรับทุกคนที่เขามาในบาน ใหไดรับความรูสึกวารมเย็นอยากอยู ไมคอยอยาก จากไป ในบริเวณบานรมครึ้มไปดวยตนไมใหญ สวนมากเปนตนมะมวง และรอบๆเรือนที่อยูนั้น ตั้งตนไม กระถาง มีไมดัดและไมดอกบางชนิด และมีกระถางบัววางสลับอยูบางเปนระยะ ถาจะวาโดยทั่วไป บานของชอย นั้นผิดกับบานของพลอย อยูในขอที่วาเปนซึ่งคนธรรมดาที่มีฐานะดีอาจอยูได มิไดมีลักษณะอันใด พิเศษนอก

http://www.geocities.com/siamstory/ploy105.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 5

เหนือไปจากนั้น สวนบานของพลอยนั้น ใครก็ตองรูทันทีวาเปนบานขุนนาง เจาของบานตองอยู ในสกุลสูงและมี อํานาจวาสนา แตที่ผิดกันมากจนพลอยสังเกตเห็นไดชัด นับตั้งแตเวลากาวเขามาในบานก็คือ ที่บานนี้ทุกคน เปนเจาของบานรวมกัน อยูใตหลังคาเดียวกัน ฉะนั้นเวลามีความสุขก็ยอมจะสุขดวยกัน หรือทุกข ก็ยอมจะทุกข ดวยกัน คนที่อยูในบานนั้น มิไดแยกกันอยูในฐานะเจาบานและคนอาศัย ตนไมทุกตนในบริเวณบาน กระดาน ทุกแผนและเสาทุกตนของตัวเรือน ดูเหมือนจะเปนเครื่องเชื่อมโยงใหเกิดความรูสึกวา ทุกคนเปนเจาของ รวม กันอยูทุกขณะ และคนที่แสดงความเปนเจาของมากที่สุดในขณะนี้ ก็คือ ชอย ผูที่จากบานไปนาน แลวไดกลับมา ใหม "อาว ! พลอยมาอยูนี่เอง" เสียงพี่เนื่องผูซึ่งกําลังเดินขามบริเวณบานตรงมาใตถุนพูดขึ้น พลอยไมเคย รูจัก พี่เนื่องมาตั้งแตเด็ก มารูจักเอาเมื่อพี่เนื่องรุนหนุมเสียแลว และขณะนี้พี่เนื่องก็แสดงอาการกิริยา อยางคนที่ เปนผูใหญกวา พี่เนื่องหวีผมเรียบรอย นุงผาพื้น ถอดเสื้อคาดผาคาดพุงดูทะมัดทะแมง และเมื่อกลับถึงบาน เห็นมีแขกผูหญิงยิงเรือหลายคน พี่เนื่องก็แอบไปลางหนาประแปงมาแลวดวย ชอยพอแลเห็นพี่เนื่องก็ตะโกนถามวา "พี่เนื่อง ! ไหนบอกฉันวาอีดางมีลูกยังไงละ" "ก็มีนะซี" พี่เนื่องตอบ "แตแมใหเขาไปหมดแลวมันรองหนวกหู" "โธ ! พี่เนื่องจะเก็บเอาไวใหฉันดูหนอยก็ไมได" "ฉันจะไปรูเรอะ" พี่เนื่องตอบ แลวก็ปรารภถึงนองสาวผูกําลังกอดกับสุนัขอยูวา "เอา ! กอดกันเขาไปได สกปรกจะตายไป เปนขี้เรื้อนดวย ! " "แน ! " ชอยตอบ "ก็ฉันรักของฉันนี่ ไมไดพบมันนาน ฉันก็คิดถึงบางซี" "พลอยมาทางนี้ดีกวา" พี่เนื่องเรียก "มาดูอะไรนี่แนะ" พี่เนื่องกวักมือเรียกใหพลอยไปทางริมเรือน อีก ดานหนึ่ง พลอยก็เดินตรงเขาไปดูอยางสนใจ พอไปถึงพี่เนื่องก็ชี้ใหดูอางดินและตุมแตก หลายใบที่วางอยู ทุก ใบใสน้ําสะอาดและมีจอกลอย "นี่ไง ปลาเข็มลูกหมอทั้งนั้นเลย ฉันเลี้ยงไวเอง" พลอยกมลงดูในอางอยางสนใจ เพราะเปนครั้งแรกที่เคยเห็น ปลาเข็มตัวโตขนาดนี้ ทุกตัวสีขาวเปนมัน มีจุดแดงที่หางครบลักษณะ พลอยรูสึกวาสวยงามและปราดเปรียวกวาปลาเงินปลาทอง ที่คุณพอเคยเลี้ยงที่บาน "พี่เนื่องเลี้ยงไวดูเลนหรือ ! " พลอยถามอยางพาซื่อ "เปลา" พี่เนื่องหัวเราะ "เลี้ยงไวกัดกัน" พลอยเพิ่งรูเปนครั้งแรกอีกเหมือนกันวา ปลาเข็มนั้นกัดกันได ทําใหเพิ่มความสนใจยิ่งขึ้น พี่เนื่องกวนน้ํา ในอางอีกใบหนึ่ง ใหน้ําหมุนวนอยางแรง แลวก็เอาปลาลงไปปลอยใหวายทวนน้ําใหพลอยดู ทําใหพลอยชอบใจ หัวเราะ และชอยก็วางมือจากอีดางมายืนดูอยูดวย "แตกอนฉันก็มีตั้งหลายตัว" ชอยอวดขึ้นอยางภาคภูมิ "อยามาอวดหนอยเลย" พี่เนื่องขัดคอ "ปลาปาอยางนั้น เขาไมเลนแลวละ" คุณพอของชอยลงจากบันไดเรือนมารวมวงกับเด็กๆดวย และอธิบายใหพลอยฟง ถึงเรื่องการเลี้ยงปลา กัด ปลาเข็มอยางพิศดาร ทําใหพลอยรูสึกตัวยิ่งขึ้นวา ที่บานของชอยมีอะไรอยางหนึ่งที่ตนไมเคยรูจัก สิ่งนั้นคือ ความเปนอยูสนิทสนมของคนในครอบครัว ที่ปราศจากการแตกแยก รวมมือกันไดทุกอยาง ในระหวางพอกับลูก เด็กกับผูใหญ แมแตในเรื่องที่ดูจะเปนของเด็กแทๆ เชนเรื่องปลาเข็ม ตลอดเวลาที่พลอยออกไปคางอยูที่บานของชอย พลอยไดมีโอกาสสนิทสนมกับพี่เนื่องมากขึ้นกวาเกา เพราะพี่เนื่องไมมีหนาที่จะตองตระเตรียมการงานอยางใด วันหนึ่งๆ จึงมีเวลาไดพบปะเลนหัวกับพลอยและชอย มากกวาคนอื่น สวนพอของชอยก็เปนอีกคนหนึ่ง ซึ่งพลอยไดคุนเคยดวยมาก เพราะไมมีหนาที่กําหนดแนนอน เชนเดียวกัน วันหนึ่งๆ ก็ไดแตเดินไปมาขณะอยูในบาน และเมื่อพวกผูใหญซึ่งไดแกคุณสายแมของชอย และคน อื่นๆ ตองตระเตรียมงานกันเปนโกลาหล พอของชอยก็ไมรูจะพูดจะคุยกับใคร จึงตองเลี่ยงมาสมาคมกับเด็กๆ พลอยไมเคยอยูในบรรยากาศที่เปนกันเองเชนนี้มากอน ฉะนั้นระยะเวลาที่ออกไปคางที่บานชอย จึงเปน เวลาที่พลอยระลึกถึงเสมอวา เปนเวลาที่มีความสุขระยะหนึ่ง พอของชอยเปนคนไมพิถีพิถัน มีความเปนอยู อยางงายๆ วันหนึ่งๆ ถาวางก็อยูกับตนไมดอกไมดัด หรือเดินดีดมือกับนกเขา ซึ่งใสกรงแขวนไวตามชายคา เรือน กลายกรง นอกจากนั้นก็นั่งดูลูกวิ่งเลน แมชั้นมารดาของชอยก็เปนคนอารมณดี อยางที่พลอยไมเคยเห็น มาแตกอน มีเรื่องมาใหหัวเราะไดวันยังค่ํา ถาแมชั้นไมหัวเราะกับลูกๆ ก็หัวเราะกับคนอื่น ในที่สุด เมื่อไมมีอะไร หัวเราะ ก็นั่งหัวเราะตัวเอง แมแตคุณสายซึ่งเปนคนเจาระเบียบ ทําอะไรเปนการเปนงาน และไมมีความนับถือพี่ สะใภ ของตน แมแตนอย แตเมื่อออกมาอยูบานไดไมเทาไร ก็ติดตอโรคอารมณดีของแมชั้น ผูเปนพี่สะใภ ตอง พลอยนั่งหัวเราะกับแมชั้นไปดวย ทั้งที่ปากก็บนอยูเรื่อยๆวาแมชั้นมาชวนใหเสียงานเสียการ แตคุณสายโกรธ แมชั้นไมลงสักที บางเวลาที่ทํางานดวยกัน แมชั้นก็มักจะทําอะไรผิดพลาด หรือบางทีเมื่อแมชั้น ออกไปขาง นอกวาจะไปซื้อของ คุณสายก็จะตองสั่งซื้อของที่จําเปนจะตองใช มากมายหลายอยาง ซึ่งตองสั่งเสีย และซัก ซอมกันหลายตรลบ กอนที่แมชั้นจะออกไปจากบานไปได ซึ่งแมชั้นก็ตองรับรองอยางแข็งแรงทุกครั้งไป แตพอ แมชั้นกลับมาถึงบานเขาจริง เอาของที่ไปซื้อมาออกตรวจดู ก็ปรากฏวามีของสําหรับฝากลูก ของสําหรับฝากผัว

http://www.geocities.com/siamstory/ploy105.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 5

ซึ่งแมชั้นเรียกวา "คุณหลวง" ตลอดจนของฝากคุณสายและพวกพองที่ออกมาจากวัง แมแตบาวในบานแมชั้นก็ มีของติดมือมาฝาก สวนของที่มีไมครบบอยๆก็คือ ของที่คุณสายคาดคั้นเปนหนักหนา ใหซื้อมาใหไดนั่นเอง พอ รูวาของไดมาไมครบเพราะพี่สะใภลืมเสีย มิไดซื้อมาตามสั่ง คุณสายก็ตองบนอุบตุบตับ ไปตามเรื่อง แตแมชั้นก็ ไมถือโกรธ กลับนั่งหัวเราะความขี้หลงขี้ลืมของตนเอง จนน้ําหูน้ําตาไหล ที่บานนี้พลอยไดเห็นความรักของบิดามารดา ที่มีตอบุตรนั้นวาอาจมีไดมากมายเพียงใด แมแตพลอย ซึ่ง เปนคนอื่นก็พลอยไดรับสวนแบงแหงความรักนั้นดัวย เพราะมาอยูในบานนี้ในฐานะเปนเพื่อนของลูก ในบานนี้ ไมมีอะไรที่จะดีเกินไปสําหรับเด็กๆ ของกินทุกอยางไมมีของตองหาม ไมมีการปนสวนวาอยางนั้นใหเด็กกิน อยางนี้ใหผูใหญกิน ถาสิ่งใดที่เปนของควรกินควรใช ผูใหญในบานนั้นก็จะตองนึกถึงเด็กกอนที่จะนึกถึงตน การอบรมสั่งสอนเด็กนั้นมีอยูเสมอ แตกระทําดวยการสมาคมกับเด็ก ปลอยใหพูดคุยซักถามไดตามใจ มิใหเด็กรู ตัววากําลังถูกสั่งสอนอบรม ทั้งพี่เนื่องและชอยดูเหมือนจะรักบิดามารดามากกวาสิ่งใดๆ แตขณะเดียวกัน ก็ไมมี เกรงขามอยางที่พลอยเคยรูสึกตอผูใหญอื่นๆ และดวยเหตุที่บานนี้ตั้งอยูบนความรัก ความเห็นใจเปนรากฐาน เริ่มตนในระหวางบิดามารดากับบุตร ความรักนั้นก็แผอิทธิพลไปถึงคนอื่นๆในบานนั้น ไมวาจะเปนญาติโยมหรือ ผูคน บาวไพรตลอดจนแขกที่มาหา ก็มักจะรูสึกวาบรรยากาศในบานนั้น รื่นรมยเปนพิเศษ กระทําใหบานของ ชอยเปนศูนยกลางการสมาคมของคนเปนจํานวนมาก คุณหลวง หรือคุณพอของชอยเปนคนมีเพื่อนฝูงมากมายพอดู และเพื่อนฝูงเหลานี้มักจะมาชุมนุมกัน ใน ตอนบาย จับกลุมคุยกันกลางนอกชาน ซึ่งกั้นหลังคาคลุมไวตอนหนึ่งดวยความสบายอารมณ ตอนบายเปนเวลา ที่บานนั้นเพิ่มความรื่นรมยขึ้นไปอีก เพราะมีเสียงคุยเสียงหัวเราะ ทางเจาของบานก็คอยปฏิบัติ แขกที่มาหา ดวยเครื่องกินเครื่องดื่ม เวลาที่คุณหลวงคุยกับเพื่อนๆดูเหมือนจะเปนเวลาที่แมชั้นมีความสุขหนักหนา พอ เพื่อนๆมาครบวง แมชั้นก็นั่งคอยจัดเครื่องดื่มของแกลมและสิ่งอื่น เชนหมากพลูบุหรี่ สงไปใหมิใหขาดได แมชั้น เก็บตัวอยูในบานไมออกไปรวมสนทนา พอใจที่ตนสามารถปฏิบัติใหสามี และเพื่อนของสามีมีความสุข สบายได แตเพื่อนเหลานี้เปนเพื่อนสนิทเขานอกออกในได ทุกคนสวนมากก็เปนขาราชการหรือบุคคลที่มีฐานะ เทาเทียม กับเจาของบาน ฉะนั้นถึงแมชั้นจะไมออกไป แตละคนก็ตองหาโอกาสยองเขามาที่แมชั้นนั่งทํางาน เพื่อทักทาย ปราศรัยพูดคุยดวยไมเวนแตละคน ความเปนอยูอยางงายและเปนกันเอง แตขณะเดียวกันก็มีระเบียบเรียบรอย เชนที่บานของชอยนี้ ฝงลึก ลงไปในหัวใจของพลอย ความเมตตากรุณาที่คนในบานนี้แสดงตอเพื่อนมนุษยโดยทั่วไป ทําใหพลอยมีความสุข บางครั้งก็รูสึกตื้นตันบอกไมถูก พลอยรักคนทุกคนในบานนี้ เหมือนกับเปนพอแมของตัวเอง และสําหรับพี่เนื่อง พลอยก็ปลอยใหจิตใจหันเขาหา ในฐานที่พี่เนื่องโตกวา แข็งแรงกวา และเปนเพื่อนที่ใหความปกปกรักษาคุม ครองแกตน ไดมากกวาใครๆทั้งสิ้น ในที่สุดวันงานโกนจุกของพลอยและชอยก็มาถึง การตกแตงบานเพื่อมีงานก็สําเร็จลงดวยน้ํามือ ของ เพื่อนฝูง และขาราชการกรมเดียวกับคุณพอของชอย ซึ่งพากันมาชวยงานเปนจํานวนมาก ทําใหแมชั้น ตองใช เวลาทั้งหมดอยูในโรงครัว เพื่อคอยจัดอาหารเลี้ยงคนใหทัน สวนคุณสายนั้นตกเปนภาระตองแตงตัวเด็ก ทั้งสอง คุณหลวงเปนผูอํานวยการพิธีทั้งสิ้น ที่สําหรับพระสวดมนตทําน้ํามนตนั้นจัดไวทางหอนั่ง สวนการโกนจุก ตลอด จนทําขวัญนั้นใหมีที่บริเวณนอกชาน บานชองถูกปดกวาดจนสะอาดสะอานเรียบรอย และคุณสายก็ถือเปน โอกาสที่จะรวบรวมของที่ไรประโยชนตางๆเปนตนวา ชะลอมเกาตะกราขาด และอะไรจุกจิกอีกมากที่แมชั้น ชอบสะสมไวในเรือน เอาออกมากองนอกเรือน แลวสั่งใหจุดไฟเผา พรอมกับบนวา "พี่สะใภฉันนี่แปลก ชอบเก็บของอะไรตออะไรไวจนรกเปนรังหนู ลวนแตของที่ใชไมไดแลวทั้งนั้น" สวนแมชั้นเมื่อเห็นของรุงรังมากมายอยางนั้น ก็ลูบอกตกใจรองอุทานวา "ไมนึกเลย เผลอไปหนอยเดียวเทานั้น บานรกจริงๆ" แตถึงอยางนั้นกอนที่จะจุดไฟเผา แมชั้นก็ขอ อนุญาต เขาสํารวจดูกอน เผื่อวาจะมีอะไรหลงติดเขาไปบาง แลวเริ่มทําทาวาจะเก็บตะกราเกาๆ กระบุงขาดๆ นั้น กลับออกมาอีก จนคุณสายตองหามแลวชวนไปทํางานอยางอื่น สัมภาระที่ไรประโยชนเหลานั้นจึงหมดไป วันฟงสวดมนตนั้นพอตกสายหนอย พลอยและชอยก็ถูกเรียกตัวขึ้นไปหลังเรือนใกลๆ กับที่วางตุมมัง การขังน้ํา เมื่อพลอยและชอยไปถึงก็เห็นคุณสาย แมชั้นและหญิงอีกสองสามคนอยูที่นั่น พรอมที่จะขัดสีฉวี วรรณ ใหแกผูที่จะเขาฟงสวดมนตในบายวันนั้น คุณสายมอบตัวพลอยใหแกแมชั้นพรอมกับบอกวา "แมชั้นอาบพลอยเถอะ ไมสูกระไรนัก แมชอยลูกสาว หลอนนี่ ฉันจะจัดการเอง คนอื่นไมสําเร็จหรอกคอยดูเถอะ" หลังจากนั้นก็เริ่มมีการอาบน้ําครั้งใหญที่สุด ที่พลอยเคยประสบมาในชีวิต ทุกคนที่อยูที่นั่นชวยกันรดน้ํา ทาขมิ้นถูตัวแลวทาขมิ้นอีก เหมือนกับจะไมใหมีฝุนละอองติดอยูอีก พลอยนั่งใหผูใหญอาบน้ําอยู รูสึกวานาน เกินขนาดเทาไรๆ ก็ไมเสร็จ จนรูสึกหนาวและปลายนิ้วมือเริ่มเหี่ยวและเห็นได ผิวหนังนั้นแสบไปทั่ว ดวยแรง ขัดถู และการก็เปนไปตามที่คุณสายไดคาดไว พอพลอยรูสึกวาอาบน้ํามานานเหลือทน ชอยก็เริ่มอาละวาด ใน ขั้นแรกก็เพียงแตรองไหแตเล็กนอย แตครั้นคุณสายไมเลิก ชอยก็เปลี่ยนเปนรองไหดังๆ คุณสายจับเขาตรงไหน ก็สลัดที่ตรงนั้น และในที่สุดเหตุการณก็รุนแรงจนถึงลงดิ้น ภายในเวลาไมนาน รูปการณก็เปลี่ยนไปกลายเปน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy105.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑)

Page 5 of 5

มวยปล้ําระหวางคุณสายและชอย มีแมชั้นเปนคนดู วางมือจากพลอย แลวหัวเราะรวน ดวยความชอบใจอยูอีก ทางหนึ่ง เมื่อชอยไดแผลงฤทธิ์เสียจนคุณสายเปยกปอนไปทั้งตัวแลว ชอยก็เริ่มหัวเราะ อันเปนเหตุใหคุณสาย หมดความอดทน ตองใชอํานาจบาตรใหญ ตีชอยเสียหลายที กอนเรื่องจะสงบลงได หลังจากนั้นก็มีการสํารวจ พลิกหนาพลิกหลังเด็กทั้งสองคนดูวาสะอาดแนแลว จึงลงมติใหขึ้นจากน้ําได การทรมานสิ้นสุดไปขั้นหนึ่ง แตยังไมหมด เพราะอาบน้ําเสร็จแลวก็มีการแตงตัว เริ่มดวยการผัดฝุนเขียนคิ้ว อยางละครรํา คุณสายปรารภวาจะตองผัดหนาใหสวยใหได และตองผัดทีละคน ฉะนั้นพลอยจึงตองเปนคนถูก ผัดกอน ดวยเหตุที่คุณสายวา "พลอยผัดหนากอนเถิด ถึงเสร็จแลวก็ไวใจได ถาผัดแมเจาประคุณชอยเสร็จกอน ประเดี๋ยวก็มอมอีก เลย ไมตองฟงสวดกัน" การผัดหนานั้นก็ทรมานมิใชเลน เพราะผิวหนาที่ถูกขัดถูมาใหมๆ มาเริ่มถูกฝุนทับเขาก็ชักจะแสบ แต คุณสายก็ปลอบวาไมเปนไร ประเดี๋ยวก็หาย ผัดหนาเสร็จแลวก็เริ่มแตงตัว และแตงดวยลักษณะอาการที่ ดู เหมือนจะไมมีวันเสร็จ ระหวางนั้นก็มีเวลาหยุดพักใหกินอาหารกลางวัน ซึ่งมีคนมาประคับประคองคอยปอน แลวก็แตงตัวกันตอไปอีก ของทุกอยางมีน้ําหนักเกินกวาที่พลอยจะนึกถึง พอแตงตัวไปไดครึ่งเดียวก็เริ่มรอน แทบจะขาดใจ เปนเรื่องโกลาหลตองหาพัดมาพัดกันยกใหญ ระหวางที่แตงตัวเกือบจะเสร็จนั้นเอง เสียงทักทาย กัน ขางนอกก็บอกใหรูวาญาติโยมและแขกเหรื่อ กําลังทยอยกันมารวมงานเรื่อยๆ พอแตงตัวเสร็จ คุณสายก็ อนุญาต ใหทั้งสองคนดูรูปโฉมตัวเองในกระจก พลอยเห็นภาพตัวเองก็ตกตะลึง เพราะธรรมดาก็เห็นตัวเองเปน คนสวย หนักหนาอยูแลว แตเมื่อมาเห็นวันนี้เขาก็เกือบจําไมได เพราะภาพที่เห็นนั้น ถูกตกแตงประดับประดา เสียสวยงาม สุดที่จะประมาณ ฝายชอยเมื่อสองกระจกดูหนาตัวเองก็หัวเราะลั่น รองเรียกใหคนอื่นๆ มาดูตัว อะไรก็ไมรู แตงตัวเสร็จแลวสักครู เสียงปพาทยที่นอกชานก็ดังขึ้น แสดงวาพระที่จะสวดมนตมาถึง และกําลังขึ้น เรือน แลวทั้งพลอยและชอยก็ถูกตอนใหออกไปฟงสวด ชอยเดินนําหนาอยางไมกระดาก ถาพบหนาญาติคน ไหนที่รูจัก ก็ยิ้มดวย สวนพลอยนั้นเดินตามหลังมองไปดูคนที่นั่งอยูเรียงราย เห็นไมมีใครสักคนที่รูจักก็สะทอน ใจ สงสารตัวเองที่ไรญาติขาดมิตร เดินกมหนาตามชอยไปโดยดุษณี จนถึงหองพระสวดมนต ทามกลางเสียง พึมพํา ของแขกเหรื่อที่ตางชมวา เด็กสองคนนี้หนาตาดีหรือแตงตัวสวย ซึ่งคุณสายพูดทีหลังวา พอไดยินแลวก็ หายเหนื่อย พี่เนื่องนั่งอยูกับพื้นริมเฉลียงที่จะเขาหองสวดมนต เปนคนๆเดียวที่พลอยรูจัก ในหมูคนที่มาชวยงาน ซึ่ง นั่งเรียงรายอยูทั่ว พอชอยเดินผานจะเขาไปในหอง พี่เนื่องก็มองดูชอยอยางขบขัน ยักคิ้วใหแลวก็หัวเราะ ตอ เมื่อพลอยเดินไปถึง พี่เนื่องซอนยิ้มอยูในใบหนา แลวมองพลอยไปอีกอยางหนึ่ง สวนพลอยก็รูสึกดีใจ บอกไม ถูกที่เห็นพี่เนื่องมองตัวอยางพอใจ เพราะการแตงตัวสวยงามถึงเพียงนี้ พลอยก็อยากใหคนอื่นที่รูจัก และคนที่ พลอยรักไดเห็น ขณะนี้ดูเหมือนจะมีพี่เนื่องคนเดียวที่เปนคนรูจักคุนเคย อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy105.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒) ระหวางที่นั่งฟงพระสวดอยูนั้น พลอยนั่งอยางสงบเสงี่ยมและสํารวม เพราะควันธูปควันเทียน เสียงพระ สวดมนต ซึ่งเทากันตลอดไมมีสูงมีต่ํา ตลอดจนเครื่องแตงตัวที่หนักอึ้งนั้น บังคับใหตองสํารวมอยูแลว โดย สภาพ แตชอยนั้นดูเหมือนจะสํารวมไดนอยกวา พลอยเหลือบตามองดู ก็เห็นชอยนั่งอยูในทาเดียวกันกับตน แต สายตาของชอยนั้นมองไปนอกหนาตาง ดูอะไรตออะไรอยางเพลิดเพลิน มิไดสนใจตอสิ่งแวดลอมที่อยูใกลๆตัว แมแตนอย แตถึงแมวาพลอยจะพยายามระมัดระวังกิริยา เพื่อใหเห็นวาตนสงบเสงี่ยมเรียบรอยอยูนั้นเอง พลอย ก็ตองเสียสมาธิเหลียวไปดูทางนอกชานเรือน เมื่อพระสวดไปไดแลวพักใหญ เพราะที่นั่นมีเสียงคนลุกขึ้น เสียง คนเดินไปมา และเสียงคุณหลวงพอของชอย ทักทายคนหนึ่งผิดปกติ เมื่อเหลียวไปดูก็รูสึกวาความสนใจ ของ แขกเหรื่อทั้งหลายเพงเล็งไปทางประตูขึ้นเรือน และทาทางของคนทั้งหลาย ก็แสดงใหเห็นวา แขกที่เพิ่งจะมาถึง นั้น จะตองเปนผูมีเกียรติที่สําคัญอยู เพราะมีคนที่คอยตอนรับแขกอีกสองสามคน เริ่มกุลีกุจอ เอาพรมผืนเล็กมา ปูเปนอีกพิเศษผืนหนึ่ง เพื่อตอนรับแขกที่กําลังขึ้นบันไดมา พลอยนึกสงสัยวาจะเปนผูใด จึงมีการตอนรับเปน พิเศษผิดกับคนอื่น ถึงเพียงนี้ คนใหญคนโตที่พลอยนึกออกก็เห็นมีแตเสด็จ ซึ่งไมมีทาง จะเสด็จออกจากวังมา รวมงานอยางนี้ไดเลย นอกนั้นยังนึกไมถึง แตทันใดนั้นพลอยก็ดีใจจนรอนซูไปทั้งตัว เพราะคนที่กาวขึ้นบันได มานั้น ไมใชคนอื่นคนไกลเลย แตเปนเจาคุณพอของพลอยเอง ผูซึ่งพลอยมิไดนึกฝนวา จะมาในงานนี้ เพราะ ตั้งแตเริ่มเตรียมงานมา ก็มิไดปรากฏวาทานมาเกี่ยวของ พอเพิ่มตามหลังเจาคุณพอขึ้นมาใกลๆ และมีคุณหลวงตามขึ้นมาเปนคนสุดทาย เมื่อพลอยแลเห็นพี่ชาย ของตัวเองแทๆ ก็ยิ่งทวีความปติขึ้นไปอีก ความรูสึกวาตนเปนไรญาติขาดมิตร ที่มีอยูเมื่อเริ่มงาน ก็หายไปเปน ปลิดทิ้ง เมื่อแรกนั้นพลอยมีความรูสึกซอนอยูวา งานนี้เปนงานของชอย ซึ่งเปนเจาของบาน ถึงแมวาตามความ จริง เสด็จจะไดโกนจุกประทานเทาเทียมกันก็ตาม แตบานนี้เปนบานของชอย คนทั้งปวงที่มา ชวยงานก็เปน ญาติพี่นองหรือมิตรสหาย แหงครอบครัวของชอย พลอยอดนึกไปมิไดวา ตนเองเปนเพียงผูอาศัย ถึงแมวาคน ในครอบครัวของชอย จะแสดงทุกอยางใหเห็นวา พลอยมิไดสําคัญนอยไปกวาชอยเลย ความรูสึกนั้น ยังซอน เรนอยู แตความรูสึกนั้นหมดไปทันใดที่เห็นเจาคุณพอกาวขึ้นเรือน เพราะพลอยมิไดไรญาติขาดมิตร อีกตอไป มีบิดาบังเกิดเกลาและพี่ชายรวมมารดาแทๆ มาในงานนี้ดวย และก็มิไดมาเหมือนกับแขกอื่น ซึ่งไมมีใครสนใจ เทาใดนัก แตมาในฐานที่เปนผูมีเกียรติสูงสุดในงาน เปนประธานในงานนั้นโดยสภาพ พลอยแลเห็น ผูคนที่อยู ขางนอกนั้นกมลงกราบไหวเจาคุณพอ กันแทบทุกตัวคน เจาคุณพอบอกใหพอเพิ่มไหวคุณหลวงเสีย และเสียง คุณหลวงเรียกพี่เนื่องใหมากราบเจาคุณ พลอยสํารวมกิริยายิ่งขึ้น ไมเหลียวหนาไปดู เพราะกลัวเจาคุณพอจะวา ได แตก็อดชําเลืองมองดูชอยมิไดวา ชอยจะสนใจอยางไรบาง เมื่อมีเสียงตอนรับกัน ที่ชานเรือน ชอยก็เหลียว ไปดูอยางไมเกรงใจใคร และเมื่อแลเห็นเจาคุณพอ ชอยก็เดาออกทันที วาตองเปนบิดา ของพลอย พอพลอย ชําเลืองไปสบตา ชอยก็ยิ้มดวย และพยักหนาบุยปากไปทางหลัง ซึ่งพลอยก็ตองยิ้มรับ แลวกมหนาฟงสวดตอ ไป เสียงคุณหลวงพูดกับเจาคุณพออยูขางหลัง ดังลอดเสียงเสียงพระสวดมนตขึ้นมาวา "แมพลอยเปนเด็กดีจริงเทียวขอรับ เรียบรอยนารัก มาคางอยูนี่ไมกี่วัน คนชมกันเปาะไปทั้งบานทีเดียว" "เขาเรียบรอยมาตั้งแตเล็กแลวละ" เจาคุณพอตอบรับ "บานคุณหลวงกวางขวางนาอยูสบาย" เสียงคุณหลวงออกเนื้อออกตัววาบานเกาแกเต็มที ทํางานคราวนี้ก็ไดอาศัยพระบารมีเสด็จ แตก็ยังมี บกพรองอีกหลายอยาง ตองขออภัยและอื่นๆ อีกมาก เมื่อพระสวดเสร็จถวายของพระและอนุโมทนาแลว พลอยก็คลานออกไปนอกหอง พรอมกับชอย และ คลานเขาไปกราบเจาคุณพอดวยกันทั้งสองคน เจาคุณพอยิ้มดูพลอยอยางพอใจ แลวทักชอยกับคุณหลวงวา "ลูกสาวคุณหลวงคนนี้ก็หนาตาคมคายมิใชเลน" "ซนเหลือเกินละขอรับ" คุณหลวงตอบ "ถาจะวาไปแลวของใตเทาหนาตาดีกวามาก แตก็เปนธรรมดา เพราะมารดาเปนคนสวย" และเมื่อพูดไปแลวคุณหลวงก็รูตัววาพูดผิดไปคําโต จึงหยุดกึกลงทันที ทําหนาเกอเพราะรูตัววาพูดผิด แตเจาคุณพออมยิ้มหันมาพูดกับพลอยวา "แตงตัวอยางนี้หนักไหมพลอย ทาจะรอนเอาการอยู เหงื่อออกซิกทีเดียว" ซึ่งก็เปนความจริง เพราะเมื่อคุณหลวงพูดถึงแมตอหนาเจาคุณพอ พลอยก็ใจหายวาบ เหงื่อออกมากขึ้น โดยไมรูตัว

http://www.geocities.com/siamstory/ploy105_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 5

เจาคุณพอนั่งคุยกับคุณหลวงตอไปอีกอยางคุนเคย สวนพลอยและชอยเมื่อทักทายปราศรัยเสร็จแลว ก็ ถูกตอนไปเปลี่ยนเครื่องแตงตัว และถูกทรมานอีกครั้งหนึ่ง ดวยการอาบน้ําลางหนาเอาฝุนออก ระหวางนั้น ป พาทยที่มาตีกอนและหลังสวดมนต ก็ยังคงทําเพลงตางๆ เรื่อยๆไป เมื่อถึงเวลาพลบค่ําลง ก็มีการจุดตะเกียง ตางๆ สวางไสวสมกับเปนบานที่มีงาน คุณหลวงไปพูดจาเชื้อเชิญอยางไรก็ไมทราบ แตคืนนั้นเจาคุณพออยูรับประทานขาวที่บาน เมื่อเจาคุณ พอ รับเชิญแลว คุณหลวงก็ตองวิ่งมาบอกแมชั้น ผูภรรยาถึงขางในดวยความตื่นเตน และสั่งใหจัดสํารับคับคอน เปนพิเศษ พลอยเองก็รูสึกดีใจที่บิดาของตนปฏิบัติตัวเปนกันเอง กับคนที่พลอยรักและนับถือเหมือนญาติ แม ชั้นนั้นสังเกตวาดีใจมาก เมื่อไดขาววาเจาคุณทานจะรับประทานที่บานของตน วางทุกสิ่งที่กําลังทําอยูทันที รีบ กุลีกุจอออกไปจัดสํารับใหเปนพิเศษ คือแยกตางหากใสถวยชามที่ดีกวา ที่เตรียมไวรับแขกอื่นๆ เมื่อพลอยอาบ น้ําผลัดเครื่องแตงตัวเสร็จแลว ยังนั่งอยูในเรือนดูคุณสายพับผา และเก็บเครื่องแตงตัว พี่เนื่องก็พาพอเพิ่มเขามา หา "แตงตัวสวยพิลึกละแมพลอย" พอเพิ่มกลาวขึ้นเปนสิ่งแรกที่ไดพบ พลอยยิ้มดวยและตอบวา "พอเพิ่ม นี่ไง แมชอยเพื่อนฉัน" "แลวพอเพิ่มนี่ใครกัน" ชอบถามขึ้นอยางมะนาวไมมีน้ํา "อาว ! ก็พี่ฉันที่ฉันเคยเลาใหฟงไงละ" พลอยตอบ "ออ ! คนนั้นนะเรอะ" ชอยวา "ฉันนึกวาตัวโตกวา นี่ตัวเทานี้ตอยกับฉันก็ไมกลัว" "พูดมากไปนา ยายชอย" พี่เนื่องพูดหัวเราะๆ "อาว ! จริงๆนา" ชอยตอบ "ไมเชื่อลองกันไหมละ" คําพูดของชอยทําใหพอเพิ่มหายเกอไปถนัด ความไมกระดากของชอย ทําใหพอเพิ่มรูสึกวาเขามานั่งอยู ในหมูเพื่อนฝูงรุนเดียวกัน พอเพิ่มจึงหัวเราะและพูดวา "นักเลงรึนี่" พอเพิ่มพูด "พลอยนี่มีเพื่อนเปนนักเลงดวยนะ" "นี่แหละนักเลงโตละ" พี่เนื่องตอบแทน "ตรอกนี้ละไมมีใครกินเขาสักคน" ชอยหัวเราะชอบใจ และทุกคนก็หัวเราะขึ้นพรอมกัน พอเพิ่มหันมาถามพลอยเบาๆวา "แมพลอยนี่แมแกรูหรือเปลาวา แมพลอยโกนจุก" "คุณปาสายสั่งคนไปบอกแลว" พลอยตอบเบาๆเชนเดียวกัน "แตแมสั่งมาวา แมยังมาไมได อีกสองเดือน จึงมากรุงเทพฯ ไหว" "นั่นซีฉันก็เปนหวงแกเหมือนกัน" พอเพิ่มปรารภขึ้น "ปานนี้จะเปนอยางไรบางไมรู ฉันไมไดขาวเลย หลายเดือนแลว" ทั้งสองพี่นองไดแตมองดูหนากัน แลวก็รูสึกไมสบายใจ เพราะตางคนตางเปนหวงแมอยูพอๆกัน พลอย ไมไดพบพอเพิ่มมาหลายเดือน มาพบคราวนี้ไดสังเกตใกลชิด รูสึกวาพอเพิ่มโตขึ้นมาก ลักษณะทาทาง เปน ผูใหญเรียกไดวารุนหนุมทีเดียว ขนาดเดียวกันกับที่พี่เนื่องเปนหนุม แตผิดกันอยูที่วาพอเพิ่ม เปนหนุมบอบบาง และเจาทุกข สวนพี่เนื่องนั้นแข็งแรงและราเริงอยูเสมอ เพราะมีชีวิตความเปนอยูคนละอยาง พลอยไดแตนั่งดูพี่ ชายแทๆ ของตนแลวก็สงสารจับใจ "เออพอเพิ่ม" พลอยถามขึ้น "คุณเชยสบายดีหรือ" "ก็เรื่อยๆนะแหละ" พอเพิ่มตอบ "เห็นมีเรื่องอะไรกับคุณอุนบอยๆ เพราะคุณเชยเธอก็ถือวาเธอก็เปน หนึ่ง เหมือนกัน คุณอุนสั่งอะไรไมคอยฟง อยางฉันนี้เธอก็สั่งไมใหคุณเชยมาเลนดวย เพราะเธอวาฉันเปนไพร แตคุณเชยเธอยอนใหวา ถาลูกเจาคุณพอเปนไพร ลูกทุกคนก็เปนไพรหมด เลยถูกตีเสียใหญ แตคุณเชยก็ยัง เลน กับฉันอยูนั่นเอง" "แลววันนี้ทําไมทานไมเอาคุณเชยมาดวยละ" พลอยถามตอ "ก็คุณอุนนะซี" พอเพิ่มตอบ "เธอวาไมอยากใหนองเธอ มาเกี่ยวของกับคนอยางเราๆ" "แลวเจาคุณพอทานวาอยางไร" "ก็เห็นทานเฉยๆ ฉันก็เห็นทานนิ่งทุกที คุณอุนเธอพูดเอาคนเดียวเทานั้น คุณเชยก็โกนจุกปนี้เหมือนกัน แตตองรอไปอีกสิบกวาวัน เพราะคุณแมทานจะเขามาจากอัมพวา" "งั้นหรือ" พลอยพูด "ถาจะสนุกกันใหญซีนะ" "ก็งั้นแหละแมพลอย ที่บานเรามันไมเหมือนบานคนอื่น ทําอะไรมันก็ไมสนุกไปได" แมชั้นโผลเขามาในหอง หนาตาเปนมันมาจากครัว เพื่อเรียกเด็กๆใหไปกินขาว เพราะจัดสํารับไวใหแลว พอรูวาพอเพิ่มเปนพี่ชายของพลอย แมชั้นก็ดีใจเปนการโกลาหล เขามาลูบหนาลูบหลัง แลวพูดจาชมเชยตางๆ ทั้งที่เพิ่งเคยพบกันเปนครั้งแรก เมื่อเด็กๆ กินขาวเสร็จแลว คุณหลวงก็ใหคนมาตามออกไปทางดานหนาของเรือน อันเปนบริเวณที่มีงาน ตอนนั้นเปนเวลาค่ําสนิทแลว โคมไฟตางๆ ที่แขวนไวดูสวางราวกับกลางวัน เจาคุณพอนั่งอยูในเรือนที่เรียกกัน วา หอนั่ง คุณหลวงกําลังอํานวยการใหคนยกสํารับกับขาว กระโถนขันน้ําเขาไปตั้ง จะเปนเพราะเสียงดนตรีป

http://www.geocities.com/siamstory/ploy105_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 5

พาทย และเสียงไฟสวางหรือจะเปนเพราะบรรยากาศ อันเปนกันเองของบานนี้หรืออยางไรก็ตามที แตพลอย สังเกตเห็นวา เจาคุณพอมีอารมณดีและรื่นเริงเปนพิเศษในคืนวันนั้น ยิ่งกวาเคยเห็นเมื่อครั้งอยูที่บาน พอคนใช ยกสํารับมาตั้ง เรียบรอย เจาคุณพอก็กลาวขึ้นวา "พอนพกินดวยกันเถิดนา" พลอย สังเกตทันที วาเจาคุณพอเริ่มเรียกคุณหลวงดวยชื่อจริง อยางที่เคยเรียกกันมาแตกอน มิไดเรียก วา คุณหลวงเหมือนเมื่อตอนบาย "เชิญทานตามสบายเถิด ขอรับ" "ไมเอาละ" เจาคุณพอวา "นั่งกินคนเดียวราวกับเลี้ยงพระ จะไปอรอยอะไร มากินเปนเพื่อนกันหนอย เถิด" คุณหลวงตกลง เรียกชามขาวมารวมวงกับเจาคุณพอ เมื่อเริ่มกินขาว เจาคุณพอแลเห็นเด็กๆ ไปนั่งอยุที่ เฉลียงก็เรียกเขาไปขางใน แลวถามวา "พวกนี้กินขาวกันแลวหรือยัง" เมื่อไดความวากินแลว ก็ซักถามตอไปวา กับขาวอยางไหนอรอยบาง ซึ่ง เด็กๆตอบกันไปคนละอยางสองอยาง ไมตรงกันสักคนเดียว เจาคุณพอกับคุณหลวงตองตกลงกันวา เมื่อความ เห็นไมตรงกันเชนนี้ ก็จําตองลองกินทุกอยาง พลอยรูสึกวา ตนไมเคยสนิทสนมกับเจาคุณพอ มาแตกอนเทาคืนวันนี้เลย พลอยเคยนึกชมคนในบาน ชอย วารักใครเปนกันเองสนิทสนม แตพอเจาคุณพอมาในบานนี้ เจาคุณพอก็กลายเปนคนที่เปนกันเอง สนิท สนมอยางที่พลอยเคยใฝฝนอยูตลอดมา ยิ่งเห็นเจาคุณพอพูดคุยดวยอารมณรื่นเริง หัวรอตอกระซิก ทักทายคน ทั่วไป พลอยก็ยิ่งปลื้มปติ ความรักที่มีตอบิดาของตน ซึ่งฝงลึกอยูในหัวใจเพราะไมมีโอกาสจะแสดงได ก็ดู เหมือนจะทวมทนออกมา ยิ่งมองไปดูคุณหลวง ซึ่งพยายามเอาอกเอาใจเจาคุณพอดวยความนิยมรักใคร แลดูพี่ เนื่องซึ่งดูเหมือนจะคอยฟงจดจําทุกคําที่เจาคุณพอพูด และหัวเราะดวยเมื่อผูใหญหัวเราะ ตลอดจนชอย ซึ่งนิยม ใครไมไดงายๆ ก็ดูเหมือนจะนั่งมองดูเจาคุณพออยูดวยความเลื่อมใส และแสดงกิริยาอาการเรียบรอย ผิดปกติ พลอยก็ยิ่งปลื้มใจ อยากจะแสดงความรูสึกนิยมยินดี ที่ตนมีตอเจาคุณพอนั้นออกมาใหปรากฏ พลอยมองไปริม ฝาเรือน เห็นมีพัดขนนกวางอยูอันหนึ่งก็นึกอะไรออก รีบคลานไปหยิบพัดมาพัดใหเจาคุณพอ ขณะที่รับ ประทานขาวอยางสุดฝมือ เทาที่ไดเคยร่ําเรียนฝกซอมมาจากในวัง เจาคุณพอเหลียวมายิ้ม มองดูพลอยอยูนาน เหมือนจะเขาใจความรูสึกความหมายของพลอยทุกอยาง แลวก็พูดขึ้นวา "ดีจริงพลอย ไมเสียทีไปอยูในรั้วในวัง พัดไดเปนชาววังแทๆทีเดียว" ซึ่งคําพูดเพียงเทานั้น เปนการตอบแทนสําหรับพลอยเกินกวาของมีคาใดๆ จะมาเปรียบเทียบได ระหวางที่นั่งกินขาวกันอยู เจาคุณพอก็คุยกับคุณหลวงถึงเรื่องเกาๆ ที่ผานมาดวยกัน บางเรื่อง ก็เกี่ยว แกราชการที่เคยทํารวมกันมา บางเรื่องก็เกี่ยวกับความสนุกซุกซน ที่เคยผานมาดวยกันเมื่อเปนหนุมๆ พลอย ไดยินเจาคุณพอถามคุณหลวงถึงเพื่อนฝูงเกาๆ ที่ลมหายตายจากไปแลวก็มี บางทีก็พูดถึงสถานที่แปลกๆ ที่ พลอยไมรูจัก เชนรานตางๆในสําเพ็ง หรือโรงขายน้ําชาญี่ปุนที่ถนนบํารุงเมือง บางครั้งเจาคุณพอก็ชําเลืองมาดู ทางเด็กๆ แลวก็ลดเสียงลงมิใหไดยิน แตพอลดเสียงที่พูดทีไร ก็มักจะหัวเราะกันครื้นเครง เมื่อพูดเสร็จทุกครั้ง เมื่อของหวานยกเขามาตั้งแลว แมชั้นก็ออกมาจากหลังเรือน และมากราบเจาคุณพอซึ่งเมื่อเห็นแมชั้น ก็ ทักวา "แหม แมชั้น ! ไมไดพบกันหลายปทีเดียว ยังสวยไมตกเลยนะ" แมชั้นหัวเราะกิ๊ก แลวตอบวา "ทานก็ปากหวานไมตกเหมือนกันละเจาคะ ถาอิฉันไมพบคุณหลวงเสียกอน ปานนี้อิฉันตามทานไปแลว" "ก็นั่นนะซิ" เจาคุณพอพูด "ปานนี้มิสบายไปแลวหรือ" "ถาทานตองการเดี๋ยวนี้ ก็ยังสนองพระเดชพระคุณไดนี่ขอรับ ผมไมหวงหรอก" คุณหลวงพูดสอดขึ้นมา "พูดดีไปเถอะ" แมชั้นขู "ฉันยังไมแกเฒานักดอกนะ จะบอกให บางทีเจาคุณทาจะตองการคนทําครัวบาง กระมัง" แลวทั้งสามคนก็หัวเราะขึ้นพรอมกัน พลอยไดยินผูใหญคุยกันก็ลองนึกดูวา ถาเจาคุณพอไดกับแมชั้นจริงๆ อยางที่ลอกันเลน ปานนี้จะเปน อยางไร พลอยอาจมีแมเปนแมชั้นก็ได แมพลอยเลิกคิดทันที เพราะถึงแมชั้นจะนารักเพียงใดก็ตาม ถาจะเอา มากแลกกับแม พลอยก็เลือกเอาแมมากกวา "เดี๋ยวนี้ทานยังเลนระนาดเอกอยูหรือเปลาขอรับ" คุณหลวงถามเจาคุณพอขึ้น "ทิ้งมาเสียนานแลวละพอนพ" เจาคุณพอตอบ "ไมมีใครจะเลนดวย เดี๋ยวนี้ที่บานเหลือแตเครื่อง ผูคนมัน ก็กระจัดกระจายกันไป ไมเหมือนแตกอน แลวพอนพละ ยังเลนฆองวงอยูหรือ" "ก็ทิ้งมานานเหมือนกันขอรับ" คุณหลวงพูด เจาคุณพอนั่งนิ่งใชนิ้วเคาะจังหวะเขากับเพลง ที่ปพาทยกําลังบรรเลงอยูครูหนึ่ง แลวก็ทําทาเหมือนกับ จะคิดอะไรออกอยางกระทันหัน พูดกับคุณหลวงขึ้นวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy105_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 5

"พอนพ เรามาลองฝมือกันสักทีดีไหมละ ฉันจะตีระนาดเอก พอนพตีฆองวง" คุณหลวงหัวเราะกาก แลวตอบวา "ผมตามทานไมทันหรอกขอรับ" "ไมเอานา อยาถอมตัว" เจาคุณพอยืนยัน "ทานบอกใหตีก็ตีไปซี" แมชั้นสนับสนุน "มัวแตอิดออดร่ําไรอยูได ฉันอยากจะฟงเจาคุณทานตีระนาด ได เคยฟงหนหนึ่งเมื่อยังสาว ยังติดใจไมหายเลย" คุณหลวงไดยินภรรยาชวยหนุนก็ขยับลุก ทั้งสองคนเดินไปทางวงปพาทย ซึ่งทําเพลงจบลงแลว คุณ หลวงเขาไปกระซิบกระซาบอยูครูหนึ่งกับนายวง แลวคนระนาดเอกก็ลุกจากที่ เจาคุณพอเขานั่งแทน และคุณ หลวงก็เขานั่งประจําฆองวง ทุกคนในงานซึ่งรับอาหารเสร็จ หันไปมองอยางสนใจ และพูดจาซุบซิบ กันอยูทั่วไป เจาคุณพอจับไมระนาดขึ้นลองไลลูกดูกอน แลวก็ขยับกายใหเขาที่ ยกไมระนาดทั้งสองชูขึ้น จบเพียง หนาผาก สองมือพนมระลึกถึงคุณครูอยูครูหนึ่ง แลวก็เริ่มตี ครั้งนี้เปนครั้งแรกในชีวิต ที่พลอยไดยินเจาคุณพอ เลนดนตรี และเปนครั้งแรกที่ไดเคยเห็นเจาคุณพอ เปนตัวของตัวทานเองโดยสมบูรณ เจาคุณพอเริ่มตีเบาๆ ตามทํานองชาๆ เขากับเสียงฉิ่งและตะโพน ดังเปนจังหวะ สายตาเจาคุณพอทอดไปขางหนา แตมองไมเห็น อะไร เพราะขณะนี้อารมณของทานเขาคลุกเคลา อยูเฉพาะกับดนตรีโดยสิ้นเชิง เสียงเพลงที่เจาคุณพอบรรเลง จากระนาด ทําใหพลอยเศราใจในชั้นแรก เพราะดูเหมือนจะเปนคําพรรณนา ถึงความหลังที่ผานไปแลวอยางไม มีวันคืนมาอีก ถอยคําที่เจาคุณพอพูดดวยดนตรีนั้น เต็มไปดวยความสงสัย เคลือบเคลงใจ บางตอนก็มีพอแลว รําพึงรําพันถึงความหลัง พลอยเริ่มรูสึกตื้นตันในอก มีกอนแข็งๆมาจุกที่คอหอย น้ําตาอุนๆ เริ่มจับที่ขอบตาทั้ง สองขาง แตแลวเจาคุณพอก็เปลี่ยนจังหวะเร็วขึ้น ความเคลือบเคลงสงสัย และความทุกขโศกทรมานใจคลายลง ความรื่นเริงเขามาแทนที่ จังหวะระนาดนั้นเร็วขึ้นอีก กลายเปนเสียงคนวิ่งเลน คนหัวเราะ เสียงนกรอง แดดออก ยามเชา ดอกไมบาน ไมระนาดที่เจาคุณพอเหวี่ยงไปมาโดยเร็ว ตามลูกระนาด กระทบแสงไฟเหมือนกับผีเสื้อ สองตัว บินไปเกาะที่ดอกไมโนนบาง ดอกนี้บางเร็วขึ้นอีก เสียงฉิ่งเสียงฉาบ เสียงกลองแขกดังเราใจ เจาคุณพอ เปดเผยใหเห็นความสนุกในชีวิต ความขบขันความรื่นเริง ของคนที่ปราศจากทุกข น้ําตาพลอยแหงหายไปโดย ไมรูตัว นั่งยิ้มมองเจาคุณพออยางตาไมกระพริบ หัวใจเตนแรง เขากับจังหวะของเพลง ทุกคนที่นั่งอยูนิ่งฟงเหมือนถูกสะกด ไมมีใครพูดจากับใคร ที่สูบบุหรี่ก็นั่งถือบุหรี่ปลอยใหไหมไปเอง ที่ นั่งเคี้ยวหมากก็หยุดเคี้ยว นั่งอมหมากอยูในปากจนชืด แมชั้นนั่งอยูใกลๆกับพลอยหายใจถี่ และแรงจนไดยิน ชอยพี่เนื่องและพอเพิ่มนั่งนิ่งตัวแข็ง เลิกพูดจาซุบซิบกัน คุณสายคอยๆยองออกมาจากในเรือน มานั่งใกลๆแม ชั้น แลวกระซิบวา "ฉันนึกแลวไมมีผิด ไมมีใครตีไดอยางนี้อีกแลว ไดยินที่ไหนเปนจําไดทีเดียว" พลอยเหลือบไปดูทางหลังเรือน ขางๆลับแลตามประตูทุกชอง แสงโคมกระทบกับดวงตาหลายสิบคู พวก คนในบานและคนมาชวยงาน พากันเลิกทํางานชั่วคราว เมื่อไดยินเสียงระนาดอยางที่ไมเคยไดยินมาแตกอน เจาคุณพอเปลี่ยนจังหวะไปอีก ตอไปเปนการลอหลอก ระหวางเจาคุณพอกับคุณหลวง เจาคุณพอเปน คนหนี คุณหลวงเปนคนไล เจาคุณพอเหลียวหนาไปดูคุณหลวงแลวยิ้มดวย คุณหลวงก็สายหนาหัวเราะ สวนมือ ก็ตีฆองวงตาม เจาคุณพอตีระนาดหนีตอไปอีกแลวก็หยุด ปลอยใหคุณหลวง ตีฆองวงตามจนทัน แลวเจาคุณ พอก็หนีตอไปอีก จนในที่สุดคนทั้งสองก็กมหนาตีอยางเร็วปลอยลูกหมด ไปจนจบเพลง เมื่อจบแลวเจาคุณพอก็ วางไมระนาด ยกมือไหวครูอีกทีหนึ่งแลวก็หัวเราะ ทุกคนในวงปพาทยกมตัวลงกราบพรอมกัน เปนการเคารพในฝมือของเจาคุณพอ มิใชกราบยศศักดิ์อัคร ฐาน สวนคุณหลวงก็ยกมือขึ้นไหวหลายหน โคลงศีรษะหัวเราะแลวพูดวา "ทานตีอยางนี้ผมแย ตามไมทันเลย" เจาคุณพอทักทายกับแขกเหรื่อที่นั่งอยูในบริเวณนั้น อีกสักครูหนึ่งแลวก็ลากลับ แตกอนจะกลับเจาคุณ พอ หันมาสั่งกับพลอยวา "พลอย พอจะกลับกอนละนะ แลวพรุงนี้จะมาใหม" คืนวันนั้น พลอยเขานอนดวยความเหนื่อยออน แตความรูสึกในใจเต็มไปดวยความสุข อยางไมเคยมีมา แตกอน วันนี้เปนวันที่พลอยมีชีวิตเต็มสมบูรณ ไดถูกรับรองตอหนาคนเปนอันมากวา พลอยเปนลูกเจาคุณพอ ผูซึ่งเปนที่นับถือของคนทั้งหลาย และเปนผูที่คนทั้งหลายใหความสนใจในตัวเจาคุณพอ ผูซึ่งเปนที่นับถือของ คนทั้งหลาย และเปนผูที่คนทั้งหลายใหความสนใจเปนอยางยอดเยี่ยม ไมวาทานจะพูดสิ่งใด หรือทําสิ่งใด ความ สนใจในตัวเจาคุณพอ ทําใหพลอยไดรับสวนสะทอน จากความเปนยอดเยี่ยมของทาน ในงานนั้น แทนที่พลอย จะเปนคนที่ตองตามหลังชอย หรือเพียงแตคูเคียงกัน พลอยกับจะออกหนาชอยไป ในดานความสําคัญ แตความ พอใจของพลอย มิไดอยูในขอนี้ ที่พลอยพอใจนักหนาก็เหตุวา เจาคุณพอไดมาในงาน เพื่อพิสูจนใหปรากกวา พลอยมิใชเด็กที่ไรญาติขาดมิตร แตเปนผูที่บิดาเปนผูใหญที่คนจักนับถือได พลอยยิ่งนึกรักชอยมากขึ้นไปอีก เมื่อไดยินชอยพูดขึ้น เมื่อเขาไปนอนในมุงดวยกันแลววา "พลอย ฉันดีใจเหลือเกิน ที่เจาคุณพอของพลอยทานมาวันนี้"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy105_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒)

Page 5 of 5

"ทําไมชอย" พลอยถาม "อาวก็ดีใจซี ที่เจาคุณพอของพลอยทานมาชวยงาน ใครๆเขาก็ดีใจกันทั้งนั้น แลวก็ทานนารัก ออกจะ ตายไป" "ชอยนึกอยางนั้นจริงๆหรือ" พลอยถาม "พุทโธ ! ไมนึกจริงฉันจะไปพูดอยางนั้นทําไม" ชอยตอบยืนยันอยางจริงใจ "จริงๆนะพลอย พออยางนี้ให ฉันก็เอา" "ชอยก็" พลอยทวง "คุณพอของชอยก็นารักมากเหมือนกัน ใหฉันก็เอาอีกนะแหละ" "นั่นนะซิ" ชอยพูด "อยางเราสองคนนี่แลกพอกันไดเทียวนะ ไมมีใครเสียเปรียบใครหรอก" แลวเด็กทั้งสองคนก็คุยกันเรื่องความดีของพอของตน ตามประสาเด็กไปจนชอยเหลือแตเสียงกรน พลอย จึงไดหลับตามไปในเวลาไมชา รุงขึ้นอีกวันหนึ่ง เปนวันโกนจุกและทําขวัญ ทั้งชอยและพลอยตองถูกทรมาน ดวยการเปลี่ยนเครื่องแตง ตัว ถึงสองครั้ง เจาคุณพอมาตั้งแตเชา ตามที่นัดไว และอยูรวมงานไปจนทําขวัญเสร็จ หลังจากเมื่อคืนที่แลว เจาคุณพอรูสึกวาเปนกันเองสนิทสนมกับคนในบาน และแขกเหรื่อทุกคนดียิ่งขึ้นกวาเกา และเมื่อเสร็จงานแลว เจาคุณพอก็เรียกพลอยเขาไปใกลๆ สงหีบใหใบหนึ่ง แลวพูดวา "นี่แนพลอย พอทําขวัญเจาในงานโกนจุก เปดออกดูซี ถูกใจไหม" พลอยจึงกมลงกราบเจาคุณพอ ดวยมือที่สั่นระรัว เพราะครั้งนี้เปนครั้งแรกที่ไดรับของ จากเจาคุณพอ โดยตรง ในหีบนั้นมีจี้อันใหญ กลางฝงมรกตคอนขางใหญ มีเพชรซึกลอมรอบ นอกจากนั้นยังมีกําไล เล็กๆพอ ขนาดขอมือพลอยอีกครูหนึ่ง ฝงเพชรลูกกับนิลสีดอกตะแบกสลับกัน พลอยนั่งกมหนาหยิบของแตงตัว แลวก็ วางไมรูวาจะพูดจาวากระไรถูก "ชอบอยางไหน พลอย" เจาคุณพอถามเบาๆ อีกครั้งหนึ่ง พลอยไดยินก็หยิบจี้ ซึ่งมีลักษณะเปนของ โบราณ ขึ้นใหดู "ไมเสียทีที่เปนลูกพอ" เจาคุณพอพูดขึ้นอยางพอใจ "จี้อันนั้นราคาไมถึงกําไลขอมือ เพราะเปนของเกา คนเขาไมคอยชอบ กําไลคูนั้นเปนของนอก พอเพิ่งซื้อมา แตจี้เปนของคุณยาของเจา เจาก็ชอบถูกทีเดียว" พลอยรูสึกดีใจที่เจาคุณพอชมวาเลือกชอบไดถูก สําหรับชอยเจาคุณพอทําขวัญแหวนงูวงหนึ่ง ขณะนั้น แมชั้นก็เขามานั่งอยูขางๆ และชวยดีใจแทนเด็กทั้งสองคนอีกยกใหญ เจาคุณพอนั่งพูดอยูอีกเล็กนอย ฝากฝง พลอยกับคุณสายอีกตามสมควร แลวก็ลากลับ งานโกนจุกผานไปโดยเรียบรอย ไมมีอุปสรรคไมมีสิ่งใด ที่จะมาทําใหกระทบกระเทือนใจ เมื่อเสร็จงาน แลว พลอยก็อยูกับชอยที่บานตอไปอีกสองวัน เพราะคุณสายยังเก็บของไมเสร็จ ทําใหเพิ่มความสนิทสนม กับ คนในบานนั้นยิ่งขึ้น แมชั้นนั้นออกปากชมวา เมื่อนึกถึงวันที่เด็กจะตองกลับวังก็ใจหาย ทําใหคุณสายตอง หัวเราะหึๆ แลวตอบวา ถาขืนปลอยใหอยูที่นี่ไปอีกเจ็ดวัน ก็จะไดกลายเปนโจรไปทั้งสองคน เพราะมีแตคนชวย ตามใจ สวนพี่เนื่องนั้นใหสัญญาวา เมื่อพลอยกับชอยกลับไปแลว จะพยายามไปหาใหบอยที่สุด ในที่สุดวันที่จะตองกลับวังก็มาถึง คุณสายหอบขางของพะรุงพะรัง ขึ้นรถกลับตามทางเดิม มีพี่เนื่องมา สง จนถึงประตูขางนอก พอเดินผานประตูชั้นในกลับตําหนัก ก็มีเสียงคนรูจักทักทายกันเกรียวกราว เหมือนเมื่อ วันแรกที่พลอยเขาวังมากับแม ผิดกันแตที่วาคราวนี้พลอยรูสึกตัววาเปนผูใหญ คุนเคยตอโลก คุนเคยตอ เหตุการณ คุนเคยตอคนทั้งปวง เปนคนมีหลักฐานมากกวาวันที่แรกเริ่มเขามาในวังเปนไหนๆ แตความรูสึกวาเปนผูใหญขึ้น หลังจากโกนจุกนั้นยังมีเหตุอื่นมากระทบ ทําใหพลอยตองรูสึกวา เปน ผูใหญจริงๆ ความรูสึกอยางเด็กหลายอยางไดหมดสิ้นไป ในวันที่กลับเขาวังนั้นเอง พอคุณสายพลอยและชอย พากันมาถึงตําหนัก ยังไมทันจะเขาหอง ก็มีขาหลวงคนหนึ่งรีบมาหาคุณสาย บอกวาเสด็จรับสั่งใหคุณสาย ขึ้น ไปเฝาในทันทีที่มาถึงตําหนัก ขาหลวงคนนั้นมองดูพลอยดวยสีหนาอันเปลก แตพลอยก็มิไดเฉลียวใจอยางไร คุณสายรีบเปดหองแลวก็สั่งเด็กๆ ใหชวยกันเอาของเขาเก็บ สวนตนเองนั้นรีบขึ้นบันไดไปชั้นบนของตําหนัก คุณสายขึ้นไปนาน แตแลวก็กลับลงมาตาบวมแดง เหมือนกับรองไหมาใหมๆ พอลงมาถึงก็เรียกพลอยและชอย ใหชวยกันรื้อของออกจากหีบ ไมยอมพูดอะไรดวยทั้งสิ้น จนถึงเวลาค่ําวันนั้น คุณสายจึงไดเรียกพลอยเขาไปในหองสองตอสอง แลวก็รองไหสะอึกสะอื้นพลาง พูดพลางบอกใหพลอยรูวา แมของพลอยนั้นตายเสียแลวที่ฉะเชิงเทรา เพราะลูกในทองนั้นออกมากอนกําหนด และแมอยูไดสองวันก็ตาย กอนตายมิไดสั่งเสียอะไรเลย ญาติโยมทางโนนเขาชวยกันเผาศพเสร็จไปแลว เสด็จ เพิ่งทรงทราบแนเมื่อวานนี้ จึงรับสั่งเรียกคุณสายขึ้นไป มอบภาระใหบอกแกพลอยใหทราบ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy105_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑) หาปใหหลัง นับจากวันที่พลอยไดรูวาแมตาย พลอยก็ยังคงอยูที่ตําหนักเสด็จ แตพลอยอายุสิบหกปเศษ นับวาเปนสาวเต็มตัว และเปนสาวอยางที่ใครเห็นใครตองชม วาสวยเกินกวาที่คาดไว ถึงแมวาเมื่อยังเด็กๆ พลอยก็มีคนชมวาเปนเด็กสวยอยูแลว สวนชอยเปนสาวขึ้นมาดุจกัน แตจํานวนปและรางกายที่เติบโตขึ้น มิได ทําใหนิสัยของชอยเปลี่ยนแปลงไป ยังคงเปนคนสนุกสนานราเริง และมีความคิดเห็นเปนของตัวเอง อยางแต กอน พลอยยังจําไดดีถึงวันที่ตนและชอย เริ่มหมผาอยางผูใหญทั้งหลาย ถาจะวาไปแลว วันนั้นก็เปนวันสําคัญ มาก เพราะเทากับวาพลอยไดสละความเปนเด็ก ยางเขาสูความเปนผูใหญอยางสมบูรณ โดยที่คนทั้งปวงตั้งแต เสด็จลงมาจนถึงคนอื่นๆ ก็ยอมรับวาพลอยสมควรเปนผูใหญไดแลว วันที่เริ่มหมผา และตอมาอีกหลายวัน ทั้ง พลอยและชอยตองนั่งอยูนิ่งๆ ไมกลาขยับเขยื้อนไปไหนไกล เพราะกลัวผาหมจะหลุด ยิ่งจะใหคลานไปมาบน ตําหนักแลว ดูเหมือนจะเปนเรื่องนอกปญญา ทําไมไดทีเดียว พลอยเห็นผูใหญเขาหมผา ดูเปนของงายๆ เพราะ หมทีเดียวแลวก็อยูไปไดตลอด นานๆจึงจับใหเขาที่รัดกุมเสียทีหนึ่ง แตพอตัวไดหมเขาเอง จึงรูวายากเย็นสัก เพียงใด เพราะผาทีหมไวกับตัวนั้น จะอยูไดก็เพราะความชํานาญ มิไดอยูไดก็เพราะเข็มกลัด กระดุมหรือเครื่อง เหนี่ยวรั้งอื่นๆ เสด็จก็ดูเหมือนจะเขาพระทัยเรื่องนี้ดี เพราะในตอนแรกๆ ก็มิไดทรงใชสอย บอยครั้งเหมือนแต กอน ทรงใหเวลาพลอยคุนกับผาหมอยูหลายวัน จนในที่สุดก็รับสั่งถามวา "พอลยหมผาเปนแลวหรือยัง" เมื่อพลอยทูลตอบวาเปนแลวก็รับสั่งกําชับวา "ไมหลุดแนนา" พลอยตองกราบทูลยืนยันอีกครั้งหนึ่ง จึง ไดทรงใชสอยตอไป และดูเหมือนจะมากกวาเมื่อกอน เพราะเดี๋ยวนี้ใครๆก็รูกันทั่วตําหนักแลววา พลอยเปนขา หลวงคนโปรด การเปนคนโปรดของเสด็จนั้นมีทั้งทางเสียทางดี ถาจะวาในทางเสีย พลอยก็มีเวลาเปนของตัวเอง นอย ลงไปกวาขาหลวงคนอื่นๆ เพราะตองคอยปฏิบัติรับใชอยูตลอดเวลา จะมีเวลาทํากิจธุระสวนตัวบาง ก็ตอเมื่อ เสด็จเขาบรรทมหรือยังไมบรรทมตื่น หรือมีกิจธุระจําเปนจริงๆ นอกจากนั้นสวนเสียก็ยังมีอีก ที่คนอื่นเกิดความ อิจฉาริษยา คอยคอนแคะหาเรื่อง แตพลอยก็มีชอยคอยออกรับแทนอยูเสมอในขอนี้ ทําใหคนอื่นไมกลา เพราะ ชอยเปนคนมีชื่อเสียงประจําเสียแลว ในการเอาจริง คนจึงกลัวเปนสวนมาก การอยูใกลชิดพระองคเสด็จนั้น ถึง บางคราวพลอยจะรูสึกเหน็ดเหนื่อยบาง พลอยก็มิไดรูสึกทอถอย เพราะถือวา เปนการตอบแทนที่เสด็จทรงพระ เมตตาชุบเลี้ยงมา และยิ่งกวานั้น การที่อยูใกลชิดพระองคทําใหพลอยไดรูไดเห็น และบางครั้งก็ไดตามเสด็จไป ในที่บางแหง ซึ่งแมแตบางคนที่อยูในวังมานานกวาพลอย ก็มิไดเคยไดไปถึง ที่ๆ เปนยอดเยี่ยมของในวังก็เห็นจะไดแกที่บน อันเปนที่ประทับของพระเจาอยูหัวและสมเด็จ พรอมทั้ง ทูลกระหมอมฟาอีกบางพระองค ตามปกติเสด็จขึ้นที่บนเกือบทุกวัน และพลอยก็ไดถือหีบหมาก ตามเสด็จ ตอน แรกๆ พลอยก็เกรงกลัวเสียเปนลนพน เมื่อเสด็จแลวก็ไดแตนั่งคอยรับเสด็จกลับตําหนัก อยูแคอัฒจันทรพระที่ นั่ง แตตอมาพลอยไดรับความกลาเพิ่มเติมขึ้นจากชอย ผูซึ่งรูจักคนมาก เวลาตามเสด็จขึ้นที่บน ก็ไดคลานซอก ซอนไปจนทั่วเทาที่จะไปได แลวก็กลับมาเลาใหพลอยฟง ทําใหพลอยอยากรูอยากเห็นบาง ประกอบกับพลอย ไดรูจักคุณพนักงานบางคนที่เปนญาติ แมเจาจอมบางคน ก็ไดรูจักในฐานเปนญาติ ตอมาจึงไดมีความกลาขึ้น และไดเห็นความเปนไปของที่บนอยางใกลชิด ตามปกติเสด็จขึ้นทางบันไดดานตะวันตก และเวลาเสด็จกลับก็กลับทางเดียวกัน ฉะนั้นในขั้นแรก เมื่อสง เสด็จแลว พลอยจึงคลานเล็ดลอดตามระเบียง ไปจนถึงหองที่พนักงานกลาง เตรียมเครื่องตน ในที่นั้น คุณ พนักงานหลายคนรูจักพลอยดี จึงไมมีใครหามปรามแตทักทายปราศรัย พูดคุยดวยเปนปกติ และจากที่นั้น ถา หมอบโผลหนาออกทางประตู ก็จะมองเห็นหองเขียว อันเปนหองทรงพระสําราญ และเสวยพระกระยาหาร ของ พระเจาอยูหัว ครั้งแรกที่พลอยไดเห็นพระเจาอยูหัวของตน อยางใกลชิดในที่รโหฐาน พลอยก็ขนลุกเกรียวทั้งตัว เพราะรูดีวา ที่ๆตนไดไปถึงเปนที่ศักดิ์สิทธิ์เพียงไร บนพระที่นั่งอันกวางใหญไพศาล และในหองที่ตนเห็นเฉพาะ หนา เปนที่อยูของเจาชีวิตคนไทยทั้งมวลในสมัยนั้น เปนหัวใจของประเทศ การเปนไปทุกอยางของโลกภาย นอก มารวมอยู ณ ที่นั้น ไมมีที่อื่นใดจะสําคัญไปกวา เมื่อเสด็จขึ้นเฝานั้น ตามธรรมดาก็เปนเวลาเสวย เสด็จเขาเฝาในหองเขียว พรอมดวยเจานายพระองค อื่น อีกเปนอันมาก มีที่สังเกตอยูวาเจานายที่ขึ้นเฝานั้น ถาหากมิไดมีหนาที่อยางไร เพียงแตเฝาเฉยๆ ก็ทรงหม แพรสี ตามวันทุกพระองคไป สวนเจานายลูกเธอบางพระองค ที่มีหนาที่รับใชปฏิบัติ ก็ทรงผาหมเหมือนกันกับ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy106.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 5

คนทั้งปวง หองเขียวที่เฝานั้นเปนหองใหญผนังสีเขียวแก มีลวดลายปดทอง กึ่งผนังชั้นบนยกขึ้นไป กั้นเปน ระเบียงทําดวยไม ขัดมันสลักเปนลวดลายมีบันไดขึ้น บนระเบียงวางตูหนังสือตางๆจํานวนมาก ในหองมีตูโตีะ วางอยูเรียงราย แตเยื้องไปทางดานพระบัญชร และใกลกับบันไดขึ้นระเบียงไวหนังสือมีเกาอี้ยาว ทอดไวเปนที่ ทรงพระสําราญ และเปนที่เสวย มีโตะเล็กๆอีกตัวหนึ่งวางอยูขางหนา สําหรับตั้งเครื่องตน เครื่องตนหรือเครื่องเสวยนั้น สงขึ้นมาจากหองเครื่องตน ทุกอยางหอผาขาวผนึกตราอยางระมัดระวัง เปนหนาที่ของคุณพนักงานที่เรียกกันวา พนักงานกลางรับไว เมื่อถึงเวลาใกลจะเรียกเครื่อง พนักงานเหลานั้น ก็จัดแจงแกะผนึก เตรียมเครื่องตนใหพรอมที่จะตั้งเครื่องได พอถึงเวลาเสวยเจาจอมอยูงานทั้งหลาย ก็มานั่งเขา แถวคอยรับเครื่องตน ตั้งแตจากมืองานกลางแลวสงกันตอไปทีละคน จนถึงพระเกาอี้ที่ประทับ คุณเจาจอมทุก คนมีที่นั่งประจําของตน และตลอดจนเจานายที่มาเฝาก็ดี หรือมีหนาที่คอยปฏิบัติรับใชก็ดี ดูเหมือนจะมีที่ ประทับเปนประจํา ไมสับสนหรือปะปนกัน กอนที่จะเสด็จลงหองเขียว บรรดาคนในที่นั้นก็พูดคุยกัน ดวยเสียง เบาๆ แตพอเสด็จลงประทับพระเกาอี้แลว เสียงพูดคุยกันเองก็หายเงียบไปสิ้น คงเหลือแตเสียง พระราชดํารัส และเสียงกราบบังคมทูลตอบ ของแตละคนที่มีพระราชดํารัสดวย สลับดวยเสียวหัวเราะเบาๆทั่วไป เปนครั้งเปน คราว ในเมื่อมีเรื่องขบขัน พลอยหมอบดูเหตุการณตางๆ และคอยสดับรับฟงเสียงจากหองเขียว ไดครั้งละนานๆ การที่ไดมีโอกาสเขาไปใกลชิด ถึงบนพระที่ประทับมิไดทําใหพลอยเห็นสิ่งตางๆ เปนของธรรมดา ไปไดเลย เพราะอาการกิริยาของคนที่อยูบนนั้นก็ดี บรรยากาศโดยทั่วไปที่บนนั้นก็ดี มีแตจะชักจูงใหเห็นทุกอยาง บนนั้น เปนของสูง เปนของศักดิ์สิทธิ์ ควรแกความเคารพอยางสูงสุด ยิ่งไดตามเสด็จขึ้นที่บนบอยครั้งเขา พลอยก็ยิ่งเพิ่มความกลาคลานตอจากหองคุณพนักงานนั่ง ไปยัง หองอื่นๆที่บนนั้น บนพระที่นั่งมีทางแคบคอนขางจะมืด แตคลานไดตลอดจากมุมตะวันตก ไปถึงมุมตะวันออก ผานหองตางๆทั้งสองขาง จากหองทองซึ่งมีฝาผนังและเครื่องตกแตงทุกอยางปดทองระยับ มีกระจกเงาบาน ใหญๆ กรอบปดทองสลักลวดลายติดตามผนัง พลอยคลานผานเขาไปยังหองเหลือง พลอยเคยไดยินถึงหองเหลืองมาตั้งแตเด็กๆ เมื่อมีโอกาสไดเขาไปถึง ก็มองดูดวยความสนใจเปนพิเศษ หองนั้นเปนหองโถงใหญกวาหองอื่นๆที่บนเล็กนอย ฝาผนังและเครื่องตกแตงทาสีเหลืองปดทอง ตรงตามที่ เรียก กันวาหองเหลือง ความจริงหองเหลืองเปนทางเสด็จพระราชดําเนินผานทุกวัน เพราะพระทวารหองนั้น เปดออก ไปยังอัฒจันทรเสด็จออกขางหนา ฉะนั้นเวลาจะเสด็จออกขางหนาก็จําตองเสด็จพระราชดําเนินผาน และเวลาเสด็จ ขึ้นขางในก็จําตองผานอีกครั้งหนึ่ง ฉะนั้นหองเหลืองนี้จึงเปนที่ชุมนุม ของขางในทั้งปวงที่ไมมี ตําแหนงเฝา โดยใกลชิดในที่อื่น มาคอยเฝาหมอบเฝาในเวลาเสด็จพระราชดําเนินขึ้นหรือลงดังกลาวแลว หอง เหลืองกอนหรือเวลาเสด็จพระราชดําเนิน จึงเปนที่ชุมนุมของคนเปนจํานวนมาก ที่เปนเจาจอมก็มีหรือแม เจา นายบางพระองค ก็เสด็จขึ้นเฝา ณ ที่นั้นตามแตพระอัธยาศัย พลอยเคยคลานเขาไปในหองเหลือง กอนเวลา เสด็จ พอโผลประตูเขาไปก็เห็นบรรดาขางใน ที่มาคอยเฝาอยูนั้นนั่งหรือเอกเขนกคุยกัน อยางสบายอารมณ บางทานก็คุยกันอยูกับคนที่นั่งใกลๆ บางก็จับกลุมสนทนากัน เรื่องราวตางๆทั้งในวัง และนอกวัง ดูเหมือนจะถูก นํามาเลาและวิจารณสูกันฟงในหองนั้นโดยละเอียด เสียงพูดกันเบาๆนั้น เมื่อมีคนพูดมากคน ก็ฟงดูไดยินไป ไกลเหมือนกัน เปนเสียงพิเศษไปอีกอยางหนึ่ง บางครั้งก็มีเสียงหัวเราะ ตอกระซิกกันขัดจังหวะขึ้นมา บรรดา ทานขางในเหลานั้น ตางก็มีหีบหมากมีกระโถนของตน ขึ้นมาวางไวกับตัว กินหมากกันไปบาง นัตถุยาบาง แลว ก็สนทนากันเปนที่เพลิดเพลิน ทุกคนแตงกายอยางชาววังสมัยนั้น ซึ่งเปนระเบียบเสมอกันดวยสีประจําวัน เปน เครื่องกําหนด ถาจะดูอยางเผินๆแลว ก็เกือบจะนึกไปดวยวา แมแตรูปรางลักษณะ ก็ไมผิดกันเทาไรนัก ทั้งที่ใน ที่นั้นมีทั้งคนสูงอายุและคนที่ยังอายุไมมาก ระหวางผูที่นั่งอยูคนเดียว หรือจับกลุมคุยกันนั้น ก็มีคนคลานไปไม ขาดสาย บางคนก็เปลี่ยนเพื่อนคุย บางคนก็ไปเที่ยวทักทายปราศรัยคนอื่น บางคนก็มีของตางๆ ที่แปลกและ ใหมสําหรับอวด เชนน้ําอบน้ําหอม ของเล็กๆนอยๆแปลกๆจากนอกวัง เที่ยวคลานไปยังทานผูนี้บาง ทานผูโนน บาง แลวก็เอาของนั้นออกแสดง สรรเสริญคุณภาพของของตน อีกฝานหนึ่งก็อือออหรือติชมไปตามเรื่อง นอก จากนั้นก็ยังมีธุระปะปงตางๆ ที่ติดตอกัน เรื่องราวตางๆ ที่จะอาศัยไหววานกันหรือนัดหมายกัน และมีเรื่อง แปลกๆ อีกมากมายที่จะเลาสูกันฟง ณ ที่นั้น พอถึงเวลาเสด็จพระราชดําเนินผานหองเหลือง เสียงตางๆ ก็เงียบกริบลง ทุกคนลงหมอบเฝา อยางสงบ เสงี่ยม บางครั้งก็ทรงทักทายหรือมีพระราชดํารัส กับบางทานที่เฝาอยู ณ ที่นั้นบาง บางครั้งก็เสด็จผานไปเฉยๆ และพอเสด็จผานไปแลว เสียงพูดจาขยับเขยื้อนกายก็กลับมีขึ้นมาอีก บางทานก็เตรียมตัวกลับตําหนักหรือกลับ เรือน เมื่อกลับไปแลวก็จะไดกลับขึ้นมาเฝาอีกเปนหนที่สอง ตอนเสด็จขึ้นจากขางหนา บางทานก็กลับไปเลยไม ขึ้นมาเฝาอีกในวันนั้น บางทานก็คงอยูในหองนั้นตอไป ความจริงพลอยอยูในวังมานานจนเปนที่คุนเคย รูจักทานขางในหลายทานในหองนั้น ฉะนั้นทุกครั้งที่ ผานเขาไป พลอยจะไดรับการตอนรับทักทายเปนอันดี บางทานก็ลูบหนาลูบหลังชมวาสวย บางทานก็สนใจไต ถามคนอื่นวาพลอยเปนใคร เมื่อรูแลวก็เรียกตัวไปทักถาม ทําใหพลอยรูจักผูใหญกวางขวาง ออกไปอีก บาง ทานใจดี ขาวของเล็กๆนอยๆ อะไรมีที่แปลกหรือใหม ก็เอาแจกให ซึ่งเมื่อเสด็จทรงทราบก็มัก จะทรงพระสรวล แลวตรัสวา "นังพลอยมันชางประจบ"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy106.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 5

อาจเปนเพราะพลอยมีรูปรางหนาตาที่เปนเสนห และมีกิริยาออนหวานนอบนอม พลอยจึงเขาไหนเขาได ไมมีใครหามปราม คุณพนักงานบนพระที่นั่งหลายคน รูจักพลอยเปนสวนตัว และเมตตากรุณาเปนพิเศษ เมื่อรู วาพลอยเปนคนชอบรูชอบเห็น ก็คอยสนับสนุนใหไดมีโอกาสไดรูไดเห็น ครั้งหนึ่งพลอยไดติดตามคุณพนักงาน เขาไปถึงหองพระบรรทมที่เรียกวา "ในที่" ตามความรูสึกของพลอย ในที่นั้นเปนที่สูงสุดยอดของพระบรม มหาราชวัง เพราะเปนที่อันรโหฐานที่สุดของบรรดาที่รโหฐานทั้งหลาย นอยคนจะไดเขาไปถึง ขาวของเครื่องใช ทุกอยางในนั้นเปนของสูง จะจับตองสิ่งใดก็ตองกราบไหว เพราะเปนเครื่องใชสวนพระองคโดยแท สิ่งที่ทุกคน ตองกราบเมื่อเขาไปในที่ก็คือ พระมหาเศวตฉัตร ซึ่งกั้นกางพระแทนลดสําหรับเจาจอมนั่งถวายอยูงานพัด หรือ อานหนังสืออยูนอกเศวตฉัตรออกไป พลอยแลเห็นเตียงนอนตั้งอยูอีกอันหนึ่ง เมื่อกระซิบถามคุณพนักงานๆ ก็ กระซิบตอบวาเปนพระที่สมเด็จ ที่บนที่พลอยไมเคยอาจหาญเขาไปถึง ก็คือหองน้ําเงินและบริเวณที่สมเด็จประทับ มีบางครั้งบางคราว ที่ พลอยเชิญหีบหมากเสวยตามเสด็จขึ้นเฝาสมเด็จ แตถาเปนการเฝาสมเด็จโดยเฉพาะแลว เสด็จมักจะเสด็จขึ้น ทางบันไดดานตะวันออก ขางที่มีดาดฟาและรานดอกไม แตพลอยก็ไดแตสงเสด็จเพียงอัฒจันทรชั้นลาง และนั่ง รอกจกวาจะเสด็จกลับ เพราะการที่จะขึ้นบันไดไปชั้นบนนั้น จะตองผานหองที่นั่งของคุณทาว ผูซึ่งคนยําเกรง วาสนาทั้งวัง เพียงแตรูวาคุณทาวนั่งอยูในหอง ก็ทําใหพลอยตัวเล็กลง จนเกือบเปนละอองฝุน เสียแลว ถาขืน อาจหาญลวงล้ําผานขึ้นไป เพียงแตคุณทาวทามองดูเทานั้น พลอยก็คงจะละลายหายไป ดวยความกลัวตรงนั้น เอง เวลาหาปที่ทําใหพลอยเปลี่ยนจากเด็กเปนสาวเต็มตัวนั้น ไดเปลี่ยนคนอื่นๆ ที่เขามาเกี่ยวของในชี่วิ ตพลอย อยูมากเหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่เคยเปนเด็กมาดวยกัน สําหรับคนที่เปนผูใหญนั้นเวลาหาป มิไดทํา ใหเปลี่ยนแปลงเทาใดนัก ตามความรูสึกของพลอย ตั้งแตแมตายแลว นางพิศก็เขามาอยูกับพลอยในวัง โดยอางตัวเองวาเปนมรดก และนางพิศก็คงเปนสิ่ง เดียว ที่เชื่อมโยงตอเนื่องไปถึงแม ทางบานคลองหลวงนั้นพลอยไดรับการติดตอไมมาก คนที่มาติดตอสงขาว คราว ใหทราบเปนครั้งคราวก็คือพอเพิ่ม ซึ่งบัดนี้เปนหนุมอายุ ๑๙ และเขารับราชการที่กรมพระคลัง หอ รัษฎากรพิพิฒน ถึงแมวาที่ทํางานของพอเพิ่มจะอยูใกลแคนั้น และพอเพิ่มจะตองเขามาทํางานในวังทุกวันก็ตาม พอเพิ่มก็ไมคอยจะมีเวลามาหาพลอย เพราะพอเพิ่มมีเพื่อนฝูงมากขึ้นทุกวัน บางคราวที่พบกันแถวทายวัง พอ เพิ่มก็มีกลิ่นเหลาจากปาก ทําใหพลอยตองตักเตือนหลายครั้ง ขาวที่ไดรับจากพอเพิ่มก็คือ ทุกคนทางบานสบาย ดี โดยเฉพาะตัวพอเพิ่มเอง ซึ่งเมื่อเติบโตทํางานแลว ก็ไมมีใครมาวากลาวอยางแตกอน คุณเชยนั้นโตเปนสาว อายุ ๑๘ และทะเลาะกับคุณอุนบอยขึ้น บางทีถึงกับไมพูดกันนานๆ สวนเจาคุณพอยังพูดถึงพลอยเสมอ คนที่พลอยไดพบปะมากกวาพี่นองของตนเอง ก็คือพี่เนื่องของชอยซึ่งไปมาหาสูกันเสมอ บางทีแมชั้นก็ เขามาหาถึงในวัง บางทีคุณหลวงก็มาหาที่ประตูวัง แตคนที่มาหาคงเสนคงวามิไดขาดก็คือ พี่เนื่อง ตั้งแตพลอยกลับมาจากบานชอย หลังงานโกนจุก พี่เนื่องก็ทําตามคําพูดที่ไดพูดไว คือมาเยี่ยมชอย และ พลอยเสมอ เดือนหนึ่งไมต่ํากวาสองครั้ง เพราะการที่พี่เนื่องมาเยี่ยมประจํานั้นเอง พลอยจึงติดนิสัยที่จะตอง ออกไปพบพรอมๆกับชอยจนเห็นวาเปนของจําเปน ถาครั้งใดพี่เนื่องไมมาตามที่คาดไว พลอยก็รูสึกวามีอะไร ขาดไป การสมาคมกับพี่เนื่องนั้นในขั้นแรกก็เปนไปอยางเด็กๆ มีการดีอกดีใจที่ไดพบกัน และพูดจาลอเลียน เลนหัวกัน แตเวลาที่ผานไปทําใหพี่เนื่องเปนหนุมขึ้นทุกวัน การแตงกายเวลาที่มาหาพลอย ก็ดูประณีตบรรจง ขึ้น ทุกวัน คุณหลวงไดนําพี่เนื่องไปฝากเขาเรียนในโรงเรียนนายทหาร หาปตอมาพี่เนื่องก็เกือบจะออกเปนนาย ทหาร อยูแลว ในระหวางนั้นพี่เนื่องจึงมาหาไดเฉพาะวันพระหยุดเรียน และแตงเครื่องแบบมาหา สวมเสื้อแดงสี ฉูดฉาด บาดตา ซึ่งทําใหพลอยปลื้มใจและภูมิใจเปนอยางยิ่ง ที่ไดรูจักพี่เนื่องและเปนคนหนึ่งที่พี่เนื่องมาหา แต ชอยนั้น มิไดแสดงอาการตื่นเตนในพี่ชายของตนอยางใด ครั้งแรกที่ชอยเห็นพี่เนื่องใสเสื้อแดง ก็อุทานเปนคํา วิจารณ ไปดวยในตัววา "ตาย ! เหมือนกับไมควักปูนเดินได" ซึ่งทําใหทั้งพี่เนื่อง และพลอยตองหัวเราะกันยกใหญ เพราะถาจะวาไปพี่เนื่องก็มีลักษณะใกลเคียง กับที่ ชอยวา เพราะพี่เนื่องผอมและสูงชลูดขึ้นไป เมื่อเสื้อที่ใสทําใหทอนบนเปนสีแดงก็นับวา ชอยวิจารณไมไกล ตอ ความจริงนัก พี่เนื่องเปลี่ยนจากเด็กเปนชายหนุม และเปนชายหนุมที่พลอยเห็นวาคอนขางสวยทีเดียว ถาหากวา ใน ตอนแรกๆ ใครๆจะไปถามพลอยวารักพี่เนื่องหรือไม พลอยก็คงจะตอบทันทีวารัก โดยไมรูสึกตะขิดตะขวง หรือ อับอาย เพราะในตอนนั้นในใจจริง พลอยก็รักพี่เนื่องอยางพี่ ไมมีความรูสึกเปนอยางอื่น แตในระยะหกเดือน ที่ แลวมา ความรูสึกนั้นก็เริ่มจะเปลี่ยนแปลงไป ตนเหตุก็เพราะพี่เนื่องเริ่มมองดูพลอย ดวยสายตาที่มีความหมาย และเปนประกายเหมือนกับวา พี่เนื่องตองการจะบอกใหพลอยรูอะไรสักอยางหนึ่ง ดวยสายตานั้น ถาจะใหพลอย อธิบายความรูสึกของตนเองในตอนหลังนี้ พลอยก็คงอธิบายไมได อาจบอกไดแตเพียงวา วันไหนที่รูวาพี่เนื่อง จะมาหา ดินฟาอากาศในวันนั้นดูจะสดชื่นเปนพิเศษ จะมองดูสิ่งใดก็ใหสวยงามไปหมด แสงแดดที่สองในวันนั้น

http://www.geocities.com/siamstory/ploy106.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 5

ดูเหมือนจะมีแตประกายเพิ่มความงามใหแกของอื่น ขาดความรอนของแสงแดดในวันอื่นๆ ที่พี่เนื่องไมมา ลมที่ พัดมาในวันนั้นก็ดูเหมือนจะใหความสดชื่น ชุมเย็นไมชั่วแตกายภายนอก แตเย็นระรื่นเขาไป ถึงในทรวงอก น้ํา อบแปงร่ําที่เคยทาทุกวันนั้น ก็ดูสงกลิ่นหอมเปนพิเศษในวันที่พี่เนื่องมาหา ทุกสิ่งทุกอยาง เปนเครื่องชวยสง เสริมใหสนับสนุน ใหพลอยแตงตัวอยางประณีตกวาปกติ และมือที่หยิบผานุงผาหมนั้น ก็ดูเหมือนจะเลือกสรร เฉพาะผานุงผาหมผืนที่ดีที่สุด สําหรับวันนั้น พอตื่นเชาหัวใจของพลอยก็เตนแรงกวา วันธรรมดาและยิ่งใกล เวลาที่จะออกไปพบพี่เนื่อง หัวใจก็ยิ่งเตนแรงขึ้น จนบางครั้งเลือดฉีดขึ้นที่ใบหนา เปนสีชมพูระเรื่อง เวลาจะพูดจะคุยกับพี่เนื่อง พลอยก็มักจะใชสายตาจับอยูที่ใบหนาของพี่เนื่อง จนจําไดหมดทุกสวน ตลอดจนวิธีจะพูดจะหัวเราะและเมื่อพี่เนื่องกลับไปแลว ถึงเวลากลางคืนเขานอน ภาพใบหนาของพี่เนื่อง ตลอด จนกิริยาทาทางก็ยังเห็นติดตา แตทั้งหมดนี้ถาหากวาใครจะไปบอกพลอยตรงๆวา พลอยรักพี่เนื่อง เสียจนสุด สวาสขาดใจ พลอยก็คงจะปฎิเสธแข็งแรงวาไมจริง และในใจของพลอยก็เชื่อวาไมจริงเหมือนกัน แตพี่เนื่องเปนคนทําใหพลอยเกิดความอาย และเมื่อเกิดความอายขึ้นแลว ในตอนหลังๆนี้ พลอยก็มักจะ อิดเอื้อนไมยอมออกไปพบกับพี่เนื่องเสียบอยๆ ทั้งที่อยากจะไปใจจะขาด วันหนึ่งขณะที่พี่เนื่อง คุยอวดชอยถึง เรื่องที่ตนกําลังจะเรียนจบ ไดออกไปเปนนายทหาร ชอยก็ถามขึ้นวา "เออพี่เนื่อง ถาพี่เนื่องออกเปนนายทหารแลว พี่เนื่องจะทําอะไร" "อาวก็ไปหัดทหารซีชอย ถามได" พี่เนื่องตอบ "ไมใช" ชอยพูดตอ "ฉันหมายถึงพี่เนื่องจะทําอะไรกับตัวเอง" "เอ ! ตอบยากจริง ก็ไมรูซี เห็นจะตองมีเรื่องเสียกระมัง" ทั้งชอยและพลอยตื่นเตนในคําพูดของพี่เนื่องเปนอยางยิ่ง ชอยนั้นถึงกับตบมือหัวเราะ แลวถามวา "ฉันอยากรูนัก พี่เนื่องจะแตงกับใครกัน พี่เนื่องหมายใครไวบางหรือเปลา" สีหนาพี่เนื่องเปลี่ยนไปทันที ที่โหนกแกมเปนสีชมพูเรื่อๆเห็นไดชัด พี่เนื่องนิ่งอยูนาน มองดูหนาพลอย ดวยสายตาที่ยิ้มละไม แลวพูดชาๆ ชัดถอยชัดคําริมฝปากสั่นนอยๆวา "ก็มองไวเหมือนกัน คนนั้นก็อยูไมไกลนักหรอก" พลอยรูสึกวาตัวรอนวูบขึ้นมาทันที เลือดวิ่งซูทั้งสรรพางคกาย กมหนามองดูดินอยางไมอยากจะเงยกลับ ขึ้นมาอีก แตในวันนั้นเองตอนที่พี่เนื่องกลับไปแลว และพลอยกําลังเดินกลับตําหนักกับชอย พลอยก็เกิดความ รูสึก ประหลาดที่ไมเคยรูจักมากอน คือวาบหวามในทรวงอก และเวลาที่เดินนั้นก็รูสึกตัวเบาเหมือนกับลอยไป ไมรูสึกวาเทาแตะพื้นเลย ตั้งแตนั้นมาความรูสึกที่พลอยมีตอพี่เนื่อง ก็เปลี่ยนไปกวาแตกอน อยาวาแตจะมีใครมาถามพลอยวา รูสึกอยางไรตอพี่เนื่องเลย เพียงแตใครมาพูดถึงพี่เนื่อง พลอยก็อายจนแทบจะทนไมไหวเสียแลว ตั้งแตความ รูสึกใหมเขามาแทนที่ พลอยก็เริ่มอิดเอื้อนที่จะออกไปพบ ถึงคราวที่พี่เนื่องมาหา พลอยก็ปฏิเสธกับชอยไม ยอมออกไป อางวาปวดหัวบาง ไมสบายบาง หรือบางทีก็หายขึ้นไปเฝาเสด็จเสีย ที่ชั้นบนตําหนัก ทําใหชอยไม กลาขึ้นไปตาม ครั้งหนึ่งชอยถามเอาตรงๆวา "พลอยฉันถามจริงๆเถอะ หมูนี้พลอยเปนอะไรไป" "เปลา" พลอยตอบออมแอม "ก็เปลา แลวทําไมหมูนี้ดูเผลอๆไผลๆ ชอบนั่งเหมอคนเดียวบอยๆ ไมพูดจากับใคร" "โธเปลาจริงๆนะชอย ฉันไมไดเปนอะไรหรอก" "แลวเวลาพี่เนื่องมาหาทําไมไมออกไปพบเหมือนแตกอน" "ก็ไมรูซี" พลอยแกตัว "ปวดหัวเสียบาง ติดธุระเสียบางแลวพี่เนื่องวาอยางไรบางหรือเปลา" พลอยอดใจ ไว ไมได เพราะอยากจะรูวาพี่เนื่องนึกคิดอยางไรบาง ที่สําคัญที่สุดคือพี่เนื่องเสียใจบางหรือไม ที่ไมไดพบพลอย และจะมีความรูสึกทุรนทุรายใจเชนเดียวกับพลอย เมื่อพลอยมิไดเห็นหนาพี่เนื่องหรือไม แตชอยก็ตอบ ใหตรง กับที่พลอยอยากฟงอยูแลววา "ก็บนออดไปเทานั้น เขาวาพลอยลืมเขาเสียแลว พี่เนื่องหมูนี้เปนอะไรก็ไมรู ถาจะพลอยบาไปอีกคน ฉัน สังเกตดูเฉยๆเนือยๆ ตาไมจับคน มองไปแตทางประตูวัง เหมือนกับจะมองหาใครสักคน แลวก็ไมคอยอยูคุยกับ ฉันนาน พูดกันคําสองคําก็กลับ ไมเชื่อคราวหนาออกไปดูกันสิ" พลอยเมินหนาไปเสียอีกทางหนึ่ง หัวใจเตนไมไดจัวหวะ เพราะคําตอบของชอยบอกใหรูชัดวา ที่พี่เนื่อง หมั่นไปมาอยูเสมอนั้น ก็เพื่อมาหาพลอยมิใชใครอื่น ใจหนึ่งนั้นพลอยอยากออกไปพบพี่เนื่องทุกครั้ง และอยาก จะพูดจะคุยอยูที่นั่นตลอดทั้งวัน อยากไดเห็นหนาอยากไดยินเสียงพูด เสียงหัวเราะของพี่เนื่อง แตอีกใจหนึ่งนั้น ก็บอกใหหลบหลีก ใหอยูหางไวกอน การเก็บตัวสงวนตัวในตอนนี้ จะทําใหพลอยและพี่เนื่อง มีราคาสูงขึ้นจน กวาจะถึงอีกวันหนึ่งขางหนาใครจะไปรู ชอยเห็นพลอยทําเฉยเมยเรื่องพี่เนื่อง ก็เลยไมชวนคุยและไมบอกใหรูวาพี่เนื่องจะมาเมื่อไร เพราะไมใช วิสัยของชอยที่จะไปงอใคร ถึงแมวาคนนั้นจะเปนคนที่ชอยรักมากเชนพลอยก็ตาม แตการนิ่งของชอยนั้นเอง ทํา ใหพลอยตองถามขาวพี่เนื่องจากชอยอยูเสมอ ซึ่งบางคราวถาชอยอารมณดีก็บอกให บางครั้งถาอารมณไมดีก็

http://www.geocities.com/siamstory/ploy106.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑)

Page 5 of 5

บอกวา "ไมรู ไมชี้ ใครอยากรูเรื่องใครก็ไปถามกันเองซี" วันหนึ่งหลังจากเฝาเสด็จตอนเชา พลอยก็ลงมาขางลางเพื่อรับอาหารตามปกติ รวมสํารับกับชอย และ คุณสาย วันนั้นพลอยสังเกตเห็นชอยดูหนาตนบอยครั้ง บางครั้งก็ยิ้มๆอยางมีนัย พลอยนึกเฉลียวใจวา ชอยคงมี เรื่องอะไรสักอยาง แตไมกลาถามขึ้นเพราะอยูตอหนาคุณสาย แตพอกินขาวเสร็จคุณสายลุกไปแลว ชอยก็เรียก พลอยไปนั่งกันสองตอสอง เมื่อเห็นวาไมมีใครมากล้ํากราย ชอยก็หยิบเอาหอกระดาษสงไปใหหอหนึ่ง บอกวาพี่ เนื่องฝากมาใหพลอย พลอยรับหอกระดาษนั้นมาดูมือไมสั่น ทั้งอายทั้งดีใจระคนกันไป เมื่อแกหอออกดูก็ปรากฏวาในนั้น มี แพรเลี่ยนผืนหนึ่ง เนื้อดีและขนาดใหญพอทําแพรเพลาะหมนอนได แพรนั้นมวนอยูรอบนอก ขางในมีขวดน้ําอบ เล็กๆอีกสองขวด รูปรางเหมือนกันไมมีผิด เปนขวดแกวเจียรไนของนอก ตามขอบขวดและที่จุก มีเสนเดินทอง เล็กๆเปนลวดลาย ขวดหนึ่งนั้นบรรจุน้ําอบฝรั่งแลดูใสสะอาด อีกขวดหนึ่งใสน้ําอบไทย ซึ่งละลายแปงร่ําเติมลง ไปมากกวาปกติ จนแลดูขุนขนไปทั้งขวด ขวดทั้งสองนั้นมัดติดกันอยูดวยริบิ้นสีชมพู และมีกระดาษแผนเล็กๆ พับกลางสอดไวระหวางขวด พลอยคลี่กระดาษนั่นออกอานอยางลุกลี้ลุกลน แตพออานจบ ก็รูสึกวาตัวเย็นวูบมือ ออนเทาออน แทบจะกระดิกไมได แมแตเมื่อชอยฉวยเอากระดาษไปอานบาง พลอยก็ไมมีกําลังใจกําลังกายไป หามปรามขัดขืนได ชอยเริ่มอานขอความในกระดาษนั้น ดวยเสียงเบาๆเปนกลอนวา "กระดาษนอยแทนปากฝากมาถาม วาปวยไขเปนอยางไรใครรูความ หรือโฉมงามเคืองขัดหัทยา แตกอนนี้เคยไดพบประสบพักตร เคยถามทักเสรสรวลชวนหรรษา ไฉนกลับหางเหินไมเมินมา หรือหวงหนาหวงตัวกลัวหยิบยืม เหมือนกระตายหมายแขที่แลหลง แสงเพ็ญสงมาสักนอยก็พลอยปลื้ม เคยสัญญาวาอยางไรไมรูลืม ยิ่งดูดดื่มเสนหานึกอาวรณ ขวดนอยใสน้ําใสเหมือนใจพี่ เมื่อไดยลมารศรีดวงสมร อีกขวดขุนมองเห็นเปนตะกอน เหมือนอกพี่เมื่อเจาจรไปลับตา เพียงสังเกตก็พอรูอยูวารัก อกจะหักเสียดวยความเสนหา อันแพรเลี่ยนเตียนดอกขอบอกมา เหมือนอุราเรียมที่วางอางวางเอย" "โอย ฉันจะอวก ! " ชอยรองเมื่ออานจบ "พี่เนื่องนะพี่เนื่อง ! แคนจะแตงเพลงยาวกับเขาดวย" แลวชอยก็ หัวเราะ อยางขบขันเสียเต็มประดา พลอยหนาแดงกร่ําดวยความอาย ความจริงพลอยก็เคยรูมานายแลววา คนที่มีคูรักเขาสงเพลงยาวถึงกัน แตเมื่อไดประสบเพลงยาวเขากับตนเปนครั้งแรก พลอยก็ไมรูวาจะตีหนาอยางไรถูก จะหัวเราะก็ใชที่ จะดีใจก็ไม เชิง ในที่สุดก็เอื้อมมือไปหยิกขาชอยแกเกอ "โอยเจ็บ ! " ชอยรอง "แนดูซี ! เกอแลวละ ไมตองอายฉันหรอกนา ฉันรูมานานแลว" แลวชอยก็หัวเราะ ตอไป ในที่สุดก็ปรารภขึ้นวา "เออ ! เจาชูประตูดิน เคยไดยินมานานแลว หนาตาเปนอยางนี้นี่เอง" อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy106.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๖ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๖ (หนาที่ ๒) ตั้งแตวันนั้นเปนตนมา ชอยก็เริ่มพะเนาพะนอเอาใจพลอยเปนพิเศษ ยิ่งกวาที่เคยทํามา ถึงแมวาในวัน แรก ชอยจะเห็นวา เรื่องระหวางพี่เนื่องกับพลอย จะเปนเรื่องขบขันก็ตามที แตชอยก็เห็นใจพลอยที่ตองรูสึกอับ อาย และชวยปกปดเรื่องการติดตอของพี่เนื่องใหอยางแข็งแรง ความสนิทสนมความเห็นอกเห็นใจของชอย ทํา ใหพลอยคอยคลายใจลงบาง เพราะถึงแมวาพลอยจะยังมิไดสารภาพตอชอยวา รักพี่เนื่องยิ่งกวาสิ่งใดในโลกนี้ ก็ ตาม ความรักที่สุมอยูในหัวใจนั้น ก็มีทางระบายออกดวยความรูสึกที่วา ชอยเปนอีกคนหนึ่งที่รูเรื่องพลอย ไม ตองปกปดเก็บไวในใจของตนแตผูเดียว เพราะขณะนี้มีชอยอีกคนหนึ่ง ที่รูวาพลอยเปนคนรักของพี่เนื่อง และ ชอยก็รูความขอนั้นดวยความเห็นใจ และดูเหมือนจะรักพลอยมากขึ้นอีกดวยความรูนั้น บางคราวชอย ก็ทําให พลอยสบายใจขึ้นมาก ดวยการหยิบเอาเรื่องของพี่เนื่องขึ้นมาคุย "พี่เนื่องแกก็ไมใชคนเสียหายอะไร" ชอยบอกพลอยคราวหนึ่งที่นั่งคุยกันอยู "แตฉันเห็นวาแกรักสนุก รัก สบายมากไป แตจะไปวาแกก็ไมได เพราะทางบานฉันก็เปนอยางนั้นทุกคน พลอยก็รูจักอยูแลว" พลอยไดแตนิ่งฟง ไมรูจะตอบชอยไดกระไร ทั้งที่ใจจริงนั้น อยากจะตะโกนบอกชอยและคนทั้งวังวา ที่พี่ เนื่องเปนคนที่นารักที่สุด ก็เพราะเปนคนรักสนุกรักสบาย ดวยเหตุนี้พลอยจึงใฝฝนที่จะไดติดตามพี่เนื่อง ไปจน ตลอดชีวิต ใหไดอยูใกลพี่เนื่องไปจนตาย ไมมีวันจะตองจากกันอีก มีหนาที่คอยปฏิบัติใหพี่เนื่องไดสุข ไดสบาย เพียงแตไดยินเสียงพี่เนื่องหัวเราะ ก็เปนรางวัลอยางเดียวที่พลอยปรารถนา "แตก็นั่นแหละ นิสัยอยางพี่เนื่องคนบางคนเขาจะชอบก็ได ลางเนื้อชอบลางยา ตางคนก็ตางใจ" ชอย อมยิ้มมองดูหนาพลอย แลวก็พูดตอไปวา "อยางฉันนี้เห็นจะอยูกับคนอยางพี่เนื่องไมยืด ถาฉันจะมีเรือน ฉัน อยากไดคนที่เปนหลักเปนฐาน ไมชอบคนลองลอยเอาแตสนุกอยางพี่เนื่อง หรืออยางคุณพอ" "ทําไมละชอย" พลอยถาม "ฉันเห็นคุณพอของชอยดีออก และที่บานชอยก็กลมเกลียวกันดีออกจะตาย ไป" "ก็นั่นนะซี" ชอยตอบ "ฉันเกิดมากับเขาชาติหนึ่ง เห็นแตคนสนุก คนใจดี หัวเราะกันวันยังค่ํา เลยเบื่อ เสียแลว ฉันสัญญากับตัวเองไววา ถามีผัวกับเขาสักทีก็อยากไดผัวดูๆ ยิ่งมือไวตบตีเอาบางก็ยิ่งดี มายงั้นก็ อยากไดผัวขี้เมา เออ ! จริงซี" ชอยรองขึ้นอยางดีใจ เพราะพึ่งนึกของใหมไดออก "ฉันรูแลวละพลอย ฉันอยาก ไดผัวขี้เมาสักคน สนุกดี ! แลวฉันก็จะหาเมียนอยเอาไวแยะๆทีเดียว ไปไหนฉันก็เอาตามหลังไปทั้งฝูง ใหญโตดี ไมหยอก ! " "ชอยเอาอะไรมาพูดก็ไมรู" พลอยพอขึ้น ยกมือตีเขาชอยเบาๆ แตแลวพลอยก็อดหัวเราะไมได เพราะ ชอยพูดไปดวยความคะนองปาก ตามประสาคนที่ยังไมเคยปลอยใหความรักผานเขามาในหัวใจ ถึงแมวาชอยจะ แกเดือนกวาพลอยก็ตาม คําพูดของชอยวันนี้ทําใหพลอยเห็นชอยเปนเด็กกวาตนลงไปถนัดใจ "วาแตพอโฉมยงของฉันนั่นเถอะ" ชอยพูดตอไป "มะรืนนี้ก็นัดไววาจะมาหาฉันอีก พลอยจะออกไปพบ กันไหม" พลอยกมหนายิ้ม แกมเปนสีชมพูระเรื่อ แลวก็สั่นหนาปฏิเสธยังกอน เปนตายก็ยังออกไปพบไมได หลัง จากเพลงยาวฉบับนั้น ซึ่งพลอยเก็บซุกซอนไวในตูรวมกับของอื่นที่พี่เนื่องสงมาให วางคนก็แอบเอาออกมา อานแลวอานอีกจนจํากลอนไดขึ้นใจ และจําลายมือพี่เนื่องไดติดตา พลอยหาไดรูไมวา พี่เนื่องเพิ่งริเริ่ม หัดแตง เพลงยาว แตพอแตงไปไดครึ่งหนึ่งถึงสัมผัส "ยืม" ก็กลอนขาดแทบจะไมสําเร็จ ตองเที่ยวแอบถามเพื่อนฝูง อยู หลายวัน จึงตอไปไดจนจบลงเอย "โธ พลอยก็ ออกไปหนอยเถอะนา ! สงสารแก" ชอยออดแทนพี่ของตัว "ออกไปหนอยนะ คนดี๊คนดี สงสารแกหนอยเถอะ แกไมเคยหรอกเรื่องพรรคยังงี้ ฉันรูจริงๆนะ" แตพลอยก็ยืนกรานอยูนั่นเอง จนชอยใจออนเห็นวาจะเอาชนะยังไมได จึงเปลี่ยนเรื่องพูด "ถายังงั้นจะสั่งเสียออกไปวาอยางไรก็ได หรือฝากอะไรไปใหแกเสียหนอย เดี๋ยวแกคลั่งขึ้นมาไปผูกคอ ลม ตมคอตายฉันไมรูดวยนะ หมูนี้ตาแกยิ่งขวางๆอยูดวย" พลอยไดยินชอยพูดก็ใจหาย นึกออกวาพี่เนื่องจะทุรนทุราย คอยฟงคําตอบของพลอยสักเพียงใด จึง พยักหนารับคําชอย แลวตอบดวยเสียงเบาๆ เกือบไมไดยินวา "ดูไปกอน" คืนวันกอนที่พี่เนื่องมาตามนัด พลอยก็เย็บซองใสหมากพลู อยางประณีตบรรจง จนแทบจะสุดสิ้นฝมือ เจียนหมากชนิดเปลือกเปนฝอย จีบพลูยาวใชปูนใสใบเนียมอบหอมกรุน และยาฝอยอบแลวเชนเดียวกัน รุงเชา ก็เอาหมากพลูและยาฝอยที่เตรียมไวใสซอง เอาผาเช็ดปากใหมที่อบควันเทียนและดอกไมไว เหน็บซองพรอม

http://www.geocities.com/siamstory/ploy106_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๖ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 5

กับดอกจําปาอีกสามดอก แลวก็แอบเอาสงใหชอยในตอนเชา โดยไมยอมพูดจาวากระไร ฝายชอยเมื่อเห็นซอง หมากก็เขาใจ เอาไปดูแลวก็หัวเราะพูดวา "แมเจาโวย ! สิ้นฝมือกันคราวนี้เอง ฉันตองเอายาดมติดออกไปดวย เดี๋ยวคนรับดีใจจนเปนลมเปนแลงไป ก็จะไดแกใขไดทัน" ระหวางที่ชอยออกไปประตูวัง พลอยก็นั่งคอยใหชอยกลับดวยหัวใจเตนระทึก เปดตูหยิบเอาแพรเลี่ยน ที่ พี่เนื่องฝากมาใหออกมาเพลาะสอยตะเข็บ แพรผืนนี้พลอยตั้งใจไววา จะทําเปนแพรหมนอน สอยตะเข็บแลว ก็ จะไปจางเขายอมมะเกลือที่แถวเตง ยอมแลวก็จะอบใหหอม จะร่ําใหไดที่ แลวก็จะใชหมนอนตอไป บางทีเมื่อหม แลวก็จะไดฝนถึงเจาของแพรบาง ใครจะไปรู ตอนกลางวันๆนั้น ชอยยิ้มแตกลับมาที่ตําหนัก แตทั้งที่พลอยใจเตนอยากจะฟงขาวพี่เนื่อง ความอายและ ความเกรงวาชอยจะรูความในใจของตนมากไป ทําใหพลอยนิ่งเฉยเสีย สวนชอยก็แกลงทําเฉยเหมือนกัน เพราะ เห็นวาพลอยไมถามขึ้นกอน จนตกกลางคืนแลวชอยจึงเปนคนพูดขึ้นเองวา "พลอย พี่เนื่องเขาสั่งใหมาขอบใจแนะ" "งั้นรึ" พลอยถามเนือยๆ ทั้งที่อยากจะถามตอไปทันทีวา พี่เนื่องเปนอยางไรบาง "โอย ดีใจแทบจะกระโดดโลดเตนทีเดียว พอไดยินฉันบอกวาพลอยฝากของไปให รับซองหมากไปมือไม สั่น แลวก็สั่งใหฉันมาบอกพลอยวา หมากที่สงไปใหนั้นนะ เขาจะกินแตคําเดียว ที่เหลือเขาจะเก็บไวทั้งซอง เอา ไวดูงั้นแหละ" "แลวชอยวาอยางไร" พลอยถาม "ฉันบอกวา จะไปเก็บไวทํามั้ย หมดแลวก็ยังมีคนสงไปอีก ชาตินี้เห็นจะไมอดหรอกหมากพลู" "ฉันไมรูดวยนะ" พลอยพูดแกเกอ "ใครเปนพี่นองกับใคร ก็หาสงกันเอาเอง ฉันไมรูดวยหรอก" "ฉันก็ไมรูดวยเหมือนกัน" ชอยตอบแลวหัวเราะ "ใครมากินหมากกินพลูของนังชอยละก็ ปูนกัดปากตาย ไป ฉันไมรูดวย" พลอยไดยินชอยพูดก็อดหัวเราะไมได เพราะชอยกินหมาก โดยไมยอมเจียนหมากจีบพลูกินเอง คุณสาย เคยเคี่ยวเข็ญใหชอยจีบพลูให แตแลวก็ตองเข็ด เพราะพลูที่ชอยจีบทําใหคุณสาย ปูนกัดปากเสียงอม ไปหลาย วัน "แลววายังไงอีกบางหรือเปลา" พลอยถามพลางทําหนาเหมือนกับไมสนใจ "โอยเขาก็สรรเสริญแมพลอยเสียราวกับเปนนางฟา" ชอยตอบ "สวยก็อยางนั้น ดีก็อยางนั้น จะมองอะไร ก็ใหมันดีไปหมด ฉันก็ถามเขาวา ก็เมื่อเห็นดีอยางนี้แลวจะทําอยางไร เขาก็บอกวาพอเขาออกเปนนายทหาร ตั้ง เนื้อตั้งตัวใหดีแลว ก็จะมารับพลอยไปอยูดวย" "ตกลงกันเสร็จเชียวนะแมคุณ ! " พลอยคอนชอยแลวก็พูดประชดให "ราวกับวาไปชวยฉันมา จะมารับ เมื่อไร ฉันก็ตองไปเมื่อนั้น ไมตองไตตองถามกันละ" "โธ ไมใชอยางนั้นดอกพลอย" ชอยตอบเอาใจ "พี่เนื่องแกเจตนาดีจริงๆ พลอยก็รูอยูแกใจ ฉันไมเคยได ยิน แกพูดเอาจริงเอาจังเหมือนคราวนี้เลย จริงๆนะพลอย พี่นองของใครๆก็รัก เมื่อรักก็หวง อยางพี่เนื่องนี่ฉันก็ หวง เหมือนกัน ถาไดกับคนอื่นละก็จะเปนอยางไรก็ยังไมรู แตถาเปนพลอยฉันก็จะดีใจมาก เพราะพลอยกับฉัน รักกันมาก เราเคยสนิทกันมาอยางไร ก็จะไดสนิทกันตอไป เฮอ ! ฉันพูดไมถูกหรอก ของพรรคยังงี้ไมดี เดี๋ยวจะ มาหาวานังชอยเปนแมสื่อ ! " พลอยรูสึกรักและเห็นใจชอยขึ้นอีกมาก เพราะชอยพยายามจะบรรยายาความคิดความรูสึกของตน แตก็ พูดเสียเลอะเทอะจนนาสงสาร พลอยจึงพูดเอาใจวา "ชอยอยาวิตกอยาคิดมากไปเลย ฉันกับชอยอยูมาดวยกันแตเล็กๆ ถึงฉันจะเปนอยางไรตอไป ฉันกับชอย ก็คงไมลืมกัน ในกระบวนคนรูจักชอบพอกัน ก็เห็นจะไมมีใครที่ฉันจะรักมากเทาชอย คอยดูไปก็แลวกัน" ในปทานุกรมของชาววังนั้น คําวา "เพื่อน" ไมมีปรากฏ ถาจะมีก็ตองบอกใหชัดวาเพื่อนอะไร เปนตนวา เพื่อนเลน เพื่อนคุย ถาบอกวาใครเปน "เพื่อน" กับใครๆเปนเกิดเหตุ ฉะนั้นพลอยกับชอยจึงเปน "คนรูจักชอบ พอกันมาแตเด็กๆ" ไมยอมพูดวาเปนเพื่อนกันเปนอันขาด สําหรับพลอยนั้น ถาใครมาทอดสะพานชวนเปน เพื่อน พลอยก็วิ่งหนีทุกครั้งไป สวนชอยนั้นใครขืนมาทานั้นเปนเจ็บตัว เพราะชอยดาใหเจ็บๆ ใชถอยคําหยาบ คายชนิดที่พลอยทนฟงไมไหว พลอยเคยถามชอยวา ไปหาถอยคํามาจากไหน ชอยก็ตอบวา "ไปเก็บตกมาจาก แถวทิมโขลน ถาไมจําเปนจริงๆก็ไมใช" ระยะเวลาตอมา ความสัมพันธระหวางพี่เนื่องและพลอยเปนอันวา อยูในลักษณะที่เขาใจกัน เพลงยาวและ ของฝากที่พี่เนื่องมีเขามาบอยๆ เปนหลักฐานพยานความรักที่พี่เนื่องมอบให และการที่พลอยไมยอมไปพบปะ นั้น ทําใหชอยและพี่เนื่องเขาใจโดยปริยายวา พลอยก็มีความรูสึกตอบแทน เชนเดียวกัน อยูมาอยางนั้นจนถึงวัน หนึ่งอีกสี่หาเดือนตอมา ชอยก็มาบอกพลอยวา "พลอย พี่เนื่องสั่งมาวาวันพระหนาใหออกไปพบใหได" "ไฮ ! ฉันไมไป !" พลอยตอบเสียงแข็ง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy106_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๖ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 5

"เปลานา ฟงเสียกอนซี" ชอยตอบแลวก็บอกตอไปวา "พี่เนื่องเขาออกเปนนายทหารแลวละ นายเขาสั่งใหขึ้นไปอยูนครสวรรค จะตองไปเร็วๆนี้ แมแกรองไห น้ําตาเปนเผาเตาไปแลว เขาสั่งฉันมาใหพลอยออกไปใหได เขาอยากจะมาลา ไปเสียหนอยเถิดพลอย" พลอยใจหายวาบ เมื่อไดยินชอยเลาความใหฟง จริงอยูพลอยมิไดพบกับพี่เนื่องมานาน แตความรูสึกวา พี่เนื่องยังอยูที่เกา และมาที่ประตูวังตามนัดทุกครั้ง ที่มิไดพบกันก็เพราะพลอยเปนฝายหลบนั้น ทําใหพลอยใจ เย็นอยูได พอรูวาพี่เนื่องจะจากไปถึงนครสวรรค ซึ่งเปนหัวเมืองไกลนักหนา พลอยก็แทบสิ้นสติ หนาซีดเผือด ลงทันใด ถามชอยวา "จริงๆหรือชอย อยาหลอกฉันนะ แลวพี่เนื่องจะไปเมื่อไร" "จริงซีนา ใครจะมาหลอกกันนะเรื่องอยางนี้" ชอยตอบ "เขาบอกฉันวา ขอใหไดพบพลอยพูดจากันสัก ครั้ง แลวเขาก็จะรีบไป รอนานไมได" พลอยอยากจะลงนั่งรองไหอยูตรงนั้น กรรมเวรอันใดเลาที่ทําใหคนที่พลอยรักตองจากไปอีกแลว ความ หลัง ที่ผานมากลับมากระทบหัวใจ แมเคยจากพลอยไปบานนอก แลวในที่สุดก็จากไป โดยไมมีจะไดพบกันอีก คราวนี้พี่เนื่อง พลอยตองสั่งใหตัวเองหยุด เพราะไมกลาคิดออกไปใหไกลกวานั้น พลอยไมไดรับปากกับชอยวา จะออกไปพบกับพี่เนื่องหรือไม แตการกระทําจองพลอย ในระยเวลาสี่หา วันตอมา ทําใหชอยเขาใจเอาเองวา ครั้งนี้พลอยตองออกไปพบกับพี่เนื่องแน เพราะพลอยเที่ยวหาหีบเล็กๆมา ไดใบหนึ่ง เริ่มปรึกษากับชอยถึงเรื่องที่จะหาของบรรจุ สําหรับพี่เนื่องเอาติดตัวไปดวย ชอยก็แนะนําวาเปนของ กินแหละดี ยิ่งเปนของกินจุบกินจิบดวยยิ่งดีใหญ เพราะพี่เนื่องนั้นถึงจะโตเปนหนุมรักผูหญิงไดแลว ก็ยังไม ละทิ้งนิสัยที่ขอบกินขนมไมเปนเวล่ําเวลา ระหวางนั้น พลอยขึ้นเฝาเสด็จไมนาน ตองหาโอกาสลงมาทําของกิน ใสขวด บรรจุหีบสําหรับใหพี่เนื่อง ของบางอยางก็ทําเอง บางอยางก็ซื้อจากคนขายที่มีชื่ออยูในวัง น้ําพริกลูก หมากมาดและน้ําพริกผัด พลอยสั่งเขาทําเปนพิเศษ ใหแกหวานไว เพราะพี่เนื่องชอบอยางนั้น หมูหยองนั้นชวย กันทําสองคนกับชอย ตลอดจนมะขามฉาบ ขนมกรุบ ขนมกรอบ ลูกบัวผัด พลอยกะสําหรับพี่เนื่องขนเอาไปกิน ไดหลายวัน การที่ทําของเหลานี้ก็อาศัยในเวลาวาง และใหชอยออกหนา เพราะถาชอยทําของกินสงใหพี่ชายไป บานนอก โดยพลอยที่ชอบพอกันเปนแตเพียงลูกมือ ก็ไมมีใครวาอะไรได ของอีกอยางหนึ่งก็คือแพรเพลาะ ผืนที่ทําจากแพรที่พี่เนื่องให และพลอยไดใชหมนอนแลวนั้นเอง พลอย เอามมาลงลูกซัดใหม และอบร่ําเตรียมไวจนถึงเวลาที่จะนําไปมอบให พลอยใชเวลาทั้งหมดตระเตรียมของ ไม ยอมใหใจนึกไปถึงเรืองความทุกข ที่พี่เนื่องจะตองจากไปไกล จึงบรรเทาความเศราลงได ดวยความรูสึกวา ของ ที่พลอยกําลังตระเตรียมอยูนั้น จะติดตัวพี่เนื่องอยูไดนาน พี่เนื่องจะไดกินไดใชของ ที่ไปจากน้ํามือของพลอย และตอไปขางหนาก็จะหาทางสงไปใหอีก ชอยชวยเหลือพลอยทุกอยางๆเต็มใจ สิ่งที่เห็นวาจะมาก เกินไปกวา จําเปน ชอยก็คอยตักเตือน บางทีก็พูดเลนตามประสาของชอยวา "พี่เนื่องไปคราวนี้เห็นจะตองเชาเรืออีกลําหนึ่งเปนแน เอาไวบรรทุกของฝากแมพลอย" ในที่สุดวันที่พี่เนื่องจะมาลาก็มาถึง พลอยตื่นแตเชาเรียกนางพิศใหคอยยกของตามออกไป วันนั้นพลอย แตงตัวอยางพิถีพิถัน แตไปในทางตรงกันขามคือผัดหนาแตงตัวอยางระวัง เพื่อใหพี่เนื่องเห็นก็รูได ทันทีวา พลอยนั้นเศราหมองเพียงใด ยิ่งใกลเวลาเขามาพลอยก็เริ่มลังเลวาจะออกไปดีหรือไมดี หรือจะปลอยให ชอยนํา ของออกไปแตผูเดียว แตแลวชอยก็เปนผูมาตัดสินใจใหดวยวิธีบอกวา "ไปเถิดพลอย พี่เนื่องแกจะตองไปหัวเมืองนานเทาไรก็ไมรู ถาไดพบเสียหนอย แกจะไดไปสบายๆ ไม ตองกังวล" เมื่อชอยและพลอย พรอมดวยนางพิศผูซึ่งถือหีบของ และหอผาหมตามหลัง กาวพนประตูวังออกไป พี่ เนื่องก็มายืนคอยอยูแลว พลอยไมไดพบมานานความรูสึกแรกที่บังเกิดในใจ ก็คือความดีใจที่พลุงขึ้นมา แทบจะ ทําใหพลอยวิ่งเขาไปหา เหมือนเมื่อครั้งเปนเด็กๆ พี่เนื่องพอเห็นพลอยก็ยิ้มออก รีบสาวเทาเดินเขามาหา พอ พบกันพี่เนื่องก็พูดขึ้นกอนวา "แมพลอย ไมไดพบกันนานแทบจําไมได แมพลอยสบายดีหรือ" "ก็ไมไดเจ็บไขอะไร..." พลอยตอบดวยเสียงเบาผิดปกติ สวนชอยก็ขัดคอขึ้นวา "คนบา ! ถาไมสบายจะออกมาถึงนี่ไดเที่ยวหรือ" พลอยนึกขอบใจชอยที่ชวยพูดจาดวยคารมเหมือนเมื่อกอน ทําใหพลอยหายเกอลงไปถนัด "แกซีบา ยายชอย !" พี่เนื่องหัวเราะตอบนองสาว "ยิ่งโตก็ยิ่งบาขึ้นทุกวัน แมพลอยอยูดวยกัน ไมรําคาญ บางหรือ" พลอยหัวเราะ และชอยก็กลาวขึ้นทันควันวา "โอยก็ยังงั้นซี ! ฉันติดโรคบามาจากใครละ" แลวชอยก็หันไปทางนางพิศแลวพูดวา "พิศ ฉันเปนบาไปเสียแลวละ พิศเปนบาหรือเปลา" นางพิศหัวเราะงอหาย วางหีบกับหอลง แลวก็ตอบวา "บาเจาคะ ครบหารอยจําพวกเลยเชียว"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy106_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๖ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 5

"ดีมาก" ชอยพูด "งั้นเราก็ไปดวยกันได ไปทางโนนกันเถิดพิศ คุณอาสั่งมาใหซื้อสมกับนอยหนา ติดมือ เขาไปดวย ปลอยคนดีๆเขาคุยกันทางนี้กอนเถิด" เมื่อชอยกับนางพิศเดินคลอยไปแลว พี่เนื่องก็ถามเบาๆวา "แมพลอยเอาอะไรออกมาแยะเชียว" "ของฉันกับชอยชวยกันทําใหพี่เนื่องเอาไปหัวเมืองดวย" "ดีจริง" พี่เนื่องวา แลวกมลงดูของในหีบ ปากก็พร่ําบรรยายวาถูกใจไปทุกอยาง เมื่อแกหอผาหมออกดู พี่เนื่องก็มองดูหนาพลอย แลวถามเกือบเปนเสียงกระซิบวา "แมพลอย แพรผืนนี้ใหมหรือวาแมพลอยเคยหมแลว" "ถามอะไรก็ไมรู" พลอยพูดแลวเมินหนาไปทางอื่น "ฉันถามจริงๆ นาบอกหนอยเถิด" พี่เนื่องออก "ถาแมพลอยหม แพรผืนนี้ก็มีราคามาก" พลอยพยักหนาแลวก็กมลงมองดิน ไมยอมสบสายตาพี่เนื่องอีกตอไป "พลอย" เสียงพี่เนื่องกระซิบที่ขางหู "แพรเพลาะผืนนี้ ฉันจะหมไปจนตาย ไมวาจะไปอยูที่ไหนๆ ฉันจะ ยอมใหหางตัวฉันเลย" พลอยรูสึกใจหวิวๆ ตัวเบาเหมือนกับลอยอยู เสียงพี่เนื่องพูดตอไปวา "พลอยครองตัวไวใหดี ฉันไปไมนานหรอก พอเปนหลักฐานอีกหนอยฉันจะกลับมารับ เราก็อายุยังนอย อยู พลอยคอยฉันอีกหนอยไดไหม" "พลอยไมไปไหนหรอก" พลอยไดยินเสียงตัวเองตอบพี่เนื่อง "ถาพี่เนื่องพูดจากับผูใหญได พลอยจะไป ไหนเสีย" "ผูใหญของฉันทานวาใหรอไปกอน เพราะทั้งฉันและพลอยยังเด็กนัก ทานก็วาของทานถูก แตอกฉันจะ แตก ตายอยูแลวละพลอย ฉันแทบจะรอไปไมไหวจริงๆ" พลอยนึกสงสารพี่เนื่องจับใจ ไดแตปลอบวา "พี่เนื่องอยาวิตกทางฉันเลย ทําอยางไรเสียฉันก็ตองรอพี่เนื่องจนได" พลอยนึกอยูบอยๆวา ถาไดมีโอกาสพบพี่เนื่องสองตอสอง หลังจากที่พี่เนื่องไดแสดงความรักใหทราบ แลว พี่เนื่องจะพูดจาใชถอยคําอยางไร พลอยเคยนึกวิตกกังวลวา คนที่รักกันนั้นจะพูดจากันอยางไรถูก เคยอาน แตหนังสือประโลมโลก เชนขุนชางขุนแผน ตอนพลายแกวพูดกับนางพิมก็นึกอายเสียลวงหนา ถาเผื่อพี่เนื่อง เกิดพูดแบบนั้นขึ้นมา ก็ไมรูวาจะฟงไดอยางไร แตเมื่อมีโอกาสพบกันเขาจริง พลอยก็คลายใจลงไปถนัด เพราะ พี่เนื่องมิไดใชถอยคําโลดโผนอยางที่คาดหมายไว วิธีที่พี่เนื่องพูดจากับพลอย ก็คงเปนกันเองเหมือนคนรูจักกัน มานาน จะผิดเพี้ยนกันบาง ก็ดวยความเขาใจระหวางพี่เนื่องและพลอย ซึ่งมาบังเกิดขึ้นภายหลังเทานั้น "แมพลอยเปนอยางไรบาง" เสียงพี่เนื่องพูดตอ "ไมไดพบกันเสียนาน ฉันคิดถึงเสียแย ชางไปหมกตัวอยู ได ไมคิดถึงฉันบางหรือ" "ก็คิดถึงเหมือนกัน" พลอยตอบ "แตถาออกมาพบกันบอยนัก ฉันก็กลัวคนเขาจะวาได ฉันก็ไมใชพี่นอง แทๆ ของพี่เนื่องอยางชอย เราก็โตขึ้นดวยกันแลวไมใชเด็กๆ เหมือนเมื่อกอน ฉันจะทําอะไรเดี๋ยวนี้ตองระวังตัว คนที่ขาไมคอยชอบฉันก็มีอยู คนในวังนี้หูไวตาไว เรื่องราวอะไรที่ไมเปนเรื่องบางทีก็โจษจันกันไป ฉันก็ไมอยาก เปนขี้ปากคนอื่นเทานั้นแหละ" "ฉันก็เห็นใจแมพลอยมาก" พี่เนื่องพูด "แตก็นั่นแหละ แมพลอยก็ควรเห็นใจฉันบาง ชั่วชีวิตฉันตั้งแตเด็ก มาจนโต ก็ไมมีใครอื่น เห็นแตแมพลอยคนเดียวมาตั้งแตเล็กๆ แตแรกฉันเองก็ไมรูหรอก รักแมพลอยเหมือน นองในไส แตอยูไปใจมันเปลี่ยนไปฉันมันคนใจเดียว ลงไดปลงใจแลวก็ไมมีวันเปลี่ยน แมพลอยจําไวนะ" "ฉันเชื่อใจพี่เนื่อง ฉันเองก็ใจเดียวเหมือนกัน พี่เนื่องอยาสงสัยเลย" พลอยตอบเบาๆ "แลวคุณพอของพี่ เนื่องทาวาอยางไรบาง เรื่องตัวฉันนะ" "ทานจะไปวาอะไรได ทานบอกวาทานรักแมพลอยเหมือนลูก สวนที่เมื่อถึงเวลาแลว จะไปพูดจาทาง ผูใหญ ของแมพลอยทานวา ทางเจาคุณพอของแมพลอยก็คงไมขัด ทางเสด็จก็คงดีพระทัย แตแลวทานก็วา ฉัน ยังเด็กนัก ใหรอไปอีกหนอย ไดดูลูทางตั้งเนื้อตั้งตัวเสียกอน แลวทานจะจัดการให" "ฉันก็คิดอยางนั้นเหมือนกันแหละพี่เนื่อง" พลอยตอบดวยความเบาใจ ที่พี่เนื่องมิไดเรงรัด "ใจหนึ่ง ก็ อยากจะตามใจพี่เนื่อง แตอีกใจหนึ่งก็ยังกลัวๆ ชอบกล" "กลัวอะไรแมพลอย" พี่เนื่องถาม "ก็ไมรู คิดถึงเรื่องมีเหยามีเรือนแลว ใจคอหายชอบกล ฉันก็ยังไมรูเรื่องรูราว เคยอยูแตกับผูใหญ ออกไป เปนแมเรือนจะทําไดแคไหน ก็นึกไมออก ถาพี่เนื่องไมถือคอยชวยตักชวยเตือนก็ดีไป ฉันกลัวพี่เนื่องจะเบื่อฉัน เสียเทานั้นแหละ" "โธ แมพลอยพูดอะไรอยางนั้น" พี่เนื่องมองดูพลอยเหมือนกับจะกลืนกินเขาไป ดวยสายตา "จะสงสัยฉัน ไปถึงไหน ถาฉันผาอกใหแมพลอยดูได ฉันจะทําใหดูเดี๋ยวนี้" "โอยฉันไมอยากดูหรอก" พลอยหัวเราะ "นี่พี่เนื่องเจอะผูหญิงที่ไหนก็คงพูดอยางนี้ทุกคนไป ปากหวานดี

http://www.geocities.com/siamstory/ploy106_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๖ (หนาที่ ๒)

Page 5 of 5

นัก ยังกะอกเปนสมสูกลูกไม ผาออกใหกันดูไดยังงั้นแหละ" "หาความแทๆทีเดียว" พี่เนื่องวา "ฉันจะไปเที่ยวพูดกับผูหญิงอื่นที่ไหน ไมเคยสักที วาแตตอนที่ฉันไป หัวเมืองคราวนี้เถิด แมพลอยจะลืมฉันเสียก็ไมรู" "ฮึ ! ยังกับวาลืมกันไดงายๆ" พลอยคอยพี่เนื่องเสียเต็มรัก "วาแตคนไปเถิด จะลืมเสียกอนนะไมวา เขา วาผูหญิงทางเหนือสวยเสียดวย" "ฉันไมมีตาจะมองใครหรอก แมพลอย ตั้งแตรูจักผูหญิงมา ก็มองแตแมพลอยคนเดียว"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy106_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๗

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๗ วันคืนผานไปพลอยยังระลึกถึงพี่เนื่องอยูมิรูลืม ของทุกอยางที่เคยพบเห็นอยูเปนประจํานั้น ดูจะมีความ หมายสะกิดใจใหคิดถึงพี่เนื่องไปทุกสิ่งทุกอยาง ของเล็กๆนอยๆใกลตัวซึ่งแตกอนไมมีความหมาย บัดนี้กลับ กลายเปนเครื่องเตือนใจใหคิดถึงคนรักไปสิ้น ผานุงผืนนั้น ผาหมผืนนี้ เคยนุงเคยหมออกไปหาพี่เนื่อง ผืนนั้นพี่ เนื่องเคยชมวาสวย ผืนนี้พี่เนื่องเคยลอเลน ทุกอยางตั้งแตของเล็กไปจนถึงของใหญ จนในที่สุดสายลมที่พัดมา ถูกตัว เม็ดน้ําฝนที่ปรอยลงมา พระอาทิตย พระจันทร ทุกอยางกลายเปนเครื่องหมาย ในหนทางแหงชีวิต คอย เตือนใหระลึก คอยชี้ทางใหไปหาคนๆหนึ่งที่กลายเปนชีวิต คนๆนั้นคือพี่เนื่อง พี่เนื่องหายไปเดือนหนึ่ง แมชั้นก็เขามาในวัง ถือชะลอมเขามาหลายใบ บอกวาเปนของที่พี่เนื่อง ฝากคน ใหเอาใหทางบาน พรอมกับสั่งมาดวยวาใหแบงมาทางในวังบาง แมชั้นเขามานั่งคุยอยูทั้งวัน กลับไปเมื่อตอน ใกลประตูวังจะปด แมชั้นนั่งคุยถึงพี่เนื่องแลวก็หัวเราะไปบาง รองไหไปบาง สวนมากก็คุยกันกับชอยและคุณ สาย ถึงแมวาพลอยจะนั่งฟงดวยความสนใจเปนที่สุด พลอยก็ไมกลาออกปากถาม เพราะไมอยากจะแสดงความ สนใจนั้นออกมามากจนเกินไป แมชั้นเลาถึงตอนที่ขึ้นไปสงพี่เนื่องถึงบางปะอิน พี่เนื่องไปลงเรือของทหารจากที่นั่นตอไปยังนครสวรรค "ฉันใจจะขาดเสียใหไดทีเดียว" แมชั้นเลา "หัวอกแมเห็นจะเปนอยางนั้นทุกคนกระมัง ลูกเคยเลี้ยงมาใน อก ถึงเขาจะโตเปนหนุมเปนนายทหารแลว ก็ยังเห็นเปนเด็กอยูนั่นเอง พอถึงคราวจะตองทิ้งกันไปไกล ใจหาย ไมอยูกับเนื้อกับตัวเสียเลย ฉันรองไหเหมือนกับวาเขาจะเอาลูกไปฆา จนคุณหลวงเขาดุวาฉันไปทําบา ใหขาย หนาคนเขา แตก็นั่นแหละ ฉันใจคอไมดีตั้งแตนั่งเรือไปดวยกันจากกรุงเทพฯ แลว พอเรือเราไปจอดเทียบ เรือ ทหารที่เขามาคอยรับนั้นสิ ฉันจะอกแตกตายเสียใหไดทีเดียว แมชั้นหยุดหัวเราะขบขันตัวเองเสียพักหนึ่ง แลวก็เลาตอ "ตอนนั้นมันชางยุงกันเสียเหลือเกิน ฝนก็ตก อายเรือก็โคลง ฉันก็เปนคนกลัวเรือกลัวแพอยูแลว พอพอเนื่องเขากราบลาที่ตัก จะลาขามเรือไป เลยปลอยโฮ ใหญ" "รองไหรักลูกหรือรองไหกลัวเรือ" คุณสายถามขัดจังหวะขึ้น แมชั้นหัวเราะกิ๊กแลวตอบวา "ดวยกันทั้งสองอยางแหละแมสาย ฝายพอเนื่องก็ไมฟงอีราคาอีรมละ กราบพอแมแลวก็โดดขามเรือ ไปที เดียว ขาวของไมนําพา ตองชวยกันสงของชุลมุนไปหมด เด็กสมัยนี้มันแปลก จะไปไหนมาไหน ไมเห็นมันหวง ขาวหวงของ เห็นหวงอยูแตหอของหอเดียวเทานั้น นั่งกอดอยูกับตัวตั้งแตออกจากกรุงเทพฯ พอเปลี่ยนเรือก็ถือ ขามไปเอง ไมยอมใหใครถือให" "เอ !" ชอยรองขึ้น "หออะไรนะแม" "เขาวาหอแพรเพลาะหมนอน" แมชั้นตอบ "ไมรูไปไดมาจากไหน ดูเปนหวงเปนใยเสียจริงๆ ฉันก็นึกไม ออก เหมือนกันวาพอเนื่องเปนคนขี้หนาวมาแตเมื่อไร เมื่อเด็กๆขี้รอนออกจะตายไป หมผาใหเทาไรก็ดิ้นหลุด หมด" ชอยเมินหนาไปมองฝา เห็นจิ้งจกเกาะอยูตัวหนึ่งก็หัวเราะดวย "หัวเราะอะไรชอย" คุณสายถามขึ้น "หัวเราะจิ้งจก" ชอยตอบ "ไมรูซีคะ หนามันนาขันดี" "คนบา !" คุณสายขึ้นเสียง "เมื่อไรจะเลิกเปนเด็กเสียทีก็ไมรู ไมรูวาไปเอาโรคบามาจากไหน จริงๆนะ" "เอามาจากฉันกระมั้ง" แมชั้นแกแทนลูกสาว "ฉันเองบางทีก็นั่งหัวเราะคนเดียวไมมีปมีขลุยเหมือนกัน" แลวแมชั้นก็เลาถึงพี่เนื่องตอไป พลอยนั่งกมหนานิ่งดูกระดาน ใบหนานั้นรอนวาบ และรูสึกวาจะแดงผิดสังเกต ใจหนึ่งนั้นภาวนาอยาให ตน แสดงอาการพิรุธจนคุณสายจับได อีกใจหนึ่งก็ไดแตนึกถึงพี่เนื่อง... พี่เนื่อง ทูนหัวของพลอย พลอยรูแลววา พี่เนื่องรักพลอยจริง เพียงแพรเพลาะผืนเดียวที่พลอยเคยหมแลวยกให พี่เนื่องยังอุตสาหแยกถือไปตางหาก มิ ใหปะปนกับของอื่น พี่เนื่องนั่งกอดหอแพรเพลาะ ตั้งแตกรุงเทพฯ ถึงบางปะอิน บางทีก็จะนั่งกอดตอไป จนถึง นครสวรรค ปานนี้ วันนี้เวลานี้พี่เนื่องจะทําอะไรอยูที่นั่น จะมีเวลานั่งนึกถึงพลอยอยางที่พลอย กําลังนึกถึงพี่ เนื่องบางหรือเปลา หรือวาพี่เนื่องจะวุนวายกับราชการที่ตองทํา เปนนายทหารนี่ตองทําอะไรบาง ก็ไมรู พี่เนื่อง เคยบอกวาหัดทหาร เขาหัดกันอยางไรพลอยก็ไมเคยเห็น เขาวาเปนทหารก็ตองไปรบ รบกันก็ตองฆากัน พี่

http://www.geocities.com/siamstory/ploy107.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๗

Page 2 of 5

เนื่องจะตองไปรบบางหรือไม ตองไปฆาคน คนอยางพี่เนื่องแสนที่จะนารัก แสนที่จะใจดี จะไปฆาใครได หรือคน อื่นเขาจะฆาพี่เนื่อง แสงสวางในหองดูจะสลัวไป เมื่อนึกถึงตอนนี้ ถาพี่เนื่องเปนอะไรไป พลอยจะทําอยางไร เอาอีกแลว น้ําตาเอย เริ่มจะไหลรินออกมาแลว ตองซอนไมใหใครเห็น..." "แมพลอยเปนอะไรไป" ชอยถามขึ้นดังๆ ทําใหพลอยสะดุง "เปลา" พลอยรีบตอบ "นี่อะไรก็ไมรู" คุณสายดุชอย "เขาก็นั่งของเขาดีๆ ถามเสียตกอกตกใจ" "ก็ฉันเห็นเขาเอาชายผาหมขึ้นซับหนา" ชอยเถียงแลวก็ยิ้มมาทางพลอย "ถามดูเผื่อเปนอะไรไมสบาย จะไดชวยกันแกไข" แมชั้นหันมามองหนาพลอยแลวก็อมยิ้ม เหมือนจะรูความอะไรอยูบาง แตก็พูดอยางอารมณดีตามเคยวา "แมพลอย ชอยมันกวนนักก็ทุบมันเขาเถิด ฉันไมวาหรอก" "เอา ! แมก็เปนเสียอยางนี้แหละ" ชอยประทวงขึ้นอยางราเริง "เมื่อฉันยังเด็กๆ ก็คอยแตหนุน ใหคุณอา เฆี่ยน เดี๋ยวนี้ถึงหนุนใหแมพลอยทุบแลว ถาเผื่อฉันตายไปแมจะทํายังไงนะ ฉันอยากรูนัก" แมชั้นนั่งเคี้ยวหมากอมยิ้มมองดูพลอยอีกครูหนึ่ง หยิบกระโถนมาบวนน้ําหมากชาๆ ตายังมองดูพลอย แลวก็กลาวดวยน้ําเสียงที่เยือกเย็นชุมชื่นเขาไปถึงในหัวใจพลอยวา "ถึงชอยตายแมก็ยังมีพลอยอีกคนหนึ่ง ที่แมรักเหมือนกับลูกในไส จะมีเสียอยูก็ที่ลูกของแมจะนอยลงไป คนหนึ่งเทานั้น ที่มีอยูเดี๋ยวนี้ยังไมมากพอที่จะใหแมรักไดเลย ความรักของแมยังมีเหลือไว ใหหลานที่จะเกิดตอ ไป อีกมาก" คําพูดของแมชั้น เหมือนกับมีใครเอาน้ําเย็นใสสะอาดมาชโลมที่หัวใจ พลอยรูแนวาแมชั้นตองรูเรื่อง ระหวาง พี่เนื่องและตน แตดวยความใจดี กลัวพลอยจะอาย แมชั้นจึงทําไมรูเรื่องเสีย แตก็พยายามพูดเปน ปริศนาใหพลอย เขาใจวา แมชั้นมิไดมีความรังเกียจในตัวพลอยเลย ตรงกันขามแมชั้นกลับพรอมแลวที่จะรับ พลอยไปเปนสะใภ พรอมแลวที่จะมอบความรักของแมใหโดยสมบูรณ เหมือนกับวาพลอยเปนลูกของแมชั้นอีก คนหนึ่ง พลอยรูสึกตื้นตันในคําพูดของแมชั้น ถาทําไดในขณะนั้น ก็แทบจะเขากอดแมชั้นเสียใหเต็มรัก แตเมื่อ ทําไมได ก็ไดแตยิ้มกับแมชั้น แลวพยายามบอกดวยสายตาวา พลอยขอบใจและเห็นใจแมชั้นเปนที่สุด "เออ ! ฉันก็เพิ่งจะรู" เสียงชอยรองตอบแมของตนดังขึ้น "เดี๋ยวนี้ฉันเกิดมีลูกแมเดียวเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่ง แลว วาไงพลอย เราลูกแมเดียวกันแลวนะ" "เอาใหญแลวนะชอย ! พูดอะไรก็ไมรู เรื่องไมเปนเรื่อง" คําพูดของคุณสายก็มีความหมายลึกซึ้งเชนเดียวกันวา คุณสายรูเรื่องของพลอยและพี่เนื่องเปนอยางดี และเมื่อรูแลวคุณสายก็มิไดหามปราม แตเมื่อยังไมถึงเวลา คุณสายก็ยังไมยอมพูดถึงเรื่องนี้ และไมยอมใหคน อื่นๆ พูดถึงเหมือนกัน แมชั้นนั่งคุยตอไปจนเย็น แลวก็ลุกขึ้นกระวีกระวาดเก็บขาวของจะกลับบาน กอนจะกลับแมชั้นก็หยิบ กระเปาหมากมาคนดูอะไรตออะไร แลวอุทานวา "ตายจริงชอย ! แมเกือบลืมไป พอเนื่องเขาฝากหนังสือมาใหชอยฉบับหนึ่งอยูนี่เอง" แลวแมชั้นก็หยิบหนังสือจดหมายยื่นใหชอยซองหนึ่ง พลอยคอยมาตั้งแตเชาจนบาย วาพี่เนื่องจะสงขาว คราวมาถึงตนอยางไรบาง แตเมื่อเห็นวาไมมีเพราะแมชั้นไมไดพูดถึง พลอยก็ชักจะใจหายอยูครันๆ แตคิดไป อีกที ก็โลงในที่พี่เนื่องมิไดสงขาวคราวผานคนอื่นมา ซึ่งจะตองทําใหคนอื่นลวงรูความในใจไปดวย ชอยรับซองจดหมายมาฉีกออกดู ดึงกระดาษในซองออกดูหนอยหนึ่ง แลวก็ซุกกลับเขาไปไมวากระไรอีก เมื่อถึงเวลาแมชั้นกลับบาน ทั้งพลอยและชอยก็เดินไปสงจนถึงประตูวัง ระหวางที่เดินกลับตําหนัก พลอยก็อดใจไวไมอยูตองเอยปากถามชอยขึ้นวา "ชอย พี่เนื่องสงขาวมาวาอยางไรบาง" ชอยหัวเราะ แลวดึงกระดาษในซองจดหมายออกมาใหดู ในซองนั้นมีกระดาษแผนหนึ่ง ซองจดหมาย ปดผนึกอีกซองหนึ่ง บนกระดาษนั้นมีขอความเขียนไววา ยายชอย ขอใหสงซองนี้ใหแมพลอยดวย พี่มาถึงนครสวรรคแลว สบายดี เนื่อง ชอยหัวเราะอยางขบขันแลวพูดวา "จดหมายของฉันมีเทานี้เอง ของแมพลอยบางทีจะมีมากกวานี้กระมัง ไหนพลอยเปดออกดูทีหรือ" แลว ชอยก็ทําทาจะเปดซองจดหมายของพี่เนื่อง ที่มีมาถึงพลอยออกอาน พลอยรีบดึงจดหมายมาจากชอยทันที พรอมกับรองวา "โธ ! ชอยก็" http://www.geocities.com/siamstory/ploy107.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๗

Page 3 of 5

ชอยปลอยใหพลอยดึงจดหมายมา โดยไมยื้อแยงหัวเราะกับพลอยอยางอารมณดีแลวก็พูดวา "แมพลอยก็เอะอะไปได ฉันลอเลนเทานั้นแหละไมอยากอานจริงๆหรอก ถาฉันอยากอาน ฉันมิอานเสีย กอน แลวหรือ" พลอยนิ่งไมพูดวากระไร เดินกําจดหมายพี่เนื่องแนนมุงหนากลับตําหนัก ดวยความตื่นเตนและความดีใจ ระคนกัน ความเสียใจพลาดหวังที่พี่เนื่องมิไดสงขาวคราวมาใหหายไปสิ้น เหลือแตความขอบใจ ที่พี่เนื่องสงขาว มา อยางแนบเนียน มิใหพลอยตองกระดากหรืออาย และไมใหใครรูความไดอีกนอกจากชอยซึ่งรูอยูแลว ครั้นกลับมาถึงตําหนักแทนที่พลอยจะเปดจดหมายพี่เนื่องออกอาน พลอยกลับเอาจดหมายนั้นซอนไวใน ตู เหมือนกับเปนสมบัติอันมีคา เพียงแตรูวาพี่เนื่องมีจดหมายมาถึง และจดหมายนั้นอยูในครอบครองของตน แลว จะเปดออกอานเมื่อไรก็ได เทานนก็ทําใหพลอยรูสึกอิ่มใจไปทั้งคืน และจนรุงขึ้นอีกวันหนึ่ง พลอยก็ยังมิได เปดออกอาน วันนั้นตลอดวันพลอยรูสึกวาโลกมนุษยนั้นชางนาอยูเสียนี่กระไร จะมองดูสิ่งใดก็นารักนาดูไปหมด แมแต คนที่เคยเห็นหนากันอยูทุกวัน ก็ดูรื่นเริงและสดสวยงดงามเกินกวาปกติ พลอยทําการงานตางๆในวันนั้น ตามที่ เคยทํามา แตทําดวยความกระฉับกระเฉงและเบิกบาน จนหลายคนตองทักวาเปนอะไรไป เพราะพลอยเที่ยว ทักทาย และพูดจาเลนหัวกับใครตอใครมากกวาที่เคย แมแตเสด็จก็ยังทรงปรารภขึ้น ระหวางเสวยวา "นังพลอยมันกินอะไรเขาไปก็ไมรูวันนี้ ดูหนาตาผิวพรรณดีกวาทุกวัน" ซึ่งทําใหชอยผูซึ่งหมอบอยูใกลๆ กับพลอยตองกมหนาหัวเราะเสียจนเกินขนาด ทําใหเสด็จตองกริ้วแหว วา "นังชอยก็กําเริบขึ้นทุกวัน" และพาลกริ้วเลยไปถึงคุณสายผูเปนอา และทรงลําดับวงศตระกูลของชอย ถอย หลังกลับขึ้นไปอีกหลายชั่วคน ถึงขั้นทวดและเทียด แตละคนก็ลวนแลวแตมีลักษณะหามบาง บอบาง กําเริบบาง ทั้งสิ้น เมื่อกลับลงมากินขาวดวยกันขางลาง คุณสายก็เทศนาอบรมชอยตอไปอีกนาน ซึ่งชอยก็ใจเย็น นั่งเปบ ขาวกินไปฟงไปจนจบ เมื่อคุณสายเทศนจบแลวชอยจึงสรุปความขึ้นเองอยางนาฟงวา "ถาจะวากันไปจริงๆ การที่เขามาอยูในวังเปนขาหลวงเสด็จนี้ดี๊ดี ไดความรูแตกฉาน ฉันก็เพิ่งจะรูวันนี้ แหละ วาปู ยา ตา ยาย ทวด เทียดฉันชื่ออะไรบาง แตกอนไมเห็นมีใครบอกฉันสักที" คืนวันนั้นตอนดึก หลังจากเสด็จเขาบรรทมแลว โคมบนเฉลียงชั้นบนตําหนัก ยังเหลือจุดริบหรี่อยู อีกดวง หนึ่ง พลอยคอยๆหยิบจดหมายพี่เนื่องออกจากตู เดินเบาๆขึ้นไปนั่งใตแสงสวางของโคมดวงนั้น แลวก็เปด จดหมายออกอาน เวลาเชนนี้เปนเวลาที่พลอยตองการ สําหรับอานจดหมายจากคนที่กําหัวใจของพลอยไว เพราะเวลานั้น ดึกสงัดไมมีผูใดรบกวน ไมมีกิจการใดเหลือที่จะตองทํา พลอยตองการทําหัวใจใหวาง จากสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น เพื่อจะ ไดไมมีเรื่องอื่นใดที่จะตองคิด ขณะที่อานจดหมายนอกจากคิดถึงพี่เนื่องคนเดียว เมื่อเปดผนึกจดหมายออกแลว พลอยก็ทอดอารมณออกไปหาพี่เนื่องซึ่งอยูไกลแสนไกล ขณะนั้นในวังเงียบสวัด นานๆ ก็มีเสียงนกเคาแมวรอง ไกลๆสักครั้งหนึ่ง ขอความในจดหมายนั้นมีอยูวา ถึงแมพลอย ฉันมาถึงนครสวรรคไดหลายวันแลว ใจคอไมอยูกับเนื้อกับตัวเลย ถาจะใหฉันพูดจริงๆ วาฉันมาถึง นครสวรรคไดอยางไร ฉันก็เลาไมถูก เพราะอาการมานั้นเหมือนคนใจลอย เมื่อฉันลาแมพลอยมาวันนั้น ดูเหมือน วาฉันจะไมไดเอาหัวใจกลับมาดวย ถาแมพลอยไมไดถือเอาหัวใจฉันกลับเขาวังไป มันก็คงตกเรี่ยเสียหาย อยู หนาประตูวังนั้นเอง ถาเปนอยางนั้นจริง ขอใหแมพลอยชวยเมตตาออกไปเก็บมาไวเสียกับตัว อยาทิ้งหัวใจฉันไว ใหคนเขาเหยียบเขาย่ํา ฉันจะไมลืมบุญคุณแมพลอยเลย ถึงฉันจะไมไดพบแมพลอยมานาน ถาจะนับปานนี้ก็แรมเดือน ฉันก็ยังคิดถึงแมพลอยอยูทุกลมหายใจ เขา ออก หลับตาลงทีไร ก็เห็นแตหนาแมพลอยทีนั้น ไมวาฉันจะไปถึงไหนหรือไปทําอะไร แมพลอยก็ไปเที่ยวแอบ แฝงอยูทั่ว บางเวลาฉันนั่งอยูคนเดียว ก็แววไดยินเสียงเหมือนแมพลอยมาเรียก เผลอตัวขานรับไปก็มี ของที่แม พลอยใหฉันมานั้น ถึงแมวาจะไมมีราคาคางวดอะไร ฉันก็ยังเก็บไวกับตัวเสมอ แมพลอยจําซองหมากพลู และผา เช็ดปากดอกจําปา ที่แมพลอยสงออกมาใหฉันไดหรือไม เวลานานหนักหนาอยูแลว แตฉันก็ยังเก็บไว ไปไหนก็ เอาติดตัวไปดวย ถึงแมวาจะเหี่ยวแหงเปลี่ยนรูปไปจนจําไมได แตกลิ่นอาบอบร่ําของแมพลอยยังคงอยู ฉันยังได ดมคงชื่นใจอยูทุกวัน เหมือนกับมีแมพลอยมานั่งอยูใกลๆ บางวันถาฉันเหนื่อยหรือรอนหรือเหงา ฉันก็ไดแตเรง เวลาเรงตะวันใหค่ําลงเสียเร็วๆ เพื่อฉันจะไดเขานอน แลวก็หมแพรเพลาะที่เคยหมตัวแมพลอย มาครั้งหนึ่ง เวลา นั้นฉันจะมีความสุขที่สุด เทาที่คนไรวาสนาอาภพอยางฉันจะหาได ฉันมาเห็นเมืองนครสวรรคแลว จึงไดรูตัววาผูใหญทานคิดถูก เมื่อทานบอกวาใหฉันรอไปกอน เพราะหัว เมืองนั้นแสนยากลําบาก ผิดกับกรุงเทพฯ ดินฟาอากาศบทจะรอนก็แสนรอน บทจะหนาวก็แสนหนาว จะมองไป ทางไหนก็มีแตปา ผูคนก็เปนคนบานนอก พูดจากันไมเขาใจ บานชองที่ฉันอยูเวลานี้ก็แสนจะลําบาก เพราะเปน บานชั่วคราวหลวงทานปลูกขึ้น อาหารการกินก็กันดาร จะไปซื้อหาก็ตองเดินไกลถึงปากน้ําโพ ฉันตองใหเขาสง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy107.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๗

Page 4 of 5

ปนโตทุกวัน แตฝมือคนหัวเมืองนั้นผิดปาก มีแตเผ็ดกับเค็ม ฉันก็ตองทนเอา ไดอาศัยของกิน ที่แมพลอยใหมา เปนเครื่องชูชีวิตไปวันหนึ่งๆ แตแมพลอยอยาวิตกไปเลย ความลําบากความกันดารทําใหฉัน เปนผูใหญขึ้นถนัด และมานึกดีใจวา ฉันมิไดใจเร็วดวนไดพาแมพลอยมาดวย แมพลอยเคยอยูแตในรั้วในวัง มาโดนแดดโดนลมที่นี่ เขาจะทนไหวหรือ ฉันนึกอยูทุกวันวา ฉันยอมตายเสียดีกวา ที่จะพาแมพลอยออกมาลําบาก เจานายทานเคยบอกฉันไววา ทานจะใหฉันมาประจําการอยูที่นี่เพียงปหนึ่งหรือสองป แลวก็จะไดยายไป ที่อื่นที่สบายกวา ฉันก็จะอดใจรอไป ขอแตแมพลอยอยาลืมฉันเสียก็แลวกัน เราเคยพูดกันไว วาอยางไรแมพลอย คงจะยังจําได ฉันก็เชื่อถือไวใจแมพลอยไมไดสงสัยกินใจ แตก็นั่นแหละ แมพลอยอยูทางกรุงเทพฯ ฉันก็อดหวง อดคิดถึงไมได เพราะที่กรุงเทพฯ มีลูกขุนน้ําขุนนางอยูมาก แตละคนก็มีรูปสมบัติ คุณสมบัติ ทรัพยสมบัติดีกวา ฉัน ถาแมพลอยยังเห็นแกฉันอยูก็ขอใหรักษาตัวใหดี ทางฉันนั้นแมพลอยอยางหวงเลย อยางไรก็คงอยางนั้น เนื่อง พลอยอานจดหมายพี่เนื่องจบแลว ก็นั่งหลับตาพิงฝาอยูอีกนาน แลวก็คอยๆลุกขึ้นไปยืนที่หนาตาง ตําหนัก ยอดปราสาทและหลังคาตําหนักตางๆ โผลขึ้นมาจากความมืด แสงไฟที่บนยังสวางอยู แตพลอยมองไม เห็นสิ่งเหลานี้ เพราะสายตาที่ทอดออกไปนั้นมองขามออกไปไกลแสนไกล อีกหลายวันตอมา พลอยจึงไดโอกาสคิดรางจดหมายตอบพี่เนื่อง ความจริงจดหมายฉบับแรก ที่มาจาก นครสวรรคนั้น ไดกลายเปนสรณะของพลอยในยามวางหรือยามเหงา หรือแมแตจะไมสบายใจมา ดวยเรื่องใดๆก็ ดี พลอยมักจะหยิบจดหมายพี่เนื่องออกมาอานแลวก็อานอีกเสมอ และถึงแมวาจะจําขอความ และถอยคําไดทุก ตัวอักษร จดหมายนั้นก็รูสึกวายังใหมอยูทุกครั้งที่เอาออกมาอาน บางครั้งเมื่ออานแลวก็มีความสุข บางครั้งก็มี ความทุกข สุดแตอารมณจะชักนําไป ยิ่งอานไปก็รูสึกวา ตัวเองรักพี่เนื่องมากขึ้นไปอีก และเมื่อรักพี่เนื่องมากยิ่ง ขึ้น พลอยก็ยิ่งรูสึกวาคนในโลกนี้มีจํานวนนอยลง จนเกือบจะเหลือสองคนแตพลอยกับพี่เนื่องเทานั้น แตอยูมาวันหนึ่ง ชอยก็มาบอกวาแมชั้นสั่งเขามาวา มีคนรูจักเขาจะขึ้นไปนครสวรรค ถาทางชอยและ พลอย จะสงของอะไรฝากขึ้นไปก็ใหเตรียมไว แลวก็จะสงคนเขารับเอาออกไปสงรวมไปกับของทางบาน พลอย กับชอยชวยกันตระเตรียมของกินตางๆ อยางที่เคยทํามา คืนวันหนึ่งพลอยก็หาโอกาสนั่งเขียนจดหมาย ถึงพี่ เนื่องเปนเนื้อความสั้นๆวา ถึงพี่เนื่อง จดหมายที่พี่เนื่องสงมาจากนครสวรรคฉันไดรับแลว ฉันดีใจที่พี่เนื่องไมเจ็บไข แตเมื่อไดยินพี่เนื่องเลามา วา ทางนั้นการกินอยูกันดาร ฉันก็เปนหวง คราวนี้ฉันกับชอยชวยกันหาของกิน ที่รูวาพี่เนื่องชอบสงออกมาอีก ขอใหพี่เนื่องเก็บไวใชไวกินตามสบายเถิด ขอใหพี่เนื่องรักษาตัวจงดี อยาใหเจ็บไข ฉันมีความสุขสบายดี ใครๆก็ บนคิดถึงพี่เนื่องทุกคน เมื่อไรพี่เนื่องจะไดเขากรุงเทพฯ บาง พลอย จดหมายเพียงเทานี้เอง แตพลอยนั่งคิดนั่งเขียนเสียจนดึก ครั้งนี้เปนครั้งแรกที่พลอยริมีหนังสือถึงผูชาย การริเลนเพลงยาวนั้นก็ถือกันวามีความผิดนาอับอายนักหนา ถาใครรูไป พลอยก็เรียกไดวาแทบจะเสียคน ไมรู จะเอาหนาไปวางไวที่ไหน ฉะนั้นขณะที่เขียนพลอยก็ตองแอบเขียนในเวลาสงัดคน ไมยอมใหใครมาลวงรู แตถึง อยางนั้นขณะที่เขียนแมมีเสียงแกรกกรากผิดปกติ พลอยก็จะสะดุงสุดตัว รีบซุกซอนกระดาษ กลัวใครจะมาเห็น ถอยคําและเนื้อความที่บรรจงเขียนลงไปนั้นก็ตรองแลวตรองอีก มีความในใจหลายอยาง มากมายสุดที่จะ ประมาณ ที่พลอยอยากจะเขียนพรรณนาใหพี่เนื่องไดรูไดเห็นโดยสิ้นเชิง แตขอความเหลานั้น ไมสามารถจะ เขียนลงไปได แมแตจะพูดกับพี่เนื่องดวยปากก็ดูจะยากเย็นเสียแลว ถาพลอยจะระบายความในใจ ของตนลงไป ในหนากระดาษใหสมใจคน หนังสือนั้นก็คงกินเนื้อกระดาษหลายสิบหนา แทนที่จะเปนเพียงสี่หาบรรทัด ครั้นจะ ไมเขียนเสียเลยก็กลัวพี่เนื่องจะเสียใจวาตนทอดทิ้ง จึงจําตองเขียนแตพองาม ใชถอยคําอยางธรรมดาที่สุด ใคร เห็นก็สุดที่จะวาอะไรได และพลอยก็หวังเปนที่สุดวา พี่เนื่องคงจะเขาใจความหมายจากหัวใจ ที่พลอยไดใสไว ระหวางทุกบรรทัด แมเขียนเสร็จพลอยก็ปดผนึกซุกซอนไวอยางมิดชิด แลวก็นั่งเปนทุกขวาทําอยางไร จึงจะใหจดหมายนั้น ถึงพี่เนื่องโดยไมมีใครรู นั่งคิดนอนคิดวาจะทําอยางไรก็คิดไมตก จะซอนไปในหีบใสของก็ไมกลา เพราะของจะ ตองผานมือหลายมือ เผื่อจดหมายนั้นไมถึงจะทําอยางไร ในที่สุดพลอยก็ตกลงใจวาไมมีทางอื่น นอกจากจะ สารภาพความจริงกับชอย แลวขอใหชอยชวย เพราเปนทางเดียวที่จะสงจดหมายไปได โดยแนบเนียนที่สุด ถึงวันที่จะตองสงของออกไป พลอยก็ถามชอยขึ้นวา "ชอยจะเขียนหนังสือสงขาวถึงพี่เนื่องบางไหม"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy107.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๗

Page 5 of 5

ชอยหัวเราะเกรียวกราวแลวก็ตอบวา "โฮ ! ฉันไมเขียนหรอก ลายมืออยางของฉันใครจะไปอานออก" "โธ ! เขียนหนอยเถอะนา สงสารพี่เนื่องแก" พลอยออด "ไมเขียนละ" ชอยยังดื้ออยู "ทําขนมสงใหกินจนมือจะหักแลว ยังจะตองหยิบกระดาษวาดอักษรถึงกัน อีก" "ไมตองเขียนมากหรอกชอย สองสามตัวก็พอแลวจะได... อา ฉันจะไดฝากของฉันไปดวย" ชอยหยุดหัวเราะทันที เปลี่ยนสีหนามามองพลอยอยางเอ็นดู แลวก็พูดเบาๆ แตดวยน้ําเสียงที่เอาจริง เอาจังวา "จะดีหรือพลอย ใครเขารูเขาจะนาเกลียด พลอยอยาเขียนไปดีกวา" "ฉันไมไดเขียนอะไรที่ใครจะมาวาไดหรอกชอย" พลอยรีบตอบทันที แลวก็หยิบหนังสือที่เขียนไว เอามา เปดผนึกใหชอยอาน ชอยรับหนังสือไปอาน ทําปากหมุบหมิบอยูครูหนึ่ง แลวก็ตอบวา "ถึงงั้นก็เถอะ ใครเขาจะไปรูวาพลอยเขียนไปวาอะไร สักแตเพียงสงหนังสือไปถึงผูชาย มันก็ไมดีเสียแลว คนขนาดเรานะ จริงๆ นะพลอย ถึงพี่เนื่องแกจะเปนพี่ฉันแทๆ ฉันก็ยังไมไวใจ เดี๋ยวจดหมายนี้หลุดไปถึงมือใคร เขาจะพูดกันไปตางๆ เชื่อฉันเถิด ฉันมันคนบาคนหลังใครๆเขาก็รู แตนานๆก็ขอพูดกันจริงๆสักครั้ง ฉันรัก พลอยก็อยากใหพลอยดี เห็นอะไรที่จะทําใหพลอยเสียไดเพียงแตนอยฉันก็ตองเตือน พลอยอยาโกรธฉันนะ" พลอยรูสึกทั้งรักทั้งเห็นใจชอยในเจตนาดีที่มีตอตน และเห็นจริงตามที่ชอยพูด มือนั้นฉีกจดหมายพลาง พูดวา "ไมไดโกรธดอกชอย ฉันเห็นใจ และไดคิดแลว" ชอยยิ้มดวยแลวกลาววา "เอายังงี้ดีกวา วันนี้ฉันจะเลนฤาษีแปลงสารสักที" แลวชอยก็ไปหยิบกระดาษมาเขียนจดหมายถึงพี่เนื่อง เปนเนื้อความสั้นๆบอกทุกขสุข ลงทายดวยขอความวา "แมพลอยเขาสั่งใหฉันบอกมาดวยวา เขาคิดถึง" แลวชอยก็สงหนังสือใหพลอยดูถามวา "เทานี้ก็เห็นจะพอกระมัง" พลอยพยักหนารับคํา เพราะประโยคที่ชอยเขียนลงไปตอนทายนั้น ถึงจะสั้นและธรรมดาก็เปนถอยคํา ที่ บรรยายความในใจของพลอยโดยสิ้นเชิง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy107.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๘ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๘ (หนาที่ ๑) พลอยเคยไดรับการอบรมมาตั้งแตเล็กวา ผูชายนั้นมีอํานาจสิทธิ์ขาดเหนือตน เมื่อเปนเด็กก็อยูในอํานาจ พอ มีเรือนก็อยูในอํานาจผัว ชีวิตนี้จะดีจะชั่วก็สุดแตผูชายจะบันดาลใหเปนไป ผูหญิงนั้นดูเหมือนจะเกิดมา เปน กรรมสิทธิ์ของผูชาย ไมมีวันที่จะไปมีอํานาจบังคับบัญชาใครได นอกจากบังคับบัญชากันเองอยางที่ในวังนี้ นอก จากตําแหนงทาวนางเฒาแกในวัง ก็ไมเคยปรากฏวามีผูหญิงไปรับราชการงานเมืองที่ไหน ความรูสึกแตเดิม จึง มีอยูวา โลกนี้เปนโลกของผูชาย ผูหญิงเปนคนอาศัย และในฐานะคนอาศัยจึงตองนบนอบเชื่อฟงเจาของบาน ตลอดไป การตั้งสมเด็จที่บนเปนผูสําเร็จราชการแทนพระองค ซึ่งทําใหทุกคนตองเรียกตามพระนามใหมวา "สมเด็จรีเย็นต" จึงเปนการสะเทือนความรูสึกในสิทธิ์ของเพศตน ที่สงบนิ่งอยูในตัวผูหญิงมาหลายศตวรรษ ให กลับฟนคืนชีพ เพราะไดปรากฏแนชัดแลววาขณะที่พระเจาอยูหัวไมอยูนี้ ผูหญิงเปนผูครองแผนดิน โดยที่พระ ราชสวามีทรงมอบพระราชอํานาจไวให และไดทรงเฉลิมพระราชอิสริยยศวา "สมเด็จพระบรมราชินีนาถ" ถาจะใหพลอยอธิบายทรรศนะใหมของตนในขณะนั้น ก็คงจะอธิบายไมได อาจบอกไดแตวา คนเราเกิด มาก็เทากันไมวาเปนหญิงหรือเปนชาย ตําแหนงแหงหนหรือกิจการตางๆที่ผูชายทําได ผูหญิงก็คงจะทําไดเชน กันถาเปนโอกาส พลอยนําความคิดนี้ไปคุยกับชอย ซึ่งเห็นดวยเปนอยางยิ่ง และประกาศออกมาดวยความ คะนองปาก ตามแบบของตนตอหนาคุณสายวา "ที่นี้ฉันไมกลัวผูชายอีกตอไป" "ทําไม" คุณสายถามแลวทําตาเขียว "อาว ! คุณอาไมรูหรอกหรือวา เวลานี้ผูหญิงเปนผูเจาแผนดิน !" ชอยตอบอยางองอาจ "เด็กเวร !" คุณสายรองเกือบสุดเสียง "ทําพูดดีไปเถอะจะโดนมะพราวหาวยัดปาก !" แตอยางไรก็ตามคุณสายก็คงจะตองสังเกตเห็นวาระหวางเสด็จยุโรปปนั้น ความสําคัญตางๆ ไดยายจาก ขางหนามาอยูขางใน และเวลาจะออกการออกงานไมวาจะเปนในโอกาสใด ขางในดูเหมือนจะมีรัศมี แหงความ สําคัญนั้นมากกวาขางหนา เพราะสมเด็จรีเย็นตนั้นทรงดํารงอยูในฐานะที่สูงสุด ไมมีขางหนาคนใด จะมาเสมอ เหมือน และทุกวันก็เสด็จออกขางหนา เพื่อทรงราชการเชนเดียวกับที่พระเจาอยูหัวทรงปฏิบัติ ขอแตกตางที่สําคัญอีกอยางหนึ่งที่พลอยรูสึกก็คือ ระหวางที่เสด็จอยูนั้น ถาหากเจานายจะขึ้นเฝา ก็ตอง ขึ้นเฝาบนพระที่นั่งซึ่งดูเปนเรื่องใหญ แตระหวางเสด็จไมอยูนั้นการขึ้นเฝาก็ไมมี สมเด็จเสด็จลงที่สวนศิวลัย หรือที่เรียกวาสวนเตานั้นเกือบทุกวัน หลังจากที่ไดเสด็จขึ้นจากขางหนาแลว เจานายคุณจอมเฝาไดที่สวนเตา และเฝาอยางสนิทสนมเปนกันเอง มีการทรงกีฬาประเภทตางๆ มีโครเกตเปนพื้น เสร็จแลวก็ผลัดผาทรงลงสรง ในสระที่สวนเตาทุกพระองค เปนหนาที่ของพลอยจะตองหาเสื่อไปปู และนําแปงน้ําอบ ตลอดจนเครื่องแตง พระองคอีกชุดหนึ่งใสพานไปที่นั่น นั่งรอจนกวาเสด็จจะขึ้นจากสรงจะไดแตงพระองคที่นั่น แลวก็ประทับอยูที่ ศาลา ในสวนเตา จนถึงเวลาเสด็จขึ้นหรือเสวยที่นั่นทีเดียว ความจริง สมเด็จรีเย็นตทรงอยูในฐานะเปนที่ยําเกรงของเจานาย ตลอดจนคนอื่นๆทั้งปวง ทําใหบังเกิด ความรักเพิ่มเติมยิ่งขึ้นไปอีก พลอยไดตามเสด็จเสด็จไปที่สวนเตาเปนนิจ จึงไดเฝาแหนใกลๆ ดวยความรูสึกทั้ง รักทั้งเคารพบูชาและยําเกรงเปนที่สุด ในขณะที่ทรงกีฬาก็ดี หรือขณะที่ลงสรงในสระ และประทับศาลาก็ดี มักจะ มีการถายพระรูปหมูเนืองๆ เพื่อสงไปทูลเกลาฯ ถวายที่ยุโรป พลอยสนใจในกลองถายรูปนั้นมาก เพราะเปน กลองใหญตองดึงเขาดึงออก และตองขาหยั่งใหไดที่อยูหลายตรลบ ตองคลุมผาเปลี่ยนกระจกและอะไรตออะไร ประดักประเดิดเต็มที ที่พลอยสนใจเปนหนักเปนหนัก ก็เพราะเคยนึกวา การถายรูปอยางเอาจริงเอาจังนั้นเปน เรื่องของผูชาย แตคราวนี้ชางภาพหรือชางถายรูปเปนผูหญิง ซึ่งตอบขอบันทึกไว ณ ที่นี้ดวยวาชื่อแมสรอยนอง สาวขุนฉายาฯ เปนขาหลวงตําหนักเสด็จพระองคอรทัย ชาววังสมัยนั้น ก็เห็นจะรูจักดวยกันทุกคน ระหวางเสด็จยุโรปเปนเวลาหลายเดือนนั้น ชีวิตของพลอยก็ยังดําเนินไปเปนปกติ กําหนดเสด็จพระราช ดําเนินกลับพระนครนั้น ตกในฤดูหนาวป ร.ศ. ๑๑๖ นั้นเอง มีขาวเลื่องลือกันไปหนักหนาวา งานรับเสด็จกลับ คราวนี้ จะกระทํากันเปนการมโหฬารสนุกสนานยิ่งกวางานใดๆ ที่ไดเคยเห็นกันมา พลอยขณะนั้นก็เพิ่งอายุ ๑๖ ปเศษ บางเวลาความรักและความทุกข ที่ตองพลัดพรากจากคนรักอาจจะทําให มีความรูสึกเปนผูใหญ แตความ ตื่นเตนเราใจที่จะไดเที่ยวดูงานใหสนุกสนาน ก็กลับทําใหในเปนเด็กลงไปได อีกเหมือนกัน ฉะนั้นยิ่งใกลวัน เสด็จกลับ พลอยก็ไมมีใจจะนึกถึงเรื่องอื่น นอกจากงานรับเสด็จ คนทั้งวังก็ดูเหมือน จะนึกและพูดกันอยูดวย เรื่องเสด็จกลับแตเรื่องเดียว ภาระของชาววังขณะนั้นก็มีแตเครื่องแตงตัว งานคราวนี้เปนงานออกหนาออกตา ตองตัดเสื้อกันใหมหลายๆตัว สําหรับใสไดตลอดงานไมมีซ้ํา ใครมีฝมือรับจางตัดเสื้อก็ตองเรงทํางานทั้งกลางวัน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy108.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๘ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 5

กลางคืน คาจางตัดแตกอนนั้นสําหรับเสื้ออยางดี โบวยิบไปทั้งตัว แขนพองเปนขาหมูแฮม ตัวหนึ่งก็ตก ๒๐ ๓๐ บาท แตพอจวนงานก็ขึ้นไปเปน ๔๐ - ๕๐ บาท คนยังกลาตัด ผานุงยกผานุงไหมก็ถูกขนเขามาขายในวัง กันเปนประจํา คนเดินเขาออกทุกวันไมมีหยุดหยอน ชอยกับพลอยกลับไปเปนเด็กอีกหนหนึ่ง ตื่นเตนเหมือนกับเมื่อครั้งเที่ยวงานโสกันต วันไหนถาไมมี กังวล อยูดวยเรื่องเครื่องแตงตัว ก็พากันเดินไปดูทางสวนเตา ซึ่ง ณ ที่นั้นไดมีการปลูกโรงละคร และปลูก พลับพลากัน อยางเรงรีบ เรื่องที่พูดกันอยูไมขาดปากก็คือละครรํา ซึ่งเจาคุณจอมมารดา คุณจอมมารดาใน รัชกาลที่ ๕ และบรรดาทาวนางไดคุมกันขึ้น เพื่อเลนถวายตัวในงานสมโภชรับเสด็จ พลอยเคยไดยินแตแกๆเลา ใหฟงวา ทานผูนั้นผูนี้รํางามเปนหนักเปนหนา แตก็เกิดไมทันไดเคยเห็น เพราะแตละทานก็สูงทั้งอายุและฐานะ เสียแลว เมื่อพลอยเขามาอยูในวัง แตคราวนี้เปนครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต ที่พลอยจะมีโอกาสไดชมละครรํา ชั้นสูง ถึงเพียงนั้น ครั้นเมื่อถึงเวลาเสด็จกลับเขาจริง งานการที่มีรับเสด็จนั้น ก็เปนการมโหฬารและสนุกสนานเกินกวาที่ คาด พลอยเที่ยวงานเสียจนเกือบจะเรียกไดวาลืมสิ่งอื่นๆ ทั้งหมดแมแตพี่เนื่อง ขณะนั้นเปนกลางฤดูหนาว การ เดินเที่ยวเตรดูงาน จึงสดชื่นไมมีเหน็ดเหนื่อย งานรับเสด็จนั้นมีทั้งนอกวังและในวัง งานที่มีนอกวังนั้นดูเหมือน จะมีทั่วพระนคร แตที่พลอยจําไดติดตาก็คือโขลนกลางแปลงที่ทองสนามหลวง โขนกลางแปลงนั้นมีกลางคืน ทองสนามหลวงจึงถูกประดับประดาดวยโคมไฟสวางไสว ดูสวยงามแทบจําไมได โขนคืนนั้นจับตอน พระราม เขาเมือง มีการสมโภชตอนรับพระรามคืนเมืองอโยธยา ในทองสนามนั้นตกแตงเปนบานเมือง ปราสาทราชฐาน มีตนไมภูเขากระทบดวยแสงไฟ ดูเหมือนกับเมืองเนรมิตรหรือเมืองในฝน เมื่อพระเจาอยูหัวเสด็จ ขึ้นประทับบน พลับพลาแลว งานก็เริ่มดวยขาราชการเดินกระบวนถือเทียนในความมืด ดูเหมือนกับงูตัวมหึมา ที่มีเกล็ดเปนไฟ เมื่อเสร็จการถวายพระพรจบลงดวยการโห ๓ ลาแลว โขนกลางแปลงจึงลงโรง มีพลยักษ พลลิง ในกองทัพพระ รามยาวสุดตา แลวจึงถึงราชรถพระราม และรถบุษบกกษัตริยอื่นลากจูงมาเปนแถวแนว สีทองกระทบแสงไฟ เปนประกายระยับ งานขางในที่พลอยนึกไดทีหลังเมื่อเวลาลวงเลยมานาน ก็คือวันที่เด็กนักเรียนเล็กๆ เขามาถวายพระพร และมีงานเตนรํา เด็กผูชายเล็กๆนาเอ็นดูมาจากโรงเรียนราชวิทยาลัย ที่บานสมเด็จฟากขางโนนเขามาสมทบ กับเด็กผูหญิงขนาดเดียวกันจากโรงเรียนสุนันทาลัย ปากคลองตลาด ทุกคนแตงกายแฟนซีแบบตางๆ เปนฝรั่งก็ มี เปนไทยก็มี เปนจีนก็มีสุดที่จะจดจํา เมื่อนักเรียนมาพรอมกันแลวก็ตั้งขบวนแห ที่หนาพระที่นั่งจักรีมหา ปราสาท เดินเขาประตูย่ําค่ําไปยังสวนศิวาลัย ซึ่งไดปลูกพลับพลาและโรงละครไวเสร็จแลว พระเจาอยูหัวเสด็จ ขึ้นพลับพลา แลวมีการเลี้ยงนักเรียน วันนั้นเปนวันแรกที่พลอยไดเห็นการเตนรําแบบฝรั่ง นักเรียนหญิงกับนัก เรียนชายจับคูกัน เตนรํากลางสนามหนาพลับพลา เขากับจังหวะแตรวงที่เลนเพลงเตนรําเรียกวา เพลงลาน เซอร และ เซอรโรเยอร ชอยซึ่งนั่งดูอยูใกลๆ กันกระซิบบอกวา "พลอยรูไหม ที่เมืองฝรั่งนั้นคนหนุมคนสาวเขากอดกันเตนรําแบบนี้" "ไฮ ! ฉันไมเชื่อหรอก ชอยเอาอะไรมาวา" พลอยตอบ "เด็กๆเตนอยางนี้ก็นารักนาเอ็นดูดี คนโตๆแลว จะไปเตนอยางไรได ผูหญิงกับผูชายเตนดวยกันละก็ขายหนาแยทีเดียว" "อาว จริงๆนะพลอย" ชอยยืนยัน "ฝรั่งเขาไมถือกันหรอก คนเขาเลาใหฉันฟงวา เขาเห็นฝรั่งกับแหมม เตนรําที่วังบูรพา เขาแอบดูอยูครูหนึ่ง แลวก็ตองเลิก เขาวาเขาอายดูไมได" "ตายจริง" พลอยบน "ถาอยางนั้นฉันก็ดีใจที่ไมไดเกิดมาเปนแหมม ใครใหฉันออกไปเตนอยางนี้กับ ผูชาย ฉันตายเสียดีกวา" ถาใครจะบอกพลอยขณะนั้น วาจะไดมีอายุมาถึงไดเห็นลูกหลานของตนเตนรําในแบบที่ยิ่งกวานั้น ในวัน หนึ่งขางหนา พลอยก็คงจะไมยอมเชื่อเปนอันขาด ครั้นถึงคืนวันที่ชาววังคอยอยูเปนหนักเปนหนา ที่จะไดชมละครรําชั้นสูงสุดมาถึง พลอยก็ไดตามเสด็จ ไปยังโรงละครที่สวนศิวาลัย ดวยความดีใจสุดที่จะพรรณนาได ละครคืนนั้นนอยคนจะไดเห็น เพราะทานผูแสดง เปนเจาคุณจอมมารดา และเจาจอมมารดา มีพระราชโอรสธิดาเจานายชั้นสูงในราชตระกูล จึงไมโปรดเกลาฯ ให ผูใดไดมีโอกาสเขามาชมละครรํานั้น นอกจากเจานายและคนในวังแทๆ แมแตพลอยเองก็ไดแตหมอบดูอยูหางๆ ดวยความยําเกรงเปนที่สุด คืนนั้นมีการแตงแฟนซี และรับพระราชทานเลี้ยงกอนแสดงละคร เจานายและเจาจอมบรรดาผูที่ไปใน งานนั้น แตงกายสวยงามพิสดารแบบแปลกตาทุกทาน บางทานแตงเปนแขกดํา บางทานแตงเครื่องฮองเฮา จากราชสํานักเมืองจีนอยางเต็มยศ บางทานแตงเปนเร็ดไรดิงฮูด จากเทพนิยายฝรั่ง บางทานแตงเปนนางละเวง นางพระยาฝรั่งจากเรื่องพระอภัยมณี นอกจากนั้นยังมีอีกมากมายหลายแบบ พลอยจําไดเทาที่สนใจจะดู เมื่อ เสร็จการเลี้ยงแลว พิณพาทยจึงโหมโรง เจาคุณจอมมารดาจุดเทียนเครื่องสังเวย มีการรําเชิญพวงมาลัย และชอ ดอกไมขึ้นทูลเกลาฯ ถวาย แลวจุดเทียนเครื่องทองนอยครบ ตามวิธีเบิกโรงละครหลวง ละครคืนนั้นเลนเรื่องอิเหนา ตอนอิเหนาเขากรุงดาหาไปจนถึงตอนใชบน เพื่อใหเขากับเรื่องเสด็จพระ ราชดําเนินกลับพระนคร บรรดาทานที่ออกรําในคืนนั้น ลวนแลวแตสูงดวยเกียรติ และอายุ ตั้งแตทาวดาหา นาง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy108.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๘ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 5

ประไหมสุหรี มะเดหวี อิเหนา บุษบา ฯลฯ ลวนแลวแตเปนชั้นเจาจอมมารดาทั้งสิ้น มีที่ไมถึงชั้นนั้นอยูคนเดียว คือตัวจรกา แตก็เปนชั้นคุณเฒาแก ตัวเอกในเรื่องที่เยาววัยที่สุดเห็นจะไดแก ทานพระองคชายเล็ก ซึ่งทรง แสดงเปนสีหยาตรา และตามความจริงเปนหลานยา ของทานผูแสดงเปนตัวอิเหนา กระบวนรํา และศิลปชั้นเชิง ของละครคืนนั้น สุดที่จะพรรณนาไดถูก เพราะทานผูแสดงแตละคนมีศิลปสูงเยี่ยม เปนชั้นครูบาอาจารยอยูแลว เมื่อประกอบดวยความตั้งใจแสดงจนสุดฝมือ เพื่อสนองพระเดชพระคุณ และดวยความรูสึกของแตละทานวา ครั้งนี้เปนโอกาสที่จะไดออกโรงเปนครั้งสุดทาย ทานเหลานั้นจึงไดเก็บ ทั้งฐานันดรและวัยอันสูงของทานไวทาง หนึ่ง คงปลอยใหศิลปแตอยางเดียวเขาครองอารมณ และความเคลื่อนไหว ของทานตลอดการแสดง พลอยได ชมละครคืนนั้นแลว ก็จําติดตาไปตลอดชีวิต ตอมาถึงจะไดดูละครอีกหลายครั้ง หลายหนก็ไมเคยเห็นครั้งใดเทา เที่ยมครั้งนั้น นอกจากเรื่องละคร ซึ่งเปนเรื่องที่ลือไปอีกนานในวังแลว คืนนั้นยังมีเหตุการณเกิดขึ้นใหมอีกอยางหนึ่ง ที่มิไดเคยพบเห็นมาแตกอน ธรรมดาคนในวังทุกคน และถาจะวาไปแลวก็คนไทยทั่วประเทศ ในขณะนั้นถือกัน วาเครื่องตนราชูปโภคทุกอยางเปนของสูง ควรแกการเคารพกราบไว ไมมีใครอาจไปรวมของเหลานั้น พระ สุพรรณภาชน คือภาชนะสําหรับใสเครื่องตนพระกระยาหารก็เปนของสูง อีกอยางหนึ่งไมมีผูใดจะใชได เปนของ สําหรับพระเจาอยูหัวแตพระองคเดียว แตในคืนนั้นกอนจะมีละคร ไดมีการเลี้ยงบรรดาทานที่ไปในงาน โดยจัด สํารับใสกับขาวไวสํารับหนึ่งกินไดสองคน กอนมีการเลี้ยง ไดมีพระราชดํารัสวาใหทุกคนบรรดาที่ไปในงานนั้น มี ความเสมอภาคเทากัน จึงใหจับฉลากเขานั่งที่สํารับ สลากของใครตรงกับของผูใด ก็เขานั่งรวมรับพระราชทาน เลี้ยงที่สํารับเดียวกัน ไมตองถืออิสริยยศสูงต่ํา คืนนั้นคุณมอญพนักงานจับสลากที่นั่งไดรวมพระสุพรรณภาชน รับพระราชทานเลี้ยงเฉพาะตอพระพักตร พระเจาอยูหัวสํารับเดียวกัน เรื่องนี้เปนเรื่องที่คนพูดกันมาก ถาจะเรียกดวยภาษาที่ขณะนั้นยังไมมีใครนึกถึง ก็ตองเรียกวาเปนการ ปฏิวัติราชประเพณี ที่ถือกันมามิรูกี่รอยกี่พันป พากันโจษจันไปตางๆ สวนมากนั้นไปในทางเพิ่มพูนพระบารมี ที่ มิไดถือพระองค แตไดลดพระองคลงมาเทาเทียมเสมอภาคกับคุณพนักงาน เหตุการณเชนนี้ทําใหพลอย รูสึก อัศจรรยใจอยูครันๆ และมีความรูสึกเหมือนกับวาตนกําลังยืนอยู ณ ขอบเขตแหงของใหมๆ ซึ่งกําลังเกิดขึ้น และจะเกิดขึ้นตอไป ผูใหญหลายคนปรารภกันถึงเรื่องของใหมยุคใหมเหลานี้ ดวยความเปนหวง ไมแนใจวาจะ รายหรือดี แตสวนมากก็เชื่อถือวาสิ่งใดถาเปนพระราชดําริแลว สิ่งนั้นยอมจะตองเปนของดี นํามาซึ่งสิริมงคล เสมอ ฉะนั้นคุณพนักงานซึ่งไดรับเกียรติยศสูงยิ่ง ไดรวมพระสุพรรณภาชน จึงมิไดมีผูใดทายทัก ไปในทางอื่น นอกจากทางที่เปนสิริมงคล แตแลวก็มิใชใครอื่นนอกจากชอย ซึ่งมาสรุปความใหพลอยฟงอยางแปลกประหลาด พิสดารยิ่งกวาคน อื่นๆ ทั้งสิ้น วันหนึ่งเมื่อคุยกันถึงเรื่องนี้ ชอยก็พูดขึ้นวา "ฉันสงซานสงสารคุณพนักงานคนนั้น" "ทําไมเลาชอย" พลอยถาม "คงไมสนุกและกินขาวไมอรอยเต็มที่ ตองทนหิวเอามื้อหนึ่ง" ชอยตอบ งานรับเสด็จคราวนั้นมีอยูนานหลายวัน พลอยไดยินขาวงานสมโภชที่โนนที่นี่ จากหลายกระแส สุดที่จะ จดจําได และในวันนั้นเองพลอยไดพบกับคุณเชย พี่สาวที่ไดเคยเลนหัวกันมาที่บาน หลังจากมิไดพบกัน มา หลายป คุณเชยเขามาเที่ยวงานและเขามาคางกับญาติในวัง โดยมิไดบอกใหพลอยรูลวงหนาไวกอน แตในวันที่ มาถึงนั้นเอง คุณเชยก็ตรงมาหาที่ตําหนักทีเดียว เมื่อไดพบกับคุณเชยในตอนแรก พลอยเกือบจะจําไมได เพราะเวลาลวงมาหลายป คุณเชยโตเปนสาว ขึ้น ถนัดใจทีเดียว กิริยาทาทางก็เปลี่ยนไปกวาแตกอน "แมพลอย !" คุณเชยทักขึ้นอยางดีใจ ขณะที่เห็นพลอยเดินเขามาหา "แหมฉันคิดถึงเสียจริง ไมไดพบกัน นาน สบายดีหรือ !" พลอยดีใจจนบอกไมถูก เมื่อรูแนวาเปนคุณเชยพี่สาวของตน ตางฝายตางก็ดีใจทักถามกันละล่ําละลัก ตามประสาพี่นองที่ไมไดพบกันนาน "แมพลอยโตขึ้นชางสวยเสียจริง !" คุณเชยมองดูนองสาวแลวก็ปรารภขึ้นอยางภูมิใจ "แตก็นั่นแหละ แม พลอยสวยมาแตเด็กแลว พอเห็นหนาฉันก็จําไดทีเดียว" "ฉันเสียอีกจําคุณเชยเกือบไมได" พลอยยอมรับอยางชื่นตา "แตคุณเชยก็สวยไมใชเลนเหมือนกัน" คุณเชยหัวเราะอยางอารมณดีแลวตอบวา "ไมตองมายอฉันหรอกแมพลอย ฉันรักแมพลอยอยูแลว อยางฉันนี้ใครเห็นสวยก็เห็นจะตาไมคอยดี ละ กระมัง เจาคุณพอทานบนอยูทุกวันวา มีลูกสาวอยางฉันนากลัวขายไมออก แตอยางแมพลอยนี่ละก็ขายออกแน เสียดายมาเก็บเนื้อเก็บตัวอยูเสียที่ในวัง ไมมีใครไดเห็น" "เจาคุณพอเปนอยางไรบาง" พลอยถาม "ก็สบายดี เห็นทานบนถึงแมพลอยกับฉันเสมอวา อยากใหออกไปบานบาง แตฉันก็เฉยๆเสีย เพราะเห็น วาถึงแมพลอยจะออกไปก็ไมมีความสุข ลูกสาวใหญทานไมชอบ ใหใครไปเกี่ยวของ"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy108.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๘ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 5

พลอยนึกถึงคุณอุนในตอนนี้ชักจะเห็นเปนของขัน ความเกลียดความกลัวแตเมื่อเด็กๆนั้น ไดถูกเวลาที่ ผานมาทําใหละลายหายไปสิ้น ความรูสึกที่วาตัวก็เปนผูใหญแลว และมาอยูเสียในวังพนจากอํานาจ ของคุณอุน ทําใหคุณอุนดูเหมือนกับเปนคนที่นาขบขันอยูไมนอย "เออ ! แลวลูกสาวของทานคนนั้นทานขายไมออกบางหรือ" "โอย !" คุณเชยรอง "ไมมีวันออกหรอกแมพลอย คุณอุนเองบอกกับฉันวาชาตินี้เธอไมมีวันมีเรือน เธอวา กลัวคนอื่นเขาจะมาปอกเอาสมบัติ เธอจะนั่งเปนโสมเฝาทรัพยไปอยางนี้แหละจนตาย" "คุณเชยพูดเอาเองกระมั้ง" พลอยหัวเราะ "คุณอุนเธอคงไมพูดอยางนั้นหรอก" "เธอพูดอะไรคลายๆอยางนั้นแหละ ฉันก็ตอเติมใหบาง แตฉันกลัววาเธอจะหวงสมบัติไวไดไมนานเทา นั้น จะหมดเสียที่คุณชิตนี่เอง เวลานี้เห็นแอบหยิบยื่นใหกัน ไมใหเจาคุณพอรูอยูเสมอ" "คุณชิต... เดี๋ยวนี้ทําอะไร" พลอยถามถึงพี่ชายใหญ "จะไปทําอะไร" คุณเชยรอง "ก็นอนอยูกับบาน มีลูกตั้งสองคนแลว" "มีลูกแลว !" พลอยออกอุทานอยางไมเชื่อหู "คุณชิตไดกับใครกัน" "ไมใชใครที่ไหนหรอก" คุณเชยตอบ "นางพวงบาวคุณอุนนั่นเอง แมพลอยจําไดไหม อีเด็กหัวจุกที่เคยวิ่ง แถวๆหนาครัวที่บานนะ คนที่ฉันเคยบอกแมพลอยไมใหไปเลนดวยคราวนั้น เพราะมันเปนหิดเต็มไปหมด นั่น แหละ เดี๋ยวนี้โตเปนสาวแลวกลายเปนพี่สะใภเราเสียดวย แตเปลา คุณอุนเธอไมไดยกยองอะไรหรอก ยังเลี้ยง เปนบาวอยูนั่นเอง วันกอนเธอยังบอกเจาคุณพอใหหาเมียดีๆ ใหคุณชิตเลย" "แลวทานวาอยางไร" "ทานก็หัวเราะแลวบอกวา คนอยางเจาชิตใครจะไปเอา ไปขอลูกสาวใครเขามาใหก็ขายหนาเขาเปลาๆ คุณอุนเธอเคืองเหมือนกันแตเธอไมกลาพูด เออ ! พอเพิ่มเขามาหาแมพลอยบางหรือเปลา" "นานๆครั้งหนึ่ง" พลอยตอบ "หมูนี้ก็หายไปไมรูวาเปนอะไร" คุณเชยถอนใจใหญสายหนาแลวก็พูดวา "ของแมพลอยเองก็เถอะ ไมใชเลนเหมือนกัน พอโตเปนหนุมขึ้นกินเหลาคบเพื่อน บางวันกลับบานเมา แประ มาทีเดียว คนเรือจางมันพาดหัวเรือมาทิ้งไวที่ทาน้ํา ฉันตองชวยปดเจาคุณพอเสียแย แตพอเพิ่มแกดี ที่ แกยังไมมีลูกเมีย แลววาอะไรแกก็ยังฟง ไมเหมือนกับคุณชิต อีกอยางหนึ่งพอเพิ่มแกกินแตเหลา นานๆก็เมา เสียครั้งหนึ่ง คุณชิตนั้นครบเครื่องทั้งฝนทั้งเหลาทีเดียว" "อะไร" พลอยรอง "สูบฝนดวยหรือ" "ก็ยังงั้นซี" คุณเชยตอบ "ทีแรกเขาบอกฉันวาสูบฝนแกปวด พอถึงหนาหนาวมันปวดในขอนัก แตเดี๋ยวนี้ เห็นสูบทั้งหนารอนหนาหนาว คุณอุนตองคอยจายเงินใหเรื่อยๆ แมพลอยกับฉันนี่เกิดมามีกรรม มีพี่ชายรวม ทองกับเขาคนละคน ก็เห็นจะเอาเปนที่พึ่งไมไดเสียแลว" "ฉันนึกถึงเรื่องพี่นองของเราขึ้นมาแลวก็อดกลุมใจไมได" คุณเชยพูดตอ "เวลานี้เจาคุณพอทานยังอยู ก็ ไมเปนไร ถาสิ้นบุญทานไปเมื่อไรก็คงยุงพิลึก จะเอาคุณอุนเปนที่พึ่งก็ไมได เพราะเธอจะเอาแตใจของเธอ ฉัน เองนะไมเปนไรหรอก วาแตแมพลอยเถอะ ระหวางนี้อยูในวังก็ดีอยู แตตอไปจะเปนอยางไร หรือแมพลอยจะคิด มีบุญวาสนาอยูในนี้" "คุณเชยเอาอะไรมาพูด" พลอยรองเสียงหลง "ฉันไมเคยคิดอยางนั้นเลย เปนความสัตยความจริง !" "ถาอยางนั้นแมพลอยก็ควรจะคิดการขางหนาไวเสียบาง เดี๋ยวนี้แมพลอยก็โตแลว ไมใชเด็กๆ ถาออกไป ได ก็ควรจะไปมาหาสูกับทางบาน อยาปลอยใหขาดเสียทีเดียว เจาคุณพอทานก็ยังพูดถึงอยู" คุณเชยเตือน อยางหวังดี "ฉันก็คิดถึงทานอยูเสมอเหมือนกัน แตฉันกลัว แลวการที่จะออกไปบาน ก็ตองมีคนไปรับไปสง ฉันก็ไมมี ใคร มีแตนางพิศอยูคนเดียว จะไปอยางไรได" พลอยตอบเชิงปรารภ "แมพลอยไมตองกลัวใคร เราก็ลูกเจาคุณพอเหมือนกัน ฉันก็ยังอยูอีกทั้งคน เอาเถิดเรื่องไปมา ฉันจะรับ เปนธุระใหเอง" ขณะนั้นชอยเดินลงกระไดตําหนักมา เห็นพลอยนั่งพูดคุยอยูกับคนแปลกหนา ก็ทําทาจะเลี่ยงไปทางอื่น แตพลอยก็เรียกชอยใหเขามารูจักกับพี่สาวของตนไว บางทีชอยกับคุณเชยจะมีลักษณะตองกัน ถูกใจกัน หลายอยาง เพราะพอนั่งคุยกันไดสักครู ก็ถูกใจกันเปนหนักหนา คุณเชยหัวรอรวนไปดวยคําพูดแปลกๆ ของ ชอย และในที่สุดก็นัดแนะกันวา จะตองเที่ยวดวยกันไปจนตลอดงาน พลอยใหชอยกับคุณเชยคุยกันตามลําพังกอน ตัวเองนั้นเดินไปตามนางพิศ ใหมาหาคุณเชย จากหลัง ตําหนัก พอนางพิศกระปรี้กระเปรามานั่งไหว คุณเชยก็หันมาปราศรัยวา "แหมพิศ แกไปมากเทียวนะ" "เจาคา" นางพิศตอบ "เต็มทีเจาคา" "เดี๋ยวนี้เปนชาววังไปแลวซีนะ" คุณเชยถามตอ นางพิศหัวเราะชอบใจ แลวก็ตอบวา "ก็ยังงั้นแหละ เจาคา"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy108.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๘ (หนาที่ ๑)

Page 5 of 5

"เอะ ! ยังงั้นอะไรกัน เปนหรือวาไมเปนก็วามา" "สันดานบาวมันเปนชาววังไมไดหรอกคุณเชย คุณพลอยของบาวอยูในวัง บาวก็อยูในวัง คุณพลอยออก จากวัง บาวก็ออกตาม ชาตินี้คุณพลอยไปทางไหน พิศก็ไปดวยทั้งนั้น" "ดีจริงพิศ" คุณเชยพูดอยางเลื่อมใส "ฉันชักอิจฉาแมพลอยเสียแลวละ ถาฉันมีคนอยางพิศสักคน ฉันจะ ดีใจไมนอยทีเดียว" คุณเชยกมลงเปดกระเปาหมาก หยิบเงินใหพิศสองบาท แลวบอกวา "เอาพิศ เอาไปซื้อของเลนไป นานๆพบกันที" นางพิศลงกราบอยางดีใจ รับเงินไปแลวบอกวา "คุณพลอยคอยกินขนมไวใหดีนะ พรุงนี้แหละพิศจะรวยใหญทีเดียว" "รวยอะไร กะอีเงินสองบาท" พลอยพูดอยางเห็นขัน "อาวคุณยังไมรูอะไร" นางพิศอธิบาย "เมื่อคืนพิศฝนดี๊ดี เห็นนกกระยางบินมาตั้งฝูง วันนี้ตองแทงหวย ใหเต็มภิกขาทีเดียว" "แทงตัวอะไรพิศ" ชอยถามอยางสนใจ "แทง ป. กังสือซีคุณชอย" นางพิศตอบอยางแนใจ "ไฮ ! ฝนเห็นนกกระยางทําไมไปแทง ป. กังสือละพิศ" คุณเชยซัก "ก็นกกระยางมันกินปลานี่เจาคา" นางพิศตอบอยางปราศจากสงสัย "ปลาก็ ป. กังสือซีเจาคา" "ฉันชักจะเลื่อมใสเสียแลวละ" ชอยพูดขึ้น "พิศจะออกไปแทงหวยเมื่อไรละก็บอกฉันใหรูมั่งนะ ฉันจะฝาก ไปแทงสักเฟองหนึ่ง" อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy108.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๘ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๘ (หนาที่ ๒) การที่คุณเชยเขามาอยูในวังชั่วคราว ทําใหพลอยรูสึกวาชีวิตเต็มสมบูรณขึ้นอีกหนอยหนึ่ง คุณเชยนั้นถึง แมจะเปนคนนอกวังก็ตาม แตเมื่อเขามาอยูในวังก็ไวทาทางสมกับเปนลูกผูดีมีสกุล พลอยรูสึกภูมิใจที่ไดมี โอกาสแนะนํา ใหคุณเชยรูจักกับคนที่คุนเคย นอกจากลักษณะทาทางแลว คุณเชยยังแตงกายและใชเครื่องใช ตางๆ ที่แสดงใหเห็นวาเปนคนมีฐานะดี การที่มีพี่สาวเปนเศรษฐีสําหรับไปไหน มาไหนดวยนั้นก็ออกจะทําให พลอยมีรัศมีขึ้นมาก คืนวันหนึ่ง พลอย คุณเชย และชอยพากันออกไปดูละครรําที่ขาราชการฝายหนา จัดใหมีที่ศาลาสหทัย ละครคืนนั้นขาราชการชั้นพระน้ําพระยา ไดอุตสาหฝกซอมกันขึ้น จนเขามาเลนถวายตัวในงานสมโภชรับเสด็จ ได คนที่ออกไปดูตางก็พากันสนใจวา กระบวนรําจะเปนอยางไร และระหวางที่ละครกําลังเลนอยู ตางก็พากันซุบ ซิบพูดกัน บางคนก็ชมความพยายาม บางคนก็เห็นขัน พลอยนั่งดูละครอยางเพลิดเพลินอยูนาน แตแลวก็เกิดมี ความรูสึกแปลก ดวยสัญชาตญานวา มีใครคนหนึ่งจองมองตนอยูขางหลัง รูสึกเย็นหลังวาบๆ ตั้งแตทายทอยลง มา และเมื่อเห็นผิดสังเกตพลอยก็เหลียวไปดู ตาของพลอยก็ไปพบเขากับสายตาอีกครูหนึ่ง ซึ่งจองดูพลอยดวย ความสนใจเปนอยางยิ่ง เจาของสายตาคูนั้นเปนบุรุษรางใหญ ผิวขาวอายุราวๆ ยี่สิบหา สังเกตดูจากการแตงกายพลอยก็รูไดวา เปนมหาดเล็กหลวง ถาจะวาไปแลวชายคนนั้นก็นับวาอยูในเกณฑที่หนาตาดี แตพลอยก็มิไดสนใจในขอนั้น สิ่ง แรกที่รูตัวก็คือนึกรําคาญ พลอยเหลียวไปดูดวยสีหนาที่บอกชัดวารําคาญอีกครั้งหนึ่ง แตสายตานั้นก็มิไดลดลง แตเพิ่มแววเปนยิ้มเขาไปอีก ซึ่งทําใหพลอยนึกโมโห สะบัดหนากลับมาทันที ความรูสึกที่วาตนกลายเปนเปา แหงสายตานั้น ทําใหพลอยหมดสนุก แตเมื่อเห็นคุณเชยกับชอยยังเพลินดูละครอยู พลอยก็ไมกลาที่จะชวนกลับ ตองอดทนดูอยูจนละครเลิก และตอนขากลับ พลอยก็รูทั้งที่มิไดเหลียวไปดู วาชายคนนั้นเดินตามดูตัวมาตลอด จนเกือบถึงประตูย่ําค่ํา อันเปนเขตพระราชฐานชั้นใน คืนนั้นพลอยไมสบายใจ นอนกระสับกระสายตลอดคืน ตามธรรมดาเวลาเขานอน พลอยมักจะหลับทันที ตามประสาคนที่อยูในวัยหนุมสาว บางครั้งก็นอนหลับตานึกถึงพี่เนื่องแลวก็หลับ แตคืนนี้จะเปนเวรกรรมอยาง ใด พลอยก็บอกไมถูก แตพอหลับตาลงทีใดก็ไดเห็นแตแววตา และใบหนายิ้มๆ ของชายคนนั้น จะพยายามขับ ไล ดวยวิธีนึกถึงเรื่องอื่นอยางไรก็ไมสําเร็จ ชอยซึ่งนอนอยูใกลๆ เห็นพลอยไมหลับก็ถามขึ้นวา "พลอยเปนอะไร" "เปลาดอกชอย" พลอยตอบ "ตาคางนอนไมหลับเสียเฉยๆ" "ฉันก็ไมคอยงวงเหมือนกัน" ชอยวา "คุยกันกอนก็ได" "ชอย" พลอยพูดขึ้น "เมื่อตอนไปดูละครเมื่อหัวค่ํา ชอยสังเกตเห็นอะไรหรือเปลา" "ไมเห็น อะไรกัน" ชอยถาม "มีอีตาผูชายอะไรก็ไมรู แกจองมองฉันเสียจริงๆ จองเอามองเอาจนฉันรําคาญ" "งั้นรึ หนาตาเปนอยางไร" "หนาขาวๆ บอกไมถูก อายุ ๒๕ - ๒๖ ไดกระมัง" "ฮื่อ !" ชอยตอบมาจากมุง "ก็เรามันคนสวยนี่พลอย คนเขาก็ตองมองบางซี อยางฉันซีไปไหน ไมมีใคร เขามองเลย คืนวันนี้ก็แตงตัวเสียเต็มยศเทียว แตไมยักมีใครมองสักคน เสียดายแทๆ" "ชอยก็พูดเปนเลนไปได ฉันรําคาญรําคาญ จริงๆนะ" "รําคาญใคร รําคาญฉันหรือรําคาญคนมอง" "รําคาญคนมองนะซี" พลอยตอบ "ถาอยางนั้นตอไปจะไปไหนก็คลุมหนามันเสีย" ชอยวา "เอะ ! ไมดีหรอก เดี๋ยวหมามันจะเหาใหรําคาญ อีก เอายังงี้ดีกวา ทีนี้เห็นใครมองไมถูกใจบอกฉัน ฉันจัดการเอง" "ชอยจะไปทําอะไรเขาได !" "พุทโธ ! พลอยก็ อยูดวยกันมาตั้งเปนนาน ยังไมรูจักฝมือฉันอีกหรือ คอยดูไปเถอะนา พวกเจาชูไกแจนี่ มันไมกลาจริงหรอก ฉันปราบเอง ใหมันเรียงหนากันเขามาเถิด" พลอยพูดตอไปเปนเชิงปรับทุกขกับชอยอีกสองสามคํา แตก็ไมมีประโยชน เพราะเสียงกรนเบาๆ ดังมา จากมุงของชอยเสียแลว ตั้งแตนั้นมาพลอยก็ตองรับความรําคาญอีกหลายครั้ง เพราะคนเรานั้น ถาลงไดพบกันหนหนึ่ง ก็มักจะ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy108_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๘ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 4

พบกันอีกบอยๆ จะเปนดวยเจตนาหรือไมก็ตาม บางวันที่พลอยออกไปแถวหนาประตูศรีสุดาวงศ เพื่อซื้อสมสู กลูกไมหรือของเล็กๆนอยๆ ที่คนขางนอกเอามาขาย ผูชายคนนั้นก็มักจะมาเตรอยูแถวนั้น และเมื่อเห็นพลอยก็ เดินตามดู หรือถาพลอยหยุดชายผูนั้นก็หยุดบาง การที่ดูก็ดูอยูหางๆ ทิ้งระยะไวพอดี ไมใกลไมไกลนัก ดวยความอายระคนกับรําคาญ พลอยจึงมักจะชวนชอยออกไปดวยเสมอ และเอานางพิศตามหลังไปดวย อีกคนหนึ่ง เมื่อมีเรื่องจะออกไปทายวังหรือไปทางขางหนา และในเวลาไมชาไมนานก็เห็นชายผูนั้น มามองดูอีก จริงๆ อยางที่คาดไว พลอยทําเปนไมเห็น แลวก็พูดเบาๆกับชอยวา "ชอย คนนั้นแหละ ที่ฉันเคยเลาใหฟงวาเที่ยวตามดูฉัน จนรําคาญเต็มทีแลว" ชอยเหลือบไปดูแลวก็กระซิบบอกวา "คนนั้นนะหรือ ทาทางไมเทาไหรหรอก เดี๋ยวเถอะ ฉันจะจัดการเอง" ชอยทําไมรูไมชี้ตอไปอีกครูหนึ่ง พอสังเกตวาชายผูนั้นไมวางตาจากพลอยแน ชอยก็เริ่มแผลงอิทธิฤทธิ์โดยเรียกนางพิศตามมา แลวก็เดินเขาไป ยืนใกลกับชายคนนั้น ในระยะพูดกันไดยินถนัด "นางพิศ" ชอยขึ้นเสียง "เอ็งนะมันสันดานไพร เอ็งรูไหม" "รูเจาคา" นางพิศตอบทันทีเหมือนอยางกับซอมกันไว "สันดานไพรอยางเอ็งถาจะไมเคยเห็นคนซีนะ เห็นใครเขาถึงไดจองเอามองเอา อยางกับคนไมเคยพบ" "โอย เจาประคูณ ! พอแมของบาวมันไมเคยสอนมาเจาคะ" นางพิศประสมรอยทันที "บาวมันขี้ขาสารเลว หรือผูลากมากดีก็ไมเจียมตัว เที่ยวมองทานใหเปนเสนียดจัญไร คนอยางนี้มันตองโดนหวายโดนตรวนเสียบาง แหละดี" ผูชายคนนั้นไดยินชอยและนางพิศโตตอบกันถึงใจ หนาก็สลดลงทันที รีบหลบเดินไปทางอื่นจนหายลับ ไป ชอยเดินกลับอยางภาคภูมิ มีเสียงหัวเราะอยูในลําคอ แลวก็ชวนพลอยกลับเขาวัง พอพนประตูเขามาชอยก็พูดขึ้นวา "แมพิศ แมทูนหัวของชอย กลับไปถึงตําหนัก แมอยากไดอะไรที่เปนของฉัน ก็ไปเลือกเอาไดทีเดียว" "ไมเปนไรหรอกคุณชอย" นางพิศตอบอยางภูมิฐาน "นิดหนอยเทานั้นแหละเจาคะ" "พิศรูหรือเปลาวาฉันจะดาใคร เมื่อกี้นี้นะ" ชอยถาม "ไมรูหรอกเจาคะ" นางพิศตอบ "แตก็ชางมันปะไร คุณดาใครบาวเอาดวยทั้งนั้น ใหมันเรียงหนากัน เขา มาเถอะ" แตทั้งที่โดนชอยรวนเอาครั้งหนึ่งอยางนั้นแลว ผูชายคนนั้นก็มาปรากฏตัวใหพลอยเห็นบอยๆ หลายครั้ง ที่พลอยมีโอกาสไดผานออกไปขางหนามักจะไดพบ และเมื่อพบครั้งใด ชายผูนั้นก็มองดูพลอย ดวยสายตาที่เต็ม ไปดวยความสนใจอยูนั่นเอง วันหนึ่งชอยมาบอกวา "พลอย ฉันรูแลวละอีตาคนนั้นคือใคร" "ใครกัน" พลอยถาม "ก็อีตาคนที่แกชอบเที่ยวตามดูพลอยนะซี ฉันถามคนที่เขารูจักเขาบอกวาชื่อเปรม เปนมหาดเล็กหลวง ลูกพระยาเหมือนกัน แตพระยาอะไรฉันก็จําไมได" "ชางเขาเถิดชอย" พลอยตอบ "เขาชื่ออะไร ลูกใครฉันก็ไมสน ไมอยากรูดวยซ้ํา" "ฉันก็ถามเขาไปยังงั้นแหละ เขาบอกใหฉันก็เลยเก็บมาบอกตอใหรูไว ตอไปขางหนาเผื่อแกมาเกะกะอีก ก็บอกฉัน" "ไมบอกละ" พลอยพูดเสียงเหมือนผูใหญพูดกับเด็ก "ชอยทําอะไรวูวามเกินไปเสมอ ฉันไมอยากใหชอย ทําอยางนั้นเลย คนเขาจะวาไดเปลาๆ" ชอยหัวเราะแลวตอบวา "ใครวาก็ชางมันเปนไร ใครไมมายุงกับฉันกอน ฉันก็ไมยุงกับใครสักที" บางเวลาพลอยก็รูสึกหนักใจ ในความเกงกาจไมกลัวคนของชอยอยูเสมอ เพราะความจริงชอยมีลักษณะ ผิดกับคนอื่นๆในวังอยูมาก และเนื่องจากความเกงกาจนั้นเอง ชอยจึงมีมิตรมาก และมีศัตรูก็มาก ใครที่รักชอย ก็รักเอามากๆ แตคนที่เกลียดชอยก็มักจะเกลียดเอามากๆเชนเดียวกัน จะหาคนที่เพียงแตชอบพอหรือรูสึก เฉยๆ ไมรักไมเกลียดนั้นก็ไมมี ถาพบคนที่รักชอย พลอยก็สบายใจดวย แตบางเวลาไปไดยินคนที่เขาเกลียด ชอยพูดกัน พลอยก็รูสึกไมสบายใจเอามากๆ ทั้งที่ไมรูจะทําอยางไร เพราะเตือนชอยทีไรชอยก็เห็นเปนเรื่องขบ ขัน หัวเราะเสียทุกทีไป คุณเชยกลับออกไปบาน หลังจากเที่ยวงานในวังแลวกลับมาอีกจริงๆ ตามที่วาไว คราวนี้คุณเชยมาวัน เดียวกลับมิไดคาง และพอเขามาก็มาหาพลอยที่ตําหนักทันที "ฉันกลับไปถึงบาน เจาคุณพอทานก็ถามถึงแมพลอยทีเดียว" คุณเชยเลา "ทานอยากรูเรื่องแมพลอยมาก วาอยูกินเปนอยางไร แลวมีทุกขมีสุขอยางไร ฉันก็เลาใหทานฟงอยางที่ฉันไดรูไดเห็น" "แลวทานวาอยางไรบาง" พลอยถาม "ฉันรูสึกวาทานคลายกังวลไปมาก เจาคุณพอของเราหมูนี้แกไปมากนะพลอย" คุณเชยปรารภขึ้น อยาง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy108_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๘ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 4

หนักใจ "ทานบนกับฉันเองวาทานแกตัวลง ก็อยากใหลูกเตาหอมลอมอยูใกลๆ เดี๋ยวนี้ทานวา ทานเปนหวงลูกๆ ความจริงพี่นองเราก็มีอยูดวยกันไมกี่คน แตทานวายังไมเปนหลักเปนฐานสักคน ฉันนึกๆไป ก็เห็นใจนาสงสาร ทาน" "คุณเชย" พลอยพูดเบาๆ "ฉันก็คิดถึงทานมากเหมือนกัน แตฉันเห็นจะไมมีวันกลับไปอยูบานไดอีก เพราะคุณอุนเธอคงเลนงานฉันแย คุณเชยก็รูอยูเต็มอก อีกอยางหนึ่งเสด็จก็มีพระเดชพระคุณแกฉัน มากมาย เหลือเกิน ไดทรงชุบเลี้ยงฉันมาแตเล็กจนปานนี้ ทุกอยางที่ฉันมีอยูทุกวันนี้ ก็เกือบจะวาไดวา เพราะเสด็จ ประทานให ถาหากฉันทิ้งเสด็จทูลลากลับไปอยูบาน ฉันจะมิเปนคนอกตัญูไปหรือ" "ฉันก็เห็นใจแมพลอย" คุณเชยตอบ "แตอีกใจหนึ่งฉันก็สงสารเจาคุณพอทาน พูดถึงแมพลอยคราวที่แลว ฉันเห็นทานน้ําตาไหล คลายๆกับทานจะนึกไปวาแมพลอยลืมทาน แตเจาคุณพอทานเกรงพระทัยเสด็จอยูมาก ทานวาจะมารับแมพลอยกลับไปก็ไมได เพราะไดถวายเสด็จไวแลว ฉันเลยบอกทานวา ฉันเองจะเปนคนมารับ แมพลอยไปบานเปนครั้งเปนคราว มาคราวนี้ก็อยากจะมานัดวาแมพลอยจะไปไดเมื่อไร ฉันจะไดมารับ" "แลวคุณอุนเลา" พลอยถามอยางไมไวใจ "คุณเชยพูดกับเธอเรื่องฉันบางหรือเปลา" "ฉันพูดแลว" คุณเชยตอบ "พูดกันถึงขั้นแตกหักทีเดียว ที่แรกฉันขอเธอดีๆ แตเธอไมยอม เพราะเธอ เกลียดแมแชมมาก ฉันก็ไมรูวาแมแชมไปทําอะไรเธอไว ตอนทายฉันโมโหขึ้นมา ฉันก็เลยพูดเอาแรงๆบาง เธอ ขูฉันเสียงแหว แตฉันก็แหวเอาบาง เพราะเราโตๆ ดวยกันแลว ใครจะไปกลัวกัน ไมรูจักแลวจักรอด เธอตกใจที่ ฉันขึ้นเสียงเอาบางหรืออยางไรไมรู เห็นนิ่งไปนาน แตแลวก็ยอม" "ยอมใหฉันรับแมพลอยไปคางบานได แตเวลาไปคางขอใหแมพลอยอยูกับฉันคนละหอง อยาไปเกี่ยว ของกับเธอเปนอันขาด ถาอยางนั้นเธอก็จะอยูทางหนึ่ง ไมมาเกียวของเหมือนกัน" "สนุกตายละคุณเชย" พลอยตอบ "อยูบานเดียวกัน แลวก็แยกกกแยกเหลา ฉันไมชอบเลย" คุณเชยถอนใจใหญแลวก็ตอบวา "ทําอยางไรเลา แมพลอยเรื่องมันเกิดมาเสียจนปานนี้แลว แมพลอยไม เห็นแกใคร ก็เห็นแกเจาคุณพอบางเถิด ทานก็เปนพอของเรา อายุทานก็มากแลว" "ก็ตามใจคุณเชย" พลอยพูด "ฉันเองนั้นใชวาจะไมอยากไปบาน แตเมื่อมีเหตุขัดขวางอยูฉันก็จนใจ แต เมื่อคุณเชยพูดมาอยางนี้ฉันก็ไมขัดของ ฉันจะตองปรึกษาคุณปาสายดูกอน แลวก็ทูลลาเสด็จ ทานคงไมขัด หรอก เพราะไปนานๆครั้ง แลวไดความวาอยางไร ฉันจะใหนางพิศไปบอกคุณเชยที่บาน" เมื่อคุณเชยกลับไปแลว พลอยก็ลองปรึกษากับคุณสายดู เรื่องที่จะทูลลาเสด็จเพื่อกลับไปคางบาน เปน ครั้งเปนคราว ตามที่คุณเชยไดชักชวนไว คุณสายก็ไมขัดของกลับสนับสนุนเห็นดีดวย และรับวาจะไปทูลเสด็จ ไวกอนถึงเรื่องนี้ ฉะนั้นในวันหนึ่งขณะที่พลอยกําลังเฝาอยูเวลาเสวย เสด็จก็รับสั่งขึ้นวา "พลอย สายเขามาบอกวา เจาอยากจะลาออกไปเยี่ยมพอเปนครั้งเปนคราวไมใชหรือ" แตกอนที่พลอย จะทูลวาอยางไร เสด็จก็รับสั่งตอไปวา "ไปเถิดขาไมหาม แตเวลาจะไปจะมาขอใหพี่นองมารับมาสง เจาก็เปนลูกผูดีมีสกุล ควรจะระลึกถึงชาติ ถึงสกุลไวเสมอ บิดามารดาเปนผูที่มีพระคุณยิ่งกวาใครๆ ทุกคนจึงตองรักและนับถืออยูในโอวาทพอแม เพราะ พอแมนั้นไมมีใครสําคัญเทา พลอยก็มาอยูกับขาแตยังเด็กๆ ถึงขาจะรักเจาสักเทาใด ก็คงจะไมเทาพอแมเขารัก เดี๋ยวนี้พลอยก็กําพราแมยังเหลือแตพอคนเดียว ขาดีใจที่รูวาพลอยยังมีใจรําลึกถึงพอ อยากจะสนองคุณผูให กําเนิด ขาเลี้ยงใครก็อยากใหดี แตคนเราจะดีจะชั่วมันอยูที่นิสัย คนบางคนถึงจะอบรม สั่งสอนเทาไรก็เสียแรง เปลา ที่เจาคิดออกไปเยี่ยมพอนั้น เปนความคิดในทางที่ถูก สอใหเห็นวาเปนคนนิสัยดี ขาจึงดีใจ ใครที่อยูกับขา ทุกคน ถาทําถูกแลวขาไมหามกลับยินดีสงเสริม ขารูวาพลอยรักขามาก กตัญูขามาก แตเจาไมตองหวงขา คุณบิดามารดาสําคัญกวาของอื่นทั้งสิ้น พลอยจะไปเยี่ยมบานเมื่อไรก็ไปเถิด ถึงแมวาพอเขาตองการจะรับเจา ไปอยูบานเลย ขาก็ไมวา สวนในใจจริงก็ตองเสียดายเปนธรรมดา เพราะขาใชสอยเจาไดถูกใจ แตถึงเจาจะไป แลวคนอื่นก็ยังมี ขาพอจะอยูไปได..." เสด็จเสวยเครื่องหวานเสร็จลง จึงหยุดรับสั่งแลวหันไปบวนพระโอษฐ พลอยเชิญน้ําชาเขาไปตั้งถวาย เสด็จเสวยน้ําชาไปจิบหนึ่ง แลวก็เปดหีบบุหรี่ใบจาก ซึ่งทรงหลังเสวยทุกครั้ง "บุหรี่ของขาหายไปไหนหมด" เสด็จรับสั่งขึ้นอยางสงสัย "ก็เมื่อวานนี้ยังมีอยูเต็มหีบ วันนี้เหลือสองสาม ตัว เทานั้น" พลอยเหลียวมองดูหนาคุณสาย ขาหลวงคนอื่นที่หมอบเฝาอยู ก็เหลียวมองดูหนากัน สวนคุณสายก็ เหลียว มองดูชอยเปนเชิงกลาวหาทันที "ไมมีใครหรอก นังพวกขาหลวงนี้แหละ" เสด็จรับสั่งขึ้น "ดัดจริตขโมยบุหรี่ของขาไปสูบอวดกัน เห็นเปน ของโกเก นี่คงเหน็บเอาไปทีละมวนสองมวน หลายคนเขาก็หมดหีบ เวลากินขาวกันแลวก็คงทําใหญโต กรีด กรายนั่งไขวหางแลวก็หยิบบุหรี่ของขาขึ้น ใครผานมาก็พนควันชาๆ ใหเห็นวาขานี่หรูหราเสียเต็มประดา ขารู หรอก" เสด็จรับสั่งพลางทรงทําทาขาหลวงที่ลักบุหรี่ไปสูบ แลวจะสูบในทาอยางไร จะทรงทอดพระเนตรเห็น หรือจะทรงวาดภาพเอาเอง พลอยก็สุดที่จะเดาได แตทรงทําไดแนบเนียนเหมือนกับทาทางที่ควรจะเปนที่สุด พลอยกมหนาลงกัดฝปากเพื่อมิใหหัวเราะ สวนชอยผูหมอบอยูหางออกไปนั้น กลั้นไวไมอยู หัวเราะออกมาที

http://www.geocities.com/siamstory/ploy108_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๘ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 4

เดียว เมื่อเห็นชอยหัวเราะ เสด็จก็อดทรงพระสรวลไมได แตรับสั่งวา "ดูนังชอยซี วาแลวยังตีหนาทะเลน ! เอ็งขโมยบุหรี่ของขาไปสูบจริงไหมละ ขาพูดถึงไดถูกใจนัก รับมา เสียดีๆนะ" "เปลามังคะ" ชอยทูลปฏิเสธ "โฮย ! อยามาแกตัว ถาเอ็งไมสูบ เอ็งก็ลักของขาไปเที่ยวแจกฝูงหรือใหนางสายอาเอ็งสูบเทานั้นแหละ" "อาวแลวกัน" คุณสายพูดขึ้น "กริ้วไปกริ้วมากลับมาลงเอาหมอมฉันเขาแลว" "ไมรูละ ขาหลวงตําหนักนี้มันก็เหมือนกันทั้งนั้น เห็นขาใจดีก็ถือวิสาสะไปเสียหมด" เสด็จรับสั่ง "พอขา กําลังอวดกับนังพลอยเขาวา ขาจะอยูไดเวลาเขาไมอยูก็เกิดเหตุทีเดียว นี่อีกหนอยขามิหมดตัวหรือ" "แตเอาเถิดพลอย" เสด็จหันมารับสั่งตอไป "ถึงเจาจะตองกลับไปอยูบานอยูชอง เมื่อถึงเวลาขาก็ไมหาม ขาจะทนอยูกับนังพวกลักเล็กขโมยนอยพวกนี้มันปอกลอกไปตามใจมัน ถึงเจาจะไปอยูหางไกลก็ไมเปนไร นักหนา คิดถึงขาก็ไปมาหาสูกันได แตระหวางนี้ ถาเจาจะไปเยี่ยมบานครั้งใดก็ขอใหมาบอก จะไปกี่วันก็ใหขารู บาง แลวถาพี่นองเขายินดีจะมารับมาสงถึงคอยไป ที่ขาพูดไววันนี้ไปบอกใหพอเขารูดวย เดี๋ยวจะหาวาขากีด กัน ไมใหลูกเตาเขาไดพบกัน" รุงขึ้นอีกวันหนึ่ง พลอยก็เรียกนางพิศมา สั่งใหออกไปหาคุณเชยที่บาน แลวก็บอกวาพลอยพรอมแลว ที่ จะไปเยี่ยมบานตามที่คุณเชยขอรอง ชั่วแตวาขอใหคุณเชยมารับมาสงเองทุกครั้ง และขอใหบอกลวงหนามาดวย วาแตละครั้งพลอยจะตองออกไปอยูบานนานเทาใด นางพิศหายไปวันหนึ่งก็กลับมารายงานวา ไดปฏิบัติตามคําสั่งแลว คุณเชยดีใจมาก ที่รูวาพลอยจะออก ไปได สวนคุณอุนนั้นนางพิศวาไมไดพบ ไดยินแตเสียงดาบาวอยูในหอง และคุณเชยใหมานัดดวยวาอีกหาวันจะ มารับ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy108_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๙ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 6

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๙ (หนาที่ ๑) พลอยนั่งเรือกลับไปเยี่ยมบานพรอมดวยคุณเชยและนางพิศ มีความรูสึกในใจมากมายหลายอยาง สุดที่จะ ประมาณไดถูก ใจหนึ่งนั้นก็ดีใจและตื่นเตนที่จะไดกลับบานเดิม หลังจากที่ไดไปอยูในวังเสียหลายป ใจหนึ่งนั้นก็ ดีใจที่จะไดอยูใกลชิดเจาคุณพอเปนครั้งแรก ในฐานะที่เปนผูใหญมิใชเด็กอยางแตกอน ดีใจที่จะไดกลับไปอยูใน หมูญาติพี่นองอันสนิท ในบานที่เคยอยูกันมาแตบรรพบุรุษ แตอีกใจหนึ่งก็สะทกสะทาน วิตกกังวล เพราะพลอย รูวายังมีคนหนึ่งที่คอยตั้งขอรังเกียจตนอยูอยางรุนแรง และถึงคนๆนั้นจะไมใชเจาของบานโดยแท ก็ยังอยูใน ฐานะแมบาน มีอํานาจสั่งกิจการงานบานทั่วไป อาจกอเหตุ ใหเปนเรื่องราวที่จะทําใหไมสบายใจขึ้นมาเมื่อไรก็ ได นอกจากนั้นก็ยังมีความเปนหวงเสด็จ คิดถึงคุณสายและชอย ซึ่งกินนอนอยูหองเดียวกันมา ตลอดเวลาหา หกป และมีความเปนหวงคิดถึงพี่เนื่อง เปนอยางยิ่ง เพราะถาหากพี่เนื่องสงขาวหรือสงของมาให ระหวางที่ พลอยไมอยูใครจะเปนผูรับ ความจริงพลอยไดทูลเสด็จไววา จะไปอยูบานราวๆ ๑๐ วัน แตเวลา ๑๐ วันก็เปน เวลานานโขอยู ถาหากวามีขาว หรือมีของจากพี่เนื่องมารออยูเปลาๆ เรือเกงสี่แจวของที่บานที่คุณเชยนั่งมารับพลอยนั้น แจวเลียบตลิ่งเขาคลองบางหลวง เชาวันนั้นน้ําขึ้น เต็มคลอง เรือที่พายเรขายของตางๆ เชน ผลไมจากสวน ผักสด พริก มะเขือนานาชนิด จนถึงเรือขนมจีน เรือ ขาวเมาทอดพายผานไปใกลๆ สงกลิ่นเขาจมูกพลอย ทําใหหวนระลึกถึงบรรยากาศเดิม เมื่อครั้งยังเปนเด็ก เล็กๆ อยูที่บานกับแม และเคยตามแมมาซื้อของเรือที่ตีนทา พลอยนึกถึงแมก็ใจหาย แมตายไปนานแลวเต็มที จนบัดนี้จะนึกถึงหนาแมก็พอจะเห็นรางๆ มิไดแจมชัดเจนเหมือนเมื่อกอน ยังคงเหลือที่เต็มบริบูรณเหมือนเกา ก็แตความรักที่พลอยมีตอแม และความรักของแมที่มีตอพลอย ไมวาแมจะตายแลวไปอยูที่ไหนก็ตาม พลอยก็ยัง รูสึกวาความรักของแมนั้นติดตามตนอยูใกลๆ คราวนี้เปนคราวแรกที่พลอยจะไดกลับไปอยูบานแตคนเดียว ไมมี แมอยูดวยเหมือนเมื่อกอน เมื่อเรือเขาจอดที่หนาทา พลอยกาวขึ้นบันไดทาน้ําดวยใจเตนผิดปกติ แตที่ทาน้ําไมมีใครมาคอยรับ พี่ นองซึ่งเมื่อกอนเปนเด็กเคยเลนที่นี่ บัดนี้ก็เติบโตเปนผูใหญไปแลวทุกคน ตัวศาลาน้ํานั้นเอง ก็ดูจะเกาแก ทรุด โทรมไปดวยอายุ พลอยหยุดยืนนิ่งมองเขาไปในบริเวณบานครูหนึ่ง ขณะที่นางพิศและบาวของคุณเชย กําลัง ชวยกันขนของขึ้นจากเรือ เวลาหาหกปทําใหทุกสิ่งทุกอยางเปลี่ยนไป ในทรรศนะของคนที่โตจากเด็กไปเปนสาว ในระยะเวลานั้น รั้วเหล็กริมคลองที่เคยเห็นวาทั้งสูงทั้งใหญตั้งตระหงานอยูนั้น บัดนึ้แลดูซอมซอและบอบบาง บางตอนก็สนิมจับ ทางเดินจากทาน้ําไปที่ตึก ซึ่งเมื่อกอนเคยเห็นวากวางและยาวเปนหนักหนา วิ่งเสียจนหอบก็ยังไมสุดทางนั้น บัดนี้แลดูแคบและสั้นลงมาก เดินประเดี๋ยวเดียวก็ถึงตัวตึก ตึกเจาคุณพอซึ่งเคยเห็นวาใหญโตกวางขวาง เดี๋ยวนี้ รูสึกวาจะลดตัวลงไปเหลือเล็กนิดเดียวเชนกัน ถาจะเปรียบกับตําหนักเจานาย หรือตําหนักคุณจอมมารดาบาง คนก็ผิดกันไกล พลอยรูสึกใจหายอีกเมื่อแลเห็นขนาดและสภาพบานของตน แตกตางกวาที่เคยนึกเคยคิดไวแต เมื่อยังเด็กๆ และยืนดูรอบๆตัวอยูอยางไมรูวาเวลาผานไปนานเทาไร "ขึ้นไปบนตึกเถิดแมพลอย" เสียงคุณเชยพูดใกลๆตัว ทําเอาพลอยตองสะดุงตื่นจากภาพในอดีต ที่กําลัง กลับเขามาในหัวใจ ทั้งสองคนสาวเทาเดินตรงไปยังบันไดกลางของตึก คุณเชยสั่งใหนางพิศนําหีบของไปไวในหองคุณเชยที่อยูทางดานหนาของตึก มีประตูเปดออกทางเฉลียง หลัง ที่เจาคุณพอยังคงใชเปนที่นั่งพักผอนอยูเชนเคย ระหวางที่เดินผานหองกลาง คุณเชยกระซิบบอกพลอย เบาๆวา "หมูนี้ทานไมคอยสบาย จะหลับหรือเปลาก็ไมรู" พอถึงเฉลียงหลังพลอยก็แลเห็นเจาคุณพอนอนเหยียดขาตรงออกไปขางหนา หลังพิงหมอนขวาน มือ หนึ่งถือบุหรี่ตัวโตพาดไวที่ปากกระโถน ที่วางอยูขางๆ เมื่อพลอยและคุณเชยเขาไปนั่งที่เฉลียง เจาคุณพอก็ เหลียวดู พลอยก็กมลงกราบ "ใคร" เสียงเจาคุณพอพูด แตพอพลอยเงยหนาขึ้นมา เจาคุณพอก็เบิกตากวางแลวอุทานวา "แมแชม !...เอะ ! ใคร พลอยรึนี่" "พลอยเจาคะ" พลอยยิ้มตอบ ในใจนั้นรูทันทีวาตัวเองนั้นคงจะเหมือนแมเมื่อยังสาวๆอยางมาก จนถึงกับ เจาคุณพอเผลอตัวเรียกชื่อแมออกมาดังๆ เมื่อเห็นพลอยที่โตเปนสาวแลวเปนครั้งแรก พลอยสังเกตดูเจาคุณพอ แลว ก็เห็นวาแกลงไปจริงๆ อยางที่คุณเชยวา ผมบนศีรษะแถวขมับนั้นหงอกเปนสีเทา เห็นไดชัด แตกอนนี้เจา คุณพอก็ไมเคยเปนคนอวน แตมาดูเดี๋ยวนี้เหมือนจะแบบบางลงไปกวาเกา ผิวพรรณนั้นก็ดูซูบซีดลง แสดงให

http://www.geocities.com/siamstory/ploy109.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๙ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 6

เห็นไดวาเจาคุณพอสุขภาพไมสูดีนัก เจาคุณพอกระปรี้กระเปราลุกขึ้นนั่งทันที เมื่อรูวาพลอยมานั่งอยูตรงนั้น "พลอยเขยิบเขามาอีกหนอย มานั่งตรงนี้ใกลแสงสวาง ไมไดพบกันนานขอใหพอดูใหถนัด" พลอยกระเถิบตัวเขาไปนั่งใกลๆแสงสวางริมเฉลียง ตามคําเจาคุณพอ "ลูกสาวของพอชางสวยเสียจริงๆ" เจาคุณพอชมขึ้นอยางใจจริง "พอนึกวาจะมาถึงกันตอนบาย เพราะ แมเชยเขาไมไดบอกวาจะรีบมากันแตเชา พลอยสบายดีหรือ เสด็จทรงสบายดีหรืออยางไร" พลอยตอบรับคําปราศัยของเจาคุณพอไปตามธรรมเนียม เสียงเจาคุณพอพูดตอไปวา "เห็นลูกโตๆไปตามๆกัน ทําใหพอรูสึกตัววาแกลงไปถนัดใจ เวลานี้พอก็ไมเห็นใคร เห็นแตลูกๆก็อยาก เก็บไวใกลๆตัว พลอยมาคราวนี้อยาเพิ่งกลับใหเร็วนัก อยูเปนเพื่อนพอใหนานๆหนอย แมเชยคอยดูนองดวย อยาใหขาดเหลืออะไรได เห็นพูดวาจะใหพลอยอยูหองเดียวกับแมเชยไมใชหรือ ดีแลวอยูกันสองคนติดกับหอง ของพอนั่นเอง พลอยมีบาวตามมาหรือเปลา" "มีนางพิศมาดวยเจาคะ" พลอยตอบ "นางพิศที่แมเขาชวยมานั่นนะหรือ" เจาคุณพอถามอยางสนใจ "หลายปเต็มทีแลวมันยังไมตายอีกหรือ นั่น ถาจะแกไปมากกระมัง ถานางพิศมันมาดวยก็ดีแลว เพราะมันเปนคนเกาที่นี่ ถาไมมีพอจะไดหาบาวใหใช" "เดี๋ยวนี้ผูคนหาใชยากเสียแลวพลอยเอย" เจาคุณพอปรารภตอไป "ไมเหมือนครั้งเจาคุณปูของเจา ทาน เลี้ยงคนเปนรอยๆ ตั้งเตาหุงขาวกระทะเลี้ยงกันเปนแถวไปทีเดียว ไหนจะพวกทนายของคุณปู ไหนจะฝพาย ไหนจะเลขสม เมื่อพอยังเด็กๆคนในบานเจาคุณปูเกือบจะไมรูจักกันทั่ว แลวก็ยังละครผูหญิงของทานอีกโรง ก็ ยังเลี้ยงกันไดมาตลอด พอทานสิ้นบุญก็กระจัดกระจาย คุมกันไมติด ลําพังพอคนเดียวก็เลี้ยงไมหมด เดี๋ยวนี้ก็ เหลือแตคนที่ไปไมรอด อยูกันไปวันหนึ่งๆ" "ขนาดนี้ก็เต็มบานไปแลวละคะ" คุณเชยพูดขึ้น "ดิฉันลองนับดูคนที่อยูในบานเดี๋ยวนี้ ไดตั้งหาสิบกวาคน แตไมรูเขาไปอยูที่ไหนกันหมด วันหนึ่งๆก็ไมเห็นคอยมีใคร มาอยูอยางนี้แมพลอยจะเหงาก็ไมรู เพราะอยูในวัง เคยเห็นแตคนมากๆ" "ไมเหงาหรอกคุณเชย" พลอยตอบ "ในวังบางทีก็เงียบเหมือนกัน" "เออ เขาวาเมื่องานรับเสด็จพระเจาอยูหัวในวังทานสนุกันใหญไมใชหรือ พอไปแตงงานขางนอก กวาจะ เสร็จงานก็ฟกไปที่เดียว" เจาคุณพอถามขึ้น "สนุกมากคะ" พลอยตอบ "แตมีงานมากเสียเหลือเกินจนจดจําไมถูก" "ถาฉันไมไดแมพลอย ก็คงไมรูจะเที่ยวกับใครเหมือนกัน" คุณเชยคุยขึ้นมาบาง ทั้งสามคนพอลูกคุยกันอยูดวยเรื่องเล็กๆนอยๆ อีกเปนเวลานาน เจาคุณพอจึงบอกใหคุณเชย พา พลอยกลับไปหองเพื่อลูบเนื้อลูบตัว หลังจากที่ไดเดินทางมาจากในวัง ระหวางที่เดินผานหองกลางจะกลับไปยังหองคุณเชย ทางดานหนาของตึกนั้นเอง พลอยก็หยุดเดิน เอา มือจับขอมือคุณเชยไวแลวพูดวา "คุณเชย นี่ฉันจะเขาไปไหวคุณอุนเธอเสียกอนจะไมดีหรือ" "ไมตองกระมัง" คุณเชยตอบ "ก็เธอเปนคนพูดเองวา ถาแมพลอยมาอยูบานก็ใหแยกกันอยู ไมตอง พบปะ" "ไมดีหรอกคุณเชย" พลอยยังยืนยันความตั้งใจของตน "ถึงอยางไรเธอก็เปนพี่ ฉันจะไปตองลามาก็ตอง ไหว ไปเปนเพื่อนฉันหนอยเถิด ฉันไมกลาไปคนเดียว" "ก็ตามใจแมพลอย ทางฉันก็กลัวแตจะมีเรื่อง แตไปเสียหนอยก็ดีเหมือนกัน" แลวทั้งสองคนก็พากันเดินไปยังหองของคุณอุนอีกดานหนึ่งของตึก เมื่อโผลเขาไปในหอง พลอยก็รูสึก แปลกใจวาทุกอยางในหองนั้น มิไดเปลี่ยนแปลงไปจากที่พลอยจําไดเลย ผิดกับสวนอื่นๆของบาน ที่เห็นวา เปลี่ยนไปมาก และตัวคุณอุนเองก็ดูเหมือนจะยังนั่งอยู ณ ที่เกาที่พลอยเคยเห็น แมแตรูปรางหนาตา ก็ดูเหมือน จะไมเปลี่ยนไป คุณอุนกําลังนั่งสีปากดวยขี้ผึ้ง พอเห็นพลอยเขาไปก็หยุดชะงักมองดูพลอย นิ่งอยูประเดี๋ยวหนึ่ง แลวก็หันขวับไปทางคุณเชยตาเขียวขึ้นมาทันที "ฟงฉันกอนคุณพี่" คุณเชยรีบพูดขึ้นกอนที่คุณอุนจะเอยปากวากระไร "แมพลอยเขาจะมาเอง เขาวามา ถึงบานแลวก็ตองมาไหวคุณพี่ ไมมาไมได" คุณอุนเหลียวมามองพลอยอีกครั้งหนึ่ง พลอยก็กมตัวลงไหวอยางนอบนอม แตเงียบ ไมมีเสียงทักทาย วากระไรเลย "คุณสบายดีหรือคะ" พลอยถามเบาๆดวยน้ําเสียงเคารพ ที่เรียกคุณเฉยๆก็เพราะรูวา ถาขืนไปเรียกคุณ อุน วาคุณพี่ เปนตองเกิดเรื่องทันที เพราะจะเปนทางใหคุณอุนถากถางวา ไมใชพี่ใชนองของเธอ คุณอุนมิไดตอบวาอยางไรทั้งสิ้น แตเมินหนาจากพลอยไปเสียอีกทางหนึ่ง พรอมทั้งลงมือสีปากตอไป เมื่อสีปากเสร็จแลวก็เริ่มหยิบหมากเขาปาก หยิบยาฝอยมาสีฟนอยางประณีตบรรจง พลอยเหลียวไปขยิบตา เรียกคุณเชย แลวก็พากันคลานถอยออกจากหอง พอถึงหองกลางคุณเชยก็ถอนใจอยางโลงอก แลวก็พูดวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy109.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๙ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 6

"เฮอ ! สิ้นเรื่องกันไปที ฉันใจหายใจคว่ํานึกวาจะเกิดเรื่องเสียอีกแลว" "ถาเราไมเกิดเรื่องกับเธอๆจะไปทําอะไรได" พลอยพูดขึ้น "ฉันไมเหมือนแมพลอยนี่" คุณเชยตอบ "นิ่งไดนิ่งเอา แตแมพลอยไมตองอยูกับเธอทุกวัน นานๆพบที ก็ ทนไหว ฉันเองก็อดใหเธอมานานแลว แตเดี๋ยวนี้ฉันเหลืออดเหมือนกันเปนบางเวลา" "ฉันขออะไรคุณเชยอยางหนึ่งไดไหม" พลอยถาม "ไดซีแมพลอย แมพลอยจําหอจันอับที่ฉันลักคุณอุนไปใหไดไหม วันที่แมพลอยลงเรือไปวันนั้น แตวันนี้ จะขออะไร" พลอยหัวเราะเมื่อคุณเชยเอาเรื่องเล็กๆนอยๆ เมื่อนมนานแลวมาพูด แลวตอบวา "ขอใหคุณเชยอยามีเรื่องกับคุณอุนระหวางฉันอยูที่นี่" "แมพลอยพูดราวกับฉันชอบมีเรื่อง" คุณเชยตอบ "แตเอาเถอะเมื่อแมพลอยขอทั้งที ฉันก็จะระวังตัวให" คุณเชยพาพลอยไปเก็บตัวไวในหองเสียนาน ใหลูบตัวน้ําอบประแปงใหม และชวนนั่งพักผอน ใหหาย เหนื่อย ทําใหพลอยรูสึกสบายใจจนบอกไมถูก เพราะไดกลับมาบานและมีพี่นองคอยเอาใจ ความรักที่มี สําหรับ คุณเชยมาแตเด็กนั้น รูสึกวาบังเกิดเพิ่มเติมขึ้นอีกในวันนี้อยางมาก เมื่อพักผอนจนหายเหนื่อยแลว คุณเชยก็ ชวนไปนั่งกับเจาคุณพอ เวลาทานรับประทานอาหารกลางวัน เจาคุณพอรับประทานอาหารเชาทุกมื้อ ที่ระเบียงหลังตึกนั่นเอง เมื่อพลอยกับคุณเชยไปถึง เจาคุณพอ กําลังจะเริ่มลงมือ มีเด็กผูชายตัวเล็กๆนั่งพัดอยูคนหนึ่ง คุณเชยตรงไปนั่งขางๆสํารับคอยปฎิบัติ สวนพลอยนั้น นั่งลงอีกทางหนึ่ง และกวักมือเรียกเด็กใหเอาพัดมาสงใหตน และลงมือพัดเจาคุณพอ อยางที่เคยบอกวาชอบ เจาคุณพอมองดูคุณเชยแลวก็เหลียวมามองดูพลอย แลวอมยิ้มอยางสบายใจพูดขึ้นวา "วันนี้พอมีบุญเหลือเกิน พรอมลูกพรอมเตา คนเราไดมีลูกไวปรนนิบัติเมื่อแกนี่เปนบุญไมมีอะไรเทา" เจาคุณพอรับประทานขาวไปคุยไป สวนมากก็เกี่ยวกับความรูสึกในเรื่องลูก "พอเปนคนมีกรรม" ทานเอยขึ้น "มีลูกชายสองคนจะเอาดีกับเขาเห็นจะไมได เจาชิตไมรูจักโต นิสัยเกก มะเหรกเสเพล สอนก็แลว จนถึงเฆี่ยนตีก็แลว ก็ยังไมเห็นดีขึ้น อยางไรก็อยางนั้น เจาเพิ่มก็อีกคน วานซืนนี้นาย เขาก็มาฟองวาไมไดราชากร ไปบางไมไปบาง ไมรูวามันไปทําอะไรเสีย วันหนึ่งๆก็ไมไดพบปะกัน มันถือวามัน โตๆกันแลว ไมตองพบพอแมก็ได ยังเห็นที่จะพึ่งไดก็มีแมเชยกับแมพลอยสองคนเทานี้ แตอีกหนอยก็คงจะมี เหยามีเรือนกันไปหมด พลอยอยูในวังมีผูชายมาติดบางหรือเปลา" เจาคุณพอถามขึ้นอยางกระทันหัน ทําเอาพลอยตองสะดุงอายหนาแดง จะตอบวาอยางไรก็ไมถูก เพราะ ไมไดเตรียมคําตอบเอาไว "เปลาคะ" พลอยรีบตอบไปทันที "ดีแลว" เจาคุณพอพูดตอ "เปนชาวรั้วชาววังใครๆ เขาก็ตองมอง อยาไปนึกวาอยูในวังผูชายเขาไปไมได เขาจะไมรูจัก พอเองก็ไดเมียมาจากในวังทั้งนั้น เมื่อหนุมๆยังเปนมหาดเล็ก จะมีธุระเขาไปขางในก็นุงไดแตผา พื้น ผมจะหวีใหเรียบรอยก็ไมได ตองขยี้เสียกอน อยางนั้นก็ยังไดเมียเปนชาววังอยูนั่นเอง แมของพลอยละ ก็ยิ่ง ตัวดีละ ตอนนั้นยังสาวๆ สวยพริ้งคนลือชื่อทีเดียว พอไปดักดูเขาที่ประตูดินเห็นทีไรเขาเปนคอนเสียหลายวง แตตอนทายก็ไปไหนไมพน ไมนึกเลยวาอายุจะสั้น" เจาคุณพอพูดถึงแมอยางคนที่เคยรูจักใกลชิดคนหนึ่ง ไมมีอริบาดหมางคงเหลืออยูเลย เรื่องแมไปมีผัว ใหม เจาคุณพอก็ไมเอยปาก ทําใหพลอยนึกถึงเรื่องเกาๆ ที่แมเคยเลาใหฟงวา ความจริงนั้นเจาคุณพอติดแมอยู กอน แตทางบานบังคับใหเจาคุณพอ ออกมาแตงงานกับคุณหญิงเอื้อม ซึ่งเปนผูหญิงที่ทางผูใหญของเจาคุณ พอขอไวให ทานก็ยอมเพราะไมอยากขัดใจผูใหญ ทั้งที่ปากทานก็บอกกับแมวา ไมเคยรักคุณหญิงเอื้อมเลย แม เคยเลาใหฟงวา ตอนนั้นรูสึกโทมนัสนอยใจเปนหนักหนา ตั้งใจวาจะไมมีลูกผัวไปจนตาย แลวเจาคุณพอทาน แตงงานไปไดสี่หาป จนคุณอุนกับคุณชิตเกิดแลว ทานก็กลับเขาไปตามขอรับเอาแมมาอยูดวย ถึงจะไมเลี้ยง เปนเมียหลวง ก็จะเลี้ยงไมใหนอยหนาใคร แมก็เลยตามทานมาเพราะเห็นใจ แตคุณหญิงเอื้อมทานขี้หึง หนัก เขาก็ออกจากบานไปอยูอัมพวาที่เปนบานเดิม ทิ้งลูกๆของทานไวทางนี้ คุณอุนจึงพยาบาทชิงชังตั้งแตแมจนถึง พลอย เพราะเธอเห็นวาแมเปนคนทําใหคุณแมของเธอ ตองออกจากบาน และในที่สุดเธอก็ทําใหแมตองออกจาก บานไปอีกคน ดวยวิธีตางๆเปนตนวาหาเมียนอย ซึ่งเปนคนของเธอ ใหเจาคุณพอ พลอยนั่งคิดถึงเรื่องเหลานี้ แลวก็นึกถึงชีวิตของตน เรื่องระหวางพี่เนื่องกับพลอยจะเปนอยางไร แตพี่เนื่องก็เห็นจะไมเหมือนเจาคุณพอ เพราะทางผูใหญของพี่เนื่องก็รักพลอยอยูทุกคน ไมเคยไดยินวา เที่ยวมั่นหมายคนอื่นไวที่ไหน ถามีคนอื่นจริง พลอยก็คนรูตัวแลว เพราะชอยคงจะตองบอก ไมใชวิสัยของชอย ที่จะปดบังเนื้อความ "พูดถึงเรื่องนี้พอก็อยากจะเตือนลูกไวทั้งสองคน" เจาคุณพอพูดตอไป "เรื่องมีเหยามีเรือนเปนเรื่องสําคัญ ของผูหญิง พอดูคนหนุมๆเดี๋ยวนี้แลว ก็นึกเปนหวง คนเดี๋ยวนี้เขาดีแตจะคิดกินคิดเลน พอแมเขาก็ตามใจกัน ใครไดไปเปนลูกผัวก็จะลําบาก แตสําหรับแมเชยและพลอย พอตองขอเรื่องนี้ไวกอน ถายังรักพอ ก็ขอใหรักษา ตัวใหดี พอก็บอกแลววาเห็นแตสองคนเทานี้ ในกระบวนลูกของพอ ถาเสียหายไปพอจะเสียใจมาก จะมีเหยามี เรือนตอไปอยาเอาแตใจตัว ขอใหฟงผูใหญกอน พอเกิดมากอนไดรูไดเห็นมากกวา อยางไรเสียก็คงทําไมผิด

http://www.geocities.com/siamstory/ploy109.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๙ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 6

เพราะใจนั้นรักลูกอยากใหลูกดี เมื่อพลอยยังเด็กๆพอก็ไมหวงหรอก แตเดี๋ยวนี้โตเปนสาวแลว และก็สวยเสีย ดวย อยูในวังนั้นก็ดี แตเสด็จทานเปนเจาใหญนายโต จะไปดูแลไดอยางไรทั่วถึง ถาไมระวังตัวเพื่อนฝูงก็จะชัก จูงไป กวาจะรูตัวก็สายเสียแลว" พลอยไดแตนิ่ง เพราะรูสึกอายเมื่อเจาคุณพอพูดถึงเรื่องนี้ และถึงจะตอบก็ไมมีอะไรจะตอบ นอกจากรับ คํา จึงนิ่งไวกอน "พลอยยังอยูกับคุณสายหรือเปลาที่ในวัง" เจาคุณพอถามขึ้น "ยังอยูเจาคะ" พลอยตอบ "คุณสายเปนคนดี เปนผูใหญนานับถือ" เจาคุณพอพูดตอไป "พอเห็นกิริยามารยาทของพลอย ก็พอจะรู วา มีผูใหญคอยดูแล ความจริงพอรูจักกับพวกนี้เขามานาน พอนพพี่ชายคุณสายก็รูจักกันมาแตยังหนุมๆ แตใจ คอไมหนักแนนเทานองสาว พอนพแกชอบสนุก และเปนคนไมมีมานะ พอใจเอางายๆ ชอบอยูสบายๆ ถาแก ขะมักเขมนเหมือนเพื่อนฝูงคนอื่น ปานนี้ก็คงเปนพระน้ําพระยาไปแลว แตนี่ยังคงเปนแคหลวง แลวก็เห็นจะเปน หลวงไปจนตาย เออ ! ลูกสาวเขาคนที่โกนจุกพรอมกับพลอย ยังอยูในวังหรือเปลา" "ยังอยูเจาคะ" "ปานนี้ก็เห็นจะโตรุนพลอยแลวสินะ" เจาคุณพอพูด "เด็กๆเดี๋ยวนี้โตเร็วเสียจริงๆ แลวพอนพเขามีลูกกี่ คน" "มีสองคนเจาคะ" พลอยตอบ "ออ มีผูชายอีกคนหนึ่งจําไดแลว ปานนี้ก็เห็นจะเปนหนุมใหญ เขาทําอะไรหรือเปลา" "เห็นเขาวาๆไปเปนนายทหารอยูหัวเมืองเจาคะ" พลอยตอบอยางไมเต็มปากเต็มที หัวใจชักจะสั่นชอบ กล เมื่อไดยินเจาคุณพอพูดเขาหาเรื่องพี่เนื่อง หรือบางทีเจาคุณพอจะรูระแคะระคาย เรื่องพี่เนื่องเสียแลวกระมัง แตเจาคุณพอก็มิไดสนใจในครอบครัวของพี่เนื่อง เกินกวาคนรูจักธรรมดา เพราะทานพูดตอไปวา "ดีเหมือนกัน ยังหนุมยังแนนก็ออกหัวบานหัวเมืองเสียกอน แตถานิสัยรักความสบายเหมือนพอ ก็เห็นจะ เอาดีไดยาก" พลอยรูสึกไมสบายใจเมื่อไดยินคําพูดของเจาคุณพอ จะพูดจะจาแกแทนคุณหลวงและพี่เนื่องก็ไมกลา ได แตนึกอยูในใจวา นิสัยรักความสุขสบาย ไมทะเยอทะยานจนเกินไปของคุณหลวงนั้นเอง ทําใหพลอยนึกรักคุณ หลวงอยางมาก และนิสัยรื่นเริงสนุกสนานของพี่เนื่อง ทําใหพลอยนึกรักพี่เนื่อง เสียสุดสวาทขาดใจ ถึงพี่เนื่องจะ ไมเคยทะเยอทะยานมากอน แตเดี๋ยวนี้พี่เนื่องก็กําลังมุงหนาสรางหลักฐาน อยางเต็มกําลัง เจาคุณพอทานไม ทราบวา คนที่เปนยอดแหงปรารถนา และเปนกําลังใจใหพี่เนื่องไดดี ยิ่งกวาคนอื่นๆนั้น ก็คือลูกสาวคนที่พัด ทานอยูในบัดนี้ คําพูดของเจาคุณพอยังทําใหพลอยรูสึกวิตกตอไปอีก เจาคุณพอทานไดแสดงใหเห็นดวยคําพูดวา ถึง ทานจะชอบพอกับคุณหลวงในฐานเพื่อนเกา แตทานก็มิไดนับถือเลื่อมใสนัก ขณะเดียวกัน ทานก็คงจะตอง สงสัยวา พี่เนื่องนั้นเหมือนกับคุณหลวง ดวยเปนลูกเปนพอกัน ถาถึงเวลาเขาจริง พี่เนื่องสงคนมาสูขอ เจาคุณ พอทานคงจะไมเต็มใจนัก มีทางเดียวเทานั้นที่จะใหคุณพอทานยินยอม ทางนั้นก็คือ พี่เนื่องจะตองทําตัวใหทาน เห็นไดชัดวา พี่เนื่องจะเปนคนที่ไดดี เปนหลักเปนฐานตอไปคนหนึ่งในภายหนา ขณะนี้พี่เนื่องก็ยังไมรู ยังคง เชื่อวาถาทางผูใหญมาสูขอ เจาคุณพอทานคงจะไมขัด อาศัยที่วาคุณหลวง พอของพี่เนื่อง เคยเปนเพื่อนชอบ พอกับทานมาแตกอน ขณะนี้พี่เนื่องก็ยังนอนใจอยูในเรื่องนี้ ปญหาจึงมีอยูวา พลอยจะทําอยางไรที่จะใหพี่เนื่อง รูตัวได พลอยิ่งคิดไปก็ยิ่งกลุม เพราะพี่เนื่องนั้นอยูไกลแสนไกล ถาหากวาพี่เนื่องอยูในกรุง มีโอกาสที่จะเขามา ฝากเนื้อฝากตัวกับเจาคุณพอ ใหทานไดรักไดเห็นใจ บางทีก็จะไมสูกระไรหนักหนา ดวยความกลุมใจ และมัวแตครุนคิดเรื่องของตน พลอยจึงไมไดสนใจฟงวา เจาคุณพอคุยวาอยางไร จน รับประทานเสร็จ มารูสึกตัวเอาตอนที่ทานบอกคุณเชย ใหพาพลอยไปหาขาวกินกันเสีย แลวก็ใหพักผอนเสีย บาง สวนตัวทานเองนั้นนั่งตอไปอีกสักครูหนึ่ง ก็ลุกเขาไปเอนหลังอานหนังสืออยูในหอง ระหวางที่นั่งกินขาวกันอยูในหองคุณเชย คุณเชยก็ปรารภขึ้นเปนเชิงขบขันวา "เจาคุณพอทานพูดราวกับวา ลูกสาวของทานขายดีเสียเต็มประดา ฉันยังไมเห็นทานขายออกสักคน ตั้งแตลูกสาวใหญทานลงมาทีเดียว" "คุณเชย" พลอยปรารภขึ้นบาง "อยางคุณอุนนี่ถามีเรือนเสีย บางทีเธอจะดีขึ้นบางกระมัง" "โฮย ! อยาไปพูดถึงเธอเลย !" คุณเชยรองขึ้น "เธอวาเธอไมมีหรอกลูกผัว เธอเปนหวงเจาคุณพอ จะอยู ปรนนิบัติ ดูแลการบานใหทานไปจนตาย" "ก็จริงๆ ของเธอนี่คุณเชย" พลอยพูดอยางเห็นใจ "เจาคุณพอทานก็ไมมีใครที่เปนผูใหญในบาน ที่จะดูแล แทนทานได ถาคุณอุนเธอออกเรือนไปเสีย ก็จะลําบากเหมือนกัน" "แมพลอย !" คุณเชยยิ้มมองหนานองสาวอยางนึกรัก "แมทูนหัวของพี่ แมชางเปนคนดีเสียจริงๆ เห็น อะไรก็วาถูกไปหมด แมไมรูดอกหรือวา คุณอุนเธอหวงสมบัติตางหาก แมพลอยไมไดยินเจาคุณพอทานบน เมื่อกี้ดอกหรือวา วันหนึ่งๆทานไมไดเห็นหนาใคร นอกจากฉันคนเดียว คุณอุนเธอก็ดีแตนั่งคุมกําปนอยูในหอง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy109.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๙ (หนาที่ ๑)

Page 5 of 6

ทานจะอยูจะกินอยางไร ฉันก็ไมเห็นเธอเหลียวแล แตเจาคุณพอทานเกรงใจเธอมาเสียนานแลว ทานก็ไมพูด คุณอุนเธอหาคนมาขอไมได เพราะเธอเที่ยวดูถูกคนเขาไวเสียหมดแลววา ไมมีใครวิเศษคูควรกับเธอ เธอไมมี หรอกลูกผัว แมพลอยคอยดูไปก็แลวกัน แตเรื่องมันไมจบแคนั้นนะซี" คุณเชยพูดแลวกมหนาเปบขาวเขาปากตอไป "คุณเชยหมายความวาอยางไรฉันก็ไมรู" พลอยถามอยางสงสัย "ทําไมเรื่องถึงไมจบแคนั้น" "ฉันก็ไมรูจะพูดอยางไรถูก" คุณเชยตอบ "แตฉันรูสึกวา เมื่อคุณอุนเธอตั้งใจไววาจะไมมีเรือน เธอก็เลย ไมยอมใหคนอื่นมีเหมือนกัน อยางฉันนี้ถาคิดจะมีเรือนเมื่อไร เธอเปนอาละวาดแน นิสัยคุณอุน เธอไมชอบเห็น ใครมีอะไรมากกวาตัว ถาเธอไมมีเรือนคนอื่นๆในบานนี้ก็มีไมได ใครขืนมี เธอเห็นเปนบาป เปนกรรมทีเดียว" "คุณเชยคิดมากไปเองกระมัง" พลอยทวงขึ้น "คุณอุนเธอคงไมถึงเพียงนันหรอก ดูแตคุณชิตซี มีลูกตั้ง สองคนแลวเธอยังรักออก คุณเชยบอกฉันเอง" "คุณชิตนั้นอีกอยางหนึ่ง" คุณเชยอธิบาย "คุณชิตเปนผูชาย จึงไมมีของจะไปแขงขันประชันดีกับเธอได แลวคุณชิตเขาเปนนองรัก ทําอะไรๆก็ไมผิด เธอเขาขางกันเสมอ แตแมพลอยอยาฟงฉันขางเดียวเลย คอยดูไป เองก็แลวกัน ฉันพูดไวไมผิดหรอก" คุณเชยหยุดพูดกินขาวตอไปอีกครูหนึ่ง แลวก็ปรารภขึ้นวา "ความจริงแมพลอยนี่ก็แปลก ถาจะวาไปก็เปนลูกคนละแมกับฉัน แตฉันกลับรักแมพลอยมากกวาพี่นอง แมเดียวกันเสียอีก เหมือนกับวาเราเปนลูกแมเดียวกันแทๆ เพราะฉันรักแมพลอยนี่แหละ เลยทําใหฉันเปนเจา ของพอเพิ่มไปดวย กลายเปนเหตุใหทะเลาะกับคุณอุนอยูบอยๆ" พลอยรูสึกตื้นตันใจในคําพูดของคุณเชย จะตอบวาอยางไรก็คงไมตรงกับความรูสึกที่มีอยูในใจ จึงไดแต มองหนาคุณเชยแลวยิ้ม แลวก็ถามขึ้นวา "นี่พอเพิ่มเขารูหรือเปลาวาฉันจะมาคางบาน" "ฉันบอกเขาตั้งหลายหนแลว" คุณเชยตอบ "เขารูแลววา แมพลอยจะมาบานวันนี้ เขายังบอกฉันเลยวา จะกลับแตวัน" ครั้นแลววันนั้น พอเพิ่มก็กลับบานแตวันจริงๆ อยางที่บอกกับคุณเชยไว พอกลับถึงบาน พอเพิ่มก็รีบขึ้น มาหาพลอย ที่เฉลียงหนาตึก ความจริงพอเพิ่มเปนคนๆเดียวจากบาน ที่พลอยไดพบเปนครั้ง เปนคราว ตลอด เวลาหาหกปที่แลวมา แตในตอนทายนี้พอเพิ่มชักจะหายไป เมื่อไดมาพบกันที่บาน ซึ่งจะมีเวลาพูดคุยกันนาน พลอยก็ดีใจที่ไดพบ แตพอเพิ่มก็ดูเหมือนจะดีใจ ที่นองสาวไดกลับมาบานเชนเดียวกัน เมื่อพอเพิ่มขึ้นบันไดตึก มานั้น คุณเชยนั่งคุยกับพลอยอยูที่หนาหอง หวานลูกสาวคนเล็กของเจาคุณพอกับแมแวว ซึ่งบัดนี้อายุ ๑๓ ป ก็ นั่งอยูดวย เพราะคุณเชยใหคนไปตามขึ้นมาไหวพลอย เพื่อจะไดรูจักไว พอพอเพิ่มเดินขึ้นมาบนตึก คุณเชยก็ สะกิดพลอยแลวพูดวา "แนะ มาแลวละ วันนี้จะเมาเสียหรือเปลาก็ไมรู" พอเพิ่มขณะนี้เปนหนุมใหญทีเดียว พลอยสังเกตวาพอเพิ่มหนาตาแกกวาอายุ และนึกในใจวา หมูนี้พอ เพิ่มไมคอยเอาใจใสตอตัวเอง จะแตงเนื้อแตงตัวหวีเผาผมก็รุงรังอยางไมสนใจ พอเพิ่มนุงผาพื้น สีเขียวเกาๆผืน หนึ่ง ผาผืนนั้นแสดงอาการวานุงมาหลายวันแลว และพอเพิ่มอาจนุงตอไปอีกหลายวัน "แมพลอยมาถึงเมื่อไหร" พอเพิ่มทักขึ้น "คุณเชยบอกฉันไวหลายวันแลววา แมพลอยจะมาคางบาน วันนี้ ฉันเลยรีบกลับแตวัน" "ฉันมาถึงแตเชา" พลอยตอบ "พอเพิ่มสบายดีหรือ" "ก็ยังงั้นๆแหละ" พอเพิ่มพูด "จะวาสบายก็สบาย ไมมีทุกขมีรอนอะไร" "นั่นซี" คุณเชยพูดขัดจังหวะขึ้น "ฉันยังนึกอิจฉาพอเพิ่มอยูเสมอ เรื่องพอเพิ่มไมมีทุกขเสียเลยนี่แหละ" พอเพิ่มหัวเราะแลวบอกพลอยวา "คุณเชยเดี๋ยวนี้เลี้ยงดูฉันเปนลูกบุญธรรม ฉันกลับมาบานไดมีขาวมีปลากิน ก็เพราะคุณเชยเธอหาไวให เสียอยูแตเธอดุเสียจริงๆ ไมวาฉันจะทําอะไรเปนผิดไปหมด" "ดูซี พอเพิ่มมาหาความ" คุณเชยรองขึ้น "ฉันเคยไปดุไปวาอะไรที่ไหน มีแตฉันคอยเตือนวา คนอื่นเขา วาอะไรบาง กลับมาวาฉันดุ พอนองสาวมาถึงบานก็ฟองกันทีเดียว" หลังจากนั่งพูดกันอีกสักครู คุณเชยก็ชวนหวานนองสาวไปทําธุระทางอื่น ปลอยใหพลอยนั่งคุยกับพอ เพิ่ม สองตอสอง พลอยนั่งคุยกับพอเพิ่ม ฟงคารมดูก็รูวาพอเพิ่มเปนคนไมมีทุกขเอาเสียจริงๆ พอเพิ่มยอมรับวา วันหนึ่งๆ พอเพิ่มก็ทําราชการบาง เที่ยวกับเพื่อนฝูงเสียบาง บางวันพอเพิ่มก็กลับบาน บางวันก็คางบานเพื่อน พอเพิ่มดูจะมีเพื่อนฝูงมากมายเอาการอยู เวลาพอเพิ่มพูดคุย ก็มักจะเอยถึงเพื่อนฝูงคนโนนคนนี้อยูไมขาดปาก เรื่องมีลูกมีเมีย พอเพิ่มบอกวายังไมเคยคิดเลย ถึงจะมีก็รุงรังเปลาๆ เวลานี้พอเพิ่มบอกวาไดเงินเดือนๆละ สอง ตําลึง เจาคุณพอทานใหอีกสองตําลึง ใชหมดทุกเดือนไมมีเหลือเก็บ แลวจะไปมีลูกมีเมียไดอยางไร ถาหากวาจะ มีเมียก็ตองหาเมียเศรษฐี แตขณะนี้ยังไมมีเวลาจะหา พอเพิ่มบอกพลอยวาไมตองหวง และคุยใหฟงตอไปวา เวลานี้เจานายทานก็รัก เพื่อนฝูงทุกคนก็ไวใจได ถึงจะเปนอยางไรก็คงไมมีใครทอดทิ้ง พลอยเลาใหพอเพิ่มฟง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy109.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๙ (หนาที่ ๑)

Page 6 of 6

ถึงเรื่องที่เจาคุณพอทานบนเมื่อเชา พอเพิ่มก็แกวาเจาคุณพอทานเปนผูใหญ ทานก็ตองวาไปอยางนั้น อยาไป ถือสาทานเลย แลวระหวางที่คุยกันอยูนั้นเอง พอเพิ่มก็ถามขึ้นวา "แมพลอยรูจักคุณเปรมบางหรือเปลา" พลอยตองสะดุงเมื่อไดยินคําถามนี้ แลวก็ถามขึ้นวา "คุณเปรมไหน ฉันไมรูจัก" "คุณเปรมเพื่อนฉันเอง เขาเปนมหาดเล็กหลวงอยูในวัง เขาบอกฉันวาเขารูจักแมพลอย เคยพบบอยๆ" "ฉันไมรูจักหรอกพอเพิ่ม คนอยูในวังเปนกายเปนกอง ใครจะไปรูจักหมด วาแตพอเพิ่มเถิด ไปรูจักเขาได อยางไร" พลอยซักตอ "ฉันก็เพิ่งมารูจักเขาเมื่อไมนานมานี้เอง" พอเพิ่มตอบ แลวพูดตอไปวา "เขาแกกวาฉันสามสี่ป เพื่อนๆเขาพามาใหรูจักอีกทีหนึ่ง แตพอรูจักกันไป ฉันก็เห็นเขานาคบมากทีเดียว คุณเปรมเขาเปนคนมีอันจะกิน เจาคุณพอเขาเปนกรมทาซายผูกภาษีอากร เขารวยกวาบานเราเสียอีก แตเขาก็ เปนคนดีไมถือตัว ยิ่งกับฉันละก็รักกันนักทีเดียว เขาวารักฉันเหมือนพี่เหมือนนอง ไมรูวาไปถูกชะตากัน เขาได อยางไร แปลกแทๆ แตฉันดูๆ เขาตั้งใจจะเอาอกเอาใจฉันเสียจริงๆ อยากไดอะไรก็หามาให จะพูดจะจาอะไร เขาก็เอออวยไปหมด" พลอยไมตอบพอเพิ่มวาอยางไรทั้งสิ้น นึกถึงสายตาคูที่เคยมองพลอยในที่ตางๆแลว ก็ไมนึกสงสัย ใน เรื่องที่พอเพิ่มเลา คุณเปรมคงจะไปรูมาวา พอเพิ่มเปนพี่ชายของพลอย จึงไดเขาติดตอถึงตัว และพยายามเอา อกเอาใจ พลอยเคยนึกรําคาญคุณเปรม ที่คอยเที่ยวมองดูตัวในที่ตางๆ แตพอมารูเขาวา คุณเปรมสนใจถึงกับ เขาหาพอเพิ่ม พยายามเอาอกเอาใจทุกทาง พลอยก็มีความรูสึกแปลกขึ้น จะวารําคาญใจนั้น ก็ไมได แตเปน ความรูสึกครึ่งภูมิใจครึ่งวิตก ที่วิตกนั้นก็เพราะวาเกิดมีผูชายอีกคนหนึ่ง นอกจากพี่เนื่อง ที่เขามาสนในในตัว แต ภูมิใจก็เพราะเหตุวา ความสนใจของผูชายนั้นมีมากถึงกับแสดงออกมา ดวยการเอาอกเอาใจพอเพิ่ม ถาจะวาไป แลว พลอยก็เปนผูหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งเทานั้นเอง และเมื่อเปนเชนนั้นก็ยอมจะปลื้มใจบาง ไมมากก็นอยที่มี คนมาสนใจในตัว ถึงแมวาคนที่มาในใจนั้น จะมิไดรับความสนใจตอบ แตก็ยังดีกวาไมมีใครมาสนใจเลย และเมื่อ นึกถึงคุณเปรม ที่วิ่งมาประจบประแจงพอเพิ่ม พลอยก็อดนึกนาเอ็นดูไมได "เอ ! นึกๆไปก็แปลก" พอเพิ่มพูดตอไปอยางสงสัย "เขาบอกฉันเปนมั่นเปนเหมาะ วารูจักแมพลอย ทําไมแมพลอยกลับมาบอกวา ไมรูจักเขาก็ไมรู" "ก็ไมเห็นแปลกอะไรเลยพอเพิ่ม" พลอยตอบ "ก็ฉันบอกแลววา คนในวังนั้นมาก บางทีจะเคยแลเห็นกัน แลวฉันจําเขาไมไดกระมัง" "คุณเปรมมหาดเล็ก ใครๆก็รูจัก" พอเพิ่มยังยืนยัน "เขากวางขวางออก คนที่รูปรางสูงๆขาวๆ นั่นอยาง ไรละ แมพลอย" "ฉันยังนึกหนาไมออกอยูนั่นเอง" พลอยตอบบายเบี่ยง ไมยอมรับวาตนก็รูจักคุณเปรมเหมือนกัน แลวก็ ชวนพอเพิ่มคุยไปเสียในเรื่องอื่นๆ ไมยอมพูดถึงเรื่องคุณเปรมอีก อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy109.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๙ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 6

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๙ (หนาที่ ๒) ระหวางที่พลอยออกมาคางบาน พลอยไดพยายามทุกทางที่จะปรนนิบัติเอาใจเจาคุณพอ ใหสมกับที่จาก บานไปนาน และไดกลับมาบานนานๆครั้งหนึ่ง พลอยปรึกษาหารือกับคุณเชย ดวยเรื่องเกี่ยวกับ ความสุขของ เจาคุณพอ เรื่องอาหารการกิน พลอยก็ออกความเห็นแนะนํา และในระหวางที่อยูก็ไดลงมือทํากับขาว แปลกๆ ใหมๆหลายอยาง ที่เรียนรูมาจากในวังใหเจาคุณพอรับประทาน เปนตนวา กับขาวฝรั่งหลายอยาง ซึ่งในวังเริ่ม ทํากันแพรหลาย และขาวคลุกแบบชวา ตามตํารับที่ไดมา เมื่อครั้งเสด็จประพาสชวาครั้งกอน เรื่องเล็กๆนอยๆ เกี่ยวกับระเบียบการปรนนิบัติ ตลอดจนถึงเรื่องความสะอาด ที่คุณเชยมิไดสังเกตุ เพราะอยูเปนประจํา พลอยก็ คอยๆชี้แนะใหเห็น และแนะนําใหคุณเชยสั่งคนในบาน ที่มีหนาที่รับใชเจาคุณพอ ใหคอยดูแล พลอยชวนคุณ เชยใหสํารวจเครื่องแตงกายเจาคุณพอ โดยทั่วถึง เพื่อดูใหละเอียดวา สิ่งใดควรจะเก็บไวได สิ่งใดควรจะซอมจะ ทํา หรือสิ่งใดควรจะรุทิ้งไปเลย และไมวาพลอยจะแนะนําสิ่งใด คุณเชยก็เชื่อและทําตามโดยมิไดถือสา บางทีก็ปรารภวา "ฉันเห็นฝมือ แมพลอยทําอะไรตออะไรแลว ชางนับถือเสียจริงๆ หันกลับมาดูตัวเอง เห็นเหมือนคนบานนอก รูยังงี้ ฉันเขาไป อยูในวังเสียบาง แตเด็กๆ ก็จะดี" ในการกระทําทุกอยางพลอยไมยอมออกหนาเปนอันขาด เพราะรูวาถาทําไปอยางนั้น จะตองกระทบ กระเทือนกับคุณอุน ฉะนั้นพลอยจึงทําทุกอยางผานคุณเชย จะสั่งการใดๆในบาน ก็ขอใหคุณเชยสั่ง แมแตนาง พิศ พลอยก็ตองคอยดูแลหามปราม มิใหไปกาวกายกับคนในบาน กลัวจะเกิดเรื่อง เมื่อมาถึงวันแรก ตอนกลาง คืน นางพิศก็มาหาพลอยและรองไหเสียเปนวักเปนเวร บอกวาคิดถึง "คุณ" คือแมของพลอย สุดที่จะทนทานได เมื่อไดมาเห็นสถานที่บานชองที่ "คุณ" เคยอยู ฝายคุณเชยนั้นก็ดูเหมือนจะรูใจพลอยอยูมาก พลอยจะตักเตือน สิ่งใด ก็ยอมรับฟงเปนอยางดี ดวยเหตุเหลานี้ พลอยจึงมาอยูบานเหมือนกับวามาอยูเฉยๆ ยังไมมีเรื่องที่จะตอง รอนใจ สวนคุณอุนนั้น ถึงจะไมพอใจอยางไร ก็ไดแตเก็บตัวอยูในหอง ไมยอมรับรูวา มีพลอยอยูในโลก เพราะ คุณอุนรูดีวาพลอยกลับมาบาน ก็ดวยเจาคุณพอใหไปรับมา และคุณอุนนั้น ถึงจะแสดงอํานาจตอคนไดทั่วไป ก็ ยังมีความเกรงใจเจาคุณพออยูบาน กับพี่นองคนอื่นๆ พลอยก็พยายามปฏิบัติตน เปนพี่นองที่ดีที่สุด หวานนองสาวคนละแมนั้น เปนเด็กที่ กําลัง จะโตขึ้นมา เมื่อไดพบพลอยผูเปนพี่สาวเต็มตัว ออกมาจากวัง พรอมดวยบรรยากาศของในวัง ซึ่งเปนที่ๆ หรูหรา ที่สุดในสมัยนั้น หวานก็นับถือเลื่อมใสพี่สาวอยางจริงใจ ไมวาพลอยจะไปทางไหนหรือทําอะไร หวานก็ ติดตาม ไปอยูใกลๆ คอยดูไปเสียทุกอยาง พลอยก็ถือโอกาสแนะนําและสอน ใหทําของตางๆ และขาวของเสื้อ ผา ที่เอาออกมาดวย ก็แบงใหเทาที่เห็นวาเหมาะสําหรับเด็กในวัยนั้น พลอยรูสึกปลื้มที่มีนองสาว ถึงแมวาจะ เปนคนละแม ความจริงเมื่อพลอยออกจากบานไป หวานก็ยังเด็กเต็มที และพลอยก็มิไดสนใจ หวนระลึกถึง แต พอกลับมาอีกทีหนึ่ง หวานก็กลายเปนเด็กโตๆ ที่พูดจากันรูเรื่อง ทําเอาพลอยออกจะตื่นๆ วามีนองสาวที่เปน คนโตๆ และยิ่งอยูไปก็ชักจะรักเอามากๆ กับคุณชิตนั้นพลอยไมคอยจะไดพบปะ เพราะอยูคนละเรือน แตถึงจะพบกันครั้งไร พลอยก็นอบนอม ดวยความเคารพ เรียกวา "คุณพี่" ทุกคํา ทําใหคุณชิตเอ็นดู และพูดจาดวยเปนอยางดี เจาคุณพอใหคุณชิตและพวง ผูเปนภรรยาไปอยูที่เรือนที่พลอยเคยอยูกับแม พอพลอยมาคางบานไดคืน หนึ่ง พลอยก็ชวนคุณเชยไปเยี่ยมคุณชิตและหลานๆที่เรือน พอพลอยไดเห็นหนาคุณชิตเปนครั้งแรกก็ใจหาย เพราะเคยจําไดวา คุณชิตเมื่อรุนหนุมนั้น เปนคนที่ คอนขางจะสวย และเคยไดยินผูใหญหลายคนออกปากวา คุณชิตหนาตาดีเปนหนักหนา แตคุณชิตเดี๋ยวนี้ ไม เหมือนคุณชิตคนกอน โรคภัยไขเจ็บและยาเสพติด ทําใหคุณชิตทรุดโทรมลงไป จนดูเหมือนคนแก รางกายผอม แหง ผิวเหลืองซูบซีด และริมฝปากเขียว คุณชิตนั่งเลนอยูที่เฉลียงหนาเรือน มีผาขาวมา หอยไหลอยูผืนหนึ่ง พอเห็นพลอยเดินมา คุณชินก็รองทักเรียกใหขึ้นเรือน พลางลดผาขาวมาลงมาคาดไวที่พุง พลอยขึ้นเรือนที่ตนเคยอยูดวยความรูสึกที่วังเวง และรูตัววา ถาไดขึ้นมาคนเดียว โดยไมมีคนอื่นอยูดวย ก็เห็นจะถึงกับตองหลั่งน้ําตาดวยความคิดถึงแม เรือนนั้นเกาแกทรุดโทรมไปดวยวัย แตก็ยังพออยูได และดู เหมือนคุณชิตผูอยูก็มิไดสนใจนัก คุณชินคุยอยูดวยครูหนึ่ง แลวก็บอกพวงใหพาลูกออกมาใหพลอยดู พลอยรูสึกสงสารพวงจับใจ แตกอนเคยรูจักพวงในฐานเปนบาวในบาน คนทั้งบานเรียกวา "นางพวง" บาง "อีพวง" บาง สุดแลวแตอารมณขณะที่เรียก แตพวงโตเปนสาวขึ้น หนาตาก็พอดูได ถึงแมวาจะไมสวยงาม อะไรนัก พวงในฐานะใหมที่เปนพี่สะใภของพลอย มิไดแสดงกิริยาอาการผิดไปกวาแตกอน คงนอบนอม แสดง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy109_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๙ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 6

ความเคารพเชนเคย หรือจะมากกวาแตกอนดวยซ้ําไป พลอยเห็นกิริยาอาการของพวง ก็เขาใจดีวา เพราะเหตุ ใดคุณอุนจึงไดนิ่งให เพราะถาคุณชิตไดเมียเปนคนมีฐานะเทาเทียมกัน เมียคุณชิตก็จะตองตีเสมอ ในฐานะพี่ นองซึ่งคุณอุนอาจทนไมได แตเพราะพวงเปนบาวชนิด "ลูกครอก" มาในบานนี้ ถึงวาจะไดเปนเมียคุณชิต พวง ก็ยังถือวาคุณชิตเปนนาย และการเปนเมียนั้น ก็เทากับหนาที่การงาน ไมถือวาเปนการยกฐานะของตนใหสูง กวาแตกอน แมแตลูกของตนแทๆ พวงก็ยังเรียกวาคุณทั้งสอง เพราะเด็กทั้งสองคนนั้น มีคุณชิตเปนพอ "แมพวงสบายดีหรือ" พลอยเปนคนทักขึ้นกอน พวงสะดุงจนเห็นไดชัด เพราะครั้งนี้ดูเหมือนจะเปนครั้ง แรก ที่คนขนาดลูกเจาคุณ ซี่งเปนเจาขุนมูลนายเรียกตนวา "แมพวง" "สบายเจาคะ" พวงตอบ "แหมคุณพลอยไปเสียนาน สวยผิดตาทีเดียว ถาบาวเห็นที่อื่นเปนจําไมไดแน !" พลอยยิ่งใจแหงลงไปอีก เมื่อไดยินพวงใชคําแทนชื่อของตนเองวา "บาว" อยูนั่นเอง และนอกจากความ สงสารที่มีอยูในใจแลว ยังบังเกิดความนับถือในความเสมอตนเสมอปลาย ของพวงอีกมาก แลวพวงก็อุมลูกของ ตนออกมาใหดู คนหนึ่งเปนเด็กผูชายเล็กๆ อายุราวๆสองขวบหนาตานารัก อีกคนหนึ่งเปนผูหญิงแรกเกิด อายุ ไดเดือนกวาๆ พลอยเปนคนรักเด็กมานานแลว แตเมื่ออยูในวังไมมีเด็กเล็กๆ ขนาดนี้จะเลน พอเห็นลูกคุณชิต ซึ่งเปน หลานของตน ก็ตื้นตันใจ และดีใจระคนกันไป สัญชาตญานของแมทีมีอยูในตัวเทาไร ก็ดูเหมือน จะแสดง อิทธิพลออกมา และพุงเขาหาเด็กทั้งสองคนนั้น อยางเต็มที่ พลอยอุมหลานคนผูชายขึ้นใสตัก กอดจูบเหมือนกับมิรูจักวางลงได วางหลานผูชายลงแลว ก็หันไปมอง หลานผูหญิงในเบาะ อยางอัศจรรย ชีวิตที่แรกเกิด ชีวิตที่บริสุทธิ์ปราศจากบาปกรรมใดๆ ยังออนแอ และยังเล็ก นัก ตองคอยเลี้ยงดูอยูเสมอ มิฉะนั้นจะดํารงชีวิตอยูตอไปไมได พลอยยื่นนิ้วมือเขาไปที่เด็ก ซึ่งกําลังดิ้นอยูใน เบาะ เด็กนั้นก็ความือไปกําไวแนน พลอยใจเตนแรงผิดปกติ เหมือนกับจะมีกําลังอะไรอยางหนึ่ง ที่แลนจากตัว เด็กมาหาตน ใจคอนั้นวาบหวําดวยความรักและความปรานี ความตื้นตันในใจทําใหพลอย ตองน้ําตาคลอ พลอย เหลียวไปดูหนาพวงเห็นพวงยิ้มดวย และไดยินเสียงพวงพูดกับลูกของตนวา "คุณรูจักคุณอาพลอยดวยหรือคะ แนดูซี ! กํานิ้วคุณพลอยแนนทีเดียว" พลอยคอยๆคลายนิ้วมือจากมือเด็ก เมื่อรูวาคุณชิตมีลูก พลอยก็เตรียมสายสรอยทองเสนเล็กๆ ไวสอง เสน เอาออกมาจากในวัง เพื่อจะมาผูกขอมือหลานตามธรรมเนียม สายสรอยสองเสนนั้นก็เอาติดตัว มาที่เรือน คุณชิตดวย อยูในพก พอเห็นเด็กทั้งสองคน พลอยก็ใหนึกอยากแตจะให ในใจนั้นถาจะทําอะไร ใหเด็กทั้งสอง คนนี้ได พลอยก็จะทํา รีบหยิบสายสรอยออกจากพก และนึกในใจวา ถาไดเห็นเด็กกอน ก็จะหามาใหเสนโตกวา นี้ แลวก็เอาสายสรอยผูกขอมือหลานทีละคน อยางบรรจง คุณชิตลุกจากที่นั่งอยูที่ระเบียงมานั่งใกลๆ อยางรีบรอน พอพลอยเอาสายสรอยใสขอมือลูกคนโตเสร็จ คุณชิตก็ความือเด็กไปพลิกดู อยางไมปรานีปราศรัย และชะโงกหนามาดูพลอยผูกขอมือลูกคนเล็ก อยางสนใจ "ทองหนักเทาไร" คุณชิตถามขึ้น พลอยไมเชื่อหูตนเอง ที่ไดยินคําถามของคุณชิต เหลือบดูคุณเชยก็เห็นนั่งเคี้ยวหมากเฉย เหลียวไปมอง พวง ก็เห็นกมหนานิ่ง "ทองหนักเทาไร" คุณชิตถามขึ้นอีก "ฉันก็ไมทราบ" พลอบตอบไมเต็มคํา "เมื่อซื้อเขามาก็ไมไดถาม เห็นเสนเล็กนารักดี ก็เลยเอามาผูกขอ มือหลาน" "ซื้อทองตองถามน้ําหนัก" คุณชิตพูดลอยๆ "ผูหญิงซื้อของละก็อยางนี้เสมอ ใจตัวเห็นอะไรสวย ก็ซื้อกัน ได ซื้อกันดี ถูกแพงไมวา" "กลับขึ้นบนตึกหรือยังแมพลอย" คุณเชยเตือนขึ้น แลวก็ขยิบตา เหมือนกับจะรีบชวนใหพลอยกลับ "อยูหลายๆวันซีแมพลอย" คุณชิตพูดขึ้น กอนที่พลอยจะลงจากเรือน "แลวก็มาเลนกับหลานบอยๆ เด็ก มันจะไดรัก ถาฉันไมอยู อีพวงมันก็อยู อยาเกรงใจเลย" "ระหวางที่เดินกลับจากเรือนคุณชิต ไปที่ตึกคุณเชยก็พูดเบาๆวา "ฉันลืมเตือนแมพลอยไป ถาจะใหอะไรหลานเปนทองเปนหยอง อยาใหคุณชิตเห็นดีกวา" "ทําไมเลาคุณเชย ก็ลูกของเธอแทๆ" พลอยถามอยางไมเขาใจ "ฉันกลัวมันจะผูกขอมือเด็กอยูไมกี่วัน" คุณเชยตอบหนาตาเฉย "ไฮ ! คุณเชยเอาอะไรมาพูด ! กะอีสายสรอยเสนเทานั้น !" "อาว ! แมพลอยไมเชื่อฉันก็คอยดูไปซี อีกสองสามวัน พอพอเขาหิวขึ้นมา ก็กลายเปนควันฝนไปหมด" พลอยใจหายวาบ เพราะไมรูวาคุณชิตไดลดตัวไปถึงเพียงนั้น "โธ ! คุณเชยก็ ฉันไมเชื่อหรอก คนอะไรจะใจไมไสระกํา ถึงเพียงนั้น" "เฮอ !" คุณเชยถอนใจใหญ แลวก็พูดตอไปวา "แมพลอยเอยแมพลอย แมไปอยูเสียในวัง ไดเรียนรูอะไร มาก็จริง แตแมพลอยอยาลืมวานอกวังนี้ ก็มีอะไรที่จะตองเรียนรูตอไปอีกมากเหมือนกัน คอยดูไปก็จะเห็นไป เอง ฉันนะรูเสียจนขี้เกียจจะรูแลว นี่ถาไมใชแมพลอย ฉันก็ไมพูดหรอกอายเขา"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy109_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๙ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 6

พลอยเดินกลับขึ้นไปบนตึก โดยไมปริปากพูดวาอะไรอีก และเมื่อขึ้นมาบนตึกเขาไปในหองคุณเชยแลว เรื่องคุณชิตที่คุณเชยเลาใหฟง ก็เปนเรื่องที่ทําใหพลอยตองคิดตองกังวล เพราะสงสารเด็กที่เพิ่งไดพบสองคน นั้น เปนกําลัง จนคุณเชยตองเขาปลอยวา "แมพลอยอยาเก็บเอาเรื่องอะไร มาวิตกใหมากนักเลย เวรกรรมของใครสรางไวอยางไร เขาก็ไปอยางนั้น ฉันเองนั้นรอนใจวิตกมาเสียจนหายไปแลว คุยกันเรื่องอื่นๆดีกวา" ความวิตกของพลอยมิไดไปสิ้นสุดลงที่คุณชิตเทานั้น เพราะอีกสามสี่วัน พลอยก็ไดเห็นเหตุการณ บางอยาง ที่ทําใหพลอยตองกลุมใจหนักขึ้นไปอีก วันหนึ่งตอนบาย ขณะที่พลอยนั่งเลนอยูกับคุณเชย ที่ใตตนพิกุลหนาตึก หวานและเด็กอื่นๆ ชวยกันเก็บ ดอกพิกุลที่รวงกลาดเกลื่อน อยูตามพื้น พลอยแววไดยินเสียงเหมือนใครจะรองเพลงดังๆ อยูแตไกล และเสียง นั้นก็คอยดังใกลๆ เขามาทุกที จนจับคําที่รองอยูสุดเสียงนั้นไดวา เปนเพลงกราวนอก และเสียงนั้น เปนเสียง ของคนที่นั่งอยูในเรือ ซึ่งกําลังแจวเขามาสูบาน อยางชาๆ "พระวัยไดฤกษ ใหเลิกทัพ ผูคนโจนจับอาวุธมั่น..." เสียงนั้นรองตอไป อยางเบิกบานสําราญใจ "ฉันวาแลวไหมละ" คุณเชยพูดขึ้นอยางหัวเสีย "ขอกันก็แลว หามกันก็แลว ยังอดแผลงฤทธิ์ไมได" "ใครกัน คุณเชย" พลอยถามอยางแปลกใจ "ก็จะใครที่ไหนเสียอีกละ พอเพิ่มตัวดีของแมพลอยนะซี" วาแลวคุณเชยก็ลุกกระวีกระวาด เดินดุมไปยัง ศาลาทาน้ํา พลอยเหงื่อแตกดวยความตกใจ และเศราใจระคนกัน มือเย็นเทาเย็นขึ้นมาทันที พลอยก็รูอยูแลววา พอ เพิ่มชอบดื่มสุรา แตก็ไมนึกวาฤทธิ์สุรา จะทําใหพอเพิ่มเมามาย อาละวาดแตกลางวันแสกๆ ถึงเพียงนี้ มีอยาง หรือนั่งเรือ รองเพลงดังลั่นมาไดตลอดคลอง ชาวบานเขาจะวาอยางไร และถาใครเขารูวาพลอย เปนนองแทๆ ของพอเพิ่ม พลอยจะไปดูหนาเขาอยางไรได พลอยเหลียวไปดูบนตึกเห็นยังเงียบอยู เจาคุณพออาจจะยังไมตื่น จากนอนกลางวัน ทานคงไมไดยินเสียงเอะอะในคลอง นับวาเคราะหยังดีอยู นางพิศกําลังเดินลัดลานบาน เขา มาหาที่ใตตนพิกุล ที่พลอยนั่งอยู "เสียงใครมาเอะอะแตวันเทียวคุณพลอย" นางพิศถามขึ้น "จุ จุ ! เบาๆหนอยพิศ พอเพิ่มนะไมใชใครหรอก" พลอยไมรูจะหามใคร ก็ไดแตหามนางพิศ มิใหสงเสียง ดัง "ปูโธ ! มาหามบาวทํามั้ย !" นางพิศออกอุทาน "มันตองไปหามพอตนเสียงโนน ถึงจะถูก คุณเพิ่มนี่เสียง ดี ไมใชเลนทีเดียว" "โธ พิศก็" พลอยพูดอยางหัวเสีย "เห็นเปนเรื่องสนุกไปได พอเพิ่มเมาเหลาเอะอะมา เดี๋ยวเจาคุณพอตื่น ไดยิน ก็เกิดเรื่องบานแตก เทานั้นเอง" "ฮา !" นางพิศรอง "เมาเหลาดวยหรือนี่ ! อยาวิตกไปเลยทูนหัว เดี๋ยวพิศจะจัดการเอง คอยดูสีมือนาง พิศ บางซี ! อยางนี้แหละชํานาญนัก เคยปราบมาหลายคนแลว" วาแลวนางพิศก็รีบเดินไปยังทาน้ําอีกคนหนึ่ง พลอยเห็นนางพิศไปนั่งลงพูดกับคุณเชย แลวเห็นคุณเชย เดินกลับมาใตตนพิกุลอีก ขณะนั้นเรือที่พอเพิ่มนั่งมา เขามาจอดที่ทาน้ําแลว เสียงพอเพิ่มเจรจากับคนเรือเอะอะ ตามประสาคนเมา "นางพิศมันบอกวามันจะดูเอง" คุณเชยบอกเมื่อลดตัวลงนั่งใกลๆพลอย "มันบอกใหฉันกลับเขามาเสีย" อีกสักครูหนึ่ง พอเพิ่มก็เดินโซซัดโซเซ ผานหนาพลอยและคุณเชยไปใกลๆ มีนางพิศเดินขนาบขาง พอ เพิ่มสีหนาแดงก่ํา ดวยฤทธิ์สุรา และสงกลิ่นเหลาฟุงมาถึงที่ๆพลอยนั่ง อาการกิริยาของพอเพิ่ม ดูนาขยะแขยง จนพลอยเกือบจะทนดูไมไหว "สนุก...สนุก... วันนี้สนุกมาก" เสียงพอเพิ่มพูดออแอกับนางพิศ "แมพิศ...ยอดขมองอิ่ม..." พอเพิ่มพูดตอ ไป "อยาเอะอะไปคุณเพิ่ม" นางพิศพูดขูเหมือนกับวาพอเพิ่มยังเปนเด็กๆ "มากินขาวเสียเดี๋ยวนี้เชียว มาย งั้นฉันตีเอาจริงๆนะ" "อีพิศ..." พอเพิ่มพูดตอไป "มึงจะตีกูเรอะ..." แตแลวพอเพิ่มก็ตามนางพิศไปทางครัว แลวเงียบหายไป เลย นางพิศมารายงานตอพลอย ตอนกลางคืนวา พอเพิ่มไมเมาเทาไรนัก เอะอะไปอยางนั้นเอง ไปหาขาวให กิน กับแกงตมโคลงเผ็ดจัดรอนจัด สักครูก็สราง เวลานี้นอนหลับอยางสบายอยูที่มานั่งยาว ใตตนมะมวงใกลๆ ครัวนั้นเอง ตื่นขึ้นมาก็เห็นจะหมดเรื่อง พลอยอยูที่บานมาไดเจ็ดแปดวัน โดยที่มิไดพบปะกับคุณอุนอีกเลย หลังจากวันแรก แมแตสุมเสียง ก็ไม ไดยิน เพราะคุณอุนเธอเก็บตัวอยูแตในหอง ถาจะออกมาจากหอง ก็คงเปนเวลาที่พลอยไมเห็น แตแรกพลอยก็ รูสึกเฉยๆ เพราะมีเรื่องอื่นๆ หลายเรื่องทางบานที่ทําใหตื่นเตนใสใจ แตเมื่ออยูตอมาก็เริ่มอึดอัด เพราะความ รูสึกที่วา มีอีกคนหนึ่งในบานที่ยังปฏิเสธ ไมยอมรับตนใหเขาในครอบครัวนั้น ทําใหพลอยตองหวาด สะดุงอยู

http://www.geocities.com/siamstory/ploy109_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๙ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 6

เสมอ ยิ่งหลายวันเขาก็ยิ่งรูสึก เหมือนกับมีอะไรมาคอยกดดันไว มิใหรูสึกสบายใจได ยังเปนเรื่องที่ของใจอยู ตลอด คุณอุน กลายเปนอิทธิพลมืดที่นาสพึงกลัวสําหรับพลอย ขณะที่อยูบานที่มืด และนาากลัว ก็เพราะพลอย มิไดเห็นตัวคุณอุน และคาดไมถึงวา คุณอุนกําลังจะทําอะไรกับตน หรือจะรูสึกอยางไร ตอตน คนในบานตั้งแต เจาคุณพอลงมา ไมมีใครยอมพูดถึงคุณอุนกับพลอยเลย ถาพูดกันอยูในเรื่องใด ที่พอจะวกเขาหาคุณอุน ทุกคน มักจะเปลี่ยนเรื่องเสียเสมอ แตในที่สุด สิ่งที่พลอยกลัวเกรงจากคุณอุน ก็เริ่มสําแดงตัวใหปรากฏ จนพลอยเห็นไดชัด หวานนองสาว คนเล็กนั้น เมื่อพลอยมาคางบานใหมๆ ก็รูสึกนิยมเลื่อมใส ในตัวพลอย เพราะมักจะมาหาถึงในหอง และติดตาม อยูเสมอ แตตอนทายหวานก็เริ่มหางไป ไมมาหาหรือติดตามอยางแตกอน ถึงแมจะพบกันจังหนา ก็พูดดวยคํา สองคําอยางเสียไมได แลวก็รีบหลบไปทางอื่น สวนขาวของเสื้อผาที่พลอยใหนั้น เห็นหวานใสอยู แตในวันแรกๆ ในตอนทายก็มิไดใสอีกเลย คงใชแตเสื้อผาเกาๆ อยางแตกอน พลอยสังเกตอาการกิริยาของหวาน ก็รูไดวาเด็ก มิไดเกลียดชังตน แตดูเหมือนจะกลัวอะไรอยูสักอยางหนึ่ง วันหนึ่งพลอยนั่งอยูกับคุณเชยสองตอสอง ก็ปรารภ ขึ้นวา "หมูนี้หวานหายไป ไมเห็นหนามาหลายวันแลว" คุณเชยถอนใจใหญแลวก็ตอบวา "แมพลอยอยาไปถือสาเด็กเลย ธรรมดาของเด็กก็ตองกลัวผูใหญ ผูใหญเขาหามอยางไร ก็ตองทําอยาง นั้น เมื่อฉันยังเปนเด็ก ฉันก็กลัวเหมือนกัน แมพลอยจําไดไหม เมื่อตอนเรายังเด็กๆ แมพลอยออกมาเจาคุณพอ เรื่องโกนจุก แลวฉันกับพอเพิ่มเขาไปคุยดวย คราวนั้นแหละ ฉันถูกตีเกือบตาย" พลอยไดยินคุณเชยพูดแลวก็เขาในทันทีวา หวานคงถูกคุณอุนหามมิใหมาติดตอกับตน ทําใหพลอยนึก สงสารเด็กยิ่งขึ้นไปอีก แตอิทธิพลของคุณอุนไมหยุดยั้งแตเพียงแคนั้น อีกวันหนึ่งพลอยเดินไป ที่เรือนคุณชิตวา จะไปเลนกับหลานๆ เห็นคุณชิตนอนเลนอยูที่ระเบียงเรือน และพวงกําลังนั่งทําอะไรจุกจิก อยูที่ขางๆบันได พอ พลอยกาวขึ้นบันไดเรือน คุณชิตก็ทักขึ้นวา "ออ ! แมพลอย" แลวก็ลุกขึ้นเดินเขาเรือนไปเฉยๆ ทิ้งใหพวงนั่งรับพลอยอยูที่ระเบียงคนเดียว แตพลอย ก็ยังไมรูตัว หันไปถามพวงวา "แมพวง หลานๆ อยูไหน" พวงนั่งนิ่งไมพูด เงยหนามองดูพลอย ดวยสายตาที่เต็มไปดวยความรักความขอบใจ แลวก็ทําตาแดงๆ เหมือนกับจะรองไห รีบคลานหายเขาเรือนไปอีกคนหนึ่ง ทิ้งพลอยใหนั่งอยูที่ระเบียงคนเดียว คราวนี้พลอยเขา ใจไดดี โดยไมตองมีใครอธิบายวา ทั้งคุณชิตและพวงก็คงถูกคุณอุน หามเปนเด็ดขาด มิใหติดตอกับตนอีกแบบ เดียวกัน เมื่อพลอยนําเรื่องไปเลาใหคุณเชยฟง คุณเชยก็ไดแตถอนใจใหญ แลวพูดวา "แมพลอยตองอดทนเอาหนอย นึกวาเห็นแกเจาคุณพอทานเถิด อยางเพิ่งรีบกลับ อยูตอไปอีกหนอย ใครเขาไมคบเราก็ชาง นึกวาเราทําใหพอของเราสบายใจ ก็แลวกัน" ความจริงพลอยตองใชความอดทนอยางมากที่สุดอยูแลว แตพลอยก็รูดีวา การที่ตนมาคางบาน ทําใหเจา คุณพอใจคอเบิกบานขึ้นมาก เวลาพูดกับพลอยก็มักจะสงเสียงหัวเราะอยูไมขาด เหมือนกับเจาคุณพอ ที่พลอย เคยรูจักมาแตกอน คุณเชยบอกวาเจาคุณพอกินขาวไดมากขึ้น และดูเหมือนจะนอนหลับดีขึ้น ตอนเชาและตอน บาย เจาคุณพอก็กลับลงมาเดินเลนตามปกติ เมื่อเห็นผลอยางนี้ พลอยก็พรอมที่จะอดทนตอไป แตความอดทน ของคนเราทุกคนนั้น ยอมจะมีที่สิ้นสุดลงวันหนึ่ง เมื่อถึงขีด วันหนึ่งนางพิศมาหาพลอย แลวถามขึ้นวา "คุณพลอยจะเขาวังเมื่อไร มาอยูนี่ไดรวมสิบวันแลว" "ฉันก็วาจะกลับเร็วๆนี้แหละพิศ" พลอยตอบ "แตคุณเชยเธอขอใหอยูตอไปอีกหนอย พิศจะทําไมหรือ" "บาวไมทําไมหรอกคุณพลอย" นางพิศตอบ "แตรีบกลับเสียในวันสองวันนี้แหละดี อยูไปเดี๋ยวจะเกิด เรื่อง" "เกิดเรื่องอะไรกันพิศ !" พลอยถามอยางไมสบายใจ "ฉันไมเคยมีเรื่องอะไรกับใครสักหนอย" "คุณไมมี แตบาวมีมากขึ้นทุกวัน" นางพิศตอบ "เวลานี้ บาวตองซื้อของเรือกินแลว คุณพลอยรูไหม เพราะไมอยากเขาไปในครัว อีพวกคนบานนี้มันดาใหไดยินทุกวัน" "ดาใครพิศ" พลอยถาม "ก็ไมไดออกชื่อใคร แตบาวก็พอเดาออก ถาขืนอยูตอไป เปนเกิดเรื่องวันหนึ่ง นางพิศมันเกิดอดไมไหว ตบมันทั้งบานละก็ไดสนุกกันใหญ" พลอยยอมจํานนตอเหตุผลของนางพิศทันที เพราะพอจะเดาออกวา เหตุการณระหวางบาวไพรของคุณ อุน และนางพิศจะเปนอยางไร พลอยไมคิดจะขอรองใหนางพิศอดทนตอไป อยางที่คุณเชยขอกับตน เพราะรูวา จะไมไดผล การที่นางพิศอดทนไดถึงเพียงนี้ ก็นับวาดีหนักหนาอยูแลว คืนวันนนั้นเอง พลอยก็บอกกับคุณเชย วาจะกลับเขาวัง ในวันมะรืนนี้ และขอใหคุณเชยสั่งเรือและไปสงใหดวย เมื่อพลอยคลานเขาไปลาเจาคุณพอ เพื่อกลับเขาในวังตอไป เจาคุณพอก็ดูเหมือนจะรูเรื่องอยู เปนอยาง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy109_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๙ (หนาที่ ๒)

Page 5 of 6

ดีแลว เพราะทานมิไดทักทวงแตอยางใด แตกลับใหศีลใหพร และสั่งวา เมื่อมีโอกาสใหกลับมา เยี่ยมบานอีก "พลอยทูลเสด็จดวย" เจาคุณพอพูด "วาพอกราบพระบาทขอบพระทัย ที่ทรงใหพลอยมาเยี่ยมบาน ทํา ใหพอสบายใจขึ้นมาก เพราะไดเห็นแลววาลูกของพอเติบโตขึ้น เปนคนดีอยางไร ขอใหพลอยจงรักษาตัวใหดี และจงอยาลืมวาเจาเปนลูกพอ มีชื่อเสียงของวงศตระกูลที่จะตองรักษา" เจาคุณพอหยุดนิ่งอยูครูหนึ่ง เหลือบไปดูทางหองคุณอุน แลวก็พูดขึ้นเบาๆวา "พลอยกระเถิบเขามาใกลๆ" วาแลวเจาคุณพอก็เปดหีบใบหนึ่ง ที่วางอยูใกลๆตัว หยิบสายสรอยขอมือ เสนหนึ่ง ยื่นใหพลอย "สายสรอยทองสามสี" เจาคุณพอลดเสียงอีก เหมือนกับจะกลัวใครไดยิน "พอเห็นชาววังสมัยนี้ เขาชอบ ใสกัน เลยซื้อไวใหพลอย แตอยาเพิ่งใสเดี๋ยวนี้ เก็บไวเขาวังแลวจึงใส" พลอยกมลงกราบเจาคุณพอ ดวยความรูสึกตื้นตันใจ และเศราใจระคนกัน เจาคุณพอแสดงใหเห็นไดชัด วา ถึงแมทานจะรักพลอยและเมตตาปรานี สักเพียงใดก็ตาม แตความเกรงใจคุณอุน ก็ยังมีอยูในเจาคุณพอ ไม นอยไปกวาคนอื่นๆในบานนี้ ทําใหการแสดงความรักความเห็นอกเห็นใจ แมแตจะใหขาวของกัน ก็ตองเปนการ ซอนเรนปดบัง กอนจะลงเรือกลับในตอนเชา พลอยก็ชวนคุณเชยเขาไปลาคุณอุนอีก ตามระเบียบ คราวนี้คุณเชยไมทัด ทาน แตพูดทีเลนทีจริงวา "ไปก็ไป แตถาเธอแหวขึ้นมา เราคอยวิ่งหนีลงเรือกันใหทันก็แลวกัน" แตการก็มิไดเปนไปอยางที่คุณเชยพูดไว เพราะคุณอุนนั่งเมินหนานิ่ง ระหวางที่พลอยเขาไปลา เหมือน กับวานั่งอยูคนเดียว ไมมีใครเขาไปหาถึงในหองเลย พลอยกาวเทาลงเรือดวยความโลงใจ ทายเรือมีนางพิศลงไปนั่งคอยคุมขาวของอยูแลว และมีพอเพิ่ม ซึ่ง จะอาศัยเรือขามฟากไป นั่งรออยูอีกคนหนึ่ง พอพลอยกับคุณเชยลงไปนั่งเรียบรอย คนทายเรือก็เบนหัวเรือ ออกจากทา และพอเรือลอยลําเริ่มเคลื่อนที่ บายหนาออกจากบาน นางพิศซึ่งนั่งอยูขางทาย ก็บวนน้ําหมาก และขากถมลงไปในน้ําหนาบานอยางแรง พรอมกับบนเบาๆ อยูในคอวา "สิ้นเวรสิ้นกรรมกันไปครั้งหนึ่ง แลววันหลังเถอะแมจะกลับมาใหม คราวหนาละก็เปนไดเห็นดีกันละ" คุณเชยไดยินนางพิศพูด ก็หันหนามาสบตากับพลอย แลวอมยิ้ม สวนพอเพิ่มถามขึ้นวา "บนอะไร พิศ" "เปลา คุณเพิ่ม" นางพิศตอบ "ฉันใหพรคนในบานบางคน ใหเขาเจริญๆ ยิ่งๆ ขึ้นไปเทานั้นเอง" "ใครไดพรนางพิศเห็นจะเจริญแน" พอเพิ่มปรารภขึ้น "เจาคา" นางพิศตอบ "พรของบาวไมเคยพลาดเลย ปากกินเกลือปลาราอยางนี้ละ ใหพรจําเริญดีนัก" "พลอยยังออกมาทายวังบอยไหม" พอเพิ่มถามพลอย ขณะที่นั่งอยูในเรือ "ก็ไมบอยนัก พอเพิ่มถามทําไม" พลอยชักสงสัย "นึกวาออกมาบอยๆ ฉันจะไดไปคอยพบ" พอเพิ่มพูดเนือยๆ "ก็แตกอนจะไปพบเมื่อไรก็ได ทําไมจึงตองมาถาม" คุณเชยหันไปถามพอเพิ่ม อยางสงสัยเหมือนกัน "เปลา ไมมีอะไรหรอก" พอเพิ่มตอบคุณเชย "เพื่อนรักฉันคนหนึ่ง เขาอยากรูจักแมพลอย เผื่อบางทีพบ กัน ฉันจะไดพาเขามาพบ ใหรูจักกันไว" "ฮา !" นางพิศรองขึ้น "มาละซี !" "พอเพิ่ม" คุณเชยพูดดวยน้ําเสียงที่เอาจริง "ใครจะเปนเพื่อนฝูงของพอเพิ่ม ฉันไมรูดวยละ แตพอเพิ่ม จะมาทําอยางนั้นไมได แมพลอยไมใชนองสาวของพอเพิ่มคนเดียว แตก็เปนนองสาวของฉันเหมือนกัน ถาพอ เพิ่มจะทําอยางนั้น ก็จะตองเกิดเรื่องกับฉันกอน ระวังตัวใหดี ฉันไมยอมคนงายๆหรอก มีอยางรึ นองเปนสาว เปนนาง จะพาผูชายมาพบ เหมือนดูเปดดูไก !" พอเพิ่มนิ่งเงียบ นั่งหันหนามองออกไปนอกเรือ มิไดปริปากพูดวาอะไรอีก และทุกคนก็นั่งนิ่งเงียบๆ ไป จนเรือเขาจอดเทียบที่ทาพระ สิ่งแรกที่พลอยทําเมื่อถึงตําหนัก หลังจากที่ไดขึ้นไปเฝาเสด็จแลว คือฉุดขอมือชอยไปมุมหอง แลวกระซิบถามวา "มีขาวอะไรบางหรือเปลาชอย" "ขาวอะไรกัน" ชอยถามทําไมรูเรื่อง "โธ ! ชอยก็รูดีอยูแลว ถามได" พลอยพอขึ้นอยางรําคาญ ที่ชอยชอบลอเลียนไมรูจักหยุดหยอน ระหวาง ที่อยูที่บานสิบกวาวัน พลอยก็ไดแตนั่งคิดนอนคิดถึงพี่เนื่อง ไมมีเวลาที่จะลืมได และที่ตัดสินใจกลับเขาวัง ก็ เพราะในวังเปนที่เดียว ที่ตนจะไดรับการติดตอจากพี่เนื่อง พลอยจึงมิไดรีรออยูที่บานจนนานเกินควร เพราะใจ นั้น เรงเราที่จะไดรับขาวพี่เนื่องอยูเสมอ ขาวคราวที่คอยฟงอยูนั้น ไมจําเปนที่จะตองเปนหนังสือจดหมาย ที่พี่ เนื่องมีมาโดยตรง บางทีก็เปนขาวที่สั่งมาถึงกันดัวยปาก หรือของฝากเล็กๆนอยๆ ที่พี่เนื่องฝากมาให หรือแม แตเรื่องราวเกี่ยวกับพี่เนื่อง ที่ชอยไดยินมาจากบาน แลวเก็บเอามาเลาใหฟง ก็ทําใหพลอยพอใจไปไดนาน ครั้ง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy109_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๙ (หนาที่ ๒)

Page 6 of 6

สุดทายที่ไดยินขาวจากพี่เนื่อง ก็รวมสองเดือนมาแลว พลอยจึงไดแตภาวนาระหวางออกไปคางบานวา กลับมา ถึงในวังคราวนี้ ขอใหไดยินขาวจากพี่เนื่องเปนสิ่งแรก "ออ ! ขาวคราวจากนครสวรรคนะหรือ" ชอยทําเปนเพิ่งรูเรื่อง "ฉันก็เห็นเขาเงียบหายไปนาน ระหวางที่แมพลอยไมอยู ก็ไมเห็นมีอะไร" "จริงๆ หรือชอย" พลอยถามเพราะยังไมเชื่อสนิท "จริงซีนา ฉันจะไปหลอกทํามั้ย" ชอยตอบแลวพูดตอไปวา "แตบางทีอีกสองสามวันจะไดขาวบางกระมัง เห็นแมใหคนเขามาบอกคุณอาวา วันมะรืนจะมาหา แลวสั่งใหฉันรออยูที่ตําหนัก อยาไปไหนเสีย ราวกะคน อยางฉันจะไปไหนรอด" "แปลกจริง" พลอยปรารภขึ้น "ฉันไมเคยเห็นพี่เนื่องเงียบไปนาน อยางนี้เลย บางทีจะเจ็บไขหรือมีเรื่อง อะไร กระมัง" "ก็ไมเห็นจะแปลกอะไรนี่พลอย" ชอยตอบอยางพยายามเอาใจ "หัวเมืองที่พี่เนื่องไปอยู ก็ไมใชวาอยู ใกลๆ มีคนไปมาเมื่อไรจึงจะสงขาวคราวถึงกันได คราวนี้ถาจะไมมีใครเขาจะมากรุงเทพฯ กระมัง แตอยาวิตก ไปเลยพลอย ถาพี่เนื่องเปนอะไรไปจริง ปานนี้ก็คงรูแลว อดใจอีกสองวันก็คงไดขาว มะรืนนี้แมเขามาในวัง ฉัน จะลองถามดู" ถึงแมวาชอยจะพยายามพูดปลอบเอาใจ พลอยก็ยังไมวายหวง พี่เนื่องอาจเจ็บไขอยางไรก็ไมรูได วันนั้น ทั้งวันและตอมาอีกวันหนึ่ง พลอยก็ยังนึกวิตกและใหรูสึกวาเหวในใจชอบกล ทั้งที่ในระยะเวลาสองสามวันแรก ที่ กลับเขาวัง พลอยมีเรื่องจะตองทํามาก เวลาที่ขึ้นเฝาเสด็จก็ดูจะนานกวาปกติ เพราะพลอยหายหนาไปหลายวัน เสด็จก็รับสั่งทุกขสุข และรับสั่งใหพลอยเลาเรื่องทางบาน และเรื่องตางๆ ที่ไดพบเห็นนอกวังถวายอยางละเอียด นอกจากนั้นพลอยยังตองใชเวลาพบปะพูดจา กับคนรูจักชอบพอที่มาเยี่ยม ถามขาวคราว และตองใชเวลาไป เยี่ยมผูใหญหลายคนที่รูจัก ตามตําหนักและเรือนตางๆ พลอยอยูในวังมาแตเด็กจนโต มีความรูสึกเคยชินเหมือนกับวา โลกมนุษยนั้นอยูในวังทั้งสิ้น ไมเคยรูสึก คับแคนอึดอัด หรือรูสึกวาอยูในวงลอม แตหลังจากที่ไดไปอยูบานของตนมาสิบกวาวัน กลับเขาวัง ก็เริ่มรูสึก มองเห็นสิ่งตางๆ ที่กีดกั้นอยู เปนตนวากําแพงวังทั้งชั้นนอกชั้นใน โขลนจาที่เฝาเวรยามระแวดระวัง ตลอดจน ระเบียบจิกจิกตางๆ และเมื่อถึงเวลาย่ําค่ํา เสียงเขาลากโซลามปดประตูวังชั้นใน มิใหคนเขาออก ทําใหพลอยใจ แหงลงไปอยางอธิบายไมถูก ครั้นถึงวันนัดแมชั้นก็เขามาในวังจริงๆ ประจวบกับเวลาที่พลอยนั่งกินขาว อยูกับชอยและคุณสาย อยูใน หอง แมชั้นหอบขาวของใสตะกราบาง ชะลอมเล็กชะลอมนอยบาง มากับตัวเหมือนอยางเคย ทําใหพลอยใจชื้น ขึ้นทันที เพราะสิ่งตางๆเหลานั้น เปนสัญญานใหพลอยรูวา มีของมาจากหัวเมือง และของจากหัวเมืองนั้น ก็ หมายถึงพี่เนื่องและขาวคราวจากพี่เนื่อง เปนอันวาสิ่งที่พลอยเฝาคอยอยูนั้น คงจะไดรับในวันนี้ไมผิดหวัง และ บางทีก็อาจมีหนังสือจากพี่เนื่องถึงพลอยโดยตรง ฝากมาทางชอยบางก็ได พลอยเหลียวไปมองในสํารับ แลเห็น กับขาวนากินไปเสียทุกอยาง เมล็ดขาวในชามก็ดูเหมือนจะขาวสะอาด เปนตัว นากินขึ้นมาทันที คุณสายพอเห็นแมชั้น ก็รักทักขึ้นวา "แมชั้นมาพอดี กินขาวเสียดวยกันเถิด ฉันก็เริ่มจะลงมือเดี๋ยวนี้เอง" "ไมตองหรอกแมสาย" แมชั้นตอบ "ฉันแวะกินขนมจีนน้ําพริกเสียที่หนาประตูวัง เมื่อกอนจะเขามานี่เอง เห็นของเขานากิน นานๆฉันจะไดกินของหาบเสียที เลยกินเสียใหญ แหมเดินเสียเหนื่อย ! วันนี้รอนจริง !" "งั้นลูบตัวทาน้ําอบเสียกอนซี" คุณสายบอก "แลวจะไดคุยกันใหสบาย น้ําทาก็มี" แมชั้นฉวยขันลางหนาออกไปลูบตัว ที่หลังตําหนัก ระหวางนั้นพลอยก็นั่งกินขาวตอไป นานๆก็ชําเลือง มองดูชะลอมตางๆ ที่แมชั้นวางไว เพราะแนใจวาของเหลานั้นตองมาจากพี่เนื่อง ถูกมือพี่เนื่องจับตองมาแลว จึง เปนของมีคามากสําหรับพลอย ผูซึ่งกําลังคิดถึงพี่เนื่องอยูทั้งกลางวันกลางคืน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy109_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๑) ตามธรรมดาทุกวันเมื่อพลอยกินขาวเสร็จแลว ก็มักจะกลับขี้นไปเฝาเสด็จบนตําหนัก หรือมิฉะนั้นก็ออก ไป ทํากิจกธุระหรือไปเที่ยวหาคนรูจัก แตวันนี้พลอยกินขาวเสร็จแลว ก็ยังไมออกจากหอง ยังคงออยอิ่งนั่งทํา โนน ทํานี่อยางไมมีความหมายอยูในหอง ใจของพลอบนั้น ก็ผูกอยูที่แมชั้น อยากจะฟงวามีขาวคราวอยางใด บางจาก พี่เนื่อง แมชั้นลูบตัวเสร็จแลว ก็กลับมาทาน้ําอบประแปงที่ในหอง ปากก็พร่ําบน ถึงความรอนของอากาศในเวลา กลางวันวันนั้น "น้ําอบขวดนี้หอมดีจริง ใครอบนะ" แมชั้นถามขึ้นอยางสนใจ เมื่อเทน้ําอบออกจากขวดแลวเอาขึ้นดม "พลอยเขาอบไวแตเมื่อกอนเขาไปบาน" คุณสายตอบ "ฉันเห็นของเขาหอมดี ก็เลยขอแบงเอาไวใช น้ํา ปรุง ก็มีที่ขางๆ พานหวีนั่นแหละ ของเขาหอมดีอีกเหมือนกัน" "เฮอ !" แมชั้นถอนใจใหญ ซึ่งทําใหพลอยแปลกใจตองเหลียวมามอง แตแมชั้นก็พูดตอไป เปนเชิง ปรารภวา "แมพลอยจะทําอะไรก็เกงไปทุกอยาง อยางนี้ถาเปนลูกเปนเตา ก็เห็นจะตายตาหลับไมตองหวง คนมี ความรูมีฝมืออยางนี้ ตกน้ําไมไหล ตกไฟไมไหมหรอก คอยดูไปเถอะ" ถึงคําปรารภของแมชั้น ออกจะแปรงหูอยูบาง พลอยก็มิไดเฉลียวใจ หยิบเอากระดงจีบพลูของคุณสาย มาวางไวตรงหนา ตั้งใจวาจะจีบพลูเสวยไปพลาง และฟงแมชั้นเลาเรื่องของพี่เนื่องไปพลาง แตพลอยก็มิไดฟง เรื่องราวสมความตั้งใจ เพราะเมื่อแมชั้นทาน้ําอบประแปงเสร็จแลว ก็พูดวา "ฉันมาวันนี้ ตั้งใจจะมาปรึกษาแมสายเรื่องธุระสักหนอย" "มีธุระอะไรก็วากันไปซีแมชั้น" คุณสายพูด แตแมชั้นเหลียวดูชอย ซึ่งนั่งอยูในหอง แลวก็เหลียวมามอง พลอย ซึ่งกมหนาจีบพลูอยูเงียบๆ อีกนาน แลวจึงพูดขึ้นวา "ธุระไมรีบดวยอะไรนักดอกแมสาย วางๆ คอยพูดกันก็ได" วาแลวแมชั้นก็หยิบหมอนมาใบหนึ่ง ลงนอน พังพาบ เอาชอศอกเทาบนหมอน กระดิกเทาเลนเปนจังหวะ ไมพูดจาวากระไร เหมือนกับจะรอเวลาวางใหมาถึง จะไดพูดธุระกับคุณสายตอไป คุณสายถาจะรูไดจากอาการกิริยาของแมชั้นวา กิจธุระที่จะพูดกันนั้น เปนเรื่องที่จะตองพูดกันสองตอ สอง คุณสายจึงพูดขึ้นลอยๆ วา "วันนี้จะมีใครอยูบนตําหนักหรือเปลาก็ไมรู ชอยกับพลอย ขึ้นไปเฝาเสด็จขางบนไป เย็นๆ คอยกลับลง มา ถารับสั่งถามถึงปาก็ทูลดวยวา วันนี้ปามีธุระทางบาน ค่ําแลวจึงจะขึ้นไปเฝา" พลอยวางมือจากพลูทันที จัดแจงเตรียมตัวจะขึ้นบนตําหนัก ทั้งที่ใจนั้นไมอยากออกจากหองเลย สวน ชอย นั้นนั่งเฉยทําเปนทองไมรูรอน อยูในหอง จนพลอยตองหันไปพยักหนาเรียก และคุณสายหันไปทําตาเขียว อีกทีหนึ่ง ชอยจึงไดกระวีกระวาด ลุกตามพลอยออกมานอกหอง กอนจะออกมาพลอยเหลียวไปดูทางแมชั้น อีก ครั้งหนึ่งโดยบังเอิญ แลเห็นแมชั้นมองดูตน ดวยสายตาที่ละหอย จนลับตัวออกมานอกหนอง "ฮึ ! ลึกลับจริง !" ชอยพูดขึ้น ขณะที่เดินขึ้นบนตําหนักดวยกัน "ถาจะมีอะไรที่ไมอยากใหเรารูกระมังชอย" พลอยพูดแกให "เรื่องของผูใหญ เปนอยางนั้นเสมอ" "พลอยเคยสังเกตบางหรือเปลา" ชอยถามขึ้น "เวลาผูใหญไมอยากใหเรารูเรื่องอะไร เรื่องนั้นมักจะเกี่ยว กับ ตัวเราทุกทีไป ฉันเห็นมาหลายหนแลว" "คงไมจริงหรอก" พลอยตอบ "ฉันยังมองไมเห็นวา คราวนี้จะมีเรื่องเกี่ยวกับเราไดอยางไร เมื่อเราไมได ทํา อะไรที่ไหน " "ใครจะไปรู" ชอยพูดอยางแนใจ "คอยดูเถอะ ถาไมใชเรื่องของแมพลอย ก็ตองเปนเรื่องของฉัน ไอฉันนี่ ก็เปนคนแปลก ยิ่งใครไมอยากใหรูเรื่องอะไร ฉันยิ่งอยากรูเสียจริงๆ คอยดูนะเรื่องธุระของแมวันนี้ ฉันจะรูเรื่อง ใหได ปดฉันไมมิดหรอก" ชอยหยุดกึกลงเฉยๆ กลางคัน จับแขนพลอยไวแลวพูดเบาๆ แตดวยสําเนียงที่ฟงเหมือนกับคําสั่งวา "พลอยขึ้นไปเฝารับใชเสด็จคนเดียวนะ ฉันไมไปละ ฉันจะไปเที่ยวที่แถวเตง คอยพบแมกอนจะออก ประตู ฉันจะซักเอาความใหได แมแกไมกลาปดฉันหรอก !" แลวชอยก็ปลอยมือ หันหลังกลับเดินออกจาก ตําหนักไป ไมคอยใหพลอยไดหามปราม ทักทวงแตอยางใด เสด็จประทับอยู ณ ที่ๆ เคยประทับเปนประจําบนระเบียงตําหนัก วันนั้นมีขาหลวงเฝาอยูเพียงเดียว มี

http://www.geocities.com/siamstory/ploy110.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 5

คนขึ้นเฝานอยจริงอยางที่คุณสายคาดไว พอทอดพระเนตรเห็นพลอย ก็รับสั่งขึ้นทันทีวา "ขานึกแลววาจะตองเปนนางพลอย ที่ยังเปนหวงขาอยู ดูซิ คนอื่นๆ เขาหายกันไปไหนหมด ก็ไมรู" "คุณปาใหทูลวา วันนี้ติดธุระทางบาน ค่ําวันนี้จึงจะขึ้นมาเฝามังคะ" "ชะ !" เสด็จรับสั่ง "ธุระปะปงของนางสายมันมากขึ้นทุกวัน เจารูไหมมันมีธุระอะไรของมัน" "ไมทราบมังคะ" พลอยทูล "เห็นแมชั้นเขามาจากบาน บอกวามีธุระจะปรึกษา" "ก็ยังงั้นซี" เสด็จรับสั่ง "ญาติโยมของเขามันมาก เดี๋ยวคนโนนจะเอานี่ คนนี้จะเอานั่น นางสายทําทาเปน คุณ ในวัง เที่ยวเปนหัวเรือใหญไปทั่ว ตามเรื่องของมัน ขาไมอยากเอาใจใส !" เสด็จกําลังทรงเลือกภาพถายตางๆ ที่วางเปนกองโตอยูขางๆ ที่ประทับ "พลอยตาดีๆ มาชวยขาเลือกรูปหนอย" เสด็จรับสั่งเรียกใหพลอยเขาไปใกลๆ "เลือกเอารูปดีๆ ใหได ขนาด เหมาะๆ ขาจะใหเขาติดใสในฉาก" พลอยเขาไปหมอบชวยเลือกภาพถายตางๆ อยูเปนเวลานาน ภาพเหลานั้นเปนภาพเกาบางใหมบาง สวนมากก็เปนภาพเจานายในวัง เปนภาพตั้งแตยังทรงพระเยาวอยูก็มี หรือเจริญพระชันษาแลวก็มี เจานายบาง พระองคสิ้นพระชนมไปแลว พลอยไมรูจัก เสด็จก็ทรงเลาเรื่องตางๆ เกี่ยวกับเจานายพระองคนั้นๆ ใหพลอยฟง ตลอดจนเรื่องอื่นๆ ที่พลอยเกิดไมทันไดรูเห็นอีกเปนอันมาก พลอยเฝาเสด็จอยูจนตกบาย ขาหลวงคนอื่นๆ ที่มิ ได เฝาอยูตอนกลางวัน ตางพากันขึ้นมาบนตําหนักทีละคนสองคน จนพลอยเห็นวามีคนอยูพอสมควร แลวจึง คอยๆ เลี่ยงกลับลงมาขางลาง นึกในใจวาขอใหแมชั้น อยาเพิ่งกลับเพราะเมื่อแมชั้นพูดธุระสวนตัวกับคุณสาย เสร็จแลว บางทีจะเลาเรื่องพี่เนื่องใหพลอยไดยินบาง พลอยรีบลงบันไดตําหนักแลวก็กลับเขาหองทันที แตก็ตอง ผิดหวัง เพราะในหองนั้นมีแตคุณสาย นั่งจีบพลูอยูคนเดียว พอพลอยเขาไปในหอง ไมเห็นแมชั้นก็ถามคุณสายขึ้นวา "แมชั้นไปไหนเสียละคะ คุณปา" "เขากลับบานแลว เห็นเขาวามีธุระจะตองรีบไปทํา" คุณสายตอบเรื่อยๆ ธุระ ! ธุระ ! พลอยนึกอยูแตในใจ ทําไมจึงไดมีธุระกันมากเสียจริงๆ สวนตัวของพลอยเอง ทําไมจึงไมมี ธุระ กังวลที่ทําใหลืมเรื่องอะไรตออะไรไดบาง พลอยเดินไปนั่งที่ตูเสื้อผาหยิบผานุงผาหม ออกมาดูอยางไมมี ความ หมาย ตั้งใจวาอีกประเดี๋ยวจะไปอาบน้ํา เพราะไมมีอะไรจะทํา ความคิดถึงพี่เนื่องที่เริ่มมีมากขึ้นทุกวันนั้น ยิ่งเพิ่ม อัตราทวีขึ้นอยางรุนแรง "พลอยรักแมชั้นมากไมใชหรือ" คุณสายถามขึ้นอยางไมมีปมีขลุย ทําเอาพลอยสงสัยตองเหลียวไปดู เห็น คุณสายนั่งกมหนาจีบพลูอยูเรื่อยๆ ไมเงยหนาขึ้นมาสบสายตา "ก็รักมากคะ" พลอยตอบ "เหมือนกับเปนพี่ปานาอาจริงๆ เพราะฉันรูจักแมชั้นมาแตฉันยังเด็กๆ คุณปา ถาม ทําไมคะ" "เปลา" คุณสายตอบ "ปาถามดูยังงั้นเอง เพราะแมชั้นเขาพูดวา เขารักพลอยเหมือนลูก เขากลัววาตอไป พลอยจะหางเหินไป เขาจะตองเสียใจมาก" "เอะ !" พลอยออกอุทานอยางฉงน "ก็ไมเห็นมีอะไรที่จะตองหางเหินนี่คะ รูจักกันมาตั้งนานหลายป ไม เห็นมี เรื่องผิดพองหมองใจกัน แลวฉันก็อยูกับคุณปาทําไมจะตองกลัวไปอยางนั้น" "เขาก็พูดไปอยางนั้นแหละพลอย อยาไปถือสาแกเลย" คุณสายพูดเบาๆ แลวก็แหงนหนาขึ้นดูพลอย เหมือนกับจะบอกอะไรสักอยาง แตแลวก็เปลี่ยนใจ กลับกมหนาลงจีบพลูตอไป พลางพูดวา "แมชั้นแกเปนคนรักใครก็รักเสียจริงๆ สุดสวาทขาดใจ รักมากแกก็คิดมาก คิดมากแลวปากก็พูดไป ปาก็ บอกเขาแลววา พลอยเปนคนใจคอมั่นคง เห็นจะไมมีอะไรอยางนั้น" คําพูดของคุณสายแทนที่จะเปนคําอธิบาย กลับยิ่งทําใหพลอยฉงนสนเทหหนักขึ้นไปอีก พออาปากจะ ถาม ตอไปก็พอดีชอยโผลเขามาในหอง พอพลอยเห็นหนาชอย ก็รูไดทันทีวา มีเหตุการณผิดปกติเกิดขึ้นแลว เพราะชอยหัวยุง หนาเปนมันเกินกวาธรรมดา และมีขอบตาบวมแดง เหมือนกับวาไปแอบรองไหมาใหมๆ พอ สบ สายตากับพลอย ชอยก็ตองหลบสายตา รีบเดินไปนั่งที่เชี่ยนหมาก แลวหยิบหมากเขาปากเคี้ยวกรวมๆ เหมือนกับวาหมากคํานั้นเปนศัตรูตัวราย ที่จะตองรีบทําลายเสียใหเหลวแหลกไปโดยเร็ว "ไปไหนมา ยายชอย" คุณสายถามขึ้นอยางไมไวใจ "ไปแถวเตง" ชอยตอบตวัดหางเสียงเหมือนกับโกรธ "เอะ !" คุณสายรองขึ้น "นี่พูดกันดีๆ ไมไดแลวหรือนี่ หนักมือขึ้นทุกวัน ก็ฉันบอกแลวไมใชหรือวา ใหขึ้น ไป อยูขางบน เพราะวันนี้ไมมีใคร" "ฉันนัดเขาไววาจะไปดูผาตัดเสื้อที่แถวเตง" ชอยตอบแกตัว "ฉันเห็นพลอยเขาขึ้นไปแลว ฉันก็เลยไมขึ้น ไป" "ดีจริงแมคูณ !" คุณสายดุตอ "เดี๋ยวนี้แมชางใหญโตเสียเหลือเกิน นึกจะทําอะไรก็ทําตามใจตัว ผูหลัก ผูใหญ กลายเปนหัวหลักหัวตอ พูดจาอะไรก็ไมตองฟงกันอีกตอไป หลอยหายหนากันไปหมด เสด็จทานก็ มากริ้วเอาฉัน ทุกที มีธุระปะปงจะไหววานกนก็ไมไดเสียแลว มีอยางรึ บอกใหขึ้นไปอยูกับเสด็จ กลับไปดูผาตัด เสื้อเสียที่ แถวเตง !"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy110.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 5

"โธ ! คุณอาก็" ชอยพูดอยางแคนใจ แลวก็กมหนาลงรองไห น้ําตารวงเปนเม็ดโตๆ เหมือนกับวาเมื่อยัง เด็ก คุณสายเห็นชอยรองไหจริงๆ ขึ้นมาก็หยุดนิ่งไมดุตอไป เพงมองดูชอยที่นั่งกมหนารองไห อยูครูหนึ่ง แลวก็ถามขึ้นเบาๆ ดวยน้ําเสียงเปนปกติวา "ชอยไดพบแมหรือเปลา กอนแมกลับบาน" "ไดพบประเดี๋ยวหนึ่งกอนแมออกประตู" ชอยตอบพลางสะอื้น "มินาเลา" คุณสายพูดอยางเขาใจ "ไปลางหนาเสียไป" คุณสายพูดตัดบทเอาเฉยๆ ชอยฉวยขันลางหนาเดินออกไปนอกหอง โดยไมเหลียวมามองพลอยเลย แมแตนอย พลอยยังนึกไมถึง วา มีเหตุการณใดเกิดขึ้น ถึงกับทําใหชอยรองไหรองหมถึงเพียงนั้น จะวาชอยรองไหเพราะถูกคุณสายดุวา ก็ดู จะผิด วิสัย เพราะระหวางคุณสายกับชอยนั้น ตองมีเรื่องดุวากันอยูทุกวันเปนประจํา และเทาที่พลอยสังเกตดู เหมือนวา ชอยจะไดรองไหมาแลวกอนที่จะเขามาในหอง พลอยจึงสันนิษฐานเอาเองวา ธุระที่แมชั้นตองการจะ พูดกับคุณสาย สองตอสองนั้น ชอยคงไปเคี่ยวเข็ญเอาความจริงมาจนได และความจริงที่ทราบนั้น คงไมเปนที่ สบอารมณของ ชอยอยางมาก จึงไดแสดงกิริยาอาการออกมาใหเห็น เพราะชอยเปนคนซอนความรูสึกไมเปน ถามีสิ่งใดกระทบ อารมณแมแตนอย ก็พลุโพลงออกมาจนมากเกินกวาเหตุ ดวยรูจักนิสัยของชอยดี พลอยจึงมิ ไดคาดหมายวาเรื่องที่ เกิดขึ้นนั้น จะเปนเรื่องใหญโตอะไรหนักหนา นึกวาคงเปนเรื่องเล็กๆนอยๆภายในครอบ ครัว และตั้งใจวา เมื่อมี โอกาสก็จะไดถามชอยดู เพื่อพูดจาปลอบโยน ใหชอยคลายความรูสึกที่รุนแรงลง ซึ่ง เปนหนาที่ที่พลอยตองคอย ทําอยูเสมอ โอกาสนั้นมาถึงเมื่อตอนค่ําวันนั้นเอง คุณสายขึ้นไปเฝาเสด็จ หลังจากกินขาวเย็นเสร็จแลว ปลอยให พลอย และชอยอยูในหองกันตามลําพังสองตอสอง พลอยเห็นชอยยังมีอารมณไมดี ทําเฉยเมยไมพูดจาเลนหัว ตามปกติ จึงถามขึ้นวา "ชอยเปนอะไรไป มีเรื่องอะไรหรือ" "กลุมใจ" ชอยตอบหวนๆ "กลุมใจเรื่องอะไรชอย" พลอยพยายามถามเพื่อจะเอาใจ "เฮอ !" ชอยถอนหายใจใหญแลวพูดตอไปวา "ฉันพูดไมถูกหรอกพลอย" พลอยกระเถิบเขาไปนั่งใกลแลวพูดขึ้นวา "ชอย เราก็รูจักกันมาแตเด็ก มีเรื่องราวอะไรก็ไมเคยปดบังกัน ฉันรักชอยเหมือนญาติ เห็นชอยมีทุกข อะไร มา ฉันก็ไมสบายใจ ยิ่งไมรูเรื่องก็ยิ่งไมสบายใจหนักขึ้น ชอยจะไปเก็บความกลุมใจไวทําไม สารทุกขสุข ดิบตางๆ เราก็เคยพบเคยเห็นกันมาดวยกัน ไมรูวาเทาไร ทําไมชอยจะตองมาปดบังฉัน เฉพาะแตเรื่องนี้ ชอย บอกฉันหนอย ไมไดหรือ เผื่อวาฉันจะมีทางชวยเหลือ ใหชอยหายกลุมได ถึงจะไมมีก็ยังดีกวา ที่ชอยจะเก็บ ความทุกขเอาไว คนเดียว" ระหวางที่พลอยพูดอยูนั้น ชอยนั่งจองหนาพลอยอยางไมวางตา และนัยนตาทั้งคูของชอยนั้น มีน้ําตามา คลออยูเต็ม เมื่อพลอยพูดจบ ชอยก็พูดขึ้นดวยเสียงสั่นๆ วา "แมพลอย ที่แมพลอยพูดมานั้น มันก็จริงทุกอยาง ฉันมีเรื่องอะไรก็ไมเคยปดบังแมพลอยเลย เปนความ สัตย จริง แตเรื่องที่แลวๆ มามันเปนเรื่องที่เราพูดกันได แตเรื่องนี้..." ชอยพูดไดเทานั้น แลวก็กมหนารองไห สะอึกสะอื้น แลวพูดตะกุกตะกักกตอไปวา "เรื่องนี้ฉันพูดไมได ถึงอยากจะพูด ก็ไมรูจะพูดอยางไรถูก" แตถึงชอยจะพูดอยางนั้น พลอยก็ยังไมสิ้นความพยายาม ยิ่งเห็นชอยรองไหหนักขึ้น ก็ยิ่งสงสารและวิตก เพราะที่พลอยคิดไววา จะเปนเรื่องเล็กนอยนั้น ดูทาทางจะไมเปนเรื่องเล็กนอยเสียแลว คําพูดของชอยทําให พลอยเขาใจวา เรื่องนี้คงจะเปนเรื่องใหญเอาการอยูทีเดียว พลอยนั่งนิ่งๆ ปลอยใหชอยรองไหอยุคนเดียวสักครู หนึ่ง แลวก็พูดเบาๆ วา "บอกกับฉันเสียเถอชอย เรื่องมันจะยากจะงายอยางไร เราก็พูดกันได อยาปดบังฉันเลย ฉันพลอยเปน ทุกข ดวยเต็มทีแลว" ชอยไมพูดจาวากระไร นั่งรองไหตอไปอีกสักครูหนึ่ง แลวก็พูดขึ้นวา "พลอยเห็นอกฉันบางเถิด ฉันเปนทุกขเสียใจจะขาดตายอยูแลว ทุกขบางเรื่องมันแบงได แตทุกขเรื่องนี้ ฉันก็อยากจะเก็บไวเสียคนเดียว ไมอยากใหถึงพลอยเลย แตพลอยก็ตองรูเองวันหนึ่ง ฉันรูจักชอบพอกับพลอย มาก็นานแลว แตคราวนี้ฉันอยากจะขออะไรพลอยสักอยางหนึ่ง ขอใหพลอยพยายามทําใจใหแข็งไว อยาโกรธ อยาเสียใจ อยานอยใจ ขอใหพลอยพยายามอดทน ทุกอยางที่ฉันบอกให จะไดไหม ถาพลอยรับปากกับฉันๆ จึง จะบอกให" "บอกมาเถิดชอย" พลอยตอบอยางมั่นใจตัวเอง "ฉันสัญญาไดวาฉันไมโกรธ ไมนอยใจ ไมเสียใจ ชั่วชีวิต ฉัน นี้ก็ไดผานความทุกขมาหลายเรื่องแลว เพราะฉันมันคนอาภัพ แมก็ตายเสียแตเด็ก มีพอก็เหมือนกับไมมี เวลานี้อยู ไดดวยความอดทน บอกมาเถิดชอยไมวา จะเปนความทุกขหนักสักเทาใด ฉันก็เชื่อวาฉันทนได" พลอยพูดไปอยางแนใจตัวเอง เพราะขณะนั้นมิไดนึกฝนเลยวา เรื่องราวที่ชอยอิดเอื้อนไมยอมบอกนั้น

http://www.geocities.com/siamstory/ploy110.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 5

เปนเรื่องที่เกี่ยวกับพลอยโดยตรง มิใชเรื่องของชอยเลยสักนอย และเปนเรื่องนั้นเปนเรื่องสําคัญ พอที่จะเปลี่ยน ชีวิตของพลอยใหเปนไปอีกอยางหนึ่ง เมื่อพลอยพูดจบลง ชอยก็นั่งกระอึกกระอักอยูอีกครูหนึ่ง เหมือนกับวายังลังเลใจ แตในที่สุดชอยก็ตัดสิน ใจ เด็ดขาด หยิบกระดาษแผนหนึ่ง ออกจากพกยื่นใหพลอยแลวบอกวา "พลอยอานหนังสือนี้เอาเองก็แลวกัน ฉันก็ยังไมรูจะพูดอยางไรถูก" พลอยรับกระดาษมาดูแลวก็ใจหายวูบ ตัวเย็นชาขึ้นมาทันที เพราะมองปราดเดียวก็จําไดวา ตัวหนังสือที่ เขียนอยูบนกระดาษนั้น เปนลายมือพี่เนื่อง เปนลายมือที่พลอยใฝฝนคอยอยูทุกวันนั้นเอง ถาอยางนั้น เรื่อง ความ ทุกขรอนทั้งปวงของชอยคราวนี้ ก็ตองเกี่ยวกับพี่เนื่อง พี่เนื่องเปนอะไรไป พลอยยังไมกลามองดูกระดาษ และถึง จะมองดูก็คงอานไมไดความ เพราะความรูสึกที่พลุงขึ้นมาในหัวใจนั้น ทําใหมองตัวหนังสือดูพราไปหมด มือที่จับ กระดาษอยูนั้น ก็เริ่มสั่นไปตามอารมณ "เรื่องอะไรกันชอย" พลอยถามเกือบจะไมเปนคํา "พี่เนื่องเปนอะไรไป" แตชอยก็นั่งกมหนาแลวพูดเบาๆ วา "อานหนังสือของเขากอนเถิดพลอย เดี๋ยวจะเลาใหฟง" พลอยตองกลั้นใจหันหนามองหนังสือ และใชตาเพงดูอีกครูหนึ่ง เพื่อใหหนังสือนั้นเปนตัวขึ้นมา หนังสือ นั้น มีขอความวา "ชอยนองรัก เวลานี้พี่ลาราชการเขามาอยูที่บานกะวาจะมาอยูกรุงเทพฯ สักสี่หาวัน พี่คิดถึงชอยมาก แตพี่เขามาหา ไมได เพราะพี่ไมมีกําลังใจที่จะมาหาชอยเหมือนเมื่อกอน พี่จะบอกอะไรใหชอยทราบสักอยางหนึ่ง แตขออยาใหชอยตกใจ เอะอะไป พี่จะตองแตงงานเดือนหนานี้ ที่พี่มากรุงเทพฯ ก็เพื่อรับแมขึ้นไปจัดการเรื่องนี้ กับทางผูใหญของเขา คนที่เปนพี่สะใภของชอยนั้นเขาชื่อสมบุญ อายุ ๒๐ ออนกวาพี่เองสามป หนาตาก็อยางนั้น จะวาสวย ก็ สวย แตก็สวยเพียงแคปากน้ําโพ ซึ่งเปนบานของเขา ตั้งแตพี่ขึ้นมานครสวรรคไดรวมสองปนี้ ก็ไดพึ่งพาพวก พองของเขาตลอดมา แตแรกแมเขาเปนคนรับสงปนโตให แลวก็คุนกันเขาทีละนอย เขาเอื้อเฟออุปการะแกพี่ มาก สําหรับเจาตัวเขานั้น ดูหมือนจะรักและนับถือพี่เปนเทวดาก็วาได และเปนคนที่พยายามเอาใจพี่ทุกทาง ไม วาจะ ตองการสิ่งใด เขาก็หาใหและไมเคยมาเรียกรองสิ่งใดตอบแทน และไมมีปากเสียง พอเขาเปนเจ็กแตตาย เสีย เมื่อสมบุญยังเด็ก แมเขาชื่อแมคลาย ไดทํามาหากินเลี้ยงลูกมาจนโต เดี๋ยวนี้ก็ยังขายขาวแกงอยูในตลาด บอกมาเพียงแคนี้ชอยก็คงจะเกลียดขี้หนาพี่เต็มที แตพี่ก็เห็นใจชอยมาก ถาชอยจะถามพี่วา รักผูหญิง คนนี้ หรือไมพี่ก็ตอบไมถูก เพราะใจหนึ่งนั้นก็ตองตอบวารัก เพราะเขาเปนเมียพี่ แตอีกใจหนึ่งก็ตองบอกวาไม รัก เพราะ เปนคนชนิดที่พี่ไมเคยนึกฝนวา จะไดเปนเมีย แตชอยก็ตองเห็นใจพี่บาง พี่ตองมาอยูไกลแสนไกล เมื่ออยูบาน ก็เคยมีพอแมคอยเอาใจ มาอยูหางพอหางแมมีคนอื่นเขาเอาใจพี่ก็เคลิบเคลิ้มไป กวาจะรูตัวก็ชาเกิน ไปที่จะแกไข พี่สงสารสมบุญเขามาก ในใจจริงพี่ไมนึกวาเรื่องราวจะไปถึงเพียงนี้เลย แตสมบุญเขาเปนคนดี จริงๆ พี่เองตางหาก ที่เปนคนเห็นแกความสนุกสบาย เอาแตใจตัวจนขาดสติ เมื่อพลาดพลั้งไปแลวพี่ก็ขอกม หนายอมรับกรรมไป ทั้งชาติ ถาจะพูดกันไปจริงๆ พี่ก็เปนคนไมมีวาสนา ไดเสียขนาดนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะเขา เปนคนที่คอยเอาใจและ อยูในโอวาททุกอยาง ถาไปไดเมียที่เสมอกัน พี่ก็ไมแนใจวาจะเลี้ยงเขาใหมีความสุขได เพราะชอยก็คงรูวาพี่ดีแต เอาใจของตัวเอาใจคนอื่นไมเปน ถึงจะรักใครสักเทาไรก็ไมรับรองวา จะทําใหเขามี ความสบายใจไดแนนัก แตถาพี่ ไดเมียอยางสมบุญ ซึ่งเปนลูกชาวบานธรรมดา แลวก็เปนคนบานนอก เขาก็คง จะไมหวังอะไรจากพี่มากนัก นอก จากใหเลี้ยงดูเขาตามธรรมเนียม พี่คิดดูแลวก็ดีไปอยางหนึ่ง เพราะมีเมีย อยางนี้ไมเปนภาระ เรื่องราวทั้งหลายก็สุด แลวแตพี่จะเปนคนวา เขาก็จะตามทุกอยาง ขอใหชวยเห็นใจพี่และ อยาคิดอะไรใหมากนัก สมบุญเปนคนบานนอกก็จริง แตก็เปนคนที่พอแมเขาเลี้ยงมาดี งานการและการบานเรือนเขาแข็ง ทําได ทุก อยาง สวนกิริยามารยาทนั้น พอจะหัดกันได ตอไปพี่เชื่อวาชอยคงจะไมขายหนา เมื่อตอนแรกคุณพอ เอ็ดตะโรเอา กับพี่ลั่นบานทีเดียว แมก็รองไหใหญ พี่กลุมใจพิลึก แตพอคอยพูดจากันไป ทานรูความจริง ทานก็ รับจะจัดการให คุณพอยังไมยอมขึ้นไปอยูนั่นเอง แตอนุญาตใหแมขึ้นไปจัดการ กะกันวาจะใหขึ้นไปสูขอเงียบๆ เขาเรียกทอง ๑๐ บาท กับเงินอีก ๑๐ ชั่งเทานั้นเอง ไมมากมายอะไรนัก พอเหมาะกับเราซึ่งเปนคนจน ชอยชวยบอกแมพลอยเขาดวยวา พี่คิดถึงอยูเสมอ แตขอใหเขาลืมพี่เสียเถิด ชาติกอนพี่ทําบุญมาเพียง เทานี้ คิดถึงชอยมากๆ เนื่อง" มือของพลอยที่ถือจดหมายรวงลงกับตัก เพราะหมดกําลังเหมือนกับมีอะไรมาทุบศีรษะอยางแรง พลอย http://www.geocities.com/siamstory/ploy110.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๑)

Page 5 of 5

เงย หนาขึ้นทอดสายตามองออกไปนอกหอง โดยไมมีความหมาย ความรูสึกตางๆ หมดสิ้นไปจากตัวชั่วครูหนึ่ง อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy110.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๒) เสียงชอยพูดอะไรดังมาเขาหูพลอยแววๆ เหมือนกับวามีคนมาตะโกนอยูไกลแสนไกล พลอยคอยๆ ได สํานึกตัว รูสึกเหมือนมีใครมารองเรียกในยามหลับ พยายามจะมองหาตัวเจาของเสียงที่เรียก ก็หาไมพบ เพราะ ตาที่มองออกไปนั้นพราไปหมด มีแสงสวางพุงเขามากระทบสายตาอยางแรง เหมือนกับมีใครมาจุดตะเกียง ดวง ใหญ สองเขามาที่หนา ประสาทตามรางกายเย็นชาไปทั่ว ขณะที่นั่งอยูกับพื้นนั้น ก็เหมือนกับตัวลอยอยูสูง แลว กําลังรวงลงมาอยางชาๆ "พี่เนื่องมีเมียแลว" พลอยไดยินเสียงเหมือนใครมากระซิบที่ขางหู "พี่เนื่องมีเมีย... พี่เนื่องของพลอย พลอยเคยคิดวาวันหนึ่ง จะไดไปปรนนิบัติเอาใจพี่เนื่อง คิดแลวคิดอีกไมเคยลืม จนเหมือนกับวาพลอยเกิดมา เพื่อ วาวันหนึ่งจะไดอยูปรนนิบัติพี่เนื่อง ไปตลอดชีวิต แตเดี๋ยวนี้หนาที่นั้น กลายเปนของคนอื่นเขาไป เขาจะ ดูแล พี่เนื่องอยางไร ใจเขาจะตรงกับใจพลอยหรือไม เขาจะไปรูหรือวาพี่เนื่องชอบสิ่งใด และไมชอบสิ่งใด พี่ เนื่องบอก วาไมรักเขา แตเขาก็เปนเมียพี่เนื่อง พลอยไมเคยนึกวาคนที่จะอยูดวยกันตลอดไปนั้น จะตองอาศัย เหตุวาเปนเมีย แตอยางเดียว พลอยนึกวารักกันอยางเดียวก็พอ พี่เนื่องขอใหพลอยลืมพี่เนื่องเสีย ชาติกอนพี่ เนื่องทําบุญมาเพียง เทานี้ พลอยจะลืมไดอยางไร ดับฟนดับไฟไดทันที แตจะลืมพี่เนื่องนั้น เหมือนกับดับพระ อาทิตยพระจันทร ใครจะ ไปทําได ถึงอยากจะลืม พลอยก็ลืมไมได พลอยตั้งใจไววาจะสงขาวถึงพี่เนื่อง ใหรีบทํา ตัวเปนหลักฐาน ผูใหญ ทานจะไดไววางใจ ไมนึกรังเกียจเมื่อพี่เนื่องมาขอพลอย แตพลอยเตือนไมไดเสียแลว เพราะไมมีประโยชนอะไร ทําอยางไรจึงจะใหพี่เนื่องรูไดวา พลอยไมไดโกรธ ไมหึงหวง เพราะเห็นความดีของพี่ เนื่อง ที่รับเลี้ยงผูหญิงที่ผิด พลาดไป ทูนหัวของพลอยจะตองรับใชกรรมไปทั้งชาติ พลอยก็ไดแตเปนหวง... เสียงใครมาเรียก เสียงดังแสบ แกวหูเต็มที" พลอยสะดุงสุดตัวตื่นจากภวังค เพราะชอยจับขาพลอยเขยาแรงๆ และเรียกชื่อพลอยดังๆ หลายครั้ง "ชอย" พลอยมองดูหนาชอยแลวก็เรียกชื่อ อยางไมมีความหมาย "แมพลอยเปนอะไรไป !" ชอยพูดเสียงสั่น ดวยความตกใจ "นี่ยาดม ! ลองสูดแรงๆ ทําใจดีๆ ไว !" พูด แลว ชอยก็เอายาดมจอที่จมูก และดันเขามาชิดจนพลอยรูสึกเจ็บ "ฉันไมเปนอะไรหรอกชอย" พลอยพูดพลางเอามือปดกลองยาดม ใหหางออกไป "ทําใจดีๆ ไว" พลอย นึก ทวนคําที่ชอยบอก "ถูกแลว ตองทําใจดีๆ ไว... สัญญาไวแลววาจะไมโกรธไมนอยใจ ไมเสียใจ... รับคําชอย ไวแลว ผิดไมได ตองทําใจดีๆ ไว" แลวพลอยก็พูดออกมาดังๆ ดวยสําเนียงเกือบเปนปกติวา "ฉันไมเปนอะไรหรอกชอย ตกใจไปได" "ตกใจสิ" ชอยพูดตอบ "หนาซีดยังกะจะเปนลม ฉันเห็นพลอยนั่งโงนเงน เหมือนจะลมก็ตกใจ แทบสิ้น สติ" "เปลา ไมเปนไรหรอก" พลอยยืนยันอีกครั้งหนึ่ง "ฉันอานหนังสือกลับไปกลับมา เพราะยังไมเขาใจเรื่องดี เทานั้นเอง แตจนเดี๋ยวนี้ก็ยังไมเขาใจ เรื่องอะไรกันนะชอย" "อาว ! ก็พี่เนื่องเขาบอกมาวา จะแตงงานกับลูกสาวแมคาขายขาวแกง พอเปนเจกไงละ" ชอยตอบ "ก็นั่นนะสิ แตทําไมเร็วนักรอไปหนอยไมไดหรือ" พลอยพูดเหมือนกับวากําลังตอสูกับตนเอง ดวยความ หวังชิ้นสุดทาย อยากจะใหชอยตอบยืนยันวาไมเปนไร เรื่องนี้ยังพอแกใขได พี่เนื่องจะตองกลับมาหาพลอย ใน ที่สุด แตชอยก็ตอบเบาๆ วา "มันถึงคราวแลวละพลอย ฉันไปเคี่ยวเข็ญใหแมแกเลากอนออกจากวัง แกบอกวาผูหญิงทองขึ้นมา ตั้ง สอง เดือนแลว พี่เนื่องแกก็รับเลี้ยงดูเพราะสงสาร แตถึงจะไมรับ ทางแมของเขาก็คงไปรองเรียนเจาขุนมูลนาย งามหนา ละถาอยางนั้น !" พลอยใจหายวาบเมื่อไดยินคําพูดของชอย พี่เนื่องจะมีลูกและมีกับคนอื่น เด็กๆที่พลอยเคยนึกไววา จะ เลี้ยง จะรักเปนของตัว อันตรธานหมดสิ้นไปทันที "ชอยอยาไปโกรธพี่เนื่องเลย" พลอยพูดตะกุกตะกัก เหมือนกับมีอะไรมาขวางอยูในคอ "น้ําใจผูชายอยาง นี้ หายาก ฉันนับถือจริงๆ" ชอยนั่งมองดูหนาพลอยอยูเปนนาน แลวพูดวา "พลอยพูดเลนหรือพูดจริงนี่" "ฉันพูดจริงๆ ชอย" พลอยตอบ "พี่เนื่องเปนคนดี ฉันนับถือมาก ถาเปนผูชายอื่นคงไมทําอยางนี้ แตถา เปน ใจฉันเปนผูชาย ฉันก็ทําอยางพี่เนื่องเหมือนกัน จริงๆ นะชอยฉันเห็นใจเขาใจทุกอยาง"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy110_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 5

ชอยนั่งทําตาพองโตดูพลอยอยางอัศจรรยใจเสียเปนที่สุดแลว และพูดขึ้นวา "ฉันไมเห็นใจ ! ฉันไมยอมเขาใจ ! มีอยางรึ ! อยูๆ ก็ลุกขึ้นมีเมียไมรูเนื้อรูตัว ฉันเคยพูดกี่ครั้งแลววาพี่ เนื่อง เปนคนเหลวแหลก ไมมีสติ คราวนี้เห็นหรือยังละ พลอยคิดถึงใจฉันบางซี ไดพี่สะใภเปนลูกคนขายขาว แกง ที่นี้ฉัน จะไปดูหนาใครเขาได ถามีใครเขาถามขึ้นมา ฉันจะทําอยางไร" แลวชอยก็สะบัดหนา ดวยอารมณ โกรธ "ฉันก็ไมเห็นจะเสียหายอะไร" พลอยพูดดวยสําเนียงเยือกเย็น "ถึงเขาจะคาขายอะไร เขาก็ทําโดยสุจริต เรื่องมันก็แลวไปแลว เราจะไปแกไขอะไรก็ไมได ชอยอยาคิดมากไปดีกวา" ความรูสึกของพลอยยังชาอยู เรื่องพี่เนื่องไปไดคนอื่นเปนเมียโดยกะทันหัน เปนเรื่องใหญเกินไปที่หัวใจ ของพลอยจะยอมรับไวไดทั้งหมด ในเวลาอันสั้น ขณะนี้ความรูสึกของพลอยยังมึนเกินไป ที่จะนึกถึงตัว ความ คิด ขณะนี้ยังเห็นเปนเรื่องของพี่เนื่อง เหมือนกับเรื่องของคนอื่นหางไกลจากตัว รูอยางเดียววา เรื่องนี้เปนตน เหตุที่ทํา ใหชอยขัดเคือง และใจของพลอยก็มุงแตจะแกไข ความขัดเคืองของคนที่ตนรักใหหายไป เรื่องความ ทุกขของตน การสลายแหงความหวังทั้งปวงในชีวิตของตนนั้น พลอยพยายามผลักดันออกไป ใหหางไกลตัวที่ สุดเทาที่จะทําได คําสัญญาที่ใหไวกับชอยวาจะไมโกรธ ไมเสียใจ ไมนอยใจ กลายเปนคํามั่นสัญญาที่ใหญโต มี ความหมาย กวางขวาง เพราะคําสัญญานั้น พลอยเห็นวาถูกตองทุกประการ ดวยนิสัย ดวยความรูสึกอันจริงใจ เสียงแหงความ รูสึกผิดชอบคอยเตือนอยูทุกขณะวา "อยาโกรธ ! อยานอยใจ ! อยาเสียใจ ! พลอยตองไมโกรธ ! พลอยตองไมโกรธ !" ชอยไดยินคําพูดของพลอย ก็ยิ่งมองดูพลอยอยางฉงนหนักขึ้น ความสงสัยทําใหชอยลืมความโกรธ ความ เสียใจของตนเสียสิ้น สายตาที่มองดูพลอยอยางอัศจรรยใจนั้น เริ่มจะแสดงความรูสึกอันเต็มไปดวย ความ นับถือ เลื่อมใสยิ่งขึ้นทุกที "พลอย !" ชอยเรียกขึ้นดวยเสียงเบาๆ เกือบเปนกระซิบ "ฉันถามอะไรจริงๆ สักอยางไดไหม" "ถามเถิดชอย" พลอยตอบ "ฉันไมมีอะไรจะปดบังหรอก" "พลอยรักพี่เนื่องหรือเปลา" ชอยกระซิบถาม "รักมาก" พลอยตอบดวยเสียงเปนปกติ "แลวพลอยไมโกรธ ไมเสียใจเลยหรือนี่" "ชอย" พลอยพูดขึ้น "ธรรมดาคนเรา ถารักใครก็ไมโกรธคนนั้น ถาโกรธก็แปลวาไมรักจริง ฉันไมนึกโกรธ เลย มีแตเห็นใจและนับถือวาพี่เนื่องทําถูก ถาจะวาถึงคนที่เขาจะมาเปนเมียพี่เนื่อง ฉันก็เห็นอกลูกผูหญิงดวย กันไมได นึกหึงหวง ถาพี่เนื่องไมรับเลี้ยงดู ก็จะตองเสียคนไปตลอดชาติ เปนเวรเปนกรรมติดตัวไปเปลาๆ แต ถาหันกลับมา คิดดูตัวฉัน ฉันก็เสียใจบางเปนธรรมดา แตก็นั่นแหละ ฉันก็บอกกับชอยแลววาในชีวิตฉันๆเคย พบความทุกข มามาก ถึงในเรื่องพี่เนื่องฉันก็ไมเคยประมาท เคยคิดอยูเหมือนกันวา วันหนึ่งจะตองลงเอยอยาง นี้ ชอยอยาวิตก เลย เรื่องราวอะไรจะไมทําใหฉันหางเหินชอยไปได ถึงคุณพอและแมของชอยก็เหมือนกัน ฉัน เคยรักและนับถือ ทานอยางไร ก็คงจะนับถือตอไปอยางนั้น ฉันบอกใหชอยรูไว เพราะเห็นคุณปาบอกวา แมชั้น บนกลัวฉันจะ หางเหินตั้งแตเมื่อเชานี้เอง และถึงแมวาตัวพี่เนื่องเอง ฉันก็พรอมที่จะนับถือตอไป เหมือนกับพี่ใน ไส ตลอดจนลูก เมียของพี่เนื่อง ฉันก็จะรักเหมือนญาติสนิท ฉันเปนหวงกลัวแตชอยจะตีโพยตีพายไปเอง ทําให ราวฉานกันเปลาๆ ชอยเชื่อฉันเถิด ความทุกขในโลกนี้มีอยูมากพอแลว ไมใชเรื่องที่เราจะไปตอเติมใหมากขึ้น อีก ชอยก็มีพี่นองกัน อยูสองคนเทานั้น ถาเปนใจฉันๆจะรักษาเอาไวใหดี ไมยอมใหเรื่องราวอะไรตางๆ มาทํา ใหเปนอริกันได" ชอยนั่งฟงพลอยพูดอยางมีสมาธิ ตาจองอยูที่หนาพลอย เหมือนกับวาจะพยายามจดจําทุกคําพูด เมื่อ พลอยพูดจบลง ชอยก็กลาวขึ้นดวยสําเนียงแกมสะอื้น เพราะความตื้นตันในใจวา "แมพลอย ฉันรูจักรักชอบกับแมพลอยมาตั้งแตยังเด็ก ฉันรูตลอดมาวาแมพลอยเปนคนดี และที่รักแม พลอย ยิ่งกวาพี่นองของตัว ก็เพราะความดีของแมพลอยนั่นเอง แตทั้งที่ฉันรูจักความดีของแมพลอย ฉันก็ไม เคยนึกเลย วาแมพลอยจะเปนคนดีถึงเพียงนี้ ที่แมพลอยพูดมาทําใหฉันเปลี่ยนใจไปหมด ที่โกรธก็หายที่แคนใจ ก็ไมมีเหลือ ความดีของแมพลอยมีมากเกินไป จนฉันพูดไมถูก ฉันทั้งรักทั้งนับถือแมพลอยมากกวาใครๆ ทั้งสิ้น เฮอ !" ชอย รองขึ้นดวยความหนักใจ "ฉันไมมีปญญาจะพูดอะไรถูกหรอก พลอยเอายังงี้ก็แลวกัน !" วาแลวชอยก็กมลงกราบบนตักของพลอย ดวยความเคารพนับถืออยางบริสุทธิ์ใจ ความรูสึกตางๆ ที่สุมอยูในหัวใจของพลอยนั้น เปรียเหมือนดินระเบิดอยางแรง ตราบใดที่ยังไมมีชนวน มาจุด พลอยเองก็ไมรูตัววาความรูสึกโทมนัส ความผิดหวังทั้งหมดที่มีอยูในตัวนั้นมีมากเพียงใด พอชอยกมลง มา กราบก็เหมือนกับใครเอาไฟมาจอเขาทีดินระเบิด ความรูสึกทั้งปวงที่อั้นเอาไวนั้น พลุงขึ้นสุดขีด พลอยตัว สั่นระริก เหมือนกับถูกทุบ หูตาปากจมูก ในลําคอและปลายนิ้วมือนิ้วเทา รอนเหมือนกับถูกไฟ น้ําตารอนๆ ทะลักออกจาก เบาตาทั้งสองขาง พลอยประคองตัวชอยเอาไว แลวก็ซบหนาลงรองไหกับบาขางหนึ่งของชอย เหมือนกับหัวใจจะ ขาด รองไหอยางที่ไมเคยรองมากอน พอพลอยกลายเปนคนทุกข เปนคนรองไหดวยความโทมนัส อันสุดที่จะอดกลั้นไดตอไป ชอยก็เปลี่ยน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy110_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 5

สภาพจากผูที่โกรธแคน มาเปนผูปลอบประโลมเอาใจ ชอยโอบตัวพลอยเขามาชิด มือหนึ่งลูบหลังพลอยเบาๆ เหมือนกับวาพลอยเปนเด็กเล็กๆ ที่กําลังไดรับความเจ็บปวดอยางสาหัส ปากของชอยก็พร่ํากระซิบถอยคํา ที่ ปลอบประโลมใจอยูขางๆ หู ชอยไมพยายามที่จะหามปรามพลอยมิใหรองไห เพราะชอยรูดีวา พิษแหงโรค ใน หัวใจนั้น พอจะระบายออกไดบางดวยน้ําตา และเมื่อพิษนั้นไดถายเทออกมาเสียไดบางแลว จึงจะถึงเวลาที่จะ สมานแผล ทั้งสองคนนั่งรองไหอยูดวยกัน มิรูวานานเทาไร เวลาก็ลวงเลยไป พอดึกหนอยคุณสายก็เขามาใน หอง เห็นพลอยกับชอยยังนั่งอยูใกลๆ กัน แสดงอาการวารองไหมาหยกๆ และทั้งที่สองคน พยายามจะซอนเรน ความจริงโดยรีบซับน้ําตา และกระถอตัวออกหางจากกัน คุณสายก็รูเทาแตก็มิไดปริปากวากระไร เดินตรงไปที่ เชี่ยนหมากหยิบหมากใสปากเคี้ยว แลวก็ถามเหมือนกับไมมีอะไรเกิดขึ้นวา "พลอยอาบน้ําหรือยัง" "ยังคะ" ชอยตอบแทนพลอย ซึ่งยังพูดอะไรไมออก "ไปอาบน้ําอาบทาเสียไป" คุณสายพูดอยางธรรมดาที่สุด "เมื่อกี้ปาขึ้นไปเฝาเสด็จ เห็นรับสั่งถามถึง พลอย อยู เดี๋ยวอาบน้ําแลว ขึ้นไปเฝาเสียหนอยซีพลอย" พลอยไมโตตอบวากระไร เคลื่อนตัวเขาไปนั่งที่ตู หยิบผานุงผาหมที่จะเอาไปผลัด แลวก็ฉวยขันอาบน้ํา ออกไปนอกหอง แตพอคลอยประตูออกมา ก็ไดยินเสียงคุณสายถามชอยขึ้นวา "บอกพลอยเขาแลวรึ !" พลอยรีบเดินตรงไปอาบน้ําหลังตําหนัก ระหวางที่นั่งอาบน้ําอยู พลอยก็ปลอยใจใหลองลอยไป ยอด ปราสาทและหลังคาตําหนักตางๆ ยังคงโผลขึ้นมาจากความมืดไมมีอะไรเปลี่ยนแปลง แสงไฟที่บนยังคงสวางอยู อยางที่พลอยเคยเห็นมาตั้งแตเด็กๆ ลมยามกลางคืนโชยมาวูบหนึ่ง พากลิ่นดอกราตรีจากขางๆ ตําหนักมาเขา จมูก พลอยนั่งอยูคนเดียว เหยียดแขนซายแลวก็แขนขวาออกไปขางหนา มองดูแขนตัวเองอยางสนใจ ไมมีอะไร เปลี่ยน แปลงเลย สิ่งแวดลอมตางๆ ยังคงเดิม รางกายเนื้อตัวของพลอยก็ยังเหมือนเกา แตอะไรเลาที่เปลี่ยนไป ทําใหทุก อยางที่เคยมีความหมายนั้น หมดความหมายไปสิ้น พลอยเหลือบไปดูบนตําหนักเห็นไฟยังสวางอยู ขณะนี้เวลาราวๆ สักที่ทุมเห็นจะได เสด็จยังไมเขา บรรทม จะประทับอยูเชนเคย จนถึงเวลาราวๆ ตีสอง เดี๋ยวพลอยก็จะตองขึ้นไปเฝา พอนึกถึงเสด็จขึ้นมา ทุกอยางที่ พังทลายลงเมื่อกี้ ดูเหมือนจะกลับมีระเบียบ และเขาสูดุลยขึ้นบาง ถึงอยางไรก็ยังมีเสด็จอีกองคหนึ่ง ที่ยังเปนหลัก ในชีวิตของพลอย เปนที่นับถือบูชา และเปนจุดหมายปลายทาง แหงหนาที่ทั้งปวง ใครจะมีหนาที่ เปนอะไรที่ไหน ก็ตามที เสด็จก็ยังคงอยู และเปนของพลอย ที่จะตองแสดงความกตัญูตอพระคุณ ที่เสด็จมีตอ ตน หัวใจพลอย เวลานั้นเหมือนกับนก ที่ถูกพายุฝนกระพือ ใหพลัดจากรังรวงที่เคยอาศัย พยายามบินไปทาง โนนทางนี้บาง เพื่อหา รมไมกิ่งไมที่จะเกาะอาศัยไดตอไป เสด็จเปนเหมือนตนไมใหญ และเปนสิ่งที่ถาวรอัน เดียวในโลก อันปราศจาก ความถาวรนี้ พลอยอาบน้ําอยางชาๆ และพยายามถวงเวลาใหชาที่สุด เทาที่จะทําได เพราะอยากอยูคนเดียวมากกวา ที่ จะเห็นหนาคนอื่น อาบน้ําเสร็จแลวก็เขาไปในหอง เห็นคุณสายนั่งอยูคนเดียว ชอยนั้นหายหนาไปเสียแลว ระหวางที่พลอยทาน้ําอบประแปงอยู คุณสายก็พูดขึ้นวา "เมื่อกี้ยายชอยชมพลอยเสียราวกะเปนเทวดา ปารูมานานแลววาพลอยของปาดีเพียงใด เพราะปาเลี้ยง ของ ปามาแตเล็ก แตถึงอยางนั้นปาก็อดดีใจไมได เมื่อไดยินคนเขาชม แมแตเพียงปากหอยปากปู ขนาดยาย ชอยก็ยัง ดีใจอยูนั่นเอง" พลอยหันไปยิ้มกับคุณสายหนอยหนึ่ง แลวก็หวีหัวทาน้ําอบตอไป เอาแปงลงใกลๆ ขอบตาใหหนาหนอย กลัวเสด็จจะทอดพระเนตรเห็นวาตาบวม "เดี๋ยวขึ้นไปเฝาเสด็ตจหนอยนะพลอย" คุณสายสั่งย้ํา "รับสั่งถามถึงตั้งหลายหนแลวคืนนี้" เมื่อพลอยคลานเขาไปเฝา เสด็จประทับกมพระพักตรเลือกอะไรอยู แตพอทอดพระเนตรเห็นพลอย ก็รับ สั่ง ขี้นวา "เออ ! พลอยมาพอดีทีเดียว มาชวยขาเลือกทับทิมเม็ดเล็กๆ นี่หนอย ขาจะใหเขาทําเข็มกลัด" พลอยเขาไปหมอบใกลๆ เสด็จทรงยื่นหอกระดาษใหสองหอ ในนั้นมีทับทิมเม็ดเล็กๆ อยูมาก เสด็จยื่น ปากคีบใหพลอยอีกคูหนึ่ง พรอมกับรับสั่งใหคัดทับทิม ใหไดขนาดกับที่ทรงเลือกไวแลว "ขาเบื่อจริงๆ ไอพวกเครื่องเพชรเครื่องพลอยนี่" เสด็จรับสั่งตอไป "ใสทีไรไมเคยสบายใจสักที แตครั้นจะ ไมใสเสียเลย คนก็จะพูดกันไปตางๆ คอนใหบาง นินทาใหบาง ไมรูเขาเห็นมันดีอยางไร หิวขึ้นมาก็กินเขาไปไม ได เอาแขวนตามตัวก็รุงรัง หายไปก็ยุง" "พลอยเคยสังเกตบาหรือเปลา" เสด็จรับสั่งตอไป โดยไมเงยพระพักตรขึ้นมองหนาพลอย "ของตางๆ ที่ คนเขาวามีราคานั้น ที่มันมีราคาจริงๆ ก็เพราะปากคนวา ถามีใครที่คนเชื่อถือบอกวา อยางนั้นดีอยางนี้ดี อีก หนอยคนก็ตามไปหมด พลอยเห็นดีเห็นงามไปดวยหัน เมื่อขายังเด็กๆ ยังไดเคยเห็นชาววังตัดผมสั้นๆ ถอนไร มีผมทัดยาวเกือบถึงบา แตงตัวก็รุงรังเต็มที ใสปะวะหล่ํากําไล ราวกับละครรํา แตสมัยนั้นก็มองเห็นกันวาสวย งาม ไปหมด เดี๋ยวนี้ทรงผมก็เปลี่ยนเปนยาวขึ้นผมทัดก็ไมปลอย เครื่องเพชรพลอยก็แบบนอก มีงานมีการก็ใส

http://www.geocities.com/siamstory/ploy110_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 5

เสื้อ แบบฝรั่ง คนก็เห็นสวยอีก อยางเจานายในวัง ถาจะนัดกันเอาตรวนมาแขวนคอ ก็คงจะมีคนเห็นสวยงาม ตามไปบางกระมัง แตก็นั่นแหละจะเปนกรวดหรือเปนเพชร ถาเราไปนึกรักมันเขาแลว หายไปเมื่อไรก็เสียดาย ยิ่งรักมากก็ยิ่งเสียดายมาก บางคนถึงเสียคนไปก็มี ถาเราไมอยากทุกขมากไมอยากเสียคน ก็อยาไปรักอะไรให มากนัก ถึงจะรักก็ตองรูกําพืดวามันเปนเพชรหรือเปนกรวด ถารูราคาจริงๆ ของมันเสียแลว ถึงมันจะหายไป เราก็ ไมเสียดายมันนัก" เสด็จเงยพระพักตรขึ้นมองพลอย ซึ่งหมอบกมหนาเลือกทับทิมอยูครูหนึ่ง แลวก็รับสั่ง ตอไปวา "ขาพูดอะไรละก็หมั่นจดจําไว อยางไรๆ ขาก็เกิดกอนเจา ไดเห็นอะไรตออะไรมามาก ถึงจะวาขาเปนคน โบราณก็ชางเถอะ แตก็ควรรับฟงไวบาง เพราะขาเลี้ยงใครก็อยากใหคนนั้นดี" เสด็จทรงหยุดนิ่งอยูอีกครูหนึ่ง เหมือนกับจะทรงคิดอะไรอยูในพระทัย แลวก็ทรงพระสรวลเบาๆ และรับ สั่ง ตอไปวา "พูดถึงเรื่องเลี้ยงคนใหเปนคนดี มันก็แปลกอีก เพระขาก็ยังไมเหมือนคนอื่นเขาอยูนั่นเอง อยางพลอยนี่ มีคน เขาพูดกับขาหลายคนแลววา หนาตาดีๆ ทําไมขาไมถวายเปนพนักงานเสีย ขาก็ทําหัวเราะเฉยๆ เสีย อยางนั้น เรื่องหาบุญวาสนาใสตัวนั้น มันทําไมยากดอกพลอยเอย ใครมีลูกหลานพวกพองก็หนุนๆ กันขึ้นไป พอเปนใหญ เปนโตขึ้นมาแลว ใครเปนเจาเขาเจาของก็พลอยเบิกบาน มีบุญวาสนาตาม ถาขาจะทําอยางคนอื่น เขาบาง ก็คงจะ ทําได อยางพลอยใครๆ ก็ทักวาสวย นิสัยใจคอสกุลรุนชาติของเจา ก็ไมดวยกวาใคร ถาขาจะ ยกขึ้นไป ปานนี้ก็จะ มีบุญไปแลวก็ไมรู แตขาไมทําหรอก เพราะขาเห็นเสียแลว ขาเลี้ยงเจามาก็อยากใหเจามี ความสุขทั้งเวลานี้ และเวลาตอไป ขาไมเชื่อวาบุญวาสนาจะทําใหคนมีความสุขได และความสุขที่คนอื่นหาให ก็ ไมเหมือนความสุขที่ เจาหาเอาเอง ขาไดแตคอยดูใหเจาหาความสุขไดในทางที่ถูก บุญวาสนาตางๆ ขาไมมีจะ ให ถาเจาอยากไดกับเขา บาง ก็ตองไปหาเจาขุนมูลนายที่ตําหนักอื่น ใหทานชวยสนับสนุน ขาทําไมเปน" พลอยลงกราบเสด็จแลวทูลเบาๆ วา "ชาตินี้ทั้งชาติ หมอมฉันขอสนองพระเดชพระคุณเสด็จ อยางที่ทําอยูนี้ก็พอแลว" "ไมพอหรอกพลอย" เสด็จรับสั่งตอบ "ขาไมใชจะไปอยูค้ําฟาไดเมื่อไร คงจะตองตายลงวันหนึ่ง เจาตอง เตรียมตัวไวสําหรับเวลาขางหนาอีกนาน เพราะเจาจะยังตองอยูตอไป เจาควรจําไววา สิ่งใดๆ ที่เกิดแกเราทุก วัน นี้ตองมีผลในวันหนึ่งขางหนา ถาเราทําตัวใหถูกกับเรื่องราวตางๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ผลที่จะเกิดขึ้นในวันขาง หนา ก็ตองเปนผลดี แตถาเราทําตัวไมถูกผลที่จะเกิดตอไป ก็เปนผลที่ไมดี ชีวิตคนเราวาไปก็เหมือนกับละคร ตัวละครก็ มีหนาที่รําไป แตปพาทย เขาก็เลนอยูอีกทางหนึ่ง เราเปนละครก็ตองรําใหถูกจังหวะ ถาใครรําได จังหวะจะโคนดี คนนั้นก็มีคนชม" เสด็จหยุดบวนพระโอษฐแลวก็รับสั่งขึ้นวา "เฮอ ! ขาก็พูดพลามไปคนเดียวตั้งนาน พลอยคุยไปบาง วันนี้ไปทําอะไรมา" "เปลามังคะ" พลอยตอบ "เจาก็เหมือนกับคนอื่นๆ นั่นแหละ" เสด็จรับสั่ง "ถามอะไรก็เปลาทุกที ไปไหนตอไหนกันมาเจ็ดรอยยาน น้ํา พอขาออกปากถามเขาก็ 'เปลา' เปนเสียงเดียวกันหมด" "วันนี้อยูที่ตําหนักทั้งวันจริงๆ มังคะ" พลอยทูลยืนยัน "ก็แลวไป" เสด็จรับสั่งอยางออนพระทัย "คุยกับนางพลอยเหมือนกับคุยกับอิฐกับปูน ขาตองเพอไป คน เดียวทุกที เรื่องนี้สูนางชอยเขาไมได บางทีถามนิดเดียวมันตอบไปตั้งวา" พอเสด็จรับสั่งถึง ชอยก็โผลหนาขึ้นมาจากบันไดพอดี "ดูนังชอยซี" เสด็จทรงพระสรวล "อยูๆ ลุกขึ้นเลนไกพระลอ พอ 'ปูรําลึกถึงไกๆ ก็มา' ทีเดียว เขามา ใกลๆ นี่คุยไป ! วันนี้ใครไปเย็บปากนังพลอยเสียก็ไมรู" ชอยหัวเราะหนาบาน แลวก็คลานเขามาหมอบใกลๆ ที่ประทับ และเริ่มคุยถวายทันที "วันนี้แมมาหามังคะ" ชอยทูลเริ่มเรื่อง ฝายพลอยพอไดยินชอยพูด ก็ขนลุกเกรียว เพราะไมอยากใหชอยเอาเรื่องพี่เนื่องมาทูลเสด็จ ทั้งที่พลอย ก็ สงสัยอยูวาเสด็จจะทราบเรื่องอยูแลวจากคุณสาย "ชะ ! ชางเรื่องใหญโตเสียจริง ! กะอีแมเขามาหา ก็ตองมาคุยอวดมาทําไม ใครตาย" ความจริงคุณสายทูลเสด็จในเรื่องธุระ ที่แมชั้นมาหาเมื่อตอนกลางวันไวตลอดแลว แตเสด็จก็ยังอยาก ทราบ ความเห็นของชอย เกี่ยวกับเรื่องนี้วาจะอยางไรบาง "ไมมีใครตายมังคะ" ชอยทูลตอบ "พี่เนื่องจะมีเรือน" พลอยตัวเย็นวาบขึ้นมาทันที เมื่อไดยินชอยเอยถึง เรื่องนี้ขึ้น "อะไร !" เสด็จรับสั่ง "เด็กเมื่อวานซืน จะมีเมียแลว ! แมมันพาเขามาวิ่งอยูในวังเมื่อเร็วๆ นี้เอง มีเมียได แลว รึนี่ ! ไดกับใคร" "ไดกับคนที่นครสวรรค ชื่อสมบุญมังคะ ลูกแมคาขายขาวแกง" ชอยทูลตอบหนาตาเฉย เสด็จทรงพระสรวลกี๊ก แลวรับสั่งวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy110_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๒)

Page 5 of 5

"ก็ดีแลวนี่ ตอไปจะไดไมตองอด มีขาวแกงกินไปจนตาย แลวแมเจาเขาวาอยางไร" "แมบอกวาจะออกไปจัดการสูขอใหมังคะ" ชอยทูลตอบ "จะทําอะไรก็ไมไดเสียแลว" "ก็สมกันละ" เสด็จรับสั่ง "คนอยางเจาเนื่องพี่ของเจาไดเมียแคนั้น ก็ดีถมไปแลว คนอยางนั้นถาจะมาสู ขอ คนของขาๆ ไมใหหรอก" เสด็จรับสั่ง แลวก็ทอดพระเนตรตรงมายังพลอย พลอยก็รูดีวา เสด็จทรงทราบเรื่องตลอด และที่ทรงรับสั่ง เรื่องนี้มาทั้งหมด ก็เปนวิธีที่จะชวยมิใหพลอยเสียใจจนเกินไปนัก แตเมื่อเห็นเสด็จทอดพระเนตรมายังตน พลอยก็ หมอบกมหนานิ่ง ทําไมรูเรื่องเสีย และพยายามไมไดยินเรื่องที่ชอยจะทูลเสด็จตอไป คืนนั้นเสด็จเขาบรรทมดึกกวาปกติ กวาพลอยจะกลับลงมาถึงหองเพื่อหลับนอน ก็ใกลรุงเขาไปแลว และ จะ เปนเพราะความออนเพลีย ทั้งทางกายทางใจอยางไรก็ตาม เมื่อพลอยเขานอน พลอยก็หลับสนิทไปจนสาย ผิดกับ ชอยซึ่งนอนไมหลับ เฝาสังเกตดูวา พลอยจเแสดงอาการอยางไรตอไป รุงขึ้นอีกวันหนึ่ง พอวางคนพลอยก็เปดตู รวบรวมขาวของที่พี่เนื่องสงมาให และหนังสือและเพลงยาว ที่ พี่เนื่องมีมาถึงเขาไวในหอเดียวกัน ปดผนึกแนนผูกเชือก แลวก็ซุกเขาไวกนตู ตั้งใจวาจะไมแตะตองอีกตอไป และในใจของพลอยนั้นก็ตั้งใจวา จะเก็บพี่เนื่องปดผนึกไวเชนเดียวกัน ถาไมจําเปนจริงๆ ก็จะไมยอมนึกถึง พลอย รูดีวา เรื่องของตัวนั้น รูกันแพรหลายไปโดยรวดเร็ว เพราะในวันรุงขี้น พลอยรูสึกวาตัวเปนเปาสายตา ของคนหลาย คนในตําหนัก พี่พากันมองดูพลอยอยางสนใจ และเห็นใจ ทุกคนพยายามเอาอกเอาใจพลอยเปน พิเศษ ตางคนตาง เขามาชวนพูดชวนคุย เพื่อใหเพลิดเพลิน จนพลอยไมมีเวลาจะนึกถึงเรื่องของตัวไดมากนัก คุณสายเองก็เอาใจเปน พิเศษเหมือนกับคนอื่นๆ สั่งใหผาดหาของกินที่รูวาพลอยชอบมาไว และพอถึง ตอนกลางวันก็เปดหีบ หยิบแพรดอกแพรสีออกมา ใหพลอยเลือกตัดเสื้อ พรอมกับบอกใหรูดวยวา เสด็จจะตาม เสด็จพระเจาอยูหัวไป บางประอินในเดือนหนา พลอยเปนคนหนึ่งที่จะตองตามเสด็จ ฉะนั้นจึงตองตระเตรียม เสื้อผา ที่จะใสตามเสด็จเสีย แตเนิ่นๆ ขาวเสด็จบางปะอินนับวามาถูกับเวลาเปนอยางยิ่ง เพราะคนที่จะไดตามเสด็จไปบางปะอินนั้น ก็พากัน ตื่นเตนที่จะไดไป ตระเตรียมขาวของกันเปนการโกลาหล และในระหวางนั้นก็มีธุระตางๆ ที่จะตองทําใหเสร็จสิ้น ไป และมีเรื่องที่จะตองปรึกษาหารือกัน ในเรื่องที่จะไดไปบานนอก คนที่เคยไปมาแลวก็คุยวาสนุกสนาน โออวด ไป ตางๆ ในฐานที่เปนคนเคยไปมาแลว ฝายคนที่ไมเคยไปก็ไดแตใจเตนฟง และคอยจดจําคําบอกเลาเหลานั้น ไว เพื่อถึงเวลาที่ตนไปถึงจะไดหาความสนุก เชนที่ไดยินเขาเลานั้นบาง ถาหากวาพลอยไมมีชอยอยูใกลๆ บาง ที พลอยก็จะไมรูสึกกระตือรือรนเทาไรนัก เพราะใจคอของพลอย ยังเหี่ยวแหงเย็นชาตอความรูสึกตางๆ ไมยินดี ยิน รายตอสิ่งแวดลอมอีกตอไป แตชอยนั้นตื่นเตนมาก ในการที่จะไดไปบางปะอิน และอาศัยความตื่นเตนของ ตนนั้น เองเปนเครื่องมือชวนพลอยมิใหอยูนิ่งได ซึ่งพลอยก็ยอมทําตามคําชักชวของชอย วันหนึ่งๆ ก็ไดแตตระ เตรียม เครื่องแตงตัวและของกิน ซึ่งทั้งหมดนี้พลอยก็รูสึกดีใจอยูครันๆ วามีอะไรที่จะทํา ถาหากวาอยูเฉยๆ ตามปกติ พลอยก็คาดไมถูกเหมือนกันวา ความวาเหวในจิตใจของตน จะมีมากมายสักเพียงใด พลอยไดพบกับแมชั้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อแมชั้นเขามาลาคุณสายไปนครสวรรค คราวนี้แมชั้นรูแลววาพลอย ทราบเรื่อง จึงพูดจาถึงเรื่องพี่เนื่องโดยเปดเผย ไมมีปดบัง และพลอยก็รูสึกอัศจรรยใจตัวเอง ที่นั่งฟงอยูไดเปน ปกติ มิไดแสดงกิริยาใหเปนที่ผิดสังเกต แตอยางใดเลย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy110_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๑ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 7

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๑ (หนาที่ ๑) 'บางปะอิน' เปนคํากายสิทธิ์สําหรับชาววังเกือบทุกคน เพราะบางปะอินหมายถึงชนบทนอกกรุง หมาย ถึง ทองทุงอันกวางใหญที่มีน้ําเจิ่งและดอกบัวบานสลาง ที่บางปะอินเปนที่มีอากาศโปรงสบาย รมรื่นไปดวย พรรณ พฤกษชาติ มีสระและคลองเต็มไปดวยน้ําใสสะอาด และมีลมที่บริสุทธิ์พัดมาอยูมิขาด การไดตามเสด็จไป บางปะอิน มิไดกอใหเกิดความสนุกตื่นเตน ตอเมื่อไดไปถึงที่นั่นเทานั้น แตความสนุกตื่นเตนนั้น เริ่มจากขั้น เตรียม ตัวจัดหาผานุงผาหม ที่เหมาะสําหรับใชบานนอก และตระเตรียมหาเสื้อผาชุดดีๆ และเครื่องประดับไป ดวย เผื่อวา จะมีงานออกหนาออกตา นอกจากนั้นก็ยังมีของกินที่ตองหาติดตัวไปตามประสาชาววัง ที่มีหนามี ตาหนอย ก็หา ของกินชั้นวิเศษ เชนขนมปง หมูหยอง ชั้นรองลงมาก็มีพวกขาวเมาหมี่ ลูกบัวผัด บางคนที่เขา ใจวาตัวเองกระเสาะ กระแสะเลือดลมไมปกติ ก็หาหยูกยาติดตัวไป คุณสายนั้นออกจะอาการหนัก เพราะ ตองเตรียมทั้งของสําหรับ เสด็จและของสําหรับตัวเอง ซึ่งมีทั้งเสื้อผาเครื่องสําอาง ของกินของใชจิปาถะ และสิ่ง ที่คุณสายเห็นวาสําคัญหนัก หนาตองเอาติดตัวไปดวยจงได ก็คือดินหนึ่งกอน ขุดจากบริเวณรอบตําหนักนั่นเอง เผือวาเมื่อถึงบางปะอินแลว จะไดใสไวกนกาน้ํากิน เปนสิ่งซึ่งคุณสายเชื่อวาขาดไมได มิฉะนั้นจะเปนโรคผิดน้ํา ถึงปวยไข เปนอันตรายทีเดียว เรื่องขุดดินติดเอาไปดวยนั้น คุณสายมอบภาระใหแกชอย เพราะตนเองไมมีเวลา และสั่งเสียกําชับกําชาเปนหลาย หน ซึ่งชอยถือวาเปนเรื่องขบขัน เอาไปเที่ยวเลาโฆษณา ใหเปนที่รื่นเริงตอไป ไดอีกหลายวัน แมแตเสด็จก็ดู เหมือนจะดีพระทัย ที่จะไดเปลี่ยนที่ประทับเสียชั่วคราว เพราะรับสั่งถึงเรื่องจะ เสด็จบางปะอินบอยๆ ความจริง โอกาสที่จะเสด็จบางปะอินนั้นมีอยูเสมอ แตเสด็จไมคอยจะไดถือโอกาสนั้น ใน คราวที่แลวๆ มา จะเปนเพราะเหตุ ผลกลใดก็ไมปรากฏ แตคราวนี้เสด็จรับสั่งกับพลอยวา "คราวนี้เจานายตามเสด็จกันนอยองค ขาก็เลยจะไปเที่ยวบาง ถาไปกันมากนักก็ตองไปเบียดกันอยูที่ วรนาฏ หองเดียวอยูกันตั้งสองคน ขาเปนคนขี้เกรงใจคนอื่น อยูกับใครก็ไมสบายใจ ไปคราวนี้คนนอยหนอยได อยูกันหองละคน พอคอยยังชั่ว แลวก็ดีอีกอยางหนึ่ง ที่คราวนี้เสด็จเพียงสิบกวาวันเทานั้น ไมนานก็พอทนได ขา นี่ มันคนแปลกเกิดในวัง แลวก็อยูในวังมาตลอดชีวิต อยูๆ ไปมันก็อดนึกอึดอัดไมได นานๆ ไดเปลี่ยนที่อยูเสีย ทีก็ สบายขึ้น แตถาไปอยูที่อื่นเกินกวาสิบวันก็เริ่มไมสบายใจอีก คิดถึงในวังที่เคยอยู แลวขาก็คงจะตายอยูในวัง นี้เอง" เสด็จรับสั่งถึงพระตําหนักวรนาฏเกษมศานต อันไดจัดใหเปนที่ประทับเจานายฝายใน ที่โดยเสด็จพระ ราช ดําเนิน และมีรับสั่งแกขาหลวงที่จะตามเสด็จหลายคน ใหระมัดระวังตัวในระหวางที่อยูที่นั้น เพราะจะ ตองอยูชั้นลาง ของตําหนัก ปะปนกับขาหลวงเจานายพระองคอื่นๆ ถาขาดความระมัดระวัง อาจมีเรื่องทะเลาะ เบาะแวงใหตอง รําคาญพระทัย "นางพลอยไปกับขาทางรถไฟในกระบวนหลวง" เสด็จรับสั่ง เมื่อกอนถึงวันกําหนดสักเจ็ดวัน "คนอื่นๆ ไปเรือกับสาย" ที่เสด็จรับสั่งดังนี้ ก็เปนที่รูกันทั่วไปวา พลอยเปนคนที่ทรงพระเมตตามาก เพราะการเสด็จไปบางปะอิน ในระยะนั้นตองแยกเปนสองกระบวน การะบวนหนึ่งไปเรือเครื่อง มีคุณสายเปนผูใหญควบคุมไป และออกลวง หนา วันหนึ่ง จากตําหนักแพไปทางน้ํา บรรทุกขาของเครื่องใชและเครื่องครัวตางๆ ที่เปนสัมภาระหนักพรอม ดวย ขาหลวงที่จะตามเสด็จอีกหลายคน สวนเจานายฝายในที่จะโดยเสด็จพระราชดําเนินนั้น เสด็จโดยรถมา พระประ เทียบ จากวังไป "สะเตชั่น" หรือสถานีรถไฟหัวลําโพง มีขาหลวงตามเสด็จเพียงคนหนึ่งหรือสองคน เปน อยางมาก จากนั้นก็เสด็จทางรถไฟในกระบวนหลวงไปจนถึงบางปะอิน เมื่อรูวาพลอยตองตามเสด็จโดยทางรถไฟ ชอยก็เริ่มบนวา "ฉันเสียดายแทๆ เชียวพลอย ไดไปเรือดวยกันก็จะดี สนุกกวาเปนไหนๆ ไปพวกเรากันเองทั้งลํา ไมมี เจา นายเสด็จ สบายจะตายไป จะมีคนคุมก็เพียงคุณอาเทานั้นเอง" "นี่หมายความวา ฉันไมมีอํานาจควบคุมอะไรหลอนไดยังงั้น หรือแมชอย" คุณสายซึ่งนั่งฟงอยูอีกมุมหอง หนึ่ง รองถามขึ้น "เปลาคะ" ชอยตอบอยางอารมณดี "ฉันหมายความวาคุณอาใจดีเทานั้นเอง" "ฮะ !" คุณสายหัวรอประชด "พอทักขึ้นมาก็เปลี่ยนเสียงทีเดียว พลอยอยาไปฟงยายชอยหนอยเลย ! ไป รถ ไฟกับเจานายของเรานั่นแหละดี ไดเปนสิริมงคลแกตัว เพราะในหลวงก็เสด็จรถไฟกระบวนนั้นเหมือนกัน ปาเองถา ไมจําเปนจริงๆ ละก็ไมไปหรอกทางเรือ กลัวเรือลมจะตายไป" "คุณอากอ" ชอยทวงอยางขบขัน "เรือออกลําโตจะไปลมไดยังไง"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy111.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๑ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 7

"แกอยาทําเปนพูดดีไปนะยายชอย" คุณสายหันมาตาเขียวใส "อยาวาแตเรือเครื่องเลย เรือพระประเทียบ ยังเคยลม เจานายสิ้นพระชนมตั้งหลายองค แกมันเกิดไมทันหรอก ตอนนั้นฉันยังไวจุกอยูเลย เขาเลากันวานา กลั๊ว นากลัว เขาวาสมเด็จทานประทับอยูหนาเกงเรือ พอเรือลมทานทรงเปนหวงทูลกระหมอมฟาที่อยูในเกง เสด็จเขา ไปในเกงก็พอดีเรือคว่ําลง ใครจะเขาไปชวยเขาก็ไมกลา กลัวอาญา เขาวาพวกมอญที่เขาดําทรายอยู แถวนั้น ไมกลาเขาไปชวย ทั้งที่เขาลอยเรือกันอยูออกเต็มไป ฉันตามเสด็จไปในเรือพระประเทียบลําหลัง ตกใจ แทบสิ้นสติ กันไปทั้งลํา ขาหลวงสมเด็จลอยตามน้ํามาก็หลายคน ฉันยังเห็นเขาชวยกันฉุดขึ้นเรือ ตองแกไขกัน อยูนานกวา จะฟน ตั้งแตนั้นมา เสด็จไมเสด็จบางปะอินเลย มาตอนทายที่พอมีรถไฟเดิน ถึงไดเสด็จบาง แต อยางนั้นบางทียัง ทรงกันแสงคิดถึง เพราะเสด็จทานรักสมเด็จพระองคนั้นมาก" "ตายจริง !" ชอยพูดขูคุณสายเลน "นี่ถาเรือลมเขาจริง ฉันมิพลอยตองตายไปดวยหรือนี่ ลําพังตัวฉันเอง นะ ไมเปนไรหรอก ฉันวายน้ําเปน แตจะตองมาคอยชวยคุณอานี่สิลําบาก จะตองพากันตายในน้ําอลักเอลื่อพิลึก ละ เวลาจะไปเรือดวยกันละก็ คุณอาอยางเขาไปนั่งในเกงนะคะ ฉันขี้เกียจไปควักเอาออกมา ลําบาก !" "ดูซีคนอะไรก็ไมรู มาพูดเปนลาง !" คุณสายรอง "อยามาทําพูดดีไปนะ เดี๋ยวฉันไมเอาไปดวย ทิ้งไวทาง นี้ละ ก็จะลําบากจริงๆ ละ นี่เคราะหดีแตเสด็จรับสั่งใหเอาไปหรอก แมตัวดี ! ถาไมรับสั่ง ฉันไมมีวันเอาไปเสีย ละ ทิ้งให ผีหลอกอยูคนเดียวทางนี้แหละ คนอาไร ! ไปตามเสด็จมีแตเขาจะคิดเรื่องการเรื่องงาน นี่กลับมานั่งคิด หาความ สนุกสบายใสตัว ไปในเรือมีแตพวกเราทั้งนั้น !" คุณสายทวนคําพูดของชอย "เจานายก็ไมมี แมจะได เบิกบานกัน ใหเต็มที่ ไมตองกลัวใคร เพราะมีแตนังสายแกนี่คุมไปคนเดียว มันจะมีฤทธิ์เดชอะไรกับมันนักหนา ดีละ ! แมชอย แมคอยดูฝมือฉันไปเถอะ วาใครมันจะเกงกวาใคร !" พูดแลวคุณสายก็เดินบนตุบตับไปจากหอง พอคุณสายพนประตูออกไป ชอยก็หัวเราะแลวพูดขึ้นวา "คุณอานี่แกตัวลงยิ่งโมโหมากขึ้นทุกที พูดอะไร นิด ก็ถือเปนเรื่องดูกันไปหมด ฉันจะตองแกลงใหเข็ดสักวัน" "โธ ! ชอยก็จะไปถือสาอะไรกับคนแก" พลอยพูด "คุณปาเธอรักเราเธอก็หวังใหเราดี มีอะไรพูดไปอยาง นั้น แหละตามประสาคนมีอายุ วาแตเรื่องของที่จะเอาไปเถอะ ชอยหาไดครบหรือยัง" "เกือบครบแลวละ" ชอยตอบ "เมื่อวานนี้แมจันทรที่ตําหนักโนน เขามาบอกวาใหเอาหมวกติดไปดวย เพราะ เวลาตามเสด็จทางเรือ ไปกลางทุงทานเคยใหใส ฉันไปไดมาจากแถวเตงสองใบ ฝากพลอยใบหนึ่ง ยัง ขาดอยูแต แพรเพลาะหมนอน เขาวาที่บางปะอินหนาวกวาที่นี่ ผืนเกาของฉันมันกะรุงกะริ่งเต็มที ฉันสั่งเขาไว ผืนหนึ่ง เขาวา พรุงนี้สายๆ ก็คงจะได แตตองมาร่ําเอาเอง" เหมือนกับมีมีดที่คมปลาบมาสะกิดหัวใจของพลอย ชอยพูดเรื่องแพรหมไปโดยซื่อ มิไดนึกถึงความหลัง ซึ่งความจริงชอยลืมเสียแลว พลอยเมินหนาไปเสียอีกทางหนึ่ง เพื่อซอนน้ําตาที่บังคับไมได หัวใจนั้นเตนระริก ระรัว เหมือนกับผีเสื้อที่หมดแรง กระพือปกอยูกับพื้นดิน ครั้งหนึ่งนานมาแลว แพรเพลาะที่พลอยอบร่ําดวยมือ ตนเอง สอยตะเข็บดวยมือตนเอง เคยมีคาสูงสําหรับใครอีกคนหนึ่ง พลอยยังจําไดวาคนๆ นั้นเคยนั่งประคองผา แพร ผืนนั้นไปจนถึงบางปะอิน จริงสิ ! พลอยก็เพิ่งนึกออก บางปะอินนี่เองที่พี่เนื่องไปเปลี่ยนเรือ ไปนครสวรรค บางปะอินจะใกลไกลนครสวรรคเพียงไร พลอยก็ไมรู จะถามใครก็ไมกลา กลัวเขาจะจับความในใจได ถาอยูใกล บางทีจะไดเห็นหนาพี่เนื่องบางกระมัง หรือจะมีโอกาสไดเห็นแตไกลๆ ก็ยังดี แพรเพลาะผืนนั้น พี่เนื่องเคยบอก วา หมอยูทุกคืน แมแตเวลากลางวัน พี่เนื่องก็เรงใหถึงกลางคืนเร็วๆ เพื่อจะไดหมแพรผืนนั้น ปานนี้พี่เนื่องยัง จะหมอยู หรือไม แตพอคิดอยางนี้พลอยก็สะดุงใจ พี่เนื่องจะไปหมแพรเพลาะผืนนั้นไดอยางไร เดี๋ยวนี้แพรผืน นั้นก็คงหมด ราคาหรือวาพี่เนื่องจะใหคนอื่นเขาหม คิดอยางนี้พลอยก็ตัวรอนวาบไป ดวยความไมสบายใจ แตความจริงพลอยก็ไมควรจะตองวิตก เพราะกอนหนาที่จะตามเสด็จบางปะอินสอง พลอยไดรับหอของ หอ หนึ่งจากบานชอย ในนั้นมีแพรเพลาะผืนหนึ่งพับไวอยางเรียบรอย กลิ่นอายอบร่ํานั้นจางไปนานแลว และใน พับแพร เพลาะนั้น มีกระดาษเล็กๆ แผนหนึ่งมีขอความเขียนไววา "คิดถึงแพรเลี่ยนแลวเสียดายเหลือ เปนฝมือของหมอมยอมมะเกลือ ไดหมสนิทแนบเนื้อมานมนาน เคยคิดไววาจะอยูเปนคูชื่น ไมเปนอื่นรวมรักสมัครสมาน แตเวรกรรมที่ไดทํามาบันดาล ตองแหลกลาญแคลวคลาดทั้งชาติไป อันชาตินี้พี่คิดผิดไปแลว ขอพบแกวกลอยสวาทในชาติใหม ถึงความทุกขทวมทนลนหัวใจ แตพูดไปก็จะเห็นวาเลนลิ้น ขอกมหนารับกรรมประจําตัว

http://www.geocities.com/siamstory/ploy111.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๑ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 7

เมื่อทําชั่วก็จะใชไปจนสิ้น แพรผืนนี้คืนไวใหยุพิน ถึงจางกลิ่นความในใจไมจืดเอย" แพรผืนเกาไดคืนมา พรอมกับกลอนระบายความในใจอีกบทหนึ่ง พลอยรีบเก็บเขาซุกซอนไวเสียในตู หา ของอื่นๆ ทับไวกันมิใหใครเห็น และในคืนวันนั้นเอง ซึ่งเปนคืนกอนที่ชอยจะออกเดินทางลวงหนา ไป บางปะอิน กอนโดยทางเรือเครื่อง ถึงแมวาพลอยจะพยายาม สะกดอกสะกดใจใหหลับสักเพียงใด ก็หาไดหลับ ลงไม พอหลับ ตาลงทีไรก็เห็นแตหนาพี่เนื่อง และหนานั้นหัวเราะอยางเศราทุกครั้ง เพลงยาวที่พลอยไดรับจาก พี่เนื่องเปนอันสุด ทาย ดังกึกองอยูในหูเปนจังหวะไมขาดระยะ พยายามเอาหมอนอุดหูก็แลว นอนคว่ําก็แลว นอนตะแคงก็แลว ก็ยัง นอนไมหลับเหมือนกัน เวลาประมาณตีวามกวาๆ เสียงชอยพูดลอดมุงมาวา "ฉันก็ไมหลับเหมือนกันแหละพลอย ใจมันเตนตึกตักจะไดไปเที่ยวพรุงนี้ ลุกขึ้นนั่งคุยกันดีกวา" วาแลวก็ผลุดออกจากมุงจุดตะเกียงดวงเล็กหรี่ไว แลวคอยเดินไปที่ขางฝาคนหาอะไรกุกกักอยูคนเดียว แลวก็มานั่งขางๆ มุงพลอย "พลอย" ชอยเรียกเบาๆ "ออกมากินสมกันดีกวา ไหนๆ ก็นอนไมหลับดวยกันทั้งสองคนแลว" พลอยลุกออกจากมุงเขาไปนั่งอยูกับชอย นึกดีใจเหมือนกัน ที่มีชอยมาอยูเปนเพื่อน "วันนี้หออะไรที่สงมาจากบาน" ชอยถามขึ้น "หอแพรเพลาะ" พลอยตอบหวนๆ พยายามซอนน้ําเสียง มิใหชอยจับไดวา มีความรูสึก "เอ ! พี่เนื่องนี่ชักจะหนักมือไปละ เรื่องแลวไมรูแลว พลอยอยาไปสนใจกับเขาเลย เราไมไดทําผิดคิดราย กับ ใคร เมื่ออะไรมันแลวก็แลวไปมั่ง กินสมกันดีกวา" "ฉันไมไดวาอะไรนี่ชอย" พลอยตอบ "ก็ดีแลว เอ ! กินสมมืดๆ นี่มันเปรี้ยวชอบกล ไหนลองไขไฟขึ้นใหมันสวางอีกหนอยซิ เผื่อมันจะหวาน ขึ้น บาง" วาแลวชอยก็บิดตะเกียงใหสวางขึ้นอีก แลวก็สงสมใหพลอยผลหนึ่ง พลอยรับสมมาปอกกิน แลวก็นั่งใจ ลอยฟงชอยคุยเรื่องอะไรตอไป จนฟาสาง ถึงเวลาที่ชอยจะตองรีบไปลงเรือ แตเชาตรู รุงขึ้นอีกวันหนึ่ง พลอยขึ้นรถพระประเทียบตามเสด็จ ไปถึงสถานีรถไฟเวลาราวๆ สามโมงเชา เพราะ ขางใน ตองรีบไปขึ้นรถไฟ คอยเวลาเสด็จพระราชดําเนิน เมื่อถึงสถานี พลอยแลเห็นผูคนพลุกพลานคอยรับ เสด็จ มีทั้งขา ราชการทหาร พลเรือนและมหาดเล็กกรมวัง มองดูเต็มไปดวยขาราชการ เจาคุณพอมาสงเสด็จที่ สถานีดวย พลอย แลเห็นทานยืนอยูในหมูขาราชการหลายคน เมื่อเสด็จทรงพระดําเนินผานไป ทุกคนกมศีรษะ ถวายคํานับ พลอย เห็นเจาคุณพอมองดูตัว แลวยิ้มอยางภูมิใจ และสะกิดเพื่อนขาราชการที่ยืนอยูใกลๆ ใหดูลูก สาวของทาน พอได เห็นเจาคุณพอความวิตกตางๆ ที่มีอยู ดูเหมือนจะเบาบางลงไปมาก พลอยรูสึกวาความ วาเหวที่มีมาหลายวันนั้น หายไป ชีวิตกลับมีความหมายขึ้นมาอีก ขางหนาของพลอย คือเสด็จเปนบุคคลที่ พลอยมีหนาที่ปฏิบัติ และการ ปฏิบัติหนาที่ตอเสด็จ ทําใหเจาคุณพอพอใจ ไมรูสึกอับอาย เพราะทานสะกิดให คนอื่นๆ ดูลูกสาวของทาน และขา ราชการกลุมนั้น พากันพยักพเยิดอยางพอใจทุกคน เสด็จทรงขึ้นรถตูที่จัดไว สําหรับเจานายฝายใน พรอมกับ เจานายฝายในพระองคอื่น ตูขางหนานั้นเปนตูจัดไวเปนราชพาหนะ พรอม ดวยเจานายขางหนา และขาราชการ ผูใหญบางทานที่จะตามสเด็จ พลอยสงหีบหมากเสวยที่เชิญมา ถวายเสด็จ ที่รถตู ตอจากนั้นคุณเฒาแก ที่คุมกระ บวนขางใน ก็บอกใหขาหลวงที่ตามเสด็จเจานาย ขึ้นรถอีกตูหนึ่งที่จัดไว เฉพาะ ตอจากนั้นไปก็เปนรถตูมหาดเล็ก และกรมวัง ที่จะตามเสด็จ พอพวกขาหลวงเจานายขึ้นรถได ตางก็พากันหาที่นั่งใหถูกใจ ตางก็ชวนคนที่รูจักใหนั่งดวยกัน เสียงเซ็ง แซ ไปหมด บางก็ทักทายตอวาตอขานกัน ฟงไมไดศัพท เสียงคุณเฒาแกตะโกนจากหัวรถวา "เบาๆ หนอยซียะแมพวกเหลานี้ อะไร ! เสียงยังกะนกกระจอกเขารัง ! กําลังจะเสด็จเร็ดทุง ขุนน้ําขุน นาง ออกเต็มไป ระยังกันหนอยซิ" เสียงพูดจากันเงียบลงไปพักหนึ่ง แตแลวก็เริ่มมีเสียงซุบซิบ ซึ่งคอยๆ กลายเปนเสียงดังกลับมาอีก พลอย ไดนั่งใกลหนาตาง มีแมชมอยขาหลวงตําหนักอื่น ที่เปนคนรูจักกันมานั่งอยูขางๆ แมชมอยเปนคนที่คอน ขางจะ กวางขวาง รูจักใครตอใครมาก พอเขามานั่งติดกับพลอย ก็เริ่มชี้ใหดูขาราชการบนชานชาลา เสียงเจา คุณอาที่โนน คุณพี่พระที่นี่ คุณพระนายอะไรตออะไร และอุย ! พี่หลวงก็มาจนสุดที่พลอยจะจดจํา แมชมอยชี้ให พลอยดูขาราช การ ที่รูจักแตละคน แลวก็เริ่มอธิบายสรรพคุณของขาราชการเหลานั้น ใครดีไมดี มีเมียเทาไร ลูกกี่คน เปนญาติกับ ใครบาง ดูเหมือนแมชมอยจะรูทั่วถึงไปหมด แมชมอยพูดไปหัวเราะไป นัตถุยาไปพลาง พลอดเวลานั้นพลอยก็นั่ง เหมอมองไปขางหนาอยางไมสนใจ ฟงแตก็นิ่งเฉยพอเปนกิริยา นานๆ ก็พยักหนาเสีย ทีหนึ่ง เหมือนกับวากําลัง ฟงอยู พลอยนั่งบนรถรอเวลาเสด็จพระราชดําเนินอยูนาน และมาบังเกิดความรูสึกวา มีคนกําลังจองมองอยางที่

http://www.geocities.com/siamstory/ploy111.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๑ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 7

เคยรูสึกมาแลว และพอพลอยเหลียวไปดูก็สบตาคูเกา คุณเปรมยืนมองดูพลอยอยู ณ มุมหนึ่งของชานชาลา สถานี รถไฟ พลอยรีบหลบหนาเขามาเสียขางในรถ รูสึกหนาวไปทั้งตัว คุณเปรมแตงตัวทําทาทาง เหมือนอยางกับจะ ตามเสด็จ ขณะที่พลอยนั่งพิงตัวกับพนักที่นั่งนิ่งอยู คุณเปรมก็เดินผานมาใกลๆ ผานหนาตางรถไฟไป เสียงแม ชมอยพูดขึ้นอยางตื่นเตนวา "แมพลอย ! ดูซี ! นั่นไงคุณเปรมมหาดเล็ก เขาวากันวา เปนเศรษฐีใหญไมมีตัวจับ ฉันรูจักกับพี่นองเขา หลายคน คุณเปรมเขาเปนลูกหลานเจาคุณโชฎึก พวกนี้เขาร่ํารวยทั้งนั้นแหละ แมพลอยรูจักไหม" พลอยนิ่งไมตอบ พยายามซอนตัวและภาวนา ขออยาใหคุณเปรมเหลียวมามองตนอีก แตคุณเปรมก็เดิน หายไปทางทายรถ เสียงแมชมอยพูดตอไปวา "ถึงบางปะอินแลว แมพลอยอยูกับใครหรือเปลา ถาไมมีใครอยูกับฉันก็ได" "ฉันก็ตองอยูกับแมชอย และขาหลวงตําหนักเดียวกันอีกหลายคน ยังไมรูเลยวาจะอยูที่ไหน" "ถาอยางนั้นเราก็อยูใกลกันก็แลวกัน ฉันไมมีเพื่อนคุย คุยกับแมพลอยฉันชอบ ไมคอยมีเรื่อง แนะ ! เสด็จ แลวละ !" ขณะนั้นเสียงทหารกองเกียรติยศ บอกแถววันทยาวุธ เสียงแตรวงบรรเลง ขาราชการที่มาสงเสด็จพระ เจา อยูหัว ยืนระวังตรงทุกคน พลอยนั่งตัวตรง ไมกลาชะเงอออกไปดู และเสียงคุยกันจอแจในรถนั้น ก็เงียบลง ทันที พระเจาอยูหัวเขาสูชานชาลาสถานี มีเจานายลูกเธอเล็กๆ ตามเสด็จหลายองค ระหวางที่เสด็จพระราชดํา เนินผานคนที่มาสงเสด็จ ก็มีพระราชดํารัสปฏิสันถารกับคนที่มาเฝา เกือบจะทุกคน พลอยนั่งกมหนานิ่งมิกลาชํา เลืองมอง แตยังไดยินพระสุรเสียง ซึ่งกองกังวานกวาเสียงอื่นๆ ในที่นั้น ทรงทักทายปราศรัยกับขาราชการที่มา สง เสด็จดวยขอราชการบาง ดวยเรื่องสวนตัวบาง พลอยไดยินพระราชดํารัสแววๆ ถึงเรื่องถนนหนทางบาง เรื่องการ ปกครองหัวเมืองบาง ตลอดจนเรื่องลูกใครเรียนหนังสือ เมียใครเจ็บไขไมสบาย ก็ทรงไตถามตั้งแต เรื่องใหญจน เรื่องเล็ก ดูเหมือนจะทรงทราบโดยละเอียดไปสิ้น ไมมีเรื่องใดที่จะใหญไปหรือเล็กไป สําหรับ พระองค ทุกคนในที่ นั้นรูสึกวาชีวิตทุกทางทุกดาน ทั้งในเรื่องสวนตัวและเรื่องการงาน กําลังถูกนําออกพิจารณา โดยผูใหญคนหนึ่งที่ ทราบเรื่องราวทั้งปวงดีกวาคนอื่น และการซักถามหรือแนะนํานั้น ก็กระทําโดยเจตนาดียิ่ง กวาที่จะหาไดในที่ใด เพราะผูใหญคนนั้นคือเจาชีวิต เปนทั้งผูดํารงรักษา และเปนทั้งผูที่อาจทําลายชีวิตทั้งปวง ที่รวมกันอยูในเมืองไทย พลอยเองก็เปนชาววัง อยูใกลเจาใกลนาย สักแตจะโผลหนาตางหองออกไป ก็มองเห็นที่บน อันเปนที่ ประ ทับพระเจาอยูหัว เรื่องราวตางๆเกี่ยวกับพระองค เปนตนวาวันในไมทรงสบาย ของสิ่งใดโปรดหรือไม ตลอดจนผู ใดที่อยูในขายพระมหากรุณาเปนพิเศษ พลอยก็รูดีอยางใกลชิด แตถึงกระนั้นทุกครั้งทีมีโอกาสเฝา ใกลชิด และเห็น พระองค พลอยก็รูสึกเต็มตื้น น้ําตาคลออยากจะรองไหดวยความปติ และคอหอยนั้นก็ตื้นตัน ทุกครั้ง อีกสักครูหนึ่งรถไฟกระบวนพระที่นั่ง ก็เคลื่อนออกจากสถานี พลอยลืมสิ่งอื่นๆทั้งหมด เพราะ ภูมิประเทศที่ มองเห็นจากรถไฟนั้น เปนสิ่งที่พลอยไมเคยเห็นมาแตกอน รถไฟแลนชาๆออกจากสถานี แลวก็ เพิ่มฝจักรเร็วขึ้น จนตาลาย ครั้งนี้เปนครั้งแรกที่พลอยเคยขึ้นรถไฟ จึงรูสึกตื่นเตนมาก เสียงแมชมอยคุยอะไร ตออะไรเรื่อยไป ไมรู จบ พลอยก็มิไดสนใจฟง รถไฟแลนผานบานเล็กเมืองนอยแถวชานพระนคร บางบานรูวา จะเสด็จพระราชดําเนิน ผานตามทางรถไฟ ก็ตั้งที่บูชาตามมีตามเกิด บางบานเจาของบานออกมารับเสด็จ พอ รถไฟผานตางก็หมอบกราบ ถวายบังคมแลวแหงนหนาขึ้นมองรถไฟกระบวนเสด็จ ดวยความปลื้มใจเปนลนพน ครั้งนี้เปนครั้งแรกที่พลอยไดโดยเสด็จในกระบวนหลวง เพิ่งเคยเห็นวาอาณาประชาราษฎรแสดงอาการ กิริยาความรูสึกอยางใด เมื่อไดชมพระบารมีขณะเสด็จพระราชดําเนินผาน รัศมีแหงความจงรักภักดีจากคน นับ พัน นับหมื่น ที่เรียงรายตามบานชองและไรนา พุงเขามาจับหัวใจ เวลาไปไหนมาไหนตามลําพัง พลอยไมเคย รูสึกวา ชาวบานรานตลาด แลบานชองเรือกสวน ที่ไดเห็นตามทางนั้น มีความสัมพันธเปนอันหนึ่งอันเดียวกัน แตคราวนี้ พลอยแลเห็นความสัมพันธนั้นไดชัด ไมวาจะเปนบานไหนชองไหน ไมวาจะเปนคนหมูใดกลุมใด ลวน แตเปนบาน เรือน คนในครอบครัวเดียวกันทั้งสิ้น รถไฟยิ่งแลนไกลออกไป บานชองที่เรียงรายอยูนั้น ก็คอยหาง กันออกไป มีทุงนาอันกวาง และปาละเมาะที่เห็นอยูไกลๆ เขามาแทนที่ จะมองไปทางไหนก็เห็นแตน้ําใสสะอาด สลับดวยตนขาวเขียวขจี และดอกบัวหลากสี พลอยแลดูอยูไมวางตา หัวใจนั้นพองโตดวยความเบิกบาน ลืม ความทุกขความเศราหมอง และทุกอยางแมแตพี่เนื่อง เพราะถาจะวาไปพลอยก็ยังเปนสาว ความสุขชั่วครู ก็ สามารถบันดาลใหลืมความทุกขไดทันที ชาวบานกลุมหนึ่งพายเรือจะไปกิจธุระ พอเห็นรถไฟกระบวนเสด็จพ พระราชดําเนินแลนผานไป ก็วางพายพาดไวกับตัก และหันมาถวายบังคมทั่วทุกคนพรอมๆกัน คนแกคนเฒา ที่ หาปลาอยูริมคู ลงนั่งคุกเขาพนมมือไวหวางหนาผาก หลับตาทําปากหมุบหมิบ อาราธนาคุณพระคุณเจา ใหคุม ครองในหลวง เด็กอีกลุมหนึ่งเลนน้ําอยูที่หนาศาลาวัด เห็นรถไฟผานไปก็ตะโกนโหรองโลดเตน อยางลําพองใจ ตามธรรมดาของเด็กที่ไรเดียงสา ควายฝูงหนึ่งเดินหากินอยูใกลทางรถไฟ บางตัวก็นอนเคี้ยวเอื้อง อยูอยาง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy111.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๑ (หนาที่ ๑)

Page 5 of 7

สบายอารมณ พลอยมองดูจนเกือบจะเหลียวหลัง ดวยความสนใจเปนที่สุด เพราะครั้งนี้เปนครั้งแรกจริงๆ ที่เคย เห็นควาย เสียงใครคนหนึ่งทางทายรถ รองขึ้นดวยเสียงแหลม ลอเลียนสํานวนชาววัง ที่ไมเคยเห็นควายวา "อุยตาย ! ควายมีเขา" แลวก็มีเสียงหัวเราะเกรียวกราว ดวยความขบขันขึ้นทั้งรถ รถไฟแลนตอไปอีกนาน พลอยนั่งฟงเสียงลอรถ กระทบรอยตอของราง ดังเปนจังหวะ ทอดอารมณ ออก ไปตามทิวทัศนแปลกและใหม ที่เห็นอยูสองขางทาง หัวใจที่เหี่ยวแหงมาหลายวันนั้น ก็เริ่มจะสดชื่นรื่นรมยขึ้น เพราะไดเปลี่ยนอากาศ บางทีเสด็จจะเสด็จบางปะอินคราวนี้ เพราะทรงพระเมตตาพลอย อยากใหไดลืมเรื่อง หลังๆ เสียบางกระมัง พลอยนึกอยางนั้นแลวก็รีบเปลี่ยนใจ เพราะถานึกเชนนั้นก็ดูจะอาจเอื้อมไป และเสด็จอาจ จะไมทรง ทราบเรื่องราวความทุกขโทมนัส ของพลอยเลยก็ได เสียงคุยกันในรถดูเบาลง เพราะความตื่นเตนเมื่อ แรกออก เดินทางนั้น เริ่มลดนอยลงไป แมชมอยนั่งหลับตาพิงพนักนิ่ง บนวาเมารถแลวก็เริ่มทําปฐมพยาบาล ตนเอง ดวยยาดมและยาหอม ที่เอาติดตัวมาบาง พลอยถามวาจะชวยเหลืออะไรไดบาง แมชมอยก็ตอบวาไม ตอง พอรถจอดก็จะหาย ทําใหพลอยเบาใจลงไปเปนกอง เพราะแมชมอยคงไมถึงตายลงบนตัก และความเมารถ ทําใหแมชมอยระงับการพูดคุยไปไดชั่วขณะ ในที่สุดกระบวนรถไฟนั้น ก็มาถึงสถานีบางปะอิน ทุกคนตางเตรียมตัวลง และเมื่อเสด็จพระราชดําเนิน ลงจากรถแลว หมูขาหลวงเจานายก็ตางลงจากรถ เพื่อไปรับเสด็จเจานายของตนจากรถที่ประทับ ที่สถานี บางปะอิน ขาราชการแขวงกรุงเกาและภรรยาขาราชการ มารับเสด็จเปนจํานวนมากไมนอย แมชมอย ซึ่งบัดนี้ กระทําตัวเปนคนสนิทของพลอย คอยเดินชิดตัวอยูตลอด ชี้ใหดูเจาคุณเทศา และคนอื่นๆ ซึ่งดูเหมือน แมชมอย จะรูจักไปหมด พลอยสังเกตเห็นขาราชการทุกคนและภรรยา พูดจาเพ็ดทูลพระเจาอยูหัวและเจานาย ที่ตาม เสด็จอยางคลองแคลวไมมีติดขัด และดูคุนเคยเปนกันเองกับทุกพระองค เสียงสมเด็จทรงทักสตรีสูงอายุ ผูหนึ่งที่ มาเฝารับเสด็จวา "ยายแจม ! แกจนหกสิบแลว เพิ่งจะมีผัวคราวนี้เอง" สตรีสูงอายุผูนั้นแทนที่จะอาย กลับหัวเราะอยางขบขันตัวเอง เสียเต็มประดา ถวายบังคมแลวกราบทูลวา "ก๊ํา กรรม ! นะกะนะกะหมอม" บรรยากาศที่บางปะอินสดชื่นรื่นเริง ผิดกวาที่กรุงเทพฯ มากมายหนักหนา เจานายทุกพระองค มีพระ อาการ รื่นเริงอยางเสด็จมาพักผอนพระอิริยาบถ ขนบธรรมเนียมประเพณีอันเครงครัดตางๆ ดูเหมือนจะถูกทิ้ง ไวที่ กรุงเทพฯเปนบางสวน เมื่อถึงพระราชวังบางปะอินแลวนั้น ทั้งวันพลอยมิไดมีเวลาดูอะไรได เพราะวาวุนอยูกับกิจธุระ ตระ เตรียม หองที่ประทับถวายเสด็จ ที่ตําหนักวรนาฏ และเสด็จก็ไดประทับแตพระองคเดียว ในหองหนึ่งจริงอยางที่ ได รับสั่งไว เพราะเจานายมานอยพระองค ชอยมาถึงกอนหนาวันหนึ่ง พลอยตองคอยรับขาวของตางๆ ที่คุณ สาย อํานวยการใหขนขึ้นจากเรือเครื่อง ที่จอดอยูริมคลองทายวัง ชอยนั้นดีใจเหมือนกับไมไดพบพลอยมาหลาย ป และเพิ่งไดมาพบปะกัน บรรยายความสนุกที่ไดรับ จากการเดินทางๆน้ําอยูตลอดเวลา กวาจะจัดขาวของเสร็จ ก็พลบค่ํา ชอยชวนพลอยไปอาบน้ํา ในสระทั้งมืดๆ และออกวานน้ําทาตางๆ ใหพลอยพรอมดวยขาหลวง ตําหนัก อื่นๆดูอยางโลดโผน ระหวางที่อยูบางปะอิน คุณสายตกลงวา จะคุมเครื่องอยูในเรือ ใหพลอยกับชอยและขาหลวงรุนเดียวกัน อีกสองคนเขามาอยูกับเสด็จ ที่วรนาฏ ชอยเห็นดวยกับการตกลงใจของคุณสายเปนอยางยิ่ง บอกกับพลอยวา "ฉันดีใจดีใจ คุณอานอนที่เรือ ถาขึ้นมาอยูดวยกันละก็ฉันแยทีเดียว" "กลัวจะมีคนคอยดุหรือชอย" พลอยถาม "นั่นอยางหนึ่งละ" ชอยตอบ "อีกอยางหนึ่งก็คือ ถาคุณอาเขามาอยูเสียในนี้ เราก็จอดอยูในนี้เทานั้นเอง นี่คุณอาอยูที่เรือ เราก็มีเรื่องเดินเขาเดินออกทุกวัน เลนไปมาหาสูกับคุณอาสายนะแหละ" "ชอยนี่เมื่อไรจะโตเสียทีนะ" พลอยพูดอยางเอ็นดู "ไมมีวันเสียละพลอย" ชอยหัวเราะ "เปนเด็กมันเรื่อยๆไปอยางนี้ดีกวา สนุกตลอดชาติ ใครอยากโต อยากแกก็ตามใจ ฉันไมเอาดวยละ พวกฉันมันเหมือนกันทุกคน ดูแตแมฉันซี จนแกแลว แกยังหาเรื่องสนุก ได เรื่อยๆ พี่เนื่อง... เอย" แลวชอยก็หยุดพูดลงกลางคัน เพราะรูวาตัวพูดผิดไปถนัด ชอยกัดริมฝปากตัวเอง แลวก็ มองดูหนาพลอย เหมือนกับจะขอโทษ "พี่เนื่องทําไม !" พลอยถามแลวก็หัวเราะ ในใจนั้นก็นึกอัศจรรยตัวเอง ที่สามารถตีหนาซื่อไมมีพิรุธ "ไมทําไมหรอก" ชอยตอบ "ฉันกําลังจะวาพี่เนื่องแกก็รักสนุกอยางฉันเหมือนกัน เทานั้นเอง" พลอยยิ้มแลวตอบวา "แลวทําไมไมพูดตอใหตลอดละชอย ทีนี้ชอยจะพูดอะไรก็พูดเถิด ไมตองเกรงใจฉันหรอก ฉันไมเปนไร แลว" พลอยไดยินเสียงตัวเองเหมือนคนอื่นพูด และนึกสงสัยตัวเองอยูครันๆ วาใจนั้นจะเหมือนกับปากที่พูด หรือไม พลอยมาอยูที่บางปะอินที่ๆ พี่เนื่องเคยผานขึ้นลองไปนครสวรรค แมชั้นเคยเลาวา พี่เนื่องนั่งกอดผาหม

http://www.geocities.com/siamstory/ploy111.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๑ (หนาที่ ๑)

Page 6 of 7

ที่พลอยใหมาถึงบางปะอิน แตบัดนี้ผาหมผืนนั้นกลับมาหมกอยูกนตู กลิ่นอายก็จืดจางไป บางปะอินก็เปนที่ใหม ที่พลอยไมเคยมา กลิ่นอายก็ผิดกับที่กรุงเทพฯเปนหนักหนา มีที่ตางๆที่จะตองดูอีกมาก มีเรื่องราวที่จะตองรู อีกมาก มีงานการใหมๆที่จะตองทําอีกมาก ถาจะวาไปชีวิตก็เปนเชนนั้น... ของเกาก็ตองเก็บไวกนตู... แลวมอง ไป ขางหนา ดูวาจะมีอะไรทําตอไป รุงขึ้นอีกวันหนึ่งตอนเชา เสด็จรับสั่งถามขึ้นวา "พลอยพายเรือเปนหรือเปลา" เมื่อพลอยทูลรับสั่งวาไมเปนก็รับสั่งวา "ถาอยางนั้นก็ไปหัดพายเสียใหเปนที่ในสระ วันหลังจะไดพายเรือไปเที่ยวไหนๆดวยกัน นางชอยก็ไปหัด เสียใหเปนดวย" ชอยเดินหนาบานลงมาจากตําหนักชั้นบนพรอมๆกับพลอย "พลอยจําไวใหดีนะ เสด็จรับสั่งใหฉันไปหัด พายเรือ" ชอยพูด "ทําไม" พลอยถาม ไมเขาใจวาชอยหมายความวากระไร "อาว !" ชอยรองขึ้น "ฉันกับพลอยก็จะตองไปลงพายเรือกันใหญซีนะ ถาใครมาวาเราจะไดอางรับสั่งกลับ ไป ใหเงียบไปเลย" "มันจะไปยากอะไรนักหนากะอีพายเรือ" พลอยพูดขึ้น "หัดวันสองวันก็คงเปน" "โฮย ! ยากจะตายไป เราไมใชจะไปหัดเรือธรรมดานี่พลอย เผื่อทานรับสั่งใชจะไดพายเรือที่นั่ง เดี๋ยว พายไมดีพาเจานายไปเรือลม จะพากันหลังลายไปตามๆกัน หัดวันเดียวสองวันจะไปเปนที่ไหน อยางนี้ตอง หัด ทุกๆวันๆละสามเวลา พายเปนแลวก็ตองฝกซอมใหชํานาญ เรื่องมันอยูที่วาฉันจะลงเลนเรือทุกวัน แลวคุณอา จะวาฉันไมไดเทานั้น เพราะเสด็จรับสั่งใหฉันหัดพายเรือ" วาแลวชอยก็รองรําทําเพลงอยางสบายใจ จนพลอยหามกลัววาใครจะมาเห็นเขา และตั้งแตนั้นมาชอยก็ ชวน พลอยลงพายเรือเล็กๆ ที่มีมาจอดไวริมสระในพระราชวังบางปะอินทุกวัน ผลัดกันคัดทายบางพายหัวบาง พายคนละลําแขงกันบาง ชอยแกลงทําใหเรือลมเลนสนุกๆบาง พลอยก็สนุกไปตาม เชาเย็น หรือเวลากลางวัน แดดรอนเลนเรือไมสนุก ชอยก็ชวนพลอยเดินออกไปหาคุณสายที่เรือเครื่อง คุณสายอยูที่นั่นเปนประจํา เพราะ คอยควบคุมขาวของและดูแลเครื่องเสวย นานๆจะเขามาเฝาเสด็จที่ขางในสักหนหนึ่ง พลอยกับชอยไปถึง ทีแรก เห็นคุณสายนอนพังพาบ ปอกหอมปอกกระเทียมอยูหัวเรือ มีผาดนั่งพับเพียบชวยปอกอยูดวย "ใหญโตดีไหมละ คุณอาของฉัน !" ชอยกระซิบบอกพลอย กอนที่จะเขาไปถึงตัว แลวก็เริ่มหัวเราะ อยาง ขบขัน ทําเอาพลอยตองหัวเราะไปดวย ทั้งที่ไมมีเรื่องจะหัวเราะ พอคุณสายหันมามองเห็น ก็ทักขี้นทันทีวา "ออกมาทําไมกัน ทําไมไมอยูกับเสด็จ" "ฉันคิดถึงคุณอา" ชอยตอบ "พลอยเขาก็คิดถึง ขืนอยูตอไปไมไดเห็นหนาคุณอา หัวใจเขาจะแตกตาย ฉันเลยพาเขาออกมาหา" "ฮึ ! มันจะมากไปละ !" คุณสายไมยอมเชื่ออารัมภกถาของชอย "อยากออกมาเที่ยวก็บอกมาเสียดีๆ แต อยาอยูชักชา พอเขาเชิญเครื่องเขาไปก็รีบกลับก็แลวกัน ขืนไถลละก็เปนเจ็บตัวทั้งโตๆกันอยางนึ้แหละ" "โถ ! คุณอาเจาขา" ชอยตอบอยางออนหวาน "คุณอาไมรักหลานเสียแลวหรือคะ หลานอุตสาหเดินกรํา แดด มาหาทั้งสองคน ดูซีเนื้อตัวดําไปหมด นี่กลับถึงกรุงเทพฯ จะตองไปบมผิวอยูอีกนานเทาไรก็ไมรู กรรมเวร จริงๆ คุณอาไมมีอะไรใหหลานรับประทานบางหรือคะ คุณอาใจดี๊ใจดี !" คุณสายเหลียวมาหัวเราะกับพลอยแลวถามวา "พลอยไมคลื่นไสยายชอยบางหรือ ฉันจะทนไมไหวอยูแลวนะ" แตแลวคุณสายก็บอกใหผาด ไปยกของ กิน มาใหหลายอยาง สวนมากก็มีไสกรอกปลาแนม ของกินเลนอื่นๆ ตลอดจนขาวเมาทอด ขณะเดียวกันก็ กําชับชอย ใหหมั่นเฝาเสด็จ อยาไปเที่ยวไถลเสียที่อื่น เพราะบางปะอินมีที่เที่ยวเลนมาก "เสด็จของเราทานพระทัยดี" คุณสายปรารภขึ้น "มาอยางนี้ ทานไมเคยหวงหาม ใครอยากจะเที่ยวจะเลน ก็ตามแตใจ จึงเปนเรื่องของเราจะดูตัวเราเอง ไมใหเหลิงไป" พลอยมองดูคุณสายก็รูวาสนุกอยูไมนอยเหมือนกัน เพราะของที่กองอยูรอบๆตัว ก็บอกใหรูวาคุณสาย สนุกในการซื้อของจากชนบท พวกฟกแฟงแตงราน ผักตับเตาสันตะวาและสายบัว ตลอดจนกุงปลาตางๆ ที่มีคน นํา มาขายตามเรือ กลิ่นกับขาวหอมฉุยมาจากทายเรือ ชอยแหงนจมูกขึ้นดม แลวถามขึ้นวา "แหม ! ใครทําอะไรหอม เตะจมูกฉุยทีเดียว" "ฉันหลนปลารา จะตั้งเครื่องเสด็จ" คุณสายตอบอยางภาคภูมิ "เมื่อเชานี้เขาเอาผักกินกับปลารามาขาย เต็มลําเรือนากินเต็มที หลนแลวจะใสกะโหลกมะพราว ฉันใหเขาทําไว นาเอ็นดู" คุณสายชี้ใหเห็นดูกะโหลกมะพราวใบเล็ก ขัดจนเปนมัน สวนบนเลื่อยออกเปนฝาปดเรียบรอย แลวใส สาแหรกเล็กๆ แขวนไว

http://www.geocities.com/siamstory/ploy111.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๑ (หนาที่ ๑)

Page 7 of 7

"เอะ ! ทําไมตองใสกะโหลก" ชอยถามขึ้น "ฉันเห็นมันนาเอ็นดูดี อยูในวังทานเสวยชามเงินชามทองมานานแลว มาบานนอกบานนา ลองใส กะโหลก กะลาดูบาง เวลาเสวย พลอยชวยทูลเสด็จดวยนะวา ทั้งผักทั้งปลารา ปาตั้งใจเปนพิเศษจริงๆ" อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy111.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๑ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 6

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๑ (หนาที่ ๒) จะเปนเพราะดินฟา อากาศที่บางปะอินนั้นบริสุทธิ์กวาที่กรุงเทพฯ หรือจะเปนเพราะการเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนอากาศ การไดออกกําลังกลางแจง ทําใหกินไดนอนหลับ หรือจะเปนเพราะเวลาอันเปนเครื่องสมานแผล ที่ดีที่สุดก็ตาม ตั้งแตพลอยมาบางปะอิน ความอางวางในใจและความโทมนัสตางๆ ดูเริ่มจะเลือนรางไปจาก หัวใจ อาจเปนเพราะบางปะอินเปนสถานที่ใหม ไมมีอะไรจะเตือนใจใหรําลึกถึงความหลัง หรือบางปะอินจะเปน สถานที่ กายสิทธิ์ สรางขึ้นเพื่อความสุขงายๆ ผูใดที่ไดไปถึงก็บังเกิดความสุขอยางงายดาย โดยมิตองแสวงหา ภายในเวลาสี่หาวันหลังจากที่ไดตามเสด็จมาอยูบางปะอิน ทั้งชอยและพลอยก็พายเรือไดเกงคลองแคลว และพายเรือไปเลนไกลๆนอกพระราชวัง ออกไปที่ทุงขางหลังวัง ถอนสายบัวหรือเก็บกระจับเลนบาง พายเรือไป เที่ยวหัวเกาะทายเกาะ และแวะเสี่ยงเซียมซีที่ศาลพระเจาปราสาททอง ทั้งที่เนื้อความในใบเซียมซีนั้น จะ อานอยางไรก็ไมมีวันเขาใจ แตชอยกลับเห็นเปนเรื่องขบขัน เสี่ยงใบเดียวไมพอ ตองทอดครั้งละหลายๆใบ แลว เอามาอานอวดคนโนนคนนี้ เปนที่รื่นเริงไปทั่ว วันหนึ่งเสด็จพระราชดําเนินทอดพระกฐินที่วัดวิเวกวายุพัด โดยกระบวนเรือแจวเรือพาย วัดวิเวกนั้น อยู กลางทุงหลังพระราชวัง ออกไปไกลพอดู ทางที่จะไปนั้นก็ตองผานไปกลางทุง ที่เต็มไปดวยดอกบัวสีตางๆ บาน สลอนสุดลูกตา เจานายฝายในและฝายหนาตามเสด็จดวยเรือตางๆ พรอมดวยมหาดเล็กขาหลวง อีกเปนจํานวน มาก นับวาเปนงานที่สนุกเอิกเกริกงานหนึ่ง เสด็จรับสั่งใหขาหลวงลงเรือพายตามเสด็จไปดวย เพราะจะไดเลน เรือทางไกลๆใหสนุก มีขาหลวงคนอื่นตามเสด็จไปในเรือลําทรง ชอยจะไปออดออนคุณสาย ดวยวิธีใดก็ไมมีใคร ทราบได แตเมื่อถึงเวลาออกเรือคุณสายก็ลงเรือพาย ที่มีชอยกับพลอยพายทางหัว คุณสายนั่งกลางลํา มีผาดกับ นางพิศซึ่งติดตามมาในเรือเครื่อง และเปนผูที่คุณสายไวใจวาพายเรือเปนแน เปนผูพายอยูขางทาย วันนั้นทั้ง ชอยและพลอยแตงตัวทะมัดทะแมง นุงผาพื้นใสเสื้อสะพายแพรใหรัดกุม เพราะออกบานนอก พอลงเรือเรียบ รอยชอยก็บอกใหพลอยใสหมวก ครั้นเห็นพลอยอิดเอื้อนเพราะยังกระดาก ชอยก็พูดบังคับแกมออนวอนวา "พลอยใสหมวกเปนเพื่อนฉันหนอยเถิดนา ! ถาไมใสฉันก็ตองนั่งใสหมวกเปนอีบาไปคนเดียว" "ใสเสียเถิดพลอย แดดนายออกอยางนี้ ไมระวังตัวเดี๋ยวจะเจ็บไขไป เวลาออกเลนทุงเขาใสกันทั้งนั้น" พอพลอยตกลงยอมใสหมวก ชอยก็หัวเราะอยางดีใจ แลวพูดวา "ที่นี้เลยนั่งตีหนาบากันไปสองคนคอยยังชั่วหนอย ฉันเสียดาย ไมไดเอาหมวกมาฝากคุณอาดวยจะได เขาชุดกันทั้งสามคน เกตายไปเลยทีเดียว" "โอย ! ไมตองมาหวงฉันหรอก" คุณสายรองขึ้น "ใครเปนสาวเปนแสจะแตงตัว กันอยางไรก็ได อยางฉัน ไปทําเขาบางกลัวหมามันจะเหา" "พลอยฟงคุณอาวาซี" ชอยตอบสวนขึ้นมาทันที "กรุงเกาที่ฉันเคยไดยินวามีแตแมวน้ํา เดี๋ยวนี้หมาน้ําก็มี เหมือนกัน" เรือลําที่พลอยไปนั้นออกจากทาแตเชา เพราะชอยบอกวาจะไดไปตามสบาย และเที่ยวเก็บผักถอนสาย บัว หรือเก็บดอกบัวฝกบัวกลางทุง ที่จะตองผานไปก็ยังได การที่ไปนั้นก็ไปตัวเปลาไมตองเตรียมอาหารไปดวย คงมีแตกาน้ํากินซึ่งคุณสายไมยอมใหหางตัว ทั้งนี้เพราะเปนที่ทราบกันทั่วไปวา ที่วัดวิเวกซึ่งจะรับพระกฐิน ใน วันนั้น บรรดาภรรยาขาราชการแขวงกรุงเกา และบรรดาขาหลวงเดิมในกรุงเกา รับเปนภาระเลี้ยงขนมจีน น้ําพริก น้ํายา แกผูที่ไปในงานทั่วถึงกัน ระหวางที่พายเรือไปชอยก็พูดคุยอยูไมหยุดปาก ตามประสาคนที่กําลัง เที่ยวสนุก รื่นเริง ทําใหพลอยเบิกบานใจเปนหนักหนา เรือขาหลวงตําหนักอื่น กําลังพายไปทางเดียวกันหลาย ลํา ลําไหนที่มี คนรูจักชอยก็ตะโกนทักทาย จนบางครั้งคุณสายตองออกปากหามวานาเกลียด เปนสาวเปนนาง แลว ไมรูจักสํารวม เสียบาง ซึ่งทําใหชอยสงบเสงี่ยมไปไดเพียงชั่วครูเดียว แลวก็เริ่มพูดคุยชี้ใหพลอยดูโนนดูนี่ ตอไปอีก ระหวางที่ผานกลางทุง ชอยก็บอกใหนางพิศคัดทาย หันหัวเรือเขาไปกลางทุงหลายครั้งหลายหน เพื่อ เก็บ ดอกบัวที่ชอยเห็นวาสวยทีละดอกสองดอก สวนคุณสายก็บงการใหผาด ถอนสายบัวขึ้นไวในเรือเรื่อยๆไป จนชอยขูวาเดี๋ยวเรือจะลมจึงเลิก พอตกสายเขา ทองทุงนั้นก็เต็มไปดวยเรือขนาดตางๆ ทุกคนแตงกายดวยเสื้อ ผา หลากสี ทุกลํามีแตเสียงหัวเราะสรวลเสเฮฮา และทุกลํามุงโฉมหนาไปยังวัดวิเวกวายุพัด อันเปนจุดหมาย ปลายทาง สําหรับวันนี้ เรือลําของพลอยไปถึงวัดเอาตอนสายเต็มที่ แดดแข็งแลว ที่นั่นมีเรือไปคอยรับเสด็จอยูแลวมาก ที่เปน เรือ ชาวบานก็มี เรือขาราชการและชาววังก็มี ทุกคนมีแตความรื่นเริงเสมอภาคกัน เหมือนกับวาการกุศลวันนี้

http://www.geocities.com/siamstory/ploy111_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๑ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 6

เปนของทุกคน นางพิศคัดทายเรือแทรกแซงเรือลําอื่นๆ เขาไปจอดอยูใตตนไม ใกลๆกับทางเสด็จขึ้น เมื่อจอด เรือ เรียบรอยแลวสักครู กระบวนเสด็จก็มาถึงวัด เสด็จพระราชดําเนินพรอมดวยเจานายขึ้นบนวัด เพื่อถวาย พระกฐิน ตอไป ชอยพลอยและคุณสายยังคงนั่งอยูในเรือ ดูผูคนที่ผานไปมาอยางเพลิดเพลิน เวลาก็ลวงไปจนถึงกลางวัน พลอยเริ่มรูสึกหิว แตก็นิ่งเสียไมปริปากพูดวากระไร ระหวางนั้นเจานายเสวยบนวัด สวยเรือขนมจีนก็เริ่ม พายออก แจกอาหารแกเรือขางใน และเรือตามเสด็จตางๆ เสียงชอยบนขึ้นวา "ฉันหิวจวนจะเปนลมแลวละ เรือขนมจีนไมเห็นผานมาทางนี้สักลํา อีกประเดี๋ยวถามีผานมา ใครชวยกัน เรียกดวย ฉันจะกินใหอิ่มทีเดียว เกิดมาไมเคยหิวอยางนี้เลย" "ก็คุณไมเคยจับแจวจับพายนี่เจาคา" นางพิศตอบมาจากทายเรือ "วันนี้มาลองพายดูถึงไดรูวามันหิวยังไง บาวละก็เคยมาเสียหนักแลว เดี๋ยวคอยดูนางพิศเถอะ ขนมจีนสักสองลําเรือก็จะไมพอ" "จริงๆนะชอย" คุณสายเห็นดวยกับหลานสาว นานๆครั้งหนึ่ง "วันนี้อาก็หิวเหมือนกัน ไดเปลี่ยนที่เขา ความจริงถาเราขึ้นไปขางบน ก็คงไดกินเร็วเขาหนอย แตอาอยากกินในเรือนี่แหละสนุกกวา หรือพลอยจะวายัง ไง" "ฉันก็อยากรับประทานในเรือนี่แหละ" พลอยตอบ "นานๆจะไดมาอยางนี้สักที ทนเอาหนอยเดี๋ยวก็คง จะ ไดรับ" "แมพลอยเขาเปนคนชางอดทน" ชอยพูดขึ้น "อะไรๆเขาก็ทนได หิวขาวหิวน้ําก็ทนไดทั้งนั้น ฉันเอง แหละ เปนคนทนอะไรไมไหว ถาขืนเรือขนมจีนไมผานมาทางนี้ เดี๋ยวฉันเห็นจะตองกินสายบัวของคุณอารอง ทองไปกอน เสียแรงชวยถอนมาเหนื่อยออก แตกอนฉันไมเคยออกเลนทุง นึกวาสายบัวมันลอยๆอยู เก็บเอา งายๆ พอลองมา ถึงเขาจริงๆสิ ถึงไดรูวามันหนักแรงเหมือนกัน กวาจะไดแตละตนก็แสนจะยากเย็น ดึงกันแทบ หัวไหลหลุดทีเดียว" คุณสายหัวเราะแลวก็พูดวา "สายบัวถอนงาย อาก็เคยเห็นแตสายบัวที่นายายกรุด เทานั้นเอง" "เอะเปนยังไงคะ สายบัวนายายกรุด" พลอยถามขึ้นอยางสนใจ "เรื่องมันกอนพลอยเกิด" คุณสายตอบ "ตอนนี้ปายังรุนๆสาวอยูเลย ยายกรุดแกเปนเจาของนา เปน เศรษฐีใหญอยูแถวนี้แหละ แกเปนคนมักใหญใฝสูง แลวก็ชอบคุยโวโออวด ใครมีอะไรดีไมได แกตองวา ของแก ดีกวา ทีนี้เจานายเสด็จบางปะอินมาก ยายกรุดแกก็วิ่งเตนเขาถวายเนื้อถวายตัว พอไดเฝาแหนแกก็คุยโว ของ แกเรื่อยๆไปวา นาของแกมีอะไรตออะไรดีตางๆ รอยแปดไมมีของใครสู แกรูวาเจานายโปรดออกเลนทุง เก็บ ดอกบัวฝกบัวทางเรือ แกก็คุยโตวา ทุงไหนก็สูทุงบานแกไมได มีทุกอยางทั้งบัวหลวงบัวสายฝกบัวก็เทานั้น ถา เจานายเสด็จแกจะรับเสด็จใหถึงขนาด แกจะหาขนมจีนน้ําพริกไวเลี้ยงในเรือ ใหทรงเก็บดอกบัวฝกบัว และใบ บัวออนๆ เสวยกับขนมจีนตามสบายพระทัย ฟงแกเลาก็ดูนาสนุกเต็มที แกคุยหนักเขาก็เลยทรงเชื่อ นัดกันวา จะไปเที่ยวนายายกรุดใหสนุกสักวัน ฝายยายกรุดแกก็ดีใจไดหนาตา รีบเที่ยวเชิญเสด็จเจานาย และชักชวนผู คนไวมาก ครั้นถึงวันนัดเขา ยายกรุดก็เตรียมของเลี้ยงเปนการใหญ ทําขนมจีนน้ําพริกทอดขาวเมา ใสเรือไว คอยแจก แตมันไปเสียที่ดอกบัวฝกบัวและสายบัว ที่นายายกรุดมันไมมีมากอยางที่แกไปเที่ยวคุยไว ยายกรุดแก ก็ไมทอถอย นึกเสียวาขางน้ําขางใน ไมเคยเห็นทุงเห็นนา จะไปรูประสีประสาอะไร แกก็ใหคนของแก ไปเที่ยว เก็บออกบัวตูมฝกบัว และใบบัวออน จากที่อื่นมาผูกไวกับกานใบบัวในนาของแกตั้งแตเชามืด ปนไปกับของจริง ที่มีอยูบาง ใชเชือกกลวยผูกเอาไวดื้อๆที่ใตน้ํางั้นแหละ พอตกสายแดดแข็งเขา พวกดอกบัว ฝกบัวที่เอามาผูก ไวก็ชักจะเหี่ยวคอพับ ทั้งที่อยูในน้ํา ฝายพวกที่ไปเที่ยวตามที่ยายกรุดชวน พอราวๆเพล ก็พายเรือไปถึงนายา ยกรุด ยายกรุดแกก็ดีใจพายเรือมาตอนรับ เสียงแกคุยโวอวดโนนอวดนี่อยูไมหยุดปาก เชื้อเชิญใหผูที่ไปเลนทุง เก็บบัวตามสบาย ฝายคนที่ไปชักเอะใจวา ทําไมดอกบัวที่นายายกรุดหนาตาไมเหมือน ที่อื่น ลองดึงขึ้นมาดู ไอ เชือกกลวยที่ผูกไวมันก็ลอยปอขึ้นมา เปนโจทยฟองอยูบนผิวน้ํา บางคนไมทันดู เห็นดอกบัวสายบัว ก็เอื้อม แขนไปดึงเสียเต็มแรงทีเดียว พอมันหลุดขึ้นมางายๆ บางคนเสียหลักเกือบหงายหลัง ตกน้ําลงไปก็มี ตางคน ตางพากันเรี่ยไปตามกัน เพราะรูกันทั่วไปวาถูกตม บางคนใจดีหนอย ก็หัวรอเห็นเปนเรื่อง ขบขัน แตสวนมาก พายเรือมากําลังเหนื่อย ดีใจนึกวาจะเลนใหสนุก พอถูกยายกรุดหลอกเขาก็ชักพื้นเสีย บนกันตุบๆตับๆ ตัวยา ยกรุดเองก็ชักจะเรี่ยราดเต็มทีทีเดียว แตก็แข็งใจพายเรือเที่ยวชวนคนโนนคนนี้ใหกิน ขนมจีน เห็นเขาไมกินแก ก็เริ่มลงมือเปบเอง เอาใบบัวออนๆ มากินกับขนมจีน แลวก็เอะอะวาอรอยเสียเต็มประดา เที่ยวเรียกคนโนนคน นี้ใหกินตอไปอีกจนคนกลับ ขางในบนกันออดไปหมดวา ถูกยายกรุดตมเสียสุก ตั้งหลายวัน ถึงไดเห็นขัน เดี๋ยว นี้ใครถูกหลอกก็ยังมีคนเรียกกันวา ไปเที่ยวนายายกรุดอยูเลย แตเด็กรุนหลังไมคอยรู เพราะเกิดไมทัน เรื่องมัน นานมาแลว" พลอยมัวแตสนใจฟงคุณสายเลาเรื่องเกาเสียเพลิน ไมทันสังเกตวากอนที่คุณสายจะเลาเรื่องจบลงนั้น มี เรืออีกลําหนึ่งพายมาอยางเงียบๆ แลวมาจอดอยูขางๆแคมเรือติดกันพอดี พอคุณสายเลาเรื่องจบลง และ ระหวางที่พลอยและชอยกําลังหัวเราะกัน เพราะความขบขัน เสียงหนึ่งซี่งเปนเสียงผูชายก็พูดขึ้นวา "คุณอาขอรับ กระผมเห็นคุณอาจอดอยูนานแลว ยังไมไดรับประทาน กระผมเลยไปเรียนคุณหญิง เจา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy111_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๑ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 6

คุณกรุง ขอประทานเรือขนมจีนมาใหทั้งลํา คนเรือเขาไมรูจักกระผมเลยตองลงเรือพาเขามาที่นี่" พลอยขนลุกเกรียวเมื่อไดยินเสียงนั้น จะเปนเพราะสังหรณในใจ หรืออยางไรก็ไมรูได ทั้งพลอยทั้งชอย เหลียวไปดูพรอมกัน เรือที่มาจอดเทียบอยูกับเรือพลอยนั้น บรรทุกขนมจีนและเครื่องขนมจีนมา จนเกือบเพียบ มีผูหญิงหนาตาเปนคนบานนอกนั่งพายอยูทายเรือ และที่ตรงหัวเรือนั้นคุณเปรมนั่งยิ้มกริ่ม มองไปทางคุณสาย มิไดชําเลืองมามองทางพลอยเลย พลอยรีบหันหนากลับมาทันที เสียงนางพิศสําลักน้ําหมาก กระแอมกระไออยูทายเรือ และเสียงคุณสาย พูด ขึ้นวา "พอเปรม พอทูนหัวของอา ถาไมไดพอวันนี้ อาเห็นจะหิวขาวเปนลมตายอยูที่นี่เอง พอชวยชีวิตอา และนองๆไวแทๆ ทีเดียว !" "คุณอาคะ ฉันยังไมหิวเทาไหรหรอกคะ" ชอยพูดขึ้นโดยไมหันหนาไปทางคุณเปรม "รอเรือขนมจีนลํา หลัง ดีกวา ลํานี้ใหเขาไปเลี้ยงเรืออื่นเสียกอน" "ฮาย ! ยายชอยนี่พูดกลับไปกลับมา" คุณสายรองลั่น "ก็ไหนเมื่อกี้บนวาหิวขาวจะเปนลม พอมีขนมจีน มา ถึงเกิดบอกวาไมหิวเสียแลว ฉันไมรูละ ! ใครไมหิวฉันหิว มัวแตเลนตัวอยูก็พอดีไมไดกินกัน ดูซีของเขาทํา นากินออก พอเปรมจอดเรืออยูตรงนี้แหละ อยาเพิ่งไปไหน" วาแลวคุณสายก็เริ่มสั่งใหคนเรือขนมจีนตักขนมจีน แจกคนในเรือของตน แลวก็รองสั่งมาทางหัวเรือวา "แมพลอยกินเสียเถิด อยาไปฟงยายชอยหนอยเลย ผิดเวล่ําเวลา เดี๋ยวจะเจ็บไขไป" คุณสายรับชาม ขนมจีนจากเรือคุณเปรมมา สงแจกไปทั้งลํา "คุณอาทาจะออกแตเชานะขอรับ" คุณเปรมเริ่มชวนคุณสายคุย ตอไปอีก "คา มาแตเชา" คุณสายตอบ "ก็แมสาวๆ เหลานี้แหละ เขาตื่นเตนกัน ฉุดเอาฉันลงเรือมาดวย แลวพอ เปรม มาตั้งแตเมื่อไร" "ผมมาเรือมหาดเล็กอีกลําหนึ่ง ออกเรือมาแตเชาเหมือนกัน แตวันนี้ไมใชเวรผม คอยยังชัวหนอย ทีแรก ผมอยูบนวัดมองไปเห็นเรือคุณอาเขารูวาจะหิว ก็เลยไปพาเรือขนมจีนเขามาให" "พอคูณ ! ขอใหพอจําเริญๆขึ้นไปเถอะ" คุณสายขอบใจคุณเปรมอยางจริงใจ "ถาไมไดพอก็เห็นจะตอง ทองแหงกลับแนๆ ผูคนออกมากมาย ใครเขาจะไปดูไดทั่วถึง ขนมจีนอรอยจริงๆเสียดวย ฉันชอบกิน ขนมจีน หัวเมืองอยางนี้แหละ เสนเขาเหนียวดี อยางนี้ในกรุงหากินไมคอยจะได" พลอยนั่งกมหนาดูจานขนมจีนอยูพักใหญ ไมแนใจวาจะกินดีหรือไม ความจริงนั้นทองรองอุทธรณอยู เรื่อยๆ วาใหกินเขาไปเถิด จนมจีนก็เปนของที่เขาจัดไวเลี้ยง ไมใชของคุณเปรมจะเปนอะไรไป แตสมองก็รอง วาอยากิน ! ถึงจะเปนขนมจีนของเลี้ยง ก็คุณเปรมพามาให ถายอมกินขนมจีนก็เทากับวา ทอดสะพานออกไป รับเขาครึ่งหนึ่ง ถึงทองจะหิวอยางไรก็ตองทนเอา อดขามื้อสองมื้อจะเปนอะไรหนักหนา ดีกวาที่จะตองมีกังวลที่ หลัง เรื่องที่แลว มายังไมเข็ดอีกหรือ พลอยมองดูจานขนมจีนน้ําพริกที่คุณสายสงมาให แลวก็ตองกลืนน้ําลาย ชางนากินอะไร เชนนั้น ขนมจีนราดน้ําพริกแตพอดิบพอดี ผักทอดวางไวขางหนึ่ง พริกทอดเม็ดหนึ่ง ใบบัวออน ใบกะถิน ไขตม... มองแลวตาลาย เสียงนางพิศพูดมาจากทายเรือวา "คุณพลอยรับขาวเสียเถิด อยารีรอไปเลย เดี๋ยวจะไมสบาย" ทําใหพลอยตองทําตาม เพราะนางพิศใชเสียงเปนเชิงขอรองแกมบังคับ อยางที่เคยใชเมื่อ พลอยยังเปนเด็กเล็กๆ ที่นางพิศเคยเล็กมา พลอยหยิบชามขนมจีนมาวางตรงหนาใกลตัว แลวก็เอื้อมมือไป สะกิดชอยชวนใหกินดวยกัน ชอยเหลียวมาเลิกคิ้วมอง เห็นพลอยเริ่มจะลงมือกินขนมจีน ก็พูดในคอวา "กินก็ กิน" แลวก็หยิบชามขนมจีน ของตนมาวางกระแทกลงตรงหนา ลงมือเปดเขาปาก เพราะชอยเองก็หิวเต็มทีอยู เหมือนกัน เสียงคุณเปรมพูดจาปรนนิบัติคุณสายอยูกลางลําเรือ คอยถามวาจะตองการอะไรอีกบางหรือไม และคอย ตักของกินสงเพิ่มเติมอยูเรื่อยๆ คุณสายก็ขอบอกขอบใจ ใหศีลใหพรคุณเปรมอยูไมขาดปาก เสียงคุณสายพูดวา "ฉันดีใจจริงๆ ที่เห็นพอเปรมเติบโตเปนหลักเปนฐาน เมื่อเด็กๆเห็นเคยเขามาวิ่งอยูในวัง หนาตาขี้ โรคออก เดี๋ยวนี้ดูแข็งแรงดี ไมเจ็บไมไข ฉันก็พลอยดีใจดวย นึกถึงเรื่องเกาๆ ฉันยังคิดถึงคุณแมพอเปรมอยู เสมอ ฉันรักทานมากทีเดียว น้ําใสใจคอไมมีใครเปรียบ โอบออมอารีเผื่อแผก็เทานั้น ฉันยังจําไดทุกวันนี้ ตรุษ จีน สารทจีนละกอ เปนมีของขาวมาแจกพวกฉันเสมอ ไมนาจะอายุสั้นเลย อาพอเปรมอีกสองคนก็ชอบกันมาก เมื่อครั้งอยูที่ตําหนักทานองคใหญ ฉันเคยไปมาหาสูเสมอ แตออกจากวังไปแลว ก็กระจัดพลัดพรายกันไป ไม คอยไดพบปะกน เดี๋ยวนี้สบายดีหรือ" "คุณอานุยสบายดีขอรับ" เสียงคุณเปรมตอบ "คุณอาเนียนก็เจ็บกระเสาะกระแสะตามเรื่อง ยังพูดถึงคุณ อา อยูทั้งสองคน" "นั่นซีฉันก็คิดถึงอยูเสมอ" คุณสายพูดอยางพอใจ "ฉันรักพอเปรมแตเด็ก ก็ตอนที่มาวิ่งเลนอยูที่แมนุย กับแมเนียนนี่แหละ คิดไปแลวพอเปรมกับฉันก็เหมือนกับพี่นองกัน ไมใชคนอื่น มีธุระปะปงก็ไหววานกันได พอ เปรมอยาเกรงใจฉันเลย" "เปนพระคุณขอรับ" คุณเปรมตอบดวยน้ําเสียงนอบนอม ซึ่งพลอยรูดีวาตองสบอารมณคุณสาย "ผมไมมี ธุระอะไรหรอกระหวางนี้ วาแตคุณอาเถิดขอรับ อยูขางในไปไหนมาไหนลําบาก มีธุระทางขางนอก ก็ขอใหคน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy111_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๑ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 6

ออกมาบอก ผมยินดีรับใชสนองพระเดชพระคุณทุกอยาง" "ขอบใจพอคุณ" คุณสายตอบ "พอพูดอยางนี้อาก็ปลื้มใจพอแลว ธุระปะปงอะไรก็ไมคอยมีหรอกพอเปรม คนแกอยางอาจะไปมีเรื่องอะไรมาก อยูรอความตายไปวันหนึ่งๆเทานั้น" เสียงคุณเปรมหัวเราะแลวพูดวา "คุณอายังไมแกหรอกครับ เมื่อกี้ผมเห็นนั่งมาในเรือยังนึกวาสาวๆ ที่ไหนมา ตองดูอีกทีหนึ่งจึงจําได ที แรกนึกวาสาวๆทั้งลํา" คุณสายหัวเราะชอบใจเสียนี่กระไร เสียงนางพิศหัวเราะลงลูกคอ แลวพูดอยูทายเรือกับผาดวา "ผาดเอย ! เราสองคนนี่เห็นจะยังไมอับจนหรอกนะ !" พลอยนั่งกินขนมจีนไปพลางคิดไปพลางวา คุณเปรมจะทําอยางไรตอไป เมื่อคนในเรือลําตนนั่งมา กิน ขนมจีนเสรจแลว ขณะที่นั่งกินขนมจีนอยู ก็สงสัยวาคุณเปรมที่นั่งอยูเบื้องหลัง จะมองมาทางตนบางหรือไม พลอยมองไปทางชอย ซึ่งนั่งอยูหัวเรือสุดวา จะแสดงกิริยาอาการอยางไร ก็เห็นชอยนั่งกินขนมจีนทําสีหนา บอกบุญไมรับอยู จะเหลียวไปทางหลังก็ไมกลา เกรงจะไปสบตาเขากับคุณเปรม พลอยนั่งตัวแข็ง อยางไมสบาย ใจอยูนาน จนคุณสายเรียกใหรับขาวเมาทอด ซึ่งสงมาจากเรือขนมจีน พลอยจึงไดเหลียวหนาไป แตก็เปลา คุณ เปรมมิไดแสดงกิริยาอาการวาสนใจกับตนอยางใดเลย ยังคงพูดกับคุณสายเปนปกติ มิหนําซ้ํานั่งเยื้องตัวหัน หนาไปทางทายเรือ อีกมือหนึ่งเกาะแคมเรือที่พลอยนั่งอยูนั้นไว เหมือนกับวาทางหัวเรือ นั้นไมมีใครที่นาสนใจ อยูเลย นางพิศกับผาด ซึ่งกําลังกินขนมจีนอยูอยางเอร็ดอรอยนั้น ดูเหมือนจะเปนคนสําคัญ กวาพลอยเสียอีก พลอยสะบัดหนากลับมาทันที แลวสงขาวเมาตอใหชอย ไมนึกอยากกินอะไรตอไปอีกดวย ความงอน มีอยาง หรืออุตสาหเอาเรือขนมจีนพายมาสงทั้งลํา มาถึงเขาจริงกลับมานั่งทําเปนทองไมรูรอน เหมือนกับวาคนในโลกนี้ มีแตคุณอาสาย พอเสร็จการกินขนมจีน และหลังจากที่คุณสายใหพรอีกกัณฑใหญแลว คุณเปรมก็ลากลับ มิไดออยอิ่ง อยูตอไปอีก อยางที่พลอยคาดไว พอคุณเปรมกลับไปสักครู ชอยก็พูดขึ้นวา "คุณอาคะ กลับเถิด ไมเห็นมีอะไรเลย ฉันเบื่อแลวละ" "กลับเสียทีก็ดีเหมือนกัน" คุณสายตอบ "บอยนักเดี๋ยวแดดจะรอน" ชอยเอาพายค้ําตลิ่งอยางแรง เพื่อถอยหลังเรือออก ทําใหเรือโคลงนากลัว คุณสายตกใจพลั้งปากทําอะไร ตออะไรตกลงน้ําไปเปนกอง แลวก็ตอวาชอยอีกขนานใหญ แทบจะตัดอาตัดหลานกัน แตชอยก็ทําเฉยเสีย เบน หัวเรือออก และพอพายหลีกเรืออื่นๆ กลับมาไดก็ตั้งลําเรือ มุงหนากลับพระราชวังขามทุงที่ผานไปเมื่อเชา ระหวางที่กําลังพายเรือกลับนั้นเอง ชอยก็ถามขึ้นลอยๆ วา "คุณอาคะ คนเมื่อกี้นะใครกัน" "คนไหนคนเมื่อกี้" คุณสายถาม "ก็คนที่เขาพาเรือขนมจีนมาใหนั่นไงคะ" "ออ !" คุณสายรองอยางซึมซาบ "คนนั้นนะหรือ ก็คุณเปรม ลูกเจาคุณจรรยาฯ หลานเจาคุณโชฎึกฯ ไง ละ เขาเปนมหาดเล็กอยู ถวายตัวมาไดหลายปแลว คอยดูไปเถอะ เด็กคนนี้จะไดดี" "แลวคุณอาไปรูจักกับเขามาตั้งแตเมื่อไร" ชอยซักตอ "โอย ! ตั้งแตเขายังเด็กๆ เขามาวิ่งอยูในวัง" คุณสายตอบอยางแนใจ "คุณหญิงเสริมแมเขาฉันก็รูจัก แลว ก็อาเขาอีกสองคน แมเนียนกับแมนุยเขาเคยอยูตําหนักทานองคใหญ เปนเพื่อนของฉันทั้งสองคน" "แน ! ดูคุณอาพูดซี !" ชอยรองลั่น "โอย !" คุณสายรองขึ้นตาม "ไมใชเพื่อนยังงั้นหรอก ยายบา ! เพื่อนชอบพอคุนเคยกันตางหาก เอาอะไร มาพูดไมรู" "ก็คุณอาพูดออกมาเองนี่ ฉันจะไปรูเรอะ แลวก็เห็นปลื้มพอเปรมพอปริ่มนี่ออกจะตายไป ฉันก็นึกวามี อะไร กันอยูนะซี" "แกอยามาหาความฉันดีนะยายชอย" คุณสายพูดเสียงแข็ง "ชาววังรุนฉันไมเหมือนสมัยนี้หรอก รําคาญ ตา รําคาญใจจะตายเสียแลว ก็ฉันชอบกับอาเขามาก แลวพอเปรมเขาก็เรียกฉันวาอา มาแตเด็ก นานๆพบกันที เขาก็จําไดไมทอดทิ้ง อุตสาหไปตามเรือขนมจีนมาใหกิน ฉันก็ตองปลื้มใจตามประสาของฉัน ฉันไมเหมือน หลอนๆ นี่ จะไดนั่งทําตัวแข็งราวกับคุณขางใน ใหญโตกันเสียจริงแมเอย ! จะออกปากเปนไมตรีใหเขามีน้ําใจ สักคําก็ไมมี" คําพูดของคุณสายตอนทายนั้น กระทบมาถึงพลอยดวย แตพลอยก็พายเรือเฉยเสีย ในใจนั้นนึกขอ ใหคุณสาย เลาเรื่องเกี่ยวกับคุณเปรมใหมากกวานี้อีก อยาใหชอยชวนทะเลาะออกนอกเรื่องไปเสียได แตก็เปน เคราะหดี ที่ชอยยังสงสัย ซักคุณสายถึงเรื่องคุณเปรมตอไป ชอยถามขึ้นอีกวา "คุณอาขา คุณเปรมนี่เขามีพี่นองอีกไหมคะ" "ก็เทาที่ฉันรู เขาก็เปนลูกคนเดียว เขาวาคุณหญิงเสริมทานหึงนัก เจาคุณกลัวลนลาน แตคุณหญิงตาย มา สักสองสามปนี่แลว ปานนี้เขาจะมีนองเล็กๆ อีกหรืออยางไรก็ไมรูเรื่อง เพราะฉันเองก็เพิ่งมาพบเขาวันนี้ ไม ไดพบกันหลายปเต็มที"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy111_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๑ (หนาที่ ๒)

Page 5 of 6

"แลวเจาคุณพอเขาเปนใครกันคะ" ชอยซักตอ "ทานอยูกรมทาซาย เปนเศรษฐีใหญทีเดียว บานตึกเขาอยูริมคลองพอยม ฉันเคยไปเที่ยวกับแมนุยเขา หนหนึ่ง โอย ! เขาร่ํารวยกันเหลือเกินละ ในหองคุณหญิงฉันยังไดเห็นทองเปนหีบๆ วางจากพื้นไปจนเกือบ จด ฟาก ขาทาสผูคนเขาก็มากทั้งจีนทั้งไทย คุณเปรมเขาเปนลูกคนเดียว แลวยังไมมีเหยามีเรือน นิสัยใจคอกิริยา มารยาท รูปสมบัติ ทรัพยสมบัติเขาดีพรอม คนอยางนี้ใครไดไป ก็นับวามีบุญ" "จริงซี !" ชอยปรารภขึ้น "คุณอารักกับเขานัก ขอใหหลานเสียไมไดหรือคะ" ชอยพูดอยางหนาเฉยที่สุด "ฮา !" นางพิศฮาลั่นมาจากทายเรือ "ตาย" คุณสายรอง "นั่นพูดอะไรอยางนั้นละ เคราะหดีแตพวกเรากันเองทั้งนั้น ไมมีใครไดยิน !" "อาว !" ชอยตอบ "ก็ฉันอยากจะมีบุญบางนี่ คุณอาจะไดหมดหวง" "เฮอ ! ยายชอย เอย ยายชอย !" คุณสายถอนหายใจใหญ "คนอยางแกใครเขาไดไป ฉันก็ขายหนาเขา เลิดพูดบาๆ บอๆ เสียทีเถิด โตเปนสาวแลว แกไมอายเขาบาง ฉันก็อาย" ชอยหัวเราะเมื่อไดยินคุณสายพูดแลวปรารภขึ้นวา "ฉันนี่เห็นจะแกตายอยูในวังนี่เอง ชาตินี้ทั้งชาติ ชางไมมีใครมองเสียบางเลย ผูใหญของเราก็ไมเปนใจ เสียดวย" ชอยแกลงทําเปนถอนใจใหญ พายเรือตอไปอีกครูใหญ แลวจึงถามคุณสายขึ้ยเฉยๆวา "คุณอาคะ เมื่อคุณอาสาวๆ เคยมีใครเขามองบางหรือเปลา คุณอาเคยคิดจะมีเหยามีเรือนบางหรือเปลา คะ" "ฮาย ! เอาอะไรมาถาม" คุณสายรอยเอ็ดตะโร "ไมใชเรื่องของเด็ก จะรูไปทําไม" "โธ ! ก็อยากรูบางซีคะ คุณอาไมเห็นเลาอะไรใหชอยฟงบางเลย ฉันไมเขาใจจริงๆนะ อยางคุณอานี่ อะไรๆ ก็ดีหมด แลวก็ไมเห็นขี้ริ้วขี้เหรตรงไหน ทําไมถึงอยูตัวคนเดียว มาจนถึงปานนี้ก็ไมรู" "เอ ! อาก็ไมรูซี ของอยางนี้มันแลวแตบุญแตกรรม" คุณสายพูดอยางใจลอย เหมือนกับวาคําพูดของชอย มาสะกิดความหลังที่ฝงอยูในหัวใจ มานมนานนักหนา "มาคิดดูเดี๋ยวนี้ก็ดีเหมือนกัน" คุณสายพูดตอ "ถามีเรือนไปเสียแตเมื่อยังสาวๆ ปานนี้จะเปนอยางไรก็ไม รู แตก็คงมีเรื่องที่จะตองทุกขรอนมากกวานี้เปนแน แกลงแลวเราอยูตัวคนเดียว มันก็สบายไปอยางหนึ่ง จะวา เปนเคราะหมันก็เปน จะวาเปนบุญก็เปนบุญ" เสียงคุณสายพูดเหมือนกับนึกออกมาดังๆ ไมไดพูดกับใครโดยเฉพาะ พลอยกับชอยนิ่งฟงเงียบทั้งสอง คน เสียงพายกระทบน้ําเปนครั้งคราว นานๆหนมีเสียงทองเรือ ครูดไปกับกองหญาในทองทุง "สามสิบปไดแลวกระมัง" เสียงคุณสายเหมือนกับวาพูดมาจากไกล "คิดดูเหมือนเมื่อวานซืน มีคนเขามา ชอบฉันคนหนึ่ง อยาไปเอาชื่อเขาเลย เดี๋ยวนี้พบกันก็ไมรูจักกันแลว ตอนนั้นฉันยังสาวสติปญญาอะไร ก็ไมคอย จะมี... ที่แรกไมรูวาเขาชอบ ผานกันทีไรเขาก็มอง เรายังเปนเด็กๆ ไมไดสนใจ แตเขาก็พยายามเขาหา ทั้งทาง ผูใหญและทางพวกพอง รุนเดียวกันที่เขารูจัก แลวก็มีคนตําหนักเดียวกันอีกคนหนึ่ง อยางไปเอาชื่อเขาเลย อยู กันมาตั้งแตเด็ก อยางชอยกับพลอยนี่แหละ เขาเปนคนคุนเคยกัน ทางบานเขาชอบพอกับคนๆนั้น เขาชวยชัก ชวยนําใหรูจัก รับของเขามาใหบาง รับหนังสือเขามาใหบาง เขาเปนคนวิ่งเตนติดตอใหทุกอยาง ทําตัวเปนแม สื่อทีเดียว ฉันมันยังเด็ก ก็พลอยลุมหลงเขาไป แตจะเปนบุญหรือเปนกรรมก็ไมรู คุณปูของชอย ทานไมเห็น ดวย ทานวาฉันยังเด็กนัก ใหรอไปกอน ใจฉันก็อยากรอไปกอน ตางคนรีๆรอๆ แมคนที่เขาทําตัวเปน แมสื่อ เขาก็ยังติดตออยูเรื่อยๆ สักปหนึ่งหรือสองปไดกระมัง วันหนึ่งเขาสั่งใหเขามาบอกฉันวา เขารอไมไหวแลว ให ฉันออกไปพบเขาที่ประตูวัง เขาจะพาหนีแลวมาขมาทีหลัง ผูใหญทานคงไมวา ฉันไมยอมกลัวจะขายพระพักตร เสด็จ เพราะทานทรงพระเมตตาฉันมาก ฉันก็สั่งแมคนนั้นแหละ ใหกลับไปบอกวาใหรอไปกอน ที่จะใหตามกัน ไป ฉันทําไมได" คุณสายนิ่งเมื่อพูดจบลง เหมือนกับวาเรื่องที่เลานั้นจบลงแลว แตชอยยังไมพอใจ ถามขึ้นวา "แลวยังไงคะคุณอา เดี๋ยวนี้ยังรอกันอยูหรือคะ เมื่อไรคุณอาจะปลงใจเสียที" แตแทนที่คุณสายจะเอ็ดชอยวาลอเลียน คุณสายกลับหัวเราะเบาๆ อยางขบขัน แลวพูดดวยสําเนียง เปน ปกติวา "เปลาเขาไมไดรอฉันหรอก พอเขารูวาฉันไมยอมตามเขาไป เขาก็ไปตามเรื่องของเขา" "ไปยังไงคะตามเรื่องของเขา" ชอยซักอยางสนใจ "เขาเลยชวนแมสื่อนั่นเอง หนีตามเขาไปแตวันนั้น" คุณสายตอบแลวหัวเราะ "แลวกัน" ชอยรองขึ้นแลวก็หัวเราะทองคัดทองแข็ง "นั่นซี" คุณสายพูดขึ้น "คิดดูเดี๋ยวนี้มันก็นาหัวเราะจริงๆ คนอะไรก็ไมรู ! แปลกพิลึกละ ! แตตอนนั้น ฉัน หัวเราะไมออกหรอก ทั้งโกรธทั้งเสียดายทั้งขมขื่นในใจ ความจริงจะวาเสียดายก็ไมไดเสียดายเทาไรนัก เพราะ จะวาฉันชอบเขาจริงจังก็ไมได ถาจะเรียกวาลุมหลงไปพักหนึ่งละก็วาไมถูก ที่โกรธที่เสียใจก็เพราะ พวกเดียว กันเองมาทํากันได แมนั่นสนิทสนมกับฉันมากเสียดวย แตนั่นแหละไมวาเรื่องอะไรทั้งนั้น นานเขา มันก็จางไป เอง มานึกดูเรื่องเกาๆ เดี๋ยวนี้เหมือนกับเรื่องของคนอื่นทั้งเพ ไมเกี่ยวกับตัวเลย"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy111_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๑ (หนาที่ ๒)

Page 6 of 6

"แลวตอมามีใครอีกไหม" ชอยซักเอาอยางไมเกรงใจ "ก็ไมเห็นมี" คุณสายตอบเรื่อยๆ "ตั้งแตเกิดเรื่องนั้นมา เสด็จทานก็หางานใหทํา เสียจนเกือบไมมีเวลา หายใจ พอรูตัววาวางลงก็แกเสียแลว เปนบุญไปอยางหนึ่ง ฉันเคราะหดีที่มีเสด็จทานเปนรมโพธิ์รมไทร ไมมี ทาน ฉันก็คงลําบาก เพราะตัวคนเดียวจริงๆ จะหวังพึ่งพี่นองก็คงไมได เขามีกังวลของเขามากพออยูแลว" พลอยฟงเรื่องที่คุณสายเลาอยางสนใจโดยตลอด พลอยไมเคยนึกวา คุณสายจะไดผานความผิดหวัง และ ควมโทมนัส อยางที่พลอยเคยผานมาแลวหยกๆ คุณสายบอกวาเวลาเปนยาสมาน ทําใหแผลในหัวใจนั้น หาย ได แตแผลในหัวใจพลอยทําไมยังเจ็บอยู หรือวาเวลาจะยังสั้นไป หรือหัวใจของพลอยนั้นจะไมแข็งแรงเทา หัวใจของคุณสาย แตอยางไรก็ตาม ความหลังของคุณสายที่เพิ่งมาเปดเผยขึ้นนั้น ถึงแมวาทั้งคุณสายและชอย จะเห็นวาเปนเรื่องขบขันก็ตาม ความรูที่ไดรับนั้น ทําใหพลอยอุนใจมากขึ้น เพราะในโลกนี้มีคนอื่นที่เคยไดรับ ความทุกขโทมนัส เพราะพลาดหวังมาแลวเหมือนกัน มิใชวาพลอยเพิ่งมาไดรับทุกขนั้นแตคนเดียว

http://www.geocities.com/siamstory/ploy111_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 6

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๑) พลอยกลับจากบางปะอินมากรุงเทพฯ ดวยทางเรือ เพราะเสด็จรับสั่งวา จะไดเห็นแมน้ําลําคลองเสียบาง พลอยจําไดวาปนั้นเปน ร.ศ. ๑๑๘ และพอกลับมาถึงในวังไดไมเทาไร ก็บังเกิดความตื่นเตนนิยมขี่จักรยาน หรือ เรียกกันในขณะนั้นวารถ 'ไบซิเกิ้ล' อยางขนานใหญ เจานายขางในเกือบทุกพระองคหัดทรงจักรยาน แมแตพระเจาอยูหัวก็ทรงหัดอยูพักหนึ่งที่สวนเตา แต แลว ก็เลิกไป คงเหลือแตขางในที่ถีบจักรยานกันอยูแทบทุกวัน ไมวาจะเปนในระยะใกลหรือไกล ความนิยมถีบ จักรยาน เริ่มจากเจานายและคุณจอม แลวก็เริ่มแพรหลายไปถึงคนตามตําหนักตางๆ และความนิยมนั้นก็กลาย เปน การประกวดประขันกันในเรื่อง รถของใครจะดีกวาของใคร ราคาคันหนึ่งๆในขณะนั้นก็มิใชถูก ใครที่มีฐานะ ดีร่ํารวย ก็ซื้อไดกอนและขี่แสดงแกคนอื่นๆที่ยังไมมี เรื่องใครถีบจักรยานเปนหรือยัง และใครซื้อรถใหมจากไหน ยี่หออะไร เปนเรื่องที่คุยกันไดทุกวันไปไมมีจืด ชอยถีบจักรยานเปนกอนคนอื่นๆในตําหนัก เพราะเรื่องการโลดโผนตางๆ เปนสิ่งที่ถูกกับนิสัยของชอย อยูแลว และโดยเหตุที่ชอยเปนคนมีพวกพองมาก จึงเริ่มหัดดวยจักรยานยืมจากคนอื่น ชอยจะหายหนาไปจาก ตําหนักทุกวัน เย็นๆก็เดินโขยกเขยกกลับมา พรอมดวยบาดแผลฟกช้ําดําเขียวในที่ตางๆ ชอยหัดอยูไมกี่วัน ก็ เปน และภายในเวลาราวๆสองอาทิตย ก็ถีบจักรยานแบบโลดโผนใหพลอยดูได เปนตนวาปลอยมือบาง พับขา ขึ้นเสียขางหนึ่งแลวถีบตอไปบาง กอใหเกิดความเลื่อมใส ในความเกงกาจของชอยแกพลอยและบุคคลอื่นๆ ที่ ไดเห็นเปนอันมาก นอกจากคุณสายซึ่งนั่งพยากรณวา วันหนึ่งชอยจะตองช้ําในตายหรือคอหักตาย หรือตาย ลักษณะไมเปนมงคลตางๆ วันหนึ่งเสด็จตัดสินพระทัยจะทรงหัดจักรยาน และวันนั้นเปนวันที่ชอยพิสูจนใหคุณสายเห็นวา ความ เกงกาจ โลดโผนตางๆนั้น บางครั้งก็มีประโยชนมากเหมือนกัน เพราะเสด็จรับสั่งถามหาตัวคนถีบจักรยานเปน ปรากฏวา ชอยถีบเปนอยูคนเดียวทั้งตําหนัก ชอยจึงไดรับหนาที่เปนผูหัดถีบจักรยานถวายเสด็จ มีหนามีตาขึ้น มากมาย และเมื่อเสด็จทรงถีบเปนแลว ชอยก็ไดประทานจักรยานใหมเอี่ยมคันหนึ่งเปนรางวัล ทําใหชอยดีใจ มากกวา ครั้งใดๆที่พลอยไดเคยเห็น เมื่อเสด็จเริ่มทรงจักรยาน พลอยก็รูตัววาเปนหนาที่ของตนที่จะตองถีบจักรยานบาง ขณะนั้นเจานายก็ เริ่ม ทรงจักรยานออกจากวังไปสวนดุสิต ขาหลวงตามเสด็จก็ควรจะตองถีบจักรยานเปน เมื่อรูวาเปนหนาที่ พลอยก็เลิก กลัวเลิกอาย ตั้งหนาบากบั่นหัดถีบจักรยานกับเขาบาง ลมลุกคลุกคลานอยูหลายวันและไดบาดแผล หลายแหง จนนางพิศผูมีหนาที่ฝนไพลไวใหทาทุกคืนนั้น ตองบนปลงอนิจจังอยูซ้ําซาก แตพลอยก็หัดจักรยาน ไปจนเปน ถึงจะแสดงทาทางโลดโผนพลิกแพลงอยางชอยไมได ก็นับวาถีบใชการไดทีเดียว พอถีบจักรยานเปน ความตื่นเตนเรื่องรถก็เขามาจับหัวใจ พลอยเฝาแตใฝฝนอยากไดรถจักรยาน เปน ของตัวเอง ไดเชิดหนาชูตากับเขาสักคันหนึ่ง ใครจะพูดกันถึงเรื่องรถยี่หอไหนดีไมดี พลอยก็เที่ยวสนใจฟง แลว จดจําไวไดทั้งสิ้น ผูที่พวกพองทางบานเขามีฐานะดี เขาก็สั่งออกไปทางบาน สงจักรยานเขามาอวดกันได ทีละ คันสองคัน ทําใหพลอยตองมองดูเขาอยางตาละหอย เพราะถึงแมวาตนจะถีบจักรยานเปน ก็ยังตองอาศัยรถ คน อื่นเขาถีบอยูนั่นเอง สวนมากก็เปนรถของชอยที่เสด็จประทาน แตถึงแมชอยจะมิไดหวงหาม พลอยก็ยังไมพอใจ เพราะเมื่อพลอยตองใชรถของชอย เวลาถีบไปไหนมาไหน ก็ไปไดแตคนเดียว ถาพลอยมีรถ ของตัวอีกสักคัน ก็ จะถีบไปดวยกันไดสะดวก วันหนึ่งพลอยพบพอเพิ่มที่ประตูวัง อยางที่ไดพบกันเปนครั้งคราวตามปกติ ขณะที่พอเพิ่มพูดถึงเจาคุณ พอ พอเพิ่มก็พูดออกมาวา "เมื่อวานซืนนี้ ทานยังบนถึงแมพลอยกับฉันเลย ทานวาทานคิดถึงแมพลอยอีกแลว ครั้นจะมารับไปบาน บอยๆก็กลัวเสด็จทานจะกริ้ว แตทานสั่งฉันใหมาบอกแมพลอยวา ถาขาดเหลืออยากไดอะไร ใหแมพลอยสั่งฉัน ไป ถึงทานๆจะไดหาสงเขามาให" "จริงๆหรือพอเพิ่ม" พลอยดีใจวูบขึ้นมาทันที "จริงซีนา ฉันจะมาหลอกแมพลอยทําไม" พลอยไดยินพอเพิ่มพูดก็นิ่งอึกอักอยูครูหนึ่ง ใจนั้นอยากจะสั่งพอเพิ่มออกไปถึงเจาคุณพอ วา พลอยอยาก ไดจักรยานสักคันหนึ่ง แตมาคิดดูอีกทีก็เห็นวามากไป ตั้งแตเกิดมาเปนตัว พลอยก็ยังไมเคยขอ อะไรจาก เจาคุณพอเลย ครั้งนี้เปนครั้งแรก แตจะขอจักรยานซึ่งเปนของโออา พลอยก็เกรงเปนที่สุด คิดอยูนาน ไมตกจน พอเพิ่มเดาใจออกถามวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy112.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 6

"แมพลอยอยากไดอะไรรึ" "ฉันอยากได..." พลอยพูดแลวก็หยุด จะออกปากก็เกรงใจ แตในที่สุดก็หลุดปากออกมาวา "ฉันอยากไดรถถีบสักคันหนึ่ง พอใหมีหนามีตากับเขาบาง ที่ในนี้ใครๆเขาก็สั่งมาจากบานกันทั้งนั้น แต พอเพิ่มไมตองบอกทานก็ได ฉันนึกขึ้นมาแลวก็ไมกลากลัวทานวาเอา" พอเพิ่มหัวเราะหึๆ แลวก็พูดวา "แมพลอยรอดูไปกอนก็แลวกัน" เมื่อไดพบกับพอเพิ่ม และไดรับคําสั่งวาใหรอดูไปกอนแลว พลอยก็กลับเขามาใจเตน คอยฟงผลอยู อีก หลายวัน ใจจริงนั้นไมเคยนึกฝน วาจะไดรถตามที่ไดสั่งออกไป เพราะพลอยก็รูตัววาการที่ขอไปเชนนั้น เปน การขอของที่มากเกินการ เกินความจําเปน เจาคุณพอจะวาอยางไรบางก็เดาไมถูก และในที่สุดพอเพิ่มอาจพูด เฉยๆ โดยไมมีความหมาย และคงจะไมไปบอกเจาคุณพอตามที่พลอยสั่งไป เพราะเทาที่พลอยทราบ พอเพิ่มก็มิ ไดอยูในฐานะที่จะพูดจากกับเจาคุณพอไดใกลชิด แตก็เปนธรรมดาของคนเรา เมื่อปรารถนาสิ่งใดมากๆ ถึงแม จะรูวาไมมีหนทางจะได ก็ยังคงมีหวังวาจะไดเหลืออยูนิดหนึ่งเสมอ ความปรารถนาอันแรงกลานั้น กอใหเกิด ความหวัง และความหวังนั้นเมื่อเกิดขึ้นแลว ก็เปนเครื่องหลอเลี้ยงความปรารถนานั้นเอง ใหคงมีอยูตอไป ดวยเหตุดังกลาวพลอยจึงไมแปลกใจ เมื่อนางพิศกลับมาจากซื้อของที่หนาประตูวังวันหนึ่ง แลวก็ รีบกระหืด กระหอบมาบอกพลอยวา พอเพิ่มสั่งเขามาวาใหออกไปพบใหได "ไปพบเมื่อไรพิศ" พลอยถามดวยความตื่นเตนระคนกับความแปลกใจ "ไปเดี๋ยวนี้แหละคุณพลอย คุณเพิ่มเธอบอกวาจะรีบไปกระทรวง" นางพิศตอบ พลอยกําลังจะออกเดินจากตําหนักก็พบชอยเขาพอดี จึงชวนชอยไปเปนเพื่อน ซึ่งชอยก็ตกลงอยางดีใจ เพราะใจนั้นก็อยากจะไดไปไหนมาไหนอยูแลว พอทั้งสองคนกาวพนธรณีประตูวังออกไปขางนอก พลอยก็ใจ เตน แรง ความดีใจพลุงขึ้นมาวูบใหญ แทบจะตบมือเตนแรงเตนกา อยางเมื่อครั้งเปนเด็กๆ เพราะพอเพิ่มยืนยิ้ม คอยอยู ใกลๆประตู และขางๆตัวมีรถถีบใหมเอี่ยมคันหนึ่ง พลอยเบิกตาโตรีบเดินเขาไปหาพอเพิ่ม และพอถึงตัวเขาก็เขาลูบคลํารถถีบทันที รถคันนั้นเปนรถอยาง ดี มีราคาแพงขนาดเจานายทรง ตรงกับที่พลอยอยากได ใฝฝนอยูทุกวันนั้นทีเดียว พลอยดีใจจนพูดไมออก มือ ลูบคลําจักรยานอยูไปมา เจาคุณพอชางใจดีอะไรเชนนี้ พลอยนึกอยูในใจ จะสั่งพอเพิ่มใหไปกราบเทาทาน สัก เทาไรก็ไมสาสมกับที่พลอยรูสึกดีใจขอบใจและรักทาน ครั้งนี้ดูเหมือนจะเปนครั้งแรกที่พลอยอยากไดอะไรแลว ไดเต็มตามความปรารถนาทุกอยาง โดยไมตองเสียเวลาคอยกี่วัน และรถคันนี้เปนรถชั้นดี ไมมีที่ติเลย "แหม ! รถใครนี่ดีจริง !" ชอยอุทานขึ้น "พอเพิ่มไปไดจากไหนมา จะเอาไปไหน" "รถของแมพลอยเขา" พอเพิ่มตอบอยางภูมิใจ "ฉันเอามาสงใหเขาอีกทีหนึ่ง" วาแลวพอเพิ่มก็มองหนา นองสาวแลวยิ้มละไม เหมือนกับวาไดทําการอยางใดอยางหนึ่งสําเร็จ ไปอยางนาชมเชย "โอย ! ดีจริง" ชอยรองขึ้นดังๆ "ไหนขอฉันดูทีหรือพลอย" แลวชอยก็โดดเขาลูบคลํารถอยางดีใจ ปากก็ สรรเสริญความดีของรถอยูไมหยุดปาก "ดีกวาคันที่เสด็จประทานฉันเปนกอง" ชอยพูดละล่ําละลักตอไป "นี่แหละที่เขาเรียกวารถเยอรมัน ดีนักที เดียว ไมมีใครมีกี่คันหรอกพลอย เราไดขี่ละก็เปนถึงลือทีเดียวคราวนี้ แลวพลอยใหฉันขี่บางนะ อยาลืมนะ" "ไดซีชอย" พลอยตอบแลวก็หัวเราะ "เมื่อไรก็ได ของฉันก็เหมือนของชอยเหมือนกัน" "ตายจริง ฉันอยากลองเต็มทีแลว จะลองตรงนี้ก็คนมากนัก ใครเห็นเขาเขาจะวาได รีบกลับเขาขางในกัน เถิด เดี๋ยวฉันจะถีบใหเต็มรักทีเดียว" ชอยพูดตัดบทเหมือนอยางกับวา จะไลพอเพิ่มใหรีบกลับไปเสียเร็วๆ "พอเพิ่ม" พลอยพูดอยางเต็มตื้นหัวใจ "พอเพิ่มชวยกราบเจาคุณพอใหฉันดวย กราบที่ฝาเทาทานใหเต็ม รัก เทียวนะพอเพิ่ม แลวเรียนทานดวยวาฉันดีใจเหลือเกิน ตั้งแตเกิดมาเปนตัวฉันยังไมเคยดีใจอะไรเทาคราวนี้ เลย !" พอเพิ่มมองหนาพลอยแลวก็หัวเราะหึๆ พูดวา "แมพลอย เจาคุณพอทานไมรูเรื่องหรอก ฉันไมไดบอกทานเลย แตแมพลอยเอารถคันนี้ไปไวขี่เลน ก็ แลวกัน" "ตายจริงพอเพิ่ม !" พลอยรองอยางไมเขาใจ "แลวรถคันนี้ พอเพิ่มไปเอามาจากไหนละ" "จากไหนก็ชางเถอะนา" พอเพิ่มตอบอยางใจเย็น "ไดมาแลวแมพลอยเอาไปก็แลวกัน" "ไมไดหรอกพอเพิ่ม" พลอยพูดเสียงแข็ง "ฉันตองรูเสียกอนวารถนี่มาจากไหน ไมยังงั้นฉันไมเอา" "ก็นึกเสียวาฉันใหก็แลวกันแมพลอย" พอเพิ่มพูดแลวหลบสายตา "โอโฮ" ชอยรองลั่น "พอเพิ่มนี่เศรษฐีจริงแฮะ ซื้อรถแจกนองสาวคันขนาดนี้เทียวรึนี่ ทําไมไมเอามาเผื่อ ฉัน อีกสักคันหนึ่งละ" "อาว ! ฉันไมรูนี่วาแมชอยอยากได ถารูก็จะไดเอาติดมือมาดวย" พอเพิ่มหาทางออกโดยพูดเลนเสียกับ ชอย เพื่อหลีกเลี่ยงปญหาพลอย "เดี๋ยวกอนพอเพิ่ม" พลอยไมยอมพูดเลนดวย "รถขนาดนี้ไมใชถูก พอเพิ่มจะไปเอาที่ไหนมาใหฉันได พอเพิ่มอยาพูดเลนไป บอกฉันเสียตรงๆดีกวา"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy112.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 6

พอเพิ่มอึกอักอยูครูหนึ่ง แลวก็พูดวา "เฮอ ! ผูหญิงนี่ชางยุงเสียจริงๆ เรื่องเล็กนิดเดียวก็เห็นเปนเรื่องใหญไปได เอา ! อยากรูฉันก็จะบอกให วันที่แมพลอยบอกฉันวาอยากไดรถถีบ นั่นแหละ บังเอิญฉันไปพบเพื่อนฉันคนหนึ่ง ทางบานเขาสั่งรถถีบมา ขาย ฉันคุยกับเขาวานองสาวฉันอยากได เขาก็เลยบอกใหฉันคันหนึ่ง ก็รถคันนี้แหละ เอาไปเถิดแมพลอย ฉัน ใหเอง ไมใชคนอื่น" "แลวเพื่อนคนนั้นชื่อพอเปรมใชไหมละพอเพิ่ม" ชอยถามขึ้นมาทันควัน พอเพิ่มเมินหนาไปทางอื่น แลวก็ถอนใจใหญไมยอมตอบ พลอยสะดุงใจขึ้นมาทันที ถามพอเพิ่มดวย เสียง ที่เกือบจะเปนตวาดวา "ใชไหมพอเพิ่ม" "จะรูไปทําไมก็ไมรู" พอเพิ่มบน "เอา ! อยากรูก็จะบอกให ก็พอเปรมนะแหละ ที่เขาสั่งใหฉันเอารถมาให แมพลอย แตเขาวาถาแมพลอยถามก็อยากบอกวาใครให แลวก็มารุมกันซักจนฉันตองบอกออกมาจนได" พลอยควาขอมือชอยหันหลังเดินเขาวังทันที ทิ้งใหพอเพิ่มยืนถือจักรยานอยูที่หนาประตู แตคนเดียว พลอยเดินกลับตําหนักโดยไมพูดจาวากระไร ในใจนั้นนึกเคืองพอเพิ่มเสียเปนที่สุดแลว แทบจะตัดพี่ตัด นอง กันแตครั้งนี้เปนตนไป พอเพิ่มอาศัยพลอยเปนสะพาน ที่จะผูกมิตรกับคุณเปรม และคุณเปรมก็อาศัยพอ เพิ่ม เปนเครื่องมือที่จะเขาถึงตัวพลอย ปานนี้จะมินึกไปแลวหรือวา พลอยก็คงเหมือนกับพอเพิ่ม ยินดีจะรับขาว ของที่ เงินซื้อได และในที่สุดถาจะเอาเงินมาซื้อตัวคน ก็คงจะไดเชนเดียวกัน พลอยไมเคยรับของจากคนที่ไม รูจัก และยิ่งเปนของที่มีราคาก็ยิ่งไมยอมรับ แมแตจากคนที่รูจักคุนเคย นอกจากคนนั้นจะเปนเจาคุณพอ ผูเปน บิดาบังเกิดเกลา หรือเปนเสด็จผูมีพระคุณยิ่งกวาบิดามารดาบังเกิดเกลา ความตื่นเตนดีใจที่จะไดรถถีบเมื่อกี้ กลายเปนความโมโห ที่พี่ชายของตนเปนคนมักงาย ความอยากไดรถถีบที่มีมานานเหือดหายไปทันที ถาความ อยากไดจะเปนเหตุใหพลอย ตองโกรธตองอับอายอยางวันนี้ พลอยก็จะตองระงับมิใหอยากไดอะไร อีกตอไป ชอยวิ่งบางเดินบาง เพื่อใหทันพลอยซึ่งสาวเทาเดินอยางเร็ว ไมมองอะไรทั้งสิ้น ระหวางที่เดินมาดวยกัน ชอยก็พูดวา "โกรธมากหรือพลอย" "โกรธซี" พลอยพูดหวนๆ "ใครบางจะไมโกรธ" "ฉันก็เห็นใจหรอก แตอยาไปถือสาพอเพิ่มแกเลย แกเจตนาดี แกก็ทําไปอยางนั้นเอง" "ไมถือไมไดหรอกชอย พอเพิ่มจะทําอะไรไป เรื่องตัวของพอเพิ่มเองฉันก็ไมวา แตอยามาเอาฉันไปเกี่ยว ของดวย มีอยางรึไปเอารถถีบของใครเขามาใหฉันทั้งคัน ฉันรับไวเขาคงดูถูกฉันวามักได" "ก็พอเพิ่มแกวาเขาใหแกตางหาก แลวแกก็เอามาใหแมพลอยอีกทีหนึ่ง ฉันไมเห็นจะแปลกอะไร ถาเปน ฉันๆ เอาไวเสียเลย แลวทําไมรูไมชี้ ใครอยากทําเปนเศรษฐีแจกรถถีบเปลาๆ ก็ชางใครปะไร" ชอยพูดอยางขบ ขัน "ชอยละก็ดีแตพูด" พลอยหันไปตอวา "ถาเปนตัวโดนเขาอยางนี้ ก็จะโมโหโทโส เอะอะยิ่งกวาฉันไปอีก" "ก็เห็นจะจริง" ชอยยอมรับ "ใครมาอวดดีกับฉันอยางนั้น ฉันดาตายไปเลยทีเดียว แตอยาไปคิดมากไป เลย พลอย ไปเก็บเอามาโกรธก็ไมมบายใจไปเปลาๆ พลอยโกรธฉันก็เลยไมสบายใจไปดวย" พลอยนิ่งไมตอบ เดินเฉย กลับมาจนถึงตําหนัก และตั้งแตนั้นมาก็หายเหอจักรยาน ถึงชอยจะชวนใหใชรถของตนบอยๆ พลอยก็ ทําเฉยๆ เนือยๆเสีย และจะเปนเพราะชอยรําคาญ หรืออยากใหพลอยไดรถถีบตามความปรารถนา หรืออะไรก็ ตาม วันหนึ่ง ขณะที่พลอยและชอยเฝาเสด็จอยูบนตําหนัก ชอยก็ถือโอกาสทูลเอาตรงๆวา "เสด็จมังคะ หมูนี้แมพลอยเขาไมคอยสบายมังคะ กินไมไดนอนไมหลับ" "หา ! ใครไมสบาย นางพลอยหรือ เปนอะไรไป" เสด็จเหลียวพระพักตรมาทางพลอย "เปลามังคะ" พลอยทูลอยางตกตะลึง ไมรูวาชอยไปเอาอะไรมาพูด "จริงๆ นะมังคะ" ชอยทูลขึ้นอีก โดยไมหันมามองดูพลอย "ถาเสด็จไมโปรด ก็เห็นจะแยเสียคราวนี้เอง" "แลวจะใหขาโปรดยังไง" เสด็จถามพลางทรงพระสรวล เดี๋ยวนี้เปนที่รูกันทั่วไปแลววา ชอยอยูในฐานะ ทูลอะไรก็ทูลได ไมทรงถืออะไรอีกตอไป ทงนี้เพราะความกลาของชอย ที่ไมมีใครขมลง "ถาจะโปรดก็ตองประทานรถถีบใหสักคันซีมังคะ" ชอยทูลหนาตาเฉย สวนพลอยนั้นแทบจะแทรกพื้น ตําหนักไปดวยความเกรง "อยากไดรถหรือพลอย" เสด็จรับสั่งถาม ฝายพลอยก็หมดปญญาที่จะทูลวาอยางไร ไดแตลงกราบ "อาว ! ดูซียังไมทันบอกใหเลย ลงกราบรับเอาไปเสียแลว นางพวกเหลานี้ มันจะปอกลอกขาใหหมดตัว ใหได" เสียงที่เสด็จรับสั่งบอกใหพลอยรูวาเสด็จไมกริ้ว และทําใหพลอยนึกดีใจวา กําลังจะไดประทานรถ จักรยาน จริงๆ "นางพลอยก็อวดดีเสียเหลือเกิน" เสด็จรับสั่งตอไป "อยากไดอะไรจะออกปากเองก็ไมมี ตองมีนางชอย เปนนายหนา นางชอยก็กําเริบ พอขาใหรถเขาคันหนึ่ง ก็จะเอาใหนางพลอยอีกคัน อีกหนอยขามิตองซื้อแจก

http://www.geocities.com/siamstory/ploy112.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 6

ทุกคนหรือ" เสด็จนิ่ง ทอดพระเนตรมายังพลอยอยางทรงพระเมตตาอยูครูหนึ่ง แลวก็รับสั่งวา "เอาอยางนี้ก็แลวกันนางพลอย เอารถของขาไปถีบได ขาเองถีบไปถีบมา เหอตามเขาไปหนอยหนึ่ง เดี๋ยวนี้ชักเบื่อแลว พลอยรับชวงเอาไปก็แลวกัน ขายกให" พลอยลงกราบเสด็จอีกทีหนึ่ง ใจเตนแทบจะกระโดดออกมาขางนอก ดวยความดีใจ เพราะเสด็จทรง พระ เมตตาอยางไมไดนึกฝน อีกใจหนึ่งก็ขอบใจชอยสุดที่จะประมาณ เมื่อลงมาจากชั้นบนตําหนักตอนกลางวัน ชอย ก็คุยโตขึ้นวา "ฉันวาแลวไหมละ เรื่องอยางนี้มันตองนางชอยถึงจะทําได ที่นี้เราจะไดถีบรถกันสองคน ใหเปรมปรีดิ์ไป เลย ทีเดียว" "ฉันไมรูจะขอบใจชอยอยางไรถูก" พลอยตอบดวยความจริงใจ "ที่แรกฉันตกใจไมรูวาชอยเอาอะไรมาพูด ฉันกลัวทานจะกริ้วตายเสียแลว" "นั่นซี" ชอยพูดขึ้น "ฉันก็ใจคอไมคอยดีเหมือนกัน จูๆก็ไปขอประทานรถใหแมพลอยขึ้นเฉยๆ ฉันนึกวา ทานจะถีบฉันตกตําหนักตายเสียแลว แลวเรื่องนี้อยาไปบอกคุณอานะ ถารูเรื่องเปนดุฉันตายทีเดียว" ตอจากเวลาที่เกิดเรื่องกับพอเพิ่มเรื่องรถถีบ พลอยก็ไมสนใจที่จะออกไปพบกับพอเพิ่มตอไป บางครั้ง พอเพิ่มมาคอยพบนางพิศที่หนาประตูวัง แลวสั่งเขามาใหพลอยออกไปพบ พลอยก็ทําเฉยเสียไมออกไปพบ ตามที่พอเพิ่มสั่ง เพราะตั้งใจไววาคราวนี้จะตองโกรธกับพอเพิ่ม ใหนานจนกวาพอเพิ่มจะเข็ด ไมลุแกความมัก งาย อยางที่เคยทํามา แตในขณะเดียวกันคุณเปรมก็เริ่มจะเขามาเกี่ยวของ ใกลๆกับชีวิตความเปนอยูของพลอย ยิ่งขึ้น ทุกวัน โดยผานเขามาทางคุณสาย ซึ่งคุณเปรมถือโอกาสที่ไดพบปะที่บางปะอิน ติดตอเรื่อยมาเมื่อกลับ มาถึง กรุงเทพฯแลว โดยสงขางของเขามาเปนของกํานัล โดยมากมักจะเปนของจากนอกหรือจากเมืองจีน ของ ที่คุณเปรมสงมากํานัลคุณสาย ตามปกติก็มิใชของมีราคาคางวดอะไรนัก บางทีก็เปนผาหมสกอตจากยุโรป บาง ทีก็เปนผลไมหรือของแปลกๆจากเมืองจีน เชนสมจีน ลูกพลับ ลิ้นจี่ดอง และหัวดอกไมที่เรียกวาจุยเซียน ซึ่งคุณ สายจะตองเอิกเกริกเมื่อไดรับ เอามีดทองกรีดตามหัวดอกไมสองสามแหง แลวเอาลงปลูกในอางเล็กๆ มีกรวด วางไวและใสน้ํา ตอจากนั้นไปก็จะนั่งสรรเสริญคุณเปรมไปจนกวาตนไมนั้นจะออกดอก คุณสายไดรับของ ทีไรก็ จะตองพูดถึงคุณเปรมอยางเอ็นดู และสรรเสริญความสนิทสนมที่เคยมี ตอมารดาและอาของคุณเปรม ทุกครั้งไป จนชอยตองนินทาอยูบอยๆวา "ฉันขวางคุณอาจะตายอยูแลว ตื่นของกํานัลจนลุมหลงไปเลยทีเดียว แตกอนก็ไมเคยเห็นเขาเอาใจใส เพิ่งจะมาเอาใจใสเดี๋ยวนี้ ก็ยังตื่นเขาอยูได" พลอยไดยินแลวก็ไดแตทํานิ่งเสีย ไมตอความยาวสาวความยืด เพราะในใจจริงนั้นคุณเปรมดูจะเพิ่ม ความสําคัญสําหรับตนขึ้นมาทุกวัน ถึงแมวาจะไมเคยรูจักพูดจากันเลย พลอยก็มีความรูสึกดวยสัญชาตญาณ ของผูหญิงวา คุณเปรมนั้นอยูใกลตนจนนากลัวอันตราย และดวยสัญชาตญาณอันเดียวกัน พลอยก็พยายาม ที่ จะผลักคุณเปรมออกไปใหหางไมยอมใหเขามาใกลตัว แตยิ่งนานวันออกไป สัญญาณอันตรายเกี่ยวกับคุณเปรม ซึ่งพลอยพยายามผลักใหพนตัวอยูเปนหนัก เปนหนานั้นเอง ก็ยิ่งมีมากขึ้นและเขามาใกลตัวมากขึ้น วันหนึ่งพลอยเขาไปในหอง เห็นคุณสายนั่งคุยกับผูหญิงกลางคนผูหนึ่ง ซึ่งพลอยไมรูจักมาแตกอน ผูหญิงคนนั้นรูปรางเล็กตาคม กิริยาวองไวเหมือนกับนกเล็กๆ ที่พลอยเคยเห็นเตนอยูตามกิ่งไม และมีวิธีพูดที่ แปลกๆ คือพูดสั้นๆ ขาดเปนหวงๆ และทุกประโยคที่พูดออกมานั้น ตั้งเปนรูปคําถามเกือบทั้งสิ้น เมื่อพลอยเห็นคุณสายมีแขกก็ทําทาจะออกจากหอง แตคุณสายก็กวักมือเรียกใหเขาไปนั่งใกลๆ แลวพูด วา "พลอยไหวคุณนุยเสียสิ" พลอยยกมือไหวตามที่คุณสายสั่ง หญิงคนที่คุณสายเรียกวาคุณนุย หันมาเลิกคิ้วมองพลอยอยางสนใจ ยกกลองยานัตถุขึ้นเปาอยางแรงเขาจมูกทั้งสองขาง แตสายตามิไดแสดงเลยวาแปลกใจที่พบพลอย "นี่ไงแมนุย" คุณสายพูดตอ "พลอยที่ฉันพูดถึงอยูเมื่อกี้" "สวยนะแมสาย สวยไหม" คุณนุยพูดขึ้นอยางไมเกรงใจ "เขาสวยเหมือนๆแมเขานะแหละ" คุณสายตอบ "ฉันวาสวยกวาเสียดวยนะ จริงไหมแมสาย" คุณนุยถามตอไปอีก "ฉันก็วาอยางนั้นเหมือนกัน แตแมแชมเขาเปนคนสนุกพูดจาเกง พลอยเขาเปนคนนิ่งๆ ผิดกันไปคนละ แบบ" "นิ่งหรือ ไมพูดหรือ ดีกวาคนพูดมากนะแมสาย" "ก็จริง คนพูดนอยก็มีเรื่องนอย" แมนุยหันขวับมาทางพลอย แลวถามอยางเร็ววา "แมพลอยเกิดปอะไร"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy112.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๑)

Page 5 of 6

พลอยบอกปเกิดใหตามที่ถาม "ออนกวาพอเปรมหาป มากไปไหม ฉันวาไมมากถูกไหม" แมนุยถามขึ้นลอยๆ แตนิ่งเงียบไมมีใครตอบ พลอยนั่งกมหนาดูกระดานเฉยอยู และคุณสายมองมาทางพลอยแวบหนึ่ง แลวก็เมินไปทางอื่น คนนี้เองอาของคุณเปรม ที่คุณสายเคยคุยไววาชอบพอกันเปนหนักหนา พลอยนึกอยูแตในใจ ดูกิริยา ทาทางก็เห็นจะเปนเศรษฐีจริงอยางที่คนเขาลือ เพราะถึงจะไมไวยศ ก็แสดงอาการวาแนในใจตนเอง ไมยอมลง ใคร งายๆ เครื่องนุงหมก็เปนของมีราคา หีบหมากที่กินก็สมกับฐานะ แมแตกลองยานัตถุทําดวยเขี้ยวเสือเลี่ยม นาก ก็ดูเหมือนจะบอกใหรูวาคุณนุยมิใชคนธรรมดาสามัญ "เขาวาเสด็จโปรดนักไมใชหรือ" แมนุยถามตอไปอีก "ก็โปรดพอดูอยูแมนุย" คุณสายตอบ "ทานทรงชุบเลี้ยงมาแตเล็ก ก็ตองโปรดเปนธรรมดา แลวก็เปนลูก แมแชม ที่ทานทรงโปรดมาก พลอยเขาก็ดีเสียดวยนาโปรดหรอก" "ดียังไง ทําอะไรเกงหรือ หรือวาชางประจบเฉยๆ" คําถามของแมนุยบอกใหรูวา ผูพูดนั้นเกรงใจใครไม เปน "จะวาเขาชางประจบก็ไมถูกหรอกแมนุย" คุณสายแกแทน "แตแมพลอยเขาเปนคนมีสัมมาคารวะ แลวก็ เปนคนมีน้ําใจ มีกตัญูทานจึงโปรด" "มีกตัญูมากหรือ ...ดีนะแมสาย คนเดี๋ยวนี้หาคนกตัญูยาก จริงไหม" "จริงทีเดียว" คุณสายตอบเห็นดวย "ฉันละก็เบื่อจนขี้เกียจจะเลี้ยงคนเสียแลว คนเดี๋ยวนี้เขาลืมงาย เรา เลี้ยงเกือบตายพอโตขึ้น ปกกลาขาแข็งขาก็ไปตามใจตัวของเขา เราเปนผูใหญกลายเปนหัวหลักหัวตอ จะวา กลาวใครเขาก็ไมฟง กลับเห็นเราเปนคนโบราณคร่ําครึ แตพลอยเขาดีหรอกเรื่องนี้ ถึงจะเติบโตขึ้นมาอยางไร ก็ เชื่อฟงผูใหญไมออกนอกลูนอกทาง" "ยังงั้นหรือ... เชื่อฟงผูใหญ... อยูในโอวาทผูใหญหรือ" แมนุยถามเร็วเปนขาวตอกแตก แตคุณสายก็นิ่ง เพราะไดตอบไปเสียกอนคําถามของแมนุยแลว "แมสายกับฉันรูใจกันมานาน" แมนุยพูดตอ "เด็กไมอยูในโอวาทผูใหญ ฉันเกลียดนักเชียว จริงไหม จริง ไหม" "โอย ! ผูใหญที่ไหนก็คงไมชอบทุกคนแหละแมนุย" คุณสายพูด "แตคนสาวๆ เขาก็ตองหาวาเรากดขี่ บังคับ เขาไมนึกบางวา เราทําอะไรไปเพราะอยากใหเขาดี ชางไมคิดกันเลยวาไอเรามันอาบน้ํารอนมากอน ชั่วดี อะไรก็เคยเห็นมากอนทั้งนั้น" ชอยโผลหนาเขามาในหอง แตพอทําทาจะหลบกลับ คุณสายก็รองเรียกวา "ชอยมานี่กอน จําอานุยไดไหม" ชอยคลานเขามานั่งใกลๆพลอย แลวก็ยกมือไหวแมนุย "ชอยหรือ ชอยหรือนี่" แมนุยทักตามแบบของตน "นี่แหละชอยละ แมนุยจําไดไหม ที่ฉันเอาเขามาเลี้ยงแตยังเล็กๆ นั่นปะไร" แมนุยดูชอยอยางพินิจพิจารณา เปายานัตถุเสียหลายครั้งจนละอองยานัตถุ ปลิวมาเขาจมูกพลอย ทําให เกือบตองจาม "ไมสวย !" แมนุยตัดสินความงามของชอยอยางเด็ดขาดลงไปทีเดียว "ไมสวยเลย ! สูแมพลอยไมไดจริงไหม" ชอยหัวเราะอยางเบิกบาน แลวตอบไดทันทีวา "จริงซีคะ ใครจะไปสวยสูแมพลอยเขาได" "ไมถือหรือนี่ วาไมสวยไมถือหรือ" แมนุยถามตอไปอีก "อุย ! ฉันไมถือหรอก ก็มันไมสวยจริงๆนี่ ความจริงเปนสิ่งไมตาย จริงไหมคะคุณอานุย" ชอยชักสนุก เสียแลว และเริ่มจะคุยกับแมนุย ดวยวิธีตั้งปญหาถามอยางเดียวกัน "จริงซี ถูกแลว เรากันเองพูดอะไรกันก็ได ไดไหม หรือวาไมได" "ไดซีคะคุณอาก็ จะเปนอะไรไป พูดอะไรก็พูดได ฉันพูดอะไรบางคุณอาจะถือไหมคะ" ชอยตั้งปญหา กลับไปอีก "ได" แมนุยตอบ สายตานั้นบอกชัดทีเดียววาเอ็นดูชอย "ถามมาตอบไป คุยกันรูเรื่อง ไมถามก็ไมรูจริง ไหม" "จริ๊งจริงเทียวคุณอา เอ ! ฉันไมรูจะถามอะไรดี............. เอา ! อะไรเอย...." "ฮะแอม !" คุณสายกระแอมขึ้นดังๆ "เริ่มเลอะละยายชอย" "อาวก็ฉันนึกวาคุณอานุยชอบเลนทายปริศนานี่ พอฉันจะขึ้นอะไรเอย คุณอาก็มาขัดจังหวะเสียพอดี เลย นึกไมออกแลว" "เดี๋ยวเถอะยายชอย !" คุณสายขูสําทับ "พูดอะไรละก็เปนเลนไปหมดทีเดียว ชางไมรูจักเด็กจักผูใหญกัน เสียบางเลย"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy112.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๑)

Page 6 of 6

"แมสายอยา..." แมนุยหาม "ปลอยแกเถิดสนุกดี รักกันก็เลนหัวกันได จริงไหมชอย ฉันชอบเลนกะเด็ก... เลนมานานแลว... ที่บานมีเด็กแยะ... ไมถือ... ปลอยใหเลน... เลนกะเด็กทุกวันสนุก... อายุยืน... ตายชา... จริง ไหมแมสาย" "อะแฮม !" ชอยกระแอมขึ้นบาง แลวตอบแทนคุณสายวา "จริงซีคะ คุณอานุยพูดถูกทีเดียว คนเราถาเลนหัวเสียบาง ใจคอก็เบิกบาน เมื่อใจคอเบิกบานแลว ก็ไม คอยแก หรือถึงจะแกก็แกชาๆ แมแกชาก็ตายชา แตผูใหญบางคนไมทําอยางนั้น ไดแตหมกมุน วันหนึ่งๆ ก็ไมมี จะเลนหัวกับใคร เด็กจะเลนก็ไมได คอยแตหามปราม ผูใหญอยางนี้เผลอประเดี๋ยวเดียวแกไปตั้งเปนกอง พอ ตายลงจริงๆ ก็จะมาซัดวาเด็กแชง" คุณสายหันมาตาเขียวใสชอยแลวถามวา "ชอยเมื่อกี้กําลังจะไปไหนอยูหรือเปลา" "ฉันนัดกะเขาวาจะไปดูผานุงที่แถวเตง เขาเอามาใหดูหลายกุลี วาจะไปซื้อมาไวนุง เกิดมากะเขาชาติ หนึ่ง หนาตามันปุปะ ก็เลยตองแตงตัวใหสวยๆไวหนอย" "ถายังงั้นก็เชิญแมรีบไปได อยามามัวเลนลิ้นอยูเลย" "ฉันวาจะมาชวนแมพลอยเขาไปดวย เพราะเขานัดไวเหมือนกัน" "ไปเถิด อยามานั่งอุดอูอยูเลย" แมนุยใหอนุญาตแทนคุณสายเสร็จ "ไปดวยกันสองคน ชวยกันเลือกดู... ยังเปนสาวอยู... แกแลวอยางฉันอยางแมสายไมเปนไร... แตงไปก็ไมมีใครมอง เอา !" แมนุยพูดพลางหยิบ กระเปาหมากมาเปดอยางรวดเร็ว หยิบเงินในกระเปาออกนับ "ฉันให" แมนุยพูดพลางยื่นเงินใหชอยและพลอย "คนละหาตําลึง... ซื้อผานุง... เลือกใหสวยๆ ผาเปลือก กระเทียม... ดอกใหเดนๆ... พอไหม พอไหม" พลอยเหลือบดูตาคุณสายเห็นยิ้มพยักหนา พลอยก็ยกมือไหวแมนุยแลวรับเงินไว "โอโฮ !" ชอยรองอยางดีใจ "อยางนี้ก็ซื้อไดหมดทีเดียว ไมตองเลือกกันละ" อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy112.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 6

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๒) พอออกมาพนตําหนักพลอยก็ถามชอยขึ้นวา "ชอย ใครไปนัดจะดูผาผอนแถวที่เตงไวตั้งแตเมื่อไรกัน ฉันไมรูเรื่องเลย" "ฉันนัดขึ้นเดี๋ยวนี้เอง" ชอยตอบหนาตาเฉย "ถาไมมีนัดก็ไมมีวันไดออกมา... นั่งคุยกะคนแกไมสนุก เที่ยวดีกวา...จริงไหม จริงไหม แลวเลยไดอัฐอีกคนละหาตําลึง... ซื้อของไดแยะพอไหม พอไหม" พลอยตองหัวเราะเสียทองแข็ง เพราะชอยลอเลียนทาทางน้ําเสียง และคําพูดของแมนุยไดเหมือนสนิท "แลวนี่เรามิตองไปซื้อผานุงกันจริงๆหรือ" พลอยถามขึ้นระหวางหัวเราะ "ก็ยังงั้นซี" ชอยตอบ "ซื้อเทาไรก็ได จะเปนไรไป อัฐเรามีแลว ฉันนี่ก็เปนคนแปลก ทําอะไรๆแลวเบื่อ งาย ทุกอยางไป มีอยูอยางเดียวที่ทําไดทุกวันไมมีเบื่อเลย คือซื้อผานุงผาตัดเสื้อแปลกแทๆทีเดียว" แลวชอยก็ เดิน รองเพลงเบาๆตอไปอยางสบายอารมณ พลอยเดินตามไปอีกครูหนึ่ง ชอยก็ถามขึ้นวา "แมนุยนี่แกเปนใครพลอยรูจักแลวไมใชหรือ" "ฉันก็พอจะเดาออก" พลอยตอบ "อาของคุณเปรมที่คุณอาพูดถึงอยูบอยๆใชไหม" "ถูกแลว" ชอยยืนยัน "ฉันยังไมเขาใจวาเขามาในวังทําไม" "ทาจะเขามาเยี่ยมคุณอากระมังชอย" พลอยแนะชึ้น แตน้ําเสียงของพลอยก็มิไดแสดงวา เชื่อในคําของ ตัวเองเทาไรนัก "ก็ควรจะเปนยังงั้นแหละ" ชอยพูด "แตฉันยังสงสัย" "สงสัยวาอยางไร ชอย" "สงสัยวาจะมีอะไรมากกวานั้น ฉันสังเกตดูเหมือนอานุยจะเขามาดูอะไรสักอยาง" "ดูอะไร" พลอยถามอยางระแวง ทั้งที่รูตัวอยูเหมือนกันวา แมนุยเพงเล็งตนเปนพิเศษ "เห็นจะไมใชเขามาดูฉันแนๆ ถาอานุยจะเขามาดูใครหรือดูอะไร ก็ตองเปนคนอื่นหรือของอื่น ฉันเองก็ ไมมีใครมองอยูนั่นเอง" ชอยพูดเปนเชิงนอยใจ แตน้ําเสียงแสดงวาโลงใจมากกวา ทั้งสองคนเดินตอไปอีกครูหนึ่ง แลวชอยก็ถามขึ้นลอยๆวา พลอย หมูนี้ฝนอะไรบางหรือเปลา" "เปลา" พลอยตอบ "ไมเห็นฝนอะไรนี่ ทําไม" "ฝนวางูกัดบางหรือเปลา" ชอยซักตอไปอีก "ตาย ! ถาฝนอยางนั้นฉันจะไดรองบานแตกไปปะไร ไมเคยฝนสักที" พลอยพูด "ถาอยางนั้น ขนาดงูรัด เคยฝนบางไหม" ชอยซักอีก "ไมเคย" พลอยตอบอยางแนใจ "งูกัดก็ไมเคยฝน งูรัดก็ไมเคยเหมือนกัน ชอยเอาอะไรมาถามก็ไมรู" "ก็ถามไปอยางนั้นแหละนา ดัดจริตไปได" ชอยตอบอยางอารมณดี "วันนี้ฉันจะตองขอเปนหมอดูสัก หนอย ถาแมพลอยยังไมเคยฝนวาถูกงูกัดหรืองูรัด ก็เห็นจะตองฝนเร็วๆนี้เปนแน ฉันดูๆเห็นมันใกลเขามาเต็มที แลว" "ชอยนี่พูดบาเสียจริงๆทีเดียว" พลอยดุ "แลวตัวเคยฝนบางไหมเลา" "โอย ! คนอยางฉันไมมีไดฝนกับใครเขาหรอก" ชอยรองขึ้น "พอหัวถึงหมอนก็หลับเปนตาย ไมเคยฝน เลยสักที" ตั้งแตอาของคุณเปรมเขามาในวังวันนั้นแลว เรื่องราวทางคุณเปรมก็ดูจะซาไปพักหนึ่ง ถึงจะมีการติดตอ ระหวางคุณเปรมและคุณสาย พลอยก็มิไดสนใจเพราะชีวิตในวังนั้น มีเรื่องราวตางๆที่เรียกรองความสนใจ ของ พลอยสับเปลี่ยนเวียนกันอยูเรื่อยๆ หลังจากความตื่นเตนรถจักรยานไดเบาบางลงไปแลว ความตื่นเตนความนิยมในของอื่นก็เขามาแทนที่ ของที่ทําใหคลั่งกันไปอีกพักใหญก็คือ ตลับงาสําหรับใสขี้ผึ้งสีปาก ความจริงนั้นตลับงาใสขี้ผึ้งสีปาก เปนของจํา เปนสําหรับชาววังทุกรูปทุกนามอยูนานมาแลว แตตนเหตุที่จะเริ่มเลนตลับงากันเปนการใหญนั้น เกิดจากพระ ราชนิยม เลากันวา วันหนึ่งพระเจาอยูหัวทอดพระเนตรเห็นตลับงาใบเล็กของเสด็จอธิบดี ที่ทรงใชมา นานจนงา นั้นแดงเปนมันดูงามดี จึงมีพระราชดํารัสวา ตลับงานี้ใชนานไปก็งามเปนสีแดง พอจะเลนกันไดอยางฝรั่ง เลน กลองสูบบุหรี่ทําดวยดินขาว เรียกวากลองเมียรชอม ตั้งแตนั้นมาก็เลนตลับงากันทั่วไป ของใครๆก็ขัดอยาง ประณีตบรรจงเพื่อใหขึ้นสีแดงสวยงาม ตามปกติแตกอนตลับงาทั่วไปนั้น ทําเปนทรงลูกพลับ แตพอเริ่มเลนกัน ขึ้น ก็มีผูคิดทรงแปลกๆออกไปอีกมาก ทรงของใครคิดขึ้นผูนั้นก็สงวนมิใหใครลอกแบบ จนถึงตองมีเจา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy112_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 6

พนักงาน จดทะเบียนตลับทรงตางๆ วาทรงนั้นทรงนี้เปนของใคร ตลับทรงลูกพลับแหง คือแบนกวาลูกพลับ ธรรมดา หนอยหนึ่ง ตลับทรงจรกา คือทรงลูกพลับแตกดลงไปจนแบนมาก และทรงลูกรอกขางแข็งนั้น จด ทะเบียนเปนทรง ของหลวงโดยเฉพาะ นอกจากนั้นก็มี ทรงสะกา ทรงรํามะนา ทรงกลองและทรงหมากดิบสด ตลอดจนตลับรูปราง อื่นๆอีกเปนอันมาก ความนิยมเลนตลับงา แพรหลายออกทั่วไป จนถึงเมื่องานฉลองตั้ง กรมพระเจาลูกเธอ กรมขุนสุพรรณ ภาคยวดี ไดมีการประกวดตลับงาชิงรางวัลขึ้น รางวัลนั้นเปนเหรียญพระราชทาน มีเหรียญทอง เหรียญเงิน และ เหรียญทองแดงตามลําดับชั้น ตลับงาของเจานายและเจาจอมที่ขัดดีแลว มีสีขึ้นงดงาม เจาของก็นํา ขึ้นถวายตัว เหมือนกับถวายตัวบุตรหลาน และขอพระราชทานชื่อ และชื่อพระราชทานสําหรับตลับงานั้น เปนชื่อไพเราะ คลองจอง พลอยทองจําไวไดหลายชุด ตลับงาทรงลูกพลับเตี้ยชุดของหลวง ตั้งแตใบใหญโปงที่สุดแลวเรียวเล็กลงไปตามลําดับจนถึงปลายเถา ใบเล็กเทาปลายนิ้วกอยนั้น มีชื่อคลองกันตลอดเปนเครื่องตนเครื่องทรง และเครื่องตนราชูปโภควา "ชฎาเดินหน กุลฑลไพโรจน กรรเจียกโชติฉายฉัน สุวรรณมาลัย ดอกไมไหวเรืองรอง ฉลองศอประดับ ทับทรวงพึงพิศ ตาม ทิศพิสดาร สังวาลเพริศพริ้ง สอิ้งเพชรจรัส พาหุรัดบวร ตนพระกรจํารูญ แกวเกยูรสวมหัตถ รัตพัตบรรจง รัด องคงามประกอบ ครรถอบพรายแสง ชายแครงไฉไล ชายไหวเถือกถะเกิง กรองเชิงชมพูนุช เรือนครุฑธํามรงค ฉลององคพระกรนอย กันจุกรอยเพชรรัตน เชิงงอนชัดสนับเพลา พลายเพราภูษา กริชชวาสุวรรณ สุพรรณ ปาทุกา พระลวมราชาวดี จอกพระศรีสมทรง ผอบคงเคียงคู ตลับภูทรงสี ซองมณีศรีสลา ซองจินดาบุหรี่ สุพรรณศรีกุดั่น พระเตาสรรพางคจําหลัก ขันสรงพักตรสุคนธ โตะชุดสนหลอดทอง พระกลองไมราชวัง กรันต ฝงเพชรประดับ เครื่องชาสรรพถวยถาด สุพรรณราชปากผาย กาเวียนรายรูปงิ้ว" ชื่อตลับที่ทองจํากันไดทั้งวังมีอีกหลายชุด ชุดของสมเด็จพระตําหนักนั้นเปนชื่อปลาลวนๆ เปนพระราช นิพนธเชนเดียวกันคือ "อานนทหนุนพสุธา ปลาวาฬวายเทิ่ง โลมาระเริงสินธุ กระเบนบินหลังคลื่น ฉลามดื่นชายหาด ฉนกฟาด ชลฉา กะโหอาเห็นเพดาน ปลาบึกผานแมโขง ปลากระพงพวงพี สีเสียดแทรกขางสําเภา กุเรางามสมสวน ยี่สน อวนตอนหนา อินทรีฝาสายสมุทร ทุกังผุดพนน้ํา นวลจันทรล้ําหลากสี พิมพทองมีชื่อโดง ชะโดโพลงโดดลอย เทโพดอยแฝงฝง สวายวังเลหแวด ปลาแรดพักตรแสยะ ปลามาแบะโอษฐอา ปลาหมาฟุบแฝงตม กรายงามสม สอชื่อ ตะเพียนคือสีระบาย น้ําเงินคลายเงินยวง เนื้อออนชวงชูสี คางเบือนที่เบือนคาง แบบอลางฉางจาระเม็ด ปลาแปนเล็ดลอดกระแส ปลาทองแผหางกระจาย ปลาเงินวายหูกระหวัด ปลากัดหรูสีอราม เข็มนอยตามตอ เพื่อน" ตลับงาชุดของสมเด็จที่บน มีชื่อพระราชทานตลอดเถาเชนเดียวกัน เปนชื่อดอกไมลวนๆ คือ "ดวงทิพยมณฑา อัศาวดี ปารีปุณฑริก บัววิกตอเรีย พเยียโกมุท บุศปะประทุม โกสุมอุบล จงกลนี มาลี ลําเจียก ไมเรียกการเกษ กุหลาบเทศกลิ่นกลา กระดังงาหอมตรลบ อวลอบจําป สุกสีจําปา ระยาพวงพยอม เครือคอมสายหยุด บานบุศปบุนนาค หอมหลากลําดวน ผิวนวลนวลแปง บานแบงสารภี ดกดีเทียนกิ่ง ยงยิ่งนม แมว แกมแซมซอนชอ จันกะพอพึงสมร ขจรจรุงรื่น ชูชื่นกรรณิกา มลิลาลานสวาสดิ์ ชํามะนาดตระการ เกลื่อน กานพิกุล หอมกรุนพุทธชาด ชะลูดดาษดกจริง หอมยิ่งฝอยฝา" สวนตลับเถาของพระนางนั้น ทรงพระราชนิพนธชื่อพระราชทานเปนชื่อนกทั้งเถา ถึงจะมีนอยใบก็ยัง ไพเราะ คือ "มยุเรศรอนรา สัตวาเลหวาด ฉานฉาดโนรี ผองศรีกระตั้ว หมนมัวสาริกา ไกฟาหางเฟอย ละเลื้อยหาง หวา การเวกวายหาว กระทุงขาวขนลออ พญาลอลายพรอย พูดพลอยขุนทอง เสนาะกองกาเหวา แขกเตาตัวขจี ประสานสีเบ็ญจวรรณ พรายพรรณไกแจ เพริศแทเปดหงส กรุนกรงนกกระทา เขาชวาขันคุน คิริบูนพูดจอย นก นอยสีชมพู" การเลนตลับงาแพรหลายออกไปโดยเร็ว เริ่มตั้งแตเจานายลงมาถึงคนในวังทั่วไป และลุกลามออกไปถึง ขางนอก ใครมีฐานะพอจะมีตลับงาได ก็ตองประกวดประขันกัน จุกตลับงานั้นก็แสดงฐานะของเจาของ อีกอยาง หนึ่ง เพราะมีตั้งแตเลี่ยมนากไปจนถึงจุกทําดวยทอง ทองลงยา และประดับเพชรพลอยเปนรูปตางๆ เสด็จก็ทรง มีตลับงาเปนเถาเชนเดียวกับเจานายพระองคอื่น และทรงมอบใหขาหลวงชวยกันขัดใหขึ้นสีขึ้นเงา คนละใบสอง ใบ แตคนในตําหนักนั้นเองก็ตองมีตลับงากันบาง ทั้งชอยและพลอยตางหาตลับงาใบเล็กใบนอย มาเปน กรรมสิทธิ์มิใหนอยหนาใคร แมแตคุณสายซึ่งตามปกติก็มิคอยจะตื่นตามเหตุการณตางๆ เทาใดนัก คราวนี้ก็เริ่ม สะสมตลับงาบาง แตตลับงาของคุณสายดูเหมือนจะสูของคนอื่นไมได เพราะเจาของไมมีเวลามานั่งขัด ถูจะวาน คนอื่นก็ไมมีใครรับขัดให เพราะมีตลับของตัวเองบางของเสด็จบาง ตองคอยดูอยู ในระยะตอมาเริ่มเสด็จแปรพระราชฐานไปยังพระราชวังดุสิตบอยครั้งขึ้น และครั้งหนึ่งๆก็ประทับที่นั่น เปนเวลาครั้งละนานวัน เมื่อพลอยยังเด็กๆนั้น ที่สวนดุสิตมีแตพลับพลาที่ประทับ แตตอมาพระที่นั่งวิมานเมฆ ก็ ปลูกขึ้นสําหรับเปนที่ประทับถาวรกวาแตกอน ภายในพระราชวังดุสิตก็แบงออกเปนสวนตางๆ พระราชทานนาม ตามลวดลายเครื่องลายครามกิมตึ๋ง ซึ่งเลนกันดาษดื่นในสมัยนั้น พระมเหสีและพระสนมนั้น โปรดใหอยูตามสวน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy112_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 6

ตางๆ สวนสี่ฤดูเปนที่ประทับสมเด็จที่บน สมเด็จพระตําหนักประทับสวนหงส พระนางประทับสวนนกไม ทาน องคเล็กประทับสวนบัว ตําหนักเจาดารารัศมีอยูสวนฝรั่งกังไส นอกจากนั้นก็มีสวนภาพผูหญิงของเจาคุณแพ สวนพุดตาน สวนไมสน สวนหนังสือเล็ก สวนหนังสือใหญ ชื่อสวนเหลานี้ตรงกับชื่อที่เรียกชื่อลายครามในขณะ นั้น ศูนยกลางของพระราชวังดุสิตคืออางหยก เปนสระน้ําใหญลงเขื่อนมีน้ําใสสะอาดเต็ม ตั้งอยูกลาง พระราชวัง ริมอางหยกดานหนึ่งมีพระที่นั่งไมสามชั้นคือ พระที่นั่งวิมานเมฆ ริมพระที่นั่งมีโรงเฟรนใหญในนั้นมี น้ําพุ ประดับดวยตนเฟรนและไมอื่นดูเยือกเย็น ตอมาโปรดเกลาใหปลูกเรือนตนขึ้น ที่ริมอางหยกอีกดานหนึ่ง ตรงขามกับพระที่นั่งวิมานเมฆ เรือนตนเปนเรือนไทยแบบชนบทฝาไมกระดาน หลังคามุงดวยจาก มีหอนั่ง เรือนนอน นอกชาน ครัวไฟ และทุกอยางครบเหมือนเรือนราษฎรธรรมดาตามชนบท พระเจาอยูหัวเสด็จ ประพาสตนหลายครั้งหลายครา เสด็จไปตามจังหวัดตางๆ ปะปนไปกับหมูราษฎร และเสด็จเยี่ยมเยือนราษฎร ถึงบานชอง โดนที่ราษฎรมิไดรูวาพระองคเปนผูใด ในการเสด็จประพาสแบบนี้ ไดทรงรูจักคุนเคยกับราษฎร ใน ชนบทหลายคน โปรดใหเรียกวาเพื่อนตน และโปรดเกลาใหพวกเพื่อนตนนี้ เขาเฝาแหนไดทุกโอกาส เกือบทุก ครั้งที่เพื่อนตนมาเฝาที่พระราชวังดุสิต ก็เสด็จออกรับที่เรือนตนอยางกันเอง ราษฎรเหลานั้นก็ไดเขาเฝา เจา ชีวิตของตนในระยะใกลชิด มิใชในปราสาทราชฐานที่โออา แวดลอมไปดวยเครื่องประดับอันมีคา ซึ่งจะทําให เขาเหลานั้นตระหนกใจ และเจาชีวิตนั้น ก็มิไดแตงองคดวยภูษาภรณอันมีคา ประทับอยูบนราชบัลลังกที่แสดง พระราชอํานาจ อันอาจทําใหเขาตองตกประหมา สิ่งที่คนบานนอกจากชนบทไดพบเห็น เมื่อเขาเฝาก็คือ เจา ชีวิตที่แตงพระองคอยางลําลอง ประทับอยูที่บนเรือนไม ทามกลางบรรยากาศสิ่งแวดลอม ที่ไมผิดไปจากบาน ในชนบทที่เขาคุนเคยอยู และในทามกลางบรรยากาศเชนนี้ ความตื่นตระหนกและความประหมา ก็ไมเกิดขึ้น ชาวบานเหลานั้นสามารถพูดคุยกับพระเจาอยูหัว ไดอยางระหวางคนตอคน มิใชอยางระหวางเจาชีวิตและไพร ฟา ขาแผนดิน เนื้อความที่พูดจากันจึงเต็มไปดวยสาระและความจริง ที่เปนประโยชนดวยกันทั้งสองฝาย ไมมี อุปสรรค กีดขวางจากประเพณีหรือระเบียบอื่นๆ และในบรรยกาศที่คุนเคยนั้น ทุกคนก็สามารถแสดงตัวให ปรากฏ เปนตัวของตัวเอง เต็มไปดวยเกียรติอันภาคภูมิ ที่ไดเปนเพื่อนตนของพระเจาแผนดินไทย ในระยะเวลานั้น งานอดิเรกของพระเจาอยูหัว ที่สนพระราชหฤทัยมากกวาอยางอื่นก็คือ การปลูกตนไม นานาชนิด ในบริเวณสวนดุสิตทั้งไมดอกไมใบ บางอยางก็ขุดมาทั้งตนโตๆ จนพระราชวังดุสิตนั้นรมรื่นไดดวย รุกขชาติตางพรรณ ผลิดอกออกผลตามฤดูกาล รื่นรมยนาอยูนาสบาย ยิ่งกวาในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเมื่อ เปรียบ กับพระราชวังดุสิตแลวก็เปนที่คับแคบอึดอัด งานอดิเรกที่พอพระราชหฤทัยอีกสองอยางก็คือ การถาย ภาพ และลางอัดภาพดวยพระองคเอง โปรดเกลาใหทําหองมืดสําหรับลางและอัดภาพ ทางดานหลังเรือนตน ตอ จากนั้น เปนโรงยาว เปนที่สําหรับทรงประกอบอาหารฝรั่งตางๆ ซึ่งเปนงานอดิเรกของพระองคอีกอยางหนึ่งใน ขณะนั้น สิ่งที่พลอยสังเกตเห็น วาสวนดุสิตแตกตางไปจากในวังก็คือ บรรยากาศที่สวนดุสิตนั้นเปนอยูอยาง งายๆ เปนกันเองไมผิดกับบางปะอินเทาไรนัก ผิดกับในวังที่เครงครัดไปดวยระเบียบ และประเพณีตางๆ และที่ สวนดุสิตนั้น ถึงแมวาจะแลดูกวางขวางกวาในวัง แตโอกาสที่จะไดเฝาแหนและเห็นพระองคพระเจาอยูหัว ก็มี มากกวาในวัง เพราะในวันหนึ่งๆอาจพบพระองคอยูใตตนไมกลางสนาม หรือประทับริมอางหยก หรือบนเรือน ตน ซึ่งเปนเรือนเตี้ยๆ แมแตพระที่นั่งวิมานเมฆนั้นเองก็เปนพระที่นั่งโถง มีเฉลียงโปรงรอบ แลเห็นพระองคจาก ขางลางไดงาย มิไดสูงลิบและลึกลับอยางที่บน ในพระบรมมหาราชวัง สิ่งที่สวนดุสิตแปลกไปกวาในวังอีกอยางหนึ่งนั้น ทําใหพลอยตองเดือดรอน ขนพองสยองเกลาอยูมาก ขอแตกตางนั้นก็คือเรื่องผี ตามความรูสึกทั่วไปนั้น สวนดุสิตเปนสถานที่ๆผีดุอยางฉกาจฉกรรจ ถาจะพูดกันไป แลว สวนดุสิตก็เปนที่โลงๆ สถานที่ทุกแหงกอสรางขึ้นใหมทั้งสิ้น ไมมีสิ่งกอสรางโบราณ หรือบรรยากาศที่มืด ครึ้ม หรือเสียงนกเคาแมวรองในเวลาค่ําคืนอยางในวัง ถาจะดูดวยตาคนทั่วไป ก็จะตองพูดวา ที่ในวังนั้นนากลัว ผีกวาที่สวนดุสิตเปนไหนๆ แตสําหรับชาววัง ผูเคยอยูทั้งสองแหงจะตองยืนยัน เปนเสียงเดียวกันวา ที่สวนดุสิต นั้นผีดุกวามาก ถึงแมในวังจะมีคนถูกผีหลอกบางประปราย ผีที่หลอกในวังนั้น ก็เปนผีเจาผีนาย ยอมมีมารยาท เรียบรอยกวาคนธรรมดาสามัญ ดวยเหตุที่ในวังนั้นไมมีใครจะเขาไปตายได นอกจากเจานาย ยกเวนกรณีพิเศษ ที่หามออกไปไมทันจริงๆ แตถาเกิดกรณีเชนนั้นแลว ก็ยอมจะตองมีพิธี สวดมนตปดรังควานไลผีใหเตลิดไป ผีที่ จะคงอยูได ก็จะมีแตผีเจานาย ซึ่งจะไมมารบกวนหลอกหลอนคน ทึ่ถวายความเคารพกราบไหว และถึงแมวาใน วังนั้น มีผูไดยินเสียงเปรตรองเปนครั้งเปนคราว เปรตนั้นก็วาเปนเจานายในวังอีก จึงไมมีภัยอันตรายอยางใด พลอยเคยไดยินเสียงเปรตรองถนัดชัดเจนกลางดึก ที่ในวังครั้งหนึ่ง และคนที่นอนอยูในหองเดียวกัน คือคุณสาย และชอยก็ไดยินเสียงนั้น เปนเสียงหวีดรอง อยางโหยหวนของผูหญิง และดังจนพลอยและชอยตองลุกขึ้นนั่ง ดวยความตกใจ เสียงนั้นรองขึ้นครั้งเดียว แลวก็เงียบไป แตก็ทําใหคุณสายตองลุกขึ้นจุดตะเกียง สวดมนต พึมพําอยูพักใหญ จบลงดวยการกรวดน้ํา แผสวนกุศลไป 'ถวาย' เพราะคําวา 'ถวาย' ที่คุณสายใชนั้นเอง พลอย จึงไดรูวาเปรตในวังนั้นเปนเปรตเจานาย หาใชเปรตธรรมดาสามัญไม แตพอรุงขึ้นอีกวันหนึ่ง ชอยก็แอบมากระ ซิบบอกวา "เมื่อคืนนี้คุณอากรวดน้ําใหคนเปนๆ เสียแลวละพลอย"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy112_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 6

"ทําไมละชอย" พลอยถาม "เสียงที่เราไดยินเมื่อคืนนี้ไมใชเสียงเปรตหรอก" ชอยหัวเราะ "แมชุบเขาบอกฉันวา ยายแนบคนเครื่อง แกละเมอรองขึ้นตางหาก" ตั้งแตนั้นตอมา เรื่องเปรตยายแนบก็เปนเรื่องที่พลอยและชอยเก็บไวหัวเราะกันสอง คน แตพอมาอยูที่สวนดุสิตเขาจริง เรื่องผีเรื่องเปรตก็กลายเปนสิ่งที่พลอยและชอย หัวเราะไมคอยออก เพราะมีขาวลือกันวา สวนหนึ่งของที่ๆเปนสวนดุสิตนั้น แตกอนเปนวัดราง มีปาชาเกา เมื่อมาขุดถมที่ดินก็วากัน วา ไดขุดเอากระดูกคนขึ้นมามาก แตครั้นพลอยถามคนเลาวา สวนไหนของดุสิตเปนวัดราง ผูเลาก็ไมสามารถ จะบอกได ยิ่งทําใหเคลือบคลุมนากลัวไปทั่ว เรื่องกลัวผีนี้พลอยเปนไปในทางตรงขามกับชอยทีเดียว ถาจะวากันในเรื่องกลัวผี พลอยและชอยก็กลัว ทั้งสองคน แตพลอยนั้นเมื่อกลัวแลวก็ไมอยากพบอยากเห็น ไมอยากไดยินไดฟง สวนชอยนั้นยิ่งกลัวเทาไร ก็ เหมือนยิ่งอยากพบอยากเห็น และอยากไดยินเรื่องผีมากขึ้นเทานั้น และเพราะความที่ชอยเที่ยวสอดรูสอดเห็น ทั่วไปนี้เอง ชอยก็มีเรื่องผีกลับมาเลาใหพลอยฟงบอยๆ ซึ่งพลอยก็ไมอยากฟงแตก็อดฟงไมได และเมื่อไดฟง ครั้งใด ก็ยิ่งกลัวผีมากขึ้นอีกทุกครั้ง คืนหนึ่งชอยมากระซิบกระซาบเลาวา "แมพลอย เมื่อคืนวานซืนนี้ พวกที่อยูที่สวนบัวเขาถูกผีหลอกกันแยทีเดียว !" "โธ ! ชอยเอาอีกแลว" พลอยรองขึ้นอยางไมสบายใจ "ยิ่งรูวาฉันกลัวผี ก็ชอบเอาเรื่องผีมาเลาเสียจริงๆ" "ก็เรื่องมันจริงๆนี่นา" ชอยตอบ แลวก็เลาตอไปอยางไมสนใจคําประทวงของพลอย "เมื่อคืนวานนี้เองพลอย คนเขาเห็นกันตั้งหลายคน เขาเลาใหฉันฟงวา มันโผลขึ้นมาระหวางอางบัว ที่ ทานฯ ปลูกไวหนาตําหนัก คนที่เขานอนอยูขางลางเขาเห็น เขานึกวาขโมย เขารองเอะอะมันก็ไมไป ตกใจเต็มที่ เขาถอดกําไลขอมือขวางมันก็ยังอยู ทีนี้คนอื่นๆไดยินเสียงรอง ก็พากันมาดู จุดไตจุดไฟกันขึ้น มันก็ยังอยูที่เกา โผลขึ้นจากพื้นเปนรูปคนครึ่งตัวอวนๆ ดํามิดหมีหัวลานดวย แลวก็ตาพองโต เขาวามันกลอกตาไปมา นากลัว พิลึกละ" "ไฮ ! ผีอะไรจะอยูใหคนจุดไฟมาดู ฉันไมเชื่อหรอก" พลอยขัดคอ "อาวจริงๆนะ" ชอยตอบอยางเชื่อสนิท "เขาไปเรียกคนมาดูกันออก เขาวาทานองคเกาทานก็เห็น ทาน สวดมนตไลมันก็ไมไป กรวดน้ําแผสวนกุศลใหมัน มันก็ไมไป จนถึงแชงอยาใหมันไดรูผุดรูเกิดอยางไรๆ มันก็ไม ไป" "แลวยังไง" พลอยชักสนใจตะหงิดๆ "เขาวามันกลอกตาอยูครึ่งตัวจนเชา ตะวันขึ้นมันถึงหายไป แตอยางนั้นเงามันยังติดอยูที่พื้นกระเบื้อง ระหวางอางบัวจนสาย ถึงไดจางไปทีละนอย" ชอยตอบหนาตาเฉยที่สุด พลอยไดฟงเรื่องผีจากชอยทีไร ก็กลัวผีไปครั้งละหลายๆวัน กลางคืนจะเดินไปไหนก็ตองชวนคน ไปเปน เพื่อน ไมกลาไปคนเดียว แตก็จะไปมีประโยชนอะไร เมื่อคนที่กลัวผีเดินเปนเพื่อนคนที่กลัวผีดวยกัน และผีที่ สวนดุสิตนั้นก็อยูเสียทุกที่ ทั้งบนดินใตดินบนตนไม และแมแตในน้ํา คอยหลอกหลอนคน ดวยลักษณะแปลกๆ และเรื่องผีที่พิสดารนั้น พลอยก็ไดมาจากชอยอีก "พลอยรูไหม" ชอยพูดขึ้นตอนกลางคืนวันหนึ่ง "ผีมาเลนน้ําถวายเสด็จ..." ชอยออกพระนามเจานายใน วัง พระองคหนึ่ง "ผีอะไรมาเลนน้ําถวาย" พลอยพูดอยางไมเชื่ออีก "อาว ไมเชื่ออีกแลว จริงๆนะพลอย ใครๆเขารูกันทั้งนั้น เรื่องมันยังงี้ฉันจะเลาใหฟง" ชอยเริ่มเรื่อง "เสด็จทานประทับอยูที่ตําหนักริมสระสวนหงส ตอนนั้นยังไมดึกเทาไรเลย มีคนเขาหมอบเฝาอยูสามคน เปนผูใหญสองคน เด็กยังไวจุกอีกคนหนึ่ง คนที่เขาอยูนั้นเขาหมอบหันหนาไปทางเสด็จ หันหลังใหสระ สวน เสด็จก็ประทับหันพระพักตรไปทางสระน้ํา คนที่เฝาเขาก็คุยเรื่องโนนเรื่องนี้ไปตามเรื่อง แตแรกทานก็รับสั่งดวย แตตอนหลังทานนิ่ง พระเนตรมองไปขางหนา เหมือนกับวาไมไดยินคําที่เขาทูล เด็กคนที่เฝาอยูนั้นแกมองดูพระ เนตรแลวก็มองตาม พอมองไปทางสระ เด็กคนนั้นก็รองกรี๊ดใหญทีเดียว ตั้งแตนั้นมาก็จับไข คลั่งเพอไปตางๆ เดี๋ยวนี้จะเปนจะตายเทากัน" "แลวเขาเห็นอะไรที่ในสระ" พลอยอดสนใจไมไดทั้งที่กลัว "ก็ไมมีใครรูแน" ชอยตอบ "เขาวาเสด็จทานทรงเลาทีหลังวา ทานประทับอยูทอดพระเนตรทางสระน้ํา ที แรกมีอะไรดําๆ โผลขึ้นมากลางสระ ทานเขาพระทัยวาเปนปลาผุด แตก็ไมใช เพราะไอที่มันโผลขึ้นมานั้น มัน โผลมากขึ้นทุกที เหมือนกับปลาตัวใหญๆ โตเทาควาย แตทานก็รับสั่งวารูปรางมันจะเหมือนอะไร ก็วาไมถูก มันดําๆใหญๆ ยืดหยุนได พอมันโผลขึ้นมาจากน้ําเต็มที่แลว มันก็วายไปยังขอบสระ ทีแรกทานนึกวามันจะหยุด แคนั้น แตก็เปลา ทีนี้มันเริ่มทําตัวยาวๆ เหมือนงูตัวใหญๆ เลื้อยขึ้นบนบก แลวก็เลื้อยขึ้นตนโศกที่ขอบสระ พอ มันเลื้อยขึ้นไปถึงยอด มันก็ทําตัวกลมเทาพอม กลิ้งออกมาที่ปลายกิ่งไม แลวกระโดดตูมกลับลงไปในสระ น้ํา กระจายดังซาทีเดียว จนคนที่เขาหมอบอยูเขาไดยิน แตพอเหลียวไปดู ก็ไมเห็นอะไรเสียแลว เรื่องมันเปนอยาง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy112_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๒)

Page 5 of 6

นี้แหละพลอย ฉันจึงไดบอกวา ผีมันมาเลนน้ําถวาย" "ตายนากลัว !" พลอยออกอุทาน "นั่นนะซี" ชอยเห็นดวย "ฉันเลานี่ยังขนลุกเกรียวเลยดูซิ" ชอยพูดพลางยื่นแขนใหพลอยดู ทําเอาพลอย ตองขนลุกไปดวย "พลอยไปเปนเพื่อนฉันหนอยซี" ชอยพูดขึ้นหลังจากเลาเรื่องจบ "ไปไหนกันชอย" "ฉันรอนนัก จะไปอาบน้ําที่อางหยก" ชอยตอบ "ตายจริง ! ชอย ก็เอาเรื่องผีเลนน้ํามาเลาอยูหยกๆ แลวยังจะมาชวนฉันไปอาบน้ําในอางหยก ฉันไมเอา ละ ฉันกลัวจะตายไปแลว" "เฮย จะไปกลัวอะไรกันนักหนา ผีมันเลนน้ําไดเราก็เลนได" "โธ ทําไมไมอาบเสียแตกลางวันนะ" พลอยปรารภขึ้น "กลางวันก็อาบใหสะอาดเทานั้นเอง" ชอยตอบ "อาบน้ําอยางฉัน ตองอาบกลางคืนถึงจะดี" "ทําไม" "ฉันกําลังหัดโดดน้ําและวายน้ําทาฝรั่ง หัดกลางวันเดี๋ยวคนเขาจะเห็น เอาไวพอเราเกงแลว ฉันจะแสดง ใหพวกชาววังมันดูสักวัน ดูซิจะวาอยางไรกัน" "ไฮ อะไรกัน โดดน้ําวายน้ําทาฝรั่ง" พลอยรองขึ้น "ชอยไปเอามาจากไหน ทําไมฝรั่งไมวายน้ําอยางเรา ดอก หรือชอย" "ไมวายหรอก" ชอยตอบ "ฝรั่งเขาตองโดดตองวายทาเกๆ ไมใชโดดทิ้งลูกมะพราวหรือกระทุมน้ําตูมๆ อยางเราๆหรอก ฉันไปแอบดูหนังสือฝรั่งที่เสด็จทานเอามาทรง มีรูปทาตางๆแยะเชียว ฉันจําไวไดหมดแลว มา ดวยกันสิ เดี๋ยวฉันจะทําใหดู ไปดวยหันหนอยเถอะนา ไปคนเดียวฉันก็กลัวผีเหมือนกัน" พลอยตองจําใจตามชอยไปอางหยก อยางครึ่งขันครึ่งกลัว และเมื่อไปถึงแลว ชอยก็ทั้งโดดทั้งวาย ดวย ทาทางที่ชอยอางวาเปนทาฝรั่งตางๆ จนพลอยขึ้นจากน้ําตั้งนานแลว ชอยก็ยังไมขึ้น ขณะที่เดินกลับดวยกัน ชอยก็เอื้อมมือมากําแขนพลอยไว แลวพูดวา "พลอย เราอยูดวยกันมานาน ไมเคยมีเรื่องมีราวกันเลย ทุกขก็ดวยกันสุขก็ดวยกัน ถาจะวาไป ที่มันแลว ไปแลวก็สนุกไมใชเลน ฉันอยากใหทุกอยางมันอยูอยางนี้ ไมมีวันเปลี่ยนแปลง" "ฉันก็เหมือนกันแหละชอย" "เฮอ !" ชอยถอนใจใหญ "ถามันเปนไปไดยังงั้นจริงๆ ก็จะดี แตหมูนี้ฉันรูสึกวามันกําลังจะเปลี่ยนไปยก ใหญ ของที่เราเคยพบเห็น เคยทํา ก็มีแตจะหมดไป พลอยกับฉันจะตองไปคนละทาง มองดูขางหนามันมืด ฉัน กลุมใจ กลุมใจ" "ชอยพูดอะไรก็ไมรูเปนลางไปเปลาๆ" พลอยทวงขึ้น "เราอยูดวยกันดีๆ ทําไมถึงจะตองมาหาเรื่อง พูด ใหไมสบายใจ" "ฉันก็ไมรูเหมือนกัน" ชอยตอบ "บางทีมันก็เกิดไมสบายใจขึ้นมา ฉันรูสึกตัวเหมือนยังกับเวลาที่ยืนอยู ขอบสระ เตรียมตัวที่จะกระโดดน้ํา มันผิดกันอยูนิดเดียวที่สระน้ําจริงๆนั้น ถาเรากระโดดลงไปแลวก็วายกลับมา ขึ้นฝงไดใหม แตไอสระที่ฉันนึกถึงมันไมเปนอยางนั้น เมื่อกระโดดตูมลงไปแลว ตัวเราเองก็จะตองเปลี่ยนไป ไม เปนคนเกา เวลาขึ้นมาแลวของทุกอยางก็จะเปลี่ยนไปตาม ฉันนึกๆอยูอยางนี้แหละพลอย ฉันจะบาหรือดีก็ไมรู" พลอยเดินนึกตรึกตรองคําพูดที่ชอยพูดอยูครูหนึ่ง แลวก็พูดขึ้นวา "ฉันคิดดูแลวก็เห็นจริงเหมือนกัน เราสองคนนี้จะเปนอยางไรตอไป ฉันก็ไมรู ฉันรูดีวาเราจะหาอะไร ที่ แนนอนนั้นยาก แตนึกไปอีกทีฉันไมวิตก ของอื่นมันจะเปลี่ยนไปก็สุดแลวแต วาแตเราสองคนเถิด ชอยกับฉันนี่ แหละ ถาเรายึดกันไวใหแนนไมทิ้งกัน ฉันก็เห็นวาจะไมสูกระไรนัก จริงไหม" "จริง" ชอยพูดสั้นๆ มือที่กําแขนพลอยอยูนั้น บีบแนนยิ่งขึ้น "พลอยพูดถูกแลว ตอไปขางหนาอะไรเปนอยางไร ก็อยูที่ตัวเราเอง ถาเราเกาะกันไวแนน ก็เห็นจะไมสู เปนไรนัก แตฉันมันเปนคนหัวแข็งเคยเปนอยางไร ก็อยากจะใหมันอยูตอไปอยางนั้น ฉันจะอยูมันไป อยางนี้ แหละ วาแตพลอยเถอะ อีกหนอยก็คงจะเปลี่ยนไป จะเปนจริงอยางที่พูดไวหรือไมก็ไมรู" "ชอยเชื่อฉันเถิด อยาวิตกไปเลย" พลอยตอบ "เรารูจักชอบพอกินนอนมาดวยกันตั้งแตเล็กจนโต คนทั้ง เมืองฉันก็รูจักดีจริงๆแตชอยคนเดียวเทานั้น ถึงตัวฉันจะเปลี่ยนไปอยางไร สําหรับชอย ฉันก็จะตองเหมือนเกา ไมผิดไปได ชอยคอยดูเอาเองก็แลวกัน อยางฉันนี้ ถึงจะยากดีมีจนตอไปขางหนา ก็คงจะไมลืมชอย ชอยไมตอง หวงหรอก" "ขอใหจริงอยางวาเถิดพลอย" ชอยตอบ "แตถาจะวากันไปจริงๆ ฉันก็ไมเคยวิตกเรื่องพลอยเลย เพราะ ฉันรูใจพลอยดีกวาใครๆ ฉันวิตกเรื่องตัวของฉันเองมากกวา" "อาวทําไมละชอย" พลอยถาม "ฉันมันเปนคนหัวรั้นบาๆบอๆ" ชอยตอบ "จะหันตัวเองเขาหาอะไรหรือตามอะไรก็คงไมทัน เดี๋ยวนี้ฉันก็

http://www.geocities.com/siamstory/ploy112_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๒)

Page 6 of 6

มี ความสุขดีอยูเพราะมีเจานายคอยคุมกะลาหัว ถึงตอไปจะสิ้นเจาสิ้นนายก็ยังมีพอมีแม ทีนี้ตอไปเมื่อหมดพอ หมดแมแลว..." ชอยพูดแลวก็หยุดนิ่ง กวาดตามองไปรอบๆตัว มองดูบริเวณพระที่นั่งนอยใหญ และตําหนัก ตางๆ ในพระราชวัง "ไหนๆจะพูดกันแลว ฉันก็อยากจะพูดใหหมดเปลือก" ชอยพูดพลางเอามือชี้ไปยังสิ่งตางๆรอบตัว "พลอยดูซิ ตั้งแตเรารูความมา เราก็อยูแตในวัง แวดลอมไปดวยสิ่งเหลานี้ ฉันเคยไดยินใครเขาพูดวา ชาววัง เหมือน คางคกในกะลา ฉันก็เห็นจะจริง แตคางคกนั้นพอเปดกะลาขึ้น มันก็กระโดดของมันไปได วาแตเราเถิด ถาสิ่งเหลานี้หมดไป ถาของที่เราเคยคุนเคยตางๆนั้นหายไป เราจะอยูไดหรือ" "ชอยนี่ก็แปลกจริงๆเทียว ชอบพูดอะไรไมดีเสมอ ยิ่งหามเหมือนยิ่งยุ รั้ววังทานสรางสมกันมาแตไหนๆ ปูยาตาทวดของเราทานก็เคยเห็นมา จะไปหมดไปสิ้นลงไดอยางไรงายๆ ฉันนึกไมถึงเลยวา จะเปนอยางชอย พูด ไดอยางไร" "ฉันก็ไมไดวาจะเปนอยางนั้นหรอกพลอย แตใครจะไปรูได เผื่อเปนขึ้นมาจริงๆ เราจะเปนอยางไร" "ฉันคิดไปไมถึงหรอก" พลอยตอบ "ไวใหเปนไปจริงเสียกอนแลวคอยคิดกัน ระหวางนี้ฉันก็ไดแตภาวนา อยาใหเปนไปได อยางที่ชอยบอก็แลวกัน" ชอยหัวเราะแลวพูดขึ้นวา "พลอยวิ่งแขงกะฉันไหม ดูซิใครจะถึงมาหินโนนกอนกัน" แลวชอยก็วิ่งตื๋อออกไป มีพลอยวิ่งไลตามไป ติดๆ คืนนั้นกอนที่จะหลับ พลอยก็อดเอาคําพูดของชอยมาคิดดูไมได พลอยไมไดนึกวาชอยจะมีญานพิเศษ มองเห็นการณขางหนา แตคําพูดของชอยตองทําใหพลอยไมสบายใจ อนาคตเปนสิ่งที่มืดมนจริงอยางชอยพูด การเปลี่ยนแปลงตางๆ อาจมีมาจริงๆก็ได จะมากหรือนอยพลอยเองก็เดาไมถูก พลอยยังมองไมเห็นเหมือนกัน วา ตัวเองจะเปนอยางไรตอไป พลอยนึกไปไมถึงวาตนเองและชอยกําลังยืนอยู ณ จุดของความสิ้นสุดแหงยุค สมัยหนึ่งกําลังจะหมดไป โดยรวดเร็ว กาลสมัยที่พลอยรูจักคุนเคย และไดรับความคุมครองมาตลอด ขณะนั้นเปนบั้นทายแหงแผนดินที่ ๑ ในชีวิตของพลอย เปนเวลา ๓ หรือ ๔ ปกอนที่จะผลัดแผนดิน ยุคใหมชีวิตใหม และกาลสมัยที่จะมาใหมกําลัง กาว ใกลเขามาทุกลมหายใจ พลอยคาดไมถึงวาตนเองจะไดแลเห็น การเปลี่ยนแปลงอยางขนานใหญในชั่วชีวิต ของตน และถึงแมวาพลอยจะมีตาทิพยมองเห็นการณขางหนาได พลอยก็คงไมสามารถเขาไปหยุดยั้งสิ่งตางๆ ที่กําลังหมุนใกลตัวเขามาทุกทีนั้นได พลอยนอนนึกโนนนึกนี่ จนในที่สุดก็หลับไป อยางไรเดียงสาตออนาคตที่กําลังกาวยางเขามา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy112_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๓ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๓ (หนาที่ ๑) วันหนึ่งคุณเชยเขามาในวังแตเชาและตรงมาที่ตําหนักตามเคย พลอยไมไดพบคุณเชยมานาน พอเห็น หนา คุณเชยก็วางทุกอยางที่กําลังทําอยู รีบวิ่งไปตอนรับ "คุณเชย !" พลอยรองทักพี่สาว "ฉันคิดถึงคุณเชยเหลือเกิน ไมไดพบคุณเชยมานาน คุณเชยเปนอยางไร บาง สบายดีหรือทางบานเปนอยางไร" "เดี๋ยวกอน ! เดี๋ยวกอน !" คุณเชยพูดพลางหัวเราะพลาง "ขอใหฉันนั่งใหหายเหนื่อยสักครู แมพลอยถาม ฉัน ทีเดียวตั้งหลายขอ ฉันจะไปตอบอะไรทัน" วาแลวคุณเชยก็นั่งลง และเริ่มตอบปญหาตางๆ เกี่ยวกับทาง บาน ที่พลอยถามอยูไมขาดปาก วันนั้นคุณเชยอยูกินขาวกลางวันที่ตําหนัก ทําใหพลอยสบายใจมาก เพราะไดคุยกับคุณเชยไดเต็มที่ สม กับที่ไมไดพบกันนาน คุณเชยซื้อขนมของกินจุกจิกเขามาฝากหลายอยาง ระหวางที่คุยกันอยู คุณเชยก็แกหอ ขนมออกวางจนเกือบรอบตัว แลวก็เรียกชอยมารวมวงกินขนม และคุยกันดวยอีกคนหนึ่ง อยางเบิกบาน พลอย ก็มิไดเฉลียวใจ นึกวาคุณเชยมาเยี่ยมเยือนเฉยๆ ตามปกติ จนตกบายคุณสายเขามารวมวงคุยดวยในหอง และกอนที่คุณเชยจะลากลับ คุณเชยจึงพูดธุระขึ้น กับคุณ สายวา "เจาคุณพอใหเขามาเรียนคุณวาถาคุณวางวันไหน ขอใหเชิญไปพบ ทานมีธุระจะปรึกษาดวย ถาคุณจะ ไป วันไหนก็ใหบอกอิฉันไป ทานจะสงเรือมารับ" "ทานมีธุระอะไรหรือ" คุณสายถาม "เห็นทานวาทานมีเรื่องปรึกษาคุณ สวนจะเปนเรื่องอะไร อิฉันก็ไมทราบ ทานวาเชิญคุณออกไปไวๆ หนอย ก็จะดี" "ไดซี ฉันจะออกไปหาทานเร็วๆนี้" คุณสายรับรอง "เดี๋ยวกอนฉันคิดดูกอน ฉันจะไปไดเมื่อไร พรุงนี้ยัง ไมได มะรืนนี้ก็ยังติดอยูอีก เอายังงี้ดีกวา มะเรื่องนี้ก็แลวกัน คุณเชยสงเรือมารับแตเชาเทียวนะ จะไดรีบไปรีบ มา" เมื่อคุณเชยกลับไปแลววันนั้นพลอยก็ไดแตครุนคิดวา เจาคุณพอจะมีธุระอะไรที่จะตองปรึกษาหารือ กับ คุณสาย คุณเชยเองก็บอกปดเสียแลววาไมรูเรื่อง ยิ่งคิดไปก็ยิ่งวิตก เพราะเรื่องที่เจาคุณพอจะตองปรึกษา กับ คุณสายนั้น จะตองเกี่ยวกับตนอยางไมมีปญหา แตจะเปนในดานใดพลอยก็ยังนึกไมออก หนักใจมากเขา พลอย ก็ตองหันหนาเขาปรับทุกขกับชอย ในคืนวันนั้น "ชอย ฉันสงสัยเสียจริงๆ วาเจาคุณพอทานมีธุระอะไร" พลอยเอยขึ้นกอน "ฉันก็ไมรูเหมือนกันซิพลอย แตธุระนั้นเห็นจะเกี่ยวกับคุณอาบาง ไมมากก็นอย" ชอยตอบ "ฉันกลัวจะไมเกี่ยวแตคุณอาเทานั้นนะสิ กลัวมันจะมาเกี่ยวเอาฉันเขาดวย เลยชักไมสบายใจ" "ฉันก็กลัววาจะเปนอยางนั้นเหมือนกัน แตจะนึกเดาอยางไรก็คงไมถูก ใจผูใหญรูยาก ฉันวาเราเห็นจะ ตองคอย เมื่อคุณอากลับมาแลวนั่นแหละ ถึงจะรูเรื่องจริง" "กวาจะรูฉันก็เห็นจะอัดใจตายเสียกอน" พลอยบน ชอยมองดูพลอยแลวก็หัวเราะ พูดขึ้นวา "เอ ! พลอยนี่อยูกับฉันนานไป ชักจะติดนิสัยไมดีของฉันขึ้นทุกวัน แตกอนฉันเคยเห็นพลอยเปนคนใจ เย็น ถึงจะมีเรื่องมีราวอะไรก็ทนได เดี๋ยวนี้กลับกลายเปนคนใจรอน ฉันเสียอีกกลับใจเย็นกวาแตกอน" "ชอยพูดอยางนั้นก็เพราะไมใชเรื่องของตัวนะซี" พลอยทวง "ลองเปนเรื่องของชอยเอง ปานนี้จะไดดิ้น ปดๆ ไปแลว ไมมีวันจะมานั่งนิ่งอยางฉันหรอก" "เฮอ !" ชอยยกมือขึ้นปดปากหาว "ดึกแลวพลอยนอนกันเถิด เรื่องที่เราไมรูถึงจะเดาก็คงผิด และเราก็คง ยังไมรูเรื่องอยูนั่นเอง คิดไปก็ปวดหัวเปลาๆ" วาแลวชอยก็เตรียมตัวเขานอน คืนนั้นพลอยนอนไมหลับ ใหคิดวิตกวิจารณไปตางๆ เจาคุณพอเคยปรารภเรื่องอยากใหพลอย ออกไป อยูบาน บางทีคราวนี้จะเรียกคุณสายออกไปพบ เพื่อปรึกษาเรื่องจะทูลลาเอาตัวพลอยออกไปกระมัง พลอยนอน คิดถึงชีวิตที่ผานมาในวังแลว ก็ไมแนใจวาชีวิตทางบานอยูนอกวังจะมีความสุขไปกวา คิดถึงคุณสาย คิดถึงชอย และคนอื่นๆที่รูจักคุนเคยก็ใจหาย เคยกินอยูเลนหัวมาดวยกัน จะตองมาพลัดพรากจากกัน ไปอยูคนละที่ คิดถึง คุณเชยที่บานก็พอจะอุนใจ แตพอคิดถึงคุณชิตและพอเพิ่มก็หนักใจขึ้นมาอีก พอคิดไปถึง คุณอุนพลอยก็นอน เหงื่อแตก เพราะถาตองไปอยูบานเดียวกับคุณอุนตลอดไป ชีวิตอนาคตของพลอยก็คง ไมผิดกับนรก ถึงวันนัดไวกับคุณเชย คุณสายก็รีบแตงเนื้อแตงตัวออกไปแตเชา ทีแรกคุณสายเรียกพิศจะเอาตามหลัง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy113.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๓ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 5

ไปดวย แตนางพิศกลับบอกวา "อิฉันไมไปกับคุณละเจาคา ใหผาดไปดีกวา" "ดูนางพิศซี !" คุณสายขึ้นเสียง "ทําไมถึงไมไป" "คุณจะใชบาวไปไหนบาวก็ไปทั้งนั้น" นางพิศอธิบาย "ยกเวนบานตึกฟากขะโนนแหงเดียว บาวเกรงวา จะเกิดเรื่อง" "เกิดเรื่องอะไร ไปประเดี๋ยวเดียว" คุณสายยังไมยอม "ประเดี๋ยวเดียวก็เกิดไดเจาคา ถาคนมันมีเรื่องกันอยู ถาบาวไปประเดี๋ยวเกิดไปตบกับอีพวกคนบานนั้น ขึ้นมา ก็จะขายหนาลําบากใจแกคุณเปลาๆ" "เออ ! จริงของมัน" คุณสายบนพึมพํา "ฉันก็ลืมไป ไมไดเคยนึกเรื่องจะไปตบไปตีกับใครมานานแลว" แลวคุณสายก็เอาผาดตามหลังไปแทนนางพิศ โอกาสที่พลอยจะไดรูเรื่องราวทางบาน ก็เลยหมดไปดวย คุณสายหายไปทั้งวัน กลับมาถึงตําหนักเอาตอนบาย และเมื่อมาถึงก็โหวกเหวก บนวารอนบนวาเหนื่อย และบนวาเมื่อย ตองเรียกเด็กมาพัดใหเหงื่อแหง เมื่อเหงื่อแหงก็ตองอาบน้ําใหหายรอน อาบน้ําทาน้ําอบเสร็จ แลว ก็ตองลงนอนคว่ําใหเด็กเหยียบ จนกวาจะหายเมื่อย พลอยก็อดใจรอใหคุณสายบูรณะตนเอง ใหพนจาก ความบอบช้ําตางๆ ที่ไดรับจากการเดินทางเขาไปในคลองบางหลวง ดวยความกระหายอยากจะรูเรื่องวากิจธุระ ของเจาคุณพอนั้นเกี่ยวกับเรื่องอะไร คุณสายหายเหนื่อยแลวจึงเรียกพลอยเขาไปใกล แลวยื่นหอของใหพูดวา "พลอย เจาคุณพอทานฝากหีบหมากมาให นารักออก แกหอออกดูซี ไปไหนจะไดใชกิน" พลอยแกหอนั้นออกดู ก็พบหีบหมากหญานางเภาใบหนึ่ง เลี่ยมนากรูปรางกระทัดรัด ในหีบมีตลับหมาก ตลับยา ซองพลู ทําดวยนากครบเครื่อง ทั้งที่ใจยังอยากรูเรื่องมากกวา พลอยก็ยังอดใจไมได ออกอุทานวา "ตาย ! นาเอ็นดู ! ฉันไมรูจะถือไปกินที่ไหนหรอกคะคุณอา ไมเคยไปไหนไกลๆคนเดียวสักที ถาไปก็มี แต ตามเสด็จตองเชิญหีบหมากเสวย ไมรูวาจะไปถือซอนกันยังไง" "ทานอุตสาหสงมาใหก็เอาไวเถิด" คุณสายพูด "วันหนาวันหลังก็คงมีโอกาสไดใช" พลอยยังไมยอมลุกมาจากคุณสาย อยากจะถามใหรูเรื่องที่เจาคุณพอมาตามออกไปใหได จะวาเจาคุณ พอ ตามคุณสายออกไปทั้งที เพื่อที่จะไดมอบหีบหมากใบนี้เขามาใหตน ก็ดูจะผิดวิสัย เพราะทานจะฝากคุณเชย เขามา ใหก็ได แตเจาคุณพอจะตองเห็นวา เดี๋ยวนี้พลอยเปนผูใหญเต็มที่ทีเดียว เพราะหีบหมากเปนของให ผูใหญ ซึ่งทานไมเคยใหพลอยแตกอน พลอยนั่งอิดเอื้อนอยูนาน จะถามคุณสายตรงๆก็เกรงใจ กลัวคุณสายจะ หาวา ละลาบละลวง ครั้นจะไมถามเสียเลย ก็เก็บเอาความอยากรูอยากเห็นในหัวใจไวไมอยู พลอยกลืนน้ําลาย อยูสองสามครั้ง แลวก็หลุดปากถามออกไปวา "คุณอาคะ เจาคุณพอทานมีธุระอะไร" "ธุระอะไรก็ไมใชเรื่องของเด็ก !" คุณสายขึ้นเสียงดุเอาทันที ทําเอาพลอยตองสะดุงหนาเสีย แตพอคุณ สาย เห็นสีหนาพลอยก็สงสาร เปลี่ยนเสียงออนพูดวา "พลอยอยาถือคนแกเลย อาพูดเอะอะไปอยางนั้นเอง เจาคุณทานมีเรื่องสั่งอามาทูลเสด็จ อาก็ยังไมได เฝา จะพูดไปกอนก็ไมดี แตไมเปนไรหรอกพลอย ไมใชเรื่องเสียหายอะไร อยาหวงเลยแลวพลอยก็รูไปเอง" คุณสายพูดตัดบทมิใหพลอยถามอะไรตอไปไดอีก พลอยจึงเสไปถามถึงเจาคุณพอวา "เจาคุณพอเปนอยางไรบางคะคุณอา" "อาก็เห็นทานสบายดี" คุณสายตอบ "แตเทาที่อาสังเกตทานชราลงไปมาก แตก็นั่นแหละรูปธรรม นามธรรม ของอยางนี้เปนธรรมดา ไมไดเห็นทานนานเราก็ตองสังเกต ทานก็คงจะนึกวายายสายนี่แกแกไปแยะ เหมือนกัน" คุณสายพูดถึงตัวเองแลวก็หัวเราะ ตกเย็นวันนั้นชอยก็มากระซิบถามวา "ไดเรื่องหรือยังพลอย" "ยัง" พลอยเบะหนาตอบ "คุณอาบอกวาเปนเรื่องของผูใหญ ไมใชของเด็ก" "ถาอยางนั้นก็ตองเปนเรื่องของเด็กแนๆทีเดียว" ชอยตีความอยางมั่นใจ "ผูใหญละก็เปนอยางนี้เสมอ ถา มีเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับเด็ก ก็ตองปดไวกอนไมยอมบอกใหรู" "ชอยดูอะไรนี่ซี" พลอยยื่นหีบหมากที่เจาคุณพอสงมาใหชอยดู "เจาคุณพอทานฝากคุณอามาให" "แมเจาโวย !" ชอยรองขึ้นแลวเบิกตาโพลง "แลวนี่แมจะถือไปกินที่ไหนกันแมพลอยแมทูนหัว ราวกะ เครื่อง ยศทานผูหญิงนั่นแนะ !" "ฉันก็ไมรูเหมือนกัน" พลอยหัวเราะ ชอยถือหีบหมากเอาไปวางตรงหนา เปดออกแลวก็ทําทาหยิบขี้ผึ้งขึ้นสีปาก อยางหยิบโหยงเลิกคิ้ว ชําเลืองมาทางพลอยอยางไวทา แลวก็พูดวา "ถาจะกินหีบหมากอยางนี้ ก็ตองวางทาทานผูหญิงใหถูกตองหนอย พลอยดูฉันไวใหดีๆนะ เผื่อวาวัน หลัง ไดเปนทานผูหญิงกะเขาบางจะไดทําทาถูก นี่ ! สีปากทาทานผูหญิงมันตองอยางนี้ สีปากชาๆ นั่งตัวตรงๆ แอนเอวนิดหนอย เวลาสีปากตองเลิกคิ้วชําเลืองตากวาดไปทั่วๆ ดูวาใครเขาจะเห็นรัศมีเราบาง แลวจึงกินหมาก

http://www.geocities.com/siamstory/ploy113.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๓ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 5

กัดพลูชาๆเหมือนกับวากลัวพลูมันจะยับ เอาหมากพลูใสปากแลวอยาเคี้ยว ตองหยิบยาฝอยอยางดี ขึ้นมาสีฟน ชาๆ ตอนนี้จะคุยกะใครก็ได แลวก็เอาจุกยาที่ถืออยูในมือนั่นแหละ ออกใชบทประกอบคําพูด พอยามันจืดแลวก็ เอามันทิ้งกระโถน อยาไปจุกมันเขา เดี๋ยวจะกลายเปนไพรไป คนเขาจะไมรูวาเปนทานผูหญิง" พลอยตองนั่งหัวเราะอยูเปนนาน เพราะชอยออกทาสตรีบรรดาศักดิ์ไดอยางสนิทสนม "ชอยนี่ถาไปเปนทานผูหญิงจริงๆละก็ ฉันเห็ฯจะแยทีเดียว ทาทางมากเหลือเกิน" พลอยพูดพลาง หัวเราะพลาง "ฮะ ! ใครจะไปรู !" ชอยคุยโตขึ้นมาทันที "เปนทานผูหญิง ฉันก็ไมเห็นมันยากเย็นอะไรนักหนา ใครเขา เปน กันไดเราก็เปนไดเหมือนกัน ขอสําคัญนั้นพอเปนแลวกอดผัวใหดีๆ อยาใหไปหลงเมียนอยเสียเทานั้นเอง" คืนวันนั้นคุณสายขึ้นไปเฝาเสด็จอยูนาน จนดึกจึงไดกลับลงมา และเมื่อกลับมาถึงในหอง คุณสายก็ เตรียมตัวเขานอน ไมพูดจาวากระไร รุงขึ้นอีกวันหนึ่ง คุณสายก็ไมพูดถึงเรื่องที่ออกไปหาเจาคุณพอ คงทําการ ตางๆตอไปตามปกติ ตกบายพลอยก็ขึ้นไปเฝาเสด็จอีกครั้งหนึ่ง ตามที่เคยปฎิบัติทุกวัน เสด็จประทับ ทรงรอย มาลัยอยู พอพลอยขึ้นไปถึงก็รับสั่งใหเขาไปใกลๆ แลวทรงใชใหพลอยรอยมาลัยอีกทอนหนึ่ง เพื่อจะตอ กับ ทอนที่กําลังทรงอยู พลอยหมอบรอยมาลัยนิ่งๆอยูนาน เสด็จก็ไมรับสั่งวากระไร ขาหลวงคนอื่นที่หมอบเฝาอยูกอน เห็น พลอย ขึ้นมาแลว ก็คลานถอยลงไปขางลาง เพื่อทํากิจธุระสวนตัว ในที่สุดเสด็จก็รับสั่งขึ้นวา "พลอยปนี้อายุเทาไรแลว" "สิบแปดมังคะ" พลอยทูล "เร็วจริง" เสด็จรับสั่ง "ตอนเจายังเปนเด็กวิ่งเลนอยูนั้น ดูเหมือนเมื่อวานซืนนี้เอง เผลอประเดี๋ยวเดียว เปนสาวใหญแลว" เสด็จทรงรอยมาลัยเงียบๆไปอีกครูหนึ่ง แลวก็รับสั่งวา "นางพลอย พอเจาเขาใหสายมาบอกขาวา เขาจะขอลาเอาตัวเจาออกไปแตงงาน เจาจะวาอยางไร" พลอยสะดุงสุดตัว ใจหายวาบ แทบจะแทรกพื้นตําหนักลงไป ดวยความตกใจ หนาของพลอยซีดเผือดลง ทันที เรื่องธุระของเจาคุณพอที่ตองตามตัวคุณสายออกไป ก็คือเรื่องนี้เอง แตพลอยก็มิไดคาดฝนมากอน เพิ่งมา ไดยินจากพระโอษฐเสด็จโดยกะทันหัน ไมรูจะคิดอยางไรถูก ไมรูจะทูลอยางไรถูก พลอยวางเข็ม รอยดอกไมลง ตรงหนา ดวยมืออันสั่น รวบรวมสติเทาที่มีเขาใสตัว แลวก็ทูลวา "หมอมฉันยังไมสมัครใจ มังคะ" "ทําไม มีเหตุอะไรหรือ" รับสั่งถาม "หมอมฉันยังอยากอยูฉลองพระเดชพระคุณไปกอน ยังไมเคยคิดเลยมังคะ เรื่องมีเหยามีเรือน" พลอยทูล ตอบตะกุกตะกัก "เจาก็โตเปนผูใหญแลว เรื่องมีเหยามีเรือนถึงยังไมเคยคิดก็ควรคิด" เสด็จรับสั่ง "เรื่องที่เจาคิดจะอยูกับ ขา ตอไปนั้น ขาก็ขอบใจ แตเจาควรจะคิดเสียใหดีๆ อายุขาก็มากขึ้นทุกวัน หมูนี้ก็เจ็บๆไขๆ ถาขาเกิดมาแลว ไมรูจักตาย อยูเลี้ยงเจาไปไดเรื่อยๆ ขาก็จะไมวาอะไรหรอก แตขากลัวขาจะตายเสียกอน แลวเจาจะเปนอยางไร เจานายนั้นตายเร็วนัก เจาเขามาอยูในวังก็หลายปแลว ไมไดสังเกตดูบางหรือวา แตกอนครึกครื้น เจานายอยู เต็ม ทุกตําหนัก ขาน้ําคนหลวงก็มากมาย แตเดี๋ยวนี้..." เสด็จทรงหยุดครูหนึ่ง แลวก็รับสั่งตอไปวา "เดี๋ยวนี้ดูซิ ตําหนักวางลงหลายตําหนักแลว ตําหนักไหนเจาของตายก็ตองปด ปลอยใหชํารุดทรุดโทรม ไป ทุกวัน คนที่เหลืออยูก็ไมมีปญญาจะซอมจะทํา ตําหนักนี้ก็ตองเปนไปอยางนั้นวันหนึ่ง เจามีโอกาสที่จะตั้งตัว เปนหลักฐานดีกวาคนอื่น เคราะหเจายังดีที่พอเขาไมทอดทิ้ง มีเหยามีเรือนแลวจะไดเปนที่พึ่งแกตัวเอง สําหรับ ขานั้น ถึงเจาจะออกไปอยูขางนอกแลว ถาเจาคิดถึงก็ไปมาหาสูได ไมใชวาอยูไกลอะไรหนักหนา" พลอยหมอบกมหนานิ่ง จะรอยมาลัยตอไปก็ไมสําเร็จ เพราะน้ําตาที่เริ่มจะไหลรินออกมานั้น กลั้นไวไม อยู เสียแลว "อาวดูซี ! พูดดีๆกลับมาบีบน้ําตารองไห" เสด็จรับสั่ง "เจาก็เหมือนนางพวกชาววังทั้งหลายนะแหละ เปนโรคบอน้ําตาเปด ดีใจก็รองไห เสียใจก็รองไห จนขาดูไมออกวาพวกเจารองไหทําไมกัน ไมรูไปเอาน้ําหู น้ําตา มาจากไหน" "หมอมฉันไมอยากตองออกไปจากที่นี่มังคะ" พลอยทูลตอบตะกุกตะกัก "โฮย ! ดัดจริต !" เสด็จรับสั่งสวนขึ้นมาทันที "นี่ลองขาขัดคอ ไมยอมใหออกไปมีลูกมีผัวกัน ก็จะบีบ น้ําตา รองไหอีกนะแหละ เที่ยวดาขาวากดขี่บังคับขารูหรอก ครั้นพอขาเอออวยเห็นดวย ก็กลับมาบีบน้ําตาคิด ถึง พระเดชพระคุณไมอยากจะออกไป ขาเอาใจพวกเจาไมถูกหรอก !" เห็นเสด็จรับสั่งอยางเอาจริงขึ้นมา พลอยก็ตองพยายามขมใจ เช็ดน้ําตาใหแหงแลวทูลวา "เจาคุณพอทานจะยกใหใคร หมอมฉันก็ยังไมทราบ คิดไมถูกวาจะตัดสินอยางไร" "เขาบอกขาเขามาแลว แตพอขาพูดประปรายก็ดัดจริตรองไห เสียน้ําตาเปนเผาเตา ขาจะไปบอกอะไร ทัน" เสด็จรับสั่ง "ผูชายเขาก็ดีออก อายุอานามก็พอสมควรไมเด็กไปไมมากไป เขาเปนมหาดเล็กรับใชเวรศักดิ์

http://www.geocities.com/siamstory/ploy113.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๓ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 5

ชื่อนายเปรม กกพระยาโชฎึก เงินทองเขามีเยอะแยะ เจายังไมพอใจอีกหรือ รูจักเขาบางหรือยัง" "เคยเห็นหนากันมังคะ แตไมเคยรูจักพูดจากัน" พลอยทูลทั้งที่ตัวนั้นเย็นเหมือนน้ําแข็ง เมื่อทราบวา คุณ เปรมไปสูขอตนกับเจาคุณพอ และเจาคุณพอก็เห็นดวย แมแตเสด็จก็ไมทรงขัด ใจพลอยนั้นเตนแรง จะวาดีใจ ก็ ไมใช จะวาเสียใจก็ไมเชิง เรื่องคุณเปรมเปนเรื่องที่พลอยอธิบายไมถูก และการที่คุณเปรมไปสูขอพลอย ก็ไม แปลกในนักเมื่อรูแน เพราะในใจจริงของพลอยนั้น ก็คาดวาจะเปนอยางนั้นสักวันหนึ่ง "แลวยังไง" เสียงเสด็จรับสั่งถาม "หมอมฉันไมเคยนึกรักใครเขาเลยมังคะ" พลอยทูลแกตัวไปตามเรื่อง "ชะ ! ไปเอาความรักขึ้นมาอาง" เสด็จรับสั่งตอ "ก็เจาอยูในนี้ จะไปเที่ยวรักกับผูชายไดอยางไร ถึงจะรัก ไมรักนั้นไมสําคัญ อยูกินกันไปแลวก็รักกันไปเอง ขอสําคัญมันอยูที่วาผูใหญของเจาเขาเห็นสมควรจะปลูกฝง ใหเจาเปนหลักฐาน เจารูสึกวามีหนาที่จะตองทําตามผูใหญหรือเปลา ที่ผูใหญเขาคิดจัดการใหก็เพราะเขารักเจา จึงอยากจะใหเจาไดดี คิดดูใหดีๆเถิดพลอย สมมติวาเจาไดผัวที่รักใครกันมากอน เจาไปอยูกับเขาก็มีแตความ รัก ของเจาเองกับของเขาเปนหลัก ถาวันไหนหมดรักกันขึ้นมาก็หมดสิ้นทุกอยาง อยูดวยกันตอไปไมได แตถา ไดผัว ที่ผูใหญปลูกฝงให เห็นดีพรอมกันทุกฝาย เจาก็จะอยูกันไปเพราะมีความรักของพอแมเปนหลัก เจามี หนาที่ ปฏิบัติตามที่ผูใหญเห็นดี เจาก็จะอยูกันไปยืด เพราะความรักความเจตนาดีของพอแมนั้น ไมมีที่สิ้นสุด" เสด็จหยุดรับสั่งหันมาทอดพระเนตรพลอย ซึ่งหมอบกมหนานิ่งอยูเฉยๆ แลวก็รับสั่งขึ้นวา "เจาจะวาอยางไร" พลอยไมรูวาจะทูลอยางไรถูก เทาที่เสด็จรับสั่งมาตลอดก็พอจะเขาใจไดวา มีพระประสงคที่จะใหพลอย ออกไปมีเรือน ตามแตเจาคุณพอจะเห็นดี พลอยถูกเลี้ยงโดยรับการอบรมมาแตเล็ก มิใหขัดพระประสงคเจานาย ของตน และเมื่อโตขึ้นมาก็ไดเห็นแตพระเมตตาของเสด็จ จนรูสึกในใจของตนอยูเสมอวา ไมมีสิ่งใดที่จะยากเกิน ไป หรือสุดวิสัยในการที่ตนจะปฏิบัติตามพระประสงค แตเรื่องที่จะตองแตงงานกับคุณเปรมนี้ พลอยยังลังเลใจ อยูมาก จะทูลขัดขืนตอไป ก็ใหเกรงเสียเปนที่สุด จะทูลตอบตกลงก็อาย ไมสามารถจะออกปากได พลอยนิ่ง อึกอัก อยูครูหนึ่งแลวก็ทูลวา "นิสัยใจคอของเขาจะเปนอยางไร หมอมฉันก็ไมทราบ ยังนึกกลัวอยู อยากจะขอผลัดเวลาตอไปอีก" "กลัวอะไรกัน" เสด็จรับสั่ง "ถาเจากลัววาจะเปนแมเรือนใหเขาไมได ก็ไมตองวิตกในขอนั้น ขาไมไดเลี้ยง เจา มาเปลาๆ แตคอยดูแลอบรมสั่งสอนเจาอยูเสมอ ถาจะพูดถึงวิชาความรูทางการบานการเรือน เจาก็ไมนอย หนาใคร พูดถึงสกุลรุนชาติเจา ก็นับวาดีกวาคนอื่นๆอีกมาก ถาจะพูดถึงสมาคมที่เจาไดผานมาแลว เจาก็เคยอยู ในที่สูง ไดรูไดเห็นอะไรมามาก เจาจะไปกลัวอะไรหนักหนา" เสด็จหยุดรับสั่งครูหนึ่งแลวก็รับสั่งตอไปวา "ถาเจาวิตกถึงฝายผูชาย เจาก็ควรจะคิดดูใหดีวา ผูใหญของเจาเขาพรอมใจเห็นวาดี แตเจาก็คงจะนึก อยางเด็กสมัยนี้วาผูใหญไมรูเรื่อง เปนคนโบราณคร่ําครึ หรือไมอยางนั้นก็เห็นแตได เห็นเขาร่ํารวยก็จะยกลูก ใหเขาไป ถาเจานึกอยางนั้นจริง เจาก็เขาใจผิด เจาควรจะนึกวาผูใหญนั้นรักเจาเจตนาดีตอเจาเสมอ กอนที่ ผูใหญจะปลงใจเห็นดี เขาก็คงจะคิดแลวคิดอีก วาผูชายเขาเปนคนดี จะพอเลี้ยงเจาใหมีความสุขไดหรือไม เขา คงไมดูแตเพียงลวกๆ แตตองดูจนละเอียดลออ ถาผูชายไมดีจริงใครจะไปยกลูกสาวให พอของเจา เขาก็มิใชคน ยากจน จะแตงลูกสาวเพื่อหวังสมบัตินั้นเห็นจะไมมี และเทาที่ขารูจักเขามาก็เปนคนละเอียด ทําอะไรไมผิด พลาด จะมียุงๆอยูก็เรื่องที่เกี่ยวกับนางแมของเจาเทานั้น แตขารูจักนางแชมดี มันเลี้ยงยาก จะไปติเขาฝาย เดียวก็ไมได" เสด็จทรงนิ่งรอยมาลัยตอไปอีกครูใหญๆ แลวก็รับสั่งขึ้นอยางเด็ดขาดวา "เฮอ ! ขาก็เพอไปคนเดียวตั้งนานแลว วาไปจริงๆ ก็ไมใชกงการอะไรของขา ขาสั่งใหเขาไปบอกพอเจา แลววาขาไมขัดของ ถาเจาจะยังไมตกลงปลงใจ หรือจะอาละวาดกันอยางไรอีก ก็ไปพูดกันเอง ตามประสาพอ ลูกเถิด" พลอยหมอบรอยมาลัยถวายไปจนเสร็จ แตเสด็จก็มิไดรับสั่งถึงเรื่องนั้นอีกเลย คงรับสั่งเรื่องอื่นตอไป เหมือนกับจะประทานโอกาสใหพลอยคิด ตัดสินใจในโชคชะตาของตนเอง ในขั้นสุดทาย พลอยสวนกับชอยที่บันไดตําหนัก เมื่อตอนเดินกลับลงมา ชอยเห็นสีหนาพลอยไมปกติก็เปลี่ยนใจ ไม ขึ้นไปเฝา แตเดินตามพลอยเขามาในหอง คุณสายไมอยูในหอง แตไปอยูเสียที่หองเครื่อง สองคนจึงไดพูดกัน ตามลําพัง "พลอยเปนอะไรไป หนาไมคอยดี" ชอยถามขึ้น "ถูกกริ้วหรือ" "เปลา" พลอยตอบ "ฉันกลุมใจมากเทานั้นเอง" "อาวมีเรื่องอะไรกลุมใจอีกละ" ชอยถาม พลอยมองไมเห็นทางอื่น นอกจากจะเลาเรื่องใหชอยฟงโดย ตลอด เปนคนแรก แตพอเริ่มเลาเรื่องไปไดหนอยหนึ่ง ยังไมทันจะบอกวา ใครเปนผูที่ไปสูขอตนจากเจาคุณพอ ชอยก็ทักขึ้นกอนวา "เดี๋ยวกอนพลอย ไมตองเลาละเอียด พอเปรมโฉมเอกนั่นใชไหมละ"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy113.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๓ (หนาที่ ๑)

Page 5 of 5

พอพลอยพยักหนารับคํา ชอยก็เอามือตบขาตนดังฉาด แลวอุทานวา "ฉันนึกไวแลวไมผิดทีเดียว มัน สังหรณใจมาตั้งแตแรกแลว ! แลวนี่พลอยจะทําอยางไรตอไป" "ฉันก็ไมรูจะทําอยางไรถูก อยากจะปรึกษาชอยอยูเหมือนกัน ฉันเกิดมาเปนตัวก็ไมมีใคร นอกจากเจา คุณพอและเสด็จ ทานมีพระเดชพระคุณแกฉันมากมายสุดที่จะประมาณ เจาคุณพอทานก็ใหกําเนิด เสด็จก็ทรง ชุบเลี้ยงมาจนเปนตัว ใจฉันเองยังไมคิดจะมีเหยามีเรือนเลย แลวคุณเปรมฉันก็ยังไมรูจัก อยูๆฉันจะไปแตงงาน กับเขาไดอยางไรได แตถาฉันบอกปดไป ฉันก็จะตองขัดใจเจาคุณพอ และขัดพระทัยเสด็จ กลายเปนคนเนรคุณ ถึงใครเขาจะไมวา ฉันก็ตําหนิตัวฉันเองไปจนตาย แตครั้นจะรับปากไป ฉันก็ไมแนใจวา ตอไปจะเปนอยางไร ฉันกลัวเหลือเกิน ชอยชวยฉันคิดบางเถิด ฉันไมรูจะคิดอานอยางไรถูกแลว" "เอ ! ฉันไมรูจะแนะนําอยางไรเหมือนกัน" ชอยบนพึมพํา "ดีไมดี แนะนําไปผิดตามประสาของฉัน พลอย ก็จะมาซัดไดทีหลัง" "ชอยเห็นอยางไรก็พูดออกมาเถิด ฉันไมซัดหรอกเพราะชอยจะพูดผิดหรือพูดอยางไร ฉันก็จะคิดเอาเอง" ชอยนั่งคิดอยูนาน ครั้งนี้เปนครั้งแรกที่พลอยเห็นชอย ใชเวลาตรึกตรองนานถึงเพียงนี้ แตในที่สุด ชอยก็ พูดขึ้นวา "จะผิดหรือถูกฉันไมรูนะพลอย แตถาเปนใจฉัน ฉันก็จะตามผูใหญ" พลอยมองดูหนาชอยอยางสงสัย เพราะไมนึกวาชอย ผูซึ่งชอบขัดขืนคนอื่น ชอบมีความเห็น เปนของตัว เอง จะตัดสินใจตกลงงายๆเชนนั้น "พลอยถาจะแปลกใจละซี" ชอยพูดเมื่อเห็นพลอยมองดูตน "แตฉันคิดอยางนั้นจริงๆ ไมไดนึกถึงเรื่องเด็ก เรื่องผูใหญอะไรหรอก แตฉันนึกเอางายๆอยางนี้ ถาฉันจะมีเรือน ฉันอยากไดคนที่เขารักฉันจริงๆ ไมทอดทิ้ง คุณเปรมเขาติดตามพลอยมาหลายป พยายามจะเขามาถึงตัวดวยวิธีตางๆ แตพลอยก็ไมเลนดวย ฉันเองก็เคย ไปดาเขาตอหนาตอตา ถาเปนคนอื่นเขาก็คงเลิกความคิดไปนานแลว แตนี่กลับพยายามไมเลิก เขาหาจนถึง ผูใหญ ...แลวอีกอยางหนึ่ง ฉันอยากใหพลอยมีเรือน คนบางคนเขาทิ้งแมพลอยไปงายๆ เหมือนกับวาเราไม สําคัญ จะไดรูตัวกันเสียบางวา เราก็ไมใชคนสิ้นไรไมตอก" อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy113.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๓ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๓ (หนาที่ ๒) คําพูดของชอยวรรคสุดทาย ดูเหมือนจะมาสะกิดหัวใจ ทําใหพลอยสิ้นกังขาและเกิดมานะขึ้นทันที ชอย พูดถูกเปนหนักหนา การกระทําของพี่เนื่องที่แลวมาบงใหเห็นชัดวา พลอยเปนคนไมสําคัญ พี่เนื่องนึกจะทํา อะไรก็ตามแตใจตัว พลอยมิไดเปนเครื่องเหนี่ยวรั้ง หรือเปนคนที่พี่เนื่องจะตองคํานึง พลอยไมเคยรูสึกโกรธพี่ เนื่อง หรือมีความอาฆาตแมแตนอย แตตั้งแตเกิดเรื่องนั้นมา ความรูสึกวาตนเอง หมดความสําคัญนั้น เปนตน เหตุแหงทุกขที่อยูในหัวใจ พลอยพิจารณาความรูสึกของตนเอง ก็พบความจริง ที่ทําใหตองแปลกใจ เพราะใน ระยะเวลาที่ผานมานั้น คุณเปรม หรือความเขาใจวาคุณเปรมยังสนใจในตนอยู ไดเปนเสมือนเครื่องถวงมิให พลอยตองปลงใจแนนอนไปวา ตนนั้นมิไดมีความสําคัญสําหรับใครเลยในโลก ถาจะเปรียบหัวใจพลอยเหมือน กับเรือนอย ที่กําลังแลนฝากระแสธารอันเชี่ยวของชีวิต การกระทําของพี่เนื่องนั้น เกือบจะทําใหเรือนั้นเสียหลัก แทบจะลมลง แตความสนใจของคุณเปรม ซึ่งพลอยนึกวาตนไมนิยมยินดีนั้นเอง กลับเปนสิ่งที่ชวยประคองให เรือนอยนั้น แลนฝาคลื่นลมมาได พลอยมิไดเคยนึกอยางนี้มาแตกอน แตคําพูดของชอยเพียงไมกี่คํา ก็ทําใหนึก ได ชอยพูดถูกแททีเดียว คนที่เขาทิ้งเราไปงายๆ เหมือนกับวาเราไมสําคัญ จะไดรูตัวกันเสียบางวา เราก็ไมใช คนสิ้นไรไมตอก ...อีกอยางหนึ่งทั้งเจาคุณพอ และเสด็จมีความเห็นพองตองกันวา คุณเปรมนั้นคูควรกับพลอย ผูมีพระคุณเพียงสองคนในชีวิต ปรารถนาจะใหพลอยแตงงานกับคุณเปรม ทั้งสองทานไมเคยเรียกรองสิ่งใดจาก ตนเลยตั้งแตเกิดมาเปนตัว ครั้งนี้เปนครั้งเดียว ที่ทานแสดงความปรารถนาของทานใหปรากฏชัด พลอยรูสึกวา หนาที่ที่ตนจะหลีกเลี่ยงมิได ก็คิดตองยอมสละตนสนองความปรารถนาของทานทั้งสอง ตั้งแตพลอยเริ่มมีความ คิดมา ก็เคยนึกอยูบอยๆวา สําหรับเจาคุณพอและเสด็จนั้น ถาหากวามีความจําเปนจะตองสละชีวิตของตน ให แกทานทั้งสองแลว พลอยก็จะยอมสละชีวิตนั้นอยางชื่นตา คราวนี้พลอยไมตองถึงกับสละชีวิตใหแกผูมีพระคุณ สิ่งที่ทานขอใหทํา ก็เพียงเสี่ยงตออนาคตที่ตนเองยังมองไมเห็นวา จะเปนอยางไรเทานั้นเอง อนาคตที่ทานผูมี พระคุณมองเห็นวา จะแจมใสดวยสายตาอันไกลของทาน แตตนเองยังไมปลงใจเชื่อสนิทวาจะเปนเชนนั้น พลอย นึกอยางนี้แลว ก็ตัดสินใจถูกวาตนควรจะทําอยางไร ทําใหเบาใจลงไปถนัด มาเถิดชีวิต มาเถิดอนาคตและความ ไมแนนอน ทั้งหลาย พลอยยอมพลีตนเปนเครื่องบูชาความดีทั้งหลาย ที่ไดรับมาในอดีตจากผูมีพระคุณทั้งสอง ทาน ถาหากวาการตกลงใจของพลอยจะไมบังเกิดผลอื่นใด นอกจากจะทําใหเจาคุณพอและเสด็จ ไดรับความปติ แมแตเพียงชั่วครูวา เด็กคนหนึ่งที่ทานไดใหกําเนิด ไดชุบเลี้ยงมานั้นอยูในโอวาท พลอยก็พอใจวา ไดสนองคุณ ทานเพียงแคนั้น คุณสายเดินกลับจากหองเครื่องเขามาในหองเงียบๆ เห็นพลอยนั่งอยูกับชอยสองคน ก็ชักสงสัยถามขึ้น วา "พลอย เสด็จรับสั่งอะไรดวยหรือเปลา" "รับสั่งแลวคะคุณปา ฉันกําลังปรึกษาชอยเขาอยูเดี๋ยวนี้" "แมเอย ! แมที่ปรึกษาใหญ !" คุณสายพูดประชดชอยเสียกอนทีเดียว "แลวหลอนใหคําปรึกษาหารือ วา อยางไรบาง ถาจะดีๆทั้งนั้นละซี ผูใหญจะเห็นดีอยางไร ก็ตองขัดขืนไวกอนกระมัง" "แน ! ดูคุณอาซี ! หาความฉันเปลาๆ !" ชอยรองลั่น "ฉันยังไมไดพูดอะไรสักที" "โอย ! ไมตองมาปดฉันหรอก" คุณสายไมฟงเสียง "ฉันรูหรอกวาคนสมัยนี้เขาเปนอยางไรกัน ผูใหญจะ พูด จะแนะนําอยางไร ก็ตองเถลไถลไปเสียใหตรงกันขาม ไมงั้นไมโกไมเก กลายเปนคนหัวโบราณคร่ําครึ คน อยางหลอนนะ พออาปากออกมาฉันก็เห็นขี้ฟนเสียแลว" แทนที่ชอยจะโกรธตีโพยตีพายอยางเคย ชอยกลับสะกิดเขาพลอย แลวพูดวา "พลอยชวยบอกคุณอาทีเถิดวา ฉันพูดวาอยางไร ฉันพูดเองเทาไรก็ไมมีวันเชื่อ ฉันมันคนขี้ฟนมากเสีย แลว" "ชอยเขาไมไดวาอะไรหรอกคะคุณปา" พลอยแกแทน "เขาบอกวาถาเปนตัวเขาๆก็จะตามใจผูใหญ สุด แลวแตทานจะเห็นดี" คุณสายทรุดตัวลงนั่ง ตีหนาเหมือนกับวาไมเชื่อหูตนเอง แลวพูดวา "โอย ! อยามาแกตัวแทนกันเลย ฉันไมเชื่อหรอก คนอยางยายชอยพูดอยางนั้น ก็ผิดไปละ !" "อาวจริงๆนะคะคุณปา" พลอยยืนยัน คุณสายเหลียงมองดูชอยอยางฉงนสนเทห แลวก็ถามวา "ชอยเปนอะไรไปหรือเปลา ไมสบายหรือ"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy113_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๓ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 5

ชอยหัวเราะอยางขบขัน แลวตอบวา "เปนโรคขี้ฟนมากยังไงละคะ คุณอาก็รูอยูแลว" คุณสายคอนขวับ พูดดังๆขึ้นกับฝาหองวา "วันนี้ถาจะฝนตกใหญทีเดียว ของไมเคยเปนก็เปนไปได ไมนาเชื่อเลย" แลวคุณสายก็หันมาถามพลอย วา "แลวเสด็จรับสั่งวาอยางไรบาง" "รับสั่งวาไมทรงขัดของ แลวแตจะไปตกลงกันเองระหวางฉันกับเจาคุณพอ" พลอยตอบ "แลวอยางงั้นพลอยคิดอยางไร" พลอยบายเบี่ยงไมตอบปญหาคุณสาย เพราะจะตอบวาตนตกลงใจอยางที่คิดไว ก็ยังอายนัก พลอยกลับ โยนปญหากลับไปวา "ฉันไมรูจะคิดอยางไร สุดแลวแตคุณปาจะเห็นสมควร เพราะคุณปาก็เลี้ยงฉันมาแตเล็กๆ" คุณสายมองดูพลอยแลวยิ้มอยางปลื้ม แตปากนั้นพูดวา "ปาไมกลาตัดสินอะไรทั้งนั้นแหละพลอย เสด็จวันนี้ทานก็รับสั่งดีอยู แตถาปาเขาไปเกี่ยวของในตอนนี้ ที หลังเกิดมีอะไรไมพอพระทัยขึ้นมา หรือทานเกิดคิดถึงพลอยขึ้นมา ทานก็จะมาดาเอาปาเขาวา นางสายมันหา ผัวใหคนของทาน จนทานไมมีใครใช ปาไมพูดหรอกเข็ดแลว !" "ถาจะใหดีละก็" คุณสายพูดตอ "พลอยเก็บไวพูดกับเจาคุณพอทานเองดีกวา ทานสั่งเขามาวา อีกสอง สามวันจะใหแมเชยมารับออกไปบาน ทานอยากจะพูดเรื่องนี้กับพลอยเอง ปาทูลเสด็จไวแลว" คําพูดของคุณสายทําใหพลอยโลงใจขึ้นมาก เพราะไมตองแสดงความคิดเห็นของตนอยางไรตอไปอีก เมื่อถึงเวลาที่คุณเชยมารับ พลอยก็จะไดออกไปหาเจาคุณพอที่บาน เพื่อเรียนใหทานทราบวา พลอยจะปฏิบัติ ตามใจทานทุกอยาง ซึ่งพลอยจะพูดไดแตกับทานคนเดียวเทานั้น ขาวเรื่องพลอยจะออกไปมีเรือน กระจายไปทั่วอยางไมนาเชื่อ เพราะแตแรกก็ดูเหมือนจะมีคนรูเรื่องไมกี่ คน แตในที่สุดก็รูกันทั่วไปในหมูคนที่รูจัก ถึงแมวาจะไมมีใครพูดเรื่องนี้ตรงๆกับพลอยก็ตาม แตทุกคน พูดให เปนที่เขาใจวา พลอยเปนคนมีโชคดี ควรจะยินดีและอยูในฐานะที่จะตองรับความยินดีจากคนอื่น และจะเปน เพราะอะไรก็ตามที ขณะที่ไดยินใครพูดถึงคุณเปรมมหาดเล็ก ซึ่งเดี๋ยวนี้มีคนรูจักมา พูดถึงกันบอยๆ พลอยก็ เริ่มรูสึกตัววาตนเปนเจาขาวเจาของคุณเปรม จนบางครั้งก็นึกอาย คุณเชยเขามารับพลอยไปบาน เพื่อไปพบกับเจาคุณพอตามที่นัดไว และบอกใหรูดวยวาไปพบ เพียงชั่ว ครูเดียว แลวก็จะพากลับมาสงในวังกอนประตูปด เมื่อทูลลาเสด็จแลว พลอยก็ออกจากในวังไปลงเรือ ที่มาจาก บาน มีนางพิศตามหลังไปอยางไมเต็มใจ ระหวางที่นั่งอยูในเรือ คุณเชยก็พูดขึ้นวา "แมพลอย ไปบานคราวนี้ฉันขออะไรสักอยางหนึ่งไดไหม" "ไดสิคุณเชย" พลอยตอบ "คุณเชยจะขออะไร" "ฉันอยากขอใหแมพลอย อยาไปเกี่ยวของกับคุณอุนเธอเลยไดไหม" "เอะ ! ทําไม" พลอยพูดอยางไมเขาใจ "ก็ฉันก็ไมเคยไปเกี่ยวอะไรกับเธอสักที เพียงแตไปถึงก็ไปไหว กอนจะกลับก็ไปลา เพราะถึงจะอยางไรเธอก็เปนพี่เทานั้นเอง ไมเห็นจะเปนอะไรเลย" "เพียงแตเทานั้นก็เถอะ คราวนี้อยาไปทําดีกวา เราไปถึงก็ไปหาเจาคุณพอ แลวแมพลอยก็มาที่หองฉัน กินขาวเสียที่นั่น ฉันจะพามาสง ฉันขี้เกียจมีเรื่อง" "มีเรื่องอะไรคุณเชย" พลอยยังไมเขาใจอยูนั่นเอง "คุณอุนหมูนี้เธอเปนอยางไรก็ไมรู" คุณเชยเริ่มอธิบาย "เธอพูดอยูเสมอวาชาตินี้เธอจะไมมีเรือน เพราะ เธอไมเห็นผูชายคนไหนจะคูควรกับเธอ และเธอจะอยูกับเจาคุณพอไปจนกวาจะตายจากกัน แมพลอยจําได ไหม" "จําได แตฉันยังไมเห็นจะเกี่ยวอะไร" พลอยตอบ "นั่นซีฉันก็ไมเห็นเกี่ยวอะไรเหมือนกัน แตคุณอุนนั้นใครจะมีอะไรเกินกวาเธอไปไมได เปนตนวาเธอไมมี ผัว คนอื่นอยางฉันอยางแมพลอยก็มีไมไดเหมือนกัน เธอเห็นเปนบาปกรรมอยางหนักทีเดียว ที่แมพลอยมีคน มาสูขอ ครั้งนี้ ยิ่งเจาคุณพอทานอออวยดวย เธอก็ยิ่งอารมณเสียใหญ แตเธอไมกลาขัดใจทาน ไดแตมาไลเบี้ย เอากับนองๆ อยางฉันก็ตองหลีกเลี่ยงเธออยูทุกวัน พอไมใหเกิดเรื่องเทานั้น แตฉันกลัววาแมพลอยไปถึงบาน แลว ไปใหเธอเห็นหนา เธอจะกรี๊ดทีเดียว แมพลอยจะไปทนไหวหรือ ถึงแมพลอยทนไหว ฉันก็ทนไมไหว เกิด เรื่องกันขึ้น ก็จะรอนใจเจาคุณพอทานเปลาๆ แลวอีกอยางหนึ่ง แมพลอยไปบานวันนี้ก็จะไปประเดี๋ยวเดียว ใช วาจะไปอยูนานอยางคราวกอน จะไปใหเกิดเรื่องเกิดราวทําไม รอนใจเปลาๆ" "ถาคุณเชยเห็นวา ฉันไมควรไปหาเธอฉันก็จะไมไป" พลอยตอบ "แตฉันยังไมเขาใจจริงๆวา คนอยาง คุณอุน ทําไมถึงเปนอยางนั้นไปได แลวก็ใชวาฉันจะวิ่งเตนจะไปมีลูกมีผัวเอาเองเมื่อไร เรื่องของผูใหญ ทานจัด ทั้งนั้น"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy113_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๓ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 5

คุณเชยถอนใจใหญ แลวก็พูดวา "แมพลอย ฉันเองก็ไมเขาใจอะไรหลายอยางเหมือนกัน แตในใจฉันนั้นยังนึกอยูเสมอวา คนอยางคุณอุน นั้น ถาเธอมีเรือนเสียไดจะดีมากทีเดียว บางทีเธอจะไมเปนพาลอยางนี้ ใจจริงฉันก็วาเธออยากมีเรือนกับเขา เหมือนกัน แต..." คุณเชยหยุดหัวเราะในลําคอ แลวก็พูดตอไปวา "แตมันติดอยูนิดเดียวที่ไมมีใครเขามาขอ" "คุณเชยเอาอะไรมาพูดก็ไมรู !" พลอยรองขึ้น "ถึงมาขอ เธอก็คงไมตกลงกระมัง" "ใครเขาจะกลามาขอ" คุณเชยยังคงยึดมั่นความเห็นเดิม "พอเห็นสีหนาเขาก็เปดหนีหมดแลว นากลัว ออก คนเราถาทําตัววิเศษจนเกินไป บางทีก็ลําบากเหมือนกัน" "แลวคุณเชยละ ไมคิดมีเรือนบางหรือ" พลอยถาม คุณเชยหัวเราะอยางใจเย็น แลวตอบวา "อยามาหวงฉันเลยแมพลอย ฉันไมเปนไรหรอก อยูตัวคนเดียวก็สบายดีถมไป ยิ่งไดเห็นนองสาวฉันมี เหยา มีเรือนเปนหลักฐาน ฉันก็สบายใจพอแลว แกลงจะฝากตัวฝากผีกับแมพลอยนี่แหละ" พลอยใจเตนขึ้นมาทันที เมื่อไดยินคําพูดของคุณเชย เริ่มเห็นวาตนเองมีภาระที่จะตองเอาใจ และปฏิบัติ ใหอยูในฐานะเปนที่พึ่งพํานัก แกพี่นองที่ตนรักอีกหลายคน ความไมแนนอนแหงอนาคตดูเหมือน จะเบาบางลง ไป เพราะหนาที่ที่พลอยรูอยูแลวนั้น บอกบังคับวาพลอยจะตองทําอยางไรตอไป เพื่อใหสมกับ ความรักและ ความดีของคุณเชยที่มีตอตนตลอดมา กอนเรือจะถึงบาน คุณเชยก็พูดขึ้นวา "คราวนี้เจาคุณพอทานสบายใจมาก เพราะแมพลอยคนเดียว ฉันขอบใจเหลือเกิน" เจาคุณพอออกมานั่งคอยรับพลอยอยูที่หนาตึก พอพลอยเขาไปถึงตัว ก็สังเกตเห็นไดทันทีวาทานปติ ปลื้มใจมาก ใบหนาของเจาคุณพอ ทําใหพลอยรูสึกดีใจ ที่ตนเปนคนทําใหทานไดรับความพอใจ และมีความสุข "เสด็จทรงสบายดีหรือพลอย" เจาคุณพอถามขึ้นกอน และเมื่อพลอยตอบรับวาเสด็จทรงสบายดี ทานก็ไต ถามทุกขสุขและคุยเรื่องอื่นๆ อยูอีกนาน จนคุณเชยที่นั่งอยูดวยในตอนแรก กระซิบวา "แมพลอยอยูคุยกับเจาคุณพอกอน ฉันจะไปสั่งใหเขาหาขาวไวใหกิน" แลวก็คลานเลี่ยงไปเสียอีกทาง หนึ่ง เมื่อคุณเชยหลีกไปแลว เจาคุณพอก็นั่งมองพลอยอยูอีกครูหนึ่ง แลวก็ปรารภขึ้นวา "พลอยเดี๋ยวนี้เปนผูใหญเต็มตัวทีเดียว พอไมไดพบนานแปลกตาไปมาก เมื่อรุนสาวเคยนึกวาพลอยโต ขึ้น จะเหมือนแม แตมาเดี๋ยวนี้ก็ไมเหมือน แมของพลอยเขาสวยผาดโผน สวยดวยทาทางและเวลาพูดจามีเสนห แตพลอยสวยกวา เพราะถึงจะนั่งนิ่งๆ ไมพูดจากับใคร พลอยก็ยังดูสวยอยูนั่นเอง" พลอยไดแตยิ้มตอบคําชมของเจาคุณพอ เพราะไมทราบวาจะตอบดวยถอยคําอยางไรถูก เจาคุณพอ เปลี่ยนทานั่ง กระแอมกระไออยูอีกครูหนึ่ง และจุดบุหรี่สูบหนึ่งตัว เพื่อเพิ่มความมั่นใจใหแกตัวเอง แลวก็ถาม ขึ้นมาเบาๆ เหมือนไมอยากใหใครไดยินวา "พลอย เรื่องที่พอใหแมสายเขาไปทูลเสด็จนั้น ทานรับสั่งวาอยางไร" "ทานรับสั่งวาไมทรงขัดของ แลวแตดิฉันจะตกลงกับเจาคุณพอเอาเอง" พลอยตอบตะกุกตะกัก เจาคุณพอนิ่งอึ้งไปอีกครูหนึ่ง เหมือนกับจะตรึกตรองเลือกหาคําพูด วาจะพูดกับพลอยวาอยางไรดี ในที่ สุดก็เอยขึ้นวา "แลวพลอยเห็นอยางไร" แตเจาคุณพอก็พูดตอไปทันทีวา "พออยากใหพลอยรูตัวเสียกอนวาพอไมบังคับ เรื่องจะมีเหยามีเรือนเปนเรื่องสําคัญ เปนเรื่องของพลอยจะตองคิดเอาเองมากอยู พอเปนผูใหญก็ไดแตคิดให เพราะอยากจะใหลูกไดดี ถาจะถามพอๆก็ตองบอกวา พอเห็นเขาสมควรทุกอยาง ถาพลอยไดคนอยางเขา พอก็ จะนอนตาหลับ แตนั่นแหละ ถาเผื่อวาพลอยยังมีอะไรติดขัด ก็บอกพอได อยากลัว บอกมาเถิดพอไมวา" พลอยตองนั่งกมหนาอยูนานเหมือนกัน กอนที่จะตอบเจาคุณพอ ใจนั้นอยากจะบอกใหทานรูวา ตนยอม สนองความตั้งใจของทาน เพราะอยากจะสนองคุณใหทานสบายใจ และเมื่อมีเรือนแลวก็จะพยายาม ปฏิบัติ หนาที่ใหดีที่สุด เพื่อมิใหทานตองผิดหวัง หรืออับอายขายหนา คนที่พลอยจะตองแตงงานดวยนั้น จะเปนคุณ เปรม หรือคนอื่นที่ไหนก็ตาม ถาเจาคุณพอเห็นดีแลว พลอยก็จะตามใจทานทั้งสิ้น เพราะเดี๋ยวนี้ พลอยถือวา การมีเรือนเปนการปฏิบัติหนาที่ตอผูมีพระคุณ มิใชเรื่องที่จะตามใจตัวเองอีกตอไป แตพอถึงเวลาที่จะพูดเขาจริง พลอยก็ไมสามารถจะบรรยายความคิดตางๆนั้น ใหออกมาเปนคําพูดได พลอยไดแตกมตัวลงหมอบ เพื่อให หนาที่กมมองดูกระดานนั้น ชิดกระดานเขาไปอีก แลวก็ไดยินเสียงตัวเอง ตอบเจาคุณพอวา "แลวแตเจาคุณพอจะเห็นสมควรเถิดเจาคะ ลูกไมขัด" พอพูดออกไปแลว เลือดก็วิ่งขึ้นหนาซูใหญ ทําให พลอยตองหมอบกมหนาไปอีก จนเกือบจะติดกระดาน เสียงเจาคุณพอหัวเราะเบาๆ อยางพอใจ แลวก็มีเสียงพูดขึ้นวา "อยาอับอายไปเลยพลอย ของอยางนี้เปนของธรรมดา พอดีใจนักที่ลูกอยูในโอวาท เปนบุญของเจา ที่ได อยูทันสนองคุณพอ และก็เปนบุญของพอที่ไดปลูกฝงเจาทันตาเห็น พลอยเปนคนเชื่อฟงผูใหญดีแลว พอแนใจ วาจะไมมีผิดพลาด เมื่อพลอยตกลงใจแลว ก็จะไดบอกรับหมั้นเขาไป" เจาคุณพอหยุดพูดอีกครูหนึ่ง แลวก็พูด ขึ้นวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy113_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๓ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 5

"เอะ ! นี่แมเชยเขาหายไปไหนเสียนาน ถาจะไปอยูในหองกระมัง พลอยไปคุยกับพี่ๆนองๆ ใหสบายใจ เถิดลูก นานๆจะไดมาบานสักที เห็นแมเชยเขาบนคิดถึงอยู พอจะเก็บเอาไวนาน เดี๋ยวเขาจะหาวา หวงลูกสาว" โชคชะตาของพลอยก็ถูกกําหนดดวยถอยคําเพียงเทานั้นเอง พลอยคลานผานเจาคุณพอไปตามเฉลียงหนาตึก แลวก็เขาไปในหองคุณเชย คุณเชยนั่งอยูในหองกับ หวาน ผูเปนนองสาวอีกคนหนึ่ง หวานเดี๋ยวนี้โตขึ้นถนัดใจ เรียกไดวาเปนสาวแลว และดวยเหตุที่หวานเปนเด็ก รางใหญ จึงดูตัวเปนสาวกวาอายุ ที่พอสังเกตวายังเปนเด็กสาวอยู ก็เพราะหวานยังไมไดตัดผม แตยังไวผมยาว ปลอยผมขางหลังยาวเพียงบา ผมขางหนาเกลาเปนผมโปรงตามสมัยนิยมในขณะนั้น คุณเชยเห็นพลอยเขาไป ในหอง ก็บอกหวาน ใหหาน้ําใหพลอยลูบตัว ลางหนาใหหายรอน และบอกใหพลอย ลองทาน้ําอบขวดหนึ่ง ที่ คุณเชยบอกวาหอมนัก เพิ่งไดมาใหมๆ พลอยลูบตัวทาน้ําอบแลว คุณเชยก็พูดขึ้นวา "หวานเขารองกับฉันมาหลายวันวา ถาแมพลอยมาถึงบาน เขาจะมาคุยดวย ทีแรกฉันไมยอม เพราะกลัว จะลําบาก แตแลวก็สงสารเลยเอาตัวมาไวดวย แมพลอยกลับแลวก็คงจะเกิดเรื่องกันอีก ฉันกลุมใจจริงทีเดียว" พลอยหันไปยิ้มกับหวาน และหวานก็ยิ้มตอบดวยความรัก ความเลื่อมใสอยางจริงใจ คุณเชยไมพูด ถึง เรื่องแตงงานกับพลอยเลย แตชวนพูดชวนคุยเรื่องอื่นตลอดเวลา ที่กินขาดวยกันในหอง และเมื่อกินขาวแลว ก็ ยังนอนเอกเขนกคุยกันอยูอีกนาน จนเวลาบายลง คุณเชยจึงชวนพลอยไปลาเจาคุณพอ เพื่อกลับเขาวังอยางที่ไดพูดกันไว เจาคุณพอ เดิน ออกมาสงพลอยที่เฉลียงหนาตึก และเมื่อพลอยเงยหนาขึ้นหลังจากที่ลงกราบลา เจาคุณพอก็สงถุงเงินให ถุง หนึ่ง พลางบอกวา "พลอยคงจะตองการใชเงินบางในระหวางนี้ เงินนี่ของพอใหพลอย จะใชจายซื้อหาอะไรที่จําเปน ก็ไป ปรึกษาแมสายเขาดู" พลอยรับถุงเงินจากเจาคุณพอและกมลงกราบอีกครั้งหนึ่ง แลวก็เดินมากับคุณเชยลงจากตึกมาที่ทาน้ํา พอเพิ่มนั่งอยูบนมายาวที่ทาน้ําอยางสบายอารมณ มีนางพิศนั่งอยูกับพื้น ทั้งสองคนกําลังคุยกันอยูอยางชื่นบาน พลอยไดยินเสียงพอเพิ่มและนางพิศคุยกันไดแตไกล พอพลอยเดินเขาไปใกล พอเพิ่มก็พูดขึ้นวา "แน ! แมพลอยมาแลว จะกลับหรือแมพลอย" วันนี้พอเพิ่มถึงจะหนาแดงอยูดวยฤทธิ์สุรา แตก็ยังพูดจาไดเปนปกติ ไมถึงเขาขั้นอาละวาด ทีแรกพลอย นึก วาจะไมยอมพูดกับพอเพิ่ม เพราะยังนึกเคืองเรื่องที่แลวๆมาไมหาย แตเมื่อนึกถึงอีกทีหนึ่ง ก็ตอบไปวา "พอเพิ่มสบายดีหรือ ถาจะเพิ่งกลับมาถึงกระมัง ฉันจะกลับเขาวังอยูเดี๋ยวนี้แลว" "ฉันกลับมานานแลว เจอะพิศเขานั่งอยูที่นี่คนเดียว ก็เลยนั่งคุยกับเขาอยู จะขึ้นไปหาบนตึก ก็กลัวจะถูก ไลลงมา" "ดูพอเพิ่มพูดสิ !" คุณเชยทวงขึ้น "ชอบพูดบอๆอยางนี้เสมอแหละ ขึ้นไปใครเขาจะไปไล นองนุงมา ก็ไม มีแกใจไปหา แลวยังมาแกตัว เที่ยวซัดคนอื่นเขา" "คุณเชยละก็ดุฉันเสียเรื่อยทีเดียว" พอเพิ่มหัวเราะอยางอารมณดี "ที่ฉันไมขึ้นไปก็เพราะเห็นวาอีก ประเดี๋ยว ก็คงไดพบกัน ฉันจะไดนั่งเรือไปสงดวยคน คุยกันในเรือก็ไดถมไป แลวอีกอยางหนึ่ง แมพลอยกะฉัน นี่ ตอไปจะไปมาหาสูกันทุกวันก็ยังได ไมลําบากเหมือนเดี๋ยวนี้ จริงไหมพิศ" พอเพิ่มพูดเปนนัย "จริ๊งจริงเทียวเจาพระคุณ" นางพิศตอบแลวก็หัวรออยางดีใจ แลวพูดวา "อีกหนอยพิศก็คงจะไดสบายเปนใหญเปนโตกะเขามั่ง อยูในวังทุกวันนี้มันคับแคบนัก ถามีบานชอง ของ เราเอง ใครจะไปมาหาสู ก็จะไดรับใหเต็มที่ทีเดียว" พลอยชวนคุณเชยลงเรือเขาไปนั่งอยูในเกง สวนนางพิศลงทายเรือ และพอเพิ่มโดดตามลงนั่งตอนหัวเรือ ติดมาดวย "แมพลอยรูไหม ระหวางนี้ใครคนหนึ่งเขากินไมไดนอนไมหลับ จะตายมิตายแหลอยูแลว" "ไมรูไมชี้ !" พลอยตอบอยางงอน "ใครจะเจ็บจะตาย ก็ไมเห็นวาจะเปนกงการอะไรของฉันเลย" "โธ ! ไมสงสารเขาบางหรือ" พอเพิ่มออด "เขาเดาไมถูกจริงๆ วาแมพลอยจะวาอยางไร เจาคุณพอทานก็ ยัง ไมตกลงอะไรเลย ทานตอบเขาไปวาตองถามพลอยดูกอน ...ฉันก็อยากจะรูวา แมพลอยของเจาคุณพอทาน คิดอยางไร ฉันจะไดไปบอกเขาใหทัน เพราะเพื่อนฉันคนนี้อาการหนักรอแรเต็มทีแลว ดีไมดีเดี๋ยวจะตายเสีย กอน" พลอยหันไปดูหนาคุณเชย เหมือนกับจะขอความชวยเหลือ ฝายคุณเชยก็ตอบแทนไปใหทันทีวา "ตายเสียก็ดี ถามบาๆบอๆ อะไรก็ไมรู" แตพอเพิ่มก็ไมถือสาตอคําพูดของคุณเชย พูดกับพลอยตอไปวา "แมพลอย ฉันก็รูวาฉันเปนคนสํามะเลเทเมา ไมไดเรื่องไมไดราวเทาไรนัก แตก็นั่นแหละ ถึงฉันจะเปน อยางไร ฉันก็ยังรักยังหวงแมพลอย เพราะแมพลอยเปนนองในไส ใจจริงฉันอยากใหแมพลอย มีความสุข ใหได ดี ที่ฉันทําอะไรไปก็เพราะเจตนาดีจริงๆ ถึงจะผิดจะพลาดไปบาง ก็ขอใหยกเวนฉันเสียเถิด พูดขึ้นมาฉันก็คิดถึง แม ถาแกอยูปานนี้ก็คงจะดีใจพิลึก"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy113_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๓ (หนาที่ ๒)

Page 5 of 5

พอเพิ่มพูดแลวก็ทําตาแดงๆ เมินหนาออกไปมองนอกเรือ เสียงนางพิศสั่งน้ํามูกดังลั่นมาจากทายเรือ เพราะนางพิศนั้น ถาใครเอยถึงนายเกา เปนตองรองไหสะอึกสะอื้นทุกทีไป พลอยเองเมื่อไดยินพอเพิ่มพูด ก็อด สงสารไมได ตื้นตันในคอหอยขึ้นมาเหมือนกัน จึงตอบพอเพิ่มไปวา "ฉันไมถืออะไรพอเพิ่ม พอเพิ่มเจตนาดีตอฉันๆก็รู แตบางทีพอเพิ่มทําอะไรมากไปนอยไป ไมคิดถึงฉัน บาง ฉันเปนผูหญิงก็ตองอายเปนธรรมดา" "จริงสิ" คุณเชยพูดขึ้นมาบาง "ฉันก็รูวาพอเพิ่มรักนอง แตพอเพิ่มทําอะไรไมคอยระวังตัวเสมอ เราก็โตๆ ดวยกันแลว ตอไปถาพอเพิ่มระวังตัวเสียบาง ก็คงจะไมมีเรื่อง" เรือแจวกําลังแลนออกกลางแมน้ํา หัวเรือนั้นก็แหวกกระแสน้ํา เกิดเสียงดังอยูไมขาดระยะ พอเพิ่มนั่ง เหมอมองทอดสายตาออกไปไกล คิดอะไรอยูนาน แลวก็พูดขึ้นวา "คุณเชยพูดทําใหฉันนึกอะไรออก เราก็โตเปนผูใหญขึ้นมาแลวดวยกันทุกคน ฉันคิดถึงเมื่อครั้ง เรายังวิ่ง เลนกันเมื่อเปนเด็กแลวก็ใจหาย ตอไปนี้เราก็นับวาแตจะแกลงไป จะเอาสุขสบายอยางแตกอนก็คงไมได ฉันเอง ก็มีแมพลอยเปนนองแทๆ อยูคนหนึ่ง คุณเชยฉันก็รักเหมือนพี่นองทองเดียวกัน วาที่จริงเราก็มีกัน เพียงสามคน เทานั้น ฉันอยากจะขออะไรสักอยาง คือตอไปขางหนา ถึงจะเปนอยางไรๆ เราก็จะตองเกาะกันไป ไมทิ้งกัน ใจ ฉันคิดอยางนี้ แมพลอยกับคุณเชยเห็นดวยไหม" คุณเชยเอื้อมมือมาพาดไวบนขาพลอยแลวก็พูดวา "ฉันคนหนึ่งละที่จะไมทิ้งพี่ทิ้งนอง และถาเดาใจแมพลอยไมผิด แมพลอยก็คงจะคิดอยางเดียวกัน นึก อยางนี้ แลวฉันก็สบายใจขึ้นเปนกอง เพราะถาคิดถึงเวลาขางหนา สิ้นบุญพอแมแลว ฉันใจไมสบายเลย แตถา คิดวายังมีพี่นองอยู ก็พอคอยยังชั่ว" พลอยลูบมือคุณเชยเบาๆ เพื่อบอกใหรูวาคุณเชยพูดตรงกับความรูสึกของตน สามคนพี่นองนั่งนิ่งๆตอ ไป ในระหวางที่เรือแลน นางพิศเมื่อไดยินคนทั้งสามพูดกัน ก็รองไหสะอึกสะอื้นมากขึ้น จะเพราะดีใจหรือเสียใจ ก็ไมมีใครรู กอนเรือจะเขาเทียบทา นางพิศก็พูดขึ้นวา "คุณเพิ่มคุณพลอย บาวอีกคนนะที่ไมมีวันทิ้งคุณๆหรอก"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy113_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๔ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 6

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๔ (หนาที่ ๑) ระยะเวลาสองสามเดือนระหวางการรับหมั้นกับแตงงานนั้น พลอยรูสึกเหมือนกับอยูในฝน จะลําดับ เหตุการณหรือมองดูอะไร ใหเห็นเปนจริงเปนจังก็เกือบจะไมได ตั้งแตวันที่กลับมาจากบาน ขาวก็แพรสะพัดไป ทั่ว ในหมูคนรูจักวา พลอยจะแตงงานและจะแตงกับคุณเปรมผูมีชื่อวาเปนเศรษฐี ขาวนี้ทําใหพลอยกลายเปน บุคคล ที่นาสนใจขึ้นมาทันที คนที่รูจักคุนเคยจริงๆ ก็พากันแหหอมมาหาแทบไมเวนแตละวัน คนที่รูจักเพียง หางๆ ก็พยายามที่จะเขาใกลชิด เพื่อฝากเนื้อฝากตัวเอาไว และพวกที่มีของจะขาย ตั้งแตผานุงผาหมไปจนถึง เครื่องเพชร และของใชตางๆ ก็มาติดตอพูดจาชักจูงใหพลอยซื้อของๆตนไมเวนแตละวัน พลอยไมรูวาของหมั้น ที่ผูใหญทาง คุณเปรมนําไปมอบใหแกเจาคุณพอนั้นมีอะไรบาง แตขาวลือก็สะทอนกลับจากขางนอกวัง เขามา ถึงหูตนเองวา เปนของหมั้นที่มีราคามากมายนักหนา นานๆจะมีเชนนี้สักครั้งหนึ่ง และการแตงงานที่จะมีขึ้นใน เดือนหกนั้น ก็กะกันวาจะเปนงานที่ใหญโตที่สุดงานหนึ่งในรอบป พลอยไดแตนั่งฟงขาวตางๆเหลานี้ เหมือนกับ วาเปนขาว เกี่ยวกับคนอื่นไมไดรูสึกสนใจ หรือตื่นเตนเทาที่ควรจะเปน วันหนึ่งขณะที่พลอยเฝาเสด็จอยูบนตําหนัก คุณสายก็ขึ้นบันไดนําหนาพาแมนุยอาคุณเปรมขึ้นเฝา พอ เห็นแมนุยคลานกระฉับกระเฉงตรงเขามา เสด็จก็รับสั่งวา "นุยจะมาหมั้นนางพลอยกระมัง" แมนุยลงหมอบกราบอยางคลองแคลว แลวก็ทูลเปนปญหาอยางที่พูดกับคนอื่นๆ โดยไมมีขอยกเวน ให แกใครเลยวา "หมอมฉันนําของถวายเขามามังคะ เห็นจะโปรดนะมังคะ" "วุย ! โปรด !" เสด็จรับสั่ง "เอาเขามาใหเถิด" แลวเสด็จก็ทรงพระสรวลดวยความขบขัน ในวิธีพูด แบบ แปลกๆ ของแมนุย เด็กรุนๆสาวสองสามคนที่พลอยไมรูจัก คลานเขายกของถวายขึ้นมาตั้งเรียงรายอยูหลายอยาง เด็กพวก นี้ มากับแมนุย หนาตาเปนผูมีสกุล พลอยตองมองดูดวยความสนใจ เพราะสงสัยวาจะเปนญาติของคุณเปรม ซึ่ง ตอไปก็จะเปนญาติของตนในวันขางหนา "เครื่องแกวมังคะ" แมนุยเริ่มทูลเสด็จถึงของถวายที่นําเขามา "ของตกเขามาจากนอกใหมๆทั้งนั้น ถาจะ หายากนะมังคะ" พลอยอดสนใจในของถวายที่วางเรียงรายอยูตรงหนาตนไมได เพราะแตละอยางลวนแตเปนของมีราคา ทั้งสิ้น เครื่องแกวชุดหนึ่งเปนชุดสรงพระพักตร ทําดวยแกวเจียระไนอยางเยี่ยม มีลายทองเปนใบไมดอกไม มี ตั้งแตเหยือกน้ําอางน้ําเครื่องประกอบอื่นๆ ไปจนถึงขวดน้ําอบทั้งเถา ตั้งแตใบใหญไปจนเล็ก และโถแปงอีกเถา หนึ่งเรียงลําดับไดขนาดกัน ตอจากนั้นมาเปนชุดที่บูชา ทําดวยแกวเจียระไนหนามขนุน มีพรอมตั้งแตแจกัน พานดอกไมพุมใหญเล็ก ตลอดจนเชิงเทียนและกระถางธูป ที่วางอยูปลายแถวของถวายนั้น เปนอางแกว เจียระไน ใบใหญมีพานเงินรองรับอยูขางลาง จะทําขึ้นสําหรับประโยชนอันใด พลอยเองก็นึกไมออกเหมือนกัน "ตายจริง !" เสด็จรับสั่งเมื่อทอดพระเนตรไปยังของถวาย "ทําไมเอาของมาใหกันมากมายอยางนี้ละ ขามิ ตองตั้งหางขายเครื่องแกวหรือนี่" แมนุยกมหนาหัวเราะลงไปที่หนาอกแบบชาววัง แลวก็ทูลวา "กริ้วหรือมังคะ พอเปรมเขาขอใหหมอมฉันถวายของใหมากๆ ใหสมกับที่เสด็จมีพระเดชพระคุณ ทรง พระเมตตา เขาก็วาของเขาถูก จริงไหมมังคะ" "ขาจะไปรูหรือวาจริงหรือไมจริง" เสด็จทรงพระสรวล "วาแตไออางอะไรนั่นเถอะ เขามีไวสําหรับทําอะไร กัน" แมนุยหัวเราะกี๊กแลวทูลวา "หมอมฉันเองก็ไมทราบมังคะ เห็นมันใบโตๆงามดี ก็เลยเอาติดเขามาถวาย ดวย เสด็จก็ไมทรงทราบเหมือนกันหรือมังคะ" "ใครจะไปรูได" เสด็จรับสั่ง "วาแตเรื่องนางพลอยของขานี่เถอะ กําหนดวันกันไดหรือยัง" "ไดแลวมังคะ" แมนุยทูลตอบ "ขึ้นสิบสองค่ําเดือนหกนี่แหละมังคะ" "เออยังมีเวลาเตรียมตัวทัน แตงที่ไหน" "ตกลงกันวาจะแตงที่บานคลองพอยมมังคะ บานเจาสาวอยูฟากขะโนนไปมายาก แตงแลวก็จะอยูบาน นั้น เลยมังคะ" พลอยฟงแมนุยทูลถึงรายละเอียดตางๆ เกี่ยวกับการแตงงานของตนอยางสนใจ ทั้งที่มิไดเงยหนาขึ้นเลย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy114.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๔ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 6

ครั้งนี้เปนครั้งแรกที่พลอยรูวา ตนจะตองแตงงานที่ไหนเมื่อไรแน และขณะที่ฟงอยูนั้นก็นึกในใจอยูวา พิธีแตง งานที่ตนจะตองเขาสูในเวลาของหนานั้น จะมีรายละเอียดพิสดารอยางไรตนก็หารูไม พลอยนึกในใจวาวางๆ จะ ตองถามคุณสายใหรูแนในเรื่องเหลานี้ แมนุยเฝาเสด็จอยูไมนานนัก คุยเรื่องโนนเรื่องนี้อยูครูหนึ่ง แลวก็ทูลลาก ลับ พอแมนุยกลับไปแลว เสด็จก็รับสั่งขึ้นวา "ดูสิสาย ของหมั้นพลอยเขามากมายเหลือเกินทีเดียว" "ก็ดีแลวนี่มังคะ" คุณสายทูล "สมกับที่ทรงพระเมตตาไวมาก" "สายพูดเหมือนกับวาของมันแลกกับคนได" เสด็จรับสั่งขึ้นลอยๆ "ถาจะถืออยางนั้น ของอีกสิบเทา หรือ รอยเทานี้ ขาก็ไมยอมแลกกับนางพลอย แตนี่มันคนละเรื่อง" เสด็จหยุดทรงตรึกตรองอะไรอยูครูหนึ่ง แลวก็รับสั่งตอไปกับคุณสายวา "เรื่องเสื้อผาเครื่องแตงตัวของพลอย สายชวยจัดการใหทีเปนของขาให ชวยดูแลใหดีๆหนอย อยาใหขาย หนาเขา ถึงเวลาใกลๆวันจึงคอยขึ้นมาเลือกของแตงตัว พวกเข็มกลัดสายสรอยกันอีกทีหนึ่ง คราวนี้ตองถือวาขา แตงงานลูกสาว อยาใหอายฝายเจาบาวเขาได ขาจะใหพวกเครื่องใชอื่นๆ อยางขันลางหนา เชี่ยนหมาก เดี๋ยวก็ จะไปซ้ํากับของที่พอของพลอยเขาจะให แลวของขาก็มีแตพวกเครื่องเงิน เครื่องนาก บานพลอยเขาใชเครื่องถม กันทั้งนั้น ใหไปก็จะไปขับกันเปลาๆ ขาจึงคิดใหของอื่น" นับตั้งแตวันที่ญาติคุณเปรมเขามาถวายของเสด็จที่ตําหนักก็ถือวา การหมั้นและการแตงงานของพลอย ที่จะมาถึงในเวลาอีกสองสามเดือนขางหนานั้น เปนความจริงที่แนนอนเปนทางการ แตกอนนั้นเรื่องนี้เปนเพียง แต ขาวลือ มาสําเร็จเด็ดขาดแนนอนเอาตรงที่เสด็จรับของถวาย ซึ่งเทากับวาเปนการประทานพระอนุญาตแลว โดยสมบูรณ ชีวิตของพลอยในขั้นตอมานั้น ดูเหมือนจะหมกอยูในกองผา ขึ้นตนดวยผาขาวมาสําหรับหมอยูกับบาน ซึ่งตองซื้อมาใหมและฉีกใหไดขนาด แลวก็เล็มขอบและอบร่ําเก็บไวใหพอ ออกเรือนแลวจึงจะใช ตอจากนั้นก็ เปนเรื่องของผาลาย ที่จะตองเลือกตองดูกันทุกกุลีไป นอกจากผาลายก็ยังมีผามวงไหมเลี่ยน ผามวงดอก ผา มวงลาย ผามวงคดกริช ซึ่งตองเลือกซื้อไวนุงไปการงานออกหนาออกตาใหสมฐานะ เสร็จจากเรื่องผาก็ถึงเรื่อง เสื้อ ซึ่งเดี๋ยวนี้ใสกันหนาตากวาแตกอน สมัยนิยมนั้นก็เปลี่ยนไปจากเสื้อแขนพอง เหมือนขาหมูแฮม กลายเปน เสื้อแขนธรรมดา รัดเอวแนนและเกี่ยวขอขางหลัง เมื่อเลือกผาหรือแพรตัดเสื้อ ไดเปนที่พอใจแลวก็ตองวัดตัว ตองลอง และตองหาแพรสะพายไวใหถูกกับเสื้อ สําหรับกาลเทศะตางๆ พลอยไมเคยนึกวาการแตงงาน จะตอง ลงทุนใชจายคาเครื่องแตงตัวมากมายถึงเพียงนี้ เงินที่เจาคุณพอใหมานั้น เกือบจะไมไดแตะตอง เพราะเสื้อผาที่ หาใหมเปนของเสด็จประทาน และรับสั่งถามถึงเรื่องนี้กับคุณสายเนืองๆ หากพลอยจะทักทวงขึ้นมาเปนครั้ง คราว เพราะเห็นวาของบางอยางดูจะมากมายฟุมเฟอยไป คุณสายก็มักจะอาง รับสั่งขึ้นมาขูสําทับ และบอกดวย ทุกครั้งวา คนที่พลอยจะไปอยูดวยตอไปนั้นเขาเปนเศรษฐี ฝายพลอยจะไปอยู กับเขา จะตองไปในลักษณะที่มิ ใหเขาดูถูกได เพราะจะทําใหขายพระพักตรเสด็จ พลอยก็จําตองนิ่งทุกครั้งไป ตอนที่กลับมาจากบานครั้งสุดทายใหมๆ พลอยยังชาตอเหตุการณตางๆ ที่จะบังเกิดขึ้นกับตน เพราะ เห็นวา ยังมีเวลาอีกหลายเดือนที่จะนึกถึง แตในขั้นตอมา พอเหตุการณนั้นเริ่มจะเปนจริงจังและใกลเขามาทุก วัน พลอยก็เริ่มวิตกหวาดเกรงตออนาคต บางทีนอนกลางคืนนึกถึงเรื่องนี้แลวก็เหงื่อแตกทั้งตัว และนอนไมหลับ จนดึก ผูที่พลอยจะปรับทุกขไดมีแตชอยเพียงคนเดียวเทานั้นเอง ในตอนแรกๆ ชอยดูเหมือนจะเห็นเรื่องที่เกี่ยว กับพลอย เปนของสนุก เปนของที่ทําใหชีวิตประจําวันที่ซ้ําซากนั้น มีสีสันและมีของใหมที่จะตองคิดและตองทํา ตองคอยเวลาที่จะมาถึง ชอยเขารวมมือพลอยเลือกเสื้อผาเครื่องแตงตัวอยางเบิกบาน และสนใจในสิ่งตางๆเหลา นี้ ยิ่งกวาตัวพลอยเสียอีก แตพอใกลวันเขามา ชอยก็ดูเงียบเสียงลงไป บางเวลาชอยก็ลอบมองดูหนาพลอย อยางเปนหวง และบางครั้งเมื่อพูดถึงเวลาที่จะตองแยกกันอยู ชอยก็แสดงสีหนาเศราจนเห็นไดชัด วันหนึ่ง พลอย ปรารภขึ้นกับชอย ขณะที่อยูกันสองตอสองวา "ชอย ฉันชักจะไมสบายใจเต็มทีแลวละ มันยังไงอยูก็ไมรู เรื่องที่ฉันจะออกไปมีเรือนนี่นะ" "นั่นซี ! ฉันก็ชักจะไมสบายใจเหมือนกัน" ชอยตอบ "แตแรกฉันก็เฉยๆ คลายกับวามันจะไมเปนจริงเปน จัง ขึ้นมา หรือเหมือนกับวาเปนเรื่องของคนอื่น ไมใชเรื่องของแมพลอย พอถึงเวลาซื้อขาวของเสื้อผากัน ฉันก็ ออกสนุกเต็มที เพราะเรื่องใชอัฐของคนอื่นละกอ ฉันชอบนัก แตพอใกลวันเขามาฉันก็ชักจะใจไมดีขึ้นทุกวัน คิด ถึงเรื่องที่จะจากกันฉันก็ใจหาย เดี๋ยวนี้เพียงเห็นหนาแมพลอยอยูตําตา ฉันยังคิดถึงเสียแลว" "เรื่องนั้นก็จริงหรอกชอย" พลอยพูด "แตมันก็ไมสูกระไรนัก ฉันจะหมั่นไปมาหาสูชอยเสมอ อยาวิตก แต เรื่องที่ฉันไมสบายใจยังมีอีก" "มีอะไรอีกละ" ชอยถาม "ก็จะมีอะไรเสียอีกเลา" พลอยตอบ "ชอยคิดดูสิ ฉันจะตองไปอยูกินกับคนที่ฉันไมเคยรูจักเลย นิสัยใจคอ จะเปนอยางไร แลวก็อะไรตออะไรอีกมาก ฉันไมรูทั้งนั้น เรื่องอะไรๆก็ชางเถอะ เพียงแตเจอะกันจังหนาเขา จริงๆ จะพูดกันวาอยางไร ฉันก็ยังนึกไมออก พอนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทีไร ฉันเหงื่อกาฬแตกทุกครั้ง" "จริงซี" ชอยวา "ฉันก็กลุมแทนเหมือนกัน สมมุติวาถาเปนตัวฉัน ไมใชแมพลอย ฉันก็ยังนึกไมออกวา จะ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy114.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๔ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 6

ทําอยางไรดี ไอเรื่องนิสัยใจคอนะไมสูกระไรนัก อยูกันไปก็เริ่มเรียนรูไปทีละเล็กทีละนอย แตวาทุกอยาง มันตอง มีหัวมีหาง คนจะรูจักกันก็ตองเริ่มเขาที่ไหนแหงหนึ่ง ฉันยังนึกไมออกเลยวา แมพลอยจะไปเริ่มอยางไร ที่จะให ไดรูจักพูดจากันกอน เห็นจะไมมีหนทาง ยิ่งรูวาหมั้นหมายกันแลวอยางนี้ ยิ่งพบปะกันไมไดทีเดียว กวาจะได เห็นหนาไดพูดกันก็ถึงวันสงตัว ตายละซี !" พลอยมือเย็นเฉียบแลวพูดออยๆวา "อีตอนนี้สิชอยที่ฉันกลัวนัก เขาพูดจาทําทาทางกันอยางไรก็ไมรู คนไมเคยพูดกันเลย แลวอยูๆ ก็ถูก โยน เขาไปนั่งอยูดวยกันสองคน ถาเปนชอยเสียอีกคงไมเทาไรนัก เพราะชอยเปนคนกลา ฉันเปนคนอยางไร ชอยก็รูดี ฉันกลัวฉันจะไปตายเสียกอนเทานั้นเอง" "เฮอ !" ชอยถอนใจใหญ "เรื่องมันแกไขไมไดแลว คิดไปก็เสียเวลาเปลาๆ เลยตกกระไดพลอยโจนก็แลว กัน ใครไมพูดกะเรากอน เราก็ไมพูด" คุณเชยเขามาหาหลายครั้งในระหวางนั้น ทุกครั้งพลอยก็ไดรูเรื่องราวทางบาน พลอยรูความจริงวา ที่ตน จะตองไปเขาพิธีที่บานคุณเปรม ก็เพราะคุณอุนไมยอมใหแตงที่บาน" "ฉันสงสารเจาคุณพอทานเหลือเกินเทียวแมพลอย" คุณเชยเลาใหพลอยฟง "ครั้งนี้เปนครั้งแรกที่ทาน จะ แตงงานลูกออกหนาออกตา ทานก็อยากจะแตงที่บานใหครึกครื้น แตพอทานเอยเรื่องนี้ทีไร คุณอุนเธอก็อาง เหตุขัดของไปตางๆ" "แลวทานไมรูหรือวา คุณอุนเธอขัดของเรื่องอะไร" พลอยถาม "ทําไมทานจะไมรู แตเราควรจะเห็นใจทานบาง เพราะทานจะตองอยูดูหนาคุณอุนทุกวัน มีเรื่องขัดใจกัน ขึ้น ก็รําคาญเปลาๆ ทานก็เลยทําเฉยเสีย" คุณเชยอธิบาย "แตถึงอยางนั้นก็ยังไมวาย" คุณเชยเลาตอ "ธรรมดาเจาคุณพอทานเปนคนมีอารมณเรื่อยๆ แมพลอยก็รู อยูแลว แตถึงอยางนั้นก็หวิดมีเรื่องกัน ตอนที่ทานสั่งใหจัดของใหแมพลอยนั่นแหละ" "เปนอยางไรกัน" พลอยถามขึ้นดวยความสนใจ "ทานสั่งใหฉันไปบอกคุณอุนใหจัดเครื่องลางหนาถม เชี่ยนหมากถมไวใหแมพลอย พอฉันไปบอก เธอก็ โกรธกระฟดกระเฟยด ดาประชดฉันอยูเรื่อยๆ แลวเธอก็จัดของเลวๆ สงออกมาให พอเจาคุณพอทาน เห็นของ ที่เธอจัดออกมา ฉันรูสึกวาทานโกรธทีเดียว แตทานก็ไมพูด เดินเขาไปที่หองคุณอุน เรียกเอากุญแจตู แลวทาน ก็หยิบเอาเอง เลือกเอาแตของดีๆทั้งนั้น แลวทานยังหยิบของอื่น เปนตนวาตะลุมถมสําหรับใสผาบาง และของ อื่นๆเติมเขาไปอีกหลายอยาง พอใหครบชุด พอใจทานแลวทานก็เรียกหีบ แลวทานก็เก็บกุญแจไวเอง สั่งใหคน ยกเอาหีบที่ใสของไปเก็บไวที่หองฉัน รอใหถึงวันแมพลอยจะแตงงาน ทานจึงจะขนเอามาให" ถอยคําที่คุณเชยพูด ทําใหพลอยรูสึกปติในความกรุณาของเจาคุณพอ สวนปากนั้นก็ถามคุณเชยไปวา "แลวระหวางนั้นคุณอุนเธอวาอยางไรบาง" "เธอจะไปวาอยางไรได" คุณเชยตอบ "เอาจริงเขาเธอก็กลัวทานเหมือนกัน แตแลวเธอก็เลยมาพาลโกรธ เอากับฉันเขา จนเดี๋ยวนี้เธอยังไมพูดกับฉันเลย แมหนาเธอก็ไมมอง" "โธ ! คุณเชยเลยตองรับเคราะหเพราะเรื่องของฉันแทๆทีเดียว" พลอยพูดอยางเห็นใจ คุณเชยยิ้มมองดูหนานองสาวแลวตอบวา "ไมเปนไรหรอกแมพลอย ฉันก็ไมไดทําอะไรผิด แมพลอยก็ไมไดทําอะไรผิด คุณอุนเธออยากโกรธ ก็ให โกรธไป ฉันกลับสบายดีเสียอีกที่เธอไมพูดดวยระหวางนี้ ไมยังงั้นเธอก็ชอบซักฉันถึงเรื่องแมพลอย แลวก็พูด คอนขอดแมพลอยใหฉันฟง จนบางทีฉันแทบจะอดโมโหไมไหว ไมพูดกันเสียอยางนี้แหละดี ฉันวาฉันจะทํา โกรธกับเธอ ไปจนแตงงานแมพลอยใหเสร็จเรียบรอยเสียกอน แลวฉันจะเขาไปดีกับเธอเอง" พลอยตองหัวเราะเมื่อไดยินคุณเชยพูด เพราะน้ําใจอยางคุณเชย ที่ปราศจากความอาฆาตพยาบาทนั้น ไมมีใครเหมือน "แมพลอยแตงงานแลว ฉันอยากจะเตือนอะไรสักอยาง" คุณเชยพูดตอ "เรื่องพี่นองของเรานะแหละ ไมมี ใครอีก คนที่เขาจะแตงกับแมพลอย เขามีชื่อวาเปนเศรษฐี แมพลอยก็รูวาคุณชิตของเรา เดี๋ยวนี้ใชอัฐเทาไร ก็ไม รูจักพอ พอคุณชิตรูวาแมพลอยจะแตงกับใคร ก็หูผึ่งทีเดียว ทําทอดสนิทเขามาทางฉันหลายหนแลว เพื่อจะให ฉันบอกแมพลอยวา เธอรักเอ็นดูแมพลอยอยางไร แตฉันก็ทําเฉยเสีย ตอไปคุณชิตก็จะตองตามแมพลอย ถึง บาน เรื่องก็อยากไดอัฐนะแหละ แมพลอยจะตองระวังใหดี คุณชิตพูดอะไรอยาไปหลงเชื่อ เพราะเธอเปนพี่นอง ของเรา เรื่องเงินๆทองๆ ถาไมดีคนอื่นเขาจะดูถูกได แลวก็ยังพอเพิ่มอีกคน ฉันหนักใจจริงๆทีเดียว" คุณเชย พูด แลวก็ถอนใจใหญ "ก็ฉันเห็นพอเพิ่มเปนเพื่อนชอบพอกับเขาอยูแลว เขาคงจะไมวาอะไรกระมัง" พลอยพูดขึ้นอยางไมแนใจ "เวลานี้กําลังเปนเพื่อน" คุณเชยตอบ "ที่เขาคบเปนเพื่อน ก็เพราะเขาอยากทอดสะพานเขามาหาแม พลอย และก็เพราะเขาเปนเพื่อนกับพอเพิ่มนั่นแหละ เขาจึงไดไปจนถึงบาน เขาฝากเนื้อฝากตัวจนเจาคุณพอ ทานรัก เวลานี้ฉันก็รูวาเขายังรักใครนับถือพอเพิ่มอยูมาก เพราะพอเพิ่มแกรักเขา แกชวยเหลือสนับสนุนเขา จริงๆ แตอยาลืมวาตอไปพอเพิ่มก็กลายเปนญาติขางเมีย ไมใชเพื่อนรักกันชอบกันเฉยๆอยางเดี๋ยวนี้ ถาพอเพิ่ม

http://www.geocities.com/siamstory/ploy114.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๔ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 6

ไปทํา อะไรไมดี ก็จะกระทบมาถึงแมพลอย ฉันจึงอยากเตือนใหแมพลอยระวังพอเพิ่มไวอีกคนหนึ่ง ธรรมดาพี่ นอง ก็ตองรักกันอยูแลว ฉันไมไดมายุใหระแวงกันหรอก แตเราก็รูกันอยูแลววา พี่นองของเราเปนคนอยางไร ฉันเตือนดวยเจตนาดีจริงๆ เพราะฉันก็เปนพี่แมพลอยอีกคนหนึ่ง แมพลอยอยาโกรธฉันก็แลวกัน" "ฉันก็ไมโกรธหรอกคุณเชย" พลอยตอบยืนยัน "คุณเชยเจตนาดีตอฉัน ฉันจะไปโกรธไดอยางไร ฉันกลับ ขอบใจคุณเชยเสียอีก เพราะที่คุณเชยเตือนมาก็ถูกทั้งนั้น ที่ฉันวิตกอยูก็เพราะไมรูวาทั้งคุณชิต และพอเพิ่มแก จะมาทาไหนตอไปเทานั้น" "ไมตองวิตกหรอก" คุณเชยพูด "ฉันจะชวยดูใหอีกทางหนึ่ง แมพลอยคอยระวังตัวใหดีๆ อยาเผลอก็แลว กัน เฮอ !" คุณเชยถอนใจใหญ แลวก็หัวเราะ "ฉันพูดมาเสียยืดยาว เหมือนกับวาฉันเคยมีผัวมาแลวสักหาคน" "อีกคนหนึ่งที่พลอยไดพบบอยๆ หลังจากที่เสด็จทรงรับของถวาย ก็คือแมนุย ซึ่งหมูนี้ดูจะวิ่งเขาวิ่งออก ไปมาหาสูกับคุณสายอยูไมขาดระยะ พลอยรูสึกเบาใจที่ไดมีโอกาสรูจักกับพี่นองของคุณเปรม อยางนอยที่สุด ก็ คนหนึ่ง เมื่อไดพบกันสองสามหน พลอยก็เริ่มเรียกแมนุยวา คุณอานุยตามชอยไป ซึ่งทําใหแมนุยปลื้มหานอย ไม จากแมนุยพลอยก็ไดรับความรูเพิ่มเติม เกี่ยวกับคุณเปรมหลายอยาง เปนตนวา คุณเปรมเปนลูกชายคน ใหญ และขณะนี้หลังจากที่บิดามารดาตายไปหมดแลว คุณเปรมก็ครอบครองบานอยูคนเดียว นองชายคุณเปรม อีกคนหนึ่งชื่อคุณเปรื่อง มิไดรับราชการ แตคุณเปรมใหดูแลกิจการคาขายของทางบาน และคุณเปรมยังมีนอง สาว อีกคนหนึ่งชื่อปรุง อายุจะแกออนกวาพลอยราวปหนึ่งหรือสองป แตมีเรือนไปแลว เวลานี้ที่บานจึงไมมีใคร นอกจากคุณเปรม และแมนุยกับแมเนียนผูเปนอา ปลูกเรือนอยูดวยกันสองคนตางหากในบริเวณบาน คุณเปรื่อง นั้นแยกไปอยูที่หาง เพื่อใหไดอยูใกลชิดกิจการคาขาย แมปรุงนองสาวก็แยกไปอยูกับสามี "ทั้งบานเวลานี้ก็มีฉันคนเดียวเทานั้น ที่ยังทําอะไรไหวอยู" แมนุยบอก "แมเนียนก็เจ็บๆไขๆ อยูแตบน เรือน แมพลอยรูจักแมเนียนแลวคงชอบ เพราะเขาเปนคนนิ่งๆ ไมพูดซ้ําพูดซากอยางฉัน แมพลอยคงรําคาญ ฉันหรอก จริงไหม" "ไมรําคาญหรอกคะ" พลอยตอบเอาใจ "คุณอานุยคุยสนุกออก ฉันชอบฟง" "แมพลอยยอฉันกระมัง" แมนุยตอบทั้งที่สีหนาบอกวาปลื้ม "คนพูดมากกะคนเงียบพูดกันไมรูเรื่อง อยาง ฉัน ตองคุยกะแมชอย จริงไหม" ชอยซึ่งเผอิญนั่งอยูดวยหัวเราะชอบใจ แลวก็ตอบวา "นั่นปะไร ฉันวาแลวไหมละ คุณอานุยคงรักฉันมากทีเดียว นี่ถาคุณอามีหลานเหลืออีก คงยกใหฉัน จริง ไหมคะ จริงไหม" "ไมจริง" แมนุยตอบ "อยางแมชอยนี่คบกันคุยกันสนุก เอามาเปนหลานสะใภลําบาก ฉันพูดอยางนี้ถูก ไหม แมพลอย" พลอยอดหัวเราะในคําพูดขวานผาซากของแมนุยไมได แลวจากการตกลงระหวางแมนุยกับคุณสาย พลอยก็ไดรูกําหนดการวา ในวันแตงงานนั้น พลอยจะตองขึ้นไปทูลลาเสด็จแตเชา และคุณสายพลอยและชอย ในฐานะเพื่อนเจาสาว รวมทั้งขาหลวงเสด็จที่เปนเพื่อนเจาสาว อีกสองสามคนจะออกจากวัง เจาคุณพอของ พลอย จะเอารถมามารับที่ประตูวัง จากวังก็จะไปที่บานคลองพอยม แมนุยจะจัดเรือนของแมนุยเปนที่พักของ ฝายเจาสาว เพราะเรือนแมนุยอยูหางกับเรือนคุณเปรมพอสมควร จะดูไมนาเกลียดเลยในการที่เจาสาวจะไปพัก อยูที่นั่น เชาวันแตงงานมีสวดมนตทําน้ํามนต พลอยจะตองออกไปตักบาตรเลี้ยงพระเพลครั้งหนึ่ง เสร็จแลวก็ รีบกลับมา เรือนแมนุย และอยูที่นั่นจนบาย ตกบายไดฤกษรดน้ํา พลอยก็จะตองไปเขาพิธีรดน้ําบนตึก รดน้ํา แลวก็ตองกลับ เรือนแมนุยอีกและคอยจนถึงฤกษสงตัว "ความจริงเรื่องนี้ก็ตองขอไปที" คุณสายพูดเมื่ออธิบายรายละเอียดใหพลอยฟง "ถาบานพลอยอยูใกลๆ ใจฉันก็อยากใหพลอยกลับบานหลังจากใสบาตรและหลังจากรดน้ํา แตนี่ก็ไกลนัก เราถือเอาเรือนแมนุยเปนบาน เรา ระหวางนั้นก็แลวกัน ปาจะออกไปอยูคอยดูแลการงานใหตลอด พลอยไมตองวิตก ขอแตเวลาถึงวันงานสั่ง ให ทําอะไรพลอยตองทําตาม อยามัวกระบิดกระบวนอยูก็แลวกัน" คุณสายสั่งเหมือนกับวาพลอยยังเปนเด็กๆ นอกจากรายละเอียดเหลานี้แลว ยังมีรายละเอียดอื่นๆอีกมากมาย ที่คุณสายคอยเนนคอยเตือนอยูเสมอ แต พลอยก็มิรูที่จะรับฟงหรือจดจําไวอยางไรไดหมด เพราะยิ่งใกลวันเขามาพลอยก็ยิ่งมีแตความประหมา ความ กลัว ความวิตกตางๆ กินไมไดนอนไมหลับจนรางกายชักจะซูบซีดลง ชอยซึ่งมองดูพลอยอยู ดวยความเปนหวง แอบเขามากระซิบบอกในวันหนึ่งวา "แมพลอยระวังตัวใหดีๆหนอย เดี๋ยวจะตายเสียกอน" "ฉันก็ไมรูจะทํายังไงเหมือนกันชอย" พลอยตอบ "ทั้งกลัวทั้งวิตกจนไมเปนอันกินอันนอน นึกอีกทีตาย เสีย ก็ดีเหมือนกัน" "อยานึกอยางนั้นสิพลอย" ชอยเตือน "เราก็ไมใชเด็กๆ ดวยกันแลว เรื่องอะไรตองทําก็ทํามันไป อยาไป คิดอะไรมากนัก เดี๋ยวจะเจ็บไขไปเปลาๆ ไมดีแกใครทั้งนั้น" "ฉันอยากรูนักวา คนที่เขาจะแตงงานเขาเปนอยางฉันทุกคนหรือเปลา" พลอยปรารภขึ้น "ฉันก็ไมรูเหมือนกัน" ชอยตอบ "เห็นแมแกเลาใหฟงวา กอนแกจะแตงงานกับคุณพอ แกกลัว เหมือนจะ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy114.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๔ (หนาที่ ๑)

Page 5 of 6

ขาดใจ" "เอะ !" พลอยพูดอยางฉงน "แมชั้นไมเคยรูจักกับคุณพอของชอยมากอน เหมือนกันหรือ" "เปลา" ชอยตอบ "ผูใหญทานจัดการใหทั้งนั้น ก็เห็นอยูดวยกันสุขสบายดีจนแกเฒา พลอยจะตอง วิตก อะไร" "ชอยพูดปดฉันกระมัง" พลอยพูดอยางไมไวใจ "ถึงคุณพอและแมของชอย จะอยูดวยกันมาเปนอยางดี ก็ ไมแนวาจะเปนอยางนั้นทุกคูไป เผื่อฉันไมเปนอยางนั้น จะทําอยางไร" "แมพลอย" ชอยพูดดวยเสียงที่เด็ดขาด "เชื่อฉันดีกวา อยาคิดมากไปเลย เรื่องนี้มันเหมือนแทงหวย เวลานี้ หวยก็ยังไมออก แมพลอยอยาเพิ่งไปคิดดีกวา หวยจะกินเสียกอนจะดีกวา" แตทั้งที่พลอยจะวิตกวิจารณ นั่งคิดนอนคิดถึงเรื่องอนาคต จนกระทั่งบางครั้งถึงกับอธิษฐานภวนา ขอให วันคืนลวงไปแตชาๆ เพื่อผัดเวลาออกไปอีกอยางไรก็ตาม แตวันคืนก็ลวงใกลเขาไปทุกที ขาวของทุกอยาง ถูก ตระเตรียมจนเสร็จ รายละเอียดทุกอยางถูกกําหนดแนนอน ไมมีการแกไขเปลี่ยนแปลงอีกตอไป หลังจากคืนสุด ทายในวัง ที่พลอยนอนไมหลับเลยแมแตงีบเดียว วันสําคัญที่สุดในชีวิตของพลอยวันหนึ่ง คือวันแตงงานก็มาถึง คุณสายบนพึมพําปลอบใจพลอยแตเบาๆ ดวยถอยคําที่พลอยไมมีแกใจที่จะฟงใหรูเรื่อง ตาของคุณสายเองก็ คลอไปดวยน้ําตา เพราะจะตองจากกับเด็กที่เคยเลี้ยงมาแตเล็กจนโต คุณสายบอกใหพลอย อาบน้ําอาบทาให เรียบรอย แลวก็ชวนกินขาวเชาแตเชาตรู ถึงพลอยจะฝนใจกินสักเทาใด ก็กลืนขาวไมลงคอ สามคนที่เคยอยูกัน มาดวยกันชานาน คือคุณสาย พลอย และชอยตางนั่งอยูกับสํารับ แสรงทําวากินขาวดวยกัน ตามปกติ แตความ จริงก็กินขาวไมลงดวยกันทั้งสามคน กินขาวเสร็จแลวคุณสายและชอย ก็ชวยกัน แตงตัวใหพลอยดวยชุดที่จะ เดินทางไปจากวัง นุงผามวงสีตามวันและใสเสื้อเรียบๆ สะพายแพรจีบ และตรึงติด กับเสื้อเรียบรอย ชุดที่จะแตง ฟงสวดและตักบาตรเลี้ยงพระเพลนั้น ถูกสงไปไวลวงหนาที่เรือนแมนุย เมื่อพลอยไปถึงบานนั้นแลว ก็จะตอง เปลี่ยนเครื่องแตงตัวอีกหลายชุด แตงตัวเสร็จแลวยังเหลือแตสวมเกือก คุณสายก็พาพลอยขึ้นไปเฝาทูลลาเสด็จ ที่ชั้นบนของตําหนัก วันนั้นเสด็จตื่นบรรทมแตเชากวาปกติ เพื่อใหพลอยไดเฝาทูลลา เมื่อพลอยขึ้นไปถึงหองบรรทม เสด็จ ประทับหวีพระเกศาอยูหนากระจกบานใหญ พอทรงเห็นพลอยคลานเขาไป ก็หันพระพักตรมารับสั่งวา "พลอยขึ้นมาลาหรือ ขาอุตสาหลุกขึ้นมาสงเจาแตเชา" พลอยคลานเขาไปกราบเกือบชิดพระองค แลวก็ฟุบหนาลงรองไหอยางหมดเกรง พลอยนึกลวงหนาไว หลายตรลบวา เมื่อถึงเวลาที่จะตองทูลลาเสด็จมาถึง ตนจะแสดงกิริยาอาการอยางไร เสด็จจะทรงรับสั่ง วาอยาง ไรบาง พลอยเคยนึกเตือนตัวเองวา เมื่อถึงเวลาจะตองคุมสติใหอยู อยาปลอยใหความรูสึกของตน ทําใหตน แสดงกิริยาอาการที่ไมนาดู เพราะพลอยอยากใหเสด็จเบาพระทัย วาตนนั้นเติบโตเปนผูใหญที่มีสติ สมกับที่ได ทรงพระเมตตาชุบเลี้ยงมา แตครั้นถึงเวลาเขาจริง ความรูสึกอันรุนแรงก็สําแดงอาการใหปรากฏ พลอยมิอาจ กลั้นความโศกสลด ที่จะตองจากผูที่มีพระคุณที่ไดชุบเลี้ยงตนมาแตเด็กนั้นได ความรูสํานึกวาตน จะตองจากผูที่ คอยพิทักษคุมครอง ออกไปสูโลกภายนอก และตอไปจะตองดูแลคุมครองตัวเอง ทําใหพลอยตอง ใจคอไมอยูกับ ตัว น้ําตามิรูหลั่งไหลมาจากไหน พลอยพยายามขมสติสั่งใหน้ําตาหยุด เพื่อจะไดเงยหนาขึ้นดูเสด็จ และคอยฟง รับสั่งวา จะทรงสั่งเสียอยางไรบาง แตก็ไมสามารถจะทําไดสําเร็จ ยิ่งพยายามจะกลั้นน้ําตาก็ดูเหมือน ยิ่งจะ สะอื้นหนักขึ้น จนพลอยตองยอมแพแกความรูสึก หมอบซบหนารองไหอยูอยางนั้น มิรูวานานสักเทาไร เสียงเสด็จรับสั่งเบาๆ กับคุณสายวา "ดูนางพลอยสิ จะไปแตงงานกลับมารองไห เหมือนกับใครเขาจะเอาไปฆา" เสียงคุณสายสูดน้ํามูกแลวทูลดวยเสียงสั่นๆ อยางคนรองไหวา "นาสงสารมังคะ" "อาดูสายสิ !" เสด็จรับสั่งดังขึ้น "นึกวาจะชวยกันหามเด็ก กลับมานั่งบีบน้ําตารองไหเสียอีกคน ยังกะใคร เขาจะเอาตัวไปมีผัวดวยงั้นแหละ ขวาง !" แลวเสด็จก็หันมารับสั่งกับพลอยวา "นิ่งเสียเถิดพลอย อยารองไหรองหมไปเลย เจาจะออกไปแตงงาน เขาถือวาเปนพิธีมงคล รองไหไป ไมดี หรอก จะเปนลางไปเปลาๆ" พลอยพยายามเช็ดน้ําตาใหเหือดแหง แตยังไมกลาเงยหนาขึ้น พลางทูลตอบตะกุกตะกักวา "หมอมฉัน หมอมฉันไมอยากทูลลาไปจากที่นี่มังคะ" "ไมใชเรื่องวาเจาจะอยากไปหรือไมอยากไปเสียแลวพลอย" เสด็จรับสั่งตอบเบาๆ "ถึงเจาจะรองไหจน น้ําตา เปนเลือด ขาก็เอาตัวเจาไวไมได นิ่งเสียเถิดขาจะพูดอะไรใหฟง" พลอยคอยๆเงยหนาขึ้นมองไปทางที่เสด็จประทับอยู เสด็จประทับอยูอยางปกติ ในพระหัตถยังคงถือ พระสางที่ทรงอยูเมื่อครู พอพลอยเงยหนาขึ้นมา เสด็จก็ทรงยิ้มดวยแลวรับสั่งวา "ยังวางายอยูนั่นเองนะพลอย" แลวก็รับสั่งตอไปทันทีวา "ขาอยากจะบอกกะเจาวา อยูกับขามาหลายป จนเติบโตจะออกไปมีเหยามีเรือนวันนี้ เจาทําใหขาพอใจตลอดมา เพราะเจาเปนคนวานอนสอนงาย มีความอด ทน มีความเพียรไมเกียจคราน และเจาไดทําตัวใหขาเห็นวา เจาเปนคนดี มีกตัญูสมกับที่เกิดมามีสกุล และได อบรม มาแลวอยางดี ขาพอใจในตัวเจามาก และขาขอขอบใจที่เจารักขากตัญูตอขา เจาจะออกไปวันนี้ ขอให

http://www.geocities.com/siamstory/ploy114.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๔ (หนาที่ ๑)

Page 6 of 6

เจาจงพบแตความสุขความเจริญ ทํามาคาขึ้น คิดอะไรใหสมความปรารถนา ใหอายุมั่นขวัญยืน อยาเจ็บอยาไข" พลอยลงกราบรับพรที่เสด็จประทานและรูสึกวาขนลุก เพราะพรที่ออกจากพระโอษฐของเสด็จนั้น เปนพร ที่ประเสริฐสําหรับพลอยยิ่งนัก "เจาจะไดผัวเปนขาราชการ" เสด็จรับสั่งตอ "เจาจึงตองถือวา ตอไปเจาก็เปนคนในราชการเหมือนกัน เจาตองคอยดูรักษาหนาที่ภรรยาที่ดี ปรนนิบัติลูกผัวใหมีความสุข คอยดูแลเอาใจใหเขารุงเรืองตอไป อยาใหเสีย ราชการได สิ่งใดที่ควรหามควรเตือนก็ตองเตือน สิ่งใดที่ควรหนุนก็ตองหนุน สําหรับตัวเจาเอง ก็ตองระมัดระวัง รักษาตัวใหดี ตองอดออมทั้งกายและใจ จงประพฤติเฉพาะสิ่งที่ควร สิ่งใดที่ควรเวนก็ตองเวน จงคิดถึงผัวและ ฐานะวงศตระกูลของเขา กอนความสุขสบายของตัว" เสด็จทรงหยิบหีบเล็กๆ ที่วางไวขางที่ประทับมาเปดออก และจากนั้นก็ทรงหยิบของแตงตัว ที่ทรงเตรียม ไว จะประทานใหพลอยในวันนี้ออกมา และทรงยื่นใหแกพลอย พรอมกับรับสั่งวา "ของนี่ขาใหเจา นึกเสียวาตอบแทนที่พลอยรับใชขามานาน ถูกขาดุขาเอ็ดมานาน เข็มกลัดอันหนึ่ง และ สรอยขอมืออีกสองสาย ถึงจะไมหรูหราอะไรนัก ก็เก็บเอาไวเปนที่ระลึกถึงขา และถาตอไปเจายากจนลงจริงๆ ก็ ขายกินไดเพราะเปนของๆเจาเองแทๆ แตงตัวเขาพิธีวันนี้ เจาก็ใชของที่ขาใหนี่ไดเลยทีเดียว" พลอยกมหนาลงกราบรับของประทานจากพระหัตถ ดวยมืออันสั่นรัวและคอหอยที่ตื้นตัน เทาที่มอง ลอด น้ําตาไปได พลอยก็เห็นวาของที่ประทานนั้นมีราคาอยู มิใชของเล็กนอยอยางที่เสด็จรับสั่ง อันหนึ่งเปนเข็มกลัด สําหรับกลัดกับแพรสะพาย ทําเปนชอกุหลาบทําดวยเพชรกับทับทิม สายสรอยอีกสองเสน นั้นก็ฝงเพชรกับ ทับทิมสลับกัน ความรูสึกของพลอยเริ่มจะรุนแรงขึ้นมาอีก จะเพ็ดทูลวาอยางไรตอไป ก็ไมมีปญญาจะทําได เสียงเสด็จรับสั่งวา "ไปเถิดพลอย อยารีรออยูเลย เดี๋ยวชาจะไมทันการ วันหลังคอยไปมาหาขาบอยๆ" และเพื่อจะตัดบท มิ ใหพลอยเสียเวลาลาชา เสด็จก็ทรงหันพระองคกลับเขาสูพระฉาย หวีพระเกศาตอไปตามปกติ พลอยคลานถอย หลังออกจากหองบรรทม พรอมกับคุณสาย พอออกมานอกหอง ก็ไดยินเสียงเสด็จ ทรงรองเรียกขาหลวงอีกคน หนึ่งดังๆ อยูหลายครั้ง แลวก็ไดยินรับสั่งอยางกริ้ววา "เรียกเทาไรก็ไมเห็นมีใครมา ! พอนางพลอยมันไปเสีย ขาก็ไมมีใครใชอีกตอไป !" คุณสายสะกิดที่ขาพลอยทันที แลวกระซิบเบาๆวา "พลอย ปาวาไวแลวไหมละ ปารูพระทัยเสด็จดีกวาใครวา ทานทรงเสียดายพลอยเพียงไร แตน้ําพระทัย ทานแสนดี จึงไมทรงขัดขวางใคร ที่ทานเห็นวาทําถูก วันนี้ใครตองอยูที่ตําหนักนี้เปนกรรมละ ปาดีใจดีใจ ที่ ตองออกไปกับพลอย ถาอยูก็จะถูกไลเบี้ยเอาหนักกวาคนอื่น วันนี้ตองเปนวันกริ้วไปทั้งวัน แตพอปากลับเขามา ก็คงโดนอีกไมพนหรอก" อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy114.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๔ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 6

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๔ (หนาที่ ๒) ชอยแตงตัวเสร็จแลวคอยอยูกับขาหลวงอื่นๆ อีกสองสามคน ที่จะออกไปเปนเพื่อนเจาสาว นางพิศและ ผาด คุมหีบขาวของลวงหนา ไปยังบานคุณเปรมแลวแตตอนประตูเปด หลังจากที่ไดเขาไปลางหนา ผัดหนาอีก ครั้งหนึ่ง เพื่อกลบรอยน้ําตาตามคําสั่งของคุณสาย พลอยก็ออกเดินจากตําหนักพรอมกับพวก ที่จะไปดวยกัน เพื่อไปขึ้นรถที่ประตูวัง คนรูจักขอบพอหลายคนมาคอยสง และเดินจับกลุมไปดวย บางคนที่ผานกันตามทาง หรือนั่งอยูบนเรือนก็รองตะโกนร่ําลาอวยชัยใหพร พลอยหูอื้อตาลาย ความรูสึกในใจจริงนั้น เหมือนกับที่เสด็จ รับสั่งคือ รูสึกเหมือนวาตนกําลังถูกเขานําไปฆา พลอยพยายามเหลียวดู สิ่งแวดลอมตางๆที่คุนเคยมาแตเด็ก จนกลายเปนเพื่อนสนิท สิ่งเหลานั้นบัดนี้มีความหมาย เหมือนกับวาเปนสวนหนึ่งของชิวิต ตําหนักที่เคยอยูมา ดวยความสุขรมเย็น ตนจันทนตนพิกุลขางตําหนัก ที่เคยเก็บดอกและผลมาแตพลอยยังเล็กๆ ถนนในวังลาดหิน แผนใหญๆ ตําหนักตางๆที่เคยผานทุกวัน ที่บนยอดพระมหาปราสาท ยังคงพุงเหยียดขึ้นรับแสงตะวันยามเชา ทุกอยางยังคงอยูอยางเคยเห็น ไมมีอะไรเปลี่ยนแปลง และทุกอยางเหมือนกับจะรองตะโกนบอกวา "พลอยอยา ไป ! ถาจากไปแลวก็จะไมได พบเห็นกันอีก ถึงจะไดพบกันอีกก็คงไมเหมือนเกา !" แตพลอยก็ตองกัดฟนกาว เทาเดินตอไป มิอาจหยุดยั้งลงได เพราะกระแสแหงชีวิตที่เกิดดวยกรรม และกําหนดดวยกรรมหลอเลี้ยงดวย กรรมนั้น รุนแรงเกินกวาที่เจตนาอันนอย ของพลอยจะไปขัดขวางได ที่หนาประตูยังมีคนเดินเขาออก และมีหาบของมาตั้งขายมากตามปกติ คนบางคนที่ไมรูจักคุนเคย ก็ เหลียวมองดูพลอยแลวก็พูดจาซุบซิบกัน ทําใหพลอยตองเมินหนาไปอีกทางหนึ่งดวยความอาย บางคนที่รูจัก กัน หางๆ พอสบตากันก็ยิ้มดวย เหมือนกับจะใหพรดวยสายตา พอออกพนประตูวังชั้นนอก พลอยก็แลเห็นรถ มา จอดคอยอยูสองคันเปนรถเกงทั้งคู คันที่จอดอยูขางหนาเทียมมาคู และคันหลังเทียมมาเดี่ยว คุณสายพา พลอย ตรงไปที่รถคันหนา ในนั้นมีเจาคุณพอและคุณเชยนั่งรออยู เจาคุณพอแลเห็นพลอยกับคุณสายและชอย กับพวกเพื่อนเจาสาวก็ทักทายอยางดีใจ "พลอยของพอสวยขึ้นทุกวัน" เจาคุณพอพูดขึ้นกอน "ชอยก็สวยไมใชเลน แมพวกเพื่อนเจาสาวนี้ก็สวยๆ ทั้งนั้น ไดชุดกันดีเหลือเกิน อยางนี้เขากลุมกันแลว ดูไมออกทีเดียววาคนไหนเปนเจาสาว คุณก็ดูกระชุม กระชวย ไมหยอกเหมือนกันวันนี้" พลอย คุณสาย และพวกที่ออกมาจากวังตางพากันลงนั่งไหว เมื่อเจาคุณพอออกมาจากรถที่จอดคอยอยู พอไดชมวาสวยพวกเพื่อนเจาสาวก็หัวเราะกันคิกคักเบาๆ สวนคุณสายพูดสัพยอกตอบไปวา "ทานละก็ปากหวานไมหายทีเดียว ทานเองก็ดูหนุมไมใชเลนเทียวเจาคะวันนี้ ถาไมรูจักดิฉันคงนึกวา เปน พี่เจาสาวเทานั้นเอง" เจาคุณพอหัวเราะอยางเบิกบานใจ เหลียวดูพลอยและพวกเพื่อนเจาสาวอยางมีความสุข พลางปรารภขึ้น วา "ชาววังละก็อยางนี้แหละ พอออกจากประตูก็หอมกรุนมาแตไกล ยังไมทันเห็นตัวก็รูกอนแลววามา" เจาคุณพอ คุณสาย พลอย และคุณเชยขึ้นรถมาคันขางหนา สวนชอยและคนอื่นๆ ขึ้นคันหลัง พลอยนั่งคู กับเจาคุณพอ คุณเชยและคุณสายนั่งอยูตรงขาม พอรถออกเดินพลอยก็เหลียวดูประตูวัง และกําแพงวัง เหมือน กับจะร่ําลาเปนครั้งสุดทาย รถวิ่งผานเลียบกําแพงวังไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็ทิ้งวังหลวงไวเบื้องหลัง วิ่งตัดถนนโนน ถนนนี้ ที่พลอยไมเคยผานมาแตกอน รถแลนมานาน เจาคุณพอคุยกับคุณสายและคุณเชย มาตลอดทาง สวย พลอยนั้นนั่งนิ่งๆ มองดูภาพตางๆที่ผานสายตาไปจากหนาตางรถ มิไดพูดจาวากระไร และมิไดสนใจฟงเรื่องที่ คุยกันนั้นเทาไรนัก รถแลนตอมาอีกนานพอสมควร ในที่สุดก็เลี้ยวเขาประตูบานใหญหลังหนึ่ง มีตึกสองชั้นตั้งตระหงาน อยู เบื้องหนา รถยังคงวิ่งตอไปตามถนนกรวดในบาน พลอยสังเกตดูก็รูวาบานนี้ไมใชบานเล็ก ทั้งตัวตึกและบริเวณ ใหญโตกวางขวางกวาบานที่คลองบางหลวง รอบตึกมีกระถางลายครามใบใหญๆ ใสไมดัดตั้งอยูเปนระยะ และ ตามขอบถนนก็ตั้งอางลายครามใบใหญๆ ปลูกบัวอยูในนั้น รูปรางของตึก สิ่งประดับประดาเทาที่แลเห็น ตลอด จนบรรยากาศทั่วไป บอกใหรูไดวาเจาของบานมีเชื้อสายเปนจีน และเปนเศรษฐี พลอยมองกวาดไปดูรอบๆ ใจ เตนแรงขึ้น เมื่อไดยินเจาคุณพอพูดขึ้นเบาๆวา "ถึงแลว" ที่บนตึกและภายในบริเวณบาน มีผูคนเดินอยูขวักไขว ทั้งหญิงและชาย บอกใหรูไดวาบานนั้นกําลังมีงานสําคัญ รถแลนตอไปทางหลังบานผานเรือนบริวารใหญนอย หลายหลัง ในที่สุดก็มาจอดอยูที่หนาเรือนไมหลังใหญ ปลูกอยูหางจากตัวตึกประมาณหาหรือหกเสน เจาคุณพอ ลงจากรถกอน คนอื่นๆก็ลงจากรถตามทั้งสองคัน สิ่งแรกที่พลอยเห็นก็คือนางพิศ มานั่งยิ้มหนาบาน อยูที่

http://www.geocities.com/siamstory/ploy114_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๔ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 6

ตีนกระได คอยรับนายของตนที่เพิ่งมาถึง แมนุยคอยรับอยูบนเรือน ผูหญิงอีกคนหนึ่งหนาตาคลายคลึงกับแมนุย แตดูผอมแหงขี้โรค และไมกระปรี้ กระเปราอยางแมนุยที่นั่งอยูขางๆ ผูหญิงคนนี้พลอยถูกแมนุยแนะนําใหรูจักวาเปนคุณอาเนียน อาอีกคนหนึ่ง ของคุณเปรม แมเนียนรับไหวพลอยแลวก็ยิ้มอยางเอ็นดู สวนพลอยนั้น พอเห็นแมเนียนเปนครั้งแรกก็นึกในใจ วา ตอไปคงจะชอบกันมากอยางที่แมนุยเคยบอกไว แมนุยจัดการตอนรับขับสูแข็งแรง เสียงทักทายเจาคุณพอ คุณสายและคนอื่นๆอยูไมหยุดปาก แมนุย เปนผูเชิญเจาคุณพอใหนั่งพัก ณ ที่ที่จัดไว เรียกเด็กใหยกน้ํารอนน้ําเย็น หมากพลูบุหรี่มาตอนรับ สมกับฐานะ ขณะที่เจาคุณพอนั่งคุยอยูกับแมเนียนขางนอก แมนุยก็พาพลอย และพวกที่ออกมาดวยกันจากในวัง เขาไปใน หองใหญที่จัดไว สําหรับเปนที่พักเจาสาวในวันนี้ พลอยไมมีเวลาสังเกตสิ่งใดไดนาน เพราะพอนั่งพักยังไมทันจะหายเหนื่อย คุณสายก็บอกใหเริ่มแตงตัว สําหรับขึ้นไปฟงสวดมนตและใสบาตรบนตึก ระหวางที่พลอยแตงตัวโดยความชวยเหลือของนางพิศ ชอยและ พวกเพื่อนเจาสาว ซึ่งมีคุณเชยรวมอยูดวยอีกคนหนึ่ง ก็พากันแตงตัวใหเขาชุดกัน เสียงหัวเราะกันเบาๆ ดังมา เปนระยะ เพราะชอยเปนตนเหตุหาเรื่องมาพูด ใหไดหัวเราะกันอยูเรื่อยๆ แตงตัวเสร็จแลวอีกครูหนึ่ง ก็ไดเวลา พลอยลงจากเรือนแมนุยเดินตามเจาคุณพอและคุณสาย มีเพื่อนเจาสาวเดินหอมลอมมาเปนกลุม แมนุยเปนคน นําทางพาไปขางหลังตึก กลุมเจาสาวขึ้นทางบันไดหลัง และไปยังหองหนึ่งซึ่งปูพรม และตกแตงไวเรียบรอย คุณสายบอกใหพลอยและเพื่อนเจาสาวทั้งปวง นั่งลงที่นั่นเพื่อฟงพระสวดจากหองกลาง ขางนอก สวนเจาคุณ พอนั้น ก็เดินออกไปยังหองที่พระจะสวดมนตตอไป อีกสักครูหนึ่งพลอยก็ไดยินพระตั้งนโม ใหศีล และเริ่มสวด พระปริตตามพิธี พลอยนั่งกมหนาฟงพระสวดไปเรื่อยๆ ใจหวนกลับไปนึกถึงเมื่อครั้งโกนจุก ใบหนาของพี่เนื่องผานเขา มา ในความทรงจําแวบหนึ่ง แตพลอยก็พยายามผลักไสไปเสียใหพน ไมยอมนึกถึง เสียงพระสวดมนตเปน จังหวะ ชวยกลอมอารมณพลอยใหหมดความตื่นเตน ความประหมาลงไปไดบาง นึกในใจวาอยางนอยที่สุดใน ระหวางพิธีนี้ ก็ยังมีคุณสาย คุณเชย ชอย และขาหลวงตําหนักเดียวกัน คอยหอมลอมเปนเพื่อนอยูตลอด พลอย พยายามขมใจ ใหฟงพระสวดไมยอมนึกถึงเรื่องอื่น พระสวดมงคลสูตรจบไปแลว ในที่สุดก็ขึ้นรัตนสูตรและโภช ฌงค เสียงพระสวด เรื่อยๆไป พอใจของพลอยจะเริ่มเขาสูภวังค ทุกคนที่นั่งอยูรอบตัวตางพากันลงกราบ แสดง วาพระสวดจบแลว คุณสายนั่งอยูนิ่งๆสักครูหนึ่ง เสียงคนที่อยูหองขางนอกพูดจากันหลังจากพระสวดจบ ทําใหพลอยรูวา คนที่อยูหองขางนอกนั้นมีจํานวนไมนอย คงจะเปนญาติพี่นองของคุณเปรมเปนสวนมาก พลอยไดยินเสียงคุณ สาย พูดเบาๆกับใครคนหนึ่งที่ประตูหอง แลวคุณสายก็คลานกลับลงมา กระซิบพลอยวา "พลอยออกไปเถิด ไปใสบาตร" พลอยใจหายวาบลงไปทันที มือเทาเย็นแทบจะไมสามารถเขยื้อนกายจากที่นั่ง เพราะความประหมา เหลียวดูคนที่นั่งอยูรอบตัว ก็เห็นวาทุกคนกําลังขยับ เตรียมจะคลานออกไปขางนอก พลอยเหลียวดูหนาคุณเชย ที่นั่งอยูชิดตัว คุณเชยขยิบตาแลวกระซิบวา "ไปสิแมพลอย ไปดวยกันหมดนี่แหละ ไมตองอายหรอก" เสียงชอยกระซิบตอวา "ไปเถอะนาพลอย เดี๋ยวพระทานอดเพล บาปกรรมเปลาๆ" ทุกคนพากันหัวเราะในคําพูดของชอย และ พลอยก็เริ่มคลานออกจากหอง ผานหองกลางที่มีคนนั่งอยูมาก มีเพื่อนเจาสาวหอมลอมออกไปเปนกลุม และคุณ สายเปนผูนําอยูขางหนา พลอยคลานกมหนาไปตลอดทาง รูสึกตัววาตาทุกคูจับอยูที่ตนดวยความสนใจ พอผาน คนที่นั่งอยูกลุมใด ก็มีเสียงพูดจากันซุบซิบ แสดงความพอใจในความงามของเจาสาว คุณเปรมนั่งรออยูที่เฉลียงใหญหนาตึก มีขันขาวใสบาตรเงินตั้งอยูตรงหนา บาตรพระสิบใบตั้งอยูเปน แถว คุณสายพาพลอยและเพื่อนเจาสาว ตรงเขาไปที่คุณเปรมนั่งคอยอยู กอนจะถึงพลอยไดยินเสียงชอย กระซิบขึ้น อีกครั้งหนึ่งวา "พลอยระวังใหดีนะ เวลาจับทัพพีตองเอามือไวขางบน มือเราจะไดอยูเหนือมือเขา ตอไปเขาขมเหงเรา เลน ไมได" พลอยเขาไปนั่งอยูขางๆตัวคุณเปรม เปนครั้งแรกในชีวิตที่ไดใกลชิดถึงเพียงนี้ พลอยไมกลาจะเงยหนา ขึ้น ดูอะไรทั้งสิ้น สายตานั้นจองอยูที่ขันขาวใสบาตร คุณเปรมกระเถิบตัวใกลเขามาอีกหนอยหนึ่ง พลอยก็ กระเถิบหาง ออกมาอีกนิดโดยมิไดตั้งใจ คุณเปรมเขามาใกลตัวจนไดยินเสียงหายใจ พลอยแลเห็นมือคุณเปรม จับทัพพี ในขันขาวรออยู และเทาที่สังเกตคุณเปรมเอง ก็คงประหมาอยูไมนอย เพราะมือที่จับทัพพีนั้นก็สั่นๆอยู มิใชวา จะเที่ยงนัก พลอยกลั้นใจยื่นมือออกไปยังขันขาวใสบาตร ตามที่คุณสายกระซิบบอก คุณเปรมจะไดยิน คําสัพยอก ของชอยในเรื่องจับทัพพีใสบาตรหรือไมก็ไมทราบ แตพอพลอยยื่นมือออกไป คุณเปรมซึ่งจับ ทัพพีรออยูกอน ก็รนมือของตนเองลงไปต่ํา ปลอยใหพลอยจับดามทัพพีทอนบน เหนือมือของตนดวยความ สมัครใจ พลอยนั่งกมหนาเอามือแตะดามทัพพีไว ปลอยใหคุณเปรมเปนคนตักขาวใสบาตร ไปจนครบทั้งสิบ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy114_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๔ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 6

บาตร เมื่อเสร็จแลวก็รีบคลานกลับเขาหอง ที่นั่งฟงพระสวดดวยความโลงอก มิไดเหลียวซายแลขวาดูวาใครจะ วาอยางไร อีกตอไป พอเขามานั่งรวมกลุมกันอยูในหอง ชอยก็เอาผาเช็ดหนาโบกกระพือลมใสตัว แลวพูดขึ้นวา "ฉันตกประหมาแลวก็ตื่นจนจะเปนลม คลายๆกะวาฉันแตงงานเองยังงั้นแหละ" "ฉันก็เหมือนกัน" คุณเชยพูดขึ้น "ตอนที่ออกจากหองนี้ไปขางนอก พอโผลออกไปก็หองหมุนควางที เดียว ฉันนึกจะหมอบแปะอยูตรงปากประตูนั่นเสียแลว แตกลัวคนเขาจะวาดัดจริต ไมใชกงการอะไรของตัวสัก หนอย เลยตองแข็งใจคลานตามแมพลอยเขาไป ใครมียาดมบาง ชวยชีวิตฉันไวสักทีเถิด เดี๋ยวฉันจะหมดลมเสีย กอน" ทุกคนในกลุมยืนยันวาตนก็ตกประหมา เชนเดียวกันทั้งสิ้น แมแตคุณสายเองก็รับวาวันนี้ใจคอไมคอยดี เลย ระหวางที่พระฉันอยูนั้น ตางคนก็ตางคุยหัวเราะกันเบาๆ อีกสักครูหนึ่งชอยก็สะกิดพลอย แลวพูดวา "พลอย ดูใครเขามานั่นแนะ" พลอยเหลือบตาไปดูแลวก็ดีใจวาบ เพราะคนที่เขามานั้นมิใชใครอื่น คือแมของชอยนั่นเอง แมชั้นแตงตัว เต็มที่สมกับมางานใหญ สะพายแพรจีบตามสมัยใสเกือกถุงตีน แตถึงอยางนั้นแมชั้นก็ยังแตงตัวตามสบาย ไม พิถีพิถัน แพรสะพายก็มิไดตรึงใหเรียบรอย เริ่มทําทาวาจะหลุดลงจากบา ทําใหแมชั้นตองหยิบขึ้นวางใหเขาที่ อยูบอยๆ "แมพลอยแมทูนหัว" แมชั้นเอยขึ้นอยางดีใจ "ฉันปลื้มใจจริงๆวันนี้ ปลื้มจนพูดไมถูก" แลวแมชั้นก็หยิบ ชายแพรสะพายนั้นเอง ขึ้นแตะที่ลูกตา "ฉันนึกวาจะไมมากันเสียแลว หายไปไหนกันก็ไมรู เมื่อกี้ออกไปก็ไมเห็น" คุณสายพูดทําเสียงเหมือนกับ ตอวา "โธ แมสายก็" แมชั้นตอบ "เพิ่งมาถึงเดี๋ยวนี้เอง คุณหลวงเขาไปเชารถเขามาแตเชา แตฉันเองเปนคน แตงตัว ไมเสร็จจนเขาจะทิ้งฉันเสียแลว เพราะความโกรธวาลาชา เขาหาวาฉันเถลไถล ไมจริงสักนิดเดียว แตง เต็มยศกัน อยางนี้ก็ตองแตงกันอยางระมัดระวังหนอย" ชอยหัวเระขบขันแมของตัวเองแลวพูดวา "อยางนี้หรือเรียกวาระมัดระวังแลว เดี๋ยวแมไปที่เรือนคุณอา นุย กะฉันกอนเถิด ฉันจะชวยตรึงแพรให เดี๋ยวไปหลุดขายหนาเขา" "นั่นซี" แมชั้นยอมรับ "แมก็รําคาญเหมือนกัน ตอนออกจากบานก็ยังดีๆ พอถึงที่นี่เขาทําไมมันถึงกระจุย กระจายอยางนี้ก็ไมรู" แลวแมชั้นก็หันมาพูดกับพลอยเบาๆ ตอไปวา "แมพลอย ฉันดีใจจริงๆ วันนี้ ดีใจเหมือนแตงงานลูกในไส สวยจริงแมคุณ ทาทางกิริยาก็งดงาม คนขาง นอก เขาชมเปาะกันทุกคน ฉันไดยินมากับหูเดี๋ยวนี้เอง ฉันปลื้มแททีเดียว อยางนี้เปนยายชอยคงสนุกละ เจา สาวทําทา เปนลิงหลอกเจา อายคนเขาแย" "อาว !" ชอยทักขึ้น "ก็นั่นทําไมมาลงฉันเขาละแม ไวใหถึงเวลาเสียกอนซี ถึงคราวฉันมั่งละฉันจําทําทา ใหสวยเชียว แตวันนี้ยังไมถึงขนาด ฉันคอยจําทาทางแมพลอยเขาไวทุกฝกาว ไวใจเถิดฉันไมใหอายเขาหรอก วาแตมีใครมาขอหรือยัง" แมชั้นหัวเราะชอบใจลูกสาว แตคุณสายหันมาดุหลานเบาๆวา "บาอีกแลวยายชอย พูดอะไรก็ไมรู ไมเลือกที่เลือกทาง เสียบางเลย !" "ฉันดีใจเหลือเกิน" แมชั้นพูดย้ําอีก "เจาคุณพอทานอุตสาหไปถึงบาน ทานไปขอใหคุณหลวงกับฉัน มาปู ที่นอนคืนนี้ ทานวาทานมองไมเห็นใครจะดีเกินไปกวาคุณหลวงและฉัน ทานอยากใหแมพลอยไดอยูกันรมเย็น อยางคุณหลวงกะฉันอยางไรละ เปนพระคุณของทานแทๆทีเดียว แตแรกคุณหลวงเขาขอตัว เขาวาลูกสาวทาน ควรจะมีคนใหญคนโตจริงๆ มาทําพิธีจะไดเปนสิริมงคล แตทานก็ไมยอม ทานวาคนจะมีเรือนแลวอยูเย็นเปนสุข ไมไดอยูที่ยศวาสนา แตอยูที่ความประพฤติถอยทีถอยอาศัยกัน อยางฉันกะคุณหลวง ดีกวาคนใหญคนโตทั้งนั้น แลวทานยังบอกวาเมื่อแมพลอยโกนจุก ก็ทําที่บานฉันอยูแลว แมพลอยจึงเหมือนลูกฉันอีกคนหนึ่ง ทานวาตอง มาใหไดทีเดียว ความจริงถึงอยางไรๆ ฉันก็ตองมาชวยอยูแลว ที่ไดมาปูที่นอนก็เลยยิ่งดีใจขึ้นอีก" "แลวก็ปูใหดีๆก็แลวกัน" คุณสายพูดดักคอ "ไมตองกลัวหรอกแมสาย ฉันปูเต็มฝมือทีเดียว" พลอยรูสึกดีใจที่คุณหลวงและแมชั้น ไดมามีสวนเกี่ยว ของ ในพิธีแตงงานของตน แตแรกเคยนึกอยูวาคุณหลวงและแมชั้นจะคิดอยางไร เมื่อทราบขาว แตเมื่อไดทราบ วา เจาคุณพออุตสาหไปหาถึงบาน และแมชั้นก็ดีใจจริงๆ ในการแตงงานของตน พลอยก็รูสึกเบาใจขึ้นมาก เพราะใจนั้น ยังอยากจะคบกับคุณหลวงและแมชั้นไปตลอด แมชั้นนั่งอยูเปนเพื่อนจนพระฉันเสร็จ จึงกลับออกไปขางนอก และพอพระอนุโมทนายถาสัพพีเสร็จแลว พิธีสําหรับตอนเชาก็เปนอันเสร็จลง พลอยถูกพาตัวกลับลงจากตึกทางดานหลัง เจาคุณพอ คุณหลวงและแมชั้น มาคอยรับอยู และพากันไปที่เรือนแมนุย เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน และพักผอนตอไปจนกวาจะถึงเวลารด น้ํา ในตอนบาย เจาคุณพอเรียกพลอย คุณสาย และพวกเพื่อนเจาสาว ใหรวมวงกินขาวดวยกัน ความจริงทางเจาของ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy114_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๔ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 6

บาน ไดจัดแยกไวใหกินขาวกันคนละทาง แตเจาคุณพอทานไมยอม อางวากินคนเดียวไมสนุก และฉุดตัวคุณ หลวง กับแมชั้นใหอยูกินขาวดวย "วันนี้ตองขลุกขลักหนอย" เจาคุณพอพูดออกตัวขึ้นเมื่อเริ่มกินขาว "ถาแตงเสียที่บานเราก็คงจะเรียบรอย เสียแตวาที่บานตองไปเรือ แขกไปใครมาลําบากอีก" คุณเชยไดยินเจาคุณพอพูด ก็มองสบตากับพลอย แลวก็กมหนาลงกินขาวตอไป "แตงที่นี่ก็เหมือนกัน จริงไหมเจาคะ" แมนุยพูดขึ้น "นึกเสียวาเรือนอิฉันเปนบานเจาสาวก็แลวกัน อิฉัน สั่งไว วาไมใหทางบนตึกมาวุนวายทางนี้เลยทีเดียว" "เปนพระคุณแลวขอรับ" เจาคุณพอตอบ "งานคราวนี้ ถาไมไดคุณชวยจัดการ ก็เห็นจะลําบาก" "บายวันนี้เห็นจะแขกมากนะขอรับ" คุณหลวงเอยขึ้น "เห็นจะมากเอาการอยู" เจาคุณพอตอบ "ญาติผูใหญของพลอยเขาก็มีมาก ทานจะมากันทั้งนั้น แลวก็ยัง ญาติทางพอเปรมเขาอีกไมนอย กวาจะรดน้ําเสร็จก็เห็นจะหมอบกันเมื่อยทีเดียว ทั้งเจาบาวและเจาสาว" เรื่องที่พูดกันเกี่ยวกับการแตงงานมีเพียงเทานั้นเอง นอกจากนั้นตางคนก็ตางคุยกันเรื่องอื่นไป จนกิน ขาวเสร็จ พลอยนั่งกมหนากินขาวนิ่งๆ มิไดพูดจากับใคร ขาวที่เขาปากแตละคํารูสึกวากลืนยาก เสียเหลือแสน รสชาตินั้นไมตองพูดถึงเพราะพลอยไมรูสึกเลย กินขาวเสร็จแลว พลอยและพวกเพื่อนเจาสาว ก็กลับเขาไปนั่ง จับกลุมกันอยูในหอง เพื่อพักผอนจนกวาจะถึงเวลา ทุกคนพากันหาเรื่องมาคุยเพื่อใหพลอย เพลิดเพลินใจ แตก็ ไมทําใหพลอยเกิดความสบายใจขึ้นได เพราะขณะนั้นไมมีแกใจที่จะฟงใครพูดเรื่องอื่นใดทั้งสิ้น พลอยไดแตนั่ง คอยเวลาอยูดวยความประหมา และความวิตก แมชั้นยองเขามาลากอนที่จะกลับบาน แลวบอกวา จะกลับมา ใหมตอนรดน้ํา และอยูไปจนถึงฤกษปูที่นอน แตกอนที่จะกลับแมชั้นยังสั่งกับพลอยวา "แมพลอยจําไวใหดี รดน้ําแลวเราตองถอดมงคลกอน แลวลุกจากเตียงกอน ตอไปเขาจะไดกลัวเรา อยา ลืมทีเดียว ชอยคอยเตือนดวย" พอแมชั้นคลอยหลังออกไป ชอยก็พูดขึ้นวา "ก็พูดกันไปลมๆแลงๆอยางนั้น ฉันไมเคยเชื่อเลย เรื่องโคมลอยทั้งนั้น ถึงจะเปนจริงก็ไมเห็นนาจะทํา พลอยอยากใหผัวกลัวหรือเปลา" "ฉันก็ไมรูซีชอย" พลอยตอบ "ยังไมเคยนึกถึงเรื่องนี้สักที" "รีบนึกๆไวเสียบางเถิดแมพลอย" คุณเชยพูดสอดขึ้นมา "นี่ก็แตงงานเขาไปครึ่งตัวแลว มัวแตรีรออยู เดี๋ยวจะนึกไมทัน" "ฉันไมมีแกใจจะนึกอะไรทั้งนั้นแหละ" พลอยยอมรับตรงๆ "นั่นซี" ชอยพูดขึ้นอีก "เผลอตัวไปประเดี๋ยวเดียว ตองมาตกที่นั่งเปนเจาสาวเสียแลว ใครจะไปนึกอะไร ทัน วาแตเรื่องใครกลัวใครนี่เถอะ ฉันยังไมเห็นจําเปนเลยวาใครจะตองกลัวใครขางหนึ่ง ก็จะอยูดวยกันเฉยๆ โดยไมตองกลัวกัน จะไมไดทีเดียวหรือ" "ฉันก็วาอยางนั้นเหมือนกัน" คุณเชยเห็นดวย "ผูหญิงกลัวผัวฉันก็ไมชอบ บางคนก็กลัวผัวเสียจน กลาย เปนบาว ฉันไมเห็นดีเลย แตผูชายกลัวเมียยิ่งแลวใหญ นาเกลียดออก กลายเปนตัวอะไรก็ไมรู" "ใจจริงถาฉันไดมีผัวกะเขาสักคน ฉันก็อยากจะกลัวเขา" ชอยพูดขึ้นลอยๆ "แตฉันกลัวเขาจะมากลัวฉัน เสียกอนเทานั้น" คุณสายซึ่งนั่งฟงอยูนิ่งๆ หัวเราะหึๆ แลวพูดวา "ก็นากลัวจริงๆ คนอยางยายชอย ใครจะตองมาเปนลูกเปนผัว ก็มีกรรม" "ฉันไมอยากพูดอะไรแลวละ" ชอยปราศรัยขึ้นกับลมแลง รอบๆตัว "พอพูดอะไรกะเขาสักที ก็มีคนเห็น เปนจริงเปนจังไปเสียหมด" คุณเชยหัวเราะแลวพูดวา "อยาเสียใจไปเลยแมชอย หลอนกะฉันก็เห็นจะหัวอกอันเดียวกันนะแหละ ถาจะตองอยูเปนโสดไปจนแก จนเฒา เรามาคอยเปนคนเลี้ยงลูกแมพลอยเขาดีกวา" พอไดยินคุณเชยพูดพลอยก็ใจหาย เลือดขึ้นหนาดวยความอาย จริงสิ ! คุณเชยพูดถูก แตงงานแลว ก็ ตองมีลูก ใครๆเขาก็มีทั้งนั้น นึกถึงเรื่องนี้ใจหนึ่งก็ยินดีอบอุนไปทั้งตัว แตลูกของคนอื่นเขา พลอยยังรักเปนหนัก เปนหนา ถาเปนลูกของตนเองจะรักสักปานใด แตพลอยเคยไดยินคนเขาบอกวากอนจะมีลูก ตอนที่เด็กจะเกิด นั้น เจ็บปวดเปนหนักเปนหนา พลอยนึกไปถึงแม ครั้งหนึ่งนานมาแลว เมื่อพลอยยังเปนเด็ก พลอยเคยถามแม วา ไดพลอยมาจากไหน แตแทนที่แมจะปดบัง หรือเลาเรื่องที่ไมจริงใหฟง แมก็บอกใหตามตรงวา พลอยนั้นเกิด ขึ้น ในทองแม มีเจาคุณพอเปนผูใหกําเนิด แมบอกวา แมรูแลวตั้งแตพลอยยังอยูในทองวา พลอยจะเปนลูกที่แม รักมาก เพราะพอรูวาทองพลอย แมก็อิ่มเอิบใจ แมเลาใหฟงถึงความเจ็บปวด เมื่อกอนพลอยจะเกิด แตก็มาสรุป ความ ในตอนสุดทายวา "พอพลอยเกิดแลว เขาก็อุมพลอยใหแมดู พอเห็นหนาพลอย แมก็ดีใจเสียเหลือเกิน ความเจ็บปวด เทาไรๆ ก็หายเปนปลิดทิ้ง เพราะความที่แมรักพลอย ทําใหความเจ็บปวดหายไปหมด" ถาหากวาการแตงงานจะมีความหมายแตเพียงวา จะตองมีลูกไวเชยชม การแตงงานนั้นดูก็จะเปนสิ่ง ไม

http://www.geocities.com/siamstory/ploy114_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๔ (หนาที่ ๒)

Page 5 of 6

นากลัวอะไรนักหนา พลอยนั่งนึกตอไป แตการแตงงานมิไดมีความหมายแตเพียงแคนั้น เพราะหมายความวา พลอยจะตองใชชีวิตตอไปกับคนหนึ่ง ซึ่งพลอยจะตองรักตองเคารพตองบูชา ที่วิตกอยูมากก็เพราะวาคนๆนั้น จะควรแกความเคารพบูชาหรือไม เวลาลวงเลยไปเรื่อยๆ ไมมีใครไปรั้งรอไวได คุณสายบอกใหพลอยเริ่มแตงตัว เปลี่ยนเปนชุดเสื้อผา ที่ เตรียมไวแตงตอนรดน้ํา พลอยนุงมวงดอก ใสเกือกถุงตีน สะพายแพรกลัดเข็มกลัด และสวมสายสรอย ที่เสด็จ ประทาน และเพื่อนเอาใจเจาคุณพอ คุณสายก็บอกใหพลอยผูกจี้ที่ทานใหไวเมื่อโกนจุก พวกเพื่อนเจาสาว พา กันทักวาเปนของโบราณพนสมัย แลดูเหมือนกับเครื่องละครรํา แตคุณสายก็ยังยืนยันในความเห็นของตน และ พลอยก็เห็นดวย เมื่อพลอยขึ้นไปถึงบนตึก บรรยากาศทั่วไป และเสียงแขกที่มาพูดกันเบาๆ อยูนอกหองทําใหพลอยรูได วา งานวันนั้นไดเขาถึงขีดสูงสุด พิธีที่พลอยกําลังเขาสู เปนพิธีที่สําคัญที่สุดในวันนั้น และหลังจากพิธีนี้แลว ทุกอยางก็จะตองถือวาแนนอน ไมมีทางหลีกเลี่ยงถอนตัวอีกตอไป กระบวนเจาสาวเดินขึ้นทางบันไดหลังเบาๆ เสียงแพรกระทบตัวเวลาเคลื่อนไหว และเสียงซุบซิบของ เหลา เพื่อนเจาสาวเปนสัญญาณบอก ใหผูรออยูขางบนนั้นรูตัว พลอยถูกนําตัวเขาไปในหองที่จัดไวเปนที่รดน้ํา เมื่อเขาไปถึงก็ไมไดเหลียวมองดูใคร ไดแตกมหนาอยูดวยความสะทกสะทาน เพื่อนเจาสาวที่ตามเขาไปดวย นั่ง กันเปนกลุมขางเตียง ทางที่พลอยขึ้นไปหมอบอยู ชอยหลีกเขามานั่งจนชิด พอจะกระซิบพูดใหพลอยไดยินได พลอยรูสึกวาคุณเปรมขึ้นมาหมอบอยูบนเตียงขางตัว แตก็ไมกลาเหลียวไปมอง อีกสักครูเสียงพูดซุบซิบก็เงียบ ลง เพราะเจานายตางกรมองคหนึ่งเสด็จเขามาในหอง เพื่อทรงสวมมงคลแฝดใหคูบาวสาว เมื่อประทานน้ําสังข แลว ก็ทรงเจิม พลอยพยายามหลบสายตา ไมเหลือบขึ้นดูทานผูเขามาประกอบพิธี เก็บสายตาขอบตนใหอยู เพียง ระดับพื้นหนาเตียง ตอจากนั้นก็มีญาติผูใหญเขามารดน้ํากันมากมาย บางคนก็ใหศีลใหพร บางทานก็ชม วา สมกันนัก บางทานก็รดน้ําเงียบๆ สวนมากเปนญาติผูใหญจริงๆ น้ําที่รดจึงลงบนศีรษะของพลอยเกือบทั้ง หมด ชอยคอยกระซิบบอกวาผูที่กําลังจะเขามานั้นเปนใคร แตวิธีบอกของชอยออกจะแปลกประหลาด เพราะมิ ไดบอก ชื่อหรือฐานะของผูที่จะเขามา เพราะชอยคงไมรูจัก แตชอยกลับบอกเพศและวัย ตลอดจนลักษณะของผู ที่จะมา รดน้ํา ตามแตชอยจะสังเกตเห็นในระยะเวลาอันสั้น พลอยหมอบรับน้ําอยูมิรูวานานสักเทาไร จนรูสึกวาเมื่อยไปหมดทั้งตัว การรดน้ําจึงเสร็จสิ้นลง ตอนจะ ลุกจากเตียง พลอยเหลือบไปดูคุณเปรมแวบหนึ่ง เห็นคุณเปรมคุกเขาอยูบนเตียง รอจนพลอยลงจากเตียง แลว จึงไดลงทีหลัง ทามกลางเสียงหัวเราะเบาๆของเพื่อนเจาบาว รดน้ําแลวพลอยก็ผลัดเครื่องแตงตัวอีกชุดหนึ่ง และเมื่อแตงตัวดวยชุดใหมเสร็จแลว ก็ตองรีบขึ้นไปนําผาไหวไปเซนผีบรรพบุรุษ ของทางคุณเปรมที่บนตึก โดย เปนที่เขาใจกันวาพลอยและคุณเปรม จะตองไปทําพิธีเชนเดียวกัน ที่บานคลองบางหลวงในวันรุงขึ้น ตอนบายแขกทยอยกันกลับหมดแลว แมนุยรวบรวมพวกเพื่อนเจาสาว ที่ออกมาจากในวัง เพื่อพาขึ้นรถ ไปสงใหทันกอนประตูปด คุณสายจะตองอยูสงตัวพลอยในตอนดึก จึงจําเปนตองคางคืนหนึ่ง และจะกลับในตอน รุงเชา เมื่อชอยและพวกเพื่อนเจาสาวคนอื่นๆ เขามากระซิบลา พลอยรูสึกใจหายจนบอกไมถูก จะพูดจาสั่งเสีย อะไรก็ไมได ไดแตนั่งนิ่งอยู ชอยพูดเบาๆวา "ไมเปนไรหรอกพลอย อีกสองสามวันก็พบกันใหม" แลวชอยก็รีบลุกจากไป เพราะชอยเองก็รูตัววา ถา ขืนพูดมากตัวเองก็จะกลั้นความรูสึกไว ไมอยูเหมือนกัน คุณเชยแมชั้นเขามาอยูเปนเพื่อนพลอยจนค่ํา ประมาณสักยามหนึ่งแมชั้นก็ขอตัวหายไป บอกวาไดฤกษ ปูที่นอนแลว และเมื่อถึงเวลาอีกสิบนาทีจะหาทุม เจาคุณพอและคุณสายก็พาตัวพลอยขึ้นไปบนตึก เพื่อสงตัวตอ คุณเปรมที่รออยูบนนั้น พลอยมานึกทีหลังวาตนเองเดินขึ้นไปบนตึก ในคืนนั้นไดอยางไรก็นึกไมออก และถาจะถามพลอย ภาย หลังวา จํารายละเอียดอยางไรไดบาง พลอยก็จําไมได จําไดแตเสียงมโหรีดังมาจากชั้นลาง ผูคนเบาบางลงไป มากแลว เมื่อเขาไปถึงหองพลอยก็เห็นเตียงนอนแบบจีน คอนขางใหญตั้งอยูทางหนึ่ง คุณเปรมนั่งสงบเสงี่ยม อยูคนเดียวหนาเตียง พอเห็นเจาคุณพอและคุณสายนําพลอยเขาไป คุณเปรมก็ลงกราบ เมื่อลงนั่งกันเรียบรอย เจาคุณพอก็ บอก พลอยใหกราบคุณเปรม แลวก็เริ่มสั่งสอนใหคุมครองกัน และใหศีลใหพรดวยเสียงที่เบาจนพลอยจําคําไม ได เพราะขณะนั้นรูสึกวาหูอื้อทั้งสองขาง เจาคุณพอพูดจบคุณสายก็ใหพรดวยเสียงเบาๆเชนกัน คุณเปรมนั่ง พนมมือ รับพรจากผูใหญอยางสงบเสงี่ยม มิไดเหลือบชําเลืองมาทางพลอยเลย เมื่อใหพรสงตัวเสร็จเจาคุณพอ และคุณสาย ก็เดินออกจากหองไปเบาๆ ประตูหองนั้นปดสนิทลง ทิ้งพลอยไวสองตอสองกับคุณเปรมเปนครั้ง แรกในชีวิต พลอยนั่งกมหนาดูพรมสีแดง เปนลายดอกกุหลาบเหลืองอยางพินิจพิเคราะห เหมือนกับจะทําความรูจัก กับขนสัตวในพรมนั้นทุกเสน ทั้งสองคนตางนั่งนิ่งอยูอีกนาน ในที่สุดคุณเปรมก็กระถดตัวเขาใกลอีกนิดหนึ่ง แลวถามขึ้นดวยน้ําเสียงที่เบา เกือบเปนกระซิบและดวยถอยคําที่พลอยไมนึกเลยวา "แมพลอยจา แมพลอยเคยขึ้นพระบาทหรือยัง"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy114_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๔ (หนาที่ ๒)

http://www.geocities.com/siamstory/ploy114_2.html

Page 6 of 6

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๑) สามวันแรกของชีวิตแตงงาน พลอยมิไดไปไหน นอกจากไปที่บานคลองบางหลวง อยางเงียบๆพรอมกับ คุณเปรม เพื่อนําผาไปไหวกระดูกบรรพบุรุษ ในหองพระที่ตึกเจาคุณพอ และไหวเจาคุณพอ ผูซึ่งรับไหวดวย นาฬิกาพกสําหรับคุณเปรม และแหวนอีกวงหนึ่งสําหรับพลอย คุณอุนออกมานั่งคอยรับไหวอยูขางหลังเจาคุณ พอ ดวยสีหนาไมปกติ พลอยทราบภายหลังวาเจาคุณพอบังคับใหออกมา และรับไหวพลอยดวยแหวนปลอกมีด ฝงเพชรซีกเม็ดเล็กๆ อยางเสียไมได หลังจากนั้นแลวพลอยก็อยูเงียบๆ บนตึกสองคนกับคุณเปรม ไมไดโผลหนาไปไหนอยูสามสี่วัน ความ รูสึกอยางหนึ่งที่ไมเคยมี ก็เกิดขึ้นมาในใจ พลอยไมยอมรับวาความรูสึกนั้นเปนความรัก เพราะไมเหมือนกับ ความรักที่เคยมีมาครั้งหนึ่งในกาลกอน แตความรูสึกที่เกิดใหมนั้น เปนของแนนอนไมมีวันเปลี่ยนแปลง หรือ หวั่นไหวไปไดคือ รูสึกวาคุณเปรมนั้นเปนเจาของๆตน เปนหลักที่ตนจะตองยึดมั่นไวในชีวิตนี้ ไมมีวันที่จะผละ ออกได นอกจากคุณเปรมจะไมตองการตนอีกตอไป คนเราที่เกิดมาทุกคนยอมมีจิตใจแตกตางกัน มีใจที่รัก ความอิสระ โดยไมมีขอผูกพันกับใครบาง หรือมิฉะนั้นก็มีใจที่ตองการจะอยูกับคนอื่น หรือเปนของคนอื่น จะอยู ดวยตนเองแตเพียงคนเดียวนั้นไมได พลอยเปนผูหญิงทั้งกายและใจโดยสมบูรณ จึงมีใจอยางประเภทหลัง เมื่อ รูสึกวาตนมีเจาของก็เกิดความมั่นใจ และไดรับความสุขจากความมั่นใจนั้น ความรูสึกวาตนเปนของคุณเปรม นั้นผิดกับความรูสึกที่พลอยเคยมีตอแมหรือเสด็จ เพราะความใกลชิดสนิทสนมตอคนตางเพศถึงเพียงนี้ พลอยมิ ไดเคยมีมาแตกอน ระยะเวลา ๓ - ๔ วันแรกผานไปเหมือนกับฝน พลอยยังงงตอเหตุการณ และชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ระยะ เวลาอีก ๗ - ๘ วันตอนั้นไป พลอยก็ยังไมมีเวลาที่จะดูฐานะของตนโดยรอบ เพราะตองใชเวลาระหวางนั้น ขึ้น รถลงเรือไปกับคุณเปรมทุกวัน พรอมดวยดอกไมธูปเทียน เพื่อไปไหวบรรดาญาติผูใหญในตระกูล ทั้งทางฝาย พลอยและฝายคุณเปรมเอง เมื่อตอนเขาเฝาเสด็จเพื่อถวายดอกไมธูปเทียนนั้น พลอยเขาไปคนเดียว มีนางพิศ ตามหลัง เพราะคุณเปรมเขาไปถึงขางในไมได เสด็จทรงรับไหวดวยกระดุมอักษรพระนามชุดหนึ่ง สําหรับคุณ เปรม และประทานเงินแกพลอยอีก ๒๐ ชั่ง พรอมกับรับสั่งวา "ขารูแลววาพลอยไดผัวเศรษฐี แตเงินนี้เปนของขาใหแกเจา จะไดไปเปนทุนทํามาคาขาย ขาไดเงินนี้มา โดยสุจริต ไมไดไปคดโกง หรือกดขี่เอามาจากใคร ถาเจาใชเงินที่ขาใหเจาคราวนี้ ดวยความสุจริต เจาก็จะทํามา คาขึ้น มีทรัพยสมบัติงอกเงยขึ้นทุกวัน" เสด็จรับสั่งถามถึงเรื่องบานชองที่อยูอีกหลายอยาง แตพลอยก็ยังไมสามารถทูลไดโดยละเอียด เพราะตน เองก็ยังไมมีเวลาจะไปดูแลไดทั่วบาน หลังจากเฝาเสด็จแลว พลอยก็ถือโอกาสไปไหวคุณสาย ผูซึ่งรับไหวดวย สายสรอยขอมืออีกสายหนึ่ง ซึ่งชอยแอบตีราคาลับหลังคุณสาย ใหพลอยฟงวา ไมคุมกับของชํารวยที่ไดรับ ใน วันที่คุณสายไปชวยแตงงาน เพราะของชํารวยที่ไดรับนั้นมีราคาสูงกวา เพื่อนฝูงเกาๆหลายคนที่ไดพบในวันนั้น ดีใจตอนรับกันเปนการเอิกเกริก และเมื่อไดนั่งจับกลุมคุยกัน เฉพาะคนที่คุนเคยครูหนึ่ง ชอยก็ตั้งปญหาถามเอา ตางๆ ทําใหพลอยตองหนาแดงดวยความอาย หลายครั้งหลายหน และทําใหคนที่ไดยินตองหัวเราะกันทุกครั้ง ไป แตวันนั้นพลอยก็มิไดอยูในวังนานนัก ตองรีบกลับ เพราะเกรงคุณเปรมจะเขาใจผิด คิดวาพลอยยังอาลัยใน วังอยูมากกวาที่บาน ทุกครั้งที่พลอยเรียกบานคุณเปรมวา 'บาน' พลอยก็ตองสะดุดใจ เพราะแตกอนเมื่อพูดถึงบาน พลอยก็ นึกถึงบานคลองบางหลวง แตเดี๋ยวนี้คําวา 'บาน' ตองหมายถึงบานคลองพอยม ซึ่งพลอยยังไมรูสึกวาตน เปน เจาของบานแมแตนอย ความรูสึกวาตนเปนเจาของบานนั้น และมีหนาที่ปกครองบานสําหรับคุณเปรม ทําให พลอยตองฉงนใจอยูบอยๆ เพราะระยะเวลา ๑๐ กวาวัน ยังไมทําใหพลอยชินตอความรูสึกเชนนั้น ขางของ ตางๆที่อยูในบาน รูสึกวาจะมากมายเกินกวาภาระของตน และกุญแจทั้งพวงที่คุณเปรมมอบใหถือนั้น พลอยก็ ยังมิไดทดลองไขตูไขกําปนดูเลยแมแตสักใบเดียว วาในตูในกําปนนั้น จะมีของอะไรบาง เมื่อคุณเปรมยื่นพวง กุญแจใหนั้น พลอยถอยตัวออกหางโดยมิไดตั้งใจ ปากก็พูดวา "ไมตองหรอก คุณเปรมเก็บเอาไวเองก็แลวกัน ฉันยังไมรู..." แตคุณเปรมก็หัวเราะ แลวพูดตัดบทอยางอารมณดีวา "ของทุกอยางในบานนี้เปนของแมพลอยทั้งนั้น แมพลอยไมถือกุญแจใครจะเปนคนถือ ชวยเอาไปเสียที เถิด ฉันตองถือกุญแจมาเอง ตั้งแตคุณแมเสีย รําคาญเต็มทนแลว วันหลังวางๆ ฉันจะบอกใหวาอะไรอยูที่ไหน" คนในบานคุณเปรมพลอยก็ยังไมรูจักทั่ว เพราะมีมากมายหลายคน บางครั้งที่พลอยเห็นกมตัวเมื่อเดิน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy115.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 5

ผาน ก็ตองเหลียวไปดูวา มีผูใหญที่ไหนมายืนขางหลัง โดยที่ตนไมทันเห็น เมื่อเห็นวาไมมีใคร จึงรูวาเขากมให แกตน ในฐานะเปนเจาของบานและเปนนาย แมนุยแนะนําใหรูจักคนในบานวาใครเปนใคร แตก็มิไดแนะนําอะไร เกินไปกวานั้น ในตอนแรกถาพลอยตองการสิ่งใด พลอยก็ใชใหนางพิศไปบอกคนอื่นอีกตอหนึ่ง แตหลายวันเขา นางพิศก็ยื่นคําขาดวา "คุณพลอย คุณโตจนมีเรือนแลว คนที่นี่ก็บาวของคุณทั้งนั้น ทําไมคุณไมใชเขาเอง ถาใหบาวไปใชเขา อีกตอหนึ่ง เขารุมกันตบบาวตายไป คุณจะทําอยางไร" คําเตือนของนางพิศทําใหพลอยไดคิด และเริ่มทําความรูจักกับคนในบาน มากขึ้นกวาแตแรก บานคลอง พอยม หรือบานของพลอยเปนบานใหญ เนื้อที่สิบกวาไร ในบานนอกจากตัวตึกยังมีเรือนบริวาร ปลูกอยูหลาย หลัง นอกจากเรือนคุณนุยกับคุณเนียนซึ่งใหญที่สุดแลว ยังมีเรือนเล็กๆนอยๆ ปลูกอยูในบริเวณหลังบานอีก มาก มีคนอาศัยอยูหลายครัวเรือน ถาจะรวมคนทั้งบานก็เห็นจะไดจํานวนหาสิบเศษ คนเหลานี้คุณเปรมบอกวา เปนคนเกาแกอยูมาครั้งเจาคุณพอ บางครัวก็อยูมาครั้งเจาสัว ผูเปนเตี่ยของเจาคุณพอ ผูซึ่งคุณเปรมเรียกวากง มีรูปใหญติดอยูบนตึก เปนจีนควั่นหางเปยบริบูรณทีเดียว คุณเปรมเองก็ยอมรับ กับพลอยวา คนในบานทุกวันนี้ สําหรับเด็กๆบางคน คุณเปรมก็ไมรูจักวาใครเปนลูกใคร แตเมื่อเกิดมาแลว ก็ตองเลี้ยงกันไปตามเรื่อง คนที่อยู ในบานบางครัวเบิกขาวสาร และของแหงไปหุงตมเลี้ยงกัน บางคนก็รับอาหาร จากครัวซึ่งตองหุงขาวกระทะ คน ในบานคนแรกที่พลอยรูจัก ก็คือหัวหนาคนครัวชื่อยายเทียบ ยายเทียบเปนคนแก อายุหาสิบกวา กินหมากทั้ง วันไมขาดปาก เวลาอยูในครัว ยายเทียบก็นุงผาลายเกาๆผืนหนึ่ง ผาหมไมตองพูดถึงกัน เวลาที่ยายเทียบจะหม ผาก็คือเวลาขึ้นบนตึก เพื่อรับคากับขาวจากพลอย แตถึงกระนั้น ยายเทียบก็เอาผาถือพาดหัวไหล มาจนถึง บันไดตึกแลวจึงจะหม ยายเทียบเปนคนเครงครัดมารยาท เวลาจะมาหาพลอย ก็คลานมาแตหัวกระไดจนถึงที่ๆ พลอยนั่ง เหมือนกับพลอยเคยคลานเวลาขึ้นเฝาเสด็จ ถอยคําน้ําเสียงที่ยายเทียบพูดกับพลอย ก็เปนผูดีนาฟง ใชถอยคําไดถูกตองทุกอยาง แตภาษาที่ยายเทียบใช ในครัวกับคนเสมอกันนั้น ก็ไปอีกอยางหนึ่ง พลอยเอ็นดู ยายเทียบมาแตแรกพบ เพราะยายเทียบแสดงใหพลอย เขาใจดวยถอยคําและกิริยาวาแกเห็นใจพลอย ในฐานะ ที่เปนผูเริ่มปกครองเรือนใหมๆ ยายเทียบพยายามบอก พลอยเทาที่จะทําได โดยไมดูเปนการอาจเอื้อมวา สิ่งใด ควรจายสิ่งใดไมควร ของอยางใดแพงไปหรือถูกไป ของอยางใดควรจะซื้อในตอนไหนจึงจะถูก และควรจะซื้อไว มากนอยเทาไร เวลาพลอยลงไปในครัว เปนครั้งเปนคราว ยายเทียบก็ถือโอกาสคุยใหฟง ถึงวิธีเลือกมะพราว และสมสูกลูกไม ตลอดจนผักปลา และของแหงตางๆ ยายเทียบเคยบอกกับพลอยวา "คุณพลอย คุณอยาไดไวใจอีพวกแมครัวเปนอันขาดทีเดียว ถาคุณเผลอเมื่อไร มันเปนโกงคุณเมื่อนั้น" พลอยอดหัวเราะไมได เมื่อไดยินยายเทียบพูดประณามตัวเอง ยายเทียบเห็นพลอยหัวเราะ ก็พูดตอไป วา "อิฉันเองมันอยูกับทานที่นี่มาแตสาวจนแก มันก็ไปอีกเรื่องหนึ่ง ถาอิฉันตายไปแลวคุณจะลําบาก" นางพิศเองก็ดูจะนิยมยายเทียบอยูมาก เพราะเคยบอกพลอยไวสั้นๆวา "คนๆนี้ไวใจได" แตพลอยเอง ก็ ไมรูวา ความนิยมของนางพิศกับยายเทียบนั้น กลายเปนความสนิทสนมอยางรวดเร็ว เพราะยายเทียบนั้น เปน คนทํากับขาวอรอย และเชนเดียวกับคนที่ทํากับขาวอรอยทั้งหลาย ยายเทียบก็เปนคอสุรา ฝายนางพิศซึ่งเปน คนไมกลัวสุรา จึงเลี้ยงดูยายเทียบเปนที่รื่นเริงอยูบอยๆ บางวันถึงกับออกเลนละเม็งละครกัน ที่หลังครัวเปนการ เอิกเกริก ผลของการออกรําละครดวยกันเพราะฤทธิ์เมา เปนเหตุใหยายเทียบเรียกนางพิศวา "แมเกศสุริยง" ทั้ง ตอหนาและลับหลัง เรือนหลังบานหลังหนึ่ง ปลูกอยูชิดกับรั้วทําใหพลอยตองมองดูบอยๆ เพราะถึงจะเปนเรือนที่ปดอยู เงียบๆ ก็จริง แตผานไปครั้งไร ก็มีรองรอยแสดงวาบนเรือนนั้นมีคนอยู บางครั้งก็มีเสียงเด็กรองไหจากเรือนนั้น แตพลอยก็ยังไมเคยเห็นหนาคนที่อยูบนเรือนนั้น วาเปนใคร ครั้งหนึ่งพลอยเคยมาถามนางพิศ ซึ่งยอมรูจักคน ในบานเร็วกวาพลอยเปนธรรมดา นางพิศก็เมินหนาไปเสียอีกทางหนึ่ง แลวปฏิเสธวาไมทราบ อีกครั้งหนึ่ง พลอยไปนั่งคุยที่เรือนคุณนุย ซึ่งจากเรือนนั้น พอจะเห็นเรือนที่อยูหลังบานนั้นได พลอยถามขึ้นเรื่อยๆ เหมือน กับไมสนใจวา "คุณอาคะ เรือนหลังนั้นใครอยู" คุณนุยวางกลองยานัตถุลง แลวถามวา "เรือนหลังไหน" "หลังนั้นไงคะ" พลอยพูดพลางชี้มือ "ออ..." คุณนุยพูดแลวก็นิ่งเงียบไปครูหนึ่ง แตพอเริ่มพูดตอไป คุณนุยก็พูดโดยไมตอบคําถามของพลอย วา "บานนี้ใหญมากจริงไหมแมพลอย คนก็อยูมาก อยูกันมาแตไหนๆ... กวาจะรูจักกันทั่วก็นานจริงไหม จริงไหม" คุณเนียนซึ่งนั่งอยูดวยเหลือบตาดูคุณนุย แลวก็พูดชาๆวา "ฉันเองก็มัวแตเจ็บๆไขๆ ไมไดลงจากเรือน เสียนาน จนเดี๋ยวนี้ไมรูวาใครอยูเรือนหลังไหนบาง ถาจะใหดีแมพลอยถามพอเปรมเขาเองดีกวา เพราะเขา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy115.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 5

ปกครองบานมาแตคุณพี่ตาย เดี๋ยวนี้ฉันก็รูจักแตพวกเด็กๆ ที่อยูในเรือนนี้เทานั้น" หลังจากนั้นแมนุยก็รีบเปลี่ยนเรื่องคุยไปเปนอื่นทันที กิริยาอาการของอาของคุณเปรมทั้งสองคน ทําให พลอยรูสึกสะดุดในวา อาจมีบางสิ่งบางอยางในบานที่ตนยังไมรูถึง และสิ่งนั้นๆไมมีใครอยูในฐานะที่จะบอก แก พลอยไดนอกจากคุณเปรมคนเดียว พลอยกําหนดไวในใจวา วันหนึ่งจะตองถามคุณเปรม ถึงคนที่อยูบนเรือน นั้น แตโอกาสที่จะถามก็มีไมมาก เพราะคุณเปรมมิไดอยูที่บานตลอด แตตองเขาไปอยูในวัง เมื่อกลับมาถึงบาน ก็เปนหนาที่ของพลอย ทึ่จะตองคอยดูแลใหคุณเปรมไดพักผอน และเรื่องที่คุยกันเปนสวนมาก ก็เปนเรื่องพูดจา เลนหัวตามประสาผัวหนุมเมียสาว พลอยจึงลืมเรื่องที่จะถามไปพักหนึ่ง ปลอยใหเวลาลวงเลยไปเรือยๆ โดยที่ บานเล็กนั้น ก็ยังคงเปนบานที่ลึกลับ ในสายตาของตนทุกครั้งที่ผานไปไดเห็น การที่จะถามเรื่องตางๆ จากคุณเปรมนั้น พลอยรูสึกวาถามยาก เพราะคุณเปรมเทาที่พลอยรูจัก ในระยะ เวลาอันสั้นนั้น เปนคนอารมณดี เปดเผยไมปดบัง และเทาที่พลอยรูตัว คุณเปรมก็รักพลอยมาก และมีความวิตก หวงใยในตัวพลอยอยูเสมอ ลักษณะตางๆเหลานี้ ทําใหพลอยรูสึกเกรงใจ ไมอยากจะไตถาม คุณเปรมดวยเรื่อง จุกจิก เล็กๆนอยๆ โดยเฉพาะเรื่องผูคนภายในบาน ซึ่งพลอยยังรูสึกวาเปนคนของคุณเปรม อยูดวยกันมาตั้งแต ครั้งปูยาตายาย ถาจะเปรียบกับคนอื่นๆในบาน พลอยก็ยังเห็นวาตัวเองเปนคนใหม ไมมีสิทธิ์เทาไรนัก และตอง คอยระวังกิริยาวาจาอยูเปนนิจ เพื่อมิใหกระทบกระเทือนน้ําใจคน การปฏิบัติตนของพลอย บังเกิดผลทําใหคน ในบานมีความเคารพ สังเกตไดจากสายตาคนทั่วไปในบานนั้น ซึ่งแตกอนมองดวยความสงสัยไมไวใจ แตเดี๋ยวนี้ ทุกคนมองดูพลอย ดวยสายตาที่รักและเอ็นดู แสดงความไวใจ และความเคารพในอัธยาศัย วันหนึ่งคุณเปรมออกจากเวรในวังมาคางบาน และเมื่อกินขาวเย็นแลว ก็นั่งคุยกันอยู คุณเปรมก็ขอ หมากกิน พอพลอยยื่นเชี่ยนหมากให คุณเปรมก็พูดขึ้นวา "ฉันเห็นจะติดหมากเสียคราวนี้ เพราะแมพลอยนี่เอง" "ทําไมละคะ" พลอยถาม "แมพลอยหาหมากนากินจริงๆ" คุณเปรมตอบพลอยหยิบหมากเขาปาก "ฉันเคยเห็นใครตอใครกินหมาก ก็ไมเคยนึกอยากกินเลย เพียงแตหมากพลูกับยาใครๆ ก็หากินกันได แตวิธีที่จะทําใหนากินนั้นสิ ทําไมไดทุกคน แมพลอยเลือกหนาหมากก็นากินเสียแลว แลวก็ยังเจียนเปนฝอยอยางนี้ ปูนที่ใชปายพลูก็หอมกวาของคนอื่น" "คุณเปรมถาจะเคยกินหมากของใครตอใคร มามากแลวกระมัง" พลอยพูดยิ้มๆ แลวเลื่อนกระโถนใหไป ตั้ง อยูใกลมือคุณเปรม คุณเปรมหัวเราะอยางอารมณดีแลวตอบวา "ก็เคยมามากเหมือนกัน แตไมมีของใครสูของแมพลอยได ของบางคนกินแลวก็จืด ไมมีรสมีชาติ ของ บางคนกินแลวปูนกัดปาก หนเดียวเข็ดไปจนตาย แตของแมพลอยฉันกินไมเบื่อ จึงไดวาถาจะติดหมาก เสีย คราวนี้" พลอยหัวเราะแลวก็หลบสายตาคุณเปรม เมินไปมองเสียทางอื่น คุณเปรมลงนอนเอกเขนกอยางสบาย มองพลอยอยางนารักและเอ็นดูไปทั่วราง แลวก็พูดขึ้นวา "แมพลอยนี่แปลกเสียจริงๆ สวยไมจืดเสียเลย ฉันเห็นแมพลอยทีแรก ฉันก็เห็นวาสวยไมมีใครเทา ได เห็นอีกหนตอๆมาก็สวยกวาหนกอนทุกครั้ง อยูดวยกันมาจนเดี๋ยวนี้ ฉันก็ยังเห็นสวยขึ้นทุกวัน" "คุณเปรมละก็ปากหวานอยางนี้เสมอ นี่คงจะไมพูดอยางนี้แตกะฉันคนเดียวหรอก พบใครก็คงพูดกะเขา อยางนี้ทั้งนั้น ฝปากคุณมหาดเล็กละฉันกลัวมานานแลว" "เปลา ฉันไมเคยยอใครเลยจริงๆนะแมพลอย ฉันดูแมพลอยไมเบื่อจริงๆ พี่นองแมพลอยก็ไมใชคนขี้ริ้ว แตฉันก็ยังเห็นวาเปรียบแมพลอยไมไดสักคน แมพลอยเหมือนใคร" "ผูใหญทานวาฉันเหมือนแม" พลอยตอบ "เออจริงซี !" คุณเปรมพูด "ฉันเคยไดยินคุณอานุยพูดวา เคยเห็นแมของแมพลอย ตั้งแตอยูในวังดวยกัน เธอบอกวาสวยจนคนลือทีเดียว แตพอคุณนุยไดเห็นแมพลอยครั้งแรก กลับมาเธอก็สรรเสริญไปสามบานเจ็ด บาน วาแมพลอยสวยกวาแมเปนไหนๆ" "เห็นจะไมจริงหรอก" พลอยแกแทนแม "ฉันสวยสูแมไมไดหรอก เพราะแมนั้นนอกจากจะสวยดวยหนา ตา รูปรางแลวยังชางพูด ชางคุย ฉลาดเฉลียวทันคนดีกวาฉันเปนกอง พูดถึงแมแลวก็ใจหาย ไมควรอายุสั้นเลย อยูปานนี้คงปลื้มลูกเขยเปนหนักเปนหนา ยิ่งไดลูกเขยชางประจบ ปากหวานอยางคุณเปรมละก็ แมรักตายไป เลย ทีเดียว" คุณเปรมนอนยิ้มมองดูพลอยอีกครูหนึ่ง แลวก็ถามวา "แมพลอยรักแมมากไหม" "รักมากกวาอะไรทั้งหมด" พลอยตอบอยางแนใจ "แมตายไปตั้งนานแลว ฉันยังรูสึกตัวเหมือนกับวา แม ยังอยูใกลๆ คอยคุมครองดูแลทุกขสุขฉันอยูเสมอ เสด็จทานมีพระเดชพระคุณหาที่เปรียบไมได แตทานก็ เปน เจาเปนนาย ฉันไมเคยรูสึกตัววาใกลชิดตอทาน เพราะฉันเปนขา เจาคุณพอนั้นถึงจะรักเพียงใด ก็จากทานมา เสียแตเล็ก แลวทานก็เปนผูชายไมสนิทสนมเหมือนแม ฉันคิดดูก็แปลก ทั้งเสด็จและเจาคุณพอ ก็ยังอยูทั้งสอง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy115.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 5

ทาน ฉันก็รักทานมากทั้งสองคน แตกลับรูสึกวาทานยังหาง ไมใกลชิดเทากับแมที่ตายไปแลว หนาตาทาทาง ของแม จะเปนอยางไรฉันยังจําไวไดหมด เวลาฝนถึงก็เห็นชัดเจนกวาคนอื่น ถาอยางนี้ไมใชเพราะฉันรักแมมาก ที่สุด ฉันก็ไมรูจะเรียกวากะไร" "แมของพลอยคงนารักมาก" คุณเปรมปรารภขึ้นเบาๆ "ถาทานยังอยูปานนี้ ฉันก็คงจะรักทานมาก เหมือนกัน" พลอยมองดูคุณเปรมดวยสายตาที่เต็มไปดวยความขอบใจ คุณเปรมถามตอไปวา "ฉันอยากถามอะไรแมพลอยสักอยาง ตั้งแตอยูดวยกันมา ฉันยังไมเคยถามเลย อยางฉันนี่แมพลอยรัก สักแคไหน" พลอยนิ่งอึ้งอยูนาน เพราะไมรูวาจะตอบปญหาของคุณเปรมอยางไรถูก ความจริงถาพลอยจะตอบคลุมๆ ไปวา "รักมาก" คุณเปรมก็คงจะพอใจ แตพลอยไมอยากจะตอบเชนนั้น ในที่สุดพลอยก็พูดชาๆวา "คุณเปรม ตั้งแตฉันเกิดมาเปนตัว ไมเคยมีใครที่เมตตากรุณา และเอาอกเอาใจฉัน เทาคุณเปรมเลย ธรรมดาคนเราอยูดวยกัน ก็ตองรักกัน แตฉันไมไดรูจักคุณเปรมเฉยๆ อยางเดียว ฉันยังรูสึกตัววา ฉันเปน ลูกหนี้ พระเดชพระคุณคุณเปรมอีกดวย" "แมพลอยอยาพูดอยางนั้นหนอยเลย" คุณเปรมตอบ "ฉันไมสบายใจจริงๆ พอไดยินแมพลอยพูดวา เปน ลูกหนี้พระเดชพระคุณฉัน เพราะฉันไมไดทําอะไรใหแมพลอยเลย ฉันวาอยางแมพลอย ถาจะหากันจริงๆ จะหา ผัวที่ดีกวาฉันสักรอยสักพันเทาก็คงจะได ฉันเสียอีกจะตองนึกถึงเรื่องนี้ และตองทําใหดีคูควรกับแมพลอย" พลอยเสียวแปลบที่หัวใจ เมื่อไดยินคําพูดของคุณเปรม ครั้งหนึ่งเคยมีใครคนหนึ่ง ไดพูดมาแลว ใน ทํานองเดียวกัน พลอยเคยเชื่อถือในคําพูดเชนนี้เปนหนักเปนหนา แตแลวในที่สุด ความเชื่อถือและความหวัง นั้นก็ตองทลายลง ชีวิตของพลอยมิไดเปนไปตามที่ไดคาดหมายไว แตถูกปนใหอยูในพิมพอีกอยางหนึ่งโดยคน อื่น พลอยเคยฝนวาจะเริ่มชีวิตกับพี่เนื่องดวยตัวเปลา แลวเริ่มสรางชีวิตนั้น จนกวาจะมีทุกอยางที่สองคน จะพึง ปรารถนา จะทําชีวิตนั้นใหเต็มสมบูรณ ไมมีสิ่งใดบกพรอง แตแลวพลอยก็ตองมาเริ่มชีวิตกับคุณเปรม พรอม ดวยโภคทรัพยตางๆมากมาย จนความปรารถนาตามปกติของมนุษยนั้น ไมเปนสิ่งสําคัญอีกตอไป เชี่ยนหมาก ที่วางอยูตรงหนาในขณะนี้ อาจมีความหมายมากนักหนา ถาพลอยหามาไดกับพี่เนื่อง ดวยการอดออม เสียสละ แตเชี่ยนหมากนากอันเดียวกันนี้ กลับไรความหมาย เพราะคุณเปรมหยิบยื่นมาใหจากในตู ซึ่งเต็มไปดวย เครื่องเงินเครื่องทอง และเครื่องถม เชี่ยนหมากอันเดียวกันนี้ ถูกนําออกมาใชในฐานะเปนของเลว ควรแกการใช ลากถูประจําวัน ไมมีความหมายถึงการรวมแรงรวมใจ ชวยกันหาชวยกันอดออมแมแตนอย พลอยไดยินคําพูด ของคุณเปรมแลวก็นั่งกมหนา ไมไดโตตอบวาอยางไร คุณเปรมนิ่งอยูอีกครูหนึ่ง แลวก็ถามขึ้นวา "แมพลอย ฉันจะถามอะไรสักอยาง อยาหาวาฉันละลาบละลวงเลย แมพลอยเคยรักกับใครมากอนหรือ เปลา เมื่อกอนแตงกับฉัน" คําถามของคุณเปรมตรงกับเรื่องที่พลอยนึกอยูพอดี ราวกับวาคุณเปรมจะรูใจ หรือมีความสามารถพิเศษ ที่จะมองทะลุเขาไปรูไดวา พลอยกําลังนึกอะไรอยู พลอยอึกอักอยูนาน ในใจจริงนั้นไมอยากจะพูดเท็จกับคุณ เปรม แตอีกใจหนึ่งก็เห็นวา เรื่องที่แลวมาเปนเรื่องของตนแตผูเดียว ไมจําเปนที่คุณเปรมจะตองรวมรูดวย เพราะถึงจะรู ก็จะไมมีความดีอยางไรเกิดขึ้น เรื่องที่คุณเปรมจะตองรวมรูทุกอยาง เปนเรื่องของปจจุบันและใน อนาคตเทานั้น เรื่องในอดีตเปนเรื่องที่พลอยอยากใหพนไป อยากลืมเสียใหสิ้น ไมอยากใหอดีตนั้นมามีผล สําหรับปจจุบัน และอนาคต พลอยนั่งนึกหาถอยคําที่จะตอบคุณเปรมวาอยางไรดี พอดีคุณเปรมพูดขึ้นเองวา "ความจริงฉันก็ถามมากไปหนอย เพราะถึงจะมีใครหรือไมมีก็เทากัน ฉันก็ยังแมพลอยอยูนั่นเอง" คุณเปรมพูดวยถอยคําและน้ําเสียง ที่ทําใหพลอยสงสารจับใจ รีบตอบคุณเปรมไปทันทีวา "คุณเปรมอยาคิดอะไรใหมากไปเลย ฉันไมมีวันจะเห็นใครดีกวาคุณเปรมไปได" "ขอบใจแมพลอย" คุณเปรมตอบ "เรื่องแลวไปแลวบางเรื่องมันก็สําคัญ บางเรื่องมันก็ไมสําคัญ สุดแลว แตเรื่องวามันเปนเรื่องอะไร อยางฉันนี้ ถาเผื่อวาวันหลังแมพลอยไปรูเขาวา ฉันเคยทําชั่ว หรือเคยทําอะไร ที่ แมพลอยไมถูกใจ แมพลอยจะวาอยางไร จะโกรธจะเกลียดฉันมากไหม" ดวยถอยคําที่คุณเปรมพูด พลอยอาจนึกไปวา คุณเปรมตั้งขอสมมติขึ้นถามเลนๆ แตน้ําเสียงที่คุณเปรม พูด ไมไดเปนอยางนั้นเลย เพราะคุณเปรมถามดวยสําเนียงที่สอใหเห็นวา อยากรูใจพลอยจริงๆ และดูเหมือนวา คุณเปรมยังมีบางสิ่งบางอยาง ที่อยากจะบอกใหพลอยรู เกี่ยวกับอดีตของตน แตยังไมกลาบอกจนกวาคุณเปรม จะรูกอนวาพลอยนึกอยางไร "คุณเปรม" พลอยตอบ "เรื่องอะไรที่แลวไปแลว ก็ควรปลอยใหแลวกันไป ถาจะวากันไปแลว คุณเปรม กับฉัน ก็เพิ่งจะมารูจักกันเมื่อวันแตงงาน สิ่งใดที่คุณเปรมทําไปกอนนั้น ก็เปนเรื่องของคุณเปรม ไมเกี่ยวกับฉัน ฉันจะไปถือโกรธหรือเกลียดคุณเปรมอยางไรได ถาเรื่องที่จะเกิดขึ้นตอไปละก็วาไมถูก เพราะไหนๆ ฉันก็ไดมา อยูกินกับคุณเปรมแลว มีเรื่องมีราวอะไรก็ตองเปนเรื่องของฉันดวย แตเรื่องราวแตกอน ฉันไมไดเกี่ยวของ คุณ เปรมจะบอกฉันก็ไดไมบอกฉันก็ได คุณเปรมอยากังวลไปเลย ถาเรื่องมันแลวไปแลว ฉันก็จะไมไปเอามาคิด แต ถาเรื่องมันยังคาราคาซังอยู มีอะไรจะชวยกันคิดอานแกไขได จะไดชวยกันไป"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy115.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๑)

Page 5 of 5

"แมพลอยทําไมถึงดีอยางนี้" คุณเปรมถามอยางเลื่อมใส ดวยความบริสุทธิ์ใจ พลอยหัวเราะอยางขบขัน แลวนิ่งไมตอบ "แมพลอยหัวเราะทําไม" คุณเปรมพูดอยางพอ "ฉันถามจริงๆไมใชพูดเลน แมพลอยอยาเพิ่งหัวเราะเยาะ ฉันไมเคยพบใครที่เขาดีอยางแมพลอยจริงๆ" "เปลาฉันไมไดหัวเราะเยาะคุณเปรมหรอก" พลอยรีบปลอบคุณเปรม เกรงวาจะเขาใจผิด "แตคุณเปรม ถามฉันอยางนั้น ทําใหฉันนึกถึงใครอีกคนหนึ่ง แมชอยที่เคยอยูกับฉันในวัง เขาเคยถามฉันอยางนั้นเหมือนกัน นึกถึงแมชอยทีไรอดหัวเราะไมได เพราะแกเปนคนสนุก" "ถาฉันบอกอะไรใหรู แมพลอยอยาโกรธฉันจริงๆนะ" คุณเปรมกระเถิบเขามาใกล แลวจับมือพลอยไว พลางมองดูหนาพลอย เหมือนกับวาจะขอรองใหพลอยยืนยันความในใจ "คนอื่นเขาเคยทําใหฉันช้ําใจมาหลายหน" พลอยพูดระบายความในใจออกมาโดยไมรูตัว "ถึงอยางนั้น ฉันยังไมเคยโกรธใครเลย คุณเปรมก็ไมใชคนรูจักกันอยางเดียวกับคนอื่น แตคุณเปรมเปนผัวฉัน ฉันขอบอก เสียเดี๋ยวนี้ใหคุณเปรมไวใจฉันเสียที ไมวาคุณเปรมจะทําสิ่งใดทั้งที่แลวมา และทั้งในเบื้องนี้และเบื้องหนา ฉันจะ ไมมีวันโกรธหรือเกลียดคุณเปรม" คุณเปรมบีบมือพลอยแตเบาๆ แลวก็เปลี่ยนเรื่องพูด "แมพลอยไปทําอยางไรเขาก็ไมรู คนในบานนี้ เขา รักแมพลอยกันจนหลงไปทุกคน ฉันชักจะหึงเสียแลวละ" พลอยหัวเราะแลวก็ตอบวา "คุณเปรมเอาอะไรมาพูดก็ไมรู ฉันไมไดทําอะไรสักหนอย ชั้นแตคนในบานนี้ ยังรูจักไมทั่วเลย รูจักแตยายเทียบคนครัว และเด็กๆที่ขึ้นมาใหใชบนตึก อีกสี่หาคนเทานั้น เขาพูดกันวารักฉัน เพราะอยากเอาใจคุณเปรมกระมัง" "เห็นจะไมใช" คุณเปรมตอบ "ฉันรูดีวา เขารักแมพลอยจริงๆ ยายเทียบเปนอยางไรบาง" "แกดีกะฉันออก" พลอยเลา "แกสั่งสอนฉันทุกอยาง ถาไมไดแกปานนี้คุณเปรมคงอดขาวไปหลายมื้อ ฉัน ก็ออกจะรักแกเหมือนกัน เพราะแกตรงไปตรงมาไมเอาเปรียบ" "นั่นซี" คุณเปรมพูด "ยายเทียบแกคนเกาไวใจได อยูที่นี่มาแตเด็ก เขาลือกันวาเมื่อสาวๆ แกเปนเมีย นอย เจาคุณพอดวยซ้ําไป" "ไฮ ! คุณเปรมเอาอะไรมาพูด" พลอยรองเสียงหลง "อาว แมพลอยอยาประมาท" คุณเปรมหัวเราะ "เรื่องมันนมนานมาแลว ใครจะรูวาใครเปนใคร ยายเทียบ เมื่อแกสาวๆ หนาตาจะเปนอยางไรก็ไมรู บางทีเจาคุณพอทานจะเผลอไปบางก็ได" "แลวยายเทียบแกรับหรือเปลา" พลอยถามอยางไมเชื่อ เพราะยังนึกไมออกวา ยายเทียบเมื่อสาวๆ จะ เปนเมียนอยเจาคุณพอของคุณเปรมได "ฉันเคยถามแกเหมือนกัน" คุณเปรมพูดพลางหัวเราะ "แกดุฉันใหญวาถามนอกเรื่องนอกราว แกบอกวา แกเปนขาของทานตางหาก ทานใชอะไรแกก็ตองทํา แกวาฉันจะเอาเหาไปใสหัวแกใหลําบากเปลาๆ" "แลวแกหมายความวาอยางไร คุณเปรมเดาออกไหม" "ก็ไมรู แกพูดของแกกํากวมชอบกล" คุณเปรมตอบแลวก็พูดตอไปวา "เรื่องนี้พูดยาก อยูดวยกันในบานใหญๆ บางทีก็เปนไปได ไมตองรักตองใครอะไรกัน แลวก็แลวกันไป ใครจะไปรู แตก็นาเห็นใจยายเทียบ ที่แกไมถือเอาคําคนลือมาเปนเรื่องอวดอางเลย แกสบายใจของแกแตเปน หัวหนาโรงครัวเทานั้น แลวแกก็ทํากับขาวอรอยเสียดวย" อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy115.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๒) เวลาตกบายลงแลว แดดออนตอนบายทอแสงลงมาในบาน ดอกลําดวนที่ปลูกอยูรอบๆตึก สงกลิ่นฟุงขึ้น มา ถึงชั้นบน คุณเปรมลุกขึ้นยืน แลวพูดวา "แมพลอยลงไปเดินเลนกันขางลางเถิด" พลอยลุกขึ้นเดินตามคุณเปรมลงบันไดตึกไปขางลาง ตามตนลําดวนมีเด็กๆหลายคนกําลังเก็บดอกอยู เมื่อคุณเปรมถามวาจะเก็บไปไหน ก็ไดรับตอบวา "แมพิศเขาสั่งใหเก็บไปใหคุณที่บนตึก คืนนี้จะไดกรองมาลัย" คําวา "คุณที่บนตึก" นั้นหมายความถึงพลอย และทุกครั้งที่พลอยไดยินคํานี้ อดอัศจรรยใจมิได และมันจะนึกวา เปน คนอื่นที่ใหญโตกวาตนเสมอ เพราะตลอดชีวิตพลอยก็เคยไดยินแตคําวา "เจาคุณตําหนัก" "เจาคุณ ปราสาท" หรือ "คุณหองทอง" หมายถึง ทานผูที่มีบุญวาสนาอยูในวัง เมื่อตนเองมาถูกเรียกวา "คุณที่บนตึก" ดวยเด็กๆในบาน ก็ทําใหนึกขบขันอยูเสมอ และกําหนดไวในใจวา จะตองเก็บไปเลาใหชอยฟง เมื่อมีโอกาสพบ กัน เพราะชอยคงชอบไมนอย และบางทีจะใชปฏิภาณพูดจาใหขบขันไปไดอีกมาก คุณเปรมเดินคุยกับพลอย อยูแถวที่ตั้งกระถางไมดัดอยูหลายตรลบ ในที่สุดก็พาพลอยเดินไปทางหลัง บาน ผานเรือนคุณนุยและคุณเนียน ตรงไปยังเรือนที่พลอยไมรูวาใครอยู พอคุณเปรมบายหนาไปทางนั้น พลอย ก็นึกถึง ความสงสัยของตน ที่นึกจะถามคุณเปรมไวนานแลวนั้นได เอยปากถามขึ้นทันทีวา "คุณเปรมขา ใครอยูที่เรือนั้น" คุณเปรมหันมาดูหนาพลอย เหมือนกับจะสํารวจดูใหรูใจพลอยอีกครั้ง แลวก็ตอบอยางอารมณดีวา "เด็กเล็กๆคนหนึ่งเทานั้นเอง ไมมีใคร เดี๋ยวก็ไดรูจัก มันนาเอ็นดูดีเหมือนกัน" พูดแลวคุณเปรมก็สาวเทา เดินเร็วขึ้น มุงตรงไปยังเรือนนั้น พลอยขึ้นบันไดตามคุณเปรมขึ้นไปบนเรือน เรือนนั้นเปนทรงปนหยา มีนอกชานเล็กๆกั้นรั้วรอบ พอขึ้น บันไดพนประตูเขาไป ก็เห็นทุกอยางในเรือนไดทั่ว ที่ระเบียงหนาเรือนมีเปลผูกอยูเปลหนึ่ง มีผูหญิงแกๆ อีกคน หนึ่งอุมเด็กเล็กๆ อายุขวบกวาๆ เพิ่งสอนเดินอยูคนหนึ่ง เด็กคนนั้นอวนขาว หนาตานาเอ็นดู และเปนเด็ก ผูชาย พอแลเห็นพลอยและคุณเปรมขึ้นบันไดเรือนเขามา เด็กคนนั้นก็หัวเราะโบกแขนทั้งสองขาง และพยายาม สลัดสลัดตัวจะวิ่งเขามาหา คุณเปรมพาพลอยไปนั่งลงที่พื้นระเบียง แลวก็พูดวา "ปลอยมันเถิดยายแจม ใหมันเขามาหาคุณ" และกับเด็กคนนั้น คุณเปรมก็พูดวา "อายอน มานี่ !" เพียงเทานั้นเอง เด็กที่นารักนาเอ็นดูคนนั้น ก็วิ่งโผเขามาที่พลอย และดวยแขนสองขางเด็กนั้น ก็โอบ รอบคอของพลอยไวแนน ความนารักของเด็กทําใหพลอยลืมปญหาใดๆ ที่อาจผุดขึ้นมาในหัวใจขณะนั้น เด็กคนนั้นโอบแขน รอบ คอพลอย แลวก็หัวเราะอยางดีใจ ไมมีความกลัวความกระดาก หรือตระหนี่ตัวแมแตนอย พลอยกอดเด็กเขามา ชิดกับตัว รูสึกอบอุนเขาไปในหัวใจ เพราะพลอยเปนคนรักเด็กอยูแลวดวยนิสัย ไมวาเด็กนั้น จะเปนลูกหลาน ของผูใด แตเมื่อเด็กคนนี้ เด็กที่คุณเปรมเรียกวา "อายอน" วิ่งตรงเขามาหาพลอยอยางราเริง เหมือนกับวารูจัก คุนเคยกันมานาน และแสดงความรักตอพลอยไดทันที โดยมิตองมีใครสั่งสอน สัญชาตญาณของแมที่พลอยมีอยู เต็มตัว ก็เริ่มสําแดงอิทธิฤทธิ์ พลอยใจเตนแรงดวยความรักความเอ็นดู ปลื้มใจที่มีเด็กวิ่งเขามากอด จนน้ําตา ไหลซึมออกมาโดยไมรูตัว คนแกที่นั่งอุมเด็กอยูเมื่อกี้ มองดูภาพที่ปรากฏ อยูตอหนา แลวก็หัวเราะเบาๆ แลว พูดวา "ดูพออนซี พอเห็นคุณก็ดีใจวิ่งเขาไปหา เหมือนอยางกับจะรู" "อายอนมันชางประจบ" คุณเปรมพูดยิ้มๆ แลวก็หันไปพยักหนาเปนสัญญาณ ใหคนแกนั้นเลี่ยงออกไป อยู ขางหลังเรือน พลอยนั่งกอดจูบลูบผมเด็กอยูอีกพักใหญ แลวก็ถามคุณเปรมขึ้นเบาๆ เหมือนกับไมอยากจะถามเลยวา "คุณเปรม... เด็กคนนี้นารักเหลือเกิน พอฉันเห็นหนแรกก็รักจับใจทีเดียว" พลอยหยุดจูบแกมเด็กอีกที หนึ่ง แลวก็กลั้นใจถามทั้งที่รูวา "เด็กคนนี้ลูกใคร" คุณเปรมเบือนหนาไปทางหนึ่ง ขยับตัวดวยความลําบากใจ ถอนใจใหญแลวก็พูดวา "แมพลอยอยาโกรธฉันจริงๆนะ...ลูกฉันเองแหละ" คุณเปรมตอบออมแอม ดวยเสียงเบาเกือบจะเปนกระซิบ แตคําตอบของคุณเปรม มิไดทําใหพลอย ตอง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy115_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 4

สะดุงหรือหวั่นไหวอยางไรเลย ความลึกลับของคนในบานนี้ เกี่ยวกับเรือนหลังที่เด็กอยู ทําใหพลอย นึกสังหรณ มาตั้งแตแรก คําพูดของคุณเปรมที่บนตึกเรื่องความหลังตางๆ ซึ่งอาจไมถูกใจพลอย ทําใหพลอยรูวา คุณเปรม มีความลับบางอยาง ที่อยากจะบอกใหพลอยรู ขณะนั้นนั้นก็นึกหนักใจอยูบางวา ความลับของคุณเปรม ที่ตนจะ ตองรูในที่สุดนั้น จะเปดเผยออกมาในรูปใด เมื่อเดินขึ้นบันไดเรือนหลังนอยนี้ขึ้นมา พลอยก็ใจหายวาบ เพราะรู ไดดวยปฏิภาณของหญิง วาเด็กคนนี้เปนลูกของคุณเปรมอยางแนนอนไมมีปญหา พลอยตั้งปญหา ถามตนเอง วา ตนควรจะปฏิบัติตนอยางไรกับเด็กคนนี้ เพื่อใหทุกอยางระหวางตนกับคุณเปรม อยูในสภาพ เรียบรอยไมมี อุปสรรค ขณะที่กําลังนึกตอบปญหาเหลานี้ใหแกตัวเอง ก็พอดีเด็กคนนั้นวิ่งหัวเราะรา เขามากอดพลอยไว และ ดวยหนาตาและกิริยาที่นารักนาเอ็นดู เด็กคนนั้นก็ตอบปญหาตางๆ ของพลอยใหเสร็จ สิ้นไป โดยพลอยไมตอง ตอบเองเลย พลอยรูทันทีวาตนไมมีทางอื่นใดที่จะเลือกได เพราะทางที่จะปฏิบัตินั้น มีอยูทางเดียว คือตองรัก เด็กคนนี้เสมือนวาเปนลูกของตน และรูสึกโลงใจเปนอยางยิ่งวา ตนเองนึกรักเด็กคนนี้ เชนนั้นดวยความบริสุทธิ์ ใจ ดวยความรักที่เกิดจากสัญชาตญาณ มิใชจากความปรารถนาที่จะปฏิบัติตนใหถูก หรือเพราะอยากจะบําเพ็ญ ความดีอยางไร แมแตนอย ถึงแมวาเด็กคนนี้ จะมิใชลูกคุณเปรม แตเปนลูกคนอื่น จะเปนลูกใครก็ตาม พลอยก็ ยังคงนึกรักอยางเดียวกัน บิดามารดาและชาติกําเนิดของเด็ก จะไมทําใหความรักนั้น เปลี่ยนแปลงไปได พลอยกอดเด็กคนนั้นไวแนน เหมือนกับจะหวงแหนแลวถามคุณเปรมขึ้นวา "คุณเปรมทําไมไมบอกฉันใหฉันรูเสียกอน" "ฉันกลัวแมพลอยจะโกรธ... นี่ก็รูแลว แมพลอยจะโกรธฉันมากไหม" "โธ ! คุณเปรมนี่ไมรูจักใจฉันจริงๆ" พลอยพูดขึ้น "ฉันจะไปโกรธคุณเปรมทําไม ฉันเสียใจหนอยหนึ่ง ที่ คุณเปรมไมบอกใหรูเสียกอนเทานั้น" "ทําไมแมพลอย" คุณเปรมถามอยางฉงน "ถาฉันรูเสียกอน ฉันก็จะไดเลี้ยงจะไดรักมานานแลว คุณเปรมมัวแตปดอยู เลยเสียเวลาไปเปนกอง ฉัน เสียดายแททีเดียว คุณเปรมเห็นฉันเปนคนใจไมไสระกําไปได ลูกของคุณเปรมก็เหมือนลูกของฉัน ใครจะไป เกลียดลง" พลอยกมลงจูบเด็กอีกทีหนึ่ง และกระซิบกับเด็กวา "ลูกของแมนารักออกอยางนี้ แมเกลียดแกไมลงหรอก" "แมพลอยอยาใหฉันพูดอะไรเลย" คุณเปรมพูดอยางตื้นตันในใจ "ฉันพูดอะไรไมออกอีกแลว วันนี้เหมือน กับ มีใครมายกภูเขาออกจากอก ตั้งแตแตงงานกันมา ฉันนอนสะดุงอยูทุกคืน เดาไมออกจริงๆวา ถาแมพลอยรู เรื่อง อายอนเขาจะวาอยางไร จะบอกแตแรกฉันก็ยังไมกลา เพราะไมรูใจ ตอไปนี้ฉันเห็นจะนอนตาหลับกะเขา บางละ" พูดแลวคุณเปรมก็หัวเราะอยางมีความสุข ตบมือเรียกเด็กวา "อายอน มาหาพอ" เด็กคนนั้นเลื่อนตัวลง จากตักพลอยแลวก็วิ่งไปหา คุณเปรมอุมลูกขึ้นกอดจูบดวยความรัก มีพลอยนั่งยิ้มมองดูอยูอีกทางหนึ่ง แตในที่สุด พลอยก็ตองตั้งปญหาที่จําเปนขึ้นถามคุณเปรม อยางเกรงใจเปนที่สุด แตจําใจตองถาม ก็ เพราะเห็นวา ควรจะพูดกันถึงเรื่องเด็กคนนี้เสียใหเสร็จสิ้นไป "คุณเปรม" พลอยเอยขึ้น "คุณเปรมอยาหาวาฉันสอดรูสอดเห็นเลย แลวแมของเด็กคนนี้..." "แมพลอยอยาไปนึกถึงมันเลย" คุณเปรมตอบสวนขึ้นมาอยางรวดเร็ว "ฉันไมเคยรักใครอะไรมันเลย เปน ความสัตยจริง มันเปนคนอยูในบานนี้ ฉันก็ไมไดคิดวาจะเลี้ยงดู แตอายอนมันเกิดมา ฉันก็ไมรูจะทําอยางไร เขา ออกจากบานไป เมื่อกอนเราแตงงานสองสามเดือนนี้เอง" "โธคุณเปรม !" พลอยรองขึ้น "ทําไมตองไปพรากลูกพรากแม บาปกรรมเปลาๆ" คุณเปรมหัวเราะหึๆ แลวตอบวา "ฉันไมไดไปพรากลูกพรากแมเขาหรอกแมพลอย เขาสมัครใจไป ของ เขาเอง คนเรามันทําบุญไวแคไหนมันก็ไดแคนั้น หรือจะเกี่ยวกับสันดานของคนฉันก็ไมรู แตแมอายอน เขาออก ไปจากบานนี้เพราะเขาอยากมีผัวใหม ฉันก็เลยไมหามปราม เพราะเลี้ยงไวก็รังแตจะกอความรําคาญ กอนจะไป ฉันก็ใหเงินทองตามสมควร เขาสัญญาวายกอายอนใหเปนสิทธิ์ เขาจะไมมาเกี่ยวของอีกตอไป" พลอยรับตัวเด็กจากคุณเปรมมากอดไวกับตัว ดวยความสงสาร ขณะเดียวกันก็เกิดความรูสึกวา เด็กนั้น เปนกรรมสิทธิ์ยิ่งขึ้น "แลวคุณเปรมจะทําอยางไรกับแกตอไป" "ทําอะไรกับใคร กับอายอนนะรึ" คุณเปรมพูด "ก็เลี้ยงมันไป มันจะเปนอะไรหนักหนา สําคัญอยูที่แม พลอย เทานั้น ถาแมพลอยไมวาก็ไมเปนไร อายอนมันเลี้ยงงาย ฉันใหยายแจมคนแกเมื่อกี้ แกเลี้ยงมันอยูที่ เรือนนี้ ก็แลวกัน แมพลอยไมตองหวงหรอก" พลอยใจแหงลงถนัดเมื่อไดยินคุณเปรมพูด ความสงสารเด็กมีมากขึ้นทุกที เด็กผูไมมีผิดไมมีบาป เกิดมา โดยไมมีสวนรูเห็นในการกระทําของผูใหญ พลอยรูวาสิ่งที่เด็กคนนี้ตองการ และจะตองการมากที่สุดตอไป ก็คือ ความรักพอแม ความรักที่ยายแจมคนเลี้ยงเด็กไมมีจะใหได ชีวิตแยกกันอยูภายในบานเดียวกันนั้น พลอยเคย ผานมาแลวไมมีวันจะลืมได ความนอยใจความช้ําใจในเรื่องการแบงแยก ระหวางลูกเมียหลวง และลูกเมียนอย ยังฝงติดอยูในหัวใจของพลอย เปรียบประดุจรสอันขมขื่นที่ติดอยูในปาก ถาหากวาพลอย จะมีสิทธิ์อยางไรตอไป ในบานนี้ แมแตวาจะอยูในบานนี้ตอไปดวยความสงบใจ พลอยจะตองคอยดู มิใหเกิดการแบงแยก และความ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy115_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 4

รูสึกอันขมขื่นนั้น จะเกิดขึ้นมิไดอีกอยางเด็ดขาด โดยเฉพาะแกเด็กนารัก ที่พลอยอุมอยู หรือแกใครๆทั้งสิ้น พลอยนั่งลังเลใจอยูอีกครูหนึ่ง ตัดสินใจวาจะพูดกับคุณเปรมวาอยางไร ในที่สุดก็พูดขึ้นวา "คุณเปรม ตั้งแตฉันอยูกับคุณเปรมมา ฉันยังไมเคยขออะไรคุณเปรมสักครั้งเดียว คราวนี้ฉันขออะไร สัก อยางหนึ่งจะไดไหม" "ไดซีแมพลอย" คุณเปรมตอบ "แมพลอยอยากไดอะไร ฉันใหไดทั้งนั้นแมแตเดือนตะวัน ถาแมพลอยจะ เอา ฉันก็คงพยายามสอยมาให ก็ไมไดจริงๆก็จนใจ" "คุณเปรมพูดอะไรเปนเลนไปหมด" พลอยหัวเราะ "ฉันขอจริงๆ ไมใชขอเลนๆ ลูกของคุณเปรม...ตาอน คนนี้ ฉันขอเปนลูกฉันเสียไดไหม" "เปนลูกคนใหญหรือแมพลอย ไมใชลูกคนเดียวนะ" คุณเปรมยิ้มอยางมีความหมาย พลอยหลบตา ใบหนาเริ่มเปนสีแดงเรื่อดวยความอาย "ลูกคนที่เทาไรก็ชางเถอะ ขอใหเปนลูกของฉันก็แลวกัน จะใหหรือไมให" พลอยกระฟดกระเฟยด อยาง งอนๆ คุณเปรมเปลี่ยนสีหนาเปนเอาจริง แลวพูดชาๆเบาๆวา "แมพลอย ถาเปนคนอื่นไมใชฉัน เขาคงรีบยกอายอนใหแมพลอยเสียแลว ใจฉันเองก็อยากทําอยางนั้น แตฉันบอกตรงๆวาฉันกริ่งใจอยู แมพลอยอยานึกวาฉันยังสงสัย กินใจในตัวแมพลอยเลย ฉันรูใจแมพลอยดี แต แมพลอยดีกับฉันเสียมากมายเหลือเกินแลว ฉันไมอยากใหแมพลอยตองทุกขกังวลตอไปขางหนา อายอนมัน เปนเลือดในอกของฉันๆก็ตองรัก แตก็ไมไดรักมันมากไปกวาแมพลอย และฉันรูวาถาแมพลอยเอามัน ไปเลี้ยง แมพลอยก็จะตองรักมันเหมือนลูกในไส แตแมพลอยอยาลืมวาอายอนมันไมใชลูกฉันคนเดียว ถามันโตขึ้นมา แลวเหมือนฉันทุกอยางฉันจะไมขัดเลย แตแมของมันเปนคนสันดานชั่วฉันรูดี ถามันเหมือนแมมัน มันก็จะทําให แมพลอยเดือดรอนในวันขางหนา ฉันเห็นวามันเสี่ยงอยูมาก จึงอยากเตือนแมพลอยไวกอน" "คุณเปรม" พลอยพูด "คุณเปรมอยาคิดใหมากถึงเพียงนั้นเลย บางทีคุณเปรมจะยังไมไวใจฉันนักก็ได แตตาอนแกเปนลูกของคุณเปรมครึ่งหนึ่ง เทากับมีทุนดีอยูแลว อีกครึ่งหนึ่งเราก็ตองอบรมเอาเอง ฉันก็รูวามัน เสี่ยง อยูบาง แตคนเราทําอะไรก็มีเสี่ยงอยูเสมอ จะเปรียบไปก็เหมือนการเลนพนั้น เมียคนอื่นเขาเลนหวยก็มี เลนไพก็มี บางคนถึงกับเลนถั่วโป ของเหลานี้ฉันไมเลน เพราะฉันเลนอะไรก็ไมเปน แตตอไปฉันอยากจะขอเลน การพนัน สักอยางหนึ่ง คือเลนเลี้ยงตาอนนี่แหละ คุณเปรมอยาขัดใจฉันเลย" คุณเปรมหัวเราะแลวพูดวา "ฉันจะเปนยายชอยอีกคนหนึ่งแลว ขอถามอีกทีเถอะวา แมพลอยทําไมถึงได ดี อยางนี้" "คราวนี้ไมเกี่ยวกับความดีความชั่วหรอกคุณเปรม" พลอยตอบ "ที่ฉันอยากไดตาอน ก็เพราะฉันนึกรัก แก แตแรกเห็น แลวก็อีกอยางหนึ่ง ฉันไมอยากใหตาอนแกโตขึ้นในบานอยางไมมีพอมีแม ถาแกจะอยูดวยกัน กับฉัน ในบานนี้ตอไป ฉันก็อยากใหแกรักฉันมากกวา ไมใชเพราะฉันเปนคนดี หรือชอบทําความดีอยางที่คุณ เปรม นึกหรอก ถาจะวาไปก็เพราะฉันอยากจะสบายใจเทานั้นเอง ฉันเคยเปนเด็กอยูที่บานคลองหลวง เคยรูมา แลวเรื่องอยางนี้ แตเรื่องมันยาวอยาเพิ่งใหฉันเลาเลย ขอตาอนใหฉันก็แลวกัน" พลอยพูดแลวก็กมลงจูบตาอนอีกหนหนึ่ง ฝายตาอนก็เปนเด็กรูอยู นั่งเลนกับมือของตนเองอยูบนตัก พลอย ไมพยายามดิ้นรนจะไปซุกซนที่ไหน" "ก็ตามใจแมพลอย" คุณเปรมตอบ "แตอยาลืมวาฉันเตือนไวแตแรกแลว ฉันก็ไดแตภาวนาใหอายอน มัน โตขึ้นไมเหมือนแมมันเทานั้นเอง" คุณเปรมตะโกนเรียกยายแจม และพอยายแจมโผลออกมาจากหลังเรือน คุณ เปรมก็บอกใหอุมตาอนตามขึ้นไปบนตึก "ไมตองหรอกคุณเปรม" พลอยยิ้มอยางมีความสุข "เด็กตัวเทานี้ฉันอุมเองก็ไหว" นับตั้งแตวันนั้นเปนตนมา ตาอนก็ขึ้นมาอยูกับพลอยที่บนตึก พลอยเปนผูฟกฟูมเลี้ยงดูเสียเอง สวนยาย แจมที่เคยเลี้ยงตาอนมากอนนั้น ถูกลดตําแหนงลงไปเปนเพียงผูชวย และตาอนก็เริ่มติดพลอย ตั้งแตเวลานั้นมา ตามความรูสึกของพลอย ตาอนเปนผูทําคุณประโยชนใหแกพลอยมากมายหลายอยาง เปนเหตุใหพลอยตอง ขอบใจตาอนอยูไมวาย ในประการแรก ตาอนเปนเครื่องมือสําคัญเชื่อมใหพลอยสนิทสนม คุนเคยกับคุณเปรมได มากขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อแรกแตงงานและในระยะเวลาตอมา พลอยรูสึกตัววา ตนมีหนาที่จะตองสนิทสนม คุนเคยกับคุณเปรม ใหมากที่สุดและเร็วที่สุด แตทั้งที่มึความรูสึกเชนนั้น พลอยก็เห็นวา ตนยังไมสามารถปฏิบัติ หนาที่นั้นไดสมบูรณ เพราะยังรูสึกมีเวลากระดากอาย มีความเกรงใจ มีเวลาที่เห็นคุณเปรม เปนคนอื่น แต ตั้งแตตาอนมาอยูดวย ตาอนก็เปนของกลางระหวางพลอยและคุณเปรม เปนเครื่องชักนํา ใหคนทั้งสองเขาถึงกัน ใกลชิดยิ่งขึ้นวาแตกอน จนพลอยสามารถเปนตัวของตัวเองไดตอหนาคุณเปรม ซึ่งแตกอนนี้ พลอยไมกลาทํา เพราะยังเห็นวาคุณเปรมเปนอื่น ประการที่สอง ตั้งแตมีตาอนมาอยูเปนกรรมสิทธิ์ พลอยรูสึกวา ตนเองมีความ มั่นใจในตัว เปนผูใหญขึ้นกวาแตกอน การที่ตองเลี้ยงดูแลและอบรมเด็ก ใหความหนักแนนแกพลอย และทําให เกิดความแนใจในตัวเอง ฉะนั้น จะสั่งการสิ่งใดในบาน ตลอดจนปฏิบัติหนาที่ของแมบานในการปกครอง คน พลอยก็กระทําโดยมีน้ําหนักกวาแตกอน เพราะไมเห็นวาตนเองเปนเด็กกวาคนอื่นอีกตอไป คนทั้งบานเริ่ม

http://www.geocities.com/siamstory/ploy115_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 4

เคารพยําเกรงและเชื่อฟงคําพูดของพลอย โดยไมตองมาไตถาม แมนางพิศเองก็ปรารภวา "คุณพลอยเดี๋ยวนี้ เปนผูใหญเต็มตัวทีเดียว ฉันเองกลับเปนเด็กลงไปทุกวัน ชักจะกลัวๆคุณพลอยเสียแลว" คุณประโยชนที่ตาอนทําใหแกพลอยเปนประการที่สาม ก็คือ กอใหเกิดความนิยมในตัวพลอย ในหมูญาติ ของคุณเปรม เมื่อพลอยเขามาอยูใบานคุณเปรมใหมๆ ญาติทุกคนก็มิไดมีใครแสดงความรังเกียจ และตางก็ แสดง ความปรานีทุกคนไป แตพลอยก็รูตัววา ในระยะนั้นญาติทุกคนยังถือวาตนเปนคนนอก เปนสะใภที่จะตอง ดูทาที และนิสัยใจคอไปกอน ยังไมวางใจรับเขาไปเปนคนหนึ่งในตระกูลอยางแทจริง แตพอขาวเรื่องพลอยรับ เอาตาอน มาเลี้ยงดูเหมือนหนึ่งตาอนเปนลูกในไส แพรไปในหมูญาติ ทุกคนก็แสดงความนิยมเลื่อมใสเห็นไดชัด พลอยรูตัว วาญาติคุณเปรมทุกคนรับตัวเขาเปฯคนหนึ่งในพวกพองอยางสนิท ไมมีความจําเปนที่จะตองสังเกตดู นิสัยใจคอ กันอีกตอไป กิริยาวาจาของบรรดาญาติที่แสดงตอพลอยนั้น ก็เปลี่ยนไปเปนอยางกันเองสนิทสนม พลอยจะทํา อะไรไมถูก คุณนุยก็ดุเอาบางอยางอากับหลาน ไมเกรงใจกันอยางแตกอนอีกตอไป และบางครั้งที่ พลอยขึ้นไป บนเรือนขณะที่คุณเนียนกําลังนอนอยูในหอง คุณเนียนก็ไมทรมานกายลุกออกมารับอีกตอไป แต เรียกพลอย เขาไปในหองและสงหมอนใหใบหนึ่ง ใหพลอยนอนคุยดวยอยางญาติ แตคุณประโยชนที่พลอยเห็น วาสําคัญ เปนหนักหนา ที่พลอยไดรับจากตาอนก็คือ ตาอนเปนเครื่องเลนเครื่องแกเหงาอยางชะงัดที่สุด เมื่อ ออกมามีเรือน ใหมๆ พลอยรูสึกวาตัวเหมือนนกที่เคยอยูแตในกรง แลวถูกนํามาปลอยปาโดยกระทันหัน เมื่ออยู ในวังนั้น ชีวิตของพลอย เปนไปตามระเบียบแบบแผนที่กําหนดไว มีผูใหญคอยสั่งวาควรจะทําอะไรไดบางหรือ ไมไดบาง ทุกวัน แตพอแตงงานแลวการควบคุมตางๆนั้นก็หมดไป พลอยเปนอิสระแกตัวเต็มที่ จะทําสิ่งใดก็ได ทุกอยาง ไมมีใครบังคับ เงินทองก็มีใชสอยบริบูรณ อยากไดสิ่งใดแตเพียงออกปาก ก็มีคนหามาให แต พลอยกลับรูสึกตัว เหมือนกับคนหลงทางในที่กวางที่ไมเคยรูจัก ไมรูจะทําอยางไรกับอิสรภาพที่ไดมาใหม โดย ไมมีประมาณ กลับหวนไประลึกถึงขอบเขตจํากัดตางๆ ที่เคยมีอยูรอบตัวเมื่ออยูในวัง และอยากไดสิ่งที่เคยเห็น วา เปนเครื่องทรมานบีบคั้นเมื่อครั้งหนึ่งนั้นกลับมาอีก ชีวิตที่มีอิสรภาพกลายเปนชีวิตที่วาเหวสําหรับพลอย อยากจะไดขอบเขตจํากัด อยากจะไดใครมาเปนเครื่องผูกมัดใหตองหวงใย คุณเปรมไมสามารถที่จะเปนขอบ เขต หรือเครื่องผูกมัดนั้นได เพราะคุณเปรมมีแตคอยเอาใจ และคอยทําใหพลอยมีอิสระแกตัวยิ่งขึ้น ตาอนเปน คน มาทําใหชีวิตที่พลอยเห็นวาขาดอยูนั้นใหเต็ม เพราะมาทําใหหวงใยตองคอยดู และมีเรื่องที่จะตองคิดตองทํา เกี่ยวกับตาอนทุกวันไป คุณเปรมถึงกับปรารภขึ้นมาวา "แมพลอยนี่ก็แปลก อยูสบายๆไมชอบ ชอบหากังวลมาใสตัว วุนกับอายอนจนฉันจะหึงอยูรอมรอแลว" พลอยหัวเราะแลวตอบวา "คุณเปรมไมตองหึงหรอก ตาอนแกทําใหฉันรักคุณเปรมขึ้นอีกเปนกอง" "ทําไมเลา แมพลอย" คุณเปรมถาม "ก็เพราะคุณเปรมนะซี ฉันถึงไดมีตาอนไวเลน ไมตองนั่งคอยใหเสียเวลา" คุณเปรมหันมามองหนาพลอยอยางสงสัย แลวถามวา "แมพลอยพูดชอบกล ฉันฟงไมออกเลย ถาไมมีตาอนแลว แมพลอยจะตองคอยอะไร" พลอยกมหนาลงดูกระดานแลวตอบเบาๆวา "ก็คอยลูกของฉันเองนะซี คุณเปรมก็ถามเซาซี้ไปได" "แมพลอย" คุณเปรมถามดวยเสียงที่เหมือนกับมีอะไรมาจุกคอหอย "แมพลอยนึกวาจะตองคอย อีกนาน เทาไร" "ไมรู !" พลอยตอบสะบัดหนา "อีกราวๆเกาเดือนกระมัง ฉันก็เพิ่งรูตัว" คุณเปรมตื่นเตนจนแทบจะทรงตัวไวไมอยู "แมพลอย...แมพลอย...แมทูนหัว...จริงหรือนี่ เปนอยางไร บาง... ไมสบายหรือเปลา ทําไมไมบอกฉันเสียกอน ฉันดีใจจนจะตัวลอยอยูแลว แมพลอยอยากไดอะไรบาง บอกมาเถิด อยางเกรงใจฉันหาใหไดทั้งนั้น" คุณเปรมพูดเร็ว หายใจถี่ดวยความดีใจเปนอยางยิ่ง พลอยยิ้มมองดู คุณเปรม และยิ้มอยางมีความสุข เมื่อเห็นคุณเปรมดีใจจริงๆ เอื้อมมือไปจับแขนคุณเปรมไว แลวบอกวา "ฉันไมอยากไดอะไรหนักหนาหรอกคุณเปรม แตถาจะใหดีวานใครออกหามะมวงดิบๆ ใหฉันสักสองสาม ลูก ฉันอยากินอะไรเปรี้ยวๆเหลือเกิน แตถาหามะมวงไมไดก็ไมเปนไร ตะลิงปลิงสักกระทงหนึ่งก็ยังดี" พอพูดถึงเรื่องเปรี้ยวพลอยก็น้ําลายสอเต็มปาก แลวก็เกิดอาการคลื่นไส รีบควากระโถนมากมหนาลงไป แลวก็อาเจียนแบบคนแพทอง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy115_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๑) "เจาขาเอย ! ใครมาดูแมพลอยซี ! แตงงานไดเดือนกวามีลูกโตวิ่งไดแลว !" ชอยรองลั่นขึ้นเมื่อไดพบ กับ พลอยในวันหนึ่ง ซึ่งเปนวันที่คุณเปรมเขาเวร และพลอยอาศัยรถคุณเปรม พาตาอนเขาไปเที่ยวในวัง ชอยควา ตาอนเอาไปกอดเลน โดยไมตองไตถาม แลวจึงถามพลอยขึ้นทีหลังวา "เด็กอะไรก็ไมรู นาเอ็นดูจะตายไป แมพลอยไปเอามาจากไหน" พลอยหัวเราะแลวตอบวา "ฉันไมตองไปหามาจากไหนหรอกชอย เก็บไดที่ในบานนั้นเอง" "แหมดีจริง ! เก็บไดยังกับของตกหลนอยู แลวเปนลูกใคร" พลอยหัวเราะอีกครั้นหนึ่งแลวพูดวา "ถาฉันบอกแลวชอยอยาเอะอะไปนะ ตองสัญญากับฉันกอน แลวก็อยาดุฉันดวย" "เออนา ! ไมเอะอะหรอก บอกมาดีๆเถิด ลูกใคร" "ลูกคุณเปรมไงละ" พลอยตอบ "มีหมกไวที่บาน ฉันไปอยูใหมๆไมรูเรื่อง จนเปนนานถึงไดรู ฉันเลย เก็บมา เลี้ยงดู ตาอนยังไมไดธุปาชอยเลย ธุเสียลูก" พอพลอยสั่ง ตาอนก็ยกมือพนมไหวชอย อยางเด็กวางาย ชอยยกมือตบกระดานฉาดใหญแลวพูดวา "วาแลวไหมละ ! ฉันนึกไวแลวไมผิดทีเดียววา มันตองมีอะไร แปรงๆอยู ตั้งแตแรกแลว ใครเปนคนบอกพลอย" "ไมมีใครบอกหรอกชอย คุณเปรมเขาบอกฉันเอง แตตอนที่เขาบอก ฉันก็สงสัยวามันจะมีอะไรแปรงๆ อยูอยางที่ชอยวานะแหละ" "แลวแมพลอยวาอยางไร" ชอยซักตอ "ฉันจะไปวาอะไร" พลอยตอบ "ตาอนแกเห็นฉันแกก็วิ่งเขามากอด ฉันจะไปวาอะไรได ฉันก็ไดแตเก็บแก เอามาเลี้ยงเสียเองเทานั้น ถาจะวาไปแลว ตาอนตางหากที่แกเปนคนเก็บตกฉันได ไมใชฉันเก็บแกไดหรอก" "อือ ! ชอบกล" ชอยพูด "นี่เคราะหดีที่ฉันรูจักแมพลอย รูนิสัยใจคอกันดี ถาเปนเรื่องของคนอื่น ฉันจะไม ยอมเชื่อเปนอันขาด ใครมาเลาใหฟง ฉันก็จะวาตอแหล" ชอยหยุดเลนกับตาอนอยูครูหนึ่ง แลวก็ถอนใจใหญ พูดขึ้นวา "ก็ดีเหมือนกัน พลอยเลยมีลูกไวเลนไดเร็ว ดี คุณเปรมเขาเกง แยกหนอไดราวกับตนกลวยทันใจดี แลวเขามีซุกซอนไวที่ไหนอีกบางไหม" "เห็นจะไมมีอีกหรอกชอย มีคนเดียวเทานี้แหละ" "อยาเพิ่งประมาทไป" ชอยตอบ "มีคนเดียวได เขาก็มีหลายคนได ระวังตัวใหดีเถอะ เดี๋ยวจะตองตั้ง โรง เลี้ยงเด็กทั้งที่ไมรูตัว แลวแมเขายังอยูหรือเปลา" "ไมมีแลว เขาไปมีลูกมีผัวเสียกอนฉันออกไปอีก ตอไปถาฉันจะตั้งโรงเลี้ยงอะไร ก็เห็นจะเปนลูกของฉัน เองละ นี่อีกแปดเดือนกวาๆ ก็จะไดเลี้ยงแลว" "ตาย !" ชอยรองเสียงหลง "จริงๆหรือนี่" พลอยพยักหนาอยางอายๆ พอดีคุณสายที่เพิ่งรูวาพลอย เขา มาในวัง กระหืดกระหอบโผลเขามาในหอง "คุณอาขา คุณอา !" ชอยรองบอกทันทีที่แลเห็นคุณสาย "คุณอารีบมาฟงเถิดคะ เกิดเรื่องใหญแลว !" คุณสายหนาตาตื่นมานั่งลงขางๆ พลอยทั้งที่ยังหอบอยู "เรื่องอะไรกันพลอย" คุณสายถามอยางตกใจ "ไมมีอะไรหรอกคะคุณปา ชอยแกเอะอะไปเอง ฉันบอกเขาวา อา..." "แมพลอยเขาจะมีลูก ทองเดือนกวาแลว" ชอยตอบแทนพลอยใหเสร็จ "พุทโธ อนิจจํทุกขํ" คุณสายอุทานออกมาอยางออนใจ "ยายชอยรองเสียราวกับไฟไหม ฉันพลอยตกใจ นึกวาเกิดเรื่องใหญจริงๆ" คุณสายฟงเรื่องตาอนแลวก็สรรเสริญ ใหศีลใหพรพลอยไปอีกยืดยาว จนไดเวลาเสด็จบรรทมตื่น พลอย จึงไดขึ้นไปเฝา พลอยเห็นพระพักตรเสด็จ ก็รูวาเสด็จดีพระทัยมากที่ตนเขาไปเฝา เสด็จรับสั่งถามเรื่องราว ทาง บานพลอยหลายอยาง และพอชอยทูลเรื่องตาอนก็กริ้วแหวทีเดียว รับสั่งวาถาทรงทราบเรื่องนี้กอน จะไม ประทานอนุญาต ใหพลอยแตงกับคุณเปรมเปนอันขาด เรื่องแมของตาอนเสด็จก็กริ้วอีก รับสั่งวาคงตองออก จากบานไปเพราะคุณเปรมไล เพื่อจะไดแตงงานกับพลอยเทานั้นเอง "คุณเปรมบอกวา เขาออกไปมีสามีใหมโดยสมัครใจมังคะ" "ฮาย ! ขาไมเชื่อ" เสด็จรับสั่ง "นี่คงไลมันออกจากบาน พรากแมพรากลูกมันหรอก นึกวามีเงินจะทําอะไร ก็ทําได ขาสงสารอีนังผูหญิงคนนั้นมันออก นี่ปานนี้จะไปถูกขมเหงที่ไหนอีกก็ไมรู ธรรมดาคนในบาน เมื่อมันมี

http://www.geocities.com/siamstory/ploy116.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 4

ลูก ก็ตองเลี้ยงดูมันไป จะเปนอะไรหนักหนา คนอยางเจาเปรมจะมีเมียหลายคนก็ยังได นางพลอยยังคงไมหึง หรอก แตนี่ใจรายชอบใจขึ้นมาก็เอาเปนเมีย ไมชอบในก็เฉดหัวไป ขาเกลียดขี้หนาเสียจริงทีเดียว คนอะไรก็ไมรู นางพลอยก็ระวังตัวใหดีเถิด ตอไปมันเบื่อเจาขึ้นมา มันก็จะไลเสียอีกคน แลวก็จะตองวิ่งกลับเอาลูกมาใหขา เลี้ยง อยางแมเจาอีกนะแหละ ขากลุมใจนัก" ชอยแลดูตาพลอยแลวก็กมหนาลงยิ้ม ฝายพลอยเห็นเสด็จกริ้วหนัก ก็ไมกลาทูลเรื่องอะไรตอไปอีก หมอบนิ่งปลอยใหทรงบนตอไป จนถึงเวลาทูลลาลงมาขางลาง พลอยเขาไปในวังคราวนี้ ไดทราบวาเสด็จและเจานายพระองคอื่นๆ จะไดเสด็จพระราชดําเนินไปยัง พระราชวังบางปะอิน เพื่อถวายพระเพลิงพระศพเสด็จพระองคใหญ หรือกรมขุนสุพรรณฯ ณ ที่นั้น ทุกคนที่ได พบ เลาใหฟงวางานนี้จะสนุกเพียงใด และทุกคนชวนใหพลอยไปดวย ซึ่งพลอยก็ใจเตนอยากไปอยูครันๆ "พลอยไปดวยกันเถอะนา" ชอยคะยั้นคะยอ ขณะที่พลอยนั่งคุยอยูกับขาหลวงตําหนักเดียวกันอีกหลาย คน "งานคราวนี้เขาลือกันวาสนุกหนักหนา เปนงานใหญโตไมมีใครพบเห็นมาแตกอนทีเดียว เพราะทานโปรด เสด็จพระองคใหญมาก ทานรับสั่งวาเปนลูกคูทุกขคูยากของทาน ถวายพระเพลิงคราวนี้จึงตองทําใหเต็มที่ ไป ดวยกันอีกครั้งหนึ่งเถิดพลอย ไมกี่วันหรอก" ทุกคนที่นั่งอยูดวย เปลงเสียงเห็นจริงกับชอย ตางคนตางพากันชักชวน ขอรองใหพลอยไปดวยกันเซ็ง แซ "ฉันเองก็อยากไปเหมือนกัน" พลอยตอบอิดเอื้อน "แตฉันเดี๋ยวนี้ก็ไมใชตัวคนเดียว ทางบานเขา จะวา อยางไรก็ไมรู" เสียงคนที่นั่งอยูรอบตัวพลอยดังเซ็งแซขึ้นอีกพักหนึ่ง เสียงชอยพูดดังกวาคนอื่นวา "โฮย ! เขาคงไมวาอะไรหรอก ยังใหมๆยังงี้ขี้เกียจจะตามใจ แลวก็ดีเสียอีกจะไดเห็นหนากันทุกวัน ไม ตองจากกันนาน เพราะคุณเปรมเขาก็คงตองตามเสด็จเหมือนกัน" ทุกคนยืนยันวาเหตุผลของชอยถูกตอง และ ทุกคนเห็นวาพลอยตองตามเสด็จคราวนี้อยางไมมีปญหา แตพลอยก็ยังไมสามารถรับคําได "แลวฉันจะทําอยางไรกะตาอน" พลอยพูดอยางลังเลใจ "จะทิ้งแกไวทางบานก็เปนหวง จะเอาไปดวย ก็ ลําบาก" "จะลําบากลําบนอะไรหนักหนา" ชอยตอบแกปญหาให "เด็กตัวเล็กนิดเดียว เอาติดไปดวยจะไปกินที่ กิน ทางอะไร พลอยไปเรือกับคุณอาสายก็แลวกัน จะเอาบาวไพรไปดวยก็ได สําหรับเลี้ยงตาอน ถาพลอยอยูที่เรือ เครื่อง ฉันจะออกมาเลนไปมาหาสูกับแมพลอยทุกวัน คุณอาจะไดไมดุฉันวาเถลไถล แลวคุณเปรมก็จะไดมีที่กิน ขาวอรอยๆ ไปเถอะนา แมพลอยแกตัวไมหลุดหรอก" พลอยกลับออกมาบานดวยใจตุมๆตอมๆ เพราะในใจจริงนั้น พลอยอยากไปบางปะอินอยูมาก ความ ตื่นเตน ของเพื่อนฝูงที่ยังอยูในวัง ชักจูงใหพลอยรูสึกตื่นเตนไปตาม พลอยออกมาจากในวังแลวหลายเดือนก็ จริง แตความรูสึกความสนใจตางๆ ก็ยังเปนชาววังอยูยังมิไดเปลี่ยนแปลงไป ศูนยกลางแหงชีวิตของพลอย ก็ยัง อยูในวังนั้นเอง ขาวคราวตางๆที่ในวัง เปนเรื่องที่พลอยฟงดวยความกระหาย นานๆคุณเปรมกลับจากวัง ก็มี เรื่องมาเลาใหฟงบาง แตเรื่องที่คุณเปรมเลาเปนเรื่องทางดานมหาดเล็ก ไมลึกซึ้งจับจิตจับใจ เหมือนเรื่องที่เลา กันออกมาจากขางใน ถึงวาตัวพลอยจะอยูนอกวัง แตใจนั้นก็ยังเฝาอยูในวังอยางเกา เมื่อในวังมีงานการอยางใด ก็อยากรูอยากเห็น คนในวังจะมีเรื่องทุกขสุขอยางไร ก็อยากจะรวมดวย ตั้งแตออกมาจากวัง พลอยก็รูตัววา ได อยูที่บานคุณเปรมอยางมีความสุข และฐานะของตนในขณะนั้น เปนฐานะที่นาอิจฉา แตถึงอยางนั้นพลอยก็ยัง ใฝฝนที่จะไดกลับเขาไปรับใชชีวิตอยางเดิม ที่ตนคุนเคยมาแตเล็ก ถึงจะไมไดตลอดอยางแตกอน ก็เพียงแต เปนครั้งคราว ทุกครั้งที่พลอยมีโอกาสเขาวัง พลอยก็รื่นเริงชื่นบานเหมือนกับไดกลับบาน หลังที่จากไปนาน และเมื่อไดเขาวังครั้งหนึ่งแลวกลับบาน พลอยก็มีเรื่องที่จะเก็บมาคิด หรือมีคําพูดแปลกๆ ที่ไดฟงกลับมานั่งนึก ขบขันตอไปไดอีกหลายวัน งานพระเมรุที่บางปะอินคราวนี้เปนงานใหญ ใครไมไดไปก็เรียกไดวาเปน คนนอก สังเวียน ไมทันตอเหตุการณ แทบจะขายหนาคนทั้งวังทีเดียว เพราะตอไปจะตองตกอยูในฐานะ เปนผูฟงคําเลา ลือจากปากคนอื่น มิไดเห็นดวยตา จะพูดจะจาสิ่งใดก็คงไมมีน้ําหนัก พลอยนั่งรถกูบที่คุณเปรมมารับกลับบาน นั่งตรองถึงเรื่องนี้อยูพลอยเวลา และเมื่อกลับมาถึงบานแลว ก็ ยังตองคิดอยูอีกวา จะพูดจากับคุณเปรมอยางไรดี เพราะขณะนี้พลอยเกรงใจคุณเปรมเสียเปนที่สุดแลว จะเอย ปากเรื่องนี้กับคุณเปรมตรงๆ วาตนอยากไปเพราะเพื่อนฝูงชวน ก็ไมแนวาคุณเปรมจะนึกอยางไร พลอยรูวา คุณเปรมคงไมขัดใจตน แตขอสําคัญนั้นอยูที่วาคุณเปรมจะนึกวาอยางไร สิ่งที่พลอยไมอยากใหคุณเปรมนึก ก็ คือวาพลอยเปนคนรักเพื่อนฝูงมากกวาคุณเปรม หรือความรักสนุกสบายสวนตัวมากกวาภาระทางบาน แตทั้งที่ เกรงใจคุณเปรมนั้นเอง พลอยก็นึกในใจอยูวา จะตองหาทางดิ้นรนไปใหจงได คุณเปรมออกเวรกลับบานมาแลว พลอยก็ยังอึกอักไมกลาออกปากขอไปบางปะอิน แตอีกสองสามวัน ตอมา คุณเปรมก็เอยปากขึ้นมาเองวา "แมพลอย ฉันจะตองตามเสด็จไปบางปะอินอาทิตยหนานี้แลว ชวยจัดของใหฉันดวย คราวนี้เห็นผูใหญ ทานบอกวาจะตองไปหลายวัน ฉันชักเปนหวงแมพลอยเพราะกําลังตั้งทอง ไมอยากจะไปเลยแตก็จนใจ เพราะ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy116.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 4

เปนราชการจะหลีกเลี่ยงก็ไมได แตกอนตัวฉันคนเดียวจะไปไหนก็ไมมีหวงใย แตเดี๋ยวนี้ตองไปไหนแตละที ใจ คอไมสบายเลยทีเดียว" คุณเปรมพูดเขาเรื่องที่พลอยอยากจะพูดอยูพอดี พลอยรีบตอบไปวา "คุณเปรม ฉันก็กําลังจะพูดกับคุณเปรมเรื่องนี้อยูแลว พวกในวังเขาชวนฉันไปบางปะอินคราวนี้ดวย แต ฉันก็ไมรูวาคุณเปรมจะตองไปหรือไม ถาคุณเปรมไมตองไปฉันก็วาจะไมไปเหมือนกัน แตนี่พอดีคุณเปรม จะ ตองตามเสด็จพระเจาอยูหัว ฉันก็อยากจะตามเสด็จของฉันไปดวย" "แมพลอยจะไปไหวหรือ เดี๋ยวจะไมสบาย" คุณเปรมทวงขึ้น "แลวก็อีกนะแหละ ถึงไปฉันก็คงไมไดพบ แมพลอยก็จะเขาไปอยูเปนคุณขางในเสียในวัง ฉันจะไปมาหาสูก็ไมได ยิ่งรูวาอยูใกลแลวไปมาหาสูกันไมได ฉัน จะยิ่งคิดถึงใหญ" "คุณเปรมพูดราวกับวาฉันทองสักแปดเดือน" พลอยตอบ "คุณเปรมอยาวิตกเลยในขอที่วาจะไมไดพบกัน ฉันจะเอาตาอนไปดวย เอานางพิศกับยายแจมติดไป ถึงอยางไรก็เขาไปอยูในวังไมได ฉันวาจะไปอยูเรือเครื่อง กับคุณอาสาย คุณเปรมมาหาฉันใหไดบอยๆก็แลวกัน คราวนี้ฉันเลี้ยงขนมจีนน้ําพริกคุณเปรมบาง แลวฉันจะ เลี้ยง ใหดี จะพูดจะคุยดัวยไมมานั่งเฉยๆ ไมพูดกับใคร อยางคุณเปรมทําคราวที่แลวหรอก" คุณเปรมหัวเราะชอบใจ และออกปากอนุญาตใหพลอยไปบางปะอินไดทันที เรื่องเล็กๆนอยๆ และความ หลังตางๆ เปนเครื่องชักจูงใหคนทั้งสอง มีความสนิทสนมกันยิ่งขึ้น หลังจากไดรับอนุญาตจากคุณเปรมใหไปบางปะอิน พลอยก็รูสึกรื่นเริงกระปรี้กระเปราขึ้นมาก อาการ หงุดหงิด อาการเศราใจ วาเหววังเวงใจของคนแพทอง และเริ่มตั้งทอง หายไปเปนปลิดทิ้ง พลอยตองวิ่งเขา วิ่ง ออกระหวางบานกับในวังหลายครั้งหลายคราว เพื่อนัดหมายกับคุณสายและพวกพอง ถึงเรื่องการที่จะไป บางปะอิน นอกจากนั้นก็ยังตองเตรียมเครื่องนุงหมที่นอนหมอนมุงสําหรับตาอน ระยะเวลาเจ็ดแปดวันนั้น ผาน ไปอยางรวดเร็วโดยที่พลอยไมรูสึก และพอถึงวันกอนเสด็จบางปะอินวันหนึ่ง คุณเปรมก็พาพลอยกับตาอน นาง พิศและยายแจม ขึ้นรถไปสงลงเรือเครื่องลวงหนาไปในตอนเชาตรูวันหนึ่ง พลอยมารูตัวเอาเมื่อลงเรือวาชอยก็จะไปในเรือดวยกัน เพราะที่แรกนึกไววาชอยคงจะตองตามเสด็จ ทางรถไฟ แตชอยบอกวา "เสด็จทานคงดีพระทัยที่พลอยตามเสด็จ พอทานทรงทราบวาแมพลอยจะตามเสด็จ แตมาเรือกับคุณอา ทานก็รับสั่งใหฉันมาทางเรือดวย ถาทานจะมีพระประสงคใหฉันมาเปนเพื่อนแมพลอย จะไดคุยกันกลางทาง ไม ตองเหงา" "โธเอย !" คุณสายที่นั่งฟงอยูในเรือรองขัดคอขึ้น "คนเรานี่เมื่อไรจะรูสํานึกตัวกันบาง ทานไมใหตัวตาม เสด็จ ทางรถเพราะทานกลัวทานจะตองขายพระพักตรนะไมวา" "คุณอานี่ชาติกอนถาจะทํากรรมไวกับฉันมาก" ชอยประทวงขึ้น "ไมวาฉันจะพูดจาอะไร คุณอาตองขึ้น เทศน สองธรรมมาสนขัดคอฉันทุกทีไป แปลกแทๆทีเดียว" พลอยนั่งเรือไปดวยอารมณที่เปนสุข เพราะไดกลับมาอยูในสิ่งแวดลอม และบรรยากาศที่เคยชิน ชอยหา เรื่องมาพูดคุยใหขบขันอยูไดเรื่อยๆ สวนคุณอาสายนั้น นอกจากจะกลัวเรือลมและกลัวภัยอันตรายตางๆ ในน้ํา แลว ยังตองโกลาหลอีกเรื่องหนึ่งดวยเรื่อง กลัวตาอนจะซุกซนวิ่งลงน้ําหายไป ทั้งที่พลอยยืนยันวา ตาอนแกไม ซนเทาไรนัก คุณสายก็ยังไมเชื่อสนิท กําชับกําชานางพิศยายแจมและคนหองเครื่องอื่นๆ ใหคอยชวยกันดูเสียง เอะอะอยูทายเรือ พอเรือออกแลนฝากระแสน้ําระหวางกรุงเทพฯถึงตลาดขวัญ ตาอนผูซึ่งเคยเดินทางๆเรือเปน ครั้งแรก ก็เริ่มตื่นเตนวิ่งเลนไปมาอยูในเกง ทําใหคุณสายตองรองตะโกนเรียก เสียงหลงอยูหลายครั้ง เรือแลน พนตลาดขวัญไปแลว ตาอนจึงไดเริ่มสงบและนอนหลับ เหตุการณภายใน ทางดานคุณสายก็สงบลงไปตาม ชอย ขอตัววาจะไปนอนกับตาอนสักงีบหนึ่ง บอกวาเมื่อคืนนี้วุนวายเก็บของ อยูจนดึก แลวก็เลยไมหลับไปตลอดรุง พลอยนั่งเอนหลังพิงฝาเรือหนาเกงไปแตผูเดียว เสียงคนเครื่องคุยกันไดยินจากทายเรือ นานๆก็มีเสียง คุณสายสอดขึ้นมา เสียงใครตําน้ําพริกขางทายเรือ และเสียงน้ําที่แตกซาอยูทางหัวเรือดังอยูไมขาดระยะ พลอย ทอดอารมณมองดูทิวทัศนสองขางแมน้ําอยางพอใจ ตนหมากราไมแลดูเขียวชอุม บานชองราษฎร โผลหลังคา ขึ้นมารับแสงตะวันเปนระย สลับกับวัดวาอารามสองฝงแมน้ํา คนที่แจวเรือพายเรือลอง พอกระบวนเรือพวงแลน มารูวาเปนเรือขางใน ก็เหลียวมามองและชี้ใหกันดู พลอยนั่งนึกถึงเรื่องตางๆ ที่ผานไปแลว บางเรื่องก็ดูเหมือน เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ บางเรื่องก็ดูเหมือนกับวาเกิดขึ้นนานหนักหนามาแลว จนจําไดเพียงเรือนราง เรื่องใดจะใกล หรือไกล มิไดอยูที่ระยะเวลาแตอยูที่เนื้อเรื่องนั้นเอง คราวที่ตามเสด็จบางปะอินคราวกอน คิดดูเหมือนเมื่อ วานซืนนี้ยังจําความรูสึกตางๆไดสิ้น แมแตจะนุงหมสีอะไรในวันตามเสด็จก็ยังจําได แตเรื่องที่เกิดขึ้นไมกี่วัน กอนเสด็จบางปะอินคราวนั้นคือ ตอนที่ไดทราบขาววาพี่เนื่องไปมีเมียเสียที่นครสวรรค มาคิดดูเดี๋ยวนี้ดูไกลตัว เสียเหลือเกิน เหมือนกับวาเรื่องเกิดขึ้นหลายสิบปมาแลว พลอยนึกถึงเรื่องนั้นแลว ก็แปลกใจ ในใจยังจําไดวา ครั้งหนึ่งนั้นเคยรักพี่เนื่องยิ่งกวาสิ่งใดๆ แตมานึกดูในขณะนี้ก็ไมบังเกิดความรูสึกใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อนึกถึงพี่เนื่อง พลอยก็ปราศจากความวาบหวามในใจ อยางที่เคยมีมาแตกอน หรือนึกถึงเรื่องที่พี่เนื่อง สละคําสัญญาก็มิได บังเกิดความทุกขระทมเหมือนที่เคยรูสึกมาครั้งหนึ่ง พลอยคิดถึงเรื่องนี้แลวก็อัศจรรยใจ เพราะเปนเรื่องของตัว

http://www.geocities.com/siamstory/ploy116.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 4

แทๆ มีคนรูไมกี่คน แตเมื่อเวลาลวงเลยไปไมนานเทาไรนัก ก็กลับกลายเปนเรื่องที่ผาน มานานแลว ไมมีความ หมาย เหมือนกับวาเรื่องนั้นเกิดแกคนอื่นมิไดเกิดแกตน นึกถึงเรื่องพี่เนื่องแลวก็หวนกลับมา นึกถึงคุณเปรม พลอยยืนยันกับตนเองวามิไดรักคุณเปรมเหมือนกับที่เคยรักพี่เนื่อง แตความรูสึกที่มีตอคุณเปรม ในขณะนี้พี่ เนื่องก็ไมเคยไดรับ คือความรูสึกอันใกลชิดวาพี่เนื่องเปนของพลอย เปนกรรมสิทธิ์ที่จะตองหวงแหน หวงใย เมื่อมานึกถึงคุณเปรมพลอยก็ยิ่งแปลกใจขึ้นไปอีก เพราะถึงจะไดแตงงานอยูกินกับคุณเปรมมาได ไมกี่เดือน แต ในความรูสึกในใจนั้นคลายกับวา ไดกินอยูกับคุณเปรมมานานหนักหนา มิใชเวลาเร็วๆเลย ภูมิประเทศสองฝงแมน้ําผานไปเรื่อยๆ เมืองปทุมพนไปแลว บานเรือนสองฝงก็หางลง มีแตเรือกสวนไร นา ตลอดสุดลูกตา พอตกบายตะวันคลอย เรือเครื่องก็เขาสูบางปะอิน และถูกจูงไปเทียบไวที่คลองทายวัง อัน เปนที่ๆ กําหนดไวให ตอนบายวันนั้นพลอยเขาไปในวังบางปะอิน กับคุณสายและชอย เพื่อจัดเตรียมที่ประทับ ไว สําหรับเสด็จ ซึ่งจะเสด็จมาทางรถไฟจากรุงเทพฯ ในวังรุงขึ้น รุงขึ้นอีกวันหนึ่งตอนสาย พระเจาอยูหัวก็เสด็จถึงบางปะอินโดยทางรถไฟ คราวนั้นเจานายขางใน ตาม เสด็มากเกือบทุกพระองค ที่ประทับบนพระตําหนักวรนาฏ จึงเบียดเสียดยัดเยียดกันอยูบาง พอเสด็จเขามาถึงที่ จัดเตรียมไว และทอดพระเนตรเห็นพลอยคอยรับเสด็จอยูที่นั่น ก็ทรงพระสรวลรับสั่งวา "พลอยมาดวยก็ดีแลว งานคราวนี้ใหญโตนัก ถาไมไดดูไว ก็จะไมไดเห็นอีก" เสด็จทอดพระเนตรดูที่ทาง ที่ไดจัดเตรียมไวแตวันวานแลว ก็รับสั่งกับพลอยอยางทรงพระเมตตาวา "ฝมือนางพลอยขามองปราดเดียวก็จําได ถึงเจาจะไมเขามาคอยรับที่นี่ ขาก็ตองรูวาเจาเปนคนจัดที่จัด ทาง เตรียมขาวของไวให" เสด็จรับสั่งตอไป ใหพลอยเตรียมตัวตามเสด็จออกงานพระเมรุคราวนี้ เพราะไหนๆก็ไดมาทั้งทีแลว ก็ ควรจะเห็นเสียใหทั่ว "นี่เจามาแตคนเดียวหรือมากับใครอีก" เสด็จรับสั่งถาม เมื่อพลอยกราบทูลวา คุณเปรมก็ตามเสด็จมา ใน กระบวน และตาอนนั้นก็เอามาเลี้ยงไวที่เรือเครื่อง เสด็จก็ทรงพระสรวลรับสั่งวา "ทั้งผัวและลูกของผัว หอบกันมาพะรุงพะรังจริงนางพลอย แลวก็ยังอยูในทองอีกทั้งคน เวลาไมมีงานจะ ตอง ไปไหน เจาไมตองเขามาอยูกับขาก็ได เดี๋ยวลูกผัวมาหาที่เรือไมพบ เขาจะพาลทิ้งเสียเลย เวลาจะออก งานพระเมรุ จึงคอยเขามา" พลอยรูสึกดีใจที่ไดกลับมาเฝาแหน คอยรับใชเสด็จ และรับสั่งดวยเปนปกติอยางสนิทสนม เหมือนเมื่อ ครั้งกอน อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy116.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๒) ประมาณสองสามวัน หลังจากเสด็จถึงบางปะอินแลว พระเจาอยูหัวก็เสด็จพระราชดําเนิน พรอมดวย เจา นายฝานหนาฝายใน ไปยังสถานีรถไฟบางปะอิน เพื่อรับพระศพกรมขุนสุพรรณฯ จากกรุงเทพฯ กระบวนรถ พระศพเขาถึงสถานีในตอนสาย พระโกษบรรจุพระศพนั้น ประดิษฐานอยูบนรถโถง ซึ่งตกแตงเปนพิเศษ พรอม ดวยกระบวนพระอิสริยยศตางๆ และเมื่อพระศพถึงบางปะอินแลวก็เชิญพระโกษลงเรือยาว มาขึ้นทาพระราชวัง บางปะอิน จากนั้นก็เชิญพระโกษไปประดิษฐาน ณ พระที่นั่งไอสวรรยทิพยอาสน ซึ่งสรางไวกลางสระใน พระราชวัง โปรดเกลาฯ ใหตั้งพระศพ ณ ที่นั้นสามวันและใหมีงานมหรสพสมโภช สองขางพระที่นั่งไอสวรรยนั้น ไดปลูกสรางเปนพลับพลา และตอสะพานเดินจากขอบสระถึงกันไดตลอด แบงเปนขางหนาขางหนึ่ง และขางในอีกขางหนึ่งในวันบําเพ็ยพระราชกุศลวันแรก พลอยแตงขาวตามเสด็จขึ้น ไป ทางที่ประทับขางใน เมื่อสงเสด็จแลว พลอยก็นั่งอยูกับพวกขาหลวงตําหนักอื่น ทางทายพลับพลา พอที่จะ แลเห็น เจานายที่ประทับอยูนั้นได การพระราชกุศลดําเนินไปจนเสร็จแลว พลอยนั่งอยูเฉยๆ มิไดสนใจเทาไรนัก เพราะไปมุงนึกถึงเรื่องที่นัดไวกับชอยวา จะออกไปเที่ยวในตอนกลางคืน พองานที่พระที่นั่งไอสวรรยเสร็จลง พลอยก็รูไดวาจวนถึงเวลาเจานายเสด็จกลับ เพราะมีความเคลื่อนไหวภายในที่ๆ เจานายขางในประทับ แตใน ทันใดนั้นพระเจาอยูหัวก็เสด็จขึ้น ผานทางเจานายขางใน และพลอยโดยมิไดคาดฝน ก็ไดเห็นสิ่งที่ประทับตา ตรึงใจไปจนตลอดชีวิต พระเจาอยูหัวเสด็จมาจากที่ประทับ ดวยพระพักตรอันเศราโศก อาลัยถึงพระราชธิดา ที่ อยูในพระโกษ และพอทอดพระเนตรเห็นเสด็จพระองคกลาง ผูเปนพระขนิษฐารวมเจาจอมมารดา กับกรมขุน สุพรรณฯ ก็เสด็จพระราชดําเนินเขามาสวมกอดเสด็จพระองคนั้น และตางองคตางทรงพระกันแสง พลอยใจหาย ดวยความเศราสลด รีบหมอบกมหนาลงทันที มิกลาจะมองภาพนั้น ในคอนั้นแหงและตีบตัน น้ําตาอุนๆ ออกมา อยูเต็มสองเบาตา พลอยเพิ่งไดเห็นครั้งนี้เปนครั้งแรก ที่พระเจาอยูหัวของตนทรงพระกันแสง ความทุกขความ ระทมใจที่ตนไดเคยรับมาแลว และแนใจวาจะตองรับตอไปนั้น ดูหมดความสําคัญลงไป ในทันทีทันใด นับประสา อะไรแตคนขนาดพลอย ซึ่งเปนแตเพียงผูที่ไมมีความสําคัญอยางใดจะตองเศราโศก จะตองประสบความทุกข เปนครั้งคราว ดวยตองเสียของรักหรือพลัดพรากจากคนที่รัก แมแตพระเจาอยูหัว เจาชีวิตของคนทั้งเมือง และ สําหรับพลอยก็เปนหลักของโลกมนุษยนี้ พระองคก็ยังตองประสบความวิปโยคเชนกัน หาทรงหลีกเลี่ยงจากการ พลัดพรากจากคนที่รัก หรือของที่รักนั้นไดไม พลอยหมอบกมหนาอยูนานจนแนใจวา น้ําตาแหงแลวจึงเงยหนา ขึ้น ก็พอดีไดเวลาเสด็จกลับ บายวันนั้นคุณเปรมมากินขาวที่เรือเครื่อง คุณสายจัดสํารับเลี้ยงดูอยางแข็งแรง และคุณเปรมก็พูดคุย จนคุณเสายปลื้มปติยินดี และมีอารมณดีไปไดมาก พอตกเย็นคุณเปรมกลับไปแลว ชอยจึงออกมาจากในวัง เพื่อ รับพลอยไปเที่ยวงาน ตามที่ไดนัดกันไว "วันนี้มีขาวไมดีเสียแลว" ชอยพูดปรารภขึ้น หนาตาไมสบายนัก "ขาวอะไรอีกละ เดี๋ยวก็จะมาหลอกใหฉันตกใจอีกหรอก" คุณสายกลาวขึ้นอยางไมไวใจ "คราวนี้ขาวจริงๆคะคุณอา ฉันไมไดพูดเลนหรอก" ชอยพูดอยางหนาตาเอาจริง "สมเด็จพระองคใหญ ทรงพระประชวร" ชอยหมายถึงสมเด็จเจาฟา ผูเปนพระราชธิดาพระองคใหญกับพระอัครชายาองคกลาง "เอะ !" พลอยอรงขึ้นอยางไมเชื่อหู "ก็เมื่อเชาฉันยังเห็นทานเสด็จไปรับพระศพที่สถานีอยูนี่ !" "นั่นนะซี !" คุณสายรีบสวมรอย "เหลวเสียอีกละกระมังยายชอย ระวังใหดีเถอะ ทานอยูของทานดีๆ ไป หาวาทานประชวร เดี๋ยวถูกมะพราวหาวยัดปาก" ชอยไมสนใจตอคําพูดของคุณสาย แตตอบพลอยวา "ฉันรูแลวพลอย แตทานเสด็จไปทั้งประชวร เพราะเมื่อเชาเพียงแตไมทรงสบายนิดหนอยเทานั้น แตพอ เสด็จกลับมา ก็มีพระอาการหนักขึ้น พวกขาหลวงเขาเลาใหฉันฟงวา พระองครอนเหลือเกิน ไมเคยเห็นพระ อาการอยางนี้" "อยาพูดมากไปเลยยายชอย" คุณสายเตือน "มดถอหมอหลวงทานมีถมไป ประชวรไขผิดอากาศ ถูกแดด ถูกนายอยางนี้ อีกสองสามวันทานก็หาย อยาไปพูดใหเปนหนักหนาไปเลย" "สมพรปากคุณอาเถิด" ชอยพูดหนาขรึมๆ พลอยตามชอยไปในวังนิ่งๆ ไมไดพูดจาวากระไรกันอีกตอไป คืนวันนั้นในสระใหญที่พระราชวัง บางปะอิน สวางไสวไปดวยแสงไฟ สิ่งที่เรียกรองคสามสนใจที่สุดก็คือ กระทงใหญตางๆ ที่ลอยอยูในสระ พลอย ลงเรือพาย กับชอยและพวกขาหลวงตําหนักเดียวกันอีกสองคน เที่ยวพายดูกระทงเหลานั้นดวยความตื่นตาตื่น

http://www.geocities.com/siamstory/ploy116_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 4

ใจ กระทงใหญ ที่มาลอยอยูในสระนั้นเปนของเจานายขาราชการ และพอคาคฤหบดีจัดทํามาสนองพระเดชพระ คุณ ทุกกระทง จุดไฟสวางไสวและประดิษฐเปนรูปตางๆ มีเครื่องยนตกลไกลอยูในนั้น บางกระทงทําเปนรูปเรือ รบ ยอสวนจากของจริงลงมาไดขนาดและมีครบทุกอยาง อีกกระทงหนึ่งทําเปนรูปนางธรณีบีบมวยผม มีเครื่อง สูบน้ําซอนอยูขางใน สูบน้ําจากสระใหไหลออกมาทางมวยผมไดจริงๆ เลยไปอีกทางหนึ่งเปนกระทง ทําเปนรูป พระยานาคจําศีล งดงามวิจิตรดวยลวดลายสลัก จนดูเหมือนกับวาพระยานาคนั้นมีชีวิต ถาใครไปกระทบ เขาก็ เคลื่อนไหวสําแดงอิทธิฤทธิ์ กระทงของอีกเจาของหนึ่ง ทําเปนรูปกระโจมแตรที่มีของจริงอยูในพระราชวังนั้น ยอสวนลงมาจนเหลือเล็กนาเอ็นดู ตอจากนั้นไปเปนกระทงแสดงหุนภาพเรื่องพระอภัยมณี ตอนสุดสาครเขา เมืองผีดิบ ทําเปนผีรูปตางๆหนาตาดุรายนากลัว แลวยังมีกระทงทําเปนเรือนขุนชางขนาดยอสวน นารักรูปราง เปนเรือนแบบไทยเหมือนเรือนตนที่สวนดุสิต ขางในนั้นมีกระถางไมดัด ตลอดจนเครื่องใช และเครื่องตกแตง พรอมสรรพ ทุกอยางเล็กๆไดสวนกับตัวเรือนไปสิ้น พลอยพายเรือวนเวียนดูกระทงเหลานั้น อยูจนดึก ดูเทาไรก็ ไมรูจักเบื่อ ในสระนั้นก็เต็มไปดวยเรือเจานายและเรือขางใน ออกพายเวียนวนดูกระทง อยูทั่วกัน เสียงทักทาย กันเบาๆ เสียงชมกระทงนั้นเปรียบกับกระทงนี้ดังอยูไมขาด กระทงที่นํามาลอยในสระนี้ ลอยอยูจนครบสามวัน อันเปนเวลาตั้งพระศพบําเพ็ญพระราชกุศล ในคืนตอมาเสด็จพระราชดําเนินทอดพระเนตร พรอมดวยคณะ กรรมการประกวดกระทง กระทงใดที่ไดรับรางวัลที่ ๑ ก็ใหปกธงเหลืองไวเปนสําคัญ กอนถึงวันถวายพระเพลิงวันหนึ่ง พลอยไมไดเขาไปตามเสด็จในวัง เพราะรูสึกออนเพลียหลังจากนอน ดึก มาสองคืน ตอนกลางวันจะนอนเอาแรงก็นอนไมหลับ เพราะวันนั้นอากาศอับคอนขางรอน พลอยอาบน้ําประ แปง บรรเทาความรอนแลวหยิบหัวหอมกระจุกหนึ่ง ออกมานั่งปอกอยูที่หัวเรือ เพื่อเอาไปใหเขาทําเครื่อง และ เพื่อฆาเวลามิใหมืออยูเปลาๆ พลอยนั่งกมหนาปอกหอมอยูอยางสบายอารมณ มิไดนึกสิ่งใดโดยเฉพาะ พลอย จะนั่งอยูนานเทาไรก็มิไดสังเกตจดจําไว มารูสึกตัวเอาเมื่อมีใครคนหนึ่ง มายืนอยูบนตลิ่งหนาเรือ หางจากที่ๆ ตนนั่งไมกี่มากนอย พลอยเงยหนาขึ้นดูวาใครมายืนอยู และพอคนที่ยืนอยูนั้นเห็นหนาพลอย ก็สะดุงสุดตัวทําทา เหมือนกับจะถอยหนี แตแลวก็ไดสติทักขึ้นกอนวา "แมพลอย ! ฉันไมรูวาแมพลอยก็มาดวย" พลอยยิ้มแลวยกมือไหว ตอบวา "พี่เนื่องถาจะมาหาคุณอา เชิญลงมาในเรือสิ" พี่เนื่องกาวลงเรืออยางระมัดระวัง สายตายังจับอยูที่พลอย พอลงมานั่งพับเพียบที่หนาเรือเรียบรอยแลว พี่เนื่องก็พูดขึ้นวา "แมพลอยสบายดีหรือ ไมไดพบกันนาน ฉันคุมทหารมารักษาการที่นี่ เดี๋ยวนี้ฉันยายมาอยูกรุงเกา นึกวา คุณอาสายจะตามเสด็จ ฉันก็เลยถามเขามาจนถึงเรือลํานี้" "ฉันไมไดพบพี่เนื่องหลายปเหมือนกัน ทีแรกฉันเกือบจําไมได เพราะพี่เนื่องอวนขึ้นกวาเกา ฉันสบายดี ไมเจ็บไมไขอะไร พี่เนื่องเห็นจะสบายดี" "ก็เรื่อยๆแหละ ตอนแมพลอยแตงงานแมบอกฉันขึ้นไปเหมือนกัน แตตอนนั้นเตรียมตัวจะยาย เลยลงไป ชวยไมได" พลอยเบือนหนาเขาไปในเกงเรือรองเรียกนางพิศ ฝายนางพิศพอไดยินเสียงพลอยเรียกก็โผลออกมา และอุมตาอนออกมาดวย พอเห็นหนาพี่เนื่องนางพิศก็เบิกตาโตรองวา "โอโฮ ! คุณเนื่องหายไปไหนมา ไมไดพบไดเห็นกันมาตั้งแตปมะโว" "ก็อยูแถวๆนี้แหละพิศ" พี่เนื่องหัวเราะตอบ "ไมไดหายไปไหนไกลหรอก" "พิศ" พลอยพูดตัดบท "เอาตาอนมานี่ แลวไปเรียนคุณวา คุณเนื่องมาหา ดูเหมือนคุณจะทําเครื่อง อยู ทายเรือ" นางพิศหายหนาเขาไปตามคําสั่ง พี่เนื่องมองดูตาอนแลวก็กลืนน้ําลายถามวา "แมพลอย นั่นมันตัวอะไร จะวาลูกของแมพลอยก็เห็นจะไมใช" พลอยหัวเราะแลวตอบวา "ไมใชแนเทียวพี่เนื่อง ลูกคนอื่นฉันขอเขามาเลี้ยงนะ" "อาว !..." พี่เนื่องรอง "ลูกคนอื่นหนาตานาเอ็นดูดี" "ปานนี้ลูกพี่เนื่องมิโตแลวหรือ" พลอยถามอยางสนใจ "โตกวานี้หนอยหนึ่ง วิ่งแข็งแลว พูดเปนตอยหอยเหมือนยายชอย" พี่เนื่องตอบ "เสียแตขี้โรค เจ็บไมได หยุด" คุณสายกระปรี้กระเปราออกมาจากเกงเรือ มองหนาพลอยอยางหนักใจ แตเมื่อเห็นพลอยนั่งพูดจา กับพี่ เนื่องตามปกติ ก็ถอนหายใจอยางโลงอก แลวทักทายปราศรัยนั่งคุยกันอยูสามคนจนไดเวลา พี่เนื่องลากลับ พรอมกับสั่งใหมาอีก ระหวางที่อยูที่บางปะอิน พลอยเองก็ถอนหายใจดวยความโลงอก เชนเดียวกับคุณสาย เพราะถึงแมวาในใจของพลอยจะมองพี่ เนื่อง ดวยความรูสึกปกติแลวก็ตาม พลอยก็ยังไมแนใจวา ถาหากไดพบพี่เนื่องเขาจังหนา จะทําอยางไร จะมี

http://www.geocities.com/siamstory/ploy116_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 4

ความรูสึกที่ลมหายไปแลวนั้น ผุดขึ้นมาอีกหรือไม การที่พบกันในวันนี้พิสูจนใหพลอยแนใจวาไมมีอันตราย เพราะพี่เนื่องเปนเพียงคนรูจักมานานคนหนึ่งเทานั้นเอง พี่เนื่องเปนแตเพียงหลานคุณสายพี่ของชอย พี่เนื่องคน ที่เคยอยูในหัวใจของพลอยนั้น ตายไปเสียนานแลว ไมมีใครจะมาปลุกใหฟนขึ้นไดอีก รุงขึ้นอีกวันหนึ่ง ราวๆ บายสองโมงพลอยก็นุงขาว ตามเสด็จไปถวายพระเพลิง กรมขุนสุพรรณฯ ที่พระเมรุวัดนิเวศนธรรมประวัติ ซึ่ง อยูที่เกาะบางปะอิน เจาพนักงานเชิญพระศพจากพระที่นั่งไอสวรรยฯ ในพระราชวังลงเรือยาว พรอมดวย กระบวนพระอิสริยยศ แลวก็เคลื่อนกระบวนทางชลมาคร ออมเกาะบางปะอินไปหยุดกระบวนเทียบทา เชิญพระ ศพขึ้นทางทายเกาะ ตรงขามกับตําบลบานแปง แลวจึงเชิญพระศพขึ้นพระเมรุ ที่ปลูกขึ้นขางตนโพธิ์ ในวัด นิเวศนฯ และตนโพธิ์เหลานั้นมีจํานวนเทาพระชนมายุ ของเสด็จกรมขุนสุพรรณฯ พอดีหมูคนที่ไปในงาน วันนั้น นุงขาวเปนสวนมาก บรรดาพระเจาลูกเธอทุกพระองคทรงขาว จะมีทรงดําก็แตพระเจานองยาเธอ และนองนาง เธอ พวกขาหลวงที่ตามเสด็จจับกลุมกันซุบซิบ เรื่องขาวการประชวรของสมเด็จหญิงพระองคใหญ เพราะในวัน นั้นประชวรหนักเสด็จงานไมได ซึ่งตามความจริงตั้งแตวันเสด็จไปรับพระศพที่สถานีรถไฟแลว ก็เริ่มประชวรมิ ไดเสด็จออกงานอีกเลย แตในวันถวายพระเพลิงนั้น ทุกคนแสดงอาการหนักใจ เพราะประชวรมากนัก นัยวาถึง กับเพอตรัสเปนภาษาฝรั่ง ชอยนั่งอยูขางๆพลอยแถวทายพลับพลา คุยกันเรื่องขาวประชวรบางและเรื่องอื่นๆบาง แตขณะที่คุยกัน อยูนั้น ชอยก็หยุดนิ่งเฉยๆ มองทายกลุมขาราชการที่ยืนอยูอีกดานหนึ่ง เอื้อมมือมาสะกิดพลอย แลวกระซิบ ถามวา "พลอย เห็นอะไรอยางที่ฉันเห็นหรือเปลา" "เห็นอะไร ชอย" "โนนแน" ชอยพยักหนาไปทางคนที่ยืนอยู "ใครแตงทหารยืนอยูโนน โผลมาจากไหนก็ไมรู" พลอยมองตามสายตาชอยไป เห็นพี่เนื่องแตงเครื่องแบบนายทหาร ยืนอยูอยางสงบเสงี่ยมก็หัวเราะ แลว พูดวา "ออ ! นึกวาใคร ฉันก็ลืมบอกชอยไป พี่เนื่องมาหาคุณปาที่เรือเครื่อง เมื่อวานนี้" "งั้นเรอะ !" ชอยพูด "ฉันก็ไมไดออกไป แลวพลอยพบเขาหรือเปลา" "ฉันนั่งอยูหนาเรือพอดี ทักทายกันไปตามเรื่อง พี่เนื่องแกบอกวาเดี๋ยวนี้ยายเขามาอยูอยุธยา คอยใกล กรุงเขามาหนอย เห็นบอกกับคุณปาวาจะมาที่เรืออีก ชอยก็คงไดพบหรอกกอนกลับนี่แหละ" "ฮึ ! ฉันก็อยากพบสักทีหนึ่งเหมือนกัน ไมไดพบมานาน" ชอยพูดอยางมีความหมาย "และเมื่อแมพลอย พบกันจังหนา แมพลอยไมนึกหมันไสบางหรือ" "เปลาเลย" พลอยตอบยิ้มๆ ทอดตามองไปทางหมูมหาดเล็ก เห็นคุณเปรมยืนอยู ก็กระซิบถามชอยบาง วา "ชอยเห็นอะไรอยางที่ฉันเห็นบางไหม" "อะไรอีกละ" ชอยกวาดตามองไปทางที่พลอยมองอยู พอเห็นคุณเปรมยืนอยูอีกดานหนึ่ง ชอยก็หัวเราะ ดวยความเขาใจในความหมายของพลอยไดตลอดวา พี่เนื่องนั้นหมดความสําคัญเสียแลว เพราะมีคุณเปรม เปน คนสําคัญเขามาแทนที่ แตปากชอยนั้นตอบไปวา "ขวาง ! หมันไสแมพลอยเสียจริงเทียว ยังกะวาตัวมีผัวอยูคนเดียวในโลก คนอื่นไมมีใครหาได" งานถวายพระเพลิงเสร็จสิ้นไปแลว รุงขึ้นเชาก็มีสามหาบเก็บพระอัฐิ และเชิญพระอัฐิกลับ พระราชวัง บางปะอิน ระหวางเวลาสามสี่วันกอนที่จะทําบุญพระอัฐิ เจานายที่ตามเสด็จในงานพระศพบางองค ก็ทยอยเสด็จ กลับไปบาง ทําใหที่ประทับในวังซึ่งตองเบียดเสียดกันบางนั้นคอยวางลง พลอยชวยคุณสาย ตระเตรียมขาวของ สําหรับเดินทางกลับกรุงเทพฯ เมื่อทําบุญพระอัฐิแลว แตพองานทําบุญพระอัฐิ ซี่งเปนงาน แตงสีออกทุกขนั้น เสร็จลงแลวเทานั้นเอง คนที่เหลืออยูในวังบางปะอิน ก็ตองเกิดโกลาหลหาเครื่องแตงกายไวทุกข กันโดยกระทัน หัน เพราะสมเด็จพระองคใหญสิ้นพระชนมลงดวยไขพิษ งานพระศพพระเจาลูกเธอพระองคหนึ่ง เพิ่งเสร็จไปโดยอัญเชิญพระศพจากกรุงเทพฯ ขึ้นไปถวายพระ เพลิง ที่บางปะอิน แตพองานพระศพนั้นเสร็จลง งานพระศพพระเจาลูกเธออีกพระองคหนึ่งก็เริ่มขึ้น อยางที่ใคร มิได คาดฝนไว คนในวังทุกคนตองสะดุงสะเทือนตอการวิปโยค อันเต็มไปดวยความตระหนกใจ เจาพนักงาน ตองรีบ ตระเตรียมงานสรงน้ําพระศพโดยรีบดวน ขาวของที่จะตองใชในการนี้ตลอดจนพระโกษใสพระศพอีก องคหนึ่ง ตองนําขึ้นมาจากกรุงเทพฯ โดยขบวนรถเร็ว เจานายขางหนาที่เสด็จกลับลงไปกรุงเทพฯแลว ก็ตอง เสด็จกลับขึ้นมาอีกโดยดวน เพื่อใหทันสรงน้ําพระศพสมเด็จหญิงพระองคนั้น และเมื่อสรงเสร็จ ใสพระโกษแลว ก็เสด็จพระราชดําเนินกลับกรุงเทพฯ พรอมดวยเจานาย สวนพระโกษนั้น เจาพนักงานเชิญใสเรือ ลองกลับ กรุงเทพฯ อีกกระบวนหนึ่ง พลอยนั่งเรือกลับกรุงเทพฯ ดวยจิตใจอันเศราหมอง มองเห็นความสําคัญของตนนอยลงไปอีก พลอยนึก ถึง พระเจาอยูหัวแลวก็ใจหาย พระองคเพิ่งพระราชทานเพลิงศพ พระเจาลูกเธอพระองคใหญเสร็จสิ้นไป พระ เจาลูกเธออีกพระองคหนึ่ง ก็ดวนสิ้นพระชนมลงอีก พระศพหนึ่งแหขึ้นมาจากรุงเทพฯ เพื่อจะไดแหอีกพระศพ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy116_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 4

หนึ่งกลับในการเสด็จพระราชดําเนินเที่ยวเดียวกัน มัจจุราชนั้นมิไดมียกเวนใหแกใคร และวงลอแหงชีวิตก็คือ ความเกิด แก เจ็บ ตาย และการพลัดพรากสูญเสียของรักนั้น กวางขวางนัก ไมมีผูใดหลีกเลี่ยงได จะเปนพระ มหากษัตริย ผูเต็มไปดวยพระราชอิสริยยศและพระราชอํานาจ หรือยาจกเข็ญใจ เพราะพลอยดํารงชีวิต ตอไป หลังจากนั้นดวยความไมประมาท มีสติสัมปชัญญะ เปนผูใหญขึ้นในตอนขากลับจากบางปะอิน มากกวาขาไป

http://www.geocities.com/siamstory/ploy116_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๗ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 6

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๗ (หนาที่ ๑) "พอดีใจเหลือเกิน" เจาคุณพอพูดขึ้นวันหนึ่งเมื่อมาเยี่ยมพลอยที่บาน หลังจากทราบขาววาพลอยมีทอง "พอยังไมมีหลานตาจะเลนสักคน คนนี้เปนคนแรกดีใจเสียจริงๆ" คุณเชยมาเยี่ยมพรอมกับเจาคุณพอเอยปากขึ้นวา "ฉันก็เหมือนกันแมพลอย ยังไมเคยเปนปากับเขาเลย คราวนี้ปลื้มบอกไมถูก" พลอยกลับมาจากบางปะอินไมกี่วัน เจาคุณพอและคุณเชยก็มาเยี่ยมถึงบาน ทั้งสองคนดีใจเปนหนักหนา ที่จะไดมีหลาน "เจาคุณพอทานดีใจจริงๆ" คุณเชยกระซิบบอก "กอนที่ทานจะรูวาแมพลอยตั้งทองทานฝนไป ทานตื่น ขึ้น แกฝนใหฉันฟงตอนเชาวา ทานฝนวาทานนั่งอยูที่บาน เห็นดาวอะไรก็ไมรูดวงใหญ มีรัศมีลุกโพลงเหมือนผี พุงไต แลนผานทองฟาจากบานขามมาฟากขางนี้ พอทานตกใจตื่นก็พอดีใกลรุง พอทานแกฝนใหฉันฟงแลว ทานก็ทํานาย ของทานเสร็จ ทานวาคราวนี้เห็นจะไดหลานตาเปนผูชาย แตฉันก็ยังไมไดเชื่อถืออะไรนัก พอดี แมพลอยสงขาวไป วาตั้งทอง ฉันเลยเลื่อมใสขึ้นมาจริงๆ ขอใหลูกคนใหญเปนผูชายเถิดแมพลอย" "สมพรปากคุณเชยเถิด" พลอยตอบ "ฉันเองก็อยากไดลูกคนใหญเปนผูชายเหมือนกัน" เจาคุณพอและคุณเชยนั่งคุยอยูอีกนาน เจาคุณพอบนขึ้นวา "พอเปนอะไรก็ไมรูพลอย หมูนี้กินไมได นอนไมหลับ พอกินอะไรเขาไปก็แนนจุกเสียดในทอง รักษาหมอมิรูจักกี่หมอ ก็ไมเห็นมันดีขึ้น นี่ไปไดยาตมมา ใหมอีกขนานหนึ่ง เพิ่งลองกินดูไดไมกี่วัน จะเปนอยางไรก็ยังไมรู" พลอยสังเกตเห็นอยูแลววาเจาคุณพอซูบเซียวลงไปกวาเกา มีขอบเขียวที่ใตนัยนตา และดูศีรษะหงอก มากขึ้น พอจะเอยปากทักถาม เจาคุณพอก็บนขึ้นมากอน ยิ่งไดยินเจาคุณพอบนพลอยก็ยิ่งวิตก เหลียวมองดู หนา คุณเชยเปนเชิงสงสัย แตคุณเชยก็ขยิบตาแลวพูดไปเสียวา "ยาตมขนานนี้ ดิฉันไดยินวาของเขาดีนะเจาคะ เจาคุณพออยาเพิ่งใจรอนเลิกของเขาเสียกอนก็แลวกัน เพราะโรคผูใหญจะรักษาใหหายเร็วดังใจนั้นยาก" "แมเชยเขาเปนคนคอยบังคับใหพอกินยา" เจาคุณพออธิบาย "ยามิรูจักกี่ขนาน หมอมิรูจักกี่หมอก็ไดมา เพราะแมเชยเขาหามาใหทั้งนั้น จนบางทีพอขี้เกียจกินขี้เกียจรักษา เขาก็ไมยอม กดขี่กันเหมือนเด็กๆ" คุณเชยหัวเราะแลวพูดกับพลอยวา "ดูทานวาฉันสิแมพลอย ก็ทานไมสบายจริงๆ ฉันก็รักษาแลวทานกลับมาวาฉันบังคับทาน อีกหนอยเถอะ ฉันจะตองมารับแมพลอยไปชวยกันบังคับอีกคน" "อยาไปกวนเขาเลยแมเชย พลอยเขามีลูกมีผัว มีบานมีชองจะตองดูแล ถาเจ็บหนักหนาก็ไปอีกเรื่องหนึ่ง แตพอยังไมเปนอะไรนัก ไมควรที่ลูกๆจะตองลําบาก" เจาคุณพอลาไปแลว ทิ้งความไมสบายใจไวใหพลอย แตในวันรุงขึ้นพอเพิ่มก็มาที่บาน ยื่นจดหมายให พลอย ฉบับหนึ่งเปนความวา "แมพลอย เมื่อวานนี้ฉันไมกลาพูดเรื่องเจาคุณพอตอหนาทาน จะหาโอกาสบอกแมพลอยก็ไมได จึงตองวานพอเพิ่ม มาสงขาว เจาคุณพอเจ็บคราวนี้ ฉันไมคอยสบายใจนัก เพราะฉันดูอาการทานไมออก บางเวลาก็รูสึกวาทาน เจ็บมาก แตบางเวลาทานก็หายไปไหนมาไหนได ที่ฉันวิตกก็เพราะดูทานเหงาๆอยางไรขอบกล คลายกับวา ทาน ไมมีแกใจจะรักษาตัว ฉันอยากจะไปคุยกับแมพลอยตามลําพังก็ยังไปไมได เพราะหมูนี้ฉันไมกลาทิ้งทาน แตแมพลอยอยาเพิ่งวิตกคิดอะไรมากไปเลย หยูกยามดหมอก็มีบริบูรณ เห็นจะไมเปนอะไรนัก วันหลังถาฉัน ยัง มาไมได ฉันจะสงขาวมาอีก ดุพอเพิ่มใหฉันดวย เดี๋ยวนี้เลอะเขาทุกวัน" เชย" พลอยอานจดหมายคุณเชยแลวก็ยิ่งไมสบายใจขึ้นอีก เพราะตรงกับลักษณะอาการของเจาคุณพอ ที่ตน ไดสังเกตไววันกอน พลอยหันไปถามพอเพิ่มวา "พอเพิ่ม เจาคุณพอเปนอะไรไป" "เอ ! ฉันก็ไมเห็นทานเปนอะไรนี่แมพลอย" พอเพิ่มตอบอยางฉงนๆ "ดูพอเพิ่มซี !" พลอยพูดอยางรําคาญ "เจาคุณพอไมสบายยังไมรูอีก พิลึกแทๆทีเดียว"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy117.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๗ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 6

"อาวยังงั้นเหรอะ !" พอเพิ่มรอง "ไมเห็นมีใครบอกฉันเลย ฉันก็ยังเห็นทานดีๆอยูนี่ ฉันไมไดพบทาน เพียงวันสองวันเทานั้นเอง" "พอเพิ่มถาจะไมคอยกลับบานละซี ถึงไมรูเรื่องรูราวอะไรเสียเลย" "ถาจะวาอยางนั้นก็ถูก ฉันก็ไปตามเรื่องของฉัน จะกลับบานไมกลับก็เทากัน ถึงจะกลับไปก็ไมมีใครนํา พา พูดอะไรก็ไมมีใครฟง ไมรูวาจะกลับไปทําไม" พอเพิ่มพูดอยางนอยใจ พลอยกลุมใจ อยากจะหยิกตีพอเพิ่มเหมือนกับเด็กๆ แตปากนั้นพูดไปวา "โธ ! พอเพิ่ม ! พอเพิ่มก็เปนผูใหญแลว เมื่อไรจะเลิกเปนเด็กเสียที" "ฉันจะไปเลิกเปนเด็กไดยังไง เมื่อไมมีคนปลอยใหเปนผูใหญ" พอเพิ่มเถียง "เจาคุณพอทานก็เห็นฉัน ยัง เปนเด็ก ไมมีวันจะไวใจใหทําอะไรได คุณอุนก็เห็นฉันเปนเด็ก พบหนาทีไรก็ดาวา คุณชิตก็เห็นฉันเปนเด็ก มี อะไรก็ไมมีวันจะบอกกลาว แมแตคุณเชยซึ่งออนเดือนกวาฉัน ก็ยังเห็นฉันเปนเด็ก ผิดนิดผิดหนอยก็ดุเอาวาเอา เดี๋ยวนี้ถึงแมพลอยเปนนองแทๆ ก็เห็นฉันเปนเด็กไปอีกคน เริ่มจะดุฉันอีกแลว ฉันจะไปโตไดยังไง" พอเพิ่ม ยอนคํา พลอยฟงพอเพิ่มพูดแลวก็อดหัวเราะไมได เพราะพอเพิ่มพูดอยางนาเห็นใจ จึงพูดปลอบพอเพิ่มไปวา "พอเพิ่มอยาตีโพยตีพายไปเลย อยางฉันและคุณเชยนั้นก็เปนนองพอเพิ่ม ที่คอยตักเตือนก็เพราะรักพอ เพิ่ม อยากเห็นพอเพิ่มเปนหลักเปนฐาน มีคนนับหนาถือตา นองๆจะไดพึ่งพอเพิ่มบางเทานั้นเอง" พอเพิ่มเปนคนที่ปลอบงาย พอเห็นพลอยหัวเราะและพูดเสียงออนลง พอเพิ่มก็หายโกรธ เริ่มบนวาหิว เรียกนางพิศใหหาอะไรตออะไรมากินแกหิว รวมทั้งเหลาซึ่งนางพิศหาเตรียมไวใหเสมอ พอเพิ่มเปนคนเดียวในบรรดาพี่นองที่มาบานพลอยบอยที่สุด อาศัยความที่คุนเคยกับคุณเปรม มากอน คนอื่น บางครั้งพอเพิ่มมาหาขณะที่คุณเปรมอยูบาน คุณเปรมก็ตอนรับแข็งแรงทุกครั้งไป เคยชอบพอ กับพอ เพิ่มอยางไรเมื่อกอนไดกับพลอย คุณเปรมก็คงเปนอยูอยางเกา และดูเหมือนจะมากกวาเกาเสียดวยซ้ําไป เพราะคุณเปรมมิชั่วแตตอนรับเลี้ยงพอเพิ่มฉันญาติเทานั้น แตทุกครั้งที่พอเพิ่มมาบาน คุณเปรมก็มักจะมีของ ที่ มีราคาใหเปนกํานัล หรือถาคุณเปรมรูวาพอเพิ่มตองการสิ่งใด คุณเปรมก็มักจะหาของนั้นมาใหจงได โดยไม คํานึงถึงราคาวาจะถูกหรือแพง พลอยเห็นความอารีอารอบของคุณเปรม ที่มีตอพอเพิ่มก็รูสึกเกรงใจ อยูเสมอ ทั้งที่รูวาพอเพิ่มและคุณเปรมเปนคนรูจักชอบพอกันมาแตกอน แตพลอยก็อดเกรงใจคุณเปรมไมได เพราะพอ เพิ่มเปนพี่ชายแทๆของตน คําตักเตือนของคุณเชยใหระวังเรื่องพี่นองของตนนั้น พลอยยังมิไดลืมเลย แตพอ เพิ่มดีอยูอยางหนึ่ง ที่มิไดเคยออกปากขอ และไมเคยปรากฏวาพอเพิ่มเคยรับตัวเงินจากคุณเปรม หากแตรับ เปนของกินของใชตามแตคุณเปรมจะหามาให วันหนึ่งพลอยเก็บความเกรงใจไวไมอยู พอไดโอกาส ก็พูดกับคุณ เปรมวา "คุณเปรมอยาหาวาฉันสูรูเลย แตฉันดูๆหมูนี้ เห็นคุณเปรมตามใจพอเพิ่มมากไปเสียแลว" "ฉันไมไดตามใจพอเพิ่มหรอกแมพลอย" คุณเปรมตอบ "พอเพิ่มแกจะอยางไรก็ชางแกเถิด แตแกเปนคน หัวสูงเอาการอยู ตั้งแตรูจักกันมาพอเพิ่มยังไมเคยขออะไรฉันสักครั้งเดียว ฉันเปนคนหาให เพราะฉันรักพอเพิ่ม เทานั้นเอง แลวก็ใชวาจะมากมายอะไรหนักหนา มีของอะไรแปลกมาก็แบงใหฉันเพื่อน เดี๋ยวนี้ก็เปนฉันญาติ สนิท" "ถึงอยางนั้นก็เถอะ" พลอยทวงขึ้น "ฉันเห็นวาคุณเปรมใหพอเพิ่มมากไป จนออกหนาออกตา ใครเขาไม รู จะหาวาฉันพาพี่นองมาปอกลอก ฉันไมชอบใหใครนินทาผิดๆ" คุณเปรมหัวเราะแลวตอบวา "แมพลอย แมพลอยจะขออะไรฉันก็ได แตเรื่องนี้เห็นจะตองยกใหฉันบางละ แมพลอยคิดดูใหดีๆเถิด พอ เพิ่มเปนพี่รวมทองกับแมพลอยคนเดียวแทๆ ฉันก็รักและนับถือพอเพิ่ม เหมือนกับวาเปนพี่ชายของฉันเอง ทาง ญาติของฉันเองนั้น ฉันรับประกันวาไมมีใครมาวากระไรได ถึงฉันจะทุมเทใหพอเพิ่มสักเทาไรก็คงไมมีใครวา เพราะรูใจรูเรื่องกันดีอยูแลว แมพลอยไมตองวิตก สําหรับพอเพิ่มนั้น ฉันจะตองสนองคุณแกไปจนตาย เพราะ แกมี พระคุณกับฉันมาก ฉันลืมไมได" คุณเปรมพูดแลวก็ยิ้มละไม "วุย ! พระเดชพระคุณอะไรกันหนักหนาถึงเพียงนั้นนะ ฉันอยากรูนักเชียว" "แมพลอยทําไกไปได" คุณเปรมตอบอยางอารมณดี "ก็ที่ฉันไดรูจักกับแมพลอยมาถึงเพียงนี้ ก็เพราะใคร เสียอีกเลา จะใหฉันลืมคุณพอเพิ่มเสียงายๆ อยางไรได" คุณเปรมพูดพลางกระถดตัวเขามาใกล คุณชิตเปนพี่นองอีกคนหนึ่งที่มาหาถึงบาน แตทุกครั้งที่คุณชิตมา พลอยตองรูสึกไมสบายใจเสมอ ครั้ง แรกคุณชิตมาหาบอกวามาเยี่ยม แตวันนั้นบังเอิญคุณเปรมไมอยู คุณชิตก็รบเราจะพบคุณเปรมใหได ระหวางที่ นั่งคอยอยูนั้น ตาคุณชิตก็กวาดดูรอบๆตึก และดูเครื่องใชเครื่องประดับประดาตางๆ ดวยความสนใจ จนพลอย รูสึกกระดาก พอคุณเปรมกลับมาถึงบาน คุณเปรมก็นอบนอมตอคุณชิตเปนอยางดีเรียกวา "คุณพี่" ทุกคําพูด และใชวาจาออนนอมขอรับขอรองดวยความเคารพ มิไดพูดเปนกันเองอยางเพื่อนเชนเวลาพูดกับพอเพิ่ม แต แทนที่คุณชิตจะไวตัวเปนผูใหญ คุณชิตกลับแสดงกิริยานอบนอมตอคุณเปรมจนเกินกวาเหตุ และพูดจาฝากเนื้อ ฝากตัวกับคุณเปรม จนพลอยรูสึกอายจนแทบจะทนไมไหว พลอยไดแตนิ่งอดทนตอการแสดงของคุณชิต ใจก็

http://www.geocities.com/siamstory/ploy117.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๗ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 6

ไดแตภาวนาอยาใหคุณชิตมาหาบอยๆ เพราะสําหรับคุณชิตนั้น พลอยไมอยูในฐานะที่จะตักเตือนสิ่งไรไดเลย พลอยเคยไดรับการอบรมมาแตเล็ก ใหเกรงใจคารวะคุณชิต ในฐานลูกเมียหลวงตลอดมา ไมเหมือนกับพอเพิ่ม ซึ่งพลอยเห็นวาตนเองอยูฐานะที่จะเตือนได หนที่สองที่คุณชิตมาหาถึงบานนั้น พลอยรูสึกวาเปนเคราะหดีเปนอยางยิ่ง ที่คุณเปรมไปเขาเวรเสียในวัง ไมกลับบานในวันนั้น คุณชิตจึงไมมีโอกาสไดพบ เมื่อนั่งคุยกันอยูสองตอสอง คุณชิตก็เริ่มปรับทุกข ถึงความ ยากจนไมพอกินพอใช เลาใหฟงถึงความเจ็บปวยของภรรยาทางบาน ในที่สุดคุณชิตก็พูดขึ้นวา "แมพลอยอยาวาอะไรเลย นึกวาเห็นแกพี่เถิด แมพลอยมีอัฐใหพี่ยืมสักชั่งหนึ่งไหม แลวอีกหนอยพี่จะหา มาใชให" พลอยรูดีวาถึงจะใหไป คุณชิตก็คงใชจายทางอบายมุขหมด ภายในเวลาวันเดียวหรือสองวัน พลอยกม หนา ลงคนใตเชี่ยนหมากแลวพูดวา "ฉันไมมีหรอกคุณพี่เงินตั้งรอยตั้งชั่ง ฉันใชจายทางบานทุกวันนี้ฉันก็รับมาจากคุณเปรมอีกทีหนึ่ง ฉันไม กลา ไปเอาของเขามาให" พลอยพูดแกตัวปดปองไปตามเรื่อง "ไมมีเลยหรือ" คุณชิตถามอยางไมเชื่อ "ก็มีบางแตไมถึงชั่ง" พลอยตอบหลบสายตา "มีเทาไร" คุณชิตถามหวนๆ "มีอยูสักสามสิบเทานั้นเอง" พลอยตอบพลางนับเงินกนเชี่ยนหมากอยางไมเงยหนา มือที่ซูบเซียว และมี ของสกปรกอยูดําตามซอกเล็บ ยื่นมาแบอยูใตสายตาของพลอย เสียงคุณชิตพูดเหมือนขูวา "สามสิบก็เอา เร็วๆเขาเถิด พี่จะรีบไป" พลอยเอาเงินวางลงบนมือคุณชิตแลวก็รีบหดมือกลับ เหมือนกับวาเงินนั้นรอนเสียเต็มประดา "ขอบใจมากแมพลอย วันหลังพี่จะมาหาใหม" คุณชิตพูดวยน้ําเสียงอันแหงแหบ แลวก็ลุกขึ้น เตรียมตัว จะกลับ พลอยยกมือขึ้นไหวคุณชิตดวยความโลงใจ ทั้งที่คําพูดของคุณชิตที่ทิ้งทายไววา วันหลังจะมาหาใหมนั้น ทําใหตองมีความวิตกเหลืออยู คุณชิตเดินลงบันไดตึกไปสักครู คุณนุยก็เดินสวนขึ้นมา เพื่อมาคุยดวยตามปกติ "เมื่อกี้นั่นใครแมพลอย ใครกัน" คุณนุยถามขึ้น "คุณชิต ลูกเจาคุณพอกับคุณหญิง...พี่ชายใหญอิฉันเอง" พลอยตอบตะกุกตะกัก "ไฮ ! ทําไมอยางนั้นละ" คุณนุยรองขึ้น "หนาตาไมสมเลย ฉันนึกวาขี้ยาที่ไหนเสียอีก อาว ! ฉันพูดเกิน ไปอีกแลว แมพลอยอยาถือฉันเลย นึกวายกใหคนแกเถิด ไดไหม ไดไหม" ทีแรกเมื่อเห็นคุณนุยเดินขึ้นมา พลอยก็รูวาคุณนุยจะตองสวนทางกับคุณชิต ความรูสึกในเบื้องแรกนั้น อาย แทบจะแทรกแผนดินหนี แตคําพูดของคุณนุยที่พูดออกมาตรงๆ ทําใหพลอยคอยคลายใจ หัวเราะออกมา ตอนที่ คุณนุยบอกอยาถือสาคนแก คุณนุยนั้นตั้งแตรูวาพลอยตั้งทอง ก็ดูเปนหวงเปนใยพลอยมากขึ้นกวาเกา ทุกวันคุณนุยจะตองมาพูดมา คุย มาถามอาการคลายกับวาพลอยเปนคนเจ็บ และคอยเรงเราใหพลอยเตรียมตัวเสียแตเนิ่นๆ เวลาคลอดบุตร จะได ไมมีอะไรขาดเหลือ แตคําตักเตือนแนะนําของคุณนุยบางทีก็เลื่อนลอย บางครั้งก็ฟุมเฟอยเกินกวาความ จําเปน เพราะคุณนุยเองก็เปนคนโสดไมเคยมีลูก และดูเหมือนจะมาเริ่มสนใจกับการคลอดบุตรของคนอื่นคราว นี้ เปนครั้งแรก คําแนะนําของคุณนุยตองทําใหพลอยตองหัวเราะบอยๆ เปนตนวาคุณนุยจะพูดวา "เออ ! แมพลอยฉันเพิ่งนึกออก ผาขาว...ผาขาว...หาไวใหมากๆอยาลืม หาไวสักพับดีไหม" "เอาไวทําไมมากยังงั้นละคะคุณอา" พลอยยอนถาม "ฉีกผาออมเด็ก" คุณนุยตอบ "แลวก็ทําอะไรตออะไร เอ ! ฉันก็ไมรูซี ! เคยเห็นคนออกลูกเขาเตรียมหา ผา กันทั้งนั้นจริงไหม !" อีกครั้งหนึ่งคุณนุยพูดขึ้นอยางเอาการเอางานวา "แมพลอย ! อยาลืม...อยาลืม...สําคัญนักทีเดียวขาดไมได กระดองแมงดาทะเล สั่งใครใหหาเอาไว อยา ลืมทีเดียวนะแมพลอย" แตพอพลอยซักถามวากระดองแมงดาทะเลที่สั่งใหหานั้นมีไวเพื่ออะไรแน คุณนุยก็เริ่มลองลอยอธิบายไม ได บอกแตวาเคยเห็นใครก็ไมรู ที่ไหนก็จําไมได เขาหากระดองแมงดาทะเล เพื่อเอาไวใชตอนออกลูก เขาจะเอา ไปใช อยางไรก็นึกไมออก คนที่เปนประโยชนตอพลอยในการตระเตรียมสําหรับเรื่องใหญ ที่จะมาถึงตอไปก็คือ นางพิศและยาย เทียบ นางพิศนั้นอางวา เคยเห็นมาแลวหนักตอหนัก พอเพิ่มและพลอยเองนางพิศก็รับออกมาดวยกันทั้งนั้น ฉะนั้นในเรื่องนี้นางพิศก็เห็นวาตนเองอยูในฐานะเปนผูเชี่ยวชาญ ฝายยายเทียบก็ไมยอมลดขอให อางวาตนเอง ก็ชํานาญในเรื่องนี้มากและอาจมากกวานางพิศเสียดวยซ้ํา สวนจะไดความชํานาญในเรื่องนี้มาจากไหน และมี มากเพียงใดนั้น ยายเทียบกลาวอยางหนักแนนวาอยาใหพูดไปเลย เพราะเดี๋ยวใครไดยินเขาจะหาวาคุย เอาไวดู ฝมือกันเมื่อถึงเวลาดีกวา จะไดรูกันเสียทีวาอีแกมันพูดไวไมผิด นางพิศกับยายเทียบนั่งถกเถียงกันอยูใตระเบียงดานหลังของตึก พลอยผูนั่งอยูขางบนไดยินถอยคําถนัด "เทียบเอย" เสียงนางพิศพูดขึ้น "อยางแกมันดีแตจะทําครัว เรื่องออกลูกออกเตามันไมใชงายๆ เหมือน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy117.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๗ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 6

ขูดมะพราวตําน้ําพริก แกอยาคุยดีไปเลย" "แมพิศ" ยายเทียบพูดดวยสําเนียงเรียบรอย "นี่หลอนหาวาฉันตอแหลยังงั้นเรอะ" "เปลานา เทียบก็นอยใจไปได !" นางพิศตอบอยางอารมณดี "ฉันวา-วา ของพรรคอยางนี้มันตองเคยเห็น เคยทําเทานั้นเอง ฉันเห็นเทียบยังเปนสาวเปนแส เรื่องมีลูกมีเตาจะไปรูไดยังไง" "อะแฮม" ยายเทียบกระแอมเสียงหลง "แมพิศแมทูนหัว นี่ถาฉันไมกลัวจะเดือดรอนถึงนายละก็ ฉันจะตบ หลอนลางน้ําเสียตรงนี้แลว พูดจาเลนลิ้นดีนักทีเดียว" นางพิศหัวเราะครื้นเครงแลวถามวา "ไหนแกลองวาไปทีหรือวา แกรูอะไรบาง" "อยางคุณของเรานั้นตอนออกลูกไมสําคัญ เพราะทานเปนทองสาว" ยายเทียบเริ่มอธิบาย "เจ็บประเดี๋ยว เดียวก็หาย ทานไมเหมือนอยางเราๆ ถาอยางเรานี้ขืนดัดจริตมีลูกกันก็คงจะไมรอด" "เออนา" นางพิศขัดคอ "วาไปเถอะ อยาออกนอกเรื่องไปเลย" "เมื่อเปนอยางนั้น เรื่องของคุณก็สําคัญอีตรงอยูไฟ" ยายเทียบอธิบายตอ "จริงๆนะพิศ หัวอกลูกผูหญิงนี้ จะดีไมดีก็อยูตรงอยูไฟนี่เทานั้น ตองอยูไฟใหไดใหดี ตองนึ่งทองตองประคบ ถาพลาดพลั้งลงไปละก็เลือดมันทํา เอาทีหลัง ลําบากถึงเสียผูเสียคนไปทีเดียว แลวก็ตองถึงยาดวย" ยายเทียบพูดอยางมีความรู "ยาอะไร" "อาวก็ยาดองซีจะ" ยายเทียบตอบอยางมีภูมิ "ฉันดองเอาไวแลวที่หอง ตํารับของฉันเอง ยาดองเขาของ รอนเครื่องตรีกระตุกแลวก็..." "เดี๋ยวกอนไอยาดองนี่นะ" นางพิศสอดถามขึ้น "ดองไวแลวจริงๆหรือ" "จริงซีจะ" "ฉันขอลองดูกอนบางจะไดไหม หมูนี้ฉันก็เลือดลมไมสูจะดีเหมือนกัน" "ไดซีจะจะเปนไรมี อยางคุณทานจะไปรับอะไรหนักหนา เพียงขวดครึ่งก็พอ เมื่อถึงเวลา แตฉันดองไวตั้ง สามขวดโหล ถึงเราจะลองเสียหมดกอนก็ยังเอาเหลาเติมไดทีหลัง ดีเสียอีกจะไดไมรอนนัก เดี๋ยวคุณจะทนไม ไหว" พลอยไดยินนางพิศกับยายเทียบคุยกัน ก็รูสึกทั้งขันทั้งเสียวไส ความจริงพลอยรูสึกหวั่นๆอยูตั้งแตตน ตั้งทอง นึกถึงเวลาที่จะคลอดบุตรแลวก็ใหกริ่งเกรง เพราะรูวาจะตองเจ็บตองทรมาน แตเมื่อนึกถึงบุตรที่จะเกิด มา เปนเลือดเนื้อของตนแทๆ เปนอีกชีวิตหนึ่งที่จะตองทุมเทความรักทั้งปวงให พลอยก็เกิดปติซาบซาน คอย วันที่จะคลอดบุตรนั้น อยูดวยความหวังและความยินดี ไมนึกสะทกสะทานมากนัก และยิ่งใกลวันเขามา ความ หวาดเกรงและพรั่นพรึงใจนั้น ก็ยิ่งลดนอยลงไป คืนหนึ่งพลอยนอนหลับอยูบนตึก ขณะที่กําลังหลับสนิท อยูนั้น พลอยรูสึกตัวสะดุงตื่นขึ้นเหมือนกับมีใครมาปลุก ทีแรกนึกวาคุณเปรมปลุกเพราะมีเรื่องอะไร แตคุณเปรมซึ่ง นอนอยูเตียงเดียวกันนั้น ก็นอนอยูหางและหันหนาไปอีกทางหนึ่ง แมแตจะสันนิษฐานวาคุณเปรม จะเคลื่อนไหว แขนหรือขามาถูกตองตัวในยามหลับก็เปนไปไมได ขณะที่พลอยนอนลืมตาอยูนิ่งๆนั้นเอง พลอยก็รูสึกไดถนัด วามีความเคลื่อนไหวในครรภของตน ทันใดนั้นพลอยก็รูสึกวาบหวามในหัวใจ เต็มไปดวยความปติและความรัก เมื่อแรกตั้งทองก็รูไดดวยอาการตางๆ ของตนวาตนมีครรภ แตขณะนั้นเปนแตความรูสึกวา รางกายของตน เปลี่ยนไป ครั้งนี้เปนครั้งแรกที่มีสัญญาณจากบุตรในครรภ เปนสัญญาณดวยความเคลื่อนไหวใหพลอยรูไดถนัด วา อีกชีวิตหนึ่งไดบังเกิดขึ้นภายในรางกายของตน เด็กที่อยูในครรภนั้นเริ่มเปนตัวตน เปนบุคคลอีกคนหนึ่ง มิ ใชเพียงสิ่งหนึ่งแหงรางกายของพลอย แตมีชีวิตของตัวเอง แสดงความเคลื่อนไหวไดตางหากดวยเจตนาของตน เอง โดยที่พลอยมิไดมีการเคลื่อนไหว อยางใดเลย พลอยนอนนิ่งหัวใจเตนแรงดวยความยินดี ตานั้นก็เบิกโพลง ความงวงเหงาหาวนอนหายไปสิ้น ในที่สุดพลอยก็ไมสามารถจะเก็บเอาความตื่นเตนดีใจนั้นไวไดคนเดียวอีกตอ ไป รองเรียกคุณเปรมเบาๆใหตื่นขึ้น คุณเปรมพลิกกายอยางงัวเงียแลวถามวา "อะไรกันแมพลอย" "จุ ! จุ ! อยาเอ็ดไป คุณเปรม" พลอยกระซิบเหมือนกลัววาบุตรในทองจะตกใจ "ฉันเพิ่งรูสึกเปนหนแรก วาลูกดิ้น" คุณเปรมหัวเราะเบาๆ แลวพูดคอยๆวา "พุทโธ ! นึกวาเรื่องอะไร ไหนดูทีรึ" แลวคุณเปรมก็เอื้อมมือมาวางไวบนหนาทองของพลอย อีกครูหนึ่ง ก็มีความเคลื่อนไหวอีกจนคุณเปรมรูสึก "ถาจะเปนลูกผูชายเสียแลวแมพลอย" คุณเปรมพูดอยางดีใจ "มันดิ้นแรงเหลือเกิน" พลอยนอนยิ้มตอไปอีกนาน พลอยรูดีวาคุณเปรมอยากไดลูกผูชาย เพราะไดยินคุณเปรมพูดอยูเสมอ สําหรับพลอยนั้นในใจจริงลูกผูหญิงหรือผูชายก็เทากัน แตเมื่อคุณเปรมอยากไดลูกผูชายหนักหนา พลอยก็ไดแต ชวยภาวนาใหลูกคนแรกนี้เปนผูชายอยูเสมอ วันคืนลวงไป พลอยทองแกยิ่งขึ้นทุกวัน จนพลอยไมยอมไปไหนมาไหน แมแตจะลงจากตึกก็ไมอยากจะ ลง ดวยความอายในสารรูปของตน จนนางพิศตองเตือนอยูเสมอวา ถาอยากออกลูกงายๆก็ใหเดินเหินใหมากๆ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy117.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๗ (หนาที่ ๑)

Page 5 of 6

อยานั่งนอนอยูกับที่นิ่งๆ "ผูดีที่ออกลูกกันยาก ก็เพราะทานไมทําอะไรไดแตนั่งกับนอน" นางพิศอธิบาย "คนที่บานของบาว เขามี ทองเขาก็ยิ่งทํางานตักน้ําตําขาว เขาออกลูกงายกันทุกคน คุณพลอยไมตองทําการงานอะไร ก็เดินเหินเสียบาง" คําแนะนําตางๆจากยายเทียบก็ดี จากนางพิศก็ดี เปนคําแนะนํางายๆ แตเต็มไปดวยความรูและเจตนาดี ทั้งสองคนเปนหวงใยในพลอยอยางมาก และขาวของทุกอยางที่จําเปนตองใชในการคลอดบุตร ตั้งแตกระดาน ไฟ เตาไฟ ฟนอยูไฟ ผาผอนสําหรับพลอยและสําหรับเด็ก ตลอดจนกระดงที่เด็กจะนอน ก็สําเร็จดวยน้ํามือ ของ นางพิศและยายเทียบ เพื่อนฝูงที่เปนชาววังนั้นไดแตเกี๊ยวกาวดีใจเมื่อรูวาพลอยจะมีบุตร แตไมมีใครสามารถ ใหคําแนะนําใดๆที่จะเปนประโยชนไดแมแตคนเดียว เพราะคนที่พลอยรูจักสวนมากนั้นไมเคยมีลูก ชั้นผูใหญ อยางคุณสายหรือคุณเนียน ก็พูดขามขั้นตอนนั้นไปเสีย แตไปกังวลถึงเรื่องโกนผมไฟทําขวัญเดือน ซึ่งเปนเรื่อง ขามไป คําแนะนําที่พลอยรูวาจะเชื่อถือไดจริง จึงมาจากนางพิศและยายเทียบมากกวาคนอื่น ยายเทียบเอาใจใส ตอเรื่องอาหารการกินของพลอยมากกวาปกติ พลอยนึกอยากกินสิ่งใดยายเทียบก็พยายาม เสาะแสวงหามาให จนได นอกจากของบางอยางที่ยายเทียบและนางพิศลงมติรวมกันวา "แสลง" แลวยายเทียบก็ทําเฉยเสีย แกตัว วาไมมีบาง ขาดตลาดบาง พลอยเริ่มอยากกิน "ดินสอ" คือดินขาวชนิดหนึ่ง ที่เขานํามาใสกระทงขายเปนกอนๆ เมื่อพลอยยังเด็กๆอยูในวังเคยเห็นคนแกบางคนกินดินสอกับหมาก เคยลองกินดูไมเห็นมีรสชาติอะไร เหมือน กับกินดินสอพองดีๆนั่นเอง แตคราวนี้พลอยใหเกิดกระหาย อยากกินดินสอจนตัวสั่น พอนึกถึงก็น้ําลายไหล อด รนทนไมไดก็กระซิบนางพิศ นางพิศก็รองออ ! เขาใจ แลวก็ไปจัดการกันสองคนกับยายเทียบ ซื้อดินสอจาก ตลาดมาเกรอะใหม แลวก็ประดิษฐประดอยใหเปนกอนเล็กๆ นากิน ใสขวดโหลอบควันเทียนมาตั้งไวให พลอย นั่งกินดินสอทั้งกลางวันกลางคืนอยางเอร็ดอรอย จนคุณเปรมนึกฉงนตองขอลองกินบาง แตพอใสปากเคี้ยวได สักสองที คุณเปรมก็เบะหนาคายทิ้งรองวา "กินเขาไปไดยังไง แมพลอย" พลอยทองแกขึ้นทกวันจนใกลวันคลอด แตขาวจากบานคลองบางหลวงนั้น ไมไดทําใหพลอยสบายใจขึ้น กวาเกา เจาคุณพอเจ็บกระเสาะกระแสะ มีอาการทรงกับทรุด เปลี่ยนหมอก็แลว เปลี่ยนยาก็แลวตั้งหลายขนาน อาการก็มิไดดีขึ้น อีกวันหนึ่งพลอยไดรับจดหมายจากคุณเชยอีกฉบับหนึ่งวา "แมพลอย ฉันไมอยากกวนแมพลอยเลย เพราะแมพลอยกําลังทองแก แตฉันก็เห็นวาควรจะบอกใหแมพลอยรูไววา อาการของเจาคุณพอนาวิตก แตแรกก็ไมสูกระไรนัก แตเดี๋ยวนี้ถึงลมหมอนนอนเสื่อ ผอมผิดรูปรางและมีอาการ ปวดทองมากบอยๆ ฉันตองพยาบาลทานทั้งกลางวันกลางคืน อยากจะมากหาแมพลอยเหมือนใจจะขาดก็มาไม ได เชย"

ถึงคุณเชยจะเขียนจดหมายมาบอกใหทราบวา เจาคุณพอเจ็บถึงตองลมหมอนนอนเสื่อก็ตาม แตก็ยังสั่ง พอเพิ่มใหมาบอกดวยวาจาวา พลอยไมตองวิตกใหมาก เพราะการรักษาพยาบาลทุกอยางพรอมมูล เนื่องดวย เจาคุณพอพูดถึงลูกของพลอยที่จะเกิดนั้นอยูเสมอ คุณเชยจึงคาดวาเมื่อพลอยคลอดบุตรแลว อาการของ เจา คุณพอคงจะดีขึ้นเปนลําดับ เพราะความดีใจที่ไดเห็นหลาน จะชวยรักษาโรคไดเทากับยาอยางดีขนานหนึ่ง "เจาคุณพอนี่ทานก็แปลก" พอเพิ่มปรารภขึ้น "แมพลอยจะมีลูกกับเขาสักคน ทานพูดเชาพูดเย็นจนฉัน ขี้ เกียจฟง ที่คุณชิตมีลูกสักกี่คน ฉันก็เห็นทานเฉยๆ ไมเห็นดีอกดีใจ เขาเอาหลานมาใหดู ทานก็ดูนิ่งๆ ไมเห็น ทานเลนหัวดวย เด็กในบานลูกคนอื่นๆจะดีเสียกวา ฉันอยากรูนัก ถาเผื่อวาฉันมีลูกกับเขาสักคน ทานจะวา อยางไร" "ก็แลวแตพอเพิ่มจะมีลูกกับใครกระมัง" พลอยตอบ "นั่นนะซี" พอเพิ่มเห็นจริง "ฉันก็วาอยางนั้นเหมือนกัน ผูใหญทานเหมือนกันทั้งนั้น ถาลูกทานไดกับคน ที่ทานหาใหจัดการให มีหลานออกมาทานก็รัก แตถาเราไปหาเอาเอง ทานก็ไมชอบ รังเกียจลงไปจนชั้นลูก ชั้น หลาน" "เห็นจะไมจริงหรอกพอเพิ่ม" พลอยขัดคอ "ฉันนึกวาถึงเราจะหาเอาเอง แตหาใหไดถูกใจทาน หรือคนที่ ทานเห็นวาคูควรกันกับเรา ทานก็คงจะรักเทากัน และถึงจะไดคนที่ไมถูกใจก็ตามที แตพอเห็นหลาน ตาดําๆ ทานก็ใจออน อยางลูกคุณชิตนั้นฉันวาเจาคุณพอทานก็คงรักเหมือนกัน แตเห็นมีคุณอุนเปนเจากี้เจาการ อยู แลวทานจึงทําเฉยๆเสียก็ได ใจผูใหญดูยากออก" "ไมรูซี" พอเพิ่มพูด "แมพลอยอาจพูดถูกก็ได แตฉันเองไมรูจะคิดอยางไร บางเวลาจะคิดมีลูกมีเมีย กับ เขาบาง คนนี้ก็วาอยางนั้น คนนั้นก็วาอยางนี้ เลยคิดอะไรไมถูก อยูมันไปเฉยๆอยางนี้กอน ขี้เกียจไปมีลูกเมีย ใหมันมากเรื่อง"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy117.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๗ (หนาที่ ๑)

Page 6 of 6

"แตฉันเห็นวาพอเพิ่มควรจะคิดเรื่องนี้เสียทีแลว มีเมียแลวจะไดเปนหลักฐาน เจาคุณพอทานก็จะไดไวใจ ขึ้น กวาเกา พอเพิ่มเคยมองผูหญิงเขาไวที่ไหนบางหรือเปลา เคยชอบใครบางไหม" "ถมเถไป" พอเพิ่มหัวเราะตอบ "ชอบกันแลวก็เลิกกันไป แลวก็ชอบใหม ผูหญิงที่ฉันชอบมีมากเหลือเกิน จนเลยไมรูวาจะปลงใจกับคนไหนแน เห็นเรารีๆรอๆ เขามีผัวกันไปก็มาก เดี๋ยวนี้ลูกโตๆแลวก็มี อยาไปพูดถึง มันเลย" อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy117.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๗ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๗ (หนาที่ ๒) ตั้งแตรูวาเจาคุณพอลมเจ็บ พลอยก็เรงวันเรงคืนอยากจะคลอดบุตรเสียเร็วๆ เพราะเมื่อคลอดบุตรแลว พลอยจะไดมีสวนรวมรักษาพยาบาลเจาคุณพอในยามที่ทานเจ็บไข เทาที่ไดรับขาวจากทางบานขณะนี้ ก็มีคุณ เชย เปนหัวเรี่ยวหัวแรงรักษาพยาบาลอยูคนเดียว บางทีคลอดบุตรแลว พลอยจะไดมีโอกาสไปชวยเหลือ ใหเบา แรงคุณเชยลงไปบาง แตวันคืนนั้นเปนของแปลก ยิ่งเรงก็ดูยิ่งจะชาลง พลอยคอยการคลอดบุตรของตนอยู รูสึก วาเวลาชางผานไปไดโดยยาก กวาจะหมดไปแตละวันก็เห็นวานานหนักหนา สภาพที่มีครรภอยูนั้น พลอยรูสึก เหมือนวามีมาหลายป จนบางครั้งรูสึกกลุมใจ อยากที่จะใหพนๆไปเสียโดยเร็ว ของทุกอยางยอมเคลื่อนคลอยไปตามเวลาของมัน ไมมีใครไปเรงเวลาหรือหามเวลาได ครรภของพลอย เติบโตขึ้นจนครบกําหนด คืนวันหนึ่งคุณเปรมเขาไปนอนเวรในวัง นางพิศเขามานอนเปนเพื่อนพลอย อยูที่หนา เตียงระหวางที่คุณเปรมไมอยู พลอยตกใจตื่นขึ้นราวๆตีสอง หัวใจเตนแรง ความเปลี่ยนแปลงตามอวัยวะ ตางๆ กําลังบังเกิดขึ้น พลอยรูตัวทันทีวาวาระที่ตนเฝาคอยนั้นมาถึงแลว รีบปลุกนางพิศขึ้นดวยความตกใจ ระคนกับ ความตื่นเตน นางพิศลุกขึ้นบิดตัวหาวนอน ดวยงัวเงียจากหลับนอน แตพอรูวาอะไรกําลังจะเกิดขึ้น นางพิศก็ สลัดอาการของการหลับหลุดพนไปจากตัวสิ้น ลุกขึ้นจุดไตจุดไฟ ปลุกยายเทียบและผูหญิงอื่นๆในบาน สงคนไป ตามหมอตําแยที่ไดนัดกันไวแลว ใหเด็กวิ่งไปบอกคุณนุยและคุณเนียน และเริ่มจะทําอะไรตออะไร ที่ไมไดเรื่อง อีกหลายเรื่อง ขณะนั้นพลอยเพิ่งจะผานความเจ็บปวด ที่ไมเคยประสบมาเลยเปนครั้งแรกในชีวิต ยายเทียบ กระหืดกระหอบเขามาในหอง เห็นนางพิศจับโนนจับนี่ดวยอารามตกใจ ยายเทียบก็เตือนใหไดสติ และนางพิศ และยายเทียบ ก็ชวยกันประคองพลอยเขาหองที่เตรียมเอาไว ติดๆกันกับหองนอน พลอยจําไมไดวาเวลาผานไปแลวเทาไร รูแตวาตนนอนอยูบนกระดาน และความเจ็บปวดที่เริ่มมีมาเปน ระยะๆนั้น เพิ่มเวลาถี่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อยายเขามานอนอยูในที่ๆจัดไว พลอยก็หลับตอไปอีกโดยมิไดตั้งใจ พอตื่น ขึ้นมาก็รูสึกวาเหงื่อโซมตัว และความเจ็บปวดนั้นก็เริ่มมีมากขึ้นอีก พลอยเหลียวดูรอบๆเหมือนกับ จะหาคน ชวยเหลือ เห็นหญิงแกคนหนึ่งหนาตาสะอาดสะอานนั่งอยูขางตัว จําไดวาเปนหมอตําแยที่ไดฝากทองไว หญิง แกนั้นยิ้มดวย แลวพูดเบาๆวา "ไมเปนไรดอกคุณ อีกประเดี๋ยวก็หมดเรื่องหายเจ็บ ไวใจหมอเถิดไมเปนไร" เสียงที่แนใจเต็มไปดวยความรูความเคยชิน ทําใหพลอยคอยใจชื้นขึ้น แตความเจ็บปวดนั้นยิ่งทวี ความ รุนแรงและความเร็วขึ้นทุกที พลอยเหลือบหานางพิศนึกวาจะขอน้ํากินแกกระหาย แตก็มองไมเห็นไมทราบ วา นางพิศไปอยูที่ตรงมุมไหนของหอง แตหมอตําแยดูเหมือนจะรูใจ สงจอกน้ําดอกไมใหดื่มพอชุมชื่นบาง ยาย เทียบเขามานั่งนวดขาอยูดวยหนาตาอันคร่ําเครียด ทุกครั้งที่พลอยครวญครางดวยความเจ็บปวด ยายเทียบก็ ครางดวย และดูเหมือนจะดังกวา ทุกครั้งที่พลอยมีลมเบงยายเทียบก็เบงดวย จนหมอตําแยมองดูหนา แลว หัวเราะ กอนใกลรุงพลอยไดหลับไปอีกพักหนึ่ง กอนจะหลับเสียงยายเทียบกระซิบกับนางพิศวา "พิศอยาเพิ่งไปไหน ฉันชวยคุณเบงเสียจวนจะเปนลม จะออกไปหาน้ํากินสักหนอย ถาฉันมีลูกในทอง สักคน ปานนี้ฉันคงจะเบงเสียออกมาแลว" พลอยมาฟนตัวอีกครั้งหนึ่งตอนรุงสาง ความเจ็บปวดทั้งหลายทั้งปวงระดมกันเขาใสตัวอยางสุดแรง เสียงคุณนุยเดินเขาเดินออก แลวเขามานั่งภาวนาเบาๆ อยูใกลตัวพรอมกับสงน้ําใหพลอยดื่ม ซึ่งพลอยมารู ภายหลังวาน้ําเสดาะ และทามกลางความเจ็บปวด ทามกลางกลิ่นคาวของการใหกําเนิดทารก พลอยรูสึกวา ความเจ็บปวดเขาขั้นรุนแรงสุดที่จะทนทาน แตอีกพักเดียวความเจ็บปวดนั้นก็หายไปเปนปลิดทิ้ง หายใจโลงอก พลอยเอนตัวลงนอนอยางระโหย ยังไมกลาถามวาอะไรเปนอะไร เสียงเด็กเกิดใหมรองดังเต็มหอง พลอยยิ้ม ออกมาอยางมีความสุข แลวก็หลับไปดวยหมดแรง สายแลว พลอยลืมตาขึ้นดูเห็นคุณเปรมนั่งยิ้มอยูขางๆ คุณเปรมพูดวา "แมพลอย ฉันไปรูเอาตอนสาง พอรูก็รีบมา" คุณเปรมหยุดครูหนึ่งดวยความตื้นตันแลวพูดวา "ลูกเปน ผูชาย แมพลอย แข็งแรงนารัก ขอบใจ" พลอยยิ้มกับคุณเปรมแลวก็กวาดตาดูรอบหอง ทุกคนที่นั่งอยูรอบหองมีใบหนาอันยิ้มแยม ความเจ็บปวด ความทุกขทรมานและความคร่ําเครียด ที่มีมาแตเมื่อคืนกอนรุงหายไปแลวสิ้น แสดงแดดในยามเชาสองเขามา ในหองทําใหสวางไสว สมกับเปนหองที่เต็มไปดวยความสุข กลิ่นเครื่องยา กลิ่นควันไฟกอนดวยไมจากเตาไฟ ที่ อยูหนากระดานอยูไฟ ซึ่งพลอยกําลังนอนอยูเขาจมูก ทําใหบรรยากาศในหองนั้นสะอาดสะอาน คุณนุยนั่งอยู ขางกระดงใสเด็ก กมหนาดูหลานอยางพินิจพิเคราะห บางครั้งบางคราวก็พยักหนาดวย เหมือนกับวาเด็กที่แรก

http://www.geocities.com/siamstory/ploy117_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๗ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 5

เกิด นั้นสงภาษารูเรื่อง พอเห็นพลอยตื่นนอนคุณนุยก็ยกกระดงเขามาใกลตัว ใหพลอยมองเห็นลูกไดถนัด "ลูกของแม !" พลอยนอนนึกอยูในใจ ที่เต็มตื้นไปดวยความปติ ลูกของแมเปนครั้งแรกที่ไดเห็นหนา ตัว ยังเล็กนัก เนื้อหนังเหี่ยวยนเหมือนคนแก แตชางนารักนาเอ็นดูอะไรอยางนี้ ความรักทั้งหมดที่มีอยูในหัวใจ ของ พลอย หลั่งไหลออกสูเด็กที่เปนเลือดเนื้อของตน พลอยยิ้มอยางมีความสุข จริงอยางที่แมเคยบอกไว เมื่อกอนที่ ลูกจะเกิดนั้น ตองเจ็บปวดทรมานแทบสายตัวจะขาด ความเจ็บปวดอยางไรจะเทาความเจ็บปวด ในการคลอด บุตรเห็นจะไมมี เพราะมันเปนความเจ็บปวดที่ไมมีใครสามารถยับยั้งได แตพอไดเห็นหนาลูก ความเจ็บปวดนั้น ก็หายไปสิ้น ไมมีรองรอยทิ้งไวในความทรงจําเลยแมแตนอย ถาแมจะตองอดทนเจ็บปวดทรมาน เหลานั้นเพื่อ ลูกไดมีชีวิต ไดเห็นโลก อยาวาแตเพียงความทรมานเพียงแคนั้นเลย อีกสิบเทานั้นรอยเทานั้น แมก็ทนได พลอยยกมือขึ้นแตะเบาๆลงที่ตัวเด็ก ดุจกลัววาเด็กนั้นเปนของเปราะ ถาถูกแรงอาจบุบสลายไปได เมื่อพลอย ถูกตัว เด็กนั้นก็รูดวยสัญชาตญาณวาเปนมือของมารดา เริ่มเคลื่อนไหวแขนขา และดูดปากไซหนา ไปตาม ขางๆเบาะ เพื่อจะหาหัวนมดูด พลอยไมเคยรูมาแตกอนวา คนเราจะมีความสุขไดถึงเพียงนี้ ตลอดเวลาที่ตองนอนกระดานไฟ พลอยได รับ คําชมเชยจากหมอตําแย จากนางพิศและยายเทียบวาเปนคนใจเย็น อดทนวานอนสอนงาย บางครั้งขณะที่ อยูไฟ พลอยก็รูสึกวารอนจนแทบจะทนไมไหว แตพอมองดูลูกที่อยูในกระดง ความกระวนกระวายตางๆก็ระงับ ไป นอนอยูไปไดอยางสงบเหมือนกับไฟนั้นเปนของเย็น จะนอนแอบอิงอยูเทาไรก็ได พอเด็กเกิดไดสามวัน นางพิศและยายเทียบก็ตั้งพิธีตามตัวคุณนุยมาคอยรับเด็ก นางพิศอางวาตองทํา อยางนี้เพื่อไลผีสางมิใหมารบกวนเด็ก เพราะผีสางของนางพิศนั้น ดูเหมือนจะคอยแกลงมิใหใครไดอะไรที่รัก ที่ ปรารถนา แตผีของนางพิศนั้นเห็นจะไมฉลาดนักเพราะหลอกกันได ฉะนั้นเมื่อพลอยมีลูกก็ตองทําเสแสรงหลอก ผี วาไมตองการ ใครอยากไดก็เอาไป เพราะเปนเด็กที่ไมมีใครปรารถนา นางพิศไปนัดคุณนุยใหมาคอยรับเด็ก วา เปนลูกของตน และดูเหมือนจะไปซักซอมกันไวกอนแลวเปนอยางดี พอไดเวลานางพิศก็ยกกระดงใสเด็กขึ้น รอนไปมา กระทืบเทาขูผีตามธรรมเนียมแลวก็รองวา "สามวันลูกผีสี่วันลูกคน ลูกของใครมารับเอาไปเนอ" นางพิศรองอยูสองสามครั้ง คุณนุยผูนั่งมองอยู อยางตื่นเตนก็รองถามวา "พิศ ถึงตาฉันหรือยัง" "สามวันลูกผีสี่วันลูกคน" นางพิศรองแลวก็พยักหนากับคุณนุยเปนสัญญาณ คุณนุยก็รองขึ้นอยางตื่นเตน เต็มที่วา "ลูกฉันเองพิศ ! ลูกฉันเอง ! ใชไหม ! ใชไหม" นางพิศลงนั่ง วางกระดงอยางหมดแรง ยกแขนขึ้นเช็ดเหงื่อที่หนาผาก แลวพูดวา "ไมใชเจาคะ ยังไมถูกตํารับ ถาคุณจะรับก็บอกวาลูกของคุณ แลวรับกระดงไปเลย อยามัวถามบาววา ใช ไหม ใชไหม เดี๋ยวผีมันก็สงสัย" นางพิศพูดถึงผีอยางกับวาเปนคนที่คุนเคย รูจักนิสัยใจคอกันดี "งั้นเรอะ !" คุณนุยพูด "แลวจะทําอยางไรกันดีละ" "ตองเอาใหม ตั้งพิธีกันใหม" นางพิศพูดแลวก็ยกกระดงขึ้นยืน ปากก็รองวา "สามวันลูกผีสี่วันลูกคน------" พอนางพิศพยักหนาใหสัญญาณ คุณนุยก็รองตะโกนวา "ลูกฉันไมใชหรือ เอามานี่พิศ ฉันรับเอง" ทําใหนางพิศตองนั่งลงอยางออนใจ ตองเริ่มพิธีอีกหลายครั้ง กวาคุณนุยจะกลาวถอยคําไดถูกตอง โดยไมตั้งประโยคเปนคําถาม อีกวันสองวันตอมา คุณเชยก็มาเยี่ยมพรอมดวยสมสูกลูกไมหลายอยาง คุณเชยผอมตาลึกตากลวง จน พลอยแปลกใจ "เจาคุณพอทานดีใจเหลือเกินแมพลอย" คุณเชยกระซิบบอก "พอรูขาววาไดหลานเปนผูชาย ก็เปลงปลั่ง ขึ้น ราวกับนิรมิต พอเปรมเขาใหไปบอกตอนกลางวัน ตอนบายก็ลุกขึ้นนั่งรับประทานขาวตมไดตั้งสองชาม คราวนี้เห็นจะหายแน วันนี้ทานก็ลุกขึ้นนั่งไดอีก อยากมาเยี่ยมแมพลอยแตยังมาไมไหว ทานไลฉันใหมาเยี่ยม แมพลอยแตเชา" "ฉันเปนหวงทานเหลือเกินคุณเชย" พลอยพูด "ทานเจ็บเปนอะไรแนคุณเชยรูบางไหม" "หมอเขาบอกวาเปนริดสีดวงในทอง" คุณเชยตอบ "ฉันไปไดหมอมาใหม ชื่อหลวงโอสถ ดีเหลือเกินแม พลอย เอาอกเอาใจคนไขทุกอยาง แลวก็ยังหนุมไมรุมรามเหมือนแก" "คุณเชยมาวันนี้ทําใหฉันเบาใจขึ้นมาก" พลอยพูดขึ้น "แตแรกฉันไมสบายใจเลย เพราะไมรูวาทานจะ เจ็บ มากนอยเพียงไร แตไดยินคุณเชยพูดวันนี้ ก็เห็นวาอาการทานจะมิสูกระไรนัก" "ฉันรูสึกวาอาการทานดีขึ้นจริงๆ เมื่อรูวาไดหลานเปนผูชาย" คุณเชยตอบ "เวลานี้ก็บนเชาบนเย็นวา อยากเห็นหนาหลาน ถาทานมาไหวปานนี้ก็คงจะมาเสียแลว" คุณเชยเหลียวไปเพงดูเด็กที่นอนอยูในกระดงอยู นาน เหมือนจะพยายามจดจําลักษณะ แลวก็พูดขึ้นวา "วันนี้พอฉันกลับไปทานตองซักใหญทีเดียว แมพลอยจะใหฉันไปอธิบายกับทานวาอยางไร หนาตาเด็ก เกิดใหมขนาดนี้ฉันก็ดูไมออก เห็นเหมือนๆกันทุกคน แมพลอยวาเหมือนใครแน"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy117_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๗ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 5

พลอยหัวเราะแลวตอบวา "ฉันเองก็ไมรูเหมือนกันคุณเชย แตคนที่เขาอยูที่นี่เขาพูดกันวา หนาตาแกมีเคามาทางฉัน" "เปนอันตกลงวาเหมือนแมพลอยก็แลวกัน ฉันจะไดเก็บเนื้อความไปรายงานทาน ทานคงดีใจหรอกที่ หลาน เกิดมาเหมือนลูกสาวของทาน ถาฉันจะบอกวาเหมือนทานเสียเลยจะเปนไง" "ก็ดีเหมือนกันคุณเชย ทานจะไดดีใจ หายเจ็บเร็วๆขึ้น" พลอยตอบ "ก็นั่นนะสิ แลวแมพลอยทําใหเหมือนทานไดจริงๆทีหลัง ก็แลวกัน เดี๋ยวคนเขาจะหาวาฉันสอพลอ ตอแหล" คุณเชยพูดแลวถามขึ้นวา "เออ ! แมพลอย ถาเผื่อเจาคุณพอทานยังมาไมได แมพลอยจะพาลูกไปหาทานไดสักเมื่อไร" "ฉันก็ยังไมรูวาจะออกไฟไดเมื่อไร แตกวาจะไปไดก็คงเมื่อเด็กอายุเดือนกวาๆกระมัง" "ไมเปนไร" คุณเชยตอบ "ไมตองรีบรอนอะไรหรอก ฉันถามดูอยางนั้นเอง ถาบุญมาวาสนาชวย บางที เจาคุณพอทานก็คงจะหายไดกอนนั้น และขามฟากมาดูหลานทานไดเอง ฉันไวใจหลวงโอสถเขามาก เพราะเขา วางยาถูกกับอาการของทาน และเขาไมทิ้งไขหมั่นมาเยี่ยมเยือนเสมอ เขาบอกฉันไววาถาเห็นอาการ ทานผิด ปกติก็ใหรีบมาตาม เขาจะไปทันที ถาหนักหนาเขาก็จะนอนคางเฝาอาการให" คุณเชยพูดถึงหลวงโอสถดวยความนิยม ใบหนาเปลี่ยนไปมีสีชมพูขึ้นที่แกมเรื่อๆ และแววตาของคุณเชย เวลาพูดถึงหลวงโอสถ ก็รูสึกวาจะมีอะไรที่ไมเคยปรากฏมากอน พลอยสังเกตเห็นอาการกิริยาคุณเชย ก็บังเกิด ความสนใจในหลวงโอสถ อดใจไวไมไดถามวา "คุณเชย หมอคนนี้ หลวงโอสถนี่มาจากไหน" "เขาเปนหมออยูกรมหมอหลวง ชื่อเสียงเขาดังมานานแลว เจาคุณพอทานก็เคยรูจักมากอน คราวนี้ฉัน ให ไปรับเขามาเอง เพราะหมออื่นรักษามาหลายหมอแลวอาการทานก็ไมดีขึ้น" "ฉันไดยินคุณเชยบอกแตแรกวาเปนคนหนุม" พลอยพูดตอ "อายุสักเทาไร" "เขาแกกวาฉันแปดป เคยมีเมียแลว แตเมียเขาตายมาไดปกวาๆ ไมมีลูก เขาเปนคนดีมากนะแมพลอย" คุณเชยตอบออกมาเองโดยมิไดตั้งใจ ทําใหพลอยอดยิ้มไมได คุณเชยพูดตอไปวา "กิริยามารยาทเขาเรียบรอย จะพูดจะจาอะไรก็เปนหลักเปนฐาน เชื่อถือได เขามาเยี่ยมเจาคุณพอทีไร ฉันก็ไดคุยกันนานๆทุกครั้ง ฉันรูสึกวาเขาเปนคนมีอาฌาอาศัยดีจริงๆ ฉันไมแกลงวาหรอก" พลอยพอจะเขาใจไดวาคุณเชยชอบหลวงโอสถมากเสียแลว ในใจจริงนั้นก็นึกยินดีที่คุณเชยไดพบคนที่ ชอบ จะซักถามอะไรตอไป ก็กลัวคุณเชยจะหาวาละลาบละลวง จึงไดแตนิ่งอยู คุยกันเรื่องอื่นจนคุณเชยลากลับ พลอยนอนกระดานไฟตอไปดวยความสบายใจขึ้นกวาเกา เพราะเขาใจวาเจาคุณพอจะหายปวยไข ระหวางนั้นมีคนมาเยี่ยมเกือบทุกวัน คุณสายกับชอยออกมาจากในวัง มีของกินกระจุกกระจิกและผลไมมาเยี่ยม ไข หลายอยาง "เจ็บมากไหมแมพลอย" ชอยถามขึ้นเปนสิ่งแรก "เจ็บแคไหนฉันก็จําไมไดหรอกชอย รูแตวามาก" พลอยตอบ "นั่นสิ" ชอยวา "เรื่องมีลูกมีผัวนี่ฉันกลัวอีตรงนี้เทานั้น ถาเปนฉัน ฉันคงรองลั่นบานหมด อายเขาตาย แลวนอนอยูไฟอยางนี้ มิรอนจนสุกไปหรือพลอย" "ก็รอนเหมือนกัน แตจะทําอยางไรได" พลอยตอบ "เฮอ !" ชอยถอนหายใจดังลั่น "เลิกกันที ฉันไมเอาแลวเรื่องลูกเรื่องผัว ทรมานออกจะตายไป ฉันจะตอง สาบานตัวอยูเปนโสดไปจนตาย อีกหนอยฉันจะไปบวชชีเสีย" "พลอยอยาไปฟงคนพูดไมเปนเรื่องเปนรสหนอยเลย" คุณสายพูดแกมหัวเราะ "เสด็จทานทรงทราบ ทาน รับสั่งใหปาออกมาเยี่ยม ทานรับสั่งออกมาใหพลอยรักษาเนื้อตัวใหดีๆ" คุณสายเลาใหฟงวาทุกคนในวัง สบายดี เสด็จรับสั่งถามถึงพลอยเสมอ พอทรงทราบวาพลอยคลอดบุตร ก็ทรงกําชับใหคุณสายออกมาเยี่ยม ใหจงได ซึ่ง ใจจริงคุณสายเองก็อยากจะมาอยูแลว ชอยกระเถิบเขาไปนั่งดูเด็ก เอานิ้วจิ้มที่ตัวเด็กหลายแหง ก็รองขึ้นวา "ตายนารัก ! ดูซิพลอยแกยิ้มกับฉันดวย" "มันจะเกินไปหนอยละกระมังยายชอย เด็กอะไรเกิดไมกี่วัน จะยิ้มไดแลว" คุณสายทวงขึ้น "อาว จริงๆนะคะคุณอา ไมเชื่อคอยดูเอาเองซี แลวนี่แมพลอยเรียกแกวาอะไร" ชอยถาม "ยังไมมีเชื่อเลยชอย คุณเปรมเขาวาจะใหเจาคุณตาทานตั้งให" "ทําไมไมเรียกแกวาตาอั้นไปกอน ตาอั้นนองตาอน" ชอยออกความคิด และตั้งแตนั้นมาพลอยก็เรียก บุตรชายคนใหญของตนวาตาอั้นตามชอยเรื่อยมา ระหวางที่พลอยอยูไฟ ตาอนก็อยูอีกหองหนึ่งบนตึก คนเลี้ยง ตองพาเขามาหาพลอยเสมอ ทีแรกตาอนมองดูเด็กที่เกิดใหมอยางสงสัย แตพลอยบอกวาเปนนอง ตาอนซึ่ง เดี๋ยวนี้เริ่มพูดไดบางแลว ก็เรียกตามวานอง บางเวลาก็นั่งดูนองอยูไดครั้งละนานๆ โดยมิไดรบกวน เอื้อมมือ เขาไปแตะตอง พลอยมองดูตาอนแลวก็มองดูลูกแทๆของตน แลวบังเกิดความโลงใจ เพราะการมีลูก ของตนนั้น มิไดทําใหพลอยรักตาอนนอยลงกวาเกาเลย กลับเพิ่มความสงสารความเอ็นดูยิ่งขึ้นไปอีก

http://www.geocities.com/siamstory/ploy117_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๗ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 5

เดือนแรกแหงชีวิตของตาอั้นนั้น พลอยรูสึกวาตาอั้นชางโตวันโตคืนเสียนี่กระไร ตาอั้นเริ่มมีนิสัยของตน เอง เล็กๆนอยๆที่พลอยรูจักดี เปนตนวาตาอั้นชอบนอนทาไหน ชอบดูดนมในทาอยางไร เหลานี้เปนเรื่องที่ พลอยรู จนสิ้น พออายุตาอั้นไดเดือนกวาๆ ลูกตาตาอั้นก็เริ่มจับคนและมองดูโลกภายนอกดวยความสนใจ บาง ครั้งตาอั้น นอนดูมือดูเทาของตนเอง เหมือนกับวาใชความคิดอยางลึกซึ้ง ตั้งแตเวลาระหวางที่พลอยนอนอยูไฟ จนออกไฟ ก็แลว พลอยก็ไดแตนึกวาเจาคุณพอจะมาเยี่ยมหลานที่บานสักวันหนึ่ง แตพลอยก็ตองผิดหวัง เพราะ เจาคุณพอ มีอาการลุกขึ้นนั่งไดเมื่อตอนแรกที่ตาอั้นเกิด แตแลวก็ตองลมหมอนนอนเสื่อตอไปอีก มีอาการแต ทรงกับทรุด วันหนึ่งคุณเชยก็สงขาวมาใหทราบวา เจาคุณพออยากเห็นตาอั้นมาก ถาพลอยมีกําลังพอจะไปไหว ก็ขอใหพาตาอั้นไปที่บาน ถาหากวาจะไปคางที่บานนานๆไดก็ยิ่งดี เพราะจะไดชวยทําใหเจาคุณพอหายปวยไข ดวยความดีใจ พลอยปรึกษากับคุณเปรมถึงเรื่องนี้ คุณเปรมก็มิไดขัดของ รับอาสาจะพาพลอยไปสงถึงบาน และ เมื่อวันที่นัดไวพลอยก็เดินทางพรอมดวยตาอั้น นางพิศและขาวของที่จําเปนตองใช เพราะกะไววาจะไปอยู หลายวัน ดูอาการเจาคุณพอวาดีแลว จึงจะกลับ เมื่อพลอยไปถึงบานนั้นเปนตอนกลางวัน เจาคุณพอยังหลับ คุณเชยออกมารับรอง พาพลอยกับตาอั้น ไปอยูในหองของตน คุณเปรมนั่งอยูครูหนึ่งก็ลากลับ เพราะถึงเวลาไปเขาเวรในวัง บอกไววาออกเวรแลวจะมา ใหม พอคุณเปรมกลับไปแลว ปญหาระหวางพลอยกับคุณเชยก็ตองเกิดขึ้นอีก ในขอที่วาพลอยจะไปหาคุณอุนดี หรือไม คุณเชยก็ทัดทานอยางไมเต็มใจเชนเคย แตคราวนี้พลอยไมยอมฟงเสียง อางวาคนเปนคนมีลูกมีผัวเปน ผูใหญแลว คงจะไมเปนไรหนักหนา แตพอพลอยเขาไปพบกับคุณอุนในหอง และยกมือไหวอยางนอบนอม คุณ อุนก็ปราศรัย ขึ้นวา "แหม ! แมมหาเศรษฐี มาคราวนี้เขามาหาฉันไดถึงในหอง มาคบกับคนยากคนจนอยางฉัน ไมกลัวหมด รัศมี บางหรือยะ" "อิฉันมาถึงเมื่อกี้ พอเอาขาวของไวแลวก็มากราบเทาคุณพี่" พลอยตอบดวยใจที่ไมยอมถือสาคุณอุน เปนอันขาด "นี่ถาจะรูวาเจาคุณพอเจ็บละซี" คุณอุนพูดขึ้น "ถาแมจะมานั่งคอยแบงสมบัติละก็เลิกความคิดเสียเถิด ทานยังไมเจ็บหนักหนาถึงเพียงนันหรอก" คุณอุนหยุดบวนน้ําหมากแลวปรารภกับตูขางฝาวา "ยังไมทันไรเลย แรงลงเสียแลว" พลอยคลานถอยออกจากหองทันที ไมเห็นประโยชนที่จะพูดจาวาอยางไรอีกตอไป เมื่อคุณเชยรูเรื่อง ก็ หัวเราะพูดขึ้นวา "ฉันวาแลวไหมละแมพลอย ยิ่งหมูนี้เธอรูวาเจาคุณพอตื่นหลาน เธอยิ่งทําทาจะอาละวาดใหญ อยูตอไปเถิดอีกหนอยก็คงจะไดเห็นอะไรสนุกๆ" ตอนบายเจาคุณพอตื่นแลว พลอยอุมตาอั้นทั้งเบาะเขาไปหา และวางตาอั้นไวขางๆที่นอน เจาคุณพอ ซูบผอมจนพลอยตกใจ ตาลึกกลวง โหนกแกมขึ้นสองขางเปนกระดูก รางกายทั้งหมดก็มีแตหนังหุมกระดูก พลอยเห็นแลวก็อยากจะรองไห แตตองกลั้นน้ําตาไว ฝนพูดจาอยางยิ้มแยม มิใหเจาคุณพอเสียกําลังใจ เจาคุณพอพลิกตัวนอนตะแคงดูหนาพลอย แลวก็มองดูตาอั้น ยกมือขึ้นลูบไลไปตามตัวตาอั้นเบาๆ ดวย ความปรานี น้ําตาไหลรินลงตามใบหนาที่ซูบผอมดวยโรคของทาน "หลานยังเล็กนัก" เจาคุณพอพูดดวยเสียงแผวเบา "ยังเล็กเหลือเกิน พลอยไมนาจะพามาเลย แตไหนๆ ก็มาแลวขอใหอยูนานๆ อยาหอบไปหอบมาเดี๋ยวหลานของตาจะเจ็บไขไป" พลอยสังเกตเห็นเจาคุณพอเลือดฉีดขึ้นที่โหนกแกมแดงเรื่อๆ และตาทั้งสองขางที่มีน้ําตาออกมานั้น ดูมี แววสุกใสจะเปนเพราะพิษไขหนัก หรือเพราะความดีใจก็สุดที่จะเดาได "แมเชยเขาบอกวาเหมือนพอ" เจาคุณพอพูดตอไปพลางดูตาอั้นอยางพินิจพิเคราะห "ไมจริงเลยสักนิด เหมือนยายเขาตางหาก ดูปราดเดียวก็รู ...แมเจาเขาเปนคนสวยมากพลอย ไมนาจะอายุสั้นเลย" น้ําตาของเจาคุณพอไหลรินออกมาเรื่อยๆ มือของทานก็ลูบไลไปตามตัวตาอั้นดวยความรัก สายตาของ ทานมิไดมองไปทางอื่น นอกจากจับอยูที่หนาของตาอั้น พลอยรูสึกวาตนจะทนภาพนั้นไมไหว เห็นคุณเชยนั่งอยู ขางปลายเทาเจาคุณพอ ก็คลานเขาไปนั่งใกล หยิบพัดมาอันหนึ่งได ก็เริ่มพัดเจาคุณพอ เพื่อจะไดมีอะไรทํา เจาคุณพอเริ่มมีอาการดีขึ้นตั้งแตนั้นมา ยาขนานที่ดีที่สุดก็คือตาอั้น ผูซึ่งจะตองเอาไปวางไวขางที่นอน วันละสองเวลา ตอนเชาเมื่อทานตื่นนางพิศก็ยกเบาะตาอั้น เขาไปวางไวขางๆ พอตอนกลางวันก็ยกกลับมาหอง เย็นลงพลอยก็ยกตาอั้นเขาไปอีกครั้งหนึ่ง เจาคุณพอลุกขึ้นนั่งหัวรอตอกระซิกไดภายในสามวัน หลังจากที่หลาน ไปอยูดวยที่บาน และเมื่อลุกขึ้นนั่งไดก็เรียกของแตงตัวและเงินทอง มาทําขวัญหลานอยางเบิกบานใจ อาการ ของเจาคุณพอดีขึ้นตามลําดับ จนหลวงโอสถซึ่งเปนหมอประจํายืนยันกับคุณเชยและพลอยวา อีกราวๆสิบวัน ทานก็คงจะหายเปนปกติ เพราะอาการของเจาคุณพอดีขึ้นจนเห็นไดชัด พลอยก็เริ่มคิดจะกลับบาน ถึงกับนัดแนะกับคุณเปรมให มารับ ในราวๆสิบวัน ทุกคนพากันโลงใจ และลงความเห็นวาเจาคุณพอคงจะไมเปนอันตรายแนๆ เพราะเดี๋ยวนี้ อาการดี ถึงกับลุกขึ้นเดินเหินไดบางแลว เชาวันหนึ่งพลอยนั่งหวีผมอยูในหอง นางพิศยกตาอั้นไปไวในหองเจา คุณพอ ตามปกติ อีกครูหนึ่งพลอยสะดุงสุดตัว เมื่อไดยินเสียงนางพิศรองโวยวายเรียกคนชวย พอพลอยและคุณ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy117_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๗ (หนาที่ ๒)

Page 5 of 5

เชย วิ่งเขาไปถึง ก็เห็นเจาคุณพอนอนหงายพาดที่นอนอยู หนาเขียวไมมีสีเลือด นางพิศรายงานวาขณะทานนั่ง เลน กับตาอั้นอยูบนที่นอน ทานรองขึ้นไดคําเดียววา "เปนลม" แลวก็หงายลงไป คุณเชยเปนคนไดสติกอน เรียกทนายใหรีบลงเรือไปตามหลวงโอสถ และขณะที่พลอยเขานั่งประคองเจาคุณพอเอายาใหดม นางพิศเขาบีบ ขานวดเฟนอยูดวยความตกใจนั้นเอง เจาคุณพอก็หมดลมสิ้นใจไปในออมแขนกอนที่หมอจะมาถึง และกอนที่ คุณเชยจะไดกลับเขามาในหอง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy117_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๘ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๘ (หนาที่ ๑) ศพเจาคุณพอถูกเก็บไวรวมปจึงไดเผาเสร็จสิ้นไป ในระยะเวลาตั้งแตเจาคุณพอถึงแกกรรมลงจนถึงเวลา เผา เรียกไดวาเปนระยะเวลาบานแตกสาแหรกขาดของบานคลองหลวง การวิวาทกันในหมูพี่นองเกี่ยวกับเรื่อง ทรัพย สมบัตินั้น เปนเรื่องวุนวายที่พลอยอยากจะหลีกเลี่ยงไมเกี่ยวของดวย คุณอุนถือวาการที่เจาคุณพอตาย ลง ไมทําใหฐานะเปลี่ยนแปลงไปเลย เพราะคุณหญิงมารดายังมีชีวิตอยูที่อัมพวา ถึงแมวาทานจะไมเขามาเผา เจาคุณพอก็ตามที ดวยเหตุที่คุณอุนในฐานะที่เปนพี่ใหญ ก็จะครองบานตอไป โดยไมแบงปนใหนองคนใดได อิสระ ในปญหาที่แตกตางความเห็นหันอยูนี้ คุณชิตเปนฝายสนับสนุนเห็นดวยกับคุณอุนทุกประตู แตคุณเชยไม เห็นดวย อยางรุนแรง เห็นวาตนควรจะไดรับสวนแบงจากทรัพยสินมรดกอยางเด็ดขาด คุณเชยไมมีผูใดกลา สนับสนุน อยางออกหนา เพราะพอเพิ่มและพลอยถึงจะเห็นใจคุณเชยมากสักเทาใดก็ตาม ทั้งสองไมปรารถนา จะเขาไป เกี่ยวของกับกรณีพิพาทที่ยุงเหยิงคราวนี้ หลังจากรดน้ําศพเจาคุณพอและตั้งศพแลว พลอยก็เห็นวาตนเองควรจะรีบกลับบานโดยดวน เพราะใน ทันใด ที่คุณอุนรูวาคุณพอถึงแกกรรม คุณอุนก็แสดงตนเปนศัตรูอยางเปดเผย เมื่อคุณอุนเขามาในหองนอนเจา คุณพอ ตอหนาศพและตอหนาคุณเชย ซึ่งรองไหจวนจะสิ้นสติ และตอหนาพี่นองและคนใชในบาน ที่พากัน รองไหฟูมฟาย คุณอุนกมลงกราบศพเจาคุณพอโดยปราศจากน้ําตา แลวก็เงยหนาตองดูพลอยดวยสายตาที่ เขียวปด ดวยความเคียดแคนชิงชัง แลวพูดขึ้นวา "ทีนี้คงจะดีใจละซีนะแมตัวดี เจาคุณพอทานอยูของทานดีๆ ตามมาฆาเสียจนได ! อยาทําบีบน้ําตา รองไห ไปเลย ฉันรูหรอก" เคราะหของพลอยยังดีที่คุณเปรมรีบมาทันที เมื่อทราบขาววาเจาคุณพอตาย พลอยไดอาศัยเกาะคุณ เปรม เปนเครื่องคุมกันจนถึงเวลากลางคืน และพยายามหลีกเลี่ยงคุณอุนจนไดเวลากลับ พลอยไดเห็นความตาย อยางใกลชิดเปนครั้งแรก ดวยเจาคุณพอหมดลมในออมแขนของตน ความรูสึกนั้นแปลกประหลาด ใจหนึ่งนั้น คิดวา ความตายนั้นมิไดนาสะพรึงกลัวอยางที่ไดเคยนึกไว เจาคุณพอสูดลมหายใจแรงๆสองสามครั้ง แลวก็ เหยียดรางกายออกอยางสบาย กลามเนื้อทุกสวนหมดความตึงเครียด ใบหนานั้นยังยิ้มอยู เหมือนเมื่อตอนเลน กับตาอั้น กอนที่ทานจะหงายหลังลงไป อีกใจหนึ่งของพลอยนั้นยังนึกไมถึงวา เจาคุณพอตอยลงจริงๆ ถึงจะรูวา ทานตายแน แตความรูสึกวาทานก็ยังอยูนั้นก็มิไดสิ้นสุด ถึงพลอยจะรองไห ในตอนนั้น พลอยก็รองไหเพราะ ความตกใจและเมาน้ําตาคนอื่นมากกวา ความรูสึกของพลอยยังชา ตอความเปนจริงอยูทั้งวัน ระหวางนั้นก็มิได มีเวลาคิดใหรูถึงความเปนจริงนั้นไดถนัด เพราะความโกลาหลในบาน ที่เกิดจากการตระเตรียมงานศพนั้นบดบัง ความรูสึกอันแทจริงที่ควรจะมีเสียสิ้น พิธีรดน้ําศพก็ดีตลอดจนเวลา ที่เขามัดเจาคุณพอใสโกษก็ดี มิไดทําให ความมึนชาที่จับอยูในหัวใจนั้นสรางซาลงไป พลอยรูตัวแตวาตอนี้ไป ตนจะอยูบานนี้ไมไดอีก ตองรีบกลับไป เสียในโอกาสแรกที่เร็วที่สุด พลอยบอกคุณเชยพอเพิ่มและคุณเปรม ถึงเรื่องนี้ ทุกคนก็เห็นดวยเพราะพลอยยัง เปนแมลูกออน จะอยูตอไปยอมจะไมสะดวกเปนอยางยิ่ง แตพอถึงเวลา เขาจริงในตอนกลางคืน ขาวของ ทุกอยางขนไปลงเรือแลว และนางพิศอุมตาอั้นที่กําลังหลับไปคอยอยูในเรือ พลอยก็เขากราบลาโกษศพเจาคุณ พอที่หองกลาง แขกเหรื่อและบรรดาญาติที่ทยอยกันมาทั้งวันนั้นยังเหลืออยู ประปราย คุณเชยนั่งพูดเบาๆกับ หลวงโอสถอยูหนาโกษดานหนึ่ง พราะที่มาสวดพระอภิธรรมเพิ่งสวดเสร็จ และทนายกําลังประเคนน้ําฉัน คุณอุน นั่งอยูอีกหองหนึ่งมีคุณชิตนั่งอยูดวย พอเพิ่มกําลังจะลงมือเลนหมากรุก กับพวกผูชายที่มาอยูเปนเพื่อน พลอย คลานเขาไปถึงหนาศพเจาคุณพอ แสงเทียนจับทองที่ปดไวดูแวววาว พอกมตัวลงกราบ เสียงปที่ประโคมศพนั้น เจื้อยแจว เหมือนเสียงคนรองไหคร่ําครวญถึงคนที่ตายไปแลว และเสียงกลองที่ประโคมนั้นดังหนักๆเปนจังหวะ เหมือนกับมีใครมาทุบอกดวยความโศกสลด พลอยรูสึกเย็นวาบ จากตนคอลงไปตามสันหลัง ความจริงผุดขึ้นมา จากในใจทันทีวา เจาคุณพอจากไปแลวโดยไมมีวันจะกลับมา พบกันอีก โกษศพที่ตั้งอยูตรงหนาเปนประจักษ พยานในความจริงขอนี้ และเสียงปกลองที่ดังกองหูอยูนั้น ดูเหมือนจะย้ําเอาความจริงนี้ ใหเขาลึกเขาไปในหัวใจ ของพลอยดวยทุกจังหวะของกลอง พลอยหมอบตัวสั่นระริก ซบหนาอยูดวยความอาลัย น้ําตาหลั่งไหลออกมา พรอมกับอาการสะอื้นของคนที่เพิ่งรูตัววาเปนลูกกําพรา พลอยจะหมอบซบรองไหอยูนานเทาไรก็จําไมได มา รูสึกตัวเอาอีกครั้งหนึ่งเมื่อไดยินเสียงคุณเปรม พูดปลอบเอาใจเบาๆ เหลียวดูรอบตัวก็รูวาตนถูกใคร ซึ่งคงจะ ตองเปนคุณเปรมประคองลงมานั่งอยูในเรือ โดยที่ไมรูตัว และเรือนั้นกําลังแลนบายออกสูแมน้ําอยางเงียบๆ นางพิศนั่งรองไหสะอึกสะอื้นอยูหัวเรือ อุมตาอั้นขึ้นทั้งเบาะและสายไปมาเบาๆพลางพรรณนาวา "คุณอั้นทูนหัวของพิศ ทานนั่งเลนกับคุณอยูดีๆแทๆทีเดียว พิศเห็นกับตา ทานสิ้นแลวทานยังยิ้มอยูเลย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy118.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๘ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 5

คุณไมเปนไรหรอกชาตินี้ เพราะทานจะอยูกับคุณตลอดไป" พลอยกลับมาถึงบานแลวก็พยายามปลีกตัวออกหางเรื่องวุนวายของคลองบางหลวง มีเวลาที่ตองไปบาน นั้นอีกก็คือเวลาที่ไปกับคุณเปรมทุกเจ็ดวัน และหาสิบวันรอยวัน ซึ่งมีการทําบุญศพเจาคุณพอตลอดจนถึงวัน ที่ เผาศพ เก็บกระดูกและทําบุญกระดูก พลอยก็ไปในฐานะที่เปนครึ่งแขกที่ไปในงาน พยามหลีกเลี่ยงไมเขาไป เกี่ยวของกับทางเจาภาพ เพราะพลอยรูดีวาเมื่อสิ้นเจาคุณพอแลว นิสัยและลักษณะ อันไมพึงปรารถนาตางๆ ของคุณอุน ซึ่งเคยถูกกดดันไว ก็เริ่มสําแดงตัวใหปรากฏอยางรุนแรง สิ่งเหลานี้พลอยเห็นวาไมเปนมงคล และ ไมอยากเกี่ยวของดวย และรูสึกอยูเสมอวาตนเคราะหดีที่มีทางหลีกเลี่ยง ไดอยางสะดวก ระหวางที่ศพเจาคุณพอยังอยูในบาน คุณเชยพบหนาพลอยครั้งใดก็รองไห ปรับทุกขถึงเรื่องคุณอุนตั้ง กอง ทะเลาะวิวาททุกครั้ง คุณเชยผายผอมลงไปจนผิดรูป บอกกับพลอยเสมอวาตั้งแตสิ้นเจาคุณพอแลว ก็รูสึก วาชีวิตประจําวันวางเปลา ไมมีอะไรจะทํา ไมมีความหมายอีกตอไป คุณเชยบอกวาทรัพยสมบัติ ที่เปนมรดกนั้น มิไดอยากไดอยากดีอะไรหนักหนา เพราะลําพังขาวของเงินทองที่เจาคุณพอใหไว ตั้งแตยังมีชีวิตอยูนั้น ก็พอจะ เลี้ยงตัวไปได ถึงจะไมฟุมเฟอยก็คงไมถึงลําบาก แตที่คุณเชยทนไมไหวก็คือ การกดขี่ใชอํานาจไมเปนธรรมของ คุณอุน ตลอดจนการระแวงสงสัย และการตั้งขอรังเกียจตางๆ ที่คุณอุนทํากับคุณเชยมากขึ้นทุกวัน ฉันทนอยูไปทุกวันนี้ ก็เพราะศพเจาคุณพอยังอยูในบาน" คุณเชยปรารภขึ้นอยางนาสงสาร "แตบางครั้ง ก็แทบจะทนไมไหวเที่ยวแมพลอย แมพลอยไมรูหรอกวาคุณอุนเธอรายสักเพียงไหน เวลานี้จนชั้นบาวในบานก็ กระทบไหลฉันได เพราะเธอคอยหนุนมันอยู ที่ยิ่งรายไปใหญก็เรื่องที่ฉันถูกสอดแนม อยูทุกวัน ไมวาจะทําอะไร พูดอะไร กระดิกตัวแมแตนิดเดียว ก็ตองมีคนไปรายงาน..." คุณเชยรองไหสะอึกสะอื้น แลวพูดตอไป "ถาเปนคนอื่นฉันก็ไมวาอะไรหรอกแมพลอย ที่ฉันช้ําใจนักก็เพราะเปนพี่นองทองเดียวกันแทๆ เธอเปน พี่ฉัน ไมนาจะทํากับฉันอยางนี้เลย เวลานี้ชั้นแตขาวน้ําฉันก็ตองหากินเอาเอง บาวในบานขึ้นกับเธอทั้งหมด ไม มีใครกลาจะเหลียวแลมาทางฉัน คุณชิตก็ยิ่งคอยยุยงเธอใหเกลียดฉันขึ้นไปอีก กลัววาฉันจะคอยกีดกันเขา มีแต พอเพิ่ม แตแมพลอยก็คงรูวาพอเพิ่มแกจะไปทําอะไรได ฉันอยากตายเสียใหพนทุกขพนรอนไปที ขี้เกียจอยูใช กรรมใชเวรอยางทุกวันนี้" "คุณเชยอยาคิดสั้นไปเลย" พลอยพูดปลอบ "คุณเชยก็ไมใชตัวคนเดียว ถึงจะอยางไรฉันก็เปนนอง และ รักคุณเชยมาก เสร็จงานศพเจาคุณพอแลว คุณเชยจะมาอยูกับฉันที่บานใหสบายสักพักหนึ่งก็ได อยูกันอยางพี่ นองจะนานเทาไรก็สุดแลวแตคุณเชย" "ขอบใจ แมพลอย" คุณเชยยิ้มกับนองสาวทั้งน้ําตา "ฉันรูดีวาถึงอยางไรแมพลอยก็ไมทิ้งฉัน แตแมพลอย ก็ไมใชตัวเปลา เอาฉันมาไวอีกคนก็รุงรัง มีแตจะรําคาญเปลาๆ" "คุณเชยอยาวิตกในขอนั้นเลย" พลอยตอบ "คุณเปรมเขาพูดกับฉันเรื่องคุณเชยกอนดวยซ้ําไป เขา บอกวาเสร็จงานศพเจาคุณพอแลว ใหฉันรับคุณเชยมาอยูดวย คุณเชยจะไดสบายขึ้นบาง เขาสังเกตเห็นคุณเชย ซูบไปมาก กลัววาจะเจ็บไข" คุณเชยนิ่งอยูครูหนึ่งแลวตอบวา "เอาเถิดแมพลอย เวลามันยังนานอยู เอาไวเสร็จการงาน หมดภาระแลวเราจึงคอยคิดกันใหม" งานเผาศพเจาคุณพอ ตลอดจนงานทําบุญกระดูกก็เสร็จสิ้นไปแลว คุณเชยก็มิไดพูดเรื่องนี้กับพลอยตอ ไป วาอยางไร แตวันหนึ่งพอเพิ่มเดินเขาบานมาแตเชา พอพลอยเห็นหนาพอเพิ่มก็รูทันทีวามีเหตุการณผิดปกติ เกิดขึ้น "มีเรื่องอะไรกันพอเพิ่ม" พลอยรีบถามขึ้นกอน "แมพลอยอานนี่เอาเองก็แลวกัน" พอเพิ่มพูดพลางยื่นกระดาษแผนเล็กๆใหแผนหนึ่ง "คุณเชยเธอฝาก เด็กไว ใหฉันเอามาใหพลอยอีกทีหนึ่ง เด็กมันใหฉันแตเชามืด ฉันก็รีบมา" พลอยรีบคลี่กระดาษออกอาน ในนั้นมีลายมือคุณเชยเขียนไวเพียงสองสามบรรทัดวา "แมพลอย ฉันรีบเขียนมาบอกใหแมพลอยรูเรื่องเสียกอนที่จะไดยินจากปากคนอื่น ฉันออกจากบานไปแลวแตเมื่อ คืนนี้ หลวงโอสถเขามารับฉันไปอยูกับเขาที่บาน ฉันเสียใจที่ตองทําใหพลอยขายหนาวาพี่สาวตองหนีตามผูชาย ไป แตแมพลอยก็คงเห็นใจฉัน บานชองเขาอยูที่ไหนเปนอยางไรฉันก็ยังไมรู แตฉันคิดวาถึงจะตองอยูกระทอม ยากจนกัดกอนเกลือกิน ก็คงจะดีกวาอยูบานนี้ วันหลังพอเรื่องราวสงบลงบางแลว ฉันจะมาหาเลาเรื่องใหฟง ถา แมพลอยจะยังใหฉันเขาบาน เชย" "โธ ! คุณเชย !" พลอยอุทานเบาๆแลวถามพอเพิ่มวา "พอเพิ่มรูเรื่องอะไรกอนหนานี้บางหรือเปลา" "ฉันไมรูเลยแมพลอย" พอเพิ่มตอบ "เพิ่งมารูเอาเมื่อคุณเชยไปแลว เธอออกจากบานไปตอนดึก ฉันเพิ่ง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy118.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๘ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 5

มารูเรื่องเมื่อตอนเชามืด" "คุณอุนรูหรือยัง" พลอยซักตอ "เรื่องนั้นอยาถามเลย" พอเพิ่มตอบพลางหัวเราะอยูในคอ "เสียงเธอแหวไดยินมาเกือบถึงปากคลอง เมื่อ ฉันออกจากบานมายังดาอยูแจวๆ เดี๋ยวนี้ก็คงยังไมจบกัณฑ" "โธ ! คุณเชย !" พลอยพูดขึ้นอีก "แลวนี่จะทําอยางไรกันดีละพอเพิ่ม" "ฉันก็ไมรูเหมือนกันแมพลอย" พอเพิ่มตอบ "แตใจฉัน ฉันก็วาดีแลวไมนาจะวิตกอะไร คุณเชยเธอออก ไปมีเรือนมีบานชอง มีลูกมีเตาของเธอเองจะไดมีอะไรทํา ฉันไมรูนะแมพลอย" พอเพิ่มพูดอยางลังเล "ฉันอาจจะ เห็นอะไรผิดๆไปเหมือนกับคนอื่นตามเคยของฉันก็ได แตฉันเห็นวาเรื่องนี้ ตนเหตุไมไดอยูที่เรื่องวิวาทกับคุณ อุนหรอก แตอยูที่เรื่องเจาคุณพอทานตาย คุณเชยเธอมีหนาที่ปฏิบัติดูแล เจาคุณพอตลอดมา จนกลายเปนนิสัย ขาดไมได พอเจาคุณพอสิ้นแลวเธอก็หมดเรื่องที่จะคิดจะทํา หมดที่หมาย เหมือนกับเรือไมมีหางเสือ หลวง โอสถโผลมาพอดีตอนเจาคุณพอเจ็บ และหลวงโอสถสนิทสนมกับคุณเชยไดมาก ดวยเรื่องอาการไขของเจาคุณ พอ พอหมดเจาคุณพอก็คงเหลือหลวงโอสถคนเดียว ที่เธอเห็นวาจะพูดกันรูเรื่อง เธอก็ตามเขาไป เฮอ !" พอ เพิ่มถอนใจใหญ "ฉันก็ชักจะพูดมากไปเสียอีกแลว !" พลอยนั่งฟงพอเพิ่มพูดอยางสนใจ และนึกในใจอยูวาพอเพิ่มเปนผูใหญ พูดจาเปนหลักฐานดีกวาเกา พลอยตอบไปวา "เปลา พอเพิ่มไมไดพูดมากไปหรอก ฉันกลับเห็นวาพอเพิ่มพูดจานาฟงเสียอีก วาตอไปเถิด" "งั้นเรอะ !" พอเพิ่มพูดอยางไมเชื่อหู "ครั้งนี้ดูเหมือนจะเปนครั้งแรก ที่มีคนวาฉันพูดจานาฟง ฉันวาตอ ไปอีก ไมไดหรอกแมพลอย หมดเนื้อความเพียงแคนี้เอง" แลวพอเพิ่มก็หัวเราะ "พอเพิ่ม" พลอยถามขึ้น "หลวงโอสถนี่เขาเปนคนอยางไร เขารักคุณเชยมากไหม" "ฉันก็ดูเขาไมออก แมพลอย" พอเพิ่มตอบ "ตอนที่เขาไปมา ฉันก็ไมไดสนใจอะไร เพราะไมรูเรื่องจะเปน อยางนี้ แตเทาที่เห็นก็ดูเขาเปนคนลึกๆอยู เงียบขรึมไมคอยพูดจากับใคร หรือเขาจะไมพูดกับฉันคนเดียวก็ไมรู ได" "นั่นซีพอเพิ่ม" พลอยเห็นดวย "อยูๆเขาก็จูเขามา ไมรูจักหัวนอนปลายตีน ฉันเปนหวงคุณเชยเสียจริงๆ ทีเดียว" "แมพลอยอยาวิตกเลย คุณเชยเธอก็ไมไดไปตัวเปลา" พอเพิ่มวา "ขาวของเงินทองของเธอก็มีอยูบาง พอจะกินไปไดนาน แลวคุณเชยก็ไมใชคนโงที่จะใหใครมาหลอกตมเอาไดงายๆ..." พอเพิ่มหยุดครูหนึ่ง แลวพูด ตอไปวา "พูดไปพูดมาฉันชักจะเปนหวงตัวฉันเองมากกวาเพื่อน แตกอนมีคุณเชยอยูในบาน ฉันก็อยูไปได ไมสู กระไรนัก เดี๋ยวนี้คุณเชยออกไปเสียคนหนึ่ง คุณอุนไมรูจะวิวาทกับใคร มิหันมาเลนงานฉันแยไปหรือ" พลอยเกือบจะหลุดปากชวนพอเพิ่มมาอยูดวยกันเสียที่บาน อยางที่เคยชวนคุณเชยไวครั้งหนึ่ง แตนึกอีก ทีหนึ่งพอเพิ่มเปนผูชาย ควรที่จะปกกลาขาแข็งเลี้ยงตัวไดเอง ผิดกับคุณเชยซึ่งเปนผูหญิง จะอยูกับพี่นองก็ไม นาเกลียด พอเพิ่มดูเหมือนจะรูใจพลอยวากําลังนึกอะไรอยู เพราะพอเพิ่มมองดูหนาพลอย แลวก็หัวเราะแคนๆ พูดขึ้นวา "เปลาดอกแมพลอย ฉันพูดไปอยางนั้นเอง ไมไดตั้งใจจะมาอาศัยแมพลอยอยูหรอก ฉันเปนผูชาย ลูก เมียก็ยังไมมี ตัวคนเดียวอยูที่ไหนก็อยูได ไมเดือดรอนอะไรเลย" "แลวพอเพิ่มคิดวาจะทําอยางไรตอไป" พลอยถาม "ฉันก็วาฉันจะอยูที่บานเรื่อยๆไปกอน" พอเพิ่มตอบ "ถาฉันยังทนไดก็ทนไป แตวันหลังถาเรื่องมันเหลือ อด เหลือทนก็ออกมาเสีย ไมเปนไรหรอกแมพลอย อยูที่บานก็ใชวาฉันจะกินอยูอยางสบายนัก ถึงจะออกจาก บานมา อยูที่ไหนมันก็เทากัน" หลังจากพอเพิ่มกลับไปแลว พลอยมานั่งคิดดูก็รูวาการที่คุณเชยออกจากบานไปกับหลวงโอสถนั้น ทําให ตนโลงใจไปอีกอยางหนึ่ง เพราะคุณเชยนั้นเปนพี่สาวที่พลอยรักมาก เกือบจะเรียกไดวาเปนพี่สาวคนเดียว ของ ตน การที่คุณเชยไดออกไปมีเหยามีเรือน เปนอิสระแกตนจึงเปนเรื่องที่ควรยินดี สวนชีวิตในครอบครัวของคุณ เชย จะเปนอยางไรตอไปนั้น เปนเรื่องที่จะดูกันตอไปภายหลัง จริงอยูคุณเชยเอง ก็ยอมรับวาหนีตามผูชายไป นับวาเปนเรื่องที่นาอับอายขายหนา แตพลอยก็รูดีวาเวลาเปนสิ่งที่แกใขเรื่องเหลานี้ นานเขาคนก็จะลืมไมพูดถึง เรื่องนี้ตอไป และถึงจะอยางไรก็ตาม คุณเชยก็เปนผูใหญแลว มิใชเด็กรุนสาว และออกจากบานไปกับหลวง โอสถ เมื่อเจาคุณพอสิ้นแลว และทํางานศพเสร็จ เหตุที่จะตองครหาจึงเกือบจะไมมี อะไรเหลือ นอกจากคนที่ ชอบคอนแคะนินทาคนอื่น ก็คงจะหาเหตุนั้นจนได อีกอยางหนึ่งนั้น การที่คุณเชยออกจากบานคลองบางหลวง ไป ทําใหพลอยโลงใจรูสึกวาหมดขอผูกพันกับบานนั้น ตราบใดที่คุณเชยยังอยู พลอยก็รูสึกวาเปนภาระหนาที่ อันจะตองไปมาหาสูเยี่ยมเยือน ซึ่งพลอยเห็นวาเปนภาระ ที่กอใหเกิดความหนักใจ เพราะจะตองไปในที่ๆตน เปนบุคคลไมพึงปรารถนา แตเมื่อคุณเชยออกมาเสียแลว พลอยก็สามารถเก็บตัวไวตางหาก ไมไปเกี่ยวของดวย อีกตอไป

http://www.geocities.com/siamstory/ploy118.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๘ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 5

คุณเชยหายเงียบไป ไมมีขาวคราวสงมาให นอกจากหนังสือสองสามบรรทัดที่ฝากพอเพิ่มมาให ในระยะ แรก พลอยพยายามสืบถามขาวคราวจากคุณเปรม และคนอื่นก็ไมคอยไดเรื่อง รูแตวาบานหลวงโอสถ อยูแถว ถนนตะนาว พลอยเคยคิดวาจะไปหาแตก็ตองเปลี่ยนใจ เพราะเมื่อคิดดูอีกทีหนึ่ง การที่คุณเชยเงียบหายไป ไม สงขาวคราวมาใหทราบนั้น อาจเปนเพราะคุณเชยอยากจะอยูคนเดียว ยังไมอยากเกี่ยวของกับพี่นอง ถาพลอย จะติดตามไปหาในขณะนี้ คุณเชยอาจไมเต็มใจตอนรับ และอาจถือวาเปนการละลาบละลวงก็ได ทางที่ดีที่สุดใน ระหวางนี้ ก็คือรออยูที่บานจนกวาคุณเชยจะมาหาเอง ความคิดนี้คุณเปรมเห็นดวยพูดวา "คุณเชยเธอไมไปไหนหรอกแมพลอย อีกหนอยพอเธอสบายใจเธอก็คงมาหาแมพลอยเอง ฉันวาไมชั่ว แตคุณเชยเทานั้นที่จะมาหาแมพลอย แมพลอยนั่งรออยูที่บานนี้แหละ วันหนึ่งแมแตคุณอุน ก็จะตองเดินเขามา หา" คุณเปรมพูดทีเลนทีจริง ขณะที่ไดยินนั้น พลอยมิไดนึกฝนเลยวาจะเปนไปได ระหวางระยะเวลาหนึ่งปที่ลวงไป ตาอั้นก็เติบโตขึ้นตามลําดับ สวนตาอนก็เจริญขึ้นตามวัย ปญหาเรื่อง ตั้งชื่อตาอั้น มาเกิดขึ้นหลังจากเจาคุณพอถึงแกกรรม คุณเปรมตั้งใจไวแตแรกวาจะขอใหเจาคุณพอ ตั้งชื่อหลาน แตจะเปนเพราะเจาคุณพอยังเจ็บ และทุกคนจะนึกถึงความเจ็บไขของเจาคุณพอมากกวา หรืออยางไรก็ตามที เรื่องขอชื่อใหตาอั้นจึงไมมีใครพูดขึ้นในระยะที่พลอยไปอยูบานคลองบางหลวง จนเจาคุณพอถึงแกกรรมไปแลว คุณเปรมจึงไดพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ทําใหพลอยตองนึกถึงเสด็จทันที และในโอกาสแรกพลอยก็หอบตาอั้น ซึ่งขณะนี้มีอายุไดหาเดือนเศษเขาวัง เพื่อถวายตัวและขอประทานชื่อ เสด็จทรงมองดูตาอั้นอยางทรงพระเมตตา และรับสั่งเหมือนกับคนอื่นๆ ที่เห็นวาตาอั้นหนาตาคลายคลึง มาทางแม "พอชื่อเปรมแมชื่อพลอย" เสด็จรับสั่ง "เดี๋ยวนี้เขาชอบชื่อหรูหราๆ มีหลายพยางค...เปรม กับ พลอย... ชื่อ ประพันธ ก็แลวกัน" แลวเสด็จก็ประทานสายสรอยคอเสนเล็กๆ เสนหนึ่ง มีจี้ลงยาเปนอักษรพระนามไขวแก ตาอั้น เปนเครื่องหมายวาตาอั้นไดถวายตัวเปนมหาดเล็ก คุณเปรมหัวเราะชอบใจ เมื่อไดยินชื่อลูกเปนครั้งแรก พลอยเห็นคุณเปรมกําลังอารมณดี ก็ถามขึ้นวา "แลวตาอนละ คุณเปรมจะวาอยางไร" "จะใหฉันวาอะไรกับอายอนละ แมพลอย" คุณเปรมถามกลับ "ฉันหมายถึงชื่อตาอน" พลอยอธิบาย "คุณเปรมจะตั้งชื่อตาอนวาอยางไร เพราะจนเดี๋ยวนี้แกก็ยังไมมี ชื่อ" "ก็เรียกมันวาอายอนเรื่อยๆไปก็แลวกันนี่แมพลอย" คุณเปรมตอบ พลอยถอนหายใจใหญ รูสึกไมพอใจเลยที่คุณเปรม ชอบแสดงใหเห็นความแตกตางเหลื่อมล้ํากัน ระหวาง ตาอนกับตาอั้น "ไมไดหรอกคุณเปรม ตาอั้นมีชื่อเสด็จประทานใหออกเพราะ ฉันก็อยากไดชื่อใหตาอนใหเพราะเหมือน กัน" คุณเปรมหัวเราะแลวตอบวา "ตามใจแมพลอยเถิด อายอนเดี๋ยวนี้มันเปนลูกแมพลอย ลูกติดแมมาอีกที หนึ่ง แมพลอยตั้งเอาเองก็แลวกัน ฉันไมเกงหรอกของพรรคอยางนี้" พลอยรูดีวาคุณเปรมพูดสัพยอก แตพลอยจะพยายามคาดคั้น ใหคุณเปรมชวยคิดชื่อตาอนสักเทาไร คุณ เปรมก็คิดไมออก จนในที่สุดพลอยก็นึกถึงคําพูดของชอยออก เมื่อตอนตาอั้นเกิด "ตาอั้นนองตาอน" ชอยเคย พูด พลอยควาตาอนที่นั่งเลนอยูขางๆ เขามากอดไว มองดูคุณเปรมแลวพูดวา "ตาอนลูกแม พี่ตาอั้น ตาอั้นชื่อประพันธ ตาอนชื่อประพนธก็แลวกัน ประพนธพี่ประพันธ" พลอยสังเกต ดูกิริยาคุณเปรมก็พอจะเขาใจวา ความจริงนั้นคุณเปรมก็รักตาอนอยูไมนอย ที่คุณเปรมทําเปนไมสนใจตอตาอน ก็ดี ทําเฉยเมยตอตาอนก็ดี ตลอดจนรักเชิดชูตาอั้นซึ่งเกิดจากพลอย จนเห็นไดชัดก็ดี ลวนแลวแตเปนอุบายที่ คุณเปรมทําขึ้นดวยความรัก เพื่อที่จะใหพลอยเปนหวงใยตาอน และเห็นวาเปนกรรมสิทธิ์ของตนยิ่งขึ้นเทานั้น เอง ในใจจริงคุณเปรมก็รักตาอนเยี่ยงบิดารักบุตร การแสดงกิริยาที่เปนอุบายเพื่อผลบางอยางนั้น ไมถูกนิสัย ของพลอย ถึงแมวาอุบายที่แสดงออกมานั้น จะเปนดวยเจตนาดีสักเพียงใดก็ตาม ขณะนี้ความเฉยเมยของคุณ เปรมที่มีตอตาอน เปนสิ่งเดียวที่พลอยรูสึกรําคาญ จะพูดออกไปตรงๆ ก็ยังนึกเกรงใจคุณเปรมอยู พลอยจึงทํา ไมรูไมเห็นเสีย แตก็ยังไดกําหนดไวในใจวา วันหนึ่งจะตองพูดกับคุณเปรมในเรื่องนี้ ใหเขาใจกันเสียที ตาอั้นอายุไดขวบกวาๆก็เริ่มเลนกับตาอนได พลอยนั่งดูเด็กสองคนเลนหัวดวยกัน ก็ใหนึกขอบใจคุณ เปรม อยูครันๆ ที่มีลูกสํารองไวเปนเพื่อนเลนกับลูกของตน มิฉะนั้นตาอั้นในฐานะเปนบุตรคนแรก จะตองเหงา เพราะขาดเพื่อนเลนเปนแนแท ตาอนนั้นดูเหมือนจะรูฐานะของตนอันแทจริง ดวยญาณพิเศษอยางใดอยางหนึ่ง เพราะพยายามทุกทางที่จะเอาใจตาอั้น และในบางกรณีตาอนก็ยอม เปนเบี้ยลางใหจนพลอยรูสึกสงสาร เปนตน วาตาอนเลนอะไรอยูกอน ตาอั้นก็เขามายื้อแยงตามประสาเด็ก ตาอนก็ยอมใหทุกครั้งไป มิไดหวงแหนของเลน นั้น พลอยตองดุตาอั้นอยูเปนนิจเพราะเกรงวาจะเสียนิสัย พลอยรูสึกตัววาตั้งทองอีกครั้งหนึ่ง แตครั้งนี้อาการแพทองคลื่นเหียนนอยกวาครั้งแรก เมื่อพลอยบอก

http://www.geocities.com/siamstory/ploy118.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๘ (หนาที่ ๑)

Page 5 of 5

คุณเปรม คุณเปรมก็แสดงอาการดีใจจนออกนอกหนาเหมือนกับครั้งแรก เริ่มจะเอาใจพะเนาพะนอ พรอมกับพูด วา "แมพลอย คราวนี้ฉันขอลูกผูหญิงสักคนเถิด" ซึ่งทําใหพลอยตองหัวเราะตอบวา "คุณเปรมพูดราวกับวาเปนขนมขตม ฉันทําเอาไดอยางใจ" แตก็นึกในใจอยูเสมอวา ลูกคนตอไปตองเปน ผูหญิง อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy118.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๘ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๘ (หนาที่ ๒) ฤดูกาลผานไป จากหนารอนเขาหนาฝน และตอนทายหนาฝนในคืนวันหนึ่ง อากาศเริ่มจะเย็นเขาแลว พลอยตองสะดุงตื่นขึ้นในตอนดึก เพราะคุณเปรมเขยาตัวปลุกเบาๆ "แมพลอยลุกมาดูอะไรที่หนาตางหนอย" คุณเปรมกระซิบ พลอยลุกงัวเงียออกมาที่หนาตางอยางคนเพิ่งตื่นจากหลับ คุณเปรมเอื้อมแขนมาโอบหัวไหลไว แลวก็ชี้ ใหดู ปรากฏการณอยางหนึ่งบนทองฟา สิ่งนั้นเปนแสงสวางขวางทองฟาอยูเห็นไดถนัด ทางทอนหัวเปนดวงกลมโตสีแดงหมน และหอหุมอยู ดวย กลุมหมอก มีแสงสวางพุงออกเปนทางยาว ลําโตประมาณบานประตูใหญๆ สิ่งที่เห็นนั้นลอยอยูติดฟา แสง สวางจากหัวและหางบดบังรัศมีกลุมดาวอื่นๆ ที่อยูใกลเคียง พลอยหายงวงนอนเปนปลิดทิ้ง หัวใจนั้นเศราหมอง ลงทันทีที่ไดเห็น และรูสึกหนาวสะทานเยือกเย็นทั่วไป "อะไรนั่นคุณเปรม" พลอยกระซิบถาม "ดาวหาง...ดวงใหญเหลือเกิน" คุณเปรมกระซิบตอบแลวก็ถอนใจใหญ มือที่โอบไหลพลอยอยูนั้นรัด พลอย แนนขึ้น เหมือนกับวาคุณเปรมเองก็รูสึกหนาวเชนเดียวกับพลอย "ตายจริงคุณเปรม !" พลอยปรารภขึ้นเบาๆ "ดาวหางขึ้นนี่ ฉันเคยไดยินผูใหญทานพูดวาไมดี ฉันเกิดมา ก็เพิ่งเคยเห็นครั้งนี้ ฉันนึกวาดาวหางมันก็เปนดาวดวงเล็กๆ เหมือนดาวดวงอื่นๆ ไมรูเลยวาจะใหญโต ถึงเพียง นี้ ดูซิคุณเปรม หัวอยูทางนี้ หางไปโนนเกือบจรดขอบฟา ฉันไมสบายใจเลยทีเดียว" "อยานึกมากไปเลยแมพลอย" คุณปลอบดวยเสียงที่ไมแนใจนัก "ฉันไดยินใครเขาเลาวาตามตําราฝรั่ง ดาวหางเปนขอบธรรมดา ชั่วแตนานๆ จะโผลมาใหเห็นทีหนึ่งเทานั้น" "ก็นั่นนะสิคุณเปรม" พลอยตอบ "โผลมาใหเห็นครั้งใด ผูใหญทานจึงวาจะตองมีเรื่อง" คุณเปรมโอบตัวพลอยแนนขึ้นอีกแลวพูดวา "ฉันเองก็เพิ่งเคยเห็นครั้งนี้เหมือนกันแมพลอย เห็นแลวก็หวาดๆในใจอยางไรชอบกล จะพูดไปเขาก็หา วา เปนคนโบราณคร่ําครึ" คุณเปรมถอนใจใหญแลวชวนพลอยกลับเขานอน พลอยนอนไมหลับตอไปอีกนาน เพราะจากหนาตางตึก หางของดาวหางนั้นยังสองแสงเปนประกายยาวแลเห็นไดชัด แลดูนาสพึงกลัวเปน ลางบอกเหตุราย ทําใหพลอยตองนอนอยูดวยความกระวนกระวายใจ รุงขึ้นก็มีขาวโจษจันกันทั้งเมืองเรื่องดาวหางขึ้น ตางคนตางซุบซิบกันวาถาดาวหางขึ้นเชนนี้ ผูมีบุญคน ใดคนหนึ่งก็ตองสิ้นชีวิตลง หรือมิฉะนั้นก็ตองมีเหตุอันเปนวิกฤต เชนขาวยากหมากแพงหรือโรคระบาด ในบาน เมือง ทุกครั้งที่พูดกันถึงเรื่องดาวหาง ทุกคนก็มีสีหนาแสดงความไมสบายใจ แตก็ไมมีใครสามารถพยากรณ สิ่ง ใดไดแนชัด ดาวหางดวงนั้นขึ้นอยูนาน อาทิตยหนึ่งก็แลว สิบวันกวาก็แลว ดาวหางก็มาปรากฏใหเห็นทุกคืน เปนประจํา จนความตื่นเตนในระยะแรกชักจะซาลงไป ระหวางนั้นคุณเปรมก็เก็บความมาเลาใหพลอยฟง ถึง ความรูทางดาราศาสตร เกี่ยวกับดาวหางดวงนั้นวามีชื่อวาอะไร เคยเห็นกันมาแลวกี่หน และบอกวาครั้งนี้นับวา ดาวหางดวงนั้นเขามาใกลโลกมากกวาที่เคย จึงทําใหเห็นไดถนัดและดูดวงโตมาก ทุกอยางนี้พลอยรับฟง ดวย ความสนใจ แตมิไดทําใหเกิดความสบายใจขึ้นกวาเกามากนัก วันหนึ่งคุณเปรมกลับออกมาจากในวัง และขณะที่นั่งกินขาวอยู ก็พูดกับพลอยอยางหัวเราะๆวา "แมพลอยดาวหางของแมพลอย เห็นจะไมเกี่ยวกับเราเสียแลว" "ทําไมคุณเปรม" พลอยถาม กลับสนใจขึ้นมาใหมทันที "ฉันเพิ่งไดขาวจากในวังตอนกลางวันวันนี้เองวา พระเจากรุงอังกฤษสวรรคต" พลอยยกมือขึ้นลูบอกแลวพูดวา "เห็นไหมละคุณเปรม ฉันวาไวแลวไมมีผิด ถาดาวหางขึ้นอยางนี้ตองคนมีบุญขนาดเจาฟาเจาแผนดิน ตาย แตพระเจากรุงอังกฤษคนนี้ชางมีบุญจริงนะคุณเปรม จะสวรรคตดาวหางมาขึ้นถึงเมืองไทย พระนาม ทานอยางไร คุณเปรมรูไหม" "พระเจาเอ็ดวารดที่ ๗" คุณเปรมบอกใหแลวก็หัวเราะพูดตอไปวา "ดาวหางมันไมไดขึ้นแตในเมืองไทย หรอกแมพลอย ที่ไหนๆเขาก็เห็นกันทั้งนั้น เมืองอังกฤษเขามีเมืองขึ้นมาก เมืองแขก เมืองพมา เมืองมาลายู ก็ เปนประเทศราชทั้งนั้น จะสวรรคตทั้งทีก็ตองขึ้นใหเห็นกันใหทั่ว" "ฉันเคยเห็นแตรูปของทาน" พลอยพูด "ตัวอวนๆ มีเคราหนาตาเปนฝรั่ง ดูไมมีสงาราศีเหมือนเจานาย ของเราเลย แตพอรูวาสวรรคตก็อดสงสารไมได แตก็โลงใจไปทีหนึ่งที่ดาวหางดวงนี้ไมเกี่ยวของกับเรา"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy118_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๘ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 4

"นั่นซีฉันก็โลงใจเหมือนกัน" คุณเปรมเห็นดวย "ฉันติดโรคกลัวดาวหางของแมพลอย ตั้งแตเห็นคืนแรก แลว ใจคอไมสบายเลยจนถึงวันนี้" ตั้งแตนั้นพลอยก็สิ้นกังวลในเรื่องดาวหาง เพราะไดทราบขาวที่ตรงกับความเชื่อถือของตนแลว จึงเชื่อตอ ไป วาดาวหางดวงนั้นจะไมมีผลมาเกี่ยวของถึงเมืองไทย และตามความจริงตั้งแตไดรับขาวสวรรคตของ พระเจา กรุงอังกฤษ ดาวหางดวงนั้นก็เริ่มเดินทางหางจากโลกออกไป ดูดวงเล็กลงเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มองไมเห็น ในระยะเวลาอีกไมกี่วันตอมา คุณเปรมกลับออกมาจากในวังแลวบอกพลอยวา "แมพลอย วันนี้พระเจาอยูหัวทรงประชวรไมเสด็จออก" "ประชวรมากหรือคุณเปรม" พลอยรีบถามขึ้นทันที "ไมมากหรอก ประชวรไขเล็กนอย วันนี้ทรงราชการอยูที่ขางใน ไมมีอะไรหรอก อีกสองสามวันก็หาย" พลอยไดรับขาวประชวรแตเพียงแคนั้นเอง ขณะนั้นพระเจาอยูหัวประทับอยูที่พระที่นั่งอัมพรสถาน ใน พระราชวังดุสิต เมื่อถึงเวลาเขาเวรคุณเปรมก็ตองกลับไปที่นั่น พลอยนึกแนใจวาเปนการประชวรตามปกติ และ ไมมีใครพูดถึงอาการประชวรนี้เลย หลังจากไดทราบขาวประชวรราวๆหาวัน เปนวันที่คุณเปรมจะกลับมา นอน บาน พลอยเตรียมสํารับกับขาวไวคอยตามปกติ แตเย็นวันนั้นตลอดจนกลางคืนอีกทั้งคืน คุณเปรมก็หายไป ทํา ใหพลอยรูสึกกระวนกระวายใจอยูตลอดรุง แลวรุงขึ้นอีกวันหนึ่งยายเทียบกลับจากตลาดตอนสาย เดินรองไหโฮๆ เขามาในบาน พอเห็นหนา พลอย รีบลงกระไดตึกมาดูวาเรื่องอะไรกัน ยายเทียบก็ทรุดลงนั่งยกมือพนมทวมหัวรองไหอีกโฮใหญแลวพูดวา "คุณเจาขา ! เขาพูดกันในตลาดวาในหลวงสวรรคตเสียแลว วันนี้คนรองไหกันทั้งตลาด ไมมีใครทํามาคา ขาย กันเลย" พลอยใจหายวาบตองทรุดตัวลงนั่งที่กระไดตึก นึกสังหรณใจขึ้นมาทันทีวา ยายเทียบมิไดพูดขาวลือ เหลวไหล แตใจนั้นยังไมยอมเชื่อ เพราะถาประชวรหนักหนา ก็คงจะรูเรื่องมากอน แตพลอยไดขาวประชวร มา เพียงหาหกวันเทานั้น จริงอยูคุณเปรมหายไปทั้งคืน คงจะตองมีเหตุสําคัญในวัง แตบางทีพระอาการประชวร จะ หนักขึ้นเทานั้นเอง เห็นจะไมใชสวรรคต พลอยพยายามหลอกตัวเองวา พระเจาอยูหัวมิไดเสด็จสวรรคต เพราะ ยังไมสามารถจะเชื่อไดวาจะเสด็จสวรรคตไดอยางไร พลอยเกิดมาในแผนดินของทาน ที่รูสึกวาเปนสุข แตนอย คุมใหญ มีชีวิตอยูไดดวยความแนนอนเหมือนกับวามีตนโพธิ์อันใหญ คุมกันอยูใหไดรับควมรมเย็น เพราะพระ บารมี ตระกูลของพลอยทั้งตระกูล ตลอดจนมาถึงเจาคุณพอก็ลวนแลวแตไดรับราชการ ตั้งเนื้อตั้งตัว ปกครอง กันมาไดเปนสุขจนถึงชั้นบุตรหลาน เพราะพระมหากรุณาธิคุณ บรรพบุรุษของคุณเปรมลงเรือสําเภา มาจาก เมืองจีนก็ไดทรงชุบเลี้ยงจนเปนขุนนาง คุณเปรมก็เปนมหาดเล็กใกลชิดพระองค พลอยเองนั้นตั้งแตเด็กมา ก็ อยูในวัง ชีวิตทุกดานในวังนั้นก็แวดลอมพระองคอยู และดํารงอยูไดดวยพระเจาอยูหัว เหมือนกับพระอาทิตย อันเปนศูนยที่ตั้งของดาวตางๆในจักรวาล พลอยเคยนึกเสมอวาถาเสด็จสิ้นพระชนมลง การจเปนอยางไร เคย นึกวาเมื่อสิ้นบุญเจาคุณพอลงตนจะตองทําอยางไร จนบัดนี้เจาคุณพอก็สิ้นบุญลงไปจริงๆแลว แตเรื่องพระเจา อยูหัวเสด็จสวรรคตนั้น พลอยไมเคยนึกถึงเลย เพราะนึกไปไมถึงดวยเปนเรื่องใหญ และถึงแมวาจะนึกถึง ก็เห็น วาตัวนั้นบาปกรรมอยางหนักทีเดียว ถาหากวายายเทียบไมเหลวไหล และขาวนั้นเปนจริง ก็เทากับวาหลักหรือ แกนของโลกมนุษย ที่พลอยรูจักนั้นสลายลง ทั้งที่รูสึกสังหรณในใจ อยูอยางมาก พลอยก็พูดกับยายเทียบวา "ยายเทียบไปเที่ยวฟงอะไรเอามาพูด พูดอะไรเปนลางไมดีหรอก" ยายเทียบรองไหอีกโฮใหญลงกราบแมพระธรณี สบถสาบานยืนยันวาขาวนั้นเปนความจริง แลวก็เดิน รองไหเขาไปในครัว อีกครูหนึ่งก็มีเสียงคนรองไหมาจากครัว และเสียงคนรองไหมาจากเรือนคุณนุย พลอยกลับ ขึ้นตึกอยางชาๆ รูสึกใจคอเหี่ยวแหงและกําลังขาออนลงไปผิดปกติ พลอยจะกระทําอะไรก็ยังไมได เพราะใจนั้น ยังไมเชื่อสนิท ถาเอะอะโวยวายเสียแตบัดนี้ คุณเปรมรูเขาจะวาไดวาเปนกระตายตื่นตูม ทางที่ดีที่สุด ก็คือรอให คุณเปรมกลับบาน พลอยเดินไปเดินมาอยูบนตึกอยางกระวนกระวายใจ จะหยิบอะไรขึ้นมาทําตามปกติ ก็ไม สําเร็จเพราะไมมีแกใจ พลอยเดินไปที่ตูเสื้อผา นึกวาจะสํารวจดูผานุงไวทุกข แตแลวก็บังคับจิตใจใหเดินเลย ไป เสียทางอื่น ยังไมยอมปลอยใจใหเชื่อในขาวราย กลุมใจหนักเขาเพราะคุณเปรมยังไมกลับ พลอยก็ไปยืนโผล หนาตางคอย วันนั้นอากาศมืดครึ้มไปทั่ว ไมมีแสงแดด ทําใหแลดูครึ้มเยือกเย็น ลมเหนือที่เริ่มจะพัดในเดือนตุลาคม หยุดนิ่งในวันนั้น แมแตใบไมสักใบก็ไมมีกระดิก เสียงนกเล็กๆที่เคยรองอยูตามพุมไมก็เงียบหายไป ธรรมชาติ ทั่วทั้งกรุงเทพฯ ดูเหมือนจะแสดงความโศกสลดในความวิปโยคอันยิ่งใหญ พลอยชะเงอมองขามรั้วบาน ออกไป ขางนอกเผื่อวาคุณเปรมจะขึ้นรถกลับมา ตรงขามฝงคลองอีกขางหนึ่ง มีบานเรือนคนแถบนั้น ปลูกอยูเรียงราย สวนมากเปนบานไมเกาๆเล็กๆอยางชาวบานธรรมดา หญิงชราคนหนึ่งเดินขึ้นกระไดบาน อยางเงื่องหงอย มอง ดูจากขางหลังที่คอมลงเพราะความชรา พลอยก็เห็นไดชัดวาหญิงคนนั้นกําลังสะอึกสะอื้น ร่ําไห พลอยรีบสงสาย ตาไปเสียทางอื่นไมยอมมองภาพนั้น ในใจนั้นรองวา "ไมจริง ! ไมจริง ! เปนไปไมได ! คงไดยินเรื่องเหลวไหลมา อยางยายเทียบ" พลอยมองขามไปยังอีกบานหนึ่ง คอยยังชั่วหนอย เพราะที่บานนี้ เปนบานผัวหนุมเมียสาวเพิ่ง ไดกันใหมๆ พลอยเคยมองจากตึกเห็นคูผัวเมียคูนี้หยอกลอกันอยางรื่นเริงทุกวัน แตอะไรกัน วันนี้ทั้งคูเปนอะไร

http://www.geocities.com/siamstory/ploy118_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๘ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 4

ไป พลอยยกมือขึ้นขยี้ตาแลวเพงมองดูอีกครั้งหนึ่ง หญิงสาวผูเปนภรรยานั้น นั่งอยูที่ประตูที่จะออกมาที่ชาน เรือน หอยเทาลงมาที่ชาน แขนทั้งสองนั้นพาดอยูที่เขา และซบศีรษะกับแขนรองไห อยางเห็นชัดๆ ชายหนุมผู เปนสามีนั่งอยูในเรือนชิดกับตัวภรรยา มือหนึ่งลูบหลังภรรยาเปนเชิงปลอบ แตอีกมือหนึ่ง...พลอยรูสึกวาหัวใจ ของตัวนั้นทรุดลงไปอีก เมื่อเห็นอาการกิริยาของชายคนนั้น...อีกมือหนึ่ง ยกผาขาวมาขึ้นซับน้ําตาที่หนาของ ตน... ผูชายอกสามศอกรองไหอยางไมมีอับมีอาย พลอยสบัดหนาหลบภาพจากภานอก เขามาเสียขางในตึก หัวใจเตนดังตึกๆเหมือนตําขาว ความเชื่อถือ ในขาวรายที่ไดยินเพิ่มมากขึ้นทุกระยะที่หัวใจเตน พลอยเหลือบดูพระบรมรูปแผนใหญที่ติดไว ในที่สูงใน หองกลาง พระบรมรูปองคนั้น เปนพระบรมรูปคราวเสด็จยุโรป ทรงฉลองพระองคแบบฝรั่ง ทรงพระมาลาแบบ ฝรั่ง เปนพระบรมรูปเห็นเพียงครึ่งพระองค โผลจากหนาตางตึก พระพักตรนั้นเปยมไปดวยความเมตตาปรานี และพระเนตรของพระบรมรูปนั้น จับสายตาผูที่ดูอยูเหมือนกับจะใหความยืนยันมั่นใจ พลอยคอยรูสึกสบายใจ ขึ้น เมื่อมองดูพระบรมรูปและลงนั่งจับตามองอยูอยางนั้น จะนานเทาไรก็ไมรูสึก คุณเปรมมาถึงโดยพลอยไมรูตัว คุณเปรมเดินขึ้นตึกแตเบาๆเขามานั่งลงขางพลอย พอพลอยเหลียวไป สบตา ไมตองไตถามวาอยางไร คุณเปรมก็รองไห คําตอบเทานั้นพอแลวสําหรับพลอย พลอยกมลงกราบพระ บรมรูป แลวก็ซบหนาลงกับตักคุณเปรมรองไหสะอึกสะอื้น ไมนอยกวาเมื่อคราว เจาคุณพอตาย แตในใจของ พลอยนั้นรูสึกวาคราวนี้ เปนความสูญเสียที่มากกวาแรงกวา และจะมีผลไกลกวา เปนหนักหนา เสียงคุณเปรมพูดปลอบเบาๆ และพูดขึ้นวา "นิ่งเสียเถิดแมพลอย ฉันออกมาอาบน้ําผลัดผาประเดี๋ยวเดียวเทานั้น เดี๋ยวก็จะตองรีบกลับเขาวังอีก เพราะตอนบายจะสรงพระบรมศพ แลวเชิญพระบรมศพไปขึ้นปราสาทในวังหลวง ระหวางนี้จะทําอะไรตองระวัง ตัว เพราะเพิ่งผลัดแผนดินใหม เมื่อคืนนี้สมเด็จพระบรม...เอย !...พระเจาอยูหัวองคใหม ทานเสด็จเขาที่ บนพระ ที่นั่งอัมพร ไมไดเสด็จกลับวังสราญรมย พวกฉันก็ยังไมไดมีใครกินขาวเลย ถึงจะกินก็กินไมลง... เพิ่งมารูสึกหิว ไสจะขาดเมื่อถึงบาน แมพลอยชวยดูใหเขาหาอะไรใหฉันกินหนอยเถิด เพราะตอนบายจะตองไป เดินเขา กระบวนแหจากสวนดุสิตไปในวัง ไมมีอะไรรองทอง ฉันเห็นจะเปนลมตายแน" พลอยไดยินคําพูดของคุณเปรมก็นึกถึงหนาที่ของตนออก รีบลุกขึ้นเช็ดน้ําตา รีบไปตระเตรียมผาไว ให คุณเปรมอาบน้ํา และสั่งเด็กใหไปบอกยายเทียบจัดหาสํารับ ขณะที่เดินหยิบเสื้อผาคุณเปรมนั้นเอง น้ําตาก็ยัง ไหลออกมาเรื่อยๆ ซึ่งพลอยก็ไมเห็นความจําเปนอะไรที่จะตองไปเช็ดใหแหง เพราะคุณเปรมเอง ก็ยังรองไหอยู เรื่อยๆ เชนเดียวกัน คุณเปรมอาบน้ําผลัดผาเสร็จแลว ก็ออกมานั่งกินขาเงียบๆ พยายามเคี้ยวกลืนโดยปราศจาก ความเอร็ด อรอย เหมือนกับวาขาวนั้นเปนยาขม ที่จําเปนตองกลืนเขาไปเพื่อประทังชีพ พลอยนั่งปรนนิบัติ คุณเปรมอยู ขางๆสํารับ เห็นคุณเปรมนั่งเงียบนัก จะชวนคุยเรื่องอื่นก็ไมมีแกใจ ไดแตถามเรื่องสวรรคต คุณเปรมเลาใหฟง วา ทรงพระประชวรไมหนักหนาอะไรนัก เมื่อวันพุธที่แลวก็ยังเสด็จที่ตางๆในพระราชฐานได ชั่วแตวามิไดเสด็จ ออกขางหนา เพื่อทรงราชการตามปกติตั้งแตวันจันทร และไดมีลายพระราชหัตถเลขาออกไป ลาราชการตามที่ เคยปฏิบัติมาทุกครั้งที่ประชวร พอถึงวันพฤหัสบดี ก็เสด็จอยูแตในที่ ทางมหาดเล็กก็นึกวา จะทรงพักผอนพระ วรกาย มิไดมีใครคิดเปนอยางอื่น จนถึงวันเสารนายแพทยจึงไดแจงตอเสนาบดีวา พระอาการนาวิตก บางทาน เสนาบดีไดรีบเชิญเสด็จสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชมกุฎราชกุมาร มาจากวังสราญรมย พอตกบายพระเจาอยูหัว ก็หมดสติ และพอสองยามคืนวันเสารนั้นเอง ก็เสด็จสวรรคตบนชั้นสาม ของพระที่นั่งอัมพร ทามกลางพระมเหสี พระเจาลูกยาเธอ และบรรดาเจาจอมที่อยูเฝาพระอาการ "แลวขางในเปนอยางไรบางเมื่อสวรรคตแลว" พลอยถามขึ้น "ฉันก็ไมไดเห็น" คุณเปรมรองตอบ "สวรรคตแลวสมเด็จที่บนเสด็จกลับสวนสี่ฤดู ตอนั้นไปก็มีแต เสียง รองไหกึกกองไดยินลงมาถึงขางลาง เขาวาหมอปวแกตองวิ่งเขาวิ่งออก พยาบาลคุณจอมที่เปนลมบาง อะไร บาง จนหมอเองก็แทบจะเปนลมลมไปอีกคนหนึ่ง พวกมหาดเล็กก็ตองวิ่งทํางานกันวุน ไมมีเวลาจะไปรองไห รองหมกับใคร พอเสร็จงานฉันก็รีบมา พอกินขาวอิ่มก็จะตองกลับเขาไปอีกนี่ก็อิ่มแลว" คุณเปรมวางชามขาว "ที แรกก็นึกวาหิว พอเอาจริงเอาจัวก็กินไมลง เมื่อเจาคุณพอฉันตาย ฉันไมไดรองไหเสียใจถึงเพียงนี้เลย หาที่ไหน อยางลนเกลาฯ ไมไดอีกแลว เจาประคุณ" คุณเปรมกินขาวเสร็จแลวก็รีบขึ้นรถกลับเขาวัง ฝายพลอยผูซึ่งถูกทิ้งใหอยูคนเดียวอีกครั้งหนึ่ง ก็ไม สามารถขมใจใหมีสมาธิทําอะไรเหมือนปกติได ใจนั้นคิดถึงแตในวัง เปนหวงเสด็จอยากจะเขาไปอยู แตก็รูวา เวลานี้ไมใชเวลาที่ตนจะไป พลอยเดินไปเดินมาดวยความกระวนวายใจจนบาย นึกออกวาเย็นวันนี้ เขาจะแห พระบรมศพกลับเขาวัง อยางนอยที่สุดที่ตนจะทําไดในวันนี้ ก็คือไปคอยเฝาถวายบังคมพระบรมศพ ตามขาง ถนนหนทาง ยังดีกวานั่งอยูที่บานโดยไมมีจิตใจจะทําอะไรถูก พอนึกออกพลอยก็รีบแตงกาย เขาเครื่องไวทุกข บอกนางพิศใหไปตามรถมามาคันหนึ่ง แลวก็ขึ้นรถมาออกจากบานสองคนกับนางพิศ มุงหนาไปทางถนนราช ดําเนิน ตลอดทางที่พลอยผาน มีแตชาวบานรานตลาดแตงกายไวทุกขนุงดํา เดินมุงหนาไปทางเดียวกันทั้งสิ้น

http://www.geocities.com/siamstory/ploy118_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๑๘ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 4

ทุกคนมีใบหนาอันเศราหมอง สวนมากถือดอกไมธูปเทียนในมือ บางคนเดินรองไหดังๆ บางคนก็เดินเช็ดน้ําตา ทุกคนตางมุงหนาไปคอยกระบวนแหพระบรมศพ เพื่อถวายบังคมสักการะในวันนี้ รถมาที่พลอยนั่งมาแลนมาถึงสะพานขางโรงสี พลอยบอกใหรถหยุดรออยูที่นั่น แลวก็เดินปนกับฝูงคนไป ยัง ถนนราชดําเนินใน เมื่อพลอยไปถึงนั้น มีทหารยืนถือปนหันปากกระบอกลงดิน ยืนรายทางอยูทั้งสองขาง ถนน และตามสองขางถนนนั้นราษฎรมานั่งคอยถวายบังคมพระบรมศพกันโดยตลอด ทุกคนเงียบกริบไมมีใคร สงเสียง กระโตกกระตาก พลอยคอยๆหลีกคนเขาไปเห็นมีที่วางอยูขางถนนหนอยหนึ่ง ก็เขาไปนั่งเยื้องไปขาง หนึ่ง พอเอื้อมมือถึง มีทหารยืนรายทางอยูคนหนึ่ง พลอยนั่งคอยอยูนาน ฝูงคนที่มาคอยถวายบังคมก็มากขึ้นทุกที อากาศที่ครึ้มอยูตลอดวันนั้น กลายเปน เมฆฝนขนาดหนักบดบังทองฟามืดมิดไปทั่ว ราวกับเวลากลางคืนที่มืดสนิท พลอยมองไปขางหนา ตามขอบฟา เห็นฟาแลบไกลๆเปนระยะๆ และเสียงฟารองดังคลืนๆอยูไกลๆ แตดินฟาอากาศที่แสดงอาการวา ฝนจะตกนั้น มิไดทําใหฝูงชนที่มาคอยถวายบังคมพระบรมศพนั้นทอถอยไปไดเลย เวลายิ่งลวงไป ความมืดก็ยิ่งทวีขึ้น พลอย ขนลุกเมื่อไดยินเสียงคนเปนอันมากรองไหโฮ ดังมาจากถนนราชดําเนินนอก อันเปนตนทาง ในที่สุดก็ไดยิน เสียงดนตรี เสียงปเสียงกลองจากกระบวนแห กระบวนหนาขามสะพานมัฆวาฬ เดินมาตามถนนราชดําเนินใน คู แหนั้นถือเทียนแวววาวแลดูเปนทางยาวคูหนึ่งสุดลูกตา เสียงปเสียงกลองชนะ ดังใกลเขามาอีก หมูคนที่นั่งอยู ริมถนนเริ่มจุดดอกไมธูปเทียน ที่ตางมือราวกับนัดกันไว อีกสักครูหนึ่งตามสองขาง ถนนก็มีแสงธูปเทียน ดารดาษเหมือนดาวในทองฟา นางพิศจุดธูปเทียนสงมาใหจากขางหลัง พลอยรับมาถือไว ยกสองมือกําไวแนน พระบรมโกษประดิษฐานอยูบนพระยานมาศสามลําคาน กั้นกางดวยพระมหาเศวตฉัตร แลดูสูงทมึนขามสะพาน มาแลว ทุกคนเปรงเสียงรองไหดวยความรูสึกจากหัวใจ ทุกคนกมลงกราบถวายบังคม พลอยนั่งใจเตนระทึก มือ ที่ถือธูปเทียนอยูนั้นเริ่มสั่นดวยความเศราสลด ยิ่งพระบรมโกษถูกเชิญใกลเขามา เสียงคนรองไหก็อังใกล ติดตามมา เหมือนกับจะแขงกับเสียงปกลอง พอพระยานมาศเคลื่อนมาอยูตรงหนา พลอยก็กมลงกราบถวาย บังคม และเมื่อเงยหนาขึ้น ตาก็พอดีไปจับอยูที่ใบหนาทหารที่ยืนรายทาง ทหารคนนั้น ยืนถือปนกลับ ปลายกระบอกลง กมหนาไมมีกระดิกตามที่ไดรับคําสั่ง ใบหนาของทหารคนนั้นเปนใบหนาของ เด็กหนุมชาว บานนอก เหมือนกับทหารคนอื่นๆที่เกณฑเขามา แตสิ่งที่เขามาปลดปลอยความรูสึกของพลอย ใหปะทุออกมา ทั้งหมด ก็คือบนใบหนาทหารหนุมนั้น มีทางน้ําตาไหลอยูไมขาดสาย พลอยเปนคนที่ไมคอยแสดง ความรูสึก ออกมาใหคนอื่นเห็น แตเมื่อเห็นหนาทหารคนนั้นดวยแสงเทียนที่ถืออยู พลอยก็ปลอยโฮออกมา อยางหมดอับ อาย พลอยนั่งอยูขางถนนนั้นอีกนาน จนกระบวนแหหายเขาประตูวังไปแลว พลอยจึงลุกขึ้นเดินกลับชาๆ ตา มองดูยอดปราสาทและหลังคาตําหนักในวัง ซึ่งแลเห็นไดเปนครั้งคราวดวยสายฟาแลบ ชีวิตที่ผานมาทั้งหมด ดู นานหนักหนา แตเหตุการณวันนี้ก็เหมือนหลักบอกระยะทางแหงชีวิตวา ไดผานพนไประยะหนึ่งแลว ระยะตอไป จะเปนอยางไรนั้นดูมืด เหมือนกับความมืดที่กั้นกางอยูขางหนา ฟาแลบอีกปลาบหนึ่ง จนแลเห็นทุกอยางไดชัด เสียงฟารองแสบแกวหูแลวฝนหาใหญ ก็กระหน่ําลงมาอยางไมลืมหูลืมตา พลอยเดินชาๆตอไปอยางไมรีบรอน นางพิศก็รูใจไมเรง พอถึงรถและขึ้นรถได พลอยก็เปยกโชกไปทั้งตัว รถมานั้นมุงหนากลับบาน มีพลอยนั่งมา อยางทอดอาลัย ไมเดือดรอนตอความเปยกและความหนาวเย็นในขณะนั้น จบแผนดินที่หนึ่ง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy118_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๑

Page 1 of 6

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๒ บทที่ ๑ บายวันหนึ่ง พลอยนั่งดูลูกๆเลนกันอยูที่หนาตึก ตาอนเวลานี้อายุเจ็ดขวดเศษ ตาอั้นเวลานี้อายุราวๆ หา ขวบ และตาออดบุตรชายคนที่สองของพลอย ที่ทองคางแผนดินมาเกิดเอาในรัชกาลที่ ๖ ระหวางงานพระเมรุ พระพุทธเจาหลวงมหาราช อายุราวๆสามขวบ ตลอดเวลาที่ทองตาออด พลอยก็นึกในใจอยูตลอดวาลูกคนนี้ จะ ตองเปนผูหญิง แตพอออกมาจริงก็เปนผูชาย หนาตาไมผิดกับตาอั้นเทาไรนัก ชื่อที่เรียกกันในครอบครัว ก็ตอง เปนตาออดตอจากตาอั้นเปนธรรมดา และชื่อจริงนั้นคุณเปรมตั้งใหชื่อวา "ประพจน" ซึ่งเมื่อคิดดูวาเริ่มจาก "ประพนธ" และ "ประพันธ" แลวก็เปนธรรมดาอีกเหมือนกัน พอตาออดอายุไดสองขวบกวาๆ พลอยก็ตั้งทองอีก หนหนึ่ง ขณะนี้ยังไมคลอด คราวนี้พลอยถึงกับบนบานศาลกลาว ขอใหลูกเปนผูหญิง และในระหวางเดียวกันก็ นั่งนึกในใจวา หนาตาลูกสาวที่ยังไมเกิดนั้นควรจะเปนอยางไร แมแตชื่อก็คิดไวใหลวงหนา วา "ประไพ" เมื่อ พลอยบอกคุณเปรมถึงเรื่องนี้ คุณเปรมก็หัวเราะแลวพูดสัพยอกวา "ระวังใหดีเถิดแมพลอย เดี๋ยวออกมาเปน ผูชายเสียอยางตาออด ก็จะตองวุนวายคิดชื่อกันอีก" ตั้งแตผลัดแผนดินมาคุณเปรมก็ไดเลื่อนฐานะขึ้นไปในหนาที่ราชการ หลังจากพระบรมราชาภิเษกแลว คุณเปรมก็ไดตําแหนงมหาดเล็กหุมแพร ราชทินนามวานายสนองราชกิจ คนทั้งปวงก็พากันเรียกวา คุณสนองฯ เรื่อยมา ชื่อคุณเปรมที่พลอยเคยเรียกมาแตแรกก็ดูจะเลือนหายไป ตอมาอีกปหนึ่งมีงานบรมราชาภิเษกสมโภช มีเจานายจากประเทศตางๆในโลกมาชุมนุมในกรุงเทพฯ มากกวาที่เคยปรากฏมาในประเทศใดๆในตะวันออก คุณเปรมหรือคุณสนองฯ รับราชการคราวนั้นมีความดีความชอบมาก ไดเหรียญตราเครื่องราชอิสริยาภรณ และ พอเสร็จงานบรมราชาภิเษกสมโภชแลวไมนาน คุณเปรมก็ยายตําแหนง จากกรมมหาดเล็กไปอยูกรมวัง เลื่อน บรรดาศักดิ์ขึ้นเปนคุณพระ มีราชทินนามวา พระบริบาลภูมินารถ วันที่ไดรับสัญญาบัตร คุณเปรมกลับมาบาน แลวพูดกับพลอยวา "แมพลอย เดี๋ยวนี้ฉันเปนคุณพระเสียแลว ไดยินใครเรียกวาคุณพระ รูสึกวาแกหงําเหงือกลงไปถนัดใจ เมื่อเปนคุณสนองหุมแพรนั้น ฟงดูเปนหนุมเขาทีอยูฉันก็ไมเดือดรอน แตพอเปนคุณพระนี่ฉันถึงรูตัววแก" คุณ เปรมเดินเขาไปมองดูตัวที่กระจกในหอง ยกมือขึ้นลูบผมที่เริ่มจะหงอกประปราย เหนือขมับขึ้นไปทั้งสองขาง แลวพูดตอไปวา "ใครเขาเห็นฉันจะแกก็ชั่งเถิด ดีเสียอีก แตมีคนๆหนึ่งที่ฉันอยากใหเห็นวาฉันยังหนุมอยูเสมอ คนๆนั้น คือ แมพลอย เพราะฉะนั้นแมพลอยอยาไดริเรียกฉันวาคุณพระ ตามคนอื่นเขาไปเปนอันขาดทีเดียว เคยเรียกวา อยางไรก็ขอใหคงเรียกอยางนั้น ถาขืนไมฟงฉันจะทิ้งเสียไปหาเมียใหม" พลอยหัวเระชอบใจ แลวตอบวา "ดูคุณเปรมพูดสิ ! เดี๋ยวก็วาตัวแกแตอีกประเดี๋ยวก็จะริหาเมียใหม ยังกะวาฉันคอยหวงหาม อยากมีสักกี่ คนก็ไดฉันไมวาหรอก" พลอยหยุดหัวเราะแลวพูดตอไปวา "ความจริงคุณเปรมจะแกลงไปฉันก็ไมเห็นจะนากลัวอะไร เพราะคุณเปรมไมไดแกลงไปคนเดียว ฉันก็แก ลงไปดวยเหมือนกัน และถาจะวากันไปแลว ฉันรูสึกตัววาเดี๋ยวนี้ฉันแกกวาคุณเปรมเสียอีก คุณเปรมหนุมกวา แตกอนเปนไหนๆ" ถอยคําที่พลอยพูดนั้นเปนเชิงสัพยอกก็จริง แตมีสาระแหงความจริงใจอยูในนั้นมากกวาที่พลอยรูตัว เพราะขณะนี้พลอยรูสึกตัววาเปนผูใหญโดยสมบูรณ ผูใหญที่เปนญาติก็ตายไปบางแลวหลายคน เมื่อพระเจาอยู หัวรัชกาลกอนเสด็จสวรรคตแลวไมนาน เสด็จของพลอยก็เริ่มประชวร และเมื่อประชวรอยูไดสัก สามเดือนก็สิ้น พระชนม ทําใหพลอยตองโศกเศราอยางหนักอีกครั้งหนึ่ง และตองหอบลูกเขาวังทั้งที่เปนแมลูกออน เพื่อชวย คุณสายทํางานเกี่ยวกับงานพระศพ ซึ่งตั้งไวที่หอธรรมสังเวช งานถวายพระเพลิงเสด็จผานพนไปแลว ที่ตําหนัก คงมีแตคุณสายและชอย กับขาหลวงอีกสองสามคนที่มีอายุคงอยูไป โดยไมมีเจานายที่เคยคุมครอง ประทับอยู หลังจากที่เสด็จสิ้นพระชนมแลว พลอยก็รูสึกตัววาเปนผูใหญขึ้นโดยสมบูรณ มิใชเด็กหรือรุนสาว ที่ยังมีผูใหญ คอยคุมครอง แตเปนคนที่ตองรับผิดชอบตอตัวเอง และเปนที่พึ่งตอลูกๆที่เกิดมา ถาหากใครจะถามพลอยวา แผนดินกอนกับแผนดินปจจุบันนั้นแตกตางกันอยางไร พลอยก็คงจะตองนึก ถึง คุณเปรมกอนผูอื่น เพราะความแตกตางนั้นเห็นไดชัดในตัวของคุณเปรม แผนดินกอนนั้นเปนแผนดินของ ผูใหญสูงอายุ คุณเปรมตลอดจนคนอื่นๆ ที่พลอยรูจักจึงวางทาทางเปนผูใหญ กิริยาวาจาการแตงกาย ตลอดจน ชีวิตประจําวัน หรือวิธีทํางานการก็รูสึกวาเปนอยางผูใหญทั้งสิ้น แตพอผลัดแผนดินใหม การเปลี่ยนแปลง และ ความแตกตางนั้น ก็เริ่มสําแดงตัวออกมาทีละนอย แผนดินใหมเปนแผนดินของคนหนุม บรรยากาศในพระราช

http://www.geocities.com/siamstory/ploy201.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๑

Page 2 of 6

สํานัก ก็เปนบรรยากาศของความหนุมแนน คุณเปรมก็เปลี่ยนไปตามโดยไมรูตัว การแตงเนื้อแตงตัวนั้น ดูพิถี พิถันเอาสวยเอางามกวาแตกอน ทาทางก็ดูทะมัดทะแมงกระเดียดไปทางฝรั่ง หมากพลูบุหรี่ที่เคยกิน ก็เปลี่ยน ไปเปนบุหรี่กระปองจากนอก และที่พลอยรูสึกตะขิดตะขวงใจ แตไมกลาหามปราม ก็คือ คุณเปรมเริ่มกินเหลา ฝรั่งจากนอกชนิดตางๆ ซึ่งมีราคาแพง และถึงแมวาคุณเปรมจะอธิบายถึงการเขาสมาคม และคุณสมบัติอัน วิเศษไมมีอันตรายของเหลานั้นๆอยางไร พลอยก็ยังเห็นวาเปนเหลาอยูนั่นเอง การพิถีพิถันในเรื่องการแตงกายของคุณเปรม ที่มาเริ่มมีขึ้นนั้น เปนสิ่งที่พลอยอดสังเกตมิได เพราะเปน เรื่องที่เกี่ยวของกับพลอยโดยตรง คุณเปรมซื้อผามวงผาพื้นตางๆสีเปนจํานวนมากมาย และตัดเสื้อที่ใชผาราคา สูงเปนจํานวนมาก จะไปไหนก็แตงตัวอยางประณีตบรรจง เหมือนกับวาจะไป ประกวดประขันกับใคร พลอยจํา ไดวาครั้งหนึ่งคุณเปรมไมพิถีพิถันเทาไรนัก เพราะในแผนดินกอน มหาดเล็กจะเขาไปขางในนุงไดแตผาพื้น และ ผมนั้นก็ตองเอามือเสยหรือขยี้เสียกอนมิใหเรียบ แตเดี๋ยวนี้กาลสมัย เปลี่ยนไป ราชสํานักแผนดินปจจุบันยังไมมี ขางใน ความสําคัญตางๆ ตลอดจนความหรูหราโออา ก็ออกมารวมประกวดประขันกันอยูขางหนา ทุกคน พยายามทําตนใหอยูในสายตาของคนอื่น คุณเปรมมีฐานะสวนตัวดีกวาคนธรรมดา ก็ยอมจะแสดงความหรูหรา โออาไดมาก ความเปลี่ยนแปลง ในตัวคุณเปรมนั้น พลอยดูอยูดวยสายตาที่เปนกลาง บางอยางก็นึกขัน บางอยางก็รําคาญ บางอยางก็ใจหายใจคว่ําแทน เมื่อคุณเปรมเริ่มสะสมผานุงและเสื้อหมวกตลอดจนถุงตีน พลอยก็ตามใจและนึกขัน นึกเอ็นดูไปในขณะเดียวกัน แตพอคุณเปรมเอยขึ้นมาวา เสื้อนอกที่ซักรีดในเมืองไทย นั้นฝมือไมดี ไมเรียบรอย อยากจะสงไปซักที่สิงคโปร โดยฝากเรือเมลไป พลอยก็นึกรําคาญเห็นวามากเรื่อง และทําเปนเฉยเสีย ไมเอออวยดวย คุณเปรมซื้อรถยนตตอนเดียวเครื่องทองเหลือง จุดไฟแกสที่ตะเกียงขาง หนามาคันหนึ่ง และจางแขกมาขับ พลอยก็เห็นดีดวยเพราะรถยนตเปนของใหม สะอาดสะอาน รวดเร็วกวารถ มา และทําใหพลอยไดมีหนามีตาไปดวย แตคุณเปรมก็มิดไดเลิกเลี้ยงมา กลับซื้อมามาเพิ่มเติม และจางคนเลี้ยง เปนพิเศษ เพราะคุณเปรมเปนเสือปามาหลวงรักษาพระองค ถามีเวลาวางตองออกขี่มาฝกมา ดวยลักษณะอัน โลดโผนตางๆ ทําใหพลอยไมสบายใจอยูเนืองนิจ การเปลี่ยนแปลงที่พลอยเห็นไดชัดอีกอยางหนึ่ง ก็คือชีวิตในวัง เพราะแผนดินนี้ยังไมมีขางใน ดังที่ได กลาวแลว ความรวงโรยก็เริ่มเกิดขึ้นในวังทีละนอย ระเบียบประเพณีตางๆนั้นยังคงมีอยูเชนเดิม ตําหนักรักษา และพระที่นั่งก็ยังเหมือนเกา มิไดปรักหักพังลงไป แตทุกครั้งที่พลอยเขาวัง เพื่อเยี่ยมเยียนพวกพอง คนเคยรูจัก พลอยก็เกิดความรูสึกเหมือนกับวาไปในบานที่ไมมีเจาของ เจานายชั้นพระมเหสีหรือพระอัครชายา ก็เสด็จไป ประทับตามวังตางๆขางนอก ซึ่งสรางขึ้นเปนสวนพระองค เจาจอมมารดาบางทาน ที่มีพระองคเจาเปนตางกรม ก็กราบบังคมทูลลาออกไปอยูวัง กับพระองคเจาที่เปนบุตร ในวังเหลือเจานายนอยพระองค ที่ประทับอยูเปน ประจํา มีแตคุณพนักงานโขลนจา ซึ่งยังคงมีหนาที่ราชการ และขาหลวงเจานายที่สิ้นพระชนมไปแลว หรือมิ ฉะนั้นก็คนเฝาตําหนักตางๆ ที่ทานเจาของออกไปสรางวัง อยูขางนอก ทางบานคลองบางหลวง พลอยมิไดไปติดตอเกี่ยวของอีกเลย แตแรกเมื่อพอเพิ่มยังอยูในบาน พลอยก็ พอมีทางทราบขาวคราวตางๆ ซึ่งมิไดสนใจนัก แตพอเพิ่มก็อยูไปไดไมนานเทาไร พอเพิ่มก็ไดภรรยาคนหนึ่งชื่อ เยื้อน บุตรสาวพอคาเล็กๆนอยๆ แถวถนนบานแขก และพอเพิ่มก็ขามฟาก มาอยูที่บานภรรยารับราชการที่เดิม เรื่อยมา ตนบัดนี้ไดรับพระราชทานบรรดาศักดิ์เปน หลวงภัณฑวิจารณ ทุกคนพากันเรียกพอเพิ่มวา "คุณหลวง ภัณฑ" แมแตพลอยเองก็เรียกตามคนอื่นไปเชนนั้น พลอยนั่งดูลูกๆ วิ่งเลนกันอยูใจก็หวนนึกไปถึงเรื่องเกาๆ ที่ไดผานมาในชีวิต ขณะนั้นรถเจกคันหนึ่งมา จอด ที่หนาประตูบาน ผูหญิงกลางคนๆหนึ่ง นุงหมสีไมฉูดฉาดสมกับวัยกาวลงจากรถ มือถือหอกระดาษหอ หนึ่ง หญิงคนนั้นชําระอัฐคาโดยสารแลวก็เดินเขามาในบาน พลอยนั่งดูอยูอยางไมสนใจ เพราะเมื่อมองไปทีแรก ก็จําไมไดวาเปนใคร นึกวาคงมาหาคนอื่นในบาน หญิงคนนั้นกาวเขามาในประตูบาน หยุดมองเหลียงซายแล ขวา ครูหนึ่ง พอแลเห็นพลอยก็ยิ้มเดินตรงเขามาหา ตะวันตอนบายสองตรงหนาหญิงคนนั้นพอดี ทําใหแลเห็น หนาไมไดถนัด พลอยยกมือขึ้นปองหนาดูอยูครูหนึ่ง แลวก็ลุกขึ้นยืนอยางเร็ว แทบจะกระโดดโลดเตน ดวย ความดีใจ เหมือนเมื่อยังเปนเด็กๆ ปาก็รองตะโกนออกไปวา "คุณเชย !" คุณเชยหัวเราะเดินตรงเขามาถึงตัวพลอยโดยเร็ว คุณเชยเองก็ดีใจที่ไดพบนองสาวอยางบอกไมถูก เหมือนกัน "คุณเชย" พลอยรองขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เอื้อมมือออกไปจับแขนคุณเชย เพื่อดูใหแนใจวามิไดฝนไป หรือตา ฝาดไป "โธคุณเชย หายไปไหนมาตั้งหลายป ฉันคิดถึงออกจะตายไป จะไปหาก็ไปไมถูก !" คุณเชยทรุดตัวลงนั่งแลวฉุดแขนพลอยใหนั่งลงขางๆตน แลวก็เริ่มหัวเราะและรองไหพรอมๆกันไป ดวย ความดีใจ อีกสักครูหนึ่ง คุณเชยจึงพูดออกมาไดเปนคํา และพูดขึ้นวา "แมพลอย ฉันก็คิดถึงแมพลอยใจจะขาดเหมือนกัน แมพลอยสบายดีหรือ ขอน้ําพี่กินสักอึกหนึ่งเถิด เรื่อง มันมาก อีกสักครูหายเหนื่อยแลวจะเลาใหฟง"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy201.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๑

Page 3 of 6

พลอยเรียกเด็กใหหาน้ํามาใหคุณเชย แลวก็นั่งยิ้มดูหนาพี่สาว คุณเชยถามถึงเด็กที่วิ่งเลนอยูตอหนา กอนอื่น พอพลอยบอกวาเปนหลาน คุณเชยก็เรียกมากอดรัดทีละคน สําหรับตาออดคุณเชยกอดอยูนาน พิจารณาดูเปรียบเทียบกับหลานอื่น แลวพูดขึ้นวา "ฉันรักคนนี้มากเสียแลวละแมพลอย" แลวคุณเชยก็หัวเราะ ปรารภขึ้นวา "ดูสิ ! พอมาถึงก็เริ่มลําเอียงที เดียว แตเดี๋ยวนี้ฉันปลอยแกเสียแลว แมพลอยอยาถือสาฉันเลย" พลอยสังเกตดูรูปรางหนาตาคุณเชย เห็นผอมและดําลงไปกวาแตกอน ที่เห็นไดชัดก็ตรงที่มือ เพราะมือ คุณเชยมิไดเล็กเรียว เหมือนเมื่อยังอยูที่บาน แตกลายเปนมือของคนที่ทํางานหนัก เพราะหนาขึ้น และขอตาม นิ้วแตกทุกขอ ถึงคุณเชยจะผอมและดําลงไป กิริยาอาการของคุณเชยก็ยังกระปรี้กระเปรา แสดงวาไมมีโรคภัย เบียดเบียน และในแววตาของคุณเชยนั้นมีประกาย แสดงใหเห็นวาคุณเชยมีความสุขในชีวิต คุณเชยกินน้ํากิน ทา นั่งพักผอนหายเหนื่อยแลว พลอยก็ถามขึ้นวา "คุณเชยยังไมไดบอกฉัยเลยวาหายไปไหนมาตั้งหลายป ปลอยใหฉันคิดถึงเสียย่ําแยทีเดียว" "ฉันออกจากบานไป ตอนแรกฉันก็ไปอยูที่ถนนตะนาวกับคุณหลวงเขานั่นแหละ" คุณเชยตอบ "ทีแรกฉัน ก็คิดวาจะมาหาแมพลอยเหมือนกัน แตธุระมันมากมีอะไรตออะไรจะตองทําอยูเรื่อย ผัดวันประกันพรุงไป วัน แลวก็วันเลา แลวมันก็กลายเปนเดือนจนกลายเปนปๆไป ระหวางนั้นก็ไปบานนอกกับคุณหลวงเขาเสียบาง เลย ดูหายไปนาน แตเดี๋ยวนี้พอมีเวลาหายใจไดบางแลว ตอไปฉันจะมาหาบอยๆ ถาแมพลอยไมรังเกียจ" "คุณเชยพูดอะไรอยางนั้น" พลอยทวงขึ้น "ฉันจะไปรังเกียจไดอยางไร มีแตนั่งคิดถึงคุณเชยอยูเรื่อยๆ คุณเชยเลาใหฉันฟงใหละเอียดสักหนอยเถิด วาคุณเชยไปทําอะไรมาบาง ฉันอยากรู" "เรื่องมันมากละแมพลอย" คุณเชยตอบ "ไมรูจะจดจํามาเลาอยางไรถูก วันแรกที่ฉันออกจากบานไป คุณ หลวงเขาก็พาไปที่บานเขาทีเดียว พอเห็นบานเขาก็ใจหาย ฉันแทบจะลงนั่งรองไห เพราะเราไมเคยอยูอยางนั้น บานเขาอยูในตรอก เปนเรือนปนหยาเกาๆ มีบานคนอื่นปลูกอยูติดๆกันอีกหลายหลัง อยางที่เขาเรียกวา ไกบิน ไมตก เวลาเดินเขาไปก็ตองเดินสะพานไมเกาๆยืดยาว เวลาอยูบานจะพูดจะทําอะไร ชาวบานเขาก็ตองเห็น ตองไดยิน บานอื่นเขาจะพูดอะไรกัน เราก็ไดยินเหมือนกัน เขาดากันแจวๆวันยังค่ํา ใตถุนบานก็แสนจะสกปรก มีแตน้ําครําสงกลิ่นตรลบอบอวล ฉันไปถึงแตแรกพอเห็นบาน ก็คิดถึงตัวแทบจะนั่งลงรองไหที่ตีนกระได แต เพราะรักเพราะสงสารคุณหลวงเขาก็ตองทนเอา พอขึ้นบานไปเห็นแตความรกเหมือนรังหนู เพราะเมียเกาคุณ หลวงเขาตายมานาน อยูคนเดียวไมมีใครชวยดูแลก็ตองเปนอยางนั้น ฉันตองรบกับความสกปรก ความรกรุงรัง อยูตั้งเกือบสามเดือนจึงคอยดูได คุณหลวงเขาก็ดีหรอก เอาใจฉันทุกอยาง เงินทองของฉันเขาไมยอมแตะ เขา วาเดี๋ยวจะมีคนนินทาวาพาฉันมาปอกลอก แตก็นั่นแหละเงินเดือนที่ได มันก็ไมพอ ฉันตองแอบชักสวนของฉัน ออกจายไมใหคุณหลวงรู มันก็พอประทังไปได แตฉันก็ทําอะไรเสียเองหมดเกือบทุกอยาง ไมมีบาวไพรจะใช อยางคนอื่นเขา เวลามันจึงไมมีจะไปไหนมาไหน ปแรกทั้งปฉันเกือบจะไมไดโผลไปไหนเลย นอกจากจะไป ตลาดซื้อกับขาว แตแรกๆก็นึกอาย เพราะไมเคยทํา เคยเปนลูกพระน้ําพระยา จะกระเดียดกระจาดไปจายตลาด ก็รูสึกชอบกล แตแลวมันก็เคยไปเอง เดี๋ยวนี้ไปไหน มาไหนไดคนเดียว ไมตองมีคนตามหลังเหมือนเมื่อกอน" คุณเชยหยุดหัวเราะในชะตาของตนเอง แลวพูดตอไปวา "ก็อยูกันไปอยางนั้นแหละแมพลอย บางวันก็ทุกขน้ําตาแทบจะเช็ดหัวเขา บางเวลาก็เหนื่อยแทบสายตัว จะขาด แตความเจ็บช้ําน้ําใจนั้นไมเคยมี ถาจะวามันเปนสุข มันก็สุข เราอยูกันอยางคนจน ไมไดฟุมเฟอย เหมือนเขาอื่น พอสิ้นแผนดินไดสักหนอยเขาก็ยุบกรมหมอ คุณหลวงก็เลยควางนอนอยูกับบานเฉยๆ ตอนนี้สิ เริ่ม จะอัตคัดเอาจริงๆ หนักเขาฉันก็หนุนใหคุณหลวงเขาทํายาขาย เพราะตํารับตําราเขาก็มีอยู แตเขาบอกวา เขาไมมีทุน ฉันจะเอาเงินของฉันออกเขาก็ไมยอม ตองเถียงตองออนวอนกันอยูนานเขาจึงตกลง เดี๋ยวนี้คอยยัง ชั่ว เพราะหาอัฐไดพอกินพอใชไปวันหนึ่งๆ" คุณเชยหยุดกินหมากแลวก็เลาตอ "แตมันก็เหนื่อยบางเหมือนกันแมพลอย ฉันตองชวยเขาบดเครื่องยา ปนเม็ดยาอยูทั้งกลางวันกลางคืน จางเด็กมาชวยอีกสองคนก็ไวใจไมคอยจะได ยิ่งขายยาไดมากก็ยิ่งเหนื่อยมาก นานๆก็ตองออกบานนอก กับ คุณหลวง เอายาไปขายบาง ซื้อเครื่องยาสมุนไพรบาง เพราะซื้อไดถูกกวาในกรุง แตมันก็ดีหรอก มีกําไรเหลือ ฉันเก็บๆไวไดบาง เดี๋ยวนี้คุณหลวงเชาตึกแถวเขาที่ริมถนน ขางลางเปดเปนรานขายยา ฉันก็เลยยายไปนอนที่ นั่น เพราะจะไดดูแลไดสะดวก" พลอยใจหายเมื่อไดยินคุณเชยเลาถึงตอนนี้ เพราะมิไดเคยนึกฝนมากอนเลยวา คุณเชยจะตองไปอยู หองแถว ขายยาอยูริมถนน ถาเปนตนเองตองไปอยูอยางนั้น บางทีพลอยจะไมรูสึกแปลกใจเลย แตคุณเชยนั้น ดูไมนาจะเปนไปได พลอยอยากจะรูรายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตคุณเชยมากกวาที่คุณเชยเลา จะถามรายละเอียดเหลานั้น ออก ไปตรงๆก็เกรงใจ ไดแตถามเลียบเคียงเขาไปวา "คุณเชยขายยาไดดีอยูหรือ" "ก็ยังงั้นแหละแมพลอย" คุณเชยตอบ "มันก็พอกินพอใชไปวันหนึ่งๆ แตจะเอารุมเอารวยนั้นก็ไมได" คุณ เชยหยิบหอกระดาษที่ถือติดมือมาดวย แกออกวางตรงหนาพลอย "นี่ไงฉันเอามาฝากเพราะเห็นแมพลอย มีลูก

http://www.geocities.com/siamstory/ploy201.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๑

Page 4 of 6

มาก พวกนี้ยาหอม" คุณเชยชี้มือไปที่หอยามันดหนึ่ง "และยาลมยาแกวิงเวียน เวลาตั้งทองใหมๆ กินไวบางก็ดี พวกนี้ยาถายยาแกไขสําหรับหลานๆ เจ็บไขขึ้นมาจะไดหยิบฉวยไดทันทวงที" คุณเชยหัวเราะ แลวก็พูดตอไป วา "ฉันพูดราวกับวาเปนหมอเสียเอง ความจริงก็เปนแตเมียหมอเทานั้น แลวเวลานี้ก็หาคนไขยาก เสียดวย คน ไขดีๆเขาหันเขาหาหมอฝรั่งกันมากขึ้นทุกวัน เหลือแตคนยากจนที่มารับคุณหลวงไปรักษา หรือมาเจียดยา อัฐฬสอะไรก็ไมคอยจะมีให บางทีคุณหลวงเขาก็รักษาใหเปลาๆ แตก็ชางเถอะ เพื่อนมนุษยดวยกัน ยังพอชวย ไดก็ชวยกันไป" "คุณเชยมีลูกบางหรือเปลา" พลอยถามขึ้น "ถามีฉันก็ตองพามาดวยแนๆ" คุณเชยตอบ "เปลาไมมีหรอกแมพลอย ฉันเหมาเอาวาคุณหลวงเปนหมัน เพราะกับเมียคนกอนที่ตายเขาก็ไมมีลูก ฉันเองนั้นอยากมีเหมือนจะตายไป แตก็จะทําอยางไรได คิดไปอีกที ก็ดี เหมือน ฉันกับคุณหลวงก็ยังยากๆจนๆ มีลูกก็อยากเลี้ยงใหดี เลี้ยงใหดีไมไดก็อยามีเสียดีกวา" คุณเชยพูดถึงความจนอยางเปนของธรรมดา ไมปรากฏวามีความนอยเนื้อต่ําใจ หรือมีความทุกขโทมนัส ซอนเรนอยูในใจเลยแมแตนอย ความจนก็ดี ฐานะปจจุบันรวมกับคุณหลวงก็ดี เปนสภาพที่คุณเชยรับเอา โดย ปราศจากความของใจ หรือความรังเกียจ คุณเชยพูดถึงความจนโดยปราศจากความเกรงกลัว และพลอยก็รูดีวา สําหรับคุณเชยนั้นความจนหรือความเปนเศรษฐี ไมสามารถเปลี่ยนนิสัยใจคอ หรือลักษณะอันแทจริงเสียได จะ มีหรือจะจน คุณเชยก็ยังเปนคุณเชยอยูนั่นเอง พลอยสังเกตดูกิริยาทาทาง ตลอดจนวิธีแตงเนื้อแตงตัวของคุณ เชย ก็ยิ่งเห็นความจริงขอนี้ไดชัด คุณเชยเคยอยูบานที่ใหญโต มีขาทาสบริวารมาก จะทําอะไรหรือไปไหนก็ไป อยางลูกผูมีบรรดาศักดิ์ กับพลอยซี่งเปนลูกเมียนอยนั้น คุณเชยวางตัวเปนผูใหญที่โอบออมอารีตลอดมา และไว ตัววาเปนพี่สาว แตกาลเวลาและเหตุการณกลับฐานะ ของพลอยแลคุณเชยเสียสิ้น พลอยอยูตึกที่ใหญโตกวา บานเดิม มีเงินทองทรัพยสมบัติอยางมั่งคั่ง และมีสามีเปน คุณพระยังอยูในราชการมีหวังจะไดดีตอไป สวนคุณ เชยเปนภรรยาคุณหลวงนอกราชการ อาชีพทํายาขาย อยูหองแถวและตองหาใสปากใสทองไปวันหนึ่งๆ ชั้นแต จะมาเยี่ยมนองสาวคุณเชยก็ตองมารถลาก แตคุณเชยวางทาทางเปนปกติเหมือนเมื่อกอน เคยเปนพี่ที่ใหความ รักความอารีตอนองสาวอยางสนิทสนมอยางไร ก็คงทําตอไปอยางนั้น มิไดลดตัวหรือถอมตัวใหต่ํากวาพลอย เพื่อประจบประแจงเอาใจ และก็มิไดไวตัวเยอหยิ่ง หรือปดบังฐานะ เคลือบแคลงความยากจนของตนเองแต ประการใดเลย ความจนมิไดทําใหคุณเชยดูถูกตัวเอง หรือดูถูกคนอื่น ความลําบากมิไดทําใหคุณเชยสงสารตัว เอง และอิจฉาเคียดแคนคนอื่นที่สบายกวา ความจนมิไดทําใหคุณเชยลดตัวเองลงไปจากระดับเดิม แหงสภาพ ของจิตใจความรูสึกนึกคิด คุณเชยมองดูความจน และการเปลี่ยนแปลงแหงฐานะของตน ดวยจิตใจอันแข็งแกรง กลาหาญ สมกับเปนลูกหลาน ของบรรพบุรุษ ที่ไดกลาหาญสูศึกสงครามมาแตกอน ความจริงที่สุดที่พลอยรูแก ใจวันนี้ก็คือ สําหรับคุณเชยนั้น ความจนมิใชโรคเรื้อรังที่รักษาไมหาย เด็กๆที่วิ่งเลนกันอยูจนเหนื่อยนั้น ตางเขามาอยูใกลๆพลอย กอดแขนขาบาง แยงกันนั่งตักบาง ทุกคน มองดูคุณเชยอยางสนใจ พลอยสั่งใหกราบไหว และบอกใหรูวาคุณปาเชยเปนญาติผูใหญ ที่ทุกคนจะตองเคารพ รักตลอดไป คุณเชยเปดหีบหมากสานเกาๆที่ถือมา แลวหยิบเอาสรอยคอเสนเล็กๆ มีจี้ทองคําลงยาอันหนึ่งออก มาพูดวา "ฉันรูวาแมพลอยมีลูกอีกคนหนึ่ง แตยังไมไดทําขวัญเลย วันนี้มาทั้งทีจึงเอาของติดมาดวย ตาออดมานี่ มาหาปาหนอย" คุณเชยเรียกตาออดเขาไปหา เอาสรอยคอสวมให แลวก็กอดจูบตาออดดวยความรัก ตาออดดู เหมือนจะรูไดดวยญาณวาคุณเชยเปนปาที่ใจดี พอไดโอกาสก็นั่งเลนอยูบนตักคุณเชย ไมลุกไปไหน พลอยมองดูคุณเชยเอาของใหหลานแลวก็สะทอนหัวใจ พลอยจําไดวาสายสรอยและจี้เปนของเกา ที่คุณ เชยเอาติดตัวมาจากบาน ถึงจะยากจนลงไปคุณเชยก็ทําขวัญหลานดวยใจบริสุทธิ์ มิไดนึกเสียดายของ ซึ่งถึงจะ มีคาเล็กนอยสําหรับพลอย แตอาจมีคามากสําหรับคุณเชยก็ได แตคุณเชยก็ยังมีแกใจนึกถึงลูกของพลอย และ เมื่อมาหาเปนครั้งแรกก็มิไดมามือเปลา พลอยรูสึกตื้นตันในคอดวยความเห็นใจคุณเชย อยากจะตอบแทนใหสม รัก แตพลอยก็รูดีวา สําหรับคุณเชยนั้นนอกจากความรัก พลอยก็ไมมีสิ่งใดที่จะตอบแทน ใหได คุณเชยเคยให ของพลอยมาตั้งแตพลอยมีฐานะต่ํากวา ถึงเดี๋ยวนี้คุณเชยก็ยังเปนฝายให และยังจะใหอยูตลอดไปจนกวาคุณ เชยจะตาย โดยไมเคยนึกจะเอาสิ่งใดตอบแทนเลย ระหวางที่คุณเชยนั่งคุยอยูกับพลอยนั้นเอง คุณเปรมก็กลับมาจากในวัง เดี๋ยวนี้คุณเปรมกลับบานทุกวัน เวลาบาย ไมตองอยูเวรเหมือนเมื่อครั้งยังเปนหนุม คุณเปรมเดินตรงเขามาที่พลอย โดยไมรูวาใครนั่งอยูดวย จนใกลเกือบจะถึงตัว คุณเปรมจึงหยุดมองดูคุณเชย พอจําไดคุณเปรมก็กมตัวยกมือไหว แลวพูดวา "แหมคุณเชย ผมนึกวาใครเสียอีก หายไปนานทีเดียว" คุณเปรมกับคุณเชย ทักทายปราศรัยกันอยางญาติที่มิไดพบกันนาน อีกสักครูหนึ่งคุณเปรมก็ขอตัววาจะ ขึ้น ไปอาบน้ําผลัดผา พอคุณเปรมลับตัวไปบนตึก พลอยก็ถามพี่สาวขึ้นเบาๆวา "คุณเชยเห็นคุณเปรมเปนอยางไรบาง" คุณเชยเหลียวมามองดูหนานองสาวแลวตอบวา "ก็ไมเห็นเปนอยางไรนี่แมพลอย ดูเธอก็แข็งแรงดีอยู"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy201.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๑

Page 5 of 6

"ฉันไมไดหมายถึงอยางนั้น" พลอยอธิบาย "ฉันหมายวาคุณเชยสังเกตเห็นวา คุณเปรมเปลี่ยนไปกวา แตกอนมากไหม" "ก็ดูมีอายุขึ้น" คุณเชยตอบ "แตฉันกลับดูวากระปรี้กระเปราเปนหนุมกวาแตกอน" "นั่นซีที่ฉันอยากรู" พลอยพูด "ฉันนึกวาฉันเห็นไปคนเดียว บางเวลาฉันดูๆคุณเปรมแลวก็แปลก รูสึกวา เธอชักจะหลุกหลิก ไมเปนผูใหญหนักแนนเหมือนเมื่อกอน หรือฉันจะแกลงไปเองก็ไมรูได" คุณเชยหัวเราะแลวก็ตอบวา "อยาเพิ่งนึกมากไปนักเลยแมพลอย มีผัวแข็งแรงไมเจ็บไมไขกลับไมชอบ เรื่องกิริยาทาทางนั้น ฉันดูคนเดี๋ยวนี้เขาเปลี่ยนไปทั้งนั้น ไมเหมือนเมื่อเรายังเด็กๆ แตนั่นแหละเวลามันลวงไป ทุกวัน อะไรๆก็ตองเปลี่ยนไปตาม เราจะไปนึกวาทุกอยางจะตองอยูเหมือนเกานั้นไมได แมพลอยเปนคนชอบ คิดมาาแตเด็กๆ ก็ดีหรอก แตบางเวลามันก็ทําใหวิตกกังวลไปได ตองทําใจเฉยๆเสียบาง" คุณเชยกลับไปแลว พลอยรูสึกโลงใจขึ้นมากเพราะดีใจที่ไดพบคุณเชย พรอมกับไดรับคํามั่นสัญญา จาก คุณเชยวาจะกลับมาหาอีกบอยๆ ขณะเดียวกันก็ไดรับคํามั่นใจจากคุณเชยอีกหลายอยาง ในเรื่องทั่วๆไป ซึ่งทํา ใหพลอยสบายใจขึ้น คนอีกคนหนึ่งที่พลอยยังสนิทสนมอยู แตไดพบนานๆครั้งก็คือชอย ถึงแมวาเสด็จจะสิ้นพระชนมไปแลว ชอยก็คงอยูที่เดิม คือที่ตําหนักในวังกับคุณเสาย หลังจากเสด็จสิ้นพระชนม ขาหลวงสวนมากที่มีญาติพี่นอง ตางก็กลับไปอยูบาน บางคนก็ไปรับราชการเปนพนักงาน หรือทํางานอื่นๆในพระราชฐาน แตคุณสายยังคง อยู ที่ตําหนักสองคนกับชอยในหองเกา ชั้นบนของตําหนักนั้นปดเงียบ แมแตชั้นลางก็ปดไวเปนสวนมาก ทุกครั้งที่ พลอยเขาไปเยี่ยมคุณสายในวัง พลอยจะตองใจหายดวยคิดถึงความหลังเสมอ สถานที่เคยรูจักคุนเคย มาแต กอนเปนเครื่องเตือนใจ ใหนึกถึงความหลังที่ผานไปแลว ไมมีวันกลับมาอีก ชอยยังคงอยูกับคุณสาย ยังคงพูดจา ตลกคะนองเหมือนเกา แตถึงอยางนั้นพลอยก็สังเกตไดวา ชอยมีอาการทรุดโทรมลงไป เหมือนกับบรรยากาศ ทั่วไปในวัง แมแตเวลาที่ชอยกําลังนั่งหัวเราะพูดคุยอยางสนุกสนาน พลอยก็เห็นได ในแววตาของชอยวามีความ ไมแนนอนใจในอนาคต ปรากฏอยูในนั้น ชอยเปลี่ยนสภาพจากสาวเปนผูใหญ สวนคุณสายนั้นเปนคนแกลงไปจริงๆ ตองคอยพึ่งพาอาศัยชอย ผู เปนหลาน และมีหลายครั้งที่พลอยเห็นชอย ปฏิบัติกับคุณสายเหมือนกับวาคุณสายเปนเด็ก ชอยปรารภกับ พลอยเสมอ ถึงการเปลี่ยนแปลงตางๆ ที่มีอยูรอบตัว และวันหนึ่งชอยก็พูดวา "พลอยจําไดไหม ฉันเคยบอกพลอยไวแลวที่สวนดุสิตวา ของตางๆที่เราเคยเห็นจะตองหมดไปวันหนึ่ง" "จําไดสิชอย" พลอยตอบ "แลวอยางไร" "เดี๋ยวนี้ก็หมดไปแลว" ชอยวา "อะไรตออะไรก็ไมเหมือนแตกอน ฉันเองก็ยังตกอยูที่นี่เอง ไปไหนไมรอด เห็นจะตองอยูอยางนี้ไปจนตาย เหมือนกับคนเกาๆ ที่เราเคยเห็นอยูในวังมาตั้งแตเด็กๆ" "ชอยก็ยังไมแกอะไรหนักหนา..." พลอยพูดไมทันจบชอยก็พูดสอดขึ้นวา "ถาพลอยนึกวาฉันคิดจะออกไปมีผัวเหมือนคนอื่นเขาก็เลิกคิดเสียเถิด ฉันไมทําหรอก เพราะอยางหนึ่ง ฉันทิ้งคุณอาไมได อีกอยางหนึ่งฉันมันเหมือนนกที่เขาเลี้ยงไวในกรงจนเคย ถึงจะปลอยจากกรงก็ไปไมรอด และ ถาจะวากันไปจริงๆ คนอยางฉันถึงจะคิดเรื่องอยางนั้นก็ชาไปเสียแลว เมื่อยังสาวๆก็นึกวาตัวดีไมคิดงอใคร ไม มองใคร แตพอถึงเดี๋ยวนี้ ก็คงจะไมมีใครเขามอง จริงๆนะพลอย" ชอยหยุดนิ่งครูหนึ่ง แลวพูดวา "ฉันมานึกดู เดี๋ยวนี้ก็ดีใจที่เมื่อยังเปนเด็กและตอนเปนสาว ฉันชอบทําบุญกับคนแกไวมาก ตอไปเวลาฉันแกลง จะไดมีคนมา ทําบุญกับฉันบาง" ชอยเปนคนที่ใจแข็งตั้งแตยังเปนสาวมาจนอายุมาก ไมยอมบอกเพื่อนฝูงใหรูถึงความทุกขยากลําบาก ของตัว และทุกครั้งที่พลอยถามถึงความรูของชอยที่มีตอชีวิต ชอยก็มักจะเห็นเปนเรื่องขบขัน ชวนพูดเลนเสีย เสมอไป พลอยจึงไมสามารถจะรูความรูสึกนึกคิดอันแทจริงของชอยได และนานเขาเนื่องจากธุระ ทางบานของ พลอยมีมากขึ้นกวาเกา ความสัมพันธระหวางชอยกับพลอยก็เริ่มจะหางกันออกไป พลอยไมมีเวลา ที่จะเขาไป หาชอยในวังบอยนัก เพราะเสด็จก็สิ้นพระชนมเสียแลว ชอยก็ไมมีโอกาสที่จะออกมาหาพลอยที่บาน การพบปะ ระหวางคนทั้งสองถึงจะมี ก็เปนแตนานๆครั้งหนึ่ง ชีวิตของพลอยในระยะตนแผนดินที่สอง เปนชีวิตแหงความสงบ พลอยไดแตนั่งดูแลบานใหเรียบรอย และดูลูกซึ่งเปนเด็กผูชายทั้งสามคนเติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ ชีวิตของสตรีในสมัยนั้นดูเหมือนจะถอยไปอยูขางหลัง มิไดรุงเรืองออกหนาออกตาเหมือนกับแผนดินกอน งานราชการตางๆทีมีในระยะนั้นก็ดูเหมือนจะเปนเรื่อง ของ ผูชายเสียเปนสวนมาก ผูหญิงไมมีสวนเกี่ยวของเทาไรนัก คุณเปรมมักจะไปงานการตางๆแตผูเดียว ไมชักชวน พลอยใหไปดวย ซึ่งพลอยก็มิไดรูสึกเดือดรอน เพราะใจจริงนั้นยินดีที่จะอยูกับลูกที่บานมากกวา ระยะเวลาลวงไปทุกวัน กําหนดที่พลอยจะตองคลอดบุตรคนที่สามนั้นก็มาถึง การตระเตรียมตางๆนั้น ดู เหมือนเปนของงายสําหรับพลอย เพราะไดเคยคลอดบุตรมาแลวถึงสองคน จึงยอมจะรูดีวาสิ่งใดควรไมควร พลอยนึกถึงการคลอดบุตรอยางอารมณเฉยๆ ปราศจากความตื่นเตนเกรงกลัว บุตรคนที่สามนี้พลอยมีความ รูสึก อยูแตเพียงอยางเดียว คือความปรารถนาอันแรงกลาขอใหไดลูกเปนผูหญิง และนึกภาวนาใหไดดั่งที่ตั้งใจ อยูทุกขณะ คุณเปรมเคยใหคําแนะนําเกี่ยวกับการคลอดบุตรคราวนี้ วาควรจะไปฝากทองกับหมอฝรั่ง แตพลอย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy201.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๑

Page 6 of 6

ไมยอมเปนเด็ดขาด เพราะจะใหมีผูชายมาอยูในหองเวลาคลอดบุตรนั้น พลอยเห็นวาเปนไปไมได และอยางไรก็ ตามการรักษาพยาบาลแบบหมอฝรั่งนั้น พลอยเห็นวาเปนของนากลัวอยูหนักหนา ไมสามารถขมใจ ใหคลอย ตามคําแนะนําของคุณเปรมได นอกจากนั้นพลอยก็ไดคลอดบุตรและอยูไฟตามแบบโบราณมาแลว ถึงสองคน โดยมิไดมีการขลุกขลักหรืออันตรายอยางใด เมื่อพลอยยืนกรานไมยอมเปลี่ยนแปลง คุณเปรมก็ตองนิ่ง ไมคาด คั้นอะไรตอไปอีก สิ่งที่พลอยคาดไมถึงก็คือ ความเจ็บปวดทรมาณอยางมากที่สุด เมื่อเวลาคลอดบุตรนั้นมาถึง ทุกอยางที่ เคย ผานมาอยางงายดายในคราวกอนๆ กลับกลายเปนยาก นับแตขณะแรกที่รูสึกเจ็บ ความเจ็บนั้นก็รุนแรง แปลกประหลาดกวาคราวกอนๆ พลอยตองนอนทรมาณอยูวันหนึ่งกับคืนหนึ่งเต็มๆ รุงขึ้นอีกวันหนึ่งก็ยัง ไมมี ทาทางที่จะพนจากการทรมาณนั้น หมอตําแยที่รับมาก็ชวยเหลืออะไรไมได น้ํามนตน้ําสะเดาะจากที่ไหน ที่วาดี ก็มีคนไปหามาใหแตก็ไมไดผล หนักเขาผูหญิงหลายคนรวมทั้งหมอตําแยก็เริ่มรองไห สวนพลอยนั้นนอน รับ ความเจ็บปวดที่เพิ่มหนักขึ้นทุกที กําลังกายดูเหมือนจะออกจากรางไปเรื่อยๆ เสียงนางพิศซึ่งเดี๋ยวนี้ แกมาก แลวรองไหเบาๆ และภาวนาเบาๆอยูใกลๆ แตพลอยก็ไมมีกําลังที่จะเบิกตามองดู ในที่สุดพลอยก็ไมมีสติ ที่จะ กําหนดจดจําอะไรไดมาก รูแตวาความเจ็บปวดนั้นมิไดสรางซาลงไป หูอื้อทั้งสองขางไมไดยินเสียงใดถนัด ตาที่ หลับอยูนั้นก็เห็นแตแสงสีเขียวสีแดง เหมือนกับผีพุงไต ตลอดเวลานี้พลอยไดแตนึกวาจะตองทนตอไป เพราะจะ ไดลูกผูหญิง และความเจ็บปวดที่ผิดกวาคราวอื่นๆนี้ อาจเปนสัญญาณบอกวา ลูกคนที่จะเกิดคนนี้ จะตองเปน ผูหญิงจริงๆ อยางที่นึกอยูเสมอ แตความเจ็บปวดนั้นเพิ่มขึ้นมากมายเกินกวาที่พลอยจะทนได พลอยหมดสติไปนานเทาไรก็ไมรูตัว มา ฟนตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่งก็เปนเวลากลางคืน พลอยรูตัววานอนอยูบนเตียง ในหองนอนที่จุดไฟสวาง ความเจ็บปวด ตางๆหายไปสิ้น คงเหลือแตความออนเพลียและความกระหายน้ํา "น้ํา" พลอยแข็งใจพูดขึ้นเบาๆ "ขอน้ํากิน" และทันใดนั้น คุณเปรมก็ถือกาแกวใสน้ําเขามาถึงตัว และ คอยๆ รินน้ําเขาปากของพลอย ฝรั่งคนหนึ่งตัวสูงมีหนวดเครา เดินเขามายืนยิ้มกับพลอย แลวจับขอมือตรวจ ชีพจร พลอยเหลือบมองดูตาคุณเปรม อยากจะถามเรื่องราวใหรูความ คุณเปรมก็รูใจกระซิบบอกวา "หมอฝรั่ง ฉันไปรับมาเอง ถาไมไดแกก็จะลําบาก เพราะเด็กไมออก ตองใชเครื่องมือ เคราะหดีเหลือเกิน ที่ไปตามเขามาทัน แมพลอยนอนนิ่งๆเอาแรงเถิด" "หมอฝรั่งคอยๆวางขอมือพลอยลงบนที่นอนขางๆตัว ยิ้มพยักหนากับพลอยแลวก็หันไปพูดกับคุณเปรม สองสามคํา คุณเปรมหันมาบอกวา "หมอแกบอกวาไมเปนไรแลว แมพลอยนอนเสียอีกตื่นก็จะคอยยังชั่วขึ้นมาก" "แลวลูก" พลอยกระซิบถามดวยเสียงที่แผวเบา คุณเปรมยิ้มอยางพอใจตอบวา "เปนผูหญิง...แข็งแรงสบายดี สมกับที่แมพลอยอยากไดทีเดียว" พลอยรูสึกวารางกายอบอุนขึ้นทันที ดวยความสุขและความพอใจ ถอนหายใจยาวอยางมีความสุข แลว พูดวา "ประไพลูกแม" แลวอีกครูหนึ่งก็หลับไปดวยความเหนื่อยออน พลอยมารูทีหลังวาหลังจากประไพเกิด แลว พลอยไมสามารถจะมีลูกไดอีกตอไป เพราะการคลอดบุตรครั้งนี้ รางกายของพลอยถูกทรมานจนบอบช้ํา เกินไป

http://www.geocities.com/siamstory/ploy201.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๒

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๒ บทที่ ๒ หลังจากประไพเกิด พลอยก็ตองปวยไปอีกหลายเดือน จนรางกายนั้นผายผอม และรูตัววามีกําลังวังชา นอยลงไปกวาแตกอน ทั้งหมดนี้นางพิศซึ่งคนทั้งบานเรียกวายายพิศ เพราะมีอายุมากขึ้นใหสาเหตุวา "เปน เพราะคุณออกคุณประไพแบบฝรั่ง ไมไดอยูฟนอยูไฟ เลือดมันเลยทําเอา" แตพลอยก็รูดีวา เพราะคุณเปรม ไป รับหมอฝรั่งมาทัน ตนจึงไดรอดชีวิตมาได ระหวางที่พลอยเจ็บนั้น คุณเปรมก็เอาใจเปนอยางดี วันหนึ่งๆ ก็มานั่ง เปนเพื่อนอยูขางที่นอนเปนเวลานานๆ จนพลอยเห็นวาในใจจริงนั้น คุณเปรมก็ยังเปนคุณเปรมคนเกา มิไดหาง เหินไปอยางที่เคยคิดไวครั้งหนึ่ง คุณเปรมทําทุกอยางที่จะเอาใจพลอย ไมมีสิ่งใดที่จะยากลําบากเกินไป ถึงกับ จะหามาใหไมได ในเมื่อพลอยอยากได นอกจากคุณเปรมแลว พี่นองเพื่อนฝูงที่สนิทก็มิไดทอดทิ้ง ชอยออกมา เยี่ยมจากในวัง และออกมานอนคางเปนเพื่อน พอเพิ่มก็มาเยี่ยมเกือบทุกวัน และทั้งคุณเชยและหลวงโอสถ ก็ หมั่นมาเยี่ยมเยือน พรอมทั้งแนะนําวิธีรักษา ตลอดจนหยูกยาตางๆ ดวยความเมตตาของคนที่พลอยรัก และ ประกอบกับเวลาอันเปนยารักษาโรคไดทุกชนิด พลอยก็คอยๆกลับฟน คืนดีขึ้น ถึงจะเปนคนที่ไมแข็งแรงดั่งเกา ก็แข็งแรงพอที่จะอยูกินและดําเนินชีวิตไดตามปกติ พลอยยิ่งหายจากปวยขึ้น ความรูสึกที่วาคุณเปรมเริ่มจะหางเหินจากตนนั้น ก็กลับเริ่มมีขึ้นอีก ถาจะดู เพียงผิวเผินภายนอก คุณเปรมเคยปฏิบัติตอพลอยอยางไร ก็คงทําอยางนั้น กิจการภายในบาน คุณเปรมมอบ ใหแกพลอยโดยเด็ดขาด มิไดมายุงเกี่ยวไตถาม และทุกครั้งที่อยูดวยกัน คุณเปรมก็พูดจาดวย เปนอยงดีเหมือน เคย แตพลอยก็ยังอดนึกมิไดวา คุณเปรมขาดอะไรบางอยางที่เคยมีมาแตกอน สมัยหนึ่งพลอยรูสึกวา ตนเคย เปนยอดแหงความรักความปรารถนาของคุณเปรม ไมมีสิ่งใดที่สําคัญไปกวา และทุกอยางในชีวิตเปนเพียง อุปกรณหรือสิ่งประกอบ ที่จะชวยใหชีวิตของคุณเปรมรวมกับพลอยดําเนินไป โดยราบรื่น ไมมีความสําคัญเกิน ไปกวานั้น เดี๋ยวนี้ถึงแมวาพลอยจะรูตัววา ยังไมหมดความสําคัญสําหรับคุณเปรม แตก็ตองยอมรับวา มีสิ่งอื่นๆ อีกมากมายหลายอยาง ที่มีความสําคัญไลขึ้นมา สมัยกอนพลอยรูจักหนาที่การงาน ของคุณเปรม และราย ละเอียดเกี่ยวกับกิจการตางๆ ที่คุณเปรมตองทําไดดี เพราะเคยเห็นมาดวยตนเอง และคุณเปรมเมื่อยังหนุม ก็ มักจะนําเรื่องราวและปญหาตางๆ มาปรารภหรือเลาใหฟงทํานองขอความเห็น จากพลอยเสมอ ตราบใดที่คุณ เปรมยังทําอยางนั้นอยู พลอยก็เห็นวาคุณเปรมยังสนิทสนม และมีความสัมพันธ กับตนอยางใกลชิดแนนแฟน แตฐานะหนาที่ราชการของคุณเปรมเปลี่ยนแปลงไป และชีวิตภายนอกบาน ของคุณเปรมก็กวางขวางยิ่งขึ้นกวา เกา พลอยมิไดมีโอกาสทราบรายละเอียดเหลานี้ เพราะทุกอยางเปนของใหม เกิดขึ้นในแผนดินใหม คุณเปรมก็ จะพูดแตเพียงวา การที่จะตองใชชีวิตนอกบานมากกวาเดิมนั้นเปนผลจาก ความจําเปนที่ตองเขา "สมาคม" ซึ่ง นับวาเปนคําใหมสําหรับพลอย คุณเปรมอธิบายวา คนในสมัยนี้ถาจะกาวหนา รุงเรืองตอไปในชีวิต ก็จําเปนตอง เขา "สมาคม" เปน และการเขา "สมาคม" ของคุณเปรมเทาที่พลอยทราบก็คือ การกลับบานดึกๆ โดยมีกลิ่น สุรากลิ่นควันบุหรี่ติดมาดวย หรือมิฉะนั้นก็ไมกลับเลย การพกเงินออกจากบานไป ครั้งละมากๆ เพื่อเลนการ พนันในสมาคมนั้น แลวก็กลับมากระเปาเปลา ตลอดจนการบําเพ็ญตน ดวยความหรูหราโออาตางๆ พลอยรักคุณเปรมมากเกินไปเสียแลวที่จะขัดใจในสิ่งเหลานี้ แตความรักความปรารถนาดีตอคุณเปรมนั้น เอง ทําใหพลอยรูสึกนอยใจเปนครั้งคราว เมื่อคุณเปรมแสดงอาการวาไมสนใจตอตน ในขณะที่อยูดวยกัน พลอย ก็รูสึกวาความคุนเคย ทําใหคุณเปรมเห็นตนเปนเพียงโตะเกาอี้ หรือของประดับบานชิ้นหนึ่ง ซึ่งถึงแมจะจําเปน และขาดเสียมิได ก็ยังเปนเปนของถาวรไมเสื่อมสูญ ไมตองทะนุถนอมเทาไรนัก บางครั้งขณะที่นั่งคุยกันอยูสอง คน พลอยพูดจาไตถามเรื่องราวตางๆ คุณเปรมก็มักจะใหความสนใจ เพียงแตในระยะแรกๆที่ไมนานนัก แลว คุณเปรมก็จะปลอยใจไปนึกถึงเรื่องอื่น นั่งเหมอมองใชความคิด พลอยจะพูดวาอยางไรก็ไมไดยิน ทําใหพลอย ตองตั้งปญหาถามซ้ําๆหลายหน ถาอยากรูเรื่อง หรือถาเรื่องที่กําลังพูดอยูไมสําคัญนัก พลอยก็ตองนิ่งหยุด พูดลงกลางคัน ปลอยใหคุณเปรมนั่งนึกอะไรตออะไร ไปคนเดียว พลอยจะไมนึกเปนอยางอื่นไปไดเลย ถาหาก คุณเปรมยกเอาความสนใจจากตนไปใหแกลูก และถาคุณเปรมทําอยางนั้น บางทีพลอยก็จะพอใจ แตคุณเปรมก็ หาทําดังนั้นไม เรื่องเกี่ยวกับลูก ก็เปนเพียงอีกเรื่องหนึ่งของเรื่องหลายเรื่องในบาน ที่คุณเปรมมอบใหแกพลอย เปนสิทธิขาด ไมเขามายุงเกี่ยว ซึ่งทําใหพลอยตองรูสึกนอยใจแทนลูกเพิ่มเขาไปอีก ในระยะเวลานี้ เปนเวลาที่ลูกทุกคนกําลังนารักนาเอ็นดู ประไพเปนเด็กที่เกิดยากก็จริง แตเมื่อเกิดมา แลว ก็เปนเด็กที่เลี้ยงงายไมออนและไมขี้โรค ยิ่งประไพโตขี้น หนาตาก็ประพิมพประพายไปทางคุณเปรม แตก็ ยังไดรับเอาความงามจากพลอยผูเปนมารดาไวมาก เมื่อประไพอายุไดสองขวบ ประไพเปนเด็กนารักนาเอ็นดู ใครเห็นใครตองรัก เพราะชางฉอเลาะไปทุกอยาง พลอยซึ่งเคยเปนเด็กไมชางพูดมักจะนึกเสมอวา ประไพคงจะ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy202.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๒

Page 2 of 5

ไดนิสัยชางคุย ไปจากมารดาของตนผูเปนยายของประไพ ตาอนกับตาอั้นมีอายุไลกัน ขณะนั้นเริ่มเขาโรงเรียน ไดแลว เชาขึ้นก็ไปโรงเรียนดวยกัน และเย็นลงก็กลับดวยกัน และเลนกันอยูดวยกัน ไมมีทางหางกันได ตาออด ยังเด็กเกินไปที่จะไปโรงเรียน แตพลอยก็เริ่มสอนหนังสือใหที่บาน ประไพเห็พลอยสอนหนังสือตาออด ก็เขามา นั่งเรียนดวย เพราะเห็นเปนของเลนที่สนุก ซึ่งพลอยก็มิไดหามปราม ประไพจึงเปนเด็กที่รูหนังสือไดเร็วผิดกับพี่ นองอื่นๆ ถาจะวาไปพลอยรักเด็กทุกคนเทาเทียมกัน และพลอยรักษาความเปนธรรม ไมยอมใหเด็กจับไดวา ลําเอียง เปนอันขาด แตถึงอยางนั้น พลอยก็ยังมีความรูสึกสําหรับเด็กแตละคนแตกตางกัน ตาอนผูที่มิใชลูกแท นั้น พลอยใหความสงสารมากกวาลูกคนอื่นๆ และดวยความรูสึกที่วาตาอนมิใชลูกของตนนั้นเอง พลอยพยายาม ที่ปฏิบัติตอตาอนอยางเที่ยงธรรม ไมใหนอยหนาลูกคนอื่นไดเลย ปญหาเรื่องตาอน เปนลูกของใครนั้น ไมมีใคร พูดถึงเลย ตาอนเรียกพลอยวา "แม" และรักพลอยเปนมารดาบังเกิดเกลา สวนนองตาอนทุกคน ก็ถือวาตาอน เปนพี่ชายแมเดียวกัน ไมเคยมีใครถาม หรือแสดงความสงสัยวาจะเปนอยางอื่น ตาอนเปนเด็กวางาย และ พยายามเอาใจพลอยทุกอยาง จนบางครั้งพลอยตองเตือนตัวเอง มิใหลําเอียงไปขางตาอน สวนตาอั้นลูกหัวป ของพลอยนั้นเสียอีก กลับมีนิสัยดื้อมุทะลุ เวลาโกรธหรือโมโห ก็แสดงอาการรุนแรงไดมากๆ ทําใหพลอยตอง หนักใจ ตองคอยอบรมดัดนิสัยอยูเสมอ สวนตาออดคนรองลงมานั้น มีนิสัยในตัวบางอยาง ที่ทําใหพลอยตองรัก เปนพิเศษ ทั้งที่พยายามซอนความรูสึกนั้นไว เพราะตาออดเปนเด็กมีอารมณขัน พูดจาดวยถอยคําแปลกๆ และ ของที่ตาออดเห็นวาขบขันเปนที่สุด ก็คือตัวของตัวเอง พลอยสังเกตเห็นความแตกตางระหวางเด็กผูชายสามคน นี้ไดชัด ตาอนนั้นเปนคนชอบเสียสละ ถาตาอนมีของอยางใดนองอยากได ตาอนก็รีบให ทั้งนี้ใชวาตาอนจะไม เสียดาย แตที่ใหเพราะตาอนขอบใหของ แกคนอื่นมากกวาที่จะเก็บไวเอง สวนตาอั้นนั้นเปนคนชอบของๆคนอื่น ถาของอยางใดที่มีเหมือนกันหมด ตาอั้นก็มักจะไมสนใจ แตถาใครมีสิ่งใดที่ตาอั้นไมมี ตาอั้นก็อยากจะไดสิ่งนั้น ขึ้นมาทันที แตตาออดนั้นแปลกไปอีกอยางหนึ่ง ที่ไมยินดียินรายในสิ่งใดมากนัก ตาออดมีของสิ่งใดอยู ถาพี่นอง จะมาหยิบเอาไปเลนเสีย ตาออดก็ไมเสียดายหรือหวงหาม แตจะไปหาของอื่นเลนตอไปอีกไดทันที โดยไมกังวล ตอของที่คนอื่นเขามาเอาไปเสียแลว ถาหากใครจะถามน้ําใจจริงของพลอย พลอยก็คงจะตอบวา ใจนั้นจดจออยูที่ประไพบุตรสาวมากกวาคน อื่น เพราะประไพเปนบุตรคนเล็กที่สุด และเปนลูกสาวคนเดียว เปนลูกคนสุดทายที่พลอยจะมีไดในชีวิตนี้ เหตุ เหลานี้เปนเหตุธรรมดา ที่ทําใหพลอยตองทะนุถนอมประไพมากกวาคนอื่น แตเหตุสําคัญนั้น อยูที่ประไพเปน ผูหญิง พลอยมองเห็นตัวของตัวเองนั้นเริ่มชีวิตใหม เริ่มมีวิญญาณใหมอยูในตัวของประไพนั้นเอง และมองดู ความสุขความทุกขและความตองการตางๆ ตามประสาเด็กของประไพอยูดวยความเขาใจ และความเห็นใจเปน อยางยิ่ง แตกอนพลอยเคยมีความคิดความฝนสําหรับตัวเอง พลอยนึกอยากจะทําโนนทํานี่ หรืออยากจะเปน อยางนั้นอยางนี้ในอนาคต แตตั้งแตประไพเกิด พลอยก็ไมมีความคิดความฝนอยางนั้น สําหรับตัวเอง ความคิด ความฝนสําหรับอนาคตทุกอยาง เปนของประไพโดยสิ้นเชิง และถาหากวาพลอยจะทําได พลอยก็จะตองทําให ประไพไดรับความสุขในชีวิต ยิ่งกวาที่ตนเคยไดรับ และประไพจะตองไดของทุกอยาง ที่พลอยเคยอยากไดแลว ไมได พลอยภูมิใจอยูเสมอวาเด็กทุกคนรักตน และสนิทสนมกับตนโดยไมมีอะไรปดบัง มีสุขก็วิ่งมาหา มีทุกขก็ วิ่งมาหา การกระทําของลูกๆ ทําใหพลอยไดรับความสุข แตสิ่งที่พลอยตองการมากที่สุดก็คือ อยากใหคุณเปรม เขามารับความสุขนั้นดวย เพราะความสัมพันธระหวางคุณเปรมกับลูกๆ ไมเปนไปอยางที่พลอยตองการ ถาจะ วาไปวาเดี๋ยวนี้พลอยเขาไมถึงคุณเปรม เด็กๆผูเปนลูกยิ่งเขาไมถึงมากกวา เด็กทุกคนรักและบูชาคุณเปรม ใน ฐานะบิดาบังเกิดเกลา แตคุณเปรมก็ไมมีเวลาที่จะมาทําใหเด็กๆเหลานั้น เขาใกลชิดไดสนิทสนม บางเวลา นานๆครั้ง คุณเปรมก็นึกรักลูกขึ้นมา และเริ่มพูดจาปราศรัยดวย แตเด็กๆก็แสดงกิริยาขวยอาย เพราะขาด ความคุนเคย ทําใหคุณเปรมหมดความสนใจ ไมพยายามที่จะติดตออีกตอไป พลอยพยายามสอนลูกทุกคนใหรัก คุณเปรม และสนิทสนมกับคุณเปรม เด็กทุกคนก็ตั้งใจฟงและรูสึกวาอยากจะทําตาม แตพอถึงเวลาเขาจริง คุณ เปรมก็มักจะไมอยูในอารมณ ที่จะเลนหัวกับเด็ก และไมมีความเพียรที่จะเขาถึงหัวใจเด็กได ทําใหพลอยตอง รูสึกผิดหวังอยูบอยๆ และบางครั้งก็รูสึกทอถอย ครั้งหนึ่งพลอยเตือนคุณเปรมอยางเกรงใจวา "คุณเปรมอยาหาวาฉันสอนเลย แตคุณเปรมควรจะใหลูกๆ แกไดเขาใกลชิดตัวคุณเปรมเสียบาง เด็กๆจะ ไดไมวาเหว" "แมพลอยคิดมากไปตามเคย" คุณเปรมพูดตัดบท "เด็กเทานี้จะไปมีปญญาคิดอะไร โตขึ้นอีกหนอย ก็คุน กับฉันไปเอง" "แตคุณเปรม" พลอยทวง "ธรรมดาของเด็กก็อยากอยูใกลพอแมบาง ฉันเคยเปนเด็กมาฉันรูดี" คุณเปรมหัวเราะแลวตอบวา "ก็เด็กๆพวกนี้มีแมพลอยอยูแลวมิใชหรือ" "ฉันเปนแตเพียงแม เปนผูหญิง" พลอยตอบ "บางทีเด็กก็ตองการอยูกับพอที่เปนผูชายเหมือนกัน ถาจะ พูดกันจากใจเด็กแลว พอดูเหมือนจะสําคัญกวาแมเสียอีก ในระหวางที่เด็กกําลังจะเติบโตขึ้น เด็กที่จะติดแม ก็

http://www.geocities.com/siamstory/ploy202.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๒

Page 3 of 5

เปนแตเวลาที่ยังเปนเด็กเล็กเทานั้น" "ฉันถามจริงๆเถอะแมพลอย" คุณเปรมพูดดวยเสียงที่ดูเหมือนจะแสดงความรําคาญ "ที่แมพลอยพูดนี้นะ เพราะเด็กๆมันบนหรือแมพลอยพูดเอาเอง" พลอยรูทันทีวาไมมีทางจะพูดกับคุณเปรมไดตอไปอีก ถาขืนพูดไปก็อาจจะตองเปนปากเปนเสียงกัน เปลาๆ พลอยพูดระงับความเสียวา "ฉันคิดเอาเองแหละคุณเปรม บางทีฉันก็จะคิดมากไปจริงๆอยางคุณเปรมวา คุณเปรมอยาถือสาเลย" แลวพลอยก็ชวนคุยถึงเรื่องอื่น ในใจนั้นรูสึกผิดหวังอยางมาก สิ่งที่คุณเปรมสนใจมากกวาลูกและกวาอะไรทั้งหมด ก็ดูเหมือนจะไดแกมา คุณเปรมไมเคยมีทีทาวา จะ รักการโลดโผนมาแตกอน แตพอผลัดแผนดินใหม โปรดใหตั้งกองเสือปาและเสือมาขึ้น คุณเปรมก็เขาเปนเสือมา แตแรกพลอยก็เห็นดวย และดีใจที่คุณเปรมเปนเสือมา เพราะพลอยเห็นวาการสนองพระราชนิยม เปนสิ่งที่คุณ เปรมควรจะทํา และเครื่องแบบเต็มยศเสือมานั้นก็จะดูสวยงาม มีสงากวาเสือปาเหลาอื่นๆ แตการเขาเปนเสือมา มาสะกิดเอาบางอยางที่เคยซอนอยูในตัวคุณเปรม ใหปรากฏออกมา บางทีคุณเปรม จะไมเคยไดโอกาสที่จะไดมี สิ่งที่ตนรัก และสนใจจริงๆมาแตกอน พอไดเปนเสือมาไมนานนัก คุณเปรมก็ขยายโรงมา ที่เคยเลี้ยงเทียมรถที่ อยูในบาน แลวซื้อมาเทศมาสองตัว จางคนเลี้ยงดูแลมาเหลานั้น เปนพิเศษ วันไหนที่คุณเปรมกลับบานแตวัน คุณเปรมก็มักจะขึ้นมาออกไปฝกแตเชามืดทุกวัน ควบขับไปไกลๆ ตอนแรกพลอยก็มิไดรูสึกหวงใยเทาไรนัก เพราะนึกไมถึงวาจะมีอันตรายอยางใดบาง แตวันหนึ่งคุณเปรมกลับบาน มีรอยถลอกปอกเปกและฟกช้ําดําเขียว หลายแหง และแขนเดาะไปขางหนึ่ง ตั้งแตนั้นมา พลอยก็เริ่มไมสบายใจ รูสึกเปนหวงทุกครั้งที่คุณเปรมขี่มา ออกจากบาน แตถึงแมพลอยจะเตือนคุณเปรมใหระมัดระวังตัว คุณเปรมก็กลับหัวเราะเห็นเปนเรื่องขบขัน และ มักจะคุยใหพลอยฟงถึงวิธีขี่มาโลดโผนตางๆ ทําใหพลอยตองเพิ่มความรูสึกหวาดเสียวยิ่งขึ้นไปอีก พลอยนั่งดูลูกของตนโตขึ้นทุกวัน วิชาความรูที่เรียนจากโรงเรียน ถึงจะไมเกงกวาเด็กอื่นก็นับวาอยูใน ขั้นดี วันหนึ่งตกบายพลอยนั่งอยูที่สนามหนาตึก เด็กๆวิ่งเลนกันจนเหนื่อยแลว ก็มานั่งลอมกันอยูรอบตัว พลอย ถามลูกๆขึ้นวา "ตาอน ตาอั้น บอกแมสักหนอยเถิดวา โตขึ้นอยากจะเปนอะไร" "อนอยากเปนทหาร" ตาอนตอบทันทีดวยน้ําเสียงที่แนใจ "เอาอีกแลว !" พลอยนึกอยูแตในใจ "อยากเปนทหารแลว โตขึ้นก็ตองออกจากบานจากชองไปอยูไกล" ปากนั้นพูดกับตาอนวา "ทําไมถึงอยากเปนทหาร" "อนชอบ" ตาอนตอบ "เปนทหารหัดแถวยิงปน แตงตัวสวย บางทีก็จะไดขี่มาอยางคุณพอ" พลอยถอนใจใหญ หันไปทางตาอั้นแลวถามวา "อั้นละ อยากเปนอะไร" ตาอั้นนิ่งคิดแลวตอบวา "อั้นไมอยากเปนทหาร ครูที่โรงเรียนบอกวา อั้นพูดเกงเถียงเกง ควรจะเปนหมอความ อั้นอยากเปนหมอ ความ" พลอยถอนใจใหญอีกครั้งหนึ่ง นึกในใจวา "หมอความ ! หากินตามโรงตามศาล ครูก็ชางไปเอาอะไร มา พูดกับเด็ก ไมนาเลย แตก็เอาเถิดยังดีกวาเปนทหาร !" พลอยหันไปทางตาออดแลวถามวา "ออดไดยินพี่เขาพูดแลววาโตขึ้นเขาอยากเปนอะไร แลวออดเลาอยากเปนอะไรบาง" "ออดไมอยากโต" ตาออดตอบแลวหัวเราะ "ออดไมโตเปนผูใหญ แลวก็ยังไมตองเปนอะไร ออดอยากอยู กับแมไปอยางนี้" พลอยตองหัวเราะ เมื่อไดยินตาออดพูด แตแลวก็ตองอธิบายใหตาออดฟงวา "ไมโตไมไดหรอกออด คนเราเกิดมาแลวก็ตองเปนเด็กกอน แลวก็ตองโตเปนผูใหญ เปนผูใหญแลวก็ตอง ทํางาน ตองทํามาหากิน..." "ออดรูแลว" ตาออดพูดสอดขึ้น "เปนผูใหญตองทํางาน ออดไมชอบทํางาน ออดจะเปนเด็กไปเรื่อยๆ" พลอยหมดปญญา ไมรูจะพูดอะไรอีกตอไป เสียงประไพพูดขึ้นวา "ไพอยากโต อยากโตแลวสวยเหมือนแม" ทําใหพลอยตองหันไปอุมประไพมากอดไว และรูสึกวา ตนเอง มีความสุขมาก ความสุขที่พลอยไดรับจากลูกๆนั้น มีมากมายสุดที่จะประมาณ พลอยเคยนึกหวนกลับไปถึง ความหวาด หวั่นพรั่นพรึงตางๆที่เคยมี เมื่อรูตัววาจะตองแตงงานกับคุณเปรม แลวก็ก็ตองยิ้มกับตัวเองทุกครั้ง พลอยรูตัววา ตนนั้นโชคดีเปนหนักหนา จริงอยูความรูสึกที่พลอยมีตอคุณเปรมนั้น มิใชความรูสึกที่พลอยเคยนึกวา จะมีตอ ผูชายที่ตนรัก แตเมื่อมาอยูดวยกันนานป พลอยก็มีความรูสึกวา คุณเปรมนั้นเปนสวนหนึ่ง ที่แยกออกไปไมได แตความสุขที่พลอยไดรับจากลูกๆนั้นมากมาย เกินกวาที่พลอยไดคาดฝนเอาไว ความทุกขความวิตกกังวล ตลอดจนความเหน็ดเหนื่อยจากการเลี้ยงลูกนั้นก็มีอยูเสมอ ตาอนเหยียดตะปู แลวเกิดเปนพิษที่บาดแผล เทา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy202.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๒

Page 4 of 5

บวมเปนไขตัวรอน รองไหกวนทั้งกลางวันกลางคืน ตาอั้นเปนอีสุกอีใส ตาออดเปนคางทูม ประไพเปนหัด ทุก ครั้งที่พลอยตองนั่งรักษาพยาบาล ไมเปนอันหลับอันนอน กวาลูกแตละคน จะหายเจ็บตัวพลอยเองก็แทบจะลม เจ็บลงไปตาม ตลอดเวลาที่ลูกคนใดเจ็บปวยลง พลอยก็อยากจะรับเอา ความไขทั้งหมดมาใสตัว ถาหากจะทําได ทุกครั้งที่ลูกคนใดรองขึ้นดวยความเจ็บปวด พลอยก็ตองสะดุงเหมือนกับ รูสึกในความเจ็บปวดนั้นดวยตัวเอง เคราะหดีที่พลอยมีหลวงโอสถของคุณเชยไวเปนที่พึ่ง ในยามที่เด็กๆปวยไข หลวงโอสถเปนคนที่ไมมีลูกของตัว เอง เพราะฉะนั้นจึงเปนคนที่รักเด็ก และถึงแมวาจะเปนหมอ ซึ่งตามปกติเด็กๆ จะตองกลัว หลวงโอสถก็มีวิธีทํา ใหเด็กๆนั้นหายกลัวได โดยพูดจาเลนหัวหยอกลอกับเด็ก และตามใจเด็กเสมอ ไมเครงครัด จนเด็กทุกคนรัก เรียกวา "คุณลุงหมอ" และถาคนใดเจ็บไขลง ทุกคนก็จะพากันดีใจ เพราะเปนโอกาสที่จะไดพบปะกับคุณลุง หมอไดบอยๆ หลวงโอสถไมเคยเรียกคายาหรือคารักษาเลย ลูกของพลอยคนใดเจ็บ หลวงโอสถก็หมั่นมาเยี่ยมเยือน รักษาพยาบาลจนกวาจะหาย และเมื่อหายแลวก็แลวกัน ไมเคยเอยถึงเรื่องคารักษา วันหนึ่งพลอยอดรนทนไม ไหว ตองออกปากพูดกับคุณเชยขึ้นวา "คุณเชย คุณหลวงของคุณเชยมารักษาหลานๆหายเจ็บไปตั้งหลายหนแลว เรื่องคาหยูกคายา ไมเคยพูด กันเลย จะวาอยางไรกัน" "แมพลอยจะใหฉันวาอยางไรเลา" คุณเชยถาม "ฉันเห็นวาควรจะคิดกันเสียบาง จะใหกันเปลาๆเรื่อยไป ก็ดูกระไรอยู เรื่องนี้มันเกี่ยวกับการทํามาหากิน ถาเปนลูกคนอื่นเขาๆก็คงจะใหอะไรบาง เด็กพวกนี้เปนลูกฉันจะรักษาเปลาๆ ฉันก็ไมสบายใจ คุณเชยลองพูด กับคุณหลวงดูบาง" "ฉันพูดไมไดหรอกแมพลอย" คุณเชยตอบเรียบๆ "ถาฉันพูดเขาก็คงโกรธฉันมาก แตถาฉันเปนแมพลอย ฉันก็จะไมพูดกับเขาเอง เพราะถาแมพลอยพูด เขาก็จะเสียใจ ทําใหคนโกรธหรือทําใหคนเสียใจนั้น ฉันเห็นวา ทําใหคนเสียใจ จะไมนาทํายิ่งกวาทําใหเขาโกรธ" "ฉันไมสบายใจจริงๆนะคุณเชย" พลอยพูดพลางถอนใจใหญ "ถาฉันยากจนก็แลวไปเถิด แตนี่อัฐฬส ฉัน ก็พอมี จะมานั่งทําใหกันเปลาๆอยางนี้ ฉันไมชอบ" "แมพลอย" คุณเชยพูดขึ้นเบาๆ หลังจากที่ไดมองหนาพลอยอยูนาน "แมพลอยอยาลืมวาเราเปนพี่นอง กัน แมพลอยคิดดูใหดีๆเถิด ถึงอยางไรฉันก็เปนพี่แมพลอย ลูกแมพลอยก็เปนหลานของฉัน เมื่อเปนหลานของ ฉัน ก็เปนหลานคุณหลวงโอสถ ธรรมดาคนเราพี่นอง ลูกหลานเจ็บไขก็ตองรักษาพยาบาล เงินทองนั้นมันไม เกี่ยวหรอก แมพลอย ถาแมพลอยยากจนฉันก็คงชวยเหลือใหเปลาๆ แตถึงแมพลอยจะมั่งมี แมพลอยก็ยังเปนพี่ นองกับฉันอยู เงินทองมันไมทําใหเปลี่ยนไปได ฉันก็ยังชวยเหลือแมพลอยอยูนั่นเอง เพราะเราชวยกันดวยใจรัก ไมไดชวยกันเพราะเงินทอง ถาฉันรับเงินจากแมพลอย ก็เทากับวาฉันกับแมพลอยเปนคนอื่น ไมใชญาติกัน ฉัน ทําไมได ถาพี่นองคนไหนจนแลวฉันไมนับญาติ แมพลอยก็คงจะวาฉันไมดี แตถาพี่นองคนไหนมั่งมี แลวฉัน กลับมาคิดเล็กคิดนอย ก็เทากับวาฉันไมนับญาติ ไมดีเทาๆกัน เพราะคนเราที่เปนพี่นองกันนั้น จะมีจนอยางไรก็ ยังคงเปนญาติกัน ถาไปเอาเงินมานับดวยเมื่อไร ญาติก็ขาดกันไป ฉันพูดอยางนี้แมพลอยคิดดู ใหดีๆเถิด เพราะพี่รักแมพลอยมาก พี่จึงไดกลาพูด" นานๆ คุณเชยจะเรียกตัวเองวาพี่สักครั้ง เมื่อพลอยไดยินแลว ก็ตองนิ่งลงทันที และคําพูดของคุณเชย นั้น ซึ้งเขาไปในหัวใจ ทําใหพลอยไดคิด และไมพูดเรื่องเงินทองกับคุณเชยอีกตอไป เพราะพลอยรูเสียแลววา ระหวางคุณเชยกับตน เงินเปนของที่สําคัญนอยที่สุด ระยะเวลาตอนตนของแผนดินใหม พลอยครองเรือนมาโดยปกติ จะมีทุกขมีสุขก็อยูแตในบาน เหตุการณ ภายนอก พลอยมิไดไปเกี่ยวของดวย วันหนึ่งคุณเปรมถามขึ้นลอยๆวา "แมพลอย อยางฉันนี้ถาจะเลนโขน จะเปนตัวอะไรดี" พลอยหัวเราะกิ๊ก แลวรองวา "ตายแลวคุณเปรม ! คุณเปรมจะไปเลนโขนที่ไหน" "อาว ! จริงๆนะแมพลอย ฉันวาฉันจะหัดโขน" คุณเปรมตอบหนาเฉยๆ "อะไรกันนี่คุณเปรม" พลอยถามอยางไมเชื่อหู "คุณเปรมจะหัดโขนหัดละครไปทําไม" "ในหลวงทานโปรด" คุณเปรมตอบสั้นๆ คําอธิบายของคุณเปรม ทําใหพลอยตองยอมจํานนดวยเหตุผล เพราะพลอยรูสึกดีวาเปนหนาที่ของ ขา ราชการในพระราชสํานัก จะตองปฏิบัติใหตองพระราชนิยม และพลอยก็เคยไดรับการอบรมมา ในทางที่จะตอง คิดวา พระราชนิยมนั้นเปนของถูกตองเสมอไป คนเชนพลอยไมอยูในฐานะ ที่จะแสดงความคิดเห็น อยางไรได คําอธิบายสั้นๆของคุณเปรม จึงเปนคําอธิบายที่เพียงพอ ไมจําเปนตองซักถามอยางไรตอไปอีก ถึงพลอยจะรูสึก กระดากอยูบาง เมื่อนึกถึงคุณเปรมจะตองไปเลนโขนเลนละคร แตความรูสึกเชนนั้นกลับกลายเปน อาการตก ตะลึง เมื่อไดยินคุณเปรมพูดตอไปวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy202.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๒

Page 5 of 5

"แผนดินนี้ไมเหมือนแผนดินกอนดอกแมพลอย ทานโปรดอะไรคนละอยาง เรื่องโขนละครนี้ทานโปรด มาก อยาวาคนอยางเราๆเลย แมแตในหลวงทานก็ยังทรงละคร คนโปรดคนปรานสมัยนี้ เขารําละครกันสวยๆ ทั้งนั้น" พลอยตองสะดุงตกตะลึง เมื่อไดยินวาในหลวงออกทรงละครดวยพระองคเอง ใจนั้นหวนกลับไปถึงงาน รับเสด็จกลับจากยุโรป เพียงแตคุณจอมมารดาบางทาน ออกรําละครสนองพระเดชพระคุณ ก็ยังถือกันวาเปน เรื่องใหญ ตองปดบังเลนในที่รโหฐาน มิใหคนนอกไดเขาไปเห็น แตถึงคราวนี้ ในหลวงออกทรงละครเอง พลอย ยังไมสามารถทําความเขาใจ กับการเปลี่ยนแปลงในประเพณีที่กาวหนา ออกไปไกล และโดยรวดเร็วถึงเพียงนั้น ได จะออกปากซักถามคุณเปรม ก็เกรงวาจะเปนเรื่องต่ําสูง พลอยจึงไดแตนิ่ง แตพลอยไดรับความโลงใจขึ้นบางในภายหลัง เมื่อไดพูดกับคุณเปรมเรื่องหัดโขนละครแลว ระหวางนั้น คุณเปรมก็ไมพูดถึงเรื่องนี้อีก พลอยก็เขาใจเอาเองวา คุณเปรมคงจะไดเริ่มหัดจริงตามคําพูด แตพอเดือนหนึ่ง ใหหลัง คุณเปรมก็ปรารภขึ้นเองวา "แมพลอย ฉันดูๆไปแลว ก็เห็นจะไมสําเร็จเรื่องจะไปหัดโขนละคร เพราะฉันมันแกเกินไปเสียแลว คนอื่น ที่เขายังหนุมแนน เขาก็พอไปได แตก็ไมเปนไรดอก ฉันเห็นทานทรงละครพูดอยูมากเหมือนกัน ถาอยางนี้ ฉันก็ พอจะไปได" "ละครพูดนี่เปนอยางไรกัน" พลอยซักถาม เพราะเคยดูแตละครรองแบบปรีดาลัย ละครที่เรียกวาละคร พูดนั้น ยังไมเคยดูสักครั้ง "เอาไววันหลัง ฉันจะพาไปดู" คุณเปรมตอบ "ละครพูดนั้น ตัวละครออกมาแสดงเหมือนคนจริงๆ เลน เปนฉากๆจนจบ ไมมีรองไมมีรํา และไมตองรัดเครื่องใสชฎาอะไรเลย" "แลวจะสนุกหรือคุณเปรม" พลอยพูด "เทาที่ฉันฟงดู เหมือนกับเวลาเราเปนเด็กๆ แลวเลนทําเหมือน ผูใหญ คนโนนเปนนี่ คนนี้เปนนั่น...." คุณเปรมหัวเราะแลวตอบวา "แมพลอยนี่อยูบานเสียจนไมทันสมัย เปนคนโบราณไปแลว ละครพูดนั้น ถาดูเปนก็สนุกอยูเหมือนกัน เอาไววันหลังกอนเถิดจะรูไปเอง" "ดูคุณเปรมสิ มาหาวาฉันเปนคนโบราณ" พลอยพูดพลางหัวเราะ "ที่ไหนจเหมือนคุณเปรมละ ยิ่งดูไป ก็ ยิ่งหนุมขึ้นทุกวัน" คุณเปรมยิ้มกับพลอย ดวยสายตาที่ทําใหพลอยนึกถึงระยะเวลาที่แตงงานกันใหมๆ แลวพูดขึ้นวา "จริงๆหรือแมพลอย แมพลอยเห็นฉันหนุมขึ้นจริงๆหรือนี่" "อยากรูไปทําไมนะคุณเปรม" พลอยสัพยอก "ถาเปนคนอื่นพูด ฉันก็คงไมถามเซาซี้" คุณเปรมตอบ "แตเมื่อแมพลอยพูดขึ้นมาเอง ฉันก็ตองเห็นวา สําคัญมาก เพราะแมพลอยเปนคนสําคัญคนเดียวสําหรับฉัน" คุณเปรมพูดพลางเอื้อมมือมากําแขน ของพลอย ไว "เห็นไหมละคุณเปรม" พลอยพูดขึ้นอีก "แมแตจะพูดจาก็ยังมีเราะราย เหมือนคนหนุมๆ" "ฉันอยากใหแมพลอยเห็นฉันเปนหนุมตลอดไป" คุณเปรมพูดเหมือนกับรําพึงความในใจ "ถาจะใหฉันพูด จริงๆ ฉันก็ยอมรับวา ฉันกลัวแก บางทีรูวาตัวแกลง ก็นึกทอถอยไมอยากจะทําอะไร แตถาฉันยังมีแมพลอยอยู คนหนึ่ง ที่ยังเห็นวาฉันยังหนุมอยูเสมอ ฉันก็พอจะมีกําลังใจ พอสบายใจขึ้นได ถามจริงๆเถิดแมพลอย แม พลอยยังเห็นฉันเปนหนุมจริงๆหรือ" "ก็จริงๆนะสิ" พลอยพูดกระฟดกระเฟยด เหมือนเมื่อยังเปนสาว "ฉันจะไปประจบคุณเปรมทําไม ที่พูด ไปก็เพราะวาจริง มีแตฉันคนเดียวเทานั้นแหละ ที่แกลงทุกวัน" มือของคุณเปรมที่จับแขนพลอยอยูนั้นบีบแนนขึ้น คุณเปรมอมยิ้มมองดูหนาพลอย แลวพูดวา "ไมจริงดอกแมพลอย สําหรับฉันแลวแมพลอยยังสาวอยูเสมอ และดูสวยกวาแตกอนดวยซ้ําไป" พลอยรูสึกเหมือนมีน้ําเย็นมาชโลมหัวใจ คําพูดของคุณเปรมสองสามคํา สามารถขจัดความสงสัย กิน แหนงแคลงใจทั้งหมดใหหายไปไดสิ้น ชีวิตในบานดูงดงาม มีสีสันขึ้นทันที และดวยความรูสึกเชนนั้น ชีวิตของ พลอยก็ดําเนินตอไปอีก ตามวิถีทางที่ไดถูกกําหนดไวจากเบื้องบน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy202.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๓ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๒ บทที่ ๓ (หนาที่ ๑) ตั้งแตเจาคุณพอถึงแกกรรมนั้น ถาจะนับเวลาก็เปนเวลาหลายปมาแลว พลอยมิไดทราบขาวของคุณอุน และคนอื่นๆที่บานคลองหลวงบอยนัก ทั้งที่พลอยก็นึกถึงอยูเสมอ จริงอยูคุณอุนไดเคยทําใหพลอย ตองเจ็บช้ํา น้ําใจมามาก แตพลอยเปนคนที่มีนิสัยไมพยาบาทอาฆาตใคร เมื่อเวลาลวงเลยไปนานเขา ความรูสึกในทางไมดี ที่มีตอคุณอุนนั้นก็จางหายไป แตมีความรูสึกวาคุณอุนเปนพี่สาวรวมบิดาอีกคนหนึ่ง ที่ตนมิไดติดตอดวย แตก็ ยังมีความสนใจอยูเสมอวา ชีวิตคุณอุนจะเปนประการใด คุณเชยเคยเลาใหฟงวา ไดพบคุณอุนครั้งเดียวที่งาน ศพคุณหญิงผูเปนมารดาที่อัมพวา คุณหญิงนั้นถึงแกกรรมหลังจากเจาคุณพอราวๆ สามป คุณเชยบอกวาเมื่อ พบกันนั้น คุณอุนมิไดทักทายปราศรัยดวยเลย สวนคุณเชยเองก็ไปเผาศพมารดา เพื่อทําหนาที่ของลูก แต พยายามหลีกคุณอุนใหไกลที่สุดที่จะทําได เมื่อคุณหญิงผูเปนมารดาถึงแกกรรมแลว คุณอุนก็เปนอิสระแกตัวยิ่ง ขึ้น ปกครองบานคลองหลวงโดยสิทธิ์ขาดแตผูเดียว มีคุณชิตและครอบครัวของคุณชิต อยูในบานนั้นดวย คุณ ชิตเองตั้งแตเจาคุณพอตายแลว พลอยก็มิไดมีโอกาสพบปะ พลอยเดาเอาวา เห็นจะเปนเพราะ คุณชิตไมขาด แคลนเรื่องเงินทองอีกตอไป ถึงพลอยจะเตือนตัวเองอยูเสมอวา หนทางที่ดีที่สุด สําหรับตนนั้น ก็คือไมเขาไป เกี่ยวของกับเรื่องราวของคุณอุนและคุณชิต แตในใจจริงของพลอยนั้น ก็ยังอดนึกถึง คนทั้งสองคนนี้อยูไมได วันหนึ่งพอเพิ่มมาเยี่ยมที่บานในตอนบาย พลอยก็ตอนรับหาของวางและสมสูกลูกไมใหกินตามเคย พอ เพิ่มนอนเอกเขนกอยูที่ระเบียงหนาตึก คุยกับนองสาวอยางสบายใจ สวนมากของเรื่องที่คุยนั้นก็เกี่ยวกับ เรื่อง ทางบานของพอเพิ่มเอง พอเพิ่มสรรเสริญภรรยาของตนวา เปนคนทํามาคาขายเกง และเปนคนใจดีไมหวงกัน นอกจากจะคาขายเกงแลว การบานเรือนก็ดูแลไดเรียบรอยทุกอยาง พลอยนั่งฟงพอเพิ่มคุยก็รูสึกดีใจ ที่เห็นพี่ ชายของตนมีความสุข ถึงจะไมฟุมเฟอยนัก ก็ยังเรียกไดวาดีกวาแตกอน เพราะพอเพิ่มมีการงานทํา เปนหลัก ฐาน มีบรรดาศักดิ์เปนคุณหลวง และมีชีวิตครอบครัวที่พอเพิ่มพอใจ เปนธรรมดาที่พี่นองคุยกัน ในที่สุดเรื่องที่คุยกันนั้น ก็ตองหันเขาหาความหลังเมื่อครั้งยังเปนเด็กๆ อยู ดวยกัน และจะตองพูดกันตอไปถึงเรื่องพี่นองคนอื่นๆ ที่เคยอยูบานเดียวกัน พอเพิ่มเปนคนปรารภขึ้นกอนวา "คิดดูเรื่องเกาๆ ก็เหมือนกับวาเมื่อวานซืนนี้เอง แตที่ไหนได พอหันมาดูตัวพวกเราก็อายุมาก ไปตามๆ กันแลว รูสึกเหมือนกับวายังวิ่งเลนกันอยูเมื่อเร็วๆนี้เอง แมพลอยก็อายุสามสิบกวาเขาไปแลว ฉันกับคุณเชยก็ ยางเขาสี่สิบ คุณชิตอายุสี่สิบกวา คุณอุนเธอก็รวมหาสิบเขาไป แตละคนก็มีลูกหลานออกเต็มไป คิดดูก็แปลก" "คุณหลวง" พลอยเรียกพอเพิ่มวา "คุณหลวง" เสมอเพราะรูสึกวาพอเพิ่มชอบใหเรียกเชนนั้น "คุณ หลวงไดขาวจากทางบานคลองบางหลวงบางหรือเปลา" "ไดขาวประปรายอยูเสมอแหละแมพลอย" พอเพิ่มตอบ "แตขาวที่ไดนั้นไมเห็นเปนขาวดีสักที" "ฉันไมรูเรื่องรูราวอะไรเลยทีเดียว" พลอยพูด "ที่คุณหลวงวาเปนขาวไมดีนั้นมีอะไรบาง" "คุณเชยกับฉันบานอยูใกลๆกัน คุยกันอยูเสมอแหละ แตฉันเห็นวามันเปนเรื่องรกหู เลยขี้เกียจเอามาเลา ใหแมพลอยฟง" "คุณอุนเธอเปนอะไรหรือคุณหลวง" พลอยถาม "เธอไมเปนอะไรหรอกแมพลอย" พอเพิ่มตอบ "ก็เพราะเธอยังเปนคุณอุนคนเกาอยูนั่นแหละ ฉันถึงกลัว วา เธอจะตองลําบากทีหลัง" "ทําไมเลาคุณหลวง" "โฮย ! เรื่องมันมากละแมพลอย" พอเพิ่มพูดอยางออนใจ "บาวที่บานที่มันยังไปมาหาสูฉันบาง กับคุณ เชยบาง มันเลาใหฟงวา คุณอุนเธอตามใจคุณชิตนองของเธอราวกับเทวดา พอคุณเชยออกจากบานมาแลว ไม เทาไร คุณชิตก็บอกวา อยากไดทุนรอนจะเอาไปคาขายตั้งเนื้อตั้งตัว เธอก็ทุมเทเงินใหไปเปนกอง" "แลวยังไง" "มันก็หมด" พอเพิ่มเลาตอ "คนอยางคุณชิตใชเงินเทาไรก็ไมพอ เพราะคุณชิตเขาทั้งกินทั้งเลน ไดเงินมา วันนั้นก็ขามฟากมาโรงบอน แลวก็หมดในวันเดียวกัน หมดแลวเขาก็กลับบาน เพราะถาไมหมด เขาก็คงไมกลับ พอกลับไปถึงบานก็ปดไมใหคุณอุนรู แตจะไปปดบังไดนานสักเทาไร นานเขาเรื่องก็แตก คุณอุนเธอก็เอ็ดตะโร ไปพักหนึ่ง แลวเธอก็ใหเขาอีก" "คุณอุนเธอรวยออกจะตายไป" พลอยพูดเชิงออกความเห็น "นองของเธอมีเหลืออยูคนเดียว เธอก็ตอง เลี้ยงกันไป จะไปเปนอะไรกันนักหนา" "ไมแนนักหรอกแมพลอย" พอเพิ่มพูด "มีนองอยางคุณชิตคนเดียว ก็เทากับมีคนจะตองเลี้ยงสักรอยคน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy203.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๓ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 4

เพราะคุณชิตเธอมือเติบ ฉันไดขาววาคุณอุนเธอขายนาของเจาคุณพอไปแลวเกือบหมด เดี๋ยวนี้ก็เริ่มขาย เครื่อง เพชรเครื่องทองอยูไมเวนแตละวัน เขาวาเดี๋ยวนี้คุณชิตดุไดวาไดราวเด็กๆ อยากไดอะไรก็กินเหลาใหเมา แลวก็ ขึ้นไปขูเอา คุณอุนเธอกลัวเธอก็ตองใหทุกที ถาเปนอยางนี้เรื่อยๆไป ก็คงหมดตัวเขาวันหนึ่ง" พลอยถอนใจใหญ เพราะไมรูวาเรื่องราวจะไปกันถึงเพียงนั้น ฟงพอเพิ่มเลาก็แทบไมเชื่อหูวา คุณอุนผุ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเปนใหญในบาน มีคนกลัวเกรงจะตองมาตกอยูใตอํานาจคุณชิต พลอยไดยินเรื่องของคุณอุนที่พอเพิ่มเลาใหฟงแลว แทนที่จะดีใจหรือพอใจ วาคนที่ครั้งหนึ่งเคยประกาศ ตน เปนศัตรูโดยเปดเผย กําลังจะประสบความหายนะในชีวิต พลอยกลับมีความรูสึกไปในทางตรงกันขาม เรื่อง ที่ไดยินนั้น กลับทําใหพลอยมองคุณอุนไปในแงดีไปกวาเกา เพราะแตกอนพลอยเคยนึกแตวา คุณอุนเปนคนที่มี น้ําใจเหี้ยมเกรียมเห็นแตกับตัว และจะยอมอุปการะเฉพาะแตคนที่ประจบสอพลอ ยอมอยูใตอํานาจบงการ แต ขอความที่พอเพิ่มเลาดูเหมือนจะชี้ใหเห็นไปในทางที่วา คุณอุนนั้นยังมีความรัก ความเมตตาตอคนๆหนึ่ง คือ คุณชิตผูเปนนองชายแทๆ และพรอมที่จะใหโอกาสแกคุณชิตอยูเสมอ ถาคุณชิตเปนคนดี คุณชิตก็คงจะตั้งตัวได แตเปนกรรมของคุณอุนที่ไปเลือกเมตตาคนผิด ผูที่มีกรรมนั้น จึงเปนคนที่นาสงสาร และยิ่งไดรูจากปากพอเพิ่ม วาคุณอุนในวัยสูงอายุ เปนผูหญิงคนเดียว ถูกนองชายที่เหลือ อยูใกลชิดอีกคนเดียว ผูเปนนักเลงเหลา นักเลง ฝน นักเลงการพนัน ขูเข็ญเรียกรองเงินไปถลุง เพื่อปรนปรือความชั่วของตน พลอยก็ยิ่งนึกสงสารคุณอุนจับใจ เพราะพลอยเชื่อวา คนที่เคยมีเงินทอง ใชสอยบริบูรณ เคยแตไดรับคํายกยองเอาใจนั้น ถาหากวาเคราะหกรรม บันดาลใหตองตกอยูในฐานะยากจน และตองถูกบังคับขูเข็ญจากผูอื่น ความทุกขที่บุคคลนั้นจะไดรับ ก็ยอมจะ มากกวาคนที่เคยยากจน หรือเคยถูกกดขี่บังคับมาแลวเชนพลอยเอง คุณอุนเปนบุคคลเชนนี้ พลอยจึงนึกสงสาร มากกวาที่จะนึกสมน้ําหนา และยิ่งรูตัววาในขณะนั้นตนอยูในฐานะที่ดีกวา มีความกังวลตางๆในชีวิตนอยกวา พลอยก็ยิ่งเห็นใจคุณอุน มากขึ้นไปอีก เสียงพอเพิ่มเลาตอไปวา "เขาเลาวาคุณชิตเดี๋ยวนี้มีเมียอีกตั้งหลายคน ลูกก็มีออกมาเรื่อยๆเต็มบานทีเดียว จนเกือบจะไมรูวา ใคร เปนใคร" "แลวแมพวงเมียคนแรกหายไปไหนเสียเลา" พลอยถาม "เขาก็ยังอยูในบานนั้นแหละ แตก็เห็นจะไมเปนไรหรอก ครั้งหนึ่งเคยเลี้ยงเปนบาว ชอบใจก็ยก ขึ้นมา เปนเมีย เดี๋ยวนี้ไดเมียอื่นมาใหม ก็คงจะลดกลับไปเปนบาวอีกกระมัง" "โธกรรมเวรแท !" พลอยรําพึงออกมาดังๆ "แตเพียงลูกเมียมันไมเปนอะไรหนักหนาดอกแมพลอย" พอเพิ่มพูดตอ "เขาวาตอนหลังนี่ คุณชิตเขา ชอบเลี้ยงคนแปลกๆ มีสมุนเปนพวกนักเลงหัวไม พวกขี้ยา พวกโรงบอน เขาชอบไปเที่ยวอยางนั้น พบกันถูกใจ เขาก็เอาตัวมาเลี้ยงไวเปนเพื่อน เย็นลงก็เมาเหลากันครื้นเครง เขาวาที่บานเราเวลานี้ราวกับซองโจร" "แลวคุณอุนเธอไมวากลาวบางหรือ" "เธอก็วาเหมือนกันในตอนแรกๆ แตเมื่อวาแลวเขาไมฟง เธอก็เลยกลายเปนกลัวเขาไป เพราะเขาเอา สมุนแกนๆ เขามาไวเต็มบาน เธอเปนผูหญิงคนเดียวจะไปสูรบตบมืออะไรไหว ไดแตซอนตัวเงียบ อยูบนตึก เขาก็ไดทายิ่งขูเอาใหญ" "คุณเชยรูเรื่องเหลานี้แลววาอยางไรบาง" พลอยถาม "ก็แมพลอยจะใหคุณเชยวาอยางไรเลา" พอเพิ่มถามกลับมา "ก็เธอเปนพี่นองแทๆ เธอไมคิดจะเขาไปเกี่ยวของบางหรือ พี่นองกันจะไปตัดกันขาดไปอยางไร" พอเพิ่มหัวเราะหึๆ แลวตอบวา "คุณเชยเธอบอกกับฉันวา ถาเธอเขาไปตอนนี้จะยิ่งลําบากไปใหญ เพราะคุณอุนเธอก็จะไดวา คุณเชย ซานเขาไปหา เพื่อจะไปปอกลอก ทําใหคุณชิตไดทาปอกลอกคุณอุนมากขึ้นไปอีก เพราะกลัวคุณชย จะเขาไป แยง" "เปนอันวาคุณเชยเองก็ทําอะไรไมไดอยางนั้นหรือ" พลอยถาม "ก็อยางนั้นกระมัง" พอเพิ่มตอบ "เธอบอกกับฉันวา เธอก็เปนหวงเหมือนกัน แตเมื่อทําอะไรไมได ก็ตอง อุเบกขา เพราะถึงจะเปนพี่นองกัน ก็โตๆดวยกันแลว คุณอุนเธอก็เปนพี่ คุณเชยเปนแตเพียงนอง พวกญาติทาง เจาคุณพอที่รูเรื่อง ทานก็พูดกับคุณเชยใหไปตักเตือนกันเสียบาง แตคุณเชยก็ไดแตนิ่ง เธอบอกกับฉันวา คุณ อุนนั้นใครสอนก็ไมได ใครเตือนก็ไมได เธอจะยิ่งซ้ํารายไปใหญ มีทางเดียว ปลอยใหเธอรับกรรมไปจนกวาเธอ จะรูตัว" "ถาจะมัวปลอยกันอยูอยางนี้ กวาถั่วจะสุกงาก็ไหม" พลอยพูดอยางหนักใจ "ฉันก็วาอยางนั้นเหมือนกัน" พอเพิ่มหัวเราะ "แมพลอยลองไปเตือนเธอดูบางซี" "ไฮ ! ฉันจะไปทําไดอยางไร !" พลอยรองเสียงหลง พอเพิ่มหัวเราะอยางสนุก "พูดกันไปพูดกันมา ก็เหมือนนิทานเรื่องหนูตัวไหนที่จะเอากระดิ่งไปผูกคอ แมว" ซึ่งทําใหพลอยตองหัวเราะไปดวย เพราะเห็นจริงในคําพูดของพอเพิ่ม "แมพลอย" พอเพิ่มพูดตอไป "ที่คุณเชยกับฉันไมคอยพูดถึงเรื่องอะไรกับแมพลอย ก็เพราะรูวาแมพลอย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy203.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๓ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 4

เปนคนรักพี่รักนอง ชอบไปเก็บเอาเรื่องของคนอื่นมาทุกขรอน แตเผอิญวันนี้แมพลอยถามขึ้นมากอน ฉันก็เลา ใหฟงตามจริงเทาที่รู แตเรื่องพี่นองของเรานั้น ถาจะใหดีเราอยูเฉยๆดีกวา ทําตัวเราใหดีๆไว อยาใหเสียหายก็ พอ อยางฉันเองเวลานี้ ถึงจะชวยใครก็คงชวยไมได แตฉันก็สบายใจอยูอยาง ที่ไมตองไปพึ่งใคร นอกจากเมีย ของฉันเอง พูดขึ้นมาแลวก็คิดถึง เดี๋ยวตองรีบกลับไปหาเสียหนอย ฉันไมไดกลับบานมาสามวันแลว" "ดูคุณหลวงซี !" พลอยรอง "หายไปไหนตั้งสามวัน ไมกลับบานกลับชอง !" "ก็เที่ยวไปตามบานเพื่อนฝูง" พอเพิ่มตอบ "ใครเขาชวนนอนที่ไหนก็นอนที่นั่น แตไมเปนไรหรอก เมีย ฉันเขาไมวา เขาเรียกฉันวา 'พอนกขมิ้นเหลืองออน' เพราะนอนไหนก็นอนได กลับไปถึงบานทีไร ก็มีสํารับ ขาวคอยไวใหกินเสมอ ไมเคยพลาด" พลอยรูสึกขันพี่ชายของตนอยูครันๆ ความจริงพอเพิ่มมีความสุขในชีวิตไดอยางแปลกประหลาด และหา ความสุขไดในเรื่องงายๆ และดวยนิสัยที่เปนคนไมเอาเรื่องเอาราวกับใคร พอเพิ่มจึงมีเพื่อนฝูงไดมาก จริงอยู เพื่อนฝูงของพอเพิ่มนั้น เปลี่ยนชุดกันไปเรื่อยๆ เพื่อนฝูงคนใดที่เจริญรุงเรืองในการงาน เปนผูใหญกวาพอเพิ่ม ไป เพื่อนฝูงคนนั้นก็หางเหิน แตพอเพิ่มก็ไมเคยนึกเดือดรอน หรือนึกโกรธ หรือไมพอใจ คุณเปรมเปนเพื่อน ของพอเพิ่มคนหนึ่ง ที่มิไดอยูนอกเหนือไปจากขอเท็จจริงนี้ เพราะแตแรกคุณเปรมและพอเพิ่ม ตางก็รักใครสนิท สนมกันดีอยู แตเมื่อตอมาตางฝายตางก็มีงาน และคุณเปรมก็ไดรับพระราชทานบรรดาศักดิ์ สูงขึ้นไป ความ สนิทสนมที่เคยมี ก็ลดนอยลง โดยมิไดมีเรื่องอะไรที่จะตองบาดหมางกันเลย แตพอเพิ่มนั้นเอง เริ่มเรียกคุณ เปรมวา "คุณพระ" ใชสรรพนามแทนคุณเปรมวา "ทาน" และเวลาที่พบกัน พอเพิ่มก็พูดจาตอคุณเปรม ดวย ความเคารพตอฐานะ คุณเปรมและพอเพิ่มก็หางกันออกไปทุกที มีฐานะเปนญาติ เกี่ยวดองมากกวาเพื่อน แต พลอยก็รูดีวา พอเพิ่มคงไมมีความรูสึกในเรื่องนี้แตอยางใด เพราะเมื่อหางกับคุณเปรม ไปคนหนึ่ง พอเพิ่มก็ไป หาเพื่อนไดอีกหลายคน แตละคนก็คงเปนเด็กกวา หรือผูใหญที่มิไดใหญโตอะไรนัก "คุณหลวงเดี๋ยวนี้ยังมีเพื่อนฝูงมากอยูหรือ" พลอยถามขึ้น "มากกวาแตกอนเสียอีกแมพลอย" พอเพิ่มตอบ "ฉันมันเปนคนยังไงก็ไมรู ไมวาจะไปทางไหนก็ไดแต เพื่อน" "ก็คุณหลวงเปนคนรักเพื่อนฝูงนี่" พลอยชวยอธิบาย "บางทีฉันเห็นวาคุณหลวงรักเพื่อนฝูง มากกวาลูก เมีย ทางบานเสียอีก" "เมียฉันเขาไมวาหรอกแมพลอย" พอเพิ่มพูดแก "เราเขาใจกันมาแตแรกแลววา เพื่อนฝูงของฉัน เปนอีก เรื่องหนึ่ง เขาก็ไมเขามายุง และเขาก็รูดีวา ถึงฉันจะหายไปสักกี่วันๆ ฉันก็คงจะกลับบานวันหนึ่ง ไมเห็นจะ แปลกอะไร แลวก็ดีเสียอีก ที่ฉันไมพาเพื่อนมาบาน พามาทีไรเขาก็ตองทํากับขาวเลี้ยงยังกับมีงาน ไมตองทํามา หากินอะไรกัน" "คุณหลวงเคราะหดีที่ไดเมียเอาใจ" พลอยพูด "ถาไดเมียคนอื่น เขาอาจไมชอบก็ได" พลอยพูด แลวก็นึก ถึงตัวที่ตองรูสึกนอยใจอยูบอยๆ ถาคุณเปรมไมกลับบาน "มันไมใชเรื่องเอาใจหรือไมเอาใจหรอกแมพลอย" พอเพิ่มตอบ "ฉันวามันอยูที่เรื่องรูใจกันมากกวา เมีย ฉันเขารูดีวา เพื่อนมันแคเพื่อน ถึงฉันจะไปเที่ยวสนุกสนานกับเพื่อนนานเทาไร ฉันก็ตองเห็นวาเมียดีกวา อยู นั่นเอง เขาจึงไมขัดใจ เพราะเขาอยากใหฉันสบายใจ เมื่อฉันไดกับเขา ใครๆก็พากันวาๆฉันไดเมียต่ํากวาตัว แตฉันไมฟงใคร เพราะเหตุนี้ฉันจึงไดสบายไมเดือดรอน ถาไดเมียเทาๆกับตัว เขาก็คงจะเรียกอะไรตออะไร ที่ ฉันไมมีจะให หรือถาไดเมียที่มีชื่อวารวย ฉันก็จะถูกหาวาเกาะเมียกิน เสียชื่อเปลาๆ สูอยางนี้ไมได ไมยุงดี" "ฉันก็ดีใจที่คุณหลวงสบายใจ แตฉันถามจริงๆเถอะ คุณหลวงทําอะไรกับเพื่อนฝูงทีมีเปนกายเปนกอง" "พูดกันคุยกัน" พอเพิ่มตอบ "ใครพูดถูกใจกันก็คบกันได มีทุกขรอนอะไรก็ชวยเหลือกัน มีอะไรตออะไร ก็หามาสูกันกิน แลวก็คุยกันไปจนดึก ดึกนักก็เลยนอนคางอยูดวยกันตอไป" "อะไรตออะไรที่หามากินกันนั้นอะไรบางคุณหลวง" "ก็มีเหลามีแกลม" พอเพิ่มหัวเราะ "มีนัดกันไวเสมอ ถึงไมมีก็ไปมาหาสูกันได" "แลวคุณหลวงมีเรื่องอะไรที่คุยกันไดทุกวัน" "พอเพิ่มหัวเราะรองวา "แมพลอยก็ชางซักเสียจริง !" แลวก็พูดตอไปวา "มีถมเถไปเรื่องที่จะคุยกันได แตกอนฉันเลนไมดัดก็คุยกันเรื่องไมดัด ไอเรื่องไมดัดนี่แปลก เคยเห็น ผูใหญ ทานเลนเมื่อเด็กๆ ไมเคยเห็นนาดูเลยสักนิดเดียว พอมีอายุเขากลับเห็นดีเห็นนาดูไปได ฉันหาไวไดมาก แลวที่บาน เวลานี้เพื่อนๆเขาชวนเลนนกเขา ฉันก็เลยจับเลนบาง มือขึ้นเสียจริงๆ มีนัดสูกันเมื่อไรละก็ ของฉัน เปนชนะ ของคนอื่นทุกนัด" "โธบาปกรรม !" พลอยรองขึ้น "เอานกไปตีชนะกัน นาสงสาร" พอเพิ่มหัวเราะชอบใจแลวกลาววา "ไมไดตีสักหนอย แมพลอยก็เอะอะไปได นกเขานั้นเขาสูกันดวย คารม ขันประชันกันตางหาก บอนนกเขาอยูแถววัดสระเกศ ถึงวันนัดของใครๆก็เอาไป เอากรงแขวนใหมันสู คารมกัน เทานั้นเอง ไมเห็นจะบาปกรรมตรงไหน" "ออ ! ฉันไมรูนี่" พลอยพูด "แลวจะรูแพรูชนะกันไดอยางไร"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy203.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๓ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 4

"อาว ! รูซีแมพลอย พอแขวนกรงแลว ตางฝายตางก็ขัน ฉันวามันคงดากันภาษานก ไอตัวไหนที่ใจเย็นๆ ไมโกรธงาย และมีคารมดีๆ มันก็ขันไดนาน ตัวไหนที่สูคารมไมได ก็เกิดโมโห ดิ้นตีกรงจะมาตีไอตัวที่มันขันดี กวา รูแพรูชนะกันตรงนี้แหละ ตัวไหนโกรธกอนตีกรงก็แพไป ฉันดูๆไปแลวมันก็เหมือนคน ถามีเรื่องจะตองสู กันแลว ฝายที่โกรธกอนเปนตองแพเสมอ สูคนใจเย็นไมโกรธไมได เพราะคนที่โกรธนั้น ประเดี๋ยวก็ตองทําอะไร ผิดๆ แพไปเอง" "คุณหลวงนี่ดีเสียจริง" พลอยหัวเราะ "ชั้นแตจะเลนนกเขา ก็ยังมีคติ" "ทุกอยางมันมีคติทั้งนั้น" พอเพิ่มพูดอยางใจเย็น "สําคัญที่เรามีตาจะดูหรือไมตาจะดู ถามองใหดีๆก็เห็น นากเขามันก็สัตวมีชีวิต แตตัวมันเล็กอยูในกรง เราเลี้ยงมันมาเราก็เห็นไดงาย และนกมันโกหกไมเปน ทํา กระบิดกระบวนไมเปน จึงเห็นไดงายกวาคน แตถึงจะเปนคนเปนนก ก็เปนสัตวเหมือนกัน ดูไปดูมา มันก็คติอัน เดียวกันทั้งนั้น" "คุณหลวงพูดอุปมาอุปไมยราวกับพระเทศน เขาวัดบางหรือเปลา" "เขาเหมือนกัน" คุณหลวงตอบ "แตไมไดไปฟงเทศนหรอก ไปคุยกับพระทานเรื่องไมดัด ทานรูเรื่อง มากกวาเรา และไมหวงวิชา บอกเคล็ดใหไดเสมอ" อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy203.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๓ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๒ บทที่ ๓ (หนาที่ ๒) พลอยศึกษาประวัติพี่นองของตน ตลอดจนนิสัยใจคอตั้งแตยังเปนเด็ก มาจนถึงเปนผูใหญ ก็เกิดความ คิด ขึ้นวา นิสัยใจคอตางๆนั้น บางทีอาจถูกถายทอดลงมาจนถึงลูกของตน และถาพลอยไดดูชีวิตของพี่นอง ตลอดจนตัวของตัวเองใหดีๆ บางทีพลอยก็อาจพยากรณชีวิตของตนไดถูก และถาหากวามีสิ่งใดที่ไมดี พลอยก็ อาจปองกันแกใขได เมื่อคิดไดดังนี้ พลอยก็หันเขามองดูเด็กๆเหลานั้น ดวยความสนใจ สิ่งที่ไดเห็นนั้น บางทีก็ ทําใหพลอยสบายใจ บางทีก็ทําใหพลอยตองประหวั่นพรั่นพรึง ตาอนนั้นออกจะไมมีปญหา เพราะมิใชเปนลูก ของพลอย ถึงพลอยจะพยายามดูตาอนจากดานเดียว คือดูวาจะเหมือนคุณเปรมบางหรือไม พลอยก็มองไมออก เพราะถึงตัวคุณเปรมเอง ก็ยังหลายครั้งหลายคราวที่พลอยนึกวาไมรูจัก ตาอั้นทําใหพลอย ตองไมสบายใจอยู บอยๆ เพราะนิสัยที่อยากมีอะไรแตคนเดียวนั้น ทําใหพลอยอดนึกถึงคุณอุนไมได และบางครั้งบางเวลาอยูดวย กันกับพลอยพรอมกับพี่นองอื่น ตาอั้นก็มักจะแสดงกิริยากีดกันคนอื่น อยากจะผูกขาด ความรักความสนิทสนม ของมารดาแตผูเดียว ทําใหพลอยตองดุตาอั้น ทั้งๆที่ไมอยากทํา ตาออดมีนิสัยใจคอ ที่ทําใหพลอยทั้งสบายใจ และทั้งเปนทุกข เพราะตาออดเหมือนพอเพิ่ม จนพลอยเองประหลาดใจ ตาออดเปนคนไมเอาเรื่อง หาเรื่องสนุก สบายไดงายๆ ไมตองการอะไรมากนัก และไมหวงกันใคร เปนธรรมดาที่พลอยตองอยากใหตาออดประสบความ รุงเรืองในชีวิต แตเมื่อดูนิสัยของตาออดที่ตรงกับพอเพิ่ม หลายอยาง และไดศึกษาชีวิตของพอเพิ่มมาแลว พลอยก็รูตัววาจะหวังอะไรมากไมได แตก็ยังนึกสบายใจอยูวา เมื่อพอเพิ่มเปนคนไมมีทุกข บางทีตาออดโตขึ้น ก็จะเปนคนไมมีทุกขเชนเดียวกัน สําหรับประไพนั้นเด็กเกินไป ที่จะสังเกตนิสัยใจคอไดถูก แตกอนนี้เมื่อนึกถึงอนาคตครั้งใด พลอยก็ตองนึกถึงตัวกอนเสมอ แตเดี๋ยวนี้อนาคตเปนเรื่องของลูก พลอยใชเวลาวันหนึ่งๆไมนอย นั่งคิดถึงการณขางหนา กําหนดอนาคตแหงชีวิตของลูกทุกคน เทาที่ตัวจะทําได บางครั้ง พลอยก็นึกแนใจวา การตระเตรียมของตน เพื่ออนาคตของลูกนั้นจะไมผิดพลาด แตบางครั้งก็ลังเลใจ หมดที่พึ่งเขาจริงๆ ก็หันเขาหาหมอดู คุณนุยมีหมอดูจีนตาบอดคนหนึ่ง ซึ่งคุณนุยเรียกวาซินแส ใหไปรับมา ดู โชคชาตาและพยากรณการณขางหนาอยูเสมอ วาดีหรือราย เมื่อมาอยูบานคุณเปรมใหมๆ คุณนุยก็เคยแนะนํา ใหพลอยดูหมอจีนคนนี้ แตพลอยก็มิไดสนใจเทาไรนัก เพราะคําพยากรณก็มีแตวาพลอยจะสุขกายสบายใจ บริบูรณดวยทรัพยสมบัติ ซึ่งก็เปนความจริงที่รูกันอยูแลว วันหนึ่งหมอจีนมาถึงขณะที่เด็กๆอยูพรอมกัน ประกอบกับเวลานั้น พลอยกําลังลังเลใจ พลอยจึงพาเด็กๆขึ้นไปดูหมอพรอมๆกัน ตาอนเปนคนดูกอน หมอ ถามวันเดือนปเกิด เอามือคลําใบหนาใบหูแลวก็สายหนา ถอนใจใหญพูดวา "อีคงนี้โตขึ้นตองลําบาก" พลอยใจหายวาบแทบจะเลิกดูเสียทีเดียว แตก็ถามหมอวา "ลําบากอยางไร ซินแส" "เฮอ ! อาไลอาไล เงินทองอีก็มี" ซินแสตอบ "แตอีแข็งเกิงไป ตองติดติราง แลวก็ออก ออกมาแลวก็ซิ บาย" พลอยใจคอไมสบายเสียเลย ตาอนไมมีนิสัยสอใหเห็นวา จะเปนโจรไดสักนิด แตทําไมหมอจึงพยากรณ วา จะตองติดตาราง ความเลื่อมใสในซินแสของคุณนุย ชักจะลดนอยถอยลงไปมาก ถึงคราวตาอั้นเขาดู หมอก็หัวเราะทํานายวา "อีคงนี้ตอปายจะลีมาก อีจะเปงใหญโต เปงเจาคงนายคงมีชื่อเสียง" "คอยยังชั่วหนอย" พลอยนึกในใจ เสียงซินแสพูดตอไปวา "เสียอยางเลียว อีจะตองโกดกับพี่นอง แตก็ไมนาน โกดแลวก็ลีกันลาย" สําหรับตาออดหมอมิไดพยากรณทั้งทางดีทางราย บอกแตเพียงวาตาออดจะมีพอกินพอใช และอายุไม ยืนนัก สวนประไพนั้น คุณนุยบอกวาไมตองดู เปนผูหญิง แลวก็ยังเด็กเกินไป พลอยลงมาจากเรือนคุณนุย ตาอั้นก็เริ่มขับตาอนเรื่องหมอดู ตาอนเริ่มหนาเสียทําใหพลอยสงสาร ตองบอกวาอยาไปถือสาคําพูดเหลานั้นวาเปนความจริง เพราะหมอดูนั้นตามปกติก็ดูผิดๆ คนเราจะดีจะชั่ว ก็อยู ที่บุญที่กรรมของตนเองมากกวาอยางอื่น แตทั้งที่ปากพูดอยูอยางนั้น ใจของพลอยก็ไมสบายใจนัก นึกสังหรณ อยูวาคําพูดของซินแสนั้น อาจกลายเปนจริงก็ได และทําใจไววาจะตองพยายามทุกทาง เพื่อปกปองตาอน มิให เปนไปตามคําทํานาย แตโชคชะตาของคนนั้น อยูเหนือความพยายามของพลอยที่จะแกไข และความปรารถนาของพลอยนั้น บางทีก็ไดผล บางทีก็ไมได ทั้งที่พลอยไมอยากใหตาอนเปนทหาร ตาอนก็ดิ้นรนอยากจะเปนทหาร จนความรูถึง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy203_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๓ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 4

คุณเปรม ซึ่งเห็นดวยกับความคิดของตาอน ทําใหพลอยตองหมดเสียงลงไป ตอมาคุณเปรมก็พาตัวตาอน ไป เขาโรงเรียนนายรอยชั้นประถม ไปอยูกินนอนที่นั่น จะไดกลับบาน ก็เฉพาะแตวันเสารอาทิตย ความสุขความ ดีใจ ที่ปรากฏบนใบหนาของตาอน ในครั้งแรกที่ไดแตงเครื่องแบบนักเรียนนายรอย ทําใหพลอยลืมความไมพอ ใจของตนเองเสียสิ้น เมื่อจัดการกับตาอนใหไดเปนนักเรียนนายรอย สมความปรารถนาแลว คุณเปรมก็หันเขาปรึกษากับ พลอย เรื่องตาอั้นกับตาออด "เรื่องอายอนฉันก็ตามใจมัน เพราะมันอยากเปนทหารจริงๆ ใหมันลองดูไปกอน" คุณเปรมพูด "แตเรื่อง ตาอั้นกับออดนี่ฉันก็ยังไมแนใจ แมพลอยคิดอยางไรบาง" "ตาอั้นแกบอกกับฉันวาแกอยากเปนหมอความ ฉันก็ไมอยากใหแกไปเที่ยวหากินตามตีนโรงตีนศาล สวนตาออดพูดเลอะเทอะ บางทีจะยังเด็กไป ไมรูใจตัวก็เปนได" "ฉันวาเปนหมอความก็ดีเหมือนกัน เด็กพวกนี้ตอไปก็จะตองดูแลทรัพยสมบัติที่เราหาไวให มีหมอความ สักคนหนึ่ง จะไดไมมีใครโกงมันได" คุณเปรมพูด "ก็ตามใจคุณเปรมฉันไมขัดของอะไร เพราะใจเด็กรักทางไหน ก็ใหไปทางนั้นดีกวา" พลอยคลอยตาม "แมพลอยพูดตรงกับใจฉันทีเดียว" คุณเปรมพูดอยางโลงอก "ใจฉันอยากใหเด็กๆมันเลือกเอาเองวา จะ หาวิชาอะไรใสตัว แตมันติดอยูที่เมืองไทยเรา วิชาความรูยังมีนอย เด็กๆไมมีอะไรจะเลือก สมัยนี้เขานิยมสงลูก ไปเรียนนอกกัน ฉันก็อยากสงอั้นกับออดไปเรียนนอกบาง กลับมาจะไดชองทางเขารับราชการ มีหนามีตากวา คนที่ไมไดไป" พลอยใจหายวาบหนาเสียลงไปทันที เมื่อไดยินคําพูดของคุณเปรม เพราะใจพลอยนั้น อยากเก็บลูกไว ใกลๆตัว ไมอยากใหจากไปไกล เมื่อแตกอนเคยรูเรื่องทูลกระหมอมฟาและพระเจาลูกเธอ เสด็จไปศึกษาในตาง ประเทศ พลอยก็เขาใจ เพราะทานเปนลูกเจาแผนดิน จะตองกลับมาครองแผนดินตอไป บางทีทานก็อาจจําเปน ตองไปเลาเรียนไกลๆ แตลูกของพลอย ดูจะไมมีความสําคัญถึงเพียงนั้น คุณเปรมจะคิดไกลไปสักหนอยก็ไมรูได กับคุณเปรมนั้นพลอยพูดวา "จะตองจําเปนถึงเพียงนั้นเที่ยวหรือคุณเปรม" "จําเปนอยูบางแมพลอย" คุณเปรมตอบ "ฉันก็เห็นใจแมพลอยมาก ที่จะตองจากลูกเขาวันหนึ่ง แตถาเรา รักลูกเรา ก็ตองคิดถึงลูกมากกวาคิดถึงตัว อะไรที่จะเปนความเจริญของเด็ก เราก็ไมควรไปขัดขวาง ทุกวันนี้ บานเมืองเจริญขึ้นทุกวัน แมพลอยก็ยอมรู คนไมมีความรูสูงจริงๆ ก็ตอไปนากลัวจะไปไมรอด แมแตฉันเอง บางเวลาก็อึดอัด ในหลวงทานรับสั่งภาษามังคา คนอื่นเขาหัวเราะกันเกรียวกราว ไอเราก็ไดแตตีหนาเปนเบื้อ จะไปหัวเราะกับเขาบาง เดี๋ยวทานรับสั่งถามขึ้นมา เกิดไมรูเรื่องก็อายเขา" "ฉันเห็นวาลูกยังเล็กเหลือเกิน ไปนอกไปนาจะเลี้ยงตัวเองอยางไรไหว" พลอยพูดอยางแข็งแรง เพราะใจ นั้นยังไมยอมแพคุณเปรม "ก็ใครวาจะใหแกไปแตเดี๋ยวนี้ละ แมพลอยก็" คุณเปรมตอบ พลอยใจชื้นขึ้นมากเมื่อไดยินคุณเปรมพูด เพราะอยางนอย คุณเปรมก็จะยังไมพรากลูกไปอยางกระทัน หัน พลอยถามคุณเปรมวา "คุณเปรมกะวาจะใหไปสักเมื่อไร" "ก็กะไวใหโตอีกสักหนอย" คุณเปรมตอบ "อีกสองสามปก็คงจะยังทัน ระหวางนี้ฉันก็อยากจะใหแกเรียน ภาษาใหดีเสียกอน คิดไววาจะเอาไปฝากเขาโรงเรียนบาทหลวง ใหเรียนภาษาฝรั่งทั้งสองคน" "ตายละคุณเปรม !" พลอยรองเสียงหลง "ลูกฉันมิไปเขารีตเปนฝรั่งไปหมดหรือ" คุณเปรมหัวเราะตอบวา "อยาวิตกไปถึงเพียงนั้นเลยแมพลอย ถาเราสอนใหลูกเราเขาใจเสียวา เราสงแกไปเรียนเอาแตวิชาความ รู แกก็คงไมแหกคอก ทิ้งศาสนาของพอของแมไปเสียหรอก เรื่องนี้แมพลอยอยูทางบาน ก็ตองคอยอบรมแกไป ถาอยางไรฉันก็จะชวยอีกแรงหนึ่ง" ตั้งแตนั้นมา ตาอั้นและตาออดก็ยายจากโรงเรียนไทย ไปเขาโรงเรียนฝรั่ง คงเหลือแตประไพเปนลูกคน เดียว ที่อยูกับพลอยทั้งวัน วันหนึ่งชอยนุงดําหมดําเดินเขามาหาพลอยที่บาน ดวยหนาตาอันเศราหมอง พอเห็นหนาพลอย ชอยก็ ทรุดตัวลงนั่งรองไห แลวพูดวา "พลอย คุณพอฉันตายเสียแลว" "โธชอย !" พลอยรองขึ้น น้ําตากลบลูกตาขึ้นมาทันที เพราะคุณหลวงพอของชอย เปนผูใหญที่พลอยรัก มากที่สุดคนหนึ่ง ถึงในตอนทายนี้จะหางเหินไปบางก็ตาม "ทานเจ็บไขเปนอะไรเมื่อไหร ทําไมฉันไมรูบางเลย" "ฉันเองก็ไมรู" ชอยบอก "อยูๆแมก็ใหคนวิ่งเขามาบอกวา พอเปนลมตาย ฉันตกใจแทบจะสิ้นสติ จะบอก คุณอาก็ไมกลา กลัวจะตกในเปนอะไรไปอีกคนหนึ่ง ตองปดแลวหลอกวาคุณพอเจ็บ ฉันจะออกไปเยี่ยมที่บาน" "แลวชอยจะทําอยางไรตอไป มีอะไรที่ฉันจะทําใหไดบาง อยาเกรงใจเลย"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy203_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๓ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 4

"ไมมีอะไรหรอกแมพลอย ฉันมาบอกใหรูเทานั้นเอง เพราะญาติพี่นองอื่นก็ไมมีใครอีก เพราะนี้ก็เก็บศพ ไวที่บาน วันพฤหัสหนานี้ก็จะทําบุญเจ็ดวัน พลอยไปเอาตอนนั้นก็แลวกัน" "ฉันตองไปแนทีเดียว" พลอยตอบ "แลวแมชั้นเปนอยางไรบาง" "ก็ไดแตนั่งรองไห นี่บอกฉันวา เผาคุณพอแลวจะเขามาอยูกับฉันในวัง" "อาวแลวทางบานเลา" "เห็นบอกวาจะใหเขาเชา เก็บคาเชากินไปวันหนึ่งๆ" "แลวพี่เนื่องเขาไมทําอะไรบางหรือ" "เวลานี้เขาก็มาอยูที่บาน" ชอยหวนๆ "ฉันก็ไมคอยจะรูเรื่องเขาหรอก แตเห็นแมบอกวา เขาเชื่อเมียเขา มากกวาเชื่อแมพ ฉันก็จนปญญา" "ฉันก็ไมเห็นจะเกี่ยวอะไรกับเมียพี่เนื่องนี่ชอย" พลอยพูดอยางสงสัย "ธรรมดาลูกชายคนเดียว เมื่อพอ แมแกก็ตองเปนที่พึ่ง อุปการะกันไปตามเรื่อง" "แมแกไมชอบลูกสะใภ" ชอยตอบหวนๆ "ไมชอบมาตั้งแตแรกแลว เลยสายตาไมกินกันมาเรื่อยจนบัดนี้ เวลานี้เขาก็มีลูกมีเตาเปนกอง เขาจะมามีเวลาดูคนแกอยางไรได ใหแมเขามาอยูเสียในวังก็ดีแลว ฉันจะไดไม ตองหวง วิ่งไปวิ่งมาระหวางคุณอาทางหนึ่ง กับแมอีกทางหนึ่ง คุณอายิ่งแกลงยิ่งยุงยากขึ้นทุกที ตองคอยดูกัน เหมือนเด็กๆ แตแมไมเปนไรหรอก คงเลี้ยงงายกวาคุณอา ฉันก็พอจะดูไหว" พลอยสงสารชอยจับใจ แตไมสามารถจะชวยเหลืออะไรได ชอยเคยเปนเด็กและเคยเปนสาวมากับพลอย ไดใชชีวิตไดผานการอบรมมาอยางเดียวกันไมมีผิด แตโอกาสในชีวิตของชอยกับของพลอย เหตุไฉนจึงแตกตาง ไกลกันหนักหนา ขณะนี้พลอยรูตัวอยูวามีฐานะดี มีสามีทํางานเปนหลักฐาน มีเงินทองใชสอย ภาระของพลอยที่ มีนั้นก็คือลูกๆ ซึ่งจะตองเลี้ยงดูอบรมใหเปนคนดีตอไป แตการเลี้ยงลูกใหไดดีนั้น ถึงจะเปนภาระอันหนัก ก็ยังมี ความหวัง ที่จะไดผลตอบแทนในภายหนา เปนความปติภาคภูมิใจ สวนชอยนั้น ดูเหมือนจะตองนั่งเลี้ยงคนแก ซึ่งนับวันแตจะเสื่อมลง ทั้งกําลังในกําลังกาย ไมมีอะไรจะตอบแทนได นอกจากจะตายใหเผา และในที่สุดชอยก็ จะถูกทอดทิ้งอยูคนเดียว "วันนี้ฉันขอนั่งคุยนานๆหนอยเถอะแมพลอย" ชอยพูดขึ้น "หมูนี้ฉันมีแตเรื่องกลุมใจ นั่งคุยกับแมพลอย ใหนานๆ บางทีจะสบายใจขึ้นบาง" "ชอยก็รูอยูแลววาจะอยูนานเทาไรก็ได ฉันไมวา และกลับจะดีใจเสียอีก" พลอยบอก ชอยเช็ดน้ําตาแหงแลว แตบนใบหนายังมีรอยโศกติดอยู ชอยหยิบหมากมากิน แลวพูดขึ้นวา "ฉันนี้เกิดมากับเขาชาติหนึ่ง มีกรรมเสียแลวพลอยเอย อยูกับคนแกมาจนกลายเปนคนแกไปเอง วัน หนึ่งๆก็ไมตองทําอะไร ไดแตนั่งเลี้ยงคนแก ไมทําใหก็ไมได สงสาร ฉันแกลงใครจะมาเลี้ยงฉันบางก็ไมรู" "ฉันเลี้ยงเองชอย" พลอยพูดตั้งใจจะปลอบ "ดัดจริต" ชอยพูดดวยสําเนียงครึ่งเลนครึ่งจริง อยางที่พลอยรูจักดี "ตัวจะมาเลี้ยงเขาไดอยางไร อายุก็ พอๆกัน เดี๋ยวนี้กลับมาทําสาวกวากันไปเสียแลว กวาเขาจะแก ตัวก็คงหงําพอๆกันนะแหละ คนแกเลี้ยงคนแก สนุกตายละ" พลอยตองหัวเราะในคําพูดของชอย และนึกสบายใจที่ชอยยังไมทิ้งอารมณสนุก ที่มีมาแตเดิม เสียงชอย พูดตอไปวา "จริงๆนะพลอย บางเวลาฉันก็อยากจะไปไหนเสียใหมันพนๆ แตมันก็ไปไมรอด ที่เบื่อแสนเบื่อก็คือในวัง เรามันเคยอยูสมัยรุงเรื่อง ดูอะไรก็ดีงาม นาสนุกไปหมด เดี๋ยวนี้นับวันก็แตจะทรุดลงไป ไมมีใครเหลียวแล เหมือนกับกลอนที่เขาวา 'ถึงเดี๋ยวนี้มีแตพระปรางคเปลา พระผานเกลานิพพานนานหนักหนา' เจานายที่ ทานยังประทับอยู ก็มีเหลือนอยพระองค ที่ทานพอจะออกไปได ทานก็ไปอยูสวนอยูวังขางนอกกันหมด ใครที่ เขาหาดี เขาก็เที่ยวซอกซอน ฝากเนื้อฝากตัวกันไป ไอฉันมันทําไมเปน ก็เลยตกคางอยูที่เกา ตําหนักเสด็จ ก็ ปดเงียบเหมือนกับตึกราง บางทีกลุมใจจะเปนบา คิดอะไรก็ใหวิตกไปหมด เห็นไมเที่ยงไมจีรัง อยางในวังนี้ ถา สมเด็จพระพันปยังประทับอยู ก็คงไมรางเร็ว แตทานก็เสด็จไปอยูเสียวังพญาไท" "เออ ! ฉันไดขาววา สมเด็จพระพันปประชวรไมใชหรือ" พลอยถามขึ้น เพราะไดยินใครพูดถึงขาวนั้นอยู เมื่อสองสามวันมานี้เอง "ทานก็ประชวรอยูเปนประจําเสมอ" ชอยบอก "ตั้งแตในพระบรมโกษสวรรคตมา ฉันก็ไดขาววา ทาน หมดน้ําพระทัยที่จะทรงทําอะไร ชั้นแตจะทรงพระดําเนินก็ไมได ตองพยุงบางตองประทับรถเข็นบาง เดี๋ยวนี้รูมา วาประทับอยูแตในพระวิสูตร เสวยก็ในนั้น บรรทมก็ในนั้น ใครจะไปเฝาแหน ก็เขาไปเฝาในนั้น" "พระเจาอยูหัวแผนดินนี้ ทานไมเขาไปประทับในวังบางเลยทีเดียวหรือ" "เห็นจะไมหรอกแมพลอย ทานโปรดประทับวังอื่น เวลานี้เสด็จเขามาแตเวลามีงาน เสด็จงานแลวก็เสด็จ กลับ เมื่อผลัดแผนดินใหมๆ ทานเคยเสด็จมาประทับที่หองขาวที่บน เกิดเรื่องตื่นเตนกันที่ขางใน สนุกจะตาย" "เรื่องอะไรๆ ฉันไมรูเลย" พลอยถาม "อาว ! ก็เรื่องคุณมหาดเล็กที่ตามเสด็จเขานะซี" ชอยตอบ "ตอนเชาๆ เขามาเยี่ยมพระบัญชรทีบน แอบ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy203_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๓ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 4

ดูผูหญิงขางใน ถึงพยักพะเยิดกันสนุกออก ฉันยังไปเตรแถวนั้นดูเขาเลย" "ชอยนี่ก็ซนไมจบ" พลอยพูดแลวก็หัวเราะ ชอยคุยเรื่องเกาๆ อยูจนบายแลวก็กลับไป พลอยรูสึกวา ชอยมีอารมณดี สบายใจขึ้นจริงๆ ความตายของคุณหลวง เปนเครื่องเตือนใจ บอกระยะทางแหงชีวิตใหกับ พลอย อีกครั้งหนึ่งวา ของที่ตนไดเคยรูจักเคยพบเห็นนั้น กําลังจะหมดไปทุกวัน และของใหมที่ตนไมรูจักไมคุน เคย กําลังจะเขามาแทนที่ และกําลังกาวยางใกลตัวเขามาทุกวัน โดยที่พลอยไมสามารถจะขัดขวาง หรือหลีก เลี่ยงได

http://www.geocities.com/siamstory/ploy203_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๔ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 3

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๒ บทที่ ๔ (หนาที่ ๑) ขาวสําคัญตางๆ เกี่ยวกับโลกภายนอกในระยะนี้ พลอยไดยินบางไมไดยินบาง โดยมากคุณเปรม ก็เปนผู บอกเลาใหฟง และพลอยก็รับฟงดวยใจเปนกลาง เหมือนกับวาเรื่องเหลานั้น มิไดเกี่ยวของกับตัวโดยตรง แตก็มี บางเรื่องที่พลอยตองใหความสนใจมาก เพราะปฏิกิริยาที่เกิดแกตัวคุณเปรมในเรื่องบางเรื่องนั้น คอนขางจะ แปลกประหลาด ความสนใจในตัวคุณเปรม เปนเหตุใหพลอยสนใจในเรื่องเหลานั้นไปดวย พลอยไดรูเรื่องสงครามโลกครั้งที่ ๑ ก็จากคุณเปรม ในตอนแรกพลอยก็มิไดสนใจหนักหนา ถือเสียวา เปนเรื่องฝรั่งรบกัน และก็รบกันถึงในยุโรปไกลกวาตัวมาก ไมใชเรื่องที่จะตองสะดุงสะเทือน หรือตระหนกตกใจ อยางไร ในตอนแรกๆนั้น ผลของการสงครามมิไดมีใครรูสึกเลย แตเมื่อสงครามดําเนินตอไป พลอยก็รูสีกวา ของตางๆเริ่มมีราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะสินคาที่มาจากภายนอก แตในตอนหลังของที่ทําในเมืองไทยนี้เอง ก็มี ราคาแพงไปตาม เปนตนวาของกินและขาวสาร พลอยมีหนาที่คุมรายจายทางบาน ก็ไดแตนั่งดูรายจาย ที่สูงขึ้น ดวยความหนักใจ ของทุกอยางดูจะมีคามากกวาเกาไปหมด คลายๆกับวาบานเมืองกําลังจะเขายุค ขาวยาก หมากแพง เหมือนที่ผูใหญเคยเลาใหฟงมาแตกอน พลอยเคยไดยินคุณสายเลาใหฟงวา สมัยเมื่อคุณสายยังเปน สาว ปลาทูนึ่งเคยขายเขงละฬล และในเขงนั้นก็มีปลาทูเรียงกันถึงสามชั้น ขณะที่คุณสายเลาเรื่องนั้น พลอยจํา ไดวาปลาทูมีราคาเขงละไพ ซึ่งคุณสายบนวาแพงนักแพงหนา แตในขณะนี้ ปลาทูขึ้นราคาไปถึงเขงละ ๖ สตางค คือสองไพ และในเขงมีปลาทูไมกี่ตัว พลอยก็ชักวิตกถึงรายจายภายในบาน วันหนึ่งพลอยถามคุณเปรมวา "คุณเปรม หมูนี้ของทําไมแพงเสียจริงๆ" "เพราะฝรั่งรบกัน" คุณเปรมตอบ "ฉันกลุมใจคํานี้เสียจริงๆ ทีเดียว" พลอยบน "เวลานี้ไมวาจะไปทางไหน มีแตพูดกันเรื่องฝรั่งรบกันๆ จน ชั้นขาวแพงของแพง ก็อางวาเพราะฝรั่งรบกัน ราวกะวาฝรั่งมารบกันอยูใกลๆ" "อาว ฉันบอกใหจริงๆ กลับไมเชื่อ" คุณเปรมหัวเราะ "จริงๆนะแมพลอย เพราะฝรั่งรบกัน ของนอกมันก็ ตองแพง ของในนี้มันก็แพงไปตาม เพราะคนไทยเราใชของนอกกันมาก แตแมพลอยอยาวิตกไปเลย เงินทอง เราเวลานี้ก็หาไดมากกวาแตกอน ฉันก็ยังไมไดบอกแมพลอยไว จะใชสอยทางบานเทาไรก็ใชเถิด เพราะทางคา ขายของฉัน หาเงินไดคลองพอถัวกันไป" "นั่นมันคนละเรื่องคุณเปรม" พลอยตอบ "ทํามาหาไดมากมันก็เปนของดี แตตองจายมากฉันก็ไมสบายใจ วันหนึ่งๆไดแตนั่งดูเงินไหลออกจากบาน ผูคนที่ตองเลี้ยงก็หลายปากหลายทอง ฉันอดใจหายไมได" "แมพลอยอดใจเอาหนอยเถิด" คุณเปรมตอบ "ฉันวารบกันไปไมนานหรอก อีกหนอยเยอรมันก็ชนะ" "คุณเปรมรูดวยหรือวาใครจะชนะ" พลอยถามอยางสงสัย "ทําไมจะไมรู ฉันฟงขาวอยูทุกวัน" คุณเปรมตอบอยางเต็มภาคภูมิ "คราวนี้เยอรมันชนะแน คอยดูไปเถิด อังกฤษฝรั่งเศส จะแยคราวนี้แหละ ฉันเอาเยอรมันเปนตอทีเดียว" "คุณเปรมพูดเหมือนยังกับเขาขางเยอรมัน" พลอยพูด "ก็เห็นจะจริง" คุณเปรมยอมรับแลวก็หัวเราะพูดวา "อังกฤษฝรั่งเศสมันใหญโตมานานแลว เคยเลนรังแก เรา มาดวย เยอรมันเสียอีก เขาไมเคยทําอะไรเลย คราวนี้จะไดเห็นกันละ" คุณเปรมทําตัวเปนฝายเยอรมันไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่พูดกันเรื่องสงคราม คุณเปรมจะตองยกยอง ฝาย เยอรมันวาเกงกาจตางๆ รบก็เกงกวาฝายพันธมิตร อาวุธก็ดีกวาฝายพันธมิตร เยอรมันตีเมืองอะไรไดบาง คุณ เปรมก็ตองเก็บมาบอก จนพลอยขี้ครานจะจดจํา เพราะชื่อตางๆเหลานั้นสําหรับพลอย ฟงหนเดียวก็ลืม คุณ เปรมเปนฝายเยอรมันอยูนาน แตแลวก็คอยเสียงเบาลงไป จนพลอยผืดสังเกต วันหนึ่งคุณเปรมกลับมาบานแตวัน พอมาถึงบานคุณเปรมก็ยังไมผลัดเสื้อผา แตรีบมาหาพลอย แลวพูด ขึ้นวา "แมพลอย เมืองไทยเราประกาศสงครามแลว !" คุณเปรมพูดดวยทาทางแสดงความสําคัญ เหมือนกับวา ตัวคุณเปรมเองเปนคนไปประกาศสงคราม "งั้นหรือคุณเปรม" พลอยพูดอยางงงๆ เพราะไมรูความสําคัญของคําวา ประกาศสงคราม "แลวยังไงละ" พลอยถามตอ คุณเปรมเองไดยินพลอยถามก็ชักจะงงเหมือนกัน แตก็ตอบวา "อาวก็เขาสงครามยุโรปคราวนี้ดวยนะซิแมพลอย"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy204.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๔ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 3

"เขาขางไหน" พลอยถาม "เขาขางฝายพันธมิตร" คุณเปรมตอบ "เมื่อคืนตํารวจออกจับพวกเยอรมันกันทั้งคืน นี่เขาคุมตัวไวหมด แลว ทรัพยสินเยอรมันเขาก็ยึดหมด อยางหางบีกริมและเรือเยอรมันอีกตั้งหลายลํา" "อาว ก็ไหนวากันวาเยอรมันจะชนะอยางไรละคุณเปรม" พลอยพูดอยางสงสัยเต็มที "ไปเขาขางอังกฤษ ฝรั่งเศสจะมิพลอยแพไปดวยหรือ" คุณเปรมเหลียวดูขางหลังเหมือนกับกลัววามีใครจะมาแอบฟง แลวพูดวา "พูดเหลวไหลกันไปทั้งเพ... ใครๆ ก็รูวาพันธมิตรเขาตองชนะ เพราะเขาเปนฝายถูก เยอรมันเปนฝายผิดก็ตองแพไปเอง คอยดูไปเถิด" คุณ เปรมหยุดนิ่งครูหนึ่ง แลวก็พูดขึ้นวา "ทีนี้แมพลอยอยาไปพูดอยางเมื่อกี้ใหใครเขาไดยินเปนอันขาดเที่ยวนะ จําไววาเยอรมันเปนขาศึกของ เรา ใครเขาขางขาศึกเปนเสียคนแน" ตั้งแตนั้นมา คุณเปรมก็ทําตัวเปนฝายพันธมิตรอยางแข็งแรง พูดถึงเรื่องสงครามครั้งไร ก็มีแตฝาย พันธมิตร จะตองชนะเด็ดขาด บางทีก็มีขาวพายแพของเยอรมันมาเลาใหฟง เพื่อสนับสนุนความเห็นของตน เวลาพูดถึงเยอรมัน คุณเปรมก็ใชถอยคํารุนแรงเรียกวา "อายศัตรู" บาง "อายขาศึก" บาง หรือเรียกวา "อาย ฮั่น" บาง ซึ่งคําหลังนี้ คุณเปรมแปลใหฟงวาเปนคนปาชนิดหนึ่ง มีความโหดรายทารุณ ปราศจากศีลธรรมของ มนุษย เหมือนกับพวกเยอรมันสมัยนี้ เมื่อทางราชการประกาศเรียกทหารอาสา จะสงไปสงครามยุโรป คุณเปรมก็ตื่นเตนอีกพักใหญ พูดถึง เรื่องที่ไทยจะไปรบดวยสายตาเปนประกาย ถึงกับปรารภวา "แมพลอย ฉันเสียดายจริงๆ ที่ฉันมันแกเสียแลว ถาเปนเด็กหนุมแนนเหมือนเมื่อกอน ฉันตองอาสาไป รบ ดวยคนเปนแนๆทีเดียว" พลอยอดรนทนไมไหวตองขัดคอคุณเปรมขึ้นวา "คุณเปรมนี่ฉันตามไมทันหรอก เดี๋ยวก็แกเดี๋ยวก็หนุม นึกจะแกเอาตามใจ บทจะหนุมก็หนุมขึ้นมาเฉยๆ พิลึกละ" คุณเปรมหัวเราะเรี่ยๆไมโตตอบวาอยางไร แตความตื่นเตนของคุณเปรมก็มิไดเบาบางลงไป วันที่ทหาร อาสาจะไปนอก คุณเปรมก็หายไปทั้งวัน กลับมาตอนดึกไดความวาไปสงทหารอาสา และชวนพลอยคุย ถึงเรื่อง ไปทัพจับศึก เรื่องพิธีปฐมกรรมตัดไมขมนาม ที่ตนไดเห็นมา คุณเปรมเลาใหฟงวา พระเจาอยูหัวเสด็จออก ทรง เครื่องแดงถือพระแสงแบบโบราณงามนักงามหนา เลือดนักรบเกิดรอนระอุขึ้นมาในตัวคุณเปรม อยางที่พลอย มิ ไดเคยรูเห็นมาแตกอน ทําใหพลอยทั้งขันทั้งรําคาญ ในใจนั้นนึกแชงใหพันธมิตรเปนฝายแพ เพราะอยากจะดูวา คุณเปรมจะตีหนาอยางไร มิไดคิดอะไรเกินไปกวานั้น แตพอทหารอาสาออกจากเมืองไทยไปไมกี่เดือน คุณเปรมก็หนาบานกลับบานแตวันวันหนึ่ง ตะโกน เรียกพลอยเสียงเอะอะมากจากขางลาง ทีแรกพลอยตกใจนึกวามีเรื่องอะไร แตเสียงของคุณเปรมนั้น รื่นเริงเบิก บานกวาปกติ "แมพลอย ! แมพลอย !" คุณเปรมขึ้นกระไดพลางรองเรียก พอเห็นหนาพลอยก็พูดวา "ฉันวาแลวไหม ละ" "อะไรกันคุณเปรม" พลอยรองถาม "สงครามเสร็จแลว !" คุณเปรมตอบ "เยอรมันแพราบคาบอยางฉันวาไมมีผิด" พลอยรูสึกโลงอกเมื่อไดทราบขาว เพราะประการแรกเมื่อสงครามเสร็จลง บางทีขาวของจะถูกลงบาง และประการที่สอง คุณเปรมจะไดหายตื่นสงครามเสียที สงครามคราวนี้ทําใหพลอยรูนิสัยคุณเปรมขึ้นดีกวาเกา คุณเปรมเปนคนมีความคิดเห็นรุนแรงเสมอ แตความคิดของคุณเปรมนั้นเปลี่ยนไดงายตามกาลสมัย และเมื่อ เปลี่ยนไปแลวคุณเปรมก็ลืมความคิดเดิมเสียสิ้น พูดจาแสดงความคิดเห็นอยางใหม เหมือนกับวาเปนความคิด ของตนมาแตดั้งเดิม อยางเรื่องเยอรมันแพสงครามนี้เปนตน แตแรกคุณเปรมก็เขาขาง เยอรมันจริงๆ แตตอน หลังเมื่อคุณเปรมรูแนวาพระเจาอยูหัว จะทรงประกาศสงครามกับเยอรมัน คุณเปรมก็เปลี่ยน ความคิดตามเสด็จ และจงเกลียดจงชังเยอรมันเอาจริงๆ เมื่อเยอรมันแพในที่สุด คุณเปรมก็ยินดีดวยความจริงใจ จะไดเสแสรงทําก็ หาไม พลอยดูๆคุณเปรมแลวก็หวนไปนึกถึงกลอนสั้นๆ ที่เคยไดยินมาแตในวังวา "เจาวางามก็ตองงามไปตามเจา หรือใครเลาจะไมงามตามเสด็จ" แตคุณเปรมมีดีอยูอยางหนึ่งที่ปากกับใจตรงกัน คือเมื่อปกใจวาจะตามเสด็จแลว ในใจก็เห็นดีเห็นงาม เอาจริงๆ มิใชสักแตวาพูดดวยปากเทานั้น สงครามเสร็จไปแลวไมนาน คุณเปรมก็เริ่มตื่นเตนทหารอาสาตอไปอีก วันหนึ่งๆก็มีแตคุยเรื่องทหาร อาสา ไปสวนสนามที่โนนที่นี่ พอทหารอาสากลับถึงเมืองไทย คุณเปรมก็ตองวุนวายดวยการรับรองทหารอาสา จนไมมีเวลาไปทําอื่นได เสร็จงานทหารอาสาไปแลว คุณเปรมก็มีเรื่องที่จะตองตื่นเตนตอไปอีก คราวนี้เปนเรื่อง เรี่ยไรเงินซื้อเรือรบ คุณเปรมติดเข็มราชนาวีอยางภูมิใจ เข็มนี้มีแถบสีแดงกับขาว กลางเปนเข็มเงินโปรง เปน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy204.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๔ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 3

รูปชางนั่งชูงวง เปนเครื่องแสดงใหเห็นวาไดออกเงินไปแลว นอกจากตัวเอง คุณเปรมก็ออกเงินในชื่อ ของพลอย และลูกๆทุกคน และเอาเข็มมาแจกคนละอัน พรอมกับคําสั่งใหติดไปดวย เวลาจะไปไหนมาไหน "ทําไมจะตองติด เงินเราก็ออกไปแลว" พลอยถาม "ติดใหคนเขารูวาเรารักชาติ คนอื่นเขาจะไดทําตาม ชวยกันออกเงินซื้อเรือรบ เรือลํานี้จะใหญโตกวา ที่ เราเคยมี คราวนี้ละ เมืองไทยจะไดเทียมหนาประเทศอื่นเขาบาง" "ทําไมคนอื่นเขาไมชวยกันซื้อเข็มดอกหรือ" พลอยถามตอไปอีก "เขาก็ซื้อเหมือนกันแตเราตองชวยกันชักชวน" คุณเปรมตอบ แลวก็พูดแถมทายตอไปวา "อยาวาแตคน เลย ยาเหลยังชวยออกเงินคราวนี้" "ยาเหล" พลอยพูดอยางไมเขาใจ "หมาของในหลวง" คุณเปรมอธิบาย "ทานโปรดยิ่งกวาคนบางคนเสียอีก มันเกิดในเรือนจํานครปฐม ทานเสด็จไปที่นั่นเห็นนาเอ็นดู เจาของเขาเลยถวาย เดี๋ยวนี้โตแลว รูเหลือเกินละแมพลอย อยางฉันเวลาเขาเฝา เฉียดใกลเขาไปหนอยเดียว มันกัดเสียผาขาด แตพอลับหลังทานเวลามันมาเที่ยวขางลาง พบกับฉันจังๆหนา ฉันเงื้อจะเลนเอาบาง มันกระดิกหางเขามาหาดีอกดีใจ ราวกะรูจักกันมานาน เลยใจออนทําไมลง ทานก็นาจะ โปรด ของทานหรอก เพราะมันรูจริงๆ" พลอยฟงคารมของคุณเปรมแลวก็รูดีวา ตอไปคุณเปรมก็จะมีเรื่องสนใจตอไปอีกเรื่องหนึ่ง คือเรื่องซื้อเรือ รบ ซึ่งความคาดหมายของพลอยนั้นก็ไมผิด เพราะคุณเปรมออกเงินสวนตัวไปแลว ก็ยังไมพอ คุณเปรมยังชัก ชวนเพื่อนฝูงบรรดาที่รูจัก ใหชวยออกเงินอยูทุกวัน พลอยดูๆผูชายที่ตนรูจัก เชนคุณเปรม และพอเพิ่มหรือคน อื่นๆแลว ก็กําหนดมติไวในใจวา ผูชายนั้นถึงจะเติบโตเปนผูใหญแลวอยางไร ก็ยังไมทิ้งนิสัย ที่เปนเด็ก คือตอง มีของเลน มีเรื่องอะไรเลนอยูเปนประจําขาดเสียมิได พอเพิ่มเลนไมดัด นกเขา และมีเพื่อนเลนมากมาย สวนคุณ เปรมนั้นเลนมา เลนหัดทหารเปนเสือปา และเมื่อมีเรื่องใหมอะไรเกิดขึ้น คุณเปรมก็ตื่นเตนเหมือนกับเด็กๆได ของเลนใหม แตภาพเชนนี้มิไดมีอยูแตในตัวคนที่พลอยรูจักดีเทานั้น ถึงแมคนอื่นๆ ที่พลอยไมรูจักคุนเคย เชน เพื่อนฝูงในกระทรวงเดียวกับคุณเปรม พลอยก็สังเกตเห็นวา ตางคนก็หาเรื่องสนุกกันอยูทั้งสิ้น สิ่งที่พลอยนึกไป ไมถึงก็คือ ในระยะเวลาตนรัชกาลที่ ๖ นั้นเมืองไทยกําลังอยูใน สมัยที่สมบูรณพูนสุขอยางยอดเยี่ยมสมัยหนึ่ง หลังจากการทํางาน การกอรางสรางตัวมาแตแผนดินกอนๆ ผลดีตางๆ ที่พึงจะเกิดขึ้นจากความอุตสาหะพาก เพียรของคนแตกอน ก็มาตกแกคนในยุคนั้น ความสงบเรียบรอย ของบานเมือง ทรัพยสมบัติของบานเมือง และ ของเอกชนที่ไดสะสมเอาไว ตางมารวมกันกอใหเกิด ความสุขกายสบายใจ และชีวิตที่ไมมีกังวลแกคนเปน จํานวนมาก ความแนนอนแหงชีวิตทั้งในปจจุบันและอนาคต เปนปญหาที่ไมมีใครคํานึงถึง ทุกคนมองชีวิตดวย ความแนใจ เห็นแตความหรูหราโออา และคนที่อยูในโลกเดียว กับพลอยในขณะนั้น เกือบจะเรียกไดวามีปญหา อยูอยางเดียว คือปญหาที่วาใครจะหรูหรากวากัน แตถึงความสุขสบายจะมีอยูมากมายเพียงไรก็ตาม ความทุกขก็ตองเที่ยวแอบแฝงอยูบางเปนธรรมดา พลอยรูดีวาคนบางคนที่ใกลชิดกับตนเชนคุณเชยและชอย มีทุกขอยูเปนประจํา เนื่องจากความแรนแคน ในการ ครองชีพ ความทุกขของคนที่พลอยรักเปนเครื่องเหนี่ยวรั้ง มิใหพลอยระเริงไปในความสุขที่มีอยูรอบดาน และมี เรื่องอีกเรื่องหนึ่งเกิดขึ้น ซึ่งทําใหพลอยเห็นความไมเที่ยงของสรรพสิ่งทั้งปวงแนชัดขึ้น อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy204.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๔ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๒ บทที่ ๔ (หนาที่ ๒) วันหนึ่งตอนกลางวัน พลอยนั่งอยูคนเดียวในหองนอน เอาเสื้อกางเกงของลูกๆ ที่ขาดชํารุดออกมาซอม เด็กผูหญิงคนใชคนหนึ่ง คลานเขามาหาแลวพูดวา "คุณเจาคะ มีใครก็ไมทราบมาหาคุณ" "ผูหญิงหรือผูชาย" พลอยถามอยางไมสนใจเทาไรนัก "ผูหญิงเจาคะ เขาบอกวาเปนพี่คุณ" "ไฮไมจริงกระมัง" พลอยรองขึ้น "ฉันไมมีพี่นองที่ไหนอีก เขาอยูที่ไหน" "นั่งอยูหนาตึกเจาคะ" พลอยเก็บของที่กําลังทําอยู ลุกเดินไปขางหนาตึกดวยความสงสัย ผูหญิงสูงอายุคนหนึ่งนั่งอยูที่ เฉลียง ใหญหนาตึก นุงผาพื่นสีเขียวแก และหมผาแพรสี่เหลี่ยมสีเทา กระเปาหมากเลี่ยมนากที่ถือมากิน วางอยูขางๆ ตัว เมื่อพลอยโผลจากประตูหองออกไปนั้น หญิงนั้นกําลังยกมือขึ้นเอาขี้ผึ้งสีปาก กิริยาทาทาง ที่พลอยไดเห็น นั้น เปนสิ่งที่รูจักดีมาตั้งแตเด็ก พอไดเห็นอีกครั้ง ก็รูสึกวาตัวเองเล็กลงไปถนัดใจ ในหนึ่งนั้นอยากวิ่งหนี แตก็ รูสึกวาแขงขาออนไปไมรอด พลอยทรุดตัวลงนั่งแลวยกมือไหว พูดออกมาไดคําเดียววา "คุณพี่ !" คุณอุนเหลียวมาดูพลอย แลวยิ้มดวยเปนครั้งแรกในชีวิตพูดขึ้นวา "คุณพลอย พี่ไมไดพบเสียนาน คิดถึงอยูเสมอ สบายดีหรือ" "สบายดีเจาคะ พลอยตอบตะกุกตะกัก เหมือนกับเมื่อยังเปนเด็ก ใจหนึ่งก็ตองขอสังเกตไววา คุณอุนเปน พี่นองคนแรก ที่เรียกตนวา "คุณพลอย" แตสําหรับพลอยนั้น ถึงจะนึกคุณอุนในแงไรก็ตาม ความนึกคิดนั้นก็ เปนไปลับหลังคุณอุน พอพบกันเขาจังหนา ก็มีแตความกลัวมากกวาความคิดอื่นๆทุกครั้งไป "คุณพลอยเขามานั่งใกลๆกับพี่หนอย" คุณอุนพูดขึ้นอีก "ไมไดพบกันนาน พี่อยากดูหนาเธอใหเห็น ชัดๆ" พลอยคลานเขาไปนั่งใกลตามคําสั่ง คุณอุนยิ้มมองดูทั่วตัว แลวก็พูดตอไปวา "ไมเปลี่ยนไปเลย ยังสวยอยางไรก็อยางนั้น มีลูกมีเตาแลว ยิ่งดูเปนน้ําเปนนวลขึ้นกวาเกา เธอสวยมาก นะ คุณพลอย สวยยิ่งกวาเมื่อยังเปนสาวรุนๆเสียอีก" "คุณพี่มีธุระอะไรหรือเจาคะ" พลอยแข็งในถามออกไปในที่สุด "เปลา ไมมีธุระอะไรหรอก" คุณอุนตอบ "พี่คิดถึงเธอก็มาเยี่ยม เรามีพี่นองดวยกันไมกี่คน ยังหนุมยังสาวตางคนตางมีธุระก็หางเหินกันไป เดี๋ยว นี้แกตัวลงก็คิดถึงนองๆ อยากจะพบปะใกลชิดเหมือนแตกอน คุณพระยังไมกลับจากทํางานหรือ หลานๆหายไป ไหนหมด เธอมีลูกกี่คนแลว" พลอยพูดเบาๆ เลาจํานวนลูกของตนใหคุณอุนฟง พรอมกับบอกเด็กใหไปตามประไพมาหาคุณปา อีกสักครู ประไพก็ออกมายังที่ๆพลอยนั่งคุยอยูกับคุณอุน พลอยนึกวาประไพจะตองรูสึกเกรงกลัว หรือ กระดากอาย เพราะครั้งนี้เปนครั้งแรกที่ประไพไดพบคุณอุน แตประไพก็คลานเขาไปหาคุณอุนเมื่อคุณอุนเรียก และยอมใหคุณอุนกอดจูบอยางสนิทสนม ไมหนีกลับมาหาพลอย ทําใหพลอยตองอัศจรรยในอยูครันๆ "สวยเหมือนคุณแม" คุณอุนชมหลานสาว "สวยจริงๆดวย โตขึ้นอีกหนอยเถิด จะสวยถึงลือทีเดียว หลาน ฉันคนนี้" พลอยนิ่งไมตอบ เพราะยังไมทําตัวใหยินดียินรายในคําพูดของคุณอุนได แมแตจะใหปลงใจเชื่อวา ที่คุณ อุนมาคราวนี้นั้น มาเพื่อเยี่ยมเยือนดั่งที่คุณอุนบอกไวแตแรก พลอยก็ยังไมสามารถจะทําใจใหเชื่อได "พอเพิ่มยังไปมาหาสูคุณพลอยหรือเปลา" คุณอุนถามขึ้น "ก็ยังไปมาแตนานๆครั้ง" พลอยตอบ "แลวแมเชยเลา" "อิฉันก็ไดพบเปนครั้งเปนคราว เวลาเจ็บไขก็เยี่ยมเยือนกัน ถาสบายๆไมมีเรื่องก็ตางคนตางอยู" "คุณพลอยเคราะหดี ยังพบปะพี่นองเสมอ" คุณอุนพูด "ฉันเสียอีกไมคอยไดพบปะกับใคร มีนองเหลืออยู คนเดียว ก็เอาเปนที่พึ่งไมได มีเรื่องใหตองรําคาญใจเสมอ" คุณอุนพูดเหมือนกับวา เรื่องราวทั้งหมดเปนความ ผิดของคนอื่น ฝายคุณอุนเสียอีกเปนผูตองรับเคราะหกรรม "มาคราวนี้ฉันก็มีเรื่องมากวนใจเธอ" คุณอุนพูดตอไป

http://www.geocities.com/siamstory/ploy204_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๔ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 4

"คุณพี่มีเรื่องอะไรใชสอยอิฉันก็อยางเกรงใจเลย" พลอยรีบตอบ รูสึกโลงอกวาอยางนอยคุณอุนก็มีธุระ มิ ใชวาจะมาเยี่ยมเฉยๆ ซึ่งพลอยไมเขาใจ "อิฉันยินดีรับทําใหทุกอยาง" "เรื่องที่มามันก็ยากอยูบาง" คุณอุนพูด "พี่ก็อดเกรงใจเธอไมได" "คุณพี่อยาเกรงใจเลย บอกอิฉันเถิด" พลอยรีบพูดกอนที่คุณอุนจะออกตัวตอไปอีก คุณอุนกมหนาดูกระดานนิ่งๆอยูพักหนึ่ง แลวก็ถอนใจใหญ พูดขึ้นเบาๆวา "พี่เองก็ไมเคยมีเรื่องมีราว อะไรหรอก พอชิตนั่นแหละเปนคนชอบทําเรื่องใหตองรอนใจบอยๆ คราวนี้ก็ไปทําหนี้สินไวมาก พี่ก็หมดปญญา จริงๆ จึงตองบากหนามาพึ่งเธอ เจาหนี้เขาเรงรัดเขาทุกวัน ถาเธอไมชวยก็เห็นจะขายหนาเขา" "เรื่องเปนอยางไร คุณพี่ยังไมไดเลาใหอิฉันฟงเลย" พลอยเตือนขึ้น "เรื่องที่บานคลองบางหลวง" คุณอุนตอบ "พอชิตเขามาบอกพี่วา เพื่อนเขามาชวนไปคาไมที่หัวเมือง เขา จะเอาเงินไปทําทุน ตอนนั้นพี่ก็ไมมีจะใหเขาๆบอกใหพี่เอาบานไปจํานํา พี่ก็ยอมเพราะรักนอง แตแลวคาขาย ขาดทุน เงินทองก็หมดไป เจาหนี้เขาเรง ถาหาไปไถเขาไมได เขาก็จะเอาเปนหลุด ลําพังตัวพี่เอง อยูที่ไหนก็ได แตมาเห็นวาบานนั้นอยูกันมาแตปูยาตายาย ถาปลอยใหหลุดไปเปนของคนอื่น ก็ขายหนาเขามาก พี่อยากเอา บานมาไวกับเธอ" "คุณพี่ตองการเงินสักเทาไร" พลอยถาม "ถาไดสักแปดพันก็พอจะใชหนี้สินไดหมด และพี่จะเอาบานมาทําจํานําไวกับเธอทีเดียว ทิ้งเอาไวเฉยๆ พี่ก็ไมไวใจ ทีหลังก็จะตองไปจํานําคนอื่นเขาอีก แลวเรื่องก็จะกลับเปนอยางเกา ไมมีจบสิ้น" "เรื่องเงินนั้นคุณพี่อยาวิตกเลย" พลอยพูดแลวก็ตัดสินใจพูดตอไปวา "อิฉันพอจะหามาชวยไดคราวนี้ แต อิฉันเองกลับวิตกเรื่องคุณพี่ คุณพี่อยูตัวคนเดียวฟากขางโนน นานเขาก็จะยิ่งลําบากเขาทุกวัน" คําพูดของพลอยที่รับปากวาจะชวยนั้นทําใหคุณอุนโลงอก แตคําพูดที่แสดงความหวงใยนั้น ดูหมือนจะ สะกิดความรูสึกในใจบางอยางของคุณอุน คุณอุนมองดูหนาพลอยอยางลังเล ไมทราบวาจะทําอยางไรดี กับคนที่ ไมถือโกรธ และไมมีความพยาบาทอาฆาตติดอยูในสันดานเสียเลย น้ําตาคุณอุนเริ่มไหลรินๆ แลวก็เพิ่มปริมาณ มากขึ้น จนในที่สุดคุณอุนก็รองไหสะอื้นใหพลอยไดเห็นเปนครั้งแรก คําพูดของคุณอุนตอไป เปนคําพูดที่พลอย รูสึกวามาจาหัวใจ เพราะคุณอุนกลับพูดอยางธรรมดาที่เคยมาแตกอน มิไดยกยองใชคําวา "คุณพลอย" อยาง ในตอนแรก "พี่ผิดไปแลว" คุณอุนเริ่มพูด "ผิดไปมากทีเดียว แมพลอยยกโทษใหพี่เสียเถิด แตพี่ทํากับแมพลอยมา มาก ถึงแมพลอยจะโกรธเคืองพี่ก็ไมวาอะไร ยอมรับผิดทุกอยาง พี่เปนคนมีกรรม เห็นผิดเปนชอบ เอาแตใจตัว กวาจะไดคิดมันก็ชาไป เมื่อครั้งพอแมยังอยู พี่ก็ไมรูสึก เพราะบารมีทานคุมกันไว ยิ่งพอแมตามใจ พี่นองกลัว เกรง ก็ยิ่งแตจะเอาตามใจตัว ใครเขายกยอปอปนก็เชื่อถือคนนั้น สิ้นบุญพอแมแลวก็มีแตความลําบาก แมพลอย ไมรูหรอกวา พอชิตเขาทํากับพี่สักแคไหน ทีแรกก็เปนเพียงขอ ตอนหลังขอไมได เขาก็ขูเอาเข็ญเอาจนได พี่ หมดตัวก็เพราะนองคนนี้ ใหเขาเทาไรก็ไมมีพอ พี่ก็ขายไปทีละอยางสองอยางจนหมด เหลือแตถวยชามลาย น้ําลายทอง เขายังมาเคียวเข็ญใหพี่ขายเอาเงินใหเขา พี่ไมยอมเขาก็กินเหลาเมาขึ้นมาบนตึก เขาไปในหองไว ถวยชาม ยกขวางหนาตางทีละเขง จนแตกปนปหมด ดูเอาเถิดแมพลอย เขาทํากับพี่ถึงเพียงนี้" พลอยนั่งตกตะลึง จะพูดจาปลอบโยนคุณอุนอยางไร ก็พูดไมออก ครั้งนี้เปนครั้งแรกที่คุณอุนปรับทุกข กับพลอย และปรับทุกขอยางเปดอก รองไหอยางไมอาย คุณอุนคนที่นั่งอยูตรงหนาพลอย ณ บัดนี้ มิใชคุณอุน คนเกาที่เคยไวยศ และชอบแสดงอํานาจขมขูคนอื่นใหตองเกรงกลัว และชอบทําใหคนอื่นตองชอกช้ําใจ แตคุณ อุนคนที่พลอยเห็นอยู ณ บัดนี้ เปนเพียงผูหญิงสูงอายุคนหนึ่ง ที่ตองผิดหวังมามาก ตองประสบความชอกช้ําใน มามาก และหญิงนั้นกําลังระบายความในใจที่เก็บไวกับตัวมานาน ขอแตเพียงใหได มีใครอีกคนหนึ่งสงสารได เห็นใจ มิไดขออะไรมากไปกวานั้น "คุณชิตเดี๋ยวนี้อยูที่ไหน" พลอยถามขึ้นถึงตนเหตุที่ทําใหคุณอุนตองมานั่งรองไหอยูตอหนา "แตกอนเขาก็อยูที่บาน" คุณอุนตอบ "แตเดี๋ยวนี้เขามาแตนานๆครั้ง ทิ้งแตนางพวงเมียคนแรก กับลูกอีก สองคนใหอยูที่บาน เขาไปไดเมียใหมที่โนนบางที่นี่บาง เขาก็เที่ยวไปนอนตามบานเมีย จะมาก็แตเวลาที่อยาก ไดเงิน แตเดี๋ยวนี้เขารูวาพี่ไมมีอะไรจะให เขาก็ไมมานานแลว" พลอยโลงอก เมื่อไดยินคุณอุนบอกวา คุณชิตเริ่มจะหางเหินไปเอง ปากนั้นถามคุณอุนวา "คุณพี่อยูคนเดียวที่บานไมลําบากหรือเจาคะ" คุณอุนนิ่งไมตอบอยูนาน แตในที่สุดก็พูดขึ้นวา "ถาจะวาลําบากก็ลําบากมากแมพลอย บาวไพรที่เคยเลี้ยงมันมา มันก็ทอดทิ้งไปเสียเกือบหมด เหลือแต ยายปริกคนของพี่คนเดียว แตแกก็แกมากแลว หลงๆเลอะๆ เดี๋ยวนี้บางวันก็ตองหุงขาวกินเอง คนที่อยูในบาน เขาเปนคนของพอชิตใชสอยไมได มาจากบานไหนบางก็ไมรู แตก็ชางเถิด พี่ก็รูตัววา เปนคนหาความลําบากใส ตัว ถึงจะตองมาลําบากเมื่อแกก็ไมเปนไร บางทีนึกอยากจะตายเสียใหพนทุกขไปสักที" คุณอุนพูดแลวก็กมหนาลงรองไหตอไปอีก พลอยเกิดมีความคิดพลุงขึ้นในหัวใจ ถาพลอยคิดจะชวย เหลือ คุณอุนใหไดผลจริงจัง ก็ตองชวยใหไดรอดจากคุณชิต เปนทางเดียวเทานั้นที่คุณอุนจะมีความสุขกายสุข

http://www.geocities.com/siamstory/ploy204_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๔ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 4

ใจได การใหเงินคุณอุนไปใชหนี้เกา เพื่อมิใหบานคลองบางหลวงตองหลุดไปเปนของคนอื่นนั้น เปนการชวย เหลือ เปนครั้งคราว ซึ่งจะไมยั่งยืน เพราะคุณชิตจะกอปญหาใหม ใหตองแกไขไมมีที่สิ้นสุด ตราบใดที่คุณอุนยัง อยู ที่บานคลองบางหลวง ไมมีใครดูแล คุณอุนก็จะตองตกอยูในฐานะที่คุณชิตจะรบกวน และขมขูไดตลอดไป แตถาคุณอุนออกมาเสียจากบานนั้น และไปอยูเสียกับพี่นองอื่น มีคนคอยดูหลายตาดวยกัน บางทีคุณชิตจะไม กลา ทําอยางที่เคยมาแตกอน คุณอุนก็จะคอยมีความสุขขึ้นบาง พลอยเห็นคุณอุนนั่งรองไหอยางคนมีทุกขหนัก ก็มีแตความสงสาร ความเจ็บช้ําน้ําใจที่เคยไดรับมาแตกอนนั้น ละลายหายไปสิ้น นึกแตวาคุณอุนเปนคนแก ที่ อาภัพคนหนึ่ง เปนผูหญิงดวยกัน และถึงคุณอุนจะมิใชพี่สาวแมเดียวกันกับตน คุณอุนก็ยังเปนลูกของเจาคุณ พอ หากพลอยไดชวยเหลือคุณอุนคราวนี้ ถาเจาคุณพอสามารถรูไดดวยทางใดๆ ทานก็คงจะพอใจ และถาหาก แมมีทางรูดวย แมก็อาจหัวเราะสมน้ําหนาคุณอุน แตแมก็คงจะดีใจที่พลอยไมทอดทิ้งพี่นองในยามทุกข เพราะ พลอยรูวาแมเปนคนที่ใจดี ชอบชวยเหลือคนอื่น ที่ไดรับทุกขไมนอยไปกวาตน ปญหาที่เหลืออยูจึงมีอยูวา จะ เอาคุณอุนออกจากบานคลองบางหลวง แลวไปฝากไวกับใคร พลอยนึกถึงคุณเชยเปนคนแรก แตก็รูทันทีวา ไม มีประโยชนอะไร เพราะคุณเชยไมอยูในฐานะที่จะเปนที่พํานักแกพี่นองได ถึงแมคุณเชยสามารถจะรับคุณอุน ไป อยูดวยได คุณอุนก็ยังไมพนจากการรังควานของคุณชิต เพราะคุณเชยเปนนองแทๆของคุณชิต ยิ่งกวานั้น คุณ อุนเองจะเปนเครื่องชักนําคุณชิตใหเขาบานคุณเชย ทําใหคุณเชยตองเดือดรอนไปดวย พอเพิ่มนั้นพลอยรูดีวา ไมมีปญหาจะตองนึกถึง เพราะพอเพิ่มไมอยูในฐานะที่จะชวยคุณอุนไดเลย และถึงพอเพิ่มจะชวยได คุณอุนเอง ก็จะไมยอมไป คนที่จะเปนที่พึ่งที่พํานักแกคุณอุนไดในยามนี้ ก็คือตัวพลอยเอง พลอยมีบานชอง ที่ใหญโตพอที่ จะใหคุณอุนอาศัยอยูไดอยางเปนสุขและอิสระ มีผูคนมากพอที่จะเจียดใหไปคอยปฏิบัติดูแล และคุณชิตนั้นไม สนิทสนมกับพลอยมากนัก อาจมีความเกรงใจหรือละอายใจไมมารบกวน นอกจากนั้น บารมีของคุณเปรม อัน เกิดจากตําแหนงฐานะราชการ อาจทําใหคุณชิตเกรงอยู ไมกลาตามเขามารุกรานถึงในบาน พลอยตรึกตรองดูแลว ก็เห็นวาเปนหนาที่ของตนที่จะตองชวยเหลือคุณอุน และรูใจตัวเองอยางแนนอน วา ถาหากตนไมยื่นมือเขาชวยเหลือเสียแตเดี๋ยวนี้ ตนเองก็จะตองไดรับความไมสบายใจไปตลอด เพราะถึง พลอย จะถูกคุณอุนทําใหชอกช้ําน้ําใจมาอยางไรแตกอนก็ตาม พลอยก็ยังเปนคนคนเดียวที่คุณอุนบากหนามา หา เมื่อยามทุกข หมดที่พึ่ง "คุณพี่อยารองไหรองหมไปเลย" พลอยพูดปลอบใจคุณอุน "เรื่องหนี้สินที่คุณพี่พูด อิฉันรับจะจัดการให เอง ไมใหขายหนาเขาได แตอิฉันมาวิตกเรื่องตัวคุณพี่เทานั้น คุณพี่จะอยูที่บานนั้นไปอยางตัวคนเดียวกระไรได พี่นองก็อยูหางกัน มีแตแมพวงเขาก็คงทําอะไรไมได เห็นแตแมหวานอีกคนก็เปนผูหญิง..." "หวานเขาออกจากบานไปนานแลว" คุณอุนบอก "พอเจาคุณพอเสียไดสักหนอย แมเขาก็บนวา อยาก กลับบาน พอแมเชยออกมาเสียอีกคน เขาก็เลยไปอยูกับแมเขา เดี๋ยวนี้ไดขาววามีเรือนไปแลว" "ก็เพราะอยางนี้อิฉันจึงไดเปนหวง" พลอยตอบและพูดตอไปวา "คุณพี่ก็อายุมากเขาทุกวัน ยายปริกคนของคุณพี่แกก็แกเต็มที ถาเจ็บไขลงไปก็จะลําบาก ทําไมคุณพี่ ไมมาอยูเสียกับนอง บานชองที่นี่ก็ใหญโต พอที่จะอยูไดสบาย" คุณอุนเหลือบดูพลอยเหมือนกับไมเชื่อหู แลวพูดอยางสงสัยวา "แมพลอย นี่เธอพูดจริงๆหรือ" "ก็จริงๆสิคะ ฉันไปหลอกคุณพี่ทําไม" พลอยยิ้มตอบ "แมคุณแมทูนหัวของพี่ ทําไมแมถึงดีอยางนี้" คุณอุนพูดดวยความประหลาดใจ เพราะนึกไมถึง คําพูดของคุณอุน ทําใหพลอยนึกถึงชอยขึ้นมาทันที ครั้งหนึ่งชอยเคยพูดดวยถอยคําอยางเดียวกัน เสียง คุณอุนพูดวา "เธอจะไปทนพี่ไหวหรือ คนแกยุงออกจะตายไป เดี๋ยวก็เจ็บๆไขๆ เดี๋ยวก็จะเอาโนนเอานี่" พลอยดูหนาคุณอุนแลวยิ้มอยางมีความหมายตอบวา "อิฉันคิดวาจะทนไหว คุณพี่อยาวิตกไปเลยในขอนั้น" พลอยพูดกับคุณอุนแลวก็อดเมินหนาไปยิ้มกับตนเองไมได ชอยเคยมาบนวาตกเปนภาระจะตองเลี้ยงคน แก คราวนี้ก็จะตองถึงตาพลอยบาง แตคุณอุนเมื่อสาวๆนั้นรายสักเพียงไร พลอยก็เคยทนมาได คุณอุนเมื่อตอน แก หมดเขี้ยวหมดเล็บแลว ก็คงจะไมสูกระไรนักหนา พลอยพูดตอไปวา "คุณพี่มาอยูกับอิฉันเสียที่นี่เถิด เรือนยังวางมีอยูหลายหลัง อิฉันจะจัดให" "แมพลอยอยาลําบากลําบนใหมากนักเลย" คุณอุนตอบตกลง "พี่แกแลวอยูคนเดียวที่ไหนก็ได ขอแตให พนความรําคาญ พอไดอยูสงบกับเขาบาง ไมมีคนรบกวนใจเทานั้น" คุณอุนตกลงกําหนดวันที่จะมารับเงินไปไถบานคลองบางหลวง และตกลงที่จะยายมาอยูบานเดียวกัน กับพลอย โดยเร็วที่สุด เทาที่คุณอุนจะเก็บของไดทัน กอนที่จะยายมาอยูกับพลอยนั้น คุณอุนบอกวา จะไมยอม ใหใครรูเลย แตขาวเรื่องนี้ปดไมมิด เพราะพอคุณอุนออกจากบานไปแลว นางพิศก็เดินโขยกเขยกขึ้นมาบนตึก ลงนั่ง หอบหายใจแลวถามขึ้นวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy204_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๔ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 4

"คุณพลอย เมื่อกี้เขาลือกันที่ครัววา พี่สาวคุณมาหาหรือ" เมื่อพลอยพยักหนารับ นางพิศก็ถามขึ้นวา "พี่สาวคนไหนกัน บาวไมเห็นมีที่ไหนอีกนอกจากคุณเชย" "ก็คุณอุนไงละพิศ" พลอยตอบ นางพิศยกมือขึ้นทวมหัวแลวปรารภขึ้นกับดินฟาอากาศทั่วไปวา "เจาประคูน ! เกิดมาไมนึกวาจะพบก็ไดพบ ไมนึกวาจะเห็นก็ไดเห็น คุณอุนมาทําไม" "เธอมาเยี่ยมฉันอยางนั้นแหละพิศ" พลอยตอบอยางบายเบี่ยง "ฉันเห็นเธอแกแลวสงสาร อยูคนเดียวทางโนนไมมีใครดู เปนอะไรไปก็จะลําบาก ฉันเลยชวนเธอ มาอยู เสียที่นี่" นางพิศอาปากคาง แลวรองถามวา "โอโฮ ! คุณพลอย นี่คุณพูดจริงๆหรือหลอกบาวเลน" "พูดจริงๆสิพิศ" พลอยตอบ "เฮอ !" นางพิศถอนหายใจเหมือนกับจะเปนลม แลวซักตอไปวา ""แลวเธอวาอยางไร" "เธอก็รับจะมาอยูดวยกัน" พลอยบอก แลวสั่งตอไปวา "พิศชวยดูใหเด็กๆมันปดกวาดเรือนตาอน ไวให ดวย อีกสี่หาวันเธอก็คงขนของมา" "ลําพังคุณอุนนะบาวไมวาอะไรหรอก เพราะถึงอยางไรเธอก็เปนพี่ของคุณ" นางพิศพูด "แตอีปริก คน โปรดเธอนะ จะมาดวยหรือเปลา อีคนนี้แหละตัวสําคัญนัก ชางยุชางยงอยูเสมอ" "ก็เห็นเธอบอกวาจะเอามาดวย พิศก็ยกใหเธอเสียบางเถิด ผูคนของคุณอุนเดี๋ยวนี้ไมมีแลว เหลือแตยาย ปริกคนเดียว" "ฮะ !" นางพิศรอง "กอนจะยกใหบาวก็ตองสอนนางปริกเสียบาง ยิ่งแกๆยังงี้ จะไดสอนไดเร็วดีนัก อีปริก เอย ! กรรมของเอ็งจะมาถึงคราวนี้ละ" วาแลวยางพิศก็เดินบนตุบๆตับๆ เดินจากเรือนหายไป อีกสองวันคุณเชยก็มาหาพลอยถึงบาน พอเห็นหนาพลอย คุณเชยก็ถามขึ้นกอนอื่นวา "แมพลอย จริงหรือนี่ ที่เขาลือกันวาคุณอุนจะมาอยูกับเธอ" "จริงคุณเชย" พลอยตอบสั้นๆ "แมพลอยกําลังเลนกับไฟ รูตัวบางไหม" คุณเชยเตือน "ถึงจะไฟ ก็มอดแลวละคุณเชย ไมมีรอนมือหรอก" คุณเชยหัวเราะแลวก็ตอบวา "ฉันก็เห็นใจแมพลอยเหมือนกัน ถาเปนฉันๆก็ตองทําอยางนั้น เพราะคุณอุนเธอบากหนามาหาทั้งที ใคร จะไปตัดเธอไดลงคอ ที่ฉันกลัวก็แตคุณชิตจะพลอยตามมาดวยเทานั้น" "ฉันก็กลัวเหมือนกันแหละคุณเชย แตเรื่องนี้ฉันเห็นจะตองทําใจแข็ง ถาหนักหนาก็ตองเอาคุณเปรมออก ขู" "นั่นนะสิ" คุณเชยเห็นดวย "ถาไดคุณเปรมชวยคุมกัน เห็นจะไมสูกระไรนัก เอาเถิดแมพลอย ฉันก็เห็น วา แมพลอยกําลังจะทํากุศล ฉันขออนุโมทนาดวย พอเธอมาอยูที่นี่เรียบรอยแลว ฉันจะมาดีกับเธอเอง ตอไปจะ ไดชวยแมพลอยอีกแรงหนึ่ง" พอเพิ่มไมแสดงความประหลาดใจอยางไรเลย เมื่อทราบเรื่องวาพลอยรับคุณอุนเขามาอยูในบาน "ปานนี้แมแกไปนั่งหัวเราะอยูในเมืองผีแลว" พอเพิ่มพูดติดตลก "แตฉันไมแปลกใจเลย แมพลอยเปนคน ใจดี เสียจนเปนกิเลสใครๆก็รู" "ดูคุณหลวงซี !" พลอยรอง "มาวาฉันเปลาๆปลี้ๆ ใจดีก็หาวเปนกิเลส !" "ไมไดวาอะไรหรอกนะ" พอเพิ่มตอบอยางอารมณเย็น "ผูหญิงอื่นเขาเลนไพ เลนเครื่องเพชรแลวก็สบาย ใจ แมพลอยเลนคน เห็นใครลําบากก็ชอบชวยเหลือ แลวก็สบายใจ ฉันวามันก็พอๆกันนะแหละ" เมื่อพลอยเลาเรื่องคุณอุนใหคุณเปรมฟง และบอกใหรูวาตนตกลงจะชวยเหลือคุณอุนทางการเงิน และขอ ใหคุณอุนมาอยูดวยกันที่บาน คุณเปรมมองภรรยาของตนอยางภูมิใจ แลวพูดวา "แมพลอยทําถูกแลว ฉันวาไวแลวไหมละวา แมพลอยไมตองทําอะไรหรอก นั่งอยูเฉยๆในบานนี้แหละ แลวคุณอุนเธอก็จะตองเดินเขามาหาเองสักวันหนึ่ง นี่ก็เปนความจริงไปแลว"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy204_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 6

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๒ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑) เมื่อคุณเปรมไดบอกพลอยไวเมื่อสองสามปกอนนั้นวา คุณเปรมจะสงตาอั้นกับตาออดไปเรียนนอก พลอยก็มิไดนึกวาเวลาสองปนั้นจะลวงเลยไปเร็ว แตเมื่อเผลอตัวไปไดสักครูเดียวในความรูสึก เวลานั้นก็มาถึง โดยไมรูตัว คุณเปรมยกเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีก ในวันหนึ่ง "แมพลอย" คุณเปรมพูด "ฉันเห็นวาถึงเวลาแลวที่จะสงลูกไปเมืองนอก เพื่อนฉันเขาจะออกไปราชการ ที่ เมืองอังกฤษในเวลาสี่หรือหาเดือนขางหนานี้ ฉันวาจะฝากอั้นกับออดไปกับเขา มิฉะนั้นก็อาจตองรออีกนาน กวาจะมีผูใหญที่ไวใจไดจะเดินทางไปอีก" พลอยใจหายไมอยูกับเนื้อกับตัว เมื่อไดยินคุณเปรมพูด รูตัวอยูเหมือนกันวาถึงทัดทานอยางไร คุณเปรม ก็คงไมฟง แลวก็อดไมไดที่จะพูดออกไปวา "คุณเปรม รอไปอีกสักหนอยจะไมดีหรือ ลูกยังเล็กนัก" "แมพลอยหักหามใจเสียบาง" คุณเปรมตอบ "ฉันก็รูและเห็นใจวา แมพลอยรักลูก แตลูกเรานั้นยิ่งรัก เทาไร ก็ยิ่งควรจะหาวิชาความรูใหไว ทั้งอั้นและออดเดี๋ยวนี้ก็อายุสิกวาขวบแลวทั้งคู ไมใชเด็กเล็กๆ พอจะเลี้ยง ตัวเองไดแลว ทางโนนก็มีผูปกครองคอยดูแล ฉันฝากฝงเขาไวแลว แมพลอยทําใจเสียใหดี ถาไมสงไปเสียแต เดี๋ยวนี้ เด็กก็จะเสียเวลาไปทุกวัน ยิ่งนานเขาก็จะยิ่งสงไปยาก และถาไปโตแลว จะร่ําเรียนอะไร ก็ไมสะดวก สง ไปยังเด็กจะไดรูภาษาช่ําชอง" คําพูดของคุณเปรมมีเหตุผลมากเกินกวาที่พลอยจะลบลางได พลอยก็ไดแตยอม แตก็ไดขอรองคุณเปรม วา ในระยะสี่หาเดือนที่จะตองตระเตรียมตัวนี้ ขออยาใหเด็กทั้งสองคนตองไปโรงเรียน แตใหอยูที่บาน เพื่อให พลอยมีโอกาสอยูใกลชิดลูกทั้งสองคนมากที่สุด กอนที่จะตองจากกันไปไกล คุณเปรมก็ยอมตามใจ ตาอั้นดูเหมือนจะตื่นเตนดีใจ ที่จะไดไปเรียนตอที่เมืองนอก ไมเแสดงกิริยาอาการวาจะรูสึกหวงใยทาง บาน เรื่องที่ตาอั้นพูดคุยในระหวางนั้น เปนเรื่องเกียวกับการที่จะไปนอกเกือบทั้งหมด สวนตาออดนั้นดูเฉยๆอยู ไมกระตือรือรนเทาไรนัก พลอยลองถามดูวาดีใจหรือไม ที่จะไดไปนอก ตาออดก็ตอบวา "ก็ยังงั้นแหละคุณแม พี่อั้นเขาดีใจเสียมากพอแลว ออดเลยอยูเฉยๆไมตองไปชวยเขาดีใจ ก็เห็นจะได ทําไมคุณแมไมสงพี่อนไปนอกบาง" พอออดถามถึงตาอน พลอยก็อึกอักมิรูจะตอบอยางไรถูก เพราะเรื่องนี้พลอยเคยถามคุณเปรมแลว เหมือนกัน ดวยความปรารถนาที่จะไดเห็นตาอนมีโอกาสเทาๆกับลูกของตน แตคุณเปรมก็ตอบวา "ฉันอยากใหดนเรียนโรงเรืยนนายรอยจนจบ เพราะแกอยากเปนทหาร เรียนในเมืองไทยหรือเมืองนอก ก็เทากัน ถาจบแลวมีทางจะไปเรียนตอได ก็คอยพูดกันใหม" และเมื่อพลอยถามตาอนเองถึงเรื่องไปนอก ตาอนก็ตอบวา "อนไมอยากไปนอกหรอกคุณแม อยากจบโรงเรียนออกเปนทหารเร็วๆมากกวา แลวเมื่ออั้นกับออด เขา ไปนอกแลว อนจะไดอยูเปนเพื่อนคุณแม ไมหายหนากันไปหมด" คําพูดของตาอนทําใหพลอยรูสึกทั้งรักทั้งสงสาร ความจริงถึงพลอยจะไมเคยพูดเรื่องตาอนเปนลูกใคร เด็กๆทุกคนก็รูกันแลวจากปากคนอื่นวา ตาอนมิใชลูกแทของพลอย และถึงความรูนี้จะยังไมทําใหความสัมพันธ ระหวางเด็กๆเปลี่ยนแปลง แตตาอนก็เจียมตัวเปนพิเศษในทุกกรณี ไมเคยทําตัวใหเทาเทียมกับพี่นองอื่นๆ ยิ่งเห็นคุณเปรมตระเตรียมการที่จะสงลูกไปนอก พลอยก็ยิ่งใจแหงลง คุณเปรมพาเด็กทั้งสองคนไปถาย รูป เพื่อทําหนังสือเดินทาง และในโอกาสเดียวกัน ก็พาพลอยและลูกคนอื่นๆ ไปถายรูปหมูรวมกันไวเปนที่ระลึก หีบใสของโตๆสองใบวางอยูบนตึกเปนเครื่องเตือนใจ ใหพลอยระลึกอยูเสมอวา ลูกจะตองจากไปสองคน ใน เวลาไมนานนัก ระหวางนั้นคุณเปรมก็พาลูกไปตัดเสื้อผา ที่หางแบดแมน ขึ้นหางยอนแซมสัน ซื้อเสื้อนอน และ ของใชตางๆบรรจุลงในหีบ เมื่อเด็กทั้งสองคนแตงกายแบบฝรั่งใหเห็นเปนครั้งแรก พลอยก็ยิ่งใจหาย เห็นวาลูก ของตนนั้นโตขึ้นถนัดใจ เกือบๆจะเปนหนุม เด็กเล็กๆสองคนที่เคยนารักนาเอ็นดู อุมมากอดมาจูบไดนั้น หาย ไปเสียแลว ไมมีวันจะกลับมาอีก กลุมในหนักเขา พลอยก็หาเรื่องมาทําแกกลุม จางเจกตอหีบไมใบใหญ ทําของ กินบรรจุใสขวด มีหมูหยอง มะขามฉาบ ลูกบัวผัด ลูกไมแชอิ่มตางๆ เอาลงหีบสําหรับลูกจะไดไปกินในเรือ กลางทาง คุณเปรมอธิบายใหพลอยฟงวา ในขั้นแรกนี้จะสงเด็กสองคน ใหไปเรียนดวยกันที่อังกฤษกอน แตตอไป จะสงตาอั้นไปเรียนกฎหมายที่ฝรั่งเศส สวนตาออดนั้นจะใหเลือกวิชาเรียนจนจบในอังกฤษ ปญหาเหลานี้ พลอย มิไดสนใจนัก เพราะมัวหมกมุนอยูแตวา ลูกจะตองจากไปไกลแสนไกล ไปอยูกับคนอื่น ที่ยุโรปนั้น เคยไดยินเขา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy205.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 6

เลาวาหนาวนัก จะไปตกระกําลําบากอยางไร ก็สุดที่จะคาดคะเนได พลอยไดแตสั่งแลวสั่งอีก ใหลูกทั้งสองมี จดหมายสงขาวคราวมาบอยๆ อยาใหขาดได ในที่สุดวันที่กําหนดไววาจะออกเดินทางก็มาถึง เด็กๆจะออกเดินทางดวยเรือกลไฟไปสิงคโปรแตเวลาตี สี่ ของเชาวันหนึ่ง และไปขึ้นเรือใหญเดินทางตอจนถึงยุโรปจากสิงคโปร คืนนั้นทั้งคืนพลอยนอนไมหลับ พลิก ซายพลิกขวา ทําใจอยางไรก็ไมสามารถหลับลงได เหลียวดูคุณเปรมที่นอนอยูขางๆตัว ก็เห็นคุณเปรมหลับสนิท พลอยลุกจากเตียงนอน เดินยองผานหองกลาง เห็นขาวของหีบจัดเตรียมไว พรอมที่จะออกเดินทางไดวางไว พลอยเดินเบาๆเขาไปในหองนอนที่ลูกๆนอน แสงไฟที่สองจากขางนอกแรงพอ ทําใหพลอยแลเห็นตาอั้นและตา ออดนอนหลับอยางสบาย พลอยเดินเขาไปจนใกล ตานั้นจับอยูที่หนาลูกทั้งสองคน ยืนดูอยูครูหนึ่ง แลวพลอยก็ ยกเกาอี้มาตั้งลงเบาๆ หยอนตัวลงนั่งบนเกาอี้อยางระมัดระวังมิใหมีเสียงดัง ตั้งใจวา จะนั่งดูลูกจนกวาจะถึง เวลาที่จะตองจากกัน แตพอนั่งไปไดสักครู ตานั้นก็มองไมคอยจะเห็นหนาลูก เพราะน้ําตา ที่เริ่มไหลออกมารินๆ ทําใหถาพที่เห็นนั้นพราพรางไป พลอยนั่งอยูอยางนั้นนานเทาไรก็ไมรูตัว เสียงนาฬิกาเรือนใหญในหองกลาง ดังอยูเปนจังหวะ บอกใหรู วา เวลากําลังเลื่อนใกลตัวเขามาทุกที เสียงสุนัขเหาและหอนใกลบางไกลบางเปนครั้งคราว เสียงไกขันยาม บอก ใหพลอยรูวา เวลาลวงเลยจากยามดึกเขาไปหารุงอรุณ อากาศที่รอนอบอาวอยูเมื่อตอนหัวค่ํา เปลี่ยนเปนเย็นลง จนพลอยรูสึกสะทาน ดึงเสื้อตัวหลวมๆที่ใสอยูนั้น ใหเขามากระชับตัว ตาออดพลิกตัวขณะหลับ หันหนามาทาง พลอยนั่ง แลวก็ลืมตาขึ้นขางหนึ่ง พอเขาใจจับความไดวา แมมานั่งอยูใกลๆเตียงนอน ตาออดก็ลุก ออกจากมุง ยองมายังที่ๆพลอยนั่ง แลวตาออดก็เลื่อนตัวขึ้นมานั่งบนตัก เอาหนาซบไวกับไหลขางหนึ่งของพลอย ในทาที่ตา ออดเคยชอบนั่งเมื่อยังเปนเด็กเล็กๆ พลอยรีบยกมือขางหนึ่งขึ้นเช็ดน้ําตา ไมอยากใหลูกเห็น กลัวจะเปนลาง แขนอีกขางหนึ่งก็โอบรอบตัวตาออดใหเขามาชิด และพยายามนั่งอยูในทานั้นใหนานที่สุด เหมือนกับจะดูดดื่ม เอาความอบอุนจากตัวลูก เขามาไวในตัวของตัวใหลึกที่สุด เพื่อความอบอุนนั้นจะไดฝงอยู ตลอดระยะเวลาที่จะ ตองจากกัน ตาออดดูเหมือนจะงีบไปในทานั้นอีกพักใหญ และพลอยก็ปลอยตัวเขาสูภวังค มารูสึกตัวอีกครั้งหนึ่ง เมื่อ คุณเปรมยองมายืนอยูขางๆ เอื้อมมือมาแตะที่หัวไหล แลวพูดเบาๆเปนกระซิบวา "ไดเวลาแลวแมพลอย ใหเด็กๆแตงตัวเสียเถิด เดี๋ยวจะไดไปกัน" พลอยคอยๆเลื่อนตัวตาออดลงใหยืนกับพื้น รูสึกวาแขงขาชาเปนเหน็บ คุณเปรมเดินไปปลุกตาอั้นใหลุก ขึ้น แลวก็เดินไปปลุกตาอนใหลุกขึ้นแตงตัวไปสงนอง พลอยลุกขึ้นยืนกวาดสายตาดูลูกๆ ที่กําลังตื่นขึ้นอยางงัว เงีย อีกครั้งหนึ่ง แลวก็หักใจเดินกลับไปลางหนาแตงตัวที่หอง เมื่อรถที่นั่งมาดวยกันนั้นเลี้ยวเขาประตูทาเรือที่ถนนตก ฝนก็เริ่มปรอยลงมา ทําใหบริเวณรอบๆเฉอะ แฉะ เบื้องหนานั้นมีเรือกลไฟใหญ พรอมที่จะเดินทางมีควันขึ้นกรุนจากปลอง แสงไฟหลายดวงบนเรือนั้น สอง ทะลุความมืด ชวยใหพลอยเห็นคนแปลกหนาหลายคน เดินไปมาอยูบนเรือ กลิ่นน้ํามัน กลิ่นควันถานหิน โปรย มาเขาจมูก ปนจั่นอันใหญกําลังดึงสรรพสินคาจากเรือบรรทุกที่มาจอดอยูขางๆ แลวเอาหยอนหายไป ในทอง เรือ พลอยยืนจับมือลูกไวคนละขาง จองมองดูเรือสีดํามืด ที่จอดพนควันพนไอน้ําอยูตรงหนา เหมือนกับเรือลํา นั้นเปนสัตวราย ที่จะพรากเอาลูกของตนไป คุณเปรมจัดการกับของที่จะตองขึ้นเรือเสร็จแลว ก็เดินนําหนาพา พลอยและลูกๆขามสะพานเล็กๆ ที่ทอดจากตลิ่งขึ้นไปบนเรือ ชายอายุรุนราวคราวเดียว กับคุณเปรม แตอวน กวาและเตี้ยกวาคนหนึ่ง เดินยิ้มตรงเขามาหา "นี่ไงแมพลอย คุณพระสรรคที่รับจะพาเด็กไปสงถึงอังกฤษ" คุณเปรมแนะนําชายนั้นใหรูจัก พลอยรีบยกมือขึ้นไหวทันที ไมมีการคารวะนอบนอมใดๆ ที่จะมากเกินไป สําหรับคนที่คอยดูแลลูกของ ตน ใหดี "อิฉันฝากกับคุณพระดวยเถิดเจาคะ" พลอยพูดเสียงสั่นๆ "ยังเด็กนักชวยสั่งสอนใหดวย ผิดพลาดอยาง ไร ก็ดุวาเอาเถิดเจาคะ อยางเกรงใจเลย นึกวาเปนลูกหลานของคุณพระเถิด" "ไมเปนไรขอรับ ไมเปนไรยินดีมาก" พระสรรคพูดอยางอารมณดี "ลูกคุณพระก็เหมือนลูกผม ไปดวยกัน ก็ตองไมทิ้งกัน มีอะไรบอกกันได ตัวก็ไมเล็กแลว เผลอนิดเดียวก็จะเปนหนุมดวยกันทั้งสองคน หนาตาก็ใชการ ได ทั้งคู" คุณพระสรรคหันไปพูดกับเด็กๆ ซึ่งยังยืนอยูขางๆพลอย คุณเชย หลวงโอสถ และพอเพิ่ม เดินขึ้นเรือมารวมกลุมอยูดวย หลวงโอสถใหพระเลี่ยมแกเด็กคนละองค พรอมกับสั่งวาใหรักษาไวใหดี อยามีวันลืมคุณพระจะไดคุมกันตัวได คุณเชยตรงเขากอดหลานคนละที ตีหนาเบ เหมือนกับจะรองไหแลวสงหอให บอกวาเปนขนมที่รูวาหลานชอบ ใหเก็บไวกินกลางทาง พอเพิ่มตบหัวลูบหลัง หลานคนละทีสองที แลวแจกตะกรุดสาลิกาทองคนละตัว บอกวาดีนักทางเมตตา โตอีกหนอย แหมมจะตองติด กันกราว เสียงคุณเปรมพูดขึ้นวา "นี่หองหับเขาใหอยูกันทางไหน" "ทางนี้ ทางนี้" คุณพระสรรคบอก "ผมเที่ยวสํารวจดูทั่วแลว อยูติดกับหองผมเองนอนดวยกันสองคนทาง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy205.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 6

นี้" แลวคุณพระสรรคก็ออกเดินนําหนาไปทางดาดฟาเรือ ไปหยุดอยูตรงประตูสีขาวประตูหนึ่ง "หองนี้แหละ" คุณพระสรรคบอกพลางชี้มือที่ประตู คุณเชยโผลหนาเขาไปดูในหองกอน แลวก็ถอยออก มา ยกมือขึ้นลูบอก อุทานวา "ตาย ! เล็กเทาแมวดิ้นตาย นาอัดใจแทน" พลอยโผลหนาเขาไปดูบางแลวก็ใจหาย กลัวลูกจะตองลําบาก ใหหองนั้นมีที่นอนทําเปนหิ้งติดอยูขางฝา ซอนกันสองที่ มีอางลางหนาติดอยูขางฝาอีกทีหนึ่ง หีบที่ขนขึ้นไปจากขางลางวางอยูในหอง กินที่เสียเกือบหมด หากปดประตูหองนั้นแลว ทางที่ลมจะเขาไดก็มีอยูทางเดียว คือทางรูกลมๆเล็กๆขางฝา คุณเปรมเห็นพลอย ทํา หนาไมดีก็รีบพูดแกขึ้นวา "อยูในเรือนี่ไมกี่วันหรอกแมพลอย พอถึงสิงคโปรแลวก็เปลี่ยนเรือ เรือลําที่จะไปจริงๆใหญกวานี้เปน ไหนๆ หองหับเขาสบายออก เด็กๆขี้เกียจจะสนุกไปเสียอีก" "จริงขอรับ จริง" พระสรรคชวยพูดยืนยันอีกคน "เรือลําจากสิงคโปรนั้นใหญโต วิ่งกันไมหวัดไมไหว" ดูหองแลวทุกคนก็ยืนจับกลุมกันอยูบนดาดฟาเรือ ขณะนั้นเรือบรรทุกสินคาเขาที่เสร็จแลว เสียงเอะอะ ที่ ไดยินเมื่อตอนแรกนั้นเงียบลง "ออดอยาซนใหมากนักนะ" พลอยกระซิบลูก เพราะไมมีอะไรจะพูด คอนั้นตื้นตันไปดวยอาลัย "อยาไป ปนลูกกรงเรือเปนอันขาด เดี๋ยวพลาดพลั้งตกทะเล อั้นคอยดูนองดวย" ตาออดพยักหนารับคํา สวนตาอั้นยืนทําตาปริบๆ ดูหนาคนโนนทีหนึ่งคนนี้ทีหนึ่ง พยามยามกลั้นน้ําตา มิใหรองไห เสียงหวูดเรือดังขึ้นโดยกระทันหันสองครั้ง ทําใหพลอยตองสะดุงสุดตัว คนเรือคนหนึ่งเดินเที่ยวบอก ผูที่ มาสงผูโดยสารใหลงจากเรือ พลอยใจหายแทบจะทรงกายไวไมอยู ยืนเกาะลูกกรงเรือที่แคมเรือ ปลอยใหคนอื่น ร่ําลาจนเสร็จ พลอยเขาไปกอดจูบลูกเปนคนสุดทาย เนื้อตัวยังอุนๆ แตจะตองจากกันไปไกล เหมือนกับใครมา เด็ดเอาหัวใจไปไวที่อื่น "ออดรักษาตัวใหดีๆ เรียนหนังสือใหเร็วๆ แลวรีบกลับมาหาแม" พลอยกระซิบสั่งแลวรวบตาอั้นเขามา ชิด สั่งตอไปวา "อั้นเปนพี่ชวยดูนองใหดีๆ อยูไกลพอแมตองรักกัน อยาทอดทิ้งกันเปนอันขาด" คุณเปรมเอื้อมมือมาแตะที่แขนเบาๆ เปนสัญญาณใหลงจากเรือ พลอยแข็งใจผละจากลูก กาวเทาเดิน ออกไปขางหนา คุณเปรมเอามือแตะแขนไวขางหนึ่ง คุณเชยเดินเขาขนาบขาง พอเพิ่มและหลวงโอสถ เดินรุน มาขางหลังติดๆกัน คุณเชยเองนั้นถึงจะพยายามทําใจแข็ง เพื่อจะไดเปนตัวอยางแกนองสาว ก็ยังตองยกผาเช็ด หนา ขึ้นซับที่ใกลๆลูกตา และสั่งน้ํามูกอยูบอยๆ พลอยลงมายืนแหงนหนาดูลูกที่ทาเรือขางลาง ตาอนเขามายืนอยูชิดตัว พลอยเอื้อมมือไปจับมือตาอน กําไวแนน เรือลํานั้นถอนสมอเสร็จแลว เสียงใครรองสั่งการจากสะพานขางบนเรือเปนภาษาฝรั่ง เสียงลูกเรืออีก คนหนึ่งรองรับอยูที่ดาดฟาขางลาง ที่ลูกกรงขางเรือใตโคมไฟฟาสีสลัวดวงหนึ่ง พลอยเห็นลูกทั้งสอง ยืนเกาะลูก กรงเรือมองทางทางตน มีพระสรรคยืนหัวเราะโบกไมโบกมืออยูขางๆ เมื่อดูจากที่ต่ําไปหาที่สูง พลอยก็เห็นวา ลูกของตนทั้งสองคนนั้นตัวเล็กนิดเดียว ยังเล็กเกินไป ที่จะไปพนอกบิดามารดา แตพลอยก็ไมมีทางที่จะปองกัน ขัดขืน มิใหจากไปไดเสียแลว เพราะขณะนั้นหวูดเรือดังสนั่นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แลวเรือก็เคลื่อนที่ออกจากทาชาๆ เสียงกระดิ่งสัญญาณ ดังเปนกังวาน ใบจักรที่ทายเรือเริ่มหมุนตีน้ําแตกเปนฟองฝอย เรือนั้นเคลื่อนออกไปลอย ลําอยูกลางทองน้ํา แลวแลนไกลออกไปอีก จนในที่สุดก็หายไปในความมืด มองไมเห็นอะไรนอกจากสีเขียวแดง สองสามดวง และแมแตไฟนั่นเองก็หายลับไปจากสายตาในที่สุด พลอยหันหนากลับจะขึ้นรถ น้ําตากลบลูกตา จนแทบจะมองไมเห็นทาง ถึงแมวาฝนที่ตกพรําอยูนั้น จะทําใหเสื้อผาที่ใสไปชุมชื้น แตในลําคอของพลอยนั้น แหงผากเหมือนกับมีใครเอาขี้เถาไปโรยไว พลอยนึกไมออกวาตนดํารงสังขารอยูไดอยางไร ในระยะเวลาสิบหาหรือยี่สิบวันตอมา ทุกอยางในบาน ดู จะแหงแลวไปสิ้น ทุกครั้งที่แลเห็นสิ่งที่ลูกเคยกินพลอยก็ตองใจหาย เห็นเตียงที่ลูกเคยนอน และเสื้อผาเกาๆ ที่ ลูกเคยใส พลอยก็ตองนั่งรองไหอยูคนเดียว คนที่อยูในบานดวยกัน ก็ไมเปนที่พึ่งบรรเทาความคิด ความอาลัย ลงไปได ตาอนสงนองๆแลวก็ตองรีบกลับไปโรงเรียน ประไพก็ยิ่งเพิ่มความคิดถึง ใหพลอยมากขึ้นไปอีก คุณนุย ก็ไดแตรองไหคิดถึงหลานทุกครั้งที่เห็นหนาพลอย คุณอุนก็ไดแตคุยเรื่องของตนเอง ซึ่งขณะนั้นพลอยไมมีแกใจ จะฟง สวนคุณเปรมนั้นเมื่อหมดภาระสงลูกไปนอกแลว ก็หันไปสนใจกับเรื่องมายิ่งกวาเกา และบทจะพูด จาปลอบใจพลอย ก็พูดซ้ําๆซากๆ จนพลอยตองนึกรําคาญอยูบอยๆ ทุกครั้งที่ฝนตกฟารองมีพายุ พลอยก็ไดแต ไมสบายใจ เปนหวงลูกที่อยูกลางทะเล กลัวภัยอันตรายไปตางๆ วันหนึ่งบุรุษไปรษณียก็เดินเขามาในบาน และเด็กนําเอาไปรษณียบัตรขึ้นมายื่นใหพลอยใบหนึ่ง ไปรษณียบัตรนั้นปดดวงตราไปรษณียที่พลอยไมเคยเห็นมากอน ดานหนึ่งเปนรูปตึกใหญ และอีกดานหนึ่งจา หนาถึงคุณเปรม มีลายมือตาอั้นเขียนไวอยางเรียบรอยวา "กราบเทาคุณพอคุณแมที่รักและเคารพ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy205.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 6

ลูกมาถึงสิงคโปรแลวโดยเรียบรอย รูปขางหนานี้คือรูปโฮเต็ลที่ลูกพักอยู พรุงนี้จึงจะลงเรือใหญ เดินทาง ตอไป คุณพระพาลูกขึ้นรถดูบานเมือง เห็นตึกใหญๆมาก หวังวาคุณพอคุณแมคงจะสุขสบายดี ลูกคิดถึมากๆ อั้น" และตอทายลงไปมีลายมือตาออดเขียนตัวโยเยอีกสองบรรทัดวา "แมจา ลูกเห็นปลาฉลามแลวสองตัว คนเรือเขาชี้ใหดู พี่อั้นมาดูไมทัน มันดําน้ําไปเสียแลว เมืองนี้รอนจัง เจก มากกวาที่บานเราเสียอีก แตพูดไทยไมไดสักคน แปลกไหม" ถอยคําของเด็กๆ เขียนอยางเด็กๆ แตเปนเหมือนน้ําทิพยมาชโลมหัวใจ ตั้งแตนั้นมา พลอยก็ไดแตนั่ง คอยเชาคอยเย็น เผื่อจะไดรับขาวจากลูก เสียงใครเดินหนาบานก็ตองชะเงอดู เผื่อวาจะเปนบุรุษไปรษณีย ซึ่ง พลอยดีใจทุกครั้งที่ไดเห็น และดีใจเสียยิ่งกวาไดเห็นหนาญาติ แตจดหมายขาวคราวแตละฉบับกวาจะมาถึงก็ นานพอดู พอพลอยเริ่มจะคิดถึงลูกใจจะขาดอีก ก็มีจดหมายมาถึงอีกฉบับหนึ่ง เปนลายมือตาออดเปนความวา "แมจา พี่อั้นเมาคลื่นใหญ พอออกจากสิงคโปรก็นอนหนาเหลืองมาในเรือ ไมกินอะไร กินแตสมกับน้ํา แตเดี๋ยวนี้หายแลว บอกวายังเพลียอยู ออดไมเมาคลื่นเลยเขียนจดหมายมากอน เมืองนี้เขาเรียกวาโคลัมโบ มี แตแขกดําเต็มไปทั้งเมือง เหม็นสาบดวย พูดเอะอะรองตะโกนลั่นไป กัปตันเขาบอกใหปดประตู หนาตางหองใน เรือ เพราะพวกนี้มันขโมยเกง พอเรือจอดมันปนขึ้นมาราวกับมดกับปลวก สงเสียงเอะอะ ฟงไมรูเรื่อง คุณพระ บอกวามันจะชวนใหไปเที่ยวกับมันบาง ใหซื้อของมันบาง คุณพระใจดีมาก สอนใหลูกกินโตะแบบฝรั่ง แมรูหรือ เปลาวาฝรั่งเขาตักแกงออกจากตัว ถาใครตักเขาตัว เขาวาหยาบคาย เมื่อคืนวานในเรือเขาใหกินเนื้อแกะ เหม็น สาบจะตาย ลูกจะเอามัสตารดใสดับกลิ่น คุณพระหามไมใหทํา บอกวาอังกฤษเขาถือ พิลึกละ ออด" จดหมายของลูกแตละฉบับ พลอยอานแลวอานอีกจนจําขอความไดทุกตัวอักษร แมแตรอยขีดฆา มีอยูที่ ตรงไหนพลอยก็จําได ตั้งแตตาอั้นและตาออดจากไป พลอยก็หันเขาหาตาอนมากกวาแตกอน ทุกเสารอาทิตยที่ ตาอนกลับบาน พลอยก็รูสึกวาบานนั้นอบอุนขึ้นเต็มบริบูรณขึ้น ไมมีอะไรขาดหาย อยางในเวลาที่ตาอนไมอยู ทั้งนี้เห็นจะเปนเพราะตาอนเปนลูกผูชายคนเดียวที่เหลืออยู ตาอนเปนลูก ในขณะที่พลอยยังไมมีลูก และขณะที่ ลูกของตนเองแทๆหายไปจากบาน ตาอนก็เปนลูกผูชายคนเดียว ที่ยังเหลืออยู บางครั้งพลอยก็นึกขอบใจคุณ เปรม ที่ยังไมไดสงตาอนไปนอกเสียดวยกันในคราวนี้ แตบางครั้ง ก็นึกเคืองที่คุณเปรมไมสนใจในตัวตาอนมาก เทาที่ควร ตั้งแตนองไปนอกเสียสองคน ตาอนก็ดูเหมือนจะเปนผูใหญ ขึ้นกวาเกา พยายามเอาใจพลอยทุกทาง ที่จะทําได ขาวคราวจากตาอั้นและตาออดนั้นทยอยเขามาเรื่อยๆ จากเมืองทาตางๆที่เรือผาน ในที่สุดพลอยก็ไดรับ จดหมายจากอังกฤษ ตาอั้นเลาใหฟงวาตองไปอยูกับครอบครัวคนอังกฤษกอน แลวจึงจะไปเขาเรียน เมื่อรูภาษา ดีพอแลว จดหมายจากตาอั้นทุกฉบับเปนการเปนงาน ทําใหคุณเปรมพอใจมาก อานแลวบางทีก็เอาติดตัวไป อวดเพื่อนฝูงที่กระทรวง แตจดหมายของตาออดนั้นถูกใจพลอยทุกครั้งไป เพราะตาออดพรรณนาถึงสิ่งที่ พลอยอยากรู เปนตนวาในจดหมายที่ตาออดเขียนมาจากอังกฤษ ตาออดพรรณนาถึงความมืดความหนาว และ เลาถึงอาหารการกินที่ไดรับในครอบครัวคนอังกฤษ "ถึงวันอาทิตยเขาก็ซื้อเนื้อมายางขาหนึ่ง" ตาออดเขียนมาเลาใหฟง "แลวก็กินเนื้อขานั้นไปอีกหกวัน รอนบางเย็นบาง ถึงวันเสารก็ยังเลาะเอาเนื้อติดกระดูกมาสับกินได พอถึงวันอาทิตยก็เริ่มอีกขาหนึ่ง มาเมือง นอกนี่มันก็ดีเหมือนกัน เพราะทําใหออดรูวาเมื่ออยูที่บานนั้นเคยสุขสบายอยางไร แตแมอยาวิตกถึงลูก เพราะ ความจริงนั้น เขาเอาใจใสดีและอยูสุขสบายมาก ชั่วแตอดคิดถึงแมไมไดจริงๆ" จดหมายของตาออดทําใหพลอยไดหัวเราะเปนบางครั้ง แตบางครั้งก็ทําใหตองรองไห คุณเปรมบนบอยๆ วาตาออดเขียนหนังสือเลอะเทอะ อานไมเขาใจ สูตาอั้นไมได ทําใหพลอยตองออกรับทุกครั้งไป เพราะตาออดพู ดวยภาษาที่พลอยเขาในมากกวาคนอื่น จะเปนเพราะคุณเปรมอยากจะใหพลอยคลายความคิดถึงลูก หรือจะเปนเพราะกาลสมัยเปลี่ยนไปก็ตาม แตพลอยสังเกตวาตั้งแตลูกไปนอกแลว คุณเปรมก็เริ่มชักชวนพลอยใหออกไปเที่ยวเตรนอกบาน มากขึ้นกวาแต กอน และในระยะหลังนี้พลอยก็เริ่มจะไดเห็นโลกภายนอกที่กวางขวางขึ้น เพราะความกังวล ในเรื่องเลี้ยงลูกนั้น มีนอยลงกวาแตกอน คุณเปรมเริ่มพาพลอยออกไปพบเพื่อนฝูงคนที่รูจัก และไปตามการงานตางๆ ทุกครั้งที่มี โอกาส

http://www.geocities.com/siamstory/ploy205.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑)

Page 5 of 6

วันหนึ่งคุณเปรมนั่งดูพลอยอยู แลวก็ปรารภขึ้นวา "แมพลอย ฉันอยากขออะไรแมพลอยสักอยางจะไดไหม" "อะไรเลาคุณเปรม คุณเปรมขออะไรฉันก็ไมเคยขัดสักที อยากไดอะไรก็บอกมาเถิด" "ในหลวงทานไมโปรดผูหญิงไวผมสั้น ฉันอยากขอใหแมพลอยเริ่มไวผมสักที เวลาเขาเฝาแหน จะไดถูก พระทัย" "ไฮ ! ไมเอาละ ฉันแกแลว" พลอยพูดปฎิเสธ "ไมจริงหรอกแมพลอย" คุณเปรมหัวเราะ "คนอายุรุนราวคราวเดียวกันกับแมพลอย เขาก็ไวผมยาวกัน มากแลว แมพลอยจะมานั่งทําตัวเปนคนโบราณอยูทําไม ฉันวาแมพลอยทําตัวใหแก ใจก็เลยแกไปตาม ถาไวผม ยาวเสียก็จะสาวขึ้นอีกมาก" พลอยชักจะใจออนอยากจะตามใจคุณเปรม แตก็พูดเยาคุณเปรมวา "คุณเปรมอยากไดเมียผมยาว ทําไมไมหาเอาใหมอีกสักคน เลือกดูที่เขาสาวๆ สวยๆ ดีกวาฉัน ฉันไมวา หรอก" คุณเปรมหัวเราะตอบวา "ไมเอาละแมพลอย ฉันขี้เกียจยุง แมพลอยก็ดีแตพูด ถาฉันไปหาเขาจริงๆ ก็ขี้เกียจจะหึงบานแตกไปเสีย อีก แตถึงแมพลอยจะไมหึง ฉันก็ไมหา ฉันอยากไดแมพลอยนี่แหละเปนเมียใหมของฉัน ถาไวผมยาวใหทันสมัย สักหนอยละก็ แมพลอยจะสาวขึ้นอีก และสวยขึ้นอีกหานอยไม เทากับฉันไดเมียใหมอีกทั้งคน โดยไมตอง ลําบากไปหาเอาใหมเลย" พลอยหัวเราะแตนิ่งไมพูด เพราะยังไมกลารับปาก เผื่อวาในที่สุดจะไมสามารถปฏิบัติตามคํารองขอ ของ คุณเปรมได ใจหนึ่งของพลอยก็อยากจะตามใจคุณเปรม แตอีกใจหนึ่งยังกระดาก เพราะพลอยเคยเห็นแตเด็กๆ ที่ไวผมยาว แตพอโตขึ้นเปนสาว ก็ตัดผมสั้นทุกคนไป แตคุณเปรมก็พูดตรงตอความจริงวา คนเดี๋ยวนี้ไวผมยาว กันมาก พลอยก็สังเกตเห็นวาหนาตากวาแตกอน เมื่อไมรูจะตัดสินใจอยางไรถูก พลอยก็หันเขาปรึกษาคุณเชย คุณเชยมองหนานองสาวอยางพิจารณาแลวพูดวา "วาที่จริงฉันก็เห็นวา แมพลอยควรจะไวผมยาวเหมือนกัน เพราะอายุยังไมมาก ถึงจะไวก็ไมนาเกลียด" "คุณเชยก็ไมแกกวาฉันกี่ป ทําไมไมไวบางเลา" พลอยถามยอนเอากับตัวคุณเชย "ชางฉันกอนเถิด" คุณเชยตอบ "แมพลอยลองไวดูกอน ถาเขาทีฉันจะไดตาม" ตั้งแตนั้นพลอยก็ปลอยผมใหยาว และเก็บเนื้อเก็บตัวอยูกับบานไมไปไหน จนผมนั้นยาวเกลาได อีกวัน หนึ่งคุณเชยมานอนพังพาบคุยอยูในหอง พลอยนั่งทําผมอยูที่กระจก คุณเชยพูดขึ้นวา "แมพลอยฉันรูแลวละ แมพลอยไวผมแลวก็ตองทําอะไรอีกอยางหนึ่ง จึงจะครบ" "ทําอะไรอีกละคุณเชย" "ตองขัดฟนขาว" คุณเชยตอบอยางแนใจ "ไวผมยาวแลวฟนดํา หนาตาเปนบาไมเขากัน ดูมันปราๆชอบ กล มานี่มานั่งตรงนี้ ขัดฟนเสียใหขาวเสียเดี๋ยวนี้แหละ ฉันจะชวย" "จริงหรือนี่คุณเชย" พลอยถามจากกระจก "ขัดฟนแลวหนาจะไมจืดไปหรือ" "ไมจืดหรอก" คุณเชยตอบ "ไวผมยาวแลวปลอยฟนดํา ดูเปนแหมมฟนดําอยางไรก็ไมรู สกปรกออก ขัด ฟนเสียเถิดแมพลอย" เห็นคุณเชยคะยั้นคะยอหนักเขา พลอยก็ตกลงทําตามความเห็นของคุณเชย วันนั้นตองนั่งขัดฟนกัน อยู ทั้งวัน และขัดฟนใหพอดูขาวไดแตเฉพาะฟนหนา พลอยก็ไมรูวาฟนของตน จะมีหินปูนจับอยูมากถึงเพียงนั้น เมื่อเห็นฟนขาวเปนรูปรางแลวก็ปรารภขึ้นวา "ขัดเขาหนหนึ่งแลวมิตองขัดกันเรื่อยไปหรือคุณเชย กินหมากเขาไปมันก็ดําอีก" "หมั่นขัดหมั่นแปรงไมเปนไรหรอก" คุณเชยตอบ "เขาบอกฉันวาคนที่ขัดฟนขาวแลว ไมคอยอยากกิน หมากเทาไรนัก" คุณเชยพูดแลวก็ชวยเหลือนองสาวใหขัดฟนตอไป เย็นลงคุณเชยกลับไปแลว พลอยอาบน้ําแตงตัวเกลาผมเรียบรอย นั่งคอยรับคุณเปรมอยูที่บาน คุณเปรม กลับมาถึงบานก็อาบน้ํา ผลัดเครื่องแตงตัวลงไปดูมาที่คอก ไมทันจะไดพูดจากับพลอยวาอะไร แตพอตกค่ําคุณ เปรมนั่งกินขาว พลอยนั่งอยูขางๆ คุณเปรมก็เหลือบมองหนาพลอยสองสามครั้งก็พูดขึ้นวา "วันนี้แมพลอยไปทําอะไรมา ดูหนาตาเปลี่ยนไปชอบกล" "เปลี่ยนไปอยางไร" พลอยถาม "ไมรูซี" คุณเปรมมองดูหนาพลอยอยางพิจารณา แลวก็พูดตอไปวา "ฉันวาแมพลอยหนาตาออนลงกวา เกา จะวาเพราะผมก็ไมใช เพราะฉันคุนอยูแลว จะเปนเพราะอะไรฉันนึกไมออก" แทนคําตอบ พลอยก็หัวเราะใหเห็นไรฟน คุณเปรมก็รองขึ้นวา "โอโฮ ! แมพลอยขัดฟนเสียขาวทีเดียว มินาละจึงดูสาวกวาเกา และสวยกวาเกาเปนกอง" "คุณเปรมชอบไหม" พลอยถามอยางอายๆ "โธถามได" คุณเปรมตอบ "แมพลอยสวยออกอยางนี้ ใครจะไมชอบ" ความสนใจของคุณเปรมในระยะนี้ ประกอบกับความกังวลในเรื่องทางบานเกี่ยวกับลูกมีนอยลง ทําให

http://www.geocities.com/siamstory/ploy205.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑)

Page 6 of 6

พลอยเริ่มสนใจในตัวเอง ทางดานการแตงกายประดับกายมากกวาแตกอน คุณเปรมจะพาไปเที่ยวนอกบานทาง ไหน พลอยก็มักจะแตงกายใหงดงาม เปนที่พอใจคุณเปรมทุกครั้งไป อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy205.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๒ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒) งานที่ออกหนาออกตาที่สุดในเวลานั้น ก็คืองานออกรานที่วัดเบญจมบพิตร ซึ่งมีมาตั้งแตแผนดินกอน เพื่อหารายไดบํารุงพระอารามที่ทรงสรางขึ้น พลอยเคยเที่ยวงานนี้มาตั้งแตอยูในวัง และเห็นวาเปนงานหรูหราที่ สุด เทาที่จะนึกฝนได แตพอผลัดเปลี่ยนแผนดินใหม ไดไปเที่ยวงานวัดกับคุณเปรมในตอนหลัง พลอยก็รูดีวาสิ่ง ตางๆ ที่ตนเคยเห็นวาหรูหรามาแตกอนนั้น ความจริงก็ไมเทาไรนัก เพราะงานในแผนดินนี้ หรูหรากวาที่เคย เห็นมา จนแมแตพลอยเอง ซึ่งรูตัววาเปนผูใหญแลว ก็ยังอดที่จะตื่นตาตื่นใจมิได คนที่ไปเที่ยวงานก็รูสึกวา ไป ดวยจิตใจที่รื่นเริง ใชเงินไปอยางไมเสียดาย จํานวนคนที่ไปเที่ยวเตร ก็ดูเบียดเสียดออกมากกวาแตกอน ทั้ง หญิงและชายที่เดินปะปนกันอยางไมกระดากขวยเขินอยางแตกอน รานรวงที่มาออกในงานนั้น แตงอยางโอโถง ประดับไฟสีตางๆ ดูตระการตา มีงานครั้งหนึ่ง พลอยจะไปกับคุณเปรมเพียงคืนหรือสองคืน แตคุณเปรมนั้น ถือ วาเปนหนาที่ตองไปทุกคืน และกวาจะกลับก็แสงทองขึ้น พลอยรูดีวาคุณเปรมใชเงินคืนละมากๆ แตเมื่อเงินทั้ง หมดเปนของคุณเปรม พลอยก็เกรงใจไมกลาหามปราม ราชสํานักแผนดินใหมยังเปนเรื่องของผูชาย ไมมีผูหญิงเขาไปเกี่ยวของอยู จนสมเด็จพระพันปหลวง สวรรคต ถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระพันปหลวงแลวไมนาน สมเด็จพระอนุชาธิราช ผูทรงเปน รัชทายาท อยูในขณะนั้นก็ทิวงคตลง ขณะเสด็จไปสิงคโปร ทุกครั้งที่สวรรคตหรือทิวงคต พลอยก็ตองไวทุกข ตามคุณเปรมไป เพราะคุณเปรมเปนขาราชสํานัก แตพลอยก็ยังไมรูสึกวามีอะไรเปลี่ยนแปลงไป จนเสร็จ สงครามแลว และงานตอนรับทหารอาสา กลับจากเมืองไทยเสร็จไปแลว พลอยก็ไดยินขาวใหม จากปากคุณ เปรมเองวา พระเจาอยูหัวจะไดทรงหมั้น กับหมอมเจาหญิงพระองคหนึ่ง ซึ่งจะทรงอภิเษกสมรส เปนพระบรม ราชินี่ตอไป ขาวนี้ยอมจะตองทําใหพลอยตื่นเตนเปนธรรมดา และในเวลาไมนานนัก พลอยก็ไดยินแตคนพูดถึง พระวรกัญญาฯ กันทั่วไป รานถายรูปทุกแหงจะตองมีพระรูปพระวรกัญญาฯ ไวขาย และบรรดาสตรีทั้งสาวและ ไมสาว ก็เริ่มแตงกายไปตามแบบที่พระวรกัญญาฯ โปรดทรง แบบนั้นก็คือ นุงผาโจงกระเบน ใสถุงเทารองเทา และเสื้อรัดเอว ปลอยชายยาวลงมาเหมือนกระโปรง เกือบจะคลุมผานุงนั้นมิด ดูแตไกลๆก็เหมือนกระโปรง แหมมอยางสั้นๆ ใครที่ไวผมยาวก็เกลามวย แลวใชแถบกํามะหยี่หรือแพร รัดที่หนาผาก ผูหญิงคนใดที่แตงตัว กันอยางนี้ ก็นับวาทันสมัยเปนที่สุด ขาวพระวรกัญญาฯ เปนขาวตื่นเตนกันมาก บรรดาภรรยาขาราชการที่มีโอกาสจะเขาเฝาได เปนตองเขา เฝาเกือบทุกตัวคน คุณเปรมถามพลอยวันหนึ่งวา "แมพลอย ไมคิดเขาเฝาถวายตัวพระวรกัญญากับเขาบางหรือ" "อยาเพิ่งเลยคุณเปรม" พลอยตอบ "ฉันเคยเห็นของอยางนี้มามาก รอๆไวกอนเถิด" คุณเปรมสั่นหัวชาๆ มองดูหนาพลอยแลวก็พูดขึ้นอยางหนักใจวา "แมพลอยนี่ทําไมชอบเปนคนขืนโลกเสียจริง" "ไมใชฉันขืนโลกหรอกคุณเปรม" พลอยตอบอยางอารมณเย็น "แตฉันไมชอบคนหัวประจบ เมื่อไมชอบ แลว ก็ไมอยากทําเอง คนที่วิ่งเขาประจบผูมีบุญวาสนานั้น ฉันเคยเห็นมาแลวหนักตอหนัก แตฉันรูวาไมมีความ จริงใจอะไร เวลามีบุญก็เขาหา หมดบุญก็หายหนาไปตามๆกัน คนที่จะมาเปนพระมเหสีเทวีตอไปนั้น ถึงอยาง ไรคนอยางคุณเปรม อยางฉันก็จะตองเปนขาทานอยูวันยังค่ํา เพราะเราไมไดเปนขาแตตัว แตเปนมาตั้งแตพอ แมปูยาตายาย เมื่อเราเปนขาในหลวง เราก็ตองเปนขาลูกเมียของทาน ฉันยังไมเห็นจําเปนจะตองเขาไปถวาย ตัว เปนขององคนั้นองคนี้แตเจาของเดียว" "แผนดินนี้ทานเห็นจะมีแตองคเดียวหรอกแมพลอย" คุณเปรมพูด "ทานไปเรียนเมืองนอกเมืองนา แต ทรงพระเยาว ผูดีอังกฤษเขาไมมีเมียกันหลายคนหรอก" "ก็ฉันไปวาอะไรละ" พลอยตอบ "ทานอาจมีองคเดียวจริงอยางคุณเปรมวาก็ได ถาอยางนั้นจริง ฉันก็ยิ่ง เห็นวาไมตองถวายตัวเลย ถามีหลายองคเสียอีก บางทีจะตองเลือกวาจะถวายตัวองคไหนดี แตนั่นแหละ ฉันมัน คุนกับพระมเหสีหลายองคมาแตออนแตออก คิดดูแลวก็ยังไมไวใจ และในใจจริงฉันเองก็ยังเห็นวา พระมเหสี องคเดียวนั้นดูหลอนๆไป ไมเต็มที่เต็มทาง" คุณเปรมหัวเราะแลวก็ตอบวา "ฉันยอมแพละแมพลอย เรื่องบางเรื่องบทแมพลอยจะยอมก็ยอมเอางายๆ บทจะไมยอมก็ไมยอมเอาจริงๆ ยิ่งอยูดวยกันไป ก็ยิ่งมองไมออก" "ก็คุณเปรมไมมองฉันใหดีๆนี่" พลอยพอ "ไมมองแลวจะไปดูฉันออกอยางไร" แตภายในเวลาไมนานนักตอมา คุณเปรมก็กลับมายอมแพพลอยโดยราบคาบ คุณเปรมพูดขึ้นเองวัน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy205_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 4

หนึ่งวา "แมพลอย ที่แมพลอยไมเขาไปเฝาถวายตัวนั้น ฉันดูๆไปก็เห็นวาดีแลว" "อาว !" พลอยอุทานอยางสงสัย "ทําไมถึงเปลี่ยนความคิดเร็วนักละ คุณเปรม" "ฉันไดเห็นอะไรมาบาง มันใหนึกตะขิดตะขวงชอบกล" คุณเปรมตอบแลวก็เลาตอไปวา "ฉันไปเห็นมา ดวยตาเมื่อวานซืนนี้เอง คนเขาเฝากันเต็มไปหมด ไมรูวาลูกใครเมียใครบาง กอนเสด็จลงมา ก็เสียงแตคุยอวด กันวา เคยเปนขาหลวงเดิมบาง เคยอุมมาแตยังทรงพระเยาวบาง พอเสด็จลงก็แหกันเขาไปเฝา บางคนก็ทูลวา ปลื้มปติจนน้ําตาไหล เขาก็เกงหรอกเพราะเขาบีบน้ําตาออกมาไดจริงๆ ฉันดูๆแลวก็ขนลุก เห็นจริงกับที่แม พลอยพูดไว" "แลวพระวรกัญญาทานรับสั่งวาอยางไรบาง" พลอยซักเพราะสนใจอยูเหมือนกัน "ทานก็ไดแตยิ้มๆ ทานจะไปรับสั่งวาอยางไร ถึงจะรับสั่งฉันก็คงไมไดยิน เพราะเสียงเพ็ดทูล เสียงน้ําตา รวง เพราะความปติดังขรมไปหมด" พลอยหัวเราะขันคําพูดของคุณเปรม แลวถามตอไปวา "คุณเปรมนึกวาทานทรงเชื่อหรือเปลา" "ฉันวาทานไมเชื่อหรอก" คุณเปรมตอบ "เพียงแตอยางตาเรามอง ยังเห็นออกโตงๆ พระเนตรทานสูง กวาเรา ทําไมทานจะมองไมเห็น แตทานจะไปทรงทําอะไรได ทานเปนเจาเปนนาย เขามาเฝาก็ตองเสด็จออกให เฝา เขาจะเพ็ดทูลอยางไร ทานก็ไดแตทรงยิ้มฟง อยางเราเสียอีกสบายกวาทานเปนไหนๆ ไมชอบใครก็ แสดงออกนอกหนาได อยางทานจะไมโปรดก็ตองเก็บเอาไว แตฉันวาทานคงทรงทราบดีเทาเรา หรือมากกวา เราดวยซ้ําไป" "ฉันดีใจจริงที่ไมไดเขาไปกับเขาบาง" พลอยพูดอยางโลงอก "ขืนเขาไปคุณเปรมคงคอนฉันตาย" "ฉันคอนนั้นไมสูกระไรหรอกแมพลอย" คุณเปรมพูด "ที่ฉันมาดีใจวาแมพลอยไมเขาไป ก็เพราะเกรงวา ทานจะเห็นวาแมพลอยก็เปนคนอยางเดียวกับพวกที่แหกันเขาไปเฝา ถาเจานายทานทรงนึกวา เมียฉันเหมือน คนพวกนั้น ฉันจะรูสึกขายหนามากทีเดียว" "คุณเปรม" พลอยพูดขึ้น "ฉันบอกอะไรใหสักอยาง อยาหาวาฉันบานะ" "บอกมาเถิด แมพลอย" คุณเปรมหัวเราะ "ถึงจะเห็นวาบา ฉันก็จะนิ่งเสียไมบอกใหรูตัว" "ใจจริงฉันเองก็อยากเขาไปเห็นเหมือนกัน ตั้งแตรูวาในหลวงจะทรงอภิเษกกับพระวรกัญญา ฉันก็อด สนใจไมได ดีใจก็ดีใจ แลวก็ใหอยากเห็นหนาเสียจริงๆ ที่ไมเขาไปก็เพราะกลัวจะถูกหาวา หัวประจบเทานั้น" "อยากเห็นนะเห็นจะไดหรอกแมพลอย" คุณเปรมตอบ "ทานจะทรงละครทั้งสององคเร็วๆนี้ ฉันจะไปซื้อ ตั๋ว พาแมพลอยไปดู" "ใครทรงละคร ซื้อตั๋วอะไร" พลอยถามอยางงงๆ "ก็ในหลวงกับพระวรกัญญานะสิ ทานจะทรงละครเปนตัวพระเอกนางเอกเสียดวย สวนตั๋วที่ตองซื้อนั้น ก็ เพื่อเก็บเงินบํารุงเสือปา" พลอยยกมือขึ้นลูบอกดวยความประหลาดใจ พระเจาอยูหัวจะออกทรงละครในที่สาธารณะ ใครๆก็ไปดู ได และมีการขายตั๋วเก็บเงิน เหมือนกับละครตามวิก กาวใหมอีกกาวหนึ่ง ซึ่งจะดูไกลเกินไปนักสําหรับพลอย ความจริงพลอยก็ทราบมากอนแลววาแผนดินนี้โปรดทรงละคร แตวาตั้งแตผลัดแผนดินมา ก็รูแตวาทรง แต ในที่รโหฐานระหวางหมูมหาดเล็ก การแสดงนั้นก็เปนครั้งคราว เพื่อถวายสมเด็จพระพันปทอดพระเนตรบาง หรือเนื่องในงานอื่นเปนการภายในบาง คนภายนอกมิไดมีโอกาสเขาไปชม แตเทาที่ไดยินคราวนี้จะทรงออกโรง ใหคนภายนอกเขาไปชมได พลอยก็ไดแตนึกอึกอักไมสบายใจ เพราะการอบรมที่ไดรับมาแตกอน บังคับใหนึก ไปเชนนั้น สําหรับพลอยนั้นพระเจาแผนดินเปนของสูง แมจะเสด็จพระราชดําเนินไปทางไหน หรือประทับอยู ณ ที่ใด ก็ไมบังควรที่ใครจะไปมองตรงๆอยูแลว จําตองหลบสายตาลงต่ํา ครั้งนี้จะออกทรงละคร ซึ่งเปนของที่ตอง จองตองมอง พลอยยังนึกไมออกวาตนจะดูไดอยางไร เหตุผลที่วาจะทรงละคร เก็บเงินบํารุงเสือปานี้ พลอยฟง ไมออกเลย สินทรัพยหรือกําลังสวนใดที่คนทั้งแผนดินเปนเจาของรวมกัน ชวยกันบํารุงรักษานั้น พลอยยังนึกไป ไมถึง นึกไดแตเพียงวาพระเจาอยูหัวทรงมีพระราชทรัพยออกมากมาย สุดที่จะประมาณได ถามีพระประสงคจะ บํารุงสิ่งใด ก็สักแตจะมีพระราชโองการ ทุกอยางก็จะเปนไปตามนั้น เหตุไฉนจะตองทรงออกเลนละครเก็บเงิน จะโปรดใหโขนหลวง ละครหลวงออกแสดง ก็ดูจะพอเหลือพออยูแลว แตเพียงเทานี้ก็หนักใจมากอยูแลวสําหรับ พลอย แตคุณเปรมยังบอกวา พระวรกัญญาฯ จะออกทรงละครดวย อีกพระองคหนึ่ง พอนึกถึงพระวรกัญญาฯ พลอยก็ตองหยุดกลืนน้ําลาย ครั้งนี้เปนครั้งแรกที่พลอยไดยินวา ผูหญิงและ ผูชาย จะออกเลนละครรวมกัน แตกอนพลอยเคยดูแตละครผูหญิง ที่ในวังก็มีแตละครผูหญิงลวน ละครเจาคุณ มหินทรฯ ละครปรีดาลัย ที่เคยดูก็มีแตผูหญิงทั้งนั้น ถาจะมีผูชายบางก็เปนตลก ละครผูชายที่เคยเห็นก็เปน ละครนอก ผูชายลวนๆทั้งตัวพระตัวนาง คราวนี้ผูชายกับผูหญิงจะเลนรวมกัน และผูหญิงที่จะเลนนั้นก็คือพระ วรกัญญาฯ ซึ่งตอไปจะเปนมเหสี "ตายแลว !" พลอยนึกในใจแลวนึกตอไปถึงเมื่อครั้งตนยังเล็ก ขางในตองเดิน ฉนวน จะไปไหนก็ตองมีโขลน จากรมวังควบคุมแข็งแรง ขางในสมัยนี้ออกเลนละครรวมกับผูชายใหคนดู ยิ่งคิด

http://www.geocities.com/siamstory/ploy205_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 4

ก็ยิ่งงง ความรูสึกอึดอัดเหมือนกับจะหายใจไมออก พลอยแข็งใจถามคุณเปรมออกไปวา "คุณเปรม ทานจะทรงละครเรื่องอะไร" "เรื่องโพงพาง" คุณเปรมตอบอยางเฉยๆ ไมเห็นเปนของแปลก "แลวกัน" พลอยนึก "แมแตชื่อเรื่องก็ดูแปลกประหลาดเสียเต็มที ละครอะไรชื่อโพงพาง เกิดมาเปนตัว ยัง ไมเคยไดยิน ตองลองถามคุณเปรมดูอีกที" "ละครอะไรชื่อโพงพาง" พลอยถามออกมาดังๆ "ฉันยังไมเคยไดยินเลย" "ละครพูด" คุณเปรมตอบ "ในหลวงทานทรงพระราชนิพนธเอง วากันวาสนุกนัก" พลอยมองดูหนาคุณเปรมแลวก็แปลกใจ เพราะคุณเปรมพูดถึงเรื่องเหลานี้ดวยอารมณเรื่อยๆ เหมือนกับ วา เปนของธรรมดาที่ปฏิบัติกันมาแลวจนเคยชิน คุณเปรมเคยพูดวาพลอยเปนคนลาสมัย บางที่ก็จะจริง อยาง คุณเปรมวา ถึงคืนวันที่จะไปดูละครหลวงกับคุณเปรม พลอยก็แตงตัวเสียเต็มที่เหมือนกับจะเขาเฝา ซึ่งความจริง ก็ เปนความเห็นที่ถูก เพราะละครนั้นแสดงในพระราชฐาน คือวังพญาไท อันเปนที่ประทับในขณะนั้น หลังจาก สมเด็จพระพันปสวรรคตแลว คุณเปรมมองดูภรรยาตนที่แตงตัวเสร็จแลวอยางพอใจ แลวก็ชวนขึ้นรถยนต ออก จากบานแลนตรงไปวังพญาไท เมื่อพลอยไปถึงนั้นคนดูมานั่งรอที่โรงละครมากแลว โรงละครนั้นประดับไฟฟาสีตางๆ และยังเปดไฟ สวาง ทางดานที่นั่งคนดู ทําใหพลอยแลเห็นคนที่ไปชุมนุมกันนั้นไดถนัด ทางดานหนาออกไปมีเจานายประทับ อยู หลายพระองค ถัดไปอีกทางหนึ่งเปนชาวตางประเทศกลุมหนึ่ง คุณเปรมกระซิบบอกวาเปนพวกทูต ตอจาก นั้นมา ก็มีขาราชการผูใหญ และสตรีบรรดาศักดิ์มากหนาหลายตา ตลอดจนถึงพอคาที่เปนจีนและแขก พลอยกวาดสายตา ไปดูรอบๆแลวก็ใจหายตื่นคน คอยๆยองตามคุณเปรมไปยังที่นั่ง ทุกคนที่อยูในที่นี้ พูดจา กันดวยเสียงกระซิบ บรรยากาศไมผิดกับในที่ชุมนุมในงานหลวง เมื่อกอนถึงเวลาเสด็จออก ในใจของพลอยเอง ก็ยังไมเห็นวา เปนการมาดูละคร แตยังเห็นวาเปนการเขาเฝาอยูนั่นเอง พลอยนั่งรออยูนานพอดู ในที่สุดไฟตางๆภายในโรงก็ดับลง ทิ้งคนดูใหนั่งอยูในความมืด คงสวางอยูแต ไฟที่หนาเวที อีกสักครูก็ไดยินเสียงใครกระทุงพื้นโรงดวยของแข็ง เปนสัญญาณดังปงๆอยูสามครั้ง มานหนาโรง นั้นก็คอยๆเผยออก เห็นฉากภายในโรงที่ตกแตงไวเหมือนของจริงไมมีผิด พลอยรีบกวาดตารอบเวที แลวก็ถอน หายใจโลงอก เพราะบนเวทีนั้นยังไมมีในหลวง แตพลอยก็โลงอกไปไดไมชาไมนานนัก เพราะในเวลาอีกไมกี่นาที พระเจาอยูหัวก็ปรากฏพระองคบน เวที ในบทบาทพระเอกของเรื่อง พอคนดูไดเห็นก็มีเสียงดังเหมือนเสียงอุทานเบาๆ ทั่วไปทั้งโรงละคร พลอยใจ หายวาบเมื่อแลเห็นพระองค ความเคยชินซึ่งติดอยูในนิสัย บังคับใหยอตัวลงในทาหมอบทันที โดยเอาแขน พาดลงบนตักทั้งที่นั่งอยูบนเกาอี้ แตแลวพลอยก็รูสึกตัว คอยๆเหลือบมองดูคนที่นั่งกันอยูโดยรอบ ไมเห็นมีใคร ทําอยางตน ทุกคนนั่งดูละครหัวเราะตอกระซิกกันอยางเบิกบาน เคราะหดีที่ไมมีใครสนใจ เหลียวมามองพลอยที่ อยูในทาประหลาด พลอยคอยยืดตัวตรงขึ้นในทานั่ง มิใหใครสังเกตเห็น แลวพยายามจับตาดูละครตอไป แตถึง แมวาจะพยายามดูเพื่อเอาเรื่องเอาราว ใหรูวาละครเรื่องนั้นเกี่ยวกับอะไร หรือเปนมาอยางไร พลอยก็ไม สามารถรวบรวมสมาธิใหอยูที่เรื่องละครได คงมีตาอยูเฉพาะแตพระเจาอยูหัว "ชางงามสงาอะไรอยางนี้" พลอยนึกอยูแตในใจ "แลดูสวางไปทั้งองค เหมือนกับมีไฟอะไร ฉายออกมา จากขางใน ผิดกับมนุษยธรรมดาสามัญอื่นๆ" บางเวลาที่ทรงแสดงบทถึงตอนที่ตองเบือนพระพักตร ชายพระ เนตรมาทางคนดู พลอยก็ตองหลบสายตาลงต่ํา มิกลามองเต็มพระพักตร เพราะพระพักตรที่เบือนมานั้น ดูจากที่ ไกลและในที่แสงสวางของเวที แลดูละมายคลายคลึงพระพักตรสมเด็จพระพันป ทําใหพลอยตองสะดุง หลายครั้ง ดวยความหวาดเกรง เพราะเคยเกรงมแตยังทรงเปนสมเด็จที่บน สมเด็จรีเย็นต สมเด็จพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระพันปหลวง ถึงแมจะสวรรคตไปแลว พลอยก็ยังเกรงขามทุกครั้งที่นึกถึง สําหรับใจคนอื่นที่ดูละครอยู ในคืนวันนั้นจะเปนอยางไรพลอยไมรูดวย แตสําหรับใจพลอยเองนั้น ถึงแมวาพระเจาอยูหัว จะทรงพยายาม แสดงบทของคนธรรมดาในเรื่อง อยางสนิทสนมสักเพียงใดก็ตาม ความรูสึกของพลอย ก็ไมสามารถจะคลอย ตามได ยังคงเห็นพระเจาอยูหัวเปนพระเจาอยูหัว เปนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ควรแกการเคารพยําเกรงเปนที่สุดอยู นั่นเอง ทุกครั้งที่คนอื่นๆที่แสดงละครเรื่องนั้น เดินเขามาใกลชิดพระองค และยืนพูดจาดวยอยางคนธรรมดา พลอยก็ตองสะเทือนใจ หวาดเกรงแทนเขาเหลานั้นวาจะตองจัญไร มีอันจะเปนไปตางๆ คุณเปรมเอื้อมมือมาสะกิดที่เขาเบาๆ เมื่อสตรีคนหนึ่งปรากฏออกมากลางเวที พลอยรูไดทันทีวา สตรีผู นั้นคือพระวรกัญญาฯ มิใชใครอื่น พลอยชะเงอมองดูดวยความสนใจ เพราะมิไดเคยเห็นมาแตกอน "ก็งามดี หรอก" พลอยนึกในใจ ขณะเดียวกันก็อดนึกไปไมไดวา ตนเคยเห็นเจานายขางในบางพระองค ที่งามกวานั้น งามขนาดนั่งพิศดูเทาไรก็ไมเบื่อ แตพลอยก็บอกตัวเองทันที มิใหคิดฟุงซาน เพราะตาของตน จะเห็นอยางไรนั้น ไมสําคัญเลย แมแตจะนึกเปรียบเทียบความงามพระวรกัญญาฯ กับเจานายพระองคอื่น ก็ไมบังควร พลอยนั่งนึก ชมพระวรกัญญาฯ อยูในใจวา ทรงแสดงบทบาทละครพูดไดตลอดไป ไมมีขวยเขิน ถาเปนคนอื่นเชนพลอย อาจ ตองตัวสั่นขาสั่น ไมสามารถจะกาวออกมากลางโรงไดทีเดียว แตความรูสึกอลเวง ในหัวใจนั้นยิ่งเพิ่มขึ้นอีก เมื่อ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy205_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 4

ไดเห็นพระวรกัญญาฯบนเวที เพราะพลอยปกใจเสียแลววา พระวรกัญญาฯ เปฯ "ขางใน" ฉะนั้นทุกครั้งที่ทุกคน ที่เปนผูชายเดินเฉียดเขาไปใกลบาง หรือยืนพูดจาดวยบาง พลอยก็ใจหายใจคว่ํา อยากจะรองเตือน หรือเวลา ผูชายเดินใกลพระองคเขาไปหนอย ก็อยากจะรอง "โอยๆ !" ใหสมกับความตกใจ ตองคอยกลั้นอยูตลอดเวลา ภาพที่ติดตาพลอยอยูไมมีวันลืม ก็คือตอนกอนปดมานตอนจบ พระเจาอยูหัวทรงสวมกอดพระ วรกัญญาฯ ตอหนาคนทั้งปวงที่นั่งดูอยู เสียงพระวรกัญญาฯ รับสั่งขึ้นวา "คุณรักฉันมาตั้งแตเมื่อไร" "รักมาตั้งแตวันที่ไดเห็นในงานประกวดรูปภาพที่บางปะอิน" เปนพระราชดํารัสตอบ ละครปดมานแลว เสียงดนตรีเลนเพลงสรรเสริญพระบารมี พลอยยังนั่งตกตะลึงอยูกับที่ คุณเปรมสะกิด ใหพลอยลุกขึ้นยืน พลอยยืนขึ้นตาม จากนั้นก็ตองเบียดกับคนดู ที่ตางพากันกลับ และตองยืนหนาว อยูที่หนา โรงละครอีกนาน จนคุณเปรมหารถได จึงไดขึ้นรถกลับบาน พลอยนั่งนิ่งมาในรถ มือกอดอกกระชับตัวเพราะความหนาวของอากาศตอนดึก "เปนอยางไรบางแมพลอย" คุณเปรมถาม "หนาวหนอย" พลอยตอบ "ฉันหมายถึงละครคืนนี้" คุณเปรมพูดเบาๆ "ก็สนุกดี" พลอยตอบบายเบี่ยง ไมยอมเผยความในใจ "แตฉันไมเคยดูมากอน ยังดูไมคอยรูเรื่อง แลวผู คนก็มากมายเสียเหลือเกิน ฉันเมาคนแทบจะเปนลม" พลอยไมกลาบรรยายความรูสึกที่แทจริงของตนตอคุณเปรม เพราะกลัวคุณเปรมจะหาวาไมทันสมัย แตก็ นึกไวแตในใจวา จะตองพูดเรื่องนี้กับใครสักคนหนึ่ง ที่จะเขาใจตัวดีกวาคุณเปรม คนๆนั้นก็ตองเปนชอย เพราะ เคยเห็นอะไรมาดวยกัน "ฉันวาสนุกออก" เสียงคุณเปรมพูดเมื่อกอนรถเลี้ยวเขาบาน "ในหลวงทานทรงละครดีกวาใครๆทั้งหมด ไมเห็นใครจะสูทานไดสักคน"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy205_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๒ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑) ความเคยชินเปนพรอันประเสริฐที่ธรรมชาติใหไวแกมนุษย เมื่อกอนที่ลูกสองคนจะไปเรียนนอก พลอยรู อยูวาจะตองจากกันไปนานเปนจํานวนหลายป กอนที่ลูกจะเรียนเสร็จกลับบาน และนึกไปถึงวาในระยะเวลา ที่ ตองจากกันนั้น ตนจะทนทานไปไดอยางไร เมื่อลูกออกจากบานไปใหมๆ ความาอาลัยความคิดถึงนั้น ก็เกิดขึ้น อยางยิ่งยวด แตพอนานเขาก็เคยชินตอภาวะที่ตองอยูหางกันกับลูก และถึงแมวาความคิดถึง จะยังคงมีอยูเปน ประจํา ความคิดถึงนั้นก็มิไดเกิดขึ้นดวยอาการอันรุนแรง บีบรัดหัวใจอยางแตกอน และดวยเหตุนี้เวลาที่วาง เปลาไมมีลูกสองคนอยูที่บาน จึงผานไปโดยไมชานัก พลอยเผลอๆไปหนอยนั้น ก็ลวงเลยไปหลายป ตาอั้นไปอยูรวมกับตาออดที่อังกฤษในราวๆปเศษ ทางผูปกครองนักเรียน ก็แนะนําใหยายไปเรียนตอ ที่ ฝรั่งเศส เพื่อจะไดเรียนกฎหมายจนจบที่นั่น แตในขอที่ลูกสองคนตองแยกกันอยูคนละประเทศนั้น มิไดกอให เกิดความวิตกแกพลอยอยางไร เพราะจะเปนอังกฤษหรือฝรั่งเศส สําหรับพลอยก็เปนเมืองนอกดวยกัน และถา จะวาไปจริงๆ พลอยก็ไมรูวาเมืองอังกฤษกับเมืองฝรั่งเศสนั้นหางไกลกันเพียงใด และแตกตางกันอยางไร คงยัง เชื่ออยูในใจวา ตาอั้นและตาออดนั้นยังอยูใกลๆกัน ตาอั้นนั้นยิ่งจากบานไปนานเขาก็ยิ่งดูจะเปนคนเอาการเอางาน และคงแกเรียนขึ้นทุกวัน จดหมายของ ตาอั้น ทุกฉบับเปนจดหมายสั้นๆ บอกใหรูทุกขสุขโดยไมมีรายละเอียด รายละเอียดนั้นถาหากจะมี ก็เปนราย ละเอียดเกี่ยวกับการเลาเรียน ซึ่งพลอยอานไมเขาใจ แตมีคุณเปรมเปนคนที่สนใจอยูขางเดียว จดหมายของตา ออดนั้นเปนไปในทางตรงกันขาม เต็มไปดวยรายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตความเปนอยู บางครั้ง ตาออดก็อธิบาย เรื่องธรรมชาติดินฟาอากาศที่พบเห็น จนพลอยรูสึกเขาใจ เหมือนกับไดไปเห็นดวยจริงๆ ตาออดเปนเด็กที่มี ความจําในเรื่องเล็กๆนอยที่ลืมไปแลว แตตาออดก็ยกเอาเรื่องที่ผานไปแลวนั้น กลับมาอุปมาอุปไมยเทียบกับ ของใหมที่ไดพบเห็น จนพลอยเขาใจได เมื่อถึงคราวหนาหนาวแรกที่ตาออดไปพบในอังกฤษ ตาออดเขียนจดหมายมาเลาใหฟงวา "ลูกไดเห็นหิมะเปนครั้งแรกในวันนี้เอง กอนที่มันจะตกลงมานั้น หนาวกระดูกแทบจะแตก ทองฟาก็มืด ครึ้มไปหมด แตพอหิมะตกเสียแลว ก็คอยยังชั่วหนาวขึ้น เวลามันตกลงมานั้นไมเหมือนฝน มันคอยๆรวงลงมา แมจําตนงิ้วใหญ ที่ขึ้นอยูขางบานเราไดไหม วันที่ลูกงิ้วแตกเปนปุยเต็มตน แลวแมนั่งอยูกับลูกที่ขางตึก พอมี พายุฝนกําลังจะมา ปุยงิ้วก็หลุดจากตนปลิวออกเต็มไป สีมันขาวๆ ขับกับทองฟาที่มืดอยูขางหลัง เวลาหิมะตกก็ ดูเหมือนอยางนั้น" เมื่อตาอั้นขามไปอยูฝรั่งเศสเสียแลวตาออดก็เขียนมาวา พี่อั้นเขาขามไปอยูฝรั่งเศสแลวเมื่อสองอาทิตยกอน พอเขาไปไดไมกี่วันลูกก็ตองมาเขาโรงเรียน แมนึก ไมออกหรอกวา โรงเรียนฝรั่งนี้มันกันดารอยางไร หนาวก็เทานั้น ไฟจะผิงก็ไมมี แลวก็ยังมีระเบียบ ขอบังคับ อื่นๆอีกมากมาย ใครทําไมถูกก็ตองถูกทําโทษ ลูกมาถึงใหมๆ ฝรั่งมันลอเสียแยไปเลย แตอยูไปเห็นลูกไมถือ มันก็เลิกไปเอง ถาพี่อั้นมาอยูจะลําบาก เพราะพี่อั้นเขาเปนคนเอาจริงไมชอบลอกันเลน เรื่องอาหารการกินนั้นดู ไมไดทีเดียว กินกันหิวไปวันหนึ่งๆเทานั้น วันหนึ่งกินสองมื้อ กับขาวเหมือนกันทุกวัน ตอนแรกลูกเกือบกินไม ลง แตตอนหลังหิวเขาก็กินลงไปเอง เคราะหดีที่มันใหมากกินเทาไรก็ได ที่ลูกเลามาใหฟง เพื่อแมจะไดรูไว แต แมอยาวิตกไปเลย เพราะลูกไมลําบากอะไร ถึงจะลําบากบางก็ดีเสียอีก เพราะลูกจะไดรูวา แมเคยเลี้ยงลูกดี อยางไร ถาไมไดมาเมืองนอก็คงไมรู เมื่อกอนเขาโรงเรียนลูกคิดถึงบานบอยๆ คิดถึงทีไรก็คิดถึง เอามากๆ แต มาอยูโรงเรียนนี้ดีไปอยางหนึ่ง คือไมมีเวลาเปนของตัวเองที่จะมานั่งคิดถึงบาน วันหนึ่งๆเขาบังคับ ใหทําโนน ทํานี่อยูตลอดเวลา ไมมีเวลาวางเลย ถาไมเขาโบสถสวดมนตก็เรียนหนังสือ เลิกเรียนหนังสือ ก็ตองเลนกีฬา ใครไมเลนไมไดนอกจากปวย เลิกเลนกีฬาพออาบน้ําเสร็จสักครูหนึ่ง ก็ตีระฆังใหทําการบานๆ เสร็จก็สวดมนต นอน พอเขาเตียงนอนก็ตองรีบหลับ เพราะเขาสั่นระฆังปลุกแตเชามืด พอตื่นเชาก็ตองอาบน้ําเย็น กอนอื่น มา อยูแรกๆ แทบแยทีเดียว นักเรียนที่นี่เขาใหแยกกันอยูเปนบานๆ บานหนึ่งก็มีครูคุมคนหนึ่ง คอยดูแลนักเรียนที่อยูในบาน และมี นักเรียนที่ครูตั้งเปนหัวหนาสองสามคน ไวคอยดูแลความประพฤติ นักเรียนที่เขาเปนหัวหนานั้น มีอํานาจบังคับ บัญชานักเรียนอื่นๆ และลงโทษนักเรียนอื่นๆได วิชาที่เรียนนั้นไมยากอะไร วิชาเลขลูกเรียนมา จากเมืองไทย หมดแลว ภาษาอังกฤษเดี๋ยวนี้ก็พอรูเรื่อง ไปยากอยูที่ภาษาลาตินซึ่งไมเคยเรียน และตองเรียนใหทันฝรั่ง ภาษา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy206.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 4

อะไรก็ไมรูบาเหลือเกิน อยางคําวาโตะ ถาพูดถึงโตะเฉยๆ ก็เรียกไปอยางหนึ่ง ถาทุบโตะก็เรียกไปอีกอยางหนึ่ง และถาเดินไปที่โตะ หรือเดินมาจากโตะก็เรียกไปอีกอยางหนึ่ง ที่ลูกเห็นขัน นาหัวรอก็คือ ถาเราจะพูดวา "โตะ เอย !" เขาก็อุตสาหสอนใหรูวิชาที่จะเรียกโตะวาอยางไร ถาลูกกลับมาบาน แลวนั่งพูดกับโตะ แมก็อยานึกวาลูก บาไปเสียแลวก็แลวกัน เพราะภาษาลาตินนั้นมีคําที่จะพูดกับโตะได ลูกมาาอยูทางนี้รูสึกวาเวลาผานไปไมนานนัก แตพอมานับดูเขาจริงๆ ก็เห็นวานานโขอยูแลว ลูกเลยดีใจ เพราะจะไดกลับมาหาแมเร็วๆ หวังวาแมจะคิดถึงลูกบาง แตอยาใหมากเกินไปนัก เดี๋ยวจะไมสบาย" คุณเปรมอานจดหมายจากตาออดแลวก็ตีหนาชอบกลทุกครั้งไป และมักจะบนวา "ลูกแมพลอยคนนี้มันแปลก บางทีฉันไมเขาใจจริงๆวามันพูดเรื่องอะไรของมัน" ถึงแมวาตาออดจะไดสั่งมาในจดหมายวา ไมใหพลอยวิตกในเรื่องความทุกขสุข แตพลอยก็ยังอดวิตก วิจารณไปเองไมได ที่วิตกนั้นมีอยูสองเรื่อง เรื่องหนึ่งนั้นเกี่ยวกับศาสนา เพราะตาออดบอกมาวาตองเขาโบสถ สวดมนตที่โรงเรียน อีกเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องอาหารการกิน เพราะตาออดบอกมาวากินขาวไมอรอย แตเมื่อมี จดหมายไปถาม ตาออดตอบวา "เรื่องศาสนานั้นแมอยาคิดใหมากไปเลย ที่โรงเรียนเขาบังคับใหเขาโบสถทุกคน เราไมไดถือของเขาก็ จริง แตคนอื่นเขาเขากันหมด จะใหลูกไปนั่งอยูนอกโบสถคนเดียวก็ดูกระไรอยู เวลาเขาโบสถเขาจะสวดจะรอง เพลง ลูกก็ตามเขาไป บางทีของเขาก็เพราะดีเหมือนกัน และไดรูไดเห็นวาฝรั่งเขาสวดมนตกันอยางไร แตใจ ของลูก ก็ยังเปนพุทธ พระที่คุณลุงหลวงใหมาลูกก็เก็บไวที่หัวนอน กอนจะนอนก็สวดมนต อยางที่แมเคยสอน ตั้งแตเด็กๆ แมควรจะดีใจเสียอีก เพราะถาลูกเปนอะไรไป จะมีสวรรคขึ้นไดถึงสองแหง สวรรคไทยก็ได สวรรค ฝรั่งก็ได... ที่แมบอกไววาจะสงของกินมาใหจากเมืองไทยนั้นดีเหมือนกัน แตตองคอยเวลาโรงเรียนหยุด จะทําที่ โรงเรียนไมได เมื่อลูกยังอยูกับเพื่อน เคยลองทํากับขาวไทยเหมือนกัน เคราะหดีที่ลูกชอบอยูกับแมเสมอ เวลา ทํากับขาว จึงรูวิธีพอถูไถไปได ถาหากจะมีติดขัดก็อยูที่เรื่องของกิน มักจะหาไดไมครบเหมือนที่บานเรา แตขาว สารนั้นมีขาย ฝรั่งมันซื้อมาทําขนมกินอาทิตยละครั้ง เอามาตมกับนมกับน้ําตาลกินไมลงคอเลย เวลาฝรั่งเขาซื้อ ขาวสาร เขาซื้อกันทีละนอย เพียงหยิบมือเดียวก็พอ แตพอลูกกับพี่อั้นไปซื้อมาถุงหนึ่ง มันตกใจกันใหญ ไมรูวา เราจะไปกินกันอยางไรหมด ทีแรกเราก็ทํากับขาวงายๆ ไขเจียวบาง หมูหวานบาง แกงบะชอบาง ตอนหลังเลย กําเริบ ถึงแกงเผ็ดเนื้อวัว ประดักประเดิดเต็มที มะพราวก็มีแตมะพราวแหง สําหรับทําขนม เวลาจะใชตองชง ดวยน้ํารอน พอคั้นกะทิรอนมือแทบพอง จําตําน้ําพริกแกง หัวหอมกระเทียมนั้นหาได ผิวมะกรูดเอาผิวมะนาว แทน กะปตองใชกะปฝรั่ง ที่เขาทาขนมปงกิน เรียกวาแอนโซวี่ ขาไมมีไมเปนไร เครื่องเทศมียี่หรา พริกใชพริก ปน ที่ขาดมากก็คือตะไคร ลูกไปซื้อน้ํามันตะไครจากรานขายยา มาใสลงสองสามหยด แกงเกือบสุกแลวพี่อั้นมา ดู บอกวาไมเห็นเหมือนของจริงเลย เพราะไมมีมะเขือพวง ลูกเลยเอาถั่วกระปองใสลงไป ใหมันดูคลายๆ เสร็จ แลวก็กินกันอรอยเต็มที่ จะวาเหมือนแกงเผ็ดก็ไมได เพราะมันไมเหมือนกัน แตมันก็เปนอะไรเผ็ดๆ ที่กินกับ ขาวไดดีกวาของฝรั่ง พวกฝรั่งที่อยูบานเดียวกันมามองๆดู ถามวาอะไร ลูกก็บอกวากับขาวไทย มันขอกินก็ให มันกิน หนาตามันแดงไปหมดบอกวาเผ็ดรอนราวกับไฟ แตมันก็ยังปากแข็งวาอรอย หนาหนาวคราวที่แลว ลูก เห็นฝรั่งเอาพริกชี้ฟาสีเขียวสีแดงมาขายแยะ เขาซื้อไปประดับบานเวลาตรุษฝรั่ง ลูกซื้อมากินมันตกใจใหญ บอกกันวาทองเราถาจะทําดวยทองแดง เรื่องกับขาวไทยนั้น ถาไมทํากินเองก็พออาศัยกับขาวเจกได แตรานขายกับขาวเจกมีอยูในลอนดอน เขา ไมคอยใหลูกไดไปอยู จะมีก็แตเวลาเดินทางผานเทานั้น อยูบานนอกจึงตองทํากินเองเสมอ เรื่องกับขาวไทยนี้ เสียอยูอยางเดียวเทานั้น ที่เมื่อกินแลวเหม็นกระเทียม ทําอยางไรก็แกไมหาย ฝรั่งมันเหม็นเสียจริงๆทีเดียว ได กลิ่นเขาทําหนาไมดีจนเราแลเห็นได กระเทียมสดๆนั้นไมสูกระไรนัก ถาใสกลีบสองกลีบก็เหม็นอยูไมนาน ที่ เหม็นมากและเหม็นนานก็คือพริกเผา และขาวเมาหมี่ ที่แมทํามาใหจากบาน กินเขาไปแลว กลิ่นมันออกทุกขุม ขน จะลางปากอมอะไรดับกลิ่นก็ไมหาย เพราะมันออกทางอื่นดวย พี่อั้นกับลูกกินน้ําพริกเผาทาขนมปง แลวไป ดูหนัง คนที่นั่งใกลๆ ทั้งขางๆ ขางหลัง และขางหนาลุกหนีกันหมด เสียงมันบนพึมพําวา เหม็นอะไรก็ไมรู ขากลับลงนั่งรถใตดินก็อีก ฝรั่งไมกลามานั่งใกลเลย ถามันจะกลัวกลิ่น คิดไปก็ดีเหมือนกัน ไมตองเบียดคน กับขาวฝรั่งนั้นเดี๋ยวนี้ลูกคุนเขา ชักจะกินอรอยไปเอง เมื่อมาจากเมืองไทยใหมๆ เนื้อแกะเห็นวาเหม็น กินไมลง เดี๋ยวนี้กลับอรอย เพราะมันมีกลิ่นอยางนั้น เนยแข็งนั้นตอนแรกๆ พอไดกลิ่นก็ตองยกมืออุดจมูก แต เดี๋ยวนี้กลับกลายเปนของหอมนากิน ลูกคิดวาฝรั่งที่เขาวาเหม็นกะปน้ําปลานั้น ถาไปอยูเมืองไทยนานๆเขา ก็ คงหอมกินได อยางเรื่องเหม็นกระเทียม ถากินกันทุกคนอยางในบานเราก็ไมไดกลิ่น เพราะตางคนตางเหม็นเสีย แลว แตถาเราไปกินอยูคนเดียวในหมูคนที่เขาไมไดกิน ก็เหม็นแยไปเลย ถาแมจะสงของกินมาใหลูก ก็ขอใหสงพวกเครื่องแกง ขาตะไครใบมะกรูดอะไรพวกนี้ เพราะทางนี้หาไม ได น้ําปลานั้นสําคัญมาก ถาจะทํากับขาวไทยแลวไมมีน้ําปลา ดูขาดรสหมดเรื่องทีเดียว ลูกเคยเอาปลา มาหมัก

http://www.geocities.com/siamstory/ploy206.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 4

ในเกลือดูทีหนึ่ง นึกวามันจะเปนน้ําปลา แตมันก็ไมเปน ทิ้งไวตั้งนาน พอเปดขึ้นมาเหม็นสามบานเจ็ดบาน พวก คนที่อยูบานขางๆ มันมาตบประตูเอะอะ นึกวาเราทิ้งอะไรใหเนาอยูในบาน ตองขุดหลุมฝงแทบตาย" จดหมายของตาออดฉบับนี้ทําใหพลอยดีใจ เพราะตาออดบอกมาแนนอน วาตองการของชนิดใดบาง พลอยรีบตระเตรียมของแหงของเค็มตางๆ เหมือนกับจะใหคนกินไดเปนรอยๆ มีผูคนเด็กเล็กในบานเทาไร เรียกกันมาชวยหั่นชวยตากชวยทํา บางคืนก็นั่งทําของที่บรรจุขวด สงไปใหลูกกินที่เมืองนอกจนดึกดื่น คนที่ คอยชวยพลอยในการนี้มากอีกคนหนึ่ง ก็คือคุณอุน นับตั้งแตคุณอุนมาอยูกับพลอยที่บาน คุณอุนไดทําใหพลอยไดรับความประหลาดใจหลายครั้ง ครั้งแรกที เดียวที่พลอยตองแปลกใจ ก็คือในวันที่คุณอุนขนของมาถึงบาน พลอยเคยไดยินวา คุณอุนถูกปอกจนหมดตัว แตไมเคยเขาใจวาคําวาหมดตัวนั้นมีความหมายวาอยางไร จนไดมาเห็นกับตาตนเอง เมื่อคุณอุนขนของเขาบาน พลอยเคยเห็นแตเมื่อยังเปนเด็กวา คุณอุนเคยนั่งอยูในกองสมบัติ หีบเหล็กและตู ที่เรียงรายอยูรอบตัวนั้นเต็ม ไปดวยของมีคา แตเมื่อคุณอุนเขามาอยูดวยนั้น มีเพียงที่นอนหมอนมุงและหีบใสของ ไมกี่ใบ ครั้นพลอยถามวา ยังมีของสิ่งใดเหลืออีกบางที่ยังขนมาไมหมด หากจะตองการใช จะไดใหคนไปชวยขนมาใหจากบาน คุณอุนก็ ตอบอยางหนาเศราๆวา "ไมมีหรอกแมพลอย ทั้งเนื้อทั้งตัว ฉันมีเหลือแตเพียงเทานี้แหละ... ที่เปนของตัวเอง" ซึ่งทําใหพลอยตองใจแหงเพราะความสงสาร ตั้งใจวา จะหาความสุขใหแกคุณอุนในยามชรา ใหมากที่สุดเทาที่ จะทําได แตเมื่ออยูดวยกันไป พลอยก็ตองประหลาดใจอีกคํารบสอง เมื่อรูไดแนชัดวา คุณอุนไมตองการอะไรมาก ในชีวิต ความสุขที่คุณอุนตองการนั้น ดูเหมือนจะเปนวาขอใหไดอยูกับตัวของตัวเองมากที่สุด โดยไมมีใคร รบกวน เมื่อพลอยยกเรือนในบานใหคุณอุนอยูหลังหนึ่ง รวมกับยายปริกที่เปนคนใช พรอมกับสงเด็กผูหญิง ให ไปดูแลอีกคน คุณอุนก็พอใจที่จะอยูบนเรือนนั้นอยางสงบ ไมออกมารบกวนใคร จนบางครั้ง พลอยลืมไปวามี คุณอุนอยูในบาน ทุกครั้งที่พลอยขึ้นไปเยี่ยมเยียนบนเรือน คุณอุนก็ตอนรับดวยความดีใจ และแสดงความเปน กันเอง โดยเรียกใหนั่งดวยตรงที่คุณอุนนั่งอยู แตบางครั้งที่คุณเปรมติดตามขึ้นไปเยี่ยมดวย คุณอุนก็ตอนรับ อยางรับแขก เรียกใหเด็กเอาพรมมาปูที่ระเบียงเรือน และชงน้ํารอนน้ําชา เอาหมากพลูบุหรี่มาตั้ง คุณอุนเองนั่ง คุยกับคุณเปรม ซึ่งคุณอุนเรียกวา "ทาน" อยางสงบเสงี่ยม หลายครั้งเขาคุณเปรมก็ชักจะเกอ ปรารภกับพลอย วา "แมพลอย พี่สาวใหญของแมพลอยนี่เมื่อไรจะรับฉันเปนนองเขยสักที ฉันไปทีไร เธอรับฉันราวกะเปน เจาพระเดชนายพระคุณ จนฉันเกอเต็มทีแลวละ" "คุณเปรมไมชอบหรือ" พลอยสัพยอก "ไดพี่เมียที่ยกยอง คอยนั่งประนมมืออยางนี้" "แมพลอยก็พูดเปนเลนไปได" คุณเปรมตอบ "เราเห็นเธอเปนผูใหญ เคยไหวเคยกราบ เดี๋ยวนี้เธอกลับ มาประนมมือเอาฉันเขา ฉันไมเอาละ กลัวอายุจะสั้นเสียเปลาๆ แมพลอยเตือนเธอเสียบาง ไมไดหรือ" "คุณเปรมก็อยาไปถือคนแกก็แลวกัน" พลอยพูดเบี่ยงบาย เพราะในใจจริงนั้นก็นึกไมออกวา จะไปเตือน คุณอุนวาอยางไร เทาที่พลอยดูคุณอุนเทาที่ปฏิบัติกับตนกับคุณเปรมและคนอื่นๆในบานก็คิดวา เดี๋ยวนี้คุณอุนถอดเขี้ยว ถอดเล็บ หลายเปนคนดีที่รูสึกตัววาไดผิดไปแลว และพยายามทําทุกอยางที่จะลบลางความผิดของตนในอดีต แมแตนางพิศเอง ซึ่งคอยรับมืออยูแตแรก ก็ขึ้นมาหาพลอย ยกมือเช็ดน้ําตาแลวพูดวา "คุณพลอยทูนหัวของพิศ คุณทําคุณแกคนแกหมดที่พึ่ง ไดบุญเปนหนักหนา บาวเห็นคุณอุนแลวใจออน ทําอะไรไมลง คิดไปเธอก็เปนลูกนาย ขึ้นไปกราบตีนเธอบนเรือน เธอก็พูดดวยดีเหมือนกับไมเคยมีเรื่อง บางที บาวเองจะเปนคนไมดี เมื่อแตกอนเธอจะดาวามาบาง ก็ชางเถอะบาวยกใหหมดแลว" ถาหากวาความเขาใจของพลอย วาคุณอุนเปลี่ยนไปกวาแตกอนจะมีความจริงอยูบาง ก็เปนความจริง เฉพาะ บุคคลบางคนเทานั้นเอง เมื่อคุณเชยมาถึงบาน เพื่อจะมาดีกับคุณอุนตามที่ไดบอกพลอยไว พลอยก็พา คุณเชย ขึ้นไปหาคุณอุนถึงบนเรือน คุณอุนนั่งปอกผลไมอยูที่ระเบียงเรือน มีประไพซึ่งคุณอุนรักมากเปนพิเศษนั่งอยูขางๆ คอยกินผลไม ที่ คุณอุนปอก พอพลอยขึ้นเรือนไป มีคุณเชยตามหลังไปติดๆ คุณอุนเหลียวมาดูแลวก็ยิ้มพูดดวยวา "แมพลอยมาพอดีทีเดียว พี่วาอีกประเดี๋ยวจะสงมะปรางริ้วขึ้นไปใหบนตึก นี่กําลังปอกใหประไพเขา ดู ไปกอน จะใหลองปอกบางก็ยังไมไวใจ กลัวมีดบาดมือ" คุณอุนพูดจาเปนปกติแตไมแลเห็นคุณเชย ซึ่งทรุดตัวลงนั่งไหวอยางนอบนอม พลอยสังเกตดูตาคุณอุน แลว ตัวก็เย็นวาบ รูไดทันทีวาคุณอุนก็ยังเปนคุณอุนคนเกาอยูนั่นเอง และคุณอุนคนเกานั้น ยังมิไดยกโทษให คุณเชย เลยแมแตนอย "คุณเชยบอกวาจะมาหาคุณพี่" พลอยแข็งใจพูดขึ้น "อิฉันก็เลยขึ้นมาดวย" "ฉันมีนองเหลือแตแมพลอยคนเดียว" คุณอุนพูดโดยไมเงยหนาจากมะปรางริ้วที่กําลังปอกอยู "คนอื่น เปนพี่ตางทองนองตางไส บางทีเขาอยากจะมาดูฉันใหสมน้ําหนาสะใจกระมัง"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy206.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 4

"โธ ! คุณพี่ก็" คุณเชยรองขึ้น "ฉันตั้งใจมาหาจริงๆ พูดกับแมพลอยเขาไวนานแลว" พูดแลวคุณเชยก็หัน มา มองหนาพลอย ทําหนาเหมือนกับจะรองไห "เรือนหลังนี้แมพลอยยกใหฉันอยู" คุณอุนพูดตอไปดวยสําเนียงปกติ "ฉันก็อยูพอดีตัว แตบางเวลา เมื่อ มีคนเขาใหญโต มีบุญวาสนาขึ้นมาบนเรือน ฉันก็รูสึกวามันแคบไปบาง ไมมีที่จะรับรอง อยางแมพลอยไมเปนไร เพราะเปนพี่เปนนองกัน ยากดีมีจนฉันก็ไมตองอาย" คุณเชยนั่งกมหนานิ่ง พลอยเองก็รูสึกตัวเองวาเล็กลงไปเปนกอง ความรูสึกเหมือนกับวาคุณเชยกับตน เปนเด็กๆที่ไปคบคิดกันทําผิดอะไรมา จึงตองถูกคุณอุนที่เปนผูใหญดุวา พลอยลืมไปเสียนานแลววา ตนเองกับ คุณเชยเมื่อยังเปนเด็กๆวิ่งเลนอยูดวยกันที่บานนั้น เคยกลัวคุณอุนเพียงไร แตความรูสึกเกรงกลัวนั้น กลับมา อีกครั้งหนึ่งพรอมบริบูรณ พลอยนึกดวยความประหลาดใจวา คุณนั้นถึงจะอาภัพอับโชคอยางไรในปจจุบัน ก็ยัง คงเปนผูใหญที่นาเกรงขามอยู และเปนพี่สาวใหญของพลอยและคุณเชยอยูนั่นเองไมมีปญหา "ประไพดูใหดีๆ" คุณอุนหันไปพูดกับประไพเหมือนกับไมมีอะไรเกิดขึ้น "โตขึ้นจะไดปอกมะปรางริ้ว ได สวยๆ ตองทําอยางนี้ ปาจะทําใหดู ตะแคงมีดแลวกดแตพอดี ใหกินแตผิวอยาใหแรงนัก แลวปอกออกจาก ตัวอยางนี้เห็นไหม" คุณเชยเหลียวมาดูหนาพลอยอีกหนหนึ่งแลวตัดสินใจ คลานเขาไปถึงที่ๆคุณอุนนั่ง ลงกราบที่เทาคุณอุน แลวก็พูดวา "อิฉันขอขมาคุณพี่เสียเถิด ถาหากวาไดทําสิ่งใดใหคุณพี่ตองผิดพองหมองใจ ก็ขอไดอโหสิใหแกอิฉัน ดวย คุณพี่จะดาวาอยางไร อิฉันก็ยอมทุกอยาง ขอแตอโหสิใหแกอิฉันเสียที จะไดไมเปนเวรเปนกรรมกันตอไป" นิ่งเงียบไมมีเสียงตอบจากคุณอุนแมแตนอย คุณอุนนั่งปอกมะปรางริ้วใหหลานดูตอไปเปนปกติ คุณเชย เหลียวมาดูหนาพลอย เหมือนกับจะขอความชวยเหลือ พลอยก็รีบพูดขึ้นวา "คุณพี่อยาโกรธเคืองคุณเชยตอไปอีกเลย นึกวายกใหอิฉันเสียเถิดอิฉันขอละ อิฉันเองก็ไมมีพี่นอง อยู ดวยกันกี่คน อยากใหรักใครปรองดองกัน" คุณอุนเงยหนาขึ้นมองดูพลอย นิ่งอยูครูหนึ่งแลวก็พูดขึ้นวา "เมื่อแมพลอยออกปากขอทั้งทีฉันก็ยกให แตฉันจะตองขอบอกใหรูวา เมื่อพอแมตายลง ฉันก็ถือวา เปน หนาที่จะตองปกครองนองๆตอไป แมพลอยเองก็คงเคยเกลียดฉันมามาก แตก็ไมเคยทําใหฉัน อับอายขายหนา แมพลอยทําตัวถูกตลอดมา ฉันจะดุวาหรืออาธรรมอยางไรกับแมพลอย คํานอยแมพลอย ก็มิไดเคยมาปริปากโต เถียงใหฉันเจ็บช้ําน้ําใจ เพราะแมพลอยทําตัวดี ฉันจึงเห็นความดีของแมพลอย และบากหนามาหา เพราะในใจ จริงนั้นไมเคยตัดขาดจากพี่นองกับแมพลอย แตคนที่เขากลาววาตัวเขาเปนพี่นอง ในไสฉันนั่นเสียอีก เขากลับลุ แกโทสะ เอาแตใจตัว นึกจะขึ้นเสียงทุมเถียงฉีนอยางไร เขาก็ทําไดไมไวหนา แตเรื่องนั้นก็พอจะทําเนา ตอนที่ เขาหนีตามผูชายไปนี่สิ ทําใหฉันตองอับอายขายหนามาก หนาฉันคนเดียว ก็ไมเปนไรหรอก แตมันเสียไปถึง พอแมวงศตระกูล ฉันจึงเสียใจนัก ตั้งใจไววาชาตินี้จะไมดูผีกัน แตแมพลอยมีพระคุณตอฉัน เมื่อแมพลอยออก ปากขอทั้งทีก็เอาเถิด ฉันจะอโหสิให ไมถือโกรธอีกตอไป" คุณอุนเหลียวดูคุณเชยที่นั่งกมหนาอยูแลวก็พูดวา "นั่งเสียตามสบายเถิดแมเชย เปนอันเลิกแลวตอกันไปที ฉันไมโกรธแมเชยอีกตอไป ทีนี้จะไปมาหาสูกัน ก็ได" พลอยหายใจโลงอก เหมือนกับวามีใครมายกเอาของหนัก ที่กดอยูนั้นออกไปใหพนทรวงอก เมื่อคุยกัน ดวยเรื่องอื่นๆไปไดสักครู พลอยก็ขยิบตาชวนคุณเชยลากลับ เมื่อลงจากเรือนคุณอุน ก็เดินกลับไปบนตึก คุณ เชยก็แลดูตาพลอยแลวก็หัวเราะพูดวา "เปนยังไงแมพลอย ฉันนี่เปนนองสาวที่ดีคนหนึ่งเทียวนะ" "นั่นนะซีคุณเชย" พลอยหัาเราะตอบ "ฉันใจหายใจคว่ํากลัวคุณเชยจะไปอาละวาดกับเธอเขา แตคุณเชย ทําดีแลว หมดเรื่องกันไปที" "เฮอ !" คุณเชยรอง "นี่แหละเขาเรียกวาเสือไมทิ้งลายละ" "แลวเราก็ยังกลัวเสือดวยกันทั้งสองคนจริงไหมคุณเชย" คุณเชยหัวเราะกี๊กตอบวา "จริงทีเดียวแมพลอย พอเธอหันมาทําตาเขียวฉันแทบจะมุดกระดานหนี นึกเหมือนกับวาตัวเองยังอายุ เพียง สิบขวบ แลวไปทําอะไรซุกซนมาเธอจับได" "ฉันก็เหมือนกัน" พลอยตอบแลวก็พาคุณเชยขึ้นไปนั่งคุยกันตอบนตึก ตั้งแตนั้นมาคุณเชยก็ไปมาหาสู กับคุณอุนเปนปกติ อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy206.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๖ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 3

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๒ บทที่ ๖ (หนาที่ ๒) พลอยสังเกตดูการกระทําของคุณอุนตอไป ก็รูดวยความประหลาดใจอีกประการหนึ่งวา คุณอุนนั้นตองมี ใครคนหนึ่งไวเปนที่รัก สําหรับพะนอตามใจจึงจะมีความสุข เมื่อยังอยูที่บานคลองบางหลวง คนที่คุณอุนตามใจ จนเสียก็คือคุณชิต แตพอมาอยูที่บานเดียวกับพลอยไดไมนานนัก คุณอุนก็เริ่มยึดถือเอาประไพไปเปน กรรมสิทธิ์ สําหรับตามใจ พลอยจะหามปรามก็ไมได ไดแตนั่งดูอยูดวยความวิตก ประไพนั้นเขากับคุณอุนไดสนิทตั้งแตแรกพบ ไมเคยแสดงอาการวาตระหนี่ตัวหรือกระดากอาย แตอยาง ใดเลย ทําใหพลอยนึกอัศจรรยใจอยูครันๆ ดูเหมือนกับวาสองคนปาหลาน ตางคนตางมีอะไรอยูในตัว ที่คอยดึง ดูดใหเขาหากัน และเขาในกันไดดีกวาคนอื่นๆ ประไพไปอยูที่เรือนคุณอุนตอนกลางวันทุกวัน และคุณอุนก็ดู เหมือนจะมีความสุขมาก ที่มีประไพไปเลนอยูดวย บางทีคุณอุนก็อาบน้ําแตงตัวให และหยิบเครื่องทองของแตง ตัว ที่ยังมีเหลือออกใหประไพใส และเมื่อประไพออกปากวาชอบสิ่งใด ก็ยกใหเปนกรรมสิทธิ์ นานเขาพลอยก็ รูสึกหนักใจ เมื่อเห็นประไพเริ่มมีกิริยาวาจากระเดียดไปเหมือนคุณอุน จะออกปากตักเตือนประไพอยางไรก็ไม กลา เกรงวาถารูถึงคุณอุนเขา คุณอุนจะเสียใจ บางครั้งคุณอุน ก็บําเรอประไพดวยขนม จนประไพทองเสีย พลอยตองเก็บตัวประไพไวในที่นอนหลายวัน บางคราว ประไพก็เกิดเรื่องกับคุณอุน อาละวาดไมยอมกินขนมที่ คุณอุนซื้อมาให คุณอุนก็ดีเอาจนประไพตองยอมกิน ความรักความหวังดีทั้งหมด ทึ่คุณอุนเคยใหแกคุณชิตนั้น เดี๋ยวนี้ดูเหมือนคุณอุนจะโยนมาใหแกประไพจนหมดสิ้น พลอยก็ไดแตนั่งดูโดยดุษณี ทั้งที่รูวาของนั้นเปนของ แสลงสําหรับลูกสาวของตน ประไพโตขึ้นมามากแลวในระยะนี้ เคาแหงความงามปรากฏอยูทั่วไป ใครเห็นใครก็ตองเชื่อวา ประไพจะ ตองเติบโตขึ้น เปนหญิงสาวที่สวยงามคนหนึ่งภายในเวลาไมชานัก ความจริงนิสัยแทของประไพ โดยไมมีคุณ อุนคอยตามใจสนับสนุน ก็เปนเครื่องกอความวิตกใหแกพลอยไมนอยอยูแลว เพราะประไพเปนคน เจาอารมณ ดีใจเสียใจหรือโกรธ ก็แสดงออกมาใหเห็นโดยงาย บางครั้งก็แสดงมากจนเกินกวาเหตุ นอกจากนั้นประไพยัง เปนเด็กแสนงอน มีอะไรไมถูกใจเพียงนิดหนอย ก็โกรธขึ้งและโกรธไปนานไดตั้งหลายวัน พลอยหนักใจใน ลักษณะเหลานี้ เพราะรูดีวาเปนลักษณะที่ตนไมเคยมีมาแตกอน ยิ่งเห็นประไพสนิทสนม กับคุณอุนไดงาย พลอยก็ยิ่งหนักใจขึ้นอีกเปนทวีคูณ เพราะเกรงวาประไพโตขึ้นจะเหมือนคุณอุน พอเพิ่มเปนอีกคนหนึ่งที่รักประไพมากกวาหลานคนอื่นๆ ทุกครั้งที่พอเพิ่มมาเยี่ยม จะตองมีของเล็กๆ นอยๆ ติดมือมาฝากประไพเสมอ วันหนึ่งพลอยปรับทุกขกับพอเพิ่มขึ้นวา "คุณหลวงอยาตามใจประไพใหมากนักเลย ฉันดูไมคอยออกลูกคนนี้ เวลานี้มีคุณอุนมาชวยตามใจอีกคน โตขึ้นเหมือนกันละก็ ฉันกลุมใจตายแน" พอเพิ่มหัวเราะตอบวา "แมพลอยก็ไปหาความเด็ก ประไพนารักออกจะไปเหมือนคุณอุนไดยังไง ถึงจะเหมือนจริงๆ ฉันก็ไมวา เพราะฉันเปนพี่นองคนเดียวที่คบกับคุณอุนมาไดตลอด ไมเคยมีเรื่องผิดพองหมองใจกันเลย" "คุณหลวงอยาพูดเปนเลนไปหนอยเลย" พลอยพูด "ที่ฉันไมอยากใหประไพเหมือนคุณอุนนั้น ไมใช เพราะฉันเกลียดชังคุณอุนอะไรหรอก แตฉันเห็นวาคุณอุนเธอเกิดมากับเขาชาติหนึ่ง ไมมีความสุข ฉันก็ไม อยากเห็นประไพเปนเชนนั้นบาง" "แมพลอยอยานึกมากไปดีกวา ยิ่งนึกไปประเดี๋ยวก็จะไปเหมือนเขาจริงๆเทานั้นเอง ฉันเคยไดยินวา พี่ นองคนไหนที่เราลอหรือขอดคอนไวมาก พอเรามีลูกออกมาก็มันจะเหมือนคนนั้น แตใจจริงฉันไมวิตก อยางแม พลอยเลย ประไพก็เปนลูกแมพลอยคงไมทิ้งเชื้อทิ้งแถว ถาจะติดแสนงอนบางหรือเจาอารมณ โกรธงายหายเร็ว ก็เห็นจะไดมาจากแมเรามากกวา ไมใชเหมือนคุณอุนหรอก คอยดูไปเถิด" คําพูดของพอเพิ่มทําใหพลอยคลายใจลงไปไดบางก็จริง แตก็ยังไมถึงขั้นหายวิตกสบายใจ แตเรื่องอื่นๆ ที่ผานเขามาในชีวิต ก็ทําใหพลอยไดลืมเรื่องลูกเตาไปเสียบางชั่วครั้งคราว วันหนึ่งชอยมาหาที่บาน กินขาวอาบน้ําและนอนคุยอยูพลอยทั้งวัน ชอยยังตัดผมสั้นแตงตัวแบบเกา เวลาจะมาหาพลอยที่บานก็มิไดใสเสื้อ แตหมผาแถบแลวใชแพรสี่เหลี่ยมคลุมขางนอก กลิ่นอบร่ํายังคงติดตัว ชอยอยูตามแบบเดิมของคนชาววัง ระหวางที่นอนคุยกันอยูตอนกลางวันนั้น ชอยก็พูดขึ้นวา "พลอยไดยินเรื่องอะไรหรือยัง มีคนเขามาเลาใหฟงเมื่อเชานี่เอง" "เรื่องอะไรชอย" พลอยถาม "ฉันอยูแตกับบานไมคอยรูเรื่องราวอะไรกับเขาหรอก" "อาวก็เรื่องพระวรกัญญาอยางไรละ" ชอยลดเสียงลงเปนกระซิบ "เขาลือกันวาตกเสียแลว ในหลวงทาน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy206_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๖ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 3

ทรงถอนหมั้น" "จริงหรือนี่ !" พลอยยกมือลูบอก แลวลุกขึ้นนั่งดวยความสนใจ "ก็ไหนเตรียมกันวาจะอภิเษกเปนงาน ใหญ เห็นคุณเปรมวา จะถึงเชิญเจาฝรั่งมังคาเขามาในงาน ยังไมทันไรเลยตกเสียแลวหรือ ฉันยังไมอยากจะเชื่อ เลยชอย" "คนที่เขามาเลาเขาวาจริงนะพลอย" ชอยตอบ "เขาวาเขารูมาจากขางในสุดทีเดียว ยังไมมีใครรูกัน เทาไรหรอก" "บางทีทานจะกลับดีกันไดกระมังชอย" พลอยพูดอยางมีหวัง "ก็คงเหมือนสมัยเรานะแหละ ประเดี๋ยวก็ โปรดองคโนน ประเดี๋ยวก็โปรดองคนี้ ประเดี๋ยวคนนั้นก็ขึ้น แลวก็ตก แลวก็กลับขึ้นอีก" "ก็แตกอนนี้ทานหมั้นกันอยางเดี๋ยวนี้เสียเมื่อไรละ" ชอยพูด "คนเคยเห็นๆเดินกระทบไหลกันอยู พอเราเผลอๆไปหนอยเดียว กลายเปนเจาจอมไปแลวก็มี แตก็ดีไป อยางหนึ่ง ที่พอเปนเจาจอมแลว ตอไปถึงจะขึ้นจะตกก็ยังเปนเจาจอมอยูนั่นเอง เดี๋ยวนี้ไมเหมือนแตกอน ทานมี หมั้นมีหมายกัน ไมไดเรียกขึ้นเองงายๆเหมือนสมัยเรา ฉันไปกินใจอีตรงคําวาหมั้นนี่แหละพลอย ถาทานถอน หมั้นแลวก็คงแปลวาเลิกเลย ไมขึ้นระวางอยางแตกอน" "จริงซีชอย" พลอยปรารภขึ้น "คิดๆไปฉันก็สงสาร เพราะฉันเห็นวา พระวรกัญญาทานเปนผูหลักผูใหญดี นานับถือ กราบไหวลง ตอไปนี้จะเปนอยางไรกัน" "ขอนั้นพลอยไมตองวิตกไปหรอก" ชอยตอบยิ้มๆ "คนที่เขาเลาใหฉันฟงเขาบอกดวยวาถึงองคนี้จะตก อีกองคหนึ่งก็กําลังขึ้น" "องคไหนอีกละชอย" "ก็องคนองของพระวรกัญญานะแหละ กรมเดียวกัน" "ชอยเคยเห็นทานไหมเปนอยางไร" พลอยซักตอดวยความสนใจ "เคยเห็นหนหนึ่งหรือสองหนที่ตําหนักพระนาง บางทีพลอยอาจจะจําไมได เพราะไมใชคนชอบเที่ยว อยางฉัน ฉันเห็นทานงามกวาองคกอนเปนกอง เนตรคมนารักแลวก็แฉลมแชมชอยไปอีกแบบหนึ่ง องคพี่ทาน เปนผูใหญนิ่งๆ แตองคนี้ทานออนหวาน ชางรับสั่งชางเอาใจคน ใจฉันๆออกจะรักๆหลงๆองคนี้มากกวา ฉันรัก ทานมานานแลวละ คราวนี้ออกจะปลื้มๆไปดวย ทั้งที่ไมเคยรูจักมักคุนกับทานเลย" "ชอยนี่เห็นจะไดเปนคุณเฒาแกคราวนี้เอง" พลอยพูดเยาขึ้น "ตัวอยามาทําดูถูกฉันดีไปนะ" ชอยขึ้นเสียงอยางที่เคยพูดลอกันเลนมาแตกอน "คนอยางฉันขนาดคุณ ทาว ก็ยังได คอยดูไปเถิด ไดเปนคุณทาวชอยเมื่อไรละก็คอยดูฝมือแมบางซี แมจะแผใหเต็มวังทีเดียว" คืนนั้นคุณเปรมกลับมาบานแตตอนหัวค่ํา พลอยก็เอยถึงเรื่องที่ชอยเลาใหฟงนั้นขึ้น คุณเปรมเลิกคิ้ว อยางแปลกใจแลวพูดวา "ไมจริงกระมัง ! แมพลอยอยาไปฟงยายชอยหนอยเลย ยายชอยแกอยูในวัง สมาคมกับคนแกอยูทุกวัน หัวแกก็อยูอยางเกา ไมมีเรื่องอะไรจะพูดก็ตองหาเรื่องคุยกันไป พอในหลวงโปรดขึ้นมาคนหนึ่ง ก็นึกวา จะ เหมือนอยางแตกอน มีขึ้นมีตก อะไรตออะไรไปตามเรื่อง แมพลอยฟงฉันดีกวา อยาไปสนใจกับขาว พรรคอยาง นั้นเลย แผนดินนี้ไมเหมือนแผนดินกอนนะแมพลอย อยาไปนึกวาทานจะมีพระมเหสีหลายองค และมีสนมกํานัล เจาจอมเปนรอยๆอยางนั้น ทานเคยเสด็จนอกอยูกับเจาฝรั่งมามาก เมืองนอกเขาไมไดทํา กันหรอก มีเมียคน ไหนก็คนนั้น อยางฉันกับแมพลอยนี่แหละ ตั้งแตอยูดวยกันมาฉันยังไมเคยคิดนอกใจเลย" "ก็เมื่อไรจะคิดเสียบางละ" พลอยพูดกึ่งสัพยอกกึ่งประชด "แมพลอยก็ดีแตพูด พอฉันมีเขาจริงๆ ก็ขี้เกียจจะรองไหขี้มูกโปงไปเทานั้น แตพูดกันจริงๆ ฉันยังไมเชื่อ ในขาวยายชอยกุขึ้นเลย และก็ยังไมนึกวาจะเปนไปเชนนั้นได" คุณเปรมพูดอยางแนนอน ดวยความมั่นใจ แลว ก็เปลี่ยนเรื่องพูดไปเปนเรื่องอื่น แตเวลาลวงไปไมไดนานเลย เพียงสี่หาวันเทานั้นคุณเปรมก็กลับบานในวันหนึ่ง ตกเย็นนั่งกินขาวอยู แลวก็พูดขึ้นลอยๆวา "แมพลอยนี่หูไวไมใชเลน รูเรื่องอะไรเร็วกวาฉันที่อยูขางในเสียอีก" "เรื่องอะไรกันคุณเปรม" พลอยถาม เพราะลืมเรื่องที่พูดไววันกอนนั้นเสียแลว "ก็เรื่องพระวรกัญญา ที่แมพลอยบอกฉันไวนั้นอยางไรละ" คุณเปรมพูด "เรื่องเปนไปจริงๆ อยางแม พลอยวา" พลอยเปนคนมีนิสัยไมชอบการแตกราว รูวาใครรักกับใครก็อยากใหรักกันยืด ยิ่งบุคคลที่เกี่ยวของ เปน เจาฟาเจาแผนดิน พลอยก็อยากเห็นทานมีแตความเจริญ ไมอยากใหแตกราวหรือหมองพระทัย เรื่องนี้เมื่อได ยินชอยเลา พลอยก็ยังเรื่อยๆอยู เพราะยังไมเชื่อสนิท และยังนึกวาขาวนั้นยังมีทางจะไมเปนไปได แตพอไดยิน คุณเปรมยืนยันอีกคนหนึ่ง ขาวนั้นก็เปนจริงเปนจังขึ้นมา พลอยไมสบายใจ นึกสงสารพระวรกัญญาฯ จะเปน เพราะเห็นใจลูกผูหญิงดวยกันหรืออยางไร พลอยก็มิไดนึกหาสาเหตุ เสียงคุณเปรมพูดตอไปวา "พอมาเห็นเขาอยางนี้ ฉันก็ยิ่งดีใจที่แมพลอยไมไดเขาไปเฝาแหนในตอนแรก ถาเขาไปจริงเดี๋ยวนี้ จะ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy206_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๖ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 3

ตองลําบาก" "ถาฉันรูวาจะเปนอยางนี้ ฉันคงเขาไปเฝาเสียแตแรกแลว" พลอยพูดออกมาลอยๆ "เอะ ! ทําไมแมพลอย" คุณเปรมถามอยางไมเขาใจ "เพราะวาเวลาทานตกแลว คนอื่นที่เขาเคยเขาเฝาแนนๆ ก็คงจะหายไป ตอนนี้แหละจะเปนเวลาที่ทาน ตองการคน จะไดมีใครเหลืออยูบาง" "จะมีใครเหลือ" คุณเปรมถามอยางงงๆ "ฉันเองแหละ จะเปนคนที่ยังเหลือไปเฝาแหนอยูอยางเคย" พลอยตอบอยางแนใจ "แมพลอยนี่พูดชอบกล ฟงดูอยางไรก็ไมรู ฉันไมเขาใจเลยจริงๆ" "ฉัน...อา...อา..." พลอยพูดแลวก็ตองหยุด เพราะพลอยเองก็ไมรูจะพูดอยางไรใหคุณเปรมเขาใจไดวา ตนเปนคนที่ชอบสงสารชอบเอาใจผูแพ โดยเฉพาะผูที่แพตอโชคชาตาของชีวิต คนใดที่กําลังประสบโชค กําลัง ลอยตามกระแสชีวิตอยางเฟองฟู พลอยก็ไมคอยเอาใจใส มิใชเพราะรังเกียจเดียดฉันทหรืออิจฉาริษยา แต เพราะวาเห็นเขาดีพอที่จะรักษาตนเองไดอยูแลว แตคนใดที่ตกอับ คนใดที่หมดวาสนาจะไดรับความสนใจ จาก พลอยทันที และถาคนๆนั้นอยูในฐานะที่พลอยจะชวยเหลือไดบาง พลอยจะยื่นมือเขาไปชวยเหลือทันที ความ คิดเหลานี้พลอยรูวาเปนแตความรูสึกประจําตน มิไดประกอบดวยเหตุผลที่ดีนัก และถึงจะมีเหตุผลนั้นๆ ก็มิใช ชนิดที่คุณเปรมจะพึงเขาใจได ถึงแมจะพูดก็ไรประโยชน และพลอยก็เปนคนพูดนอยอยูแลวโดยนิสัย ไมรูจะ สรรหาถอยคําใดๆ มาอธิบายใหคุณเปรมเขาใจ ความรูสึกนึกคิดอันแทจริงของตนได ในที่สุดขาวเรื่องในหลวงทรงถอนหมั้นกับพระวรกัญญาฯ และทรงหมั้นกับหมอมเจาหญิงอีกองคหนึ่ง ซึ่ง เปนพระขนิษฐา และภายหลังไดสถาปนาพระยศเปนพระองคเจา ก็เลื่องลือแพรหลายไปทั้งเมือง แลวก็สะทอน กลับมาเขาหูพลอยไมหยุดหยอน คุณเปรมเรียกขางในพระองคใหมวา "เสด็จ" วันหนึ่งๆ ก็คุยเรื่องในหลวงบาง เสด็จบาง ใหพลอยไดยิน และพูดเปรยๆเหมือนกับวาอยากใหพลอยเขาเฝาเสด็จ อยูเหมือนกัน แตคุณเปรมไป กระดากเสียตั้งแตครั้งแรก จึงไมกลาพูดตรงๆ ไดแตสรรเสริญพระบารมีเสด็จ อยูเรื่อยๆ ซึ่งพลอยก็ทําเฉยเสีย แตก็กําหนดไวในใจวา เสด็จพระองคนี้จะตองทรงคุณสมบัติเปนพิเศษ หลายอยางหลายประการ เพราะใครพูด ถึงก็ตองชมทุกคน ทั้งผูหญิงและผูชาย ไมมีใครเอยปากตําหนิติเตียนเลย แมแตคนเดียว แตพลอยก็ยังไมลืม กลอนที่ติดอยูหนาหนังสือบทละครพระราชนิพนธ เรื่องสกุนตลาส ซึ่งคุณเปรมเอาติดมือมาฝากกอนพระ วรกัญญาฯ ตกไมกี่วัน กลอนนั้นเปนความวา "นาฎกะกลอนนี้ฉันมีจิต ขออุทิศใหมิ่งมารศรี ผูยอดเสนหานารี วัลลภาเทวีคูชีวัน ขอใหหลอนรับพลีไมตรีสมาน เปนพยานความรักสมัครมั่น เปรียบเหมือนแหวนแทนรักทุษยันต ใหจอมขวัญศกุตลาไซร แตผิดกันตัวฉันไมลืมหลอน จนสาครเหือดแหงไมแรงไหล จนตะวันเดือนดับลับโลกไป จะรักจอดยอดใจจนวันตาย" สมัยนั้น ถาคนไทยจับกลุมคุยซุบซิบกัน ก็พึงสันนิษฐานไวกอนไดวา คนเหลานั้นคุยกันเรื่องสวน พระองค ของในหลวง ถกเถียงกันเรื่องที่วาใครจะขึ้นใครจะตก

http://www.geocities.com/siamstory/ploy206_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๗ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๒ บทที่ ๗ (หนาที่ ๑) เรื่องที่ทําใหพลอยตองยุงใจอยูระยะเวลาหนึ่งก็คือเรื่องบานคลองบางหลวง ในตอนแรกพลอยก็มิไดสนใจ เรื่องบานนี้เทาไรนัก เพราะถึงจะไดจายเงินใหแกคุณอุนเพื่อชําระหนึ้สิน พลอยก็ยังเห็นวาบานคลองบางหลวง ยังเปนของคุณอุน คุณอุนจะใหใครอยูหรือจะทําอะไรกับบานนั้นก็สุดแลวแตอัธยาศัย ความจริงพลอยมีความ รูสึก และมีความหลังผูกพันอยูกับบานคลองบางหลวงมาก ถึงแมวาจะจากมานานแลวก็ตาม พลอยก็ยังเห็นวา บานนั้นเปนบาน และถานึกถึงคําวาบานครั้งไร พลอยก็ตองนึกถึงบานคลองบางหลวงกอนที่อื่น แตวันหนึ่งคุณอุนเดินขึ้นมาหาถึงบนตึกแลวก็พูดขึ้นวา "แมพลอย ฉันอยากพูดเรื่องบานคลองบางหลวงที่ยังคาราคาซังอยูสักหนอย" "วาอยางไรคะคุณพี่" พลอยถามขึ้น "ฉันมันแกแลว อายุมากขึ้นทุกวัน เวลานี้ก็ไมมีทางทํามาหาได เงินทองที่พอมีเหลือก็กินไปใชไปวัน หนึ่งๆ จนกวาจะตาย ฉันมองไมเห็นทางที่จะหาเงินที่ไหนมาใชแมพลอยได ฉันจึงอยากโอนบานคลองบางหลวง ใหแกแมพลอยเปนสิทธิ์" "คุณพี่ก็รอนใจไปทําไม" พลอยพูดทวงขึ้น "เงินทองอิฉันก็ไมไดเรงรอนอะไรเลย ปลอยไวอยางนี้กอน จะ มิดีกวาหรือ เงินแปดพันนั้น ถึงจะมากก็มิใชวาจะหาไมได และบานนั้นถาจะขายก็คงจะไดเกินกวาแปดพัน คุณ พี่มาโอนใหอิฉัน คนเขาก็จะนินทาไดวา อิฉันเอาคุณพี่มาไวก็เพราะอยากไดสมบัติ" "เธอจะไปนั่งหวงอะไรกับขี้ปากคน" คุณอุนพูดแลวก็หัวเราะ "คนเราถาอยากจะนินทากันแลว พูดอะไรก็ พูดได ถึงจะจริงไมจริงเขาก็คงพูด เรามาวากันเรื่องของเราดีกวา ถาฉันอยากขายบานหลังนี้ ฉันก็คงจะขายเสีย นานแลว แตฉันไมอยากขาย เพราะเปนที่อยูกันมาแตปูยาตาทวด ฉันอยากใหตกอยูในตระกูล ใหลูกคุณเจาคุณ พอไดรับไว ถาทําอยางนั้นฉันก็จะตายตาหลับ ในกระบวนลูกเจาคุณพอทั้งหมด ฉันก็อยากยกใหแกแมพลอย มากกวาคนอื่น แตอยากจะขอมีขอแมอะไรไวสักอยางหนึ่ง ถาเธอไมขัด" "ขอแมวาอยางไร คุณพี่" พลอยถาม "ขอแมวาถาหากฉันโอนบานนี้ใหแกเธอแลว ตอไปขางหนาเธอจะตองยกบานนี้ใหแกประไพ อยาไปให แกคนอื่น" "ถาคุณพี่ประสงคเชนนั้นอิฉันก็ไมขัด" พลอยตอบ "วาแตเวลานี้ใครอยูที่บานบาง คุณพี่ทราบบางหรือ เปลา" "ไมรู" คุณอุนตอบอยางลองลอย "เมื่อฉันออกมาก็ไดคิดไววาจะไมกลับไปอีก ฉันปดประตูหนาตางตึกไว สวนเรือนเล็กเรือนนอยขางลาง ใครเคยอยูฉันใหเขาอยูกันไป ปานฉะนี้ใครจะอยูใครจะไปฉันก็ไมรูได" "คุณชิตยังอยูหรือเปลา" พลอยซักตอ "เมื่อฉันมาเขาไมอยู" คุณอุนตอบ "คงอยูแตเมียกับลูกของเขา เดี๋ยวนี้จะยังอยูหรือเปลาก็ไมรูได" หลังจากนั้นมา คุณอุนก็โอนบานคลองบางหลวงใหแกพลอยเปนกรรมสิทธิ์ และวันหนึ่งเมื่อมีโอกาส พลอยก็ชวนพอเพิ่มลงเรือไปดูบานดวยกัน ยิ่งเรือเลนใกลบานเขาไปพลอยก็ยิ่งใจเตน เพราะจากบาน ไปนาน หนักหนา คราวนี้จะกลับมาเยี่ยมบานในฐานะที่เปนเจาของโดยสมบูรณ "ใครจะไปนึก" เสียงพอเพิ่มปรารภขึ้นลอยๆ "ใครจะไปนึกวาบานนี้จะตกเปนของแมพลอยไปได เมื่อเรา ยังเปนเด็กวิ่งเลนกันอยู แมพลอยเคยนึกบางไหม" "ฉันจะไปนึกไดอยางไร คุณหลวงก็" พลอยตอบ "เรามันลูกเมียนอย ลูกเมียหลวงทานมีออกเปนกอง" "นั่นนะซี" พอเพิ่มพูด "ใครจะไปนึก นี่แหละเขาเรียกวา อนิจฺจํ ไมเที่ยง !" พอเรือเลนถึงตีนทาหนาบาน พลอยก็ตองใจหาย เพราะความทรุดโทรมปรักหักพัง ศาลาทาน้ํานั้น เอน เอียงเกือบจะลงน้ําอยูแลว ที่บันไดทาน้ํามีเจกมานั่งสองสามคน ลางผักบาง ซักผายอมมะเกลือบาง พลอยคอยๆ กาวขึ้นจากเรือ แลวยองหลีกทางคนที่อยูตามขั้นบันไดขึ้นไป คนเหลานั้นกมหนา ทําธุระของตนไปเปนปกติ มิ ไดมีใครเหลียวมาสนใจมอง เหมือนกับวาทาน้ํานั้นเปนทาน้ําสาธารณะ พอพลอยโผลเขาไปในบานก็ใจหาย เพราะที่ลานบานนั้น มีใครเอาผายอมมะเกลือมาตากไว กลายเปนลานตากผา พลอยเหลียวหลังมาดูพอเพิ่ม เหมือนกับจะขอความเห็น แตพอเพิ่มก็พูดวา "ไมเปนไรหรอกแมพลอย เดินตอเขาไปเถิด บานที่ไมมีเจาของคอยดูก็เปนอยางนี้แหละ" พลอยแข็งใจเดินเขาไปในบานตามคําแนะนําของพอเพิ่ม เห็นสภาพภายในบานแลวก็อยากจะรองไห เพราะความสงสาร ตัวตึกนั้นเหมือนกับซากศพของคนที่พลอยเคยรูจักและเคยรัก มานอนตายโดยปราศจาก สิ่ง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy207.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๗ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 4

ปกคลุม ตนโพธิ์ตนไทรเริ่มจะขึ้นงอกงามบนชายคาบาน บางตนก็โตนาใจหาย ตามขอบพาไล และระเบียงชั้น บนนั้น มีใยแมงมุมจับอยูเต็ม บางอันก็มีแมงมุมตัวโตๆเกาะอยูนาขยะแขยง กระเบื้องที่ปูเปนทางเดินเขาไปถึง ตัวตึกนั้น แตกหายไปแลวเปนสวนมาก ปลอยทางเดินไวเปนหลุมเปนบอ ลูกมะหวดกระเบื้องสีเขียวตามราว บันไดนั้น ก็แตกหรือบิ่นไปหลายลูก ตึกนั้นยังปดอยูจริงตามที่คุณอุนบอกเอาไว แตก็มีรองรอยวามีคนอาศัยอยู ตามใตถุนโถงขางลาง และแมแตระเบียงชั้นบน เพราะพลอยแลเห็น หมอขาวหมอแกง เศษอาหารและผาผอนที่ ตากไวตามลูกกรงระเบียง พอเพิ่มเดินอยูขางหลังพลอยอุทานขึ้นเบาๆวา "ความจริงฉันก็ออกจากบานนี้ไปไมนานเทาไร แตทําไมถึงไดโทรมเร็วอยางนี้ก็ไมรู !" พลอยมองดูรอบๆตัวแลวก็ยิ่งใจหายยิ่งขึ้น ของบางอยางทีเคยรูจักดีเมื่อยังเด็กๆ จนบัดนี้ก็คงยังเหลือ อยูบาง ตนปบใหญ ตนพิกุลใหญ ที่เคยแยงกันเก็บดอกกับเด็กๆ เดี๋ยวนี้ก็ยังคงอยู แผเงารมรื่น เด็กสองสามคน นั่งเลนกัยอยูใตตนไมเหลานั้น พลอยก็ไมรูวาลูกใครๆ ตนไมดัดที่เจาคุณพอกอกระถางอิฐ ปลูกไวเปนแถวๆขาง ตึกยังอยูเกือบครบ แตทําทาวาจะโตเปนตนไมตนใหญ เพราะไมมีใครคอยดัดคอยดู ตนไมดัดที่เจาคุณพอเคย สนใจเปนหนักหนา ลงมาเดินดูทั้งเวลาเชาและเวลาเย็น บัดนี้มีคนเอาเชือกไปขึงเปนราวตากผา และมีผาเกาๆ ตากอยูสองสามชิ้น พลอยแทบจะบอกไมถูกวา ความรูสึกของตนในขณะนั้นเปนอยางไร ของทุกอยางนั้นคุนเคย ลูกตาจําไดหมดสิ้น แตของทุกอยางนั้น ก็เปลี่ยนไป ในลักษณะที่นาสมเพชเหมือนกับคนๆหนึ่ง ที่เคยมีสภาพ เปนอยูอยางดี แลวมาเจ็บไขยากจนลง พลอยเดินเลาะตึกเดินไปขางหลังบาน ฝาความรกรุงรัง และเศษขยะเขา ไป เรือนของแมยังอยู ถึงจะเกาแกมากก็ยังคงอยูเปนรูปเรือน เสาบางตนผุกรอนไปจนแทบจะขาด และหลังคา นั้นโหวอยูเปนบางแหง แตเรือนทั้งหลังนั้นยังคงอยู ความหลังตางๆมากมายวูบกลับเขาสูหัวใจ ภาพตนเองเมื่อ ยังเด็กๆอยูกับแมบนเรือน หรือเลนอยูกับพอเพิ่มและคุณเชยที่ใตถุน ยังแจมใสอยูในความทรงจํา พลอยเหลือบ ดูระเบียงเรือน ตรงเสาตนที่แมเคยชอบนั่ง ใจนั้นก็หวนคิดถึงแม จนน้ําตาไหลซึมออกมาโดยไมรูสึกตัว "คุณพลอย !" เสียงใครเรียกชื่อพลอยเบาๆขางหลัง ทําใหพลอยเหลียวไปดู หญิงคนหนึ่งนั่งอยูกับพื้นดิน พอพลอยหันหนาไปดู หญิงคนนั้นก็ยกมือไหวอยางนอบนอม พลอยตองเพงเจาของเสียงอยูนาน เพื่อฟนความ จําวาคนๆนั้นเปนใคร หญิงนั้นมิใชคนสูงอายุเพราะผมยังดําอยู แตหนาตาซูบซีดรางกายผายผอม และดวงตา ลึกกลวงจนดูคลายคนแก "คุณพลอยจําบาวไมไดเสียแลวหรือ" หญิงนั้นพูดขึ้นแลวก็กมหนารองไห "ใคร" พลอยถามขึ้นอยางฉงน "ฉันจําไมไดจริงๆ ใครนี่" "พวงเจาคะ" หญิงนั้นตอบพลางสะอื้นพลาง พลอยใจหายวาบรีบสาวเทาเดินเขาไปใกลๆ ปากก็พูดวา "พวงหรือนี่ โธฉันจําไมไดจริงๆ แมพวงซูบผอมไปมาก เจ็บไขเปนอะไรไปหรือ" พวงซึ่งมีฐานะเปนพี่สะใภของพลอย เพราะเปนภรรยาคุณชิตคนแรก กมหนารองไหอยูอีกนาน แตก็ยัง ตอบพลอยตะกุกตะกักวา "บาวนึกวาคุณพลอยจําบาวไมไดเสียแลว บาวไมไดเปนอะไรหรอก ซูบผอมไปอยางนี้เอง" เสียงพอเพิ่มถอนใจเบาๆ ดวยความสงสาร แลวพูดขึ้นวา "แมพวง คุณชิตอยูไหนละ" "คุณไมอยูหรอกเจาคะ หายไปนานแลวไมกลับมาเลย บาวไมรูวาอยูที่ไหน" เสียงพอเพิ่มบนอุบอิบในลําคอดังคลายๆกับวา "ก็ดีเหมือนกัน" แลวก็พูดกับพวงดังๆตอไปวา "เขาไปตั้งแตเมื่อไร" "เมื่อคุณใหญขามฟากไปอยูกับคุณพลอยใหมๆ ก็ยังไปมาบางเปนบางครั้ง แลวก็หายไปเลย" พวงตอบ "หลานๆฉันเปนอยางไรบาง สบายดีทุกคนหรือแมพวง" พลอยถามขึ้น "ของบาวมีอยูสองคนเทาที่คุณเคยเห็นนั่นแหละเจาคะ" พวงตอบแลวก็ดูเหมือนจะรองไหหนักขึ้นอีกเมื่อ พูดถึงลูก ฎแตคนผูหญิงเสียๆแลว เหลือคนผูชายคุณก็เอาไปดวย เวลานี้บาวอยูคนเดียว" พลอยรูสึกสงสารพวงจับใจ อยากจะพูดจาปลอบโยน อยากจะชวยเหลือสัตวไมมีบาป ผูที่โชคชาตา บันดาลใหตองรับเคราะหกรรมอันหนัก ถาคุณชิตไมเกิดตองใจในตัวพวงแตครั้งกระนั้น ปานนี้พวงก็คงจะไดลูก ผัวที่เหมาะสม และชีวิตในครอบครัวเปนสุขตามควรแกฐานะ แตเคราะหกรรมบังคับใหพวง ตองเปนเมียนาย เพื่อจะไดถูกทอดทิ้งใหอยูคนเดียวในบานเกาๆ ที่เกือบจะรางเพราะขาดคนดูแล ไปไหนไมรอด "คนเกาๆยังมีใครเหลืออยูบางไหมแมพวง" พลอยถามตอ "ไมมีแลวเจาคะ เหลือแตพวงคนเดียว" พวงตอบ "เมื่อทานสิ้นบุญและเผาแลว คนเกาๆ เขาพากันออก ไปเสียมาก ที่เหลือก็มีแตคนแกๆ คอยตายคอยหมดไป บางคนลูกหลานเขาก็มารับไปอยูดวย บาวจะไปกับเขา บางก็ไมรูจะไปทางไหน คนรูจักกันเขามาขออาศัยอยูที่โรงครัว บาวก็เลยใหเขาอยู เพราะจะไดมีเขาไวเปน เพื่อน" พวงพูแกตัวเหมือนกับวากลัวพลอยจะดุ "ไมเปนไรหรอกแมพวง" พลอยตอบ "ดีแลวจะไดมีใครเปนเพื่อนบาง"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy207.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๗ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 4

"เดี๋ยวนี้คนขางนอกเขาใชเปนทางเดินผานไปลงทา ไปอาบน้ําบาง ซักผาบาง ลงเรือบาง บาวก็ไมมี ปญญาจะไปหามเขาได เพราะบาวเปนผูหญิงคนเดียว" "ชางเขาเถิดแมพวง" พลอยพูดปลอบ "ฉันเห็นใจแลวก็ขอบใจแมพวงมาก ที่ยังคอยเปนหูเปนตาไมทิ้ง บาน แมพวงอยูตอไปเถิด ฉันจะหาคนมาอยูเปนเพื่อน และจัดการบานนี้ใหเรียบรอย" พลอยเปดกระเปาที่ถือไปดวย หยิบเงินออกสงใหพวงหาสิบบาทพรอมกับพูดวา "ฉันไมไดเอาเงิน ติดตัว มามาก ไมไดนึกวาจะพบใคร แมพวงเอาไวใชกอนเถิด วันหลังฉันจะสงมาใหอีก" ระหวางที่นั่งเรือกลับบาน หลังจากที่ไดสํารวจดูบานจนทั่วแลว พลอยก็นั่งรําพึงถึงพวง ดวยความสงสาร จับใจมาตลอดทาง พอลงเรือมาไดสักหนอยพอเพิ่มก็พูดขึ้นวา "นี่แมพลอยจะทําอยางไรกับบานนั้น" "คุณหลวงเห็นฉันควรทําอยางไรเลา" พลอยยอนถาม "ถาเปนของฉัน ฉันก็จะใหใครเขาเชา หรือขายไปเสียใหหมดเรื่องหมดราว ทิ้งเอาไวก็รังแตจะกอความ กังวล" "เห็นจะขายไมไดหรอกคุณหลวง" พลอยตอบ "เมื่อคุณอุนเธอโอนใหฉัน เธอบอกวาอยากใหบานนี้ ตก ไปเปนของประไพ ฉันไปขายเธอจะไดโกรธฉันตาย" "แมพลอยยังกลัวคุณอุนอยูอีกหรือ" "ยังครามอยูมากทีเดียว คุณหลวงเลา" "ฉันก็ยังกลัวเหมือนกัน" พอเพิ่มหัวเราะ "เวลาเธอตาเขียวขึ้นมา ฉันใจคอไมอยูกับเนื้อกับตัวสักที เฮอ ! คุณอุนนี่เธอหาเวรมาใหแมพลอยแทๆ ทีเดียว" "คุณหลวงอยาไปวาเธอเลย เธอก็เจตนาดี วาแตฉันจะทําอยางไรกับบานนี้เทานั้น" "เชาก็ไมไดขายก็ไมได จะทําอยางไร" พอเพิ่มพูดลอยๆ "ทิ้งไวอยางนี้ก็ไมได" พลอยพูดตอให "ฉันวาจะชวยทําเสียใหดี แลวหาคนเฝา" "ก็ดีหรอก แตจะเสียสตางคมากเทานั้น" พอเพิ่มปรารภขึ้น "ก็จะทําอยางไรไดเลาคุณหลวง ถาจะทิ้งไวจะยิ่งเสียใหญ วาแตฉันจะไดใครเปนคนคอยดู เวลาซอมเวลา ทํา คุณหลวงจะดูใหฉันไดไหม" "เมื่อแมพลอยไมมีใครจริงๆ ฉันก็ตองดูให แตเสร็จแลวจะใหใครเฝา" "พวงเขาก็ยังอยู" พลอยตอบ "ทางฝายเราหาคนที่ไวใจได ไปชวยเฝาบานก็เห็นจะพอ แลวก็มีคนดูแล อยาใหกลับรกไปอีก" "ฉันกลัวอยูอยางเดียวเทานั้น" พอเพิ่มพูด "พอซอมเสร็จทําเสร็จ คนที่ออกไปแลวก็จะกลับมาใหม" "คุณชิตใชไหม" พลอยถาม พอเพิ่มพยักหนาแลวพูดขึ้นวา "เมียเขาก็ยังอยูที่นั่นทั้งคน พอเห็นแมพลอยสนใจเขาก็จะกลับมาอยู จะ ทําอยางไรดี" "จะทําอยางไรคุณหลวง" พลอยพูดทวนคํา "จะทําอยางไรดี ฉันไมอยากเกี่ยวของดวยเลย" พอเพิ่มนั่งคิดอยูครูหนึ่งแลวก็พูดขึ้นวา "อยาเพิ่งไปคิดถึงเขาแตตอนนี้เลย เราดูๆไปกอน เขาอาจไมมาก็ได แตถามาจริงก็เอาไวเปนภาระฉัน เอง" "คุณหลวงจะทําอยางไร" พลอยถามอีก "เถอะนา" พอเพิ่มพูด "ไวดูกันไปก็แลวกัน ฉันก็นักเลงเหมือนกันนี่นา" คําประกาศของพอเพิ่มวาตนเปนนักเลง ทําใหพลอยอดหัวเราะไมได และเมื่อไดหัวเราะพอเพิ่มเสียแลว พลอยก็รูสึกสบายใจขึ้น เรื่องที่เห็นวาเปนเรื่องใหญ ก็ดูจะเล็กลง ตอจากนั้นมา พลอยก็เริ่มซอมและทําความสะอาดบานคลองบางหลวง ใหคงสภาพเดิม พอเพิ่มเปนหัว เรี่ยวหัวแรง ชวยดูแลใหเสมอ พอเพิ่มวางเมื่อไรก็ขามฟากไปดูให บางทีก็ถึงนอนคางที่นั่น พอเพิ่มเห็นสิ่งใด ควรหรือไมควรทํา ก็นําเรื่องมาปรึกษาหารือพลอยทุกครั้งไป พอเพิ่มเปนคนที่ไมสนใจแยแส ตอเงินของตัวเอง มีมากก็ใชมาก ไมมีก็ไมใช และการใชเงินของพอเพิ่มก็เปนไป โดยปราศจากความระมัดระวัง พอเพิ่มไมเคยคิด บัญชีรายไดรายจายของตนเอง แมแตจะนึกถึงก็ไมเคย แตในเรื่องที่เกี่ยวกับเงินของผูอื่น เชนในกรณีบูรณะบาน คลองบางหลวงคราวนี้ ซึ่งพลอยเปนผูออกเงิน พอเพิ่มก็บังเกิดความระมัดระวัง และมีความละเอียดถี่ถวนอยาง นาอัศจรรย เกือบจะเรียกไดวา พอเพิ่มเอาใจใสกับเงิน ที่พลอยจะตองใชจายทุกสตางค คอยระมัดระวังอยางเขม งวด มิใหเงินของนองสาวรั่วไหล เมื่อจายไปเทาใดพอเพิ่มก็คอยดูใหไดผลตอบแทนคุมคา จนพลอยนึกเลื่อมใส อดไวในใจมิไดก็พูดขึ้นในวันหนึ่งวา "ฉันไมนึกเลย วาคุณหลวงจะระมัดระวังเรื่องเงินถึงเพียงนี้ ปานนี้คุณหลวงมิรวยกวาที่ฉันรูไปแลวหรือ" พอเพิ่มหัวเราะแลวตอบวา "ไมจริงหรอกแมพลอย ฉันอยูอยางไรก็อยางนั้น ไมเคยรวยกับเขาสักที"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy207.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๗ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 4

"ทําไมเลาคุณหลวง คุณหลวงคิดเงินราวกับพอคานาจะร่ํารวยไมแพคนอื่น" "ฉันคิดเปนแตเงินของคนอื่นเขาเทานั้น" พอเพิ่มตอบ "ยิ่งเปนเงินของแมพลอยที่เปนนอง ฉันก็ตอง ระมัดระวังมาก เงินของฉันเองมันก็ไปอีกเรื่องหนึ่ง ไมรูมันหายไปไหนหมด เลยขี้เกียจดูเอง ใหเมียเขาดูใหถึง ไดมีพอกินพอใชอยูทุกวันนี้ ผูหญิงเขาเกงกวาเรา" "แลวเขาใหคุณหลวงใชบางหรือเปลา" พลอยอดถามไมได "เขาจายใหเปนรายวัน" พอเพิ่มตอบหนาตาเฉย "วันละเทาไร" "วันละสลึง ยังดีเสียอีก แตกอนเขาใหวันละเฟองเทานั้น" พลอยตองหัวเราะงอหาย เมื่อพอเพิ่มขยายความลับใหฟงวา ถูกภรรยาควบคุมอยางไร และพอเพิ่มเองก็ เห็นวาเรื่องที่ตัวเลาใหนองสาวฟงนั้น เปนเรื่องขบขันอยูไมนอย "เขาบอกวาถาเขาไมจายเปนรายวัน ฉันไมคอยกลับบาน" พอเพิ่มอธิบายเพิ่มเติม "แตบางทีฉันก็ไมกลับ อยูนั่นเอง" อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy207.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๗ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 3

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๒ บทที่ ๗ (หนาที่ ๒) การซอมบานคลองบางหลวง ดําเนินไปเรื่อยๆ จนใกลจะเสร็จลง วันหนึ่งพอเพิ่มก็มาหาพลอยแลวพูดขึ้น วา "นึกไวแลวไมมีผิดเลยทีเดียว คุณชิตกลับมาแลวละ" "กลับมาทําไม คุณหลวงพบบางหรือเปลา" พลอยถาม "ฉันยังไมไดพบเอง แตพวงเขาบอกวาคุณชิตกลับมาเมื่อวานซืน พอเห็นบานชองสะอาดสะอาน ก็ซักวา ใครเปนคนทํา และอะไรตออะไรจิปาถะ พอรูวาแมพลอยเปนเจาของบาน เขาก็บอกวา เขาจะกลับมาอยูอีกใน เร็วๆนี้" "ลําพังคุณชิตคนเดียวฉันไมวาอะไรเลย จริงๆนะคุณหลวง เพราะถึงจะอยางไรเธอก็เปนลูกเจาคุณพอ เธอคิดจะกลับมาอยูบานก็ถูกแลว" พลอยพูดแลวก็ปรารภตอไปวา "ที่ฉันกลัวนั้นคือพวกพองของเธอเทานั้น กลัวจะตามเขามาเกะกะกับคนในบาน" "ฉันก็คิดอยางเดียวกันกับแมพลอย จึงอยากจะหาทางกันไวกอน" พอเพิ่มพูด "คุณหลวงจะกันอยางไรได" พลอยพูดอยางไมวางใจ "ฉันวาฉันจะไปอยูที่บานนั้นสักพักหนึ่ง มีเรื่องมีราวอะไรจะไดพูดจากันได" แลวพอเพิ่มก็หายหนาไปราวๆเดือนเศษ วันหนึ่งพอเพิ่มก็กลับมาแลวบอกพลอยวา "เรื่องคุณชิตเห็นจะเปนอันเรียบรอยไปที ฉันพบกับเธอและพูดจาตกลงกันเปนที่เขาใจแลว" "คุณหลวงตกลงกันวาอยางอยางไร" พลอยถาม "ฉันบอกเธอวา ถาจะเขามาอยูในบานนี้ลําพังแตตัวก็ได ทางเราไมขัดของ แตเธอจะตองไมใหพวกพอง มาเกะกะ นอกจากนั้น ฉันยังวางระเบียบเอาไวหยุมๆหยิมๆ จนเธอแทบจะอยูไมไดเอาทีเดียว" "คุณชิตหรือจะไปยอมใหงายๆ" พลอยพูดอยางไมเชื่อ "ทีแรกเธอก็ทําทาจะไมยอมเหมือนกัน" พอเพิ่มบอก "แตเมื่อฉันไปคางที่บานนั้นฉันไมไดไปคนเดียว ขนเอาพวกพองจากบางลําภูไปอยูดวยหลายคน มือดีๆ ทั้งนั้น" "พวกพองอะไรกันคุณหลวง แลวจะไปทําอะไรคุณชิตได" "อาว ก็ฉันบอกแมพลอยแลวนี่นาวาฉันก็นักเลงเหมือนกัน เด็กๆที่ฉันพาไปมันเคยพึ่งพาอาศัยฉันมา ฉัน เรียกใชสอยได บอกใหตีเปนตี บอกใหฟนเปนฟน คุณชิตเห็นเขาก็รูตัวไมกลามายุมยามหรอก" "ดูคุณหลวงซี" พลอยรองขึ้นอยางตกใจ "พูดกันดีๆก็ไมได ตองหอบเอานักเลงไปขูเขาถึงฟากขางโนน" "ก็คนอยางคุณชิตนั้นพูดกันดีๆ ฟงรูเรื่องเสียเมื่อไรเลาแมพลอย" คุณหลวงตอบ "การทําดีตอคนพาล อยางที่แมพลอยชอบทํานั้น มันก็ดีหรอก แตฉันเห็นวาเปลืองเวลา บางทีก็เปลืองเงิน สูวิธีของฉันไมได ใครดีมา เราก็ดีตอบ แตถาพาลมาเราก็พาลตอบใหถึงที่ เขาใจกันไดเร็วพิลึก ไปอยูคลองบางหลวงคราวนี้ ฉันปราบคุณ ชิตเสียเรียบรอยไปเลยทีเดียว จนเมียเขาเองยังเลื่อมใส" "คุณหลวงนี่เกงขึ้นทุกวัน" พลอยพูดอมยิ้ม "ไหนลองวาไปทีหรือ คุณหลวงปราบคุณชิตอยางไรบาง" "คืนวันหนึ่งเธอเมาขึ้นมาอาละวาดกับฉันที่บนตึก พูดจาอยางไรก็ไมฟง ยิ่งอาละวาดใหญ นึกวาจะทํากับ ฉันไดอยางทํากับคุณอุน บอกกับฉันใหมาบอกแมพลอยใหเอาเงินไปใหเขา ไมยังงั้น เขาจะเผาบานเสีย" "แลวคุณหลวงทําอยางไร" พลอยชักสนุก "ก็เมื่อพูดกันดีๆแลวไมฟง ฉันก็ปลอยใหเขาอาละวาดไปคนเดียวกอน สวนฉันก็เอาเหลามากินบาง นั่ง เติมอยูเรื่อยๆ ตั้งใจวาจะใหทันคุณชิต จะไดอาละวาดกันสองคนใหสนุกสักที" "แลวทันไหมคุณหลวง" "ที่ไหนได" คุณหลวงตอบ "ทันจนเกินหนาคุณชิตไปเสียอีกหลายเทาตัว พอดีๆแลวฉันก็ทาคุณชิต ใหมา เผาบานแขงกัน ดูมันทีหรือวาใครจะเผาเกง ฉันไปหยิบฟนหยิบน้ํามันกาดมาวาง ทําทาจะเผาจริงๆ" "แลวยังไง" "ธรรมดาคนเมานั้นนะแมพลอย" พอเพิ่มอธิบาย "ถาเห็นใครเมากวาก็สรางเมาเปนคนดีทันที เรื่องมัน เมาทับกันได เมาขมกันได พอคุณชิตเห็นฉันเมากวาก็หายเมา กลับเขามาพะเนาพะนอ หามปรามฉันเสียอีก กลัววาฉันจะเผาบานเอาจริงๆ" "ฉันถามอะไรจริงๆ สักอยางเถิดคุณหลวง" พลอยพูดขึ้น "ถาเผื่อคุณชิตเธอขมไมลง เห็นคุณหลวงเมา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy207_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๗ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 3

กวา แลวไมเขาหามปราม คุณหลวงจะทําอยางไร" "เอ ! ไมรูซีแฮะ !" พอเพิ่มพูด "ฉันก็คงจะเผาบานเสียจริงๆกระมัง เพราะตอนนั้นมันเมาจริงๆเสียดวย" "พุทโธเอย !" พลอยอุทาน เพราะไมรูวาจะพูดอยางไรอีก "ตั้งแตนั้นมา" พอเพิ่มเลาตอ "คุณชิตก็ดูจะเกรงอกเกรงใจฉันขึ้นมาก ฉันจะพูดจาวากลาวอยางไรก็เชื่อ ฟง เพราะเห็นฝมือฉันเสียแลว จะไปตามพวกพองเขามาขุฉันก็ไมได เพราะเด็กๆของฉันที่ไปอยูดวยมันคอยคุม เชิงอยู หนักเขาเห็นไมไดประโยชน เขาก็เขามาลาบอกวาจะไปบานนอก ไมมีกําหนดกลับ เขาสั่งฉันใหฝากพวง กับแมพลอยดวย เพราะเขาไมมีปญญาจะเลี้ยงดู" "โลงอกไปที" พลอยพูดดวยความรูสึกจริงใจ "ฉันก็โลงอกเหมือนกัน" พอเพิ่มพูด "ถาคุณชิตยังไมไป ฉันก็ตงอยูคุมเชิงกันไปเรื่อยๆ ลงทายฉันจะ กลายเปนคุณชิตไปอีกคนก็ไมรู เพราะตองเมาปราบกันบอยเหลือเกิน" "ฉันขอบใจคุณหลวงเหลือเกินคราวนี้" พลอยพูดดวยความจริงใจ "ถาไมไดคุณหลวง ฉันจะตองลําบากใจ อีกมาก นี่ไดคุณหลวงชวยจัดใหจนเสร็จเรื่อง จึงเรียบรอยไปได" "ไมเปนไรหรอกแมพลอย" พอเพิ่มตอบหนาบานดวยความดีใจ ที่ไดชมจากนองสาว "แมพลอยมีอะไร ฉันก็ตองชวยเสมอ ลงฉันไดชวยแลว ฉันก็ตองชวยจนสําเร็จ เสียแตไมมีใครคอยออกปาก ใหฉันชวยเหลืออะไร เทานั้น เพราะพี่นองแตละคนชอบเห็นฉันไมไดเรื่องเสียกอน ไมยอมเห็นวาฉันเปนผูใหญสักที" "คุณหลวงอยานอยอกนอยใจไปเลย" พลอยรีบพูดเอาใจ "ทีนี้ฉันเชื่อแลวละ ไดเห็นฝมือคุณหลวงแลว" "คอยยังชั่วหนอย" คุณหลวงพูดแลวถอนหายใจยาวอยางพอใจ ตั้งแตนั้นมาพลอยนึกถึงบานคลองบางหลวงครั้งใด ก็นึกถึงดวยความสุขสบายใจ รูสึกเหมือนวาตัว ได ทําหนาที่ใหแกใครคนหนึ่ง ที่รูจักกันมานานแตมาตกอับลง แลวพลอยไดเขาชวยเหลือตออายุใหยืนออกไปอีก เวลาวางๆพลอยมักชวนคุณเชยและตาอนกับประไพ นั่งเรือไปเที่ยวที่บานเสมอ และถาไปครั้งใด ก็มักจะอยูเสีย ทั้งวัน กินขาวที่นั่นอาบน้ําที่นั่น และขณะที่อยูที่นั่น ก็มีความรูสึกอิ่มเอิบใจวาตนไดกลับบาน และบานนั้นเปน ของตนโดยสมบูรณ เปนกรรมสิทธิ์ที่อาจจะยกใหบุตรหลานสืบตระกูลกันไดตอไป เหมือนอยางกับที่ไดตกทอด มาใหแกกัน ตั้งแตครั้งปูยาตาทวด เมื่อพลอยเขียนหนังสือไปเลาใหตาออดฟงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตาออดก็ตอบมาวา "ลูกดีใจมากที่แมไดซอมบานที่คลองบางหลวงแลวเรียบรอย และบานนั้นตกมาเปนของแม ลูกไมเคยไป ที่บานนั้นเลย เพราะเมื่อลูกยังอยูแมไมเคยพาไป แตลูกยังจําไดดีถึงเรื่องตางๆเกี่ยวกับบานนั้น ที่แมเคยเลาให ฟงบอยๆ จนรูสึกเหมือนกับวา ลูกเคยอยูที่บานนั้นมาดวยตนเอง ที่ลูกดีใจมากอีกอยางหนึ่งก็คือ เทาที่ฟงจาก จดหมายของแม รูสึกวาแมมีความสุขมาก ที่ไดเขาไปจัดการบานนี้ แมมีความสุขทีไร ลูกก็ดีใจดวยทุกครั้งไป โรงเรียนหยุดคราวนี้ลูกไปเยี่ยมพี่อั้นที่ปารีส เพราะลูกชวนเขาใหขามมาอังกฤษแลว แตเขาไมมา ลูกก็ เลยตองขามไปเยี่ยม เพราะมาเมืองนอกดวยกันสองคนเทานี้ จะไปทิ้งกันเสียก็ดูกระไรอยู พี่อั้นเขาเขียน จดหมายถึงแมบางหรือเปลาลูกก็ไมทราบ แตนานๆเขาเขียนมาถึงลูกทีหนึ่ง ดูชักจะฟุงซานอยางไรชอบกล ลูก เลยตกลงใจจะขามไปฝรั่งเศส เพื่อดึงๆกันเอาไวบาง เดี๋ยวพี่อั้นจะลอยหายไปเสีย" จดหมายของออดฉบับนี้ตรงใจดําพลอยพอดี โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับตาอั้น จดหมายตาอั้น ที่มีมา จากฝรั่งเศสฉบับหนึ่งทําใหพลอยตองงง เพราะไมคอยจะเขาใจในความรูสึกนึกคิดของตาอั้น ตาอั้นเขียนมาวา "ลูกไดมาเมืองนอกนานพอที่จะเห็นบางเมือง และนิสัยใจคอของคนทางนี้ได เมื่อไดเห็นแลวบางทีก็ ทอถอย บางทีก็มีกําลังใจ เพราะบานเมืองและคนของเขาเจริญกวาของเรามาก เปรียบกันราวฟากับดิน ลูกเห็น ของเขาแลวก็มาคิดดูวา เพราะเหตุไรเขาจึงเจริญมากกวาของเรานัก ลูกเห็นวาเหตุที่ฝรั่งเขาเจริญเร็วนั้น เพราะ เขาเปดโอกาสใหราษฏรไดมีสวนมีเสียง ในการปกครองบานเมือง ที่ฝรั่งเศสนี้ราษฏรทุกคน สนใจกับกิจการ บานเมืองมาก ไปนั่งตามรานกาแฟที่ไหนก็เห็นแตคนคุยกันเรื่องนี้ หรือมิฉะนั้นก็อานหนังสือพิมพ เกี่ยวกับ กิจการบานเมือง แมแตนักเรียนก็พูดกันถึงเรื่องเหลานี้อยูเสมอ ที่นี่เขาใหราษฏรเลือกตัวแทน เขาไปนั่งประชุม ปรึกษาราชการ แลวก็ตั้งรัฐบาลมาปกครองประเทศอีกตอหนึ่ง รัฐบาลไหนทําไมดีเขาก็ติเตียนได ถาไมเชื่อฟงก็ ตองออก คนที่ฝรั่งเศสเขาเสมอกันหมด ไมมีเจาไมมีไพร ไมมีพระเจาแผนดิน ใครผิดใครถูกก็วากันไปตาม กฎหมาย ทุกคนเขาสนใจอยากใหบานเมืองเจริญ เมื่อเขามีโอกาส ที่จะแสดงความคิดได และใชความสามารถ ของเขาได บานเมืองของเขาจึงเจริญทันใจราษฎร ซึ่งผิดกับของเรา เพราะการปกครองของเราไมเปนเชนนั้น ฝรั่งที่เขาเรียนหนังสือกับลูก เขาถามถึงเรื่องการปกครองในเมืองไทย บอยๆ แตลูกก็เฉยเสีย เพราะของเรายัง ลาหลังอยูมาก พูดไปก็อายเขาเปลาๆ" เมื่อคุณเปรมไดอานจดหมายของตาอั้น ก็รูสึกวาพอใจมาก พูดกับพลอยวา "เห็นไหมละ แมพลอย สงเด็กไปเรียนเมืองนอกมันดีอยางนี้ เขาสอนใหเด็กมีปญญาคิดอานอยางคน ฉลาด ถาเรียนเมืองไทย ปานนี้อั้นก็ยังไมมีความคิดถึงเพียงนี้เลย หนังสือฉบับนี้ฉันตองเอาไปใหเพื่อนๆที่กรม อาน" "จะดีหรือคุณเปรม" พลอยทวง "เด็กกําลังหนุมมีความคิดแปลกๆ เรื่องรูไปถึงผูใหญเขาจะไมดีกระมัง"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy207_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๗ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 3

"เรื่องอะไร" คุณเปรมพูดอยางไมเขาใจ "เรื่องการปกครองเมืองนอกนะหรือ ก็ไมเห็นเสียหายอะไรนี่ กลับจะดีเสียอีก ฉันไดยินในหลวงทานรับสั่งถึงเรื่องเหลานี้ ในโตะเสวยเสมอ เหมือนกับทานมีพระประสงคจะ สอนใหคนรูไว แตทานรับสั่งวา เรื่องนี้ตองสอนกันไปอีกนาน ทําหุนหันพลันแลนไปไมดี อาจถึงเสียหายแกบาน เมืองได อยางเรื่องเมืองดุสิตธานีที่วังพญาไทนั้น คนที่ไมรูก็พูดกันเองงายๆ วาในหลวงทานเลนบานตุกตา เหมือนเด็กๆ แตพวกเราที่อยูใกลชิดรูดีวา ทานมีพระประสงคจะสอนใหคนรูถึงเรื่องการปกครอง ที่เขาทํากันที่ เมืองนอก" "ก็ตามใจคุณเปรม" พลอยพูดคลอยตาม "ฉันไมคอยรูเรื่องอะไรหรอก หนังสือตาอั้นฉันอานไมเขาใจ สู อานหนังสือตาออดไมได" "แมพลอยรักลูกคนไหนก็เขาใจแตคนนั้น ออดแกก็ดีหรอก แตฉันเห็นวาแกรักความสบายมากไป สูอั้น ไมได" คุณเปรมออกรับแทนตาอั้น "โธ ! คุณเปรมหาความ" พลอยรองขึ้น "ลูกๆฉันก็รักเทาๆกันทั้งนั้น ไมเคยลําเอียงเลย แตฉันไมเขาใจ จริงๆ ฉันก็พูดไป คุณเปรมเสียอีก มักจะลําเอียงเขาขางตาอั้นไมเขาเรื่อง" "อยามาเถียงกันเลยแมพลอย" คุณเปรมหัวเราะ "ฉันลอเลนนะ เด็กมันก็ลูกเราทั้งสองคนนะแหละ เอา จริงเขาฉันก็รักเทากันหมด" พลอยคิดถึงความเจริญตางๆที่ตาอั้นพูดมาในจดหมายแลวก็หนักใจ ตาอั้นบนวาเมืองไทยนั้น ลาหลัง เจริญไมพอ แตความจริงเมืองไทยเทาที่พลอยเห็นนั้น รูสึกวาจะเจริญออกไปไกลกวาแตกอนมากมาย จนพลอย แทบจะกาวตามไปไมทันอยูแลว จิตใจของคนก็ดี วิธีที่จะพูดจาปฏิบัติตนก็ดี พลอยสังเกตุดูเห็นวา หละหลวม กวาแตกอน ไมมีใครคอยถือประเพณีเครงครัดอยางแตกอน ผูหญิงสาวๆสมัยใหม รูสึกวาจะเกงในสายตาของ พลอย จะพูดจาสิ่งใดหรือกระทําตนโดยทั่วไป ก็สอใหพลอยเห็นวาขาดความระมัดระวัง โดยเฉพาะในการติดตอ กับผูชายแลว พลอยก็ยิ่งเห็นวาปลอยตัวกันจนเกินควร อยางในงานฤดูหนาว ซึ่งเดี๋ยวนี้ยอนมามีที่สวนจิตรลดา พลอยก็เห็นผูหญิงสาวๆเดินเที่ยวกับผูชายหนุมเปนกลุมๆ พูดจาหยอกลอกันเลนอยางสนุกสนาน และไปดวย กันโดนอิสระเสรี ไมมีผูใหญคอยควบคุมอยางแตกอน ซึ่งทั้งนี้พลอยก็ไดแตนิ่งคิดอยูในใจ ไมกลาจะพูดใหใครได ยิน เพราะกลัวจะถูกหาวาลาสมัย แตบางครั้งพลอยก็อดไวไมได ตองระบายความในใจออกมาใหชอยฟง เพราะเปนคนๆเดียว ที่พลอยเห็น วาเขาใจตน หลังจากที่ไดไปเที่ยวงานฤดูหนาวกับคุณเปรมที่สวนจิตรฯมาคืนหนึ่ง ก็พอดีชอยออกมาหาจากใน วังตามปกติ พลอยก็พูดขึ้นวา "ชอยสังเกตหรือเปลาวาคนเดี๋ยวนี้ไมเหมือนแตกอน" "หา ! วาไงนะพลอย !" ชอยถามอยางไมเขาใจ "ไมเหมือนแตกอนยังไง ฉันก็เห็นเขามีหัวเดียว สองแขน สองขาเหมือนแตกอน หรือแมพลอยไปเห็นคนแปลกประหลาดที่ไหนมา" "ไมใชยังงั้นหรอกชอย" พลอยตอบ "ฉันหมายถึงวา คนเดี๋ยวนี้เขาทําตัวไมเหมือนเมื่อครั้งสมัยเรายัง สาว" "งั้นเรอะ" ชอยพูด "ฉันมันคนหูปาตาเถื่อนอยูแตในวัง ไหนวาไปถีวาเขาแปลกไปยังไง" "ฉันดูเขาโซดๆ ทําตัวเหมือนแหมม ผูชายพายเรือเขาก็ไมกระดาก ดูกลากันเหลือเกิน สมัยเรานั้นเห็น ผูชายมีแตจะคิดวิ่งหนี สมัยนี้ดูเขาเฉยๆ เห็นเทากันไมกระดาก ไมกลัว ฉันดูๆแลวใจหายใจคว่ํา ทีเดียว" "แมพลอยก็ทําเปนขวัญออนไปได" ชอยพูด "กาลสมัยเปลี่ยนไป บานเมืองเปลี่ยนไป ศาสนาเรียวลงทุก วัน ใจคนก็ตองเปลี่ยนไปบาง ถึงสมัยเราก็เถอะ คนที่เขาทําทาเหมือนกับแหมมก็มีถมไป พวกคุณหญิงคุณนาย เมียทูตที่เขาเคยไปอยูเมืองนอก กลับมาถึงเมืองไทย พอมีงานรับเจาฝรั่งทีไร เขาออกแสดงแหมมกันออก จําไม ไดเสียแลวหรือ" "มันไมเหมือนกันนี่ชอย" พลอยตอบ "สมัยนั้นใครเขาตามผัวไปเมืองนอก เขาก็ไปไวผมนุงกระโปรง แตง แหมมที่โนน พอกลับมาก็ตองรีบตัดผมสั้น ยอมฟนดําใหเหมือนคนอื่น แลวกิริยามารยาทเขาก็ยังเปนไทย จะ ออกแหมมก็เฉพาะรับเจาฝรั่งอยางชอยวา เดี๋ยวนี้เขาเปนแหมมทั้งกิริยามารยาทอยูตลอดเวลา แมแตคนไทย ดวยกัน" "เรามันแกเสียแลวละพลอยเอย !" ชอยพูด "ตาเราจึงมองเห็นไปเอง ฉันวาคนก็ยังเปนคนอยูนั่นแหละ จะ เปลี่ยนแปลงไปบางก็แตภายนอก อยางรุนเราผูใหญก็เคยมองคอนมาแลวเหมือนกัน" "ไมถึงอยางงั้นหรอกชอย" พลอยทวง "พลอยอาจจะไมถึงแตฉันมันถึง ฉันรูตัวดีวากระบวนเกงกระบวนขืนโลก อยากจะดันไป ใหมันแปลกกวา คนอื่นแลว ไมมีใครเกินฉัน แตมันก็ไปไดพักเดียว อายุมากเขามันก็หยุด เดี๋ยวนี้เสียอีก พลอยยังเกินไปกวาฉัน ที่ไวผมยาว ฉันยังตัดสั้นอยูแคนี้ ถาฉันเกิดเดี๋ยวนี้ ก็คงเหมือนกันนะแหละ" "ชอยไมมีลูกสาว พูดอะไรก็พูดได ฉันเปนหวงประไพเทานั้นเอง" "แลวตัวอยากดัดจริตไปมีผัวมีลูกเขาทําไม" ชอยพูดเปนคําสุดทาย และพลอยก็ไมมีขอแกตัวตอไปอีก

http://www.geocities.com/siamstory/ploy207_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๘

Page 1 of 6

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๒ บทที่ ๘ ตามปกติตั้งแตอยูดวยกันมา พลอยก็พยายามเอาใจคุณเปรม และพยายามปฏิบัติตน ใหถูกกับความ ประสงคของคุณเปรมอยูเสมอ ถึงจะออกปากทัดทานบาง ก็ยอมทําตามใจคุณเปรมในที่สุด พยายามเก็บความ รูสึกสวนตัวไว และถือเอาความเห็นของคุณเปรมในเรื่องที่สิ่งใดจะควรหรือไมควรนั้นเปนใหญ แตมีเรื่องหนึ่งที่ พลอยขัดขืนทัดทานอยูนาน เพราะเห็นวาเปนการฝนความรูสึกของตนจริงๆ เรื่องนั้นก็คือ การเปลี่ยนจากผานุง โจมกระเบนมาเปนนุงผาซิ่น วันหนึ่งคุณเปรมพูดขึ้นวา "แมพลอย ฉันเห็นวาตอไปนี้แมพลอยเลิกนุงผาเสียทีก็จะดี" "แลวกันคุณเปรม !" พลอยรองเสียงหลง "ทําไมพูดอยางนั้นละ อยูดีๆจะใหฉันเลิกนุงผาเสียแลว" คุณเปรมหัวเราะชอบใจแลวพูดวา "แมพลอยนี่คงเห็นฉันบาพิลึก ! เปลาหรอก ฉันไมไดหมายความวา จะใหแมพลอยเลิกนุงผาเสียเลย แต ฉันอยากใหนุงผาซิ่นแทนผาโจงกระเบน" "ตายจริง ! นี่คุณเปรมเห็นฉันเปนลาวมาตั้งแตเมื่อไร" พลอยถามเพราะไมเขาใจความหมายของคุณ เปรม เลยแมแตนอย "ในหลวงทานทรงโปรด" คุณเปรมตอบสั้นๆ แตก็เปนการอธิบายที่มีความหมายลึกซึ้ง "เสด็จทาน ก็เริ่ม ทรงผาซิ่นแลว ขาหลวงเสด็จเขาก็นุงตามทุกคน ฉันก็เห็นวาแมพลอยควรจะนุงบาง" "ไมไหวละคุณเปรม ฉันแกแลว จะไดกลายเปนตัวตลกไป เด็กๆมันจะหัวเราะเอา ฉันอายเขา ทําไมได หรอก" "เรื่องมันไมไดอยูที่ใจเรา" คุณเปรมพูดเฉยๆ "แตเราเปนขาทาน ทานโปรดอยางไรเราก็ควรจะทําอยาง นั้น" "โธเอย !" พลอยพูดทําเสียงเหมือนกับจะรองไห "ทานจะโปรดอะไรก็โปรดได ฉันไมวาเลย แลวก็อยาก จะทําตาม แตทําไมถึงจะตองมาโปรด ใหฉันนุงผาซิ่นเปนลาวไปก็ไมรู กรรมเวรแทๆทีเดียว" "ลาวกาวอะไรที่ไหนกันแมพลอย" คุณเปรมพูดเหมือนกับรําคาญ "คนทางเหนือเขาก็อยูในประเทศสยาม อยางเดียวกับเรา เขาก็เปนคนไทยเหมือนกับเราๆนี่แหละ แมพลอยพูดเปนคนโบราณไปได อะไรของเขาดี เรา ก็ควรจะเอามาใช จะไปมัวกระดากกระเดื่องอยูทําไม" "ฉันไมไดกระดากกระเดื่องอะไรหรอกคุณเปรม" พลอยตอบ "ชั่วแตวาฉันไมเคย เมื่อยังเด็กๆ เคยเห็น แตตําหนักพระราชชายาเขานุงผาซิ่นกันทั้งตําหนัก พระราชชายาเองทานก็ทรงผาซิ่น ฉันก็เห็นวาสวยดี ชอบ ไปดูเสมอ ดูแลวก็อดนึกชมอยูไมได ยิ่งเวลาทานทรงแตงเต็มยศ ทรงผาซิ่นยกเงินยกทอง ฉันก็ยิ่งเห็นสวย แต ตัวฉันเองไมเคยนึกจะลอง เพราะนุงโจงกระเบนมาแตออนแตออก จะมาเปลี่ยนเอาตอนนี้ก็ดูอยางไรอยู" "ก็ไมเห็นจะมีอะไร" คุณเปรมพูดดวยน้ําเสียงที่ดูเหมือนเบาใจขึ้น เมื่อไดยินพลอยรับวา ตนเห็นผาซิ่น นั้นสวย "แมพลอยก็รับอยูเองวานุงผาซิ่นนั้นสวยดี แลวจะมัวไปเกี่ยงงอนอะไรอีก ลองนุงดูเถิด อีกหนอยก็เคย ไปเอง" "ฉันแกแลว" พลอยตอบอยางแนใจวาไมยอมนุงผาซิ่นแน "แมพลอยละก็อยางนี้แหละ" คุณเปรมพูดดวยน้ําเสียงแสดงความนอยใจ "เอะอะอะไรก็แกตัววาแก ซึ่ง ความจริงก็ยังไมแกเทาไหร ตามใจฉันหนอยเถอะนา แมพลอย ฉันขอละ ถาฉันรับราชการกระทรวงอื่น ฉันก็ไม วาอะไรหรอก แตนี่ฉันอยูในนั้น รูอยูแกใจวาทานโปรด คนอื่นเขาก็เริ่มทําตามพระราชนิยมกันแลว ฉันจะไม บอกเมียฉันใหทําบาง ก็ดูกระไรอยู" "ผาซิ่นฉันไมมี" พลอยพูดเสียงออยๆ เพราะเริ่มจะเห็นใจคุณเปรมขึ้นมาครันๆ "แลวฉันจะหามาให จะเอาเทาไรก็ได" คุณเปรมตอบอยางโลงใจ แตผาซิ่นที่คุณเปรมหามาใหกุลีหนึ่งนั้น พอพลอยแกหอออกดูก็ใจหาย คุณเปรมจะไดเลือกผาซิ่นเหลา นั้น หรือไมพลอยก็ไมทราบ แตถาคุณเปรมไดเลือกจริง ความเขาใจของคุณเปรมในเรื่องอายุหรือวัยของพลอย นั้น ก็ตองแตกตางกับความเห็นของพลอยเปนหนักหนา เพราะผาซิ่นแตละผืนที่คุณเปรมหามาให ดูมีสีสันฉูด ฉาด บาดตา เหมาะแกคนที่อยูในวัยสาวรุนๆ จะนุงมากกวาคนอยางพลอย คุณเชยผูซึ่งเผอิญมานั่งอยูดวย เมื่อ พลอยนั่งดูผาซิ่นที่คุณเปรมหามาให หัวเราะหึๆ แลวพูดวา "สนุกละแมพลอย ผัวหลอนชางหามาใหเมียนุงเสียจริงๆ อะไรๆก็ดีหรอก ฉันกลัวหมามันจะไลกัดเอา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy208.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๘

Page 2 of 6

เทานั้น" "ดูเอาเถิดคุณเชย" พลอยตอบ "เพียงแตจะใหฉันนุงผาซิ่น ก็หนักใจเอาการอยูแลว แตก็ยังเลือกสีเลือก ลาย ที่ฉันนุงไมไดอีก" "ฉันรูจักคนที่เขาขายผาซิ่นอยูบาง" คุณเชยบอก "แมพลอยอยาไปนุงพวกนี้ โยนมาใหฉันทั้งหอนั่นแหละ แลวฉันจะไปเปลี่ยนเขามาให เลือกเอาที่มันพอนุงไดหนอย แตไหนลองนุงดูสักผืนกอนหรือ ฉันอยากดูวา แม พลอยหนาตาเปนอยางไรเมื่อนุงแลว" พลอยหยิบเอาผาซิ่นผืนหนึ่งมานุงลองดูตามที่คุณเชยบอก แลวก็เหลียวไปมองดูตนเองในกระจกบาน ใหญ ที่ติดอยูกับขางฝา ภาพที่เห็นในกระจกนั้น ทําใหพลอยตองหัวเราะอยูพักใหญ ดวยความขบขัน ฝายคุณ เชยก็มองดูนองสาว แลวหัวเราะขึ้นเชนเดียวกัน ตางคนตางเห็นวาการเปลี่ยนแปลงในเครื่องแตงกายนั้น เปน ของไมสําคัญ เปนแตเพียงอารมณชั่วขณะของผูใหญ ตอไปก็อาจเลิก หาไดรูไมวา ผาซิ่นนั้นเมื่อมาถึงแลว ก็จะ อยูมาตลอดไป แลวก็กลับกลายเปนกระโปรง เปนสะแล็คยาวสะแล็คสั้น และอื่นๆอีกเปนอันมาก ที่คนทั้งสองนึก ฝนไปไมถึงวา ผูหญิงไทยจะกลาหาญนุงได "ฉันไมกลาออกจากบานหรอกคุณเชย" พลอยพูดพลางหัวเราะพลาง "ออกไปแลวฉันไมรูจะตีหนา อยาง ไรถูก จะนั่งลุกเดินเหิน ดูมันผิดไปหมด" "ฉันก็เห็นใจ" คุณเชยตอบ "ถาเปนฉันก็คงลําบากเหมือนกัน เคราะหดีที่ฉันไดผัวเปนหมอกลางบาน ไม อยางนั้นก็คงจะตองนุงตามเขาไป" "กรรมของฉันแทๆทีเดียวคุณเชย" พลอยเห็นดวย "นี่ถาเปนคนอื่นไมใชคุณเปรม เขาคงไมบอกใหเมีย นุง แตฉันก็ไดผัวอยางนี้ อะไรนิดอะไรหนอยก็ตองใหทันสมัย ฉันแทบจะตามไมทันอยูแลว ครั้นจะไมยอมตาม ก็จะขัดใจกันเสียเปลาๆ" "ถาจะวาไปฉันก็เห็นใจคุณเปรม" คุณเชยพูด "เมียคนอื่นที่เขาอยูในนั้นเขานุงกันหมด เขาก็ตองใหแม พลอย นุงบาง จะไปขืนอยูคนเดียวอยางไรได เสียอยูอยางเดียวที่คุณเปรมเลือกผาซิ่น มันเหลือเกินไปหนอย เทานั้น" อยางไรก็ตาม อีกสองสามวันตอมา คุณเชยก็ไปหาผาซิ่นมาเปลี่ยนให สีสันลวดลายไมฉูดฉาดเทาชุด ที่ คุณเปรมหามาให และพลอยก็ตองเริ่มตัดเสื้อที่จะเขากับผาซิ่น แพรสะพายที่เคยใชเมื่อยังนุงโจงกระเบนนั้น เปนอันวาเลิกเด็ดขาด ในที่สุดพลอยก็เริ่มคุนเคยกับการเปลี่ยนแปลงในเครื่องแตงกายครั้งใหญ และนุงผาซิ่น ในเวลาการงานกับคุณเปรม จะนุงผาโจงกระเบนเฉพาะเวลาอยูบาน หรือไปไหนเปนการลําลองเปนสวนตัว พลอยรูสึกคอยยังชั่วอยูหนอยหนึ่ง ที่การนุงผาซิ่นนั้นแพรหลายไปรวดเร็วเกินคาด แตพอพลอยเริ่มจะคุนกับผา ซิ่น คุณเปรมก็เลิกสนใจในเรื่องการแตงกายของภรรยา หันเขาสนใจกับการแตงกายของตนเอง และของอื่น บางอยาง วันหนึ่ง คุณเปรมจะไปในงานขึ้นบานใหมของขาราชการกระทรวงเดียวกัน ที่ไดรับพระราชทานบานอยู ตามปกติงานเชนนี้ พลอยใหคุณเปรมไปคนเดียว ไมคอยจะไปดวย และในงานนี้พลอยก็ใหคุณเปรมไป แตผู เดียวอีก ตอนเชาวันนั้น คุณเปรมเอาหีบหออะไรกลับบานหลายอัน บอกกับพลอยวาเปนเสื้อผา ที่หามาไดใหม พลอยก็นึกวาเปนเสื้อผาธรรมดา ยังมิไดมีเวลาที่จะเขาไปดู ระหวางที่คุณเปรมแตงตัวอยูนั้น พลอยก็นั่งเย็บเสื้อ ใหประไพอยูขางนอก คุณเปรมแตงตัวเสร็จแลวก็เดินออกมาจากในหอง พลอยเหลียวไปดูสามี แลวก็สะดุงสุด ตัว รองขึ้นวา "คุณเปรมจะไปไหนนั่นนะ ! แตงตัวราวกับรับพระอังคาร !" วันนั้นเปนวันอังคาร คุณเปรมแตงตัวดวยเครื่องสีชมพูทั้งชุด คือผามวงสีชมพู เสื้อชั้นนอกแพรสีชมพู ถุงเทาแพรสีเดียวกัน และรองเทาหุมแพรตวนสีชมพู แมแตหมวกสักหลาดที่คุณเปรมถืออยูในมือ ก็เปนสีชมพู อยางเดียวกับผามวงและเสื้อชั้นนอก ของอยางเดียวที่มิไดเปนสีชมพูไปดวย ก็คือไมเทาที่คุณเปรมถืออยูในมือ คุณเปรมหัวเราะชอบใจแลวพูดวา "ฉันแตงอยางนี้เปนอยางไรแมพลอย สวยดีไหม" "ก็สวยดีหรอก" พลอยพูดอยางเกรงใจ "แตทําไมมันเขาชุดกันไปหมดอยางนี้ ฉันไมเคยเห็นแบบนี้ ยัง บอกไมถูก" "เดี๋ยวนี้ผูชายแตงตัวกันอยางนี้แหละ" คุณเปรมอธิบาย "คนที่ไปงานวันนี้ ก็คงจะแตงอยางเดียวกัน หมด" "มิสีชมพูโรไปทั้งงานหรือคุณเปรม" พลอยถามเพราะไมรูจะถามอะไรอีก "สวนมากก็คงจะเปนอยางนั้น" คุณเปรมตอบอยางธรรมดา "และวันพรุงนี้เปนวันพุธ แตเขียวกันทั้งตัว อีก" "แลววันอาทิตยเลาคุณเปรม ทําอยางไร" "แตงแดง" คุณเปรมตอบหนาตาเฉยๆ "แดงหมดตั้งแตหมวกถึงเกือกทีเดียวหรือ" พลอยถาม

http://www.geocities.com/siamstory/ploy208.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๘

Page 3 of 6

"ก็ตองอยางนั้น ฉันมีหมดแลวทั้งเจ็ดสี" คุณเปรมตอบ พลอยดูคุณเปรมอยูหลายตรลบ แลวก็พูดขึ้นอยางอดไมไดวา "ถาแตงตัวกันอยางนี้อีกหนอยผูหญิงก็คงแพ ฉันโลงอกไปอยาง ที่คุณเปรมเปนคนขาว ถาเปนคนดํา แลวแตงตัวชุดวันอาทิตยละก็งามหนาละ คงเหมือนอายคะนังเมื่อแผนดินกอน" "ฉันอุตสาหหาเครื่องแตงตัวใหถูกสมัยอยูตั้งหลายวัน พอแตงเขาจริง แมพลอยจะชมสักคําก็ไมมี" คุณ เปรมพูดอยางนอยใจ "ฉันก็เห็นวาสวยดี จริงๆนะคุณเปรม ชั่วแตวาตาฉันมันยังไมเคย เห็นเขาเปนหนแรกก็ถามไปอยางนั้น รู อยางนี้แลว ฉันจะไดตั้งตาคอยชมทีละชุด จนครบเจ็ดสี เจ็ดวัน" คุณเปรมยืนหมุนไปหมุนมาอยางเกอๆ อยูอีกพักหนึ่ง แลวก็ลงเรือนไปขึ้นรถออกจากบาน อีกสักครู นาง พิศก็เดินตุบตับขึ้นบันไดมาทรุดตัวลงนั่ง แลวพูดขึ้นวา "คุณพลอย เมื่อกี้ตัวอะไรลงไปจากบนตึก" "คุณพระตางหากละพิศ" พลอยตอบ "อนิจจํทุกขํ" นางพิศออกอุทาน "โอโฮ ! ทําไมแตงตัวอยางนั้นเลา บาวดูแตไกลจําไมไดจริงๆ นึกวางิ้วที่ ไหนมาเดินอยู" แตความจริงคุณเปรมแตงกายดวยสีเดียวกันทั้งชุด เปนการทดลองดูเทานั้น พอไดมีโอกาสแตงไปจน ครบ เจ็ดชุดเจ็ดสีแลว คุณเปรมก็ดูจะเนือยๆไป หันเขาหาผามวงสีน้ําเงิน หรือผาพื้นสีน้ําเงินบาง สีเทาบาง และ เสื้อนอกขาวๆ เรียบๆ อยางแตกอน ความสนใจอันแทจริงของคุณเปรมไปตกอยูที่ไมเทาที่ถือ อันเปนไมแกว ซึ่งกําลังเลนกันอยูชุกชุมในสมัยนั้น และซื้อขายกันดวยราคาแพง คุณเปรมคลั่งไมเทาอยูนาน เริ่มสะสมไมเทา ตางๆ เปนอันมาก แตที่ตื่นเตนที่สุด ปรารถนาเปนที่สุดก็คือไมแกว เมื่อรูวามีที่ไหนดี คุณเปรมก็จะติดตามไป จนถึง ถาเจาของไมขายก็ขอใหไดชม แตถาเจาของยินดีจะขายแลว ถึงจะเรียกราคาเทาไรคุณเปรมก็ซื้อ โดยไม ตองตอราคา ไมแกวบางอันที่คุณเปรมซื้อมานั้น ทําใหพลอยตองสะดุงดวยราคาที่แพงถึงขนาด แตจะทัดทานก็ ไมได กลัวคุณเปรมจะหาวาขัดใจ และคุณเปรมก็มันจะพูดแกตัวไวกอนเสมอวา "ถูกหนอยแพงหนอยก็อยาวาฉันเลย แมพลอย เพราะใจฉันรักจริงๆ ถึงจะเสียสตางคไปในทางนี้ ก็ยังดี กวาทางอื่น เปนตนวาไปแอบมีเมียนอย ไมแกวนั้นถึงจะแพงก็ไมทําใหแมพลอยตองรอนใจ ถาฉันเอาสตางค ออกบําเรอผูหญิงเมื่อไร แมพลอยถึงคอยวา" ไดยินคําพูดของคุณเปรมเชนนี้ พลอยก็ไดแตนิ่งนึกในใจวา ถึงแมวาคุณเปรมจะใชเงินเที่ยวบําเรอคนอื่น จริง พลอยก็คงจะนิ่งใหอีก จะวากลาวคุณเปรมไดอยางไร พลอยก็ยังนึกไมออก แตที่พลอยรูสึกอัศจรรยใจและ ไมเขาใจ ก็คือวิธีเลนไมเทาของคุณเปรม ไมแกวทุกอันที่คุณเปรมซื้อมาดวยราคาแพงนั้น เมื่อไดมาแลวจะได เอาออกถือ เพื่อใหเบิกบานใจ สมกับความอยากไดก็เปลา แตคุณเปรมกลับใหตอสังกะสีเปนหลอด ขนาดใหญ กวาไมเทา แตละอันเล็กนอย เอาน้ํามันใสในหลอดสังกะสีจนเต็ม แลวก็เอาไมเทาลงแชทิ้งไว ทุกครั้งที่มีเวลา วางอยูกับบาน คุณเปรมก็เอาไมเทาอันโนนบางอันนี้บาง ขึ้นมาขัดดวยผาหรือหนังนุมๆ ตั้งใจขัดไมเทานั้น ดวย ความประณีตบรรจง ไมยอมใหคนอื่นมาแตะตอง และเมื่อขัดจนเปนที่พอใจแลว ก็เอาลงแชน้ํามันตอไปอีก เพื่อนฝูงที่มาหาเพื่อขอดูไมเทานั้น คุณเปรมดีใจตอนรับเปนพิเศษ รูสึกวาจะมีความสุขเหลือลน เมื่อไดยินคํา สรรเสริญจากปากคนอื่นวา ไมเทาอันไหนวิเศษอยางไร พลอยพยายามฟงขอความที่คุณเปรมพูด กับเพื่อนฝูง เรื่องไมเทาอยูหลายตรลบ แตก็ไมสามารถจะเขาใจไดวา ไมเทาแตละอันนั้นมีคุณสมบัติวิเศษ แตกตางกันอยาง ไร เพราะถอยคําที่พูดกันนั้น พลอยฟงดูแลวก็ไมเขาใจ ดูเหมือนกับวาเปนคนละภาษา และในสายตาของพลอย ไมเทาแตละอัน ก็ดูละมายคลายคลึงกันไปสิ้น ไมนาที่จะตองตื่นเตนกันไปถึงเพียงนั้น พลอยเคยปรารภเรื่องนี้กับคุณเชย แตคุณเชยก็ไมสามารถจะใหคําอธิบายอะไรได กลับพูดวา "คุณหลวงของฉันก็เหมือนกันละแมพลอย คลั่งไมเทาไปกับเขาดวย เคราะหดีที่มีเพื่อนฝูงเขาให ไมตอง ซื้อตองหาอะไรหรอก แตเดี๋ยวนี้กลายเปนหมอไมเทาไปแลว ของใครที่ไมขึ้นเงา หรือไมมีลวดลาย ก็ตองสงมา รักษาที่หลวงโอสถ ทั้งแชน้ํามันทั้งขัดงวนอยูวันยังค่ํา ใครจะเจ็บใครจะตายที่ไหน ไมตองรูเรื่องกันเลย" คนที่ใหคําอธิบายแกพลอยไดดีที่สุด ก็เห็นจะไดแกพอเพิ่ม วันหนึ่งพลอยถามพอเพิ่มขึ้นวา "คุณหลวงเลนไมเทากับเขาบางหรือเปลา" "เปลา" พอเพิ่มตอบสั้นๆ แลวก็หัวเราะ "อาว ! ทําไมไมเลนกับเขาบางละ ฉันเห็นใครๆเขาก็เลนกันทั้งนั้น แลวคุณหลวงก็เปนนักเลนอะไรตอ อะไร อยูดวย" "ไมเลนละแมพลอย" พอเพิ่มตอบ "ฉันเลนแตของที่มีชีวิตชีวา นกเขาบางตนไมบาง ดูมันเติบโต แลวก็ เรียนนิสัยใจคอจากมัน บางทีมันก็ใหความสบายใจได แตไมเทามันเปนของตาย วางไวมันก็อยูเฉยๆ ถือไปถือ มามันก็เทานั้น ถาจะถืออะไรแลว ฉันถือไมตะพดดีกวา ตีหัวคนเลนก็ได" "แลวคนอื่นทําไมเขาจึงตื่นเตนกันเสียจริงๆ" พลอยพูดอยางไมเขาใจ "มันก็เหมือนพวกเครื่องลายคราม หรือตลับงานั่นแหละ" พอเพิ่มอธิบาย "คนเรานั้นชอบประกวดประขัน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy208.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๘

Page 4 of 6

แขงดิบแขงดีกัน แขงดีกันทางอื่นไมพอ ก็ตองแขงดีกันดวยของ คอยประกวดกันวาใครจะมีของดีกวากัน ถาไม ใชกระเบื้องถวยกะลาแตก ก็ตองเปนไมเทา ตอไปก็คงเปนอื่น แตกอนนั้นเลนลายครามกันอยูพักหนึ่ง ทุมเทเงิน ทองเที่ยวหาซื้อมาใหเขาชุดไวแขงกัน วาของใครจะดีกวาของใคร แลวอยูมาก็มีคนสั่งเขามาจากเมืองจีน ออก ขายเปนชุดๆ ดาษดื่นเขาก็จืดไปเอง เดี๋ยวนี้ก็กลายเปนไมแกว แลวอีกหนอยก็คงจืดไปเอง เรื่องก็จะแขงดี อวด มั่งอวดมีกันเทานั้น ถาจะเลนใหสนุกแลว ฉันวาเอาเงินมากองเปรียบกันดีกวา วาของใครจะกองโตกวากัน ฉัน เลนกับเขาดวยไมไดหรอกแมพลอย เพราะฉันไมมีเงินจะมากอง ถึงจะมีฉันก็ไมเอามากองอวดใคร เอาไปใชทาง อื่นดีกวา เปนตนวากินเหลาใหมันหมดๆไป หมดแลวก็ไมตองเดือนรอน ตองคอยประกวดประขัน เหมือนคนมี เงินทั้งหลาย ที่เขาตองเดือดรอนกันอยูทุกวัน" คําอธิบายของพอเพิ่มก็นับวาใกลตอความจริงอยูมาก การแตงกายในสมัยนั้นก็ดี การกินอยูอยาง ฟุมเฟอย การใชจายอยางฟุงเฟอ ตลอดจนการประกวดประขันแขงดีกันตามคําพอเพิ่ม เปนสัญลักษณของยุคที่ บริบูรณ เปนเครื่องหมายวาทุกคนในสมัยนั้น อาศัยความสมบูรณพูนสุขของบานเมือง อันเปนผลของการกระทํา ในยุคกอน ไดใชชีวิตประจําวันอยางสุขกายสบายใจ ปราศจากปญหา ปราศจกความของใจ และดวยความรูสึก อันแนนอน ปราศจากความวิตกถึงอนาคต คนที่มีชีวิตหรูหราที่สุดในขณะนั้น เห็นจะไดแกคนที่อยูในพระราช สํานัก หรือคนที่อยูใกลชิดพระราชสํานัก คนเหลานี้มีความเปนอยูอยางฟุมเฟอย มีชีวิตที่เต็มเปยมบริบูรณ ปราศจากความคับแคนใดๆ บางครั้งก็แสดงออกมาถึงความบริบูรณนั้น ในลักษณะแปลกๆ วันหนึ่งพลอยนั่งรถ ไปธุระกับคุณเปรมในตอนบาย เห็นชายหนุมหนาตาดีคนหนึ่ง นุงกางเกงแพรสี คาดเอวดวยผาแพรสี ปลอย ชายยาว สวมเสื้อนอกแพรฝรั่งเศส แตเปดกระดุมตลอดแถว ทําใหมองเห็นเสื้อชั้นในคอกลม ทําดวยแพรบางๆ และเสมาทองคําอักษรพระปรมาภิไธย ซึ่งแขวนอยูขางใน ชายหนุมคนนั้นขี่จักรยานยนต ขับสวนทางไปดวย ความรวดเร็วนาใจหาย และนั่งอยูบนจักรยานยนตดวยทาทางอันผิดปกติมนุษย คือหอยขาลงเพียงขางเดียว อีก ขางหนึ่งพับพาดไวบนตัวรถ พลอยเห็นความเร็วที่ชายหนุมนั้นขับรถ ก็สะดุงตกใจกลัวจะเปนอันตราย เหลียว ไปมองหนาคุณเปรม แตคุณเปรมก็หัวเราะหึๆ บอกชื่อชายหนุมคนนั้น และบอกวาเปนมหาดเล็กหลวง "เขารําอินทรชิตไดสวยไมมีตัวจับ" คุณเปรมพูดเปนเชิงบอกคุณวุฒิของชายหนุมผูนั้น แตความหรูหราฟุมเฟอยในราชสํานักสมัยนั้น มิไดมีใครเห็นเปนของเสียหาย และมิไดมีใครมองดู ดวย สายตาที่มีความอิจฉาริษยา ตรงกันขาม คนสวนมากกลับมองดูความเปนอยูอยางนั้นแลว เห็นเปนมาตรฐานที่ จะตองดําเนินตาม การแตงกาย กิริยามารยาท ตลอดจนวิธีการพูดจา และอาหารการกิน และเหลาหรือบุหรี่ชนิด ตางๆนั้น มักจะมีความนิยมเกิดขึ้นในราชสํานักกอน แลวแพรหลายออกไปโดยทั่ว ที่เปนเชนนี้ก็เพราะ มาตรฐานความเปนอยูของคนทั่วไปนั้น อยูในระดับดีพอที่จะไมเกิดความเคียดแคนนอยใจ ในความสุขของคน กลุมใดกลุมหนึ่ง และประการที่สอง ราชสํานักในสมัยนั้นเปนราชสํานักเปด และเปดดวยความกวางขวาง ไม จํากัดชั้นวรรณะ หรือชาติตระกูลของผูที่จะเขาไปอยูในนั้นได คนใดก็ตาม ที่ปฏิบัติตนตองพระราชอัธยาศัย หรือ มีผูใหญถวายตัว หรือฝากฝงกับคนที่ใกลชิด ก็มีโอกาสที่จะไดเขาพระราชสํานัก มีโอกาสที่จะบําเพ็ญตนให รุงเรืองตอไป โอกาสนั้นมีเทากันสําหรับคนทุกคน ไมวาบุคคลนั้นจะเกิดมาเปนเจานายในราชตระกูล หรือเปน ยาจกเข็ญใจ สิ่งที่เลื่องลือพูดถึงกันอยูทั่วไป ก็คือพระราชหฤทัยอันเต็มไปดวยพระเมตตา เผื่อผแกคนทั้งปวง ใครที่มี ทุกขใครที่ขาดแคลน ถาหากแสดงความทุกขความขาดแคลนนั้น ใหถึงพระเนตรพระกรรณ จะตองไดรับพระ มหากรุณาธิคุณแทนทุกคนไป ทุกวันจะตองมีขาววา คนโนนไดรับพระราชทานที่ คนนั้นไดรับพระราชทานบาน คนนี้ไดรับพระราชทานเงิน หรือของมีคาอื่น "ในหลวงแผนดินนี้ทานเหมือนพระเวสสันดรดีๆนี่เอง คุณเปรม" พลอยปรารภขึ้นกับสามีวันหนึ่ง "ยิ่งกวากระเวสสันดรเสียอีก แมพลอย" คุณเปรมตอบ "พระเวสสันดรทานใหเฉพาะแตของที่ทานมี แต เจานายของฉันบางทีทานก็พระราชทาน ทั้งที่ทานยังไมมีดวยซ้ําไป ฉันเคยเห็นคนเขาขอพระราชทานเงิน แต เงินที่เขาขอนั้นมากไป เงินที่มีอยูไมพอ เลยตองพระราชทานใหเขาเปนงวดๆ เหมือนกับใชหนี้จนครบ ตามที่ ขอ" คุณเปรมหยุดนิ่งครูหนึ่งแลวพูดตอไปวา "ฉันเห็นน้ําพระทัยทานแลว เลยขอพระราชทานอะไรไมลง แต แรกเคยนึกวาจะถวายตาอั้น ใหเปนนักเรียนทุกสวนพระองค ถาฉันขอก็คงจะได แตคิดไปก็ไมขอละ ฉันสงสาร ทาน คนอื่นๆที่ไดรับพระมหากรุณา เขากินอยูกันฟุมเฟอยไมตองอนาทรรอนใจ แตพระองคทานเองเสียอีก ทรง อยูอยางงายๆ ลําพังแตพระองคเองก็หมดเปลืองไมเทาไร เสวยก็นิดๆหนอยๆ เครื่องตนเย็นๆ ชืดๆ ไมเปนรส สนับเพลาบางทีก็ขาด บางทีก็ทรงภูษาแดงผืนเดียว ประทับทรงพระอักษา เขาตั้งน้ําบารเลยไวถวยหนึ่ง น้ํายา อุทัยถวยหนึ่ง ก็เสวยไปจนหมด ไมเห็นเรียกรองอะไร ฉันคิดๆดูแลวเห็นวา รายจายสวนพระองคแทๆนั้น ขนาดฉันก็ถวายได ไมแพงเกินกวาที่จะรับเปนอุปฐากพระองคหนึ่งเลย" เรื่องตางๆ ที่เกี่ยวกับพระราชจริยาวัตร และพระราชอัธยาศัยของพระเจาอยูหัวแผนดินนี้นั้น พลอยไดรู จากปากคุณเปรมเปนสวนมาก และทุกครั้งที่คุณเปรมพูดถึงก็พูดดวยความนิยม และความเคารพเลื่อมใส โดย สุจริตใจ คุณเปรมไมเคยวิพากษวิจารณสิ่งที่ตนไดรูไดเห็นมานั้น ในทางที่จะเสื่อมเสียพระเกียรติยศ แมแตครั้ง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy208.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๘

Page 5 of 6

เดียว พลอยเคยถามคุณเปรมวา ระหวางแผนดินนี้กับแผนดินกอนคือพระพุทธเจาหลวงนั้น คุณเปรมมีความ เห็นอยางไร คุณเปรมก็ตอบวา "เรื่องนี้พูดยากเสียจริงๆ แมพลอย แผนดินกอนนั้นฉันเกิดมาในแผนดินของทาน พอลืมตาขึ้นมา ก็เห็น ทานเปนพระเจาแผนดินอยูแลว รูสึกวาทานเปนผูใหญเหลือเกิน มีแตความเกรงกลัวเสียเปนที่สุดที่แลว และเห็น วาตัวเองเปนเด็ก ที่ไมมีความสําคัญอะไรเลยอยูจนสิ้นแผนดิน ถาจะเปรียบไปในเวลานั้น ก็เหมือนคนที่ยังอยูใน ออมอกพอแม ยังไมไดออกจากบานไปปกครองตัวเอง แตแผนดินนี้ฉันเคยเห็นทานมา ตั้งแตทรงเปนทูล กระหมอม โตแลวก็เปนสมเด็จพระบรมฯ จนไดเสด็จขึ้นเสวยราชย ความรูสึกที่วาทานเปนผูใหญ อยูสูงสุดเอื้อม นั้นก็ไมมี จะเพ็ดทูลสิ่งไรก็ไมถึงกับประหมา กลัวเกรงจนสั่นไปทั้งตัวอยางแตกอน มีความเคารพตรงที่วาทาน เปนลูกของเจานาย และในฐานะที่ทานเปนพระเจาแผนดินเปนเจาชีวิต มีความกตัญู ที่วาเชื้อสายของทาน ได ปกครองชุบเลี้ยงใหพอแมของเรา มีความสุขความเจริญมาแตกอน แตพอไดรับราชการนานไป ยิ่งไดเห็นไดใกล ชิด ก็ยิ่งทั้งรักทั้งบูชาทานอยางอธิบายไมถูก อยางแผนดินกอนก็ใชวา ฉันไมรักทาน แตถาใครถามก็ตอบได ทันทีวารักทานอยางพอ แตวามากกวาพอตัวจริงๆ เมื่อสวรรคตฉันก็เสียใจ เหมือนกับวาเดือนตะวันดับไป แลวจะไมมีวันโผลขึ้นมาอีก แตแผนดินนี้ฉันอธิบายไดยาก ใจหนึ่งนั้นเคารพเลื่อมใส เสียเปนที่สุด เพราะทาน เปนคนดีคนฉลาด มีความรูกวางขวางมากกวาใครทั้งหมดที่ฉันไดเคยเห็นมา ความนับถืออยางนี้ จะเปรียบกับ ความนับถือครูบาอาจารยก็ไมได เพราะความรูที่ครูบาอาจารยให เปนแตบางอยางแลวก็มีหมดมีสิ้น แตความรู ที่ฉันไดจากทานนั้น กวางขวางเกินที่จะประมาณไมมีวันหมด และไมมีที่จะทันทานได สวนความรักที่ฉันมีตอ ทานนั้น ยิ่งอธิบายยากไปใหญ บางเวลาฉันรักทาน อยางไมเคยรักอะไรมาแตกอน รูสึกวาความรักทั้งหมดที่มี ตอบานเมือง ตลอดจนลูกเมียญาติวงศไปรวมอยู ที่ทานพระองคเดียว ทานจะทรงใชใหทําอะไร ฉันก็ทําถวายได แมแตชีวิตก็ถวายได เพราะความที่ฉันรักทานเชนนี้ และเพราะความรักอันนี้อีกนะแหละ ที่ทําใหฉันมีความ กระตือรือรนอยากทําดี อยากทําประโยชนใหแกบานเมือง อยากหาวิชาความรูใสตัว ใหสมกับที่ไดเปนขาของ ทาน แตบางเวลาทานทรงแสดงน้ําพระทัยออกมา บางอยางใหเห็น ฉันก็รักทานและเห็นพระทัยสงสาร เหมือน กับเวลาที่เรานึกรักพี่นองคนรูจักที่ใจดีเจตนาดี แตมีคนอื่นเขาถือโอกาสเอารัดเอาเปรียบ และเจาตัวก็ไมรูทัน เพราะเจตนาดีของตัวเองนั้น บดบังมิใหเห็น ความชั่วของคนอื่น เวลาที่รูสึกเชนนี้ก็สงสารทานใจจะขาด อยาก จะเขาไปปกปองคุมครองทาน เหมือนกับวาทานเปนเด็กๆ ที่ถูกคนอื่นรังแก แตก็มีบางเวลา บางเวลาที่ทาน สบายพระทัย ตรัสเลนหัว รับสั่งคุยอยางเปนกันเองกับคนที่เฝาอยู เวลาจะทรงกระสรวล เวลาที่ทรงกรุมกริ่ม ตรัสหยอกลอใครตอใคร ฉันก็ไดแตนั่งมองดูทานแตหางๆ ดูเทาไรก็ไมจืด ทานชางนารักนาเอ็นดูจับจิตจับใจเสีย จริงๆ ในเวลาอยางนี้ ฉันก็รักทาน หลงทาน เหมือนกับรักผูหญิง ไดพบไดเห็นทานในเวลาเชนนั้นก็มีแตความ ชื่นใจ สรุปความแลว ในหลวงแผนดินนี้ ทานมิใชคนธรรมดาสามัญ ที่ใครไดพบเห็นแลวจะเกิดแตอารมณอยาง เดียวเปนประจํา แตทุกคนจะตองเกิดอารมณตางๆ อยางรุนแรงหมุนเวียนเปลี่ยนไป ไมมีที่สุดที่สิ้น ฉันไมเคย พบเคยเห็นคนอื่น ที่เปนอยางนี้ นี่พูดกันตามความเปนจริง อยางแมพลอยนี่ฉันก็รัก และรักมาเทาไรแมพลอยก็ ตองรู แตสําหรับแมพลอยฉันรักอยางเดียว คงเสนคงวาตลอดมา เปนอารมณรักอยางเดียวไมมีเปลี่ยน ถึงจะ มากขึ้น ก็เปนอารมณรักอันเดิมนั้นเอง ผิดกับที่ฉันรูสึกตอทาน" "คุณเปรมเคยกลัวทานหรือไม" พลอยถาม "จะวากลัวก็กลัวเสียเปนที่สุด" คุณเปรมตอบ "แตความกลัวเกรงที่ฉันรูสึกนั้นก็แปลกอีก แตแรกนั้น ฉัน กลัวทานมาก เวลาไมพอพระทัย พระโลหิตขึ้นตามพระนลาฏเหนือพระขนงแดงขึ้นมา ฉันใจคอไมดีเลย ยิ่งเวลา เหลือบพระเนตรเขียวปดมาทางเรา ฉันแทบจะมุดแผนดินหนี แตฉันมานึกๆดูก็รูตัววาความจริง ฉันไมไดกลัว ทานหรอก ฉันกลัวสมเด็จพระพันปที่อยูในพระองคทานเห็นจะถูกกวา เพราะทานเหมือนกันเหลือเกิน ในบาง เวลา แตตอมาฉันก็เลยกลัวจริงๆ จะเรียกวากลัวก็ไมได เรียกวาเกรงจะถูกกวา เพราะคนที่ถูกกริ้ว ก็มักจะผิด จริงๆ ใชวาทานจะกริ้วไปตามเรื่องก็เปลา ยิ่งเวลาออกงานออกการมีผูคนมาก ทานไมกริ้วใหใครเห็นเลย ใครทํา อะไรผิดก็ทอดพระเนตรมองยิ้ม แลวกลับมาขางในจึงจะกริ้ว และถาลงไดกริ้ว แลวเปนกริ้วใหญทีเดียว แตฉันก็ เห็นพระทัยทาน ตรงที่ทานอุตสาหไวหนาเรา ไมกริ้วใหคนขางนอกไดยิน ซึ่งถาหากทานจะทําจริงๆ ก็ทรงทําได ก็เมื่อทานอุตสาหอดทนเก็บเขามากริ้วถึงขางใน ไมใหเราตองเสียเหลี่ยมอับอายขายหนาเขา ฉันก็ถือวา ทานกริ้วเพราะทานอยากใหเราดี เมื่อกริ้วแลวก็แลวกันไป เราก็ควรจะทําจดจําไว ไมใหตองเดือดรอนพระทัยอีก ดวยเหตุอยางนี้ ฉันจึงไดเกรงทานมาก ถาหากวาทานไมเปนอยางนี้ แตกริ้วแหวหวาอยูตลอดเวลา ก็จะเปน เรื่องธรรมดาไป ฉันก็คงไมกลัวเกรงเทาไรนัก" พลอยไดยินถอยคําของคุณเปรมแลวก็พอจะเขาใจไดวา เพราะเหตุใดตั้งแตผลัดแผนดินมาจนถึงบัดนี้ คุณเปรมจึงไดเปลี่ยนไปมาก จนเกือบจะเรียกไดวาเปนคนละคน และแมแตการเปลี่ยนแปลงตางๆ ที่พลอยเห็น อยูทั่วไปในแผนดินนั้น ก็เปนเพรามูลเหตุสําคัญนั้นเปลี่ยนไป เปนเรื่องของความแตกตางอยางสําคัญ ใน ระหวางแผนดินทั้งสอง วันหนึ่งชอยออกมาเยี่ยมที่บาน หอบขนมและของกินตางๆ ที่จะหาไดเฉพาะแตในวังมาฝากเต็มตะกรา ชอยมาคุยที่บานเมื่อใด วันนั้นก็เปนวันที่พลอยรูสึกสนุกสบายใจเปนพิเศษ เพราะชอยมักจะมีขาวแปลกๆ และ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy208.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๘

Page 6 of 6

ความเห็นแปลกๆ มาเลาใหพลอยฟงเสมอ คราวนี้พลอยก็มิไดพลาดหวังที่จะไดรูเรื่องแปลกๆ เพราะเมื่อไดคุย กันดวยเรื่องทุกขสุขธรรมดาอยูพักใหญๆ ชอยก็พูดขึ้นวา "พลอย คุณเปรมของพลอยนี่ เมื่อเปนคุณพระขึ้นมาแลว เปลี่ยนไปอยางไรบางหรือเปลา" "ก็ไมเห็นเปลี่ยนไปอยางไรนี่ชอย" พลอยตอบ "ทําไมถึงเพิ่งมาถาม" "ฉันอยากรูวา ผูชายเขาเปนอยางไรเมื่อเปนคุณพระ" ชอยตอบหนาตาเฉย "เพราะเดี๋ยวนี้ ผูหญิงก็เปน คุณพระได เผื่อฉันไดเปนพระเปนพระยาขึ้นมาบาง จะไดทําตัวถูก" "ไฮ ! ชอยเอาอะไรมาพูด" พลอยรองอยางไมเชื่อ "ชอยนี่ยังไมมันแกเทาไหร ก็ชักจะหลงจนเลอะ ไปเสีย แลว ผูหญิงที่ไหนจะเปนพระเปนพระยาได ฉันเคยเห็นแตเปนคุณเฒาแกหรือเปนทาวนาง คนธรรมดา อยางสูง ก็เปนคุณหญิงหรือเปนทานผูหญิง หรือมิฉะนั้นก็เปนเจาจอมหมอมหาม ผูหญิงที่ไหนจะเปนพระ เปนพระยา ฉันไมเชื่อหรอก" "อาว ! บอกใหจริงๆ กลับไมเชื่อ" ชอยหัวเราะ "เดี๋ยวนี้มีคุณพระเปนผูหญิงตั้งสองคนแลวละ" แลวชอยก็ เลาขอเท็จจริง ที่ไดโปรดเกลาฯ ตั้งใหสุภาพสตรีคนใดเปน "คุณพระ" และมีราชทินนามวาอยางไรบาง "แลวทําหนาที่ราชการอะไรเลาชอย" พลอยถามเพราะยังไมเขาใจอยูนั่นเอง "ทําราชการอยางผูชาย ธรรมดา งั้นหรือ" "ไมใชหรอก คนละอยาง" ชอยตอบ "ถาจะเรียกอยางสมัยเรา ก็เห็นจะเปนเจาจอมกระมัง" "แลวทําไมทานไมเรียกวาเจาจอม ทําไมจะตองตั้งเปนคุณพระ ฉันกระดากปากเรียกไมคอยลง" ชอยหัวเราะแลวก็พูดวา "แมพลอยนี่ก็ลาสมัยอยูไมมีวันสราง ฉันอยูกับคนโบราณทุกวันเสียอีก ยังสมัย ใหมกวา สมัยนี้ทานโปรดใคร ก็โปรดจริงๆไมเหมือนแตกอน ทานก็ตองยกยองของทานใหสูงเปนพิเศษ อยาง เจาจอมที่เคยรูจักนั้นมามากดาดดื่น และฟงดูมันคร่ําครึลาสมัย สมัยนี้จึงตองตั้งใหเปนคุณพระ ใหฟงดูผิดกวา แตกอน และบางทีเมื่อเริ่มมีคุณพระแลว จะเปนอะไรตอไปก็ได ถาเปนเจาจอมอยางแตกอนแลว ก็ตายตัว อยาง ดีก็เปนเพียงเจาจอมมารดา ไมมีทางจะรุงเรืองไปกวานั้นได" "ฉันไมคอยเขาใจหรอกชอย" พลอยพูดอยางออนใจ "ทานจะตั้งใครเปนอะไรก็ชางเถิด แลวเสด็จของชอย เปนอยางไรละ" "ทานก็อยูอยางนั้นนะแหละ" ชอยวา "อาว ก็ไหนฉันเคยไดยินเขาวาสมัยนี้ทานจะมีแตองคเดียว..." พลอยพูดอยางสงสัย "ฉันก็ไมรูเหมือนกัน" ชอยตอบ "เคยไดยินวาอยางนั้น แตเดี๋ยวนี้ดูจะงอกเงยมากขึ้นเสียแลว ดูๆไปก็ทํา ทาเหมือนจะหันไปหาแบบเกา ซึ่งฉันก็เห็นวาดีเหมือนกัน รั้ววังจะไดครึกครื้นขึ้น เดี๋ยวนี้เงียบเหงา เหมือน ปาชา นากลัวจะตายไป" ตั้งแตชอยมาเกริ่นขาวไวแตวันนั้นเปนตนมา พลอยก็ไดยินขาวเกี่ยวกับขางในของแผนดินใหมอยูเรื่อยๆ จากหลายกระแส แตละคนที่มาบอกขาวมักจะพูดดวยเสียงกระซิบ และก็มักจะพูดไปในทํานองตื่นเตน ขาวนั้น เกี่ยวกับคนนั้นขึ้นคนนี้ตก ขาวทรงพระคครรภ ขาวทรงสถาปนาพระยศพระวรราชชายา แลวก็เลื่อนขึ้นไปจน ถึงพระบรมราชินี ระยะเวลานั้นก็ลวงเลยไปเรื่อยๆ วันเดือนปผานไปไมมีหยุดยั้ง ตาอั้นเขาเรียนกฎหมายที่ ฝรั่งเศส สอบไดปแรกแลว อีกราวๆสองป ก็จะเรียนสําเร็จกลับบาน ตาออดเรียนจบโรงเรียนที่อังกฤษ และจะได เขาเรียนตอที่มหาวิทยาลัยตอไป สวนตาอนนั้นเหลืออีกไมกี่เดือน ก็จะจบโรงเรียนนายรอยออกเปนทหาร ประไพนั้นก็เริ่มจะแตกเนื้อสาวขึ้นมาทุกวัน ทําใหพลอยตองมองดู ดวยความเปนหวง วันหนึ่งพลอยนั่งสางผมอยูที่หนากระจกในตอนเชา หลังจากที่ไดอาบน้ําแลว ตาเหลือบไปเห็นอะไร ขาวๆ ติดอยูที่ศีรษะ พอยื่นหนาเขาไปมองใกลๆกระจก และเอามือหยิบออกมาดู เมื่อเห็นแลวพลอยก็วางหวี และนั่งมองหนาตัวเองอยูอีกนาน เพราะสิ่งที่เห็นนั้นเปนผมของตัวเองที่หงอกอยูสองเสน ติดอยูกับผิวหนัง สูง กวาขมับขางขวาเล็กนอย ผมหงอกเพียงสองเสนนั้นเปนสิ่งที่ไมสําคัญเลย แตก็เปนสัญญาณอันแรก ที่พลอยได รับ แสดงถึงความชราที่กาวยางเขามาสูตนอยูทุกขณะจิต พลอยไดเห็นแลวก็อดใจหายมิได และรูสึกตัวทันทีวา ตั้งแตบัดนี้เปนตนไป ทางเดินแหงชีวิตของตนนั้นจะเปนทางเดินลง มากกวาที่จะเปนทางเดินขึ้น พลอยหวีผม เสร็จแลว ก็เลือกสีเสื้อผาที่จะหยิบมานุงในวันนั้น ดวยความระมัดระวังเปนพิเศษ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy208.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๙ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๒ บทที่ ๙ (หนาที่ ๑) ปญหาเกี่ยวกับวิชาชีพที่ตาออดควรจะเรียนเมื่อเสร็จโรงเรียนธรรมดาแลวนั้น เปนปญหาที่คุณเปรม และ พลอยตองปรึกษาหารือ ถกเถียงกันอยูหลายวัน "จะใหเปนทหารไมได" คุณเปรมพูดขึ้น "เพราะอนเขาเปนอยูคนหนึ่งแลว ฉันมีลูกไวเปนทหารคนเดียว ก็คงจะพอ" "ถูกแลวคุณเปรม" พลอยตอบ "ถึงแมจะไมมีตาอนเปนทหาร คุณเปรมจะใหตาออดเปนแทนก็คงจะไม สําเร็จ คนอยางตาออดแกไมมีทาทาง หรือนิสัยวาจะเปนทหารไดเสียเลย" "เรื่องนั้นก็ชางเถิด ถาใหแกเปนจริงๆ แกก็คงจะเปนไปกับเขาได" คุณเปรมพูดแลวก็พูดตอไป หลังจาก นึกอยูครูหนึ่ง "จะใหเรียนกฎหมายอีกคน ก็จะไปซ้ํากับตาอั้น...เอ ! จะใหเรียนอะไรดีลูกคนนี้" "ทําไมคุณเปรมไมถามเจาตัวเขาดูเอง" พลอยแนะขึ้น "ก็ดีเหมือนกัน" คุณเปรมตอบ "แตฉันไมคอยไวใจเลยลูกคนนี้ ความคิดมันแปลกๆ ไมเหมือนกับคนอื่น เดี๋ยวมันไปเลือกเรียนวิชาวิตถาร พิลึกพิลั่นเขามา จะเลยทํามาหากินไมได จะพาพอแมตองลําบากไปดวย แต แมพลอยจะลองถามดูกอนก็ได แลวอยางไรบอกใหฉันรูทีหลัง" เมื่อพลอยมีหนังสือไปถามความสมัครใจตาออดวาจะเรียนวิชาอะไรตอไป ในที่สุดพลอยก็ไดรับตอบ กลับมาวา "แมที่รักของลูก เรื่องวิชาของลูกที่แมถามมานั้น แตแรกลูกเองก็ยังไมไดคิด เพราะนึกวาทางบานจะบอกมา แมก็คงจะรูดี แลววา ในเรื่องคิดอะไรตออะไร สําหรับกาลขางหนา ลูกเปนที่พึ่งแกตัวไมไดเลย ไมเหมือนพี่อนกับพี่อั้น ซึ่งเขา รูตัวเขามาแตยังเปนเด็กวาเขาอยากเปนอะไร สําหรับลูกเองนั้น รูแตเพียงวาอยากเปนลูกของแมไปตลอด อยากอยูใกลๆแม และถาทําไดอยางนั้นลูกก็คงไมอยากจะทําอะไรอีก แตคุณพอทานคงไมยอม เพราะฉะนั้นเมื่อ ไดรับจดหมายของแมแลว ลูกจึงตองใชความคิดอยางมากมาย กวาที่เคยไดใชมาแตกอน คิดเทาไรก็คิดไมออก ลูกนั่งคิดนอนคิดอยูตั้งหลายวันก็คิดไมออก ในที่สุดลูกก็ตั้งปญหาถามตัวเองวา ที่มาเมืองนอกกับเขาคราวนี้มา เรียนอะไรกัน และในทันใดนั้นก็มีเสียง เหมือนกับใครมาตอบใหดังๆวา "มาเรียนหนังสือ" เทานั้นเองลูกก็มอง เห็นทางขางหนาไปโดยแจมใสไดตลอด ขอใหแมบอกคุณพอดวยวา ลูกตกลงใจที่จะขึ้นมหาวิทยาลัยไป "เรียน หนังสือ" ถาทาไมพอใจในคํานี้ แมก็บอกทานก็แลวกัน วาลูกสมัครใจเรียนอักษรศาสตร ฝรั่งเขาเรียกวา Literature เปนวิชาเกี่ยวกับ การอานๆเขียนๆหนังสือ คนทางนี้เขาเห็นวายากพอดู แตก็เห็นจะไมเปนไร เพราะ ลูกชอบทางนี้อยูแลว" เมื่อพลอยไดรับหนังสือตอบจากตาออด ก็บอกใหคุณเปรมทราบตามที่ตาออดสั่ง คุณเปรมไดยินแลว ก็ เลิกคิ้วพูดขึ้นวา "ฉันวาแลวไหมละ วาลูกคนนี้ไมเหมือนคนอื่น มีอยางรึ จะไปเรียนหนังสือเขียนๆอานๆ กลับมาจะไป เปนอะไรได นอกจากเสมียน" "ตาออดวาจะขึ้นไปเรียนถึงมหาวิทยาลัย" พลอยพูดขึ้น "ฉันก็ไมคอยจะรูเรื่องหรอก แตคุณเปรมเปนคน บอกฉันเองวา ที่นั่นเขาสอนวิชาชั้นสูงเปนยอดเยี่ยม บางทีหนังสือที่ตาออดแกจะไปเรียน จะสูงกวาหนังสือชั้น เสมียนกระมัง เขาเรียกวาอักษรศาสตรหรืออะไรศาสตรก็ไมรู มีภาษาฝรั่งกํากับมาดวย ฉันเองก็อานไมออก แต ฟงดูมันก็ขรุขระดีอยู" พลอยพูดพลางยื่นหนังสือตาออด ใหคุณเปรมดูตรงที่เขียนภาษาอังกฤษไว คุณเปรมรับไปดูแลวก็ถอนใจใหญพูดวา "อือ ! ฟงความลูกคนนี้ ดูมันจะรักความสบายมากกวาอยางอื่น ถึงความรูจะสูงอยางไร แตถานั่งอยูกับ หนังสือวันยังค่ํา มันก็จะเอาสบายอยูนั่นเอง กลับมาฉันก็นึกไมออกวา จะใหไปทํางานกระทรวงไหน" "คุณเปรม" พลอยพูดขึ้นเหมือนอยางกับเพิ่งนึกอะไรออก "เวลาตาออดกลับมาแลว ทําไมคุณเปรมไมเอา ไว ที่กระทรวงวังใกลๆกับคุณเปรมสักคน จะไดแทนตัวคุณเปรมเมื่อแกแลว" "ที่กระทรวงฉันตองฝกฝนอบรมมาแตเด็ก ถาตาออดจะอยูกระทรวงวังก็ควรจะเขาเสียแตแรก ไมควรจะ ไปเมืองนอกใหเสียเวลา เสียเงินเสียทอง" คุณเปรมตอบอยางไมเห็นดวย "คุณเปรมอยาเพิ่งประมาทเด็ก" พลอยแกแทน "คุณเปรมเคยบอกกับฉันวา ในหลวงทานโปรดทรงพระ อักษรมิใชหรือ"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy209.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๙ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 4

"ถูกแลว ฉันพูดเอง" คุณเปรมยืนยัน "แลวยังไง" "อาว คุณเปรมก็" พลอยพูดอยางพอใจที่เหตุผลของตนใชได "แมแตในหลวงทานโปรดอะไรเล็กๆนอยๆ คุณเปรมยังทําตาม เพียงแตทานโปรดใหผูหญิงนุงผาซิ่น คุณเปรมยังมาสั่งใหฉันนุง ก็ในหลวงทานโปรด ทรง พระอักษรมากกวาอยางอื่น เทาที่ฉันรูมา คุณเปรมจะถวายลูกที่รูหนังสือดีๆ ใหทานทรงใชสักคน ไมไดเทียว หรือ ฉันวาถาตาออดเขาทําราชการถูกชองดีๆ ก็อาจจะดีกวาคนอื่นเสียอีกในทางนี้ แลวก็จะเปนเกียรติยศแก คุณเปรมเอง วาไดสนองพระเดชพระคุณทาน สงลูกไปเรียนมาใหทานใชได" คุณเปรมเปลี่ยนสีหนาไปทันที เมื่อไดยินคําพูดของพลอย ในนัยนตาคุณเปรมดูเหมือนจะมีแววแหง ความเลื่อมใส ในปฏิภาณและความคิดของพลอยปรากฏอยูเห็นไดชัด คุณเปรมหัวเราะแลวพูดขึ้นวา "นี่แมพลอยพูดจริงๆ หรือพูดเพราะอยากจะเขาขางลูก" "ก็ดวยกันทั้งสองอยางแหละคุณเปรม" พลอยหัวเราะตอบ "ฉันวาแมพลอยพูดเขาขางลูกก็จริง แตก็มีอะไรอยูในนั้นมาก ฉันยิ่งคิดไปก็ยิ่งเห็นดีดวย เอาเถิดเปน อันตกลง แมพลอยชวยบอกตาออดทีวาฉันไมขัดของ" หลังจากที่คุณเปรมไดตกลงใหความเห็นชอบ และพลอยไดตอบตาออดไปแลว ตาออดก็เงียบไปพักหนึ่ง แตในที่สุดก็เขียนมาบอกวา ตนไดเขารับการศึกษาที่มหาวิทยาลับแลว ตาออดเขียนมาเลาใหฟงวา "การเลาเรียนที่มหาวิทยาลัย และที่โรงเรียนนั้นผิดกันราวกับหนามือและหลังมือทีเดียว เมื่ออยูโรงเรียน นั้น เขาปกครองอยางเด็กๆ ไมมีเวลาที่จะปลอยใหเปนตัวของตัวเอง หรือใหทําอะไรตามใจตัวเองได การกระทํา ทุกอยางนั้น เปนไปตามขอบังคับและตามเวลาที่เขากําหนดใหทํา แตพอขึ้นมาอยูที่มหาวิทยาลัย เขาก็เริ่มเลี้ยง เราอยางผูใหญทันที มีหองนอนหองนั่งเลนจัดไวใหเฉพาะ และมีบาวประจําคนหนึ่ง การเรียนนั้นมีอาจารยคอย ควบคุม แตเขาก็ควบคุมอยางผูใหญดวยกัน เปนแตเพียงแนะนําวา ควรจะอานหนังสืออะไรบาง ควรจะฟง Lecture ที่ไหนบาง เมื่อเขาแนะนําแลวเราจะทําก็ได หรือไมทําก็ไดสุดแลวแตตัวเราเปนใหญ การเลนกีฬาตางๆ ก็เชนเดียวกัน สุดแลวแตความสมัครใจ ไมมีใครบังคับ ลูกขึ้นมาจากโรงเรียนใหมๆ ยังเปนเด็กเต็มที ตอนแรก รูสึกขลุกขลักเอาการอยู เพราะยังทําเปนผูใหญไมเปน เมื่อขึ้นไปใหมๆ พบตาแกเฝาประตูวิทยาลัยที่ลูกอยู เห็น แกภูมิฐานดี ไปพูดจาขอรับขอรองกับแกอยูนาน จนแกตองหามบอกวาเปนเรื่องของแก จะตองพูดขอรับกับเรา เราจะไปพูดกับแกไมได เพราะเราอยูในฐานะเปนนายแกอีกทีหนึ่ง ทีแรกลูกก็นึกอายเห็นวาตัวเองไปทําหาแตม เขาไว แตเจาคนใชประจําหองที่อยู เขาจะไปรูมาจากไหนก็ไมทราบได เขาเลยมาอธิบายใหฟงวาไมตองวิตก อะไร เพราะการทําเปนที่นี่นั้นเขาทํากันเปนประจํา ถึงตนปมีคนขึ้นมาอยูใหมทีหนึ่ง ก็ตองมีคนขึ้นมาทําอะไร เปนๆ ทุกครั้งไป และไมใชทําคนเดียว แตทํากันเปนรอยๆ คนใชที่เขาใหอยูประจําหองนี้ มีหนาที่ทําที่นอนทําความสะอาดหอง เอาเสื้อผาไปซักรีด ตั้งอาหารเชา และตั้งน้ําชาตอนบาย ถาเรามีแขกมากินขาวมื้ออื่นๆในหอง เชนกลางวันหรืออาหารกลางคืน แกก็รับใชเดินโตะ ใหเสร็จ ถาหากวาจะกินขาวค่ําเปนการเต็มยศ แตงอกแข็งตามธรรมเนียมอังกฤษ อีตาคนใชคนแกก็แตงอกแข็ง มาเดินโตะใหถูกเรื่องกัน แตเพียงเทานี้แมก็จะเห็นวาแกมีประโยชนหนักหนาอยูแลว แตถาจะวาไปแลว ประโยชนของแกยังมีอีกมากมาย เพราะแกเปนคนคอยแนะนําใหความเห็นวา เราควรจะทําอะไรบาง และควร จะทําเมื่อใดเวลาใด ตลอดจนคอยบอกระเบียบประเพณีตางๆ ที่เขาถือกันอยูในมหาวิทยาลัยนี้ วิธีที่แกใหคํา แนะนํานั้นก็ทําอยางเรียบรอย ไมทําใหเราเห็นวาแกทะลึ่ง สวนมากแกจะไมพูดจนกวาเราจะถาม แตบางทีแกก็ พูดจาเปรียบเปรย เอาเรื่องของคนอื่นมาเลาเปนตัวอยาง จนเราเขาใจวาแกไมอยากเห็นเราทําเชนนั้น แกคอย สอดสองดูแลแมแตการเรียนหนังสือ การเลนกีฬา และการแตงตัว เปนตนวาในกลางคืนแกก็หยิบหนังสือมาวาง ไวใหที่โตะ จุดตะเกียงอานหนังสือไวให และคอยเดินกรายไปมา จนกวาลูกจะนั่งลงดูหนังสือแกจึงจะกลับ ที่ โรงเรียนเกาของลูกนั้นอยูไกลแมน้ํา จึงไมมีตีกรรเชียงเรือแขง แตพอขึ้นมาอยูมหาวิทยาลัย เห็นเขาตีกรรเชียง กันมาก ลูกก็อยากจะลองบาง แกก็ดีใจสนับสนุนใหความรูเกี่ยวกับเรื่องนี้ไดดีกวาคนอื่น ลูกมารูทีหลังวาแกเปน นักกรรเชียงที่เกงที่สุด ในหมูคนใชของมหาวิทยาลัย เวลาลูกจะไปไหนที่มีการงาน ถาบอกใหแกรูแกก็เตรียม เสื้อผาที่จะแตงไวให ถาไปเปลี่ยนของแกแมแตชั้นเดียว แกก็แสดงความเสียใจที่ผิดพลาด ขอโทษขอโพยจนเรา รูวาแกนอยใจ แตในที่สุดลูกก็รูวาที่แกเตรียมไวใหนั้น ถูกกาลเทศะดีกวาอยางอื่น ถาแตงของแกครบชุดก็เปน อันแนใจไดวา ไมมีผิดพลาด แมอาจยังไมรูวาในเมืองอังกฤษนั้น เขามีภาษาสองภาษา สําเนียงตางกันมาก คือ เปนภาษาผูดีพูดภาษาหนึ่ง ภาษากุยพูดอีกภาษาหนึ่ง ภาษากุยนั้นถาไดยินตอนแรกแทบจะฟงไมออกทีเดียว ตอเมื่อคุนแลวจึงจะเขาใจไดบาง ในเมืองไทยเราถาคนไทยจะพูดดวยสําเนียงที่ผิดเพี้ยนกัน ก็เปนเพราะอยูหาง ตางทองที่กัน แตในเมืองอังกฤษนั้น ถึงแมวาจะอยูบานติดๆกัน แตถาเปนคนตางชั้นเขาก็ยังพูดภาษาคนละ ภาษา คนใชประจําหองที่ลูกพูดถึงนั้น เวลาแกพูดกับเราพวกนักเรียนมหาวิทยาลัย แกก็พูดภาษาผูดี สําเนียง แกเพราะกวาผูดีบางคนที่ลูกรูจักเสียอีก แตลูกเคยไดยินแกพูดกับพวกคนใชดวยกัน แกก็กลับไปใช ภาษากุยไม มีสําเนียงผูดีติดเลย อยางนี้ลูกเห็นวาแปลกมาก เพราะเขาตั้งใจรักษาของที่เปนของเขา อยูคงเสนคงวา ไมยอม ทิ้งเสียงายๆ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy209.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๙ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 4

การเลาเรียนที่มหาวิทยาลัยนี้ ขอแมอยาไดเขาใจวาลูกอุตสาหขามน้ําขามทะเลมา เพื่อเรียนความรู จาก บาวฝรั่ง ที่เลามาใหฟงก็เพราะเห็นวามันแปลกดี แตการหาวิชาความรูที่นี่ เปนเรื่องที่เราจะตองหาเอาเอง ไมมี ใครมาคอยจําจี้จ้ําไชถายทอดความรูให ถาเราอยากไดความรู จากหนังสือตํารับตํารา เขาก็มีไวใหพรอม ถาจะ ลงนั่งอานกันจริงๆ อีกสามสี่รอยปก็อานไมหมด แตลูกเห็นวาแหลงความรูอันสําคัญที่จะหาไดที่นี่ ก็คือการได เขาสมาคมกับคนฉลาด ไดพบปะพูดจาและถกเถียงแลกเปลี่ยนความรูกัน สิ่งเหลานี้หาจากตํารับตํารา ที่ไหนไม ได จะหาไดในมหาวิทยาลัยเทานั้น เพราะมหาวิทยาลัยนั้นเปนที่ชุมนุมคนฉลาด คนมีความรู เอามาไวใกลๆกัน เรามีโอกาสเขาหาพบปะกันไดงาย ถาไมเขามหาวิทยาลัยโอกาสนี้ก็ไมมี เพราะฉะนั้นจึงนับวาเปนบุญของลูก ที่ ไดเขามาอยูในที่นี้ ทําใหเห็นโลกกวางขวางขึ้นกวาแตกอนมาก ลูกรูสึกดีใจอยูอีกอยางหนึ่งก็คือ การเขาเรียนมหาวิทยาลัยนี้นับวา เปนการศึกษาขั้นสุดทาย ตามหลัก สูตรของเขานั้นสามปก็จะเสร็จ ลูกเขามาอยูไดเกือบครึ่งปแลว ฉะนั้นในราวๆสองปครึ่ง ลูกก็จะเรียนเสร็จไดกลับ ไปอยูกับแมอยางเกา เมื่อนึกถึงอยางนี้ลูกก็สบายใจมาก เพราะลูกจากแมมา เกือบจะหาปเขาแลว คิดยอนหลัง ไปดูก็ไมนานนัก ยังอีกสองปครึ่งจึงดูเร็วขึ้นมาก ลูกคิดถึงแม คิดถึงคุณพอ และคิดถึงบานอยูทุกวัน ตั้งแตแรก มาคิดถึงเทาไร เดี๋ยวนี้ก็ยังคิดถึงอยูเทานั้น พี่อั้นเขาเรียนเกินลูกไปปหนึ่ง เพราะเหตุนั้นเขาคงจะไดกลับถึงบาน กอนลูกตั้งป ลูกรูสึกอิจฉาเขามาก แตไดยินเขาพูดวาอยากจะเรียนตอไปอีก ถึงคราวเขาจริงเขาจะเรียนหรือไมก็ ไมแน ลูกนึกวาคงเปนเพราะเพื่อนฝูงเขาชักชวนกันมากกวา พี่อั้นมีเพื่อน แปลกๆที่ฝรั่งเศส เปนคนไทยที่มี ความคิดแปลกๆก็มี เปนญวนหนุมๆที่มีความคิดรุนแรงก็มี หรือมิฉะนั้น ก็เปนฝรั่งผอมๆ หัวยุงๆ ตาลึกกลวง พูดจาลึกซึ้งจนลูกฟงไมเขาใจ ลูกเคยถามพี่อั้นวาคนพวกนี้ดีอยางไร เขาจึงไดรักนับถือกันนัก พี่อั้นตอบวา คน พวกนี้มีความคิดไกล มีสายตาไกล ใหความรูควมคิดเขาไดมาก คนพวกนี้ตอไปจะมีความสําคัญมาก ลูกจะซัก ถามตอไปอีกก็เกรงใจเขา จึงไดแตนิ่งดูเขาไปกอน แมอยานึกวา ลูกเก็บเอาเรื่องของพี่มาฟอง หรือมาพูดใหแม ตองวิตกกังวลเลย แตลูกเห็นวาอยางพี่อั้นนี้ ยิ่งไดกลับบานไปอยูกับ พอแมพี่นองเสียไดเร็วเทาไร จะยิ่งดี สําหรับตัวพี่อั้นมากขึ้นเทานั้น" คุณเปรมเห็นหนังสือของตาออดฉบับนี้แลว ก็พูดขึ้นวา "แมพลอยอยาไปเก็บขี้ปากตาออดมาคิดใหยุงใจไปเลย อั้นเขาไมเปนไรหรอก เรียนหนังสือก็ดี สอบไม เคยตก อัฐฬสก็ใชไมเปลือง ตาอั้นเขาเปนคนเอาจริงเอาจัง ออดมันคงลองลอยรักแตสบาย พูดกันไมรูเรื่องเขา มันเลยเหมาวาพี่ชายฟุงซาน ใจฉันเห็นวาตาออดเสียอีกจะตองคอยดูใหดีๆ ไมคอยกดๆไวบาง จะไปกันใหญ" เมื่อคุณเปรมพูดอยางนี้พลอยก็ไดแตนิ่ง แตในความรูสึกอันแทจริงของตัวนั้น เห็นวาตาอั้นเปนลูกที่เติบ โต เปลี่ยนแปลงไป จนบางครั้งพลอยแทบจะจําไมไดวาเปนลูกคนเกา สวนตาออดนั้นยังเปนตาออดคนเดิมอยู นั่นเอง เปนลูกของพลอยคนที่พลอยรูจักดี ไมเปลี่ยนแปลงไปเลยแมแตนอย ตั้งแตลูกไปนอก พลอยก็ไดแตนั่งนับวันนะบคืนคอยใหลูกกลับ ในตอนแรกนั้นรูสึกวา เวลาชางผานไป ชาเสียนี่กระไร จะทําใจใหคุนเคยกับการที่ตองจากลูกนั้นก็ทําไดยาก ระหวางนั้นก็อาศัยจดหมาย และขาวคราว ที่มีไปมาหากัน เปนเครื่องชวยดับความกระวนกระวายใจไดบาง แตพอลูกเริ่มเขาเลาเรียน เกือบจะเสร็จ เวลา นั้นไดลวงเลยไปมากแลว พอที่จะนับวันกลับได พลอยก็เริ่มนับวันกลับของลูก และวันนั้นยิ่งใกลเขามา พลอยก็ ดูเหมือนจะมีความสุขขึ้น พลอยเริ่มเตรียมการที่จะรับลูกกลับบาน หาเสื้อผาที่นอนหมอนมุงไวให และตกลงกับ คุณเปรมวา จะแบงหองบนตึกใหลูกอยูคนละหอง ตอไปเมื่อมีเหยามีเรือน จึงจะปลูกเรือนใหอยูในบริเวณบาน ตางหาก แตกอนที่ลูกที่เมืองนอกจะกลับ ตาอนซึ่งสองไดออกเปนนายทหารก็มารายงานวา ตนจะถูกสงไปรับ ราชการกรมทหารจังหวัดอยุธยา พลอยหนาเสียลงทันทีเมื่อตาอนมาบอกขาว พอลูกที่เมืองนอกจะกลับบาน ลูก ที่อยูมาดวยกันตลอด ก็มีเหตุจําเปนจะตองจากไป พลอยไมสบายใจเลยที่ตาอนจะตองไปอยูหางไกลพอแม ปกครองตัวเองเปนอิสระ เพราะตาอนเพิ่งอายุยี่สิบ สําหรับพลอยก็ยังเห็นวาเด็กนัก "อนลูกแม !" พลอยพูดขึ้น "อนไปเสียอีกคนแลวแมจะทําอยางไรละ" ตาอนหัวเราะอยางอารมณเย็นแลวตอบวา "คุณแมพูดเสียราวกับวาลูกไปไหนไกล อนไปอยูแคอยุธยานี้เอง ขึ้นรถไฟประเดี๋ยวก็ถึง คิดถึงกัน กลับ มาหาเมื่อไรก็ได" "ถึงอยางนั้นก็เถิด" พลอยพูดแลวก็นึกถึงเรื่องเกาๆ ที่ผานไปแลวนานนักหนา สมัยหนึ่งเด็กหนุมหนาตา ดีคนหนึ่งจบโรงเรียนนายรอยออกเปนนายทหาร เด็กหนุมคนนั้นมีความหวัง มีความฝนที่พลอยรูจักดี จนเดี๋ยว นี้ก็ยังมิไดลืมสนิท แตเด็กหนุมคนนั้นตองไปอยูคนเดียวไกลจากพี่นอง ความผิดพลาดตางๆจึงเกิดขึ้นอยางที่ไม นาจะเปนไปได ทําใหความหวังและความฝนหลายอยางตองทลายลง ถาหากวาเด็กหนุมคนนั้น ไมตองไป ปกครองตัวเองตั้งแตยังอยูในวัยที่ยังเปนเด็ก บางทีเหตุการณทั้งหลายแหล ก็อาจไมเปนอยางที่ไดเปนมาแลว พลอยดูหนาตาอนแลวก็ใจหาย ถึงแมวาตาอนจะไมมีเคาหนา เหมือนเด็กหนุมคนหนึ่งเมื่อสามสิบกวาปมาแลว นั้นก็ตาม แตก็มีแววของความเปนหนุม ความปราดเปรียว อยางที่มีอยูในเด็กหนุมทุกคนโดยสมบูรณ เมื่อเด็ก หนุมคนหนึ่งตองเปนไปอยางไร เด็กหนุมอีกคนหนึ่ง ก็อาจเปนไปในลักษณะเชนเดียวกัน เพราะสิ่งแวดลอมนั้น

http://www.geocities.com/siamstory/ploy209.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๙ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 4

เปนอยางเดียวกันเปนสวนมาก จะแตกตางกันก็ที่เวลา และสถานที่ ซึ่งพลอยเห็นวาไมสําคัญนัก จะเปนเมื่อ สามสิบกวาปมาแลวหรือในปจจุบัน คนก็ยังเปนคน มีกิเลสตัณหาและความหลงผิดเทากัน และถึงจะเปน นครสวรรคหรือกรุงเกา ก็เปนตางจังหวัดดวยกัน ไกลจากพอแมพี่นอง และผูที่เจตนาดีเทาๆกัน "แมเปนหวงอนเหลือเกิน ใจจริงไมอยากจะใหไปเลย" พลอยพูดตอไป "จะทําอยางไรไดเลาคุณแม" ตาอนตอบ "เมื่อออกรับราชการ นายทานสั่งใหไปไหนก็ตองไปตามคําสั่ง เพราะลูกเปนทหารมีระเบียบวินัยบังคับอยูหลีกเลี่ยงไมได ความจริงเคราะหลูกยังดีอยูตองไปเพียงกรุงเกา เพื่อนฝูงที่เรียนมาดวยกัน เขาตองไปถึงพิษณุโลกหรือเชียงใหม ไกลกวาเปนกองเขาก็ตองไป คุณแมอยาหวง ลูกนักเลย ลูกพอที่จะเลี้ยงตัวไดแลว" พลอยตองสะดุงใจเมื่อไดยินตาอนพูด ความรูสึกตัวที่วาเปนผูใหญพอที่จะเลี้ยงตัวไดนี้แหละ อาจเปน เครื่องชักนําใหดําเนินชีวิตไปในทางที่ผิดโดยมิไดตั้งใจ "อนเชื่อแมเถิด" พลอยรีบพูด "อยาประมาท ถึงลูกจะโตแลวก็ยังเปนหนุม ยังเห็นโลกนอยนัก อยาเพิ่ง นึกวารูอะไรไปเสียหมด มีเรื่องราวอะไรขึ้นมาก็ขอใหปรึกษาหารือกับแมกอน อยาใจเร็วดวนได แมรักอนก็อยาก ใหอนดี เพราะเหตุนี้หรอกจึงไดเปนหวง มีอะไรขอใหบอกกันกอน อยาไปทําตามใจตัว" ตาอนรับคําแตโดยดีอยางที่เคยทํามาทุกครั้งที่พลอยสั่งสอน และอีกสิบกวาวันตอมาตาอนก็มาลา ไปรับ ราชการที่อยุธยา พลอยก็ไดแตใหศีลใหพรดวยความจริงใจ ขอใหมีแตความสุขและความเจริญในหนาที่ ตาอน ไปแลวทั้งบานก็ยิ่งดูอางวางยิ่งขึ้น คงเหลือแตประไพ ซึ่งบัดนี้กลายเปนของกลางระหวางคุณอุนและพลอย จะ ตองแบงกันรัก ขณะที่พลอยนั่งรอนอนรอ ใหตาอั้นเรียนสําเร็จกลับบานอยูนั่นเอง วันหนึ่งคุณเปรมก็กลับจากทํางาน เดินหนาบานขึ้นมาบนตึก เห็นพลอยนั่งเย็บเสื้อชั้นในใหตาอั้นใสอยู ก็เดินเขามาหา แลวพูดขึ้นวา "คุณหญิงทําอะไรอยู" พลอยเหลียวมองดูรอบตัว เพราะไมทราบวาคุณเปรมหมายถึงใคร "คุณหญิงเย็บเสื้อใหใคร" คุณเปรมถามย้ําอีก "ฉันนะหรือเปนคุณหญิง !" พลอยรองขึ้น "คุณเปรมก็อะไรไมรู อยูๆก็มาเยากันเลน ไมบอกกลาวเสีย กอน" "ไมไดเยาหรอกแมพลอย" คุณเปรมตอบแลวหัวเราะอยางเบิกบาน "อีกหนอยแมพลอยก็จะเปนคุณหญิง จริงๆ ฉันก็ลองเรียกดูใหคุนๆไวกอน ตอไปถึงฉันจะไมเรียก คนอื่นเขาก็คงจะเรียก เตรียมตัวไวใหดีๆเถิด" "คุณเปรมจะเปนพระยาหรือนี่ ฉันดีใจจริงๆ !" พลอยพูดดวยความจริงใจ คุณเปรมพยักหนายิ้มกับพลอย แลวก็พูดวา "ฉันจะไดเปนในงานฉัตรมงคลนี้แหละ อีกไมกี่วันหรอก" "ดีจริงคุณเปรม ฉันเห็นจะตองเรียกคุณเปรมวาเจาคุณบางละ คราวนี้อยามาขอกันเลย ฉันไมยกให ถา จะใหฉันเปนคุณหญิง คุณเปรมก็ตองเปนเจาคุณไปตาม จะปลอยใหฉันเปนคุณหญิงเรอราไปคนเดียว ฉันไม ยอมหรอก แลวคุณเปรมไดเปนพระยาอะไร" "พระยาบทมาลยบํารุง" คุณเปรมตอบ "ฟงดูก็เพราะดีหรอก ฉันลองเซ็นตชื่อดูแลวก็สวยดีอีก" พลอยกมหนาลงยิ้มกับเสื้อชั้นในที่กําลังเย็บอยู นีกรักเอ็นดูคุณเปรมเอามากๆ เพราะคุณเปรมขณะนี้ กําลังแสดงกิริยาอาการ เหมือนกับเด็กๆที่ดีใจเมื่อไดของเลนใหม คุณเปรมทรุดตัวลงนั่งขางๆชิดกับตัวพลอย แลวก็พูดขึ้นวา "แมพลอยดีใจมากไหม" "โธ ! คุณเปรมก็ถามได" พลอยตอบ "ผัวไดเปนพระยาทั้งคน ใครบางจะไมดีใจ ฉันไมเคยนึกหรอก วา ฉันจะมีวาสนาถึงเพียงนี้" "แมพลอยคอยดูไปเถิด ฉันจะทําทุกอยางใหแมพลอยมีวาสนายิ่งกวานี้ไปอีก ที่ฉันทํามาทั้งหมดนี้ ก็ เพราะแมพลอย เพราะอยากใหแมพลอยมีหนามีตาภูมิใจที่เลือกผัวไมผิด ลําพังตัวฉันเองก็ไมสูกระไรหรอก เกิด มาชาติหนึ่งไดเปนผัวแมพลอยก็ดีถมไปแลว ทุกอยางที่ฉันทําเปนเรื่องของแมพลอยทั้งนั้น" "คุณเปรมนี่ปากหวานไมหาย ฉันรักมาหลายสิบปแลว ไมตองมานั่งเกี้ยวฉันบอยๆหรอก" พลอยตอบ "ถาฉันไมเกี้ยวแมพลอยจะใหฉันไปเกี้ยวใคร" คุณเปรมตอบ พลางยกมือลูกหลังพลอยเบาๆ "ดูคุณเปรมสิ ! เดี๋ยวเด็กๆมันเห็นฉันอายตาย" พลอยหามขึ้น แทนคําตอบคุณเปรมก็เอียงหนา เขามา จูบที่แกมพลอยเบาๆทีหนึ่ง แลวก็ลุกขึ้นเดินรองเพลงเบาในลําคอ เขาไปผลัดเครื่องแตงตัวอาบน้ําในหอง ทิ้ง พลอยใหนั่งหนาเปนสีชมพูเรื่อๆดวยความอายอยูคนเดียว อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy209.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๙ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๒ บทที่ ๙ (หนาที่ ๒) ในที่สุด ขาวที่คุณเปรมไดเปนพระยาก็แพรหลายโดยทั่วไป ทําใหเกิดความยินดีในบรรดาญาติมิตรทั่ว กัน คุณอุนเอาแหวนทับทิมเม็ดใหญขึ้นมาแกคุณเปรมเปนของขวัญ บอกวาเปนแหวนเจาคุณพอ คุณอุนตั้งใจ เก็บไว ใหลูกเจาคุณพอที่ไดเปนพระยา แตเมื่อดูไปแลวไมเห็นทางจะเปนไดสักคน จึงยกใหแกเขยที่ไดเปน พระยา เสียกอน คุณเชย หลวงโอสถ และพอเพิ่มตางมาแสดงความยินดีกันถึงบาน หลวงโอสถนั้นเรียกพลอย วาคุณหญิง หนาเฉยตาเฉย ทําใหพลอยรูสึกกระดาก ชอยรูขาวก็รีบออกมาหาจากในวัง พอเขาประตูบานก็ ตะโกนถามเด็ก จนพลอยไดยินวา "คุณหญิงอยูไหม" ชอยขึ้นมาบนตึกลงนั่งแลวก็พูดวา "คุณหญิงเจาขา อิฉันไหวเจาคะ ขอฝากเนื้อฝากตัว ขอพึ่งบุญบารมีคุณหญิงดวย" "ชอยก็บาไมหายเสียเลย ไมอายเด็กๆมันบาง" พลอยพูดแลวก็อดหัวเราะชอยไมได "ฉันดีใจจริงๆนะแมพลอย" ชอยตอบดวยน้ําเสียงที่แสดงความจริงใจ "ที่ดีใจมากก็เพราะฉันเคยนึก ประมาท พอเปรมเขาไวมาก พูดกันตามจริงฉันไมเคยนึกหรอกวาจะไดเปนถึงพระน้ําพระยา แตพอเขาไดเปน เขาจริง ฉันก็เลยดีใจจริงๆทีเดียว" "ขอบใจละชอย แลวฉันจะบอกคุณเปรมเขาให" พลอยตอบ "อยาเลยพลอย ไมตองบอก เดี๋ยวเขาจะหาวาฉันเอาหนา" ชอยพูดแลวก็พูดตอไปวา "พลอยจําไดไหม เมื่อเรายังเปนเด็กรุนๆอยูในวัง เราเคยพูดถึงกาลขางหนา ฉันบอกพลอยวาอยางเรานั้น ถาจะเปนคุณหญิงก็ เปนได เดี๋ยวนี้พลอยก็ไดเปนแลว" "ฉันก็ไมไดไปทําอะไรหรอกชอย" พลอยพูด "ที่ไดเปนก็เพราะคุณเปรมเขาดี ถาไดกับคนอื่นก็ไมแนนัก" "นั่นสิ" ชอยตอบสวนควันขึ้นมา "ถาไดกับอีกคนหนึ่ง ปานนี้ก็ยังเปนเมียคุณหลวงดักดานอยูนั่นเอง นี่ก็ ออกจากราชการแลว คุยวาจะคาขาย จะไปไดสักกี่น้ํา" ชอยพูดถึงพี่เนื่องอยางขาดความเลื่อมใส "ชอยก็ชอบไปเอาเรื่องโบราณมาพูด พี่เนื่องออกจากราชการแลวหรือ ฉันก็เพิ่งรู" "ออกมาไดรวมปแลว ฉันก็ลืมบอกแมพลอยไป" ชอยวา "ลูกเตาก็ออกพะเรอพะรัง เดี๋ยวนี้เขาวาจะขึ้นไป คาขายที่บานเมียเขาที่ปากน้ําโพ ฉันไมเชื่อหรอก คาถาที่วาออกจากราชการมาคาขาย ฉันวาขี้เกียจนะ แหละมากกวา" "คนเรานี่ก็แปลกนะชอย" พลอยปรารภขึ้นลอยๆ "บางเวลาก็ดูเหมือนจะอยูใกลๆกัน แตพอหางกันไปนิด ตางคนก็ตางไป นานเขาก็แทบจะจํากันไมได ฉันเคยดูลอยกระทงเดือนสิบสอง ตางคนตางลอย กระทงนั้นก็ลอย เปะปะมาตามกระแสน้ํา ประเดี๋ยวก็มากระทบกันเขาแลวก็แลนคูกันไป อีกประเดี๋ยวก็ลอย หางกันไปทุกที จน หายวับไปดวยกันทั้งคู ชีวิตคนเราดูๆไปแลวก็เหมือนอยางนั้น" ความตื่นเตนยินดีในยศวาสนาของคุณเปรม มิไดทําใหพลอยลืมนับวันทึ่จะคอยใหลูกกลับ และวันหนึ่ง พลอยก็ไดรับจดหมายฉบับหนึ่งจากตาอั้นเขียนมาจากฝรั่งเศส เมื่อพลอยไดอานจดหมายฉบับนั้นแลวก็ดีใจ เหมือนกับใครเอาน้ําทิพยมาชโลมหัวใจ ตาอั้นเขียนมาวา "กราบเทาคุณพอคุณแมที่รัก" พลอยอดนึกไมไดวา ตาอั้นใชถอยคําเรียบรอยแตไมเปนกันเองเสมอ ผิด กับตาออด ซึ่งเขียนเปนกันเองโดยตลอด ขอความในจดหมายนั้นมีตอไปวา "ลูกสอบไลกฏหมายไดสําเร็จเรียบรอยแลว ลูกจึงไดซื้อตั๋วเรือเพื่อจะไดกลับบาน กะวาจะถึงบาน ใน ปลายเดือนหนา ครูบาอาจารยตลอดจนเพื่อนฝูงของลูก เห็นวาลูกควรจะเรียนตอหาความรูชั้นสูงขึ้นไปอีก แต ลูกเห็นวาลูกควรจะรีบกลับบาน เพื่อทําประโยชนใหแกบานเมืองของเราตอไป เมืองไทยของเรา ยังลาหลังอยู มาก ตองการคนมีความรูเขามาสรางความเจริญให ลูกก็ไดร่ําเรียนมาพอสมควรแลว จึงจะรีบกลับบาน ไมอยาก ใหชาเกินไป เพื่อจะไดทันทําการงานหลายอยางที่ลูกตั้งใจไววาจะทํา ถาขืนปลอยชาไว เวลาก็จะลวงเลยไป เรื่อยๆ ยากที่จะแกใข สิ่งใดที่ควรจะทําก็ตองรีบทําเสีย ลูกอยากจะกราบเรียนคุณพอคุณแมใหทราบดวยวา ลูกจากบานมาหลายป ระหวางนี้ก็เติบโตขึ้น จําเปน ที่จะตองเปลี่ยนแปลงไป ถาหากวาลูกกลับมาถึงบานแลว มีบางสิ่งบางอยางที่คุณพอคุณแมไมพอใจ ก็หวังวา คุณพอคุณแมจะอภัยใหลูกและพยายามเขาใจ เพราะทุกอยางยอมมีเหตุผลที่จะเขาใจได และเมื่อเขาใจไดแลว ก็ อภัยใหกันไดทั้งสิ้น ดังที่มีสุภาษิตฝรั่งเศสบทหนึ่งวาไว" พลอยสงจดหมายคืนใหแกคุณเปรมซึ่งอานกอนแลว และถึงแมวาจะดีใจสักเพียงไรก็อดพูดขึ้นไมไดวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy209_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๙ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 4

"ฉันอานหนังสือตาอั้นแลวไมคอยเขาใจเลยคุณเปรม แกพูดเหมือนกับวาแกจะเขามาปกครองเมืองไทย เสียคนเดียว ฟงดูชอบกล แลวตอนทายหนังสือนั้นดูออกเนื้อออกตัวอยางไรอยู เหมือนกับวาแกมีอะไรซอนไว ฉันฟงไมออกทีเดียว คุณเปรมนึกอยางไร" "อั้นเขาพูดอยางคนฉลาด" คุณเปรมตอบอยางพอใจ "คนมีความรูเขาก็พูดจากวางขวางอยางนั้น แม พลอยอยาคิดมากไปเลย คอยดูไปเถิด ลูกคนนี้ฉันจะทํานายไววา จะตองเปนใหญเปนโตวันหนึ่ง" "ถึงเดี๋ยวนี้ก็ฟงดูเขื่องๆ จนฉันชักจะกลัวแลวละ" พลอยพูดขึ้นบาง "ผูหญิงละก็เปนเสียอยางนี้" คุณเปรมปรารภขึ้น "มีลูกก็อยากเอาไวเลนเหมือนเด็กเลนตุกตา พอลูกเติบ โตขึ้นมามีความคิด มีปญญาของตัวเอง ก็เสียอกเสียใจตีโพยตีพายไปตางๆ ถาเก็บลูกใหแบเบาะอยูได ไมรูจัก โตก็คงจะเก็บเอาไว อยางฉันนี้ยิ่งเห็นลูกเติบโต มีปญญาความคิดฉันยิ่งดีใจ" คุณเปรมหยุดพูดครูหนึ่งแลวก็กลาวตอไปวา "ที่เราลงทุนสงลูกไปเรียนนอก ก็เพราะอยากใหลูกเฉลียวฉลาดกวางขวาง ใจฉันนั้นอยากใหลูกดีกวาตัว เมื่อเขากลับมาจากนอก เราก็ตองเปลี่ยนแปลงตัวของเราเองใหเขากับเขาได ตั้งแตฉันอยูกับแมพลอยมา ฉันไม เคยเขามายุงกับการบาน แตคราวนี้ฉันจะขอยุงสักนิดเถอะ เราอยูกินกันมาแบบโบราณ เคยอยางไรก็เคยอยาง นั้น ตอไปนี้เราควรจะเปลี่ยนแปลงเสียบาง ลูกๆที่กลับมาจากนอกจะไดสบาย ฉันวาบนตึกนี้ฉันจะใหเขาทําหอง น้ําเติมอีกหองหนึ่ง และตอไปถาจะกินขาว ฉันจะลงไปนั่งกินที่โตะขางลาง ไมนั่งกับพื้นกินขางบนอยางแตกอน เวลาลูกกลับมาจะไดกินโตะพรอมๆกัน ขอใหแมพลอยกินดวย... ครอบครัวฝรั่งเขาทําอยางนั้น" ตั้งแตนั้นมาคุณเปรมก็เริ่มซอม และเปลี่ยนแปลงตึกเพื่อจะรับลูก สั่งใหทําอะไรเพิ่มเติมหลายอยาง ตลอดจนติดพัดลม เพราะเกรงวาลูกกลับมาจากนอกจะรอน พลอยปลอยตามใจคุณเปรมทุกอยาง เพราะถือวา คุณเปรมยอมจะรูดีกวาในเรื่องเหลานี้ และวาที่จริงพลอยก็รูสึกดีใจที่เห็นคุณเปรมตื่นลูก และหันมาสนใจในเรื่อง ทางบาน คุณเปรมเปนคนทําอะไรทําจริง พอปกใจลงไปวาจะเตรียมรับลูกกลับ จากเมืองนอก คุณเปรมก็ทุมเท กําลังใจกําลังกายทั้งหมดใหแกการนั้น เปนเหตุใหตองยกเลิกของเกาๆ ที่เคยทํามาในบานนั้นหลายอยาง โดย คุณเปรมตั้งระเบียบขึ้นใหม หรือซื้อหามาใชใหม กอนที่จะไดรับขาวเพิ่มเติมจากตาอั้น พลอยก็ไดรับจดหมายจากตาออดฉบับหนึ่งเปนความวา "ลูกไดขาววาพี่อั้นเขาจะกลับบานเร็วๆนี้ สวนลูกเองจะตองอยูไปอีกปเศษ คิดถึงเรื่องพี่อั้นกลับบานแลว ก็เปนหวงแม เพราะพี่อั้นเขาไมเหมือนแตกอน ขอใหแมทําใจใหดีๆไว พี่อั้นเขามีอะไรใหมๆมา ก็ขอใหอยาได ตกใจ ลูกจะพูดอะไรมากก็ไมได เพราะเรื่องของพี่อั้นเขาๆก็ควรจะบอกพอแมเอาเอง แตลูกอดหวงแมไมได ก็ เลยพูดมาบาง แมอยาถือเปนอารมณเลย" จดหมายตาออดยิ่งเพิ่มความฉงนสนเทหใหแกพลอยหนักขึ้นไปอีก เพราะมีความลับกับจดหมาย ของตา อั้นเองฉบับบที่แลว แตเมื่อทั้งตาอั้นและตาออดพูดจากํากวมทั้งสองคน พลอยก็มิรูที่จะไปถามใคร จะพูดกับคุณ เปรมก็กลัวคุณเปรมจะหาวาคิดยุงไปเองอยางที่เคย ในที่สุดตาอั้นก็มีจดหมายมาบอกกําหนดวัน กลับถึง กรุงเทพฯ และคุณเปรมก็ไปสืบเวลามาไดแนนอนวา เรือที่ตาอั้นจะเดินทางจากสิงคโปรมาถึงกรุงเทพฯนั้น จะ เขาทาเมื่อไรแน กอนตาอั้นกลับบานสักสามสี่วัน พลอยก็มิไดเปนอันกินอันนอน มีแตความกระหยิ่มอิ่มใจที่จะไดพบลูก จะตระเตรียมหองหับเสื้อผาไวรับสักเทาไร ก็ดูจะไมเปนที่พอใจไปได เตรียมไวอยางหนึ่งจัดไวอยางหนึ่ง แต พอกลับไปดูอีกทีก็ไมถูกใจ ตองจัดใหมเตรียมใหมกันหลายทอดหลายตลบ แตในที่สุดวันที่ลูกจะกลับบาน ก็มา ถึง พลอยตื่นแตเชารูสึกวาอารมณดีเปนพิเศษ ตั้งแตวันนี้ตอไปก็จะไดลูกกลับมาไวชมเชย ถึงกลับมาคนเดียว กอนก็ยังดี คุณเปรมก็มีอารมณดีเปนพิเศษ เห็นอะไรเปนเรื่องชวนขันชวนรื่นเริงไปเสียหมด พอใกลเวลาพลอย ก็ขึ้นรถกับคุณเปรมและประไพตรงไปยังทาเรือ และพอไปถึงก็เห็นพอเพิ่ม คุณเชยและหลวงโอสถรอคอยอยู กอนแลว เรือยังไมมีวี่แวววาจะโผลมาใหเห็น คนที่ไปรอรับตาอั้นก็ไดแตยืนคุยกันดวยความดีใจ และความปติ หลังจากที่ไดยืนบังรมโรงเก็บสินคาอยูชั่วโมงกวา พลอยก็ไดยินหวูดเรือใหญไกลๆ อีกสักครูเรือไฟลําใหญ ก็ เลี้ยวออมคุงน้ําโผลมาใหเห็น เรือนั้นแลนใกลเขามาทุกที พลอยก็ใจเตนแทบจะกุมสติไวไมอยู คอหอยนั้นตีบตัน และน้ําตานั้นกลบลูกตา ทําใหมองสิ่งใดก็พราพรางไปสิ้น เสียงคุณเปรมรองขึ้นวา "นั่นแน ! เห็นตัวแลว ยืนอยูที่ลูกกรงเรือนั่นปะไร แมพลอยเห็นไหม แหม ! โตขึ้นเปนกอง ! ดูสิแมพลอย ลูกเราเปนหนุมใหญทีเดียว !" พลอยรีบเช็ดน้ําตาเงยหนาขึ้นดู ขณะนั้นเรือกําลังลอยลําอยูหางจากตลิ่ง กําลังจะเขาเทียบทา ดาดฟาที่ คนโดยสารยืนอยูนั้น ดูสูงลิบๆ พลอยเห็นชายหนุมคนหนึ่งแตงฝรั่งชุดขาว ยืนเกาะลูกกรงมือหนึ่ง อีกมือหนึ่ง โบกมาทางที่ตนยืนอยู จริงอยางที่คุณเปรมวา ตาอั้นลูกของพลอยนั่นเอง ถึงจะเติบโตเปนหนุมอยางไร เห็นที่ ไหนพลอยก็จําได พลอยยืนกํารมและกระเปาที่ถืออยูนั้นแนน ดีใจจนไมรูวาจะทําอยางไรถูก เหลียวไปดูเห็นคน ที่ยืนอยูดวยกัน โบกมือกับคนที่อยูบนเรือ และคนอื่นๆที่ยืนอยูเรียงรายก็โบกมือเชนเดียวกัน เพราะตางคนตาง มารับญาติหรือมิตรที่เดินทางกลับมาดวยเรือลํานั้น พลอยก็เลยโบกมือไปกับเขาดวย ทั้งที่ไมเคยทํามาแตกอน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy209_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๙ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 4

ระหวางที่ยืนมองดูกันอยูนั้น คนโดยสารหลายคนเดินขวักไขวกันอยูบนดาดฟา สวนมากนั้นเปนฝรั่ง พลอยสังเกตเห็นทุกคนพูดจาทักทายกับตาอั้นเปนอันดี แหมมคนหนึ่งมายืนเกาะลูกกรงเรือเคียงกับตาอั้น พลอยเห็นตาอั้นเหลียวไปพูดดวยอยางตื่นเตน แลวก็ชี้มาทางที่พลอยและคุณเปรมยืนอยู พลอยเห็นแหมมคน นั้น มองมาทางตน แลวก็หัวเราะและโบกมือดวย ทําใหพลอยสงสัยอยูครันๆวา ตาอั้นจะบอกแหมมคนนั้นวา อยางไร เรือลํานั้นลอยลําอยูอีกนาน แตในที่สุดก็เขาจอดเทียบทา และหยอนบันไดลงมา เจาพนักงานศุลกากร และอื่นๆ เปนผูขึ้นไปบนเรือกอน อีกสักครูคุณเปรมก็พาพลอยซึ่งขาสั่นเพราะความตื่นเตนขึ้นไปบนเรือบาง พอพลอยโผลขึ้นจากบันไดเรือขึ้นไปถึงดาดฟาเรือชั้นบน ตาอั้นก็โผลเขามากอดพลอยไวแนน พลอยจับ ตัวลูกไวแลวกอดอยางกับวาจะไมยอมใหลูกจากไปอีก เสียงใครตอใครทักกันจอแจฟงไมไดศัพท เสียงคุณเปรม หัวเราะและสียงคนอื่นหัวเราะ แตพลอยก็ไมสนใจ กอดตาอั้นไวรอบตัวและรองไหอยางหมดอับอาย เสียงตาอั้น พูดเบาๆเหมือนกับจะปลอบวา "คุณแม ลูกคิดถึงเหลือเกิน...คิดถึงเหลือเกิน ลูกกลับมาแลว...ไมไปไหนอีก" ความจริงตาอั้นก็ตื้นตน จน พูดจาแทบไมออกเชนเดียวกัน พลอยยืนกอดลูกอยูนาน ใจนั้นอยากจะกอดใหอิ่ม แตถึงจะกอดไวนานเทาไรก็ยิ่งไมรูสึกวาอิ่มหรือพอ ตาอั้นคอยๆคลายตัวออกจากออมแขนของพลอย ทักกับคนที่ไปรับซึ่งพูดกันเอะอะฟงไมไดศัพทอีกสองสามคํา แลวก็พูดขึ้นวา "เดี๋ยวกอน จะตองแนะนําใครใหรูจักอีกคน" แลวตาอั้นก็หลีกตัวไปจูงขอมือแหมมสาวๆรางสูงคนหนึ่ง ที่ ยืนยิ้มอยูหางๆนั้น ใหเดินเขามากลางกลุมญาติพี่นอง พลอยมองเห็นก็รูวาเปนแหมมคนเดียวกับที่ยืนคูอยู กับ ตาอั้นบนเรือเมื่อกอนเรือเทียบทา "บางทีจะรูจักกันบนเรือกระมัง" พลอยนึกในใจ แตตาอั้นก็พาแหมมคนนั้น มา ยืนตรงหนาคุณเปรม แลวพูดภาษาฝรั่งกับแหมมนั้นสองสามคํา พลางบอกคุณเปรมวา "คุณพอครับ นี่ลูซิลล" คุณเปรมเหลียวมาดูหนาพลอยอยางเกอๆ เอามือเช็ดกับผานุงโดยไมรูตัว แลวก็ยื่นมือไปจับมือกับ แหมม เสียงแหมมพูดภาษาฝรั่งเร็วปรื๋อสองสามคํา คุณเปรมก็ยิ่งหนาเสียลงไปอีก เพราะฟงไมรูเรื่อง ตาอั้นสง ภาษาฝรั่งกับแหมมอีกสองสามคํา แหมมก็หันหนามายิ้มกับพลอย พอพลอยจะเอาอยางคุณเปรม โดยยื่นมือ ออกไปหมายวาจะจับมือกับแหมม แหมมก็ตรงเขามาจับหัวไหลของพลอย ดึงตัวเขาไปชิด เอาแกมทาบเขาแกม ของพลอย แลวก็ดูดปากที่อยูชิดขางหูของพลอยดังจวบใหญ ทําใหพลอยตองสะดุงสุดตัว และยืนหนาชาดวย ความอาย เพราะไมเคยมีใครแสดงกิริยาเชนนั้นกับตน เสียงตาอั้นพูดเหมือนกับดัง มาจากทางไกลเหลือเกินวา "คุณพอคุณแมครับ นี่คือลูซิลลเมียผมเอง เรารักกันมากและแตงงานกันเมื่อผมสอบเสร็จแลว ผมไมได บอกคุณพอคุณแมมากอน เพราะเกรงวาจะตกใจ ผมรูวาเมื่อคุณพอคุณแมไดพบลูซิลลก็คงจะรักเทารักผม จึง พาตัวมาใหพบเลย" ตาอั้นพูดแลวก็หันไปพูดภาษาฝรั่งกับเมียแหมมของตนอีกสองสามคํา แหมมนั้นก็ยกมือขึ้น ไหวคุณเปรม ไหวพลอย ไหวพอเพิ่ม คุณเชยและหลวงโอสถ และไหวดะไปจนถึงประไพ ทาทางที่ไหวนั้นก็ดู เกงกางแบบคนหัดใหม พลอยแทบจะลมลงทั้งยืน เมื่อไดยินตาอั้นบอกวาเอาเมียแหมมกลับมาดวย ใจนั้นหวิวเหมือนกับจะเปน ลม นี่เองที่ตาอั้นพูดเกริ่นมากอนในจดหมาย วาตนเองนั้นเปลี่ยนแปลงไปไมเหมือนแตกอน นี่เองเปนเหตุที่ตา ออด เปนหวงแม เขียนจดหมายมาแตก็ไมกลาบอก เพราะตาอั้นคงสั่งปด พลอยนึกวาจะไดลูกกลับมาเปน กรรมสิทธิ์ ของตน อยางนอยก็อีกปหนึ่งหรือสองป แตพอกลับมาจริง ลูกก็มีเมียติดมาดวย เมียซึ่งถึงจะเปนฝรั่ง หรือเปนพมารามัญอะไรก็ไมสําคัญ ขอสําคัญนั้นอยูที่วา เมียเขายอมจะเปนเจาของตาอั้นมากกวาแม มีสิทธิ์ใน ตัวตาอั้นมากกวาใครทั้งสิ้น ความหวังที่วางไวเกี่ยวกับลูกนั้น ดูจะเลื่อนลอยหายไปในทันใด ที่ไดทราบความจริง พลอยเหลียวดูคุณเปรมนึกวาจะเอาเปนที่พึ่ง แตคุณเปรมก็ยืนแหงนหนาดูดาดฟาเรือชั้นบน อยางทองไมรูรอน คุณเชยกับหลวงโอสถก็เกิดมีแรื่องจะพูดจากันขึ้นมาอยางไมนาจะเปนไปได และพอเพิ่ม พี่ชายแทๆของพลอย ก็เกิดจะจะตองหันหนาไปยิ้มกับเจก บอยในเรือที่เดินผานมาอยางสนใจเสียเปนที่สุดแลว ประไพคนเดียวที่ไม ลดสายตาจากพี่สะใภฝรั่ง ยืนมองดูแลวก็หัวเราะกิ๊กๆ อยางเด็กรุนสาวที่กลั้นความรูสึกไมอยู พลอยไดทาเลย หันไปทําตาเขียวกับประไพทันที ทําใหประไพหนามอยลงถนัดใจ เสียงคุณเปรมพูดวา "เอา ! กลับบานกันเสียทีเถิด เดี๋ยวจะไปดูของกอน" พอเพิ่มพูดขึ้นมาทันทีวา "ไมตองขอรับ เจาคุณกลับกอนเถิด ผมดูของใหเอง" พลอยหันไปทางคุณเชย ตั้งใจวาจะชวนไปบานดวยกันกอน แตคุณเชยก็พูดขึ้นวา "แมพลอยกลับกอนเถิด คุณหลวงกับพี่มีธุระจะตองรีบไป แลววันหลังพี่จะไปเยี่ยม" บรรยากาศในหมูพี่นองที่เต็มไปดวยความปติยินดีเมื่อกี้ กลับกลายเปนจืดชืดประดักประเดิด มีแตความ อึดอัดในและเกรงใจ ระหวางที่นั่งเบียดกันกลับบานในในรถ พลอยและคุณเปรมนั่งตัวแข็ง มิไดพูดจากันวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy209_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๙ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 4

กระไร สวนตาอั้นก็สงภาษาฝรั่งชี้ใหเมียดูโนนดูนี่มาตลอดทาง และออกตัวกับพลอยวา "ตอนนี้ตองพูดฝรั่งกันกอน อีกสองสามเดือนก็คงพูดไทยได ลูซิลลเขาหัวไว" คืนนั้นคุณเปรมนอนไมหลับ พลิกไปพลิกมาแลวก็ถอนใจใหญอยูจนดึก พลอยถามขึ้นเบาๆวา "คุณเปรมเปนอะไรไปหรือ" "กลุมใจ" คุณเปรมตอบหวนๆ พลอยนิ่งอยูครูหนึ่งแลวก็ถามวา "กลุมใจเรื่องอะไร" "แมพลอยนี่ไดทีก็ขี่แพะไล" คุณเปรมตอบฉุนๆ "ฉันสงลูกไปนอกใหไปเอาความรูของฝรั่งเขามา มันเลย หอบเอาเมียแหมมกลับเขามาดวย เอาเถอะฉันรูแลว แมพลอยไมตองพูดอะไรอีก ฉันจะออกไปสูบบุหรี่นอกมุง สักประเดี๋ยว"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy209_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๒ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๑) ถาจะวากันไปตามจริงแลว การที่พลอยไดลูกสะใภเปนแหมมนั้น นับวามีประโยชนอยูบาง เพราะทําให พลอยไดรูไดเห็นอะไรแปลกๆ ใหมๆ อีกหลายอยาง หลังจากที่นอนไมหลับ ในคืนแรกที่ตาอั้นกลับบาน เกือบ ทั้งคืน เพราะความไมสบายใจและความผิดหวังของตัวเอง ประกอบกับความกระสับกระสายของคุณเปรม พลอยก็ตื่นลุกขึ้นแตเชา สิ่งแรกที่นึกถึงก็เรื่องอาหารของลูก ที่เพิ่งกลับมาถึงบาน เมื่อเย็นวันวานนั้น ก็เปนการ ฉุกละหุกเต็มที เพราะพลอยคาดไววาตาอั้นกลับมาบาน คงอยากกินของตางๆที่เคยชอบ จึงไดเตรียมกับขาวไว อยางประณีตบรรจง จนเหลือเฟอ แตพอถึงตอนกินขาวเย็นเขาจริง ตาอั้นก็ดูเนือยๆ กับของกินที่พลอยหาไวให อาจเปนเพราะเกรงใจเมียแหมม ที่ดูจะสะอิดสะเอียนตอกับขาวไทยอยูมาก ทุกคนพากันกระดากใจ ตักขาวใส จานมาเขี่ยๆเลน สวนตาอั้นก็ไดแตออกตัววา เมียยังเหนื่อยและมีอาการปวดหัว ตอไปก็คงจะคุนเคยเปนการ เรียบรอยไปได เชาวันรุงขึ้นพลอยก็เริ่มกังวลดวยเรื่องของกินของลูกสะใภเปนสิ่งแรก คุณเปรมมาหลับเอาตอน ใกลสวาง พลอยจึงยองลงจากตึกมาคนเดียว เมื่อหมดที่พึ่งที่ปรึกษาหารือ พลอยก็บายหนาไปหาคุณอุนที่เรือน "แมพลอยมาแตเชาทีเดียว" คุณอุนทักขึ้น "อิฉันนอนไมหลับทั้งคืน กลุมใจ" พลอยรับสารภาพ "กลุมใจเรื่องลูกสะใภนะหรือ" คุณอุนพูดสวนขึ้นมา "อยากลุมใจเลยแมพลอย ถึงกลุมก็ทําอะไรไมได ฉัน วาเขาก็หนาตานาเอ็นดูดี ตอไปพอคุนเคยกันสักหนอย พูดภาษาไทยไดบางขี้เกียจจะรักเสียอีก" "เรื่องนั้นก็พอทําเนาหรอกคุณพี่" พลอยตอบ "เวลานี้กลุมอยูแตวาเขากินอะไรก็ไมรู เชานี่ฉันก็เลยสั่งไม ถูก อยากจะมาเรียนถามคุณพี่วา ฝรั่งเขากินอะไรกันรูบางไหม" "กินขนมปง" คุณอุนตอบอยางแนใจ "ใหเด็กไปซื้อขนมปงไวเสียแตเดี๋ยวนี้ แลวก็ซื้อเนย ซื้อนม เอา ปนโตไปซื้อกับขาวฝรั่งจากรานเจกมาดวย ขนมปงซื้อใหมากๆ จะไดกินใหอิ่ม" พลอยถอนใจใหญเพราะคุณอุนก็ไมสามารถจะใหความชวยเหลืออะไรมากกวานั้น เดินลงจากเรือนคุณ อุน กลับขึ้นตึกก็พอดีตาอั้นโผลออกมาจากหองนอน ครั้งนี้เปนครั้งแรกที่พลอยไดพบกับตาอั้นสองตอสอง นับ ตั้งแตไดกลับมาถึงบาน "อั้นตื่นแตเชาเทียวลูก" พลอยทักขึ้นกอน "ผมนอนไมหลับทั้งคืน" ตาอั้นบอก "ตื่นเตนดีใจจนพูดไมถูกที่ไดกลับบาน" "แหมม...เอย ! เมียอั้นเขาตื่นแลวหรือ" "ตื่นแลวครับ เขายังนั่งแตงตัวอยูในหอง เดี๋ยวก็คงออกมา คุณแมเขามาหาเขากอนก็ได" "ไมตองหรอกอั้น อยาไปกวนเขาเลย" พลอยรีบออกตัว กลัวจะถูกหาวายุง "ไมเปนไรหรอกคุณแม เขามาเถิด ลูซิลลเขารักคุณแมมาก" วาแลวตาอั้นก็ควาขอมือพลอย ครึ่งลากครึ่ง จูง เขาไปในหอง ลูซิลลนั่งอยูที่หนากระจกเงาบานใหญ ตรงหนามีขวดมีกระปุกเครื่องสําอางคตางๆ วางอยูเต็ม มือหนึ่ง ถือแปรงกําลังแปรงผมอยู พอเห็นพลอยเขามาก็หันมายิ้มดวยอยางออนหวาน และพูดอะไรเปนภาษาฝรั่ง พลอยก็ไดแตยิ้มตอบ แลวก็นั่งลงที่เกาอี้ตัวหนึ่งอยางสงบเสงี่ยม "สวยเหมือนตุกตา" พลอยนึกอยูแตในใจ ผมของลูซิลลเปนคลื่นสีทองแดง พลอยไมเคยเห็นมาแตกอน ผิวหนังสีขาวแกมชมพู และนัยนตานั้นสีน้ําเงินออนจนแลดูเหมือนแกวใสๆ ไมใชตาคน "สวยเตะตาดี" พลอยนึก ตอไป "แลวถาดูไปนานๆ ก็คงเบื่อ เพราะพิศไมขึ้น ผิวหนังก็หยาบสูคนไทยไมได ดูคนเดียวอยางนี้ ก็รูปรางดี อยูหรอก แตพอเทียบกับคนไทยก็ดูเทอะทะเกงกางนารําคาญ คิดดูแลวก็สงสารตาอั้น ไมนาจะใจเร็วดวยไดเลย" พลอยนึกออกถึงเรื่องของกินที่กําลังสงสัยอยู เอยถามตาอั้นขึ้นวา "อั้นถามเขาทีหรือลูกวาเชานี้อยากรับประทานอะไร อีกประเดี๋ยวแมจะไปหาให" ตาอั้นหัวเราะแปลคําถามของพลอยใหเมียฟง ซึ่งทําใหแหมมหันมายิ้มกับพลอยอีก แลวตาอั้นก็พูดวา "คุณแมไมตองหวงหรอกครับ เรากินกาแฟคนละถวย ขนมปงอีกนิดหนอย พอแลวสําหรับตอนเชา" "กาแฟถวยเดียวจะไปอิ่มอะไรเลาอั้น อยางอื่นไมรับบางเลยหรือ" "ฝรั่งเขารับกันเทานั้นแหละคุณแม" ตาอั้นอธิบายอยางอารมณดี และพลอยก็ไดความรูใหม ในเรื่อง อาหารเชาของฝรั่งเศส ทําใหหายกังวลลงไปบาง แตก็ไมถึงกับหายหวง เพราะกลัวลูกจะหิวอยูนั่นเอง แหมมเดินไปเปดตูแลวหยิบเสื้อออกมาอวดพลอยหลายชุด พลอยมองตามเขาไป เห็นเครื่องประกอบ การแตงกายอีกหลายอยางที่ไมรูจักและไมเคยใช และนึกหนักใจแทนลูกสะใภ และคนที่เกิดมาเปนแหมมโดย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy210.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 5

ทั่วๆ ไป วาจะตองแตงตัวประดักประเดิดเต็มไปดวยเครื่องผูกมัดรัดรึงตางๆ เสียงตาอั้นพูดขึ้นวา "เขาถามวาคุณแมจะใหเขาใสชุดไหน" พลอยรีบหลับหูหลับตาชี้ไปที่เสื้อสีชมพูตัวหนึ่ง และเห็นแหมมหัวเราะชอบใจ พลางหยิบเสื้อนั้นออกมา พาดไวที่เกาอี้ และลงนั่งแตงตัวตอไป พลอยยิ่งนั่งดูลูกสะใภฝรั่งแตงตัวแลวก็ยิ่งนึกอัศจรรยใจ เพราะเห็นแหมมหยิบอะไรตออะไร จากกระปุก เล็ก กระปุกนอย มาทาที่ปากบางที่แกมบาง ทําใหปากเปนสีแดง แกมเปนสีชมพู หลังตานั้นก็ทาอะไรเขียวๆ ทําใหลูกตาลึกกลวงเหมือนกับคนเปนโรค ดูแลวก็อดนึกไมไดวา เพียงแตจะแตงตัวออกจากหอง ยังตองผัดหนา ทาปากเสียราวกับจะเลนละคร ถาไปงานไปการมิตองแตงตัวกันหนักไปกวานี้หรือ ลูซิลลแตงหนาทาปากฉีดน้ํา อบเสร็จแลว ก็หันมายิ้มกับพลอย "อั้นบอกเขาดวยวา แมเห็นวาเขาสวยมาก" พลอยพูดเพราะอยากจะเอาใจลูกสะใภ พอตาอั้นแปลใหเมียฟง แหมมก็หัวเราะอยางดีใจ เดินตรงเขามากอดพลอยทีหนึ่ง และพูดภาษาฝรั่งยืด ยาว รวดเร็วซึ่งตาอั้นแปลวา "เขาบอกวาเขาเห็นคุณแมสวยมากเหมือนกัน" ระหวางที่ถูกลูกสะใภเขามากอด พลอยตองนั่งตั้งสติมั่น ไมปลอยใหหลบหรือแสดงกิริยาวารังเกียจ ตาม ความรูสึก ในใจนั้นก็ไดแตนึกวาธรรมเนียมฝรั่งนี้ชางนารําคาญเสียจริง ชอบแสดงอารมณโจงแจง ประเดี๋ยวก็ กอดประเดี๋ยวก็จูบกันวันยังค่ํา ในใจจริงจะเปนอยางไรก็ไมรู เคราะหดีแตในหองนี้ไมมีใคร อยูดวยกันแตเพียง สามคน ถาไปทําอยางนี้ตอหนาคน พลอยก็ไมรูวาจะเอาหนาไปไวที่ไหน พลอยกําหนดไวในใจวา พอคุนกันอีก สักหนอย จะตองเตือนตาอั้นใหบอกเมียใหระวังตัวเสียบาง เพราะที่นี่เปนเมืองไทย พอแมก็มีสกุลจําตองระมัด ระวังกิริยา ขณะที่กําลังนึกอยูนั้นเอง แหมมก็ยังไมเดินไปหางจากตัวพลอย แตยืนอยูตรงหนา เอามือเอื้อมมา จับผานุงผาหมพลอยดูอยางสนใจ ปากก็ถามตาอั้นเปนภาษาฝรั่งอยูเรื่อยๆ วันนั้นพลอยนุงผาลายสีเขียวแก หม ผาแถบตามสบายแบบอยูกับบาน เสียงตาอั้นพูดขึ้นวา "ลูซิลลเขาตัดเสื้อเกง เคยเรียนมานี้ เขาสนใจเครื่องแตงตัวมาก" พลอยก็ไมรูที่จะตอบวาอยางไร เพราะกําลังยกมือจับผาแถบที่หมอยูนั้นไวใหแนนกระชับกับตัว กลัว แหมมจะดึงหลุด สวนแหมมนั้นชะโงกไปทางหลังดูชายกระเบนที่เหน็บไว แลวก็หัวเราะพูดภาษาฝรั่งกับตาอั้น ตอไปอีก ตาอั้นหัวเราะอธิบายวา "ลูซิลลเขาบอกวา เขานึกไมออกวาคุณแมนุงหมอยางไรอยูดวยผาสองผืน นุงผืนหนึ่ง หมผืนหนึ่ง ไมตอง คาดเข็มขัดไมมีกระดุม และไมตองใชเข็มกลัดเลยสักตัวเดียว เขาบอกวาถาเปนเขานุงหมอยางนี้ คงเดินไมได แน เพราะจะหลุดไปทั้งตัว แตเขาก็จะแตงอยางนี้บาง จะใหคุณแมสอนให" "ถาอยางนั้นก็อยาเพิ่งเรียนเลย" พลอยตอบ "เดี๋ยวพลาดพลั้งผาหลุดละก็อายเขาตาย คอยดูคอยไปก็ แลวกัน แตคนเดี๋ยวนี้คนเขานุงผาซิ่นกันหมดแลว คงไมยากเพราะก็เหมือนกับประโปรง แมนุงผาแตเวลาอยู บาน" ในใจพลอยนั้นนึกวาไดเวลาสมควรแลว ที่ตนจะตองออกจากหองนี้ไปโดยดวน เพราะสองคนผัวเมียนี้ เริ่มจะมองดูตนวาเปนของประหลาดจนเกินไปเสียแลว พลอยรีบลุกขึ้นบอกกับตาอั้นแลว "แมจะรีบไปดูของกิน" แลวหนีออกจากหองไปสั่งเด็กชงน้ําชงกาแฟ และปงขนมปงที่เคยทําใหคุณเปรมกินอยูเสมอ อีกสักครูคุณเปรมก็เดินหนายุงออกจากหองมานั่งที่โตะกินขาว เห็นพลอยเขาคุณเปรมก็ถามขึ้นวา "แมพลอยหายไปไหนมาแตเชา" "อั้นเขาชวนฉันเขาไปคุยในหอง" พลอยตอบแลวก็รูตัววา วันนี้คุณเปรมอารมณไมดีแน "ตื่นลูกสะใภแตเชาเทียวนะ !" คุณเปรมพูดทํานองประชด "ก็จะทําอยางไรไดละคุณเปรม" พลอยตอบดวยอารมณเย็น ไมถือโกรธเพราะเห็นใจคุณเปรมอยูมาก "ลูกชวนฉันๆ ก็ตองไป" คุณเปรมนิ่งไปสักครูหนึ่ง ตักขาวตมใสชามแลวก็ถามตอไปวา "แลวเขาทําอะไรกันอยู" "เมียเขากําลังแตงตัว" พลอยเลา "ก็สวยดีหรอก" "สวย ! สวย !" คุณเปรมพูดอยางรําคาญ "ผูหญิงก็มีแตเรื่องสวย ดูอะไรก็ดูแตวาสวยหรือไมสวย ผิดถูกดี ชั่วไมตองพูดกันละ" "คุณเปรมก็ทําใจเย็นๆ ไวบาง" พลอยทักขึ้น "คุณเปรมดุฉันเทาไร ฉันไมโกรธหรอก แตฉันไมเห็นจะได ประโยชนอะไร เรื่องมันก็มาถึงเพียงนี้แลว ถึงจะโกรธจะไมพอใจอยางไร ก็แกไขไมได ฉันวาทําใจดีๆ ไวดีกวา อยาใหอั้นเสียใจเลย" "ก็เวลาจะทําอะไรทําไมเขาไมคิดถึงฉันบาง" คุณเปรมยอนถาม "มีอยางรึ จะมีเมียทั้งคนจะบอกใหพอแม รู ก็ไมมี ตาออดนองชายก็เปนใจ ชวยกันปด ฉันช้ําใจนักแมพลอยคราวนี้" "ฉันเห็นใจคุณเปรมหรอก เห็นใจจริงๆ แตอยาไปดุตาออดแกดวยเลย เพราะแกเปนนองจะพูดอะไรก็

http://www.geocities.com/siamstory/ploy210.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 5

ยาก" พลอยเหลือบไปเห็นตาอั้นพาเมียซึ่งแตงตัวเสร็จแลว กําลังเดินจะเลี้ยวเขามาในหองอาหาร จึงหันไปพูด กับคุณเปรมดวยเสียงกระซิบวา "แนะเขามากันแลวละคุณเปรม !" คุณเปรมหันไปดูแลวก็กมหนาลงซดขาวตมอยางไมสนใจ ตาอั้นพาเมียเดินมาถึงโตะ และแหมมก็เดิน ตรงเขาไปที่คุณเปรม ทักเปนภาษาฝรั่ง แลวก็เอื้อมมือออกจับกับคุณเปรมอีกครั้งหนึ่ง ทําใหคุณเปรมตองหันมา มองหนาพลอยแลวตีหนาเบอยางเบื่อหนาย เรื่องตองจับมือกันมิรูหยุด พลอยเห็นคุณเปรมมองมาก็ยิ้มดวยอยางใจเย็น ทําใหคุณเปรมหันไปทางอื่นโดยเร็ว แลวทําเสียงกุกกัก อยูในปาก ตาอั้นเห็นพอไมพอใจก็พูดขึ้นวา "ธรรมเนียมฝรั่งเศสครับคุณพอ เจอะกันเขาก็ตองจับมือกัน" "ชะ !" คุณเปรมพูดออกมาไดคําเดียว "อยูบานเดียวเห็นหนากันทุกวันก็จับมือกันหรือ" พลอยรีบถามขึ้นเพื่อมิใหคุณเปรมไดมีโอกาสพูดอะไร ตอไปอีก "เขาถือกันอยางนั้นแหละคุณแม" ตาอั้นตอบ "เปนธรรมเนียมที่สุภาพของเขา" "ถาสุภาพกันอยางนี้ ฉันก็เห็นจะมือหักตายเสียกอนเทานั้นเอง !" คุณเปรมพูดออกมาจนได พลอยหันไป ยิ้ม เอาใจตาอั้นแลวก็รีบชวนพูดเรื่องอื่นๆ ตอไป อาหารเชาวันนั้นเต็มไปดวยความขลุกขลัก คุณเปรมกินขาวตมไมกี่คําก็อิ่ม แตก็ไมยอมลุกจากโตะ นั่ง ทําหนาบอกบุญไมรับ จองมองลูกสะใภอยูกับที่ พลอยก็ไมมีแกใจที่จะกินอะไรได เพราะตองคอยระวัง มิใหคุณ เปรมพูดอะไรรุนแรงออกไป และคอยชวนตาอั้นคุยดวยเรื่องอื่นๆ ไมเปดโอกาสใหคุณเปรมแทรกเขามาได ตา อั้นรูแกววาพอไมสูพอใจนัก ก็เริ่มกระดากกระเดื่อง พูดจาดวยน้ําเสียงที่เกอจนเห็นไดชัด คนที่สบายใจที่สุด เห็ฯจะไดแกแหมมลูซิลล เพราะเมื่อไมเขาใจภาษาไทยที่พูดกันก็ลงนั่งที่โตะ มองยิ้มกับคนโนนบางคนนี้บาง จน พลอยออกสงสาร แลวลูซิลลก็รินกาแฟใสถวย ใสนมใสน้ําตาล เอาขนมปงทาเนย พอพลอยเหลือบไปเห็น ก็ เกือบจะตองสะดุงดวยมรรยาทของลูกสะใภ เพราะลูซิลลกําลังเอาขนมปงทาเนยนั้น ลงจุมในถวยกาแฟ แลวจึง เอาขึ้นใสปากกิน พลอยรีบเมินหนาหนีเพราะรูสึกอายในวิธีกินขนมปงกาแฟแบบนี้ พอเหลียวไปทางตาอั้น ก็ เห็นวา ลูกชายกําลังกินขนมปงกาแฟแบบเดียวกับภรรยา ถาเปนครั้งตาอั้นยังเด็กๆ ขืนทําอยางนี้คงจะตองถูกดุ ถาไมฟงก็คงถึงตองตี แตตาอั้นก็เปนผูใหญมีเมียแลว ใชกิริยามายาทในการกินอาหารเชนเดียวกับเมีย พลอยก็ ไดแตนั่งดู เหลียวไปมองทางคุณเปรม ก็เห็นคุณเปรมกําลังตะลึงดูอยูเหมือนกัน "หมดกัน !" พลอยนึกในใจ "กิริยามารยาทเคยสอนเคยหัดมาแตยังเด็กๆ หมดกันคราวนี้เอง เพราะถูกฝรั่งเปลี่ยนไปเสียหมด ! จะวาอะไร เขาก็ไมได เพราะเมียเขาก็มานั่งคุมอยูดวย" ตกบายวันนั้นคุณเปรมกลับมาจากที่ทํางานแตวัน พออาบน้ําผลัดเครื่องแตงตัวเสร็จ คุณเปรมก็เรียกหา กระดาษเครื่องเขียนใหวุนวาย แลวพูดขึ้นวา "แมพลอย ฉันจะตองรางพระสาสนถึงตาออดสักหนอย สั่งหามเด็ดขาดเรื่องมีเมียแหมม ฉันมีลูกสะใภ ฝรั่ง ไดเพียงคนเดียวเทานั้น ถาขืนมีอีกคนฉันเห็นจะอายุสั้นเสียเปนแน อายอั้นมันมีมาแลวก็แลวกันไป แตตา ออดนี่ ถาขืนไปมีเขาอีกคนทั้งที่ฉันหาม เปนขาดลูกขาดพอเปนแน" "ตาออดแกยังไมเห็นมีวี่แววอะไรเลย คุณเปรม" พลอยทวงขึ้น "ชะ ! แมคนหูทิพยตาทิพย !" คุณเปรมพูดอยางฉุนๆ "แลวอายอั้นนี่หลอนไดวี่แววกอนงั้นรึ ทําไมไม บอกฉันบาง" พลอยตองหัวเราะ เพราะคําพูดของคุณเปรมนั้นคอนขางจะจริง พลอยก็เพิ่งรูพรอมๆ กับคุณเปรมที่ทา เรือ วาตาอั้นพาเมียแหมมกลับมาบาน มิไดมีวี่แววมากอนเลย คุณเปรมเขียนจดหมายเสียยืดยาว พอเขียนเสร็จก็หันมาถามพลอยวาจะอานหรือไม พลอยก็ปฏิเสธ เพราะขี้ครานจะตอความยาวสาวความยืด เมื่อเห็นพลอยไมอาน คุณเปรมก็ปดผนึกจดหมายดังปงปง เหมือน กับจะระบายความโกรธจากตัวใหหมดสิ้น ตอมาพลอยก็ไดรับจดหมายฉบับหนึ่งจากตาออด เปนความวา "คุณแมที่รัก โอ โฮ ! คุณพอเขียนจดหมายมาเทศนาลูกเสียใหญเลยเรื่องพี่อั้นพาเมียแหมมกลับบาน ราวกับวาลูกจะ ไป หามเขาได แตลูก็เห็นใจคุณพออยูมาก เลยเขียนจดหมายไปถึงทานฉบับหนึ่ง ใหคํามั่นสัญญาวาลูกจะไมพา แหมม หรือพาใครๆ กลับบานเปนอันขาด ถาอยากจะริมีเมียกับเขาเมื่อไร ก็จะบอกใหทานหาให ตามแตทานจะ เห็นสมควร หวังวาทานจะพอใจ เรื่องพี่อั้นที่ลูกไมไดบอกมากอนนั้น เพราะเจาตัวเขาสั่งใหปด เขาบอกวาถาขืนลูกบอกมาทางบาน เขา จะเตะลูกก็เลยไมบอก เพราะกลัวพูกเตะประการหนึ่ง และเห็นวาไมใชเรื่องของลูกอีกประการหนึ่ง แตความกลัว

http://www.geocities.com/siamstory/ploy210.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 5

ถูกเตะนั้นเห็นจะมากกวา แตเดี๋ยวนี้ไหนๆ แมก็รูแลวลูกจะเลาใหฟง พี่อั้นกับลูซิลลเขาไดเสียกันลับๆ แลวกอนพี่อั้นสอบได เขามาแตงงานกันเปดเผยตอนพี่อั้นสอบไดแลว เมื่อรูจักกันลูซิลลเขาหากินเปนชางตัดเสื้อ ทํางานอยูรานใหญๆ ในปารีส บานเขาอยูใกลๆ กับพี่อั้น เชาเย็นเขา ก็เดินผานเห็นหนากันทุกวัน ในที่สุดเขาก็รูจักและไปไหนมาไหนดวยกันได พอแมผูหญิงเขาไมหาม เพราะแก ไมใชคนร่ํารวยมีลูกหลายคน แกนึกวาพี่อั้นเปนเศรษฐีมาจากเมืองไทย ดูเหมือนญาติผูหญิงเขาจะเที่ยว คุยวาพี่ อั้นเปนเจาเมืองไทยดวยซ้ําไป แตพี่อั้นปดบังไมยอมบอกเพราะมาเรียนหนังสือ ลูกไปฝรั่งเศส เลยพลอยเขื่อง ไปดวยเพราะขาวลือนี้ ถาจะวาไปเมียพี่อั้นเขาเปนคนดีตามประสาฝรั่ง และผัวเมียเขาก็รักกันมากเทาที่ลูกรู ลูกมาวิตกอยู ก็แต ทางบานเรา เพราะตั้งแตคุณพอ แมและคนอื่นๆ ทุกคนเปนคนไทย มีนิสัยใจคอการอบรมเปนคนละอยาง กับ ฝรั่ง อยูดีๆ ก็มีฝรั่งแทๆ คนหนึ่ง โดดเขาไปอยูดวยในใจกลางครอบครัว ยอมจะตองอึดอัดใจเปนธรรมดา เพราะ ถึงแมวาจะเปนคนดวยกัน ก็เปนคนคนละชนิดกัน เขากันไดยาก ลูกจึงเห็นใจคุณพอทานมาก และเห็นวาเปน หนาที่ของเมียพี่อั้น เขาจะตองโอนออนเขาหาทางเรา ถาเขาทําไดก็ดีไป และลูกก็หวังวาจะทําได เพราะไมใช คนอายุมากนัก คนที่จะทําใหเมียพี่อั้นหันมาเปนไทยและเขากับคนไทยได ลูกก็เห็นวามีแตแม คนเดียวเทานั้น คุณพอทานคงไมมีเวลา สวนพี่อั้นเองเขาคงไมคิดจะทํา เพราะลูกดูๆ พี่อั้นในตอนทายๆ นี้แลว เริ่มจะเห็นวาพี่ อั้นเขาออกจะเปนฝรั่ง มากกวาเมียเขาเสียอีก สําหรับตัวลูกเองนั้นแมไมตองวิตก เพราะลูกรับรองไดวาจะไมทําอยางพี่อั้น กลัวไปวาจะทําใหตอง ลําบาก หลายคนโดยไมเรื่อง ความจริงคนที่เปนผัวเมียนั้นถึงจะตางชาติตางภาษา แตถาใจรักกันจริงแลว ก็คง จะอยูดวยกัน ไดเปนสุข ลูกกลัวแตอยางเดียววาผูหญิงฝรั่งที่เขาจะมารักเรานั้น เขาอาจเขามาดวยความเขาใจ ผิด เมื่อเขาเห็นเราเปนคนตะวันออกหนาดําๆ แตมีปญญาไปเรียนไดถึงบานเขา เขาก็จะตองสันนิษฐานไวกอน วาเราเปนเจาคนนายคน มิใชคนธรรมดาสามัญ มิฉะนั้นจะเดินทางไปเรียนหนังสือไกลถึงเพียงนั้นไดอยางไร เมื่อนึกวาเราร่ํารวยเปนเจาคนนายคนแลว เขาก็จะตองนึกตอไปอีก ตามธรรมดาฝรั่งนั้นเขารูจักเมืองตะวันออก ดวยการอานหนังสือ ซี่งสวนมากก็เปนหนังสืออานเลน ที่คนแตงตั้งใจโกหกใหวิจิตรพิสดารตางๆ เมื่อเห็นภาพ วาเราคงนั่งอยูบนกองเงินกองทอง เต็มไปดวยเพชรนิลจินดา และขาทาสบริวารคอยรับใช จะไปไหนมาไหนก็คง ขี่ชางขี่มากันครึกครื้น แลวเขาก็คงจะนึกเอาวาถาเขาเปนเมียเรา เขาก็จะไดมาใชชีวิต อยางนั้นในตะวันออก ซึ่ง คงจะนาสนุกสบายกวาชีวิตที่เขาเคยมาเปนอันมาก เมื่อผูหญิงฝรั่งธรรมดามารูจักคนไทย ก็คงจะมีความคิด อยางนี้ติดตัวมาแลว ยิ่งไดมารูจักคนไทยก็หลงรักไดงายๆ เพราะผูหญิงนั้นเหมือนกันทั่วโลก ชอบใหคนฉอเลาะ เอาใจ และชอบคนมีกิริยาเรียบรอย แตงตัวโกเที่ยวเกงพูดเกง คนที่มีลักษณะอยางนี้ ในหมูฝรั่งดวยกันมีนอย คน เพราะฝรั่งสวนมากเปนคนเกงกาง เขาผูหญิงไมเปน จะแตงเนื้อแตงตัวก็เทอะทะ ไมนาดู สวนคนไทยนั้นมี ลักษณะที่ผูหญิงชอบทุกคนไป จึงติดตอรูอกรูใจกันไดรวดเร็ว ครั้นไดเสียกันแลว พากลับมาเมืองไทย การก็จะ เปนไปอยางที่สองฝายมิไดคาดไว ฝายผูหญิงก็จะเห็นเมืองไทยนั้นเล็กนิดเดียว ไมหรูหราอยางที่เคยฝนไป เคย ไดยินผัวบอกวาทางบานมีรานใหเขาเชาในเมืองหลวง ก็นึกวาผัวตัวเปนเจาของที่ มีตึกนับสิบชั้นยี่สิบชั้นใหเชา อยางในลอนดอน พอมาเห็นเขาจริงกลายเปนหองแถวไมโกโรโกโสสองสามหอง ขางหนาก็น้ําเนา ขางหลังก็น้ํา เนา ใจนั้นก็คงจะนึกโกรธๆ วาถูกตม ยิ่งอยูเมืองไทยนานไป ถูกยุงกัดกลางคืน แมลงวันตอมกลางวัน แวดลอม ไปดวยกลิ่นไอตางๆ เชน กะปปลารา กระเทียมน้ําปลา ซึ่งฝรั่งเห็นวาเหม็น ตาฝาบานก็มีจิ้งจกตุกแกอันเปน สัตวเลื้อยคลาน ที่ฝรั่งเห็นวานาเกลียดนากลัวมาไตยั้วเยี้ยออกเต็มไป ใจนั้นก็ยิ่งนึกวาตัวถูกพามาทรมาน และ นึกคิดถึงบาน คิดถึงเมืองหนาวอากาศหนาว และอยากกลับบาน ไมอยากอยูอีกตอไป ทางฝายผูชายเมื่อไดกัน ใหมๆ ก็เห็นวาเมียของตัวสวย นิสัยใจคอตลอดจนกิริยามารยาท ดูนารักไปหมด เพราะเมื่ออยูดวยกันที่เมือง นอกไมมีคนอื่นจะมาเปรียบเทียบ นอกจากผูหญิงฝรั่งดวยกัน ครั้นพอกลับมาถึงเมืองไทย เห็นเมียของตนมานั่ง ขาวโพลง ตัวโตกวามนุษยธรรมดาอยูในหมูคนไทยก็จะตองตกใจ ยิ่งมองดูผูหญิงไทยก็ยิ่งเห็นสวยกวา นารัก กวาเมียของตนไปสิ้น ผิวหนังคนไทยก็ละเอียดกวา ไมเปนรู ไมหยาบอยางฝรั่ง จริตกิริยาก็แชมชอยนารักกวา ไมโกงเกงทูมทาม และผูหญิงไทยนั้นก็นับถือ เลื่อมใสตนมากกวา เพราะเห็นวาเปนนักเรียนนอก ไมเหมือนกับ แหมมที่คอยทักคอยแกคําพูดภาษาฝรั่ง ที่ตนพูดออกมาไมชัด นานเขาหนอยก็ชักรําคาญ เบื่อเมียแหมม เหม็น นมเหม็นเนย อยากไลไปเสียใหพนๆ เมื่อเปนอยางนี้แลว ทั้งสองฝายจะหาความสุขจากไหนมาได และถายิ่งมี ลูกดวยกันก็จะยิ่งลําบากไปใหญ สรุปความวา แมเย็นใจไดวาลูกจะไมพาแหมมกลับมาเปนลูกสะใภแมเปนคนที่สอง และถาหากวา แมยัง ไมรีบรอนที่จะมีลูกสะใภนัก ลูกก็อยากจะขออยูตัวคนเดียวไปกอน และเปนของแมแตคนเดียวไปนานๆ ออด" พลอยอานจดหมายตาออดแลวก็อยากที่จะหัวเราะและรองไหพรอมๆกันไป ใจหนึ่งนั้นชื่นใจที่ตาออดพูด มา ตรงกับใจตัวทุกอยาง อีกใจหนึ่งนั้นก็ใหเวทนาสงสารตาอั้น ที่อาจตองประสบเคราะหกรรมอยางที่ตาออด

http://www.geocities.com/siamstory/ploy210.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๑)

Page 5 of 5

เขียนมา พรอมกันกับจดหมายที่พลอยไดรับ มีจดหมายลายมือตาออดจาหนาซองถึงคุณเปรมอีกฉบับหนึ่ง พลอยเก็บเอาไวใหคุณเปรมเปดอานเอาเอง ตกบายคุณเปรมกลับจากงาน เปดจดหมายออกอาน แลวก็ดีใจ หัวเราะลั่น ยื่นจดหมายใหพลอยดูแลวรองวา "ออดเขาพูดตรงกับใจฉันเสียจริงทีเดียว ไมเสียทีที่เปนลูกพอ" พลอยตองเมินหนาไปยิ้มเสียทางอื่น เมื่อไดยินคุณเปรมพูด เพราะครั้งนี้เปนครั้งแรกที่เคยไดยินคุณ เปรม พูดวาตาออดดีกวาตาอั้น แตจดหมายจากตาออดฉบับนั้น ดูเหมือนจะทําใหคุณเปรมมีความหวังมากขึ้น กวาเกา มีอารมณดีขึ้นกวาเกา ไมรูสึกเสียอกเสียใจ หรือรําคาญในการที่ตาอั้นมีเมียแหมมจนเกินควร ตอจาก นั้น คุณเปรมก็พูดจากับตาอั้นและเมียโดยดี และเริ่มแสดงความเมตตากรุณาตามสมควร ซึ่งทําใหพลอยโลงใจ ขึ้นมาก อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy210.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๒ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๒) เมื่อตาอั้นกลับมาถึงไดไมกี่วัน พระเจาอยูหัวก็เสด็จประพาสสิงคโปรพรอมดวยขาราชบริพาร และคุณ เจาจอมคนแรกในรัชกาล คุณเปรมมิไดอยูในกระบวนเสด็จพระราชดําเนิน ฉะนั้นในระหวางที่เสด็จไมอยู คุณ เปรมจึงมีเวลาพาตาอั้นไปเที่ยวหาผูใหญในราชการ ที่คุณเปรมเคารพนับถือ และในที่สุดก็ฝากตาอั้น เขาทํา ราชการในกระทรวงยุติธรรม สมกับวิชากฎหมายที่ไดร่ําเรียนมา ตาอนที่ไปเปนนายทหารอยุธยานั้น ก็ไปมาหา สูอยูเปนนิจ ไมมีแวววาจะกระทําการสิ่งใดเกี่ยวกับชีวิตสวนตัวลงไปโดยไมปรึกษา คุณเปรมพูดวา ตาออดดี กวาตาอั้น ทําใหพลอยคลายความวิตกที่เคยมีอยูเดินนั้นลงไปไดบาง ระหวางนั้นพลอยก็ไดแตนั่งคอย ใหตา ออดกลับมาอีกคนหนึ่ง จะไดครบจํานวนลูก ซึ่งจะตองกินเวลาอีกราวๆ ปเศษ สิ่งที่ทําใหพอลย เกิดความกังวล ในขณะนี้ก็คือประไพ ประไพกําลังแตกเนื้อสาวขึ้นมาทุกวัน พลอยสงใหไปอยูโรงเรียนกินนอนแหงหนึ่ง และรับกลับมาคาง บาน อาทิตยละครั้ง สิ่งที่พลอยวิตกก็คือ กิริยามารยาทของประไพนั้น ดูจะเปนสมัยใหมฟุมเฟอยเกินไป ในสาย ตาของพลอย ถึงจะคอยตักเตือนอยางไร เวลาเผลอประไพก็แสดงกิริยาโกเกตางๆ ออกมาใหเห็น จะเดินจะเหิน จะลุกจะนั่งดูเปนไปโดยอิสระเสรีขาดความระมัดระวัง ผิดกับที่พลอยไดเคยรับการอบรมสั่งสอน มาแตยังเด็กๆ การพูดจาของประไพนั้นบางครั้งทําใหพลอยตองตกใจ เพราะประไพพูดตรงๆ ในเรื่องหลายเรื่อง ที่เด็กผูหญิง ไมควรจะพูด พลอยเคยปรารภขอใหคุณอุน ชวยดูแลความประพฤติของประไพอีกแรงหนึ่ง ซึ่งคุณอุนก็รับ แต พลอยก็รูวาจะไมมีผลอยางไร เพราะคุณอุนรักประไพเสียจนหลง แบบคนแกที่ตองมีอะไร หรือใครไวรักไวตาม ใจ และคุณอุนก็อยูในฐานะที่ประไพจะขูไดเสียแลว เพราะถูกตามใจมาไวมาก พอตาอั้นพาเมียแหมมมาไวในบาน ประไพก็เขาสนิทสนมกับพี่สะใภไดทันที ทุกครั้งที่อยูบาน ประไพก็ เขาไปขลุกอยูกับพี่สะใภในหอง และเมื่อออกมานอกหอง ก็มักจะมีกิริยาอาการของแหมมติดออกมา ดวยเสมอ พลอยรูไดทันทีวาประไพเริ่มเลียนแบบของลูซิลล เหมือนนกแกวนกขุนทองเรียนพูดภาษาคน ทาเดิน ทาพูด ทา หัวเราะ แมแตจะมองดูคนหรือสิ่งอื่น ประไพก็ทําทาเปนแหมมจนพลอยแทบจะทนไมได บางครั้งประไพก็เผลอ ตัวนั่งไขวหาง ทําใหพลอยตองดุเอาแรงๆ แตวันหนึ่งพลอยสังเกตเห็นประไพมีหนาตา แปลกไปกวาแตกอน จึง เรียกเขามาดูใกลๆ เอานิ้วเช็ดที่แกมที่ปากออกมาดู พลอยก็รูไดทันทีวาประไพทาหนา ดวยสีของพี่สะใภแหมม "ไปลางหนาออกใหหมดเดี๋ยวนี้ประไพ !" พลอยพูดเสียงสั่นดวยความโมโห ประไพสบัดหนาดวยความไมพอใจ แลวก็นั่งกมหนาปลอยน้ําตาใหรวงลงเผาะๆ อยูที่เกา ยังไมยอมลุก ไป "ดูซี ! ฉันบอกแลวยังทําไมไดยินอีก เดี๋ยวเถอะ" พลอยขูสําทับ "โธ ! คุณแมก็" ประไพพูดพลางสะอื้นพลาง "ไพลองดูหนอยเดียวเทานั้น ไมเห็นเสียหายอะไรเลย" "ตายจริง !" พลอยรอง "ผัดหนาทาปากราวกับนางละคร แลวยังมีหนามาบอกวาไมเสียหายอะไรอีก !" "พี่ลูซิลลเขาบอกวาที่เมืองนอก ผูหญิงเขาทากันทั้งนั้นเดี๋ยวนี้ !" "ที่นี่เมืองไทย ไมใชเมืองนอก !" พลอยพูดดังเกือบจะเปนตะโกน "ไปลางหนาออกเดี๋ยวนี้ทีเดียว !" เมื่อตาอั้นกลับมาจากทํางานตอนบาย พลอยก็บนเรื่องนี้ดวย แตตาอั้นกลับหัวเราะพูดวา "ประไพแกเปนเด็กรุนสาวขึ้นมาแลว แกก็ตองอยากสวยอยากงาม ที่เมืองฝรั่งเศสเดี๋ยวนี้ ผูหญิงเขาทา หนากันทั้งนั้นแหละคุณแม เขาไมถือวาเปนของเสียหายอะไร คอยดูไปเถิด อีกหนอยเมืองไทยก็คงจะตาม" "ไฮ ! ไมมีวันเสียละ" พลอยรองเสียงหลง "ใครจะตามก็ตามไปเถิด ฉันไมยอมคนหนึ่งละ ฉันแกแลว !" "คุณแมก็ดีแตอางวาแก" ตาอั้นตอบอยางอารมณดี "คนขนาดคุณแมที่เมืองนอกยังไมมีใครเขาถือวาแก เลย ผูหญิงฝรั่งนั้น สาวๆ เสียอีกเขาไมตองแตงตัวเทาไร เพราะถือวาสวยอยูแลว พออายุมากเขา เขาก็แตงตัว มากขึ้นตาม เพราะรางกายทรุดโทรมลงก็ตองชวยแตงใหสวยขึ้น" "ตาอั้น !" พลอยพูดอยางหัวเสีย "แกจะมีเมียแหมมก็มีไปเถิด แตอยาพยายามทําใหแมเปนแหมม ไปอีก คนเลย ไมมีวันสําเร็จหรอก ประไพนองแกก็เถอะแมไมยอมเหมือนกัน" ตาอั้นหัวเราะเดินจะกลับเขาหองแลวก็พูดวา "หามอะไรก็หามไดหรอกคุณแม แตจะหามประไพไมใหโตเปนสาวนั้น เห็นจะหามยาก คนที่โตเปนสาว นั้น จะหามไมใหแตงตัวสวย ก็หามไมไดอีก" คําพูดของตาอั้นในเรื่องนี้ ตลอดจนคําพูดกิริยาทาทางของประไพบางกรณี ทําใหพลอยเห็นวา การ เปลี่ยนแปลงตางๆ ตามยุคตามสมัยนั้น กาวคืบเขามาแมในครอบครัว ลูกๆ ของพลอยกําลังเปลี่ยนแปลงไป ทุก

http://www.geocities.com/siamstory/ploy210_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 4

ขณะจิต ตามความรูสึกของพลอยนั้น ลูกคนเดียวที่ยังพูดกันรูเรื่อง และพูดกันไดดวยความเห็นใจ ยังมีแตตา ออดคนเดียว และพลอยก็รอใหตาออดกลับอยูดวยความหวัง พระเจาอยูหัวเสด็จกลับจากสิงคโปรแลว และตอมาไมชาไมนาน ก็มีขาวทรงพระครรภพระเจาลูกเธอ พรอมดวยขาวสถาปนาเจาจอมผูทรงครรภ ขึ้นเปนพระนาง คุณเปรมดูจะปติยินดีในขาวพระเจาลูกเธอเปน พิเศษ พูดวา "ฉันเห็นพระทัยในหลวงทานเสียจริงๆ เสวยราชยมาตั้งนานแลว ยังไมมีพระเจาลูกเธอไวทรงรับ รัชทายาท พระเจานองยาเธอแทๆ ก็ทิวงคตไปทีละองค แมพลอยคิดดูซี เริ่มตนก็ทูลกระหมอมพระองคเล็ก แลวก็ทูลกระหมอมเอียด ทูลกระหมอมฟาติ๋วทิวงคตไปจนหมด เหลือแตทูลกระหมอมเอียดนอยพระองคเดียว ทานก็ไมแข็งแรงนักประชวรอยูบอยๆ ถามีเจาฟาประสูติเสียแตเดี๋ยวนี้ เรื่องก็จะแนนอนขึ้นไมมีปญหา กวาจะ สิ้นแผนดินก็คงจะทรงพระเจริญเปนหนุม เพราะในหลวงทานคงจะอยูในราชสมบัติไปอีกนาน" คุณเปรมพูดอยางมั่นใจและเต็มไปดวยความหวัง หาไดรูไมวาความมั่นใจและความหวังของตน จะสลาย ลงในเวลารวดเร็ว พลอยยังจําไดวาวันงานฉัตรมงคลตอมานั่นเอง คุณเปรมแตงเต็มยศเขาไปงานในวัง แลวก็ กลับบานดึกผิดปกติ พอคุณเปรมกลับมาถึงบาน เห็นพลอยนั่งคอยอยูก็เลาใหฟงวา "วันนี้ในหลวงเสด็จเขามาจากวังพญาไท ในพิธีฉัตรมงคล เสด็จขึ้นประทับพระที่นั่งจักรพรรดิอยูครูหนึ่ง เกิดโปรดขึ้นมาอยางไรก็ไมทราบ รับสั่งใหบอกมหาดเล็กหองพระบรรทม และชาวที่ที่วังพญาไท ใหยายเขามา เดี๋ยวนั้น จะประทับเขาที่ที่พระที่นั่งจักรพรรดิตอไป เปนประจํา ไมมีกําหนด" "รั้ววังทานก็มีถมไป ทําไมจะไปประทับที่นั่นเลาคุณเปรม" พลอยพูดขึ้น "ที่นั่งจักรพรรดินั่นโบราณ ออก จะตายไป มีมาแตสรางกรุง ไมเห็นจะนาสบายตรงไหนเลย ฉันอยูในวังเห็นวานากลัวออก" "ก็นั่นนะซี" คุณเปรมเห็นดวย "พระที่นั่งจักรพรรดิเคยเปนที่ประทับมาจนถึงรัชกาลที่สาม ตอมานั้นมา กี่ แผนดินก็ไมเคยเขาไปประทับที่นั่น คงเขาเพียงคืนวันเฉลิมพระราชมณเฑียร ในงานราชาภิเษกเทานั้น" "บางทีทานจะมีพระประสงคใหพระเจาลูกเธอประสูติในวังหลวงกระมัง" พลอยแนะ "ถึงกระนั้นก็เถอะ" คุณเปรมพูด "พระที่นั่งอื่นในนั้นก็ยังมีถมไป แตฉันไดยินวาทานรับสั่งวา ทานจะเขา มาประทับแบบพระเจาแผนดินโบราณ เขาที่ใตพระมหาเศวตฉัตรในจักรพรรดิ เครื่องเคราตางๆ เชนเครื่อง ราชูปโภค เครื่องทรงพระสําอางคก็สั่งใหเอาของเกาออกใชทั้งนั้น แปลกแทๆ ทีเดียว ฉันนึกสังหรณอยางไรก็ไม รู ในหลางทานไมคอยประทับในวังหลวงกี่มากนอย ตั้งแตเสวยราชยมาก็เที่ยวประทับ ที่โนนที่นี่ สรางวังใหมๆ ก็หลายแหง ชั้นแตทาวาสุกรียังเคยไปประทับ แตคราวนี้รูสึกวาทานอยากจะกลับ เขาวังหลวงเสียจริงๆ เหมือน กับคนที่หายไปไหนนานๆ แลวอยากกลับบาน" "ปานนี้ยายชอยคงดีใจหรอก เพราะในวังจะไดครึกครื้น" พลอยพูดขึ้นเพื่อใหคุณเปรมคลายกังวล "ทาเห็นจะจริง" คุณเปรมตอบ "ถาประทับอยูในนั้นนานๆ มีเจาฟาประสูติในวัง บางทีก็จะกลับไปเหมือน เกาๆ ครั้งแมพลอยกับฉันยังเปนหนุมเปนสาวอยูกระมัง นึกดูเดี๋ยวนี้ก็นานใจหาย แตถานึกถึงเปนบางเรื่องก็ดู เหมือนวานซืนนี้เอง" "เรื่องอะไรคุณเปรม" พลอยถาม "ก็ไมรู...หลายเรื่อง" คุณเปรมตอบ "ตอนฉันไปดักคอยดูตัวแมพลอย แถวหนาประตูศรีสุดาวงศนั้น ยังจํา ไดติดหูติดตา เหมือนกับเพิ่งไปมาแตเมื่อวานนี้เอง แตถาคิดไปก็นานหนักหนา คนที่เคยรูจัก ก็ตายไปแลวเกือบ หมด ลูกเตาของเราก็เติบโตเปนหนุมเปนสาวไปหมด ยังมีเหลือที่ไมเปลี่ยนแปลง ก็แมพลอยเทานั้นเอง" "คุณเปรมก็ชางพูดออกมาได ไมกระดากปากบางเลย" พลอยรองขึ้น "ฉันแกลงไปตั้งเปนกอง แลวยังมา วาไมเปลี่ยนแปลง" "แมพลอยแกก็ไมไดแกไปคนเดียว" คุณเปรมตอบ "ฉันเองก็แกลงไปดวย คนเราที่รักกันอยูดวยกันมา ตลอดชีวิตแกลงมาดวยกัน ก็จะตองเห็นวาคนที่เรารักนั้น ไมมีอะไรเปลี่ยนแปลงคงอยูอยางไรก็อยางนั้น อยาง ฉันมองเห็นแมพลอยนี่แหละ เพราะฉันมีแตแมพลอย ฉันจึงไมวิตกอะไรเทาไรนัก ถึงของอื่นจะเปลี่ยนแปลง ไป ตามกาลตามเวลา แมพลอยของฉันก็ยังคงที่เหมือนเกาอยูเสมอ ยังสาวยังสวยอยูไมเปลี่ยนแปลง" คุณเปรมพูดพลางหันหลังใหพลอยแลวพูดตอไปวา "แมพลอยชวยบีบหัวไหลตรงนี้ใหฉันหนอยเถิด เมื่อตอนบายฉันไปดูชาวที่เขาจัดพระที่นั่ง เห็นอะไรตอ อะไรวางอยูไมถูกใจ โดดเขายกเอง มันยอกที่หัวไหลขวานี่ปลาบขึ้นมาเฉยๆ เดี๋ยวนี้ก็ยังไมหาย" พลอยอมยิ้ม ยกมือขึ้นนวดไหลคุณเปรมดวยความรักความเอ็นดู ถึงปากคุณเปรมจะพูดจาฉอเลาะนาฟง เหมือนผัวหนุมเมียสาว แตสังขารของคุณเปรมก็รองอุธรณวาคุณเปรมนั่นแกลง มิใชคนหนุมอยางแตกอน หรือ อยางที่คุณเปรมเขาใจ ตอมาอีกสามสี่วัน พลอยก็ไดรับขาวจากคุณเปรมวาในหลวงทรงพระประชวร แตคุณเปรมพูดอยางเห็น เปนของธรรมดาวา "ไมหนักหนาอะไรหรอกแมพลอย พระนาภีเสียนิดหนอยเทานั้น เพราะเสวยโตะจีนในงานเลี้ยง บางทีจะ มีอะไรผิดสําแดง แตอีกสองสามวันก็คงจะหาย ฉันไดยินหมอเขากะกันวาอีกสิบกวาวันเจาฟาก็จะประสูติ คงจะ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy210_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 4

ดีพระทัยไดฉลองกันใหญ เดี๋ยวนี้ก็ไดเตรียมสมโภชเจาฟาไวพรอมแลว" แตอีกสองสามวันตอมาอาการทรงประชวร ก็มิไดดีขึ้นจริงดังคาด แตยังคงทรงพระประชวรตอไป และ พระอาการกลับทรุดลงเรื่อยๆ พลอยสังเกตเห็นคุณเปรมหนาไหมตาเกรียมลงทุกๆ วัน แมแตขาวจากเมือง นอกวาตาออดเรียนสําเร็จสอบไลไดปริญญา และจะเริ่มออกเดินทางกลับบานในเร็วๆ นี้ ก็มิไดทําใหคุณ เปรมดีใจเทาไรนัก เมื่ออานจดหมายจากตาออดจบ คุณเปรมก็ไดแตถอนใจใหญแลวพูดขึ้นลอยๆ วา "ถาฉันไดรับขาวนี้เวลาอื่น ฉันก็คงจะดีใจมากหรอกแมพลอย แตในยามนี้...ฉันรูสึกเหมือนกับวา หัวใจ มันแหง ไมมีอะไรที่จะมาทําใหรื่นเริงดีใจได พระอาการในหลวงนาวิตกขึ้นทุกวัน เขาวาเปนฝหัวคว่ํา ในพระ นาภี เมื่อวานนี้เองมหาดเล็กเขาพูดวามีมดขึ้นพระบังคนเบา ถาเปนจริงก็แปลวาโรคเบาหวานเขามาแทรก... เจาประคุณเอย...ขอใหทานหายวันหายคืนเถิด ฉันรูตัววาฉันมีรมโพธิ์รมไทรเหลืออยูเพียงแผนดินนี้... แตหมูนี้ ฉันฝนรายติดๆ กันมาหลายคืนแลว ใจคอไมคอยสบายเลย บนบานศาลกลาวไปทั่วทุกแหงแลว จนชั้นแตทาว หิรัญฮู เห็นแกเคยคุยไวหนักหนาวาแกถวายตัวไวคอยคุมครองพระองคมิใหมีอันตราย ถาคราวนี้ทานเปนอะไร ฉันกับอีตาหิรัญฮูนี่ เห็นจะตองตัดญาติขาดมิตรเลิกนับถือกันทีเดียว" พลอยเคยจําไดวาคุณเปรมเลาใหฟงวา "ทาวหิรัญฮู" นั้นเปนอมนุษยตนหนึ่ง สิงอยูที่สุโขทัย อันเปน ราชธานีโบราณ เมื่อพระเจาอยูหัวเสด็จสุโขทัยครั้งเปนสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ทาวหิรัญฮูก็มาปรากฏ ใน พระสุบิน กราบทูลใหทรงทราบชื่อเสียงและเรื่องราวของตน แลวถวายตัวเปนเทพารักษประจําพระองค คอยคุม ครองปองกันอันตราย และจะตามเสด็จไปทุกแหง ครั้นบรรทมตื่นจากพระสุบินแลว จึงโปรดใหสรางรูปทาวหิรัญ ฮูตาทที่ทรงจําได และเชิญรูปนั้นไปในทุกที่ๆ เสด็จไปประทับ ที่พญาไทก็มีรูปใหญ โปรดใหตั้งเครื่องเซนเปนนิจ และมีรูปเล็กอีกรูปหนึ่งติดรถยนตพระที่นั่งสวนพระองค วันหนึ่งคุณเปรมกลับมาบานตอนเย็นแลวก็พูดวา "เจาฟาประสูติแลว แมพลอย" "เจาฟาชายหรือ" พลอยรีบถามขึ้นดวยความสนใจ "เปลาเจาฟาหญิง" คุณเปรมตอบอยางออนใจ "แลวทรงทราบหรือยัง" "ทรงทราบแลวตั้งแตตอนประสูติเมื่อเชา" คุณเปรมตอบ "เพราะเสียงประโคมดังเขาไปถึงในที่บน จักรพรรดิ มีแตเสียงปพาทย ไมมีประโคมแตรสังขก็ทรงทราบไดทันที" "เปนอันวา..." พลอยพูดไมทันจบคุณเปรมก็พยักหนาพูดสวนขึ้นมาวา "เปนอันวา แผนดินตกแกพระเจานองยาเธอ เพราะไมมีพระราชโอรส" "องคไหน คุณเปรม" พลอยถาม "เห็นจะทูลกระหมอมเอียดนอย" คุณเปรมตอบแลวก็ถอนใจ เย็นวันนั้นคุณเปรมอาบน้ําแลวก็ไมยอมอยูกินขาว อางวาไมมีแกใจ ถึงกินก็คงกินไมลง แลวก็รีบกลับเขา ไป นั่งเฝาพระอาการ บอกวาจะกลับพรุงนี้บายๆ กอนจะเขาวังคุณเปรมก็เลาถึงเรื่องที่เขาเชิญเจาฟาประสูติ ใหม เขาไปใหพระเจาอยูหัวทอดพระเนตรขางพระที่ ไดแตเอาพระหัตถวางบนพระองคเจาฟาเบาๆ แลวน้ําพระ เนตรไหล มิไดตรัสวาอยางไร ทําใหพลอยตองน้ําตาไหลออกมาโดยไมรูสึกตัว ดวยความสงสาร คืนนั้นทั้งคืนพลอยนอนไมคอยหลับ จิตใจหดหูผิดปกติ นึกสงสารพระเจาอยูหัว สงสารคุณเปรม และ รูสึกวังเวงอยางบอกไมถูก เชาวันรุงขึ้นพอพลอยตื่นลางหนา ก็ไดยินเสียงชอยเดินพูดขึ้นมาบนตึกวา "พอประตูวังเปดฉันก็รีบออกมาทีเดียว" แลวชอยก็โผลเขามาในหอง แตงดําทั้งตัว พอเห็นพลอยก็พูดขึ้น วา "สวรรคตเสียแลวแมพลอย" พลอยรีบลางหนาดวยมืออันสั่นเพราะความตกใจ ความเสียใจเปนสวนตัวอยางที่เคยรูสึกเมื่อแผนดิน กอนนั้นมิไดบังเกิดขึ้น เพราะแผนดินนี้พลอยขาดความใกลชิด มีแตความตกใจ และรูสึกใจหายในขาวสวรรคต และความรูสึกเหมือนบานแตกสาแหรกขาดอีกครั้งหนึ่ง เพราะพลอยรูโดยสัญชาตญาณวา เหตุการณครั้งนี้จะ ตองกระทบกระเทือนชีวิตความเปนอยูของตน และของคนทั่วไป "สวรรคตเมื่อคืนนี้ตอนดึก" ชอยเริ่มเลา "ฉันก็ไมไดเห็นอะไรหรอกเพราะอยูหาง แตเทาที่เห็นก็ขนลุก ตอนนั้นฉันนอกไมหลับออกมาลูบตัวขางนอก เหลือบมองไปทางพระที่นั่งจักรพรรดิ เห็นดาวตกดวงโตทีเดียว เกือบเทาลูกมะพราว ตกใจแทบสิ้นสติ พอดาวดวงนั้นจะลับหลังคาพระที่นั่งไป ความสวางของดาว ทําให กระเบื้องเคลือบมุงหลังคาพระที่นั่งสวางโร กระทอนกลับขึ้นมาราวกับไฟไหม อีกสักครูหนึ่งคนเขาก็วิ่งมา บอกวาสวรรคตแลว เขาเลาวาตอนที่มีแสงสวางนั้น ขุนนางที่เฝาอยูขางหนาลุกฮือกันดวยความตกใจ บางคนวิ่ง ถลันเขามาถึงประตูย่ําค่ํา นึกวาเกิดอะไรขึ้น" พลอยนั่งคุยกับชอยเบาๆ อยูบนตึก รอใหคุณเปรมกลับบาน แตก็ตองนั่งรออยูนานกวาปกติ จนเกือบ บายโมงคุณเปรมจึงไดมาถึง พอเห็นหนาคุณเปรมพลอยก็ตองสะดุง เพราะคุณเปรมดูเหมือนจะแกลงไป หลาย ปภายในเวลาคืนเดียว ตาคุณเปรมลึกกลวงแดง เหมือนกับรองไหมาจนสิ้นน้ําตาเสียแลว ใบหนาซีดเผือด แกม

http://www.geocities.com/siamstory/ploy210_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๒ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 4

ตอบเขาไปจนกระดูกแกมขึ้นเห็นไดชัด คุณเปรมเดินขึ้นบานอยางออนระโหยโรยแรง เห็นพลอยนั่งอยูกับชอยก็ มิไดพูดวากระไร แตเดินผานเลยเขาไปในหองพระ ทําใหพลอยตองรีบลุกขึ้น และเดินตามเขาไปติดๆ ในหองพระมีพระบรมรูปองคใหญ ของพระเจาอยูหัวรัชกาลที ๖ ตั้งอยู คุณเปรมเดินเขาไปถึงตรงหนา พระบรมรูปแลวก็คอยๆ คุกเขาลงหมอบกราบถวายบังคม... แลวคุณเปรมก็ซบหนาเปนลมสิ้นสติอยูตรงนั้น ! จบแผนดินที่สอง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy210_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๑

Page 1 of 6

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๓ บทที่ ๑ จะเปนเพราะหลักธรรมชาติที่วาคนเราเมื่ออายุสูงขึ้น จะตองเห็นวาเวลาผานไปโดยรวดเร็ว หรือจะเปน เพราะเหตุการณตางๆ ในยุคตอๆ มานั้นผานไปโดยรวดเร็วจริงๆ ตามสภาพ หรือจะเปนเพราะอะไรก็ตาม พลอยรูสึกวาวันหนึ่งๆ ในชีวิตนั้นผานพนไปเร็วกวาแตกอน และถาหากวาเผลอตัวไปแมแตนอย วันคืนนั้นก็ ลวงเลยไปกลายเปนเดือนปโดยไมรูตัว และเหตุการณตางๆ ที่เกิดขึ้นแกตัวพลอยเอง นับตั้งแตผลัดแผนดินใหม เปนแผนดินที่สามในชีวิต หรือรัชกาลที่ ๗ แหงกรุงรัตนโกสินทรนั้น ก็ดูจะเกิดขึ้นโดยรวดเร็วในลักษณะที่ยุง เหยิงสับสนอลเวง จนบางครั้งพลอยแทบจะไมสามารถเลียงลําดับเหตุการณนั้นๆ ไดถูกตอง หลังจากวันที่เปนลมลงในวันสวรรคตของลนเกลาฯ รัชกาลที่ ๖ คุณเปรมก็เจ็บกระเสาะกระแสะอยูหลาย วัน อาการปวยนั้นก็มิไดมีอะไรแนนอน นอกจากวาเหน็ดเหนื่อยเกินกวาปกติมาระยะหนึ่ง เมื่อความเหน็ด เหนื่อยนั้น มากระทบกับความเศราโศกเสียใจอยางแรง รางกายของคุณเปรมก็ลมเจ็บลง เปนภาระของพลอยที่ จะตองรักษา พยาบาลอยูนานวัน และแมเมื่อคุณเปรมจะหายเจ็บแลว พลอยก็ยังมิไดหมดความวิตกกังวล ตอง คอยระวัง ตองคอยมองตามคุณเปรมอยูดวยสายตาที่เปนหวง นับตั้งแตวันสิ้นแผนดินเปนตนมา คุณเปรมก็ดูแกลงไปถนัดใจ เลิกสนใจกับความเปนอยูของตัวเอง การ กินอยูการแตงตัว แมแตความสะอาดทางรางกายเล็กๆ นอยๆ คุณเปรมก็ปลอยปละละเลย อาการเหลานี้ พลอย รูดีวาเปนอาการอันสืบเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ เพราะใจของคุณเปรมนั้นหมดอาลับตายอยาก หมดความสนใจในสิ่งแวดลอมที่อยูรอบๆ ตัว คุณเปรมเคยเปนผูที่สนใจตอชีวิตของตนเอง และชีวิตของคนอื่นๆ ที่รูจักนั้นมาก การกระทําของคุณเปรมแตกอนมานั้น พลอยรูสึกวาเปนไปโดยมีความปรารถนาที่จะรุงเรืองกาว หนา และความประสงคที่จะแสดงตนเองออกใหปรากฏนั้น เปนเครื่องกําหนด ขณะเดียวกันคุณเปรมก็สนใจ ใน เรื่องของคนอื่น วาใครทําอะไรที่ไหน ใครจะดีจะชั่วอยางไร แลวก็นําเอาการกระทําและคุณสมบัติ และผลของ การกระทําเหลานั้น มาเปรียบเทียบกับการกระทํา ผลการกระทําและคุณสมบัติของตนเอง ทั้งหมดทําใหคุณ เปรมสนใจตอชีวิต และความกระหายนั้นก็เปนกําลังดันใหชีวิตของคุณเปรมดําเนินได ตอไปเรื่อยๆ แตบัดนี้ ความกระหายนั้นมีเหลือแตนอย ตนเองจะเปนอยางไร คุณเปรมก็มิไดสนใจ คนอื่นเปนอยางไรคุณเปรมก็มิได สนใจเชนเดียวกัน แตกอนนี้คุณเปรมอยูในฐานะผูชี้ชวนใหพลอยดูโลก และเปนผูเลาใหพลอยฟงถึงเหตุการณที่ เกิดขึ้นรอบๆ ตัว พลอยอยูในฐานะเปนผูรับฟง แตโดยกะทันหัน โดยที่พลอยมิไดรูเนื้อรูตัวเลย ฐานะนั้นก็ เปลี่ยนกลับกันไป พลอยกลายเปนผูเลา เปนผูชี้ชวนใหคุณเปรมมองเหตุการณตางๆ คุณเปรมกลายเปนผูฟง แตฟงโดยไมสนใจเทาใดนัก คุณเปรมเคยพูดมาตลอดรัชกาลที่ ๖ วา พระเจาอยูหัวพระองคนั้น เปนผูที่คุณ เปรมมอบความรักความเคารพบูชา และชีวิตจิตใจถวายไวจนสิ้น เมื่อพลอยไดยิน พลอยก็รูสึกเชื่อเพียงสวน หนึ่ง อีกสวนหนึ่งที่สงวนไวในใจนั้น เปนความรูสึกที่วาคุณเปรมอาจพูดไปเชนนั้น ดวยอารมณและคารม แตเมื่อ พระเจาอยูหัวสวรรคตแลว พลอยจึงไดรูวาคุณเปรมพูดพรรณามาดวยความจริงใจ แตสิ่งที่พลอยรูไมถึงก็คือ ความจริงอีกอยางหนึ่ง ซึ่งคุณเปรมเองก็ไมรูความจริงนั้นก็คือ เมื่อผลัดแผนดินจากรัชกาลที่ ๕ มาเปนรัชกาลที่ ๖ คุณเปรมยังเปนคนหนุม อยูในวัยที่แข็งแรง เต็มไปดวยกําลังใจกําลังกายที่จะเริ่มชีวิต พรอมที่จะรับบทเรียน จากชีวิต และนําบทเรียนนั้นๆ มาใชใหเห็นประโยชนแกชีวิต แตเนื่องจากการอบรมที่คุณเปรมไดรับแมแตกอน คุณเปรมจึงนําชีวิตนั้น ผูกมัดไวกับองคพระมหากษัตริยผูครองแผนดิน หันทางเดินของชีวิตใหเขากับแนวพระ ราชประสงค และพระราชนิยมทุกประการ ความเห็นและความปรารถนาสวนตัวนั้น คุณเปรมไมเคยคํานึงถึง ดวยเหตุนี้เมื่อผลัดแผนดินใหมครั้งหนึ่ง คุณเปรมก็ถือวาชีวิตของตนเปลี่ยนแนวทางไปครั้งหนึ่ง จําตองปรับปรุง บิดผันหันชีวิตใหเขากับแนวที่ถูกตั้งขึ้นใหม เมื่อผลัดแผนดินใหม รัชกาลที่ ๕ สิ้นไปขึ้นรัชกาลที่ ๖ คุณเปรมยัง หนุมพอ และแข็งแรงพอที่จะเริ่มการปรับปรุงเขาแนวใหม และเริ่มชีวิตใหม ระยะเวลา ๑๕ ปของรัชกาลที่ ๖ เปนระยะที่คุณเปรมเห็นวาไดชีวิตมาอยางสมบูรณ พอใจในชีวิตนั้น และยังอาลัย ไมอยากใหเปลี่ยนแปลงชีวิต นั้นเลย แตคุณเปรมก็รูดีวา ถาตนจะบําเพ็ญชีวิตตอไปในรัชกาลที่ ๗ ใหถูกตอง ตนก็จะตองปรับวิถีแหงชีวิตให เขาหาระดับใหม ตองรูจักคนใหมๆ ตองศึกษาชีวิตใหม ถาจะพูดสั้นๆ ก็ตองเริ่มชีวิตใหมทั้งอัน แตคุณเปรมก็แก เกินไป และมีกําลังนอยเกินไปที่จะทําเชนนั้นได สําหรับพระเจาอยูหัวพระองคใหม คุณเปรมก็รูวาตนมีความจง รักภักดีมิไดเสื่อมคลาย แตกําลังใจ ที่จะสนองพระเดชพระคุณนั้นเสื่อมลงตามวัยแหงสังขาร ในระยะนี้พลอยตองเปนผูคอยชักชวนใหคุณเปรมสนใจในสิ่งตางๆ อยูเสมอ แตความพยายามของพลอย ไมสูจะไดผล เพราะคุณเปรมไดแตนิ่งฟง และถาหากวาถอยคําของพลอยบังเอิญเกี่ยวพันไปถึงเหตุการณ บางอยาง ในแผนดินกอน คุณเปรมก็เบือนหนาหนีแลวถอนใจใหญ เหมือนกับไมอยากจะรื้อฟนเอาเรื่องเกาๆ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy301.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๑

Page 2 of 6

มานึกคิดอีกตอไป สิ่งที่คุณเปรมยังสนใจเหมือนแตกอน หรือจะดูเหมือนจะมากกวาแตกอนนั้น ยังเหลืออยูเพียง อยางเดียว สิ่งนั้นคือการเลี้ยงมาและการขี่มา วันหนึ่งๆ เดี๋ยวนี้คุณเปรมเขาไปในวังพอเปนพิธี เพราะพระบรม ศพยังอยูที่ปราสาท แตแลวคุณเปรมก็รีบกลับบานมาขลุกอยูในคอกมา เชาเย็นคุณเปรมก็ขึ้นมาตัวโปรด ออกขี่ ไปทางคลองเตย หรือทางสวนลุมพินี ซึ่งไดกะไววาจะเปนที่มีงาน ฉลองราชสมบัติพระเจาอยูหัวรัชกาลที่ ๖ ครบ ๑๕ ปเปนงานใหญ ถึงกับไดลงมือปลูกสิ่งกอสรางไปบางแลว แตบังเอิญเสด็จสวรรคตเสียกอน งานนั้นจึง งดไป คุณเปรมชอบควบมาหายไปจากบานคนเดียว ไมชอบใหใครตาม กลับมาถึงบานก็เหงื่อโซมตัว และเหงื่อ ของมาออกจับอยูตามตัวมาเปนฟองขาว พลอยไมสบายใจนักในความสนใจเรื่องมาที่ยังเหลืออยูนี้ เพราะคุณ เปรมอายุมากขึ้น เกรงวาจะพลาดพลั้งเปนอันตราย แตพลอยก็ตองนิ่งมิกลาตักเตือน เพราะเห็นวาการขี่มาออก เที่ยว ยังเปนสิ่งเดียวที่คุณเปรมชอบ และทําใหคุณเปรมสบายใจขึ้นไดบาง เพราะความตกใจฉุกละหุกในเรื่องในหลวงสวรรคต เพราะความกังวลในเรื่องความเจ็บไขของคุณเปรม พลอยมิไดมีเวลาที่จะคิดคํานึงถึงระยะเวลาที่ผานไป เผลอตัวไปเพียงไมกี่มากนอย ตาออดก็เดินทางกลับ จาก อังกฤษเขามาถึงเมืองไทย ตาออดสงขาวเขามาวา จะเดินทางดวยเรือไฟมาถึงสิงคโปร แลวจะลงเรือจากที่นั่น ขึ้นรถไฟมาลงที่สถานีบางกอกนอยที่กรุงเทพฯ เมื่อถึงวันเวลาที่ตาออดจะมาถึง พลอยก็ไปปรากฏตัว ที่สถานี บางกอกนอยพรอมดวยคุณเปรมและพี่นองทุกคน ในลักษณะเหมือนกับในฝน ไปสะดุงตื่นจากฝน เอาตอนที่ รถไฟเขาเทียบชานชาลา และตาออดเผนจากรถไฟมากอดพลอยไวแนน เสียงตาออดหัวเราะ และเสียงคุณเปรม และคนอื่นๆ หัวเราะและทักทายกันใหลั่นไป พลอยเงยหนาขึ้นมองหนาลูกทั้งน้ําตา ตาออดเติบโตสูงขึ้นเปนหนักหนา พลอยซึ่งยืนอยูชิดตัว ตอง แหงนหนาขึ้นดูจึงจะแลเห็นหนาตาออดได หนาตาออดดูขาวขึ้น เปนผูใหญขึ้น และมีรองรอยของหนวดเคราขึ้น เขียว แตวิธีจะพูด วิธีจะหัวเราะตลอดจนสายตาที่มองดูพลอย และดูคนอื่นๆ นั้น แสดงใหเห็นวาตาออดยังเปน ตาออดลูกของพลอยคนเกา ระยะเวลารวมสิบป มิไดทําใหตาออดเปลี่ยนแปลงไปเลยในสาระสําคัญ ตาออดรวบ ตัวพลอยไปกอดอีกทีหนึ่ง แลวกระซิบวา "นิ่งเสียเถิดแม ทําขี้ออนไปได ไมอายคนเขาบาง" คําพูดของตาออดทําใหพลอยตองหัวเราะ รีบเช็ดน้ําตาใหแหงสนิท ตาออดทักทายทุกคนอยางสนิทสนม กราบไหวคุณเปรมอยางนอบนอม พูดเลนกับพอเพิ่มคุณเชยและหลวงโอสถ หันหนาไปยิงฟนกับตาอั้นและตา อน กับประไพที่มารับ แลวเดินเขาไปเอียงแกมจูบกับลูซิลล แบบญาติที่ดีของฝรั่ง วันนี้เปนวันที่พลอยเห็นคุณ เปรม เบิกบานจริงๆ เปนครั้งแรก เสียงคุณเปรมพูดดังดวยความดีใจเกินกวาปกติวา "ออดสูงกวาพอเปนกอง ไหนมายืนเทียบกันดูทีหรือจะสูงกวากันเทาไร" ตาออดเขาไปยืนขางๆ ตามที่คุณเปรมสั่งและพลอยก็มองดูดวยความปลื้มใจ วาตาออดสูงกวาคุณเปรม ประมาณสักฝามือหนึ่งเห็นจะได ระหวางที่คนใชที่ตามไปชวยขนของจากบาน กําลังยกของลงจากรถไฟ พลอย ก็อดเหลือบมองดูทางประตูรถไฟไมไดวา จะมีใครตามตาออดลงจากรถไฟอีกบางหรือไม มองครั้งหนึ่งก็ไมเห็น มีอะไร มองครั้งที่สองที่สามตอไป จนตาออดสังเกตเห็นอาการกิริยาของพลอย และอมยิ้มอยูในใบหนา ขนของลงจากรถไฟจนเสร็จแลว ทุกคนตางเดินไปลงเรือยนตที่คุณเปรมจัดมาเฉพาะ เพื่อขามฟากกลับ บาน ในเรือนั้นไมมีใครนอกจากตาออดและพลอย คุณเปรมและญาติพี่นองที่ไปรับ ตาออดผูซึ่งนั่งอยูกับพลอย จึงไดถามขึ้นเบาๆ วา "แมพอใจหรือยังวาลูกกลับมาคนเดียว ไมไดเอาใครตามมาดวย" พลอยหัวเราะดวยความโลงอก เอื้อมมือไปบีบแขนตาออดดวยความพอใจ เสียงตาออดพูดเบาๆ ตอไป วา "จุ ! จุ ! อยาเอะอะไป พี่อั้นเขากําลังมองมาทางนี้ เดี๋ยวเขาจะโกรธเอา" แตพลอยก็รูวาถอยคําที่พูดนั้นไมมีใครจะไดยินได เพราะเสียงเครื่องยนตในเรือดังกลบอยูตลอดเวลา ญาติพี่นองทุกคนที่ไปรับตาออดวันนั้น ไมมีใครปลีกตัวกลับกอน พอเพิ่ม คุณเชย และหลวงโอสถ ตาง รับเชิญจากพลอยใหมากินขาวกลางวันดวยกันดวยความยินดี พอถึงบานพลอยก็พาตาออดไปอาบน้ํา ผลัด เครื่องแตงตัว และความสุขของพลอยในวันนั้น ดูเหมือนจะเต็มเปยมถึงขีดสุด เพราะไดปฏิบัติลูก ไดดูแลลูก ซึ่ง เพิ่งกลับมาถึงใหมๆ ดวยตัวของตัวเอง และดวยความรูสึกที่มีสิทธิ์อยางสมบูรณ ไมมีใครมากีดกันแกงแยง ตา ออดอาบน้ําแลวก็แตงตัวดวยเสื้อผาปานและกางเกงจีน ที่พลอยหาไวให กางเกงแพรนั้นสีดํา ดวยยังอยูใน ระหวางไวทุกขพระบรมศพ เสร็จแลวตาออดก็มานั่งกินขาว ซึ่งพลอยหาไวใหดวยความหิวกระหาย ดวยความ เอร็ดอรอยสมกับที่ไดจากกับขาวไทยไปนาน ทําใหพลอยกินไมลง ไดแตนั่งอมยิ้มมองดูอยางอิ่มใจ หนักเขาก็ รูสึกตัว จึงชําเลืองไปดูคนอื่นที่นั่งกินขาวอยูดวย เห็นคุณเชยหลวงโอสถและพอเพิ่มก็นั่งอมยิ้ม ดูตาออดอยูดวย ความพอใจเชนเดียว ตาออดกินขาวอิ่มแลวก็ปรารภขึ้นวา "ตั้งแตวันนี้เปนตนไป ออดจะไมขอไปจากเมืองไทยอีก จะขออยูจนตายไปที่นี่ เพราะจะหาบานเมืองไหน ที่สุขสบายไปกวานี้อีกก็ไมมีแลว"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy301.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๑

Page 3 of 6

"ก็ไหนเขาวาที่เมืองนอกก็สุขสบายนักไมใชหรือพอออด" พอเพิ่มถามขึ้น "ก็คงสนุกสบายสําหรับคนที่ไปเที่ยวชั่วคราวเทานั้นแหละครับคุณลุง" ตาออดตอบ "ถาจะอยูกันจริงๆ ก็สู ของเราไมได ที่เมืองนอกถึงจะมีอะไรดี ก็จะตองรูตัวอยูเสมอวานั่นไมใชของเรา แตเปนของคนอื่น พอมาถึง เมืองไทยเขาก็เห็นวาเปนของเราไปหมด ดินฟาอากาศถึงจะรอนเพียงไรก็เปนของเรา กลิ่นไอทั่วไปถึงจะเหมือน บางอะไรบาง ก็เปนเครื่องบอกใหรูวาเราถึงบาน บานเมืองถนนหนทางไรนา ตลอดจนตนหมากรากไม ถึงจะรก บางไมรกบางก็เพราะเราเปนคนทํา ถาเราทําใหมันรกไดเราก็ทําใหมันหายรกได รถไฟที่ผมนั่งมานั้นแลนเขา เขตแดนไทยแตตอนดึก ผมไมเปนอันหลับอันนอน ไดแตนั่งดูเมืองไทยดูแลวดูอีก ดูเทาไรก็ไมเบื่อ จนรถเขาถึง บางกอกนอยไมรูตัว จะมองไปทางไหนมันก็เย็นตาสบายใจไปทั้งหมด" "พอออดนี่เปนเอามาก" พอเพิ่มพูดขึ้นเบาๆ เหมือนกับจะพูดกับตัวเอง "เปนอะไรเอามากครับลุง" ตาออดถาม "เปลา เปนหลานของลุงเทานั้นเอง" พอเพิ่มตอบ "ลุงก็คิดอยางเดียวกันมานานแลว อยูเมืองไทยมาแต ออนแตออกจนแกปานนี้ ยังไมเคยนึกเบื่อเลย นั่งดูอยูไดทุกวัน แลวก็ยังสนุกอยูทุกวัน ใครเขามาเลาเรื่องเมือง นอกวาที่นี่ดีอยางนั้นที่นั้นดีอยางนี้ ลุงไมเคยเชื่อคารมเขาเลย จะเถียงเขาไอเราก็ไมเคยไป ไดแตนิ่งฟงเขาไป เทานั้นเอง ไหนพอออดลองเลาไปทีหรือ เมืองนอกเมืองไทยมันผิดกันอยางไรบาง" "ถาจะเลากันจริงๆ ปหนึ่งก็ไมจบ" ตาออดพูด "แตเอายังงี้ก็แลวกัน ผมจะเลาใหฟงแตเรื่องใหญๆ ที่ผิด กัน เทาที่นึกออกเดี๋ยวนี้ ทั้งเมืองนอกและเมืองไทยนั้นมีทั้งคนมีและคนจน แตที่เมืองนอกนั้นคนมีเขามีจริงๆ แตคนจนเขาก็จนกันจริงๆ สวนเมืองไทยเราถึงจะมีก็มีไมจริงและจนก็จนไมจริงอีก คนมั่งมีที่เมืองนอกนั้น ถา เขามาเห็นคนมั่งมีในเมืองไทย เขาก็จะตองดูถูกวาเราจน เพราะไมวาจะเปรียบกับเขาทางไหน เราเปนแพเขา ไปทุกทาง บานชองที่เราอยูตลอดจนอาหารการกิน เราก็สูเขาไมได ทรัพยสมบัติยิ่งแพเขาใหญ เพราะบานเรา ใครมีเงินแสนก็เรียกวารวย แตของเขามีกันเปนสิบเปนรอยลาน ทรัพยสมบัติของเราตกทอดกันลงมา เพียงไมกี่ ชั่วคน ของเขาตกทอดกันลงมาเปนพันๆ ป มันก็ตองมาก แตคนจนของเขานั้นสูคนจนของเราไมได แพกันหลุด ลุย เพราะของเรานั้นดินฟาอากาศชวยใหอยูไดอยางคนมี อาหารการกินก็หาไดงาย และที่สําคัญนั้นคืออากาศ เพราะเราเปนเมืองรอน จนจริงๆ จะนุงผาขาวมาผืนเดียวนอนศาลาวัดก็อยูได และเย็นสบายดีเสียอีก แตของ เขาทําเชนนั้นไมได ถาทําเขาก็ถึงตาย จึงตองหาเสื้อผาใสกันหนาวและหาไฟผิง บางทีหองเล็กนิดเดียวอยูใตดิน ครึ่งหนึ่ง คนจนก็ตองลงไปเชาอยูเบียดกันอยูตั้งสิบกวาคน หุงขาวตมแกง ซักผาหลับนอน และจะทําอะไรๆ ก็ ทําอยูในนั้น หนาตางประตูจะเปดก็ไมไดเพราะกลัวหนาว ตองอบกันอยูอยางนั้น น้ําทาก็ไมตองอาบเพราะแพง สตางค พอเปดประตูเขาไป กลิ่นตัวคนและกลิ่นอื่นๆ ที่หมักหมมอยูมันพลุงออกมา ราวกับใครมาตีหนาแงเรา ดวยไมพลอง" "แลวแกไปรูมาไดยังไง" คุณเปรมซึ่งนั่งฟงมานานถามขึ้น "ผมก็เที่ยวไปดูไปครับคุณพอ" ตาออดตอบ "คุณพอสงผมไปเมืองนอกทั้งที ก็อยากเห็นใหมันทั่ว" "ผูดีเขาอยูกันอยางไรแกไดเห็นบางหรือเปลา" คุณเปรมถามอยางสงสัย "ก็เห็นอยูมากเหมือนกัน" ตาออดตอบยิ้มๆ "เพื่อนฝูงที่เปนลูกขุนนางอยูมหาวิทยาลัยดวยกัน เขาชวน ไปอยูบานเวลามหาวิทยาลัยปด เขาอยูกันอยางวิจิตรพิสดาร จะเอาอะไรจะเรียกอะไรไดหมดไมมีอั้น ผูดีอังกฤษ เขามีบานใหญๆ อยูนอกกรุง เนื้อที่บานเขามองสุดลูกหูลูกตา ตัวบานก็ราวกับปราสาทราชวัง ถึงเวลาเขาอยู บานเขาก็เชิญแขกที่ชอบพอมาอยูดวย อยูกันไปก็เลี้ยงกันไป กลางคืนเปนตองแตงราตรี ใสเสื้อเชิ้ตอกแข็งกิน ขาวกันทุกคืน กลางวันก็เดินเลนบาง เลนกีฬาบาง ออกยิงนกยิงกระตายหรือตกปลา หรือมิฉะนั้นก็ออกขี่มาไล หมาจิ้งจอกบาง แลวแตฤดู" "ทําไมจะตองไปขี่มาไลหมาจิ้งจอก" คุณเปรมถามอยางไมเขาใจ "เขาใชหมาที่เลี้ยงไวเปนฝูงๆ ออกไล คนนั้นขี่มาตาม พอหมาไลทันก็กัดหมาจิ้งจอกตาย" "เขาวามันเที่ยวลักกินเปดกินไก" ตาออดตอบอยางลังเล "ก็ยิงเอาหรือดักเอาไมไดหรือ" คุณเปรมถามอีก "แลวกันคุณพอ !" ตาออดรอง "ถาทําอยางนั้นก็ผิดวิสัยผูดีอังกฤษ ใครไปทําเขา เขาเห็นเปนบาปกรรม ใหญโต โทษถึงไมมีใครคบทีเดียว" "อุวะ !" คุณเปรมรองขึ้น "ผูดีอังกฤษนี่ยิงหมาตัวเดียวก็ถึงไมคบกันเทียวหรือ" "เขาถือกันเอาเปนเอาตายเชียวครับ" ตาออดอธิบาย "เรื่องยิงนกตกปลาลาสัตว เขามีกฎมีเกณฑกันทั้ง นั้น อยางนกพวกไกฟาพวกนกระทา เขาก็ยิงเปนฤดูไมไดยิงทั้งป และจะยิงไดเฉพาะแตนกที่กําลังบินเทานั้น นกเดินอยูบนดินหรือเกาะอยู เขาไมยิงเปนอันขาด บางทีนกมันเชื่อง เพราะเขาซื้อไขมาฟกเลี้ยงแตยังเล็กๆ ตองสงคนเขาไปไลใหมันบินก็มี" "ปาสูงๆ ของเขาเห็นจะมีมากกวาของเรานะพอออด เขาจึงไดลาสัตวกันมาก" พอเพิ่มพูดขึ้นอยางสนใจ "เปลาครับคุณลุง" ตาออดตอบ "ปาเมืองฝรั่งนั้นผมไปเห็นทีแรก เขาตองบอกจึงไดรูวาเปนปา เห็นเขา นึกวาเปนสวนตนไม"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy301.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๑

Page 4 of 6

"แลวที่วาไปลาสัตวกันนั้นเขาไปลาที่ไหนกันละ" พอเพิ่มซัก "ที่ของใครๆ ก็ลากันอยูในนั้น สัตวทุกตัว ไมวาจะเปนนกเปนปลามีเจาของไปหมด จะยิงไดเฉพาะเจา ของ หรือคนที่เขาอนุญาต สิทธิ์ยิงนกตกปลาในที่ดินเขาขายกันแพงๆ พวกที่จะลาสัตวไดก็มีแตผูดีมีเงินเทานั้น" "แลวกัน !" พอเพิ่มพูด "แลวพวกคนจนทําอยางไรละ" "คนจนอยากกินสัตวปาก็ตองแอบยิงแอบดักเอา ปลาน้ําจืดก็แอบตก แตถาเขาจับไดก็ถูกปรับ หรือติด ตะราง เพราะมีกฎหมายหาม แตกอนเมื่อไมกี่สิบปมานี้เอง เขาวางโทษถึงประหารชีวิต" พอเพิ่มยกมือทวมหัวแลวพูดวา "สาธุ ! ฉันไมอยูแลวเมืองอังกฤษ เกิดชาติใดฉันใดก็ขออยูเมืองไทยเถิด ไปอยูที่โนนเปนเศรษฐีก็ดีไป ถายากจนก็คงลําบากแย" "ผูดีเมืองนอกนี่นะพอออด" คุณเชยถามขึ้นบาง "กิริยามารยาทเขาเหมือนกับเราไหม หรือวาผิดกันมาก" "ถึงจะผิดกันก็แตในรายละเอียดบางอยางเทานั้นแหละครับ" ตาออดตอบ "เปนตนวาเราไหวกราบกัน เขาก็จับมือหรือคํานับ เรานั่งกับพื้นเขานั่งเกาอี้อะไรอยางนั้น แตถาจะพูดถึงมารยาททั่วไปก็เหมือนกัน ชั่วแตวา คนอังกฤษเขาจะสํารวมมากกวาเราสักหนอยเทานั้นเอง เมื่อผมไปถึงใหมๆ นั้นกิริยามารยาท ที่คุณแมหัดไป จากเมืองไทยใชไดดีทีเดียว" พลอยแทบจะโดดเขากอดจูบตาออดดวยความดีใจ และความภูมิใจ ไมเสียทีเลยที่ออดเกิดมาเปนลูกแม ไดทะนุถนอมเลี้ยงดูอบรมมาทุกอยาง ถึงลูกจะไปไหนไกลแสนไกลก็ไมมีลืมแม หรือลืมการอบรมที่แมไดใหไว เสียงคนอื่นๆ คุยกับตาออดอยางรื่นเริงตอไปอีกนาน แตพลอยก็ไดแตนั่งกอดจูบลูกดวยสายตาและดวยหัวใจ ตั้งแตกลับมาอยูบาน ตาออดเองก็อาจไมรูวาตนไดนําความสุขมาใหแมของตนเทาไร แตสําหรับพลอย นั้น รูดีวาตนไดรับความสุขความพอใจจนเต็มเปยมประมาณไมถูก ทุกครั้งที่ตาออดวิ่งมาหาขอใหโจงกระเบนให บาง ขอใหเปลี่ยนกระดุมเสื้อใหบาง ตลอดจนของของกินบางอยางที่อยากกิน เมื่อตาออดมาถึงเมืองไทยไดสัก หนอย คุณเปรมก็พาตาออดออกเที่ยวแสดงความเคารพตอผูใหญที่คุณเปรมนับถือ แตแลวก็มิไดทําอะไรตอไป อีก ตาออดคงอยูตอไปที่บาน มิไดเขาทํางานที่ไหน คุณเปรมก็เนือยๆ ไมสนใจ ฝายตาออดก็มิไดกระตือรือรน รูสึกวาพอใจที่จะนั่งๆ นอนๆ อยูกับบาน และไดอยูใกลๆ พลอยไดพูดคุยกับพลอย มิไดคิดถึงกาลขางหนา อยางที่คนหนุมทั้งหลายควรจะคิด พลอยหยิบเงินใหออดใชเสมอทีละรอยสองรอย ซึ่งตาออดไมเคยออกปากขอ พลอยใหเทาไรก็ใสไวในกระเปาเสื้อ พลอยจะรูไดวาเงินที่ใหไปนั้นหมดหรือยัง ก็ดวยวิธีที่ตองเดินดูเอาเอง ตา ออดดูเหมือนจะไมรูจักความสําคัญของเงิน มีเทาไหรก็ใชเทานั้น ความจริงรายจายสวนตัวของตาออด ก็ไมมี อะไรมาก แตถามีใครทุกขรอนมาขอ ไมวาจะเปนคนในบานหรือมาจากที่อื่น ตาออดก็มักจะเทกระเปาใหจน หมดทุกครั้งไป ถาจะวากันดวยใจจริง พลอยก็อยากจะใหตาออดคงอยูกับบาน ไปอยางนี้ไมมีกําหนด เพราะการ ที่มีลูกอยูในบานตลอดเวลา ไมตองมีธุระการงานที่ไหนนั้น ทําใหพลอยอุนใจ สบายใจอยูมาก แตพลอยเองกลับ ตองเปนคนเริ่มคิดถึงการงานที่ตาออดควรจะทําตอไป เพราะตาออดเองก็ไมสนใจ และคุณเปรมก็ดูเหมือนจะยัง มิไดนึกถึงเรื่องนี้ วันหนึ่งเห็นคุณเปรมอารมณดี พลอยก็พูดขึ้นวา "คุณเปรม เรื่องงานตาออดคุณเปรมคิดไวบางหรือยัง จะใหทําที่ไหน เราเคยพูดกันไววาตาออดกลับมา คุณเปรมจะเอาไปไวดวยที่กระทรวง" คุณเปรมถอนใจใหญแลวก็พูดวา "ปลอยแกอยูอยางนี้ไปกอนเถิดแมพลอย อยางเพิ่งไปคิดถึงมันเลยเรื่องการงาน ฉันเองก็ยังไมรูวา อะไร เปนอะไร และจะเปนอยางไรตอไปก็ไมรู" "ฉันเองไมวาอะไรหรอก" พลอยพูด "เพราะใจฉันก็อยากไดลูกไวที่บานสักคน แตฉันเกรงไปวาทิ้งไวนาน จะไมดี ออดยังหนุมก็ควรจะไดเขาทําการงาน มีหนามีตากับเขาบาง" "แลวตัวเขาเองวาอยางไรเลา" คุณเปรมยอนถาม "ฉันก็เห็นเขาเฉยๆ ฉันก็ยังไมไดถามเขาเลย" "ก็ลองถามออดเขาดู" คุณเปรมพูดเหมือนกับวาอยากจะผลักภาระใหพนจากตัว "ฟงเสียงเขากอนวา จะ วาอยางไรบาง แตใจฉันกลับเห็นไปวาเงินทองเราก็ยังพอมีอยู จะพอเลี้ยงลูกไวเฉยๆ โดยไมตองใหทําการงาน ไดสักคนกระมัง" "คุณเปรมอยาคิดอยางนั้นดีกวา ถึงจะมีเงินมีทองสักเทาไร ก็ควรจะหาการงานทําไว อยูเปลาๆ ถือวาพอ แมมีเงินเลี้ยงไดนั้น ในที่สุดก็เสียคนไปทั้งนั้น" พลอยพูดแลวก็รูสึกแปลกใจวาตนกลับเปนฝาย สั่งสอนคุณเปรม ไปเสียแลว แตครั้นเมื่อพลอยไปถามตาออดเขาจริงเรื่องการงาน ตาออดก็หัวเราะตอบวา "ก็แลวแตแมจะเห็นสมควร ลูกทําที่ไหนก็ได ยิ่งไมตองทําเลยก็ยิ่งดี" "โธออดก็ ! เลิกพูดเลนเสียทีเถิด !" พลอยวา "เรื่องการเรื่องงานก็ตองทํากันทุกคน วิชาที่ลูกเรียนมา จะ ใชทําอะไรได ก็ควรจะบอกใหแมรู จะไดชวยกันคิดอานไดถูก" ตาออดเปลี่ยนสีหนาจากหัวเราะเปนเอาจริงเอาจังแลวก็พูดวา "แมทูนหัวของลูก ลูกเองก็ไมรูวาจะไปทําอะไรจริงๆ วิชาที่เรียนมาก็ใชวาจะไปทําอะไรได ไมเหมือนกับ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy301.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๑

Page 5 of 6

พี่อั้นที่เขาเรียนกฎหมาย เพราะวิชาที่ลูกเรียนมานั้น ทําใหอานหนังสือเขาในมีรสมีชาติกวาคนอื่นๆ เทานั้นเอง จะวาเขาที่ไหนไมไดก็เขาไมไดสักแหงเดียว แตถาวาจะเขาไดแลวก็คงเขาทําไดทุกแหง" "โธ ! เวรกรรมแทๆ ทีเดียว" พลอยบน "ออดชอบพูดอะไรที่แมไมเขาใจเสมอ จะชวยเปนสติปญญาสัก นิด ก็ไมมี อยากไดอะไรอยากทําอะไรทําไมไมบอกแม" "แมจา" ตาออดพูดขึ้น ใบหนาเปลี่ยนไปเปนยิ้ม "ลูกถูกสงไปอยูที่อื่นเสียนานหลายป กลับมาถึงบาน ก็ อยากจะอยูที่บานกับแมใหอิ่ม ไมอยากกังวลถึงอะไรทั้งนั้น อยากแตเพียงวาไดอยูใกลๆ แม นอนใตหลังคาเดียว กับแมเทานั้น ลูกก็เปนคนเลี้ยงงายไมสิ้นเปลืองเทาไร แมจะเลี้ยงลูกไวสักคนกอน ไมไดเทียวหรือ สมมุติวาลูก ไปทํางานหาเงินเดือนไดมาเทาไร แมก็คงไมไดไมดีอะไรดวย ลูกก็คงจะใชคนเดียวหมด ถาจะวาถึงชื่อเสียงมี หนามีตาจากการงาน ลูกก็ไมอยากได อยากแตจะเปนลูกของแมตลอดไป และชื่อเสียงเกียรติยศนั้น ถาจะหากัน จริงๆ ก็คงจะมีเวลาอีกมาก ลูกก็ยังไมแกเฒาเทาไรนัก แมจะอดใจรอไปหนอยไมไดเทียวหรือ" คําพูดของตาออดทําใหพลอยตองนิ่ง เพราะไมรูวาจะโตตอบอยางไร และตาออดก็ใชคําพูดเขาไปสะกิด ความในใจของพลอยหลายอยาง ทําใหพลอยรูตัววาถึงจะโตตอบตอไปก็จะไมตรงตอความรูสึก เพราะในใจจริง พลอยก็อยากเลี้ยงตาออดไวใหอยูสบายๆ ที่บาน ไมอยากใหตองทําการงาน และตาออดก็ดูเหมือนจะรูใจพลอย เสียแลวในขอนี้ ในที่สุดเรื่องการเขาทํางานของตาออด ก็เปนเรื่องที่ตองรั้งรอกันไป ในระหวางนั้นก็มีเมรุกลางเมือง งานพระบรมศพเปนเหตุใหคุณเปรมตองมีงานชุก ทํางานติดตอกันทั้งกลางวันกลางคืนอยูนาน พองานพระเมรุ เสร็จสิ้นไปแลว คุณเปรมก็ดูเหมือนจะหายใจโลงอก มีเวลาไดพักผอนและเริ่มมีอาการดีขึ้น แตพองานพระเมรุ เสร็จไปแลวไมเทาไร ก็มีขาวพูดกันหนาหูถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงในวงราชการ ซึ่งกําลังเกิดมีขึ้น เสนาบดี กระทรวงตางๆ นั้นเปลี่ยนไปหลายกระทรวง และการเปลี่ยนแปลงอยางใหญก็มีอยูในกระทรวงวัง อันเปน กระทรวงของคุณเปรมเอง คุณเปรมเลาใหพลอยฟงวามหาดเล็กรัชกาลกอน จะตองออกจากราชการไปเปนสวนมาก โดยเฉพาะ มหาดเล็กหองพระบรรทม ดูเหมือนจะออกหมด สวนกรมกองตางๆ ที่เคยมีมาแตรัชกาลกอนนั้น ก็ไดทราบวา ยุบลงหลายกรม "ก็เปนธรรมดาหรอกแมพลอย" คุณเปรมสรุปความ "เมื่อผลัดแผนดินใหมก็ตองเปลี่ยนแปลงเปนธรรมดา ยิ่งมหาดเล็กรับใชใกลชิดก็ตองเปลี่ยนไปตามแผนดิน เปนธรรมดาที่ทานจะตองชุบเลี้ยงมหาดเล็ก ขาหลวงเดิม ของทาน เพราะไววางพระทันกันมาแตกอน แตกรมกองอื่นนี่สิฉันใจหาย แตกอนนี้เคยเห็นคนมาก เคยอยูดวย กันครึกครื้น เดี๋ยวนี้รูแตวาทานจะตัดยุบลงไมรูวาใครเปนใคร ดูหนาแหงไปตามๆ กัน ใครที่เขามีหลักฐาน หรือ มีที่อาศัยพึ่งพิงฝากเนื้อฝากตัวได ก็ไมสูกระไรนัก แตคนที่ไมมีสิออกจะลําบาก มหาดเล็กที่โปรดๆ บางคนเขา ไมเปนไร เพราะในแผนดินกอนก็ไดพระราชทานไวพอตัว แถมยังมีพระราชพินัยกรรมเมื่อสวรรคตแลว อยาง เลวก็ไดกันคนละรอยสองรอยตอเดือนคิดบํานาญดวย ก็จะพออยูกินไปไดอยางสบาย ฉันสงสารแตคนที่ไมมี อะไรเทานั้น" จากนั้นมาขาวตัดทอนยุบกรมกองและปลดขาราชการ ก็ยิ่งดังหนาหูขึ้นทุกที ทุกคนที่พลอยรูจัก ก็ เหมือนจะพูดกันดวยเรื่องนี้ บางคนก็อธิบายใหเหตุผลวา ความจําเปนที่ตองปลดขาราชการนั้น ก็เพื่อทํางบ ประมาณแผนดินใหเขาสู 'ดุลภาพ' เพราะขณะนี้บานเมืองเขาสูภาวะที่เรียกวาเศรษฐกิจตกต่ํา รัฐบาลเก็บภาษี อาการไมไดมากเหมือนแตกอน จึงตองตัดรายจายลงไป ซึ่งคําอธิบายเหลานี้กระทบหู เหมือนกับกระทบแผน หินผา มิไดเกิดความเขาใจขึ้นแตอยางไรเลย ที่วาๆ บานเมืองเขาสูภาวะเศรษฐกิจตกต่ํานั้น พลอยเดาไม ออกวาเปนอยางไรกัน เพราะเมื่อนึกถึงความเปนอยู และการใชจายสวนตัวก็กลับเห็นวามีเงนเหลือใช เก็บได มากกวาแตกอน เพราะขาวของของเครื่องใชแตละอยางมีราคาถูกลงไปอยางมาก ตามความรูสึกของพลอย กลับเห็นวาเปนระยะบานเมืองดี ไมนาจะมีใครตองเดือดรอน ยิ่งคําอธิบายที่วาๆ เงินแผนดินเฝอดเคือง ไมพอ จับจายใชสอยนั้น ยิ่งทําใหพลอยงงงวยมืดแปดดานทีเดียว เพราะทรัพยสมบัติเงินทอง ในสิบสองทองพระคลัง นั้น พลอยเชื่อวามากมายที่สุดที่จะประมาณ จะหายไปไหนไดหมด ยิ่งเดี๋ยวนี้มิไดใชเงนพดดวงอยางแตกอน เพียงแตพิมพเงนกระดาษที่เรียกวาแบงคขึ้นใช ก็ซื้อขาวของไดเทากัน พลอยไมเขาใจวา เหตุไฉนทานจึงไม พิมพแบงคขึ้นมากๆ ซึ่งดูจะเปนของที่ทําไดงาย ไมนาจะมีปญหาอะไรเลย อยางไรก็ตามคําวา 'ดุลยภาพ' นั้นเปนคําที่มีคนพูดถึงกันอยูไมเวนแตละวัน จะไปทางไหน ก็ไดยินแต เสียงคนพูดกันเรื่อง ดุลยภาพ...ดุลยภาพ...ดุลยภาพ ในที่สุดก็มีคํายอเกิดขึ้นมาวา "ถูกดุลย" เสียงแตพูดกันวา คนโนนถูก "ดุลย" คนนี้ถูก "ดุลย" ใหอื้อฉาวไป วันหนึ่งคุณเปรมกลับบานตอนบายตามปกติ อาบน้ําอาบทาแลวก็พูดกับพลอยดวยเสียงเรียบวา "แมพลอย...ฉันถูกดุลยเสียแลว" ยังไมทันที่พลอยจะไดซักถามอะไร คุณเปรมก็เลาตอไปทันทีวา "ทานสั่งใหฉันตัดงบประมาณเงินเดือนที่กรมฉันลงไป เดือนละเจ็ดรอยหาสิบบาท ฉันจะไปปลดคนอื่น ออก สักสองสามคนก็คงจะได แตฉันก็ทําไมลงเพราะสงสารผูนอย เงินเดือนของฉันก็บังเอิญเจ็ดรอยหาสิบบาท

http://www.geocities.com/siamstory/ploy301.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๑

Page 6 of 6

พอดี ฉันเลยยื่นใบลาออกวันนี้ งบประมาณเขาสูดุลยเผงทีเดียว" แลวคุณเปรมก็หัวเราะแหงๆ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy301.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๒ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๓ บทที่ ๒ (หนาที่ ๑) ตั้งแตคุณเปรมออกจากราชการมา ในระยะแรก พลอยรูสึกยินดีที่ไดเห็นคุณเปรมสบายขึ้นทันที หนาตา ก็หมดกังวลผองในขึ้นกวาแตกอน คุณเปรมกินไดนอนหลับ และบางวันก็นอนจนสาย ทั้งหมดนี้ทําใหพลอย สบายใจสิ้นกังวลไปตาม แตพลอยหาไดรูไมวาอาการทั้งหมดของคุณเปรม ที่เห็นไดดวยตาวาดีขึ้นนั้น เปนของ ชั่วครูชั่วคราว จะอยูยั่งยืนตลอดไปไมได เมื่อออกจากราชการมาใหมๆ คุณเปรมก็ยอมรูสึกโลงใจสิ้นกังวลเปนธรรมดา ความวิตกความหวงใย และความไมแนนอนในตําแหนงฐานะ ที่มีอยูเมื่อยังอยูในราชการ หลังจากผลัดแผนดินแลวนั้นหายไปเปนปลิด ทิ้ง เหมือนกับคนที่คะยั้นคะยอเมื่อกอนจะกระโดดน้ําหนาหนาว แตเมื่อกระโดดโพลงลงไปทั้งตัวแลว ก็หมด ความคะยั้นคะยอ เมื่อความสบายใจความโลงอกบังเกิดขึ้นภายใน และรางกายของคุณเปรม ก็ไดพักผอนจริงจัง หลังจากที่ไดคร่ําเครียดมานานระหวางงานพระบรมศพ คุณเปรมจึงไดสบายขึ้น อยางที่พลอยสังเกต แตถาการ ที่คุณเปรมไดอยูบานพักผอนนั้น เปนแตเพียงชั่วระยะเวลาสิบหาวันหรือเดือนหนึ่ง แลวก็ไดกลับเขาทํางานตอ ไป คุณเปรมก็คงจะสบายใจไปตลอดอีกนาน แตการก็หาไดเปนเชนนั้นไม คุณเปรมออกจากราชการคราวนี้ เปนการออกเพื่อรับบํานาญ คุณเปรมยังมองไมเห็นโอกาส ที่จะเขารับราชการไดอีกในชีวิตของตน การอยูเฉยๆ กับบานของคุณเปรมนั้น เปนสิ่งที่คุณเปรมจะตองทํา ไปจนตลอดชีวิต ฉะนั้นหลังจากความโลงใจและความ สบายกาย อันเกิดจากการไดพักผอนในเบื้องแรก ไดผานไปแลว คุณเปรมก็เริ่มเบื่อหนายในภาวะอันอยูเฉยๆ ของตน และเริ่มสําแดงอาการนั้นใหปรากฏ พลอยเห็นคุณเปรมมีอาการดีอยูชั่วระยะเดือนแรก แตพอเขาเดือนที่สองนับจากวันที่ออกจากราชการ คุณเปรมก็เริ่มนั่งเหมอตาลอย นานๆ ก็ถอนใจใหญ วันหนึ่งๆ คุณเปรมก็ไดแตเดินเขาเดินออก ระหวางในตึก และนอกตึก กินขาวกลางวันแลวก็เขานอน แตพลอยก็รูวาคุณเปรมนอนไมหลับ พอตกบายคุณเปรมก็ลงคอกมา และอีกสักครูก็ขี่มาควบขับออกจากบาน ยิ่งนานวันเขา พลอยก็ยิ่งเห็นคุณเปรมขี่มาดวยลักษณะที่โลดโผนเสี่ยง อันตราย และขาดความระมัดระวังยิ่งขึ้นทุกวัน อารมณของคุณเปรมมิไดดีเหมือนแตกอน แตกลายเปนหงุดหงิดฉุนงายโกรธงาย อะไรที่ไมพอใจเพียง เล็กนอย ซึ่งแตกอนคุณเปรมเคยนิ่งได เดี๋ยวนี้ก็กลายเปนเรื่องที่ทําใหคุณเปรมฉุนปงปง เกินกวาเหตุ ทําให พลอยตองระมัดระวังวาจาและการกระทําของตน และตองตักเตือนคนอื่นๆ ในบานใหระมัดระวังตน ยิ่งกวาแต กอนเชนเดียวักน เพราะพลอยไมตองการใหคุณเปรมตองมีอารมณขุนมัว โดยไมจําเปน พลอยดูอาการของคุณเปรมแลวมาดูพอเพิ่มพี่ชายของตนก็อดแปลกใจไมได พอเพิ่มถูกดุลยทีหลังคุณ เปรม เพียงไมกี่วัน แตพอเพิ่มก็มิไดแสดงอาการเบื่อหนายฉุนเฉียว หรือเปลี่ยนแปลงแตอยางไรเลย ถาจะวาไป ก็ดูเหมือนพอเพิ่มจะยิ่งมีอารมณดีกวาเกาดวยซ้ําไป วันหนึ่งพอเพิ่มมาเยี่ยมตามปกติ พลอยก็ถามขี้นวา "คุณหลวงออกจากราชการแลวเปนอยางไรบาง" "เอะ ! ก็ไมเห็นเปนอะไร ดูก็สบายดีนี่ แมพลอยหมายถึงอะไร" พอเพิ่มพูดอยางไมเขาใจคําถาม "ฉันเองก็ไมรู" พลอยตอบ "ถามไปอยางนั้น เพราะฉันดูๆ เห็นคุณหลวงสบายดี แตคุณเปรมหมูนี้ ดูหงุด หงิดอยางไรชอบกล" พอเพิ่มนิ่งคิดอยูครูหนึ่งแลวก็พูดวา "จะเอาเจาคุณทานมาเปรียบกับฉันไมไดหรอกแมพลอย เมื่อทานอยูในราชการทานเปนใหญเปนโต สวน ฉันมันเปนแตเพียงคนเล็กคนนอย เมื่ออยูในราชการยังผิดกันได ออกจากราชการแลวก็ตองผิดกันธรรมดา" "ฉันวามีอะไรเกินกวานั้น" พลอยพูด "เรื่องมันอยูที่คุณหลวงทําใจไดถูก คุณหลวงจึงไดสบาย ฉันจึง อยากรูวาคุณหลวงทําใจอยางไร" "เอ ! พูดยาก" พอเพิ่มพูดไปตรึกตรองไป "ฉันเองฉันวาไมไดอยูที่ทําใจเมื่อออกจากราชการแลว แตอยูที่ ทําใจมาอยางไรแตดั้งเดิม จะเรียกวาเปนนิสัยก็ได ระหวางที่ฉันอยูในราชการ ฉันก็ไมไดหมกมุนอยูแตราชการ อยางเดียว ฉันมีเรื่องอื่นๆ ทําอยูเสมอ ปลูกตนไมบาง เลี้ยงนกเขาบาง และอะไรตออะไรที่แมพลอยรูอยูแลว คน อื่นเขาถือวาของเหลานี้เปนของเลนไมสําคัญ แตฉันกลับถือวาเปนของจริง เห็นมันสําคัญเปนหนักเปนหนา ราชการเสียอีกฉันกลับเห็นเปนของเลน เพราเหตุนี้จึงไมไดไปไกลเทาไหรในราชการ แตพอถึงตอนออก จากราชการ ฉันก็ไมทุกข เพราะสําหรับฉันก็เทากับวาเสียของเลนไปอยางหนึ่งเทานั้นเอง ของจริงของฉันคือ พวกตนไมนกเขา และเพื่อนคุยเพื่อนเที่ยวยังอยูครบ ฉันจะไปทุกขรอนอะไร ยิ่งกลับจะสบายเสียอีก เพราะไมมี หวงตองไปทําราชการ"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy302.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๒ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 4

พลอยไดยินพอเพิ่มพูดก็เห็นจริงวา พอเพิ่มและคุณเปรมแตกตางหันเปนหนักหนา แตปากนั้นก็พูดไปวา "คุณเปรมหมูนี้เปนอยางไรก็ไมรู ดูหงุดหงิดอารมณไมดี คุณเปนหลวงก็เปนเพื่อนฝูงกัน นาจะพูดอะไร กับเธอไดบาง ฉันเองนั้นจนใจทําไมถูก" "ฉันเองก็ไมรูจะตักเตือนอยางไร" พอเพิ่มพูด "เจาคุณทานก็เปนผูใหญกวาฉัน ถึงจะเคยเปนเพื่อนกันมา แตกอน ฐานะเดี๋ยวนี้ก็ไมเหมือนกัน" พลอยก็เห็นจริงอยางพอเพิ่มวา แตก็ยังขอรองเปนครั้งสุดทายวา "ถึงอยางนั้นก็เถิด คุณหลวงก็เคยเปนเพื่อนกันมาแตกอน เดี๋ยวนี้เปนญาติ ฉันรูสึกวาคุณเปรมเหงา เพราะไมมีอะไรจะทํา ถาคุณหลวงจะมาชวนเธอคุยชวนเลนอะไรใหสนใจเสียบาง บางทีก็จะดีขึ้นมาก" ตั้งแตนั้นมาพอเพิ่มก็มาที่บานบอยขึ้น และมักจะชวนคุณเปรมพูดอยางที่พลอยขอรอง แตความพยายาม ของพอเพิ่มก็มิไดทําใหคุณเปรมดีขึ้น คุณเปรมเองเปนคนมาปรารภกับพลอยวา "พอเพิ่มหมูนี้เปนยังไงก็ไมรู ชอบมาชวนฉันเลนอะไรตออะไรเหมือนเด็กๆ นี่เคราะหดีวาชอบพอนิสัยกัน มาหลายสิบป ถาเปนคนอื่นฉันคงรําคาญพิลึก" และพอเพิ่มก็มารายงานกับพลอยในที่สุดวา "ที่แมพลอยขอฉันไวเรื่องเจาคุณนั้น เห็นจะไมสําเร็จหรอก เพราะทานชอบของคนละอยางกับฉัน ฉันจะ มายุงกับทานมากไปก็กลัวทานจะหาวาเสือก ฉันก็เห็นทานเปลี่ยนไปจริง ดูฉุนเฉียวโกรธงาย แลวก็มีเบื่อๆ อยางที่แมพลอยวา แตลําพังฉันแกไมตกหรอก แมพลอยตองแกเอาเอง" "คุณหลวงจะใหฉันแกอยางไร" พลอยถามดวยความสนใจ พอเพิ่มเหลียวซายแลขวา เหมือนกับวาจะคบคิดกับนองสาวทําความผิดรายแรงอะไรสักอยาง เมื่อดูจน ทั่วเห็นวาไมมีใครจะอยูใกลพอที่จะไดยินแลว พอเพิ่มก็พูดขึ้นวา "ฉันวาแมพลอยลองหานางเล็กๆ มาปรนนิบัติทานสักคนสองคนเปนไง เผื่อวาจะกระชุมกระชวยขึ้นบาง" พลอยหัวเราะกิ๊กดวยความขบขัน รีบตอบพอเพิ่มวา "โธ ! คุณหลวงก็ ฉันนึกวาเรื่องอะไรหนักหนา ของอยางนี้ฉันทําไมไดหรอก ฉันกระดาก ถาคุณเปรมเธอ ตองการเองหามาเอง ฉันจะไมวาสักคําเดียว" พอเพิ่มมองหนานองสาวแลวก็พูดวา "หึงกระมัง แมพลอย จะหึงหวงไปทําไมกัน เราก็อายุมากดวยกันแลว" "ฉันไมไดหึงเลย ใหฉันตายไปเถิด !" พลอยหัวเราะ "ชั่วแตวาฉันไมรูวาเขาทํากันยังไงเทานั้นเอง" "ก็ไมเห็นจะยากอะไรเลย" พอเพิ่มอธิบาย "หาสาวๆ มาใชบนตึก ใหมันคลานไปคลานมา แลวเราก็ทํา เฉยๆ เสีย ทําเผลอเสียบางอะไรเสียบาง กลางค่ํากลางคืนเวลาทานนอนเราก็สงเขาไปรับใช เมื่อทานเมื่อยเราก็ ใหนวดใหทุบ แลวแมพลอยก็แยกไปนอนเสียหองอื่น แกลงทําบนวารอนบางอะไรบาง ตามแตจะนึกได อีก หนอยก็ขี้เกียจจะกระปรี้กระเปราเสียอีก" "ไมเอาละคุณหลวง" พลอยตอบอยางแนใจ "ฉันกระดากอายทําไมได ถาคุณเปรมเธออยากมีเมียนอย ก็ ไปมีที่อื่นฉันไมวาจริงๆ แตจะใหฉันมาหาให แลวก็ตองคอยหลีกเลี่ยงใหเธออยูกับเมียนอย ฉันไมทํา ฟงดู คลายๆ กับเปนใจใหผัวทําความผิด ฉันยังปลงใจทําไมสนิท" "เรื่องมันก็หวงนั่นแหละ" พอเพิ่มพูดยิ้มๆ "แลวก็ปากแข็งวาไมหึง" พลอยไมรูวาจะพูดกับพอเพิ่มอยางไรได เพราะวิธีแกไขของพอเพิ่มที่จะใหคุณเปรมสุขสบายขึ้นนั้น ดูจะ รุนแรงไปหนอยสําหรับใจพลอย ในที่สุดเมื่อหมดปญญาเขาจริงๆ พลอยก็หันเขาหาตนตอแหงความวิตก คือตัวคุณเปรมเอง โดยถามขึ้น ตรงๆ วันหนึ่งวา "คุณเปรมฉันถามจริงๆ เถิด หมูนี้คุณเปรมเปนอะไรไป" คุณเปรมนิ่งคิดอยูครูหนึ่งแลวก็ตอบวา "ฉันเองก็ไมรูเหมือนกันแมพลอย ดูอะไรตออะไรมันวางเปลา เหงาๆ ในใจอยางไรก็ไมรู จะคิดอะไรจะทํา อะไรก็จับๆ จดๆ ไมสําเร็จลุลวงไปได กลางคืนก็นอนไมหลับ" "คุณเปรมลองปรึกษาหมอดูบางไมดีหรือ" "ก็ฉันไมไดเจ็บไขเปนอะไรนี่แมพลอย" คุณเปรมหัวเราะ "จะไปหาหมอเรื่องอะไรกัน" "ฉันก็เปนหวงเห็นคุณเปรมไมสบาย" พลอยตอบ "คุณเปรมอยากไดอะไรอยากทําอะไรก็ทําเถิด อยา เกรงใจฉันเลย ฉันอยากใหคุณเปรมสบายเทานั้นเอง ฉันไมหามสักอยาง" "เปนตนวาอะไรบาง" คุณเปรมถามยิ้มๆ "ไมรู........" พลอยตอบอึกอัก "เผื่อคุณเปรมอยากใชสอยใคร......" คุณเปรมหัวเราะลั่นรองวา "นี่แมพลอยมาหนุนใหฉันหาเมียนอยละซี !" แลวก็พูดตอไปวา "แมพลอยอยาวิตกไปเลย ฉันยังไมเจ็บ ถึงขนาดนั้นหรอก ถาถึงเมื่อไรฉันจะบอก คราวนี้ฉันซึมๆ ไปก็เพราะยังไมรูจะทําอะไร แตกอนเคยมีงานการทํา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy302.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๒ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 4

ทุกวัน เดี๋ยวนี้กลายเปนคนวาง ยังทําตัวไมถูก ตอไปก็คงจะเคยเขาวันหนึ่ง มีอยางรึใหหาเมียนอย !" คุณเปรม หยุดหัวเราะ "ฉันทําจริงฉันก็จะตายเร็วเขาอีกเทานั้น" ตั้งแตนั้นมาพลอยก็ไมพยายามไตถามคุณเปรมอีก ไดแตคอยมองคุณเปรมอยูหางๆ ตาออดดูเหมือนจะ เปนลูกคนเดียวที่รูใจพลอยวาเปนหวงพอ เพราะตาออดเคยพูดกับพลอยวา "แมรูไหม อยางคุณพอเวลานี้ถามีอะไรทําใหสนใจไดทั้งวันก็จะดี" "นั่นซีออด" พลอยตอบ "แมก็วิตกอยูเหมือนกัน แตก็ไมรูจะแนะนําอยางไร ถาไปพูดเขาก็จะหาวายุง เดี๋ยวนี้เห็นยังสนใจอยูก็เฉพาะเรื่องมาเทานั้น" "ก็ยังดีกวาไมมีอะไรเลย" ตาออดวา "เสียอยางเดียวแตทานขี่มาราวกับคนหนุมๆ" "แมก็เปนทุกขเต็มที" พลอยเห็นดวย "อายุก็มากเขาทุกวัน ครั้นจะขอใหเลิกก็ไมได เพราะจะไมมีอะไร เหลืออยางออดวา ออดนึกอะไรออกที่จะใหคุณพอทําดีกวาขี่มานี้ไดหรือไม แมเองจนปญญาเสียแลว" "ลูกเคยชวนทานคาขายทําการงานอยางอื่นแลว ทานวาทานไมเห็นดวย" "ทําไมละออด" "ทานวาทานเคยทําราชการมาแตหนุมจนแก จะออกไปคาขายก็ไมรูที่จะจับอะไรถูก แลวอีกอยางหนึ่ง ทานวาไปคาขายกับลูกทานไมทํา" ตาออดพูดแลวก็หัวเราะ "ทําไม" พลอยถามอีก "ทานวาทานกลัวฉิบหาย ทานบอกวาคนอยางลูกคาขายไมได เพราะไมมีหัวทางนั้น อยูบานไปเฉยๆ ดี กวา พอมีกินมีใชไปจนตาย ถาไปริคาขายเขาก็จะหมดตัวเสียกอน จะลําบากเปลาๆ" "แลวออดวาอยางไร" ตาออดหัวเราะแลวตอบวา "ลูกก็เห็นวาทานพูดถูก ความจริงลูกก็ไมรูจะทําอะไรเหมือนกัน เห็นทานอยู เปลาๆ ก็ชวนไปอยางนั้น" "พอดีกันทั้งพอทั้งลูก" พลอยนึกอยูแตในใจ ตอไปนี้จะตองตกเปนภาระของพลอย ที่จะตองดูแลคนอยู วางๆ ถึงสองคน ตาออดคนหนึ่งและคุณเปรมอีกคนหนึ่ง ตั้งแตออกจากราชการมา คุณเปรมดูเหมือนจะเปนเด็ก ลงกวาเกา สิ่งใดที่เคยทําไดเองแตกอน ในระยะนี้ก็ไมทํา ปลอยใหเปนหนาที่ของพลอย ตองคอยดูแลจัดทําให แมแตเสื้อผาที่ใสอยูกับบาน ถาพลอยไมคอยดูใหเปลี่ยน คุณเปรมก็จะใสซ้ําอยูอยางนั้นโดยไมรูตัว คุณเปรมเคย เปนผูใหญมาตลอดเพิ่งจะกลับเปนเด็กลง สวนตาออดนั้นเปนเด็กตลอดมาโดยไมเคยโตเปนผูใหญ และมีทาวา จะไมยอมโตขึ้น ความรูสึกของพลอย เกี่ยวกับคนทั้งสองนี้อธิบายไดยาก ใจหนึ่งก็วิตกกังวล แตอีกใจหนึ่ง ซึ่งดู เหมือนจะเปนใจจริง กลับพอใจที่มีทั้งลูกทั้งผัวมาเปนภาระอยูในมือ เมื่อคุณเปรมยังอยูในราชการนั้น พลอยทั้ง รักและนับถือ ในสติปญญาความรอบรูของคุณเปรม และภูมิใจในยศวาสนาตําแหนงหนาที่ที่คุณเปรมไดรับ แต ไมเคยรูสึกวาตนมีกรรมสิทธิ์ในตัวคุณเปรมเด็ดขาด แตเดี๋ยวนี้รูสึกวาคุณเปรมเปนกรรมสิทธิ์ของตน โดย สมบูรณ ไมมีใครหรือสิ่งใดที่จะมาแบงเอาตัวของคุณเปรม และเวลาของคุณเปรมไป ทําใหพลอยรูสึกทั้งรักและ สงสารทั้งอิ่มใจ สวนตาออดก็เชนเดียวกัน ใจหนึ่งซึ่งอาศัยเหตุผลผิดถูกเปนมูลฐาน ก็อยากใหตาออดมีการงาน ทําเปนหลักฐานตอไป แตเมื่อนึกถึงความหางเหินซึ่งจะติดตามมา เพราะการงานเปนตนเหตุ อยางที่พลอยได เคยเห็นมาแลวในกรณีของตาอนและตาอั้น พลอยก็ทอใจ อยากจะเก็บตาออดไวใกลๆ ตัวมากกวา เมื่อตาออด ไมกระตือรือรนที่จะหางานทํา พลอยก็มิไดเรงเรา ความสัมพันธระหวางพลอยกับลูซิลลลูกสะใภแหมมนั้น ดูเหมือนจะดีขึ้นกวาแตกอน ถึงจะไมสนิทกันนัก ก็ยังเรียกไดวาไมถึงกับอยูคนละโลก เพราะลูซิลลเปนคนหัวไวจริงอยางที่ตาอั้นพูดไวแตแรก พอมาอยูเมืองไทย ไดเดือนหนึ่งหรือสองเดือน ลูซิลลก็หัดพูดภาษาไทยไดหลายคํา และเมื่อมาอยูไดสักสองป ลูซิลลก็พูดภาษาไทย ไดดีพอที่จะทําความเขาใจกันได ทําใหพลอยนึกเอ็นดูมากขึ้น ทั้งที่ยังไมเขาใจลูซิลลนัก ดวยความคิดความรูสึก ของลูซิลล ที่แสดงออกมาเปนภาษาไทยผิดบางถูกบางนั้นก็ยังเปนความคิด และความรูสึกของฝรั่งอยูนั่นเอง แตก็มีบางครั้งที่ลูซิลลมาคุยดวยและเปดเผยความในใจใหพลอยฟง ทําใหพลอยรูสึกวาคนเรานั้น ถึงจะเปนคน ไทยหรือเปนฝรั่ง ก็ยังเปนคนดวยกัน และถาเปนผูหญิงดวยกันแลว ก็ยังมีความรูสึกบางอยางที่ผูหญิงมีเหมือน กันทุกชาติทุกภาษา เวลาลูซิลลบนคิดถึงบานตัวที่เมืองนอก พลอยก็รูสึกเห็นใจและรูวาถาเปนตนเอง ตองตาม สามีไปอยูหางไกลจากบาน ก็คงจะมีความรูสึกเชนเดียวกัน บางทีลูซิลลก็คุยถึงตาอั้นดวยความรักความภูมิใจใน ความดี ความฉลาดเฉลียวของสามีของตน ทําใหพลอยใจออน และเขาใจเห็นใจในหัวอกลูกผูหญิงที่รักผัวของ ตนทุกอยาง แตบางเวลาลูซิลลก็มีเรื่องเดือดรอนที่พลอยไมเขาใจนัก ครั้งหนึ่ลูซิลลมาบนนอยใจวามีคนมาเชิญ ตาอั้นไปงานแตผูเดียวมิไดเชิญตน ลูซิลลเห็นวาผิดบาปที่สุดก็ตรงที่ตาอั้นรับเชิญนั้น พลอยพยายามอธิบายให ลูซิลลฟงวาไมควรจะถือสา เพราะพลอยเองนานๆ จึงจะไปไหนกับคุณเปรมสักทีหนึ่ง สวนมากก็ใหคุณเปรมไป คนเดียว แตพลอยก็ไดรับคําตอบจากลูซิลลวา "คุณแมเปนคนละอยางกับลูซิลลไมเหมือนกันผิดกันมาก" ทําให พลอยตองนั่งคิดไมแนใจวาลูกสะใภดูถูกให หรือเพียงแตพูดความจริง อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy302.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๒ (หนาที่ ๑)

http://www.geocities.com/siamstory/ploy302.html

Page 4 of 4

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๒ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๓ บทที่ ๒ (หนาที่ ๒) พลอยสังเกตดูอาการกิริยาของลูซิลลในตอนแรกแลวก็ใหนึกไปวา ชีวิตสมรสระหวางตาอั้นกบลูซิลล อาจ จะไมลงเอยอยางที่ตาออดคาดไวก็ได เมื่อกลับมาถึงเมืองไทยใหมๆ คนทั้งสองก็ยังดูรักใครกันดีอยู และลูซิลล ยังมองเมืองไทยดวยสายตาอันรื่นรมย ทุกอยางที่ไดพบเห็นตั้งแตสิ่งเล็กนอยไปจนถึงสิ่งใหญ ทําใหเกิดความ สนใจตื่นเตน ทั้งนี้เปนไปเพียงชั่วระยะหนึ่ง ตอมาเมื่อลูซิลลคุนกับเมืองไทยเขาแลว ลูซิลลก็จะเริ่มเบื่อหนาย และรูสึกรําคาญในเรื่องรอน ในเรื่องยุงกัด และในเรื่องความไมสะดวก และความสกปรกบางอยางของเมืองไทย สวนตาอั้นนั้นในขั้นแรกก็มิไดหางจากภรรยา ถึงจะไปทํางานก็รีบกลับแตวัน และถามีธุระหรือมีโอกาสจะออกไป นอกบานก็ไปดวยกันเสมอ ดูตาอั้นพยายามที่จะทําใหลูซิลลนิยมเมืองไทย และใหอยูเมืองไทยไดอยางเปนสุข แตจะเปนเพราะอะไรก็ตาม การปฏิบัติตนของตาอั้นเชนนั้น ก็เปนไปไดชั่วพักหนึ่ง ในระยะหลังๆ ตอมา ตาอั้นก็ ดูจะเนือยๆ ไป บางวันไปทํางานแลวก็หายไปไมกลับบาน กวาจะกลับก็ดึก พลอยไตถามก็ไดความวาอยูที่ สโมสรบาง หรือมิฉะนั้นก็เพื่อนฝูงชวนไปเที่ยว บางวันถึงแมวาตาอั้นจะกลับมาบานแลว แตถาเพื่อนฝูงเอารถ มารับ ตาอั้นก็ผลุนผลันออกไปอีก และไปแตคนเดียวทิ้งลูซิลลไวทางบาน จนบางครั้งพลอยรูสึกสงสาร ความ จริงถาตาอั้นไดเมียเปนไทย และปฏิบัติตนเชนนี้พลอยก็จะไมนึกอะไรมาก และถึงแมวาเมียไทยจะไมชอบ พลอยก็คงจะมีทางพูดจาวากลาวใหคลายความนอยใจลงไดบาง แตเมื่อลูซิลลเปนแหมม พลอยก็พูดไมออก เพราะประการแรก พลอยก็ไมแนใจวาลูซิลลจะเขาใจในคําพูดและเหตุผลของตน ประการที่สอง พลอยเห็นใจ ลูซิลลอยูครันๆ ที่อุตสาหทิ้งพอแมพี่นองติดตามตาอั้นมาจนถึงเมืองไทย จะดวยความรักหรือดวยความรูสึก ความเขาใจอยางไรก็ตาม แตเมื่อไดตามมาจนถึงเมืองไทยแลว ลูซิลลก็ยอมจะเห็นวาตาอั้นเปนคนสําคัญที่สุด และเปนคนๆ เดียวในเมืองไทยที่ตนจะพูดดวยได เมื่อตาอั้นหางเหินไปแมแตนอย ลูซิลลก็ยอมจะตองรูสึกนอย ใจเสียใจ มากกวาคนไทยธรรมดา ที่อยูบานเมืองของตน พลอยเคยพูดกับตาอั้นในเรื่องนี้เปนทํานองตักเตือน แตตาอั้นก็ตอบวา "ไมเปนไรหรอกคุณแม ผมกับลูซิลลเขาใจกันดี สําหรับผมเองนั้นเพิ่งเริ่มทํางานใหม และจากเมืองไทย เสียนาน ผมก็จําเปนที่จะตองหาเพื่อนฝูงรูจักผูคนไวบาง มิฉะนั้นก็อาจไมไปไกลในหนาที่การงาน เมื่อผมจําเปน ตองทําเชนนี้ บางเวลาผมก็ตองไปไหนมาไหนแตคนเดียว จะพาผูหญิงไปดวยก็ลําบาก เกรงใจคนอื่นเขา เมื่อ เมียคนอื่นเขายินดีจะอยูที่บาน ไมออกตามผัวไปทุกแหง ผมจะพาเมียผมไปแตคนเดียว ก็ดูกระไรอยู" "อั้นจะคบเพื่อนฝูงก็ควรจะดูใหดี อยาใหเพื่อนฝูงชักนําไปในทางที่ผิด" พลอยเตือนอยางแมกับลูก "พุทโธ คุณแมก็ !" ตาอั้นตอบ "ผมก็โตแลว ไมใชเด็กๆ พอจะรูไดวาอะไรผิดอะไรถูก" คําตอบของตาอั้นทําใหพลอยตองนิ่งลงทันที เพราะตาอั้นทําตัวเปนผูใหญเต็มที่ ซึ่งความจริงก็ควรจะ เปนเชนนั้น พลอยดูตาอั้นกับตาออดเปรียบเทียบกันแลวก็อัศจรรยใจ ที่พี่นองคลานตามกันออกมาแทๆ เหตุ ไฉนจึงผิดแผกแตกตางกันไดมากถึงเพียงนั้น ในสายตาของพลอยตาออดเปนเด็กไมรูจบ แตตาอั้นเปนผูใหญ เสียจนเกินตัว เชื่อในความคิดความเห็นของตนเสียจนแทบจะไมฟงใคร ตาออดนั้นดูจะไมมีความมักใหญใฝสูง และดูจะไมคํานึงถึงชีวิตอนาคตของตนเสียเลย แตตาอั้นกลับมักใหญใฝสูง และกําหนดชีวิตอนาคตของตน ไวใน ระดับที่พลอยตองตกใจ วันหนึ่งนั่งกินขาวอยูพรอมๆ กัน ตาอั้นก็บนขึ้นวา "เมืองไทยเราเดี๋ยวนี้ ถึงใครจะมีความรูความสามารถก็ไมมีประโยชน คนที่จะไดดีมีตําแหนงสูงๆ ถาไม ใชคนแกหัวโบราณ ก็ตองเปนลูกทานหลานเธอ อยางเราๆ ถึงจะมีความคิดอะไรก็ไมมีใครฟง แลวก็ไมเปด โอกาสใหไดทํางานสําคัญๆ บางเลย มีอยางรึปญหาเศรษฐกิจนิดเดียวก็แกไมตก ตองแกดวยวิธีไลคนออกจาก งานเปนพันๆ" ตาออดมองหนาพี่ชายยิ้มๆ แลวก็พูดขึ้นวา "พี่อั้นเห็นวาใครจะแกได" "ถมไป" ตาอั้นตอบ "คนหนุมๆ ที่เขามีหัวคิด มีวิชาความรูที่จะแกไดก็มีหลายคน แตเปนคนอยูวงนอก จึงทําอะไรไมได" "อยางพี่อั้นนี้พอจะแกปญหาใหบานเมืองไดไหม" ตาออดชักสนุก "ทําไมจะไมได ไมเห็นมันจะยากอะไรเลย" ตาอั้นตอบเสียงขุนๆ "แกยังไง ไหนวามาใหเราฟงทีรึ" ตาออดซักตอ "ปญหาทุกอยางมันอยูที่การปกครองเปนหลักใหญ" ตาอั้นเริ่มอธิบาย "ปญหาเศรษฐกิจทุกวันนนี้ มัน เปนปญหาปจจุบันจะแกไขได ก็ดวยการปกครองแผนปจจุบัน ออดก็รูวาการปกครองของเราทุกวันนี้ โบราณลา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy302_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๒ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 4

สมัย ปกครองกันมาแบบนี้กี่พันปก็ยังปกครองกันอยูอยางนั้น ผลที่สุดก็เลยทําอะไรไมได พาคนอื่นตองเดือน รอนไปดวย ถาจะใหแกปญหาอื่นๆ ใหสําเร็จก็ตองแกที่การปกครองกอน ใหถูกเวลาเหมือนของคนอื่นเขา คน อื่นที่เขาดีมีความสามารถ จะไดมีโอกาสเขามาทํางานใหแกบานเมืองได" "พี่อั้นเปนเอามาก" ตาออดพูดเบาๆ และชวนคุยเรื่องอื่น คําพูดของตาอั้นทําใหพลอยตองสะดุงใจ เพราะ ฟงดูรุนแรงนัก ที่คําพูดของตาอั้นทําใหพลอยตองสะดุงใจ ก็เพราะคําพูดเหลานั้น เปนคําพูดทํานองเดียวกันกับที่ตาอั้น เคยเขียนมาเมื่อยังเปนเด็กหนุมเรียนอยูเมืองนอก ในสมัยนั้นถึงตาอั้นจะพูดหนักไปเบาไป ก็ยังเปนการพูดกับ พอแมไมมีทางลวงรูไปถึงหูคนอื่น และถึงอยางไรตาอั้นในขณะนั้นก็ยังเปนเด็ก อยูในวันที่พอจะอภัยใหได แต ตาอั้นเดี๋ยวนี้เปนผูใหญรับราชการและมีลูกมีเมียแลว ควรจะอยูในวัยที่พนจากความคิดฟุงซาน และยิ่งกวานั้น ตาอั้นยังมีเพื่อนฝูงมาก จะไปเที่ยวพูดกับใครทํานองนี้อีกพลอยก็ไมรูได ถาหากวาคําพูดและความคิดเห็นของ ตาอั้นลวงรูไปถึงหูผูใหญ หรือถึงพรเนตรพระกรรณเจานาย ตาอั้นก็จะเปนคนเสีย และจะไมเสียถึงตาอั้นเทานั้น จะเสียตลอดถึงบิดามารดาและวงศาคณาญาติ พลอยคิดถึงความเห็นของเด็กๆ ที่เคยเปนลูกหลานแลวเติบโตขึ้น นําเอาความคิดเห็นตางๆ นั้น มา เทียบกับความเห็นสมัยตนก็ใจหาย เพราะความแตกตางกันไกลจนดูนากลัวอันตราย แตในกระบวนลูกๆ แลว ประไพดูเหมือนจะทําใหพลอยเวียนศีรษะยิ่งกวาคนอื่น ประไพโตเปนสาวจบโรงเรียนแลว กิริยาทาทางนั้น เปลี่ยนแปลงไป จนพลอยรูตัววาไมสามารถจะแกไขได เพราะเปนเรื่องของกาลสมัย ลูกคนอื่นที่อายุรุนราวคราว เดียวกับประไพ ก็ดูเหมือนจะมีกิริยาทาทางแบบเดียวกันทั้งสิ้น เพราะประไพมีเพื่อนสาวๆ รุนเดียวกันเปนฝูง ไปมาหาสูกันและไปไหนมาไหนดวยกันอยูเปนนิจ การแตงตัวของเด็กสาวๆ รุนนี้เปนแบบเดียวกันหมด คือตัด ผมบอบหยิกผม นุงผาซิ่นสีเดียวกันทั้งผืน ไมมีเชิงไมมีลายเหมือนกับผาถุงของมอญ ใสเสื้อแบบฝรั่งเปดจาก หนังสือแบบเสื้อ แบบตางๆ กันและสีตางๆ กัน เริ่มตนดวยผาซิ่นยาว และเสื้อที่ยังมีแขนอยูบางกอน แตนานวัน เขาผาซิ่นที่นุงนั้นก็เริ่มจะหดสั้นเขา ตามกระโปรงแหมม และสั้นขึ้นทุกวันจนนากลัวอันตราย เวลาจะนั่งลุกใน สายตาของพลอย สวนเสื้อที่นิยมใสกัน ก็กลายเปนแบบฝรั่งจากเมืองนอกแท คือเสื้อไมมีแขนไมมีเอวปลอยเปน รูปกระบอกหลวมๆ ยาวเลยตะโพกลงมาเล็กนอย เมื่อใชกับผาซิ่นที่หดขึ้นไปหา ก็ทําใหมองเห็นผาซิ่นเปนขอบ เหลืออยูนิดเดียว พลอยพยายามจะมองดูแบบการแตงกายนี้ใหเห็นสวย ก็ไมสามารถจะมองเห็นทางนั้น เคยพูด กับประไพเรื่องนี้ ประไพก็หัวเราะตอบวา "สมัยนี้เขาใสกันอยางนั้นทั้งนั้นแหละคุณแม ถาไมสวยใครจะไปใส เสื้อของคุณแมเสียอีกแบบเกาไมนาดู ไพจะหามาใหใหม" แลวประไพก็ไปหามาใหจริงๆ ดวยเจตนาดี ทําใหพลอยพูดไมออก เพราะพลอยรูดีวาถาจะพูดถึงความ รักฐานแมลูก ประไพก็ยังรักตนไมนอยไปกวาลูกคนอื่นๆ แตการเปลี่ยนแปลงในตัวประไพนั้นเปนไปตามกาล สมัย มิใชเพราะประไพตั้งใจขัดเจตนาของพลอยโดยใชเหตุ พลอยรูดีและยอมรับกับตัวเองวา ถาหากประไพทํา ตัวตามที่พลอยอยากเห็น บางทีประไพก็จะตองอยูคนเดียว หรืออยูกับคนแกๆ เชนพลอย ไมสามารถจะรูจักคน รุนราวคราวเดียวกัน หรือคบเพื่อนฝูงได พลอยรูสึกวาเปนหนาที่ของตน ที่จะเขาใหถึงในใจในความรูสึกของลูก โดยเฉพาะประไพซึ่งเปนลูกสาว พลอยพยายามที่จะเขาใจประไพเสมอ ไมวาจะเปนในเรื่องใดๆ แตถึงจะไดใชความพยายามอยางมากแลวก็ตาม บางครั้งพลอยก็รูสึกวาตนอยูหางไกลกับลูกคนละโลก ลําพังแตประไพคนเดียวก็ไมสูกระไรนัก แตเวลาประไพ มี เพื่อนฝูงมาหาที่บาน ซึ่งสวนมากเปนเพื่อนนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน พลอยก็รูวาเรื่องที่เด็กรุนใหมคุยกันนั้น ตนไมสามารถจะเขาใจไดทีเดียว เพราะมักจะคุยกันถึงเหตุการณที่พลอยมิไดไปรวมดวย และถึงคนอื่นๆ ที่ พลอยไมเคยรูจักแมแตชื่อเสียง ทั้งหมดนี้ทําใหพลอยอายเพื่อนฝูงของประไพ และตองหลบหลีกไปนั่งเสียที่อื่น เวลาประไพมีเพื่อนฝูงมาหา ชอยยังไปมาหาสูกับพลอยอยูเปนนิจ และเปนคนที่คอยใหสติพลอยในเรื่องลูกเปนอยางดี ถึงชอยจะมี อายุมากขึ้น ก็ยังแข็งแรงกระฉับกระเฉงทันตอเหตุการณ เวลานี้ชอยอยูแตคนเดียวในวัง ยังคงอยูที่ตําหนักเสด็จ คุณสายและแมชั้นมารดานั้นตายไปเสียแลว ในระยะเวลาที่หางกันไมกี่ป เมื่อพลอยพูดถึงเรื่องประไพ และการ เปลี่ยนแปลงในนิสัยใจคอ ตลอดจนกิริยาทาทางของเด็กผูหญิงรุนใหม ชอยก็ตอบวา "พลอยนี่ชางไมดูสังขารเสียบางเลยทีเดียว อยางเรานี่มันแกๆ ตามกันลงไปแลว เด็กรุนใหมเขากําลังจะ เติบโตขึ้นมา เขาก็ตองมีจิตมีใจ มีทามีทางของเขาเอง จะใหเหมือนอยางเราอยูตลอดไปอยางไรได" "ฉันก็ไมไดวาอะไรหรอกชอย" พลอยตอบแกตัว "แตบางทีฉันดูมันออกจะเกินๆ ไปบาง ดูเขากลากันนัก ไมสมกับเปนลูกผูหญิง" "มันก็เหมือนกันทุกสมัยแหละพลอย" ชอยพูด "คนแกก็ตองเห็นคนสาวปราดเปรียวเกินไป กลาเกินไป พลอยลองคิดถึงแตกอนบางสิ สมัยเมื่อเรายังสาวๆ คุณอาสายบนปากเปยกปากแฉะ เรื่องแมพลอยบาง เรื่อง ฉันบาง ทําอะไรก็ไมถูกใจไปทั้งนั้น แตเอาจริงเขาเราก็ไมเห็นเปนอะไร" "แตสมัยกอนผูใหญเตือนเรายังฟงบาง" พลอยแยง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy302_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๒ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 4

"ก็ฟงไปอยางนั้นแหละ" ชอยวา "ฉันเองเกือยจะไมไดฟงเลย เพราะรูวาผูใหญก็ตองบนไปวาไป มาเดี๋ยว นี้เปนผูใหญเขาเอง ก็ยังไมลืมความหลังแตกอน จะวาเด็กก็ยังตองระวังเสมอ กลัวเด็กจะหาวาฟุมเฟอยไป พลอยอยาไปหวงประไพแกเลย คนเรามันเกิดมาเปนสาวหนเดียว ปลอยเขาสนุกสบายตามเรื่องเถิด เราได อบรมมาพอแลว ฉันเชื่อวาเขาคงรักษาตัวเขาได" พลอยดูชอยแลวก็อดรําพึงออกมาดังๆ ไมไดวา "ชอยนี่แปลก ฉันรูจักมาไมรูวากี่สิบป ตั้งแตเด็กดวยกันจนเปนสาวแลวแกมาดวยกัน ฉันไมเคยเห็นชอย มีความทุกขความวิตกเหมือนคนอื่นเขาเลย เคยเห็นแตโกรธ แตก็ปงปงขึ้นมาประเดี๋ยวเดียว แลวก็หาย แลว ชอยก็สนุกไดตอไปอีก ถายังสาวอยูฉันก็พอจะเขาใจ แตนี่เราก็อายุมากเขาดวยกันทั้งสองคน ชอยทําอยางไรนะ จึงไดไมมีทุกขกับใครเลย มองอะไรดูมันงายไปหมด" "คนเราเกิดมาแลวมันก็ตองแกตองตายไปทุกคน" ชอยตอบ "ฉันรูอยางนั้นก็เลยตั้งใจวา จะสนุกเสียสัก ชาติหนึ่ง เมื่อยังสาวๆ อยูก็ยังสนุกไดจริงอยางที่พลอยเคยเห็น แตพอแกลงชักใจไมดีอยูพักหนึ่งเหมือนกัน แต ฉันก็มาไดคิดวา ความแกที่เรียกวาเปนทุกขนั้น เพราะใจของเราแทๆ ทีเดียว รางกายของเรามันตองแกดวยกัน ทุกคน ไมมีใครหามได ความทุกขมันอยูที่ใจไมยอมแก ถาใครเก็บใจไวใหสาวเมื่อตัวแกแลว จะตองทุกขหนักที เดียว เพราะกายมันไมยอมทําตามใจ เหมือนกับคนที่ยังเปนสาวไปจับตัวคนแกมาวิ่งแขง คนแกก็ตองแพเพราะ วิ่งไมทัน กายกับใจก็อยางนั้น เมื่อฉันไดคิดอยางนี้ฉันก็ทําใจใหแกไปตามตัว ไมหามปราม ไมอับอายและไมไป รั้งมันไว พอใจกับกายมันเดินทันกันตามประสาคนแกดวยกันเลยหมดทุกข ยังสนุกอยูไดเรื่อยๆ ตามประสาคน แก นั่งดูเด็กๆ ทําอะไรตออะไรใหเพลินๆ ไปบาง แลวก็เลนกับความแกของตัวเอง เมื่อยขบบางหูหนวกไปนิด หนึ่ง ตาบอดไปหนอยหนึ่ง ฉันก็จดจําเอาไวคุยอวดพวกแกๆ ในวัง เปนเรื่องสนุกสนานครึกครื้นทีเดียว เดี๋ยวนี้ มีของเลนใหม คือวันหนึ่งๆ ก็แขงกันวาใครจะแกกวาใคร ฉันเรียกวาเลนทําแกสนุกไปอยางหนึ่ง เมื่อยังเด็กๆ นั้นก็นั่งคอยวันคอยคืนอยากใหถึงเวลาไดโกนจุก เพราะอยากเปนสาว เดี๋ยวนี้นั่งคอยวันคอยคืนจะใหหกสิบ ลูก หลานจะไดมารดน้ํา ฉันเองก็ยังบอกไมถูกวา เมื่อตอนเด็กหรือตอนแกนี้ ตอนไหนใจคอมันจะตื่นเตนมากกวา กัน" "ชอยก็ชางหาอะไรมาพูด" พลอยหัวเราะ "ชั้นแตจะแกตัว ก็จับเอามาเปนเรื่องเลนไปจนได ถาจะวาไป จริงๆ ฉันก็เห็นวาตัวยังไมแกเทาไหร ดัดจริตทําแกไปอยางนั้นเอง คนอื่นเขาอายุนอยกวาตัว แตดูเขาแกกวาก็ มีเปนกอง" "ก็เห็นจะจริง" ชอยวา "เพราะยอมแกเสียแลวและยิ่งเรงวันใหมันแก เลยไมคอยจะแกเทาไรนัก เหมือน กับเมื่อยังเด็กๆ ยิ่งเรงจะใหเปนสาวก็ยิ่งดูเปนสาวชาลงไป คนบางคนที่เขาดูแกกวาอายุ ก็เพราะเรื่องอยากจะ ทําตัวใหสาวอยูเสมอนี่แหละ อยางฉันเปนคนชอบทําแก จะแตงเนื้อแตงตัวก็ไมคอยจะกวดขัน เอาพอสบายๆ อยางคนแก ใครเขาก็เห็นแตยายชอย ไมนึกถึงอายุวาจะแกหรือสาว เลยดูไมแกเทาไหร แตคุณหญิงคุณนาย บางคนที่ฉันรูจัก เขาไมอยากแกเสียเลย จะไปไหนมาไหนก็แตงตัวไวใหสาวเกินตัว ไอเครื่องแตงตัวนั้นเอง มัน กลับรองอุทธรณ ตะโกนบอกใหคนรูทั่วทั้งเมืองวา "เจาขาเอยมาดูยายแกทําสาว" ใครเขาเห็นเขาก็ตองรอง วาแก เพราะเครื่องแตงตัวมันคอยขับอยูใหเห็นอยางนั้น เรื่องมันก็เพราะใจไมยอมแกอยางฉันวามานั่นเอง" ความจริงถึงชอยจะพูดเกี่ยวกับเรื่องทุกเรื่อง ไปในทํานองทีเลนทีจริงและตลกขบขัน แตคําพูดของชอย ก็มักจะเปนเครื่องเตือนสติใหพลอยไดคิดเสมอ และคําพูดของชอยนั้นก็มีผลกระทบทางใจ ทําใหพลอยมองดู การกระทําและความคิดเห็นของลูกๆ ที่เติบโตขึ้นนั้น ดวยอารมณที่เปนกลางมากกวาเกา ถึงจะมีบางสิ่ง บางอยางที่ผิดหูผิดตา พลอยก็มักจะนึกไดวา เปนเรื่องของคนตางวัยตางสมัย ไมวิตกกังวลจนเกินเหตุ วันคืนผานไปนําเอาเหตุการณตางๆ ซึ่งพลอยมิไดคาดฝนไวใหใกลตัวเขามาเรื่อยๆ วันหนึ่งคุณ เปรมออกไปขี่มาแตเชาตามปกติ พลอยก็มิไดสนใจ เพราะในตอนนี้คุณเปรมออกขี่มาตอนเชา แทบทุกวันเปน ประจํา เมื่อคุณเปรมออกจากบานไปแลว พลอยก็ทํางานบานตางๆ อยางที่เคยทํา จัดผาผอนไวใหคุณเปรมผลัด หลังจากกลับมาจากขี่มาและอาบน้ําแลว และดูแลอาหารเชาเตรียมไวใหคุณเปรม เพราะขณะนี้คุณเปรมตองการ ปรนนิบัติมากกวาแตกอน ทํางานไปพลางพลอยก็นึกอะไรตออะไรไปพลาง เหลือบดูนาฬิกาก็เห็นรวมสามโมง เชาเขาไปแลว นึกแปลกใจอยูครันๆ แตก็ไมไดนึกอะไรหนักหนา อีกสักครูหนึ่ง เสียงคนเดินสับสนแรงๆ ที่ชั้น ลางของตึก เสียงใครขึ้นบันไดมาอยางรวดเร็ว ตาออดมาทรุดตัวลงนั่งขางๆ แลวพูดดวยสําเนียงที่ไมปกตินักวา "เขาบอกวาคุณพอตกมาอยูแถวคลองเตย ลูกจะเอารถไปรับ" แลวตาออดก็รีบกลับลงไป ไมอยูรอให พลอยไดซักถามอะไรทั้งสิ้น แตถึงตาออดจะยังไมไป พลอยก็คงไมมีปญญาจะซักถามอะไรได เพราะขณะนั้น รูสึกวาตัวเย็นขึ้นมาครึ่งตัว แขงขาหมดความรูสึกกระดิกกระเดี้ยไมไหว ในสมองเหมือนกับมีลมพายุมาพัดอยาง แรง จะคิดสิ่งใดก็ไมถูก จะพูดจาวากระไรก็ไมไดทั้งสิ้น ตามผิวหนังนั้นประเดี๋ยวก็รอน ประเดี๋ยวก็เย็น มือหนึ่ง กําลังหยิบกุงแหง ซึ่งเตรียมไวจะใหเปนเครื่องขาวตมคุณเปรม ก็ยังวางพาดอยูที่ปากชาม เสื้อผาคุณเปรมที่จัด ใสพานไวใหในหอง ก็ยังมองเห็นไดจากประตูที่เปดถึงกัน พลอยจะนั่งอยูนานเทาไรก็จําไมได เสียงรถยนต แลนออกจากบานหายไปนาน แลวก็มีเสียงรถยนตแลนกลับ เสียงคนกลุมหนึ่งขึ้นบันไดมาชาๆ ดวยฝเทาหนักๆ แลวพลอยก็เห็นตาออดกับผูชายอีกสามสี่คน ชวยกันแบกรางคุณเปรมขึ้นมาจากขางลาง ตาออดคอยๆ บรรจง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy302_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๒ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 4

วางรางของพอลงบนเกาอี้ยาวที่คุณเปรมเคยนอนเลน พลอยก็ไดแตตะลึงมอง ตาออดหันมาทางพลอยน้ําตา ไหลอาบหนา แลวก็มานั่งชิดตัวพลอยกระซิบวา "คุณแมทําใจใหดีๆ ลูกยังอยู ไปถึงเมื่อเมื่อกี้แกไขไมไดเสียแลว คุณแมไมถือไมใชหรือที่ลูกเอาทานกลับ มาในบาน ลูกไมรูจะเอาไปไวที่ไหนจริงๆ" แลวตาออดก็เอื้อมมือมาจับพลอยไว พลอยไดยินเสียงตัวเองพูด เหมือนกับเสียงคนอื่นวา "บานนี้บานของคุณเปรม...เมื่อเปนๆ อยูได ทําไมเมื่อตายแลวจะกลับมาไมได" พูดขาดคําก็ไดยินตา ออดสะอื้น แตพลอยก็ยังนั่งอยูในทาปกติ และดวยดวงตาที่แหง เพราะจนบัดนี้ พลอยก็ยังไมสามารถบังคับใจให เชื่ออยางอื่นได นอกจากอยางเดียวคือ คุณเปรมออกไปขี่มาแลวยังไมกลับ วันนั้นทั้งวันพลอยรูสึกเหมือนกับวาฝนไป พี่นองมาที่บานกันจนหมด แขกเหรื่อชางดูมากเสียจริงๆ เขา รดน้ําศพแลวก็เอาคุณเปรมใสหีบหลวงตั้งไว พลอยก็ยังนั่งอยูในหองกลาง เบื้องหนาออกไปก็มีหีบศพคุณเปรม และมีพระกําลังสวดพระอภิธรรม เพราะเวลานั้นค่ําลงแลว พลอยปฏิบัติการไปทั้งวันเหมือนกับตนเปนเครื่อง จักร คนที่รูจักหลายคนกระซิบกันวา พลอยเปนคนใจแข็งขมสติได แตคุณเชยกับชอยเหลียวตาดูตากัน แลวก็ ตกลงกันวา จะอยูเปนเพื่อนพลอยกอนทั้งสองคน เวลาค่ําลงทุกที ใครคนหนึ่งโผเขามาที่ตัวพลอยซบหนาลงกับตักแลวก็รองไห พลอยลดสายตาลงดูตาอน ตาอนลูกของแม... พอตายก็ไมไดเห็นใจ เพราะมัวแตอยูแตบานนอก นี่ใครคงจะบอกไป จึงไดรีบมาแตคืนนี้ พลอยยกมือขึ้นลูบผมตาอั้นดวยความเมตตา หูแววไปไดยินเหมือนเสียงคุณเปรมพูดวา "ลูกฉันเอง แมพลอย...อายอน...ฉันยกให เห็นแมพลอยอยากได ฉันก็ยกให"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy302_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๓

Page 1 of 6

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๓ บทที่ ๓ ถาจะวากันตามความจริง ระหวางที่ศพคุณเปรมยังอยูในบาน พลอยก็มิไดรูสึกวาเหวเทาไรนัก ความ รูสึกที่คอยๆ ซึมเขาสูจิตใจวาคุณเปรมตายแลวนั้น ยังไมเปนเด็ดขาด เพราะตราบใดที่ศพคุณเปรมยังอยูในบาน พลอยก็มีการงานที่จะตองทํา มีเรื่องจะตองคิด ตองทําบุญงานศพคุณเปรมทุกเจ็ดวัน ถึงแมวาแตละเจ็ดวัน ลูก แตละคนและพี่นองทางคุณเปรมและพลอย จะแบงกันเปนเจาภาพ พลอยก็ยังถือวาเปนภาระตองคอยดูแลอยู นั่นเอง ทําบุญเจ็ดวันแลวก็ยังมีหาสิบวัน รอยวันไปตามธรรมเนียม การอบรมที่ไดรับมาตั้งแตอยูในวังนั้น อํานวยประโยชนใหทั้งทางใจและงานการในยามนี้ เมื่อยังอยูในวังพลอยเคยไดเคยผานงานพระศพเจานายมา หลายครั้ง ทุกครั้งก็มีเรื่องที่จะตองทําโดยละเอียดถี่ถวน มากมายหลายอยาง เชนทําดอกไม จัดของถวายพระ จัดเครื่องกัณฑเทศนตลอดจนทําของเลี้ยงแขก งานที่เคยทํามานั้นมาชวยรักษาจิตใจ ใหยังอยูในระดับปกติได บาง เพราะพอรูวาแนวาคุณเปรมตาย ภาระตางๆ ที่รูตัววาตองทําก็เขามาครอบงําความรูสึก และภารกิจและ หนาที่เหลานั้น ก็เขามาแบงเอาเนื้อที่ในหัวใจ มิใหความโศกสลดนั้นเขาครอบงําแตฝายเดียวจนสิ้นเชิง พี่นองและมิตรสหายทุกคนใหความเห็นใจ และใหความอุปการะชวยเหลือทุกอยาง ทําใหพลอยรูสึกเห็น ใจ และตื้นตันในอุปการคุณตางๆ ที่ไดรับ ชอยและคุณเชยมาคางที่บาน และนอนเปนเพื่อนอยูในหองเดียวกัน กับพลอย ทั้งสองคนรูดึวาความทุกขของพลอยนั้น มากเกินไปที่จะปลอบใหหายได แตทั้งสองก็มีวิธีที่จะทําให ความทุกขของพลอยบรรเทาลงไป ดวยการหางเรื่องอื่นๆ มาคุยกันเอง ชักจูงความนึกคิดของพลอย ซึ่งเปนผูนั่ง ฟงใหหันเหไปทางอื่นไดบางเปนครั้งคราว ชอยและคุณเชยนั่งคุยกันอยูไดจนดึกๆ ทุกวัน ไมปลอยใหพลอยตอง นอนคิดถึงเรื่องราวตางๆ แตผูเดียว และเวลากลางวันทั้งสองคนก็หาเรื่องเกี่ยวแกงานศพมาคอยปรึกษา หรือมี งานมาชวนใหพลอยทํา ไมปลอยใหอยูวางได ขณะที่นั่งทํางานชอยก็จะคุยอยูไมหยุดปาก ดวยถอยคําที่ตลกขบ ขัน และดวยความคิดที่แปลกประหลาดโลดโผน ทําใหพลอยตองยิ้มออกมาไดแมแตกําลังทุกข พอเพิ่มเองก็ทิ้ง บานและลูกเมียมานอนอยูในหองเดียวกับตาออด และนานวันเขา พอเพิ่มก็ชักจะมีคําพูดภาษาฝรั่งแทรกแซง เวลาจะพูดจะคุย ทําใหชอยและคุณเชยตองสะกิดกันทุกครั้งที่ไดยิน หลวงโอสถนั้นถึงแมจะมาคางไมได เพราะ หวงรานหวงคนไข ก็มารวมกินขาเย็นอยูดวยทุกวันเปนประจํา และอยูปฏิบัติพระที่มาสวด และเลนสกาเลน หมากรุกไปกับพอเพิ่มจนพระลากลับวัด จึงจะกลับดวยทุกคืนไป ในกระบวนพี่นองทุกคน คุณอุนดูเหมือนจะรับเอาความตายของคุณเปรมไปใสใจมากกวาคนอื่น พอรู ขาววาคุณเปรมตาย คุณอุนก็ออกวิ่งกระหืบกระหอบขึ้นมาหาพลอย และเมื่อเห็นศพคุณเปรม คุณอุนก็รองไห ดังๆ และคงรองไหอยูเรื่อยๆ ตลอดมาไมเปนอันทําอะไรได กับทุกคนคุณอุนจะพูดขึ้นวา "ถาเจาคุณเจ็บไขอยางธรรมดาก็ไปอีกเรื่องหนึ่ง ฉันจะไดชวยรักษาพยาบาลสนองคุณทาน แตนี่เห็นกัน อยูหลัดๆ แลวก็มามีอันใหเปนไป พระคุณทานมีแกฉันมากมายเหลือเกิน หาที่ไหนไมไดอีกแลว ไดพึ่งพาทาน มาตลอดแลวก็ไมไดทดแทนพระคุณทาน ฉันจึงไดรองไหมากกวาคนอื่น แมพลอยเขามีคุณแกฉันก็จริง แตเขา เปนนอง สวนเจาคุณเทานเปนคนอื่นแทๆ ยังมีใจอุปการะคนแกอยางฉัน ไมเคยนึกรังเกียจ จะหารมโพธิ์รม ไทรอยางนี้ไมไดอีกแลวเจาประคุณ" แลวคุณอุนก็รองใหคร่ําครวญตอไป ระหวางที่พลอยนั่งทํางานอยูกับชอย และคุณเชยที่หลังตึก พอคุณอุนขึ้นบันไดมา คุณเชยก็จะสะกิดชอยแลวกระซิบวา "นั่นแนะ นางรองไหมาแลว" "นั่นนะซี" ชอยจะตอบ "รองเสียฉันออกจะสงสาร แทบจะรองตามเปนลูกคูไปดวยแลวหลายครั้ง ตอง สะกดใจไมใหรองตามแทบตาย" "วุย ! อยากรองก็รองไปเถิด ไมมีใครเขาวาหรอก" คุณเชยวา "ฉันเองนานๆ ก็รองเสียทีเหมือนกัน" "อาว ! อยางคุณเชยกับคุณอุนไมเหมือนฉันนี่" ชอยแก "คุณอุนเธอแกแลว และเปนพี่เมีย รองเทาไรก็ รองได อยางคุณเชยก็อีก จะบีบน้ําตารองไหสักเทาไรก็ไมมีใครสงสัย เพราะมีคุณหลวงคอยค้ําประกันอยู สวน แมพลอยเขาก็เปนธรรมดา ถาไมรองก็ตองตีใหรอง เพราะผัวเขาตาย ฉันคนเดียวเทานั้นที่ลําบากกระอัก กระอวน เพราะฉันยังเปนสาวแลวก็ตัวเปลา ขืนดัดจริตไปรองเขา คนเขาก็จะสงสัยวายังไงๆ เสียกระมั้ง !" "แมคูน !" คุณเชยรอง "ฉันไมรูวาแมชางไปเอาสติปญญามาจากไหน ชางคิดรอบคอบระวังเนื้อระวังตัว ไปเสียหมด แมแตกับคนตายแลว" "ก็แนละซี" ชอยตอบ "รักษาตัวเปนสาวมาหาสิบกวาป จะมาเสียชื่อตอนนี้อยางไรได ถาถูกหาความเมื่อ คุณเปรมยังอยูก็จะไมสูกระไรหรอก เพราะเธอจะไดชวยแกวาคนอยางยายชอยฉันไมแตะ เดี๋ยวนี้เธอก็ชวยไมได จึงจนใจตองรักษาเอาเอง"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy303.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๓

Page 2 of 6

"ฉันก็อยากรูเหมือนกัน อยางชอยนี่ถาเผื่อมีเรือนแลวผัวตาย จะทําอยางไร" คุณเชยปรารภขึ้น "ฉันก็คงรองโอปไปสักสามวัน" ชอยตอบหนาเฉย "เสร็จแลวฉันก็นั่งคิดมรดก จะไดรูวาตัวเองเปนแมมาย ธรรมดา หรือวาเปนแมมายทรงเครื่อง" ชอยหยุดนิ่งมัดเทียนที่จัดไวสําหรับถวายพระอยูครูหนึ่ง แลวก็พูดขึ้นวา "เวลาฉันคุยบาๆ บอๆ อยางนี้ อดคิดถึงคุณอาสายไมไดสักที ถายังอยูไดยินเขาเปนตองดุขรมไปที เดียว" คําพูดของชอยทําใหพลอยตองอมยิ้ม เพราะในใจของพลอยก็กําลังนึกถึงคุณสายอยูเชนเดียวกัน "เฮอ ! เมื่ออยูก็เตนหรับๆ กันไป ประเดี๋ยวก็ดีประเดี๋ยวก็โกรธ เดี๋ยวก็รัก เดี๋ยวก็รองไห เสร็จแลวก็ตาย ดวยกันทุกคน" ชอยพูดขึ้นเปนธรรมานุสติ "อยางฉันนี่ก็คงถึงคราวเขาวันหนึ่ง จะผิดกับคนอื่นก็ตรงที่วาเวลา ฉันตายแลว ใครพูดใครนึกถึงก็คงหัวเราะ ไมรองไหเหมือนกับคนอื่น เรื่องคนตายนี่ฉันนึกๆ ดูแลวก็แปลก คุณ เชยจะเห็นดวยกันหรือไมก็ไมรูได ฉันวาๆ คนที่เรารักมากๆ หรือคุนเคยมากๆ นั้นไมมีวันตาย ถึงตัวจะตายไป แลวนานเทาไหร คนๆ นั้นก็ยังคงอยูเหมือนกับคนเปนๆ ในหัวใจเรานั่นเอง อยางเสด็จนั้นทานสิ้นพระชนมไป แลวไมรูวากี่ป แตเดี๋ยวนี้ฉันก็นึกวาทานยังอยู เพราะฉันรูดีวาทานโปรดอะไรไมโปรดอะไร ถึงทานจะสิ้นพระ ชนมไปแลว ก็ยังคิดจะทําใหถูกพระทัยอยูนั่นเอง ตองระวังตัวอยูเสมอ พอแมและคุณอาสายที่ตายไปแลวก็ เหมือนกัน อยางคุณอานี่ยิ่งราย เมื่อยังเปนๆ อยูเราพอหลีกเลี่ยงหนีไดเปนครั้งเปนคราว พอตายแลวดูเหมือน จะตามติดตัวเที่ยวควบคุมไปทุกอิริยาบถ ฉันก็นั่งพูดฟุงไปคนเดียว ใครจะเห็นฉันเปนบาไปหมดแลวก็ไมรู" ชอยสรุปความ ชอยพูดถูกทีเดียว พลอยนึกอยูแตในใจ และคําพูดของชอยทําใหพลอยอุนใจขึ้นมาก คุณเปรมถึงจะตาย ก็ตายแตในสายตาและความรูสึกนึกคิดของคนอื่น สําหรับพลอยนั้นคุณเปรมยังไมตายเลย ระยะเวลาหลายสิบป ที่อยูดวยกันมา ทําใหพลอยรูจักคุณเปรมดีกวาใครทั้งสิ้น คุณเปรมจะชอบสิ่งใดหรือไมชอบสิ่งใดพลอยก็รู เมื่อ เหตุการณอันใดเกิดขึ้น เหตุการณนั้นจะกระทบใจคุณเปรม ทําใหเกิดอารมณใดพลอยก็รูดี คุณเปรมจะมองชีวิต อยางไร ตองการอะไร ปรารถนาสิ่งใดพลอยก็รูแกใจจนสิ้น ถึงตัวคุณเปรมจะตายไปแลว ความรูสึกอันใกลชิด ทุกอยางเหลานี้ ยังติดอยูกับตัวพลอยเทากับคุณเปรมยังอยู และอยูอยางใกลชิดที่สุด เพราะอยูในตัวพลอยใน หัวใจพลอยตลอดไป ไมมีวันจะลืมเลือนได รางกายสังขารของคุณเปรมจะตองเนาเปอยไป และในที่สุดก็จะถูก เผาไหมเปนเถาถาน ไมมีอะไรเหลือ...แตชากอน ! จะวาไมมีอะไรเหลืออยางไรได ลูกของคุณเปรมยังอยูถึงสี่คน ตาอน ตาอั้น ตาออดและประไพกําลังแข็งแรง กําลังจะเริ่มชีวิตตอไปทุกคน เหลานี้ไมใชเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณ เปรมดอกหรือ เมื่อคุณเปรมยังมีตัวอยู พลอยก็ไดมอบตัวใหแกคุณเปรมจนสิ้นเชิง ตั้งใจวาจะปฏิบัติตามใจคุณ เปรมไปจนตายจากกัน แตถึงขณะนี้เขาจริงคุณเปรมก็ยังไมตาย ยังอยูในตัวพลอย ยังอยูในลูก เปนหนาที่ของ พลอยที่จะตองปฏิบัติตอไป ตามความปรารถนาของคุณเปรม ทําชีวิตของตัวเองและของลูกใหเปนไปตามที่คุณ เปรมตองการ เมื่อนึกถึงลูก พลอยก็อดไมไดที่จะนึกถึงความเปนไปของลูกแตละคน ตั้งแตคุณเปรมตายไปแลว ตาอน นั้นทําใหพลอยรูสึกเมตตาสงสารมากที่สุด เพราะพลอยก็รูดีวาตาอนเกิดมาก็มีแตคุณเปรมผูบิดา และพลอยผูซึ่ง ตาอนรักเปนแม สวนแมของตัวจริงๆ นั้นตาอนไมรูจัก พอคุณเปรมตายลง ตาอนก็แสดงความเศราโศกนานกวา ใครทั้งหมด และดูเหมือนจะยึดถือพลอยเปนคนสําคัญในชีวิตของตน มากขึ้นกวาแตกอน เมื่อคุณเปรมตายลง ตาอนลาราชการมาอยูบานไดเจ็ดวัน และตอจากนั้นก็กลับมาบานทุกๆ เจ็ดวันและคางที่บานคืนหนึ่ง ทุกครั้งที่ ตาอนมาอยูบาน ตาอนก็ไมหางตัวพลอย คอยดูแลรับใชและเอาใจอยูทุกฝกาว บางครั้งพลอยเห็นหนาตาอนก็ ตองรองไห เพราะการตายของคุณเปรม ทําใหตาอนเปนลูกกําพราลง และเมื่อพลอยรองไห ตาอนก็รองไหดวย ไมพยายมปลอบโยนอยางคนอื่น ทําใหพลอยรูสึกวาเปนอันหนึ่งอันเดียวกับตาอน โดยความทุกขที่มีอยูรวมกัน ตาออดเปนคนที่ไดเรื่องมากที่สุด ในตอนแรกที่คุณเปรมตาย ระหวางที่พลอยและคนอื่นยังตกใจสิ้นสติ ไมรูที่จะทําอยางไร ตาออดเปนคนที่ตระเตรียมการงานทั้งหมดสําหรับวันนั้น งานรดน้ําศพคุณเปรมก็เสร็จลงได ดวยตาออด ตาอั้นเขาไปแจงกระทรวงวังวาคุณเปรมตาย ก็เพราะตาออดเปนคนแนะบอกใหไป ตลอดจนพี่นอง และมิตรสหายไดรูกันทั่วถึง ก็เพราะตาออดเปนคนสงคนออกเที่ยวบอก วันนั้นทั้งวันตาออดที่เคยเปนเด็กไมได เรื่อง กลับกลายเปนผูใหญบังคับบัญชาคนทั้งบาน และสั่งเสียการงานไดถูกตอง แมแตตาอั้นพี่ชายซึ่งยังตะลึง อยู ดวยความตายอยางกระทันหันของพอก็เชื่อฟงโดยดี เมื่อมาคิดดูภายหลังพลอยก็รูวา ตาออดเปนคนที่คุม สติไดดีกวาคนอื่น และสามารถกระทําตนเปนผูใหญไดทันทีในยามฉุกเฉิน แตพอตอมาอีกวันเดียว เมื่อตาอั้น และพี่นองอื่นๆ มาพรอมกัน และหายตระหนกตกใจพอที่จะจัดการกับธุระตางๆ ไดเปนปกติแลว ตาออดก็รามือ กลับไปเปนตาออดคนเกา พอเพิ่มมาคางอยูดวยที่บาน ตาออดก็ไดคนที่ถูกใจถูกคอนั่งคุยกับพอเพิ่มไดไมมีจบ สิ้น นานๆ ตาออดก็มาปลอบเอาใจแมเสียทีหนึ่ง และมาชวนคุยเรื่องอื่นๆ พอใหพลอยไดคลายใจลงบาง ประไพนั้นพลอยสังเกตเห็นวาเปนผูใหญขึ้นมาก นับตั้งแตคุณเปรมตายลง จะพูดจากับพลอยหรือคนอื่น ก็พูดอยางผูใหญ แตขณะเดียวกันพลอยก็สังเกตเห็นวาประไพเปนผูใหญอยางไวทา เห็นวาการที่คุณเปรมตาย ลงนั้น เปนเหตุใหตนมีอิสระเสรีที่จะทําตามใจชอบไดมากกวาแตกอน อีกอยางหนึ่งที่พลอยเห็นประไพทําแลวไม

http://www.geocities.com/siamstory/ploy303.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๓

Page 3 of 6

ชอบใจ ก็คือประไพจะรองไหแสดงความเศราโศก เฉพาะเวลาที่มีแขกมางานศพคุณเปรม และกิริยาอาการที่ ประไพรองไหนั้นก็ดูผิดธรรมดา เหมือนกับวาไดซักซอมมากอนแลววาจะวางทาอยางไร จึงจะนาดูมากที่สุด ตาอั้นดูเหมือนจะเปนลูกคนเดียวที่เปลี่ยนไปมากตั้งแตพอตาย เหตุที่ตาอั้นเปลี่ยนไปมากนั้น อาจเปน เพราะตาอั้นเห็นวาตนเองเปนบุตรชายใหญของคุณเปรมที่มีกับพลอยก็เปนได เมื่อคุณเปรมตายลงโดยกระทัน หันตาอั้นก็ดูจะงงๆ อยูวันหนึ่งหรือสองวัน ดูเหมือนกับยังไมแนใจวาจะทําตนอยางไรถูก แตในที่สุดตาอั้นก็ ตัดสินใจไดวาตอไปนั้น ตนเปนทายาทอันถูกตองของคุณเปรม มีหนาที่จะตองบังคับบัญชาคนในบานแทนบิดา ตาอั้นก็ดําเนินการตอไปตามนั้น ถึงแมวาพลอยจะเห็นวาตาอั้นเขาใจถูก แตการกระทําของตาอั้นในบางกรณี พลอยก็เห็นวาเกินไป เปนตนวาตาอั้นจะมาสั่งเสียเอากับตัวพลอยเองในเรื่องตางๆ และเริ่มพูดจากับนองๆ ดวย น้ําเสียงที่เปนคําสั่งไมพูดจาแตโดยดีเหมือนเมื่อกอน ที่พลอยกินใจเปนที่สุดก็คือการปฏิบัติตนของตาอั้น ตอตา อนผูเปนพี่ ตาอั้นเริ่มแสดงกิริยาวาจาใหเห็นไดทั่วกันวา ตาอนนั้นขาดความสําคัญ ถึงจะเปนพี่ก็เปนแตเพียงพี่ ตางทอง มิไดทําใหตาอนอยูในฐานะลูกชายใหญ ผูเปนทายาทคุณเปรม เวลามีงานศพตาอั้นก็จะเปนผูออกหนา ทิ้งตาอนไวเบื้องหลัง ซึ่งตาอนก็ยอมโดยดุษณี ทําใหพลอยยิ่งรักยิ่งสงสารตาอนมากขึ้น ความจริงพลอยรูสึกทั้ง ภูมิใจและดีใจ ที่เห็นตาอั้นตัดสินใจพรอมที่จะเขาสวมตําแหนงของคุณเปรม ในฐานะเปนหัวหนาครอบครัว แตก็ รูสึกหนักใจแทนตาอนและตาออดอยูในขณะเดียวกัน เพราะไมแนใจวาลูกผูชายสามคนนี้ จะเกิดขัดใจกันขึ้นมา เมื่อไร สําหรับประไพนั้นพลอยไมรูสึกหวง เพราะรูอยูวาตาอั้นรักและตามใจนองสาว แตก็ยังตองวิตกอยูวา ความรักและการตามใจของตาอั้น อาจทําใหประไพเหลิงไปอีกก็ได ระหวางที่ศพคุณเปรมยังอยูในบาน พลอยก็ยังรูสึกอุนหนาฝาคั่งมาตลอด แตเมื่อทําบุญรอยวันเสร็จไป แลว ก็ถึงเวลาเผาศพคุณเปรม กอนงานเผาศพคุณเปรมสักเดือนหนึ่ง ตลอดจนระหวางที่เปดศพคุณเปรมทําบุญ กอนจะเผา และแมแตวันเผาพลอยก็ไดแตยุงอยูกับธุรกิจการงาน เสียจนจําอะไรไมคอยจะได จําไดแตวาญาติพี่ นองทางคุณเปรมทําพิธีกงเตกเปนการใหญ มีหลวงจีนมาสวดเอิกเกริกอยูจนรุงสวาง คนที่สนใจงานกงเตกจน กลายเปนเรื่องสนุกก็คือพอเพิ่มและตาออด ปรึกษากันอยูเปนวรรคเปนเวรวา จะทําอะไรดวยกระดาษเผาสงให คุณเปรมดี ตาออดเปนคนคิดเรื่องทําบาน ทําเครื่องใช ตลอดจนรถยนตที่จะเผาสงไปให ทั้งสองคนปรึกษากัน อยูอีกหองหนึ่ง แตพลอยซึ่งนั่งอยูขางในก็ไดยินชัดแจง เสียงพอเพิ่มพูดขึ้นวา "อะไรๆ ก็สงไปใหไดหมดแลว ยังขาดอยูอยางเดียวเทานั้นเอง" "อะไรเลาคุณลุง" ตาออดถาม "มา" พอเพิ่มตอบ "ตองสั่งใหเจกมันทําสงไปใหสักฝูงหนึ่ง มีอานมาเครื่องมาและโรงจนครบ" "ผมวาอยาดีกวา" ตาออดตอบ "ปานนี้คุณพอคงเข็ดขี่มาแลว ขอสําคัญถาสงไปใหจะโกรธเอาเสียดวย เพราะจะหาวาเราลอ" "จริงซี" พอเพิ่มพูดอยางเชื่อถือเห็นดวยกับหลานชาย "วา ! ยากจริงๆ จะสงอะไรใหอีกดี... ลองสงของที่ ไมเคยมีไปใหจะดีไหม เผื่อจะชอบบาง" "อะไรอีกละคุณลุง" ตาออดถาม คําตอบของพอเพิ่มตองทําใหพลอยซึ่งนั่งฟงอยูขางในหอง ตองหัวเราะและรองไหไปพรอมๆ กัน เพราะ พอเพิ่มตอบดวยเสียงกระซิบ ที่ดังไดยินเขาไปถึงขางในวา "อีเล็กๆ ! เจาคุณทานไมเคยมีเลย ไปอยูทางโนนเดี๋ยวไมมีใครปรนนิบัติ ลุงจะใหเจกทํารูปกระดาษ สวยๆ สักสิบตัว เผาสงไปให ชางปะไร" ตาออดหัวเราะงอหายแลวพูดวา "ผมไมรูดวยนะคุณลุง เดี๋ยวคุณแมดุผมตาย !" "เฮย ! ไมเปนไรหรอกนา" พอเพิ่มตอบ "ลุงเคยถามเขาแลว เขาบอกวาเขาไมวา ลุงกลัวแตอยางเดียว เทานั้น..." "กลัวอะไรครับ" ตาออดซัก "กลัวทานจะไมรับไวนะซี เมื่อเปนๆ ลุงเคยแนะทานใหลองมีดูบาง แตทานกลับบอกวาจะมาทําใหทาน ตายเร็ว เดี๋ยวนี้ทานก็ตายแลว เห็นจะไมเปนไรกระมัง" "แลวเผื่อสงไปทานก็ยังไมรับ คุณลุงจะทําอยางไร" ตาออดซักดวยความสนุก "ไมเปนไรหรอกพอออด" พอเพิ่มพูดอยางใจเย็น "ทานไมใชสอยก็เก็บเอาไวที่นั่น อีกหนอยลุงตามไป ทวงคืนเอามาใชเอง" พอกอนจะเผาคุณเปรมวันหนึ่ง ก็มีพิธีกงเตกที่บานตามที่ไดกําหนดไว พลอยตองออกไปรวมพิธี เพราะ ทั้งตาออดและพอเพิ่มมาเรงเรา ขอใหออกไปใหได ตาอั้นนั้นบนวาพิธีทั้งหมดเปนของ "ปาเถื่อน" แลวก็นั่งดูอยู หางๆ อีกทาง ไมยอมรวมดวย พอพลอยออกไปถึง กวาดตาดูทรัพยสมบัติและเครื่องใชตางๆ ที่ทําดวยกระดาษ ซึ่งวางเรียงรายอยูหนาศพคุณเปรม สิ่งที่สะดุดตาก็คือ รูปผูหญิงสาวๆ ทําดวยกระดาษตัวยอมกวาคนจริงๆ เล็ก นอย ยืนอยูสิบคนบริบูรณ ในมือนั้นถือพัดบาง ถือบุหรี่บาง และถือถวยแกวน้ําหรือของใชอื่นๆ ที่คอของรูป เหลานั้นมีปายกระดาษแขวนไว บอกชื่อจนครบทุกคน เพราะพอเพิ่มนั้นเมื่อตกลงใจจะทําอะไร ก็ทําจนละเอียด

http://www.geocities.com/siamstory/ploy303.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๓

Page 4 of 6

ละออไมมีอะไรขาดเหลือ พลอยแลไปสบตาพอเพิ่มแลวก็ตองเมินหนา เพราะไมอยากหัวเราะออกมาในยามเชน นั้น พอดีไดยินเสียงชอยกระซิบกับคุณเชยขางหลังวา "ฉันไมรูวาจะเผาสงไปใหกันถึงขนาดนี้ ถารูทันก็จะสงแปลกระดาษไปไวใหใสลูกอีกสักสองสามอัน !" พิธีรีตองและแขกเหรื่อที่มาในงานศพของคุณเปรม ทําใหพลอยไมมีเวลาจะนึกถึงอะไรมากนัก เพราะมุง แตจะทํางานใหลุลวงไปโดยเรียบรอย จนกระทั่งเผาศพคุณเปรมเสร็จไป และในตอนเชาขึ้นเก็บกระดูกคุณเปรม กลับเขาบาน นําเอาโกษกระดูกคุณเปรมไปตั้งไวในที่ๆ จัดไวแลว พลอยจึงตามเขาไป และตอนนั้นเองความ วาเหวในชีวิต ก็ดูเหมือนจะโถมเขาสูหัวใจของพลอยอยางกระทันหัน และดวยกําลังที่แรง ถึงแมวาคุณเปรมจะ ไดตายมาแลวหลายเดือน ศพคุณเปรมก็ยังอยูในบานตลอดมา เปนเครื่องหมายเตือนความรูสึกวาคุณเปรมยัง อยูใกล มีภาระตางๆ ที่จะตองทําใหจนชั้นกับขาวของกินตางๆ ที่คุณเปรมเคยชอบ ก็ยังตองจัดหาใสสํารับไปตั้ง เซนศพ แตขณะนี้ทุกอยางดูวางเปลาไปสิ้น ผูคนญาติพี่นองที่มาชวยงานตางคนก็ตางกลับ เพราะเสร็จงานศพ คุณเปรมแลว พลอยเองก็ตองกลับเขาสูชีวิตปกติ ชีวิตที่ไมมีคุณเปรม พลอยยังงงงวยมิรูที่จะกลับเขาสูชีวิตนั้น ไดอยางไร ยังนึกไมออกที่จะจับตนชนปลายที่ไหนถูก ครั้งนี้เปนครั้งแรกที่พลอยรูสึกวาคุณเปรมนั้นจากไปนาน นักหนา มองหาอะไรที่จะเปนเครื่องหมาย บอกใหรูสึกถึงคุณเปรมก็ดูจะไมมีสักอยางเดียว คงเหลือแตโกษ กระดูก แตสิ่งนั้นก็ยังเตือนใจใหรูวา คุณเปรมตายไปแลวอยางไมมีวันกลับ คงเหลือแตกระดูกสองสามชิ้นไมมี อะไรอีกเลย พลอยเหลียวมองดูรอบๆ ตัว พบแตความวางเปลา พบแตเครื่องหมายของสิ่งตางๆ ที่ผานพนไป แลว พวงหรีดดอกไม แหงที่มีคนเอามาคํานับศพคุณเปรม ยังหอยประปรายอยูตามขางฝา ดอกไมใบไมที่ทํา กระดาษนั้นดูเหี่ยวแหง สีจางและมีฝุนจับ อาสนสงฆที่ตั้งไวตลอดงานก็ยังคงอยู แตก็ดูรางไมมีใครปดกวาด เพราะไมมีพระจะมานั่ง แจกันใบใหญใบหนึ่งวางอยูตรงมุมหอง ใสไมเทาตางๆ ที่คุณเปรมเคยถือ ไมเทาแตละ อันไมขึ้นเงาเหมือนแตกอน และหัวที่เลี่ยมดวยโลหะตางๆ นั้น ก็แลดูดานเพราะไมมีใครจับตองเสียนาน พลอย ทรุดตัวลงนั่งอยางชาๆ บนพรมที่ปูไวกลางหอง หันหนาไปทางมาหมูที่ตั้งกระดูกคุณเปรมไว สายตานั้นมองเลย มาหมูนั้นไป มองทะลุฝาตึก และมองตอไปอีกไกล เห็นทุงกวางใหญมีน้ําเจิ่งและดอกบัวบานเต็ม เด็กสาวๆ สอง คนนุงหมผาสีสดกําลังพายเรืออยูอยางรื่นเริง มีคนแกนั่งกลาง พายไปจนถึงหนาวัดที่มีเรือแพแนน คนหนุมๆ อีกคนหนึ่งนั่งพายหัวเรือแหวกฝูงเรือเขามา มีคนบานนอกเปนคนคัดทาย กลางลําเรือนั้นมีหมอไห ใสเครื่อง ขนมจีนไวเต็ม ภาพที่เห็นอยูนั้นเคยเกิดขึ้นจริงๆ นานนักหนามาแลว...นานเหลือเกิน... จนดูเหมือนกับวาจะไม เคยเกิดขึ้นเลย และภาพนั้นก็กําลังพราจางออกไปทุกที ดวยน้ําตาที่กําลังทวมทนขึ้นมาในลูกตาของพลอยทั้ง สองขาง เสียงใครพูดมาจากระยะทางที่ดูเหมือนจะไกลเต็มทีวา "คุณแม...คุณแมมานั่งอยูคนเดียว..." พลอยเหลียวไปดูทางเบื้องหลังเห็นตาอนเขามานั่งอยูใกลตัว ตาอนเดี๋ยวนี้เปนหนุมใหญแข็งแรง รูปราง ผอมเกร็งผิวเนื้อสีคล้ําเพราะไปอยูบานนอก ผิดกับตาอนเมื่อเด็กๆ นั้นไกล เพราะตาอนเมื่อยังเด็กอวนขาวนา รัก "ผมจะตองลากลับรถเที่ยงวันนี้" ตาอนบอก "จะเขามากราบลาคุณพอ ก็พอดีพบคุณแมอยูในนี้" พลอยกวักมือเรียกตาอนใหเขามาชิด ยกมือลูบผมตาอนแลวพูดทั้งน้ําตาวา "อนอยาเพิ่งไปไมไดหรือ อยูเปนเพื่อนแมกอน เผาศพคุณพอแลวแมวาเหวอยางไรชอบกล อยากใหลูกๆ ไดอยูที่บาน" ตาอนอึกอักตอบวา "ผมลาเขามาไดเทานี้เอง จะขึ้นไปสักเจ็ดวันก็จะรีบกลับมาใหมใหทันทําบุญกระดูกคุณพอ" "เมื่อไรเขาจะใหอนกลับเขามาอยูกรุงเทพ" พลอยถาม "อนไปอยูแถวบานนอกนานเต็มทีแลว ไมหาทาง คิดกลับเขามาบางหรือ" "ผมก็อยากกลับเหมือนกัน" ตาอนมองดูหนาพลอยแลวก็พูดเสียงสั่นๆ ตอไปวา "ยิ่งเวลานี้ยิ่งอยากกลับ มากที่สุด อยากมาอยูใกลๆ คุณแม แตไดยินเขาวากันวาตองถึงปหนาจึงจะยายได" พลอยถอนใจใหญ หมดปญญาที่จะทัดทานอยางไรไดตอไป คนแกแลวก็ตองแกไป ตายแลวก็ตองตายไป คนที่ยังหนุมก็มีหนาที่การงานที่จะตองทําตอไป ไมมีใครหามได เมื่อทําบุญเจ็ดวันกระดูกคุณเปรมแลว พลอยก็เริ่มสํารวจดูสถานการณรอบๆ ตัว คุณเปรมไปแลวแตยัง ทิ้งหนาที่ตางๆ ไวมาก เกี่ยวแกหุนสวนทรัพยสินและรายไดตางๆ ซึ่งรายไดที่เกิดขึ้นนั้น พลอยเคยรับแตปลาย ทาง แลวก็นํามาจับจายใชสอยภายในบาน เหลือเทาไรก็เก็บไวเปนตัวเงิน ถาหากคุณเปรมจะเรียกใชสอยอยาง ไร พลอยก็มีจายใหเสมอ พลอยไมเคยเกี่ยวของเขาไปถึงกิจการตางๆ ของคุณเปรมอันเปนบอเกิดแหงรายได นั้น และไมแนใจวาตนจะมีกําลังใจกําลังกายเขาไปดูแลใหทั่วถึงได ขณะเดียวกันพลอยก็รูดีวากิจการตางๆ ที่ คุณเปรมทิ้งไวนั้นจําตองมีคนดูแล ฉะนั้นเมื่อทําบุญกระดูกคุณเปรมเสร็จ พลอยก็ถือโอกาสพูดขึ้นในขณะที่ลูก อยูพรอมกันทุกคนวา "แมอยากจะถามอะไรสักหนอย ธุระตางๆ ของคุณพอก็มีอยูมาก จะทิ้งเสียก็ไมไดเพราะเกี่ยวแกเงินทอง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy303.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๓

Page 5 of 6

แมอยากใหลูกๆ ดูแลแทน เพราะตัวเองทําไมไหวและก็ไมเคยทํามาแตกอน จึงอยากจะถามดูวาจะเอาอยางไร กัน" "ก็คุณแมดูแลไปเองก็แลวกัน ไมเห็นจะมีปญหาอะไร" ตาออดพูดขึ้นกอน "ใครอยากไดอะไรก็บอกคุณ แม ดูเหมือนจะดีที่สุด" ลูกทุกคนนิ่งไมมีใครถกเถียง แตพลอยก็ยังยืนยันความคิดเดิมวา "แมก็บอกแลววาดูไมไหว เดี๋ยวนี้ก็แกลงทุกวัน คุณพอเสียแลวก็อยากจะหาความสบายบาง จึงอยากให ลูกทําแทน จะมอบใหใครทําแตคนเดียวหรือจะชวยกันทําหลายคนก็ได" "ผมเองก็เห็นจะชวยไมได เพราะตองอยูบานนอก" ตาอนออกตัวแตแรก "ถาคุณแมจะใหลูกทํา ผมก็เห็น วาควรมอบใหอั้นเขาทํา เพราะเขาเปนหมอกฎหมายมีความรูทางนี้ดีกวาคนอื่น" "อั้นวาอยางไรลูก" พลอยถาม "ถาคุณแมใหผมทําก็ตองทํา" ตาอั้นตอบ "แตผมเห็นวามรดกของคุณพอควรแบงกันเสียใหเรียบรอย จะ ไดไมมีปญหาทีหลัง" "คุณพอตายทําพินัยกรรมยกใหคุณแมทั้งหมด" ตาออดพูดขึ้นแลวก็เงยหนามองดูเพดาน "งั้นเรอะ" ตาอั้นถามอยางไมรู "ทําไมคุณแมไมบอกเรื่องนี้แกผมบาง" ตาอั้นหันหนามาถามพลอย อยาง เอาจริงเอาจังเหมือนกับซักพยาน "แม...แมก็ไมรู" พลอยตอบตะกุกตะกัก "คุณพอตายแลว ออดเขาบอกใหแมคนดูในตู ก็ไปพบเขา แมก็ ไมเห็นสําคัญอะไร เพราะถึงทรัพยสมบัติจะตกเปนของแม ก็เทากับเปนของลูกๆ อานแลวก็ลืมเสีย เพราะคุณ พอเพิ่งตาย มัวแตตกใจเพิ่งมานึกออกตอนที่ออดเขาพูดขึ้นเดี๋ยวนี้" "ออ" ตาอั้นดูเสียงจะเบาลง "ถาอยางนั้นคุณแมจะใหใครดูแลแทน ก็ตองแลวแตคุณแมเอง" "อนเขาก็บอกแลววาอั้นควรจะรับไปทํา แมก็เห็นดวย" พลอยพูดเหมือนกับวิงวอน "ถาคุณแมจะใหผมทํา ผมก็ตองทํา ผมรับไดแคนี้กอน สวนจะทําไดแคไหนก็ตองดูกันไปกอน" ตาอั้น ตอบ "แลวแตอั้นจะเห็นดีเถิด" พลอยพูดอยางโลงอก "อั้นก็เปนผูใหญ มีวิชาความรูแมก็วางใจได แตออดเวลา นี้ก็อยูเปลาๆ แมอยากใหเขาชวยอั้นอีกคน จะไดรูเรื่องทํามาหากิน แมอยากใหอั้นเอานองไปทําดวย" ตาอั้นมองดูหนาออดแลวก็พูดวา "เรื่องนี้ก็ไมใชใหญโตอะไรหนักหนา ทําคนเดียวก็พอ ถาทําหลายคนก็จะยุงกันเปลาๆ ถาคุณแมจะใหผม ทําก็อยากทําคนเดียว สําหรับออดผมเห็นวาวางงานมานานพอแลว ควรจะหางานทําอยางอื่น ใหเปนหลักเปน ฐานแนนอนดีกวา" ตาออดมองดูหนาพลอยแลวก็ยิ้ม ไมโตตอบวากระไร ตาอั้นพูดตอไปวา "ออดอยาโกรธเรานะ เราเจตนาดีตอออดจริงๆ ออดกลับมานานแลว งานการก็ยังไมเห็นทํา เรารูสึก รําคาญแทน วิชาความรูของออดก็มี ทําไมไมทํางานอยางคนอื่นเขา มัวแตนั่งอยูกับบานเฉยๆ ไมเห็นจะดีอะไร เลย แตกอนเราก็ไมอยากพูดหรอกเพราะคุณพอยังอยู เห็นทานไมวาอะไรเราไมกลาพูด แตนี่คุณพอเสียแลว เราก็เปนพี่ของออด..." "พี่อั้นก็เลยจะเปนคุณพอแทน" ตาออดตอใหเสร็จแลวหันไปถามพี่ชายอีกคนหนึ่งวา "พี่อนละวาอยางไรบาง" "พี่ไมวาอะไรหรอกออด" ตาอนหัวเราะตอบ "อาว ! ไมชวยกันเปนคุณพอแทนบางหรือ" ตาออดถามเยาตอไป "ไมไดหรอกโตๆ ดวยกันแลว" ตาอนตอบ "ออดร่ําเรียนมาสูงกวาพี่เสียอีก ควรจะรูดีกวาวาอะไรดีไมดี พี่ รูใจดีวาถาขืนเตือนออดก็จะไปอีกทางหนึ่ง ใหตรงขามกับที่เตือนเสียนั่นแหละมากกวา" "พี่อนก็เปนเสียอยางนี้" ตาอั้นพูดฉุนๆ "จะชวยกันพูดบางก็ไมมี ออดอยาถือดีไปนักเลย เชื่อเราเถิดรีบ หางานทําเสีย บานเมืองจะไมอยูอยางนี้ตลอดไป คงจะตองเปลี่ยนแปลงไปวันหนึ่ง คอยดูไปเถิด" ตาออดหัวเราะชอบใจแลวพูดขึ้นดวยถอยคําที่พลอยฟงไมเขาใจวา "แลวใครจะเปนคนไปเปลี่ยนมันเขาละพี่อั้น" ตาอั้นเหลียวมาจองดูหนาตาออดอยางเคือง แลวก็พูดขึ้นวา "ออดอยาพูดนอกเรื่อง ของทุกอยางตองมีเปลี่ยนแปลงไป จะหยุดนิ่งอยูคงที่อยางไรได บานเมืองก็ เหมือนกัน ตองหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ใครอยากจะอยูใครก็ตองหมุนตามไปใหทัน ถาใครไมยอมเดินไปขางหนา แตจะยืนอยูกับที่ คนนั้นก็เปนคนโง" พลอยไมอยากจะเห็นลูกๆ ทะเลาะกันเลย แตเดี๋ยวนี้ดูจะมีขึ้นบอยๆ ตาอั้นกับประไพเปนฝายหนึ่ง และ ตาอนกับตาออดเปนอีกฝายหนึ่ง เวลาจะปรึกษาหารืออะไรกัน ก็มักจะพูดจากระทบกระแทกกันอยูเสมอ เพื่อ ระงับความเสีย พลอยจึงพูดขึ้นวา "ออดก็ดีแตจะพูดเลน ! พี่เขาจะตักเตือนดวยเจตนาดี ออดก็เห็นเปนเลนไปหมด ควรจะฟงเขาใหดีๆ พี่ก็

http://www.geocities.com/siamstory/ploy303.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๓

Page 6 of 6

ตองรักนองอยูเปนธรรมดา เห็นอะไรไมดีก็ตองเตือน" คําพูดของพลอย ดูเหมือนจะทําใหตาอั้นคอยคลายความโกรธลงไปไดบาง แตตาออดกลับหัวเราะ แลว พูดขึ้นวา "พรหมาจโลกา !" "อะไรกันออด ! พูดไมเปนเรื่อง !" พลอยพูดขึ้นอยางไมเขาใจ "อาว ! ผมนึกวาคุณแมอยากฟงพี่อั้นเทศน เลยตั้งใจจะอาราธนาให" ตาออดตอบอยางสนุก ตาอนซึ่งกําลังยกแกวน้ําดื่มสําลักน้ําดังพรวดใหญ แลวรีบลุกหนีจากโตะไปยืนโผลหนาตาง แตพลอยก็ เห็นไดจากหลังตาอนวา ตาอนกําลังหัวเราะอยูอยางทองคัดทองแข็ง ตาอั้นมองดูตาอนทีหนึ่ง ดูตาออดซึ่งกําลังนั่งอมยิ้มอยูอีกทีหนึ่ง แลวก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง พูดดวยเสียง เรียบๆ วา "ก็เห็นจะไมมีอะไรอีกแลว ผมจะไดเริ่มไปทําตามที่คุณแมสั่ง ตอไปนี้ถาคุณแมตองการอะไร หรือมีธุระ อะไรก็บอกผมคนเดียวดีกวา จะไดไมตองเสียเวลา" แลวตาอั้นก็เดินกลับไปเขาหอง ทิ้งพลอยใหนั่งอยูกับ ประไพและตาออดกับตาอน พลอยถอนใจใหญแลวก็พูดขึ้นวา "อั้นเดี๋ยวนี้โกรธงายไมเหมือนแตกอน ออดก็ไมควรจะไปยั่วเขานัก" "ไพเห็นใจพี่อั้นเปนที่สุด" ประไพพูดขึ้นบาง "พี่อั้นเปนคนชอบทําอะไรทําจริง ไมทําเลน เมื่อมาเจอะคน ที่ดีแตเลนเขา ก็ตองเคืองเปนธรรมดา" "พี่ก็เห็นใจพี่อั้นเหมือนกันแหละประไพ" ตาออดตอบอยางอารมณดี "แตคนอยางพี่อั้นนั้น มีคนเอาใจอยู มากแลว จะไปทางไหนก็เห็นแตคนนับถือ นานๆ มีคนยั่วใหโกรธเสียบางก็ดี พี่ไดยินเขาวา ความโกรธนั้นเปน ประโยชนแกไต มันชวยใหไตทํางาน" "ไพไมเห็นจะดีอะไรเลย" ประไพตอบ "การที่มีคนนับถือพี่อั้นมาก ก็เพราะพี่อั้นเปนคนทําอะไรทําจริง มี การงานทําเปนหลักฐาน แลวก็เปนคนมีจิตใจสูง คิดแตจะทําใหบานเมืองดีขึ้น ไพเองก็รับตรงๆ วานับถือพี่อั้น ยิ่งกวาใครทั้งหมด นับถือมากกวาคนบางคนที่นั่งกินนอนกินอยูกับบานเฉยๆ การงานไมเห็นทํา" ตาออดหัวเราะอยางรื่นเริงแลวก็พูดวา "ก็ใครวาอะไรเลา พี่อั้นเขามีคนนับถือมากพี่ก็ยินดีดวย อยากจะใหคนนับถือเขายิ่งๆ ขึ้นไปเสียอีก แต ไพอยาลืมวาคนไมไดเรื่องไดราวอยางพี่นี้ ก็มีประโยชนอยูมากเหมือนกัน" "มีประโยชนอยางไร" ประไพถาม "อาว ! ก็พี่เปนนองพี่อั้น" ตาออดตอบ "ใครเขาดูพี่อั้นแลวเขาหันมาดูพี่ทุกครั้งไป พอเขาเห็นพี่ไมได เรื่อง เขาก็ตองเห็นพี่อั้นดีขึ้นไปอีก เหมือนกับเอาผาสีเทามาวางเทียบไวกับผาสีดํา ใครเห็นใครก็ตองวา ผาผืนสี เทาเปนผาขาว เพราะสีดํามันชวยขับใหขาว ถาพี่อั้นไมมีพี่ไวชวยขับใหดูเดน คนเขาก็คงจะไมนับถือเทาไรนัก หรือถาพี่เปนคนดีอยางพี่อั้น คนเขาก็คงไมตื่นเตน อยางดีก็คงพูดกันวา ลูกของคุณแมหรือลูกพระยาบทมาลย เขาดีทุกคน รัศมีพี่อั้นก็จะหมดไปแยะ" ประไพลุกขึ้นยืน แลวพูดวา "พูดกับพี่ออดเสียเวลาเปลาๆ ไพนัดกับเพื่อนๆ วาจะไปซื้อผาตัดเสื้อ นี่ก็ถึงเวลาแลว" แลวประไพก็เดิน หลีกหายไปอีกคนหนึ่ง ตาออดเดินมาคุกเขาลงที่ตรงหนาเกาอี้ที่พลอยนั่ง เอาแขนทั้งสองขางโอบหัวเขาพลอยไว แลวพูดขึ้นวา "แมทูนหัวของลูก แมเห็นลูกเลวจริงๆ อยางคนอื่นเขาหรือเปลา" พลอยตองยกมือขึ้นลูบหัวตาออดดวยความเอ็นดู แลวพูดเบาๆ อยางปรานีวา "แมรูวาออดลูกของแมเปนคนดี ถาออดอยากจะทําอะไรออดก็ทําไดดีไมแพคนอื่น ที่แมไมเขาใจก็คือ ทําไมออดไมทํา" ตาออดเอาหนาซบลงกับตักพลอยแลวก็ตอบวา "ลูกเองก็ไมรู...ชีวิตคนเรามันสั้นเหลือเกิน...สั้นจนนากลัว เวลาไดอยูใกลคนที่รักอยางแม ลูกก็อยากจะ เกาะไวใหนานที่สุด ไมอยากจะไปหาง อยากอยูใกลๆ แมอยางนี้..." พลอยใจหาย เมื่อไดยินคําพูดที่ออกมาจากหัวใจของตาออด เหลียวหนาดูตาอน ก็เห็นตาอนยิ้มอยางเขา ใจและเห็นใจ พลอยก็ไดแตนั่งอยูนิ่งๆ มือลูบหัวตาออดอยูไปมา คนที่อยูดวยขณะนั้น คนหนึ่งเปนลูกของตัว แทๆ อีกคนหนึ่งไมใช แตทั้งสองคนดูเหมือนจะรักและเปนหวงพลอยยิ่งกวาคนอื่นๆ ที่พลอยรูจักทั้งหมด และ เปนคนเพียงสองคนที่พลอยรูสึกวาสามารถเขาถึงตัวไดใกลชิดทุกเวลา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy303.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๔

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๓ บทที่ ๔ ความจริงคําทํานายเกาๆ เกี่ยวกับโชคชะตาของบานเมือง พลอยเคยไดยินมาตั้งแตยังสาวๆ บางก็อาง วาเปนพุทธทํานาย บางก็อางวาเปนตําทํานายของพระพุทธยอดฟาฯ ผูเปนปฐมวงศของราชวงศ ที่ตั้งกรุงรัตน โกสินทร แตเนื้อความนั้นก็รับกันวา ตั้งแตสรางกรุงนั้น จะมีพระมหากษัตริยเสวยราชยตอเนื่องกันมาจนนับได ๑๕๐ ป เมื่อครบ ๑๕๐ ปแลวก็สิ้นพระราชอํานาจ เมื่อพลอยไดยินคําทํานายนี้แตแรก พลอยยังเปนเด็กรุน สาวอยูในวัง ผูเฒาผูแกบางคนกระซิบกระซาบเลาใหฟง เปนเรื่องลึกลับเสียเปนหนักหนา แตเมื่อพลอยไดยินแต แรกนั้นก็มิไดสนใจเทาไรนัก เพราะประการหนึ่งถือเสียวา เปนคําพูดของคนแกหรือคนโบราณ และประการที่ สองขณะที่ไดยินนั้น เวลาครบ ๑๕๐ ปของกรุงรัตนโกสินทร ดูยังหางไกลจนคาดไมถึงวาจะเปนอยางไรแน เหตุการณที่จะพึงเกิดพึงมีเมื่อถึงเวลานั้น จึงดูเปนอนาคตที่เลื่อนลอย และไมนาสนใจนักสําหรับพลอย แตพลอยไดดํารงชีวิตมาจนใกลจะถึงระยะเวลานั้น และยิ่งใกลวันเขามา เสียงเลาเสียงลือเกี่ยวกับคํา ทํานายนั้น ก็ดูจะดังหนาหูขึ้นมาอีก แตคําทํานายที่กลับมาอีกหนหนึ่งนั้น ก็มิไดทําใหพลอยบังเกิดความเชื่อถือ มากไปกวาเกา เพราะถาจะดูเหตุการณบานเมืองทั่วไป ก็ดูเรียบรอยเปนปกติ ไมมีอาการใดๆ ที่จะสําแดงให เห็นวาจะเกิดมีการกบฏจลาจล หรือการรายแรงอยางใด ทุกอยางดูจะตั้งอยูบนรากฐานแหงความแนนอน และ เมืองไทยนั้นก็กําลังคืบคลานไปตามแนวทาง ที่เคยดําเนินมาแลวมิรูจักกี่พันป อันเปนแนวทางที่พลอยรูจักและ เคยชิน ถึงแมพลอยจะไมเชื่อคําเลาลือตางๆ นั้นก็ดี พลอยก็ไมสามารถที่จะระงับคําเลาลือตางๆ นั้น มิใหมากระ ทบหูตนได แมแตพี่นองเพื่อนฝูงของพลอยเอง ก็พูดถึงเรื่องเหลานี้อยูบอยๆ วันหนึ่งพลอยพูดกับพอเพิ่มวา "คุณหลวง ทําไมคนสมัยนี้เขาจึงชอบพูดเรื่องอะไรที่ไมคอยเปนมงคลเสียเลย" "เรื่องอะไรแมพลอย" พอเพิ่มถาม "ก็เรื่องคําทํานาย ที่วาครบรอยหาสิบปแลวจะสิ้นราชวงศบาง จะเปลี่ยนราชวงศบาง ในหลวงจะหมด อํานาจบาง ฉันฟงๆ ดูแลวก็กลุมใจ ไมรูจะเชื่อขางไหนถูก" "แมพลอยก็เชื่อกับเขาเหมือนกันหรือ" พอเพิ่มถามยิ้มๆ "ไมเชื่อ" พลอยตอบทันที "ฉันเคยไดยินคนแกเลาเรื่องนี้ใหฟงตั้งแตอยูในวัง ฉันก็ไมเคยเชื่อ เห็นเปนคํา คนแกเลาก็นึกเสียวาชางเถอะ คนแกก็ตองพูดไปตามประสาคนแก แตเดี๋ยวนี้พูดกันซุบซิบไปหมด แมแตคน หนุมคนสาว ฉันก็ไมเห็นอะไรผิดสังเกต ยังมองไมเห็นทางที่คําทํานายนั้นจะเปนไปไดเลย แตทําไมเขาชอบพูด กันนักก็ไมรู" "ฉันเองก็ไมเชื่อถืออะไรนัก" พอเพิ่มตอบ "แตก็นั่นแหละปากคนก็ชอบพูดกันไป คนหนึ่งพูดขึ้น อีกคน หนึ่งฟง แลวก็พูดกันตอๆ ไปอีก พูดกันหลายคนฟงกันหลายคนเขา ก็เลยกระซิบกันจนแซไปทั้งเมือง แลวก็เลย ชวนกันเชื่อคําพูดของตัวเอง ของอยางนี้หามยาก คนอื่นๆ ทั่วไปจะพูดอะไรจะเชื่ออะไรก็ชางเถิด ที่ฉันเห็นวา แปลกก็คือ คนที่ไมนาจะเชื่อของเหลานี้ ทานก็ยังพลอยเชื่อไปดวย ตรงนี้สิชอบกล" "ใครกันพอเพิ่ม" พลอยถาม "ก็เจานายนะสิ" พอเพิ่มตอบ "เรื่องเกี่ยวกับตัวทานเองในทางไมดี ทําไมทานเชื่อก็ไมรู" "พอเพิ่มไปรูอยางไรวาทานเชื่อ" พลอยถามอยางไมเขาใจ "อาว ! ก็ถาทานไมเชื่อทานจะตองลุกขึ้นฉลองพระนครทําไมกัน ใหเปนการเอิกเกริกมโหฬาร" พอเพิ่ม ยอนถาม พลอยรูเรื่องการฉลองพระนครและเปดสะพานใหมขามแมน้ําเจาพระยานั้นดี เพราะใครๆ ก็ยอมจะรู และ รูดวยวาจะเปนการฉลองที่มโหฬารที่สุด ที่เคยประสบพบเห็น แตพลอยก็ตอบไปวา "ฉันไมเห็นจะเกี่ยวอะไรกันนี่คุณหลวง ก็ทานจะฉลองพระนครของทานครบรอยหาสิบป ทําไมจะไป เหมาวาทานเชื่อ" "ที่ฉันนึกอยางนั้นก็เพราะจํานวนปที่ทานจะฉลอง ทําไมจึงตองฉลองรอยหาสิบป ครั้งแผนดินพระ พุทธเจาหลวงเคยมีฉลองรอยป แตนั่นก็เขาใจเพราะรอยปนั้นจํานวนถวนๆ ครบก็ควรจะฉลองอยู แตเดี๋ยวนี้ ทําไมตองมาแบงฉลองตอนรอยหาสิบป ทําไมทานไมคอยใหครบสองรอยป ดูคลายๆ กับทานเชื่ออะไรๆ อยู เหมือนกัน ไมอยางนั้นก็มองไมเห็นวาทําไมทานจะตองมาฉลองกันตอนนี้ ใหสมกับคําคนพูด" พอเพิ่มอธิบาย ความเห็นของตน "ฉันก็ไมเคยนึกไปถึงเพียงนั้น แตคุณหลวงพูดมาก็จริง บางทีทานจะฉลองสะเดาะพระเคราะหกระมัง"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy304.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๔

Page 2 of 5

พลอยตอบ "ก็นั่นนะซี" พอเพิ่มพูดอยางแนใจวาไดพิสูจนความเห็นของตนแลว "ถาทานไมเชื่อวาทานมีเคราะห ทาน จะตองไปสะเดาะทําไมกัน" ตั้งแตพลอยพูดกับพอเพิ่มคราวนั้นแลว ก็มิไดสนใจเรื่องราวตางๆ อีก เพราะมีเรื่องอื่นที่เขาแทรกแซง คือเรื่องความระหองระแหงระหวางตาอั้นกับภรรยา ลูซิลลบนบอยครั้งขึ้นวาถูกสามีทอดทิ้ง และพลอยสังเกต เห็นหลายหนวา สามีภรรยาคูนี้มีการถกเถียงกันบอยๆ ดวยถอยคํารุนแรง ถึงแมวาจะพูดกันดวยภาษาฝรั่ง พลอยก็พอจะจับไดจากน้ําเสียงและกิริยาทาทางวา คําพูดกันนั้นพูดดวยเจตนาที่จะทําใหอีกฝายหนึ่งเจ็บช้ํา น้ําใจ ทั้งหมดนี้พลอยไมสามารถจะเขาไปเกี่ยวของ ระงับความอยางใดได เพราะไมมีใครมาปรึกษาหารือ นานๆ ประไพก็มาบนใหฟงเสียทีหนึ่งวา ลูซิลลพี่สะใภนั้น ชอบแตเที่ยวเตรกับเพื่อนฝูงที่เปนฝรั่งดวยกัน และแสดง กิริยาดูถูกเหยียดหยามคนไทย ซึ่งพลอยก็ฟงหูไวหู เพราะเห็นใจลูซิลลที่ถูกละเลยนั้นเปนประการหนึ่ง และรูดี วาประไพรักและนับถือพี่ชายของตน เสียจนเขาลักษณะลุมหลงเปนประการที่สอง ถึงใครจะผิดจะถูกอยางไร ประไพก็ตองวาตาอั้นพี่ชายของตนถูกไวกอนเสมอไป ขณะนั้นตาอั้นก็ดูจะออกจากบานบอยที่สุด และกลับบาน เอาเวลาดึกดื่นเกือบจะเปนประจํา วันหนึ่งพอเพิ่มมาเยี่ยมที่บาน และหลังจากที่ไดไตถามทุกขสุขกันตามปกติแลว พอเพิ่มก็พูดขึ้นวา "แมพลอยจําเรื่องที่เราคุยกันไวหนหนึ่งไดไหม" "คุณหลวงกับฉันคุยกันไวหลายเรื่องเหลือเกิน" พลอยตอบ "เรื่องไหนแนก็สุดที่จะจดจํา" "ก็เรื่องคําทํานายอะไรนั่นอยางไรเลา" พอเพิ่มวา "ออ ! เรื่องนั้น" พลอยนึกออก "แลวอยางไร" "แมพลอยก็รูดีวาฉันคบคนมาก" พอเพิ่มอธิบาย "เที่ยวมีเพื่อนฝูงซอกแซกไปทั่งทุกหัวระแหง ฉันมักได ยินอะไรตออะไรเสมอ เดี๋ยวนี้ก็ไดยินมาวา เวลานี้กําลังมีคนเขาคบคิดกัน จะลมอํานาจพระเจาแผนดิน อยู เหมือนกัน" "ไฮ ! จะไปทําไดยังไง" พลอยรอง "ถึงจะคิดกันสักเทาไร ฉันก็ไมเชื่อวาจะทําสําเร็จ บุญวาสนาของทานก็ มีคุมครองอยู คนที่เขาถือน้ําพระพิพัฒนสัตยาก็ยังอยูทั้งเมือง ใครเขาจะไปยอม" "ฉันก็วาอยางนั้นเหมือนนะแหละ" พอเพิ่มตอบ "แตเรื่องอยางนี้ตางคนก็ตางใจ อยางเราๆ ก็ไมคิด แต ใครจะไปรูใจใครได สวนเขาจะทําสําเร็จหรือไมนั้นก็ไปอีกเรื่องหนึ่ง ฉันคิดๆ ดูแลวก็ไมสบายใจ ไมรูวาเขาจะมา อีทาไหนกัน ถาเขาทําสําเร็จจะเปนอยางไรก็ไมรู แตถาทําไมสําเร็จก็ไมสบายใจอีก" "ใครที่คิดอยางนี้ ถามีจริงอยางคุณหลวงวาก็เปนโทษกบฏ" "ก็นั่นนะสิ" พอเพิ่มตอบลอยๆ "ก็แลวคุณหลวงทําไมจะตองพลอยไมสบายใจกับเขาไปดวย" "เฮอ ! พูดยาก" พอเพิ่มถอนใจใหญแลวก็กลาวตอไปวา "แมพลอย หมูนี้พออั้นเขาเปนอยางไรบาง" "ฉันก็ไมเห็นเขาเปนอะไรนี่ คุณหลวง" พลอยตอบ "มีแตเรื่องยุงๆ กับเมียนิดๆ หนอยๆ แตฉันก็เห็นวา เปนของธรรมดา ลิ้นกับฟนตองกระทบกัน อีกหนอยคงเรียบรอยไปเอง" "เขาไปไหนมาไหนอยางไร แมพลอยรูบางไหม" พอเพิ่มซักตอ "ตาอั้นเขาโตเปนผูใหญ รับราชการเปนขุนน้ําขุนนางแลวนะคุณหลวง" พลอยทวง "ฉันไมมีหนาที่ไปคอย ถามเขาหรอก เดี๋ยวเขาจะหาวาฉันยุงไมเขาเรื่อง" "แมพลอย" พอเพิ่มพูดขึ้นเบาๆ เหมือนกับจะปลอบโยน "ฉันพูดอะไรไปก็อยาเพิ่งเชื่อ แลวก็อยาตกอก ตกใจ แตฉันไดยินมาวาพออั้นเขามีอะไรๆ อยูเหมือนกันคราวนี้" "มีอะไรกันคุณหลวง ฉันไมเขาใจ" พลอยถามอยางงงๆ "ดูเหมือนเขาจะรูๆ กันอยูกับพวกที่คิดการที่ฉันเลาใหฟงเมื่อกี้....." "คุณหลวงเอาอะไรมาพูด" พลอยรองเสียงหลง "ฉันไมเชื่อหรอก ทําอยางไรฉันก็เชื่อไมไดวา ลูกฉันคิด กบฏ มีอยางหรือลูกในไสของฉันแทๆ เลี้ยงมาเองแตออนแตออก จะเปนอยางนั้นไปไดอยางไร" พลอยเถียเสียงแข็ง รูสึกวาตัวนั้นรอนซูไปหมด ใจนึกอยูวาพอเพิ่มเที่ยวฟงเรื่องที่ไมเปนมงคล แลวเก็บ เอามาพูด ถาเรื่องนี้แพรงพรายตอไปก็จะเสียหายมาก แตพอเพิ่มก็ดูเหมือนจะรูใจ พูดขึ้นวา "อยาเพิ่งเอะอะไปแมพลอย ใจเย็นๆ ไวกอน ถึงจะเปนลูกของเราก็ตามที แตเมื่อเขาโตแลว เขาก็มีจิตมี ใจของเขาเอง แมพลอยเองก็รับอยูวาไมไดเที่ยวไปติดตามคอยดูวา เขาอยูที่ไหนทําอะไรบาง ถาคนที่เขา มาบอกเขาเอยชื่อหลานคนอื่น เชนพอออดหรือพออน ฉันเองก็คงไมเชื่อ เพราะฉันรูนิสัยหลานๆ ดี แตพออั้น เขาเปนคนรุนแรง มักจะมีความคิดแปลกๆ อยางที่คนเชนแมพลอยหรือฉันไมเขาใจ แตก็นั่นแหละเรื่องทั้งหมด อาจไมจริงเลยก็ได เพราะฉันก็บอกแตแรกแลววา เปนเพียงขาวลือเทานั้นเอง" ถึงแมวาใจของพลอย จะรองปฏิเสธไมยอมเชื่อคําพูดของพอเพิ่มอยูก็ตาม แตเหตุผลของพอเพิ่มเมื่อพูด ถึงตาอั้น ก็ทําใหพลอยนึกลังเลและสงสัยอยูครันๆ การอบรมที่ไดรับตกทอดกันมาแตบรรพบุรุษมิรูจักกี่รอยป ไหลทะลักทวมเขาสูหัวใจ การอบรมที่ทําใหเกิดความจงรักภักดี การอบรมที่สอนไววาการแตะตองละลาบละลวง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy304.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๔

Page 3 of 5

พระราชอํานาจ แมเพียงสวนใดสวนหนึ่งนั้น เปนการคิดคดทรยศตอเจา เปนคิดกบฏอันควรแกโทษที่รุนแรงที่ สุด ถาเปนแตกอนก็ตองริบราชบาทวตัดหัวเจ็ดชั่วโคตร เปนการกระทําที่เสื่อมเสียมัวหมองไปทั้งวงศตระกูล ถา จะวาไปตามจริง ถึงแมวาพลอยจะไดผานเหตุการณตางๆ ในชีวิตมาแลวมากก็ตาม แตในเนื้อหาดั้งเดิมในสวน ลึกของหัวใจพลอย ก็ยังเปนคนโบราณ ยังถือวาน้ําพระพิพัฒนสัตยา เปนของขลังของศักดิ์สิทธิ์ ใครประพฤติผิด ถอยคําที่สาบานไว แมดวยใจก็อาจประสบภัยอันตรายตางๆ ไมมีสิริมงคลอีกตอไป เหตุการณบานเมืองในขณะ นั้นจะเปนอยางไร พลอยมิไดคํานึงถึงและไมสนใจที่จะรู ยึดเอาความเชื่อถือและความจงรักภักดีของตนเปน ประมาณ คําพูดของพอเพิ่มเกี่ยวกับตาอั้น จึงกอใหเกิดความวิตกวิจารณมากมายที่สุด เทาที่เคยรูสึกมาในชีวิต ถาหากวาตาอั้นจะลุขึ้น ทําอันตรายแกพลอยเองผูเปนมารดาเสียอีก พลอยอาจเห็นวาไมเปนสิ่งที่พนวิสัย และ ไมรูสึกตระหนกตกใจเทา พลอยถอนใจใหญ แลวพูดขึ้นเบาๆ ดวยเสียงที่สั่นวา "คุณหลวง...คุณหลวง...นี่ฉันจะทําอยางไรดี ใจ หนึ่งฉันไมเชื่อจริงๆ วาอั้นจะเปนไปไดถึงเพียงนั้น แตคุณหลวงก็เปนของลุงของอั้นแทๆ ฉันก็ไมเชื่ออีกวาคุณ หลวงจะมาใสรายหลายเลนเฉยๆ และที่คุณหลวงพูดถึงนิสัยอั้นก็จริง ฉันดูเขามีความคิดไมเหมือนกับเราๆ ... คุณหลวงชวยฉันคิดดูบาง ฉันจะทําอยางไรดี" พอเพิ่มนั่งใชนิ้วเคาะจังหวะกับกระดานตรองอะไรอยูครูหนึ่ง แลวพูดขึ้นชาๆ วา "เรื่องนี้เปนเรื่องยากมาก แมพลอย ใจฉันเองก็ไมอยากเชื่อ และจนบัดนี้ก็ยังไมเชื่อ แตเมื่อไดยินมาฉันก็ ตองพูด เพราะฉันเปนลุงของพออั้นอยางที่แมพลอยวานั่นแหละ เมื่อเรารูเรื่องกันแลว เราก็ตองคิดกันใหดีๆ ตองทําใหถูกกับเรื่อง เพราะเราเปนผูใหญดวยกันแลว" พอเพิ่มหยุดนิ่งครูหนึ่งแลวพูดตอไปวา "ฉันเห็นวาที่แม พลอยควรจะทําก็ควรจะพูดกับเขาดู แลวตักเตือนเขาเสียในฐานที่แมพลอยเปนแม ถาเรื่องไมจริงก็แลวกันไป แตถาเขามีอะไรอยูบางจริง ปานนี้ก็ยังคงไมถลําตัวเขาไปเทาไรนัก เมื่อแมเขาพูดทั้งทีเขาอาจไดคิด เปลี่ยน ความตั้งใจเสียได ถาเขาทําไดอยางนั้นก็เปนอันหมดเรื่อง" พอเพิ่มแนะนําพลอยไดแตเพียงเทานั้นเอง แลวพอเพิ่มก็ลากลับบาน ปลอยใหพลอยนั่งตรึกตรอง คิดหา ทางที่จะพูดกับตาอั้นอยูคนเดียว แตวันแลววันเลาพลอยก็มิไดมีโอกาสพูดกับตาอั้นสองตอสอง ตามที่ไดตั้งใจไว ระหวางนั้นพอเพิ่มก็ไปมาหาสูอยูเสมอ แตพอเพิ่มก็มิไดไตถามหรือพูดถึงเรื่องนั้นอีกเลย วันหนึ่งพลอยก็สบชองไดโอกาส หลังจากที่ไดคอยมานาน ตาอั้นมาหาตอนบายวันหนึ่ง ขณะที่พลอยนั่ง อยูคนเดียว เพื่อปรึกษาเรื่องบางอยางเกี่ยวกับผลประโยชนที่พลอยมอบใหดูแล เมื่อพูดธุระกันเสร็จแลว พลอย ก็ชวนตาอั้นอยูคุยตอไปอีก แลวก็ถามขึ้นลอยๆ วา "อั้น หมูนี้ลูกไปมาหาสูเที่ยวเตรกับใครบาง" "ก็พวกเพื่อนๆ ที่ผมรูจักเทานั้นแหละคุณแม ไมมีใครอื่น" ตาอั้นตอบอยางไมสนใจเทาไรนัก "อยาหาวาแมยุงไมเขาเรื่องเลยอั้น" พลอยพูดออกตัว "แตแมอยากรูวาเพื่อนของลูกเปนใครบาง" "ก็มีคนที่เคยเปนนักเรียนรุนเดียวกันบาง" ตาอั้นอธิบาย "คนที่คุนเคยกันที่เมืองนอกบาง แลวก็คนที่มา รูจักกันในนี้ตอนหลัง โดยมากก็เปนขาราชการรุนเดียวกันทั้งนั้น คุณแมถามทําไมหรือ" "เปลาแมไมวาอะไรหรอก" พลอยพูด "แตหมูนี้แมไดยินขาวไมคอยดี ก็อยากจะเตือนใหอั้นระวังตัว เวลา คบเพื่อนฝูง อยาใหเขาชักนําไปในทางที่ผิด" "คุณแมก็รูดีวาผมไมใชคนชอบกินเหลาเที่ยวผูหญิง" ตาอั้นพูดอยางนอยใจ "ทําไมจึงมาเตือนเอาเดี๋ยวนี้ หรือวามีใครมายุ" "อั้นอยาเพิ่งดวนคิดมากไป แมไมไดหมายความวาอั้นไปเที่ยวสํามะเลเทเมาหรอก แมรูดีวาลูกของแมไม มีอบายมุข" พลอยรีบพูดปลอบ "แตเดี๋ยวนี้เขาลือกันวา มีคนเขาคิดการใหญ เกี่ยวกับแผนดินแผนทราย แมก็ เปนหวงเห็นอั้นรูจักคนมาก อยากจะขอวา ถามีใครเขามาชักชวน ก็ขอใหอั้นยั้งคิดถึงแม ถึงคุณพอ ถึงวงศ ตระกูลของเรา เราไมเคยคิดคดทรยศตอผูมีพระคุณ เจานายทานทรงพระเมตตา เลี้ยงพวกเรามาไดหลายชั่วคน อั้นก็คงรู ทางขางแมนั้นก็รับราชการตลอดกันลงมา ไมเคยมีดางพรอย จนตัวแมเองที่เปนตัวมาก็เพราะทาน สวนฝายคุณพอนั้น ตั้งแตทานกงตนตระกูลลงเรือสําเภา มาจากเมืองจีน ก็ไดพึ่งทานเปนรมโพธิ์รมไทร ทานได ชุบเลี้ยงตั้งเปนพระน้ําพระยา ไดสืบวงศตระกูลกันลงมาจนถึงอั้น ขอใหอั้นคิดดูใหดีๆ....." พลอยนึกไววาจะพูดตอไปอีกมาก เพราะไดเตรียมถอยคําและเหตุผลไวในใจอยางยืดยาว แตตาอั้นก็ชิง หัวเราะขึ้นกอน แลวพูดวา "นี่คุณแมกลัวผมจะคิดกบฏหรือ" "เปลา...ไม ใช..." พลอยตอบตะกุกตะกัก ตาอั้นลุกจากที่นั่งมาคุกเขาอยูตรงหนาพลอย ครั้งนี้เกือบจะเรียกไดวาเปนครั้งแรกในระยะเวลานาน ที่ ตาอั้นแสดงกิริยานารักนาเอ็นดูเปนกันเอง ตาอั้นแหงนหนาขึ้นมองดูพลอยอยางพินิจพิเคราะห เหมือนกับจะ อานความรูสึกที่แทจริง แลวก็ถามขึ้นวา "ทําไมคุณแมถึงคิดอยางนั้น" "แมเองก็ไมรู" พลอยตอบเบาๆ "ไดยินแตคนเขาพูดซุบซิบกัน แลวเห็นอั้นคบเพื่อนฝูงมาก แมก็อยาก

http://www.geocities.com/siamstory/ploy304.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๔

Page 4 of 5

เตือนไวเทานั้นเอง" ตาอั้นยังคงคุกอยูตรงหนา และสายตายังจับอยูที่ใบหนาของพลอย แลวตาอั้นก็พูดขึ้นวา "ผมรูดีวาคุณแมรักลูก ที่พูดมาก็ดวยความเปนหวง ผมก็ไมรูจะพูดอยางไรใหคุณแมคลายใจ เทือกเถา เหลากอของพวกเราเปนมาอยางไร คุณแมก็ไดพูดไวเองแลว เทานั้นก็พอจะเปนประกันไดวา เวลาผมทําอะไร ผมก็ตองมีสติ มีความยั้งคิด ไมยอมใหใครมาชักชวนไปในทางที่ผิดไดงายๆ อีกอยางหนึ่งผมก็เปนผูใหญแลวมิ ใชเด็กๆ จะไดวูวามไปตามอารมณ" "แมรูแลว" พลอยตอบ "ถาจะพูดถึงความประพฤติและการไวตัว แมก็พอใจอั้นทุกอยาง ชั่วแตแมเคยได ยินอั้นพูดถึงเรื่องบานเมืองอยูบอยๆ ก็เลยวิตกไปเอง" "เรื่องความรักชาติบานเมืองนั้นผมมีอยูมาก" ตาอั้นพูด "แตผมก็จงรักภักดีตอพระเจาอยูหัว และคิดถึง พระคุณทานอยูเสมอไมเคยเสื่อมคลาย เอาอยางนี้ก็แลวกัน" ตาอั้นหยุดพูดครูหนึ่ง เหมือนกับนึกอะไรออก กอน ที่จะพูดอะไรตอไป ตาอั้นก็กมลงกราบลงบนตักพลอยครั้งหนึ่ง แลวก็พูดขึ้นชาๆ วา "ผมขอสาบานไวตอหนา คุณแม ผูซึ่งผมรักและเคารพยิ่งกวาอะไรทั้งหมดวา ผมจะไมเปนกบฏ ไมคิดคดทรยศทําอันตรายตอพระเจาอยู หัว หรือพระราชวงศเลย ถาผมไมถือตามตําสาบานนี้ ขอให....." พลอยรีบยกมือปดปากตาอั้นไวกอนที่จะกลาวคําสาปแชงตัวเอง พลางรีบพูดวา "อยา !..... ไมตองหรอกอั้น......... แมเชื่อแลวไมตองสาบาน" ตาอั้นลงกราบพลอยอีกหนหนึ่ง แลวพูด อยางตั้งใจวา "ผมยังพูดไมจบ ผมอยากจะบําเพ็ญชีวิตของผมใหเปนประโยชนตอบานเมือง เพราะฉะนั้น ถาตราบใดที่ ผมยังซื่อสัตยสุจริตตอบานเมือง ปรารถนาจะทําประโยชนนําความเจริญมาใหแกบานเมือง ผมก็ขอพรจากคุณ แม ขอใหผมมีแตความสุขความเจริญ คิดสิ่งใดก็ขอใหสําเร็จตามความปรารถนา" พลอยยกมือลูบผมตาอั้นแลวก็พูดเบาๆ วา "แมอวยพรใหลูก ขอใหเปนไปตามนั้นเถิด" ตาอั้นรวบมือของพลอยไปกําไว เอาหนาซบลงกับมือของพลอยทีหนึ่ง แลวก็ลุกขึ้นยืน หันหลังเดินเบาๆ ออกจากหองไป ไมพูดจาวากระไรอีก เมื่อไดพูดกับตาอั้นแลวพลอยก็โลงใจขึ้นบาง เพราะไดพูดสิ่งที่ตั้งใจไววาจะพูดออกไปแลว แตคําตอบ ของตาอั้น มิไดทําใหพลอยสบายใจขึ้นกวาเกาเทาไรนัก คําพูดของตาอั้นดูจะมีควาหมายลึกซึ้ง เกินกวาที่พลอย จะเขาใจได เพราะถึงตาอั้นจะปฏิเสธขาวลือ ที่พลอยไดยินมาจากพอเพิ่มนั้นก็ตาม แตตาอั้นก็มิไดปฏิเสธแข็ง แรงเยี่ยงคนบริสุทธิ์ พลอยนึกในใจวาถาตาอนถูกกลาวหาเชนนั้น ตาอนก็คงจะปฏิเสธทันที พรอมกับโกรธเปน ฟนเปนไฟวา ถูกกลาวหาในเรื่องที่ไมจริงจัง และเสียหายเปนอุกฉกรรจ และถาเปนตาออดถูกกลาวหาตาออดก็ คงหัวเราะงอหาย เห็นเปนเรื่องสนุก พอดีพอรายตาออดก็จะรับสมอางวาเปนจริง ทําใหผูที่กลาวหานั้นเอง ตองกระอักกระอวนใจ พลอยแนใจวาทั้งตาอนและตาออดตองทําอยางที่พลอยนึก แตตาอั้นกลับมีทางออกไปอีก ทางหนึ่ง ไมตรงกับของใครเลย พลอยรูดีวาตาอั้นเปนคนฉุนเฉียว ถาถูกหาความในเรื่องที่ไมเปนจริง ตาอั้นก็ มักจะตีโพยตีพายโกรธเอามากๆ พลอยเคยเห็นตาอั้นเปนเชนนี้มาแตเด็ก ฉะนั้นการที่ตาอั้นตอบคําถามของ พลอย ดวยอารมณเยือกเย็นมิไดยินดียินรายแตอยางใด จึงทําใหพลอยอัศจรรยใจอยูครันๆ และคําตอบของตา อั้น จึงมิไดทําใหพลอยวางใจไดสนิทนัก ตอจากนี้มาอีกหลายวันพอเพิ่มก็มาหาที่บาน พลอยจึงพูดขึ้นวา "คุณหลวง เรื่องที่คุณหลวงบอก ฉันพูดกับอั้นเขาแลวละ เขาบอกวาไมเคยเกี่ยวของกับใครทางนั้นจริงๆ ถึงกับสบถสาบานใหฉันฟง" "ฉันก็โลงใจไปดวย" พอเพิ่มตอบ "พออั้นนั้นถึงฉันจะไมคุนเทาพอออด ก็รักมากเพราะเปนหลาน ไม อยากใหตองยุงเดือดรอน เมื่อเขาไมเกี่ยวของก็ดีไป แตเรื่องที่ฉันไดยินมาเลาใหแมพลอยฟงนั้น ฉันเชื่อวามี จริงๆ เสียแลว เพราะคนที่เขาบอกมาเปนคนที่ฉันเชื่อได เขาไมเคยโกหกฉันเลย" "ตายจริง !" พลอยพูดดวยความเปนหวง "แลวนี่จะไมมีใครคิดระงับเรื่องกันบางเลยหรือ หรือวาไมมีใคร รู" "เรื่องนี้คนรูนอยจริงๆ ฉันเองถาไมใชแมพลอยฉันก็ไมบอก เพราะไมใชเรื่องของเรา พูดไปเขาอาจหาวา ฉันบาก็ได แตฉันสงสัยวาเรื่องรูถึงผูใหญบางแลวเหมือนกัน" "แลวทําไมทานไมทําอะไร จะปลอยใหเปนไปตามเรื่องตามคําทํานายอยางนั้นหรือ" พลอยถามอยางไม เขาใจ "ฉันเองก็ไมเขาใจเหมือนกัน" พอเพิ่มตอบ "เห็นดูเฉยๆ กันอยู บางทีทานจะเชื่อบุญเชื่อวาสนา ของ ทานกระมัง เวลานี้ไมวาจะไปทางไหน ก็เห็นแตคนติดแหนบติดเหรียญพระนามเจานายกันออกเต็มไป ไมของ พระองคโนนก็ของพระองคนี้ บางคนติดเสียเต็มหนาอก มีสายระโยงระยางราวกับรานตูทอง ฉันสงสัยวาเจานาย ทานก็จะเลยพลอยเชื่อแหนบของทานเองไปดวย" "ทานจะเชื่อวาอยางไร คุณหลวง" พลอยถาม

http://www.geocities.com/siamstory/ploy304.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๔

Page 5 of 5

"อาว ! ก็เชื่อวาใครติดแหนบของทานก็เปนมหาดเล็กไววางพระทัย ไมมีจะคิดทําอันตรายทานไดเลย อยางไรเลา" พอเพิ่มตอบหนาขรึมๆ "ใจคนเรานั้นเชื่อยาก" พลอยพูดขึ้นเปนเชิงปรารภ "ฉันเองก็ไดเห็นมาแลวหนักตอหนัก เวลาใครมีบุญมี วาสนาก็เขาประจบประแจง ถวายเนื้อถวายตัวกันใหวุนไป พอหมดบุญลงเมื่อไร ก็ไมมีใครจะเหลียวแล เรื่องอยางนี้มีอยูเสมอ" "เพราะคนอยางแมพลอยอยางฉันไมเคยมีบุญหนักศักดิ์ใหญ เราจึงมองเห็น" พอเพิ่มวา "แตถาเราเกิด มาเคยมีแตบุญวาสนา ก็คิดไปอีกอยางหนึ่ง เพราะบุญวาสนานั้นถาจะวาดีก็ดี แตคิดไปอีกทีหนึ่ง ก็เปนเครื่อง บดบังไมใหแลเห็นความจริงอะไรไดมากทีเดียว" "ใจฉันเปนอยางไรก็ไมรูซีคุณหลวง" พลอยพูดขึ้น "ถาจะใหฉันพูดจริงๆ ฉันก็ตองบอกวาฉันไมเชื่อเรื่อง ที่คุณหลวงเอามาพูดเหมือนกัน" พอเพิ่มหัวเราะแลวตอบวา "อยาวาแตแมพลอยเลย ฉันเองก็ไมเชื่อ ! และยังนึกอยูเสมอวา บางทีเรื่องที่ลือๆ กันอยู ก็จะเงียบหาย ไปเฉยๆ เหมือนกับเรื่องอื่นๆ เพราะเหตุนี้แหละ ฉันจึงไมยอมพูดใหใครฟง นอกจากแมพลอยคนเดียว" ตั้งแตนั้นมาพลอยก็มิไดสนใจกับเรื่องราวตอไปอีก ระหวางนั้นการตระเตรียมงานฉลองพระนคร ดําเนิน ไปเรื่อยๆ เพราะงานนั้นใกลเขามาทุกที คนที่ตื่นเตนมากก็คือประไพ ผูซึ่งพูดถึงเรื่องเที่ยวงานอยูไมหยุดปาก ประไพเริ่มลงมือเย็บเสื้อไวเปนหลายชุด เพื่อใสเที่ยวงาน และเทาที่พลอยทราบ ประไพก็มีนัดไวกับเพื่อนฝูงวา จะตองออกเที่ยวงานทุกวันจนกวาจะเสร็จ พลอยยิ่งดูประไพแลว ก็ยิ่งรูสึกตัววาเขาใจลูกสาวนอยลงทุกที เพราะเดี๋ยวนี้ ประไพเริ่มจะสนใจในเพื่อน ผูชาย และสนใจจนออกนอกหนา จริงอยูประไพมิไดประพฤติตนใหเสียหายแตอยางใด และถึงแมประไพจะไดมี โอกาสไดพบปะกับผูชายหนุมๆ ที่เปนพี่นองของเพื่อนฝูงตามบานของคนเหลานั้น ประไพก็ยังมิไดเคยสนิท สนมกับใครถึงกับไปมาหาสูกันถึงบาน แตบางครั้งวิธีที่ประไพจะพูดถึงเพื่อนฝูง ที่เปนผูชาย ทําใหพลอยตอง เลิกคิ้วมองดูลูกสาวอยางฉงน เพราะประไพจะไมพูดถึงผูชายในฐานะเพื่อนฝูง หรือคนรูจักอีกตอไป แตถาพูดถึง ผูชายทีไร ประไพก็จะพูดไปในแงพิจารณาเลือกเฟน ในทํานองวาคนนั้นคนนี้จะมีคุณสมบัติดีไมดีอยางไร พอที่ ประไพจะแตงงานดวยไดหรือไม ไมวาจะพูดถึงผูชายคนใด ประไพจะตองพูดในแงนั้นทุกครั้ง และผูชายคนใดที่ มีเมียแลว ประไพมักจะไมพูดถึงเลย นอกจากจะมีเรื่องเกี่ยวของตองพูดถึงจริงๆ พลอยเอาความคิดของประไพ มาเทียบดูกับความรูสึกนึกคิดของตนเองเมื่อยังสาวๆ ก็รูทันทีวาแตกตาง กันมาก เมื่อพลอยยังสาวๆ นั้น ไมวาจะพูดหรือจะคิดถึงผูชาย พลอยก็มักจะเอาผูชายนั้น ตั้งไวใหหางตัวที่สุดที่ จะหางได เรื่องที่จะไปคิดถึงกับวาจะเอามาเปนลูกเปนผัวนั้น เปนอันไมมีอยางเด็ดขาด แตเมื่อไดยินวิธีพูดของ ประไพ พลอยก็ไมเขาใจวากาลสมัยนั้น สามารถทําใหลูกสาวของตนแทๆ นั้นแตกตางหางไกลกับตนไปไดถึง เพียงนั้น พลอยเคยเตือนประไพใหระวังวาจา แตประไพก็มักจะหัวเราะ แลวอธิบายใหฟงวา ในใจจริงนั้นประไพ ยังไมเคยนึกจะแตงงานจริงๆ เลย ทั้งหมดที่พลอยไดยินเปนเพียงวิธีพูด มิไดหมายความวาประไพจะตองไป แตงงานกับใครจริงๆ ตามที่พูด เวลาประไพอธิบายใหฟง พลอยก็พอจะเขาใจไดรางๆ และสังเกตดูใบหนาและ แววตาของประไพเวลาที่อธิบาย พลอยก็รูวาประไพพูดความจริงอยางเปดเผย มิไดมีอะไรซอนเรนปดบัง ในที่สุดงานฉลองพระนครอยางมโหฬารก็มาถึง มีการตามประทีปโคมไฟและงานฉลองตางๆ ซึ่งสวน มากพลอยก็ไดยินจากปากคําบอกเลา เพราะตัวเองนั้นไมมีแกใจจะออกไปเที่ยวเตร เหมือนเมื่อครั้งยังเปนสาว ตาออดชวนพลอยขึ้นรถแลนผานไปทางบริเวณที่มีงานครั้งหนึ่ง แตเมื่อเห็นฝูงคนที่มาเที่ยวกันมืดฟามัวดิน พลอยก็เวียนศีรษะแทบจะเปนลมไมกลาลงจากรถ และในที่สุดก็ตองกลับบาน ปลอยใหแตลูกๆ และคนในบาน ไปเที่ยวงาน พลอยนึกอิจฉาชอยและพอเพิ่มอยูครันๆ เมื่อทั้งสองคนนั้นมาเลาใหฟงภายหลังวาไดเที่ยวงาน สนุกอยางไรบาง เมื่อชอยมาเลาถึงขบวนแหในวันเปดสะพาน ซึ่งชอยออกไปดูดวยตนเอง พลอยก็ปรารภขึ้นวา "ชอยนี่เกงสาหัส อายุจนปานนี้แลวยังกระเยอกระแยงไปดูแหกับเขาจนได" "รีบดูๆ เสีย กอนที่มันจะตาย สนุกออก" ชอยตอบ "ฉันไมกลาไป" พลอยพูด "คนมากมายเหลือเกิน ไมรูจะไปเบียดคนอยางไรไหว" "แกแลวเบียดคนจะเปนไร" ชอยวา "ถายังสาวๆ เสียอีกจะนากลัวอยูบาง อยางฉันออกไปเดินเที่ยว เด็ก หนุมๆ มันเห็นกลับหลีกทางใหเสียอีก เพราะเราเปนยายแก เลยเที่ยวไดสบาย" งานฉลองพระนครสิ้นสุดลง และอายุพระนครก็ไดผานมาครบรอยหาสิบปบริบูรณ มิไดมีเหตุการณอันใด เกิดขึ้นตามคําทํานาย ซึ่งทุกคนรวมทั้งพลอยไดพากันลืมเสียแลวอยางสนิท

http://www.geocities.com/siamstory/ploy304.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๓ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑) เดือนเมษายนที่รอนแหงแลงในตอนทายนั้นก็ผานไป ผูที่สามารถไปตากอากาศได ตางพากันทยอยกลับ สูกรุงเทพฯ ในตนเดือนพฤษภาคม ฝนเริ่มจะลงประปรายบางแลว และธรรมชาติทุกอยาง พรอมดวยชีวิตของ คนในเมืองไทย ก็ดําเนินไปอยางปกติ ขณะนั้นพระเจาอยูหัวเสด็จพระราชดําเนิน แปรพระราชฐานไปประทับยัง พระราชวังไกลกังวลหัวหิน และเดือนมิถุนายนก็คืบคลานเขามา โดยมิไดมีรองรอย บอกเหตุการณลวงหนาแต อยางใดเลย ในตอนปลายเดือนพฤษภาคมปนั้นเอง ตาอั้นมาหาพลอยวันหนึ่งแลวพูดขึ้นวา "คุณแม ลูซิลลเขาอยากกลับไปเยี่ยมบานที่ฝรั่งเศส ผมก็วาจะใหเขาไป" "คิดดูดีแลวหรือลูก" พลอยพูดขึ้น "ธรรมดาผัวเมียไมควรจะจากกันนาน ตั้งแตแมแตงงานกับคุณพอ ยัง ไมเคยจากกันเกินกวาเดือนหนึ่งเลย จะมีบางก็เวลาคุณพอไปราชการ ไปซอมรบเสือปาบาง ไปตามเสด็จบาง แตนั่นก็เปนธรรมดา......" "เปลาไมมีอะไรหรอกครับคุณแม" ตาอั้นพูดแกตัว "ลูซิลลเขาไมใชคนไทย จากบานมาหลายป เขาก็ตอง คิดถึงบานเขา ผมก็เก็บเงินไวใหเขาไดพอเปนคาเรือและคาใชจายเล็กๆ นอยๆ ไปถึงทางโนนแลว เขาก็อยูกับ พอแมเขา ไมตองเสียอะไรมาก กะวาจะใหเขาไปอยูสักหกเดือน แลวจึงจะกลับ" "หกเดือนก็นานโขอยู" พลอยพูดอยางวิตก "แตถาลูกคิดแลว แมก็ไมวา ตามใจ" "ผมอยากจะขออะไรคุณแมสักอยาง" ตาอั้นพูดตอไป "ระหวางที่เขาไมอยูนี้ ถาผมเปนอะไรไป ก็ขอให คุณแมบอกใหลูซิลลเขารูดวย ใหออดเขียนหนังสือใหก็ได และเงินทองที่เปนของผมเล็กๆ นอยๆ ก็ขอใหคุณแม สงใหเขาดวย" "อั้นพูดอะไรเปนลาง !" พลอยพูดขึ้นอยางตกใจ "ยังหนุมยังแนนอยู ทําไมจึงคิดไปถึงเพียงนั้น แมไม อยากใหอั้นพูดอยางนี้เลย !" "เปลาไมมีอะไรหรอกครับ" ตาอั้นหัวเราะตอบ "คุณแมตกใจไปได ผมสั่งไวเพื่อจะไดไมประมาท ถา ลูซิลลเขาไมตองไปไหนไกล ผมก็จะไมพูดหรอก แตนี่เขาตองไปเยี่ยมบาน ของอยางนี้ประมาทไมได ผมมัน เรียนกฎหมายมาแลวก็อยูกับกฎหมายวันยังค่ํา จึงอยากทําอะไรใหเปนระเบียบ" "แมก็ยังไมเห็นจําเปนที่อั้นจะตองมาสั่งเลย" พลอยบน "ถึงจะมีอะไรขึ้นจริงๆ แมก็อยูทั้งคน ใครจะไปทิ้ง เมียของอั้นได" ตั้งแตตาอั้นบอกไววันนั้นแลว ลูซิลลก็มาคุยดวยในวันตอไป และเทาที่พลอยจับคําได ลูซิลลดูเหมือนจะ คิดวาจะจากไปนาน และที่ตองไปคราวนี้ ดูเหมือนตาอั้นจะเปนคนคาดคั้นใหไป มากกวาที่ลูซิลลจะสมัครใจไป เอง "ลูซิลลไมอยากไปมากนัก" ลูซิลลบอกกับพลอย "แตอั้นบอกใหไป ลูซิลลก็ตองไป" "อาว ! ก็ไหนอั้นเขาบอกวาลูซิลลคิดถึงบาน" พลอยวา "จริงถูกแลวลูซิลลคิดถึงบาน" ลูซิลลตอบ "แตคิดถึงก็ไมตองไป เพราะลูซิลลแตงงานกับอั้น ตองอยูกับ อั้น แตอั้นบอกใหไปๆ ทุกวัน ลูซิลลก็ตองไป" "แมไมเขาใจจริงๆ" พลอยพูดอยางออนใจ "ลูซิลลพูดอยางหนึ่ง อั้นพูดอยางหนึ่ง ไมรูจะฟงขางไหนถูก" ลูซิลลมองหนาพลอยแลวยิ้มอยางเห็นใจพูดขึ้นวา "ลูซิลลเห็นใจคุณแมมาก คุณแมรักอั้น คุณแมรักลู ซิลล ลูซิลลไมอยากทําใหคุณแมเสียใจเลย ลูซิลลไปแลวจะคิดถึงคุณแมมากกวาใครทั้งหมด" "อั้นเขาวาลูซิลลจะไปหกเดือนเทานั้นเอง แลวก็จะกลับมาใหม" พลอยพูดเพื่อเอาใจลูกสะใภ ลูซิลลยิ้มเอื้อมมือมาจับมือพลอยบีบแลวพูดวา "บางที...บางทีจะกลับมาเร็ว ถาอั้นยังตองการลูซิลล" ตั้งแตนั้นมาลูซิลลก็เตรียมเก็บขาวของ แตพลอยก็สังเกตจากกิริยาอาการและใบหนาที่เศราๆ ของลูซิลล ไดวา ลูซิลลมิไดเต็มใจที่จะไปนัก แตที่จําตองไปก็เพื่อใหถูกใจตาอั้น พลอยดูๆ ลูซิลลแลวก็รูสึกสงสารจับใจ ทั้ง ที่ความแตกตางระหวางชาติภาษาคอยเปนอุปสรรคกั้นกาง มิใหพลอยไดเขาถึงตัวสนิทสนมกับลูซิลลนัก แต พลอยก็รูสึกดีวาลูซิลลยังอาลัยตาอั้นอีกมาก และเริ่มจะเห็นจริงในคําพูดของตาออดที่เคยพูดไววา คนไทยที่แตง งานกับคนตางชาติตางภาษานั้น นอยคูที่อยูกันไดยืด เพราะจะเริ่มเบื่อหนายกันเอง ในกรณีนี้พลอยเริ่มจะคิดวา ความเบื่อหนายนั้นมาจากตาอั้นมากกวาลูซิลล ตอนตนเดือนมิถุนายนตาอั้นก็พาลูซิลลเขามาลาพลอย เพื่อจะออกจากบานไปลงเรือไปนอก พอเขามา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy305.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 4

ถึงตัวพลอยลูซิลลก็รองไห และโผเขามากอดพลอยไว ครั้งนี้เปนครั้งแรกที่พลอยยอมตัวใหลูซิลลกอด ดวยความ สมัครใจ และยิ่งกวานั้นพลอยยังใชแขนทั้งสองขางโอบตัวลูซิลลไวแนน ดวยความรักและความสงสาร แตลูซิลล ก็ตองจากไปในที่สุด เพราะตาอั้นเตือนขึ้นมาเบาๆ ทิ้งใหพลอยตองนั่งรําพึงอยูคนเดียว ในขอที่วาความรักลูก สะใภ เพิ่งจะมาเกิดขึ้นจริงจังในวันที่ลูกสะใภออกจากบาน ถาหากวาพลอยรักลูซิลลถึงเพียงนี้มาแตแรก บางที ลูซิลลก็อาจไมตองลาไปในวันนี้ ตั้งแตลูซิลลกลับไปแลว ตาอั้นดูเหมือนจะโลงใจและสบายใจขึ้น กิริยาอาการของตาอั้น ก็ยิ่งทําใหพลอย ไดคิดวา บางทีคําพูดของลูซิลลจะถูกในขอที่วา ตาอั้นเปนคนอยากใหลูซิลลกลับบาน มากกวาที่ลูซิลลอยาก กลับไปเอง และตั้งแตลูซิลลออกเดินทางไป ตาอั้นก็ดูจะมีธุระไปไหนมาไหนมากกวาแตกอน กลับบานดึกๆ แทบจะทุกคืนจนพลอยเห็นเปนของธรรมดา ขณะนี้พลอยไดอาศัยแตตาออดเปนเพื่อนคุย และเริ่มจะเห็นวาการ ที่ตาออดอยูกับบานเฉยๆ นั้นเปนประโยชนตอตนโดยตรง ถาหากวาตาออด เปนคนเอางานเอาการอยางตาอั้น อีกคนหนึ่ง พลอยจะตองวาเหวมาก เพราะจะไมมีใครในบาน ที่จะหันหนาไปพูดจาใหเขาใจกันได เชาตรูวันหนึ่งในเดือนมิถุนายน พลอยเพิ่งตื่นแตยังมิไดลุกจากที่นอน ยังนอนหลับตานิ่งๆ คิดอะไรตอ อะไรอยู ตั้งใจวาอีกสักครูจึงจะลุกขึ้น เสียงเด็กคนใชเริ่มเปดประตูหนาตางตึกอยางเบาๆ และอีกสักครูหนึ่งก็มี เสียงคนขึ้นบันไดมาอยางรีบรอน และเสียงพอเพิ่มมาเรียกอยูหนาหองวา "แมพลอย ! แมพลอย ! รีบลุกขึ้นเถิด เกิดเรื่องใหญแลว" พลอยตกใจรีบลุกขึ้นนั่งทันที พอเพิ่มไมเคยมาแตเชาอยางนั้น และไมเคยมาเรียกปลุกพลอยใหตื่นขึ้น อยางนี้เลย เรื่องที่พอเพิ่มบอกวาเกิดขึ้นนั้นจะตองใหญจริงๆ ดวยมือที่สั่นเพราะความตกใจ พลอยรีบถอดกลอน ประตูและเปดประตูออกไป พอเพิ่มกําลังเดินไปเดินมาอยูที่หองขางนอก สีหนาของพอเพิ่มและทาทางนั้น เต็ม ไปดวยความตื่นเตนและหนักใจ "อะไรกันคุณหลวง เกิดขึ้นอะไรกัน" พลอยรีบถามในทันทีที่เห็นตัวพอเพิ่ม พอเพิ่มหันขวับมาทางพลอยแลวก็พูดวา "เกิดกบฏขึ้นแลว" "ตายจริง !" พลอยพูดออกมาไดเทานั้นแลวก็ลงนั่งอยูหองนั้นเองดวยความตกใจ พอเพิ่มเดินมานั่งใกลๆ แลวก็ถอนใจใหญ พูดขึ้นวา "ฉันก็นึกวาหมดเรื่องหมดราวกันไปแลว แตที่ไหนได !" "จริงหรือนี่คุณหลวง ไปรูมาจากไหน" พลอยถามขึ้นเพราะไมรูจะพูดวาอะไร "จริงซีนา" พอเพิ่มตอบ "ฉันเห็นมากับตา ทหารเต็มหนาพระลานไปหมด แลวนี่ยังไง" พอเพิ่มพูดพลาง ยื่นกระดาษแผนเล็กๆ แผนหนึ่งใหพลอย "ประกาศที่เขาแจกแตเชา แมพลอยอานเอาเองก็แลวกัน" พลอยหยิบกระดาษนั้นมาอานไดยังไมทันจบ ก็รูสึกวาตาพราจนแทบจะมองไมเห็นถอยคํา กระอบรม ความเชื่อถือตางๆ ที่ไดรับมาตั้งแตเด็กจนโตรองกองอยูในใจวา "ไมจริง ! ไมจริง ! อยาไปเชื่อ ! ใครชางคิดชาง เขียนไดเพียงนี้ ไมจริงเลย ! บาปกรรมอยาเชื่อ ! อยาเชื่อ !" "ใครกันคุณหลวง" พลอยถามดวยเสียงที่แหบเครือ ตองกลืนน้ําลายครั้งหนึ่งแลวจึงถามตอไปวา "คณะ ราษฎรนี่นะใคร มาจากไหน" "ก็พวกที่เขาคิดการคราวนี้อยางไรละ ฉันรูแตเพียงคนสองคน ยังรูไมหมดวาเปนใครบาง" แลวพอเพิ่มก็ เอยชื่อคนสําคัญในคณะราษฎรใหพลอยฟง แตชื่อเหลานั้นก็มิไดใหความกระจางแกพลอย แตประการใด เพราะ เปนชื่อที่พลอยไมรูจัก "แลวเขาจะเอาอยางไรกัน จะทําอยางไรกับในหลวง จะฆาเจาใหหมดหรือ" พลอยถามตอ "ฉันเองก็ไมรู และเวลานี้ฉันวาไมมีใครรูทั้งนั้นวาจะเปนอยางไรกันตอไป รูแตคราวๆ วาถาสําเร็จเมือง ไทยจะเปลี่ยนรูปการปกครองใหม มีคนสติตูชั่น" "มีใครนะ" พลอยถามเสียงหลง เพราะตั้งแตเกิดมาก็ไมเคยไดยินชื่อที่แปลกถึงเพียงนั้น นึกในใจวาบางที จะเลิกมีในหลวง และเอาคนที่ชื่อแปลกๆ นั้นมาแทน "ภาษาฝรั่ง" พอเพิ่มอธิบาย "ไมใชคน......เปนภาษาฝรั่งแปลวา...อา...เอ ! ฉันก็ไมรูจะอธิบายยังไงถูก เหมือนกัน" "แลวกัน !" พลอยพูด "แตคุณหลวงยังอธิบายไมถูกฉันจะไปเขาใจไดอยางไร อะไรก็ไมรู ชื่อก็เรียกยาก เปนคนก็ไมใช เปนอะไรก็บอกไมถูก นากลุมจริงคุณหลวง !" "เดี๋ยวกอน" พอเพิ่มพยายามอีกหนหนึ่ง "คือเรื่องมันอยางนี้ แตกอนนี้ในหลวงทานอยูเหนือกฎหมาย แต ตอไปนี้เขาจะใหในหลวงอยูใตกฎหมาย" "แลวมันผิดกันอยางไร" พลอยซัก "แตกอนฉันก็ไมเคยเห็นทานทําอะไรผิดกฎหมายสักที ฉันเคยรูแตวา ในหลวงทานออกกฎหมาย เมื่อทานเปนคนออกกฎหมาย แลวจะเอาทานมาอยูใตกฎหมายไดอยางไร" "ที่แมพลอยวาๆ ทานไมเคยทําอะไรผิดกฎหมายก็ถูก แตถึงทานจะทําผิดก็ไมมีใครไปวาอะไรทานได แต ตอไปนี้แมแตในหลวงก็ตองอยูใตกฎหมาย"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy305.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 4

"ก็เผื่อทานไมยอมเลาคุณหลวง" พลอยถามเอาตรงๆ "ก็ถึงวาเถอะนา แมพลอย !" พอเพิ่มพูด "ปญหามันอยูที่ทานจะยอมหรือไมยอม ถาทานยอมเรื่องก็ไป อยางหนึ่ง แตถาทานไมยอมก็ไปอีกรูปหนึ่ง ฉันจึงบอกไวแตแรกแลววา เวลานี้ยังไมมีใครจะรูวาเรื่องจะไปยังไง กัน" "แลวเจานายพระองคอื่นเปนอยางไรบาง" พลอยซักตอเพราะอยากรูเรื่องใหละเอียด "เขาจับเอาไปขังไวหลายพระองคแลว" พอเพิ่มตอบ "พุทโธเอย !" พลอยออกอุทานเพราะไมรูวาจะพูดวาอยางไร พลอยรูดีวาในระยะหลังๆ นี้ มีคนจํานวนไม นอยที่ไมพอใจในเจานายบางพระองค และคนเหลานั้นคงจะดีใจ เมื่อรูวาเจานายที่ตนไมชอบ ตองประสบ เคราะหกรรม แตสําหรับพลอยนั้นมีแตความรูสึกสงสารและหวงใย ถึงแมวาจะเปนใครก็ตาม ถาโชครายตอง ประสบเคราะห พลอยก็มักจะสงสารอยูแลวตามปกติ แตยิ่งเปนเจานายที่พลอยรูจักดีมาแตเกากอน เคยกราบ ไหวดวยความเคารพ เคยนึกถึงดวยความนับถือเลื่อมใส เคราะหกรรมที่เกิดขึ้นแกเจานาย จึงดูจะมีความรุนแรง เหมือนกับวาเกิดขึ้นแกตัวพลอยเอง ขณะเดียวกันก็นึกปลงอนิจจังในยศวาสนา เจานายทุกพระองคที่พอเพิ่ม บอกวาเขาจับเอาไปขังเสียแลวนั้น เพียงเมื่อวานนี้เองยังมีคนเคารพยําเกรง เปนอยางที่สุด แตพอถึงรุงขึ้นอีก วันหนึ่งก็กลายเปนผูตองขัง โชคชะตาขางหนาจะเปนอยางไรตอไป ก็ไมมีความแนนอนไมมีใครจะเดาได "ทําไมถึงรุนแรงอยางนี้ !" พลอยปรารภขึ้นลอยๆ "เรื่องอยางนี้ไมมีเบาไดเสียละแมพลอย" พอเพิ่มตอบ "การพลิกแผนดินไมใชเรื่องเลน เปนของแรงที เดียว เพราะฉะนั้นอะไรตออะไรก็ตองแรงตามไปหมด แมแตคนอยางเราก็เถิด แตนี้ไปจะตองระวังตัว อะไรมา ทางไหนเราก็รูไมได" คําพูดของพอเพิ่มยิ่งทําใหพลอยไมสบายใจ เพราะชั่วชีวิตนี้พลอยก็ไดเคยหวั่นเกรงตอความไมแนนอน ในอนาคตมาแลวหนักตอหนัก แตความไมแนนอน ทั้งหลายทั้งปวงที่เคยผานมาแลวนั้น ดูจะเบาทั้งน้ําหนักและ นอยทั้งปริมาณ เมื่อนํามาเทียบกับความไมแนนอน อันใหญหลวงที่เกิดขึ้นคราวนี้ ตาออดเดินเบาๆ เขามาในหอง เห็นพอเพิ่มเขาตาออดก็ยกมือไหว แลวก็มานั่งลงขางๆ พอเพิ่มถามขึ้น วา "พอออดรูเรื่องแลวหรือยัง" "รูแลวครับคุณลุง" ตาออดตอบ "ผมรูมานานแลวดวยซ้ําไป" "พอออดมาก็ดีแลว" พอเพิ่มพูดตอ "จะไดอธิบายใหแมเขาฟงเรื่องคนสติตูชั่นอะไรนี่นะ ลุงจะอธิบายก็ พูดไมเกง" "เห็นจะยังไมตองก็ไดจริงไหมคุณแม ของอยางนี้สอนกันครูเดียวไมรูเรื่อง ผมวารอดูเขาไปกอนดีกวา" พอเห็นหนาตาออดพลอยก็นึกอะไรออกขึ้นมาทันที และตัวเย็นวาบไปหมด ตาอั้น ! ตาอั้นหายไปแตเมื่อ เย็นวาน และไมไดกลับบานตลอดคืน ปานนี้จะไปอยูที่ไหนไปทําอะไรก็ไมรู พอเพิ่มก็ดูเหมือนจะนึกถึงตาอั้น ออกขึ้นมาเหมือนกันเมื่อเห็นหนาตาออด เพราะถามขึ้นลอยๆ วา "นี่พออั้นไปไหน" ตาออดเหลียวมามองหนาพลอยยิ้มๆ แลวก็นิ่งไมตอบ ทําใหพลอยตองตอบแทนขึ้นวา "อั้นเขาอยางนี้แหละคุณหลวง บางทีก็ไปเที่ยวหาเพื่อนฝูง แลวก็เลยคางเสียที่บานเพื่อน เขาทําอยางนี้ บอยๆ เมื่อคืนนี้เขาก็คงไปกับเพื่อนและคงไปคางเสียที่ไหน เขายังไมกลับบานเลย" "ออ !" พอเพิ่มพูดขึ้นคําเดียว แตคําวา "ออ !" ของพอเพิ่มคําเดียวนั้นดูจะมีความหมายลึกซึ้ง "นั่นสิ" ตาออดผสมโรงพูดขึ้นดวย "พี่อั้นเขาเพื่อนมากปานนี้คงสนุกใหญแลว" "ออดพูดอะไรแมไมเขาใจ...." พลอยพูดขึ้นเปนทํานองอยากจะเตือนตาออดไมใหพูดมาก แตพอเพิ่มพอ จับความได พูดสวนมาทันทีวา "พอออดหมายความวา.....!" "ครับ" ตาออดตอบ "หมายความวาอยางนั้น" "ลุงก็นึกอยูแลวเหมือนกัน" พอเพิ่มพูดแลวก็ถอนใจ "คุณหลวง.....ตาออด ! นี่พูดเรื่องอะไรกัน" พลอยพูดเนนเสียง เพราะถอยคําพอเพิ่มและตาออดพูดกัน เปนนัยๆ ทําใหพลอยรูสึกอึดอัดใจสุดที่จะทนทาน ตาออดกับพอเพิ่มมองดูหนากัน แลวพอเพิ่มก็ตอบเสียงออยๆ วา "ก็เรื่องที่ฉันเคยพูดกับแมพลอยไว.....งา.....วา พออั้นเขามีอะไรๆ รูเรื่องอยูกับพวกที่คิดการวันนี้ดวย" "ฉันไมเชื่อ !" พลอยรองเสียงหลง น้ําตาเริ่มจะกลบลูกตาขึ้นมาทันที "อั้นเขาสาบานกับฉันวาเขาไมเคย คิดอะไร ! ออด ! บอกแมวาไมจริงเดี๋ยวนี้ แมไมเชื่อ" "ออดก็ไมรูจะพูดอยางไรถูก" ตาออดพูดเบาๆ "ถาออดบอกวาไมจริงออดก็ตองพูดโกหกกับแม เพราะ ออดเขาใจวาจริง" พลอยเหลียวมองดูตาออด น้ําตาเริ่มไหลพรากจากลูกตาทั้งสองขาง พลางพูดดวยเสียงที่สั่นดวยความ โมโหวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy305.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 4

"ตาออด ! แกรูไหมวาแกหาความพี่แกมากไปเสียแลว ออดจะลอเลียนหรือหาความอื่นๆ แมก็ไมวาหรอก เพราะแมเห็นเปนพี่นองกัน แตคราวนี้ออดเลนหนักไปเสียแลว ถึงกับหาวาพี่เปนกบฏ มีอยางรึพี่นองคลานกัน ออกมาแทๆ นาจะรักกัน นี่ออดกลับมาใสความพี่เขาอยางรายแรง แมไมมีวันเชื่อวาลูกของแมจะเปนกบฏได ถา อั้นเปนไดออดก็เปนไดเหมือนกัน เพราะเปนพี่นองพอแมเดียวกันแทๆ ทําไมออดถึงไมคิดดูบาง" ตาออดกมหนานิ่งถอนใจใหญ เพราะไมรูวาจะอธิบายใหแมของตนเขาใจอยางไรถูก พอเพิ่มพูดขึ้นเบาๆ วา "แมพลอย แมพลอย ทําใจเย็นๆ ไวหนอย เรื่องไปยังไงมายังไงกันฉันก็บอกแลววา ไมมีใครรูทั้งนั้น ฉัน พูดอะไรผิดพลั้งไปก็ยกใหฉันเสียเถิด ตอนนี้ไมใชเวลาที่เราจะมาทะเลาะกัน" แลวพอเพิ่มก็ลากลับ บอกวาจะออกไปดูวามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกบาง วันนั้นทั้งวันผานไปดวยความเงียบ เหงา พลอยอยูกับบานคนเดียวทั้งวันและไมมีใครมาหา ทุกคนในพระนครดูเหมือนจะระวังตัวเก็บตัวอยูกับบาน กรุงเทพฯ ในวันนั้นเหมือนกับคนที่กําลังอั้นหายใจ รอเหตุการณที่จะเกิดขึ้นตอไป ทุกคนตางตั้งตาคอยดูวาอะไร จะเกิดขึ้นตอไป ทุกคนตั้งตาคอยดูวาอะไรจะเกิดขึ้นตอไป ไมมีใครกลาเดากลาทํานายวาสิงที่จะเกิดตอไปนั้น จะเปนอยางไร หรือไปในทางใด พลอยไดแตเฝาคอยใหตาอั้นกลับบาน เพราะแนใจวาตาอั้นเปนคนๆ เดียวที่จะ ทําความสงสัยตางๆ ใหหายไป ตาอั้นเปนคนๆ เดียวที่มีความรู และเปนความเปนผูใหญกวางขวางพอที่จะชี้ แจงเรื่องตางๆ ที่พลอยสงสัยใหเขาใจได พอเพิ่มนั้นสนใจแตรายละเอียดตางๆ ที่ผิดบางถูกบาง แตถาจะใหพอ เพิ่มอธิบายเหตุการณตางๆ ของรายละเอียดเหลานั้น พอเพิ่มก็อธิบายไมได สวนตาออดนั้นก็เด็กไป เด็กจนนา รําคาญ เอาเปนที่พึ่งไมได พลอยแนใจวาถึงอยางไรตาอั้นก็จะตองกลับบานวันนี้ เพราะตาอั้นคงจะไมทิ้งแมทั้ง คนในเวลาที่บานเมืองคับขัน แตพลอยก็ตองผิดหวัง เพราะวันนั้นทั้งวันตาอั้นก็ยังไมกลับ รุงขึ้นอีกวันหนึ่งตาอั้น ก็ยังหายหนาไป และจนเขาคืนวันที่สามแลว พลอยก็ยังมิไดพบหนาตาอั้น ระหวางวันที่สองนั้นขาวลือตางๆ ก็ เริ่มจะเขาหูพลอย ลวนแลวแตเปนขาวไมดี พลอยฟงแลวก็เกิดความกระวนกระวายใจทั้งสิ้น บางก็วาในหลวงจะ ยกทหารหัวเมือง เขามาปราบกบฏ จะตองเกิดรบพุงฆาฟนกันเลือดนองแผนดิน บางก็วาพวกที่คิดกบฎจะจับ เจานายทั้งหมด ใสเรือไปถวงน้ําเสียกลางทะเล บางก็วาจะมีการริบทรัพยเจานายตลอดจนของคนมั่งมี ขาวทุก ขาวดูเหมือนจะเกิดจากความคิด จากสมองของคน ที่มีเจตนาจะกอใหเกิดความตระหนกตกใจ แกผูที่ไดฟง มากกวาอยางอื่น อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy305.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๓ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒) ตั้งแตถูกพลอยดุตาออดก็หลบๆ หนา ถึงจะพบกันเวลากินขาว ตาออดก็ไมพูดถึงเรื่องที่กําลังเกิดขึ้น แต หาเรื่องอื่นมาคุยเสียจนพลอยอดรนทนไมไหว ตองถามขึ้นเองในตอนกินขาวเย็นในวันที่สองหลังจากเกิดเหตุวา "ออดรูบางไหมวาพี่อั้นเขาอยูที่ไหน" "ออดพูดไปเดี๋ยวคุณแมก็จะดุอีก" ตาออดพูดทํานองเพอ แตในสายตานั้น มิไดมีรองรอยวาตาออดจะ โกรธเคืองหรือนอยใจ ในการที่ถูกพลอยดุเลย "ออดอยาถือแมหนอยเลย" พลอยตอบ "กําลังตกใจแมก็เอะอะไปอยางนั้น ถามจริงๆ เถิดรูบางไหมวาพี่ อั้นเขาอยูที่ไหน" "พี่อั้นไมใชคนที่จะไปเที่ยวเลนในยามนี้ ที่พี่อั้นเขายังไมกลับบานนั้น ก็แสดงวาพี่อั้นตองติดธุระ หรือมี การงานที่จะตองทําอยู ลูกเห็นวาคุณแมไมควรวิตก อีกหนอยพี่อั้นก็จะกลับมาเอง" "แมอยากรูวาเขาอยูที่ไหนเทานั้นแหละ ถาเผื่อออดรูแมก็อยากใหไปถามขาวใหแน" "ออดไมรูจริงๆ วาพี่อั้นเขาอยูที่ไหน" ตาออดตอบ "เพราะไมไดออกจากบานเลยในระหวางนี้ แตออดพอ จเดาไดวาพี่อั้นอยูที่ไหน ถาเขาอยูที่นั่นจริงลูกก็คงจะเขาไปตามเขาไมได" พลอยกําลังจะตอวาตาออดวาชอบพูดเปนปริศนาจนฟงไมเขาใจ ก็พอดีตาอั้นเดินเขามาในหอง ตาอั้นตา โรยและหัวยุงเหมือนคนอดนอน แตแววตาและใบหนาของตาอั้นมีรองรอยแหงความปติอิ่มเอิบ เหมือนกับวาตา อั้นไดทํางานอยางหนักมาจนเหน็ดเหนื่อย แตงานนั้นบังเกิดผลสําเร็จเปนที่พอใจ "อั้นมาพอดีทีเดียว" พลอยรองขึ้นดวยความดีใจ "แมกําลังพูดถึงอยูกับออดเดี๋ยวนี้เอง" ตาอั้นยิ้มตากวาดมองอาหารบนโตะแลวพูดวา "แหม ! หิวจัง มาถึงพอดี ตองขอกินขาวใหอิ่มสักมื้อ !" ระหวางที่พลอยกําลังรีบตักขาวใหลูก ดวยความดีใจนั้นเอง ตาออดก็ยิ้มกับพี่ชายแลวพูดขึ้นวา "ยินดีดวยพี่อั้น" "ขอบใจออด ขอบใจ" ตาอั้นตอบอยางสบายใจ แลวลงนั่งที่โตะ "พี่นึกแลววาออดคงเขาใจและพอใจ เพราะคนที่มีการศึกษาอยางเรา จะตองพอใจทุกคน ตอไปนี้เมืองไทยจะไมมีวันเหลียวหลังกลับอีกเปนอันขาด ออดก็มีวิชาความรูตองเขามาชวยกันบาง" "มีขาวอะไรบางไหมพี่อั้น ทุกอยางคงเรียบรอยดี" "มีขาวดีที่สุด" ตาอั้นตอบอยางภูมิใจ "ในหลวงตกลงยอมแลว มีพระราชโทรเลขมาวา ทรงเห็นดวยที่จะมี ธรรมนูญปกครองแผนดิน และทรงรับเปนพระมหากษัตริยใตธรรมนูญตอไป เปนอันวาฝายเราถูกตลอดมา พี่ โลงใจมาก" "พี่อั้นนึกวาในหลวงทานจะไมทรงยอมหรือ" ตาออดถาม "ก็ไมแนในตอนแรก ใครจะไปรู" ตาอั้นตอบ "อือ ! แปลก" ตาออดรําพึงขึ้นมา "เราคิดไวแตแรกวาทานไมทรงขัดของอยางแนนอน" "ทําไมออด" ตาอั้นถามแลวก็ตักขาวใสปาก "ก็พี่อั้นพูดเองวาคนที่มีการศึกษานั้น จะตองเขาใจและพอใจ พี่อั้นก็รูดีวาในหลวงทานก็ทรงเปนคนมีการ ศึกษา และดูเหมือนจะทรงมีการศึกษาดีกวาคนอยางเราๆ เสียอีก" ตาอั้นกมหนาไมตอบ กินขาวเงียบๆ ไปอีกสักครูใหญแลวขึ้นแลววา "ออด ! พี่อยากจะเตือนอะไรสักหนอย เพราะเราก็พี่นองกัน" "เตือนวาอะไรพี่อั้น" ตาออดถามโดยไมเงยหนาจากชามขาว "พี่อยากจะเตือนวาตอไปนี้ออดจะพูดอะไรก็ขอใหระวังปากระวังคอบาง จะพูดอะไรตามใจตัว อยางแต กอนไมได พี่ไมอยากใหออดตองลําบาก" "แลวกัน ! พี่อั้น ออดก็อยากจะเตือนพี่อั้นเหมือนกัน" "เตือนมาเถิดออด พี่ยินดีรับฟงเสมอ" "ออดอยากจะเตือนพี่อั้นวา พี่อั้นควรจะระวังอยาพูดอยางนี้ใหใครไดยินอีก คนเขาจะหมดความเลื่อมใส เสีย" "ทําไม" ตาอั้นถาม "ก็เราเปลี่ยนจากการปกครองสมัยเกามาเปน Democracy ภาษาไทยจะเรียกกันวาอะไรออดก็ยังไมรู แต

http://www.geocities.com/siamstory/ploy305_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 4

การปกครองแบบใหมนี้ เขารับรอง Freedom of speech เสรีภาพในการพูดหรืออะไรนั่นแหละ สมัยกอนใครพูด ไมดีทานเอามะพราวหาวยัดปาก สมัยนี้ยังจะทําอยางนั้นอีกหรือ ถาเปลี่ยนกันมาทั้งที แลวยังเที่ยวเตือนไมให คนพูดไดตามใจอยางแตกอน ก็เสียหลักหมด กลายเปนขัดคอตัวเอง จะดีหรือพี่อั้น" แทนที่ตาอั้นจะโกรธ ตาอั้นกลับหัวเราะอยางอารมณดี แลวตอบนองชายวา "ออดอยาเพิ่งใจเร็วเกินไป ของทุกอยางจะตองมาเองตามลําดับ และโดยเร็วที่สุด แตออดอยาลืมวา เรา เพิ่งเปลี่ยนมาไดยังไมถึงสามวันดี ยังอยูในระหวางหัวตอหัวเลี้ยว ก็ตองระวังกันไปกอนเปนธรรมดา" พลอยนั่งฟงอยูที่หัวโตะเกือบจะไมรูเลยวาตาออดและตาอั้นพูดเรื่องอะไรกัน ใจนั้นนึกอยูแตอยางเดียว วา ตาอั้นกลับบานมาแลวโดยปกติสมบูรณ ไมเจ็บไมไข จึงควรแกการยินดีมากกวาอยางอื่น ตาอั้นจะไดไปทํา อะไรมาแลวก็ชาง ตาอั้นกับตาออดจะพูดกันดวยเรื่องอะไรก็ชาง แตถาพลอยไมรีบหามเสีย สองคนนี้ก็จะตอง เถียงกัน ในที่สุดกลายเปนเรื่องบาดหมาง แทนที่จะเปนเรื่องดีใจ พลอยหัวเราะ แลวรองมาจากหัวโตะวา "เอาอีกแลว ! เอาอีกแลว ! สองคนพี่นองนี่คุยกันทีไร ตองทะเลาะกันทุกที เปลี่ยนคุยกันเรื่องอื่นเสียที เถิด" ตาอั้นและตาออดหัวเราะขึ้นพรอมๆ กัน ตาออดเปนคนพูดขึ้นกอนวา "ขอโทษเถิดพี่อั้น ออดก็หนักเสรีภาพไปหนอย" "ไมเปนไรหรอกออด" ตาอั้นหัวเราะตอบ "พี่ดีใจเสียอีกที่ออดสนใจ ตอไปจะไดชวยกันทํางาน ตอไปนี้ทุก คนจะมีโอกาสทํางานใหบานเมืองไดเต็มที่ ไมถือวาใครเปนลูกทานหลานเธอกันอีกตอไป ยิ่งคนที่มีการศึกษา อยางออด เราตองยิ่งตองการมาก ออดลองคิดดูใหดีๆ ถาเผื่ออยากเขาทํางานที่ไหน พี่ก็พอจะมีหนทางฝากฝง กับเพื่อนฝูงหรือผูใหญได" พลอยรีบมองดูตาออด เปนเชิงหามใหระงับปากคําไมใหโตตอบตอไป และตาออดก็รูใจไมโตตอบ คงกม หนากินขาวตอไปอยางสงบ คืนนั้นตาอั้นกินขาวเหมือนกับคนหิว ระหวางกินขาวก็ไมไดพูดเรื่องราวอะไร เทาไร นัก และพอกินขาวเสร็จไดสักครู ตาออดก็บนวางวง รีบขอตัวไปนอน พลอยยังไมอยากถามอะไรตาอั้นมากนัก เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น พอใจแตเพียงที่จะเห็นตาอั้นกลับบาน โดยไมมีอันตราย และไมมีคดีใดๆ ติดตัว และยินดีที่จะเก็บเอาความพอใจนั้นไวกอน ไมอยากจะสืบสาวราวเรื่อง ใหตองยุงยากใจตอไปเกินกวาเหตุ แตวันหนึ่งเมื่อพลอยเห็นวาไดเวลาอันสมควร พลอยก็ถามตาอั้นขึ้นเองวา "อั้นยังไมไดเลาใหแมฟงเลยวาวันที่เกิดเหตุนั้น อั้นหายไปไหนและไปทําอะไรมาบาง" "ผมไมไดทําอะไรมากหรอกคุณแม" ตาอั้นตอบ "เคราะหดีที่ทุกอยางเรียบรอยไปเร็ว แตตอนแรกก็ตอง คอยระวังกันอยู" "อั้นรูเรื่องกับเขามาแตแรกหรือ" พลอยถามตรงๆ ตาอั้นหลบสายตาพลอยแลวก็ตอบออมแอมวา "ถาจะวารูก็รู แตผมไมใชตนคิดตนอานอะไรดอก วันนั้นก็มีผูใหญที่ผมนับถือทานเรียกผมไปใช ผมจึงได ไป มิฉะนั้นผมก็คงไมเกี่ยว" พลอยรูดีวาตาอั้นคงจะละอายที่ไดเคยปฏิเสธวาไมรูเรื่อง จนถึงกับทําทาวาจะสบถสาบาน พลอยจึงพูด ขึ้นวา "เรื่องมันก็แลวไปแลว แมก็โลงใจที่เรียบรอยไป ไมมีอะไรมาก แตแมอยากจะเตือนอะไรสักหนอย ถึงอั้น ไมอยากจะบอกแม อั้นก็ไมควรจะถึงกับตองสาบาน เคราะหดีที่แมหามไวทัน ตอไปขออยาทําอีก ผิดพลาดจะไม เปนสิริมงคลแกตัว" "คุณแมยังเห็นผมคิดกบฏอยูอีกหรือ" ตาอั้นถาม "แมก็ไมรูจะเรียกวาอะไร" พลอยตอบออมแอม "คุณแม" ตาอั้นพูดอยางเปนการเปนงาน "คุณแมฟงผมพูดใหดีๆ ถึงแมวาจะไดสาบานตอคุณแมไปจริง ผมก็ยังไมเห็นวาจะผิดคําสัตยที่ตรงไหน ผมไมถือวาการกระทําทั้งหมดนี้เปนกบฏ เพราะคนที่คิดการนั้น เจตนาดีตอบานเมือง อยากจะใหเจริญรุงเรืองเหมือนเขาอื่น จึงไดทําไป ผมเชื่อวาคนที่ทําไปนั้น ตางก็จงรัก ภักดีตอพระเจาอยูหัว เชนเดียวกับคนอื่นๆ คนที่เปนชั้นหัวหนานั้น สวนมากก็เคยไดรับพระมหากรุณามาทั้งนั้น บางคนก็มีเจานายชุบเลี้ยงมาหลายชั่วคน ถาจะวาไปทานเหลานั้น ก็คงจะระลึกถึงพระเดชพระคุณ เชนเดียวกับ เราและตระกูลของเรา แตเมื่อมีหนาที่ตอบานเมืองบังคับอยู ก็จําใจตองทําไป ถึงจะกระทบกระเทือนและฝน ความรูสึกอยูบางก็ตองทํา ถาหากวาเปนกบฏจริง ก็คงจะคิดทําอันตรายตอองคพระเจาอยูหัว และทํารายเจา นายในพระราชวงศ แตนี่ก็เปลา ยังคงยกยองอยูอยางเดิมไมเปลี่ยนแปลง เพียงแตขอพระราชทานธรรมนูญการ ปกครองแผนดิน ใหเหมือนประเทศอื่นที่เจริญแลวเทานั้น เมื่อพระราชทานแลวทุกคนก็พอใจ ยิ่งเพิ่มความจงรัก ภักดีขึ้นไปอีก ทําอยางนี้ผมไมเรียกวากบฏ ผมจึงกลาสาบานตอคุณแม และไดขอพรคุณแมไวดวยวา ถาผมจะ ทําการใดเพื่อประโยชนของบานเมือง ก็ขอใหผมมีแตความเจริญตอไป คุณแมก็ใหพรผมแลว" "แตแมไดเห็นประกาศในวันแรก......" พลอยพูดอยางยังไมสิ้นสงสัย "ประกาศวันนั้นแมเห็นวาไมจริง และดูรุนแรงเหลือเกิน"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy305_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 4

"ผมก็เห็นวาอยางนั้นเหมือนกัน" ตาอั้นตอบ "ใจจริงผมก็ไมชอบ แตก็จะทําอยางไรได เมื่อคิดการใหญ ถึงเพียงนั้น ก็จําตองทําใหคนเห็นดวยแตแรก ตองทําใหเห็นวามีเหตุ ผมก็ยอมรับวาผิดพลาดไปจริง แตก็เขาใจ วาคงจะไดมีการขอพระราชทานอภัยโทษ ถาทําผิดไปแลวยอมรับ ก็นาจะใหอภัยกันได" "แมก็เพิ่งรู" พลอยพูดอยางเบาใจขึ้นบาง "ถาขอพระราชทานโทษเสียก็คงจะดีขึ้น" "ตอไปนี้ผมอยากจะขออะไรคุณแมสักอยาง" ตาอั้นพูดตอไปอีก "ไดซีลูก อั้นอยากไดอะไร" พลอยรีบตอบทันทีเพราะดีใจที่ไดเปลี่ยนเรื่องพูด "ถาคุณแมจะพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นแลว ขออยาใหเรียกวากบฏ ฟงดูแลวแสลงหูแสลงใจนัก คนอื่น เขาไดยินเขาเขาคงไมชอบ" "แลวอั้นจะใหแมเรียกวาอะไร" พลอยถามเพราะไมรูจริงๆ "เรียกเสียวาการเปลี่ยนแปลงการปกครอง" ตาอั้นบอกให "แหม ! ยาวจริงอั้น แมจะจําไดหรือไมไดก็ไมรู" พลอยพูดอยางหนักใจ "ถาอยากจะเรียกใหสั้นๆ ก็เรียกวาปฏิวัติ" ตาอั้นตอบสั้นๆ แลวก็เปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่น ระหวางที่เหตุการณยังไมเรียบรอยนั้น พลอยมิไดพบชอยเลย แตตอมาชอยก็ออกจากในวังมาหาเชน เคย เมื่อไดพบกันชอยก็มีเรื่องจะตองพูดตองคุยมากเปนธรรมดา "แหมวันนั้นฉันตกใจแทบตาย" ชอยพูดเปนสิ่งแรก "ชอยก็ทําเปนขวัญออนไปได" พลอยวา "ฉันไมเห็นมีเรื่องจะตองตกใจอะไรเลย เราอยูของเราเฉยๆ ใคร เขาจะมาทําอะไรเรา" "อาว ! ก็แมพลอยอยูที่บาน จะเปนอะไรไป" ชอยตอบ "ฉันมันเปนคุณขางในอยูในวัง พอเกิดเรื่องเขา เขาก็ปดประตูวังตายทีเดียว ไมเปดไปตั้งสองวัน ดูเปนเรื่องใหญโตนาตระหนกตกใจเสียจริงๆ แตที่เขาขวัญ ออนกวาฉัน เขาก็ดัดจริตดีดดิ้นกันไปตางๆ ทําเอาฉันขวัญเสียไปหมด" "เอาเถอะ เดี๋ยวนี้ก็เรียบรอยไปแลว สิ้นเคราะหไปที" "จะเรียบรอยจริงหรือพลอย" ชอยพูดเปนนัยๆ "ฉันไดยินอะไรแปรงๆ อยูเสมอเพราะฉันรูจักคนมาก แต ก็วาแตแมพลอยเถิด ชางมีบุญไมตกไมถอยเสียเลย ดีทุกสมัยนาชมจริงทีเดียว" "ฉันไมเห็นจริงเลย ชอยเอาที่ไหนมาพูด บุญวาสนาอะไรกัน" พลอยทวงขึ้น "อาวจริงๆ นะแมพลอยฉันจะบอกให" ชอยยืนยัน "เมื่อแมพลอยยังเด็กจนโตเปนสาว หนาตาก็ดี เจา นายก็โปรดปราน ใครๆ ก็รัก จนมีชื่อเสียงโดงดังวาเปนคนสวยคนดี พอมีเรือนแมพลอยก็ไดผัวเศรษฐี แลวก็มา มีบุญไดเปนถึงพระน้ําพระยา เปนใหญเปนโตตอกันมาถึงสองแผนดิน พอถึงแผนดินนี้ก็มาดีที่ลูก" "ทําไม" พลอยถามเพราะยังไมเขาใจ "ดีที่ลูกคนไหนกัน" "อาว ! ก็ฉันไดยินเขาวาๆ พออั้นเปนผูกอการไมใชหรือ" ชอยถาม "เขาไมเคยบอกฉันวาเขาเปนผูกอกิจกอการอะไรสักที" พลอยตอบ "อยูแคไหนก็แคนั้น ไมไดดิบไดดี อะไรกับเขาหรอก" "ฉันวาพออั้นจะตองมีบุญสักวันหนึ่ง แมพลอยไมตองกลัวหรอก" ชอยพูดสรุปความไป ตามความเห็น ของตน และพลอยก็สังเกตเห็นตอไปวา ชอยดูเหมือนจะเริ่มเห็นตาอั้นเปนผูมีบุญบารมีไปจริงๆ เพราะตั้งแตนั้น มา เวลาชอยพบปะกับตาอั้น ก็มักจะสํารวมเปนพิเศษ ไมพูดจาเลนหัวเปนกันเองอยางปาหลานเหมือนแตกอน การเปลี่ยนแปลงของคนอื่นตอตาอั้นนี้ มิใชวาจะมีเฉพาะแตชอยคนเดียว แมคนอื่นๆ ก็มีไปตามๆ กัน หลวงโอสถและคุณเชยนั้นดูเนือยๆ ไป ไมหวงใยเปนเจาขาวเจาของตาอั้นผูเปนหลานชายเหมือนแตกอน พอ เพิ่มและตาออดมักจะมีเรื่องซุบซิบคุยกันเบาๆ เสมอ แตพอตาอั้นเขามา ทั้งสองคนก็จะเปลี่ยนเรื่องพูด คนที่ เปลี่ยนไปอีกทางหนึ่งก็คือคุณอุน เพราะคุณอุนเริ่มแสดงกิริยาพินอบพิเทาตอตาอั้น คลายๆ กับเคยทําตอคุณ เปรม แตดูเหมือนจะยิ่งไปกวา ทําใหพลอยนึกรําคาญอยูครันๆ คนที่ไมเปลี่ยนแปลงก็ดูเหมือนจะมีแตประไพ ซึ่งยังคงนับถือเลื่อมใสตาอั้นไปอยางเคย ไมมีนอยลง และก็ไมมากขึ้น เพราะจะมากไปอีกไมไดเสียแลว ดวย ประไพนับถือตาอั้นเสียแลวจนสุดยอด พลอยไมเคยนึกเลยวาเหตุการณที่เกิดขึ้นในบานเมือง จะมีผลนําเอาความแตกราวใหมาเกิดขึ้นได ถึงใน ครอบครัวของตน ครอบครัวซึ่งพลอยไดพยายามกอสรางขึ้นมา ดวยความรักและทนุถนอมเปนนักหนา และ พลอยก็มิไดเฉลียวใจวาความแตกราวนั้น จะบังเกิดขึ้นได จนตาอนลาราชการอยุธยามาเยี่ยมบาน ตั้งแตเปลี่ยนแปลงการปกครองแลวใหมๆ ตาอนก็เงียบหายไปมิไดเยี่ยมกรายมาเลย จนเวลาลวงเลยไป ไดสองเดือนเศษ ตาอนจึงไดมาเยี่ยมบาน และบอกกับพลอยวาจะอยูบานสักสามวันสี่วัน เปนอยางชาที่สุด นับแตวันแรกที่ตาอนมาอยูบานพลอยก็รูทันทีวา ตาอนมีความเห็นเปนปฏิปกษ ตอการเปลี่ยนแปลงการ ปกครองนั้นอยางรุนแรง ตอนที่นั่งกินขาวกลางวันในวันแรกที่มาถึงบาน ตาอั้นยังไมกลับจากงาน ตาอนก็พูดขึ้น กับตาออด หลังจากไดคุยกันถึงเหตุการณในวันเปลี่ยนแปลงวา "พี่เสียดายเหลือเกินออดที่วันนั้นพี่ไมไดอยูในกรุงเทพฯ" "พี่อนจะทําไม" ตาออดถาม

http://www.geocities.com/siamstory/ploy305_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 4

"ถาพี่อยูเปนไดเห็นกัน พี่ไมยอมแนๆ พี่เปนนายทหาร ถือน้ําพิพัฒนสัตยามาแลว ถึงอยางไรก็ตองเห็นดี กันไปขางหนึ่ง" "พี่อนคนเดียวจะไปทําอะไรเขาได คนอื่นเขาเห็นดีทางนั้นเปนกายเปนกอง" ตาออดทวง "เถอะนา !" ตาอนตอบกัดกราม "ถามีคนจริงเปดเผยออกมาในวันนั้นสักคนหนึ่ง พี่ก็เชื่อวาจะมีคน ตามมากอยูเหมือนกัน พี่คนหนึ่งละที่ไมยอมเสียน้ําสาบานที่ถวายในหลวงไว เปนตายอยางไรก็จะตองสูกันพัก หนึ่ง ไมใหเสียชื่อวาปลอยใหเขาทําไดขางเดียว ไมมีใครคิดสูเลย" "ก็ในหลวงทานทรงยอมเรียบรอยไปแลว พี่อนจะคิดมากไปทําไม" ตาออดพูดเชิงเตือน "ทานยอมดวยสมัครพระทัยหรือเปลาเลา" ตาอนพูดอยางไมยอมเชื่อ "พี่วาทานสงสารราษฎรของทาน ไมอยากใหตองรบพุงฆาฟนกันมากกวา ทานเปนในหลวง ทานจะมีรับสั่งใหคนรบกันไมได เปนหนาที่ของเราที่ ตองสูเอาเอง" "ก็ทานวาทรงเห็นดวยกับการปกครองแบบนี้นะพี่อน" "ก็ไมแนนัก" ตาอนพูดอยางรวบรัด "พี่เห็นวายังไมถึงเวลา" "อือ !" ตาออดอุทานเบาๆ แลวก็รําพึงเปนภาษาฝรั่งเศสวา "Plus royaliste que le Roi" คืนวันนั้นเองตาอั้นกับตาอนก็ไดพบกันที่โตะกินขาว พลอยสังเกตเห็นทันทีวา ตาอนแสดงความแคน เคืองนองชายจนออกนอกหนา ตาอั้นพูดจาดวยตาอนก็ทําเฉยเมยเสีย บางทีเสียไมไดก็พูดแตคําสองคํา ตาอั้นก็ มิไดสังเกต ถามตาอนขึ้นวา "พี่อนนายทหารทางอยุธยาเขาวาอยางไรกันบาง" "วาอะไร เรื่องอะไร" ตาอนถามเสียงขุนๆ "เรื่องการปกครองที่เปลี่ยนมาเปนอยางทุกวันนี้ เราอยากรูวาเขาเห็นดีกันดวยมากไหม" "คนอื่นเขาจะนึกอยางไรเราไมรูดวย" ตาอนพูดเสียงแข็ง "เรารูแตวามีนายทหารคนหนึ่งละที่ไมเห็นดวย และไมเห็นดวยอยางมาก คือตัวเราเอง" "อาว ! ทําไมละพี่อน บอกเราบางซี" ตาอั้นถามอยางเสียใจ "จะบอกใหก็ได งายนิดเดียว เราไมเคยคิดกบฏ แลวไมชอบคนที่คิดกบฏ" "พี่อนวาใครคิดกบฏ" ตาอั้นถามอยางเอาจริง "ใครก็แลวแต ที่มันผิดน้ําพิพัฒนสัตยาแลว เปนกบฏทั้งนั้น" ตาอนพูดกัดกราม "ถึงจะเปนพี่นองสนิทกัน เพียงไร ก็ตองถือวาขาดกัน" "ก็ตามแตใจ" ตาอั้นพูดพลางลุกขึ้นยืน "ถาไมอยากจะคบกันก็ตามใจ ถึงอยางไรพี่อนก็ไมใชลูกคุณ แม...." ตาอนลุกขึ้นยืนปดถวยแกวตกดังเปรื่องกัดกรามแนน และจองหนาตาอั้นเหมือนกับจะกินเลือดกินเนื้อ ตาออดเผนตามเขาไปยืนขางๆ จับแขนตาอนไวทั้งสองขาง "ตาอั้น !" พลอยรองสุดเสียง "อั้นพูดอยางนี้ไมได แมไมยอม ขอโทษพี่เขาเสียเดี๋ยวนี้ !" ตาอั้นมองดูหนาพลอยทีหนึ่ง ดูหนาตาอนแลวก็ดูหนาตาออด ตาออดขยิบตาดวย เพื่อใหตาอั้นตามใจ มารดา ตาอั้นลังเลอยูครูหนึ่ง แลวก็พูดขึ้นวา "เพื่อคุณแม...ผมยอมขอโทษ...ผมขอโทษเถิดพี่อน" ตาอั้นพูดดวยน้ําเสียงเย็นเฉียบ แลวก็ปลีกตัวออก จากหองไป ตาอนยืนกัดกรามอยูครูหนึ่ง แลวก็มาซบหนาลงบนตักของพลอย รองไหสะอึกสะอื้นดวยความเคียดแคน สุดขีด พลอยก็ไดแตนั่งตะลึงมองไปขางหนา มือหนึ่งลูบหัวตาอนเบาๆ เปนเชิงปลอบโยน เสียงคุณเปรมพูดมา จากไกลแสนไกล แววเขาหูวา "ลูกฉันเองแมพลอย...อายอน...แมพลอยอยากไดฉันก็ยกให"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy305_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๓ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑) ในชีวิตของพลอยนั้น ก็นับวาไดผานความทุกขมาแลวหลายครั้งหลายหน ไดเคยพบความผิดหวัง เคยได รับความทุกขโทมนัส เมื่อพี่นองหรือคนที่รักตองกระจัดพลัดพรายไป แตความทุกขทั้งหลายทั้งปวง ที่เคยได ประสบนั้นดูจะเปนของธรรมดา เมื่อเทียบกับความทุกขที่บังเกิดขึ้น เมื่อไดเห็นคนที่พลอยรักอยางใกลชิด คือ ลูกๆ ตองผิดพองหมองใจกัน ตั้งแตลูกยังเล็กๆ จนถึงบัดนี้ พลอยมิไดเคยนึกฝนเลยวา จะไดอยูมาจนเห็นลูกๆ ทะเลาะกัน แสดงอาการอาฆาตเคียดแคนกันอยางที่ไดเห็นในคืนวันนั้น และพลอยก็รูดีดวยสัญชาตญาณของ ผูหญิงวา เรื่องที่ผิดพองหมองใจนั้นมิไดสิ้นสุดลง ถึงแมวาตาอั้นจะไดขอโทษพี่ชายแลวตามคําขอรองของพลอย ผูเปนแมก็ตาม พลอยรูดีอีกวาตาอนไดพูดจา ดวยถอยคําที่บาดใจนองชาย จนไมสามารถจะใหอภัยกันไดงายๆ สวนตาอั้นนั้นเองก็ไดตอบโตกับพี่ชาย ดวยถอยคําที่รุนแรงกระทบมาถึงพลอย ในขอที่วาไมใชมารดาตาอน อัน เปนจุดออนแอที่สุดของตาอน ทําใหตองเจ็บช้ําน้ําใจไปจนวันตาย พลอยนั่งลูบหัวตาอนไปพลางคิดไปพลาง ใจนั้นรองอุทธรณวา เหตุไฉนตนจึงตองตกอยูในที่นั่งลําบาก ถึงเพียงนี้ เพราะในใจจริงพลอยก็เห็นใจตาอั้นอยูเปนที่สุด พลอยไดยินอยูกับหูวา ตาอนเปนคนพูดจาระราน นองชายขึ้นกอน ดวยถอยคําที่พลอยรูอยูแกใจวาแสลงนักหนา เพราะตาอั้นไดเคยขอรองกับพลอยเองวาอยาใช คําวา "กบฏ" ที่ตาอั้นโกรธตาอนนั้น จึงเปนสิ่งที่ควรเห็นใจ เพราะตาอนไดรุกรานเอากับนอง จนที่สุดที่จะอดทน ตอไป แตคําตอบของตาอั้นในตอนสุดทาย ทําใหพลอยตองกลับมาเห็นใจตาอน คําพูดที่วาตาอนไมใชลูกของ พลอยนั้นเอง ทําใหพลอยตองแสดงกิริยาอาการวาสงสาร และเห็นใจตาอน และตองดุตองขึ้นเสียงกับตาอั้น ถา หากวาพลอยมิไดทําไปเชนนั้น พลอยก็อาจตองถูกตาอนและคนอื่นตําหนิวา ไมเปนธรรม ดีแตถือหางลูกในไส ของตน และที่รายที่สุดก็คือตัวพลอยเอง ก็จะตําหนิตนเองในทํานองเดียวกัน ตั้งแตรับตาอนจากมือคุณเปรมมา ในวันที่แรกพบ ความสัมพันธระหวางพลอยกับตาอน ก็อยูในฐานะแมกับลูกแทๆ ความรูสึกวาเปนลูกเลี้ยง ไม เคยผานเขามาในหัวใจของพลอยหรือตาอนเลย แมแตครั้งเดียว แตคราวนี้ คราวที่ตาอั้นไดยกเอาความจริง ที่ ทุกคนไดพยายามปดบังแตแรกเริ่มขึ้นมาพูด ตาอั้นก็เทากับวาบังคับมัดมือพลอย ใหตองเขากับตาอนทันที เพราะถาพลอยไมทําเชนนั้น ความสัมพันธระหวางพลอยกับตาอน ก็จะเปลี่ยนไปเปนความสัมพันธระหวางแม เลี้ยงกับลูกเลี้ยง และจะคงเปนเชนนั้นไปจนวันตายจากกัน ความรูสึกอีกอยางหนึ่งยังสะกิดพลอยอยูในหัวใจ เปนความรูสึกที่เรนลับ และพลอยไมกลายอมรับกับตัวเอง ความรูสึกนั้นคือความเห็นใจ ที่พลอยมีตอตาอนใน ความคิดเห็นอันรุนแรง เรารอนไปดวยความซื่อสัตยกตัญู คิดถึงผูมีพระคุณ คิดถึงคําสัตยสาบาน พรอมที่จะ สละชีวิตเพื่อความซื่อสัตยกตัญูของตน ความรูสึกเชนนี้มีอยูในตัวพลอยโดยสมบูรณ เพราะการอบรมและสติที่ ถูกพร่ําสอนมาแตปางบรรพ มิรูกี่ชั่วคนยังฝงแนนอยูในหัวใจ เหมือนกับไดถูกตรึงไวดวยตะปูเหล็กดอกใหญ ถา ตาอนพูดจาแสดงความรูสึกเชนนี้ตอคนอื่น มิใชตาอั้นซึ่งเปนลูกในไสของพลอย พลอยก็มีแตจะยิ่งรักยิ่งนิยม และนับถือน้ําใจอันหาวหาญของตาอนยิ่งไปกวาเกา แตเมื่อมองทางหนึ่งก็ลูกในไส มองอีกทางหนึ่งก็ลูกเลี้ยง ซึ่งพลอยจําเปนตองรักเทาลูกในไส เพื่อรักษาดุลยภาพในใจของตนไว พลอยก็ไดแตทอดถอนใจใหญ แลวนั่ง ตะลึงอยู มิรูที่จะออกปากพูดจาวากระไรได ตาอนเอาหนาซบกับตักรองไหสะอึกสะอื้น แลวพูดวา "คุณแม......คุณแม......คุณแมเปนแมของผมคนเดียว ผมไมมีที่ไหนอีก" "ถูกแลวอนลูกแม" พลอยปลอบเบาๆ "แมมีอนเปนลูกคนแรก แมไมเคยรักใครมากอนมากกวาอนไปเลย อนรักแมอนอยาไปถือนอง คนเรามีปากคํากัน อารามโมโหนึกจะพูดอะไรก็พูดออกมา ไมทันยั้งคิดนองเด็กกวา อน ถาเห็นกับแมก็ขอใหยกใหเสียเถิด" ตาอนลงกราบพลอยกับตักแลวเดินหายเขาหองไป ไมพูดจาวากระไร ตาออดยังคงนั่งอยูที่โตะกินขาว พลอยก็ยังนั่งอยูที่เกา สายตาทอดเหมอมองออกไปขางหนา อีกครูหนึ่งตาออดก็เขามาคุกเขาอยูตรงหนา เอา มือโอบหัวเขาพลอยไวแลวพูดวา "ทูนหัวของลูก ตั้งแตนี้ไปแมจะตองทําใจใหแข็งไวเสมอ ปลอยใหใจออนไมไดเปนอันขาด" "ทําไมออด" พลอยถามเบาๆ "เพราะเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในครอบครัวเราก็ดี เกิดขึ้นในบานเมืองก็ดี จะมีสิ่งหนึ่งที่เราไมรูเคยรูจักเขา มาแทรกแซง ทําใหเกิดปญหา เกิดความผิดพองหมองใจ ถาคนใจไมแข็งแลวจะอยูไมได" ตาออดตอบชาๆ เหมือนกับจะพยายามอธิบาย "แมไมเขาใจ....ออด" พลอยพูดงงๆ "อะไรจะมาแทรกแซง อะไรจะทําใหตองผิดพองหมองใจกัน แมแตใน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy306.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 4

ครอบครัวเราซึ่งเคยแตรักกัน" "การเมือง" ตาออดตอบสั้นๆ แลวก็เอามืออันเย็นเฉียบของพลอย ไปทาบไวที่แกมของตน "แมไมเขาใจเลย" พลอยพูดเหมือนกับรําพึงกับตัวเองมากกวาพูดกับคนอื่น "ไมเขาใจเลยจริงๆ เรามีอยู ดวยกันไมกี่คน...อน อั้น ออด ประไพ...สี่คนเทานั้น พี่นองกัน รักกันมาตลอด กลมเกลียวกันมาแตไหนแตไร แลวอยูๆ ก็มีอะไรเกิดขึ้น มีอะไรเขามาทําใหตองแตกแยก ถึงกับตองโกรธกันอยางเมื่อกี้ ออดบอกแมวามีของ ใหมเขามาเกี่ยวของ....ออดเรียกวาการเมือง อะไรกันการเมือง แมไมรูจัก ออดตองชวยสอนแมบาง...." พลอย ยกมือขึ้นลูกหนาผากของตนเอง เหมือนกับจะปดความมืดมนตางๆ ใหหมดสิ้นไป แลวพูดเบาๆ ตอไปวา "แม แกเต็มทีออด....แกเกินไป ! ไมรูวาเขาทําอะไรกันที่ไหน ออดตองคอยบอกแม แมจะไดทําตัวใหถูก เลาใหแมฟง ทีเถิดวาการเมืองเปนอยางไร เขาทํากันอยางไร" "พูดยากเหลือเกินทูนหัวของลูก" ตาออดพูดเบาๆ เหมือนกับรําพึงกับตัวเองเชนเดียวกัน "ลูกก็ไมรูจะ อธิบายอยางไรถูกเหมือนกัน แตกอนนี้เมืองไทยเราไมมีการเมือง ทุกคนก็ไดแตตั้งหนาทํางานโดยเฉพาะของ ตน ใครมีหนาที่อะไรใครก็ทําไป ความคิดความเห็นที่จะมี ก็มีแตเพียงในกรอบของการงาน อยางพี่อนนั้นแต กอนถาจะนึกอะไร ก็นึกถึงเรื่องทหาร พี่อั้นก็นึกถึงเรื่องกฎหมาย ทั้งสองคนไมมีวันจะขัดกันได เพราะทางที่จะ ใชความคิดเห็นนั้นไปคนละแนวกัน แตเดี๋ยวนี้ทั้งพี่อนและพี่อั้น มีทางที่จะใชความคิดเห็นกวางขวางแตกอน มาก คือใชความเห็นเกี่ยวกับการเมืองได เมื่อทั้งสองคนใชความคิดเห็นในเรื่องเดียวกัน มิใชคนละแนวอยางแต กอน ถาความคิดนั้นตรงกันก็ดีไป ถาไมตรงกันก็เกิดเรื่องอยางที่แมไดเห็นแลว ถาจะใหลูกบอกใหรวบรัดได ความวา การเมืองคืออะไรลูกก็บอกไมถูก เพราะการเมืองเปนของกวางขวางเสียเกินที่จะรวบรัด ใหเขามาอยูใน ขอบของถอยคําเพียงสองสามคําได ลูกบอกไดแตวาถาจะพูดในทางที่ดี การเมืองก็ทําใหคนไดมีความคิดความ เห็นกวางขวาง ทําใหคนไดมีจิตใจสูง มีมานะบากบั่น อดทนตอความทุกข และเสียสละความสุขสวนตัว เพื่อไป ใหถึงจุดหมายปลายทางที่ตนเห็นวาถูก การเมืองทําใหคนไดพอใจ วาตนไดเกิดมาแลวไมเสียชาติเกิด ทําใหรู สึกวตนไดเกิดมาเปนมาคนโดยสมบูรณ เปนนายตัวเอง บังคับตัวเอง ไมมีเจานายอื่นมาคอยบังคับ มองทาง ดานดีการเมืองก็เปนของดีหนักดีหนา แตถาจะมองทางแงราย การเมืองก็นากลัวอยู เพราะการเมืองทําใหคนตอ รบราฆาฟนกัน ทําใหพอทะเลาะกับลูก ผัววิวาทกับเมีย พี่ทะเลาะกับนอง การเมืองทําใหเกิดการตอสูระหวาง คนกับคน อาจทําใหเกิดบาดหมางอาฆาตพยาบาทกันไปตลอดชีวิต บางเวลาการเมืองก็หามิตรไดมาก แตบาง ครั้งการเมืองก็ทําใหเราตองเสียมิตรไปจนหมด ตลอดจนทําใหตองเสียทรัยพสมบัติ ติดคุกติดตะราง และเสียแม แตชีวิต" "ก็เมื่อรูอยูวาไมดีแลว เขาไปหามาใสบานใสเมืองทําไม" พลอยถามอยางสงสัย "ถึงคราวที่จะมามันก็มาของมันเอง ไมมีใครหาและไมมีใครหามได" ตาออดตอบแลวก็ถอนใจใหญ "บาน เมืองก็เหมือนกับคนตองเติบโตเปลี่ยนแปลงไป ถาการเมืองไมมาถึงวันนี้ ก็จะตองมาถึงในวันอื่นใหจงได ลูก เปนหวงอยูแตวาในระยะที่มาถึงใหมๆ นี้ จะตองพากันลําบากไปเสียหลายคนเทานั้นเอง" "ทําไมถึงจะตองเปนอยางนั้นเลาออด" "แมจําไดไหมครั้งหนึ่งเมื่อลูกยังเด็กๆ" ตาออดพูดแลวก็ทอดสายตาไปขางหนา เหมือนกับมองดูภาพที่ ผานมาแลว "ลูกเคยเรียกใหแมไปดูที่บอน้ําขางบานเรา เพราะวันนั้นปลาผุดขึ้นเต็มบอ แมบอกใหลูกฟงวา เพราะปลามันไดน้ําใหม จึงผุดขึ้นดวยความระเริง แตอีกประเดี๋ยวเดียว ก็มีคนเอาแหเอาสวิงมาทอดมาชอน เอา ไปกินเสียตั้งหลายตัว เรื่องที่ลูกยังจะไดนั้น จะเปรียบกับเรื่องที่กําลังเกิดอยูเดี๋ยวนี้ก็ได การเมืองมาถึงใหมก็ เหมือนกับน้ําใหม จะตองมีคนจํานวนมากที่ระเริงไป ไมระวังตัวเหมือนกับปลาไดน้ําใหม ใครเผลอตัวก็จะเปน อันตรายเชนเดียวกับปลา" "อั้นเขาเคยบอกแมเหมือนกันวา ตอนนี้ตองระวังตัวกันหนอย เพราะยังอยูในเวลาที่เขาเรียกวาหัวตอหัว เลี้ยง" พลอยพูดขึ้นเพราะเพิ่งนึกออก "พี่อั้นพูดถูกแลว" ตาออดวา "แตลูกยังหนักใจอยูอยางเดียว" "อะไรเลาลูก" พลอยถาม "เรื่องหัวตอหัวเลี้ยวของพี่อั้นนั่นเอง" ตาออดตอบ "ลูกยังนึกไมออกวาจะนานสักเทาไร จะเปนอีกกี่สิบกี่ รอยปก็ไมรู ที่เราจะพนจากหัวเลี้ยวเขาเดินทางตรงกันได ลูกรูแตวาตราบใดที่เรายังอยูในหัวเลี้ยว คนก็จะตอง พลาดจากทางกันเสียหนักตอหนัก" "ใครจะเปนอะไรก็ชางเถิด" พลอยพูดอยางแนใจ "แมเปนหวงแตลูกของแมเทานั้นเอง" "ลูกก็เปนหวงแตคุณแมคนเดียว" ตาออดหันมายิ้มกับพลอยนิดหนึ่ง แลวก็พูดตอไปวา "คุณแมตองทําใจ ใหแข็งไวเสมอ ถาคุณแมทําใจแข็งไวไดแลว บางทีลูกๆ ของคุณแมทุกคนก็จะไมเปนอะไรเลย" รุงขึ้นอีกวันหนึ่ง ตาอนก็มาลากลับไปบานนอก เพื่อประจํากรมกองทหารของตนตอไป พลอยมองดูหนา ตาอนในวันรุงขึ้น เห็นรวงโรยไปถนัด เขาใจวาบางทีตาอนจะไมไดหลับนอนทั้งคืน พลอยก็ไมรูวาจะพูดจากับตา อนอยางไรอีกตอไป เพราะใจจริงก็ไมอยากรื้อฟน เอาเรื่องที่เพิ่งผานไปขึ้นมาพูด ตาอนเองก็มิไดพูดถึงเรื่องนั้น เมื่อปราศรัยกันคนละคําสองคําอยางที่เคยทํามา ตาอนก็ลาจากไป พอตาอนลงจากเรือนไปแลว พลอยก็นึก

http://www.geocities.com/siamstory/ploy306.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 4

สังหรณในใจวา บางทีจะไมไดพบกับตาอนอีกนาน แตก็พยายามผลักความรูสึกนั้นไปใหพนตัว เหมือนกับวา เปนสิ่งที่ไมพึงปรารถนา ในระยะเวลาที่ผานไปเรื่อยๆ นั้น พลอยเริ่มสังเกตเห็นความหางเหิน ระหวางตาออดกับพอเพิ่มฝายหนึ่ง และตาอนอีกฝายหนึ่ง พอเพิ่มเดี๋ยวนี้ดูจะมีเรื่องพูดเรื่องคุยมากกวาแตกอน แตพอเพิ่มจะไมคุยกับพลอยยืดยาว เลย คนที่พอเพิ่มคุยดวยมากที่สุดก็คือตาออด และคุยดวยเปนเวลานานๆ ดวยน้ําเสียงที่เบาเกือบเปนกระซิบ ในเวลาที่ตาอั้นอยู พอเพิ่มกับตาออดก็จะพูดจากันดวยเรื่องอื่นๆ เปนปกติ ตาอั้นก็ดูเหมือนจะสังเกตอาการ กิริยาของพอเพิ่มที่วิปริตไป และมองดูอยูดวยความรําคาญ วันหนึ่งตาอั้นชะรอยจะอดรนทนไมไหว ถามตาออด ขึ้นตอหนาพลอยวา "ออด คุณลุงหลวงชอบมาคุยเรื่องอะไร เห็นซุบซิบกันอยูเสมอ" ตาออดหัวเราะแลวตอบวา "จะไปมีเรื่องอะไรเลาพี่อั้น ก็เรื่องที่คนทั้งเมืองไทยชอบซุบซิบคุยกันอยูทุกวันนี้เทานั้นเอง" "เรื่องอะไรกันแน" ตาอั้นซักอยางจะเอาความ "เรื่องการบานการเมือง" ตาออดตอบอยางอารมณเย็น "เดี๋ยวก็มีขาววาจะจับคนโนน จะฆาคนนี้ เดี๋ยวก็ มีเรื่องวาคนนั้นคนนี้จะรบกัน ออดก็ฟงๆ ไปอยางนั้นเองเพราะเห็นสนุกดี" "ขาวอกุศล" ตาอั้นพูดดวยน้ําเสียงขุนๆ "ขาวอะไรนะ" ตาออดถามขึ้น เพราะไมเคยไดยินคํานี้มากอน "ขาวอกุศล" ตาอั้นตอบย้ํา "เรื่องโกหกทั้งเพ" ตาออดหัวเราะงอหายรองวา "ดีจริงพี่อั้น ขาวอกุศล ใครชางคิดศัพท ฟงถูกหูดีแทๆ ทีเดียว ออดจะตองจําไวบอกคุณลุง" "ออดก็ไมรูจักโตเปนผูใหญสักที เวลานี้กําลังมีเรื่องยุงๆ ออดก็เห็นเปนสนุกไปได ออดควรจะชวยเตือน คุณลุงใหเบาๆ ปากคอเสียหนอย ไมอยางนั้นจะลําบากทีหลัง" ตาออดยังหัวเราะอยูแตบอกวา "ออดก็เคยเตือนมาแลว แตคุณลุงก็ไมฟง พี่อั้นบอกอยางนี้ก็จะเตือนใหอีกทีหนึ่ง แตไมกลารับรองอะไร ทั้งนั้น เพราะตั้งแตเปนประชาธิปไตยมีเสรีภาพกันมานี่ คุณลุงบอกวาเลิกเลนหมดแลว พวกนกเขา ไมดัด และ บอนโกรตนอะไรตออะไรที่เคยเลนมากอน เพราะมีของเลนใหม" "เลนอะไรออด" พลอยถามเพราะคุนเคยกับของเลนตางๆ ของพอเพิ่มดี เมื่อไดยินวาพอเพิ่มไดของเลน ใหม ก็อยากจะรู "คุณลุงบอกวาเลนการเมือง" ตาออดพูดแลวก็หัวเราะตอไปอยางขบขัน "อือม !" ตาอั้นรองเบาๆ "อนิจฺจํ ทุกฺขํ !" พลอยรองขึ้นพรอมๆ กัน แลวพูดตอไปเปนทํานองแกแทนพี่ชายวา "คุณลุงไมเคยพูดเรื่องการบานการเมืองกับแมเลย ออดเอาที่ไหนมาวา" "คุณลุงบอกวาคุยกับคุณแมเรื่องการเมืองไมสนุก" ตาออดตอบตรงๆ "สูคุยกับออดไมได" "ระวังหนอยเถอะนาออด !" ตาอั้นพูดอยางรําคาญสุดขีด "โตๆ ดวยกันแลว พูดอะไรก็ควรจะเขาใจ" "สําหรับตัวเราเองรับรองได" ตาออดตอบพี่ชาย "แตคุณลุงนี่ไมกลารับรอง เพราะตั้งแตรูจักกันมา ไมเคย เห็นคุณลุงสนุกอะไรเทาคราวนี้เลย" แตคําเตือนของตาอั้นดูเหมือนจะไดผล เพราะพอเพิ่มดูระมัดระวังการพูดจามากกวาแตกอน และถึงแม วาพอเพิ่มจะเขาไปชวนตาออดพูดจาซุบซิบอยางแตกอน ตาออดก็ไมเลนดวย วันคืนลวงไป พลอยรูสึกตัวเหมือนกับวาเหตุการณในบานเมืองขณะนั้นตึงจวนจะขาด คําวาเสรีภาพและ ปฏิวัติหนาหูขึ้นทุกที ตาออดมาเลาใหฟงวานักเรียนปฏิวัติกับครู ศิษยวัดปฏิวัติกับพระ พลอยไดยินแลวก็ไดแต ลูบอก แตคนหนึ่งที่ยังสนุกสนานรื่นเริงกับเหตุการณเหลานี้ไดก็คือชอย วันหนึ่งชอยมาหาที่บานแลวพูดขึ้นวา "หมูนี้ฉันเสียดายที่เกิดมาเร็วไป" "ทําไมเลาชอย" พลอยถาม "หรือวาจะเรื่องราวทุกวันนี้เกิดขึ้นชาไปก็ได" ชอยพูดตอ "ฉันยิ่งไมเขาใจใหญวาชอยพูดเรื่องอะไรกัน" "อาว ! พลอยก็" ชอยเริ่มอธิบาย "ถาสมัยเรายังเปนสาวๆ มีเรื่องอยางนี้เกิดขึ้น ฉันคงไดปฏิวัติสนุกมือ ไปทีเดียว" "ชอยจะไปปฏิวัติกับใคร" "ก็คุณอาสายคนหนึ่งละ" ชอยตอบ "แลวก็ยังมีคุณเฒาแกทาวนางอีกเปนกายเปนกอง นาปฏิวัติออก !" ธรรมดาพลอยเปนคนที่เคยขบขันในคําพูดที่ตลกคะนองของชอยเสมอ แตคราวนี้กลับรูสึกไมขันนัก เพราะคําวาปฏิวัติหรือเปลี่ยนแปลงนั้นเขาหูอยูทุกวันจนออกจะเบื่อ ครั้งนี้ดูเหมือนจะเปนครั้งแรก ที่พลอยรูสึก วาตนและชอยแกเกินไป ที่จะพูดจะเลนหัวกันแบบนี้เสียแลว แตจะเตือนชอยตรงๆ ก็ไมได เพราะพลอยรูนิสัย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy306.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 4

ชอยดี จึงจําตองเสแสรงพูดเรื่องอื่นไปเสีย ระหวางนั้นพลอยคิดถึงตาอนอยูเสมอ เพราะตาอนหายไปจากบานนานกวาปกติ และไมไดสงขาวคราว มาใหทราบเลย ถามคนที่รูจักก็ไดขาวแตเพียงวาตาอนเปนสุขสบายดี ไมมีรายละเอียดอยางอื่นที่จะใหแกพลอย ได พลอยไดแตนั่งนึกอยูวา ตาอนคงจะโกรธตาอั้น ตั้งแตคืนวันนั้นยังไมหายจึงยังไมกลับบาน แตพลอยก็ยังมั่น ใจวา ตาอนคงจะหายโกรธเขาสักวันหนึ่ง เมื่อเวลาลวงเลยไปนานพอสมควร และเมื่อนั้นทุกสิ่งทุกอยางก็จะ เรียบรอยไปเอง อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy306.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๖ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๓ บทที่ ๖ (หนาที่ ๒) แตวันหนึ่งในตอนเชาของเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ ตาอั้นกลับมาจากที่ทํางานแตยังไมเที่ยง พอมาถึง บานตาอั้นก็ตรงเขามาหาพลอยถึงในหอง แลวพูดกับพลอยดวยน้ําเสียงซึ่งพลอยรูดีวา ตาอั้นพยามยามขมให เปนปกติจากความตื่นเตนวา "คุณแมครับ ผมจะบอกอะไรใหแตอยาเพิ่งตื่นเตนตกใจไป" "บอกมาเถิดอั้น แมเกือบจะตกใจไมเปนแลวทุกวันนี้" พลอยวา "เกิดเรื่องเสียอีกแลวคุณแม" ตาอั้นพูดชาๆ และดวยสีหนาที่ไมสบายนัก "เรื่องอะไรอีกเลาลูก" "ก็เรื่องยุงๆ กันนั่นแหละ ผมสงสัยมานานแลววาจะตองมี" ตาอั้นตอบ "แตเพิ่งมาไดขาวเมื่อเชานี้เอง ผม ก็เลยรีบกลับมาบอกกลัววาคุณแมจะตกใจมาก ถาหากไดยินจากปากคนอื่น เรื่องไมมีอะไรหรอก แลวก็คงจะ เรียบรอยกันได" "แมยังไมรูเรื่องอะไรเลย" พลอยพูดอยางงงๆ "อั้นตองเลาใหละเอียดกวานี้หนอยแมจะไดเขาใจ" "มีขาวมาเมื่อเชานี้เองวา ทหารโคราชและทหารหัวเมืองทางเหนืออีกบางสวน ไดยกเขามาตั้งอยูที่ ดอนเมือง" ตาอั้นเลา "เวลานี้เขายึดดอนเมืองไดหมดแลว แตยังไมยกเขามาในกรุงเทพฯ เขายื่นคําขาดมายัง รัฐบาลใหจัดการแกไขการปกครองแผนดินใหม" "แกไขไปอยางไรกันอีก" พลอยถามอยางเนือยๆ เพราะรูสึกเบื่อหนายตอสิ่งที่ตาออดเรียกวาการเมืองนี้ เสียแลว "ก็ใหแกไขไปจนถูกใจเขา" ตาอั้นตอบ "แตรัฐบาลเราไมยอมแนๆ เพราะรัฐบาลนี้เปนรัฐบาลถูกตองตาม กฏหมาย จะใชอํานาจทหารหรือกําลังอาวุธมาบังคับกันนั้นไมได" พลอยนึกถึงเหตุการณที่ผานมาแลวเมื่อปกลาย ก็ยังไมเห็นพองดวยกับคําพูดของตาอั้นสนิทนัก แตปาก นั้นก็ถามไปวา "เมื่อไมยอมแลวจะทําอยางไรกัน" "ก็เห็นจะตองสูกันจนแพชนะไปขางหนึ่ง" ตาอั้นตอบเรียบๆ ดวยน้ําเสียงที่บึกบึน "สูกันแคไหน อยางไร" พลอยเริ่มจะสงสัยวาเรื่องราวอาจจะรุนแรงกวาที่ตนไดนึกไวแตตน "ก็เขามาแตไหนเราก็สูอยางเดียวกัน" ตาอั้นบอก "กําลังทหารในกรุงเทพฯ ก็ยังมีพอ และทหารหัวเมือง ที่ยังเปนฝายรัฐบาล ก็มีอยูไมนอย" "อั้น...." พลอยชักจะตกใจขึ้นมาบางแลว "นี่อั้นหมายความวา จะรบกันขึ้นกลางเมืองหรือ" "ถาตกลงกันไมไดก็ตองพึงเพียงนั้น" ตาอั้นตอบแลวก็ถอนใจใหญ "ผมไมอยากเห็นคนไทยรบกันเองเลย คุณแม" ตาอั้นพูดตอไปดวยน้ําเสียงเรียบๆ แตก็ยังเต็มไปดวยความหนักใจ พลอยเริ่มคิดวิตกกังวลถึงบานชองและผูคนในบานทันที ถามตาอั้นขึ้นวา "แลวนี่เราจะทําอยางไรกัน ถา รบกันขึ้นมาจริงๆ เราจะไปทางไหนกัน" "คุณแมอยาวิตกในขอนั้นเลย" ตาอั้นปลอบ "ผมรับเปนธุระจะคอยดูแลไมใหใครในบานนี้เปนอันตรายได แตไหนๆ ก็พูดกันแลว ผมก็เห็นวาควรจะบอกคุณแมเสียดวยวา คราวนี้ทหารอยุธยาก็อยูทางฝายโนน" พลอยรูสึกเหมือนมีอะไรมากระทบตัวอยางแรง จนแทบจะทรงกายไวไมอยู นึกตําหนิตัวเองทันที วามัว แตหวงตัวหวงบานลืมลูกเสียอีกทั้งคน พลอยจะอาปากถามตาอั้นถึงตาอั้นพี่ชาย แตก็พูดอะไรไมออกนอกจาก คําเดียววา "ตาอน....." ตาอั้นพยักหนารับคํา แลวพูดเบาๆ วา "พี่อนก็เอากับเขาดวยเหมือนกัน ผมไมอยากบอกคุณแมเรื่องนี้เลย กลัวจะตองหวงใยมาก แตถึงผมไม บอกคุณแมก็จะตองรูเอง" "โธ ! อน......" พลอยออกอุทานดวยน้ําเสียงที่แหบแหง รูสึกวาในคอนั้นแหงผาก และรูสึกเย็นเฉียบตาม เนื้อตัว เปนอันวาตาอนและตาอั้น เวลานี้ถูกการเมืองเขามาแบงแยกใหอยูคนละฝาย เพียงแตความคิดเห็นขัด กันถึงตองทะเลาะวิวาทกัน พลอยก็เห็นรุนแรงอยูแลว คราวนี้ตางฝายตางกําลังจะเขารบราฆาฟนกัน ทํา อันตรายกัน พลอยรูสึกวาตนไดใชชีวิตมานานเกินไปเสียแลว จนไดเห็นสิ่งที่ไมเคยไดนึกไดฝนวาจะเห็น คือลูก ของตนตองรบกันเอง โดยที่ตนไมอยูในฐานะที่จะหามปราม หรือเขาไปเกี่ยวของไดเลย เสียงตาอั้นพูดวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy306_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๖ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 4

"ผมก็รูวาคุณแมรักพี่อนมาก แตก็จะทําอยางไรได เขาก็โตแลวมีความคิดของเขาเอง เมื่อเขาเห็นผิดเปน ชอบ คุณแมก็ควรจะตองตัดใจเสียใหขาด กรรมของใครก็ตองตกแกคนนั้น เราไปทําอะไรได" ตาอั้นพูดเทานั้นแลวก็ลุกเดินเบาๆ หายไป อีกสักครูพลอยก็ไดยินเสียงรถยนตแลนออกจากบาน ตาอั้น คงจะกลับไปทํางานหรือออกไปขางนอก พลอยยังนั่งอยูกับที่อีกนาน ใจนั้นก็ไมอยากจะลุกไปไหน ความ ตระหนกตกใจที่รูสึกเมื่อแรกที่ไดยินวา จะมีการรบพุงฆาฟนกันนั้นหายไปสิ้น คงเหลือแตความทุกขหนักเขามา แทนที่ คือความเปนทุกขถึงตาอน และความทุกขนั้นก็มิไดมีขอบเขตจํากัด คือมิไดทุกขแตเพียงวา ตาอนอาจจะ ตองบาดเจ็บหรือถึงตาย แตทุกขตลอดไปจนถึงเรื่องที่ตาอนนั้น ปานนี้จะอยูที่ไหน จะนอนกลางดิน กินกลาง ทรายอยางไร อาหารการกินเสื้อผาเครื่องนุงหม ที่หลับที่นอน จะไดใครคอยดูแล ยามมีทุกขรอนหรือมีปญหา อยางใดเกิดขึ้น จะหันหนาไปพูดจากับใคร ทุกอยางนี้เปนความทุกขอันหนักที่สุมอยูในหัวอก ตาอั้นบอกอยาง ไมไยดีวา ตาอนโตแลวยอมรูผิดรูชอบ เมื่อตาอนจะเห็นผิดเปนชอบ พลอยก็ควรจะตัดใจเสียใหขาดจากตาอน ไมควรจะเก็บมาทุกขรอน พลอยรูอยูแกใจวาตาอั้นพูดดวยเจตนาดี แตความรูสึกและความเชื่อถือทุกอยาง ที่มี อยูในตัวพลอยนั้น ขัดตอคําพูดของตาอั้นทุกถอยคํา ในขอแรกที่สุดพลอยยังไมเห็นตาอนหรือลูกคนอื่นๆ โตพอ ที่จะตัดขาดจากตัวไดเลย ตาอนที่เคยเปนเด็กอวนๆ ชางเลนชางประจบนารักนาเอ็นดู กับตาอนที่ขึงขังแข็งแรง ในขณะนี้ก็เปนคนๆ เดียวกัน ถึงจะเปลี่ยนแปลงไปก็เปนแตภายนอก แตกอนเมื่อตาอนวิ่งเลนแลวลมเจ็บตัว ก็ จะรองไหวิ่งเขามาหา และเปนหนาที่ของพลอยจะตองปลอบโยนใหนิ่ง ถึงเดี๋ยวนี้ตาอนก็ยังคงจะวิ่งเขามาหาเมื่อ รูสึกเจ็บ และหนาที่ๆ จะตองปลอบโยนเอาใจนั้น ก็ยังคงเปนของพลอยอยู ถาหากจะพูดถึงความคิดเห็น เลือก เองในสิ่งที่ผิดหรือสิ่งที่ชอบ พลอยก็ยอมรับตรงๆ วาในระยะเวลาที่ตาอั้นเรียกวา "หัวตอหัวเลี้ยว" นี้เอง พลอย รูสึกวายากมากที่จะชี้ลงไปวาสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด เพราะพลอยเห็นอยูทุกวันวา คําพูดหรือการกระทําบางอยาง ซึ่ง แตกอนถือกันวาไมบังควร หรือเปนผิดหนักหนานั้น เดี๋ยวนี้กลับกลายเปนถูกเปนดี หลักการทุกอยางที่พลอย เคยเคารพ คุณคาทุกอยางที่พลอยเคยเชื่อถือดูจะเปลี่ยนไป หมดสิ้นไปอยางรวดเร็ว มีของใหมซึ่งพลอยยังไม คุนเคยเขามาแทนที่ ตาอั้นเองก็เคยเตือนพลอยและคนอื่นๆ ในบาน ใหระมัดระวังการกระทําและคําพูด แสดง วาทุกอยางยังปราศจากความแนนอน ก็เมื่อพลอยเองยังไมสามารถจะชี้ขาดลงไปไดวา สิ่งใดผิดสิ่งใดชอบ ตา อนจะไปชี้ขาดลงไปไดอยางไร ยิ่งกวานั้นพลอยเองก็ไมอยูในฐานะที่จะยอมรับไดเลยวา ตาอนไดกระทําผิด เพราะถอยคําที่เต็มไปดวยศัพทแสงแปลกๆ ของตาอั้นเสียอีก กลับเปนเรื่องที่พลอยจะตองทําความคุนเคยตอ ไป ขณะนี้พลอยยอมรับไดแตเพียงวา ตาอนและตาอั้นมีความเห็นไปคนละทางไมตรงกัน พลอยไมอยูในฐานะที่ จะชี้ขาดไดเลยวา ฝายไหนเปนฝายผิด ฝายไหนเปนฝายถูก และพลอยก็รูดีวาฐานะเชนนี้ เปนอุปสรรคทําให พลอยไมสามารถระงับขอพิพาท ระหวางพี่นองสองคนนี้ได วันนั้นทั้งวันพลอยไดแตนั่งปลอยใจ ใหคลุกเคลาอยู กับความทุกข และความหวาดหวั่นแทนตาอน ตาออดซึ่งอยูที่บานก็ไดแตเลาเรื่องใหฟง เชนเดียวกับที่ตาอั้นได เลามาแลว มิไดทําใหพลอยคลายใจไดแตอยางใดเลย รุงขึ้นอีกวันหนึ่งตอนบายๆ ตาออดก็เดินซอนยิ้มอยูในหนา เขามานั่งลงขางๆ แลวพูดขึ้นวา "ลูกมีเรื่องที่จะตองทําใหแมกลุมใจมาบอกเสียอีกแลว" พลอยใจหายวาบลงทันทีเมื่อไดยินตาออดพูด ทุกอยางในระหวางนี้ ดูจะมาชวยเพิ่มความทุกขของ พลอย ใหหนักยิ่งขึ้นทั้งนั้น "คราวนี้เรื่องเกี่ยวกับคุณลุงหลวง" ตาออดพูดตอ "หลวงไหน หลวงโอสถหรือ เปนอะไรไป" พลอยถาม "เปลา คุณลุงหลวงอีกคนหนึ่ง คุณลุงเพิ่มนั่นแหละ" ตาออดตอบ และดูเหมือนแทบจะซอนยิ้มไวไมไหว "ทําไมกันออด" พลอยถามสวนควันขึ้นมาทันที "ถูกโปลิศจับไปเมื่อเชานี้ เวลานี้ขังไวที่โรงพัก ทางบานเขาใหคนมาบอก ออดรีบไปเยี่ยมแตไมไดพบ เขาไมยอมใหเขาไปหากัน" "ตายแลว" พลอยรองขึ้น "คุณหลวงไปทําอะไรมาบอกแมเร็ว" "ออดไมแนใจนัก" ตาออดวา "แตทางบานคุณลุงเขาเลาใหฟงวา เมื่อตอนเชาตอนที่เครื่องบินฝายทหาร หัวเมืองบินผานเขามา คุณลุงก็เตนออกไปยืนอยูริมถนน แหงนหนามองดูฟาแลวรองวา 'คราวนี้เสร็จละโวย' เทานี้เองตอนสายหนอยเขาก็มาจับเอาตัวไป" พูดจบแลวตาออดก็หัวเราะ "ออดนี่ก็พูดเห็นเปนเลนไปหมด !" พลอยหันไปดุ "เรื่องคอขาดบาดตายยังมานั่งทําหนาเปนอยูได พวก พองวงศตระกูลของแม ไมเคยเขาคุกเขาตะรางเลย ปานนี้ยายของออดรูเขาก็พิลึก โธ ! กรรมเวรแทๆ ทีเดียว จะทําอยางไรกันดี" ตาออดเอามือลูบเขาพลอยแลวพูดวา "ขอโทษเถิดแม ออดอดหัวเราะไมไดจริงๆ เพราะคุณลุงชอบเลนการเมืองเหลือเกิน ใครวาก็ไมฟง...แต แมอยาวิตกไปเลย เขาคุกเขาตะรางสมัยนี้มีสองอยาง คนที่เขาคุกเพราะลักขโมย หรือโกงเขาเทานั้นหรอกที่จะ เสียชื่อ คนที่เขาคุกเพราะการเมืองนั้นเขาไมถือกันหรอก เปนเกียรติยศดวยซ้ําไป คุณลุงอาจจะชอบก็ได ออก มาแลวถาไมเข็ด ก็จะมีเรื่องคุยกันอีกแยะ"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy306_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๖ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 4

ครั้งนี้เปนครั้งแรกที่พลอยไดรับความรูใหมวา การติดคุกที่ถือวาเปนเกียรติเปนสิริมงคลแกตนนั้นก็ยังมี "แมกลุมใจเต็มทีแลวออด" พลอยพูดขึ้น "เรื่องการเมืองอะไรของออดนี่ ดูจะเขามายุงเกี่ยวกับเราไปเสีย ทุกอยาง คุณหลวงแกก็คงไมไดตั้งใจอะไร นึกจะพูดอะไรก็พูดออกไป ใครก็ชางใจดํา มาถือสาหาเรื่องจับเอาตัว ไปขัง แลวนี่ทางลูกเมียเขาทําอยางไรกัน" "ก็เห็นนั่งรองไหขี้มูกโปงกันไป" ตาออดตอบ "จะไปเยี่ยมเยือนเขาก็ไมใหพบกัน ไดแตสงขาวเขาไปให ถึงหรือไมถึงก็ไมรู" "จะทําอยางไรกันดี ออด จะทําอยางไรกันดี" พลอยพูดอยางหมดปญญาจริงๆ "แมลองพูดกับพี่อั้นเขาดูเห็นจะดี เพราะพี่อั้นเขารูจักคนที่มีอํานาจวาสนามาก บางทีเขาพอจะชวยพูดจา ผอนหนักใหเปนเบาได" เย็นวันนั้นเองพลอยก็พูดกับตาอั้นเรื่องพอเพิ่ม แทนที่ตาอั้นจะแสดงความตระหนกตกใจ หรือเสียใจใน เคราะหกรรมของญาติของตน ตาอั้นกลับพูดวา "ก็ผมเตือนคุณลุงแลวไมรูจักกี่หน ใหระวังปากระวังคอ คุณลุงก็ไมฟงสักที เขาจับไปเสียก็ดีเหมือนกัน ตอไปจะไดรูจักระวังตัวเสียบาง" พลอยเกือบไมเชื่อหูวาคําพูดอันปราศจากเยื่อใยนั้น จะออกมาจากปากลูกของตน ไดแตตอบตาอนไปวา "โธ ! อั้น...พี่ชายแทๆ ของแมมีคนเดียว ถึงจะอยางไรแมก็ทิ้งกันไมได ถาอั้นไมชวยก็บอกมาเถิดวา ใคร เปนเจาของเรื่องนี้ แมจะไปหาเขาไปกราบไหวพูดจากับเขาเอง ยังดีกวาที่จะนั่งอยูเฉยๆ ไมทําอะไรเลย" ตาอั้นเหลียวมาดูหนาพลอยแลวก็พูดวา "คุณแมอยาวิตกไปใหมากเลยครับ ทําใจเย็นๆ ไวหนอย ระหวางนี้ยังไมรูวาใครเปนใคร ทําอะไรไมไดทั้ง นั้น ผมจะดูใหเองเรื่องคุณลุง คงจะไมมีอะไรมากนัก พอชวยเหลือกันได" ระหวางนั้นพลอยก็ไดแตฟงวิทยุของตาออด ถึงขาวคราวที่รบพุงกัน และใจนั้นก็ใหนึกเปนหวงตาอนอยู ตลอดเวลา เกรงวาจะเปนอันตรายไป และพลอยก็ไมมีทางที่จะรูไดเลยวา ตาอนจะเปนอยางไรบาง ขาวคราว และเรื่องราวตางๆ ที่ไดยินในขณะนั้น มิไดทําความสวางใหแกพลอยเลยแมแตนอย ทั้งสองฝายที่กําลังรบพุง ประหัตประหารกันอยูนั้น ตางก็อางเอาความจงรักภักดีที่มีตอพระเจาอยูหัว เปนมูลฐานแหงการกระทําของตน ตางฝายตางเรียกกันเองวาเปนศัตรูตอบานเมือง ทําใหพลอยยิ่งกระวนกระวาย มิรูที่จะฟงความขางไหนถูก ระหวางนั้นชอยก็มาสงขาววา พระเจาอยูหัวเสด็จออกไปประทับที่สงขลา และเจานายทั้งขางหนาขางใน เสด็จ ออกไปประทับที่นั่นดวยกระบวนรถไฟพิเศษ ยิ่งทําใหพลอยรูสึกวุนวายใจหนักขึ้นไปอีก หกวันตอมาพอเพิ่มก็มาหาที่บาน พอเห็นหนาพอเพิ่ม พลอยก็เห็นวาผอมไปและเหลืองไป จะเปนเพราะ อุปาทานหรืออะไรก็สุดที่จะเดา พลอยรีบรองทักออกไปวา "คุณหลวง ! แหม ! ฉันดีใจจริง ! เปนหวงคุณหลวงเหลือเกินจริงๆ !" "ไมเปนไร แมพลอย ไมเปนไร !" พอเพิ่มวา "เปนคราวเคราะหของฉันเอง นิดหนอยเทานั้น พูดหา คํา...'คราวนี้เสร็จละโวย' โดนขังไปหาวัน เวลาเขาจะจับเขาก็จับไปเฉยๆ บทจะปลอยเขาก็ปลอยมาเฉยๆ ไม เห็นมีอะไร" "อยาไปพูดถึงมันอีกเลยคุณหลวง" พลอยพูด "นึกวาสิ้นเคราะหไปที ตอไปนี้ก็ควรจะระวังเนื้อระวังตัว เสียบาง" "นี่แมพลอยนึกวาฉันจะกลัวอยางนั้นหรือ" พอเพิ่มถามยิ้มๆ "ไมมีเสียละ ฉันอยูมาจนอายุเพียงนี้แลว เคยเห็นอะไรมาแลวมาก ดีกวาคนเดี๋ยวนี้หลายคน ธุระอะไรฉันจะตองไปกลัวใคร ใครอยากจับฉันไปขัง ก็ไดแต เอาตัวฉันไปเก็บไว ใจนั้นเปลี่ยนกันไมได ฉันเคยเปนอยางไรก็คงเปนอยูอยางนั้น อยาวาแตจะขังฉันหาวันเลย ถึงหาปฉันก็ไมเปลี่ยน เอาฉันไปฆาเสียใหตายเมื่อไรนั่นแหละ บางทีจะหมดเรื่องบาง" "คุณลุงนี่เกงขึ้นแยะทีเดียว" ตาออดซึ่งแอบออกมานั่งอยูใกลๆ เมื่อรูวาพอเพิ่มมาพูดขึ้น "ไมเกงอะไรหรอกพอออด" พอเพิ่มตอบ "ชั่วแตวาไมยอมใหใครมาขูเลนงายๆ เทานั้นเอง" ตั้งแตพอเพิ่มออกจากที่คุมขัง พลอยก็รูไดทันทีวาพอเพิ่มยิ่งหางเหินกับตาอั้นไปไกลกวาแตกอน ถึงแม วาตาอั้นจะไดแสดงความเคารพเชนเคย พอเพิ่มก็ทําเฉยเมยมึนตึง ไมพูดไมจาดวยโดยดี ตาอั้นถามคําหนึ่งพอ เพิ่มก็ตอบคําหนึ่ง เหมือนกับจะแสดงใหตาอั้นรูวาไมยินดีจะพูดจาดวย ทําใหตาอั้นตองเกอไปหลายครั้ง จนในที่ สุดเวลาพอเพิ่มมาที่บาน ตาอั้นก็มักจะหลีกเลี่ยงไปเสียอีกทางหนึ่ง คนที่ยังพูดจาสนิทสนมกันเปนปกติก็คือตา ออด ในเวลาไมชาขาวเรื่องการยุงยากที่เกิดขึ้นนั้น ก็ปรากฏวาฝายรัฐบาลเปนผูมีชัย ฝายทหารหัวเมืองซึ่ง ขณะนี้เรียกกันทั่วไปวา "ฝายกบฏ" นั้นเริ่มถอยขึ้นไปทางเหนือ มีทหารรัฐบาลตามขึ้นไปติดๆ ใจของพลอยนั้น ก็ไดแตตามตาอนซึ่งถอยไกลออกไปทุกที พลอยพยายามถามขาวคราวจากตาอั้นเสมอ เผื่อวาตาอั้นจะรูขาวตา อนบาง แตตาอั้นก็ตอบวาไมรูบาง หรือมิฉะนั้นก็บอกวายังไมไดขาววาตาอนเปนอันตรายอยางใด พลอยก็ไดแต ภาวนาขอใหตาอนรอดพนจากอันตรายตางๆ ขณะนี้ก็รูกันทั่วไปแลวใครเปนฝายชนะ ใครเปนฝายแพ ชีวิตของ ตาอนจะเปนอยางไรตอไปในอนาคตนั้น พลอยไมกลาพอที่จะนึกถึง ขอแตใหตาอนไดมีชีวิตอยูตอไป และเพียง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy306_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๖ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 4

แตใหไดกลับมาเห็นหนากันอีก แมแตหนเดียวเทานั้น ก็ดูเหมือนจะพอแลวสําหรับพลอย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy306_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๗ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๓ บทที่ ๗ (หนาที่ ๑) เหตุการณสําคัญที่เกิดขึ้นในป ๒๔๗๖ นั้น สําหรับคนสวนมากอาจเห็นวาเปนเรื่องการเมืองโดยเฉพาะ และไมกระทบกระเทือนถึงเรื่องสวนตัวแตอยางใด แตก็ยังมีคนสวนนอยอีกจํานวนหนึ่ง ที่เห็นวากระทบ กระเทือนถึงสวนตัวโดยแท เพราะบุคคลเหลานี้มีสามีหรือบุตรหลานพี่นอง เขาไปเกี่ยวของพัวพันอยูในฝายที่ ตองปราชัยไป พลอยเปนบุคคลหนึ่งที่นับเขาอยูในบุคคลประเภทหลัง อันมีจํานวนนอยนี้ ขาวความพายแพของพวกที่เรียกวากบฏนั้น เปนขาวที่แนนอนไมมีปญหา การถอยของทหารหัวเมือง ไปสิ้นสุดที่โคราช และในที่สุดตาอั้นก็นําความมาบอกกับพลอยวา ตาอนเปนคนหนึ่งในจํานวนนายทหาร ที่ถูก คุมขังอยูในฐานะจําเลยคดีกบฏคราวนี้ และจะตองถูกสงตัวขึ้นศาลพิเศษ เพื่อพิพากษาวางโทษตอไป "โธ ! อนไมนาเลย !" พลอยรองขึ้นเมื่อไดยินขาวที่แนนอนจากตาอั้น น้ําตานั้นไหลพรากลงมา ดวย ความสงสารและหวงใย "อั้นตองชวยพี่ใหได......มีหนทางอะไรบาง พี่นองตองชวยกัน อยางทิ้งกันเปนอันขาด อั้นตองพยายาม ชวยพี่ใหไดทุกทาง ชวยรับปากกับแมใหคลายใจไดบาง" ตาอั้นทรุดตัวลงนั่งแทบฝาเทาของพลอย แลวก็ถอนใจใหญพูดวา "คุณแม......ผมเห็นใจคุณแมเปนที่สุด ถาผมรับปากคุณแมได ผมจะรับเดี๋ยวนี้ แตผมไมสามารถจะรับ ปากได เพราะเรื่องนี้ใหญโตเสียเหลือเกิน ไมใชเรื่องธรรมดา ผมเองก็ไมรูจะไปชวยเขาไดอยางไร......" "อั้นยังโกรธพี่อยูอีกหรือ ก็อั้นขอโทษพี่เขาแลวตอหนาแม จะไปผูกใจเจ็บกันอยูทําไม ถึงอยางไรก็เปนพี่ นองกัน ขอใหเห็นแกแมเถิด ถาไมเห็นแกแมก็ขอใหเห็นแกคุณพอบาง" พลอยพูดแลวก็รูสึกวา ตัวเองนั้น เหมือนกับคนกําลังจะจมน้ํา พยายามไขวควาหาสิ่งที่จะยึดเหนี่ยวได แมจะเปนเศษไมเล็กๆ ที่ลอยมาตามน้ําก็ ยังจะควาเอาไว ตาอั้นสายหนาอยางหนักใจแลวก็พูดวา "ผมไมไดโกรธพี่อนเลย...คืนนั้นผมเคืองจริงยอมรับ แตพอไดพูดลวงเกินไปแลว ผมก็เสียใจ อยากจะหา โอกาสปรับความเขาใจกัน แตพี่อนก็ไมกลับมาบานจนเกิดเหตุ ถึงตอนนี้ ผมไมมีทางจะไปชวยเขาเสียแลว ไมมี จริงๆ คุณแม ดวยเหตุหลายอยาง อยางแรกเรื่องนี้เปนเรื่องใหญมาก นอกเหนืออํานาจใครๆ ที่จะไปชวยเหลือ ใครได เพราะกบฏจราจลถึงรบราฆาฟนกันนั้นเปนเรื่องใหญจริงๆ คุณแมก็คงจะรู อีกอยางหนึ่งบานเมืองเรา เวลานี้ มีแตระแวงระไวกันไปหมด พี่อนไปเขาขางฝายกบฏ...... ลุงเพิ่มถูกจับ ผมเองก็เลยถูกมองไปดวย ถาผม ไปเที่ยววิ่งเตนชวยพี่อน ผมก็อาจพลอยเสียไปดวยอยางงายดายที่สุด แตถึงผมจะเสียก็ชางเถิดไมเปนไร ถา หากจะตองเสียเพราะพี่นอง ผมก็จะยอม แตขอสําคัญที่สุดนั้น ผมรูจักพี่อนเขาดี เคยกินเคยนอนอยูใกลชิดกัน มาแตเด็กเริ่มจําความได พี่อนเขาเปนคนใจแข็งไมยอมใครงายๆ เรื่องที่เกิดขึ้นคราวนี้ ผมเชื่อวาพี่อนเขาเห็นตัว เขาวาเปนฝายถูก และเขาก็ไมไดทําคนเดียว มีพวกพองเพื่อนฝูงที่เขารวมใจรวมตายกันมาก สมมุติวาถาจะมี ใครไปชวยพี่อนได ผมก็แนใจวาพี่อนเขาคงไมยอม เมื่อเรื่องมาถึงเพียงนี้แลว พี่อนเขาคงไมปลีกเอาตัวรอด แต เขาคงจะยอมติดคุกติดตะรางกับพวกพองเขามากกวา คุณแมคิดดูใหดีๆ เถิด พี่อนหรือเขาจะยอมใหใครเขาไป ชวย" พลอยตองยอมจํานนตอเหตุผลที่ตาอั้นยกขึ้นมาอาง เพราะพลอยรูอยูแกใจวาตั้งแตเล็กๆ มาแลว ตาอน ไมเคยซัดความผิดไปใหแกคนอื่นหรือสิ่งอื่น และไมเคยปฏิเสธความผิดของตนเลย ตาอนจะยอมรับผิดรับโทษ เสมอ และบางครั้งก็ยอมรับโทษแทนนองๆ เสียดวยซ้ําไป พลอยนั่งนิ่งอยูครูหนึ่ง แลวถามขึ้นวา "อั้นรูไหมวาเขาขังอนไวที่ไหน" "เวลานี้ผมยังไมรู เพราะเขาแยกขังกันหลายที่... คุณแมจะทําไม" "แมอยากไปเยี่ยม" "อยาเพิ่งเลยครับคุณแม" ตาอั้นรีบตอบสวนควันขึ้นมาทันที "ผมขอเถิดคุณแมอยาเพิ่งไปเลย เวลานี้เขา คอยมองอยูทั่วไปหมดวา ใครจะทําอะไร" "แมแตแมลูกกันก็ไปเยี่ยมกันไมไดแลวหรือ" พลอยถามอยางนอยใจ "อั้นชวยบอกแมทีเถิดวา บานเมือง เราเปนอะไรไป" "ไดนะคงไดหรอกคุณแม" ตาอั้นตอบ "แตคุณแมไมไดมีลูกแตพี่อนคนเดียว ผมอยากใหคุณแมคิดถึงลูก คนอื่นๆ บาง" "ถึงจะเปนอั้นเวลามีทุกข แมก็ตองไปหาทั้งนั้น" พลอยตอบดวยสําเนียงที่แนใจ "อั้นไปสืบมาใหแมวาอน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy307.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๗ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 4

อยูที่ไหน แมจะไปเยี่ยม" "ถาเผื่อเขาไมยอม" ตาอั้นพูดอยางไมแนใจนัก "ถาจะถึงอยางนั้นก็ใหรูกันไป เอาไวพูดกันทีหลัง" พลอยตอบ ระหวางที่พูดกันอยูนั้น ตาออดคอยๆ ยองเขามาในหอง ตาอั้นเห็นนองชายก็พยักหนา ใหเขามานั่งเปน เพื่อนแม ฝายตนเองนั้นก็ลุกออกไปขางนอก "ออดลูแม" พลอยปรารภขึ้น "ทุกวันนี้แมรูสึกเหมือนฟาพังทลายลงมาทับ รูสึกเหมือนกับวากําลังฝน รายอยู ไมรูจะทําอยางไรจริงๆ" "ลองหยิกตัวเองดูซีแม เผื่อจะตื่นบาง" ตาออดตอบ "ถาตื่นไดจริงๆ แมจะดีใจที่สุด" พลอยพูดแลวก็ถอนใจใหญ "แมจาแม" ตาออดกระซิบเบาๆ "ลูกมีอะไรจะใหแมดู แตแมตองสัญญากับลูกกอนวาจะทําใจใหแข็งไว อยาขี้ออนอยารองไห เพราะลูกไมสบายที่สุดเวลาเห็นแมรองไห" พลอยยกมือลูมหัวตาออดอยางปรานี พลางพูดวา "ดูเอาเถิด เดี๋ยวนี้ออดเห็นแมเปนเด็กไปเสียแลว ตองคอยหามไมใหขี้ออนไมใหรองไห แลวก็มีขนมมี ของเลนมาลอ ออดมีอะไรจะใหแม" พลอยอดสนใจไมได นึกวาตาออดคงมีของแปลกๆ มาอวดตามเคย เพราะ ทุกครั้งที่ตาออดไปเที่ยวเจออะไรที่แปลกที่ใหม ก็มักจะจะซื้อมาฝากแมทุกครั้ง "แมตองสัญญากับลูกกอน" ตาออดพูดกับพลอยเชิงปลอบครึ่งคาดคั้น เหมือนกับพูดกับเด็กๆ "เอาละ แมยอมสัญญาให มีอะไรจะมาใหดูก็เอามาเสียอยาร่ําไร" พลอยรับคํา ตาออดลวงกระเปาเสื้อหยิบกระดาษแผนเล็กๆ มีรอยยับและมีรอบเปอนเปรอะหลายแหง สงใหพลอย แผนหนึ่ง พลอยรับมาคลี่ออกดูก็ใจหายวาบ เพราะในนั้นมีขอความที่เขียนไวดวยลายมือตาอนวา "ในสนาม กราบเทาแมที่รักของลูกคนเดียว ลูกตองประทานโทษ ที่ลูกไดทําใหแมตองเดือดรอนเปนหวงเปนใย โดยมิไดปรึกษาหารือกอนเลย หนังสือฉบับนี้ลูกนั่งเขียนในทุงนาบางเขน ทุงนาของเมืองไทยที่มีคนไทยเปนเจาของ แตบัดนี้กําลังกลายเปน สนามรบระหวางคนไทยกับคนไทยดวยกัน เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ลูกไมรูจะอธิบายใหแมฟงอยางไรถูก และกวาจะไดรับจดหมายฉบับนี้ แมก็คง จะทราบเรื่องราวอยูบางแลว ลูกอยากจะบอกใหแมของลูกรูวาที่ลูกทําไปคราวนี้ ลูกทําไปดวยความสุจริตใจ ดวยความเชื่อถือโดยบริสุทธิ์ใจวาเปนการกระทําที่ถูก ลูกไมไดทําไปเพื่อหวังอํานาจวาสนา หรือเพื่อที่จะใหตัว เองเปนใหญเปนโตเลย แตตั้งแตลูกจําความไดมา ลูกก็เคยแตไดรับคําสั่งสอนอบรมใหซื่อสัตย กตัญูตอพระ เจาอยูหัว คุณพอคุณแมซึ่งเปนที่รักนับถือของลูก ยิ่งกวาอะไรทั้งหมดก็ไดสอนมาอยางนั้น ครูบาอาจารยทุกคน ที่ไดสอนตอเติมจากนั้น ทําใหลูกมีความจงรักภักดี มีความกตัญูมากขึ้นไปอีก ลูกเขามาเปนทหารดวยความ สมัครใจของลูกเอง คุณพอคุณแมไมเคยบังคับเลย ไดแตตามใจ เมื่อเปนทหารก็รูสึกอยูวา ตนมีหนาที่รักษาแผน ดิน รักษาพระบรมเดชานุภาพ เมื่อจําเปนตองถวายชีวิตเปนราชพลี ลูกไดรวมทําการกับเขาทั้งนี้ดวยความรูสึก ดวยความเชื่อถือเหลานี้เปนที่ตั้ง มิไดมีความหวังความปรารถนาอยางอื่นผานเขามาในหัวใจเลย ขณะนี้เปน เวลาที่คนอื่นเขาจะตองประณาม จะตองกลาวรายลูกและคนที่อยูทางฝายลูก แตลูกก็รูอยูเสมอวาแมคงจะเขาใจ และเห็นใจ และถาคุณพอมีทางใดที่จะรูได คุณพอก็คงจะพอใจ เวลานี้ลูกยึดถือเอาแตความซื่อสัตยกตัญูตอ แผนดิน และความรักที่ลูกมีตอแมทูนหัวของลูกเปนเครื่องคุมครองตัว ลูกสวดมนตภาวนาและคิดถึงคุณพอคุณ แมอยูเสมอ เพราะในยามนี้เปนยามที่ลูกคิดถึงแมมากที่สุด แมทูนหัวของลูก ขออยาใหแมนึกแมแตนอยวาลูกชอบทําสิ่งที่ลูกกําลังทําอยู ลูกไมอยากเห็นคนไทยรบ กันเองเลย และเมื่อแรกก็คิดไปไมถึง หรือไมไดนึกวาเรื่องราวจะรุนแรงถึงเพียงนี้ ลูกปนทุกลูกที่ยิงออกไปทั้ง สองมือนั้น ดูเหมือนจะถูกที่หมายทุกครั้งไป ที่หมายนั้นก็คือหัวใจของลูกเอง ทุกครั้งที่ลูกยิงปนดวยตนเองหรือ สั่งใหทหารยิง น้ําตาของลูกจะไหลออกมาโดยไมรูตัว ความรูสึกเหมือนกับลูกกําลังทําบาปอยางหนัก ตองฆาพี่ นอง บางครั้งลูกแทบจะทนไมได อยากจะวิ่งหนีหลบหลีกไปเสีย แตลูกก็ไมอาจทําได เพราะไมสามารถทิ้งทหาร ที่อยูใตบังคับบัญชา และไมสามารถเสียความสัตยที่มีตอเพื่อนรวมตายทุกคน ลูกมองไปขางหนานอกแนวของ ตน เห็นคนวิ่งขวักไขว และรูดีวาเปนทหารฝายรัฐบาล แตลูกก็ตองใจหายเมื่อคิดไดวาคนเหลานั้น เมื่อเร็วๆ นี้ เองเปนเพื่อนรวมตายของลูกทุกคน เพราะเปนทหารในกองทัพเดียวกัน เปนขาพระเจาอยูหัวองคเดียวกัน ลูก อาจอยูในฐานะเปนผูบังคับบัญชา คอยดูแลทุกขสุขของนายสิบพลทหารเหลานั้นก็ได และนายทหารฝายขาง โนนหลายคน ก็เคยเปนเพื่อนรวมกินรวมนอนรวมโรงเรียนกันมา บางคนก็เคยเปนผูบังคับบัญชา หรือเคยเปน ครูถายทอดวิชาความรูให ลูกไมเคยมีเรื่องสวนตัวโกรธเคืองกับเขาเหลานั้นเลย มีแตความรักความหวงใยความ หวังดี แตแมทูนหัวของลูก ขณะที่ลูกกําลังนั่งเขียนหนังสือนี้เอง เราตางคนตางกําลังยิงกันฆากัน ความเศราใจ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy307.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๗ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 4

ของลูกนั้นสุดที่จะพรรณนา ลูกตองเขียนหนังสือถึงแม เพราะเวลานี้เปนเวลาที่ลูกอยากอยูใกลแมที่สุด เพราะ แมคนเดียวที่สามารถปลอบลูก ใหคลายทุกขได แมคนเดียวเปนคนที่อาจอธิบายใหลูกเขาใจเหตุผลตางๆ ได ลูกอยากนั่งแทบฝาเทาแม เอาหัวซบบนตักแม อยากรูสึกวามือของแม ที่เต็มเปยมไปดวยความรักความเมตตา นั้นกําลังลูบหัวลูก การขางหนาจะเปนอยางไรตอไปลูกเองก็ไมอาจคาดคะเนได ถาลูกเปนอันตรายลงไป ลูกอยากใหแมไดรู ไววา ความคิดสุดทายของลูกจะจดจออยูที่ตัวแม แตถาหากวาลูกไมตาย ลูกจะตองหาทางมากราบเทาแม ขอ ประทานโทษที่ทําใหตองวิตกกังวลหวงใย จากลูก อน" พลอยอานจบแลวก็วางกระดาษลงอยางหมดแรง ตานั้นเหมอมองไปไกล ปากถามตาออดเบาๆ วา "ออดไปไดมาจากไหน" "ชาวนาคนหนึ่งแกเอามาให แกวานายทหารหนุมๆ ใหเงินแกไว แลวสั่งใหเอามาใหๆ ไดกอนที่ฝาย กบฏ... กอนที่ฝายโนนจะถอย แตแกมัวหนีเขารบกันเสีย เพิ่งจะอามาใหไดเมื่อเชานี้เอง" ตาออดตอบ พลอยไดแตนั่งนิ่งถอนใจใหญ ความรักความสงสารตาอนนั้น มีมากมายสุดที่จะประมาณ ตาอนเอยตาอน พลอยนึกในใจ เกิดมาก็มิใชลูกแม เชื้อสายของอนทางแมแทๆ จะมาจากไหนแมก็ยังไมรู แตคําพูดของอนแตละ คํา ชางตรงใจแมเสียจริงๆ ราวกับวาอนเกิดมาจากทองแม เปนกอนเลือดในอกแมแทๆ ลูกของแมเสียอีก บาง ครั้งดูเขาหางไกลนัก จะพูดจาอยางไรแมก็ไมเขาใจ ตาอนลูกของแมกลับพูดใหแมเขาใจไดดีกวาคนอื่น พลอย กมลงดูจดหมายที่อยูในมือ แลวก็ใจหายนึกปลงอยูในใจ ตาอนเปนคนมีนิสัยเรียบรอย จะเขียนหนังสือถึงแมครั้ง ใด ก็พยายามเขียนใหกระจางอานงาย ไมเคยมีรอยขีดรอยลบ แตคราวนี้ตาอนเขียนหนังสือหวัดกวาที่เคย มี รอยขีดฆาออกก็เปนหลายแหง ตัวหนังสือบางตัวก็มีรอยน้ําอะไรหยดลงไปถูก จนเลอะเลือนไป บางทีตาอนจะ เขียนอยูในสนามรบขณะที่ฝนตกพรํา หรือบางที... พลอยไมอยากจะนึกถึงเลย เพราะเกรงวาจะกลั้นน้ําตาไวไม อยู ......บางทีอนลูกแมจะเขียนหนังสือนี้ไปรองไหไป และรอยเลอะเลือนที่เห็นอยูนั้น จะเปนรอยน้ําตาของลูก "เดี๋ยวกอนแม" ตาออดกระซิบอยูใกลๆ ตัว "อยาลืมวาแมสัญญาไววาจะไมรองไห จดหมายพี่อนยังมีอีก ฉบับหนึ่ง" "ยังมีอีกหรือออดใหแมดูเร็ว ใครเอามา" "ฉบับนี้คุณลุงเพิ่มเอามาให ลูกถามวาไดมาอยางไรก็ไมบอก ทําทายิ้มๆ เขื่องๆ แลวพูดวา 'เชื่อฝมือลุง เถอะนาพอออด' จดหมายนั้นอยูนี่" ตาออดพูดพลางยื่นจดหมายอีกฉบับหนึ่งให พลอยรีบรับจดหมายอีกฉบับหนึ่งออกมาอาน ดวยมือที่สั่นระรัว จดหมายฉบับนี้คอยยังชั่วหนอย เพราะ ตาอนเขียนดวยลายมือเปนปกติ แสดงวามีเวลามากไมรีบรอน จดหมายนั้นมีขอความวา "กราบเทาคุณแมที่รักของลูก ลูกไดเขามอบตัวใหแกฝายรัฐบาลเขาแลว เวลานี้ลูกตองถูกคุมขังในฐานเปนผูตองหาคดีกบฏ ลูกจําใจ ตองเขียนจดหมายนี้มาถึงแม ถึงแมวาจะเสี่ยงบาง ก็เพื่อจะบอกใหแมรูวาระหวางนี้ลูกสบายดีไมเจ็บไข และไม เดือดรอนขาดแคลนอะไรทั้งสิ้น แมรูแลวขออยาไดวิตกหวงใยลูกจนเกินกวาเหตุ ลูกรูดีวาเมื่อแมทราบวาลูกมาอยูในกรุงเทพฯ แมก็คงจะตองดิ้นรนที่จะมาเยี่ยมลูก จึงใครขอรองอยาให แมพยายามมาเยี่ยมลูกเลย เพราะลูกเขาใจเอาเองวาคนที่จะไปมาหาสู ติดตอกับพวกลูกในขณะนี้ จะตองถูกเจา หนาที่เขาจองมองไปทางที่ไมดี จะเกิดสงสัยกินใจกันไปเปลาๆ ลูกพลาดพลั้งลงไปแลว ก็ขอใหลูกไดรับเคราะห กรรมไปแตคนเดียว ลูกไมอยากใหแมตองมาลําบากดวย ถาลําพังแตเพียงตัวแมคนเดียวก็คงไมสูกระไรนัก เพราะเปนแมลูกกัน แตแมตองไมลืมวายังมีนองอีกสองคน ซึ่งกําลังแข็งแรงอยูในวัยทํางานใหเจริญตอไป อันไม อยากจะพาใหเขาตองเสียไปดวย เพราะถูกระแวงสงสัย ขอใหแมวางใจไดวาลูกมิไดเดือดรอนอะไรจริงๆ ลูกคิด ถึงแมมาก แตโอกาสที่ลูกจะไดกราบเทาคุณแม คงจะยังมีอีกสักครั้งในเวลาขางหนา กราบฝาเทาแมดวยความรักและเคารพยิ่ง อน ป.ล. ขออยาใหแมพยายามมาเยี่ยมลูกเปนอันขาด เวลานี้ลูกกําลังใจแข็งใหสมกับที่เปนทหาร เมื่อพลาด พลั้งแลว ก็ตองยอมรับโทษตางๆ ดวยใจเย็น แตลูกก็ไมแนใจนัก ถาหากลูกเห็นหนาแม ลูกอาจกลายเปนเด็กขี้ แยไปไดทันที จึงอยากใหแมอดใจรอไปกอน อน"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy307.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๗ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 4

พลอยวางจดหมายอีกฉบับหนึ่งลงซอนกับฉบับแรกบนตัก ตาอั้นพูดไวไมมีผิด ตาอนเปนคนใจแข็งนัก เมื่อผิดไปแลวก็ยอมรับผิดอยางชื่นตา และพยายามปกปองมิใหความผิดของตนนั้น เปนเหตุเกี่ยวโยงไปใหคน อื่นตองลําบาก จะหาใจใครเหมือนตาอนก็ดูเหมือนจะหายาก แตตาอนใจแข็งจริงอยางที่ตาอั้นพูด และขอความ ที่เขียนมาใตตอนแรกของจดหมาย จริงหรือ พลอยไตรตรองอยูในใจ ในตอนทายคือในปจฉิมลิขิต ตาอนก็บอก มาตรงเสียยิ่งกวาตรงวา ตาอนก็ยังเปนตาอนคนเกาเหมือนกับเมื่อยังเด็กๆ มีทุกขหรือเจ็บตัวมา ก็รองไหอยาก ใหแมปลอบประโลมใหนิ่ง พลอยคิดไมตก ไมรูวาจะทําอยางไรดี หันไปถามตาออดวา "ออด ออดรูบางไหมวาเขาจะทําอยางไรกับพี่อนตอไป" "ก็ไดยินวาเขาจะสงขึ้นศาลทั้งหมด" ตาออดตอบ "แลวยังไง" "ขึ้นศาลแลวก็วาความ แลวก็พิพากษาโทษ" ตาออดตอบเรื่อยๆ "ออดวาพี่อนจะหลุดไหม" พลอยถามดวยความหวังชิ้นสุดทาย "เห็นจะยากหรอกแม" ตาออดพูดอยางหนักใจ "พี่อนก็ยกทัพมารบกับเขาจริงๆ" "แมเคยไดยินวา ใครเปนกบฏแลวตองถูกประหารชีวิต" พลอยพูดลอยๆ เหมือนกับนึกดังๆ "เห็นจะไมถึงเพียงนั้นหรอกแม" ตาออดรีบตอบเร็วๆ "เรื่องที่เกิดคราวนี้มีคนเกี่ยวของมากเหลือเกิน ใคร จะไปฆาคนมากๆ อยางนั้นได แลวพี่อนก็ไมใชคนสําคัญ เปนเพียงคนหนึ่งในคนหมูมาก อยางหนักก็คงโทษจํา ราวๆ สิปยี่สิบปกระมัง" "ถาติดคุกยี่สิบปก็เทากับตายจากกัน แมคงไมไดอยูจนตาอนออก" พลอยไดยินเสียงตนเองพูดตอบตา ออด "แมอยาเพิ่งหมดหวังเสียเลย" ตาออดพยายามพูดปลอบ "บางทีพี่อนก็จะไมตองโทษถึงเพียงนั้น ถึงแม วาจะถูกศาลพิพากษากี่ปๆ ก็ตาม ทีหลังก็ยังลดหยอนผอนโทษกันได" "ออดก็ดีแตพูดเอาใจแม" พลอยพูดขึ้น "จนบางครั้งแมฟงออดแลวดูอะไรมันงายไปหมด ขอสําคัญนั้น อยูที่แมไมอยากใหลูกของแมตองติดคุกติดตะราง จะติดมากติดนอยก็เทากัน ดวยเหตุนี้หรอก แมจึงกลุมใจ... กลุมใจเสียจริงๆ" ตาออดแหงนขึ้นมองหนาแมอยูนาน พลอยก็ไดแตนั่งมองออกไปขางหนา ใบหนาซีดเผือด ริมฝปากสั่น ระริก พยายามกัดฟนกลั้นน้ําตาไวมิใหไหลออกมา เพราะไดสัญญากับตาออดไวแลววาจะไมรองไห ตาออดนั่ง นิ่งอยูครูหนึ่งแลวก็ยกมือเกาะหัวเขาพูดวา "แมจา แมอยากรองไหก็รองเสียเถิด ออดไมวาแลว เผื่อแมจะสบายใจขึ้นบาง" คําพูดของตาออดแลนปลาบเขาไปในหัวใจ เปนเครื่องสะกิดความรูสึกทั้งหมดในตัวพลอย ที่สุมอยูนั้นให หลั่งไหลออกมา เหมือนกับปลายเข็มเล็กๆ ที่สะกิดหัวฝที่กําลังกลัดหนองนั้นใหทะลักออกมาได ความทุกข ความหวงใยในตาอนที่ทวมหัวใจมานาน ประกอบกับความรักความเอ็นดู และความปลาบปลื้มใจที่มีตาออดผู เปนลูกคอยเห็นใจ คอยเอาใจตน ทําใหพลอยกมตังลงกอดตาออดเขาไว และรัดตัวตาออดเขามาไวแนน ขณะ เดียวกันนั้นพลอยก็ทั้งหัวเราะและรองไห หัวเราะเพราะขันในคําอนุญาตของตาออดที่ใหรองไหได และรองไห เพราะความทุกขเรื่องตาอน ที่อัดอั้นเอาไวนาน อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy307.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๗ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๓ บทที่ ๗ (หนาที่ ๒) ตั้งแตนั้นมาพลอยก็เฝาสนใจฟงขาวศาลพิเศษ โดยอานจากหนังสือพิมพเทาที่มีขาวปรากฏบาง ฟงคํา บอกเลาจากตาอั้นบาง ตาออดหรือพอเพิ่มบาง แตขาวคราวทั้งหลายมิไดทําใหพลอยคลายใจลงไดเลย เพราะ ทุกขาวที่ไดยินไดเห็นนั้น ดูจะชี้ไปในแนวทางเดียวกันวา ตาอนไมมีทางที่จะรอดพนจากโทษได ยังไมแนใจก็แต วาโทษหนักหรือโทษเบาเทานั้น ตอจากนั้นมาก็มีขาววา พระเจาอยูหัวและสมเด็จพระบรมราชินีจะเสด็จยุโรป พลอยมิไดสนใจในขาวนี้ เทาไรนัก เพราะเคยเสด็จอเมริกาเพื่อรักษาพระเนตรมาหนหนึ่งแลว คราวนี้ก็เขาใจวาคงเสด็จเพื่อรักษา พระองค ความจริงตลอดเวลาที่ตาอั้นขึ้นศาลพิเศษ พลอยก็ยังมีความหวังอันเรนลับซอนอยูในอกเสมอ ความ หวังนั้นก็คือ บางทีตาอนและผูตองหาอื่นๆ จะไดอาศัยพระบารมีในหลวงคุมกันตน ถึงจะไมรอดจากอาญาเสียที เดียว ก็คงจะผอนหนักใหเปนเบาไดบาง เพราะคนเหลานั้นก็ยังมีความจงรักภักดีอยูบริบูรณ ตามความเห็นของ พลอย ขาวเสด็จยุโรปมิไดทําใหพลอยหมดความหวังนี้แตประการใด เพราะเทาที่ทราบก็วาจะเสด็จไปจากเมือง ไทย ไมกี่เดือน แลวก็จะเสด็จกลับมาอีก วันหนึ่งพอเพิ่มแตงเครื่องแบบเต็มยศอยางเขาเฝามาหาพลอยที่บานในตอนบาย พอทอดตัวลงนั่ง พอ เพิ่มก็รีบปลดคอเสื้อ ปลดกระดุมเสื้อ แลวนั่งแผอยูบนเกาอี้บอกวารอนจนจะเปนลม พลอยรีบหาน้ําเย็นใหพอ เพิ่มกิน แลวถามขึ้นวา "คุณหลวงไปไหนมา แตงเครื่องยศกลดกระบี่เต็มที่ทีเดียว" "ฉันไปสงเสด็จในหลวงที่ตําหนักแพ" พอเพิ่มตอบแลวหายใจอยางเหน็ดเหนื่อย ยกแกวน้ําขึ้นจิบ "ออ !" พลอยพูด "คุณหลวงนี่ออกแลวก็ยังเฝาแหนอยูอีก ไดราชการดีจริงๆ" พอเพิ่มหัวเราะแลวก็พูดวา "แมพลอยไมรูอะไร เมื่อฉันยังอยูในราชการเสียอีก ฉันหนีเฝาเกงที่สุด ถาไมจวนตัวจริงๆ ฉันเปนไมไป เพราะขี้เกียจแตงเครื่องยศ รอนจะตายไป แลวก็ไอเราเปนขุนนางขี้ปะติ๋วอยางนี้ ถึงจะไปไมไปก็เทากัน ไปก็ได แตเตรไปเตรมา กินน้ําชายาอุทัยคนละอึกสองอึก มองไปทางไหนก็มีแตเจาขุนมูลนาย ตองคอยคํานับตองคอย โคงกันจนเจ็บมือปวดหลัง" "ก็เพราะฉันรูอยูวาคุณหลวงไมชอบไปงาน ฉันจึงไดถาม" พลอยวา "ฉันเพิ่งเขาเฝาสมัยนี้นะเอง เริ่มตั้งแตวันเสด็จกลับจากหัวหิน หลังเปลี่ยนแปลง ฉันก็แตงตัวไปรับเสด็จ ที่สถานีจิตรลดา เห็นมีแตลูกเสือไปตั้งแถวรับ และคนไปกันหรอมแหรมฉันก็ใจหาย ตั้งใจไวตั้งแตวันนั้นวา มี งานเสด็จออกที่ไหนฉันจะเฝาทุกครั้ง จนกวาจะเดินไมไหวหรือจะตายไป วันนี้ก็เลยไปสงเสด็จที่ตําหนักแพ ถูก ไปยืนตากแดดแตเชา รอนจะเปนลมเสียใหได ขอน้ํากินอีกแกวเถิดแมพลอย" พลอยบอกเด็กรับใชใหไปหาน้ํามาอีก แลวก็ถามพอเพิ่มวา "แลวเปนอยางไรบาง คนไปสงเสด็จมากไหม" "มากพอดูอยู" พอเพิ่มตอบแลวก็นิ่งอยูครูหนึ่งจึงกลาวตอไปวา "วันนี้ฉันใหนึกสังหรณใจอยางไรชอบกล" "ทําไมคุณหลวง" พลอยถามอยางไมคอยสนใจนัก "ฉันคิดวาวันนี้คงเปนหนสุดทายในชีวิตฉัน ที่จะไดเฝาพระเจาอยูหัว" "คุณหลวงทําไมพูดอยางนั้นเลา" พลอยรีบพูดสอดขึ้นทันที "ก็ทานเสด็จไปไมนานนักก็จะเสด็จกลับ ตัว คุณหลวงเองก็ยังแข็งแรง ทําไมพูดเปนลางอยางนั้น !" "ฉันไมไดวาฉันจะตายเร็วดอกแมพลอย" พอเพิ่มตอบ "แตฉันอดนึกเกรงไปไมไดวาเสด็จคราวนี้แลว จะ ไมเสด็จกลับมาอีก" "ทําไมคุณหลวงจึงนึกอยางนั้น" "ฉันเห็นพระพักตรทานคล้ํา พระเนตรที่มองดูคนที่ไปเฝาสงเสด็จ ดูเหมือนจะมีแววอาลัยมากกวาที่เคย เห็นมา จนเสด็จขึ้นเรือพระที่นั่งแลว ก็ยังทรงยืนอยูที่กราบเรือ โบกพระหัตถอยูอีกนาน ตาฉันจะฝาดไปหรือ อยางไรก็ไมรู แตฉันมองเห็นไปวาทานกวาดพระเนตรมองดูบานเมือง ปราสาทราชฐานของทานเหมือนกับจะสั่ง ฉันยืนสงเสด็จอยูจนเรือพระที่นั่งลับไปจึงไดกลับ ใจหายไมอยูกับเนื้อกับตัวเลยแมพลอย จนบัดนี้รูสึกเหมือนคน ไมมีขวัญ" พูดแลวพอเพิ่มก็ถอนใจใหญ คําพูดและใบหนาของพอเพิ่มทําใหพลอยรูสึกวังเวงใจ และทําใหนึกสังหรณไปในทางไมดี ถาพระเจาอยู

http://www.geocities.com/siamstory/ploy307_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๗ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 4

หัวไปคราวนี้แลว ไมเสด็จกลับจริงอยางที่พอเพิ่มวา ความหวังที่พลอยเคยมีสําหรับตาอนก็หมดไป การสูความ กันในศาลนั้นพลอยไมมีความเขาใจ และไมเคยนึกเลยวาจะทําใหตาอนรอดพนไปได พลอยไดแตนึกเอาเองวา ในที่สุด พระเจาอยูหัวคงจะทรงกระทําอะไรสักอยางหนึ่ง เพื่อชวยเหลือคนที่จงรักภักดีและมั่นคงในความกตัญู ความหวังเชนนี้ตาออดเคยบอกตรงๆ วาเปนความหวังที่เลื่อนลอย เพราะตามรูปการณที่เปนอยูในขณะนี้ พระ เจาอยูหัวไมทรงอยูในฐานะที่จะทําอะไรได เปนเรื่องของรัฐบาล ผูรับผิดชอบในการปกครองแผนดินโดยแท แต พลอยก็ทําหูทวนลมเสีย ไมฟงไมพยายามเขาใจคําอธิบายของตาออด เพราะพลอยอยากจะเก็บเอาความหวัง ชิ้นสุดทายนั้น ไวเปนเครื่องคุมกันตัว ใหนานที่สุดที่จะนานได แตคําพูดของพอเพิ่มวันนี้ ทําใหความหวังของ พลอยตองแกวงไกวไป พลอยไดแตพยายามพูดไปเสียอีกทางหนึ่ง เพื่อรักษาความหวังของตนไว "ที่คุณหลวงนึกอยางนี้คุณหลวงนึกเอาเอง หรือวาไดยินใครพูด" พลอยถามพอเพิ่มขึ้นหลังจากที่ไดนั่งนิ่ง อยูครูหนึ่ง "ฉันนึกเอาเองแหละแมพลอย" พอเพิ่มตอบทําใหพลอยโลงใจขึ้นถนัด "ออ !" พลอยเอยปาก "ฉันนึกวาไดยินใครที่ไหนเขาพูดเสียอีก" "ถึงฉันจะนึกเอาเองฉันก็มีเหตุผล" พอเพิ่มวา "แลวฉันก็นึกอะไรไมคอยจะผิด" พอเพิ่มพูดตอไปอยาง ภาคภูมิ "วุย ! ฉันขวางคุณหลวงจริงๆ ทีเดียว" พลอยอุทานขึ้น "อยูดีๆ ไมวาดี ชอบเที่ยวนึกโนนนึกนี่แลวก็ เที่ยวคุยไป ระวังใหดีเถิะ อีกหนอยจะโดนขังอีกหรอก" "แมพลอยนึกวาฉันกลัวโอษฐภัยอยางนั้นรึ" พอเพิ่มถาม "กลัวอะไรนะคุณหลวง" พลอยตองออกปากถามเพราะไมเคยไดยินคํานี้มากอนเลย "โอษฐภัย" พอเพิ่มย้ํา แลวก็อธิบายตอไปวา "พูดไมดี พูดไมถูกใจเขาๆ ก็จับไปขัง......ไมมีเสียละแม พลอย เดี๋ยวนี้มาจับฉันไปขังเลนงายๆ อยางแตกอนไมไดหรอก" "ทําไม" พลอยซัก "อาว ! ฉันก็ระวังตัวเปนเหมือนกันนะซี" พอเพิ่มวา "เวลานี้จะพูดอะไรกับใคร ฉันก็ดูคนเสียกอนไมไวใจ กันก็ไมพูด วาแตเรื่องในหลวงเสด็จคราวนี้เถิด ฉันยังคิดอยูวาทานจะไมเสด็จกลับอยูนั่นเอง" "โธ ! ฉันกลุมใจคุณหลวงจริงๆ ทีเดียว" พลอยรอง "มีเหตุอะไรหรือที่คุณหลวงจะตองคิดไปถึงเพียงนั้น" "มีซีนา !" พอเพิ่มตอบ "ก็เรื่องระหวางในหลวงกับรัฐบาลของทานเองนะแหละ ฉันวาไปดวยกันไมได คอยดูไปเถิด" "ฉันยังไมเห็นมีอะไรเลยคุณหลวง !" พลอยตอบ "ก็ในหลวงทานก็ทรงยอมทุกอยาง การปกครองแบบ ใหมทานก็ทรงยอม เห็นตั้งใครตอใครเปนอะไรทานก็ทรงยอม ทางฝายรัฐบาลก็เห็นเขาเคารพนับถือทานเหมือน แตกอน ฉันไมเห็นมีอะไรจะตองขัดกันเลย" "แมพลอยคอยดูไปก็แลวกัน" พอเพิ่มวา "คนสองคนที่ทําอะไรดวยกันและตั้งใจทําของอยางเดียวกัน บางทีก็ขัดกันไดมากๆ อยางเวลานี้ทางฝายรัฐบาลเขาก็วาเขาเปนประชาธิปไตย ในหลวงทานก็ทรงเปน ประชาธิปไตย และใจฉันๆ ก็เห็นวาทานทรงเปนประชาธิปไตยมากกวาใครๆ ทั้งหมดในเมืองไทยเราเวลานี้ ตรง นี้แหละที่ฉันกลัวนัก ถาในหลวงทานไมทรงเปนประชาธิปไตย ปลอยใหรัฐบาลเปนไปแตขางเดียวก็ไมสูกระไร แตนี่ทานทรงเปนประชาธิปไตยและเปนเอามากกวาใครๆ ฉันจึงเกรงไปวาทานจะไมเสด็จกลับ" "คุณหลวงพูดกลับไปกลับมา ฉันเลยฟงไมรูเรื่อง" พลอยวา "ฟงแลวเวียนหัวจริงๆ ทีเดียว" "ฉันเองก็เวียนหัวเหมือนกันแมพลอย" พอเพิ่มตอบยิ้มๆ แลวก็ชวนพลอยคุยเรื่องอื่น การดําเนินคดีกบฏในศาลพิเศษยังคงดําเนินไปเรื่อยๆ ในที่สุดศาลก็ตัดสินวางโทษจําเลยแตละคนไป ตามลําดับ พลอยเห็นโทษคนอื่นแลวก็กลุมใจ กินไมไดนอนไมหลับ เพราะโทษที่วางนั้นดูรุนแรงนัก ประหาร ชีวิตก็มี จําคุกตลอดชีวิตก็มี ยี่สิบปก็มี แตแลววันสําคัญที่พลอยพยายามผลักใหพนไปจากตัว ไมอยากใหมาถึง นั้น ก็มาถึงจนได ตาออดเดินเบาๆ เขามาหาพลอยในหองวันหนึ่งแลวก็พูดวา "แมจา ทําใจใหดีๆ ไวหนอย ลูกมีขาวไมสูดีมาบอก" พลอยหันขวับไปมองหนาตาออดทันที เอื้อมมือไปจับแขนตาออดไวแนน เหมือนกับจะระวังตัวเองมิให ลมลง หัวใจนั้นเตนแรงไมเปนจังหวะ ริมฝปากที่เริ่มจะสั่นนั้นถามออกไปไดเพียงวา "ตาอน..." ตาออดพยักหนารับคําแลวก็ถอนใจใหญ "เปนอยางไร....ออดบอกแมเร็ว" พลอยไดยินเสียงของตนเองแผวเบาเหมือนกับพูดมาจากทางไกล ตาออดกลืนน้ําลายอึกหนึ่งแลวก็ตอบวา "ประหาร" แลวตาออดก็รีบรับตัวแมของตนซึ่งโงนฟุบลงไปที่หนาอก พลอยหนามืดไปชั่วครู เมื่อไดยินขาวรายเกี่ยวกับตาอน ความจริงพลอยไมเคยหวังถึงกับวา ตาอนจะ หลุดพนไดรับการปลดปลอย แตก็ไมเคยไดคาดคะเนไววา ตาอนจะตองรับโทษหนักถึงประหารชีวิต คําพูดของ ตาออดคําเดียว แทบจะทําใหหัวใจของพลอยปลิวไปจากตัว รูสึกหนาวไปทั้งสรรพางคกาย ทั้งที่เหงื่อเม็ดโปงๆ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy307_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๗ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 4

ผุดออกมาบนใบหนา ตาออดคอยๆ พยุงใหแมลงเอนตัวนอน แลวก็เอาหมอนมาหนุนศีรษะให พลางยื่นยาดม ซึ่งมีอยูในเชี่ยนหมากใหพลอย พลอยนอนลืมตาดูเพดานหอง เห็นเพดานนั้นหมุนชาๆ ก็หลับตาลงแลวพูดเบาๆ กับตาออดวา "เดี๋ยวกอนออด อยาเพิ่งไปไหน ใหแมไดนอนหลับตาสักครู แมไมสบาย" "แมนอนนิ่งๆ เสียกอน ออดจะอยูที่นี่" ตาออดตอบแลวก็หาพัดจากขางที่นอน มาโบกใหแมเบาๆ อีกครู หนึ่งพลอยจึงไดรวบรวมสมาธิและความรูสึกนึกคิดได พอที่จะถามตาออดวา "ขาวแนหรือออด ไมผิดพลาดไมใชหรือ" "ไมผิดหรอกแม ถาผิดออดก็คงไมเอามาบอกใหแมตกใจเปลาๆ" ตาออดตอบเบาๆ พลอยถอนใจใหญ ลืมตาขึ้นมองหนาตาออด เพราะเวลาหลับตาก็ไดแตเห็นหนาตาอน "อั้นรูแลวหรือ" พลอยถามตอไป "รูแลว" ตาออดวา "พี่อั้นเขาเปนคนบอกเรื่องนี้กับลูกเอง แลวใหมาบอกคุณแม" "แลวพี่อั้นไปไหน" "เขายังทํางานอยูที่กระทรวง" ตาออดหยุดอยูครูหนึ่ง แลวก็อธิบายตอไปวา "เขาขอใหลูกเปนคนมาบอก คุณแมใหรูไวกอน ลูกจะใหเขามาบอกเอง เขาก็ไมยอม เขาบอกวาเขาทําไมได ใจไมแข็งพอ เขาดูหนาคุณแม ตอนนั้นไมได" พลอยรูสึกตัววาน้ําตาเริ่มจะไหลรินๆ ออกมาตามใบหนา ตาออดสงผาเช็ดหนาใหผืนหนึ่ง พลอยก็รับมา เช็ดหนาแลวพูดตอไปวา "แมไมเขาใจเลยออด ทําไมอนถึงไดเคราะหรายถึงเพียงนี้ คนอื่นเขาเพียงติดคุก...แตทําไมถึงคราวอน จึงตองประหารชีวิต" ตาออดถอนใจใหญแลวก็ตอบวา "เรื่องนี้พูดยากเหลือเกินแมจา ถาจะวาไปจริงๆ พี่อนก็ดูเหมือนจะเปนตัวการวิ่งเตนมากกวาคนอื่น เพราะพี่อนไมไดมาตามคําสั่งของนายเทานั้น แตกอนเกิดเรื่องพี่อนยังไดติดตอกับใครตอใคร และเที่ยวชักชวน เพื่อนฝูงใหรวมมือดวย เทาที่ลูกวามานี้ตามที่เขาสืบพยานในศาล และก็เห็นจะเปนเพราะเหตุนี้ พี่อนจึงรับโทษ หนักที่สุดมากกวาคนอื่นๆ หลายคน" "แมก็ไมเคยเห็นอนเปนศัตรูตอใคร แลวก็ไมรูวามีใครเกลียดชัง ทําไมจึงมีคนมาใสความ" พลอยพูดดวย ความคิดความรูสึกของผูหญิงแทๆ ที่เห็นวาทุกอยางที่เปนของตนนั้น ตองเปนฝายถูกฝายดีเสมอ "เห็นจะไมมีใครเขาใสความหรอกแม" ตาออด "พี่อนเองเขาก็ใหการตามนั้นเหมือนกัน" คําตอบของตาออดทําใหพลอยตองนิ่งไปครูใหญ แตอีกสักครูหนึ่งพลอยก็พูดเปรยๆ ขึ้นวา "แมตองไปหาอนใหได" "ไดซีแม" ตาออดตอบ "ตอไปนี้ก็คงจะไปหาเยี่ยมเยือนกันไดบาง แลวลูกจะไปจัดการเรื่องนี้ใหเอง" "เมื่อไร ออด" พลอยถามอยางรอนใจ เมื่อรูวามีโอกาสจะไดพบตาอนได พลอยก็ใจดีขึ้นบาง "ออดจะทําใหเร็วที่สุด ระหวางนี้แมตองรักษาตัวใหดี อยาเจ็บไข" "แมไมเจ็บไขอะไรเลยออด" พลอยพูดแลวก็รีบลุกขึ้นนั่งทันที "ออดรีบไปสืบดูวาเขาจะใหแมไปเยี่ยม ได ที่ไหน เมื่อไร แลวก็ขอใหรีบทําเร็วๆ อยาเถลไถล" วันนั้นทั้งวันและรุงขึ้นอีกวันหนึ่ง พี่นองเพื่อนฝูงที่ทราบขาวตางก็พากันมาเยี่ยมพลอย คุณเชยและหลวง โอสถมาเยี่ยมในตอนบาย อยูกินขาวเย็นดวย และรุงขึ้นคุณเชยก็มาอยูกับพลอยทั้งวัน ชอยก็ออกจากในวังมา หาในวันรุงขึ้น ทุกคนรูเรื่องและรูใจพลอยเปนอยางดี ฉะนั้นทุกคนจึงไมปริปากพูดถึงเรื่องตาอน แตพูดคุยถึง เรื่องอื่นๆ ครั้นพลอยพูดถึงเรื่องตาอนขึ้นมากอน ทุกคนก็พยายามปลอบโยนใหพลอยทําใจใหดีๆ ไว แตเทาที่ พลอยสังเกต พลอยก็รูวาทุกคนนั้นหมดหวังไมนอยไปกวาพลอยเลย พอเพิ่มเปนคนๆ เดียวที่ใหความหวังแกพลอยไดบาง และชวยพูดจาใหพลอยมีกําลังใจทรงกายไดตอไป เปนปกติ เมื่อพอเพิ่มมาหาหลังจากรูขาวคําพิพากษา พอเพิ่มก็พูดขึ้นวา "แมพลอยทําใจดีๆ ไวกอนยังไมเปนไรหรอก" "คุณหลวงจะใหฉันทําใจดีไปถึงไหน เมื่อเขาจะเอาลูกฉันไปฆาทั้งคน ถาลูกฉันเจ็บไขเปนอะไรตาย ฉันก็ พอจะทําใจไดถูก แตนี่มันคนละอยาง" "อยาเพิ่งตีโพยตีพายไปเลยนา เชื่อฉันเถอะ" พอเพิ่มวา "ถึงศาลจะพิพากษาแลว ก็ใชวาเขาจะไปฆาแกง ไดทันทีเมื่อไร ยังมีทางเหลืออีกเปนกอง" "ทางอะไรอีก" "ทางทูลเกลาถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ" พอเพิ่มตอบ "คุณหลวงวาจะมีหวังบางไหม" พลอยถามอยางออนใจ "แมพลอย" พอเพิ่มพูดดวยสําเนียงที่เหมือนกับสอนเด็กๆ "ตราบใดที่คนเรายังมีลมหายใจอยู เราก็ตองมี ความหวังอยูเรื่อยๆ"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy307_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๗ (หนาที่ ๒)

http://www.geocities.com/siamstory/ploy307_2.html

Page 4 of 4

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๘ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๓ บทที่ ๘ (หนาที่ ๑) ตั้งแตตาอนเริ่มมีเรื่องตองอยูในที่คุมขัง จนในที่สุดเปนนักโทษประหารรอเวลาประหารอยูในคุก พลอยก็ เริ่มจะรูตัววา ตาอั้นลูกชายคนโตของตนเองแทๆ นั้นไมอยูในฐานะที่จะชวยเหลืออะไรได พลอยเชื่อเสมอวาตา อั้นมิไดถือเอมความบาดหมาง ระหวางตนกับตาอนนั้นมาเปนเครื่องกีดขวาง และพลอยก็รูดีวาตาอั้นเห็นใจ พลอย สงสารพลอย ไมนอยไปกวาลูกคนอื่น ตลอดจนมีความวิตกหวงใยตาอน ไมนอยไปกวาพี่นองคนอื่นหรือ ญาติอื่นๆ แตสิ่งที่เปนอุปสรรคอันแทจริงที่คอยกรีดขวาง มิใหตาอั้นเขามาเกี่ยวของกับตาอนในยามนี้ ก็เพราะ ตาอั้นอยูในฐานะที่ตองระวังรักษาตัว มิใหใครมองดูดวยความระแวงสงสัย "ใคร" นั้นก็หมายถึงผูมีอํานาจ วาสนาอยูในขณะนั้น เหตุผลของตาอั้นเปนเหตุผลในทางการเมือง ซึ่งพลอยมิไดสนใจหรือพยายามที่จะเขาใจ ไดแตจดจําไวในใจวา "การเมือง" อันเปนของใหมที่พลอยเพิ่งจะรูจักนี้ นอกจากจะเปนเหตุหลายอยาง และมี ผลมากมายตามที่ตาออดเคยบอกไวแลว "การเมือง" นี้ยังเปนเหตุหนึ่งที่ทําใหพี่นองตองระวังตัว ไมสามารถ เขาชวยเหลือกันไดเต็มมือ ขณะที่มีทุกขเขายามคับขันนั้นดวย เมื่อพลอยรูวาตาอั้นไมสามารถจะเปนที่พึ่งไดในยามนี้ พลอยก็หันเขาหาคนอีกสองคน ซึ่งพลอยเห็นวา จะยังเปนที่พึ่งไดอยู คนสองคนนั้นก็คือตาออดคนหนึ่งและพอเพิ่มอีกคนหนึ่ง เมื่อมีทุกขหรือมีความวิตกเกี่ยว กับตาอนขึ้นมา พลอยก็ตองหันหนาเขาปรึกษาสองคนนี้เนืองๆ ตาออดนั้นมีแตความเห็นใจ และคําพูดที่ออน หวานปลอบโยน สําหรับใหแกแมของตนไดเสมอไป แตจิตใจของตาออดดูเหมือนจะทอดอาลัย ในชะตากรรม ของพี่ชายของตน ไมมีความหวังอะไรมากนัก ผิดกับพอเพิ่มซึ่งเต็มไปดวยความหวัง มีคําพูดตางๆ และเหตุผล ตางๆ ที่สามารถปลุกปลอบความหวังของพลอย ซึ่งหดหูลงไปทุกวันนั้น ใหกลับฟนขึ้นมาไดไมมากก็นอยทุกที ไป พอเพิ่มพูดกับพลอยในวันตอมาวา "แมพลอย ฉันเกิดสังหรณอะไรขึ้นมาอีกแลว" พลอยใจคอไมสูจะดีนัก เมื่อไดยินพอเพิ่มพูดถึงความสังหรณของตน เพราะนึกเสียกอนวาจะไปในทางที่ ไมดี ปากนั้นตอบพอเพิ่มไปวา "สังหรณอะไรอีเลาคุณหลวง ฉันกลัวแลวไมอยากไดยินเลย เทาที่มีทุกขอยูเวลานี้ ฉันก็แทบจะทนไม ไหวอยูแลว" "ไมเปนไรหรอกนาแมพลอย" พอเพิ่มวา "ฉันสังหรณดีๆ ก็เปนเหมือนกัน" พลอยคอยใจชื้นขึ้นแลวถามวา "อะไรคุณหลวง ถาสังหรณในทางดีฉันก็อยากฟงเหมือนกัน" "เรื่องของพออนนั่นแหละแมพลอย" พอเพิ่มตอบ "ฉันไปนอนคิดอยูเมื่อคืนนี้ นอนไมหลับอยูจนดึก เพราะทีแรกเปนหวงเต็มทีเหมือนกัน แตยิ่งคิดไปก็หายหวง ฉันนึกวาพออนคงไมเปนไรหนักหนาหรอก คอยดู ไปเถิด" "ฉันก็อยากจะนึกอยางคุณหลวงวเหมือนกัน" พลอยพูด "แตพยายามนึกเทาไรก็นึกไมออก ดูการขาง หนามีแตมืดไปหมด ถาฉันนึกสังหรณไดดีๆ อยางคุณหลวงได ฉันก็คงจะสบายใจหานอยไม" "ฉันนึกอะไรออกขึ้นมาอยางหนึ่ง แมพลอย" พอเพิ่มลดเสียงลงเปนกระซิบ พลางกวาดตาดูรอบๆ ตัว เผื่อจะมีใครคอยฟงเรื่องราวที่กําลังพูดกันอยูนั้นบาง เมื่อเห็นวาไมมีใครก็พูดตอไปวา "คนที่ถูกศาลพิพากษาประหารชีวิตนั้น มิใชวาจะเอาไปประหารกันไดงายๆ ดอกแมพลอย ตองให ในหลวงทานลงพระนาม ในพระบรมราชโองการสั่งใหประหารเสียกอน เขาจึงจะเอาไปทําตามคําพิพากษาได" "แลวยังไง" พลอยถามอยางงงๆ "แลวจะยังไงเสียอีกเลา ในหลวงทานคงไมลงพระปรมาภิไธยงายๆ นะซี" พอเพิ่มตอบอยางมั่นใจ "จริงหรือนี่คุณหลวง" พลอยถามปากคอสั่นหัวใจเตนแรง ตาอนจะตองติดคุกติดตะรางอยางไรตอไป และ นานเทาไรก็ชางเถิด ขณะนี้พลอยขอแตเพียงอยางเดียวคือชีวิตของตาอนเทานั้น "ฉันคิดวาอยางนั้น" พอเพิ่มกระซิบตอไป "แมพลอยคิดดูใหดีๆ ก็แลวกัน เรื่องนี้ไมใชเรื่องธรรมดา เปน เรื่องสลับซับซอน ผูกพันกับคนจํานวนมาก ถาเปนนักโทษคดีปลนฆาเจาทรัพยหรืออะไรอยางนั้น ก็เปนอีกเรื่อง หนึ่ง แตเรื่องนี้ไมใช เรื่องเปนอยางไรมาจากไหน เกิดขึ้นไดอยางไร ก็รูกันอยูทั่วๆ ไปแลว ฉันเอาความรูสึกใน ใจฉันเองเขาเทียบ พวกจําเลยคดีนี้ก็มิใชใครที่ไหน เปนคนที่เคยเห็นๆ หนากันอยู เคยทําราชการงานเมืองมา ดวยกันทั้งนั้น แลวก็มากคนเหลือเกิน จะเอาไปฆาใหหมดก็ดูกระไรๆ อยู ฉันวาถาในหลวงทานทรงยับยั้งไว ก็ คงไมมีใครกลาจะไปทํา"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy308.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๘ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 5

พลอยถอนใจใหญเมื่อเห็นชัดวาสงหรณหรือความคิดอันดีของพอเพิ่มนั้น เกิดจากใจพอเพิ่มเองทั้งสิ้น มิ ไดมีเหตุผลหรือหลักฐานที่หนักแนนยิ่งไปกวานั้น พลอยปรารภขึ้นวา "ฉันยังไมอยากจะคิดหวังอะไรใหมากเลยคุณหลวง กลัวจะไมเปนจริงจะยิ่งโทมนัสไปใหญ เพียงเทานี้ฉัน ก็แกลงไปมากแลว รองไหเสียจนแทบไมมีน้ําตาเหลือ คุณหลวงอยาลืมวาเวลานี้ใครๆ เขาก็เรียกตาอนวากบฏ ทั้งเมือง ใครเขาจะไปยกให โทษกบฏนั้นเขาก็ตองลงโทษอยางหนัก ใครๆ ก็รู" "ไมแนเสมอไปหรอกแมพลอย" พอเพิ่มยังพูดดวยความหวังอันไมมีลดถอย "ดูแตเมื่อครั้ง ร.ศ. ๑๓๐ เมื่อ แผนดินกอนนั้นสิ เขาคิดรุนแรงถึงกับจะทํารายในหลวง แตทานก็ไมเอาชีวิต เพียงใหจําไวเทานั้น เดี๋ยวนี้เขาก็ ออกกันจนหมดแลว เมื่อคราวพระราชทานอภัยโทษตอนผลัดแผนดินใหม แมพลอยอยางเพิ่งไปทอถอย หมด กําลังใจเสียทีเดียว รอดูไปกอนเถิด ทุกขมากนักเดี๋ยวจะเจ็บไขไป" พอเพิ่มเตือนอยางผูใหญทิ้งทายไว พลอยไดยินคําพอเพิ่มวาก็ยิ่งจะเห็นจริง คิดถึงความหลังที่ผานไปแลวนั้นขึ้นมาได พลอยยังจําไดดี เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตนรัชกาลที่ ๖ นั้น เปนเรื่องที่ซูซามาก ใครก็รูและพูดจาเลื่องลือกันทั่วไป พลอยยัง สาวๆ อยู ตาอนยังเล็ก ตาอั้นก็ยังเพิ่งจะเดินไดไมนาน คุณเปรมเปนคนมาเลาใหฟงอยางตื่นเตนวา ไดมีการจับ กุมพวกคิดการรายตอแผนดินไวไดหลายคน มีทั้งทหารและพลเรือน คนพวกนั้นคิดประทุษรายพระเจาอยูหัว ถึงกับวานัดหมายกัน ใหไปยิงพระองคเสียที่สถานีรถไฟบางกอกนอย ขณะที่เสด็จกลับจากนครปฐม แตเดชะ พระบารมี และเทพยดาคุมครอง เรื่องจึงรูกันขึ้นเสียกอน จับกุมตัวไวไดเปนจํานวนมาก คุณเปรมยังบอกวา บัญชีชื่อผูคิดการครั้งนั้นขาดหายไปหลายคน คงไดแตตัวผูที่มีชื่อในบัญชี พลอยจําไดแนวา ความรูสึกของคน ทั่วไปในขณะนั้นตรงกันในขอที่วา บุคคลที่ถูกจับในคราวนั้น คงจะไมมีใครรอดอาญาแผนดิน เสียงที่พูดกันนั้นก็ วาจะตองหัวขาดกันทุกคนไป แตพอเพิ่มก็พูดถูก เพราะในตอนสุดทายไดทรงประมหากรุณายกโทษประหาร เสีย คงเหลือแตโทษจํา และในที่สุดเมื่อลนเกลารัชกาลที่ ๖ ไดเสวยราชยมาครบ ๑๕ ปบริบูรณ ในเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๘ ก็ทรงพระมหากรุณาใหปลดปลอยตัวนักโทษเหลานี้ ทุกคนก็ไดหลุดพนโทษออกมา เปนอิสระ พลอยนึกดวยใจของแมที่รักลูกวา ตาอนมิไดทําผิดมากมายเหมือนคราวนั้น และก็ดูเหมือนจะรูกันอยู ทั่วไปวาตาอน และคนอื่นๆ อีกเปนอันมากในคดีนั้น ตองประสบเคราะหกรรม เพราะความซื่อสัตยจงรักภักดี ซึ่งถึงแมวาจะผิดกาลผิดสมัย ก็ยังเปนความจงรักภักดีอยูนั่นเอง ก็เมื่ออยางนี้แลว เคราะหกรรมของตาอนจะ รายแรง ถึงกับชะตาขาดลงทีเดียวหรือ พลอยยังไมสามารถจะเชื่อสนิทวาจะเปนไปได ความรูสึกในใจ หรือ ความหวังที่มาแตแรกวา คงจะมีอะไรสักอยางหนึ่งเขามาชวยเหลือตาอน ใหรอดพนนั้นกลับผุดขึ้นมาในใจอีก ความหวังนั้นเหมือนกับเปลวไฟดวงเล็ก ที่จุดอยูในหัวใจเสมอ ถึงแมวาความมืดมนจะผานเขามาในหัวใจสัก เทาไร เปลวไฟดวงเล็กนั้นก็มิไดดับลง ยังคงใหแสงสวางนอยๆ อยูเสมอ พลอยหารูไมวา เปลวไฟแหงความ หวังนั้น ไดถูกหลอเลี้ยงไวดวยเชื้อจากคําพูดของหมอดูจีนสองสามคํา ที่ไดพูดไวนาน จนพลอยลืมเสียสนิทแลว วาตาอนโตขึ้นจะตองติดคุก แตแลวก็จะไดออก และเมื่อออกแลวก็จะสบายไปจนตาย ถึงแมวาพลอยจะไดลืม เรื่องราวและคําพูดนั้นแลวทั้งหมด แตคําพูดนั้นก็ยังติดอยูภายใตสํานึก คอยเลี้ยงความหวังใหมีอยูในหัวใจของ พลอยตลอดมา ถาหากวาความหวังนี้หมดสิ้นลงเมื่อใด บางทีพลอยก็คงไมอาจทนทานความทุกข ที่สุมกันหนัก ขึ้นในหัวใจนั้นได พลอยเคยนึกอยูบอยๆ วาบางทีในขั้นสุดทาย พระเจาอยูหัวหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น จะเขามา เกี่ยวของชวยเหลือตาอนไดทัน มิใหตองเปนอันตราย เมื่อพอเพิ่มมาพูดครั้งหนึ่งวาพระเจาอยูหัวจะไมเสด็จ กลับ ความหวังที่เหมือนเปลวไฟอันนอยนั้น ก็ริบหรี่ลงไป แตคําพูดของพอเพิ่มวันนี้วาพระเจาอยูหัวยังมิไดทรง ลงพระปรมาภิไธย ใหประหารนักโทษคดีกบฏ และก็อาจไมทรงลงพระปรมาภิไธยก็ได ทําใหเปลวไฟที่เกือบจะ มอดอยูแลวนั้น กลับมีแสงสวางเรืองๆ ขึ้นมาอีก ตาออดรับปากไววาจะพาพลอยไปเยี่ยมตาอนใหจนได พลอยก็ไดแตตั้งใจคอยเวลานั้น ขณะเดียวกัน พลอยก็มิไดปริปากถึงเรื่องนี้ใหตาอั้นรู เพราะเกรงไปวาตาอั้นจะไมพอใจ หรือจะหาทางปองกันเสีย มิใหพลอย ไปเยี่ยมตาอนได ฉะนั้นเมื่อตาอั้นถามขึ้นวันหนึ่งวา "ไดยินออดเขาวาคุณแมจะไปเยี่ยมพี่อนมิใชหรือ" พลอยก็ ไดแตตอบตะกุกตะกักอยางลําบากใจที่สุด จนตาอั้นคุกเขาลงตรงหนา จับมือทั้งสองของพลอยไปรวบไวในมือ ของตน แลวพูดดวยเสียงที่แสดงถึงน้ําใสใจจริงวา "คุณแม ขอใหคุณแมเชื่อผมสักทีเถิดวาผมเห็นใจคุณแมเปนที่สุด ถาคุณแมอยากไปเยี่ยมพี่อนก็ไปเถิด ผมไมหาม เพราะเวลานี้คดีก็เสร็จลงแลว จะไปเยี่ยมตามเวลาที่เรือนจําเขาอนุญาตก็ได ผมเปนหวงอยางเดียว คือตัวคุณแมเอง ผมอยากถามคุณแมวาคุณแมทําใจได พรอมที่จะไปเยี่ยมพี่อนไดหรือยัง ที่ผมไมอยากใหคุณ แมไปแตกอนก็เพราะเรื่องนี้ เกรงวาคุณแมไปเห็นพี่อนเขาในที่คุมขังเปนนักโทษ คุณแมจะยิ่งทุกข ยิ่งวิตกกังวล หนักขึ้นไปกวาที่ยังมิไดเห็น อาจทําใหคุณแมถึงเจ็บไขลงไปก็ได ขอนี้หรอกที่ผมเปนหวงมาก เดี๋ยวนี้คุณแม พรอมหรือยัง คุณแมเขาในหรือยัง วาพี่อนเปนคนโทษในคุก มิใชวาอยูอยางคนธรรมดาที่จะเยี่ยมเยียนไปมาหา สูกันเปนปกติ" พลอยเงยหนาขึ้นสูง สายตาเพงไปที่ขอบเพดาน ไมอยากใหตาอั้นเห็นน้ําตา ไมอยากใหตาอั้นจับไดจาก ใบหนาไดวา ตายังไมพรอมเลยที่จะเห็นตาอนอยูในคุก และเมื่อไดเห็นแลวจะเปนอยางไรตอไปก็สุดที่จะเดา แต ถึงอยางนั้นพลอยก็จะไปหาตาอนใหจงได ถาพลอยซึ่งตาอนรักเปนแมไมไปหาตาอนในยามนี้แลว โลกมนุษยซึ่ง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy308.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๘ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 5

กําลังเสื่อมหลักฐานหมดที่ยึดเหนี่ยวลงทุกวัน ในสายตาของพลอยก็จะหมดราคมจนสิ้นไปเลย พลอยตอบตาอั้น ไป ดวยถอยคําที่ไมตรงตอความรูสึกแมแตนอยวา "แมพรอมแลวอั้น ทําใจไดถูกแลว แมไมเปนอะไรหรอกอั้น อยาวิตกเลย" ตาอั้นนิ่งอยูครูหนึ่งเหมือนกับจะชั่งใจตัวเอง แลวก็พูดดวยสําเนียงที่แสดงถึงความโลงใจอยูบางวา "ถาอยางนั้นก็ดีแลว อีกสองสามวันคุณแมจึงคอยไป เพราะตองจะตองไปถึงบางขวาง ตองไปเรือ ผมจะ ไปหาเรือยนตเตรียมไวให เวลาคุณแมจะไปก็เอาออดเขาไปดวย" ตาอั้นมิไดเคยปริปากเลยวาตนเองนั้น ก็ปรารถนาจะไปเยี่ยมพี่ชายอยูเหมือนกัน แตที่ไมไปก็เพราะยัง ไมแนใจพี่ชายของตัวเอง วาจะมีความรูสึกอยางไรสําหรับตนเวลานี้ เมื่อพูดแลวตาอั้นก็เดินหายไปทางอื่น พลอยนั่งทอดสายตาตามดูตาอั้น ที่กําลังเดินออกจากหองไปจน ลับตา เมื่อตาอั้นพนไปแลวพลอยก็ถอนใจใหญ พลอยก็ถอนใจใหญ การเมืองนี้เองเปนเหตุ พลอยนึกอยูในใจ การเมืองเปนเหตุสําคัญที่ทําใหพลอยตองเสียลูกไปถึงสองคน เมื่อกอนที่การเมืองจะเขามาเกี่ยวของนั้น ลูกทุก คนยังอยูกับพลอยเปนกรรมสิทธิ์ อยางตาอนถึงแมจะไมไดอยูรวมหลังคาเดียวกัน ดวยมีราชการบังคับตองไป อยูหัวเมือง แตตาอนก็ยังไมไปไหน พลอยรูดีวามีธุระปะปงอะไร หรือสักแตวาคิดถึงจะสงขาวไปยังตาอน พอรู เขาก็จะมาโดยเร็วที่สุดเทาที่จะเร็วได สวนตาอั้นถึงแมวาจะมีเมียตางชาติตางภาษา ทําใหตองหางเหินออกไป บาง แตตาอั้นก็ยังอยูใตหลังคาบาน ไดพูดจาใกลชิดกันอยูทุกวัน แตเดี๋ยวนี้สภาพตางๆ นั้นเปลี่ยนไป ความแน ใจวามีลูกผูชายที่แข็งแรงเติบโตแลวถึงสามคนนั้นดูเลื่อนลอย การเมืองทําใหตาอนตองเปนนักโทษประหาร ถูก จองจําอยูในคุก มีชีวิตแขวนอยูบนเสนดายเสนบางนิดเดียว จะขาดลงเมื่อไรพลอยก็ไมรู ตั้งแตเกิดเรื่องมาจนถึง บัดนี้ ก็ยังไมไดพบหนาคาตากนเลย แมจะเยี่ยมเยือนกันตาประสาแมลูก ก็ดูเหมือนจะมีอุปสรรคขัดขวางไปเสีย ทุกอยาง แตมาคิดดูอีกทีหนึ่ง ที่พลอยตองเสียตาอนไปคราวนี้เปนการสูญเสียทางกาย คือตาอนตองไปตกอยูใน ที่คุมขังแข็งแรง ไมมีอิสรภาพในตัวของตัวเอง สวนทางใจนั้นพลอยรูดีวาตาอนยังอยูใกลชิด และในยามเชนนี้ก็ ยิ่งจะใกลชิดไปกวาเวลาอื่นๆ พลอยหวนกลับมานึกถึงตาอั้นลูกคนหัวปของตนแทๆ ตาอั้นก็ยังอยูในบานและอยู คนเดียว เพราะลูซิลลยังไมกลับจากนอก พลอยถามตาอั้นเรื่องลูซิลลครั้งไร ตาอั้นก็พูดจาออมแอม ฟงดูเหมือน กับวายังไมอยากใหกลับ ถาจะพูดดวยเหตุผลทั่วไป ตาอั้นก็ควรจะเปนของแมในเวลานี้ ยิ่งกวาเมื่อตอนกลับ จากนอกใหมๆ แตความจริงตาอั้นก็หาเปนเชนนั้นไม กลับดูเหมือนจะยิ่งหางเหินจากพลอยไปกวาเมื่อครั้ง ลูซิลลยังอยูเสียอีก ตาอั้นกลายเปนคนนิ่งๆ ไมคอยพูดจากับใคร ทําทีเหมือนกับวาระแวงพี่นองที่สนิทสนมมา แตกอน เชนตาออดและพอเพิ่ม พลอยรูแกใจวาตาอั้นยังรักตนอยูโดยสมบูรณในฐานะที่เปนแม และความรักนั้น ก็กอปรดวยความกตัญู ความหวังดีและเจตนาดี แตขณะเดียวกัน ตาอั้นก็ดูเหมือนจะนึกเสียวา แมของตนนั้น อยูคนละสมัยคนละโลก ไมมีทางจะทําความเขาใจ หรือเห็นใจกันได และตาอั้นก็มิไดพยายาม ทั้งที่พลอยพรอม อยูแลวที่จะใหความเห็นใจและความเขาใจ ความหางเหินของตาอั้น ที่พลอยไดแตนึกโทษเอาวามีการเมืองเปน เหตุ การเมืองเปนสิ่งที่รุกเราเขามาในชีวิตในครอบครัวของพลอย ทําใหพี่นองตองวิวาทกัน และในที่สุดก็มีผล ทําใหพลอยตองรูสึกวา ไดเสียลูกไปแลวถึงสองคน ขณะนี้ยังเหลือตาออดคนหนึ่งประไพคนหนึ่ง แตพลอยก็ไม แนใจเสียแลววา ตอไปจะเปนอยางไร พลอยมองไกลออกไปอีกจากเรื่องชีวิตในครอบครัว มองดูชีวิตของตนในะระยะหลังนี้ เทาที่มีความ สัมพันธเกี่ยวของกับคนอื่น แมในเรื่องนี้ความเปลี่ยนแปลงตางๆ ที่กําลังเกิดขึ้น เพื่อนฝูงที่รูจักคุนเคยกันมาแต กอนนั้น ดูเปลี่ยนแปลงไปอยางไมนาเชื่อ บางก็แสดงกิริยาอาการใหพลอยเขาใจไดวา เขาเหลานั้นไมอยาก ดํารงมิตรภาพที่เคยมีมาแตกอนนั้นไวอีกตอไป บางคนก็แสดงแตเพียงวาพลอยเปนบุคคลที่ควรระวัง จะพูดจา สิ่งใดตอหนาพลอย ก็พึงระมัดระวังถอยคําใหมาก ความรูสึกเชนนี้ทําใหพลอยเห็นวาตนเองเปนคนนอก ไม เกี่ยวของสนิทสนมกับเพื่อนฝูงเหมือนแตกอน เมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองใหมๆ นั้น มีเพื่อนฝูงคนรูจักชุด หนึ่งที่หางเหินไปทีเดียว แตอีกชุดหนึ่งนั้นดูเหมือนจะยินดีคบ และคอยพะเนาพะนอเอาใจขึ้นมาก ที่เปนเชนนี้ พลอยจะเดาไดวาเปนเพราะตาอั้น คนที่ไมเห็นดวยกับความคิดเห็นทางการเมืองของตาอั้น ก็ยอมปลีกตัวจาก พลอยเปนธรรมดา เพราะพลอยเปนแมของตาอั้น สวนคนที่พยายามสนิทกับพลอยใหยิ่งขึ้นกวาเกานั้น ก็เปน เพราะตาอั้นอีก เพราะคนเหลานั้นพากันนึกไปวา ถาตนชอบพอกับแมของตาอั้นเปนพิเศษแลว ตาอั้นก็อาจ บันดาลผลประโยชนใหแกตนไดเปนพิเศษ เพราะการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทําใหตาอั้นมีฐานะเปนคนพิเศษ ไป โดยเหตุที่พลอยเห็นเจตนาของคนเชนนั้น พลอยจึงหมดความไยดี ไมอยากไปมาหาสูกับใคร เก็บตัวอยูกับ บานเงียบๆ แตคนเหลานั้นก็ยังไปมาหาสูพลอยถึงบาน พอเกิดเรื่องความยุงยากที่ตาอนมีสวนเกี่ยวของอยูดวย คนทุกฝายก็ดูเหมือนจะทิ้งพลอยทีเดียว เพราะพลอยเกิดมีฐานะเปนแมตาอนผูเปนกบฏ เปนเหตุใหคนทุกฝาย ตองระมัดระวัง หลีกเลี่ยงไมยอมพบปะ เพราะในฐานะเชนนั้นพลอยอาจเปนคนนําอันตราย หรือนําเอาความยุง ยากตางๆ มาใหได ความจริงพลอยมิไดรูสึกนอยเนื้อต่ําใจอะไรนักหนา เพราะพลอยรูจักคนดี และไดเห็นคนมา มากพอที่จะไมลุมหลง หวังความแนนอนอะไรจนเกินไปนัก แตพลอยก็อดที่จะปลงอยูแตในใจมิไดวา มิตรภาพ และความสัมพันธตางๆ ที่มีมาชานานนั้น หมดความหมายลงไปไดมาก เมื่อการเมืองอันเปนของใหมเอี่ยมนั้น ไดยางกรายเขามาถึง ถึงคนบางคนเคยรูจักมาตั้งแตยังเปนเด็กในวังมาดวยกัน เมื่อตางคนตางออกมามีเรือน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy308.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๘ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 5

แลว พบปะกันที่ไหน ก็ยังทักทายไตถามทุกขสุขกันอยางสนิทสนม แตมาบัดนี้แมพบพลอยจังหนา ก็มักทําเมิน เสียไมแลเห็น ถาพลอยเผลอตัวไปทักเขากอน ก็จะพูดดวยอยางเสียไมได แทนที่การเมืองจะทําใหพลอยสามารถมองดูโลกไดอยางกวางขวาง การเมืองเทาที่พลอยรูจัก กลับทําให โลกนั้นแคบลง เมื่อยังเปนเด็กๆ พลอยรูจักคุนเคยกับคนไมกี่คน มีแตพี่นองในบาน เชนพอเพิ่มและคุณเชย ไป อยูในวังก็ไดชอยเปนเพื่อนเลน ครั้นเติบโตขึ้นมา พลอยก็ไดรูจักคนมากขึ้น สวนมากนั้นก็ผานทางคุณเปรม เมื่อ คุณเปรมตายลง ทําใหคนรูจักคุนเคยนั้นหายไปบาง แตเหตุการณตางๆ คราวนี้ ทําใหคนรูจักหายไปเกือบหมด ยังเหลือแตพอเพิ่มคุณเชยและชอย ซึ่งเปนคนจํานวนนอยที่รูจักกันมาแตเด็กนั่นเอง สําหรับพอเพิ่มนั้น การ เมืองไดเขามาทําใหเปลี่ยนแปลงไปมาก แตการเปลี่ยนแปลงนั้นเปนแตเพียงภายนอก พลอยรูวาพอเพิ่มก็ยัง เปนพอเพิ่มคนเกา การเมืองเปนแตเพียงของเลนที่ไดมาใหมเทานั้นเอง คุณเชยนั้นดูเหมือนจะแกลงไป และ เงียบลงไปกวาเกา ครั้งหนึ่งคุณเชยพูดกับพลอยเปนเชิงปรารภวา "แมพลอย ตั้งแตบานเมืองเรามีเรื่องยุงๆ กันนี้ ฉันรูสึกตัววาแกไปถนัดใจ" "ฉันเองก็เหมือนกันคุณเชย" พลอยตอบอยางเห็นใจ "ความจริงฉันก็อยูตางหาก ไมไดไปมีอะไรเกี่ยวของใกลชิดเหมือนกับแมพลอย แตฉันก็ไดแตนั่งดูไป และรูสึกตัววาแกลงไปทุกวัน..." คุณเชยหยุดนิ่งอยูชั่วครูหนึ่งแลวก็พูดตอไปวา "เดี๋ยวนี้ฉันอายุหาสิบกวาๆ แต ใจนั้นนึกเหมือนกับวาตัวเองอายุแปดสิบ ดูแกคร่ําครึเสียจริงๆ ทีเดียว เห็นจะเปนเพราะฉันไดเห็นอะไรมามาก โดยมิไดเขาไปเกี่ยวของกับเขาดวยเทานั้นเอง จําความไดก็เห็นแตเจาคุณพอมีบุญวาสนา ผูคนในบานมากมาย ครึกครื้น อยูมาจนทานหมดบุญ เครื่องประดับบุญบารมีก็รอยหรอลงไปทุกที ลงทายทานก็ตายไป..... อยางคุณ อุนทีแรกเธอก็ทําอํานาจมากอยู แมพลอยก็รู เงินทองเธอก็มีเปนหนักหนา แตเดี๋ยวนี้ก็ดูเอาเถิด เจานายผูมีบุญ วาสนาก็หมดสิ้นกันลงไปเรื่อยๆ จนถึงเดี๋ยวนี้..." คุณเชยถอนใจใหญแลวก็กลาววา "ฉันยิ่งดูไปก็ยิ่งปลงตกไม เห็นมีอะไรเที่ยงแท ยิ่งปลงตกก็ยิ่งเห็นตัวเองแกใกลตายเขาไปทุกที จะเขาวัดเขาวาอยางคนอื่นเขาก็ไมได มี คุณหลวงเปนคนแกใหตองเลี้ยงอยูทางบานอีกคนหนึ่ง ถาฉันไมคอยดูก็คงตายเร็ว ทั้งที่เปนหมออยูอยางนั้น แหละ" คําพูดของคุณเชยตรงกับใจของพลอย เพราะพลอยก็นึกอยูอยางนั้นเหมือนกัน แตเมื่อนําเอาเรื่องนี้ไป ปรารภตอกับชอยๆ ก็ตอบวา "ก็ไมเห็นจะแปลกอะไรนี่พลอย ฉันแกมากอนตั้งเปนนาน ฉันยังไมบนเลย สนุกดีเสียอีก พอคนเขารูวา เปนยายแก ปาๆ เปอๆ แลวจะทําอะไรก็ไดไมมีใครวา" "ฉันไมไดหมายความอยางนั้นหรอกชอย" พลอยตอบ "ฉันหมายความวาบานเมืองทุกวันนี้ ทําใหเราเห็น วาตัวเองแกลงไป เพระอะไรตออะไรเปลี่ยนไปหมดจนจับตนชนปลายไมถูก" "แกชาแกเร็วมันก็แกเทากันแหละพลอยเอย" ชอยวา "แลวถาจะวาไปจริงๆ ฉันก็ไมเห็นมีอะไรเปลี่ยน ผลัดกันแตตัวคนตายไปบาง เดี๋ยวคนโนนมีบุญคนนี้หมดบุญ เมื่อเรายังเปนสาวๆ เคยพูดกันถึงเรื่องขึ้นๆ ตกๆ ของเจาจอมในวัง เดี๋ยวนี้เราอายุมากขึ้นก็เห็นมาก ไดรูวาเขามีขึ้นมีตกกันทั้งเมืองเทานั้นเอง" "ชอยนี่ชางไมมีทุกขกับเขาบางเลยหรือ" พลอยถามอยางฉงน "มันก็มีเหมือนกันแหละพลอย แตพอฉันจะอาปากเอยถึงทุกขของฉันขึ้นมา ก็เจอะเอาความทุกขของแม พอยเขา ซึ่งลวนแตหนักๆ กวาของฉันทั้งนั้น ถาแมพลอยมีทุกขแลวฉันก็เอาทุกขมาถมเขาไปอีก มิตองนั่ง รองไหกันจนละลายหายเปนน้ําตาไปทั้งสองคนหรือ แลวเมื่อคิดไปอีกทีทุกขของฉันก็ไมมากเทาของคนอื่น ฉันก็ เลยเฉยๆ เสีย นานเขาก็เคยไปเอง จะวาไมมีทุกขก็ได" จากคําพูดเหลานี้และคําพูดทํานองเดียวกัน ตลอดจนอารมณที่รื่นเริงมองทุกอยางในแงขัน ซึ่งเปนของ ประจําตัวชอยมาแตดั้งเดิม ทําใหพลอยยึดถือเอาชอยเปนที่พึ่งในยามทุกขมากขึ้นกวาแตกอน เพราะชอยดู เหมือนจะเปนคนเดียวที่ยังมั่นคงเหมือนเกา ไมมีสิ่งใดมาทําใหเปลี่ยนแปลงไปได กอนที่จะถึงกําหนดไปเยี่ยมตาอน พอเพิ่มก็เอาจดหมายจากตาอนมาสงใหพลอยอีกฉบับหนึ่ง พลอยมิ ไดติดใจถามวาพอเพิ่มไดรับจดหมายนั้นมาอยางไร เพราะรูดีวาพอเพิ่มนั้นรื่นเริงในความลับเล็กๆ นอยๆ ถึง ถามก็คงจะไมบอก จดหมายนั้นมีความวา "กราบเทาคุณแมที่เคารพ และที่รักที่สุดของลูก คุณแมก็คงจะรูดีอยูแลววา ลูกเปนนักโทษประหารและลูกก็รูดีวาคุณแมตองโทมนัสเพียงไร และตองวิตก กังวลอยางไรเมื่อรูขาวนี้ แมทูนหัวของลูก ลูกรูวาเปนบาปกรรมของลูกเอง ที่ตองทําใหผูมีพระคุณยิ่งกวาใคร ตองเสียใจตองโทมนัส ถาจะใหลูกบอกตามความสัตยจริง ลูกก็จะขอบอกวาลูกเสียใจ และรูสึกวาเปนบาปกรรม เฉพาะเรื่องความทุกขที่ไดกอใหแกแมของลูกเทานั้น ลูกมิไดเคยนึกเสียใจเลย ถึงแมวาลูกจะรูสึกวาเปนอยางนี้ แตแรก ลูกก็จะยังจะทําอยู เพราะความรูสึกผิดชอบและคติตางๆ ที่มีอยูประจําใจจะตองบังคับใหลูกทําเชนนั้น ขอใหแมพยายามคิดอยางที่ลูกคิดไดเสียแลววา การตอสูทุกอยางตองมีแพมีชนะ การที่ลูกไดทําไปแลวนั้น ลูก ไดเอาชีวิตเขาเสี่ยงเปนเดิมพัน เมื่อพายแพลงไปแลว ก็จะตองเสียชีวิตเปนธรรมดา ลูกเห็นวายุติธรรมดีอยูแลว

http://www.geocities.com/siamstory/ploy308.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๘ (หนาที่ ๑)

Page 5 of 5

เสียดายอยูหนอยที่ลูกมิไดตายอยางทหาร แตอาจตองตายอยางนักโทษ ขณะนี้ลูกสบายดี มิไดเจ็บไขอยางไร อาหารการกินก็ไมอัตคัดอดอยาก มีความเปนอยูเทาที่นักโทษใน คุก จะเปนไปได แตสําหรับพวกเราเขาถือวาเปนนักโทษการเมือง มิไดปะปนกับคนโทษอื่นๆ ลูกจึงไดอยูรวม กับพวกพองอยางใกลชิดในขณะนี้ ลูกไมอยากจะพูดถึงใครใหมากไปนัก แตอยากจะบอกใหรูแตเพียงวา คนเรา จะเห็นใจไดรูจักกันแทจริงก็แตในยามทุกข ลูกไดรูจักคนจริงๆ เวลานี้มากกวาเวลาที่สุขสบายเปนอิสระ คุก ตะรางนั้นมิใชแตเปนที่ขังคนเทานั้น แตยังเปนที่ๆ ปอกเปลือกคนออกใหเห็นแกน คือตัวจริงของเขาดวย การที่ ไดพบตัวจริงของเขาทําใหลูกเปลี่ยนใจไปมาก คนที่ไมเคยนับถือมากอนก็กลับเปนับถือเพียงจะบูชา สวนคนที่ นับถือบุชามาแตกอนนั้น ก็หมดนับถือลงไป การเปลี่ยนแปลงในใจนั้นไมใชของดี บางครั้งก็ทําใหวุนวายและ กังวลไดมาก ลูกไมสามารถที่จะปลอบแมใหคลายทุกขในคราวนี้ได ลูกไดแตภาวนาอยูทุกวันคืน ถาคนเราตายไปแลว มีชาติหนา ในชาติหนานั้นก็ขอใหลูกไดเกิดเปนลูกของแมทั้งกายและใจ และตอไปอยางนั้นทุกชาติทุกภพ อน" อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy308.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๘ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๓ บทที่ ๘ (หนาที่ ๒) อีกสองวันตอมา หลังจากที่ไดรับจดหมายจากตาอน ตาออดก็พาพลอยขึ้นรถไปลงเรือยนตเล็กๆ ที่ตาอั้น ขอยืมคนอื่นมาไวให เรือนั้นจอดอยูที่ทาชางวังหนา ตาออดนัดไวแตวันกอนวาจะตองออกเดินทางแตเชา เพราะ จะตองไปถึงใหทันเวลาเยี่ยม ฉะนั้นคืนนั้นทั้งคืนพลอยจึงเกือบจะไมไดนอนเลย เพราะในตอนหัวค่ําพลอยก็ตอง นั่งจัดของกิน อันมีสัมสุกลูกไมและของอื่นๆ ที่รูวาตาอนชอบ บรรจุลงในตะกรา สําหรับเอาไปใหในตอนเชา พลอยตั้งใจเอาของไปใหตาอนใหมาก นึกวาตาอนจะไดไปเผื่อแผใหเพื่อนรวมทุกขในคุกบางขวางนั้น ไดกินกัน หลายๆ คน พลอยเคยจัดของกินเชนเดียวกันนี้ดวยความรักมาแลวหลายหน ครั้งหนึ่งนานหนักหนามาแลว เคย ชวยกันสองคนกับชอยจัดของกินสงใหพี่เนื่อง เมื่อไปรับราชการนครสวรรค ตอมาก็เคยจัดของกินสงไปใหตาอั้น และตาออด ครั้งยังอยูเมืองนอก คราวนี้ถึงคราวตองจัดของกินสงใหตาอน พอนึกถึงตาอนพลอยก็ตองหยุดกลืน น้ําลาย ขมตัวเองมิใหสะอื้นออกมาดังๆ เพราะเกรงวาเด็กคนใชสองสามคน ที่นั่งชวยอยูนั้นจะไดยิน ตาอนชาง มีกรรมเวรอาภัพยิ่งกวาคนอื่นเสียจริงๆ คนอื่นที่พลอยเคยจัดของสงให ดวยความรักความคิดถึงนั้นเขาไปดี ไป เพื่อความรุงเรืองของชีวิตในเวลาขางหนา แตตาอนกลับตองไปราย ไปอยูในคุกตองรับโทษอันหนักที่สุด เทาที่ มนุษยจะลงโทษกันได พลอยถอนใจใหญ พยายามจะสลัดความรูสึกเศราหมองใหหลุดพนไปจากหัวใจ กมหนา จัดของตอไปจนดึก แตเมื่อเขานอนแลวก็ไมหลับ จะหลับตาลงครั้งใดก็เห็นแตหนาตาอน ในที่สุดก็ไดแตนอนลืม ตาอยูคนเดียว และมอยไปงีบหนึ่งเมื่อตอนไกขัน รุงขึ้นเชา พลอยก็รีบแตงตัวเพื่อออกเดินทางแตเชาตามที่ตาออดบอกไว พลอยเอาเด็กตามหลังไปคน หนึ่ง เพื่อยกของที่จะเอาไปใหตาอน แลวก็ขึ้นรถออกจากบานแตเชาตรู ขณะที่น้ําคางยังจับอยูตามใบหญาและ ใบไมในบาน ตาออดนั่งไปขางๆ พลอยในรถ พอรถออกวิ่งสักครู พลอยก็ตองกระชับผาหมใหแนบกับตัว เพราะ รูสึกทั้งหนาวและตื่นเตนอยางบอกไมถูก ใจหนึ่งนั้นดีใจจะไดพบลูก ไดเห็นหนาลูกที่มิไดพบปะมานาน อีกใจ หนึ่งนั้นก็ใหประหมาพรั่นพรึง เพราะที่ๆ จะไปนั้นเปนคุกมหันตโทษ ซึ่งตั้งแตเกิดมาเปนตัว พลอยก็มิไดเคยนึก ฝนวาจะตองยางกรายเขาไป พอถึงทาชางวังหนา ตาออดก็พาพลอยลงเรือยนตลําเล็กๆ ลําหนึ่งที่จอดเทียบทาคอยอยูแลว เรือยนต นั้นติดเครื่องแลวก็ลอยลําออกจากทา บายหนาแลนขึ้นไปเหนือน้ํา พลอยนั่งปลอยอารมณมองดูลําน้ํา มองดูฝง ทั้งสองขาง ทางฝงพระนครตั้งแตทาชางวังหนาจนถึงปากคลองบางลําภู จากบางขุนพรหมจนถึงสามเสน เคยมี แตวังเจาฟา วังเจาตางกรม วังเจานายอยูติดตอกันไปตลอด พลอยรูจักรั้ววังเหลานี้ดี และเคยเห็นมาเมื่อครั้งยัง รุงเรือง เคยมีการมีงานใหญๆ รั้ววังที่เคยโออาสมพระเกียรติยศ เต็มไปดวยมหาดเล็กขาหลวงผูคนจํานวนมาก แตบัดนี้ความรวงโรยไดเขามาสูจนเห็นไดชัด บางวังก็ปดเงียบเพราะผูครองวังมิไดประทับอยูอีกตอไป ผูคนขา ในกรมก็กระจัดพลัดพราย บางวังก็ปดเฉพาะแตตําหนักใหญ สวนตําหนักเล็กเรือนนอยยังมีคนอยู แสดงวาเจา ของวังสิ้นพระชนมไปเสียแลว คงเหลือแตโอรสธิดายังอยูตอไป รั้ววังทั้งหลายก็ยิ่งเปนเครื่องเตือนใจ ใหพลอย นึกถึงความหลังครั้งตามเสด็จไปบางปะอิน นึกถึงแมน้ําเจาพระยาสายเดียวกันนี้ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยคราคร่ําไปดวย เรือแพใหญนอยในกระบวนเสด็จยาวจนสุดสายตา นึกถึงกระทงหลวง กฐินหลวง กระบวนพยุหยาตราทาง ชลมารค ซึ่งมีเรือองคพระกฐิน เรือพระที่นั่งและเรือพระที่นั่งรอง เรือดั้ง เรือแซงและเรือกระบวนตางๆ ภาพเรือ พระที่นั่งปดทองลองชาด ฝพายถือพายทองและสวมเสื้อแดงกางเกงแดงอันงามระยับจับตา เสียงเหเรือ เสียงกระทุงเสาดูเหมือนจะยังดังอยูกองหู พลอยนั่งปลอยอารมณ ปลอยตัวใหเรือยนตลําเล็กนั้นพาไป ใกลจุด หมายเขาไปเรื่อยๆ สามเสนพนไปสักครู เรือยนตก็แลนลอดสะพานรถไฟพระราม ๖ ซึ่งเปดใชเมื่อตนแผนดินนี้ เรือแลนผานปากคลองบางเขน วัดเขมาและบางตะนาวศรีไปตามลําดับ ในที่สุดก็มาจอดอยูที่ปลายสะพานทาน้ํา ใหญของคุกบางขวาง ตาออดเอื้อมมือมาแตะแขนพลอยเบาๆ เหมือนกับจะปลุกใหตื่นแลวพูดวา "ถึงแลวแม ไดเวลาพอดีไมชาไป" พลอยกาวขึ้นจากเรือขึ้นไปยืนบนโปะซีเมนต ระหวางที่ยืนคอยเด็กยกของขึ้นจากเรือ พลอยก็หันหนา มองไปยังตัวคุก ทันใดนั้นหัวใจก็เตนแรงและขาสั่นนอยๆ ดวยความประหมา ในสภาพอันนาสะพรึงกลัวที่กั้น กางอยูตรงหนา เบื้องหนาพลอยออกไป เปนทางเดินยางไปสูกําแพงอันสูงใหญ ทางเดินนั้นไปสุดลงที่ประตูใหญ กลางกําแพง ซึ่งดูแตไกลเหมือนกับปากถ้ํา ตรงกลางแลเห็นหอคอยอันสูงใหญ และพอเห็นหลังคาที่เรียงรายอยู นั้นได ทั้งกําแพงทั้งหอคอยดูสูงใหญแข็งแรงเปนหนักหนา คนที่อยูในนั้นดูไมมีหวังที่จะหลุดพนออกมาไดเลย ถึงพลอยจะพยายามนึกถึงสภาพของคนที่อยูภายในกําแพงนั้น พลอยก็คงนึกไมออก นึกไดแตเพียงวากรรมเวร

http://www.geocities.com/siamstory/ploy308_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๘ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 4

อะไรของตาอน ที่ทําใหตองถูกคุมขังแข็งแรงเพียงนั้น คนอีกหลายคนกําลังขึ้นจากเรือลําอื่นที่มาจอดในทานั้น บางก็มาคนเดียว บางก็มาหลายคน ที่เปนคนแกสูงอายุก็มี ที่ยังอยูในวัยกลางคนหรือหนุมสาวก็มี ที่เปนเด็กก็มี คนเหลานั้นมีทั้งผูหญิงผูชาย บางก็มาตัวเปลา บางก็มีของติดมือมาเชนเดียวกับพลอย ทุกคนมิไดแสดงอาการ รื่นเริงหรือหัวเราะตอกระซิก แตขึ้นจากเรือบายหนาเดินเขาสูคุกมหันตโทษ ดวยใบหนาอันเครงขรึม พลอย เหลือบมองดูคนเหลานี้แลว ก็ใจหายดวยความสงสาร รูสึกวาตนเองและคนอีกเปนจํานวนมากที่เห็นอยูนั้น มีขอ ผูกพันกันใกลชิด เพราะตางคนตางก็จะตองมีพอมีผัวหรือมีลูก หรือคนที่รักที่ถูกคุมขังอยูในนั้น ปราศจาก อิสรภาพ ทุกคนไมมีใครอยากเขาไปในที่ๆ กําลังเดินใกลเขาไป แตความรักเปนเสมือนกําลังอันมหึมา ที่กําลัง ดันทุกๆ คนใหใกลเขาไปทุกที ไมอาจอยุดยั้งได ทั้งที่ทุกคนรูตัวแลวเปนอยางดีวา ขากลับออกไปนั้น จะไมมี อะไรกลับออกไปดวยเลย นอกจากความทุกขระทมที่ตองพรากจากคนที่ตัวรัก พลอยเดินตามคนที่เดินไปทางเดียวกันนั้น ในทามกลางแสงแดดตอนเชา พอพนประตูใหญของคุกบาง ขวางเขาไป ก็รูสึกเย็นวาบไปทั้งตัว เพราะไดเขามาในที่รม หัวใจนั้นก็สลดหดหูลงทันที ที่สําหรับญาติไปเยี่ยมนักโทษนั้นเปนหองใหญ มีลูกกรงเหล็กกั้นขวางไวแข็งแรงระหวางนักโทษฝาย หนึ่ง และผูที่ไปเยี่ยมอีกฝายหนึ่ง ระหวางกลางมีทางเดินสําหรับผูคุมคอยเดินตรวจตรา ระหวางที่เยี่ยมเยือนกัน อยู ตาออดไปติดตอกับเจาพนักงาน ในเรื่องที่จะมาเยี่ยมตาอนตามระเบียบ สวนพลอยนั้นก็คอยอยูในหมูญาติ และมิตรของผูตองโทษ ทุกคนดูเหมือนจะมีความรูสึกมีหัวใจที่เตนแรงอยางเดียวกัน และตาทุกคูมองไปเบื้อง หนา ผานลูกกรงเหล็กที่กั้นอยูนั้นเขาไป เพราะในนั้นอีกสักครูหนึ่งคนที่รักที่เปนหวงของทุกคน จะมาปรากฏตัว ในไมชา อีกครูหนึ่งก็มีเสียงประตูเปดปด เสียงผูคุมออกคําสั่งอะไรดังๆ และเสียงอีกเสียงหนึ่งที่ทําใหพลอยแขง ขาออนลงไป ดวยความรูสึกระคนไปดวยความพรั่นพรึงและความสมเพช เสียงนั้นคือเสียงโซตรวน ซึ่งดังจากตัว นักโทษหลายๆ คน ที่กําลังเดินออกมาใหญาติเยี่ยม เสียงตาออดกระซิบที่ขางหูวา "นั่นแน พี่อนมาโนนแลว" แลวตาออดก็เอามือมาแตะเบาๆ ที่แขนพลอย และนําตัวพลอยไปที่หนาลูก กรง ตาอนซบหนาลงกราบพลอยโดยไมพูดจาวากระไร พลอยจะเอยปากทักตาอนก็ไมสามารถที่จะทําได เพราะคอหอยนั้นตีบและตื้นตันไปสิ้น ดวยความรูสึกทั้งสงสารทั้งรักทั้งดีใจที่ไดพบหนากัน ตาอนซูบผอมไปจน ผิดรูปราง ผมเผารุงรัง และหนวดเคราก็มิไดโกนสะอาดเรียบรอยเหมือนแตกอน ตรวนที่ใสอยูนั้น ดูจะเปนขนาด ใหญและหนักกวานักโทษคนอื่นๆ อีกหลายคนที่พลอยไดเห็น ตาอั้นไดพูดไวถูกตองแลวตั้งแตแรก ภาพตาอนที่ ปรากฏอยูตอหนาในขณะนี้ เปฯฃนภาพที่พลอยมิไดเคยคิดฝนวาจะประสบพบเห็น และไมอยากที่จะพบเห็นเลย เมื่อไดเห็นแลวก็อยากจะเอามือปดหนาหลับตาแลววิ่งหนีไปเสียใหไกล หรืออยากจะรองไหดังๆ ใหสมกับความ รูสึกในใจ แตพลอยก็ทําอยางนั้นมิได ไดแตขมสติฝนใจ ยิ้มกับตาอนแลวพูดขึ้นอยางลําบากตะกุกตะกักวา "อน ! แมคิดถึงเหลือเกิน อนเปนอยางไรบาง" "ผมไมเปนไร คุณแม ไมเปนไร ดีใจเหลือเกินที่คุณแมมาเยี่ยม" ตาอนตอบอยางตะกุกตะกักเชนเดียวกัน แลวหันหนาไปยิ้มกับตาออดถามวา "ออดสบายดีหรือ ขอบใจมากที่จัดเรื่องปนโตให" "ปนโตอะไร แมไมรูเรื่อง" พลอยถามขึ้น "ออดเขาจัดเรื่องวาจางทําปนโตสงเขามาใหผมในนี้" ตาอนอธิบาย "ออ !" พลอยพูดอยางโลงใจ และขอบใจตาออด ที่อุตสาหนึกไปตลอดจนถึงเรื่องอาหารการกินของพี่ชาย ในคุก "ออดไมเห็นบอกแมสักที" พลอยพูดตอ "เขาทําปนโตสงพอกินไดหรืออน ไมขาดเหลืออะไรหรือ" "พอกินไดทีเดียวคุณแม ไมขาดเหลืออะไรเลย" ตาอนตอบ "วันนี้แมเอาของกินมาฝากอีกหลายอยาง เอามามากๆ อนจะไดแบงใหเพื่อนฝูงกินบาง" พลอยพูดตอไป และพยายามขมสติกลั้นน้ําตาไว อยางเต็มความสามารถ ตาอนยกมือไหวแลวตอบวา "ผมดีใจจริง ในนี้ไมมีอะไรสําคัญเทาของกิน แลวผมจะบอกพวกพองวาคุณแมสงมาให" พลอยรูดีวา ทั้งตนและตาอนตางตองพยายามขมความรูสึกในใจอยางสุดแรงเกิด ทั้งสองคนตางพยายาม ตีหนาชื่นเขาหากัน เหมือนกับพูดคุยกันเปนปกติ ตางฝายตางซอนความรูสึกมิใหอีกฝายหนึ่งเห็น ทั้งที่รูอยูเต็ม อกวาอีกฝายหนึ่งนั้นรูดี คําพูดที่ใชพูดกันเปนคําพูดเล็กๆ นอยๆ เกี่ยวกับเรื่องสุขทุกขทั่วๆ ไป ไมมีความหมาย อะไรเกินไปกวานั้น แตคําพูดทุกๆ คําก็มีความสําคัญยิ่งยวด เพราะเปนถอยคําที่ออกมาจากหัวใจของคนรักกัน และหวงใยกันมากที่สุด ตาออดเขามายืนอยูขางๆ ตัวพลอย และคุยกับตาอนเบาๆ ในทํานองถามทุกขสุขเชน เดียวกัน พลอยชําเลืองดูตามขอบลูกกรงเหล็กโดยทั่วๆ ไป ทุกคนที่มาเยี่ยมตางพากันเขาไปชิดลูกกรง เพื่ออยู ใกลคนที่ตนรักใหไดมากที่สุด แมในระยะเวลาอันสั้น หญิงสาวหนาตาสะอาดสะอานคนหนึ่งอยูถัดพลอยออกไป กําลังเอามือเกาะลูกกรงและซบหนารองไหอยางหมดอับอาย ชายหนุมคนหนึ่งยืนอยูภายในทางดานนักโทษ มองดูหนาหญิงสาวคนนั้นดวยแววตาอันละหอย เสียงพูดเบาๆ วา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy308_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๘ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 4

"อนงคอยารองไห.....อยารองไห....พี่ไมเปนไรหรอก ขอใหอนงครักษาตัวใหดี.....เลี้ยงลูกใหดี...." พลอยตองเบือนหนากลับมาทันที ดวยความสังเวชสลดใจ และขณะเดียวกันก็รูสึกตัววา ความทุกขของ ตนนั้นมิไดอยูแตตัวผูเดียว มีคนอีกมากมายหลายรอยพัน ที่รวมทุกขอันใหญหลวงนี้ และในคนจํานวนนั้นก็ยังมี คนอีกมาหลาย ที่อยูในฐานะลําบากกวาพลอย หรือยังอยูในวัยที่ไมสามารถอดทนตอความทุกขไดเทาพลอย หัวใจของพลอย ซึ่งจดจออยูที่ตาอนและที่ความทุกขของตนเองนั้น เริ่มคลี่คลายแผกวางออกไปถึงคนจํานวน มาก ที่เรียงรายอยูในขณะนั้น ความเมตตาและความเห็นใจคนอื่นที่รวมทุกข ชวยใหพลอยดํารงความรูสึกของ ตนไวไดในระดับอันควร ไมแสดงความทุกขโทมนัสออกมาตอหนาตาอน เวลาที่กําหนดไวใหเยี่ยมนั้นผานไปโดยรวดเร็ว หลังจากที่ไดมอบของใหแกเจาพนักงานเรือนจําแลว พลอยก็ยืนมองดูตาอนจนลับตาไป แลวก็ปลอยตัวใหตาออดพาไปลงเรือกลับบานอยางสงบ ขณะที่เดินกลับนั้น ก็รูตัววา ไดทิ้งเอาสวนหนึ่งอันสําคัญของหัวใจนั้นไวในเรือนจํา ขณะที่เรือแลนกลับมาตามลําแมน้ํา ตาออดก็ยกมือขึ้นตบแขนพลอยเบาๆ แลวพูดวา "วันนี้แมดีมาก ขอชมเชย" "ทําไมออด" พลอยถามโดยไมหันหนากลับเขามาในเรือ ยังคงนั่งมองภาพริมแมน้ําผานไปเรื่อยๆ "ที่ลูกวาดีก็เพราะแมใจแข็ง ไมรองไห......อาวแลวกัน !" ตาออดรองขึ้นกอนที่จะพูดจบ เพราะพลอยรีบ ดึงผาเช็ดหนา ออกจากกระเปาขึ้นปดหนาอยางรวดเร็ว และกมตัวลงรองไหเหมือนกับวาสายตัวจะขาด ความหวังหรือความฝนของตัวเอง ที่พลอยเคยนึกวาเลื่อนลอยนั้น ยิ่งนานวันเขาก็ยิ่งจะดูเปนจริงเปนจัง ขึ้นมาทุกที ความวังนั้นก็คือตาอนอาจไมถูกประหารตามคําพิพากษา เพราะในหลวงไมทรงยอมลงพระ ปรมาภิไธย ในบรมราชโองการใหประหารชีวิต ขาวคราวที่พลอยไดยินจากปากคนหลายคนนั้น ก็ดูจะสนับสนุน ความหวังหรือความฝนนั้นใหแนนแฟนยิ่งขึ้นทุกที จนในที่สุดพลอยถึงกับหมดกังวลในขอนั้น และทําใจเสียไดวา มีลูกอีกคนหนึ่ง ที่เคราะหกรรมบันดาลใหตองติดคุก และตนมีหนาที่ๆ จะตองคอยสงเสีย เพื่อใหลูกมีความสุข สบายตามสมควร เทาที่สภาพในคุกจะอํานวยใหจนกวาจะสิ้นกรรม ซึ่งพลอยเองก็ไมรูวาจะเปนเวลาเมื่อใด ระหวางนั้นขาวเรื่องพระเจาอยูหัวจะสละราชสมบัติก็คงหนาหูขึ้นทุกวัน พอเพิ่มเปนคนที่สนใจมากกวา คนอื่น เพราะไดเคยทํานายทายทักไวแตแรก "ฉันเคยวาไวแตแรกแลว แมพลอยจําไดไหม" พอเพิ่มพูดขึ้นวันหนึ่ง "วาอะไรคุณหลวง คุณหลวงเคยวาอะไรตอะไรไวมากมายเต็มที ฉันไมมีปญญาจะไปจดจําไดหมด" พลอยพูด "ก็เรื่องในหลวงทานจะไมเสด็จกลับนั่นปะไร" พอเพิ่มพูดย้ําดวยน้ําเสียงที่แสดงความสําคัญของตน ใน ฐานเปนผูรอบรูทํานายเหตุการณไดแมนยํา "คุณหลวงไปไดขาวอะไรมาอีกแลวหรือ" พลอยถามอยางสงสัย "ใครๆ ก็รูกันทั่วไปแลววาทานไมเสด็จกลับแน ถารัฐบาลยังอยูอยางนี้ ฉันวาทานไมกลับเหมือนกัน เพราะคงไมมีทางที่จะตกลงกันได" "แลวจะทําอยางกันเลาคุณหลวง" พลอยถามอยางไมเขาใจจริงๆ "ก็จําทําอยางไร" พอเพิ่มวา "ถาทานไมเสด็จกลับ ทานก็คงจะสละราชสมบัติ" "ตายจริง ! คุณหลวง ! เอาอะไรมาพูด !" พลอยพูดอยางรอนใจ "ตั้งแตฉันเกิดมาเปนตัวก็ยังไมเคยไดยิน วา ในหลวงสละราชสมบัติสักที จะเปนไปไดถึงเพียงนั้นเทียวหรือ" "สมัยนี้อะไรก็เปนไปไดทั้งนั้นแมพลอย" พอเพิ่มวา "เมื่อในหลวงทานทรงมีความเห็นอยางไรแลว สภา กับรัฐบาลเขามีความเห็นไปอีกอยางหนึ่ง ก็อยูตอไปดวยกันไมได ถึงคราวที่จะตองแยกกัน" "แลวบานเมืองจะเปนอยางไรตอไป" พลอยถามอยางกังวล "ฉันนึกไมถึงจริงๆ ฟงดูเหมือนบานแตก สาแหรกขาด ถาในหลวงองคนี้สละราชสมบัติ ใครจะไดเปนในหลวงองคตอไป" "ฉันเองก็ยังไมรู" พอเพิ่มตอบ "เจานายก็ยังมีอีกหลายองค ทางสายสมเด็จพระพันปก็มาสิ้นสุดลงที่ รัชกาลนี้ เพราะไมมีพระเจาลูกเธอ ถาจะกลับไปทางสายสมเด็จพระพันวัสสากระมัง แตฉันคิดเอาเองนะแม พลอย เอาจริงเขาองคไหนจะไดเปนฉันก็ยังไมรูเลย" ในใจจริงของพลอยนั้น ไมอยากใหความคาดหมายของพอเพิ่มกลายเปนจริงแมแตนอย เพราะโชคชะตา ของตาอนขณะนี้ ดูจะผูกพันอยูกับพระเจาอยูหัวพระองคนั้น ถาหากวาสละราชสมบัติจริง และผลัดแผนดินใหม จริง ตาอนจะเปนอยางไรก็สุดที่จะเดา และพลอยก็รูจักชีวิตดีเกินไปที่จะไมมองแตดานดี รูวาทางที่ดีที่สุดนั้น ควรจะมองทางเสียหรือแงรายไวกอน แตเหตุการณบานเมืองในขณะนั้น ดูเหมือนจะอยูนอกเหนือการกระทํา ของบุคคลใดทั้งสิ้น ตาอั้นเองก็เคยมาเลาใหพลอยฟงวา รัฐบาลไดพยายามทุกทาง ที่จะมิใหพระเจาอยูหัวตอง สละราชสมบัติ ตาออดซึ่งนั่งฟงอยูดวยถามตาอั้นอยางยิ้มๆ วา "ทุกทางแลวหรือพี่อั้น" "ทุกทางแลวออด เทาที่จะทําได" ตาอั้นตอบ "ออดเห็นวามีทางเดียวเทานั้น ที่จะปองกันมิใหทานออก" ตาออดวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy308_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๓ บทที่ ๘ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 4

"ทางไหนกัน" ตาอั้นหันขวับไปถามนองชาย "ก็เราบอกอยูหยกๆ วาพยายามทุกทางแลว" "ลองตามพระทัยทานดูบางเปนไง" ตาออดพูดเบาๆ "ออดก็พูดเปนเลนไปเสียทุกที" ตาอั้นพูดแลวก็ลุกขึ้นเดินหายไป ปลอยใหตาออดนั่งหัวเราะเบาๆ อยูคน เดียว ตอจากนั้นมาก็มีแตขาวที่สับสนอลเวงเกี่ยวกับพระเจาอยูหัว จนพลอยหมดปญญาที่จะจับตนชนปลายที่ ไหนถูก จนวันหนึ่งตอนสายของฤดูรอน ตาออดก็เดินเขามาหาพลอยดวยสีหนาที่ไมสบายใจนัก แลวพูดเบาๆ ขึ้นวา "ในหลวงสละราชสมบัติอยางแนนอนแลวแม" "โธ !" พลอยพูดขึ้นไดคําเดียว "ก็นั่นนะซี" ตาออดวา "ลูกก็วาอยางนั้นเหมือนกัน" "นี่ถาไมใชออดเปนคนมาบอก แมก็แทบไมเชื่อ" พลอยพูดเบาๆ "ลูกเองก็ไมอยากเชื่อ" ตาออดวา "รูสึกเสียดายเหลือเกิน ทั้งที่ไมใชเรื่องราวอะไรของลูกเลย" พลอยยกมือลูบหัวออดแลวพูดวา "แมก็เสียดายเหมือนกันออด ไมอยากเห็นบานเมืองเปนไปถึงเพียงนี้ รูสึกวาผิดแบบแผนประเพณี หรือ แมจะเปนคนโบราณอยูคนเดียวก็ไมรู" "ลูกเสียยิ่งกวานั้นไปอีก" ตาออดพูดตอ "เมืองไทยเราเพิ่งเปลี่ยนมาเปนระบอบประชาธิปไตยยังไมทันไร เราก็ยังตองมาเสียคนสําคัญ ที่เปนประชาธิปไตยมากที่สุดไปคนหนึ่ง" แลวตาออดก็ถอนใจใหญอยางมีทุกข ซึ่ง พลอยไมเคยเห็นตาออดทําบอยนัก จบแผนดินที่สาม

http://www.geocities.com/siamstory/ploy308_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑

Page 1 of 6

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑ พลอยเริ่มชีวิตในแผนดินที่ ๔ ในอายุของตน หรืออีกนัยหนึ่งรัชกาลที่ ๘ แหงกรุงรัตนโกสินทร ดวย ความรูสึกที่วาตนนั้นอยูในวัยชรา พลอยมีอายุไดหาสิบเศษ แตอาศัยที่ภายในชั่วชีวิตของตน ไดผานมาถึงสาม แผนดิน และเหตุการณทั้งปวงไดผันผวนเปลี่ยนแปรไดอยางรวดเร็ว ทําใหพลอยเห็นไดวา ตนไดใชชีวิตมานาน นักหนา เมื่อพลอยยังเปนเด็กรุนสาวอยูในวังไดเคยพบคนที่สามารถอางไดวาเคยอยูมาถึงสามแผนดินแลวใน รัชกาลที่ ๕ นั้นเอง คิดเกิดแตสมัยแผนดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกลาฯ หรือไดเคยเห็นเจานายซึ่งเปนลูกเธอใน รัชกาลที่ ๒ ยังมีพระชนมอยูมาถึงรัชกาลที่ ๖ เชนเสด็จพระองคแมนเขียน พลอยก็เคยนึกอยูวาทานเหลานั้นมี อายุยืนนักหนา และเปนคนแกชราสุดที่จะประมาณ ตอมาถึงรัชกาลที่ ๖ เมื่อพลอยออกครองเรือนเปนผูใหญ เกือบจะพูดไดวา ไมมีใครอายุเกินสามแผนดิน คนที่เกิดในสมัยรัชกาลที่สี่นั้น ก็ลวนแตเปนผูสูงอายุในสายตา ของพลอยทั้งสิ้น บัดนี้พลอยเปนคนที่ไดผานมาแลวถึงสามแผนดิน มีอายุอยูตอมาจนเขาถึงแผนดินที่สี่ เรียกได วาเปนคนสี่แผนดินอยางเต็มปาก ความรูสึกตัววาตนเปนคนที่ยางเขาสูปูนชรานั้น ก็ยิ่งมากขึ้นทุกวัน พลอยใจหายเมื่อตาออดเอาพระบรมรูปพระเจาอยูหัวรัชกาลใหมมาใหดู เพราะพระเจาอยูหัว ยังทรงพระ เยาวนัก ยิ่งมองดูพระบรมรูปก็ยิ่งรูสึกจับใจสงสาร ความจงรักภักดีในตัวนั้นไมมีทางเสื่อมคลายลงไป เพราะพระ เจาอยูหัวรัชกาลนี้ เปนพระโอรสทูลกระหมอมฟา ที่พลอยรูจักไดเคยเห็นตั้งแตอยูในวัง และตอมาแมเติบโตออก มาอยูขางนอกแลว ก็ยังไดยินพระกิตติคุณเลื่องลือจากปากคนทั่วไปอยูเสมอ ความรูสึกที่บังเกิดในเมื่อเห็นพระ บรมรูปนั้น พลอยเองก็อธิบายไมถูก เพราะแตกอนแตไรเมื่อผลัดแผนดินใหม ก็ปรากฏวาเจานายที่ทรงรับ รัชทายาท เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัตินั้น เปนเจานายที่เจริญพระชันษาแลวทุกพระองค แตคราวนี้เปนคราว แรกที่พระเจาอยูหัวทรงพระเยาว ยังเล็กนักในสายตาพลอย ถึงแมความจงรักภักดีของพลอย จะมีตอแผนดินนี้ ไมนอยไปกวาแผนดินกอนๆ แตความยําเยงเกรงกลัว มิไดผุดขึ้นมาในหัวใจเลย ตรงกันขาม ความรูสึกอีกอยาง หนึ่งที่ผูกมัดใจไดมากกวานั้น กลับเกิดขึ้นมาแทน คือความรักอันเปนสวนตัวหวงแหน เหมือนกับวาในหลวง รัชกาลที่ ๘ เปนบุคคลที่เปนของพลอยแทๆ เปนบุคคลที่พลอยตองเฝาดูความเจริญเติบโตดวยความสนใจ ความรูสึกวาในหลวงมีพระชันษาเพียง ๘-๙ ขวบ เปนกําพราพระราชบิดา และกําลังประทับอยูในตางประเทศ ทําใหพลอยบังเกิดความสงสารและหวงใยจับจิตจับใจ พลอยนั่งมองพระบรมรูปเล็กๆ ที่ตาออดไปหามาใหอยาง สนใจ พยายามมองดูอยางละเอียดทั้งใกลทั้งไกล พระพักตรที่แลเห็นนั้น ก็ละมายคลายคลึงกับสมเด็จพระราช บิดา เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว และความละมายคลายคลึงนั้น ยิ่งเปนขอผูกมัดพลอย ใหเกิดความรักความเอ็นดู มากขึ้นไปอีก ดวยความรูสึกที่วา ตนไดเคยเห็นมาแตทูลกระหมอมพระราชบิดา และไดเคยเห็นอยางใกลชิดมา แตยังทรงพระเยาว "เจาประคุณเอย ยังเล็กนัก" พลอยรําพึงออกมาเบาๆ "ทูลกระหมอมแกวยังเล็กเหลือเกิน ใครจะไปรูวา ตอไปจะเปนอยางไร นาสงสารนัก นาสงสารเหลือเกิน..." "แมสงสารใคร" ตาออดซึ่งกําลังนั่งอานหนังสือพิมพอยูอีกทางหนึ่ง เงยหนาขึ้นมาถาม "สงสารในหลวง...ในหลวงเล็กแผนดินนี้" พลอยตอบ "อาว ! ไปสงสารทานทําไมละแม เพิ่งเสวยราชยเทานั้นเอง ยังไมทันไรเลยแมก็สงสารเสียแลว" ตาออด พูดดวยน้ําเสียงที่เต็มไปดวยความปรานี พลอยรูตัววาเดี๋ยวนี้ ตาออดรักและปรานีตน เหมือนกับวาพลอยเปน เด็กๆ คนหนึ่ง ที่ตาออดตองคอยดูแลตองคอยเอาใจ "แมก็ไมรูเหมือนกัน..." พลอยตอบอยางไมแนใจ "รูแตวาพอเห็นพระบรมรูปก็ใจคอหาย ทานเหมือนทูล กระหมอมแดงเมื่อทรงพระเยาว เปนพิมพเดียวกัน แลวก็สงสาร...สงสารจับจิตจับใจ จะเปนเพราะยังทรงพระ เยาวเกินไปหรืออะไรก็ไมรูได แตในใจนั้นรูสึกเหมือนกับวา ใครเขามาจับเอาลูกหลาน ที่ตัวเล็กๆ เอาไปกดขี่ ไป เลนรังแก" ตาออดหัวเราะแลวก็พูดวา "แมจะคิดมากไปเสียละกระมัง ทานเปนในหลวงใครจะไปเลนรังแกทานได รัฐธรรมนูญของพี่อั้น ก็ยัง บอกไววา องคพระมหากษัตริยเปนที่เคารพสักการบูชา ใครจะมาละเมิดมิได เลนรังแกในหลวง ก็เห็นจะถือวา เปนละเมิดพระมหากษัตริยกระมัง" "แมไมไดหมายความวาอยางนั้นหรอกออด" พลอยตอบ "แมไมเขาในหรอกเรื่องรัฐธรรมนูญอะไร ของตา อั้นนี่นะ ทีแรกไดยินนึกวาเปนคนชื่อพระธรรมนูญดวยซ้ํา แมรูแตเพียงวาชีวิตของเจาฟาเจาแผนดินนั้น ไม

http://www.geocities.com/siamstory/ploy401.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑

Page 2 of 6

เหมือนคนธรรมดา ถาดูเผินๆ จะวาสุขก็สุขนัก แตถาดูใหลูกซึ้งเขาไปแลว สูเปนอยางเราๆ ก็ไมได พระเจาแผน ดินตองระวังพระองคไปทุกสิ่งทุกอยาง จะเสวยจะบรรทมจะทรงทําอะไรก็อยูในกรอบ ไมเห็นจะเปนตัวของตัว เองได แตในหลวงพระองคนี้ยังทรงพระเยาวนัก" พลอยหยิบพระบรมรูปขึ้นดูอีกครั้งหนึ่ง แลวก็พูดตอไปวา "ออดคิดใหดีๆ เถิด นี่ถาทานเกิดมาเปนลูกคนธรรมดาสามัญ ก็เปนเด็กกําลังเลนกําลังกิน ตอไปเติบโต ขึ้นมาก็หาความสุขไดอยางคนธรรมดา ไมมีใครสนใจ แตพอเปนในหลวงเขาก็หมดกัน เหมือนกับถูกเขาจับตั้ง ไวบนหิ้งพระแตยังเล็ก ถาทานเปนผูใหญหรือบานเมืองเหมือนสมัยกอน แมก็จะไมวากระไรหรอก แตเดี๋ยวนี้... แลวก็ทานยังเล็กนัก เล็กเหลือเกิน แมจึงอดสงสารไมได" การผลัดแผนดินใหมจากรัชกาลที่ ๗ มาเปนรัชกาลที่ ๘ นั้นดูเงียบเหงาในสายตาของพลอย เพราะการ ผลัดแผนดินทางกฏหมาย โดยที่รัชกาลกอนยังมิไดเสด็จสวรรคต และพระเจาอยูหัวแผนดินใหม ก็ยังทรงพระ เยาว และประทับอยูตางประเทศ เพราะฉะนั้นการผลัดแผนดิน จึงเปนไปโดยเงียบเชียบ ปราศจากพิธีรีตรอง ไม มีงานพระบรมศพ ไมมีงานไวทุกขทั้งเมือง และไมมีงานพระบรมราชาภิเษก ทุกอยางเหลานี้เปนสัญลักขณของ การผลัดแผนดิน ตามความรูสึกเชื่อถือของพลอย เมื่อปราศจากสิ่งเหลานี้ พลอยก็เผลอคิดไปไดบอยๆ วา ทุกอยางยังเหมือนเกาไมมีเปลี่ยนแปลง พลอยเริ่มแผนดินใหมในชีวิตของตนดวยความรูสึกที่ไดกลาวมาแลว แตแผนดินใหมที่ไดเริ่มตนขึ้นนั้น ไดทําใหพลอยมีหวังหมดความวิตกกังวลลงไป ในเรื่องที่สําคัญเรื่องหนึ่งคือเรื่องตาอน เพราะหลังจากที่ไดเปน ปญหาสงสัยกันมานานวา ผูที่ไดรับคําพิพากษาตองประหารชีวิต ในคดีกบฏ พ.ศ. ๒๔๗๖ นั้น จะตองถูก ประหารจริงตามคําพิพากษาหรือไม ปญหานั้นก็ดูเหมือนจะมีคําตอบที่แนนอนขึ้นมาบาง คือเมื่อพระเจาอยูหัว รัชกาลกอนไดสละราชสมบัติไปแลว ก็มิไดมีใครหยิบยกเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาอีก ตาอนและคนอื่นๆ ที่ตอง โทษประหารก็คงอยูตอไป ในเรือนจําเชนเดียวกับคนอื่นๆ ที่ตองโทษนอยกวา พลอยไดทําใจเสียแลวในเรื่องตา อน ไมอยากจะหวังอะไรมาก ถึงแมวาตาอนจะตองถูกจองจํา หมดโอกาสที่จะดําเนินชีวิตไปตามปกติ เปนตนวา บวชเรียน หรือมีครอบครัวบุตรภรรยาเชนคนหนุม รุนราวคราวเดียวกัน พลอยก็มิไดเก็บเอามาเปนอารมณ เพราะการที่ตาอนยังมีชีวิตอยูได ก็เปนของมีคาพอเพียงแลวสําหรับพลอย ถึงจะอยูในคุก พลอยก็ยังมีความมั่น ใจวาสามารถไปเยี่ยมไดเมื่อคิดถึง และสงขาวของไปใหไดทุกครั้งเทาที่นึกอยากจะสงไป เมื่อเพลาความกังวลเรื่องชีวิตของตาอนลงไปไดบาง เพราะทําใจไดถูก พลอยก็มีเวลาที่จะหันมาดู ลูกคน อื่นๆ ของตน และบรรดาญาติและคนอื่นๆ ที่อยูรอบตัว คุณเนียนและคุณนุยซึ่งเปนผูใหญฝายคุณเปรมนั้น ได ถึงแกกรรมไปแลวทั้งสองคน คุณเนียนซึ่งเปนคนเจ็บกระเสาะกระแสะมานาน ตั้งแตพลอยเริ่มเขามาอยูในบาน ไดตายไปกอนการเปลี่ยนแปลงการปกครองสักปเศษ จัดการศพคุณเนียนเสร็จลงแลว คุณนุยผูซึ่งชรามาก ก็มา ตายลงอีกคน หลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครองแลวไมเทาไรนัก ฉะนั้นคนที่ยังเปนผูใหญกวาพลอย จึงยังเหลือ อีกเพียงสองคนในบาน คือคุณอุนคนหนึ่ง และนางพิศซึ่งเดี๋ยวนี้ทุกคนในบาน รวมทั้งพลอยดวยเรียกวา "ยาย พิศ" หรือ "ยาย" เฉยๆ คุณนั้นทรุดโทรมไปตามสภาพของสังขารที่ชราลงไป แตคุณอุนเปนคนชอบอยูกับที่ คือนั่งอยูในหองเฉยๆ มาตั้งแตยังเปนสาวจนแก เพราะฉะนั้นถึงคุณอุนจะแกชราลงไปอยางไร ก็ไมมีการเปลี่ยน แปลงที่ใครรูสึก มีแตประไพซึ่งเดี๋ยวนี้ดูหางเหินไป ไมคอยจะไปอยูที่เรือนคุณอุนเหมือนแตกอน เมื่อพลอยถาม เรื่องนี้ประไพก็ตอบอยางเบื่อๆ วา "คุณปาแกเหลือเกิน จนเดี๋ยวนี้พูดอะไรไมคอยรูเรื่อง เห็นประไพเปนเด็กไม รูจักจบจักสิ้น" ความชราทําใหยายพิศเปลี่ยนแปลงไปมาก ยายพิศผูซึ่งเดี๋ยวนี้อายุรวมเจ็ดสิบ ไมมีแรงที่จะไปไหนมา ไหน นอกจากนั่งอยูในหองที่พลอยจัดใหอยู มีเด็กคอยดูแลปรนนิบัติหาขาวหาน้ําใหกิน ยายพิศซึ่งพลอยจําได วา เคยเปนคนกระฉับกระเฉงแข็งแรง กลับกลายเปนคนแกที่หมดกําลังวังชา ไดแตนั่งตําหมากอยูในหอง แตสติ ปญญาและความจําของยายพิศยังมีอยูบริบูรณ และสําหรับยายพิศพลอยก็ยังเปน "คุณพลอย" เด็กที่แกเคย เลี้ยงมานั่นเอง การเปลี่ยนแปลงในสภาพฐานะ และจํานวนปที่ผานไป มิไดทําใหพลอยเปลี่ยนแปลงไปจากเกา ในสายตาของยายพิศ ขณะนี้ยายพิศไมมีหนาที่การงานใดๆ ที่จะตองทํา พลอยเห็นวายายพิศเปนคนเกาแกแต ครั้งแม และเปนคนที่ไดเลี้ยงพลอยมาแตเล็ก พลอยจึงเลี้ยงดูยายพิศ ดวยความกตัญู พยายามหาความสุขให ยายพิศทุกทางเมื่อยายพิศแกลง พลอยรูดีวายายพิศมีความสุขมาก ทุกครั้งที่ตนไปเยี่ยมที่หองและนั่งคุยดวย ฉะนั้นพลอยจึงพยายามไปหายายพิศบอยๆ เทาที่จะมีเวลา และทุกครั้งที่ไปหายายพิศ พลอยก็ดูเหมือนจะมี ความสุขใจดวยเหมือนกัน เพราะยายพิศดูเหมือนจะเปนสายโซเสนเดียว ที่ยังโยงชีวิตของพลอยในปจจุบัน ให ติดตอกับความหลัง ทั้งหลายทั้งปวงที่ผานมาแลวนานหนักหนา ยายพิศชอบพูดถึงเรื่องเกาๆ และนําเอาตัว บุคคลที่ตายไปแลว มาเปรียบเทียบกับคนรุนที่เกิดมาทีหลังเสมอ ลูกของพลอยทุกคน ยายพิศก็มักจะเปรียบ เทียบกับคนแตกอน ใหพลอยฟงวาคนนั้นเหมือนใครคนนี้เหมือนใคร เปนตนวาตาอั้นนั้นยายพิศก็ดูและพูดวา "คุณอั้นนั้นหนาตามาทางคุณพลอย แตใจคอไมเหมือน บาววาไปทางเจาคุณพอของคุณอั้นมากกวา" "ฉันเองดูไมออกหรอกพิศ" พลอยพูด "พิศวาตาอั้นเหมือนคุณเปรมตรงไหน" "ตรงนิสัยใจคอ เจาคุณทานปงปงทําอะไรทําจริง แลวก็ชอบที่แปลกๆ ใหมๆ คุณอั้นก็เหมือนกัน" "บางทีก็จะจริง...แลวตาออดเลา"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy401.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑

Page 3 of 6

"คุณออดนั้นหนาตาไปทางเจาคุณพอ แตใจคอกลับไปเหมือนเอาคุณเพิ่ม ชั่วแตวาคุณออดดีกวาที่สุขุม ไมเอะอะเกกมะเหรก คุณเพิ่มเมื่อยังหนุม บาวตองคอยปราบเสมอ เกะกะก็เทานั้น เมาก็เทานั้น แตถาพูดถึงน้ํา ใสใจคอ ก็เผื่อแผมีเมตตาเหมือนกับคุณออดนั่นเอง" "ประไพเลาพิศ" พลอยซักตอ "เฮอ !" ยายพิศถอนใจ "คุณพลอยอยาถือคนแกเลยทูนหัว คุณถามมาบาวก็จะบอกให คุณประไพนั้นยิ่ง สาวขึ้นมาก็เหมือนคุณพลอย ราวกับพิมพเดียวกัน แตคุณพลอยใจคอเหมือนทานฟากขะโนน" คําวา "ทาน ฟากขะโนน" นั้น ยายพิศหมายถึงเจาคุณพอของพลอย "คุณพลอยจึงเยือกเย็น ไมโกรธไมโมโหไมวูวาม แต คุณประไพนั่นบาวดูๆ ไปยิ่งเห็นเหมือนคุณแมของคุณพลอย ตรงนี้แหละที่หนักใจ" "ก็ไมเห็นจะเปนอะไรนี่พิศ" พลอยวา "แมดีออกจะตายไป" "ดีนะไมมีใครดีเทาแลวเจาประคุณ" ยายพิศยกมือทวมหัว "แตคุณพลอยอยาลืมวาคุณแมของคุณ แสน งอนก็เทานั้น ใจเร็วก็เทานั้น...แลวก็เจาชูเอาการอยูทีเดียว" ยายพิศพูดตรงๆ อยางที่รูอยูแลววาตนเปนคนแก และอยูกับพลอยมานาน จนไมมีอะไรจะถือโกรธกันอีกตอไป "พิศก็ชางเอาที่ไหนมาพูด !" พลอยทวงขึ้นเมื่อยายพิศกลาวหาวาแมของตนเจาชู ยายพิศหัวเราะอยางชอบใจแลวก็โขกหมากในครกทองเหลืองไปพลางแลวพูดวา "คุณพลอยยังเล็กนักในตอนนั้นจะไปรูอะไร บาวโตแลวไดอยูกับคุณแมมากกวาคนอื่น ถึงไดรูใจกันดี วา แตคุณพลอยคอยระวังคุณประไพใหดีก็แลวกัน บาวมันแกเสียแลว ไมยังงั้นก็จะชวยดูใหอีกคนหนึ่ง คุณประไพก็ สวยจริงๆ เสียดวย ดูไมดีก็จะลําบาก" "เด็กเดี๋ยวนี้ไมเหมือนแตกอนหรอกพิศ" พลอยตอบอยางหนักใจเหมือนกัน "พอเขาโตแลว เขาก็เลี้ยงตัว เขาเอง ฉันจะไปวาอะไร ก็กลัวเขาจะวายุงไมเขาเรื่อง" "อะ ! พูดอยางนั้นจะใชไดหรือ" ยายพิศรอง "แมลูกกันก็ตองฟงกันมั่งซีคุณพลอย คุณเสียอีกที่ใจดีไป หนอยเทานั้นเอง ถาคุณแข็งเขาบาง ลูกเตาก็ตองกลัวตองเกรงใจไปเอง ที่ไหนจะไปกลา" แลวยายพิศก็นั่งบน พึมพําไปอีกนาน ความจริงคําพูดของยายพิศวา ประไพเหมือนยายในนิสัยที่ยายพิศเรียกวา "เจาชู" นั้นสะกิดใจพลอยอยู มากเหมือนกัน เพราะประไพขณะนี้โตขึ้นเปนสาวเต็มตัว พอที่จะมีเหยามีเรือนได นับวาอยูในวัยที่ทําใหพลอย ตองคิดมาก แตประไพก็ยังมิไดแสดงทาทีออกมาใหแนชัดวาสมัครใจจะมีเรือนหรือยัง ประไพเปนคนมีเพื่อนฝูงเพศเดียวกันและรุนราวคราวเดียวกันมาก จนพลอยเกือบจะจําหนาและจําชื่อ ไดไมทั่วถึงวาใครเปนใคร เพื่อนฝูงของประไพสวนมาก เปนคนที่อยูในฐานะใกลเคียงกัน และเคยเปนเพื่อนนัก เรียนมาแตครั้งประไพยังเรียนหนังสือ และยับคบหากันมาจนบัดนี้ เพื่อนฝูงเหลานี้ไปมาหาสูที่บานเสมอ และรีบ ประไพไปเที่ยวหรือไปงานตางๆ ตามบานของตนบอยที่สุด พลอยเองก็มิไดสนใจเขาไปเกี่ยวของ เพราะตางวัย กันเปนหนักหนา ทุกครั้งที่พลอยเขาไปทักทาย หรือคุยกับสาวๆ เหลานี้ เสียงหัวเราะตอกระซิกกันจะเงียบลง ทันที และตางคนก็ตางพูดกับพลอยอยางเกอเขิน ทําใหพลอยตองเกอไปดวย และไมอยากเขาไปเกี่ยวของมาก นัก เพราะเกรงวา ตนจะเปนคนขัดความสนุกสบายของลูก พลอยยอมรับเอาประเพณีใหม ที่ปลอยใหลูกสาวไปไหนมาไหนกับเพื่อนฝูงไดโดยอิสระ ถาหากวาเพื่อน ฝูงเหลานั้นเปนหญิงดวยกัน และไปกันหลายๆ คน แตพลอยก็ยังวางเงื่อนไขวา ประไพจะไปไหนมาไหนก็ ตองบอกกันกอน สวนในเวลากลางคืนนั้นหามไปเด็ดขาด นอกจากจะไปกับพี่ชายคนใดคนหนึ่ง ฉะนั้นในเวลา กลางวัน ประไพจึงมักจะมาขออนุญาตไปเที่ยวบานเพื่อน ไปซื้อผากับเพื่อน และไปดูหนังกับเพื่อนอยูเสมอ ซึ่ง พลอยก็ไมคอยขัด แตเวลากลางคืนถามีงานใดที่เพื่อนฝูงเชิญ ประไพก็ใหเพื่อนฝูงของตนเชิญตาออดหรือตาอั้น ดวย แตตาออดเปนคนไมชอบไปการงานนัก ประไพจึงตองขอรองใหตาอั้นไปเปนเพื่อนเสมอ และตาอั้นก็มักจะ ตามใจนองสาวไมคอยขัด งานตอนบายติดตอไปถึงกลางคืนนั้น เปนงานชนิดใหมซึ่งพลอยเพิ่งจะมาไดยินชื่อ โดยมากมักจะเปน งานวันเกิดของเพื่อน หรือฉลองครบรอบปวันแตงงานของเพื่อนที่แตงงานไปแลว ประไพเรียกงานเหลานี้วา "ปารตี้" เสียงพูดอยูบอยๆ วาจะตองไปปารตี้ของคนนั้นบาง คนนี้บาง และเมื่อจะมีงานปารตี้ครั้งใด ประไพก็ ตองโกลาหลซื้อผาตัดเสื้อ และตัดเสื้อใหมทุกครั้งไป วันหนึ่งพลอยอดรนทนไมไดถามตาออดขึ้นวา "ออด ! ออดรูบางไหม วาไองานปารตี้อะไรของประไพนั้นนะ เขาทําอะไรกันบาง" ตาออดหัวเราะแลวถามกลับมาวา "แมจะไปกับเขาบางหรือ" "ไมใช แมถามจริงๆ เพราะอยากรู" พลอยตอบ "เห็นประไพเขาพูดถึงบอยๆ แมก็เลยสงสัย ไมรูวาเขาทํา อะไรกัน" "ลูกก็ไมคอยรูวาเขาทําอะไรกันเหมือนกัน" ตาออดวา "ก็เห็นเขาเชิญคนไปแยะๆ แลวก็มีของเลี้ยง มีหีบ เสียงมีดนตรีแลวก็นั่งคุยกัน สวนมากก็นินทากันเอง บางแหงหรูหราหนอยก็มีเตนรํา"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy401.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑

Page 4 of 6

"มีเตนรําดวย" พลอยทวนคําตาออด "แลวใครเปนคนเตน" "ใครที่เตนเปนก็เตนไป ยายประไพแกเคยมาขอใหลูกหัดให แตลูกขี้เกียจ เขาจึงไปขอใหพี่อั้นหัด ดู เหมือนจะเปนแลว" "อะไร ! ประไพเตนรําเปนเหมือนกันหรือ" พลอยถามอยางไมเชื่อหู เพราะไมรูเรื่องนี้เลย "แมอยาเอะอะไปเลย" ตาออดตอบ "เดี๋ยวนี้ใครๆ เขาก็เตนเปนกันทั้งนั้น ยิ่งผูหญิงสาวๆ รุนประไพเขา เตนเปนกันทุกคน" "ดูซียายประไพ !" พลอยพูดอยางเคืองๆ "จะบอกสักคําก็ไมมี ตาอั้นก็พอดีกัน แลวประไพไปเที่ยวเตนรํา กับใครบาง" "ลูกจะไปรูไดอยางไร" ตาออดตอบบายเบี่ยง "แตแมอยาคิดมากไปเลย ประไพจะไปไหนพี่อั้นเขาก็ไป ดวยเสมอ มีพี่ชายคุมไปทั้งคน จะเปนอะไรหนักหนา" "ถึงอยางนั้นก็เถิด" พลอยพูดอยางไมวางใจนัก แตตาออดก็ชวนคุยเสียดวยเรื่องอื่น ความรูที่ไดรับใหมจากตาออดทําใหพลอยมองดู 'งานปารตี้' ของประไพดวยความสงสัย แตจะหามเสีย เลยก็ไมได เพราะตาอั้นเปนคนรับวาจะไปดวยทุกครั้งไป และครั้งใดที่ตาอั้นติดธุระ ประไพก็มักจะมาเคี่ยวเข็ญ ออนวอนตาออด จนตาออดตองรับไปดวยจนได วันหนึ่งพลอยนั่งอยูกับตาออดสองคน คุยกันถึงเรื่องการกินอยูของตาอนที่อยูในคุก ประไพก็เขามาหา แลวพูดขึ้นหลังจากพูดเรื่องอื่นๆ เปนพิธีวา "คุณแม เดือนหนาก็วันเกิดของประไพแลว" "แลวยังไง" พลอยพูดอยางไมสนใจเทาไรนัก "ไพอยากขออะไรคุณแมสักอยาง" ประไพตอบ "แมก็เคยใหของประไพทุกป ปนี้ลูกจะเอาอะไร" พลอยถามอยางอารมณดี เพราะอยากจะตามใจลูก สาวอยูเหมือนกัน "ไพอยากได...ไพอยากมี..." ประไพพูดตะกุกตะกัก "อยากไดอะไรลูก" พลอยถามอยางเมตตา "ไพอยากมีปารตี้ เชิญพวกเพื่อนๆ มาที่บาน" ประไพตอบ พลอยเหลียวดูตาออดอยางขอความเห็น แต ตาออดก็ยิ้มพยักหนาชวยพูดใหวา "พี่ก็เห็นดวย ประไพควรจะมีกับเขาสักที จะไดตอบแทนคนอื่นที่เขาเชิญเราไปหลายครั้งแลว" ความเห็นของตาออดทําใหพลอยไมอาจทัดทานประไพอยางไรได ไดแตพยักหนาอนุญาตแลวถามวา "งานอยางนี้แมก็ไมเคยจัดสักที ประไพตองการอะไรบาง เขามีอะไรบางประไพตองคอยดู อยาใหขาด เหลือ" ประไพวิ่งเขามาไหวเกือบถึงบนตักพลอยดวยความดีใจ แลวก็พูดอยางลําล่ําละลักวา "คุณแมไมตองเปนหวง ลูกจะจัดเอง เวลายังอยูอีกนานพอที่จะคิดจะเตรียมไดอีกมาก คุณแมไมตองทํา อะไรทั้งนั้น เผื่อลูกตองการอะไรลูกจะบอกมา แลวพี่ออดชวยบางก็แลวกัน" ประไพพูดทิ้งทายไวใหกับพี่ชาย แลวก็ออกจากหองไปอยางลิงโลดดีใจ อางวานัดกับเพื่อนไวขืนอยูชักชาจะผิดนัด พอประไพออกจากหองไปแลว พลอยก็ถามตาออดขึ้นวา "ออด ! เมื่อกี้ออดพูดจริงหรือเลน" "อาว ! แลวกัน พูดจริงๆ ซีแม !" ตาออดรอง "แมอยาลืมวาประไพเขาโตเปนสาวแลว เพื่อนฝูงก็มาก เดี๋ยวก็มีคนเชิญไปโนนมานี่บอยๆ เมื่อรับเชิญเขาไปแลว จะไมเชิญเขาตอบบางก็ดูไมงาม อีกอยางหนึ่ง แมจะ ไดเห็นวาคนสมัยนี้เขามีการงานกันอยางไร และเพื่อนฝูงของประไพเขาแตละคนเปนอยางไรบาง ความจริงลูก เห็นวาประไพเขาทําถูก เขาจะรูจักใครหรือมีเพื่อนฝูงที่ไหน เขาก็พาเขามาในบานใหรูจักแม รูจักพี่ของเขา เขา ไมออกไปพบกันนอกบาง แมควรจะดีใจที่มีลูกสาวอยางนี้" "แมก็ไมไดวาอะไร" พลอยตอบ "เมื่อออดเห็นวานองทําถูกก็ดีแลว แมจะไดวางใจได" ตั้งแตนั้นมาประไพก็ตระเตรียมงานวันเกิดที่จะมีที่บาน เริ่มตนดวยการเลือกผาตัดเสื้อชุดที่จะใส ไดผา แลวก็คิดแบบ และวุนวายไปจนตัดเสื้อเสร็จ ไดเสื้อแลวประไพก็มาขอใหพลอยชวยเลือกของแตงตัว ที่จะใสให เขากับเสื้อ ตอจากนั้นก็เตรียมอาหาร เตรียมภาชนะ โตะเกาอี้และเครื่องใชตางๆ พลอยดีใจที่เห็นวา ยิ่งใกลวัน เขามา ตาออดและประไพดูกลมเกลียวสนิทสนมกันยิ่งขึ้น เพราะประไพตองมาขอความชวยเหลือ จากตาออด ใหจัดโนนจัดนี่ใหบอยๆ ซึ่งตาออดก็รีบทําใหดวยความยินดีทุกครั้ง จนพลอยเห็นไดเองวา เมื่อมีการงานที่จะทํา แกนองสาว ตาออดดูเปนคนขยันผิดสังเกต และหลังจากที่ไดตระเตรียมทุกอยาง เรียบรอยแลว วันงานวันเกิด ของประไพก็มาถึง ตอนบายพอแดดรม พลอยแตงตัวเสร็จแลวก็ออกไปนั่งที่สนามหญาหนาตึก ตามที่ประไพไดบอกไว ที่ สนามนั้นมีโตะเกาอี้ตั้งเรียงราย โตะใหญตัวหนึ่งจัดวางไวที่มุมสนาม สําหรับเครื่องดื่มตางๆ และอีกโตะหนึ่งมี อาหารหลายอยางใสจานวางไวเต็ม พรอมทั้งภาชนะและสอมชอนที่จะใชเวลารับประทาน พลอยเหลือบตาดู

http://www.geocities.com/siamstory/ploy401.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑

Page 5 of 6

รอบๆ อยางพอใจ เพราะครั้งนี้เปนครั้งแรกที่ประไพจัดงานทุกอยางและสั่งการตางๆ ดวยตนเอง โดยที่พลอยมิ ไดเขาไปเกี่ยวของ แตผลงานนั้นดูเรียบรอยไมขาดตกบกพรอง ทําใหพลอยภูมิใจวาลูกสาวของตน เติบโตเปน ผูใหญที่สามารถ ประไพแตงตัวดวยชุดสีชมพูออน รับกับผิวเนื้อที่กําลังเปลงปลั่งดวยความเปนสาว ผมที่ดัดใหม ดวยเครื่องไฟฟาและน้ํายานั้นดูรับกับใบหนา และที่คอของประไพผูกจี้ทับทิมโบราณ ที่เจาคุณพอใหพลอยเมื่อ โกนจุก และพลอยไดมอบใหเปนของขวัญวันเกิดของประไพในวันนี้ ประไพยืนอยูกลางสนาม คอยตอนรับแขกที่ กําลังทยอยกันมา ดวยทาทางที่ไมเคอะเขินปราศจากขวยอาย แตขณะเดียวกันก็ไมทิ้งกิริยามารยาทที่สุภาพ ออนโยน ทําใหพลอยนั่งนึกชมลูกสาวอยูในใจ และนึกถึงตัวเองเมื่อยังสาวอายุเทาประไพวา คงไมสามารถรับ แขกไดดีเทาประไพทําอยูในขณะนี้ เพราะจะมัวแตประหมาหรือกระดากอายอยู ตามประสาหญิงสาวสมัยนั้น แขกที่มานั้นมีทั้งชายและหญิง อายุรุนราวคราวเดียวกับประไพเปนสวนมาก ทุกคนแตงกายเรียบรอยตามสมัย นิยม และมีกิริยาวาจาอันสุภาพ พลอยแลเห็นก็รูไดทันทีดวยความโลงใจวาประไพรูจักคบเพื่อน เลือกคนที่มี ฐานะและสิ่งแวดลอมเชนเดียวกับตน เพื่อนของประไพทุกคนจึงดูไมนารังเกียจ และเปนบุคคลที่พลอยเห็นวาพึง ตอนรับไดทั้งสิ้น วันนั้นมีแขกมาราวๆ สามสิบคนเศษ ลวนแลวแตคนหนุมคนสาว ตางคนตางทักทาย และจับกลุมคุยกัน อยางคุนเคย เสียงพูดคุย เสียงหัวเราะอยางราเริง ดังสอดคลองเสียงดนตรีเพลงฝรั่ง ที่เปดจากหีบเสียงใหญ ตั้ง ไวที่มุมสนาม ทุกคนมีหอของขวัญหรือดอกไมมาใหประไพในวันนี้ และพลอยอดไมไดที่จะชมลูกสาวตนแตในใจ อีกวา ชางแสดงอาการกิริยาดีใจ และชอบใจไดอยางมากเปนพิเศษ ทุกคราวที่ไดรับของ เหมือนกับวาของนั้น เปนของขวัญชิ้นแรกที่ประไพไดรับทุกครั้งไป เมื่อแขกมาครบแลว ประไพก็ออกเดินเที่ยวคุยกับแขกที่จับกลุมกันอยูรอบๆ สนาม ตาออดกับตาอั้นก็ เที่ยวเดินทักทายปราศรัยอยูทั่วๆ ไป แขกหลายคนถูกตาออดหรือประไพ พาตัวมาทําความเคารพ และแนะนํา ตัวใหรูจักกับพลอย แตพลอยก็ไดแตยิ้มแยมทักทาย พยักพเยิดไปตามเรื่อง ไมมีปญญาที่จะจดจําไดหมดวาใคร ชื่ออะไร หรือเปนลูกเตาเหลาใคร รูแตเพียงวาคนเหลานี้เปนเพื่อนของประไพ เปนเด็กหนาตาดีคราวลูกคราว หลาน ซึ่งควรจะปลอยใหพูดคุยกันเองตามประสาเด็ก ไมควรที่จะตองมานั่งคุยกับคนแกอยางพลอย ฉะนั้นเมื่อ ทักทายตามธรรมเนียมแลว พลอยก็ไดแตเชื้อเชิญ ใหคนเหลานั้นทําตัวตามสบาย ไมหนวงเหนี่ยวเอาไว พลอยนั่งมองดูกลุมคนหนุมคนสาวเหลานั้นอยูเงียบๆ โดยมิไดสนใจกับใครเปนพิเศษ แตก็อดสังเกต ชายหนุมคนหนึ่ง ที่ยืนหัวเราะคุยกับประไพอยูมิได สิ่งที่ชวนใหสังเกตนั้นก็คือ ชายหนุมคนนั้นมิไดแตงกาย แบบสากลอยางชายหนุมคนอื่นๆ ที่มาในงาน แตนุงผามวงหางกระรอกสีตะกั่วตัด สวมถุงเทารองเทา และเสื้อ นอกขาวคอปดกระดุมหาเม็ด ชายหนุมคนนี้พอพลอยเห็นก็รูทันทีวาเปนผูมีตระกูล เพราะผิวพรรณนั้นดูมีราศี และกิริยาทาทางก็ดูจะถูกกับใจพลอยเปนพิเศษ ประไพยืนคุยกับชายหนุมนั้นอยางรื่นเริงอยูสักครูหนึ่ง แลวก็พาชายหนุมนั้นเดินตรงมาทางที่พลอยนั่ง พอมาถึงพลอยประไพก็พูดขึ้นวา "ทานยังไมทรงรูจักคุณแม......คุณแมคะ นี่ทานชายนอย" พลอยนึกอยูแลววาเด็กหนุมคนนี้ไมใชคน ธรรมดา พอรูวาเปนทานชายเปนเจาก็รีบยกมือขึ้นถวายบังคม ทานชายกมเศียรยกหัตถบังคมพลอยอยางออนนอม แลวก็ลดองคลงประทับที่เกาอี้ใกลๆ พลางรับสั่งวา "ชายชื่อสิทธิเดช แตใครๆ เขาก็เรียกชายวานอยทั้งนั้น" ถึงทานชายนอยจะเปนคนหนุม ที่อาจเปนลูกหรือหลานของพลอยไดก็ตาม แตเมื่อพลอยรูวาทานชาย เปนเจานาย พลอยก็รวบรวมเนื้อตัวเขามาอยูในทาสงบเสงี่ยม ทําทาเฝาแหนอยางที่เคยมา ขณะเดียวกันพลอย ก็นึกชมทานชายนอยอยูแตในใจวา มีกิริยามารยาทนอบนอมตอผูใหญ และเรียบรอยนาดูไปทุกอยาง สมกับเปน เจานาย ทานชายรูจักวางองคและรูจักใชถอยคําที่พอสมควร ทําใหพลอยซึ่งเปนคนรักเจานายอยูแลวดวยนิสัย ดั้งเดิม รูสึกดีใจที่เห็นวากิริยามารยาทเหลานั้น ยังมิไดสูญไปในเจานายหนุมๆ ทานชายรับสั่งบอกพลอย ใหรูจัก พระนามเสด็จพอ ซึ่งทรงเปนตางกรมพระองคหนึ่งที่พลอยรูจักดี พลอยถามขึ้นอยางผูใหญ ที่มักชอบถามถึงบิ ดารมารดาของคนที่เปนเด็กกวาตนวา "หมอมไหนมังคะทานชาย" "หมอมเอื้อนคะ" ทานชายรับสั่งตอบ "หมอมแมทานเคยอยูที่บนใชไหม" พลอยพูดเพราะเพิ่งนึกขึ้นได "หมอมฉันจําไดวาเคยเห็นเคยรูจัก แต ออกจากวังมาแลวไมคอยไดพบปะ" "ใชคะ" ทานชายรับสั่งตอบ "เมื่อชายยังเล็กๆ หมอมแมยังเคยพาไปวิ่งเลนที่วังพญาไทเสมอ" การที่ไดรูวาทานชายเปนโอรสของเจานายที่ตนรูจักดี เคยเฝาแหนมาพรอมๆ กับคุณเปรม รวมทั้งหมอม แมของทานชาย ซึ่งเปนคนที่พลอยเคยรูจักมาแตในวัง ทําใหพลอยรูสึกเมตตาทานชายมากขี้นไปอีก ทานชายรับสั่งเลาใหฟงวา เคยเปนนักเรียนนอกรุนเดียวกับตาอั้นและตาออด เคยรูจักลูกพลอยทั้งสอง คน เปนอยางดี ไดเคยเที่ยวเตรดวยกัน และอยูบานเดียวกันกินนอนมาดวยกันเสมอ เมื่อกลับมาแลว ตาอั้นเปน ผูแนะนําใหรูจักกับประไพในงานแหงหนึ่ง และไดรับเชิญมาในงานวันเกิดของประไพในวันนี้ ทานชายเลาให

http://www.geocities.com/siamstory/ploy401.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑

Page 6 of 6

พลอยฟงดวยวา เสด็จพอสิ้นพระชนมเสียแตทานชายยังประทับอยูที่เมืองนอก เวลานี้ทานชายจึงยังมีแตหมอม แม ซึ่งเจ็บๆ ไขๆ อยูเปนนิจ เจานายทองเดียวกับทานชายนั้น มีทานหญิงอีกสององคเปนเจาพี่ และมีชายเล็ก องคหนึ่งเปนนองชันษายังนอย เวลานี้ทานชายประทับอยูที่วังกับหมอมแม และรับราชการอยูในกรมกองแหง หนึ่ง เปนขาราชการชั้นโท ชั้นหัวหนาแผนก ขอความตางๆ ที่ทานชายเลาใหพลอยฟง ตลอดจนกิริยาทาทางที่สนิทสนมเปนกันเอง ทําใหพลอยนึก รัก และเอ็นดูทานชายมากกวาเพื่อนฝูงของประไพคนอื่นๆ ความรูสึกนั้นเหมือนกับวาไดรูจักกับทานชายมา นาน จนคุนเคยแลวเปนอยางดี "ทานชายเสด็จมาวันนี้ก็ดีแลว" พลอยออกปาก "วันหลังก็ขอเชิญเสด็จมาที่นี่อีก ออดกับหมอมฉันอยู บานเสมอ อั้นเขาตองไปทํางาน ประไพเขาก็อยูบางไมอยูบาง แตบางทีทานชายจะไมโปรด คุยกับคนแกอยาง หมอมฉันก็ไมรู" ทานชายทรงพระสรวลแลวรับสั่งวา "คุณหญิงยังไมเห็นแกเทาไรเลย แตถึงอยางไรชายก็ชอบคุยกับคนแกอยูแลว เห็นจะเปนเพราะอยูกับคน แกมาตั้งแตเด็ก" "คุณแมเอาทานนอยมาเก็บไวที่นี่เอง" เสียงตาออดมาพูดขึ้นขางๆ ตัว ทําเอาพลอยตองสะดุงเหลียวไปดู "ทานนอยถาจะยังไมไดเหวยอะไรกระมัง เด็จไปที่โตะโนนกอนดีกวา ขืนทิ้งไวนาน เดี๋ยวจะหมดเสียเลยตองอด เพื่อนๆ ยายประไพกินกันราวกับอะไรดี" "ดูซิ จริงๆ แหละ แมก็ลืมไป" พลอยรองขึ้น "ทานชายเด็จไปเหวยเสียกอนเถิดมังคะ หมอมฉันก็ชวน ทานชายคุยเสียนานจนเผลอตัวไป" ทานชายลุกขึ้นชาๆ พลางกมองคลงถามพลอยวา "คุณหญิงจะรับประทานอะไรบางไหม ชายจะตักมาให" พลอยรูสึกเหมือนกับวามีใครเอาน้ําเย็นมาลูบในหัวใจ ถึงพลอยจะอายุมากแลวก็ตาม พลอยก็ยังมีจิตใจ ของผูหญิงอยูครบบริบูรณ ชอบใหคนเอาใจใส ชอบใหคนปรนนิบัติ เอาใจเล็กๆ นอยๆ เมื่อยังเปนสาวก็ยอมที่ จะหาความเอาใจใส การเอาใจจากคูรักหรือสามี เมื่ออายุพนความรักอยางหนุมสาวไปแลว ก็ชอบใหลูกหลาน หรือคนที่เด็กกวาปรนนิบัติเอาใจ พลอยยิ้มมองดูทานชายอยางปลื้มปติพลางพูดวา "ไมเปนไรหรอกมังคะ ทานชายเหวยกอนเถิด หมอมฉันเองเมื่อไรก็ได" ทานชายเดินตามตาออดหายไปครูหนึ่ง แตแลวก็กลับมาที่พลอยอีก พรอมทั้งอาหารตักใสจานเรียบรอย และน้ําเย็นอีกหนึ่งแกว ทําใหพลอยตื้นตันในน้ําใจของเด็กคนนี้จนแทบจะกลืนอะไรไมลง งานวันเกิดประไพดําเนินไปอยางเรียบรอย จนราวๆ ๕ ทุม แขกตางก็ทยอยกันกลับ จนในที่สุดสนามซึ่ง เต็มไปดวยเสียงเพลงเสียงหัวเราะนั้น ก็กลับเงียบและวางเปลา คงเหลือแตไฟฟาสีตางๆ สองแสงสลัวอยูใน ความชื้นเยือกเย็นของอากาศตอนดึก พลอยขึ้นบันไดชาๆ กลับขึ้นไปบนตึก และเขาไปในหองนอน ลงนั่งที่หนา กระจกเงาบานใหญ พิจารณาดูรูปรางสังขารของตัวเองที่ชราลงไป พลางนึกถึงประไพที่กําลังเปนสาวสวยเต็ม บริบูรณ ประไพยองเขามาในหองเบาๆ ทรุดตัวลงนั่งคุกเขาขางๆ พลอย เอาแขนพาดไวบนตักพลอยแลวพูดวา "ไพขอเขามาขอบพระคุณคุณแมอีกครั้งหนึ่ง" แลวก็กราบลงบนตัก พลอยยกมือขึ้นลูบผมประไพเบาๆ ถามวา "สนุกไหมลูก" "สนุกเหลือเกิน" ประไพตอบ "ที่ลูกไดสนุกสบายก็เพราะคุณแมของลูกใจดีที่สุด" "ไมเปนไรหรอกประไพ" พลอยพูดเบาๆ "ไมตองขอบอกขอบใจอะไรแมหรอก แมไดเห็นไดรูวาลูกของ แมเปนสุขก็พออยูแลว" ประไพกอดพลอยอยางแรงๆ เต็มรักทีหนึ่ง แลวก็บอกวาจะกลับไปนอน กอนที่ประไพจะออกจากหอง พลอยไป พลอยก็พูดตามไปวา "เดี๋ยวกอนประไพ........ทานชายนอยของประไพนั้นนาเอ็นดูเต็มที" ประไพหัวเราะกี๊กแลวตอบวา "ประไพนึกแลวคุณแมตองรัก ทานนอยทานกะตวมกะเตี้ยมเสียจนผูใหญรักทุกคน" "วันหลังประไพชวนทานเสด็จมาบานบอยๆ ก็ได" พลอยพูด ประไพหัวเราะอยางชอบใจแลวตอบวา "แตไมชวนยังเกือบจะมาดักพบประไพทุกวันอยูแลว ถาออกปากชวนทานมิขนของมาอยูที่นี่เลยหรือ" แลวประไพก็เดินรองเพลงเบาๆ ออกจากหองไป ปลอยใหพลอยนั่งนึกในใจอยูคนเดียววาเด็กสมัยนี้ พูดอะไรไม เห็นคอยรูเรื่องสักที

http://www.geocities.com/siamstory/ploy401.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๒

Page 1 of 6

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๒ ประไพจะไดไปชวนทานชายนอยใหมาเที่ยวที่บานไดบอยๆ หรือเปลา พลอยก็ไมมีหนทางที่จะทราบได แตหลังจากงานวันเกิดของประไพแลวเปนตนมา ทานชายก็เสด็จมาที่บานบอยๆ ตามที่พลอยไดออกปากชัก ชวนไว ตามปกติทานชายมักจะมาในเวลาเย็น เมื่อเสร็จจากราชการแลว หรือถาเปนวันเสารวันอาทิตยที่ ราชการหยุด ทานชายก็จะมาแตวัน และเมื่อมาแตละครั้งก็มักจะประทับคุยอยูนานๆ ทุกครั้งที่ทานชายมาบาน ทานชายจะตองมาหาพลอยกอนเสมอ และถาเวลานั้นเปนเวลาที่ประไพอยูบาน พลอยก็จะสั่งเด็กคนใชไปตาม ประไพมา "เฝาทานชาย" ทุกครั้งไป การปฏิบัติตนของตาอั้นก็ดีตาออดก็ดี ตลอดจนประไพที่กระทําตอทานชายนั้น เปนไปในฐานเพื่อนชอบ พอ ถึงแมวาเวลาพูดจากับทานชาย คนเหลานั้นจะใชราชาศัพทก็ตาม แตวิธีการพูดจาและกิริยาอาการที่แสดง ตอกันนั้น เปนไปในฐานเพื่อนฝูง ที่รุนราวคราวเดียวกัน ปราศจากการคารวะนอบนอม อันควรแกชาติกําเนิด ของทานชายที่เปนเจา การปฏิบัติตนของลูกๆ จึงแตกตางกับของพลอยอยางหางไกล เพราะพลอยยังถือวาทาน ชายเปนเจานายอยางเครงครัด ความสนิทสนมคุนเคยและความรักความเอ็นดู ที่พลอยมีตอทานชาย หาไดทํา ใหพลอยเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติตนแตอยางใดไม ทุกครั้งที่ทานชายมาเยี่ยม พลอยก็ทําทาเฝาแหนอยางสงบ เสงี่ยม ถานอนเลนอยูที่พื้นก็เปลี่ยนเปนขึ้นนั่งพับเพียบ ถานั่งอยูบนเกาอี้พลอยก็มักจะสํารวมแขนขา เขามาอยู ในทาที่ควรแกการเฝาเจานาย ถอยคําที่ใชพูดกับทานชายนั้น ก็ถูกตองอยางที่ชาววังแทๆ เทานั้นจะรูจักใช การ ระมัดระวังตัวและถอยคําวาจา มิไดเปนอุปสรรคทําใหทานชายหางกับพลอยเลย ตรงกันขาม ยิ่งนานวันเขา พลอยก็ยิ่งนึกรักนึกเอ็นดู และยิ่งนึกชมทานชาย วาเปนเจานายไดจริงสมชาติกําเนิด เพราะอาการกิริยาของ พลอย ที่เต็มไปดวยความเคารพนอบนอมนั้น มิไดทําใหทานชายตองเกอเขินขวยอาย อยางที่เด็กหนุมๆ บาง คนอาจเปน และก็มิไดทําใหทานชายวางทาภาคภูมิ ถือโอกาสเอาการคารวะนอบนอมนั้น เปนเหตุใหเห็นไปวา พลอยเปนคนที่อยูในฐานะต่ํากวาตน ทานชายถือเอากิริยาของพลอยนั้นเปนของธรรมดาที่สุด และขณะเดียวกัน ทานชายก็แสดงความนอบนอม ในฐานที่พลอยเปนผูใหญ พบกันครั้งไรทานชายก็บังคมกอนที่พลอยจะรีบยก มือขึ้นทันทุกครั้งไป และวิธีที่ทานชายจะพูดจากับพลอยนั้น ก็เรียบรอยออนหวาน เหมือนกับทานชายรับสั่งกับ ญาติผูใหญ วันไหนที่ทานชายเสด็จมาแลว มีตาออดหรือตาอั้นหรือประไพอยูที่บาน ทานชายก็จะประทับคุยกับ พลอยอยูครูหนึ่ง แตพลอยก็รูดีวา ทานชายคงตองประสงคที่จะพูดจาเลนหัวกับเพื่อนๆ ที่เปนลูกของตนมากก วา จึงมักจะถอนตัวออกจากวงคุย โดยอางธุระอื่นๆ ทิ้งใหอยูกันตามลําพังคนหนุมคนสาว แตวันไหนที่ทานชาย เสด็จมาบาน แตไมมีใครอยูนอกจากพลอย ทานชายก็จะประทับรับสั่งกับพลอยไดเปนเวลานานๆ ไมแสดง อาการเบื่อหนายหรือรีบรอนที่จะลากลับ ความประพฤติองคของทานชายดังกลาว ทําใหพลอยเขาใจวา ทานชายเปนมิตรกับคนทุกคนในบาน แม แตตัวพลอยเอง มิใชวาทานชายทรงเลือกจําเพาะเจาะจง จะคบแตกับคนหนุมคนสาวรุนราวคราวเดียวกัน ความ เขาใจอยางนี้ทําใหพลอยยิ่งรักทานชายหนักขึ้นไปอีก วันไหนที่พลอยรูแนวาทานชายจะเสด็จมา พลอยก็เตรียม ของเสวย เชนขนมและผลไม ที่พลอยจะปอกและควานดวยมือของตนเอง ใสครอบแกวชามแกวไวให ของที่ เตรียมไวใหทานชายเสวยนั้น ลูกเตาคนไหนจะมาแตะตองไมไดเปนอันขาด พลอยจะดุวาเอาอยางเอะอะทีเดียว จนวันหนึ่งประไพพูดหัวเราะๆ อยางทีเลนทีจริงขึ้นวา "ไพรูแลวละวา ในโลกนี้คุณแมมีคนอยูสองคน ที่ใครแตะไมได ใครขืนแตะตองคุณแมเปนตองออกรับ แทนทุกที" "ใครกัน" พลอยถาม "พี่ออดกับทานชายนอย" ประไพพูด แลวก็หัวเราะอยางขบขัน "ยายประไพหาความ !" พลอยรองขึ้นดังๆ แตขณะเดียวกันก็อดหัวเราะไมได ที่ประไพรูเขาไปถึงความ รูสึกในใจอันแทจริงของตน "แมไมใชคนลําเอียงถึงเพียงนั้น ตาออดก็เปนลูกคนหนึ่ง แมไมไดรักมากไปกวาลูกคนอื่นๆ เลย" "แลวทานนอยละ ไพเห็นคุณแมเคยออกรับแทนออกบอยๆ" ประไพพูดเชิงสัพยอก "อาว !" พลอยรองเพราะไมรูจะแกตัวอยางไร "ก็ทานชายทานเปนเจาเปนนาย แลวทานก็ดีออก..." "แลวคุณแมก็เลยรักทานจนหลงใชไหม" ประไพพูดยั่วตอไป "จะวารักก็รัก..." พลอยตอบอยางยอมจํานน "แตก็ไมรักเกินไปกวาลูก" ประไพรีบเขามากอดพลอยแลวกระซิบวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy402.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๒

Page 2 of 6

"คุณแมจะรักใครก็รับเถิด ไพไมวา คนใจดีอยางคุณแม ควรจะมีคนมารักมากกวานี้อีกหลายรอยหลาย พันเทา ถาจะพูดไปแลว ทานนอยทานก็นารักจริงๆ ไพเองก็ชอบทานมากเหมือนกัน" คําพูดของประไพทําใหพลอยปลื้มอยูในใจไดนาน พลอยเคยแอบคิดอยูคนเดียวบอยๆ วา ถาไดใครที่ พลอยรักเทาทานชายมาเปนลูกเขยสักคน ชีวิตของพลอยตอไปจะมีความสุขสักเพียงไหน คนหนุมที่มีกิริยา มารยาท ชางพูดชางคุยเห็นใจและรูจักเอาใจผูใหญ คนหนุมที่รูจักสงบเสงี่ยม ไมเหอเหิมหรือเอะอะกะโตกกะ ตาก จะนั่งจะลุกเดินเหินก็มีสงาราศีนาดู พลอยพยายามปฏิเสธกับตนเองเสมอวา มิไดรักทานชายเพราะวาทาน ชายเปนเจา แตความจําเปนที่ตองปฏิเสธนั้น ก็สอใหเห็นชัดอยูแลววา พลอยออกจะปลื้มเต็มที่ในโอกาส ที่อาจ ไดลูกเขยเจาก็เปนได ทั้งที่พลอยยังไมเคยปริปาก พูดจาเรื่องนี้กับประไพแตอยางใดเลย แตทานชายนอยมิใชเพื่อนฝูงผูชาย ที่ประไพรูจักแตคนเดียวในระหวางนี้ นอกจากคนหนุมๆ อีกหลาย คนที่ประไพรูจักแลว พลอยก็ยังไดยินประไพพูดถึงผูชายอีกคนหนึ่งอยูบอยๆ คนๆ นั้น ชื่อ เสวี เทาที่ทราบก็ เปนขาราชการอยูกระทรวงเดียวกับตาอั้น แตดูเหมือนจะมีความสําคัญ ทั้งในทางตําแหนงฐานะ มากกวาตาอั้น อยูบาง พลอยจับความไดจากคําบอกเลาของประไพวา คุณเสวีอายุแกกวาตาอั้นสามสี่ป เปนนักเรียนนอกรุน ผูใหญกวาตาอั้น ขณะนี้คุณเสวีเปนคนที่คอนขางจะสําคัญอยูในบานเมือง ตาอั้นเปนผูที่นับถือเลื่อมใสคุณเสวีอยู มาก ซึ่งก็ไมเปนปญหาที่ประไพจะตองนับถือเลื่อมใสไปตาม ความจริงคุณเสวีเคยมาบานพลอยสองสามหน ใน ทํานองที่มาเยี่ยมตาอั้น และตาอั้นไดพามาใหรูจักกับพลอย เทาที่พลอยสังเกตดูในระยะเวลาอันสั้น คุณเสวีก็ เปนคนวางตัวเปนผูใหญสมกับวัย เปนคนเงียบขรึมแตเรียบรอย ถาจะวาไปหนาตาทาทางของคุณเสวี ก็สมกับ ตําแหนงฐานะ ควรที่ตาอั้นและประไพจะนับถือไดมาก แตมีอะไรบางอยางในตัวคุณเสวี ที่ทําใหพลอยไมสบาย ใจนัก อาจจะเปนเพราะตาคุณเสวีนั้น ไมจับคนประการหนึ่ง และประการที่สอง เวลาคุณเสวีเขามาในบานและ ขึ้นมาบนตึก คุณเสวีก็ใชสายตากวาดไปทั่วๆ เหมือนกับตั้งใจจะประเมินมูลคาทรัพยสินทั้งหมดในบานนั้นวา จะ มีมากนอยเพียงใด พลอยไมเคยพูดจากับคุณเสวีมากนัก เพราะคุณเสวีเปนคนเงียบ สวนพลอยก็เปนคนกระดากคน และนึก กลัวๆ คุณเสวีอยูแลว สําหรับคนๆ นี้ ตาออดออกจะไมพอใจเอามาก เพราะครั้งหนึ่งคุณเสวีมาหา ขณะที่คุณเส วีนั่งคุยอยูกับพลอย ตาออดก็นั่งอยูดวยกับแมหางๆ มิไดสนใจที่จะมาพูดจาดวย แตพอคุณเสวีลากลับไป ตา ออดก็พูดขึ้นมาทันทีวา "ไอหมดนี่ลูกไมถูกสายตาเสียเลย" "แมก็ไมเห็นเขาเปนอะไรนี่ออด" พลอยวา "ดูเขาก็เรียบรอยดี" "เขาอาจเรียบรอยแตกับคุณแม" ตาออดเถียง "แตลูกเห็นมันวางทาใหญโตชอบกล ไมถูกชะตาเสียเลย" "ออดก็เปนเสียอยางนี้แหละ" พลอยบน "จะถูกใจไมถูกใจ ก็ควรจะนิ่งๆ เสียบาง พูดใหแมไดยินคนเดียว ไมเปนไรหรอก แตวาอยาเผลอใหพี่อั้นเขาไดยิน เขาจะวาได เพราะคุณเสวีเปนเพื่อนของเขาเขามาในบาน ดู เขานับถือกันมาก บางทีเขาจะมีอะไรดีอยูบางกระมัง พี่อั้นเขาถึงไดนับถือของเขานัก" "แมกลัวพี่อั้นไปได พี่อั้นวาใครดีก็เห็นดีตามไปหมด" ตาออดพูดอยางรําคาญ "คอยดูไปเถิด ไอหมอนี่จะ ทําความรอนใจใหสักวัน ถาไมระวังตัวกันใหดี ลูกเชื่อตาของลูกมากกวาใครทั้งนั้น" "ออดนี่บทจะดื้อดันทุรัง ก็ดื้อเหมือนกับเมื่อยังเปนเด็กๆ" พลอยพูดเบาๆ พลางถอนใจใหญ "เพื่อนฝูงที่ ลูกๆ พาเขามาในบาน แมก็ตองตอนรับดีทุกคน เพราะเปนเพื่อนของลูก คุณเสวีเขาก็ไมเคยทําอะไรผิด แมก็ เพิ่งไดพบเขาไมกี่หน ออดจะใหแมไปเกลียดเขาไดอยางไร" "ออดไมไดบอกใหแมเกลียด" ตาออดเถีงขางๆ คูๆ อยูนั่นเอง "ออดบอกใหแมระวังหนอยเทานั้นเอง เดี๋ยวเจาหมอนั่นมาพินอบพิเทาเขาหนอย แมก็จะหลงรักไปอีกคนหนึ่งเทานั้น" "ถาใครเขาดีแมก็รักทั้งนั้น" พลอยพูดอยางเปนกลาง แตตาออดก็ยังแสดงอาการไมพอใจ และลุกไปเสีย ทางอื่น ถึงแมัวาตาออดจะไมพอใจคุณเสวีอยางมาก ตาออดก็ไมเคยพูดจากับตาอั้นหรือประไพในเรื่องนี้ และตา อั้นกับประไพนั้น ดูเหมือนจะชอบคุณเสวีมากเทาๆ กับที่ตาออดเกลียด ฉะนั้นทุกคราวที่คุณเสวีมาบาน ตาอั้น กับประไพจึงมักจะเปนคนตอนรับ และนั่งคุยกับคุณเสวีไดนานๆ ทุกครั้งไป ตามปกติคุณเสวี มักจะนั่งคุยกับตา อั้น และประไพจะเปนคนนั่งฟง พลอยเคยเห็นประไพนั่งมองคุณเสวีอยางเลื่อมใส และเมื่อคุณเสวีกลับไปแลว ประไพก็มักจะเอาเรื่องคุณเสวีมาพูดกับพลอยเสมอ จนพลอยตองถามขึ้นตรงๆ วันหนึ่งวา "ประไพชอบคุณเสวีมากหรือ" "ไพชอบมาก" ประไพรับตรงๆ เชนเดียวกัน "เพราะคุณเสวีเปนผูใหญนานับถือ คุยกับคุณเสวีแลวไพได ความรูมากกวาคุยกับคนอื่นๆ ทําใหเห็นวาคนอื่นๆ นั้นเปนเด็กไป พูดคุยแลวก็สนุกไปชั่วประเดี๋ยว แตคุยกับ คุณเสวีแลวรูสึกวาตัวฉลาดขึ้นทุกที" "คุณเสวีแกกวาประไพหลายปอยู" พลอยพูดขึ้นเปนทํานองใหความเห็น "ถึงจะแกกวาเราก็เปนเพื่อนกันได" ประไพตอบแลวก็พูดตอไปวา "ไพชอบคุยกับคนที่เปนผูใหญ คนที่นับถือได คนอื่นๆ ที่เปนเด็กนั้นก็ดีสําหรับสนุกดวยกัน แตก็ไมมี

http://www.geocities.com/siamstory/ploy402.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๒

Page 3 of 6

ประโยชนอะไรนัก ไพชอบคนที่เขาจะแนะนําเราได เปนหลักใหเรายึดถือได" "ชากอนประไพ" พลอยเหลือบดูหนาลูกสาวแลวก็พูดขึ้นเบาๆ "ประไพชอบคุณเสวีแคไหนกันแน" ขณะ เดียวกันพลอยก็นึกถึงทานชายนอย แลวรูสึกไมสบายใจเลย "คุณแมนึกวาไพรักคุณเสวีแลวละซี !" ประไพพูดพลางหัวเราะอยางขบขัน แลวก็พูดตอไปทันทีวา "ไพยังไมเคยนึกรักใครอยางนั้นเลย เรื่องนี้ไพตองขอดูนานๆ กอน เพราะไมแนใจตัวเองวาจะรักใคร ได ตลอดไปถึงเพียงนั้น..... แตถาไพนึกรักใครจริงๆ เมื่อไร ไพจะตองมาบอกคุณแมใหรูเปนคนแรก" คําพูดของประไพทําใหพลอยตองนิ่ง ไมสามารถที่จะพูดอะไรไดตอไป เพราะเมื่อประไพพูดออกมาเสีย กอนวา ยังมิไดนึกรักใครในทางนั้น พลอยก็ไมมีทางที่จะตักเตือนแนะนําอยางไรได เพราะถาพูดไปก็จะเปนวา พลอยพูดจาชักนําลูกสาวใหคิดหาผัว ซึ่งพลอยจะรูสึกกระดากใจเปนที่สุด ถาใครจะมากลาวหาหรือเขาใจไปใน ทางนั้น แตคําพูดของประไพก็หาไดทําใหพลอยคลายความหนักใจ ที่เริ่มจะมีขึ้นในตัวของพลอยเองลงไปไดไม ความจริงพลอยก็เปนมนุษยปุถุชนธรรมดา ยอมมีความรูสึกรับชอบบุคคลตางๆ มากบางนอยบาง แลว แตลักษณะและการติดตอของบุคคลนั้น นอกจากนั้นพลอยในขณะนั้น ยังเปนผูหญิงอายุคอนขางสูง มีกําลังใจ กําลังความคิดที่ถูกบั่นทอนไปมากดวยทุกขตางๆ ที่ตองประสบมาในชีวิต เพราะฉะนั้นถึงแมวาพลอย ปรารถนา เปนอยางยิ่งที่จะทําใจเปนกลาง มิใหลําเอียงเขาขางฝายใดฝายหนึ่ง จนกวาจะไดเห็นความดีเลวผิดถูก ของฝาย นั้นๆ ใหชัดแจง พลอยก็ยังอดที่จะรูสึกลําเอียงในผูชายสองคนที่พลอยเขาใจวา เขามาในบาน เพราะสนใจ ประไพนั้นเสียมิได ชายสองคนนั้นก็คือทานชายนอยหนึ่ง กับคุณเสวีหนึ่ง ถึงแมวาคนทั้งสองนี้ จะมิไดเคยปริ ปากพูดจาไปในทางนั้น แตพลอยก็เขาใจจากสายตาและกิริยาอาการของคนทั้งสองวา ตางคนตางก็มีความ ปรารถนาที่จะเขามาเปนเขย ความลําเอียงที่พลอยพยายามหักหามใจมิใหเกิดขึ้นไดนั้น คือความลําเอียงเขา ขางทานชายนอย ดวยความรูสึกตรงไปตรงมาวา รักทานชายนอยมากกวา เพราะอายุและหนาตาสมกับประไพ และดวยความตองการที่ไมมีใครอธิบายได นอกจากตัวพลอยเอง คือความตองการอยากไดลูกเขยเปนเจา อยาก ไดหลายเปนราชนิกุล เปนหมอมราชวงศ อันเปนความตองการที่เกิดจากความนิยม อันมีตอเนื่องกันมาในตัว พลอยตั้งแตสมัยกอนๆ สําหรับคุณเสวีนั้น ถาจะพูดถึงตําแหนงฐานะก็ดี กิริยามารยาทเทาที่พลอยไดเห็นก็ดี ก็ไมมีสิ่งใดเปนที่ นารังเกียจ หนาตาคุณเสวีก็สะอาดสะอาน มิใชคนขี้ริ้วขี้เหร ถึงจะมิใชคนที่พลอยเห็นวา "งาม" อยางทานชาย นอย ก็เปนคนที่ผูหญิงอาจรักได ดวยหนาตาของคุณเสวีนั้นเอง ถึงแมวาอายุคุณเสวี จะแกกวาประไพ แต ประไพก็บอกพลอยเองวาชอบคนที่เปนผูใหญ แตเพียงเทานี้ก็จะมิสูกระไรนัก แตคําพูดของตาออดเกี่ยวกับคุณ เสวี ทําใหใจของพลอยนั้น เอนเอียงออกหางจากคุณเสวีไปไกลทีเดียว พลอยรูดีวาคําพูดของตาออด ผุดพลุง ออกมาจากหัวใจโดยไมมีเหตุผล แตตาออดก็เปนลูกคนที่พลอยรัก คําพูดของตาออดจึงมีน้ําหนักสําหรับพลอย มากอยู และยิ่งกวานั้น พลอยก็ยังรูดีวา ตาออดเปนคนที่ดูลักษณะคนคอนขางเกง คนที่ตาออดไมชอบแตแรก นั้น ในตอนทายก็มักจะแสดงนิสัยออกมา ใหเห็นวาตาออดเปนฝายถูก ความหนักใจที่เกิดขึ้นกับพลอยครั้งนี้นั้นเปนเพราะรูสึกตัววา มีความลําเอียงเขาขางทานชายนอยอยูใน ใจ พลอยมีความเห็นมาแตดั้งเดิมวา เรื่องการมีเหยาเรือนเปนเรื่องของแตละคนโดยเฉพาะ คนอื่นไมมีสิทธิ์เขา ไปเกี่ยวของ ถึงแมวาการแตงงานของพลอยกับคุณเปรมนั้น ถาหากดูแตเพียงผิวเผิน อาจเห็นวาเปนไปตาม อาณัติของผูใหญ แตพลอยก็รูอยูแกใจวา เปนไปดวยความสมัครใจของตนเอง อยูไมนอยเหมือนกัน ฉะนั้น พลอยจึงไดทําใจไวแตแรกวา เรื่องการมีเรือนของลูกทุกคน พลอยจะไมเขาไปเกี่ยวของชักนํากอน จะใหความ เห็นก็ตอเมื่อ ลูกคนใดคนหนึ่งมาถามขอความเห็น หรือถาจะใชสิทธิ์ของแมหามปราม ก็ตอเมื่อคนที่ลูกไดเลือก เปนคูครองนั้น แสดงออกมาใหปรากฏแนชัดวา จะไมนําความสุขในชีวิตมาใหแกลูกของพลอยไดเทานั้น คุณเสวี มิไดทําตนใหเปนที่นาตําหนิ หรือควรแกการรังเกียจได แตอยางใดเลย และประไพก็มิไดมาไถถามขอความเห็น พลอย ขณะเดียวกันพลอยก็มีความตองการอันคอนขางจะเห็นแกตัว เรื่องอยากไดทานชายนอยมาเปนเขย ความรูสึกในใจที่ขัดตอหลักที่ตั้งใจจะยึดเหนี่ยวนั้น เปนเครื่องกอความหนักใจใหเกิดขึ้นไดมาก พลอยเฝาสังเกตดูอาการกิริยาของประไพ ที่แสดงตอหนาคนทั้งสองดวยความหวังแลวหวังอีกวา ประไพ อาจมีทาทีหรือมีแววอะไรสักอยางหนึ่ง ที่จะพิสูจนใหพลอยเห็นวาชอบทานชายนอยมากกวาคุณเสวี บางครั้ง การกระทําของประไพบางอยาง ทําใหพลอยดีใจและโลงใจ เปนตนวา ในบางวันที่พลอยรูวาทานชายนอยจะ เสด็จมาหาในตอนบาย พลอยนั่งปอกลูกไมเตรียมไวให ซึ่งพลอยเรียกวา "เอาไวตั้งเครื่องทานชาย" ประไพก็มัก จะมานั่งอยูดวย ชวยปอกผลไมและชวยจัด พรอมกับพูดคุยถึงทานชายนอย ดวยถอยคําที่สอใหเห็นวาประไพ นึกเอ็นดูทานชายอยูมาก บางครั้งประไพก็บอกใหพลอยไดรูวา ทานชายโปรดเสวยอะไร ไมโปรดอะไร จนในที่ สุดเมื่อทานชายมาถึง ประไพก็ตอนรับดวยอาการที่รื่นเริงเบิกบาน และดีใจที่ไดพบกับทานชาย พูดจาเลนหัวกับ ทานชายอยางสนิทสนม การกระทําของประไพเชนนี้ ทําใหพลอยสบายใจไดมาก และทําใหคิดไปวา บางทีความ หวังของตนที่เก็บซอนไวในใจนั้น อาจมีผลจริงจังขึ้นมา แตความสบายใจและความหวังเรนลับนั้น จะหมดไปทุก ครั้งเมื่อคุณเสวีมาที่บาน เพราะเมื่อกอนถึงเวลาคุณเสวีจะมา ถาหากประไพรูลวงหนา ประไพก็มักจะแตงตัวให เรียบรอยสวยงามเปนพิเศษ และพอคุณเสวีมาถึง ประไพก็มักจะอยูใกลๆ ไมยอมหางไป คอยฟงคําพูดของคุณ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy402.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๒

Page 4 of 6

เสวี ดวยความเลื่อมใสที่เห็นไดชัด และจะอยูอยางนั้นจนกวาคุณเสวีจะกลับ ตาออดมองดูความสัมพันธระหวางนองสาวของตนกับคุณเสวี ดวยความไมพอใจอยางยิ่งยวด บางครั้ง ตาออดก็ทําหนาบึ้ง ไมพูดจากับนองสาวไปหลายๆ วัน และวันหนึ่งตาออดอดรนทนไมไหว ปรารภกับพลอยขึ้น มาวา "คุณแม ! ลูกหมั่นไสยายประไพเต็มทีแลว เลื่อมใสอายหมอนั่นจนนาเกลียด คุณแมจะหามเสียบางไมได หรือ" "ออดก็ชางไมเห็นใจแมบางเลย" พลอยพูดอยางออนใจ เพราะคําพูดของตาออดตรงกับความรูสึกในใจ ที่ พลอยไมกลารับกับตัวเอง "แมจะไปหามเขาไดอยางไร เมื่อเขาไมเคยทําอะไรผิดพลาด ออดเองก็เคยบอกแมวาประไพโตแลว ไม ใชเด็กๆ" "ถึงอยางนั้นก็เถิด" ตาออดพูดเสียงออนลง "แตถาลูกของแมคบใครที่ไมดี แมก็ควรจะหามได" "เรื่องดีไมดีเปนเรื่องที่ออดเห็นไปคนเดียว แมก็จนใจ ถาจะถามประไพหรือพี่อั้นที่เขาชอบกัน เขาก็คงวา ของเขาดี แมจะไปพูดอะไรก็ยาก เพราะเขาไมเคยทําอะไรผิดใหแมเห็น" คําตอบของพลอยมีเหตุผลพอทจะทําใหตาออดตองยอมจํานน แตถึงตาออดจะตองจํานนตอเหตุผล ตา ออดก็ไมยอมจํานนในทางอื่นๆ และก็เปนเพราะเหตุที่ตาออดไมชอบคุณเสวีอยางรุนแรงนี้เอง ตาออดก็เริ่ม ดําเนินการไปอีกทางหนึ่ง คือพยายามทุกทางที่จะชวยเหลือทานชาย ใหมีโอกาสไดพบปะกับประไพ มากกวา คุณเสวี ตาออดซึ่งเปนคนชอบอยูกับบาน ตองกลายเปนคนพานองสาวออกเที่ยว ไปซื้อของบาง ดูหนังบางอยู บอยๆ พลอยก็รูดีวาทุกครั้งที่ตาออดออกจากบานกับประไพ ก็จะมีทานชายรวมไปดวย เปนคนที่สามเสมอ ฝาย ประไพก็มิไดแสดงความรังเกียจ ในการที่จะมาไหนไปไหนกับทานชายใหคนเห็น ระหวางนั้นทานชายก็เสด็จมา ที่บานบอยขึ้นกวาเกา เปลี่ยนจากมาเปนครั้งคราว เปนมาทุกวันในตอนบาย และเทาที่พลอยสังเกต ประไพก็ ยินดีตอนรับทําตัวสนิทสนมกับทานชาย และนั่งคุยอยูดวยนานๆ จนกวาทานชายจะอําลากลับในตอนกลางคืน ในที่สุดความเขาใจก็เกิดขึ้นทั่วไปวา ประไพกับทานชายนั้นรักกัน มีหวังที่จะไดสมรสเปนคูครองกันในวันหนึ่ง ขางหนา ความเขาใจนั้นเกิดขึ้นในหมูคนที่อยูในบานกอน ตอมาก็เปนที่เขาใจกันทั่วไปในหมูเพื่อนฝูงของ ประไพ ตนในที่สุดขาวเรื่องนี้ก็ไปถึงหูของพี่นองของพลอยเอง วันหนึ่งคุณเชยและพอเพิ่มบังเอิญมาเยี่ยมพรอมๆ กันในตอนกลางวัน พลอยก็ชวนใหอยูกินขาวเสียดวย กันทั้งสองคน ระหวางที่กินขาวกันอยู คุณเชยก็พูดขึ้นกอนวา "แมพลอย ฉันไดยินแววๆ วาแมพลอยจะไดลูกเขยเจาไมใชหรือ" "ฉันก็ไมคอยรูเรื่องเขาหรอกคุณเชย" พลอยตอบ "เจาตัวเขาก็ยังไมเห็นพูดวากระไร วาแตคุณเชยไปรู มาจากไหน" "ก็ไดยินคนเขาพูดๆ กัน" คุณเชยวา "ถาจริงฉันก็จะดีใจดวย" "ฉันก็เหมือนกันแมพลอย" พอเพิ่มพูดขัดจังหวะขึ้นมา "ไดลูกเขยมีชาติมีสกุลพอคอยนอนตาหลับไดบาง ถาไปไดคนที่ไมรูจักหัวนอนปลายตีน ถึงตัวเขาจะดี เพียงไรก็ตาม ฉันก็ยังวาไมนาจะไวใจนัก" "ความจริงทานชายทานนารัก" คุณเชยพูดตอไป "ฉันไดพบทานที่นี่หนสองหน ยังอดรักทานไมได พอได ขาววาจะไดทานมาเปนหลายเขย ก็ออกจะปลื้มเต็มที" "ฉันนะรักทานชายเอามากๆ ทีเดียวคุณเชย" พอเพิ่มสนับสนุน "ทานดีพรอมทั้งรูปสมบัติ อายุ และสกุล รุนชาติ ถาจะพูดถึงเรื่องเงินทอง ฉันก็วาทานไมจน เพราะเสด็จพอทานทรงใหไวพอดูอยู คิดดูทางไหนก็ดีทั้งนั้น แมพลอยวาอยางไร" "ถาพูดกันดวยใจจริงฉันก็รักทานชายมากเหมือนกัน" พลอยตอบแลวอมยิ้มเมื่อพูดถึงทานชาย "จนใครๆ เขาพากันวา ฉันหลงทานชายเสียยิ่งกวาใครทั้งหมดในบานนี้ แตก็นั่นแหละ เรื่องนี้ก็ตองแลวแตใจเจาตัวเขา ยัง ไมเห็นเขาพูดวาอะไรใหแนนอนออกมา แตเทาที่ฉันดูดวยตาก็เห็นวาเขาสนิทสนมกันดี ถึงเวลาเขาใครจะไปรู ประไพเขาเคยบอกฉันแตเพียงวาเขาจะรอดูไปกอน" "เด็กสมัยนี้เขาก็แปลก" พอเพิ่มปรารภขึ้น "จะมีเหยามีเรือน เขาดูของเขาเอง สมัยเมื่อเรายังเปนหนุม เปนสาว ก็ตองใหพอแมหาให ไมไดหาเอาอยางเดี๋ยวนี้" "ฉันขวางคุณหลวงเสียจริงๆ ทีเดียว" คุณเชยรองขึ้น "ชางปนหนาพูดออกมาไดวา รุนเรานั้นพอแมหาให ฉันเห็นคนที่ผูใหญจัดใหจริงๆ โดยเจาตัวเขาไมเกี่ยวของ ก็มีแมพลอยนี่คนเดียวเทานั้น ของคุณหลวงคุณหลวง ก็หาเอาเอง ไมเห็นมีผูใหญที่ไหนไปจัด....." "อะ !" พอเพิ่มตั้งทาจะขัดคอ "ไมตองอะละ !" คุณเชยพูดสวนควันขึ้นมาทันที "ฉันรูหรอกวาคุณหลวงจะพูดวาอะไร ฉันเองก็หนีตามหลวงโอสถไปใชไหมละ ฉันก็กําลังจะอยากพูด อยางนั้นเหมือนกัน ไมใชมาอวดวาตัววิเศษอะไรหรอก แตจนเดี๋ยวนี้ก็ยังอยูดวยกันอยางสบาย คํานอยก็ไมเคย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy402.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๒

Page 5 of 6

พูดใหแสลงใจกัน ฉันจึงวาแมพลอยเขาคิดถูก ที่ปลอยใหลูกเขาคิดเอาเองไมเขาไปยุง" "คุณเชยกับคุณหลวงนี่พอไดคุยกันทีไร เปนตองมีเรื่องทะเลาะกันทุกที กี่สิบปมาแลวก็ยังเปนอยูอยาง นั้น" พลอยพูดแลวก็หัวเราะ "ก็คุณหลวงชอบพูดขวางหูฉันทุกทีนี่แมพลอย" คุณเชยตอบ "ฉันจะไปทนทานอะไรไหว" "แน ดูคุณเชยซี !" พอเพิ่มรองเหมือนกับเมื่อยังเปนเด็กๆ "อยูๆ ก็ลุกขึ้นอาละวาดทะเลาะกับฉันกอน แลวก็มาหาวาฉันพูดขวางหู ชอบเลนรังแกฉันอยางนี้แหละ ตั้งแตเด็กมาจนแกแลวก็ยังเลิกสักที" พี่นองสามคนหัวเราะขบขันตัวเอง ที่ตางก็ไมทิ้งนิสัยเดิมอยูพักใหญ แตคําพูดของคุณเชยก็ดี ของพอ เพิ่มก็ดี ยิ่งทําใหพลอยแนใจยิ่งขึ้นไปกวาเกาวา ทานชายเปนบุคคลที่เหมาะสมกับประไพมากที่สุด ประไพยังคงติดตอกับทานชายนอยอยูเรื่อยๆ ในระยะเวลาสี่หาเดือนที่ผานไป การติดตอของประไพ และความสนิทสนมที่เห็นไดชัดนั้น ยิ่งทําใหพลอยมองเห็นวา ความหวังของตนจะเปนผลขึ้นมาได ในวันหนึ่ง ขางหนา ระหวางเวลานั้นคุณเสวีก็ยังไปมาอยูที่บานบางเหมือนกัน แตก็มิไดบอยเทาการไปมาของทานชาย นอย ตาออดซึ่งพลอยรูวาสนับสนุนทานชายนอยอยางสุดฝมือนั้น ดูจะเบาใจลงไปมาก เมื่อเห็นวานองสาว ยินดี ที่จะพบปะกับทานชายนอยทุกครั้งไป ฉะนั้นในระยะนี้เมื่อคุณเสวีมาที่บาน ถึงแมพลอยจะรูดีวาตาออดไมชอบ คุณเสวี แตตาออดก็มิไดแสดงความรังเกียจ หรือรําคาญดังแตกอน ดวยเหตุตางๆ เหลานี้เอง พลอยจึงรูสึกแปลกใจมาก และสะดุงจนตัวแทบลอย เมื่อตาอั้นมาพบและพูด ขึ้นวันหนึ่งวา "คุณแม คุณเสวีเขาใหมาทาบทามวา ถาเขาจะมาขอประไพ คุณแมจะขัดของไหม ถาไมขัดของเขาจะได สงผูใหญมาจัดการ" "คุณเสวี..." พลอยพูดทวนคํา แลวก็รูสึกหนามืดเหมือนกับจะเปนลม "คุณเสวีจะมาขอประไพ....เดี๋ยวกอนอั้น ขอใหแมหยุดหายใจประเดี๋ยว....แมไมรูเรื่องนี้มากอนเลย......" "เขาบอกผมไวนานแลววาเขาชอบประไพมาก ตั้งแตเขาเริ่มไปมาหาสู ผมก็เห็นวาเขาเปนคนดี แตกอน ก็เปนเพื่อนชอบพอกันมา.... แตเดี๋ยวนี้ถาจะวาไปเขาก็เปนนาย ผมก็เลยไมขดของแนะนําใหเขารูจักประไพ และอนุญาตใหไปมาที่บานนี้ได เขาเปนคนดีเรียบรอยอยางไร แมก็เห็นอยูแลว" ตาอั้นวา "คุณเสวี....ลูกเตาเหลาใครแมก็ยังไมรูเลย" พลอยรวบรวมกําลังใจทั้งหมดถามตาอั้นออกไป "พอเขาเปนพอคาร่ํารวยอยูแถวสี่พระยา แตเดี๋ยวนี้ตายไปแลวยังเหลือแตแม" ตาอั้นตอบ "ก็นั่นแหละ" พลอยแข็งใจพูด "พอเขาชื่อเรียงเสียงไรอั้นตองบอกใหแมรูบาง จะไดรูสกุลรุนชาติเขาไว กอน" ตาอั้นกลืนน้ําลายแลวตอบวา "พอเขาชื่อนายฮง แซแต แมเขาชื่อสิน แตเดี๋ยวนี้คุณเสวีเขาใชนามสกุลวา เตชะสิน" "ลูกเจก..." พลอยหลุดปากพูดออกไป แลวก็รูตัววาพูดผิด ตาอั้นทําสีหนาวารําคาญแลวก็พูดวา "ถึงพอเขาจะเปนเจกก็ไมเห็นเสียหายอะไร เพราะคุณเสวีเขาก็เปนไทย และไดทําประโยชนใหบานเมือง มาแลวมาก เวลานี้ก็รับราชการมีตําแหนงสูงมีหนามตา ผมเห็นวาคุณแมไมควรจะถือ เพราะถาจะพูดกันไป ตระกูลของเราทางฝายคุณพอก็เปนเจก ถึงตรุษจีนคุณแมยังใหผมเซนไหวปูยาตายายอยูทุกวันนี้ แลวเราจะไป วาคนอื่นเขาเปนลูกเจกลูกจีน จะถูกหรือ อีกอยางหนึ่งถาจะพูดถึงเรื่องทอง เขาก็มีมากไมนอยไปกวาฝายเรา ไมตองหวงในเรื่องที่เขาจะปอกลอก ผมเห็นวาประไพจะแตงงานกับใครไดดีเทาคุณเสวีก็หายาก เพราะเขามีทั้ง ความรูทั้งเงินและตําแหนงฐานะ คุณแมจะไมตองขายหนาใครเขาเลย และประไพก็จะไดมีหลักฐานแนนอน" "อั้นพูดกับประไพเขาหรือยัง" พลอยถามขึ้น "ผมยังไมไดพูด เพราะนึกวาควรจะบอกใหคุณแมทราบไวกอน" ตาอั้นตอบ "แมก็ไมรูวาจะพูดอยางไร" พลอยพูดตอไป "เรื่องมีเหยามีเรือนก็เปนเรื่องใหญ เกี่ยวกับตัวประไพเขาเอง มากกวาคนอื่น แมตั้งใจไววาในเรื่องนี้อยากจะตามใจลูก ไมอยากบังคับ จึงอยากถามประไพเขาดูกอน" "เมื่อกี้ผมก็ยังเห็นเขาอยูที่หองขางลาง ผมจะไปตามตัวมาใหคุณแมถามเขาเสียเดี๋ยวนี้ก็ได" แลวตาอั้นก็ลุกไปเรียกประไพ กอนที่พลอยจะไดพูดจาทัดทานอยางไรตอไป พลอยรูสึกวาทุกอยาง มืดมนไปสิ้น ฟงเสียงตาอั้นดูแนใจเปนหนักหนาวา ประไพคงจะไมขดของ ถาเปนดังนั้นจริง พลอยจะ ตองกระอักกระอวนเปนอันมาก เกี่ยวกับความรูสึกสวนตัว ทีมีตอทานชายนอยเสียแลว อีกครูหนึ่งตาอั้นก็พา ประไพเดินเขามา และพอนั่งลงเรียบรอย ตาอั้นก็พูดขึ้นวา "คุณแมลองถามเจาตัวเขาเองดูก็แลวกัน" "ประไพ" พลอยพูดขึ้นดวยเสียงที่สั่นๆ เหมือนกับประหมา "พี่อั้นเขาบอกแมวา คุณเสวีเขาจะสงผูใหญ มาสูขอประไพ แมเองก็ไมรูจะตัดสินในอยางไรถูก แตประไพก็รูจักคุณเสวีเขาดีอยูแลว.... ดีกวาแมเสียอีก แมจึง อยากถามประไพดูวาจะวาอยางไร" ประไพรีบกมหนาลงดูกระดาน เลือดฉีดขึ้นบนใบหนาสีแดงระเรื่อ ทําใหพลอยอดนึกไมไดวา ประไพใน ตอนสาวนี้ดูจะสวยกวายายและสวยกวาแม ประไพกมหนานิ่งอยูครูหนึ่ง แลวก็พูดเบาๆ วา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy402.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๒

Page 6 of 6

"สุดแลวแตคุณแมและพี่อั้นจะเห็นสมควร ลูกเองไมขัดของ เพราะสําหรับคุณเสวีนั้นลูกเห็นวาเขาเปนคน ดีที่สุดคนหนึ่ง" "อาว ! แลวทานชายนอยจะวาอยางไร...." พลอยรองขึ้นโดยไมรูตัว "ไพชอบกับทานชายนอยอยางเพื่อน" ประไพตอบเบาๆ "ความจริงทานชายนอยก็ดีทุกอยาง แตไพเห็น วาเปนเด็กไป ถาไพแตงงานก็อยากจะแตงงานกับคนที่เปนผูใหญ คนๆ นั้นจะตองมีความรูและฉลาดพอที่จะนํา ชีวิตของไพได" "แมก็เห็นวาทานชายดีทุกอยาง" พลอยยังสูตอไปอีกทั้งที่รูวาตนแพแลว "ดีทั้งรูปสมบัติ คุณสมบัติ จะวา ถึงอายุอานามก็ไมแกจนเกินไป ถาจะเปนผูใหญก็เปนผูใหญพอตัว ฉลาดก็เทานั้น นิสัยใจคอ กิริยามารยาทก็ เรียบรอย ประไพคิดดีแลวหรือ" ประไพนั่งกมหนานิ่งไมปริปากพูด แตตาอั้นเปนคนตอบแทนขึ้นวา "ลูกเองก็ชอบทานนอยมานาน อะไรๆ ของทานก็ดีหมด แตมีเสียอยูอยางเดียว" "อะไรอั้น" พลอยหันไปถามอยางออกรับแทนทันที "เสียอยูอยางเดียวที่ทานเปนเจา" ตาอั้นตอบเรียบๆ "สมัยนี้คุณแมก็รูวาเจานายมีฐานะอยางไร ถาไดเจา มาเปนญาติ เราก็อาจลําบาก เพราะอาจถูกสงสัยบาง ถูกเขาใจผิดบาง สําหรับคุณแมเองอาจไมเปนไรนัก แต สําหรับตัวลูกและประไพนั้น จะทําตัวยากที่สุด" "ไพก็คิดอยางนั้นเหมือนกัน" ประไพพูดสนับสนุนพี่ชาย ในที่สุดความหวังความตองการของพลอย ก็อันตรธานไปเพราะการเมือง หรือความรูสึกเหตุผลทางการ เมือง ซึ่งยังเขามาเกี่ยวของกับชีวิตสวนตัว ความปรารถนาสวนตัวอยูเรื่อยๆ พลอยรูดีวาถาปญหาที่ประไพตอง เลือกสามีนี้ เกิดขึ้นเมื่อสี่หาปมาแลว ทานชายนอยอาจเปนบุคคลที่สมควรที่สุด แตเดี๋ยวนี้ทานชายนอยกลับตอง พายแพคุณเสวี เพระเหตุผลอันเดียวที่ทานชายเปนเจา จึงไมมีใครนิยม แตคุณเสวีเปนคนธรรมดา และมี ตําแหนงฐานะสูงทั้งในทางราชการ และการเมือง ชาติสกุลที่พลอยเคยถือวาเปนของสูง กลับกลายเปนอุปสรรค เปนของที่พึงรังเกียจ... อีกไมกี่วันตอมา พลอยก็ออกปากยกลูกสาวใหแกผูใหญฝายคุณเสวีที่มาขอ ทั้งที่ตนเองไมไดเต็มใจเลย แตกอนที่จะทําไปเชนนั้น พลอยไดมีโอกาสพบกับทานชายนอย ไดอธิบายทุกอยางใหทานชายนอยฟงและพูด วา "ทานชายอยาเสียพระทัยเลย นึกเสียวาเปนบุญเปนกรรม แลวหมอมฉันจะหาถวายใหม ใหดีกวานาง ประไพเสียอีก" ซึ่งทําใหทานชายตองทรงยิ้มออกมาได ดวยความเห็นใจพลอยเปนที่สุด

http://www.geocities.com/siamstory/ploy402.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๓ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๓ (หนาที่ ๑) ตั้งแตประไพรับหมั้นจากคุณเสวีแลว ทานชายนอยก็หางเหินไป ซึ่งถาไมมีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ภายใน บานหลังจากนั้นแลว พลอยก็จะตองรูสึกคิดถึงทานชายนอยเอามากๆ แตการหมั้นของประไพ ทําใหมีการ เปลี่ยนแปลงหลายอยางเกิดขึ้น ทําใหพลอยตองสนใจ ไมมีเวลาจะไปคิดถึงใครได การเปลี่ยนแปลงประการแรกก็คือการปลูกเรือนหอของประไพ ประไพตกลงกับคุณเสวีวา เมื่อแตงงาน กันแลวประไพจะไมออกจากบานเดิม แตคุณเสวีจะตองมาปลูกตึกอยูกับประไพในบานนี้ ความจริงถาหากวา ประไพจะแสดงความประสงคออกมาวา แตงงานแลวจะออกจากบานไปอยูกับสามี พลอยก็คงจะไมขัดของ แต เมื่อประไพแสดงความจํานงวาจะเอาสามีเขามาอยูในบาน พลอยก็มิไดขัดของอยางไร และออกจะดีใจที่ลูกสาว คนเดียวจะยังอยูใกลตัวทั้งที่มีเรือนแลว หลังจากพิธีหมั้นแลว การปลูกตึกหลังใหญทันสมัย ที่คุณเสวีเปนผูออกทุนก็เริ่มลงมือทันที พลอยมองดู การกอสรางตึกหลังใหมนี้ ดวยความรูสึกที่อธิบายไดยาก เพราะเปนสัญญลักษณอีกอยางหนึ่ง แหงการเปลี่ยน แปลงหมุนเวียนที่ไมมีใครหยุดยั้งได พลอยอยูบานนี้ตั้งแตแตงงานกับคุณเปรมจนแกเฒา และคุณเปรมก็ตายไป แลว รูสึกวาตัวรูจักคุนเคยกับบานนี้เปนอยางที่สุด อิฐทุกแผนตนไมทุกตน เปนเหมือนคนเกาแกอยูดวยกันมา นาน เมื่อจะตองเปลี่ยนแปลงไป พลอยก็ไดแตมองดูดวยความเสียดาย คนทุกคนที่อยูในบานนี้เปนคนที่พลอย รูจักมาแตดั้งเดิม นิสัยใจคอจะเปนอยางไรก็รูอยูสิ้น แตตอไปจะมีคนเขามาอยูใหมคือคุณเสวี ซึ่งพลอยเกือบจะ ไมรูจักเลย นอกจากนั้นคุณเสวีที่ไหนจะมาแตตัว ยอมจะตองมีผูคนติดตามมา คนที่จะมากับคุณเสวีนั้น ก็จะตอง เปนคนใหมที่พลอยไมรูจักอีก การแตงงานของประไพนั้น ถึงแมวาจะมิไดแยกตัวออกจากบาน ไปมีเหยามี เรือนอยูตางหาก แตโดยเหตุนั้นเองจะกลับกลายเปนการปลูกเรือนขึ้นซอนเรือน แยกบานภายในบาน ทําใหมี สองบาน คนสองชุดอยูในบริเวณเดียวกัน พลอยตกลงยินยอมใหรื้อเรือนคุณนุยและคุณเนียนที่ตายไปแลวนั้นลง เพื่อปลูกเรือนหอ แตเพียงเทานั้น ยังไมพอ ประไพตองการสนามหญา สวนดอกไม โรงรถครัวและเรือนคนใชที่เปนของตัวเอง หลังจากตึกออกไป ทําใหเกิดความจําเปนที่จะตองรื้อเรือนไมหลังเล็กที่คุณอุนอาศัยอยูนั้นลง พลอยตองรับเอาคุณอุนขึ้นมาไวบน ตึกใหญ ตอนแรกพลอยตั้งใจวาจะจัดหองใหญชั้นบนใหคุณอุนอยู แตคุณอุนก็ปฏิเสธไมยอม อางวาใหญไปและ ตนแกแลวขึ้นบันไดไมไหว ในที่สุดคุณอุนก็เลือกเอาหองเล็กๆ แคบๆ หองหนึ่งที่ตึกชั้นลางเปนที่อยู ในการยาย ที่อยูคราวนี้คุณอุนทําดวยความเต็มใจ เพราะคุณอุนเปนอีกคนในบานที่เห็นดีเห็นชอบ ในการที่ประไพจะแตง งานกับคุณเสวี "แมพลอยนี่มีบุญแทๆ ทีเดียว" คุณอุนพูดกับพลอยอยางปติ "มีลูกก็ไดปลูกฝงมีเหยามีเรือนใหทันตา เห็น ไดลูกเขยดีมีทั้งทรัพยทั้งวาสนา ฉันพลอยปลื้มใจดวยจริงๆ" "คุณพี่ก็เลี้ยงประไพมาแตเล็ก" พลอยพูดเพราะไมรูจะพูดวาอะไร "เปนของคุณพี่เทากับเปนของอิฉัน เหมือนกัน ถาเขาอยูกันไดดีมีความสุข คุณพี่ก็นาจะดีใจ แตความจริงเขาเลือกของเขาเอง อิฉันไมไดไปเกี่ยว" "เขาเลือกของเขาถูกแลว แมพลอย" คุณอุนพูดอยางปลื้มตอไป "พอฉันเห็นตัวผูชายเขาทีแรก ฉันก็นึก ในใจทีเดียววาอยากไดคนๆ นี้ไวเปนเขย ฉันเห็นสมกับแมประไพแทๆ ทีเดียว" ตอคําพูดทั้งหมดนี้พลอยก็ไดแตนิ่ง แตคําพูดของคุณอุนนั้นดูจะไปคนละแนวกับของคุณเชย พอคุณเชย รูวาประไพรับหมั้นคุณเสวี คุณเชยก็มาหาถึงบานแลวถามตรงๆ วา "เรื่องราวอะไรกันแมพลอยฉันไมเขาใจเลย ก็เห็นเที่ยวเตรไปไหนมาไหนกับคนหนึ่ง แลวทําไมพอเอา จริง กลับกลายเปนอีกคนหนึ่งไป หรือวาคนสมัยใหมเขาทํากันอยางนี้" "ฉันก็ไมรูเรื่องเหมือนกันคุณเชย อยูๆ เขาก็มาทาบทามฉันก็ตกใจ ถามเจาตัวเขาดู เขาก็วาเขาชอบไม ขัดของ ฉันก็เลยไมรูจะทําอยางไร" "แมพลอยคิดดูดีแลวหรือ" คุณเชยถามตอ "หัวนอนปลายตีนเขาอยูที่ไหนเราก็ไมรูจัก ประไพนั้นก็เปน ลูกของแมพลอย ถาแมพลอยพูดจาใหจริงๆ ก็คงจะเชื่อ" "คุณเชยก็รูวาฉันตามใจลูกในเรื่องอยางนี้" พลอยตอบ "นั่นแหละแมพลอย บางทีถาเราตามใจลูกจนเลยเถิดไป ลูกเราเองอาจตองลําบากก็ได" คุณเชยปรารถ ขึ้น แลวก็รีบพูดตอไปเปนเสียงเดียวกันวา "แตฉันก็พูดจาเลอะเทอะเปนคนแกเต็มที เขาอาจมีอะไรดีหนักหนาก็ ได เราไมรูเราก็ไมควรจะพูด ไหนๆ เขาจะมาเปนหลานเขยทั้งที ก็ควรจะรักไวกอน เห็นดีไวกอน ฉันจะตองหา เรื่องไปพูดจารูจักกับเขาไวสักวันหนึ่ง"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy403.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๓ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 4

พอเพิ่มเปนคนที่รูเรื่องนี้ทีหลังใครๆ ทั้งหมด ประไพหมั้นแลวตั้งหลายวัน พอเพิ่มจึงโผลมาที่บาน พลอย ถือโอกาสบอกใหรูวา "คุณหลวง ประไพเขาหมั้นแลวละ" "แหมดีจริงแมพลอย ! ดีใจดวย ! ดีใจดวยมาก ! ลูกหลานเติบโตเปนฝงเปนฝากันอยางนี้ ลุงเพิ่มดีใจ จริงๆ แลวก็ไดคูเปนเจาเปนนายเสียดวย ฉันดีใจแทๆ ทีเดียว" "เดี๋ยวกอนคุณหลวง" พลอยทักขึ้น "บางทีคุณหลวงจะยังไมรู...ประไพเขาไมไดหมั้นกับทานชายหรอก เขาหมั้นกับอีกคนหนึ่ง" "อาวงั้นเรอะ !" พอเพิ่มหนาเสียรองขึ้น "หมั้นกับใครเลา" "เขาหมั้นกับคุณเสวี" พลอยบอกใหอยางไมสบายใจ เพราะไมรูวาพอเพิ่มจะพูดอยางไรตอไป "ถุย !" พอเพิ่มออกความเห็นเกี่ยวกับหลายเขยดวยคําๆ เดียว แตแสดงความรูสึกของตนที่มีตอคุณเสวี อยางตรงไปตรงมาที่สุด คนที่แสดงความไมพอใจและมีอาการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด เนื่องจากการหมั้นระหวางประไพและคุณเส วี เห็นจะไดกับตาออด ธรรมดาตาออดไมคอยจะแสดงอารมณฉุนเฉียวใหพลอยไดเห็น แตในเรื่องคุณเสวีนี้ ตา ออดไดเคยแสดงอารมณใหปรากฏแลวหลายครั้ง พอรูเรื่องวาประไพตกลงใจรับหมั้นคุณเสวี ตาออดก็ตรงมาพูด กับพลอย ดวยสีหนาแสดงอารมณขุนมัวอยางที่พลอยมิไดเคยเห็นมาแตกอน "คุณแมรูหรือเปลาวาคุณแมไดทําอะไรลงไปแลว" ตาออดถามขึ้นดวยน้ําเสียงที่ไมนาฟงนัก "คอยๆ พูดกันเถิดออด" พลอยหาม "เรื่องประไพใชไหม" "ก็เรื่องนั้นนะซีจะมีเรื่องอะไรเสียอีก" ตาออดวา "แมก็หมดปญญาจริงๆ ไมรูวาจะทําอยางไร" พลอยพูดเหมือนกับจะออนวอนใหตาออดเห็นใจ "มันเรื่อง ของตัวประไพเขา ออดก็รูดีวาแมไมเคยไปออกความเห็น แนะนําอะไรในเรื่องเหลานี้เลย เขาชอบของเขาแมก็ ตองตามใจ" "ออดไมไวใจเลยคนๆ นี้" ตาออดพูดเสียงออนลงไปเพราะรูตัววาความจริงเรื่องเหลานี้ไดพูดกันมาแลว "สงสัยไปวาเขาจะไมไดรักประไพจริง แตเขาจะรักทรัพยสมบัติของเรามากกวา" "เขาก็ร่ํารวยอยูแลวไมใชหรือออด" พลอยทวงขึ้น "เพราะรวยนั่นแหละถึงไมนาไวใจ คนร่ํารวยอยางนี้มักจะชอบหาเพิ่มเติมไมมีที่สิ้นที่สุด" "ดูเขาไปกอนเถิดออด" พลอยพูดตัดบท "เราเขาใจเอาเอง จะจริงหรือไมจริงก็ไมรู เรื่องมันมาถึงแคนี้ แลว จะพูดอะไรก็จะทําใหนองตองเสียใจ เมื่อเขาเห็นวาของเขาดี ก็ควรจะรักษาน้ําใจเขาไวดีกวา" ตาออดนิ่งไมตอบ แตอีกสักครูหนึ่งตาออดก็พูดขึ้นเชิงปรารภวา "เรื่องแตงงานกับคนที่เขาเห็นวาดีก็พอทําเนา แตแตงแลวจะตองเอาผัวมาไวในบาน ออดจะทนอยูบาน เดียวกับไอหมอนั่นไปไดนานเทาไรก็ไมรู" "ออดก็พูดจาตัดรอนไปเสียทุกทาง" พลอยพอขึ้น "ถาออดไมเห็นกับใครก็ควรจะเห็นกับแมบาง ออดควร จะเห็นใจแมวารักลูกทุกคน ถามีเหยามีเรือนแลวออกจากบานไป แมก็จะตองวาเหวคิดถึง เมื่อเขาสมัครใจ จะมา อยูในบานเรา แมก็ดีใจเปนธรรมดา เพราะจะไดประไพไวใกลๆ คุณเสวีเขาก็ยังไมเคยทําอะไร ใหออดตองโกรธ หรือเจ็บใจ ทําไมออดถึงพูดรุนแรงถึงกับจะตองออกจากบานจากชอง" "ผมเห็นใจคุณแมเปนที่สุด" ตาออดวา "แตบางทีผมก็แทบจะอดรนทนไมไหว เพราะไอหมอนั่นมันมอง ผม เหมือนกับวาผมเปนอะไรตัวหนึ่ง พี่อั้นเขาทํางานเปนใหญเปนโต ใครๆ ก็ตองนับถือ แตผมมันเปนคนเลว ตองเกาะคุณแมกินไปวันหนึ่งๆ ใครไดเห็นใครก็ดูถูก" ตาออดพูดอยางนอยใจ พลอยเกือบจะลั่นปากบอกตาออดวาทางที่จะแกไขเรื่องนี้นั้นงายที่สุด เพียงแตตาออดจะหาการงานทํา เสีย ใหเปนหลักฐานเทานั้นเอง คนอื่นก็ไมสามารถจะมาดูถูกดูแคลนได แตเมื่อเห็นตาออดกําลังโมโห กําลัง นอยใจ พลอยก็นิ่งเสียมิไดปริปากพูดจาวากระไร การกอสรางเรือนหอของประไพดําเนินไปเรื่อยๆ จนเสร็จเรียบรอย ระหวางนั้นพลอยรูไดวา ประไพมี ความสุขที่สุด เพราะคุณเสวีเอาใจทุกอยางไป ยอมตัวอยูในโอวาทเชื่อฟง ประไพจะออกปากสั่งการใดๆ ก็เปน สิทธิ์ขาด หากประไพจะออกปากวาตองการสิ่งใด ของสิ่งนั้นก็จะถูกสงมาถึงมือประไพในเวลาไมชา ในที่สุดวันแตงงานของประไพก็มาถึง ประไพแตงงานที่บาน รดน้ําบนตึกในตอนบาย และตกกลางคืนก็มี งาน "ปารตี้" เลี้ยงเพื่อนฝูงเหมือนกับคราวงานวันเกิดที่พลอยไดเห็นมาแลว ชั่วแตวาหรูหรากวามาก พลอยไดเห็นในวันแตงงานประไพนั้นเองวา ผูหญิงสมัยใหมรุนประไพ มีความกลาหาญจัดเจนตอชีวิต แตกตางกับผูหญิงเมื่อสมัยพลอยยังเปนสาวๆ อยางไร พลอยจําไดวาตนเคยมองวันแตงงานของตน ดวยความ ประหมาและความอายอยางหาอะไรเทียบเทามิได จนถึงบัดนี้พลอยก็ยังจําวันแตงงานนั้นได เพียงความ ประหมาและความอาย รายละเอียดอื่นๆ นั้นก็ดูเลอะเลือนไป แตวันแตงงานของประไพ ดูเปนวันที่แจมใสรื่นเริง ที่สุด สําหรับตัวเจาสาวเปนวันของความสุข เปนวันของความสรวลเสเฮฮากับเพื่อนฝูง ปราศจากความประหมา ปราศจากความขวยอายแตอยางใดทั้งสิ้น พลอยนั่งมองดูลูกสาวของตนในวันนั้นแลวก็ออนใจ ไมรูวาประไพไป

http://www.geocities.com/siamstory/ploy403.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๓ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 4

เอาสติและความกลาหาญมาจากไหน ประไพตื่นแตเชาแตงตัวเสร็จก็ออกมาดูการจัดตกแตงบาน ดูการจัด ดอกไมและสั่งเสียการงานตางๆ อยางปกติไปจนถึงตอนกลางวัน พลอยตองถามขึ้นตอนกินขาวกลางวันดวยกัน วา "ประไพ แมสงสัยเสียจริงๆ วาวันนี้แตงงานใครกันแน" "ก็แตงงานไพยังไงเลาคุณแม" ประไพหัวเราะอยางรื่นเริง "แมก็นึกอยางนั้นเหมือนกัน แตเห็นเจาสาวออกมาวุนวาย จัดโนนจัดนี่เสียจนนึกวาไพจะแตงงานคนอื่น" ประไพหัวเราะกี๊กแลวตอบวา "ถามัวไปนั่งทําอายอยูในหอง จะไดใครชวยดูแลเรื่องการงาน คุณแมก็จะตองเหนื่อยเองเทานั้น" ตกบายลง กอนไดเวลารดน้ําประไพก็แตงตัวเขาพิธี โดยมีเพื่อนฝูงเขาไปชวยสองสามคน ซึ่งเพื่อนฝูง เหลานั้นประไพรายงานมาวา ไป 'เกณฑ' มาสําหรับเปนเพื่อนเจาสาว แตเพื่อนเจาสาวทุกคน ตลอดจนตัวเจา สาวเอง ดูเปนการเปนงานไมมีรองรอยของความประหมาตื่นเตน ทําใหพลอยรูสึกทั้งนับถือ ทั้งแปลกใจระคนกัน ไป พลอยรีบแตงตัวเสร็จกอนประไพ แลวก็เขาไปในหองที่ลูกสาวกําลังแตงตัวอยู เขาไปนั่งอยูสักครูก็รูตัววาไม มีหนาที่อยางใดจะตองทํา พลอยก็เดินออกมาขางนอก วันนั้นแขกเหรื่อที่มารดน้ําประไพมีมากจนพลอยประหลาดใจ เพราะในสมัยพลอยนั้น ผูที่มารดน้ํามีแต ญาติเปนสวนมาก พลอยแลดูแขกเห็นมืดไปหมด จนไมรูวาใครเปนใคร ทางญาติของพลอยและคุณเปรมนั้นมี ตัวอยูไมกี่คน จะวาคนที่มาทั้งหมดนั้นเปนญาติของคุณเสวีก็เหลือเชื่อ พลอยมาไดรับคําอธิบายจากตาอั้นวาคน ที่มานั้น ลวนแลวแตเปนที่เคารพนับถือของคุณเสวีและตาอั้นเอง คนที่มีชื่อเสียงและมีความสําคัญในราชการ แผนดินนั้นก็มีอยูหลายทาน ตาอั้นมานั่งขางๆ ตัวพลอย แลวกระซิบใหดูคนโนนบางคนนี้บาง ที่ตาอั้นเห็นวา เปนคนสําคัญ พลอยมองดูคนใหญคนโตที่ตาอั้นชี้ใหดูแลวก็แปลกใจ เพราะดูไปแลวก็เปนคนขนาดนอง หรือขนาดลูก หลานของพลอยไปเกือบหมด ทานเหลานี้บางทานก็แตงทหารบกหรือทหารเรือ ทําใหมีสงาราศี ดูภาคภูมิสมกับ ตําแหนง แตบางทานก็แตงฝรั่งหรือที่เรียกกันติดปากแลววาแตงสากล ทําใหพลอยซึ่งสายตายังไมคุน อดนึกไม ไดวาเหมือนกับพอคา หรือเสมียนหางดู ไมสมกับตําแหนงราชการ ที่ใหญโตขนาดตาอั้นไดบอกไว พลอยอด มองดูและนึกในใจไมไดวา คนใหญคนโตสมัยนี้ดูยังเปนหนุม กิริยาทาทางก็ดูยังจะขาดความนาเกรงขาม อยาง ที่คนใหญคนโตสมัยกอนที่พลอยรูจักนั้นเคยมี การเลือกที่นั่งตลอดจนกิริยาทาทางของทานเหลานี้ เวลาออกการ ออกงานดูจะตองระมัดระวังตัวอยูมาก เปนตนวาการเลือกที่นั่ง ก็จะจับกลุมกันอยูพวกเดียวไมปะปนกับใคร และไมนั่งในที่สูงๆ จนเกินไป เพราะบางทีจะกลัวถูกกลาวหาวาไวยศ และไมนั่งใหต่ําจนเกินไป เพราะกลัวคน จะดูถูก พลอยดูคนใหญคนโตสมัยนี้แลว ก็เขาใจวาทานเหลานี้ตกอยูในฐานะลําบาก เพราะไดเดินทางมาถึง ฐานะอันสูงนั้น โดยรวดเร็วเกินไป การปฏิบัติตนจึงออกจะยากและไมวาจะไปปรากฏกายที่ไหน ตาทุกคูก็จะ คอยจับมองอยูเปนตาเดียวกัน "แมพลอย" ชอยซึ่งออกมารดน้ําประไพแลวมานั่งอยูขางหลังติดๆ กันกระซิบขึ้น "ฉันเห็นแมพลอยมองดู ผูมีบุญสมัยใหมก็อดพูดดวยไมได แมพลอยเห็นเปนอยางไร" "คนหนุมๆ...อยางผูใหญก็ไมเทาไรนัก" พลอยกระซิบตอบ "นั่นนะซีฉันก็เห็นอยางนั้นเหมือนกัน ฉันวาทาทางสูแตกอนทานไมได อยางแตกอนสมัยเรานั้น คนมีบุญ ถึงจะไปอยูที่ไหน พอเห็นก็รูวาผูมีบุญ เดี๋ยวนี้ถาไมบอกก็แทบไมรู" "จุ ! จุ ! ชอยอยาพูดดังไป" พลอยหาม "บางทีเราสองคนจะแกไปเอง เที่ยวเหมาใครตอใครเขาเปนเด็ก ไปหมด" "ก็เห็นจะจริง" ชอยตอบ "ฉันมาแตงงานที่บานนี้สองหนแลว วันนี้เลยใจหายอยางไรชอบกล หนแรกมา แตงงานแมพลอยเอง เจาสาววันนี้ยังอยูปลายออปลายแขมที่ไหนก็ไมรู มาคราวนั้นเปนเพื่อนเจาสาว ยังสาวยัง แสดัดจริตสิ้นดี มาวันนี้เผลอตัวไปขึ้นกระไดหลังเขาไปในหองเจาสาวเขาแตงตัว ไปนั่งดูเขาพักหนึ่ง พวกเพื่อน เจาสาวเขาหันไปกระซิบกันวายายแกที่ไหนมานั่งอยูก็ไมรู จนประไพเขาหันมาเห็นเขาทักวาปาชอย เขาถึงได เลิกมอง ไมยังงั้นเขาคงไลออกมาเสียแลว นึกวายายปลาราที่ไหนมานั่งดูเขาอยู ฉันดูสาวๆ สมัยนี้แลวก็นับถือ เขาจริงๆทีเดียว เขาจะทําอะไรดูมันกระฉับกระเฉงเปนการเปนงาน ทําเอาฉันเห็นไปวา เมื่อสมัยเรานั้นเรอรา พิลึกละ" "ก็กระฉับกระเฉงกันไปอยางนั้นแหละชอย" พลอยตอบ "เอาจริงเขาก็ไมเห็นทําอะไรเปนสักคน ดีแตใช คนอื่น กับขาวก็ไมเปน เรื่องเสื้อผาก็ไมเห็นเย็บเห็นทําเอง ดีแตจาง ดอกไมดอกไรไมเขาใจเลย ไมมีหรอกที่จะ เย็บดอกไมรอยมาลัยเปนกันอยางแตกอน ดูอยางวันนี้ก็แจกแตเพียงบุหงาเพราะทํางาย ถาถึงแจกมาลัยฉันก็คง ตองนั่งรอยอยูคนเดียว ปานนี้คงมือหักไปแลว" "พลอยก็มัวแตพอไมเขาเรื่อง" ชอยพูดอยางไมเห็นดวย "วิชาความรูที่เราถูกบังคับใหเรียนมาแตเมื่อ กอนนั้น ฉันไมเห็นจะเปนเรื่องเปนราวอะไร ถึงเดี๋ยวนี้ก็ไมไดใช เพราะมันหมดสมัยไปเสียแลว บานเมืองดูหมุน เร็วกวาแตกอน ใครมามัวนั่งรอยมาลัยอยู ก็เห็นจะไมทันกิน ฉันวาเด็กๆ สมัยนี้เขาทําถูกแลว อยางเราสองคน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy403.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๓ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 4

มันคนโบราณ นานๆ ก็ทําบุหงาหรือรอยมาลัยชวยเขาสักที จะเปนไรไป วาแตวันนี้เถอะ ถาพลอยอยากแจก มาลัย ทําไมไมบอกจะไดชวย คนในวังก็ยังมีอีกถมไป พอจะไหววานกันได" "แนถามเขาแลวเขาไมเอา" พลอยตอบ "เขาวารุงรังไมเห็นมีประโยชนอะไร แจกแตบุหงากับผาเช็ดหนา ก็พอแลว เพียงเทานั้นฉันก็เลยทําเสียเองไมตองใหใครชวย แตงงานลูกสาวคราวนี้ เหมือนกับแตงคนอื่น ฉัน เกือบไมไดทําอะไรเลย ประไพเขาทําของเขาเองเกือบหมด ดูๆ ไปก็แปลก เจาออกเตนหรับๆ เอง ฉันกระดาก อยางไรก็ไมรู วาเขาก็ไมฟง" ชอยหัวเราะเบาๆ อยางชอบใจแลวพูดวา "นี่แหละเขาวาคนแกละ ลูกสาวเขาทําของเขาเองหมด ไมตองเหน็ดเหนื่อยกลับไมชอบ นี่ถาเขาไมทํา อะไรเลยปลอยใหตัวทําคนเดียว ปานนี้ก็คงบนปากแฉะไปอีกเหมือนกัน" พลอยรูสึกวาอุนใจมากที่มีชอยมานั่งอยูใกลๆ เพราะวันนี้ถึงจะเปนวันแตงงานลูกสาวก็จริง แตพอเห็น คนมามากเขาพลอยก็ใหเริ่มประหมา เหมือนกับเปนวันแตงงานตัวเอง ซึ่งตรงขามกับความรูสึกของประไพเทาที่ พลอยเห็นไดดวยตา พิธีรดน้ําที่เริ่มขึ้นนั้น พลอยก็ไมไดมีสวนเกี่ยวของอะไรดวย ตาอั้นเปนผูเชิญแขกอาวุโส เขาไปสวมมงคลและเริ่มพิธี พลอยก็ไดแตนั่งแอบอยูกับชอยทางหนึ่ง จนแขกที่มานั้นผานเขาไปในไปหองรดน้ํา จนหมด พลอยจึงไดถูกตาอั้นมาตามตัวไปรดน้ําลูก มีชอยตามเขาไปติดๆ พลอยรับน้ําสังขมารดน้ําบนหัวลูกอยางประณีตบรรจง ในใจนั้นก็ไดแตนึกถึงคุณเปรม แลวน้ําตาก็เริ่มจะ ซึมๆ ออกมา ประไพกมหัวรับน้ําแลวก็เงยหนาขึ้นยิ้มกับแมอยางมีความสุข ทําใหพลอยคอยใจดีขึ้นบาง พอถึง ตอนจะรดน้ําคุณเสวี พลอยก็ใหรูสึกกระดากใจ เพราะยังนึกเห็นคุณเสวีเปนคนอื่น จะรดน้ําลงบนศีรษะก็เกรงใจ ดูกระไรอยู พลอยเหลียวซายแลขวาเหมือนกับคนเคอะเขินไมรูเรื่อง แลวก็ทําทาเหมือนกับจะรดน้ําที่มือคุณเสวี แตคุณเสวีก็ไวพอที่จะหดมือเสียแลวกมหัวลงรับ ทําใหประไพกมหนาหัวเราะอยูเบาๆ เสร็จแลวพลอยก็กมหนา กมตารีบเดินออกไปนอกหอง แตยังทันไดยินเสียงชอย ซึ่งตามเขามาติดๆ ลงนั่งหนาเตียงรดน้ํา แลวพูดจาตลก คะนองใหคูบาวสาวไดหัวเราะกันอีกพักหนึ่ง อีกครูหนึ่งชอยออกมานั่งขางๆ แลวพูดวา "แมพลอยนี่ก็พิลึกละ รดน้ําลูกสาวทําไมตองมือไมสั่น ดูเหมือนไมเต็มใจเลย เปนอะไรไปหรือ" "เปลา" พลอยตอบ "ครั้งนี้เปนครั้งแรกที่ไดแตงงานลูก เมื่ออั้นเขามีเมียเขาก็แตงกันเสร็จมาจากนอก ถึง คราวประไพฉันเลยตื่นๆ ชอบกล ไมไดหวงกันอะไรหรอก" "ก็ไมเห็นนาจะไปหวงอะไร" ชอยวา "เห็นใครตอใครเขาลือกันวาแมพลอยไดลูกเขยดีมีทั้งทรัพยทั้ง วาสนา ฉันยังพลอยตื่นไปดวยออกเปนกายเปนกอง" "ฉันก็ไดยินอยางนั้นจนเบื่อหูเหมือนกัน" พลอยพูด "จนฟงดูคลายๆ กับวาฉันวิ่งเตนจะขายลูกสาว ใหแก คนที่มีทรัพยมีวาสนาเทานั้น แตความจริงเขาเลือกของเขาเองฉันไมไดเกี่ยว" "ใครจะหาความก็ชางเถิดพลอยอยาออกตัวไปเลย ถึงอยางไรก็เปนลูกเขยของเราแลว เราทําทาแมยาย ใหดีๆ ก็แลวกัน" ชอยตอบ "ก็ถึงวาเถิดชอย" พลอยพูดขึ้นมาทันที เพราะชอยพูดถูกใจดํา "ฉันวิตกอยูอีตรงทําทาแมยายนี่แหละ เกิดมาก็ยังไมเคยเปน เพิ่งจะมาเปนแมยายคนกับเขาคราวนี เขาทํากันอยางไร ชอยรูบางไหม" "มันจะไปยากงายอะไรนักหนา" ชอยตอบอยางมั่นใจ "เราเปนแมยายคนใหญคนโตเราก็ตองวางทา อยา ใหเขาดูถูกได อยาไปเขากับลูกเราเกินไปนัก ทําเปนหลงๆ ลูกเขยไวหนอย ถาเขามีเรื่องอะไรกัน เราก็ตองเขา ลูกเขยไวกอน แตพอลับหลังเราก็หนุนลูกสาวเราไว คอยคุมใหดีๆ อยาใหเหลิงไปได เพราะสัญชาติผูชายนั้น ถาไมคุมก็เหลิง ครั้นจะคุมออกหนาก็ไมชอบหาวากดขี่ ตองทําลับๆ ลอๆ ตอหนาก็ใหเหมือนกับเรารักไวเนื้อ เชื่อใจ" "โอยฉันทําไมไดหรอก" พลอยขัดคอขึ้น "ตํารับแมยายของชอยดูมันยอกยอนลับๆ ลอๆ ชอบกล เดี๋ยว เขาจะมารุมฉันตายทั้งผัวทั้งเมีย" "อาว ! แลวก็ตัวอยากมาถามฉันทําไมละ" ชอยยอนใหแลวก็บนตอไปวา "อยูๆ ก็มาเคี่ยวเข็ญถามวาเขา เปนแมยายกันอยางไร ราวกะวาฉันเคยเปนแมยายคนมาแลวเปนรอยๆ ตัวก็รูดีวาฉันไมเคยเปนแลวก็ยังขืนมา ถาม อยากถามมาฉันก็บอกให แลวก็กลับไมเชื่อ บาแทๆ ทีเดียว" พลอยตองหัวเราะในคําพูดของชอยและนึกขอบใจที่ชอยมาชวยทําใหความรูสึกทั่วๆ ไปของตนในวันนั้น ดีขึ้นอยางประหลาด อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy403.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๓ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 3

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๓ (หนาที่ ๒) คืนวันนั้นในตอนยามเศษ ชอยกลับเขาวังไปแลวแตตอนเย็น พลอยก็ไดหลวงโอสถกับคุณเชย มานั่งเปน เพื่อน พอเพิ่มมารดน้ําหลานตอนบายแลวก็บนงึมงําวาเวียนหัวตองรีบกลับ หลวงโอสถกับคุณเชยมีหนาที่ ตองอยูปูที่นอนตามฤกษเวลาสองทุมครึ่ง เสร็จแลวก็มานั่งอยูกับพลอยที่หนาตึก นั่งดูแขกหนุมๆ สาวๆ ที่ไดรับ เชิญมาฉลองการสมรส เดินไปมาทักทายปราศรัยกันอยางรื่นเริงที่กลางสนาม คืนนั้นบริเวณบานไดรับการ ตกแตงดวยตนไมและไฟสีตางๆ แลดูงามตาจนพลอยเกือบจําไมได แขกที่มาทั้งผูหญิงผูชายลวนแตงกายสวย งามตามสมัยนิยม ทุกคนมีสีหนารื่นเริงยิ้มแยม เหมือนกับวาจะชวยกันมีความสุขรวมกับคูบาวสาวในคืนนั้น เสียงดนตรีดังอยูเบาๆ บรรดาสุภาพสตรีที่แตงกายดวยแพรสีตางๆ รับแสงไฟ ตางเยื้องกรายดูเหมือนกับวาจะ เขากับจัวหวะ และเสียงพูดคุยเสียงหัวเราะนั้น ฟงดูคลายกับวาเปนสวนหนึ่งของดนตรีที่กําลังแสดงอยู พลอยกับคุณเชยและหลวงโอสถนั่งอยูดวยกันสามคนเงียบๆ หางจากแขกเหรื่ออื่นๆ รูสึกเหมือนกับวา ตัวนั่งดูละครฉากที่สวยงาม เวลายิ่งดึกลงไป เสียงนาฬิกาตีสิบครั้งแสดงวาถึงเวลาใกลฤกษสงตัว ซึ่งกําหนดไว สี่ทุมกับแปดนาที พลอยเริ่มกระสับกระสายเพราะกลัวจะพลาดฤกษ แตอีกครูหนึ่งตาอั้นก็พาประไพ และคุณเสวี เดินหัวเราะกันอยางรื่นเริง เขามานั่งพับเพียบอยูตรงหนา "ไดฤกษสงตัวแลวครับคุณแม" ตาอั้นพูดขึ้น พลอยขยับตัวจะลุกขึ้นทันที เพราะจะรีบไปสงตัวลูกสาวใหทันฤกษบนเรือนหอ แตตาอั้นพูดขึ้นดวยถอย คําที่ทําใหคุณเชยกับหลวงโอสถตองแลดูตากัน "สงตรงนี้ก็ไดคุณแมไมเห็นจะมีอะไร ใหศีลใหพรเสียหนอยก็แลวกัน" "อะไร ! ริมสนามนี่นะหรือ" พลอยถามอยางไมเชื่อหู "ครับไมเปนไรหรอก คุณเสวีไมถือ และประไพเขาตองไปรับแขกตอไป" พลอยไมรูวาจะทําอยางไรถูก กมตัวลงบนเกาอี้แลวใหศีลใหพรเบาๆ สองสามคํา ประไพและคุณเสวีก็กม ลงกราบ แลวประไพก็หัวเราะ จูงมือคุณเสวีเดินออกไปกลางสนาม "ประไพกับคุณเสวีเขานัดจะเขาหออยางทําเนียมฝรั่ง" ตาอั้นอธิบาย "เขาทําอยางไรกันอั้น" พลอยถามอยางหมดกําลังใจ "เจาบาวเขาตองอุมเจาสาวขามธรณีประตูบานเขาไป" ตาอั้นตอบอยางเปนของธรรมดา พลอยไดยิน เสียงคุณเชยเอาผาเช็ดหนาอุดปากไอเบาๆ อยูขางๆ พอตาอั้นเดินหางไปแลว คุณเชยก็พูดขึ้นเบาๆ ดวยน้ํา เสียงที่แสดงความขบขันวา "แมพลอยนี่ก็แปลก มีลูกสะใภเปนแหมมแลวคนหนึ่งมาไดลูกเขยฝรั่งเขาอีกคน นาเวียนหัว" "ดูเอาเถิดคุณเชย" พลอยพูดอยางผสมโรง "ฉันก็กลุมใจจริงๆ ทีเดียว ทําเนียมฝรั่งอะไรของเขาก็ไมรู โต จนอยางนี้แลวยังตองอุมกันเขาบาน ฉันไดยินแลวอายจนพูดไมออก" "ฉันพูดอยูเสมอวา ฉันนี่เกิดมาไดเห็นอะไรตออะไรมามาก" คุณเชยพูดขึ้นอีก "คราวนี้เพิ่งมาไดเห็นวา เขาสงตัวกันกลางแจงก็ได แมพลอยก็กมหนากมตาสงลูกสาวไดจริงๆ ไหนลองบอกฉันทีหรือวาเมื่อกี้พูดวา กระไร" "ฉันก็ไมรู" พลอยตอบ "หลับหูหลับตาใหศีลใหพรโมเมไปอยางนั้นเอง ไมไดสงเนื้อสงตัวอะไรหรอก" "ฉันวาเขาทําของเขาถูกแลวละแมเชย" หลวงโอสถพูดสอดขึ้นมาบาง "คนแตกอนนั้นกอนจะแตงงานกัน ไมไดพบปะคุนเคยกันอยางสมัยนี้ ใหผูใหญไปสูขอ แมแตหนาบางทีก็ไมเคยเห็นกันมากอน พอแตงแลวก็ตอง สงเนื้อสงตัวกันเปนธรรมดา แตคนสมัยนี้เขารูจักนิสัยใจคอคุนเคยกันดีแลวเขาจึงแตง ที่เขายังถือฤกษสงตัวอยู ไมทิ้งเสียเลย แลวก็มาขอพรพอแมฉันกลับเห็นวานาเอ็นดูดีเสียอีก" "เออ ! ฉันก็เพิ่งรูวาฉันมีผัวสมัยใหม !" คุณเชยออกอุทานขึ้น "เมื่อตอนนั้นทําไมคุณหลวงไมเห็นอุมฉัน ขึ้นเรือนบางละ" "ฉันก็เพิ่งมารูธรรมเนียม" หลวงโอสถหัวเราะ "จะมาอุมกันเดี๋ยวนี้ใหถูกธรรมเนียม ก็กลัวเด็กๆ มันจะ หัวเราะเอา" ตั้งแตวันแตงงานแลวเปนตนมา คุณเสวีก็มาอยูกับประไพที่ในบาน ถาใครจะกลาวหาวาพลอยไม พยายามคุนเคยกับลูกเขยก็ดี หรือหาวาพลอยไมเปดหัวใจใหกวางขวางพอ ที่จะรับสมาชิกของครอบครัวคน ใหมก็ดี ขอกลาวหาเชนนั้นก็เปนขอกลาวหาที่ไมเปนธรรม เพราะถึงแมวาพลอย จะพยายามที่จะคุนเคยใกลชิด กับคุณเสวีเพียงใดก็ตาม แตก็ดูเหมือนจะมีอุปสรรคหลายอยางมากั้นกางไว ทําใหพลอยไมสามารถเขาถึงตัว

http://www.geocities.com/siamstory/ploy403_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๓ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 3

คุณเสวีได ถาจะวากันไปตามจริงแลว อุปสรรคที่สําคัญที่สุดนั้นดูเหมือนจะเปนตัวคุณเสวีเอง กิริยามารยาทโดยทั่ว ไป ของคุณเสวีตลอดจนถอยคําและความคิดเห็นตางๆ ที่แสดงออกมานั้น ขาดลักษณะที่จะทําใหเกิดความสนิท สนม เปนกันเองระหวางคุณเสวีกับพลอยได คุณเสวีเคารพพลอยมาก แตวิธีที่จะแสดงความเคารพนั้น พลอย เห็นวาเกินไปจนดูเหมือนกับวาพลอยเปนคนอื่น เวลาพลอยเดินขามสนามไปเยี่ยมเยือนถึงตึกที่ปลูกใหม เวลา ที่คุณเสวีอยูบาน คุณเสวีก็ตอนรับแมยายอยางตอนรับแขกผูมีเกียรติ มิใชอยางคนอยูบานเดียวกัน คุณเสวีจะ แสดงกิริยาอาการนอบนอมนั่งลุกในที่อันควร และพูดจาดวยถอยคําที่สุภาพ จนกลายเปนแข็งกระดาง พลอยเอง ก็รูดีวาคุณเสวีเจตนาดี ตั้งใจจะแสดงความเคารพตามควรแกฐานะของพลอยที่เปนแมยาย แตจะเปนเพราะคุณ เสวีไมรูวิธีที่จะแสดงตนตอญาติผูใหญ ดวยความเคารพอยางกันเอง หรือจะเปนดวยอะไรก็ตาม พลอยใหนึก เกรงใจวา ตนจะเปนเครื่องขัดความสุขความสําราญ ในบานของคนอื่นทุกครั้งไป หนักเขาพลอยก็เลยไมกลา ยางกรายไปที่เรือนลูกเขย นอกจากจะมีธุระจําเปนจริงๆ แตพลอยก็ยังดีใจอยูเสมอที่การแตงงานทําใหประไพ ลูกสาวของตนมีความสุขขึ้นมาก ประไพเปลี่ยน จากคนสาวที่มีอารมณเปลี่ยนแปลงไดงาย และไมคอยมั่นใจในตัวเองนักไปเปนผูใหญ ดูเหมือนจะรูจักตัวเอง และความตองการความปรารถนาของตัวเองทุกอยาง ความมั่นใจที่เกิดขึ้น ทําใหประไพเปนคนมีอารมณดี และ ตั้งแตแตงงานแลวก็ดูเหมือนประไพจะพูดจากับพลอยรูเรื่องมากกวาแตกอน แตความเขาใจนั้นเปนแตในเรื่อง เล็กๆ นอยๆ ทั่วไป ในบางเรื่องพลอยก็ยังรูสึกวาไมสูจะเขาใจลูกสาของตนนัก เปนตนวาในเรื่องอาหารการกิน ในครอบครัว ประไพมาบอกพลอยหลังจากแตงงานแลวไมกี่วันวา "คุณแม ไพคิดวาเรื่องสํารับกับขาวที่เรือนนั้น ไพไมอยากหาคนทําเอง เพราะไพไมมีเวลาดู แตอยากจะ ขอใหทางครัวของบานใหญทําสงให" "ก็สะดวกกีหรอกประไพ" พลอยตอบ "แตแมเห็นวาประไพควรจะดูเองจะดีกวา เพราะอะไรจะไปสําคัญ ไปกวาดูแลเรื่องการกินอยูใหผัว" ประไพหัวเราะแลวก็ตอบวา "ไพไมมีเวลา ตองไปโนนมานี่ คุณเสวีก็กินงายไมจูจี้แลวก็ไมอยากใหไพทําดวย เขาวากับขาวทางคุณ แมอรอยกวา" ตอคําพูดเชนนี้พลอยก็ไดแตนิ่ง นึกอยูแตในใจวา "ถึงจะเติบโตมีผัวแลวก็ยังไมพนอกแมอยูนั่นเอง ยาย ประไพเอย" อีกเรื่องหนึ่งที่พลอยเห็นวาตนไมมีทางจะเขาใจไดเลย ก็คือเรื่องมีลูก พลอยเปนคนรักเด็ก และใฝฝนที่จะ มีหลานไวเชยชมอยูเปนนิจ แตก็ยังไมสมปรารถนาไดเลย พอประไพแตงงายแลวไดสองสามเดือน พลอยก็ถาม เปรยๆ ขึ้นวันหนึ่งวา "ประไพ จะมีหลานใหแมไดเลนหรือยัง" ประไพหัวเราะตอบวา "ยังหรอกคุณแม ไพอยากอยูตัวเปลาไปกอน ยังไมอยากมีลูก" "ถึงอยากนั้นก็เถิด" พลอยวา "ของอยางนี้ใครจะไปหามได ไมมีรองรอยอะไรบางเลยหรือ" ประไพหัวเราะอยางขบขันเสียเต็มประดาแลวตอบวา "ยังไมมีเลย แลวก็จะไมมีตนกวาเราจะเห็นสมควร คุณเสวีเขาก็ยังไมอยากมี เขาบอกวาเราควรจะสนุก สนานไปกอน มีลูกแลวก็ตองมีภาระเลี้ยงดู หมดสนุกกัน" "ก็จริงหรอก" พลอยตอบ "แตของอยางนี้มันแลวแตบุญแตกรรม ถึงเราจะอยากมีหรือยัง แมก็ไมเห็นจะ เกี่ยว ถึงคราวจะมีมันก็มีเอง" ประไพหัวเราะกี๊ก ตอบวา "มันไมใชบุญกรรมหรอกคุณแม จะมีหรือไมมีมันอยูที่เราตางหาก เดี๋ยวนี้เขาควบคุมกันได มีลูกไดตาม ใจ ไมปลอยตามบุญตามกรรมอยางแตกอน" พลอยใจหายวาบและตัวเย็นไปทั้งแถบ เพราะครั้งนี้เปนครั้งแรกที่พลอยไดรูวา คนสมัยใหมเขาคุมกันได แมแตลูกที่จะเกิดมา ดูชางบาปกรรมเสียนี่กระไรในความรูสึกของพลอย และใหรูสึกสงสารหลานที่คอยจะเกิด แลวยังเกิดไมไดอยางจับใจ อีกคนหนึ่งที่รับรูขาวแตงงานประไพ ดวยอาการที่แสดงวาไมพอใจนักก็คือตาอน พลอยมีโอกาสเยี่ยมตา อนที่คุกบางขวาง ระหวางที่ประไพหมั้นแลวและกอนแตงงาน พลอยไดถือโอกาสนั้น บอกใหตาอนทราบวา ประไพตกลงหมั้นกับคุณเสวีและจะแตงงานเมื่อไร ตลอดจนฐานะความเปนอยูของคุณเสวี และความสําคัญของ คุณเสวีโดยตลอด ตาอนยืนฟงพลอยแลวขบกรามแนน มือที่กําลูกกรงที่กั้นอยูตรงหนานั้นกําแนน จนเห็นกระดูกโคนนิ้ว โปนขึ้นมา ตาอนมองไปขางหนา ตาไมจับพลอยแลวก็พูดขึ้นวา "ผมรูเรื่องละเอียดแลว คุณแม ออดเขาเลามาใหฟงตลอด ก็เปนธรรมดา ที่ไหนอั้นเขาจะอยากใหนองเขา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy403_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๓ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 3

ทีผัวเปนเจา เขาก็ตองอยากใหไดกับพวกเขา ประไพเขาก็นับถือพี่ชายเขามาก ถึงพี่เขาจะไมตองพูดเขาก็รูใจ กัน พอที่คลอยตามไปได" "อนอยาไปฟงตาออดใหมากนักเลย หมูนี้เปนคนเจาอารมณอยางไรก็ไมรู แมก็รูดีวาตาออดไมชอบคุณเส วี แตจะใหแมทําอยางไรไดเมื่อเจาตัวเขาชอบ" "ผมก็เห็นใจคุณแม ไดไดวาอะไรเลย" ตาอนตอบเนือยๆ "แตมานอยใจอยูวาเพราะผมเปนฝายแพ นอง สาวก็เลยตองไปเปนเมียเขา ถางทางผมเปนฝายชนะ บางทีก็จะไมเปนอยางนี้" พลอยไมสบายใจเลยเมื่อไดยินตาอนพูดเชนนั้น รีบพูดไกลเกลี่ยเชิงขอรองขึ้นวา "อนเลิกพูดเรื่องแพเรื่องชนะเสียทีเถิดลูก แมไมสบายใจจริงๆ ทุกครั้งที่ไดยิน อะไรๆ ก็แลวไปแลว ไมมี ทางจะกลับไปเหมือนเกาได อนตองมาติดคุกทรมาณอยูก็นับวาเปนกรรม เปนกรรมทั้งของอนและของแม ถามัว แตนึกอาฆาตพยาบาท ถือแตทิษฐิมานะกันอยู ก็จะไมมีวันหมดกรรมหมดเวรกันได นึกวายกใหแมเสียเถิด แม อยากใหอนทําใจใหผองใสบริสุทธิ์ อยากใหลืมๆ เรื่องที่แลวไปเสีย คิดถึงการขางหนาตอไปดีกวา ถาอนมีบุญมา วาสนาชวย บางทีก็จะไดออกมาเร็วๆ นี้ มาเปนที่พึ่งของแมเมื่อแก" ตาอนนิ่งเงียบไมปริปากพูด แตสายตาที่แข็งกราวนั้นกลับมองดูพลอยอยางออนโยน และกลามเนื้อที่ กรามและที่แขนที่เกร็งอยูเมื่อกี้ ก็กลับผอนหยอนลง พลอยดีใจที่เห็นวาถอยคําของตน ยังสามารถเปลี่ยนความ รูสึกของตาอนได ตาอนมองดูหนาพลอยอยูครูหนึ่งแลวก็พูดขึ้นวา "เวลานี้ลูกก็มีความหวังเหลืออยูเพียงเทานั้น อยากจะใชกรรมใชเวรเสียใหหมด แลวจะไดออกไปสนอง พระคุณคุณแมไปจนกวาชีวิตจะหาไม ใครจะเปนอะไรจะทําอะไร ลูกก็ไมคอยจะสนใจเทาไรแลว" "แมขอบใจ อนลูกแม" พลอยพูดเสียงเครือ "ขอใหอนทําใจใหดีๆ เถิด ไมตายเสียเราก็คงจะไดอยูดวยกัน อีกเหมือนแตกอน ถาแมไดอนกลับมาอีกคน แมก็จะตายตาหลับ" "คุณแม" ตาอนพูดเบาๆ "ถาผมจะบอกอะไรให ขอใหคุณแมอยางเพิ่งดีใจจนเกินไป และอยาเพิ่งหวังจน เกินไป หากไมเปนไปจริงเดี๋ยวคุณแมจะตองเสียใจทีหลัง" "อะไรอน" พลอยถามอยางตื่นๆ "บางทีผมอาจไดออกไปอยูบานเร็วกวาที่คาดไว" ตาอนบอก "เพราะผมไดขาวมาเมื่อไมกี่วันนี้เองวา ทางรัฐบาลเขาจะคัดเอาตัวพวกเราไปอบรม แลวก็ปลอยตัวไป" แสงสวางในหองนักโทษนั้นดูเหมือนจะมีมากขึ้นทันทีสําหรับพลอย ความดีใจทําใหเลือดแลนซูไปทั้งตัว พลอยเหยียดตัวตรงและชะโงกหนาเขาไปใกลลูกกรงนั้นอีก กิริยาอาการกระปรี้กระเปราขึ้นเหมือนกับคนสาวๆ "จริงหรืออน ! จริงหรือนี่ !" พลอยกระซิบถามเสียงสั่น น้ําหูน้ําตาไมรูวามาจากไหน "คุณแม ! คุณแม !" ตาอนเตือนเบาๆ แลวก็ยิ้มอยางปรานี "ผมบอกแตแรกแลววาอยาเพิ่งดีใจจนเกินไป ถาไมจริงจะตองเสียใจทีหลังเปลาๆ ผมไดขาวมาอยางนั้นผมก็เลาใหฟง" "โธอน !" พลอยอุทาน "ขาวดีออกอยางนี้จะไมใหแมดีใจอยางไร...แมไมไดดีใจอยางนี้มานานแลว" พลอย ยกผาเช็ดหนาขึ้นซับต้ําตาที่ไหลซึมออกมาดวยความปติ แลวก็พูดวา "เจาประคุณ ! ขอใหจริงเถิด ! แมกลับไป นี่จะตองบอกใหอั้นเขารู มีทางไหนที่จะวิ่งเตนชวยเหลือกันได จะไดทําใหเต็มที่" คําพูดอยางพาซื่อของพลอย ทําใหตาอนเปลี่ยนสีหนาไปบาง แลวก็พูดวา "คุณแมอยาไปทําอะไรอีกเลย ปลอยใหเปนไปตามเรื่องดีกวา ถาเขาปลอยเราจริง ก็เปนบุญคุณเหลือ หลายอยูแลว ผมไมอยากจะเปนหนี้บุญคุณใครจนเกินกวานั้นไปอีก ถาไดออกไปตามเกณฑของเขา ผมก็จะ สบายใจกวาที่ไดออกไปเพราะฤทธิ์คนนั้นคนนี้เที่ยววิ่งให" พลอยไมพยายามถกเถียงอะไรกับตาอนอีกตอไป เพราะขาวที่รูวันนี้เปนขาวดีเกิดคาด ขากลับจากบาง ขวางวันนั้น พลอยรูสึกตัวเบา นั่งเรือกลับมา ก็ใหมองเห็นภูมิประเทศสองขางแมน้ํานั้น สวยสดงดงาม เพราะ ความสุขที่เกิดขึ้นในใจ เนื่องจากความหวังที่เกิดขึ้นใหมนั้น เปนเหมือนแกวสีสดงดงามมาบังลูกตา ทําใหสิ่ง ตางๆ สวยงามไปสิ้น

http://www.geocities.com/siamstory/ploy403_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๔

Page 1 of 7

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๔ ขาวในหลวงเสด็จกลับมาเยี่ยมพระนครที่พลอยไดรับในระยะตอมานั้น ดูเหมือนจะเปนศุภนิมิตร ที่มี ความสัมพันธกับขาวดีที่พลอยไดรับจากตาอน นับตั้งแตผลัดแผนดินใหมเปนตนมา พลอยก็ไดแตคอยเงี่ยหู สดับตรับฟงขาวคราวเกี่ยวกับในหลวงพระองคเล็กดวยความสนใจเปนพิเศษ เพื่อนฝูงของตาอั้นและตาออด บางคนเปนขาราชการ ไดเดินทางไปตางประเทศ และไดเขาเฝาทูลละอองธุลีพระบาทที่โลซานน มักจะกลับมา เลาถึงความนารักนาเอ็นดูของในหลวง และสรรเสริญพระปรีชาสามารถตางๆ ที่แสดงใหเห็นวา พระองค ประกอบดวยพระบารมี เปนอัจฉริยะผิดกับเด็กอื่นๆ ที่อยูในวัยเดียวกัน ขาวคราวเหลานี้ พลอยรับฟงดวยความ ปลื้มปติและความกระหาย ทุกครั้งที่ไดฟงก็มักจะจดจําไวเลาตอไป ใหพี่นองญาติมิตรฟงกันทุกคน เมื่อถึงคราว ที่จะเสด็จกลับพระนคร พลอยจะไดมีโอกาสชมพระรูปโฉม พลอยจึงรูสึกตื่นเตนในขาวนั้นไมนอย ขาวในหลวงเสด็จกลับนั้น ไดทําใหบรรยากาศภายในครอบครัวของพลอยดีขึ้นทั่วๆ ไป เพราะตาอั้นก็ดี ตาออดก็ดี ตลอดจนประไพและคุณเสวี ตางพากันพูดถึงขาวนี้ดวยความปติยินดี และตางคนตางรอวันที่จะเสด็จ กลับมาถึงพระนคร ดวยความกระหายอยากชมพระบารมีเปนพิเศษ เมื่อคนที่เคยมีความเห็นแตกตางกันใน หลายเรื่องหลายราว จนถึงกับบาดหมางกันอยูในใจ มามีวัตถุอันเปนสิ่งที่รวมความสนใจ กอใหเกิดความปติ ยินดีรวมกันและความหวังรวมกันดังนี้ ความบาดหมางกินใจที่เคยมีอยูเหมือนกับคลื่นใตผิวน้ํา ก็ดูออกจะเบา บางลงไป และคนทั้งนั้นดูเหมือนจะหันหนาเขาหากันดวยความสามัคคดี ซึ่งพลอยเห็นวาควรจะเปนปกติวิสัย ของครอบครัว หรือระหวางบรรดาญาติ แมแตพอเพิ่มซึ่งมึนตึงกับตาอั้นและคุณเสวีมาตลอด ก็ดูจะคลายความ มึนตึงนั้นลง พลอยไดยินตาอั้นถามพอเพิ่มวันหนึ่งวา "คุณลุงครับ คุณลุงจะไปรับเสด็จในหลวงไหม" "ไมไปไดหรือพออั้น" พอเพิ่มยอนถามอยางไวทา "คนอยางลุงตองไปรับเสด็จเสมอ แลวพออั้นจะไป ไหม" "พุทโธ ! ถามได" ตาอั้นอุทาน "ผมอยากเห็นทานเหมือนจะตายไป ผมวาจะไปแตวันดวยซ้ํา นัดกับเสวี เขาไวแลววาจะไปดวยกัน" "ออ ! พอเสวีเขาก็จะไปเหมือนกันหรือ" "ไปครับ เราวาจะไปรถเดียวกันหมดสะดวกดี คุณลุงจะไปดวยก็ได มีที่ถมไป" "เอ ! ก็ถาจะดีเหมือนกัน พออั้นแวะไปรับลุงที่บานดวยคน พอใกลวันนัดเวลากันใหแนนอนอีกทีหนึ่งก็ดี ลุงจะไดแตงตัวคอย" พอเพิ่มตอบ พลอยนั่งฟงคําพูดระหวางลุงกับหลานคูนี้อยูดวยความโลงใจ เพราะครั้งนี้เปนครั้งแรก หลังจากที่ไดมึน ตึงกันไปนาน ที่คนทั้งสองพูดจากันเปนปกติ และการที่พอเพิ่มรับปากวา จะนั่งรถไปกับหลานเขยดวยอีกคน หนึ่งนั้น พลอยก็เห็นวาเปนเรื่องประหลาดที่นาจะยินดีอยู ใจพลอยเองก็อยากจะไปคอยชมพระบารมีในหลวงในวันเสด็จกลับอยางบอกไมถูก ความรูสึกที่เคยมี เมื่อตาอั้นและตาออดกลับจากเมืองนอกนั้น กลับมาสูตัวอีกครั้งหนึ่ง อยากจะไดเห็นอยากจะไดชม ในวันที่เสด็จ กลับถึงพระนครนั้นเอง จะรอไววันหลังๆ ก็ดูออกจะชาไปไมสมกับความรูสึกยินดี ถาหากวาไดเห็นในวันนั้นสัก แวบหนึ่ง ขณะที่เสด็จผาน พลอยก็รูสึกพอใจเปนอยางยิ่ง แตความปรารถนาอยางนี้ พลอยจะพูดกับใครที่เด็ก กวาก็ไมกลา กลัวเขาจะหาวาตื่นเตนจนเกินแกวัย แตเมื่อหักหามใจไวไมได พลอยก็ตองหันหนาเขาหาชอย เมื่อชอยมาคุยดวยที่บานวันหนึ่ง "ชอย" พลอยเอยขึ้นกอน "ในหลวงเสด็จกลับนี่ชอยจะไปรับเสด็จไหม" "พลอยพูดราวกะวาฉันใหญโตเต็มประดา" ชอยวา "ขืนสะเออะเขาไปรับเสด็จ เขาจะไดใหทหารเขี่ยออก มา" "ไมใช" พลอยพูดแก "ฉันหมายวาชอยจะไปคอยดูกระบวนเสด็จบางไหม ฉันไดยินเขาวาจะเสด็จจาก ตําหนักแพเขาวังกอน แลวก็จากในวังแหกระบวนรถมาพระที่นั่งไปสวนจิตรฯ" "ออ ! ถาขนาดนั้นละกอไมตองถามหรอกพลอย" ชอยตอบ "เรื่องดูแหแลวยายชอยไมเคยขาด แลวคราว นี้ฉันก็อยากเห็นทานเหลือเกิน เขาลือกันวานารักนาเอ็นดูเปนที่สุด ฉันก็พลอยใจเตนตึ้กตั้กไปดวย ตั้งแตเกิดมา ก็ยังไมเคยเห็นในหลวงพระองคเล็กๆ" "ก็ถึงวาเถิดชอย" พลอยพูดสวนขึ้นมา "ฉันเองก็เหมือนกัน แลวชอยจะไปดูที่ไหน" "พวกในวังเขาชวนฉันไปคอยเฝาที่ลานวัดพระแกว" ชอยบอก "แตฉันเห็นไมสนุก ถาเฝาที่นั่นเสียอีก

http://www.geocities.com/siamstory/ploy404.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๔

Page 2 of 7

อาจเห็นไมไดถนัด เพราะไอเรามันชาววังโบราณ เวลาเสด็จผานมาก็ดีแตจะหมอบกราบกมหนากมตา จะหมอบ ทําชมอยชมายก็กระดากใจตัวเอง ฉันจึงวาจะไปคอยเฝานอกวัด ตามทางที่รถพระที่นั่งจะผาน เพราะสนุกกวา ไดดูผูดูคนครึกครื้น บางทีก็ซื้อขนมกินบางอะไรบาง และเวลาเสด็จมาเราก็ดูไดจริงๆ ใครจะไปรูวาใครเปนใคร" "ฉันไปดวยคนไดไหมชอย" พลอยถามเชิงขอรอง "ถาแมพลอยไปก็ตองเฝาในวัดพระแกว" ชอยตอบ "อาว ! ทําไม" พลอยถาม "ก็แมเปนคุณหญิงคุณนาย แมจะไปเดินถนนเบียดกับคนอยางฉันไหวหรือ เดี๋ยวเปนลมเปนแลงไปจะ ลําบาก" ชอยพูดอยางเปนหวง "ชอยพูดเหมือนกับฉันเปนคนขี้แยเสียแลว" พลอยทวงขึ้น "ชอยทําไดแคไหนฉันก็ทําไดแคนั้น ถาจะดู กระบวนเสด็จขางนอกก็ดีเหมือนกัน ฉันก็ไมใชคนในรั้วในวัง ทําไปเฝาแหนถึงในวัดพระแกว ใครเขาเห็นเขาจะ หมั่นไสเอา แลวอีกอยางหนึ่งฉันก็ไมไดไปไหนมานานแลว อยากเที่ยวเสียบางจะไดเห็นผูเห็นคน" "ฉันไมอยากไปดวยเลย" ชอยยังลังเล "ลูกของพลอยเขาออกเปนใหญเปนโตไปตามๆ กัน เดี๋ยวเขาจะมา วาไดวาฉันพาแมเขาไปเดินตามขางถนน" "ไมเปนไรหรอกชอย ฉันจะชวนตาออดไปดวย ตาออดคงไมขัด แลวก็จะไมมีใครวาอะไรได" พลอยพูด แก "ไปก็ไป" ชอยวา "สนุกดีเหมือนกัน แกจะเขาโลงกันทั้งสองคนแลว กลับทําสาวเดินเที่ยวดูแหดวยกัน ใหม" ถึงวันนัดคือวันในหลวงกลับ พลอยก็ตื่นแตเชาแลวรีบขึ้นรถไปลงที่ขางๆ วังหลวง ใหตาออดคอยอยูใน รถ แลวตัวเองกับเด็กคนใชผูหญิงก็เขาไปรับชอยถึงในวัง ถึงแมวาพลอยจะไปถึงกอนเวลาเสด็จถึงพระนคร ตั้ง หลายชั่วโมง คนที่รายทางคอยเฝาชมพระบารมี ก็มีอยูบางแลวตามถนนหนทางประปราย และเทาที่พลอย สังเกต คนก็กําลังทยอยกันมาเรื่อยๆ มีทาวาจะแนนยิ่งขึ้นทุกที พลอยเขาไปนั่งคอยชอยอยูในวังเสียนาน พอกลับออกมาขางนอกอีกทีหนึ่งพรอมกับชอย พลอยก็ตองยกมือขึ้นลูบอก เพราะผูคนดูชางมากมายแลดูลน หลานถนนหนทางไปหมด เคราะหดีที่ตาออดมายืนคอยรับอยูหนาประตูวัง ไมตองเที่ยวตามหาใหเสียเวลา ทั้ง สามคนบายหนาสูทุงพระเมรุ อันเปนที่ๆ ชอยบอกวา คงจะไดเห็นหลวงเวลาเสด็จผานไดดีกวาที่อื่น พลอยตอง เบียดคนหลีกคนไปแตชาๆ มือหนึ่งกํากระเปาถือแนน เพราะกลัวถูกวิ่งราว อีกมือหนึ่งก็กํารมไวอยางทะมัด ทะแมง นึกในใจวาถาใครบังอาจเขามาหยิบฉวย ก็เปนไดเห็นดีกัน "โอโฮ ! คนมากดีจริงๆ" เสียงชอยรองขึ้นขางๆ "นั่นสิชอย" พลอยรองตอบ "ไมรูวาหลั่งไหลกันมาจากไหน แตกอนสมัยเรายังเด็กๆ มีงานใหญอยางไร ก็ ไมเคยเห็นคนมากเทานี้ ฉันชักจะเมาคนขึ้นมาแลวละ" "ฉันวาแลวไหมละ" ชอยพูดตอบมา "นานๆ ออกจากบานมาทีละก็เปนอยางนี้ สูฉันไมได เดินไปเดินมา อยูเสมอจนเคยเสียแลว ...ขอไปทีพอคูน !" ชอยรองบอกเด็กหนุมๆ ที่ยืนหันหลังขวางทางเดินอยูขางหนา พลางเอาปลายรมที่ถือกระตุนหลังเขาเต็มรัก "โอย !" เด็กหนุมคนนั้นรองสุดเสียง พลางกระโดดออกจากทาง แลวเหลียวมาหัวเราะกับชอยพูดวา "พุทโธ ! คุณปาจะรีบไปไหน พูดกันดีๆ ก็ไมได ตองเอารมจี้กันดวย" "ฉันจะไปเฝาในหลวงกับเขาบางซีพอขา" ชอยตอบอยางอารมณดี พอเดินหางออกมาอีกหนอย ชอยก็ บนพึมพําวา "เด็กสมัยนี้มันไมรูจักกลัวจักเกรงผูใหญกันบางเลย พูดจาก็หนาทะเลนสิ้นดี อยางนี้ถาเปนลูกเปน หลานละก็แมจับฉีกอกเสียหมด" "ฉันก็เพิ่งเห็นฤทธิ์ชอยตอนแกวันนี้เอง" พลอยเดินเขาไปกระซิบใกลๆ ตัว "นี่ไปไหนก็เที่ยวทิ่มเที่ยงแทง เขาเต็มเหนี่ยวอยางนี้เองหรือ" "ก็อยางนี้แหละ ฉันถึงไดไปไหนไปไดไมเกรงกลัวใคร แลวก็ไมมีใครมาเลนรังแก แตกอนเมื่อยังเปน สาวๆ เปนขางน้ําขางใน จะไปไหนก็มีตํารวจมีโขลนจาคอยไลคนให เดี๋ยวนี้เปนประชาธิปไตย จะไปไหนก็มี เสรีภาพ เลยตองเที่ยวไลคนเอาเอง" พลอยเดินมาถึงแนวตนมะขามรอบทุงพระเมรุ แลวก็หยุดยืนพักรอนอยูใตรมไม สายตามองฝูงคนที่ผาน ไปมา คนที่มาคอยเฝาในหลวงในวันนั้น มีทั้งคนแกคนหนุมคนสาวและเด็กๆ ทุกคนดูเหมือนจะแตงตัวสะอาด สะอานเปนพิเศษ เพื่อใหเหมาะสมแกโอกาส และทุกคนมีใบหนารื่นเริง อันเกิดจากความยินดีที่ในหลวงของตน จะเสด็จกลับ พลอยยืนดูอยูไมนานก็รูสึกตื้นตันคอหอย จะมองไปทางไหนก็มีแตหนาคนที่เปนมิตร เพราะคนที่ มารวมกันอยูตามขางถนนหนทางในวันนี้ ตางมาดวยวัตถุประสงคเดียวกัน ดวยความจงรักภักดีรวมกัน ดวย ความรูสึกเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน ที่ตางพากันมารับญาติที่รักคนหนึ่ง ซึ่งกําลังจะกลับมาถึงบาน ความ รูสึกตางๆ ที่รวมกันนั้น ทําใหทุกคนหันหนาเขาปราศรัยกันฉันมิตร มีความรูสึกเปนกันเองทั่วไปหมด และคนที่ ไมเคยรูจักกัน ก็ยิ้มแยมทักทายกัน และพูดจากันไดเหมือนกับรูจักคุนเคยกันมานาน พลอยยืนอยูใตตนมะขาม ทางขอบดานในของทุงพระเมรุ คอยชอยซึ่งบนวากระหายน้ําแลวไปยืนซื้อน้ําแข็งเจกกินอยูใกลๆ เด็กหนุมอีก

http://www.geocities.com/siamstory/ploy404.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๔

Page 3 of 7

คนหนึ่งแตงตัวสะอาดสะอาน มองดูหนาพลอยแลวก็ยิ้มดวย พลางพูดขึ้นวา "คุณปาไมไปยืนทางดานริมถนนหรือครับ ถายืนอยูตรงนี้เดี๋ยวเวลาในหลวงเสด็จมา คนเขาบังหมดไม เห็นกัน" "ขอบใจพอคุณ" พลอยยิ้มแลวตอบดวยความขอบใจจริงๆ มิใชสักแตเพียงมารยาท "ปากําลังคอยอีกคน หนึ่งอยู เดี๋ยวจะรนเขาไปเอง" พลอยมองตามเด็กหนุมคนนั้นไปจนลับตา พลางนึกในใจวาคนที่เกิดมาใหม ขนาดคราวลูกคราวหลานของตัวนั้น มีอะไรนารักอยูหลายอยาง เพราะมีความกลาพูดจากับผูใหญไมมีกระดาก และแสดงความโอบออมอารีตอผูสูงอายุเปนอยางดี "ฟาใหม แผนดินใหม" พลอยนึกอยูในใจ "ในหลวงก็ทรงพระเยาว ขาแผนดินก็ดูมีแตคนหนุมคนสาวออกเต็มไป จะมีคนแกมาปนอยูบาง ก็คน ขนาดเรานี่เอง" "ไปเถอะพลอย" เสียงชอยมาพูดขึ้นขางๆ ตัว "ฉันกินน้ําเสียอิ่มแลว ไปยืนคอยดูกันทางริมๆ ถนนนั่น เถิด" พลอยไปยืนคอยอยูกับชอยอีกนาน แสงแดดที่ทวีความรอนขึ้นเรื่อยๆ นั้น มิไดทําใหคนที่มาคอยเฝา ในหลวงหลีกเลี่ยงไปไหนเลย คนที่ไมมีตนไมจะยืนบังเงาก็กางรมถามีรม ที่ไมมีรมก็ใชกระดาษหนังสือพิมพบาง หมวกบางเปนเครื่องกันแดด ทุกคนตั้งใจคอยรับเสด็จ อยางไมแยแสตอดินฟาอากาศ ไมมีใครบนวารอนหรือไม สบาย ตางคนตางรออยูดวยใบหนาอันยิ้มแยม และจํานวนคนนั้นก็ยิ่งมากขึ้นทุกที "เขาวาเสด็จจากทาราชวรดิษฐเขาไปในวังแลว" ตาออดซึ่งเดินหายไปครูหนึ่งกลับมารายงาน "อีกสักครูก็ คงเสด็จผานทางนี้ไปสวนจิตรฯ" คําพูดของตาออดทําใหพลอยยืนคอยตอไปไดอีกดวยความตั้งใจ เวลาลวงเลยไปอีกนาน และพรอมๆ กันนั้นคนก็ทยอยกันมาจากทางอื่น มาคอยเฝาอีกหนหนึ่งที่ริมถนนราชดําเนินในที่พลอยยืนอยู ขณะนั้นมีเมฆ กอนใหญมาบดบังแสงตะวัน ทําใหบริเวณถนนราชดําเนินและทองสนามหลวงครึ้มไปทั่ว ความรอนที่มีอยูเมื่อกี้ ก็หายไปสิ้น คงมีแตลมโชยอยูเบาๆ เสียงชอยพูดคอยๆ เหมือนกับจะปรารภกับตัวเองวา "อือ ! มีบุญเอาการอยู" "ใครชอย" พลอยกระซิบถาม "ในหลวงแผนดินนี้นะซี พอกอนจะเสด็จผานก็ครึ้มเยือกเย็นทีเดียว" ชอยตอบ พอชอยพูดขาดคําก็รูสึกวาคนจํานวนนับพันๆ นั้น มีความเคลื่อนไหวเปนอันหนึ่งอันเดียวกันหมด ตาง คนตางเขยงปลายเทาชะเงอมองไปที่ตนทางเสด็จ เสียงไชโยดังมาจากไกลแลวก็ใกลเขามาทุกที จนในที่สุดเสียง คนไชโยโหรองแสดงความปตินั้น ก็ดังอื้ออึงไปรอบขาง ดุจวาแผนดินจะถลมทลาย พลอยหัวใจเตนแรงดวย ความตื่นเตน เหยียดตัวขึ้นตรงเพื่อจะไดเห็นไดถนัด กระบวนทหารมานําเสด็จผานไปแลว เสียงเกือกมากระทบ กับพื้นถนนดังกึกกองเขากับเสียงคน ยิ่งเพิ่มความตื่นตาตื่นใจขึ้นไปอีก รถมาพระที่นั่ง ผานมาอยูตรงหนาแลวก็ ผานเลยไป พลอยไดแตมองทะลุน้ําตาที่หลั่งไหลออกมากบลูกตาทั้งสองขาง แลดูเห็นพระองคพระเจาอยูหัว "เจาประคุณ เจาประคุณ" พลอยรองพึมพําอยูในคอ ไมมีกําลังใจที่จะรอง ไชโยไดอยางคนหนุมคนสาวที่อยูรอบตัว หัวใจทั้งหมดดูเหมือนจะหลุดลอยจากตัว ไปจดจออยูกับเด็กเล็กๆ คน หนึ่ง ใสหมวกปกขนนก นั่งอยูบนรถพระที่นั่ง แวดลอมไปดวยผูสําเร็จราชการ และราชองครักษ ซึ่งลวนแลวแต เปนผูใหญ เด็กตัวเล็กๆ ที่ถูกเครื่องยศพระมหากษัตริย บดบังจนเกือบจะแลไมเห็นตัว คงเหลือแตสายตาที่ กวาดมองดูคนเปนอันมากที่มาคอยตอนรับ ดวยประกายตาที่มีแววประหลาด อยางที่พลอยไมเคยพบเห็นมาแต กอน ประกายที่บริสุทธิ์ปราศจากบาป ปราศจากมลทิน และเต็มไปดวยความเมตตาปรานี "พระองคเล็กเหลือ เกิน" พลอยนึกอยูในใจ "ไมไดนึกวาจะเล็กถึงเพียงนี้ แตชางนารักนาเอ็นดูเสียจริงๆ ใครเห็นใครก็ตองรัก ถึงจะ ไมใชเปนในหลวง แมเปนลูกคนธรรมดาสามัญ ใครเห็นใครก็ตองรักอยูนั่นเอง แตลักษณะอยางนี้จะเปนลูกคน ธรรมดาไดอยางไร ถึงจะเอามาเดินอยูขางถนน ก็จะตองรูทันทีวาไมใชคนธรรมดา เพราะพระรูปพระโฉมบงออก ชัดวา มีบุญผิดกับคนอื่น แตพระองคเล็กนิดเดียวยังมีสงาราศี แทบจะบดบังผูใหญที่นั่งอยูบนรถพระที่นั่งเกือบ หมด !" พลอยยืนอยูกับที่เหมือนถูกตรึงไว น้ําตาไหลพรากลงมาตามใบหนาดวยความปติ และความสงสารจับใจ ปติที่ไดเห็นสิ่งที่เปนยอดแหงความเคารพบูชาของตนคือพระเจาอยูหัว สงสารเด็กที่นารักนาเอ็นดูคนหนึ่ง ซึ่ง บุญวาสนาหรือโชคชะตาบันดาลใหตองไปอยูในฐานะเชนนั้น ความรูสึกในใจที่ระคนกันอยูนั้นอธิบายไดยาก แต ชอยก็มาตอบใหงายๆ ตามประสาของชอยดวยวิธีพูดขึ้นใกลๆ ตัววา "แมพลอย ฉันรักเสียแลวละ ในหลวงองคนี้" พลอยสะดุงตื่นจากภวังค ตอบชอยไปวา "ก็แนละชอย ใครๆ ก็ตองรักในหลวง" "ไมใชอยางนั้น" ชอยอธิบายตอ "รักจริงๆ ไมใชรักอยางในหลวง มีแตรักเฉยๆ ไมตองกลัว รักกรี๊ดๆ อยากวิ่งเขาไปกอดไปจูบ" "อยาลองดีกวาปาชอย ใครเขาจะไปยอมใหปาชอยเขาไปถึงพระองค" เสียงตาออดพูดอยางขบขัน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy404.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๔

Page 4 of 7

ความจริงชอยดูเหมือนจะพูดตรงกับความรูสึกในใจของคนทั้งปวง ที่ไปชุมนุมกันอยูในวันนั้น เมื่อกอนที่ ไดเห็นในหลวงนั้น ตางคนตางมีความจงรักภักดีและความสนใจ แตความรูสึกนั้น เปนความรูสึกที่กวางขวาง พอในหลวงเสด็จผานไปไดแลเห็นพระองค ความรูสึกอีกอยางหนึ่งก็บังเกิดขึ้นทันที อยางรุนแรงและรวดเร็ว คือ ความรักอันใกลชิดและเปนสวนตัวของทุกคนไป ความรักที่มีความแนนแฟน และประกอบดวยความหวงแหน เหมือนกับมีความรักบุคคลที่มีสายโลหิตใกลชิด ความเกรงขามอํานาจราชศักดิ์ ของพระเจาแผนดิน ซึ่งเคย ระคนอยูในความจงรักภักดีนั้น มิไดปรากฏขึ้นเลย เพราะทั้งฐานะปจจุบัน และพระชันษาของในหลวง มิไดกอให เกิดความเกรงขาม แตตรงกันขามกลับกอใหเกิดความรักอยางสนิทสนม เหมือนกับวาทุกคนเปนเจาของ ในหลวง และมีความสนใจ และความหวงใยยิ่งกวาที่เคยรูสึกมาแตกอน ความรูสึกที่บังเกิดขึ้นใหมในหมูคนนั้น มีความรุนแรงยิ่งกวาความจงรักภักดีที่เคยมีมาในครั้งใดๆ และดวยความรูสึกที่เกิดขึ้นใหมนี้ พลอยก็รูสึกตัวได ทันทีขณะที่เดินกลับบานวา ตนไดมาถึงหลักบอกระยะทางแหงยุคเขาอีกหลักหนึ่ง ทางเดินจากหลักนี้ไปจะตอง เขาสู "ฟาใหม แผนดินใหม" อยางที่พลอยไดรําพึงในใจไวแตแรก พลอยกลับมาบานในวันนั้นดวยความรูสึกปลอดโปรง อยางที่ไมคอยไดเคยรูสึกมานาน ความจงรักภักดี ที่ประชาชนไดถวายในหลวงอยางเห็นไดชัดแจงในวันนี้ ทําใหพลอยรูสึกวาโลกมนุษยนี้ มีแกนสารมีหลักมีฐาน ยังไมหมดสิ้นศรัทธาไปเสียทีเดียว และยิ่งในตอนเย็นวันนั้นพลอยไดเห็นลูกๆ และพี่นองตางคนตางไปรับเสด็จ ในหลวง แลวกลับมาพูดจากันที่บานอยางสนิทสนม ในลักษณะที่รื่นเริง หลังจากที่ไดเฉยชากันมานานแลวนับ เปนจํานวนป พลอยก็ยิ่งเห็นความมหัศจรรย ของจุดที่กอใหเกิดความรูสึกอันดีนี้ จุดนั้นอยูที่ในหลวง .........ถูก แลวในหลวงพระองคเล็กนิดเดียว ปราศจากอํานาจราชศักดิ์ ปราศจากกฤษฎาภินิหารใดๆ ที่จะทําใหคนตอง เกรงกลัวพระบารมี แตเต็มไปดวยบุญญาภินิหาร ที่สามารถกอใหเกิดความแชมชื่น ความปลอดโปรงและความ กลมเกลียวขึ้นในหมูคน ไดอยางรวดเร็วกะทันหัน ภายในเวลาวันเดียวที่เสด็จมาถึงพระนคร พลอยนึกวาความรูสึกปลอดโปรงใจในวันนี้เปนศุภนิมิตแสดงวา ชีวิตในอนาคตจะรื่นรมยปลอดโปรงตอ ไป สิ่งใดหรือคนใดที่สูญหายกระจัดพลัดพราย ก็คงจะไดคืนไดกลับมาอยูดวยกันอีกเหมือนแตกอน ขาวที่ตาอน ไดกระซิบบอกใหฟงในหองเยี่ยมนักโทษเมื่อไมนานมานักวา ตนมีหวังไดรับการปลดปลอย หลังจากที่ไดรับ การอบรมแลวนั้น ดูจะยิ่งมีมูลมากขึ้นทุกวัน เพราะในขณะนั้นก็มีขาวมาถึงหูพลอยเรื่อยๆ วา ผูที่ตองรับโทษคดี เดียวกับตาอน ไดถูกสงตัวจากคุกบางขวางมารับการอบรมที่กรุงเทพฯ และเมื่อไดผานการอบรมแลว ก็ไดถูก ปลดปลอยตัวไปเปนอิสระ กลับไปประกอบอาชีพ อยูกับครอบครัวบุตรภรรยาเปนปกติ พลอยรูขาวครั้งไรก็ให พลอยปติยินดีกับคนที่ไดรับการปลดปลอยนั้นทุกครั้งไป เพราะในขณะที่ไดไปเยี่ยมตาอน พลอยไดเห็นแววของ ความทุกขฝงอยูในลูกตาทุกๆ คูที่ไปเยี่ยมคนโทษพรอมๆ กับตน และไดเห็นใบหนาตลอดจนกิริยาทาทางของ ครอบครัวคนโทษไวมาก พอที่จะรูไดดีวาความทุกขอันสาหัสนั้น มิใชจะมีอยูแตในคุก แมแตนอกคุกในอกของ คนที่ไปมาไหนไดโดยอิสระนั้นเอง ความทุกขนั้นก็เกิดขึ้นได ถาหากวาคนที่รักหรือคนที่เปนที่พึ่งอุปการะ ตอง ถูกพลัดพรากไปคุมขังไว พลอยรูสึกยินดีดวยทุกครั้งที่ทราบวา มีการปลดปลอยนักโทษ และใหนึกเห็นแววตาที่ เต็มไปดวยความทุกขนั้น เปลี่ยนไปเปนความสุข นึกดีใจรวมกับครอบครัวที่ไดคนรักกลับคืนไป และนึกดีใจที่วา ความสุขความปติ อันบังเกิดแกคนอื่น ที่ไดรักกลับคืนมานั้น กําลังใกลตัวเขามาทุกวัน เพราะเมื่อคนอื่นในคดี เดียวกัน ไดรับการปลดปลอยไปเรื่อยๆ ก็เปนธรรมดาที่จะตองถึงเวรตาอนเขาวันหนึ่ง บรรยากาศทางการเมืองกําลังแจมใส ความหลังตางๆ กําลังจะถูกลืมและใหอภัยซึ่งกันและกัน แมแต ความกินแหนงแคลงใจในครอบครัวของพลอย ซึ่งเกิดขึ้นจากการเมืองเปนเหตุใหมีการแบงแยกนั้น ก็ดูจะเบา บางลงไป เปนผลสะทอนของความแจมใสทีมีอยูทั่วไปภายนอก วันคืนผานไปรวดเร็วสําหรับพลอย ผูซึ่งมอง เห็นความสุขความพอใจมารออยูขางหนา ในหลวงเสด็จกลับมาประทับที่เมืองไทยอยูพักหนึ่ง แลวก็เสด็จกลับ ยุโรป เพื่อทรงศึกษาตอพรอมดวยพระประยูรญาติ ทิ้งความอิ่มเอิบใจไว ใหแกคนที่ไดเห็นพระรูปพระโฉมเปน จํานวนมาก ซึ่งมีพลอยรวมอยูดวยคนหนึ่ง ในขณะที่พลอยกําลังรอความสุขความพอใจอยูนั้นเอง คุณอุนก็เริ่มลมเจ็บกระเสาะกระแสะ เหมือนกับวา จะเปนลางรายบอกเหตุ ที่จะทําใหพลอยตองทุกขรอนตอไป คุณอุนเริ่มบนวาเปนไข และปวดที่หนาอกจนนอน ไมหลับ ครั้นพลอยใหไปรับหมอมาตรวจอาการ หมอตรวจไดครูเดียว ก็เดินคอตกออกมาบอกวา คุณอุนเปนโรค เนื้องอกที่หนาอกอยางที่เรียกกันวามะเร็ง ถาหากวาไดตามหมอมาเสียแตแรก ก็พอจะมีทางผาตัดรักษาใหหาย ได แตคุณอุนไดละเลยไวนาน ขณะนี้หมดทางรักษาไดเสียแลว เพราะโรคลุกลามเกินไป ทางเดียวที่หมอจะทํา ไดก็คือผอนหนักใหเปนเบา ใหยาแกเจ็บปวดทรมาณเปนครั้งคราว จนกวาคุณอุนจะตาย ซึ่งคงจะเปนเวลาไม นานนัก พลอยไดยินแลวก็ตกใจจนตัวชา เพราะมิไดเคยนึกฝนวาอาการปวยของพี่สาวจะรายแรงถึงเพียงนั้น พอ หมอไปแลวพลอยก็รีบเขาไปเยี่ยมคุณอุนในหอง คุณอุนนอนอยูบนที่นอน ซูบผอมจนเห็นวาแกเกินอายุ พอพลอยเขาไป คุณอุนก็ยิ้มแลวถามวา "หมอบอกเธอแลวหรือแมพลอย" พลอยไดแตพยักหนาเพราะพูดไมออกดวยความตื้นตันใจ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy404.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๔

Page 5 of 7

"ทีแรกเขาจะไมบอกฉัน กลัวฉันจะตกใจ แตฉันก็ขอใหเขาบอกจนได...คนเราเกิดมาแลวก็ตองตายทุกคน ไมวันใดก็วันหนึ่ง จะตองไปตกใจทําไม" "โธ คุณพี่ !" พลอยแข็งใจพูดออกมาจนได "เจ็บไขอะไรเล็กๆ นอยๆ ทําไมไมบอกนองเสียกอน หมอเขา บอกวาถารูเนิ่นๆ ก็พอจะรักษาหาย แตเดี๋ยวนี้ชาไปเสียแลว !" คุณอุนพยักหนาชาๆ แลวตอบวา "ชางมันเถิดแมพลอย เรื่องมันแลวไปแลว ถามันเปนที่นิ้วมือพี่ก็คงจะบอก แตนี่มันมาเปนที่หนาอกหนา ใจ พี่ไมเคยมีเหยามีเรือนก็ตองอายเปนธรรมดา" พลอยใจหายเมื่อไดยินคําพูดพี่สาว คุณอุนเปนสาวมาตลอดชีวิต และยอมเจ็บยอมทนเพราะความอาย จนเกือบจะถึงที่สุด ถาคุณอุนมีเหยามีเรือน เคยเปดอกใหลูกกินนมาแลว บางทีคุณอุนก็จะไมอาย ที่ใหหมอ ตรวจเสียแตแรก แตคุณอุนรังเกียจการมีเหยามีเรือนเปนหนักหนา และกลับจะตองมาตายเพราะเหตุนี้เอง อาการไขของคุณอุน เปนแตเพียงระยะเริ่มแรกของการพลิกกลับแหงโชคชะตา พลอยมองดูความเจ็บไข ของพี่สาวอยูดวยความเปนหวง และคุณอุนก็เปนคนแรกในคนที่เปนรุนพี่นอง จะตองมาตายลง ความรูสึกของ พลอยนั้นจึงเปนเรื่องบอกไมถูก เพราะนอกจากความสงสารแลว ยังมีความรูสึกระคนอยูอีกอยางวาคนรุนตนได ใชชีวิตมานาน จนมัจจุราชเริ่มจะมาเยี่ยมกรายบางแลว บรรกาศทางการเมืองทั่วไปที่พลอยเคยนึกวาแจมใสนั้น กลับมืดครึ้มลงไปโดยกระทันหัน อยางที่พลอยมิ ไดคาดหมายมากอน ความรูสึกอันดีที่ทําใหแจมใสปลอดโปรงใจนั้น ดูเหมือนจะเริ่มเฉื่อยชา ลงเรื่อยๆ นับตั้งแต ในหลวงเสด็จกลับไปเมืองนอก กลายเปนความรูสึกเหมือนกับวาคนปราศจากขวัญ เรือนปราศจากเจาของ ใน ระหวางนั้นใครจะทําอะไรก็ทําได พลอยเริ่มรูขาวไมดีในวันหนึ่ง หลังจากที่พอเพิ่มมาเยี่ยมไขคุณอุน แลวก็ชวน ตาออดลงไปซุบซิบกันอยูขางลาง พลอยบังเอิญไดแลเห็น คนทั้งสองยืนพูดพยักพเยิดกันอยูดวยใบหนาอันคร่ํา เครียด ขณะที่พลอยเดินผานหนาตางอยูชั้นบน พอสองคนพูดกันเสร็จแลวพากันกลับขึ้นมาบนตึก พลอยก็ถาม ขึ้นเปรยๆ วา "มีเรื่องอะไรกันอีกละออด" "เปลา" ตาออดตอบออมแอม "คุณลุงเลาอะไรใหฟงนิดหนอยเทานั้นเอง" "คุณหลวง" พลอยหันขวับไปทางพอเพิ่มทันที "เอาเรื่องลักลับอะไรมาเลาใหลูกฟง ถึงกับตองจูงขอมือไป พูดกันสองคนขางลาง" "ไมมีอะไรหรอกแมพลอย เรื่องไมเปนเรื่องรูไปก็รอนใจเปลาๆ" พอเพิ่มตอบออกตัว แตเมื่อเห็นพลอยทํา หนาสงสัยไมสบายใจ พอเพิ่มก็เลาใหฟงเบาๆ วา "มีเรื่องยุงๆ กันอีกนะแมพลอย ไมเกี่ยวของอะไรกับเราหรอก ฉันไดยินมาวาเขาออกจับกันใหญในวันนี้ จับไปตั้งยี่สิบกวาคน มีทั้งทหารตํารวจและเจานายพระบรมวงศานุวงศ" "เอากันอีกแลวคุณหลวง" พลอยบน "เรื่องอะไรกันอีกเลาไมรูจักจบจักสิ้นกันสักที นารําคาญแทน" "เรื่องมันจบสิ้นกันยากแมพลอยเอย" พอเพิ่มวา "ถาคนเรายังมักใหญใฝสูง แยงอํานาจวาสนากัน กอ กรรมทําเวรใหแกกัน เวรมันก็จะตองตอบเวรเรื่อยๆ ไปไมมีที่สิ้นที่สุด" "ฉันก็เห็นจริงอยางคุณหลวงวา กลุมใจเต็มทีคราวนี้มเจานายดวยหรือ เขาจับกันดวยเรื่องอะไร" พลอย ซัก "เจานายนะมีแน ชั้นสูงๆ เสียดวย เหตุที่เขาจับก็เรื่องคบคิดกันกอการราย จะคิดกบฏกันนะแหละ จะมี อะไรเสียอีก" พอเพิ่มตอบ "คุณหลวงรูไหม" พลอยรําพึงขึ้น "แตกอนเมื่อเรายังเปนหนุมเปนสาว ดูคนชางคิดกบฏกันยากเสียจริงๆ แตเดี๋ยวนี้คําหนึ่งก็กบฏสองคําก็กบฏ ดูเปนกบฏกันไปทั้งเมือง จนฉันไมรูวาจะฟงขางไหนถูกแลว" "จุ ! จุ ! พูดจาอะไรระวังปากระวังคอเสียบางแมพลอย" พอเพิ่มลดเสียงเปนกระซิบ "คนมีบุญมีวาสนา เขาอยูในบานนี้ตั้งสองคน เขาอยูคนเดียวไมพอเขายกนองสาวเขาใหพวกพอง แลวก็พากันเขามาอยูอีก เขาได ยินเขาเขาจะไมชอบ เขาจับแมพลอยเปนกบฏไมได เขาจะมาเลนเอาฉันเขา" พลอยเขาใจวาพอเพิ่มพูดเสียดสี ประชดประชันตาอั้นและคุณเสวี และก็รูไดทันทีวาความหวังของตน ที่ จะเห็นพอเพิ่มกลมเกลียวกับหลานทุกคนนั้น ดูจะเลื่อนลอยเสียแลว "คุณหลวงก็ชอบเอาเรื่องการเมืองวกเขามาใสบานฉันเสียจริงๆ ทีเดียว คุณหลวงก็รูดีวาคนในบานนี้ ก็มี แตลูกหลานจะมาถือสาหาเรื่องอะไรกับเด็ก" "แน ! โกรธแลวเห็นไหมละ" พอเพิ่มพูดพลางหัวเราะ "อยาโกรธฉันเลยแมพลอย ฉันคงไมพนตะรางไป นานหรอก ถาบานเมืองอยางนี้" "ถาคุณหลวงชอบไปยุงกับเขาก็คงไมพนจริงๆ สักวันหนึ่ง ฉันเห็นจะตองไปปลูกบานอยูใกลๆ คุกไดแลว พอลูกจะออกจากคุกมาไดคนหนึ่ง พี่ชายก็จะตองเขาไปอยูในคุกแทน" "คุณแม คุณแม" ตาออดพูดเตือนขึ้นเบาๆ อยางไมสบายใจนัก "เรื่องพี่อนจะออกจากคุกนั้น คุณแมอยา เพิ่งหวังอะไรนักเลย" "ทําไมหรือออด" พลอยถามปากสั่นใจแหงลงไปถนัด

http://www.geocities.com/siamstory/ploy404.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๔

Page 6 of 7

"ขาวหมูนี้ไมคอยจะดี" ตาออดอธิบายเบาๆ "พอเขามีเรื่องมีราวยุงๆ กัน เขาก็เลยเลิกเอาตัวพวกพี่อนมา อบรมเสียแลว" "ออดหมายความวา...." พลอยถามหนาเสียจนเห็นไดชัด "เปลา ! เปลา !" ตาออดรีบพูดเอาใจ "ออดไมไดหมายความวาเขาจะไมปลอยเสียเลยหรอก แตถามีเรื่อง ยุงๆ อยางนี้ บางที...บางทีก็จะชาไปบางเทานั้นเอง" คําพูดของตาออดทําใหพลอยยิ่งเพิ่มความไมสบายใจยิ่งขึ้น นึกถึงตาอนแลวก็ยิ่งสงสารจับใจ เพราะ ความอิสระและความสุขในชีวิตอนาคตมารออยูแลวใกลๆ แตเหตุไฉนการกระทําของคนอื่น กรรมจากแหลงอื่น จึงมาคอยบันดาลใหเกิดความทุกขขึ้นแกตาอน อันเปนผลสะทอนมาถึงพลอยไดอยูเรื่อยๆ เสียงพอเพิ่มพูดขึ้น วา "อยาไปเก็บเอามาคิดใหมากเรื่องไปเลยแมพลอย จะเปนทุกขเปนรอน เดี๋ยวจะเจ็บไขไปอีกคน" แตคําพูดของพอเพิ่มไมมีกําลังจะปลอบประโลมใจอะไรได ความหวังที่เคยมีเกี่ยวกับอิสระภาพของตา อน กําลังเลื่อนลอยหายจากตัวไปอีกอยางหนึ่ง ไมมีกําหนดแนนอนวาจะกลับฟนคืนขึ้นมาเมื่อไร ความไขของคุณอุนยิ่งทรุดลงทุกที พลอยเอาใจใสดูแลพยาบาลอยางสุดความสามารถ มีคุณเชยเปนผูมา คอยชวยเหลือดูแลอีกคนหนึ่ง คุณอุนตองทรมานอยางหนัก เนื่องดวยความเจ็บปวดของโรค แตคุณอุนก็ พยายามอดทนอยางสุดขีด มิไดออกปากบนหรือรองในยามที่เจ็บปวด อยางมากที่สุดก็เพียงแตครางเบาๆ พลอยนั่งดูอาการของพี่สาวแลวก็เศราใจ เห็นชีวิตนั้นไรสาระ เงินทองทรัพยและวาสนาที่คุณอุนเคยใฝใจตอง การนั้น ดูไมเปนประโยชนอะไรเลย เพราะไมสามารถจะชวยเหลืออะไรใครได ถึงแมวาในขณะนี้คุณอุนจะไดสิ่ง ที่เคยตองการมาทุกอยาง สิ่งเหลานั้นเพียงแตจะชวยใหคุณอุนรอดพนจากความเจ็บปวดก็ไมได คุณอุนพูดกับ พลอยและคุณเชย ในระหวางที่เจ็บวา "แมพลอย แมเชย พี่ขอบใจเธอจริงๆ ที่อุตสาหมารักษาพยาบาลในยามนี้ เธอทําหนาที่นองไดถูกตอง เต็มที่ ทั้งสองคน พี่ขอบใจ แตยังเสียใจอยูอยางเดียว ที่แตกอนพี่ไมไดเปนพี่ที่เมตตากรุณาตอนองๆ ใหทั่วถึง กัน พี่เปนคนเห็นแกตัว เอาแตใจ แตก็นั่นแหละ เวรกรรมของพี่ก็เห็นกันอยูแลว ยังจะตองทรมานไปอีกสักกี่วัน เทานั้น" พูดแลวคุณอุนก็หนานิ่วดวยความปวด ทําใหคุณเชยตองรองไหดวยความสงสาร และพยายามพูดปลอบ โยนใหคุณอุนมีใจอดทน คุณอุนปรารภกับพลอยอีกครั้งหนึ่งวา "แมพลอย พี่เปนหวงประไพอยูคนเดียว เพราะพี่ไดเลี้ยงดูมาแตเล็ก" "คุณพี่ไมตองหวง" พลอยปลอบ "เขามีเหยามีเรือนเปนหลักฐานแลว ดิฉันก็ยังอยูอีกทั้งคน" คุณอุนยิ้มมองดูหนาพลอยแลวก็พูดตอไปวา "ความจริงพี่ก็ไมมีอะไรจะหวง เห็นจะเปนดวยรักประไพเขามากเทานั้นเอง ประไพเหมือนเธอมากนะแม พลอย พี่ไมไดรักเธอเมื่อเด็กๆ เลยตองมารักประไพแทน" ตอคําพูดเชนนี้พลอยก็ไมมีคําตอบใดๆ ที่จะใหได นอกจากกมหนารองไห แตคุณอุนยังมีบุญเบื้องหลังมาชวยเหลือไว มิใหตองอยูทรมานกับโรครายไปจนถึงที่สุด คุณอุนเมื่ออายุ มากเปนคนผอมอยูแลว เมื่อมากระทบโรครายที่เต็มไปดวยความเจ็บปวด รางกายของคุณอุนก็ทรุดโทรมลงไป โดยเร็ว และในวันหนึ่งคุณอุนก็หลับไปโดยไมมีวันจะตื่นขึ้นมาอีก เพราะหัวใจคุณอุนหยุดทํางานในระหวางที่ตัว หลับ ความตายที่มาถึงคุณอุนทําใหพลอยรูสึกวาตนแกลงไปถนัดใจ ยิ่งมองดูคนที่เคยเห็นกันมาแตเด็กๆ ก็ยิ่ง เห็นวามีเหลือเพียงสองสามคน แตละคนก็มีอายุมากเขาขั้นชราไปแลวทั้งสิ้น จัดงานศพคุณอุนเสร็จไปแลวภายในเวลา ๑๕ วันตามที่คุณอุนสั่ง พอพลอยไดมีเวลาจะเริ่มหายใจ เหลียวดูรอบๆ ตัว ตาออดก็มาหาวันหนึ่งแลวพูดวา "ทูนหัวของลูก ลูกเกิดมามีเวรกรรมตองเอาเรื่องที่เปนความทุกขมาบอกใหแมรูทุกทีไป แมพรอมที่จะรับ ความทุกขอีกเรื่องหนึ่งหรือยัง" พลอยลูบหัวตาออดแลวถอนใจใหญตอบวา "บอกไปเถิดออด แมปลงไดแลวสําหรับทุกข เรื่องอะไรอีกคราวนี้" "เรื่องพี่อน" ตาออดบอก "เขาไมปลอยอนเสียแลวหรือ" ตาออดพยักหนาแลวตอบวา "ยิ่งกวานั้นไปอีกแม เขาสงตัวพี่อนไปอยูเกาะทางปกษใต" พลอยพยายามกัดฟนแข็งใจ ไมอยากแสดงอาการใหตาออดตองวิตก พลางพูดขึ้นวา "จะไปเมื่อไรออด" "เขาสงไปแลวเมื่อสิบกวาวันมานี้เอง พี่อนเขาขอลูกอยาใหบอกคุณแมกอน เพราะเกรงจะตองลําบาก ไป เยี่ยมเยียนสงเสีย เวลานั้นคุณแมก็ยุงงานศพคุณปา" "ดูเอาเถิดออด" พลอยปรารภขึ้น "พี่อนเขาทุกขแสนทุกข ยังอุตสาหเปนหวงแมกลัวลําบาก แลวเขาวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy404.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๔

Page 7 of 7

อยางไรอีกบาง" "เขาบอกวาไปอยูที่เกาะตะรุเตา อาจสบายกวาอยูในคุกก็ได เพราะไดยินวาที่นั่นเขาปลอยใหเปน อิสระมากกวา และอากาศก็คงดีกวาเพราะอยูชายทะเล คุณแมควรจะดีใจ" "แมไมกลาจะดีใจอะไรเสียแลวออด ดีใจแลวก็ตองเสียใจสลับกันไป ออดคอยชวยดูใหแมทีเถิด ถาพี่อน เขาไปอยูทางโนน เขาตองการอะไรก็ชวยแมหาให" "พี่อนเขาวาเขาไปถึงแลวเขาจะสงขาวมาถึงคุณแมเอง" ตาออดตอบเบาๆ พลอยหันหนาเดินเขาหองนอน แลวทอดตัวลงนอนอยางเหนื่อยออน รําพึงอยูในใจวา "ชีวิตหนอชีวิต ชางมีเรื่องมากเสียจริงๆ ชางเหน็ดเหนื่อยอะไรเชนนี้"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy404.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑) นับตั้งแตตาอนถูกสงตัวจากบางขวางไปไวที่เกาะตะรุเตา พลอยก็ดูเหมือนจะถอนตัวเองจากโลกภาย นอก เขามาอยูภายในตัวเองแตคนเดียวมากกวาแตกอน สําหรับความหวังตางๆ ที่เคยมีมานั้น พลอยออกจะ เข็ดขยาดเสียแลว เพราะมารูสึกวาถาหวังสิ่งใดขึ้นมาเมื่อไร เมื่อนั้นตนจะตองไดรับความทุกข อันเกิดจากความ พลาดหวัง ในขณะที่สภาพแหงจิตใจของพลอยเปนอยูเชนนี้ คนที่ยังอยูในฐานะที่จะเขาถึงตัวพลอยได ก็มีอยูคน เดียวคือตาออด ตาออดมาเลาใหฟงตอนหลังวาพอเพิ่มเปนคนไปรูขาวมากอนวา ทางการจะสงนักโทษคดีเดียวกับตาอน ไปไวทางปกษใต และก็พอเพิ่มอีกนั่นเองที่เปนคนไปสืบมาจนรูวา นักโทษพวกนี้จะถูกสงไปไวเกาะตะรุเตา ครั้นถึงวันที่ตาอนจะออกเดินทาง พอเพิ่มก็มาตามตัวตาออดโดยกะทันหันใหไปสงพี่ชาย โดยมิไดรูตัวลวงหนา มากอนเลย ตาออดมีเงินติดกระเปาอยูแปดสิบบาท พอเพิ่มมีอยูสามสิบกวาบาท ทั้งสองคนตางควักกระเปาให ตาอน ในขณะที่เดินผานไปกอนจะขึ้นรถจนสิ้น เรื่องที่นัดกันไววาจะไมบอกพลอยนั้น ตาออดยอมรับวาเปน ความคิดของพอเพิ่มและของตนเอง ตาอนมิไดรูเห็นดวยเทาไรนัก แตตาออดก็ยังยืนยันวา เทาที่สืบมาไดจาก พวกพอง ชีวิตของตาอนที่เกาะอาจเปนสุขยิ่งกวาชีวิตที่ในคุกบางขวาง และตาออดรับปากวา ตอไปตนเองจะ เปนคนลงไปที่ปกษใต เพื่อเยี่ยมเยียนทุกขสุขของพี่ชาย และคอยสงเสียของที่จําเปนเปนครั้งคราว แตตัวตาออดเองในขณะนี้ พลอยรูสึกวาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากพอดูอยู ตาออดเปลี่ยนจากคนที่เคย รื่นเริงไปเปนคนขรึม ตาออดที่เปนคนอารมณขัน ชอบพูดจาตลกคะนองและหัวเราะงาย บัดนี้กลับกลายเปนคน เงียบไมคอยพูดจาอะไรนัก และถาหากวาตาออดจะหัวเราะหรือยิ้มเปนครั้งคราว ตาออดก็ยิ้มหรือหัวเราะ เพื่อ ประโยชนของพลอยมากกวาของคนอื่น พลอยสังเกตุอาการกิริยาของตาออดแลวก็นึกสงสัย จนวันหนึ่งคุณเชย เปนคนมาพูดขึ้นวา "แมพลอยรูไหมวาพอออดหมูนี้เขาเปนอะไรไป เมื่อกี้ฉันเห็นเขานั่งเหมอตาลอยอยูขางลาง ฉันจะขึ้นมา หาแมพลอยผานเขามาใกลๆ จนเกือบจะถูกตัว เขาจึงไดสะดุงมองเห็นและทักฉันขึ้น" "ฉันสังเกตเห็นเหมือนกันแหละคุณเชย จะถามเขาหลายหนแลวแตก็ยังหนักปากอยู คุณเชยเห็นอีกคน ก็เปนอันวาฉันไมไดหลงไปคนเดียว จะตองลองถามดู" พลอยวา "นั่นนะซี" คุณเชยพูด "พอออดเปนคนชางพูดชางเลน หมูนี้ดูเงียบๆ ไป คงจะมีความในใจอะไรกระมัง หรือจะไปหลงรักผูหญิงที่ไหนก็ไมรู" พลอยนึกสะดุดใจทันที จริงสิ ! ที่คุณเชยวามาก็นาคิด ตาออดอาจไปติดผูหญิงที่ไหนก็ได พลอยรูสึก แปลกใจที่ตนไมเคยนึกถึงตาออด ในดานที่จะไปรักผูหญิงหรือมีเหยามีเรือนเลย ทั้งที่ตาออดก็มีอายุมากพอ สมควรแลว และเมื่อนึกถึงดานนี้ พลอยก็รูสึกไมสบายใจ มีความรูสึกหวงแหนของแมที่รักลูกเกิดขึ้น อยากจะได ตาออดไวเปนสิทธิ์แตผูเดียว ตองพยายามขมความรูสึก ที่รูดีวาเปนความเห็นแกตัวนั้นลงไป พรอมกับรูสึก ละอายอยูครันๆ ที่ปลอยใหความรูสึกเชนนั้นเกิดขึ้นได พลอยบอกกับตัวเองวา ไดปลอยตนใหผูกมัดอยูกับตา ออดจนเกินไปเสียแลว จนเกือบจะเรียกไดวา มีตาออดเปนที่พึ่งที่อุปการะอยูแตคนเดียว ตองการที่จะเก็บตา ออดไวใกลๆ ตัว โดยไมคํานึงถึงกาลขางหนา และความสุขในอนาคตของลูก ความจริงถาตาออดไปรักผูหญิงที่ ไหนจริง ก็ควรจะบอกใหพลอยรู และพลอยก็ควรจะชวยสนับสนุนทุกทาง หรือวาบางทีตาออดจะมีความทุกข อยางอื่น มีความกลุมจอยางอื่นที่มากไปกวาเรื่องผูหญิง ถาเปนอยางนั้นพลอยก็ไมมีทางอื่นที่จะรูได นอกจากจะ ถามตาออดตรงๆ และวันหนึ่งพลอยก็ถามตาออดขึ้นวา "ออดหมูนี้แมดูออดเงียบๆ เหงาๆ ไปไมเหมือนแตกอน ออดเจ็บไขเปนอะไรไปหรือ" "เปลา" ตาออดตอบ "ลูกไมไดเจ็บไขเปนอะไรเลย ยังแข็งแรงดี" "ถาอยางนั้นออดเปนอะไรไป" พลอยถามอยางเปนหวง "แมดูออดซึมๆ เหมือนกับมีทุกขอะไรสักอยาง หรือวาออดไปรักผูหญิงเขาที่ไหน ถาเปนอยางนั้นจริงก็บอกแมรูเถิด แมจะไดไปจัดการให จะเปนใครก็ตามแม ไมวาทั้งนั้น" ตาออดหัวเราะขึ้นมาอยางขบขัน เหมือนที่เคยหัวเราะมาแตกอนแลวรองวา "พุทโธ ! คุณแมก็ ! ถาลูกไปรักผูหญิงที่ไหนจริงๆ ลูกจะไปปดบังไวทําไม ปานนี้มิบอกใหคุณแมรูนาน แลวหรือ ลูกเกิดมาก็เคยรักผูหญิงคนเดียว มองหาใครก็ยังไมเห็นเทาผูหญิงคนนั้สักที" "ใครกันลูก" พลอยถามอยางพาซื่อ ตาออดหัวเราะแลวก็ตอบวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy405.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 4

"ผูหญิงคนนั้นเขาเรียกกันวาคุณหญิงพลอย กําลังนั่งอยูตรงหนาลูกนี่แหละ" วาแลวตาออดก็เอาหนาซบ ลงกับตักมารดา แลวพูดตอไปวา "ถึงแมวาลูกจะไปรักใครที่ไหนจริง ก็จะไมมีปญญาเลี้ยงดูเขาได โตจนปานนี้แลวลูกก็ยังไมพนอกแม งานการก็ยังไมมีจะทํา" ตาออดหยุดถอนใจใหญแลวพูดตอไปวา "เฮอ ! คิดๆ ไปแลวก็กลุม" "ถาออดคิดหาการงานทําเสียบางก็คงจะหายกลุม" พลอยพูดเอาใจ "แมก็เห็นวายังไมสายเกินไป คนมี วิชาความรูอยางออด ใครๆ เขาก็ตองการ ถาจะหาการงานจริงๆ ก็คงจะได" "หานะคงจะหาไดหรอกแม" ตาออดวา "แตคนอยางออดจะไปอยูทํางานกับใครไดสักกี่วัน เดี๋ยวเขาไปทํา แลวประจบประแจงไมเปน หรือไปพูดจาอะไรไมถูกหูคนเขา เขาไลออกมาจะยิ่งซ้ํารายไปใหญ" "ออดก็ชอบตีตนไปกอนไขอยางนี้แหละ" พลอยบน "พี่นองพวกพองของเราก็ยังมี ถาออดอยากจะทําการ งานใหเปนหลักฐาน ทําไมไมพูดจาปรึกษาหารือกัน" "แมก็ดีแตพูดถึงเรื่องพี่นองพวกพอง ถาออดไมมีพี่นอง ออดอาจสบายใจกวานี้มาก ออดจะมีความสุขที่ สุด ถาหากวาคนในบานนี้มีแตออดอยูกับแมดวยกันเพียงสองคน ถาเปนอยางนั้นจริง ออดจะอยูไดไปจนตาย โดยไมมีความทุกขเดือดรอน และไมตองการอะไรอีกเลย แตที่ตองกลุมใจอยูทุกวันนี้ ก็มิใชเพราะพวกพอง ที่ ตองมารุมมะตุมกันอยูในบานนี้ดอกหรือ" สําหรับเรื่องที่ตาออดพูด ทําใหพลอยตองสะดุงใจมองดูหนาตาออดอยางฉงน แลวพูดขึ้นวา "ออด แมถามจริงๆ เถิด มีใครเขาทําอะไรใหออดตองนอยเนื้อต่ําใจอยางไรบางหรือเปลา" ตาออดนิ่งอยูนาน แลวก็พูดวา "ที่จะมาทําอะไรตรงๆ นะไมมีหรอกแม เพราะเขารูกันทุกคนวาลูกเปนคนรักคนโปรดของแม ใครๆ เขาก็ ตองเกรงใจ แตมันมีบางเวลาที่เขาพูดจากัน หรือมองดูลูกดวยสายตาบางอยาง ทําใหลูกเขาใจไดเองวา เขาพา กันเห็นวาลูกเปนคนหลักลอย เปนคนไมเอาถานการงานไมทํา ดีแตเกาะแมกินไปวันหนึ่งๆ จนแก ไมมีปญญา ทํามาหาเลี้ยงตัวได เขามองลูกอยางนี้ทุกวัน จนลูกแทบจะทนไมไหวอยูแลว" "ออดจะคิดไปเองกระมัง" พลอยทวงขึ้น "พี่นองเขาก็รักออดอยูทุกคน แมไมเคยไดยินใครเขาวาอะไร เลย" "ใครเขาจะมาวาใหคุณแมไดยิน" ตาออดวา "ตอหนาคุณแมเขาก็วาดีทั้งนั้น แตลับหลังคุณแมและตอหนา ออด เขาก็เปลี่ยนไปอีกอยางหนึ่ง พอลับหลังออดแลวเขาก็พูดกันไดเต็มที่ทีเดียว พูดกันจนเขาหู ออดขี้เกียจจะ ฟงเสียอีก" "ออดหมายถึงใครกันแน" พลอยถามขึ้น "ก็คุณๆ ทั้งหลายในบานนี้นั่นแหละ" ตาออดพูดอยางนอยใจ "คุณอั้น คุณประไพ คุณเสวี ตลอดจนคุณๆ ทั้งหลายแหล ที่เปนเพื่อนฝูงของทานไปมาหาสูกันอยูทุกวัน" พลอยถอนใจใหญแลวก็พูดขึ้นวา "ออดนี่เห็นจะไมมีวันถูกกับคุณเสวีได ออดควรจะคิดบางวา ถึงจะอยางไรเขาก็ไดเขามาเปนเขยบานนี้ เราควรจะมีอัธยาศัยไมตรี เผื่อแผตอเขากอน" "คุณแมก็ชางไมเห็นใจออดบางเลย" ตาออดพูดเสียงแคนๆ "ถึงออดจะพยายามญาติดีกับเขาเพียงไร ก็ คงจะไมสําเร็จ เพราะเขาไมชอบหนาออดมาเสียแลวตั้งแตตอนแรก เรื่องออดคอยหนุนทานชายนอย เปนคนๆ เดียวที่ไมเห็นดวยกับตัวเขามาแตแรกในบานนี้" "แมก็ไมรูจะพูดอยางไรถูก" พลอยออกปากอยางหมดปญญา "ถาหากวาออดเชื่อวามีคนเขาดูถูกคอยนินทาวาราย ออดก็ตองคิดแกเอาที่ตัวเอง ถาเขาวาเราไมมีหลัก ฐาน เราก็ตองแกดวยวิธีทําตัวเปนหลักฐานใหเขาเห็น เขาก็จะวาเราไมได รั้วงานราชการก็มีถมไป ทําไมไมคิด ทํา" "ราชการ ราชการ" ตาออดรองขึ้นอยางเบื่อหนาย "ออดจะทําเขาไปไดอยางไรราชการสมัยนี้ เมื่อออดไม มีพวกพองที่ไหนสักคน มีแตเขามองวาออดเปนนองพี่อน เปนคนที่นาสงสัยไมนาใวใจ พี่ชายเปนกบฏติดคุกก็ ไมยอมปลอยใหอดตาย ยังคอยเยี่ยมเยียนสงเสียอยางนี้เขาถือวาเปนความผิด แมไมรูหรอกหรือ" "ทุนรอนเราก็พอมีนี่ออด" พลอยแยง "ถาออดไมอยากทําราชการ จะคาขายก็ไดแมไมหาม แมจะหาทุน รอนใหเอง" ตาออดหัวเราะตอบวา "คนอยางลูกจะไปคาขายไดอยางไร เกิดมาก็ถูกเลี้ยงมาใหเปนขาราชการแตหัวเทากําปน ใครตอใครก็ สอนใหคิดอานทําราชการ จะไดเปนเจาคนนายคน ลูกจะออกไปคาขาย ก็ไมรูจะไปจบตนชนปลายที่ไหนถูก จะ ไปเริ่มเรียนเดี๋ยวนี้ก็แกเกินไปเสียแลว" "พูดกับออดแมตองเหนื่อยใจทุกที" พลอยบน "ถาจะเถียงกัน แมก็แพออดวันยังค่ํา" "ถาอยางนั้นแมจะมาเถียงกับออดทําไม" ตาออดพูดแลวก็ยิ้มอยางอารมณดี "ปลอยใหออดแกปญหาเอา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy405.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 4

เองจะมิดีกวาหรือ" แตถึงแมวาพลอยจะรูวาคําบอกเลาของตาออดอาจเปนไปดวยอคติ เพราะมีความคิดเห็นบางอยาง ไม ตรงกับตาอั้น ไมถูกกับคุณเสวี และไมพอใจในการที่ประไพแตงงานกับคุณเสวีก็ตาม พลอยก็ยังอดไมได ที่จะ สังเกตทาทีวาจาของตาอั้นคุณเสวีและประไพ ที่มีตอตาออด ทั้งที่รูอยูวาถึงหากจะเปนจริง ตนก็ไมอยูในฐานะที่ จะทําอะไรได นอกจากทําไมรูไมเห็นเสีย เพราะพลอยเปนคนกลางเปนผูใหญ ถาหากวาเขาขางคนไหนหรือฝาย ใด กลับจะยิ่งทําใหคนนั้นหรือฝายนั้นตองเสียเปรียบ และความจริงพลอยก็ใหนึกสงสัยอยูครันๆ วาตาออดเก็บ เอาเรื่องที่ตนยังมิไดทําการงานเปนหลักฐานนั้น มาวิตกกังวลเสียจนกลายเปนปม ทําใหคิดไปวาคนอื่นดูถูก เหยียดหยาม นินทาวารายตน จนเกินความเปนจริงไปบางก็เปนได เมื่อพลอยไดมาสังเกตพฤติการณตางๆ เขาดวยความสนใจที่มากกวาแตกอน พลอยก็กลับเห็นวา ที่ตา ออดไดบนไวดวยความนอยใจนั้น ควรมีมูลบาง มิใชวาตาออดจะเสกสรรขึ้นทั้งเรื่อง คําพูดของประไพบางครั้งที่ พูดออกมาโดยไมตั้งใจ ทําใหพลอยตองคิด วันหนึ่งขณะที่คุยกันอยูเรื่องคุณอุน พลอยก็พูดขึ้นวา "ความจริงคุณปาอุนเธอรักประไพมาก กอนเธอจะตายเธอยังอุตสาหบอกกับแมวา เปนหวงแตประไพคน เดียว" "เธอหวงไพดวยเรื่องอะไร" ประไพเลิกคิ้วถาม "ก็นั่นนะสิ" พลอยตอบ "แมก็บอกวาประไพมีเหยามีเรือนเปนหลักฐานแลว ไมเห็นจะนาหวง แลวก็ยังมี แมอยูอีกทั้งคน" "แลวเธอวาอยางไร" ประไพซักตอ "เธอก็เลยเห็นจริง แลวก็เลยบอกวาที่นึกหวงนั้น เพราะเธอรักประไพมากแตอยางเดียวเทานั้นเอง" ประไพหัวเราะกี๊ก เพราะพอใจที่ไดยินวามีคนรักตนมาก แมคนที่รักนั้นจะตายไปแลว และประไพก็พูด ตอเปนเชิงปรารภโดยไมมีความหมายอะไรมากนักวา "เคราะหดีที่คุณปาอุนไมไดไปรักพี่ออดเขา" "ทําไมหรือประไพ" พลอยถามอยางพาซื่อ "ถาปาอุนรักพี่ออดแลวเห็นจะตายตาไมหลับแน เพราะไพเปนผูหญิงเสียอีก ไพยังทําตัวใหเปนหลักฐาน ได พี่ออดเปนผูชายอกสามศอก ยังไมเห็นไดทําอะไรเปนชิ้นเปนอันสักครั้งเดียว" "ประไพอยาประมาทออดใหเกินไป" พลอยเตือน "ถึงอยางไรเขาก็เปนพี่ และคนอยางออดแมรูดีวา ถา เขาลงปกใจทําอะไรแลว ตองทําจนสําเร็จ" "แลวเมื่อไรจะปกลงไปสักที" ประไพพูดยิ้มๆ "ไพเห็นมานานแลว อยากรูเหมือนกันวาจะไปไดสักแคไหน ทําไมพี่ออดไมเหมือนพี่อั้นก็ไมรู" "เขาพี่นองกันจะผิดอะไรกันหนักหนา" พลอยเถียงแทน "ความจริงถาจะพูดกันถึงกําลังใจ วาจะทําอะไร ทําไดดีมีไหวพริบแลว ในบางเรื่องแมเห็นวาออดเขาดีกวาเสียอีก เวลาเขาผูเขาคนแลว ออดเขาดีกวามากที เดียว เพราะชางพูดชางจาแลวก็จําคนไดเกง อั้นเขาเปนคนเฉยๆ ไมคอยทักทายกับใคร" "แมก็มัวแตเขาขางพี่ออดอยูนั่นเอง" ประไพตอบ "เพราะอยางนี้แหละพี่ออดถึงไดเหลิง ถือวาแมรักจะทํา อะไรก็ไดตามใจ อยูเฉยๆ ไมตองมีการงานเปนหลักแหลงก็ได คุณเสวีเขายังบนกับไพเลยวา พี่ออดนี่แปลก ถา เปนเขาอยูเฉยๆ ไมมีการงานทําเขากลุมใจตาย เขาวาคนอยางพี่ออดไมนานับถือ จะพูดจาอะไรก็เปนเลนไป หมด จะจับเอาความใหหนักแนนเชื่อถือก็ไมมี เขาวากีดอยูที่เปนพี่เมีย ไมอยางนั้นเขาก็คงไมคบดวย" "ยายประไพ !" พลอยฉุนขึ้นมาทันที "ตอไปนี้แมขอใหแกพูดจากับผัวแกเสียใหรูเรื่องวา เรื่องราวที่จะพูด กับเมียนั้น ขอใหเปนเรื่องของตัวสองคนผัวเมียเทานั้น อยาไปกาวกายถึงคนอื่น ประเดี๋ยวก็พูดกันไปพูดกันมา คนละคําสองคํา เกิดทะเลาะวิวาทขึ้นในบานเดียวกัน ฉันขี้เกียจตองรกหูรอนใจไปดวย" "โธคุณแมก็ !" ประไพพูดเสียงออน "คุณเสวีเขาไมมีอะไรหรอก เขาพูดดวยเจตนาดีจริงๆ อยากใหพี่ออด ไดดีเทานั้นเอง ไพรูใจเขาดีกวาใครทั้งหมด" "เมื่อรูใจผัวก็ควรจะรูใจแม และรูใจพี่ที่คลานตามออกมาดวย" พลอยวา "แมไมชอบใหลูกเตาแตกราวกัน แตตาออดบางทีก็เปนเจาโมโหโทโส บทจะดีก็ดีไป แตถาใครพูดไมถูกหูก็เอะอะปงปงไปไดมากๆ ประไพตอง คอยระวังเตือนคุณเสวีใหระวังปากระวังคอเขาเสียบาง เชื่อแมเถิด ถึงจะเจตนาดีอยางไรมันก็ไมใชเรื่อง โตๆ ดวยกันแลว แมเองถาไมจําเปนจริงๆ ยังไมอยากวากลาวใคร เพราะถือเหตุวาโตเปนผูใหญดวยกันทุกคนแลว นี่ แหละ" ประไพหลบตาพลอยแลวก็พูดวา "ไพก็บอกเขาไวแลวเหมือนกัน แตเห็นเขาหวังดีตอพี่ออด ไพก็เลยเลาใหคุณแมฟง" พลอยตองถอนใจใหญเมื่อประไพลุกกลับไปเรือน เปนอันวาลับหลังตาออดนั้นมีคนอื่น เชนคุณเสวีคน หนึ่งแลว ที่พลอยรูแนวาไดพูดตําหนิติเตียนตาออด บางทีถอยคําเหลานี้อาจมากระทบหูตาออดเขา จึงทําใหเจ็บ ช้ําน้ําใจถึงกับหนาไหม ตาเกรียมอยางที่พลอยไดสังเกต

http://www.geocities.com/siamstory/ploy405.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๕ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 4

อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy405.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒) ตาอั้นเปนอีกคนหนึ่งที่มาเอยถึงเรื่องตาออดขึ้นกับพลอยเองวันหนึ่งตอนบาย ตาอั้นมานั่งคุยดวย แลวก็ พูดขึ้นวา "คุณแม เรื่องออดนี่คุณแมจะวาอยางไร" "ตาออดไปทําอะไรเขาอีกละอั้น" พลอยถาม "ไมใชเพราะตาออดไปทําอะไรหรอกคุณแม" ตาอั้นตอบ "ปญหาอยูที่วาตาออดไมทําอะไรเลย นอนกิน อยูเฉยๆ จนนารําคาญแทน" "ออดก็เปนนองของอั้นแทๆ" พลอยพูดอยางบายเบี่ยง "อั้นเห็นดีอยางไรทําไมไมพูดกันเอง ตามประสา พี่นอง" "คุณแมก็รูดีวาอั้นพูดกับเขาไมได เพราะเขาไมฟง พออั้นจะพูดจริงๆ เขาก็ชวนเปนเลนไปเสียหมด บาง ทีก็พูดยั่วโมโห จนอั้นไมอยากจะพูดดวย คุณแมคนเดียวเทานั้นที่พูดกับเขาได" "แมถามจริงๆ เถิด อั้นจะใหแมทําอยางไรกับตาออด" พลอยถามตรงๆ "คุณแมก็ควรจะพูดจะบอกใหเขาหาการงานทําเสีย จะไดเปนหลักเปนฐาน" ตาอั้นตอบ "แมก็เคยพูดกับเขาแลวเหมือนกัน และพูดมาหลานหนแลวดวย แตเขาก็ยกเหตุติดขัดขึ้นมาตางๆ จนแม ไมรูจะไปเถียงกับเขาอยางไร แตมาคิดไปอีกที ตาออดก็ไมไดทําความเดือดรอนใหใครหนักหนา ตาออดอยูกับ บานก็ดีไปอยางหนึ่งสําหรับแม เพราะไดใชสอยไหววานเขา แมเห็นวายังจะพอเลี้ยงลูกไวกับบาน ไมตองทําการ งานหากินเอาเองไดสักคนหนึ่ง แมก็เลยนิ่งเสีย แลวตาออดก็ไมไดใชจายเงินทอง หมดเปลืองอะไรหนักหนา" พลอยอธิบายใหตาอั้นฟงอยางยือดยาว ทั้งที่รูวาเหตุผลของตนนั้นฟงไมขึ้น "คุณแมก็ดีแตรักลูก อยากใหลูกเปนสุขสบาย" ตาอั้นวา "แตคุณแมทําไมไมคิดถึงความดีของลูก ในเวลา ขางหนาบาง อยางออดนั้นถาปลอยใหอยูเฉยๆ ไมทําการงาน วิชาความรูที่ไดเสียเงินเสียเวลา ไปร่ําเรียนมาก็ จะเรื้อรังลงไปทุกวัน นานเขาก็จะเปนคนหลักลอย ใชการอะไรไมได" พลอยใจหายเมื่อไดยินคําพูดของตาอั้น เพราะน้ําเสียงที่พูดก็ดี ความเห็นและเหตุผลที่แสดงออกมาก็ดี เหมือนกับคุณเปรมที่เคยพูดกับพลอยเมื่อกอนสงลูกไปเมือนนอกไมมีผิด และขณะที่นั่งฟงตาอั้นพูดอยูเชนนั้น เอง ตาออดก็เดินเบาๆ เขามาในหองโดยไมรูตัว ตาอั้นหยุดพูดลงในทันทีที่เห็นตาออดเดินเขามาในหอง แตตา ออดบางทีจะจับคําพูดในตอนทายไดวา กําลังพูดกันอยูดวยเรื่องของตน จึงพูดอยางอารมณดีวา "มีอะไรก็พูดไปเถิดพี่อั้น ออดไมวาหรอก พูดกันเสียตอหนาใหรูเรื่องดีกวาไปพูดลับหลัง" "พี่ไมไดวาอะไรหรอกออด" ตาอั้นพูดเปนเชิงแกตัวไวกอน "พี่เปนหวงออดเห็นไมทําการงาน กลัววิชาจะ เรื้อรังเสียหมดเทานั้นเอง" "วิชาของออดนั้นถามันเรื้อรังไดก็คงเรื้อรังไปเสียนานแลว" ตาออดตอบ "เพราะถึงวาจะทําการงานได ก็ คงจะไมไดใชวิชาที่เรียนมาอยูนั่นเอง แตนั่นก็ดูเหมือนจะเปนเหตุหนึ่งที่ออดไมทํางาน" "พูดกันดีๆ เถิดออด" พลอยเตือนขึ้น "อยาเลนสํานวนโวหารใหมากนักเลย แมฟงไมเขาใจ พี่อั้นเขา เพียงแตบนอยากใหออดไดทําการงานเปนหลักฐานเทานั้นเอง เขาเจตนาดีตออดหรอกไมไดวาอะไร" "ออดก็ไมไดวาอะไรเหมือนกันคุณแม กําลังอธิบายใหพี่อั้นเขาฟงเรื่องวิชาความรู วามันเรื้อรังไดหรือไม" "พูดกันเปนกิจจะลักษณะเสียก็ดีเหมือนกัน" ตาอั้นพูดขึ้น "พี่เห็นวาออดอยูเฉยๆ มานานแลว ใครเขาไม รูจักออด เขาจะหาวาขี้เกียจ ออดคิดหาการงานทําใหเปนหลักแหลงเสียทีจะไมดีหรือ" "ก็ดีเหมือนกัน" ตาออดตอบดวยเสียงเรียบๆ ไมมีสํานวนประชดประชันหรือพูดเลน จนพลอยรูสึกแปลก ใจ "ปญหาขณะนี้อยูที่วา จะเริ่มทํางานที่ไหนดี" "ถาออดตกลงทํางานละก็จะเปนปญหาอะไร พี่จะชวยหาชองทางใหเอง" ตาอั้นพูดอยางดีใจ "พี่อั้นก็รูแลวไมใชหรือวา สมัยนี้ถาจะเขาทําการงานตองมีพวกพอง" ตาออดถามขึ้น "สมัยไหนก็เหมือนกันทั้งนั้น" ตาอั้นตอบ "แตออดอยาไปนึกวิตกเลย ถึงจะตองมีพวกพองจริง พวกพอง เราก็มีถมเถไป พอจะฝากออดใหเขาอยูในตําแหนงที่สมควรไดไมนอยหนาคนอื่นเขา นอกจากตัวพี่เองแลวก็ยัง มีเสวีอีกคนหนึ่ง เขาคงยินดีชวยเหลือเต็มที่ เพราะเขาเคยพูดเรื่องนี้อยูเหมือนกัน" "เสวี" ตาออดถามขึ้นเบาๆ ดวยน้ําเสียงที่ทําใหพลอยไมสบายใจนัก "ก็เสวีเขาเขามาเปนญาติสนิทกับเราอยูในบาน มีอะไรก็ตองชวยเหลือกันเต็มที่ ออดอยาสงสัยเลย" ตา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy405_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 4

อั้นพูดอยางพาซื่อ "ออดไมไดสงสัยอะไรเลย" ตาออดตอบดวยน้ําเสียงเปนปกติ "และก็เพราะไมมีความสงสัยอะไรนั่นแหละ ออดถึงไดไมสบายใจนัก ออดเชื่อวาถาออดอยากเขาทํางานพี่อั้นก็คงจะชวย และคุณเสวีก็คงจะชวย แตพี่อั้น ลองคิดดูก็แลวกันวา ออดจะเขาไปตีหนาอยางไรถูก คนในกรมกองเขาก็จะตองพูดกันทั่วไปวา คนๆ นี้เขามาทํา ราชการได เพราะเปนนองชายของพี่อั้นและเพราะคุณเสวีชวย แตคนอื่นเขาจะพูดอยางไรก็ชางเถิด ที่ออดกลัว ที่สุดก็คือเสียงพูดที่จะเกิดขึ้นในบานนี้ทีหลัง ทั้งคุณเสวีและเมียเขาก็จะพูดไดเปนเสียงเดียวกันวา ที่ออดมีการ งานเปนหลักแหลงก็เพราะคุณเสวีชวย เพราะคุณเสวีเขาปนมาออดจึงไดเปนตัว ถาเปนลําพังพี่อั้นไดชวยคน เดียว ออดก็ไมวาอะไร แตสําหรับคุณเสวีนั้นถึงเขาจะชวยหรือไมชวย เขาก็จะอางเอาไดเสมอ และคนอื่นๆ ก็จะ พากันเชื่อ ในที่สุดออดก็จะมีเจาพระเดชนายพระคุณเขามาอยูในบานนี้ ฐานะของออดที่เคยอยูอยางเจาของบาน ก็จะเปลี่ยนแปลง กลายเปนคนอาศัยบารมีทานอยู ออดจะไปทนไหวหรือ" ตาอั้นนั่งฟงตาออดพรรณนาความในใจอยางสงบ เมื่อตาออดพูดจบลงแลว ตาอั้นก็พูดขึ้นวา "ที่ออดพูดมานั้นก็ถูก พี่ก็เห็นใจ แตปญหามันก็คงยังมีอยูนั่นเอง วาเมื่อไรออดจะเริ่มทําการทํางาน เปน หลักเปนฐานเสียที" พลอยนึกขอบใจตาอั้นเสียจริงๆ ที่พยายามอดทนพูดกับตาออดแตโดยดี ไมหาเหตุชวนวิวาท เพราะถา หากตาอั้นจะเอยปากวาไมเห็นดวยแตคําเดียว หรือพูดจาไปในทํานองที่วาเขาขางคุณเสวี ตาออดก็อาจพูดจา รุนแรงใหกลายเปนวิวาททันที และในทันใดนั้นโดยที่พลอยไมรูตัว ตาออดก็หันมาทางพลอย แลวพูดขึ้นวา "เอายังงี้ก็แลวกัน ใหคุณแมเปนตัดสิน คุณแมเห็นอยางไร" พลอยตองชะงักคิดอยูครูหนึ่งแลวก็ตอบวา "แมก็เห็นอยางพี่อั้นเขาพูดไวตอนแรก ในขอที่วาออดควรจะหาการงานทําใหเปนหลักเสียที แตเมื่อออด พูดมาตอนหลังแมก็เห็นใจ" พลอยพูดแลวก็ชําเลืองมองไปทางตาอั้น สวนตาอั้นก็ยิ้มพยักหนานอยๆ เปนสัญญาณใหรูวา พลอยพูด ถูกแลว ตาออดนิ่งอยูครูหนึ่งแลวก็ถอนใจใหญพูดวา "ถาอยางนั้นก็เปนอันตกลง ออดมองหาชองทางที่จะทําการงานไวเหมือนกัน ความจริงเมื่อสองสามวันนี้ เอง ออดไหดไปหาเพื่อนฝูงที่รูจักเคยเรียนหนังสือดวยกันที่กระทรวงธรรมการ ไดลองปรึกษาเขาดู เห็นพอจะ ไปกับเขาได ออดก็เลยยื่นใบสมัครเขาไวแลว อีกไมนานก็คงจะไดเขาทํางาน เพียงไดเปนวิสามัญโทในตอนแรก นี่ก็เห็นจะไมถึงกับขายหนาวงศตระกูลไมใชหรือพี่อั้น" ตาอั้นหัวเราะชอบใจแลวตอบนองชายวา "ดีที่สุดแลวออด พี่เองก็เริ่มแคนั้นเหมือนกัน ทําไมออดไมบอกเราเสียแตตอนแรกก็ไมรู เพียงเทานี้พี่ก็ พอใจ ไมตองพูดอะไรกันมาก" ตาอั้นลุกขึ้นเดินตรงไปที่ตาออด จับมือตาออดเขยาแรงๆ แลวพูดวา "ออด เราดีใจดวยจริงๆ ดีใจมาก" แลวตาอั้นก็เดินยิ้มออกจากหองไปอยางพอใจ ตาออดมานั่งคุกเขาลงขางๆ ตัวพลอยแลวก็ถามเบาๆ วา "ทูนหัวของลูก พอใจหรือยัง" พลอยยกมือขึ้นลูบหัวตาออดอยางปรานีแลวตอบวา "พอใจแลวออด พอใจที่สุด ตอไปนี้ออดลูกของแมจะไดมีการงานทํา ไมมีใครดูถูกใหตองเสียใจได" "ก็อยางเพิ่งแนใจนัก" ตาออดเอามือพลอยไปไวที่แกมของตน แลวพูดตอไปวา "คนเราถาอยากจะดูถูกกันก็หาเรื่องวาไปไดตางๆ ตองดูกันกอน แตคราวนี้อยางนอย ออดก็ยังไมตอง เปนลูกหนี้พระเดชพระคุณใคร นอกจากทูนหัวของลูกคนเดียว" "แมชักสงสัยอะไรอีกอยาง" พลอยถามขึ้น "ก็เมื่อออดไปเที่ยวหาการงานเอาเองจนไดมาแลว ทําไมเมื่อกี้ ออดตองพูดกับพี่อั้นเสียยืดยาว แมไมเขาใจเลย" ออดหัวเราะแลวก็ตอบวา "ออดอยากพูดใหเขารูตัวกันเสียบางเทานั้น วาออดไมตองการใหมีใครมาเปนเจาพระเดชนายพระคุณ ของออดในบานนี้" "ทําไม ออดสงสัยวาพี่อั้นจะมาลําเลิกพระเดชพระคุณอยางนั้นหรือ" พลอยซักตออยางฉงน ตาออดตอบยิ้มๆ วา "เปลาหรอกแม สําหรับพี่อั้นไมมีอะไรหนักหนา บางเวลาพี่อั้นก็ซื่อเสียจนเซอ ปลอยใหคนอื่นเขาจูงจมูก เลนไดอยางสบาย เพราะเหตุนี้แหละออดถึงไดพูดใหพี่อั้นไดยิน เพราะคงจะไปพูดใหเขาหูคนอื่นที่ออดอยากให รูไว" พลอยรูดีทีเดียววาตาออดหมายถึงคุณเสวี และถาประไพมิไดมาพูดเรื่องคุณเสวีวิจารณตาออดไว ใหได ยินกอนแลว พลอยก็อาจตักเตือนตาออด มิใหคิดมากจนอาจเปนอริบาดหมางกับญาติ แตเมื่อพลอยไดยินคําพูด ของคุณเสวี ที่เกี่ยวกับตาออดจากปากประไพเอง พลอยก็ไดแตพูดวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy405_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 4

"ก็แลวไป แมสงสัยอยากรูนิดเดียวเทานนั้นเอง แตออดไดการงานทําก็ดีแลว แมสบายใจดวยมาก" ตาออดซบหนาลงกับตักพลอยแลวถามเบาๆ ขึ้นวา "สบายใจจริงๆ หรือแม หรือพูดไปอยางนั้นเอง" "ก็สบายใจจริงๆ ซีออด" พลอยตอบ "แมที่ไหนก็ตองสบายใจเมื่อลูกไดดี ทําไมถึงตองถาม" "ก็ไมรู" ตาออดพูดเบาๆ "เพราะถาออดไปทํางานเสียทุกวัน ใครจะอยูเปนเพื่อนแม ใครจะคอยมาชวน พูด ชวนคุยใหหัวเราะ มีทุกขขึ้นมาใครจะเปนคนมาปลอบ เจ็บไขใครจะวิ่งหาหมอ มีธุระจะไดใครวิ่งรับใช ตอไป ออดก็จะเปนขาราชการใหญโตเหมือนพี่อั้น หรือเหมือนคุณเสวี ไมใชออดลูกแมคนเกา มีการงานทําแลวก็ตอง เปนหวงราชการงานเมือง แมจะไดใครไวใช" พลอยใจหายเมื่อไดยินตาออดพูด เพราะตาออดมาสะกิดความรูสึกอันแทจริงที่ฝงอยูในสวนลึกของหัวใจ แตเมื่อเห็นตาออดพูดทีเลนทีจริง พลอยก็แข็งใจตอบไปวา "แมก็ยังใชแกนั่นแหละตาออด ถึงจะไปทําราชการก็ไมใชวาจะไปไกลอะไรหนักหนา เชาเย็นก็ยังจะอยู บาน แมก็จะตองใชแกไดอยูนั่นเอง" ตาออดซบหนาอยูอีกครูหนึ่งแลวก็ปรารภขึ้นเบาๆ วา "คนเรานี้ถาเกิดมาแลวไมตองโตเปนผูใหญไดก็จะดี" ตอจากนั้นมาไมนาน ตาออดก็เริ่มไปทําราชการทุกวันเหมือนกับคนอื่นๆ วันแรกที่ตาออดจะไปกระทรวง ตาออดก็โผลหนาเขามายิ้มกับพลอยในหอง แลวรองบอกวา "แม คอยดูใหดีๆ นะวันนี้ บอกคนทางบานวาถาไมจําเปนอยาซักผาดีกวา เดี๋ยวจะตากผาไมแหง" "ทําไม ออด" พลอยรองถาม "อาว ! ก็วันนี้ออดเริ่มจะไปทํางาน ฝนถาจะตกใหญกระมัง" ตาออดรองตอบมาจากขางนอก แลวก็วิ่งลง บันไดหายไป เรื่องตาออดเขาทํางานทําใหพอเพิ่มตื่นเตนไมนอย วันหนึ่งพอเพิ่มมาที่บาน หลังจากตาออดเขาทํางาน แลวสิบกวาวัน เห็นตาออดนั่งกินของวางตอนบาย ที่พลอยหาไวใหเมื่อเสร็จจากงาน มีพลอยนั่งอยูใกลๆ พอ เพิ่มก็ตรงเขามานั่งดวยแลวเอยปากถามขึ้นทันทีวา "วาไงพอออด เดี๋ยวนี้เขาทําราชการแลวเมื่อไหรจะเปนใหญเปนโตกับเขาบาง" "พุทโธ ! คุณลุงก็" ตาออดรอง "ก็เพิ่งเขาทําไดสิบกวาวันเทานั้นเอง จะเอาใหญโตรวดเร็วอะไรถึงเพียง นั้น" "เปลา ! เปลา !" พอเพิ่มวาอยางอารมณดี "ลุงถามไปอยางนั้นเอง อยากจะรูวาพอออดเปนอยางไรบาง เขาใหทําอะไรที่กระทรวงและไหนๆ จะถามทั้งทีก็ถือโอกาสถามใหเปนศิริมงคลเสียที" ตาออดหันมายิ้มกับพลอยแลวก็พูดวา "คุณแมเห็นหรือยัง พี่ปาอาลุงของออดทุกคนชางใจเร็ว อยากใหออดเปนใหญเปนโตทั้งนั้น ออดก็ไมรูจะ ทําอยางไรใหทันใจทานได" ตาออดพูดกับพอเพิ่มตอไปวา "ผมก็ยังไมรูดีวาราชการนี่เขาทํากันอยางไรแน ผมไปทํามาสิบวันแตยังไมไดทําอะไรเลยสักอยางเดียว เชาขึ้นก็ไปนั่งที่โตะรอใหงานมาถึงตัว แตก็ไมเห็นมันมาสักที เหงาเขาก็ตองหาหนังสือพิมพมาอาน มีเทาไรก็ อานไปจนหมดถึงแจงความก็ยังอาน พอเที่ยงไดเวลาก็ออกไปกินขาวกลางวัน ตกบายโมงก็กลับมานั่งอาน หนังสือพิมพไปอีกจนบายสี่โมง แลวก็กลับบาน สิบกวาวันแลวผมไมไดทําอยางอื่นเลย เปนความสัตยจริง ถา ทําอยางนี้เรื่อยๆ ไปเห็นจะหาดีไดยาก" "พอออดอยาเพิ่งประมาท" พอเพิ่มพูด "ลุงทําราชการมากอนไดเห็นมามาก คนที่เขานั่งอานหนังสือพิมพ เฉยๆ ไมไดทําอะไรเลย ไดดีเปนใหญเปนโตไปแลวหลายคนเหมือนกัน ขอใหใจเย็นๆ ไวเทานั้น คนที่ชอบทํา โนนทํานี่เสียอีก มักจะผิดพลาดบอยๆ เมื่อผิดแลวก็เลยไมไดดี สวนคนที่นั่งเฉยๆ ไมมีผิด ถึงปก็ไดขึ้นเงินเดือน เลื่อนขั้นเลื่อนชั้น เผลอตัวหนอยเดียวเปนใหญเปนโตไปแลว ฤทธิ์เพราะนั่งซดน้ําชาอานหนังสือพิมพอยูกับโตะ นั่นแหละ อยาไปประมาท" ตาออดหัวเราะชอบใจในคําพูดของลุงเสียนี่กระไร พลอยอดรนทนไมไหวตองพูดขึ้นวา "คุณหลวงนี่ก็ชางเอาอะไรมาสอนลูกหลาน เกิดมาจนแกปานนี้ฉันก็เพิ่งเคยไดยิน มีอยางรึขี้เกียจไดดี ! ตาออดก็ถูกในหัวเราะรวนไปทีเดียว ระวังใหดีเถิดขืนเชื่อกันไปอีกสักหนอยงามหนาละ" พอเพิ่มหัวเราะไมถือคําพูดของนองสาว แตกลับพูดตอไปวา "อาวจริงๆ นะแมพลอย อยาทํามาดุฉันดีไป ดูแตเจาคุณของแมพลอยสิ เมื่อยังมีชีวิตอยู อยูในราชการ ทานก็เปนคนขยันขันแข็ง ทํางานไดทุกอยางจิปาถะ วันหนึ่งก็ตองหางานทําใหมันยุงไปหมด จนฉันเวียนหัว เสร็จแลวก็ตองออกจากงานมานั่งกอดเขาอยูที่บาน พาเอาฉันตองกลุมใจไปดวยเกือบแย" "คุณหลวงไมตองมาพูดหรอก คุณเปรมของฉันไดเปนพระน้ําพระยาก็เพราะพากเพียรพยายาม ไมใช เพราะความขี้เกียจ" พลอยเถียงเสียงแข็ง "ก็นั่นนะซี" พอเพิ่มตอบแลวก็หัวเราะ "ฉันมันคนขี้เกียจเลยดักดานอยูแคคุณหลวง แตเดี๋ยวนี้เจาคุณ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy405_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๕ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 4

ของแมพลอยไปอยูที่ไหน ฉันเสียอีกยังมานั่งยั่วโมโหแมพลอยอยูไดที่นี่" คําพูดของพอเพิ่ม ทําใหพลอยคิดถึงคุณเปรมขึ้นมาครันๆ พลอยปรารภขึ้นกับพอเพิ่มวา "จริงๆ นะคุณหลวง คุณหลวงถามขึ้นมาตรงกับใจฉันพอดี" พลอยพูดพลางทอดสายตาออกไปขางหนา แลวพูดชาๆ เหมือนกับรําพึงกับตัวเองวา "ฉันนึกอยูบอยๆ หมูนี้วาคุณเปรมของฉันอยูที่ไหน ยิ่งเดี๋ยวนี้อายุมากเขา ลูกเตาก็โตกระจัดกระจายกัน ไป แนก็ยิ่งนึกถึงคุณเปรมบอยเขา บางเวลาก็เห็นวาคุณเปรมลมหายตายจากไปนานหนักหนา ไมมีอะไรเหลือที่ จะยึดเหนี่ยวหรือติดตอถึงกันไดเลย เหมือนกับของเกาผาเกาที่ผุพังยุยไปเปนฝุนเปนละออง ไมมีอะไรเหลือเปน รูปเปนรางที่จะจําไดหรือจับตองได แตบางเวลา...แปลกแทๆ ทีเดียว บางเวลาฉันรูสึกเหมือนคุณเปรมยังอยูเปน คนเราดีๆ นี่เอง รูสึกเหมือนกับคุณเปรมมานั่งอยูใกลๆ จะพูดจาดวยก็ได จะทําอะไรก็คอยตักเตือน ไมวาจะไป ไหนก็เหมือนกับคุณเปรมเดินตามไปติดๆ คอยบอกใหฉันทําโนนทํานี่อยางที่ถูกใจเธอ คุณหลวงชวยบอกฉันที เถิดวาคุณเปรมอยูที่ไหน" พอเพิ่มนั่งนิ่งมองดูหนานองสาวอยางเมตตาอยูครูหนึ่ง แลวก็ตอบเบาๆ วา "เรื่องอยางนี้ถาจะใหฉันตอบฉันก็ตองเดา และจะใหฉันเดาฉันก็เดาวาเจาคุณทานคงอยูใกลๆ ตัวแม พลอยนั่นเอง ฉันเคยสังเกตที่ตัวฉันเหมือนกันแมพลอย คนบางคนเห็นหนากันอยูทุกวัน แตพอตายลงก็ละลาย หายสูญไปไมมีอะไรเหลือ แตคนที่ฉันรักมากๆ อยางแมของเราถึงจะตายไปตั้งเทาไรแลว จนเดี๋ยวนี้ก็ดูเหมือน จะยังอยู เวลามีเรื่องมีราวอะไรฉันเปนตองนึกไดเสมอวา แมจะตองคิดตองวาอยางไรในเรื่องนั้นๆ เรื่องไหนแม จะชอบ เรื่องไหนแมจะไมชอบ ใครบางที่แมจะรักและใครบางที่แมจะเกลียด บางทีเดินไปตามถนนหนทาง เห็น ของกินก็นึกขึ้นมาไดวาแมชอบกิน เหมือนกับมีแมมายืนบอกขางๆ ตัว ตองรีบซื้อไปถวายพระกรวดน้ําไปให ดูๆ ไปก็เหมือนกับวาแมยังอยู และยังอยูในตัวหรือใกลตัวฉันนี่เอง บางทีนึกจะทําอะไรที่ผิดๆ แตก็ตองยับยั้งไว เพราะกลัวแมดา เจาคุณของแมพลอยก็เห็นจะแบบเดียวกันกระมัง ทานก็คงอยูใกลๆ แมพลอยนั่นเอง" พอเพิ่มหยุดหายใจ แลวก็หันไปพูดกับตาออดวา "ออดเอย ! นางเล็กๆ ที่ลุงอุตสาหทํากงเตกสงไปใหเจาคุณพอ ถาจะไมไดความเสียแลว เพราะทานยัง มาวนเวียนอยูใกลๆ เมียทานนี่เอง ลุงเองก็ยังไมรูจักตายเสียที ปานนี้มันจะแกเสียหมดแลวก็ไมรู !"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy405_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑) การที่ตาออดไปทํางานเสียอีกคนหนึ่งทําใหพลอยเงียบเหงาใจจริงๆ อยางที่ตาออดไดทํานายไว ความ จริงในตอนทายนี้พลอยก็มีตาออดเหลือเปนเพื่อนคนเดียว เพราะตาอั้นและประไพนั้น ถึงแมวาจะอยูในบาน เดียวกัน ก็ไดพบปะกันเพียงนานๆ ครั้ง มิไดสนิทสนมมาคอยพูดคอยคุย หรือมาใหเห็นหนาอยูเปนนิจแบบตา ออด ตาอั้นเปนคนนิ่งๆ เวลาที่อยูบานชอบอยูคนเดียวในหอง และมีกิจธุระออกนอกบานมาก เกิดจากการงาน ของตน และกิจการงานที่พลอยไดมอบหมาย ใหทําเรื่องประโยชนรายได สวนประไพนั้นเมื่อกอนมีเรือนก็ไดเห็น หนาอยูทุกวัน แตพอมีเรือนแลว ก็อยูที่เรือนของตน และมักจะอยูไมติดบานในเวลาคุณเสวีไปทํางาน พลอยจึงมิ ไดพบปะบอยนัก ฉะนั้นเมื่อตาออดจําตองออกจากบานไปทํางานเสียอีกคนหนึ่ง พลอยก็ตองอยูคนเดียวทุกวัน จนกวาตาออดจะกลับถึงบานในตอนบาย ในระยะเดือนสองเดือนแรกที่ตาออดเขาทําราชการ พลอยรูสึกวาตาออดมีความสนใจและมีกําลังใจอยู มาก ตาออดเพียรพยายามคนควาหาความรูเกี่ยวกับหนาที่การงาน ตํารับตําราเกาๆ ถูกขุดคนขึ้นมาอาน และ ตาออดมักจะนั่งดูหนังสืออยูจนดึกๆ บางวันตาออดกลับมาจากงาน ก็นั่งคุยกับพลอยเรื่องปญหาตางๆ ที่ตนได สังเกตมา ตลอดจนระเบียบแบบแผนวิธีปฏิบัติงานตางๆ ที่ตนเห็นวาดี อยางไหนควรแกไขเปลี่ยนแปลง อยาง ไหนควรจะรักษาเอาไว ความจริงพลอยก็พยายามสนใจ เพราะพลอยรูตัววาตนเปนคนๆ เดียวในบาน ที่ตาออด จะพูดดวยได แตความสนใจและกําลังใจของตาออดที่มีตอหนาที่การงานนั้น ดูเหมือนจะมีอยูในระยะสองสาม เดือนแรกที่ไดเขาทํางาน พอพนจากระยะนั้นแลว ตาออดก็ดูเนือยๆ ไป ทําใหพลอยเกิดความสงสัยขึ้นมาวา บางทีตาออดจะมีความสนใจในตอนแรกดวยความตื่นเตนในหนาที่ใหม เหมือนกับเด็กๆ ดีใจในของเลนใหมที่ได รับ และถาหากวาตาออดหายตื่นเตนดีใจ หมดความสนใจในหนาที่การงานลงไปจริงๆ พลอยก็ใหรูสึกกังวลใน เสียงครหานินทาที่จะตามมา ในขอที่วาตาออดเปนคนเกียจคราน รักแตความสุขสบาย ไมสนใจหรือขยันหมั่น เพียรในหนาที่การงานตามควร ความหนักใจในเรื่องนี้ ทําใหพลอยสังเกตอาการกิริยาของตาออดอยางใกลชิด วันหนึ่งหลังจากที่พลอย ไดตกลงใจแนนอนวา ตาออดเบื่อหนายตอการงานจริงๆ ตามความเห็นของตน พลอยก็ถามตาออดขึ้นในตอน บายวันหนึ่งวา "ออด หมูนี้การงานของลูกทางกระทรวงเปนอยางไรบาง" "ก็ไมเห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลง ทําไมหรือแม" ตาออดเงยหนาขึ้นถามอยางสงสัย "เปลาไมมีอะไรหรอกออด แมถามดูอยางนั้นเอง" พลอยตอบ "แตกอนแมเคยเห็นออดมีเรื่องเกี่ยวกับงาน มาคุยใหแมฟงเสมอ แตเดี๋ยวนี้ดูเงียบไป แมก็เลยสงสัย" "ออดก็ไมมีเรื่องจะคุย" ตาออดตอบ "และจะคุยไปก็เทานั้น เสร็จแลวก็ทําอะไรไมได เทากับเรานั่งเพอไป คนเดียว ไมมีใครเขาฟง ลูกก็เลยเบื่อๆ ไมอยากสนใจอะไรใหมากนัก" "อยาหาวาแมยุงไมเขาเรื่องเลยออด" พลอยออกตัวเสียกอน "แมเองก็ไมเคยทําราชการงานเมือง ไมรู เรื่องรูราวตื้นลึกหนาบางอะไรหรอก แตแมเคยเห็นคุณพอของออดเธอทําราชการมาแตกอน รูสึกวาเธอสนใจ เก็บเอามาตรึกตรองคิดอานวาจะทําใหดี ไมวาจะเปนเรื่องเล็กเรื่องใหญ งานการของเธอจึงไดเจริญ และตัวเธอ เองก็ไดดิบไดดีมาอยางที่รูกันอยู" "คุณแมอยาเอาออดไปเปรียบกับทานดีกวา" ตาออดตอบยิ้มๆ "เพราะถาเอาออดไปเปรียบกับเจาคุณพอ แลวออดก็แพทานทุกทีไมมีวันสูทานได อีกอยางหนึ่งสมัยคุณพอและสมัยนี้ก็แตกตางกันไกล คนที่คุณพอทํา งานดวยก็หางไกลกันลิบลับ" "แมวาถึงสมัยไหนๆ ก็เหมือนกันทั้งนั้น" พลอยวา "ถาเราขยันหมั่นเพียรจริงแลวจําทําอะไรคงสําเร็จ สวนเรื่องคนนั้นก็อีก แมก็อยูมาตั้งแตสมัยโนนจนถึงสมัยนี้ ถึงคนจะเปลี่ยนไปบางก็ชั่วแตภายนอก ในใจนั้นก็ยัง เหมือนกันอยูนั่นเอง ใชวาจะเปลี่ยนไปหนักหนา" ตาออดนิ่งคิดอยูนิ่งๆ ครูหนึ่งแลวก็ตอบวา "คุณแมคงนึกวาลูกขี้เกียจ เชนเดียวกับที่คนอื่นๆ เขานึก ความจริงจะวาลูกขี้เกียจก็ได ขี้เกียจประจบ ประแจงเจาขุนมูลนาย ขี้เกียจทํางานเล็กๆ นอยๆ ที่ไรสาระประโยชน ขี้เกียจนั่งคิดนอนคิด วาจะทําอยางไรให งานดีขึ้น แตแลวก็ไมมีใครฟง ไมมีใครสนับสนุน เพราะเขาไมอยากเห็นเราขามหนาขามตาเกินเขาไป สมัยคุณ พอนั้นเขาถือเอาการงานเปนใหญ แตสมัยนี้เขาจะถือเอาตัวบุคคลกันเปนใหญ ใครที่มีพวกพองมีอํานาจวาสนา จะพูดอะไรออกไป ถึงจะผิดหรือถูกก็คนฟง สวนคนแตกอนนั้นดูเหมือนเขาจะชอบชวยเหลือเกื้อกูลกันใหดี แต

http://www.geocities.com/siamstory/ploy406.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 4

คนเดี๋ยวนี้เขาชอบปดแขงปดขากันใหลมคะมําหัวปกไปตามๆ กัน เมื่อลูกเขาไปทํางานใหมๆ ลูกก็มีแตเจตนาดี ที่จะทํางานทุกอยาง แตเดี๋ยวนี้ก็เห็นเสียแลววาทําไมได เมื่อคนอื่นเขาไมทํา เขาก็ไมอยากใหเราทํา เพราะถา เราไปทําเขาเกิดผลขึ้นมา ก็จะทําใหเขาดูเปนคนไรความสามารถไป แตคุณแมอยาไปพูดกับใครตามที่ลูกพูดมา ใหฟง เพราะทุกคนเขาจะหาวาลูกแกตัว เพราะลูกเปนคนขี้เกียจ ลูกก็ยอมรับแลววาลูกเปนคนขี้เกียจ ใครจะวา อะไรก็ตามที ลูกนี่อายุมากเขาก็เหมือนลุงเพิ่มมากขึ้นทุกวัน เริ่มจะเห็นของเล็กๆ นอยๆ เปนของสําคัญ สวน ของอื่นที่คนอื่นเขาเห็นเปนเรื่องใหญเรื่องโตนั้น ลูกกลับเห็นไมสําคัญไปหมด" พูดแลวตาออดก็ถอนใจใหญ เดินไปโผลหนาตางดูดินฟาอากาศอยูนิ่งๆ ตั้งแตนั้นมา พลอยก็มิไดพูดจากับตาออดเรื่องการงานอีก เพราะเมื่อพูดออกไปแลวตัวเองก็ไมแนใจวา จะปลอบประโลมใหตาออดมีกําลังใจขึ้นมาอยางไรได ขณะนั้นพลอยก็ไดแตสังเกตดูอาการกิริยาตาออดไป ดวย ความเปนหวง วันหนึ่งพอเพิ่มมาที่บานพลอยก็ปรึกษาขึ้นวา "คุณหลวงสังเกตบางหรือเปลาวา หมูนี้ตาออดดูเนือยๆ ไป ไมเหมือนกับเมื่อเขาทํางานตอนแรก" "งั้นรึ" พอเพิ่มวา "ฉันก็ไมไดสังเกตหรอกแมพลอย เพราะไมไดอยูใกลชิด แตเขาเคยบนกับฉันเหมือน กัน วาเจาขุนมูลนายไมเปนใจ จะทําอะไรก็ติดขัด เขาเลยชักเบื่อๆ ไมอยากทําอะไรทั้งนั้น" "เขาก็บอกกับฉันวาอยางนั้นเหมือนกัน" พลอยพูด "แตฉันก็ไมรูจะทําอยางไรถูก คุณหลวงนึกบางหรือ เปลา วาตาออดแกอาจขี้เกียจเฉยๆ" พอเพิ่มเลิกคิ้วมองพลอยแลวก็ตอบวา "ไมเคยนึกเลย เพราะฉันรูดีวาพอออดไมใชคนขี้เกียจ ถาจะมีเสียก็เพราะขยันเกินคนอื่นไปนั่นแหละ เขา ไปทํางานกับคนหมูมาก พบคนขี้เกียจเขาก็ไมพอใจ และคนที่ขี้เกียจเขาก็คงไมชอบ เพราะกลัวพอออดจะไปได ดีเกินหนาเขาสักวันหนึ่ง แมพลอยอยาเปนหวงเลย คนอยางพอออดไมเปนไรหรอก แตฉันคิดเอาเองจากหาง เสียงที่เขาพูดวาคงไมอยูในราชการนาน เพราะเรื่องมันไมถูกนิสัยกับเขา ฉันวาเขาคงออกเร็วๆ นี้แหละ ถาหาก เขาออกมาจริงๆ แมพลอยนิ่งๆ เสียก็แลวกัน อยาไปพูดอะไรดีกวา เดี๋ยวแกจะเสียใจ ตอไปเขาก็คงหาการงาน ทําไดถูกใจเปนหลักฐานไปเอง" พอเพิ่มบางทีรูจักตาออดดีกวาพลอย เพราะปรากฏวาความเห็นของพอเพิ่มไดกลายเปนความจริงขึ้น ภายในเวลาไมนานนัก วันหนึ่งตาออดกลับจากกระทรวงในตอนบาย แลวก็บอกกับพลอยวา "คุณแม ลูกลาออกจากงานเสียแลว พรุงนี้ก็ไมไปอีก เลิกกันที" พลอยนึกขอบใจพอเพิ่มที่ไดตักเตือนไวกอน เพราะเมื่อตาออดบอกขาวนี้ พลอยมิไดแสดงกิริยาแปลก ประหลาดใจใหตาออดเห็นเลย พลอยนั่งกมหนาหยิบดอกไมขึ้นปกพุมบูชาพระ ซึ่งเปนกิจวัตรในตอนเย็นตอไป เรื่อยๆ แลวก็ตอบตาออดโดยมิไดเงยหนาขึ้นมองวา "ถาหากการงานที่ทําไมถูกใจ ออกเสียก็ดีแลวออด แมก็ไมอยากใหลูกฝนใจทําอะไรที่ไมชอบ" "นี่มีใครมาบอกคุณแมหรือเปลาลูกลาออกจากงาน" ตาออดถามอยางสงสัยเต็มที "เปลา ทําไมหรือ" "ลูกนึกวาอยางนอยคุณแมก็คงตองแปลกใจบางวาอยูๆ ลูกก็ออกจากงานมาเฉยๆ โดยไมบอกไมกลาว แลวก็เพิ่งเขาทํางานไดไมเทาไหร ความจริงลูกนึกไววาจะตองถูกคุณแมดุดวยซ้ํา" "แมจะไปดุออดดวยเรื่องอะไร ธรรมดาคนเราจะทําการงาน ก็ตองใหสบายอกสบายใจจึงจะทําไดดี เมื่อ ออดไมชอบแมก็ไมวา แมแปลกใจอยูนิดเดียวที่ออดไมไดแมกอนวาจะออกเทานั้น เพราะออดจะทําอะไร ออด เคยบอกแมเสมอ" ตาออดเขามาคุกเขาอยูขางๆ ตัวพลอยแลวพูดเบาๆ วา "ยกโทษใหลูกเถิดคุณแม ลูกควรจะบอกคุณแมกอนเหมือนกัน แตนึกในใจวาถึงจะบอกก็ไมมีประโยชน เพราะคุณแมจะตองตักเตือนไมใหออกดวยความหวังดี ถาคุณแมไดเตือนอยางนั้นแลว หากวันหลังลูกทนไม ไหว ไปลาออกเขาจริง ก็จะกลายเปนวาแมเตือนแลวยังไมเชื่อ ลูกจะเลยไมสบายใจไปจนตาย และความจริงเมื่อ เชาก็ยังไมไดคิดวาจะออก แตพอไปนั่งที่กระทรวงไดครึ่งวัน ก็รูสึกวาเหลืออดเหลือทน เพราะไมมีอะไรจะทําให คุมเงินเดือนที่หลวงจายใหเลย นึกอายผีสางเทวดาอายตัวเองสุดที่จะทนทาน เลยหยิบกระดาษมาเขียนใบลา แลวยื่นเขาไปไวกอนกลับบาน ตั้งแตทํางานมา ใบลาฉบับนี้ก็ดูเหมือน จะเปนหนังสือราชการฉบับที่สามหรือที่สี่ ที่ลูกไดเขียน คุณแมคิดเอาเองก็แลวกัน" กอนที่พลอยจะตอบตาออดวากระไร ตาอั้นก็เดินเขามาในหอง เห็นตาออดกําลังคุกเขาอยูขางๆ แมก็พูด สัพยอกขึ้นวา "ออดกําลังออเซาะคุณแมอยูทีเดียว ถาจะขออะไรกระมัง" ตาออดกลับไปนั่งที่เดิมแลวพูดวา "พี่อั้น ออดลาออกจากงานเสียแลวละ" "อาวแลวกัน !" ตาอั้นรองอยางสงสัยไมเขาใจ "ทําไมละ" "อยูไปก็เทานั้น ไมเห็นมีอะไรทํา" ตาออดตอบ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy406.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 4

"พุทโธ ! ออด ทําไมเปนคนอยางนี้" ตาอั้นพูดอยางหัวเสีย "คนอื่นเขาทํางานกันมาไดเปนกายเปนกอง ทําไมเขาอดทนอยูได ออดเขาไปประเดี๋ยวเดียวแลวก็ออกมา จะปรึกษาหารือกันกอนก็ไมมี !" "จะวาก็วาออกมาเถิด วาออดขี้เกียจ ออดไมวาอะไรหรอก ยอมรับแลววาเปนคนขี้เกียจ" ตาอั้นสะบัดหนาอยางเคืองและรําคาญ ทําใหพลอยตองรีบพูดแทนตาออดขึ้นมาวา "ไมมีอะไรหรอกอั้น ออดเขาปรึกษาแมไวกอนเหมือนกัน แมก็เห็นวาออกเสียดี เพราะงานที่ทําไมถูกกับ นิสัย อยูไปก็กลุมใจเปลาๆ สูออกมาแลวหาการงานที่ถูกใจทําดีกวา เพราะยังไมชาเกินไป" ตาออดเหลียวมายิ้มกับพลอยเหมือนกับจะขอบใจ ที่ชวยแกให แตตาอั้นกลับพูดกับพลอยอยางรําคาญ วา "คุณแมก็ดีแตตามใจตาออด จนเกือบจะเสียคนอยูรอมมะรอแลว การทํางานก็ตองมีความอดทนเปนขั้น แรก อะไรไมพอใจนิดหนอยก็ลากออกจะไปใชไดที่ไหน ที่ถูกควรจะอยูไปและพยายามศึกษาหาความรูไป นาน เขาก็จะดีไปเอง" "อาว ! พี่อั้นไมไดบอกเสียแตแรกนี่วาจะใหเขาไปโรงเรียน นึกวาอยากใหออดเขาไปทํางาน เห็นไมมีงาน ทําออดก็ลาออก" ตาอั้นถอนหายใจใหญอยางรําคาญสุดขีดแลวพูดวา "ก็สุดแลวแตใจเถิดออด เราก็โตๆ ดวยกันแลว ถึงเราจะพูดอะไรไปก็ไมมีประโยชน ออดเห็นเปนเลนไป เสียหมด" วาแลวตาอั้นก็หันหลังกลับ เดินบนอะไรอยูในลําคอออกจากหองไป พอตาอั้นลับตัวไปแลว ตาออดก็ กลับเขาคุกเขาอยูที่เกาขางๆ ตัวพลอยแลวพูดขึ้นวา "ทูนหัวของลูก เมื่อกี้ไปออกรับแทนลูกทําไมใหที่อั้นเขาวาไดวาตามใจลูกตนเสียคน" "ชางเขาเถอะออด" พลอยตอบ "เขาจะวาอะไรก็ไดแมไมถือ แตถาแมไมออกรับไว วาออดบอกแมไวกอน แลวและแมก็เห็นดวย บางทีปานนี้อั้นและออดก็ยังจะเถียงกันไมจบขี้เกียจฟง" ตาออดเอาหนาซบกับตักพลอยแลวก็พูดวา "ความจริงพี่อั้นเขาก็พูดของเขาถูก ลูกเลยขี้เกียจเถียง เพราะลูกเกือบจะเสียคนอยูจริงๆ เรื่องไม ยอมออกจากอกแม และแมก็ตามใจลูกจริงๆ เสียดวย แลวนี่เราจะทําอยางไรกันดี" พลอยยกมือลูบหัวตาออดดวยความปรานีพลางพูดวา "แมไมนึกวาออดลูกแมจะเสียคน ถึงอยางไรก็คงจะไมเสียไปได ไมวาแมจะตามใจหรือเปลา แตแมก็รูสึก วาออดควรจะรีบหาการงานอื่นทําเสียอยารอไวชา เพราะถาแมยังอยูก็ไมเปนไร ถาแมตายไปแลว ออดจะตอ ลําบาก" ตาออดซบหนานิ่งอยูนาน แลวก็พูดเบาๆ วา "ลูกเคยนึกถึงเรื่องนี้เหมือนกัน นึกถึงทีไรแลวไมสบายใจเลย" "เรื่องอะไรออด" พลอยถาม "เรื่องเวลาที่ออดไมมีแมอีกตอไป ออดจะทําอยางไร" ตาออดตอบ "การตายเปนของธรรมดา เกิดมาแลวตองตาย แมจะไปอยูค้ําฟาก็ไมได เพราะเหตุนั้นจึงอยากเห็นออด เปนหลักเปนฐานเสียกอนแมจะไดตายตาหลับ" พลอยพูดเบาๆ ตาออดนิ่งคิดอยูครูหนึ่งแลวก็พูดขึ้นวา "ออดก็รูดีวาคนเราเกิดมาแลวตองตาย แตออดก็ยังทําใจไมถูกอยูนั่นเองวา ถาเผื่อแมเปนอะไรไป แลวจะอยูตอไปไดอยางไร เพราะเหตุนี้แหละ ออดถึงไดอยากอยูใกลแมใหมากที่สุด และบางเวลาก็นึกภาวนาใน ใจ ใหออดเปนคนตายกอน อยาใหอยูถึงเวลาที่แมจะตองตาย" "ตาออดพูดเหลวไหล" พลอยเปลี่ยนเสียงพูดเพื่อตัดบทมิใหตาออดรําพึงรําพันตอไปได "มีอยางที่ไหน ยังหนุมยังแนนคิดจะตายกอน แมไมเอาละ ! พูดกันเปนการเปนงานเสียทีวาจะทําอะไรตอไป" ขณะที่พูดนั้นเอง พลอยก็รูสึกใจหายและเศราใจในคําพูดของตาออดอยูครันๆ ตาออดหัวเราะแลวตอบวา "คุณแมหมูนี้ดูออกจะขะมักเขมนการงานเปนพี่อั้นขึ้นทุกวัน แตก็ไมเปนไรหรอก ลูกคิดๆ อยูเหมือนกัน วา จะหางานอื่นทําใหถูกใจ ขอเวลาอีกสักเล็กนอยแลวลูกจะบอกใหรู ระหวางนี้อาจถูกคนอื่นเขาวาขี้เกียจบาง อะไรบางอีกมากมาย คุณแมอยาไปเที่ยวแกตัวแทนใหเขาวาไดอีกก็แลวกัน ปลอยใหเขาวาลูกไปเถิด ดีเหมือน กัน ถาลูกไดยินแลวจะไดขยันขึ้นบาง" แลวตาออดก็ชวนพลอยคุยเสียดวยเรื่องอื่น อีกสิบกวาวันตอมาตาออดก็มาบอกพลอยวา ตนไดไปชวนพอเพิ่มไวใหลงไปเที่ยวปกษใตดวยกัน วัตถุ ประสงคสําคัญนั้น ก็เพื่อจะฟงขาวคราวตาอนซึ่งหายเงียบไปอยูที่เกาะ และเพื่อดูลูทางทํามาหากินตอไป พลอยออกปากอนุญาตใหตาออดไปทันที เพราะตนเองก็อยากรูขาวตาอนเปนอยางยิ่ง และเมื่อรูวาตาออด และ พอเพิ่มจะออกเดินทางในเวลา ๔-๕ วัน พลอยก็เริ่มจัดของประเภทของกิน และหยูกยาเขาหีบหอ เพื่อจะฝากไป กับตาออด เผื่อจะมีหนทางสงไปใหถึงตาอนที่เกาะไดบาง วันหนึ่งพอเพิ่มมาหาที่บานกอนออกเดินทาง พลอยก็พูดขึ้นเปนเชิงสัพยอกวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy406.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๖ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 4

"คุณหลวงจะพาหลานไปปกษใตก็ขอใหระวังตัวใหดีๆ อยาพาลูกฉันไปสํามะเลเทเมา ฉันโกรธตายที เดียว" "แมพลอยนี่ก็เห็นฉันเปนคุณชิตไปได" พอเพิ่มหัวเราะ "เออ ! จริงๆ นะคุณหลวง" พลอยพูดขึ้น "คุณหลวงไดขาวคุณชิตบางหรือเปลา หายสาบสูญไปทีเดียว เมื่อคุณพี่ตายก็ไมเห็นมาเกี่ยวของ" "ฉันไดยินจากเมียเขาที่คลองบางหลวงวา เธอไปอยูแถวบานโปงแลวก็เงียบไป จะลมหายตายจากอยาง ใด ก็ไมรูได" พอเพิ่มตอบแลวก็พูดตอไปวา "แมพลอย รูเรื่องพวกที่เกาะหนีไปไดบางหรือเปลา" และเมื่อพลอยบอกวาไมรู พอเพิ่มก็เลารายละเอียด ถึงเรื่องนักโทษการเมืองคณะหนึ่งที่หนีไปจากเกาะตะรุเตาใหฟง แลวก็พูดวา "ทีแรกฉันดีใจนึกวาพออนเขาหนีไปดวย แตก็เปลา" "ดีแลวละคุณหลวง" พลอยตอบ "ฉันไมอยากใหตาอนหนีเลย ถาหนีรอดก็ดีไป แตดีไมดีเขาจับได ก็จะ เปนอันตรายเสียเปลาๆ" "ก็ไมรูซีแมพลอย" พอเพิ่มวา "อยางฉันแกๆ อยางนี้แหละ ถาใครลองมาจับฉันไปขังคุกตะราง ฉันจะ แหกคุกใหครึกครื้นทีเดียว ไมเชื่อก็คอยดูไปเถิด ใครจับเมื่อไหรเปนไดเห็นดีกัน" "ฉันกลุมใจคุณหลวงเหลือเกิน" พลอยวา "ชอบพูดจาเหมือนกับวาไปมีอะไรไวที่เขาจะมาจับกุมได วาแต ไปคราวนี้อยาพาลูกฉันไปเกี่ยวของกับการบานการเมืองก็แลวกัน ถูกปลอยเกาะไปคนหนึ่ง ก็เปนทุกขจะ ตายอยูแลว อยาใหมีเรื่องเสียคนอีกคนหนึ่งเลย" "ที่ไหนได" พอเพิ่มวาแลวก็หัวเราะ "พอออดเสียอีกเขากลับจะเปนคนคอยดูแล ไมใหฉันมีเรื่อง" "ฉันก็นึกวาอยางนั้นเหมือนกัน" พลอยหัวเราะตาม "ฉันถึงไดปลอยใหไป ไมอยางนั้นฉันหายอมเสียไม หรอก" อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy406.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๖ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๖ (หนาที่ ๒) ตาออดและพอเพิ่มออกเดินทางไปปกษใต แลวก็หายไปเสียเกือบเดือน โดยมิไดสงขาวคราวมาใหพลอย รูเรื่องเลย พลอยเองก็รูสึกดีใจมากกวาเปนหวง ตาออดไดออกหัวเมืองไปเที่ยวไกลๆ บางทีกลับมาแลวจะได สบายใจขึ้นบาง ไมนั่งกลุมใจเหมือนที่เคยเปนอยูครั้งหนึ่ง แตแลววันหนึ่งตาออดก็กลับมาหอบขาวของใส ชะลอมมาฝากพลอยรุงรัง ตาออดดูผอมเกร็งและคอนขางดํา หนาตาทาทางดูแข็งแรงขึ้นกวาเกา ตาออดเอาของ วางแลวก็เขาไปอาบน้ําอาบทา เสร็จแลวจึงออกมานั่งคุยกับพลอย "ออดไดขาวพี่อนบางไหม" พลอยถามขึ้นเปนสิ่งแรก "ก็เพราะเรื่องขาวพี่อนนี่แหละคุณแม ออดจึงไดเสียเวลาอยูนาน เพราะตองคอยๆ ติดตอกับคนที่เขาไป มา ที่เกาะนั้นได ออดรูจักกับเขาแลวจึงฝากของไปใหพี่อน กวาจะไดขาวกลับมาอีกที ก็กินเวลาหลายวัน" "อนเปนอยางไรบาง" พลอยซักตอไป "เขาฝากหนังสือมาใหคุณแม" ตาออดบอกพลางสงหนังสือให "คุณแมอานเอาเองก็แลวกัน" พลอยรับหนังสือมาจากตาออดดวยความดีใจจนมือไมสั่น รีบเปดซองออกอานดวยความรูสึกที่คิดถึงตา อน เพียงใจจะขาด หนังสือนั้นเขียนบนกระดาษเกาๆ เปนความวา "กราบเทาคุณแมที่เคารพสูงสุดของลูก ลูกเหมือนคนตายแลวเกิดใหมเมื่อไดรับของที่คุณแมสงมาให นอกจากลูกจะดีใจที่ไดของกิน และยา รักษาไขที่มีคากวาสิ่งใดๆ ในเกาะนี้แลว ของที่คุณแมสงมานั้นยังเปนเสมือนสะพาน ที่เชื่อมตัวลูกกับโลกภาย นอก ทําใหลูกรูตัววาโลกภายนอกไกลออกไปจากเกาะที่มีทะเลเปนกําแพง มีฉลามเปนยามเฝาคอยตรวจตรานี้ นั้น ยังมีใครคนหนึ่งที่ยังรักลูกเมตตาลูกอยูเปนนิจ มีพระเดชพระคุณแกลูก อยางที่จะหาอะไรเปรียบเสมอ เหมือนมิได ลูกรูดีวาของทุกอยางที่คุณแมสงมานั้น คุณแมเปนคนคิดหา เปนคนทําดวยตัวเอง และแมเวลา บรรจงจัดเขาหีบหอ คุณแมก็ตองเปนคนทําดวยมือของคุณแมเอง ดวยความรูสึกอยางนี้ ของนั้นจึงมีคาสําหรับ ลูกเปนที่สุด แมแตกระดาษหอของทุกชิ้น ก็ไดเคยผานมือคุณแมจับตองมาแลว จึงเปนของที่ลูกเห็นวาเปนของ สูงควรเคารพบูชาเปนอยางยิ่ง สวนตัวลูกสุขสบายดี ถาจะวาไปดวยความจริงแลวการที่มาอยูที่เกาะนี้ นับวาสบายกวาอยูที่บางขวาง เพราะอากาศก็ดีกวา การควบคุมก็มิไดเขมงวดนัก มีเวลาเปนของตัวมากกวาอยูที่เรือนจํา ความเปนอยูนั้นก็ เหมือนกับวามาเที่ยวตากอากาศ ผิดกันแตวามีความแรนแคนขาดแคลนอยูเปนประจํา ซึ่งก็เปนของธรรมดา ของนักโทษ ไมแปลกประหลาดอะไร มีบางเวลาขณะที่อยูที่เกาะนี้ ซึ่งลูกมักนั่งมองเหมอออกไปที่กลางทะเลแต คนเดียว รูสึกวาตัวนั้นอยูไกลแสนไกล ไกลจากทุกสิ่งทุกอยางที่เคยรูจักคุนเคย ความรูสึกเชนนี้ไมเคยมีขณะที่ อยูในคุก แตเพิ่งมามีขณะที่ถูกปลอยเกาะนี้เอง ความวาเหวที่เกิดขึ้นเปนครั้งคราวนั้น มีมากมายสุดที่จะ ประมาณ รูสึกเหมือนกับวาตนเองนั้นเปนเศษไมเล็กๆ ที่ลอยอยูกลางทะเล สุดแลวแตกระแสน้ําจะพัดพาไป ไม มีที่ยึดเหนี่ยว ไมมีจุดหมายและฝงฝาก็ยังมองไมเห็น การติดตอที่ลูกไดรับจากคุณแมผูเปนชีวิตของลูกเปนครั้ง แรกในครั้งนี้ จึงมีคาที่สุดที่จะประมาณได เพราะทําใหรูสึกวามีความใกลชิด มีความรักความเมตตาของคุณแม เปนจุดหมายปลายทางที่มองเห็นได ถึงแมวาจะยังอยูในระยะทางอันไกลสักเพียงไรก็ตาม ทุกวันนี้ลูกก็ไดแตสวดมนตภาวนา ขอใหลูกไดมีโอกาสสนองคุณของคุณแมไดในชีวิตนี้ และความ ปรารถนานี้เอง เปนกําลังใจใหลูกมีมานะอดทนตอความยากลําบากตางๆ และเปนเครื่องคุมครอง ใหลูกระมัด ระวังรักษาตัวมิใหเจ็บไข ขออยาใหคุณแมมีความวิตกในความเปนอยูของลูกแตอยางใดเลย จดหมายฉบับนี้ลูกตองรีบเขียน เพื่อจะแอบฝากเขากลับมาใหคุณแม ลูกรูวาออดเขามาทางปกษใต และ นึกขอบใจเขาอยูเสมอวา เขาและคุณลุงเพิ่มมิไดเคยทอดทิ้งลูกเลย ถาลูกไมตายเสีย ก็คงจะไดมีโอกาสสนอง คุณเขาสักวันหนึ่ง กราบเทามาดวยความเคารพอยางสูง อน" พลอยวางจดหมายลงกับตักชาๆ ถอยคําของตาอนที่เขียนมานั้นยังดังอยูในหู เหมือนกับเสียงตะโกนมา จากไกลแสนไกล ตาออดเอื้อมมือมาหยิบจดหมายไปอานดูแลวก็ปรารภขึ้นเบาๆ วา "พี่อนไปอยูเกาะเสียนาน เขียนหนังสือพรรณนาความในใจราวกับวาเปนนักประพันธ แมอยาหวงพี่อน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy406_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๖ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 4

มากไปเลย เพราะเทาที่ลูกสืบไดขาวมา พี่อนก็สุขสบายดีไมเจ็บไข เงินทองที่เล็ดลอดสงไปใหกันไดคราวนี้ ก็ เห็นจะพออยูไปไดอีกนาน วันหลังลูกจะลงไปสงเสียใหอีก ทําไมไมถามขาวออดบาง หายหนาไปตั้งนานแมไม คิดถึงออดบางหรือ" พลอยตองหัวเราะขบขันในคําพูดของตาออด ที่ทวงความคิดถึงจากตนเอาตรงๆ พลอยตอบตาออดวา "ทําไมจะตองถามดวยเลาออดลูกของแมหายหนาไปทางไหน แมก็คิดถึงทั้งนั้น ออดไปปกษใตคราวนี้ ไดเห็นอะไรบาง สนุกไหม" "สนุกเต็มที่ทีเดียวคุณแม" ตาออดตอบ "ไดเห็นอะไรแปลกๆ ใหมๆ หลายอยาง ไดเห็นปาเขาเห็นการทํา มาหากิน ที่ไมเคยเห็นมาแตกอน ไดเห็นความยากจนและความยากลําบาก ที่ไมมีในกรุงเทพฯ และไดเห็นความ มั่งมีอยางชนิดที่เผาเงินเลนได ขนาดที่ในกรุงเทพฯ ไมมีใครกลาทํา จนออดมานึกๆ ดูแลว ก็รูวาเมืองไทยยังมี อะไรอีกหลายอยางที่ออดไมรู เพราะมัวแตมานั่งอยูในกรุงเทพฯ ตอไปออดอยากจะออกบานนอกมากกวานี้ ถา แมไมหาม" "แมไมหามหรอกออด สิ่งใดที่จะทําใหลูกสบายใจไดแลว แมไมหามทั้งนั้น นอกจากจะเสียหายแกตัวลูก เอง" พลอยตอบดวยความจริงใจ "ลูกไปปกษใตคราวนี้" ตาออดเลาตอ "ไดพบเพื่อนที่รูจักรักกันแตเมื่อครั้งเปนนักเรียน แลวก็ไปพบกัน อีกที่เมืองนอก เดี๋ยวนี้เขาเปนเศรษฐีอยูปกษใต มีเหมืองแร และทํามาคาขายอื่นๆ ใหญโต เขาเห็นลูกอยูวางๆ เขาเลยชวนใหทํางานดวยกัน" "แลวออดวาอยางไร" พลอยถาม "ออดก็บอกเขาวาจะคิดดูกอน" ตาออดตอบ "ในใจจริงนั้นถาที่ทํางานอยูใกลกรุงเทพฯ กวานี้ ออดก็คงจะ รับปาก แตนี่มันไกลเหลือเกิน จะไปมาหาคุณแมดูมันยากเย็นเสียนี่กระไร ออดจะทิ้งคุณแมไปไกลถึงเพียงนั้น ออดก็ยังเปนหวง เลยตัดสินใจไมถูก" "ออดอยาหวงแมเลย" พลอยแข็งใจพูด "แมไมอยากเปนอุปสรรคขัดขวางความเจริญของลูก ถาออดมี ชองทางที่จะตั้งเนื้อตั้งตัว ออดก็ยังฉวยโอกาสนั้น เพราะติดอยูที่แม แมก็จะไมสบายใจ ออดคิดดูใหดีๆ เอาเองก็ แลวกัน ถาหากวาเห็นควรจะทํามาหากินไกลๆ แมก็ไมหาม และถาจะวาไปเดี๋ยวนี้หัวเมืองก็ดูจะไมไกลนัก เห็น เขาไปมาหากันไดสะดวกคิดถึงกันจะไปมาหาสูกันก็ได ถาออดมาไมไดเพราะติดธุระ แมก็จะลงไปหาที่ปกษใต ไมเห็นจะยากเย็นอะไรหนักหนา ดีเสียอีกแมจะไดไปเที่ยวเตรไดบาง เพราะมีลูกอยูทางโนน" พลอยรูดีวาในความรูสึกอันจริงใจของตนนั้น มิไดอยากใหตาออดจากไปไกลตัวเลยแมแตนอย แตก็จํา ตองแข็งใจพูดไปตามที่ตนเห็นวาถูก ตาออดฟงพลอยพูดแลวก็ถอนใจใหญนิ่งอยู มิไดโตตอบวากระไร คําพูดเปรยๆ ของตาออดในคราวนั้นทําใหพลอยหวาดหวั่นอยูในใจตอมาอีกหลายเดือน กริ่งเกรงไปวา ในวันหนึ่งตาออดอาจตองออกจากบาน เพื่อไปประกอบกิจการงานในสถานที่อันไกล พลอยรูดีวาถาเวลานั้นมา ถึง ตนก็คงไมอาจขัดขืนหรือหามปรามได เพราะไมอยากจะตําหนิตนเองวา กระทําตนเปนอุปสรรค ขัดขวาง ความเจริญในวิถีทางแหงชีวิตของลูก ระหวางนั้นตาออดก็มีอาการเหมือนกับจะคอยอะไรสักอยาง ซึ่งความจริงนั้นตาออดคอยการตัดสินใจ ของตนเองวา พรอมหรือยังที่จะออกจากบานไปทําการงาน ซึ่งตนเชื่อวาจะถูกกับนิสัย และจะเปนผลดีตอไปวัน หนา บางครั้งเมื่อตาออดมีกิริยาเซื่องซึม และพลอยถามวาเปนอะไร ตาออดก็มักจะตอบวา "ไมมีอะไรหรอกแม กลุมใจวาไมมีอะไรทําเทานั้นเอง แตกอนเมื่อยังไมคิดทําการงานก็ไมสูกระไรนัก แต เดี๋ยวนี้ไปลองทํางานเขา แลวก็ตองออกมาเลยกลุมๆ อยางไรชอบกล ออดเองก็บอกไมถูก" แตเรื่องที่ทําใหตาออดตองตัดสินใจนั้นมาจากคนอื่นคือพี่นองของตาออดเอง ตามปกติในบานนั้น เวลา จะไปไหนมาไหนใชรถกันอยูสามคัน คือรถเล็กๆ ที่ตาอั้นขับเองใชอยูเปนสวนตัวคันหนึ่ง รถสวนตัวของคุณเสวี ใชรวมกับประไพคันหนึ่ง และรถประจําบานซึ่งเกาแกมาก สําหรับพลอยและตาออดใชไปกิจธุระ โดยตาออดขับ เองบาง หรือใชคนขับบางอีกคันหนึ่ง เนื่องดวยรถคันนี้เปนรถเกา และเครื่องเสียอยูบอยๆ ตาออดจึงแนะนําให พลอยซื้อรถคันใหมสักคันหนึ่งไวใชสอย ซึ่งพลอยก็เห็นดวย ฉะนั้นวันหนึ่งขณะที่ตาอั้น ประไพและคุณเสวีนั่ง อยูที่ตึกพรอมกับตาออด พลอยจึงพูดกับตาอั้นขึ้นวา "อั้น ออดเขาบอกใหแมเปลี่ยนรถยนตคันใหม เวลานี้เงินอยูที่แมไมพอ ยังขาดอีกพันกวาๆ อั้นชวยถอน เงินจากแบ็งคมาใหแมดวยอีกสักสองพัน แมจะไดเก็บไวใชจายทางบาน" ความจริงพลอยเอยถึงตาออดไปโดยมิไดนึกวา ใครจะคิดไปเปนอยางอื่น แตตาอั้นหันขวับมาทางพลอย แลวพูดขึ้นวา "รถคันเกาเปนอะไรไปหรือคุณแม" "ก็เห็นออดเขาวาเครื่องมันเกาเต็มที เสียบอยๆ ใชสอยไมสะดวก" พลอยตอบโดยมิไดสงสัย "อั้นก็เห็นยังใชไดดี ไมเห็นจะเปนอะไรเลย" ตาอั้นพูด "ลําพังคุณแมใชคนเดียวก็ใชนานๆ ครั้ง ไมใชวา จะหนักหนาอะไร ทําไมตองเปลี่ยนใหม" "พุทโธ ! พี่อั้นกอ" ตาออดพูดขึ้น "จะพูดเรื่องรถ ทําไมพี่อั้นไมไปดูรถเสียกอนเลา วามันผุพังแคไหน"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy406_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๖ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 4

ตาอั้นเหลียวขวับไปทางตาออดทันที แลวพูดดวยน้ําเสียงที่ไมนาฟงเลยวา "ออด ถาออดอยากขี่รถคันใหมๆ สวยๆ ออดก็ควรจะหาเงินใชซื้อรถเอง ถาออดทําอยางนั้นจะไมมีใคร วาอะไรเลย แตเรื่องจะเอาเงินคุณแมไปซื้อรถเลนโกๆ นั้นพี่ไมเห็นดวย" "เดี๋ยวกอนอั้น" พลอยรีบพูดขึ้นเพราะเห็นเรื่องจะลุกลามไปกันใหญ "เรื่องนี้ไมใชความผิดของตาออด แมเปนคนอยากไดรถใหมเอง อั้นอยาไปโทษนองเปลาๆ" "ผมไมไดโทษใครทั้งนั้น" ตาอั้นตอบโดยไมเหลียวหนามามองดูพลอย "ลําพังคุณแมรอยวันพันปก็ไมเห็นไดไปไหน ถาซื้อรถใหมมาจริง อีกหนอยก็จะกลายเปนรถเกาอีก โดย คุณแมไมตองใชเลย เราก็โตๆ กันแลวทุกคน ใครอยากไดอะไรใชใหถูกใจ ก็ควรจะหาเอาเองบาง ไมใชนั่งกิน นอนกินจากกงสี ปลอยใหคนอื่นเขาทํางานกันตัวเปนเกลียว คนที่เราเห็นวาควรจะนั่งกินนอนกิน ไดสบายใจ บานนี้ก็มีแตคุณแมคนเดียว" "พี่อั้นหมายถึงออดใชไหม" ตาออดถามดวยน้ําเสียงที่ทําใหพลอยไมสบายใจนัก "ถูกแลว" ตาอั้นตอบตรงๆ "ออดรูตัวเสียทีก็ดีเหมือนกัน วาเดี๋ยวนี้ออดทําตัวไมใหพี่นองนับถือได เพราะ ออดเอาเปรียบคนอื่น" "เอะ ! ก็ไมเคยไปเกี่ยวกับใครแลวจะวาเอาเปรียบอยางไรได" ตาออดรองขึ้น "เอาเปรียบดวยวิธีไมทําอะไรเลยนั่นแหละ" ตาอั้นตอบ "ถึงแมวาเวลานี้ทรัพยสมบัติทั้งหลายในบานนี้ จะยังรวมอยูเปนกองกลางเปนของคุณแมคนเดียว ยังไมไดแบงปนกันก็ตามที แตตอไป..." ตาอั้นหยุดครูหนึ่ง แลวพูดตอไปวา "ตอไปก็คงจะตอแบงกันในระหวางลูกๆ ของคุณแมสักวันหนึ่ง ลูกคนอื่นเวลานี้เปนหลักเปน ฐาน ไมมีใครมาชวยคุณแมใชใหหมดเปลือง ยังเหลือแตออดคนเดียว และในที่สุดก็ยังจะมีสิทธิ์ไดรับสวนแบง ของที่เหลือเทากับพี่นองคนอื่น อยางนี้หรือที่ออดวาไมไดเอาเปรียบ" "พี่อั้น ออดไมนึกเลย..." ออดพูดตะกุกตะกัก ใบหนานั้นซีดเผือดดวยความละอายและความช้ําใจ พลอย ตองรีบพูดอีกครั้งหนึ่งวา "อั้น เมื่อกี้เราพูดกันอยูดวยเรื่องรถยนต อั้นจะเห็นควรซื้อใหมหรือไมควร ก็นาจะพูดในเรื่องนั้น ทําไมจะ ตองพูดไปถึงเรื่องอื่น จนกลายเปนแบงมรดกแมกันตอหนาแม อั้นไมเห็นกับนองก็ควรจะเห็นกับแมบาง" เสียงคุณเสวีพูดสอดขึ้นวา "ความจริงรถผมก็ยังมีอยูอีกคัน ถาคุณแมมีธุระจะเรียกใชสอยเมื่อไร ผมก็จะยินดีมาก จริงไหมประไพ" "ไพก็เห็นอยางนั้นเหมือนกัน" ประไพพูดตอขึ้นมา "รถของเราที่เรือนก็มีอยางที่คุณเสวีวา คุณแมจะเรียก ใชเมื่อไรก็ได แลวรถพี่อั้นก็มีอีกทั้งคันไมเสียหายอะไร คุณแมจะใชคันไหนก็ได เหมือนกับรถคุณแมเอง ไมเห็น จะตองไปซื้อรถใหมใหเสียเงินเสียทอง" "เปนอันวาตั้งแตนี้ตอไปคุณแมไมตองมีอะไรของตัวเอง ชั้นแตรถก็จะตองยืมของคนอื่นเขาขี่ อยางนั้น หรือประไพ" ตาออดถามนองสาวดวยเสียงขุนๆ "คุณแมก็คงมีทุกอยาง เรื่องรถนั้นก็เทากับเปนของคุณแม เพราะเปนของลูกๆ ไมเห็นจะเสียหายอะไร เลย พวกเราอยากใหคุณแมใชของของเรา เรารูสึกพอใจที่ไดสนองคุณของคุณแมที่เลี้ยงเรามาตนโตเทานั้นเอง" ประไพตอบ "ประไพ !" ตาออดเรียกนองสาว "ประไพอยากจะวาๆ พี่เปนคนที่คุณแมเลี้ยงไมรูจักโตใชหรือไม" "ก็พี่ออดคิดเอาเองก็แลวกัน ไพเปนนอง พูดไปก็ไมดี" "ขอบใจ ประไพ" ตาออดพูดดวยสําเนียงเปนปกติ ซึ่งแสดงใหพลอยรูวาตาออดตองขมใจเพียงไร "ขอบ ใจพี่อั้น ออดรูตัวอยูดีแลว ถึงวันนี้ก็ไดความรูเพิ่มเติมอีกเปนอยางดีวา พี่นองของออดเปนอยางไร ตอไปนี้ออด ก็จะไมเอาเปรียบใครใหวาไดอีก" พูดแลวตาออดก็นิ่งอยูอีกครูหนึ่ง เมื่อไมเห็นใครโตตอบวากระไรตอไป ตาออดก็เดินออกนอกหองไปคน เดียว ตั้งแตวันนั้นมาพลอยก็รูดีวา ตาออดจะตองออกจากบานไปเสี่ยงโชคชะตาของนที่อื่น เพราะถึงแมวาตา ออดจะหวงตนรักตนสักเพียงใด ตาออดก็คงจะไมอยูในบานที่พี่นองเหยียดหยาม และเมื่อไปแลวตาออดก็คงจะ ไมกลับมาอีก จนกวาเหตุที่พี่นองจะดูถูกเหยียดหยามไดนั้นจะหมดไป พลอยซึ่งรูนิสัยใจคอตาออดดียิ่งกวา ใครๆ ก็ยอมรูอยูแกใจวา ถอยคําที่พูดกันในระหวางพี่นองในวันนั้น ไดกอใหเกิดความเจ็บช้ําน้ําใจแกตาออดเสีย เกินกวาที่พลอยจะรักษาแกไขใหหายได คนที่จะแกความเจ็บช้ําน้ําใจนั้นได ก็คือตัวตาออดเองและเวลา ซึ่ง สามารถทําใหความรูสึกทุกอยางเลือนรางไป อีกไมกี่วันตอมาตาออดก็มาบอกพลอยวา จะไปทํางานกับเพื่อนที่เขาชวนไวทางปกษใต เมื่อพลอยถาม วาจะตองการเงินทองเทาไรเพื่อจะไปเขาหุนเขาทุนกับเขา ตาออดก็สั่นหัวตอบวา "ลูกคิดวาจะไปมือเปลา ไมขอเงินของคุณแมใหใครมาวาไดอีก ลูกมีไปใหเขาแตกําลังกายกําลังความคิด เพียงสองอยางเทานี้ก็จะเปนทุนพอแลวกระมัง" วันที่ตาออดมาลาออกเดินทางไปในตอนเชานั้น พลอยไดแตใจหายและเศราใจจนพูดอะไรไมถูก จะใหพร

http://www.geocities.com/siamstory/ploy406_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๖ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 4

ตาออดก็ขาดๆ วิ่นๆ ไดแตลูบหัวตาออดแลวสั่งแลวสั่งอีก ใหกลับมาหาพลอยเมื่อมีเวลาวาง ซึ่งตาออดก็รับคํา และปลอบโยนพลอยวาตนมิไดไปไกลหนักหนา พอมีที่อยูเปนที่เปนทางแลว ก็จะกลับมารับพลอยไปเที่ยว ให ไปอยูดวยกันนานๆ ทางปกษใต ตาออดเดินลงเรือนไปแลว พลอยก็หันหนากลับเขาหอง จะมองดูอะไรก็รูสึกเหี่ยวแหง หมดอาลัย ตายอยากไปสิ้น ความรูสึกตัววาถูกทอดทิ้งใหอยูคนเดียวในโลกนั้น มีมากเพียงจะทับถมหัวใจ พลอยเดินไปนั่ง ที่มาเครื่องแปง เปดลิ้นชักเบาๆ หยิบเอากรงนกที่มีนกตัวเล็กๆ รองไดดวยไขลาน ที่เสด็จประทานไวหลายสิบป มาแลวขึ้นมาพินิจดู ของเลนของคนโบราณ มีแตความหมายเปนสัญญาณ ใหพลอยไดนึกถึงความหลังที่ลวงพน ไปแลวไกล พลอยไขลานที่กรงนก แลวก็กดสปริงเปดใหนกรองเพลง เสียงรองดังเหมือนเสียงคนรองไห... พลอยวางกรงนกนั้นลง แลวก็กมหนาฟุบอยูกับมาเครื่องแปงนั้นนาน...

http://www.geocities.com/siamstory/ploy406_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๗ (หนา ๑)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๗ (หนาที่ ๑) ตาออดเดินทางไปปกษใตแลว ตาอนก็ยังอยูที่เกาะ พลอยรูสึกวาโลกนี้แคบลงกวาเดิมเปนหนักหนา เพราะในบานเวลานี้เหลือแตตาอั้นและประไพที่เปนลูกและคุณเสวีที่เปนเขย ยายพิศที่เคยเลี้ยงพลอยมาแตยัง เด็ก และอยูดวยกันมาตลอดชีวิตนั้นเจ็บปวยเรื้อรังดวยโรคชรา จนวันหนึ่งยายพิศเขานอนแลวก็หลับหายไป ไม ตื่นขึ้นมาอีก เหมือนกับผลไมอันสุกงอมที่รวงหลนลงมาเองจากตน ความตายที่มาดึงเอาตัวยายพิศไป ทําให พลอยรูสึกวาลูกโซที่ผูกมัดตัวพลอยไวกับความหลังตางๆ นั้นหลุดหายไปอีกเปาะหนึ่ง แมแตพอเพิ่มพี่ชาย ซึ่ง เคยไปหาสูเสมอเมื่อครั้งตาออดยังอยูบาน ก็พลอยหายหนาไปไมมาบอยนัก ตั้งแตตาออดออกจากบานไปแลว ถึงแมวาตาออดจะมีหนังสือมาถึงพลอยเสมอ และในหนังสือที่มีมา ตาออดจะพยายามพูดจา ดวยคารมที่ สนุกสนานเชนเคย ตลอดจนมีขาวคราวจากตาอนสงมาใหเสมอ พลอยก็ยังคิดถึงตาออดเปนอยางยิ่งยวดอยูนั่น เอง เพราะเพียงแตหนังสือซึ่งมาถึงเปนครั้งเปนคราว ไมสามารถจะแทนตัวตาออด ที่เคยนั่งพูดนั่งคุยอยูเปน ประจําได บางครั้งหนังสือจากตาออด ก็ทําใหพลอยนั่งรองไหอยูคนเดียว เพราะตาออดพูดมาดวยถอยคําที่ สะกิดใจ เปนตนวาตาออดเขียนมาครั้งหนึ่งวา "ลูกยิ่งมาอยูไกลแมมากเทาไร ลูกก็ยิ่งมองเห็นพระคุณของแมมากขึ้นทุกวัน ที่ลูกเติบโตเปนตัวมาไดทุก วันนี้ ก็เพราะแมไดทะนุถนอมเลี้ยงลูกมา ที่ลูกไดมีวิชาความรูพอจะทํามาหากินได ก็เพราะแมเปนคนให ลูกมิ ไดหมายถึงความรูที่ไปเรียนมาจากนอก แตหมายถึงเหตุผลและความรู ที่แมไดอบรมสั่งสอนใหแกลูกมาตั้งแต เล็กจนโต สอนใหมีความซื่อสัตยใหมีใจเมตตากรุณาตอเพื่อนมนุษย และสอนใหพิจารณาปญหาทุกอยางดวย เหตุผล ดวยใจเปนธรรม จนลูกรูสึกตัวเหมือนกับวามีแมมาอยูขางๆ ตัวลูก คอยกระซิบแนะนําตักเตือนใหลูก กระทําทุกอยางในทางที่ถูกเสมอ เวลาที่ลูกเขียนหนังสือฉบับนี้ เปนเวลาบายเกือบพลบ เสร็จจากงานแลวลูกนั่ง เขียนหนังสืออยูที่เฉลียงหนาบานพัก ใกลกับเหมืองแรที่ลูกทํางาน มองไปขางหนาเห็นภูเขาสลับซับซอนกันขึ้น ไปเปนทิว ฝูงนกตางๆ กําลังบินกลับรัง และพระอาทิตยกําลังลับเหลี่ยมเขาไป ลูกมองออกไปขางหนาลูกก็รูวา แมจะตองชอบภูมิประเทศอยางนี้ ถาแมมาไดจริงก็คงจะนั่งดูอยูที่หนาเรือนนี้ไดทุกวันไมมีเบื่อ ลูกคิดอะไรดวย ใจของแม มองทุกอยางก็ดวยตาของแม ซึ่งทั้งนี้ก็เปนธรรมดา เพราะใจของลูกและตาทั้งคูของลูกนี้ เกิดมาจาก สวนหนึ่งของแม และแมเปนผูใหแกลูก ความสุขตาสุขใจทุกอยาง จึงเกิดมาจากของที่แมไดใหไวทั้งสิ้น" แตทั้งที่พลอยนั่งรองไหอยูคนเดียวเชนนั้น พอพลิกจดหมายตาออดไปอานอีกหนาหนึ่ง พลอยก็ตอง หัวเราะออกมาทั้งน้ําตา เพราะตาออดจะเริ่มเขียนเหลวแหลกตอไปดวยอารมณสนุกวา "แมจา ออดรูแลววาทางปกษใตนี้วิธีที่จะรวยเร็วที่สุด ตั้งตัวไดเลยก็คือหาลูกสาวเศรษฐี ขนาดเจาของ เหมืองเปนเมียสักคน เทานั้นเองแหละแมงายดีไหม เวลานี้ออดมองไวแลวสองคน มีเงินนับไมถวนพอๆ กัน คน หนึ่ง ๕๐ กวาเขาไปแลว ตาบอดขางหนึ่งและฟนหางๆ กันราวกับเสาสะพาน อีกคนหนึ่งอายุเพิ่งหกขวบ ขี้มูกขี้ ตาเปรอะ ขี้ออนจังเลย แมชวยเลือกทีเถิดวาอยากไดคนไหนเปนลูกสะใภ ใจลูกนั้นเห็นวาคนแรกดีกวา เพราะ จะไมตองคอยมรดกแกนาน สวนคนหลังนั้นกลัววาลูกจะตายเสียกอน จะหาใหดีกวาสองคนนี้ยังไมเจอะตัว และ ลูกก็มาชาไป เพราะคนอื่นๆ ที่พอจะดูไดก็มีคนเขามาควาเอาไปเสียหมดแลว แมชวยบอกมาดวยวาออดควรจะ ทําอยางไรดี" ในระหวางนั้นชอยชักจะรูใจวาพลอยวาเหว จึงออกจากวังมาหา และมาอยูเปนเพื่อนพูดคุยอยูเสมอ บาง ครั้งชอยก็เลยมานอนคางอยูดวยหลายๆ คืน และขณะที่ชอยมาอยูดวย พลอยก็รูสึกวาใจคอชุมชื่น พอจะอดทน ตอความทุกขความเปลาเปลี่ยวใจตางๆ ไดบาง ทั้งนี้เพราะชอยเปนหวงสําคัญในสายโซที่ตอเนื่อง ระหวาง ปจจุบัน อันมีแตความทุกขและอดีตที่มีแตความสุข ถึงแมวาบางเวลาชอยจะมาอยูเฉยๆ ไมตองพูดจาอยางไร พลอยก็พอใจที่มีชอยอยูใกลๆ ทั้งนี้เพราะพลอยออกจากวังมาชานาน ความเปนอยูสวนตัวนั้นก็เปลี่ยนแปลงไป ตามกาลสมัย แตชอยอยูในวังมาตลอด จึงเปนชาววังอยูโดยสมบูรณ ทุกกระเบียดนิ้ว ชาววังอยางที่พลอยเคย รูจักและเคยนิยม กาลสมัยและเวลาที่ลวงเลยไปนั้น มิไดทําใหชอยเปลี่ยนไปกี่มากนอย เวลาชอยมาคางที่บาน ตกเย็นชอยก็จะอาบน้ําและผลัดผา นุงผาลายหมผาแถบสีตามวัน อยางที่หาดูไมไดอีกแลว และผานุงผาหมของ ชอยก็ยังมีกลิ่นอบกลิ่นร่ํา ซึ่งครั้งหนึ่งเคยคุยตอจมูกของพลอยเปนที่สุด พอชอยขึ้นบันไดตึกมา พลอยก็จะได กลิ่นอบกลิ่นร่ํานําหนามากอน และถาหากวาชอยนั่งลงที่ตรงไหน กลิ่นอบกลิ่นร่ําของชาววัง ก็ยังจะ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy407.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๗ (หนา ๑)

Page 2 of 4

หอมติดกระดานอยูนาน หลังจากที่ชอยไดลุกไปแลว ชอยเปนคนๆ เดียวที่พลอยสามารถเลาเรื่องความทุกข ความวิตกเกี่ยวกับเรื่องลูกเตาใหฟง อยางไมมี อะไรปดบัง และชอยก็รับฟงเรื่องราวจากพลอย ดวยความสนใจและเห็นใจ ความเห็นของชอยทําใหพลอยได ความคิดในปญหาของตนในทางที่ใหม เพราะชอยพูดถึงเรื่องตาออดวา "แมพลอย เรื่องพอออดนี้ฉันดูๆ แลวก็ไมเขาใจ แตก็นั่นแหละถึงฉันจะพูดอะไรออกไป แมพลอยก็อยาง เพิ่งเห็นตามฉันไปหมด คิดดูใหดีกอน เพราะเดี๋ยวนี้ฉันเปนยายแกหลงๆ คนหนึ่งเทานั้นเอง ที่ฉันเห็นวาแปลก ก็คือพออดก็อยูมานาน ไมเคยมีเรื่องมีราวกับพี่นอง แตทําไมถึงไดมาเกิดเรื่องนอยเนื้อต่ําใจกันเดี๋ยวนี้ ถา หากวาคนสามคนอยูกันมาไดตลอด ไมผิดพองหมองใจกัน แตตอมามีคนหนึ่งมาอยูดวยเปนคนที่สี่ แลวจึงเกิด ผิดใจกัน ฉันก็อยากจะซัดคนที่สี่นั้นไวกอน วาเปนคนมากอเหตุ แมพลอยจึงควรระวังคนๆ นั้นใหดีๆ" "ชอยหมายถึงคุณเสวีใชใหม" พลอยถาม "อยาใหฉันออกชื่อเลยพลอย" ชอยตอบ "พูดไปเทานี้ก็เปนยายแกยุใหรําตําใหรั่วพอตัวอยูแลว แตที่พูดก็ เพราะฉันเห็นวาแมพลอยไมใชคนอื่นจึงกลาพูด" "คุณเสวีนะเห็นจะชอบกับตาออดแน" พลอยพูด "แตลูกฉันมันก็ไมใชเลนเหมือนกัน ตั้งขอรังเกียจขัด ขวางมาแตแรก ดูไปแลวก็พอกัน เขาตํารับขิงก็ราขาก็แรง ฉันเองก็ไมรูจะคิดอยางไรถูก" พลอยพูดแลวก็ถอนใจ ใหญ "พลอยอยาไปเก็บเอาเรื่องตางๆ มาเปนอารมณมากนักเลย" ชอยพูดปลอบ "วาอันที่จริงพลอยเคราะห ยังดีกวาฉันเปนไหนๆ นาจะสบายใจอยูเปนหนักหนาแลว" "ฉันไมเห็นมีเรื่องอะไรที่นาสบายใจเลยชอย" พลอยตอบอยางออนใจ "วันหนึ่งๆ ก็ไดแตยุงๆ ไปเรื่อง ลูกๆ เตาๆ ไมมีเวลาที่จะไดสุขสบายกายอยางเขาอื่น คิดๆ ไปก็กลุมใจ ไมรูวาไปทํากรรมเวรอะไรมา ชอยเสีย อีกสบายออกจะตายไป ตัวคนเดียวไมมีหวงมีใย จะทําอะไรก็ได" "ขอนี้สิที่พลอยเขาใจผิด" ชอยวา "เรื่องตัวคนเดียวนี้แหละเปนความทุกขของฉัน ทําใหฉันตองนึกอิจฉา พลอยเสมอ วันหนึ่งๆ พลอยก็มีเรื่องคิดเรื่องทําเกี่ยวกับลูกกับเตา ถึงจะดีไมดี จะทุกขจะสุขพลอยก็ยังมีเรื่องคิด ยังรูสึกตัววาไมใชตัวคนเดียว สวนฉันไมมีอะไรเลย มีแตตัว สุขทุกขก็เปนเรื่องของตัวทั้งนั้นไมเกี่ยวกับคนอื่น จนบางครั้งก็เบื่อตัวเองเสียเต็มประดา อยากจะมีคนอื่นมาเกี่ยวของบาง" ชอยหยุดพูดครูหนึ่งแลวพูดตอไปวา "อีกอยางหนึ่งถึงพลอยจะทุกขก็ทุกขในเรื่องอื่น ไมใชทุกขเรื่องมีเรื่องจน เพราะพลอยเปนคนเคราะหดี ตั้งตัวไดเปนหลักเปนฐาน สวนฉันนั้นไดแตนั่งคิดอยูดวยเรื่องชักหนาไมถึงหลัง จะจับจายใชสอยอยางไร ก็ตอง ระมัดระวังไปรอบดาน พลอยก็คงจะรูวาขาวของเดี๋ยวนี้ มันไมถูกเหมือนแตกอน ฉันเองถึงจะตัวคนเดียว ก็ไมมี อะไรหนักหนา แตกอนอยูกับเสด็จก็ไมรูสึก เพราะเจานายทานเลี้ยงคิดแตจะสนุกไปวันหนึ่งๆ เสด็จสิ้นพระชนม ลงไดประทานบางนิดๆ หนอยๆ ก็หมดไปนานแลว เวลานี้ยังมีกินมีใชอยูได ก็เพราะคุณอาสายทิ้งไวบาง ดีอีก อยางหนึ่งที่ยังอาศัยตําหนักเสด็จอยูไดจนทุกวันนี้ แตก็นั่นแหละตําหนักก็เปนของหลวง ใครเขาจะมาไลเมื่อไร ฉันก็ไมรู" "โธชอย !" พลอยออกอุทานดวยความสงสารจับใจ "ฉันไมรูเลยวาชอยตองลําบาก แลวคุณพอคุณแมของ ชอย... บานเกาของชอยนอกวังก็มีมิใชหรือ" ชอยหัวเราะอยางปลงตกแลวตอบวา "คุณพอของฉันจนออกจะตายไป ตายลงเกือบจะไมมีอะไรเหลือ ชั้นแตจะทําศพ คุณอาสายยังตองชวย ออกเปนกอง สวนบานเกานั้นพี่เนื่องเขาขายไปนานแลว เดี๋ยวนี้เขาไปอยูกับเมียเขาที่ปากน้ําโพ มีลูกออกเปน โขลง พูดถึงบานฉันก็อดใจหายไมได เพราะเมื่อเด็กๆ ไดอยูมาอยางมีความสุข ไดออกจากวังมาเที่ยวบาน ก็ ดีใจเสียนี่กระไร เมื่อไมนานนี้เองฉันลองผานไปดู พอเห็นเขาก็ใจเสีย นึกถึงเรื่องเกาๆ แลวก็แทบจะลงนั่งรองไห อยูตรงนั้น อะไรตออะไรมันเปลี่ยนไปหมดแลวละพลอย คลองขางบานที่เราเคยเห็นวากวางเรือแลนไดสบาย เดี๋ยวนี้กลายเปนคูแคบมีแตขยะมูลฝอย ตัวบานก็ผุพังแทบจะจําไมได แลวก็มีเจกเขาไปนั่งกี่กระตุกทอผาอยู เต็ม ทั้งขางบนทั้งใตถุนบาน ดูเหมือนกับคนที่เรารูจักเคยรักเปนหนักหนา แลวก็มาตกยากลําบากจนปอนไป และแกเฒาทรุดโทรมไปจนแทบจะจําไมได" "โธ ! ชอย !" พลอยอุทานอีก "ฉันไมรูเลยจริงๆ ชอยก็เพิ่งจะมาบอกฉันวันนี้วาชอยตองลําบาก ดวยเรื่อง เงินๆ ทองๆ ถาฉันรูเสียกอน......" ชอยไมปลอยใหพลอยพูดจนจบ รีบพูดสอดขึ้นวา "อยาพลอย อยาดีกวา ฉันรูหรอกวาใจแมพลอยนั้นกวางขวางราวกับพระมหาสมุทร แตแมพลอยไมตอง มาชวยเหลืออะไรฉันหรอก เพราะฉันยังอยูไดไมลําบากถึงเพียงนั้น ที่พูดใหฟงก็เพราะอยากใหพลอยเห็นวา เราตางคนตางก็มีทุกขดวยกันทั้งนั้น มากบางนอยบาง ไมใชวาพลอยมีทุกขแตเพียงคนเดียว คิดเสียอยางนี้บาง ทีก็จะระงับความทุกขของตัวเองไดบาง" พลอยไดแตนั่งนิ่งดูเพื่อนที่รูจักกันมาตั้งแตเด็กดวยความสงสาร นานๆ ชอยจึงจะพูดจริงๆ ไมมีตลก คะนองสักครั้งหนึ่ง พลอยถามขึ้นวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy407.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๗ (หนา ๑)

Page 3 of 4

"ถามจริงๆ เถอะชอย เวลานี้ชอยทํามาหากินอะไรบางหรือเปลา หรือวาอยูเฉยๆ" "อยูเฉยไมไดหรอกพลอย" ชอยตอบ "ถาทําอยางนั้นเปนตองอด แตคนอยางฉันจะทําอะไรไดกี่มากนอย เดี๋ยวนี้ก็ทําน้ําอบไทยน้ําปรุงสงไปฝากเขาขายขางนอกบาง รับสบงจีวรเขามาสอยบาง นานๆ ก็มีงานดอกไม มันก็พอกินไปวันหนึ่งๆ ถาเราไมกินอะไรมาก" "ตายจริง !" พลอยพูดอยางรอนใจ "แลวถาเจ็บไขลงทําอยางไร มิลําบากแยหรือ" "ไมเปนไรหรอกเรื่องนั้น" ชอยตอบแลวก็หัวเราะ "ถึงเวลาเจ็บไขเขาก็เอาของเกาออกขาย พอถัวไถไป ได ขอสําคัญอยาอยูไปจนของเกามันหมดก็แลวกัน" คําปรารภของชอยทําใหพลอยเห็นใจชอยยิ่งขึ้นกวาแตกอนเปนหนักหนา เพราะไมเคยปรากฏวา ชอย ไดปรับทุกขสวนตัวใหพลอยไดฟงมากอนเลย ชอยสามารถที่จะทนความทุกขยากของตนไดคนเดียว ไมยอมให ความทุกขของตนพาเพื่อนฝูงใหตองทุกขไปตาม และถาหากชอยจะนําความทุกขของตนออกมาแสดง ความ ประสงคของชอยก็เพื่อจะใหความทุกขของตนนั้น ไดบรรเทาทุกขของเพื่อน ดวยการเปรียบเทียบ ดวยเจตนาที่ จะชวยเพื่อน มากกวาที่จะไดรับความชวยเหลือ ความดีของชอยที่มีตอตนนั้นเปนเครื่องประโลมใจ และเปนทั้งสติสําหรับพลอย และนานเขาความสงสัย ของชอย ที่มีตอคุณเสวีนั้นก็เริ่มจะปรากฏผลเปนจริงเปนจัง ออกมาใหพลอยสังเกตเห็นได นับตั้งแตตาออดออกจากบานไปแลว คุณเสวีก็พยายามที่จะกระทําใหความสัมพันธ ระหวางตนกับพลอย นั้น ใกลชิดสนิทสนมยิ่งขึ้นกวาแตกอน เมื่อครั้งตาออดยังอยูในบานนั้น นานๆ พลอยจึงจะไดพบกับคุณเสวีสัก ครั้งหนึ่ง ตั้งแตตาออดไปแลว คุณเสวีก็เดินขามสนามจากเรือนที่อยู มาหาพลอยที่ตึกแทบทุกวัน บางครั้งก็มี ประไพติดตามมาดวย แตสวนมากคุณเสวีมาคนเดียว ความจริงพลอยไมพยายามคิดเปนอยางอื่น นอกจากจะ มองดูการกระทําของคุณเสวี ดวยความเมตตาและความเห็นใจ เพราะคุณเสวีอาจรูวาพลอยจะตองอยูคนเดียว อยางวาเหว และคงจะหมั่นมาอยูดวยเพื่อนจะไดเปนเพื่อน แตคําพูดของคุณเสวีก็ดี สายตาของคุณเสวีที่ชอบ มองไปรอบๆ เหมือนกับจะประเมินราคาสิ่งของตางๆ ก็ดี ตลอดจนความรูสึกที่วาตาออดไมชอบคุณเสวีนั้นเอง เปนอุปสรรคคอยกันกาง มิใหพลอยสนิทนสนมกับบุตรเขยไดเทาที่ควรจะเปน ตามปกติคุณเสวีก็พูดจากับ พลอย ดวยถอยคําอันสุภาพและเอาอกเอาใจพลอยทุกทาง จนพลอยอดนึกเอ็นดูมิได แตทุกครั้งที่พลอยรูสึกเชน นี้ พลอยก็อดนึกถึงตาออดมิได และมีความรูสึกเหมือนกับวาตนกําลังทรยศตอลูก โดยที่ปลอยตัวใหรักใคร เมตตา คนที่ลูกไมชอบลับหลังลูกขณะที่ลูกไมอยู พลอยรูดีวาความรูสึกเชนนี้ไรเหตุผลและไรสาระ และถาจะวา กันในทางที่ถูก คุณเสวีก็เปนเขย ควรที่จะอยูในขายของความเมตตากรุณาแหงตนไดอยางสมบูรณ โดยไมตอง คํานึงถึงความรูสึกสวนตัวของคนอื่นเลย แตความรูสึกเชนนั้นยังเกิดขึ้นเองอยูเรื่อยๆ ถึงพลอยจะพยายามหัก หามใจสักเพียงไร ก็มิไดหายขาด และดวยความรูสึกที่ขัดกันเองอยูในตัวเชนนี้ พลอยจึงอยากใหคุณเสวีเก็บตัว ไวหางๆ เหมือนแตกอน ไมอยากใหคุณเสวีไปมาหาสูแทบทุกวี่วัน แตพลอยก็ไมสามารถจะทําอะไรได เมื่อลูก เขยจะมาหาพลอยก็จําตองตอนรับ ทั้งที่บอยครั้งพลอยรูสึกตัววา กําลังนั่งภาวนาใหลูกเขยกลับเสียเร็วๆ แตครั้งหนึ่ง คุณเสวีพูดอะไรออกมาบางอยางที่สะกิดใจพลอย ใหตองครุนคิดถึงความปรารถนา และ เจตนาของคุณเสวีที่มีตอตน และตอครอบครัวของตน วันหนึ่งคุณเสวีพูดขึ้นวา "ผมดูๆ คุณอั้นแลวก็อดนึกสงสารไมได เพราะเหนื่อยอยูคนเดียว" คุณเสวีเรียกตาอั้นวา "คุณ" เสมอ เพราะถึงคุณเสวีจะอายุมากกวา และมีฐานะเปนทั้งเพื่อนและทั้งนาย ของตาอั้นก็ตาม คุณเสวีก็ยังเคารพอตาอั้นในฐานพี่ชายของภรรยา "ทําไมหรือพอเสวี" พลอยถามอยางพาซื่อ เพราะไมรูจริงๆ วาตาอั้นเหน็ดเหนื่อยมาดวยเรื่องอะไร "ผมเห็นเขาทํางานที่กระทรวงก็อดชมไมได เพราะงานหนักเทาหนักคุณอั้นเปนตองเอาตัวทุมเทเสมอ ไม เคยหลีกเลี่ยง เสร็จงานทางกระทรวงแลวก็ยังมีงานทางบานจะตองดูแลอีก" "งานอะไรทางบาน ไมเห็นมีอะไรเลย" พลอยพูดอยางงงๆ "อาว ! ก็งานเกี่ยวกับทรัพยสินผลประโยชนของคุณแมเอง ถึงจะไมมากก็ยุงยากอยูเหมือนกัน ถาจะใหดี คุณแมมอบใหใครชวยดูแล แบงเบาภาระคุณอั้นลงไปเสียบาง บางทีก็จะสบายขึ้น มีเวลาพักผอนไดบาง" "ฉันก็ไมเคยไดยินเขาบนเลย" พลอยพูดอยางลังเลไมแนใจ แตคุณเสวียิ้มละไมอยางรูเรื่องดี แลวตอบวา "คุณอั้นไมใชคนที่จะบนกับใคร ยิ่งเปนงานที่คุณแมมอบหมายใหทําแลว คุณอั้นจะไมปริปากเลย ชั้นแต จะขอใหใครเขาไปชวย คุณอั้นก็จะไมเอยปากพูด จนกวาคุณแมจะเปนคนเอยขึ้นกอน" "ฉันก็ไมมีใครอีก จริงๆ นะพอเสวี ลูกเตาก็กระจัดพลัดพรายกันไป อยูคนละทิศละทาง ไมรูจะทําอยาง ไร" พลอยพูดบายเบี่ยง "ความจริงประไพก็อยูวางๆ" คุณเสวีพูดตอ "เวลาผมกับคุณอั้นไปทํางาน ประไพอยูทางนี้คนเดียวทุกวัน ถาหากคุณแมจะเรียกใชสอยก็คงไมขัด" "ชางเถอะพอเสวี" พลอยรีบตอบดักคอขึ้นทันที "ฉันถือเปนคติทีเดียววาผูหญิงที่มีเรือนแลว จะตองมี หนาที่อยูกับผัว อยูกับบานของตัวทิ้งไมได และอีกอยางหนึ่งฉันก็ไมไดเลี้ยงประไพมาใหทํางานแบบนี้ เคยสอน ใหดูแตการบานการเรือน ถึงจะใชใหทําก็คงไมเขาใจ และนิสัยของประไพก็คงไมชอบ"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy407.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๗ (หนา ๑)

Page 4 of 4

คุณเสวีนิ่งอยูครูใหญแลวก็พูดเบาๆ ขึ้นมาวา "แมแตผมเองเขามาอยูในบานนี้ ก็คิดถึงพระคุณคุณแมอยูเสมอ อยากจะชวยทําการงานของคุณแม เพื่อ สนองคุณ ผมจะออกปากพูดกับตาอั้นเขาเองก็ใชที่ เขาจะหาวากาวกาย ถาหากคุณแมเห็นวาพอจะไวใจใชสอย ผมได ไมวาจะเปนเรื่องธุระอยางไร ผมจะดีใจมาก" วาแลวคุณเสวีก็กวาดตาไปรอบหองเชนเคย และในลักษณะ ที่พลอยนึกรําคาญอยูเสมอ "ไมเปนไรหรอกพอเสวี" พลอยตอบ "แลวฉันจะลองถามอั้นเขาดู เขาจะวาอยางไรบางก็ยังไมรู" แลว พลอยก็ทิ้งปญหาไวแคนั้น พอคุณเสวีกลับไปแลว พลอยก็ใหนึกอัศจรรยใจอยูครันๆ วาคุณเสวีจะมีวัตถุประสงค มุงหมายอยางไร ในเรื่องเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ของตน คุณเสวีนั้นนัยวาก็วาชอบพอกับตาอั้นเปนหนักหนา มี่เรื่องราวที่อยากจะชวยเหลือกัน เหตุไฉนคุณเสวีไมยอมพูดกับตาอั้นเอาเอง แตตองมาพูดผานทางพลอย เหมือนกับวาคุณเสวีตองการคําพูดจากปากพลอย ผูเปนเจาทรัพยไวอางเพื่อเปนสิทธิ์ในอํานาจตอไป อีกอยาง หนึ่งดูๆ ไปแลวก็แปลก ที่คุณเสวีมาพูดถึงเรื่องเหลานี้เมื่อตาออดออกจากบานไปแลว หรือวาบางทีตาออดจะ เปนเครื่องกีดขวางอะไรอยูสักอยางดอกกระมัง พลอยสั่นศีรษะชาๆ เหมือนกับพยายามจะสลัดความคิดอันเปน อกุศลใหออกจากตัว "เรานึกมากไปเอง แกเขาก็อาจจะหลงๆ ใหลๆ" พลอยนึกอยูในใจ "เขาก็ไมใชคนยากคน จน ทางบานเขาก็ร่ํารวยไมนอยกวาเรา หรือจะมากกวาเราเสียอีก เขาจะมาใยดีอะไรกะอีกสมบัติเล็กๆ นอยๆ ที่ เรามี คิดเลอะเทอะไมเขาเรื่อง ไมสมกับที่เปนผูใหญ เดี๋ยวเกิดทําทาแมยายที่ดีไมถูก ยายชอยแกจะขับเอาตาย" พลอยบอกกับตัวเองในที่สุด อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy407.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๗ (หนา ๒)

Page 1 of 3

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๗ (หนาที่ ๒) แลววันหนึ่งตอนเย็นกินขาวแลว พลอยอยูกับตาอั้นสองตอสอง เพราะประไพชวนคุณเสวีใหพาไปดูหนัง เฉลิมกรุง พลอยก็เลียบเคียงถามตาอั้นขึ้นวา "อั้น แมสังเกตดูวาอั้นทํางานมาก ทั้งงานหลวงและงานของแม อั้นไมเหนื่อยบางหรือ" ตาอั้นยิ้มแลวก็ตอบวา "ก็ไมเห็นเหน็ดเหนื่อยอะไร ทําไมคุณแมจึงถาม ยิ่งงานของคุณแมแลวยิ่งไมเหน็ดเหนื่อยอะไรเลย เก็บ คาเชาบางอะไรบาง แลวก็สงเขาแบงค คุณแมจะเอาเทาไรผมก็ไปเบิกมาให และคอยดูใหบัญชีมันลงตัว อยาให ใครมาวาทีหลังไดวาโกงคุณแมเทานั้น" "เปลา แมไมไดวาอะไรหรอก นึกวาอั้นเหนื่อยทําคนเดียวไมไหว ถาอยากจะไดใครชวยดูแมก็ไมวา" พลอยตอบ "คุณแมนึกวาจะเอาใครมาชวยผม" ตาอั้นถาม "แมก็ไมรู..." พลอยตอบอึกอัก "อยางคุณเสวีอั้นเห็นเปนอยางไร" ตาอั้นนิ่งอึ้งลงเหมือนกับมีอะไรมาสะกิดใจแลวก็พูดวา "เอ ! คุณแมนึกยังไงขึ้นมาผมไมเขาใจเลย ถึงเสวีเขาจะเปนเขยก็จริง แตเมื่อเรายกประไพใหเขาแลว ก็ ควรจะจะแลวกันไป เราก็ไมไดเรียกรองอะไรเขาหนักหนา ทําไมจะตองเอาตัวเขาเขามาเกี่ยวของในเรื่องเงินๆ ทองๆ ของคุณแม" "แมเห็นเขาชอบกับอั้น นึกวาจะชวยกันอีกแรงหนึ่งไดเทานั้นเอง" "ก็ถูกแลวที่ผมชอบกับเขา แตเรื่องอยางนี้มันก็ตองมีขอบเขตบาง ผมถามอะไรคุณแมจริงๆ เถิด เรื่องนี้ คุณแมคิดขึ้นเองหรือใครมาพูดขึ้น" ตาอั้นถามเอาตรงๆ "แมก็คิด....." พลอยตอบตะกุกตะกัก "ความจริงคุณเสวีเขาพูดขึ้นกอน เขาวาเขาอยากจะทําอะไรที่จะ สนองคุณแม แมก็เลยถามอั้นดู" "ผมนึกวาแลวทีเดียว" ตาอั้นตอบอยางมองเห็นเรื่องตลอด "ประไพเคยมาพูดกับผมเรื่องนี้เหมือนกัน แต ผมทําเฉยๆ เสีย เพราะไมเห็นจําเปน" ตาอั้นนั่งนิ่งๆ เหมือนกับวาคิดอะไรอยูเปนนาน ในที่สุดก็ถามพลอยขึ้นเบาๆ จนเกือบเปนกระซิบวา "คุณแม ผมอยากถามอะไรคุณแมสักอยาง คุณแมก็เคยเห็นคนมามาก คุณแมเห็นวาเสวีเขาเปนคนอยาง ไร" "แมก็เห็นเขาเปนคนดี" พลอยตอบทันที "ในฐานะที่เขาเปนลูกเขยเขาก็ทําตัวเขาถูกทุกอยาง จนบางครั้ง แมออกสงสาร เพราะทางแมเสียอีกทําตัวเปนแมยายเขาไดไมดีนัก ไมคอยจะสนิทสนมกับเขาเทาที่ควร แตอั้นก็ รูอยูแลววาแมคุนกับคนยาก อยางคุณเสวีมารูจักกันเมื่อโต กอนจะไดกับประไพ แมก็ไมไดมีเวลาคุนเคยกับเขา เทาไรนัก เดี๋ยวนี้ก็ยังกระดาก แตก็นั่นแหละนานเขาก็คงคุนกันไปกระมัง" "ผมเองก็พูดไมถูก" ตาอั้นตอบ "บางทีก็นึกวารูจักเขาดี บางทีก็ดูเขาไมออกเลย ไมรูเขาจะมาทาไหน ที่ ผมเห็นแปลกนั้นก็เพราะยายประไพเดี๋ยวนี้เปลี่ยนไป ไมเหมือนคนกอน พูดจาอะไรเปนเสียงเสวีไปหมด" "ก็เปนธรรมดา" พลอยตอบ "ผัวเมียกันก็ตองรักกัน ที่เขาพูดเปนเสียงเดียวกันก็แปลวาเขากลมเกลียว กันดี แมเห็นวาเราควรจะดีใจเสียอีก" "มันไมใชอยางนั้นนะสิคุณแม" ตาอั้นวา "ผมเองก็ไมรูวาจะอธิบายอยางไรถูก ถาหากลําพังแตเขารักกัน กลมเกลียวกัน ผมเองก็จะดีใจที่นองสาวมีความสุข แตฟงคําพูดของประไพบางครั้งเหมือนกับวา แกพูดโดยไม เต็มปาก เหมือนกับวาใครใชใหมาพูด หรือถูกบังคับมา ผมไมคอยสบายใจเลย" "อั้น" พลอยเตือน "คุณเสวีเขาก็เปนเขยแลวเขามาอยูในบานเรา จะคิดอะไรจําทําอะไรหรือจะพูดอะไร เรื่องเขา อั้นควรจะตองระวังใหมาก เพราะเรื่องเขยกับญาติขางเมียนั้นลําบาก ดีไมดีก็จะเก็บไปเลาลือนินทากัน ตางๆ แมเองบางทีก็หนักใจ แตอั้นก็ตองชวยแมคอยดูแลอยาใหเกิดเรื่องไดเปนดี" "ผมรับรองไดวาไมมีเรื่องกับใคร" ตาอั้นตอบ "แตยิ่งดูคนนานๆ เขาผมก็ยิ่งมองไมออกเขาทุกวัน บางที เหมือนกับไมรูจัก แปลกดีเหมือนกัน" ตาอั้นทิ้งทายไวเทานั้น แลวก็มิไดพูดจาวากระไรตอไปอีก" พลอยก็มิไดเอยถึงเรื่องนี้กับใครอีกเชนเดียวกัน จนวันหนึ่งประไพเปนคนมาพูดขึ้นกอนวา "คุณแม เรื่องการเงินการทองในบานทุกวันนี้ คุณแมทราบเรื่องบางหรือเปลา" พลอยตองถอนใจใหญที่ประไพมาชวนพูดถึงเรื่องนี้อีก

http://www.geocities.com/siamstory/ploy407_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๗ (หนา ๒)

Page 2 of 3

"ก็ไมเห็นมีอะไรนี่ประไพ พี่อั้นเขาก็ดูแลเรียบรอย" "ไพกลัวพี่อั้นเขาจะดูคนเดียวไมทั่วถึง เดี๋ยวจะรั่วไหลไปเสียเปลาๆ นาเสียดาย" ประไพตอบ "พี่อั้นก็เปนคนละเอียด แมมอบใหเขาทํามาแตแรก ยังไมเคยเห็นเขาเสียหายอยางไรเลย ประไพมาถาม ขึ้นทําไมเดี๋ยวนี้" พลอยถามอยางรําคาญ "ไพไมไดสงสัยอะไรดอก" ประไพตอบแลวเมินหนาไปทางอื่น "เห็นพี่อั้นทําอยูคนเดียว ก็อยากจะใหมีคน เขารับรูไวบาง เพราะลูกคุณแมก็มีหลายคนดวยกัน จะไดชวยกันเปนหูเปนตา" ความหมายในคําพูดของประไพทําใหพลอยเกือบโมโห เพราะประไพเปนคนที่รักและนับถือตาอั้น มากกวาคนอื่น แตเดี๋ยวนี้กลับเปลี่ยนเสียงไป พลอยพยายามสะกดใจไวแลวพูดวา "ประไพก็รูดีอยูแกใจวาพี่อั้นไมใชคนเหลวไหล ผลประโยชนของแมและของนองๆ เขาก็ตองดูแลเปน อยางดีเสมอ ประไพเองก็เคยเชื่อถือพี่อั้นมาแตกอน เดี๋ยวนี้เปนอะไรไป จึงดูเหมือนกับวาไมใวใจ ประไพเปน อะไรไป" "ไพก็ไมอยากสนใจกับเรื่องเหลานี้ ไมอยากพูดจาอะไรทั้งนั้น แตก็นั่นแหละ........." ประไพพูดยังไมจบ ทําทาเหมือนจะพูดอะไรตอไปแลวก็นิ่งเฉยเสียไมพูด "ประไพฟงแมกอน" พลอยพูดแตเบาๆ "ธรรมดาคนเรามีลูกมีผัว เราก็ตองเชื่อฟงตองเอาใจ เพราะถึงจะ ชั่วดีก็ไดชื่อวาเปนผัวของเรา เกิดมาเปนลูกผูหญิงสําคัญที่ผัว ผิดพลาดลงไปก็มีแตทางเสียเปรียบ แตถึงอยาง นั้นก็ตามที เราก็จะตองยับยั้งชั่งใจในเรื่องราวทุกอยาง มิใชวาจะโอนออนตามไปเสียหมด ลูกผัวจะพูดอะไรออก มา เราก็ตองคิดดูใหดีวาถูกหรือผิด ถาถูกก็ตองทําตาม ถาผิดก็ตองตักเตือนกันไป โดยอยาใหถึงทะเลาะวิวาท แตนอกจากผัวแลวประไพยังมีแมมีพี่นองคนอื่น สําหรับตัวแมเองนะไมเปนไรหรอก เพราะถึงจะอยางไรก็ไมมี วันจะทอดทิ้งลูกได แตพี่นองที่คลานตามกันออกมานั้น ประไพตองคิดดูใหดีๆ ถึงจะไมดีไปกวาผัว ซึ่งเปรียบ เหมือนคนๆ เดียวกัน แตก็ยังตองรักษาน้ําใจกันไวบาง ประไพจะพูดจะจาอะไรก็อยาใหกระเทือนถึงพี่นอง เขา จะเสียใจ แมรักลูกทุกคนเทาเทียมกัน อยากใหกลมเกลียวกันอยูเสมอแมจึงไดเตือน" ประไพถอนใจใหญ กมหนามองกระดานอยูนานแลวก็พูดขึ้นวา "ไพก็กลุมใจเหมือนกัน แตก็ไมรูจะทําอยางไรถูก เรื่องพี่ออดทีหนึ่งแลว แตพี่ออดก็ไมเอาเรื่องเอาราว ไพหวังดีตอพี่ออดก็เลยเอะอะไปตาม แตเดี๋ยวนี้คุณเสวีกับพี่อั้นดูมีนัยๆ กันอยู ไพก็ไมรูจะทําอยางไรถูก คุณเส วีเขาก็ไมไดวาอะไรมาก เขาบอกแตเพียงวาไพควรเหลียวแลเงินทองของคุณแมบาง ถาคุณแมถืออยูเองก็ไม เปนไร แตนี่พี่อั้นทําอยูคนเดียวทั้งหมด หากคุณแมเปนอะไรไปไพก็จะลําบาก เสียเปรียบเขาเพราะไมรูเรื่องราว มากอน" พลอยรูสึกเศราใจในคําพูดของประไพ และรูสึกเห็นนิสัยลูกเขยที่เปนคนหวงเรื่องทรัพยสมบัติ จนเกิน กวาเหตุ พรอมกันนั้นก็รูสึกหนักใจแทนประไพวา ตอไปจะเปนอยางไร เมื่อตองอยูกับคนที่มีนิสัยอยางนี้ เมื่อ ประไพเห็นพลอยนิ่งอยู ประไพก็พูดตอไปวา "ความจริงคุณเสวีนั้นอะไรๆ ก็ดีหมด เสียแตเปนคนวุนวายเรื่องเงินๆ ทองๆ จนเกินไป ไพก็ไมเคยสนใจ เรื่องเหลานี้ เพราะพอแมเลี้ยงมาก็ไมเคยสอนใหคิดเล็กคิดนอย แตตั้งแตอยูดวยกันมา มีแตเถียงกันหยุมๆ หยิมๆ เรื่องสตางคมาตลอด เขาวางระเบียบเรื่องนี้ราววกับประไพเปนเด็กๆ ตองทะเลาะกันมาหลายครั้งแลว ไพกลุมใจเหลือเกิน" "เรื่องเงินทองเปนเรื่องสําคัญ ประไพ" พลอยตอบ "เวลายังอยูกับพอกับแมก็ไปอีกอยางหนึ่ง เดี๋ยวนี้ ประไพมีเหยามีเรือนเปนของตัวเองแลว ประไพก็ตองคอยระมัดระวังดูแลใหดี จะใชจายอยางเผลอๆ เหมือนแต กอนไมได ที่คุณเสวีเขากวดขันนั้นก็ถูก" "ไพก็อยากจะดูแลเหมือนกัน" ประไพบอก "แตเขาไมเคยปลอยใหไพถือเงินเลย ทุกอยางในบานเขาจาย เองทั้งนั้น ไพอยากไดอะไรก็ตองไปขอเหมือนเด็กๆ แตกอนก็ดีไมขัดใจ แตเดี๋ยวนี้ขออะไรเปนตองมีเรื่องเถียง กันทุกครั้งไป" "นั่นก็เปนเรื่องที่ประไพจะตองพูดจากับคุณเสวีเอาเอง เพราะเปนเรื่องราวของตัวระหวางผัวเมีย แมเขา ไปเกี่ยวของดวยไมได" พลอยพูดกับประไพ แตในใจก็นึกสงสารประไพอยูไมนอย และครั้งนี้เปนครั้งแรก ที่ ประไพยอมรับกับพลอยวามีความบาดหมางในชีวิตสมรส มิไดราบรื่นตลอดไปอยางที่ควรจะเปน "แตแมก็อยากจะเตือนอีกอยางหนึ่ง" พลอยพูดตอ "ประไพควรจะถือวาตัวเปนผูใหญมีเหยามีเรือนแลว จะทําอะไรก็อยาถือเพียงอารมณ โกรธงายหายเร็ว วูวามอยางแตกอน แมไมชอบ จะมีเรื่องราวอะไรที่จะพูดกัน ระหวางผัวเมียก็ควรจะพูดกันดีๆ ได ไมนาจะตองทะเลาะวิวาทกันเลย" "คุณแมไมรูวาคุณเสวีกวนโมโหไพแคไหน บางเวลาก็พูดเปนเจาถอยหมอความ นากลุมใจจะตาย" ประไพตอบ "ประไพ" พลอยนึกอะไรออกขึ้นมาเดี๋ยวนั้น "ธรรมดาผัวเมียอยูดวยกันนั้น ถาจะใหราบรื่นอยูเย็นเปนสุข ก็ควรจะมีลูกดวยกัน เพราะเมื่อมีลูกแลวตางคนก็จะตางเห็นแกลูก บางทีความรักลูกที่มีรวมกันนั้นแหละ จะทํา ใหกลมเกลียวกันไดมากกวาเกา"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy407_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๗ (หนา ๒)

Page 3 of 3

ประไพหัวเราะสายหนาอยางแหงแลงแลวตอบวา "อยาเพิ่งเลยคุณแม เวลานี้ที่ไพยังสบายใจอยูก็เพราะไมมีลูกจะผูกพัน ไมถูกันจริงๆ เมื่อไรก็จะไดตาง คนตางอยู ไมมีเด็กมาตองพลอยลําบาก...." "ยายประไพ !" พลอยพูดอยางตกใจ "นี่แกเอาอะไรมาพูด ไมเคยพบไมเคยเห็น ! มีอยางรึผัวเมียอยูกิน มาดวยกัน ไมถูกกันนิดๆ หนอยๆ ก็ถึงกับคิดจะเลิกจะราง ประไพไปเอาความคิดนี้มาจากไหน แมไมเคยสั่งเคย สอน" "คุณแมก็ดีแตคิดอยางแตกอน" ประไพตอบ "คนแตกอนนี้แตงงานกันแลวก็ทนอยูกันไปไดจนตาย ผัวจะ มีเมียนอยสักกี่คนก็ทนได ผัวจะดูถูกเหยียดย่ําหรือเอาเปรียบอยางไรก็ตองทน ผูหญิงแตกอนถูกถือวาเปนของ ผูชาย ไมมีชีวิตของตัวเอง ไพไมถือเชนนั้น ไพเกิดมาชาติหนึ่ง ถึงจะเปนผูหญิงก็มีชีวิตของตัวเอง แตงงานก็ อยากจะมีความสุข ถาใครใหความสุขแกไพได ไพก็จะอยูกับคนนั้น แตถาเมื่อไรรูวาจะอยูไปก็ไมมีสุข ก็เลิกกิน เสียดีกวา จะอยูทรมานน้ําใจกันไปทําไม" "โธ ! ประไพ !" พลอยพูดเสียงสั่นดวยความหมดหวัง เพราะความเห็นของประไพที่พูดออกมานั้น เหมือนกับเสนตรงอีกเสนหนึ่ง ที่แยกจากความคิดเห็นของตนออกไปเปนมุมฉาก ยิ่งตอความยาวสาวความยึด ก็เหมือนกับวาลากเสนตรงนั้นใหยาวออกไป จุดปลายของเสนตรงแตละเสนก็หางกันออกไปทุกที "โธ ! ประไพ แมไมเคยสั่งเคยสอน" พลอยไดแตบน "ลูกไปเอาความคิดอยางนี้มาจากไหน แมก็รูตัววา แมเปนคนโบราณ ยอมรับวาโง ยอมรับวาไมทันสมัย แตถึงจะสมัยใหมหรือสมัยเกา เราก็หัวอกลูกผูหญิงดวย กัน คงจะไมผิดกันไปหนักหนา คนเราที่เกิดมากับเขาชาติหนึ่ง ก็ยอมจะอยากไดความสุข ขอนี้แมก็รู เพราะแม เองก็อยากได แตขอสําคัญมันอยูที่วาเราจะไดความสุขนั้นมาอยางไร และความสุขชนิดไหน ความสุขที่แมรูวา เปนความสุขอยางเลิศนั้น เกิดจากความปติ ความอิ่มใจที่ทําอะไรใหแกคนที่เรารัก ถาเราไดทําใหคนๆ นั้นพอใจ และมีความสุข ถึงแมเราจะเหน็ดเหนื่อยสักปานใด เราก็ไดรับความสุขนั้นดวยอยางมากมาย ประไพเชื่อแมเถิด ความสุขอันแทจริงเกิดจากการให ไมใชเกิดเพราะอยากไดหรือหยิบเอา เพราะความสุขอยางนั้นไมมีอิ่มไมมีพอ สูความสุขอยางที่แมเลือกแลวไมได แมอยูกับคุณพอของประไพมาตลอดชีวิต ไดรับความสุขตลอดมา เพราะแม รูวาแมทําใหทานไดสุขกายสบายใจ มีความทุกขมาจากที่อื่น แมก็เขาแบงเบารับเอามาเสียบาง ประไพอยานึก แมไมเคยเบื่อหนาย เคยเหมือนกัน แตแมก็อดทนมา จนเดี๋ยวนี้แมก็รูแลววาความสุขที่แมไดรับจากคุณพอของ ประไพนั้น ไมมีอะไรมาเปรียบได จนเดี๋ยวนี้แมแตนึกถึง แมก็ยังอิ่มใจ เพราะแมไดใหแกคนที่แมรักและคนที่รัก แมทุกอยาง ไมมีอะไรบกพรอง" "เอ ! ก็เห็นเขาวากันวา คุณแมไมไดรักกับเจาคุณพอกอนแตงงานไมใชหรือ" ประไพถามขึ้นอยางสงสัย "เขาไหนวา" พลอยถามอยางตกใจ เพราะไมเคยนึกวาประไพจะรูเรื่อง "คุณปาอุน" ประไพตอบ "คุณพี่ก็ชางไปเอาอะไรมาเลาใหเด็กฟง" พลอยพูดแลวก็ถอนใจใหญ "แมก็ไมแนใจนักหรอกประไพ รูแต วาคุณพอเธอรักแมมาแตกอนแตงงานแนนอน เพราะเธอเที่ยวติดตามไปทุกแหง แตสําหรับตัวแมเอง... แมก็ บอกไมถูก บางทีแมจะรักเธอโดยแมไมรูตัวกระมัง เพราะถาไมรักที่ไหนแมจะยอมเอออวย เจาคุณตาของ ประไพ ทานก็ใชวาจะบังคับกดขี่ ทานถามแมกอนแมตกลงทานจึงไดรับหมั้น" พลอยพูดเบาลงทุกที เพราะภาพเกาๆ จากความหลังกําลังเลื่อนลอยกลับมาสูสายตา ภาพหนา ประตูศรีสุดาวงศตอนเชา ผูคนเดินขวักไขว... สายตาคูหนึ่งจองดูพลอยและติดตามไปตลอด ไมวา พลอยจะเดินไปทางไหน... ทองทุงที่บางปะอิน... เด็กสาวๆ สองคนพายเรืออยูกลางทุงที่เต็มไปดวย ดอกบัว ผักตบสันตะวาและกระจับ เรือขนมจีนที่มาจอดขางๆ กลิ่นขนมจีนน้ําพริก กลิ่นขาวเมาทอด ยังจําได... ยังไมนานเลยคุณเปรม ยังไมนานเลย...... พลอยรูสึกวาตาทั้งสองขางเริ่มฝาฟาง เพราะไอน้ําตาเริ่มจะมาเคลือบคลุมแกวตาทั้งสอง เสียงตัวเองพูด กับประไพตอไป แตดังคอยๆ เหมือนกับมีใครมาพูดแผวๆ อยูไกลๆ วา "แตเดี๋ยวนี้แมรูดี ประไพ ! แมรูดีเหลือเกินวา ตั้งแตแมเกิดมาเปนตัวจนถึงบัดนี้ แมไมเคยรักใครเทากับ คุณพอของประไพเลย" ลมเย็นๆ โชยเขามาทางหนาตาง แลวสายลมนั้นก็ลูบไลไปตามแขนตามหลังของพลอย เหมือนกับวามี มือของใครที่เยือกเย็นดวยความรักอันละเอียดออน มาลูบหลังลูบแขนอยูไปมาดวยความขอบใจ ดวยความเห็น ใจ เสียงประไพพูดอะไรเบาๆ พลอยตองเรียกตัวเองกลับจากความหลัง และเงี่ยหูฟงคําพูดของประไพ ประไพพูดวา "ที่คุณแมวามานั้นก็ถูก ถาเปนคนที่เรารักกันจริงๆ เราก็พอจะทําใหได แตไพไมแนใจเสียแลววาไพรัก คุณเสวี" เทานั้นเอง แลวประไพก็ลุกไป ปลอยใหพลอยตองนั่งตกตะลึงอยูแตคนเดียว

http://www.geocities.com/siamstory/ploy407_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๘ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 3

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๘ (หนาที่ ๑) ความจริงขาวสงครามที่เกิดในยุโรปนั้น ตาอั้นเปนคนนํามาบอกพลอย เมื่อนานมาแลว ในเชาวันนั้นตา อั้นพบกับพลอยตอนกินอาหารเชา และบอกกับพลอยดวยสีหนาอันคร่ําเครียดวา "คุณแม เกิดสงครามอีกแลว" "อาว" พลอยอุทานแทนคําตอบ "ใครรบกันอีกละอั้น สงครามคราวกอนที่รบกันก็ดูเพิ่งเสร็จไปไมนาน เลย" "ระหวางเยอรมันฝายหนึ่ง อังกฤษฝรั่งเศสอีกฝายหนึ่ง" ตาอั้นตอบ "ก็เหมือนคราวกอนนั่นเอง" พลอยวา พลางกมหนาตักอาหารใสจานอยูครูหนึ่งแลวก็พูดขึ้นวา "คราวกอนเยอรมันก็แพไปหนหนึ่งแลว คราวนี้ก็กลับมารบกันใหม อั้นวาใครจะชนะ" "ใจลูกวาเยอรมันจะชนะสงครามคราวนี้" ตาอั้นตอบอยางไมตองคิดเลย พลอยวางสอมชอนเงยหนาขึ้นจากชามมองดูตาอั้นดวยความเอ็นดูและพูดวา "อั้นพูดเสียงเหมือนคุณพอไมมีผิด สงครามคราวกอนแมจําไดวาเคยถามคุณพอครั้งหนึ่ง คุณพอก็ตอบ เปนเสียงเดียวกับที่อั้นพูดวันนี้ไมมีผิดเลย" "เยอรมันเดี๋ยวนี้ไมเหมือนเมื่อครั้งสามสิบปมาแลว" ตาอั้นอธิบายอยางแนใจ "แตกอนนั้นถึงจะมีกําลัง มาก ก็ไมแข็งแรงอยางทุกวันนี้ และผมก็ไมเชื่อวาฝรั่งเศสและอังกฤษจะพรอมที่จะทําสงคราม แตเมื่อจําเปนจะ ตองทําสงคราม ก็คงจะเสียเปรียบเยอรมันมาก สงครามคราวนี้ อาจไมยืดเยื้อเหมือนคราวกอนก็ได" "แลวเมืองไทยเราจะเปนอยางไรบาง จะมีเรื่องเดือดรอนขาวของจะแพงอยางคราวกอนบางไหม อั้นรู เรื่องรูราวดี บอกแมไวบาง แมจะไดเตรียมตัว" "ขณะนี้ก็ยังไมเห็นมีทาทีวาสงครามจะเกี่ยวมาถึงเมืองไทย เพราะเปนเรื่องในยุโรป และถาสงครามเสร็จ เร็วจริงอยางที่ผมนึกไว เมืองไทยเราก็คงไมรูสึกอะไรเลย แตขาวของที่มาจากนอก อาจแพงขึ้นบางก็ได" ตาอั้น พูดแลวก็กมหนากินขาวตอไปเงียบๆ พลอยก็ไดแตนั่งนิ่งๆ เพราะไมรูวาจะทําอยางไรถูก ความจริงเมื่อสงครามยุโรปคราวกอน พลอยก็มิได รูสึกลําบากลําบนอะไรหนักหนา แตมานึกเสียวไสเห็นภัยสงครามอยู ตอนเมื่อเกิดเหตุ ทําใหตาอนตองติดคุก ตะราง จนถูกปลอยเกาะอยูจนทุกวันนี้ ฉะนั้นเมื่อรูวาจะมีรบกันอีกพลอยก็รูสึกไมสบายใจ เสียดายชีวิตมนุษยที่ จะตองเสียไป และสงสารคนเปนอันมากที่จะตองพากันลําบาก ตาอั้นกินขาวอิ่ม และเตรียมตัวลุกจากโตะจะไปทํางาน พลอยไดคิดอะไรขึ้นมาอยางหนึ่งจึงรองขึ้นวา "เดี๋ยวกอนอั้น อยาเพิ่งไป แมก็เพิ่งนึกออก ดูสิเดี๋ยวนี้แมหลงๆ ใหลๆ จนดูเปนคนใจไมไสระกํา" "เรื่องอะไรครับคุณแม" ตาอั้นซึ่งลุกจากโตะแลวถามขึ้นทั้งกําลังยืนอยู "อาว !" พลอยพูดอยางฉงน "ก็เมียของอั้นเขายังอยูที่เมืองนอก เกิดรบพุงกันอยางนี้ เขาจะมิลําบากมาก หรือ อั้นจะทําอยางไรตอไป" ตาอั้นทรุดตัวลงนั่งที่เกาอี้ชาๆ แลวก็พูดขึ้นโดยไมยอมสบตาพลอยวา "เรื่องนี้เปนความผิดของผมเองที่ไมไดบอกคุณแมมากอน ความจริงลูซิลลกับผมหยากันแลว ถึงแมวาผม เปนหวงเขาเวลานี้ ก็ทําอะไรไมได เพราะไมเกี่ยวของกัน" "โธ ! อั้น !" พลอยตองอุทานขึ้นอีกครั้งหนึ่ง "จะหยารางกันทําไมไมบอกแมบาง นี่หยากันตั้งแตเมื่อไร แมไมรูเลย" "ผมตกลงหยากันหลังจากเขาไปเมืองนอก" ตาอั้นตอบเบาๆ "อยูดวยกันก็ไมมีความสุขจึงเลยตกลงกัน ตางคนตางไป ที่ผมไมบอกคุณแมก็เพราะเห็นวาจะทําใหรอนใจเปลาๆ ในระหวางนั้น แตมันเรื่องของผมแทๆ ผมคิดไววานานๆ เสียกอนจึงจะบอก ก็เลยบอกเสียวันนี้" "แลวประไพรูเรื่องนี้หรือเปลา" พลอยถามอยางสงสัย "ประไพรูเรื่องดีมาตลอด" ตาอั้นตอบ "มินาเลา !" พลอยพูดขึ้นแลวก็มิไดพูดอะไรตอไป "ทําไมหรือคุณแม" ตาอั้นถามอยางฉงน "เปลาไมมีอะไรหรอกอั้น แมพูดไปอยางนั้นเอง อยาฟงเลย" พลอยรีบพูดกลบเกลื่อนเสีย เพราะเห็นวา เรื่องของประไพนั้น ยิ่งไดพูดกันนอยเทาไร ก็ยิ่งจะดีขึ้นเทานั้น ตาอั้นมองดูหนาพลอยอยางไมเขาใจ แตก็มิไดปริปากไตถามวาอะไรอีก ในที่สุดตาอั้นก็ลุกไปทํางานตาม

http://www.geocities.com/siamstory/ploy408.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๘ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 3

ปกติ ตั้งแตนั้นมาพลอยก็ไดขาวสงครามเสมอ แตขาวคราวนั้นดูจะเปนไปตามที่ตาอั้นคาดคะเนไว เพราะ ปรากฏวาเยอรมันไดชัยชนะหมดทุกแหง ประเทศเล็กนอยในยุโรปที่ขวางทางเดินของเยอรมันนั้น เยอรมันก็เขา ยึดไดสิ้น และประเทศฝรั่งเศสเอง ก็ตกเปนของเยอรมันภายในเวลาไมกี่วัน ฉะนั้นพลอยก็อดที่จะนึกไมไดวา บางทีตาอั้นซึ่งเปนคนสมัยใหม ไดศึกษาเลาเรียน และสันทัดตอเหตุการณโลกมากกวาคุณเปรม อาจรูเรื่องราว ตางๆ มากกวาคุณเปรม และทํานายการณลวงหนาไดดีกวาที่คุณเปรมเคยกระทํามาครั้งหนึ่ง สําหรับเมืองไทย นั้น สงครามคราวนี้ ในตอนแรกดูเหมือนจะหางไกลไปกวาสงครามสมัยกอน ความสนใจทั่วๆ ไปก็ดูจะมีนอย แมแตพอเพิ่มซึ่งชอบสนใจในเรื่องเหลานี้ ก็ดูจะไมมีความเห็นมาใหอรรถาธิบายไดมากมายนัก แตที่สุดพลอยก็เริ่มจะรูตัววา โลกมนุษยทุกวันนี้แคบลงมากกวาเมื่อยี่สิบปหรือสามสิบปมาแลวนั้น เปน หนักหนา เพราะเหตุการณใดๆ ที่เกิดขึ้นในที่แหงหนึ่งในโลกนั้น ยังจะมีผลกระทบกระเทือนไปถึงที่อื่นๆ ในโลก นี้ดวย โดยที่ระยะทางและความหางไกลไมเขามาเปนอุปสรรคกีดขวางเหมือนเมื่อกอน พลอยรูสึกถึงความจริง ในขอนี้ เมื่อตอนมีการเรียกรองดินแดนคืนจากอินโดจีนฝรั่งเศสกันอยางขนานใหญ ทั้งในกรุงเทพฯ และใน จังหวัดอื่นๆ ทั่วพระราชอาณาจักร ความจริงเหตุการณที่เกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปมาแลวนั้น ถึงแมวาจะเกิดขึ้นใน ชีวิตของพลอย พลอยก็ยังเด็กเกินไปที่จะรูความ แตเทาที่ไดทราบก็จากปากคําบอกเลา ของผูอื่น ถึงเรื่องการ กระทําอันอุกอาจตางๆ ของฝรั่งเศส ซึ่งมีผลทําใหเมืองไทยตองเสียดินแดนไปมาก แตถึงพลอยจะรูสึกวาตนนั้น ใกลชิดตอเหตุการณสําคัญ ที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งกอน ยิ่งกวาคนหนุมสาวในระยะหลังนั้นก็ตาม พลอยก็ยังไม สามารถที่จะใหความสนใจ หรือตื่นเตนในการเรียกรองดินแดนคืนนั้น ไดเทากับคนรุนหลัง สําหรับคนอื่นๆ ใน บานนั้นไมมีปญหา ความเจ็บช้ําน้ําใจ ซึ่งควรจะสุมอยูในหัวอกของคนรุนเดียวกับพลอยหรือกอนนั้นอีกรุนหนึ่ง นั้น ดูเหมือนจะกลับมาปะทุออกจากใจ ของคนรุนที่เกิดมาทีหลัง อยางนาประหลาดใจ และพลอยก็ไดแตนั่งดู เหตุการณตางๆ ที่เกิดขึ้นนั้นอยางใจลอย เหมือนกับที่นั่งดูการแสดงละครอยูหางๆ ไมรูสึกวาตนมีสวนเกี่ยวของ ดวย นับตั้งแตมีการเดินขบวนเรียกรองดินแดน ไปจนถึงบทความตางๆ ทางหนังสือพิมพ และทางวิทยุกระจาย เสียง ซึ่งดูจะรุนแรงขึ้นทุกทีอยางที่พลอยนึกไปไมถึง และในที่สุดก็ปรากฏวามีกรณีพิพาทอินโดจีน ซึ่งตองสง ทหารไปรบพุงวินิจฉัยปญหานั้นกันดวยกําลัง ระหวางนั้นตาออดเขียนจดหมายมาจากปกษใตเปนความวา "หมูนี้ทางจังหวัดที่ออดทํางานอยูเขาดูจะเดินขบวนเรียกรองดินแดนคืนกันเสียจริงๆ ฟงขาว ทางกรุงเทพฯ ก็วามีอยูมาก ใครเขาชวนแมไปเดินขบวนบางหรือเปลา ลูกเห็นวาแมนั่งรักชาติอยูที่บาน ดีกวา ไปเที่ยวเดินขบวน กับเขาดวย เดี๋ยวเปนลมเปนแลงขึ้นมาจะลําบากเปลาๆ ความจริงลูกก็เห็นใจพวกที่เขาเดิน ขบวนอยูมาก แตก็อดนึกไมไดวา ถาในที่สุดเกิดรบกันขึ้นจริงระหวางไทยกับฝรั่งเศส พวกที่เดินขบวนนี้จะไดไป รบสักกี่คน คนที่จะไปก็คงจะเปนทหารทั้งนั้น ซึ่งไมไดมาเดินขบวนเรียกรองอะไรกับเขาสักหนอย คิดๆ ดูแลวก็ แปลก มีเรื่องอยางนี้เมื่อไร ลูกอดคิดถึงลุงเพิ่มไมไดเลย ถาไดอยูใกลๆ กันคงสนุก" แตความจริง พอเพิ่มเองแทนที่จะตื่นเตนในเรื่องนี้ กลับดูเนือยๆ จนพลอยรูสึกประหลาดใจ วันหนึ่งอด ไวไมไดตองถามพอเพิ่มขึ้นวา "คุณหลวง เรื่องรบฝรั่งเศสอะไรนี่ ดูคุณหลวงเนือยๆ ไป ไมเห็นมีเรื่องมาคุยกับฉันบางเลย คุณหลวง เปนพวกฝรั่งเศสไปแลวหรือ" "ปุโธ ! แมพลอยเอาอะไรมาวา" พอเพิ่มรองขึ้น "เมื่อ ๑๑๒ นั้นฉันโตรูความแลวนะ แมพลอยเสียอีกยัง เล็กเกินไป เรื่องจะรักฝรั่งเศสเปนไมมีเสียละฉันนะ แตคราวนี้ใจฉันมันยังไงๆ ก็ไมรู" "อาว ! เปนยังไงไปเลาคุณหลวง ฉันนึกไวทีแรกวาคุณหลวงคงเห็นดวย" "เห็นนะเห็นดวยหรอกแมพลอย แตอีกใจหนึ่งมันใหคิดวาถึงไดคืนมาก็คงจะไมยืด สงครามยุโรปก็ยังไม เสร็จ ถึงฝรั่งเศสจะแพถึงเสียบานเมือง พวกพองเขาก็คงจะมีอีกมาก ที่ไหนเขาจะทิ้งกัน การณขางหนาจะเปน อยางไรฉันเดาไมถูกเลย ไดแตนั่งภาวนาขออยาใหของที่ไดคืนมานั้น ดึงเอาของเกาออกไปอีกเทานั้น" พอเพิ่ม พูดอยางหนักใจ "ทําไม คุณหลวงไมแนใจวาใครจะชนะสงครามคราวนี้หรือ" พลอยถาม "ก็อยางนั้นแหละ" พอเพิ่มตอบ "เรื่องคนชนะฉันไมแนใจ แนใจอยูแตวาถารบกันไปอยางนี้ อีกหนอยก็จะ ตองแพสงครามกันทุกฝายเทานั้นเอง ถึงเมืองไทยเรานี่ก็เถอะ ฉันไมสบายใจเลยทีเดียว" "ก็เขารบกันอยูถึงไหนๆ คุณหลวงจะไปเก็บเอามารอนใจทําไม" พลอยทวงขึ้น "ก็ไมรูซี" พอเพิ่มตอบ "แตการรบกันที่อินโดจีนคราวนี้ ทําใหฉันรูสึกวาความวุนวายมันใกลตัวเขามา แม พลอยรูไหม" พอเพิ่มลดเสียงลงเล็กนอยแลวพูดตอไปวา "เวลานี้ฉันไมกลัวฝรั่งหรอก ฉันกลัวแตญี่ปุนเทานั้น" "ไปกลัวเขาทําไมเลาคุณหลวง" พลอยซัก "ก็ดูเขาชอบพอกับเราดีออก ไมเห็นเคยมากาวกายอะไรนี่" "ถึงอยางนั้นก็เถิด ถาเผื่อญี่ปุนเกิดรบกับฝรั่งขึ้นมา ฉันกลัววาเราจะตองพลอยยุงไปดวย เพราะเราจะ กลายเปนเมืองหนาทัพทีเดียว" "ฉันนึกไมถึงหรอก" พลอยพูด "ฉันเคยรูจักญี่ปุนมาหลายคน ดูเขาเรียบรอยอยางเราๆ นารักออก หมอ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy408.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๘ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 3

ทาเคดา ฉันก็ยังเคยรักษา คนใจดีๆ อยางนั้นจะไปรบกับใคร" "ฉันไมเห็นจะเกี่ยวอะไรกับหมอทาเคดาเลย แมพลอยกอ" พอเพิ่มพูดอยางหัวเสียนิดๆ "อาว ! ก็หมอแกเปนญี่ปุนนี่คุณหลวง" พลอยตอบ "ฉันขี้เกียจคุยกับผูหญิงเสียจริงทีเดียว" พอเพิ่มปรารภขึ้นกับบรรยากาศทั่วไป "เคยรักษาหมอญี่ปุน เลย นึกวาญี่ปุนเหมือนอยางนั้นไปหมด พิลึกละ" แลวพอเพิ่มก็ชวนพลอยคุยดวยเรื่องอื่นไมยอดพูดถึงเรื่องนี้อีก ในที่สุดเหตุการณทางดานอินโดจีนก็ผานพนไป โดยญี่ปุนเปนผูเขามาระงับกรณีพิพาท เริ่มการเจรจาอัน เปนผลใหทางฝายไทยไดรับดินแดนคืนมาบาง เชน ทางพระตะบอง เสียมราฐ จําปาศักดิ์ และทางเหนือที่เรียก วาจังหวัดลานชาง การตกลงเลิกรบและไดดินแดนคืนมานั้น ทําใหทุกคนถอนใจโลงอก และดูเหมือนจะพอใจ และถึงแมวาพลอยมิไดมีสวนเกี่ยวของอะไรเลย พลอยก็รูสึกวาพอใจไปดวย ทุกอยางดูเหมือนจะสงบราบคาบดีอยูพักหนึ่ง และสงครามที่พลอยเคยรูสึกวากระชั้นชิดเขามานั้น ก็ดูจะ หางไกลออกไปอีก แตความสงบครั้งนี้อยูไปไดไมกี่เดือน ในที่สุดขาวสงครามก็กลับมาใหม และกลับมาอยางนา สพึงกลัว เพราะมีเสียงพูดกันอยางหนาหูที่สุดวา ประเทศไทยอาจถูกรุกราน ดวยกองทัพตางประเทศ ดวยความ สนใจแกมหวาดหวั่น พลอยก็มักจะเปดวิทยุฟงเสมอ และรายการกระจายเสียงในขณะนั้น เกือบจะไมมีอะไรนอก จากยืนยันวาประเทศไทยนั้นเปนกลางอยางเครงครัด แตการยืนยันความเปนกลางนั้นบอยเขา จนในที่สุดมีแทบ จะทุกวัน และประกาศออกมาดวยเสียงอันเรารอน เหมือนกับวาผูที่ออกประกาศนั้นเอง ก็มีความหวาดกลัวอยู วาเมืองไทยอาจถูกกองทัพของประเทศอื่นจูโจมเขามา เมื่อไรก็ได และในที่สุดก็มีการอานกฎหมายปองกัน ประเทศทางวิทยุอยางยืดยาว กําหนดทําหนาที่ของคนไทยวา จะตองตอสูขาศึกศัตรูอยางไร และถึงกับมีบท บัญญัติใหเผาบานเมือง ทําลายเรือกสวนไรนา ซึ่งเหลานี้ลวนแตเพิ่มความพรั่นพรึงและหนักใจใหแกพลอยทั้ง สิ้น จะหันหนาปรับทุกขกับใครไดก็ไมมี มีแตตาอั้นซึ่งมักจะไมยอมพูดเรื่องนี้ และมักจะระงับเรื่องเสียดวยถอย คําวา "คุณแมก็ชอบไปฟงวิทยุ แลวก็เก็บเอามาทุกขรอนไปเปลาๆ ถาหากสงครามจะเกิดจริง เราก็ไปหามมัน ไมได ระหวางนี้เฉยๆ เสียดีกวา อยาไปเก็บเอามาเปนอารมณเลย ถึงเวลาถาหากเกิดขึ้นจริง เราคอยคิดกัน คุณแมก็ไมใชตัวคนเดียวลูกๆ ก็อยูหลายคน มีกําลังวังชาชวยกันไดทั้งนั้น จะตองไปกลัวอะไร" ถอยคําเชนนี้ของตาอั้นมักจะทําใหพลอยตองคิดถึงตาออดทุกครั้งไป แตตาออดก็สงขาวเขามาวา ตนจะ มากรุงเทพฯ ยังไมได เพราะการงานเพิ่งเริ่ม กําลังมีธุระมาก ทิ้งงานมาก็จะเสียการหมด พอเพิ่มนั้นดูเหมือนจะ ปลงใจตกในเหตุการณทุกอยาง เพราะวันหนึ่งพอเพิ่มเดินหัวรอกั้กๆ เขามาหา แลวถามพลอยขึ้นกอนวา "แมพลอยมีไอพิษเก็บไวที่บานบางหรือเปลา" "คุณหลวงเอาอะไรมาพูดก็ไมรู ฉันจะไปเอาไอพิษที่ไหนมาเก็บไวในบาน ใครจะถึงขั้นเก็บไอพิษกันนะ ฉันไมเคยพบเคยเห็น !" พลอยตอบอยางไมเขาใจ "อาว ! ฉันจะไปรูเรอะ" พอเพิ่มพูดอยางมีอารมณขัน "ก็เมื่อคืน ฉันไดยินวิทยุรัฐบาล เขาประกาศกัน ออกลั่นไปวา ถาใครมารุกรานเมืองไทย เขาจะใชไอพิษตอสู แลวเขาก็เลยบอกบุญมาดวยวา ถาใครมีไอพิษเก็บ เอาไวก็ใหเอาไปใหแกทางการ ฉันฟงแลวชางถูกใจเสียจริงๆ แตฉันเองไมมีไอพิษ เก็บไวไมทัน เลยมาถามแม พลอยดู เผื่อจะเก็บไวบาง" "พุทโธ ! คุณหลวงนี่ชางไมมีทุกขมีรอนเสียบางเลยทีเดียว" พลอยบน "บานเมืองจะเปนอยางไรตอไปก็ ไมรู คุณหลวงไมวิตกบางหรือ" "ถึงจะวิตกไปก็เทานั้นแหละแมพลอยเอย" พอเพิ่มตอบอยางอารมณดี "ถาฉันวิตกไปมันก็ปองกันอะไร ไมได เรื่องถึงคราวจะเปนไปมันก็ตองเปนไป เราจะไปรั้งไปเหนี่ยวอะไรก็ไมได ความจริงสงครามมันก็นากลัว อยู ยิ่งสงครามสมัยนี้ยิ่งรุนแรงกวาแตกอน แตนั่นแหละเรามันก็แกแลว แมพลอยอะไรๆ ก็ไดเห็นมาหมดแลว ทั้งทุกขทั้งสุข ถึงไมตายวันนี้ก็ตองตายวันหนา จะชาหรือเร็วกวากัน ก็คงไมเทาไรนัก เราจะตองไปกลัวอะไร" "คุณหลวงพูดก็จริงอยูหรอก" พลอยตอบ "แตฉันมันอดเสียวไสไมได มันใหหวาดหวั่นไปหมด จนไมรูจะ คิดอะไรถูก นี่ถาหากตึงตังกันขึ้นมาจริงๆ ฉันจะทําอยางไร คุณหลวงอยาทิ้งฉันก็แลวกัน" พอเพิ่มยิ้มมองดูอยางปรานีแลวก็พูดวา "ฉันมีนองสาวกับเขาอยูคนเดียว ถาเอะอะขึ้นมาแลวฉันทิ้งแมพลอย ฉันก็ไมใชคนเทานั้นเอง" และพอเพิ่มก็ไดพิสูจนตนใหพลอยไดเห็นในภายหลังวาเปนคนจริงตามคําพูด อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy408.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๘ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๘ (หนาที่ ๒) ปนั้นทั้งตาอั้นและคุณเสวีเปนกรรมการในงานฉลองรัฐธรรมนูญ ซึ่งจัดทําเปนการมโหฬารเหมือนกันทุก ป พลอยจําไดวาในคืนวันที่ ๗ ธันวาคม เปนคืนลองไฟในงานรัฐธรรมนูญ ทั้งตาอั้นประไพและคุณเสวี ไดนัดกัน แลววาจะไปดู และตางคนตางชวนพลอยไปดวย เพราะจะเทากับไปดูงาน และไมตองเบียดคนมาก เทาใน ระหวางที่มีงานจริงๆ แตพลอยก็ปฏิเสธ เพราะรูสึกวาไมมีแกใจที่จะไปเที่ยวเตรในยามนี้ เมื่อลูกๆ ไปแลว พลอยก็เขานอนแตหัวค่ํา คืนนั้นพลอยนอนไมหลับ รูสึกระสับกระสายอยางบอกไมถูก เหมือนกับจะมีสังหรณใน ใจ นอนฟงเสียงรถที่แลนไปมานอกถนนอยูนาน จนเสียงตางๆ คอยซาลงไป พอพลอยเกือบจะเคลิ้มหลับก็มี เสียงกุกกักในหอง และเด็กผูหญิงที่พลอยใชเปนประจําตัว เขามาใกลๆ ที่นอนวา "คุณหญิงเจาคะ คุณหลวงทานมาคอยอยูขางนอกบอกวามีธุระรอนมาก" พลอยรีบลุกขึ้นนั่ง เปดไฟที่หัวนอน เหลือบดูนาฬิกาเวลาหาทุมตรง พลอยรีบลุกเดินออกมาขางนอกดวยความกระวนกระวายใจ เพราะยังไมรูวาจะมีเหตุอะไรเกิดขึ้น พอ เพิ่มนั่งตีสีหนาไมสบายอยูที่หองขางนอก มิไดเปดไฟใหสวางหอง แตเปดไฟฟาดวงเล็กที่ริมฝาไวดวงเดียว ทํา ใหหองนั้นมีแสงสวางสลัวๆ พลอยเดินเขาไปใกลตัวพอเพิ่ม แลวถามขึ้นเบาๆ ดวยเสียงที่ซอนความตื่นเตนไว วา "มีเรื่องอะไรกันคุณหลวง" "ถาจะเกิดเรื่องใหญเสียแลวละแมพลอย" พอเพิ่มตอบเกือบเปนเสียงกระซิบ "ญี่ปุนตามหางรานในนี้ มัน ลุกขึ้นแตงทหารกันเต็มไปหมด" "ไฮ ! คุณหลวงไปไดยินใครเขาหลอกใหกระมัง !" พลอยพูดอยางไมเชื่อหู "ญี่ปุนในนี้ไมใชทหาร จะไป แตงทหารอะไรกัน" "อาว ! จริงๆ นะแมพลอย ฉันเห็นมาดวยตาทีเดียว เขาแตงทหารเดินกันเต็มซอยทรัพยไปหมดแลว" พอเพิ่มตอบ "คุณหลวงไปทําอะไรอยูที่ซอยทรัพยกลางค่ํากลางคืน" พลอยซัก "เอาเถอะนา !" พอเพิ่มวา "อยาซักใหมันนอกเรื่องไปเลย......พอฉันเห็นผิดสังเกตฉันก็แลนไปหานาย ตํารวจ ที่เขาเปนเพื่อนฝูง แตก็ไมพบใคร ไปรูจากเด็กๆ วาทาจะเกิดเรื่องใหญ เพราะญี่ปุนกําลังจะเขาเมือง หรืออะไรอยางนั้น" พลอยยกมือลูบอกแลวก็เลยเอามือกดไวที่ตรงนั้น เพราะหัวใจเตนแรงเต็มที "ตายจริง !" พลอยพูดเสียงสั่น "ตายจริง ! จริงหรือนี่คุณหลวง ! แลวเราจะทําอยางไรกันดี จะหนีไปไหน กันดี ! แลวนี่ลูกเตาฉันไปไหนกันหมดก็ไมรู ! กรรมเวรแทๆ ทีเดียว !" "เบาๆ ไวกอนแมพลอย" พอเพิ่มวา "ทําตัวเปนคนตูมตามไปได ใจเย็นๆ ไวกอน" "แลวกันคุณหลวง" พลอยรองเสียงสั่น "คุณหลวงบอกฉันเองวากําลังจะเกิดศึกเสือเหนือใต แลวกลับ มาบอกไมใหฉันตื่น" "ยังไมถึงขนาดนั้นหรอกแมพลอย" พอเพิ่มตอบ "ยังมีเวลาอยู ยังมีเวลาที่จะพูดจาคิดอานตระเตรียม อะไรทัน เวลานี้ก็ดึกแลว แมพลอยจะนอนเสียกอนก็ยังได ฉันยังไมกลับหรอก จะอยูเปนเพื่อน" "โธ ! ฉันจะมีแกใจไปหลับนอนไดอยางไร" พลอยบน "วาแตคุณหลวงเถิด มานั่งอยูที่นี่ไมหวงทางบาน หรือ" "ไมเปนไรหรอกเรื่องนั้น" พอเพิ่มตอบ "ญาติโยมเขามีถมไป ถึงฉันจะอยูไมอยูก็เทากัน ปานนี้ก็นอน หลับกันอุตุไปหมดแลวไมรูเรื่อง แมพลอยอยูบานคนเดียว ฉันจะอยูเปนเพื่อนกอน" พลอยนึกขอบใจพอเพิ่มเปนที่สุด แตขณะนั้นก็ไมมีใจคอจะพูดวากระไรไดถูก ไดแตลงนั่งใกลๆ พอเพิ่ม แลวก็อยูเงียบๆ มิไดพูดจาวากระไร หยิบหมากขึ้นใสปากเคี้ยวแกกลุม สวนพอเพิ่มก็นั่งสูบบุหรี่ กระแอมกระไอ ไปตามเรื่อง เวลายิ่งดึกลงทุกที เสียงรถยนตวิ่งไกลๆ หลายหนดวยความเร็วสูง เสียงไกขันยามดังขึ้นเปนระยะ ในที่สุดก็มีเสียงรถแลนเขามาในบาน พลอยรีบลุกขึ้นไปชะโงกหนาตางดู เห็นประไพลงจากรถมาแตคนเดียว ก็ รองเรียกเบาๆ จากบนตึก ประไพแหงนหนามาดู แลวก็เดินขึ้นบันไดและเขามาหาในหอง "พี่อั้นกับคุณเสวีไปไหนประไพ ทําไมไมกลับมาดวยกัน" พลอยถามขึ้นกอน "มีคนเขามาตามไปจากงานรัฐธรรมนูญพรอมกันทั้งสองคน บอกวามีราชการดวนใหไปเดี๋ยวนั้น ไพ เลยกลับมากอน" ประไพตอบแลวพูดตอไปทันทีวา "คุณแมรูเรื่องแลวหรือยัง"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy408_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๘ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 4

"รูแลว" พลอยตอบ "คุณลุงมาบอก แลวนี่เราจะทําอยางไรกันดี" "คุณเสวีเขาสั่งใหไพมาบอกคุณแมวาไมตองตกใจ ญี่ปุนเขามาฐานมิตร เขาคงไมทําอะไรเราหรอก" ประไพพูดตอ "คุณเสวี.....คุณเสวีจะไปรูใจเขาไดอยางไร" พลอยถามอยางสงสัย "ก็เห็นเขามีเพื่อนเปนญี่ปุนอยูมาก เขาคงรูกระมัง" ประไพพูดแลวยกมือขึ้นปดปากหาว พลางพูดวา "ระหวางนี้ก็คงไมมีอะไร ไพงวงเหลือเกิน จะขอไปนอนกอน ถาคุณแมมีอะไรใหเด็กไปปลุกก็แลวกัน" แลว ประไพก็เดินจากหองลงบันไดกลับไปเรือนของตน เสียงพอเพิ่มหัวเราะเบาๆ จากเงามืด ทําใหพลอยตองเหลียวไปดู เห็นพลอยมอง พอเพิ่มก็พูดขึ้นวา "แมพลอยควรจะเอาอยางลูกสาวเขา ระหวางนี้ไมมีอะไรก็เขาไปนอนเสียบาง" "ฉันทําไมไดหรอก" พลอยวา "ฉันไมไดคอทั่งสันหลังเหล็กเหมือนคนสมัยนี้ ถึงจะนอนก็คงไมหลับอยูนั่น เอง" พลอยนั่งอยูสองคนกับพอเพิ่มจนรุงสวาง และแมแตหลังเวลาอาหารเชาแลว ตาอั้นและคุณเสวีก็ยังมิได กลับ ทําใหพลอยยิ่งเพิ่มความกระวนกระวายใจยิ่งขึ้น ตาอั้นเปนคนกลับมาถึงบานกอนในตอนสาย ตาอั้นอดนอนเพียงคืนเดียว แตวันนั้นตาอั้นตาลึกกลวง หนาตาซูบซีดเหมือนกับอดนอนมาหลายคืน ตาอั้นเดินเขามาในหอง ทรุดตัวลงนั่งที่เกาอี้อยางออนใจ มองหนา พลอยแลวก็พูดขึ้นวา "คุณแม ! เราเสียเมืองใหญี่ปุนเสียแลว !" พูดไดเทานั้นตาอั้นก็รองไหเหมือนกับเด็กๆ ปราดเดียวพอเพิ่มก็ถึงตัวตาอั้นทันที พอเพิ่มเอาแขนโอบไหลตาอั้นไวแลวก็พูดวา "ไมเปนไรพออั้น ทําใจดีๆ ไวเวลาขางหนายังมีอีกมาก ไมเปนไร พูดจากันกอน เรื่องมันเปนไปยังไงมา ยังไง" นับเปนเวลานานรวมสิบปมาแลวที่พอเพิ่มมิไดเคยแสดงความสนิทสนม หรือแสดงความเมตตาปรานี ตอ ตาอั้นเทาที่พลอยไดเห็นในวันนี้ ภาพที่ไดเห็นนั้นเปนภาพที่จับใจ ถึงแมวาจะไดเห็นในยามคับขัน ก็ยังเปนภาพ ประทับใจ ที่พลอยจะลืมเสียไดยาก ตาอั้นเองก็ดูเหมือนจะรูสึกในความเมตตาของลุง เพราะเหลียวดูหนาลุงและ ยิ้มนอยๆ ทั้งน้ําตาดวยความขอบใจ แลวตาอั้นก็สงบลงเริ่มพูดตอไปวา "ญี่ปุนยกทัพเขามาเมืองไทยตั้งแตเมื่อคืนนี้..... ญี่ปุนประกาศสงครามกับฝรั่ง อังกฤษอเมริกา จะขอยก ทัพผานเมืองไทย โดยยื่นคําขาดใหตอบ ถาเราไมยอมก็จะเขาตีเอา" "แลวอยางไร" พอเพิ่มถามดวยเสียงแหบแหงเหมือนกับเปนหวัด "เราก็ตองยอมเขา" ตาอั้นตอบ "เพราะจะไปสูอยางไรไหว และไมมีใครรูตัวมากอนกี่คน เวลานี้ทหารทาง ปกษใตก็ยังสูรบกับญี่ปุนอยู ทางกรุงเทพฯ บอกวาเจรจาตกลงกันไดแลว จะรูหรือยังก็ไมรู กวาจะรูก็คงจะตาย กันลงไปมาก" "ที่ตกลงกันนะตกลงวากระไร พออั้นรูไหม" พอเพิ่มถามอีก "ก็ตกลงใหญี่ปุนเขาเมืองได" ตาอั้นตอบสั้นๆ "ถาอยางนั้นก็แปลวาเราเปนขี้ขาญี่ปุนแลวนะซี" พอเพิ่มพูดเหมือนกับปรารภกับตนเอง "พวกฑูตเขาวาไมใช เขาวาเรายังเปนเอกราช แตวาเราเปนมิตรกับญี่ปุน แตผมเองก็วาอยางคุณลุง เหมือนกัน" ตาอั้นตอบแลวก็ทําหนาเหมือนจะรองไหอีก พอเพิ่มมองดูตาอั้นอยางเลื่อมใส ซึ่งพลอยสังเกตเห็นไดทันที เพราะพอเพิ่มมิไดมองตาอั้นอยางนี้มา นานแลว มีแตมองดวยสายตาที่ระแวงสงสัยกินใจ แตครั้งนี้ก็เปนครั้งแรก ที่พลอยไดยินจากปากตาอั้นวาเห็น ดวยกับพอเพิ่ม ทําใหนึกขอบใจเทพยดาฟาดินอยูครันๆ วาบุตรของตนและพี่ชายของตนเริ่มจะกลมเกลียวกัน ไดอีก พลอยคิดถึงตาออดขึ้นมาทันที และในทันใดนั้น ขอความที่ตาอั้นพูดก็เสียวปลาบเขาไปในหัวใจ "ญี่ปุนกับ ไทยกําลังรบสูกันอยูทางปกษใต" และตาออดก็อยูที่ปกษใต "อั้น !" พลอยรองเรียกขึ้นอยางละล่ําละลัก "เมื่อกี้อั้นวาเขารบกันอยูที่ปกษใตมิใชหรือ" "ผมก็ไดขาววาอยางนั้น กวาจะติดตอใหเลิกกันไดก็คงตองกินเวลา เพราะเวลานี้ยังไมรูใครเปนใคร อะไรๆ ก็คงตองชะงักไปหมด" "ตายจริง !" พลอยรอง พลางยกมือขึ้นกุมที่คอ "ตายแลว ! ตาออดอยูที่ปกษใต ปานนี้จะเปนอยางไรก็ไม รู !" "ปูโธเอย !" พอเพิ่มรองสอดขึ้นมา "แมพลอยนี่ก็ชางเหลือเข็นจริงๆ เทียว เขาพูดกันเรื่องเสียบานเสีย เมือง นี่หลับไพลไปหวงเอาลูก ราวกับวาตาออดแกเปนเด็กๆ แกไมเปนไรหรอก โตเปนผูใหญแลว" "โธ ! ก็ลูกฉันทั้งคนนี่คุณหลวง" พลอยเถียง "แลวก็ยังมีตาอนอยูทางปกษใตอีก ตาออดก็ชางเถิด พอจะ หนีซุกซอนไปได เพราะไมไดติดคุกติดเลา แตตาอนนั้นเขาลามโซลามตรวนไวอยางไรก็ไมรู ปานนี้คงจะตาย เสียแลวกระมัง" พูดจบพลอยก็เริ่มรองไหทันที

http://www.geocities.com/siamstory/ploy408_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๘ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 4

ตาอั้นเขามาคุกเขาอยูขางๆ ตัว เอามือพลอยไปกุมไวแลวพูดเบาๆ วา "คุณแมอยา....อยารองไห ผมขอเสียทีเถิด อยารองไหใหผมเห็นในเวลานี้ ออดกับพี่อนไมเปนไรหรอก ผมรับรอง เพราะญี่ปุนรบกับทหารไทยอยูที่สงขลา แตออดไมไดอยูที่สงขลา ไปทําเหมืองอยูแถวพังงา ไกลกัน ตั้งเปนกอง พี่อนก็อยูเกาะอีกถึงฝงทะเลหนึ่ง ญี่ปุนยังไปไมถึงแนๆ คุณแมไมตองเปนหวง" เหตุผลของตาอั้นทําใหพลอยคอยคลายใจลง พอจะนั่งสงบเปนปกติอยูไดตอไป ตาอั้นกลับไปนั่งพูดกับ พอเพิ่มเบาๆ ตอบคําถามที่พอเพิ่มตั้งอยูเรื่อยๆ ทั้งสองคนมีหนาตาเศราหมอง ความทุกขความอัปยศความ หมดหวังคับแคนใจ ทําใหพอเพิ่มและตาอั้นกลับหันหนาเขาหากัน และเปนน้ําหนึ่งใจเดียวกันได เหมือนเมื่อครั้ง กอนนานมาแลว ฝายพลอยนั้นก็ไดแตนั่งอยูเงียบๆ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นดูจะมีทั้งขนาดและน้ําหนักใหญโต เกินกวาที่พลอยจะสามารถวินิจฉัย หรือตัดสินใจอยางไรได พลอยรูสึกตัววาตอไปนี้ชีวิตของตนจะเปนอยางไร นั้น สุดแลวแตพี่นองหรือลูกเตาที่เปนผูชาย ถาพลาดจากนั้นก็สุดแลวแตบุญกรรมจะบันดาลใหเปนไป ขณะนี่นั่งกันอยูนั้นเอง คุณเสวีก็เดินเบาๆ เขามาในหองโดยไมมีใครรูตัว ตามแบบที่เคยทําอยูเสมอ พลอยเหลือบเห็นคุณเสวีกอนคนอื่น และสังเกตไดทันทีวาหนาตาของคุณเสวีนั้น ชางผิดจากตาอั้นเสียนี่กระไร เพราะคุณเสวีมีหนาตาแจมใสเบิกบาน มิไดมีรองรอยวาเหน็ดเหนื่อยรวงโรย จากการอดหลับอดนอนคืนยันรุง และมิไดมีริ้วรอยของความทุกขอยางมหันต อยางที่ปรากฏอยูบนใบหนาของตาอั้นเลยแมแตนอย ตาอั้นเห็นหนาคุณเสวีก็ถามขึ้นทันทีวา "เสวีมีขาวเพิ่มเติมอะไรมาอีกบาง" "ไมมีอะไรอีก เราตกลงกันไดเรียบรอยแลว ญี่ปุนเขามาฐานมิตรไมทําอันตราย ตอไปนี้ทุกอยางจะเรียบ รอย ไมมีศึกไมมีสงคราม บานเมืองไมเสียหาย ผูคนไมตองลมตาย และญี่ปุนเขาก็จะเห็นใจเรา จะตองชวยเรา อีกมาก" เสียงพอเพิ่มซึ่งหลีกไปนั่งอยูหางๆ เมื่อเห็นคุณเสวีเขามาในหองไอขึ้นเบาๆ แลวก็ขีดไมขีดไฟจุดบุหรี่ สูบ พนควันโขมง ตาอั้นมองดูหนาคุณเสวีอยางพิศวง และเหมือนเพิ่งไดรูจักกันจริงๆ ครั้งนี้ พลางพูดขึ้นเบาๆ อยางอัศจรรยใจวา "เสวีถามจริงเถิด เราก็เพื่อนกัน เสวีไมรูสึกเดือดรอน.... ไมนึกเสียใจหรือโมโหอะไรบางเลยหรือคราวนี้" คุณเสวียิ้มอยางเบิกบานแลวตอบวา "ก็ไมเห็นมีอะไรที่จะตองเดือดรอนหรือโมโหหรือเสียใจ วากันตามจริงกันกลับดีใจเสียอีก สงครามคราวนี้ เปนสงครามโลก กันรูอยูแตแรกวาถึงอยางไรก็จะตองมาถึงตัวเราสักวันหนึ่ง หลีกเลี่ยงอยางไรก็คงไมพน ขอ สําคัญจึงอยูที่เราจะเขาขางใครในสงครามคราวนี้ ถาเขาขางฝายถูกก็ดีไป แตถาเขาขางฝายผิดก็จะเสียหาย หมดทีเดียว คราวนี้ก็รูกันแลววาเราเปนฝายญี่ปุน คงหมายความวาเราเปนฝายเยอรมันดวย กันจึงดีใจมาก เพราะเราเปนฝายที่เขามีกําลัง ซึ่งกําลังจะชนะสงครามในที่สุด" เสียงพอเพิ่มกระแอมเบาๆ ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง พลอยรูดีวาสิ่งที่มาติดคอพอเพิ่ม ทําใหตองกระแอมนั้น มิใช วัตถุอื่นใดนอกจากความไมศรัทธาในคําพูดของคุณเสวี เสียงตาอั้นพูดขึ้นอยางไมสบายใจวา "กันยังไมเขาใจดีวาเสวีหมายความวากระไร กันรูแตวาญี่ปุนยกทัพเขามาในเมืองไทย แตทําไมเสวีจึงพูด เลยไปวาเราเปนฝายไหนฝายไหน สงครามคราวนี้ถึงญี่ปุนจะยึดเมืองเราได ก็ไมไดแปลวาเราจะตองเปนฝาย ญี่ปุน" "ถาเราปลอยใหเขายึดเฉยๆ โดยไมเขาเปนพวกเขา ก็เทากับเรายอมเปนเมืองขึ้นของญี่ปุน เราจะตอง ลําบาก เพราะเขาจะเขามาโดยไมมีความเกรงใจอะไรเลย แตถาหากวาเราเปนพันธมิตรกับญี่ปุน เขาก็ตองเกรง ใจเราไมมากก็นอย เรื่องนี้ดูไมนาจะเปนปญหาอะไรเลย อั้นก็ควรจะรูดีวาเราสูเขาไมไดแน ถาขืนสูเทากับเรา ยอมทําลายทุกอยางที่เรามี ไมมีวันสรางสมขึ้นไดเหมือนเกาอีกตอไป กรุงเทพฯ จะราบเปนหนากลองไปภายใน วันเดียว ผูคนจะลมตายมากมายสุดที่จะประมาณ แลวเขาก็ยังจะเขามาไดอยูนั่นเอง แตไหนๆ เขาก็เขาไดแลว เราจะทําเรื่องรายใหกลายเปนดีเสียมิดีกวาหรือ" "พอเสวี" เสียงพอเพิ่มพูดขัดจังหวะขึ้น "พอเสวีพูดราวกับวาไมมีฝรั่งเหลืออีกแลวในโลกนี้ เมื่อญี่ปุนรบ กับฝรั่ง แลวเราเขาขางญี่ปุน ก็แปลวาเราจะตองรบกับฝรั่งดวย พอเสวีวาเราจะไปสูเขาไหวหรือ" คุณเสวีหัวเราะกองแลวตอบพอเพิ่มวา "คุณลุงถามอยางนั้นก็ควรอยู เพราะคุณลุงเกิดมาในสมัยที่เราตองกลัวฝรั่งเสียจนแทบจะกระดิกตัวไมได แตเดี๋ยวนี้สมัยนั้นผานพนไปแลว ฝรั่งจะไมมีเหลือในตะวันออกอีกตอไป อีกหนอยญี่ปุนก็จะไลไปหมด แลวฝรั่ง จะไมกลับมาอีก คุณลุงอยาวิตกเรื่องฝรั่งเลยครับ ฝรั่งเดี๋ยวนี้ไมนากลัวเหมือนฝรั่งเมื่อกอนเสียแลว เวลานี้ญี่ปุน กําลังตีฟลิปปนสของอเมริกัน และกําลังเขาโจมตีมาลายูของอังกฤษ จากนั้นก็จะไปพมาและชวา เกาะบอรเนียว และอินเดีย เขาเขาตีทุกดานพรอมกันหมด และถาคุณลุงรูจักน้ําใจทหารญี่ปุนแลว คุณลุงก็จะตองรูวาฝรั่งไมมี ทางสูได ผมวาตอไปออสเตรเลียที่เปนเมืองฝรั่งนั้น ก็จะตองตกเปนของญี่ปุนสักวันหนึ่ง คอยดูกันไปเถิดในเอ เซียนี้ตอไป ก็จะมีแตญี่ปุนกับเราเทานั้นที่จะเปนชาตินํา เพราะเราไหวตัวทันเขากับเขาเสียแตแรก ใครไมรวม มือกับญี่ปุนเวลานี้ก็เทากับไมรักชาติ"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy408_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๘ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 4

ตาอั้นเอามือตบโตะอยางแรงแลวพูดวา "มากไปเสียแลวละเสวี ! กันรูแลววาเสวีเปนพวกญี่ปุน แตอยาเที่ยววาคนอื่นเขาไมรักชาติ ใครๆ ก็รัก ชาติดวยกันทั้งนั้น และคนที่เขารักชาติจริงๆ เขาจะตองวาเสวีนั่นแหละเปนคนขายชาติใหญี่ปุน" คุณเสวีเหลียวมามองตาอั้นแลวยิ้ม แตพลอยเห็นไดทันทีวาการยิ้มนั้น เปนแตเพียงยิ้มดวยใบหนา ใน ดวงตาของคุณเสวีนั้นมีโทสะจริต และความอาฆาตลุกอยูพลุงโพลง เหมือนกับเปลวไฟที่รอนแรง สายตาของ คุณเสวีทําใหพลอยตองขนลุกเกรียวไปทั้งตัว คุณเสวีพูดกับตาอั้นดวยน้ําเสียงเปนปกติวา "อั้น ! เราก็เปนเพื่อนฝูงกันมานาน อยามาแตกกันเสียดวยเรื่องเทานี้เลย เปนอันวาอั้นกับเรา มีความ เห็นกันคนละอยางในเรื่องนี้ แตเราก็ไมจําเปนตองดากันเลนงายๆ เพราะความเห็นไมตรงกัน อั้นคอยดูตอไปก็ แลวกันวาที่เราพูดไวนั้นถูกหรือผิด พูดกันเวลานี้ก็ไมมีทางที่จะตกลงกันได" พูดแลวคุณเสวีก็ยกมือขึ้นปดปากหาว แลวหันมายิ้มกับพลอยพูดวา "เมื่อคืนผมอดนอนทั้งคืน เพิ่งรูตัววางวง ตอไปนี้ขออยาใหคุณแมตกใจ หรือเปนหวงอะไรทั้งสิ้น มีอะไรก็ บอกผมได เพราะผมมีเพื่อนฝูงเปนญี่ปุนหลายคน พอจะพูดจาอาศัยไหววานกันไดเสมอ" พูดแลวคุณเสวีก็เดินออกจากหองกลับไปเรือน ทิ้งคนทั้งสามใหนั่งตกตะลึงมองดูหนากันอยู ตาอั้นมองตามคุณเสวีจนหายลับไปแลวก็ถอนใจใหญ ปรารภขึ้นเบาๆ วา "คนเรานี่ก็แปลก ยิ่งรูจักกันานเขาก็ยิ่งดูเหมือนไมรูจักเลย และพอถึงที่สุดเขาจริงก็เห็นวาคบไมไดที เดียว" "พออั้นอยาไปยุงกับมันเลย คนพรรคอยางนั้น" พอเพิ่มพูดพลางรีบลุกมานั่งใกลตาอั้น ในสายตาของพอ เพิ่ม เต็มไปดวยความเมตตาความปรารถนาดี และความเห็นใจ ทําใหพลอยนึกอัศจรรยใจวาเหตุการณของบาน เมืองนั้น สามารถทําใหคนที่เคยรักกันตองแหนงหนายกันไป และก็ดวยเหตุการณบานเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น เอง คนที่เคยแหนงหนายระแวงสงสัยกัน ก็กลับมารักใครสนิทชิดชอบกันไดใหม ดูเหมือนวาเหตุอื่นๆ ที่ผูกมัด น้ําใจคน เชนความเกี่ยวดองเปนญาติจะไมสําคัญเสียเลย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy408_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๙ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๙ (หนาที่ ๑) พลอยดูเหตุการณที่เกิดขึ้นเมื่อญี่ปุนเขาเมืองไทยในภายหลังก็รูสึกวาแปลก เพราะในวันแรกๆ นั้น มีแต คนโทมนัส และเห็นวาญี่ปุนนั้นเปนมารรายที่นาสยดสยอง แตภายในเวลาไมเทาไรนัก ความรูสึกเชนนั้น ก็ดูจะ ลืมเลือนกันไป ญี่ปุนเปนจํานวนมากทั้งทหารและพลเรือนเขามาอยูในเมืองไทย รวมกับคนไทยโดยสนิทสนม มี ทหารญี่ปุนผานเขาออกในเมืองไทยนี้อยางมากมาย ไมมีใครรูวาอะไร และภาวะเชนนั้นก็ดูกลายเปนภาวะ ธรรมดา ฝรั่งหมดความสําคัญลงไปจริงๆ อยางที่คุณเสวีไดวาไว และกลายเปนศัตรูหรือเปนคนชนิดที่เหยียด หยามเลนได ไมตองเกรงใจ สวนญี่ปุนกลับกลายเปนคนสําคัญ เปนมหามิตรมีงานการที่ไหนสําคัญ ก็ตองมีนาย ทหารญี่ปุนและพลเรือนญี่ปุนไปปรากฏกาย ในฐานะแขกอันมีเกียรติ พลอยมิสูจะสนใจในรายละเอียดตางๆ และความรูสึกตางๆ ในทางการเมืองเทาไรนัก รูสึกโลงใจแตเพียง วา ความกลัวสงคราม ความรูสึกตะครั่นตะครอที่วาสงครามจะมาถึงตัวเมื่อไรนั้น บัดนี้หมดไปแลว เพราะ สงครามไดมาถึงเขาแลวจริงๆ และเมืองไทยก็เขาสูสงครามในฐานะคูสงคราม โดยลงนามสัญญาเปนพันธมิตร กับฝายญี่ปุน ในโบสถวัดพระแกว แตขณะเดียวกันภัยจากสงคราม ที่พลอยเคยนึกเกรงกลัว ก็มิไดมาปรากฏให เห็น เมืองไทยเคยอยูอยางไรเมื่อกอนสงคราม ก็คงเปนไปอยางนั้นตอไป ความตระหนกตกใจ ที่เกิดขึ้นชั่วครู เมื่อวันที่ ๘ ธันวาคมนั้น ดูจะหมดไปโดยรวดเร็ว และคนไทยสวนมากที่พลอยรูจัก ก็คงดําเนินชีวิตตอไปดวยใบ หนาที่ยิ้มแยมแจมใส ดินฟาอากาศ และสิ่งธรรมชาติตางๆ ก็คงเปนไปเหมือนเกา ไมมีสิ่งใดปรวนแปรในทางที่ จะสอใหเห็นวาบานเมืองวิปริต ฝนยังคงตกทําความชุมชื้นแกแผนดิน แดดยังออกทอแสงใหความอบอุน และนก เล็กใหญที่เคยสงเสียงรองตามตนไมใกลบาน ก็คงสงเสียงรองตอไปอยางเบิกบาน พลอยมองดูสิ่งตางๆ ที่อยู รอบตัวแลว ก็นึกอัศจรรยใจอยูครันๆ สิ่งแรกแหงความเปลี่ยนแปลงที่พลอยเห็นไดก็คือ ราคาของตางๆ ที่เริ่มขยับตัวขึ้นสูง นับตั้งแตวันที่ ญี่ปุนเขา แตอาการเชนนี้พลอยเห็นวาเปนของธรรมดา เพราะเคยปรากฏใหเห็นมาแลว เมื่อครั้งสงครามโลก ครั้งกอน ซึ่งก็มิไดรูสึกเดือดรอนเทาไรนัก พลอยยังจําไดวาคุณเปรมพูดเมื่อครั้งนั้นวา การที่ของขึ้นราคานั้น กลับเปนของดี เพราะหาเงินไดงาย พลอยหาไดรูในขณะนั้นไมวา สงครามคราวกอนกับคราวนี้นั้นหางไกลกัน เปนหนักหนา สิ่งที่สังเกตเห็นอีกอยางหนึ่งก็คือ บางคนเริ่มจะร่ํารวยขึ้นอยางผิดตา คนที่เห็นไดชัดที่สุดก็คือคุณเสวีเอง เพราะนอกจากจะทําราชการแลว คุณเสวียังเที่ยวซื้อขายสินคาตางๆ และมีความสัมพันธในทางการคาขายกับ ญี่ปุนอยางใกลชิด วันหนึ่งขณะที่พลอยนั่งคุยอยูกับประไพสองคน ตาอั้นก็เขามารวมวงคุยดวย แลวถามประไพ ขึ้นวา "ประไพ เขาวาหมูนี้ผัวแกรวยนักมิใชหรือ" "ไพไมรูเรื่องอะไรทั้งนั้น" ประไพตอบ "อาว ! เปนผัวเมียกันทําไมไมรูเรื่อง" ตาอั้นวา "คุณเสวีเขาไมเคยบอกอะไรกับไพเลย ในเรื่องการทํามาหากินของเขา" ประไพพูด "เขาเคยถามแตไพวา คุณแมมีทรัพยสมบัติอะไรอยูที่ไหนบาง ครั้นไพบอกวาไมรูไมสนใจ เขาก็ดุหาวาไมเปนผูใหญ อีกหนอยจะยาก จนไมรูตัว จนไพรําคาญจะตายอยูแลว" "อยางนั้นก็แลวไปเถิด" ตาอั้นพูด "พี่ถามดูอยางนั้นเอง เพราะไดขาววา คุณเสวีของประไพเขารวยมาก เพราะคาขายกับญี่ปุน มินาเลาเขาถึงรักกับญี่ปุนนัก" ตาอั้นพูดทิ้งทายไวเพียงเทานั้น แตพลอยก็พอจะจับหาง เสียง วาตาอั้นเดี๋ยวนี้ไมชอบคุณเสวีเหมือนเมื่อกอน มีความสงสัยกินใจและรังเกียจจนออกนอกหนา และดวย ความรูสึกที่กลับกลายไปนี้เอง ทําใหตาอั้นกลับคิดถึงนองชาย เพราะตาอั้นเปนคนพูดขึ้นกับพลอยเอง ในอีกวัน หนึ่งวา "คุณแมไดขาวจากออดบางหรือไม เปนอยางไรบาง ออดเขาไมเคยเขียนหนังสือถึงผมเลย" "อั้นก็รูดีวาออดแกขี้เกียจเขียนหนังสือออกจะตายไป" พลอยพูดแกตัวแทนลูกคนเล็ก "แตแมเองก็ยัง นานๆ ไดหนังสือแกทีหนึ่ง ไมมีอะไรหรอกเห็นวาสุขสบายดีทุกอยาง" "ความจริงผมไมอยากใหออดไปอยูไกลบานเวลานี้เลย" ตาอั้นพูด "ถาเวลาบานเมืองปกติดีก็ไมเปนไร เลย แตอยูในเวลาศึกสงครามอยางเดี๋ยวนี้ ผมไมสบายใจ อยากใหมาอยูใกลๆ กันมากกวา มีเรื่องราวอะไรจะได ปรึกษาหารือกันได เราก็มีอยูดวยกันไมกี่คน" "แมก็คิดอยางนั้นเหมือนกัน" พลอยพูดดวยความดีใจ "แตไหนๆ ก็จะพูดกันแลวแมจะพูดดวยความจริง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy409.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๙ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 4

ที่ตาออดออกจากบานไปนั้น เห็นจะเปนเพราะความนอยใจพี่นองมากกวาอื่น ถาอั้นอยากใหนองกลับ อั้นก็ควร จะเขียนจดหมายไปพูดจากับเขาโดยดี แมรูวาออดเปนคนรักพี่รักนอง ถาไดหนังสือจากอั้นแกก็คงพอใจ และถา อั้นขอใหกลับแกคงจะกลับ" พลอยหยุดถอนหายใจใหญแลวก็กลาวขึ้นวา "แมเองถาไดลูกมาอยูพรอมหนากันเมื่อไร จะมีความสบายใจเปนที่สุด" ตาอั้นพูดเบาๆ ขึ้นวา "บางทีผมเองจะหุนหันพลันแลนไปหนอยเรื่องตาออด แตผมก็ไมเคยสบายใจเลยตั้งแตแกออกจากบาน ถาคุณแมเห็นวาผมควรจะทําอยางนั้น ผมก็จะลองเขียนหนังสือไปถึงเขากอน" พลอยรูสึกดีใจมากที่ตาอั้นพูดถึงนองชายดวยความรูสึกสํานึกตัว และตั้งแตนั้นมา พลอยก็ไดแตเฝาคอย วา ตาออดจะตอบพี่ชายวาอยางไร จะยอมกลับมาตามคําชักชวนหรือไม แตในที่สุดพลอยก็ไดรับหนังสือจากตา ออดฉบับหนึ่ง มีใจความเกี่ยวกับเรื่องนี้วา "เรื่องที่พี่อั้นเขาเขียนมาชวนลูกกลับบานนั้น ลูกไดเขียนตอบเขาไปโดยตรงฉบับหนึ่งแลววา ขณะนี้การ งานของลูกกําลังพัวพันยังกลับไมได แลวอยาหาวาออดเลนตัวหรืออะไรเลย ขอใหเห็นใจออดบาง เพราะเมื่อ ออดลงมาทางใตนั้น ไมมีความรูอะไรเรื่องเหมืองแรติดหลังมาเลย จึงตองมาใชเวลาศึกษาอยูนาน ระหวางนั้น เพื่อนของออดเขาก็รับเลี้ยงเปนอยางดี มิใหอาทรรอนใจ เดี๋ยวนี้ออดก็มีความรู พอที่จะทําประโยชนตอบแทนให เขาได ถาหากจะทิ้งงานซึ่งกําลังจะเดิน กลับบานเสียเฉยๆ ออดก็จะเปนคนอกตัญูตอมิตร ผูมีพระคุณ ออดทํา ไมได และไมอยากจะทํา เชนนี้ญี่ปุนเขาถือ ใครขืนทํา เพื่อนฝูงญาติพี่นองจะตองควานทองกันเปนแถว ขอให แมเห็นใจออดเถิด ในใจจริงนั้นก็อยากจะกลับมาหาแมเปนที่สุด และขอใหแมไวใจออดวาออดจะกลับมาในทันที และในโอกาสแรกที่จะมาได ระหวางนี้ขอทํางานใชหนี้คนที่เขามีบุญคุณไปอีกสักหนอย พอวางมือไดออดก็จะ มา" ในหนังสือฉบับเดียวกันนั้นเอง มีขาวไมสูดีเกี่ยวกับตาอน ซึ่งตาออดบอกมาวา "พี่อนยายเกาะเสียแลว เขาสั่งยายนักโทษการเมืองทั้งหมดออกจากเกาะตะรุเตา ไปไวที่เกาะเตาอีกฟาก ทะเลหนึ่ง และนัยวาจะสงนักโทษการเมืองจากกรุงเทพฯ ไปสมทบที่นั่น ออดไดพบกับพี่อนประเดี๋ยวเดียว ขณะ เดินทางผานไป เขากระซิบบอกวาที่เกาะเตานี้คงแย เห็นจะไมเหมือนตะรุเตา แตจะจริงหรือไมอยางไรตองดูไป กอน แมอยาเพิ่งวิตก เผื่อเปนอยางไรตอไป ออดจะเปนคนบอกมาเอง แมอยาไปเชื่อใครทั้งสิ้น ออดไมคอย อยากเลาอะไรตออะไรใหแมฟงเลย เพราะถาพูดไมดีก็รูวาจะทําใหแมตองรองไหเสียน้ําตาเปลาๆ ตอไปนี้แม ตองทําใจคอใหเขมแข็ง อยางที่เขาสอนกันอยูทุกวัน เพราะเมืองไทยเราเปนมหาอํานาจขึ้นมาแลว ถาแมไดพบลุงเพิ่ม ชวยถามดวยวาฟงวิทยุหรือเปลา ออดฟงไดขาววาไทยตีเมืองเชียงตุงแตกวันนี้ พอ รุงขึ้นนายเชมเบอรเลน นายกรัฐมนตรีเมืองอังกฤษก็ลาออกเลย เราเกงพิลึกละ" พลอยอานหนังสือตาออดแลวก็รองไหไปหัวเราะไปอยางที่เคยทําเสมอ แตคราวนี้นอกจากจะผิดหวัง ที่ ตาออดขอผลัดตอไปยังไมกลับบานทันทีแลว ยังรูสึกวิตกในโชคชะตาของตาอน ซึ่งยังไมรูวาจะเปนอยางไรตอ ไปอีก เมื่อตาอั้นมาบอกขาววาตาออดบอกวายังกลับไมได ตาอั้นก็พูดเปรยๆ ขึ้นวา "หรือออดเขาจะยังไมหายโกรธผมก็ไมรู" "ไมจริงหรอกอั้น" พลอยรีบแกทันที "ออดเขาเขียนบอกใหแมฟงเสียยืดยาว จดหมายก็ยังอยูนี่ ไมมีเสียง วาออดจะโกรธอั้นเลย เขายังติดเรื่องเกรงใจเพื่อนทางโนนเทานั่นเอง" "คิดๆ ไปก็ดีเหมือนกันที่ออดยังไมกลับ" ตาอั้นพูดขึ้น "ทําไมเลาอั้น" พลอยถามอยางสงสัย "ก็แมเห็นอั้นพูดคราวกอนวาอยากใหออดกลับ" "ทางผมนะไมมีอะไรหรอกคุณแม" ตาอั้นตอบ "แตทางกรุงเทพฯ ทางบานเราเดี๋ยวนี้มันมีอะไรรกหูรกตา อยู ตาออดกลับมาจะทนไหวหรือไมไหวก็ไมรู ยิ่งเปนคนเจาอารมณอยูดวย" "อะไรรกหูรกตา" พลอยพูดเพราะไมเขาใจ "แมก็ใหเขาคอยปดกวาดอยูเสมอ ดูก็เรียบรอยดี" ตาอั้นหัวเราะแลวตอบวา "ไมใชของรกหรอกคุณแม แตคนมันรก ทําอะไรกับแปลกๆ ไมเหมือนแตกอน ผมกลัวตาออดแกรําคาญ เทานั้นเอง" "อั้นหมายถึงใครกันแน" พลอยซักจะเอาความใหได ตาอั้นนิ่งอยูครูหนึ่งแลวก็ตอบเบาๆ วา "ก็นายเสวีลูกเขยของคุณแมนั่นแหละ ตั้งแตญี่ปุนขึ้นนี่ดูผิดไปเปนคนละคน ดูวางกามทําทาใหญโต เปน คนสนิทของญี่ปุนจนผมรําคาญแทบจะทนไมได" "แนะ ! ดูอั้นซี" พลอยรองขึ้น "เวลาจะคบกันชอบกันแมก็ไมรูเรื่องดวยสักหนอย พอไมขอบกัน ก็มาซัด วาเปนลูกเขยของแม ราวกะวาแมเปนคนไปหามาให"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy409.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๙ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 4

ตาอั้นหัวเราะหึๆ ในลําคอแลวพูดวา "ผมเองก็ผิดอยูมากในเรื่องนี้ เสวีเขามาในบานนี้ไดก็เพราะผม เกิดชอบยายประไพขึ้นมาผมก็ไมขัดของ แตเดี๋ยวนี้สังเกตดูประไพก็ไมสูจะมีความสุขนัก" "นั่นซี แมก็หนักใจเหมือนกัน ไมรูจะทําอยางไรดี" "จะทําอยางไรได" ตาอั้นวา "เราเปนผูใหญก็ไดแตนั่งดูไป ประไพแกทนไดก็ทนไป ทนไมไหวก็ตองแยก กันไปขางหนึ่ง" "อั้นก็เหมือนกับคนสมัยใหมอื่นๆ นั่นเอง เอะอะก็ดีแตจะแตกจะราว ไมชวยกันคิดสมานบางเลย" "ถาเปนคนอื่นที่สมานติดผมก็อยากจะสมาน" ตาอั้นวา "แตจะใหไปสมานน้ํากับไฟ หรือขมิ้นกับปูนผมก็ จนปญญา วาที่จริงประไพของเรามันก็ไมใชเลนเหมือนกัน" ตาอั้นพูดทิ้งทายไวแตเพียงเทานั้นทําใหพลอยตองคิด แตตาอั้นก็มิไดแสดงความเห็นอยางไรตอไปอีก ระยะเวลาตอจากนั้นมา เปนเวลาแหงความสงสัยไมเขาใจสําหรับพลอย เพราะการสงครามกําลังเปนไป จริงๆ อยางที่คุณเสวีคาดหมายทํานายไวตั้งแตแรก ญี่ปุนดูจะไดชัยชนะไปเสียทุกแหงหน ไมวาจะเขาตีที่ไหน มลายูตกเปนของญี่ปุนโดยสิ้นเชิง เกาะฟลิปปนส เกาะชวาสุมาตรา บอรเนียวตลอดจนพมาก็ตกเปนของญี่ปุน อีก พลอยไดเห็นรูปภาพการพายแพของฝรั่ง ในหนาหนังสือพิมพแลวก็เริ่มลังเลสงสัยวา ความรูสึกของตนที่มี มาแตกอนวา ฝรั่งนั้นเกงกลาสามารถ อาจผิดพลาดไปก็ได เพราะถึงคราวทดลองกําลังกันเขาจริง ฝรั่งก็พายแพ ไปอยางที่คุณเสวีไดวาไว ในเมืองไทยขณะนั้นดูจะคุนเคยกับญี่ปุนเปนอยางดี ภาพทหารญี่ปุนที่เต็มไปทุกถนนหนทาง ไมกอให เกิดความตระหนกตกใจอีกตอไป แตกลายเปนภาพประจําวันตามธรรมดา คนทั่วๆ ไป โดยเฉพาะเด็กๆ มักจะ พูดญี่ปุนเปนบางประปราย และสินคาตางๆ ที่ขาดแคลนลงแลวนั้น ก็มักจะไปหาไดที่ญี่ปุน คนในบานที่ไมรูสึก เดือดรอนในความขาดแคลนตางๆ เห็นจะมีแตคุณเสวี เพราะคุณเสวีพูดอยูเสมอวา หากพลอยตองการสิ่งใดที่ หาไดยาก เปนตนวาผาหรือน้ําตาล หรือน้ํามันรถยนต คุณเสวีก็อาจหาไดจากญี่ปุนที่ชอบพอกัน แตตาอั้นและ พลอยไมเคยยินดีรับของเหลานี้จากคุณเสวี ตาอั้นนั้นอาจไมรับเพราะทิษฐิมานะ แตพลอยปฏิเสธดวยความรูสึก วา ไมอยากเปนคนที่เอาเปรียบคนอื่นๆ ดวยความฟุมเฟอย ในขณะที่คนอื่นตองขาดแคลน และยังมีความรูสึกที่ วาตนไมอยากเปนหนี้บุญคุณลูกเขยคนนี้ ใหมากจนเกินไป วันหนึ่งพอเพิ่มมาเยี่ยมแลวปรารภขึ้นวา "แมพลอย เมืองไทยเราเดี๋ยวนี้ดูใหญโตเปนมหาอํานาจพอๆ กับญี่ปุนทีเดียวละ" "ก็ดีแลวนี่คุณหลวง เปนมหามิตรกันทั้งที ก็ควรจะใหญโตพอๆ กัน" พลอยตอบ "อะไรก็ชางเถิด" พอเพิ่มวา "ฉันกลุมใจเรื่องวัฒนธรรมนี่เทานั้นเอง ดูทาจะไปกันใหญแลว" "คุณหลวงวาอะไรนะ วัดอะไรที่ไหน" พลอยถามขึ้น เพราะครั้งนี้เปนครั้งแรกที่ไดยินคําวา "วัฒนธรรม" "แมพลอยนี่ทําตัวเปนคนหูปาตาเถื่อนไปได" พอเพิ่มดุ "ไมใชวัดวาอารามอะไรหรอก ศัพทใหมเรียกวา วัฒนธรรม" "แปลวาอะไร" พลอยซัก พอเพิ่มยกมือขึ้นเกาหัวแลวตอบวา "เอ ! คํานี้ฉันก็จน ไมรูวาแปลวาอะไรเหมือนกัน ไดยินแตเขาบอกวา ถาเรามีไอวัฒนธรรมอะไรนี่แลว เราจึงจะเปนมหาอํานาจเทียมบาเทียมไหลกับมหามิตรของเราได" "แลวเราจะมีไดอยางไร วัฒนธรรมอะไรนี่นะ !" "ตองใสหมวก" พอเพิ่มตอบหนาเฉย "ไฮ ! คุณหลวงเอาอะไรมาพูดเหมือนเด็กๆ พูดเลนกัน ฉันยังมองไมเห็นเลยวาหมวกมันเกี่ยวดวย ที่ตรง ไหน !" พลอยรองขึ้น "อาว ! จริงๆ นะแมพลอย" พอเพิ่มพูดพลางหัวเราะ "เมื่อใสหมวกแลวก็ตองใส เกือก คอยดูไปเถิดสนุกละ" "ก็ไมเห็นจะเสียหายตรงไหนเลย หมวกใครๆ ก็ใสทั้งนั้น คุณเปรมก็เคยคลั่งหมวกหางนกยูง ใบละเทาไร ก็ซื้อ คุณหลวงเองก็ใสหมวก ฉันเห็นแตเด็กหนุมๆ สมัยนี้เทานั้นที่ไมคอยใสหมวกกัน ใสเสียก็ดีเหมือนกันจะได กันแดดนายได" "แมพลอยยังไมเขาใจตลอด เขาไมไดสั่งใหใสแตผูชายเทานั้น ผูหญิงก็ตองใสหมวกดวย" พอเพิ่มวา พลอยเริ่มสนใจมากขึ้นอีกนิดหนึ่งทันที ถามพอเพิ่มขึ้นวา "ผูหญิงจะไปใสหมวกไดอยางไร หรือวาจะใหใสหมวกเหมือนแหมม !" "ก็อยางนั้นแหละแมพลอย" พอเพิ่มตอบ "สาวๆ เขาคงชอบกระมัง" พลอยพูดโดยมิไดนึกถึงตัวเลย "เดี๋ยวนี้เขาก็แตงตัวเกือบจะเปนแหมมกันอยู แลว เคราะหดีที่ฉันแกแลว ไมตองกลายเปนแหมมไปดวย" "ที่ไหนได" พอเพิ่มขัดคอ "แมพลอยนะแหละตัวจะตองกลายเปนแหมมไปดวยละ เขาไมไดบอกใหใสแต สาวๆ หรอก สาวแกแมมายก็ตองใสหมวกดวยกันทั้งนั้น"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy409.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๙ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 4

"ตาย !" พลอยรองเสียงหลง "ฉันทําไมไดหรอก อายเขาตาย เมื่อยังสาวๆ ทายเคยใหใสแตเวลาออก นอกบานเขาทุงเขาปาเทานั้น แตอยางนั้นยังหัวเราะขันกันออกจะตายไป" "คอยดูไปก็แลวกัน" พอเพิ่มพูดพลางหัวเราะในลําคอ "ฉันไดยินเขาวาๆ ตอไปใครไมใสหมวก ก็ออกจาก บานไมไดทีเดียว" "ทําไม" "เขาบอกโปลิศจับ" พอเพิ่มตอบหวนๆ พลอยเปนคนไมคอยออกจากบานไปไหนมาไหนอยูแลว ตั้งแตไดยินพอเพิ่มพูดวันนั้น ก็ตั้งใจวาจะไม ออกจากบานอีกจนตาย เพราะไมสามารถนึกเห็นหนาตัวเองในวัยนี้ ภายใตหมวกอยางแหมมได แตประไพนั้นดู ไมเดือดรอนอะไรเลย ใสหมวกแบบตางๆ ไปไหนมาไหนเปนปกติ และดูเหมือนจะตั้งใจเลือก และแสวงหา หมวกแบบใหมๆ ทันสมัยมาใสอยูไดเปนประจํา เกือบจะไมมีซ้ํา ตอคําถามที่พลอยถามวา "ประไพไมรูสึกรําคาญบางหรือ ตองใสหมวกอยูทั้งวัน" "ไมรําคาญหรอกคุณแม ใครๆ เขาก็วาหนาไพรับกับหมวก ทําใหสวยขึ้น วาแตคุณแมเถิด เมื่อไรจะลอง ใสดูบาง ไพจะหามาให หมวกที่ไพใสแลวก็ยังมีอีกหลายใบ" "ไมเอา ! ไมเอา !" พลอยรอง "บาไปคนเดียวเถิดยายประไพ อยามาพาแมใหบาไปดวยเลย !" "คุณแมก็" ประไพหัวเราะอยางอารมณดี "ชางไมมีวัฒนธรรมเสียบางเลย ระวังใหดีเถิดจะถูกตํารวจจับ สักวันหนึ่ง" ตั้งแตนั้นตอมาเรื่องหมวกก็กลายเปนเรื่องใหญมหึมานาตกใจ ทุกคนตางพูดกันแตเรื่องหมวก ผูหญิง สาวๆ ก็ไปนั่งคุยกันเรื่องหมวกทรงตางๆ วาทรงไหนจะงาม ทรงไหนจะทันสมัย คนที่ไมชอบใสหมวก ก็คุยกัน เรื่องความรําคาญของตนที่จะตองใสหมวก รานรวงตางๆ พากันโฆษณาขายหมวกเปนการครึกโครม และทาง ราชการเองก็พูดถึงแตเรื่องหมวกทางวิทยุ ชี้ใหเห็นวาหมวกนั้นเปนของสําคัญยิ่งถึงขนาด "มาลานําไทยไปสู มหาอํานาจ" พลอยไดฟงแลวก็ไดแตสะทอนถอนใจ อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy409.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๙ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 3

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๙ (หนาที่ ๒) วันหนึ่งพลอยนั่งเลนอยูคนเดียวที่สนามหญาหนาตึก ในตอนบาย เห็นใครเดินเขาประตูบานมา ใสหมวก ปกใหญ ก็เพงตามองดูเพราะจําไมได จนคนๆ นั้นเดินเขามาใกลตัวพลอยจึงจําไดวาเปนคุณเชย พลางรองทัก ขึ้นวา "แหม ! คุณเชย ! แตงแหมมเขาแลวแปลกไป ฉันจําไมไดทีเดียว" คุณเชยถอดหมวกออกแลวก็หัวเราะ พลางลดตัวลงนั่งใกลๆ พลอยแลวพูดวา "นั่นนะซีแมพลอย ฉันเองก็กระดากใจ ไมกลาออกจากบานไปหลายวันทีเดียว แตก็จะทําอยางไรได ฉัน มันตองไปไหนมาไหนทํามาหากิน นั่งอยูกับบานเฉยๆ ก็อดตาย ทานบอกใหใสหมวกฉันก็ตองใส แตก็มีกับเขา ใบเดียวนี่แหละ หลวงโอสถเขาไปซื้อมาให พอฉันใสเขาจริงคนซื้อกลับหัวเราะงอหาย ฉันกลุมใจจะตายไปแลว วันนี้คิดถึงแมพลอยเต็มที ออกมาธุระก็เลยแวะมาเยี่ยม มาถามขาวแมพลอยวามีหมวกกับเขาบางหรือยัง" "ยังเลยคุณเชย" พลอยตอบ "ตั้งแตเขาบังคับใหใสหมวก ฉันเลยไมออกจากบาน ธรรมดาฉันก็ไมคอยจะ ไปไหนอยูแลว" "แมพลอยเปนคนเปลี่ยนอะไรยากตลอดมา" คุณเชยวา "ฉันจําไดเมื่อครั้งนุงซิ่นกันใหมๆ แมพลอยวี๊ด วายอยูตั้งนานจึงไดยอมนุง ความจริงไอใสหมวกนะมันก็ดีหรอก ถาใบโตๆ อยางของฉัน มันก็กันแดดได เสีย อยางเดียวแตพอขึ้นสามลอ มันก็ติดลมจะปลิวไปเสียใหได ตองเอามือขึ้นจับ พอเอามือจับหมวก ลมก็ตีผานุง เปดขางลาง หมดวัฒนธรรมไปอีก ยุงจริงๆ ทีเดียว" คุณเชยพูดอยางขบขัน แลวก็เอามือปดปากหาวอยูนาน หาวแลวจึงพูดตอไปวา "แมพลอยขอหมากกินสักคําเถิด ฉันออกจากบานแตเชา ไมไดกินหมากเกือบทั้งวัน ทั้งเปรี้ยวปากทั้ง งวงจะตายอยูแลว" พลอยเลื่อนเชี่ยนหมากที่วางอยูขางตัวอีกดานหนึ่งใหคุณเชยแลวถามวา "ทําไมเดี๋ยวนี้คุณเชยไมถือกระเปาหมากแลวหรือ" "ถืออะไรไดละแมพลอย เดี๋ยวนี้เขาหามกินหมากเด็ดขาดทีเดียว ทีแรกฉันนึกวาจะตองใสเพียงหมวกให เหมือนแหมม แตเดี๋ยวนี้ตองเลิกกินหมากขัดฟนขาวใหเหมือนแหมมดวย" "จริงหรือนี่ คุณเชย !" พลอยรองถามอยางไมเชื่อหูและเมื่อคุณเชยพยักหนารับ พลอยก็รองขึ้นวา "โธกรรมเวรแทๆ ทีเดียว ! ฉันไมนึกเลยวาจะตออยูไปจนไดพบไดเห็นอะไรแปลกๆ ถึงเพียงนี้" "ฉันเองก็ไมนึกเหมือนกันแมพลอยเอย" คุณเชยวา "แตก็ดีเหมือนกันที่ไดอยูมาจนเห็นสนุกดีออก" คุณ เชยหยิบกระโถนไปบวนน้ําหมากแลวพูดวา "นานๆ ไดกินหมากสักคําหนึ่งเลยอรอยจับใจ ฉันไมอยากบวน ไม อยากคายเลยอยากกลืนมันหายเขาไปทั้งคํา นี่ตอนกอนกลับบานฉันก็ตองลางปากถูฟนใหหมดจด ออกหลา งถนนแลวมีรอยน้ําหมากจับไมไดหรอก ฉันกลัวแลว" ความจริงพลอยมิใชคนที่กินหมากมากมายอะไรนัก วันหนึ่งจะกินก็ไมกี่คํา และขัดฟนขาวมากเสียแลว ตั้งแตสมัยเปลี่ยนจากผาโจงกระเบนมาเปนผาซิ่น และเริ่มไวผมยาว แตพอรูแนวาหมากเปนของตองหาม หมวกก็กลายเปนของที่มีความสําคัญขึ้นมาทันที ตองคอยดูแลระมัดระวังมิใหขาดได แตนับตั้งแตวันที่ไดรูขาว หามกินหมากเปนตนมา หมากพลูก็กลายเปนของหายาก เพราะหามมิใหขายกันเหมือนแตกอน หมากพลู เปลี่ยนสภาพจากของธรรมดา เปนของผิดกฎหมาย เหมือนฝนเถื่อนหรือเหลาเถื่อน ตองแอบขายหรือใหกันใน ที่ลับ วิธีจะนําหมากพลูมาสูตลาด ก็ตองทําแบบของเถื่อน คือปกปดซอนเรนมาอยางมิดชิด มิใหผานสายตาเจา พนักงาน แมคาจํานวนมาก กลายเปนคนคาของเถื่อน มีการพูดจากันซุบซิบ และบอกกันดวยสายตาเปน สัญญาณลึกลับ วาที่ไหนมีหมากขาย ที่ไหนมีพลูขาย ในเรื่องหมากพลูที่กลายเปนของเถื่อนนี้ ชอยดูเหมือนจะ สนุกกวาเพื่อน และชอยมีวิธีการมากมายหลายอยาง ที่จะปฏิบัติตนใหถูกตองตามวัฒนธรรม โดยไมเสียหลัก ปฏิบัติเดิมของตน แตอยางใดเลย วันหนึ่งพลอยนั่งอยูชั้นลางของตึกในตอนสาย เห็นชอยเดินเขาบานมา แตงตัวถูกตองตามวัฒนธรรม คือ ใสหมวกนุงผาถุง ในมือถือหอของอยูบางอยาง พลอยเห็นชอยเดินตรงเขามาที่ตึกก็ดีใจ พอจะออกปากรองทัก ใหรูวาตนอยูขางลาง ชอยก็ทําการบางอยางที่ทําใหพลอยตองรอง "วาย !" ขึ้นลั่นดวยความตกใจ เพราะนึกวา ชอยเสียสติไปแลวแนๆ สิ่งมหัศจรรยที่ชอยกําลังทําอยูก็คือ หยุดยืนที่ริมตึก วางหอของลงที่ขั้นบันได ถอด หมวกวางบนหอของ แลวชอยก็เริ่มปลดผาถุงออกจากตัวอยางหนาเฉยที่สุด เหมือนกับวาการแกผาในที่เปด เผยกลางวันแสกๆ นั้นเปนของธรรมดา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy409_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๙ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 3

พลอยตกใจแทบสิ้นสติ ตัวเย็นวาบไปทั้งตัว และพอรองอุทานออกมาดังๆ แลว พลอยก็จองมองไปทาง ชอยอีก ทันใดนั้นพลอยก็เริ่มหัวเราะ แลวก็ตองหัวเราะอีกจนน้ําตาไหล ดวยความขบขันตนเองและขบขันชอย เพราะปรากฏภายในผาถุงที่ชอยนุงมาเพื่อรักษา "วัฒนธรรม" ระหวางเดินทางนั้น ปรากฏวาชอยไดนุงผาลาย โจงกระเบน อยางที่เคยนุงมาแตกอนอีกผืนหนึ่งไวอยางเรียบรอย ชอยไดยินพลอยหัวเราะลั่นอยูในหองชั้นลางของตึก ก็เดินตรงเขามาหาแลวปราศรัยขึ้นวา "นั่นเปนอะไรไปพลอย นั่งหัวเราะคนเดียวเปนบาไปแลวหรือ" "เปลา......ฉันเห็น......ฉันนึก" พลอยพูดใหจบประโยคไมไดเพราะกําลังหัวเราะ "ฉันนึกวาชอยเปนบาไป แลว" "แลวกัน !" ชอยรองลั่น "มาหาดีๆ กลับมาหาวาเปนบา เดี๋ยวกอนแมพลอย...ตั้งสติอารมณใหดีๆ แลว คอยพูดกัน นี่แมพลอยมีอาการอยางนี้มาตั้งแตเมื่อไร เจ็บเปนอะไรไปหรือเปลา ทําไมไมมีใครบอกฉันบาง" ยิ่งฟงคําพูดของชอย พลอยก็ตองหัวเราะตอไปจนเสียดทองกวาจะหยุดหัวเราะ พอพูดจาเปนคําไดก็ เหนื่อยหอบ "ไมเปนไรหรอกชอย ฉันไมไดเจ็บไขอะไรหรอก" พลอยพูดอยางออนใจกับชอย ซึ่งลงมานั่งมองตนดวย ใบหนาที่สมเพชเสียเต็มประดา "ฉันเห็นชอยถอดผานุงออกที่ขางตึก ฉันนึกวาชอยเปนบาไปเสียแลว ลุกขึ้นแกผากลางแจง แตพอเห็น ผาโจงกระเบนอยูขางใน ฉันก็เลยหัวเราะ แลวพอชอยเขามากลับหาวาฉันบา ฉันก็เลยยิ่งกลั้นหัวเราะไมได ใหญ" "ฉันแกผา......ถอดผาถุง......" ชอยพูดอยางงงๆ แลวก็นึกเรื่องราวไดตลอด ชอยเองก็เลยตองหัวเราะจน งอหายเหมือนกัน "เฮอ !" ชอยรองพลางเช็ดน้ําหูน้ําตาแลวพูดตอไปวา "แตวาไปมันก็เหมือนกับคนบาจริงๆ แหละพลอย ชั่วแตวาไมไดบาไปแตฉันเพียงคนเดียว คนอื่นๆ ก็บากันทั้งเมือง" ชอยพูดแลวก็หยิบหอของมาแกออกพลางพูดวา "วันนี้ฉันมีของมาฝาก" "อะไรชอย" พลอยถาม "จุ ! จุ อยาพูดดังไป" ชอยลดเสียงลงต่ําเหมือนเสียงกระซิบ แลวก็เปดหอแรกซึ่งดูดวยตาเปลา ก็เห็นแต เพียงผลเงาะและผลไมอื่น แตในใจกลางนั้นมีหมากดิบปนอยูหลายลูก "ฉันไดมาใหม คิดถึงแมพลอยเลยเอามาให เดี๋ยวนี้หมากดิบหายากออก" ชอยพูดแลวก็แกหออีกหอหนึ่งในนั้นก็มีของอื่นอยูเต็มอีก แลวชอยก็เอามือสอดเขาไปในหอ ดวยอาการ ลึกลับ ลวงเอาใบพลูออกมาอีกหอหนึ่ง แกหอออกใหพลอยดูแลวกระซิบบอกวา "นี่ไงพลอย ใบเหลืองนากินออก รีบหาน้ําพรมเสียหนอย ฉันซุกไวนาน จะกลายเปนพลูนาบอยูแลว" "โธ ! ชอยไมนาจะตองลําบากถึงเพียงนี้เลย ฉันก็พอจะหากินไดอยูหรอกหมากพลู ทําไมถึงจะตองซุกๆ ซอนๆ มาให" "ถึงจะมีกินก็คงจะขนาดหมากแหงพลูนาบ จะไปอรอยอะไร ฉันไดของจริงๆ มาก็เลยตองเอามาฝาก เก็บ ไวกินเถิด" ชอยหยุดพูดอยูครูหนึ่งแลวก็หัวเราะพูดขึ้นวา "ความจริงที่เขาหามไมใหกินหมากกินพลูนี่ก็ดีเหมือนกัน ทําใหกินหมากอรอยขึ้นอีกเปนกอง เพราะตอง แอบกินไมใหใครเห็น เวลานี้ฉันรูสึกตัวเหมือนกับวามีความชั่วอะไรลึกลับ ที่ตองปดบังเอาไวไมใหใครรู เหมือน กับติดฝนหรือเลนเพื่อน สนุกดีออก แตกอนไมเคยมีความชั่วชาอะไรจะตองปดบัง ก็เลยดูกรอยๆ ไป เดี๋ยวนี้ เห็นตัวเองสําคัญขึ้นเองเปนกอง" "ชอยก็ชางหาอะไรมาพูดใหวิตถารไดทุกเรื่อง" พลอยหัวเราะพลางพูดพลาง "วาแตหมูนี้หายไปไหนนาน ไปมัวทําอะไรอยู ฉันนึกวาตายเสียแลวอีก" "ฮึ ! คนอยางฉันไมมีตายงายๆ หรอกพลอย" ชอยวา "แตหมูนี้งานการเต็มมือ เลยไมคอยไดมาหา" "ชอยไปมีงานการอะไรหนักหนา" พลอยถาม "อาว ! ก็เย็บหมวกขายสงเสริมวัฒนธรรมอยางไรละหลอนกอ !" ชอยบอก แลวก็อธิบายตอ "เดี๋ยวนี้ ใครๆ ในวังเขาก็ทําหมวกขายกันทั้งนั้น กําไรดีออกทําขายไมทันเสียอีก พวกโขลนเขานั่งเหลาไมไผ ตะบิด ตะบอยสานเปนหมวก ขายใบหนึ่งตั้งหลายบาท ฝายฉันมันไมมีปญญาถึงเพียงนั้นหรอก หูตาก็ไมคอยจะเห็น เลยทําเอางายๆ แบบนี้ ฉันเอามาฝากแมพลอยใบหนึ่ง ไปไหนมาไหนจะไดใสกะเขาบาง พอกันถูกจับ" พลอยรับหมวกใบเล็กกะทัดรัดที่ชอยยื่นใหมาพิจารณาดู เห็นทําดวยวัตถุที่แปลกก็ถามขึ้นวา "ทําดวยอะไรนี่ชอย นาเอ็นดูดีออก" "บวบ" ชอยตอบ "บวบแหงๆ นี่แหละ ใสแลวเบาหัวลืมไดเลย ไมรูตัววาใสหมวก มันดีอยูที่ตรงนี้ แม พลอยเก็บเอาไวเถิด จวนตัวเขาจะไดใช" หมวกใบนั้นเปนใบหมวกใบแรก และใบเดียวที่พลอยมีในสมัยวัฒนธรรม

http://www.geocities.com/siamstory/ploy409_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๙ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 3

พลอยอดสงสารชอยมิไดเลยในเรื่องวิถีทางแหงชีวิตของชอย ที่แตกตางกับของตนเปนหนักหนา ชอย ตองหาโอกาสทํามาหากินอยูทุกเมื่อ ไมมีลดละ ใครเขาทําอะไรกัน นิยมอะไรกัน ชอยก็ตองโอนออนไปตาม เพื่อหาเลี้ยงชีพเลนการสวมหมวกคราวนี้เปนตน "ชอยชางไมเลือกงานที่จะทําเสียบางเลยนะ" พลอยปรารภขึ้น "เลือกไมไดหรอกพลอย" ชอยตอบ "แลวก็ไมเห็นมีอะไรจะตองเลือก คนที่ยังเหลืออยูในวังเดี๋ยวนี้ ก็ดู เหมือนจะแบบเดียวกับฉันเปนสวนมาก ทางไหนที่พอจะทําได ไมเหลือบากวาแรงก็ตองทําทั้งนั้น ฉันเองก็ชอบ ทํางาน เพราะอยูเฉยๆ ก็เหงา นั่งคิดนอนคิดไปก็จะตายเร็วเสียเปลาๆ ถามีอะไรทําแลวก็ไมคอยทุกข จะไดเงิน มากเงินนอยก็ไมวา ขอใหไดมีอะไรทําก็พอ ฉันดูไปแลวก็สงสารคนในวัง ที่ยังเหลืออยูบางคน แตกอนที่เราเคย เห็นๆ กันมาก็ยังหรูหราอยู แตเดี๋ยวนี้ก็ยังอยูที่เกานั่นเอง เจ็บไปแกไปจนไป จะทําอะไรก็ไมไหวเพราะเคยเปน ผูดีมานาน ไดแตนอนรอความตายไปวันหนึ่งๆ ฉันอยูไมไดหรอกอยางนั้น" "ชอยคิดดูบางหรือเปลา" พลอยปรารภขึ้นอีก "แตกอนนี้ไมวาอะไรก็ออกมาจากขางในวังทั้งนั้น ไมวาจะ เปนเรื่องแตงเนื้อแตงตัว น้ําอบ ของกินของเลน ในวังเริ่มกอนแลวขางนอกก็ตาม อยางเมื่อเราสาวๆ มักจะทํา อะไรกอนคนอื่นเสมอ ของใชเราก็มีใหมๆ กอนคนขางนอก เสื้อผาเครื่องแตงตัวแบบไหนๆ เราก็เริ่มกันกอน แลวขางนอกจึงคอยๆ ตามไป จนใชเหมือนกันทั่วกันหมด ฉันยังจําไดเลยเมื่อครั้งตามเสด็จบางปะอิน พวก ผูหญิงชาวบานที่เขาพายเรือมาขายของแถวที่จอดเรือเครื่อง เขาชอบดูพวกเราชาววัง ดูแลวก็ยิ้มนอยยิ้มใหญ ชมวาแตงตัวงามเหมือนกับละครที่เขาเลน ดูเทาไรก็ไมเบื่อ แตพอคุนกันหนักเขาพวกชาวบานสาวๆ เขาก็จํา แบบไปแตงตัวจนดูสวยงามพอๆ กับเราไปบางเหมือนกัน แตเดี๋ยวนี้ฉันไมรูวาเขาไปเริ่มแบบเริ่มแผนกันที่ไหน จะดูใครเปนแบบอยางก็หาดูไมได ถึงอยากจะตามเขาเราก็ตามไมทัน ผิดกับแตกอนเสียจริงๆ" "ฉันก็ไมเห็นจะแปลกอะไรนี่พลอย" ชอยวา "แตกอนผูมีบุญวาสนาทานอยูในวังกันทั้งนั้น อะไรๆ ก็ ตองออกมาจากในวังกอนเปนธรรมดา แตเดี๋ยวนี้ในวังมีใครอยูละพลอย มีแตยายแกอยางฉันเพียงไมกี่คน ใคร เขาจะมามองใหเสียเวลา คนเขาก็จะตองไปเที่ยวจองมองผูมีบุญวาสนาในที่อื่น แลวเดี๋ยวนี้เขาก็ทําอะไรกันงาย ดี ทานจะเอาอยางไรทานก็สั่งเอาปุบปบ ใครไมทําก็จับเลย สะดวกดีเหมือนกัน ไมตองเสียเวลาคิด มัวออยอิ่ง ดัดจริตวาจะทําดีหรือไมทําดีอยางแตกอน ฉันมันคนใจเร็ว ฉันชอบอยางนี้แหละ" "ชอยนี่ทันสมัยอยูเสมอทีเดียวนะ" พลอยเยาขึ้น "คา ! อิฉันนี่แหละตัวตามผูนําละ ! อีกหนอยฉันจะไปสมัครเปนทหารหญิงกับเขาบาง แตกลัวแตเขาจะ ไมรับเทานั้น เพราะมันแกไป ถาเปนสาวๆ เหมือนเมื่อกอนละก็คอยดูฝมือฉันบางซี ฉันจะหัดทหารใหสนุก เชียว" แลวชอยก็หัวเราะชอบใจคําพูดของตนเองอยางครื้นเครง ทําใหพลอยตองหัวเราะไปดวย ในตอนบายกอนชอยจะกลับเขาวัง ระหวางที่ใหเด็กไปตามรถสามลอ ชอยก็เริ่มแตงตัวสําหรับเดินทาง คือกลับนุงผาถุงทับผาโจงกระเบน และใสหมวกทะมัดทะแมง กอนที่ชอยจะกาวขึ้นสามลอที่มาจอดอยูหนาตึก พลอยก็เลาใหชอยฟงถึงปญหาของคุณเชยในการขึ้นสามลอ เพราะตองใชมือหนึ่งถือของอีกมือตองจับหมวก มิ ใหปลิวบาง จับผาถุงมิใหเปดบาง "อาว ! คุณเชยเธอตองมาเรียนกับฉันแลว" ชอยพูดพลางกาวขึ้นนั่งบนสามลออยางองอาจ แลวปลดดาย เสนยาวสองเสนที่มวนเหน็บไวขางหมวกลงมา ดายทั้งสองเสนนั้นยาวมาก เกินกวาที่จะใชรัดคางอยางธรรมดา แลวชอยก็เรียกพลอยดูบอกวา "นี่ไงแมพลอย ดูนี่ซี" "อะไรนั่นชอย สายระโยงระยางอะไรฉันไมเขาใจ" พลอยถาม "สายนี่สําหรับควบคุมบังคับหมวกใหตามทานผูนํา มิใหปลิวไปทางอื่น เวลาขึ้นนั่งรถก็ปลอยสายนี้ลงมา เอามือรวบกําเอาไว แตเพราะสายมันยาว ฉันก็ใชมือนั้นแหละกุมผาถุงไมใหเปด มือเดียวใชการไดทั้งสองอยาง สวนอีกมือหนึ่งก็วาง เอาไวใชแสดงบทได" วาแลวชอยก็โบกมือที่วางนั้นมาใหพลอยดู แลวก็โบกมือไปขางหนา เหมือนกับทาละครรํารองบอกคนถีบสามลอวา "ไปได" รถสามลอพาชอยแลนหายลับตาไปแลว พลอยก็ยังนั่งยิ้มขบขันในความคิดและคําพูดแปลกๆ ของชอย อยูไมหาย ยิ่งดูไปก็ยิ่งเห็นความสําคัญของชอยหนักขึ้น เพราะในยามที่อึดอัดคับแคนใจ ในยามที่มีกังวล ชอยก็ เปนคนที่ใหความสวางใหคําคม หรือความเห็นแปลกๆ ซึ่งแมพลอยเองจะไมเห็นดวย ก็ทําใหคลายอารมณลงได เสมอ ในยามที่ทุกคนกําลังอึดอัดอยูดวยสถานการณอันเครงเครียด ดวยการตามทานผูนํามิใหพลาด ในยามที่ ทุกคนํากลัดกลุมอยูดวยสงครามที่กอใหเกิดภาวะคับขัน ชอยก็สามารถดวยกิริยาวาจาเพียงไมเทาไร ที่จะทําให ภาวะคับขันนั้นกลายเปนภาวะขบขันไปได

http://www.geocities.com/siamstory/ploy409_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๑) พลอยมาไดรับจดหมายฉบับหนึ่งจากตาออด ซึ่งทําใหพลอยบังเกิดความยินดีปรีดาหานอยไม ตาออด เขียนมาวา "ลูกมีขาวดีจะบอกใหแมทราบวา บัดนี้การงานที่ลูกทําอยูนั้นเริ่มจะเขารูปเขารอย เปนผลดีพอที่ลูกจะ วางมือมาเยี่ยมบานได ฉะนั้นในเวลาราวๆ อีกเดือนหนึ่งลูกจะกลับมาหาแม และจะมาอยูใหนานที่สุดเทาที่ โอกาสจะอํานวยให ลูกรูสึกดีใจมาก และนั่งนับวันคืนอยูทุกวันเพื่อใหถึงเวลาเร็วๆ ขอใหทูนหัวของลูกอดใจรอ ไปอีกหนอย แลวลูกจะมาอยูดวยนานๆ ใหสมกับที่คิดถึง" พลอยรูสึกวาดีใจเสียนี่กระไร พออานหนังสือตาออดถึงตอนนี้ก็ตองทวนตนอานใหม เพื่อใหแนใจวาตา ของตนมิไดฝาดไปจนหลอกลวงตัวเอง เมื่อแนใจแลวพลอยก็ไดแตนั่งยิ้ม และคิดแบงเวลาอีกเดือนหนึ่งขางหนา นั้นไวสําหรับจัดหองหับ และเตรียมการไวรับลูกชายที่จะกลับมาเยี่ยมบาน พลอยเริ่มคิดถึงของกินของใชตางๆ ที่ตาออดชอบ นั่งใชความจํานึกวาตาออดชอบอะไรบาง และจะอยากกินอะไรบาง เสื้อผาสําหรับแตงอยูกับบาน นั้น ปานนี้ตาออดคงเอาไปใชที่บานนอกเสียเกาแกผุพังเต็มที ทางที่ดีพลอยควรจะหาตัดเย็บไวใหใหม แตทั้ง เสื้อผาและแพรก็หายากเสียเหลือเข็ย จะถูกแพงอยางไรก็ไมวา แตนี่เกือบจะหาไมไดเอาเลย พลอยคิดจะลอง พูดกับคุณเสวีลองวานเขาหาให แตถาตาออดรูวาพลอยไดผามาจากคุณเสวี ก็จะไมยอมใสเอาอีก หรือวาบางที เวลาที่ลวงเลยไปแลวนาน ประกอบกับความดีใจที่ไดกลับมาเห็นหนาแมและหนาพี่นอง จะทําใหตาออดหาย ความขุนของหมองใจลงไปบางกระมัง พอตาอั้นกลับมาบานในตอนบาย พลอยก็รีบบอกขาวตาออดใหรูดวยความดีใจ ตาอั้นเองก็ดูเหมือนจะ โลงอกเมื่อไดทราบขาวพูดกับพลอยขึ้นวา "คุณแมคงดีใจมาก ผมเองก็ดีใจเหมือนกัน เพราะระหวางที่ออดหายหนาไปนาน ผมก็อดคิดถึงไมได" "อั้นยังไมลืมเรื่องที่พูดไวกับแมมิใชหรือ" พลอยถามขึ้น "เรื่องอะไร คุณแม" "อาว ! ก็เรื่องที่อั้นเคยพูดไวกับแมเรื่องอยากใหออดกลับมาอยูเสียทางบานอยางไรเลา" พลอยตอบ "ออ เรื่องนั้น" ตาอั้นวา "ออดกลับมาคราวนี้ผมจะลองพูดกับเขาดูอีกที ถาคุณแมชวยพูดอีกคน บางที เขาก็จะเปลี่ยนใจตกลงอยูบานไมกลับไปอีกก็ได" "แมคิดวาอยางนั้นเหมือนกัน" พลอยพูด "ถาอั้นรักแมก็ขอใหลองพยายามพูดกับเขาอีกที ออดไมใชคน พูดยากหรอกอั้น ถาพูดใหถูกใจแลวก็งายนิดเดียว แมเองก็จะชวยพูดใหเขาอยูเหมือนกัน" "ผมวาสําคัญอยูที่คุณแมคนเดียว ถาคุณแมออกปากขอเขาตรงๆ ทีไหนออดจะขัดได แตเอาเถิด ผมเอง ก็จะพูดกับเขาใหดีๆ อีกครั้งหนึ่ง เพราะสงครามยิ่งเขาระยะนี้ผมก็ยิ่งหวง และวิตกมากขึ้น ไมอยากใหพี่นองไป อยูไกลกันเลย" พลอยมองดูตาอั้นดวยความรัก และดวยความสบายใจที่เห็นตาอั้นเริ่มมีจิตใจเผื่อแผตอนองชาย ไมเครง ครัดเหมือนเมื่อกอน ตอคนทุกคนพลอยไดแตบอกขาวที่เปนขาวดีสําหรับตน และคนที่พลอยเห็นวาดีใจในขาวนี้ พอๆ กับตนก็คือพอเพิ่ม ผูซึ่งพูดขึ้นอยางยินดีวา "แหม ! ดีจริงแมพลอย ฉันดีใจจริง ! ระหวางพอออดไมอยูนี่ ฉันไมมีเพื่อนพูดเพื่อนคุยเสียนาน คุยกับ ใครก็ไมถึงอกถึงใจเหมือนคุยกับพอออด" ระหวางที่พลอยนั่งคอยนอนคอยตาออดอยูอยางใจเตนนั้นเอง วันหนึ่งพอเพิ่มก็มาหา กอนกําหนดที่ตา ออดบอกไววาจะออกเดินทางสักสิบกวาวัน แลวพูดเชิงปรารภวา "แมพลอย น้ําปนี้ถาจะมากผิดปกติเสียแลวละ" "งั้นหรือคุณหลวง" พลอยถามอยางไมสนใจเทาไรนัก "ครั้งปมะเส็งที่น้ําทวมใหญนั้นดูนานเต็มที กี่ปมา แลวก็ไมรู" "ยี่สิบหาปพอดี" พอเพิ่มวา "คราวนี้ฉันก็ไดยินคนพูดวาคงจะทวมพอๆ กันกับครั้งนั้น คิดๆ ดูก็แปลก คราวปมะเส็งนั้นก็เพิ่มเสร็จสงครามไปใหมๆ คราวนี้น้ําก็จะมาทวมตอนมีสงครามอีก ดูเหมือนกับวาเรื่องที่จะ เกิดขึ้นนั้นมีเปนระยะๆ ไป พวกญาติขางเมียฉันที่เขาเปนชาวสวนเขาเลาวา พวกสวนทุเรียนกําลังทําทํานบ เตรียมไวอยางแข็งแรง ถาทวมขนาดปมะเส็งก็พอรับไวอยู" "ถาขนาดนั้นฉันก็คงไมเปนไร เพราะคราวนั้นทางบานนี้น้ําทวมไมถึง คุณหลวงและคุณเชยแหละจะ ลําบาก เพราะอยูใกลแมน้ํา"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy410.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 4

"ฉันไมเปนหรอกแมพลอย ฉันกลับชอบเสียอีก เดินดินแหงๆ มานานแลว ลอยเรือเสียบางก็ดี" ตั้งแตนั้นมาระดับน้ําทวมก็สูงขึ้นทุกวัน พลอยนั่งอยูที่บานก็มีคนมาสงขาวไมเวนแตละวัน วาน้ําทวมที่ โนนบางที่นี่บาง พลอยมองขามถนนไปดูน้ําในคลองก็เห็นขึ้นเต็มจนลนปรี่ แตถนนหนาบานนั้นเองเปนทํานบ กั้นน้ําไว มิใหน้ําไหลเขามาในบาน วันหนึ่งพลอยก็ไดรับโทรเลข ซึ่งทําใหตองถอนใจใหญดวยความผิดหวัง โทรเลขนั้นมีความวา "น้ําทวมทางรถไฟขาด ยังมาไมได ตองรอน้ําลด ออด" และในคืนวันนั้นเอง น้ําในคลองก็ลนขามถนน ไหลเขามาในบาน ระดับน้ําทวมนั้นขึ้นสูงโดยรวดเร็ว ภายในเวลาไมเทาไรชั้นบนของตึกที่พลอยอยูนั้น ก็กลายเปนเกาะ มี น้ําลอมรอบ พลอยก็ไดแตนั่งดูระดับน้ําที่ขึ้นมาเรื่อยดวยหัวใจอันไมสบาย เพราะน้ําที่ไหลเขามาในบานนั้น เปน อุปสรรคอันเดียวที่กั้นกางตาออดมิใหกลับคืนมาสูบาน ในตอนแรกทุกคนก็คาดหมายกันวา น้ําคงจะมากผิดฤดูกาลไปเพียงเล็กนอย และคงจะทวมอยูไมกี่วัน ฉะนั้นในระยะแรกๆ เรื่องน้ําทวมจึงกลายเปนเรื่องของสนุกของคนกรุงเทพฯ ซึ่งฉวยโอกาสพายเรือเลนกันอยาง สนุกสนาน อยางที่เคยทํากันมาทุกๆ ป โดยเฉพาะพวกคนหนุมๆ สาวๆ แตนานเขาน้ําก็มิไดลดลงอยางคาด ยัง คงทวมอยูในระดับสูง ทําใหการคมนาคมตองทํากันดวยเรือเปนสวนมาก การเลนเรือก็เบาลงไปเพราะหมด ความสนุกตื่นเตนนั้นประการหนึ่ง และเรือกลายเปนของจําเปนไป มิใชของเลนนั้นอีกประการหนึ่ง ความคาดหมายของพลอยก็วาน้ําคงจะทวมอยูไมกี่วันเชนเดียวกับคนอื่น แตในที่สุดพลอยก็รูตัววา ความคาดหมายของตนนั้นผิดไปแลว ความหวังที่วาตาออดจะกลับมาบานไดโดยเร็ว ก็เลื่อนลอยไป สิ่งทําให พลอยกลัดกลุมยิ่งขึ้นไปอีกก็คือ น้ํานั้นมิไดทําลายเฉพาะแตการติดตอทางรถไฟเทานั้น แตการติดตอทางอื่นๆ เชน ทางโทรเลขหรือจดหมายก็ขาดหายไปดวย ซึ่งทั้งนี้ยอมทําใหพลอยกระวนกระวายใจ แตในที่สุดน้ําที่ทวมมากมานานนั้นก็เริ่มลด ทุกวันพลอยจะตองชะโงกหนาดูรอยน้ําที่ผนังตึก แลวก็จะ ตองโลงใจสบายใจขึ้นอีกนิดหนึ่ง ที่เห็นคราบน้ําบอกใหรูวาระดับน้ําวันนี้นอยกวาระดับเมื่อวันวาน ในที่สุดน้ําก็ แหงหายไป ทิ้งกรุงเทพฯ ไวใหมีสภาพเปนเมืองอีกเมืองหนึ่งที่ดูโลงตาผิดกวาแตกอน เพราะตนไมตางๆ ที่เคย ขึ้นเขียวชอุมผลิดอกออกผลอยูตามรั้วบาน หรือตามบริเวณบานนั้น ถูกน้ําทวมตายเสียมากตอมาก "หมดกันคราวนี้เอง แมพลอย" พอเพิ่มมาพูดขึ้นวันหนึ่ง "อะไรหมด คุณหลวง" พลอยถามเพราะไมเขาใจ "ตนหมากรากไม" พอเพิ่มตอบ "ตายหมด สวนลมไมรูจักกี่รอยกี่พันขนัด ตอไปจะตองอดลูกไมกันไป หลายป ทุเรียนแทบจะไมมีเหลือเลย ลูกไมตางๆ ที่พอจะมีเหลือหากินไดบาง ก็คงแพงจับไมติด ฉันมันเปนคน รักตนไม แมพลอย เห็นตนไมตายก็อดสงสารไมได เคราะหฉันยังดีที่ทางบานไมมีที่ปลูกลงดิน เลนไดแตไม กระถางเปนสวนมาก จึงเลยพอยกหนีใหพนน้ําได แตเห็นตนไมบานอื่นเขายืนตนตายกันหนาตา ก็ยังไมวาย เศราใจ" "เปนเคราะหเปนกรรมอะไรของบานเมืองนี่คุณหลวง" พลอยพูดปลอบใจ "จะทําอยางไรก็ไมได ตอง ปลอยไปตามเรื่อง" "พูดอยางนั้นก็ถูกละ แตก็ควรจะมีใครเห็นอกเห็นใจคนที่ตองเสียหายกันบาง แตฉันมองไมเห็นเลย หมูนี้ ไดยินแตประกาศโฆษณาเรื่องกวยเตี๋ยวกันทางวิทยุออกแจวๆ ไป พิลึกละ" "เรื่องอะไรกันนะคุณหลวง ฉันไมทันไดฟง" พลอยถาม "เรื่องกวยเตี๋ยว" พอเพิ่มตอบหวนๆ "ทําไมถึงตองเรื่องกวยเตี๋ยว ฉันไมเห็นกวยเตี๋ยวจะสลักสําคัญอะไรเลย" พลอยพูดอยางงงๆ "ก็ถึงวาเถอะนาแมพลอย" พอเพิ่มพูด "ทีแรกฉันก็ไมเชื่อนึกวาหูฉันไดยินผิดไป แตแลวก็จริง เขาพูดกัน ถึงเรื่องคุณวิเศษตางๆ ของกวยเตี๋ยวจนไมรูจะฟงอยางไรได เดี๋ยวนี้ถึงกับวาๆ กวยเตี๋ยวชามเดียวนี้แหละ อาจ แกเศรษฐกิจของชาติได.....ออ ! แลวถาใสหมวกอีกใบหนึ่ง กินกวยเตี๋ยวชามหนึ่งละกอ เปนมหาอํานาจไดเลย แมพลอยเอย" "ฉันงงงวยเต็มทีแลวคุณหลวง" พลอยพูดอยางออนใจ "ชวยอธิบายใหฉันฟงทีเถิดวาเรื่องราวมันไปอยาง ไรกัน ถึงไดเกิดเรื่องกวยเตี๋ยวเปนเรื่องใหญขึ้นมาอยางนี้" "ฉันไมรูเหมือนกันแมพลอย" พอเพิ่มตอบ "แตไดยินเขาลือกันวา....เท็จจริงเอากับผูเลาเถิด....เขาเลากัน วา ใครก็ไมรูเกิดนึกสนุกทํากวยเตี๋ยวเรือไปเลี้ยงในทําเนียบ ระหวางน้ําทวมอยางไรละ พอทานผูมีบุญวาสนา ทานไดรับประทานกวยเตี๋ยวอรอยกันเขา ทานก็เห็นวากวยเตี๋ยวเปนของดีเปนของวิเศษ เลยเกิดเรื่องนิยม กวยเตี๋ยวกันเปนการใหญ ชักชวนใหราษฏรกินกวยเตี๋ยวกันใหกลุมไปหมด และนัยวาๆ จะสับสนุนใหคนไทย ขายกวยเตี๋ยวเปนการใหญดวย" "ตายแลว !" พลอยรอง "นี่ฉันมิตองถูกบังคับใหขายกวยเตี๋ยวดวยอีกคนหนึ่ง เหมือนกับเมื่อครั้งนิยมใส หมวกกันนั่นหรือ" "เห็นจะไมถึงเพียงนั้นหรอกแมพลอย" พอเพิ่มตอบพลางหัวเราะชอบใจ "เพียงแตกินกวยเตี๋ยวบอยๆ ก็

http://www.geocities.com/siamstory/ploy410.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 4

เห็นจะชวยชาติพอแลวสําหรับเรา แตก็อยาเพิ่งไปแนใจอะไรนัก สมัยนี้จะไปคาดหมายอะไรใหแนนอนก็ยาก สิ่ง ไรที่ไมเคยพบก็ไดพบ ที่ไมเคยเห็นก็ไดเห็น ฉันเองก็ออนใจเหมือนกัน" พูดแลวพอเพิ่มก็ถอนใจใหญอยางเหนื่อยหนาย ชวนพลอยพูดคุยเรื่องอื่นๆ ตอไป แตเรื่องนโยบายขายกวยเตี๋ยวนั้นมิไดจบลงงายๆ สําหรับพลอย เพราะตอมาอีกไมนาน ประไพก็เดิน ตุปดตุปองเขามาหา ขณะที่พลอยนั่งกินขาวเย็นอยูกับตาอั้นสองคนแลวพูดวา "คุณแมรูไหม กวยเตี๋ยวนี่เขาทําอยางไร ใสอะไรบาง" "ก็ใสเสนกวยเตี๋ยว ลวกน้ําตมกระดูกหมู เนื้อหมู ถั่วงอก กุงแหง ใบหอม" พลอยตอบเพลิดเพลินไปโดย อัตโนมัติ แตแลวก็นึกเฉลียวใจถามขึ้นวา "ประไพอยากรูเอาไปทําไม" "ก็คุณเสวีลูกเขยคุณแมนะซีเขาอยากรู เขาวาจะไปขายกวยเตี๋ยวที่กรม" ประไพตอบ "แนะ ดูซียายประไพ !" พลอยรองขึ้นอยางครึ่งขันครึ่งฉุน "มาซัดฉันอีกแลว บานนี้ไมวาใครก็ชอบเอา คุณเสวีมาซัดใหฉันทุกคนไป พิลึกแทๆ ทีเดียว แตคุณเสวีเขานึกอยางไรขึ้นมา ถึงจะลุกขึ้นขายกวยเตี๋ยว !" "คุณแมบางทีจะยังไมรู" ตาอั้นตอบแทนนองสาว "เดี๋ยวนี้เขาสั่งใหขาราชการขายกวยเตี๋ยวทุกกรมกอง เปนการสนับสนุนนโยบายรัฐบาล เสวีเขาเปนคนใหญคนโต บางทีเขาจะตองทํากระมัง แตผมเองทําเฉยๆ เสีย เปนอะไรก็เปนไป ไมขายละกวยเตี๋ยว" "คุณเสวีก็บอกไพวาอยางนั้น" ประไพพูดตอ "ครั้นไพบอกเขาวาไมมีความรูเรื่องขายกวยเตี๋ยวเคยแตกิน เขาก็ดุวาไพไมรวมมือสนับสนุนเขาในหนาที่การงาน ดีแตคอยถวงไมใหเขาไดดี ไพกลุมใจจะตายอยูแลว" "เขาวาอยางนั้นหรือประไพ" ตาอั้นถามเสียงขุนๆ "พี่ก็เพิ่งรูเดี๋ยวนี้เอง วาเรากลายเปนเครื่องถวงความ เจริญของเขา แตความจริงเสวีเขาไมนามาถามประไพหรอกเรื่องขายกวยเตี๋ยว ทางญาติของเขานาจะรูดีกวาเรา วาเขาขายกวยเตี๋ยวกันอยางไร" แทนที่ประไพจะไมพอใจที่พี่ชายวากระทบสามีของตน ประไพกับหัวเราะอยางขบขัน ทําใหพลอยตอง พูดแกขึ้นอยางระมัดระวังวา "เบาๆ หนอยเถิดอั้น พูดจาอะไรตอหนาแมขอใหระวังหนอย เดี๋ยวคนอื่นเขาจะเที่ยวพูดกันไดวาผูใหญ เปนใจ แมเห็นวาที่คุณเสวีเขามาถามประไพก็ถูกแลว ธรรมดาผัวเมียกันจะทําอะไรก็ตองปรึกษาหารือกัน ยาย ประไพแกหยิบโหยงไมเขาเรื่อง กะอีทํากวยเตี๋ยวก็ตองเอะอะเปนเรื่องใหญ เขาจะขายกวยเตี๋ยวเราก็ตองเปน คนหาของให เขาจะมีเวลาที่ไนมาดูเอง" พลอยหยุดกลืนน้ําลายและถอนใจใหญ แลวก็พูดตอไปวา "เอาเถิด อยาพูดกันมากไปเลย พรุงนี้แมจะสั่งเขาใหซื้อของให" คําตอบของพลอยที่รับจะแบงเบาภาระมาเสียนั้น ทําใหประไพพอใจ ชวนตาอั้นพูดคุยดวยเรื่องอื่นๆ อีก ครูหนึ่ง แลวก็ลุกกลับไปเรือน "เมื่อประไพกลับไปแลว ตาอั้นก็ยังคงนั่งอยูกับที่ถอนใจใหญสองสามครั้ง แลวก็ทอดสายตาออกไปขาง หนา เหมือนกับตรึกตรองอะไรอยูดวยความหนักใจ ในที่สุดตาอั้นก็พูดขึ้นเบาๆ วา "คุณแม ผมถามจริงๆ เถิด คุณแมเห็นวาประไพมีความสุขดีอยูหรือ" "แมก็เดาใจเขาไมถูก แตก็ไมเห็นเขาเดือดรอนอะไรนักหนา" พลอยตอบ "ทีแรกๆ ผมก็นึกวาเขาจะมีความสุข แตเดี๋ยวนี้ไมแนใจเสียแลว หรือผมจะเปลี่ยนไปเองก็ไมรู" "จิตใจคนก็ตองเปลี่ยนไปบางเปนธรรมดา" พลอยปลอบ "อั้นอยาไปเก็บมาวิตกวิจารณใหมากไปเลย ประไพเขาก็โตแลวไมใชเด็กๆ" "ใจผมมันไมไดเปลี่ยนเฉพาะแตเรื่องในบานใกลๆ ตัวเทานั้นหรอกคุณแม แมแตในเรื่องอื่นๆ อีกมาก แต กอนเคยคิดเห็นไวอยางหนึ่ง แตเดี๋ยวนี้กลับเปลี่ยนไปหมด ผมเลยไมแนใจและไมสบายใจเลย" ตาอั้นพูดดวยน้ํา เสียงที่แสดงถึงอารมณอันไมปลอดโปรง ตาอั้นนั่งนิ่งๆ อยูอีกครูหนึ่ง แลวก็เขามาคุกเขาอยูขางๆ ตัวพลอย พลางกระซิบวา "คุณแม คุณแมเชื่อคําสบถสาบานไหม" "เชื่ออยางไรเลาอั้น" พลอยถามพลางยกมือขึ้นลูบหัวตาอั้น "เชื่อวาคําสบถสาบานตางๆ นั้น ถาเราทําผิดพลาดไมตรงตอคําสาบาน เราก็จะตองมีอันเปนไปตางๆ เชนถือน้ําพระพิพัฒนสัตยา หรือคําสาบานที่ผมเคยใหคุณแมไวเมื่อสิบปมาแลว" พลอยใจหายวาบเมื่อไดยินคําพูดของตาอั้น เพราะในใจจริงนั้นพลอยรูสึกหวาดหวั่นตอคําสาปแชงตางๆ ในเวลาถือน้ําและในคําสบถสาบานอยูเสมอ แตเมื่อตาอั้นถามมาพลอยก็ตองแข็งใจตอบไปวา "แมเชื่อในบุญกรรมมากกวาอะไรทั้งหมด เชื่อวาถาเราทําสิ่งใดดวยความสุจริต ผลที่จะตอบสนองนั้นก็จะ ตองเปนผลดี" ตาอั้นเอาหนาซบลงที่ตักพลอยครูหนึ่ง แลวก็พูดเบาๆ โดยไมเงยหนาขึ้นวา "ผมเองนั้นไมเชื่อวาผลจะเกิดตามที่ไดสบถสาบานเอาไว แตความสงสัยไมแนใจวาตัวเองไดทําผิดหรือ ถูก นั่นสิ กลับเปนเครื่องทรมานใจเสียยิ่งกวาอะไรทั้งหมด บางทีไดยินใครเขาพูดเรื่องบานเมืองเดี๋ยวนี้ มันเจ็บ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy410.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 4

ใจยิ่งกวาหอกเทาใบพายแทงหูซายทะลุหูขวาเสียอีก" "อั้น ! อั้น !" พลอยรองเบาๆ "อั้นอยาไปเอาเรื่องอยางนั้นมาพูด อั้นอยาวิตก อยาคิดอะไรใหมากไป แม เปนคนที่คอยใหศีลใหพรอั้นอยูเสมอ พรใดที่จะประเสริฐไปกวาพรจากปากจากใจของพอแม ก็เห็นจะไมมีอีก แลว แมรูวาอั้นมีแตความสุจริตมีแตเจตนาดี อั้นไมเปนไรหรอก" ตาอั้นลงกราบที่ตักพลอย แลวก็พูดดวยเสียงที่ตื้นตันเต็มไปดวยน้ําตาวา "ใหพรอั้นเถิดคุณแม ใหพรมากๆ เถิด อั้นไมตองการอะไรอีก นอกจากพรของคุณแมเทานั้น" ตาอั้นลุกขึ้นยืนชาๆ แลวก็เดินกลับไปหองของตน ระหวางนั้นพลอยก็ไดแตมองตามหลังลูกชายไป ดวย ความสงสารจับใจ เพราะในระยะนี้ตาอั้นดูจะทรุดโทรมลงไปอยางเห็นไดชัด เวลาจะยืนหรือจะเดินตาอั้นก็มักจะ กมหลัง ผิวพรรณนั้นดูซีดเหลืองและแกมก็ดูตอบไปไมเต็มเหมือนเมื่อกอน พลอยนึกแปลกใจอยูเสมอวา ตาอั้น เลิกกับเมียแหมมมานานหนักหนาแลว แตเหตุไฉนจึงยังอยูเปนโสด ไมมีวี่แววบางเลยวาตาอั้นไปรักชอบผูหญิง ที่ไหน หรือคิดแตงงานมีเหยามีเรือนใหม พลอยนึกถึงเรื่องนี้แลวก็ถอนใหญ นึกในใจวาถาตาอั้นมีเมียและมีลูก ไดตั้งครอบครัวเยี่ยงเขาอื่น บางทีตาอั้นก็อาจมีความสุขใจสบายกายยิ่งกวานี้ พลอยนึกถึงลูกๆ ของตนแลวก็ เศราใจ ที่ยังไมเปนฝงเปนฝาแตสักคน ประไพที่มีเรือนเปนหลักฐานนั้น ก็มีทีทาวาจะไมแนนอน ตาอนก็ถูก เคราะหกรรมบันดาลใหถูกโทษ ไมมีโอกาสที่จะมีเหยาเรือนได ตาอั้นมีแลวก็เลิก และตาออด...พลอยนึกถึงลูก คนนี้แลวก็ตองยิ้มอยูในใจ เพราะตาออดมีเรือนแลวจะเปนอยางไร พลอยก็นึกไมออกเลย อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy410.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๒) ตอมาอีกสองสามวันเมื่อน้ําลดเปนปกติติดตอถึงกันได พลอยก็ไดรับจดหมายจากตาออดอีกฉบับหนึ่งวา กําลังปวยเปนไข จึงขอยับยั้งการเดินทางไวกอน ตอหายไขแลวจึงจะเขามา ถึงแมวาตาออดจะบอกมาดวยวา อาการเจ็บไขนั้นมิไดมากมายอะไรหนักหนา พลอยก็มิวายที่จะหมนไหม ในระยะตอไปพลอยก็ไดแตตั้งตา คอย จดหมายจากตาออดที่จะบอกใหรูวาจะมาถึงบานไดเมื่อไร มีเสียงใครเปดประตูใหญหนาบาน หรือเสียงใครเดิน เขามาในบาน พลอยก็จะตองเหลียวมองทุกครั้งไป เผื่อจะเปนบุรุษไปรษณียนําจดหมาย หรือโทรเลขที่มีขาว คราวจากตาออดมาสง แตวันหนึ่งก็มีเสียงรถยนตมาจอดหนาบาน เสียงคนพูดสั่งเสียอะไรกันสองสามคํา แลวก็มีเสียงฝเทาคน เดินเหยียบกรวดเขามาในบาน พลอยมิไดสนใจลุกไปดูเพราะเสียงรถที่มาจอดนั้น เปนเสียงรถยนต คงจะไมใช บุรุษไปรษณียซึ่งเปนคนสําคัญสําหรับพลอยในขณะนั้น พลอยกําลังนั่งกมหนาเย็บเสื้อเกาๆ บางตัวที่ยังจะใช การไดตอไป และอีกครูเดียวพอรูสึกตัววามีใครเขามาถึงในหอง ตาออดก็เขามากราบอยูบนตัก พลอยดีใจจนพูดไมเปนคํา เรียกไดแตชื่อตาออดซ้ําๆ ซากๆ พลางกอดลูกเขาไว และทั้งรองไหและ หัวเราะดวยความยินดี "แม.........แมทูนหัวของลูก" ตาออดพูดดวยน้ําเสียงที่เต็มไปดวยความดีใจเชนเดียวกัน "ออดคิดถึงแม เหลือเกิน แมสบายดีอยูหรือ คิดถึงลูกบางหรือไม" "โธ ออดก็ถามได" พลอยตอบพลางกอดตาออดไวแนน "ทําไมแมจะไมคิดถึง นี่ออดกลับมาถึงเมื่อไร ทําไมจูๆ ก็มาถึงตัวไมบอกกลาวใหรูลวงหนาบางเลย" ตาออดหัวเราะแลวก็ตอบวา "ทีแรกก็สงมาแลว แลวก็น้ําทวม ทางรถไฟขาดมาไมได พอรถไฟเดินไดจะเขามาก็เกิดลมเจ็บเปนไข ออดรูดีวาขืนบอกมาแลวก็เลื่อนบอยๆ แมก็เปนหวงแยไปเทานั้นเอง พอดีเพื่อนๆ ทางโนนเขาจะมากรุงเทพฯ ออดก็เลยมากับเขา เขาพาขึ้นรถมาสงถึงบาน" "ออดเจ็บเปนอะไรไป" พลอยซักขึ้นทันที "หมอเขาวาเปนไขจับสั่น" ตาออดตอบ "แตไมมากมายอะไรหรอกแม เปนอยางจับวันเวนวัน กินยาแลว ก็หายเวลานี้สบายแลว" พลอยนั่งพิจารณาดูตาออดอยางไมวางตา เพราะไมไดพบกันเสียนาน ตาออดดูผอมลงไปกวาเกา ใบ หนานั้นคล้ําเพราะถูกแดดถูกลมจากบานนอก และดูจะมีสีเหลืองพอสังเกตไดตามผิวหนังบนใบหนา ซึ่งพลอย เขาใจวาคงจะเปนเพราะพิษไข แตเนื้อตัวรางกายตาออดดูเหมือนจะแข็งแกรงขึ้นกวาแตกอน และในแววตาของ ตาออดนั้น ดูเหมือนจะมีความมั่นใจในตัวเองมากกวาที่พลอยเคยเห็นมาแตกอน "แมดูไมเปลี่ยนไปเลยจนนิดเดียว" ตาออดผูซึ่งมองดูมารดาอยางพินิจพิเคราะหพูดขึ้น "เมื่อวันที่ลูกเขา มาลาไปเปนอยางไร วันนี้ก็เปนอยางนั้น วันเขามาลาไปก็รองไห วันนี้กลับมาถึงบานก็รองไห ขี้ออนแทๆ ที เดียว" พลอยหัวเราะยกผาเช็ดหนาขึ้นมาซับน้ําตาแลวพูดวา "จะขี้ออนขี้แยอยางไรก็ชางแมเถิด ออดมาคราวนี้ใหอยูนานๆ ก็แลวกัน" "ออดจะอยูใหนานที่สุด อยาตกใจไปเลย" ตาออดตอบและอีกสักครูหนึ่งตาออดก็ขอไปอาบน้ํา ฝายพลอย ก็ลุกขึ้นกุลีกุจอจัดเสื้อจัดผา และเรียกเด็กมาชวยจัดหองปูที่หลับที่นอนของตาออดดวยความสุขใจ อยางที่มิได เคยมีมานาน พลอยนึกในใจวาถาหากตนยังเปนสาวอยู มีความสุขใจไดถึงเพียงนี้ ตนก็อาจตองถึงรองเพลงเลน ดวยความเบิกบานใจ ตาออดกลับมาบานคราวนี้มีกิริยาอาการบางอยางเปลี่ยนแปลงไป ทําใหพลอยสบายใจมาก เพราะตา ออดทักทายกับตาอั้นอยางดีใจเมื่อพบกัน และพูดคุยถามทุกขสุขกันฉันพี่นองอยางสนิทสนม มิไดมีความระคาย เคืองเหมือนเมื่อกอนไป กับประไพและแมแตคุณเสวี ตาออดก็พูดจาดวยปกติเปนอันดี บางทีความมีหลักฐาน กันเกิดจากการงานที่ไดทําใหเกิดประโยชน จะไดทําใหตาออดคลายปมบางอยางในใจลง สามารถมองหนาคน ทุกคนไดดวยความเปนมิตรเสมอบาไหล ปราศจากความระแวงสงสัยวา ผูใดจะมาเหยียบย่ําดูถูก คนที่ดีใจมากที่สุดอีกคนหนึ่งที่ตาออดกลับบานก็คือพอเพิ่ม เพราะพอพอเพิ่มรูวาตาออดมาถึงบานแลว พอเพิ่มก็รีบมาหาทันที และตั้งแตนั้นก็มาที่บานบอยๆ แทบจะทุกวัน พลอยสังเกตเห็นวาพอเพิ่มดีใจ ที่ไดเห็น หลานชายทั้งสองกลับสนิทสนมกันเปนปกติ และพอเพิ่มก็เขาสนับสนุนความกลมเกลียวที่เกิดขึ้นใหมนั้น เปน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy410_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 4

อยางดี ระหวางนั้นสิ่งที่พอเพิ่มและตาออดคุยกันอยูดวยสนุกสนานครึกครื้น ก็คือความวิวัฒนาการแหงภาษา ไทย เริ่มตนดวยวิธีสะกดการันตที่ตั้งขึ้นใหม และตอไปก็ถึงถอยคําสํานวนที่ทางการกําหนดใหใชพูดกัน พอพอ เพิ่มเขามาถึงบานตาออดก็จะทักขึ้นวา "สวัสดีจะ ทาน !" "สวัสดีจะ" พอเพิ่มตอบอยางรื่นเริง "ทานสบายดีหรือจะ" "สบายดีจะ" ตาออดตอบ "ทานมาแตวันเทียวนะจะวันนี้" "ฉันคิดถึงทานนี่จะ ฉันก็เลยรีบมา" พอเพิ่มวา "พอฉันตื่นแตเชาสวมหมวกเสร็จเรียบรอยแลว ดอกไมเหี่ยวๆ ของชาติที่บานฉัน เขาก็เอาดอกไมมากลัดอกฉันหนึ่งดอก ฉันจูบเขาหนึ่งทีตาม วัฒนธรรม แลวฉันก็รีบออกจากบานมาหาทาน" แลวทั้งสองคนก็จะหัวเราะกันครื้นเครง และตาอั้นซึ่งบังเอิญอยูดวยก็จะรวมวงหัวเราะดวยความขบขัน ครั้งแรกที่พลอยไดยินคําพูดเชนนี้ พลอยเกือบจะไมเขาใจเลยวาคนทั้งสองพูดอะไรกัน ถึงกับตองรองถามขึ้นวา "ออด......คุณหลวง นั่นพูดอะไรกันอยางนั้น ไมเคยไดยินเลย ฟงแปลกหูพิลึกละ" "อาว ! ถาทานฟงฉันไมออกทานก็ไมมีวัฒนธรรมนะซีจะ" พอเพิ่มหันมาตอบ "พุทโธ ! คุณหลวงก็ เลิกพูดเลนเสียทีเถิด เรื่องราวเปนอยางไรกัน ถึงไดตองพูดกันอยางนี้ ฉันอยากรู นัก" พลอยพูด ตาออดหัวเราะแลวก็เลาใหฟงวา "นี่แหละภาษาใหมที่ทานสั่งใหคนไทยพูดกัน หนังสือเดี๋ยวนี้ก็เขียนไมเหมือนแตกอน ทานตัดตัวหนังสือ ทิ้งไปเสียเปนหลายตัว แลวก็แกตัวสะกดใหม อยางคําวา 'ธง' เดี๋ยวนี้ไมใช ธ ธง สะกด แตใช ท ทหาร สะกด แปลกดีไหม สวนคําพูดที่ออดพูดกับคุณลุงนั้นก็อยางที่ทานสั่งใหพูดนะแหละ" "แมพูดไมไดหรอกออด กระดากปากออกจะตายไป แตนี่ถาเราไมพูดจะถูกจับเหมือนเรื่องกินหมาก หรือ ไมใสหมวกอีกหรือไม" พลอยถามอยางไมไวใจ "เห็นจะไมถึงเพียงนั้นหรอกแม แตในหนังสือราชการตองใชภาษาอยางนี้ทั้งนั้น" "ทานอยาเพิ่งประมาทไปนะจะ" พอเพิ่มพูดสอดขึ้นมา "นานเขาทานอาจสั่งจับทานก็ไดถาทานไมพูด ฉัน วาทานควรจะรีบศึกษาเลาเรียนเสียดีกวา จะไดมีวัฒนธรรมสูงสมกับที่เปนดอกไมของชาติ แรกเริ่มก็ไมกี่คํา หรอกจะ ที่จะตองรูเพียง ฉัน ทาน จะ ไม ขอบใจ ขอโทษเทานั้น ไมกี่คําหรอก จําไวใหดีนะจะ" "วุย ! คุณหลวงก็พูดเปนเด็กไมจบ รําคาญจริงๆ ทีเดียว" พลอยรอง แลวก็ถามดวยความสนใจตอไปวา "อะไรนะที่คุณหลวงวาฉันตองทอง... ฉันทานจะ ไมอะไรนั่นนะ ฟงดูไมเปนประสาเสียเลย" ตาออดหัวเราะแลวก็อธิบายแทนวา "คําเหลานั้นคือคําเขากําหนดใหใช เรียกตัวเองวา ฉัน เรียกคนที่เรากําลังพูดอยูดวยวา ทาน ใชคําวา จะ เปนคํารับและ ไม เปนคําปฏิเสธ สวน ขอบใจ ก็ใชเวลาขอบใจและ ขอโทษ ก็ใชสําหรับ ขอโทษ..." "นั่นสิ ! งายจะตายไป" พอเพิ่มวา "อยางฉันจะถามแมพลอยวากินแลวหรือยัง ฉันก็ตองถามวา ทานรับ ประทานขาวหรือยัง ถาแมพลอยกินแลวแมพลอยก็ตอบวา 'จะฉันรับประทานแลว ขอบใจ' ถายังก็บอกวา 'ไมฉันยังไมไดรับประทาน !' เทานั้นเอง" "แลวที่วาใหพูดนั้นนะพูดกับใคร" พลอยถาม "พูดกับใครๆ ก็อยางเดียวกันหมด" พอเพิ่มตอบ "หมายความวา ฉัน ทาน จะ จา กันทั่วไปหมดอยางนั้นหรือ" "ก็อยางนั้นซีจะทาน" พอเพิ่มวา "เด็กผูใหญอะไรก็พูดกันอยางนั้นทั้งนั้นหรือ" พลอยซักอยางไมยอมเชื่อ "ก็วากันอยางนั้นแหละแม" ตาออดยืนยันแลวก็หัวเราะ "อนิจฺจํ ทุกขํ !" พลอยปรารภขึ้นอยางปลงตก "ฉันนี่ก็ไดอยูมาจนเห็นอะไรแปลกๆ ถึงเพียงนี้เทียวหรือ" "ก็เหมือนกันทั้งนั้นแหละแมพลอย" พอเพิ่มพูดตอ "ยิ่งแมพลอยไดเห็นหนังสือวิธีใชตัวสะกดการันต ที่ เขาเริ่มใชกันเดี๋ยวนี้แลวจะยิ่งปลงอนิจฺจํไปใหญ แตกอนฉันเคยนึกวาถึงฉันจะไมมีภูมิรูอะไรหนักหนา แตสําหรับ เรื่องหนังสือไทยฉันก็พอจะอานออกเขียนได แตพอเห็นหนังสือสมัยนี้เขาแลว ฉันก็หมดภูมิลงไปทีเดียว อานก็ ไมออกเขียนก็ไมได ตอนแรกที่ไดเห็นหนังสือแบบใหม ฉันนึกวาเขาพิมพผิดเสียอีก ตอคนเขาบอกใหฉันจึงไดรู" "แลวคุณหลวงก็ยังนั่งหัวเราะรวนอยูได ฉันไมเห็นจะสนุกตรงไหนเลย นากลุมออก" พลอยวา "ก็ถาจะไมใหฉันหัวเราะจะใหฉันทําอยางไร เรื่องมันมากันถึงเพียงนี้แลวก็หัวเราะเปนดีกวาอยางอื่น เมื่อ ตอนเชากอนจะออกจากบาน ฉันเรียกแมอีหนูที่บานใหมาจูบสงฉันที่หัวกระไดหนอย ตามที่เขาแนะนําใหทํา แก โกรธแทบจะไลตีฉันตาย หาวาไปลอแกใหเด็กมันดูถูกเลนได คนไมมีวัฒนธรรมละก็เปนอยางนี้แหละ จะทิ้งเสีย ก็สงสาร อยูกันมานานตั้งแตเปนดอกไมสดจนเปนดอกไมแหงไปแลว" "อะไรนะไอเรื่องดอกไมๆ นี่นะ ฉันไดยินคุณหลวงพูดหลายหนแลว" พลอยถาม http://www.geocities.com/siamstory/ploy410_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 4

"ผูหญิง" พอเพิ่มอธิบาย "เดี๋ยวนี้เขาชอบเรียกผูหญิงวา 'ดอกไมของชาติ' แมพลอยเองก็ดอกหนึ่ง เหมือนกัน เสียแตชักจะเหี่ยวๆ เสียแลวเทานั้นเอง" พูดแลวพอเพิ่มก็หัวเราะอีกอยางชอบใจ ตั้งแตตาออดมาเยี่ยมบาน พลอยก็คอยโอกาสที่จะพูดกับตาออดถึงเรื่องอนาคตของตาออดอยูเสมอ วัน หนึ่งโอกาสนั้นมาถึง ตอนกลางวันขณะที่นั่งอยูดวยกันสองคน ตาออดก็เหยียดตัวลงนอนอยางสบายแลวพูดวา "คนเราะนี่จะอยูที่ไหนไดสบายเกินกวาที่บานไปเห็นจะไมมี ที่อื่นถึงจะสะดวกสบายอยางไรก็ไมเหมือน บาน เห็นจะเปนเพราะความรูสึกที่วาไมใชบานของเรานั่นเอง" "นั่นนะซีออด" พลอยรีบพูดขึ้น "เมื่อออดเห็นอยางนั้นทําไมออดไมกลับมาอยูเสียที่บานใหตลอดไป แมก็ เปนหวงคิดถึงอยูเสมอ เมื่อกอนออดจะกลับ อั้นเขาก็บนวาอยากใหออดกลับมาอยูเสียที่บาน" ตาออดพลิกตัวนอนคว่ําไปกับพื้น แลวก็พูดวา "พี่อั้นเขาก็พูดกับออดแลวเหมือนกัน เขาขอโทษขอโพยออดเสียจนออดอาย เพราะความจริงพี่อั้นก็ไม ไดทําอะไรผิด" "แลวออดตอบเขาวาอยางไร" "ออดก็บอกวาออดไมเคยถือโกรธพี่อั้นเลย และพี่อั้นเสียอีกกลับมีคุณตอออด ที่ทําใหออดมีมานะออก จากบานไปทําการงาน เดี๋ยวนี้ออดรูจักตัวเองดีกวาแตกอน และรูใจวาตัวตองการอะไร" "แลวออดตองการอะไร" พลอยถามเบาๆ "ออดตองการทํางาน ตองการทําอะไรๆ ใหมันเกิดขึ้น จะเปนอะไรก็ขอใหมันมีมากๆ ขึ้นเทานั้น อยาง เวลานี้ออดไปดูใหเขาขุดแร รูสึกเหมือนกับวาแรทุกกอนทุกเม็ดที่ขุดออกมานั้น ออดมีสวนเกี่ยวของดวย แลวแร นั้นก็จะจําหนายจายแจกไปมากขึ้นทุกทีๆ ใหเปนประโยชนแกคนอื่นๆ ออดก็พอใจที่ในชีวิตนี้ ไดมีสวนชวยทํา ประโยชนใหแกคนอื่น ไมไดมานั่งนอนอยูเปลาๆ ออดไมใชคนกอนนะแม แตกอนนั่งๆ นอนๆ ใหแมเลี้ยงก็ไม รูสึกอะไร แตเดี๋ยวนี้ไดออกไปขางนอก ไดไปอยูคนเดียวมันก็เปลี่ยนไป" "ออดพูดอยางไรแมไมคอยเขาใจ" พลอยพูดออกไปทั้งที่รูอยูเต็มอกวา ความหวังของตนที่จะใหตาออด อยูบานนั้น มีนอยเต็มทีเสียแลว "ออดเองก็ไมคอยเขาใจเหมือนกัน แตรูสึกวาเวลานี้อยากทําอะไรใหไดผลมากที่สุดในเวลาเร็ว รูสึกวา ชีวิตคนเรามันสั้นเหลือที่จะสั้น อยากทําอะไรๆ ไวใหมากที่สุดในเวลาเร็วที่สุดกอนที่มันจะตาย... แตออดรูใจแม ดี แมอยากใหออดอยูบานเหมือนแตกอนใชไหม" เมื่อเห็นพลอยพยักหนารับคํา ตาออดก็เสือกตัวเอาหัวมาหนุนบนตักพลอยแลวพูดวา "ทูนหัวของลูก ถารักลูกแลวอยาเพิ่งออกปากขอเลย แมออกปากขอลูกก็จําตองทําให เพราะถาไมใหก็จะ เปนบาปเปนกรรมติดตัวไป ขอใหแมนึกดูใหดีๆ เถิด ถาแมขอใหลูกกลับมาอยูลูก็ตองมา แตระหวางนั้นลูกจะ ตองไมสบายใจ เพราะจะรูสึกวาการงานตองทอดทิ้งไวยังทําไมเสร็จ และจะตองไมสบายใจอยางนั้นตลอดไป แม ก็คงไมชอบอีก เพราะแมคงอยากใหลูกทุกคนสุขกายสบายใจ แมคงอยากใหลูกกลับมาอยูบานเวลาที่ลูกปลอด โปรงใจแลวมากกวา ลูกจึงอยากเปนฝายขอเสียกอน ขอใหลูกไดกลับไปทําธุระของลูกใหเสร็จแลวลูกจะกลับมา เอง ขอใหแมอดใจรอสักหนอยเถิด" "แมจะตองคอยนานไหมออด" "ออดก็บอกไมถูก ตองดูความรูสึกในใจของออดกอนวาการงานที่ทํานั้นไดผลพอใจ พอที่จะวางมือได หรือยัง" แตแลวตาออดก็พูดตอไปวา "แตบางทีก็จะไมนานกระมัง เพราะออดเปนคนเบื่ออะไรงาย ไมเบื่ออยู อยางเดียวแตแมของออดเทานั้น" ระหวางที่พูดกันอยูพอเพิ่มก็เดินเขามาในหอง เห็นตาออดนอนเอาหัวหนุนตักพลอยอยูก็รองขึ้นวา "แหมนาเอ็นดูจริง กําลังฉอเลาะคุณแมอยูทีเดียวนะพอออด" พลอยตอบแทนตาออดวา "ออดเขากําลังพูดถึงเรื่องที่เขาจะไปทํางานตอที่ปกษใตนะ คุณหลวง" "ดีแลว ดีแลว ปลอยเขาไปเถิดแมพลอย" พอเพิ่มวา "คนกําลังหนุมกําลังแนน ตองใหเขาไปทําการทํางาน ปะเหมาะจะไดเมียทางปกษใตสักคนที่เขารวยๆ ลุงจะไดพึ่งพาไดบาง" คําพูดของพอเพิ่มทําใหตาออดหัวเราะ ลุกขึ้นนั่ง "คุณหลวงพูดตรงกับที่ฉันนึกไวทีเดียว" พลอยวา "ฉันคิดอยูเมื่อเร็วๆ นี้วา ลูกผูชายของฉันไมมีเหยามี เรือนสักคน ถาเปนอยางนี้ตอไปฉันเห็นจะตายเสียกอนไมไดเลนกับหลานเปนแน ตาอนนั้นก็ชางเถิดเปนคนมี เคราะหมีกรรม แตตาออดนี่ก็ยังไมมี ตาอั้นมีแลวก็เลิก แลวก็ดูเงียบไปทีเดียว" พอพลอยพูดถึงตาอั้น พอเพิ่มกับตาออดก็มองหนากันยิ้มอยูเปนนัย ทําใหพลอยเกิดความสงสัยถามขึ้น วา "ทําไมเวลาฉันพูดถึงตาอั้น คุณหลวงกับตาออดตองมองตากันยิ้ม" "เปลานาแมพลอย ไมมีอะไรหรอก" พอเพิ่มแกตัว "ไมจริงแลว" พลอยวา "ยิ่งคุณหลวงพูดดวยเสียงอยางนี้ ฉันยิ่งรูทีเดียววามีอะไรที่ตองปดฉันอีกแลว"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy410_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๐ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 4

ทันใดนั้นพลอยก็นึกเฉลียวใจขึ้นมาทันที ถามออกไปวา "หรือวาตาอั้นไปมีอะไรไว" "แมพลอย" พอเพิ่มพูด "แมพลอยกับพออั้นก็เปนแมเปนลูกกัน มีอะไรถามกันเองดีกวา อยาใหฉันพูด เลย"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy410_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๑

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๑ ตั้งแตวันที่พอเพิ่มพูดเปนนัยๆ เกี่ยวกับตาอั้นเปนตนมา พลอยก็ใหรูสึกสงสัยในเรื่องชีวิตสวนตัวของตา อั้น เปนกําลัง จะออกปากไตถามตาอั้นเปนสวนตัวก็ยังไมมีโอกาส ถามพอเพิ่มๆ ก็ไมยอมบอก อางวาใหไป ถามตาอั้นเอาเอง ถามตาออดๆ ก็ปฏิเสธวาไมรูเรื่องอะไรทั้งสิ้น เพราะเพิ่งกลับมาจากบานนอก และถึงแมวาจะ รูเรื่องอะไรบางตาออดก็ไมยอมบอก เพราะตาออดถือวาเปนเรื่องสวนตัวของตาอั้น ที่คนอื่นไมควรจะไปยุงเกี่ยว แตในระหวางนั้น พลอยก็ไมมีแกใจที่จะไปคิดถึงเรื่องอะไรมากไปกวาเรื่องของตาออด เพราะพลอยรูเปน ที่แนนอนแลววาตาออดจะตองกลับไปปกษใตอีก ระหวางนี้มาอยูบานเปนการชั่วคราวเทานั้นเอง พลอยจึงอยาก จะใชเวลาทั้งหมดสําหรับลูกคนที่จะตองจากไปอีกนาน จะนานเทาไรตนเองก็ไมสามารถจะคาดหมายได ตาออด เองก็รูใจมารดา กลับมากรุงเทพฯ คราวนี้ตาออดก็มิไดไปไหน นอกจากมีธุระจําเปนจริงๆ เวลาสวนใหญนั้นตา ออดก็มอบใหแกแม และเปนของแมโดยเฉพาะ ตามปกติตาออดจะตื่นแตเชา แลวก็อยูกับแมไปทั้งวัน นั่งพูดนั่ง คุยดวยจนกวาจะถึงเวลาไปนอน แมบางวันที่ตาออดมีกิจธุระตองออกจากบาน ตาออดก็มักจะรีบกลับ และมักจะ มีของติดมือมาฝากมารดาของตนเล็กๆ นอยๆ เสมอ ซึ่งทั้งหมดนี้ยอมจะทําใหพลอยมีความสุขใจ อยางเต็ม เปยมโดยไมมีปญหาเลย แตก็เปนธรรมดาที่ระยะเวลาอันกอปรไปดวยสุขนั้นจะตองผานพนไปโดยรวดเร็ว ผิดกับความทุกข ซึ่งจะ ผานไปอยางชาๆ ตาออดมาอยูบานไดรวมสองเดือน ก็เริ่มตระเตรียมตัวที่จะกลับไปปกษใต พลอยรูดีวาตาออด ตั้งใจแนวแนเสียแลวที่จะกลับไมยอมอยูบานตอไป ดังที่พลอยปรารถนา ดังนั้นถึงทัดทานไปก็ไรประโยชน และ ยิ่งจะทําใหตางฝายตางตองเศราหมองในใจหนักขึ้นไป พลอยจึงไดแตนิ่ง และชวยตาออดตระเตรียมขาวของที่ จะเอาไปใช เห็นอะไรขาดเหลือก็คอยแนะนําตักเตือน เวลาที่ผานไปอยางราบรื่น จนถึงเวลาที่ตาออดเขามาลา ออกจากบานไป พรอมกับพูดปลอบใจอีกประโยคหนึ่งวา "คราวหนาถาลูกกลับบานแลวจะมาอยูเลย ไมมาลาแมใหตองใจหายอีก บางทีคราวนี้ก็จะเปนการลาครั้ง สุดทาย เพราะคราวหนาจะไมมีการลาอีกตอไป" ตาออดจากไปแลวพลอยก็เซื่องซึมหงอยเหงาอยูหลายวัน ซึ่งตาอั้นผูซึ่งรูใจ ไดปลีกเวลามาอยูเปนเพื่อน มากกวาที่เคยทําเมื่อตาออดมาอยูบาน และวันหนึ่งขณะที่ตาอั้นนั่งอยูดวยนั้นเอง พลอยก็นึกถึงเรื่องที่พอเพิ่ม พูดไวเปนนัยๆ นั้นออก และลองถามลองใจตาอั้นขึ้นมาวา "อั้น ! อั้นก็เลิกกับเมียมานานแลว เมื่อไรอั้นจะคิดมีเหยามีเรือนเปนฝงเปนฝาใหแมไดทันเห็นบาง" ตาอั้นนิ่งอึ้งอยูนานเมื่อไดยินคําถามนี้ แลวก็เหลียวมามองดูหนาพลอยเหมือนกับจะสังเกต วาพลอยมี อะไรซอนเรนอยูเบื้องหลังคําพูดนั้นหรือไม แตในที่สุดตาอั้นก็พูดขึ้นวา "ผมยังไมไดคิดหรอกคุณแม อยูอยางนี้ก็สบายดีอยูแลว" "อั้นก็ควรจะคิดใหไกลๆ ไวบาง" พลอยตอบ "อั้นเปนลูกคนใหญของแม ควรจะมีครอบมีครัวไวเปนหลัก เปฯฐาน มีลูกมีเตาไวสืบตระกูล แมเองอยากมีหลานเหมือนจะตายไป แตอยูมาจนบัดนี้แลวก็ยังไมมีหลานสักคน ถึงยายประไพจะมีลูก นั่นก็จะเปนหลานยาย แตแมก็ยังอยากไดหลานยาอยูนั่นเอง เรื่องนี้จะไปหวังพึ่งตาออดก็ เห็นจะไมได เพราะยังไมเปนโลเปนพาย มัวแตพูดเปนเรื่องเลนไปเสียหมด" "คุณแมอยากใหผมมีเมียอีกเพราะอยากมีหลานเทานั้นหรือ" ตาอั้นถามยิ้มๆ "ไมใชเทานั้นหรอกอั้น แมอยากใหอั้นมีครอบครัวมีเมียไวคอยดูแลปรนนิบัติ และเปนคูคิดอานตอไป คน เราอยูไปคนเดียว ยิ่งเปนผูชายก็ไมสูจะดีนัก เพราะเหมือนกับเรือไมมีหางเสือ ถาอั้นมีลูกกับเมียเกา แมก็จะไม วาอะไรหรอก แตนี่อั้นก็ไมมี แมจึงอยากใหอั้นคิดดูเรื่องนี้ใหดีๆ เผื่ออยางไรตอไปแมจะไดนอนตาหลับ" "ผมเคยทําผิดมาหนหนึ่งแลวเมื่อพาลูซิลลเขามา" ตาอั้นปรารภ "รูสึกวาทั้งคุณพอคุณแมอึดอัดมาก ผม จึงไมอยากทําผิดอีกเปนคํารบสอง" "อั้นพูดอยางไรแมไมเขาใจ" พลอยวา "ลูซิลลนั้นก็เอาละวาเปนแหมมเปนหมัด พอแมไมคุนเคยกับฝรั่ง มังคา ก็ยอมจะตองเหม็นนมเนยไปบางในตอนแรกๆ แตพอคุนกันแลวแมก็ไมไดวากระไร แตตอนที่อั้นพูดวา กลัวผิดอีกเปนคํารบสองนั้นแมไมเขาใจ" "ผมเกรงไปวาผมไปไดใครมาที่ไมถูกใจคุณแม คุณแมก็จะตองหนักใจมาก เพียงลูกเขยคนหนึ่งก็ย่ําแย อยูแลว ไปไดลูกสะใภที่ไมถูกใจอีกคนหนึ่ง คุณแมจะมิลําบากแยหรือ" "อั้นก็รูวาแมไมใชคนอยางนั้น" พลอยประทวงขึ้น "จะเปนเขยเปนสะใภ ถาหากวาลูกของแมพอใจ แมก็ ยินดีที่จะรับทุกคนไป ไมเคยไปวากลาวหรือแสดงความไมพอใจอยางไรเลย"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy411.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๑

Page 2 of 5

"ขอนี้ก็จริง" ตาอั้นยอมรับ "ดูๆ ไปแลวก็ดูเหมือนจะเปนพวกลูกๆ ของแมยุงกันไปเองทั้งนั้น คุณแมเสีย อีกเปนคนคอยระงับความมิใหยุง" ตาอั้นพูดแลวก็นิ่งอยูนานแลวพูดขึ้นวา "คุณแมอยากมีหลานจริงๆ หรือ" "โธ ! อั้นก็ถามได ใครบางจะไมอยากมี !" พลอยรองทันใดนั้นก็เกิดความหวังขึ้นทันที ถามตาอั้นวา "อั้นคิดอะไรไวบางหรือเปลา มองใครเขาไวที่ไหนบางหรือยัง" ตาอั้นทําอาการเหมือนกับจะตัดสินใจบอกความจริงบางอยางใหพลอยรู แตแลวก็พูดขึ้นวา "ดูไปกอนเถิดคุณแม เอาไววันหลังคอยพูดกัน" ตั้งแตไดพูดกันในวันนั้นเปนตนมา พลอยก็รูสึกวามีบางอยางในสายตาของตาอั้น ที่พลอยมิไดเคยสังเกต เห็นมาแตกอน ตาอั้นมักจะมองดูพลอยดวยสายตาที่ดูเหมือนจะมีบางอยางซอนเรนไว และตาอั้นอยากจะบอก ความลับนั้นใหพลอยไดทราบ ตอมาอีกหลายวันตาอั้นก็พูดขึ้นลอยๆ ในวันหนึ่งวา "คุณแม เคยมีใครเลาอะไรใหคุณแมฟงเกี่ยวกับผมบางหรือเปลา" "เปลาเลยอั้น ไมเห็นมีใครพูดอะไรเลย" พลอยตอบ "คุณลุงหรือตาออดไมเคยพูดอะไรบางหรือ" "เปลา ไมเคยเลยทั้งสองคน" ตาอั้นนิ่งอยูครูหนึ่งแลวก็พูดขึ้นวา "วันอาทิตยหนาตอนสายๆ คุณแมมีธุระอะไรบางหรือเปลา" "อั้นก็รูดีวาแมไมมีธุระอะไร นอกจากการงานทางบานเล็กๆ นอยๆ อั้นจะใหแมทําอะไรหรือ" "เปลาไมมีอะไรหรอก ผมอยากชวนคุณแมขึ้นรถไปเที่ยวเลนนอกบานเทานั้นเอง" ตาอั้นตอบแลวก็หลีก ไปทางอื่น ไมยอมใหพลอยซักถามอะไรอีก ครั้นถึงวันอาทิตยตาอั้นก็มายืนยันแตเชา ใหพลอยออกไปนั่งรถเที่ยวกับตน พอตกสายอีกสักหนอย พลอยก็ขึ้นรถมีตาอั้นเปนคนขับเอง ตาอั้นพาพลอยขับไปที่ตางๆ ในพระนครอยูพักใหญ แลวตาอั้นก็เลี้ยวรถ เขาซอยเล็กๆ ซอยหนึ่ง ไปจอดลงที่หนาบานหลังเล็กๆ มีรั้วสังกะสีและประตูบานปดมิดชิด "คุณแมแวะเขามานั่งเลนในบานนี้กับผมสักครูก็ได" ตาอั้นวา "บานใครนี่อั้น" พลอยถามอยางสงสัย "บานเพื่อนผมเอง" ตาอั้นพูดพลางเปดประตูรถใหพลอยแลวพูดวา "เขามาเถิดคุณแม ผมจะแวะเยี่ยม เขาสักหนอย" "แมคอยในรถก็ได" พลอยพูดอยางลังเล "ไมตองหรอกคุณแม เขามาเถิด" ตาอั้นพูดแลวก็เอื้อมมือมารับมือพลอยใหกาวลงจากรถ ซึ่งพลอยก็ตอง ตามใจลูก และเดินตามตาอั้นเขาไปในบาน พลอยนึกสงสัยขึ้นมาทันที เมื่อเห็นตาอั้นลวงกุญแจจากกระเปากางเกง แลวเปดประตูหนาบานเดินเขา ไปได โดยไมตองเรียกรองใหใครมาเปดรับ บานนั้นมีเนื้อที่เล็กมาก เพราะเมื่อพนรั้วเขาไปเพียงเล็กนอยก็ถึงตัว เรือน ซึ่งเปนเรือนไมสองชั้นเล็กๆ รักษาสะอาดสะอานนาอยู ตาอั้นชวนพลอยขึ้นไปที่เฉลียงเล็กหนาเรือน เมื่อ บอกใหพลอยนั่งแลวตาอั้นก็เดินหายเขาไปหลังบาน เสียงตาอั้นพูดกับใครเบาๆ ที่หลังบานครูหนึ่งแลวตาอั้นก็ เดินกลับออกมา มีเด็กผูหญิงเล็กๆ อายุขนาดสี่หาขวบหนาตานาเอ็นดู เดินนําหนาออกมาคนหนึ่ง และตาอั้นอุม เด็กชายอวนนารัก อายุประมาณขวบเศษออกมาอีกคนหนึ่ง ทันใดนั้นตาอั้นก็พูดกับเด็กผูหญิงตัวเล็กนั้นวา "แอด ! ไปกราบคุณยาเสีย" พลอยเขาใจเรื่องไดตลอดทันที รวบตัวเด็กผูหญิงที่มายืนเอียงอายอยูขางเกาอี้มากอดไวแนน รูไดทันที วาเด็กสองคนนี้เปนลูกตาอั้น ที่มาแอบมีซุกซอนเอาไว เปนเหตุใหพอเพิ่มและตาออดมองตากันเปนนัย เมื่อ พลอยพูดถึงเรื่องนี้ขึ้น หนาตาของเด็กคนที่เดินเขามานั้น พลอยมองดูปราดเดียวก็รูไดวาเปนลูกตาอั้น โดยมิ ตองสงสัย พลอยกอดจูบหลาน พลางนึกในใจ ซึ่งหูแววไดยินเหมือนกับเปนเสียงตะโกนวา "คุณเปรม ! คุณเปรม ! ฉันโดนเขาแบบนี้อีกแลว ! แลวคราวนี้ไมใชคุณเปรมแตเปนตาอั้น ลูกของคุณ เปรม และไมใชมีแตตาอนคนเดียวหรอก คุณเปรม มีตั้งสองคน นารักนาเอ็นดูเหลือเกิน !" ในใจหวนระลึกถึงความหลังที่ผานมา ประกอบกับความปติที่ไดเห็นหลาน ไดจับตองเนื้อหนังอันอบอุน นุมนิ่มของหลาน ทําใหพลอยตองมองอะไรเห็นไดไมถนัด เพราะตาพราพรายไปดวยน้ําตา พลอยไมเคยนึกฝน เลยวาตาอั้นจะมาเที่ยวมีลูกซุกซอนไวอยางนี้ เหตุการณที่เคยไดประสบมาแลวครั้งหนึ่งเมื่อแรกแตงงานกับคุณ เปรม กลับมาเกิดขึ้นแกตนอีก เมื่อครั้งนั้นพลอยยังเปนสาว ไดขมใจขมตนใหรับตาอนมาเลี้ยงเปนลูกได คราวนี้ พลอยมีอายุแลว ความรูสึกตางๆ ก็ชาลงไปตามวัย และเด็กสองคนนี้เปนหลานของพลอยแทๆ โดยไมมีปญหา พลอยจึงไดแตความปติดีใจ เห็นตาอั้นทรุดตัวลงนั่งเกาอี้ขางๆ พลอยก็รองขึ้นวา "โธ ! อั้น !" แลวก็รับหลานอีกคนหนึ่งมานั่งบนตึก กอดจูบไปพลาง "ผมทําความผิดอีกเปนครั้งที่สอง" ตาอั้นเริ่มพูด "คราวแรกจะแตงงานก็มิไดบอกใหคุณแมรู แตงเอาเอง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy411.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๑

Page 3 of 5

ตามใจ คราวนี้ก็อีก...." ตาอั้นหยุดพูดครูหนึ่ง ยกมือลูบผมเด็กผูหญิงคนโตดวยความปรานีแลวก็พูดตอไปวา "ทีแรกผมก็ไมไดคิดจะเลี้ยงดูแมยายแอดนี่จริงจัง แตอยูไปแอดก็เกิดมา แลวก็คนเล็กนี่อีกคนหนึ่ง..." ตา อั้นชี้มือไปทางเด็กผูชายที่นั่งอยูบนตักพลอยแลวก็ถอนใจใหญ ระหวางที่ตาอั้นกําลังพยายามอธิบายเรื่องราวดวยขอความที่ขาดๆ วิ่นๆ อยูนั้นเอง ความตื่นเตนของ พลอยที่บังเกิดขึ้นในขั้นแรกก็เริ่มเบาบางลงไป และเมื่อนึกอะไรออกขึ้นมาอยางหนึ่ง พลอยก็พูดสอดขึ้นมาวา "เดี๋ยวกอนอั้น เรื่องอะไรที่แลวไปแลวเอาไวพูดกันทีหลังก็ได แมของเด็ก......แมของหลานสองคนนี้อยูที่ ไหน" ตาอั้นเหลียวหนาเขาไปในหองแลวรองเรียกวา "สมใจ สมใจ ออกมาหาคุณแมขางนอกนี่เถิด" อีกสักครูหนึ่งผูหญิงสาวหนาตาคมขํารูปรางดีคนหนึ่ง ก็ โผลประตูออกมาอยางประหมา พอเห็นหนาพลอยหญิงสาวคนนั้นก็กมลงกราบกับพื้น แลวก็นั่งพับเพียบกม หนาอยูที่ตรงนั้น "ขึ้นนั่งเสียบนเกาอี้เถอะลูก" พลอยรีบพูดขึ้นทันที แตเมื่อเห็นหญิงนั้นยังนั่งอยูที่พื้นก็พูดขึ้นวา "ขึ้นนั่ง เสียขางบนเถอะแม......" "สมใจ" ตาอั้นพูดตอใหเบาๆ "ขึ้นนั่งเสียขางบนเถิดแมสมใจ" พลอยพูดซ้ําดวยน้ําเสียงที่ปรานีทําใหสมใจคอยหายประหมา ขยับตัว ขึ้นนั่งบนเกาอี้อยางเรียบรอย พลอยรูสึกโลงใจขึ้นเปนกองที่เห็นวาแมของเด็กที่เปนหลานทั้งสองคนนี้ยังอยู มิไดหายสาบสูญไป เหมือนแมตาอน สิ่งที่ทําใหพลอยโลงใจขึ้นไปอีกก็คือหนาตาของสมใจลูกสะใภนั้นคมขํา ถึงจะมิใชเปนคนขาว แตผิวเนื้อก็เปลงปลั่งดวยวัยสาวและความไรโรค "บางทีตาอั้นจะมีเมียแหมมเสียจนเบื่อคนขาวกระมัง" พลอย นึกอยูในใจ และใชความสังเกตพิจารณาดูรูปรางลักษณะสมใจตอไปอยางสนใจ สมใจเปนคนอายุรุนราวคราว เดียวกันกับประไพ จะแกออนกวากันก็ไมกี่ป มีบางอยางในใบหนาและสายตาของสมใจ ที่บอกใหรูวาเจาตัวมี ความซื่อสัตยสุจริต การแตงกายของสมใจนั้นเรียบๆ แบบอยูกับบาน มีรองรอยแสดงใหเห็นวาสมใจรีบจัดแจง แตงตัวใหเรียบรอย เมื่อรูวามีผูใหญมาหา พลอยรูสึกโลงใจขึ้นไปอีกเมื่อเห็นวาสมใจเพียงแตผัดหนาเฉยๆ มิได มีเครื่องตกแตงใดที่เกินไปกวานั้น ผมที่หยิกดวยเครื่องตามสมัยนิยมนั้นเปนอยางเดียวที่ผิดจากธรรมชาติไป สวนคิ้วนั้นมิไดถอนและปากก็มิไดทา สมใจนุงผาถุงพับหนายาวๆ ผืนหนึ่ง มิใชกระโปรงสั้นแบบยุโรปที่พลอย เคยนึกรําคาญ และเสื้อที่ใสนั้นก็เปนเสื้อผามัสลินสีขาวเรียบๆ มิดชิดดีไมกวนประสาทของคนที่อายุขนาดพลอย พลอยเหลียวไปยิ้มกับตาอั้นเพื่อบอกใหรูวาตนพอใจในลูกสะใภ แลวก็พูดกับสมใจวา "ลูกนารักออกแมสมใจ เลี้ยงเองหรือวามีใครชวย" สมใจมองดูตาอั้นเหมือนกับจะถามวาใหทําอยางไร เมื่อเห็นตาอั้นพยักหนานอยๆ สมใจก็ตอบดวยเสียง เบาเกือบจะไมไดยินวา "เลี้ยงเองเจาคะ" "สมใจเขาเลี้ยงลูกและดูแลบานเอง มีเด็กชวยอีกคนหนึ่งเทานั้น" ตาอั้นชวยอธิบาย และสมใจก็หันไปยิ้ม กับตาอั้น ดวยสายตาที่แสดงความขอบใจ ขณะนั้นหลานผูชายคนที่นั่งอยูบนตักกําลังดิ้นรนจะไปหาแม เพราะเห็นแมมานั่งอยูใกลๆ พลอยสงเด็ก ใหสมใจแลวถามขึ้นวา "คนโตนี่ชื่อแอด คนนี้ชื่ออะไรยายังไมรูเลย" "ผมเรียกมันวาไอแอว" ตาอั้นบอก "ชื่อเปนตัว อ ทั้งนั้น เหมือนกับลูกคุณแม แตชื่อจริงๆ ยังไมมีเลย ตองขอใหคุณยาตั้งให" "แมตั้งไมเปนหรอกอั้น แตไมเปนไร จดวันเดือนปเกิดมาทั้งสองคน แมจะไปขอชื่อพระทานให" พูดไดเทานั้นเอง พลอยก็ดูเหมือนจะหมดเรื่องพูด ระยะตอไปนั้นก็ไดแตนั่งมองกันไปและยิ้มกันมา อัน เปนปกติวิสัยของคนที่เพิ่งรูจักกันในตอนแรก ยังไมคุนเคยกัน ชะรอยตาอั้นจะรูสึกอึดอัดรําคาญใจจึงพูดขึ้นวา "คุณแมกลับบานเสียกอนเถิดผมจะไปสงเดี๋ยวจะสายไป" แลวตาอั้นก็ขยับตัวลุกขึ้นยืน สมใจไดยินสามี พูดก็ลงจากเกาอี้กราบพลอย แลวก็บอกใหลูกสาวคนที่รูความกราบลาคุณยา ฝายพลอยก็ไดแตออกปากลาและ ใหศีลใหพรพึมพําไปตามประสาคนแก แลวก็เดินใจลอยตามตาอั้นไปขึ้นรถ เมื่อรถออกวิ่งมานั้นพลอยรูสึกตัวเหมือนกับวา เรื่องทั้งหมดนั้นไมจริงแตวาไดฝนไปทั้งเรื่อง พลอยรวบ รวมสติมาอยูในตัวทั้งหมดแลวก็พูดกับตาอั้นขึ้นวา "อั้น แมไมอยากจะพูดอะไรมาก เรื่องหลังๆ มาจะเปนอยางไรแมไมรูเลย เพราะอั้นไมไดบอกใหแมรู แต เดี๋ยวนี้แมก็รูแลว เมื่อรูแลวอั้นก็อยานึกวาแมจะนิ่งดูดาย กลับไปนี่แมจะใหเขาเตรียมหองหับที่บนตึก อั้นตองไป รับลูกเมียมาอยูดวยโดยเร็วที่สุด แมไมยอมใหอยูอยางนี้อีกตอไป" "ชาๆ กอนคุณแม" ตาอั้นวา "คุณแมฟงผมกอน อยาเพิ่งตัดสินใจอะไรเร็วนัก"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy411.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๑

Page 4 of 5

"จะใหแมรอชักชาอะไรตอไปเลาอั้น" พลอยแยงขึ้น "อั้นก็รูดีวาแมอยากไดหลาน แมบอกมามิรูจักกี่หนๆ แลว เดี๋ยวนี้อั้นก็หาหลานมาใหแมทีเดียวถึงสองคนพรอมๆ กัน ผูหญิงคนผูชายคนพอดิบพอดี นารักนาเอ็นดูจะ ตายไป" พลอยพูดถึงหลานแลวก็อดยิ้มดวยความพอใจมิได "อยางนี้แลวอั้นจะใหแมรออะไรตอไปอีก" พลอยพูด ขึ้นในที่สุด "ผมไมเขาใจ" ตาอั้นปรารถขึ้น มือนั้นก็ถือพวงมาลัยรถและตาก็มองออกไปขางหนา "ผมไมเขาใจเลยจริงๆ" ตาอั้นพูดตอไป "ถาเปนพอแมอื่น ลูกเขาไปทําอยางนี้ก็คงจะตองมีตัดพอตอวา หรือเสียอกเสียใจอะไรบาง แตคุณแมกลับไมมีเลยเหมือนกับวา เรื่องอยางนี้เปนของธรรมดาที่สุด ผมเลยงงไป หมด ไมรูจะพูดอยางไรถูก" "อั้นก็รูดีวาแมไมใชคนชอบเอาเรื่องเอาราวกับใคร จนใครๆ เขาพากันเห็นแปลกตั้งแตแมยังสาวๆ อยู แลว เรื่องอั้นนี้ยังดี เพราะอั้นโตเปนผูใหญแลว แมไมมีอะไรที่จะไปวากลาว" พลอยหยุดพูดระลึกถึงความหลัง อยูครูหนึ่ง แลวก็พูดตอไปวา "เรื่องเกาๆ ที่แลวมาหนักกวานี้เปนกอง กระทบถึงตัวแมโดยตรง และแมก็มีแต ทางเสีย..... ไมเหมือนคราวนี้แมไดหลานตั้งสองคน...... แมยังไมเคยไปวากลาวใครใหเจ็บช้ําน้ําใจเลย" เห็นตาอั้นเหลียวมามองหนาตน พลอยก็รีบพูดขึ้นวา "เปลาอั้น.........อยาไปนึกวาแมเปนคนวิเศษวิโสอะไรเลย ถูกใครเขาทําอะไรใหเปนทุกข ใชวาจะไมทุกข บางครั้งก็เลือดตาแทบจะกระเด็น ชั่วแตวาไมรูจะไปโทษใครหรือไปเกลียดไปโกรธใครอยางคนอื่นเขาเทานั้น จะ วาแมเปนคนโงก็ได เพราะดูๆ ไปแลวก็เหมือนกับวาไมมีจิตไมมีใจ แมเองก็ไมรูวาจะพูดวาอยางไรถูกเหมือน กัน" ตาอั้นนิ่งอยูไมพูดวาอะไรทั้งสิ้น แตขับรถไปเรื่อยๆ ไปจนถึงบาน ตาอั้นจอดรถสงพลอยลงแลว ก็ขับรถ ไปเขาโรง พลอยขึ้นไปนั่งรอตาอั้นอยูบนตึก ตั้งใจแนวแนวาวันนี้ตองพูดกับตาอั้นใหเด็ดขาดไป และจะตองตั้งใจ บังคับใหเรื่องราวเปนไปตามใจตนเองบางในคราวนี้ ไมปลอยใหเปนไปตามบุญตามกรรม อยางแตกอน พลอย นั่งอยูคนเดียวสักครูหนึ่ง ตาอั้นก็เดินขึ้นบันไดตึกมา "อั้นมานี่กอน" พลอยเรียกขึ้นในทันที และพอตาอั้นเดินเขามานั่งเรียบรอยแลว พลอยก็พูดขึ้นวา "เรื่องนี้จะเอาอยางไรกันแน บอกใหแมรูบาง" "ผมวาจะเอายายแอดมาใหคุณแมเลี้ยง เพราะคุณแมอยากไดหลาน และยายแอดแกรูความแลว สวนตา แอวคนเล็กพอรูความก็จะรับมาอยูที่นี่" ตาอั้นพูดเสียงออยๆ "ไมเอาละอั้น" พลอยพูดเสียงแข็ง "แมยอมไมได ไมไดเปนเด็ดขาด มีอยางรึจะมาเกณฑใหแมไปเที่ยว แยกลูกแยกแมเขาไมใหอยูดวยกัน เปนกรรมเวรอยางหนัก แมแกแลว แมไมยอม" "ถาอยางนั้นก็ใหอยูอยางนี้ก็แลวกัน" ตาอั้นพูดดวยน้ําเสียงที่แสดงความโลงใจ "สมใจเขาก็สบายดี ไม เดือดรอนอะไร คุณแมก็จะไดไมตองยุง คิดถึงหลานอยากเลนกับหลานผมก็ไปรับมาใหเปนครั้งเปนคราวก็ได" "อยางนั้นก็ไมไดอีก" พลอยพูดดวยเสียงที่เกือบจะกลายเปนขุน "อั้นอยาทําตัวเปนคนมักงาย เห็นอะไร เปนของงายๆ ไปหมด แตกอนนี้อั้นปดบังแมไวไมใหรูเรื่องราวก็ชางเถิด แตเดี๋ยวนี้แมรูแลว เมื่อรูแลวแมก็จะไม มีวันยอมใหอั้นทําลับๆ ลอๆ อีกตอไป อั้นเปนผูใหญแลวไมใชเด็กๆ มีลูกมีเมียก็ตองรับเขามาเลี้ยงดูใหเปนหลัก เปนฐาน แมจะนอนตาไมหลับจนกวาอั้นจะตกลงไปรับลูกเมีย มาอยูดวย คิดถึงวาอั้นเอาไปซุกซอนไวจนลูกโต แมก็ยังไมวายจะใจหายเลย" "ผมก็คิดวาจะบอกคุณแมเหมือนกันตั้งแตยายแอดเกิด แตแลวก็รั้งๆ รอๆ ไปจนตาแอวเกิดมาอีกคน เห็นคุณแมพูดเหมือนกับจะระแคะระคายรูอยู ผมก็เลยบอกเสียใหโลงใจ เพราะผมก็หนักใจเหมือนกัน ที่มีอะไร ตองปดบังคุณแม แตตอนที่จะใหผมรับมาอยูบานนี้ดวยกันหมด ผมยังหนักใจอยู" "หนักใจเรื่องอะไรอั้น กลัววาแมจะไปขมเหงลูกเมียของตัวอยางนั้นหรือ ถาคิดอยางนั้นก็เปนอันวาวางใจ ได วาแมไมมีวันจะทํา มีแตจะรักมีแตจะเอาใจ แตก็เอาเถิดถึงอั้นจะไมไวแมๆ ก็ไมวา อันจะออกจากบานไปมี เหยามีเรือน ตั้งครอบครัวใหมก็ตามใจ แมขอใหอั้นไดอยูกับลูกเมียเหมือนเขาอื่น ไมทําลับๆ ลอๆ แอบไปมาหา กันอยางนี้แมไมชอบ" ตาอั้นถอนใจใหญแลวก็พูดขึ้นวา "คุณแมอยาพูดอยางนั้น ผมเสียใจเหลือเกิน ผมเปนลูกคนหนึ่งที่รูจักใจคุณแมดีไมนอยกวาใครๆ ความ ไมไวใจคุณแมไมเคยผานเขามาในหัวใจผมเลย แตที่ผมไมอยากพาสมใจและลูกๆ มาอยูบาน ก็เพราะกลัววา คุณแมจะตองลําบากจะตองหนักใจ ผมทําความผิดไปแลวก็อยากจะกมหนาใชผิดไปแตตัว ไมอยากใหพอแม เดือนรอน" "อั้นจะไปกมหนารับผิดทําไมเมื่อเรื่องมันไมเปนผิด" พลอยวา "และการที่จะรับลูกเมียมาอยูดวย ก็ไม เห็นจะทําใหแมเดือดรอนที่ตรงไหน กลับจะทําใหสบายใจขึ้นเสียอีก" "เรื่องนี้แหละที่ผมเปนหวงเสียจริง" ตาอั้นพูด "คุณแมก็มีแตความรัก มีแตความเมตตา เห็นใครก็อยาก จะรักจะชอบ เห็นวาเขาดีเสียกอนเสมอไป สมใจนั้นคุณแมไมรูจักเขาเลย เพิ่งไดเห็นหนากันวันนี้ แลวคุณแมจะ ไปรับเขามาอยูดวย ถามาอยูดวยกันแลวเกิดไมชอบขึ้นมา ผมมิลําบากแยหรือ เพราะขางหนึ่งก็แม อีกขางหนึ่ง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy411.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๑

Page 5 of 5

ก็เมีย" "แมเกิดมานานเต็มทีแลวอั้น" พลอยบอก "นานพอที่จะมองดูหนาคนออกวาใครคบไดเลี้ยงได ใครเลี้ยง ไมได เทาที่แมเห็นหนาแมสมใจเมื่อเชา แมก็ถูกใจ แตอั้นมีเหตุผลอะไรหรือที่คิดไปวาแมอาจไมชอบเขา" "ผมขอพูดตรงๆ ดีกวา" ตาอั้นบอก "สมใจเปนลูกกําพราเกิดมาก็ยากจน ไมมีสกุลรุนชาติ ไมเคยเขา สมาคมในที่สูง ไมเคยเลาเรียนศึกษาอะไรทั้งสิ้น... ไหนๆ ก็จะพูดกันแลวผมพูดไมอายหรอกวา เมื่อไดเขามาแต แรกนั้น ไมเคยคิดจะเลี้ยงเปนลูกเปนเมียจริงจังเลย เพราะรูวาความเปนอยูคนละอยาง และสมใจเขาก็คงรูเชน เดียวกัน เขาจึงไมเรียกรองอะไร ผมเชาบานนั้นใหเขาอยู ไปมาหาสูบางเปนครั้งเปนคราว เคยคิดไววาจะใหเขา มีลูกมีผัวที่สมฐานะ แตอยูมาสมใจก็มีลูกผมก็ไมรูจะทําอยางไร เห็นหนาลูก็สงสาร ผมก็พาเขาไปจดทะเบียน เปนเมียเงียบๆ ไมบอกใหใครรู ที่จดทะเบียนนั้นก็เพื่อเด็กที่เปนลูกผม ในใจจริงผมก็คิดจะเลี้ยงดูเขาตอไปใน ฐานะเชนนี้ ที่จะใหรับมาไวที่บานเลี้ยงดูออกหนาออกตานั้น ผมไมเห็นดวย เพราะรังแตจะกอใหเกิดความ รําคาญใจ เพราะเมื่อสมใจแกเปนแตคนเพียงแคนั้น ถึงแกจะไมตั้งใจทําใหเสียหาย แตแกก็อาจพลาดพลั้งอยู เรื่อยๆ ดวยความรูเทาไมถึงการณ ถึงคุณแมจะเจตนาดีสักเพียงไรก็ตาม คุณแมก็จะตองพลอยขายหนาแทนเขา อยูวันยังค่ํา แลวก็จะเกิดความรําคาญใจ ใหมๆ ก็คงจะทนไดแตนานไปอาจทนไมไหว ความรําคาญใจก็จะกลาย เปนความเกลียดชังหมั่นไส แลวในที่สุด ก็จะอยูดวยกันไมได" พลอยถอนใจใหญ เพราะคําพูดของตาอั้นทําใหพลอยเห็นไดวาตาอั้นเปนคนที่มีความคิดแคบเสียเต็มที พลอยตอบตาอั้นไปวา "อั้น ธรรมดาแมเชื่อฟงอั้นอยูเสมอ เพราะถือวาอั้นเปนคนมีสติปญญาความรู แตคราวนี้อั้นพูดมาแมฟง ไมได เชื่อไมไดเลย อั้นพูดเขาตําราผงเขาตาตัวเองเสียแลว อันบอกแมเองวาอั้นจดทะเบียนสมใจเปนเมียเพราะ อั้นเห็นแกลูก แมเขาใจวาอั้นคงจะกลัววาลูกโตขึ้นรูความ จะตองอับอาย แตแลวอั้นก็เอาแมของลูกมาเลี้ยงกดไว เหมือนกันไมใชเมีย แมไมเห็นจะไดประโยชนอะไรเลย ถาเปนอยูอยางนี้ตอไปลูกโตขึ้นก็จะไดอายเทากัน แม เห็นวาอั้นคิดสั้นไปหนอย อั้นวาเมียของอั้นไมไดร่ําไดเรียน ไมเคยเขาสมาคมที่ดี แตทําไมอั้นไมคิดแกไข สมใจ ก็ไมใชคนแกเฒาอะไรนักหนา เอามาไวกับแมก็พอจะชวยสอน ชวยอบรมใหดีไปได อั้นจะไมตองขายหนาเขา แมสังเกตดูหนาตาทาทางเขาก็ไมใชคนโง กิริยาทาทางหูตาเทาที่เห็นก็พอจะไปได ตลอดจนวิธีการแตงตัวหรือ จะลุกจะนั่งก็นาดูไมขวางลูกตา แมกลับจะเห็นวาเขาดีกวาที่เรียกกันวาลูกผูดีสมัยนี้เสียอีก อั้นไปรับมาอยูเสีย เถิด แมรับรองไดวาอั้นจะไมขายหนาใครเลย แมจะดูใหเอง" "แตคุณแม......" ตาอั้นยังลังเลใจ "ผมบอกแลววาสมใจไมใชคนที่มีสกุลสูง พอแมเขาเปนใครที่ไหน ผมก็ แทบจะไมรูจัก....." "นั่นแหละยิ่งดี" พลอยตอบอยางมั่นใจ "ถึงเขาจะเปนใครมาแตกอนก็ตาม เดี๋ยวนี้เขาเปนเมียอั้น เปนลูก สะใภของแมและเปนแมของหลาน ถาอั้นและแมจะไปดูถูกเขาก็เทากับวาเราดูถูกตัวเราเอง และเด็กสองคนนั้น ตอไปจะไมยกโทษใหพอกับยาเลย เพราะเราไปดูถูกแมเขาไว ไมไดหรอกอั้น แมตองยกยองเขาทุกทาง และ ตองขอใหอั้นตามใจแมดวย" พลอยพูดดวยสําเนียงที่แนนอนไมมีทางที่จะผอนผัน ยอมตามใจตาอั้นแมแตนอย "และถาจะวาไปจริงๆ ความจนก็ดี ความอาภัพตางๆ ในชาติกําเนิดอะไรเหลานี้ ไมใชของที่ควรจะดูแคลนกัน งายๆ เพราะถึงจะเกิดมาเปนอะไร ก็ยังเปนมนุษยตาดําๆ ดวยกันทั้งนั้น" พลอยพูดตอไปดวยความมั่นใจวาตน เปนฝายถูก "ถึงคุณแมจะไมถือก็เถิด" ตาอั้นวา "แตคนอื่นเขาอาจจะถือทําใหคุณแมตองลําบากใจ" "ก็ใหรูกันไป" พลอยตอบอยางเด็ดขาด "ถาใครไมนับถือลูกสะใภฉันก็แลวไป แปลวาไมตองคบกัน" "เดี๋ยวกอน..." ตาอั้นพูดเสียงออนลงทุกที "คนอื่นก็คงจะไมสูกระไรนัก ผมก็กังวลแตนองๆ ตาออดกับ ประไพเขาจะวาอยางไรกันก็ไมรู" "ตาออดไมตองวิตก แมรูดีวาตาออดไมเปนอยางนั้น" พลอยวา "สําหรับยายประไพก็อยากังวล ขืนมีทีทา ออกมาเมื่อไรฉันจะรับมือเอง" ตาอั้นหัวเราะแลวพูดวา "ผมยอมแลวคุณแม ผมจะไปรับลูกเมียมาอยูดวย" ตาอั้นหยุดนิ่งครูหนึ่งแลวพูด วา "คุณแมนี่บทจะแข็งก็แข็งเปนเหล็กทีเดียว ผมเพิ่งเคยเห็นวันนี้" "นั่นสิ !" พลอยพูดพลางยกผาเช็ดหนาขึ้นซับเหงื่อที่หนาผาก "แมเองก็เพิ่งรูตัวเหมือนกัน"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy411.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๑) พลอยไดลูกสะใภไดหลานมาอยูไมทันจะไดคุนเคย หรือไดชื่นชมใหสมกับความปรารถนาอยางไรเลย ความสงบสุขทั้งหลานทั้งปวง ที่พลอยนึกวามีก็แตกสลายไปทันที โดยพลอยไมเคยรูตัวมากอน เมื่อแรกสงครามเกิดใหมๆ นั้น มีเครื่องบินฝรั่งเขามาทิ้งระเบิดพระนครหนหนึ่งหรือสองหน คราวนั้น ถึง แมวาพลอยจะตกใจมาก แตความตกใจนั้นก็เปนเพียงสวนหนึ่งของความตระหนกตกใจที่เกิดขึ้นทั่วๆ ไป ใน ความวุนวายของสงครามที่เพิ่งจะมาถึงตัว ในระยะนั้นอะไรก็ดูจะนากลัว กอใหเกิดความตระหนกตกใจไปหมด ไหนจะญี่ปุนเขามาเต็มพระนคร ไหนจะความมืดอันเกิดจากการพรางไฟ ไหนจะขาวลือที่สับสนอลหมาน จน แทบจะฟงไมไดศัพท การที่เครื่องบินฝรั่งมาทิ้งระเบิดครั้งนั้น จึงกลายเปนของธรรมดา ในขณะที่บานเมืองเขา ยุคเข็ญถึงความอลเวง แตหลังจากนั้นมาเครื่องบินฝรั่งก็หายไปไมมารบกวนอีก ความยุงเหยิงอลเวงตางๆ ก็ สงบลง ทุกคนในกรุงเทพฯ รวมทั้งพลอยก็คุนเคยกับภาวะที่มีทหารญี่ปุน เขามาอยูในเมืองเขาทีละนอยจน กลายเปนของธรรมดา และสงครามนั้นก็ดูไกลตัวออกไป เพราะไปรบพุงกันอยูประเทศอื่น อันตรายตางๆ อัน เกิดจากการสงครามนั้นจึงมิไดมีใครนึกถึง น้ําทวมไปแลวจนลด ตาออดมาเยี่ยมบานแลวก็กลับ พอตาออดกลับ ไปไดไมกี่วัน ตาอั้นก็รับสมใจภรรยากับลูกอีกสองคนมาอยูบาน พลอยจัดหองหับใหอยูดวยกันบนตึกใหญ บอก กับสมใจใหใชของทุกอยางบนนึกไดเปนของตัว ซึ่งทําใหสมใจกมลงกราบน้ําตาคลอ สําหรับพลอยนั้นรูสึกตนวา เปนคนแกจริงจัง เพราะมีหลานยามาเปนประจักษพยานอยู และความรูสึกวามีเด็กเล็กๆ วิ่งอยูในบาน เปนเลือด เนื้อเชื้อไขของตนเอง ประเดี๋ยวก็หัวเราะประเดี๋ยวก็รองไหตามประสาเด็ก และเปนเหตุใหตองคอยหวงใยคอย นึกถึงนั้น ทําใหพลอยรูสึกวาบานของตนอบอุนนาอยู ไมอางวางเงียบเหงาอยางแตกอน แตการที่ไดหลานมาถึงสองคนโดยกะทันหัน โดยมิไดรูตัวลวงหนานั้น พลอยก็ยังมิไดมีเวลาหายใจเลย เพราะเพิ่งมาอยูไดไมกี่วัน ความคุนเคยสนิทสนมก็ยังมิไดเกิดขึ้น คืนวันหนึ่งพลอยเขานอนแลว แตยังมิไดหลับ ดี เพราะคืนนั้นเดือนหงายแจม อากาศหนาวเย็นตามฤดู พลอยเอาผาหมทับลงไปบนตัวเองหลายผืน หดเขาขึ้น มานอนคุดคูเพื่อจะใหหายหนาว แตความหนาวเยือกเย็นก็มิไดหายไปจากตัว แสงเดือนสองเขามาทางหนาตาง ทําใหเห็นทุกอยางในหองไดชัดเจน พลอยนอนนึกถึงอะไรตออะไรเพลินอยู สวนมากก็เปนเรื่องหลาน เสียง หลานคนเล็กรองออดแอดในยามหลับอยางที่เด็กออนชอบทํา ทําใหพลอยตองนอนยิ้มอยูคนเดียว ในทันใดนั้น เสียงหวูดสัญญาณภัยทางอากาศ ก็ดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว เหมือนกับใครมาเปดหวูดอยูขางๆ ตัว และเสียงที่ดัง เปนระยะถี่ๆ นั้นก็ดูเหมือนจะทําใหพลอยตกใจ ในภัยทางอากาศที่กําลังจะมาปรากฏไมนอยกวาคนอื่นๆ ที่เพิ่ง จะรูตัว พลอยลุกขึ้นนั่งทันที และโดยมิรอชา พลอยรีบวิ่งไปยังหองตาอั้นนอนอยูกับลูกเมีย เพราะในใจนั้นจดจอ อยูที่หลานสองคนมากกวาใครทั้งหมด ตาอั้นเปดประตูหองออกมาดวยอาการตื่นเตน พลอยหลีกเขาไปในหอง ทันที สมใจนั่งงงๆ อยูบนที่นอน มือกอดลูกไวทั้งสองคน เสียงหลานรองไหวุนวาย ดวยความตกใจ "แมสมใจอุมแอดลงไปขางลาง" พลอยพูดเบาๆ พยายามขมเสียงมิใหสั่น "สงตาแอวมานี่ฉันอุมไปเอง" คําพูดของพลอยทําใหสมใจไดสติ กระปรี้กระเปราขึ้น สมใจสงตาแอวใหพลอย แลวตนเองก็อุมลูก สาวออกมานอกมุง ตาแอวพอถึงตัวพลอยก็กอดคอพลอยไวแนน พลอยก็ไดแตยืนปลอบหลาน มิใหขวัญเสียอยู ครูหนึ่ง ตาอั้นเดินกลับมาที่พลอยยืนอยูแลวพูดวา "คุณแมลงไปขางลางกันเถิด อยูบนนี้ไมดี สงแอวมาใหผม ผมอุมไปเอง" "ไมตอง" พลอยตอบหวนๆ พลางกอดตาแอวไวแนนเหมือนกับจะหวงหลานเสียเต็มประดา "แอวอยูกับ ยาไมตองตกใจ.....ไมตองตกใจ" พลอยพูดพลางเอามือลูบหลังหลานชายอยูไปมา และตาแอวก็ดูเหมือนจะหาย ตกใจ เพราะคลายมือออกและไมตัวสั่นอยางเมื่อกี้ พลอยอุมหลานตามตาอั้นลงไปขางลาง มีสมใจเดินตามลงมาติดๆ กัน ประไพมานั่งอยูแลวที่ริมหนาตาง ในหองลาง รอบๆ บริเวณตึกและในหองนั้นเอง พลอยแลเห็นเงาคนตะคุมๆ ก็รูวาเด็กๆ และคนที่อยูในบาน ตาง ก็พากันตื่นและมาอาศัยตึกเปนที่กําบังจากภัยอันตราย ที่ตางคนตางก็ยังไมรูวาจะมาถึงตัวหรือไม เสียงประไพหัวเราะดังกี๊กๆ ทําใหพลอยตองหันไปดุวา "ประไพนี่ก็มานั่งหัวเราะอะไรก็ไมรู ไมเห็นจะขบ ขันตรงไหนเลย คุณเสวีไปไหน" "ยังไมกลับ" ประไพตอบดวยสําเนียงที่บอกใหพลอยรูวาตกใจอยูมากเหมือนกัน "ไปไหนก็ไมรู เห็น บอกวาจะไปกินเลี้ยงกับญี่ปุน" พลอยนั่งเอาหลานวางไวบนตักไดไมนาน เสียงเครื่องบินก็ดังกระหึ่มขึ้นบนอากาศ เสียงนั้นดังผิดไปจาก

http://www.geocities.com/siamstory/ploy412.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 4

เครื่องบินไทยหรือญี่ปุนที่เคยไดยินมา ทําใหพลอยขนลุกเกรียวดวยความเสียวไส อีกครูหนึ่งเสียงปนตอสู อากาศยาน ที่ตั้งอยูไมไกลจากบานนักดังขึ้นเปรี้ยงใหญ ทั้งพลอยทั้งหลานสะดุงตัวลอย กอดกันเขาไวแนน และ ตาแอวก็รองไหขึ้นอีกจาหนึ่ง ตัวสั่นเทาไปดวยความตกใจ และดวยความกลัวของเด็กที่ยังไมเดียงสา เสียงเครื่องยนตของเครื่องบินดังกระหึ่มอยูจากที่สูง เสียงปนตอสูอากาศยานดังอยูเปนระยะๆ ใกลบาง ไกลบาง ทุกครั้งทําใหพลอยและหลานชายตองสะดุงกอดกันกลม ทุกคนที่อยูเปนกลุมในความมืดสลัวนั้นเงียบก ริบ ไมมีใครพูดจาวากระไร มีแตเสียงหายใจจากพวกผูหญิงในบานบางคน ที่ดังเหมือนกับหอบ พลอยมองออก ไปทางหนาตาง เห็นไฟฉายพุงขึ้นสูทองฟาเปนทางยาวๆ บางครั้งคนที่นั่งอยูในหองก็ออกเสียงเบาๆ ดวยความ ตื่นเตน เมื่อไฟฉายนั้นจับเครื่องบินไดเต็มลํา ทําใหแลเห็นเครื่องบินนั้นเปนสีขาว บินวกวนไปมา เหมือนกับ แมลงที่ไมมีพิษบางอยาง ที่ชอบบินออกมาเลนไฟในเวลากลางคืน ไมนานนักก็มีเสียงซูแหวกอากาศลงมา ซึ่งบางครั้งก็ดังหวีดหวิว ทําใหพลอยตองหลับตากลั้นใจ กอด หลานไวแนน แลวก็มีเสียงระเบิดที่ดังไมเทาเสียงปน แตความกระเทือนสั่นไหวอยางหนักๆ ที่เกิดจะระเบิดนั้น ยิ่งนากลัวนาสยดสยองไปกวา "สงครามเปนอยางนี้เอง" พลอยนั่งนึกอยูแตในใจ "ฆากันประหัตประหารกัน โดยที่ตางฝายตางไมรูจัก กัน ไมเคยมีอริบาดหมางขุนเคืองกันมากอนเลย แปลกเหลือเกินที่คนขางลางกับคนที่อยูบนเครื่องบิน ไมมีเรื่อง มีราวกันเลย แตคนที่อยูขางลาง ถาไมกําลังหลบซอนตัว ก็กําลังพยายามยิงคนที่อยูขางบนใหตกลงมา คนที่อยู บนเครื่องบินเห็นจะเปนทหารอยูในวัยฉกรรจคนหนุมๆ คราวลูกคราวหลาน ขนาดตาออดหรืออยางผูใหญก็ ขนาดตาอั้น ตางคนก็ตางมีแมมีเมียมีลูกหรือพี่นองคนรักที่จะตองหวงใย ถาตกลงมาตายก็จะตองมีความทุกข โธเอย !" พลอยนึกพลางมองออกไปทางหนาตาง เห็นเครื่องบินอีกเครื่องหนึ่งบินอยู มีไฟฉายจากขางลางจับอยู เต็มลํา "บินออกไปเสียใหพนเถิดพอคุณ !" พลอยนึกในใจพลางภาวนาเอาใจชวยใหคนที่อยูในเครื่องบินลํานั้น รอดพนอันตราย เสียงระเบิดแหวกอากาศดังลงมาอีกซูหนึ่ง คราวนี้รูสึกวาใกลจนมีลมแลนมากระทบตัวพลอย ที่นั่งอยูภายในหอง เสียงอะไรดังกราวเหมือนกับใบพัดหมุน แลวก็มีเสียงระเบิดและความกระเทือน ที่ทําใหตึก แกวงไกว พลอยผอนคลายลมหายใจที่กลั้นเอาไวออกชาๆ เอามือลูบไลไปตามตัวหลาน เพื่อปลอบมิใหสะดุง กลัว "ทุกครั้งที่เราไดยินเสียงระเบิดคงจะตองมีคนเจ็บมีคนตาย" พลอยนึกในใจตอไป แลวก็มองออกไปทาง หนาตาง ตามขอบฟาเริ่มจะแดงเปนหยอมๆ ดวยไฟที่กําลังไหมหลังจากถูกระเบิด จุดแหงแสงสวางตางๆ นั้น กําลังขยายตัวกวางออก แสงเพลิงพวยพุงขึ้นสูทองฟา มีควันกลุมดําๆ มหึมาตามติดขึ้นมา พลอยรูสึกวาในคอ ของตนนั้นแหงผาก ผิวหนังรูสึกวาหนาวเยือกเย็นเพียงจะสั่น จะออกปากวานใครขึ้นไปหยิบผาหมจากตึกชั้น บนลงมาใหก็ไมกลา เพราะรูสึกเกรงใจทุกคน ที่กําลังรวมเสี่ยงอันตรายอยูดวยกัน ในเวลาเชนนี้ไมมีเจาของบาน ไมมีคนใช ไมมีเด็ก ไมมีผูใหญ ไมมีนายไมมีบาว ทุกคนอยูในอํานาจอันใหญหลวงนาสพึงกลัวเสมอเหมือนกัน และเทาเทียมกัน อํานาจของพญามัจจุราช ซี่งเมื่อมาถึงเมื่อใดก็ยอมจะบดบังอํานาจวาสนา ตําแหนงฐานะตางๆ ที่มนุษยปนขึ้น เพื่อหลอกตัวเองนั้นใหหมดสิ้นไป แสงไฟที่จับทองฟากําลังแผกวางออกไปทุกที "ตายจริง ! ไฟไหมใหญ" พลอยรําพึงออกมาเบาๆ โดยไมมีใครไดยิน พลางนึกในใจตอไปวา คนที่ไมตาย ก็จะตองลําบาก บานชองขาวของไหมเปนจุณวอดวายไป จะเก็บอะไรก็คงไมมัน เพราะมัวแตกลัวลูกระเบิด ถา เปนคนหนุมคนสาวก็คงจะพอทําเนา แตถาเปนคนแกอยางเรา หรือเปนเด็กอยางหลานที่อุมนี้คงจะลําบากมาก พลอยเอามือลูบไลหลานที่หลับคาตักอยูไปมา เสียงยุงมารองใกลตัว ทําใหพลอยตองเอามือคอยโบกไล ยุง มิใหกัดหลาน ในใจนั้นก็ตื้นตันไปดวยความสงสารเด็กจับใจ "เด็กเอยเด็ก" พลอยรําพึงอยูในใจ น้ําตาเริ่มซึมๆ ออกมาที่ขอบตา "เกิดมาในเวลาที่บานเมืองอยางนี้ นับวาเปนกรรมเปนเวรเหลือเกิน นี่ถาเปนไปในยามปรกติ ก็คงจะไดหลับนอนอยางสบายไมรูเดียงสา ไมตองมา นอนใหยุงกัด ไมตองตกใจผวาสะดุงดวยเรื่องที่ไมรูไมเขาใจ ใครเขารบกันที่ไหน ดวยเรื่องที่ไมใชของตัวสักนอย แตก็อาจพลอยเจ็บพลอยตายไปกับผูใหญ เรื่องของเด็กควรจะมีแตจะกิน จะนอนจะเลน มีผูใหญคอยดูแลคุม ครองใหมีความสุข ใหพนจากโพยภัย แตอันตรายอยางนี้ใครจะไปคุมครองได สุดแลวแตบุญแตกรรม ยาเองก็ ทําไมได อยางดีก็ขอใหไดตายดวยกัน หรือขอใหตัวของยาไดชวยคุมกันลูกปน ลูกระเบิดอยาใหถูกหลาน" พลอยกมตัวลงบนตัวของหลาน เมื่อไดยินเสียงลูกระเบิด ที่ถูกโปรยลงมาอีกชุดหนึ่ง "คุณพระคุณเจาชวยคุมครองชีวิตมนุษย ชีวิตสัตวดวยเถิดเจาประคุณ" พลอยนึกภาวนาอยูในใจ ทั้งที่รู อยูวาคําภาวนาของตนที่ตั้งขึ้นดวยกําลังใจอยางยิ่งยวดนั้น ไมอาจบังเกิดผลคุมครองอะไรไดเลย พลอยนั่งอยูเชนนั้นนานเทานาน มิไดสังเกตวาเวลาลวงเลยไปแลวสักเทาไร หลานคนเล็กหลับอยูคาตัก ดวยความเหนื่อยออนของเด็กที่ไรเดียงสา และเมื่อหลับไปแลวก็หมดความตื่นเตนหวาดเกรง ที่มีอยูในตอนแรก แมแตยุงจะกัดตามแขงขาและเนื้อตัวก็มิไดรูสึก พลอยเองก็นั่งปลอยตัวเขาสูภวังค เพราะเสียงเครื่องบิน เสียง ระเบิด และเสียงปนนั้นเงียบหายไปนานแลว คงมีแตเสียงแมลงเสียงกบเขียด และเสียงนกที่ออกหากินกลางคืน รองอยูตามปรกติ เหมือนกับวามิไดมีอะไรที่นาสยดสยองเกิดขึ้น สิ่งที่เปนพยานวาสงครามไดมาถึงตัวคนใน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy412.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 4

กรุงเทพฯ อยางใกลชิด ก็คือแสงสวางที่จับทองฟาเปนทางยาว มีควันสีขาวและสีดําขึ้นที่โนนบางที่นี่บาง แสดง ใหเห็นวาไฟที่ไหมอยูเปนหยอมๆ นั้น บัดนี้ไดลุกลามติดตอถึงกันเปนพืด บริเวณที่ไฟไหมจะกวางขวางเพียงใด และความเสียหายจะมีมากมายเพียงใด พลอยก็หมดปญญาไมสามารถจะคาดคะเนได เสียงหวูดสัญญาณดังสนั่นขึ้นเปนเสียงยาวอีกครั้งหนึ่ง ทําใหพลอยสะดุงตัวลอย เอาแขนโอบไปรอบตัว หลานอยางระวังระไว แตเสียงตาอั้นพูดขึ้นใกลๆ ตัววา "ปลอดภัยแลวคุณแม ขึ้นเรือนกันเถิด" พลอยไดยินตาอั้นพูดก็ลุกขึ้นอยางงงๆ พยายามเหยียดแขงขาที่ชาเปนเหน็บ ดวยความหนาวของ อากาศ ในยามดึก พลอยอุมหลานตามตาอั้นขึ้นไปขางบน ไปสงหลาคืนใหแกสมใจถึงในมุง แลวก็กลับมานอน แตคนในวัยเชนพลอย ตามปกติถึงแมจะไมมีอะไรรบกวนก็นอนไมคอยจะหลับอยูแลว ฉะนั้นตลอดคืนนั้นทั้งคืน ไปจนรุงสวาง พลอยก็ไดแตนอนหลับตานิ่งๆ เพื่อพักผอนกาย สวนใจนั้นจะไดระงับหลับลงจริงๆ ก็หาไม รุงขึ้นอีกวันหนึ่ง พอเพิ่มก็รีบมาเยี่ยมถามขาวแตเชา พอเห็นหนาพลอย พอเพิ่มก็รองขึ้นวา "เห็นหรือยังแมพลอย ฉันวาไวแลวประไร !" "เห็นอะไรกันคุณหลวง ถาเปนอยางเมื่อคืนนี้บอยๆ ฉันก็เห็นจะตายแน ไมอยากพบอยากเห็นอีกตอไป" "ไมใช" พอเพิ่มบอก "ฉันหมายถึงเรื่องที่เคยพูดกันวาฝรั่งจะแพนั่นอยางไรเลา คราวนี้ไดเห็นกันละ เขา เริ่มตีกลับแลว" "จุ ! จุ ! เบาๆ หนอยคุณหลวง" พลอยหาม "ฉันก็รูแลววาคุณหลวงไมกลัวคุกกลัวตะราง แตคราวนี้อยาง เพิ่งเลย ถาติดจริงฉันไปเยี่ยมไมไหวหรอก ฉันกลัวลูกระเบิด" "ไมเปนไรหรอกนา แมพลอย" พอเพิ่มพูดอยางอารมณดี "ถาสงครามเปนไปในรูปนี้อีกหนอยก็เสร็จ เมื่อ สงครามเสร็จแลว ทุกอยางก็จะเรียบรอยไมเหมือนเดี๋ยวนี้หรอก" พอเพิ่มพูดเชนเดียวกับคนที่พลอยรูจักอีกหลายคน ในขณะนั้นไมวาใครจะพูดขึ้นถึงความยากลําบาก ความขาดแคลน และความคับแคนในใจอยางไรก็ตาม มักจะมีผูตอบเสมอวา เมื่อสงครามเสร็จลงแลว ความยาก ลําบากตางๆ เหลานี้จะอันตรธานไปเอง มีแตความเรียบรอยความสบาย และความสมบูรณพูนสุขเขามาแทนที่ ดวยความหวังที่กลายเปนความเชื่อถือมั่นใจเชนนี้ คนเปนอันมากจึงไดสามารถอดทนความยากลําบากแรนแคน ในระหวางสงครามไดหลายอยาง เพราะนึกเสียวา เปนการชั่วคราว เสร็จสงครามแลวก็จะกลับสบาย บางคนที่มี อคติหนาๆ เชนพอเพิ่มก็นึกเลยเถิดยิ่งไปกวานั้นอีก คือนึกไปวาคนที่มีบุญหนักศักดิ์ใหญในขณะนั้นหลายคน ที่ พอเพิ่มไมชอบไมถูกนิสัยนั้น จะตองมีอันจะเปนไปตางๆ เมื่อเสร็จสงครามแลวอาการที่จะมีอันจะเปนไปนั้น ก็ คงจะสาสมกับความโกรธความเกลียด ความไมพอใจที่พอเพิ่มพอกพูนสะสมไวในใจ ระหวงนั้นถาพูดถึงเรื่อง อะไรที่พอเพิ่มไมพอใจ พอเพิ่มก็มักจะกัดเขี้ยวเคี้ยวฟนแลวพูดวา "คอยดูไปเถิด คอยดูไปเถิดนา อีกไมนานหรอก" ครั้งหนึ่งตาอั้นบังเอิญนั่งอยูดวย ไดยินพอเพิ่มวาคาถา นี้ ก็อดไวไมได ตองถามขึ้นวา "อะไรกันครับคุณลุง คอยดูอะไรกัน" "คอยดูเมื่อเสร็จสงครามแลว จะตีหนาอยางไรกัน" พอเพิ่มตอบหวนๆ "ใคร ตีหนาอยางไร เมื่อไหร" ตาอั้นถามอยางสงสัย "เฮย ! ก็พวกคนทีบุญบางคนนี่แหละ" พอเพิ่มวา "คอยดูไปเถิด พอฝรั่งเขากลับเขามาได เขาหายอมเสีย ไมหรอก" "ออ !" ตาอั้นพูดอยางเพิ่งเขาใจแลวก็หัวเราะ "อยางนั้นนะหรือคุณลุง ก็คงจะมีบาง แตคุณลุงอยาเพิ่ง ประมาทไป ความยุงยากในบานเมืองเราไมเสร็จไปงายๆ พรอมกับสงครามหรอก ถึงอยางไรเราก็จะตองเปน ฝายแพ ใครเขาจะนําพา ถาลําบากก็คงจะลําบากดวยกันทุกคน" "อะ ! อยางนั้นก็ไมยุติธรรมซีพออั้น" พอเพิ่มวา "พวกเราไมไดไปทําอะไรใหเขาสักหนอย ทําไมตอง พลอยลําบากไปดวย" "จะไปหาความยุติธรรมอะไรจากสงครามเลาคุณลุง สงครามสมัยนี้ใครๆ ก็ตองลําบากทั้งนั้น ทั้งผูแพผู ชนะ ยิ่งคนที่ไมรูเรื่องรูราว ไมไดเปนตนเหตุนั่นแหละ จะตองยิ่งลําบากไปใหญ" ตาอั้นพูดแลวก็ถอนใจอยาง ระอา อีกสองสามวันตอมา ตาอั้นก็อํานวยการใหขุดหลุมหลบภัยใหญที่สนามหนาบาน กะใหพอบรรจุคนทั้ง หมดภายในบานได การสรางหลุมหลบภัยนั้น ตาอั้นมาบนกับพลอยวาแพงเต็มที เพราะราคาของทุกอยางตลอด จนคาแรงขึ้นสูงลิ่ว แตพลอยก็ไดแตบอกวาอยาเสียดาย ถาสิ่งใดคุมครองชีวิตมนุษยไดในยามนี้ก็ควรทํา พอ เพิ่มดูจะสนุกในการนี้มากกวาคนอื่น เพราะพอเพิ่มเทียวไปเทียวมา ดูการกอสรางหลุมหลบภัยที่บานพลอย ดวยความสนใจเปนที่สุด และมักจะมีความเห็นมาแนะนําตาอั้นทุกเที่ยวที่มาดู พอหลุมเสร็จไดไมนานเทาไร เครื่องบินก็มาทิ้งระเบิดอีก และก็มาอีกเฉพาะในเวลาที่เดือนหงาย ศัพทที่ เรียกกันนั้นก็ติดปากวาหวอมา และขาวที่เลื่องลือกันทั่วไปก็เกี่ยวกับการระเบิดทําลาย ใครเจ็บที่ไหน ตายที่ ไหนดวยอาการที่นากลัวอยางไรบาง พอเพิ่มมีนิยายเลามากกวาคนอื่นๆ เพราะแทนที่พอเพิ่มจะเห็นภัย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy412.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 4

อันตรายตางๆ เปนทุกขอยางที่พลอยเห็น พอเพิ่มกลับเห็นเปนของสนุก บางครั้งพอเพิ่มก็โดนระเบิดเขาจริงๆ มีนิยายมาเลาใหพลอยฟงอยางครึกครื้น ครั้งหนึ่งพอเพิ่มหายไปหลายวัน พอมาถึงบานก็เอยขึ้นวา "ฉันซวยแทๆ ทีเดียวแมพลอย ตองไปเที่ยวรดน้ํามนตเสียเจ็ดวัดเจ็ดวา" "อาว ! ทําไมละคุณหลวง" พลอยถาม "เรื่องมันอยางนี้" พอเพิ่มเลา "คือวันที่ลูกระเบิดตกใหญที่หัวลําโพง ฉันเผอิญไปกินเลี้ยงกับเพื่อนฝูง หลายคนที่โฮเต็ลตุนกี่" "คุณหลวงนี่ก็ชางไมยอมแกสักที" พลอยพูดอยางออนใจ "อาวเดี๋ยวซี นั่นมันคนละเรื่อง ฟงฉันเลากอน" พอเพิ่มพูดแลวก็เลาตอไปวา "พอกินเลี้ยงเสร็จเดินออกมาแถวหนาสถานี ก็พอดีหวอขึ้น พวกพองฉันเขาจะลงหลุม แตฉันเห็นวาให คนอื่นเขาเขาดีกวา พวกเราจะตายบางก็คงจะไมเปนไร จึงคอยหลบๆ กันอยูแถวนั้น พอดีไดยินเสียงระเบิดลง มาดังซู ฉันก็ลงนอนคว่ําอยูขางถนน ตอนนั้นก็ไมรูสึกตัววาอะไรเปนอะไร เพราะมีแตเสียงระเบิดเปรี้ยงปราง และเศษอะไรมันปลิววอนไปหมด ฉันนอนคว่ําหนาอยูตั้งนาน เสียงระเบิดก็ดังอยูเรื่อย นึกในใจวาคราวนี้ตัวคง ไมรอด แตก็ชางมัน นานเต็มทีจึงไดสงบลง ฉันก็นอนคิดวาตัวเองมีเจ็บอะไรที่ไหนบาง ดูมันก็ไมเห็นมี ฉันจึงยัน ตัวลุกขึ้นยืนมันก็ยืนได ไมมีเจ็บไมขัดไมยอกที่ไหน พอจะเอยปากวาตัวกูนี่เคราะหยังดี เจาเพื่อนของฉันคน หนึ่งที่นอนอยูขางหลัง มันรองตะโกนวา 'หลวงโวย ! ทําใจใหดีๆ ไวเถอะ ถาเอ็งจะไมรอดเสียแลว อะไรมันออก มาหอยอยูขางหลังทั้งพวง นั่นแน !' ฉันไดยินก็เหลียวไปดู จริงของมันเทียวแมพลอย ตับไตไสพุงออกมาแขวน อยูขางนอกหมด ฉันก็คอยๆ กลับลงนอนใหม ตั้งใจจะนอนตายใหสบายๆ นอนอยูตั้งนาน มันก็ไมยักตาย เจ็บ อะไรก็ไมเจ็บ จนตํารวจคนหนึ่ง เขามาเห็นเขาฉันก็รองเรียกเขามาฝากผี บอกใหเขาชวยขนศพฉันใสรถไปสง คืนใหเมียเขาดวย แตเขามองๆ ดูแลวบางทีเขาจะเห็นอะไรผิดสังเกต เขาก็มชวยพยุงฉันใหยินฉันก็ยืนไดอยาง สบายอีก จนตัวเองก็เอะใจ ตํารวจนั่นเขาหาไมมาเขี่ยๆ ที่หลัง ตับไตไสพุงนั่นมันก็หลุดออกมาทั้งพวง ฉันเองก็ ยังไมลมลงตาย จึงรูกันวาฉันไมไดเปนอะไรเลย ของคนอื่นเขาปลิวมาติดตางหาก" พลอยอดหัวเราะขันพี่ชายไมได ทั้งที่รายละเอียดที่พอเพิ่มเลานั้น ฟงดูนากลัวนาขยะแขยง พลอย หัวเราะพลางถามขึ้นวา "แลวตํารวจคนนั้นเขาวาอยางไร" "ฉันไมไดอยูรอฟงหรอกแมพลอย" พอเพิ่มตอบ "พอรูตัววาไมใชของฉัน ฉันออกไดก็วิ่งอาวเขาไปในวัด หัวลําโพง ไปตะโกนเรียกพระขอน้ํามันตทานรด ตั้งแตนั้นมาก็ทองเที่ยวไปรดน้ํามนตจนไมรูวากี่สิบวัดเขาไป แลว ซวยแทๆ ทีเดียว" อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy412.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๒) เครื่องบินฝรั่งในตอนนั้นมาทิ้งระเบิดบอยๆ ในคืนที่เดือนหงาย เพราะเหตุนั้นพอถึงเวลาขางขึ้นเดือน หงาย พลอยก็เตรียมตัวเปนการใหญทุกคืนไป จัดหีบหอเตรียมตัวสําหรับลงหลุม ในหีบนั้นมีทั้งหมากทั้งยาดม ยาแกลม ยาแดงสําหรับใสบาดแผล ยาแกปวดทอง ตลอดจนขนมแหงๆ สําหรับแจกหลานและเด็กๆ ในบาน ใน หอผาอีกหอหนึ่งก็มีเสื้อกันหนาวของหลาน ผาผมกันหนาวสําหรับตน และผาผอนเครื่องมือจุกจิกอีกหลายอยาง ซึ่งพลอยจะตองสํารวจวามีอยูครบคืนไปกอนที่จะเขานอน แตคืนวันหนึ่งเปนคืนเดือนมืด พลอยเขานอนดวยความโลงใจ มิไดตระเตรียมสิ่งตางๆ ไวเชนเคย เพราะ นึกเสียวาถึงจะอยางไร เครื่องบินฝรั่งก็คงจะไมมาในเวลาเดือนมืด เพราะพอเพิ่มเคยอธิบายไววา ฝรั่งเขาไม ตองการทิ้งระเบิดเลอะเทอะไมถูกเปา เขาอยากจะทิ้งระเบิดเฉพาะที่ๆ มีความสําคัญในการสงคราม เชนที่ตั้ง ทหารญี่ปุนหรือที่เก็บน้ํามัน ทาเรือ ทางรถไฟ และสะพานเทานั้น วัดวาอาราม และบานคนนั้นเขาไมอยากทิ้ง ระเบิด เพราะกลัวคนที่ไมรูเรื่องจะเปนอันตราย เขาจึงตองมาเวลาเดือนหงาย จะไดแลเห็นที่ทางตางๆ ได สะดวก ทิ้งระเบิดไมผิดพลาด แลวอีกอยางหนึ่งพอเพิ่มวาๆ เครื่องบินฝรั่งนั้น ถาบินมาในเวลาเดือนหงายแลว ถึงจะฉายไฟขึ้นไปก็แลเห็นไดยาก เพราะทองฟาสวาง เหตุผลเหลานี้พลอยก็เห็นจริงดวย จึงถือเอาคืนเดือนมืด ครึ่งเดือนนั้นเปนเวลาพักผอนไดจริงจัง สวนคืนเดือนหงายนั้นก็ตองตระเตรียมตัวไวรับภัยอันตรายตางๆ เทาที่ จะมีมา พลอยเขานอนอยางไมระมัดระวังในคืนนั้น ตั้งใจวาจะนอนใหเต็มตื่น พลอยนอนไดไมนานและเริ่มจะงีบ ไป "หวอ" สัญญาณภัยก็ดังขึ้นสนั่น พลอยตองสะดุงลุกขึ้นนั่งและรีบออกจากมุงอยางเคย พอถึงประตูมือก็ควาน หากระเปาและหอผาซึ่งเคยวางไวเปนปรกติ แตเมื่อมือคลําไมพบ พลอยจึงรูตัววาคืนนี้มิไดเตรียมไวเพราะคืน เดือนมืด และใหนึกฉงนใจอยูครันๆ วาเมื่อเดือนมืด เครื่องบินจะมาไดอยางไร พลอยเปดประตูกาวออกไปนอก หอง แลวก็พบตาอั้นพอดี "ถาจะเหลวเสียแลวละคราวนี้" ตาอั้นพูดแลวก็หัวเราะ เพราะเคยมีหลายครั้งแมแตเวลาเดือนหงาย ที่มี สัญญาณภัยขึ้น แตไมปรากฏวามีเครื่องบินมาทิ้งระเบิด "ผมวาอยาลงหลุมกันดีกวา" ตาอั้นพูดตอ "เดือนมืดอยางนี้คงไมมีอะไรมาหรอก คุณแมกลับไปนอนเสีย เถิด" พลอยยืนลังเลอยูครูหนึ่ง ถึงจะเห็นจริงกับตาอั้น พลอยก็ยังอดนึกหวงหลานไมได "แลวหลานๆ....." พลอยถามขึ้นอยางไมไวใจ "นอนหลับอยูทั้งสองคนละครับคุณแม" ตาอั้นตอบ "เสียงหวอก็ไมไดยิน อยาไปกวนแกเลย" พลอยกําลังเอามือบิดลูกประตูจะเดินกลับเขาหอง แตในทันใดนั้นก็ยืนหยุดนิ่งอยูกับที่ เพราะบนทองฟา มีเสียงครางเบาๆ ซึ่งพลอยรูและจําไดดีวาเปนเสียงเครื่องบินฝรั่ง "อั้น" พลอยเรียกขึ้นเบาๆ "อะไรครับคุณแม" ตาอั้นถาม พลอยหันกลับเดินตรงไปยังหองตาอั้นทันทีเพื่ออุมหลานไปลงหลุม ขณะที่เดินขามทางเดิน ระหวาง ประตูหองนั้นก็พูดขึ้นวา "อั้นไดยินอะไรหรือเปลา เครื่องบินมาแลว ใครวาเขาจะไมมาเวลาเดือนมืด" ตาอั้นเงี่ยหูฟงแลวก็พูดขึ้นวา "เอ ! เสียงดังชอบกล หรือจะเปนเครื่องบินญี่ปุน" "ไมใชหรอกอั้น แมจําเสียงได เรือบินญี่ปุนดังเสียงเหมือนกับเรือไอแทกซี่ ที่มานี่ของฝรั่งแน รีบลงขาง ลางกันเถิด" พลอยพูดแลวก็รีบเปดประตูเดินเขาไปในหองตาอั้น บอกสมใจเบาๆ ใหชวยกันอุมเด็กไปลงหลุม ขณะที่พลอยอุมหลานออกไปพนประตูตึก และกําลังรีบเดินขามสนามจะไปลงหลุมนั้นเอง มีเสียงอะไร รวงจากฟาลงมาดังหวิวเหมือนกับเสียงลูกระเบิด ทําใหพลอยรูสึกเสียวไส ขาแขงเริ่มจะสั่น และกาวไมคอยออก ทันใดนั้นก็มีเสียงแตกดังโปะบนทองฟา เหมือนกับพลุที่เขาจุดในงานศพแตกออก เพียงอึดใจเดียวทุกอยางก็ สวางไปทั่ว มิใชสวางเยือกเย็นอยางเวลาเดือนหงาย แตสวางจาเพียงบาดตา มองเห็นทุกอยางไดชัดเจน พลอย หยุดชะงักอยูกับที่ แหงนหนาขึ้นดูบนฟา ตรงศีรษะขึ้นไปมีไฟดวงหนึ่งลอยอยู และกําลังรวงลงดินอยางชาๆ ไฟ ดวงอื่นๆ กําลังแตกออกในที่อื่นๆ อีกสามสี่ดวง แตละดวงเพิ่มแสงสวางทีมีมากอยูแลวใหมากขึ้นไปอีก จนทั่ว บริเวณบานแลดูสวางเหมือนกลางวัน แมแตสีเขียวของหญาที่สนามและสีใบไมบนตนไม ก็เห็นไดถนัดชัดเจน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy412_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 5

ตาอั้นที่เดินมาขางหลังเดินตามมาอยูขางๆ แลวบอกพลอยเบาๆ วา "พลุ คุณแม เขาทิ้งพลุ สวางจนอานหนังสือก็เห็น" "อั้นเอาแอวตามไปฝากสมใจเขาไวในหลุมกอน" พลอยพูดพลางสงหลานใหตาอั้น "แลวคุณแม..." "แมยังไมลงละ จะเปนจะตายก็จะขอดูกอนคืนนี้ เกิดมาแมไมเคยเห็นสักที" ตาอั้นรับลูกแลวก็เดินลงหลุมหายไป และพลอยก็นั่งลงทามกลางแสงสวางที่มาเหล็กเล็กๆ ตัวหนึ่ง ที่ใคร เอามาตั้งไวที่ปากหลุม อีกสักครูตาอั้นก็ออกมานั่งขางๆ ตัว พลางพูดวา "ตอไปนี้ไมมีเดือนมืดเดือนหงายอีกตอไป เขานึกจะมาเมื่อไรก็มาได" "นั่นสิอั้น" พลอยตอบ "มิเปนอันไมไดหลับไดนอนกกันหรือในเวลากลางคืน" ตั้งแตนั้นมาเหตุการณก็เปนไปจริงตามที่พลอยไดคาดไว คนในกรุงเทพฯ ไมมีเวลาหลับนอนในเวลาค่ํา คืน เพราะเครื่องบินมาทิ้งระเบิดโดยไมมีกําหนดวาจะตองเปนเดือนมืดหรือเดือนหงาย ขาวความเสียหายแก ทรัพยสิน และชีวิตมนุษยก็มีมากขึ้นทุกที ขณะก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวทั่วไปที่เรียกวา การอพยพครอบครัวออก จากบาน ไปหาที่อยูที่อื่นที่ตนนึกวาปลอดภัย ในเขั้นแรกก็อพยพไปเพียงใกลๆ เปนตนวาคนที่อยูในกรุงเทพฯ อพยพไปอยูฝงธนบุรี คนที่อยูบางซื่ออพยพมาอยูคลองเตย และคนที่อยูแถวคลองเตยก็อพยพไปอยูแถวบางซื่อ ความตระหนกตกใจหรือความแตกตื่นในภัยอันตราย เริ่มจะเกิดขึ้นในคนบางหมู แลวก็เริ่มแผกวางออกไป เสียง พูดกันดวยเรื่องอพยพก็ไดยินไปทั่ว ในขณะนั้นในกรุงเทพฯ จะมีผูคนเดินถนนอยูเฉพาะเวลากลางวัน พอตกค่ํา ลงถนนหนทางก็เงียบราวกับเมืองราง เพราะผูคนจะเขามาทําธุรกิจการงานของตน เฉพาะแตในเวลากลางวัน เทานั้น พอค่ําลงตางคนก็อพยพแยกยายกันหลบลี้ภัยไปอยูตามชานเมือง ตาอั้นเคยถามพลอยเรื่องอพยพวา "คุณแมไมคิดอพยพบางหรือ" "แมจะอพยพอยางไรไหว ผูคนในบานออกเปนกายเปนกอง จะไปหาที่อยูที่ไหนกันหมด ทั้งเด็กทั้งคนแก ขืนอพยพก็จะตองลําบากลุมๆ ดอนๆ อยูกินกันไมเปนที่เปนทาง" "คุณแมก็ไมจําเปนจะตองหอบเอาไปทั้งบาน จะไปแตตัวแลวเลือกเอาคนไปใชสอยสักสองสามคนก็คง พอ" "ไมไดหรอกอั้น แมตัดชองนอยไปเฉพาะตัวไมได คนพวกนี้อยูดวยกันมานานหลายชั่วคน เห็นอกเห็นใจ กันมามาก เปนตายก็ตองเกาะกันไป แมทิ้งในยามนี้ไมไดหรอก แลวอีกอยางหนึ่งแมก็เชื่อบุญเชื่อกรรม ถึง คราวจะตายที่ไหนก็คงจะตายทั้งนั้น แตเดชะบุญลูกระเบิดก็ยังไมเคยมาตกลงแถวนี้ เห็นจะยังไมตองตื่นตูมไป กับเขาดวยกระมัง" "ผมเห็นคุณแมลําบากเรื่องไมไดหลับไดนอนตองวิ่งลงหลุมอยูบอยๆ ถาไปอยูเสียไกลๆ ก็จะไดนอนเต็ม ตื่น" ตาอั้นพยายามอธิบาย "รอไปกอนเถิดอั้น" พลอยตอบ "ถาแมไปอยูไกลแมก็คงนอนไมหลับเทากัน เพราะหวงบาน บานนี้แมอยู มานาน รูจักคุนเคยใกลชิดกันเหมือนกับเพื่อนเกาที่อยูมาดวยกันจนแกเฒา ถึงเวลาจะตองตายก็อยากจะตาย ดวยกัน" พอเพิ่มเปนอีกคนหนึ่งที่ไมเห็นความจําเปนของการอพยพ เมื่อพลอยเลาใหฟงถึงเรื่องตาอั้น มาแนะนํา ใหอพยพ พอเพิ่มก็พูดขึ้นวา "อยาเลยแมพลอย ลําบากเปลาๆ ดีไมดีไปเปนอะไรเขาระหวางอพยพจะขายหนาเขาดวย เราอยูที่บาน ของเราจะมีภัยแตลูกระเบิด อพยพไปแลวไหนจะตองเสียสตางค ไหนจะตองกันดาร ไหนจะโรคภัยไขเจ็บ บางที ก็โจรผูราย ไดไมคุมที่จะตองเสีย" แตเมื่อพอเพิ่มพูดไปอยางนั้นแลว ชะรอยจะเกิดหวงนองสาวขึ้นมาหรืออยางไร พอเพิ่มก็เริ่มหาเครื่อง คุมภัยตางๆ มาให เปนตนวาเอาผายันตแดงมาผูกใหที่บาน เอาน้ํามนตมาพรม และเอาทรายที่พอเพิ่มรับรองวา เสกเปามาแลวขลังนัก มาโปรยรอบบานพรอมกับอธิบายคุณภาพวา ถาลงไดทําอยางนี้แลวรับรองไดวาไมมีลูก ระเบิดจะมาตกไดเปนอันขาด รับรองดวยเกียรติยศชื่อเสียงทีเดียว สําหรับบุคคลแตละคนตั้งแตพลอยจนกระทั่ง ถึงเด็กๆ ในบาน พอเพิ่มก็มีกจะมีของดีมาแจกบอยๆ บางครั้งก็เปนเสื้อผายันตแดงเย็บสําเร็จรูป ตัวยันตนั้นลง ไวบนผาดวยพิมพหิน บางทีก็เปนพระเครื่องจากวัดโนนบางวัดนี้บาง ตลอดจนตระกรุดลูกอม และเงินเหรียญ บาทรัชกาลที่ ๕ มีพระบรมรูปอยูบนนั้น ซึ่งพอเพิ่มเอามายัดเยียดใหพลอยแลวบอกวา ใหรักษาไวใหดี หายาก นักยากหนาทีเดียว ทั้งหมดนี้พลอยรับไวจากพอเพิ่มดวยความเห็นใจในเจตนาดี ถึงพลอยจะมิไดมีความเชื่อถือ ในคาถาอาคม หรือเครื่องรางตางๆ เทาไรนัก พลอยก็จําตองเก็บของตางๆ เหลานั้นไวใกลตัว ดวยความเกรงใจ พอเพิ่ม ที่เชื่อถือเอาเปนจริงเปนจัง ในที่สุดของดีที่พอเพิ่มใหก็รวบรวมไดเปนกองโต ซึ่งพลอยใสไวในกระเปา สําหรับลงหลุม บางครั้งพลอยก็ตองถอนใจใหญ เมื่อของดีที่พอเพิ่มใหนั้น มากินที่ขนมสําหรับแจกหลานไปเปน กอง ถาหากวาไมมีของเหลานี้ พลอยก็พอจะเอาขนมยัดเยียดใสกระเปาลงไปไดมากกวา วันหนึ่งตอนสายพลอยจําไดดีเพราะเปนวันวิสาขะ พลอยทําของใหคนเอาไปถวายพระที่วัดแตเชา แลวก็

http://www.geocities.com/siamstory/ploy412_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 5

นอนคว่ําอยางสบายอยูหองกลางบนตึก คุยกับคุณเชยที่มาเยี่ยมในวันนั้น สมใจนั่งเย็บเสื้อลูกอยูหางๆ และคุณ เชยกําลังเปดกระเปาถือคนอะไรตออะไรจุกๆ จิกๆ ออกมาใหตาแอวเลน ทันใดนั้นพลอยก็นอนตัวแข็งอยูกับที่ ดวยความตกใจ เพราะเสียงครางของเครื่องบินทิ้งระเบิดที่เคยไดยินกลางคืน ไดดังขึ้นอยางไดยินถนัด "คุณเชย" พลอยเรียกเบาๆ "ชวยฟงอีกคนหรือวาหูฉันไดยินไปเอง" "ฉันไดยินแลวแมพลอย" คุณเชยตอบอยางไมตื่นเตน "วันนี้ฉันตองกลับบานแตวันละ ถาเขามาบินตรวจ อยางนี้กลางคืนเขามักจะมาทิ้งหนักทุกที" พอคุณเชยพูดขาดคําเสียงลูกระเบิดรวงจากฟาก็ดังขึ้นดังซู ลมที่เกิดจากการรวงของระเบิด ตีเขามาทาง หนาตาง ทําใหบานหนาตางสั่นสะเทือนกระทบกัน พลอยนอนอยูในทาเกา อั้นใจจนมีเสียงระเบิดขึ้นอีกหลาย ครั้ง ตัวตึกไหวเหมือนมีใครมาจับเขยา แสดงวาคราวนี้ระเบิดตกใกลบานเขามามากทีเดียว พอสุดเสียงระเบิดพลอยก็ลุกขึ้นควาตัวหลานชายออกสาวเทาเดินโดยเร็ว พลางรองวา "แมสมใจ....แอดเร็ว....คุณเชยหิ้วกระเปาขางประตูนั่นของฉันลงมาดวย" เมื่อลงไปนั่งกันอยูในหลุมเรียบรอยแลว พลอยก็เหลือบตาดูรอบๆ ไมเห็นประไพและคุณเสวี ตาอั้นก็ หายไปจึงพูดขึ้นวา "แมสมใจอั้นหายไปไหน" "คุณออกไปธุระขางนอก บอกวาจะกลับมารับประทานขาวกลางวัน" สมใจบอกแลวก็ตีหนาเหมือนจะ รองไห ดวยความเปนหวงสามี "ไมเปนไร อยาหวง" พลอยทําใจแข็งตอบเมื่อเห็นสมใจหนาไมดี "เขาเปนผูชายหัวอกสามศอก รูจัก รักษาตัวไดดีกวาเราเสียอีก" เสียงคุณเชยถอนใจใหญอยูขางๆ ตัวและพูดขึ้นวา "ตอนแรกก็นึกวาจะมาแตคืนเดือนหงาย แลวก็มาทั้งขางขึ้นขางแรม...เอาละ เปนอันวาจะมาแตกลางคืน แตเดี๋ยวนี้กลางวันก็มาได แลวก็มาใสเสียโครมๆ....ฟงสิแมพลอย" เสียงระเบิดและความกระเทือนของระเบิดไดยินขึ้นชัดเจนหลายครั้ง ทําใหทุกคนในหลุมนั้นเงียบไปพัก หนึ่ง "ฉันก็ไมเคยนึกวาจะไดอยูจนไดพบไดเห็นถึงเพียงนี้ อยูมาไดเห็นอะไรตออะไรเปลี่ยนแปลงไปก็ชางเถิด ถือเสียวาเปนของธรรมดา กาลสมัยเปลี่ยนไปทุกอยางก็ตองเปลี่ยนไป แตถึงเพียงนี้....แมพลอยเอย ถาใครจะ มาบอกฉันแตกอน ฉันคงไมยอมเชื่อวาเราจะตองอยูมาจนไดเห็นถึงเพียงนี้ ลองคิดดูซีแมพลอย ตั้งแตสมัยเรา ยังไวจุกวิ่งเลนกันอยูฟากขะโนน เรือบินก็ยังไมมีใครรูจัก แตแลวเราก็ตองมาวิ่งหนีเรือบิน ลงมานั่งในหลุม เหมือนคนรู นากลัวออกจะตายไป แนะ ! เอาอีกแลว" เสียงลูกระเบิดแหวกอากาศลงมาดังที่สุดที่พลอยเคยไดยิน แสดงวาระเบิดตกใกลมาก หลุมที่นั่งอยูนั้น แกวงไกวไปทั่วเหมือนเปล หรือเรือที่กําลังกระทบคลื่นอยางหนัก ฝุนรวงพรูลงมาจากเพดานหลุม ทําใหทุกคนที่ นั่งอยูนั้นขาวไปทั่วตัว และขื่อไมเหลี่ยมอันหนึ่งหลุดตกลงมา เดชะบุญมิไดถูกใคร พลอยรูสึกหูอื้อ นัยนตาลาย กอดหลานคนเล็กไวแนน และเด็กก็มิไดรอง จะเปนเพราะตกใจจนรองไมออกหรืออะไรก็ตามที ทุกคนที่อยูใน หลุมจะนั่งอยูนานเทาไร พลอยก็ไมสามารถจะกะไดถูก ในใจนั้นรูสึกเหมือนวานานสักโกฏิป อีกครูหนึ่งมีเสียง ระเบิดดังเบาๆ ไกลมาก ทําใหรูสึกไดวาเครื่องบินนั้นผานไปไกลแลว คุณเชยเปนคนแรกที่ขยับเขยื้อนตัว ลุกขึ้น ยืนโคงตัวอยางไมสะดวกแลวพูดขึ้นวา "แมพลอย ฉันขอออกไปขางนอกละ ถาจะตายก็ขอตายขางนอกใหมันหายใจออก ไดเห็นเสียงเดือนแสง ตะวันสักหนอย ในนี้ฉันอยูตอไปไมไหวแลว ขืนอยูตอไปอีกอึดใจเดียว ฉันเปนลมนอนคว่ําเอามือทุบดินรอง กรี๊ดๆ เปนแน" วาแลวคุณเชยก็เดินออกไปนอกหลุม พลอยนั่งอยูตอไปอีกครูหนึ่ง ก็ไดยินเสียงคุณเชยมารอง เรียกที่ปากหลุมวา "แมพลอย ! แมพลอย ! ออกมาเถิด เห็นจะไมเปนไรแลวละ" พลอยเองก็รูสึกอึดอัดใจอยูเหมือนกัน และดูทาในหลุมเริ่มจะไมปลอดภัย เพราะการกระเทือนที่ถึงกับทํา ใหขื่อหลุดนั้น เปนเหตุใหเศษดินแหงๆ ยังรวงลงมาอยูเรื่อยๆ พลอยหันไปพยักหนากับสมใจและคนอื่นๆ อีก หลายคนที่อยูในหลุม แลวก็อุมหลานเดินนําขึ้นไป คุณเชยรออยูที่ปากหลุม และกอนที่พลอยจะโผลออกไปคุณ เชยก็พูดวา "ทําใจดีๆ ไวแมพลอย ทําใจดีๆ ไว ทุกอยางเปนของนอกกาย ที่เรารอดตายกันทุกคน ไมมีใครเจ็บเลยก็ ดีถมไปแลว ของอื่นหาเอาไดใหม" ทางออกจากหลุมนั้นตรงกับตัวตึกพอดี เมื่อใครโผลออกจากหลุมก็จะตองเห็นตัวตึกกอนอื่น ฉะนั้นเมื่อ พลอยอุมหลานออกจากหลุม ภาพของตึกที่อยูตรงหนานั้น ทําใหพลอยขาออนหมดกําลังใจ ตองลงนั่งอยูที่ สนามหนาหลุมนั้นเอง ความรูสึกของพลอยนั้นบอกไมถูก วาจะเสียดายตึกในฐานะที่เปนที่อยูอาศัย หรือทรัพยสมบัติที่มีราคา นั้นไมใชแน ถาจะวาใหถูกจะตองวาเปนความเศราใจ และความเวทนาที่ออกมาจากสวนลึกของหัวใจ เพราะตึก

http://www.geocities.com/siamstory/ploy412_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 5

นี้พลอยไดมาอยูตั้งแตยังสาว เปนที่ๆ ไดเคยผานมาทั้งสุขทั้งทุกข ผัวตายก็ตั้งศพบนตึกนี้ ออกลูกกี่คน และ เลี้ยงลูกมาจนโตก็บนตึกนี้ ความดีใจเสียใจ ความปรารถนา ความฝนตางๆ ในชีวิตก็มาเกิดขึ้นบนตึกนี้เปนสวน มาก ตึกนี้จึงเปนสัญญลักขณแหงสวนใหญของชีวิต ตั้งอยูในรูปวัตถุจับตองได มีความหนักแนนแข็งแรง มี วิญญาณของมันเองเหมือนกับสิ่งมีชีวิต สามารถเปนเพื่อนรวมสุขในยามสุข และเปนเพื่อนปลอบประโลมในยาม ทุกข ใหความคุมครองดวยฝาดวยหลังคา มิใหภัยอันตรายตางๆ ตลอดจนความไมแนนอนของโลกภายนอกมา ถึงตัวพลอย บัดนี้ตึกนั้นสิ้นชีวิตลงโดยกระทันหัน หลังคาเปดโลง กระเบื้องทุกแผนปลิวกระเด็นหายไป บาน หนาตางหลุดรวงลงมาแลวบาง บางบานก็ยังติดหอยอยูอยางเกะกะ บางบานก็หักหายไปเหลือเพียงครึ่งเดียว ตามกําแพงตึกมีรอยถูกสะเก็ดระเบิดมากมายหลายแหง เปนรอยใหญบางเล็กบาง สะเก็ดระเบิดตัดฝาตึกเขาไป จนเห็นอิฐแดงๆ ชั้นใน เหมือนกับบาดแผลฉกรรจ บนเนื้อหนังมนุษย ความอบอุนความรมเย็นที่เคยมีนั้นหมด สิ้นไปแลว และพลอยก็รูวาชีวิตและวิญญาณของตึกนั้น ปราศนาการไปดวยระเบิดเพียงลูกเดียว ไมมีวันจะกลับ ฟนขึ้นมาอีก ถึงจะซอมแซมใหเขาอยูอาศัยไดตอไป ก็จะเปนชีวิตเปนวิญญาณดวงใหม มิใชของเดิมที่พลอยรูจัก พลอยนั่งอยูที่ปากหลุมอีกนาน ในคอนั้นแหงผาก แตยังไมแหงเทาความรูสึกในใจ ระหวางนั้นมีเสียงคน รองอุทาน เสียงคนในบานเดินไปเดินมากันอยูสับสน เสียงตะโกนเรียกหากันโหวกเหวก เสียงโจษจันกันตางๆ แตพลอยก็มิไดสนใจ คงนั่งนิ่งมองออกไปขางหนา คอยๆ ทําใจใหคุนกับสภาพของบานเรือนที่สลายไปโดยมิได คาดไวกอน เสียงสัญญาณปลอดภัยดังขึ้น และอีกครูหนึ่งตาอั้นก็มาถึง รีบวิ่งมาขางๆ ตัวแลวถามขึ้นดวยเสียงที่ ยังกระหืดกระหอบวา "คุณแม ! คุณแม ! ผมไปติดอยูเจริญกรุง คุณแมเปนอะไรบางหรือเปลา ใครเปนอะไรบางไหม" "แมไมเปนอะไรอั้น" พลอยตอบเหมือนกับคนที่เพิ่งสะดุงตื่นขึ้น "ลูกเมียอั้นอยูกับแม ไมมีใครเปนอะไร คนอื่นๆ ในบานแมไมรู.....ดูเอาเถิด ! แมก็มัวแตตกตะลึงจังงังอยูนานไมไดถามไถเขาเลย" พลอยพูดเหมือนกับ พอตัวเองที่บกพรองในหนาที่ แลวก็รีบรองถามคุณเชยที่เดินไปมาอยูวา "คุณเชย ! คุณเชย ! มีใครเปนอะไรบางหรือเปลา" "ไมมีหรอกแมพลอย" คุณเชยรองตอบมาจากริมสนาม "เดชะบุญคุณพระชวย ไมมีใครเปนอะไรเลย แม แตถลอกก็ไมมี แมพลอยเปนอยางไรบาง" คุณเชยพูดพลางเดินตรงเขามาหา "ฉันเองก็ไดแตตกใจวิ่งวุนไปหมด ยังไมไดถามอาการแมพลอยเลย" "ไมเปนไรดอกคุณเชย ฉันตกใจตะลึงไปครูหนึ่งเทานั้น หายเปนปกติแลว" วาแลวพลอยก็ลุกขึ้นยืน พลางตั้งใจวาจะตองดําเนินชีวิตตอไป ทั้งที่รูดีวาสวนสําคัญของชีวิตเบื้องหลังนั้นขาดหายไปเสียแลว พลอยเดินดูรอบๆ ตึก ตาอั้นเดินอยูขางๆ พลางเตือนวา "ระวังอยาเขาไปใกลนักคุณแม จะยังมีลูกหลงอยูบางหรือไมก็ไมรู" แตพลอยก็ยังเดินชาๆ ตอไป เหมือนกับจะไวอาลัยตึกเปนครั้งสุดทาย ตึกนั้นถูกระเบิดพังเสียหายมาก ไมมีทางงที่จะกลับเขาไปอยูไดอีก ขาวของผาผอนกระเด็นรวงกระจุยกระจายไปรอบ โตะเกาอี้ที่ยังมองเห็นก็หัก บางชํารุดบาง ทุกอยางมีฝุนหรือเศษอิฐปูนคลุมไปทั่วตรงหนาพลอย บนทางเดินริมตึกมีกระดาษอะไรปลิวมาตก อยูแผนหนึ่ง พลอยกมลงไปหยิบขึ้นมาดูแลวก็ใจหาย เพราะอีกดานหนึ่งเปนรูปคุณเปรม แตงเครื่องแบบราช เสวกเต็มยศ ถายที่รานถายรูปหลวงฉายานรสิงห เมื่อครั้งยังมีบรรดาศักดิ์เปนพระ พลอยจําไดดีถึงวันที่คุณ เปรมออกไปถายรูป และวันที่ไดรูปกลับมาอวดพลอยที่บาน รูปนี้คุณเปรมสั่งใหขยายใหญเปนพิเศษ เพื่อติดที่ หองกลางบนตึก เปนรูปที่คุณเปรมชอบมากที่สุด แตเดี๋ยวนี้รูปนั้นปลิวลงมาวางอยูที่ดิน กรอบกระเด็นหายไป ทางหนึ่ง และกลางรูปก็มีรอยกระจกแตกบาดเอาเปนทางยาว พลอยรีบเอารูปคุณเปรมแนบไวกับอกและเดินตอ ไป พยายามกลั้นน้ําตาแข็งใจไว เพราะรูปนั้นเปนสัญญลักขณของยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง ที่พลอยเคยอยูเคยมีสวน รวม ยุคสมัยที่พลอยเคยเห็นวามีความสุขความหวังและความแนนอน บัดนี้ยุคนั้นหมดไปแลว ลับไปแลว ไมมี วันจะกลับมาอีก เหมือนกับรูปถายขาดๆ ที่พลอยกอดเอาไวไมมีวันจะซอมใหกลับดีไดเหมือนเดิม พลอยไดยินเสียงตัวเองพูดขึ้นกับตาอั้นวา "อั้น แมจะไปอยูคลองบางหลวง" "ก็ดีเหมือนกัน" ตาอั้นตอบ "อั้นตองไปอยูกับแม เอาลูกเอาเมียไปดวย" "ไดครับคุณแม" ตาอั้นตอบ "แตผมตองขอเวลาใหเขาไปจัดบานนั้นสักสี่หาวัน ระหวางนั้นผมจะตองอยู ดูแล เก็บขาวเก็บของในตึกนี้กอน" "ถูกแลว.....อั้นชวยดูที....คืนนี้แมจะไปอาศัยประไพเขานอนสักคืนหนึ่ง" "แตผมเรียนแลววาอีกสี่หาวันจึงจะขามฟากไปได" "แมไดยินแลว แตแมอยูบานนี้ไดอีกเพียงคืนเดียว พรุงนี้แมจะไปอยูกับปาชอยที่ในวัง อั้นจัดบานเสร็จ เมื่อไร ใหคนเขาไปตามแมก็แลวกัน" พูดแลวพลอยก็หันหลังใหกับตึกอยางตัดใจ เดินกมหนาขามสนามไปที่เรือนของประไพ โดยมิไดเหลียว กลับมาดูตึก ซึ่งเคยเปนสวนหนึ่งของชีวิตที่ผานพนไปแลวนั้นเลย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy412_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๒ (หนาที่ ๒)

http://www.geocities.com/siamstory/ploy412_2.html

Page 5 of 5

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๓

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๓ เมื่อพลอยพูดกับตาอั้นวาจะไปคางกับชอยในวัง กอนที่จะขามไปอยูบานคลองบางหลวงนั้น พลอยพูด ออกมาจากหัวใจ ถาจะพลอยใหอธิบายเหตุผลวา เพราะเหตุใดพลอยจึงตั้งใจเชนนั้น พลอยก็คงจะอธิบายไมถูก ความรูสึกในสวนลึกของหัวใจ บอกใหพลอยรูวาบานที่เคยอยูมากับคุณเปรม และอยูตอมาหลายสิบปนั้น บัดนี้ กลายเปนซากศพของชีวิตหนึ่งที่ผานไป พลอยไมสามารถจะทนอยูตอไปอีกได เพราะทุกอยางในบานกลายเปน เรือนรางที่ปราศจากชีวิต ปราศจากความหมาย วิญญาณและความรักที่เคยเรียกรอง เคยตอนรับพลอยอยูใน บานนั้น ไดสิ้นสุดลงเสียแลว ไมมีทางปลุกเสกใหกลับฟนคืนขึ้นมาใหมได เมื่อเกิดความรูสึกเชนนั้น ความ ปรารถนาที่รอนแรงอีกอยางหนึ่ง ก็ติดตามมาทันที คือความปรารถนาที่จะกลับบานเดิมอันเปนที่เกิด ทั้งนี้เปน ความตองการของคนที่ออกจากบานเดิมมานานแลวหนักหนา ใชชีวิตทองเที่ยวระหกระเหินไปในที่ตางๆ และ เพิ่งมารูสึกตัววาถึงเวลาแลวที่ตนจะตองกลับบาน ไปใชบั้นปลายแหงชีวิตของตนที่นั่น รอจุดจบของชีวิตดวย ความสงบ แวดลอมไปดวยสิ่งตางๆ ที่คุนเคยมาแตแรกเกิด แตขณะเดียวกัน ก็มีเหตุผลบางอยางในใจของ พลอยที่อธิบายไดยาก กลาวคือเมื่อออกจากบานคลองหลวงมาเปนครั้งแรกนั้น พลอยตรงมาอยูในวัง ฉะนั้นใน ตอนที่จะกลับไปอยูบานคลองบางหลวงเปนครั้งสุดทาย พลอยก็เห็นวาควรจะกลับไปจากในวังเหมือนกัน ดวย เหตุนี้พลอยจึงไดบอกตาอั้นวา ตนตั้งในจะเขาไปคางกับชอยที่ในวัง ในระยะเวลาที่ตาอั้นจะเก็บขาวของที่ตกเรี่ย เสียหายใหเรียบรอย และไปจัดบานที่คลองบางหลวงใหอยูในสภาพที่อยูได พอเพิ่มมาเยี่ยมทันทีที่ไดรูขาววาพลอยถูกระเบิด พอพบหนากัน พอเพิ่มก็พูดวา "เห็นไหมละแมพลอย เห็นไหมละ ! เคราะหดีที่ฉันหาของดีมาแจกจายกันไวพอแรง ไมมีใครเปน อันตรายเลยทั้งบาน แมแตรอยขูดขีดก็ไมมี" พลอยไดแตยิ้มกับพอเพิ่ม เพราะไมอยากจะขัดคอวาตัวตึกที่พังไปเปนกองนั้น ก็มีทั้งผายันตและไดพรม น้ํามนต ซัดทรายของพอเพิ่มไวพอแรงเหมือนกัน แตพอเพิ่มดูเหมือนจะทําลืมๆ ขอนี้เสีย ไดแตพูดปลอบอก ปลอบใจพลอยไปตามเรื่อง และเมื่อรูวาพลอยจะกลับบานเดิมที่คลองบางหลวง พอเพิ่มก็ยินดีเห็นดวย รับรอง แข็งขันวา ถามีเวลาวางเมื่อไร จะไปอยูเปนเพื่อนมิใหพลอยตองเหงา คืนนั้นทั้งคืนพลอยนอนไมคอยหลับ ไดแตพลิกไปมาและนึกอัศจรรยใจวาเรือนของประไพนี้ ถาจะวาไป ก็อยูในบริเวณบานเดียวกันแทๆ แตเหตุไฉนเมื่ออาศัยนอนเพียงคืนเดียว ก็เกิดมีความรูสึกแปลกที่แปลกถิ่น เหมือนกับไปนอนอยูที่บานอื่น พลอยรีบลุกขึ้นแตเชาตรู และเมื่อไดสั่งเสียประไพสองสามคําแลว พลอยก็ใหเด็ก คนใชเอาหีบเสื้อผา ที่พอจะเก็บจากตึกใหญไดขึ้นรถตาอั้น และตัวเองกับเด็กอีกคนหนึ่งก็ขึ้นตาม ตาอั้นขับรถ ออกจากบานไปสงที่ประตูวัง เมื่อรถออกจากบานนั้น พลอยเหลียวหลังดูครั้งหนึ่ง เหมือนกับจะร่ําลา แตก็ไมมี วิญญาณใดหรือวัตถุใดเหลืออยูในที่นั้นที่พอจะร่ําลาได พลอยจึงเบือนหนากลับมองตรงออกไปขางหนา ไม เหลียวมาอีกเลย เมื่อพลอยไปถึงตําหนักเสด็จ ชอยกําลังนั่งอยูคนเดียว ตัดใบตองสําหรับหออะไรอยู พอเห็นพลอยชอยก็ รองขึ้นวา "โอโฮ ! แมพลอยไปไหนมาแตเชาทีเดียว" "ฉันวาจะมาอาศัยชอยอยูสักสี่หาวัน" พลอยตอบ "แหมดีจริง" ชอยวา "อยูนานกวานั้นหนอยไมไดหรือ จะไดคุยกันใหสบาย อยูหองเดียวกับที่เราเคยอยู ดวยกันแตกอนละนะแมพลอย ถาจะอยูหองอื่นก็ตองเปด ตองกวาดขึ้คางคาว ผูคนก็ไมคอยจะมีลําบากเปลาๆ" "ไมเปนไรหรอกชอย" พลอยตอบ "อยูที่ไหนก็ได แตชอยไมเห็นถามฉันบางเลยวา ฉันบานแตกสาแหรก ขาดอยางไรมา จึงตองมาอาศัยอยู" "นั่นซี ฉันก็ลืมไป มัวแตตื่นเตนดีใจวาแมพลอยจะมาอยูดวย" ชอยพูดแลวก็ถามตอไปเปนประโยคเดียว กันวา "แมพลอยเปนอะไรไป ลูกเขาไลออกจากบานหรือ" พลอยยิ้มดวยความขันในคําถามของชอย ที่ไมนาจะเปนไปไดแลวตอบวา "ไมใชหรอกชอย ลูกฉันเขาคงไมใจดําถึงเพียงนั้นหรอก แตบานฉันถูกลูกระเบิดเมื่อวานนี้เอง" ชอยยกมือตบอกผลุงแลวรองวา "ตายจริง ! ทําไมจึงถูกหวยเบอรอยางนั้นละ ฉันก็ไมเคยเห็นพลอยทําบาปทํากรรมอะไรเลย ไมนาจะ โดนเขาถึงเพียงนั้น" "ฉันก็คิดอยางนั้นเหมือนกันชอย" พลอยวา "แตใครจะไปรูได ชาติกอนฉันจะเคยทําอะไรไวกระมัง"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy413.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๓

Page 2 of 5

"เฮอ ! กรรมเวรจริงๆ" ชอยอุทานตอ "ใครเปนอะไรหรือเปลา" "เดชะบุญ ไมมีใครเปนอะไรเลย" "คอยยังชัวหนอย" ชอยพูด "แลวแมพลอยจะทําอยางไรตอไป" "ฉันก็จะมาอยูกับชอยในวังสักสี่ซาหาวัน พอเด็กๆ ทางบานเขาไปจัดบานคลองบางหลวงเสร็จ ฉันก็จะ ขามไปอยูฟากขะโนน ฉันตั้งใจแลววาจะไปอยูที่นั่นจนตาย" "พลอยยังดีกวาฉันมาก" ชอยปรารภขึ้น "บานนี้พังก็มีบานโนนไปอยูได อยางฉันถาหากใครเขามาไล ออกจากตําหนักนี้ ก็ไมมีที่จะไป" "บานฉันก็ยังมีนี่ชอย จะไปอยูดวยกันเมื่อไรก็ได ฉันพูดจริงๆ นะ" "ชางเถิดพลอย ฉันรูอยูแลวเต็มอกวาถาฉันไปขออยูดวยคน พลอยก็ตองดีใจเทากับฉันดีใจวันนี้ แตไป อยูดวยกันไมมีกําหนดกลับ ฉันทําไมไดหรอก เรารักชอบกันมาตั้งแตเด็ก ฉันก็อยากจะตายจากไปอยางนั้น ไป อยูดวยกันโดนฉันทํายายแกปาๆ เปอๆ เขาหนอย พลอยก็จะเบื่อหรือเกลียดขี้หนาฉันเสียเปลาๆ" ตอคําพูดเชนนี้พลอยก็ไดแตหัวเราะ แลวชอยก็ชวนเขาไปจัดที่ทางสําหรับที่จะอยูใหสบายระหวางที่มา พัก ชอยยังอยูในหองคุณสายเดิมนั่นเอง เทาที่พลอยสังเกตุเห็น ระยะเวลาที่ผานไปหลายสิบป มิไดทําใหหอง นั้นเปลี่ยนแปลงไปกี่มากนอย ของตางๆ ก็คงตั้งหรือวางอยูในที่เกาเปนสวนมาก และชอยก็รักษาความสะอาด ในหองนั้นไวเชนเดียวกับเมื่อครั้งคุณสายยังอยู พลอยคงนั่งในหองกวาดตาดูโดยรอบ แลวก็พูดขึ้นวา "เห็นหองนี้แลวก็ใจหาย เคยกินเคยนอนเคยเลนมา เสร็จแลวก็ตางคนตางไป ลมหายตายจากันไปบางก็ มี ฉันเองก็ออกไปอยูขางนอกเสียนาน รูสึกเหมือนกับวาตั้งโกฏป แตพอกลับเขามาในหองนี้ทุกอยางก็เหมือน เกา ไมมีอะไรเปลี่ยนแปลง ดูเหมือนกับวาออกไปจากหองครูเดียวแลวก็กลับเขามาใหม พูดไปแลวก็คิดถึงคุณ ปาสาย" "นั่นสิพลอย" ชอยพูดขึ้นบาง "ระหวางที่ฉันอยูคนเดียวไมคอยไดนึกถึงเธอเทาไรหรอก แตพอมี พลอยกลับเขามานั่งดวยอีกคน ก็เกิดคิดถึงเธอขึ้นมาทีเดียว ดูเหมือนกับวายังอยูพรอมกันเมื่อวานซืนนี้เอง ที่ ไหนได นมนานเต็มทีแลว" "ชอย" พลอยพูดขึ้นอยางเพิ่งนึกอะไรออก "เมื่อฉันเขามาอยูในวัง ทั้งเสด็จทั้งคุณอาสายอายุนอยกวาเรา เดี๋ยวนี้อีก แตฉันชางเห็นทานแกกันเสียจริงๆ ทีเดียว ถึงตาเราแกลงบาง ถาไมนึกถึงไมรูตัว" "เห็นจะเปนอยางนั้นทุกคนแหละพลอย" ชอยตอบ "ฉันเองเวลาอยูคนเดียวก็พอทําเนา แตพออยูกับ พลอยก็เผลอตัววาเปนเด็กไปบอยๆ" แตความคงที่ไมเปลี่ยนแปลงนั้น มีอยูแตภายในหองที่ชอยอยูเทานั้นเอง ในสวนอื่นของตําหนักนั้น พลอยไดเห็นวาจํานวนปที่ผานไป ไดทําใหมีอาการเกาแกทรุดโทรมอยางนาเวทนา ชอยยังอาศัยอยูที่ตําหนัก กับผูหญิงสองสามคนที่ชอยบอกวา ถึงจะเกี่ยวของเปนญาติหางๆ ก็เปนคนอาศัยมากกวา เพราะเขานึกจะอยูก็ อยู เขานึกจะไปเมื่อไรก็ไป ระหวางอยูดวยกัน ก็พอจะอาศัยไหววานกันไดบาง ดวยเหตุที่ตําหนักมีคนอยูเพียง สองสามคน ตําหนักนั้นจึงเงียบเชียบเพียงตึกราง หองทุกหองที่เคยเปดและมีคนคอยปดกวาดใหสะอาดเรียบ รอย บัดนี้ปดเงียบ มีกลิ่นอับๆ ของความมืดและชื้นอยูทั่วไป ตามบานหนาตางประตูมีหยากไยใยแมลงมุมติด อยูมาก มีรองรอยวาติดสลับซับซอนกันหลายป โดยไมมีใครสนใจปดกวาด ทางเดินที่ทะลุกลางตําหนักนั้น ตาม ปกติมีแสงสวางนอยอยูแลว เมื่อหองตางๆ ทั้งสองขางถูกปดลง ทางเดินนั้นก็มืดนากลัว มีมูลคางคาวตกอยูทั่ว และมีเสียงคางคาวรอง แมจะเดินผานไปในเวลากลางวัน คางคาวที่มาอาศัยนอนอยูตามผนังชิดเพดาน ก็จะ แตกตื่นพากันบินขวักไขวไปมา และสงเสียงแหลมเล็กๆ เพิ่มความวังเวงขึ้นอีก ดานหลังตําหนักที่เคยรมรื่นดวย ตนไม และกระถางบัวใสน้ําใสสะอาดนั้น บัดนี้ถูกปลอยรกรุงรังเปนพงยอมๆ หินที่เคยปูไวราบเรียบ บัดนี้ถอน ตัวกระเดิดขึ้นมาเปนบางแผน บางแผนก็หายไป มีหญารกๆ ตนสูงๆ มาขึ้นแทนที่ เศษกระดาษและใบตองแหง ใบไมแหงตางๆ ปลิววอนไป อางมังกรบางใบแตกออกเปนเสี่ยงนากลัว เมื่อแตกแลวก็ไมมีใครมีแกใจจะรื้อขน เอาไปไวที่อื่น คงทิ้งใหกองอยูตรงที่เดิม มีเถาตําลึงและไมเลื้อยอื่นๆ ขึ้นปกคลุมเหมือนกับจะชวยซอนเรน บน ฝาตําหนักดานหนึ่งมีตนไมไปเกาะขึ้นอยู ชะรอยจะถูกทิ้งใหขึ้นมาหลายป เพราะขณะที่พลอยเห็นตนโตเต็มที่ แลว รากตนไมตนนี้ และรากตนโพธิ์ตนไทรที่มาขึ้นตามชายคา ขยายเหยียดออกมาตามผนังตําหนัก เหมือนกับ วาตําหนักนั้นกําลังถูกสัตวมีชีวิต ยื่นแขนยื่นนิ้วมือมาบีบรัด เพื่อจะใหสลายลง ชั้นบนของตําหนักที่เสด็จเคย ประทับ ยิ่งเพิ่มความเศราใจใหแมพลอยมากขึ้น หองบรรทมและหองอื่นๆ ปดเงียบ ในลักษณะเชนเดียวกับหอง ตางๆ ขางลาง เฉลียงที่เสด็จเคยประทับนั้น บัดนี้วางเปลา กระดานที่เคยเช็ดถูจนเปนมัน บัดนี้ขรุขระขาวซีด เปนบางตอนดวยความผุพัง และดวยน้ําฝนชะ ตรงไหนที่หลังคารั่วก็จะมีรอยตะไครน้ําขึ้นเขียว ตามฝาผนังฉาก อันหนึ่งที่พลอยจําไดดียังตั้งอยู เสด็จไดทรงเอาพระบรมรูปเจานายใสไวในนั้นหลายรูปจนเต็มฉาก บัดนี้พระรูป ตงๆ หลุดหายไปแลวก็มาก ที่เหลือก็ซีดเซียวเห็นไดเพียงรางๆ เพราะถูกแดดถูกอากาศและเวลานั้นลอกน้ํายา ใหหมดไป พระรูปของเสด็จยังคงเหลือตกคางอยูในฉากนั้นพระรูปหนึ่ง ถึงแมวาจะเปนสีเหลืองดวยความเกาแก พระพักตรที่ปรากฏในรูปนั้นก็ยังเห็นไดชัดเจน พระเนตรที่วาววามทั้งคูจับตาพลอยที่กมลงดู พระโอษฐเผยอยิ้ม นอยๆ เหมือนกับจะรับสั่งดวย พลอยตองเบือนหนาหนีไปเสียโดยเร็วดวยความเศราใจ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy413.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๓

Page 3 of 5

ระหวางที่อยูกับชอยในวัง พลอยก็ใชเวลาออกเดินไปดูทั่วๆ ในที่ๆ เคยเห็นเคยไป ถาในสมัยโนนจะมี ใครมาบอกวา ในชีวิตของพลอยๆ จะไดเห็นวังหลวงมีสภาพเปนอยางทุกวันนี้ พลอยจะไมเชื่อเลย ทุกแหงบอก ใหเห็นชัดถึงความรวงโรย ความเสื่อมโทรมและความตาย อํานาจราชศักดิ์และความหรูหราโออาหมดสิ้นไปแลว ไมมีเหลือใหเห็นไดอีกตอไป ตําหนักทุกตําหนักปดเงียบ เพราะไมมีใครอยู คนที่เหลืออาศัยอยูก็อยูอยางแกนๆ ไมมีแกใจ ไมมีกําลังใจที่จะซอมแซมรักษา บางตําหนักก็หายไปทั้งหลัง ไมมีรองรอยอะไรเหลืออยูเลย บาง ตําหนักก็มีแตกอนอิฐ มีเถาวัลยและไมเลื้อยตางๆ ปกคลุมไปทั่ว บางตําหนักก็ถูกทิ้งรางเหมือนกับหีบไมหรือ ตะกราเกาๆ ตนกลวยตนตะขบขึ้นเปนดงในที่ๆ แตกอนเคยมีแตไมดอกและไมดัดเปนที่รื่นรมย เสียงพูด คุยกระซิบกระซาบ เสียงหัวเราะริกรี้ ถอยคําที่เคยโตตอบอยางเฉียบแหลม มีปฏิภาณแบบชาววังหายไปหมด แลว คงเหลือแตเสียงบนพึมพํา และเสียงไอเสียงหอบของผูหญิงคนแก ที่ไมสามารถจะปลีกตัวไปใหพนได นานๆ ก็มีเสียงถอนหายใจเต็มไปดวยความเศรา ฟงดูเหมือนกับเสียงของวิญญาณของคนที่เคยหัวเราะ เคย รื่นเริงอยูในนั้น กลิ่นอบกลิ่นร่ําที่เคยหอมกรุนไปทั้งวังนั้น ดูเหมือนจะระเหยจืดจางไปตามสายลม ที่พัดผานไป แลวหลายสิบป คงเหลือแตกลิ่นอับกลิ่นสางของตึกเกาๆ และใบไมแหงผสมกับมูลคางคาวในยามราตรี แต กอนพลอยยังนึกเห็นภาพในวังที่สวางไสวดวยแสงไฟแพรวพราว นานๆ ก็มีเสียงขับรองเจื้อยแจว และเสียง ดนตรีที่หัดกันตามตําหนัก บัดนี้คงเหลือแตความมืดวังเวงกวาในหลุมฝงศพ เสียงที่ดังมากระทบหูเปนครั้งคราว คือเสียงนกเคาแมวที่รองเรียกหากัน เพราะนกเคาแมวในวังที่เคยมีมาแตกอนนั้น บัดนี้ดูจะออกลูกหลานอยูได ดวยความผาสุกยิ่งขึ้น เนื่องดวยคนมีนอย ถนนหนทางทุกแหงวางเปลาไมคอยมีใครเดิน เพราะไมรูวาจะเดินไป หาใคร เสียงทักทาย เสียงรองตะโกนทักถามทุกขสุขกันนั้นเงียบไปหมดแลว ประตูวังที่เคยมีคนเดินเขาออก พลุกพลานนั้น บัดนี้นานๆ จะมีคนผาน พวกโขลนที่พลอยเคยรูจัก บัดนี้ก็แกเฒาทรุดโทรมจนหมดฤทธิ์ไมนา กลัวเกรงอีกตอไป พระที่นั่งหลายองคทรุดโทรมผุพังเพราะถูกทอดทิ้งมานาน สวนสวรรคที่ยื่นออกมาจากที่บน มีสะพาน ยาวติดตอถึงพระตําหนักนั้นถูกรื้อไปหมดแลว แมแตที่บนก็รั่วและผุพังจนนากลัวอันตราย สําหรับผูที่ขึ้นไปเดิน หองทองคงเหลือแตผนังสามดาน อีกดานหนึ่งระเบียงทลายหายไป เปดโลงรับแสงแดดและสายฝน ที่สาดเขามา ตามฤดูกาล ลวดลายปนดวยปูนเปดทองนั้นตกลงมากองอยูรอบ เหมือนกับจะเปนสัญญลักขณของการหลุดรวง จากราชบังลังก ของเจานายตางประเทศหลายพระองค ที่เคยเสด็จเขามาในหองนี้ ทามกลางการรับรองอยางสม พระเกียรติยศ หองเขียวอันเคยเปนที่ประทับของหัวใจของแผนดิน บัดนี้เหลือแตคราบน้ําที่ไหลลงมาจับอยูตาม ฝาผนัง พื้นบางแหงยุบยวบอยางนากลัว หองเหลืองหองน้ําเงินคงมีแตตูเกาๆ และเขงใสของวางเปนระนาว คน ที่เคยอยูเคยใชหองเหลานั้นตายไปเสียนานหนักหนาแลว พระรูปเจานายที่ติดอยูตามฝาผนังนั้นยังคงอยู แตละ พระองคยังมองดูโลกภายนอก ดวยแววพระเนตรแหงยุคอื่นสมัยอื่น ปราศจากความสนพระทัย หรือความเขา พระทัยในสภาพปจจุบัน ของสถานที่อันมีแตความผุพัง พลอยเที่ยวเดินดูไปทั่ววังแลว ก็ไดแตปลงอนิจจังใน ความไมเที่ยงแทของสังขาร สภาพในวังเหมือนโครงกระดูกของสัตวใหญมหึมานอนกลิ้งอยู สัตวที่เคยมีชีวิตแข็ง แรงมีความมหึมา ทั้งขนาดอํานาจและความงาม...... แตบัดนี้ไมมีอะไรเหลืออยูเลย.... เวลาและการเปลี่ยนแปลง ที่ไมมีใครยั้งหยุดไดนั้น มีอํานาจใหญยิ่งกวาการกบฏจลาจล หรือขาศึกราชศัตรู เพราะสิ่งที่ถูกทําลายดวยเวลา ยอมถูกทําลายโดยสิ้นเชิง ทั้งในวัตถุและวิญญาณ พลอยพูดขึ้นกับชอยในตอนเย็นวันหนึ่งวา "ชอยทนอยูในวังไดอยางไร ฉันนึกไมออกเลย ถาเปนฉันๆ คงกลุมใจตาย" "ทําไมเลาพลอย" ชอยถามอยางไมรูเรื่อง "ก็มีแตอะไรผุพังทรุดโทรมไปรอบๆ ตัว นาเศราใจออก ถาฉันตองอยูในนี้เห็นจะตองตายเร็วแน" ชอยหัวเราะหึๆ แลวก็ตอบวา "ก็จริงอยางพลอยพูด เพราะพลอยไปอยูเสียนอกวัง นานๆ เขามาทีก็สังเกตเห็น แตฉันอยูในนี้ตลอด คอยเห็นคอยไปจนคุนไปเอง เหมือนกับเราอยูกับใครคนหนึ่งเห็นหนากันทุกวัน คอยๆ แกลงไปดวยกัน เลยไม เห็นวาแกเทาไรนัก" "ชอยวามาก็จริง" พลอยยอมรับแลวก็พูดตอไปวา "ฉันดูๆ ชอยไปแลวก็เห็นแปลก ความจริงเมื่อเด็กๆ ชอยเปนคนผาดโผนกวาฉันมาก ฉันยังเคยคิดเลยวาชอยคงจะเปนไปอยางแปลกๆ ผาดโผนในชีวิตนี้ แตแลวก็ เปลา ชอยอยูในวัง ฉันมารูจักชอยก็ที่นี่ แลวฉันออกไปอยูขางนอก ไปทําอะไรมารอยสีพันอยาง มีผัวมีลูกจนมี หลายแลว บานชองถูกระเบิดปนป แตพอกลับเขามาในวัง ชอยก็ยังคงอยูที่นี่ อยูในหองเกาที่เคยอยูมาดวยกัน แตยังเด็กๆ นั่นเอง ฉันไมเขาใจ บางทีฉันกลับคิดไปวาควรจะเปนฉันมากกวาที่นั่งอยูในนี้" ชอยนั่งนิ่งอยูนานมากทีเดียวเมื่อไดยินคําพูดของพลอย ขณะที่นั่งคุยกันนั้น ชอยกําลังนั่งจีบพลูอยู เมื่อ พลอยพูดจบแลว ชอยก็นั่งกมหนาจีบพลูไปเงียบๆ ไมเงยหนาขึ้นมองดูพลอยเลย แตในที่สุดชอยก็ถอนใจใหญ เบาๆ แลวก็พูดวา "นั่นสิพลอย บางทีฉันก็เห็นวาแปลกเหมือนกันเกิดมากับเขาชาติหนึ่งก็นั่งอยูที่เดียวเหมือนเกาไมมีผิด นั่งดูอะไรตออะไรผานไปเหมือนกับวาดูหนังดูละคอน เปนของนอกกาย ไมมีอะไรเกี่ยวของกับตัวฉันทั้งนั้น วา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy413.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๓

Page 4 of 5

แตพลอยเถิด พลอยออกจากวังไปแลวก็ไปเที่ยวทําอะไรตออะไรรอยสีพันอยาง อยางที่พลอยวา ไดรูไดเห็นได เกี่ยวของกับโลกมามาก แตเดี๋ยวนี้พลอยก็กลับเขามานั่งอยูที่เกา แตกอนหลายสิบปมาแลว เราเคยเปนเด็กนั่ง อยูดวยอยูดวยกันในหองนี้สองคน ถูกเลี้ยงมาเหมือนกันมีอะไรเทากันทุกอยาง แลวเราก็จากกันไปนาน พลอยออกไปอยูขางนอก ฉันคงนั่งอยูในนี้ เดี๋ยวนี้กลับเขามานั่งอยูที่เดิมดวยกันใหม เปนยายแกดวยกันทั้งสอง คน ฉันถามพลอยจริงๆ เถิด พลอยมีอะไรมากกวาฉันบางเวลานี้" ถึงตาพลอยที่จะตองนิ่งเมื่อไดยินคําถามของชอย และพลอยก็นิ่งอยูนานพอๆ กัน แลวพลอยก็พูดขึ้น ดวยเสียงออนๆ วา "ชอยพูดจริงทีเดียว ฉันคิดวาฉันมีอะไรตออะไรมาก แตพอมาคิดดูเดี๋ยวนี้เองก็เห็นวา อะไรตออะไรที่ฉัน เห็นวาเปนของฉันนั้น เอาจริงมันก็ไมใชของฉันสักอยางเดียว เราสองคนก็ยังพอๆ กันเหมือนแตกอนเทานั้นเอง แตถาจะวาไปจริงๆ ชอยก็ดูจะมีภาษีกวาฉันตรงที่ไมมีหวงใยอะไรมาก เพราะตัวคนเดียว" ชอยหัวเราะเบาๆ แลวตอบวา "อยาเพิ่งพูดไปพลอย.....อยาเพิ่งแนใจนัก ตัวคนเดียวนี่แหละยิ่งมีหวงมากละ เพราะคนเรามันตองหวง อะไรอยางหนึ่ง ถาไมมีใครคนอื่นจะตองหวงเลยก็ตองหวงตัวเอง แลวก็เลยหวงเสียเปนเรื่องใหญเรื่องโตทีเดียว อยางฉันตองนั่งทํามาหากินอยูทุกวันนี้ ก็เพราะเรื่องเปนหวงตัวเองนั่นแหละ กลัวจะอดกลัวจะลําบาก" "ฉันนึกถึงชอยอยูเสมอทีเดียวเรื่องนี้" พลอยวา "จะออกปากถามก็เกรงใจ เดี๋ยวนี้นะชอยอยูไดอยางไร พอกินพอใชบางไหม ฉันเห็นขาวของมันแพงขึ้นทุกวันก็หนักใจแทน" "เงินทองเทาทีมีมาแตกอนมันก็ควรจะพอ" ชอยพูดอยางไมแสดงวาทุกขรอนเทาไรนัก "ถาหากวาของ มันไมแพงขึ้น อยางแตกอนเราพูดกันเปนอัฐเปนฬส หรือเปนไพเปนเฟอง ก็เห็นวาแพงเสียเต็มทีแลว เสด็จ โปรดขึ้นมาประทานเงินตําลึงเดียว ฉันเคยดีใจแทบตาย เวลานั้นรูสึกเหมือนกับวาจะใชเทาไรก็คงไมหมด" ชอย หยุดหัวเราะแลวก็พูดตอไปวา "แตเดี๋ยวนี้ดูเถิดพลอย อยางคุณอาสายถามีทางรูวาฉันใชเงินวันละเทาไรเดี๋ยวนี้ ก็คงผีพลิก แตก็นั่น แหละที่ถามวาพอหรือไมพอนั้น มันอยูที่ตัวเรามากกวาอยางอื่น ฉันเคยคิดคาคิดขายหาอัฐ แตเดี๋ยวนี้ก็ตองเลิก เพราะมันไมคุม เดี๋ยวก็ไดแตรับจางเขาทําดอกไมบางอะไรบาง มันไดนอยก็จริง แตเราก็ตองใชมันใหจนพอ" "โธเอย !" พลอยอุทานดวยความสงสาร "ฉันก็รูวาชอยลําบากแตไมรูวาลําบากถึงเพียงนี้ จะคาขายก็ตอง ลงทุนลงรอน ฉันก็พอมี ถาชอยจะตองการก็พอหยิบยืมกันได ฉันพูดอยางนี้เพราะฉันรูวาถึงฉันจะใหชอยก็คง ไมเอา แลวโกรธขึ้นมาก็จะมาหาวาฉันดูถูก ฉันขี้เกียจฟง" ชอยหัวเราะแลวตอบวา "อยาดีกวาพลอย ถึงใหทุนรอนฉันมาคาขายเทาไรฉันก็มีแตขาดทุนจนหมด อบน้ําอบขายก็แลว ทํา หมวกก็แลว จนถึทําหอหมกจางเด็กออกไปเดินขายแถวทายวังไปจนถึงทาเตียน แตแลวก็ตองเลิกเพราะขาด ทุน" "ทําไมเลาชอย" "ที่เราเรียนมาแตเด็กมันคนละอยาง" ชอยอธิบาย "ผูใหญที่สอนใหเราทําอะไรเปน ทานสอนใหทําเอาดี ไมไดสอนใหมาทําหาสตางคมันก็เลยติดจนเปนนิสัย ทําอะไรก็จะทําเอาดีวิเศษไปเสียทุกอยาง สตางคก็เปลือง เหนื่อยก็เหนื่อย อยางฉันทําหอหมกขายนั่นปะไร นั่งตัดใบตองเสียหลังขดหลังแข็ง เพราะจะเอาใหสวย ทําหอ หมกก็ตองเลือกปลา จะใหเขากินอรอย เอาแตเนื้อแตพุง มีไขปลาวางหนา กระดูกปลากางปลาโยนทิ้ง ใบยอใส รองลางก็ตองเลือกใบออน ใสแตนอยไมใสเปนกําๆ อยางคนอื่นเขาทํา แลวมันจะไปขายแขงกับเขาอื่นไดอยาง ไร ถาขายแพงกวาเขาคนเขาก็ไมซื้อ ขายราคาเทาเขาเราก็ขาดทุนลมจม จะทําอยางเขาบางเราก็ทําไมเปน เพราะเราไมไดเรียนมาหลอกคน ทําอะไรก็ไดแตทําใหคนชมวาดี ไมไดหลอกทําหลอกใหคนเชื่อ มันพนกาลพน สมัยไปหมดละพลอย อยูเฉยๆ ดีกวา มีนอยเราก็กินนอย หมดเมื่อไรเราก็เลิกกินเทานั้นเอง อยาไปคิดถึงมันให วุนวายหัวใจไปเลย" "ชอยนี่มีอะไรดีอยูอยางนี้" พลอยพูดขึ้น "ถึงจะยากลําบากอยางไรก็บนไมเปน ใครที่ไมรูจักไดยินชอย พูดเมื่อกี้ คงนึกวาชอยเปนเศรษฐี" "ถาจะวาไป ฉันก็นึกวาฉันเปนเศรษฐีจริงๆ" ชอยตอบแลวก็หัวเราะ "เศรษฐีกวาพลอยที่มีเงินมีทองเปน กายเปนกองเสียอีก" "โอย ! ฉันไมกลามาแขงมั่งแขงมีกับคุณหรอก" พลอยพูดเยาให "อาว ! ฉันพูดจริงๆ นะพลอย" ชอยวา "คนเราจะเปนเศรษฐีหรือยาจกมันอยูที่ใจ อยางฉันมันเกิดมาเปน เศรษฐีตลอดชาติ ถึงไมคอยมีอัฐ แตมีความสบายใจ สวนคนบางคนเขาร่ํารวยเทาไรๆ ก็ไมรูจักพอ ตองนั่งหนา นิ่วคิ้วขมวด จะหาใหมันมากยิ่งขึ้นไปอีก กินไมไดนอนไมหลับ ถึงจะมีเงินมากเทาไร ก็ยังมีความทุกขเทากับคน จนอยูนั่นเอง" "ชอยพูดจาล้ําลึกเกินไปแลวละ" พลอยพูดตัดบท "พูดอุปมาอุปไมยเสียฉันฟงไมเขาใจ" "บางทีฉันจะอยูคนเดียวมากไปเสียแลวก็ไมรู" ชอยพูดอยางเห็นดวย "นั่งอยูคนเดียวทุกวันๆ ไมมีใครจะ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy413.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๓

Page 5 of 5

พูดจะคุยก็เลยนั่งนึกอะไรตออะไร พอเจอะคนที่จะพูดดวยไดก็เลยพูดอะไรที่เหมือนกับนึกไวในใจ ฟงดูก็เขาใจ ยากจริงๆ อยางพลอยวา พลอยอยามาฟงฉันเลย นึกเสียวาฉันแกจนหลงแลวก็แลวกัน เด็กๆ ในนี้เขาหาวาฉัน หลงแลวทั้งนั้นแหละ" แลวชอยก็ชวนพลอยพูดเสียถึงเรื่องอื่นๆ การที่พลอยไดเขามาอยูในวังกับชอยคราวนี้ ทําใหพลอยไดรูสึกวาชีวิตของตนไดเวียนมาบรรจบครบ รอบ ชีวิตที่จะมีตอไปนั้นจะตองเปนกาวใหม ขึ้นรอบใหมจะกาวไปสูทางใด เพื่อใหถึงอะไรนั้น พลอยรูอยูแตคน เดียว แตก็ดูจะไมมีปญหาอะไรนัก เพราะกาวสุดทายของชีวิตคนทุกๆ คน ก็ยอมจะยางไปทางเดียวกันทั้งนั้น ไมมีใครจะหลีกเลี่ยงได ระหวางที่อยูในวัง ตราบใดที่พลอยนั่งอยูในหองที่เคยอยูมาแตเล็ก ความรูสึกเกาๆ ที่ เคยมีมาเมื่อกอน ก็กลับมาสูตัวไดบอยๆ เพราะสิ่งแวดลอมตางๆ ตลอดจนกลิ่นไอไดถูกเก็บรักษาไว ใหคงอยู อยางเกา ไมมีอะไรเปลี่ยนแปลง บาเวลาขณะนั่งอยูเฉยๆ หูของพลอยก็แววไดยินเสียงตางๆ ที่เคยไดยินมาใน สมัยหนึ่ง เมื่อครั้งตําหนักนี้ยังรุงเรือง เสียงคนเดิน เสียวหัวรอตอกระซิกกันเบาๆ แมแตเสียงออดแอดเหมือน ใครขัดผัานุง บางเวลาก็มีความรูสึกเหมือนกับเสด็จยังคงประทับอยูบนตําหนัก ทําใหเผลอตัวคิดจะขึ้นไปเฝา ทุกครั้งที่เผลอไปเชนนี้ พลอยก็จะตองกลับรูสึกตัวดวยความเศราใจ ความรูสึกเชนนี้พลอยมีอยูเปนครั้งเปน คราว แตทุกครั้งที่ออกมานอกหอง ความรูสึกนึกคิดที่จะเกิดขึ้นไดนั้น มีแตเพียงอยางเดียว คือความรูสึกนึกคิด ถึงความสิ้นสุดทุกอยางแหงยุคสมัยแหงสมัย ซึ่งเปนสวนใหญของชีวิตของตน พลอยเองก็มิไดทราบวา เมื่อตน กลับเขามาในวังตอนนี้ ตนปรารถนาอะไรแน แตเมื่อไดเขามาแลวก็รูวาตนไดอะไรกลับไป สิ่งที่ไดนั้นก็คือคําลง เอยของบทกลอนที่คอนขางจะยืดยาว หรือจุดขมวดตอนทายของตะเข็บแหงชีวิต ที่พลอยไดนั่งสอยมาชานาน ชีวิตที่จะดําเนินตอไปนั้น พลอยไมรูสึกวิตกเพราะมองดูเหมือนกับชีวิตของคนอื่น ซึ่งพลอยจะเปนแตเพียงผูนั่ง ดูหางๆ เทานั้นเอง พลอยมาอยูในวังไดราวๆ หา-หกวัน ตาอั้นก็ใหคนเขามาบอกวาไดไปจัดทางบานคลองบางหลวง ไว เรียบรอยแลว นัดวันใหพลอยออกไป และตาอั้นจะมารับไปลงเรือที่ไดเตรียมไวให ถึงวันนัดพลอยก็ร่ําลาชอยแลวก็ออกจากวังไปลงเรือที่ทาพระ ซึ่งบัดนี้คนเรียกกันทั่วไปวาทาชางวัง หลวง เรือที่ตาอั้นจัดมาใหนั้นเปนเรือยนต แลนครูเดียวก็มาจอดอยูที่ตีนทาหนาบาน พลอยเดินขึ้นบันไดทาน้ํา และเดินเขาสูบานเดิมดวยความโลงใจ... บานที่เคยอยูอูที่เคยนอน ถึงจะไปอยูที่ไหนๆ มามิรูจักกี่รอยยานน้ํา พอไดกลับคืนมาก็ตองอุนใจทุกครั้งไป พลอยมองไปทางบันไดที่ลงมาจากตึก เห็นพอเพิ่มและคุณเชย เดินลงบัน ไดยิ้มเขามาหาตนทั้งสองคน "คุณหลวง...คุณเชย !" พลอยเอยปากถาม "ไปไหนกันมา อั้นไมไดบอกฉันเลยวามารอกันอยูที่นี่" "คุณหลวงนี่แหละไปฉุดฉันมาจนได บอกใหฉันมาคอยรับแมพลอยดวยกัน จะไดเหมือนเมื่อครั้งเกาๆ" คุณเชยพูดขึ้นกอน "จะไดไหมแมพลอย" พอเพิ่มพูดหัวเราะรา "แมพลอยกลับมาจากในวังหนแรกคราวนั้น ฉันกับคุณเชยวิ่ง ไปรับที่ทาน้ํา ดีใจกันแทบตาย คราวนี้แมพลอยกลับบานฉันก็อยากใหเหมือนครั้งกระโนนอีก" "ฮึ ! ดัดจริต !" คุณเชยพูดสอดขึ้นมา "ราวกะวาจะบีบตัวลงไปใหเปนเด็กๆ ไดอีก ฉันก็พลอยไปดวย เคราะหยังดีที่คุณหลวงไมจับฉันไวจุกอยางแตกอนเสียดวยเทานั้นเอง" แลวคุณเชยก็หัวเราะอยางอารมณเย็น แลวพูดกับพลอยตอไปวา "ขึ้นเรือนกันเถิดแมพลอย อั้นเขามาจัดแจงไวก็นาสบายหรอก บางทีฉันก็จะทิ้งหลวงโอสถมาอาศัยอยู ดวยอีกสักคน"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy413.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๔

Page 1 of 6

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๔ พลอยมาอยูที่บานคลองบางหลวงไดไมนานก็ไดขาววาตาออดเจ็บ โดยตาออดเปนผูเขียนมาบอกเองวา "แมทูนหัวของลูก ลูกเจ็บเปนไขไปเสียอีกแลว หมอบอกวาเปนโรคเกา คือไขมาเลเรียที่ลูกเปนกอนไปกรุงเทพฯ คราวที่ แลว ความจริงโรคนี้ใครๆ เขาก็เปนกัน ยิ่งลูกเองเกือบจะหลีกเลี่ยงไมได เพราะตองออกทํางานในเหมือง ที่อยู ในปาในเขา แมคงรูดีวาโรคนี้มาจากยุง และยุงนั้นมันอาจมากัดเอาเราเขาเมื่อไรก็ได แมอาจคิดวาลูกไมกางมุง นอน แตถาคิดอยางนั้นก็เปนความเขาในที่ผิด เพราะลูกกางมุงนอนอยูเสมอ ถาหากยุงมันจะแอบมากัดในตอน ที่ลูกนอกมุง ลูกก็ไมรูจะไปปองกันมันไดอยางไร เพราะตัวมันเล็ก ถาหากวายุงตัวโตเทาไก หรืออยางเล็กที่สุด เทานกกระจอก ลูกก็คงจะวิ่งหนีทัน แตนี่ตัวมันเล็กเหลือเกิน กัดแลวจึงจะรู ฉะนั้นลูกจึงคอยรักษาพิษยุงเอาเมื่อ เจ็บแลว รําคาญอยางเดียวที่มันเสียการงาน และหายายากเปนอยางยิ่งเทานั้น ถึงจะแพงเทาไรลูกก็ไมวา ขอ สําคัญอยูที่มันหาไมได ยิ่งทางใตนี้ยิ่งหายากใหญ แมชวยกรุณาเอาชื่อยาที่ลูกจดใสซองมาพรอมกับจดหมายนี้ ใหพี่อั้น แลววานใหเขาสงมาใหลูกดวย ลูกจะขอบใจแมเปนที่สุด ลูกอยากหายเจ็บโดยดวน จะไดรีบทําการงาน ใหเขาเสร็จไปเร็วๆ แลวจะไดกลับมาอยูกรุงเทพฯ กับแมอยางที่ไดพูดเอาไว" ขาวคราวจากตาออดทําใหพลอยตองเปนหวงเปนอยางยิ่ง รีบเรียกตาอั้นมาหา และสงกระดาษจดชื่อยา ที่ตาออดสงมาใหนั้น ยื่นใหดวยมือไมอันสั่น พลางกําชับแลวกําชับอีกใหตาอั้นไปซื้อยาสงใหจงได ถึงจะถูก แพงอยางไรก็ไมวา ซึ่งตาอั้นรับคําวาจะรีบทําใหโดยเร็ว ทําใหพลอยคลายใจลงไปไดบาง คําพูดของตาอั้นตอน หนึ่งทําใหพลอยไมสบายใจนัก เพราะตาอั้นบนวา "คุณแมรูหรือวาเปลาวายาเดี๋ยวนี้แพงเหลือเกิน และหาซื้อก็ยากเปนที่สุด" "อั้น ! อยาไปคิดเรื่องถูกแพงเลย" พลอยรองบอกทันที "อั้นตองถือเอาความเจ็บไขของนองเปนใหญ ถูก แพงเทาไรก็ตองซื้อสงไป" ตาอั้นหัวเราะแลวตอบวา "คุณแมพูดเหมือนกับวาผมจะมัวเสียดายสตางค จนปลอยใหนองตาย...เปลา ผมไมไดหมายความเชน นั้น ยาที่ออดสั่งมานั้นถึงจะแพงก็ยังพอหาไดไมสูกระไร ผมวิตกถึงคนอื่นที่เขาไมมีเงินจะซื้อยา คงจะตองตาย กันเสียมาก โรคบางโรคแทบจะหายาแกไมไดเลย" "อะไร ! ถึงเพียงนั้นเทียวหรืออั้น แมก็ไมคอยเจ็บคอยไขเลยไมรูเรื่อง" "จริงๆ ครับผมคุณแม" ตาอั้นตอบ "ผมวาสงครามคราวนี้คนไทยตายดวยโรคภัยไขเจ็บที่ไมมียารักษา มากกวาดวยอาวุธหรือระเบิด" "โธ ! นาสงสาร !" พลอยวา "แลวนี่เขาไมมีทางชวยเหลืออะไรบางเลยหรือ" "ถึงอยากจะชวยก็คงชวยไมได" ตาอั้นพูด "เพราะมันสําคัญที่ยาตางๆ ตองมาจากนอก พอยาเหลือนอย ก็มีคนกวานซื้อไปกักตุน ระหวางนี้คนที่คาขายยาก็รวยกันไป คนที่เจ็บไขก็ตายกันไปทุกวัน ไมรูจะไปสิ้นสุด กันลงเมื่อไร" ตาอั้นพูดแลวก็ถอนใจใหญ ขาวที่พลอยรูจากตาอั้นเรื่องยาขาดแคลนนั้น พลอยมาไดรับการยืนยันจากคุณเชยภายหลัง วันหนึ่งคุณ เชยมาหาแลวพูดวา "ฉันคิดวาจะอพยพหนีลูกระเบิดมาอยูกับแมพลอยเหมือนกัน แตดูๆ ไปแลวก็ทิ้งหลวงโอสถไมลง เพราะ หมูนี้งานมากเหลือเกินจนนาสงสาร" "คนเจ็บมากกวาแตกอนหรือคุณเชย" พลอยถาม "คนเจ็บก็คงเทาๆ กับแตกอนนั่นแหละแมพลอย" คุณเชยวา "แตสมัยหนึ่งเขาไปนิยมใชยาฝรั่งหมอฝรั่ง กันอยูพักหนึ่ง คุณหลวงของฉันก็เลยวาง แตเดี๋ยวนี้ยาฝรั่งมันขาด ตองหันเขาหาหมอไทยยาไทยกันใหม คุณ หลวงก็เลยมีคนไขมากขึ้น ตองทําทั้งกลางวันกลางคืน ฉันทักเขาเขาก็บอกวาอยาพูดเลย เวลานี้ตองชวยกันเอา บุญ อัฐฬสก็ไมไดอะไรกี่มากนอย ตองเหนื่อยแรงเปลาๆ เทานั้นเอง" คําบอกเลาของคุณเชยยิ่งทําใหพลอยรูสึกหวงใยตาออดมากขึ้นไปอีก แตนอกจากจะสงหยูกยาไปให เทาที่สามารถจะทําไดแลว ก็ดูเหมือนจะไมมีทางอื่นใดที่พลอยจะชวยเหลือตาออดไดอีก หนทางที่จะติดตอถึง กันไดในขณะนั้นก็ยากเขาทุกที เพราะทางรถไฟสายใตเริ่มจะถูกระเบิดทําลาย และรถไฟที่เคยเดินเปนขบวนที่ แนนอนก็เริ่มจะขาดหาย เดินไดบางไมไดบาง นานๆ จดหมายจากตาออดจึงจะมีมาถึงสักครั้งหนึ่ง และน้ําเสียง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy414.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๔

Page 2 of 6

ตาออดที่พูดมาในจดหมายนั้นก็ดูอิดโรยลงไป จะเปนเพราะความเจ็บไขหรือเพราะอะไรก็สุดที่จะเดา สงครามยิ่งลวงไป เหตุการณตางๆ ก็ยิ่งรุนแรงเขาทุกที อาหารการกินและของใชหลายอยาง อัตคัตขาด แคลนลงทุกวัน ของที่เคยมีใชเปนประจํา เชนสบูถูตัวและซักผาก็กลับกลายเปนของหายาก คนไทยตองใชความ สามารถในทางคนควาที่มีอยูในตน หาของแปลกๆ มาใชแทน เปนตนวาซักผาดวยน้ําดางขี้เถา หรือเปลือกมัน เทศ ผาทุกชนิดกลายเปนของหายากอยางยิ่งยวด แมแตผาทอพื้นเมืองซึ่งแตกอนไมมีใครนิยมใช ก็กลายเปน ของที่พึงปรารถนา ซื้อขายกันดวยราคาแพง พลอยเองรูสึกวา ตนมีภาระที่จะตองหาเสื้อผาใหแกคนในบาน ที่มี จํานวนหลายคนมิใหขาดแคลนลงได ดวยเหตุนี้ผาผอนเกาๆ ที่เก็บเอาไว ก็ถูกระบายออกมาจนหมดสิ้น เพื่อดัด แปลงใชไปตามมีตามได ในที่สุดก็ถึงผาปูนอนและแมผาปูโตะ ซึ่งตองถูกนํามาตัดเปนเสื้อผาแจกจายกันไป พลอยมารูเห็นจริงจังวาราคาของขึ้นสูงไปอยางไร เมื่อตอนยายบาน ระยะเวลาหลายสิบปที่พลอยไดตั้ง ครอบครัวมาได ทําใหขาวของที่สะสมอยูกองพะเนินเทินทึก เมื่อบานชองยังมิไดพังลง พลอยก็มองไมเห็น เพราะของเกาของเหลือใชที่บุบสลายหรือหักพังตางๆ นั้น มีวิธีที่จะแอบแฝงตัวของมันเองอยูในบานเกาๆ โดยมิ ใหใครสังเกตเห็นได แตพอเกิดการบานแตกสาแหรกขาด ตาอั้นขนเอาขาวของตางๆ ที่ยังเหลือมิไดสูญหายไป ดวยแรงระเบิดเอามาที่บานคลองบางหลวง พลอยเห็นแลวก็ตองลูบอก มิรูวาขาวของอะไรจึงไดมากถึงเพียงนั้น แตละอยางถาดูจริงๆ ก็จะไดดีวาไดมาเมื่อไร เคยใชทําอะไรบาง แตเดี๋ยวนี้ดูจะปราศจากความหมายไร ประโยชน พอเพิ่มเปนคนแนะนําขึ้นวา "แมพลอย แมพลอยจะไปเก็บเอาไวทําไมของเหลานี้ รกบานเปลาๆ เราไมมีวันจะใชมันไดอีกแลว" "ฉันก็หมดปญญาเหมือนกันคุณหลวง" พลอยตอบ "จนชั้นที่จะเก็บก็ไมมี นี่ฉันจะทําอยางไรดี" "ขายๆ มันเสียบางก็แลวกัน" พอเพิ่มวา "ไฮ ! ฉันทําไมไดหรอก อายเขา คนเขาจะวาได" พอเพิ่มหัวเราะแลวก็พูดวา "แมพลอยนี่เหลือเข็นจริง เปนผูดีไมรูจบ แมพลอยไมรูดอกหรือวา อาชีพสําคัญของผูดีในสมัยนี้ก็คือ ขายของเกากิน ใครไมมีของเกาขายก็แสดงวาไมใชผูดีเกา ยิ่งขายไดมากเทาไรยิ่งโกเสียอีก" แลวพอเพิ่มก็ไปติดตอเรียกเจกคาของเกามาตรวจของมาตีราคาของตางๆ ที่พลอยไมตองการใชนั้นให เสร็จ ทําใหพลอยตองอัศจรรยใจในความรูใหมที่ไดรับนั้นเปนอันมาก เพราะของที่เคยซื้อไวไมกี่บาท เก็บไวใช ตั้งหลายปจนเกา บัดนี้มีราคาเพิ่มขึ้นกวาเกาตั้งหลายสิบเทาตัวก็มี ยิ่งของที่ทําดวยโลหะทุกชนิด มีราคาสูง อยางไมนาเชื่อ พอเพิ่มเองก็ตื่นเตนสนุกสนานในการขายของ เปนผูตอรองราคากับจีนที่ซื้อ อยางเอิกเกริก พลอยไดแตเปนผูนั่งดู ของบางอยางที่พลอยเห็นวาจีนนั้นใหราคาสมควรแลว พอเอยปากจะตกลงก็ถูกพอเพิ่มดุ วาใจเร็วดวนได ในที่สุดพลอยก็ไดแตนั่งนิ่ง ไมกลาปริปากพูดวาอะไร เพราะเชื่อเสียแลววา ความรูในเรื่องคุณ คาตางๆ ที่เปนของตนนั้น พนสมัยใชการไมไดเสียแลว อยาวาแตคุณคาของของตางๆ ที่มีความสําคัญเลย แม แตราคาของของเกาๆ ถวยโถโอชามที่ราวหรือบิ่น ถาดทองเหลือง ขันทองเหลืองเกาๆ ผุๆ พลอยก็ไมรูราคา เสียแลว พลอยคาดหมายไมถูกวาภาวะสงคราม และขอบังคับรัดรึงตัวตางๆ นั้นจะสิ้นสุดลงเมื่อใด แตวันหนึ่งการ เปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นเฉยๆ โดยมิไดคาดหมายไวกอน ภาวะเชื่อและตามผูนํานั้นหยุดลง อยางไมนาเชื่อ พลอย ไดยินวารัฐบาลเกาลาออกไป รัฐบาลใหมเขามาแทนที่ พลอยไดยินเสียงนายกรัฐมนตรีคนใหมปราศัยทางวิทยุ และเมื่อจบแลวแทนที่จะมีเพลงปลุกใจแบบฝรั่ง หรือที่เรียกกันวาเพลงสากลดังตุมๆ ตอมๆ อยางที่เคยไดยิน ก็ มีเสียงเพลงเขมรไทรโยค ดังเยือกเย็นออกมาทางวิทยุ ทําใหพลอยตองเลิกคิ้วดวยความพิศวง เพราะไมไดยิน เพลงไทยแทๆ มาเสียนาน และตั้งแตนั้นมาใครจะเดินศีรษะเปลาเทาเปลา หรือจะกินหมากไมกิน และจะเขียน หนังสือแบบเดิม ตลอดจนพูดจากันดวยคําสุภาพแบบเกา ก็ไมมีใครหาม การเปลี่ยนแปลงทางดานรัฐบาลทําใหเกิดความหวังขึ้นไดบางวาทุกอยางจะดีขึ้น พอเพิ่มเปนคนที่ ตื่นเตนดีใจและแสดงความหวังมากกวาใครๆ และอารมณของพอเพิ่มอาจรุนแรง พอที่จะติดตอไปถึงคนอื่น เพราะตาอั้นเองบางครั้งก็ยอมรับวา เหตุการณบานเมืองบางอยางอาจดีขึ้นได แตในที่สุดความหวังตางๆ ก็ กลายเปนของเลื่อนลอยไป เพราะระเบิดยิ่งตกหนักขึ้นไปกวาเกา ในอัตราที่นาเกรงขามอยางยิ่ง เครื่องบินมา โจมตีกรุงเทพฯ ทั้งกลางวันกลางคืน และฝงธนบุรีก็ถูกระเบิดหลายครั้งหลายหน จนพลอยคิดไปวาบานของตน ที่คลองบางหลวง อาจไมรอดพนจากอันตรายก็เปนได แตก็ไมรูวาจะทําอยางไรได ตองเสียงบุญเสี่ยงกรรมไป ตามเพลง สวนราคาของตางๆ ก็ยังขึ้นสูงไปเรื่อยๆ จนไมมีใครสามารถคาดการณลวงหนาไดวา จะไดที่ไหนมา กินมาใชในเวลาตอไป วันหนึ่งตาอั้นก็มาถามขึ้นวา "คุณแม มีธนบัตรใบละพันเก็บซุกซอนไวที่ไหนบางหรือเปลา" "เอ ! ดูเหมือนแมจะเก็บไวในหีบใบหนึ่งหรือสองใบไมแน ตองขอดูกอน อั้นจะทําไมหรือ" "รัฐบาลสั่งเก็บใบละพัน..." ตาอั้นตอบยังไมทันจบพลอยก็รองขึ้น "อาว ! ทําไมจะมาริบทรัพยกันอยางนั้นเลาอั้น"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy414.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๔

Page 3 of 6

"ไมใช ไมใช" ตาอั้นอธิบาย "เขาเก็บไปใวชั่วคราวแลวจะใชใหทีหลัง นัยวาๆ คนมีใบละพันใชซื้อสินคา กันมากและงายเกินไป ของเลยแพงขึ้นทุกวัน เคราะหดีผมเอาเงินคุณแมฝากแบงคหมด มีแตเงินของผมเองโดน ใบละพันเขาสองใบเหมือนกัน ซวยแทๆ ทีเดียว ใบอื่นๆ ก็หาใชยากเสียดวย คุณแมลองคนของคุณแมดูใหดีๆ เผื่อมีหลงอยูบาง ไดเทาไรก็เอามาใหผมๆ จะไดไปจดทะเบียนไว" "แมก็ไมคอยรูเรื่องอะไรเลย ฟงอั้นพูดมาตั้งนานก็ไมเขาใจล้ําลึกเกินไป มีใบละพันก็ตองเอาไปจด ทะเบียน ราวกับเปนรถเปนเรือ เคราะหดีที่ไมมีมาก เก็บไปแลวจะไดคืนหรือไมไดคืนก็ไมรู" พลอยบนแบบคน แก ตาอั้นหัวเราะแลวตอบวา "เห็นจะไมตองกลัวสูญหรอกคุณแม ความคิดของเขาก็เขาทีอยู" "เขาทีอยางไร เที่ยวเก็บของคนอื่นเขา แมไมเห็นเขาทีอะไรเลย" "เขาวาถาทําอยางนี้แลวของจะถูกลง" ตาอั้นบอก "โฮย ! อยามาคุยหนอยเลย แมไมเชื่ออะไรเสียแลว เห็นมีแตแพงขึ้นทุกวัน ไมเห็นวาเก็บใบละพันแลว มันจะไปถูกลงอยางไรได คนสมัยนี้ดีแตหาเรื่องรอนใจมาใหแปลกๆ เทานั้นเอง" พูดแลวพลอยก็รูสึกเหมือนกับวา ตัวเองนั้นเปนคนแกอยูคนเดียวในบานเมือง คนอื่นทั้งหลายทั้งปวงนั้น เปนเด็กไปสิ้น อีกเจ็ดหรือแปดวันตอมา พอเพิ่มก็เดินยิ้มแตขึ้นบันไดทาน้ําหนาบานเขามาหา ในมือถือหอของกินพะรุง พะรังเปนหอโตๆ หลายหอ พอเห็นหนาพลอยพอเพิ่มก็รองขึ้นวา "วันนี้ฉันซื้อของมาเลี้ยงแมพลอยหลายอยาง เปดยางก็มี ไกตอนก็มี แลวยังอะไรตออะไรอีกแยะ ตั้งใจจะ มาชวนแมพลอยกินใหสนุก" "อาวนั่นนึกครึ้มอะไรขึ้นมาละคุณหลวง อยูๆ ก็เกิดเลี้ยงขึ้นมาเฉยๆ" พลอยถามอยางไมรูเรื่อง "อยาเอะอะไปแมพลอย" พอเพิ่มลดเสียงลงเปนกระซิบ "พูดดังไปฉันอายเด็กมัน วันนี้ฉันรวยโปบานตะ ไกไปเลย" "ตายจริง !" พลอยอุทานดวยเสียงกระซิบกระซาบเชนเดียวกัน "ดูคุณหลวงซี ! ไปเที่ยวเลนโปเลนถั่ว เดี๋ยวเขาจับไดอายเขาตาย" "ไมใชอยางนั้นหรอกแมพลอย" พอเพิ่มวา "ฉันแวะเขาไปดูในคาซิโนที่เขาเปดใหม ลองแทงดูพอหอม ปากหอมคอ เพราะไอเรามันมือเกาตั้งแตยังมีโรงบอนสมัยโนน เลยแทงถูกไดอัฐมาตังเปนกอง" พอเพิ่มมองเห็นหนาพลอยยังสงสัยก็อธิบายตอไปวา "เดี๋ยวนี้รัฐบาลอนุญาตใหติดบอนไดอีกแลว เรียกวาคาซิโน มีหมดถั่วโปจับยี่กี่ และอื่นๆ อีกสารพัด คน แนนไปทุกๆ แหง แทงกันเปรอะไปทีเดียว" "อยางนั้นหรือ" พลอยพูดอยางไมเชื่อหูแลวก็ปรารภวา "คนเรานี่ก็แปลกนะคุณหลวง ของอยางเดียวกัน สมัยหนึ่งก็ไมมีใครหามปราม แลวก็สั่งเลิกกวดขันใครทําเปนจับตัวไปเขาคุกเขาตะราง แลวก็ปลอยใหมีขึ้นใหม ฉันดูๆ ไปแลวไมเขาเลย ไมรูวาอะไรถูกอะไรผิดเสียแลวเดี๋ยวนี้" "วัฏฏะโกโลโกนะแมพลอย อยาไปคิดใหมากไปเลย" พอเพิ่มวา "กินเปดยางกันดีกวา ฉันรูแตวาเจามือ สมัยนี้มันไมไดขี้ไซสมัยเมื่อฉันยังหนุมๆ ถาเลนกันแบบนี้ฉันเปนเศรษฐีคราวนี้เอง" แตการเปลี่ยนแปลงซึ่งพลอยยังมองไมเห็นสาระในครั้งนั้น ไดกลับกลายเปนผลกระทบหัวใจพลอยโดย ตรง ทําใหหัวใจเตนแรงดวยความยินดี ทําใหโลกนี้นาอยูขึ้นกวาแตกอน และความทุกขยากลําบากทั้งหลาย ดู จะเปนของที่ไมสําคัญ พอทนทานไดทั้งสิ้น วันหนึ่งขณะที่พลอยนั่งทอดอารมณอยูในตอนบาย ตาอั้นกลับจาก ทํางานแลวก็รีบเดินสาวเทาเขามาหา พอเดินมาถึงในระยะที่พูดกันไดยิน ตาอั้นก็เอยขึ้นวา "คุณแม ผมมีขาวดีจะมาบอก รัฐบาลสั่งปลอยนักโทษการเมืองหมดทุกรุน !" พลอยตองรีบเอามือควาแขนเกาอี้ที่นั่งอยูนั้นไวทันที ความรูสึกเหมือนกับตัวจะลอยพุงขึ้นสูเบื้องสูง ดวย ความดีใจ เนื้อตัวรอนผาววูบวาบไปทั่ว และมองดูหนาตาอั้นเหมือนกับมีหลายคนมายืนอยู เพราะพลอยนัยนตา ลายดวยความยินดี "อั้น...! อน !" พลอยรองออกมาไดเทานั้นมิรูวาจะพูดวากระไรอีก "ถูกแลวคุณแม พี่อนก็ไดกลับบานคราวนี้" ตาอั้นตอบแลวก็หัวเราะ "โธ ! อั้นจริงหรือนี่....จริงหรือนี่ !" พลอยไดแตพูดซ้ําซากอยูอยางนั้น "อันหลอกแมหรือเปลา อยาหลอก ใหแมดีใจเลนเปลาๆ นะอั้น จริงหรือนี่" "โธเอย ! ปานนี้อนลูกแมจะเปนอยางไรก็ไมรู ไมไดเห็นหนากันไมรูวากี่ป เห็นหนากันคงแทบจํากันไมได จริงหรืออั้น อั้นไปไดยินมาจากไหน บอกใหแมฟงใหชื่นใจอีกที !" ตาอั้นหัวเราะอยางรื่นเริงแลวตอบวา "พุทโธ ! คุณแมก็ ! ผมจะมาหลอกเลนทําไม ใครๆ เขาก็รูกันทั่วเมืองไปแลว มะรืนนี้พี่อนจะมาถึงบาน แตแรกผมรูระแคะระคายผมยังไมกลาบอก เดี๋ยวไมจริงคุณแมจะเสียใจเปลาๆ แตคราวนี้แนนอนไมตองสงสัย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy414.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๔

Page 4 of 6

อีกตอไป พี่อนกลับมาแน คุณแมเตรียมรับไวใหดีเถิด" "มะรืนนี้อนจะถึงบาน !" พลอยพูดทวนคํา พยายามบังคับใหสิ่งที่ไดยินนั้นแลนเขาถึงหัวใจ พยายาม บังคับใหใจตนนั้นเชื่อหมดความสงสัย "ตายจริง ! มะรืนนี้แลว แมยังไมไดเตรียมอะไรไวใหเลย ถูกเขาเอาไปปลอยเกาะเสียนาน คงไมมีสมบัติ ติดตัวหรอก แลวก็คงอดๆ อยากๆ......อาหารการกินแมจะตองทําไวให.......เสื้อผาอีก...... ตายแลว ! พูดถึงเสื้อ ผาแมจะไปหามาใหจากไหน แพงยังกะกรด แลวก็หายากดวย !" ตาอั้นหัวเราะอยางอารมณดีแลวก็พูดวา "คุณแมก็ชางไปหาเรื่องจุกๆ จิกๆ อะไรมาวิตกจนได พี่อนเขาโตแลว เขามาถึงบานเขาก็หาของเขาเอง ระหวางนี้ขาดเหลือของผมก็ยังมีพอใสได คุณแมไมตองทําอะไรทั้งสิ้น นั่งเฉยๆ คอยรับพี่อนกลับบานก็แลวกัน หองหับที่หลับที่นอนผมจะใหสมใจเขาจัดการเอง" "จริงซีอั้น" พลอยพูดเหมือนคนสติลอย "สมใจ.....ลูกสะใภแมก็ยังมีไหววานเขาได..... ชวยกันคนละไม คนละมือ...." พูดไดเทานั้น พลอยก็เต็มตื้นไปดวยความปติ ที่ดูเหมือนจะทวมหัวใจ ความปติที่ลูกคนหนึ่งที่ตอง ประสบเคราะหกรรมมาหลายป จะไดกลับบาน บวกกับความปติที่เห็นลูกอีกคนหนึ่ง ที่เคยบาดหมางกันแสดง ความยินดี มีน้ําใจเผื่อแผสมัครจะชวยเหลือพี่ชายเมื่อมาถึง กับรับปากวาจะสั่งภรรยาของตน ใหตระเตรียมหอง หับที่หลับนอน โดยปราศจากความรังเกียจ ความทุกขนั้นสามารถจะทับทวมหัวใจคนไดฉันใด ความสุขความ ปติอันเกิดจากการไดเห็น สิ่งที่ตนปรารถนาจะเห็น ก็สามารถทวมทนหัวใจคนไดฉันนั้น พลอยรูสึกวามีกอน อะไรมาจุกอยูในคอหอย น้ําตาอุนๆ ลนไหลออกจากเบาตาทั้งสองขาง แลวพลอยก็ซบหนาลงกับฝามือรองไห "เอาอีกแลว คุณแม.....เอาอีกแลว เสียใจก็รองไห ดีใจก็รองไห แตคราวนี้คุณแมรองไหใหสบายเถิด ผม ไมหาม !" ระยะเวลาสามวันตอมา เปนเวลาที่พลอยตระเตรียมรับตาอนกลับบานเปนการโกลาหล ถึงตาอั้นและสม ใจจะหามปราม เพราะเกรงวาจะเหน็ดเหนื่อยโดยใชเหตุ พลอยก็มิไดฟง เพราะรูสึกวาทางเดียวที่จะระงับความ ตื่นเตนดีใจ มิใหพลุกพลานจนเกินไป ก็คือ หาอะไรทําเสียเรื่อยๆ มิใหวางลงได แตถึงกระนั้นระยะเวลาไมกี่วัน กอนที่ตาอนจะกลับบานนั้น ก็ดูชาเสียนี่กระไร พอเพิ่มเปนคนมากําหนดไวใหเสร็จวาในวันที่ตอนจะกลับมาถึงนั้น ตนกับตาอั้นจะเปนผูไปรับที่สถานี รถไฟ แลวพาตัวกลับมาบาน พอเพิ่มออกคําสั่งเปนเด็ดขาด มิใหพลอยไปรับถึงสถานี ดวยเหตุผลวา "แมพลอยคอยรับลูกที่บานนี่แหละ พอเจอะกันเขาจะกอดจะจูบ จะทําเพลงโอดรองใหรองหมกันเทาไหร ก็ไดตามสบาย ไมมีใครจะมาดูมาสนใจ แลวฉันไมอยากใหแมพลอยไปสถานีดวย เพราะอีกเหตุหนึ่งคือวาถา กําลังอยูที่สถานีเกิดมีหวอขึ้นมา ฉันก็ไมรูวาจะพาแมพลอยวิ่งไปทางไหน พอเจาประคุณฝรั่งหมูนี้ก็ชอบทิ้ง ระเบิดทางรถไฟ ชอบทิ้งสถานี ลําพังฉันเองก็ไมสูกระไรหรอก เอะอะก็พอจะวิ่งซอกซอนเอาตัวรอดไปได แตถา มีแมพลอยไปเปนติ่งหอยทายอีกคน ฉันก็ลําบากใจแยเทานั้นเอง" "คุณหลวงก็พูดมากเรื่องไปได" พลอยบน "ฉันยังไมไดเอยปากเลยวาฉันจะไปรับตาอนที่สถานี คุณหลวง ก็มานั่งพูดเอาคนเดียวเปนคุงเปนแคว ชักแมน้ําทั้งหาเสียจนฉันออนใจ" "อาว ! งั้นดอกเรอะ ฉันไมรูนี่ นึกวาแมพลอยอยากไปรับถึงสถานี...." "เอาเถอะคุณหลวง เปนอันวาฉันไมไป ฉันจะนั่งรอตาอนอยูที่บานอยางคุณหลวงวา ขออยางเดียวแตวา พอรับตัวลงจากรถไฟมาแลว ก็อยาพาไปไถลเสียที่ไหนก็แลวกัน" "ฮื้อ ! แมพลอยนี่เห็นฉันเปนเด็กเขาทุกวัน" พอเพิ่มรองอุทธรณ "คุณหลวงอยาเอะอะไปเลย" พลอยพูดพลางหัวเราะ "ฉันมีเรื่องอยากจะปรึกษาสักหนอย ถาฉันเห็นคุณ หลวงเปนเด็ก ฉันคงไมปรึกษาหารือหรอก" "เรื่องอะไรหรือแมพลอย" พอเพิ่มถามพลางตีหนาเอางานขึ้นมาทันที "เรื่องตาอนกับอั้น" พลอยบอก "แตกอนเคยบาดหมางกันมามาก ถึงไมพูดไมจากัน ตาอนกลับมาคราวนี้ จะเปนอยางไรก็ไมรู ฉันดูทางตาอั้นก็เห็นไมมีอะไร ตาอั้นเดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปมากไมเหมือนแตกอน ความคิดความ เห็นก็เปนผูใหญขึ้น ไมรุนแรงเหมือนครั้งกระโนน คราวนี้รูวาพี่ชายจะไดกลับบานก็ดีใจอยู แตฉันไมรูจริงๆ วา ตาอนจะเปนอยางไร ถาเผื่อตาอนยังเหมือนเมื่อกอน มาถึงแลวก็ไมกินรอยกับนอง ฉันก็เห็นจะอกแตกตายเสีย แน" "เรื่องมันสิบกวาปมาแลวนาแมพลอย" พอเพิ่มวา "ทั้งพออนและพออั้นก็มีอายุขึ้นดวยกันทั้งสองคน ฉัน คิดวาคงลงรอยกันไดไมมีอะไรหรอก สําคัญที่เจอะกันตอนแรกเทานั้น เพราะคิดอยางนี้แหละ ฉันถึงไดออกเตน ไปรับถึงสถานี เพราะฉันเปนคนกลาง สองคนนั่นก็เปนหลาน ถาฉันเห็นวายังมีอะไรขุนๆ อยู ฉันจะไดจัดการให เรียบรอยเสียแตแรก" "คุณหลวงพูดอยางนี้ฉันเบาใจลงไปเปนกอง ฉันขอฝากไวใหกับคุณหลวงดวยเถิด ชวยดูแลพูดจาให หลานปองดองกันได ฉันจะไมลืมพระคุณเลยทีเดียว" "พูดกันอยางนี้ก็คอยยังชั่วหนอยนะ แมพลอยมีพี่ชายกับเขาอยูคนหนึ่ง ก็ควรจะอาศัยไหววานใหถูก

http://www.geocities.com/siamstory/ploy414.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๔

Page 5 of 6

เรื่อง" พอเพิ่มพูดอยางภาคภูมิใจ ถึงวันนัดพอเพิ่มกับตาอั้นก็ลงเรือออกจากบานไปแตเชา พลอยจะนั่งคอยอยูกับที่ก็ไมได เพราะความ ตื่นเตนยินดีที่จะไดพบหนาตาอน หลังจากที่มิไดพบกันมาหลายสิบปนั้น มีมากเกินไป พลอยเที่ยวเดินตรวจดู หองหับที่เตรียมไว ใหตาอนอยูจนทั่ว ทุกอยางก็เรียบรอยดีไมมีอะไรผิดปกติ พลอยเดินลงไปในครัวดูแลกับขาว ที่สั่งใหหาไว สําหรับตาอนกินเมื่อหลับมาถึงบาน ซอมความเขาใจแมครัวซ้ําๆ ซากๆ ตนแมครัวมองดูหนาอยาง สงสัย พลอยเองก็รูสึกตัววาตนออกจะวุนวายมากไป จึงเดินออกจากครัว เดินวนเวียนไปมาอีกครูหนึ่ง แลวขา ทั้งคูก็ดูเหมือนกับมีอะไรดึงดูด ใหกาวพาตัวไปนั่งอยูที่ศาลาทาน้ํา พลอยนั่งอยูที่ศาลานานเทาไรก็จําไมได รูแตวาหัวใจนั้นเตนแรง สายตาทอดมองออกไปไดแตทางเดียว คือทางปากคลอง คอยดูเรือที่จะมีตาอนนั่งอยูในนั้น แลนเขามาเทียบที่หัวบันได ในที่สุดหัวใจพลอยก็เตนแรงแทบไมเปนจังหวะ เพราะเรือเล็กๆ ลําหนึ่งแลนหลีกเรืออื่นๆ มุงตรงมา มี พอเพิ่มนั่งอยูตอนหัวเรืออยางแนชัดไมมีผิดไปได พลอยรีบชะเงอคอมองดูเพื่อใหเห็นเขาไปในเรือ อยากจะได เห็นตาอนเปนครั้งแรก หลังจากที่ไมไดพบมาเสียนาน... นั่นใครนั่งอยูตอนกลางลํา มองเห็นไมถนัด... พลอย ชะโงกมองอีกทีนึกวาคนนั้นเปนตาอนก็เปลา ตาอั้นเทานั้นเอง ตาอั้นไปกับพอเพิ่มสองคน แตแลวแทนที่จะกลับ มาสามคน กลับมาแตเพียงสองคนเทาเกา "อะไรกัน" พลอยถามตัวเองอยูในใจ "อะไรกันอีกเลา ผีสางเทวดาฟาดินชวยบอกลูกดวยวา เมื่อไรจะ หมดเคราะหกรรมสักที !" พอเพิ่มและตาอั้นเดินหนาแหงขึ้นจากเรือมาที่ศาลา พลอยไมยอมถามอะไรทั้งสิ้น โชคชะตาจะเปนอยาง ไร ก็จะขอใหคนอื่นพูดออกมากอน ตาอั้นเดินเขามาลูบมือพลอยเบาๆ แลวพูดวา "พี่อนเขาฝากจดหมายนี้มากับคนอื่น" แลวตาอั้นก็สงกระดาษแผนเล็กๆ ยับยูยี่ใหแกพลอย ในกระดาษ นั้นมีขอความวา "กราบเทาคุณแมที่เคารพ พอลูกขามจากเกาะมาถึงฝง มีเวลาอยูวันหนึ่ง ก็รีบไปหาออด พอพบจึงไดรูวาออดเจ็บมากเหลือเกิน ลูก ตองขออยูพยาบาลเขาไปกอน เพราะออดเปนผูมีพระคุณ ลูกทิ้งออดเขามาในยามนี้ไมได ลูกไมอยากปดบังคุณ แม จึงขอกราบเรียนเขามาคราวนี้วาออดเจ็บมาก จนนากลัวอันตราย กราบเทาดวยความรัก จากลูก อน" พลอยเดินกลับขึ้นบนตึกดวยใจที่เลื่อนลอย คิดอะไรไมออก ตานั้นก็มองไมเห็นอะไร ความรูสึกเหมือน กับวา มีใครมากระซิบอยูขางๆ หูตลอดเวลาวา "ออดเจ็บหนัก...ออดเจ็บหนักจนนากลัวอันตราย...อนก็ยังไมกลับบาน อนไมกลับบาน" พอเพิ่มเดินขึ้นมาเคียงขางแลวพูดเบาๆ วา "ทําใจดีๆ ไวแมพลอย ทําใจใหดีๆ ไวกอน เรื่องมันยังไมหนักหนาอะไรถึงเพียงนั้น พอออดแกก็เจ็บๆ หายๆ มาหลายหนแลว บังเอิญพออนออกมาพบเขาตอนกําลังเจ็บ พออนเขารักนอง เขาก็เลยอยูรักษาพยาบาล กันกอน ฉันวาไมเปนไรหรอกคอยดูไปเถิด อีกหนอยก็คงจะกลับมาบานทั้งสองคน" "สมพรปากเถิด คุณหลวง สมพรปากเถิด" พลอยพูดเบาๆ จนฟงเหมือนกับเสียงหายใจมากกวาเสียงพูด บันไดที่ขึ้นสูตึกแตละขั้นดูชางสูงใหญเสียจริง กวาจะกาวพนไปดแตละขั้นก็ตองออกแรงมาก เหนื่อยจวนเจียน จะขาดใจ พลอยเพิ่งสังเกตเห็นความสูงใหญของบันไดบานคลองบางหลวงวันนี้ กวาจะขึ้นถึงชั้นบนก็หมดแรง ไมอยากจะเห็นหนาใคร ไมอยากจะพบ ไมอยากจะพูดกับใคร โดยเฉพาะไมอยากไดยินใครมาพูดมาปลอบโยน หรือเอาใจใส น้ําตาของพลอยดูเหมือนจะเคยชิน กับความทุกขเสียแลวในชาตินี้ เพราะน้ําตานั้นจะหลั่งไหลออก มาไดแตในยามที่ปติยินดี พอถึงเวลาที่มีทุกขแสนสาหัสปานหัวใจจะแตกออกเปนเสี่ยงๆ น้ําตาก็มิรูวาหายไป ไหนหมด ไมหลั่งไหลออกมารดหัวใจ ที่แหงจนแตกระแหงนั้นใหชุมชื่นขึ้นมาบางเลย พลอยเดินเขาไปในหอง นอน แลวก็ทอดตัวลงบนเตียงอยางออนระโหยโรยแรง ใจหวิวๆ เหมือนกับจะหลุดลอยออกจากราง นอกหงายดู เพดานมุง รูสึกเหมือนกับวาเพดานมุงนั้นลอยสูงขึ้นทุกที ทําใหใจหวิวยิ่งขึ้นตองรีบหลับตา และตะแคงตัวหัน หนาเขาฝา ตั้งใจวาจะนอนอยูเชนนั้นใหนานที่สุดที่จะนานได ไมอยากออกมาพบเห็นโลกภายนอกอีกเลย พลอยเริ่มเจ็บกระเสาะกระแสะตั้งแตวันนั้นเปนตนมา เริ่มดวยอาการนอนไมหลับ เบื่ออาหาร และมี อาการเหนื่อยออนไปตางๆ แตพลอยก็มิไดมีกําลังใจที่จะคิดถึงตัว หรือคิดถึงโรคภัยไขเจ็บ เพราะใจนั้นหวงอยู แตลูกสองคนที่ตกอยูที่ทางปกษใต จดหมายที่มีมาในระยะนั้น เปนจดหมายที่ตาอนเขียนแทนตาออดทั้งสิ้น นานๆ ก็มีถอยคําของตาออดฝากมาในจดหมายบาง แตอาการของตาออดมีแตทรงกับทรุดตามที่ตาอนบอกมา เปนระยะๆ มิไดปดบัง พอเพิ่ม พลอย และตาอั้น ตลอดจนคุณเชย และหลวงโอสถ ไดพบปะประชุมปรึกษา http://www.geocities.com/siamstory/ploy414.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๔

Page 6 of 6

หารือกันในเรื่องนี้ และตกลงเปนน้ําหนึ่งใจเดียวกัน ใหตาอนพยายามประคับประคองตัวตาออดเขามารักษาใน กรุงเทพฯ ใหได แตก็ไดรับคําตอบมาจากตาอนวา ไมสามารถจะทําไดในระหวางนี้ เพราะการคมนาคมระหวาง ปกษใตกับกรุงเทพฯ ดวยทางรถไฟ ถูกระเบิดเสียหายหลายแหง ถาจะมาใหไดก็ตองกินเวลานาน และตองขน ถายทุลักทุเล อาการไขของตาออดหนักเกินไปที่จะเดินทางในลักษณะเชนนี้ได ตาอนไดแตผัดไววาหากตาออด มีอาการทุเลาลง แข็งแรงพอที่จะเดินทางได ตาอนก็จะพาตัวเขามาทันที ระหวางนั้นความสังหรณในใจของพลอยก็เริ่มจะมีขึ้นวา บางทีตาออดอาจไมไดกลับมาบานอีกตอไป พลอยพยายามจะระงับความรูสึกนึกคิดในเรื่องนี้เพียงใดก็ไมสําเร็จ ความรูสึกเชนนี้บางคนก็อาจถือวา เกิดจาก ญาณอันใดอันหนึ่ง หรือกระแสจิตที่คนเราสงถึงกันไดในยามทุกขหนักหรือปวยหนัก แตบางทีความรูสึกเชนนี้ อาจเกิดขึ้นเพราะธรรมชาติ อันเคลือบคลุมอยูเหนือชีวิตมนุษยนั้น บอกสัญญาณอันตรายไวใหมนุษยไดทราบ ลวงหนาวา ทุกขอันหนักกําลังจะมาถึงเมื่อมนุษยไดรับสัญญาณเชนนี้ หรือที่เรียกกันวาสังหรณบอยครั้งเขา มนุษยก็พอจะสามารถทนทานทุกขนั้นได เมื่อทุกขนั้นมาถึงตัวเขาจริงๆ คืนวันหนึ่งพลอยนอนคิดถึงตาออดอยูจนหลับไปดวยความออนใจ และคืนนั้นพลอยก็ฝนไปวา ตนเองนั่ง เลนอยูที่สนามหนาบานในตอนบาย แตแรกก็นั่งอยูคนเดียว แตแลวตาออดก็มานอนเอาหัวหนุกตักอยู โดยไมรู ตัว ตาออดหนาตาสบายดีไมเจ็บไข และยิ้มกับพลอยดวยวิธีที่ตาออดยิ้มกับแมไดคนเดียว แลวก็พูดวา "ทูนหัวของลูก แมบนเสมอวาไมอยากใหลูกไปจากบาน เดี๋ยวนี้ลูกก็กลับมาแลว และตั้งแตนี้ไปลูกไมไป ไหนอีก ลูกจะอยูกับแมตลอดไป" เพียงเทานั้นเองพลอยก็รูสึกตัวตกใจตื่นเมื่อใกลรุง ฝนนี้พลอยไมกลาแกใหใครฟงเลย แตก็รูสึกแนใจวา คราวนี้ตาออดจะตองตายแน อีกสี่หาวันตอมา ขณะที่พลอยนั่งอยูบนบานคนเดียวในตอนกลางวัน ชายคนหนึ่งก็เดินขึ้นบันไดมา ชาย คนนั้นรูปรางผอมดําแกมตอบ และตาลึกกลวง นัยนตานั้นเปนสีเรื่อๆ แดงเหมือนกับคนอดนอน ผมบนศีรษะ ของชายคนนั้นหงอกประปราย แลเห็นไดถนัด พลอยเพงมองดูดวยความสงสัย คิดวาใครมาติดตอดวยเรื่องธุระ แตก็รูสึกวาจําหนาไดคลับคลายคลับคลา ชายคนนั้นเดินใกลเขามาอีก และพอพลอยมองใหแนใจอีกทีหนึ่งก็ใจ หายวาบ ตัวเย็นชืดไปทันที ตาอนกลับมาเพียงคนเดียว ตาอนกรากเขามากราบที่เทาพลอย แลวก็ฟุบหนารองไหสะอึกสะอื้นอยูตรงนั้น พลอยลดตัวลงจาเกาอี้ กอดตาอนเขาไว แลวพูดดวยเสียงที่ตัวเองก็เหมือนจะจําไมไดวา "อน ! อนลูกแม...อนไมตองบอก แมรูแลว ออดเขามาบอกแมแลว..." "คุณแม....คุณแม !" ตาอนพูดระหวางเสียงสะอื้น "ผมพยายามทุกทางแลวแตไมเปนผล ออดเจ็บหนัก เกินไป......เพอถึงคุณแมจนหมดลม" พูดแลวตาอนก็กอดพลอยเขาไวแลวรองไหเหมือนเด็กๆ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy414.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๑) ตาออดตายไปไดหลายเดือนแลว ศพตาออดที่ฝากไวปกษใตก็เผาเสร็จสิ้นไปแลว โดยพี่นองลงไปดําเนิน การ เหลือแตกระดูกเพียงไมกี่ชิ้นกลับบาน พลอยพยายามจะทําใจใหเขากับขอเท็จจริงที่เกิดขึ้น พยายามปลง ใหตกวาความตายเปนของธรรมดา ยอมเกิดขึ้นไดแกทุกรูปทุกนาม ไมจํากัดวัยจํากัดบุคคล แตพลอยก็ทําใจไม ได ปลงไมตก เมื่อเสด็จสิ้นพระชนม เมื่อเจาคุณพอถึงแกกรรม จนแมเมื่อคุณเปรมตายลงโดยกะทันหัน พลอยก็ พอจะทําใจได และยอมใหเวลาที่ลวงเลยไปนั้น ลบลางบาดแผลที่เกิดขึ้นในหัวใจ แตถึงคราวที่ตาออดตายลง พลอยไมสามารถจะทําใจใหถูก ไมสามารถจะปลงไดวาความตายเปนของธรรมดาของตาออด ซึ่งเกิดมาจาก กายของพลอยแทๆ และมีชีวิตเติบโตมาเปนของตนเอง ตาออดผูชางพูดชางเลนชางหัวเราะ เอาใจแมเปนเพื่อน แมไดดีกวาคนอื่น กลับตองมาจากกันไปไมมีวันกลับ พลอยรูสึกเหมือนกับวาสิ่งใดก็ตาม ที่มีอิทธิฤทธิ์ มีอํานาจ คุมครองโลกนี้ มีเจตนาจะปองรายพลอยเปนสวนตัว ไมยอมใหพลอยมีความสุขสมบูรณ ไดแตสักครั้งเดียว พลอยนึกไปวาถาหากวาตนเปนผูที่เจ็บไขถึงแกความตาย ความยุติธรรมในโลกนี้ ดูเหมือนจะมีมากกวา เพราะ ตนเปนผูมีอายุ ไดอยูไดเห็นโลกมามากจนเกินพอเสียแลว แตตาออดผูซึ่งยังเปนหนุมแนน ยังมีอายุในวัยควรจะ เจริญเติบโตไปไดอีกไกล กลับเปนผูตองมาตายลงกอน พลอยจึงไมเขาใจ และไมปรารถนาที่จะเขาใจ สิ่งที่นา เบื่อหนายที่สุดในขณะนั้นก็คือ คําปลอบประโลมของคนอื่น ที่ไรความหมายไรความจริง ชอยดูเหมือนจะเขาใจพลอยไดดีกวาคนอื่นทั้งสิ้น เพราะพอรูขาววาตาออดตายก็รีบขามฟากมาเยี่ยม และพอเห็นหนาพลอยเขา ชอยซึ่งไมเคยทุกขโศก เห็นทุกขเปนเรื่องขบขันไปหมด ก็รองไหโดยไมปดบัง คนอื่น นั้นถึงแมจะรักและอาลัยตาออดสักเพียงไร ก็พยายามซอนน้ําตาตอหนาพลอย เพราะเกรงไปวาจะเพิ่มทุกข ให แกพลอยยิ่งขึ้นไปอีก แตชอยไมมีอะไรจะปดบัง เห็นหนาพลอยนั่งอยูเมื่อชอยเดินขึ้นบันไดบานมา ชอยก็รองโฮ และพลอยก็รูสึกขอบใจเหมือนกับวาความทุกขของชอยนั้น แบงเบาความทุกขไปจากตน "แมพลอย ! แมพลอย !" ชอยรองไหพรรณนาไป "ฉันไมนึกเลยวาพอออดจะอายุสั้นถึงเพียงนี้ ใน กระบวนลูกแมพลอย ฉันก็รักคนนี้แหละมากกวาใครทั้งหมด รักเหมือนหลานในไสจริงๆ ไมนาเลย.... พอคุณ ยังหนุมยังแนน.... ไมนาเลย" แลวชอยก็รองไหตอไปอยางไมสนใจตอคนหลายคนที่นั่งอยูดวยกันที่นั่น บางที ภาพที่ชอยมารองใหคร่ําครวญ จะมีประโยชนสําหรับพลอยที่นั่งอยูดวยใบหนาที่เกรียม และนัยนตาอันแหง ผากอยูไมนอย เพราะพลอยเริ่มรองไหสะอึกสะอื้นออกมาไดบาง น้ําตาทีกลัดอยูขางในจนขุนขน เหมือนจะ กลายเปนหนองเปนพิษในหัวใจ เริ่มจะไหลรินออกมาเปนครั้งแรก และการรองไหนั้นเมื่อไดเริ่มแลว ก็เปนไปใน ขนาดหนักสมควรแกเหตุ "ดูแมชอยซี" เสียงคุณเชยผูซึ่งรีบกระเถิบตัวเขาไปนั่งใกลกับชอย กระซิบขนาดที่ไดยินกันทั่ว "มาถึงก็มาทําพิธีแตกหมด พวกฉันชวยกันนั่งปลอบแมพลอยมาแตเมื่อวานจนสงบลงไดบางแลว พอแม ชอยมานี่เลยรองไหใหญ เดี๋ยวก็กลับเจ็บไขไปหรอก" "ก็จะใหฉันทําอยางไรเลาแมเชย" ชอยตอบพลางสะอื้นพลาง "ลูกใครตายใครก็ตองรองให แมพลอยแก ไมใชคนใจไมไสระกํา จะไดไปนั่งกลั้นน้ําตาอยูได" แลวชอยก็รองไหดังๆ ตอไป "ปาชอยนี่ยิ่งวาเหมือนยิ่งยุ" พอเพิ่มเขาไปชวยกระซิบหามปรามอีกคนหนึ่ง "แมพลอยยิ่งไมคอยสบาย อยูแลว มาชวยรองไหเดี๋ยวก็ไปกันใหญหรอก" "โฮ ! ฮื่อ...ฮื่อ !" ชอยรองไหเปนคําตอบ ควักผาเช็ดหนาผืนใหญจากกระเปาถือออกมาสั่งน้ํามูก เปนการ เอิกเกริก แลวก็พรรณนาตอไปวา "พอคุณเอย ! ยังหนุมยังแนนไมนาจะตายเร็วเลย คนแกๆ ถมไปไมรูจักตายๆ กันเสียบาง ไมรูจะอยูไป ทําไมกัน ปลอยใหหลานฉันตายแตคนเดียว ฉันจะรองไหก็มาหาม !" "อาว ! แลวกัน ! ปาชอยนี่......ฮื่อ !" เสียงพอเพิ่มกระซิบแลวก็ลุกเดินหนีไปนั่งที่อื่น ชอยรองไหพรรณนาคุณงามความดีของตาออดไปอีกมา ทําใหพลอยทั้งเห็นใจและตื้นตันในน้ําใจของ ชอย ในฐานะเพื่อนรวมทุกขไดอยางแทจริง หลังจากที่ไดรองไหเปนวรรคเปนเวรแลวชอยก็พูดขึ้นวา "แมพลอย ฉันมาคราวนี้ตั้งใจจะอยูดวยหลายๆ วัน คนที่รูจักกันมานานอยางเรา จะเห็นใจกันก็ในยาม ทุกขอยางนี้ ฉันเห็นใจแมพลอยจริงๆ" คําพูดของชอยทําใหคุณเชยถอนหายใจอยางโลงอก เพราะคุณเชยรูดีอยูวาในยามเชนนี้ ชอยเปนคนๆ เดียวที่จะทําใหพลอยคลายทุกขลงได "นึกแลวก็แปลก" คุณเชยปรารภขึ้น "แมพลอยนี่ดูจะมีเคราะหกรรมไมรูจักจบสิ้น แตละครั้งก็ดูหนักเหลือ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy415.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 4

เกิน สวนฉันเสียอีกไมเห็นคอยมีอะไร จนบางเวลาฉันนึกๆ ไปรูสึกเหมือนกับวาตัวเองเอาเปรียบแมพลอยเต็ม ที" "ฉันก็วาอยางนั้นเหมือนกันแมเชย ถึงไดมานั่งรองไหอยูถึงนี่" ชอยตอบ ระหวางที่ลูกๆ เดินทางไปปกษใตพรอมกับพอเพิ่ม เพื่อปลงศพตาออด คุณเชยและชอยอยูเปนเพื่อนมา ตลอด และในระหวางนั้น คุณเชยก็ไดสังเกตเห็นอาการปวยไขของพลอยถนัด จนถึงกับไปเรียกหลวงโอสถมา ตรวจดู หลวงโอสถตรวจดูแลวก็หายาหอมแบบไทยๆ มาทิ้งไวใหหลายขนาน พรอมกับพูดวา "ฉันบอกแมพลอยตรงๆ ดีกวา เพราะเราพี่นองกัน ฉันพอรูวาแมพลอยเจ็บมากเทาที่ดูอาการ แตจะให ฉันบอกลงไปวาแมพลอยเจ็บเปนอะไรแนฉันก็บอกไมถูก เพราะฉันมันหมอโบราณรักษาไดแตโรคพื้นๆ ฉันวา พอพออนเขากลับมาฉันจะบอกเขา ใหเขารับหมอแผนปจจุบันมาตรวจใหแนนอนดีกวา ทิ้งไวก็จะลุกลามใหญโต ไป ระหวางนี้ก็ขอใหแมพลอยกินยาที่ฉันใหคุมๆ ไวกอน พักผอนใหมากๆ อยาทําอะไรใหเหนื่อย เห็นจะไมเปน อะไรหรอก" ซึ่งทั้งหมดนี้พลอยก็ไดแตรับฟงแลวก็นิ่งอยู เพราะกําลังใจที่จะดํารงชีวิตอยูตอไปนั้นเหลือนอยเต็ม ทีแลว พลอยเพิ่งจะมาสังเกตตาอนไดถนัดถนี่ เอาเมื่อตอนตาอนกลับมาจากเผาศพตาออด เวลาสิบกวาปในคุก และในเกาะที่ขังนักโทษ ทําใหตาอนเปลี่ยนไปในลักษณะที่เปนคนละคน ตาอนผอมดําผิดรูปราง ผมหงอก ประปรายทําใหดูแกเกินวัย ตามเนื้อตัวมีรอยแผลเปนใหญๆ แสดงใหเห็นวาเกิดจากแผลเนาเปอยบางชนิด ตา อนไมยอมเอยปากถึงเรื่องกิจการบานเมืองที่แลวๆ มาเลย และที่พลอยรูสึกเบาใจอยางมากก็คือ ตาอนมีความ สัมพันธฉันทพี่นองกับตาอั้นเปนปกติ ไมมีอาการสงสัยกินใจกันเหมือนเมื่อกอน ตาอนใชเวลาเกือบทั้งหมดอยู กับพลอย เหมือนกับจะแสดงความจํานงที่จะเปนตัวของตัวเอง และเปนตัวของตาออดพรอมๆ กัน แตถึงแมวา พลอยจะเห็นใจและเมตตาปรานีตาอนสักเทาไรก็ตาม ตาอนก็ยังคงเปนตาอนมิใชตาออด พลอยนึกนอยใจใน โชคชะตาเสมอวา ตนไมมีโอกาสที่จะไดลูกทุกคนมาอยูพรอมหนากันเลย เมื่อตาออดอยู ตาอนก็ตองมีอันเปน ติดคุก แตพอตาอนกลับ ตาออด... พลอยนึกถึงเพียงเทานี้ก็ตองจูงใจตัวเอง ใหวิ่งผละหนีจากขอเท็จจริงที่หัวใจ ไมยอมรับ นึกถึงวาตาออดตายครั้งไร แสงสวางในโลกนี้ ก็ดูเหมือนจะมืดมิดไปทั่ว วันหนึ่งพลอยนั่งพิจารณาดู สังขารที่ทรุดโทรมเกินวัยของตาอนแลวก็กลาวขึ้นวา "อน แมไมนึกเลยวาอนจะเปลี่ยนไปมากถึงเพียงนี้ ใน...ในนั้นลําบากมากหรือลูก" ตาอนหัวเราะแลวก็ตอบวา "เมื่ออยูบางขวางก็ไมเทาไรหรอกคุณแม ถาถูกขังอยูที่นั่นตลอด ออกมาผมคงอวน แตที่ผอมไปนี่เห็นจะ เปนเพราะเกาะเตามากกวาที่อื่น" "ทําไมลูก" "เมื่ออยูที่ตะระเตาก็อยางนั้น ถึงจะเจ็บไขก็ไมสูกระไร เพราะที่นั่นเขายังไมใชใหทํางานหนัก พอมาถึง เกาะเตาก็ตองถางปาตัดถนน ผมเริ่มเปนไขมาแตตะรุเตา พอมาโดนเกาะเตาเขาก็จวนตายเหมือนกัน เคราะหดี ที่ออดเขาสงยาไปใหยังพอซุกซอนไว พอชวยชีวิตรอดมาได ยาแกไขผมตองใสกระปองฝงไวในปา ไมใหใคร เห็น" "อะไรถึงเพียงนั้นเทียวหรืออน" พลอยถามอยางไมเชื่อหู "ถาไมทําอยางนั้นคนอื่นก็กินหมด เพราะเจ็บดวยกันทุกคน และยานั้นก็ไมพอที่จะแจกกันไป ถาใจดีแจก ไปก็ตายเทากัน แตถาเก็บไวผมเจ็บไขกินคนเดียวก็พอมีหวังรอด มาคิดดูเดี๋ยวนี้ก็เห็นวาใจดําเหลือเกิน จนผม ไมอยากเลาใหใครฟง แตเวลาอยูที่นั่นก็เห็นไปอีกอยางหนึ่ง ชีวิตดูเหมือนจะสําคัญกวาอะไรทั้งนั้น" "แลวคนอื่นที่ไมมียาทําอยางไร" "ที่ตายไปบางก็มี" ตาอนตอบเบาๆ พลอยไดแตนิ่งถอนใจใหญเมื่อไดยินตาอนพูดวามีคนตาย คนที่ตายอาจเปนลูกใครหรือผัวใครก็ได เมื่อ ตายแลวก็จะตองมีคนเศราโศกเสียใจ อยางที่พลอยเปนอยู ณ บัดนี้ "อยาไปคิดถึงเรื่องที่แลวๆ มาเลยอน" พลอยพูดเสียงเบาๆ "อะไรที่แลวๆ ไป ก็ขอใหแลวไปเสียที แม เห็นวาอนควรจะคิดถึงกาลขางหนามากกวา ระหวางนี้ก็รักษาเนื้อรักษาตัวใหหายเจ็บไข เพราะแมเห็นอนยัง ผายผอมอยู" "ผมก็อยากจะทําอยางคุณแมวา.....อยากจะเริ่มชีวิตใหม ผมอยากจะลืมเรื่องที่แลวๆ มาเสียใหหมดสิ้น ผมนั่งคิดนอนคิดมาหลายวันแลววา จะหาจุดเริ่มชีวิตใหมที่ตรงไหนดี เพราะเทาที่เปนมาแลว ชีวิตมันตอเนื่อง มาตลอด ไมมีอะไรมาแบงแยกเกากับใหมใหเด็ดขาดออกไป เมื่อมันแบงออกจากกันไมได ผมก็เริ่มไมถูก ผมคิด มานานแลวคุณแม คิดมาตั้งแตอยูเกาะ แตผมก็คิดไมคอยออกเลย เพิ่งมาเห็นทางแจมแจงเมื่อคืนนี้ ผมรูวิธีที่จะ ทิ้งเบื้องหลังใหหมดสิ้นและเริ่มชีวิตใหมไดแลว" ตาอนพรรณนาเบาๆ ดวยน้ําเสียงแสดงความมั่นใจ "ดีแลวลูก" พลอยตอบ "แมดีใจดวย แตจะทําอะไร" "ผมขออนุญาตคุณแมขอบวชสักพักหนึ่ง" ตาอนตอบเรียบๆ พลอยยึดตัวตรง หัวใจที่เศราหมองอยูนั้นคอยเบิกบานขึ้นมาเอง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy415.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 4

"แหมดีจริงอนลูกแม" พลอยพูดดวยน้ําเสียงแสดงความปติ "แมก็มีลูกผูชายหลายคน ยังไมมีใครเคยบวช เรียนใหแมไดเห็นชายผาเหลืองเลย แมอนุโมทนาดวย...อนทําใหแมปลื้มในมากวันนี้" "ผมนึกแลววาคุณแมจะตองดีใจ" ตาอนวา "เพียงเทานั้นก็พอแลวที่จะทําใหผมตัดสินใจออกบวช แตมันก็ ยังมีเหตุอื่นๆ อีกหลายอยาง ผมอยากจะทิ้งโลกเสียพักหนึ่งกอน เพื่อเริ่มชีวิตใหมอยางที่ไดบอกไวแลวเมื่อกี้ แลวก็ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ทําใหผมเห็นวาควรจะบวชเสียที" "อะไรอีกอน" "ออด" ตาอนตอบดวยเสียงแผวเบาผิดปกติ "ผมอยากบวชใหออด ทั้งที่ผมไมแนใจวาคนเราตายแลวไป ไหน และไมรูเลยวาบุญกุศลที่ไดจากการบวชนั้น จะสงถึงกันไดหรือไม แตผมเชื่อวาถาเราทําความดีตอใครคน หนึ่งที่เปนคนดี และทําความดีตอเรามาก ความดีที่เราทํานั้นหากเขารับรูเขาก็คงพอใจ" "อนอยาสงสัยไปเลย" พลอยตอบอยางแนใจ "บุญกุศลนั้นตองถึงกันแนๆ ไมวานองจะอยูที่ไหน ถึงใคร เขาจะไมเชื่อในเรื่องนี้แมก็เชื่อ และเพราะแมเชื่ออยางนี้จึงไดอยูมาได เมื่อเจาคุณพอสิ้นบุญ เมื่อเสด็จของแมสิ้น พระชมน แมก็ทุกขรอนเหลือเกิน รองไหเสียจนแทบไมมีน้ําตา แตอาศัยความเชื่อถือที่วา พอจะทําบุญสนอง พระเดชพระคุณทานได ถึงแมวาทานจะสิ้นไปแลว ความทุกขทั้งหลายก็บรรเทาลงไป เมื่อคุณพอของอนตาย อนก็เห็นอยูแลววาแมทุกขเพียงไร และออดมาตายลงอีกคนหนึ่ง แมก็แทบจะทนทานไมไหว แตที่ยังครองตัวอยู ได ก็เพราะแมเชื่อบุญกรรมนี่แหละ และยังเชื่อวาบุญกุศลนั้นสงใหกันสงถึงกันได" พลอยยกมือขึ้นเช็ดน้ําตา ซึ่งไหลออกมาเพราะความปติที่ลูกคนหนึ่งจะบวช หรือเพราะลูกอีกคนไดตาย ไปแลว พลอยก็ไมแนใจนัก แลวพลอยก็พูดตอไปวา "แมพูดอยางนี้อนอาจเห็นวาแมเปนคนโบราณ เชื่อถืออะไรเลอะเทอะไปก็ได แมก็อาจเปนจริงๆ แตชีวิต แมไดเหตุทุกขมามาก...เห็นมามากเหลือเกิน ไมเคยมีความสุขอะไรที่จะยั่งยืน ไดอยางหนึ่งก็ตองเสียอยางหนึ่ง ทุกครั้งไป บางทีก็เสียมากกวาได แตแมก็ครองตัวมาดวยความเชื่อถืออยางนี้แหละ อนเปนคนสมัยใหมก็เปน ธรรมดา รูอะไรก็อยากจะรูจริง ตองหาเหตุหาผลใหเปนเรื่องเปนราว จะเชื่ออะไรก็ตองดูแลวดูอีกจนหมดเปลือก ไมมีที่สงสัย แตแมไมมีเวลาจะทําอยางอนได เพราะความทุกขมาถึงตัวแมบอยเหลือเกิน ไดอะไรที่จะชวยให ความทุกขเบาบางลงได แมก็ตองควาไวกอน มัวแตสงสัยอยูแมก็อาจตายเสียกอนดวยความทุกข.... อนคิดไววา จะบวชเมื่อไร แมดีใจเหลือเกิน" "ผมเพิ่งตกลงใจเมื่อคืนนี้เอง" ตาอนบอก "เมื่อตกใจแลวก็ขออนุญาตคุณแม ตอไปนี้เตรียมตัวเสร็จเมื่อไร ก็จะบวช" "ดีแลวอน" พลอยวา "แมจะจัดใหเองไมใหขาดเหลือ" งานอุปสมบทตาอนที่จะตองตระเตรียมตอไปนั้น ทําใหพลอยมีชีวิตชีวาขึ้นอยางประหลาด ถาหากตาอน มิไดมาแสดงความปรารถนาในวันนั้นวาจะบวช พลอยยังก็นึกไมออกเหมือนกันวาความเศราโศก อันเกิดจาก ความตายของตาออดจะทําใหตาเปนอยางไร ขณะนั้นพลอยไมตองการอะไรมาก ตองการแตจะใหมีอะไรทําที่ ตนเห็นวาสําคัญและมีประโยชน ขอแตเพียงอยาใหตองนั่งเฉยๆ ใหความทุกขเผาหัวใจไปตนกวาจะมอด พวกพองและญาติมิตรทุกคนก็ดูเหมือนจะรูใจพลอยในเรื่องนี้ เพราะเมื่อไดทราบขาวเรื่องนี้เขา ตางคนก็ อนุโมทนา และพูดเปนเสียงเดียวกันวา งานอุปสมบทตาอนนั้น จะตองชวยทําใหเปนการใหญ ตางคนตางก็มี ความเห็นไปตางๆ วา ควรจะทําอยางไรบาง พอเพิ่มลงความเห็นใหมีพิธีทําขวัญนาคแบบโบราณ แตตาอน ยับยั้งความเห็นนั้นเสียดวยคําพูดวา "ผมขอเสียเถิดคุณลุง อยาใหเอิกเกริกนักเลย ผมมิใชวาจะบวชตอนเขาพรรษา และก็ไมใชนาคหนุมๆ อายุเพิ่งครบ จะทําเอิกเกริกไปก็อายเขา ระหวางนี้ขาวของก็ยังแพง ทําใหมากเรื่องไปก็หมดเปลืองเปลาๆ" "อาว ! งั้นก็หมดสนุกซีพออน พอจะบวชจะเรียนทั้งทีก็ควรจะใหญาติโยมไดฉลองใหเต็มศรัทธา" ตาอนเหลียวดูหนาพลอยเหมือนกับจะขอความชวยเหลือ แลวก็พูดเสียงออยๆ วา "ก็แลวแตคุณแม..." "ตามใจอนเถิดแมไมวา อนจะบวชจะเรียนก็ดีถมไปอยูแลว ไมตองทําขวัญนาคก็ได บวชแลวก็คอยทํา บุญฉลองพระก็แลวกัน" พลอยรีบพูดชวยลูก เพราะเห็นวาตาอนอยากบวชอยางเงียบที่สุด "ถาอยางนั้นก็จัดกระบวนแหใหครึกครื้น" พอเพิ่มวา "เอาอีกแลวคุณหลวง" พลอยพูดอยางออนใจ "คุณหลวงก็รูแลววาหลานอยากบวชเงียบๆ จะมาแหแหน อะไรอีก อนจะเอาอยางไรลูก" พลอยหันไปถามตาอน "ผมไมอยากมีพิธีรีตองอะไรเลย เปนความสัตยจริง เพราะบวชคราวนี้ผมบวชดวยความสมัครใจ บวช ดวยความเชื่อถือเลื่อมใส ถึงเวลาก็อยากนุงขาวหมขาวไปขอบรรพชา และอยากใหมีแตพิธีสงฆ เรื่องทําขวัญแห แหน ตลอดจนนุงยกใสเสื้อครุยอะไรเหลานั้น ผมอยากจะขอใหยกเสีย เพราะผิดเทศกาลและผมก็เปนผูใหญแลว ดูๆ ไปก็เหมือนเลนละคอน กระดากใจอยางไรก็ไมรู แตถาคุณแมจะใหมีอะไรก็แลวแต" "แมก็วาอยางนั้นแหละอน อนพูดตรงใจดําของแมทีเดียว นองก็เพิ่งตายไปใหมๆ แมไมอยากใหมีงาน เอิกเกริกเพราะไมมีใจ ที่อนจะบวชคราวนี้แมก็ปลื้มใจหนักหนาแลว"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy415.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 4

พอเพิ่มโดนคนไมเห็นดวยถึงสองแรงเชนนี้ก็ตองเงียบไป ไดแตบนตุบตับวา "จะบวชจะเรียนทั้งที ไอเราก็อยากจะชวยใหเต็มแรง แตเขาไมเอาทั้งแมทั้งลูก" "โธ ! คุณลุงอยาพูดอยางนั้นซีครับ !" ตาอนพูดอยางเสียใจ "คุณหลวง !" พลอยพูดเสียงแข็ง "อยาทําใจนอยไปหนอยเลย แกจวนจะตายอยูแลว ฉันรูหรอกวาคุณ หลวงหาเรื่องจะสนุกเทานั้นเอง หาอะไรไมไดเขาก็จะมาสนุกตรงบวชหลาน จริงไหม" พอเพิ่มหัวเราะแลวตอบวา "แมพลอยนี่แกก็รูใจฉันไปเสียทุกอยาง เอาอยางนี้ก็แลวกัน คืนวันกอนจะบวชนี่ เรามาชุมนุมญาติพี่นอง กันสักที จะดีไหม ฉันจะเปนคนรับเลี้ยงเอง" "อยางนั้นนะคงไมยากหรอก" พลอยวา "เพราะคืนนั้นใครๆ ก็คงมาอยูที่นี่กันหมด ฉันนัดไวใหมาชวยกัน ทําดอกไม ถาคุณหลวงจะเลี้ยงก็คงจะได วาแตไปรวยโปมาอีกหรือไร" "เปลาหรอกแมพลอย" พอเพิ่มตอบ "อยูๆ เขาก็เลิกคาสิโนเสียเฉยๆ แตหมูนี้ฉันก็รวยอีก ฉันลองเซ็งลี้ดู กับเขาบาง โซดาไฟกระปุกเดียว ฉันซื้อมาแลวก็ขายไป แลวก็ตามไปซื้อกลับมาอีก แลวก็ขายไปอีก ตั้งหลาย สิบหน ไดกําไรทุกที มีอัฐฬสพอจะเลี้ยงดูพี่นองไดเปนครั้งเปนคราวกระมัง" "อยางนี้หรือที่เรียกกันวาเซ็งลี้" พลอยถาม "นั่นแหละแมพลอย แลวก็เซ็งลี้ฮอเสียดวย" พอเพิ่มวา อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy415.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๒) ตั้งแตนั้นมาก็เปนอันตกลงกันไดวางานบวชตาอนจะทําอยางเงียบที่สุด ตาอนเลือกวัดเล็กๆ ที่อยูลึกเขา ไปในคลอง เพราะตองการความสงบจริงๆ มิใหใครไปรบกวน และในระหวางเวลาสองสามอาทิตยกอนจะบวช ตาอนก็ไปวัดแทบทุกวัน เพื่อซักซอมขานนาค และกระทําตนใหคุนเคยตอสมณเพศ ระหวางนั้นพลอยก็ไดแต เตรียมขาวของเครื่องอัฏฐบริขารตางๆ ไวใหพรักพรอม สิ่งใดที่จะตองเตรียมไวกอน เชนที่นอนหมอนมุง พลอย ก็ทําใหเสร็จไปแตเนิ่นๆ ของบางอยางก็แพงจนพลอยตองสะทอนถอนใจ เปนตนวาผาไตรๆ หนึ่งมีราคารวมพัน บาท พลอยก็ตองจําใจซื้อทั้งที่พอเอามือจับดูเนื้อผาแลวก็ตองใจหาย ดวยความเลวของผา มุงผาโปรงอยางที่ ตั้งใจไวนั้นหาไมได ไดแตมุงผาหยาบๆ ที่ทอขึ้นใชแทนผาโปรง สวนเครื่องใชอื่นๆ ก็แพงขึ้นไปตามสวน คุณ เชยผูซึ่งมาชวยซื้อของและเตรียมของอยูตลอด ถึงกับถอนใจใหญออกอุทานวา "แมพลอยเอย สมัยนี้อะไรๆ มันก็แพงไปหมดแมแตบุญกุศล คาใชจายบวชพออนคราวนี้ถาเปนสมัยกอน ก็บวชพระไดสักสิบองค แลวจะยังมีเงินเหลือปวารณาเปนอุปฐากไปไดตลอดพรรษา แตเดี๋ยวนี้ดูเอาเถิด เมื่อ บุญกุศลแพงเสียแลว คนเราก็เห็นจะใกลนรกเขาไปทุกวัน !" "อยาไปเสียดมเสียดายเลยคุณเชย" พลอยวา "จะทําบุญทั้งที ฉันไมอยากคิดหรอกเรื่องเงินๆ ทองๆ" "แมพลอย" คุณเชยพูดดวยเสียงเยือกเย็นเหมือนกับรําพึงกับตัวเองมากกวา "แมพลอยเคราะหดีมีเงินใช แมพลอยก็ไมตองคิดถึงมันไดเรื่องเงินๆ ทองๆ บุญกุศลใครๆ ก็อยากทํา ถานรกสวรรคมีจริงใครจะอยากไปตก นรก ถาชาติหนามีจริงใครก็ตองอยากใหชาติหนาดีกวาชาตินี้ แตก็นั่นแหละแมพลอยเอย เดี๋ยวนี้คนที่จนถึงกับ ทําบุญไมไหวมีมากขึ้นทุกวัน เพราะเพียงแตเลี้ยงปากเลี้ยงทองเขาไปก็ยากเสียแลว แมพลอยอยูไกลแมพลอย ไมเห็นหรอก แตพี่อยูใกล บานพี่อยูมีแตคนจนลอมรอบ เขาก็คนอยางเรานะแหละไมไดผิดอะไรกันเลย พี่วาคน พวกนี้เขาอยากทําบุญมากกวาคนมั่งมีเสียอีก เพราะชาตินี้เขาตองมีทุกข ตองยากลําบาก เขาก็อยากจะพบชาติ หนาที่ดีกวานี้ แตกอนพี่ไปอยูกับคนจนใหมๆ ยังนึกแปลกใจวาเขาทําบุญกันทุกวี่ทุกวัน มากกวาเราที่เปนลูก พระน้ําพระยาเสียอีก ดูๆ ไปก็รูวาอยางเรามันไมมีทุกข เคยแตสบายจึงไมพะวงเรื่องบาปบุญคุณโทษ แตคนที่ เขาตกอยูในหวงทุกขหวงจนเสียแลวในชาตินี้ เขารูจักมากกวาเรา ตั้งแตนั้นมาพี่ก็นับถือคนจน เพราะเห็นใจเขา แตเดี๋ยวนี้..." คุณเชยหยุดพูดถอนใจใหญอยางออนระอา "แตเดี๋ยวนี้ขาวของมันแพงเหลือเกิน คนจนอยูแลวก็ ยิ่งจนลงไปอีก เหมือนกับวานรกมาถึงตัวเสียแลวแตในชาตินี้ ครั้นจะไปหวังเอาสวรรควิมาน หวังความสุขใน ชาติหนา ประตูสวรรคก็ปดเสียแลวดวยของมันแพง ทําบุญไมได เมื่อรูตัววาไหนๆ ก็ตองตกนรกแนแลวไมมี ทางแก เปนใจใครก็ตองปลอยเลยตามเลย หาความสนุก เอาแตใจตัวไปชาติหนึ่ง ตอไปจะเปนอะไรก็ชางมัน อยางนี้คนที่มีสันดานกระเดียดไปขางชั่วอยูแลว ก็ยิ่งจมลงไป แมคนที่ดีๆ ก็อาจกลายเปนคนชั่วไปได พี่ดูๆ ไป แลวก็ขนลุก" พลอยไดยินคุณเชยพูดแลวก็ขนลุกตามเพราะเห็นจริง พูดกับคุณเชยไปวา "นั่นสิคุณเชย แลวจะเปนอยางไรกันตอไป" "พี่ก็ไมรู" คุณเชยตอบ ทุกครั้งที่คุณเชยพูดกับพลอยดวยเรื่องที่สําคัญ ดวยเรื่องที่คุณเชยมีความเห็น อยางจริงใจ คุณเชยมักจะเรียกตัวเองวา "พี่" เสมอ คุณเชยพูดตอไป "พี่รูแตวาของอะไรที่เคยพบพบเห็นมาแตกอนนั้นหมดไปแลว ผานไปแลว ไมมีวันจะกลับมาใหเห็นไดอีก เพราะคนสมัยนี้เปลี่ยนไปทุกวัน เปลี่ยนไปวันละมากๆ ที่เราเคยเห็นคนรักกันเอื้อเฟอเผื่อแผกัน ไวัใจกันนั้น พี่ คิดวาจะไดเห็นนอยลงไปทุกที ตอไปก็จะมีแตแกงแยงคดโกงระแวงสงสัยกัน เพราะความจําเปนมันบังคับอยู คิดแลวก็ไมนาสบายใจเลย" "คุณเชยพูดเสียจนฉันแทบไมอยากอยูตอไป" พลอยปรารภขึ้น "แมพลอยอยามาฟงฉันเลย" คุณเชยหัวเราะแลวเปลี่ยนเสียงพูดทันที "หลวงโอสถเขายังบอกอยูเมื่อสอง สามวันนี้เองวาฉันยิ่งแกยิ่งเลอะ พูดอะไรไมเปนเรื่องเปนรส ฉันดูๆ ไปแลวก็เห็นจริง แมพลอยอยาเก็บเอาไป คิดเลย วาแตเครื่องอัฏฐบริขารที่จะถวายพระครบแลวหรือยัง" "ฉันก็วาครบแลว" พลอยตอบ "ของถวายอุปชฌาย คูสวดและพระนั่งหัตถบาสครบแลวหรือ" "หมดแลวคุณเชย อุปชฌาย คูสวดถวายไตร พระนั่งหัตถบาส ถวายผาเช็ดหนาดอกไมธูปเทียนและเงิน ฉันก็วาพอแลว" "ก็นาปลื้มใจอยู" คุณเชยวา "แมพลอยทําบุญไดครบเครื่องเหมือนกับเมื่อครั้งบานเมืองยังดี ฉันขอ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy415_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 5

อนุโมทนาดวย" กอนจะถึงวันบวชตาอนวันหนึ่ง คุณเชย ชอย ประไพ พรอมดวยพวกพอง ผูหญิงอื่นๆ อีกสองสามคน ก็ มาชุมนุมกันที่บาน นัยวาเพื่อจะชวยทําดอกไม ซึ่งมีหลายอยางตั้งแตดอกไมคลุมไตร ไปจนถึงกรวยคูสวด อุปชฌาย ชอยเขารับเปนหัวเรี่ยวหัวแรงในการนี้ และเปนผูบงการสั่งใหคนโนนคนนี้ทําดอกไมเทาที่เห็นวาจะทํา ได ชอยบอกวา "เรื่องนี้ตองปลอยฉันบางละแมพลอย เรื่องทําดอกไมฉันทํามาแตสาวจนแก ใครอยามายุงกับฉันดีกวา ฉันสั่งอะไรก็ทําตามก็แลวกัน" "ฉันก็วาอยางนั้นแหละชอย" พลอยเห็นดวย "ฉันเองก็เรื้อรังไมไดทําเสียนาน หูตาก็ไมคอยจะเห็น" "ดัดจริตนะไมวา" ชอยยอนใหทันที "ตัวจะมาทําแกเกินกวาเขาไปไดอยางไร เปนคุณนายคุณหญิงมาเสีย นานจนลืมวิชาความรูก็วามาเถิด เอา ! รอยตาขายไป !" ชอยพูดพลางยื่นชามใสดอกพุดที่ตัดกานเทากันแลวให พรอมกับเข็มและดาย "ยังทําเปนอยูใชหรือ ดอกไมประดับขางบนฉันทําเอง คนที่ฉันเอามาชวยเขาก็เกง ไม เปนไรหรอก" "แลวฉันเลาแมชอยจะใหทําอะไรบาง" คุณเชยถามขึ้น "ก็ทําอะไรเปนบางเลาแมเชย" ชอยถามกลับไป "รอยตาขายก็คงจะพอไดกระมัง" คุณเชยตอบอยางลังเล "ถาไมไวใจฉันชวยเด็ดดอกไมก็ยังได" "ลองรอยตาขายอีกดานหนึ่ง......ดานตรงขามกับแมพลอยเขานั่นแหละ" ชอยพูดอยางเปนการเปนงาน แลวก็สั่งคนโนนคนนี้ใหทํางานไมหยุดปาก การทํางานที่บาน อันเปนโอกาสใหพี่นองพวกพองมาชุมนุมกันพรั่งพรอม ไดพบปะพูดจากันและรวมมือ ทํางานอันเปนการกุศล ทําใหพลอยลืมทุกขไดชั่วครั้งคราว และในคืนนั้นพอเพิ่มก็จัดหาของมาเลี้ยงมากมาย หลายอยาง ในคืนวันนั้นก็ไดชุมนุมญาติพี่นอง ตลอดจนเพื่อนฝูงที่สนิท และลูกทุกคนที่ยังอยู รวมวงกินขาวกัน อยางพรอมเพรียง พลอยนั่งเปบขาวอยูเงียบๆ ฟงพอเพิ่มคุยดวยเรื่องนั้นบางเรื่องนี้บาง บางทีคุณเชยและชอย ก็ชวยกันขัดคอเสียจนพอเพิ่มตองนิ่งหยุดพูดลงไป พลอยกวาดตาไปรอบๆ ดูหนาคนที่รูจักคนที่ตนรักทีละคน จํานวนปที่ผานไป ไดนําความเติบโตเปนผูใหญ มาใหแกคนที่เปนเด็กกวา และนําความชรามาใหแกคนที่เคย เปนเด็กมาดวยกัน แตทุกคนก็ยังเปนคนเกาอยูนั่นเองในสายตาของพลอย เสียงคุณเชยพูดเบาๆ ขึ้นวา "มานั่งพรอมกันอยูอยางนี้ฉันอดคิดถึงเจาคุณพอไมไดเลย ทานเห็นลูกๆ มานั่งอยูพรอมเพรียงกัน ทาน คงดีใจพิลึก" "ก็พรอมกันเทาที่เหลือ" พอเพิ่มวา "คุณชิตของฉันก็ออกปาออกดงไปไมไดขาวคราวเลย" พอพอเพิ่มพูดถึงคุณชิต พลอยก็เหลียวมาดูพวงซึ่งนั่งทําดอกไมอยูอีกทางหนึ่ง ไมยอมเขามารวมวงกิน ขาวดวย พวงซึ่งเปนภรรยาคุณชิตแตก็ยังถือตัววาเปนบาว เดี๋ยวนี้แกชราลงไปพอๆ กัน "ไดขาวคุณบางไหมแมพวง" พอเพิ่มมองตามสายตาของพลอยไปพบพวงเขาจึงถามขึ้น "เมื่อสองสามเดือนนี้ ลูกเขามาหาบาวจากเมืองกาญจนฯ บอกวาคุณเธอเปนอัมพาตลุกไมขึ้น" พวงตอบ ดวยเสียงเรียบๆ "อาว !" คุณเชยพูด "แลวเดี๋ยวนี้เธออยูกับใครเลาแมพวง" "เธออยูกับเมียโนน" พวงตอบ "บาวไดขาววาเขามีอันจะกิน เลี้ยงดูเธอดีไมตองลําบาก" "วาไปแลวคุณชิตเธอก็เคราะหดีกวาฉันเสียอีก" พอเพิ่มพูดขึ้น "เกิดมากับเขาชาติหนึ่ง มีคนเลี้ยงให สบายอยูเสมอ" "ถาจะวาไปเราก็เคราะหดีดวยกันทุกคนนะแหละ ที่ยังไดมานั่งกินขาวกันอยูที่นี่" คุณเชยพูดขึ้น "ฉันคิด ถึงแตคุณใหญ ถาเธอยังไมตายแลวมานั่งอยูดวยวันนี้ ฉันวาคุณหลวงคงไมกลามาวางกามอยางนี้หรอก" "เฮย ! คุณเชยเองก็เถอะนา !" พอเพิ่มวา "ดีแตเกงลับหลังเทานั้นแหละ ตอหนาคุณใหญฉันก็เห็นจองๆ ราวกะเปนคนละคน" เมื่อการสนทนาวกเขาหาคนที่ตายไปแลว พลอยก็ตองกมหนาลงมองจานขาวดวยใจที่ระริกระรัว ใจนึก ถึงตาออดขึ้นมาทันที โธเอย ! ออดลูกแม ถาหากยังอยูปานนี้ก็คงจะมานั่งรวมวงกินเขา ชวยพูดชวยจาใหทุกคน ไดเปนสุข ใครจะเขาพี่เขานองไดดีเทาออดก็ไมมี ตาอนนั้นถึงจะสนใจในพี่นอง ก็เปนคนสํารวมพูดนอย ตาอั้น ถาหากจะพูดออกมาก็ใชถอยคําแข็งๆ ไมเปนกันเอง ไมมีที่จะจูงใจพี่นองใหรวมสามัคคี ประไพนั้นเลาก็ไดแต หมกมุนคิดแตเรื่องของตัวเอง จนแทบจะมองไมเห็นพี่นอง จะหาใครที่รูจักใชถอยคําที่ทําใหคนเปนสุขใจ เกิด ความเมตตากรุณาตอเพื่อนมนุษย และมองดูโลกดวยแววตาอันแจมใสรื่นเริงเทาออดเห็นจะไมมีอีกแลว แตแลว ออดก็ตองตายไปกอนคนอื่น ทําไมเลาออดจึงตองตาย แมมองไมเห็นเลยวาทําไมออดจึงตองตาย หรือวาในโลก เรานี้คนดีๆ จะตองตายไปกอน หรือวาเปนกรรมอันใดของแมแตชาติปางกอนที่ไดสรางสมไว ที่ทําใหแมตองเสีย คนรักอยูร่ําไป รักสิ่งใดนั้นก็ไมยั่งยืน รักใครคนนั้นก็ตองมีอันเปนจากไปไมมีวันกลับ พลอยนั่งกมหนาเอาชอน เขี่ยขาวในจานเลน อยางไมสนใจ ขาวทุกเม็ดดูเหมือนจะแหงผากและแข็งราวกับกรวด พลอยจะมีปญญากลืน ขาวเขาไปอยางไรลง จะนึกตัดใจมิใหนึกถึงตาออด ซึ่งควรอยูดวยในวันนี้ก็ตัดใจไมได วันชุมนุมญาติพี่นอง ซึ่ง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy415_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 5

ควรแกการยินดี กลับกลายเปนสิ่งเตือนใจถึงคนที่หายไปไมมีวันกลับ พลอยรูสึกวามือและเทาของตนเริ่มเย็นชา ไมมีความรูสึก เวียนศีรษะ และตานั้นพราพรางแทบจะมองของที่วางอยูใกลๆ ตัวไมเห็น เสียงคุณเชยที่นั่งอยู ขางๆ กระซิบถามวา "แมพลอยเปนอะไรไปหรือ ดูหนาเผือดเหมือนกับจะเปนลม" แลวคุณเชยก็รีบเปดกระเปาสงยาดมให "เปลาคุณเชย ไมเปนอะไรหรอก" พลอยพูดพลางรับยาดมจากคุณเชยมาสูดแรงๆ พอบรรเทาอาการวิง เวียนลงไปไดบาง "ฉันถาจะเหนื่อยเทานั้นเอง วันนี้รอยดอกไมทั้งวัน เลยตาลายไปหนอย" "ถาอยางนั้นก็เขานอนเสียเถิดแมพลอย" คุณเชยวา "วันพรุงนี้จะตองเหนื่อยอีกทั้งวัน นอนเอาแรงเสีย กอน เสร็จงานบวชพออนนี้แลว ฉันเห็นจะตองเขาอํานวยการกับแมพลอยเสียที ไมปลอยตามใจอีกตอไปละ มี อยางหรือเจ็บไขไมสบายก็ทําเฉยเมย จะออกปากเรียกมดเรียกหมอก็ไมมี หมออยางหลวงโอสถ แกก็มีแตยา หอม กินเลนเพลินๆ แกจะไปรักษาอะไรได" เสียงหลวงโอสถที่นั่งกินขาอยูกระแอมขึ้นมาแลวก็พูดวา "แมเชย แมเชย พูดจาอะไรก็ไวหนาฉันบางซี" "ไมไวกันละ" คุณเชยหันขวับไปขูสามี "นองฉันเจ็บเทาไรก็ไมมีใครรู แมเจาประคุณพลอยนี่ก็อมพะนําไว ไมเห็นตั้งใจรักษาตัวบางเลย จนนารําคาญ" วาแลวคุณเชยก็พาพลอยเขาไปนอนเหมือนกับเด็กๆ นั่งอยูในหองเปนเพื่อนพลอยอยูนาน จนเห็นวา พลอยมอยเหลับไปแลว คุณเชยจึงเดินเบาๆ กลับไปนอน เชาวันรุงขึ้น พลอยรูสึกสบายมากกวาที่เคยรูสึกมานับตั้งแตไดทราบขาววาตาออดตาย พลอยตื่นแตเชา มืด ดูแลการตระเตรียมขาวของตางๆ จนเสร็จ ก็พอดีไดเวลาทีตาอนปลงผมแลวเรียบรอย พลอยเรียกตัวตาอน มานั่งริมตึกดานหลัง ที่ไดใหเด็กตักน้ําเตรียมไวพรอมแลว และใหตาอนผลัดผาลงนั่งบนมาตัวเล็กๆ แลวพลอยก็ เริ่มตักน้ํารดตัวตาอน ประจงขัดสีฉวีวรรณเจานาค ซึ่งกําลังจะเขาสูภิกขุภาวะในเวลาไมชา พลอยอาบน้ําตาอนดวยความรักความเมตตาทั้งหมดที่มีอยู น้ําแตละขันที่คอยๆ รดลงไปนั้น เปนประดุจ น้ําใจของมารดาที่รักบุตร น้ําใจที่สะอาดเต็มไปดวยความรักบริสุทธิ์ ปราศจากความหวงแหน ความเห็นแกตัว หรือการเรียกรองใดๆ ตอบแทน น้ําใจของแมที่ปราศจากราคี ประดุจน้ําที่ใสสะอาด มีแตจะทําใหผูที่ไดรับชุม เย็นอยูเปนนิตย ตาอนเองก็รูสึกในความรัก และความเมตตาปรานีของพลอยเปนอยางมาก ตาอนนั่งนิ่งใหพลอยอาบน้ํา แตพลอยก็รูดีวาตาอนจะตองมีความรูสึกตื้นตันเชนเดียวกับตนในยามนี้ อีกครูหนึ่งตาอนก็พูดขึ้นวา "คุณแม ผมอดนึกถึงเมื่อครั้งคุณแมเคยอาบน้ําใหผมเมื่อยังเด็กๆ ไมไดเลย แตวันนี้ผมคงนั่งใหอาบได เรียบรอย ดีกวาเมื่อยังเด็ก" "แมก็ยังจําไดดีเหมือนกันอน" พลอยตอบ "ดูเหมือนกับวานซืนนี้เอง อนลูกแมก็โตเปนผูใหญไปเสียแลว แตอนเรียบรอยกวาลูกคนอื่นมาตั้งแตไหนแตไร อนวางาย แมบอกใหทําอะไรก็ทํา ตาอั้นเสียอีกหัวรั้น ประไพก็ ไมใชเลน บทพยศขึ้นมาก็ตองปราบกันแย เห็นพอพูดกันไดงายหนอยอีกคนก็คือ ออด...." พลอยพูดถึงตาออดแลวก็หยุดนิ่งลงเฉยๆ แตมือนั้นยังถูหลังตาอนอยูเรื่อยๆ ไป "คุณแมเห็นจะไมมีวันลืมออดได" ตาอนปรารภเบาๆ "ลืมไดอยางไรเลาอน" พลอยพูด "ลูกเกิดจากตัวแมแทๆ แลวก็มามีอันจะเปนไป แมไมรูจะทําใจอยางไร ถูก" "ผมก็เห็นใจคุณแม" ตาอนวา "เห็นใจจริงๆ แตผมก็ไมรูจะพูดจาปลอบโยน ใหเหมือนคนอื่นเขาทําได อยางไรถูก ผมถูกเขาปลอยมาจากเกาะอยางดีใจลิงโลด ดีใจวาสิ้นเวรสิ้นกรรม จะไดพบคุณแมพบนองๆ แตพอ พบออดเขาเปนคนแรกเขาก็เจ็บหนัก แตก็....แลวก็จากไป ผมเองรูสึกเหมือนใครมาทุบหัวจนสลบ ตั้งแตนั้นมา โลกภายนอกที่ผมคอยสิบกวาปเลยหมดสนุก ดูมันจืดชืดไมเที่ยงแท ถาบุญกุศลมีจริงอยางคุณแมวา ออดเขา ควรจะไดบุญมาก เพราะเขาเปนตนเหตุสําคัญที่ผมไดบวชวันนี้" พลอยมิไดพูดจาตอไปวากระไร ไดแตเมมริมฝปากแนนเพื่อกลั้นน้ําตาไว แลวก็อาบน้ําตาอนตอไปจน เสร็จ ในเวลาอีกไมชา ตาอนซึ่งนุงขาวหมขาวเปนนาคพรอมดวยพลอยและญาติพี่นองที่มารวมงาน ก็ลงเรือที่ บรรจุขาวของไวแลว บายหนาออกจากทาน้ําหนาบาน แลนเขาไปยังวัดที่อยูทายคลอง วัดที่ตาอนไดเลือกเอา เอง วาจะใชเปนที่บําเพ็ญชีวิตในระหวางสมณเพศ พอถึงวัดพลอยก็ชวนชอยและคุณเชยเขาไปนั่งในโบสถ เพื่อจัดของถวายพระ ปลอยพอเพิ่มและคน หนุมๆ สาวๆ ใหเดินถือของตามเจานาคเดินปทักษิณรอบโบสถตามธรรมเนียม ที่พอเพิ่มยืนยันวาขาดเสียมิได พลอยกมลงกราบพระประธานในโบสถ พลางนึกอุทิศตาอนซึ่งถึงจะไมใชลูกแท ก็ไดเลี้ยงมาและรักอยางลูก ถวายไวในพระศาสนา ในขณะที่นึกอุทิศอยูในใจ พลอยก็กมลงกราบพระอีกครั้งหนึ่ง และในใจก็เกิดปติอิ่มเอิบ ในผลบุญที่ไดกระทํา ตาอนผูซึ่งกําลังจะยางเขาสูภิกขุภาวะ เปนผูสืบพระศาสนา ตาอนลูกคุณเปรมกับผูหญิง อีกคนหนึ่งที่พลอยไมรูจัก แตก็ไดรักอยางลูกตัวเลี้ยงดูมาจนเติบใหญ ดวยน้ํามือของตนเอง บัดนี้ตาอนกําลังจะ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy415_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 5

ไดบําเพ็ญบุญกิริยาอันสูงสุด สละตัวเขาถวายในพระศาสนา ในฐานที่พลอยเปนผูอุปการะเลี้ยงดูตาอนมา พลอย ก็นึกมอบตัวตาอนถวายขาดในพระศาสนา เหมือนกับวาไดนําของมีคาอยางหนึ่งที่ตนรักและหวงแหนมาถวาย ไว เรื่องตอไปคือเรื่องจะสึกหรือไม เปนเรื่องของตาอนเอง พลอยไมมีสิทธิ์จะไปเกี่ยวของหรือพูดจาชักจูงอยาง ไรไดทั้งสิ้น พลอยเหลียวดูไปทางอาสนสงฆที่จัดไวหนาพระประธาน เห็นพระเริ่มทยอยลงโบสถแลวหลายองค แต ละองคแสดงอาการสงบสํารวม แสดงวาเปนผูหยุดนิ่งตามคําสั่งสอนของพระพุทธเจา อีกประเดี๋ยวตาอนก็จะเปน สงฆอีกรูปหนึ่ง เปนคนดีที่จะเขาไปอยูในสมาคมของคนดี ไมมีอะไรที่พลอยจะตองวิตกหวงใย ถึงแมวาภิกขุ ภาวะจะทําใหตาอนตองหางเหินไป แตพลอยก็รูวาตาอนไปในทางที่ดี และอยูในที่ๆ ดี ไมมีอะไรที่จะเกิดขึ้นแก ตาอนได นอกจากความดี ความดีที่จีรังยั่งยืน พลอยนั่งจัดของอยูสักครู พอเพิ่มก็พาตาอนเขามาในโบสถ ใหนั่งอยูในที่อันควร รอการอุปสมบทที่กําลัง จะเริ่มขึ้น พลอยนั่งดูตาอนที่นั่งรออุปสมบทอยูนั้นดวยความอิ่มใจ ยิ่งมองไปก็ยิ่งเห็นวาตาอน ซึ่งปลงผมแลวนุง ขาวหมขาวอยูนั้น มีราศีสมกับที่จะไดเขาบวชเรียน เสียงชอยพูดควากๆ อยูขางหลังใกลๆ กับตัววา "พออนนี่พอเปนเจานาคเขาคอยนาดูขึ้นเปนกอง เมื่อออกมาจากคุกใหมๆ นั้นดูไมไดทีเดียว เขมาคุกมัน จับหรืออยางไรก็ไมรู พอคูณ ! สิ้นเคราะหไปที ขอใหพอบวชนานๆ เถิด ฉันจะไดเกาะชายกระเบนแมพลอยเขา ขึ้นสวรรคบาง" "ทําไมจะตองมาเกาะชายกระเบนฉันขึ้นสวรรคนะ แปลกแทๆ ทีเดียว" พลอยเอียงตัวไปกระซิบ "อาว ! แมพลอยกอ !" ชอยวา "ฉันมันมีลูกมีเตาไวบวชเรียนเสียเมื่อไหรละ แมพลอยเกาะชายจีวรพระ ได ฉันก็อาศัยเกาะแมพลอยนิดเดียว จะหวงดวยหรือ" "ฉันก็เหมือนกัน" คุณเชยยื่นหนาเขามากระซิบดวย "ไมมีลูกมีเตา เห็นจะตองเกาะชายกระเบนแมชอย อีกตอหนึ่ง" "ฮะ !" ชอยหัวเราะ "คงสนุกกันพิลึกละ เกาะกันตอๆ ไปเปนพรวนทีเดียว เทวดาคงตระหนกตกใจกัน แย ! แนะ ! ไดเวลาแลวแมพลอย คอยสงไตรใหนาคเถิด" ตาอนคลานเขามาตรงหนาพลอยแลวลงหมอบกราบ และพลอยก็อุมไตรสงใหตาอนดวยใจปติ จนแทบจะ บอกไมถูก พอตาอนรับไตรและเขาไปคุกเขาอยูหนาอุปชฌายแลว พลอยก็ยกผาเช็ดหนาขึ้นซับน้ําตา ที่ซึมๆ ออกมาบางดวยความปลื้มใจ "แมพลอยเขาดี" เสียงชอยกระซิบกับคุณเชยอยูขางหลัง "เขามีน้ําหูน้ําตาไวแตะนิดซับหนอยได ถูก กาลเทศะทุกครั้งไป ธรรมดาบวชนาคอยางนี้ ถาไมมีโยมผูหญิงมารองไหกระซิกกระซี้ อิ่มอกอิ่มใจ ก็ดูจะขาดๆ ไปเหมือนกับไมครบพิธี" "แมชอยชางหาอะไรมาพูด" คุณเชยกระซิบวา "แมพลอยเขาทําตัวถูกกาลเทศะเสมอแตไหนแตไรมาแลว อยางเราๆ ถาไปตกที่นั่งเขาบาง คงไมรูวาจะทําตัวอยางไรถูก" "ก็นั่นนะซิ" ชอยเห็นดวย "อยางฉันถามีลูกไดมาบวชวันนี้ ฉันคงทําตัวไมถูกแน" "แมชอยจะทําอยางไร" "ก็ไมรู" ชอยตอบ "ถาไมรองไหโฮฮาใหขายหนาคน ก็คงนั่งหัวเราะรวนไปเหมือนอีบาอะไรกระมัง" พิธีอุปสมบทไดเริ่มขึ้น และเริ่มดําเนินไปตามกฏเกณฑที่ไดวางไวสองพันกวาป ตาอนรับโอวาทจาก อุปชฌาย แลวก็ออกไปครองผา พอตาอนครองผาเหลืองกลับมายืนซอมขานนาคอยูกับคูสวด ที่ตรงประตู อุโบสถ พลอยก็ไดแตแลดูดวยความพอใจ แทบวาจะไมมีตาไวดูอื่น ตาอนครองจีวรแลวดูงดงาม มีราศีเกินกวา ที่คาดหมายไว พลอยไดเคยเห็นผูชายแตงตัวดวยเครื่องแตงกายหลายหลากมาในชีวิตของตน ตั้งแตนุงผาลาย ใสเสื้อกระบอก นุงผามวงใสเสื้อราชแปเต็น แตงเครื่องแบบตางๆ ติดเหรียญตรา ตลอดจนแตงสากลผูกเนคไท แบฝรั่ง เครื่องแตงตัวของผูชายที่เปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย สุดแตใจคนจะเห็นงาม แตผาเหลืองสามผืนอันเปน เครื่องแตงกายของผูมีศีล ยังมิไดมีใครบังอาจมาเปลี่ยนเปนอยางอื่น ยังคงอยูอยางไรก็อยางนั้น พลอยเพิ่งมา รูสึกในวันนี้วา ผาเหลืองเพียงสามผืนนั้น สามารถประดับคนใหงดงาม มีสงาราศีไดยิ่งกวาอาภรณอันล้ําคาใดๆ ทั้งสิ้น ผูที่นุงหมดวยผาเหลืองสามผืนนั้น มีความงามอันเลิศล้ํามนุษยใดๆ เพราะความงามที่เกิดขึ้นนั้น มิไดเกิด จากรูปสมบัติอันมีแตจะเสื่อมโทรมสลายไป มิใชความงามอันเกิดจากการตกแตงประดับประดา อันเปนการ พรางที่หลอกลวงไดแตเพียงจักษุประสาท แตเปนความงามอันเกิดจากศีล จากความสํารวมจากความสงบและ ความนอบนอม ความงามอยางนี้มิใชวาจะเห็นได หรือรูสึกไดดวยสัมผัสตางๆ อันเปนของลวงโลก กอใหเกิด ความเขาใจผิดอยูเปนนิจ แตเห็นไดดวยดวงจิตบริสุทธิ์ ซึ่งยอมจะตองเปนความงามที่แนแท ปราศจากความ เคลือบคลุมแอบแฝง หรือการหลอกลวงใดๆ เจานาคผานการซอมขานนาคที่ประตูอุโบสถ แลวก็เขาไปขานนาคตอหนาสงฆ พิธีดําเนินไปเรื่อยๆ จน สงฆรับนาคเปนภิกขุเขารวมอยูเปนสมาชิกอันสมบูรณ พลอยคลานชาๆ เขาไปประเคนของพระอนที่บวชใหม และเมื่อประเคนของเสร็จกมตัวลงกราบพระ พลอยรูสึกวาครั้งนี้เปนครั้งแรก ที่ตนมิไดกมกราบแสดงคารวะดวย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy415_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๕ (หนาที่ ๒)

Page 5 of 5

กิริยา หรือดวยขนบประเพณี ดวยสองมือสองแขนและศีรษะ แตไดกมลงกราบดวยชีวิตดวยความเปนอยู และ ดวยวิญญาณทั้งหมด ขณะนั้นไดยินเสียงเหมือนกับตนเองรองอยูในใจวา "คุณเปรม ! คุณเปรม ! ฉันพยายามทําหนาที่ของฉันใหครบทุกอยาง....ครบทุกอยางแลว ฉัน เหนื่อยเต็มที....คุณเปรม !" รุงขึ้นอีกวันหนึ่งหลังจากบวชพระอน พลอยก็ลมเจ็บ นายแพทยที่ตาอั้นรับมาตรวจบอกวา พลอยเปน โรคหัวใจอยางหนัก ตองพักผอนมากที่สุด และตองไดรับการรักษาพยาบาลอยางเครงครัดที่สุด

http://www.geocities.com/siamstory/ploy415_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๑)

Page 1 of 5

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๑) พลอยเจ็บอยูหลายเดือน เรี่ยวแรงที่มีเหลืออยูนั้นก็หมดลงไปทุกที ถึงแมวาบุตรและญาติจะไดชวยกัน ใหการรักษาพยาบาลอยางแข็งแรงเพียงใด ความรูสึกของตัวคนไขนั้นก็เปนอุปสรรคสําคัญอยูอยางหนึ่ง กลาว คือถึงแมวาพลอยจะมิไดหมดเจตนาที่จะอยูตอไปก็ตาม แตพลอยก็มิไดมีความกระตือรือรนที่จะอยู มิไดวิตก หวงใยในการปวยไขของตน แตทําตัวเหมือนกับคนที่ปลอยใหตัวลองลอยไปตามกระแสแหงโชคชะตา ไม พยายามฝนและไมมีมานะที่จะสู อุปสรรคที่สําคัญอีกอยางหนึ่งตอการรักษาโรคภัยไขเจ็บ ก็คือการขาดแคลนยา ในระยะนั้น โดยเฉพาะโรคของพลอยซึ่งเปนโรคพิเศษเกี่ยวกับหัวใจ จึงตองการยาพิเศษหลายอยางที่หาไดโดย ยาก เพราะปริมาณของยาชนิดนั้นๆ ทีมีอยูเมื่อกอนสงครามมิไดมีอยูมากเชนยารักษาโรคอื่นๆ ที่คนเปนกันเปน พื้น เมื่อเกิดสงครามแลวยาพิเศษเหลานั้นก็ถูกใชใหหมดไป ที่ยังมีเหลือก็ถูกกักตุนไวขายในราคาที่สูง จนแทบ ไมนาเชื่อ นายแพทยผูมารักษาพลอยเองก็หมดปญญา มิรูที่จะหายาที่ไหนมารักษาคนไขของตนได ไดแตจดชื่อ ยาบางชนิดที่จําเปนใหแกเจาของไข แลวบอกใหลองออกเที่ยวหาดู ถาไดมาก็จะเปนประโยชนมาก ปญหาเรื่องยาขาดแคลนจึงเปนปญหาใหญที่ตองปรึกษาหารือกันอยูเปนนิจ วันหนึ่งคุณเสวีมาเยี่ยม ที่ บานคลองบางหลวง เพื่อเยี่ยมทั้งพลอยที่เปนคนไขและประไพซึ่งมาอยูพยาบาลพลอย ขณะที่นั่งคุยกันอยูครู หนึ่ง ตาอั้นก็เอากระดาษจดชื่อยาขนานหนึ่งออกมาใหดูแลวพูดวา "เสวี ลื้อรูจักคนมาก ลองชวยถามหาซื้อยาขนานนี้ใหคุณแมหนอยเถิด เราเองวิ่งหาเสียจนออนใจแลว แตยังหาซื้อไมได" คุณเสวีรับกระดาษไปดู แลวก็หยิบสมุดพกจากกระเปาเสื้อจดชื่อยา แลวก็หันมายิ้มกับพลอย แลวพูด ชาๆ ชัดถอยชัดคําอยางที่เคยทําใหพลอยไมสบายใจมาเสมอวา "ไมเปนไรครับคุณแม ผมยินดีสนองพระคุณเต็มที่ ยาขนานนี้ถึงคนอื่นจะหาไมได ผมวาผมคงหาได คุณ แมอยาวิตกเลย" พอรุงขึ้นอีกวันหนึ่งคุณเสวีก็มาหาที่บานในตอนบาย ตาอั้นผูซึ่งรอนใจอยูดวยเรื่องยา ก็ถามถึงยาขึ้น ทันทีที่ไดเห็นหนา คุณเสวีนิ่งอยูครูหนึ่งแลวก็ตอบวา "ของทุกอยางในเมืองไทยเรานี้ ถาใครรูที่หาก็มีทั้งนั้น ขอสําคัญอยูที่เราจะใหเขาตามราคาหรือไม" "เอาเถิดนาเสวี" ตาอั้นพูดอยางใจรอน "ถูกแพงอยางไรก็วามาเถิด ขอแตใหคุณแมหายเจ็บก็แลวกัน" "ยาที่อั้นใหหาเปนยาฉีด" คุณเสวีอธิบาย "หายากเพราะมีอยูนอย คนที่เขามีอยูเขาเปนเพื่อนกับเรา พอรู วาคุณแมเจ็บเขาก็ยินดีจะขายใหถูกกวาราคาตลาด" "เขาจะขายอยางไร" "เขาขอหลอดละสี่พันหารอยบาท" คุณเสวีตอบอยางหนาตาเฉยที่สุด พลอยใจหายวาบเมื่อไดยินราคา ความตกใจในความแพงของยาหลอดเดียว แทบวาจะทําใหหัวใจพลอย หยุดนิ่งไปทีเดียว ฝายตาอั้นก็สะดุงจนเห็นไดแลวตอบออมแอมวา "ดีแลวเสวี แตเราวานคืนอื่นเขาหาไวอีกทางหนึ่ง จะขอฟงเขากอน ถาอยางไรจะบอกใหเสวีรูทีหลัง" "ก็ได" คุณเสวีวา "แตอยาใชเวลาใหมากนัก เพราะถาชาไปอีกสองสามวัน ราคาอาจขึ้นไปอีกก็ได เดี๋ยวนี้ ราคาก็ขึ้นอยูทุกวันแลว" ตาอั้นกัดกรามแนนไมตอบ และนั่งขรึมๆ อยูจนคุณเสวีลากลับไปเอง พอคุณเสวีไปพนตัว พลอยผูนอน ฟงเรื่องราวนิ่งๆ อยูบนเตียง ก็เรียกตาอั้นเบาๆ ใหเขามานั่งใกลตัว พอตาอั้นเขามานั่งที่ริมเตียง พลอยก็พูดขึ้น วา "อั้น อยาซื้อเลยยาขนานนั้น แพงเหลือทน" "โธคุณแม" ตาอั้นอุทานเบาๆ จนเกือบเปนกระซิบ "จะไปเสียดายเงินอยูทําไมในยามนี้" "แมไมเสียดายเงินหรอกอั้น" พลอยตอบเบาๆ "แตแมเคยใชเงินใหเปนประโยชน ยาขนานนี้ใชวาฉีดแม เพียงเข็มเดียวแลวก็จะหาย แตจะตองฉีดไปหลายเข็ม ยาหลอดละสี่พันสอง สิบหลอดก็สี่หมื่นสองพัน นานเขา ราคาก็อาจเพิ่มขึ้นไปกวานั้น เผลอไปหนอยคายาขนานเดียว ก็จะเปนเงินเรือนแสน" พลอยหยุดพูดพักเหนื่อย ประเดี๋ยวหนึ่ง แลวก็ถอนใจใหญพูดตอไปเบาๆ วา "เงินเปนหมื่นเปนแสน อั้นคิดดูใหดีๆ ชีวิตของแมเห็นจะไมแพงถึงเพียงนั้น" "คุณแม !" ตาอั้นพูดออกมาไดคําเดียวแลวก็ซบหนาลงรองไหใกลๆ ตัวพลอย ดวยความรูสึกที่ไม สามารถจะกลั้นไวได

http://www.geocities.com/siamstory/ploy416.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๑)

Page 2 of 5

"อั้นอยางเปนหวงแมใหมากนักเลย จะวาเจ็บหนักหนาถึงเพียงนั้นก็ไมถึง และยาขนานนั้นถึงหากวาได มา จะทําใหหายลงทันทีก็เปลา การเจ็บไขก็ตองแลวแตบุญแตกรรมอยูมากเหมือนกัน บางคนที่มีหยูกยาสารพัด แตก็แกไมไดถึงตายก็มีอยูบอยๆ" "ไมใชอยางนั้นหรอกคุณแม" ตาอั้นพูดดวยน้ําเสียงที่แสดงความเครียดแคน "ผมเสียใจมาก เพราะเห็นใจ คนอยางชัดในคราวนี้" "เห็นใจใครอั้น แมไมรูเรื่องเลย" "เสวี" ตาอั้นบอก "ผมรูดีวาเจาเสวีเขาหุนกับพวกพองตุนยา และยาขนานนี้ของมันก็มี แตทั้งที่มันรูแลว วาคุณแมเจ็บมาก ตองใชยาขนานนี้ มันยังมีหนามาบอกขายไดถึงหลอดละสี่พัน" "ก็เขาคาขายเกี่ยวของกับพวกพอง บางทีจะหุนสวนเกี่ยวของ เขาจะใหเปลาก็เกรงใจกระมัง" พลอยชวย พูดแกให "ถึงอยางนั้นมันจะขายแตเพียงเทาทุนก็ยังได เพราะมันรวยมามากแลว แตนี่มันมาบวกเอากําไร....ชาง มันเถิดคุณแม แลวผมจะไปหาที่อื่นมาให บางทีจะถูกกวาดวยซ้ําไป ผมถามลองใจมันเลนเทานั้นเอง" เมื่อไดยินคําบอกเลาจากตาอั้นพลอยก็ไดถอนใจใหญ ความนอยใจในน้ําใจอันคับแคบของลูกเขยนั้น มิ ไดเกิดขึ้นเลย แตรูสึกหนักใจในความเสื่อมในน้ําใจของคนโดยทั่วๆ ไป ความเอื้อเฟอเผื่อแผเมตตากรุณา ดู เหมือนจะหมดไปเสียแลวจากโลกนี้ แมแตตัวพลอยเองซึ่งอยูในฐานะดี ยังตองรูสึกอัตคัดในยามเจ็บไข คนที่ อาภัพกวาจะเปนอยางไร ตาอั้นคงจะโกรธและนองใจคุณเสวีมากในเรื่องนี้ วันรุงขึ้นตาอั้นก็ไปซื้อยาขนานเดียวกันมาจากที่อื่นจน ได ถึงแมวาจะไดจํานวนไมครบตามที่หมดสั่ง และเมื่อพอเพิ่มมาเยี่ยมในวันเดียวกัน ตาอั้นก็เลาเรื่องนี้ใหฟง พอเพิ่มสายหนาอยางออนใจแลวก็พูดวา "ชางมันเถิดพออั้น คนพรรคอยางนั้น มันจะร่ํารวยไดดิบไดดีไปถึงเพียงไหน ลุงวาในโลกนี้มีบุญมีกรรม คนที่ใจดําใจบาปถึงคนไมเห็น ผีสางเทวดาก็เห็น คอยดูไปเถิดพออั้น อีกหนอยมันจะตองน้ําตาเช็ดหัวเขา" "ผมกลัวมันจะไมเปนอยางนั้นนะซี คุณลุง" ตาอั้นวา "อาว ! ทําไมละ พออั้น" "ผมดูๆ โลกมนุษยเราทุกวันนี้แลว ก็ไมอยากเชื่ออะไรทั้งนั้น คงที่ซื่อสัตย คนที่มีความจริงใจ คนที่เอื้อ เฟอเผื่อแผตอคนอื่นเสียอีก กลับกลายเปนคนเลวไมมีวันที่ไดดี แตคนที่เปนหัวประจบกลับกลอก คดโกงเขานั่น แหละ เขาไดดีทุกสมัย เพราะเขากลิ้งเกลือกไปทัน" "อะ ! อยางนั้นก็แยซีพอคุณ" พอเพิ่มรอง "ก็แยนะซีคุณลุง แตแยสําหรับคนอยางเราๆ คนอยางเขาไมมีแยหรอก มี่แตจะดียิ่งๆ ขึ้นไป" ตาอั้นตอบ ขรึมๆ "พออั้นหมายความวา โลกมนุษยเราไมมีความยุติธรรมอยางนั้นหรือ เปนอันวาทําชั่วแลวผลที่เกิดไมชั่ว อยางนั้นหรือ" พอเพิ่มถามอยางสงสัย "จะวาถึงเพียงนั้นก็ไมถูก" ตาอั้นตอบ "ความชั่วมันก็ตองเกิดผลในทางชั่ว แตผลที่เกิดมันไมจําเปนตอง เกิด แกผูที่ทําชั่ว มันไปตกแกคนอื่นที่เขาไมรูเรื่องราวอะไรดวย อยางคนโกงเขา ถาจับไดผลก็เกิดแกตัว แต สวนมากถาจะโกงกันใครจะไปปลอยใหใครจับได ผลเสียหายจากการโกงมันเกิดเหมือนกัน แตมันไปเกิดกับคน อื่นๆ ที่เขาไมโกงหรือไมรูเรื่องอะไรดวยเลย" "ฮื้อ ! ลําบากจริง ลําบากจริง" พอเพิ่มบน "ลุงยังปลงใจเชื่ออยางนั้นไมไดเลย" พลอยที่นอนฟงสองคนพูดกันอยู พูดขึ้นมาบางวา "อั้น แมก็คิดอยางอั้นพูดเหมือนกัน...คิดมานานแลว เพราะเหตุนั้นแมจึงไมยอมทําชั่ว ไมยอมทําบาป" พอเพิ่มเหลียวมาดูพลอยแลวบนวา "เออ ! แมลูกคูนี้เขาไปไหนกันเปนปเปนขลุยทีเดียว พูดอะไรก็ไมรู ฉันไมเขาใจเลย" "จริงๆ นะคุณหลวง" พลอยยืนยัน "ถาฉันทําชั่วแลวรูวาความชั่วจะตองตกแกฉันคนเดียว ไมไปตกแกคน อื่น ฉันคงไมกลัวความชั่วนักหรอก และบางทีอาจลงมือทําบาปกับเขาบางก็ได เพราะความชั่วดีก็เปนเรื่องของ ฉันคนเดียว ถึงจะตกนรกหมกไหม ฉันก็เปนคนตกจะเปนไรไป เราอยากทําชั่วเราก็ตองรับกรรมเอาเอง เหมือน กับอยากไดของ เราก็เสียสตางคซื้อ แตเทาที่เห็นมา คนอื่นที่เขาไมรูเรื่องมักจะตองเขามารับบาปเสียเสมอไป ฉันก็เลยทําบาปไมลง เพราะกลัวคนอื่นเขาจะตองลําบาก" "คุยกันเรื่องอื่นเถิดแมพลอย นึกวาสงสารแกฉันก็แลวกัน" พอเพิ่มพูดอยางออนใจ อาการปวยของพลอยมีแตทรุดกับทรงไปเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลากอนสงครามจะเสร็จสิ้นลง ความขาด แคลนในเรื่องยารักษาโรค ทําใหการรักษาพยาบาลไมไดผลเต็มที่ และพลอยก็ปลงใจปลอยใหสังขารรางกาย เปนไปตามบุญตามกรรม ความรูสึกนั้นเหมือนกับวาตนเปนคนพิการ จะทําอะรก็ไมสะดวก และยิ่งนานวันเขาก็ ยิ่งรูสึกวาตนนั้นอยูดวยคนอื่นแทๆ ความรูสึกเชนนี้ ยิ่งทําใหพลอยทอถอยหนักขึ้นไปอีก วันหนึ่งพอเพิ่มมาหาและหลังจากที่คุยเรื่องอื่นๆ ตามเคยแลว พอเพิ่มก็พูดขึ้นวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy416.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๑)

Page 3 of 5

"แมพลอย สงครามเห็นจะไปไมไดอีกนานแลว ฉันวาคงจะเสร็จในเร็วๆ นี้ เวลานี้เยอรมันก็แพราบไป แลว ยังเหลือแตญี่ปุน เมื่อสองสามวันนี้อเมริกาเอาลูกระเบิดแบบใหม ไปทิ้งญี่ปุนลูกหนึ่ง คนตายนับแสน" "เหมือนไฟประลัยกัลป" พลอยนึกในใจทันทีที่ไดยิน "มนุษยเราจะฆาฟนกันไปถึงไหน" แตปากนั้นถาม พอเพิ่มไปวา "ลูกระเบิดอะไรถึไดรายแรงถึงเพียงนั้นคุณหลวง นากลัวจริง" "เขาเรียกกันวาลูกระเบิดปรมาณู" พอเพิ่มตอบ "มีอิทธิฤทธิ์มากกวาลูกระเบิดที่เขาเอาทิ้งบานแมพลอย มากมายนัก ลูกเดียวก็เมืองพังทั้งเมือง คนตายทั้งเมือง อยางนี้ฉันวาญี่ปุนสูไปไดอีกไมนานตองแพแนๆ แม พลอยคิดดูเอาเองเถิด ถาขืนสูไปเขาเอาไปทิ้งสักสิบลูก มิพากันตายทั้งเกาะญี่ปุนหรือ" "พุทโธเอย !" พลอยอุทานเบาๆ "แลวคนที่ตายทั้งเมืองนั้นก็คงคนอยางเราๆ นี้เอง คนแกก็มี เด็กก็มี ไม รูเรื่องรูราวกับเขาสักนิด" "ทําอยางไรไดละแมพลอย" พอเพิ่มวา "ยิ่งรบกันไปนานก็ยิ่งลําบาก เลิกรบกันเสียทีก็ดี ใครเหลือตายก็ จะไดสบายกันบาง วาแตไอลูกระเบิดลูกนี้ฉันอดคิดถึงมันไมไดเลย เพื่อนฉันเขาเลาใหฟงวา เขาเพิ่งคนพบกัน ไดใหมที่อเมริกา นากลัวเหลือเกิน" "ลูกมันจะโตสักเพียงไหนนะคุณหลวง ถึงไดมีฤทธิ์เดชมากถึงเพียงนี้" พลอยถามดวยเหตุผลอยาง ธรรมดา "อีตรงนี้นะซีที่มันสําคัญ" พอเพิ่มพูดอยางภูมิใจเหมือนกับวาตนเองคิดลูกระเบิดปรมาณูขึ้นได "เขาวาลูก มันเทาระเบิดธรรมดานี่เอง หรือจะเล็กกวาเสียดวยซ้ําไป แตฤทธิ์มันมากกวาหลายหมื่นเทา" "ฉันไมอยากจะเชื่อเลย แตนั่นแหละ คุณหลวงตองรูเรื่องอยางนี้ดีกวาฉัน" "จริงๆ นา แมพลอย" พอเพิ่มหัวเราะ "เรื่องนี้ไมใชเรื่องหลอกกันเลน เรื่องสําคัญนักทีเดียว เรียกไดวา โลกมนุษยเราเขายุคสมัยใหม แมพลอยลองคิดดูซี เราเกิดมาในสมัยคนรบกันดวยมีดดวยไม เอาปนคาบศิลาปน ปสตันไลยิงกัน มีเหาะเหินเดินอากาศไดแตในหนังสือวงศๆ จักรๆ แลวเราก็ไดอยูมาจนเห็นคนเหาะได เอา ระเบิดแบบใหมมาทิ้งตูมเดียวตายทั้งเมือง ราวกะศรพรหมาสตรในเรื่องรามเกียรติ์ เกิดมาก็ไมเสียชาติเกิด หรอกฉันวา" "แลวมีอะไรดีขึ้นบางหรือเปลาเลาคุณหลวง" พลอยอดถามไมไดทั้งที่ใจนั้นไมอยากจะพูด "ฉันเห็นแต รบราฆาฟนกันใหตายมากกวาสมัยกอน ใครที่ไมตายก็ตองลําบากอดอยากจนผาจะไมมีนุงอยูแลว" "อดใจรอไปกอนเถิดแมพลอย คงไมนานหรอก อีกหนอยก็เสร็จสงคราม เราคงสบายกันทุกคน คอยดูไป เถิด" "นี่คุณหลวงสังหรณไปเสียอีกแลวกระมัง" พลอยถามยิ้มๆ ใจนั้นนึกถึงคําพยากรณเหตุการณผิดๆ พลาดๆ ที่พอเพิ่มชอบทําอยูเสมอ "เปลานา" พอเพิ่มหัวเราะ "ฉันพูดดวยเหตุผลจริงๆ ใครๆ เขาก็พูดอยางนั้นทั้งนั้น" แตในที่สุด เหตุการณก็เปนไปตามที่พอเพิ่มไดพยากรณไว เพราะหลังจากที่กรุงเทพฯ ถูกระเบิดอยาง หนัก โรงไฟฟาทั้งสองโรงถูกทําาย ทําใหเกิดขาดแคลนทั้งน้ําและไฟไปไดไมนานนัก และโดยมิไดมีใครคาด หมายไวกอนเลย สงครามก็เสร็จสิ้นลงอยางเงียบๆ และโดยกระทันหัน เหมือนกับในวันที่สงครามเกิดขึ้น เชาตรู วันหนึ่ง คนก็รูกันทั่วเมืองวาสงครามเสร็จลงแลว โดยญี่ปุนเปนฝายยอมแพตอพันธมิตร พอเพิ่มรีบมาหาพลอย ถึงบานทันทีเมื่อไดทราบในตอนเชา พอเพิ่มเดินอมยิ้มแปนขึ้นมาบนเรือน และพอเห็นหนาพลอย พอเพิ่มก็พูด ขึ้นวา "คราวนี้สนุกละแมพลอย เยอรมันยอมแพไปกอนแลว ญี่ปุนก็มายอมแพในวันนี้ เหลือแตไทยเปนมหา อํานาจรบกับอังกฤษอเมริกาแตคนเดียวเทานั้นเอง !" "คุณหลวงคงดีใจมากคราวนี้" พลอยพูดตอบ "ใครบางจะไมดีใจ" พอเพิ่มวา "คราวนี้จะไดหมดทุกขหมดรอนกันเสียที ขาวของก็คงจะถูกลงคราวนี้" "ขอนี้แหละที่ฉันยังปลงใจเชื่อไมสนิท คนเราตกทุกขไดยากมาหลายป รบราฆาฟนกันตายเสียนักตอนัก แลวอยูๆ พอเลิกรบกัน ก็จะใหกลับสบายเหมือนเกาทันที ฉันยังเชื่อไมไดดอกคุณหลวง" ความเห็นของพลอยในเรื่องนี้ เปนความเห็นที่ออกจะถูกตอง แมพอเพิ่มและคนอีกหลายคน ที่เคยมี ความเห็นวาทุกอยางจะเรียบรอย และกลับคืนดีเมื่อเสร็จสงครามนั้น ก็ยอมรับวาความเห็นของพลอยถูกกวา ของตนในภายหลัง เพราะถึงแมวาสงครามจะเสร็จไปแลวก็ตาม และสวนเกี่ยวของของประเทศไทยในสงคราม นั้น เปนตนวาไดเคยทําสัญญารวมรุกรวมรบกับญี่ปุน ตลอดจนไดประกาศสงครามกับอังกฤษอเมริกา ไดกลาย เปนโมฆะไปหมดแลวก็ตาม สภาพการณตางๆ ก็มิไดมีรองรอยวาจะคืนดีเหมือนเมื่อกอนสงคราม แตตรงกัน ขาม กลับมีทีทาจะยิ่งทรุดลงไปกวาเมื่อยังอยูในระหวางสงครามเสียอีก ขาวของทุกชนิดยังหายากและยังแพง ขึ้นเรื่อยๆ ไปในอัตราที่นาพิศวงและนาวิตก ทหารตางประเทศที่เคยเขามาอยูในเมืองไทยตลอดระยะเวลาแหง สงคราม ไดหายไปหมดในเวลาไมชา แตมีทหารตางประเทศอีกอยางหนึ่งเขามาแทนที่ คือทหารของฝายชนะ สงคราม และเมื่อทหารเหลานี้เขามาอยูไดไมนานนัก ขาวลือก็วอนไปถึงเรื่องความหยาบคาย และความโลดโผน

http://www.geocities.com/siamstory/ploy416.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๑)

Page 4 of 5

ตางๆ ของทหารตางประเทศชุดใหม ทําใหมีความตระหนกตกใจกลัวกันขึ้นบาง เด็กตัวเล็กๆ ที่วิ่งเลนอยูขาง ถนนหนทาง ในลักษณะที่เปนมิตรกับทุกคนที่ผาน เลิกรองทักทายทหารดวยภาษาญี่ปุน เลิกรอง "อาริกาโต !" หรือ "บันไซ !" แตเริ่มรอง "โอเค !" แทน ซึ่งเมื่อพลอยไดยินก็เขาใจวาเปนภาษาฝรั่ง แตแรกก็มีผูที่เกลียดชัง ญี่ปุน ในฐานที่เปนขาศึกเขามารุกรานนั้น เห็นวาทหารตางดาวชุดใหมนั้นเปนมิตรเขามาขับไลญี่ปุน ใหออกไป หมดจากประเทศไทย แตนานวันเขาความรูสึกเชนนั้นก็เปลี่ยนไปเปนความสงสัย ไมรูวาทหารเหลานั้นจะอยูไป อีกนานเทาไร พอเพิ่มผูซึ่งมาเยี่ยมอาการไขของพลอยแทบทุกวัน ปรารภขึ้นวันหนึ่งวา "แมพลอย ฉันนี่เปนคนแปลกเสียแลว เมื่อญี่ปุนยังอยูฉันก็เกลียดญี่ปุนเขากระดูกดํา แตพอเสร็จสงคราม ฉันเกิดสงสารญี่ปุนขึ้นมาทันที เพราะเห็นมันจองๆ นาสมเพช ยิ่งเดี๋ยวนี้หายไปหมด ไมมีเที่ยวเดินตามถนนหน ทาง ก็ถึงกับคิดถึงเอาดวยซ้ําไป เบื่อหนายเจาพวกทหารแขกทหารฝรั่งเต็มที" ตาอั้นผูซึ่งนั่งอยูดวยหัวเราะแลวก็พูดวา "คุณลุงไมไดเปนอยางนั้นคนเดียวดอกครับ ผมวาคนไทยเราเปนอยางนั้นแทบทั้งเมือง เมื่อทหารฝรั่งถูก ญี่ปุนจับมาเปนเชลยแถวบานโปง เราก็พากันสงสารอยากชวยเหลือเขา เวลารถไฟวิ่งผานแถวนั้น เคยเห็นโยน บุหรี่โยนผลไมและของอื่นๆ ใหแกเชลยฝรั่งกันทั้งกระบวนรถไฟ แตพอญี่ปุนแพถูกฝรั่งเขามาจับเปนเชลย เราก็ หันไปสงสารทหารญี่ปุน พอเห็นเขาก็ตองแอบใหขนมใหบุหรี่อีก เห็นจะเปนเพราะนิสัยเราชอบเมตตาและเห็น ใจผูแพ "แมก็คิดอยางนั้นเหมือนกัน" พลอยพูด "ใจแมเองก็เปนอยางนั้น ถาจะวาไปมันก็ไมใชเรื่องใชราวอะไร ของเราสักหนอย มันเรื่องคนอื่นเขารบกัน ใครพลาดทาตกระกําลําบาก แมก็สงสารเวทนาทั้งนั้น" พอเพิ่มหัวเราะแลวพูดวา "แมพลอยนี่แกเปนโมฆะเอาจริงๆ ทีเดียว รบกันมาเกือบตาย เดี๋ยวนี้แกบอกวาไมใชเรื่องใชราวเอา เฉยๆ" สําหรับคนไทยนั้น พลอยก็รูขาววาผูมีบุญวาสนาชุดระหวางสงครามก็ไดพากันหมดบุญวาสนาไป ตาม คําทํานายของพอเพิ่ม และมีผูมีบุญวาสนาชุดใหมเขามาแทนที่ แตพลอยก็แกเกินไปเสียแลวที่จะสนใจ และขณะ นั้นก็มีขาวใหญอีกเรื่องหนึ่ง ที่ดึงดูดความสนใจของพลอย ดวยกําลังแรงยิ่งกวาเรื่องใดๆ ขาวนั้นคือขาวที่พระ เจาอยูหัวรัชกาลที่ ๘ จะเสด็จนิวัติกลับพระนคร ขาวนี้เปรียบเสมือนยารักษาโรคใหแกพลอยอยางสําคัญ เพราะโรคของพลอยนั้น มีอาการอยางหนึ่งที่ไม มียาอะไรแกไขได และอาการนั้นก็คือขาดความสนใจตอสิ่งตางๆ ที่แวดลอมตัวอยูในโลก ขาวที่พระเจาอยูหัวจะ เสด็จกลับ ทําใหพลอยบังเกิดความสนใจมากขึ้นทันที หวนคิดถึงครั้งที่เคยไปเฝาชมพระบารมี เมื่อตอนเสด็จ กลับครั้งแรกสมัยยังทรงพระเยาว เวลาก็ลวงเลยไปหลายปนักหนาแลว ปานนี้จะตองทรงพระเจริญเปนหนุม พระรูปโฉมจะเปนอยางไร เปนเรื่องที่พลอยเก็บเอาใครครวญไตรตรองดวยความกระหยิ่มใจ ความรูสึกนั้นเต็ม ไปดวยความปติอิ่มใจ ไมผิดอะไรกับความรูสึกเมื่อครั้งลูกของตนจะกลับจากเมืองนอก เพราะความรูสึกของ พลอยที่มีตอพระเจาอยูหัว ก็เหมือนกับที่ชอยไดเคยวาไวครั้งหนึ่ง คือมีความรักดูดดื่มอยางลึกซึ้ง ไมชั่วแตมี ความจงรักภักดี เยี่ยงประชาราษฎรจะพึงมีตอสมเด็จพระเจาแผนดินของตน แตมีความรูสึกผูกพันใกลชิด เหมือนกับวา พระเจาอยูหัวเปนของตนแทๆ เปนคนในครอบครัว มีสายสัมพันธทางโลหิต เปนบุตรหลานที่รัก ปานแกวตา ที่ตนไดเฝาคอยดูความเจริญเติบโตดวยความรัก และมีความเจตนาดีพรอมดวยความหวังในอนาคต ที่จะรุงเรืองตอไป ดวยความรูสึกเชนนี้ พลอยจึงมีอาการกระเตื้องขึ้น เมื่อไดขาววาพระเจาอยูหัวจะเสด็จกลับ จิตใจที่เคยแหงแลงเพราะปราศจากความหวังและความสนใจ เนื่องดวยถูกกระทบกระเทือนใจดวยความทุกข และความผิดหวังมามากนั้น ก็กลับเบิกบาน มีผลสะทอนถึงโรคภัยไขเจ็บที่บั่นทอนทางกาย ทําใหมีอาการดีขึ้น ตามลําดับ จนบุตรและพี่นองพากันแปลกใจ เพราะพลอยในระยะนี้ดูเหมือนจะหายวันหายคืน จนลุกนั่งและเดิน เหินไดแคลวคลองเหมือนคนปกติ อาหารและการหลับนอนก็อยูในระดับดี จนคนอื่นๆ ที่พากันเปนหวงในอาการ ไขของพลอยนั้น พากันเชื่อวาพลอยไดผานพนจากโรคแลว และมีแตจะหายเปนปกติ ในเวลาไมชา เมื่อเหลือเวลาอีกสองสามวันที่จะถึงวันพระเจาอยูหัวเสด็จกลับ พลอยก็พูดกับตาอั้นดวยถอยคํา ที่ตาอั้น ตองมองดูพลอยอยางสงสัย พลอยพูดวา "อั้น วันเสด็จกลับแมอยากจะไปรับเสด็จ อั้นไปรับปาชอยมาดวย เพราะคราวที่แลวก็ไปรับเสด็จดวยกัน" "แตคุณแม..." ตาอั้นพูดอยางงงๆ "คุณแมยังไมคอยสบาย เจ็บมานานเพิ่งจะคอยยังชั่ว จะไปไหวหรือ" "แมไมเคยขออะไรที่เกินกําลังเลยอั้น" พลอยตอบอยางแนใจ "ธรรมดาแมก็เปนคนไมชอบไปไหน แต คราวนี้แมขอเถิด อั้นอยาขัดใจแมเลย แมรูสึกเหมือนกับวาถาไมไดไปรับเสด็จแลว แมจะไมเปนอันกินอันนอน อีกตอไป แมก็แกแลวอั้น ขอใหอั้นชวยจัดการใหแมไดเห็นในหลวงใหเต็มตาสักครั้งเถิด ชั่วเวลาเสด็จผานไปเทา นั้น แมไมขออะไรมาก" ตาอั้นคิดอยูครูหนึ่งแลวพูดวา "เห็นจะไมเปนไรกระมัง เพื่อนผมเขาเชาอาคารไวที่ราชดําเนินอยูริมทางเสด็จผานพอดี ถาคุณแมไปนั่ง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy416.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๑)

Page 5 of 5

คอยดูที่นั่น หาหยูกยาน้ําทาไปเตรียมไว คุณแมก็คงจะไดเห็นในหลวงได แลวผมจะไปจัดการให" "ขอบใจอั้น" พลอยตอบอยางดีใจ "นึกวาสงเคราะหแมเอาบุญเถิด แลวอยาลืมไปรับปาชอย" อานตอหนาที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy416.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๒)

Page 1 of 4

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๒) พอถึงวันพระเจาอยูหัวเสด็จกลับ พลอยก็พาสมใจและหลานๆ พรอมดวยเด็กในบานอีกหลายคน ที่ อยากไปรับเสด็จ มีพวงภรรยาคุณชิต หอบอาหารกลางวันน้ํากินตลอดจนยาบางอยาง ใสกระเชาโตลงเรือออก จากบานพรอมดวยตาอั้น ผูซึ่งเมื่อเห็นขาวของที่เตรียมไปแลวก็หัวเราะพูดวา "คุณแมเตรียมตัวเสียราวกับจะไปทอดกฐิน" พลอยมองดูสัมภาระตางๆ แลวก็หัวเราะอยางราเริง ตอบวา "แมก็นึกอยางนั้นเหมือนกัน แตของที่เตรียมไปนี่ ไมใชสําหรับแมคนเดียวหรอก เด็กๆ ไปตั้งหลายคน ตองเอาไปเผื่อ" พอขามฟากมาถึงฝงพระนคร ตาอั้นก็พาพลอยและคนอื่นที่มาดวยกัน ไปนั่งรอรับเสด็จอยูที่อาคารราช ดําเนินอยางที่ไดนัดกันไว แลวตาอั้นก็เอารถไปรับชอย ผูซึ่งจะออกมาจากในวัง เวลานั้นยังเชาอยูมาก แต พลอยก็สังเกตเห็นไดแลววา ประชาราษฎรที่มาคอยรับเสด็จในวันนั้นมากมายผิดปกติ และมากกวาวันที่ไดเห็น เมื่อตอนเสด็จกลับครั้งแรก คนทุกอายุทุกวัยและทุกฐานะ ดูเหมือนจะมารวมกันอยูในวันนั้น ดวยวัตถุประสงค อันเดียวกัน คือคอยรับเสด็จพระเจาอยูหัว ผูทรงเปนประมุขของชาติอันแทจริง ซึ่งทุกคนรูสึกวาขาดไปเสียนาน ตลอดระยะเวลาแหงสงคราม วันเสด็จกลับวันนี้ ดูเหมือนจะเปนวันสําคัญในความรูสึกของคนทั้งหลาย เปนวัน สิ้นสุดแหงยุคทมิฬของสงครามที่ผานไป และเปนวันเริ่มแหงยุคใหม ที่ทุกคนจะไดเริ่มทําการแกตัว สรางชีวิต ใหมดวยความแจมใส หลังจากความเสียโอกาสตางๆ ที่ไดเกิดขึ้นในระหวางสงคราม ถาจะวากันไปแลวความเชื่อถือและความหวังเชนนั้น อาจเปนของผิดพลาดปราศจากหลักเกณฑ ในสาย ตาและความเห็นของคนหลายคน ที่เห็นวาพระมหากษัตริยนั้น ก็เปนเพียงมนุษยปุถุชนธรรมดา ยอมจะไมมี บารมีใดๆ นอกเหนือไปกวาคนธรรมดา แตในสายตาของพลอยและคนเปนสวนมาก ที่ไปรับเสด็จดวยความปติ โสมนัส และความจงรักภักดีในวันนั้น ผลแหงพระบารมีไดเกิดขึ้นแลวในใจของตน คือความชุมชื่นในหัวใจ ความรูสึกอุนหนาฝาคั่งปราศจากความวาเหว ความหวังดีเจตนาดีตอคนทั้งปวง ที่มีความจงรักภักดีรวมกัน ตาง คนตางมองดูกันในฐานะเปนคนรวมครอบครัวอันใหญ ปราศจากฉันทาคติ มีความรักรวมกัน และเจตนาดีรวม กันในบุคคลอันเปนศูนยรวมแหงความเคารพบูชา บุคคลอันเปนสายสัมพันธเชือมโยงในความเปนไทย และ ความรูสึกอันดีตอกัน ถูกแลวพระเจาอยูหัวยังอยูในวันเยาว เปนแตเพียงเด็กหนุมคนหนึ่งเทานั้นเอง แตเปนเด็ก หนุมที่เปนของคนทั้งชาติ เปนลูกหลานของคนที่มีอายุสูง เปนนองของคนที่มีอายุต่ํากวานั้น และเปนพี่เปน เพื่อนของคนในวัยเดียวกับพระองค ความรูสึกอยางสนิทสนมนี้เกิดขึ้นอยางมหัศจรรย ถาจะอธิบายดวยความ คิดของพลอยซึ่งเปนคนโบราณ ก็จะตองวาเปนไปไดดวยพระบารมี ในวันนั้นคนเปนจํานวนแสน รายทางจาก ดอนเมืองถึงพระบรมมหาราชวัง เพื่อตอนรับคนที่ตนรักกลับบาน ทุกคนเต็มไปดวยความรักความมั่นใจและ ความยินดี ในจํานวนคนเปนแสนๆ นั้นจะหาใบหนาที่โศกสลด จะหาใบหนาที่เศราหมอง และจะหาใบหนาที่ขึ้ง โกรธเคียดแคนสักใบหนาเดียวก็ไมมี พลอยเหลียวดูบรรยากาศรอบๆ ตัวแลวก็ขนลุกคอหอยตีบตันไปดวย ความปติ ที่ดูเหมือนจะใหความปวดราวไดเชนเดียวกับความทุกข ชอยกระหืบกระหอบเดินฝาฝูงคนมานั่งขางๆ ตัวพลอย แลวก็ยกผาเช็ดหนาขึ้นซับเหงื่อ แลวเอาโบกที่ ตัวอยางแรงๆ เพื่อระบายความรอน พลางพูดดวยเสียงที่แหบแหงวา "แมพลอยมีน้ําเย็นๆ ขอกินสักอึกเถิด ฉันกระหายน้ําจะขาดใจ" พลอยเปดกระติกน้ําแข็งรินน้ําเย็นสงใหชอย ผูซึ่งรับไปดื่มแลวรินใสมือลูบตามหนาตามแขน แลวพูดตอ ไปวา "ตั้งแตฉันเกิดมาจนปานนี้............อายุหกสิบกวาแลว ยังไมเคยพบเคยเห็นคนมากเทาวันนี้เลย พอฉัน ออกจากวังเห็นคนมืดฟามัวฝนเต็มถนนหนทาง เต็มทุงพระเมรุ ฉันก็ขาออนแทบจะเปนลม พออั้นเขาจะพา มารถก็ไมได เพราะเขาหามรถเสียแลว ตองเดินแหวกคนมาจนถึงที่นี่ เจาประคุณเอย ไมรูวามากันจากไหนมาก มายเหลือเกิน" "นั่นสิชอย ฉันเองก็อัศจรรยใจ ไมเคยเห็นอยางนี้เลย" พลอยตอบเห็นดวย "แลวนี่แมมาอยางนี้ทั้งเจ็บไข แมไมกลัวมาเปนลมตายเสียกลางทางบางหรือแมพลอย" ชอยถามอยาง ครึ่งสงสัยครึ่งเปนหวง "ไมเปนไรหรอก ฉันมาแตเชาคนยังไมมากนัก" พลอยตอบ "แตถึงอยางไรวันนี้ฉันก็ตองมา ตองมารับ เสด็จ ตองมาใหไดเห็นจงได"

http://www.geocities.com/siamstory/ploy416_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๒)

Page 2 of 4

"ฉันก็เห็นใจ" ชอยวา "เปนฉันเองเปนตายก็ตองมาเหมือนกัน เพราะฉันรักของฉันในหลวงองคนี้ เกิดมา เปนตัวฉันก็เพิ่งรักในหลวงองคนี้เทานั้น องคกอนๆ ฉันไมเคยกลาไปรักทานหรอก ฉันกลัวทานมากกวา แตองค นี้ไมเหมือนองคกอนๆ ฉันรักเอาจับจิตจับใจทีเดียว จะเปนเพราะอะไรก็ไมรู บางทีจะเปนเพราะทานยังทรงพระ เยาว หรือจะเปนเพราะฉันเปนประชาธิปไตยไปกับเขาดวยแลวก็ไมรู" เสียงตาอั้นหัวเราะอยูขางหลังเบาๆ ในลําคอ ทําใหชอยตองหันไปคอนเชิงสัพยอกแลวพูดวา "ดูพออั้นซี ! พอฉันพูดวาเปนประชาธิปไตยกับเขามั่ง ก็หัวเราะเยาะ ยายแกอยางฉันจะเปน ประชาธิปไตยบางไมไดหรือ ฉันอยากรูนัก" หลังจากที่ไดคุยกันอยูสักครู ก็บังเกิดอาการตื่นเตนในหมูฝูงชนนั้นอยางผิดสังเกต เปนอาการบอกใหรูวา กําลังจะเสด็จพระราชดําเนินผานมาดวยรถพระที่นั่งแลว ทุกคนตางเดินหรือวิ่งไปมาสับสน ตางคนตางตั้งใจจะ หารที่ๆ ตนนึกวาจะไดชมพระบารมีพระเจาอยูหัวอยางใกลชิดอยางที่สุด บังเอิญอาคารที่พลอยไปอาศัยนั่งรอ นั้น อยูริมทางเสด็จพระราชดําเนินพอดี ถึงแมวาหนาอาคารจะมีคนมายืนมืดมิดไปหมด แตพลอยก็ลองยืน ชะเงอทดลองดู แลวก็เบาใจวาตนอาจมองขามหัวคน เห็นองคพระเจาอยูหัวไดโดยมิตองออกไปเบียดคนขาง นอก เสียงชโยดังมาแตไกลมาก แลวเสียงนั้นก็ใกลเขามาทุกที ทุกคนยิ่งสักสนอลหมานยิ่งขึ้น พลอยยึดตัวตรง นึกในใจวาเมื่อรถพระที่นั่งผาน ก็จะถึงกับตองยืนปลายเทาเพื่อใหแลเห็นไดชัด ตาทั้งคูจองมองออกไปขางหนา เพงคอยจับภาพอยูแตภาพเดียว ไมยอมเหลียวไปทางอื่น ไมยอมใหสิ่งอื่นมาแบงแยกเอาความสนใจไปจากตัว เลย เสียงชโยดังขึ้นทุกที ในที่สุดก็ดังกบกองแกวหู ปานแผนดินจะถลมทลาย รถพระที่นั่งสีงาชางแลนผานมา อยางชาๆ ธงมหาราชปลิวสะบัดพัดมาหนารถ ทันใดนั้นพลอยก็ตองยกมือทั้งสองกุมที่หนาอก เหมือนกับจะ ปองกันมิใหหัวใจเตนแรง จนหลุดลอยออกมาขางนอก เพราะพลอยไดเห็นพระองคพระเจาอยูหัวถนัดชัดเจน ประทับอยูบนรถพระที่นั่ง อันมีสมเด็จพระอนุชาประทับอยูเคียงขาง ทรงโบกพระหัตถกับพสกนิกร ทรงยิ้ม นอยๆ และในแววพระเนตรเปยมไปดวยพระมหากรุณา อยางที่คนไทยยุคนี้มิไดเคยประสบพบเห็นมาแตกอน พลอยยืนนิ่งน้ําตาไหลพราก ความปติอิ่มเอิบเหมือนกับวาเปนของแข็งเขาไปกดดันหัวใจ พระเจาอยูหัวทรงพระ เจริญเปนหนุมใหญ ดูชางรวดเร็วเสียนี่กระไร หลังจากวันที่มารับเสด็จคราวโนน พระรูปโฉมงดงามเปนสงาราศี สุดที่จะหาอันใดเปรียบเทียบได ทรงเปนทุกอยางและมีลักษณะทุกอยางครบถวน ตามที่พลอยไดเคยนึกไดเคย ฝนวาสมเด็จพระเจาแผนดินควรจะทรงเปนและทรงมี พอรถพระที่นั่งคลอยไป พลอยก็เหลียวหาชอยซึ่งนึกวายืนอยูขางตัว เพื่อจะพูดจาแสดงความในใจของ ตน แตชอยก็มิไดอยูที่นั่น และคนอื่นๆ ที่มาดวยกันก็หายไป คงเหลือแตตาอั้นยืนอยูคนเดียว เพราะความเปน หวงพลอย "อั้น นี่เขาไปไหนกันหมด" พลอยถามขึ้น "เขาวิ่งออกไปขางนอกตอนในหลวงเสด็จมาถึง อยูขางนอกนั่นทั้งหมด" ตาอั้นตอบ "แลวปาชอยเลา หายไปไหน" ตาอั้นหัวเราะชี้มือไปขางหนาแลวพูดวา "ปาชอยเปนคนวิ่งออกไปกอน เด็กๆ จึงไดตามไป อยูนั่นปะไร คุณแมเห็นไหม ไปเตนตรงนั้นนั่นแน โบกมือรองชโยกับเขาเสียอีกดวย" พลอยมองไปทางมือชี้แลวก็อดหัวเราะไมได นึกชมความแข็งแรงของชอยอยูในใจ พลางพูดวา "ปาชอยนี่แกเกงไมหาย อั้นดูซีทาแกราวกะสาวๆ ก็ไมปาน" รถพระที่นั่งผานไปไกลแลว อีกครูหนึ่งชอยก็เดินแหวกคนกลับเขามาหา ปากก็รองวา "โฮย ! เหนื่อยจะขาดใจแมพลอย แมทูนหัว ! ขอน้ําเย็นๆ กินเอาบุญอีกอึกหนึ่งเถิด" พลอยรินน้ําสงใหแลวก็เยาวา "สมน้ําหนา แกแลวยังไมเจียมสังขาร เคราะหดีเขาไมเหยียบตาย นั่นมันเรื่องอะไรจะตองออกไปเตนอยู กลางแปลง ดูแตบนนี้ก็แลเห็นถมไป" "โฮย ! อยามาทําเปนคนแกดุฉันหนอยเลย ฉันเองก็ไมรูวามันแพนออกไปไดยังไง" ชอยพูดพลางยกผา เช็ดหนาขึ้นซับเหงื่อ แลวก็รองวา "งามจริ๊ง ! เจาประคุณ งามอะไรอยางนี้ ! ถาลูกยังสาวๆ ลูกจะวิ่งตามไปดูใหถึงประตูวังเลย !" "ดูชอยซี !" พลอยพูดแลวก็ตองหัวเราะอีก "เดี๋ยวเด็กๆ มันไดยินมันจะหัวเราะเยาะเอาหรอก" "ชางมัน" ชอยตอบอยางอารมณดี "วันนี้ใครจะทําอะไรก็ไมโกรธ แตทานชางงามเหลือเกินนะพลอย ฉัน เคยอานหนังสือวาใครตอใครงามอยางไรมาก็มาก เพิ่งมาเห็นดวยตาวาเปนจริงไปไดวันนี้ พวกผูหญิงสาวๆ ที่ เขาวิ่งไปยืนกับฉันเมื่อกี้ เขากระโดดโลดเตนกันราวกะอะไรดี" "แลวก็ตัวละ" พลอยขัดคอ "ฉันเห็นเตนไปกับเขาเหมือนกัน รองชโยราวกะสาวรุนๆ" "ไฮ ! ถึงอยางนั้นเทียวรึ" ชอยรองอยางไมเชื่อ แลวก็พูดตอไปวา "นี่แหละหนาแมพลอย เหมือนกับที่คน แตกอนทานวาไวละ 'อยาวาแตรุนราวสาวแส ถึงเฒาแกก็ยังคิดพิศวง' อยางไรละ" "แตทานงามจริงๆ นะชอย" พลอยอดพูดขึ้นไมได "สงาราศีก็เทานั้น ฉันไมเคยพบเห็นเลย เจานายแต

http://www.geocities.com/siamstory/ploy416_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๒)

Page 3 of 4

กอนวางามก็จริงหรอก แตทําไมฉันไมเคยนึกวางามถึงเพียงนี้" "นั่นนะซี" ชอยพูดไปพยักหนาไป "งามจริงงามเหลือเกิน....เหลือเกิน จะพูดอะไรก็ไมถูก ฉันเคราะหดีอยู หนอยหนึ่งคราวนี้ ที่ทานจะประทับในวัง อยูที่บรมพิมาน พลอยก็รูวาในวังมันเงียบเหงาแคไหน คราวนี้ประทับ ในวังจะครึกครื้นขึ้นบางกระมัง" "ฉันวาไมชั่วแตในวังเทานั้นหรอกชอย" พลอยตอบ "เสด็จกลับคราวนี้ที่ไหนก็คงจะครึกครื้นขึ้นทั้งนั้น ทั่ว ทั้งบานทั้งเมือง แตฉันไดยินวาจะเสด็จกลับมาชั่วคราว แลวก็จะไปนอกอีก ตรงนี้แหละที่ฉันไมชอบ อยากให ทานประทับอยูตลอดไป" "ฉันก็เหมือนกัน" ชอยวา "แตก็นั่นแหละจะทําอยางไรได แตอยาเพิ่งไปคิดถึงตอนนั้นเลย ยังเสด็จอยูอีก นานหรอก ถึงจะเสด็จไปนอกอีกจริงก็ไมเห็นแปลก เสด็จกลับอีกทีเราก็มารับเสด็จทานอีก สนุกดีออกจะตายไป" พอกระบวนเสด็จพระราชดําเนินผานไปแลวสักครู ตาอั้นก็ออกไปเอารถมารับ พลอยนั่งคอยรถและคุย กับชอยเรื่อยๆ ไป จนเวลาลวงเลยไปอีกนาน ตาอั้นจึงไดเอารถมาจอดที่หนาอาคาร พลอยพาลูกหลานและ เด็กๆ รวมทั้งชอยขึ้นรถ แวะไปสงชอยที่ประตูวังกอนที่จะลงเรือขามฟากกลับบาน ระหวางที่นั่งมาในรถ ชอยก็ พูดขึ้นเบาๆ วา "พลอย เราสองคนนี่รับเสด็จในหลวงกลับจากนอกกันมากี่หนแลว" พลอยนิ่งคิดอยูครูหนึ่งแลวก็ตอบวา "สามหนแลวกระมังชอย หนแรกตอนพระพุทธเจาหลวงเสด็จกลับจากยุโรป อีกสองหนก็แผนดินนี้" "สนุกกันทุกหนจริงไหมพลอย" "สนุกเต็มที่ชอย สนุกทุกหน" พลอยตอบ ชอยนิ่งอยูครูหนึ่งแลวก็พูดขึ้นวา "พลอยเราสองคนนี่ก็ไดสนุกมาดวยกันมากแลวไมใชหรือ" "มากทีเดียวชอย บางอยางคิดดูแลวก็เหมือนกับเมื่อวานซืนนี้เอง" "นั่นนะซี" ชอยพูดอยางพอใจ "เราสองคนนี่ถาจะวาไปก็ไมเสียชาติเกิดหรอก" พอรถถึงประตูวังชอยก็ลงจากรถ ล่ําลาแลวก็กลับเขาวังอยางกระปรี้กระเปรา ฝายพลอยก็พาลูกหลาน ขามฟากกลับบานดวยความอิ่มใจ ตั้งแตนั้น คนไทยเปนอันมากก็ดูเหมือนจะพูดกันแตเรื่องในหลวง เรื่องอื่นๆ หลายเรื่องที่ตนเคยเห็นวา สําคัญ ดูจะหมดความสําคัญลงไป เพราะเรื่องหลานั้นเมื่อพูดกันไปแลว ก็มีแตความยุงยากใจมากกวาความ ตื่นเตนยินดี สวนเรื่องในหลวงเปนเรื่องที่กอใหเกิดความสบายใจ ทั้งผูพูดและผูฟง ยิ่งในระหวางหมูคนที่ชอบ ตื่นเตนของใหม ในหลวงก็นับวาเปนของใหมเอี่ยมที่สุด เพราะมิไดประทับอยูในพระนครมาเสียหลายป พลอย เปนคนหนึ่งซึ่งฟงเขาคุยเรื่องในหลวงไดไมเบื่อ เฝาติดตามขาวเกี่ยวกับพระองคทั้งทางปากคนเลาและทาง หนังสือพิมพ ในระยะเวลาหลายเดือน ที่เสด็จอยูในพระนครนั้น พลอยไดทราบถึงพระกิตติคุณอันประเสริฐมาก มายหลายอยาง พระมหากรุณาที่มีตอพสกนิการของพระองค และความจงรักภักดีที่ประชาชนทั้งไทยและเทศ ที่ เขามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารไดมีตอพระองคเปนลนพน พลอยลองนึกยอนหลัง นําเอาเหตุการณที่ไดเห็น ไป เทียบกับสมัยแผนดินกอนๆ อีกสามแผนดินที่ตนไดผานมาแลว ก็รูวาแตกอนนั้น ถึงแมวาความจงรักภักดี จะมี อยูมากกมายเพียงใรก็ตาม ความจงรักภักดีนั้นก็มิไดเคยแสดงออกมาอยางชัดแจงพรอมเพรียงกัน อยางแผน ดินนี้ และความจงรักที่ไดเห็นในระยะนี้ ก็ดูจะเปนความรูสึกใกลชิด เปนเรื่องสวนตัวของคนเปนจํานวนมาก ยิ่ง กวาที่ไดเคยเห็นมาแตกอน พลอยเองนั้นรูสึกวาสภาพโดยทั่วไป ดูจะเริ่มมีความมั่นคงยิ่งกวาแตกอน พลอยคํานึงถึงชีวิตของตน ก็ เห็นวาโรคภัยไขเจ็บอันเกี่ยวดวยโรคหัวใจที่เปนอยูนั้น มีอาการดีขึ้นบาง พอที่จะกระทํากิจการตางๆ อยาง เบาๆ ได ไมตองนอนเปนคนไขเหมือนแตกอน พลอยรูดีวาโรคของตนยังไมหายขาด และก็อาจไมวันหาย แต ความรูนั้นก็มิไดทําใหพลอยรูสึกวิตกแตอยางไร ชีวิตของลูกแตละคนก็ดูจะเปนไปตามปกติ พระอนกําลังบวชอยู อยางสงบ ตาอั้นก็อยูกินกับบุตรภรรยาเปนปกติ ประไพนั้นถึงจะไมลงรอยกับคุณเสวีนัก แตก็ดูจะเปนผูใหญขึ้น ไมหุนหันพลันแลนอยางแตกอน ถาหากวาตาออดยังอยู...พลอยนึกถึงตาออดทีไร ก็รูสึกเหมือนกับวามีใครเอา ผาดําที่ชื้นแฉะเย็นชืดเขามาหอหุมหัวใจ เพราะเรื่องตาออดเปนเรื่องที่พลอยปลงไมตก พลอยดําเนินชีวิตตอไปเปนปกติ ระหวางนั้นเวลาที่พระเจาอยูหัวจะเสด็จกลับก็ใกลเขามาทุกวัน ชอย ออกมาจากในวังครั้งใด ก็มีแตเรื่องในหลวงมาคุยใหพลอยฟง และพอเพิ่มมาหาครั้งใดก็มีแตเรื่องในหลวง พอ เพิ่มซึ่งเปนคนสนใจในกิจการบานเมือง จนพลอยเห็นวามากจนเกินไปนั้น ก็ยังอุตสาหยับยั้งความสนใจนั้นไว ระหวางที่ในหลวงเสด็จอยู และสนใจเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับในหลวงเชนเดียวกับคนอื่นๆ วันนั้นพลอยจําไดวาเปนวันอาทิตย เพราะตาอั้นอยูบานมิไดไปทํางาน เชาวันนั้นเปนวันอาทิตยที่แจมใส เชนวันธรรมดาวันหนึ่งในเดือนมิถุนายน พลอยตื่นนอนแตเชาเชนเคย ไมรูสึกวามีอะไรผิดแผกไปจากวันอื่นๆ เลย ทุกอยางดูแจมใสเปนปกติ ชีวิตโดยรอบดําเนินไปอยางเคย เรือแพยังคงขึ้นลองอยูในคลองบางหลวง อยาง ที่เคยเห็นมาแลวหลายสิบป พอตกสายราวๆ หาโมงเชา พอเพิ่มก็เดินหนาซีดขึ้นบันไดเรือนขึ้นมายังที่ๆ พลอย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy416_2.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๔ บทที่ ๑๖ (หนาที่ ๒)

Page 4 of 4

นั่งอยู มีตาอั้นนั่งเลนกับลูกชายคนเล็กอยูใกลๆ "แมพลอย ! พออั้น !" พอเพิ่มพูดดวยน้ําเสียงที่พลอยไมเคยไดยินมาแตกอน "เกิดเรื่องใหญแลว ในหลวงสวรรคต" พลอยสะดุงแทบสุดตัว พลางรองวา "คุณหลวงเอาอะไรมาพูด ไมจริง ! ฉันไมเชื่อ ! ทานยังหนุมแนนออกอยางนั้นจะสวรรคตไดอยางไร !" ตาอั้นเหลียวดูพลอยดวยสายตาที่เปนหวงและตกใจระคนกัน "ฉันแวะเขาไปกินกาแฟที่หนาวังกอนที่จะขามมานี่ ไดยินเขาพูดกันที่นั่น" พลอยรูสึกโลงใจขึ้นมาครันๆ ขาวรานกาแฟของพอเพิ่ม ! ซึ่งแนนอนวาจะตองผิด แตคนสมัยนี้ก็ชาง เหลือเกิน เอาเรื่องที่ไมจริงและสุดแสนจะอัปมงคลมาพูดเลาลือกันงายๆ เสียงพอเพิ่มพูดพึมพําวา "จริงนาแม พลอย . . . จริงๆ พออั้น" แตพลอยก็ไมสนใจ นึกไดแตอยางเดียว คราวนี้พอเพิ่มตองผิด จะถูกไดอยางไร เมื่อ พอเพิ่มเก็บเอาขาวลือที่เปนไปไมไดมาอางวาเปนจริง พอบายโมงชอยก็ออกมาจากในวัง เมื่อเห็นการแตงตัวของชอยที่แตงดําทั้งชุด พลอยก็ไดแตนั่งนิ่ง เหมือนถูกตรึงอยูกับที่ ชอยเดินรองไหน้ําตาอาบหนาขึ้นเรือนมา ในใจของพลอยก็ไดแตรองวา "ไมจริง ! ไมจริง ! ไมเชื่อ !" แต ก็ไมกลาเอยปากถาม เพราะในใจนั้นอยูรูวาจริงเสียแลว ชอยมาเลารายละเอียดบางอยาง เกี่ยวกับการเสด็จ สวรรคต ซึ่งทําใหเหตุการณทั้งหมดไมนาจะเปนไปไดยิ่งขึ้นไปอีก หลังจากนั้นทองฟาดูมืดครึ้มลง และทุกอยาง ก็มืดครึ้มไปตาม เสียงลมพัด เสียงนกรอง และเสียงน้ําไหลหนาบาน ฟงดูเหมือนคนรองไห.... ชอยกลับไปแลว บอกวาคงมีงานในวัง ตองรีบกลับ ชอยผูซึ่งเปนชาววังมิรูจบ และจะเปนตอไปไมมีที่สิ้น สุด รีบกลับเขาวังเพราะเปนหวงหนาที่ พลอยลุกเดินชาๆ เขาไปเอนหลังลงนอนที่บนเตียง รูสึกเหนื่อยและ เพลียยิ่งกวาที่ไดเคยรูสึกมาในครั้งใด พลอยลงนอนหลับตานิ่งๆ พยายามจะไลความนึกคิดทั้งหมดออกจาก สมอง "ไมนาเลย" พลอยนึกในใจ "ยังหนุมแนนสวยงามออกปานนั้น ไมนาเลย แตก็สวรรคตไปแลว ทั้งที่ทรง เปนถึงพระเจาอยูหัว มีคนรักทั้งแผนดิน ......... นับประสาอะไรกับตาออดซึ่งเปนเพียงลูกเรา จะตายไปไมได ขนาดพระเจาอยูหัวที่ทรงเปยมไปดวยพระรูปพระโฉมและสมบัติอื่นๆ อีกมิรูจักเทาไร ยังหลีกเลี่ยงไมพน บรรทมอยูถึงบนพระที่นั่ง แวดลอมไปดวยราชบริพาร ความตายยังจูเขาไปจนถึง นับประสาอะไรแตลูกเราตัว เรา...ในที่สุดก็ตองเหมือนกันทั้งนั้น ผิดกันแตเวลา" พลอยรูสึกเหมือนกับวาตัวลอยขึ้นสูเบื้องสูงในขณะนั้น ความทุกขทั้งหลายที่เกิดแกตัวมาหลายครั้งหลาย ครา ดูเหมือนจะเริ่มหลุดพนไป พลอยนึกถึงคุณเปรมซึ่งดูเหมือนจะมาอยูใกลตัวทุกครั้งที่บังเกิดความทุกข โทมนัส "คุณเปรม..." พลอยรองเรียกอยูในใจ "ฉันไมเขาใจอะไรหลายอยาง ถาคุณเปรมยังอยูฉันก็คงจะ ถามได แตก็ชางเถิดไมเปนไร....วาที่จริงฉันก็เริ่มจะเขาใจอะไรไดบางแลว แตฉันอยูมานานเต็มที คุณ เปรม......ไดเห็นอะไรที่ไมนึกวาจะเห็นและไมอยากจะเห็น.... ฉันอยูมาจนถึงสี่แผนดินแลว คุณเปรม...สี่ แผนดิน...นานหนักหนา ฉันเหนื่อยเต็มที เหนื่อยจะขาดใจ...คนสี่แผนดินนั้นแกเกินไปกระมัง หรือวา ฉันจะเหนื่อยเพราะเรื่องอื่นก็ไมรู.....สี่แผนดิน....."

เย็นวันนั้น วันอาทิตยที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ น้ําในคลองบางหลวงลงแหงเกือบ ขอดคลอง หัวใจพลอยที่ออนแอลงดวยโรคและความทุกขทั้งหลายทั้งปวงก็หลุดลอยตาม น้ําไป

จบบริบูรณ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy416_2.html

20/2/2004


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.