"นครตาลี่-ลี่เจียง" เมืองมรดกโลกแควนยูนนาน
แบกเปทองเที่ยวไปตามใจฉัน สูเมืองมรดกโลก ของยูนนาน ในสไตลย่ําไปโดย."ลุงรภ" โปรแกรมพักผอน-ทองเที่ยว ปลายปของเราซึ่งไดชวยกันประมวลรวบรวมไวของ แหลงทองเที่ยว ที่มีคุณคาสมบูรณตรงตามใจ ที่อยากไปในฐานะประเทศบานใกล - เรือนเคียง ตามรูปแบบประหยัด คุมคา อีกหนึ่งเมืองมรดกโลกทางการทองเที่ยว และ วัฒนธรรม ที่ยูเนสโกบันทึกไวในป 1997 เมืองโบราณมีประวัติศาสตรยาวนานนับพันป ชวงที่เราไปเยือนเปนตนฤดูหนาว ที่เราคงพอทนได ในเรื่องดินฟา-อากาศ ที่อยูระหวาง 17-20 องศา และ โดยเฉพาะเดินทางตรงจากเชียงใหมไปได สะดวกสบาย จัดการจองตั๋วการบินไทยที่อาทิตยหนึ่งมีเพียงสองเที่ยวบิน จากเชียงใหม-คุนหมิง ไปวันอาทิตยกับวันพฤหัสบดี (มีเฉพาะเทานี้)ก็นับวาพอดีกับโปรแกรมของเรา จุดหมายเมืองคุนหมิง ซึ่งไมอยูในเปาหมายเรา แตไดประสานงานไปยังไกดอาสาฝกงาน ที่ติดตอไปทางอีเมล "Miss Ming"นักศึกษาการทองเที่ยวภาษาไทยป 4 ของมหาวิทยาลัยชนเผา ของยูนนาน มารอรับ ณ ทาอากาศยาน ตอนหาโมงเย็น(ที่ตองตั้งเวลาใหมที่เร็วกวาเรา 1 ชั่วโมง) นั่งแท็กซี่ตอไปยังสถานีขนสง ทารถทัวรระหวางเมือง ที่อยูตรงขามกับสถานีรถไฟ เพื่อเดินทางตอไป ยังเมืองตาลี่ ไมแวะพักคุนหมิงในวันแรก โดยเราเลือกเอารถบัสชนิดรถนอน ไปใชเวลา 6 ชั่วโมง เพื่อทดเวลาพอดีใหทันรุงเชาของวันที่2 ดวยเหตุที่เราตองการไปใหทัน "ตลาดนัด ชนเผา"ที่มีเฉพาะเชาวันจันทร ชานเมือง-ตาลี่ ที่เราเก็บขอมูลบันทึกไวแลวกอนการเดินทาง "มิสหมิง"ไกดนักศึกษาสาว"ของเราจัดซื้อตั๋วรถทัวรใหเรียบรอย พรอมทั้งตั๋วเที่ยวบินลวงหนา ขากลับวันสุดทายจากเมืองลี่เจียง-คุนหมิง เพื่อกลับมาตอเที่ยวบินขากลับเชียงใหม ตามแผน
ทุกอยางเรียบรอยเราเหลือเวลากอนเดินทางไปตาลี่ ก็เรียกแทกซี่ไปเดินพักผอนฆาเวลา ที่สวนสาธารณะในเมืองคุนหมิง (ภาพซาย) นอกจากไกดสาวแลวเมืองนี้แท็กซี่สาวก็มีเปนจํานวน มากพอควร เก็บภาพมาใหดูทั้งคู เราเดินรอบสวนสาธารณะกันพอ ออกกําลังปรับอุณหภูมิตางเมือง ชวงนั้นก็ราว 18 องศาแลว นั่งหารานอาหารที่พอนั่งไดสบายๆ ใหไกดสาวเราสั่งอาหารจีนที่คนไทย พอรับไดมาสองสามอยาง เพื่อเปนอาหารเย็นเสริมพลังกอนออกเดินทาง
แอรบัสทัวร(รถนอน)ระหวางเมือง สัมผัสรสชาติการเดินทางโดยรถทัวรหรือรถนอนจากคุนหมิงไปตาลี่ ที่ใชวิ่งกลางคืนเทานั้น มีราว 18 ที่นอน(เพราะไมมีที่นั่ง) เปนรถทัวรเมืองยูนานที่สรางขึ้นโดยเฉพาะรถทัวรนอน มีที่นอนยาวสองชั้น ถามีเด็กหรือทีมมากก็จะเจอเตียงเสริม ตรงกลางเปนสามแถวที่นอน แตเที่ยวเราไปจะพอดีๆไมเจอเตียงเสริม ไอเตียงเดี่ยวขางรถก็พอไหว เราเองเจอเตียงแถวกลาง นอนคนเดียว กวางยาวก็พอกับมานั่งหินออนนั่นแหละ นอนพลิกตัวซาย-ขวาแรงๆ ก็คงตกที่นอน ก็ตองหลับๆ ตื่นๆ ชวยไมไดเราเลือกเอง แถมยังตองประสบวิบากกรรมอื่นๆ อีก รถนะมีแอรแตไมไดเปด เพราะอากาศมันเย็นอยูแลว ผูโดยสารสวนใหญจะเปนชาวจีนเมื่อขึ้นรถมาแลวตองถอดรองเทา เขามีถุงพลาสติกแขวนไวใหเอามาหอรองเทากันสงกลิ่นรบกวนชาวบาน แตพอออกเดินทางก็ตอง ปดกระจกใหอบอุนหนอยตอนนี้แหละ กลิ่นรองเทารวมๆกันทั้งรถก็เริ่มโชยมาแลวครับ......
สลับกับเสียงชาวจีนที่คุยกันดังเหมือนจะทะเลาะกันลั่นรถไปหมดก็จําตองทนๆกันไป แตอีตอน คุยกันออกรสมันเขาเริ่มมีกลิ่นบุหรี่โชยมาตลบไปหมด เพราะในตอนหนารถ ทั้งคนขับผูโดยสาร แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมแจกบุหรี่กันคนละมวนสองมวน นี่ขนาดขางรถนะมีปาย"no smoking"ติดไว แลวนะเนี่ย โอย..สะใจไมรูวาผูโดยสารที่เปนผูหญิงเคาทนกันไดยังไง สงสารแตปาของเรา หนาตาบอกบุญไมรับไปเลย..
วิบากกรรมซ้ําซอน หลับๆ ตื่นๆ กันไปราวครึ่งทางรถก็แวะพักเติมน้ํามัน ผูโดยสารก็ทยอยกันลง ไปสูดอากาศลางปอดกันหนอยและเขาหองน้ํา ไอตัวเองเดินเลี่ยงๆไปมุมเงามืดหนอยตามประสาผูชาย ไขกอกทิ้งน้ํา-เบาตรงไหนก็ได พอกลับขึ้นรถมาปาเคาก็รีบสาทกยกนิยายเกาที่เคยไดยินมา เรื่องหองน้ําที่สะอาดพัฒนาแลวแตยังคงรักษาไวเหมือนอดีตที่เก็บขอมูลมา เพื่อเก็บของเกาไวรีไซเกิ้ล วาจะไมเขียนแลวเชียว ไหนก็ไหนแลว บรรยายภาพเอาเองก็แลวกัน สําหรับหองน้ําหญิงที่นั่งยองๆ ไมมีประตูมองเห็นกันหมดยาวเปนแถวเหมือนไกกรงตับ ทั้งหนัก-เบา จินตนาการเอาเองครับ.... วัฒนธรรม ความเปนอยูที่เปนธรรมดาบานเขา-บานเรา ก็คงเปนกระจกสองดาน ที่มีทั้งที่รับได และเรารับไมได อันนี้ชวยไมได บอกกันรูไวใชวาใสบาแบกหาม
รถถึงปลายทางทารถเมืองใหมตาลี่ราวตีสามกวาๆ เขาจอดที่ลานจอดรถดับเครื่องแลว ผูโดยสาร ก็ยังคงนอนกันตอไป เราลุกขึ้นนั่งดูก็ไมมีใครจะขยับตัว มองออกไปขางนอกรถฟาก็มืดมิดยังไมสาง เปนอันวาเขาไมลงกัน เราก็เอนหลังตอรอฟาสาง มาบานแปะก็ตองทําตามใจแปะเคาหนอยนะ....
นครตาลี่เชาวันแรก สถานีรถทัวรนั้นอยูในยานเมืองใหม ฟาสางสวางแลวก็ตองย่ําออกมาถนนใหญ เพื่อสอบถามรถเมลที่จะเดินทางไปเมืองเกา ซึ่งหางออกไปราว 5-6 กิโลเมตร แท็กซี่ก็พอมี ไมนอย แตเพื่อใหสมบูรณแบบในชวงของทัวร "Back pack"ไดรสชาติการเดินทาง ก็เลยนั่ง รถเมลไปพักใหญ ไปลงเอาหนาประตูเมืองเกา ดานทิศตะวันตก ย่ําหาโรงแรมที่พักระดับดีหนอย ราคาไมสูงนักก็ตองเปนโรงแรมนอกเมือง
ที่ถือไดวาเปนสไตลตะวันตก มีเตียงคู หองน้ํามีน้ํารอนใชมีทีวีดู สะอาดสะอานดี สนนราคา คิดเปนเงินไทยก็ยังถูกกวาเมืองเชียงใหม บรรยากาศเยี่ยมขามถนนก็เขาประตูเมืองเกาและ คิวจอดรถสายตางๆ มุม สงบแบบบานผสมรวมสมัยเพิ่งสรางเสร็จใหมๆ ทิศตะวันตกมีวิวดอยดูรมเย็น ชื่นใจ พักผอนยืดเสนยืดสาย เก็บขาวของ อาบน้ําอุนใหสดชื่นหนอย ตามแผนเชานี้เราเตรียมไปย่ํา "ตลาดนัดชนเผา"ที่หมูบานซาผิง จะมีเฉพาะเชาวันจันทรของทุกสัปดาห หางตัวเมืองผานชนบท ไปอีกราว 30 กิโลเมตร อันเปนตลาดนัดของชาวไปซึ่งเปนคนพื้นเมืองกลุมใหญที่สุดในตาลี่ มีประวัติ์ชนเผาที่อยูมายาวนานตั้งแตสมัยอาณาจักรนานเจา... เดินขามถนนไปบริเวณประตูเมืองเกา ก็จะพบคิวรถเมล รถแท็กซี่ สามลอรับจางมากมาย ขางกําแพงเมือง หาอาหารเชางายๆพอหาไดรองทองไวกอน สอบถามรถเมลประจําทางที่จะไป "ซาผิง"กวาจะไดเรื่องก็เมื่อยมือ เพราะสื่อภาษากันไมไดเลย เมืองนี้แมเปนเมืองทองเที่ยว แตภาษา อังกฤษนัน ้ ออนแอเอามากๆ สํานักงาน รานมีระดับ ไปจนถึงเจาหนาที่พนักงานพูดภาษาจีนกลาง อยางเดียวเทานั้น แมตํารวจทองเที่ยวเองก็ไมเอาอาวสักคน ปายรถ ปายสถานที่ ไปจนถึงแผนที่ ทองเที่ยวเปนภาษาจีนทั้งสิ้น และสวนใหญถึง 90 %เปนนักทองเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวเมืองเขาเอง
เปนชาวตางดาวไมถึง 10 %หากไมมีขอมูลมากอน ก็ตองพึ่งไกดจีนลูกเดียว.
แตเรามันก็เซียนฝกทักษะ มีขอมูลมาพอชวยตัวเองได ไอที่แนหารูปเอาไวแลวชี้ใหดูรูป พูดซ้ําๆคําเดียววา "ซาผิงๆ"เคาก็จะตอบไดคําเดียวคือ "โอ.เคๆ"....
"ตลาดนัดชนเผาไป" ในหมูบานชนบท"ซาผิง"เหนือเมืองตาลี่ ระหวางเสนทางไปเมืองลี่เจียง นับวาเปนชนบทตอนใตของยูนานที่มีชนเผามากมายอาศัยอยูมาแตอดีต ซึ่งมีตลาดนัดในเมืองนี้ วันเดียวคือวันจันทรของทุกอาทิตย ตลาดหมูบาน "ซาผิง"ตั้งอยูบนที่ราบเชิงเขาเปนที่อยูอาศัย ชนเผาไปมาแตอดีตของราชวงศหมิง ที่มีรูปแบบประเพณี-วัฒนธรรม และ ภาษาทองถิ่นชาวไป ในอดีตมีความเปนอยูในแหลงนี้มานานหลายชั่วอายุ เคยเปนฐานยุทธศาสตรสําคัญ ของอาณาจักรนานเจา ดานเหนือตัวเมืองตาลี่ที่เปนเมืองหลวงในสมัยนั้น
ตัวหมูบานจะติดอยูกับเชิงเขาที่เปนหินสวนใหญ แตมีพื้นที่ราบที่อุดมสมบูรณเปนแหลงการเกษตร ในการเพาะปลูกพืช-ผัก ผลไมและสินคาเชิงเกษตรออกสูตลาด ตลาดนัดชนเผาแหงนี้จะแนนขนัด ดวยผูคนตั้งแตเชาไปจนถึงเที่ยงถึงบาย กอนจะเดินเขาสูลานตลาดนัด ชาวบานก็จะมีการนําเงิน ที่เปนเงินทองถิ่นสกุลเกาที่ตกคางอยู มาแลกเปนเงินหยวนเพื่อใชจาย กับรานพอคาและผูมารับ แลกเงินดานมุมหนาตลาด
ในชนบทแหงนี้เราก็ไดพบสีสัน และชีวิตผูคนชาวไปผูชายก็จะแตงตัวตามแบบ(เหมือนชาวเขาบานเรา) ผูหญิงก็เชนกันจะมีผาโพกหัว หรือผาลายปกทรงกลมบาน ไมก็สวมหมวกลานปกกวาง ใสเสื้อแขนยาว สีขาว หรือสีครามเปนพื้น ทับดวยเสื้อกั๊กไมมีแขนสีเขมหรือลายปกยาวถึงเอวหรือเลยลงไปถึงนอง มัดทับดวยผากันเปอนที่เอว นุงกางเกงขายาวสีเขม มีตะกราไมไผสานแขวนหลังมาเพื่อซื้อ-ขายของ
มีทั้งซื้อ-ทั้งขาย เหมือนการแลกเปลี่ยนสินคาในอดีตบานเรา ผลไมและพืชผักเมืองนี้ใหญโต สวยงาม แตไมตองถาม ความสงสัยในเรื่องปุย-ยา เคาใชปุยรีไซเคิ้ล อยางที่รูๆกันครับ อยาไปคิดลึกๆเดี๋ยวเสียความรูสึกหมดครับ.....
หมูบานนี้ยังมีอุตสาหกรรมทองถิ่นที่นาสนใจอีกอยางก็คือผาบาติก ๊ ยอมลายสีธรรมชาติ หรือผามัดยอม และเปนแหลงผลิตเสื้อผาที่ชาวไปถือวาเปนตลาดกลาง ปจจุบันชาวเมืองอื่นก็มาซื้อไป จําหนายในตลาด ของเมืองทองเที่ยวดวย......
เดินย่ําตลาดนัดจนทั่วกอนเดินทางกลับ ก็แวะหาอาหารแบบเสน และแปงทอดรองทอง กอนเดินทางกลับไปเที่ยวเมืองเกาตาลี่ในวันแรกนี้ครับ....
เมืองตาลี่ (นครหลวงในอดีตกาลสมัยนานเจา)
เราเลือกเที่ยวเมืองตาลี่ กอนที่จะไปลี่เจียง เพราะจะเดินทางไปตอระหวางเมืองใกลๆกวา กอนจบการทองเที่ยวยูนาน และโดยที่มีความสําคัญกวาเพราะเปนอดีตเมืองหลวง ประวัติศาสตร เรื่องถิ่นฐานของคนไทยสวนหนึ่งอพยพมาจากเมือง"ตาลี่ฟ"ู อันยาวนานนับพันป ในสมัยเมืองหลวง ของอาณาจักรนานเจา แตเพิ่งจะมาศึกษาหาเรื่องราวตอเนื่องภายหลังวาคือ"เมืองตาลี่"ของแควน ยูนนานนี่เอง เมืองตาลี่มีอากาศที่เย็นสบายตลอดป เฉลี่ยราว 15 องศา รอนสุดไมเกิน 20 องศา ภูมิประเทศ-สวยงาม สาวๆเมืองนี้จึงมีผิวขาวสวยหมวยอึ้ม..เมืองตาลี่นั้นเขาตํารา"ฮวงจุย" ของเมืองนาอยู มีเทือกเขาหิมะ"ฉานซัน"ตั้ง ตลอดแนวทิศตะวันตก ดานทิศตะวันออกเมืองเปนทะเลสาบ"เออไห"อันเปนแหลงน้ําที่อุดมสมบูรณ ดานกลางรอบๆตัวเมืองเปนที่ราบ เหมาะแดการเพาะปลูก เรียกไดวาเมือง-"แผนดินทองของยูนนาน" ตาลี่เมืองอดีตกาล ที่มียุทธภูมิดีเยี่ยม มีประตูเมืองทิศใตเปนหนาเมือง กําแพงเมืองสามดาน ทิศเหนือ และทิศตะวันตก มีปอมปราการสูงกลางเมือง ดานตะวันออกมีทะเลสาบปดกั้น เปนการยากที่ขาศึกจะเขาโจมตี... สมัยราชวงศถังไดยกกําลัง แสนยานุภาพมากมาย ดวยไพรพลเรือนแสน เขาตีเมืองนานเจา แตไมสามารถตีเมืองไดสําเร็จ เสียกําลังทัพนับเปนหมื่นๆ พรอมดวยความปราชัยอยางยับเยิน ตองถอยทัพหนีกลับไป
ปจจุบันเมืองตาลี่มีเมืองใหม หางไปจากเมืองเการาว 8 กิโลเมตรนับวาเศรษฐกิจ การคาดี ตัวเมืองกวางขวาง มีศูนยยานการคาที่ทันสมัย"เซี่ยกวาน"เปนชื่อของเมืองใหม เมืองตาลี่มีชื่อเสียงจากภูเขาหินออน ที่เปนตัวหลักจากทรัพยากรธรรมชาติ เปนหินออนที่มีชื่อเสียง ราคาดี เปนที่รูจัก "หินออนตาลี่"ชาวเมืองสวนใหญตั้งโรงงาน ผลิตหินออนเพื่อสงจําหนายเปน หิน-ปูบาน เสาแกะสลัก หินแผนนําไปทําเฟอนิเจอรตางๆ รวมทั้งชางฝมือแกะสลัก ไดเลือกมาทํา เปนของที่ระลึก รูปสัตว สิงโต พระพุทธรูปฯลฯ เพื่อจําหนายใหกบ ั นักทองเที่ยว ที่มาเยือนเมืองนี้ ดวยที่เปนเมืองพัฒนาดานการทองเที่ยว ที่จําเปนตองอนุรักษสิ่งแวดลอม และ ความสะอาด ไวอยางดี แตความเจริญที่หลั่งไหลเขามา ปจจัยความเปนอยูของผูคนก็เติบโตขึ้นดวย ดังภาพ.. ความเกาใหม ที่ไดเห็นนี้ เปนกระจกสองดานในแตละมุมมอง
จากที่ประมวลรวบรวมมาในเสนทางทองเที่ยวนี้ใครมาลี่เจียง ก็ตองมาตาลี่ หรือผานแวะตาลี่แลว ก็ไปเมืองลี่เจียง เปนสูตรไปเลย เพราะดวยเปนเมืองโบราณเหมือนกัน อยูหางกันราว 200 กิโลเมตร โดยเสนทางรถทัวรก็ตองผานตาลี่กอน ภูมิประเทศตาลี่มีทัศนียภาพที่กวางใหญ สวยงามกวาลี่เจียง แตตัวเมืองเกาของตาลี่ จะสงบเล็กกวาลี่เจียง นักทองเที่ยวก็นอยกวาเมื่อเดินไปตามถนนหนทาง ในตัวเมืองเกา มีถนนกลางเมืองสายหลักคือ "ถนนฟูซิ่ง" เปนถนนที่กวางราวแปดเมตร เอาหินมาปู เปนผิวจราจร และใหคนเดิน เพราะดวยที่เปนเมืองที่มีหินจากภูเขาเปนทรัพยากรธรรมชาติมากมาย สองขางทางเดินก็จะมีรองน้ําใสสะอาดไหลผาน เปนน้ําจากลําธารของของเทือกเขาฉานซัน ที่หลอเลี้ยงตัวเมือง ไหลไปลงทะเลสาบเออไห ดานตะวันออกของเมือง เรียกวาเปนน้ําใชสอย ไดเปนอยางดีทั่วตัวเมืองเกา ริมถนนสองขางที่เปนสภาพบานเรือนเกา ปจจุบันไดดัดแปลง เปนรานคาขาย ของใช ของที่ระลึกสําหรับตอนรับนักทองเที่ยว
มีถนนตัดเปนทางแยกดานใตของเมืองเกาอีกเสนหนึ่ง คือ"ถนนฮูกั๋ว"ตลอดเสนทางจะเปนโรงแรมที่พัก หรือเกสเฮาส รานอาหาร เปนยานฝรั่งพักอาศัย ดั่งถนนทาแพ ชางมอย หรือ ศรีภูมิของจังหวัดเชียงใหม
ในตัวเมืองเกายังมีสภาพบานโบราณที่สรางดวยหิน กําแพงกอดวยหินเกามาก แตยังทรงสภาพใหเห็นในปจจุบันนี้
มุมสี่แยกถนนตัดกันมีอาคารไมหลังเกา ที่เปนสํานักงานธุรกิจการเงินในอดีตของตาลี่"Industrial and Commercial Bank of Chiana" เปนอนุสรณอยูแมจะปกครองในระบบสังคมนิยม
เที่ยวเยือนเมืองตาลี่สองวันเต็มๆ เชาวันที่สามก็แบกเปสองคนลุงกับปาออกจากโรงแรมหนาเมือง หาอาหารเชางายๆแถวทารถเมลยานประตูเมืองตาลี่ แลวจับรถเมลไปเมือง"เซี่ยกวาน"เปนชื่อของ เมืองใหม ซื้อตั๋วไปยังเมืองลี่เจียง ซึ่งสวนใหญจะเปนของรัฐคือบริษัทยูนนานเอสเพรส เปนรถทัวร ขนาดเล็กประมาณ 20 ที่นั่ง พอๆกับรถเมลสายตางๆที่ใชวิ่งกันในเมือง รถเมลโดยสาร รถแท็กซี่ และ รถยนตทั่วไปในแควนยูนนาน เปนรถที่ประกอบในประเทศสวนใหญ แมรูปรางหนาตาจะเปน รถเบ็นซ รถโฟสวาเกนส หรือยี่หอญี่ปุนก็จะมีชื่อเปนภาจีน ประกอบในประเทศจีน
เราไดที่นั่งรถไปเมืองลี่เจียงสายๆก็ออกเดินทางไปตามถนน ที่มีสภาพไฮเวยแตทางคดเคียวไปมา บนยอดดอย ใชเวลาวิ่งจนถึงเมืองลี่เจียงก็ราว 4-5 ชั่วโมง เมื่อถึงทารถลี่เจียงเมืองใหม ก็รูไดทันที ที่เห็นเอกลักษณ ยอดดอยภูเขาหิมะ ที่ตั้งของเมืองเกาลี่เจียงบนที่ราบสูงเหนือระดับน้ําทะเล 2,400 เมตร ริมเทือกเขาอี้วหลงซัน หรือ เขามังกรหยก ที่ซึ่งยอดเขาปกคลุมดวยหิมะตลอดทั้งป โดดเดนทามกลางยอดเขาสูงต่ําสลับซับซอน ไมวาจะเปน เทือกเขาเซี่ยงซัน จินหงซันทางทิศเหนือ หรือเทือกเขาซือจึซันทางทิศตะวันตก ที่ลอมรอบเมือง เปนแนวกันลมธรรมชาติที่สงผลใหสภาพ อากาศเย็นสบายราวกับเปนฤดูใบไมผลิตลอดทั้งป ไดชื่อวาเปน ‘ดินแดนแหงดอกไม’ ลี่เจียงนับวาเปนดินแดนภูเขาหิมะที่ใกลประเทศไทยมากที่สุด ธรรมชาติที่สวยงาม
ลี่เจียงเหมือนเมืองในฝน ผสมผสานระหวางตะวันออกกับตะวันตก ทําใหลี่เจียงมีเสนห เปนเสมือ น สวิสแหงตะวันออก และดูประเพณีวัฒนธรรมอันเกาแกของโลกไดที่นี่ ลี่เจียงมีพื้นที่ 20,600 ตาราง กิโลเมตรตั้งอยูท างทิศตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลยูนนาน ถึงทารถเมืองใหมแลวก็หารถเมล เดินทางไปยังเมืองเกาลี่เจียง ตามโพยของคนแบกเปที่จดมา แลวเราก็ยืนอยูบนความสูง ที่ 2 พันกวาเมตรจากระดับน้ําทะเลของลี่เจียง เดินทอดนองผานประตูเมืองลี่เจียง เลียบถนนหลังประตู เมืองไปไมมากนักเพื่อหาที่พักใกลๆยานเมืองเกา เพราะตองเก็บกําลังไวที่จะเดินย่ํากันตอ เมืองเกาทั้งสอง เมืองนี้ตองเดินกันลูกเดียว เพราะเขาเอาหินกอนใหญๆ มาเรียงกันเปนถนนทั่วเมืองแถมเลาะเลียบเนินเขาเปยชวงๆ มีจักรยานใหเชาก็หมดสิทธิ์ เตรียมกําลังขาไวย่ําเทาอยาง เดียว เราไดโรงแรมเรือนไมแบบจีนโบราณริมทางหนาสวนสา ธารณ ที่จอดรถ และ รานคาดวยราคาที่ลดแลวเพราะเปน ชวงปลายฝนตนหนาว คืนละ 120 หยวน (ราว 600 บาท)ก็ ถือวาไมแพงนักและเปนที่พักสไตลตะวันตก ใกลที่เดินเที่ยว เมืองเกา เขาที่พักเอนหลังแลวออกมาหาอาหารกลางวัน งายๆหนาโรงแรม แลวก็เริ่มออกย่ําถนนสายแรกของเมืองเกาลี่เจียง ตอนบายๆ ในอดีตเมืองเกาลี่เจียงมีชนเผาตางๆ 23 เผาอาศัย แตมีเผาดั้งเดิมจํานวน 12 เผา ซึ่งชนเผา นาซี (Naxi) ถือเปนชนเผาพื้นเมืองที่อาศัยในลี่เจียงมากที่สุด เผานาซีมีประวัติศาสตรเกาแกที่สุด เผาหนึ่งในจีน เคยเปนอาณาจักรที่ยิ่งใหญมากอน แตมาถูกจอมทัพกุบไบขานตีจนแตกพาย
ผังการจัดวางบานเรือนกระจายตามตรอกซอยสายเล็กๆ คดเคี้ยวเรียบเลาะลําน้ําสาขาตางๆ ของแมน้ําอี้วเหอ ใจกลางลอมดวยถนนสี่เหลี่ยม เปนรูปแบบเฉพาะตัวของการปลูกสรางในเมืองลี่เจียง นอกจากชวยสรางทัศนียภาพที่งดงามแปลกตาแลว ยังสามารถตอบรับกับประโยชนใชสอยในการ ดํารงชีวิต ดวยน้ําใสที่เรียกไดวา "น้ําใสไหลเย็นเห็นตัวปลา"
ภาพกังหันน้ํา อันเปนสัญลักษณสวนหนึ่งที่หนา เมืองลี่เจียง เห็นภาพลี่เจียงที่ไหนก็ตองเห็น ภาพนี้กอ น และ ภาพลําเหมืองน้ําใสสีครามยาม เมื่อตองกับทองฟา อันมีถนนสองขางที่ปูทางเดิน ดวยหินและ มีพนังกั้นน้ํา รวมทั้งสะพานที่ก็เปน หินทั้งเมือง รูปแบบเดียวกันกับเมืองตาลี่ที่ยา่ํ ผาน มาแลว แตนี่คือเมืองลี่เจียงหรือ "ตาหยัน"ในอดีตที่ยิ่งใหญ กวางขวางกวา รวมทั้ง ความวิจิตรสวยงาม ในดานทิวทัศนรวมถึงความเกา ความขลังของวัฒนธรรม และ ศิลปกรรม ที่เหนือชั้นกวาหลายเทาตัวนักความ โดดเดนของลี่เจียงก็คือมีมรดกโลก อยูรวมกันถึง 3 อยาง อันดับแรกคือ เมืองโบราณอยูในเขตเมืองลี่ เจียง นักทองเที่ยวสามารถแวะชมชุมชนถิ่น ที่อยูเกาแกของชนเผานาซีสถาปตยกรรมจีน โบราณดูสวยงามกลมกลืน จุดเดนสําคัญ ก็คือหนาบานทุกหลังจะมีสายน้ําไหลเวียน ผานตลอดเวลาไมมีหยุดนับแตกอตั้งกวาพันป น้ําของเผานาซีถือเปนเทพเจาที่คนในหมูบาน เคารพ จึงทําใหน้ําที่ไหลผานใสสะอาดอยาง นาทึ่ง ไมมีใครทิ้งขยะปฏิกูลลงไป ทุกคนใชน้ํา ในการประกอบกิจซักลางทุกอยาง อันดับสอง ที่ยูเนสโกบันทึกเปนมรดกโลก ก็คือ มีแมน้ํา 3 สาย ซึ่งไหล ขนานกัน ไดแก แมน้ําจินซาเจียงไหลไปเซี่ยงไฮ แมน้ําโขงไหลไปเขมร และแมน้ําหลูเจียงไหลไปพมา ความแปลกประหลาดที่ตองถูกบันทึกก็คอ ื แมน้ําทั้งสามสายไมสามารถที่จะมาบรรจบกันไดเลย มีบริเวณ ใกลที่สุดระยะ 60 กิโลเมตร ตรงกลางของแมน้ํามีภูเขาเหลาจินกั้นกลาง
อันดับสาม ก็คือ มีหมูบานแหงหนึ่งอยูขางทะเลสาบหลูกู ซึ่งมีความแปลกประหลาดตรงที่เปนเปน หมูบานหญิงลวน ไมมีผูชายแมแตคนเดียว เด็กๆ จึงไมมีพอ ไมมีปู มีแตแมกับยายเทานั้น สิ่งปลูกสรางที่เปนศิลปะเฉพาะของชนชาตินาซี ที่มีพื้นฐานมาจากรูปแบบโครงสรางที่ไมใชคานและ เสา พัฒนาและผสมผสานกันอยางกลมกลืนกับศิลปะทองถิ่นของชนชาติฮั่น ทิเบตและไป เมื่อมองดู บานเรือนของชาวลี่เจียง พวกเขาคอนขางมีฝมือกับการประดับตกแตง โดยเฉพาะบริเวณสําคัญๆ เชน ซุม ประตู ผนังกั้น ระเบียง ฉากกั้นประตูหนาตาง ลานบาน หรือคาน เปนตน โดยเนนการแกะสลักบนงานไมและ หิน เปนภาพสัตวปก ดอกไม ภาพเขียนอักษรจีน และภาพวาดทิวทัศนตางๆ รวมถึงงานกระเบื้องที่งดงาม
ชาวนาซีหนุมสาวที่ยังแตงตัวตามแบบชนเผา ทั้งผูขายของในเสนทางถนนหมูบาน ถนนเรียงหินนี้จะมีทุกเสนทางในเมืองเกา ที่ลัดไปตามหมูบานแตจะเชื่อมกันไดดวยสะพาน หินเปนระยะและมีลานกวางเอนกประสงคกลาง หมูบาน ที่มีไวประกอบพพิธี ปจจุบันเปนลานที่ เตนรําของหญิงชาวนาซี เพื่อตอนรับนักทองเที่ยว ที่มาเยือนเมืองนี้ หมูบานเมืองลี่เจียงเกา เปนเมืองที่ไมมีกําแพงเมือง เพราะนาจะเปนทําเลของหมูบาน ที่อยูบนริมเนินเขา สิงโตเปนยุทธภูมิที่ยากตอการเขาตีเมือง
เมืองลี่เจียงเดิมเปนเสนทางคาใหมและใบชา อดีตของเจาเมืองเมืองนี้เปนตระกูล "มูฟู"เปนเจาเมืองตั้งแตสมัยหงวน สืบตอมาอีกหลายชั่วคนในตระกูลเดียวกัน เปนเวลาตอเนื่องถึง 170 ป.
เชาวันรุงขึ้นวันที่สองของลี่เจียง เราตองปรับโปรแกรมหาเชารถทองเที่ยว ชานเมืองและหมูบาน แทนการเดินเทาอยางเดียวติดตอกันมาหลายวันแลว ลานจอดรถเชาก็อยูถนนฝงตรงขามที่พัก ชวยหาลามแปลเจรจากันเปนที่เขาใจไปที่ไ หนบางประมาณวาเกือบทั้งวันก็ราว 200 กวาหยวน (พันกวาบาท)พอๆกับเชารถใชในเมืองเชียงใหม
จุดแรกก็มุงตรงไปยังเชิงภูเขาหิมะมังกรหยก แตไมขึ้นไปยอดเขาเพราะรูสภาพตัวเอง ทั้งหนาวและขึ้นไปถึงระดับความสูงสี่พันกวาเมตร คงตองประสบปญหาระบบหายใจอยางแนนอน เอากันแถวหมูบานเชิงเขาที่นาสนใจและเปนจุดทองเที่ยวหลายแหง ไปถึงจุดแรกที่หมูบาน "ไปซา" หางจากดานเหนือตัวเมืองเกาลี่เจียงไปราวสิบกวากิโลเมตรหมูบานไปซาในอดีตเคย เปนศูนยกลางการปกครอง และ ชุมชนที่ใหญมากทางวัฒนธรรมของชาวนาซีมาตั้งแตสมัยหมิง กอนที่จะยายไปอยูเมืองเกาตาหยัน(ลี่เจียง) ผานเขาประตูเมืองเกาไปซาเขาไปก็จะเห็นวังโบราณ
(ซาย)วังมหาสมบัติ หรืออาคาร"ตาเปาจีกง"ที่มี ภาพ จิตรกรรมฝาผนัง พุทธมหายานที่สวยงามมี คุณคาสูงสงฯ
มีทั้งวังดานหนาและดานใน ดานขาง มีระเบียงทองพระโรงที่จัดแสดงภาพ จิตรกรรมฝาผนังไว เกี่ยวกับความเชื่อและ ศาสนาภาพผนังเหลานี้ ผสมผสานความเชื่อ ทั้งในลัทธิเตา พุทธมหายาน และ พุทธทิเบต รวมทั้งอดีตภาพชีวิต ความเปนอยู ของเจาผูครองนคร ในมุมตางๆรวมราว หาสิบภาพ โดยเฉพาะที่อาคาร"ตาเปาจี้กง" อาคารวังมหาสมบัติ มีภาพ ขนานใหญ หนาแทนบูชาเดนที่สุด มีผูแอบเห็นมาวามี อรหัน องคหนึ่งแอบสวยอยูขางพระศรีศากยมุนี สวยพอสูกับพระพุทธรูปปางลีลา ที่แอบอยูขางๆองคพระประธานในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ แหงเมืองศรีสัชนาลัย
อีกดานหนึ่งที่เปนอาคารเกาเปนหอธรรมเกงจีน ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิไดเดนชัด และ สวยงามเหลืองอรามดั่งทอง ดานหนามีระเบียงมีหลังคาทั้งสองดาน ไดตั้งรูปหลอทองสัมฤทธิ ของเซียน อันเปนเทพฯตางๆของชาวจีนไวใน ลักษณะตางๆทั้งสองขางระเบียง กอนที่เราจะเดินทางตอไปยังวัดลามะ ของพุทธทิเบต ยานเชิงเขาหิมะมังกรหยก
เซียนทองหลอสัมฤทธิทั้งสองระเบียง หนาหอธรรม
ออกจากหมูบานไปซา เดินทางเลียบเชิงดอยไปทางทิศเหนือ อีกไมกก ี่ ิโลเมตรก็ถึงวัดทิเบต คือ"วัดยวี่ฟง"แมจะไมเปนวัดใหญโตมีชื่อเสียง แตเมื่อมาถึงยูนนานแลวก็ตองชมไวประดับความรู ไมตองไปไกลถึงทิเบต รูปแบบของวัดอันมีภาพประตู ภาพผนัง ระฆังใบกลมที่ติดเรียงรายไวเพื่อการเดิน ทําสมาธิและสวดมนต รวมทั้งธงราวสีตางๆ ที่โยงไวรอบวัดเปนการอุทิศถึงผลบุญการทําทานฯลฯ
สถานที่ทองเที่ยวหลายแหงจากเมืองเกา และจุดตางๆมักจะพบหญิงชาวนาซี ออกมาจับกลุมเตนรําพื้นเมือง ตอนรับแขกที่มาเยือนรวมทั้งวัดแหงนี้ก็ยืนดักกันหนาวัด แถมชวนเชิญใหนักทองเที่ยวเขาแถวรวมเตนดวย เพื่อควักเงินหยวนทําบุญเปนสาธารณะกุศล ถัดไปอีกมุมหนึ่งเปนเวทีการแสดงดนตรีพื้นเมืองนาซีแบบ โบราณ ที่มีนักดนตรีสูงอายุใหเขาบรรยากาศ ก็จะเหมือนดนตรีพื้นเมืองสลอ ซอ ซึงของชาวลานนา...
ขับรถวนเวียนไปรอบๆเมือง แวะชมทิวทัศนจากจุดพักผอนชมวิว ในสวนสาธารณะ สระน้ํามังกรดํา ชานเมืองลี่เจียง เปนอีกมุมหนึ่งที่ภาพจากนักทองเที่ยวที่ออกมา เหมือนจะพิมพออกมาจาก ภาพเดียวกัน จากมุมสะพานที่ทอดขามสระน้ําไปยังอาคารเกงจีนฝงตะวันตก และ เห็นภาพของ ดอยหิมะมังกรหยกอยูเบื้องหลัง..."มุมนี้ก็เลยบันทึกเงาใหปาเคาไว ในความทรงจํา ณ ศาลาพักผอน ริมสระน้ํา ที่ไดขามมาเที่ยวดินแดนในฝนลี่เจียงของยูนนาน"
ในบริเวณสวนสาธารณะ มีศาลาเกงจีนสรางไวเพื่อจัดงานนิทัศนการ ดานประตูกลางของสวน รวมทั้งศาลาพักผอน ศูนยแสดงศิลปวัฒนธรรมและดนตรี ในเนื้อที่กวางขวางรมรื่นดวยพันธุไมนานาชนิด นับรอยๆไร เดินเที่ยวพักผอนกันไดเปนหลายชั่วโมง สระน้ําใสสะอาดที่เปนอางเก็บน้ําใชไดตลอดป
วันสุดทายเราก็ตองอําลาจากเมืองลี่เจียง โดยจับรถไปยังเมืองใหมลี่เจียง อันเปนศูนยยานการคา เดินดูของขวัญของที่ระลึกดวยเวลาอันควร จับรถตอไปยังทาอากาศยานลี่เจียงที่หางจากตัวเมือง ไปราว 30 กวากิโลเมตร ขึ้นเที่ยวในประเทศของยูยนาน เพื่อไปยังเมืองคุงหมิงตอเที่ยวบิน เดินทางกลับบานเมืองไทยตามรูปแบบไปไหนไมไดนาน 7 วันก็คิดถึงบานแลวครับ.