@ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @
@ @O ดุลยภาพอิสลามเบาหลอมสังคมสันติ
, " #
, # ", * +" " $ &% '( )
< - . & / 0 1 2 , 3 4 0 5 2 6 '7 5 2 8 9: 5 2 ; 15 2 8 '( 2 &% '( ) H = > 6 -. , ?% > . = 8 ' @ -. , ; A B C ; 9 2 '7 E , F G D % K 8 'L
% 3 M ?D * % 7 % , 0 8 ' "'(% I % '7 E , J 6 < K K Q R9 S TU ; L ; 2 P V D = , '1 .% ,W 1 N D * O P '(% I
( U ^ 1. % 1 5 X ?% Y Z%
[0 \ 5 ] 0\ % W 9 2 * ,
, 0 9 % 3 -% 0 _ K \ `% L
0 ( . 5 2 K 0\ % 0 ;. O - 6 a @ b 6
@ @‡à¨a@ ë@ ×a@ a@ ×a@ a@ ×a@ a เราท่านทั้งหลายกําลังอยู่ในบรรยากาศแห่งวันที่ยิ่งใหญ่ เนื่องในวันหัจญ์ที่ ยิ่งใหญ่ เป็นวันที่ประเสริฐสุดและยิ่งใหญ่สุดตามคําบอกเล่าจากรอซูลุลลอฮฺ F เป็นวันเชือดและอิดลิ อัฎฮา เป็นวันสุดท้ายของสิบวันที่เป็นที่รับทราบ และ คล้อยตามอีก 3 วัน ซึ่งเป็นวันแห่งการกินดื่ม และน้อมรําลึกถึงอัลลอฮฺ 2
ท่านนบี F ได้กล่าวว่า
5 6% , Q < ? H 2 ' `6 ^ 4 %; 0 6 , = 0 6 ? 6% -% H , c
ความว่า: วันอะเราะฟะฮฺ วันเชือดกุรบาน และวันตัชรีก (11,12,13 ซุลหิจญะฮฺ) คือวันอีดสําหรับมุสลิมนี และเป็นวันกินและดื่ม ในวันนี้และวันตัชรีก ชาวมุสลิมทั่วโลกได้ร่วมทําความดีที่ครอบคลุมทั้งซิก รุลลอฮฺ ละหมาด ตักบีร ตะฮฺลีล ตัสบีหฺ และตะหฺมีด การเชือดสัตว์กุรบาน เพื่อประกาศความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮฺ และไม่มีผู้ใดบนโลกนี้ที่สามารถเชิญ ชวนผู้คนทั้งโลกให้กล่าวสรรเสริญและทําตามคําสั่งอย่างพร้อมเพรียงกันเว้น แต่ดว้ ยพลังอันยิ่งใหญ่ของอัลลอฮุอักบัรเท่านัน้ @ @ @ @‡à¨a@ ë@ ×a@ a@ ×a@ a@ ×a@ a อัลกุรอานกล่าวว่า lba`_~}|{zyxwvm
ความว่า: แท้จริงเราได้ประทานอัลเกาษัรแก่เจ้าแล้ว ดังนั้นเจ้าจงละหมาดเพื่อ พระผู้อภิบาลของเจ้าและจงเชือดสัตว์พลี แท้จริงศัตรูของเจ้าเป็นผู้ถูกตัดขาด (อัลเกาษัร 1-3) พี่น้องชาวอิดลิ อัฎฮาที่เคารพทั้งหลาย อิสลามคือศาสนาแห่งดุลยภาพ ยุติธรรมและสุดประเสริฐเพราะเป็นศาสนาที่ เป็นบทบัญญัติที่มาจากพระเจ้าผู้ทรงยุติธรรมและสูงส่ง เป็นศาสนาที่ไม่มี ความลําเอียงให้แก่ชนชาติใดเป็นการเฉพาะ ไม่ใช่บทบัญญัติที่กําหนดขึ้นเพื่อ มอบสิทธิ์พิเศษหรือตัดโอกาสแก่ชุมชนใดเป็นการเฉพาะ ไม่ใช่เป็นบทบัญญัติ 3
เพื่อลบล้างและปราบปรามความอธรรมของชนชั้นปกครองเดิม แล้วสถาปนา ความอธรรมของชนชั้นปกครองรุ่นใหม่ แต่อิสลามคือ ดุลยภาพและความ ยุติธรรมซึ่งเป็นตัวบทที่มาจากอัลลอฮฺ ผู้ทรงบริหารสากลจักรวาล ดังที่ อัลกุรอานได้กล่าวว่า ledcba`_^]\[Zm
ความว่า: และเช่นที่เราได้ชี้นําพวกเจ้าสู่เส้นทางที่เที่ยงตรง เราก็ได้ให้พวกเจ้า เป็นประชาชาติแห่งดุลยภาพ เพื่อพวกเจ้าจะได้เป็นสักขีพยานแก่มนุษย์ทั้งหลาย และเราะซูล ก็จะเป็นสักขีพยานแก่พวกเจ้า (อัลบะเกาะเราะฮฺ 143) ประชาชาติอิสลามคือประชาชาติแห่งดุลยภาพมีความยุติธรรมและสูงส่ง เป็น คํ าสอนที่ อยู่ กึ่ งกลางระหว่ างความสุ ดโต่ งและหย่ อนยาน ความรุ นแรงที่ ก้าวร้าวและความอ่อนโยนที่อ่อนแอ ความยุ่งยากลําบากที่เกิดขึ้นยากในโลก แห่งความเป็นจริงและความง่ายดายจนกลายเป็นของเล่น ดุลยภาพแห่งอิสลามนี้สามารถพิสูจน์เป็นที่ประจักษ์ในทุกแง่มุมของอิสลาม ดังนี้ 1. ดุลยภาพด้านหลักอะกีดะฮฺ อิสลามเชื่อในอัลลอฮฺผู้ทรงเอกะ ไม่มีผู้ใดที่เป็นภาคีร่วมกับพระองค์ อัลลอฮฺ ผู้ทรงสร้างและมีอํานาจในการสั่งการ ความเชื่อในพระเจ้าหลายองค์ทําให้ มนุษย์ขาดความมั่นใจ สับสนและค้นหาคําตอบของชีวิตไม่ได้ ในขณะที่คําสอน ที่ไม่เชื่อในพระเจ้า ทําให้มนุษย์เคว้งคว้าง เดียวดายและหมดหวังในชีวติ ความเชื่อในพระเจ้าในอิสลาม ไม่ได้วางบนพื้นฐานหลักตรรกะทางปรัชญาที่ ตั ดสิ นด้ วยปั ญญาอย่ างเดี ยว และไม่ ใช่ เป็ นสิ่ งเร้ นลั บที่ ต้ องค้ นหาในทุ ก รายละเอียดของประเด็นศึกษาของบรรดานักวิชาการ ความเชื่อในพระเจ้าองค์ 4
เดียวในอิสลาม จึงเป็นเรื่องพื้นฐานทางสามัญสํานึกของมนุษย์ที่ไม่มีความ สลับซับซ้อนใดๆ ไม่มีความยุ่งยากลําบาก นอกจากยอมรับ เชื่อศรัทธาและ ปฏิญญาตนว่า ไม่มพี ระเจ้าอืน่ ใดที่สมควรแก่การเคารพสักการะยกเว้นอัลลอฮฺ เท่านัน้ และนบีมุฮัมมัดคือศาสนทูตและบ่าวของพระองค์ อิสลามสอนให้มนุษย์ทุกคนยอมรับในศาสนทูตของพระองค์อันมากมาย มุสลิม ทุกคนต้องให้ ความเคารพต่อนบีอีซา มูซา และท่านอื่นๆแต่เชื่อว่ายุคของท่าน เหล่านี้ได้ผา่ นพ้นไปแล้ว และพวกเขาได้ปฏิบัติภารกิจอย่างสําเร็จลุล่วงในยุคของตนแล้ว เมื่อวันเวลา ผ่านไปคําสอนและแนวปฏิบัติบางประการอาจไม่สอดคล้องกับวิถีมนุษย์ในยุค ปัจจุบัน ดังนั้นอัลลอฮฺ จึงทรงประทานนบีมุฮัมมัด @F ซึ่งเป็นนบีสุดท้าย ด้วยคําสอนที่ครอบคลุม เหมาะสมและสอดคล้องกับยุคปัจจุบันจนกระทั่งวัน กิยามะฮฺ. 2. ดุลยภาพด้านอิบาดะฮฺ อิสลามมองมนุษย์ด้วยมุมมองที่สมบูรณ์และบูรณาการของส่วนประกอบของ ธาตุดิน ร่างกาย วิญญาณ จิตใต และความรู้สึก ดังนั้นอิสลามจึงบัญญัติให้ มุสลิมปฎิบัติอิบาดะฮฺที่สอดคล้องกับความต้องการขององค์ประกอบเหล่านี้ อย่างมีดุลยภาพ ไม่เน้นหนักด้านใดด้านหนึ่งและละเลยอีกหลายๆด้าน อิสลาม จึงไม่มคี ําสอนที่สง่ เสริมให้มกี ารทรมานร่างกายด้วยวิธีการต่างๆเพื่อเข้าใกล้ชิด อัลลอฮฺ อิสลามกําชับให้ทุกคนละหมาด แต่เมื่อเสร็จสิ้นการละหมาดแล้วก็ สั่งใช้ให้กระจายไปยังผืนแผ่นดินและแสวงหาความโปรดปรานของอัลลอฮฺ คบค้าสมาคมกับเพื่อนมนุษย์ ทํามาหากินอย่างสุจริต แสวงหาปัจจัยยังชีพตาม กําลังความสามารถ และรําลึกถึงอัลลอฮฺ ให้มาก อิสลามจึงไม่มรี ะบบ 5
นักพรตที่ปักหลักอยู่ในอาศรมหรือสถานอิบาดะฮฺอย่างถาวรเป็นกิจจะลักษณะ อิสลามจึงมีหลักปฏิบัติภาคบังคับขั้นต่ําที่จะรักษาความเป็นมุสลิม ทั้งที่เป็น รายวัน เช่นการละหมาด 5 เวลา รายสัปดาห์เช่นการละหมาดวันศุกร์สําหรับ ผู้ชายที่อยู่ในเงื่อนไข รายปีเช่นการถือศีลอดในเดือนรอมฎอนและการจ่าย ซะกาต และครั้ งเดี ย วในชี วิ ต เช่ นการประกอบพิ ธี หั จญ์ สํ าหรั บ คนที่ มี ความสามารถ และนอกจากภาคบังคับขั้ นพื้ นฐานเหล่ านี้ ก็ ยังมี ภาคเสริ ม เพื่อให้มุสลิมมีความผูกพันกับอัลลอฮฺ อยูต่ ลอดเวลา และหลังจากที่มุสลิม ปฏิบัติตามภาคบังคับขั้นพื้นฐานแล้ว เขาถูกกําชับให้กระจัดกระจายบนหน้า แผ่นดินเพื่อแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ และประกอบสัมมาอาชีพ อย่างขยันขันแข็งและสํานึกในหน้าที่ อัลลอฮฺ กล่าวว่า d c b a ` _ ^ ] \ [ Z Y X m
lgfe
ความว่า: เมื่อละหมาดญุมอัตได้สิ้นสุดลงแล้วพวกเจ้าก็จงแยกย้ายและ กระจายไปบนหน้าแผ่นดิน และจงแสวงหาความโปรดปรานของอัลลอฮ์ และจง รําลึกถึงอัลลอฮ์ให้มาก เพื่อพวกเจ้าจะได้รับชัยชนะ (อัลญุมุอะฮฺ 10) แม้กระทั่งในดุอาที่นบี F สอนให้เราอ่านอยูต่ ลอดเวลา ว่า 1. 7 = e 5 % F 2G f g * ,F . (T 0H Fa % e ;6G f g * 7
,d % Q h ? D i f +" G 6 j + )
? 1 Y
? 1 Y
,# ,FG 1 . 7 = e5 % k hO f g * < 0 U
B l ? D - . f " L
6
ความว่า: โอ้อัลลอฮฺ ขอจงปรับปรุงศาสนาของฉัน ที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวในกิจการ ของฉัน ขอจงปรับปรุงดุนยาของฉัน ที่เป็นที่อยู่อาศัยของฉัน ขอจงปรับปรุง แก้ไขอาคิเราะฮฺของฉัน ที่เป็นปลายทางสุดท้ายของฉัน ขอให้ชีวิตของฉันเป็น การเพิ่มพูนความดีงามให้แก่ฉัน และขอให้ความตาย เป็นการพักผ่อนจาก ความเลวร้ายทัง้ ปวง (บันทึกโดยมุสลิม) ดุอาในอัลกุรอานที่มุสลิมท่องจํากันทุกคนคือ l¹¸¶µ´³²±°¯®¬m
ความว่า: โอ้พระผู้อภิบาลของฉัน ได้โปรดประทานความดีงามบนโลกดุนยา และความดีงามในวันอาคิเราะฮฺและปกป้องเราจากการทรมานของไฟนรกด้วย เถิด (อัลบะเกาะเราะฮฺ 201) 3. ดุลยภาพด้านจริยธรรม อิสลามไม่มองมนุษย์เป็นเทวดาที่จุติลงมาจากสวรรค์ ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ มองมนุษย์เป็นซาตานที่ผุดจากนรก หรือสัตว์ที่มีแต่อารมณ์ มนุษย์ในทัศนะ อิสลามคือสิ่งมีชีวิตที่มีเกียรติยิ่ง บรรพบุรุษคนแรกของมนุษย์คืออาดัมและ นางฮาวามาจากสวรรค์ แต่ด้วยความผิดพลาดและความหลงลืมทําให้ทั้งสอง ถูกส่งมายังโลกนี้เพื่อปฏิบัติภารกิจตามเจตนารมณ์ของอัลลอฮฺ ผู้ทรง บริหารสากลจักรวาล ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องหาทุกวิถีทางที่ จะต้ องเข้ าสวนสวรรค์ อี กครั้ งหนึ่ งตามบรรพบุ รุ ษคนแรก มนุ ษย์ จึ งต้ อง ประพฤติปฏิบัติเยี่ยงชาวสวรรค์บนโลกนี้ก่อนที่เขาจะได้รับอนุญาตเข้าสวรรค์ ในวันอาคิเราะฮฺ ด้วยเหตุนอี้ สิ ลามจึงบัญญัติหัจญ์ ซึ่งเป็นแหล่งรวมของมนุษยชาติที่ใหญ่ที่สุด ผู้ประกอบพิธีหัจญ์ทุกคนจะต้องปฏิบัติตามคําสอนอย่างเคร่งครัด ห้ามสร้าง 7
ความเดือดร้อน ห้ามทะเลาะวิวาทในทุกรูปแบบ แต่ละคนต้องยึดมั่นกับคําสอน สันติภาพที่เป็นแก่นแท้ของคําสอนอิสลาม โปรยรอยยิ้ม ให้สลาม บริจาคทาน ให้อาหาร ช่วยเหลือเกือ้ กูล สร้างความรูจ้ ัก ทักทาย และถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ ผูค้ นที่มาจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยวิญญาณแห่งความเป็นพี่น้องกัน เพื่อจะได้รับ ผลตอบแทนหัจญ์มับรูรที่ไม่มกี ารตอบแทนใดๆที่คคู่ วรยกเว้นสวรรค์เท่านัน้ K% 3 on Z Y p %; m
U qb )
ความว่า: ไม่มผี ลตอบแทนใดๆที่คคู่ วรสําหรับหัจญ์มับรูรยกเว้นสวรรค์เท่านั้น ผู้ ประกอบพิ ธี หั จญ์ จะต้ องซึ มซั บปรั ชญาข้ อนี้ และจะต้ องนํ ามาปฏิ บั ติ ใน ชีวิตประจําวันเมื่อกลับมายังภูมิลําเนา หาไม่แล้วหัจญ์คือทัศนสัญจรราคา แพงที่ไม่มผี ลใดๆเลยในภาคปฏิบัติ บนหลักการดุลยภาพด้านจริยธรรมนี้ อิสลามจึงกําชับให้มกี ารสานสัมพันธ์ที่ดี กับมนุษย์ทุกคน ไม่วา่ เป็นมนุษย์ร่วมศาสนาหรือมนุษย์ร่วมอาศัยบนโลกนี้ แต่ ในขณะเดี ยวกั นอิ สลามก็ สอนให้ มุ สลิ มรู้ จั กปกป้ องศาสนา ชี วิ ตตนเอง สติปัญญา ศักดิ์ศรี และวงศ์ตระกูล พร้อมถือว่าการปกป้องทั้ง 5 ประการนี้ คือเจตนารมณ์พนื้ ฐานทางศาสนาที่มุสลิมทุกคนต้องปกปักษ์รักษา และหากมี การล่วงละเมิดใน 5 ประการนี้ อิสลามอนุญาตให้มีการปกป้องอย่างถึงที่สุด และทุ กองคาพยพของสั งคมต้ องทุ่ มเทจนสุดความสามารถในการปกป้ อง เจตนารมณ์ทงั้ 5 ประการนี้ และอิสลามถือว่าการปกป้องสิ่งนี้เป็นการญิฮาดที่ ยิ่งใหญ่ อิสลามไม่อนุญาตให้มีการผ่อนปรนในสิ่งนี้ อิสลามไม่เคยมีคําสอนให้ มุสลิมยื่นแก้มซ้ายให้โดนตบเป็นคํารบสอง หลังจากที่แก้มขวาถูกตบเป็นครั้ง แรก อิสลามไม่เคยสอนว่าจงมอบกระดุมเสื้อคลุมให้จอมขโมยทุกครั้งที่เสื้อ คลุมของท่านถูกขโมย เพราะการให้อภัยที่ไม่อยู่ในลักษณะวิสัยของมนุษย์เช่นนี้ 8
นอกจากเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในสังคมมนุษย์แล้ว ยังเป็นการให้โอกาสแก่เหล่า ทรชนที่ จะสร้ างความวุ่ นวายเสี ยหายบนหน้ าแผ่ นดิ นอย่ างไม่ รู้ จั กจบสิ้ น อิสลามเชื่ อว่า สําหรับมนุ ษย์บางประเภท การให้ อภัย การสานเสวนาและ สันติ ภาพไม่เคยอยู่ในสารบบของพวกเขา ดั งนั้นจึงอนุญาตให้ตอบโต้ ตาม ครรลองคลองธรรม ดังที่อัลกุรอานกล่าวว่า m l k j i h gf e d c b a ` _ ~ m
lon
ความว่า: ดังนั้นผู้ใดละเมิดต่อพวกเจ้า ก็จงละเมิดต่อเขาเยี่ยงที่เขาละเมิดต่อ พวก เจ้า และพึงยําเกรงอัลลอฮฺเถิด และจงรู้ไว้ด้วยว่า แท้จริงอัลลอฮฺนั้น ทรง อยูก่ ับบรรดาผูย้ ําเกรงทัง้ หลาย (อัลบะเกาะเราะฮฺ 194) ดังนั้นวิธีการเดียว ที่จะทําให้สังคมอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข คือจะต้องไม่มีการ ล่วงละเมิด การสร้างศัตรูและต้องปราศจากความอยุติธรรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือ คําเรียกร้องของอิสลามมาโดยตลอด 4. ดุลยภาพด้านการเมืองการปกครอง อิสลามมอบภารกิจแก่มนุษย์ให้จรรโลงโลกนี้ในฐานะผู้แทนของอัลลอฮฺ ที่ สรรค์สร้างสิ่งดีงามให้กับสังคม มนุษย์จะต้องใช้ความสามารถในการพัฒนา และปรั บปรุ งโลกนี้ให้ สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของอั ลลอฮฺ มนุษย์คื อ นักพัฒนา ไม่ใช่นักทําลาย มนุษย์คอื ผู้นําความเจริญไม่ใช่ผู้ฉุดกระชากสู่ความ ถดถอย อัลลอฮฺ ได้กล่าวว่า v u t s r q p o n m l k m
l|{zyxw
9
ความว่า: แท้จริงอัลลอฮ์ทรงใช้ให้รักษาความยุตธิ รรมและทําดีและการบริจาค แก่ญาติใกล้ชิดและให้ละเว้นจากการทําลามกและการชั่วช้า และการอธรรม พระองค์ทรงตักเตือนพวกเจ้าเพื่อพวกเจ้าจักได้รําลึก (อันนะหฺลุ 90) ดังนั้นมนุษย์ทุกคนต้องให้ความสําคัญกับความยุติธรรม การทําความดี และ เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างญาติสนิทมิตรสหาย ไม่ใช่เป็นตัวแทนของความชั่วร้าย ทําอบายมุขและล่วงละเมิด เพราะตราบใดที่มีการล่วงละเมิด ก็จะต้องมีการ ประท้วงต่อต้านเป็นเงาตามตัว สังคมจึงไม่สามารถสัมผัสกับสันติสุขที่แท้จริง อิสลามเชื่อว่าการปราบปรามความรุนแรงด้วยวิธีการรุนแรง คือบ่อเกิดของ ความรุนแรงใหม่ และการปราบปรามก่อการร้ายด้วยวิธีการก่อการร้าย ก็เป็น การฟูมฟักการก่อการร้ายอย่างต่อเนื่องนั่นเอง นอกจากมนุษย์เป็นผูแ้ ทนของอัลลอฮฺ แล้ว อิสลามยังสอนว่ามนุษย์คือบ่าว ผู้ภักดีต่ออัลลอฮฺ ด้วย มนุษย์ไม่สามารถใช้อํานาจตามอําเภอใจและไม่ สามารถใช้สิทธิของความเป็นผู้แทนของอัลลอฮฺ เพื่อใช้อํานาจไปในทางที่ ผิด ลุแก่อํานาจ เพราะในขณะเดียวกันมนุษย์คือบ่าวของอัลลอฮฺ ที่มีหน้าที่ น้อมรับคําสั่งของพระองค์ดว้ ยหัวใจที่สํารวม เกรงกลัวและสํานึกในหน้าที่ ดังนัน้ ความเข้าใจในประเด็นเคาะลีฟะฮฺ (ความเป็นผู้แทน) และอุบูดียะฮฺ (ความ เป็นบ่าว) ทําให้มนุษย์มีทัศนคติที่มีดุลยภาพ ไม่ลุแก่อํานาจ และไม่เฉื่อยชา มนุ ษย์ จึ งมี ความกระตื อรื อร้ นปฏิ บั ติ หน้ าที่ อย่ างสุ ดความสามารถ แต่ ใน ขณะเดี ยวกัน ก็รําลึ กอยู่เสมอว่า เขาคือบ่าวผู้ภักดี ต่ออัลลอฮฺ เท่านั้ น มนุษย์จงึ ไม่เหลิงอํานาจแต่ในขณะเดียวกันมนุษย์ไม่เฉื่อยชาเหมือนทาส 5. ดุลยภาพด้านกฎหมายและบทบัญญัติ อิสลามสอนให้มนุษย์รจู้ ักกฎกติกา เคารพบทบัญญัตทิ ี่อสิ ลามวางไว้ ทุกอย่าง 10
ที่เป็นคําสั่งใช้ในอิสลามล้วนแล้วยังประโยชน์แก่มนุษย์ทั้งสิ้น และทุกอย่างที่ เป็นคําสั่งห้าม ล้วนเป็นสิ่งอันตรายและสร้างผลร้ายแก่มนุษย์เช่นกัน อิสลามจึงไม่มีคําสอนให้มุสลิมตัดกิเลส เพราะอิสลามถือว่าการตัดกิเลสเป็น สิ่งที่เป็นไปไม่ได้สําหรับมนุษย์ที่ถูกประดับประดาด้วยกิเลสตัณหามาตั้งแต่ต้น แต่อสิ ลามสอนให้มุสลิมรูจ้ ักควบ คุมกิเลส รูจ้ กั ใช้กเิ ลสอย่างมีกฎกติกา ไม่ฝืน กติกาที่ถูกกําหนดไว้ ดังกรณีการแต่งงาน การถือครองทรัพย์สมบัติ เป็นต้น อิสลามส่งเสริมให้มีการแต่งงาน สร้างครอบครัวเปี่ยมสุข และถือว่าภายใต้ แวดล้อมของครอบครัวเปี่ยมสุขเท่านั้นที่สามารถเป็นเบ้าหลอมสร้างสังคม สันติสุข อิสลามจึงปฏิเสธการใช้ชวี ติ ไร้คู่ ยึดปรัชญาใช้ชวี ติ เดี่ยวตามลําพังโดย ไม่แต่งงาน และอิสลามถือว่าการปิดกั้นไม่ให้ผู้คนแต่งงานกลายเป็นแหล่งมั่ว สุมอารมณ์ทางเพศที่ขยายลุกลาม เช่นเดียวกันอิสลามต่อต้านการแต่งงาน อย่างเกินขอบเขต มองสตรีเป็นเพียงสิ่งระบายอารมณ์ใคร่ สามารถซื้อขาย เหมื อนสิ นค้ าตามท้ องตลาด อิ สลามถื อว่ าแนวคิ ดฟรี เซ็ กส์ ในลั กษณะนี้ นอกจากเป็นต้นเหตุของความกริ้ วโกรธของอัลลอฮฺ แล้ว ยังเป็นแหล่ ง อาชญากรรมและปัญหาทางสังคมที่รุนแรงและยากที่จะเยียวยา เช่นเดียวกันกับการถือครองทรัพย์สมบัติ อิสลามจึงสวนทางกับระบบทุนนิยม ที่สอนให้ผู้คนกอบโกยทรัพย์สินชนิดมือใครยาวสาวได้สาวเอา อิสลามไม่เคย สอนปรัชญาปลาใหญ่กินปลาเล็ก อิสลามไม่เคยส่งเสริมให้ผู้คนดูแต่เป้าหมาย แต่ไม่ให้ความสําคัญกับวิธกี าร เพราะอิสลามถือว่าเป้าหมายที่ดีไม่สามารถทํา ให้วธิ กี ารที่ผดิ กลายเป็นดีได้ ในขณะเดียวกัน อิสลามปฏิเสธระบบสังคมนิยมที่ ทําลายความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ ไม่เปิดโอกาสให้มนุษย์ครอบครอง ทรัพย์สมบัติ อิสลามสอนว่าแนวคิดเช่นนี้นอกจากฝืนธรรมชาติดั้งเดิมของ มนุษย์แล้ว ยังกลายเป็นที่มาของการกอบโกยความมั่งคั่งของชนชั้นผู้นํา เป็น 11
เพียงวาทกรรมที่สร้างความสยดสยอง การบังคับขู่เข็ญ และเข่นฆ่าชีวิตมนุษย์ มากมาย ตามที่ได้ปรากฏมาแล้วทัง้ อดีตและปัจจุบัน นี่คือส่วนหนึ่งของความสวยงามในอิสลาม และนี่คือดุลยภาพในอิสลามที่ผู้คน ทุกหมูเ่ หล่าโดยเฉพาะมุสลิมต้องเรียนรู้ทําความเข้าใจและนํามาประยุกต์ใช้ใน ชีวติ ประจําวันเพื่อสร้างสังคมสันติสุขที่แท้จริง อิมามชาฏิบยี เ์ ราะหิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า "แท้จริงการยึดถือหลักดุลยภาพคือสิ่ง ที่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ ของชะรีอะฮฺและเป็ นสิ่งที่ชาวสะลั ฟ ศอลิหฺยึ ด ปฏิบัติ " อิมามอิบนุลก็อยยิม เราะหิมะฮุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า "ชาวสะลัฟบางคนกล่าวว่า ทุกคําสั่งใช้ของอัลลอฮฺ จะต้องมีชัยฏอนยึดอยู่บนขั้วใดขั้วหนึ่ง ถ้าไม่ใช่ขั้ว ของความสุดโต่งจนเลยเถิด ก็จะเป็นขัว้ ของความละเลยสุดๆ มันจะไม่สนใจเลย ว่าขัว้ ไหนจะชนะ " ดังนั้น พี่น้องชาวอิดิลอัฎฮา จะต้องทําความเข้าใจกับหลักดุลยภาพในอิสลาม อย่าตกเป็นเครื่องมือของชัยฏอนที่มักจะเชื้อเชิญเราให้อยู่บนสองเส้นทางที่ ผิดพลาด นั่นคือความสุดโต่งและการละเลย เพราะหากเราตกกับดักชัยฏอน แล้ว เราจะอยู่ไม่เป็นสุขบนโลกดุนยาที่เราไขว่คว้า และเราจะไม่พบพานกับ หะสะนะฮฺในอาคิเราะฮฺที่เราเชื่อศรัทธา
% -. & / 0 S R Q P O N M m Y
% S r
lUT
12
6s -. = A 6 3 e ;19 2 , t1 O a
D B , )
% \ i V f
0H 2% 3 ;. eD;. ? \ v f t1
% % 9: 5 , 1 u (
A U W Q 2/ ? D - . B , L
% 0 9 : 0 H 2% 3 8 9: 5 = ,w ( U
13
& & & & & & & , " # & ", * +" , # " $ &% '( )
* ,8 'L &% '( ) Z H 8 ' ;Y Z% ,8 ' x 2 ,8 ' y ' % '7 E ,8 'L 4
K 8 'L
% 3 M
"'(% I % '7 E , J 6 < Z L z
K K P 'Q (% I R9 S T U ; L ; D 2 P V D ?D * % 7 % , 0 8 ' ,W 1 N * O
% 1 5 X ?% Y Z%
[0 \ 5 ] 9 2 * { = , '1 .% , 0 9 0 b * 0 ;. O - 6 a % @ b 6 eD %; P 0 b T 6 5 v .
% 3
A" 0 ( D P 'Q (I | % * A 'Q (% I }O % J 0 V ' P D ?D * % 7 % P 'Q (I P | A 'Q (% I }O % P V , H 3 }O P H 3 P % n' J% 2 3 H 3 }O , n' ~ P H 3 A U W B
/ g * ,B ;. ( 9 % 7 % ( U B ;. U W A6c , 0 W % . P 7 5 D , ( ) D , 7 ; 0 i ? 1 Y
P H x2 'H F a % V '7 1 0 = 0 6 7 j ,J 0 , , 7 ;. ; 1 Y
`D ) M D , H D ' V ' 14
( U c U V ^
o ' .D G ,W ^ Z% % 7 % D }% / ,W q 2 % 7 % ,- 6 D' 0 6 3 J 5 ( ? ,W ^ U + 9 J H ,- 6 D'
9 1> 5 U
. ? D i W Y - . W } 9 1 > 5 U q 2 % 7 % , D ;. U - . W 0 o D; ( U ( u N 0 Y x % 7 % , ' 2 % 7 % , . ? D i W
x ( 5% x% " 2 H x 2 % 7 % ,W ; G ,- 6 'LD 0 U ,W ( U
G v h % " ;C ( S. ";.O ' aH ? 1 Y
% 7 % , " ; . " 5= g 5 = , Z" 6 Z
,W
( U
% L 6 J 5 ,W aD % 7 % ,J 0 a D 6 ,J - b' T 6 - 6 a % + 9 4 , 7 ( E | h % 7 % ,V o 0 \ 6 5D E , 7 . ' } Z j , 7 5( W F a D J { } Z 2 7 1 N ,W y D = . U 0 \ - 8 Gb K ; v r U ; %'m ; 2 0 h c 2G 'Y z ; 7 .% z ;v s ; 9 ; % K 20 \ - 6 a %
A 6 c J% 2 3 ; % 0 ;. O - 6 a % ; 0 i ? 1 i " ; L 2 b' i ; O ; , L a ; " ; L + hs
% n % P% * , %; 4
, % * O P 'Q (% I n 0 9 T 6 A% + Z% 1 4D J D P W ,W U 1 4D & '( )
U P
15