History of Microsoft Windows

Page 1

Microsoft Windows


เนื้อหา                 

1 วินโดวส์ 1.0 2 วินโดวส์ 2.0 3 วินโดวส์ 2.1 4 วินโดวส์ 3.0 5 วินโดวส์ 3.1 6 วินโดวส์ เอ็นที 3.1 7 วินโดวส์ เอ็นที 3.5 8 วินโดวส์ เอ็นที 3.51 9 วินโดวส์ 95 10 วินโดวส์ เอ็นที 4.0 11 วินโดวส์ 98 12 วินโดวส์ 2000 13 วินโดวส์ มี 14 วินโดวส์ เอกซ์พี และ เซิรฟ์ เวอร์ 2003 15 วินโดวส์ วิสตา และ เซิรฟ์ เวอร์ 2008 16 วินโดวส์ 7 และ เซิรฟ์ เวอร์ 2008 อาร์2 17 วินโดวส์ 8


วินโดวส์ 1.0  วินโดวส์ 1.0 เป็นสภาวะการทางานรุ่นแรกของ

วินโดวส์ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2528 มีสภาวะการทางานแบบ 16 บิต ที่เรียกว่า สภาวะการทางาน (Operating Environments) เพราะ วินโดวส์ 1.0 ยังไม่มี ความสามารถทางานได้ด้วยตัวเอง จาเป็นต้องมี ระบบปฏิบัติการเฉพาะแยกต่างหาก (ระบบปฏิบัติการดังกล่าวคือ ดอส) ซึ่งวินโดวส์จะ ทาหน้าที่เพียงการติดต่อกับผูใ้ ช้ เมื่อผู้ใช้ป้อน คาสั่งใดๆ วินโดวส์จะไปเรียกใช้ฟังก์ชันต่างๆ จาก ดอส เมื่อได้ผลการทางานออกมา วินโดวส์จะ แสดงผลออกมายังผู้ใช้อีกทีหนึ่ง วินโดวส์ในช่วงนี้ จึงยังไม่สามารถเรียกได้ว่า


 เป็นระบบปฏิบัติการ แต่เป็นตัวแสดงผล

ส่วนหน้าของดอส ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ใช้งานคอมพิวเตอร์ง่ายกว่าการติดต่อกับ ดอสโดยตรง และตั้งแต่รุ่นแรก วินโดวส์ เป็นคู่แข่งกับ แมคอินทอช ผลิตภัณฑ์ ลักษณะคล้ายกันจากบริษัท แอปเปิล คอมพิวเตอร์ แต่ในช่วงแรก ภาพการ แข่งขันยังไม่ชัดเจนนัก


วินโดว์ 2.0  วินโดวส์ 2.0 เปิดตัวเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน

พ.ศ. 2530 2.0 ยังต้องอาศัยดอส แต่มีขีด ความสามารถเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับ 1.0 เช่น สามารถเปิดหลายโปรแกรมซ้อนกันได้ และมีโปรแกรม ไมโครซอฟท์ เวิร์ด (Word) และ เอกซ์เซล (Excel)


 และได้มีปุ่ม Minimize, Maximize และปุ่ม

ลัดอื่นๆ ขึ้นเป็นครั้งแรก ในช่วงของวินโดวส์ 2.0 วินโดวส์กับแมคอินทอชมีความ ใกล้เคียงกันมาก จนเกิดคดีฟ้องร้องกันของ บริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ 2 แห่ง คือ ไมโครซอฟท์ และ แอปเปิล  วินโดวส์ 2.0 ยังไม่ประสบความสาเร็จมาก นัก แต่ก็ถือว่ามีกระแสตอบรับ และการ สนับสนุนจากผู้พัฒนาซอฟต์แวร์มากขึ้นกว่า รุ่น 1.0 และอยู่ในการสนับสนุนของ


วินโดว์ 2.1  และได้มีปุ่ม Minimize, Maximize และปุ่ม

ลัดอื่นๆ ขึ้นเป็นครั้งแรก ในช่วงของวินโดวส์ 2.0 วินโดวส์กับแมคอินทอชมีความ ใกล้เคียงกันมาก จนเกิดคดีฟ้องร้องกันของ บริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ 2 แห่ง คือ ไมโครซอฟท์ และ แอปเปิล  วินโดวส์ 2.0 ยังไม่ประสบความสาเร็จมาก นัก แต่ก็ถือว่ามีกระแสตอบรับ และการ สนับสนุนจากผู้พัฒนาซอฟต์แวร์มากขึ้นกว่า รุ่น 1.0 และอยู่ในการสนับสนุนของ


 ใน พ.ศ. 2532 ไมโครซอฟท์ได้ออกรุ่นอัป

เดตของวินโดวส์ 2.1 คือ วินโดวส์ 2.11 (คล้ายกับระบบ Service Pack ใน ปัจจุบัน) อยู่ในการสนับสนุนของ ไมโครซอฟท์จนถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2544


วินโดวส์ 3.0  วินโดวส์ 3.0 เปิดตัวในวันที่22 พฤษภาคม

พ.ศ. 2533 ยังต้องอาศัยดอส และ โปรเซสเซอร์ตัวเดียวกับ 2.1 แต่วินโดวส์ 3.0 ได้มีการออกแบบกราฟิกในการใช้งาน คอมพิวเตอร์ใหม่


 มีระบบการบริหารจัดการหน่วยความจา

รอมและแรมที่มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่น ก่อน และเปลี่ยนโปรแกรมบริหารจัดการ ไฟล์และโปรแกรมในดอสใหม่ทั้งหมด การ เรียกใช้โปรแกรมต่างๆ ทาได้ง่ายและมี ประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด อีกทั้ง ยังมีโปรแกรมใหม่ที่ติดตั้งมาพร้อมวินโดวส์ คือ โน้ตแพด, เกม Solitaire ฯลฯ ทาให้ วินโดวส์ 3.0 ประสบความสาเร็จอย่างสูง และเป็นคู่แข่งอย่างชัดเจนกับแมคอินทอช จากแอปเปิล  วินโดวส์ 3.0 ได้รับการสนับสนุนจาก ไมโครซอฟท์จนถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2544


วินโดวส์ 3.1  วินโดวส์ 3.1 เปิดตัวเมือ่ 6 เมษายน พ.ศ. 2535 ยังต้องอาศัย

ดอส ในวินโดวส์รุ่นนี้ได้ออกแบบโดยมี แพลตฟอร์มเพื่อการพิมพ์มากขึ้น โดยได้มี ฟอนต์ประเภททรูไทป์ และได้มีการลงเกม ไมน์สวีปเปอร์ มาพร้อมกับวินโดวส์เป็นครั้ง แรก และได้มีรุ่นปรับปรุง (อัปเดต) คือรุ่น 3.11 ออกมาในวันที่31 ธันวาคม พ.ศ. 2536 ซึ่งถือได้ว่าวินโดวส์ในช่วงนีป ้ ระสบ ความสาเร็จอย่างต่อเนื่อง


 วินโดวส์ 3.1 เปิดตัวเมื่อ 6 เมษายน พ.ศ.

2535 ยังต้องอาศัยดอส ในวินโดวส์รุ่นนี้ได้ ออกแบบโดยมีแพลตฟอร์มเพื่อการพิมพ์ มากขึ้น โดยได้มีฟอนต์ประเภททรูไทป์ และ ได้มีการลงเกม ไมน์สวีปเปอร์ มาพร้อมกับ วินโดวส์เป็นครั้งแรก และได้มีรุ่นปรับปรุง (อัปเดต) คือรุ่น 3.11 ออกมาในวันที่31 ธันวาคม พ.ศ. 2536 ซึ่งถือได้ว่าวินโดวส์ ในช่วงนี้ประสบความสาเร็จอย่างต่อเนื่อง


วินโดวส์ เอ็นที 3.1  วินโดวส์เอ็นที 3.1 เปิดตัวเมื่อ 27 กรกฎาคม พ.ศ.

2536 เป็นระบบปฏิบัติการรุ่นแรกของวินโดวส์ สามารถทางานต่างๆได้ด้วยตนเอง คอมพิวเตอร์ที่ลง วินโดวส์นี้ ไม่จาเป็นต้องลงระบบดอสอีกต่อไป เอ็นที ออกแบบมาสาหรับธุรกิจที่ต้องการประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ อีกทั้งเป็นระบบปฏิบัติการแบบ 32 บิต ซึ่งวินโดวส์ตัวก่อนหน้าทั้งหมด เป็นสภาวะการ ทางานแบบ 16 บิต โปรแกรม 32 บิต (ซึ่งในขณะนั้น มักเป็นโปรแกรมขั้นสูง) สามารถใช้งานกับวินโดวส์ เอ็นทีได้ แต่ไม่สามารถใช้งานกับวินโดวส์ 3.1 ได้ แต่


 โปรแกรม 16 บิต สามารถใช้งานกับวินโดวส์ 3.1 และ

เอ็นที ได้ เพราะเอ็นทีจะมีระบบแปลงไฟล์ ให้ สามารถใช้งานในเอ็นทีได้  เอ็นที ย่อมาจาก (New Technology) มี ความสามารถในการรองรับระบบสถาปัตยกรรมทาง คอมพิวเตอร์ได้หลายประเภท ในช่วงนี้ผู้ใช้วินโดวส์ เอ็นทีส่วนใหญ่ไม่ใช่ผู้ใช้ตามบ้าน แต่มักเป็นลูกค้าที่ ใช้คอมพิวเตอร์ในระดับสูงและกลุ่มนักธุรกิจ ส่วนผู้ใช้ ทั่วไปในช่วงนั้นมักยังใช้ วินโดวส์ 3.1 ธรรมดา  วินโดวส์ เอ็นที 3.1 ได้รับการสนับสนุนจาก ไมโครซอฟท์จนถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2543


วินโดวส์ เอ็นที 3.5  วินโดวส์ เอ็นที 3.5 เปิดตัวเมื่อ 21 กันยายน

พ.ศ. 2537 เป็นรุ่นต่อของวินโดวส์เอ็นที 3.1 จุดประสงค์หลักของไมโครซอฟท์ใน การพัฒนาวินโดวส์เอ็นที 3.5 คือ การเพิ่ม ความรวดเร็วในการทางานของวินโดวส์ รวมถึงความสามารถอื่นๆ


วินโดวส์ เอ็นที 3.5  เช่น VFAT ที่จะทาให้สามารถตั้งชื่อไฟล์

และต่างๆ ได้ถึง 255 ตัวอักษร และ ความต้องการขั้นต่าของระบบได้ลดลงต่า กว่าเอ็นที 3.1 ด้วย ทาให้สามารถ ครอบคลุมเครื่องคอมพิวเตอร์ได้มากขึ้น


วินโดวส์ เอ็นที 3.51  วินโดวส์ เอ็นที 3.51 เปิดตัวเมื่อ 30

พฤษภาคม พ.ศ. 2538 เอ็นที 3.51 สามารถทางานบนสถาปัตยกรรม RISC เป็นเพียงวินโดวส์ไม่กี่รุ่นที่สามารถ รองรับ RISC ได้ และนอกจากนี้ยัง สามารถรองรับไคลเอนต์/เซิร์ฟเวอร์, PCMCIA และระบบบีบอัดไฟล์ หรือ NTFS ได้


วินโดวส์ เอ็นที 3.51  เอ็นที 3.51 อยู่ในการสนับสนุนของ

ไมโครซอฟท์ถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2544


วินโดวส์ 95  วินโดวส์ 95 หรือ วินโดวส์ 4.0 (ไม่เอ็นที)

เปิดตัว 24 สิงหาคม พ.ศ. 2538 เป็น วินโดวส์รุ่นต่อจาก 3.1 เป็นวินโดวส์รุ่นแรก ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใช้ทวั่ ไป ที่ได้รวม เอาดอสเป็นส่วนหนึง่ ของวินโดวส์ (ยังมี ดอสอยู่ในวินโดวส์ แต่ไม่ใช่ระบบปฏิบัติการ แยก) สามารถทางานได้ทั้งสถานะ 16 และ 32 บิต


 มีการใช้สตาร์ทเมนู (ปุ่มสตาร์ทที่มุมซ้าย

ล่าง) และทาสก์บาร์ (แท่งด้านล่างหน้าจอ แสดงโปรแกรมที่ใช้ และเบ็ดเตล็ดอื่นๆ) เป็นครั้งแรก ซึ่งทั้งสอง จนถึงวินโดวส์รุ่น ล่าสุด ก็ยังใช้คอนเซปต์เดียวกับวินโดวส์ 95 เพียงแต่ปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอกให้ ทันสมัยขึ้นเท่านั้น ด้วยความสามารถต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดสาหรับผู้ใช้ทั่วไป วินโดวส์ 95 ประสบความสาเร็จอย่างสูง


วินโดวส์ เอ็นที 4.0  วินโดวส์ เอ็นที 4.0 เปิดตัวเมื่อ 31

กรกฎาคม พ.ศ. 2539 โดยเน้นตลาดเน็ต เวิร์กมากขึ้น โดยจะมี interface คล้ายกับ วินโดวส์ 95 แต่ว่าระบบมีความเสถียร มากกว่า โดยการเพิ่ม API (Application Programming Interface)


วินโดวส์ เอ็นที 4.0  เข้ามาทาให้ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ต่าง

ๆ ติดต่อกับวินโดวส์ได้อย่างเป็น มาตรฐานเดียวกัน วินโดวส์เอ็นที 4.0 ถือ ว่าได้รับความนิยมอย่างมากสาหรับ บรรดากลุ่มองค์กรที่ต้องการเครื่อง server ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ซึ่ง ในปัจจุบันก็ยังพอมีเหลือให้เห็นอยู่บา้ งใน เครื่อง server รุ่นเก่าๆ


วินโดวส์ 98  วินโดวส์ 98 หรือ วินโดวส์ 4.1 (ไม่เอ็นที)

เปิดตัวเมื่อ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2541 เป็น ระบบปฏิบัติการรุ่นต่อของวินโดวส์ 95 จุดเด่นของวินโดวส์ 98 คือการใช้มาตรฐาน ไดรเวอร์แบบ WDM และ VxD ซึ่ง WDM เป็นมาตรฐานใหม่ที่วินโดวส์รุ่นต่อๆ มา ได้ ใช้เป็นหลัก ส่วน VxD


วินโดวส์ 98  เป็นมาตรฐานเก่า ซึ่งวินโดวส์รุ่นต่อจาก 98

ไม่รองรับ ซึ่งทาให้วินโดวส์ 98 เป็นจุด เชื่อมต่อระหว่างโปรแกรมสมัยเก่าและใหม่ โปรแกรมสมัยปัจจุบัน แม้จะไม่ได้ออกแบบ มาเพื่อวินโดวส์ 98 แต่หลายโปรแกรมก็ สามารถใช้กับวินโดวส์ 98 ได้พอสมควร วินโดวส์ 98 Second Edition รุ่นปรับปรุง เริ่มจาหน่ายเมื่อ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2542


วินโดวส์ 2000  วินโดวส์ 2000 หรือ วินโดวส์ เอ็นที 5.0

เปิดตัวเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 เป็น ระบบปฏิบัติการเอ็นที มีกลุ่มเป้าหมายเป็น กลุ่มผู้ใช้ขั้นสูงและกลุ่มธุรกิจ ในช่วงนี้ได้ แบ่งเป็น 5 รุ่นย่อย คือ Professional, Server, Advanced Server, Datacenter Server, Advanced Server 64-bit Limited Edition


วินโดวส์ 2000  วินโดวส์ 2000 อยู่ในการสนับสนุนจนถึง 13

กรกฎาคม พ.ศ. 2553


วินโดวส์ มี  วินโดวส์ มี (อังกฤษ: Windows Me) หรือ

วินโดวส์ 4.9 (ไม่เอ็นที) เป็นวินโดวส์รุ่นต่อ จาก 98 และเป็นรุ่นสุดท้ายที่ไม่ใช่วินโดวส์ เอ็นที รุ่นสุดท้ายที่ทางานได้ทั้งระบบ 16 และ 32 บิต (เวลาผ่านไป โปรแกรมรุ่นใหม่ ที่เป็นโปรแกรมพื้นฐานสาหรับผู้ใช้ตามบ้าน เริ่มเปลี่ยนจาก 16 เป็น 32 บิต และ โปรแกรมชั้นสูง เริ่มเปลี่ยนจาก 32 เป็น 64 บิต)


 เปิดตัว 14 กันยายน พ.ศ. 2543 วินโดวส์มี

ไม่ใช่วินโดวส์เอ็นที จึงยังมีดอสอยู่ใน วินโดวส์ ซึ่งวินโดวส์ 95 และ 98 แม้จะรวม ดอสเป็นส่วนหนึ่งของวินโดวส์ แต่ยังเปิดให้ เข้าถึงดอสได้ แต่วินโดวส์ มี ได้ปิดการ เข้าถึงดอสในวินโดวส์ เพื่อให้การบูตเครื่อง ทาได้เร็ว แต่ทาให้โปรแกรมเฉพาะบาง โปรแกรมที่ต้องอาศัยการเข้าถึงดอส ไม่ สามารถทางานได้ในวินโดวส์มี โดยเฉพาะ โปรแกรมบริหารจัดการดิสก์


วินโดวส์ เอกซ์พี และ เซิรฟ์ เวอร์ 2003  เอกซ์พีรุ่นแรก ที่ไม่มี Service Pack

ไมโครซอฟท์ได้ยุติการสนับสนุนเมื่อ 30 กันยายน พ.ศ. 2547, เอกซ์พีรุ่นปรับปรุง SP1 และ 1a ยุติการสนับสนุน 10 ตุลาคม พ.ศ. 2549, รุ่นปรับปรุง SP2 32 บิต ยุติ การสนับสนุน 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ส่วนรุ่นปรับปรุง SP2 64 บิต และ SP3


 จะสนับสนุนต่อไปจนถึง 8 เมษายน พ.ศ.

2557 ส่วนวินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2003 จะ ได้รับการสนับสนุนต่อจนถึง 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 และวินโดวส์ ฟันเดเมนทัลส์ ฟอร์ เลกาซี ยังไม่มีแผนจะยุติการสนับสนุน อีกด้วยและ การสนับสนุน Windows XP ที่ มี Service Pack 2 (SP2) ได้หยุดลงในวันที่ 13 กรกฎาคม 2553


วินโดวส์ วิสตา และ เซิรฟ์ เวอร์ 2008  วินโดวส์ วิสตา หรือ วินโดวส์ เอ็นที 6.0

ได้รับลิขสิทธิ์ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 แต่เริ่มขายผู้ใช้จริง 30 มกราคม พ.ศ. 2550 ในช่วงของวิสตา วินโดวส์ สาหรับผู้ใช้ ขั้นสูงและองค์กรธุรกิจ คือ วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2008, วินโดวส์ โฮม เซิร์ฟเวอร์ วิสตามีความสามารถสูงกว่าเอกซ์พีหลาย ประการ


 เช่น ในการตัดต่อ การพัฒนาแอปพลิเคชัน,

การแสดงผลกราฟิก ที่สามารถแสดงผล แบบโปร่งแสง สามารถมองฉากหลังของ หน้าต่างที่กาลังเปิดอยู่ได้ ในมุมมองแบบ โปร่งแสง ในพื้นที่ที่เหมาะสม เช่น บาร์ด้าน บนสุดของโปรแกรม, ความสามารถในการ ค้นหา, การพิมพ์ ฯลฯ แต่ทว่า วิสตา ไม่ ประสบความสาเร็จอย่างที่ควร สาเหตุ หลักๆ ที่เป็นที่วิจารณ์ คือ ความต้องการขึ้น ต่าของระบบ ที่สูงกว่าวินโดวส์เอกซ์พี หลายเท่าตัว ดังตัวอย่างเปรียบเทียบใน ตาราง


วินโดวส์ 7 และ เซิรฟ์ เวอร์ 2008 อาร์2  วินโดวส์ 7 หรือ วินโดวส์ เอ็นที 6.1 เปิดตัว

การขายปลีกเมื่อ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2552 เป็นวินโดวส์รุ่นล่าสุดของไมโครซอฟท์ ส่วน เอ็นที 6.1 อีกรุ่นหนึ่ง ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็น ผู้ใช้ระดับสูง คือ วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2008 อาร์2 เปิดตัวในวันเดียวกับวินโดวส์ 7 ใน วินโดวส์ 7 ได้มีการแก้ไขข้อบกพร่องที่ทาให้ วิสตาไม่ประสบความสาเร็จ และมีความ ต้องการขั้นต่าไม่ต่างจากวิสตามากนัก นอกจากแรมและการ์ดจอ ที่ต้องการเพิ่ม แต่ที่ผ่านมา จากการเปิดตัววิสตา


 ได้กรุยทางส่วนหนึ่งไว้ให้ วินโดวส์ 7 เพราะ

ช่องว่างระหว่างการเปิดตัวนัน ้ ผู้ผลิต ฮาร์ดแวร์หลายรายได้เพิ่มความสามารถใน หลายด้าน คอมพิวเตอร์ในช่วงหลังวิสตา พร้อมจะรองรับวินโดวส์ที่ใหญ่กว่าเอกซ์พี ได้ อีกทั้งวินโดวส์ 7 ได้มีการบริหารจัดการดี ทางานมีประสิทธิภาพสูงกว่าวิสตา ปัจจุบัน มีผู้ใช้วินโดวส์ 7 มากกว่าวิสตาเสียอีก


วินโดวส์ 8  วินโดวส์ 8 เป็นระบบปฏิบัติการรุ่นต่อไปใน

ตระกูลวินโดวส์ เปิดตัวเมื่อ 22 ตุลาคม 2553 ผ่านทางบล็อกภาษาดัชต์ของ ไมโครซอฟท์เอง วินโดวส์ 8 มีคุณสมบัติ เพิ่มเติมมากมายหลายอย่าง เช่น ไลฟ์ ไทลส์ ช่วยให้เข้าข้อมูลพื้นฐานได้ง่ายขึ้น วินโดวส์ เอ็กซ์พลอเร่อ ที่ใช้การจัดข้อมูล แบบริบบ้อนแทนแบบเดิม เป็นต้น ปัจจุบัน วินโดวส์ 8 อยู่ระหว่างการพัฒนา ผู้พัฒนา สามารถดาวน์โหลดวินโดวส์รุ่นนี้ไปเพื่อ พัฒนาโปรแกรมก่อนได้ ทางไมโครซอฟท์ ยังไม่มีแผนการจัดจาหน่ายวินโดวส์ 8


อ้างอิง http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E 0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8 %A3%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%9F %E0%B8%97%E0%B9%8C_%E0%B8%A7%E0 %B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8% 94%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B9%8C


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.