History of Microsoft Windows

Page 1

ไมโครซอฟต์ วินโดวส์

History of Microsoft PowerPoint


เนื้อหา      

 

   

1. วินโดวส์ 1.0 2.วินโดวส์ 2.0 3.วินโดวส์ 2.1 4. วินโดวส์ 3.0 5.วินโดวส์ 3.1 6.วินโดวส์ เอ็นที 3.1 7. วินโดวส์ เอ็นที 3.5 8. วินโดวส์ เอ็นที 3.51 9. วินโดวส์ 95 10. วินโดวส์ เอ็นที 4.0 11. วินโดวส์ 98 12. วินโดวส์ 2000

 13. วินโดวส์ มี  14. วินโดวส์ เอกซ์พี      

และ เซิร์ฟเวอร์ 2003 15. วินโดวส์ วิสตา และ เซิร์ฟเวอร์ 2008 16. วินโดวส์ 7 และ เซิร์ฟเวอร์ 2008 อาร์2 17. วินโดวส์ 8 18.เส้นทางสาย วินโดวส์ แหล่งอ้างอิง ผู้จัดทา


1. วินโดวส์ 1.0

วินโดวส์ 1.0 เป็นสภาวะการทางาน รุ่นแรกของวินโดวส์ เปิดตัวอย่าง เป็นทางการในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2528 มีสภาวะการทางานแบบ 16 บิต ทีเ่ รียกว่า สภาวะการทางาน (Operating Environments) เพราะ วินโดวส์ 1.0 ยังไม่มีความสามารถ ทางานได้ด้วยตัวเอง


1.วินโดวส์ 1.0  จาเป็นต้องมีระบบปฏิบัติการ

เฉพาะแยกต่างหาก (ระบบปฏิบัติการดังกล่าวคือ ดอส) ซึ่งวินโดวส์จะทาหน้าที่ เพียงการติดต่อกับผู้ใช้ เมื่อผู้ใช้ ป้อนคาสั่งใดๆ วินโดวส์จะไป เรียกใช้ฟังก์ชันต่างๆ จากดอส เมื่อได้ผลการทางานออกมา วินโดวส์จะแสดงผลออกมายัง ผู้ใช้อีกทีหนึ่ง


1.วินโดวส์ 1.0  วินโดวส์ในช่วงนี้

จึงยังไม่สามารถ เรียกได้ว่าเป็นระบบปฏิบัติการ แต่ เป็นตัวแสดงผลส่วนหน้าของดอส ที่ จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน คอมพิวเตอร์ง่ายกว่าการติดต่อกับ ดอสโดยตรง และตั้งแต่รุ่นแรก วินโดวส์เป็นคู่แข่งกับ แมคอินทอช ผลิตภัณฑ์ลักษณะคล้ายกันจากบริษัท แอปเปิลคอมพิวเตอร์ แต่ในช่วงแรก ภาพการแข่งขันยังไม่ชัดเจน  นักวินโดวส์ 1.0 อยู่ในระยะการ สนับสนุนของไมโครซอฟท์จนถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2544


2.วินโดวส์ 2.0

วินโดวส์ 2.0 เปิดตัวเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530 2.0 ยังต้องอาศัยดอส แต่มีขีด ความสามารถเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับ 1.0 เช่น สามารถเปิดหลายโปรแกรมซ้อนกันได้ และมีโปรแกรม ไมโครซอฟท์ เวิร์ด (Word) และ เอกซ์เซล (Excel) และได้มีปุ่ม Minimize, Maximize และปุ่มลัดอื่นๆ ขึ้น เป็นครั้งแรก


2.วินโดวส์ 2.0  ในช่วงของวินโดวส์ 2.0 วินโดวส์กับ

แมคอินทอชมีความใกล้เคียงกัน มาก จนเกิดคดีฟ้องร้องกันของ บริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ 2 แห่ง คือ ไมโครซอฟท์ และ แอปเปิล

  วินโดวส์ 2.0 ยังไม่ประสบ

ความสาเร็จมากนัก แต่ก็ถือว่ามี กระแสตอบรับ และการสนับสนุน จากผู้พัฒนาซอฟต์แวร์มากขึ้นกว่า รุ่น 1.0 และอยู่ในการสนับสนุน ของไมโครซอฟท์จนถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2544


3.วินโดวส์ 2.1

วินโดวส์ 2.1 เปิดตัวในวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2531 ยังเป็นสภาวะการทางานที่ต้อง อาศัยดอส วินโดวส์รุ่นนี้มี 2 รุ่นย่อย คือ 286 และ 386 ซึ่งทางานกับโปรเซสเซอร์ Intel 80286 และ 80386 ซึ่งถือว่าประสบ ความสาเร็จอยู่บ้าง แต่ไม่มากนัก


3.วินโดวส์ 2.1  ใน พ.ศ. 2532 ไมโครซอฟท์ได้

ออกรุ่นอัปเดตของวินโดวส์ 2.1 คือ วินโดวส์ 2.11 (คล้ายกับ ระบบ Service Pack ในปัจจุบัน) อยู่ในการสนับสนุนของ ไมโครซอฟท์จนถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2544


4.วินโดวส์ 3.0

วินโดวส์ 3.0 เปิดตัวในวันที่22 พฤษภาคม พ.ศ. 2533 ยังต้องอาศัยดอส และ โปรเซสเซอร์ตัวเดียวกับ 2.1 แต่วินโดวส์ 3.0 ได้มีการออกแบบกราฟิกในการใช้งาน คอมพิวเตอร์ใหม่, มีระบบการบริหาร จัดการหน่วยความจารอมและแรมที่มี ประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อน และเปลี่ยน โปรแกรมบริหารจัดการไฟล์และโปรแกรม ในดอสใหม่ทั้งหมด


4.วินโดวส์ 3.0  การเรียกใช้โปรแกรมต่างๆ ทา

ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น อย่างก้าวกระโดด อีกทั้งยังมี โปรแกรมใหม่ที่ติดตั้งมาพร้อม วินโดวส์ คือ โน้ตแพด, เกม Solitaire ฯลฯ ทาให้วินโดวส์ 3.0 ประสบความสาเร็จอย่างสูง และเป็นคู่แข่งอย่างชัดเจนกับ แมคอินทอชจากแอปเปิล  วินโดวส์ 3.0 ได้รับการสนับสนุน จากไมโครซอฟท์จนถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2544


5.วินโดวส์ 3.1

วินโดวส์ 3.1 เปิดตัวเมื่อ 6 เมษายน พ.ศ. 2535 ยังต้องอาศัยดอส ในวินโดวส์รุ่นนี้ได้ ออกแบบโดยมีแพลตฟอร์มเพื่อการพิมพ์ มากขึ้น โดยได้มีฟอนต์ประเภททรูไทป์ และ ได้มีการลงเกม ไมน์สวีปเปอร์ มาพร้อมกับ วินโดวส์เป็นครั้งแรก และได้มีรุ่นปรับปรุง (อัปเดต) คือรุ่น 3.11 ออกมาในวันที่31 ธันวาคม พ.ศ. 2536 ซึ่งถือได้ว่าวินโดวส์ ในช่วงนี้ประสบความสาเร็จอย่างต่อเนื่อง


5.วินโดวส์ 3.1  ในรุ่น

3.1 ได้มีการจาหน่าย Windows for Workgroups ซึ่ง เป็นรุ่นทีม ่ ีความสามารถสูงกว่า วินโดวส์ 3.1 ทั่วไป เช่น รองรับ ระบบเน็ตเวิร์ค และโพรโทคอล, เกม Hearts และได้มีการทา วินโดวส์ 3.2 สาหรับวางขาย เฉพาะประเทศจีน โดยจะใช้ อักษรจีนแสดงตัวย่อ  วินโดวส์ 3.1 ได้รับการสนับสนุน จากไมโครซอฟท์จนถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2544


6.วินโดวส์ เอ็นที 3.1

วินโดวส์เอ็นที 3.1 เปิดตัวเมื่อ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2536 เป็น ระบบปฏิบัติการรุ่นแรกของวินโดวส์ สามารถทางานต่างๆได้ด้วยตนเอง คอมพิวเตอร์ที่ลงวินโดวส์นี้ ไม่ จาเป็นต้องลงระบบดอสอีกต่อไป


6.วินโดวส์ เอ็นที 3.1  เอ็นทีออกแบบมาสาหรับธุรกิจที่

ต้องการประสิทธิภาพโดยเฉพาะ อีกทั้งเป็นระบบปฏิบัติการแบบ 32 บิต ซึ่งวินโดวส์ตัวก่อนหน้าทั้งหมด เป็นสภาวะการทางานแบบ 16 บิต โปรแกรม 32 บิต (ซึ่งในขณะนั้นมัก เป็นโปรแกรมขั้นสูง) สามารถใช้ งานกับวินโดวส์เอ็นทีได้ แต่ไม่ สามารถใช้งานกับวินโดวส์ 3.1 ได้ แต่โปรแกรม 16 บิต สามารถใช้ งานกับวินโดวส์ 3.1 และเอ็นที ได้ เพราะเอ็นทีจะมีระบบแปลงไฟล์ ให้สามารถใช้งานในเอ็นทีได้


6.วินโดวส์ เอ็นที 3.1  เอ็นที

ย่อมาจาก (New Technology) มีความสามารถใน การรองรับระบบสถาปัตยกรรมทาง คอมพิวเตอร์ได้หลายประเภท ในช่วงนี้ผู้ใช้วินโดวส์เอ็นทีส่วนใหญ่ ไม่ใช่ผู้ใช้ตามบ้าน แต่มักเป็นลูกค้า ที่ใช้คอมพิวเตอร์ในระดับสูงและ กลุ่มนักธุรกิจ ส่วนผู้ใช้ทั่วไปในช่วง นั้นมักยังใช้ วินโดวส์ 3.1 ธรรมดา

  วินโดวส์

เอ็นที 3.1 ได้รับการ สนับสนุนจากไมโครซอฟท์จนถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2543


7. วินโดวส์ เอ็นที 3.5

วินโดวส์ เอ็นที 3.5 เปิดตัวเมื่อ 21 กันยายน พ.ศ. 2537 เป็นรุ่นต่อ ของวินโดวส์เอ็นที 3.1 จุดประสงค์ หลักของไมโครซอฟท์ในการพัฒนา วินโดวส์เอ็นที 3.5 คือ การเพิ่ม ความรวดเร็วในการทางานของ วินโดวส์


7. วินโดวส์ เอ็นที 3.5  รวมถึงความสามารถอื่นๆ เช่น VFAT

ที่จะทาให้สามารถตั้งชื่อไฟล์และต่างๆ ได้ถึง 255 ตัวอักษร และความต้องการ ขั้นต่าของระบบได้ลดลงต่ากว่าเอ็นที 3.1 ด้วย ทาให้สามารถครอบคลุม เครื่องคอมพิวเตอร์ได้มากขึ้น  แต่อย่างไรก็ตาม วินโดวส์ เอ็นที 3.5 ไม่สามารถติดตั้งได้ในโน้ตบุ๊คคอมพิว เตอร์ ที่ไม่มีไดรเวอร์สาหรับ PCMCIA อแดปเตอร์การ์ด และไม่สามารถ ติดตั้งในคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่ใช้ โปรเซสเซอร์รุ่นที่ใหม่กว่า Intel P5 ได้  วินโดวส์เอ็นที 3.5 อยู่ในการสนับสนุน ของไมโครซอฟท์จนถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2544


8. วินโดวส์ เอ็นที 3.51

วินโดวส์ เอ็นที 3.51 เปิดตัวเมือ่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2538 เอ็นที 3.51 สามารถ ทางานบนสถาปัตยกรรม RISC เป็นเพียง วินโดวส์ไม่กี่รุ่นที่สามารถรองรับ RISC ได้ และนอกจากนี้ยังสามารถรองรับไคลเอนต์/ เซิร์ฟเวอร์, PCMCIA และระบบบีบอัดไฟล์ หรือ NTFS ได้ เอ็นที 3.51 อยู่ในการสนับสนุนของ ไมโครซอฟท์ถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2544


9. วินโดวส์ 95

วินโดวส์ 95 หรือ วินโดวส์ 4.0 (ไม่เอ็น ที) เปิดตัว 24 สิงหาคม พ.ศ. 2538 เป็นวินโดวส์รุ่นต่อจาก 3.1 เป็น วินโดวส์รุ่นแรกที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็น ผู้ใช้ทั่วไป ที่ได้รวมเอาดอสเป็นส่วน หนึ่งของวินโดวส์ (ยังมีดอสอยู่ใน วินโดวส์ แต่ไม่ใช่ระบบปฏิบัติการแยก)


9. วินโดวส์ 95  สามารถทางานได้ทั้งสถานะ 16 และ

32 บิต มีการใช้สตาร์ทเมนู (ปุ่มสตาร์ท ที่มุมซ้ายล่าง) และทาสก์บาร์ (แท่ง ด้านล่างหน้าจอ แสดงโปรแกรมที่ใช้ และเบ็ดเตล็ดอื่นๆ) เป็นครั้งแรก ซึ่งทั้ง สอง จนถึงวินโดวส์รุ่นล่าสุด ก็ยังใช้ คอนเซปต์เดียวกับวินโดวส์ 95 เพียงแต่ปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอกให้ ทันสมัยขึ้นเท่านั้น ด้วยความสามารถ ต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด สาหรับผู้ใช้ทั่วไป วินโดวส์ 95 ประสบ ความสาเร็จอย่างสูง ยอดการใช้ วินโดวส์ 95 สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ของวินโดวส์  วินโดวส์ 95 อยู่ในการสนับสนุนของ ไมโครซอฟท์จนถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2544


10. วินโดวส์ เอ็นที 4.0

วินโดวส์ เอ็นที 4.0 เปิดตัวเมื่อ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 โดยเน้น ตลาดเน็ตเวิร์กมากขึ้น โดยจะมี interface คล้ายกับวินโดวส์ 95 แต่ว่า ระบบมีความเสถียรมากกว่า โดยการ เพิ่ม API (Application Programming Interface) เข้ามาทาให้ซอฟต์แวร์และ ฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ติดต่อกับวินโดวส์ได้ อย่างเป็นมาตรฐานเดียวกัน


10. วินโดวส์ เอ็นที 4.0  วินโดวส์เอ็นที 4.0 ถือว่าได้รับความ

นิยมอย่างมากสาหรับบรรดากลุ่ม องค์กรที่ต้องการเครื่อง server ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ซึ่งใน ปัจจุบันก็ยังพอมีเหลือให้เห็นอยู่ บ้างในเครื่อง server รุ่นเก่าๆ  เอ็นที 4.0 มี 2 รุ่นย่อย คือ รุ่น Workstation อยู่ในการสนับสนุนถึง 30 มิถุนายน พ.ศ. 2547 และ รุ่น Server อยู่ในการสนับสนุนถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2547


11. วินโดวส์ 98

วินโดวส์ 98 หรือ วินโดวส์ 4.1 (ไม่ เอ็นที) เปิดตัวเมื่อ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2541 เป็นระบบปฏิบัติการรุ่นต่อของ วินโดวส์ 95 จุดเด่นของวินโดวส์ 98 คือการใช้มาตรฐานไดรเวอร์แบบ WDM และ VxD ซึ่ง WDM เป็น มาตรฐานใหม่ที่วินโดวส์รุ่นต่อๆ มา


11. วินโดวส์ 98  ได้ใช้เป็นหลัก

ส่วน VxD เป็น มาตรฐานเก่า ซึ่งวินโดวส์รุ่นต่อจาก 98 ไม่รองรับ ซึ่งทาให้วินโดวส์ 98 เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างโปรแกรม สมัยเก่าและใหม่ โปรแกรมสมัย ปัจจุบัน แม้จะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อ วินโดวส์ 98 แต่หลายโปรแกรมก็ สามารถใช้กับวินโดวส์ 98 ได้ พอสมควร วินโดวส์ 98 Second Edition รุ่นปรับปรุง เริ่มจาหน่าย เมื่อ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2542  วินโดวส์ 98 อยู่ในการสนับสนุน จนถึง 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2549


12. วินโดวส์ 2000

วินโดวส์ 2000 หรือ วินโดวส์ เอ็นที 5.0 เปิดตัว เมื่อ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 เป็น ระบบปฏิบตั ิการเอ็นที มีกลุ่มเป้าหมายเป็น กลุ่มผู้ใช้ขั้นสูงและกลุ่มธุรกิจ ในช่วงนี้ได้ แบ่งเป็น 5 รุ่นย่อย คือ Professional, Server, Advanced Server, Datacenter Server, Advanced Server 64-bit Limited Edition วินโดวส์ 2000 อยู่ในการสนับสนุนจนถึง 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553


13. วินโดวส์ มี

วินโดวส์ มี (อังกฤษ: Windows Me) หรือวินโดวส์ 4.9 (ไม่เอ็นที) เป็น วินโดวส์รุ่นต่อจาก 98 และเป็นรุ่น สุดท้ายที่ไม่ใช่วินโดวส์เอ็นที รุ่น สุดท้ายที่ทางานได้ทั้งระบบ 16 และ 32 บิต (เวลาผ่านไป โปรแกรมรุ่น ใหม่ ที่เป็นโปรแกรมพื้นฐานสาหรับ ผู้ใช้ตามบ้าน


13. วินโดวส์ มี  เริ่มเปลี่ยนจาก 16 เป็น 32 บิต และ

โปรแกรมชั้นสูง เริ่มเปลี่ยนจาก 32 เป็น 64 บิต) เปิดตัว 14 กันยายน พ.ศ. 2543 วินโดวส์มี ไม่ใช่วน ิ โดวส์เอ็นที จึงยังมี ดอสอยู่ในวินโดวส์ ซึ่งวินโดวส์ 95 และ 98 แม้จะรวมดอสเป็นส่วนหนึง่ ของ วินโดวส์ แต่ยังเปิดให้เข้าถึงดอสได้ แต่ วินโดวส์ มี ได้ปิดการเข้าถึงดอสใน วินโดวส์ เพื่อให้การบูตเครื่องทาได้เร็ว แต่ทาให้โปรแกรมเฉพาะบางโปรแกรม ที่ต้องอาศัยการเข้าถึงดอส ไม่สามารถ ทางานได้ในวินโดวส์มี โดยเฉพาะ โปรแกรมบริหารจัดการดิสก์  วินโดวส์ มี อยู่ในการสนับสนุนจนถึง 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2549


14. วินโดวส์ เอกซ์พี และ เซิร์ฟเวอร์ 2003

วินโดวส์ เอกซ์พี หรือ วินโดวส์ เอ็นที 5.1 และ เอ็นที 5.2 เปิดตัว 25 ตุลาคม พ.ศ. 2544 เป็นวินโดวส์เอ็นทีรุ่นแรก ที่พัฒนาขึ้น โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใช้ทั่วไป พัฒนาขึ้นจาก วินโดวส์ เนปจูน ถูกยุบรวม กับวินโดวส์ Whistler ส่วนวินโดวส์ที่ พัฒนาขึ้นเพื่อผู้ใช้ขั้นสูงและธุรกิจ จะมีแยก ต่างหากอีก 2 ตัว ที่ใช้เลข เอ็นที 5.1 และ 5.2 คือ วินโดวส์ ฟันเดเมนทัลส์ ฟอร์ เลกา ซี พีซีส์


14. วินโดวส์ เอกซ์พี และ เซิร์ฟเวอร์ 2003  และ วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2003 ตามลาดับ โดย คาว่า เอกซ์พี มาจากคาว่า Experience แปลว่า ประสบการณ์ ซึ่งเป็นวินโดวส์ทป ี่ ระสบ

ความสาเร็จค่อนข้างสูง แม้จะเปิดตัวมาแล้วถึง 9 ปี แต่จากข้อมูลในเดือนกันยายน 2553 พบว่า ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ ยังใช้วินโดวส์เอกซ์พี มากถึงร้อยละ 60 ของผู้ใช้ทั้งหมด ในขณะที่ วินโดวส์รุ่นอื่นๆ ทั้งหมดรวมกัน มีส่วนแบ่งร้อย ละ 31 และระบบปฏิบัติการอื่นที่ไม่ใช่วน ิ โดวส์ ประมาณร้อยละ 9 วินโดวส์ เอกซ์พี มีการออ กรุ่นปรับปรุงตามหลังมาอีกพอสมควร ซึ่งผู้ใช้ สามารถตรวจสอบรุ่นของซอฟต์แวร์ได้เอง โดย กด Start แล้วเลือก Run แล้วพิมพ์ sysdm.cpl หรือ winmsd.exe แล้วกด Run จะขึ้นหน้าต่าง ข้อมูลให้ผู้ใช้รับทราบ รุ่นปรับปรุงที่ออกมา จะ ปรากฏคาว่า Service Pack


14. วินโดวส์ เอกซ์พี และ เซิร์ฟเวอร์ 2003  เอกซ์พีรุ่นแรก

ที่ไม่มี Service Pack ไมโครซอฟท์ได้ยุติการสนับสนุนเมื่อ 30 กันยายน พ.ศ. 2547, เอกซ์พีรุ่นปรับปรุง SP1 และ 1a ยุติการสนับสนุน 10 ตุลาคม พ.ศ. 2549, รุ่นปรับปรุง SP2 32 บิต ยุติ การสนับสนุน 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ส่วนรุ่นปรับปรุง SP2 64 บิต และ SP3 จะ สนับสนุนต่อไปจนถึง 8 เมษายน พ.ศ. 2557 ส่วนวินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2003 จะ ได้รับการสนับสนุนต่อจนถึง 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 และวินโดวส์ ฟันเดเมนทัลส์ ฟอร์ เลกาซี ยังไม่มีแผนจะยุติการสนับสนุน อีกด้วยและ การสนับสนุน Windows XP ที่ มี Service Pack 2 (SP2) ได้หยุดลงในวันที่ 13 กรกฎาคม 2553


15. วินโดวส์ วิสตา และ เซิร์ฟเวอร์ 2008

วินโดวส์ วิสตา หรือ วินโดวส์ เอ็นที 6.0 ได้รับลิขสิทธิ์ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 แต่เริ่มขายผู้ใช้จริง 30 มกราคม พ.ศ. 2550 ในช่วงของวิสตา วินโดวส์ สาหรับ ผู้ใช้ขั้นสูงและองค์กรธุรกิจ คือ วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2008, วินโดวส์ โฮม เซิร์ฟเวอร์ วิสตามีความสามารถสูงกว่าเอกซ์พีหลาย ประการ


15. วินโดวส์ วิสตา และ เซิร์ฟเวอร์ 2008  เช่น ในการตัดต่อ การพัฒนาแอปพลิเค

ชัน, การแสดงผลกราฟิก ที่สามารถ แสดงผลแบบโปร่งแสง สามารถมอง ฉากหลังของหน้าต่างที่กาลังเปิดอยู่ได้ ในมุมมองแบบโปร่งแสง ในพื้นที่ที่ เหมาะสม เช่น บาร์ด้านบนสุดของ โปรแกรม, ความสามารถในการค้นหา, การพิมพ์ ฯลฯ แต่ทว่า วิสตา ไม่ประสบ ความสาเร็จอย่างที่ควร สาเหตุหลักๆ ที่ เป็นทีว่ ิจารณ์ คือ ความต้องการขึ้นต่า ของระบบ ที่สูงกว่าวินโดวส์เอกซ์พี หลายเท่าตัว ดังตัวอย่างเปรียบเทียบใน ตาราง


15. วินโดวส์ วิสตา และ เซิร์ฟเวอร์ 2008

เครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไปในช่วงนัน ้ มี ความสามารถไม่ถึง หรือ ถึง แต่เกินความ ต้องการมาเพียงเล็กน้อย ทาให้วิสตาเป็น ระบบที่มีขนาดใหญ่มาก ทาให้เครื่องทางาน ไม่มีประสิทธิภาพ หรือช้า อีกทัง้ ยังเป็นที่ วิพากษ์วิจารณ์ว่าซอร์ซโค้ดไม่มีคุณภาพ ผู้ใช้ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะที่ไม่ได้ใช้คุณสมบัติ พิเศษที่เพิ่มมาของวิสตา จึงยังคงใช้เอกซ์พี วิสตาจึงไม่ประสบความสาเร็จมากนัก


15. วินโดวส์ วิสตา และ เซิร์ฟเวอร์ 2008

วิสตา รุ่นแรก ที่ไม่มี Service Pack ไมโครซอฟท์ ได้ยุติการสนับสนุนลงแล้วเมื่อ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ส่วนวิสตารุ่นปรับปรุง SP1 ได้ยุติการ สนับสนุนลงแล้วเมื่อ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ส่วนรุ่นปรับปรุง SP2 ยังไม่มีแผนการจะยกเลิก การสนับสนุน (ตรวจสอบโดย กด Start แล้วพิมพ์ที่ ช่องว่างด้านล่างซ้ายว่า winver แล้ว Enter) วินโดวส์ โฮม เซิร์ฟเวอร์ ยังไม่มีแผนการจะยุติการ สนับสนุน ส่วนวินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2008 จะ สนับสนุนต่อไปจนถึง 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2561


16. วินโดวส์ 7 และ เซิร์ฟเวอร์ 2008 อาร์2

วินโดวส์ 7 หรือ วินโดวส์ เอ็นที 6.1 เปิดตัว การขายปลีกเมื่อ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2552 เป็น วินโดวส์รุ่นล่าสุดของไมโครซอฟท์ ส่วน เอ็น ที 6.1 อีกรุ่นหนึง่ ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใช้ ระดับสูง คือ วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2008 อาร์2 เปิดตัวในวันเดียวกับวินโดวส์ 7 ในวินโดวส์ 7 ได้มีการแก้ไขข้อบกพร่องที่ทาให้วสิ ตาไม่ ประสบความสาเร็จ และมีความต้องการขั้น ต่าไม่ต่างจากวิสตามากนัก


16. วินโดวส์ 7 และ เซิร์ฟเวอร์ 2008 อาร์2  นอกจากแรมและการ์ดจอ

ที่ตอ้ งการ เพิ่ม แต่ที่ผ่านมา จากการเปิดตัววิสตา ได้กรุยทางส่วนหนึง่ ไว้ให้ วินโดวส์ 7 เพราะช่องว่างระหว่างการเปิดตัวนั้น ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์หลายรายได้เพิ่ม ความสามารถในหลายด้าน คอมพิวเตอร์ในช่วงหลังวิสตา พร้อมจะ รองรับวินโดวส์ที่ใหญ่กว่าเอกซ์พไี ด้ อีก ทั้งวินโดวส์ 7 ได้มีการบริหารจัดการดี ทางานมีประสิทธิภาพสูงกว่าวิสตา ปัจจุบัน มีผใู้ ช้วินโดวส์ 7 มากกว่าวิสตา เสียอีก  ไมโครซอฟท์ ยังไม่มีแผนจะยุติการ สนับสนุนวินโดวส์ 7 และ เซิร์ฟเวอร์ 2008 อาร์2


17. วินโดวส์ 8

วินโดวส์ 8 เป็นระบบปฏิบัติการรุ่นต่อไปในตระกูล วินโดวส์ เปิดตัวเมื่อ 22 ตุลาคม 2553 ผ่านทาง บล็อกภาษาดัชต์ของไมโครซอฟท์เอง วินโดวส์ 8 มีคุณสมบัติเพิ่มเติมมากมายหลายอย่าง เช่น ไลฟ์ ไทลส์ ช่วยให้เข้าข้อมูลพื้นฐานได้ง่ายขึ้น[2][3], วินโดวส์ เอ็กซ์พลอเร่อ ที่ใช้การจัดข้อมูลแบบ ริบบ้อนแทนแบบเดิม [4] เป็นต้น ปัจจุบันวินโดวส์ 8 อยู่ระหว่างการพัฒนา ผู้พัฒนาสามารถดาวน์ โหลดวินโดวส์รุ่นนี้ไปเพื่อพัฒนาโปรแกรมก่อนได้ [5] ทางไมโครซอฟท์ยังไม่มีแผนการจัดจาหน่าย วินโดวส์ 8


18.เส้นทางสายวินโดวส์


แหล่งอ้างอิง เนื้อหาทั้งหมดได้มาจาก  http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%

B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%82% E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8% 8B%E0%B8%AD%E0%B8%9F%E0 %B8%97%E0%B9%8C_%E0%B8%A 7%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B 9%82%E0%B8%94%E0%B8%A7%E 0%B8%AA%E0%B9%8C#.E0.B8.A 7.E0.B8.B4.E0.B8.99.E0.B9.82. E0.B8.94.E0.B8.A7.E0.B8.AA.E 0.B9.8C_8


ผู้จัดทา

 ด.ญ. ชลลดา ช่วยเมือง ชั้น

ม.2/6 เลขที่ 26


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.