ร า ย ง า น ป ร ะ จ ำ ปี 2 5 5 1 บริ ษั ท โรงพยาบาลบำรุ ง ราษฎร์ จำกั ด (มหาชน)
สารบั ญ สารจากประธานกรรมการ สารจากผู้อำนวยการด้านบริหารกลุ่ม ปัจจัยแห่งความสำเร็จ ข้อมูลทางการเงิน
2 3 4
14
ข้อมูลทางการเงินโดยสรุป
15
คำอธิบายและการวิเคราะห์ฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน
16
รายงานของคณะกรรมการตรวจสอบ
20
รายงานความรับผิดชอบของคณะกรรมการต่อรายงานการเงิน
21
งบการเงิน
22
สรุปสารสนเทศที่สำคัญ การปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี
56 82
สารจากประธานกรรมการ “ช่ ว งเวลาแห่ ง ความยากลำบาก คื อ ช่ ว งที่ ส ะท้ อ นถึ ง ตั ว ตนที่ แ ท้ จ ริ ง ของบริ ษั ท ” ในช่ ว งปี 2540 ประเทศไทยและภู มิ ภ าคเอเชี ย ได้ เ ผชิ ญ กั บ ความท้ า ทายจากวิ ก ฤตการณ์ ท างเศรษฐกิ จ ช่ ว งเวลาเดี ย วกั น นั้ น โรงพยาบาลบำรุ ง ราษฎร์ ไ ด้ แ สดงให้ เ ห็ น ถึ ง ความสำเร็ จ ของธุ ร กิ จ ท่ า มกลางวิ ก ฤต ด้ ว ยอั ต ราการเติ บ โตในระดั บ ที่ สู ง การเพิ่ ม ส่ ว นแบ่ ง ทางการตลาด รวมทั้ ง การสร้ า งฐานสำหรั บ ผลตอบแทนที่ น่ า พึ ง พอใจแก่ ผู้ ถื อ หุ้ น ในปี ต่ อ ๆ มา บำรุ ง ราษฎร์ เ ป็ น ผู้ น ำในการบุ ก เบิ ก การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การพัฒนานวัตกรรมด้านสารสนเทศ และได้ลงทุนด้านคุณภาพ ซึ่งผลสำเร็จก็คือการได้รับการรับรองคุณภาพ โดยองค์ ก รในระดั บ สากล รวมทั้ ง รางวั ล และการยอมรั บ จากสถาบั น ต่ า ง ๆ ทั้ ง ในและต่ า งประเทศ ด้ ว ยมาตรฐานและคุ ณ ภาพของการ รั ก ษาพยาบาลของเรา ทำให้ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์และประเทศไทย เป็ น ที่ รู้ จั ก กั น ทั่ ว โลก วิ ก ฤตการณ์ ท างเศรษฐกิ จ ในปั จ จุ บั น ได้ ส ร้ า งความท้ า ทายขึ้ น มาอี ก ครั้ ง หนึ่ ง แต่ เ ราเชื่ อ มั่ น ว่ า จะก้ า วผ่ า นช่ ว งเวลาแห่ ง ความยากลำบาก นี้ ไปได้ ดังเช่นที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วในปี 2540 ด้วยความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ค่านิยมขององค์กร วิสัยทัศน์แห่งความเป็นผู้นำ และนวัตกรรมใหม่ ๆ บำรุงราษฎร์จะไม่หยุดยั้งในการแสวงหาตลาดใหม่ การปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการ รวมทั้งการขยายตลาด สู่ ต่ า งประเทศ แม้ ว่ า เราจะให้ ค วามระมั ด ระวั ง ในการบริ ห ารค่ า ใช้ จ่ า ย แต่ บ ำรุ ง ราษฎร์ จ ะไม่ มี ก ารประหยั ด ค่ า ใช้ จ่ า ยด้ า นคุ ณ ภาพและบริ ก าร ทางการแพทย์ ทั้ ง หมดนี้ คื อ คำมั่ น สั ญ ญาจากเราที่ ไ ด้ ให้ ไว้ กั บ ผู้ ถื อ หุ้ น มายาวนานกว่ า 10 ปี และโรงพยาบาลบำรุ ง ราษฎร์ จะยั ง คง มุ่ ง มั่ น ที่ จ ะทำตามคำมั่ น สัญญานี้ต่อไป
นายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการ
สารจากผู้อำนวยการด้านบริหารกลุ่ ม ท่ามกลางความท้าทายในปี 2551 โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์สามารถทำกำไรจากการดำเนินงานได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งการเติบโต อย่างสม่ำเสมอกว่าหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา เป็นผลจากรายได้ที่มาจากหลากหลายแหล่งเป็นสำคัญ เช่น รายได้ที่มาจากผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก อย่างละเท่า ๆ กัน รายได้ที่มาจากผู้ป่วย 190 ประเทศทั่วโลก และในไตรมาสที่สี่ของปี 2551 บำรุงราษฎร์มีส่วนแบ่งกำไรจากผลการ ดำเนินงานในต่างประเทศถึงร้อยละ 7 นับเป็นแหล่งการสร้างผลกำไรใหม่ ให้กับบำรุงราษฎร์ ซึ่งความหลากหลายของแหล่งรายได้ ทำให้เรา มีความแข็งแกร่ง สามารถเผชิญกับภาวะที่ปรวนแปรต่าง ๆ หรือแม้แต่ทำให้เรามีโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ จากสภาวะดังกล่าว บำรุงราษฎร์ ได้รับประโยชน์จากการเป็นธุรกิจบริการด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ การดูแลสุขภาพจะคงเป็นสิ่งสำคัญ และจำเป็นสำหรับผู้บริโภค ซึ่งไม่สามารถตัดค่าใช้จ่ายได้ดังเช่นสิ่งไม่จำเป็นอื่น ๆ ผู้ป่วยจึงมุ่งหวังกับการรักษาพยาบาลที่คุ้มค่า และด้วย สภาวการณ์ ใ นปั จ จุ บั น ที่ มี คู่ แ ข่ ง ทั้ ง ภายในประเทศและต่ า งประเทศอยู่ เ ป็ น จำนวนมาก เราจึ ง ต้ อ งสรรสร้ า งนวั ต กรรมที่ ก้ า วหน้ า เพื่ อ ความ เป็นหนึ่งอยู่เสมอ และด้วยความแข็งแกร่งทางการเงิน เราจึงสามารถสรรสร้างได้มากกว่าผู้ประกอบการรายอื่น เราเชื่อว่านี่คือช่วงเวลา ที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการแสวงหาโอกาสใหม่และการปรับปรุงเครื่องไม้เครื่องมือขององค์กร โดยเราได้เร่งแผนการปรับปรุงอาคาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล และได้ลงทุนในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีนวัตกรรมล่าสุด สำหรับการลงทุนในต่างประเทศ บริษัทบำรุงราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มีแผนที่จะขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เราเชื่อมั่นว่าเมื่อวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจเริ่มคลี่คลาย โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จะอยู่ ในสถานะที่ดีที่สุด เพียบพร้อมด้วยโรงพยาบาลที่ ใหม่ และแหล่งรายได้ ใหม่ ๆ จากการลงทุนในต่างประเทศ ในปี 2551 ที่ผ่านมา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้ทำการเปิดอาคารบำรุงราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลคลินิกอย่างเป็นทางการ อาคารดังกล่าว เป็นศูนย์บริการผู้ป่วยนอกของเอกชนที่ ใหญ่ที่สุดในโลก โดยสามารถรองรับผู้ป่วยได้สูงสุดถึง 6,000 คนต่อวัน นอกจากนี้ ในปี 2551 บำรุงราษฎร์ ได้รับการยอมรับให้เป็นบริษัทขนาดเล็กยอดเยี่ยมในประเทศไทย (Best small cap company in Thailand) บริษัทชั้นนำและมี นวัตกรรมยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย และโรงพยาบาลที่คนอยากทำงานด้วยมากที่สุดในประเทศไทย ทั้งหมดนี้ เป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับ การก้ า วต่ อ ไปข้ า งหน้าของเรา
นายเคอร์ติส เจ ชโรเดอร์ ผู้อำนวยการด้านบริหารกลุ่ม
คงความเข้มแข็ง แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูงอายุและมาตรฐานการดำเนินชีวิตที่สูงขึ้น ผลักดันให้เกิดความต้องการ ด้านการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพสูงขึ้นเช่นกัน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในเอเชีย ที่นำมาตรฐานการรับรองระดับสากลเข้ามาปฏิบัติเพื่อให้ผู้ป่วยวางใจในคุณภาพการรักษาพยาบาล และยังคง รักษามาตรฐานของบริการให้เทียบเท่ากับโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลกอย่างเสมอมา ภายใต้การดำเนินงาน อย่างโปร่งใสทั้งในด้านธุรกิจและการรัก ษาพยาบาล
Asian Wall Street Journal Most Admired Companies
2008 Asia 200
พ.ศ. 2545 โรงพยาบาลบำรุ ง ราษฎร์ เป็ นโรงพยาบาลแห่ ง แรกในเอเชียที่ ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก Joint Commission International องค์กรระดั บ สากล ที่ประเมินและให้การรับรองมาตรฐานโรงพยาบาลในประเทศสหรั ฐ อเมริกา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้รับการรับรองมาตรฐานอีกครั้งในปี พ.ศ. 2548 และพ.ศ. 2551 ในปี พ.ศ. 2551 โรงพยาบาลบำรุ ง ราษฎร์ ได้รับการโหวตจากผู้อ่านนิตยสาร Asian Wall Street Journal ให้เป็นหนึ่ ง ในบริ ษั ท ชั้ น นำในประเทศไทย (Thailand’s Most Admired Company) และเป็นที่หนึ่งด้านคุณภาพและการบริการ
คงความคุ้มค่า ในภาวะที่ เ กิ ด ความไม่ แ น่ น อนทางเศรษฐกิ จ ความคุ้ ม ค่ า เป็ น ปั จ จั ย สำคั ญ ประการหนึ่ ง ที่ ผู้ บ ริ โ ภค นำมาใช้ ในการตั ด สิ น ใจเรื่ อ งต่ า ง ๆ รวมถึ ง เรื่ อ งการรั ก ษาพยาบาล เพื่ อ ตอบสนองความต้ อ งการนี้ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้ริเริ่มโครงการ Healthy Living Club สำหรับผู้ที่พำนักอยู่ ในประเทศไทยขึ้นใน ปี พ.ศ. 2551 เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าอย่างยิ่งแก่สมาชิกจำนวนนับหมื่นราย โดยมิได้ประนีประนอม คุณภาพในการรักษาแต่อย่างใด ความคุ้มค่า ยังเป็นหัวใจสำคัญของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ประสบความสำเร็จ จากการรักษาพยาบาลด้วยมาตรฐานระดับสากลในราคาที่ต่ำกว่าครึ่งของราคาในสหรัฐอเมริกาและยุโรป เว็บไซต์ของโรงพยาบาลช่วยให้ผู้คนทั่วโลกได้รับทราบถึงคุณภาพและความคุ้มค่านี้ โดยทุก ๆ สัปดาห์ มีผู้ป่วยนับพันรายค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแพทย์ การให้บริการต่าง ๆ ของโรงพยาบาล และนัดพบแพทย์ ผ่านทางเว็บไซต์ เช่นเดียวกับข้อมูลด้านค่ารักษาพยาบาลตามจริงกว่า 40 รายการ ซึ่งเริ่มให้บริการตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2551 เป็นต้นมาที่ www.bumrungrad.com/realcost
@
Best Website International Medical Travel 2008
Award of Excellence
Health Tourism
ในปี พ .ศ. 2551 เว็ บ ไซต์ ข องโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (www.bumrungrad.com) ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม ด้ า นการท่ อ งเที่ ย วเชิ ง สุ ข ภาพระดั บ นานาชาติ จาก Consumer Health World Awards ประเทศสหรัฐอเมริกา โรงพยาบาลบำรุ ง ราษฎร์ ไ ด้ รั บรางวั ล สถานพยาบาลยอดเยี่ยมด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เนื่ อ งในงานอุ ต สาหกรรมท่ อ งเที่ ย วไทย (Thailand Tourism Awards) ครั้งที่ 7 ปี พ.ศ. 2551
คงความเป็นผู้นำ การบริหารจัดการอย่างชาญฉลาดและเปี่ยมด้วยประสบการณ์ ทำให้ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ยังคงก้าว ไปข้ า งหน้ า อย่ า งมั่ น คงบนทิ ศ ทางการดำเนิ น งานที่ ว างไว้ แ ม้ ในภาวะเศรษฐกิ จ ที่ ย ากลำบาก นอกจากนี้ สถานะทางการเงินที่เข้มแข็งยังช่วยให้บริษัทได้ประโยชน์จากโอกาสในการลงทุนที่มาพร้อมกับสภาพตลาด ที่กำลังถดถอย
Best
Small-Cap Company Thailand 2008
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เป็นหนึ่ ง ในสี่ อ งค์ ก รที่ ไ ด้ รั บ รางวั ล การบริ ห ารสู่ ค วามเป็นเลิศ ประจำปี พ.ศ. 2551 ซึ่งสำนักงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ได้จัดโครงการนี้ ขึ้ น เป็ น ปี ที่ เ จ็ ด โดยมอบรางวัลอันทรงเกีย รติ นี้ ให้ กั บองค์ ก รที่ มี ก ารบริ ห ารจั ด การเป็ นเลิศตามแนวทางของ Malcom Baldrige National Quality Award ของประเทศสหรั ฐ อเมริ ก า ในปี พ.ศ. 2551 โรงพยาบาลบำรุ ง ราษฎร์ ได้รับเลือกให้เป็นบริษัทขนาดเล็กที่มีการบริหารจัดการยอดเยี่ยม จากการสำรวจความคิ ด เห็ น ประจำปีของผู้จัดการกองทุนและนักวิเคราะห์ โดยนิตยสาร Asiamoney
คงความก้าวล้ำทางนวัตกรรม การพัฒนาแนวทางใหม่ ๆ เพื่อให้การรักษาผู้ป่วยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น คือเบื้องหลังความสำเร็จ ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ความก้าวหน้าทางการแพทย์และสารสนเทศไม่เพียงช่วยให้การดูแลผู้ป่วย เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันสมัยเท่านั้น แต่ยังให้ประสบการณ์ ในการเข้ารับการรักษาที่น่าพึงพอใจอีกด้วย ในปี พ.ศ. 2551 โรงพยาบาลได้ ริ เ ริ่ ม ใช้ น วั ต กรรมที่ โ ดดเด่ น หลายด้ า น อาทิ อาคารบำรุ ง ราษฎร์ อิ น เตอร์ เ นชั่ น แนลคลิ นิ ก ซึ่ ง เป็ น อาคารผู้ ป่ ว ยนอกใหม่ ห้ อ งผู้ ป่ ว ยในอั น ทั น สมั ย (ภาพขวา) รวมถึ ง ระบบห้องปฏิบัติการและระบบจัดยาอัตโนมัติ
Excellence in Information Technology 2008
Thailand’s Most Innovative Company 2008
ในปี พ.ศ. 2551 โรงพยาบาลบำรุ ง ราษฎร์ ได้ รั บรางวั ล ยอดเยี่ยมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ จากสมาคมผู้อำนวยการด้านการแพทย์ระบบสารสนเทศ (The Association of Medical Directors of Information Systems) โดยเป็นโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่นอกประเทศสหรัฐอเมริกาเพียงแห่งเดียวที่ ได้รับเกียรติ นี้ โรงพยาบาลบำรุ ง ราษฎร์ ได้ รั บรางวัลบริษัทที่มีนวัตกรรมยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทยในปี พ.ศ. 2551 ซึ่ ง จั ด ขึ้ น เป็ น ปี แ รกโดยคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คงความรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผู้บริหารและพนักงานของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้ ให้การสนับสนุนโครงการ เพื่อการกุศลต่าง ๆ รวมทั้งสละเวลาและทรัพยากรด้านการแพทย์เพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในสังคม อาทิ การริ เ ริ่ ม ให้ มี โ ครงการคลิ นิ ก เคลื่ อ นที่ ก องทุ น ทอมสั น ในปี พ.ศ. 2544 เพื่ อ ให้ บ ริ ก ารรั ก ษาพยาบาล โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแก่ชุมชนด้อยโอกาสในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เฉพาะในปี พ.ศ. 2551 คลินิกฯ ได้ ให้บริการผู้ป่วยไปแล้วกว่า 22,000 ราย และเป็ น เวลากว่ า 5 ปี แ ล้ ว ที่ โ รงพยาบาลบำรุ ง ราษฎร์ ได้ ท ำการผ่ า ตั ด หั ว ใจแก่ ผู้ ป่ ว ยเด็ ก ผู้ ย ากไร้ โดยไม่ คิ ด ค่ า ใช้ จ่ า ย และจะยั ง คงดำเนิ น การต่ อ ไปภายใต้ โครงการ “รั ก ษ์ ใจไทย” ซึ่ ง เริ่ ม ก่ อ ตั้ ง ขึ้ น ในปี พ.ศ. 2551 โดยจะรับผ่าตัดให้ผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจประมาณ 100 รายต่อปี
หนู ช อบเ ล่ น แต่ ง ตั ว ตุ ๊ ก ตา โตขึ ้ น หนู อ ยากเ ป็ น ดี ไ ซเน อร์ ช ื ่ อ ด ั ง ด.ญ. ธัมมิกา ไขโพธิ์ ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2549
โครงการเพื่ อ การกุ ศ ลของโรงพยาบาลบำรุ ง ราษฎร์ช่วยให้ ด.ช. ณัฐวุฒิ, ด.ช. ยศกร, ด.ญ. ณัฏฐณิชา และผู้ด้อยโอกาส อี ก จำนวนมากได้ มีสุ ข ภาพที่ แ ข็ ง แรงและมีอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น ด.ญ. ธัมมิกา ไขโพธิ์ อายุ 10 ปี (ภาพเล็ก) เขี ย นถึ ง ความฝั น ของเธอที่ ต้ อ งการเป็นดีไซเนอร์ หลังจากการผ่าตัดหัวใจประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
ข้อมูล ทางการเงิน
14
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
ผลการดำเนินงานรวม (พันบาท) สินทรัพย์หมุนเวียนรวม สินทรัพย์รวม หนี้สินหมุนเวียนรวม หนี้สินรวม ส่วนของผู้ถือหุ้น รายได้รวม กำไรสุทธิก่อนรายการพิเศษ กำไรสุทธิสำหรับปี กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน กำไรต่อหุ้นปรับลด มูลค่าตามบัญชีขั้นพื้นฐาน มูลค่าตามบัญชีปรับลด เงินปันผลต่อหุ้น อัตราส่วนทางการเงิน อัตรากำไรขั้นต้น (%) อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่า ตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) (%) อัตรากำไรสุทธิก่อนรายการพิเศษ (%) อัตรากำไรสุทธิ (%) อัตราการเติบโตของรายได้จากกิจการโรงพยาบาล (%) อัตราการเติบโตของกำไรสุทธิก่อนรายการพิเศษ (%) อัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ (%) อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (%) อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (%) อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (เท่า) อัตราส่วนเงินกู้ยืมต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (เท่า) อัตราส่วนเงินกู้ยืมสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (เท่า) อัตราความสามารถชำระดอกเบี้ย (เท่า) อัตราส่วนสภาพคล่อง (เท่า) ระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ย (วัน) ระยะเวลาขายสินค้าเฉลี่ย (วัน) ระยะเวลาชำระหนี้ (วัน)
2551 2550 2549 2548 2547 1,141,576 1,410,552 1,629,054 1,103,842 1,503,740 8,104,244 7,459,163 6,622,894 5,727,518 5,021,086 2,122,861 1,774,840 1,571,898 1,580,758 1,181,395 3,238,883 3,110,141 2,994,347 3,031,729 2,960,888 4,865,361 4,349,023 3,628,547 2,695,789 2,060,198 8,925,077 9,413,123 7,895,518 6,806,775 5,809,298 1,191,047 1,144,715 1,095,702 1,052,739 870,569 1,191,047 1,603,258 1,095,702 1,052,739 934,547 1.64 2.20 1.51 1.45 1.36 1.37 1.85 1.26 1.21 1.08 6.68 5.97 4.51 3.59 3.00 5.61 5.01 3.79 3.01 2.39 0.80 0.80 0.75 0.75 0.70 38.3% 38.5% 37.6% 37.6% 35.6% 24.3% 24.2% 24.7% 24.5% 23.4% 13.3% 13.3% 13.9% 15.5% 15.0% 13.3% 17.0% 13.9% 15.5% 16.1% 3.7% 8.8% 15.1% 16.9% 26.6% 4.0% 4.5% 4.1% 20.9% 30.6% -25.7% 46.3% 4.1% 12.6% 40.2% 25.9% 40.2% 34.7% 44.3% 56.3% 15.3% 22.8% 17.7% 19.6% 19.7% 0.67 0.72 0.91 1.16 1.44 0.39 0.41 0.54 0.68 1.03 0.31 0.28 0.27 0.39 0.37 18.83 18.73 17.70 15.57 11.36 0.54 0.79 1.04 0.70 1.27 25.65 26.05 22.01 17.55 16.36 13.23 13.00 11.92 11.04 9.73 34.00 37.02 39.06 38.98 39.88
15
รายงานประจำปี 2551
ข้อมูลทางการเงินโดยสรุป
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
คำอธิบายและการวิเคราะห์ฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน
บริษัทมีรายได้ 8,882 ล้านบาทในปี 2551 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากปี 2550 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,191 ล้านบาทในปี 2551 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากกำไรสุทธิซึ่งไม่รวมรายการที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงานโดยปกติของบริษัทในปี 2550 โดยหากรวมรายการที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงาน โดยปกติของบริษัทในปี 2550 แล้ว กำไรสุทธิในปี 2551 ลดลงร้อยละ 26 จากปี 2550 ทั้งนี้ รายการที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงานโดยปกติของ บริษัท ซึ่งเกิดขึ้นในปี 2550 คือกำไรจากการขายซอฟท์แวร์สำหรับโรงพยาบาลโดย บริษัท ซีดีอี เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของบริษัท ทั้งนี้ รายละเอียดของคำอธิบายและการวิเคราะห์ฐานะการเงินและผลการดำเนินงานมีดังต่อไปนี้ 1. เกณฑ์ ในการจัดทำงบการเงินรวม เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2550 บริษัทได้สละสิทธิในการจองหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของบริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อให้ Asia Financial Holding เข้าถือหุ้นในบริษัทบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 19.5% เป็นผลให้บริษัทลดสัดส่วนการถือ หุ้นในบริษัทบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จาก 51.0% เป็น 31.5% และบริษัทบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้เปลี่ยนสถานะจากบริษัทย่อยเป็นบริษัทร่วม ดังนั้น จากไตรมาสที่ 2 ปี 2550 เป็นต้นไป รายการบัญชีของบริษัทบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ไม่ได้รวมอยู่ในงบการเงินรวมของบริษัท และบริษัทใช้วิธีส่วนได้เสียแทน ดังนั้น งบกำไรขาดทุนปี 2550 สะท้อนผลการรวมรายการบัญชีไตรมาส 1 ปี 2550 ของบริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และวิธีส่วนได้เสียในไตรมาส 2 ไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปี 2550 ในขณะทีง่ บกำไรขาดทุนปี 2551 ไม่ได้รวมรายการบัญชีของบริษทั บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชัน่ แนล จำกัด 2. งบกำไรขาดทุน ในปี 2551 บริษัทมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาล 8,629 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จาก 8,323 ล้านบาทในปี 2550 เนื่องจาก การเติบโตอย่างต่อเนื่องของกิจการโรงพยาบาล โดยรายได้จากผู้ป่วยในเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 และรายได้จากผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 ส่วนรายได้อื่นเพิ่มขึ้นเป็น 87 ล้านบาทในปี 2551 จาก 43 ล้านบาทในปี 2550 จากการขายสมาชิกโครงการ “Healthy Living Club” ซึ่งเริ่มเมื่อเดือนมิถุนายน 2551 รวมทั้งรายได้จากร้านอาหาร “the Mezz” ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการในอาคารบำรุงราษฎร์ อินเตอร์ เนชัน่ แนล คลินกิ ในเดือนพฤษภาคม 2551 เช่นกัน รายได้รวมในปี 2551 เท่ากับ 8,882 ล้านบาท เพิม่ ขึน้ ร้อยละ 4 จาก 8,559 ล้านบาท ในปี 2550 เท่ากับการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกิจการโรงพยาบาล บริษัทมีต้นทุนกิจการโรงพยาบาล 5,324 ล้านบาท ในปี 2551 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จาก 5,120 ล้านบาทในปี 2550 เท่ากับการเพิ่ม ขึ้นของรายได้จากกิจการโรงพยาบาล ดังนั้น กำไรขั้นต้นของบริษัทเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เป็น 3,305 ล้านบาทในปี 2551 จาก 3,203 ล้านบาทในปี 2550 และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 38.3% ในปี 2551 เทียบกับ 38.5% ในปี 2550 ค่าใช้จ่ายในการบริหารของบริษัทในปี 2551 อยู่ที่ 1,396 ล้านบาท เทียบกับ 1,356 ล้านบาทในปี 2550 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เป็น ไปตามการเพิ่มขึ้นของรายได้ เนื่องจากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่เข้มงวด กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เป็น 2,155 ล้านบาทในปี 2551 จาก 2,070 ล้านบาทในปี 2550 ส่วนอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA margin) อยู่ในอัตราใกล้เคียงเดิม ที่ 24.3% ในปี 2551 เทียบกับ 24.2% ในปี 2550 ในปี 2551 บริษัทมีค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย 459 ล้านบาท มากกว่า 408 ล้านบาทในปี 2550 เนื่องจากการเปิดอาคาร บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชัน่ แนล คลินกิ ในเดือนพฤษภาคม 2551 เป็นผลให้บริษทั เริม่ รับรูค้ า่ เสือ่ มราคาทีเ่ กีย่ วกับอาคารดังกล่าว บริษทั มีภาษีเงินได้นิติบุคคล 440 ล้านบาทในปี 2551 เทียบกับ 445 ล้านบาท ในปี 2550 ซึ่งคิดเป็นอัตราภาษี 27.7% ในปี 2551 และ 28.5% ในปี 2550 อัตราภาษีดังกล่าว ต่ำกว่าปกติเล็กน้อย เนื่องจากบริษัทได้ประโยชน์จากกการประหยัดภาษีจากกรมสรรพากร ซึ่งให้บริษัท สามารถนำ 25% ของเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์มาคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อหักภาษีได้ บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วมจำนวน 43 ล้านบาทในปี 2551 ซึ่งประกอบด้วย (1) ส่วนแบ่ง กำไรจากบริษัทบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จำนวน 65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากจาก 18 ล้านบาทในปี 2550 จากผลการ ดำเนินงานที่ดีขึ้นของแต่ละโครงการ ยกเว้นโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ดูไบ ซึ่งบริษัทบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดได้ตั้งสำรอง เพื่อการด้อยค่าของเงินลงทุนไว้เต็มจำนวน ในไตรมาส 4 ปี 2551 เป็นจำนวน 76 ล้านบาท (ในงบการเงินของบริษัทบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด) เนื่องจากโครงการดังกล่าว อยู่ระหว่างการหยุดดำเนินการเพื่อทบทวนโครงการอีกครั้งหนึ่ง และ (2) ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทซีดีอี เทรดดิ้ง จำกัด (เดิมชื่อบริษัทโกลเบิล แคร์ โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด) 22 ล้านบาท จากการ ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนของจำนวนเงินที่ยังไม่ได้รับชำระจากการขายสินทรัพย์ในไตรมาส 1 ปี 2551 เนื่องจากการแข็งค่าของ เงินบาทเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐ สำหรับปี 2550 บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 854 ล้านบาท ซึ่ ง สู ง กว่ า ในปี 2551 มาก เนื่ อ งจากในปี 2550 บริ ษั ท มี ร ายการที่ ไ ม่ เ กี่ ย วกั บ การดำเนิ น งานโดยปกติ ข องบริ ษั ท ซึ่ ง เกิ ด ขึ้ น
16
2551 2550 Growth รายได้จากกิจการโรงพยาบาล 8,629 8,323 4% รายได้รวม 8,882 8,559 4% กำไรขั้นต้น 3,305 3,203 3% อัตรากำไรขั้นต้น 38.3% 38.5% กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 2,155 2,070 4% (ไม่รวมรายการที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงานโดยปกติ) อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) 24.3% 24.2% ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วม 43 854 -95% กำไรสุทธิ (ไม่รวมรายการที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงานโดยปกติ) 1,191 1,145 4% อัตรากำไรสุทธิ (ไม่รวมรายการที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงานโดยปกติ) 13.3% 13.3% กำไรสุทธิ 1,191 1,603 -26% 13.3% 17.0% อัตรากำไรสุทธิ กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (ไม่รวมรายการที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงานโดยปกติ) 1.64 1.54 6% กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 1.64 2.20 -26% กำไรต่อหุ้นแบบปรับลด (ไม่รวมรายการที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงานโดยปกติ) 1.37 1.29 6% 1.37 1.85 -26% กำไรต่อหุ้นแบบปรับลด
3. งบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 บริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียน 1,142 ล้านบาท ลดลงจาก 1,410 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 จากการลดลงของเงินสดและลูกหนี้การค้า เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดลดลงเหลือ 385 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 จาก 550 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 จากการซื้ออาคารบีเอช ทาวเวอร์ การสร้างอาคารบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล คลินิก และการซื้ออุปกรณ์การแพทย์ ลูกหนี้การค้าลดลง เหลือ 494 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 จาก 590 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 เนื่องจากมีการเก็บหนี้ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากลูกหนี้ตะวันออกกลาง สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนเพิ่มขึ้น
17
รายงานประจำปี 2551
ครั้งเดียว คือส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนใน ซีดีอี เทรดดิ้ง จำนวน 829 ล้านบาท ซึ่งเป็นการบันทึกกำไรครั้งเดียวจากการขาย สินทรัพย์คือซอฟท์แวร์สำหรับโรงพยาบาลให้กับไมโครซอฟท์ หักด้วยผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 ปี 2550 ของซีดีอี เทรดดิ้ง ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนที่เหลือในปี 2550 คือ (1) ส่วนแบ่งกำไรจาก บริษัท เอเชียน ฮอสพิทอล อิงค์ ในไตรมาส 1 ปี 2550 จำนวน 8 ล้านบาท ซึ่ง ณ ขณะนั้นรายการบัญชีของบริษัทบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้รวมอยู่ในงบการเงินรวมของ บริษัท และ (2) ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รวม 18 ล้านบาท ในไตรมาส 2 3 และ 4 ของปี 2550 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,191 ล้านบาทในปี 2551 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากกำไรสุทธิปกติ 1,145 ล้านบาทในปี 2550 (ไม่รวมรายการ ที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงานโดยปกติของบริษัทซึ่งเกิดขึ้นครั้งเดียว คือ ค่าเผื่อการด้อยค่าของสินทรัพย์ 370 ล้านบาท และส่วนแบ่ง กำไรจากเงินลงทุนในซีดีอี เทรดดิ้ง 829 ล้านบาท) แต่ลดลงร้อยละ 26 จากกำไรสุทธิตามที่รายงาน จำนวน 1,603 ล้านบาทในปี 2550 และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 13.3% ในปี 2551 ใกล้เคียงกับอัตรากำไรสุทธิปกติ (ไม่รวมรายการที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงานโดย ปกติของบริษัทซึ่งเกิดขึ้นครั้งเดียว) ที่ 13.3% ในปี 2550 แต่ลดลงจากอัตรากำไรสุทธิตามที่รายงาน ที่ 17.0% ในปี 2550 ในปี 2551 บริษัทมีกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 1.64 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากกำไรปกติต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (ไม่รวมรายการที่ไม่เกี่ยว กับการดำเนินงานโดยปกติของบริษัทซึ่งเกิดขึ้นครั้งเดียว) 1.54 บาทในปี 2550 แต่ลดลงร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน ตามที่รายงาน 2.20 บาท ในปี 2550 เช่นเดียวกัน บริษัทมีกำไรต่อหุ้นแบบปรับลด 1.37 บาทในปี 2551 เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากกำไร ปกติต่อหุ้นแบบปรับลด (ไม่รวมรายการที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงานโดยปกติของบริษัทซึ่งเกิดขึ้นครั้งเดียว) 1.29 บาทในปี 2550 แต่ลดลงร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับกำไรต่อหุ้นแบบปรับลดตามที่รายงาน 1.85 บาท ในปี 2550 (หน่วย: ล้านบาท)
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
เป็น 6,963 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 จาก 6,049 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 จากการเพิ่มขึ้นของที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ หักลบด้วยการลดลงของเงินลงทุนในบริษัทร่วม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ เพิ่มขึ้นเป็น 5,374 ล้านบาท จาก 4,145 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 จากการซื้ออาคารบีเอช ทาวเวอร์ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 การก่อสร้างและตกแต่งภายในเจ็ดชั้นของอาคารบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล คลินิก ซึ่งแล้วเสร็จ และได้เปิดให้บริการแล้ว เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2551 และการซื้ออุปกรณ์การแพทย์ เงินลงทุนในบริษัทร่วม ลดลงเหลือ 1,235 ล้านบาท ณ วันที ่ 31 ธันวาคม 2551 จาก 1,523 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 เนื่องจากเงินลงทุนใน บริษัทซีดีอี เทรดดิ้ง จำกัด ได้ถูกปรับปรุง โดยเงินปันผลรับ จำนวน 438 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2551 เป็นผลให้บริษัทบันทึกเงินลงทุนในซีดีอี เทรดดิ้งจำนวน -28 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 เทียบกับ 432 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 นอกจากนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 บริษัทมีเงิน ลงทุนในการร่วมค้า 6 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 4 ปี 2551 บริษัทได้ลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 51 ในบริษัท เอเชีย รีนัล แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด (ARC Thailand) เพื่อลงทุนในธุรกิจไตเทียม และในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ARC Thailand ได้เข้าทำสัญญาเพื่อ ลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 20 ในบริษัท เนพโฟรเมด จำกัด ซึ่งดำเนินกิจการให้บริการฟอกไต มีคลินิกไตเทียม 14 แห่งในประเทศไทย บริษัทมีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 8,104 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 จาก 7,459 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 หนี้สินรวมของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 เท่ากับ 3,239 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย จาก 3,110 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของเงินกู้ยืมที่มีการจ่ายดอกเบี้ย (เงินกู้ยืมระยะสั้น + เงินกู้ยืมระยะยาวรวมส่วนที่ถึงกำหนดชำระ ภายในหนึ่งปี) เป็น 1,885 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 จาก 1,772 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 จากการที่บริษัทได้ เบิกเงินกู้ยืมระยะยาวจำนวน 400 ล้านบาท ในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 เพื่อใช้ในการซื้ออาคารบีเอช ทาวเวอร์ หักด้วยการจ่ายคืนเงินกู้ ยืมระยะยาว 487 ล้านบาท ในปี 2551 และการเบิกเงินกู้ยืมระยะสั้น จำนวน 200 ล้านบาทเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ด้วยเงินกู้ที่ เพิ่มขึ้น พร้อมกับฐานะเงินสดที่ลดลง อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net debt to equity) เพิ่มขึ้นเป็น 0.31 เท่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 จาก 0.28 เท่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 อัตราความสามารถชำระดอกเบี้ยของบริษัทอยู่ใกล้เคียงเดิมที่ 18.8 เท่าในปี 2551 เทียบกับ 18.7 เท่าในปี 2550 ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท เพิ่มขึ้นเป็น 4,865 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 จาก 4,349 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 จากกำไรสุทธิในปี 2551 จำนวน 1,191 ล้านบาท หักด้วยเงินปันผลจ่าย จำนวน 584 ล้านบาท และผลต่างจากการแปลงค่างบ การเงินของบริษัทร่วม (บริษัทบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด) ในปี 2551 จำนวน 63 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนจาก สินทรัพย์เฉลี่ย (Average ROA) ในปี 2551 อยู่ที่ 15.3% เทียบกับ 22.8% ในปี 2550 และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (Average ROE) ยังคงสูงอยู่ที่ 25.9% สำหรับปี 2551 เทียบกับ 40.2% ในปี 2550 อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์เฉลี่ยและอัตราผลตอบแทน ผู้ถือหุ้นเฉลี่ยในปี 2550 สูงมากกว่าปกติ เนื่องจากกำไรสุทธิตามที่รายงานที่ใช้ในการคำนวนอัตราส่วนดังกล่าว รวมรายการที่ ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงานโดยปกติของบริษัทซึ่งเกิดขึ้นครั้งเดียว ดังที่ได้อธิบายแล้วข้างต้น ในส่วนของทุนหมุนเวียน บริษัทมีระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ยลดลงเล็กน้อย เป็น 25.6 วัน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 จาก 26.1 วัน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 จากการที่บริษัทสามารถเก็บหนี้ได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะจากลูกค้าชาวตะวันออกกลาง ระยะเวลาขายสินค้า เฉลี่ยของบริษัท อยู่ใกล้เคียงเดิมที่ 13.2 วัน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 เมื่อเทียบกับ 13.0 วัน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 ส่วนระยะ เวลาชำระหนี้เร็วขึ้นเล็กน้อย เป็น 34.0 วัน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 จาก 37.0 วัน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 เนื่องจากมีการ ติดตามนโยบายการจ่ายหนี้ให้เร็วขึ้นในปี 2551 (หน่วย: ล้านบาท)
18
สินทรัพย์รวม หนี้สินรวม ส่วนของผู้ถือหุ้น ระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ย (วัน) ระยะเวลาขายสินค้าเฉลี่ย (วัน) ระยะเวลาชำระหนี้ เฉลี่ย (วัน) อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net Debt to Equity) (เท่า) อัตราความสามารถชำระดอกเบี้ย (Interest Coverage Ratio) (เท่า) อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์เฉลี่ย (Average ROA) (%) อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (Average ROE) (%)
2551 8,104 3,239 4,865 25.6 13.2 34.0 0.31 18.8 15.3 25.9
2550 7,459 3,110 4,349 26.1 13.0 37.0 0.28 18.7 22.8 40.2
Growth 9% 4% 12%
กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้น (ลดลง) สุทธิ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดปลายปี อัตราส่วนสภาพคล่อง (เท่า) อัตราส่วนสภาพคล่องหมุนเร็ว (เท่า)
2551 1,762 -1,440 -488 -165 385 0.54 0.41
2550 1,341 -585 -617 139 550 0.79 0.64
19
รายงานประจำปี 2551
4. สภาพคล่อง ในปี 2551 บริษัทมีกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน จำนวน 1,762 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1,341 ล้านบาท ในปี 2550 เนื่องจากการลดลงของลูกหนี้การค้า กระแสเงินสดใช้ไปในกิจกรรมลงทุนเพิ่มขึ้น เป็น 1,440 ล้านบาทในปี 2551 จาก 585 ล้านบาท ในปี 2550 เนื่องจากบริษัทมีการจ่ายซื้อที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ และจ่ายชำระเจ้าหนี้งานก่อสร้างและอุปกรณ์การแพทย์ ซึ่งเป็นการ ซื้ออาคารบีเอช ทาวเวอร์ การก่อสร้างอาคารบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล คลินิก และการซื้ออุปกรณ์การแพทย์ บริษัทมีเงินสดสุทธิ ใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงิน 488 ล้านบาทในปี 2551 เทียบกับ 617 ล้านบาทในปี 2550 จากการกู้ยืมระยะสั้นเพิ่ม 200 ล้านบาท ในปี 2550 เป็นผลให้บริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดปลายงวดอยู่ที่ 385 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 เทียบกับ 550 ล้านบาท (หลังหักเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดของบริษัทย่อย บริษัทบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ณ วันที่บริษัท ย่อยเปลี่ยนเป็นบริษัทร่วม) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 อัตราส่วนสภาพคล่อง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ลดลง อยู่ที่ 0.54 เท่า จาก 0.79 เท่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 ส่วนอัตรา ส่วนสภาพคล่องหมุนเร็ว ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 อยู่ที่ 0.41 เท่า เทียบกับ 0.64 เท่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 เนื่องจากการลด ลงของสินทรัพย์หมุนเวียน จากการลดลงของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด และลูกหนี้การค้า พร้อมกับการเพิ่มขึ้นของหนี้สิน หมุนเวียน จากการเพิ่มขึ้นของเงินกู้ระยะสั้น (หน่วย: ล้านบาท)
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
รายงานของคณะกรรมการตรวจสอบ
เรียน ท่านผู้ถือหุ้น บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) คณะกรรมการบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบประกอบด้วย กรรมการบริษัทที่เป็น อิสระจากการบริหารงาน 3 ท่าน โดยมี น.ส. โสภาวดี อุตตโมบล เป็นประธานการการตรวจสอบ นายบุญปกรณ์ โชควัฒนา และนายสรดิษ วิญญรัตน์ เป็นกรรมการตรวจสอบ โดยกำหนดให้มีหน้าที่และความรับผิดชอบที่สำคัญคือ ดูแลรายงานทางการเงินของบริษัทให้เป็นไปตาม มาตรฐานบัญชี มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างถูกต้องและเพียงพอ ดูแลให้บริษัทมีระบบการควบคุมภายใน การประเมินความเสี่ยงและการ ควบคุมความเสี่ยงที่มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ มีการปฏิบัติตามข้อกำหนด และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และดูแลกรณีที่อาจเกิด ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในการทำรายการ ระหว่างบริษัทกับบุคคล หรือมีรายการที่เกี่ยวโยงกัน ในปี พ.ศ. 2551 คณะกรรมการตรวจสอบ มีการประชุมทั้งหมด 4 ครั้ง เพื่อดำเนินงานตามความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมาย โดยมีประเด็นที่เป็นสาระสำคัญคือ 1. สอบทานงบการเงิ น ของบริ ษั ท และบริ ษั ท ย่ อ ยก่ อ นนำเสนอต่ อ คณะกรรมการบริ ษั ท จากการสอบทานและฟั ง คำชี้ แ จง ผู้สอบบัญชีและฝ่ายบริหาร คณะกรรมการตรวจสอบมีความเห็นและเชื่อว่างบการเงินดังกล่าวได้จัดทำตามมาตรฐานบัญชี โดยมี การเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญอย่างถูกต้องและครบถ้วน 2. พิจารณาเสนอแนะการแต่งตั้ง นางสาววิสสุตา จริยธนากร จากบริษัทสำนักงาน เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด เป็นผู้สอบบัญชี และเสนอแนะค่าสอบประจำปีต่อคณะกรรมการบริษัท เพื่อเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติ 3. พิจารณาอนุมัติงบประมาณประจำปีของฝ่ายตรวจสอบภายใน แผนการตรวจสอบประจำปี ทบทวนแผนงานและกระบวนการ ตรวจสอบ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการบริหารงานของบริษัท และให้ความเห็นชอบในการกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติงานการ ตรวจสอบภายในเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้เป็นหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานสากล 4. พิจารณาการทำรายการกับบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน การเปิดเผยสารสนเทศของรายการกับบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน และการได้มาหรือ จำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ 5. พิจารณา และว่าจ้าง 1 ใน 4 บริษัทตรวจสอบบัญชีสากลที่มีชื่อเสียง เพื่อทำการทบทวนและปรับปรุงเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ งานการตรวจสอบภายใน คือ กฎบัตรของคณะกรรมการตรวจสอบ กฎบัตรของฝ่ายตรวจสอบภายใน นอกจากนี้ยังได้มอบหมาย ให้บริษัทดังกล่าวประเมิน ระบุ และ จัดลำดับความเสี่ยงองค์กร ควบคู่ไปกับการจัดทำแผนการตรวจสอบ 18 เดือน นอกจากนี้ คณะกรรมการได้อนุมัติเพิ่มตำแหน่งผู้จัดการแผนกตรวจสอบภายใน รวมถึงงบประมาณที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงาน ตรวจสอบภายใน 6. พิ จ ารณาและรั บ ฟั ง คำชี้ แ จงรายงานผลการตรวจสอบภายในจากผู้ ต รวจสอบภายในของบริ ษั ท และให้ ข้ อ เสนอแนะแก่ คณะกรรมการและผู้บริหาร เกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี และการควบคุมภายใน นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญในการ จัดประชุมผู้ถือหุ้นอย่างเหมาะสมตามแนวทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบและ วิธีปฏิบัติ และความมีประสิทธิภาพเพียงพอในการประเมินความเสี่ยงและกิจกรรมป้องกันความเสี่ยงของฝ่ายต่างๆและของ องค์กร คณะกรรมการมีความเห็นว่าบริษัทมีระบบการควบคุมภายที่มีความเหมาะสมและเพียงพอกับการป้องกันความเสี่ยงจาก การดำเนินงานตามแนวนโยบายและในกลยุทธ์ต่างๆของบริษัท คณะกรรมการตรวจสอบได้ปฏิบัติหน้าที่ตามได้รับมอบหมายด้วยความระมัดระวังอย่างเต็มความสามารถ เพื่อประโยชน์ของ บริษัท ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียทั้งปวง นางสาวโสภาวดี อุตตโมบล ประธานกรรมการตรวจสอบ วั น ที่ 25 กุ ม ภาพั น ธ์ 2552
20
คณะกรรมการบริษัทเป็นผู้รับผิดชอบต่องบการเงินรวมของบริษัทและบริษัทย่อย และสารสนเทศที่ปรากฏในรายงานประจำปี งบการเงินดังกล่าวจะจัดทำขึ้นตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไปโดยเลือกใช้นโยบายการบัญชีที่เหมาะสมและถือปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ โดยจัดทำขึ้นอย่างระมัดระวังตลอดจนประเมินถึงความเหมาะสมของการแสดงรายการที่นำเสนอในงบการเงินโดยรวม รวมทั้งมีการเปิดเผย ข้อมูลอย่างเพียงพอในหมายเหตุประกอบงบการเงิน คณะกรรมการบริษัทได้จัดให้มีระบบการควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลทางบัญชีมีการบันทึก อย่างครบถ้วน ถูกต้อง และมีระบบการจัดเก็บรักษาทรัพย์สิน เพื่อป้องกันการทุจริตหรือเสียหายอย่างมีสาระสำคัญ คณะกรรมการมีความเห็นว่า ระบบควบคุมภายในของบริษัทโดยรวมอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และสามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อความ เชื่อถือได้ของงบการเงินของบริษัทและบริษัทย่อย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 นายชัย โสภณพนิช นางลินดา ลีสหะปัญญา ประธานกรรมการ กรรมการผู้จัดการ
21
รายงานประจำปี 2551
รายงานความรับผิดชอบของคณะกรรมการต่อรายงานการเงิน
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย รายงาน และ งบการเงินรวม 31 ธันวาคม 2551 และ 2550
22
เสนอต่อผู้ถือหุ้นของบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) ข้าพเจ้าได้ตรวจสอบงบดุลรวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 งบกำไรขาดทุนรวม งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้นรวมและ งบกระแสเงินสดรวมสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย และได้ตรวจสอบ งบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) ด้วยเช่นกัน ซึ่งผู้บริหารของกิจการเป็นผู้รับผิดชอบต่อความ ถูกต้องและครบถ้วนของข้อมูลในงบการเงินเหล่านี้ ส่วนข้าพเจ้าเป็นผู้รับผิดชอบในการแสดงความเห็นต่องบการเงินดังกล่าวจากผลการ ตรวจสอบของข้าพเจ้า งบการเงินรวมสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ของบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทย่อย และงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) ที่นำมาเปรียบเทียบไว้ ณ ที่นี้ ได้ตรวจสอบ โดยผู้สอบบัญชีอื่นในสำนักงานเดียวกันกับข้าพเจ้า ซึ่งเสนอรายงานไว้อย่างไม่มีเงื่อนไขตามรายงานลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2551 ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไป ซึ่งกำหนดให้ข้าพเจ้าต้องวางแผนและปฏิบัติงานเพื่อให้ได้ ความเชื่อมั่นอย่างมีเหตุผลว่างบการเงินแสดงข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญหรือไม่ การตรวจสอบรวมถึงการใช้วิธีการทดสอบ หลักฐานประกอบรายการทั้งที่เป็นจำนวนเงินและการเปิดเผยข้อมูลในงบการเงิน การประเมินความเหมาะสมของหลักการบัญชีที่กิจการใช้ และประมาณการเกี่ยวกับรายการทางการเงินที่เป็นสาระสำคัญ ซึ่งผู้บริหารเป็นผู้จัดทำขึ้น ตลอดจนการประเมินถึงความเหมาะสมของการ แสดงรายการที่นำเสนอในงบการเงินโดยรวม ข้าพเจ้าเชื่อว่าการตรวจสอบดังกล่าวให้ข้อสรุปที่เป็นเกณฑ์อย่างเหมาะสมในการแสดงความ เห็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเห็นว่า งบการเงินข้างต้นนี้แสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ผลการดำเนินงานและกระแสเงินสดสำหรับปีสิ้นสุด วันเดียวกันของบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อยและเฉพาะของบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป วิสสุตา จริยธนากร ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขทะเบียน 3853 บริษัท สำนักงาน เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด กรุงเทพฯ: 25 กุมภาพันธ์ 2552
23
รายงานประจำปี 2551
รายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550
หมายเหตุ สินทรัพย์ สินทรัพย์หมุนเวียน เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 6 ลูกหนี้การค้า - สุทธิ ลูกหนี้กิจการที่เกี่ยวข้องกัน 7 เงินทดรองแก่พนักงานและกรรมการ เงินให้กู้ยืมระยะสั้นและดอกเบี้ยค้างรับ - กิจการ ที่เกี่ยวข้องกัน 7 สินค้าคงเหลือ 8 ค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้า สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น รวมสินทรัพย์หมุนเวียน สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน เงินฝากธนาคารที่มีภาระค้ำประกัน 9 เงินลงทุนในบริษัทย่อย - สุทธิ 10 เงินลงทุนในการร่วมค้า 11 เงินลงทุนในบริษัทร่วม - สุทธิ 12 เงินลงทุนระยะยาวอื่น - สุทธิ 13 ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - สุทธิ 14 สินทรัพย์ไม่มีตัวตน - สุทธิ 15 สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน รวมสินทรัพย์
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
24
งบการเงินรวม 2551 2550 384,641,789 549,863,854 494,121,990 590,306,691 8,797,038 7,140,769 8,785,621 10,337,972 - - 187,974,998 203,483,802 52,243,447 48,036,054 5,010,939 1,382,929 1,141,575,822 1,410,552,071 17,146,800 12,146,800 - - 6,085,265 - 1,234,931,024 1,522,607,253 2,247,213 2,247,213 5,373,730,959 4,144,586,821 310,364,085 349,177,979 18,162,783 17,845,161 6,962,668,129 6,048,611,227 8,104,243,951 7,459,163,298
(หน่วย: บาท) งบการเงินเฉพาะกิจการ 2551 2550 350,881,453 508,939,898 492,376,167 588,086,215 8,797,038 7,225,215 8,785,621 10,329,872 - 10,058,348 184,131,025 199,829,831 51,715,907 46,088,460 4,702,592 919,161 1,101,389,803 1,371,477,000 8,792,400 3,792,400 1,172,512,972 1,172,512,972 6,119,970 - 1,013,453,313 887,703,313 2,047,213 2,047,213 4,412,801,934 3,128,389,655 343,423,294 476,188,623 21,162,784 20,845,159 6,980,313,880 5,691,479,335 8,081,703,683 7,062,956,335
รายงานประจำปี 2551
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบดุล (ต่อ) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550
(หน่วย: บาท) งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะกิจการ หมายเหตุ 2551 2550 2551 2550 หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น หนี้สินหมุนเวียน เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 16 200,000,000 - 200,000,000 - เจ้าหนี้การค้า 504,341,232 501,349,205 502,592,696 499,321,764 เจ้าหนี้กิจการที่เกี่ยวข้องกัน 7 2,015,049 - 3,683,026 - เจ้าหนี้งานก่อสร้างและอุปกรณ์การแพทย์ 77,127,082 120,299,463 77,127,082 120,299,463 เงินกู้ยืมระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 17 569,279,069 437,148,619 131,250,000 81,250,000 เงินกู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ยค้างจ่าย - กิจการ ที่เกี่ยวข้องกันที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 7 - - 438,029,068 355,898,619 ค่าธรรมเนียมแพทย์ค้างจ่าย 262,460,716 292,550,253 261,310,716 291,726,160 564,859 1,091,635 312,842 400,328 ดอกเบี้ยค้างจ่าย 11,575,343 6,232,877 11,575,343 6,232,877 ดอกเบี้ยค้างจ่าย - หุ้นกู้แปลงสภาพที่ถือเป็นตราสารทุน ภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่าย 195,479,980 197,048,251 193,045,798 196,325,517 ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย 260,094,311 148,689,856 258,020,607 147,909,167 เจ้าหนี้อื่น 16,098,005 29,372,607 15,773,332 29,298,631 หนี้สินหมุนเวียนอื่น 23,825,155 41,057,085 23,420,748 40,259,870 2,122,860,801 1,774,839,851 2,116,141,258 1,768,922,396 รวมหนี้สินหมุนเวียน หนี้สินไม่หมุนเวียน เงินกู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ยค้างจ่าย - กิจการ ที่เกี่ยวข้องกัน 7 - - 501,207,360 856,337,809 เงินกู้ยืมระยะยาว 17 1,116,021,802 1,335,300,872 787,500,000 568,750,000 1,116,021,802 1,335,300,872 1,288,707,360 1,425,087,809 รวมหนี้สินไม่หมุนเวียน 3,238,882,603 3,110,140,723 3,404,848,618 3,194,010,205 รวมหนี้สิน
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
25
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบดุล (ต่อ) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550
งบการเงินรวม หมายเหตุ 2551 2550 ส่วนของผู้ถือหุ้น ทุนเรือนหุ้น 19 ทุนจดทะเบียน หุ้นสามัญ 920,919,935 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท (2550: หุ้นสามัญ 920,853,235 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท) 920,919,935 920,853,235 หุ้นบุริมสิทธิ 1,782,750 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท (2550: หุ้นบุริมสิทธิ 1,849,450 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท) 1,782,750 1,849,450 ทุนที่ออกและชำระแล้ว หุ้นสามัญ 728,269,472 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท (2550: หุ้นสามัญ 728,202,772 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท) 728,269,472 728,202,772 หุ้นบุริมสิทธิ 1,782,750 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท (2550: หุ้นบุริมสิทธิ 1,849,450 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท) 1,782,750 1,849,450 ส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญ 285,568,300 285,568,300 ส่วนเกินทุนอื่นของบริษัทร่วม 252,172,534 256,548,996 ผลต่างจากการแปลงค่างบการเงิน (53,479,292) 9,985,279 หุ้นกู้แปลงสภาพที่ถือเป็นตราสารทุน 18 550,000,000 550,000,000 ส่วนเกินมูลค่าเงินลงทุนที่สูงกว่ามูลค่าตามบัญชี ของบริษัทย่อย (192,661,558) (192,661,558) กำไรสะสม จัดสรรแล้ว - สำรองตามกฎหมาย 20 92,275,000 92,275,000 ยังไม่ได้จัดสรร 3,201,434,142 2,617,254,336 รวมส่วนของผู้ถือหุ้น 4,865,361,348 4,349,022,575 รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 8,104,243,951 7,459,163,298 หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
26
(หน่วย: บาท) งบการเงินเฉพาะกิจการ 2551 2550 920,919,935 920,853,235 1,782,750 1,849,450 728,269,472 728,202,772 1,782,750 1,849,450 285,568,300 285,568,300 - - - - 550,000,000 550,000,000 - - 92,275,000 92,275,000 3,018,959,543 2,211,050,608 4,676,855,065 3,868,946,130 8,081,703,683 7,062,956,335
รายงานประจำปี 2551
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบกำไรขาดทุน สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550 รายได้ รายได้จากกิจการโรงพยาบาล รายได้จากกิจการบริหารโรงพยาบาล รายได้ค่าเช่า ดอกเบี้ยรับ กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน รายได้เงินปันผลจากบริษัทร่วม รายได้อื่น รวมรายได้ ค่าใช้จ่าย ต้นทุนกิจการโรงพยาบาล ค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย ค่าใช้จ่ายในการบริหาร ค่าเผื่อการด้อยค่าของสินทรัพย์ รวมค่าใช้จ่าย กำไรก่อนค่าใช้จ่ายทางการเงินและภาษีเงินได้นิติบุคคล ค่าใช้จ่ายทางการเงิน ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วม กำไรก่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้นิติบุคคล กำไรสุทธิสำหรับปี การแบ่งปันกำไร (ขาดทุน) สุทธิ กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ ขาดทุนส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของบริษัทย่อย กำไรสุทธิสำหรับปี หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
หมายเหตุ 7 7 7 7 7, 12.2 7 7 14, 15 7 7 11.2, 12.2 22
งบการเงินรวม 2551 2550 8,629,431,002 8,323,137,073 - 17,456,184 127,882,990 132,305,227 6,273,193 12,493,388 31,544,727 29,876,972 - - 86,696,905 43,466,165 8,881,828,817 8,558,735,009 5,324,432,431 5,119,724,624 459,363,374 407,634,558 1,395,955,771 1,356,383,467 - 370,232,632 7,179,751,576 7,253,975,281 1,702,077,241 1,304,759,728 (114,427,819) (110,513,805) 43,247,889 854,387,550 1,630,897,311 2,048,633,473 (439,850,701) (445,375,457) 1,191,046,610 1,603,258,016 1,191,046,610 1,605,462,201 - (2,204,185) 1,191,046,610 1,603,258,016
(หน่วย: บาท) งบการเงินเฉพาะกิจการ 2551 2550 8,560,815,107 8,247,922,455 - - 154,407,401 159,555,897 5,856,178 8,668,544 31,544,307 32,293,650 437,927,000 418,430,250 86,496,906 57,692,932 9,277,046,899 8,924,563,728 5,303,081,983 5,089,520,686 403,559,695 369,775,988 1,460,724,816 1,409,801,151 143,010,644 370,232,632 7,310,377,138 7,239,330,457 1,966,669,761 1,685,233,271 (123,830,878) (116,445,159) - - 1,842,838,883 1,568,788,112 (428,063,144) (439,891,445) 1,414,775,739 1,128,896,667 1,414,775,739 1,128,896,667
27
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบกำไรขาดทุน (ต่อ) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550 กำไรต่อหุ้น กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (หุ้น) กำไรต่อหุ้นปรับลด กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (หุ้น) หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
28
(หน่วย: บาท) งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะกิจการ หมายเหตุ 2551 2550 2551 2550 23 1.64 2.20 1.94 1.55 728,256,168 728,119,020 728,256,168 728,119,020 23 1.37 1.85 1.63 1.30 867,414,859 867,414,859 867,414,859 867,414,859
29
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี ้
รวม 3,628,546,669 - 96,037,589 4,376,462 (6,279,222) - (17,500,000) 1,603,258,016 (620,544,389) (338,872,550) 4,349,022,575 4,349,022,575 - (4,376,462) (63,464,571) - (22,842,466) 1,191,046,610 (584,024,338) 4,865,361,348
(หน่วย: บาท)
รายงานประจำปี 2551
งบการเงินรวม ส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ ผลต่างจากการ ส่วนเกินมูลค่า แปลงค่า หุ้นกู้แปลงสภาพ เงินลงทุนที่สูงกว่า กำไรสะสม รวมส่วนของ ส่วนของผู้ถือหุ้น ทุนเรือนหุ้นที่ออกและชำระแล้ว ส่วนเกิน ส่วนเกินทุนอื่น งบการเงินของ ที่ถือเป็น มูลค่าตามบัญชี จัดสรรแล้ว ผู้ถือหุ้น ส่วนน้อย หมายเหตุ หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ มูลค่าหุ้นสามัญ ของบริษัทย่อย/ร่วม บริษัทย่อย/ร่วม ตราสารทุน ของบริษัทย่อย สำรองตามกฎหมาย ยังไม่ได้จัดสรร บริษัทใหญ่ ของบริษัทย่อย 727,825,372 2,226,850 285,568,300 156,134,945 13,045,673 550,000,000 (192,661,558) 92,275,000 1,649,836,524 3,284,251,106 344,295,563 ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549 แปลงหุ้นบุริมสิทธิเป็นหุ้นสามัญ 19 377,400 (377,400) - - - - - - - - - เงินเพิ่มทุนของผู้ถือหุ้นในบริษัทร่วม - - - 96,037,589 - - - - - 96,037,589 - ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัทย่อยของบริษัทร่วม - - - 4,376,462 - - - - - 4,376,462 - ผลต่างจากการแปลงค่างบการเงิน - - - - (3,060,394) - - - - (3,060,394) (3,218,828) ดอกเบี้ยจ่ายสำหรับหุ้นกู้แปลงสภาพ 18 - - - - - - - - (17,500,000) (17,500,000) - ที่ถือเป็นตราสารทุน - - - - - - - - 1,605,462,201 1,605,462,201 (2,204,185) กำไร (ขาดทุน) สุทธิสำหรับปี เงินปันผลจ่าย 26 - - - - - - - - (620,544,389) (620,544,389) - ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยที่ลดลงจากการเปลี่ยนแปลง - - - - - - - - - - (338,872,550) สัดส่วนของบริษัทย่อยเป็นบริษัทร่วม 728,202,772 1,849,450 285,568,300 256,548,996 9,985,279 550,000,000 (192,661,558) 92,275,000 2,617,254,336 4,349,022,575 - ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 728,202,772 1,849,450 285,568,300 256,548,996 9,985,279 550,000,000 (192,661,558) 92,275,000 2,617,254,336 4,349,022,575 - ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 แปลงหุ้นบุริมสิทธิเป็นหุ้นสามัญ 19 66,700 (66,700) - - - - - - - - - ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัทย่อยของบริษัทร่วม - - - (4,376,462) - - - - - (4,376,462) - ผลต่างจากการแปลงค่างบการเงิน - - - - (63,464,571) - - - - (63,464,571) ดอกเบี้ยจ่ายสำหรับหุ้นกู้แปลงสภาพ 18 - - - - - - - - (22,842,466) (22,842,466) - ที่ถือเป็นตราสารทุน กำไรสุทธิสำหรับปี - - - - - - - - 1,191,046,610 1,191,046,610 เงินปันผลจ่าย 26 - - - - - - - - (584,024,338) (584,024,338) - 728,269,472 1,782,750 285,568,300 252,172,534 (53,479,292) 550,000,000 (192,661,558) 92,275,000 3,201,434,142 4,865,361,348 - ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550
30
(หน่วย: บาท) งบการเงินเฉพาะกิจการ กำไรสะสม ทุนเรือนหุ้นที่ออกและชำระแล้ว ส่วนเกิน หุ้นกู้แปลงสภาพ จัดสรรแล้ว หมายเหตุ หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ มูลค่าหุ้นสามัญ ที่ถือเป็นตราสารทุน สำรองตามกฎหมาย ยังไม่ได้จัดสรร รวม ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549 727,825,372 2,226,850 285,568,300 550,000,000 92,275,000 1,720,198,330 3,378,093,852 แปลงหุ้นบุริมสิทธิเป็นหุ้นสามัญ 19 377,400 (377,400) - - - - - ดอกเบี้ยจ่ายสำหรับหุ้นกู้แปลงสภาพที่ถือเป็น 18 - - - - - (17,500,000) (17,500,000) ตราสารทุน กำไรสุทธิสำหรับปี - - - - - 1,128,896,667 1,128,896,667 เงินปันผลจ่าย 26 - - - - - (620,544,389) (620,544,389) ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 728,202,772 1,849,450 285,568,300 550,000,000 92,275,000 2,211,050,608 3,868,946,130 ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 728,202,772 1,849,450 285,568,300 550,000,000 92,275,000 2,211,050,608 3,868,946,130 แปลงหุ้นบุริมสิทธิเป็นหุ้นสามัญ 19 66,700 (66,700) - - - - - ดอกเบี้ยจ่ายสำหรับหุ้นกู้แปลงสภาพที่ถือเป็น 18 - - - - - (22,842,466) (22,842,466) ตราสารทุน กำไรสุทธิสำหรับปี - - - - - 1,414,775,739 1,414,775,739 เงินปันผลจ่าย 26 - - - - - (584,024,338) (584,024,338) ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 728,269,472 1,782,750 285,568,300 550,000,000 92,275,000 3,018,959,543 4,676,855,065 หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น (ต่อ) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน กำไรก่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล ปรับกระทบกำไรก่อนภาษีเป็นเงินสดรับ (จ่าย) จากกิจกรรมดำเนินงาน : ค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย หนี้สูญและค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ค่าเผื่อการด้อยค่าของสินทรัพย์ ขาดทุนจากการจำหน่ายอุปกรณ์ รายได้จากการได้รับหุ้น รายได้เงินปันผลจากบริษัทร่วม ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในการร่วมค้า ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย กำไรจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์ และหนี้สินดำเนินงาน สินทรัพย์ดำเนินงาน (เพิ่มขึ้น) ลดลง ลูกหนี้การค้า ลูกหนี้กิจการที่เกี่ยวข้องกัน สินค้าคงเหลือ สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น หนี้สินดำเนินงานเพิ่มขึ้น (ลดลง) เจ้าหนี้การค้า เจ้าหนี้กิจการที่เกี่ยวข้องกัน ค่าธรรมเนียมแพทย์ค้างจ่าย ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย เจ้าหนี้อื่น หนี้สินหมุนเวียนอื่น เงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน จ่ายดอกเบี้ย จ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคล เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
งบการเงินรวม 2551 2550 1,630,897,311 2,048,633,473 459,363,374 407,634,558 48,062,153 31,082,828 - 370,232,632 2,029,764 6,631,038 - (200,000) - - (43,282,595) (854,387,550) 34,706 - 114,427,819 110,513,805 2,211,532,532 2,120,140,784 48,122,548 (165,307,995) (1,657,451) 76,297 15,508,804 (37,070,502) (8,967,296) (5,449,692) 2,992,027 (94,955,762) - (1,800,000) (30,089,537) 36,988,359 111,404,455 34,545,393 (13,968,185) 1,985,353 (17,231,930) 7,339,405 2,317,645,967 1,896,491,640 (114,954,595) (110,190,191) (440,287,079) (445,646,733) 1,762,404,293 1,340,654,716
(หน่วย: บาท) งบการเงินเฉพาะกิจการ 2551 2550 1,842,838,883 1,568,788,112 403,559,695 369,775,988 46,844,991 30,342,286 143,010,644 370,232,632 2,029,764 6,631,038 - - (437,927,000) (418,430,250) - - - - 123,830,878 116,445,159 2,124,187,855 2,043,784,965 48,865,057 (156,093,890) (1,573,005) 10,017,215 15,698,806 (38,718,787) (9,410,878) (7,680,934) 3,270,932 (48,003,846) 1,667,977 (1,800,000) (30,415,444) 38,214,266 110,111,440 28,091,819 (14,218,883) 1,721,741 (16,839,122) 2,129,192 2,231,344,735 1,871,661,741 (123,918,364) (126,071,817) (431,342,863) (439,726,779) 1,676,083,508 1,305,863,145
31
รายงานประจำปี 2551
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบกระแสเงินสด สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
บริ ษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบกระแสเงินสด (ต่อ) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550
งบการเงินรวม 2551 2550 กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน เงินฝากธนาคารที่มีภาระค้ำประกันลดลง (เพิ่มขึ้น) (5,000,000) 7,458,695 เงินทดรองแก่พนักงานและกรรมการลดลง (เพิ่มขึ้น) 1,552,351 938,452 เงินให้กู้ยืมระยะสั้นและดอกเบี้ยค้างรับ - กิจการที่เกี่ยวข้องกันลดลง - - ซื้อเงินลงทุนในการร่วมค้า (6,119,970) - ซื้อเงินลงทุนในบริษัทร่วม (141,750,000) (287,704,013) เงินปันผลรับจากบริษัทร่วม 437,927,000 418,430,250 เงินจ่ายซื้อที่ดิน อาคารและอุปกรณ์และจ่ายชำระ เจ้าหนี้งานก่อสร้างและอุปกรณ์การแพทย์ (1,722,414,602) (569,699,256) เงินรับจากการจำหน่ายอุปกรณ์ 2,765,910 4,276,313 เงินจ่ายซื้อคอมพิวเตอร์ซอฟท์แวร์ (6,290,048) (155,784,138) สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่นเพิ่มขึ้น (317,625) (3,361,512) เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุน (1,439,646,984) (585,445,209) กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 200,000,000 - ชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาวแก่กิจการที่เกี่ยวข้องกัน - - รับเงินกู้ยืมระยะยาว 400,000,000 350,000,000 ชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาว (487,148,620) (328,521,802) เงินปันผลจ่าย (583,330,754) (620,544,389) ดอกเบี้ยจ่ายสำหรับหุ้นกู้แปลงสภาพที่ถือเป็นตราสารทุน (17,500,000) (17,500,000) เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงิน (487,979,374) (616,566,191) ผลต่างจากการแปลงค่างบการเงินลดลง - (553,904) เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้น (ลดลง) สุทธิ (165,222,065) 138,089,412 เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดต้นปี 549,863,854 853,860,177 384,641,789 991,949,589 หัก: เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดของบริษัทย่อย (BIL) ณ วันที่บริษัทย่อยเปลี่ยนเป็นบริษัทร่วม - (442,085,735) เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดปลายปี 384,641,789 549,863,854 หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
32
(หน่วย: บาท) งบการเงินเฉพาะกิจการ 2551 2550 (5,000,000) 7,458,695 1,544,251 (766,214) 10,058,348 8,063,036 (6,119,970) - (141,750,000) (287,704,013) 437,927,000 418,430,250 (1,721,879,065) (612,467,920) 2,765,910 4,276,313 (6,290,048) (155,784,138) (317,625) (1,021,513) (1,429,061,199) (619,515,504) 200,000,000 - (273,000,000) (243,000,000) 400,000,000 350,000,000 (131,250,000) - (583,330,754) (620,544,389) (17,500,000) (17,500,000) (405,080,754) (531,044,389) - - (158,058,445) 155,303,252 508,939,898 353,636,646 350,881,453 508,939,898 - - 350,881,453 508,939,898
ชื่อบริษัท บริษัท บำรุงราษฎร์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด (BMC)
บริษัท ไวทัลไลฟ์ จำกัด (VTL)
ข) ค) ง) จ)
ลักษณะธุรกิจ ให้เช่าอาคาร
จัดตั้ง ขึ้นใน ประเทศ ไทย
ศูนย์ดูแลสุขภาพ
ไทย
อัตราร้อยละ ของการถือหุ้น 2551 2550 ร้อยละ ร้อยละ 100 100 100
100
ร้อยละของสินทรัพย์ ที่รวมอยู่ใน สินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 2550 ร้อยละ ร้อยละ 12 14 1
1
ร้อยละของรายได้ ที่รวมอยู่ในรายได้รวม สำหรับปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 2550 ร้อยละ ร้อยละ - - 1
1
บริษัทฯนำงบการเงินของบริษัทย่อยมารวมในการจัดทำงบการเงินรวมตั้งแต่วันที่ได้มา (วันที่บริษัทฯมีอำนาจในการ ควบคุมบริษัทย่อย) จนถึงวันที่บริษัทฯสิ้นสุดการควบคุมบริษัทย่อยนั้น งบการเงินของบริษัทย่อยได้จัดทำขึ้นโดยมีรอบระยะเวลาบัญชีและใช้นโยบายการบัญชีที่สำคัญเช่นเดียวกันกับของบริษัทฯ ยอดคงค้างระหว่างบริษัทฯและบริษัทย่อย รายการค้าระหว่างกันที่มีสาระสำคัญได้ถูกตัดออกจากงบการเงินรวมนี้แล้ว ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย คือ จำนวนกำไรหรือขาดทุนและสินทรัพย์สุทธิของบริษัทย่อยส่วนที่ไม่ได้เป็นของบริษัทฯ และแสดงเป็นรายการแยกต่างหากในงบกำไรขาดทุนรวมและส่วนของผู้ถือหุ้นในงบดุลรวม
33
รายงานประจำปี 2551
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย หมายเหตุประกอบงบการเงินรวม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550 1. ข้อมูลทั่วไป 1.1 ข้อมูลทั่วไปของบริษัทฯ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) จัดตั้งขึ้นเป็นบริษัทมหาชนและมีภูมิลำเนาในประเทศไทย ธุรกิจหลักของบริษัทฯคือ กิจการโรงพยาบาล การลงทุนในบริษัทอื่นและให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ โดยมีที่อยู่ตามที่จดทะเบียน อยู่ที่ 33 ซอย 3 (นานาเหนือ) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 1.2 วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ วิกฤตการณ์ทางการเงินที่เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงปีที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจโลก อย่างรุนแรง โดยจะเห็นได้จากการลดลงอย่างมากของราคาหุ้นทั่วโลก ภาวะการตึงตัวของตลาดสินเชื่อรวมทั้งการกู้ยืม ระหว่างธนาคาร การล้มละลายของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลง วิกฤตการณ์ดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบอย่างเป็นสาระสำคัญต่อแผนการดำเนินธุรกิจและการเงินรวมถึงมูลค่าของสินทรัพย์ของผู้ประกอบการใน ประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่ารัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ได้ใช้ความพยายามในการที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ แต่ยัง คงมีความไม่แน่นอนว่าสภาวะเศรษฐกิจของโลกจะกลับคืนสู่สภาวะปกติเมื่อใด งบการเงินนี้จัดทำบนพื้นฐานข้อเท็จจริงของ สภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และประมาณการและข้อสมมติฐานต่าง ๆ ที่บริษัทฯพิจารณาแล้วว่าเหมาะสมใน สถานการณ์ปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม งบการเงินนี้อาจได้รับผลกระทบในทางลบจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต 2. เกณฑ์ ในการจัดทำงบการเงิน 2.1 งบการเงินนี้จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการบัญชีที่กำหนดในพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547 และการแสดงรายการใน งบการเงินได้ทำขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้าลงวันที่ 14 กันยายน 2544 ออกตาม ความในพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 งบการเงินฉบับภาษาไทยเป็นงบการเงินฉบับที่บริษัทฯใช้เป็นทางการตามกฎหมาย งบการเงินฉบับภาษาอังกฤษแปลมาจาก งบการเงินฉบับภาษาไทยดังกล่าว งบการเงินนี้ได้จัดทำขึ้นโดยใช้เกณฑ์ราคาทุนเดิมเว้นแต่จะได้เปิดเผยเป็นอย่างอื่นในนโยบายการบัญชี 2.2 เกณฑ์ในการจัดทำงบการเงินรวม ก) งบการเงินรวมนี้ได้จัดทำขึ้นโดยรวมงบการเงินของบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) (ซึ่งต่อไปนี้ เรียกว่า “บริษัทฯ”) และบริษัทย่อย (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัทย่อย”) ดังต่อไปนี้
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
2.3 บริษัทฯได้จัดทำงบการเงินเฉพาะกิจการเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะซึ่งแสดงเงินลงทุนในบริษัทย่อย การร่วมค้าและบริษัทร่วม ตามวิธีราคาทุน 3. การประกาศใช้มาตรฐานการบัญชี ใหม่ 3.1 มาตรฐานการบัญชีที่มีผลบังคับใช้ในปีปัจจุบัน สภาวิ ช าชี พ บั ญ ชี ไ ด้ อ อกประกาศสภาวิ ช าชี พ บั ญ ชี ฉ บั บ ที่ 9/2550 ฉบั บ ที่ 38/2550 และฉบั บ ที่ 62/2550 ให้ ใ ช้ มาตรฐานการบัญชีใหม่ดังต่อไปนี้ ฉบับที่ 25 (ปรับปรุง 2550) งบกระแสเงินสด ฉบับที่ 29 (ปรับปรุง 2550) สัญญาเช่า ฉบับที่ 31 (ปรับปรุง 2550) สินค้าคงเหลือ ฉบับที่ 33 (ปรับปรุง 2550) ต้นทุนการกู้ยืม ฉบับที่ 35 (ปรับปรุง 2550) การนำเสนองบการเงิน ฉบับที่ 39 (ปรับปรุง 2550) นโยบายการบัญชี การเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชีและข้อผิดพลาด ฉบับที่ 41 (ปรับปรุง 2550) งบการเงินระหว่างกาล ฉบับที่ 43 (ปรับปรุง 2550) การรวมธุรกิจ ฉบับที่ 49 (ปรับปรุง 2550) สัญญาก่อสร้าง ฉบับที่ 51 สินทรัพย์ไม่มีตัวตน มาตรฐานการบัญชีข้างต้นถือปฏิบัติกับงบการเงินสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2551 เป็นต้นไป ฝ่ายบริหารของบริษัทฯได้ประเมินแล้วเห็นว่า มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 49 (ปรับปรุง 2550) ไม่เกี่ยวเนื่อง กับธุรกิจของบริษัทฯ ส่วนมาตรฐานการบัญชีฉบับที่เหลือไม่มีผลกระทบอย่างเป็นสาระสำคัญต่องบการเงินสำหรับปีปัจจุบัน ยกเว้น มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 43 (ปรับปรุง 2550) เรื่อง การรวมธุรกิจที่มีผลกระทบต่องบการเงินสำหรับปีปัจจุบันดังนี ้ มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 43 (ปรับปรุง 2550) กำหนดให้บริษัทฯไม่ต้องตัดจำหน่ายค่าความนิยมจากการรวมธุรกิจอีก ต่อไป แต่บริษัทฯต้องทดสอบการด้อยค่าของค่าความนิยม และแสดงค่าความนิยมด้วยราคาทุนหักค่าเผื่อการด้อยค่าสะสม โดยให้ถือปฏิบัติสำหรับค่าความนิยมที่เกิดจากการรวมธุรกิจซึ่งมีข้อตกลงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 เป็นต้นไป ส่วนค่า ความนิยมที่รับรู้ก่อนหน้านี้ บริษัทฯสามารถใช้วิธีเปลี่ยนทันทีเป็นต้นไป โดยหยุดตัดจำหน่ายค่าความนิยมแต่ต้องทดสอบ การด้อยค่าของค่าความนิยม โดยเริ่มตั้งแต่งวดปีบัญชีแรกที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2551 3.2 มาตรฐานการบัญชีที่ยังไม่มีผลบังคับใช้ในปีปัจจุบัน สภาวิชาชีพบัญชีได้ออกประกาศสภาวิชาชีพบัญชีฉบับที่ 86/2551 ให้ใช้มาตรฐานการบัญชีใหม่ดังต่อไปนี้ ฉบับที่ 36 (ปรับปรุง 2550) การด้อยค่าของสินทรัพย์ ฉบับที่ 54 (ปรับปรุง 2550) สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขายและการดำเนินงานที่ยกเลิก มาตรฐานการบัญชีข้างต้นถือปฏิบัติกับงบการเงินสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2552 เป็นต้นไป ฝ่ายบริหารของบริษัทฯได้ประเมินแล้วเห็นว่ามาตรฐานการบัญชีฉบับดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบอย่างเป็นสาระ สำคัญต่องบการเงินสำหรับปีที่เริ่มใช้มาตรฐานการบัญชีฉบับดังกล่าว 4. นโยบายการบัญชีที่สำคัญ 4.1 การรับรู้รายได้ ก) รายได้ จ ากการประกอบกิ จ การโรงพยาบาลโดยส่ ว นใหญ่ ป ระกอบด้ ว ยรายได้ ค่ า รั ก ษาพยาบาล ค่ า ห้ อ งพั ก ค่ า ยา โดยจะบันทึกเป็นรายได้เมื่อได้ให้บริการหรือเมื่อได้ส่งมอบยาแล้ว ข) รายได้ค่าบริการที่ปรึกษาและการจัดการรับรู้เมื่อได้ให้บริการแล้วโดยพิจารณาถึงขั้นความสำเร็จของงาน ค) รายได้จากการให้เช่าพื้นที่และการให้บริการที่เกี่ยวข้องรับรู้ตามเกณฑ์คงค้างตามระยะเวลาของสัญญา ง) ดอกเบี้ยรับถือเป็นรายได้ตามเกณฑ์คงค้าง จ) เงินปันผลรับถือเป็นรายได้เมื่อมีสิทธิในการรับเงินปันผล 4.2 เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด หมายถึง เงินสดและเงินฝากธนาคาร และเงินลงทุนระยะสั้นที่มีสภาพคล่องสูง ซึ่งถึงกำหนดจ่ายคืนภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือนนับจากวันที่ได้มาและไม่มีข้อจำกัดในการเบิกใช้
34
35
รายงานประจำปี 2551
4.3 ลูกหนี้การค้า ลูกหนี้การค้าแสดงมูลค่าตามจำนวนมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ บริษัทฯและบริษัทย่อยบันทึกค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสำหรับ ผลขาดทุนโดยประมาณที่อาจเกิดขึ้นจากการเก็บเงินลูกหนี้ไม่ได้ ซึ่งโดยทั่วไปพิจารณาจากประสบการณ์การเก็บเงินและ การวิเคราะห์อายุหนี้ 4.4 สินค้าคงเหลือ สินค้าคงเหลือแสดงมูลค่าตามราคาทุน (วิธีถัวเฉลี่ย) หรือมูลค่าสุทธิที่จะได้รับแล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่า 4.5 เงินลงทุน ก) เงินลงทุนในตราสารทุนที่ไม่อยู่ในความต้องการของตลาดถือเป็นเงินลงทุนทั่วไป ซึ่งแสดงในราคาทุนสุทธิจากค่าเผื่อ การด้อยค่า (ถ้ามี) ข) เงินลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วมที่แสดงอยู่ในงบการเงินรวมแสดงมูลค่าตามวิธีส่วนได้เสีย ค) เงินลงทุนในบริษัทย่อย การร่วมค้า และบริษัทร่วมที่แสดงอยู่ในงบการเงินเฉพาะกิจการแสดงมูลค่าตามวิธีราคาทุน 4.6 ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ และค่าเสื่อมราคา ที่ดินแสดงมูลค่าตามราคาทุน อาคารและอุปกรณ์แสดงมูลค่าตามราคาทุนหักค่าเสื่อมราคาสะสม และค่าเผื่อการด้อย ค่าของสินทรัพย์ (ถ้ามี) ค่าเสื่อมราคาของอาคารและอุปกรณ์คำนวณจากราคาทุนโดยวิธีเส้นตรงตามอายุการใช้งานโดย ประมาณดังนี้ สิทธิการเช่า - 30 ปี ตามอายุสัญญาเช่า ส่วนปรับปรุงที่ดิน - 3 ปี และ 30 ปี อาคารและสิ่งปลูกสร้าง - 8 - 30 และ 40 ปี เครื่องอุปกรณ์ระบบอำนวยความสะดวก - 5 - 20 ปี เครื่องมือแพทย์ - 5 - 15 ปี อุปกรณ์โรงพยาบาล - 3 - 15 ปี เครื่องใช้และเครื่องตกแต่ง - 5 - 15 ปี ยานพาหนะ - 5 - 10 ปี ค่าเสื่อมราคารวมอยู่ในการคำนวณผลการดำเนินงาน ไม่มีการคิดค่าเสื่อมราคาสำหรับที่ดิน และสินทรัพย์ระหว่างก่อสร้างและติดตั้ง 4.7 ต้นทุนการกู้ยืม ต้ น ทุ น การกู้ ยื ม ถื อ เป็ น ค่ า ใช้ จ่ า ยในงวดที่ เ กิ ด รายการ ต้ น ทุ น การกู้ ยื ม ประกอบด้ ว ยดอกเบี้ ย และต้ น ทุ น อื่ น ที่ เ กิ ด ขึ้ น จากการกู้ยืมนั้น 4.8 สินทรัพย์ไม่มีตัวตน ณ วันที่ได้มา ต้นทุนของสินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่ได้มาจากการรวมธุรกิจคือมูลค่ายุติธรรม ณ วันที่ซื้อ ส่วนสินทรัพย์ ไม่มีตัวตนอื่น บริษัทฯจะวัดมูลค่าด้วยราคาทุน และภายหลังการรับรู้รายการครั้งแรก สินทรัพย์ไม่มีตัวตนแสดงมูลค่าตาม ราคาทุนหักค่าตัดจำหน่ายสะสมและค่าเผื่อการด้อยค่าสะสม (ถ้ามี) ของสินทรัพย์นั้น บริ ษั ท ฯตั ด จำหน่ า ยสิ น ทรั พ ย์ ไ ม่ มี ตั ว ตนที่ มี อ ายุ ก ารให้ ป ระโยชน์ จ ำกั ด อย่ า งมี ร ะบบตลอดอายุ ก ารให้ ป ระโยชน์ เ ชิ ง เศรษฐกิจของสินทรัพย์นั้น และจะประเมินการด้อยค่าของสินทรัพย์ดังกล่าวเมื่อมีข้อบ่งชี้ว่าสินทรัพย์นั้นเกิดการด้อยค่า บริษัทฯจะทบทวนระยะเวลาการตัดจำหน่ายและวิธีการ ตัดจำหน่ายของสินทรัพย์ไม่มีตัวตนดังกล่าวทุกสิ้นปีเป็นอย่างน้อย ค่าตัดจำหน่ายรับรู้เป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุน สินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่มีอายุการให้ประโยชน์จำกัดมีดังนี้ อายุการให้ประโยชน์ คอมพิวเตอร์ซอฟท์แวร์ 10 ปี เงินชดเชยการรวมธุรกิจ 10 ปี 4.9 ค่าความนิยม ณ วันที่ได้มา บริษัทฯบันทึกค่าความนิยมในราคาทุน ซึ่งเท่ากับต้นทุนการรวมธุรกิจส่วนที่สูงกว่าส่วนได้เสียของบริษัทฯใน มูลค่ายุติธรรมสุทธิของสินทรัพย์ หนี้สิน และหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นที่ระบุได้ของกิจการที่ได้มา หากส่วนได้เสียของบริษัทฯในมูลค่า ยุติธรรมสุทธิของสินทรัพย์ หนี้สิน และหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นที่ระบุได้ของกิจการที่ได้มาสูงกว่าต้นทุนการรวมธุรกิจ บริษัทฯจะรับรู้ ส่วนเกินนี้ในงบกำไรขาดทุนทันที
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
บริษัทฯแสดงค่าความนิยมตามราคาทุนหักค่าเผื่อการด้อยค่าสะสม และจะทดสอบการด้อยค่าของค่าความนิยมทุกปีหรือ เมื่อใดก็ตามที่มีข้อบ่งชี้ของการด้อยค่าเกิดขึ้น เพื่อวัตถุประสงค์ในการทดสอบการด้อยค่า บริษัทฯจะปันส่วนค่าความนิยมที่เกิดขึ้นจากการรวมกิจการให้กับหน่วย สินทรัพย์ทกี่ อ่ ให้เกิดเงินสด (หรือกลุม่ ของหน่วยสินทรัพย์ทกี่ อ่ ให้เกิดเงินสด) ทีค่ าดว่าจะได้รบั ประโยชน์เพิม่ ขึน้ จากการรวมกิจการ และบริษัทฯจะทำการประเมินมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืนของหน่วยของสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดเงินสดแต่ละรายการ (หรือกลุ่มของ หน่วยของสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดเงินสด) หากมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืนของหน่วยของสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดเงินสดน้อยกว่ามูลค่า ตามบัญชี บริษทั ฯจะรับรูข้ าดทุนจากการด้อยค่าในงบกำไรขาดทุน และบริษทั ฯไม่สามารถกลับบัญชีขาดทุนจากการด้อยค่าได้ในอนาคต 4.10 รายการธุรกิจกับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกันกับบริษัทฯ หมายถึง บุคคลหรือกิจการที่มีอำนาจควบคุมบริษัทฯ หรือถูกควบคุมโดย บริษัทฯไม่ว่าจะเป็นโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรืออยู่ภายใต้การควบคุมเดียวกันกับบริษัทฯ นอกจากนี้ บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกันยังหมายรวมถึงบริษัทร่วมและบุคคลซึ่งมีอิทธิพลอย่างเป็นสาระสำคัญกับบริษัทฯ ผู้บริหารสำคัญ กรรมการหรือพนักงานของบริษัทฯ ที่มีอำนาจในการวางแผนและควบคุมการดำเนินงานของบริษัทฯ 4.11 เงินตราต่างประเทศ รายการที่เป็นเงินตราต่างประเทศแปลงค่าเป็นเงินบาทโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่เกิดรายการ สินทรัพย์และหนี้สิน ที่ เ ป็ น ตั ว เงิ น ซึ่ ง อยู่ ใ นสกุ ล เงิ น ตราต่ า งประเทศได้ แ ปลงค่ า เป็ น เงิ น บาทโดยใช้ อั ต ราแลกเปลี่ ย น ณ วั น ที่ ใ นงบดุ ล กำไรและขาดทุนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนได้รวมอยู่ในการคำนวณผลการดำเนินงาน 4.12 การด้อยค่าของสินทรัพย์ ทุกวันที่ในงบดุล บริษัทฯจะทำการประเมินการด้อยค่าของที่ดิน อาคารและอุปกรณ์หรือสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตนอื่นของ บริษัทฯหากมีข้อบ่งชี้ว่าสินทรัพย์ดังกล่าวอาจด้อยค่า และจะทำการประเมินการด้อยค่าของค่าความนิยมเป็นรายปี บริษัทฯรับรู้ ขาดทุนจากการด้อยค่าเมื่อมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืนของสินทรัพย์มีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์นั้น ทั้งนี้มูลค่าที่ คาดว่าจะได้รับคืนหมายถึงมูลค่ายุติธรรมหักต้นทุนในการขายของสินทรัพย์หรือมูลค่าจากการใช้สินทรัพย์แล้วแต่ราคาใดจะ สูงกว่า ในการประเมินมูลค่าจากการใช้สินทรัพย์ บริษัทฯประมาณการกระแสเงินสดในอนาคตที่กิจการคาดว่าจะได้รับจาก สินทรัพย์และคำนวณคิดลดเป็นมูลค่าปัจจุบันโดยใช้อัตราคิดลดก่อนภาษีที่สะท้อนถึงการประเมินความเสี่ยงในสภาพตลาด ปัจจุบันของเงินสดตามระยะเวลาและความเสี่ยงซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสินทรัพย์ที่กำลังพิจารณาอยู่ ในการประเมินมูลค่า ยุติธรรมหักต้นทุนในการขาย บริษัทฯใช้แบบจำลองการประเมินมูลค่าที่ดีที่สุดซึ่งเหมาะสมกับสินทรัพย์ ซึ่งสะท้อนถึงจำนวนเงิน ที่กิจการสามารถจะได้มาจากการจำหน่ายสินทรัพย์หักด้วยต้นทุนในการจำหน่าย โดยการจำหน่ายนั้นผู้ซื้อกับผู้ขายมีความรอบรู้ และเต็มใจในการแลกเปลี่ยนและสามารถต่อรองราคากันได้อย่างเป็นอิสระในลักษณะของผู้ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน บริษัทฯจะรับรู้รายการขาดทุนจากการด้อยค่าในงบกำไรขาดทุน 4.13 ผลประโยชน์พนักงาน บริษัทฯและบริษัทย่อยรับรู้เงินเดือน ค่าจ้าง โบนัสและเงินสมทบกองทุนประกันสังคมและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นค่าใช้ จ่ายเมื่อเกิดรายการ 4.14 ประมาณการหนี้สิน บริษัทฯและบริษัทย่อยจะบันทึกประมาณการหนี้สินไว้ในบัญชีเมื่อภาระผูกพันซึ่งเป็นผลมาจากเหตุการณ์ในอดีตได้เกิดขึ้น แล้ว และมีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่นอนว่าบริษัทฯและบริษัทย่อยจะเสียทรัพยากรเชิงเศรษฐกิจไปเพื่อปลดเปลื้องภาระผูกพัน นั้น และบริษัทฯและบริษัทย่อยสามารถประมาณมูลค่าภาระผูกพันนั้นได้อย่างน่าเชื่อถือ 4.15 ภาษีเงินได้ บริษัทฯและบริษัทย่อยบันทึกภาษีเงินได้โดยคำนวณจากกำไรสุทธิทางภาษีตามกฎหมายภาษีอากร 5. การใช้ดุลยพินิจและประมาณการทางบัญชีที่สำคัญ ในการจัดทำงบการเงินตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป ฝ่ายบริหารจำเป็นต้องใช้ดุลยพินิจและการประมาณการในเรื่องที่มี ความไม่แน่นอนเสมอ การใช้ดุลยพินิจและการประมาณการดังกล่าวนี้ส่งผลกระทบต่อจำนวนเงินที่แสดงในงบการเงินและต่อข้อมูล ที่แสดงในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ผลที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างไปจากจำนวนที่ประมาณการไว้ การใช้ดุลยพินิจและการประมาณ การที่สำคัญมีดังนี้
36
อายุหนี้ค้างชำระ ยังไม่ถึงกำหนดชำระ ค้างชำระ 1 - 30 วัน 31 - 60 วัน 61 - 90 วัน 91 - 180 วัน 181 - 365 วัน มากกว่า 365 วัน รวม หัก: ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ลูกหนี้การค้า - สุทธิ
(หน่วย: บาท)
งบการเงินรวม 2551 232,951,319 107,490,260 36,698,495 23,018,434 46,065,696 39,191,180 98,745,420 584,160,804 (90,038,814)
2550 231,925,240 110,174,464 52,175,107 48,448,335 72,415,810 73,276,794 56,895,538 645,311,288 (55,004,597)
งบการเงินเฉพาะกิจการ 2551 2550 232,345,911 231,372,792 107,132,572 109,797,275 36,571,907 52,015,929 22,992,972 48,083,562 45,491,876 71,799,674 38,579,960 72,534,450 96,715,648 56,120,157 579,830,846 641,723,839 (87,454,679) (53,637,624)
494,121,990
590,306,691
492,376,167
588,086,215
37
รายงานประจำปี 2551
สัญญาเช่า ในการพิจารณาประเภทของสัญญาเช่าว่าเป็นสัญญาเช่าดำเนินงานหรือสัญญาเช่าทางการเงิน ฝ่ายบริหารได้ใช้ดุลยพินิจในการ ประเมินเงื่อนไขและรายละเอียดของสัญญาเพื่อพิจารณาว่าบริษัทฯได้โอนหรือรับโอนความเสี่ยงและผลประโยชน์ในสินทรัพย์ที่เช่าดัง กล่าวแล้วหรือไม่ ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของลูกหนี้ ในการประมาณค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของลูกหนี้ ฝ่ายบริหารจำเป็นต้องใช้ดุลยพินิจในการประมาณการผลขาดทุนที่คาดว่าจะ เกิดขึ้นจากลูกหนี้แต่ละราย โดยคำนึงถึงประสบการณ์การเก็บเงินในอดีต อายุของหนี้ที่คงค้างและสภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในขณะนั้น เป็นต้น ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์และค่าเสื่อมราคา ในการคำนวณค่าเสื่อมราคาของอาคารและอุปกรณ์ ฝ่ายบริหารจำเป็นต้องทำการประมาณอายุการใช้งานและมูลค่าซากเมื่อเลิก ใช้งานของอาคารและอุปกรณ์ และต้องทบทวนอายุการใช้งานและมูลค่าซากใหม่หากมีการเปลี่ยนแปลงเช่นนั้นเกิดขึ้น นอกจากนี้ ฝ่ายบริหารจำเป็นต้องสอบทานการด้อยค่าของที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ในแต่ละช่วงเวลาและบันทึกขาดทุนจากการ ด้อยค่าหากคาดว่ามูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืนต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์นั้น ในการนี้ฝ่ายบริหารจำเป็นต้องใช้ดุลยพินิจ ที่เกี่ยวข้องกับการคาดการณ์รายได้และค่าใช้จ่ายในอนาคตซึ่งเกี่ยวเนื่องกับสินทรัพย์นั้น ค่าความนิยม และสินทรัพย์ไม่มีตัวตน ในการบันทึกและวัดมูลค่าของค่าความนิยมและสินทรัพย์ไม่มีตัวตน ณ วันที่ได้มา ตลอดจนการทดสอบการด้อยค่าในภายหลัง ฝ่ายบริหารจำเป็นต้องประมาณการกระแสเงินสดที่คาดว่าจะได้รับในอนาคตจากสินทรัพย์ หรือ หน่วยของสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดเงินสด รวมทั้งการเลือกอัตราคิดลดที่เหมาะสมในการคำนวณหามูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดนั้นๆ 6. ลูกหนี้การค้า ยอดคงเหลือของลูกหนีก้ ารค้า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550 แยกตามอายุหนีท้ คี่ งค้างนับจากวันทีถ่ งึ กำหนดชำระได้ดงั นี้
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
7. รายการธุรกิจกับกิจการที่เกี่ยวข้องกัน ในระหว่างปี บริษัทฯและบริษัทย่อยมีรายการธุรกิจที่สำคัญกับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน รายการธุรกิจดังกล่าวเป็นไปตาม เงื่อนไขทางการค้าและเกณฑ์ตามที่ตกลงกันระหว่างบริษัทฯและบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกันเหล่านั้น ซึ่งเป็นไปตามปกติธุรกิจ โดยสามารถสรุปได้ดังนี้ รายการธุรกิจกับบริษัทย่อย (ตัดออกจากงบการเงินรวมแล้ว) รายได้ค่าเช่า ดอกเบี้ยรับ รายได้ค่าบริการทางการแพทย์ รายได้ค่าที่ปรึกษา ค่าบริการห้องปฏิบัติการจ่าย ค่าเช่าจ่าย ดอกเบี้ยจ่าย รายการธุรกิจกับบริษัทร่วม รายได้ค่าเช่า รายได้ค่าลิขสิทธิ์คอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ รายได้ค่าธรรมเนียมการจัดการ รายได้ค่าที่ปรึกษา เงินปันผลรับ รายจ่ายค่าบำรุงรักษาคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ ซื้อคอมพิวเตอร์ซอฟท์แวร์ รายการธุรกิจกับการร่วมค้า (ตัดออกจากงบการเงินรวมแล้ว) รายได้ค่าที่ปรึกษา รายการธุรกิจกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน รายได้ค่าบริการทางการแพทย์ รายได้ค่าเช่า รายได้อื่น รายจ่ายค่าบำรุงรักษาคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ ค่าเช่าจ่าย ค่าบริจาคจ่าย ค่าที่ปรึกษาทางการเงินจ่าย ค่าบริการติดตั้งระบบจ่าย ค่าเบี้ยประกันจ่าย ซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง รายได้ค่าบริการติดตั้งระบบ
งบการเงินรวม 2551 2550
งบการเงินเฉพาะกิจการ 2551 2550
(หน่วย: ล้านบาท) นโยบายการกำหนดราคา
- - - - - - - 0.7 - - 16.2 437.9 - -
- 1.2 - 0.4 - - - 0.8 1.9 12.7 13.0 - 18.7 139.1
26.7 - 12.6 - 7.8 88.8 67.4 0.7 - - 16.2 437.9 - -
27.3 1.0 14.7 15.5 4.5 86.0 84.6 0.8 - - 13.0 418.4 18.7 139.1
ราคาตามสัญญา 7.1 อัตรา MLR ต่อปี ราคาทุนบวกกำไรส่วนเพิ่ม ราคาตามสัญญา 7.9, ตามที่จ่ายจริง ต้นทุนบวกกำไรส่วนเพิ่ม ราคาตามสัญญา 7.2 อัตรา MLR ลบร้อยละ 1 ต่อปี ราคาตามสัญญา 7.3, ตามที่จ่ายจริง ราคาตามสัญญา 7.6 ราคาตามสัญญา 7.7 ราคาตามสัญญา 7.9, ตามที่จ่ายจริง ตามที่ประกาศจ่าย ราคาตามสัญญา 7.8 ราคาตามสัญญา 7.5
- 16.7 - 1.4 - 4.4 15.5 0.7 - 24.9 470.0 -
0.3 31.7 1.0 2.3 56.2 35.7 7.8 5.3 1.8 20.2 - 2.2
- 16.7 - 1.4 - 4.4 15.5 0.7 - 24.9 470.0 -
- 31.7 1.0 2.3 56.2 35.7 7.8 5.3 - 20.1 - -
ราคาทุน ราคาทุนบวกกำไรส่วนเพิ่ม ราคาตามสัญญา 7.3 ราคาทุน ราคาตามสัญญา 7.8 ราคาตามสัญญา 7.4 - ราคาตามสัญญา ราคาตามสัญญา 7.10 ตามที่ระบุในกรมธรรม์ประกันภัย ราคาตามสัญญา 7.4 ราคาตามสัญญา 7.10
7.1 บริษัทย่อย (บริษัท บำรุงราษฎร์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด) ได้ทำสัญญาเช่าที่ดินกับบริษัทฯเป็นระยะเวลา 30 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2539 ค่าเช่าดังกล่าวคิดเป็นจำนวนเงินปีละ 22 ล้านบาท บริษัทย่อย (บริษัท ไวทัลไลฟ์ จำกัด) ได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่อาคารกับบริษัทฯเพื่อประกอบธุรกิจเป็นระยะเวลา 11 ปี เริม่ ตัง้ แต่ปี 2544 โดยบริษทั ย่อยต้องจ่ายค่าเช่าในอัตราร้อยละ 5 ของรายได้รวมภาษีมลู ค่าเพิม่ แต่ไม่นอ้ ยกว่าเดือนละ 238,200 บาท
38
39
รายงานประจำปี 2551
7.2 บริษัทฯได้ทำสัญญาเช่าอาคารโรงพยาบาลกับบริษัทย่อย (บริษัท บำรุงราษฎร์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด) เพื่อดำเนินกิจการ โรงพยาบาล ค่าเช่าดังกล่าวคิดเป็นจำนวนเงินปีละ 89 ล้านบาท สัญญาดังกล่าวสิ้นสุดเดือนกรกฎาคม 2553 7.3 บริษัท ซีดีอี เทรดดิ้ง จำกัด ได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่อาคารกับบริษัทฯเพื่อใช้ในการดำเนินงาน ค่าเช่าดังกล่าวคิดเป็นจำนวนเงิน ปีละ 1 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมค่าเช่าห้องพักอาคารบีเอช เรสซิเดนซ์ สัญญาดังกล่าวสิ้นสุดวันที่ 13 ธันวาคม 2550 7.4 บริษทั ฯได้ทำสัญญาเช่าทีด่ นิ พร้อมสิง่ ปลูกสร้าง (อาคารบีเอช เรสซิเดนซ์) กับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นระยะเวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2543 ค่าเช่าจ่ายจำนวนดังกล่าวคำนวณขึ้นในอัตราร้อยละ 75 ของรายได้สุทธิ (รายรับรวมหักรายจ่าย รวม) จากการให้เช่าช่วง แต่ไม่น้อยกว่าปีละ 8 ล้านบาท ต่อมาธนาคารได้อนุมัติให้บริษัทฯต่อสัญญาเช่า ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที ่ 29 สิงหาคม 2548 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551 โดยอัตราค่าเช่าและเงือ่ นไขอืน่ ให้เป็นไปตามสัญญาเช่าเดิม ค่าเช่าค้างจ่าย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 มีจำนวน 6.7 ล้านบาท ได้บันทึกรวมอยู่ในบัญชีเจ้าหนี้อื่นในงบดุลรวม และงบดุลเฉพาะกิจการ เมื่ อวั น ที่ 18 กุ ม ภาพั น ธ์ 2551 บริ ษั ท ฯได้ ท ำสั ญ ญาซื้ อ ที่ ดิ น พร้ อ มสิ่ ง ปลู ก สร้ า งดั ง กล่ า ว (อาคารบี เ อชเรสซิ เ ดนซ์ ) กับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนเงิน 470.0 ล้านบาท ราคาซื้อดังกล่าวเป็นราคาที่ไม่เกินราคาประเมินของ ผู้ประเมินอิสระ 7.5 ในเดื อ นธั น วาคม 2550 บริ ษั ท ฯได้ ท ำสั ญ ญากั บ บริ ษั ท ซี ดี อี เทรดดิ้ ง จำกั ด เพื่ อ ซื้ อ คอมพิ ว เตอร์ ซ อฟท์ แ วร์ เ พิ่ ม เติ ม เป็นจำนวนทั้งสิ้น 130 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และได้ชำระค่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ดังกล่าวแล้วทั้งจำนวน 7.6 ในเดื อ นกุ ม ภาพั น ธ์ 2548 อดี ต บริ ษั ท ย่ อ ย (บริ ษั ท บำรุ ง ราษฎร์ อิ น เตอร์ เ นชั่ น แนล จำกั ด ) ได้ ท ำสั ญ ญาขายลิ ข สิ ท ธิ์ คอมพิวเตอร์ซอฟท์แวร์กับบริษัท เอเชียน ฮอสพิทอล อิงค์ (AHI) โดย AHI ได้จ่ายชำระค่าลิขสิทธิ์เป็นจำนวน 52,676,342 เปโซ แล้วในปี 2548 ทั้งนี้ อดีตบริษัทย่อยได้ทยอยรับรู้ค่าลิขสิทธิ์ดังกล่าวเป็นรายได้ตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา 7.7 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2548 อดีตบริษัทย่อย (บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิลิปปินส์ อิงค์) (BIPI) ได้ทำสัญญาให้ บริการการจัดการแก่บริษัท เอเชียน ฮอสพิทอล อิงค์ (AHI) ซึ่งสัญญากำหนดให้ AHI ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการจัดการให้ แก่อดีตบริษัทย่อยตามอัตราร้อยละของรายได้สุทธิและกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย โดยค่าธรรมเนียมดังกล่าวจะจ่ายเป็นเงินสดจนถึงยอดคงที่จำนวนหนึ่ง ส่วนเกินยอดคงที่ดังกล่าวจะจ่ายเป็นหุ้นของ AHI จนถึงร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วของ AHI (วิธีปรับลด) สัญญามีระยะเวลา 5 ปี สิ้นสุดปี 2553 และ สามารถต่ออายุสัญญาได้ 7.8 เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2550 บริษัทฯได้ทำสัญญา Agreement for Maintenance Services for Software Hospital 2005/ DOT NET and Its Version 2 กับ บริษัท ซีดีอี เทรดดิ้ง จำกัด เป็นจำนวนทั้งสิ้น 70 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สัญญา ดังกล่าวสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 7.9 เมื่ อ วั น ที่ 2 มิ ถุ น ายน 2549 บริ ษั ท ฯได้ ท ำสั ญ ญา Consulting Support Agreement กั บ อดี ต บริ ษั ท ย่ อ ย (บริ ษั ท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด) เป็นจำนวนเงิน 4.9 ล้านบาทต่อเดือน เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2549 จนถึงเดือน มีนาคม 2550 และเป็นจำนวนเงิน 1.2 ล้านบาทต่อเดือน เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2550 เป็นต้นไป สัญญาดังกล่าวจะสิ้นสุด ตามเงื่อนไขในสัญญา 7.10 ในเดือนมีนาคม 2550 อดีตบริษัทย่อย (บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด) ได้ทำสัญญากับบริษัท ซีดีอี เทรดดิ้ง จำกัด เกี่ยวกับการให้บริการติดตั้งคอมพิวเตอร์ซอฟท์แวร์ให้แก่กิจการที่ควบคุมร่วมกัน (บริษัท บำรุงราษฎร์ ฮอสพิทอล ดูไบ แอลแอลซี) (BHD) เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจโรงพยาบาลในต่างประเทศ ค่าบริการดังกล่าวคิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 200,000 เหรียญสหรัฐฯ โดยในระหว่างไตรมาสที่ 1 ของปี 2550 อดีตบริษัทย่อยได้บันทึกค่าบริการติดตั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ดังกล่าว แล้วเป็นจำนวน 50,000 เหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ อดีตบริษัทย่อยได้ทำสัญญาเกี่ยวกับการติดตั้งคอมพิวเตอร์ซอฟท์แวร์ดังกล่าวข้างต้นกับ BHD โดยคิดค่าบริการ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 400,000 เหรียญสหรัฐฯ โดยในระหว่างไตรมาสที่ 1 ของปี 2550 บริษัทย่อยได้เรียกชำระค่าบริการติดตั้ง คอมพิวเตอร์ซอฟท์แวร์ดังกล่าวเป็นจำนวนเงิน 125,000 เหรียญสหรัฐฯ ยอดคงค้างระหว่างบริษัทฯและบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550 มีรายละเอียดดังนี้
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
ลูกหนี้กิจการที่เกี่ยวข้องกัน บริษัทย่อย บริษัท ไวทัลไลฟ์ จำกัด การร่วมค้า บริษัท เอเชีย รีนัล แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทร่วม บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท ซีดีอี เทรดดิ้ง จำกัด กิจการที่เกี่ยวข้องกัน มูลนิธิโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ รวม เจ้าหนี้กิจการที่เกี่ยวข้องกัน บริษัทย่อย บริษัท ไวทัลไลฟ์ จำกัด บริษัทร่วม บริษัท ซีดีอี เทรดดิ้ง จำกัด รวม เงินให้กู้ยืมระยะสั้นและดอกเบี้ยค้างรับ - กิจการที่เกี่ยวข้องกัน บริษัทย่อย บริษัท ไวทัลไลฟ์ จำกัด เงินกู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ยค้างจ่าย - กิจการที่เกี่ยวข้องกัน บริษัทย่อย บริษัท บำรุงราษฎร์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด เงินกู้ยืมระยะยาว หัก: ส่วนที่ถึงกำหนดภายในหนึ่งปี ส่วนที่ถึงกำหนดเกินกว่าหนึ่งปี
งบการเงินรวม 2551 2550 - - 70,000 - 3,256,622 2,754,583 - 20,258 5,470,416 4,365,928 8,797,038 7,140,769 - - 2,015,049 - 2,015,049 - - - - - - - - -
(หน่วย: บาท) งบการเงินเฉพาะกิจการ 2551 2550 - 84,446 70,000 - 3,256,622 2,754,583 - 20,258 5,470,416 4,365,928 8,797,038 7,225,215 1,667,977 - 2,015,049 - 3,683,026 - - 10,058,348 939,236,428 1,212,236,428 438,029,068 355,898,619 501,207,360 856,337,809
เงินให้กู้ยืมระยะสั้นแก่บริษัท ไวทัลไลฟ์ จำกัด คิดดอกเบี้ยในอัตรา MLR ต่อปี เงินกู้ยืมระยะยาวจากบริษัท บำรุงราษฎร์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด คิดดอกเบี้ยในอัตรา MLR ลบร้อยละ 1 ต่อปี ในระหว่างปี 2551 เงินให้กู้ยืมแก่และเงินกู้ยืมจากกิจการที่เกี่ยวข้องกันมีการเคลื่อนไหวดังต่อไปนี้
ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 เงินให้กู้ยืมระยะสั้นและดอกเบี้ยค้างรับ - กิจการที่เกี่ยวข้องกัน บริษัทย่อย บริษัท ไวทัลไลฟ์ จำกัด เงินต้น 10,000,000 ดอกเบี้ยค้างรับ 58,348 10,058,348 เงินกู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ยค้างจ่าย - กิจการที่เกี่ยวข้องกัน บริษัทย่อย บริษัท บำรุงราษฎร์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด เงินต้น 1,212,236,428 ดอกเบี้ยค้างจ่าย - 1,212,236,428
40
เพิ่มขึ้น
ในระหว่างปี
ลดลง
(หน่วย: บาท) ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551
- 28,233 28,233
(10,000,000) (86,581) (10,086,581)
- - -
- 67,381,727 67,381,727
(273,000,000) (67,381,727) (340,381,727)
939,236,428 - 939,236,428
ยา เวชภัณฑ์ วัสดุอื่น รวม
งบการเงินรวม 2551 106,579,268 35,067,530 46,328,200 187,974,998
(หน่วย: บาท)
งบการเงินเฉพาะกิจการ 2551 2550 102,735,295 127,199,528 35,067,530 34,866,537 46,328,200 37,763,766 184,131,025 199,829,831
2550 130,853,499 34,866,537 37,763,766 203,483,802
9. เงินฝากธนาคารที่มีภาระค้ำประกัน เงินฝากกับสถาบันการเงินจำนวนนี้ได้นำไปวางไว้กับธนาคารเพื่อเป็นหลักประกันสำหรับหนังสือค้ำประกันที่ธนาคารออกให้ ในนามของบริษัทฯและบริษัทย่อยแห่งหนึ่ง (บริษัท บำรุงราษฎร์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด) 10. เงินลงทุนในบริษัทย่อย เงินลงทุนในบริษัทย่อยตามที่แสดงอยู่ในงบการเงินเฉพาะกิจการมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ (หน่วย: บาท) ค่าเผื่อการด้อยค่าของเงิน สัดส่วนเงินลงทุน ราคาทุน ลงทุน มูลค่าตามบัญชีตามวิธรี าคาทุน - สุทธิ 2551 2550 2551 2550 2551 2550 2551 2550 ร้อยละ ร้อยละ บริษัท บำรุงราษฎร์ 958,953,608 958,953,608 100.00 100.00 1,691,902,972 1,691,902,972 545,000,000 545,000,000 1,146,902,972 1,146,902,972 เมดิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด บริษัท ไวทัลไลฟ์ 31,500,000 31,500,000 100.00 100.00 25,610,000 25,610,000 - - 25,610,000 25,610,000 จำกัด 1,717,512,972 1,717,512,972 545,000,000 545,000,000 1,172,512,972 1,172,512,972 รวม ชื่อบริษัท
ทุนเรียกชำระแล้ว 2551 2550
11. เงินลงทุนในการร่วมค้า 11.1 รายละเอียดของเงินลงทุนในการร่วมค้า เงินลงทุนในการร่วมค้านี้เป็นเงินลงทุนในกิจการซึ่งบริษัทฯและบริษัทอื่นควบคุมร่วมกันโดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
กิจการที่ควบคุมร่วมกัน ลักษณะธุรกิจ บริษัท เอเชีย รีนัล แคร์ ลงทุนในบริษัทอื่น (ประเทศไทย ) จำกัด
งบการเงินรวม สัดส่วนเงินลงทุน 2551 2550 ร้อยละ ร้อยละ 51.00
-
2551
ราคาทุน
6,119,970
2550 -
(หน่วย: บาท)
มูลค่าตามบัญชี ตามวิธีส่วนได้เสีย 2551 2550 6,085,265
-
41
รายงานประจำปี 2551
ค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหาร ในปี 2551 บริษัทฯและบริษัทย่อยได้จ่ายเงินเดือน โบนัส ค่าเบี้ยประชุมและเงินบำเหน็จให้แก่กรรมการและผู้บริหารเป็นจำนวน เงิน 85.2 ล้านบาท (เฉพาะกิจการ: 82.0 ล้านบาท) (2550: 110.2 ล้านบาท (เฉพาะกิจการ: 104.9 ล้านบาท)) 8. สินค้าคงเหลือ
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
(หน่วย: บาท)
กิจการที่ควบคุมร่วมกัน ลักษณะธุรกิจ บริษัท เอเชีย รีนัล แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ลงทุนในบริษัทอื่น
สัดส่วนเงินลงทุน 2551 2550 ร้อยละ ร้อยละ 51.00
งบการเงินเฉพาะกิจการ ค่าเผื่อการด้อยค่า มูลค่าตามบัญชี ราคาทุน ของเงินลงทุน ตามวิธีราคาทุน - สุทธิ 2551 2550 2551 2550 2551 2550
- 6,119,970
-
-
- 6,119,970
-
ฝ่ายบริหารของบริษัทฯได้ประเมินแล้วว่า การลงทุนในบริษัท เอเชีย รีนัล แคร์ (ประเทศไทย) เป็นการลงทุนในกิจการ ที่ควบคุมร่วมกันระหว่างบริษัทฯ กับ Asia Rental Care (SEA) Pte Ltd. แม้ว่าบริษัทฯจะมีสัดส่วนการลงทุนในบริษัท เอเชีย รีนัล แคร์ (ประเทศไทย) จำกัดในอัตราร้อยละ 51 แต่ผู้ร่วมค้าทั้งสองรายได้มีการลงนามใน Joint Venture Agreement เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 สัญญาได้กำหนดอำนาจในการควบคุมร่วมกันผ่านคณะกรรมการบริหารของกิจการที่ควบคุม ร่วมกัน ซึ่งแต่ละฝ่ายจะมีจำนวนกรรมการเท่ากัน นอกจากนี้ ไม่มีผู้ร่วมค้ารายใดอยู่ในฐานะที่จะควบคุมการดำเนินงานของการ ร่วมค้าได้แต่เพียงผู้เดียว 11.2 ส่วนแบ่งขาดทุนและเงินปันผลรับ ในระหว่างปี บริษัทฯรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากการลงทุนในการร่วมค้าในงบการเงินรวมและรับรู้เงินปันผลรับจากกิจการ ดังกล่าวในงบการเงินเฉพาะกิจการดังนี้ (หน่วย: บาท)
กิจการที่ควบคุมร่วมกัน บริษัท เอเชีย รีนัล แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด
งบการเงินรวม ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุน ในการร่วมค้าในระหว่างปี 2551 2550
34,706
งบการเงินเฉพาะกิจการ
เงินปันผลที่บริษัทฯรับระหว่างปี 2551 2550 -
-
-
11.3 ข้อมูลทางการเงินโดยสรุปของกิจการที่ควบคุมร่วมกัน ข้อมูลทางการเงินตามที่แสดงอยู่ในงบการเงินของกิจการที่ควบคุมร่วมกันโดยสรุปมีดังนี้
กิจการที่ควบคุมร่วมกัน บริษัท เอเชีย รีนัล แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด
42
ทุนเรียกชำระ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 2550 12.0
-
สินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 2550 12.0
-
หนี้สินรวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 2550 0.1
(หน่วย: ล้านบาท)
รายได้รวมสำหรับ ขาดทุนสุทธิสำหรับปี ปีสิ้นสุดวันที่ สิน้ สุดวันที่ 31 ธันวาคม 31 ธันวาคม 2551 2550 2551 2550 -
-
-
0.1
-
จัดตั้ง ลักษณะ ขึน้ ใน ชื่อบริษัท ธุรกิจ ประเทศ บริษทั บำรุงราษฎร์ อินเตอร์ - ลงทุนใน ไทย เนชั่นแนล จำกัด บริษัทอื่น บริษัท ซีดีอี เทรดดิ้ง จำกัด พัฒนา ไทย คอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ รวม บวก: กำไรจากการขาย คอมพิวเตอร์ซอฟท์แวร์ รอรับรู้ - สุทธิ รวม
งบการเงินรวม
สัดส่วนเงินลงทุน 2551 2550 ร้อยละ ร้อยละ 31.50 31.50 30.00 30.00
(หน่วย: บาท)
มูลค่าตามบัญชีตาม ราคาทุน วิธีส่วนได้เสีย 2551 2550 2551 2550 1,007,790,600 866,040,600 1,229,417,093 1,090,598,513 21,662,713
21,662,713 (27,545,278) 432,008,740
1,029,453,313 887,703,313 1,201,871,815 1,522,607,253 33,059,209 - 1,234,931,024 1,522,607,253
กำไรจากการขายคอมพิวเตอร์ซอฟท์แวร์รอรับรู้ เป็นกำไรส่วนที่บริษัทร่วมขายคอมพิวเตอร์ซอฟท์แวร์ให้แก่บริษัทฯ ในปี 2550 ซึ่งเคยแสดงเป็นส่วนหักจากมูลค่าเงินลงทุนในบริษัทร่วม ในระหว่างปีปัจจุบัน บริษัทฯได้โอนกำไรรอรับรู้ดังกล่าวไป หักกับมูลค่าของสินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่เกี่ยวข้อง (หมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 15) กำไรรอรับรู้จะถูกตัดจำหน่ายภายในระยะ เวลา 10 ปี ตามอายุการให้ประโยชน์โดยประมาณของคอมพิวเตอร์ซอฟท์แวร์ดังกล่าว
งบการเงินเฉพาะกิจการ ค่าเผื่อการด้อยค่าของ มูลค่าตามบัญชี ราคาทุน เงินลงทุน ตามวิธีราคาทุน - สุทธิ 2551 2550 2551 2550 2551 2550 1,007,790,600 866,040,600 - - 1,007,790,600 866,040,600
ชื่อบริษัท สัดส่วนเงินลงทุน 2551 2550 ร้อยละ ร้อยละ บริษัท บำรุงราษฎร์ 31.50 31.50 อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท ซีดีอี เทรดดิ้ง จำกัด 30.00 30.00 21,662,713 21,662,713 16,000,000 รวม 1,029,453,313 887,703,313 16,000,000
(หน่วย: บาท)
- 5,662,713 21,662,713 - 1,013,453,313 887,703,313
43
รายงานประจำปี 2551
12. เงินลงทุนในบริษัทร่วม 12.1 รายละเอียดของเงินลงทุนในบริษัทร่วม
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
12.2 ส่วนแบ่งกำไร/ขาดทุนและเงินปันผลรับ ในระหว่างปี บริษัทฯรับรู้ส่วนแบ่งกำไร/ขาดทุนจากการลงทุนในบริษัทร่วมในงบการเงินรวมและรับรู้เงินปันผลรับจากบริษัท ร่วมดังกล่าวในงบการเงินเฉพาะกิจการดังนี้ ชื่อบริษัท บริษัท เอเชียน ฮอสพิทอล อิงค์ บริษทั บำรุงราษฎร์ อินเตอร์ - เนชั่นแนล จำกัด บริษัท ซีดีอี เทรดดิ้ง จำกัด รวม
งบการเงินรวม ส่วนแบ่งกำไร/(ขาดทุน) จากเงินลงทุนในบริษัทร่วม ในระหว่างปี 2551 2550 - 8,042,866 64,909,613 17,568,407
เงินปันผลที่บริษัทฯรับระหว่างปี 2551 2550 - - - -
(21,627,018) 43,282,595
437,927,000 437,927,000
828,776,277 854,387,550
งบการเงินเฉพาะกิจการ
(หน่วย: บาท)
418,430,250 418,430,250
12.3 ข้อมูลทางการเงินโดยสรุปของบริษัทร่วม ข้อมูลทางการเงินตามที่แสดงอยู่ในงบการเงินของบริษัทร่วมโดยสรุปมีดังนี้
(หน่วย: ล้านบาท) กำไร (ขาดทุน) ทุนเรียกชำระ สินทรัพย์รวม หนี้สินรวม รายได้รวมสำหรับ สุทธิสำหรับปี ณ วันที่ ณ วันที่ ณ วันที่ ปีสิ้นสุดวันที่ สิ้นสุดวันที่ ชื่อบริษัท 31 ธันวาคม 31 ธันวาคม 31 ธันวาคม 31 ธันวาคม 31 ธันวาคม 2551 2550 2551 2550 2551 2550 2551 2550 2551 2550 บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์ 3,199.3 2,749.3 7,066.3 4,300.8 2,459.5 737.8 4,146.0 1,442.5 188.5 47.7 เนชั่นแนล จำกัด บริษัท ซีดีอี เทรดดิ้ง จำกัด 10.0 10.0 19.0 1,579.2 0.6 16.5 12.0 3,044.0 (79.4) 2,765.3
13. เงินลงทุนระยะยาวอื่น ชื่อบริษัท สัดส่วนเงินลงทุน งบการเงินรวม 2551 2550 2551 2550 ร้อยละ ร้อยละ บริษัท จันทบุรีคันทรีคลับ จำกัด 0.5 0.5 4,500,000 4,500,000 บริษัท โกลเบิล แคร์ โซลูชั่น เอส.เอ. 14.0 14.0 347,213 347,213 บริษัท ศูนย์ไตเทียมบำรุงราษฎร์ จำกัด 20.0 20.0 200,000 200,000 รวม 5,047,213 5,047,213 หัก: ค่าเผื่อการด้อยค่าของเงินลงทุน (2,800,000) (2,800,000) เงินลงทุนระยะยาวอื่น - สุทธิ 2,247,213 2,247,213
44
(หน่วย: บาท) งบการเงินเฉพาะกิจการ 2551 2550 4,500,000 4,500,000 347,213 347,213 - - 4,847,213 4,847,213 (2,800,000) (2,800,000) 2,047,213 2,047,213
45 รายงานประจำปี 2551
(หน่วย: บาท) งบการเงินรวม สิทธิการเช่าเเละ เครื่องอุปกรณ์ สินทรัพย์ ส่วนปรับปรุง อาคารเเละ ระบบอำนวย เครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องใช้เเละ ระหว่างก่อสร้าง ที่ดิน ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง ความสะดวก เเพทย์ โรงพยาบาล เครื่องตกเเต่ง ยานพาหนะ เเละติดตั้ง รวม ราคาทุน 31 ธันวาคม 2550 290,861,482 34,880,909 2,035,155,685 139,161,217 1,923,830,551 667,940,003 323,347,726 46,881,353 1,033,947,888 6,496,006,814 ซื้อเพิ่ม 297,528,000 - 222,229,114 23,169,698 235,255,524 153,634,318 32,570,595 740,000 714,114,973 1,679,242,222 จำหน่าย - - (154,818) (111,597) (8,474,344) (5,877,297) (1,549,922) (3,826,969) - (19,994,947) จัดประเภทเป็นคอมพิวเตอร์ ซอฟท์เเวร์ - - - - - - - - (25,224,874) (25,224,874) โอน - - 930,180,895 278,707,127 165,410,494 63,209,137 64,377,755 - (1,501,885,408) - 31 ธันวาคม 2551 588,389,482 34,880,909 3,187,410,876 440,926,445 2,316,022,225 878,906,161 418,746,154 43,794,384 220,952,579 8,130,029,215 ค่าเสื่อมราคาสะสม 31 ธันวาคม 2550 - 13,775,872 703,682,609 63,690,154 878,625,119 442,128,181 200,693,200 35,182,876 - 2,337,778,011 ค่าเสื่อมราคาสำหรับปี - 1,103,020 92,938,407 13,129,787 221,041,305 66,227,014 20,960,085 4,677,918 - 420,077,536 ค่าเสื่อมราคาสำหรับส่วน ที่จำหน่าย - - (36,470) (5,529) (7,016,831) (4,245,409) (764,556) (3,130,478) - (15,199,273) 31 ธันวาคม 2551 - 14,878,892 796,584,546 76,814,412 1,092,649,593 504,109,786 220,888,729 36,730,316 - 2,742,656,274 ค่าเผื่อการด้อยค่า 31 ธันวาคม 2550 - - - - 13,641,982 - - - - 13,641,982 - - - - 13,641,982 - - - - 13,641,982 31 ธันวาคม 2551 มูลค่าสุทธิตามบัญชี 31 ธันวาคม 2550 290,861,482 21,105,037 1,331,473,076 75,471,063 1,031,563,450 225,811,822 122,654,526 11,698,477 1,033,947,888 4,144,586,821 31 ธันวาคม 2551 588,389,482 20,002,017 2,390,826,330 364,112,033 1,209,730,650 374,796,375 197,857,425 7,064,068 220,952,579 5,373,730,959 ค่าเสื่อมราคาที่รวมอยู่ในงบกำไรขาดทุนสำหรับปี 2550 329,446,751 2551 420,077,536
14. ที่ดิน อาคารเเละอุปกรณ์
46
งบการเงินเฉพาะกิจการ สิทธิการเช่าเเละ เครื่องอุปกรณ์ สินทรัพย์ ส่วนปรับปรุง อาคารเเละ ระบบอำนวย เครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องใช้เเละ ระหว่างก่อสร้าง ที่ดิน ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง ความสะดวก เเพทย์ โรงพยาบาล เครื่องตกเเต่ง ยานพาหนะ เเละติดตั้ง รวม ราคาทุน 31 ธันวาคม 2550 290,861,482 15,563,340 430,295,038 114,434,984 1,482,850,092 430,756,915 203,766,655 24,445,596 1,033,902,946 4,026,877,048 ซื้อเพิ่ม 297,528,000 - 222,229,114 23,169,698 235,255,524 153,248,178 32,421,197 740,000 714,114,972 1,678,706,683 จำหน่าย - - (154,818) (111,597) (8,474,344) (5,877,297) (1,549,922) (3,826,969) - (19,994,947) จัดประเภทเป็นคอมพิวเตอร์ ซอฟท์เเวร์ - - - - - - - - (25,224,874) (25,224,874) โอน - - 930,180,895 278,707,127 165,410,493 63,209,138 64,377,755 - (1,501,885,408) - 31 ธันวาคม 2551 588,389,482 15,563,340 1,582,550,229 416,200,212 1,875,041,765 641,336,934 299,015,685 21,358,627 220,907,636 5,660,363,910 ค่าเสื่อมราคาสะสม 31 ธันวาคม 2550 - 7,771,442 96,702,369 31,737,662 415,587,520 215,762,319 104,536,972 12,747,127 - 884,845,411 ค่าเสื่อมราคาสำหรับปี - 459,101 38,206,317 12,998,872 223,175,724 64,354,777 20,401,147 4,677,918 - 364,273,856 ค่าเสื่อมราคาสำหรับส่วน ที่จำหน่าย - - (36,470) (5,529) (7,016,831) (4,245,409) (764,556) (3,130,478) - (15,199,273) 31 ธันวาคม 2551 - 8,230,543 134,872,216 44,731,005 631,746,413 275,871,687 124,173,563 14,294,567 - 1,233,919,994 ค่าเผื่อการด้อยค่า 31 ธันวาคม 2550 - - - - 13,641,982 - - - - 13,641,982 - - - - 13,641,982 - - - - 13,641,982 31 ธันวาคม 2551 มูลค่าสุทธิตามบัญชี 31 ธันวาคม 2550 290,861,482 7,791,898 333,592,669 82,697,322 1,053,620,590 214,994,596 99,229,683 11,698,469 1,033,902,946 3,128,389,655 31 ธันวาคม 2551 588,389,482 7,332,797 1,447,678,013 371,469,207 1,229,653,370 365,465,247 174,842,122 7,064,060 220,907,636 4,412,801,934 ค่าเสื่อมราคาที่รวมอยู่ในงบกำไรขาดทุนสำหรับปี 2550 273,984,520 2551 364,273,856
(หน่วย: บาท)
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะกิจการ คอมพิวเตอร์ สินทรัพย์ไม่มี คอมพิวเตอร์ เงินชดเชย ซอฟท์แวร์ ตัวตนอื่น รวม ซอฟท์แวร์ การรวมธุรกิจ ราคาทุน 31 ธันวาคม 2550 911,969,429 - 911,969,429 911,969,429 192,927,561 ซื้อเพิ่ม 8,594,279 - 8,594,279 8,594,279 - จัดประเภทจากที่ดิน อาคารและอุ ป กรณ์ 25,224,874 - 25,224,874 25,224,874 - จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ (288,000) - (288,000) (288,000) - หมุนเวียนอื่น กำไรจากการขาย คอมพิวเตอร์ซอฟท์รอรับรู้ (36,732,454) - (36,732,454) - - 31 ธันวาคม 2551 908,768,128 - 908,768,128 945,500,582 192,927,561 ค่าตัดจำหน่ายสะสม 192,558,818 - 192,558,818 192,558,818 65,916,917 31 ธันวาคม 2550 ค่ า ตั ด จำหน่ า ยสำหรั บ ปี 39,285,838 - 39,285,838 39,285,838 - รับรู้กำไรจากการขาย คอมพิวเตอร์ซอฟท์แวร์ (3,673,245) - (3,673,245) - - สำหรับปี 31 ธันวาคม 2551 228,171,411 - 228,171,411 231,844,656 65,916,917
(หน่วย: บาท) รวม
1,104,896,990 8,594,279 25,224,874 (288,000) - 1,138,428,143 258,475,735 39,285,838 - 297,761,573
47
รายงานประจำปี 2551
บริษัทฯได้จำนองที่ดินทั้งหมดซึ่งมีมูลค่าตามบัญชีจำนวน 290.9 ล้านบาท (มูลค่ายุติธรรมซึ่งประเมินเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2551 เท่ากับ 567.7 ล้านบาท) กับธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในฐานะผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เพื่อเป็นหลักประกันการออกหุ้นกู้แปลงสภาพที่ถือ เป็นตราสารทุนตามที่กล่าวในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 18 บริษัทฯและบริษัทย่อย (บริษัท บำรุงราษฎร์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด) ได้จดจำนองที่ดิน อาคารและจำนำเครื่องมือแพทย์และ อุปกรณ์โรงพยาบาลซึ่งมีมูลค่าสุทธิตามบัญชี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 จำนวน 1,751 ล้านบาท (เฉพาะกิจการ: 792 ล้านบาท) (2550: 1,193 ล้านบาท (เฉพาะกิจการ: 179 ล้านบาท)) เพื่อค้ำประกันเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารพาณิชย์ในประเทศแห่งหนึ่งตามที่ กล่าวในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 17 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีอุปกรณ์จำนวนหนึ่งซึ่งตัดค่าเสื่อมราคาหมดแล้วแต่ยังใช้งานอยู่ ราคาทุน ของสินทรัพย์ดังกล่าวมีจำนวนเงินประมาณ 200 ล้านบาท (เฉพาะกิจการ: 198 ล้านบาท) (2550: 204 ล้านบาท (เฉพาะกิจการ: 202 ล้านบาท)) 15. สินทรัพย์ ไม่มีตัวตน สินทรัพย์ไม่มีตัวตนมีรายละเอียดดังนี้
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะกิจการ คอมพิวเตอร์ สินทรัพย์ไม่มี คอมพิวเตอร์ เงินชดเชย ซอฟท์แวร์ ตัวตนอื่น รวม ซอฟท์แวร์ การรวมธุรกิจ ค่าเผื่อการด้อยค่า 31 ธันวาคม 2550 370,232,632 - 370,232,632 370,232,632 - เพิ่มขึ้นระหว่างปี - - - - 127,010,644 31 ธันวาคม 2551 370,232,632 - 370,232,632 370,232,632 127,010,644 มูลค่าสุทธิตามบัญชี 31 ธันวาคม 2550 349,177,979 - 349,177,979 349,177,979 127,010,644 31 ธันวาคม 2551 310,364,085 - 310,364,085 343,423,294 - ค่าตัดจำหน่ายที่รวมอยู่ในงบกำไรขาดทุนสำหรับปี 2550 77,530,241 657,566 78,187,807 76,498,711 19,292,757 2551 39,285,838 - 39,285,838 39,285,838 -
(หน่วย: บาท) รวม
370,232,632 127,010,644 497,243,276 476,188,623 343,423,294 95,791,468 39,285,838
16. เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 บริษัทฯมีเงินกู้ยืมระยะสั้นจากธนาคารจำนวน 200 ล้านบาท เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินมีกำหนดชำระคืน ภายใน 1 เดือน คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 4 ต่อปี 17. เงินกู้ยืมระยะยาว อัตราดอกเบี้ย วงเงินกู้ (ร้อยละ) การชำระคืน A MLR ถัวเฉลี่ย-1.25 ชำระคืนเป็นงวดทุก 3 เดือน จำนวน 24 งวด เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2547 B2 MLR ถัวเฉลี่ย-1.25 ชำระคืนเป็นงวดทุก 3 เดือน จำนวน 32 งวด เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2551 C MLR ถัวเฉลี่ย-1.25 ชำระคืนเป็นงวดทุก 3 เดือน จำนวน 32 งวด เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2551 รวม ่งปี หั ก: ส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ ส่วนที่ถึงกำหนดชำระเกินกว่าหนึ่งปี
งบการเงินรวม 2551 2550 766,550,871 1,122,449,491
568,750,000 650,000,000 568,750,000 650,000,000 350,000,000
48
- 350,000,000
-
1,685,300,871 1,772,449,491 918,750,000 650,000,000 (569,279,069) (437,148,619) (131,250,000) (81,250,000) 1,116,021,802 1,335,300,872 787,500,000 568,750,000
การเปลี่ยนแปลงของบัญชีเงินกู้ยืมระยะยาวในระหว่างปี 2551 มีรายละเอียดดังนี ้ ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 1 มกราคม 2551 บวก: กู้เพิ่มระหว่างปี หัก: จ่ายคืนเงินกู้ ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551
(หน่วย: บาท) งบการเงินเฉพาะกิจการ 2551 2550 - -
งบการเงินรวม 1,772,449,491 400,000,000 (487,148,620) 1,685,300,871
(หน่วย: บาท) งบการเงินเฉพาะกิจการ 650,000,000 400,000,000 (131,250,000) 918,750,000
49
รายงานประจำปี 2551
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2551 บริษัทฯได้เบิกเงินกู้ยืมระยะยาว (วงเงิน C) จำนวน 400 ล้านบาท เพื่อใช้ในการซื้อที่ดินและอาคาร บีเอช เรสซิเดนซ์ เงินกู้ยืมดังกล่าวค้ำประกันโดยการจำนองที่ดิน อาคารและจำนำเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์โรงพยาบาลตามที่กล่าวในหมายเหตุ ประกอบงบการเงินข้อ 14 สัญญากู้ยืมเงินได้ระบุข้อปฏิบัติและข้อจำกัดบางประการ เช่น การดำรงอัตราส่วนทางการเงิน ข้อจำกัดเกี่ยวกับการก่อหนี้เพิ่ม และการจ่ายเงินปันผล เป็นต้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีวงเงินกู้ยืมระยะยาวตามสัญญาเงินกู้ที่ยังมิได้เบิกใช้เป็นจำนวน 320 ล้าน บาท ดังนี้ อัตราดอกเบี้ย (ร้อยละ) วัตถุประสงค์ วงเงินกู้คงเหลือ วงเงิ นกู้ (ล้านบาท) เพื่อเป็นวงเงินหมุนเวียน เบิกใช้ภายในระยะเวลาแปดปี D MMR 300 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 เพื่อเป็นวงเงินหมุนเวียน เบิกใช้ภายในระยะเวลาแปดปี E MOR 20 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 รวม 320 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2551 บริษัทฯและบริษัทย่อยได้เข้าทำสัญญา Third Amendment Dated 12 February 2008 to Baht 2,400,000,000 Facility Agreement Dated 12 September 2002 as amended and restated on 28 July 2004 and 25 May 2006 กับเจ้าหนี้ธนาคาร โดยมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมระยะยาวสำหรับวงเงิน D 300 ล้านบาท จากอัตรา MLR ถัวเฉลี่ยลบร้อยละ 1.25 ต่อปี เป็นอัตรา MMR ต่อปี 18. หุ้นกู้แปลงสภาพ หุ้นกู้แปลงสภาพ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550 ประกอบด้วย ก) หุ้นกู้แปลงสภาพมีประกันบางส่วนจำนวน 300 ล้านบาท ระยะเวลาชำระคืน 12 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.5 ต่อปีในปีที่ 1 - 4 ร้อยละ 5 ต่อปีในปีที่ 5 - 8 และร้อยละ 10 ต่อปีในปีที่ 9 - 12 จ่ายชำระทุก 6 เดือน โดยมีราคาแปลงสภาพ ณ ปัจจุบนั เท่ากับ 4.55 บาทต่อ 1 หุน้ สามัญ ผูถ้ อื หุน้ กูม้ สี ทิ ธิเลือกแปลงสภาพเป็นหุน้ สามัญได้ตลอดอายุหนุ้ กู้ หุน้ กูม้ หี ลักประกันเป็นที่ดิน ของบริษทั ฯ ข) หุ้นกู้แปลงสภาพมีประกันบางส่วนจำนวน 250 ล้านบาท (ภายหลังการใช้สิทธิแปลงสภาพจำนวน 750 ล้านบาท ในปี 2546) ระยะเวลาชำระคืน 12 ปี อัตราดอกเบีย้ ร้อยละ 1 ต่อปี จ่ายชำระทุก 6 เดือน โดยมีราคาแปลงสภาพ ณ ปัจจุบนั เท่ากับ 3.50 บาท ต่อ 1 หุ้นสามัญ ผู้ถือหุ้นกู้มีสิทธิเลือกแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญได้ตลอดอายุหุ้นกู้ หุ้นกู้มีหลักประกันเป็นที่ดินของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2543 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯได้มีมติอนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดว่าด้วยสิทธิและ หน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้และผู้ถือหุ้นกู้แปลงสภาพ โดยให้สิทธิบริษัทฯเลือกที่จะไถ่ถอนหุ้นกู้หรือแปลงสภาพหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญเมื่อ ครบกำหนด ภายใต้มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 48 “การแสดงรายการและการเปิดเผยข้อมูลสำหรับเครื่องมือทางการเงิน” การให้สิทธิบริษัทฯ เป็นผู้เลือกที่จะไถ่ถอนหุ้นกู้หรือแปลงสภาพหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญเมื่อครบกำหนดและจำนวนตราสารทุนที่บริษัทฯต้องส่งมอบจะไม่ เปลี่ยนแปลงตามมูลค่ายุติธรรมของตราสารทุนนั้น (เนื่องจากบริษัทฯกำหนดราคาแปลงสภาพที่แน่นอนไว้แล้ว) ทำให้หุ้นกู้แปลงสภาพ ดังกล่าวไม่อยู่ภายใต้คำจำกัดความของหนี้สินทางการเงินและถือเป็นตราสารทุน นอกจากนี้ ฝ่ายบริหารของบริษัทฯมีความตั้งใจที่จะ เลือกใช้สิทธิแปลงสภาพหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญเมื่อครบกำหนด ดังนั้น หุ้นกู้แปลงสภาพดังกล่าวทั้งจำนวนจึงได้แสดงรวมอยู่ในส่วนของ ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และดอกเบี้ยในอนาคตของหุ้นกู้ดังกล่าวจะบันทึกหักกับส่วนของผู้ถือหุ้นโดยตรง บริษัทฯ ได้สำรองหุ้นสามัญไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพหุ้นกู้ดังกล่าวข้างต้นจำนวน 178,571,433 หุ้น ดอกเบีย้ จ่ายสำหรับปี 2551 ของหุน้ กูแ้ ปลงสภาพมีจำนวนเงิน 22.8 ล้านบาท (2550: 17.5 ล้านบาท) โดยดอกเบีย้ ดังกล่าวบันทึก เป็นส่วนที่นำไปลดกำไรสะสม
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
19. ทุนเรือนหุ้น ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิมีสิทธิเท่าเทียมกับหุ้นสามัญ ยกเว้นสิทธิในการรับเงินปันผลก่อนในอัตรา ร้อยละ 15 ของทุนที่เป็นหุ้นบุริมสิทธิ หุ้นบุริมสิทธิดังกล่าวสามารถแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญได้ ในไตรมาสที่หนึ่งของปี 2551 มีผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 66,700 หุ้น (2550: 377,400 หุ้น) ขอแปลงหุ้นบุริมสิทธิเป็นหุ้นสามัญใน อัตรา 1 หุ้นบุริมสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญ โดยบริษัทฯได้ดำเนินการจดทะเบียนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวกับกระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2551 20. สำรองตามกฎหมาย ภายใต้บทบัญญัติของมาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 บริษัทฯต้องจัดสรรกำไรสุทธิประจำปีส่วน หนึ่งไว้เป็นทุนสำรองไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของกำไรสุทธิประจำปีหักด้วยยอดขาดทุนสะสมยกมา (ถ้ามี) จนกว่าทุนสำรองนี้จะมีจำนวน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียน สำรองตามกฎหมายดังกล่าวไม่สามารถนำไปจ่ายเงินปันผล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550 บริษัทฯได้จัดสรรสำรองตามกฎหมายคิดเป็นร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียนแล้ว 21. ค่าใช้จ่ายตามลักษณะ รายการค่าใช้จ่ายแบ่งตามลักษณะประกอบด้วยรายการค่าใช้จ่ายที่สำคัญดังต่อไปนี้ (หน่วย: บาท) งบการเงิ น รวม งบการเงิ น เฉพาะกิ จ การ 2551 2550 2551 2550 นเดือนและค่าแรงและผลประโยชน์อื่น เงิ ของพนั กงาน 1,361,170,035 1,227,440,524 1,344,066,133 1,215,116,113 ค่าธรรมเนียมแพทย์ 2,178,574,817 2,108,618,830 2,167,439,355 2,096,816,088 ขาดทุนจากการด้อยค่าของ - คอมพิวเตอร์ซอฟท์แวร์ - 370,232,632 - 370,232,632 - เงินชดเชยการรวมธุรกิจ - - 127,010,644 - - เงินลงทุนในบริษัทร่วม - - 16,000,000 - 41,216,112 41,240,782 41,216,112 41,240,782 ค่าเช่าจ่ายอุปกรณ์ 44,431,162 74,818,122 133,231,163 160,818,122 ค่าเช่าจ่ายที่ดินและอาคาร ค่ า บำรุ ง รั ก ษาอาคารและอุ ป กรณ์ 137,129,748 179,106,892 136,865,609 178,893,348 133,267,307 109,411,419 131,728,809 109,212,604 ค่าใช้จ่ายในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ 1,971,297,317 1,950,344,834 1,956,953,822 1,931,522,290 ยา เวชภัณฑ์และวัสดุอื่นใช้ไป 22. ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับปี 2551 และ 2550 ของบริษัทฯและบริษัทย่อยคำนวณขึ้นในอัตราร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิทางภาษี 23. กำไรต่อหุ้น กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานคำนวณโดยหารกำไรสุทธิสำหรับปีด้วยจำนวนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญที่ออกอยู่ในระหว่างปี กำไรต่อหุ้นปรับลดคำนวณโดยหารกำไรสุทธิสำหรับปีด้วยผลรวมของจำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่ออกอยู่ในระหว่างปี กับจำนวนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญที่บริษัทฯอาจต้องออกเพื่อแปลงหุ้นสามัญเทียบเท่าปรับลดทั้งสิ้นให้เป็นหุ้นสามัญ โดยสมมติว่าได้มีการแปลงเป็นหุ้นสามัญ ณ วันต้นปีหรือ ณ วันออกหุ้นสามัญเทียบเท่า กำไรต่อหุ้นพื้นฐานและกำไรต่อหุ้นปรับลดแสดงการคำนวณได้ดังนี้
50
งบการเงินเฉพาะกิจการ จำนวนหุ้นสามัญ กำไรสุทธิ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 2551 2550 2551 2550 บาท บาท หุ้น หุ้น กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น บริษัทใหญ่ 1,414,775,739 1,128,896,667 728,256,168 728,119,020 ผลกระทบของหุ้นสามัญเทียบเท่าปรับลด หุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพ - - 1,796,054 1,933,202 หุ้นกู้แปลงสภาพ - - 137,362,637 137,362,637 กำไรต่อหุ้นปรับลด กำไรสุทธิที่เป็นของผู้ถือหุ้นสามัญ สมมติว่ามีการแปลงสภาพเป็นหุ้น สามัญ 1,414,775,739 1,128,896,667 867,414,859 867,414,859
กำไรต่อหุ้น 2551 2550 บาท บาท 1.64 2.20 1.37 1.85
กำไรต่อหุ้น 2551 2550 บาท บาท 1.94 1.55 1.63 1.30
24. ข้อมูลทางการเงินจำแนกส่วนงาน บริษัทฯและบริษัทย่อยดำเนินกิจการในส่วนงานทางธุรกิจเดียวคือธุรกิจโรงพยาบาลและศูนย์ดูแลสุขภาพ และดำเนินธุรกิจในส่วน งานทางภูมิศาสตร์เดียวคือในประเทศไทย ดังนั้น รายได้ กำไรและสินทรัพย์ทั้งหมดที่แสดงในงบการเงินจึงเกี่ยวข้องกับส่วนงานธุรกิจ และส่วนงานทางภูมิศาสตร์ตามที่กล่าวไว้ 25. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทฯ บริษัทย่อยและพนักงานได้ร่วมกันจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพขึ้นตามพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2530 ซึ่งประกอบด้วยเงินที่พนักงานจ่ายสะสมเป็นรายเดือนในอัตราร้อยละ 5 ของเงินเดือนและเงินที่บริษัทฯและบริษัทย่อยจ่ายสมทบให้เป็น รายเดือนในอัตราร้อยละ 5 - 7 ของเงินเดือนพนักงาน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพนี้บริหารโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนฟินันซ่า จำกัด และจะจ่ายให้แก่พนักงานเมื่อพนักงานนั้นออกจากงานตามระเบียบของกองทุนฯในระหว่างปี 2551 บริษัทฯและบริษัทย่อย ได้จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนฯเป็นจำนวนเงิน 34.4 ล้านบาท (2550: 28.1 ล้านบาท)
51
รายงานประจำปี 2551
งบการเงินรวม จำนวนหุ้นสามัญ กำไรสุทธิ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 2551 2550 2551 2550 บาท บาท หุ้น หุ้น กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น บริษัทใหญ่ 1,191,046,610 1,605,462,201 728,256,168 728,119,020 ผลกระทบของหุ้นสามัญเทียบเท่าปรับลด หุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพ - - 1,796,054 1,933,202 หุ้นกู้แปลงสภาพ - - 137,362,637 137,362,637 กำไรต่อหุ้นปรับลด กำไรสุทธิที่เป็นของผู้ถือหุ้นสามัญ สมมติว่ามีการแปลงสภาพเป็นหุ้น สามัญ 1,191,046,610 1,605,462,201 867,414,859 867,414,859
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
26. เงินปันผล (หน่วย: บาท) อนุมัติโดย เงินปันผลจ่าย เงินปันผลจ่ายต่อหุ้น เงินปันผล ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เงินปันผลประจำปี 2550 292,011,489 0.40 เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2551 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เงินปันผลระหว่างกาลจากผลการ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2551 ดำเนินงานสำหรับงวดหกเดือน 292,012,849 0.40 สิ น ้ สุ ด วั น ที ่ 30 มิ ถ น ุ ายน 2551 584,024,338 0.80 รวมเงินปันผลสำหรับปี 2551 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เงินปันผลประจำปีสำหรับปี 2549 เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2550 328,523,500 0.45 เงินปันผลระหว่างกาลจากผลการ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ดำเนินงานสำหรับงวดหกเดือน เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2550 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2550 292,020,889 0.40 รวมเงินปันผลสำหรับปี 2550 620,544,389 0.85 27. ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจเกิดขึ้น 27.1 ภาระผูกพันเกี่ยวกับรายจ่ายฝ่ายทุน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 บริษัทฯมีภาระผูกพันรายจ่ายฝ่ายทุนอันเกี่ยวเนื่องกับสัญญาก่อสร้างอาคารจำนวนเงิน 70.3 ล้านบาท (2550: 237.1 ล้านบาท) และเกี่ยวกับการซื้อเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์โรงพยาบาลเป็นจำนวนเงิน 66.6 ล้านบาท (2550: 171.3 ล้านบาท) 27.2 ภาระผูกพันเกี่ยวกับสัญญาเช่าดำเนินงานและสัญญาบริการระยะยาว บริษัทฯได้เข้าทำสัญญาเช่าดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการเช่าที่ดิน อาคาร รถยนต์และอุปกรณ์และสัญญาบริการระยะยาว อายุของสัญญามีระยะเวลาตั้งแต่ 2 ถึง 5 ปีและสัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาที่บอกเลิกไม่ได้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 บริษัทฯ มีจำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องจ่ายในอนาคตทั้งสิ้นภายใต้สัญญาเช่าดำเนินงานและสัญญา บริการระยะยาวที่บอกเลิกไม่ได้ดังนี้ (หน่วย: ล้านบาท) จ่ายชำระภายใน รายละเอียดภาระผูกพัน ภายใน 1 ปี 1 ถึง 5 ปี มากกว่า 5 ปี รวม 1) ค่าธรรมเนียมให้แก่ธนาคารแห่งหนึ่งในฐานะ 0.3 0.7 - 1.0 ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้แปลงสภาพ 2) ค่าเช่าที่ดินเพื่อสร้างหอพักพยาบาล (สามารถต่ออายุ สัญญาได้อีก 20 ปี) 33.3 7.6 50.8 91.7 20.0 - - 20.0 3) ค่าเช่าอุปกรณ์การแพทย์ 4) ค่าเช่าที่ดินและอาคารเพื่อให้บริการห้องพัก (สามารถต่อ 25.6 6.4 - 32.0 อายุสัญญาเช่าได้อีก 2 ปี) 5) ค่าเช่าอาคารหอพักพยาบาลและบริการที่ เกี่ยวข้อง (สามารถต่ออายุสัญญาเช่าได้) 15.0 14.9 - 29.9 46.0 154.9 - 200.9 6) ค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์การแพทย์ 11.2 12.7 - 23.9 7) ค่าเช่าและค่าบำรุงรักษารถยนต์ 27.3 ภาระผูกพันจากสัญญาอื่น ในระหว่างปีปัจจุบัน บริษัทฯได้ทำสัญญาการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์สามฉบับกับบริษัทในประเทศสามแห่ง สัญญามี กำหนดเวลา 5 - 7 ปี ภายใต้เงื่อนไขตามสัญญา บริษัทฯต้องซื้อเวชภัณฑ์ที่ใช้กับอุปกรณ์ดังกล่าวตลอดอายุของสัญญาตามราคา ที่ระบุในสัญญา ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มูลค่าเวชภัณฑ์ที่บริษัทฯต้องซื้อตามสัญญาคงเหลือเป็นจำนวนเงินขั้นต่ำประมาณ 437.2 ล้านบาท
52
งบการเงินรวม อัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ย ไม่มี คงที่ ปรับขึ้นลง อัตรา อัตรา (ภายใน 1 ปี) ตามราคาตลาด ดอกเบี้ย รวม ดอกเบี้ย (ล้านบาท) (ร้อยละต่อปี) สินทรัพย์ทางการเงิน เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด - 255 130 385 0.13 - 0.75 ลูกหนี้การค้า - สุทธิ - - 494 494 - ลูกหนี้กิจการที่เกี่ยวข้องกัน - - 9 9 - เงินฝากธนาคารที่มีภาระค้ำประกัน 17 - - 17 1.50 - 2.25 17 255 633 905 หนี้สินทางการเงิน เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 200 - - 200 4.00 เจ้าหนี้การค้า - - 504 504 - เงินกู้ยืมระยะยาว - 1,685 - 1,685 MLR-1.25 200 1,685 504 2,389
53
รายงานประจำปี 2551
27.4 การค้ำประกัน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีหนังสือค้ำประกันที่ออกโดยธนาคารในนามของบริษัทฯเหลืออยู่เป็นจำนวนเงิน 10.9 ล้านบาท (2550: 5.9 ล้านบาท) และในนามบริษทั ย่อยเป็นจำนวนเงิน 8.4 ล้านบาท (2550: 8.4 ล้านบาท) ซึง่ เกีย่ วเนือ่ งกับภาระผูกพันทาง ปฏิบตั บิ างประการตามปกติธุรกิจ เช่น การจ่ายค่าสาธารณูปโภคและการเช่าสถานที่ 28. เครื่องมือทางการเงิน 28.1 นโยบายการบริหารความเสี่ยง เครื่องมือทางการเงินที่สำคัญของบริษัทฯและบริษัทย่อยตามที่นิยามอยู่ในมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 48 “การแสดงรายการ และการเปิดเผยข้อมูลสำหรับเครื่องมือทางการเงิน” ประกอบด้วย เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ลูกหนี้และเจ้าหนี้การค้า เงินให้กู้ยืม เงินลงทุน เงินกู้ยืมระยะสั้น และเงินกู้ยืมระยะยาว บริษัทฯและบริษัทย่อยมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเครื่องมือ ทางการเงินดังกล่าว และมีนโยบายในการบริหารความเสี่ยงดังนี้ ความเสี่ยงด้านการให้สินเชื่อ บริษัทฯและบริษัทย่อยมีความเสี่ยงด้านการให้สินเชื่อที่เกี่ยวเนื่องกับลูกหนี้การค้า เงินให้กู้ยืม และลูกหนี้อื่น ฝ่ายบริหาร ควบคุมความเสี่ยงนี้โดยการกำหนดให้มีนโยบายและวิธีการในการควบคุมสินเชื่อที่เหมาะสม ดังนั้น บริษัทฯและบริษัทย่อยจึงไม่ คาดว่าจะได้รับความเสียหายที่เป็นสาระสำคัญจากการให้สินเชื่อ นอกจากนี้ บริษัทฯและบริษัทย่อยมีฐานของลูกค้าที่หลากหลาย และมีอยู่จำนวนมากราย จำนวนเงินสูงสุดที่บริษัทฯและบริษัทย่อยอาจต้องสูญเสียจากการให้สินเชื่อคือมูลค่าตามบัญชีของลูกหนี ้ เงินให้กู้ยืมและลูกหนี้อื่นที่แสดงอยู่ในงบดุล ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย บริษัทฯและบริษัทย่อยมีความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยที่สำคัญอันเกี่ยวเนื่องกับเงินฝากธนาคารและเงินกู้ยืมระยะยาวที่มี ดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสินทรัพย์และหนี้สินทางการเงินส่วนใหญ่มีอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นลงตามอัตราตลาด หรือมี อัตราดอกเบี้ยคงที่ซึ่งใกล้เคียงกับอัตราตลาดในปัจจุบัน ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยของบริษัทฯและบริษัทย่อยจึงอยู่ในระดับต่ำ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 สินทรัพย์และหนี้สินทางการเงินที่สำคัญสามารถจัดตามประเภทอัตราดอกเบี้ย และสำหรับสินทรัพย์ และหนี้สินทางการเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่สามารถแยกตามวันที่ครบกำหนด หรือ วันที่มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยใหม่ (หากวันที่มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยใหม่ถึงก่อน) ได้ดังนี้
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
งบการเงินเฉพาะกิจการ อัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ย ไม่มี คงที่ ปรับขึ้นลง อัตรา อัตรา (ภายใน 1 ปี) ตามราคาตลาด ดอกเบี้ย รวม ดอกเบี้ย (ล้านบาท) (ร้อยละต่อปี) สินทรัพย์ทางการเงิน เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด - 221 130 351 0.13 - 0.75 ลูกหนี้การค้า - สุทธิ - - 492 492 - ลูกหนี้กิจการที่เกี่ยวข้องกัน - - 9 9 - เงินฝากธนาคารที่มีภาระค้ำประกัน 9 - - 9 1.50 - 2.25 9 221 631 861 หนี้สินทางการเงิน เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 200 - - 200 4.00 เจ้าหนี้การค้า - - 503 503 - เจ้าหนี้กิจการที่เกี่ยวข้องกัน - - 4 4 - เงินกู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ย ค้างจ่าย - กิจการที่เกี่ยวข้องกัน - 939 - 939 MLR-1.00 เงินกู้ยืมระยะยาว - 919 - 919 MLR-1.25 200 1,858 507 2,565
ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน บริษัทฯและบริษัทย่อยมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่สำคัญอันเกี่ยวเนื่องจากการซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ และการจ่ายค่าบริการเป็นเงินตราต่างประเทศ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 บริษัทฯและบริษัทย่อยไม่มียอดคงเหลือของสินทรัพย์และหนี้สินทางการเงินที่เป็นสกุลเงิน ตราต่างประเทศ 28.2 มูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงิน เนื่องจากสินทรัพย์และหนี้สินทางการเงินส่วนใหญ่ของบริษัทฯและบริษัทย่อยจัดอยู่ในประเภทระยะสั้น เงินให้กู้ยืมและเงิน กู้ยืมมีอัตราดอกเบี้ยใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยในตลาด บริษัทฯและบริษัทย่อยจึงประมาณมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์และ หนี้สินทางการเงินใกล้เคียงกับมูลค่าตามบัญชีที่แสดงในงบดุล มูลค่ายุติธรรม หมายถึง จำนวนเงินที่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงแลกเปลี่ยนสินทรัพย์กันในขณะที่ทั้งสองฝ่ายมีความรอบรู้ และ เต็มใจในการแลกเปลี่ยนและสามารถต่อรองราคากันได้อย่างเป็นอิสระในลักษณะที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน วิธีการกำหนด มูลค่ายุติธรรมขึ้นอยู่กับลักษณะของเครื่องมือทางการเงิน มูลค่ายุติธรรมจะกำหนดจากราคาตลาดล่าสุด หรือกำหนดขึ้น โดยใช้เกณฑ์การวัดมูลค่าที่เหมาะสม 29. การบริหารจัดการทุน วัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการทุนที่สำคัญของบริษัทฯและบริษัทย่อยคือการจัดให้มีซึ่งโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสมและ การดำรงไว้ซึ่งความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ตามงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 กลุ่มบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเท่ากับ 0.67:1 (2550: 0.72:1) และบริษัทฯมีอัตราส่วน เท่ากับ 0.73:1 (2550: 0.83:1) 30. เหตุการณ์ภายหลังวันที่ ในงบการเงิน เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯได้มีมติเห็นชอบให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นซึ่งจะจัดขึ้นในเดือน เมษายน 2552 ในเรื่องการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นจากกำไรของปี 2551 ในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท รวมเป็นเงิน 292.0 ล้านบาท เงินปันผลนี้จะจ่ายและบันทึกบัญชีภายหลังจากได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ
54
55
รายงานประจำปี 2551
31. การจัดประเภทรายการในงบการเงิน บริษัทฯได้มีการจัดประเภทรายการบัญชีบางรายการในงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ใหม่เพื่อให้สอดคล้อง กับการจัดประเภทรายการบัญชีในปีปัจจุบัน ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อกำไรสุทธิหรือส่วนของผู้ถือหุ้นตามที่เคยรายงานไว้ การจัดประเภท รายการใหม่มีดังต่อไปนี้ (หน่วย: บาท) งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะกิจการ ตามที่จัดประเภทใหม่ ตามที่เคยรายงานไว้ ตามที่จัดประเภทใหม่ ตามที่เคยรายงานไว้ 590,306,691 596,667,691 588,086,215 594,447,215 ลูกหนี้การค้า - สุทธิ 501,349,205 621,648,668 499,321,764 619,621,227 เจ้าหนี้การค้า 120,299,463 - 120,299,463 - เจ้าหนี้งานก่อสร้างและอุปกรณ์การแพทย์ 148,689,856 155,050,856 147,909,167 154,270,167 ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย - 524,531 - - รายได้รับล่วงหน้า หนี้สินหมุนเวียนอื่น 41,057,085 40,532,554 40,259,870 40,259,870 เงินกู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ยค้างจ่าย - กิจการที่เกี่ยวข้องกันที่ถึงกำหนด ชำระภายในหนึ่งปี - - 355,898,619 1,212,236,428 เงินกู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ยค้างจ่าย - - 856,337,809 - - กิจการที่เกี่ยวข้องกัน ต้นทุนกิจการโรงพยาบาล 5,119,724,624 5,120,231,716 5,089,520,686 5,090,027,778 ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 1,356,383,467 1,355,876,375 1,409,801,151 1,409,294,059 32. การอนุมัติงบการเงิน งบการเงินนี้ได้รับอนุมัติให้ออกโดยคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2552
สรุ ป สารสนเทศ ที่ สำคัญ
56
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
ข้อมูลทั่วไป 1.1 ข้อมูลบริษัท ชื่อ : ประเภทธุรกิจ: สถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่ : เลขทะเบียนบริษัท : Home page : E-mail address : โทรศัพท์ : โทรสาร : ทุนจดทะเบียน ทุนชำระแล้ว
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) โรงพยาบาลเอกชน 33 ซอย สุขุมวิท 3 (นานาเหนือ) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 บมจ. 173 http://www.bumrungrad.com ir@bumrungrad.com 0 2667 1000 0 2677 2525 922,702,685 บาท แบ่งเป็น หุ้นสามัญ จำนวน 920,919,935 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท หุ้นบุริมสิทธิ จำนวน 1,782,750 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท 730,052,222 บาท แบ่งเป็น หุ้นสามัญ จำนวน 728,269,472 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท หุ้นบุริมสิทธิ จำนวน 1,782,750 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท
1.2 นิติบุคคลที่บริษัทถือหุ้นตั้งแต่ร้อยละ 10 ขึ้นไป
บริษัท
ประเภทธุรกิจ
บริษัท บำรุงราษฎร์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด ให้เช่า 33/3 ซอยสุขุมวิท 3 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ อสังหาริมทรัพย์ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0 2667 1000 โทรสาร 0 2667 2525 บริษัท ไวทัลไลฟ์ จำกัด ศูนย์สุขภาพ 210 ซอยสุขุมวิท 1 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0 2667 2340 โทรสาร 0 2667 2341 บริษัท เอเชีย รีนัล แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด การลงทุนใน 33 ซอยสุขุมวิท 3 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ ศูนย์ไตเทียม เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0 2667 1000 โทรสาร 0 2667 2525 บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด การลงทุนในต่างประเทศ 33 ซอยสุขุมวิท 3 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0 2667 1000 โทรสาร 0 2667 2525 บริษัท ซีดีอี เทรดดิ้ง จำกัด อยู่ระหว่างการศึกษา 33/3 ซอยสุขุมวิท 3 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ ธุรกิจใหม่ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0 2667 1000 โทรสาร 0 2667 2525 บริษัท โกลเบิล แคร์ โซลูชั่น เอส. เอ. หยุดดำเนินการ 9 Rue Schiller, L-2519 Luxembourg โทรศัพท์ 41 (76) 565 1533, Fax 41 (44) 496 6319
จำนวนหุ้นสามัญ ที่จำหน่ายแล้ว 119,869,201 หุ้น
สัดส่วน การถือหุ้น 100.0%
315,000 หุ้น
100.0%
1,200,000 หุ้น
51.0%
31,993,367 หุ้น
31.5%
100,000 หุ้น
30.0%
31,426 หุ้น
14.0%
รายงานประจำปี 2551
1.
57
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
1.3 บุคคลอ้างอิง 1. ผู้สอบบัญชี
2. ที่ปรึกษากฎหมาย
3. นายทะเบียนหลักทรัพย์
4. นายทะเบียนหุ้นกู้แปลงสภาพ
5. ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู ้
บริษัท สำนักงาน เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด ชั้น 33 อาคารเลครัชดา เลขที่ 193/136-137 ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0 2264 0777 โทรสาร 0 2264 0789-90 บริษัท ที่ปรึกษาไทย จำกัด 63 ซอย 8 (ซอยปรีดา) ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0 2255 2552 โทรสาร 0 2653 1133 บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด 62 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชั้น 4, 6-7 ถนนรัชดาภิเษก เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0 2229 2888 โทรสาร 0 2359 1259 บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) 33 ซอย สุขุมวิท 3 (นานาเหนือ) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0 2667 2025 โทรสาร 0 2667 2031 ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) 3000 ถนนพหลโยธิน จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0 2299 1111, 0 2617 9111 โทรสาร 0 2299 1784
2. ข้อมูลทางการเงินโดยสรุป 2.1 ข้อมูลจากงบการเงิน (หน้า 15) 2.2 อัตราส่วนทางการเงิน (หน้า 15) 3. ลักษณะการประกอบธุรกิจ 3.1 สรุปสาระสำคัญ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ประกอบกิจการโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพมหานคร ด้วยความสามารถในการรองรับผู้ป่วยในได้ 554 เตียงและผู้ป่วยนอก 4,500 คนต่อวัน และเป็นหนึ่งในผู้นำในการให้บริการ ทางการแพทย์ในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีการให้บริการอย่างครบวงจรทั้งการบริการผู้ป่วยนอก และการบริ ก ารผู้ ป่ ว ยใน ตลอดเวลาที่ ผ่ า นมา บริ ษั ท ได้ ใ ห้ ค วามสำคั ญ กั บ การรั ก ษาพยาบาลที่ มี คุ ณ ภาพ คณะแพทย์ และพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญ และเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในเอเชียที่ได้รับการรับรองคุณภาพโรงพยาบาลระดับสากล (JCI Accreditation) ตามมาตรฐานการรับรองของสหรัฐอเมริกา ขณะนี้ บริ ษั ท อยู่ ร ะหว่ า งการขยายและยกระดั บ อาคารและสิ่ ง อำนวยความสะดวกของโรงพยาบาลบำรุ ง ราษฎร์ กรุงเทพมหานครภายในห้าปีข้างหน้า เพื่อรองรับความต้องการบริการทางการแพทย์เอกชนที่เพิ่มขึ้น โดยที่การขยายธุรกิจ ดังกล่าว จะทำให้ความสามารถในการให้บริการของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 650 เตียงและผู้ป่วยนอกจำนวน 6,000 คนต่อวัน ซึ่งคิด เป็นเกือบสองเท่าของความสามารถในทำรายได้ของบริษัทในปัจจุบัน นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ผ่านบริษัทร่วมซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ 31.5% คือ บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งบริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์- เนชั่นแนล จำกัด มีนโยบายที่จะหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ บริษัทมีบริษัทย่อยซึ่งบริษัทถือหุ้น 100% อยู่สองบริษัท คือ บริษัท บำรุงราษฎร์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด และบริษัท ไวทัลไลฟ์ จำกัด และบริษัทย่อยซึ่งบริษัทถือหุ้น 51% อยู่หนึ่งบริษัท คือ บริษัท เอเชีย รีนัล แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด มีบริษัท ร่วมสองบริษัท คือ บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 31.5% และบริษัท ซีดีอี เทรดดิ้ง จำกัด (เดิม ชื่อ บริษัท โกลเบิลแคร์ โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด) ซึ่งบริษัทถือหุ้น 30% และบริษัทที่เกี่ยวข้องกันหนึ่งบริษัท คือ บริษัท โกลเบิล แคร์ โซลูชั่น เอส. เอ. ในประเทศลักเซมเบิร์ก ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ 14% โครงสร้างบริษัทมีดังต่อไปนี้
58
100.0%
31.5%
100.0%
30.0%
บริษัท บำรุงราษฎร์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด
บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด*
บริษัท ไวทัลไลฟ์ จำกัด
บริษัท ซีดีอี เทรดดิ้ง จำกัด**
เจ้าของอาคารโรงพยาบาลปัจจุบัน
ผู้ดำเนินการด้านกิจการต่างประเทศ
ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพแบบครบวงจร
อยู่ระหว่างการศึกษาธุรกิจใหม่
54.4%
บริษัท เอเชียน ฮอสพิทอล อิงค์
หมายเหตุ ข้อมูล ณ ธันวาคม 2551
49.0%
บริษัท บำรุงราษฎร์ ฮอสพิทอล ดูไบ แอลแอสซี
100.0%
บริษัท เอเชีย รีนัล แคร์ จำกัด
* นักลงทุนเชิงกลยุทธ์ของบริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ประกอบด้วย - Istithmar 19.5% - Temasek 19.5% - Asia Financial Holding 19.5% - ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 10.0%
สัญญา บริหารจัดการ
** เปลี่ยนชื่อจากบริษัท โกลเบิล แคร์ โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด
โรงพยาบาล บำรุงราษฎร์ อัล มาฟรัก 49.0%
51.0%
บริษัท เอเชีย รีนัล แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด
รายละเอียดของบริษัทย่อย บริษัทร่วม และบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน มีดังต่อไปนี้ 1. บริษัท บำรุงราษฎร์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด (“BMC”) เป็นเจ้าของอาคารโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งให้บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) เช่า 2. บริษัท ไวทัลไลฟ์ จำกัด (“Vitallife”) เป็นผู้ริเริ่มศูนย์ส่งเสริมสุขภาพและเวชศาสตร์วัยยุวัฒน์ (anti-aging) แบบครบวงจร เชี่ยวชาญ ทางด้านการให้บริการป้องกันและรักษาเพื่อชะลอความเสื่อมของร่างกาย โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่สนใจการดูแลรักษาสุขภาพเป็น พิเศษ โปรแกรมไวทัลไลฟ์มีการผสมผสานระหว่างคณะแพทย์มืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญและวิทยาการมาตรฐานระดับสากล เพื่อออกแบบโปรแกรมสุขภาพสำหรับลูกค้าแต่ละรายโดยเฉพาะ ซึ่งมีทั้งโปรแกรมการออกกำลังกาย โปรแกรมโภชนาการ และ โปรแกรมอาหารเสริม เพื่อสุขภาพที่ดี 3. บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้ดำเนินการลงทุนในโครงการต่างๆในต่างประเทศของบริษัท ในขณะนี้ บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดมีโรงพยาบาลและคลินิกจำนวน 85 แห่งใน 7 ประเทศ โดยที่นักลงทุนเชิงกลยุทธ์ของบริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ประกอบด้วย Istithmar ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนของรัฐบาลประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, Temasek แห่งประเทศสิงคโปร์, Asia Financial Holdings ในฮ่องกง และ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซึ่งพันธมิตรเหล่านี้ของ บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติและมีอิทธิพลในภูมิภาคนั้นๆ ทำให้บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดมีโอกาสในการลงทุนใหม่ๆและเครือข่ายพันธมิตรโดยเฉพาะในตะวันออกกลางและเอเชีย 4. บริษัท เอเชีย รีนัล แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด (“ARC Thailand”) เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท และ บริษัท เอเชีย รีนัล แคร์ (เอส อี เอ) พีทีอี จำกัด ARC Thailand ได้เข้าทำสัญญา เพื่อลงทุน 20% ในบริษัท เนพโฟรเมด จำกัด ผู้ให้บริการไตเทียมซึ่งมี 14 คลินิกในประเทศไทย 5. บริษัท ซีดีอี เทรดดิ้ง จำกัด (“CDE Trading”) (เดิมชื่อ บริษัท โกลเบิลแคร์ โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด) เดิมเป็นบริษัทพัฒนาระบบ ซอฟท์แวร์สำหรับโรงพยาบาล ในเดือนธันวาคม 2550 บริษัท โกลเบิลแคร์ โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัดได้ขายสินทรัพย์หลัก คือ ผลิตภัณฑ์ซอฟท์แวร์บริหารโรงพยาบาล และสินทรัพย์อื่นๆ ให้กับ ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศสหรัฐอเมริกา และบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท โกลเบิลแคร์ โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ได้ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ซีดีอี เทรดดิ้ง จำกัด โดยที่ขณะนี้ CDE Trading อยู่ระหว่างการศึกษาโครงการลงทุนใหม่ๆ 6. บริษัท โกลเบิล แคร์ โซลูชั่น เอส. เอ. (“GCS Luxemburg”) ขณะนี้หยุดการดำเนินการชั่วคราว
59
รายงานประจำปี 2551
บริษัท โรงพยาบาล บำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
3.2 โครงสร้างรายได้ กลุ่มธุรกิจ
ธุรกิจการแพทย์ ธุรกิจการแพทย์ รวมธุรกิจการแพทย์ ธุรกิจบริหารโรงพยาบาล
ดำเนินการโดย บมจ. โรงพยาบาล บำรุงราษฎร์ บจ. ไวทัลไลฟ์ บจ. บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
รวมธุรกิจบริหารโรงพยาบาล ธุรกิจให้เช่า บมจ. โรงพยาบาล บำรุงราษฎร์ รวมธุรกิจให้เช่า อื่นๆ บมจ. โรงพยาบาล บำรุงราษฎร์** อื่นๆ บมจ. บำรุงราษฎร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ อื่นๆ บจ. บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รวมอื่นๆ รวม
* **
% การถือหุ้น ของบริษัท
2551 รายได้ % รวม 8,540 95.7
100.0 31.5*
89 10 8,629 96.7 - -
2550 รายได้ % รวม 8,227 87.4
2549 รายได้ % รวม 7,572 95.9
97 8,324 17
1.0 88.4 0.2
78 7,650 57
1.0 96.9 0.7
- 128
- 1.4
17 132
0.2 1.4
57 118
0.7 1.5
128 167
1.4 1.9
132 925
1.4 9.9
118 57
1.5 0.7
100.0
1
-
2
-
1
-
- - 168 1.9 8,925 100.0
13 940 9,413
0.1 10.0 100.0
12 70 7,895
0.2 0.9 100.0
31.5
เมื่อเดือนเมษายน 2550 บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปลี่ยนสถานะจากบริษัทย่อยเป็นบริษัทร่วมของบริษัท ดังนั้น รายได้จากธุรกิจ บริหารโรงพยาบาล จำนวน 17 ล้านบาทในปี 2550 จึงเป็นรายได้ในไตรมาส 1 เท่านั้น เนื่องจากบัญชีของบริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ไม่ได้รวมอยู่ในบัญชีของบริษัท ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2550 เป็นต้นมา ในปี 2550 บมจ. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มีรายได้อนื่ ๆจำนวน 925 ล้านบาท ซึง่ ส่วนหนึง่ จำนวน 829 ล้านบาทเป็นส่วนแบ่งกำไรจาก บริษทั ซีดอี ี เทรดดิง้ จำกัด (CDE Trading) (เดิมชื่อบริษัท โกลเบิลเเคร์ โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกำไรจากการขายสินทรัพย์ของ CDE Trading ซึ่งเป็นกำไรซึ่งไม่ เกี่ยวกับการดำเนินงานโดยปกติของบริษัทและเกิดขึ้นครั้งเดียว หักด้วยผลการดำเนินงานของ CDE Trading
3.3 ลักษณะการประกอบธุรกิจ และภาวะการแข่งขัน บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) บริษัทเป็นผู้ดำเนินกิจการโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ในกรุงเทพมหานคร และเป็นผู้ที่ทำรายได้หลัก โดยรายได้จากกิจการ โรงพยาบาลของบริษัท คิดเป็น 95.7% ของรายได้รวมทั้งหมด บริการของโรงพยาบาล: บริการของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงเทพมหานคร สามารถแบ่งได้ดังต่อไปนี้ 1. การบริการผู้ป่วยนอก มีศูนย์บริการผู้ป่วยนอกจำนวน 33 ศูนย์ และคลินิกตรวจผู้ป่วยกว่า 200 ห้อง สามารถรองรับผู้ป่วย นอกได้ 4,500 คนต่อวัน 2. การบริการผู้ป่วยใน มีจำนวนเตียง 554 เตียง ซึ่งรวมเตียงผู้ป่วยหนักทั่วไป 26 เตียง เตียงผู้ป่วยโรคหัวใจ 14 เตียง เตียง ผู้ป่วยหนักเด็ก 9 เตียง และเตียงผู้ป่วยหนักทารกแรกเกิด 5 เตียง โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 โรงพยาบาลมีเตียง พร้อมให้บริการ จำนวน 432 เตียง 3. การพยาบาลฉุกเฉินและห้องผ่าตัด มีแผนกผู้ป่วยฉุกเฉินพร้อมการสวนหัวใจฉุกเฉิน ซึ่งเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้โรงพยาบาลยังมีห้องผ่าตัด 19 ห้องซึ่งมีเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เพียบพร้อมและทันสมัย ห้องปฏิบัติ การสวนหัวใจ 2 ห้อง และห้องผ่าตัดหัวใจ 2 ห้อง โรงพยาบาลมีเครื่องวินิจฉัยด้วยสนามแม่เหล็ก (MRI) เครื่องเอ็กซเรย์ คอมพิวเตอร์ (PET/CT Scanner) และเครือ่ งเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์แบบ 64 แผ่น (64-slice CT Scanner) เพือ่ ความปลอดภัย ของผู้ป่วยและประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน โรงพยาบาลได้ติดตั้งระบบห้องปฏิบัติการทางการแพทย์อัตโนมัติ (lab automation) และหุ่นยนต์จัดยา (pharmacy robot) นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังมีบริการอุปกรณ์ถ่ายภาพพิเศษ (Surgical Navigation System) อีกด้วย
60
ในปี 2551 บริษัทได้ให้บริการรักษาผู้ป่วยทั้งสิ้นกว่าหนึ่งล้านคน โดยที่มีส่วนแบ่งรายได้จากผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกในปี 2551 ดังต่อไปนี้ ผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก (% ของรายรับรวม) ผู้ป่วยใน 49%
ผู้ป่วยนอก 51%
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551
การให้บริการผู้ป่วยต่างประเทศ: บริษัทประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการเป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมีฐานลูกค้าชาวต่างชาติ ที่เข้มแข็ง บริษัทมีศูนย์บริการผู้ป่วยต่างชาติ เพื่ออำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ แก่ผู้ป่วยต่างชาติ เช่น บริการล่าม บริการ ประสานงานกับประกันภัยระหว่างประเทศ บริการประสานงานทางด้านการแพทย์ บริการรับย้ายผู้ป่วย (referral center) บริการ ติดต่อสื่อสารทางอีเมลล์ บริการต่อวีซ่า การติดต่อสถานทูต การต้อนรับที่สนามบินและการช่วยเหลือในการเดินทาง เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทยังมีบริการห้องพักสำหรับผู้ป่วยและครอบครัวสองอาคาร คือ บีเอช เรสสิเดนซ์ (อาคารบีเอช ทาวเวอร์) ซึ่ง ประกอบด้วยห้องพัก 74 ห้องพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก โดยมีทางเดินเชื่อมติดกับอาคารโรงพยาบาล และอาคารบีเอช สวีท ซึ่งประกอบด้วยห้องพัก 51 ห้อง นอกจากนี้ บริษัทมีสำนักงานตัวแทนต่างประเทศ 22 แห่งใน 20 ประเทศ ในปี 2551 โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ในกรุงเทพมหานครได้ให้บริการรักษาผู้ป่วยชาวต่างชาติจากกว่า 190 ประเทศ รวม ประมาณ 420,000 คน โดยที่ประเทศที่ทำรายได้สูงสุดให้กับบริษัทสามอันดับแรกยังคงเป็นสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอเมริกา และโอมาน รูปภาพต่อไปนี้ แสดงถึงรายรับของบริษัทแบ่งตามผู้ป่วยในประเทศและผู้ป่วยต่างประเทศห้าปีที่ผ่านมา ผู้ป่วยในประเทศและผู้ป่วยต่างประเทศ (% ของรายรับรวม) 100% 80%
51%
47%
46%
45%
46%
53%
54%
55%
54%
60% 40% 20%
49%
0%
2547 2548
2549 2550 2551
ผู้ป่วยต่างประเทศ
ผู้ป่วยในประเทศ
* หมายเหตุ ข้ อ มู ล ของผู้ ป่ ว ยต่ า งประเทศเป็ น ข้ อ มู ล ตามสั ญ ชาติ ซึ่ ง รวมทั้ ง ชาวต่ า งชาติ ที่ อ ยู่ ใ นประเทศไทยและในภู มิ ภ าคเอเชี ย (Expatriates) และ นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
61
รายงานประจำปี 2551
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
62
โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร: ในปัจจุบัน โรงพยาบาลมีการให้บริการในสองอาคาร: 1. อาคารบำรุงราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลคลินิกใหม่ เป็นอาคารผู้ป่วยนอก 22 ชั้น โดย 10 ชั้นแรกเป็นชั้นจอดรถ และ 12 ชั้น บนเป็นคลินิกและบริการสนับสนุน โดยปัจจุบัน ได้เปิดให้บริการคลินิกผู้ป่วยนอกแล้ว 5 ชั้น ซึ่งรวมถึงศูนย์ตรวจสุขภาพ ศูนย์หัวใจศูนย์อายุรกรรมและศัลยกรรม โรคติดเชื้อ โรคไต ประสาทวิทยา โรคปอด โรคข้อและรูมาติสซึ่ม ระบบทางเดิน ปัสสาวะ และศูนย์สุขภาพชาย เป็นต้น 2. อาคารโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์อนิ เตอร์เนชัน่ แนลปัจจุบนั ให้บริการทัง้ ผูป้ ว่ ยในและผูป้ ว่ ยนอก โดยมีเตียงให้บริการผูป้ ว่ ยใน 554 เตียง และคลินกิ ผูป้ ว่ ยนอกบางส่วน เช่น ศูนย์มะเร็ง ทันตกรรม ศูนย์ทางเดินอาหาร-ตับ ศูนย์กมุ ารเวช ศูนย์สตู -ิ นรีเวช เพือ่ รองรับจำนวนผูป้ ว่ ยทีเ่ พิม่ ขึน้ บริษทั มีแผนทีจ่ ะขยายและยกระดับการให้บริการของโรงพยาบาลในกรุงเทพมหานครในอีกห้าปี ข้างหน้า โดยบริษทั จะทำการตกแต่งและยกระดับคลินกิ ผูป้ ว่ ยนอกและห้องพักผูป้ ว่ ยในในอาคารโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์อนิ เตอร์ เนชัน่ แนลปัจจุบนั ในอีกสองปีขา้ งหน้า เพือ่ ให้สามารถตอบสนองความต้องการของผูป้ ว่ ย แพทย์ และพยาบาลได้ดยี งิ่ ขึน้ โดยคำนึงถึง ความปลอดภัยของผูป้ ว่ ยเป็นสำคัญ ในขณะทีอ่ าคารบำรุงราษฎร์อนิ เตอร์เนชัน่ แนลคลินกิ ใหม่และอาคารบีเอชทาวเวอร์จะช่วยเพิม่ ความสามารถในการให้บริการ บริษัทมีแผนที่จะปรับเปลี่ยนอาคารบีเอช ทาวเวอร์ ซึ่งในปัจจุบันใช้เป็นที่พักอาศัยของครอบครัวและญาติของผู้ป่วย ให้ เป็นเตียงสำหรับผูป้ ว่ ยใน เมือ่ อาคารโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์อนิ เตอร์เนชัน่ แนลปัจจุบนั เริม่ เต็ม ส่วนอาคารบำรุงราษฎร์ อินเตอร์- เนชั่นแนล คลินิก มีอีก 5 ชั้นบนที่ยังไม่ได้เปิดให้บริการ บริษัทมีแผนที่จะทยอยเปิดชั้นที่ยังไม่ได้เปิดในอาคารบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล คลินิก และอาคารบีเอช ทาวเวอร์ ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลากว่า 5 ปี กว่าจะเปิดให้ บริการเต็มพื้นที่ ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการให้บริการของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 650 เตียงและผู้ป่วยนอก 6,000 คนต่อวัน หรือ เท่ า กั บ การเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าของความสามารถในการทำรายได้ ใ นปั จ จุ บั น และจะทำให้ โ รงพยาบาลบำรุ ง ราษฎร์ ใ น กรุงเทพมหานคร เป็นหนึ่งในคลินิกผู้ป่วยนอกที่ใหญ่ที่สุดในโลก
บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นบริษัทร่วมที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 31.5% ทำหน้าที่ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับ การให้บริการรักษาพยาบาลโดยการร่วมทุนกับผู้ร่วมทุนในประเทศนั้นๆ พร้อมกับให้บริการเป็นที่ปรึกษาและบริหารจัดการ โรงพยาบาล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ลงทุนในโรงพยาบาลสองแห่ง ผูใ้ ห้บริการฟอกไตทีม่ เี ครือข่าย 82 คลินิก หนึ่งบริษัท และมีสัญญาบริหารจัดการหนึ่งโรงพยาบาลในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มีสัดส่วนการถือหุ้น 54.4% ใน เอเชียน ฮอลพิทอล อิงค์ (AHI) ในประเทศฟิลิปปินส์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 โดย AHI เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2545 เป็นโรงพยาบาลเอกชน ขนาดใหญ่แห่งแรกในทางใต้ของกรุงมะนิลา AHI มีขนาด 253 เตียง และเป็นที่รู้จักเนื่องจากมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย และคณะแพทย์ผเู้ ชีย่ วชาญ โดยเฉพาะในด้านโรคหัวใจ AHI มีกลุม่ ลูกค้าเป้าหมายทีใ่ กล้เคียงกับโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์อนิ เตอร์- เนชั่นแนล กรุงเทพมหานคร คือประชากรที่เป็นชนชั้นกลางขึ้นไป AHI อยู่ระหว่างการขยายความสามารถในการให้บริการในอีก ห้าปี เป็น 358 เตียง และเช่นเดียวกับโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงเทพมหานคร AHI จะค่อยๆเพิ่มจำนวน เตียงที่เปิดให้บริการตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ลงทุนในสัดส่วน 49% โดยลงทุนร่วมกับ Istithmar ซึ่งเป็นหน่วยงานใน การลงทุนของรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อดำเนินกิจการโรงพยาบาลเอกชนขนาด 250 เตียงภายใต้ชื่อ โรงพยาบาล บำรุงราษฎร์ดูไบ ขณะนี้ โครงการในดูไบหยุดพักการดำเนินงานชั่วคราวเพื่อทบทวนโครงการ และบริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์- เนชั่นแนล จำกัด ได้ตั้งสำรองเงินลงทุนในโครงการนี้ไว้แล้วทั้งจำนวนในปี 2551 บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มีสัดส่วนการถือหุ้น 100% ใน บริษัท เอเชีย รีนัล แคร์ จำกัด (“ARC”) ARC เป็นผู้นำในเอเชียในการเป็นผู้ให้บริการไตเทียมเอกชนและบริการที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ป่วยไตล้มเหลวเรื้อรัง ARC ได้ก่อตั้ง ขึ้นในปี 2540 และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์ ในปัจจุบัน ARC มีคลินิกรวม 82 แห่ง (ณ 31 ธันวาคม 2551) ใน 6 ประเทศใน เอเชีย ซึ่งรวมถึงไต้หวัน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น และให้บริการรักษาผู้ป่วยกว่า 4,400 คน ในเดือน กุมภาพันธ์ 2552 ARC และบริษัท ได้ขยายธุรกิจเข้ามาในประเทศไทย โดยได้เข้าทำสัญญาเพื่อลงทุนในบริษัท เนพโฟรเมด จำกัด ซึ่งมีคลินิกไตเทียม 14 แห่งในประเทศไทย เป็นผลให้ ARC มีคลินิกทั้งสิ้น 96 แห่งใน 7 ประเทศในเอเชีย
63
รายงานประจำปี 2551
นอกจากนี้ บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดได้ลงนามในสัญญากับสำนักงานสาธารณสุขรัฐอาบูดาบี เพื่อเข้าบริหารโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อัล มาฟรัก ในรัฐอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นเวลาสี่ปี โดยที่บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลระดับนานาชาติที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมบริหารจัดการโรงพยาบาลในสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ ซึ่งรวมถึง Johns Hopkins และ Cleveland Clinic จากสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อัล มาฟรัก มีความสามารถในการรองรับผู้ป่วยในได้ 460 เตียง มีเตียงผู้ป่วยหนัก 14 เตียง และเตียงสำหรับทารกที่ต้องการการดูแลพิเศษ อีก 14 เตียง และให้บริการรักษาพยาบาลผู้ป่วยประมาณ 310,000 รายต่อปี ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยในกว่า 25,000 ราย นอกจากการลงทุนในสามโครงการนี้ บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ยังคงมีแผนที่จะหาโครงการลงทุนอื่นๆ ในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง โดยพันธมิตร ซึ่งรวมถึง Istithmar, Temasek, Asia Financial Holdings และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แนะนำโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ จากเครือข่ายในแต่ละภูมิภาค ได้แก่ ตะวันออกกลางและเอเชีย ภาวะอุตสาหกรรมและการแข่งขัน โดยทั่วไป ความต้องการด้านสุขภาพมีการขยายตัวตามผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ที่เพิ่มมากขึ้น กลุ่มประชากรสูงอายุ ที่เพิ่มขึ้น และการที่ประชากรมีอายุยืนยาวขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาวะผันแปรทางการเมืองในประเทศตั้งแต่เดือนกันยายน 2549 และวิกฤติเศรษฐกิจโลกและการปิดท่าอากาศยานในปี 2551 ทำให้เศรษฐกิจในประเทศเติบโตช้าลง ซึ่งส่งผลให้การใช้บริการ ทางการแพทย์เอกชนเติบโตช้าลงด้วย และจำนวนโรงพยาบาลในประเทศไทยยังคงมีปริมาณมากกว่าความต้องการของผู้ป่วย ในประเทศ (โรงพยาบาลเอกชนทั้งสิ้น 344 แห่งในประเทศไทย ณ สิ้นปี 2549 โดยที่ 102 แห่งอยู่ในกรุงเทพมหานคร) เป็นผล ให้การแข่งขันระหว่างโรงพยาบาลเอกชนมีความรุนแรง อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมการแพทย์เอกชนในประเทศไทย เป็นการ แข่งขันแบบไม่สมบูรณ์ (fragmented market) และมีโรงพยาบาลเอกชนเพียงไม่กี่แห่งที่ดำเนินงานได้เต็มความสามารถในการ ให้บริการ ตลาดที่มีขนาดใหญ่กว่าและขยายตัวเร็วกว่าความต้องการในประเทศ คือตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourism) มีการคาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมี ผู้เดินทางออกนอกประเทศเพื่อใช้บริการรักษาพยาบาลมากยิ่งขึ้น นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ใช้บริการในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจาก 630,000 ในปี 2545 เป็น 1.4 ล้านคนในปี 2549 คู่แข่งในภูมิภาคของประเทศไทยที่สำคัญคือ โรงพยาบาลในประเทศต่างๆ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินเดีย โรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทยมีความได้เปรียบในการแข่งขันเมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศ เนื่องจากประเทศไทยมีองค์ประกอบที่แตกต่าง คือ คุณภาพการรักษาพยาบาลที่สูง ความสามารถในการเข้าถึงได้ง่าย ของผู้ป่วย และราคาที่สามารถจ่ายได้ รวมถึงการที่ประเทศไทยเป็นจุดหมายที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว และมีโครงสร้าง พื้นฐานของประเทศที่ดี และในประเทศไทยเอง มีโรงพยาบาลเอกชนเพียงไม่กี่แห่ง ที่มีเทคโนโลยี การบริหารและระบบที่ม ี ความซับซ้อนมากพอทีจ่ ะสามารถตอบสนองความต้องการของผูป้ ว่ ยชาวต่างชาติได้ กลยุทธ์ในการแข่งขันของบริษัท คือการรักษาคุณภาพในการบริการที่เป็นเลิศและแตกต่าง ซึ่งรวมถึงการที่โรงพยาบาล บำรุงราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงเทพมหานคร เป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในเอเชียที่ได้รับการรับรองคุณภาพโรงพยาบาลระดับ สากล (JCIA) นอกจากนี้ บริษัทมีนโยบายในการกำหนดราคาให้อยู่ในระดับเดียวกับโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในประเทศและ ขณะเดียวกันเป็นราคาที่แข่งขันได้ในภูมิภาคเอเชีย สำหรับการแข่งขันในระดับภูมิภาค นอกจากการรักษาคุณภาพและการกำหนดราคาดังที่กล่าวข้างต้นแล้ว บริษัทมีแผนที่จะ รักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโดยการขยายเครือข่ายการให้บริการของโรงพยาบาลและการให้บริการทางการแพทย์ไปยัง ตลาดกลุ่มเป้าหมายอื่นผ่านการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันรวมถึงประเทศฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และตะวันออกกลาง นอกจากนี้ บริษัทมีสำนักงานตัวแทนในต่างประเทศ 22 แห่งในตลาดที่สำคัญ และมีการจัดตั้งศูนย์ บริการผู้ป่วยต่างชาติอย่างเป็นทางการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วยชาวต่างชาติ อีกทั้งเป็นศูนย์รับย้ายผู้ป่วย (Tertiary Referral Center) จากทั้งในและนอกประเทศ 4. ปัจจัยความเสี่ยง 1. ผลกระทบจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ถดถอย ในปี ที่ ผ่ า นมา อุ ต สาหกรรมการท่ อ งเที่ ย วของประเทศไทยได้ รั บ ผลกระทบจากสองปั จ จั ย หลั ก คื อ ความไม่ ส งบ ทางการเมืองในประเทศ ซึ่งนำไปสู่การปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง และภาวะเศรษฐกิจโลก ที่ถดถอย ถึงแม้ว่าการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะไม่ได้รับผลกระทบที่รุนแรงเท่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วไป เนื่องจาก
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
64
2. 3. 4. 5.
ส่วนมาก ผู้ป่วยจะมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างมั่นคงกับโรงพยาบาลและแพทย์ แต่เหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้ อาจทำให้ผู้ป่วย เลื่อนการเดินทางออกไป หรือทำให้จำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศลดน้อยลง และเป็นผลให้มีความเสี่ยง ที่จะกระทบต่อรายได้จากผู้ป่วยชาวต่างชาติของบริษัท เพื่ อ เป็ น การลดความเสี่ ย งที่ อ าจจะเกิ ด ขึ้ น บริ ษั ท มี ก ารรั ก ษาสั ด ส่ ว นจำนวนผู้ ป่ ว ยชาวไทยและชาวต่ า งชาติ ใ ห้ มี ความสมดุลกันเพื่อไม่ให้บริษัทต้องพึ่งพิงรายได้จากผู้ป่วยชาวต่างชาติในสัดส่วนที่มากเกินไป ภาวะการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นของโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ ในสภาวะปัจจุบันที่กำลังซื้ออ่อนตัวลงเนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจโลก ในขณะที่โรงพยาบาล เอกชนมีอยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้การแข่งขันของโรงพยาบาลเอกชนมีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความเสี่ยง ที่บริษัทจะสูญเสียลูกค้าไปให้แก่โรงพยาบาลอื่นๆ จึงมีสูงขึ้นตามไปด้วย เพื่ อ คงความเป็ น โรงพยาบาลชั้ น นำของประเทศและของภู มิ ภ าคเอเชี ย และลดความเสี่ ย งดั ง กล่ า ว บริ ษั ท ได้ ล งทุ น ในอุปกรณ์การแพทย์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย มีการยกระดับสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งของผู้ป่วยในและ ผู้ป่วยนอกและพัฒนาคุณภาพการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ดังเห็นได้จากการที่บริษัทเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในเอเชีย ที่ได้รับการรับรองคุณภาพโรงพยาบาลระดับสากลจากสถาบัน Joint Commission International Accreditation (JCIA) ตามมาตรฐานการรั บ รองของสหรั ฐ อเมริ ก า และเป็ น โรงพยาบาลเอกชนแห่ ง แรกที่ ไ ด้ รั บ การรั บ รองมาตรฐานคุ ณ ภาพ โรงพยาบาลไทย (Thai Hospital Accreditation – HA) นอกจากนี้บริษัทมีฐานผู้ป่วยรับย้าย (Referral Patients) จากทั้ง ในประเทศและต่างประเทศ จึงเป็นการตอกย้ำถึงชื่อเสียงของการเป็นผู้นำทั้งในประเทศและต่างประเทศของบริษัท การขาดแคลนบุคลากร ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการประกอบธุรกิจโรงพยาบาล คือ การมีบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะทาง ซึ่งรวมถึง พยาบาลวิชาชีพ เภสัชกรและเจ้าหน้าที่เทคนิคสาขาต่างๆ บริษัทจึงมีความเสี่ยงที่จะขาดแคลนบุคลากรวิชาชีพเหล่านี้ จากความต้องการที่เพิ่มขึ้น และเนื่องจากบริษัทให้ความสำคัญกับฐานลูกค้าที่เป็นผู้ป่วยชาวต่างชาติ จึงมีความต้องการ บุคลากรวิชาชีพที่พูดได้หลายภาษาอีกด้วย เพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว บริษัทจึงได้กำหนดค่าตอบแทนและผลประโยชน์ในระดับที่จูงใจสำหรับบุคลากรของบริษัท อีกทั้งยังจัดให้มีการศึกษาและฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง จัดให้มีกิจกรรมเสริมสร้างคุณภาพชีวิต และจัดสวัสดิการในรูปแบบ ต่างๆ ให้ทัดเทียมกับผู้ประกอบการรายอื่น เพื่อเป็นการรักษาบุคลากรของบริษัทเอาไว้ ตลอดจนมีแผนกลยุทธ์เพื่อสร้าง ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน โดยผ่านโครงสร้างการจัดการแบบการกระจายอำนาจ การลงทุนในต่างประเทศ บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มีการลงทุนในโครงการต่างๆใน 7 ประเทศในเอเชียและตะวันออกกลาง ซึ่งการลงทุนดังกล่าวมีความเสี่ยงจากตัวโครงการที่ลงทุน ความเสี่ยงของประเทศที่ลงทุนและความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อเป็นการลดความเสี่ยง ผู้บริหารของบริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งมีประสบการณ์ในการ บริหารโรงพยาบาลในหลายประเทศ ได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการอย่างละเอียดรอบคอบ และมีการทำ due diligence อย่ า งละเอี ย ดโดยใช้ บ ริ ษั ท ที่ มี ค วามรู้ แ ละความชำนาญในประเทศนั้ น ๆ ก่ อ นที่ จ ะแนะนำการลงทุ น นอกจากนี้ บริษัทมีการลดความเสี่ยงโดยมีผู้ร่วมลงทุนซึ่งเป็นชาวท้องถิ่นในประเทศนั้นๆ และมีการลดความเสี่ยงจากการ กู้ยืมเงิน โดยการกู้ยืมเงินในประเทศที่เข้าไปลงทุนโดยไม่มีการค้ำประกันจากบริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือจากบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) ข้อพิพาททางกฎหมาย การประกอบธุรกิจโรงพยาบาลอาจมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการบริการทางการแพทย์ของพนักงานหรือแพทย์ ของโรงพยาบาล เพื่ อ เป็ น การลดความเสี่ ย งที่ อ าจเกิ ด ขึ้ น บริ ษั ท จึ ง ได้ จั ด ให้ มี ร ะบบการบริ ห ารความเสี่ ย งในการรั ก ษาพยาบาล (Healthcare Risk Management System) เพื่อให้มั่นใจว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการปฏิบัติหน้าที่โดยบุคลากร ของบริษัท จะได้รับการป้องกันและแก้ไขในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ บริษัทยังได้ทำประกันภัยความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ได้เพื่อรองรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการถูกฟ้องร้องดังกล่าวอีกด้วย
1. บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท บริหารสินทรัพย์ทวี จำกัด 3. UOB Kay Hian (Hong Kong) Limited – Client Account 4. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 5. Littledown Nominees Limited 9 6. Istithmar PJSC 7. State Street Bank and Trust Company for London 8. บริษัท วัฒนโสภณพนิช จำกัด 9. Citibank Nominees Singapore Pte. Ltd. - Aranda Investments Pte. Ltd. 10. TLS Alpha Pte. Ltd. Total * จำนวนหุ้นรวมทั้งหุ้นบุริมสิทธิและหุ้นสามัญ ** การคิดสัดส่วนการถือหุ้น รวมทั้งหุ้นบุริมสิทธิและหุ้นสามัญ
96,099,702 63,258,514 58,673,690 50,027,585 43,774,600 43,370,743 27,420,000 25,121,875 21,685,372 21,685,371 426,197,517
สัดส่วนการถือหุ้น** (ร้อยละ) 13.16 8.66 8.04 6.85 6.00 5.94 3.76 3.44 2.97 2.97 61.79
บริษัทมีผู้ถือหุ้นที่เป็นสถาบันการเงินต่างประเทศ หรือผู้รับฝากและดูแลหุ้น (Custodian) ทำหน้าที่เป็นผู้ถือหลักทรัพย์แทน (Trust company หรื อ Nominee account) อยู่ ใ นสิ บ อั น ดั บ แรกของรายชื่ อ ผู้ ถื อ หุ้ น ของบริ ษั ท ซึ่ ง นอกจาก Citibank Nominees Singapore Pte. Ltd. - Aranda Investments Pte. Ltd. และ TLS Alpha Pte. Ltd. ซึ่งเป็นตัวแทนของ Temasek แล้ว บริษัทไม่ทราบชื่อผู้ถือหุ้นที่แท้จริงของผู้ถือหุ้นเหล่านั้น เนื่องจากไม่ได้มีการส่งบุคคลเข้ามาเป็นกรรมการบริษัท หรือมีส่วนร่วมใน การบริหารงานของบริษัท กลุ่มผู้ถือหุ้นที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายการจัดการหรือการดำเนินงานของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท โดยถือหุ้นในสัดส่วน 9.75%* มีตัวแทนจากธนาคารเป็น กรรมการของบริษัทสองท่าน คือ นายชาตรี โสภณพนิช และนางกุลธิดา ศิวยาธร ส่วนผู้ถือหุ้นรายใหญ่อีกหนึ่งกลุ่ม คือ Istithmar และ Temasek ถือหุ้นรวมกัน 11.88%** มีสิทธิในการส่งกรรมการเข้ามาเป็นตัวแทนร่วมกันหนึ่งท่าน โดยปัจจุบัน นายเฟลิกส์ เฮอร์ลิฮี จาก Istithmar เป็นตัวแทนในคณะกรรมการของบริษัท
* ข้อมูล ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2551 รวมการถือหุ้นโดยบริษัท บริหารสินทรัพย์ทวี จำกัด และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ** ข้อมูล ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2551 รวมการถือหุ้นโดย Istithmar PJSC, Aranda Investments Pte. Ltd. และ TLS Alpha Pte. Ltd.
5.2 การจัดการ (1) โครงสร้างการจัดการ บริษัทมีคณะกรรมการ 5 ชุด คือ คณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการสรรหาและกำหนด ค่าตอบแทน คณะกรรมการอำนวยการโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (Governing Board) และคณะกรรมการการลงทุน โดยรายละเอียดของคณะกรรมการแต่ละชุด มีดังต่อไปนี้
65
รายงานประจำปี 2551
5. โครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการ 5.1 ผู้ถือหุ้น รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 รายของบริษัท ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2551 มีดังต่อไปนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้น จำนวนหุ้น*
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
คณะกรรมการบริษัท รายชื่อคณะกรรมการบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีดังต่อไปนี้ 1. นายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการ 2. นายแพทย์ชาญวิทย์ ตันติ์พิพัฒน์ รองประธานกรรมการ และกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน 3. นางลินดา ลีสหะปัญญา กรรมการ และกรรมการผู้จัดการ 4. นายเคอร์ติส จอห์น ชโรเดอร์ กรรมการ และผู้อำนวยการด้านบริหารกลุ่ม 5. นายแพทย์ธนิต เธียรธนู กรรมการ และประธานกรรมการแพทย์ 6. นายชาตรี โสภณพนิช กรรมการ 7. นายแพทย์อนันต์ เตชะเวช กรรมการ 8. นายแพทย์จอน ยังพิชิต กรรมการ 9. แพทย์หญิงคุณสวรรยา เดชอุดม กรรมการ 10. นางกุลธิดา ศิวยาธร กรรมการ และกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน 11. นายชอง โท กรรมการ 12. นายเฟลิกส์ เฮอร์ลิฮี กรรมการ 13. นายแพทย์สิน อนุราษฎร์ กรรมการ และผู้อำนวยการด้านการแพทย์กลุ่ม 14. นางสาวโสภาวดี อุตตโมบล กรรมการอิสระ และประธานกรรมการตรวจสอบ 15. นายสรดิษ วิญญรัตน์ กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ 16. นายบุญปกรณ์ โชควัฒนา กรรมการอิสระ กรรมการตรวจสอบ และประธาน กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน โดยมีนางจุฑาทิพ อดุลพันธุ์ เลขานุการบริษัท เป็นเลขานุการคณะกรรมการบริษัท วิธีการลงนามผูกพันบริษัทของกรรมการ กรรมการสองคน นอกจากนายชาตรี โสภณพนิช นางกุลธิดา ศิวยาธร และนายชอง โท ลงลายมือชือ่ ร่วมกันและประทับตราสำคัญ ของบริษทั อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัท อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัท ซึ่งอยู่ในกฎบัตรคณะกรรมการบริษัท และได้รับอนุมัติโดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2551 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2551 มีดังต่อไปนี้ 1. ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์และข้อบังคับของบริษัท ตลอดจนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และระมัดระวัง เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของบริษัท 2. มีหน้าที่กำหนดวิสัยทัศน์ ทิศทาง และกลยุทธ์ของบริษัท เพื่อเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว 3. ให้ความเห็นชอบกลยุทธ์และนโยบายสำคัญของบริษัท รวมถึงวัตถุประสงค์ แผนธุรกิจ เป้าหมายทางการเงิน งบประมาณ การดำเนินงานและการลงทุนที่เสนอโดยผู้บริหาร รวมทั้งดูแลให้เกิดการปฏิบัติตามและติดตามผล 4. จัดให้มีนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี และจริยธรรมธุรกิจ และดูแล ติดตามให้มีการสื่อสารและการปฏิบัติตามนโยบาย ดังกล่าว รวมทั้งอนุมัติการแก้ไขตามความเหมาะสม และจัดให้มีการรายงานในรายงานประจำปี 5. จัดให้มีระบบบัญชี การรายงานทางการเงิน และการสอบบัญชีที่มีความน่าเชื่อถือ รวมทั้งดูแลให้มีกระบวนการในการประเมิน ความเหมาะสมของการควบคุมภายใน การตรวจสอบภายใน และการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยมี การทบทวนทุกปี และมอบหมายให้หน่วยงานตรวจสอบภายในตรวจสอบและรายงานระบบเหล่านี้อย่างเป็นอิสระ 6. อนุมัติงบการเงินประจำไตรมาสและประจำปี และรับรองงบการเงินว่าได้จัดทำขึ้นอย่างถูกต้องและเชื่อถือได้ เป็นไปตาม มาตรฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป และจัดทำรายงานแก่ผู้ถือหุ้นในรายงานประจำปีของบริษัท 7. ดูแล ควบคุม และอนุมัติ แล้วแต่กรณี การเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกันที่อาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ รวมทั้ง ดูแลให้มีความโปร่งใสในการเข้าทำรายการดังกล่าว และจัดทำนโยบายในการอนุมัติและการเปิดเผยข้อมูลของการทำรายการ ที่ทำให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ 8. จัดตั้งและแต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อยตามความเหมาะสมเพื่อศึกษา ดำเนินการ และดูแลเรื่องต่างๆที่ได้รับมอบหมาย รวมทั้ง อนุมัติกฎบัตรซึ่งรวมถึงหน้าที่และความรับผิดชอบและค่าตอบแทนของคณะกรรมการชุดย่อย
66
รายงานประจำปี 2551
กรรมการตรวจสอบ รายชื่อคณะกรรมการตรวจสอบ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีดังต่อไปนี้ 1. นางสาวโสภาวดี อุตตโมบล ประธานกรรมการตรวจสอบ 2. นายสรดิษ วิญญรัตน์ กรรมการตรวจสอบ 3. นายบุญปกรณ์ โชควัฒนา กรรมการตรวจสอบ โดยมี นางทวิชา ตัณสถิตย์ เป็นเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบ อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบ อำนาจหน้าทีข่ องคณะกรรมการตรวจสอบ ซึง่ อยูใ่ นกฎบัตรคณะกรรมการตรวจสอบ และได้รบั อนุมตั โิ ดยทีป่ ระชุมคณะกรรมการ บริษทั ครัง้ ที่ 3/2551 เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2551 มีดังต่อไปนี้ 1. สอบทานให้บริษัทมีการรายงานทางการเงินอย่างถูกต้องและเพียงพอ 2. สอบทานให้บริษัทมีระบบการควบคุมภายใน (internal control) และระบบการตรวจสอบภายใน (internal audit) ที่เหมาะสม และมีประสิทธิผล และพิจารณาความเป็นอิสระของหน่วยงานตรวจสอบภายใน ตลอดจนให้ความเห็นชอบในการพิจารณาแต่งตั้ง โยกย้าย เลิกจ้างหัวหน้าหน่วยงานตรวจสอบภายใน หรือหน่วยงานอื่นใดที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการตรวจสอบภายใน 3. สอบทานให้บริษัทปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท 4. พิจารณา คัดเลือก เสนอแต่งตั้งบุคคลซึ่งมีความเป็นอิสระเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท และเสนอค่าตอบแทนของ บุคคลดังกล่าว รวมทั้งเข้าร่วมประชุมกับผู้สอบบัญชีโดยไม่มีฝ่ายจัดการเข้าร่วมประชุมด้วยอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง 5. พิจารณารายการที่เกี่ยวโยงกันหรือรายการที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนดของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่ารายการดังกล่าวสมเหตุสมผลและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อบริษัท 6. จัดทำรายงานของคณะกรรมการตรวจสอบโดยเปิดเผยไว้ในรายงานประจำปีของบริษัท ซึ่งรายงานดังกล่าวต้องลงนาม โดยประธานคณะกรรมการตรวจสอบและต้องประกอบด้วยข้อมูลอย่างน้อยดังต่อไปนี้ 6.1 ความเห็นเกี่ยวกับความถูกต้อง ครบถ้วน เป็นที่เชื่อถือได้ของรายงานทางการเงินของบริษัท 6.2 ความเห็นเกี่ยวกับความเพียงพอของระบบควบคุมภายในของบริษัท 6.3 ความเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย หรือกฎหมายที่เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัท 6.4 ความเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสมของผู้สอบบัญชี 6.5 ความเห็นเกี่ยวกับรายการที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ 6.6 จำนวนการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบ และการเข้าร่วมประชุมของกรรมการตรวจสอบแต่ละท่าน 6.7 ความเห็นหรือข้อสังเกตโดยรวมที่คณะกรรมการตรวจสอบได้รับจากการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎบัตร (charter) 6.8 รายการอื่นที่เห็นว่าผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไปควรทราบ ภายใต้ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมาย จากคณะกรรมการบริษัท 7. ดำเนินการตรวจสอบโดยไม่ชักช้า ในกรณีที่ผู้สอบบัญชีแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติการณ์ทุจริตที่เกิดขึ้นในบริษัท และรายงานผล การตรวจสอบในเบื้องต้นแก่สำนักงานหลักทรัพย์และกำกับหลักทรัพย์ และผู้สอบบัญชีทราบ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง เป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้สอบบัญชี 8. ควรมีสมาชิกคณะกรรมการตรวจสอบอย่างน้อยหนึ่งท่านเข้าร่วมการประชุมของคณะกรรมการบริษัทที่มีการอนุมัติรายงาน ทางการเงิน ทุกครั้ง 9. คณะกรรมการตรวจสอบควรนัดพบพูดคุยกับฝ่ายกฎหมายของบริษัทอย่างสม่ำเสมอ และอาจจะหารือกับนักกฎหมายภายนอก ด้วยถ้าจำเป็น 10. ปฏิบัติการอื่นใดตามที่คณะกรรมการของบริษัทมอบหมายด้วยความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจสอบ
67
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน รายชื่อคณะกรรมการตรวจสอบ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีดังต่อไปนี้ 1. นายบุญปกรณ์ โชควัฒนา ประธานกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน 2. นายแพทย์ชาญวิทย์ ตันติ์พิพัฒน์ กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน 3. นางกุลธิดา ศิวยาธร กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน โดยมี นางจุฑาทิพ อดุลพันธุ์ เลขานุการบริษัท เป็นเลขานุการคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ซึ่งอยู่ในกฎบัตรคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน และได้รับอนุมัติโดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 4/2551 เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2551 มีดังต่อไปนี้ ก. งานด้านสรรหา 1. พิจารณาขนาด องค์ประกอบ และวาระดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการบริษัทที่เหมาะสม 2. พิจารณาและนำเสนอว่ากรรมการบริษัทควรมีการเกษียณอายุหรือไม่ และแนะนำอายุการเกษียณของกรรมการบริษัทให้แก่ คณะกรรมการบริษัท 3. กำหนดและทบทวนคุณสมบัติของกรรมการบริษัทและกรรมการของคณะกรรมการชุดย่อย 4. พิจารณาสรรหา คัดเลือก เสนอ และตรวจสอบบุคคลที่เหมาะสมให้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทที่ว่างลง หรือเนื่องจาก เหตุผลใดก็ตาม และรวมถึงรวบรวมรายชื่อบุคคลที่ผู้ถือหุ้นเสนอ เพื่อขออนุมัติในการประชุมคณะกรรมการบริษัท และ/หรือการประชุมผู้ถือหุ้น แล้วแต่กรณี 5. พิจารณาและเสนอกรรมการบริษัทที่เหมาะสม ให้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการชุดย่อยเมื่อตำแหน่งว่างลง ข. งานด้านกำหนดค่าตอบแทน 1. กำหนดขั้นตอนและหลักเกณฑ์ในการกำหนดค่าตอบแทนของกรรมการบริษัท และกรรมการของคณะกรรมการชุดย่อย ให้มีความยุติธรรมและสมเหตุสมผล 2. นำเสนอค่าตอบแทนของกรรมการบริษัท และกรรมการของคณะกรรมการชุดย่อย รวมถึงของกรรมการของคณะกรรมการ สรรหาและกำหนดค่าตอบแทนด้วย เพื่ออนุมัติในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท และ/หรือที่ประชุมผู้ถือหุ้น แล้วแต่กรณี 3. จัดทำระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการชุดย่อย รวมถึงเสนอแนะแบบฟอร์ม การประเมินผล ค. ปฏิบัติหน้าที่อื่นใดที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการอำนวยการโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (Governing Board) รายชื่อคณะกรรมการอำนวยการโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีดังต่อไปนี้ 1. นายแพทย์ชาญวิทย์ ตันติ์พิพัฒน์ ประธาน 2. นายเจมส์ แมทธิว แบนเนอร์ เลขานุการ 3. นายชอง โท กรรมการ 4. แพทย์หญิงจามรี เชื้อเพชระโสภณ กรรมการ 5. แพทย์หญิงอรดี จันทวสุ กรรมการ 6. นายแพทย์รุจาพงศ์ สุขบท กรรมการ 7. นายแพทย์สิร สุภาพ กรรมการ 8. นางสาวโสภาวดี อุตตโมบล กรรมการ 9. นายแพทย์วัฒนา สุพรหมจักร กรรมการ 10. นายแพทย์วิสุทธิ์ วิเวกาภิรัต กรรมการ 11. นายแพทย์วัชระพงศ์ แซ่ซือ กรรมการ 12. นางอรุณี เกษตระทัต กรรมการ 13. นายแพทย์สิน อนุราษฎร์ ผู้เข้าร่วมประชุมโดยตำแหน่ง (Ex officio) 14. นายแพทย์อภิชาติ ศิวยาธร ผู้เข้าร่วมประชุมโดยตำแหน่ง (Ex officio) 15. นางลี ชาน เยา ผู้เข้าร่วมประชุมโดยตำแหน่ง (Ex officio) 16. นางสาวคาเรน คาร์เตอร์ ผู้เข้าร่วมประชุมโดยตำแหน่ง (Ex officio)
68
69
รายงานประจำปี 2551
อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการอำนวยการโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ คณะกรรมการอำนวยการโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อการเสนอแนะและดำเนินการเกี่ยวกับนโยบายการ ดำเนินงานของโรงพยาบาล ส่งเสริมความปลอดภัยของผู้ป่วยและปรับปรุงการปฏิบัติงานให้ดีขึ้น การให้บริการที่มีคุณภาพ และการ บริหารและวางแผนงานของโรงพยาบาล โดยคณะกรรมการอำนวยการโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มีอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบ ตามกฎเกณฑ์ ข้อบังคับ และนโยบายหลักในการกำกับดูแลกิจการของโรงพยาบาล (Governing Board Bylaws Rules and Regulations of Bumrungrad International Hospital, Bangkok) ดังต่อไปนี้ 1. จัดระบบแพทย์ที่มีสิทธิในการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลให้เป็นคณะแพทย์ และอยู่ภายใต้ธรรมนูญแพทย์ (Professional Staff Bylaws, Rules and Regulations) ซึ่งได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการอำนวยการโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ 2. แต่งตั้งสมาชิกของคณะแพทย์ และกำหนดสิทธิในการรักษาพยาบาลให้เป็นไปตามธรรมนูญแพทย์ 3. จัดทำ แก้ไขร่วมกับคณะแพทย์ และอนุมัติธรรมนูญแพทย์ เพื่อควบคุมการดำเนินงาน 4. กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะแพทย์ที่สมเหตุสมผล เพื่อให้สามารถรักษาพยาบาลผู้ป่วยอย่างเหมาะสม รวมถึงการดำเนินการ ของคณะแพทย์และฝ่ายบริหารเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของ Joint Commission International Accreditation (JCIA) และการรับรองคุณภาพโรงพยาบาลไทย (HA) และทำตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการการลงทุน รายชื่อคณะกรรมการการลงทุน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีดังต่อไปนี้ 1. นายชัย โสภณพนิช ประธาน 2. นางลินดา ลีสหะปัญญา กรรมการ 3. นายชอง โท กรรมการ 4. นางสาวโสภาวดี อุตตโมบล กรรมการ 5. นายเคอร์ติส จอห์น ชโรเดอร์ กรรมการ 6. นายเดนิส บราวน์ ผู้สังเกตการณ์ อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการลงทุน พิจารณาโอกาสในการลงทุน ความเหมาะสม ความเป็นไปได้และโครงสร้างการลงทุนของโครงการ ทัง้ ในประเทศไทยและในภูมภิ าค ผู้บริหาร รายชื่อผู้บริหารของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีดังต่อไปนี้ 1. นางลินดา ลีสหะปัญญา กรรมการผู้จัดการ 2. นายแพทย์ธนิต เธียรธนู ประธานกรรมการแพทย์ 3. นายเคอร์ติส จอห์น ชโรเดอร์ ผู้อำนวยการด้านบริหารกลุ่ม 4. นายแพทย์สิน อนุราษฎร์ ผู้อำนวยการด้านการแพทย์กลุ่ม 5. นายแพทย์การุณ เมฆานนท์ชัย รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์กลุ่ม 6. แพทย์หญิงจามรี เชื้อเพชระโสภณ ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงเทพมหานคร 7. นายแพทย์อภิชาติ ศิวยาธร ผู้อำนวยการด้านคุณภาพ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงเทพมหานคร 8. นายเจมส์ แมทธิว แบนเนอร์ ผู้อำนวยการด้านบริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงเทพมหานคร 9. นางลี ชาน เยา ผู้อำนวยการด้านการเงิน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงเทพมหานคร 10. นางสาวคาเรน คาร์เตอร์ ผู้อำนวยการด้านการปฏิบัติการ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงเทพมหานคร
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
รายละเอียดเกี่ยวกับผู้บริหารและผู้มีอำนาจควบคุมบริษัท กรรมการบริษัท นายชัย โสภณพนิช • ประธานกรรมการ อายุ 65 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • ปริญญาตรีบริหารธุรกิจ University of Colorado สหรัฐอเมริกา • Advanced Management Program, The Wharton School, University of Pennsylvania สหรัฐอเมริกา • ปริญญาบัตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรหลักสูตร ปรอ. รุ่นที่ 6 • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Director Certification Program รุ่น 16/2002 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Chairman 2000 รุ่น 10/2004 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย สัดส่วนการถือหุ้น* 1.09% ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร • คู่สมรสของพี่สาวนางลินดา ลีสหะปัญญา • น้องชายของนายชาตรี โสภณพนิช ประสบการณ์ทำงาน • 2521 - ปัจจุบัน ประธานกรรมการและกรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. กรุงเทพ ประกันภัย • 2529 - ปัจจุบัน ประธานกรรมการ บมจ. จรุงไทย ไวร์แอนด์เคเบิ้ล • 2531 - ปัจจุบัน ประธานกรรมการ บมจ. ฟูรูกาวาเม็ททัล (ไทยแลนด์) • 2521 - ปัจจุบัน รองประธานกรรมการ บมจ.ไทยรับประกันภัยต่อ • 2511 - ปัจจุบัน กรรมการ บมจ. กรุงเทพประกันชีวิต ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ชาญวิทย์ ตันติ์พิพัฒน์ • •
รองประธานกรรมการ กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน
อายุ 65 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • MB ChB (ปริญญาตรีแพทยศาสตร์และศัลยศาสตร์) Leeds University สหราชอาณาจักร • FRCS (Fellowship of the Royal College of Surgeons/ ราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งสหราชอาณาจักร) สหราชอาณาจักร สัดส่วนการถือหุ้น* 0.07% ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี ประสบการณ์ทำงาน • ศาสตราจารย์กิตติคุณ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นางลินดา ลีสหะปัญญา • •
กรรมการ กรรมการผู้จัดการ
อายุ 56 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • ปริญญาโทสาขาการเงิน University of Illinois สหรัฐอเมริกา • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Director Certification Program รุ่น 78/2006 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย สัดส่วนการถือหุ้น* 0.01% ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร • น้องสาวของคู่สมรสของนายชัย โสภณพนิช ประสบการณ์ทำงาน • กรรมการผู้จัดการ บมจ. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ นายเคอร์ติส จอห์น ชโรเดอร์ • •
กรรมการ ผู้อำนวยการด้านบริหารกลุ่ม
อายุ 52 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • ปริญญาโทสาขาบริหารโรงพยาบาล University of Southern California สหรัฐอเมริกา • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Director Certification Program รุ่น 78/2006 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย สัดส่วนการถือหุ้น* 0.01% ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี ประสบการณ์ทำงาน • 2536 - ปัจจุบัน ผู้อำนวยการด้านบริหารกลุ่ม บมจ. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ • 2530 - 2536 ผู้อำนวยการ USC University Hospital ลอสแองเจลิส แคลลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
* สัดส่วนการถือหุ้น ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2551 รวมหุ้นบุริมสิทธิและหุ้นสามัญ และรวมการถือหุ้นของคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
70
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์อนันต์ เตชะเวช
•
•
•
กรรมการ ประธานกรรมการแพทย์
อายุ 72 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • •
แพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดล วุฒิบัตร ศัลยศาสตร์ระบบประสาท สหราชอาณาจักร
สัดส่วนการถือหุ้น* 0.02% ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี ประสบการณ์ทำงาน • ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ หัวหน้าหน่วยประสาท ศัลยศาสตร์ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล นายชาตรี โสภณพนิช •
กรรมการ
รายงานประจำปี 2551
ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ธนิต เธียรธนู
กรรมการ
อายุ 74 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • MB ChB (ปริญญาตรีแพทยศาสตร์และศัลยศาสตร์) Edinburgh University สก็อตแลนด์ สหราชอาณาจักร • DCH ประเทศอังกฤษ • FRCP (Fellow of the Royal College of Physicians of Edinburgh / ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งเอดินเบอระ) สก็อตแลนด์ สหราชอาณาจักร • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Director Accreditation Program รุ่น 47/2005 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย สัดส่วนการถือหุ้น* 0.11% ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี ประสบการณ์ทำงาน • ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล นายแพทย์จอน ยังพิชิต
อายุ 75 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • ปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ • กรรมการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อายุ 72 ปี • ปริญญานิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ Pepperdine คุณวุฒิทางการศึกษา University แคลลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา • MB (ปริญญาตรีแพทยศาสตร์), BCh (ปริญญาตรี • ปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ศัลยศาสตร์), BAO (ปริญญาตรีสูติศาสตร์) Queens สาขาบริหารธุรกิจ De La Salle University ฟิลิปปินส์ University เบลฟาสท์ ไอร์แลนด์เหนือ สหราชอาณาจักร • ประกาศนียบัตรวิชาการธนาคาร Institute of Bankers • MRCOG (Member of Royal College of Obstetricians ลอนดอน สหราชอาณาจักร and Gynecologists / ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่ง • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Director Accreditation Program สหราชอาณาจักร) ลอนดอน สหราชอาณาจักร รุน่ CP/2005 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษทั ไทย • FRCOG (Fellow of Royal College of Obstetricians สัดส่วนการถือหุ้น* 0.50% and Gynecologists / ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่ง ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร สหราชอาณาจักร) ลอนดอน สหราชอาณาจักร • พี่ชายของนายชัย โสภณพนิช สัดส่วนการถือหุ้น* - ประสบการณ์ทำงาน ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี • 2542 - ปัจจุบัน ประธานกรรมการ บมจ. ธนาคาร ประสบการณ์ทำงาน กรุงเทพ • 2551 - ปัจจุบัน กรรมการ บมจ. ทุ่งคาฮาเบอร์ • 2542 - ปัจจุบัน ประธานกรรมการ บริษัท • แพทย์อิสระ ร่วมฤดีคลินิก บางกอก เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด • 2548 - ปัจจุบัน ประธานกรรมการ บมจ. ดุสิตธานี • 2506 - ปัจจุบัน กรรมการ บมจ. ธนาคารกรุงเทพ
* สัดส่วนการถือหุ้น ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2551 รวมหุ้นบุริมสิทธิและหุ้นสามัญ และรวมการถือหุ้นของคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
71
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
แพทย์หญิงคุณสวรรยา เดชอุดม • กรรมการ อายุ 62 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • แพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดล • วุฒิบัตร - อายุรศาสตร์ - อายุรกรรมโรคหัวใจ • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Director Accreditation Program รุ่น 47/2005 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย สัดส่วนการถือหุ้น* 0.04% ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี ประสบการณ์ทำงาน • 2523 - ปัจจุบัน อายุรแพทย์โรคหัวใจ บมจ. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ • 2535 - ปัจจุบัน อายุรแพทย์โรคหัวใจคลินิก ศูนย์แพทย์พัฒนา • ปัจจุบัน ประธานฝ่ายวิชาการ มูลนิธิหัวใจ แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ • ปัจจุบัน เลขาธิการ มูลนิธิส่งเสริมสุขภาพ นางกุลธิดา ศิวยาธร • กรรมการ • กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน อายุ 55 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • ปริญญาตรีหลักสูตรวิทยาศาสตร์ สาขาเคมี Stetson University สหรัฐอเมริกา • โครงการอบรมเพื่อรับประกาศนียบัตร CFO รุ่นที่ 6 (Chief Financial Officer Certificate Program) • Advanced Management Program, Harvard Business School, 1997 • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Director Certification Program รุ่น 3/2000 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Audit Committee Program รุ่น 4/2004 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Quality Financial Reporting รุ่น 1/2006 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Chartered Director รุ่น 4/2008 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย สัดส่วนการถือหุ้น* - ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี ประสบการณ์ทำงาน • 2519 - ปัจจุบัน บมจ. ธนาคารกรุงเทพ ตำแหน่งปัจจุบัน ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บมจ. ธนาคารกรุงเทพ
นายชอง โท • กรรมการ อายุ 40 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • ปริญญาโท สาขาการจัดการ Massachusetts Institute of Technology สหรัฐอเมริกา • ปริญญาตรี สาขาวิชาปรัชญา รัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ Oxford University สหราชอาณาจักร • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Director Accreditation Program รุ่น 54/2006 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย สัดส่วนการถือหุ้น* 0.05% ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร • คู่สมรสของบุตรีของนายชัย โสภณพนิช ประสบการณ์ทำงาน • 2548 - ปัจจุบัน ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ กิจการ ธนาคารต่างประเทศ บมจ. ธนาคารกรุงเทพ • 2548 - ปัจจุบัน ประธานกรรมการบริหาร บมจ. หลักทรัพย์บัวหลวง • 2544 - ปัจจุบัน กรรมการ บมจ. หลักทรัพย์บัวหลวง • 2543 - ปัจจุบัน กรรมการ บมจ. ปูนซีเมนต์เอเชีย • 2544 - 2548 กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. หลักทรัพย์บัวหลวง • 2542 - 2548 กรรมการ บริษัทเงินทุน บัวหลวง จำกัด • 2543 - 2544 กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทเงินทุน บัวหลวง จำกัด นายเฟลิกส์ แพทริค เฮอร์ลิฮี • กรรมการ อายุ 49 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • ปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ Columbia University สหรัฐอเมริกา • ปริญญาตรีเกียรตินิยม สาขาเศรษฐศาสตร์ Harvard University สหรัฐอเมริกา สัดส่วนการถือหุ้น* - ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี ประสบการณ์ทำงาน • Chief Investment Officer, Istithmar World Capital, Istithmar PJSC (member of Dubai World Company) • Managing Director, IFL Investment S.p.A., Agneli Group of Italy • Managing Director and Principal, Lehman Brothers Merchant Banking (LBMB)
* สัดส่วนการถือหุ้น ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2551 รวมหุ้นบุริมสิทธิและหุ้นสามัญ และรวมการถือหุ้นของคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
72
นายสรดิษ วิญญรัตน์ • กรรมการ • กรรมการตรวจสอบ อายุ 68 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • การบริหารธนาคาร City of London College of Banking ลอนดอน สหราชอาณาจักร • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Director Accreditation Program รุน่ CP/2005 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษทั ไทย สัดส่วนการถือหุ้น* 0.03% ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี ประสบการณ์ทำงาน • 2525 - ปัจจุบัน รองประธานกรรมการ กลุ่มโรงแรมแลนด์มาร์ค • 2500 - 2533 ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บมจ. ธนาคารกรุงเทพ นายบุญปกรณ์ โชควัฒนา • กรรมการ • กรรมการตรวจสอบ • ประธานกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน อายุ 73 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • ปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ University of Nottingham สหราชอาณาจักร • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Director Certification Program รุ่น 68/2005 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Director Accreditation Program รุ่น 3/2003 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Role of Compensation Committee รุน่ 7/2008 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษทั ไทย สัดส่วนการถือหุ้น* 0.04% ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี ประสบการณ์ทำงาน • ประธานกรรมการ บมจ. นิวซิตี้ (กรุงเทพ) • ประธาน มูลนิธิ ดร. เทียม โชควัฒนา • รองประธานกรรมการ บมจ. สหพัฒนพิบูลย์ • รองประธานกรรมการ บมจ. สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง • กรรมการ บมจ. ไอที ซิตี้
* สัดส่วนการถือหุ้น ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2551 รวมหุ้นบุริมสิทธิและหุ้นสามัญ และรวมการถือหุ้นของคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
73
รายงานประจำปี 2551
ศาสตราจารย์นายแพทย์สิน อนุราษฎร์ • กรรมการ • ผู้อำนวยการด้านการแพทย์กลุ่ม อายุ 67 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • แพทยศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย • วุฒิบัตร - อายุรศาสตร์ สหรัฐอเมริกา - โรคระบบทางเดินอาหาร สหรัฐอเมริกา สัดส่วนการถือหุ้น* 0.01% ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี ประสบการณ์ทำงาน • 2530 - 2537 ศาสตราจารย์และผู้อำนวยการ ด้านการแพทย์ University Medical Center Lubbock เท็กซัส สหรัฐอเมริกา นางสาวโสภาวดี อุตตโมบล • กรรมการ • ประธานกรรมการตรวจสอบ อายุ 48 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • ปริญญาโทบริหารธุรกิจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Director Accreditation Program รุ่น 5/2003 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Audit Committee Program รุ่น 2/2004 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Role of Chairman Program รุ่น 14/2006 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย สัดส่วนการถือหุ้น* - ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี ประสบการณ์ทำงาน • 2534 - ปัจจุบัน ที่ปรึกษากฎหมาย สำนักงานกฎหมาย ดำรงธรรม • 2544 - ปัจจุบัน กรรมการ บมจ. เอส แอนด์ พี ซินดิเคท
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
ผู้บริหารบริษัท นางลินดา ลีสหะปัญญา • กรรมการ • กรรมการผู้จัดการ อายุ 56 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • ปริญญาโทสาขาการเงิน University of Illinois สหรัฐอเมริกา • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Director Certification Program รุ่น 78/2006 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย สัดส่วนการถือหุ้น* 0.01% ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร • น้องสาวของคู่สมรสของนายชัย โสภณพนิช ประสบการณ์ทำงาน • กรรมการผู้จัดการ บมจ. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ธนิต เธียรธนู • กรรมการ • ประธานกรรมการแพทย์ อายุ 72 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • แพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดล • วุฒิบัตร ศัลยศาสตร์ระบบประสาท สหราชอาณาจักร สัดส่วนการถือหุ้น* 0.02% ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี ประสบการณ์ทำงาน • ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ หัวหน้าหน่วยประสาท ศัลยศาสตร์ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล นายเคอร์ติส จอห์น ชโรเดอร์ • กรรมการ • ผู้อำนวยการด้านบริหารกลุ่ม อายุ 52 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • ปริญญาโทสาขาบริหารโรงพยาบาล University of Southern California สหรัฐอเมริกา • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Director Certification Program รุ่น 78/2006 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย สัดส่วนการถือหุ้น* 0.01% ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี ประสบการณ์ทำงาน • 2536 - ปัจจุบัน ผู้อำนวยการด้านบริหารกลุ่ม บมจ. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ • 2530 - 2536 ผู้อำนวยการ USC University Hospital ลอสแองเจลิส แคลลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
ศาสตราจารย์นายแพทย์สิน อนุราษฎร์ • กรรมการ • ผู้อำนวยการด้านการแพทย์กลุ่ม อายุ 67 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • แพทยศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย • วุฒิบัตร - อายุรศาสตร์ สหรัฐอเมริกา - โรคระบบทางเดินอาหาร สหรัฐอเมริกา สัดส่วนการถือหุ้น* 0.01% ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี ประสบการณ์ทำงาน • 2530 - 2537 ศาสตราจารย์และผู้อำนวยการ ด้านการแพทย์ University Medical Center Lubbock เท็กซัส สหรัฐอเมริกา นายแพทย์การุณ เมฆานนท์ชัย • รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์กลุ่ม อายุ 59 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • แพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล • วุฒิบัตร - ศัลยศาสตร์ ออร์โธปิดิกส์ สัดส่วนการถือหุ้น* - ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี ประสบการณ์ทำงาน • 2532 - ปัจจุบัน แพทย์ที่ปรึกษาออร์โธปิดิกส์ บมจ. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ • 2526 - 2532 อาจารย์ ภาควิชาออร์โธปิดิกส์และ เวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล • 2521 - 2526 แพทย์ประจำโรงพยาบาล ศูนย์จังหวัดสระบุรี
* สัดส่วนการถือหุ้น ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2551 รวมหุ้นบุริมสิทธิและหุ้นสามัญ และรวมการถือหุ้นของคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
74
นายเจมส์ แมทธิว แบนเนอร์ • ผู้อำนวยการด้านบริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์- เนชั่นแนล กรุงเทพมหานคร อายุ 61 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • ปริญญาโท สาขาบริหารโรงพยาบาล Medical College of Virginia สหรัฐอเมริกา สัดส่วนการถือหุ้น* - ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี ประสบการณ์ทำงาน • BUPA Health Care Asia (เดิมชื่อ VISTA) • กรรมการและผู้อำนวยการด้านบริหาร Subang Jaya Medical Center กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย นาง ลี ชาน เยา • ผู้อำนวยการด้านการเงิน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์- เนชั่นแนล กรุงเทพมหานคร อายุ 54 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • ปริญญาตรี Victoria University of Wellington นิวซีแลนด์ • ประกาศนียบัตรหลักสูตร Director Certification Program รุ่น 78/2006 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย สัดส่วนการถือหุ้น* - ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี ประสบการณ์ทำงาน • 2530 - 2537 ผู้อำนวยการด้านการเงิน Mount Elizabeth Hospital Ltd. สิงคโปร์ • 2527 - 2529 Chief Accountant, Scotts Holdings Pte. Ltd. • 2525 - 2526 Internal Audit Manager, Diethelm Singapore Pte. Ltd. นางสาวคาเรน คาร์เตอร์ • ผู้อำนวยการด้านปฏิบัติการ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์- เนชั่นแนล กรุงเทพมหานคร อายุ 52 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • ปริญญาโท Political Science, Johns Hopkins University สหรัฐอเมริกา สัดส่วนการถือหุ้น* - ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี ประสบการณ์ทำงาน • Managing Director, BUPA Insurance (Thailand)
* สัดส่วนการถือหุ้น ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2551 รวมหุ้นบุริมสิทธิและหุ้นสามัญ และรวมการถือหุ้นของคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
75
รายงานประจำปี 2551
แพทย์หญิงจามรี เชื้อเพชระโสภณ • ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงเทพมหานคร อายุ 54 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • แพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล • วุฒิบัตร General Radiology ประเทศไทย • การศึกษาหลังปริญญา - Vascular and Interventional Radiology สหรัฐอเมริกา - Body Imaging สหรัฐอเมริกา สัดส่วนการถือหุ้น* - ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี ประสบการณ์ทำงาน • 2541 - ปัจจุบัน กรรมการ ราชวิทยาลัยรังสีแพทย์ แห่งประเทศไทย • 2541 - 2551 ที่ปรึกษารังสีวิทยา ศูนย์มะเร็งแห่งชาติ • 2526 - 2531 อาจารย์ ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาล รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศาสตราจารย์คลินิกนายแพทย์อภิชาติ ศิวยาธร • ผู้อำนวยการด้านคุณภาพ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงเทพมหานคร อายุ 60 ปี คุณวุฒิทางการศึกษา • แพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล • วุฒิบัตร - ผู้เชี่ยวชาญสาขาตจวิทยา n(Dermatology) สัดส่วนการถือหุ้น* - ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร ไม่มี ประสบการณ์ทำงาน • 2549 - ปัจจุบัน ผู้อำนวยการด้านคุณภาพ บมจ. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ • 2545 - 2548 ประธานคณะกรรมการดำเนินการ พัฒนาระบบคุณภาพ มหาวิทยาลัยมหิดล • 2541 - 2548 รองคณบดีฝ่ายพัฒนางานคุณภาพ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล • 2539 - 2541 รองคณบดีฝ่ายพัฒนาและกิจการพิเศษ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
รายละเอียดเกี่ยวกับกรรมการบริษัทย่อย รายชื่อบริษัทย่อย บริษัท บำรุงราษฎร์ บริษัท บริษัท บำรุงราษฎร์ บริษัท เอเชีย เมดิคอล เซ็นเตอร์ ไวทัลไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล รีนัล แคร์ จำกัด จำกัด จำกัด (ประเทศไทย) จำกัด รายชื่อกรรมการ 1. นายชั ย โสภณพนิช X X 2. น.พ.ชาญวิทย์ ตันติ์พิพัฒน์ / 3. นางลินดา ลีสหะปัญญา // / 4. นางกุลธิดา ศิวยาธร / 5. น.พ. ธนิต เธียรธนู // 6. นายชอง โท / / 7. นายบุญปกรณ์ โชควัฒนา / // / X X 8. นายเคอร์ติส จอห์น ชโรเดอร์ อนุราษฎร์ // / 9. น.พ. สิน / 10. นายเจมส์ แมทธิว แบนเนอร์ เยา / / 11. นางลีชาน
หมายเหตุ 1. / = กรรมการ X = ประธานกรรมการ // = กรรมการบริหาร 2. บริษัท ซีดีอี เทรดดิ้ง จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท โกลเบิลแคร์ โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด) และ บริษัท โกลเบิล แคร์ โซลูชั่น เอส. เอ. ไม่ปรากฏใน ตารางข้างต้น เนื่องจากไม่มีกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทเป็นกรรมการ ประธานกรรมการ หรือกรรมการบริหารในบริษัท ซีดีอี เทรดดิ้ง จำกัด และ บริษัท โกลเบิล แคร์ โซลูชั่น เอส. เอ.
(2)
การสรรหากรรมการและผู้บริหาร คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนมีหน้าที่ในการสรรหากรรมการแทนกรรมการและกรรมการชุดย่อยที่ครบ กำหนดออกตามวาระหรือกรณีอนื่ ๆ รวมถึงการพิจารณาและกลัน่ กรองรายชือ่ ผูท้ มี่ คี วามเหมาะสมจากการเสนอชือ่ โดยผูถ้ อื หุน้ และนำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาแต่งตั้ง หรือเพื่อนำเสนอผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาแต่งตั้งต่อไป โดยคณะ กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน มีหน้าที่พิจารณาผู้ที่มีคุณวุฒิที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์การทำงานในอดีตที่จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัท มีความเป็นผู้นำ วิสัยทัศน์กว้างไกล เป็นผู้มีคุณธรรมและ จริยธรรม มีประวัติการทำงานที่โปร่งใสไม่ด่างพร้อยและมีความเป็นอิสระในการตัดสินใจอย่างมืออาชีพ ด้วยความซื่อสัตย์ และเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามกฎบัตรคณะกรรมการบริษัท
1. 2. 3.
การเลือกตั้งกรรมการของบริษัทโดยที่ประชุมผู้ถือหุ้น มีหลักเกณฑ์และวิธีการดังต่อไปนี้ ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งมีคะแนนเสียงเท่ากับหนึ่งหุ้นต่อหนึ่งเสียง ในการเลือกกรรมการ อาจใช้วิธีเสียงลงคะแนนเลือกกรรมการเป็นรายบุคคลคราวละคน หรือคราวละหลายคนรวมกัน เป็นคณะ ตามแต่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นจะเห็นสมควร แต่ในการลงมติแต่ละครั้งผู้ถือหุ้นต้องออกเสียงด้วยคะแนนที่มีอยู่ ทั้งหมด จะแบ่งคะแนนเสียงแก่คนใด หรือคณะใดมากน้อยเพียงใดไม่ได้ การออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งกรรมการให้ใช้เสียงข้างมาก หากมีคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ผู้เป็นประธานที่ประชุมเป็น ผู้ออกเสียงชี้ขาด
1. 2.
อนึ่ง กระบวนการในการสรรหากรรมการอิสระของบริษัท ใช้วิธีเดียวกันกับกระบวนการในการสรรหากรรมการและ ผู้บริหาร คุณสมบัติของกรรมการอิสระของบริษัทมีดังต่อไปนี้ ถือหุ้นไม่เกินร้อยละ 1 ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม หรือ นิติบุคคลที่อาจมีความขัดแย้ง โดยให้นับรวมหุ้นที่ถือโดยผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย ไม่เป็นกรรมการที่มีส่วนร่วมบริหาร/พนักงาน/ลูกจ้าง/ที่ปรึกษาที่ได้รับเงินเดือนประจํา/ผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม บริษัทย่อยลำดับเดียวกัน หรือนิติบุคคลที่อาจมีความขัดแย้ง (ปัจจุบันและสองปี ก่อนได้รับการแต่งตั้ง)
76
3. 4. 5. 6.
ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายโลหิตหรือการจดทะเบียนในลักษณะที่เป็นบิดา มารดา พี่น้อง และบุตร รวมทั้งคู่สมรส ของบุตร กับผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ผู้มีอำนาจควบคุม หรือบุคคลที่จะได้รับเสนอชื่อเป็นผู้บริหารหรือผู้มีอำนาจ ควบคุมของบริษัทหรือบริษัทย่อย มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัทในลักษณะของการให้บริการทางวิชาชีพหรือความสัมพันธ์ทางการค้า/ทางธุรกิจที่ เป็นไปตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ไม่เป็นกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งขึ้นเป็นตัวแทนของกรรมการบริษัท ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องกับ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ไม่มีลักษณะอื่นใดที่ทำให้ไม่สามารถให้ความเห็นอย่างเป็นอิสระได้
ค่าตอบแทนกรรมการ กรรมการตรวจสอบและผู้บริหาร ค่าตอบแทนกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบ บริษทั ได้จา่ ยค่าตอบแทนกรรมการ กรรมการตรวจสอบ และกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน สำหรับงวดสิน้ สุด วันที่ 31 ธันวาคม 2551 สำหรับกรรมการ 17 ท่าน ดังต่อไปนี้ คณะกรรมการบริษัท
รายชื่อ 1. นายชัย 2. น.พ. ชาญวิทย์ 3. นางลินดา 4. นายเคอร์ตสิ จอห์น 5 น.พ. ธนิต 6 นายชาตรี 7 น.พ. อนันต์ 8 น.พ.จอน 9 พ.ญ. คุณสวรรยา 10 นางกุลธิดา 11 นาย ชอง 12 น.พ. สิน 13 พ.ญ. เจนนิเฟอร์ 14 นายเฟลิกส์ 15 น.ส. โสภาวดี 16 นาย สรดิษ 17 นาย บุญปกรณ์
จำนวนครั้งที่ ค่าตอบแทน รายปี เข้าประชุม โสภณพนิช ตันติ์พิพัฒน์ ลีสหะปัญญา ชโรเดอร์ เธียรธนู โสภณพนิช เตชะเวช ยังพิชิต เดชอุดม ศิวยาธร โท อนุราษฎร์ ลี* เฮอร์ลิฮี* อุตตโมบล วิญญรัตน์ โชควัฒนา
คณะกรรมการตรวจสอบ
เบี้ยประชุม รายครั้ง
รวม
จำนวนครั้งที่ เบี้ยประชุม เข้าประชุม รายครั้ง
คณะกรรมการสรรหาและ กำหนดค่าตอบแทน จำนวนครั้งที่ เบี้ยประชุม เข้าประชุม รายครั้ง
รวม ค่าตอบแทน
4/4
400,000
160,000
560,000
560,000
4/4
350,000
120,000
470,000
3/4
300,000
75,000
375,000
375,000
3/4
300,000
75,000
375,000
375,000
4/4
300,000
100,000
400,000
400,000
3/4
300,000
75,000
375,000
375,000
4/4
300,000
100,000
400,000
400,000
4/4
300,000
100,000
400,000
400,000
4/4
300,000
100,000
400,000
3/4
300,000
75,000
375,000
3/4
300,000
75,000
375,000
375,000
4/4
300,000
100,000
400,000
400,000
2/3
175,000
50,000
225,000
225,000
1/1
125,000
25,000
150,000
150,000
4/4
300,000
100,000
400,000
4/4
160,000
4/4
300,000
100,000
400,000
4/4
100,000
4/4
300,000
100,000
400,000
4/4
100,000
4,950,000
1,530,000
6,480,000
2/2
50,000
520,000
400,000 1/2
360,000
25,000
400,000
560,000 500,000 2/2
80,000
580,000
155,000
6,995,000
* นายเฟลิกส์ เฮอร์ลิฮีได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการของบริษัทแทนพ.ญ. เจนนิเฟอร์ ลี โดยมติของที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2551 เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2551
ค่าตอบแทนกรรมการ คือค่าตอบแทนทีจ่ า่ ยให้แก่กรรมการของบริษทั โดยไม่รวมเงินเดือนและผลประโยชน์ทเี่ กีย่ วข้อง ที่จ่ายให้แก่ผู้บริหาร และค่าตอบแทนกรรมการดังกล่าว ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นแล้ว ค่าตอบแทนของกรรมการบริหารและผู้บริหาร ค่าตอบแทนรวมของกรรมการบริหารและผู้บริหารของบริษัทและบริษัทย่อย จำนวน 10 ท่าน ประจำปี 2551 เป็นจำนวนเงิน 74.78 ล้านบาท โดยที่ค่าตอบแทนดังกล่าว รวมถึงเงินเดือนและผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องของผู้บริหาร (4) การกำกับดูแลกิจการ (หน้า 82) (5) การดูแลเรื่องการใช้ข้อมูลภายใน บริษัทมีนโยบายและวิธีการดูแลผู้บริหารในการนำข้อมูลไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตนดังนี้
77
รายงานประจำปี 2551
(3)
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
6.
78
1. 2.
ข้อบังคับของบริษัท กำหนดให้กรรมการต้องแจ้งให้บริษัททราบโดยไม่ชักช้า หากมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับบริษัท หรือถือหุ้นหรือหุ้นกู้เพิ่มขึ้นหรือลดลงในบริษัทหรือบริษัทในเครือ กรรมการและผู้บริหารต้องจัดทำและเปิดเผยรายงานการถือหลักทรัพย์ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ ภายในเวลาที่กำหนด
1. 2. 3. 4.
มาตรการลงโทษ หากกรรมการท่านใดฝ่าฝืนมีดังนี้ แจ้งด้วยวาจาเพื่อแก้ไข รายงานผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณา ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีเกิดความเสียหาย เปิดเผยให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบ
(6) การควบคุมภายใน รายงานของคณะกรรมการตรวจสอบ (หน้า 20) (7)
นโยบายการจ่ายเงินปันผล 1. นโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัท มีดังนี้ 1.1 เมือ่ บริษทั มีกำไรสุทธิทจี่ ะจ่ายให้แก่ผถู้ อื หุน้ ได้ บริษทั จะจ่ายให้แก่ผถู้ อื หุน้ ตามสิทธิของหุน้ บุรมิ สิทธิกอ่ น ถ้าปีใด ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิได้รับแจกเงินปันผลถึงร้อยละ 15 ของทุนของบริษัทที่เป็นหุ้นบุริมสิทธิแล้ว กำไรส่วนที่เหลือ จะแจกให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้ตามมติที่ประชุมใหญ่ ถ้ า ปี ใ ดบริ ษั ท สามารถแจกเงิ น ปั น ผลได้ เ กิ น กว่ า ร้ อ ยละ 15 ของทุ น ของบริ ษั ท ให้ ผู้ ถื อ หุ้ น ทั้ ง สองชนิ ด ได้รับแจกเงินปันผลเท่ากัน 1.2 การจ่ายเงินปันผล ให้กรรมการปฏิบัติตามมติของที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น 1.3 ทุกคราวที่บริษัทจ่ายเงินปันผล บริษัทจะจัดสรรเงินไว้เพื่อเป็นทุนสำรองอย่างน้อยร้อยละ 5 ของจำนวน ผลกำไร จนกว่าทุนสำรองมีถึงร้อยละ 10 ของจำนวนทุนของบริษัท 1.4 เงินปันผลค้างจ่ายบริษัทจะไม่คิดดอกเบี้ยให้ 2. นโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทย่อย มีดังนี้ 2.1 เมื่อบริษัทมีกำไรสุทธิที่จะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ บริษัทจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้ตามมติที่ ประชุมใหญ่ 2.2 เงินปันผลค้างจ่ายบริษัทจะไม่คิดดอกเบี้ย
ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2552 คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2551 ซึ่งจะต้องได้รับอนุมัติ จากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนเมษายน 2552 โดยจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ และผู้ถือหุ้นสามัญในอัตราหุ้นละ 0.80 บาท รวมเป็นเงิน 584 ล้านบาท คิดเป็น 49% ของกำไรสุทธิของบริษัท โดยที่บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท รวมเป็นเงิน 292 ล้านบาท เมือ่ วันที่ 4 กันยายน 2551 และจะจ่ายเงินปันผลส่วนทีเ่ หลือในอัตราหุน้ ละ 0.40 บาท รวมเป็นเงิน 292 ล้านบาท หลังจากที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น สำหรับผลการดำเนินงานปี 2550 บริษทั ได้จา่ ยเงินปันผล ในอัตรา 0.80 บาทต่อหุน้ เป็นจำนวนเงินรวมทัง้ สิน้ 584 ล้านบาท คิดเป็น 49% ของกำไรสุทธิของบริษัท โดยกำไรสุทธิที่ใช้ในการคำนวณอัตราการจ่ายเงินปันผล คือกำไรสุทธิปี 2550 ของ งบการเงินรวม หักด้วยส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท ซีดีอี เทรดดิ้ง จำกัด ที่ไม่ใช่เงินสด ซึ่งเป็นรายการที่ไม่เกี่ยวกับการ ดำเนินงานโดยปกติของบริษัทและเกิดขึ้นครั้งเดียว
รายการระหว่างกัน 1. ลักษณะของรายการระหว่างกัน บริษัทมีธุรกิจกับบริษัทย่อย บริษัทร่วม และบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ดังรายละเอียดในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ข้อ 7 ในงวด 31 ธันวาคม 2550 และ 31 ธันวาคม 2551 บริษทั และบริษทั ย่อยมีรายการระหว่างกันกับบุคคลทีม่ อี าจมีความ ขัดแย้งกับบริษัทและบริษัทย่อยหลายรายการ ซึ่งมีทั้งรายการที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจปกติและรายการอื่นๆ ซึ่งสามารถ สรุปได้ดงั นี ้
79
บริษัท บำรุงราษฎร์ บริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นร้อยละ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 51 (ณ 1 มกราคม 2550) และ ได้เปลี่ยนสถานะเป็นบริษัทร่วม ที่บริษัทถือหุ้นร้อยละ 31.5 (ณ 27 เมษายน 2550) และมี กรรมการร่วม
16.0
22.8
17.5
- ค่าดอกเบี้ยหุ้นกู้แปลง สภาพจ่าย BBL
28.4
4.4
35.7
- ค่าเช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง จ่าย BBL
รายได้ - รายได้ค่าที่ปรึกษาในการ บริหารงานโรงพยาบาล จากบริษัทบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
58.0
53.4
24.9
20.2
29.1
25.3
25.4
มูลค่ารายการ (ล้านบาท) สำหรับปีสิ้นสุด สำหรับปีสิ้นสุด 31 ธ.ค. 2550 31 ธ.ค. 2551
29.5
รายได้ - รายได้ค่าบริการการรักษา พยาบาลจาก BBL ค่าใช้จ่าย - ค่าธรรมเนียมการใช้บัตร เครดิตที่บริษัทจ่ายให้แก่ BBL
กรรมการร่วม
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL)
ลักษณะรายการ รายได้ - รายได้ค่าบริการการรักษา พยาบาลรับจาก BKI ค่าใช้จ่าย - ค่าเบี้ยประกันภัยที่บริษัทและ บริษัทย่อยจ่ายแก่ BKI
ลักษณะความสัมพันธ์ของผู้ทำ รายการระหว่างกัน
บริษทั กรุงเทพประกันภัย มีกรรมการร่วม และเป็นผู้ถือหุ้น จำกัด (มหาชน) (BKI) ใหญ่ของบริษัทโดย ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2551 BKI ถือหุ้นใน บริษัท ร้อยละ 13.16
ชื่อบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
คณะกรรมการตรวจสอบเห็นว่า เป็นรายการที่สมเหตุสมผล
คณะกรรมการตรวจสอบเห็นว่า เป็นรายการที่สมเหตุสมผล
คณะกรรมการตรวจสอบเห็นว่า เป็นรายการที่สมเหตุสมผล
ความสมเหตุสมผลและ ความจำเป็นของรายการ ระหว่างกัน
บริษัทได้เช่าอาคาร จาก BBL เพื่อสนับสนุนกิจการของโรงพยาบาล ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในการใช้เป็นอาคารจอดรถ และห้องพัก ญาติผู้ป่วย โดยราคาที่จ่ายชำระค่าเช่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผล บริษัทได้จ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้แปลงสภาพ จำนวนเงินต้น 550 ล้าน บาท โดยอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามสัญญาการปรับโครงสร้างหนี้ บริษัทคิดค่าที่ปรึกษาในการบริหารงานโรงพยาบาลโดยมีความ สัมพันธ์กับต้นทุนทรัพยากรที่เกิดขึ้นจริง
รายงานประจำปี 2551
คณะกรรมการตรวจสอบเห็นว่า เป็นรายการที่สมเหตุสมผล
ผ่านการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นแล้ว
ผ่านการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นแล้ว
BBL เป็นผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตที่บริษัทใช้บริการมาโดยตลอด โดยบริษัทได้ลงทุนในสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อใช้ประโยชน์จาก คณะกรรมการตรวจสอบเห็นว่า เป็นรายการที่สมเหตุสมผล ระบบการรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตอย่างมีประสิทธิภาพ โดย ราคาที่บริษัทจ่ายชำระแก่ BBL เป็นราคาที่สามารถเปรียบเทียบได้ กับราคาตลาดโดยทั่วไป
BKI เป็นผู้ให้บริการในด้านประกันภัยที่บริษัทและบริษัทย่อยได้ใช้ บริการมาโดยตลอด และค่าบริการที่บริษัทและบริษัทย่อยจ่ายแก่ BKI เป็นราคาที่ BKI ให้บริการแก่ลูกค้าโดยทั่วไป เป็นการดำเนินงานตามปกติธุรกิจของบริษัทโดยใช้ราคาและผล ตอบแทนปกติตามที่บริษัทให้บริการแก่ลูกค้าโดยทั่วไป
เป็นการดำเนินงานตามปกติธุรกิจของบริษัทโดยใช้ราคาและผล ตอบแทนปกติตามที่บริษัทให้บริการแก่ลูกค้าโดยทั่วไป
นโยบายราคา
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
รายการอื่น 1. บริษทั ได้สละสิทธิจ์ องซือ้ หุน้ เพิม่ ทุนของบริษทั บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชัน่ แนล จำกัด ให้กบั Asia Financial Holdings เมื่ อ วั น ที่ 12 มี น าคม 2550 ผู้ ถื อ หุ้ น ของบริ ษั ท ได้ มี ม ติ อ นุ มั ติ ก ารสละสิ ท ธิ์ จ องซื้ อ หุ้ น เพิ่ ม ทุ น ของบริ ษั ท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ให้กับ Asia Financial Holdings (AFH) โดยที่การเสนอขายหุ้นดังกล่าว เป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน และมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ชื่อบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน AFH International Company Limited (AFH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ Asia Financial Holdings Limited ถือหุ้นอยู่ 100% ลักษณะความสัมพันธ์ของ นายโรบิน ยัว ฮิง ชาน (Mr. Robin Yua Hing Chan) ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจและเป็น ผู้ทำรายการระหว่างกัน ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ AFH เป็นพี่น้องกับนายชาตรี โสภณพนิช และนายชัย โสภณพนิช ซึ่งเป็น (ณ วันที่ 12 มีนาคม 2550) กรรมการของบริษัท ดังนั้น AFH จึงเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท และทำให้ธุรกรรม เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน ลักษณะรายการ - การสละสิทธิของบริษัท ในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จำนวน 3,714,283 หุ้น เพื่อให้ AFH จองซื้อหุ้น - บริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เสนอขายหุ้นใหม่จำนวน 3,714,283 หุ้น ให้แก่ AFH มูลค่ารายการ ธุรกรรม มีมูลค่าประมาณ 570,216,726.16 บาท นโยบายราคา ราคาจองซื้อหุ้นของบริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่ราคาหุ้นละ 153.52 บาท เป็นราคาที่มีส่วนเกินมากจากมูลค่าทางบัญชีของบริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งมีมูลค่า 94.88 บาท (รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของบริษัทย่อย) ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 ราคาจองซื้ อ หุ้ น นี้ เ ท่ า กั บ ราคาจองซื้ อ ที่ ไ ด้ รั บ อนุ มั ติ จ ากที่ ป ระชุ ม ผู้ ถื อ หุ้ น เมื่ อ วั น ที่ 15 พฤษภาคม 2549 ในการที่ให้พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ (Strategic shareholders) คือ Istithmar PJSC, V-Sciences Investment Pte Ltd และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จองซื้อหุ้น สามัญที่ออกใหม่ของบริษัท บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และราคาจองซื้อหุ้นเป็น ราคาที่สอดคล้องกับรายงานของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ความสมเหตุสมผลและความจำเป็น รายการนี้ ได้ผ่านการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2550 แล้ว ของรายการระหว่างกัน 2. บริษทั ได้ซอื้ ทีด่ นิ และอาคารบีเอช ทาวเวอร์จากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เมือ่ วันที่ 22 มกราคม 2551 ผูถ้ อื หุน้ ของบริษทั ได้มมี ติอนุมตั กิ ารซือ้ ทีด่ นิ และอาคารบีเอช ทาวเวอร์ 1 และ 2 จาก ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) โดยที่ ธุรกรรมดังกล่าวเป็นรายการทีเ่ กีย่ วโยงกัน และมีรายละเอียดดังต่อไปนี ้ ชื่อบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ลักษณะความสัมพันธ์ของ นายชาตรี โสภณพนิช ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของ BBL และนางกุลธิดา ศิวยาธร ซึ่งเป็น ผู้ทำรายการระหว่างกัน ผู้บริหารของ BBL เป็นกรรมการของบริษัท ดังนั้น BBL จึงเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท และทำให้ธุรกรรมเข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน ลักษณะรายการ การซื้อที่ดินและอาคารบีเอช ทาวเวอร์ 1 และ 2 จาก BBL
80
81
รายงานประจำปี 2551
มูลค่ารายการ 470 ล้านบาท นโยบายราคา เป็นราคาที่ตกลงกันระหว่าง BBL กับบริษัท โดยคำนึงถึงราคาประเมิน ความสมเหตุสมผลและความ รายการนี้ ได้ผ่านการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2551 แล้ว จำเป็นของรายการระหว่างกัน 2. ความจำเป็นและความสมเหตุสมผลของรายการระหว่างกัน บริษัทมีรายการกับกิจการที่เกี่ยวข้องกัน เพื่อช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัท เช่น การมีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทคู่สัญญา จะช่วยขยายฐานลูกค้าของบริษัท 3. ขั้นตอนการอนุมัติการทำรายการระหว่างกัน การทำรายการระหว่างกัน ซึ่งเป็นไปตามธุรกิจปกติของบริษัท ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้มีอำนาจตามขั้นตอนปกติ ตามนโยบายของบริษัท โดยคณะกรรมการตรวจสอบได้พิจารณาทบทวนถึงความเหมาะสมและความสมเหตุสมผลของ รายการด้วย สำหรับรายการอื่นๆ ซึ่งมีมูลค่าสูงตามนิยามของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะต้องได้รับการอนุมัต ิ จากคณะกรรมการ และ/หรือ ผูถ้ อื หุน้ ตามกฎระเบียบ โดยทีผ่ บู้ ริหาร และ/หรือกรรมการทีม่ สี ว่ นได้สว่ นเสียไม่มสี ทิ ธิออกเสียง 4. นโยบายการทำรายการระหว่างกันในอนาคต บริษัทยังมีนโยบายที่จะมีรายการกับกิจการที่เกี่ยวข้องกันต่อไปในอนาคต หากเป็นรายการที่มีผลดีต่อบริษัทดังที่กล่าว ไว้ขา้ งต้น อย่างไรก็ตาม บริษทั จะปฏิบตั ติ ามนโยบายของบริษทั และกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอย่าง เคร่งครัด นอกจากนี้ บริษทั จะมุง่ เน้นความโปร่งใสของรายการทีเ่ กีย่ วโยงกัน และจะรักษาประโยชน์สงู สุดของบริษทั เป็นสำคัญ 7. คำอธิบายและการวิเคราะห์ฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน (หน้า 16-19) 8. งบการเงิน 8.1 งบการเงิน (หน้า 22 - 55) 8.2 ค่าตอบแทนของผู้สอบบัญชี (Audit fee) (ก) ค่าตอบแทนจากการสอบบัญชี บริษัทและบริษัทย่อย ได้จ่ายค่าสอบบัญชีในปี 2551 เป็นจำนวนเงิน 2.24 ล้านบาท อนึ่ง ค่าสอบบัญชีปี 2551 ของบริษัท ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นแล้ว (ข) ค่าบริการอื่น ไม่มี
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
การปฏิบั ติตาม หลั ก การกำกับดูแล กิ จการที่ดี
82
รายงานประจำปี 2551
บริษัทได้ตระหนักถึงความสำคัญของการกำกับดูแลกิจการที่ดี และมีความตั้งใจที่จะปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อการ บริหารจัดการธุรกิจที่มีความโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย และมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะแข่งขันในระดับสากล บริษัทจึงขอรายงานเรื่องการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการดังต่อไปนี้ 1. สิทธิของผู้ถือหุ้น บริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญของสิทธิของผู้ถือหุ้นทุกราย ซึ่งรวมทั้งผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และผู้ถือหุ้นรายย่อย โดยสิทธิของผู้ถือหุ้น ครอบคลุมสิทธิพื้นฐานต่างๆ ทั้งในฐานะของนักลงทุนในหลักทรัพย์และในฐานะเจ้าของบริษัท เช่น สิทธิในการซื้อ ขาย โอน หลักทรัพย์ทตี่ นถืออยู่ สิทธิในการทีจ่ ะได้รบั ส่วนแบ่งผลกำไรจากบริษทั สิทธิตา่ งๆในการประชุมผูถ้ อื หุน้ สิทธิในการแสดงความคิดเห็น สิทธิในการร่วมตัดสินใจในเรื่องสำคัญของบริษัท เช่น การเลือกตั้งกรรมการ การอนุมัติธุรกรรมที่สำคัญและมีผลต่อทิศทางในการ ดำเนินธุรกิจของบริษัท การแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อบังคับของบริษัท เป็นต้น ในปี 2551 บริษัทได้ดำเนินการในเรื่องต่างๆที่เป็นการส่งเสริม และอำนวยความสะดวกในการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้น ในการร่วม ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ดังนี้ 1. บริษัทเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นได้มีส่วนร่วมในการเสนอเรื่องที่เห็นว่าสำคัญและควรบรรจุเป็นวาระในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปีของบริษัท และเสนอชื่อบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และคุณสมบัติที่เหมาะสมเพื่อรับการพิจารณาเลือกตั้งเป็น กรรมการบริษัทล่วงหน้าก่อนที่จะมีการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นขึ้น โดยผู้ถือหุ้นสามารถดูรายละเอียดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติได้ ในเว็บไซต์ของบริษัท 2. บริษัทได้จัดส่งหนังสือเชิญประชุมให้แก่ผู้ถือหุ้นล่วงหน้า เพื่อแจ้งวาระการประชุม พร้อมความคิดเห็นของคณะกรรมการในแต่ละ วาระ รวมถึงเอกสารประกอบต่างๆ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นมีข้อมูลเพียงพอในการตัดสินใจ และได้ชี้แจงรายละเอียดของเอกสารที่ ผูถ้ อื หุน้ ต้องนำมาแสดงในวันประชุม เพือ่ รักษาสิทธิในการเข้าประชุม รวมทัง้ สิทธิออกเสียงลงมติของผูถ้ อื หุน้ ไว้ดว้ ยกัน นอกจากนี ้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ถือหุ้น บริษัทมีการเปิดเผยหนังสือเชิญประชุมบนเว็บไซต์ของบริษัท โดยในกรณีของการประชุม สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ได้เปิดเผยหนังสือเชิญประชุมล่วงหน้าก่อนวันประชุม 30 วัน 3. ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นไม่สามารถเข้าประชุมได้ด้วยตนเอง ผู้ถือหุ้นสามารถใช้สิทธิโดยการมอบฉันทะให้กรรมการอิสระ หรือบุคคล ใดๆ เข้าร่วมประชุมแทน และออกเสียงลงคะแนนแทนตนได้ โดยใช้หนังสือมอบฉันทะแบบหนึ่งแบบใดที่บริษัทได้จัดส่งไปพร้อม กับหนังสือนัดประชุม นอกจากนี้ผู้ถือหุ้นสามารถ download หนังสือมอบฉันทะผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทได้อีกด้วย 4. เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับความสะดวกในการประชุม บริษัทได้จัดให้มีการลงทะเบียนโดยใช้ระบบบาร์โค้ด พร้อมจัดทำบัตรลงคะแนน สำหรับแต่ละวาระ เพื่อให้ขั้นตอนในการลงทะเบียนและการนับคะแนนในแต่ละวาระเป็นไปอย่างรวดเร็ว และถูกต้อง โดยเมื่อจบ การประชุม ผู้ถือหุ้นสามารถขอตรวจสอบรายละเอียดได้ 5. ก่อนเริ่มเข้าสู่การประชุมตามวาระ ประธานกรรมการ ซึ่งเป็นประธานในที่ประชุม ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงวิธีการปฏิบัติในการ ออกเสียงลงคะแนนในแต่ละวาระการประชุม และระหว่างการประชุมผู้ถือหุ้น ประธานในที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นทุกราย สามารถเสนอแนะ ซักถาม และเสนอข้อคิดเห็นได้ทุกวาระ โดยประธานและผู้บริหารจะให้ความสำคัญกับทุกคำถาม และตอบ ข้อซักถามอย่างชัดเจนและตรงประเด็น 6. เลขานุการบริษทั ได้บนั ทึกการประชุมทีถ่ กู ต้อง ครบถ้วน โดยจัดส่งรายงานการประชุมผูถ้ อื หุน้ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใน 14 วันหลังการประชุมและเผยแพร่บนเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับทราบอย่างรวดเร็วและสามารถตรวจสอบได้ นอกจากนี้ บริษทั มุง่ เน้นการให้ขอ้ มูลแก่ผถู้ อื หุน้ ทุกรายอย่างถูกต้อง ทันเวลา เท่าเทียมกัน และโปร่งใส เพียงพอสำหรับการตัดสินใจ ในการลงทุนของผูถ้ อื หุน้ และนักลงทุน 2. ความเท่าเทียมกันของผู้ถือหุ้น บริษัทมุ่งมั่นในการสร้างความเท่าเทียมกันให้เกิดขึ้นกับผู้ถือหุ้นทุกราย ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ผู้ถือหุ้นรายย่อย นักลงทุนสถาบัน หรือผู้ถือหุ้นต่างชาติ โดยได้ดำเนินการต่างๆ เช่น 1. มีช่องทางให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยสามารถเสนอเรื่องที่เห็นว่าสำคัญและควรบรรจุเป็นวาระในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีของ บริษัท และเสนอชื่อบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และคุณสมบัติที่เหมาะสมเพื่อรับการพิจารณาเลือกตั้งเป็นกรรมการบริษัท โดยได้ประกาศแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และในเว็บไซต์ของบริษัท และกรรมการ อิสระจะเป็นผู้กลั่นกรองและเสนอเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมกรรมการเพื่อพิจารณากำหนดเป็นวาระการประชุมในการประชุม ผู้ถือหุ้นตามความเหมาะสมต่อไป
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
2. บริษัทได้จัดทำหนังสือมอบฉันทะสำหรับการประชุมผู้ถือหุ้น โดยมีรูปแบบที่ผู้ถือหุ้นสามารถกำหนดทิศทางการลงคะแนนได้ใน แต่ละวาระ ตามแบบที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด โดยจัดส่งไปพร้อมกับหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้น และได้เสนอกรรมการอิสระ หนึ่งท่าน เป็นผู้รับมอบอำนาจในการประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อเป็นทางเลือกในการมอบฉันทะของผู้ถือหุ้น 3. ในการประชุมผู้ถือหุ้น การประชุมเป็นไปตามลำดับวาระการประชุม โดยไม่มีการเพิ่มวาระการประชุมที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า เพื่อ ให้ผู้ถือหุ้นได้มีโอกาสศึกษาข้อมูลประกอบระเบียบวาระก่อนตัดสินใจ และไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลสำคัญในที่ประชุมอย่าง กระทันหัน 4. บริษัทให้ความสำคัญในการพิจารณาเรื่องที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ รายการที่เกี่ยวโยงกัน หรือรายการระหว่างกัน และมีการดำเนินการตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมถึงข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ของทางการ ในกรณีที่บริษัทต้องมีการ พิจารณาเรื่องดังกล่าว กรรมการ ผู้บริหาร และบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะไม่เข้าร่วมพิจารณาอนุมัติรายการนั้นๆ 5. บริษัทมีการดูแลเรื่องการใช้ข้อมูลภายใน โดยมีรายละเอียดตามข้อ 5.2(5) การดูแลเรื่องการใช้ข้อมูลภายใน และจัดให้กรรมการ และผู้บริหารของบริษัทรายงานการซื้อขายหลักทรัพย์ต่อคณะสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทภายในสามวันทำการ 3. บทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย บริษัทยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย เพื่อประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน อันจะส่งผลถึงความมั่นคงและดำเนิน ธุรกิจไปได้ตามที่คาดหวัง และมีความตั้งใจที่จะปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียแต่ละกลุ่มอย่างยุติธรรม ผู้มีส่วนได้เสียที่สำคัญของบริษัท มีดังต่อไปนี้ ผู้ถือหุ้น: นอกเหนื อ ไปจากสิ ท ธิ พื้ น ฐาน สิ ท ธิ ที่ ก ำหนดไว้ ใ นกฎหมาย ข้ อ บั ง คั บ บริ ษั ท เช่ น สิ ท ธิ ใ นการตรวจสอบจำนวนหุ้ น สิทธิในการรับใบหุ้น สิทธิในการเข้าประชุมผู้ถือหุ้นและออกเสียงลงคะแนน สิทธิในการแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระในที่ประชุม ผู้ถือหุ้น รวมถึงสิทธิที่จะได้รับผลตอบแทนอย่างเป็นธรรมแล้ว บริษัทยังมีการให้ข้อมูลแก่ผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน และทันเวลา และให้สิทธิแก่ผู้ถือหุ้นในการเสนอแนะข้อคิดเห็นต่างๆ เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทในฐานะเจ้าของบริษัทอย่างอิสระใน ที่ประชุมผู้ถือหุ้น ลูกค้า / ผูป้ ว่ ย: บริษัทให้บริการแก่ผู้ป่วยอย่างมีจริยธรรมและในระดับคุณภาพที่สูงสุด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและความพึงพอใจ ของผู้ป่วย และประสิทธิภาพในการให้บริการเป็นสำคัญ คณะกรรมการ Medical Ethics Committee ของโรงพยาบาล มี ห น้ า ที่ ใ นการดู แ ลพิ ทั ก ษ์ สิ ท ธิ ผู้ ป่ ว ย นอกจากนี้ โรงพยาบาลมี แ ผนกที่ ดู แ ลและพั ฒ นาคุ ณ ภาพของการบริ ก ารผู้ ป่ ว ย อย่างต่อเนือ่ ง โดยคำนึงถึงความต้องการและความคิดเห็นของผูป้ ว่ ย พนักงาน: บริ ษั ท เชื่ อ มั่ น ว่ า พนั ก งานคื อ ทรั พ ยากรที่ มี คุ ณ ค่ า สำคั ญ ยิ่ ง ดั ง นั้ น จึ ง ให้ โ อกาสในการทำงานที่ เ ท่ า เที ย มกั น และมี มาตรการที่ จ ะให้ ผ ลตอบแทนที่ เ หมาะสม จั ด ให้ มี ค ณะกรรมการสวั ส ดิ ก าร เพื่ อ ดู แ ลสวั ส ดิ ภ าพและความปลอดภั ย ของพนักงาน รวมทั้งมีการพัฒนาบุคลากรโดยให้การฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความสามารถ ทักษะการ ปฏิบัติงาน ทักษะการบริหาร ตลอดจนทักษะทางเทคนิค เพื่อให้พนักงานสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมให้พนักงานแสดงความคิดเห็น เสนอข้อร้องเรียนกับผู้บริหารโดยตรง และกิจกรรมเชิดชูเกียรติ พนักงาน เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่พนักงาน บริษัทเชื่อว่าประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี ย่อมเกิดจากความผูกพัน ต่อองค์กรของพนักงาน จึงมุ่งมั่นในการสร้างและมีการสำรวจความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงการ ดำเนินการของบริษัทในด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลให้มีประสิทธิภาพต่อไป คู่ค้า / คู่สัญญา: บริษัทปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้กับคู่ค้าและคู่สัญญา และจ่ายชำระหนี้คู่ค้าและคู่สัญญาอย่างตรงเวลา เจ้าหนี้: บริษัทปฏิบัติตามเงื่อนไขการกู้ยืมเงินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อย่างเคร่งครัด และจ่ายชำระหนี้ตรงเวลา โดยบริษัท เชื่ อ ว่ า การสร้ า งความสั ม พั น ธ์ ที่ ดี กั บ เจ้ า หนี้ รวมทั้ ง การสร้ า งความเชื่ อ มั่ น และไว้ ว างใจเป็ น ความรั บ ผิ ด ชอบที่ บ ริ ษั ท พึงปฏิบัติต่อเจ้าหนี้
84
คู่แข่งทางการค้า: บริ ษั ท ประพฤติ ต ามกรอบกติ ก าการแข่ ง ขั น ที่ ดี ภายใต้ ก รอบของกฎหมาย โดยบริ ษั ท ถื อ ว่ า คู่ แ ข่ ง ทางการค้ า เป็ น ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บริษัทมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพในการให้บริการให้ดียิ่งขึ้นแก่ลูกค้าและผู้ป่วย สังคม: บริษัทมีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมคุณภาพของสังคมและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชากร โดยเฉพาะการรับผิดชอบ ต่อสาธารณะ รวมถึงสิ่งแวดล้อมและชุมชนใกล้เคียง โครงการที่สำคัญของบริษัทในรอบปีที่ผ่านมา ได้แก่ 1. โครงการผ่าตัดหัวใจ 500 ราย เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้ได้รับการรักษา พยาบาลอย่างทันท่วงที และสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างปกติ โดยร่วมกับมูลโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มูลนิธิเด็ก โรคหัวใจในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และสำนักงาน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช) ในการคัดเลือกผู้ป่วย ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่ทางบริษัทจัดขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง เป็นระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2551 - 2555 2. โครงการให้ทุนการศึกษาแก่บุคคลทั่วไป และพนักงานของบริษัท บริษัทให้ความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของทรัพยากร บุคคล จึงได้ริเริ่มโครงการให้ทุนการศึกษาต่อเนื่อง และทุนพัฒนาอาชีพ โดยตลอดระยะเวลา 9 ปีที่บริษัทได้ดำเนิน โครงการดังกล่าว มีผู้ได้รับมอบทุนการศึกษาจำนวน 437 ทุนการศึกษา โดยจำแนกเป็น 3 โครงการ ดังนี้ 2.1 โครงการพั ฒ นาอาชี พ เยาวชนสตรี (Youth Career Development Program: YCDP) ซึ่ ง บริ ษั ท ร่ ว มกั บ องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนหญิงที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย ซึ่งขาดแคลนทุนทรัพย์จากทุกภูมิภาคของประเทศ เข้ารับการอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยเหลือ ผู้ป่วย (Nurse Aid) และหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล (Practical Nurse) และเมื่อสำเร็จหลักสูตรอบรมแล้ว บริษัทจะพิจารณารับเข้าเป็นพนักงานประจำของบริษัทต่อไป 2.2 โครงการให้ ทุ น การศึ ก ษาต่ อ เนื่ อ งในระดั บ ปริ ญ ญาตรี สาขาพยาบาลศาสตร์ โดยบริ ษั ท มอบทุ น การศึ ก ษา แก่ พ นั ก งานผู้ ช่ ว ยเหลื อ ผู้ ป่ ว ย (Nurse Aid) ที่ ส ามารถสอบคั ด เลื อ กเข้ า เรี ย นต่ อ สาขาพยาบาลศาสตร์ ใ น สถานศึกษาที่บริษัทกำหนด ซึ่งบริษัทจะจัดให้นักเรียนทุนฝึกงานกับบริษัทในช่วงปิดภาคการศึกษา และบริษัทจะรับ เข้าทำงานกับบริษัทเมื่อสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีพยาบาลศาสตร์แล้ว 2.3 โครงการให้ทุนการศึกษาต่อเนื่องในระดับประกาศนียบัตร สาขาผู้ช่วยพยาบาล (Practical Nurse) ซึ่งได้รับ การรับรองจากสภาการพยาบาล (Thailand Nursing Council) โดยบริษัทได้มอบทุนการศึกษาให้แก่พนักงาน ผู้ช่วยเหลือผู้ป่วย (Nurse Aid) ให้ได้รับการศึกษาในหลักสูตรดังกล่าว 3. โครงการคลิ นิ ก เคลื่ อ นที่ บ ริ ก ารทางการแพทย์ แ ก่ ป ระชาชนในชุ ม ชนต่ า งๆในกรุ ง เทพมหานคร โดยบริ ษั ท และ กองทุ น ทอมสั น (Thomson Foundation) ได้ จั ด บริ ก ารหน่ ว ยคลิ นิ ก เคลื่ อ นที่ ออกตรวจและให้ บ ริ ก ารทาง สาธารณสุขแก่ประชาชนในชุมชนต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ปี 2544 โดยในปี 2551 คลินิกเคลื่อนที่ให้บริการ ประชาชนไปแล้วทั้งสิ้น 22,730 ราย อีกทั้งยังได้มอบข้าวสารแก่ประชาชนอีกกว่า 20 ตัน โดยตลอด 8 ปีที่บริษัท มูลนิธิ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และกองทุนทอมสันได้ดำเนินกิจกรรมคลินิกเคลื่อนที่ ได้ให้บริการทางสาธารณสุขแก่ประชาชนไป แล้วกว่า 150,000 ราย และมอบข้าวสารแก่ประชาชนไปมากกว่า 127 ตัน 4. โครงการวิ จั ย ยา โดยมู ล นิ ธิ โ รงพยาบาลบำรุ ง ราษฎร์ แ ละบริ ษั ท ร่ ว มกั บ สถาบั น ทางการแพทย์ ต่ า งๆ ทั้ ง ในและ ต่างประเทศ พัฒนาการวิจัยยาและวิทยาการทางการแพทย์ในการรักษาโรค เพื่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการแพทย์ อาทิ การวิจัยยาสำหรับรักษาโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (AIDS) โรคมะเร็ง และโรคปอดบวม เป็นต้น 5. นโยบายเกี่ ย วกั บ สิ่ ง แวดล้ อ ม บริ ษั ท มี น โยบายสิ่ ง แวดล้ อ ม ซึ่ ง มี ก ารสื่ อ สารให้ พ นั ก งานทุ ก คนช่ ว ยกั น อนุ รั ก ษ์ สิง่ แวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ อีกทัง้ มุง่ เน้นสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ เพือ่ รักษาไว้ซงึ่ ความปลอดภัยขององค์กรและชุมชน และมีการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการเปิดเผยสารสนเทศที่มีความสำคัญต่อการตัดสินใจของผู้ถือหุ้นและนักลงทุนอย่าง เท่าเทียมกัน โดยมีนโยบายในการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ถูกต้อง ครบถ้วน เชื่อถือได้ และทันต่อเวลา ผ่านช่องทางต่างๆ ที่หลากหลาย เข้าถึงง่าย เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนได้รับสารสนเทศอย่างกว้างขวาง ข้อมูลต่างๆ ที่บริษัทเปิดเผยต่อสาธารณะนั้น มีทั้งข้อมูลทางการเงิน และข้อมูลที่ไม่ใช่ทางการเงิน เช่น งบการเงิน คำอธิบาย และวิเคราะห์งบการเงิน รายงานความรับผิดขอบของคณะกรรมการต่อรายงานทางการเงิน รายการระหว่างกัน โครงสร้าง
รายงานประจำปี 2551
4.
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
คณะกรรมการ บทบาทหน้าที่ คณะกรรมการชุดย่อย รวมถึงจำนวนครั้งในการเข้าประชุมของกรรมการในแต่ละคณะ รายงานการ กำกับดูแลกิจการ เป็นต้น บริษัทมีช่องทางที่หลากหลายในการสื่อสารกับผู้ถือหุ้นและนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นตามที่กฎหมายกำหนด เช่น แบบ 56-1 รายงานประจำปี เว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และช่องทางอืน่ ๆ เช่น การเปิดเผยข้อมูลของบริษทั ผ่านเว็บไซต์ของบริษทั ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ การพบปะกับนักวิเคราะห์รายไตรมาส (4 ครั้งในปี 2551) การเข้าร่วมกิจกรรม roadshow และ investor conference ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และฮ่องกง (7 ครั้งในปี 2551) การพบปะและการ ประชุมทางโทรศัพท์ระหว่างผู้บริหารกับนักลงทุน (91 ครั้งในปี 2551) บริษัทได้จัดให้มีฝ่ายเลขานุการบริษัทและนักลงทุนสัมพันธ์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนและผู้ถือหุ้น ผู้ที่สนใจสามารถ ติดต่อขอข้อมูลได้ที่โทรศัพท์ 0-2667-2010 อีเมลล์ ir@bumrungrad.com และเว็บไซต์ www.bumrungrad.com 5. ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ โครงสร้างคณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการของบริษัท ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่มากด้วยความรู้และประสบการณ์ในหลายๆ ด้าน กรรมการทุกท่านมี ส่วนร่วมในการกำหนดวิสัยทัศน์ ภารกิจ กลยุทธ์ เป้าหมาย แผนธุรกิจ และงบประมาณของบริษัท ตลอดจนกำกับดูแลให้ฝ่ายบริหาร ดำเนินการให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับกิจการและความมั่นคงสูงสุด ให้กับผู้ถือหุ้น คณะกรรมการมีการประชุมทุกไตรมาสเพื่อพิจารณาการรายงานผลการดำเนินกิจการของฝ่ายบริหาร โดยรายละเอียด ของอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบของกรรมการ สามารถดูได้จากข้อ 5.2(1) โครงสร้างการจัดการ ปัจจุบันคณะกรรมการบริษัทมีจำนวน 16 ท่าน ประกอบด้วย 1. กรรมการบริษทั ทีไ่ ม่ได้เป็นผูบ้ ริหาร จำนวน 9 ท่าน ได้แก่ นายชัย โสภณพนิช นายแพทย์ชาญวิทย์ ตันติพ์ พิ ฒั น์ นางกุลธิดา ศิวยาธร นายแพทย์จอน ยังพิชติ แพทย์หญิงคุณสวรรยา เดชอุดม นายแพทย์อนันต์ เตชะเวช นายชอง โท นายชาตรี โสภณพนิช และ นายเฟลิกส์ เฮอร์ลฮิ ี 2. กรรมการบริษทั ทีม่ าจากฝ่ายบริหาร จำนวน 4 ท่าน ได้แก่ นางลินดา ลีสหะปัญญา นายแพทย์ธนิต เธียรธนู นายเคอร์ตสิ จอห์น ชโรเดอร์ และนายแพทย์สิน อนุราษฎร์ 3. กรรมการอิสระ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นอิสระตามหลักเกณฑ์ที่ ก.ล.ต. กำหนด และเป็นกรรมการตรวจสอบ จำนวน 3 ท่าน ได้แก่ นางสาวโสภาวดี อุตตโมบล นายสรดิษ วิญญรัตน์ และนายบุญปกรณ์ โชควัฒนา กรรมการทีเ่ ป็นอิสระ 3 ท่าน คิดเป็น 19% ของกรรมการทัง้ คณะ ทัง้ นี้ บริษทั มีแผนทีจ่ ะเพิม่ จำนวนของกรรมการอิสระ ให้มากกว่า 1 ใน 3 ของกรรมการทั้งคณะ เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 การแยกตำแหน่ง: บริษัทกำหนดบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบระหว่างคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหารระดับสูงอย่างชัดเจน โดยกรรมการ บริษัทมีหน้าที่ความรับผิดชอบในการกำหนดนโยบายและกำกับดูแลการดำเนินงานของผู้บริหารระดับสูงในระดับนโยบาย ขณะที่ ผู้บริหารระดับสูงทำหน้าที่บริหารงานของบริษัทในด้านต่างๆ ให้เป็นไปตามนโยบายที่กำหนด ดังนั้นประธานกรรมการบริษัทและ กรรมการผู้จัดการจึงเป็นบุคคลคนละคนกัน การดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทจดทะเบียนอื่น: บริษัทตระหนักถึงคุณค่าของประสบการณ์ที่กรรมการและผู้บริหารจะได้รับจากการเป็นกรรมการในบริษัทอื่น จึงมีนโยบาย ให้กรรมการบริษัทสามารถดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรวมกัน ไม่เกิน 8 บริษัท เพื่อให้สามารถจัดสรรเวลาให้แต่ละบริษัทอย่างเพียงพอ ส่วนผู้บริหารนั้น นอกจากตำแหน่งกรรมการบริษัทย่อย และบริษัทร่วมแล้ว กรรมการผู้จัดการ ผู้อำนวยการด้านบริหารกลุ่ม และผู้บริหารของบริษัท สามารถดำรงตำแหน่งกรรมการ และ/หรือกรรมการอิสระในบริษัทอื่นอีกไม่เกิน 3 บริษัท และการรับตำแหน่งดังกล่าวต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท เลขานุการบริษัท: คณะกรรมการบริษัทแต่งตั้งนางจุฑาทิพ อดุลพันธุ์ ดำรงตำแหน่งเลขานุการบริษัท เพื่อทำหน้าที่ดูแลและจัดการการประชุม ของคณะกรรมการบริษัท การประชุมผู้ถือหุ้น การให้คำแนะนำแก่คณะกรรมการบริษัทและผู้บริหารเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัท รวมถึงการ จัดเก็บเอกสารที่เกี่ยวข้อง
86
คณะกรรมการชุดย่อย คณะกรรมการบริษัทได้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อยต่างๆ เพื่อช่วยคณะกรรมการพิจารณา และปฏิบัติหน้าที่เฉพาะเรื่อง และ เสนอให้คณะกรรมการพิจารณาหรือรับทราบ โดยรายชื่อกรรมการ รวมถึงขอบเขตและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการย่อยชุดต่างๆ ได้ระบุไว้แล้วในข้อ 5.2(1) โครงสร้างการจัดการ โดยคณะกรรมการชุดย่อย มีดังนี้ 1. คณะกรรมการตรวจสอบ ประกอบด้วยกรรมการอิสระ 3 ท่าน คณะกรรมการตรวจสอบมีการประชุม 4 ครั้งในปี 2551 และได้ รายงานการผลการประชุมต่อคณะกรรมการบริษัท สำหรับรายละเอียดการเข้าร่วมประชุมของกรรมการแต่ละท่าน ได้ระบุไว้ใน ข้อ 5.2(3) ค่าตอบแทนกรรมการ คณะกรรมการชุดย่อยและผู้บริหาร 2. คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ประกอบด้วยกรรมการอิสระ 1 ท่าน ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการสรรหาและ กำหนดค่าตอบแทน และกรรมการทีไ่ ม่ได้เป็นผูบ้ ริหาร 2 ท่าน คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนมีการประชุม 2 ครัง้ ในปี 2551 และได้รายงานการผลการประชุมต่อคณะกรรมการบริษัท สำหรับรายละเอียดการเข้าร่วมประชุมของกรรมการแต่ละ ท่าน ได้ระบุไว้ในข้อ 5.2(3) ค่าตอบแทนกรรมการ คณะกรรมการชุดย่อยและผู้บริหาร 3. คณะกรรมการอำนวยการโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (Governing Board) ประกอบด้วยกรรมการบริษัท 3 ท่าน ผู้บริหาร 2 ท่าน แพทย์ 6 ท่าน และกรรมการทีไ่ ด้รบั เชิญ 1 ท่าน ในปี 2551 คณะกรรมการอำนวยการโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มกี ารประชุม 6 ครัง้ 4. คณะกรรมการการลงทุน ประกอบด้วยกรรมการอิสระ 1 ท่าน กรรมการที่ไม่ได้เป็นผู้บริหาร 2 ท่าน และกรรมการที่เป็นผู้บริหาร 2 ท่าน ในปี 2551 คณะกรรมการการลงทุนมีการประชุม 2 ครั้ง บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ คณะกรรมการบริษัทมีความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นทุกคน ทั้งผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และผู้ถือหุ้นรายย่อย เพื่อให้มั่นใจว่า บริษัทมีการ ดำเนินธุรกิจและการปฏิบัติในเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และนโยบาย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้น ภายใต้กรอบของจริยธรรมธุรกิจ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกราย ดังนั้นคณะกรรมการบริษัทมีหน้าที่และ ความรับผิดชอบดังที่ได้ระบุไว้ในข้อ 5.2(1) โครงสร้างการจัดการ ระบบการควบคุมและการตรวจสอบภายใน: บริษัทได้ให้ความสำคัญกับระบบการควบคุมภายในและการตรวจสอบภายใน โดยได้จัดตั้งหน่วยงานตรวจสอบภายใน ซึ่งมี วัตถุประสงค์หลักเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้มีระบบการควบคุมภายในที่ดีภายในองค์กร เพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินงาน และเพื่อให้มีคุณภาพในระบบงานและในการปฏิบัติงาน โดยมุ่งเน้นถึงความมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และมีการใช้จ่ายอย่าง ระมัดระวัง สมประโยชน์ และรวมถึงการปฏิบตั งิ านเพือ่ ให้เป็นไปตามนโยบายและ/หรือความต้องการของผู้บริหาร เพื่อให้แน่ใจว่าหน่วยงานตรวจสอบภายในมีการทำงานที่เป็นอิสระ และมีการถ่วงดุลอำนาจ หน่วยงานตรวจสอบภายใน มีหน้าที่รายงานผลการดำเนินงานโดยตรงต่อคณะกรรมการตรวจสอบ ความขัดแย้งทางผลประโยชน์: เพื่อป้องกันปัญหาความขัดแย้งของผลประโยชน์ คณะกรรมการมีการพิจารณารายการที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และรายการที่เกี่ยวโยงกันอย่างรอบคอบ และมีการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยมีราคาและเงื่อนไขเสมือนการทำรายการกับบุคคลภายนอก และได้ เปิ ด เผยรายละเอี ย ด มู ล ค่ า รายการ คู่ สั ญ ญา เหตุ ผ ลความจำเป็ น ไว้ ใ นงบการเงิ น รายงานประจำปี และแบบ 56-1 แล้ ว การประชุมคณะกรรมการบริษัท การประชุมคณะกรรมการบริษัทถือเป็นหน้าที่สำคัญของกรรมการบริษัทที่จะต้องเข้าร่วมประชุมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรับทราบและ ร่วมตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยในแต่ละปี บริษัทกำหนดให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการโดยปกติปีละ 4 ครั้งทุก ไตรมาส โดยมีการกำหนดวันประชุมล่วงหน้าตลอดทั้งปี และอาจมีการจัดประชุมครั้งพิเศษตามความจำเป็น ในปี 2551 ได้มีการ ประชุมคณะกรรมการจำนวน 4 ครั้ง โดยรายละเอียดการเข้าร่วมประชุมของกรรมการแต่ละท่าน อยู่ในข้อ 5.2(3) ค่าตอบแทน กรรมการ คณะกรรมการชุดย่อยและผู้บริหาร ในการประชุมแต่ละครั้ง จะมีการกำหนดวาระการประชุมล่วงหน้าไว้อย่างชัดเจน โดยประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ เป็นผู้ร่วมกำหนดวาระการประชุมและพิจารณาเรื่องเข้าสู่วาระการประชุมคณะกรรมการบริษัท และเปิดโอกาสให้กรรมการแต่ละท่าน สามารถเสนอเรื่องต่างๆ เพื่อเข้ารับการพิจารณาเป็นวาระการประชุมได้ เลขานุการบริษัทเป็นผู้จัดทำหนังสือเชิญประชุมพร้อมวาระ การประชุมและเอกสารต่างๆ ส่งให้คณะกรรมการก่อนการประชุมล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้กรรมการได้มีเวลาศึกษาหาข้อมูล อย่างเพียงพอก่อนเข้าร่วมประชุม
รายงานประจำปี 2551
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
โดยปกติการประชุมจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง และในการพิจารณาเรื่องต่างๆ ประธานในที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้กรรมการ ได้แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ นอกจากนี้ ผู้บริหารระดับสูงจะได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมด้วยเพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์รวมทั้งรับ ทราบนโยบายโดยตรงจากคณะกรรมการบริษัท เพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในกรณีที่กรรมการท่านใดมี ส่วนได้เสีย กรรมการท่านนั้นจะไม่เข้าร่วมประชุมและ/หรือไม่ใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนในเรื่องนั้น เมื่อสิ้นสุดการประชุม เลขานุการบริษัทจะเป็นผู้ที่มีหน้าที่จัดทำรายงานการประชุมและจัดส่งให้ที่ประชุมกรรมการรับรอง ความถูกต้องในครั้งถัดไป ทั้งนี้ กรรมการบริษัทสามารถแสดงความคิดเห็น ขอแก้ไข เพิ่มเติมรายงานการประชุมให้มีความละเอียดถูก ต้องมากที่สุด และเลขานุการบริษัทเป็นผู้จัดเก็บรายงานการประชุมที่ได้รับการรับรองจากที่ประชุมแล้ว พร้อมกับเอกสารประกอบการ ประชุมอย่างครบถ้วน เพื่อให้คณะกรรมการและผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบได้ ค่าตอบแทนคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหาร บริษัทมีการพิจารณาค่าตอบแทนที่เหมาะสมให้แก่คณะกรรมการและผู้บริหาร โดยได้มีการเสนออนุมัติต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อ จ่ายค่าตอบแทนให้แก่คณะกรรมการบริษัทซึ่งอยู่ในรูปแบบของค่าตอบแทนรายปี และเบี้ยประชุมรายครั้ง โดยจำนวนเงินที่จ่ายจะ พิ จ ารณาเปรี ย บเที ย บกั บ การจ่ า ยค่ า ตอบแทนกรรมการของบริ ษั ท ที่ มี ข นาดใกล้ เ คี ย งกั น และอยู่ ใ นอุ ต สาหกรรมเดี ย วกั น ใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ส่วนคณะกรรมการชุดย่อย ได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของเบี้ยประชุมรายครั้งอย่างเดียว ค่าตอบแทนผู้บริหาร อยู่ในรูปของเงินเดือนและโบนัส และขึ้นอยู่กับหน้าที่ความรับผิดชอบ ผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารแต่ละ ท่าน ประกอบกับผลการดำเนินงานของบริษัท สำหรับรายละเอียดค่าตอบแทนกรรมการบริษัทปี 2551 ซึ่งได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น บริษัทได้เปิดเผยจำนวนเงินเป็นราย บุคคลและได้เปิดเผยค่าตอบแทนรวมของผู้บริหาร ในข้อ 5.2(3) ค่าตอบแทนกรรมการ คณะกรรมการชุดย่อยและผู้บริหาร การพัฒนากรรมการและผู้บริหาร บริษัทได้มีการชี้แจงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ให้แก่กรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการบริษัทเป็นครั้งแรก ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของธุรกิจ แนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท และกฎหมาย กฎเกณฑ์ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับ กรรมการบริษัท นอกจากนี้ บริษัทได้สนับสนุนโครงการการพัฒนากรรมการและผู้บริหารระดับต่างๆอย่างสม่ำเสมอ เช่น การฝึกอบรมและการ สัมมนา ซึ่งจัดโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น กรรมการส่วนใหญ่จำนวน 11 คน ได้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการเป็นกรรมการบริษัทจากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการ บริษัทไทย ดังต่อไปนี้ 1. หลักสูตร Chairman: นายชัย โสภณพนิช และนางสาวโสภาวดี อุตตโมบล 2. หลักสูตร Director Certification Program (DCP): นายชัย โสภณพนิช นางลินดา ลีสหะปัญญา นางกุลธิดา ศิวยาธร นายบุญปกรณ์ โชควัฒนา และนายเคอร์ติส จอห์น ชโรเดอร์ 3. หลักสูตร Director Accreditation Program (DAP): นายชาตรี โสภณพนิช นายแพทย์อนันต์ เตชะเวช นายชอง โท แพทย์หญิงคุณสวรรยา เดชอุดม นางสาวโสภาวดี อุตตโมบล นายสรดิษ วิญญรัตน์ และนายบุญปกรณ์ โชควัฒนา 4. หลักสูตร Audit Committee Program (ACP): นางกุลธิดา ศิวยาธร และนางสาวโสภาวดี อุตตโมบล 5. หลักสูตร Role of Compensation Committee (RCC): นายบุญปกรณ์ โชควัฒนา 6. หลักสูตร Chartered Director: นางกุลธิดา ศิวยาธร 7. หลักสูตร Quality Financial Reporting: นางกุลธิดา ศิวยาธร
88
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
33 สุขุมวิท ซอย 3 กรุงเทพ 10110 โทรศัพท์ +66 (0) 2667 1000 โทรสาร +66 (0) 2667 2525 E-mail:ir@bumrungrad.com www.bumrungrad.com พิมพ์บนกระดาษรีไซเคิล