ปีท่ี 11 ฉบับที่ 4 ประจำ�เดือนเมษายน 2013
http://www.catholic.or.th/sarnbkk/
รูปปั้น อนุสาวรีย์ หรืออนุสรณ์สถานเท่านั้น คงจะไม่เพียงพอ ที่จะทำ�ให้ผู้คนในปัจจุบันพบพระเจ้าได้ หมายความว่า เพียงแค่มีวัดที่ เป็นเพียงอนุสรณ์สถานขององค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น แม้จะยิ่งใหญ่ และงดงามเพียงใด ก็ไม่เพียงพอเพื่อการนี้ พวกเราคริสตชนในปัจจุบัน จะต้องนำ�เสนอพระเจ้าองค์ความรัก ผ่านทางชีวติ ของเรา เพราะเราได้สมั ผัสและเชือ่ ในความรักของพระเจ้า ต่อเราแล้ว และต่อไปนี้ เราปรารถนาจะแบ่งปันขุมทรัพย์ สุดประเสริฐที่เราได้รับมานี้แก่พี่น้องคนไทยอื่นๆ ต่อไป ให้พวกเขาได้สัมผัสและเชื่อในความรักของพระองค์ เช่นเดียวกัน ผ่านทางชีวิตและการกระทำ�ของเรา วาทะพระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พระอัครสังฆราชอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ บทเทศน์ฉลองวัดพระมารดานิจจานุเคราะห์ วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม 2011
วิถชี มุ ชนวัด...
3
เมื่อพี่น้องไปเยี่ยมเยียนกัน น. เอกสารเดือนเมษายน
พระคัมภีร์
คูม่ อื ชีวติ ของ ชุมชนศิษย์พระคริสต์
ปัสกา...พระเยซูเจ้า
4
น.
8
ทรงกลับคืนพระชนมชีพ น. จากบรรดาผูต้ าย
พระคาร์ดินัลชาวอาร์เจนตินา ฮอร์เก มาริโอ แบร์โกลิโอ อายุ 76 ปี ได้รับเลือก เป็นสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และทรงเลือกใช้พระนาม “ฟรังซิส” การเลือกตั้งสำ�เร็จลงเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งเต็มวัน วันแรก ในการลงคะแนนครั้งที่ 5 นับว่าการเลือกตั้ง พระสันตะปาปาครั้งนี้จบลงรวดเร็วอย่างไม่คาด เพราะเมื่อเริ่มการเลือกตั้งดูเหมือนจะมีพระคาร์ดินัลที่น่าจะได้รับเลือกหลาย พระองค์ และไม่มีพระองค์ใดได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษชัดเจน พระสันตะปาปาลาตินอเมริกาพระองค์นที้ รงเป็นสมาชิกคณะเยสุอติ ทรงได้รบั เลือกโดยคะแนนเสียง อย่างน้อย 2 ใน 3 ของ บรรดาพระคาร์ดินัล 115 องค์ จาก 48 ประเทศ ซึ่งลงคะแนนลับภายในโบสถ์ซิสติน ท่านเป็นพระอัครสังฆราชของกรุงบัวโนสไอเรสตั้งแต่ปี ค.ศ.1998 เป็นผู้ทำ�งานแบบเงียบๆ อยู่ใกล้ชิดกับประชาชน ท่านใช้รถประจำ�ทาง ไปเยี่ยมเยียนคนยากจน ดำ�เนินชีวิตอยู่ในห้องชุดเรียบง่าย และทำ�อาหารรับประทานเอง ชาวบัวโนสไอเรสหลายคนรู้จักท่าน เพียงในนามของ “คุณพ่อฮอร์เก” ท่านได้จัดตั้งเขตวัดใหม่ๆ หลายแห่ง ปรับปรุงสำ�นักงานบริหาร ริเริ่มงาน “เพื่อชีวิต” (ต่อต้านการทำ�แท้ง) และเริ่มโครงการ งานอภิบาลใหม่ๆ หลายโครงการ เช่น คณะกรรมการเพื่อช่วยเหลือผู้หย่าร้าง ท่านเป็นประธานร่วมของสมัชชาพระสังฆราช เมื่อปี ค.ศ.2001 และได้รับเลือกเป็นที่ปรึกษาของสภาสมัชชา ท่านจึงเป็นผู้ที่บรรดาพระสังฆราชของโลกรู้จักดี พระคาร์ดนิ ลั ยังได้เขียนหนังสือหลายเล่มเรือ่ งชีวติ จิตและการรำ�พึงภาวนา และกล่าวอย่างชัดเจนต่อต้านการทำ�แท้งและการ แต่งงานระหว่างคนเพศเดียวกัน เมื่อปี ค.ศ.2010 เมื่อประเทศอาร์เจนตินาเป็นประเทศแรกในทวีปลาตินอเมริกาที่รับรองการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน พระคาร์ดินัลแบร์โกลิโอได้สนับสนุนคณะสงฆ์ทั่วประเทศให้ส่งเสริมชาวคาทอลิกคัดค้านการออกกฎหมายนี้ เพราะท่านกล่าวว่า ถ้ากฎหมายนี้มีผลใช้บังคับ “ก็จะเป็นการทำ�ร้ายครอบครัวอย่างรุนแรง”
ยังกล่าวอีกว่า ถ้าคู่แต่งงานเพศเดียวกันรับอุปการะเด็กมาเป็นบุตรบุญธรรม “ก็จะมีผลทำ�ให้ (เด็กเหล่านั้น) ไม่ได้รับ พัฒนาการแบบมนุษย์ที่บิดามารดาต้องเป็นผู้มอบให้ตามพระประสงค์ของพระเจ้า” ในปี ค.ศ.2006 ท่านยังวิพากษ์วิจารณ์ข้อเสนอของรัฐบาลอาร์เจนตินาที่จะรับรองให้ทำ�แท้งได้ในบางกรณีในฐานะที่เป็น ส่วนหนึ่งของการปฏิรูปกฎหมายอย่างกว้างขวาง ท่านกล่าวหารัฐบาลว่าไม่ให้ความเคารพ ต่อค่านิยมที่ชาวอาร์เจนตินาส่วนใหญ่ ยังคงยึดมั่นอยู่ และพยายามที่จะทำ�ให้พระศาสนจักรคาทอลิก “หวั่นไหว ในการปกป้องศักดิ์ศรีของบุคคล” นับตั้งแต่รับตำ�แหน่งเป็นพระอัครสังฆราชของกรุงบัวโนสไอเรสในปี ค.ศ.1998 พระคาร์ดินัลแบร์โกลิโอได้จัดตั้งเขตวัด ใหม่ๆ หลายแห่ง ได้ปรับโครงสร้างของสำ�นักงานบริหาร ได้เอาใจใส่เป็นการส่วนตัวต่อสามเณราลัย และได้ริเริ่มโครงการด้าน อภิบาลหลายโครงการ เช่น คณะกรรมการสำ�หรับผูห้ ย่าร้าง ท่านได้ชว่ ยไกล่เกลีย่ ความขัดแย้งด้านสังคมหรือการเมืองแทบทุกครัง้ ภายในเมือง บรรดาพระสงฆ์บวชใหม่ ได้รับสมญาว่าเป็น “พระสงฆ์ยุคแบร์โกลิโอ” และไม่มีนักการเมืองหรือผู้ทำ�งานด้านสังคม คนใดที่ไม่พยายามหาโอกาสจะพบท่านเป็นการส่วนตัว ฮอร์เก แบร์โกลิโอ เกิดที่กรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินา เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ.1936 ท่านได้รับการศึกษาและปริญญาโทในวิชาเคมีที่มหาวิทยาลัยของกรุงบัวโนส-เอเรส แต่ต่อมาได้ตัดสินใจเป็นพระสงฆ์คณะ เยสุอิตและเข้าศึกษาที่สามเณราลัยเยสุอิตที่วิลลา เดโวโต ท่านได้ศึกษาคณะอักษรศาสตร์ที่กรุงซานติอาโก ประเทศชิลี และได้รับปริญญาวิชาปรัชญาจากมหาวิทยาลัยคาทอลิกแห่ง กรุงบัวโนสไอเรส ช่วงเวลาระหว่างปี 1964 และ 1965 ท่านได้เป็นอาจารย์สอนวิชาวรรณคดีและจิตวิทยาที่วิทยาลัย Immacolada ในแคว้นซานตา-เฟ และในปี 1966 ได้สอนวิชาเดียวกันที่ Colegio del Salvador ที่กรุงบัวโนสไอเรส ในปี ค.ศ.1967 ท่านกลับมาศึกษาเทววิทยาต่อไปและได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ.1969 หลังจาก ได้ปฏิญาณตนเป็นเยสุอิตตลอดชีวิตในปี ค.ศ.1973 แล้ว ท่านได้เป็นนวกาจารย์ที่สามเณราลัย Villa Barilari ที่เมือง San Miguel ต่อมาในปีเดียวนั้นเอง ท่านก็ได้รับเลือกเป็นเจ้าคณะแขวงเยสุอิตของประเทศอาร์เจนตินา ในปี ค.ศ.1980 ท่านกลับมาที่เมือง San Miguel เป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนเยสุอิต ซึ่งเป็นงานที่ผู้ที่เคยเป็นเจ้าคณะ แขวงมาแล้วมักจะไม่ได้รับ ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นพระสังฆราชผู้ช่วยของสังฆมณฑลบัวโนสไอเรสเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1992 ท่านเป็นพระสังฆราชผู้ช่วยหนึ่งในสามท่านของสังฆมณฑล และปฏิบัติตนแบบเงียบๆ ธรรมดา ใช้เวลาเกือบทั้งหมดในการดูแล มหาวิทยาลัยคาทอลิก ให้คำ�ปรึกษาแนะนำ� แก่พระสงฆ์ เทศน์ และโปรดศีลอภัยบาป ท่านได้รบั แต่งตัง้ เป็นพระอัครสังฆราชผูม้ สี ทิ ธิสบื ตำ�แหน่ง และเข้ารับตำ�แหน่งพระอัครสังฆราชองค์ใหม่ของกรุงบัวโนสไอเรส เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1998
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ทรงมีตำ�แหน่งในองค์การบริหารพระศาสนจักรส่วนกลาง (Roman Curia) ดังนี้ - สมณกระทรวงพิธกี รรม และศีลศักดิส์ ทิ ธิ์ (Congregation for the Divine Worship and the Discipline of the Sacraments) - สมณกระทรวงสถาบันนักพรตและองค์การแพร่ธรรม (The Congregation for Institutes of Consecrated Life and for Societies of Apostolic Life) และ - สมณสภาเพื่อครอบครัว (Pontifical Council for the Family) คุณพ่อทัศไนย์ คมกฤส แปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ - บ้านอับราฮัม สามพราน - 14 มีนาคม 2013 เอื้อเฟื้อข้อมูลโดยหนังสือพิมพ์อุดมสาร
2 สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 11 ฉบับที่ 4 เดือนเมษายน 2013
บทความ...แผนกวิถชี มุ ชนวัด
เมื่อวันที่ 9-10 มีนาคม 2556 แผนกวิถีชุมชนวัด ได้จัดโครงการร่วมใจกันสร้างและพัฒนาวิถีชุมชนวัด ณ บ้านผู้หว่าน สามพราน โดย มีคุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ คุณพ่อเชษฐา ไชยเดช ซิสเตอร์กัลยา ตรีโสภา และซิสเตอร์สุวรรณี พันธ์วิไล เป็นวิทยากร ร่วมกับทีมผู้นำ� ฆราวาส 5 ท่าน ได้แก่ คุณวาภรณ์ คุณสมใจ คุณนิวัติ คุณจันทร์เพ็ญ และคุณครูสุพรรณี มีผู้เข้าร่วมโครงการ จำ�นวน 18 ท่าน การอบรม เน้นการมีส่วนร่วมของผู้เข้ารับการอบรม และบทบาทของผู้นำ�ฆราวาสในการนำ�กิจกรรม โดย เป็นการทำ�ความเข้าใจเรื่องของวิถีชุมชนวัด ในด้านของจิตตารมณ์ ความเป็นมา และความรู้พื้นฐาน องค์ประกอบสำ�คัญของวิถีชุมชนวัด พระวาจาของพระเจ้าซึ่งเป็นศูนย์กลางของชีวิต คริสตชนและวิถีชุมชนวัด การแบ่งปันพระวาจา จากพระวาจาสู่ชีวิต และการทำ�ความเข้าใจเอกสารฟื้นฟูชีวิตคริสตชน 36 บทเรียน ของ สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย นอกจากนั้น ในวันที่ 9 มีนาคม เวลา 09.00 - 13.00 น. แผนกวิถีชุมชนวัด ยังได้จัดอบรมให้ความรู้วิถีชุมชนวัด ครั้งที่ 2 ในหัวข้อ “สร้างบ้านไว้บนศิลา : สร้างวิถีชุมชนวัดที่มีพระคริสตเจ้าเป็นจุดศูนย์กลาง” ซึ่งเน้นความสำ�คัญของพระวาจาพระเจ้าเป็นรากฐานของ วิถีชุมชนวัด ที่สักการสถานบุญราศี นิโคลาส บุญเกิด กฤษบำ�รุง มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำ�นวน 14 ท่าน จาก 3 วัด และเป็นเยาวชน 6 ท่าน โดยมีซิสเตอร์สุวรรณี พันธ์วิไล และคุณครูกมลา สุริยพงศ์ประไพ เป็นผู้นำ�ในการอบรม การจัดอบรมให้ความรู้วิถีชุมชนวัด ครั้งที่ 3 จะจัดใน วันที่ 18 พฤษภาคม ที่สักการสถาน เวลา 09.00 - 13.00 น. ส่วนคณะกรรมการตรวจแผนการเรียนรู้หนังสือชุดชีวิตคริสตังที่บูรณาการวิถีชุมชนวัดเข้าไปในการสอนคำ�สอน ก็ยังดำ�เนินการ อย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้ นอกจากนั้นคณะกรรมการดำ�เนินงานวิถีชุมชนวัดยังได้ไปเยี่ยมเยียนและให้กำ�ลังแก่วิถีชุมชนวัดวัดนักบุญอันนา ท่าจีน เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่วัดเซนต์หลุยส์ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม และที่วัดแม่พระประจักษ์เมืองลูร์ด บางสะแก เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ในปีนี้คณะกรรมการตั้งใจ ไปเยี่ยมเยียนเพื่อแบ่งปันและให้กำ�ลังใจแก่พี่น้องวิถีชุมชนวัดในทุกๆ วัด และเมื่อวันที่ 16-17 มีนาคม แผนกวิถีชุมชนวัดได้จัดโครงการเสริมสร้างบุคลากร วิถชี มุ ชนวัด “ผูน้ �ำ 3” โดย คุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ ได้น�ำ บุคลากรวิถชี มุ ชนวัด ไปศึกษาดูงาน วิถีชุมชนวัดที่สังฆมณฑลจันทบุรี โดยไปศึกษาดูงานที่วัดนักบุญฟิลิปและยากอบ หัวไผ่ และ อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล จันทบุรี คุณครูกมลา สุริยพงศ์ประไพ ได้แบ่งปัน ประสบการณ์การไปศึกษาดูงาน พอสรุปได้ดังนี้ เวลา 09.30 น. คณะผู้ศึกษาดูงาน จากอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จำ�นวน 12 คน เดินทางมาถึงวัดหัวไผ่ (วัดนักบุญยากอบและฟิลิป) คุณพ่อเศกสม กิจมงคล คุณพ่อเจ้าวัด กล่าวต้อนรับ ผู้มาศึกษาดูงาน และกล่าวเกี่ยวกับประวัติย่อๆ และบริบทของวัดหัวไผ่ ต่อจากนั้น นาวาเอก วันทา เมทินีพนิต ผู้อำ�นวยการสภาอภิบาลได้เล่าประวัติความเป็นมาของวิถีชุมชนวัดที่วัดหัวไผ่ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ.2011 อุปสรรคของวิถีชุมชนวัดที่หัวไผ่ คือ เยาวชนหาได้น้อยมากที่จะมาร่วมกลุ่มวิถีชุมชนวัด การประชุมบางครั้งมีผู้มาประชุมน้อย อยากให้มีการปลุกจิตสำ�นึกให้อ่านพระวาจา มากขึ้น และให้แกนนำ�ได้รับการอบรมในเรื่องพระวาจาหรือวิถีชุมชนวัดให้มากๆ จากนั้นเป็นการแบ่งปันจากผู้นำ�วิถีชุมชนวัดหัวไผ่ ที่สุด คุณพ่อเศกสม กิจมงคลได้สรุปกิจกรรม ดังนี้ ตัวเราเอง ที่เป็นผู้นำ�คงมีความรู้สึกเช่นนี้ การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ใหญ่เหลือเกิน จะไหวหรือ ถ้าจะเปลี่ยนแปลง วิถีชุมชนวัดน่าจะเป็น ส่วนหนึ่งของเครื่องมือ เราเป็นส่วนหนึ่งของพระศาสนจักร และเป็นเจ้าของพระศาสนจักร/สิ่งที่เราจะต้องเข้าใจร่วมกัน มี 2 เรื่อง ที่จะต้อง ให้ความสำ�คัญ คือ 1.) ให้ความสำ�คัญกับการอ่านพระคัมภีร์ ต้องอ่านให้มากขึ้น 2.) การสร้างผู้นำ�/สิ่งที่จะทำ�ให้งานวิถีชุมชนวัดเกิดผลดี คือ การแสดงออกด้วยความรัก ต้องพยายามพูดคุยกัน ต้องมีกจิ กรรมชัดๆ บ้าง การออกเยีย่ ม ช่วยทำ�ให้งานสำ�เร็จ และผูน้ �ำ ต้องสวดภาวนา มากขึ้นและอ่านพระวาจามากขึ้น เวลา 18.00 น. เราได้ไปเยี่ยมเยียนวิถีชุมชนวัดที่วัดจันทบุรี โดยคุณพ่อประสาน พงศ์ศิริพัฒน์ คุณพ่อเจ้าอาวาส ได้กล่าวต้อนรับและ เล่าประวัติย่อๆ และบริบทของวัดจันท์ ซึ่งมีทั้งหมด 8 เขต แต่ละเขตมีสภาอภิบาลเป็นหัวหน้าเขต ต่อจากนั้น ซิสเตอร์ขวัญเรียม เพียรรักษา ได้แบ่งปันเกี่ยวกับวิถีชุมชนวัด เริ่มมาแล้ว 2 ปี วิถีชุมชนวัด เริ่มจากกลุ่มแบ่งปันพระวาจา ซึ่งมีมาก่อนหน้านี้แล้ว มีการแบ่งปันพระวาจา ทุกสัปดาห์ ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนเป็นวิถีชุมชนวัด ปัจจุบันมีทั้งหมด 6 ชุมชน 5 เขต ในเขตจันทนิมิต 4 มี 2 บ้าน มีการประชุมกันเดือนละ 1 ครั้ง ส่วนกลุ่มแบ่งปันพระวาจาก็ยังคงอยู่ และมีการพบกันทุกวันจันทร์ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งจะมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่าจะพบกัน ที่บ้านไหน กลุ่มนี้ใครอยู่เขตไหนก็สามารถมาร่วมกิจกรรมได้ หลังจากนั้น เราได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มเพื่อไปร่วมประชุมกับวิถีชุมชนวัด 2 ชุมชน และกลุ่มแบ่งปันพระวาจา 1 กลุ่ม จากการศึกษาดูงานวิถีชุมชนวัดที่สังฆมณฑลจันทบุรี เราได้รับประสบการณ์ที่ดีและได้รับการต้อนรับที่ดีเยี่ยมจากคุณพ่อ ซิสเตอร์ พี่น้องคริสตชนจากทั้ง 2 วัดที่เราไปเยี่ยม ขอขอบคุณทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ และเรายินดีต้อนรับคณะผู้ทำ�งานวิถีชุมชนวัดของสังฆมณฑลจันทบุรี จำ�นวน 41 ท่าน โดยการนำ�ของคุณพ่อเศกสม กิจมงคล คุณพ่อ วีระชน นพคุณทอง คุณพ่อสมนึก ประทุมราช และซิสเตอร์ขวัญเรียม เพียรรักษา ที่จะมาสัมมนาที่บ้านผู้หว่าน และมาร่วมประชุมศึกษา ดูงานกับวิถีชุมชนวัด และผู้นำ�วิถีชุมชนวัดของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เรามีความสุขที่ได้ไปเยี่ยมเยียนพี่น้องที่สังฆมณฑลจันทบุรีอย่างไร เราก็หวังว่าพี่น้องสังฆมณฑลจันทบุรีที่มาเยี่ยมเยียนเราจะมีความสุขเช่นกันครับ สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 11 ฉบับที่ 4 เดือนเมษายน 2013 3
บทความ...ผงศิลา
พี่
น้องทีร่ กั เอกสารฟืน้ ฟูชมุ ชนศิษย์พระคริสต์ส�ำ หรับเดือนเมษายน เราจะร่วมกันไตร่ตรองเรือ่ ง “พระคัมภีร์ คู่มือชีวิตของชุมชนศิษย์พระคริสต์” โดยมีเป้าหมายเพื่อ “คริสตชนทุกระดับมีความสัมพันธ์อย่าง ลึกซึ้งกับองค์พระเยซูเจ้าอาศัยพระคัมภีร์ และตระหนักถึงคุณค่าการนำ�พระวาจาของพระเจ้ามาดำ�เนินชีวิต ศิษย์ในชุมชนและสังคมที่ตนเป็นอยู่ เพื่อสานต่อพันธกิจของพระคริสตเจ้า” เอกสารนี้เริ่มต้นด้วยการมองชีวิตปัจจุบัน (Look) กล่าวถึงพระคัมภีร์เป็นหนังสือที่มีผู้นิยมอ่านสูงสุดมาไม่ ต่ำ�กว่า 3 ศตวรรษแล้ว แม้พระคัมภีร์จะเขียนมานานแล้วแต่ยังใช้ได้ดีกับคนในปัจจุบัน พระคัมภีร์เป็นคู่มือสำ�หรับ ชีวิตคริสตชน ฯลฯ พร้อมทั้งคำ�ถามให้เราไตร่ตรองว่า “ทำ�ไมคริสตชนคาทอลิกจำ�นวนมากจึงยังไม่เห็นความ สำ�คัญของพระคัมภีร์?” และ “พระคัมภีร์เป็นคู่มือชีวิตของท่านมากน้อยเพียงไร? เพราะเหตุใด?” พระวาจาของพระเจ้า (Listen) กล่าวถึงพระคัมภีร์ว่า “ทุกถ้อยคำ�ในพระคัมภีร์ได้รับการดลใจจากพระเจ้า และมีประโยชน์ เพื่อสั่งสอน ว่ากล่าวตักเตือนให้ปรับปรุงแก้ไขและอบรมให้ดำ�เนินชีวิตอย่างชอบธรรม คนของพระเจ้าจะได้เตรียมพร้อมและพร้อมสรรพเพื่อกิจการดีทุกอย่าง...” (2ทธ 3:16-4:15) พร้อมทั้งคำ�ถาม ในการไตร่ตรองจากพระวาจาที่ได้ฟังว่า “คำ� หรือวลี หรือประโยคใดจากจดหมายนักบุญเปาโล ที่ท่านได้ฟังนี้ สะกิดใจท่านมากที่สุด เพราะเหตุใด? แบ่งปันการดลใจที่ได้รับจากการฟังพระวาจานี้ ซึ่งพระเจ้าตรัสผ่าน นักบุญเปาโลถึงฉันวันนี้” การดำ�เนินชีวิตศิษย์พระเยซู (Love) เป็นการตอบคำ�ถามที่ว่า “ท่าทีของฉันที่มีต่อพระคัมภีร์ หรือ พระวาจาของพระเจ้าเป็นไปตามที่พระศาสนจักรคาดหวังมากน้อยเพียงไร? มีวิธีการใดที่จะช่วยให้หมู่คณะ/ กลุ่มของเราสนใจที่จะอ่าน/ฟังพระวาจาของพระเจ้าจากพระคัมภีร์มากขึ้น” และ “เราจะร่วมกันส่งเสริมการ อ่านพระวาจาและเจริญชีวิตตามพระคัมภีร์ได้อย่างไร จะทำ�อะไร อย่างไร ใครบ้าง” นอกจากนี้ เอกสารยังได้นำ�เสนอบทเสริมที่น่าสนใจในหลายประเด็น แต่ ณ ที่นี้ ขอนำ�เสนอเพียง 3 ประเด็น จากเอกสารของสังคายนาวาติกันครั้งที่ 2 สหพันธ์สภาพระสังฆราชแห่งเอเชีย และเอกสารของ พระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย คือ 1. “พระศาสนจักรแสดงความเคารพต่อพระคัมภีร์เสมอมา เช่นเดียวกับที่แสดงความเคารพต่อพระกาย ของพระคริสตเจ้า... พระศาสนจักรมิได้หยุดยั้งที่จะนำ�อาหารเลี้ยงชีวิตคริสตชนทั้งจากโต๊ะพระวาจาและจากโต๊ะ พระกายพระคริสตเจ้าเสนอให้สัตบุรุษ...” (Dei Verbum ข้อ 21) 2. “พระศาสนจักรเป็นชุมชนผู้มีความเชื่อในเอเชีย ได้แสวงหา ศึกษาพระคัมภีร์และรำ�พึงภาวนาคำ�สอนของ สภาสังคายนาวาติกันที่ 2 เพื่อฟื้นฟูความเชื่อของพระศาสนจักร...” (FABC III.6,7) 3. พระศาสนจักรได้เรียกร้องให้ชมุ ชนคริสตชนมีบทบาทในสังคม “เป็นหน้าทีข่ องชุมชนคริสตชนทีจ่ ะวิเคราะห์ สถานการณ์ที่เหมาะสมต่อประเทศของตนอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้แสงของพระวาจาอันมิอาจเปลี่ยนแปลงใน พระวรสารส่องสว่างต่อสถานการณ์ และเพื่อค้นหาหลักการเพื่อพิจารณาไตร่ตรองและวินิจฉัยและแนวทาง สำ�หรับ ดำ�เนินงานจากคำ�สอนทางด้านสังคมของพระศาสนจักร (O.A. 4) เพื่อการมีส่วนทำ�ให้อาณาจักรพระเจ้าเป็นจริง เป็นการมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างวัฒนธรรมใหม่แห่งการให้แบ่งปันความเมตตาและสันติตามจิตตารมณ์แห่ง พระวรสาร” การพิจารณาไตร่ตรองนี้สามารถนำ�มาประยุกต์ใช้ในองค์กร หน่วยงาน กลุ่ม และขบวนการของ พระศาสนจักรได้ (จงแล่นเรือฯ หน้า 113) 4 สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 11 ฉบับที่ 4 เดือนเมษายน 2013
บอกขาวเลาสาร
แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ
พิธีบูชาขอบพระคุณถวายพระพรแด่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส
สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย ร่วมกับสถานเอกอัครสมณทูตวาติกันประจำาประเทศไทย จัดพิธีบูชาขอบพระคุณถวายพระพร แด่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก โอกาสเข้ารับตำาแหน่งของพระองค์ วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2013 เวลา 17.00 น. ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรัก โดยมีพระอัครสังฆราชหลุยส์ จำาเนียร สันติสุขนิรันดร์ พร้อมด้วยพระสังฆราช ทั้ง 10 สังฆมณฑล พระสมณทูต พระคาร์ดินัลฯ นักบวชชายหญิง และพี่น้องสัตบุรุษจำานวนมาก
ฉลอง 100 ปี วัดนักบุญยอแซฟ หนองรี วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม 2013 เวลา 10.30 น. พิธีบูชาขอบพระคุณ โอกาสฉลอง 100 ปี วัดนักบุญยอแซฟ หนองรี โดย พระอัครสังฆราช เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พร้อมด้วย พระสังฆราชกิตติคุณสังวาลย์ ศุระศรางค์ คุณพ่อธนันชัย กิจสมัคร หัวหน้าเขต 4 พระสงฆ์และสัตบุรุษ จำานวนมาก
ฉลอง 50 ปีชีวิตสงฆ์ คุณพ่อวิศิษฏ์ หริพงศ์ ที่วัดนักบุญยอแซฟ หนองรี ฉลอง 50 ปีชีวิตสงฆ์ คุณพ่อวิศิษฏ์ หริพงศ์ ที่วัดนักบุญยอแซฟ หนองรี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยมีพิธีบูชาโมทนา ขอบพระคุณเวลา 10.00 น. โดยคุณพ่อวิศิษฏ์ เป็นประธาน ร่วมกับคุณพ่อวิจิตต์ หลังพิธีมีการรับประทานอาหารร่วมกัน และสัตบุรุษได้ร่วมกัน แสดงความกตัญูกตเวทิตาต่อคุณพ่อวิศิษฏ์ ที่ได้พัฒนาวัดและชุมชน วัดนักบุญยอแซฟ หนองรี ในอดีต
อบรม “วิถีชุมชนวัด (ผู้นำา 3) เมื่อวันที่ 16-17 มีนาคม 2013 คณะกรรมการฝ่ายงานอภิบาล แผนกวิถีชุมชนวัดของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้จัดการอบรม “วิถีชุมชนวัด (ผู้นำา3)” โดยการนำาของ คุณพ่อปยะชาติ มะกรครรภ์ ในการจัดครั้งนี้เป็นการศึกษาและดูงาน ณ สังฆมณฑลจันทบุรี สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 11 ฉบับที่ 4 เดือนเมษายน 2013 5
พิธีมิสซาปลงศพคุณพ่อลออ สังขรัตน์ วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม 2013 เวลา 10.00 น. พระอัครสังฆราช เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช เป็นประธานในพิธีมิสซา ปลงศพ คุณพ่ออันเดร ลออ สังขรัตน์ ร่วมกับพระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู พระสังฆราช สังวาลย์ ศุระศรางค์ พระสังฆราชวีระ อาภรณ์รัตน์ คุณพ่อ ชัชวาล ศุภลักษณ์ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ บรรดาญาติพี่น้อง และสัตบุรุษเป็นจำานวนมาก ณ วัดนักบุญเปโตร สามพราน ท้ายพิธีเคลื่อนศพ ไปยังสุสานวัดนักบุญเปโตร
ค่ายคำาสอนภาคฤดูร้อน ปีที่ 22 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2013 ที่ผ่านมา แผนกคริสตศาสนธรรมอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ นำาโดย คุณพ่อเอกรัตน์ หอมประทุม และ ทีมคุณครูคำาสอน จัดค่ายคำาสอนภาคฤดูร้อน ปีที่ 22 ที่บ้านสวนยอแซฟ สามพราน นครปฐม โดยมีผู้ปกครองที่สนใจส่งบุตรหลานเข้าร่วม กิจกรรมค่ายคำาสอนทั้งหมด จำานวน 31 คน เป็นเด็กรับศีลล้างบาป 3 คน ศีลมหาสนิท จำานวน 11 คน ศีลกำาลัง 13 คน และรื้อฟื้นคำาสัญญา แห่งศีลล้างบาป จำานวน 4 คน
อบรม ร่วมใจกันสร้างและพัฒนา “วิถีชุมชนวัด” เมื่อวันที่ 9 – 10 มีนาคม 2013 แผนกวิถีชุมชนวัด ฝ่ายงานอภิบาล อัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ โดย คุณพ่อเชษฐา ไชยเดช ผู้จัดการแผนกวิถีชุมชนวัด คุณพ่อถนอมศักดิ์ เลื่อนประไพ ผู้ช่วยผู้จัดการแผนกวิถีชุมชนวัด ร่วมกับแผนกองค์กรคริสตชนฆราวาส โดย คุณพ่ออภิเดช สุภาจักร์ ผู้จัดการแผนก ได้จัดโครงการร่วมใจกันสร้างและพัฒนา วิถีชุมชนวัด ณ บ้านผู้หว่าน สามพราน โดยมี คุณพ่อปยะชาติ มะกรครรภ์ คุณพ่อ เชษฐา ไชยเดช ซิสเตอร์กัลยา ตรีโสภา และซิสเตอร์สุวรรณี พันธ์วิไล เป็นวิทยากร มีผู้เข้าร่วมโครงการ จำานวน 18 ท่าน
ค่ายปสกาสัมผัสชีวิต เมื่อวันที่ 14 – 17 มีนาคม 2013 แผนกเยาวชนอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ นำาโดย คุณพ่อสราวุธ อมรดิษฐ์ ผูจ้ ดั การแผนกฯ จัดค่ายปัสกาสัมผัสชีวติ ปี 2013 ขึน้ ภายใต้หวั ข้อ “จงมีความเชือ่ อย่างมัน่ คง” (คส. 2:7) ณ วัดอัครเทวดาราฟาแอล (ปากน้าำ ) โดยมี คุณพ่อวิทยา ลัดลอย ซิสเตอร์อธิการโรงเรียนเซนต์ราฟาแอล และสัตบุรษุ วัดให้การต้อนรับอย่างอบอุน่ และเป็นกันเอง มีเยาวชนเข้าร่วมครั้งนี้จำานวน 126 คน 6 สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 11 ฉบับที่ 4 เดือนเมษายน 2013
หลั ก สู ต รประกาศนี ย บั ต รครู จิ ต ตาภิ บ าล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ รุ่นที่ 2 กลุ่มงานจิตตาภิบาล ฝ่ายการศึกษา ร่วมกับ ศูนย์คริสตศาสนธรรม ฝ่ายงานอภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ร่วมจัด โครงการ “หลักสูตร ประกาศนียบัตรครูจิตตาภิบาล อัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ รุ่นที่ 2” เพื่อพัฒนาศักยภาพของครู จิตตาภิบาลให้สามารถทำางานอภิบาลและประกาศ ข่าวดีและเป็นการส่งเสริม ครูจิตตาภิบาลให้มี จิตตารมณ์แห่งพระวรสาร การอบรมครั้งที่ 16 หัวข้อ “ฝกปฏิบัติการสอนคำาสอนและคุณธรรม จริยธรรม” เมื่อวันที่ 8-9 มีนาคม 2013 ณ ศูนย์ ฝกอบรมงานอภิบาล บ้านผู้หว่าน
ฟ น ฟู จิ ต ใ จ ผู้ เ ต รี ย ม รั บ ศี ล ล้ า ง บ า ป ผู้ ใ ห ญ่ (เอฟฟาธา) 2013 วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม 2013 อัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ จัดพิธฟี น้ื ฟูจติ ใจผูเ้ ตรียมรับศีลล้างบาปผูใ้ หญ่ (พิธีเอฟฟาธา) ที่ห้องประชุมโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา มีผู้เข้าร่วมครั้งนี้ประมาณ 280 คน โดยพระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช เป็นประธานในพิธี
ปฏิทินกิจกรรม เดือนเมษายน 2013 8-11 เม.ย. สัมมนาพระสงฆ์อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ณ บ้านผู้หว่าน 20 เม.ย. พิธีบูชาขอบพระคุณปฏิญาณตนตลอดชีพ ฉลอง 25 ปี 50 ปี 75 ปี คณะภคินีพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพฯ เวลา 10.00 น. พระอัครสังฆราช เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ประธาน 20 เม.ย. อบรมเสริมทักษะผู้ประสานงานวิถีชุมชนวัด ณ สักการสถานบุญราศีคุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำารุง 21 เม.ย. อบรมพื้นฐานวิถีชุมชนวัด ณ วัดแม่พระประจักษ์แห่งภูเขาคาร์แมล สองพี่น้อง
สัมมนาฟน ฟูชวี ติ ครอบครัว ขัน้ ที่ 1 (ฟฟ.1) รุน่ ที่ 139 แผนกส่งเสริมชีวิตครอบครัว (สชค.) อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ นำาโดย คุณพ่อพรศักดิ์ ชื่นจิตอภิรมณ์ ผู้จัดการแผนกฯ จัดสัมมนาฟื้นฟู ชีวิตครอบครัว ขั้นที่ 1 (ฟฟ.1) รุ่นที่ 139 เมื่อวันที่ 15-17 มี น าคม 2013 ที่ บ้ า นสวนยอแซฟ สามพราน นครปฐม มีคู่เข้าสัมมนาฯ ทั้งสิ้น 7 คู่ และผู้สังเกตการณ์ 2 ท่าน โดยคู่ที่เป็นคาทอลิก 2 คู่ มาจาก ร.ร.เซนต์โยเซฟคอนแวนต์, ต่างถือ 1 คู่ มาจากเขต 4 วัดเซนต์แอนโทนี่ แปดริ้ว และ พุทธ 4 คู่ ผู้สังเกตการณ์มาจากเขต 3 วัดแม่พระ ประจักษ์เมืองลูร์ด บางสะแก
สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 11 ฉบับที่ 4 เดือนเมษายน 2013 7
เกร็ดความรู้คำ�สอน...คุณพ่อเอกรัตน์ หอมประทุม
สวัสดีพี่น้องที่รัก
เราเพิ่งจะฉลองปัสกา การกลับคืนพระชนม์ ของพระเยซูเจ้า ความยินดีนยี้ งั คงอยูก่ บั เรา และ เตื อ นใจเราให้ สำ � นึ ก ถึ ง ความใจดี ข องพระที่ มี ต่อเรา และต่อมนุษย์ทุกคนเสมอ และเรายังคง ฉลองปัสกาทุกๆ อาทิตย์ในบูชามิสซา เรายินดีอะไรในการฉลองปัสกา น้อยคนนัก ที่ตระหนักอย่างแท้จริงถึงการฉลองปัสกา ถึง การร่วมบูชามิสซาในวันอาทิตย์ พูดง่ายๆ คือ เราสำ�นึกถึงความใจดีของพระที่มีต่อมนุษย์ มี ค รอบครั ว ใหญ่ ค รอบครั ว หนึ่ ง มี ฐ านะ ปานกลาง ครอบครัวของน้องสาวกำ�ลังก่อร่าง สร้างตัว จำ�เป็นต้องกู้หนี้ยืมสิน แต่แล้วการเงิน ขาดมือ กำ�ลังจะโดนเจ้าหนี้ยึดทรัพย์ จึงไปหา ครอบครัวพี่ที่เป็นครูซึ่งไม่ได้ร่ำ�รวยอะไร แต่พี่ก็ ใจดีให้นอ้ งยืมเงินก้อนหนึง่ ซึง่ จำ�เป็นมากสำ�หรับ ครอบครัวเขาเอง เขาสามารถผ่านวิกฤตนัน้ มาได้ แต่สถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้นสักเท่าไร กิจการแค่ พออยู่ทำ�ใช้หนี้ไปเดือนชนเดือน แต่คนเป็นพี่ ไม่เคยทวงถามถึงเงินก้อนนั้นเลย ที่สุดหลายปี ต่อมากิจการเริม่ ดีขนึ้ น้องสามารถนำ�เงินมาคืนพี่ กิจการก้าวหน้าใหญ่โตร่ำ�รวย เกินหน้าบรรดา พี่น้องเสียอีก สิง่ ทีป่ ระทับใจคือทุกปีครอบครัวของน้องจะ นำ�ลูกๆ นำ�กระเช้าไปไหว้ขอบคุณสวัสดีครอบครัว ของพี่ ทัง้ พร่�ำ สอนลูกถึงความใจดีทเี่ คยได้รบั เมือ่ มีความยากลำ�บากที่สุด เวลาผ่านมาหลายปี ลูกๆ บางคนเริ่มไม่อยากมาหา ตอนนี้เขาสุขสบาย และมีเรือ่ งอืน่ ๆ มากมายทีต่ อ้ งทำ�พ่อแม่กเ็ ริม่ แก่ ในที่สุดก็มีเพียงลูกคนเดียวที่ยังไปไหว้ สวัสดี ครอบครัวที่เคยช่วยเหลือครอบครัวของตน พี่ น้ อ งที่ รั ก เรื่ อ งที่ พ่ อ เล่ า ให้ ฟั ง เป็ น เรื่ อ ง จริง ซึ่งคล้ายกับความสัมพันธ์ที่เรามีกับพระเจ้า ต่างกันตรงที่พระเจ้ายังคงค้ำ�จุนเราจนกระทั่ง วินาทีนี้ ทุกสิ่งที่เรามี ทุกอย่างที่เราเป็น เงินใน ธนาคาร หุน้ ทีถ่ อื อยู่ บ้านทีอ่ าศัยความเฉียวฉลาด ล้วนมาจากความใจดีของพระเจ้า พระองค์ไม่ เคยทวงบุญคุณ ไม่เคยคิดเอาคืน พ่อแม่ปู่ย่า ตายายของเรารู้ถึงความจริงข้อนี้ดี และเพียร บอกเราซึ่งเป็นลูกเป็นหลาน และเราก็ต้องเพียร บอกเรื่องนี้แก่ลูกหลานของเราต่อไป แต่ไม่ใช่ ทุกคนทีส่ �ำ นึกในความจริงข้อนี้ ดังนัน้ เราคริสตชน เมื่อไปวัดเราจึงไปสรรเสริญ ขอบคุณพระ ไม่ใช่ เพียงเพื่อขอให้โชคดีเท่านั้น ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกท่าน
ต
ามที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้ พระเยซูเจ้า ทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายใน วันที่สามซึ่งเป็นวันอาทิตย์ปัสกา ในเช้าวันปัสกาพวกผู้หญิงใจศรัทธาเปโตรและสานุศิษย์คนที่พระเยซูเจ้าทรง รักได้เห็นอุโมงค์ฝงั ศพว่างเปล่า (เทียบ ยน 20:1-10) ถึงจะมีทหารยามเฝ้าอยู่ และ ได้มีการปิดผนึกทางเข้าอุโมงค์เมื่อวันก่อน บัดนี้หินได้ถูกกลิ้งออกจากปากอุโมงค์ ผ้าป่านถูกวางอยู่แต่ไม่มีพระศพ ข้างใน ตลอดเวลา 40 วันหลังจากนั้นพระเยซูทรงแสดงพระองค์ แก่อัครสาวกและ พิสูจน์ด้วยวิธีการต่างๆ ว่าทรงพระชนม์อยู่ (กจ 1:3) ทรงปรากฏพระวรกาย โดยมิต้องอาศัยทางเข้าจะเป็นประตูหรือหน้าต่างก็ดีสามารถรับประทานอาหาร ตรัสสนทนาหรือสัมผัสแตะต้องหรือให้ผู้อื่นจับสัมผัสพระองค์ ทรงปรากฏองค์ ในที่ต่างๆ ในเวลาเดียวกันบนหนทางสู่เอมมาอูสทรงแสดงองค์ ให้สานุศิษย์ สองคนเห็นทรงอธิบายสิ่งต่างๆ จนกระทั่งพวกเขาเข้าใจจากนั้นก็ทรงปรากฏ องค์ในงานเลี้ยงศีลมหาสนิท (เทียบ ลก 24:13-35) หลังจากนั้นทรงแสดงองค์ แก่พี่น้องมากกว่าห้าร้อยคนในคราวเดียว (1 คร 15:6) พระเยซูเจ้าทรงกลับเป็น ขึ้นมาตามที่ได้ทรงสัญญา นี่เป็นหมายสำ�คัญว่าถึงความตายจะได้เหยียบย่าง มาบนโลกบัดนี้มนุษย์ทุกคนจะได้รับชีวิตนิรันดร์กลับคืนมาอีกครั้งในวาระสุดท้าย ของโลกเพราะมนุษย์อีกผู้หนึ่งได้นบนอบต่อพระเจ้า ข้อความจากพระคัมภีร์ : พระเยซูเจ้าตรัสกับเรา ดังที่ได้ตรัสกับสานุศิษย์ว่า “อย่าท้อแท้ เราชนะโลกแล้ว” (ยน 16:33)
พระเยซูเจ้าผู้กลับเป็นขึ้นมาได้เอาชนะความตายและความชั่วทั้งมวล
พระเยซูเจ้าทรงเลือกความตายแทนการทำ�บาป ดังนั้นพระองค์ได้ชัยชนะ ความตาย เพราะพระองค์ทรงรักพระบิดามากกว่าชีวิต การกลับเป็นขึ้นมาของ พระองค์เป็นหมายสำ�คัญว่าพระเยซูเจ้าบุตรของพระเจ้าซึ่งเป็นมนุษย์เช่นท่าน ทั้งหลายมีความเข้มแข็งเกินกว่าจะยอมถูกล่อลวงให้หลงผิดเกินกว่าจะเป็นเหยื่อ ของบาปและความตายเข้มแข็งยิ่งกว่าซาตาน พระเยซูเจ้าทรงรักพระบิดามากกว่าตนเองและพระบิดาผู้ทรงชีวิตตรัสกับ พระองค์ว่า “ผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา” (มธ 3:17) “วันนี้เราให้กำ�เนิดท่านแล้ว” (สดด 2:7) หากเราอยู่ในพระเยซูเจ้าผู้กลับเป็นขึ้นมา เราก็จะมีความเข้มแข็ง เช่นเดียวกับพระองค์ “อย่าท้อแท้ เราชนะโลกแล้ว” (ยน 16:33) “พระเยซูเจ้าทรง เป็นบุคคลแรกในบรรดาผู้ตายที่กลับคืนชีพ” “พระบุตรจะได้เป็นบุตรคนแรกใน บรรดาพี่น้องจำ�นวนมาก” (รม 8:29) จากหนังสือ “อัตลักษณ์คาทอลิก” หน้า 219-222 จัดพิมพ์โดย “แผนกคริสตศาสนธรรมอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมและข่าวต่างๆ ในระดับวัด เขตและสังฆมณฑล ให้กับสัตบุรุษและบุคลากรในหน่วยงานต่างๆ ของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ 2. เพื่อช่วยฟื้นฟูบทบาทการเป็นผู้มีส่วนร่วมในงานอภิบาลและธรรมทูตในชีวิตของสัตบุรุษ และบุคลากรในหน่วยงานต่างๆ ของอัครสังฆมณฑล 3. เพื่อนำ�เสนอเครื่องมือ และแนวปฏิบัติในงานอภิบาลและธรรมทูตให้กับสัตบุรุษและบุคลากรในหน่วยงานต่างๆ ของอัครสังฆมณฑล สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ผู้รับผิดชอบ : ฝ่ายงานอภิบาลของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ที่ปรึกษา : คุณพ่อพงศ์เทพ ประมวลพร้อม, คุณพ่อเอกรัตน์ หอมประทุม บรรณาธิการ : คุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ กองบรรณาธิการ : นาทลดา จิตรอำ�ไพ, พฤกษา กิจเจริญ, มัลลิกา กิจบำ�รุง, เพชรี ชาวแพรกน้อย พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์อัสสัมชัญ บางรัก กรุงเทพฯ โทร. 0 2233 0523 โทรสาร. 0 2235 1405 สำ�นักงาน : อาคารคาทอลิกแพร่ธรรม 57 ซอยเจริญกรุง 40 เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทร. 0 2237 7315 โทรสาร. 0 2233 8159 E-mail : webmaster@catholic.or.th