ปีท่ี 11 ฉบับที่ 12 ประจำ�เดือนธันวาคม 2013
http://www.catholic.or.th/sarnbkk/
“เพราะเห็นแก่ความรักของพระเจ้าต่อเรา “เพราะพระเจ้าได้ทรงรักเรามากมายถึงเพียงนี้ แล้ว เราก็ควรรักกันและกันด้วย...” และนี่แหละ คือ ภาพลักษณ์และความเป็นคนของเรา เป็น ภาพลักษณ์ของความเป็นคนที่แท้จริง คือ “การ เป็นคริสตชน” เป็นคนแบบพระคริสต์” วาทะพระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พระอัครสังฆราชอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ บทเทศน์ฉลองวัดนักบุญเทเรซา หนองจอก วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2013
2
เริ่มต้นปีพิธีกรรม น. วิถชี มุ ชนวัด...
ความเข้าใจเบือ้ งต้น ในการอ่านพระวาจา เทศกาลเตรียมรับเสด็จ
พระคริสตเจ้า
4
น.
8
น.
บทความ...ผงศิลา
พี่น้องที่รัก เอกสารฟื้นฟูชุมชนศิษย์พระคริสต์สำ�หรับเดือนธันวาคม เราจะร่วมกันไตร่ตรองเรื่อง “บทบาทของคริสตชนฆราวาส” โดยมีเป้าหมาย “เพื่อคริสตชนฆราวาสตระหนักถึงคุณค่าและบทบาทของตนในการมีส่วนร่วมในพันธกิจของพระศาสนจักร” เอกสารนีเ้ ริม่ ต้นด้วยการมองชีวติ ปัจจุบนั (Look) กล่าวถึงชุมชนเล็กๆ ทีร่ เี วอร์ไซด์ซงึ่ อาศัยอยูห่ า่ งไกลจากวัด หลังจากการประชุมครัง้ หนึง่ ได้ตกลงกันว่าจะสร้างโรงสวดเล็กๆ หลังหนึง่ สำ�หรับคนทีไ่ ปวัดวันอาทิตย์ไม่ได้ เช่น ผูส้ งู อายุ คนเจ็บป่วย ฯลฯ สมาชิกในชุมชนได้มสี ว่ นใน การสร้างโรงสวดนีต้ ามกำ�ลังความสามารถของตน ต่อจากนัน้ เป็นคำ�ถามให้เราไตร่ตรองว่า “เราพบการมีสว่ นร่วมแบบใดบ้างในชีวติ ของ ชุมชนเล็กๆ แห่งรีเวอร์ไซด์นี้?” พระวาจาของพระเจ้า (Listen) (รม 12:4-11) กล่าวถึงพระพรพิเศษมีหลายประการ แต่มพี ระจิตเจ้าพระองค์เดียว... พระจิตเจ้าทรงแสดง พระองค์ในแต่ละคนเพือ่ ประโยชน์สว่ นรวม... พร้อมทัง้ คำ�ถามในการไตร่ตรองจากพระวาจาทีไ่ ด้ฟงั ว่า “คำ� หรือวลี หรือประโยคใดจาก จดหมายนักบุญเปาโล ทีท่ า่ นได้ฟงั นีส้ ะกิดใจท่านมากทีส่ ดุ เพราะเหตุใด?” และ “แบ่งปันการดลใจทีไ่ ด้รบั จากการฟังพระวาจานี้ ซึ่งพระเจ้าตรัสผ่านนักบุญเปาโลถึงท่านในวันนี้” การดำ�เนินชีวติ ศิษย์พระเยซู (Love) เป็นการหาแนวทางปฏิบตั โิ ดยตอบคำ�ถามทีว่ า่ “ในฐานะทีท่ า่ นทุกคนมีพระพรของพระจิตเจ้าที่ แตกต่างกัน ท่านจะมีส่วนร่วมในพันธกิจของพระศาสนจักรที่วัดของท่านอย่างไร?” นอกจากนี้ ในเอกสารไตร่ตรองยังได้กล่าวถึงคำ�สอนเรื่องครอบครัวคริสตชนพอสรุปได้ ดังนี้ 1. “ผู้มีความเชื่อทุกคนของพระคริสตเจ้า มีส่วนสนับสนุนการสร้างพระกายของพระคริสตเจ้าแต่ละคนตามเงื่อนไขและตำ�แหน่ง หน้าที่ของตนเอง” (กฎหมายของพระศาสนจักร มาตรา 208) 2. “สงฆ์และฆราวาสยังคงมีบทบาทแตกต่างกัน แต่มคี วามเสมอภาคกันอย่างแท้จริงระหว่างพวกเขาทุกคนในเรือ่ งศักดิศ์ รี และกิจกรรม อันเป็นสิ่งร่วมกันสำ�หรับผู้มีความเชื่อทุกคน……” (LG 32) 3. “มีความจำ�เป็นอย่างยิง่ ทีจ่ ะต้องสร้างชุมชนคริสตชนทีท่ กุ คนมีสว่ นร่วมอย่างเต็มเปีย่ ม ทีซ่ งึ่ พวกเขาพบว่า ‘เป็นส่วนหนึง่ ’ และเมือ่ รวมกันพวกเขากลายเป็นพระศาสนจักร...เมื่อพวกเขายอมรับการมีส่วนร่วมในพันธกิจของพระศาสนจักร” (FABC 5, มาตรา 3) 4. “วัดทีท่ กุ คนมีสว่ นร่วม ทีซ่ งึ่ พระพรต่างๆ ทีพ่ ระจิตเจ้าประทานให้แก่ผมู้ คี วามเชือ่ ทุกคนเหมือนๆ กัน ไม่วา่ จะเป็นฆราวาส นักบวช และพระสงฆ์ ได้รับการตระหนักและนำ�มาใช้ให้เกิดประโยชน์...” (FABC 5, มาตรา 8) 5. คริสตชนมองไกลออกไปนอกกำ�แพงวัด พวกเขาได้รับเรียกให้สานต่อพันธกิจของพระคริสตเจ้า “ที่จะประกาศการปลดปล่อยแก่ ผู้ถูกจองจำ� คืนการมองเห็นให้แก่คนตาบอด จัดหาเสรีภาพให้แก่ผู้ถูกกดขี่...” (FABC 5 มาตรา 4; ลก 4:18-19)