ปีที่ 10 ฉบับที่ 11 ประจำ�เดือนพฤศจิกายน 2012
http://www.catholic.or.th/sarnbkk/
วิถชี มุ ชนวัด...
ชุมชนแห่งความเชื่อ
3
น.
เอกสารเดือนพฤศจิกายน
พันธกิจของคริสตชน คือรักอย่างที่
พระคริสตเจ้าทรงรัก
ไฟ(ชำ�ระ)
แห่งความรัก
4
น.
8
น.
“ให้เราจัดทำ�ประมาณการค่าใช้จ่ายในการสร้าง ความสัมพันธ์กับพี่น้องเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับบุคคลในครอบครัวของเรา โดยที่เราจะต้องเผื่อใจไว้ เตรียมความเสียสละมากขึ้น เผื่อไว้ให้เพียงพอ ในยามที่ เรารู้สึกว่ามันทำ�ได้ยาก ให้เราตรวจสอบตัวเราเองว่า มีอะไรบ้างที่เราจะต้องแก้ไขและทำ�ให้ดีขึ้น และให้ริเริ่ม การเยียวยารักษาความสัมพันธ์ส่วนใดก็ตามที่ต้องการ การเยียวยารักษาด้วย” วาทะพระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พระอัครสังฆราชอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ บทเทศน์เยี่ยมอภิบาล วัดพระชนนีของพระเป็นเจ้า รังสิต วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2011
ที่มา : ประวัตินักบุญตลอดปี
วันภาวนาอุทิศแด่ผู้ล่วงลับ ของทุกปีจะตรงกับวันที่ 2 พฤศจิกายน การระลึกถึงวิญญาณของผูต้ ายในวันนี้ กำ�เนิดมาจากอารามฤาษีคณะเบเนดิกติน ทีค่ ลูนี และพระสันตะปาปาเบเนดิกโตที่ 15 ก่อนสงครามโลกครัง้ แรก ได้อนุญาต ให้พระสงฆ์สามารถถวายบูชามิสซาได้ 3 มิสซาในวันนี้ ในพิธีปลงศพและในบูชามิสซาที่ระลึกถึงผู้ตายนี้ พระศาสนจักรทรงทำ�การฉลองธรรมล้ำ�ลึกแห่งปัสกาด้วยความเชื่อ โดยมีความหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่าพวกเขาได้กลายเป็นอวัยวะในพระกายทิพย์ของพระคริสตเจ้าผู้ได้สิ้นพระชนม์และ ทรงกลับคืนชีพ โดยอาศัยศีลล้างบาปเราจะสามารถผ่านไปสู่ชีวิตพร้อมกับพระองค์โดยผ่านทางความตายของวิญญาณ และเมื่ อ เราตายจำ � เป็ น ที่ วิ ญ ญาณของพวกเราจะต้ อ งได้ รั บ การชำ � ระล้ า งให้ ส ะอาดบริ สุ ท ธิ์ เ สี ย ก่ อ นขณะที่ ร่ า งกาย กำ�ลังคอยให้พระคริสตเจ้าเสด็จกลับมาและกำ�ลังคอยการกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตายด้วยความหวังที่ทำ�ให้มีความสุข (Ordo Exsequiarum Praenotanda n, 1) ในชีวิตของเรา มนุษย์ไม่เคยรู้สึกพอกับสิ่งที่เราได้รับ เราเจริญชีวิตโดยมุ่งไปสู่อนาคตเสมอ ไปสู่ “วันพรุ่งนี้” ซึ่งเราคอย ด้วยความหวังว่าจะมีอะไรที่ดีขึ้น จะพบกับความสุขมากขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เรามีชีวิตอยู่เพราะว่ามีความหวัง ที่คอยผลักดันเรา แต่ในส่วนลึกแห่งชีวิตของเราที่ทำ�ให้เราลืมความทุกข์ยากลำ�บาก (ไปชั่วขณะ) หรือในส่วนลึกแห่ง ความหวั ง นั้ น มั ก จะมี ค วามคิ ด อั น หนึ่ ง ซ่ อ นแอบแฝงอยู่ แ ละความคิ ด อั น นี้ ก็ มิ ใช่ อ ะไรอื่ น คื อ การคิ ด ถึ ง ความตาย นั่นเอง ซึ่งเป็นความคิดที่ทำ�ให้เราคุ้นเคยกับมันได้ยากมาก ตรงข้ามบ่อยๆครั้งเรากลับพยายามจะขับไล่มันให้ไปไกลๆ จากความคิดของเราเสียอีก แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ความตายเป็นเพื่อนเดินทางที่คอยติดสอยห้อยตามเราไปทุกๆ ฝีก้าว แห่งชีวิตของเรา เช่น ในการจากกัน ในความป่วยไข้ ในความเจ็บปวด ในความทุกข์ยากลำ�บากและในความผิดหวัง ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นเครื่องเตือนเราก่อนว่า “เราจะต้องตาย”
ความตายคือธรรมล้ำ�ลึก
ความตายยังคงเป็นธรรมล้�ำ ลึกทีล่ กึ ลับสำ�หรับมนุษย์อยูน่ นั่ เอง เป็นความลึกลับ แม้ผู้ที่ไม่มีความเชื่อก็ยังหวั่นเกรง การเป็นคริสตชนช่วยให้เปลี่ยนอะไรบางอย่างหรือไม่ ในเมื่อคิดถึงความตาย และในเมื่อต้องเผชิญหน้ากับมัน? คริสตชนควรจะต้องมีทัศนคติเช่นไร เวลาที่ต้อง เผชิญกับคำ�ถามนี้? เป็นคำ�ถามที่ความตายถามเราอยู่ทุกขณะพร้อมกับสัญลักษณ์ ของมัน เป็นคำ�ถามที่ถามเราถึงความหมายสุดท้ายของชีวิตมนุษย์ คือ มนุษย์มีชีวิตอยู่เพื่ออะไรกันแน่..? ทุกสิ่งทุกอย่าง สิ้นสุดลงพร้อมกับความตายเช่นนั้นหรือ...? คำ�ตอบอันนี้เราสามารถพบได้ในส่วนลึกแห่งความเชื่อของเรา สำ�หรับคริสตชนแล้ว ความตายมิใช่เป็นผลลัพธ์ของ โศกนาฎกรรมและสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เราคริสตชนจะต้องเผชิญหน้ากับมันอย่างเย็นชาแบบเสียไม่ได้ แต่ความตายของ คริสตชนอยู่ในร่องรอยหรือเป็นการเจริญรอยตามความตายของพระคริสตเจ้า เป็นถ้วยที่ขมขื่นอันเป็นเพราะผลของบาป ถ้วยกาลิกซ์นที้ เี่ ราทุกคนจะต้องดืม่ จนถึงหยดสุดท้าย เพราะว่าเป็นน้�ำ พระทัยของพระบิดาเจ้า พระองค์ทกี่ �ำ ลังอ้าแขนคอยเรา อยู่ที่ธรณีประตูสวรรค์ความตายที่เป็นชัยชนะขั้นเด็ดขาด เป็นความตายที่จะไม่ใช่ความตายอีกต่อไป ทว่าเป็นชีวิต เป็นเกียรติมงคลในที่สุดเป็นการกลับคืนชีพ สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเป็นมาในรูปแบบใดที่แน่ๆ นั้น เรายังไม่สามารถรู้ได้ในขณะนี้ บางทีเรายังไม่สามารถจะวัดหรือ คำ�นวณถึงความยิ่งใหญ่ไพศาลของพระคุณและพระสัญญาของพระเจ้าก็เป็นได้ เราระลึกถึงการจากไปของบรรดาสัตบุรุษ (ญาติมิตรสหาย ผู้เป็นที่รักของเรา ผู้ที่เรารู้จัก ฯลฯ) ด้วยการมาร่วมถวาย บูชามิสซาซึ่งเป็นการระลึกถึงการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูคริสตเจ้าบนไม้กางเขนและระลึกถึงการเสด็จกลับคืนชีพของ พระองค์ดว้ ย ในบทภาวนาก่อนอนุโมทนาคุณ พระศาสนจักรได้สวดภาวนาด้วยคำ�พูดทีใ่ ห้ก�ำ ลังใจและให้ความหวังแก่เราว่า “ในพระองค์” ความหวังของการกลับคืนชีพทีเ่ ป็นสุขได้สอ่ งแสงสำ�หรับเราทุกคน และถ้าหากว่าการทีเ่ ราทุกคนจะต้องตายอย่าง แน่นอนนั้น ทำ�ให้เราต้องโศกเศร้า พระสัญญาของความไม่รู้ตายในชีวิตหน้าจะช่วยบรรเทาใจเรา “โอ้ข้าแต่พระคริสตเจ้า ชีวิตมิได้ถูกถอดถอนออกไปจากตัวสัตบุรุษของพระองค์ แต่เป็นการเปลี่ยนเป็นชีวิตใหม่ และเมื่อที่พำ�นักอาศัยของถิ่นที่ เนรเทศนี้จะได้ถูกทำ�พังทลายลงไปแล้ว ที่พำ�นักอาศัยที่คงอยู่ชั่วนิจนิรันดร์ในเมืองสวรรค์ก็จะได้รับการจัดเตรียมเอาไว้”
เราจะแลเห็นพระคริสตเจ้าหน้าต่อหน้า
ความตายของคริสตชนมิใช่เป็นเวลาของการสิน้ สุดชีวติ ของเขาบนแผ่นดินนี้ ชีวติ ของเขามิได้หยุดอยู่ แต่เพียงแค่นี้ ชีวติ บนแผ่นดินนีเ้ ป็นการเตรียมสำ�หรับชีวติ สวรรค์ส�ำ หรับชีวติ หน้า ชีวติ ของเราบนแผ่นดินนีเ้ ป็นการฝึกอบรม เป็นการต่อสู้ เป็นการ เลือกว่าเราจะอยูฝ่ า่ ยใด ฝ่ายสวรรค์หรือฝ่ายนรก เวลามนุษย์จะพบตัวเองอยูต่ อ่ หน้าสิง่ ทีเ่ ป็นเป้าหมายแห่งความใฝ่ฝนั ของตน คือเวลานัน้ เราจะพบว่าตัวเราอยูเ่ ฉพาะพระพักตร์พระคริสตเจ้า และพระองค์จะทรงเป็นสิง่ ทีเ่ ราต้องเลือกเอาไว้ตลอดนิรนั ดร์ พระคริสตเจ้าทรงกางพระกรคอยเราอยู่ตั้งแต่นิรันดรภาพแล้วใครก็ตามที่เลือกเป็นศัตรูกับพระคริสตเจ้าจะต้อง ถูกเผาตลอดทั้งชั่วนิรันดรด้วยความรักอันนั้นเองที่เขาได้ปฏิเสธไม่ยอมรับ ส่วนผู้ที่ได้ตัดสินใจอยู่ข้างพระคริสตเจ้า เขาจะ พบกับความชื่นชมยินดีที่เต็มเปี่ยมอันไม่มีที่สิ้นสุดในความรักอันนั้นเช่นกัน
โปรดประทานการพักผ่อนตลอดนิรันดรแก่เขาเถิดพระเจ้าข้า
เราสามารถทำ�อะไรได้บ้างเพื่อผู้ที่ล่วงลับ? พวกเขาเหล่านี้มิได้อยู่ห่างไกลจากเราเลย พวกเขาที่ได้สิ้นใจในอ้อมแขน ของพระเจ้ายังเป็นสมาชิกของพระศาสนจักร การสวดภาวนาเพื่อผู้ที่ล่วงลับเป็นธรรมประเพณีอย่างหนึ่งของพระศาสนจักร ที่จริงคนเราแม้ว่าเวลาที่เขาตายนั้น เขาจะอยู่ในสถานะของพระหรรษทานก็ตามที ถึงกระนั้นเขาก็ยังแปดเปื้อนไปด้วยความบกพร่องต่างๆ ซึ่งจำ�เป็นจะต้อง ได้รับการชำ�ระล้างให้สะอาดบริสุทธิ์ไป สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นเวลาที่เขาตายไปแล้ว การตายนั้นยังหมายถึงการตายจากความชั่วช้าด้วยศีลล้างบาปที่เราได้รับนั้นก็เป็นสัญลักษณ์แห่งความตายและการ กลับคืนชีพของพระองค์ ความตายนีจ้ ะเป็นการชำ�ระล้างให้สะอาดบริสทุ ธิ์ จะเป็นการกลับไปหาองค์พระเจ้า การชำ�ระล้างนี้ จะกินเวลานานสักเท่าใด? เป็นสิง่ ทีเ่ กิดขึน้ นอกเหนือวิสยั ของเรามนุษย์ทจี่ ะบอกได้ ดังนัน้ เราจึงไม่อยูใ่ นขีดขัน้ สามารถกำ�หนด เจาะจงไปได้วา่ นานเท่าใด? และอยูท่ ไี่ หน? อย่างไรก็ตามเราเชือ่ ว่ามีระยะเวลาหนึง่ และมีสถานทีแ่ ห่งหนึง่ ทีว่ ญ ิ ญาณเหล่านี้ จะต้องชำ�ระล้างตนเองให้สะอาดหมดจนให้บริสทุ ธิเ์ สียก่อนทีจ่ ะไปเชยชมพระพักตร์พระเจ้าตลอดนิรนั ดร์ เราทุกคนสามารถ ช่วยเหลือเขาได้โดยอาศัยคำ�ภาวนาต้องสวดให้นานแค่ไหน? กีป่ ?ี กีเ่ ดือน? พวกเราไม่มใี ครรู้ แต่ทสี่ �ำ คัญทีส่ ดุ สวดไปเรือ่ ยๆ ไม่มีวันสิ้นสุด 2 สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 10 ฉบับที่ 11 เดือนพฤศจิกายน 2012
เจาะลึกพิเศษ...แผนกวิถีชุมชนวัด
พี่
น้องที่รัก ในการเริ่มต้นปีแห่งความเชื่อนี้ อยากเชิญชวนพี่น้องอ่าน กจ 2:42-47 ซึ่งกล่าวถึงชีวิตของ คริสตชนกลุ่มแรก ซึ่งเป็นรูปแบบของวิถีชุมชนวัด ชุมชนแห่งความเชื่อ วิถีชีวิตของคริสตชนกลุ่มแรก สรุปได้ดงั นี้ “เขาประชุมกันอย่างสม่�ำ เสมอ เพือ่ ฟังคำ�สัง่ สอนของบรรดาอัครสาวก ดำ�เนินชีวติ ร่วมกันฉันพีน่ อ้ ง ร่วม “พิธีบิขนมปัง” (พิธีมิสซา) และอธิษฐานภาวนา...ผู้มีความเชื่อทุกคนดำ�เนินชีวิตร่วมกัน... เข้าใจกัน สรรเสริญพระเจ้า และได้รับความนิยมจากประชาชนทุกคน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำ�ให้จำ�นวนผู้ที่ได้รับ ความรอดพ้นเพิ่มขึ้นทุกวัน” ในโอกาสปีแห่งความเชื่อนี้จึงอยากให้สมาชิกในวิถีชุมชนวัดของเรา ได้ไตร่ตรองถึงจิตตารมณ์การดำ�เนิน ชีวิตของคริสตชนกลุ่มแรกบ่อยๆ และนำ�ไปเป็นแนวทางในการดำ�เนินชีวิตวิถีชุมชนวัดของเรา และขอรายงาน การอบรมในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ที่ทางแผนกวิถีชุมชนวัดได้จัดมีดังนี้ เมือ่ วันที่ 13-14 ตุลาคม 2012 แผนกวิถชี มุ ชนวัดร่วมกับแผนกองค์กรคริสตชนฆราวาส ได้จดั อบรมความรู้ พื้นฐานวิถีชุมชนวัด อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ณ ศูนย์ฝึกอบรมงานอภิบาล “บ้านผู้หว่าน” สามพราน มีผู้เข้าร่วม โครงการอบรมความรู้พื้นฐาน จำ�นวน 39 คน การอบรมเริ่มต้นด้วยวจนพิธีกรรมเปิด โดยคุณพ่อเชษฐา ไชยเดช จากนัน้ เริม่ กิจกรรมทำ�ความรูจ้ กั กันในกลุม่ ของผูเ้ ข้าอบรม ตามด้วยศึกษาเอกสารพืน้ ฐานความรูท้ วั่ ไปกับ วิถีชุมชนวัด โดยคุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ คุณพ่อเน้นการมีส่วนร่วมของบรรดาฆราวาสในงานแพร่ธรรมของ พระศาสนจักรตั้งแต่สมัยแรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน จากนั้นมีการแบ่งกลุ่มย่อยออกเป็น 4 กลุ่ม เพื่อเป็นการทบทวน เนือ้ หาทีไ่ ด้รบั มาเพือ่ จะได้เข้าใจมากขึน้ ช่วงบ่ายเป็นการศึกษาเอกสาร AsIPA (A1) ในหัวข้อ “การเริม่ ต้นแบ่งปัน พระวาจาสู่ชีวิต” โดยคุณครูสุพรรณี บุญยะรัตน์ เน้นการรู้จักการเปิดพระคัมภีร์ และการภาวนา 7 ขั้นตอน ต่อด้วยเอกสาร AsIPA (A2) เรื่องการแบ่งปันพระวรสาร คือการขุดสมบัติ โดยเน้นการอยู่ร่วมกับพระวาจาและ สัมผัสกับคำ�ทีเ่ ราประทับใจในพระวาจานั้น หลังจากนั้นเป็นพิธีบูชาขอบพระคุณเวลา 17.00 น. โดยคุณพ่อเชษฐา ไชยเดช ช่วงค่�ำ เป็นกิจกรรมออกไปเยีย่ มวิถชี มุ ชนวัดวัดนักบุญเปโตร โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุม่ เพือ่ เป็นการศึกษา ดูงาน ร่วมแบ่งปันพระวาจา และได้มปี ระสบการณ์ในการประชุมกลุม่ ย่อยของวิถชี มุ ชนวัด วันทีส่ องของการอบรม เริ่มต้นด้วยการแบ่งกลุ่มย่อย ร่วมกันภาวนาและรำ�พึงพระวาจาแบบ 7 ขั้นตอน โดยใช้พระวาจาจากพระวรสาร มก 10:17-30 จากนัน้ เป็นพิธบี ชู าขอบพระคุณโดยคุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ จากนัน้ เวลา 09.00 น. เริม่ กิจกรรม การเงียบและแบ่งปันพระวาจา โดยใช้เอกสาร (A4) และแบ่งปันประสบการณ์ที่ไปเยี่ยมกลุ่มคริสตชนวัดนักบุญ เปโตรเมื่อคืนที่ผ่านมา ตามด้วยกิจกรรมแบ่งปันพระวาจาจากการศึกษาพระคัมภีร์ (A6) โดยซิสเตอร์สุวรรณี พันธุ์วิไล จากนั้นเป็นการแบ่งกลุ่มทำ�กิจกรรมแนวทางสู่การเป็นพระศาสนจักรที่มีส่วนร่วม (C8) โดยคุณครู สุพรรณี บุญยะรัตน์ สุดท้ายของการอบรมได้มีการจุดเทียนเป็นเครื่องหมายในการภาวนาในปีแห่งความเชื่อ ซึ่งเป็นการปิดการอบรมในครั้งนี้ ในเดือนพฤศจิกายน คณะกรรมการวิถชี มุ ชนวัดจะไปช่วยงานอบรมวิถชี มุ ชนวัดสำ�หรับพระสงฆ์และนักบวช ที่ศูนย์ฝึกอบรมงานอภิบาล “บ้านผู้หว่าน” โดยมี คุณพ่อโทมัส วี เจ พระสงฆ์ชาวอินเดียเป็นวิทยากร ขอคำ�ภาวนาสำ�หรับการอบรมในครั้งนี้ด้วยครับ สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 10 ฉบับที่ 11 เดือนพฤศจิกายน 2012 3
บทความ...ผงศิลา
พีน่ อ้ งทีร่ กั เอกสารฟืน้ ฟูชมุ ชนศิษย์พระคริสต์ สำ�หรับเดือนพฤศจิกายน เราจะร่วมกันไตร่ตรอง เรื่ อ ง “พั น ธกิ จ ของคริ ส ตชนคื อ รั ก อย่ า งที่ พระคริสตเจ้าทรงรัก” หัวข้อนี้เป็นหัวข้อที่พ่อ คิ ด ว่ า ง่ า ยที่ จ ะหาประสบการณ์ ห รื อ พระวาจา พระเจ้ามาใช้ในการไตร่ตรอง ซึ่งแต่ละกลุ่มอาจจะ เลือกประสบการณ์ที่ใกล้ตัวจากชุมชนของตนและ พระวาจาพระเจ้าทีเ่ กีย่ วข้อง แทนประสบการณ์และ พระวาจาที่เอกสารฯ นำ�เสนอมาให้ก็ได้ ประเด็น สำ � คั ญ อยู่ ที่ ก ารดำ � เนิ น ชี วิ ต ศิ ษ ย์ พ ระเยซู คื อ รักอย่างที่พระคริสตเจ้าทรงรัก เอกสารนี้เริ่มต้นด้วยการมองชีวิตปัจจุบัน (Look) เป็นเรื่องของชุมชนคริสตชนที่มีการ แบ่งปันพระวาจาของพระเจ้า และนำ�เอาพระวาจาของพระเจ้าไปปฏิบัติในชีวิต เป็นความรักใน ภาคปฏิบัติของชุมชนที่ช่วยเหลือสมาชิกในชุมชนที่มีความยากลำ�บาก หลังจากนั้นเป็นการฟังพระวาจาของพระเจ้า (Listen) จากพระวรสารของนักบุญยอห์น บทที่ 13 ข้อ 33-35 ในพระวรสารตอนนี้พระเยซูเจ้าทรงบอกกับอัครสาวกและพวกเราว่า “เราให้ บทบัญญัติใหม่แก่ท่านทั้งหลาย ให้ท่านรักกัน เรารักท่านทั้งหลายอย่างไร ท่านก็จงรักกัน อย่างนั้นเถิด ถ้าท่านมีความรักต่อกัน ทุกคนจะรู้ว่า ท่านเป็นศิษย์ของเรา” สิง่ สำ�คัญทีพ ่ นี่ อ้ งควรเน้นในการไตร่ตรองครัง้ นี้ คือ การดำ�เนินชีวติ ศิษย์พระเยซู (Love) เป็นการตอบคำ�ถามที่ว่า “ในฐานะที่ท่านเป็นคริสตชนผู้สืบสานพันธกิจแห่งรักของพระเยซูเจ้า สิ่งใดบ้างที่ท่านสามารถปฏิบัติ ทั้งส่วนตัวหรือร่วมกันได้ เพื่อนำ�ความรักของพระคริสตเจ้าไปสู่ เพื่อนมนุษย์ในชุมชนของท่าน” ในภาคปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โอกาสนี้ เ ป็ น โอกาสที่ ดี ที่ เราจะร่ ว มกั น ศึ ก ษาคำ � สอนของพระศาสนจั ก รในเรื่ อ งนี้ จ าก ภาคผนวก ซึ่งเอกสารฯ ได้นำ�มาจากหนังสือคำ�สอนพระศาสนจักรคาทอลิก ภาค 3 ข้อ 1931-1933 ซึ่งสรุปได้ว่า “ความรักของคริสตชนต่อเพื่อนมนุษย์เริ่มจากการมองเห็นผู้อื่นว่าเป็น เพื่อนพี่น้องในพระเจ้าองค์เดียวกัน คริสตชนปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ดังพระวาจาที่พระเยซูเจ้า ทรงสอนว่า “สิ่งที่ท่านได้ปฏิบัติต่อพี่น้อง แม้ที่ต่ำ�ต้อยของเรา นั่นแหละเท่ากับได้ปฏิบัติต่อ เราแล้ว” (มธ.25:40) และทีส่ ดุ ความรักต่อเพือ่ นมนุษย์นนั้ เป็นความรักต่อศัตรูดว้ ย (คริสตชนรักผูท้ ี่ ทำ�บาปผิดต่อตน แต่เกลียดการกระทำ�บาป)” นอกจากนัน้ เอกสารนีย้ งั ได้กล่าวถึงแผนอภิบาลของ พระศาสนจักรคาทอลิกประเทศไทย ค.ศ. 2010-2015 ข้อ 51 ที่เน้นว่า “ความรักเป็นหัวใจ และ รากฐานของชีวิตและพันธกิจของพระศาสนจักรในทุกๆ มิติ ซึ่งเห็นเด่นชัดในกิจเมตตา” 4 สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 10 ฉบับที่ 11 เดือนพฤศจิกายน 2012
บอกข่าวเล่าสาร
แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ
กรุงเทพฯ “เปิดปีแห่งความเชื่อ” วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2012 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จัดงาน“เปิดปีแห่งความเชื่อ” ณ สักการสถาน บุญราศีคุณพ่อนิโคลาสบุญเกิด กฤษบำ�รุง เวลา 16.00 น. พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู เป็นประธานใน พิธีบูชาขอบพระคุณเปิดปีแห่งความเชื่อร่วมกับพระสังฆราชยอแซฟ สังวาลย์ ศุระศรางค์ คุณพ่ออิกญาซีโอ เชฟฟาเลีย เลขานุการสถานเอกอัครสมณทูตวาติกันประจำ�ประเทศไทย พระสงฆ์หัวหน้าเขต 6 เขต พร้อมด้วย คณะสงฆ์ และพี่น้องสัตบุรุษมาร่วมพิธีมิสซาเปิดในวันนี้จำ�นวนมาก
ฉลองอารามคาร์แมล สามพราน และสุวรรณสมโภชในชีวิตนักบวชของ คุณแม่อธิการิณี มาร์ธา แห่งพระแม่สกลสงเคราะห์ วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม 2012 อารามคาร์เมไลท์ สามพราน ได้จัดฉลองอารามและฉลอง 50 ปี ชีวิตนักบวชของ คุณแม่อธิการิณี มาร์ธา แห่ง พระแม่สกลสงเคราะห์ (เทเรซา เย็นจิต สมานจิต) เวลา 10.30 น. พิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ โอกาสฉลองอารามและฉลอง 50 ปี ชีวิตนักบวชของ คุณแม่อธิการิณี มาร์ธา แห่งพระแม่สกลสงเคราะห์ โดย พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู พร้อมด้วย พระสังฆราช ลอเรนซ์ เทียนชัย สมานจิต พระสังฆราช ยอแซฟ สังวาลย์ ศุระศรางค์ พระสังฆราช ซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี คุณพ่อ สตีเฟน วัชรินทร์ สมานจิต และคณะสงฆ์จำ�นวนหนึ่ง
ชุมนุมครูคำ�สอนระดับชาติ ครั้งที่ 4 คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม แผนกคริสตศาสนธรรม โดยมีพระสังฆราชวีระ อาภรณ์รัตน์ เป็นประธาน และคุณพ่อเปรมปรี วาปีโส เป็นผู้อำ�นวยการ และคณะกรรมการฯ เชิญครูคำ�สอนทั้ง 10 สังฆมณฑล มาร่วมงานชุมนุมครูคำ�สอนระดับชาติ วันที่ 17-19 ตุลาคม 2012 ณ วิทยาลัยแสงธรรม สามพราน จ.นครปฐม เพื่อส่งเสริมบทบาทครูคำ�สอนใน “ปีแห่งความเชื่อ” โดยมีครูคำ�สอนทั่วถิ่นไทย จำ�นวน 715 คน มาจาก สังฆมณฑลต่างๆ ดังนี้ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ 262 คน สังฆมณฑลราชบุรี 54 คน สังฆมณฑลจันทบุรี 22 คน สังฆมณฑลนครราชสีมา 79 คน สังฆมณฑลเชียงใหม่ 92 คน อัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง 41 คน สังฆมณฑลนครสวรรค์ 6 คน สังฆมณฑลอุบลราชธานี 51 คน สังฆมณฑล สุราษฎร์ธานี 40 คน สังฆมณฑลอุดรธานี 35 คน รวมพลังวันศาสนสัมพันธ์ วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม 2012 เวลา 08.00 น. ฝ่ายงานธรรมทูต อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ แผนกศาสนสัมพันธ์ และคริสตศาสนสัมพันธ์ และคณะกรรมการศาสนสัมพันธ์ นำ�โดยคุณพ่อ สมเกียรติ บุญอนันตบุตร ผู้อำ�นวยการฯ จัดงานรวมพลังวันศาสนสัมพันธ์ ณ อาสนวิหาร อัสสัมชัญ เวลา 09.00 น. คุณพ่อวุฒิเลิศ แห่ล้อม อุปสังฆราช เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณ โอกาสฉลองนักบุญฟรังซิส อัสซีซี องค์อุปถัมภ์งานศาสนสัมพันธ์ จากนั้นรับฟัง การเสวนาหลากหลายเรื่องราว “งานศาสนสัมพันธ์..ของพระศาสนจักร” โดยคุณพ่อ 3 ท่าน คือคุณพ่อสมศักดิ์ ธิราศักดิ์ คุณพ่อสานิจ สถะวีระวงส์ และคุณพ่อวุฒิเลิศ แห่ล้อม โดยมีคุณวารุณี แสงลิ้มสุวรรณ เป็นผู้ดำ�เนินการเสวนา ณ โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 10 ฉบับที่ 11 เดือนพฤศจิกายน 2012 5
อบรมความรู้พื้นฐานวิถีชุมชนวัด เมื่อวันที่ 13-14 ตุลาคม 2012 แผนกวิถีชุมชนวัด ฝ่ายงานอภิบาล อั ค รสั ง ฆมณฑลกรุ ง เทพฯ โดย คุณพ่อเชษฐา ไชยเดช ผู้จัดการ แผนกวิถชี มุ ชนวัด คุณพ่อถนอมศักดิ์ เลื่อนประไพ ผู้ช่วยผู้จัดการแผนก วิ ถี ชุ ม ชนวั ด ร่ ว มกั บ แผนกองค์ ก รคริ ส ตชนฆราวาส โดยคุ ณ พ่ อ อภิ เ ดช สุภาจักร์ ผู้จัดการแผนกฯ ได้จัดอบรมความรู้พื้นฐานวิถีชุมชนวัด ณ บ้าน ผูห้ ว่าน สามพราน โดยมีคณ ุ พ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ ซิสเตอร์กลั ยา ตรีโสภา และซิสเตอร์สุวรรณี พันธ์วิไล เป็นวิทยากร มีผู้เข้าร่วมจำ�นวน 39 คน พักภารกิจฟื้นฟูชีวิตสงฆ์ รุ่นที่ 12 เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2012 เป็ น วั น เริ่ ม ต้ น ของโครงการพั ก ภารกิ จ ฟื้นฟูชีวิตสงฆ์ รุ่นที่ 12 แล้ว โดยมีวตั ถุประสงค์เพือ่ พัฒนาตัวเอง เพื่อพัฒนา สัตบุรุษ ทำ�ให้โปรแกรมนี้ มีคุณค่าสำ�หรับเขา มาหา ประสบการณ์ ห รื อ สร้ า ง ชีวิตและปรับศักยภาพของเรา หรือทักษะต่างๆ หาแนวทางใหม่ๆ โดย ในปีนี้มีจำ�นวน พระสงฆ์ผู้เข้าร่วมจำ�นวน 7 ท่าน
หลักสูตรประกาศนียบัตรครูจิตตาภิบาล กลุ่มงานจิตตาภิบาล ฝ่ายการศึกษาฯ ร่วมกับ ศูนย์คริสตศาสนธรรมฯ ร่วมจัดโครงการ “หลักสูตรประกาศนียบัตรครูจิตตาภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ” เพื่อพัฒนา ศั ก ยภาพของครู จิ ต ตาภิ บ าลให้ ส ามารถทำ � งานอภิ บ าลและประกาศข่ า วดี แ ละเป็ น การ ส่งเสริมครูจิตตาภิบาลให้มีจิตตารมณ์แห่งพระวรสาร การอบรมครั้งที่ 7 หัวข้อ “ชีวิตจิต ครูจิตตาภิบาล” โดยมีบาทหลวงสมชัย พิทยาพงศ์พร อาจารย์ประจำ�วิทยาลัยแสงธรรม เป็นวิทยากร เมื่อวันที่ 5 - 6 ตุลาคม 2012 ณ บ้านผู้หว่าน
เตรียมเยาวชนสู่ชีวิตครอบครัว ย.2 แผนกส่ ง เสริ ม ชี วิ ต ครอบครั ว (สชค.) อั ค รสั ง ฆมณฑลกรุ ง เทพฯ โดยคุ ณ พ่ อ พรศั ก ดิ์ ชื่นจิตอภิรมย์ จัดอบรม “เตรียมเยาวชนสู่ชีวิต ครอบครัว (ย.2) รุ่นที่ 23” เมื่อวันที่ 19–21 ตุลาคม 2012 ที่บ้านสวนยอแซฟ สามพราน นครปฐม มีเยาวชนอายุ 16-25 ปี เข้ารับการอบรมจำ�นวน 33 คน (ช=14, ญ=19) มีพี่เลี้ยง 24 คน
ประชุมคณะกรรมการวิถีชุมชนวัด เมื่อวันอังคารที่ 3 ตุลาคม 2012 เวลา 13.00 น. ที่อาคารแพร่ธรรม คณะกรรมการ วิถีชุมชนวัด พร้อมด้วยแกนนำ�ของแต่ละวัด ได้รว่ มปรึกษาเชิงปฏิบตั เิ พือ่ การสร้างบุคลากร ฆราวาส ให้มีส่วนร่วมในการวางแผนงานและ การฝึกทักษะการเป็นผู้นำ� (Training work shop ) ที่จะจัดขึ้น ใน วันที่ 13 - 14 ตุลาคม 2012 ณ บ้านผู้หว่าน ซึ่งถือเป็นการเปิด กว้าง ในการมีส่วนร่วมของงานวิถีชุมชนวัดอย่างเต็มรูปแบบจริงๆ เพราะเป็นการเปิดให้พระสงฆ์ - นักบวชและฆราวาส ได้มีส่วนในการร่วมกำ�หนด ทิศทางการทำ�งาน และการมีบทบาทร่วมกันมากขึน้ โดยยังคงยึดแนวทางของเอกสาร AsiPa เป็นกรอบในการทำ�งาน และบูรณาการกับประสบการณ์ การทำ�งานจากสนามงานจริงของฆราวาส เพื่อร่วมกันสร้างและพัฒนา “วิถีชุมชนวัด” ให้เป็นพระศาสนจักรแห่งการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง 6 สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 10 ฉบับที่ 11 เดือนพฤศจิกายน 2012
กิจกรรมธรรมทูตสัญจร เมื่อวันอังคารที่ 23 ตุลาคม 2012 แผนกหน่วยงานเคลื่อนที่ (Mobile Teams) ฝ่ายงานธรรมทูตฯ ได้จัดกิจกรรมธรรมทูตสัญจรขึ้น ณ วัดอัครเทวดาราฟาแอล ปากน้ำ� จ.สมุทรปราการ เนื่องในโอกาสฉลองวัดประจำ�ปี 2012 ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ได้รับความสนใจเป็นอย่างดี ทั้งจากบรรดาเด็กๆ และผู้ใหญ่ที่เข้ามาเยี่ยมชมนิทรรศการและร่วมกิจกรรมตอบคำ�ถามเป็นจำ�นวนมากพอสมควร
สั ม มนาฟื้ น ฟู จิ ต ใจคณะกรรมการ แผนกส่งเสริมชีวิตครอบครัว (สชค.) แผนกส่ ง เสริ ม ชี วิ ต ครอบครั ว (สชค.) อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ โดยคุณพ่อพรศักดิ์ ชื่นจิตอภิรมย์ ผู้จัดการแผนกฯ ได้จัดสัมมนาฟื้นฟูจิตใจคณะกรรมการแผนกส่งเสริมชีวิตครอบครัว (สชค.) ที่บ้านสวน ส้มทิพย์รีสอร์ท แอนด์สปา จ.ราชบุรี และในโอกาสนี้ได้เชิญคุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ และคณะ มาแบ่งปันความรู้พื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับ “วิถีชุมชนวัด” ให้กับคณะกรรมการ แผนกส่งเสริมชีวิตครอบครัว (สชค.) โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาครั้งนี้จำ�นวน 50 คน
ค่ายผู้นำ�เยาวชนคาทอลิกระดับชาติ ครั้งที่ 29 วันที่ 15-19 ตุลาคม 2012 แผนกเยาวชน อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ นำ�โดยคุณพ่อสราวุธ อมรดิษฐ์ ผูจ้ ดั การแผนกฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าทีแ่ ละ ตัวแทนเยาวชน จากกรุงเทพฯ จำ�นวน 13 คน เข้าร่วม ค่ายผู้นำ�เยาวชนคาทอลิกระดับชาติ ครั้งที่ 29 ณ วัดนักบุญเทเรซา (โนนแก้ว) อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา ซึ่งจัดโดยแผนกเยาวชน คณะ กรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตชนฆราวาส ซึ่งใน ปี นี้ สั ง ฆมณฑลนครราชสี ม าเป็ น เจ้ า ภาพจั ด งาน สำ�หรับหัวข้อคือ จงชื่นชมในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุก เวลาเถิด (ฟป.4:4)
เยาวชนเขต 3 วันที่ 26-28 ตุลาคม 2012 เยาวชนเขต 3 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ นำ�โดยคุณพ่อ ฉลองรัฐ สังขรัตน์ จิตตาธิการเยาวชนเขต 3 จัดกิจกรรมโครงการสัมมนาและแสวงบุญ เยาวชนเขต 3 “เยาวชนกับวิถีชุมชนวัดปี 2” วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล ปากช่อง และบ้าน โอบรัก อ.วังน้ำ�เขียว สังฆมณฑลนครราชสีมา มีเยาวชนเข้าร่วมครั้งนี้จำ�นวน 66 คน
ปฏิทินกิจกรรม เดือนพฤศจิกายน 2012 2 พ.ย. – 2 ธ.ค. 3 พ.ย. 7-8 พ.ย. 10-11 พ.ย. 16-18 พ.ย. 29-30 พ.ย.
สัมมนาเทววิทยาวิถีชุมชนวัดสำ�หรับพระสงฆ์ภาคพื้นเอเชีย รุ่นที่ 2 ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมชีวิตครอบครัว วัดนักบุญยวงบัปติสตา เจ้าเจ็ด เวลา 10.00 น. เข้าเงียบฟื้นฟูจิตใจพระสงฆ์อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ หัวข้อ “กระแสเรียกสงฆ์ : พันธกิจและการดูแลรักษา” ณ บ้านผู้หว่าน อบรมเสริมทักษะผู้นำ�วิถีชุมชนวัด อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ บ้านผู้หว่าน สัมมนาฟื้นฟูชีวิตครอบครัว ขั้นที่ 1 (ฟฟ.1) รุ่นที่ 138 แผนกส่งเสริมชีวิตครอบครัว ชุมนุมบุคลากรอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ บ้านผู้หว่าน สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 10 ฉบับที่ 11 เดือนพฤศจิกายน 2012 7
เกร็ดความรู้คำ�สอน...คุณพ่อเอกรัตน์ หอมประทุม
สวัสดีพี่น้องที่รัก เดือนนีเ้ ป็นเดือนทีเ่ ราระลึกถึงผูล้ ว่ งลับเป็น พิเศษ ซึง่ ตามความเชือ่ ของเรา วิญญาณผูล้ ว่ งลับ เป็ น สมาชิ ก ในพระศาสนจั ก รเช่ น เดี ย วกั บ เรา ที่ยังคงใช้ชีวิตอยู่ เราต่างยังสัมพันธ์กันอยู่ ชีวิต คริ ส ตชนของเราจึ ง เป็ น การเดิ น ทางจาก สภาพหนึ่งไปสู่สภาพที่ดีกว่าสมบูรณ์และเป็น อมตะ การเป็นคริสตชน ลูกศิษย์พระเยซูไม่เพียง แค่ ก ารพยายามเอาตั ว รอดไปสวรรค์ ใ ห้ ไ ด้ เท่ า นั้ น เพราะแม้ ค นที่ ไ ม่ รู้ จั ก พระเจ้ า ก็ ยั ง สามารถไปสวรรค์ได้ แต่พระเยซูเรียกคนบางคน ให้ร่วมต่องานที่พระองค์ได้ทำ�แล้ว คนบางคน นี่ แ หละพยายามสื บ ทอดเจตนารมณ์ ข อง พระองค์ คือการร่วมสร้างพระอาณาจักรของ พระเจ้า เขาเข้าใจดีว่าถ้ายังมีใครที่เดือดร้อน ตกทุกข์ โดนเบียดเบียน ได้รับความอยุติธรรม ฯลฯ แสดงว่าพระอาณาจักรของพระเจ้ายังไป ไม่ถงึ คนเหล่านัน้ หน้าทีข่ องเขาถึงหยิบยืน่ ความ ช่วยเหลือ เป็นกำ�ลังใจให้ เพื่อให้เขาได้รับพระ อาณาจักรของพระเจ้านั่นเอง พี่ น้ อ งที่ รั ก คริ ส ตชนยุ ค แรกๆ เข้ า ใจ เรื่ อ งเหล่ า นี้ ดี เขาทำ � ความดี เ พื่ อ ร่ ว มสร้ า ง พระอาณาจักรของพระเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำ�หรับผู้ที่ยังไม่ได้รับผลจากพระอาณาจักรของ พระเจ้า เขาไม่ห่วงว่าจะได้ไปสวรรค์หรือไม่ เพราะพระอาจารย์ สั ญ ญาแล้ ว ว่ า จะเตรี ย มที่ สำ�หรับพวกเขา เราคื อ คนบางคนที่ พ ระเลื อ กให้ ร่ ว ม สร้างสรรค์สิ่งดีๆ แก่ผู้ที่อยู่รอบข้างนั่นเอง ถ้า หวั งเพี ย งแค่ ไ ปสวรรค์ ไม่ต้อ งเป็น คริส ตชน ก็ไปได้ แต่พระเจ้าเรียกเราให้ทำ�งานพิเศษ เป็นผู้ร่วมงานกับพระองค์ เป็นเกียรติของเรา ที่ได้ทำ�งานเคียงบ่าเคียงไหล่กับพระองค์ มีชายคนหนึ่งเป็นคนศรัทธามาก ขณะที่ ขับรถไปวัด เขาเห็นคนยากจนมากๆ คนขอทาน ข้างถนน เขาคิด “ทำ�ไมพระเจ้าไม่ทำ�อะไร สักอย่าง พระองค์ไม่เห็นคนเหล่านี้หรือ” เขา เปิ ด วิ ท ยุ มี ร ายงานข่ า วพายุ ถ ล่ ม เมื อ งต่ า งๆ มีคนตายมากมาย เขาคิด “ทำ�ไมพระเจ้าให้ คนตาย บาดเจ็บมากมาย พระองค์ไม่ทำ�อะไร สักอย่างเลยหรือ” เย็นนั้นเมื่อสวดเสร็จและ เข้านอน พระเยชูประจักษ์มา เขารีบเข้าไปหา และถามพระองค์ “ทำ�ไมพระองค์ไม่ทำ�อะไร สักอย่าง” พระองค์ตอบ “เราทำ�แล้ว” “ทำ�อะไร ลูกไม่เห็นเลย คนเดือดร้อนตั้งมากมาย” “เรา ทำ�แล้ว” พระองค์ตอบ “พระองค์ทำ�อะไรหรือ” เขาถามด้วยความตัง้ ใจ ...“เราสร้างเจ้าไงละ”... ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกท่าน
เรื่ อ งราวของวิ ญ ญาณในไฟชำ � ระจาก “The Amazing Secret of the Souls in Purgatory” โดย Sister Emmanuel of Medjugorje ผ่านบทสัมภาษณ์ ของมาเรียน ซัมมา หญิงวัย 82 ปี อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน เล็กๆ ในเมืองซอนเทจ ประเทศออสเตรีย มีตวั อย่างเหตุการณ์ใดบ้างทีแ่ สดงให้เห็นว่าการทำ� ความดีสามารถลบล้างบาปที่ทำ�มาตลอดชีวิตได้ ชายหนุ่มอายุ 20 ปีคนหนึ่ง ได้ยินเสียงหิมะถล่ม หลังจากนั้นก็มีเสียง กรีดร้องขอความช่วยเหลือ “ช่วยด้วย เราติดอยู่ใต้หิมะ” เขาลุกขึ้นจากเตียง และวิ่งลงไปชั้นล่าง เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ แต่แม่ของเขาห้ามไม่ให้ไป เนื่องจากข้างนอกอันตรายมาก เขาไม่ฟังและออกไปนอกบ้าน สุดท้ายเขาก็โดน หิมะทับเสียชีวิตเช่นกัน หลังจากเสียชีวิตได้ 3 วัน เขามาหาฉันและกล่าวว่า “ขอมิสซาให้เขา 3 ครั้ง แล้วเขาจะได้รับการปลดปล่อยจากไฟชำ�ระ” ฉันได้ไปแจ้งกับญาติของเขาตาม ที่เขาขอร้อง ทุกคนต่างแปลกใจมากว่า เป็นไปได้อย่างไรที่มิสซาเพียง 3 ครั้ง จะทำ�ให้เขาได้รับการปลดปล่อยจากไฟชำ�ระ เมื่อเทียบกับสิ่งไม่ดีที่เขาทำ�มา ตลอดชีวติ แต่ชายคนนัน้ กล่าวว่า “การเสีย่ งชีวติ เพือ่ ช่วยเหลือผูอ้ นื่ ด้วยใจบริสทุ ธิ์ ทำ�ให้พระเจ้าต้อนรับเขาสู่สวรรค์อย่างรวดเร็ว” เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงพระเมตตา ของพระเจ้าที่ทรงมอบแก่เขา เมื่อเขาแสดงความรักที่สวยงามและบริสุทธิ์เช่นนี้ คนที่มีโอกาสมากที่สุดในการตรงเข้าสวรรค์ คือ คนที่ทำ�ดีกับผู้อื่น ความรัก เท่านั้นที่ช่วยปกป้องเราจากบาปทั้งหมด ทุกคนมีความเชื่อภายใน(มโนธรรม) แม้ว่าพวกเขาจะไม่ปฏิบัติ แต่พระเจ้า ยังคงอยู่กับเขา แต่ละคนมีมโนธรรมในการแยกแยะว่าสิ่งใดดี สิ่งไหนไม่ดี แม้ในระดับที่แตกต่างกัน เราต้องช่วยวิญญาณในไฟชำ�ระ เพราะพวกเขาจะช่วยพวกเราตอบแทน เรา ต้องมีความถ่อมตน ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการปกป้องเราจากปีศาจ ความ ถ่อมตนจะช่วยขับไล่ปีศาจออกไป วิญญาณที่ได้รับ การปลดปล่อยผ่านทางการภาวนาของเรา สำ � นึ ก ใน ความช่วยเหลือของเราเสมอ พวกเขาจะช่วยเหลือเรา เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจน ขอแนะนำ � ให้ คุ ณ ลองสั ม ผั ส ประสบการณ์ นี้ ด้ ว ยตั ว เอง พวกเขาจะช่ ว ยเรา พวกเขารู้ความต้องการของเรา สิ่งที่ควรทำ�ให้แก่วิญญาณผู้ล่วงลับ วิญญาณในไฟชำ�ระสามารถเห็นได้ชัดเจนในพิธีปลงศพของเขาว่า เราสวด ให้เขาจริงๆ หรือแค่ไปพอเป็นพิธีเท่านั้น พวกเขายังกล่าวอีกว่า การร้องให้ไม่ดี ต่อวิญญาณของเขาเลย มีแค่การภาวนาและการขอมิสซาเท่านั้นที่จะช่วยเขาได้ “มนุษย์จะได้ประโยชน์ใดในการที่จะได้โลกทั้งโลกเป็นกำ�ไร แต่ต้องเสียชีวิต (นิรันดร์)” (มาระโก 8:36) วัตถุประสงค์ 1. เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมและข่าวต่างๆ ในระดับวัด เขตและสังฆมณฑล ให้กับสัตบุรุษและบุคลากรในหน่วยงานต่างๆ ของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ 2. เพื่อช่วยฟื้นฟูบทบาทการเป็นผู้มีส่วนร่วมในงานอภิบาลและธรรมทูตในชีวิตของสัตบุรุษ และบุคลากรในหน่วยงานต่างๆ ของอัครสังฆมณฑล 3. เพื่อนำ�เสนอเครื่องมือ และแนวปฏิบัติในงานอภิบาลและธรรมทูตให้กับสัตบุรุษและบุคลากรในหน่วยงานต่างๆ ของอัครสังฆมณฑล สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ผู้รับผิดชอบ : ฝ่ายงานอภิบาลของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ที่ปรึกษา : คุณพ่อพงศ์เทพ ประมวลพร้อม, คุณพ่อเอกรัตน์ หอมประทุม บรรณาธิการ : คุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ กองบรรณาธิการ : นาทลดา จิตรอำ�ไพ, พฤกษา กิจเจริญ, มัลลิกา กิจบำ�รุง, เพชรี ชาวแพรกน้อย พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์อัสสัมชัญ บางรัก กรุงเทพฯ โทร. 0 2233 0523 โทรสาร. 0 2235 1405 สำ�นักงาน : อาคารคาทอลิกแพร่ธรรม 57 ซอยเจริญกรุง 40 เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทร. 0 2237 7315 โทรสาร. 0 2233 8159 E-mail : webmaster@catholic.or.th