⌫⌫ ⌫
วิถีชุมชนวัด...
1
แพร่ธรรม...
2
รากฐานชีวติ บนพระวาจาของพระเจ้า น.
พันธกิจหนึ่งเดียว ในงานทีห่ ลากหลาย น.
กระบวนการรับผูใ้ หญ่ เข้าเป็นคริสตชน น.
8
ความทุกข์ไม่ใช่สง่ิ เลวร้ายในตัวของมันเอง บาปเป็นสิง่ เลวร้าย และเพราะบาปความทุกข์จงึ ตามมา แต่เพราะพระเยซูเจ้าสมัครใจ ยอมรับความทุกข์และความยากลำบากเพราะความรักต่อเรา เพือ่ ลบล้างบาปของมนุษย์ พระเยซูเจ้าจึงทรงสามารถเผยเคล็ดลับ ในเรื่องความทุกข์ให้แก่เราได้ นัน่ คือ ความทุกข์ ทีย่ อมรับทน เพราะความรักจะถูกเปลีย่ นให้กลับกลายเป็นความรัก ที่กินใจและส่งผลให้เกิดความบรรเทาใจ แม้บางที ความทุกข์ยากเหล่านั้น อาจจะยังไม่หมดสิ้นไป ในทันที แต่อาศัยความรัก ความบรรเทาใจก็เกิดขึน้ ความทุกข์ในจิตใจจะลดลง วาทะพระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พระอัครสังฆราชอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ วันพฤหัสบดีศกั ดิส์ ทิ ธิ์ วัดพระคริสตกษัตริย์ วันพฤหัสบดีท่ี 21 เมษายน 2011
à¨ÒÐÅÖ¡¾ÔàÈÉ...á¼¹¡ÇÔ¶ÕªØÁª¹ÇÑ´
พี่น้องที่รัก แม้วิถีชุมชนวัดจะไม่ใช่แค่เพียงกลุ่มแบ่งปันพระวาจา แต่เรา ก็ปฏิเสธไม่ได้วา่ พระวาจาเป็นรากฐานทีส่ ำคัญอย่างยิง่ สำหรับวิถชี มุ ชนวัด และ โดยเฉพาะอย่างยิง่ สำหรับชีวติ คริสตชน เห็นได้วา่ ในหลายๆ วัดในอัครสังฆมณฑลฯ ของเรา ได้เริ่มการอภิบาลวิถีชุมชนวัดด้วยการรณรงค์ให้รักและอ่านพระวาจา เป็นการส่วนตัว อ่านพระวาจาร่วมกัน แบ่งปันพระวาจาในกลุม่ ย่อยและรวมตัว กันเป็นคริสตชนย่อยตามรูปแบบของวิถีชุมชนวัดในที่สุด ถ้าเราจะสร้างบ้านสักหลังให้แข็งแรงมั่นคง เราคงต้องวางรากฐานของบ้านหลังนั้นให้ดีที่สุด เช่นเดียวกัน ถ้าวัดของเราจะมี วิ ถ ี ช ุ ม ชนวั ด ที ่ เ ข้ ม แข็ ง รากฐานสำคั ญ ก็ ค ื อ การอ่ า นพระวาจาในชี ว ิ ต และการดำเนิ น ชี ว ิ ต ตามพระวาจา ของพี ่ น ้ อ งคริ ส ตชน ในชุมชนวัดของเรา และเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่เห็นทุกฝ่ายในอัครสังฆมณฑลฯ ของเรา ได้พยายามอย่างเต็มที่ ที่จะให้พี่น้องคริสตชน รัก อ่าน และนำพระวาจาของพระเจ้าไปปฏิบัติในชีวิต และเช่นเคย ขอรายงานกิจกรรม “วิถชี มุ ชนวัด” ในอัครสังฆมณฑลฯ ของเรา ดังนีค้ รับ วันศุกร์ที่ 9 และวันเสาร์ที่ 10 กันยายน คุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ ได้ให้การอบรมเรื่อง “ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเป็นผู้นำ วิถีชุมชนวัด” แก่คุณครูจิตตาภิบาล จำนวน 21 ท่าน ผู้เข้าร่วมโครงการ “หลักสูตรประกาศนียบัตรครูจิตตาภิบาล อัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ” ทีศ่ นู ย์ฝกึ อบรมงานอภิบาล “บ้านผูห้ ว่าน” วันเสาร์ท่ี 10 และวันอาทิตย์ท่ี 11 กันยายน เขต 2 ได้จดั การอบรม “ผูน้ ำวิถชี มุ ชนวัด” เขต 2 ของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ณ โรงแรมชาลีนา่ รามคำแหง 65 (ลาดพร้าว 122) โดยมีคณ ุ พ่อชัยยะ กิจสวัสดิ์ เจ้าอาวาสวัดแม่พระกุหลาบทิพย์ และคุณพ่อยอห์น ตามาโย เจ้าอาวาสวัดแม่พระองค์อปุ ถัมภ์ เป็นวิทยากร มีสตั บุรษุ จากวัดต่างๆ ในเขต 2 เข้ารับการอบรมจำนวน 147 คน วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน คุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ ได้ไปถวายมิสซาที่วัดอัครเทวดามีคาเอล สะพานใหม่ และหลังมิสซา คุณพ่อได้แบ่งปันเรือ่ ง “วิถชี มุ ชนวัด” ให้กบั สัตบุรษุ ทีส่ นใจ จำนวนประมาณ 50 ท่าน ในวันเดียวกันนัน้ เอง คุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ และคุณพ่อเชษฐา ไชยเดช ได้ไปแบ่งปันให้ความรูเ้ บือ้ งต้นเกีย่ วกับ “วิถชี มุ ชนวัด” แก่สภาอภิบาล สมาชิกองค์กรคาทอลิก และสัตบุรษุ ทีส่ นใจ ทีว่ ดั เซนต์หลุยส์ ตัง้ แต่เวลา 08.00 - 16.30 น. โดย เริม่ ด้วยการถวายมิสซา 08.00 น. และกล่าวถึงวิถีชุมชนวัดในบทเทศน์ หลังจากนั้นในช่วงเช้า เป็นการแบ่งปันเรื่องประวัติความเป็นมา จิตตารมณ์ รูปแบบ และวัตถุประสงค์ของวิถีชุมชนวัด ในภาคบ่ายมีการแบ่งปันเรื่องการแบ่งปันพระวาจา 7 ขั้นตอน และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวนประมาณ 30 ท่าน ได้ซักถาม เพื่อทำความเข้าใจเรื่องวิถีชุมชนวัดให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ขอขอบคุณคุณวาภรณ์ นพคุณทอง ที่ไปร่วมแบ่งปันในครั้งนี้ด้วยครับ และในวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน คุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ ได้แบ่งปันเรื่อง “วิถีชุมชนวัด” ในบทเทศน์ที่คุณพ่อไปเป็น ประธานในพิธีตรีวารเตรียมฉลองวัดนักบุญเทเรซา หน้าโคก
สมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอลที่ 2 ในสารวัน Pastor Bonus (28 มิ.ย. 1998) “พระศาสนจักรมีพนั ธกิจ ที่จะทำให้ประชากรของพระเจ้า ซึ่งเต็มไปด้วยจิตตารมณ์แห่งการแพร่ธรรม และสำนึกในความรับผิดชอบ ของตน ในการร่วมมืออย่างมีประสิทธิผลกับกิจกรรมแพร่ธรรมด้วยคำภาวนา ด้วยการเป็นพยานของชีวิต ด้วยกิจกรรม และด้วยความช่วยเหลือด้านทุนทรัพย์” สมณกระทรวงประกาศพระวรสารแก่ปวงชน จึงมีเป้าหมาย 3 ประการคือ 1. เพื่อยืนยันหลักคำสอน อันเป็นรากฐานของความร่วมมือในงานแพร่ธรรม 2. เพือ่ ให้การแนะนำเกีย่ วกับความร่วมมือในงานประกาศพระวรสารแก่ปวงชนกับสภาพระสังฆราชทัง้ หลาย 3. เพื ่ อ สนั บ สนุ น และแนะแนวในการดำเนิ น การริ เ ริ ่ ม บางอย่ า งในความร่ ว มมื อ ในงานการแพร่ ธ รรม ในสังฆมณฑลที่อยู่ในเขตที่มีสิทธิ์ได้รับผลประโยชน์ในฐานะที่เป็นพระศาสนจักรที่กำลังเติบโต สำหรับแผนงานอภิบาลอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ค.ศ.2011 – 2015 ในเป้าหมายที่ 3 สอดรับกับเป้าหมาย ของพระศาสนจักรสากล ทำให้เกิดพันธกิจการประกาศข่าวดีอย่างต่อเนือ่ ง ซึง่ ในปีทผ่ี า่ นมามีพนั ธกิจในส่วนทีส่ ำคัญ หลายประการ การให้ความรูแ้ ละจิตตารมณ์แพร่ธรรมในทุกกลุม่ ทุกองค์กร และทุกโอกาส โดยทางฝ่ายงานธรรมทูตฯ รวมทัง้ คณะมิสชันนารีแห่งประเทศไทย และ PMS ในระดับชาติ จัดอบรมฆราวาสผูป้ ระกาศข่าวดีประจำวัด (PMG) เป็นรุ่นที่ 3 ฝ่ายงานธรรมทูตฯ ให้การอบรมและส่งเสริมงานแพร่ธรรมในระดับเยาวชนเป็นยุวธรรมทูต ทั้งใน โรงเรียนและนอกโรงเรียน จัดอบรมให้ความรู้และเสวนากับพี่น้องต่างความเชื่อและพี่น้องคริสตชนต่างนิกาย ในทุกระดับ รวมทั้งให้ความรู้และจิตตารมณ์ธรรมทูตแก่บรรดาองค์กรฆราวาสในอัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ โดยฝ่ายงานธรรมทูตฯ ได้แบ่งความรับผิดชอบออกเป็นแผนกดังนี้ 1.แผนกอำนวยการ 2.แผนกสนับสนุนงานธรรทูต 3.แผนกประสานงานธรรมทูต 4.แผนกศาสนสัมพันธ์และคริสตศาสนจักร สัมพันธ์ 5.แผนก Moblie 6.แผนกองค์กรฆราวาส และ 7.แผนกคำสอนผูใ้ หญ่ (RCIA) จากทีก่ ล่าวมาข้างต้นพระศาสนจักรทัง้ ระดับสากลและระดับท้องถิน่ ก้าวไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีพนั ธกิจ ของพระเยซูคริสตเจ้าเป็นพลังผลักดัน ให้เกิดงานการประกาศข่าวดีในทุกระดับ สำหรับเราคริสตชนจึงถือเป็นพันธกิจ หลักของสมาชิกพระศาสนจักรทุกคน ที่จะร่วมรับผิดชอบและร่วมมือกับพระศาสนจักรในระดับวัดและในระดับ สั ง ฆมณฑลทั ้ ง ด้ ว ยคำภาวนา การเป็ น พยานชี ว ิ ต และในการช่ ว ยเหลื อ สนั บ สนุ น ปั จ จั ย ในทุ ก ด้ า น เพื ่ อ พระอาณาจักรของพระเจ้าได้ปรากฏตั้งแต่ในโลกนี้ สำหรับปีนี้ วันแพร่ธรรมสากล ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม 2011 หัวข้อคือ “พระบิดาส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น” ให้เราคริสตชนคาทอลิกไทยทุกคน ร่วมมือกับพระสันตะปาปา ในการภาวนา ในการดำเนินชีวิตเป็นประจักษ์พยาน และร่วมบริจาคเพื่องานแพร่ธรรมของพระศาสนจักรสากล โดยทุกปี ถุงทานวันแพร่ธรรมสากลจะนำมอบให้พระศาสนจักรสากล (สันตะสำนัก กรุงโรม) เพือ่ ช่วยเหลืองานแพร่ธรรมของ พระศาสนจักรในที่ต่างๆ ที่บรรดามิสชันนารีได้วางรากฐานไว้ให้และสมาชิกของพระศาสนจักรทุกคนจะมีส่วนร่วม สานต่อพันธกิจที่สำคัญนี้ต่อไป
⌫⌫ ⌫
แผนกศาสนสัมพันธ์ อยูใ่ นฝ่ายงานธรรมทูต ของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ทำให้ต้องใส่ใจในความเป็น “ธรรมทูต” เมื่อทำงานศาสนสัมพันธ์ แม้ว่างาน ที ่ เ ป็ น บทบาทหน้ า ที ่ ข องแผนกฯ คื อ ส่ ง เสริ ม สนั บ สนุ น และร่ ว มปฏิ บ ั ต ิ งานศาสนสัมพันธ์และ คริสตศาสนจักรสัมพันธ์ และกลุม่ บุคคลกลุม่ แรกทีแ่ ผนกฯ ต้องก้าวเข้าไปทำความเข้าใจด้วย คือ คริสตชนในพระศาสนจักรคาทอลิก อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เป็นต้น สมาชิกในพระศาสนจักรทีเ่ ป็นฆราวาส ความรู้ และความเข้าใจที่ถูกต้อง จากแง่มุมพระคัมภีร์ เรื่องคำสอนของพระศาสนจักร เพือ่ การทำศาสนสัมพันธ์ จึงเป็นเรือ่ งจำเป็น ทัง้ นีเ้ พือ่ เป็นหลัก เป็นจุดยืนทีม่ น่ั คง สำหรับคริสตชนคาทอลิก ที่ดำเนินชีวิตประจำวัน ในสังคม และในครอบครัว การเสวนาระหว่างศาสนิกเพื่อสันติ ร่วมกับพีน่ อ้ งต่างความเชือ่ อันเป็นบทบาททีส่ มาชิกในพระศาสนจักรต้องเปิดตัว ออกไปเสวนา ด้วยความรักและความฉลาดรอบคอบ และด้วยการเจริญชีว ิตคริสตชน เป็นสักขีพยานความเชื่อของตน” (NA 2 - คำแถลงเรือ่ งความสัมพันธ์แห่งพระศาสนจักร กับบรรดาศาสนาทีม่ ใิ ช่คริสต์ศาสนา ข้อ 2) ความเป็น “ธรรมทูต” ซึ่งเอกสารสังคายนาวาติกันที่ 2 เรื่องกิจการธรรมทูตของพระศาสนจักรได้ระบุไว้ว่า “พระศาสนจักร... เป็นธรรมทูตโดยกำเนิด…” จึงเป็นชีวิตของสมาชิกที่รับศีลล้างบาปแล้วทุกคน และเป็นหน้าที่ของสมาชิกที่จะต้องเป็นธรรมทูต ของพระคริสตเจ้า ภายใต้การนำของพระจิตเจ้าเมื่อรับศีลกำลังแล้ว ดังนั้น เมื่อเจริญชีวิตอยู่ท่ามกลางผู้คน จึงเป็นสักขีพยาน ถึงพระคริสตเจ้า สร้างสายสัมพันธ์แห่งความเคารพและความรักกับผูค้ นทัง้ หลาย ตามแบบฉบับของพระเยซูคริสตเจ้า ในการทำศาสนสัมพันธ์ คริสตชนจึงก้าวออกไปด้วยความเชื่อมั่นในศาสนาของตน ทำการเสวนาด้วยความจริงใจ ขจัดอคติ ให้ความเคารพ ทำความรู้จักและร่วมมือทำงานกับศาสนิกชนต่างศาสนา ดังนั้นการทำศาสนสัมพันธ์จึงมิได้มีจุดมุ่งหมาย เพื่อการเปลี่ยนศาสนา สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ทรงเป็นแบบอย่างของการทำศาสนสัมพันธ์ทเ่ี ด่นชัด ในสมัยของเรา พระองค์เสด็จออกไปเยี่ยมเยียน ศาสนาต่างๆ และยังทรงเชือ้ เชิญผูน้ ำศาสนาร่วมกัน ภาวนาเพื่อสันติ ภาพโลก ณ เมือง อัสซีซี เมื่อ วันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ.1986 ซึง่ ในปี ค.ศ.2011 นี้ สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ได้ทรง ประกาศให้ จ ั ด การภาวนาเพื ่ อ สั น ติ ภ าพโลก อี ก ครั ้ ง หนึ ่ ง ที ่ เ มื อ งอั ส ซี ซ ี ในวั น ที ่ 26 และ 27 ตุลาคม อันเป็นวันครบรอบ 25 ปี วันภาวนา เพือ่ สันติภาพโลก ÊÓËÃÑ º »ÃÐà·Èä·Â อั ค รสั ง ฆมณฑล กรุ ง เทพฯ จะจั ด การภาวนาเพื ่ อ สั น ติ ภ าพโลก ในวั น เสาร์ ท ี ่ 29 ตุ ล าคม ค.ศ.2011 ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ ⌫⌫ ⌫
ฝ่ายงานธรรมทูตอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ โดยคุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร โดยมีคณ ุ พ่อเชษฐ์ดนัย ไชยเผือก ร่วมงานเป็นจิตตาธิการ องค์กรยุวธรรมทูต วัตถุประสงค์เพื่อปลุกเร้าจิตตารมณ์แห่งการแพร่ธรรมในบรรดา เด็กเพื่อนำเขาให้แบ่งปันความเชื่อ การภาวนาและสิ่งของกับเด็กๆ ที ่ ด ้ อ ยโอกาส ในดิ น แดนต่ า งๆ ดั ง นั ้ น จึ ง เป็ น การรวมกลุ ่ ม เด็ ก เพื ่ อ ปลุกเร้าเด็กให้มอบตนเองแด่พระเยซูเจ้า เพื่อการประกาศพระวรสาร โดยตรงหรือโดยทางอ้อมด้วยการแบ่งปันและเพื่อให้เด็กๆ เข้าใจว่า พระเยซูเจ้าทรงเรียกพวกเขาทุกคน 1. ความเชือ่ (เป็นการประกาศพระวรสารโดยตรง) 2. การภาวนา (การเข้าร่วมมีส่วนในสมบัติฝ่ายวิญญาณ) 3. การพลีกรรม (ถวายความยากลำบากร่วมกับพระเยซูเจ้าบนกางเขน) 4. ทรัพยากร (การแบ่งปันทรัพย์สง่ิ ของทีม่ )ี แผนกสนั บ สนุ น งานธรรมทู ต อั ค รสั ง ฆมณฑลกรุ ง เทพฯ โดย ตระหนักถึงคำสั่งสอนของพระศาสนจักร จึงมุ่งมั่นจะสร้างจิตสำนึกให้ คริสตชนทุกคนได้ ตระหนักถึงหน้าทีข่ องงานธรรมทูตทัง้ ด้วยการประกาศ และการเป็นพยานตามกระแสเรียกของแต่ละบุคคล เพื่อให้นักเรียน คาทอลิกได้เรียนรู้หลักธรรมคำสอนทางศาสนา สร้างความเข้าใจต่อ เพื ่ อ นต่ า งความเชื ่ อ ได้ อ ย่ า งถู ก ต้ อ งและเพื ่ อ ส่ ง เสริ ม และพั ฒ นาใน การเผยแพร่งานยุวธรรมทูตให้บรรลุผลมากยิง่ ขึน้ และเพือ่ ฟืน้ ฟูจติ ตารมณ์ ของยุวธรรมทูต และเพื่อร่วมฉลองวันยุวธรรมทูตร่วมกัน
งานชุมนุมยุวธรรมทูต
งานยุวธรรมทูต เพื่อกลุ่มชาติพันธุ์
กิจกรรม PMG
อบรมจิตตารมณ์ครู เป็นผู้นำยุวธรรมทูต
⌫⌫ ⌫
“ท่านทัง้ หลายจงไปสัง่ สอนนานาชาติให้มาเป็นศ
¨Ò¡¾ÃдÓÃÑ Ê ¢Í§¾ÃÐàÂ«Ù à ¨é Ò ÂÑ § ¤§à»ç ¹ Ë ¾ÃÐÈÒʹ¨Ñ¡ÃàÊÁÍÁÒ ท่ามกลางกระแสโลกที่สับสนวุ่นวายและเต็มไป ปัจจุบนั ทุกคนต่างมุง่ ทีจ่ ะหาความสุขให้กบั ตนและครอบ ที่มีจิตตารมณ์เต็มเปี่ยมไปด้วยความเสียสละ อุทิศตน ประกาศข่าวดีให้ผู้ที่ยังไม่รู้จักและผู้ที่กำลังแสวงหาพ ของพระองค์ บุคคลเหล่านี้ได้สนองตอบกระแสเรียกของ อบรมในโครงการจัดตัง้ PMG (Parish Missionary Grou โดยการรับรองจากคุณพ่อเจ้าอาวาสหรือหัวหน้าต้นส ผ่านการอบรมเสร็จสิน้ ไปแล้ว 3 รุน่ ตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2552 – ฝ่ายงานธร คุณพ่อสมเกียร โครงการและรับผ เลขาธิการคณะก (CCM) และคุณ ธรรมทูตไทย (T ฆราวาสที ่ ม ี จ ิ ต PMG รุน่ ที่ 1 ผู ้ ป ระกาศข่ า วด เพื ่ อ เป็ น ประจั ก วัตถุประสงค์ทส่ี ำ ช่วยเหลือคณะธ ครอบครัวธรรมท ในงานแพร่ธรรม แสวงหาพระเจ้า PMG รุน่ ที่ 2 แต่คนเกี่ยวยังมีน จึงเป็นบุคคลที่ไ ในฐานะผู้ประกา พระวรสารเป็นภา คนหนึ่งพึงปฏิบ กระตือรือร้นทำ และเปี่ยมด้วยคุณ PMG รุน่ ที่ 3
หากท่านเป็นคนหนึ่งที่ตระหนักถึงการเป็นคริสต แห่งการแพร่ธรรมเช่นเดียวกับสมาชิก PMG ทีอ่ ทุ ศิ ตนเป็น กลุ่มนี้แล้ว พระศาสนจักรของเราจะต้องมีมือและเท้าขอ ทำงานหนักสักหน่อย แต่ด้วยพระพรของพระจิตเจ้าที่จะ พระเป็นเจ้า กิจการนัน้ ๆ คงไม่เหนือบ่ากว่าแรงของเรา ด้วย ที่กลุ่มบุคคลเหล่านี้ได้ร่วมใจกันทำเพื่อพี่น้องที่ยังไม่รู้จักพ สนใจทีจ่ ะรูจ้ กั พวกเขามากกว่านี้ โปรดติดต่อ ฝ่ายง โทร. 0 2266 9286 หรือ E-mail : co_ missionbkk@cat
ศิษย์ของเรา” (มธ 28:19)
˹é Ò ·Õ è á ÅÐÍÂÙ è ã ¹Á⹸ÃÃÁ¢Í§
ด้วยการแข่งขันทุกรูปแบบในสังคม บครัว แต่มคี ริสตชนฆราวาสกลุม่ หนึง่ นเองเพื่อพระศาสนจักรเพื่อทำหน้าที่ พระคริสตเจ้า ได้มารู้จักและเป็นลูก งพระเป็นเจ้าด้วยการสมัครเข้ารับการ up) และการฝึกฆราวาสประกาศข่าวดี สังกัดองค์กรที่เขาทำงานอยู่ ซึ่งได้ – 2554 รรมทูต อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ โดย ติ บุญอนันตบุตร ให้การสนับสนุน ผิดชอบร่วมกับคุณพ่อวัชศิลป์ กฤษเจริญ กรรมการคาทอลิกเพื่อการธรรมทูต ณพ่ออาดรีอาโน เปโลซิน อธิการคณะ TMS) ด้วยวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริม ตสำนึ ก ของการเป็ น คริ ส ตชนเป็ น ดี ป ระจำวั ด ของตน อี ก ทั ้ ง ดำรงตน กษ์ พ ยานด้ ว ยชี ว ิ ต และด้ ว ยคำพู ด ำคัญอีกประการหนึง่ คือ การสนับสนุน ธรรมทูตไทยทุกด้าน เนื่องจากเป็น ทูตเหมือนกันและให้มีความตระหนัก ม เพราะยังมีคนอีกมากที่พยายาม ดังนัน้ คำกล่าวทีว่ า่ “ข้าวในนามีมาก น้อย” ก็เป็นความจริง บุคคลเหล่านี้ ด้รับเกียรติที่พระเป็นเจ้าทรงมอบให้ าศข่าวดี โดยไม่เคยคิดว่าการประกาศ าระ แต่เป็นหน้าทีส่ ำคัญของคริสตชน บัติด้วยความรักและรับใช้ ด้วยความ ให้ชีวิตที่พระมอบให้เขามีชีวิตชีวา ณค่ามหาศาล
ตชนที่เห็นความสำคัญของพันธกิจ น “เครือ่ งมือการประกาศข่าวดี” ทัง้ 3 องผู้เกี่ยวข้าวในนาเพิ่มขึ้น แม้จะต้อง ดำรงในใจที่งดงามของผู้เสียสละเพื่อ ยความเชือ่ และไว้วางใจ เหมือนกิจการ พระเยซูคริสตเจ้าในสังคมไทย านธรรมทูต อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ tholic.or.th
เป็นหน่วยงานหนึ่งของฝ่ายงานธรรมทูต อัครสังฆมณฑลกรุงเทพ ฯ ประกอบด้วย คณะแพร่ธรรมต่าง ๆ คือคณะพลมารี คณะวินเซนเดอปอล คณะคูรซ์ ลิ โลแห่งพระคริสตศาสนา คณะอัศวินแห่งศีลมหาสนิท คณะเทเรเซียน คณะแพร่ธรรมแห่งแม่พระฟาติมา คณะเซอร์รา่ คณะพระเมตตา (เน้นองค์กรทีร่ ว่ มงานพระศาสนจักรมีในระดับวัด) และป็นศูนย์กลางรวบรวม พลังความคิด พลังการทำงานให้เป็นเอกภาพ และมีทิศทางเดียวกันในการทำงานเผยแผ่ธรรม ของแต่ละองค์กรฯ มีการประชุมทุกวันอังคารที่ 3 ของเดือน
การดำเนินงานของแผนก ปี ค.ศ 2011
เมือ่ แผนอภิบาลอัครสังฆมณฑลกรุงเทพ ฯ ค.ศ.2011-2015 ออกมา ผูจ้ ดั การแผนก คือคุณพ่อ อภิเดช สุภาจักร์ ก็นำเข้าสู่การประชุมผู้แทนองค์กร เพื่อร่วมกันคิดช่วยกันทำตามบริบทของ องค์กร โดยวางเป้าหมาย 5 ปี ทีง่ านวิถชี มุ ชนวัดเป็นนโยบายหลักและพิมพ์เขียวของแต่ละองค์กร ÊÔ觷ÕèÊÃØ»ÃèÇÁ¡Ñ¹¤×Í 1. แต่ละองค์กรให้ความรู้ ความเข้าใจแก่สมาชิก รวมทั้งส่งสมาชิกเข้ารับการอบรมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรที่เริ่มลงมือดำเนินการชัดเจนแล้วคือ คณะพลมารีย์ คณะอัศวิน แห่งศีลมหาสนิท คณะแพร่ธรรมแห่งแม่พระฟาติมา คณะพระเมตตา และคณะเทเรเซียน 2. แต่ละองค์กรให้ความสำคัญต่อการเสริมสร้างชีวิตจิต เพื่อให้สมาชิกดำเนินชีวิต เป็นประจักษ์พยานตามองค์อปุ ถัมภ์องค์กร มีพระวาจาพระเจ้าและศีลมหาสนิทเป็นศูนย์กลาง การดำเนินชีวิต 3. เป็นศูนย์กลางรวบรวมพลังความคิด พลังการทำงานให้เป็นเอกภาพ และมีทศิ ทางเดียวกัน ในการทำงานเผยแผ่ธรรมของแต่ละองค์กรฯ มีการประชุมทุกวันอังคารที่ 3 ของเดือน ฆราวาสให้กล้าอุทิศตนมากยิ่งขึ้นในงานธรรมทูตคือการประกาศข่าวดีแห่งความรัก ของพระเจ้าต่อมนุษย์ หลุดพ้นจากอำนาจชั่วทั้งมวล สู่การพัฒนาชีวิตและสังคมมนุษย์ ด้วยคุณธรรม ยุตธิ รรมและสันติสขุ
สิง่ ทีต่ ง้ั ความคาดหวังไว้คอื 1. องค์กรเห็นความสำคัญของพระคัมภีร์ และส่งเสริมให้สมาชิกอ่านเป็นประจำเพื่อมี ประสบการณ์กบั พระเจ้าโดยตรงผ่านทางพระคัมภีร์ 2. คณะกรรมการดำเนินงานองค์กรมีความเข้าใจเรือ่ งวิถชี มุ ชนวัดชัดเจน มีสมาชิกอาสาสมัคร เข้าร่วมงานวิถชี มุ ชนวัด ตามวัดทีส่ งั กัดอยู่ กล้าเป็นผูร้ เิ ริม่ และกล้านำพระวาจาสูป่ วงชน 3. สมาชิกองค์กรคริสตชนฆราวาสมีความมัน่ ใจในงานธรรมทูตและกล้าอุทศิ ตนประกาศ ข่าวดีตามบทบาทและหน้าทีข่ องสังคมประมาณ 70 คน ปี ค.ศ.2011
องค์กรร่วมใจกันประกาศข่าวดี วันฉลองวัดพระบิดาเจ้า วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม 2011
ประชุมผู้แทนองค์กร เตรียมงานปี ค.ศ.2011
ประชุมงานวิถีชุมชนวัด มีผู้แทนองค์กร คุณพ่อเชษฐา และคุณพ่อชวลิต ⌫⌫ ⌫
บอกข่าวเล่าสาร
⌫
ฉลองวัดนักบุญมัทธิว ทุง่ ลูกนก วันเสาร์ท่ี 17 กันยายน 2011 คุณพ่อกิตติศกั ดิ์ กาญจนธานินทร์ เจ้าอาวาสวัดนักบุญมัทธิว ทุง่ ลูกนก ได้จัดงานฉลองวัดประจำปี 2011 โดยปีนี้พิเศษกว่าปีที่ผ่านๆ มา เนื่องจากทุกๆ ปี จะเชิญ พระสงฆ์ใหม่มาเป็นประธานในพิธีเพราะเป็นวัดเล็กๆ แต่ปีนี้ได้รับเกียรติจาก พระอัครสังฆราช เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พระอัครสังฆราชแห่งอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ มาเป็นประธานฉลองวัด และโอกาสเยีย่ มเยียนอภิบาลสัตบุรษุ ของวัดนีด้ ว้ ย
พัฒนาผูน้ ำ เมื่อวันที่ 3-4 กันยายน 2011 แผนกวิถีชุมชนวัด ฝ่ายงานอภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ โดยคุณพ่อเชษฐา ไชยเดช ผู้จัดการแผนกฯ คุณพ่อถนอมศักดิ์ เลื่อนประไพ ผู้ช่วยผู้จัดการแผนกฯ ร่วมกับแผนกองค์กรคริสตชนฆราวาส โดยคุณพ่ออภิเดช สุภาจักร์ ผูจ้ ดั การแผนกฯ ได้จดั โครงการ พัฒนาผูน้ ำ (ผูน้ ำ 1) ณ บ้านผูห้ ว่าน สามพราน โดยมีคณ ุ พ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ คุณพ่อเชษฐา ไชยเดช คุณพ่อชัยยะ กิจสวัสดิ์ คุณพ่อประเสริฐ โลหะวิรยิ ะสิริ และซิสเตอร์สวุ รรณี พันธ์วไิ ล เป็นวิทยากร มีผเู้ ข้าร่วม จำนวน 60 คน
ซีเกมส์เยาวชนอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ วันเสาร์ท่ี 17 กันยายน 2011 เวลา 08.00 - 16.00 น. แผนกเยาวชนอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ นำโดย คุณพ่อสราวุธ อมรดิษฐ์ จัดงานวันซีเกมส์เยาวชน อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ประจำปี 2011 โดยเชิญ คุ ณ พ่ อ สานิ จ สถะวี ร ะวงส์ อุ ป สั ง ฆราช เป็ น ประธานในพิธบี ชู าขอบพระคุณเปิดงาน พร้อมด้วย คุ ณ พ่ อ ณรงค์ รวมอร่ า ม จิ ต ตาธิ ก ารเยาวชน เขต 1 คุณพ่อวิทยา ลัดลอย คุณพ่อประจักษ์ บุญเผ่า คุ ณ พ่ อ สราวุ ธ อมรดิ ษ ฐ์ พร้ อ มด้ ว ยเยาวชน จำนวน 214 คน ณ วั ด เซนต์ ห ลุ ย ส์ สาทร จากนั้นแล้วไปจัดกิจกรรมที่โรงเรียนอัสสัมชัญ พาณิ ช ยการ โดยคุ ณ พ่ อ สานิ จ สถะวี ร ะวงส์ อุปสังฆราชกล่าวเปิดงานพร้อมตัดริบบิ้น จากนั้น เป็นการแข่งขันกีฬาต่างๆ
สานสัมพันธ์ ศาสนสัมพันธ์กรุงเทพฯ - โคราช วันเสาร์ท่ี 17 กันยายน 2011 เวลา 10.00 – 16.30 น. คณะกรรมการคริสตศาสนจักรสัมพันธ์ และศาสนสัมพันธ์ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ โดย คุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร จิตตาธิการ นำคณะกรรมการและผูแ้ ทนงานศาสนสัมพันธ์วดั ในเขตต่ า งๆของอั ค รสั ง ฆมณฑลกรุ ง เทพฯ ร่ ว มโครงการศึ ก ษาดู ง านศาสนสั ม พั น ธ์ แ ละ คริ ส ตศาสนจั ก รสั ม พั น ธ์ ข องเขตต่ า งๆ ใน สั ง ฆมณฑลนครราชสี ม า ที ่ ห ้ อ งประชุ ม อาสนวิ ห ารแม่ พ ระประจั ก ษ์ ท ี ่ เ มื อ งลู ร ์ ด คุ ณ พ่ อ เกรี ย งไกร ยิ ่ ง ยงและคณะกรรมการศาสนสั ม พั น ธ์ ทั้ง 3 เขตของสังฆมณฑลนครราชสีมาให้การต้อนรับ ในช่วงบ่าย พระคุณเจ้า ยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ ให้เกียรติมาต้อนรับและสนทนาเกี่ยวกับ งานศาสนสัมพันธ์ของพระศาสนจักร โครงการหลั ก สู ต รประกาศนี ย บั ต รครู จ ิ ต ตาภิ บ าล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ครัง้ ที่ 7 กลุ ่ ม งานจิ ต ตาภิ บ าล ฝ่ า ยการศึ ก ษาฯ ร่ ว มกั บ ศูนย์คริสตศาสนธรรม ฝ่ายงานอภิบาลฯ ร่วมจัดโครงการ “หลักสูตรประกาศนียบัตรครูจิตตาภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ” เพื่อพัฒนาศักยภาพของ ครูจติ ตาภิบาลให้สามารถทำงานอภิบาลและประกาศข่าวดี และเป็นการส่งเสริมครูจิตตาภิบาล ให้มีจิตตารมณ์แห่ง พระวรสาร การอบรมครั้งที่ 7 หัวข้อ “ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเป็นผู้นำวิถีชุมชนวัด” โดยมี คุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ ผู้ช่วยพระสังฆราชฝ่ายงาน อภิบาลฯ เป็นวิทยากร เมือ่ วันที่ 9-10 กันยายน 2011 ณ บ้านผูห้ ว่าน สามพราน
⌫⌫ ⌫
เยีย่ มเยียนและอภิบาลสัตบุรษุ พระอั ค รสั ง ฆราช เกรี ย งศั ก ดิ ์ โกวิทวาณิช เป็นประธานร่วมกับคุณพ่อ พรชัย บรัศวกุล เจ้าอาวาส และคุณพ่อ อนุ ช า ชาวแพรกน้ อ ย โอกาสพบปะ และอภิบาลสัตบุรุษวัดแม่พระประจักษ์ เมืองลูร์ด (วัดบางสะแก) เมื่อวันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2011 และมีพธิ มี สิ ซาบูชา ขอบพระคุณ เวลา 17.30 น. เยีย่ มอภิบาลสัตบุรษุ วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2011 คุณพ่อวิทยา ลัดลอย เจ้าอาวาสวัดอัครเทวดาราฟาแอล ปากน้ำ พร้อมด้วยสภาภิบาลและพี่น้องสัตบุรุษร่วมต้อนรับ พระอัครสังฆราช เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ที่เดินทาง มาเยี่ยมอภิบาลสัตบุรุษและเป็นประธานในพิธีบูชา ขอบพระคุณ มีพี่น้องสัตบุรุษวัดอัครเทวดาราฟาแอล ปากน้ำ จำนวนมากมาร่วมพิธใี นวันนี้ หลังจากพิธบี ชู า ขอบพระคุณแล้ว พระอัครสังฆราชเกรียงศักดิ์ ได้ร่วม พูดคุยกับคณะสภาภิบาลและกลุม่ ต่างๆ ของวัด
เยีย่ มเยียนและอภิบาลสัตบุรษุ วันที่ 11 กันยายน 2011 พระอัครสั ง ฆราช เกรี ย งศั ก ดิ ์ โกวิ ท วาณิ ช เยีย่ มเยียนและอภิบาลสัตบุรษุ วัดพระชนนี ุ พ่อ ของพระเป็นเจ้า (วัดรังสิต) โดยมีคณ สมชาย อั ญ ชลี พ รสั น ต์ เจ้ า อาวาส พร้อมด้วยคณะสภาภิบาลและสัตบุรุษ ให้การต้อนรับ หลังจากนั้นได้พูดคุย กับสภาภิบาลและกลุม่ ต่างๆ สัมมนาวิทยากรครูคาทอลิก เมือ่ วันที่ 9-10 กันยายน 2011 แผนกสนับสนุน งานธรรมทูต ฝ่ายงานธรรมทูต อัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ ได้ จ ั ด โครงการ “สั ม มนาวิ ท ยากร ครูคาทอลิกเป็นผูน้ ำยุวธรรมทูต” ณ บ้านผูห้ ว่าน สามพราน มีคณ ุ ครูเข้าร่วมสัมมนาจำนวน 28 คน จาก 15 โรงเรียน การสัมมนาในครัง้ นี้ มี คุณพ่อ สมเกี ย รติ บุ ญ อนั น ตบุ ต ร คุ ณ พ่ อ วั ช ศิ ล ป์ กฤษเจริญ และคุณพ่อเชษฐ์ดนัย ไชยเผือก เป็นวิทยากร
นักศึกษาศูนย์คำสอนแม่ริมดูงาน ศูนย์คำสอนกรุงเทพฯ ศูนย์คำสอนแม่ริมสังฆมณฑล เชียงใหม่ นำโดย คุณพ่อเอกสิทธิ์ ทัฬหะกุลธร, SDB นำนักศึกษาและ คุณครูคำสอนจำนวน 22 คน เยีย่ มชม และดู ง านศู น ย์ ค ริ ส ตศาสนธรรม อั ค รสั ง ฆมณฑลกรุ ง เทพฯ โดยมี คุ ณ พ่ อ เอกรั ต น์ หอมประทุ ม ผู ้ จ ั ด การแผนกฯ ให้ ก ารต้ อ นรั บ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2011 โอกาสนี้คุณพ่อเอกรัตน์ได้พาเยี่ยมชมการทำงานของแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ และแผนกสื่อมวลชน ฝ่ายงานอภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ อีกด้วย
ปฏิทนิ กิจกรรม เดือนตุลาคม 2011 7-8 ต.ค. 7-9 ต.ค.
ฝ่ายการศึกษาอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ อบรมหลักสูตรประกาศนียบัตร ครูจติ ตาภิบาล ห้องประชุม 3 บ้านผูห้ ว่าน ฝ่ายสังคม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ แผนกส่งเสริมชีวติ ครอบครัวจัดอบรมเตรียมเยาวชนสูช่ วี ติ ครอบครัว ย.2 รุน่ ที่ 22 บ้านสวนยอแซฟ สามพราน 10-11 ต.ค. สัมมนาบุคลากรพระคัมภีร์ บ้านผู้หว่าน 15 ต.ค. แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปิดคอร์สการอบรมพระคัมภีร์ คุณพ่อพงศ์เทพ ประมวลพร้อม และรับวุฒบิ ตั ร ณ อาคารคาทอลิกแพร่ธรรม เวลา08.30-12.00น. 17-21 ต.ค. ค่ายผูน้ ำเยาวชนคาทอลิกระดับชาติ ครัง้ ที่ 28 ณ วัดแม่พระปฏิสนธินริ มล บ้านน้อยสามเหลีย่ ม จ.ขอนแก่น 26-27 ต.ค. ประชุมฝ่ายธรรมทูต อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ห้องประชุม 5 บ้านผูห้ ว่าน ⌫⌫ ⌫
à¡Ãç´¤ÇÒÁÃÙ¤é ÓÊ͹...¤Ø³¾èÍàÍ¡Ãѵ¹ì ËÍÁ»ÃзØÁ
สวัสดีพน่ี อ้ งทีร่ กั เดือนตุลาคมนี้ สารของเราเน้นเรือ่ งงานธรรมทูต ทีเ่ ราเรียกง่ายๆ ว่าเรือ่ งการแพร่ธรรม ซึง่ มีแง่มมุ ที่น่าจะพิจารณามากมาย ที่จริงแล้วธรรมชาติ ของพระศาสนจักรคือ การแพร่ธรรม พระเยซูตง้ั พระศาสนจักรเพื่อให้บรรดาสานุศิษย์ได้ออกไป แพร่ธรรม ในภาคปฏิบตั ิ คือการสร้างพระอาณาจักร ของพระเจ้าให้เกิดขึ้นเป็นจริงเป็นจังในชีวิตจริง ของคริสตชนแต่ละคนนัน่ เอง เราได้รบั เรียกจาก พระเป็นเจ้าผ่านทางศีลล้างบาปให้มสี ว่ นร่วมใน การสร้างพระอาณาจักรของพระองค์ อาณาจักร ของพระเจ้าคือ ทีซ่ ง่ึ มีความรัก ช่วยเหลือเกือ้ กูลกัน สำนึกถึงความเป็นพี่น้องกันโดยมีพระเจ้าเป็น แรงบันดาลใจเป็นพื้นฐานของชีวิต เมื ่ อ เรามองดู ส ถานการณ์ ป ั จ จุ บ ั น พบว่ า ขณะนีป้ ระเทศไทยของเรามีผปู้ ระสบภัยน้ำท่วม อุทกภัยครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรง และส่ง ผลกระทบต่อผูค้ นเป็นจำนวนมาก ซึง่ จำนวนนัน้ อาจจะเป็นตัวเราเอง ญาติๆ ของเรา หรือคนทีเ่ รา รูจ้ กั หลายคนหมดตัว หมดหวัง ท้อแท้ ในเวลา เดียวกันก็มีหลายคนที่พยายามเอาตัวรอดโดย ไม่คำนึงถึงความทุกข์ของคนอืน่ ความยากลำบาก เหล่านีก้ ลับเป็นโอกาสให้เราคริสตชนเสริมสร้าง พระอาณาจักรของพระเจ้า โดยยื่นมือให้ความ ช่วยเหลือ ไม่ฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ยื่นมิตรไมตรีให้กันแม้ว่าตนเองอาจจะประสบ ความลำบากอยูก่ ต็ าม พีน่ อ้ งทีร่ กั เป็นเวลาทีเ่ รา คริสตชนต้องแสดงพลังความรักของพระเจ้าให้ ปรากฏแก่โลก เป็นโอกาสทีจ่ ะยืนยันว่าพระอาณาจักร ของพระเจ้ามาถึงแล้ว การไถ่กู้ของพระเยซูเจ้า เป็นจริงเป็นจังขึน้ มาแล้ว โดยผ่านทางคริสตชน ธรรมดาๆ อย่างเรานี่เอง เป็นที่น่าดีใจที่ขณะนี้ องค์ ก รคริ ส ตชนหลากหลายของเรา ร่ ว มมื อ ร่วมใจกันช่วยเหลือผูป้ ระสบภัย นีเ่ ป็นเครือ่ งหมาย ทีเ่ ป็นรูปธรรมของการเป็นคริสตชน ลูกศิษย์ของ พระเยซูเจ้า อย่าให้โอกาสผ่านไปโดยเราไม่มี ส่วนร่วมช่วยเหลือกันและกัน เดือนนีเ้ ป็นเดือนแม่พระ พ่อเชือ่ ว่าพีน่ อ้ งสวด สายประคำเป็นพิเศษ มีการตัง้ เป้าไว้สามแสนสาย ซึง่ ไม่นา่ เป็นเรือ่ งยากลำบากอะไร ขณะทีเ่ ราสวด สายประคำอย่าลืมขอแม่พระเป็นพิเศษ สำหรับพีน่ อ้ ง ทีอ่ ยูใ่ นสถานการณ์ทย่ี ากลำบากแสนเข็ญนีด้ ว้ ย ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกท่านครับ
จากแผนงานอภิบาลของสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่ง ประเทศไทย ทีก่ ระตุน้ และสนับสนุนให้สมาชิกของพระศาสนจักร เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงพันธกิจการประกาศข่าวดี การสร้างและ พัฒนาชุมชนวัดรวมทั้งหน้าที่ต้อนรับคริสตชนใหม่ในชุมชนวัดของตน โดยให้ใช้ กระบวนการรับผูใ้ หญ่เข้าเป็นคริสตชนเป็นเครือ่ งมือสำคัญ (ข้อ 21.1 ค) ผมจึงขอเขียนถึงขั้นตอนและระยะเวลาสำหรับพิธีรับผู้ใหญ่เข้าเป็นคริสตชน คาทอลิก ดังต่อไปนี้ 1. ระยะเวลาแห่ ง การประกาศพระวรสารก่ อ นเรี ย นคำสอน (Period of Evangelization and Precatecumenate) : ระยะเวลานี้เราเรียกว่า “ระยะเวลาแห่ง การประกาศพระวรสาร” ซึ่ง “เป็นการประกาศอย่างต่อเนื่องถึงความเชื่อในเรื่อง พระเจ้าผู้ทรงชีวิตและพระเยซูคริสตเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงส่งมากอบกู้มนุษย์ทุกคน ให้ ร อดพ้ น ทั ้ ง นี ้ เ พื ่ อ ให้ ผ ู ้ ท ี ่ ม ิ ใ ช่ ค ริ ส ตชนได้ เ ชื ่ อ ในพระเจ้ า โดยอาศั ย การนำ ของพระจิต ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นหนทาง ความจริงและชีวิต” (งานธรรมทูต ข้อ 13) ซึ่งช่วงเวลานี้ผู้สอนไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์ นักบวช หรือครูคำสอน ต้องอธิบาย พระวรสารให้ผู้สมัครเข้าใจอย่างเหมาะสม ซึ่งขั้นตอนนี้จะจบลงที่ “การต้อนรับ ผู้สมัครเรียนคำสอน” เป็นพิธีที่จัดขึ้นในวัดใดวัดหนึ่งในวันอาทิตย์แรกของเทศกาล เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า โดยผูส้ มัครแสดงเจตนาตอบพระกระแสเรียกในการติดตาม พระคริสตเจ้าต่อหน้าชุมชนคริสตชน 2. ระยะเวลาเรียนคำสอน (Period of the Catechumenate) : เป็นช่วงเวลา ทีผ่ สู้ มัครเรียนคำสอนได้พฒ ั นาความเชือ่ กลับใจมาหาพระเป็นเจ้า ฟังพระวาจา ดังนัน้ จึงต้องมีความเข้าใจเบื้องต้นถึงการละทิ้งบาป ต้องเริ่มรู้จักภาวนา และต้องเริ่มรู้จัก จิตตารมณ์ของหมู่คริสตชนและเนื่องจากชีวิตของพระศาสนจักรคือการแพร่ธรรม ผู้เรียนคำสอนต้องหัดร่วมมือในการแพร่ข่าวดีและสร้างพระศาสนจักรอย่างแข็งขัน ด้วยการดำเนินชีวิตเป็นองค์พยานและประกาศความเชื่อของตน (งานธรรมทูตข้อ 14) ซึ่งขั้นตอนนี้จะจบด้วย “พิธีเลือกสรร” ซึ่งพิธีนี้จะมีขึ้นในวันอาทิตย์แรกของเทศกาล มหาพรต เพื่อแสดงว่าผู้สมัครพร้อมที่จะรับศีลแห่งการเริ่มต้นชีวิตคริสตชน 3. ระยะเวลาแห่งการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์และรับการส่องสว่าง (Period of Purification and Enlightenment) โดยปกติระยะเวลานี้ตรงกับเทศกาลมหาพรต เพราะในเทศกาลมหาพรต พระศาสนจักรมีจุดประสงค์ที่จะฟื้นฟูสัตบุรุษ โดยให้ เขาระลึกถึงศีลล้างบาป และการใช้โทษบาป เพื่อเตรียมจิตใจในการร่วมฉลองปัสกา ผลของธรรมล้ำลึกปัสกาก็คอื ชีวติ ใหม่ทเ่ี ขารับเวลารับศีลล้างบาป (งานธรรมทูตข้อ 14) ในระยะนี้ มีการเตรียมจิตใจอย่างเข้มแข็งมากกว่าระยะเวลาเรียนคำสอน เพื่อจะได้ ชำระจิตใจให้สะอาดด้วยการพิจารณามโนธรรมและใช้โทษบาป อีกทั้งเพื่อส่องสว่าง จิ ต ใจของผู ้ ไ ด้ ร ั บ เลื อ กสรรให้ ม ี ค วามเลื ่ อ มใสในพระคริ ส ตเจ้ า อย่ า งลึ ก ซึ ้ ง ยิ ่ ง ขึ ้ น ซึ่งในระยะนี้จะมีการพิจารณาความตั้งใจของผู้สมัครเข้าเป็นคริสตชนในวันอาทิตย์ที่ 3-4-5 ของเทศกาลมหาพรต (เลือกกระทำในอาทิตย์ใดอาทิตย์หนึง่ ) 4. พิธีศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการรับเข้าเป็นคริสตชน ประกอบไปด้วย 1) วันเสาร์ ศักดิส์ ทิ ธิเ์ ช้า จะมีการเตรียมตัวรับศีลศักดิส์ ทิ ธิด์ ว้ ยการภาวนา พิธสี มั ผัสหู (เอฟฟาธา) เลือกชื่อนักบุญและเจิมน้ำมันศีลล้างบาป และ 2) วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ค่ำ ผู้สมัครเป็น คริสตชนจะได้รบั ศีลล้างบาป ศีลกำลังและศีลมหาสนิท เป็นพิธที ท่ี ำให้ผไู้ ด้รบั เลือกสรร พ้นจากบาปและเข้ามาอยู่ในหมู่ประชากรของพระเป็นเจ้า ได้เป็นบุตรบุญธรรมของ พระองค์ ได้รับพระจิตซึ่งนำเขาเข้าสู่ยุคแห่งความรอดตามพระสัญญา ซึ่งเริ่มต้นโดย องค์พระคริสตเจ้า (ดูพระศาสนจักรข้อ 48) และได้ลิ้มรสความสุขในอาณาจักรของ พระเป็นเจ้า โดยการร่วมถวายสักการบูชาและการรับศีลมหาสนิท ⌫⌫ ⌫ ⌦ ⌫ ⌫