สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ฉบับเดือนตุลาคม ปี 2012

Page 1

ปีที่ 10 ฉบับที่ 10 ประจำ�เดือนตุลาคม 2012

http://www.catholic.or.th/sarnbkk/

เอกสารฟืน้ ฟูชมุ ชน ศิษย์พระคริสต์เดือนตุลาคม

พระนางมารีย์

พระมารดาของเรา

วิถชี มุ ชนวัด...

การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

คาทอลิกไทย

พร้อมเพรียงไม่สน้ิ เสียง สายประคำ�

ทำ�ไมคาทอลิก

จึงสวดสายประคำ�

2 น.3

น.

4 น.8 น.

“พระเยซูทรงมองเพชฌฆาตผู้ประหารพระองค์ ในลักษณะที่แตกต่างจากที่เรามอง พระองค์ทรงมอง ไปไกลโพ้นไปกว่าสิ่งที่ปรากฏภายนอก พระองค์ทรง มองพวกเขาอย่างที่พวกเขาเป็นจริงๆ นั่นคือ เป็นลูก ของพระบิดา ผู้ที่ได้หลงทางไป หากเราอยากที่จะ ให้อภัยแก่ศัตรูของเราให้ได้จริงๆ เราจะต้องเริ่มจาก การมองพวกเขาด้วยสายตาใหม่ เราจะต้องเริ่มมอง พวกเขาอย่างที่พระเยซูทรงมอง” วาทะพระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พระอัครสังฆราชอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ บทเทศน์เยี่ยมอภิบาล วัดพระชนนีของพระเป็นเจ้า รังสิต วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2011

วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2012 เวลา 10.00 - 18.00 น. อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จัดงาน “เปิดปีแห่งความเชื่อ” ณ สักการสถานบุญราศ ีคุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำ�รุง เริ่มตั้งแต่ เวลา 10.00 น. ทุกคนมาพร้อมหน้ากันบริเวณหน้า สักการสถานฯ พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู เป็นประธานเสกรูปพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำ�รุง จากนั้นแล้ว คุณพ่อวุฒิเลิศ แห่ล้อม อุปสังฆราชฯ ได้กล่าวรายงาน พระคาร์ดินัลได้มอบธงปีแห่งความเชี่อให้กับหัวหน้าเขต ทั้ง 6 เขต และพระคาร์ดินัลเปิดประตูปีแห่งความเชื่อ สัตบุรุษทุกคนเข้ามาในสักการสถานพร้อมตั้งศีลมหาสนิท และ เฝ้าศีลมหาสนิทนำ�โดยกลุ่มองค์กรต่างๆ กลุ่มพลมารี วินเซนเดอปอล กลุ่มพระเมตตา คูร์ซิลโล กลุ่มเยาวชน และอัศวิน ศีลมหาสนิท ตามด้วยสัตบุรุษจากเขตต่างๆ ทั้ง 6 เขตในอัครสังฆมณฑล และจบพิธีด้วยการอวยพรศีลมหาสนิท และถวายช่อดอกไม้แด่แม่พระ ซึ่งภายในงานนี้ยังได้จัดให้เป็นการเปิดเดือนคาทอลิกไทยพร้อมเพรียง ไม่สิ้นเสียง สายประคำ�ของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ อีกด้วย โดยในเวลา 13.00 น. จัดให้มีวจนพิธีกรรมศีลอภัยบาป ณ วัดนักบุญ เปโตร และพิธีบูชาขอบพระคุณ โดยพระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ประธาน เวลา 16.00 น. และหลังพิธีแห่รูป บุญราศีคุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำ�รุง และปิดท้ายด้วยการจูบพระธาตุบุญราศีฯ และสำ�หรับงานเปิดปีแห่ง ความเชื่อนี้ ยังมีการถ่ายทอดสดผ่านเวบไซต์ www.catholic.or.th ให้ผู้ที่ไม่สามารถมาร่วมงานได้ ได้รับชมอีกด้วย โดยทุกภาคส่วนต่างจัดกิจกรรมเพื่อร่วมในปีแห่งความเชื่อโดยมีหัวข้อ “จงมีความเชื่ออย่างมั่นคง” (คส 2:7) ในภาคส่วนของเยาวชนอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้จัดงานชุมนุมเยาวชน และร่วมเปิดปีความเชื่อ โดยมีพิธีตื่นเฝ้า เพื่อเตรียมจิตใจเข้าสู่ปีแห่งความเชื่อ วันที่ 10-11 ตุลาคม ภาคส่วนของครูคำ�สอน จัดให้มีงานชุมนุมครูคำ�สอน ระดับชาติในวันที่ 17-19 ตุลาคม ณ หอประชุมอาคารมารดาพระผู้ไถ่ วิทยาลัยแสงธรรม


เจาะลึกพิเศษ...แผนกวิถีชุมชนวัด

พระคาร์ดินัลฟรังซิส เซเวียร์ เหวียน วัน ถ่วน เคยกล่าวไว้ในหนังสือถนนแห่งความหวัง พระวรสารจากคุกว่า “นี่เป็น ยุคของฆราวาส ตราบใดที่เรายังไม่สามารถขับเคลื่อนพลัง และพรสวรรค์ของประชากรของพระเจ้าได้ ทำ�ให้พวกเขาตื่นตัวและ กระตือรือร้นกับบทบาทของการแพร่ธรรมของพวกเขาแล้ว ก็จะยังคงมีชนชั้นจำ�นวนมากๆ ของสังคมที่รอที่จะถูกทำ�ให้แผ่ซ่านไป ด้วยพระวรสารอยู่ ความลับของงานแพร่ธรรมในยุคของเรา คือการแพร่ธรรมของฆราวาส...บทบาทของสาวกในสมัยของเรานี้ ก็คือการอยู่ในท่ามกลางโลก ไม่ได้เป็นของโลกแต่เพื่อโลกและเพื่อใช้สิ่งของต่างๆ ของโลกให้เป็นประโยชน์” เป็นที่น่ายินดีที่เรามีผู้นำ�วิถีชุมชนวัดที่เป็นฆราวาสเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นจาก การฝึกอบรมของแผนกวิถชี มุ ชนวัดหรือการฝึกอบรมของเขต 2 หรือจากแผนกองค์กรคริสตชน ฆราวาส ฯลฯ และทุกภาคส่วนที่จัดการอบรมก็ได้พยายามเน้นให้ผู้นำ�ฆราวาสมีบทบาทใน การนำ�การอบรมด้วย ในสารอัครสังฆมณฑลฯ ฉบับนี้ ขอนำ�เสนอในส่วนของแผนกองค์กรคริสตชนฆราวาส ซึ่งมีการประชุมผู้แทนองค์กรแพร่ธรรมที่ทำ�งานระดับวัด ทุกวันอังคารที่ 3 ของเดือนตลอดปี โดยคุณพ่ออภิเดช สุภาจักร์ ผู้จัดการแผนกฯ คุณพ่อชวลิต กิจเจริญ คุณพ่อประเสริฐ โลหะวิริยะศิริ คุณพ่อวิชชุกรณ์ เกตุภาพ และซิสเตอร์กัลยา ตรีโสภา เป็นที่ปรึกษาแผนก มีคณะพลมารีย์ คณะวินเซนต์ เดอ ปอล คณะอัศวินแห่งศีลมหาสนิท คณะแพร่ธรรมแห่ง แม่พระฟาติมา คณะพระเมตตา คณะเซอร์ร่า คณะเทเรเซียน และแผนกฯ ได้ให้การสนับสนุน การดำ�เนินงานของแผนกวิถีชุมชนวัด โดยมีแนวทางดังนี้ 1. องค์กรพลมารีย์ โดยสภาเซนาตุสจะช่วยเป็นผู้รับเรื่องการอ่านพระคัมภีร์แบบต่อเนื่อง เป็นงานหนึ่งของ องค์กร เมื่อสมาชิกนำ�ไปดำ�เนินงานแล้วสามารถรายงานต่อเปรสิเดียมได้ ลงมือดำ�เนินงานแล้ว “เป้าหมายแรกของความร่วมมือ ของฆราวาสในการแพร่ธรรมกับพระฐานานุกรม คือเป้าหมายของพระศาสนจักร ได้แก่การประกาศพระวรสาร การทำ�ให้มนุษย์ มีความศักดิ์สิทธิ์ และการอบรมให้เขามีมโนธรรมคริสตัง เพื่อเขาจะได้แทรกจิตตารมณ์พระวรสาร เข้าไปในหมู่คณะและองค์กร ต่างๆ” (จากคู่มือพลมารีย์ ข้อ ก บทที่ 2) 2. ทุกองค์กรฯ ที่กล่าวมา จะสนับสนุนช่วยเหลือองค์กรพลมารีย์ร่วมกันช่วยรณรงค์คริสตชนและผู้สนใจตามวัดเรื่อง การอ่านพระคัมภีร์แบบต่อเนื่อง เพราะพลมารีย์มีทุกวัดสะดวกต่อการติดต่อและประสานงาน 3. ประสานองค์กรฯ ร่วมกันเตรียมบุคลากรนำ�การอ่านพระคัมภีร์ระดับวัด ด้วยการจัดการฝึกทักษะการอ่าน รำ�พึงและ ไตร่ตรองพระคัมภีร์แก่สมาชิกองค์กรฯ และผู้สนใจ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและมีความกล้าอาสานำ�ผู้อื่นอ่านพระคัมภีร์ส่วนตัว หรือเป็นกลุ่ม หลังพิธีบูชาขอบพระคุณวันอาทิตย์ 4. เชิญคุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ ให้วิสัยทัศน์ “วิถีชุมชนวัด” รวมทั้งหลักการต่างๆ ของกระบวนการ AsIPA แก่กลุ่ม องค์กรฯ และผู้สนใจ จนมีความชัดเจนและเกิดทักษะ นำ�มาประยุกต์เข้ากับงานขององค์กรฯ อย่างเป็นรูปธรรม พัฒนาเป็นคู่มือ ของตนเองในบริบทของวัดที่องค์กรฯ สังกัดอยู่ โดยคาดหวังว่า ปี ค.ศ.2015 สมาชิกองค์กรฯ ทุกระดับตั้งแต่องค์กรสู่ระดับวัด ร่วมมือกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน เสริมสร้างชุมชนคริสตชนให้เข้มแข็ง สำ�หรับลูกหลานต่อไป 5. คณะอัศวินแห่งศีลมหาสนิทจะเสริมสร้างสมาชิกให้มีการอ่านพระวาจาร่วมกัน ตามวัดที่มีกลุ่มอัศวินฯ วัดละ 1 กลุ่ม ขณะนี้มีวัดที่ดำ�เนินการแล้วคือ วัดนักบุญอันนา (ท่าจีน) วัดพระแม่สกลสงเคราะห์ (บางบัวทอง) วัดพระบิดาเจ้า (ทิพวัล) วัดนักบุญเปโตร (สามพราน) และวัดแม่พระฟาติมา (ดินแดง) วัดนักบุญหลุยส์มารีฯ (บางแค) กลุ่มวัดที่กำ�ลังจะเริ่มต้นดำ�เนินการ คือ วัดพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ วัดนักบุญฟรังซิสเซเวียร์ 6. จัดทำ�โครงการเสริมสร้างเอกภาพองค์กรเพื่อสร้างผู้นำ�ทุกระดับ โดยไปตามวัดที่มีเพื่อนๆ หรือผู้รู้จักกัน ร่วมกัน รณรงค์ให้สมาชิกองค์กรระดับวัดมาร่วมเฝ้าศีลมหาสนิทและอ่านพระวาจาร่วมกัน เพื่อเป็นแรงจูงใจให้สมาชิกองค์กรอาสาสมัคร ร่วมดำ�เนินงานวิถีชุมชนวัดต่อไป พ่อเองดีใจที่วิถีชุมชนวัดกำ�ลังค่อยๆ เติบโต โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ด้วยวิธีการที่เหมาะสมกับบริบท ของตน แต่ทุกภาคส่วนมีความเป็นหนึ่งเดียวกันในจุดมุ่งหมาย นั่นคือ “เพื่อพระเกียรติมงคลของพระเจ้า และเพื่อความ รอดพ้นของเพื่อนมนุษย์” 2 สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 10 ฉบับที่ 10 เดือนตุลาคม 2012


บทความ...ผงศิลา

เอกสารฟื้นฟูชุมชนศิษย์พระคริสต์เดือนตุลาคม

พระนางมารีย์

พระมารดาของเรา พี่น้องที่รัก เอกสารฟื้นฟูชุมชนศิษย์พระคริสต์สำ�หรับ เดือนตุลาคมซึ่งเป็นเดือนแม่พระ เราจะร่วมกันไตร่ตรองเรื่อง “พระนางมารีย์ พระมารดาของเรา” เนื่องจากมีเรื่องราวมากมายในชีวิตของพระนางมารีย์ที่มีคุณค่า และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เรา เราคงไม่สามารถไตร่ตรองได้ทั้งหมดในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้น เป้าหมายของการฟื้นฟูชีวิตคริสตชน และชุมชนศิษย์พระคริสต์ในเดือนนี้ จึงเน้นการไตร่ตรองชีวิตของพระนางมารีย์ในเรื่อง “พระนางมารีย์ เป็นแบบฉบับของคริสตชน ในการปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้า” (หัวข้อนี้เป็นเพียงแนวทาง พี่น้องสามารถไตร่ตรองชีวิตและคุณธรรมของพระนางมารีย์ในแง่อื่นๆ ได้ด้วยนะครับ) เอกสารนี้เริ่มต้นด้วยการมองชีวิตปัจจุบัน (Look) เป็นเรื่องของบังอรที่ถูกท้าทายความเชื่อว่าจะ ปฏิบตั ติ ามคำ�สัง่ ของหัวหน้างานให้ลงบัญชีของบริษทั เป็นเท็จแล้วได้ทำ�งานต่อไป หรือปฏิบตั ติ ามคำ�สอน ของพระเยซูเจ้าในเรือ่ งของความซือ่ สัตย์แล้วถูกไล่ออกจากงาน สุดท้ายบังอรเลือกปฏิบตั ติ ามคำ�สอนของ พระเยซูเจ้าและถูกไล่ออกจากงาน (ในช่วงแรกนี้พี่น้องลองเปรียบเทียบสถานการณ์ในชีวิตของพี่น้องว่า เราเคยต้องเลือกระหว่างการทำ�ตามคำ�สอนของพระเยซูเจ้ากับการทำ�สิ่งที่ผิดหรือไม่? เราสามารถปฏิบัติ ตามพระประสงค์ของพระเจ้า โดยดำ�เนินชีวิตตามคำ�สอนของพระเยซูเสมอ แม้เราจะต้องลำ�บากได้ หรือไม่?) หลังจากนั้นเป็นการฟังพระวาจาของพระเจ้า (Listen) จากพระวรสารของนักบุญมัทธิวบทที่ 12 ข้อ 46-50 ในพระวรสารตอนนีพ้ ระเยซูเจ้าทรงเน้นว่า “นีค่ อื มารดาและพีน่ อ้ งของเรา เพราะผูท้ ปี่ ฏิบตั ิ ตามพระประสงค์ของพระบิดาของเราผูส้ ถิตในสวรรค์ ผูน้ นั้ เป็นพีน่ อ้ งชายหญิงและเป็นมารดาของ เรา” (รูปแบบของการอ่านพระวาจาของพระเจ้าขึ้นอยู่กับพี่น้อง สิ่งสำ�คัญที่สุดคือการอ่าน ฟังพระวาจา ของพระเจ้า และไตร่ตรองชีวติ ของพระนางมารียจ์ ากพระวาจาของพระเจ้าตอนนี้ โดยช่วยกันตอบคำ�ถาม ที่ว่า “ท่านคิดว่าพระนางมารีอาปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้าในเรื่องใดบ้าง?” สิ่งนี้จะช่วยให้เรา เห็นถึงแบบอย่างที่ชัดเจนของแม่พระในการปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้า) ที่สุดเป็นการดำ�เนินชีวิตศิษย์พระเยซู (Love) เป็นการนำ�พระวาจาของพระเจ้า และแบบฉบับชีวิต ของแม่พระในการปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้ามาปฏิบัติในชีวิต ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำ�คัญ เพราะเป็นการนำ�พระวาจาของพระเจ้าลงสูช่ วี ติ ของเรา และถ้ามีสองหรือสามคน หรือชุมชนวิถชี มุ ชน วัดร่วมใจกันปฏิบตั ติ ามพระวาจาของพระเจ้า จะเป็นสิง่ ทีม่ พี ลังอย่างมาก เพราะเป็นการเสริมสร้างความ เชื่อให้แก่กันและกัน โอกาสนี้เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะร่วมกันศึกษาคำ�สอนของพระศาสนจักรในเรื่องนี้จากภาคผนวก ซึ่งถ้ามีการอ่านร่วมกัน หรือมีผู้รู้ที่จะช่วยอธิบายเพิ่มเติม ก็คงจะดีไม่น้อยครับ สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 10 ฉบับที่ 10 เดือนตุลาคม 2012 3


เรียบเรียงจาก... เวบไซต์ทั่วโลกพร้อมเพรียง ไม่สิ้นเสียงสายประคำ�

คริสตชนคาทอลิกมีธรรมเนียมสวดสายประคำ �เป็นพิเศษในเดือนตุลาคม เพราะ วันที่ 7 ตุลาคม ระลึกถึงแม่พระลูกประคำ� นอกจากนี้ ในปี ค.ศ.1917(พ.ศ.2460) ระหว่ าง สงครามโลกครั้งแรก แม่พระได้ประจักษ์ที่ฟาติมา ประเทศโปรตุเกส ทุกวันที่ 13 ของเด ือน พฤษภาคม-ตุลาคม เป็นจำ�นวน 6 ครั้ง เพื่อขอร้องและเตือนมนุษย์มิให้หันหลังกับพระเจ ้า ขอให้สัตบุรุษยึดคำ�สั่งสอนของพระเยซูเจ้ามาปฏิบัติในชีวิต ทำ�พลีกรรมและสวดสายประ คำ� เพื่อให้โลกมีสันติภาพ แม่พระตรัสกับลูเซีย ทีฟ่ าติมา (13 ตุลาคม ค.ศ.1917) ว่า “เราคือแม่พระแห่งลูกประคำ� เรามาเพื่อเตือนลูกให้ปรับปรุงชีวิตจากบาป เราต้องไม่ทำ�ให้พระเป็นเจ้าขัดเคืองพระท ัย ยิ่งกว่านี้ เพราะมนุษย์ทำ�บาปมาก ลูกต้องสวดสายประคำ�ต่อไปทุกวัน” บุญราศีสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 เคยตรัสว่า พระองค์รักการสวด สายประคำ�มากที่สุด “ดวงใจของเราสามารถร่วมกันในธรรมล้ำ�ลึกของสายประคำ� เพราะ เป็นชีวิตของเราแต่ละคน แต่ละครอบครัว เป็นเหตุการณ์ส่วนตัว และเกี่ยวข้องกับคนอื ่น โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ใกล้ชิดเรา...พ่อขอให้ลูกทุกคนสวดสายประคำ�” นับแต่ปี ค.ศ.2006 เป็นต้นมา อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ก็สนับสนุนให้จัด “วันทั่ว โลกพร้อมเพรียง ไม่สิ้นเสียงสายประคำ�” มาอย่างต่อเนื่องทุกปี ดูเหมือนจะมาสะดุ ด หยุดลงปีเดียว คือปี ค.ศ.2009 โดยสลบั ผลัดเปลีย่ นวัดทีเ่ ป็นเจ้าภาพ ค.ศ.2006-2007 จัด ขึน้ ที่วัดกาลหว่าร์ ค.ศ.2008 จัดขึ้นที่วัดแม่พระประจักษ์ฯ หัวตะเข้ ค.ศ.2010 จัดขึ้นที่วัดนัก บุญ เปโตร สามพราน และปี ค.ศ.2011 แยกไปจัดตามเขตของแต่ละวัด

คณะกรรมการบริหารของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จัดตัง้ คณะกรรมการขึน้ มาชุดหนึง่ เพือ่ รับผิดชอบการรณรงค์นโี้ ดย เฉพาะ ต่อมาให้ชื่อ คณะกรรมการชุดนี้ว่า “คณะกรรมการอาสาสมัครรักสายประคำ�” มีพระคุณเจ้า วีระ อาภรณ์รัตน์ เป็น ที่ปรึกษา มีคุณพ่อสานิจ สถะวีระวงส์ เป็นประธาน และมีคุณพ่อสุรสิทธิ์ ชุ่มศรีพันธุ์ ทำ�หน้าที่ เลขาธิการ กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมการรณรงค์ทั่วทั้งประเทศต่อเนื่องจากการรณรงค์ปีที่แล้ว โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเผยแพร่ ให้คริสตชนคาทอลิกรูจ้ กั รัก และมีความศรัทธาต่อการสวดสายประคำ�ให้มากขึน้ ตามคำ�สอนและค�ำ เชิญชวนของแม่พระ คือ พระนางมารีย์ พระมารดาพระเจ้า ซึ่งประทานแก่เรามวลมนุษย์ ทุกครั้งที่พระแม่ประจักษ์มา สำ�หรับปี ค.ศ.2012 นี้ คณะกรรมการอาสาสมัครรักสายประค�ำ ได้ก�ำ หนดจุดประสงค์ของการสวดไว้ 5 ประการ ดังนีค้ อื 1. เพื่อส่งเสริมสิทธิของเด็กทารกในครรภ์มารดาที่จะเกิด (the unborn) 2. เพื่อความสงบสุขของประเทศชาติบ้านเมือง 3. เพื่อส่งเสริมความเชื่อและศาสนสัมพันธ์ในสถาบันครอบครัว 4. เพื่อส่งเสริมพระกระแสเรียกการเป็นพระสงฆ์และนักบวช 5. เพื่อขอพระแม่มารีย์เพิ่มพูนความเชื่อผ่านทางการสวดสายประคำ� ในปีนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม เชิญชวนคาทอลิกทั่วไทย สวดสายประคำ� โดยคณะกรรมการฯ ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 500,000 สาย (ห้าแสนสาย) โดยมีความหวังว่าสัตบุรุษคาทอลิกไทยจะเข้าร่วมในการรณรงค์นี้มากขึ้นเรื่อยๆทุกปี และยังได้ จัดทำ�เวบไซต์ทั่วโลกพร้อมเพรียงไม่สิ้นเสียงสายประคำ� http://www.thairosarylovers.com ซึ่งประกอบไปด้วยประวัติความ เป็นมา ประวัติของสายประคำ� โปสเตอร์รณรงค์ ใบบันทึกการสวด ฯลฯ พี่น้องสามารถเข้าไปติดตามรายละเอียด ได้ที่เว็บนี้ สายประคำ�ยังจะเป็นสายมาลัยร้อยเรียงดวงใจของเรา คริสตชนคาทอลิกไทย ให้รวมเป็นหนึ่ง ในความรักของพระเจ้า ด้วยอาศัยความรักและความช่วยเหลือของแม่พระคณะกรรมการฯ หวังว่า การรณรงค์นี้จะช่วยให้ความศรัทธาต่อการสวด สายประค�ำ แพร่หลายกว้างขวางยิง่ ขึน้ มิใช่เพียงเฉพาะในเดือนตุลาคมนีเ้ ท่านัน้ แต่จะแพร่หลายมากขนึ้ ในชีวติ ทุกๆ วัน ของ คริสตชนคาทอลิกไทยด้วย 4 สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 10 ฉบับที่ 10 เดือนตุลาคม 2012


บอกข่าวเล่าสาร

แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ

ฉลองการสถาปนาคณะพระมหาไถ่เป็นแขวงแห่งประเทศไทย เสกอาคาร “รีดีมเมอร์ ฮอลล์” วัดพระมหาไถ่ กรุงเทพฯ วันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2012 คณะพระมหาไถ่แขวงประเทศไทย ได้จัดให้มีพิธีบูชาขอบพระคุณ เนื่องในโอกาสฉลองการสถาปนาคณะพระ มหาไถ่เป็นแขวงแห่งประเทศไทย และเสกอาคาร “รีดีมเมอร์ ฮอลล์” ณ วัดพระมหาไถ่ กรุงเทพฯ โดย พระอัครสังฆราช เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พร้อมด้วย พระอัครสังฆราช จำ�เนียร สันติสุขนิรันดร์ บรรดาพระสังฆราช คุณพ่ออิกญาซีโอ เชฟฟาเลีย เลขานุการเอกอัครสมณทูตวาติกัน ประจำ�ประเทศไทย คุณพ่อมหาอธิการ ไมเคิ้ล เบรล, C.Ss.R. และคุณพ่อยอแซฟ อภิสิทธิ์ กฤษราลัมณ์, C.Ss.R. เจ้าคณะ เป็นประธานในพิธี จากนัน้ คุณพ่ออภิสทิ ธิ์ ได้กล่าวการได้รบั การสถาปนาเป็นแขวงประเทศไทยของคณะพระมหาไถ่ จากนัน้ คุณพ่ออิกญาซีโอ เชฟฟาเลีย เป็นตัวแทน เอกอัครสมณทูตวาติกันประจำ�ประเทศไทย ได้กล่าวแสดงความยินดี

ฉลอง 80 ปี อาคารพระหฤทัย และระลึกถึงมรณกรรมคุณแม่เซราฟิน เดอ มารี 60 ปี วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน 2012 คณะภคินพี ระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพฯ จัดงานฉลอง 80 ปี อาคารพระหฤทัย คลองเตย และครบรอบ มรณกรรมของคุณแม่เซราฟิน เดอ มารี 60 ปี ที่อารามพระหฤทัย คลองเตย กรุงเทพมหานคร โดยพระอัครสังฆราช เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณ ร่วมกับ พระสังฆราช สังวาลย์ ศุระศรางค์ คุณพ่อเดวิด โชคาร์ ตัวแทนอธิการเจ้าคณะสงฆ์มิสซัง ต่างประเทศแห่งกรุงปารีสและบรรดาพระสงฆ์รวม จำ�นวน 15 องค์ ร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณ ในงานนี้คณะได้รับเกียรติเป็นพิเศษ จากคณะภคินี เซนต์ปอล เดอ ชาร์ตรจำ�นวน 90 ท่าน นำ�โดยแมร์ไอรีน ชำ�นาญธรรม อธิการิณีเจ้าคณะแขวงแห่งประเทศไทยมาร่วมงานฉลอง อีกทั้งยังมีบรรดา เพื่อนพระหฤทัยฯและสัตบุรุษของวัดน้อยอารามพระหฤทัยมาร่วมโมทนาขอบพระคุณพร้อมกับสมาชิกคณะพระหฤทัยฯ เช่นกัน

ประชุมสภาภิบาลวัดชุดใหม่ วันเสาร์ที่ 15 กันยายน 2012 เวลา 08.30-15.30 น. พระอัครสังฆราช เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช เป็นประธานวจนพิธีกรรมเปิดการ ประชุ ม สภาภิ บ าลวั ด ชุ ด ใหม่ ข องทุ ก วั ด ใน อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เรื่อง “บทบาทหน้าที่ และการสื บ สานงานของสภาภิ บ าลวั ด ” ณ ศูนย์ฝึกอบรมงานอภิบาล บ้านผู้หว่าน พระคุณเจ้าเกรียงศักดิ์ ให้แนวทางกับสภาภิบาล สิ่งที่เน้น คือ “ปีแห่งความเชื่อ” ให้ฟื้นฟูชีวิต ความเชื่อเพื่อ “ประกาศข่าวดี” และแน่นอน “วิถีชุมชนวัด” พระคุณเจ้ายังคงเน้นย้ำ�เป็น พิเศษ

ประชุมเตรียมงาน BEC เมือ่ วันอังคารที่ 18 กันยายน 2012 เวลา 13.00 น. คณะกรรมการวิถชี มุ ชนวัด พร้อมด้วยผูน้ �ำ ของแต่ละวัด ได้รว่ มปรึกษาเชิงปฏิบตั เิ พือ่ การสร้างบุคลากรฆราวาส ให้มีส่วนร่วมในการวางแผนงานและการฝึกทักษะ การเป็นผูน้ �ำ (Training work shop ) ซึง่ ถือเป็นการเปิด กว้างในการมีส่วนร่วมของงานวิถีชุมชนวัดอย่างเต็ม รูปแบบจริงๆ เพราะเป็นการเปิดให้พระสงฆ์-นักบวช และฆราวาส ได้มสี ว่ นในการร่วมกำ�หนดทิศทางการทำ�งาน และการมีบทบาทร่วมกันมากขึน้ โดยยังคงยึด แนวทางของเอกสาร AsIPA เป็นกรอบในการทำ�งาน และบูรณาการกับประสบการณ์การทำ�งานจาก สนามงานจริงของฆราวาส เพือ่ ร่วมกันสร้างและพัฒนา “วิถชี มุ ชนวัด” ให้เป็นพระศาสนจักรแห่งการมี ส่วนร่วมอย่างแท้จริง มีผเู้ ข้าร่วมครัง้ นีจ้ �ำ นวน 7 ท่าน ณ อาคารคาทอลิกแพร่ธรรม ชุมชนศิษย์พระคริสต์ วัดพระบิดาเจ้า ทิพวัล อ่านและแบ่งปันพระวาจาร่วมกัน วันศุกร์ที่ 21 กันยายน 2012 เวลา 18.45 น. กลุ่มคริสตชนวัดพระบิดาเจ้า ทิพวัล จำ�นวน 9 คน รวมตัวกันที่บ้าน อ่านพระคัมภีร์ในหัวข้อ “เราเป็ น ประชากรของพระเจ้ า ” ในเดื อ น กันยายน ตามแนวนโยบายกระบวนการฟื้นฟู ชุมชนศิษย์พระคริสต์ ด้วยการมองชีวิตปัจจุบัน อ่านพระคัมภีรร์ ว่ มกัน ไตร่ตรอง และแบ่งปัน วลี หรือประโยคทีส่ ะกิดใจ ให้กบั กลุม่ ปิดท้ายด้วย การภาวนาเพื่อมวลชน ดูทุกคนจะมีความสุขกับการได้ร่วมแบ่งปันพระวาจา สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 10 ฉบับที่ 10 เดือนตุลาคม 2012 5


ปิ ด คอร์ ส อบรมพระคั ม ภี ร์ วันเสาร์ ปีท่ี 23 และรับวุฒบิ ตั ร วันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2012 แผนกคริสตศาสนธรรม ฝ่ายงานอภิบาลอัครสังฆมณฑล กรุ ง เทพฯ นำ � โดย คุ ณ พ่ อ เอกรัตน์ หอมประทุม ผูจ้ ดั การ แผนกฯ จัดปิดคอร์สอบรมพระคัมภีร์วันเสาร์ ปีที่ 23 และรับวุฒิบัตร มีผู้สมัครมารับการอบรมทั้งหมด จำ�นวน 151 คน และมีผู้ผ่านการอบรม เป็นเวลาร้อยละ 70 ขึ้นไป มีจำ�นวน 112 คน ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ

C-Games วันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2012 แผนกเยาวชนอั ค รสั ง ฆมณฑล กรุงเทพฯ นำ�โดย คุณพ่อสราวุธ อมรดิษฐ์ ผู้จัดการแผนกฯ จัด กิจกรรม C-Games วันเยาวชน แห่งชาติ ณ วัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา เริ่มต้นกิจกรรมในวันนี้ด้วย พิธมี สิ ซา เวลา 09.30 โดย คุณพ่อวิทยา แก้วแหวน พระสงฆ์หวั หน้า เขต 6 เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณร่วมกับ คุณพ่อสราวุธ อมรดิษฐ์ คุณพ่อพรชัย แก้วแหวน และคุณพ่อบุญชรัสมิ์ สุขสว่าง พร้อมด้วยน้องๆ เยาวชนทั้ง 6 เขต จำ�นวน 321 คน

สัมมนาฟื้นฟูชีวิตครอบครัว แผนกส่งเสริมชีวิตครอบครัว (สชค.) อัคร สังฆมณฑลกรุงเทพฯ นำ�โดย คุณพ่อพรศักดิ์ ชื่นจิตอภิรมย์ ผู้จัดการแผนกฯ จัดสัมมนา ฟื้นฟูชีวิตครอบครัว ขั้นที่ 1 (ฟฟ.1) รุ่นที่ 137 วันที่ 14-16 กันยายน 2012 ทีบ่ า้ นสวนยอแซฟ สามพราน มีคู่เข้าสัมมนาฯ ทั้งสิ้น 7 คู่ เป็น คาทอลิก 3 คู่, พุทธ 2 คู่ และต่างถือ 2 คู่

ธรรมทูตสัญจร วัดซางตาครู้ส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน 2012 แผนกโมบายเคลื่อนที่ (Mobile Teams) ฝ่ายงาน ธรรมทูตอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้จัดกิจกรรมธรรมทูตสัญจรขึ้น ณ วัดซางตาครู้ส กุฎีจีน เนือ่ งในโอกาสฉลองวัดประจำ�ปี 2012 ในการจัดกิจกรรมสัญจรครัง้ นี้ มีสตั บุรษุ เข้ามาเยีย่ มชม นิทรรศการและร่วมกิจกรรม มีจำ�นวนประมาณ 120 คน 6 สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 10 ฉบับที่ 10 เดือนตุลาคม 2012

ฝึกปฏิบัติการจัดทำ�สื่อเพื่องานจิตตาภิบาล กลุม่ งานจิตตาภิบาล ฝ่ายการศึกษา อัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ จัดโครงการ “ฝึกปฏิบัติการจัดทำ�สื่อเพื่อ งานจิตตาภิบาล” ให้กบั คณะครูคาทอลิก ในโรงเรียน ของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เพือ่ พัฒนาศักยภาพของ ครูจิตตาภิบาลให้สามารถทำ�งานอภิบาลและประกาศ ข่าวดีและเป็นการส่งเสริมครูจติ ตาภิบาลให้มจี ติ ตารมณ์ แห่งพระวรสาร โดยมี คุณสมบัติ งามวงศ์ เจ้าหน้าที่ ศู น ย์ ค ริ ส ตศาสนธรรมฯ และอาจารย์ ม นต์ สิ ง ห์ ไกรสมสุข อาจารย์พิเศษวิทยาลัยแสงธรรม เป็น วิทยากร เมื่อวันที่ 14-15 กันยายน 2012 ณ บ้านผู้หว่าน มีผู้เข้ารับการอบรมจำ�นวน 43 คน จาก 25 โรงเรียน


ฉลองศาสนนามมีคาแอล พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู

ที่ ลส. 715/12

กฤษฎีกา

วันที่ 21 กันยายน 2012 คณะผู้ให้การอบรม และสามเณรแห่งสามเณราลัยนักบุญยอแซฟ ได้จดั ให้มีพิธีบูชาขอบพระคุณโอกาสฉลองอัครเทวดา มีคาแอล คาเบรียล และราฟาแอล และโอกาส ฉลองศาสนนามมีคาแอลของ พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ณ วัดน้อยประจำ�สามเณราลัย

ข้าพเจ้า ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พระอัครสังฆราชแห่ง กรุงเทพฯ - หลังจากที่เห็นเอกสาร Supplex libellus ที่บาทหลวง Pasquale Liberatore SDB ในฐานะ Postulator นำ�เสนอเพื่อขอให้เริ่มดำ�เนินการกรณีบาทหลวง Carlo Della Torre สงฆ์และนักบวชแห่งคณะนักบุญฟรังซิสแห่งซาลส์ ผู้ตั้ง สถาบันธิดาพระราชินีมาเรียและคณะภคินีพระราชินีมาเรีย (1982-1900); - หลังจากพิจารณาเอกสาร “Divinus perfectionis Magister” ลงวันที่ 25 มกราคม 1983 (I,2), 2°,3°,4°; - หลังจากที่ได้ศึกษา “กฎเกณฑ์” แห่งพระสมณกระทรวงว่าด้วยนักบุญลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 1983; - หลังจากได้รับ ความเห็นชอบ ของสภาพระสังฆราชแห่งประเทศไทย; - หลังจากได้รับ Nulla-Osta จากพระสมณกระทรวงว่าด้วยนักบุญ (Prot. N. 2561-1/03) อีกทั้งตระหนักใจในมูลฐานที่เชื่อถือได้ของกรณีนี้ อีกทั้งไม่มีอุปสรรคใดใน การดำ�เนินการกรณีดังกล่าว ดังนั้น ด้วยจดหมายนี้

ข้าพเจ้าขอประกาศว่า

วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน 2012 เวลา 10.30 น. ชมรมนั ก ธุ ร กิ จ คาทอลิ ก นำ � โดย ดร.วี ร ะชั ย เตชะวิจติ ร์ ประธานชมรมฯ นำ�คณะกรรมการและ สมาชิกนักธุรกิจ จำ�นวน 26 ท่าน เข้าร่วมคารวะ พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู โอกาส ฉลองศาสนนามอัครเทวดามีคาแอล อัครเทวดา คาเบรียล และ อัครเทวดาราฟาแอล และร่วมแสดง ความกตัญญูกตเวทีแด่พระคุณเจ้า

ข้าพเจ้าได้รับคำ�ร้องขอของ Postulator และมีคำ�สั่งให้เริ่มดำ�เนินการกรณี ดังกล่าว ข้าพเจ้าขอเชิญชวนสัตบุรุษให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับกรณีนี้ ขอให้นำ�กฤษฎีกานี้ลงประกาศในสารสังฆมณฑล ข้าพเจ้าขอสั่งให้เลขาธิการสังฆมณฑล (cancelliere) แจ้งการตัดสินใจของ เราให้ Postulator รับทราบ ประกาศ ณ วันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2012 ( พระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ) ประมุขแห่งอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ( คุณพ่อ ประยุทธ ศรีเจริญ ) เลขาธิการอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

ปฏิทินกิจกรรม เดือนตุลาคม 2012 1-31 ต.ค. 2-4 ต.ค. 8-10 ต.ค. 10-11 ต.ค. 11 ต.ค. 13-14 ต.ค. 13 ต.ค. 15-17 ต.ค. 17-19 ต.ค. 19-21 ต.ค. 21 ต.ค. 24-26 ต.ค. 24-26 ต.ค.

โครงการรณรงค์สวดสายประคำ� เดือนคาทอลิกไทยพร้อมเพรียงไม่สิ้นเสียงสายประคำ� พระสงฆ์ เขต 5 เข้าเงียบ ที่ สว่างรีสอร์ท พระสงฆ์ เขต 2 เข้าเงียบและวางโครงการ ที่ หาดหฤทัย ชะอำ� เยาวชนอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จัดชุมนุมเยาวชนเปิดปีแห่งความเชื่อ ณ หอพักโต โรงเรียนยอแซฟชาย สามพราน เปิดปีแห่งความเชื่อ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ สักการสถานบุญราศีคุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำ�รุง พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ประธาน แผนกวิถีชุมชนวัดจัดโครงการร่วมใจกันสร้างและพัฒนา “วิถีชุมชนวัด” ณ บ้านผู้หว่าน รวมพลังวันศาสนสัมพันธ์ เวลา 08.00 - 12.00 น. อาสนวิหารอัสสัมชัญ พระสงฆ์เขต 3-4 เข้าเงียบร่วมกัน ที่ เดอ ธารารีสอร์ท พัทยา ชุมนุมครูคำ�สอนระดับชาติ ครั้งที่ 4 อาคารมารดาพระผู้ไถ่ วิทยาลัยแสงธรรม แผนกส่งเสริมชีวิตครอบครัว จัดโครงการเตรียมเยาวชนสู่ชีวิตครอบครัว ( ย.2) รุ่นที่ 23 ณ บ้านสวนยอแซฟ สามพราน ฝ่ายงานธรรมทูตฯ จัดงานวันแพร่ธรรมสากล พิธีมิสซาและส่งธรรมทูต เวลา 10.30 น. วัดพระแม่มหาการุณย์ นนทบุรี พระสงฆ์เขต 1 เข้าเงียบและประชุมเขต ที่ บ้านเพชรสำ�ราญ หัวหิน พระสงฆ์เขต 6 เข้าเงียบ ที่ เดอ ธารารีสอร์ท พัทยา สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 10 ฉบับที่ 10 เดือนตุลาคม 2012 7


เกร็ดความรู้คำ�สอน...คุณพ่อเอกรัตน์ หอมประทุม

สวัสดีพี่น้องที่รัก ตามประเพณีปฏิบัติของคริสตชนในเดือน ตุลาคมของทุกปี เราให้ความสำ�คัญเป็นพิเศษ กับการสวดสายประคำ� เพื่อแสดงความศรัทธา เป็นพิเศษแด่พระนางมารีอาแม่ของเรา ในปีน้ี มีการรณรงค์สวดสายประคำ�ตลอดเดือนตุลาคม ให้ครบ 500,000 สาย ก็นับว่ามากอยู่แต่คณะ กรรมการรณรงค์เชื่อว่าจะสามารถบรรลุตามเป้า ทีต่ ง้ั ไว้ บางคนอาจจะสงสัยว่าทำ�ไมต้อง 500,000 บ้างก็วา่ เป็นการทำ�เพียงแค่เปลือกนอก น่าจะทำ� แบบโน้น แบบนี้ดีกว่า ฯลฯ เรามีความเชื่ออย่าง หนึ่งว่า สายประคำ�เป็นสะพาน เชื่อมสัมพันธ์ ระหว่างผู้สวดกับพระเจ้า ดังนั้นใครก็ตามเมื่อได้ สวดสายประคำ� ก็เป็นการเปิดโอกาสให้พระเจ้า ทำ�งานในชีวิตของเขามากขึ้น ดังนั้น การรณรงค์ สวดสายประคำ�จึงเป็นการชักชวนคนที่ไม่ค่อย ได้สวด หรือไม่สวดเลยให้มาเริ่มสวด ไม่ใช่เพียง แค่เราแต่ละคนสวดมากขึ้นเท่านั้น และจะเกิดผล มากมาย หากเราพยายามชักชวนเพือ่ นๆ ญาติ พี่น้อง คนในครอบครัวมาสวดด้วยกัน พยายาม ชวนกันสวดทุกวัน เพื่อเปิดโอกาสให้พระเจ้า ทำ�งานในชีวติ ของเขามากขึน้ วันที่ 11 ตุลาคม 2012 ที่สักการสถาน บุญราศีคุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำ�รุง สามพราน นครปฐม พระคาร์ดนิ ลั ไมเกิล้ มีชยั กิจบุญชู เป็นประธานเปิดปีแห่งความเชื่อ ซึ่ง หมายความว่าปีแห่งการฟื้นฟูเริ่มขึ้นอย่างเป็น ทางการแล้ว ความเชื่อที่เราได้รับเป็นพระคุณที่ พระเจ้ามอบให้ ความเชือ่ ทีค่ ริสตชนมี ไม่ใช่เพียง แค่ร้วู ่าพระเจ้ามีอยู่จริง พระเจ้าเป็นใคร พระเจ้า สอนอะไร? เท่านั้น แต่ความเชื่อเป็นการที่คนๆ หนึ่งยอมรับพระเจ้าเข้ามาครอบครองชีวิตของ เขาในทุกๆ ด้าน เขาทำ�ทุกอย่างโดยมีพระเจ้าอยู่ ตรงหน้า สำ�นึกและน้อมรับในคำ�สอนของพระและ พยายามปฏิบตั ติ าม แม้วา่ จะขัดใจตนก็ตาม ความเชื่อไม่ใช่เพื่อความรอดส่วนตัว แต่ ความเชื่อทำ�ให้เราสามารถทำ�ตามที่พระเยซูเจ้า สอนทำ�ในสิง่ ทีค่ นทัว่ ไปบอกว่าโง่ บอกว่าเสียเวลา ฯลฯ ความเชื่อทำ�ให้เรากล้าที่จะร่วมทำ�ความดี ร่วมสร้างพระอาณาจักรพระเจ้าในโลก ในทีๆ่ เรา อยูน่ น่ั เอง พี่น้องในโอกาสเปิดปีความเชื่อนี้ ให้เรา เป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์โลกให้ดีข้ึน อย่าเป็นเหตุให้ พระอาณาจักรที่พระเยซูเจ้าตั้งขึ้นต้องมัวหมอง ความเชื่อ ทำ�ให้เรามั่นใจที่จะบอกว่าคำ�สอนของ เยซูพระเจ้าของเรา เป็นคำ�สอนทีเ่ ชือ่ ได้ ทีเ่ พียงพอ ทำ�ให้เรามัน่ ใจทีจ่ ะเป็นคนดีในทุกๆ เหตุการณ์ใน ชีวติ ของเรา ขอพระเจ้าอวยพระพรพีน่ อ้ งทุกท่าน

การสวดบทภาวนาเดียวกันซ้�ำ หลายๆ ครัง้ เป็นวิธปี ฏิบตั ิ ในบางศาสนา เพราะคิดว่าการสวดภาวนาซ้ำ�ไปซ้ำ�มาจะได้ ผลดีกว่า แนวคิดเรื่องการสวดซ้ำ�ไปซ้ำ�มานั้นมีพลังเป็นต่อ ในเมื่อมีแรงศรัทธาร้อนรนช่วยเสริมด้วย ในหมู่คริสตชนเช่นกัน มีการสวดซ้ำ�บทข้าแต่พระบิดาตั้งแต่ยุคกลาง บรรดาฤาษี ชาวไอริช ที่ไปเป็นธรรมทูตในทวีปยุโรป ได้ตั้งกฎให้บรรดาภราดาฆราวาสในอาราม สวดบทเพลงสดุดี 50 บท หรือสวดบทข้าแต่พระบิดา 50 ครั้ง เพื่อฤาษีผู้ล่วงลับ ฆราวาสเองก็สวดบทข้าแต่พระบิดาซ้�ำ ไปซ้�ำ มา แทนทีจ่ ะร้องเพลงสดุดี ดังนัน้ การสวด บทข้าแต่พระบิดาซ้ำ� 50 ครั้ง จึงเป็นบทสดุดีของฆราวาส การสวดซ้ำ�ไปซ้ำ�มาจึงเป็น จุดเริ่มต้นของการสวดสายประคำ� มีเรื่องเล่าว่าพระนางพรหมจารีได้เผยแสดงเรื่องการสวดสายประคำ�ให้ นักบุญเบเนดิ๊ก (ค.ศ.1170-1221) ท่านเป็นผู้ก่อตั้งคณะภราดานักเทศน์ ชื่อคณะ ดอมินีกัน อย่างไรก็ตาม การสวดสายประคำ�นั้นค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นอย่างที่ เรารู้จักกันในทุกวันนี้ ตามรูปแบบการสวดบทข้าแต่พระบิดาซ้ำ�ไปซ้ำ�มา 50 ครั้ง ในช่วงปลายศตวรรษ ที่ 12 ได้มีการสวดบทวันทามารีย์ 150 ครั้ง เป็นการแสดงความศรัทธาต่อพระแม่ มารีย์ ซึ่งตรงกับการอ่านบทเพลงสดุดี 150 บทในพันธสัญญาเดิม ในช่วงต้น ศตวรรษที่ 15 ฤาษีคณะคาร์ทูเซียน ชื่อดอมินิก แห่งพรุสเซีย ได้ทำ�ให้การสวดสาย ประคำ�ด้วยบทวันทามารีย์เป็นที่แพร่หลายออกไป ฤาษีคณะคาร์ทูเซียน อีกท่านหนึ่ง ชื่อ เฮ็นรี่ แห่งกัลการ์ ได้แบ่งการสวดสายประคำ�เป็นแบบ 10 เม็ด โดยมีการสวด บทข้าแต่พระบิดาคัน่ ทุกสิบเม็ด การรำ�พึงถึงพระธรรมล้�ำ ลึกข้อต่างๆ ก็ถกู เสริมเข้าไป ในการสวดสายประคำ� ฤาษีคณะดอมินีกันท่านหนึ่ง ได้เขียนหนังสือชื่อ Our Dear Lady Psalter ในปี ค.ศ.1483 ท่านกล่าวถึงพระธรรมล้ำ�ลึก 15 ประการ ในที่สุด พระศาสนจักรยอมรับการสวดสายประคำ�อย่างเป็นทางการ โดย พระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 5 (ค.ศ.1566-1572) ทรงประกาศในปี ค.ศ.1569 สองปี หลังจากนั้น คือวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ.1571 กองกำ�ลังคริสตชนแห่งสหพันธ์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ ภายใต้การนำ�ของนายกองชาวสเปน ชื่อ ดอน ยอห์น แห่งออสเตรีย ได้สยบกอง กำ�ลังเตริกต์ในสงครามเลปันโต ชัยชนะที่ได้นั้นเกิดจากพลังของการสวดสายประคำ� พระศาสนจักรสากลจึงได้จัดวันฉลองแม่พระลูกประคำ�ขึ้นในวันที่ 7 ตุลาคม โดย พระสันตะปาปา เคลเม็นต์ ที่ 11 (ค.ศ.1667-1669) ทรงเป็นผู้ประกาศอย่าง เป็นทางการ การสวดสายประคำ�เป็นรูปแบบการสวดภาวนาแสดงความศรัทธาต่อแม่พระที่ เรียบง่าย ใครๆ ก็สวดได้ นีค่ อื ความศรัทธาของคริสตชนในประวัตศิ าสตร์พระศาสนจักร จึงเป็นที่นิยมกันทั่วโลกในหมู่ชาวคาทอลิกทั้งหลาย มีทั้งการสวดแบบออกเสียง และสวดในใจ ในขณะที่ริมฝีปากสวดบทวันทามารีย์ใจก็รำ�พึงถึงธรรมล้ำ�ลึกต่างๆ บรรดานักบุญที่ศรัทธาต่อการสวดสายประคำ�และหาทางเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จัก ทั่วไป นักบุญที่น่าจะเอ่ยนาม คือ นักบุญ หลุยส์ มารีย์ กรีญอง เดอ มงฟอร์ต (ค.ศ.1673-1716) ผู้ได้แต่งหนังสือเรื่อง the Secret of the Rosary (ความลับของ สายประคำ�) อันเป็นที่รู้จักกันดี เรื่องสำ�คัญที่ควรกล่าวถึง คือ การประจักษ์มาของแม่พระที่ลูร์ดและฟาติมา โดยถือสายประคำ� เป็นต้นที่ฟาติมานั้น แม่พระขอให้สวดสายประคำ�ด้วยความ ศรัทธาร้อนรน แม่พระเผยแสดงให้เห็นถึงการจะได้อภิสิทธิ์พิเศษเมื่อสวดสายประคำ� จึงเป็นต้นกำ�เนิดการแสดงความศรัทธาร้อนรนของบรรดาสัตบุรุษ ข้อมูลจาก www.kamsonbkk.com วัตถุประสงค์ 1. เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมและข่าวต่างๆ ในระดับวัด เขตและสังฆมณฑล ให้กับสัตบุรุษและบุคลากรในหน่วยงานต่างๆ ของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ 2. เพื่อช่วยฟื้นฟูบทบาทการเป็นผู้มีส่วนร่วมในงานอภิบาลและธรรมทูตในชีวิตของสัตบุรุษ และบุคลากรในหน่วยงานต่างๆ ของอัครสังฆมณฑล 3. เพื่อนำ�เสนอเครื่องมือ และแนวปฏิบัติในงานอภิบาลและธรรมทูตให้กับสัตบุรุษและบุคลากรในหน่วยงานต่างๆ ของอัครสังฆมณฑล สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ผู้รับผิดชอบ : ฝ่ายงานอภิบาลของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ที่ปรึกษา : คุณพ่อพงศ์เทพ ประมวลพร้อม, คุณพ่อเอกรัตน์ หอมประทุม บรรณาธิการ : คุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ กองบรรณาธิการ : นาทลดา จิตรอำ�ไพ, พฤกษา กิจเจริญ, มัลลิกา กิจบำ�รุง, เพชรี ชาวแพรกน้อย พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์อัสสัมชัญ บางรัก กรุงเทพฯ โทร. 0 2233 0523 โทรสาร. 0 2235 1405 สำ�นักงาน : อาคารคาทอลิกแพร่ธรรม 57 ซอยเจริญกรุง 40 เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทร. 0 2237 7315 โทรสาร. 0 2233 8159 E-mail : webmaster@catholic.or.th


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.