ปีท่ี 11 ฉบับที่ 9 ประจำ�เดือนกันยายน 2013
http://www.catholic.or.th/sarnbkk/
แบ่งปันประสบการณ์
2
งานเยาวชนโลก น. ทีบ่ ราซิล
วิถชี มุ ชนวัด...
ประสบการณ์ ของสมาชิก
4
น.
New Evangelization การประกาศ พระวรสารขึน้ ใหม่ น.
8
บุคคลผู้หนึ่งได้สัมผัส “พระเยซูเจ้าพระเจ้าองค์ความรัก ผู้กลับคืน พระชนมชีพและยังคงประทับอยู่ท่ามกลางชุมชนความเชื่อ” เขาผู้นั้นจึง ได้เติบโตในความเชื่อ และไม่ละทิ้งความเชื่อศรัทธาอีกเลย เขาเชื่อมั่น ว่าความเจ็บป่วยของเขาเป็นของประทานที่มีค่ายิ่งจากพระเจ้า ไม่นาน ก่อนหน้าที่เขาจะเสียชีวิต เขาบันทึกไว้ว่า “หลายสิ่งหลายอย่างที่ ข้าพเจ้าเคยให้ความสำ�คัญในอดีตกลับกลายเป็นเรื่องหยุมหยิมไป ซะแล้ว ดูเหมือนมันจะไม่ใช่เรื่องสลักสำ�คัญอีกต่อไป เวลากลับกลาย เป็นสิ่งที่มีค่า พระเจ้ากลับเป็นเรื่องจริง ผมสัมผัสพระอานุภาพ ของพระองค์ได้ พระอานุภาพของพระอยู่ที่นี้เสมอ ผมทราบ ดีว่าพระเจ้ารักผม แต่ที่ผมไม่ทราบมาก่อนก็คือว่า พระองค์ ทรงรักผมมากมายถึงเพียงนี้” วาทะพระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พระอัครสังฆราชอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ บทเทศน์อารามพระหฤทัยฯ คลองเตย วันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2011
บทความ...ผงศิลา
พี่น้องที่รัก เอกสารฟื้นฟูชุมชนศิษย์พระคริสต์สำ�หรับเดือนกันยายน เราจะร่วมกันไตร่ตรองเรื่อง “วิถีชุมชนวัด” โดยมีเป้าหมายเพื่อ “ให้ตระหนักถึงแก่นแท้ของความเป็นชุมชนวัดในรูปแบบขนานแท้และดั้งเดิมรวมทั้งสิ่งที่พระศาสนจักรในเอเชียเห็นพ้องต้องกันว่า จะต้องเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนศิษย์พระคริสต์ในปัจจุบัน” เอกสารนีเ้ ริม่ ต้นด้วยการมองชีวติ ปัจจุบนั (Look) กล่าวถึงผูป้ ระสานงานวิถชี มุ ชนวัดแห่งหนึง่ เล่าถึงสิง่ ทีเ่ กิดขึน้ ในชุมชนวัดทีต่ นสัมผัส คือ แทบทุกคนรู้จักกัน และมีความช่วยเหลือกันอย่างดี ฯลฯ ต่อจากนั้นเป็นคำ�ถามให้เราไตร่ตรองว่า “ในชุมชนวัดที่กล่าวข้างต้น มีเครื่องบ่งชี้ อะไรบ้างที่แสดงว่า “สมาชิกของชุมชนคริสตชนย่อยเป็นเพื่อนบ้านกัน” และ “ทุกสิ่งที่พวกเขาร่วมกันทำ�มาจากความเชื่อ” พระวาจาของพระเจ้า (Listen) กล่าวถึงการก่อตั้งพระศาสนจักรที่เมืองอันทิโอก (กจ 11: 19-26) พร้อมทั้งคำ�ถามในการไตร่ตรองจาก พระวาจาที่ได้ฟังว่า “จากหนังสือกิจการอัครสาวกตอนนี้ ท่านเห็นบทบาทอะไรที่ชัดเจนและสำ�คัญของบรรดาศิษย์และของอัครสาวก บาร์นาบัสและเซาโล ในการเริ่มพระศาสนจักร (หรือชุมชนคริสตชน) ยุคแรกเริ่ม?” และ “เมื่อมีการพบปะกันในกลุ่ม หลังจากอ่าน พระวาจาด้วยกันแล้ว ท่านเคยได้รบั ความสว่างจากพระวาจาชีน้ �ำ ให้ทา่ นรักเพือ่ นมนุษย์อย่างเป็นรูปธรรมอย่างไรบ้าง? เล่าตัวอย่าง” การดำ�เนินชีวิตศิษย์พระเยซู (Love) เป็นการให้กลุ่มแสดงความคิดเห็นและแบ่งปันประสบการณ์ของแต่ละคนในเรื่องต่อไปนี้ “การอ่าน พระวาจาจากพระคัมภีร์ส่วนตัวอย่างสม่ำ�เสมอ และเจริญชีวิตตามพระวาจา เป็นรากฐานที่จำ�เป็นของการเริ่มวิถีชุมชนวัด” ท่านเห็น ด้วยกับคำ�กล่าวนีม้ ากน้อยเพียงไร? ให้เหตุผลประกอบความคิดเห็นของท่านด้วย” และ “ท่านสามารถมีบทบาทหรือมีสว่ นร่วมในชีวติ และพันธกิจของชุมชนวัดในด้านใดได้บ้าง?” นอกจากนี้ ในเอกสารไตร่ตรองยังได้กล่าวถึงวิถีชุมชนวัดพอสรุปได้ ดังนี้ 1. พระสังฆราชที่ร่วมประชุมสหพันธ์สภาพระสังฆราชแห่งเอเชียครั้งที่ 5 (ค.ศ.1990) ณ เมืองบันดุง อินโดนีเซีย ได้สรุปลักษณะสำ�คัญ ของ “วิถชี มุ ชนวัด” หรือ “วิถที างใหม่ของการเป็นชุมชนวัด” ไว้ คือ ภราดรภาพของบรรดาบุตรธิดาของพระเจ้า พระวาจาต้องเป็นจุดศูนย์กลาง ชุมชนวัดแห่งการมีสว่ นร่วม ชุมชนคริสตชนทีเ่ ป็นประจักษ์พยานและประกาศข่าวดี เครือ่ งหมายเชิงประกาศกถึงพระอาณาจักรของพระเจ้าใน ระหว่างเพื่อนบ้าน และภาวะผู้นำ�ที่ไม่ครอบงำ�ผู้อื่น 2. หมายสำ�คัญ 4 ประการของชุมชนคริสตชนย่อย คือ 2.1 สมาชิกของชุมชนคริสตชนย่อยเป็นเพือ่ นบ้านกัน 2.2 การอ่านพระวาจาเป็น พืน้ ฐานของการพบปะกันของชุมชนคริสตชนย่อย 2.3 สิง่ ต่างๆ ทีค่ ริสตชนย่อยร่วมกันทำ�มาจากความเชือ่ 2.4 ชุมชนคริสตชนย่อยสัมพันธ์กบั พระศาสนจักรสากล 3. ที่ประชุมสมัชชาเพื่อกำ�หนดแผนอภิบาล ของสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย ค.ศ.2010 ได้เห็นพ้องต้องกันที่จะเน้นให้ “วิถีชุมชนวัด” เป็นวิธีการหลักและสำ�คัญที่สุดในการสร้างและพัฒนาชุมชนวัด (ข้อ 13) (เทียบทิศทางฯ 2000-2010 : 39-44) 4. เราจะได้รบั ประโยชน์สงู สุดจากการอ่านพระคัมภีรห์ ากเราอ่านใน “บริบทแห่งความรักและมิตรภาพ” ระหว่างเรากับพระเจ้าผูต้ รัสกับเรา