Ca322 week07 newspaper design and process

Page 1

หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 0

นศ 322 การออกแบบและผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ [CA 322 Printed Media Design and Production] รวมรวม/เรียบเรียง โดย อาจารย์ณัฏฐพงษ์ สายพิณ (ปีการศึกษาที่ 2/2558)

ส า ข า วิ ช า นิ เ ท ศ ศ า ส ต ร์ บู ร ณ า ก า ร ค ณ ะ ศิ ล ป ศ า ส ต ร์ ม ห า วิ ท ย า ลั ย แ ม่ โ จ้

หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ ความสําคัญ ลักษณะของหนังสือพิมพ์และหนังสือพิมพ์ออนไลน์ การจําแนกประเภทหนังสือพิมพ์ แนวคิดการออกแบบรูปเล่มหนังสือพิมพ์ องค์ประกอบและรูปแบบของหนังสือพิมพ์ ทฤษฎีการออกแบบหน้าหนังสือพิมพ์ ระบบกริดสําหรับการออกแบบหนังสือพิมพ์ o การออกแบบหน้าในแนวสมัยใหม่ (Contemporary Design) o การออกแบบในแนวดั้งเดิม (Traditional Design) • ส่วนประกอบของหนังสือพิมพ์สําหรับการออกแบบ o การออกแบบหน้าหนึ่ง o การออกแบบหน้าใน o การออกแบบหน้าโฆษณา • • • • • •


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 1

หนังสือพิมพ์ : ความสําคัญ ลักษณะ ของหนังสือพิมพ์และหนังสือพิมพ์ออนไลน์ หนังสือพิมพ์ (Newspaper) หนังสือพิมพ์ คําจํากัดความในพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ.2484 ว่า "หนังสือพิมพ์ เป็นสิ่งพิมพ์ที่มีชื่อจ่าหน้า เช่นเดียวกัน ออกหรือเจตนาจะออกตามลําดับเรือ่ ยไป มีกําหนดระยะเวลาหรือไม่ก็ตาม มีข้อความต่อเนื่องหรือไม่ก็ตาม" หนังสือพิมพ์ หมายถึง สิ่งพิมพ์ที่รายงานข้อเท็จจริงและเหตุการณ์สําคัญที่เกิดขึ้น ในแต่ละวัน รวมทั้งเนื้อหาสาระอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ตลอดจนการโฆษณา มีวาระการวางจําหน่ายที่แน่นอน แต่เดิมนิยมจําหน่ายเป็นรายวัน ปัจจุบันหนังสือพิมพ์ รายสามวันก็เป็นที่นิยมของผู้อ่านมาก การจัดพิมพ์หนังสือพิมพ์จะใช้กระดาษชนิดเดียวกันตลอดเล่ม ตั้งแต่หน้าแรกจนถึง หน้าสุดท้ายโดยไม่มีการเย็บเล่ม หนังสือพิมพ์ หมายถึง สื่อสิ่งพิมพ์รายงานข่าว และข่าวสาร เพื่อให้ความรู้ ความบันเทิงและเสนอข้อเขียนเชิงวิพากษ์ วิจารณ์เสนอข้อคิดเห็นต่างๆ ในรูปของบทนํา หรือบทบรรณาธิการ (Editorial) บทความ (Article) ตลอดจน คอลัมน์ (Column) เพื่อให้แง่มุมความคิด และการเตือนภัย แก่ผู้อ่านซึ่งเป็นประชาชนทั่วไปเป็นสําคัญ จากความหมายข้างต้นอาจกล่าวได้ว่า หนังสือพิมพ์เป็นสื่อที่ต้องแข่งขันกับสือ่ อื่นๆ ที่มีการเคลื่อนไหวในการเสนอข่าว อยู่ตลอดเวลา เช่น วิทยุโทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียง เพื่อให้ข่าวสารต่างๆ ที่เสนอต่อผู้อ่านมีความใหม่สดอยู่เสมอ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับนิตยสาร วารสาร และหนังสือเล่มแล้ว สิ่งพิมพ์เหล่านี้ก็จะอ่านได้ง่ายและดูสวยงาม น่าสนใจกว่าหนังสือพิมพ์โดยทั่วไป ทั้งนี้เพราะนิตยสาร วารสาร และสิ่งพิมพ์อื่นนั้นมีเวลาทีใ่ ช้ในการออกแบบตกแต่ง ทําอาร์ตเวิร์กและเตรียมการมากกว่าหนังสือพิมพ์ แต่ผู้อ่านมักจะสนใจในความยากง่ายของการทําจะสนใจแต่เพียงว่าสิ่งพิมพ์ใด อ่านง่าย อ่านสนุก และน่าสนใจมากกว่าเท่านั้น ฉะนั้น เพื่อให้สามารถทําให้ผู้อ่านเกิดความสนใจให้ได้ ผู้ออกแบบจึงต้องพยายาม ทําทุกวิถีทางที่จะทําให้หนังสือพิมพ์เป็นที่น่าสนใจของผู้อ่าน และได้ประโยชน์จากเนื้อหาในขณะเดียวกัน วัตถุประสงค์ของหนังสือพิมพ์ • หนังสือพิมพ์เป็นสิ่งพิมพ์ที่พิมพ์ขึ้นเพื่อคนทุกระดับความรู้ ไม่จํากัดผู้อ่าน สามารถอ่านจบได้ในเวลาอันสั้น และอ่านได้ ทุกเวลา และทุกสถานที่ • มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจทั่วไปอย่างกว้างขวาง เช่น ข่าว บทความต่างๆ เพื่อให้แง่คิด ข้อสังเกตของหนังสือพิมพ์ • เป็นสื่อที่เก่าแก่ที่สุด • แม้ปัจจุบันจะมีสื่อสิ่งพิมพ์หลายรูปแบบที่นําเสนอข้อมูล แต่หนังสือพิมพ์ได้เปรียบสื่ออื่นตรงที่เป็นสื่อที่สามารถเจาะลึก เนื้อหาได้รอบด้านและคงทนถาวรกว่า


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 2 หนังสือพิมพ์ออนไลน์ (Online Newspaper) ในส่วนขององค์กรหนังสือพิมพ์เอง ได้นําคอมพิวเตอร์มาช่วยในงานหลายๆ ด้านอย่างแพร่หลายมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2503 ดังนั้น จึงมีความพร้อมในการรับเทคโนโลยีรุ่นใหม่ๆ เพื่อเติมเต็มช่องทางการเผยแพร่ข่าวสารไปยังกลุ่มผู้อ่านอยู่แล้ว แต่ในช่วงนั้น เครื่องคอมพิวเตอร์ยังไม่ค่อยมีใช้กันอย่างแพร่หลายนัก ประกอบกับประชาชนทั่วไป ยังใช้การสื่อสารออนไลน์ผ่าน ระบบอินเทอร์เน็ตเพียงเพื่อการรับ – ส่งอีเมลเท่านั้น (Craig, 2005 : 87) จากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ําทั่วโลกที่ฟื้นตัวในช่วงปี พ.ศ. 2537 นั้นทําให้ราคาต้นทุนของสื่อสิ่งพิมพ์สูงขึ้น และไม่สามารถควบคุมได้ ทั้งจากค่าหมึกพิมพ์ ค่ากระดาษพิมพ์ เพราะประเทศผูผ้ ลิตรายใหญ่ๆ ลดปริมาณการผลิตลง เพื่อตอบรับกระแสการอนุรักษ์ป่าไม้ ประกอบกับมีคู่แข่งในวงการเกิดใหม่ขึ้นมาเป็นจํานวนมาก จนเกิดการแย่งรายได้ จากการขายพื้นที่โฆษณา และยังรวมไปถึงการแข่งขันระหว่างหนังสือพิมพ์กบั สื่อประเภทอื่นๆ ที่มีข้อได้เปรียบกว่าในด้าน ความสดใหม่ รวดเร็ว ทันเหตุการณ์ อีกทั้งในการผลิตหนังสือพิมพ์ต้องใช้งบประมาณจํานวนมาก หากนําข้อมูลมาให้บริการ เพียงแค่การขายประจําวันก็อาจจะไม่คุ้มค่า องค์กรหนังสือพิมพ์จึงหาทางสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของตน โดยไม่ต้องลงทุน เพิ่มมากนัก (ณรงค์ จุนเจือศุภฤกษ์และคณะ, 2543 : 2) เมื่อภาวการณ์เป็นเช่นนี้ การขยายสายผลิตภัณฑ์ขององค์กรเป็นสิ่งจําเป็นเพื่อความอยู่รอด ในช่วงสิ้นปี พ.ศ. 2537 นั้นเอง ธุรกิจหนังสือพิมพ์กว่า 450 แห่งในประเทศสหรัฐอเมริกา หันไปใช้สื่ออินเทอร์เน็ตในการเผยแพร่ข่าวสาร เนื่องจาก ค่าใช้จ่ายมีราคาถูกกว่ามาก (ณรงค์ จุนเจือศุภฤกษ์และคณะ, 2543 : 2) จากนั้น สํานักข่าวต่างๆ เช่น รอยเตอร์ จึงเปิดตัวเว็บไซต์ของตัวเอง ตามมาด้วยสื่อโทรทัศน์ เช่น ซีเอ็นเอ็น และสื่อวิทยุ เช่น บีบีซี (กาญจนา กาญจนทวี, 2546 : 1) หนังสือพิมพ์ออนไลน์ในประเทศไทย สําหรับหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในประเทศไทย เกิดขึ้นจากกระแสความนิยมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจากต่างประเทศ ด้วยเพราะความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ได้ทั้งข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียง ช่วยลดข้อด้อย ของสื่อหนังสือพิมพ์ได้เป็นอย่างดี ผนวกกับปัญหาเดียวกันกับที่องค์กรหนังสือพิมพ์ทั่วโลกประสบ นั่นคือ ผลกระทบจาก ภาวะเศรษฐกิจตกต่ําทั่วโลก ในเดือนมีนาคม 2539 หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ เป็นองค์กรแรกที่ให้บริการ Online Edition

หน้าตาของเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ Bangkok Post ในยุคแรก (ภาพจาก อิงทัส ฉันทตุลย์และธนวรรณ ท้วมยิ้ม, 2540)


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 3

หน้าตาของเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ Bangkok Post ในยุคแรก (ภาพจาก นิตยสารอินเทอร์เน็ตทูเดย์ ฉบับประจําเดือนกรกฎาคม 2541 หน้า 36 และ 39) ในขณะเดียวกัน มีบริษัทในเครือองค์กรหนังสือพิมพ์เข้ารับสัมปทานจากการสื่อสารแห่งประเทศไทย - กสท. (ในสมัยนั้น) เพื่อเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่บุคคลทั่วไป จํานวน 2 ราย คือ บริษัท อินโฟนิวส์ จํากัด ในเครือบริษัท วัฏจักร จํากัด (มหาชน) และ บริษัท เอ็มกรุ๊ป จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเครือแมเนเจอร์ มีเดียกรุ๊ป (สุนทร สุจีรกุลไกร, 2539 : 116) ซึ่งแสดงให้เห็นว่า องค์กรด้านสิ่งพิมพ์มีความตื่นตัวและให้ความสนใจด้านนี้อยู่พอควร ส่วนหนังสือพิมพ์ฉบับเล็กฉบับใหญ่รายอื่นๆ ต่างก็ทยอยเปิดตัวหนังสือพิมพ์ออนไลน์ของตน ตามความพร้อมของ ทรัพยากรที่มีอยู่ และพยายามพัฒนาเว็บไซต์ทั้งด้านเนื้อหาและรูปแบบการนําเสนอให้ดีขึ้นตามลําดับ โดยในช่วงนั้น วัตถุประสงค์หลักของการจัดทําหนังสือพิมพ์ออนไลน์กเ็ พื่อช่วยในการประชาสัมพันธ์ขององค์กร ส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัย เพิ่มช่องทางเสริมในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของสื่อหลัก อีกทั้งยังเพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการเสนอข่าว ลดข้อด้อย เมื่อเปรียบเทียบกับสื่ออื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีผลพลอยได้อีกมากมาย เช่น ช่วยเพิ่มกลุ่มเป้าหมายให้กว้างมากขึ้น ขยายฐานผู้อ่านไปสู่พื้นที่ ที่ห่างไกลโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติมในเรื่องของการจัดพิมพ์ การขนส่ง และการจัดจําหน่าย เช่น ผู้อ่านคนไทยที่เป็นนักศึกษา คนทํางาน ผู้มีที่พํานักในต่างประเทศ ผู้อ่านที่อยู่ห่างไกล หรือไม่มีหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นๆ ขาย และยังทําให้เพิ่มช่องทางติดต่อ สื่อสารกับผู้อ่าน เช่น รับข้อคิดเห็น รับประเด็นข่าว ในขณะเดียวกัน องค์กรหนังสือพิมพ์หลายฉบับก็ได้มีการจัดทําหนังสือพิมพ์ออนไลน์ขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางทางการตลาด ในการทําธุรกิจ ทั้งการขายพื้นที่โฆษณาบนเว็บไซต์และขายควบคู่ไปกับสื่ออื่นๆในเครือ ในลักษณะเป็นชุด (Package) หรืออาจ มีไว้เพือ่ หารายได้เสริมจากค่าสมาชิก ค่าธรรมเนียม และรายได้จากการให้บริการเสริมอื่นๆเกี่ยวกับการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข่าว เสริมรายได้ของนักข่าว เช่น ให้บริการเป็นแหล่งสืบค้นฐานข้อมูลต่างๆ สําหรับภายในและภายนอกองค์กร


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 4

การจําแนกประเภทหนังสือพิมพ์ ประเภทหนังสือพิมพ์ การแบ่งแยกประเภทของหนังสือพิมพ์แนวใหม่ที่ตรงกับความเป็นจริงในวิชาชีพหนังสือพิมพ์ของไทย คือ การแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่

General Newspaper

Business Newspaper

Specialied Newspaper 1. หนังสือพิมพ์ประเภทข่าวทั่วไป (General Newspaper) เช่นหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ หนังสือพิมพ์ข่าวสด หนังสือพิมพ์แนวหน้า และหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ซึ่งเน้นนําเสนอข่าวสารทั่วๆ ไป มีเนื้อหา ที่หลากหลาย 2. หนังสือพิมพ์ประเภทข่าวธุรกิจ (Business Newspaper) จะเน้นนําเสนอข่าวสารด้านเศรษฐกิจและการเมืองเป็นหลัก เช่น หนังสือพิมพ์ธุรกิจ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ เป็นต้น 3. หนังสือพิมพ์ประเภทเฉพาะกลุ่ม (Specialied Newspaper) หนังสือพิมพ์แนวนี้จะมุ่งเน้นนําเสนอเนื้อหาเฉพาะด้าน ใดด้านหนึ่ง มีกลุ่มผู้อ่านเป้าหมายจําเพาะเจาะจง เช่น หนังสือพิมพ์แนวข่าวกีฬา เช่น หนังสือพิมพ์สตาร์ซ็อกเกอร์ หนังสือพิมพ์สปอร์ตพูล หนังสือพิมพ์คิก ออฟ และหนังสือพิมพ์กอล์ฟ ไดเจส เป็นต้น หรือหนังสือพิมพ์ แนวข่าวคราวและกิจกรรมความเคลื่อนไหวของผู้นับถือศาสนาอิสลาม เช่น หนังสือพิมพ์อิสลามทางนํา เป็นต้น


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 5

แนวคิดการออกแบบรูปเล่มหนังสือพิมพ์ หนังสือพิมพ์แต่ละประเภท จะมีรูปเล่มที่แตกต่างกันไปตามมาตรฐานนโยบายการผลิต หนังสือพิมพ์แต่ละหัว จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป ทั้งขนาด รูปแบบตัวอักษร การจัดลําดับประเด็นการนําเสนอเนื้อหาข่าวสาร และองค์ประกอบอื่นๆ แต่ส่วนมากจะมีแนวคิดในการออกแบบรูปเล่มเพื่อให้สะดวกต่อการอ่าน สําหรับองค์ประกอบและรูปแบบ ของหนังสือพิมพ์ต่างๆ สามารถพิจารณาได้แนวคิดในการออกแบบได้จากหัวข้อถัดไป

องค์ประกอบและรูปแบบของหนังสือพิมพ์ องค์ประกอบของหนังสือพิมพ์ • สําหรับหนังสือพิมพ์โดยทั่วไป เช่น ฉบับรายวัน มักมีรายงานข่าวต่างๆ มีข่าวในประเทศ ข่าวต่างประเทศ ประกอบไปด้วย ◦ ข่าวเหตุการณ์ในชีวิตประจําวัน เช่น การทะเลาะวิวาทและข่าวอาชญากรรม ◦ ข่าวการเมือง ◦ ข่าวเศรษฐกิจ ◦ ข่าวกีฬา ◦ ข่าวบันเทิง ◦ ข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ◦ ข่าวการเกษตร • นอกจากการเสนอข่าวแล้ว หนังสือพิมพ์อาจมี ◦ สารคดี หรือ นวนิยาย ◦ บทความ หรือ คอลัมน์แสดงความคิดเห็น ◦ ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบเรื่องต่างๆ และภาพการ์ตูน

หนังสือพิมพ์เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่รวมเรื่องราว บทวิเคราะห์ ภาพเหตุการณ์ และการโฆษณาต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ถ้าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ถูกจัดไว้อย่างขาดความมีระเบียบลงบนหน้าหนังสือ ก็จะให้ผู้อ่านเกิดความสับสนในเรื่องราวต่างๆ จึงจําเป็นต้องมี การวางแผนได้ว่าในแต่ละหน้าจะบรรจุอะไรไว้บ้าง และในตําแหน่งใด เพื่อให้ง่ายต่อการอ่าน ดังนั้น จึงต้องมีการออกแบบ เพื่อให้อ่านได้ง่าย อ่านได้เร็ว และอ่านได้มาก


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 6 วัตถุประสงค์ในการออกแบบหน้า หนังสือพิมพ์ ถือเป็นสินค้าชนิดหนึ่งเช่นเดียวกับสินค้าอื่นๆ นอกจากผู้ผลิตจะต้องแข่งขันกับหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นๆ ด้วยการนําเสนอเนื้อหา ได้แก่ ข่าวสาร ภาพประกอบ บทความ สารคดี ฯลฯ ที่มีความสําคัญหรือน่าสนใจ เพื่อให้ผู้อ่านนิยมชมชอบแล้ว ผู้ผลิตยังต้องหาวิธีการออกแบบหน้าหนังสือพิมพ์ทุกๆ หน้า ให้มีรูปแบบที่โดดเด่น สร้างเอกลักษณ์ เฉพาะ และสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้อ่านหรือผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด การออกแบบหน้าหนังสือพิมพ์นั้น มีคําศัพท์ที่ใช้กันอยู่หลายคํา ปัจจุบันใช้ภาษาอังกฤษว่า Design หมายถึง การออกแบบ กําหนดรูปแบบพื้นฐาน (Basic Format) เดิมใช้คําว่า Make up ที่หมายถึง การตกแต่งหน้าหรือการจัดหน้า บางทีก็ใช้คําว่า Layout หมายถึงการวางโครงร่าง นอกจากนี้มีอีกคําหนึ่งที่ผู้ออกแบบหน้าหนังสือพิมพ์ในประเทศไทยนิยมใช้ ได้แก่คําว่า ดัมมี่ (Dummy) ซึ่งมีความหมายเดียวกัน คือการออกแบบหน้าบนกระดาษร่างที่เรียกว่ากระดาษดัมมี่ ใช้สําหรับ ร่างแบบ ลักษณะกระดาษส่วนใหญ่ใช้กระดาษปรู๊ฟ มีขนาดกว้างยาวเท่าหน้าหนังสือพิมพ์จริง ซึ่งจะตีตารางเป็นเส้นบางๆ แบ่งเป็นคอลัมน์เท่าของจริง แม้ว่าเทคโนโลยีในการผลิตทุกวันนี้ จะอาศัยคอมพิวเตอร์ในการออกแบบบนหน้าจอแล้ว แต่บรรณาธิการ ฝ่ายศิลป์ หรือผู้ที่ทําหน้าที่ออกแบบหน้าของหนังสือพิมพ์บางฉบับ ก็ยังเคยชินกับการออกแบบบนกระดาษดัมมี่ ก่อนที่จะนําลงไปในคอมพิวเตอร์อีกครั้ง อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเลือกใช้คําใดในการออกแบบหน้าหนังสือพิมพ์ สิ่งที่ควรตระหนักคือ การออกแบบหน้า เป็นสิ่งจําเป็นและสําคัญอย่างมากต่อกระบวนการสื่อสารและกระบวนการผลิตหนังสือพิมพ์ กล่าวโดยสรุปในการออกแบบหน้าหนังสือพิมพ์มีวัตถุประสงค์ 4 ประการ คือ

ลักษณะการออกแบบหน้าของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 7 1. เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้อ่าน จากการจัดวางเนือ้ หาของข้อความ ภาพ สีสัน และองค์ประกอบต่างๆ 2. เพื่อสร้างเอกลักษณ์เฉพาะของหนังสือพิมพ์ ซึ่งแต่ละฉบับจะมีจุดเด่นและบุคลิกที่แตกต่างกันออกไปตามนโยบาย เช่น หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ออกแบบ หัวหนังสือพิมพ์เป็นสีเขียว การพาดหัวลักษณะต่างๆ ที่ใช้เฉพาะตัวเน้นเป็นอักษรขนาดใหญ่ (Banner) นิยมใช้ ขนาดหัวรอง (Readout) หน้าในนิยมใช้กล่อง (Box) ล้อมกรอบคอลัมน์หรือบทความต่างๆ เป็นต้น 3. เพื่อจัดลําดับความสําคัญของเนื้อหา โดยใช้หลักการทางวารสารศาสตร์ผสมผสานกับหลักการทางศิลปะ จัดลําดับความสําคัญของเนื้อหาสาระจากข่าว หรือเรื่องที่สําคัญที่สดุ กับเรื่องที่เด่นรองลงมา ควรนําไปวางบนตําแหน่งใดของหน้า จึงจะดึงดูดความสนใจ ของผู้อ่านได้ทันที 4. เพื่อส่งเสริมการอ่าน การออกแบบหน้าที่ดีจะช่วยให้ผู้อ่านได้รับความสะดวกในการอ่านหนังสือพิมพ์ได้อย่างรวดเร็ว สร้างความพึงพอใจ และอยากติดตาม ดาวที่พิมพ์อยู่บนขอบหนังสือพิมพ์ด้านซ้ายมีความหมายว่าอย่างไร? สําหรับหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ เริ่มพิมพ์สัญลักษณ์ดาวบนขอบหนังสือพิมพ์มาตั้งแต่สมัยที่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ ยังใช้ชื่อว่า เสียงอ่างทอง จุดประสงค์ก็เพื่อให้รู้ว่าเป็นหนังสือพิมพ์กรอบบ่ายหรือกรอบเช้า • หนังสือพิมพ์กรอบบ่าย(ฉบับของวันรุ่งขึ้น) จะมีดาวหนึ่งดวง • หนังสือพิมพ์กรอบเช้า (ฉบับของวันนั้น) จะมีดาวสองดวง ต่อมาเทคโนโลยีการพิมพ์และการขนส่งก้าวหน้ารวดเร็วมากขึ้น หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ พยายามเสนอข่าวให้ทันเหตุการณ์ และสนองตอบต่อการรับรู้ข่าวสารของผู้อ่านในแต่ละภูมิภาคให้มากที่สุด ด้วยเหตุนี้เองหนังสือพิมพ์ของวันหนึ่ง ๆ จะมีหลายฉบับ (version) เช่นนี้ จํานวนดาวที่พิมพ์ไว้เป็นเครื่องหมายให้ผู้เกี่ยวข้องสังเกตจึงมีหลายดวง ซึ่งจํานวนดาวแต่ละดวงมีความดังนี้ • 1 ดาว คือ ฉบับที่จําหน่ายในภาคอีสาน • 2 ดาว คือ ฉบับที่จําหน่ายในภาคเหนือ • 3 ดาว คือ ฉบับที่จําหน่ายในภาคใต้ • 4 ดาว คือ ฉบับที่จําหน่ายในกรุงเทพ กรอบบ่าย • 5 ดาว คือ ฉบับที่จําหน่ายในภาคกลาง • 6 ดาว คือ ฉบับที่จําหน่ายในกรุงเทพ กรอบเช้า แต่ทั้งนี้จํานวนดาวที่หน้าปกและเนื้อในอาจไม่จําเป็นต้องมีจํานวนเท่ากัน ตัวอย่างเช่น บางฉบับหน้าหนึ่งมีหกดาว แต่เนื้อในมีแค่สองดาว ที่เป็่นเช่นนี้เพราะข่าวที่เป็นข่าวส่วนกลางอ่านได้ทั้งประเทศไม่ว่าอยู่ภูมิภาคไหน เช่น ข่าวบันเทิง ข่าวการศึกษา จะมีเนื้อหาเหมือนกัน สามารถใช้เพลต (แม่พิมพ์) เดียวกันได้ เช่นอาจนําเพลตของฉบับภาคเหนือมาใช้ ในขณะที่หน้าหนึ่งหรือหน้าอื่นๆ ที่เป็นข่าวเฉพาะในภูมิภาคจะใช้เพลตเฉพาะของตน สําหรับหนังสือพิมพ์ข่าวสด มีดาวทั้งที่ขอบหนังสือพิมพ์ด้านล่างและด้านบน สอบถามได้ความว่า • ดาวที่ด้านบน หากมีหนึ่งดาวคือ ฉบับกรอบบ่าย สองดาวคือ ฉบับกรอบเช้า • ส่วนกลุ่มดาวที่ด้านล่างเป็นรหัสเฉพาะเกี่ยวกับการพิมพ์และการจัดส่ง ไม่ได้เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกความแตกต่างของเนื้อข่าวแต่อย่างใด


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 8

รูปแบบหน้าหนังสือพิมพ์ หนังสือพิมพ์แต่ละฉบับ จะมีรูปแบบที่แตกต่างกันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตามนโยบายขององค์กรแต่ละฉบับ แต่จะมีสิ่งที่ เหมือนกันและแตกต่างกันไปตามมาตรฐานของหนังสือพิมพ์ ผู้ทําหน้าที่ออกแบบหน้าหนังสือพิมพ์ ผู้ที่ทําหน้าที่ออกแบบนั้นขึ้นอยู่กับการจัดการในองค์กรของหนังสือพิมพ์ บางฉบับอยู่ในความรับผิดชอบของกองการผลิต เช่น หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ จัดองค์กรให้งานออกแบบหน้าอยู่ในความรับผิดชอบของกองการผลิต ส่วนหนังสือพิมพ์มติชน อยู่ในความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ โดยมี Sub-editor เป็นผู้รับผิดชอบทําหน้าที่เชื่อมระหว่างกองบรรณาธิการ กับกองการผลิต (ในที่นี้ Sub-editor ทําหน้าที่พาดหัวข่าว จัดหน้า รูปภาพ ต้นฉบับ) ตําแหน่งที่เรียกหัวหน้าผู้ทําหน้าที่ในการออกแบบ ก็เรียกแตกต่างกันไป บางฉบับเรียกว่าบรรณาธิการฝ่ายศิลป์ (Art Editor) บางฉบับเรียกบรรณาธิการฝ่ายจัดหน้า (Make up Editor, Layout Editor) บางฉบับไม่ใช้คําว่าบรรณาธิการ แต่ใช้คําว่าหัวหน้าแทน สําหรับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เช่น ไทยนิวส์ หรือ เชียงใหม่นิวส์ เป็นต้น ผู้ที่ทําหน้าที่ออกแบบอาจเป็นคนๆ เดียวกับบรรณาธิการ หรือหัวหน้ากองบรรณาธิการ อย่างไรก็ตามผู้ที่ทําหน้าที่ออกแบบหน้าหนังสือพิมพ์ ต้องเป็นผู้ทมี่ ีความรู้ความสามารถทั้งทางด้านศิลปะและวารสาร ศาสตร์ Harold Matthew Evans บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ชื่อดังของอังกฤษและผู้เขียนหนังสือเรื่อง Newspaper Design กล่าวถึงคุณสมบัติของผู้ออกแบบหน้าหนังสือพิมพ์ที่จะประสบความสําเร็จไว้ ดังนี้ 1. มีความเข้าใจงานหลักของการออกแบบหน้าคือ ทําหน้าที่เสนอสาร (Massage) ไปยังผู้รับสารหรือผู้อ่านได้อย่าง มีประสิทธิภาพ ด้วยรูปแบบที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนแต่ดึงดูดความสนใจ 2. ไม่ควรมุ่งแสดงงานสร้างสรรค์มากไปกว่าการที่จะเป็นผู้นําเสนอสาร เพื่อให้ผู้อ่านสามารถอ่านหนังสือพิมพ์ได้ อย่างรวดเร็วและอ่านได้มากกว่าเดิม 3. ผู้ออกแบบหน้าต้องประสานงานกับกองบรรณาธิการเพื่อทําความเข้าใจกับเนื้อหาสาระต่างๆ อย่างละเอียดถี่ถ้วน ก่อนเริ่มออกแบบ 4. มีความสามารถในการจัดลําดับความสําคัญขององค์ประกอบต่างๆ ได้ไม่ว่าจะเป็นข่าว บทความ ภาพ โฆษณา ฯลฯ ว่าควรวางอยู่ตําแหน่งใดบนหน้าแต่ละหน้า ใช้พื้นที่เท่าไร ใช้ตัวอักษรขนาดใด จึงจะสามารถสนองต่อ ความต้องการของผู้อ่านได้มากที่สุด 5. มีความสามารถในการทํางานเป็นทีม อย่าทําตัวเป็นปัญหากับผู้ร่วมงานอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายกองบรรณาธิการ ฝ่ายโฆษณา หรือฝ่ายผลิต ควรเป็นคนมีความยืดหยุ่น (Flexible minded) พอๆ กับเป็นผู้ที่มีความเด็ดขาด (tough minded) ในการแก้ปัญหา 1 หนังสือพิมพ์ The Sunday Times, 2 นิตยสาร The Week Magazine 3 หนังสือพิมพ์ The Guardian 3

Harold Matthew Evans นักข่าวและบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ The Sunday Times, หนังสือพิมพ์ The Guardian และ The Week Magazine

1

2

3


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 9 รูปแบบหรือขนาด(Format) ของหนังสือพิมพ์ ขนาดของหนังสือพิมพ์มี 2 ขนาด คือ หนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่หรือขนาดมาตรฐาน (Standard) หรือที่เรียกว่า "บรอดชีท" (Broad Sheet) หรือ "Full Size“ และหนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก ที่เรียกว่า "ขนาดแทบลอยด์" (Tabloid)

22-24 นิ้ว

ขนาดบรอดชีท (Broad Sheet)

14-15 นิ้ว

ขนาดแทบลอยด์ (Tabloid)

11-12 นิ้ว

14-15 นิ้ว

"ขนาดบรอดชีท" (Broad Sheet) หรือ "Full Size" ซึ่งมีความกว้างยาวประมาณ 14-15 คูณ 22-24 นิ้ว หนังสือพิมพ์ที่มีขนาดนี้ เช่น หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ, ข่าวสด, มติชน, เดลินิวส์, กรุงเทพธุรกิจ, คมชัดลึก, ผู้จัดการ, The Nation เป็นต้น "ขนาดแทบลอยด์" (Tabloid) มีความกว้างยาวประมาณ 11-12 คูณ 14-15 นิ้ว หรือประมาณ ขนาดตัดครึ่งของขนาดมาตรฐานนั่นเอง หนังสือพิมพ์ที่มีขนาดเล็กหรือแทบลอยด์ เช่น หนังสือพิมพ์สตาร์ซอกเกอร์, หนังสือพิมพ์ คิกออฟ, หนังสือพิมพ์สปอร์ตพูล, และหนังสือพิมพ์สปอร์ตแมน หรือหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติการในมหาวิทยาลัย เป็นต้น สําหรับในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นหนังสือพิมพ์ขนาด Broadsheet การออกแบบหน้าของหนังสือพิมพ์ขนาดนี้ มีทั้งที่เน้นความหวือหวาด้วยพาดหัวและภาพขนาดใหญ่ ส่วนหนังสือพิมพ์ขนาด Tabloid มักเป็นหนังสือพิมพ์เฉพาะด้าน (Special-interest journals)


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 10 อิทธิพลที่มีต่อการออกแบบหน้า ปัจจัยที่ส่งผลต่อการออกแบบหน้าหนังสือพิมพ์มีดังต่อไปนี้

นสพ.ข่าวสดขนาดบรอดชีท

นสพ.สตาร์ซอคเกอร์ขนาดแทบลอยด์

1. ขนาดของหนังสือพิมพ์ (Size) หนังสือพิมพ์ในปัจจุบันที่ตีพิมพ์ทั่วโลกและในประเทศไทยมี 2 ขนาด คือ ขนาดบรอดชีท (Broad Sheet) และ ขนาดแทบลอยด์ (Tabloid) ซึ่งขนาดนั้นจะขึ้นอยู่กับนโยบายและวัตถุประสงค์ของหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นๆ หนังสือพิมพ์ ขนาดแทบลอยด์ ในอังกฤษและสหรัฐอเมริกามุ่งสนองต่อกลุ่มเป้าหมายระดับล่างขึ้นมา การออกแบบนิยมใช้ทั้งข่าว และภาพขนาดใหญ่ สีสันที่สะดุดตา และเร้าความสนใจ ในขณะที่หนังสือพิมพ์ขนาดบรอดชีท มุ่งสนองต่อ กลุ่มเป้าหมายระดับกลางขึ้นมา การออกแบบแม้ต้องคํานึงถึงความสวยงามและความสะดุดตาเพื่อดึงดูดความสนใจกับผู้อ่าน แต่มักจะไม่หวือหวาโลดโผนเท่ากับหนังสือพิมพ์ขนาดแทบลอยด์ สําหรับประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นขนาดบรอดชีท มีทั้งที่เน้น ความหวือหวาด้วยการพาดหัวและภาพขนาดใหญ่หลายๆ ภาพ เช่น ไทยรัฐ เดลินิวส์ ข่าวสด มติชน เป็นต้น หนังสือพิมพ์ที่เน้นการพาดหัวที่มีขนาดหลากหลาย และเสนอภาพที่ไม่มากจนเกินไป ดูเรียบและขรึมกว่า เช่น กรุงเทพธุรกิจ ผู้จัดการ เป็นต้น ส่วนขนาดแทบลอยด์นั้นไม่เป็นที่นิยมมากนัก ส่วนใหญ่ที่เลือกตีพิมพ์ขนาดนี้จะเป็นหนังสือพิมพ์เฉพาะด้าน เช่น สตาร์ซอกเกอร์ หนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติการในมหาวิทยาลัย เป็นต้น นอกจากนี้ขนาดยังมีอิทธิพลต่อการแบ่งขนาดคอลัมน์ในแต่ละหน้า เช่น ขนาดแทบลอยด์ มี 4-5 คอลัมน์ ขนาดบรอดชีท มี 8-12 คอลัมน์, การเลือกขนาดตัวอักษร, ขนาดภาพ, จํานวนภาพ, จํานวนเรื่อง(บทความหรือข่าว), กราฟิก, พื้นที่โฆษณา เป็นต้น 2. เนื้อหา (Content) เนื้อหาที่เร้าอารมณ์ เช่น อาชญากรรม ข่าวบันเทิง ข่าวกีฬา มักนําเสนอภาพขนาดใหญ่แบบวาบหวือ พาดตัวโต ขนาดใหญ่ มีเพียงหัวข่าวและโปรยข่าว (Lead) สั้นๆ เท่านั้น บางฉบับเน้นการเสนอข่าวหนัก เช่น การเมือง เศรษฐกิจ ประชาสังคม เป็นต้น ซึ่งรูปแบบการจัดหน้าจะค่อนข้างราบเรียบกว่า ความสําคัญของเนือ้ หาก็เป็นสิ่งที่ผู้ออกแบบต้องทราบ ทั้งนี้ทางกองบรรณาธิการต้องจัดทําบัญชีข่าวหรือบัญชีเรื่อง (Slug sheet, Schedule sheet) โดยคัดเลือกประเมินคุณค่าความน่าสนใจของเนื้อหา ทั้งข่าว และบทความ ว่าเรื่องใดสมควรตีพิมพ์มากที่สุด เรื่องใดรองลงมา ภาพประกอบมีกี่ภาพ ภาพใดเป็นภาพเด่น (Dominant) งานกราฟิกอื่นๆ และความยาวของเรื่องเพื่อกําหนดรูปแบบการออกแบบของหน้าได้ นอกจากนี้การใช้พื้นที่ขาว (White space) ก็เป็นสิ่งหนึ่ง ที่นํามาปรับใช้ได้ในกรณีที่การจัดหน้าไม่ลงตัว เช่น เนื้อหายาวเกินไปหรือน้อยเกินไป


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 11 3. โฆษณา (Advertisement) ธุรกิจหนังสือพิมพ์ดํารงอยู่ได้ด้วยรายได้จากการโฆษณาเป็นหลัก ส่วนรายได้จากการขายหนังสือพิมพ์เป็นรายได้รอง การกําหนดอัตราส่วนระหว่างพื้นที่เนื้อหาและโฆษณา อยู่ในระหว่าง 40:60 บางฉบับอยู่ในอัตรา 30:70 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นๆ ได้รับความนิยมจากผูอ้ ่านอยู่ในระดับ ฉบับที่เป็นที่นิยมจึงมีพื้นที่ในการโฆษณามากกว่าเนื้อหานั่นเอง การออกแบบหน้าโฆษณา ต้องมาจากฝ่ายโฆษณาเป็นผู้แจ้งให้ผู้ออกแบบทราบว่ามีโฆษณาจํานวนกี่ชิ้นที่จะตีพิมพ์ ใช้พื้นที่เท่าไร เต็มหน้า ครึ่งหน้า หรือกี่คอลัมน์นิ้ว และการโฆษณาบางชิ้นมีการระบุเฉพาะว่าต้องการโฆษณาไว้หน้าใด พิมพ์สี่สีหรือสองสี(ขาว-ดํา) ส่วนพื้นที่ที่เหลือจากโฆษณาจึงเป็นพื้นที่สําหรับเนื้อหา 4. รูปแบบ (Style) หรือมาตรฐานเฉพาะในการออกแบบ ในการจัดทําสิ่งพิมพ์ กองบรรณาธิการจะจัดทําคู่มือการปฏิบัติงาน เรียกว่า Style book ถ้าไม่ได้ทําเป็นเล่ม เรียกว่า Style sheet เป็นสิ่งกําหนดมาตรฐานในการปฏิบัติงานหลายๆ ด้าน เช่น การตรวจแก้ปรับปรุงต้นฉบับ การใช้เวลา วันเดือนปี อักษรย่อ รูปแบบตัวอักษรพาดหัวข่าว หัวเรื่อง เนื้อเรื่อง การคัดเลือกภาพ ขนาดภาพ การจัดหน้า รูปแบบการโฆษณา หรือมาตรฐานกราฟิกอื่นๆ ซึง่ จะช่วยให้ผู้ทําหน้าที่ออกกแบบทํางานได้รวดเร็วและมีมาตรฐานแน่นอน ซึ่งนับเป็นข้อดี ในการออกแบบแต่ทั้งนี้อาจเป็นข้อเสียสําหรับการใช้ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ที่ต้องการจะฉีกรูปแบบเก่าๆ ที่จําเจได้ 5. วิธีการผลิต (Product Method) ปัจจุบันเทคโนโลยีในกระบวนการผลิตหนังสือพิมพ์ก้าวหน้าเป็นอย่างยิ่ง ทั้งการออกแบบหน้าด้วยคอมพิวเตอร์ การถ่ายภาพจากกล้องดิจิทัลความละเอียดสูง และเทคโนโลยีการพิมพ์ที่มีประสิทธิภาพ เช่น ปัจจุบันนีไ้ ทยรัฐ ใช้เครื่องพิมพ์ตราแมน โรแลนด์ รุ่นจีโอแมน จากประเทศเยอรมนี ซึ่งมีกําลังในการผลิตชั่วโมงละ 360,000 ฉบับ โดยใช้ พิมพ์ฉบับละ 40 หน้า (สี่สี 20 หน้า) ซึ่งในแต่ละวัน ใช้กระดาษทั้งหมด 230 ม้วน คิดเป็นน้ําหนัก 225 ตัน และใช้หมึกสีดํา 1,200 กิโลกรัม, สีแดง 445 กิโลกรัม, สีฟ้า 430 กิโลกรัม, สีเหลือง 630 กิโลกรัม โดยทางบริษัทฯ มักจะนําผู้ เข้าเยี่ยมชมกิจการ เข้าชมการผลิตหนังสือพิมพ์จากเครื่องพิมพ์ดังกล่าว 6. นายทุน / บรรณาธิการ (Owner/ Editor) การทํางานของผู้ทําหน้าที่ออกแบบหน้า อาจเผชิญกับปัญหาหรืออุปสรรคที่เกิดจากตัวบุคคล ซึ่งเป็นนายทุน หรือบรรณาธิการฝ่ายใดฝ่ายหนึง่ ที่ไม่พอใจต่องานออกแบบหน้าบางอย่าง เช่น วางภาพในตําแหน่งที่เด่นเกินไป ใช้ภาพใหญ่ เกินไป ขนาดตัวอักษรใหญ่เกินไป เป็นต้น จึงอาจมีคําสั่งให้เปลี่ยนแปลงงานที่ออกแบบแล้วเสียใหม่

ทฤษฎีการออกแบบหน้าหนังสือพิมพ์ การที่ผู้ออกแบบจะออกแบบหน้าหนังสือพิมพ์ได้บรรลุตามวัตถุประสงค์ดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ อาจกําหนดแนวคิด ของการจัดหน้าได้ดังนี้ 1. บรรณาธิการจะต้องจัดข่าวให้อยู่ในลักษณะที่มีความสะดวกต่อการอ่าน เพื่อให้ผู้อ่านรู้สึกว่าสามารถอ่านและติดตามข่าวได้อย่างต่อเนื่อง สม่ําเสมอ เช่น ควรให้ผู้อ่านเข้าใจ และติดตามได้ว่าข่าวเริ่มจากจุดใดต่อไปที่คอลัมน์ใดและ ไม่สิ้นสุดที่คอลัมน์ใดโดยง่าย ต้องจัดให้ข่าวพิเศษอยู่ในตําแหน่งที่ สะดุดตา หาดูได้สะดวก ไม่ต้องเสียเวลาค้นหามาก ฉะนั้น การจัดวางข่าวให้ระเบียบจึงเป็นมาตรการสําคัญ ข้อแรกของการออกแบบ 2. การจัดวางรูปแบบของข่าวต่างๆ ควรให้อยู่รูปแบบที่คงที่สม่ําเสมอและสอดคล้องกับหนังสือพิมพ์อื่นตามสมควร


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 12 3. เพื่อให้ผู้อ่านสะดวกในการติดตามข่าว โดยไม่ต้องเริ่มต้นหาตําแหน่งของเรื่องราวต่าง ๆ ใหม่ เมื่อไปอ่านหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับ แต่อย่างไรก็ตาม การออกแบบในการจัดหน้าและเสนอข่าว จะต้องทําให้ผู้อ่านเกิดภาพพจน์ต่อหนังสือพิมพ์นั้นตามที่ผู้ทําหนังสือพิมพ์นั้น ต้องการ ภาพพจน์นี้เป็นความรู้สึก ทัศนคติ และความคิดเห็นของผู้อ่านต่อหนังสือพิมพ์นั้น ๆ เช่น เกิดความรู้ ความเข้าใจ ว่าหนังสือพิมพ์ นั้น ๆ เป็นหนังสือพิมพ์ประเภทใด ๆ 4. จะต้องออกแบบให้ผู้อ่านรู้สึกตื่นเต้นยิ่งขึ้นต่อสิ่งที่หนังสือพิมพ์นั้นเสนอต่อผู้อ่าน เพราะความจริงแล้วหนังสือพิมพ์จะต้องแข่งขันกับสื่ออื่น ๆ ที่น่าสนใจกว่า เช่น วารสาร วิทยุ โทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียง สื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ จะมีความเร้าใจมากกว่าโดยธรรมชาติเพราะมีเสียงพูดเสียงดนตรี หรือภาพประกอบด้วย สิ่งพิมพ์ประเภท วารสาร นิตยสาร ก็สามารถทําให้เห็นจริงเห็นจึงได้มากกว่าโดยการใช้ภาพสี ฉะนั้นเพื่อให้สามารถแข่งขันกับสื่อต่างๆ ได้ หนังสือพิมพ์จึงจําเป็นที่จะต้องคิดค้นการจัดหน้า และการเสนอข่าวให้น่าสนใจ และน่าทึ่งมากยิ่งขึ้น เช่น การพาดหัวข่าว การใช้ภาพที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์ และความสดของข่าว การออกแบบหนังสือพิมพ์เป็นการนําเอาถ้อยคํา ภาพ สี และเส้น และสิ่งประกอบอื่นๆ มารวมกันให้เป็นงาน ศิลปะชิ้นหนึ่งที่มีวัตถุประสงค์ร่วมกัน คือ การเสนอข่าวสาร โฆษณาและข้อมูลต่างๆ ต่อผู้อ่านให้มีความสวยงาม น่าสนใจ และเกิดประโยชน์ใช้สอบมากที่สุดโดยที่สอื่ สิ่งพิมพ์ก็เป็นสิ่งพิมพ์ประเภทหนึ่ง ฉะนั้นผู้ออกแบบอาจใช้หลักเกณฑ์ในการออกแบบ องค์ประกอบศิลป์มาใช้ได้ นั่นคือ การออกแบบต้องคํานึงถึง ส่วนสัดความสมดุล ความแตกต่าง และความมีเอกภาพอยู่เสมอ

ทฤษฎีการออกแบบหน้า หลักการทางศิลปะที่ใช้ในการออกแบบหน้าหนังสือพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบในแนวดั้งเดิม (Traditional Design) หรือการออกแบบในแนวสมัยใหม่ (Contemporary Design) ผู้ออกแบบมักต้องใช้หลักทฤษฎีที่สําคัญๆ ดังนี้ 1. หลักในการกวาดสายตาของผู้อ่าน (Gaze) ปกติคนเราจะกวาดสายตาไปทั่วหน้าหนังสือพิมพ์ก่อนแล้วจึงหยุดสายตาลงอ่านเนื้อหาที่สนใจที่สุด หรือไม่ก็ตกอยู่ใต้อิทธิพลในการจัดวางหน้า ตามหลักวิชาการยังมีข้อถกเถียงที่ยังหาข้อยุติไม่ได้ว่าพื้นที่ด้านบนขวา (The top right hand) หรือพื้นที่ด้านบนซ้าย (The top left hand) เป็นที่ดึงดูดสายตาผู้อา่ นได้มากที่สุด Vic Giles และ F.W.Hodgson ชาวอังกฤษผู้แต่งหนังสือชื่อ Creative Newspaper Design ระบุว่าจากการวิจัยผู้อ่านพบว่า พื้นที่ด้านบนขวา และหน้าหนังสือพิมพ์ด้านขวา เป็นพื้นที่ที่ดึงดูดสายตาผู้อ่านได้มากที่สุด ซึ่งตรงกับแนวคิดของ Edmunt Arnold นักหนังสือพิมพ์ ชาวอเมริกันชื่อดัง ผู้มีความสามารถในการออกแบบหน้า ที่เห็นว่าพื้นที่ขวาบนเป็นจุดสายตา POA (Principle Optical Area) แต่ก็มีข้อโต้แย้งจากนักหนังสือพิมพ์บางท่านว่า พื้นที่ด้านซ้ายบนน่าจะเป็นจุดสายตา และสอดคล้องกับการอ่านหนังสือ ของคนที่ใช้ภาษาอังกฤษ หรือแม้แต่ภาษาไทยที่มีการอ่านจากซ้ายไปชวา ผู้มีความเชื่อแนวคิดใดก็มักจะนําหัวข่าวหรือภาพเด่นๆ วางไว้ตําแหน่งนั้น เช่น บางฉบับวางไว้ด้านบน บางฉบับวางไว้ด้านซ้ายบน หรือพาดหัวเต็มความกว้างของหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 13

การนําข่าวเด่นสุด (Lead News) วางไว้ด้านบนซ้ายหรือด้านบนขวาเพื่อดึงดูดสายตา


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 14 2. หลักแห่งความสมดุล (Balance) ความสมดุลของหน้าหนังสือพิมพ์หมายถึง ต้องไม่ออกแบบให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของหน้าหนักจนเกินไป ในขณะที่ อีกส่วนหนึ่งเบา เช่น ด้านบนหนักมากมีแต่หัวข่าวขนาดใหญ่ ภาพขนาดใหญ่ แต่ด้านล่างมีแต่หัวข่าวเล็กๆ ไม่มีอะไร ดึงดูดความสนใจ ความสมดุลในการออกแบบต้องกระจายน้ําหนักขององค์ประกอบต่างๆ เช่น หัวข่าว ขนาดคอลัมน์ ภาพ กราฟิก ให้ถ่วงดุลกัน โดยเอากึ่งกาลางหน้าเป็นจุดศูนย์กลางของสายตา (Optical Center) ความสมดุลในการออกแบบหน้าหนังสือพิมพ์มี 2 ลักษณะ คือ สมดุลแท้ (Symmetrical Balance) จะวางองค์ประกอบ บนหน้าทางด้านซ้ายและด้านขวาให้เท่าๆ กัน ซึ่งในปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมแล้ว เพราะดูเป็นทางการ ไม่น่าสนใจ ส่วนอีก ลักษณะคือสมดุลเทียม (Asymmetrical Balance หรือ Informal Balance) คือ ซ้ายกับขวามีองค์ประกอบไม่เหมือนกัน แต่ผอู้ อกแบบจะหาองค์ประกอบอื่นๆ มาถ่วงดุล เมื่อดูด้วยสายตาแล้วมีน้ําหนักเท่าๆ กัน ซึ่งจะสร้างความน่าสนใจมากขึ้น

หนังสือพิมพ์ The New York Times แบบ Asymmetrical Balance

หนังสือพิมพ์ The New York Times แบบ Symmetrical Balance

3. หลักความแตกต่างหรือความตรงกันข้าม (Contrast) การนําองค์ประกอบที่มีความแตกต่างกัน มาใช้ในการออกแบบหน้าหนังสือพิมพ์ช่วยสร้างความน่าสนใจให้ผู้อ่านได้อย่าง มาก เช่น การใช้ตัวอักษรในหัวข่าวที่มีขนาดแตกต่างกัน รูปแบบของหัวข่าวไม่เหมือนกัน ใช้ภาพหลายๆ ขนาด การวางคอลัมน์ในแนวดิ่ง (Vertical) หรือวางคอลัมน์ในแนวนอน (Horizontal) เป็นต้น ความแตกต่างนี้ จําแนกออกเป็น 4 อย่างคือ 3.1 ความแตกต่างของรูปร่าง (Shape) ได้แก่ รูปร่างของเรื่องแต่ละเรื่องหรือข่าวแต่ละข่าว โดยนํา ตัวอักษรมาวางในรูปร่างที่แตกต่างกัน เช่น รูปสี่เหลี่ยม รูปตัวแอล (L) รูปตัวยู (U) หรือรูปตัวที (T) เป็นต้น


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 15 3.2 ความแตกต่างของขนาด (Size) ได้แก่ขนาดตัวอักษรที่ใช้แตกต่างกัน และความแตกต่างของ ขนาดภาพ เช่น ภาพขนาดใหญ่ (Dominant Picture) หรือภาพบุคคล (Mug shot) เป็นต้น 3.3 ความแตกต่างของน้ําหนัก (Weight) ได้แก่น้ําหนักของหัวข่าวที่เป็นตัวขาวในพื้นดํา (Reverse) ย่อมมีน้ําหนักมากว่าหัวข่าวที่เป็นตัวอักษรธรรมดา และหัวข่าวที่อยู่ในสกรีนต่างๆ (น้ําหนักมากน้อยขึ้นอยู่กับ เปอร์เซ็นต์ของสกรีนด้วย) 3.4 ความแตกต่างของทิศทาง (Direction) ได้แก่ การว่างตัวอักษร ภาพ กราฟิกต่างๆ ในทิศทาง ที่เป็นแนวดิ่งหรือแนวนอน

การวางตัวอักษรเป็นรูปตัว L และ Dominant Picture และภาพประกอบในแนวดิ่ง

การวางตัวอักษรเป็นรูปตัว U และ Mug shot ในแนวนอน

4. หลักแห่งความเป็นสัดส่วน (Proportion) หมายถึงสัดส่วนขององค์ประกอบต่างๆ บนหน้าให้เหมาะสม ดูแล้วสบายตาน่าอ่าน เช่นสัดส่วนของภาพที่ดูสบายตา คือรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เพราะด้านกว้างยาวไม่เท่ากัน ส่วนใหญ่สัดส่วนของภาพ, ข่าว. บทความ, กล่อง, กราฟิก น่าจะอยู่ใน อัตราส่วน 3:5 ถือเป็นสัดส่วนที่ดูแล้วสบายตาและทําให้งานออกแบบดูดี 5. หลักแห่งความเป็นเอกภาพ (Unity) ต้องมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของหน้า เช่น หน้าหนึ่ง ภาพประกอบข่าวควรวางอยู่ใกล้กัน ไม่ใช่ภาพอยู่ทางข่าวอยู่ทาง การแบ่งเนื้อหาของแต่ละหน้าต้องเป็นเรื่องที่สอดคล้องกัน เช่น หน้ากีฬาก็ไม่ควรนําข่าวบันเทิงมาแทรก เป็นต้น 6. หลักแห่งความกลมกลืน (Harmony) องค์ประกอบต่างๆ ของหน้าต้องกลมกลืนไปด้วยกัน เช่น ขนาดคอลัมน์ของหัวข่าว มีความกลมกลืนกับอักษรพิมพ์ ที่เลือกใช้ในข่าว และเนื้อข่าว ขนาดภาพประกอบก็ต้องมีความกลมกลืนกับคุณค่าของข่าว ตลอดจนเส้นล้อมกรอบ หรือ กราฟิกต่างๆ


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 16

หลักการของการจัดหน้าหนังสือพิมพ์ การจัดหน้า หมายถึง การออกแบบหน้าแต่ละหน้าของหนังสือพิมพ์ โดยการกําหนดตําแหน่งของส่วนต่างๆ ในหน้า เช่น พาดหัวข่าว เนื้อข่าว ส่วนโฆษณา ซึ่งในการจัดหน้านี้จะต้องประกอบไปด้วยขั้นตอนต่างๆ ที่สําคัญ คือ 1. การจัดทําโครงร่างของหน้า (dummy) เพื่อให้รู้ว่าองค์ประกอบใดควรอยู่ในตําแหน่งใด ซึ่งโครงร่างนี้ จะต้องทําให้เรียบร้อยชัดเจน แน่นอน และรัดกุมมากที่สุดเท่าที่จะทําได้ เพราะถ้าจัดทําไม่ดีแล้วจะเป็นปัญหาในการเรียงพิมพ์ และจัดองค์ประกอบต่างๆ ลงบนหน้าอย่างมาก 2. การกําหนดตําแหน่ง (positioning) การกําหนดตําแหน่งของข่าว ภาพ และองค์ประกอบต่าง ๆ เป็นสิ่งสําคัญ โดยปกติดเรื่องราวหรือข่าวที่สําคัญมักจะจัดไว้ ณ จุดศูนย์กลางของความสนใจ เพราะผู้อ่านจะมองในส่วนนี้ก่อนส่วนอื่น โดยทั่วไปแล้วส่วนบนด้านซ้ายและส่วนบนด้านขวาของหน้าเป็นจุดศูนย์กลบางของ ความสนใจ ส่วนล่างของหน้าทั้งสองข้าง ก็เป็นจุดสนใจเช่นกัน แต่ไม่มากเท่าส่วนบน หลักการที่สําคัญของการกําหนดตําแหน่ง ก็คือ การชักนําให้อ่านอ่านเรื่องราวอย่างเป็นระบบโดยไม่รู้ตัว โดยการกําหนดให้เรียงภาพ หรือข่าวอยู่ในตําแหน่งที่เป็นจุดสนใจและน่าติดตาม ผู้อ่านบางคนอาจไม่สนใจตําแหน่งของข่าว แต่จะเลือกหาอ่านเรื่องราวที่ตนสนใจเป็นหลัก แต่ถ้าเรื่องราวหรือข่าวถูกจัดให้อยู่ในตําแหน่งที่อ่านง่าย เห็นง่าย ไม่สับสน ก็จะช่วยทําให้น่าอ่านยิ่งขึ้น

ระบบกริดในการออกแบบหน้าหนังสือพิมพ์ ระบบกริดสําหรับหนังสือพิมพ์ยังคงมีหลักการพื้นฐานของระบบกริดในการออกแบบมาตรฐานอยู่เช่นกัน นอกเหนือจาก หลักการข้างต้นแล้ว รูปแบบ (Style) ที่ใช้ในการออกแบบหนังสือพิมพ์มีอยู่ 2 แบบ คือ การออกแบบหน้าในแนวสมัยใหม่ (Contemporary Design) และการออกแบบในแนวดั้งเดิม (Traditional Design) แบบที่นิยมในปัจจุบันมากที่สุด คือ การออกแบบหน้าในแนวสมัยใหม่


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 17

Traditional Design

Contemporary Design


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 18 การออกแบบในแนวดั้งเดิม (Traditional Design) เป็นการออกแบบหน้าหนังสือพิมพ์สมัยก่อน มีลักษณะดังนี้

1. นิยมนําหัวหนังสือพิมพ์วางไว้บนสุดของหน้า ส่วนใหญ่วางไว้อยู่กึ่งกลางหน้า 2. นําเนื้อเรื่องหรือข่าวเด่นๆ วางไว้ด้านบนของหนังสือพิมพ์ 3. หัวข่าวของข่าวนํา (Lead News) วางอยู่ด้านบนของหน้าและใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่ หัวข่าวมีชนาดกว้างหลายๆ คอลัมน์ 4. บริเวณที่แสดงวันเดือนปีที่ตีพิมพ์ (Date Line) นิยมตีเส้นบนและล่าง ปีที่ 24 ฉบับที่ 1 วันที่ 18 มกราคม 2556 5. การวางตัวอักษรของเรื่องวิ่งเป็นแนวดิ่งขนาดหนึ่งคอลัมน์ เมื่อจบแนวคอลัมน์ (leg) จะวิ่งขึ้นไปต่ออีก leg หนี่ง โดยที่แต่ละ leg มีขนาดไม่เท่ากัน 6. ภาพที่ใช้ส่วนมากเป็นภาพขนาดเล็ก และมักวางไว้ด้านบนของหน้า 7. นิยมหัวข่าวที่มีหลายบรรทัด 8. มีจํานวนข่าวหรือเรื่องว่างอยู่แน่นมากในหน้าหนึ่ง บางฉบับมีมากว่า 10 ข่าว 9. นิยมใช้เส้นกั้นคอลัมน์ (Column rule), เส้นคั่นระหว่างข่าวหรือเรื่อง (Cut off-rule), เครื่องหมายจบข่าว 10. บริเวณส่วนล่างของหน้าราบเรียบ ไม่มีจุดเด่น 11. หน้าหนังสือพิมพ์มีลักษณะค่อนข้างทึบและแน่นไปด้วยเรื่องและองค์ประกอบอื่นๆ


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 19 การออกแบบหน้าในแนวสมัยใหม่ (Contemporary Design)

ในปี ค.ศ. 1970 บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ชาวอเมริกันได้ปฏิวัติการออกแบบหน้าหนังสือพิมพ์ให้ดูเชิญชวน และสร้าง ความพึงพอใจให้กับผู้อ่าน โดยลดจํานวนคอลัมน์จากที่เคยแบ่งหน้าออกเป็น 8 คอลัมน์ ลดลงมาเหลือ 6 คอลัมน์ ซึ่งมีผล ทําให้แต่ละคอลัมน์ มีขนาดกว้างขึ้น การออกแบบจะใช้แนวคิดใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากการออกแบบหน้าแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็น ช่วงเวลาเดียวกันกับที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีการพิมพ์ครั้งใหญ่ จากการเรียงพิมพ์และออกแบบหน้าด้วยมือมาเป็นเรียง ด้วยคอมพิวเตอร์และจัดหน้าบนจอคอมพิวเตอร์ ระบบการพิมพ์เปลี่ยนจากระบบ Letter Press มาเป็นระบบ Offset จึงถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการออกแบบหน้าหนังสือพิมพ์ครั้งใหญ่ การออกแบบประเภทนี้ปัจจุบันใช้กันแพร่หลาย มีลักษณะดังนี้ 1. เปลี่ยนตําแหน่งวางของหัวหนังสือพิมพ์จากกึ่งกลางด้านบนสุดของหน้า มาวางไว้ทางด้านซ้ายหรือด้านขวา และไม่ จําเป็นต้องวางชิดของด้านบนของหน้า 2. ข่าวหรือเรื่องเด่นๆ อาจกระจายไปวางไว้บริเวณอื่นๆ ของหน้า ไม่จําเป็นต้องวางอยู่ด้านบนเสมอไป (แต่ส่วนใหญ่ มักวางด้านบน) 3. หัวข่าวของข่าวนํา (Lead news) วางอยู่ที่ใดของหน้าก็ได้ ไม่จําเป็นต้องไว้ด้านบนสุด 4. บริเวณที่แสดงวันเดือนปี ที่ตีพิมพ์ (Date line) นิยมใช้เส้นเดียววางพาดจากซ้ายไปขวา 5. การวางตัวอักษรของข่าวหรือเรื่องแต่ละเรื่องมีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แนวคอลัมน์ (leg) แต่ละแนว มีความสูง เท่าๆ กัน และสามารถนําภาพแทรกระหว่าง leg ได้ ส่วนที่เป็น text จะสั้นลง


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 20 6. การพาดหัวข่าวไม่นิยมพาดหัวหลายบรรทัด โดยปกติประมาณ 1-2 บรรทัด 7. จํานวนเรื่องหรือข่าว มีน้อยลงประมาณ 5-6 ข่าว โดยจะเพิ่มความยาวของเรื่องให้มีมากขึ้น มิใช่มีเฉพาะความนํา (lead) สั้นๆ แต่มักมีเนื้อข่าวประกอบอยู่ด้วยก่อนที่จะไปอ่านหน้าอื่น 8. ภาพเป็นข่าวที่ใช้เป็นองค์ประกอบในการออกแบบหน้า ส่วนใหญ่เป็นภาพขนาดใหญ่ กว้างหลายๆ คอลัมน์ เพื่อสะดุด สายตาผู้อ่าน 9. ไม่นิยมใช้เส้นกั้นคอลัมน์ (Column rule) แต่จะเว้นพื้นที่ขาว (White space) ระหว่างคอลัมน์แทน ส่วนเส้นคั่น ระหว่างเรื่อง (Cutoff-rule) มีการนํามาใช้บ้างเป็นบางโอกาส 10. ส่วนล่างของหน้ามีความน่าสนใจไม่น้อยไปกว่าส่วนบน 11. หน้าหนังสือพิมพ์มีลกั ษณะสะอาดตา ไม่ทึบ อ่านง่าย เป็นการออกแบบที่สนองต่อหน้าที่ในการสื่อสารกับผู้อ่านได้ เป็นอย่างดี สําหรับการออกแบบหน้าในแบบ Contemporary นั้น นักวิชาการด้านวารสารศาสตร์ของอเมริกา 3 ท่านได้แก่ Floydk. Baskette, Jack Z. Sissors และ Brian S.Brooks ผู้แต่งหนังสือเรื่อง The Art of Editing กล่าวว่าการออกแบบหน้า Contemporary รวมแนวคิด 3 อย่างเข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่ แนวคิดแบบโมดูลาร์ (The Modular Concept), แนวคิดแบบกริด (The Grid Concept) และแนวคิดแบบโทเทิล (The Total Concept) ทั้งสามแนวนี้จะผสมผสานกลมกลืนเป็น Contemporary แต่ละแนวคิดมีลักษณะดังนี้ แนวคิดแบบโมดูลาร์ (The Modular Concept) การออกแบบจะนํา Module ซึ่งคือเรื่องแต่ละเรื่องหรือหลายเรื่องมาจัดกลุ่มเข้าร่วมกันให้อยู่ในรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า อาจวางอยู่แนวดิ่งหรือแนวนอนก็ได้ โดยแต่ละ Module จะมีขนาดกี่คอลัมน์ก็ได้ แต่ต้องวางให้ทุกแนวคอลัมน์ (leg) แตะพื้นล่างสุดของสี่เหลี่ยมในระนาบเดียวกัน ทั้งนี้อาจล้อมกรอบด้วยกล่อง (Box) ในแต่ละ Module ก็ได้ ซึ่งแนวคิดนี้มีลักษณะเด่นคือ ทําให้เรื่องแต่ละเรื่องแยกออกจากันได้อย่างชัดเจน ทําให้อ่านง่าย ไม่สับสน

XOXOXOXOXO XOXOXOXOXO

XOXOXOXOXOXOXOXOXOXO

แนวคิดแบบกริด (The Grid Concept) แนวคิดนี้พัฒนามาจากแนวคิดแบบ Modular อีกขั้นหนึ่ง โดย Grid เป็นการแบ่งหน้าด้วยเส้นตรงออกเป็นส่วนๆ หรือเป็นชั้น แต่ละส่วนประกอบไปด้วย Module ที่มีความหลากหลายหรือแตกต่างกัน บ้างวางแนวนอน บ้างวางแนวดิ่ง การจัดแบ่งหน้าในระบบกริดนี้เป็นการจัดแบ่งหน้าออกเป็นส่วนๆ ให้มีขนาดและรูปร่างที่ต่างกันออกไป การจัดแบ่งทําได้โดย การลากเส้นตัดกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมเป็นช่องๆ ซึ่งในการจัดหน้าหนังสือนั้นเส้นกริดจะหมายถึง ช่องว่างที่อยู่ระหว่างคอลัมน์นั่นเอง การลากเส้นกริดเพื่อแบ่งหน้าหนังสือออกเป็นส่วนๆ นั้นจะต้องคิดวางแผนล่วงหน้า เพื่อให้การจัดวางคอลัมน์ต่างๆ เป็นไปอย่างชัดเจน (อาศัยหลักการคล้ายกับการจัดหน้าหนังสือ/นิตยสาร)


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 21 โดยปกติเนื้อข่าวต่างๆ ก็จะถูกจัดให้เป็นรูปเหลี่ยมประกอบด้วยคอลัมน์ย่อยๆ อาจเป็นการจัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยม ในแนวตั้งหรือแนวนอนก็ได้ แต่การแบ่งพื้นที่ต่างๆ มักจะไม่เท่ากัน เช่น จะไม่มีการแบ่งให้มี 4 คอลัมน์ ทางซ้าย และ 4 คอลัมน์ ทางขวาเลย แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะจัดให้มีการแบ่งจํานวนคอลัมน์ของแต่ละข่าวกันดังนี้ คือ 2 และ 4 คอลัมน์หรือ 1 และ 5 คอลัมน์ เป็นต้น

แนวคิดแบบโทเทิล (The Total Concept) แนวคิดนี้มุ่งให้ภาพรวมของหน้าหนังสือพิมพ์ทั้งหน้ามีความน่าสนใจทั้งหมด ไม่เน้นความสําคัญทีบ่ ริเวณใดบริเวณหนึ่ง ของหน้า แต่จะพยายามให้การออกแบบที่ใช้แนวคิดแบบ Modular และ Grid กระจายองค์ประกอบต่างๆ ไปทั่วหน้าให้ภาพรวมออกมาดูดี สามารถดึงดูดความสนใจได้ และในทํานองเดียวกันก็จะไม่แบ่งให้ส่วนบนกับส่วนล่างเท่ากัน ด้วยการจัดหน้าแบบการออกแบบรวม (total design) การจัดหน้าแบบนี้แตกต่างไปจากการจัดแบบระบบกริด โดยมุ่งให้ การจัดหน้ามีลักษณะที่น่าทึ่ง น่าสนใจยิ่งขึ้น ด้วยการคิดวางแผนการจัดหน้าและข่าวไว้ล่วงหน้าโดยการจัดวางรูปแบบพื้นฐาน ทั่วไปของหน้าก่อนแล้วจึงพิจารณาบรรจุข่าวลงในรูปแบบที่กําหนด ซึ่งรูปแบบของหน้าที่จัดนั้นก็จัดไว้เป็นพื้นที่กว้าง ๆ ที่มี สัดส่วนพอเหมาะที่จะเรียกร้องความสนใจได้ เช่น การจัดให้มีพื้นที่รูปเหลี่ยมขนาดต่าง ๆ อยู่ด้วยกันทั้งในแนวตั้งและแนวนอน ที่มีการเฉลี่ยน้ําหนักของคอลัมน์ที่พอเหมาะเมื่อมองภาพรวมทั้งหน้า แต่อย่างไรก็ตามการจัดการแบบนี้ก็ยงั เน้นความเรียบง่าย แต่น่าสนใจการจัดที่มีที่ว่างระหว่างคอลัมน์บ้างจะช่วยให้ดูโปร่งตาและสวยงามมากขึ้น ซึ่งโดยปกติช่องว่างระหว่างคอลัมน์ ไม่ควรน้อยกว่า 14 พอยท์ ซึ่งบางครั้งอาจให้กว้างได้ถึง 2 ไพก้า


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 22 แนวคิดในการออกแบบหน้าหนึ่งและหน้าใน หน้าหนึ่ง 1. 2. 3. 4. 5.

ต้องโดดเด่น ดึงดูดความสนใจ ชวนเชิญมากกว่าหน้าอื่นๆ สะท้อนบุคลิกเฉพาะของหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นๆ หน้าหนึ่งต้องมีการจัดลําดับความสําคัญของเนื้อหาข่าวให้ชัดเจน หน้าหนึ่งต้องสามารถสื่อสารกับผู้อ่านได้ย่างมีประสิทธิภาพ ทําให้อ่านง่ายและไม่สับสน หน้าหนึ่งไม่ควรมีรูปแบบที่ตายตัว แต่ควรมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์

ข้อควรระวัง 1. ความสําคัญของข่าวและเนื้อหากับตําแหน่งที่วางบนหน้า 2. ไม่นําหัวข่าวที่มีขนาด สี และตัวอักษรชนิดเดียวกันมากวางอยู่ในแนวเดียวกัน 3. หัวข่าวกับเนื้อข่าวควรวางติดกัน 4. ภาพประกอบข่าวใดควรนํามาวางใกล้กันเพื่อป้องกันความสับสน 5. การใส่กล่อง (box) ต้องใช้อย่างพอเหมาะ 6. เพิ่มพื้นที่ขาว (white space) ระหว่างเรื่อง ภาพ และองค์ประกอบอื่นๆ เพื่อไม่ให้หนาทึบเกินไป 7. ข่าวและเนื้อหาทุกเรื่องบนหน้าหนึ่ง ควรอยู่ในรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า เพื่อความสะดวกในการจัดหน้า และทําให้หน้าหนึ่งเป็นระเบียบสวยงาม 8. ข่าวและคอลัมน์ที่จัดองค์ประกอบเป็น Module หรือทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ควรวางทั้งแนวดิ่งและแนวนอนเพื่อให้เกิดความแตกต่าง 9. ทุก Module ควรมีสัดส่วนที่ดี เพื่อองค์ประกอบที่กลมกลืนและเป็นเอกภาพ 10. ไม่ควรใช้พื้นที่โฆษณาบนหน้าหนึ่งมากเกินไปและระวังในการวางภาพข่าวใกล้กับโฆษณา หน้าใน 1. ออกแบบในแนวสมัยใหม่ (Contemporary) 2. แบ่งขนาดคอลัมน์บนหน้า โดยใช้หลักการแบ่งหน้าในแบบ Grid โดยใช้เส้น Grid แบ่งหน้าออกเป็นส่วนๆในรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือที่เรียกว่า Modular 3. วางแบบทั้งแนวดิ่ง และแนวนอน เพื่อความหลากหลาย และใช้สมดุลช่วยในการออกแบบ 4. ตําแหน่งของ Masthead และเลขหน้าควรกําหนดตําแหน่งที่ตายตัว 5. ใช้อักษรนําสายตา และใช้กล่อง (box) ช่วยได้บ้าง


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 23


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 24


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 25 การแบ่งประเภทหน้าหนังสือพิมพ์ งานของฝ่ายศิลป์ที่ต้องออกแบบและจัดหน้าหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ จะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจํานวนหน้าทั้งหมด ในแต่ละฉบับว่ามีมากน้อยเท่าไร บางฉบับมี 12 หน้า บางฉบับมี 24 หน้า หรือมากกว่านี้ ในการปฏิบัติงาน บรรณาธิการ ฝ่ายศิลป์และทีมงานต้องทราบจากกองบรรณาธิการก่อนว่าแต่ละหน้าจะมีการแบ่งประเภทหน้าอย่างไร ซึ่งขึ้นอยู่กับเนื้อหา และจํานวนหน้าที่ควรมี หนังสือพิมพ์ระดับชาติที่มีเนื้อหาทั่วๆ ไป ส่วนใหญ่มีจํานวนหน้าน้อยกว่าหนังสือพิมพ์ระดับชาติที่เสนอเน้นข่าวเศรษฐกิจ เพราะเนื้อหาด้านเศรษฐกิจสามารถแยกออกไปได้หลายแขนง สําหรับฉบับที่มียอดจําหน่ายสูง โฆษณาจะเข้ามามาก จํานวนหน้าจะมากขึ้นทั้งที่กําหนดหน้าไว้อยู่เดิมจําแนกตามเนื้อหา หรืออาจเพิ่มหน้าโฆษณาขึ้นเป็นพิเศษ เป็นโฆษณา แบบเต็มหน้า หรือแยกออกเป็นโฆษณาย่อย (Classified Ad) ส่วนหนึ่ง สําหรับการแบ่งหน้าโดยทั่วๆ ไปมี 2 แบบ ได้แก่ แบ่งเป็นหน้าประจํา (Departmentalizing) และแบ่งเป็นส่วนๆ (sectionalizing) 1. แบ่งเป็นหน้าประจํา (Departmentalizing) หนังสือพิมพ์ที่มีจํานวนหน้าไม่มาก ระหว่าง 12-20 หน้า ได้แก่หนังสือพิมพ์ที่นําเสนอเนื้อหาทั่วไป ไม่ใช่ หนังสือพิมพ์เฉพาะด้าน การแบ่งประเภทหน้าส่วนใหญ่จะคล้ายกัน โดยแบ่งเป็นหน้าประจําแยกตามประเภทของเนื้อหา เช่น หน้าหนึ่ง เสนอข่าวทั่วๆ ไป หน้าในจะแยกเป็นหน้าต่างประเทศ หน้าบทบรรณาธิการหรือบทนํา หน้าข่าวสังคม หน้าการศึกษา หน้าภูมิภาค หน้าการเมือง หน้าเศรษฐกิจ หน้าบันเทิง หน้ากีฬา หน้าสําหรับต่อข่าว หน้าโฆษณา ด้วยจํานวนหน้าที่ไม่มาก ฝ่ายผลิตจะนําหน้าของหนังสือพิมพ์ทั้งหมดพับเข้าเล่มออกมาเป็นเล่มเดียวหรือส่วนเดียว 2. แบ่งเป็นส่วนๆ (sectionalizing) หนังสือพิมพ์จํานวนหน้ามากๆ ตั้งแต่ 24 หน้าขึ้นไป จะแบ่งประเภทเนื้อหาเป็นส่วนๆ เรียกทับศัพท์ว่า “เซ็คชั่น” (Section) แต่ละเซ็คชั่นแยกตามประเภทเนื้อหา ซึ่งเนื้อหานั้นมีรายละเอียดมาก ไม่สามารถนําเสนอเพียงหน้าเดียว หรือสองหน้าได้ เช่น หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หรือหนังสือพิมพ์ทั่วไปในปัจจุบัน พื้นที่ส่วนที่เหลือจากโฆษณา อาจมีบทความ กราฟิกประกอบ บางฉบับอาจกําหนดไว้ตายตัว บางฉบับ อาจปรับเปลี่ยนโยกย้ายองค์ประกอบต่างๆ ให้ไปอยู่ในตําแหน่งใดตําแหน่งหนึ่งของหน้า เพื่อมิให้ผู้อ่านจําเจ ส่วนเลขหน้า และประเภทของหน้ามักจะกําหนดไว้ค่อนข้างตายตัว เช่น หน้า 4 ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เป็นหน้าข่าวสังคม หน้า 2 ของหนังสือพิมพ์มติชน เป็นหน้าบทบรรณาธิการ เป็นต้น ประโยชน์ของการแบ่งหน้า 1. ให้ความสะดวกแก่ผู้อ่าน 2. สร้างความเป็นเอกภาพ 3. ช่วยในการออกแบบและจัดหน้า 4. ช่วยในการผลิต


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 26 ตัวอย่างการแบ่งประเภทหน้าของหนังสือพิมพ์ 1. หนังสือพิมพ์มติชน เป็นแนวทั่วไป มีจํานวนหน้า 24 หน้า ประกอบด้วย 2 ส่วน ดังนี้

ส่วนที่ 1 − หน้า 1 ข่าว − หน้า 2 บทบรรณาธิการ คอลัมน์ − หน้า 3 คอลัมน์ − หน้า 4 สังคม − หน้า 5 จดหมายถึงบรรณาธิการ, โฆษณา − หน้า 6 คอลัมน์, การ์ตูน ส่วนที่ 2 − หน้า 7 สิ่งแวดล้อม, สาธารณสุข − หน้า 8 มติชน เศรษฐกิจ − หน้า 9 เศรษฐกิจ − หน้า 10 การศึกษา − หน้า 11 ภูมิภาค − หน้า 12 ภูมิภาค (ในวันพฤหัสบดี, ศุกร์ เป็นหน้ามติชนสุขสรรค์) − หน้า 13 สตรี

− − − − − −

หน้า 9 ต่อข่าว, ข่าวย่อย หน้า 10 ต่อข่าว, ข่าวย่อย หน้า 21 กระบวนการยุติธรรม หน้า 22 กีฬา หน้า 23 กีฬา หน้า 24 ต่อข่าว, ข่าวย่อย

− − − − −

หน้า 14 บันเทิง หน้า 15 ชุมชนเมือง หน้า 16 เส้นทางชาวบ้าน หน้า 17 โฆษณาย่อย หน้า 18 ต่างประเทศ, ต่อข่าว


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 27 2. หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 เป็นส่วนหลัก มีการแบ่งประเภทเป็นหน้าประจํา เสนอเนื้อหาทั่วไป มีขนาดเท่ากับหนังสือพิมพ์มาตรฐาน (Broadsheet) จํานวน 18 หน้า อีกส่วนใช้ขนาดแทบลอยด์ (Tabloid) จํานวน 24 หน้า โดยส่วนที่ 2 นี้ นําเสนอข่าวอาชญากรรม ข่าวสังคม บันเทิง ข่าวภูมิภาค ฯลฯ ใช้ชื่อประจําเซ็คชั่นว่า เอ็กซ์-ไซท์ ไทยโพสท์ แต่ละส่วนมีเนื้อหาดังนี้

ส่วนที่ 1 − หน้า 1 ข่าวทั่วไป − หน้า 2 บทบรรณาธิการ ในประเทศ − หน้า 3 การเมือง − หน้า 4 สังคม บุคคล − หน้า 5 บทความ การ์ตูน − หน้า 6 ต่างประเทศ − หน้า 7 ไทยโพสต์เศรษฐกิจ − หน้า 8 การเงิน

− − − − − − − −

หน้า 9 คมนาคม สื่อสาร หน้า 10 เศรษฐกิจทัว่ ไป หน้า 11 รายงานตลาดหลักทรัพย์ หน้า 12 ผู้บริโภค หน้า 13 การศึกษา วิทยาการ หน้า 14 กีฬา หน้า 15 กีฬา หน้า 16 ต่อข่าว


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 28

ส่วนที่ 2 − หน้า 1 ข่าว − หน้า 2 ต่อข่าว − หน้า 3 ข่าว คอลัมน์ − หน้า 4 ข่าว − หน้า 5 ภูมิภาค − หน้า 6 สุขภาพใจ − หน้า 7 สตรี

− − − − − − −

หน้า 8 โฆษณา ปกิณกะบริการ หน้า 9 ต่างประเทศ หน้า 10, 11, 12 บันเทิงเทศ บันเทิงไทย หน้า 13 บันเทิงเทศ หน้า 14-20 โฆษณา หน้า 21-23 แรงงาน หน้า 24 ข่าว (จัดแบบหนึ่งคู่)

การจําแนกหนังสือพิมพ์สามารถทําได้หลายแบบ โดยอาจแยกตามประเภทเนื้อหา ความหนักเบาของเนื้อหา การนําหนังสือพิมพ์ออกเผยแพร่ หรือตามขนาดรูปเล่มดังที่เคยกล่าวไปก่อนหน้านี้ แต่ไม่ว่าจะแบ่งในแบบใดก็ตาม ในการออกแบบหนังสือพิมพ์หนึ่งฉบับจะมีส่วนประกอบที่อยู่ภายในเล่มในลักษณะเดียวกัน ดังหัวข้อที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้

ส่วนประกอบของหนังสือพิมพ์สําหรับการออกแบบ หนังสือพิมพ์มสี ่วนประกอบที่ต้องการการออกแบบ ประกอบไปด้วย หน้าแรก (หรือ หน้าหนึ่ง) หน้าใน และหน้าโฆษณา ดังรายละเอียดต่อไปนี้ 1. การออกแบบหน้าแรก หรือ หน้าหนึ่ง หน้าแรกเป็นหน้าที่นําเสนอให้ผู้อ่านทราบว่ามีสิ่งใดที่หนังสือพิมพ์จะมีให้แก่ผู้อ่านมากที่สุดก็ว่าได้ ส่วนประกอบที่มี ปรากฏในหน้าแรก มีดังนี้ 1.1 แถบชื่อ (name plate, flag title plate) หรือ “หัวหนังสือ” คือ ชื่อของหนังสือพิมพ์ โดยมักมีส่วนตัวพิมพ์ที่แสดง วันที่ออก (dateline) เอาไว้ด้วย เป็นสิ่งที่หนังสือพิมพ์ทุกฉบับต้องมีเพื่อให้ผู้อ่านทราบลักษณะเฉพาะของแต่ละฉบับ ซึง่ มีกําหนด ไว้ในตามพระราชบัญญัติการพิมพ์หนังสือพิมพ์ไทย ปกติหัวหนังสือพิมพ์จะว่างอยู่หน้าหนึ่ง อาจเป็นด้านบนของหน้า (ซ้ายกลาง- ขวา) เป็นเอกลักษณ์ของหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับ โดยมีสีสัน รูปแบบอักษร โลโก้ ที่สวยงาม นอกจาก ชื่อหัวหนังสือพิมพ์จะวางไว้ที่หน้าแรกของหนังสือพิมพ์แล้ว ยังนํามาใช้สําหรับคอลัมน์บทบรรณาธิการ มีลักษณะย่อส่วน ให้เล็กลงมาพอดีกับคอลัมน์ มีคําศัพท์เรียกเฉพาะว่า Masthead นอกจากนี้ชื่อหัวหนังสือพิมพ์ขนาดจิ๋วยังถูกนําไปวางไว้ ด้านบนสุดของหน้าในทุกหน้าอีกด้วย


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 29

1.2 หัวข่าว (headline) หรือ “พาดหัว” ได้แก่ตัวอักษรที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวอักษรที่ใช้ในความนํา (Lead) และเนื้อเรื่อง (Text) เปรียบเป็นตัวดึงดูดความสนใจอย่างมากเพราะเป็นการสรุปสาระสําคัญของข่าวเพื่อบอกให้ทราบว่าข่าวนั้น เป็นข่าวเกี่ยวกับอะไร เป็นข้อความสําคัญที่นอกจากจะบ่งชี้ถึงข่าวเรื่องนั้นๆ แล้ว ยังทําหน้าที่ เรียกร้อง ความสนใจจากผู้พบเห็น ส่วนประกอบนี้มีอยู่ทั้งในหน้าแรกและหน้าอื่นๆ ของหนังสือพิมพ์ โดยจะเป็นตัวพิมพ์ ขนาดใหญ่กว่า ตัวพิมพ์อื่นๆ นอกจากนี้ยังเป็นการลําดับความสําคัญของข่าวอีกด้วยตามขนาดใหญ่เล็กในหน้านั้นๆ โดยเลือกใช้เพียง 1-2 รูปแบบต่อ 1 ฉบับ เท่านั้นเพื่อความเป็นเอกภาพ มีอยู่ 2 ประเภทคือ 1.2.1) ชุดหัวข่าว (bank) คือ หัวข่าวที่เป็นตัวพิมพ์เรียงกัน โดยมีความยาว 1 บรรทัด ทําให้บางครั้งก็เรียกว่า บรรทัด (line) 1.2.2) ขั้นหัวข่าว (deck) คือ ชุดของหัวข่าวที่เป็นตัวพิมพ์เรียงกันโดยมีความยาวประมาณ 1 แถวขึ้นไป 1.3) หัวรอง (sub headline) คือ หัวข่าวเล็กเพื่อขยายความหัวข่าวเด่นและให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย เพื่อนําผู้อ่านสู่เนื้อข่าว 1.4) ตัวเนื้อเรื่อง (body matter หรือ text) เป็นส่วนที่นําเสนอเนื้อหาของข่าวซึ่งหากมีใบหน้าแรกก็มักจะมี เป็นการเริ่มนําเท่านั้น มักจะมีการนําเสนอเนื้อข่าวอันเป็นรายละเอียดต่อเอาไว้ในหน้าในอื่นๆ


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 30 1.5) ภาพประกอบข่าว เป็นส่วนที่นํามาเพื่อช่วยเรียกร้องความสนใจร่วมกับหัวข่าว ภาพประกอบในหน้าแรกนี้ มักจะ เป็นภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข่าวที่ใหญ่ที่สุด ภาพประกอบนี้อาจจะมีจํานวน 1 ภาพหรือมากกว่าก็ได้ โดยในการนำเอาภาพประกอบ ข่าวนั้นมาใช้ มักนิยมให้มีคําบรรยายภาพ (cutline, caption, legend, underline) เพื่อเสริมความเข้าใจด้วย

1.6) กล่องแนะนําเรื่อง (Teasers, Promos หรือ Skyboxes) องค์ประกอบส่วนนี้จะวางไว้ด้านบนสุดของหน้า อยู่เหนือหัวหนังสือพิมพ์ หรือตําแหน่งเด่นๆ ของหน้า เป็นแนวตั้งหรือแนวนอน ตามการออกแบบ มีขนาดค่อน หรือเต็มความกว้างของหน้า เป็นการประชาสัมพันธ์เรื่องที่น่าสนใจในฉบับ ประมาณ 3-4 เรื่อง โดยจะทําเป็นกล่องเล็ก แต่ละกล่องมีชื่อเรื่อง ภาพ และมีข้อความบอกเนื้อหาว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร และบอกเลขหน้าของเรื่องนั้นๆ เพื่อความ สะดวกในการเปิดอ่านด้วย

กล่องแนะนําเรื่อง


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 31

ขั้นหัวข่าว (deck)

หัวหนังสือ(name plate)

พาดหัวข่าว(headline)

หัวรอง (sub headline) ตัวเนื้อเรื่อง (text)

ภาพประกอบข่าว

ชุดหัวข่าว (bank)


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 32 2.การออกแบบหน้าใน ส่วนประกอบที่มีปรากฏอยู่ในหน้าในนี้ มีดังนี้ 2.1) หัวข่าว หรือ พาดหัว เป็นข้อความในลักษณะเดียวกันกับหัวข่าว หรือ พาดหัวในหน้าแรก โดยหัวข่าวนี้ นอกจะมีอยู่ในหน้าแรกแล้วยังมีอยู่ในหน้าอื่นๆ ด้วย 2.2) หัวรอง เป็นส่วนประกอบที่เป็นตัวพิมพ์ขนาดใหญ่กว่าตัวพิมพ์อื่นๆ แต่เล็กกว่าข่าว โดยมีหัวรองแทรกอยู่ นอกจากนี้หากเนื้อหาของข่าวมีหลายประเด็นอาจจะใช้ประโยชน์จากหัวรองนี้ได้เช่นกัน 2.3) หัวต่อ (jump head) เป็นส่วนประกอบที่เป็นตัวพิมพ์ขนาดใหญ่ ใช้ทําหน้าที่บ่งบอกให้ผู้อ่านทราบว่า เนื้อหาต่อไปนี้เป็นข่าวที่ต่อจากหัวข่าวใดในหน้าแรก หัวต่อจะเป็นคําหรือวลีที่ทําให้ผู้อ่านมองหาและติดตามข่าวได้ง่ายขึ้น 2.4) หัวคอลัมน์ประจํา (standing head) เป็นชื่อของคอลัมน์ซึ่งเป็นเนื้อหาข่าวประเภทที่มีอยู่ประจําในทุกฉบับ เช่น คอลัมน์บทบรรณาธิการ คอลัมน์วิเคราะห ์ ข่าวต่างประเทศ เป็นต้น

2.5) ตัวเนื้อเรื่อง เป็นข้อความที่นําเสนอเนื้อหาข่าวอันเป็นรายละเอียด ซึ่งอาจจะเป็นเนื้อหาข่าวที่ต่อมาจากข่าว ในหน้าแรก หรือเป็นเนื้อหาข่าวของเรื่องในหน้าในหน้านั้นๆ


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 33 2.6) พิมพ์ลักษณ์ (imprint) หรือพิมประกาศ (masthead) เป็นส่วนประกอบที่ระบุชื่อ ที่อยู่ของผู้พิมพ์ ในบางครั้งอาจจะมีการระบุผู้ที่ทําหน้าที่ต่างๆ ในหนังสือพิมพ์นั้นๆ ด้วย 2.7) ภาพประกอบข่าว เป็นส่วนที่นํามาเพื่อช่วยเรียกร้องความสนใจร่วมกับหัวข่าว นอกจากภาพประกอบข่าวแล้ว ยังมีคําบรรยายภาพเพื่อเสริมความเข้าใจก็ได้ ทั้งภาพถ่ายที่เป็นเด่น (Dominant picture) หรือภาพบุคคล (Mug shot) 2.8) องค์ประกอบอื่นๆ ทางเรขศิลป์ เช่น ข้อมูลกราฟิก (Infographic) คําคม-คําพูด (Liftout Quote) ช่องว่างระหว่างแนวคอลัมน์ (Gutter) พื้นที่ขาว (White Space) เส้นคั่นเรื่อง (Cutoff Line) เป็นต้น

3.การออกแบบหน้าโฆษณา เนื้อหาที่โฆษณาในหนังสือพิมพ์มีขนาดที่หลากหลาย บางครั้งอาจจะมีขนาดเล็ก บางครั้งอาจจะมีขนาดใหญ่ ขนาดมาตรฐานของเนื้อที่โฆษณาที่พบเห็นกันทั่วไป มีดั้งนี้ 3.1) เต็มหน้า (full page) คือ ใช้พื้นที่ทั้งหมดของหน้ากระดาษ ตัวอย่างเช่น หนังสือพิมพ์ มี 12 คอลัมน์ใน 1 หน้า และแต่ละคอลัมน์มีความกว้าง 7.5 ไพก้า หรือ 1.25 นิ้ว และคอลัมน์สูง 20 นิ้ว พื้นที่โฆษณา คือ 15 นิ้ว (12 คอมลัมน์ x 1.25 นิ้ว) x 20นิ้ว 3.2) ครึ่งหน้า (half page) คือ ใช้พื้นที่ประมาณครึ่งหน้าของกระดาษ ตัวอย่างเช่น หนังสือพิมพ์ที่มี 12 คอลัมน์ใน 1 หน้า และแต่ละคอลัมน์มีความกว้าง 7.5 ไพก้าหรือ 1.25 นิ้วและคอลัมน์สูง 20 นิ้ว พื้นที่โฆษณา คือ 15 นิ้ว (12 คอลัมน์x 1.25 นิ้ว) x 10 นิ้ว ปกติแล้วจะเป็นแนวนอน แต่ปัจจุบันมีการใช้แนวตั้งด้วย


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 34

เต็มหน้า (full page)

ครึ่งหน้า (half page)

3.3) เศษหนึ่งส่วนสี่หน้า (quarter page) คือใช้พื้นที่ประมาณเศษหนึ่งส่วนสี่ของกระดาษ ตัวอย่างเช่น หนังสือพิมพ์ที่มี 12 คอลัมน์ใน 1 หน้า และแต่ละคอลัมน์มีความกว้าง 7.5 ไพก้า หรือ 1.25 นิ้ว และคอลัมน์สูง 20 นิ้ว พื้นที่โฆษณาเศษหนึ่งส่วนสี่หน้า คือ 7.5 นิ้ว (6 คอลัมน์ x 1.25 นิ้ว)x 10 นิ้ว ขนาดโฆษณามีความสะดวกสําหรับผู้ที่ลง โฆษณาในสื่อนิตยสารด้วย เพราะจะมีสัดส่วนใกล้เคียงกัน


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 35

เศษหนึ่งส่วนสี่หน้า (quarter page)

3.4) จูเนียร์เพจ (junior page) คือ ใช้พื้นที่ประมาณใกล้เคียงกับขนาดหน้านิตยสาร พื้นที่โฆษณานี้มีขึ้นเพื่อให้เกิด ความสะดวกในการใช้โฆษณาเดียวกันทั้งในหนังสือพิมพ์และนิตยสาร เพราะมีสัดส่วนใกล้เคียงกัน เช่นเดียวกับโฆษณา ขนาดพิเศษหนึ่งส่วนสี่หน้า

จูเนียร์เพจ (junior page)


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 36 3.5) แถบโฆษณา (strip advertising) คือใช้พื้นที่เป็นแถบด้านบนหรือด้านล่างตลอดความกว้างของ หน้าหนังสือพิมพ์และสูงประมาณไม่เกิน 5 นิ้ว นอกจากเนื้อที่โฆษณาขนาดมาตรฐานข้างต้นแล้ว ยังมีการซื้อเนื้อที่ใน ลักษณะที่เป็น คอลัมน์นิ้ว คือ กําหนดขนาดความกว้างของเนื้อที่โฆษณาตามขนาดของคอลัมน์ว่าต้องการให้กว้างกี่คอลัมน์ ส่วนสูงนั้นกําหนดเป็นนิ้ว ตัวอย่างเช่น หนังสือพิมพ์ที่มี 6 คอลัมน์ หมายถึง ขนาดพื้นที่ที่กว้าง 1.83 นิ้ว และ สูง 1 นิ้ว หากต้องการลงพื้นที่โฆษณาขนาด 3 คอลัมน์ x 6 นิ้ว หมายถึง ขนาดพื้นที่กว้าง 5.5 (1.83x3) นิ้ว และสูง 6 นิ้ว เป็นต้น

แถบโฆษณา (strip advertising)

4. นิตยสารแทรกในหนังสือพิมพ์ (newspaper magazine หรือ special section หรือ supplement magazine) ส่วนพิเศษส่วนสุดท้ายของหนังสือพิมพ์ คือ ส่วนนิตยสาร แทรกในหนังสือพิมพ์โดยมากแล้วส่วนนี้จะมีสัปดาห์ละครั้ง แยกส่วนออกมาเป็นพิเศษ มีเนื้อหาครอบคลุมเนื้อหาหลากหลาย แต่มักเป็นเรื่องที่ไม่ได้เป็นข่าวซึ่งต้องเสนออย่างรวดเร็ว เช่นเรื่อง สถานที่ท่องเที่ยว ภาพยนตร์ ฯลฯ โดยสรุปเมื่อพิจารณาในด้านการออกแบบแล้ว หนังสือพิมพ์จะมีส่วนประกอบ ที่แตกต่างกัน คือ หน้าแรก หน้าใน เนื้อที่โฆษณา และนิตยสารแทรกในหนังสือพิมพ์ โดยแต่ละส่วนประกอบจะมีองค์ประกอบ ที่ไม่เหมือนกัน รวมทั้งการเลือกและจัดองค์ประกอบที่แตกต่างกัน

__________________________________________________________


หนังสือพิมพ์ การออกแบบและผลิตหนังสือพิมพ์ | 37 บรรณานุกรม • จันทนา ทองประยูร. 2537. การออกแบบและจัดหน้าสิ่งพิมพ์. นนทบุรี : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. • ปาพจน์ หนุนภักดี. 2553. หลักการและกระบวนการออกแบบงานกราฟิกดีไซน์. กรุงเทพมหานคร:บริษัท ไอดีซี พรีเมียร์ จํากัด. • ปราโมทย์ แสงผลสิทธิ์. 2540. การออกแบบนิเทศศิลป์. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ วี.เจ. พริ้นติ้ง. • สดศรี เผ่าอินจันทร์. 2543. การออกแบบหน้าหนังสือพิมพ์. นครราชสีมา : โคราชพริ้นติ้ง. • สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย. 2556. จรรยาบรรณหนังสือพิมพ์. (ระบบออนไลน์) แหล่งที่มา http://www.thaipressasso.org (29 มกราคม 2556). • มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. 2552. การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์. สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช หน่วยที่ 1-7. • อารยะ ศรีกัลยาณบุตร. 2550. การออกแบบสิ่งพิมพ์. กรุงเทพมหานคร : วิสคอมเซ็นเตอร์. • Harrower, Tim. 2002. The Newspaper Designer’s Handbook. Boston ; London : MaGraw-Hill. ภาพประกอบบางส่วนจาก • http://bangkokprint.com • http://www.google.com • http://en.wikipedia.org/wiki/Harold_Evans • http://en.wikipedia.org/wiki/The_Week • http://en.wikipedia.org/wiki/The_Sunday_Times • http://th.wikipedia.org/wikiไทยรัฐ • http://www.nytimes.com/pages/todayspaper/index.html • http://www.smashingmagazine.com


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.