ISSUE 58 MAY 2018 เรื่องและภาพโดย : ดวงพร เพชรสังกฤต
เที่ยวโทโฮขุ ไปด้วยกันกับเราและ
WORLD PRO TRAVEL
ก่อนจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นได้ไม่นาน เราโบกมือลาฤดูหนาวทีห ่ นาวสัน ่ ถึงหัวใจกันอย่าง สนุกด้วยทริปดีๆ จาก “World Pro Travel” พร้อมแฟนานุแฟนของ CheckTour Magazine และแฟนเพจ Say Hi Japan ที่ชวนกันไปท้าลม หนาวท่ า มกลางความขาวของหิ ม ะที่ “โทโฮขุ” (Tohoku) โดยปั ก หลั ก กั น ที่ “จั ง หวั ด มิ ย างิ ” (Miyagi) และ “จังหวัดยามากาตะ” (Yamagata) และมี เ ป้ า หมายส� ำ คั ญ ในการแวะไปเที่ ย วบ้ า น “โอชิน” ตัวละครเอกจากซีรีย์ในต�ำนานที่คนไทย รูจ ้ ก ั ดีเรือ ่ ง “สงครามชีวต ิ โอชิน” แม้จะไม่ได้เป็นการ เช็กอายุ แต่กห ็ ลีกเลีย ่ งไม่ได้หากจะบอกว่าผูท ้ รี่ จ ู้ ก ั เรือ ่ งราวชีวต ิ ของโอชินดีสว่ นใหญ่อายุมก ั แตะเลข 4 แล้วทั้งนั้นแหละ ทริปนี้ World Pro Travel วางโปรแกรมได้ดี จนท�ำให้เราได้เข้าไปสัมผัสกับพืน ้ ทีเ่ ดิมทีเ่ คยใช้เป็น โลเกชั่นถ่ายท�ำซีรีย์เรื่องนี้ซึ่งยังถูกเก็บรักษาไว้ ไม่เปลีย ่ นแปลง ทัง ้ ยังได้ขอ ้ มูลความรูเ้ พิม ่ จากไกด์ ฝี มื อ ดี แถมรู ้ ล ่ ว งหน้ า แล้ ว ด้ ว ยว่ า ฤดู ห นาวใน โทโฮขุนั้นไม่ธรรมดาเพราะอาจจะหนาวสะท้านถึง
65
กระดู ก ได้ ใ นระดั บ ใกล้ เ คี ย งฮอกไกโด แต่ เ มื่ อ มอง ดู ร อบข้ า งที่ มี ทั้ ง หนุ ่ ม สาว และพี่ ป ้ า น้ า อาบรรดา แฟนคลับของเราชาว CheckTour Magazine และ Say Hi Japan ที่รวมเป็นกรุ๊ปใหญ่ไปด้วยกัน จนถึง เหล่าทีมงานของ World Pro Travel แล้วก็พาให้ อุ่นใจไม่กลัวหนาวในความเป็นกันเองตั้งแต่ต้นทาง คาดการณ์ได้ไม่ยากว่าทริปนี้สนุกแน่ และก็เป็นจริงตามที่คาดไว้ เพราะเมื่อเดินทาง ถึ ง “สนามบินเซนได” (Sendai Airport) ด้ ว ย สายการบิ น ไทยที่ บิ น ตรงจากกรุ ง เทพฯถึ ง โทโฮขุ แบบไม่ต้องเสียเวลาต่อเครื่องก็มองเห็นหิมะขาวรอ รับคนเมืองร้อนอย่างพวกเราภายใต้ อุณหภูมิติดลบ และทันทีที่ผ่าน ตรวจคนเข้าเมืองมาแล้วเราก็ พบกับการต้อนรับอย่างยิง ่ ใหญ่ จากเจ้ า หน้ า ที่ ข องภู มิ ภ าค โทโฮขุและจังหวัดอืน ่ ๆ ทีเ่ รา ก� ำ ลั ง จะไปเยื อ น ก่ อ นที่ จ ะ เคลื่ อ นขบวนด้ ว ยบั ส คั น ใหญ่ ไ ป เริ่ ม ต้ น เที่ ย วกั น ในโปรแกรมแรก ตั้งแต่เช้า
ZAO FOX VILLAGE เมือ่ มาถึงเซนไดก็แน่นอนว่าเราก�ำลังอยูใ่ นจังหวัดมิยางิ ทีน่ มี่ ี “หมูบ่ า้ นสุนขั จิง้ จอก” (Zao Fox Village) สถานทีเ่ พาะเลีย้ งสุนขั จิง้ จอกทีม่ มี าตัง้ แต่ปี 1990 และ เปิดให้นกั ท่องเทีย่ วเข้าชมได้อย่างใกล้ชดิ ในบริเวณทีเ่ ป็นทีอ่ ยูอ่ าศัยจริงๆ ของสุนขั จิ้งจอกซึ่งนี่จะเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นสุนัขจิ้งจอกในระยะที่ใกล้มากๆ ได้เห็น พฤติกรรมความเป็นอยู่ ช่วงกินอาหาร และตลอดเวลาของการเดินไปมาอย่างเป็น อิสระตามธรรมชาติ เพียงแต่มขี อ้ ห้ามอยูบ่ า้ งคือห้ามจับหรือห้ามใช้มอื สัมผัสเพือ่ ความ ปลอดภัย แต่แค่ได้มปี ระสบการณ์ใหม่กบั สุนขั จิง้ จอกในระยะใกล้ขนาดนีจ้ นสามารถ ถ่ายภาพสวยๆ ได้กถ็ อื ว่าเพียงพอแล้ว ภายในหมูบ่ า้ นแห่งนีจ้ ะมีสนุ ขั จิง้ จอกมากถึง 6 สายพันธุ์ เห็นชัดว่าต่างสีตา่ ง ขนาดกันชัดเจน นอกจากนีย้ งั มีสตั ว์นา่ รักชนิดอืน่ ๆ อยูด่ ว้ ยเพียงแต่จะแยกโซนออก เป็นสัดส่วน ทัง้ แพะ กระต่ายและม้าแคระ รวมแล้วน่าจะมีจำ� นวนกว่าร้อยตัวจน เหมือนเป็นสวนสัตว์แห่งหนึง่ ของมิยางิไปเลย
STRAWBERRY FARM โปรแกรมถัดมา World Pro Travel ชวนเรา ไปเก็บสตรอเบอร์รี่สดๆ กินกันถึงฟาร์ม หวานฉ�่ำ กันราว 30 นาทีกับจ�ำนวนสตรอเบอร์รี่ที่มีแบบนับ ไม่ถ้วนและหลากสายพันธุ์ ถือเป็นช่วงเวลาแห่ง ความอร่อยจนยัง้ ไม่อยู่ และเพราะเราเดินทางมาที่ นี่กันในช่วงฤดูกาลของสตรอเบอร์รี่พอดิบพอดี ฉะนัน้ ความหอมหวานถึงขีดสุดของสตรอเบอร์รจี่ งึ พร้อมรอต้อนรับเราทั้งฟาร์ม อิ่มกันแบบเบอร์ใหญ่ และยังสามารถซื้อสตรอเบอร์รี่รวมถึงและผลไม้ อื่นๆ ตามฤดูกาลแพ็กกลับบ้านได้ด้วยในราคาที่ ถูกแสนถูกเพราะเราเข้ามาซื้อกันถึงฟาร์ม 66
YAMADERA TEMPLE ย้ า ยกั น มาถึ ง พื้ น ที่ ข อง “จั ง หวั ด ยามากาตะ” (Yamagata) เพื่อมาชมวัดในนิกายเทนได (Tendai) ที่ เก่าแก่อายุกว่าพันปีชื่อว่า “วัดยามาเดระ” (Yamadera Temple) สร้างขึน้ ในปี 860 บนเนินเขาสูงซึง่ เป็นทีม่ าของ ชื่อยามาเดระในความหมายว่า “วัดบนภูเขาสูง” วัดแห่งนี้มีบันไดพาเราเดินขึ้นภูเขาไปชมทั้งความ สวยงามของอาคารวัดและวิวทิวทัศน์โดยรอบ มีอาคาร หลายหลังตั้งอยู่ใกล้เคียงกันโดยที่อาคารหลักซึ่งเป็น อาคารหลังที่เก่าแก่ที่สุดของวัดใช้เป็นพื้นที่เก็บรักษา พระพุทธรูปหลายองค์ นอกจากจะมีผู้ศรัทธาแวะเวียน กันเข้ามาสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ตลอดทั้งวันแล้ว วัดยามาเดระยังเป็นที่หมายส�ำคัญของกวีหลายท่านที่ นิยมมาใช้ความสงบเป็นตัวช่วยในการเขียนกลอนหรือ แต่งหนังสืออยู่เสมอ
SNOW MONSTER
ยังอยู่ที่ยามากาตะ แต่เรามากันที่ “ซาโอะออนเซ็นสกีรีสอร์ท” (Zao Onsen Ski Resort) ทริปนี้ ไม่ได้มาเล่นสกี แต่เรามาชม “ปิศาจหิมะ” (Snow Monster) แนวต้นสนบนภูเขาที่ถูกหิมะในฤดูหนาว ทับถมหนาจนกลายสภาพเป็นเหมือนปิศาจตัวสูงใหญ่ดูน่ากลัว และเราต้องนั่ง Ropeway ขึ้นไปเพื่อให้ ได้ชมปิศาจหิมะเหล่านี้ซึ่งจะมีเฉพาะช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์เท่านั้นที่ถือว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุด แต่แม้จะเป็นช่วง 2 เดือนนี้แต่ก็ต้องพกความโชคดีมาด้วยเพื่อให้ฟ้าเปิดจนสามารถมองเห็นทั้ง ปิศาจหิมะและทิวทัศน์โดยรอบภูเขาได้ และก็เสียดายที่ครั้งนี้เราโชคไม่ดีถูกพายุหิมะซัดเสียฟ้ามืดมัว ไปหมด มองแทบไม่เห็นทาง เห็นปิศาจหิมะได้ไม่ชัดเจนเท่าที่ใจอยาก แต่ก็กลายเป็นความสนุกสนาน ที่ได้ขึ้นไปสัมผัสบรรยากาศภายใต้อุณหภูมิต�่ำกว่าลบ 10 องศาเซลเซียส ผลัดกันถ่ายรูปโดยต้องทน หนาวเย็นถึงขัว้ หัวใจแต่กส็ นุกจนไม่อยากกลับเข้าหลบหนาวในตัวอาคาร ลืมปิศาจหิมะกันชัว่ ครูช่ วั่ คราว แม้จะยังอดเสียดายไม่ได้ก็ตาม
67
เทศกาลหิมะ เมืองชินโจ
ผ่านช่วงพายุหมิ ะบนยอดเขาไปได้พกั ใหญ่ เราเคลื่อนขบวนลงที่ราบมาชม “เทศกาลหิมะ เมืองชินโจ” เทศกาลสนุกประจ�ำฤดูหนาวที่จะ จัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี แต่ก็จะจัด เพียง 2 วันเท่านั้น พื้นที่ที่เต็มไปด้วยหิมะจะถูก เนรมิตให้กลายเป็นลานกิจกรรมแห่งความสนุก สามารถเล่นสกี สโนว์โมบิล บานาน่าโบ๊ท หรือ จะนั่งเลื่อนและห่วงยางไถลลงมาจากเนินหิมะสูงก็ หวาดเสียวจนเรียกเสียงกรี๊ดได้ เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ กันถึงประมาณ 2 ชั่วโมงแต่ก็ดูเหมือนยังไม่พอ กับความสนุกที่ได้สัมผัส
KIYOKAWA SHOP ช่วงค�่ำมาช้อปปิ้งกันเบาๆ ที่ร้าน “คิโยคาวะ” (Kiyokawa Shop) แหล่งรวมสินค้าท้องถิ่นในรูปแบบ ที่ดูทันสมัยมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศภายในร้าน รูปแบบและแพ็กเกจสินค้าก็ดูสวยน่าเลือกซื้อ กลับไปเป็นของฝาก มีสินค้าค่อนข้างหลากหลายทั้งของกินของใช้ที่ส�ำคัญคือราคาไม่แพงเลย มีเบเกอร์รี่ และเครื่องดื่มอร่อยให้แวะนั่งกินกันมุมหนึ่ง แถมเจ้าของร้านยังอัธยาศัยดีต่อคนไทยเป็นพิเศษ บรรยากาศ ภายในร้านจึงยิ่งเป็นกันเอง สุดท้ายก็ช้อปเต็มไม้เต็มมือกันทุกคน
68
HOTEL RICH
& GARDEN SAKATA เพราะได้ที่พักในเมืองซากาตะ (Sakata) จึงได้ รู้จักโรงแรมดีๆ ที่อยากบอกต่อ เพราะไม่ใช่แค่มีที่พัก สบายและมีออนเซนเท่านั้น แต่ที่ “Sakata Rich & Garden” จัดเป็นโรงแรมพิเศษสุดส�ำหรับคนไทยที่ เข้าพัก คือบริการอาหารอร่อยมือ้ ค�ำ่ พร้อมกิจกรรมสนุก มากมายจนดูเหมือนเป็นเทศกาลย่อยๆ ของเมืองเลย ทีเดียว มีชุดกิโมโนให้ลูกค้าเลือกสวมเพื่อถ่ายรูปและ เข้าถึงบรรยากาศของการร่วมร้องร�ำท�ำเพลงกับเจ้าถิ่น ได้ลองเล่นเกมสนุก ทดลองท�ำทาโกยากิ ชมการสาธิต ท�ำไข่หวานสไตล์ญปี่ นุ่ แท้ สาธิตแล่ปลาก่อนจะยกเสิรฟ์ เราเป็นซาชิมิ ถือว่าเป็นช่วงเวลาทีพ่ เิ ศษมากส�ำหรับการ ต้อนรับคนไทยของ Sakata Rich & Garden แห่งนี้
HOME OF OSHIN ไฮไลท์ประจ�ำทริปของเราอยู่ที่นี่ “บ้านโอชิน” (Home of Oshin) ซึ่งอยู่ในเมืองซากาตะ เราได้พบกับโลเกชั่นสุด คลาสสิกในการถ่ายท�ำซีรีย์สงครามชีวิตโอชินซึ่งจะใช้พื้นที่เมืองนี้เป็นเมืองบ้านเกิดของโอชินตามบทประพันธ์ และสภาพ ในวันนี้ก็ไม่ต่างจากที่เคยได้ชมผ่านหน้าจอโทรทัศน์เลย บริเวณบ้านโอชินที่ว่านี้ส่วนหนึ่งเป็น “โกดังเก็บข้าวซังเกียว” ซึ่งเคยใช้งานจริงจากการที่ยามากาตะแต่เดิมคือเมือง อู่ข้าวอู่น�้ำปลูกข้าวเป็นหลัก จึงต้องมีพื้นที่ส�ำหรับเก็บข้าว ปัจจุบันปรับเปลี่ยนมาใช้เป็นโกดังเก็บสินค้าและก็เป็นที่มาของ โลเกชัน่ สวยๆ ให้เราได้เห็นกัน ความสวยงามบริเวณนีจ้ ะยิง่ มีมากในช่วงฤดูหนาวทีม่ ากมายด้วยหิมะและช่วงฤดูใบไม้รว่ ง ที่แนวต้นแปะก๊วยริมฉางข้าวจะเปลี่ยนใบเป็นสีเหลืองตลอดแนว ได้เก็บภาพสวยๆ ไว้เป็นที่ระลึกกันก็คราวนี้
69
MOGAMI-KAWA ฉากในซีรยี โ์ อชินทีเ่ ราเชือ่ ว่าเป็นหนึง่ ในโลเกชัน่ ที่ สวยงามที่สุดอยู่ที่นี่ “แม่น�้ำโมกามิ” (Mogami-Kawa) แม่นำ�้ สายหลักเส้นเลือดใหญ่ของเมืองทีจ่ ะมีบรรยากาศ แตกต่างไปตามแต่ละฤดู ช่วงฤดูร้อนแนวเขาสองข้าง ล�ำน�้ำจะเขียวขจีด้วยต้นไม้ในป่าทึบบนภูเขา ฤดูใบไม้ เปลี่ยนสีใบไม้ก็จะสาดสีแดงสลับเหลืองไปทั่ว และครั้ง นีก้ บั ฤดูหนาวก็จะเต็มไปด้วยหิมะบนแนวเทือกเขาและ ริมแม่น�้ำ การที่ทุกพื้นที่เต็มไปด้วยหิมะนี่แหละที่ท�ำให้ ละสายตาไม่ได้เลยเพราะทิวทัศน์สวยงามมากจริงๆ ดีที่สุดของการชมแม่น�้ำโมกามิคือการล่องเรือไป ตามสายน�้ำ ผ่านโขดหินและสายน�ำ้ ทีไ่ หลเอือ่ ยบ้างไหล เชีย่ วบ้าง ส�ำหรับฤดูหนาวเรือที่น�ำล่องแม่น�้ำจะมีโต๊ะ โคตัทสึตงั้ บนพืน้ เสือ่ ให้นงั่ ชมวิวกันอุน่ ๆ ตลอดเส้นทาง มีชาร้อนและปลาอะยุ (Ayu) ย่างเกลือหอมๆ พร้อม ขนมไว้เสิรฟ์ มีไกด์ทอ้ งถิน่ ประจ�ำเรือคอยพูดคุย ชีช้ วน ให้ชมจุดนัน้ จุดนีเ้ มือ่ เรือแล่นผ่าน และเด็ดสุดคือร้องเพลง พืน้ เมืองให้เราฟังกันเพลินไปเลย น่าประทับใจมาก
GINZEN ONSEN
แถบเทือกเขาของยามากาตะมีเมืองน�ำ้ พุรอ้ น “กินเซ็นออนเซน” (Ginzen Onsen) ทีป่ รับปรุงพัฒนา พืน้ ทีม่ าจากเหมืองแร่เงินเก่าให้กลายเป็นสุดยอดเมืองออนเซนทีม่ ที ง้ั น�ำ้ พุรอ้ นและความสวยงามของ ท�ำเลทีต่ งั้ อยูใ่ นหุบเขา ยิง่ ฤดูหนาวด้วยแล้วทิวทัศน์ยงิ่ สวยงามขึน้ อีกหลายเท่า ทันทีทเี่ ดินเท้าเข้าไป ถึงเราจะได้เห็นผู้คนมากมายมุ่งหน้าเข้ามาที่นี่ มีมุมออนเซนเท้าสาธารณะให้แช่แบบไม่เสียค่าใช้ จ่าย นักท่องเที่ยวมักเลือกมุมนี้เป็นมุมนั่งพักสบายกันเป็นกลุ่มๆ เพราะชวนให้สบายเท้ามากๆ ขยับเดินลึกเข้าไปเราจะได้เห็นคลองน�้ำใสที่มีแนวอาคารโบราณขนาบข้าง เฉพาะตัวอาคาร เก่าที่ว่านี้ก็สวยคลาสสิกมากแล้ว เมื่อมารวมเข้ากับฉากหลังที่เป็นภูเขาหิมะก็ยิ่งสวยจนต้องรัว ชัตเตอร์กันแบบไม่ยั้ง อาคารเก่าเหล่านี้สร้างด้วยไม้สูงราวสามสี่ชั้นส่วนใหญ่เป็นทั้งออนเซนและ เรียวกังในรูปแบบเดิมทัง้ นัน้ เพราะแม้จะเป็นอาคารสร้างใหม่แต่กใ็ ห้ความรูส้ กึ ถึงบรรยากาศเก่าของ
70
เรียวกังเก่าแก่ในญี่ปุ่นเมื่อหลายร้อยปี ก่อนได้ดี แถมยังมีรา้ นค้าร้านอาหารและ ร้านขนมอร่อยๆ รวมถึงห้องอาบน�้ำ สาธารณะสไตล์ญี่ปุ่นก็ยังมีอยู่ในย่านนี้ ด้วย ถ้าได้เดินไปจนสุดทางเราจะได้เห็น น�้ำตกสูงประมาณ 20 เมตรในบริเวณที่ เคยเป็นทางเข้าสู่เหมืองแร่เมื่อกว่า 500 ปีที่ผ่านมา
MATSUSHIMA BAY ช่วงท้ายของทริปเรากลับเข้ามาที่จังหวัด มิยางิกันอีกครั้ง ที่นี่มีจุดชมวิวที่สวยสุดยอดระดับ 1 ใน 3 ของญีป่ นุ่ อยูท่ ่ี “อ่าวมัตสึชมิ ะ” (Matsushima Bay) ซึง่ ตัง้ อยูร่ มิ ชายฝัง่ ทะเลทีเ่ ต็มไปด้วยเกาะเล็ก เกาะน้อยมากกว่า 200 เกาะ และยังมากไปด้วย ต้นสนที่เป็นตัวเสริมความมีชีวิตชีวาให้กับพื้นที่ บริเวณนี้อย่างมาก ช่วงเดือนเมษายนก็จะมีสี หวานๆ ของซากุระให้ได้ชม นักท่องเที่ยวมักล่อง เรือชมอ่าวซึ่งมีท่าเรือและบริการเรือน�ำเที่ยวจาก หลายบริษทั มีรา้ นอาหาร ร้านขนมท้องถิน่ และร้าน สินค้าที่ระลึกอยู่มากมาย
จุดหนึง่ ทีม่ นี กั ท่องเทีย่ วค่อนข้างหนาตาก็คอื บนเกาะเล็กๆ ที่มีสะพานเชื่อมให้เดินข้ามไปมาถึงกันได้ บนเกาะนี้มี “วัด โกไดโดะ” (Godaido Temple) วัดพุทธในนิกายรินไซ (Rinzai) ที่มีขึ้นตั้งแต่เมื่อพันกว่าปีก่อน อาคารหลังแรกของวัดสร้าง ในปี 807 และได้รบั การบูรณะในปี 1604 โดย “ดาเตะ มาซามูเนะ” (Date Masamune) ต้นตระกูลผู้ปกครองเมืองเซนไดที่มี จุดประสงค์เพือ่ ต้องการฟืน้ ฟูศาสนาพุทธ เราจะเห็นได้วา่ อาคารวัด ดูเก่าแต่กส็ วยแบบเรียบง่าย วัดแห่งนีแ้ ม้ไม่ใหญ่ไม่โตแต่กถ็ อื เป็น สัญลักษณ์ส�ำคัญของมัตสึชิมะ มาถึงแล้วอย่าแปลกใจที่เห็น วัดปิด เพราะวัดโกไดโดะจะเปิดให้ชมในทุก 33 ปี และครัง้ ล่าสุด ได้เปิดไปแล้วเมื่อปี 2006 ที่ผ่านมา
71
ZUIGANJI จากวัดโกไดโดะเรามาอีกฝัง่ ถนนเพือ่ จะไปยัง “วัด ซุยกันจิ” (Zuiganji) ต้องบอกว่าพื้นที่แถบอ่าวมัตสึชิมะ มีมมุ มองทีส่ วยงามด้วยธรรมชาติผสมความเป็นเมืองใน แบบทีล่ งตัวไม่ขดั กัน ถนนเส้นทีจ่ ะน�ำเราไปถึงวัดซุยเซนจิ จะผ่านแนวป่าต้นสนที่ แต่ละต้นนั้นสูงชนิดต้องแหงน คอมอง เท่าที่เห็นก็ว่ามีอยู่มากแล้วแต่จริงๆ ก่อนหน้า นี้ในปี 2011 เคยมีมากกว่านี้แต่ถูกคลื่นสึนามิกวาดลง ทะเลเสียหายไปมาก บางต้นที่ยังยืนอยู่ได้ก็สัมผัส น�้ำทะเลอยู่นานจนต้องตัดทิ้งไปมากเช่นกัน เท่าที่เรา เห็นอยู่จึงเป็นจ�ำนวนต้นสนที่เหลือรอดมาได้ ตามบันทึกระบุไว้วา่ วัดซุยกันจิเป็นวัดนิกายเซนที่ สร้างขึ้นในปี 828 แต่ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปี 1609 ทันทีที่เดินผ่านซุ้มประตูวัดเข้ามาเราจะพบกับความ ร่มรื่นของต้นไม้ที่แฝงด้วยความเงียบสงบ อาคาร หลายหลังภายในวัดตั้งอยู่ห่างกันเปิดโอกาสให้เราได้ เดินผ่านเส้นทางเล็กๆ เลาะสวนหย่อมสวยๆ เข้าไปชม มีอาคารที่ประดิษฐานพระพุทธรูป อาคารพิพิธภัณฑ์ พื้นที่ปฏิบัติธรรม และมีอาคาร 2 หลังของวัดแห่งนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ไปแล้วด้วย
ICHIBANCHO และก็ปดิ ท้ายทริปกันแบบไทยๆ ด้วยการแวะช้อปปิง้ กันเต็มทีเ่ กือบครึง่ วันในอาณาจักรแห่งนักช้อปทีย่ งิ่ ใหญ่ของมิยางิและ ก็ตั้งอยู่ในเมืองหลวงเซนได เราไปกันที่ “อิชิบังโจ” (Ichibancho) ย่านธุรกิจการค้าและแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังที่พูดได้เลยว่ามี ทุกอย่างที่อยากได้อยากซื้อ เพราะเป็นศูนย์รวมห้างฯสรรพสินค้า ซูเปอร์มาเก็ต ร้านค้าทั่วไปทั้งร้านขายยา เครื่องส�ำอาง เสื้อผ้า รองเท้ากีฬา และร้านอาหาร ทั้งยังเป็นย่านที่มีถนนเชื่อมต่อกับย่านอื่นๆ ที่ส�ำคัญทั่วเซนไดด้วย มาถึงอิชิบังโจความตั้งใจที่จะ ละลายเงินเยนก่อนกลับบ้านของบางคนจึงมักลามไปจนถึงกับต้องรูดบัตรเครดิตเพิ่มเสมอ
72
เรียกว่าเป็นทริปดีๆ จาก World Pro Travel ที่ท�ำให้เราเข้าถึงหลายสถานที่ท่องเที่ยวในหลาย เมืองของโทโฮขุ และรูปแบบการวางโปรแกรมก็ ท�ำให้ลูกทัวร์สนุก เที่ยวกันแบบสบายๆ ไม่ต้องรีบ ร้อนจนเหนือ่ ยเกินไปกับการอัดโปรแกรมจนแน่นใน แต่ละวัน มีช่วงเวลาให้ได้สัมผัสกับความเป็น ท้องถิ่นของภูมิภาคที่มีเสน่ห์ที่สุดอีกแห่งของญี่ปุ่น อย่างโทโฮขุ ถ้าสนใจการท่องเที่ยวญี่ปุ่นในพื้นที่ ห่างเมืองออกไปสู่ธรรมชาติและชานเมือง รับรอง ว่า World Pro Travel จะต้องเหมาะกับสไตล์ของ คุณอย่างแน่นอน
Special Thanks www.worldprotravel.com 02 026 3372