The Knowledge vol.10

Page 1


CONTENTs 10

03

22

ที่ปรึกษา ดร.อธิปัตย์ บ�ำรุง ผู้อ�ำนวยกำรส�ำนักงำนบริหำรและพัฒนำองค์ควำมรู้ บรรณาธิการบริหาร ดร.ปรียำ ผำติชล รองผู้อ�ำนวยกำรส�ำนักงำนบริหำรและพัฒนำองค์ควำมรู้ หัวหนากองบรรณาธิการ ดร.อภิชำติ ประเสริฐ ผู้อ�ำนวยกำรส�ำนักโครงกำรและจัดกำรควำมรู้

14 03 Word Power

14 DigitOnomy

Decentralized Economy เพือ ่ ขับเคลือ่ นเศรษฐกิจท้องถิน ่

รวมมิตรตัวเลขทีเ่ กีย ่ วข้อง กับโครงการอันเนือ ่ งมาจาก พระราชดําริ และมูลนิธิ ชัยพัฒนา

08 One of a kiNd

22 Inside okmd

Decentralized Economy A-Z

10 The Knowledge

การขับเคลือ ่ นชุมชนภายใต้ โครงการอันเนือ ่ งมาจาก พระราชดําริ

Office of Knowledge Management and Development

โครงการอันเนือ ่ งมาจาก พระราชดําริ: การจัดการ ความรูเ้ พื่อการพัฒนา ทีย ่ ั่งยืน

28 5ive

5 โครงการอันเนือ ่ ง มาจากพระราชดําริ

30 whaT's goiNg oN

Upcoming Decentralized Economy Events

31 Talk tO ZiNe คิดให้ทน ั โลก เมือง คิด ใหม่

ฝายศิลปกรรมและภาพถาย บริษัท โคคูน แอนด์ โค จ�ำกัด 32 ซอยโชคชัย 4 ซอย 84 ถนนโชคชัย 4 แขวงลำดพร้ำว เขตลำดพร้ำว กรุงเทพมหำนคร 10230 โทรศัพท์ 0 2116 9959 และ 087 718 7324 จัดทําโดย ส�ำนักงำนบริหำรและพัฒนำองค์ควำมรู ้ (องค์กำรมหำชน) 69 อำคำรวิทยำลัยกำรจัดกำร มหำวิทยำลัยมหิดล ชั้น 18-19 ถนนวิภำวดีรังสิต แขวงสำมเสนใน เขตพญำไท กรุงเทพมหำนคร 10400 โทรศัพท์ 0 2105 6500 โทรสำร 0 2105 6556 อีเมล theknowledge@okmd.or.th เว็บไซต์ www.okmd.or.th อนุญำตให้ใช้ได้ตำมสัญญำอนุญำต ครีเอทีฟคอมมอนส์ แสดงที่มำ-ไม่ใช้ เพื่อกำรค้ำ-อนุญำตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย จัดท�ำขึ้นภำยใต้โครงกำรเผยแพร่กิจกรรมองค์ควำมรู้โดยส�ำนักงำน บริหำรและพัฒนำองค์ควำมรู ้ (องค์กำรมหำชน) เพือ่ สร้ำงแรงบันดำลใจ ในกำรน�ำองค์ควำมรูม้ ำผสมผสำนกับควำมคิดสร้ำงสรรค์ เพือ่ ประโยชน์ ด้ำนกำรเรียนรู้ ต่อยอดธุรกิจ เพิ่มมูลค่ำเศรษฐกิจของประเทศ

ผู้สนใจรับนิตยสำรโปรดติดต่อ 0 2105 6520 หรือดำวน์โหลดที่เว็บไซต์ www.okmd.or.th/knowledge/okmd-magazine


WORD POWER

DECENTRALIZED ECONOMY เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น

ในยุคเศรษฐกิจดิจทิ ลั หลำยคนเข้ำใจว่ำเป็นเพียงกำรน�ำเอำเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั มำช่วยให้กำรท�ำงำนมีประสิทธิภำพมำกขึน้ รวดเร็วขึน้ และต้นทุนลดลง แต่ผลกระทบที่แท้จริงกลับเป็นเรื่องของ “กำรเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจจำกเดิมที่มีกำรควบคุมจำกศูนย์กลำง (Centralized) ไปสู่กำรกระจำยอ�ำนำจและขีดควำมสำมำรถ (Decentralized)” ตัวอยางของ Centralized Economy (เศรษฐกิจแบบรวมศูนย) และ Decentralized Economy (เศรษฐกิจแบบกระจายศูนย)

Centralized

Decentralized ธุรกิจสื่อ ด�ำเนินกำรโดยกิจกำรกระจำยเสียง กิจกำรโทรทัศน์ และกิจกำรโทรคมนำคม

สื่อสังคม ประชำชนเป็นผูผ้ ลิตและเผยแพร่เนือ้ หำเอง ผ่ำนแพลตฟอร์มออนไลน์

ธุรกิจการเงินการธนาคาร ด� ำ เนิ น กำรโดยธนำคำรและบริ ษั ท ตัวกลำงทำงกำรเงิน

ธุรกรรมออนไลนแบบบุคคลตอบุคคล (Peer to Peer) ประชำชนเชือ่ มต่อกันโดยตรงผ่ำน Blockchain ซึ่งเป็นเทคโนโลยีปกป้องข้อมูลที่มี ควำมปลอดภัยและน่ำเชื่อถือ โดยไม่ต้อง อำศัยคนกลำง

Decentralized Economy ในประเทศไทย ในป พ.ศ. 2544 ประเทศไทยออก ประกำศรำชกิจจำนุเบกษำเรือ่ ง “แผนกำร กระจำยอ� ำ นำจให้ แ กองค์ ่ ก รปกครอง สวนท้ ่ องถิ่น (อปท.) พ.ศ. 2543” ตำม รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พ.ศ. 2540 โดยก�ำหนดให้รฐั ต้องกระจำยอ�ำนำจ ให้ทอ้ งถิน่ พึง่ ตนเองและตัดสินใจในกิจกำร ของท้องถิน่ ได้เอง รวมทัง้ พัฒนำเศรษฐกิจ ท้ อ งถิ่ น ระบบสำธำรณู ป โภคและ สำธำรณูปกำร และโครงสร้ำงพืน้ ฐำนด้ำน สำรสนเทศให้ทั่วถึงและเทำเที ่ ยมกันทั้ง ประเทศ ตลอดจนพัฒนำจังหวัดทีม่ คี วำม พร้อมให้เป็นองค์กรปกครองสวนท้ ่ องถิ่น ขนำดใหญ่ โดยค�ำนึงถึงเจตนำรมณ์ของ ประชำชนในจังหวัดเป็นหลัก

ต่อมำรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พ.ศ. 2550 ได้กำ� หนดหลักกำรเกีย่ วกับกำร สร้ำงควำมสมดุลระหวำงกำรให้ บริกำร ่ สำธำรณะกับขนำดรำยรับของท้องถิน่ โดย ็ ก� ำ หนดรู ป แบบรำยได้ ข องท้ อ งถิ่ น เปน 3 รูปแบบ คือ 1) รำยได้ทมี่ ำจำกกำรจัดเก็บ ของท้องถิน่ เอง เช่น รำยได้จำกกำรจัดเก็บ ภำษีปำ้ ยและภำษีโรงเรือน 2) รำยได้ทมี่ ำ จำกกำรจัดสรร/แบ่งส่วนทีร่ ฐั จัดเก็บได้ เช่น ภำษีสรรพำกรและภำษีสรรพสำมิต และ 3) รำยได้จำกกำรจัดสรรงบอุดหนุนทีเ่ ป็น งบประมำณแผ่นดิน1 โดยหลักกำรแล้วถือ เป็นกำรบริหำรจัดกำรและใช้เงินรำยได้ของ ท้องถิน่ เองในกำรพัฒนำท้องถิน่ ซึง่ น่ำจะ เปนแนวทำงที ่ ท� ำ ให้ เ กิ ด กำรกระจำย ็

ควำมเจริ ญ และกระจำยรำยได้ เ พื่ อ ลด ควำมเหลือ่ มล�ำ้ ในกำรเข้ำถึงแหล่งเงินทุน แต่ในทำงปฏิบตั ิ ยังมีทอ้ งถิน่ จ�ำนวนมำกที่ หวังพึง่ เงินงบประมำณและควำมช่วยเหลือ จำกภำครัฐ โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งในภำค กำรเกษตร อย่ำงไรก็ด ี รัฐบำลหลำยสมัย ยั ง คงให้ ค วำมส� ำ คั ญ กั บ กำรขั บ เคลื่ อ น เศรษฐกิจท้องถิน่ (Local Economy) โดย กำรจัดสรรเงินพัฒนำจังหวัดและควำม ช่วยเหลือในโครงกำรต่ำงๆ อย่ำงต่อเนือ่ ง แม้ ก ระทั่ ง ปั จ จุ บั น ที่ อ ยู ่ ใ นช่ ว งของกำร ปฏิ รู ป ประเทศ กำรพั ฒ นำให้ เ กิ ด กำร พึ่ ง ตนเองด้ ว ยเศรษฐกิ จ ท้ อ งถิ่ น หรื อ เศรษฐกิ จ ภำยในประเทศ (Domestic Economy) ก็ยงั เป็นประเด็นส�ำคัญทีน่ ำ� มำ สแกน QR CODE

เพื่อรับฟัง Audio text

W

3


4

W

WORD POWER

ใช้ในกำรขับเคลื่อนกำรพัฒนำเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตอย่ำง ยัง่ ยืน ตัวอย่ำงโครงกำรทีส่ ะท้อนภำพควำมต้องกำรพัฒนำท้องถิน่ / ชุมชนให้เติบโตอย่ำงยัง่ ยืนทีเ่ ห็นได้ชดั เจนคือ “โครงกำรอันเนือ่ ง มำจำกพระรำชด�ำริ” และ “โครงกำรตำมหลักปรัชญำเศรษฐกิจ พอเพียง” ซึ่งล้วนมุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นตำมแนวทำง Decentralized Economy ทัง้ สิน้ แต่ไม่วำ่ กำรขับเคลือ่ นเศรษฐกิจ

ท้องถิ่นจะอยู่ในรูปแบบหรือโครงกำรใดก็ตำม หำกท้องถิ่นขำด องค์ ค วำมรู ้ ที่ เ ปนศั ็ ก ยภำพที่ แ ท้ จ ริ ง จะท� ำ ให้ ก ำรพั ฒ นำไม่ สอดคล้องกับทุนท้องถิน่ ทีม่ อี ยู ่ และกำรพัฒนำนัน้ ย่อมไม่ยงั่ ยืน ็ กำรพัฒนำในรูปแบบ Decentralized Economy จึงจ�ำเปน ็ อยำงยิ ้ ค่ ู กั บ ทุ น เปนเครื ่ อ งมื อ ์ ่ ่ ง ที่ ต ้ อ งอำศั ย องคควำมรู ในกำรขับเคลือ่ นท้องถิน่ ไปพร้อมๆ กัน

Decentralized Economy

องคความรู

ทุนทองถิน่

Decentralized Economy กับภารกิจ OKMD ส�ำนักงำนบริหำรและพัฒนำองค์ควำมรู ้ (องค์กำรมหำชน) หรือ OKMD ได้เสนอแนวคิด Decentralized Economy เพือ่ ขับเคลือ่ น เศรษฐกิจท้องถิ่นในรูปแบบและโมเดลกำรจัดกำรองค์ควำมรู้ ทีน่ ำ่ จะใช้เป็นต้นแบบและน�ำไปประยุกต์ใช้กบั กำรพัฒนำเศรษฐกิจ ท้องถิน่ ตำมศักยภำพของพืน้ ที ่ โดยได้รเิ ริม่ โครงกำร “ต้นแบบเมือง เศรษฐกิจควำมรูล้ ำ� ปำง” ซึง่ คำดว่ำจะสำมำรถใช้เป็นโมเดลหนึง่ ในกำรกระจำยรำยได้ สร้ำงอำชีพ และสร้ำงควำมเข้มแข็งให้ ท้องถิ่นด้วยตัวของท้องถิ่นเอง หรือกล่ำวได้ว่ำเป็นกำรกระจำย ควำมเจริญทำงเศรษฐกิจไปสู่ ท้องถิ่นให้เกิดกำรพัฒนำไปใน ทิศทำงทีท่ อ้ งถิน่ ต้องกำร และจุดประกำยให้ลกู หลำนและเยำวชน รุน่ หลังเกิดควำมคิดและแรงบันดำลใจในกำรพัฒนำท้องถิน่ ของ ตนเองจำกกำรได้เรียนรูแ้ ละเล็งเห็นศักยภำพทีม่ ใี นท้องถิน่

ทัง้ นี ้ Decentralized Economy ในควำมหมำยของ OKMD คือ กำรผนวกค�ำว่ำ Decentralization ทีเ่ ป็นกำรกระจำยอ�ำนำจ กำรบริหำรจัดกำรและรำยได้ไปสู่ท้องถิ่น กับ Local Economy ทีเ่ ป็นกำรสร้ำงควำมเติบโตทำงเศรษฐกิจจำกท้องถิน่ และนัน่ คือ กำรพัฒนำเมือง/ชุมชนในท้องถิ่นจำกกำรใช้ทุนของท้องถิ่นเอง ซึ่งทุนท้องถิ่นในที่นี้หมำยรวมถึงทุนที่เป็นแหล่งเงิน (Capital) จำกในท้องถิ่นเอง ส�ำหรับใช้ในกำรด�ำเนินกิจกำร/กิจกรรมของ ท้องถิ่น และทุนที่เป็นภูมิปัญญำหรือองค์ควำมรู้ (Knowledge) ที่คนในท้องถิ่นมีอยู่จริง ไม่ว่ำจะเป็นองค์ควำมรู้ที่ถ่ำยทอดผ่ำน กิจกรรมในแหล่งเรียนรู/้ พิพธิ ภัณฑ์ องค์ควำมรูท้ ตี่ ดิ ตัวผูร้ /ู้ ปรำชญ์ ชำวบ้ ำ น รวมถึ ง องค์ ค วำมรู ้ จ ำกกำรท� ำ มำหำกิ น ที่ สื บ ทอด ภูมปิ ญ ั ญำต่อเนือ่ งมำเป็นเวลำนำน

มุมมอง Decentralized Economy ของ OKMD

Decentralization การกระจายอํานาจ การบริหารจัดการ และรายไดไปสูท อ งถิน่

Local Economy การสรางความเติบโตทาง เศรษฐกิจจากทุนทองถิน่

เพือ่ ให้เห็นภำพชัดเจนขึน้ ขอยกตัวอย่ำงเมืองเศรษฐกิจควำมรูล้ ำ� ปำงที ่ OKMD ได้รเิ ริม่ และจัดท�ำเป็นต้นแบบของกำร Decentralized Economy โดยเริม่ จำกกำรท�ำควำมเข้ำใจก่อนว่ำกำรพัฒนำเมืองเศรษฐกิจควำมรูม้ แี นวคิดและกระบวนกำรอย่ำงไร และก่อให้เกิด ผลกระทบในวงกว้ำงต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่ำงไร


WORD POWER

W

แนวคิดการพัฒนาเมืองเศรษฐกิจความรู้ สู่ Decentralized Economy สถำบันคีนันแห่งเอเชียได้ท�ำกำรศึกษำวิจัยเชิงนโยบำยและ องค์ควำมรูใ้ นกำรพัฒนำเมืองเศรษฐกิจควำมรูจ้ งั หวัดล�ำปำง โดย อ้ำงอิงถึงแนวคิดกำรพัฒนำเมืองเศรษฐกิจควำมรูไ้ ว้ดงั นี้ กำรพัฒนำเมืองเศรษฐกิจฐำนควำมรู้ (Knowledge-based Urban Development: KBUD) คือ กำรเปลีย่ นทรัพยำกรควำมรู้ ในท้องถิน่ เพือ่ ใช้เป็นพืน้ ฐำนในกำรพัฒนำเมืองอย่ำงยัง่ ยืน และ เป็นกระบวนกำรเรียนรูท้ ำงสังคมทีป่ ระชำชนรับทรำบและเข้ำใจ

ถึงกำรเปลีย่ นแปลงทีจ่ ะเกิดขึน้ ในเมืองของตน2 โดย KBUD นัน้ ็ เปนกระบวนกำรวำงแผนหลั ก ที่ เ น้ น ควำมส� ำ คั ญ ของกรอบ ควำมร่ ว มมื อ ระหวำงภำคสวนตำงๆ ทั้ ง ภำคธุ ร กิ จ สถำบั น ่ ่ ่ กำรศึกษำ และชุมชน ในกำรวำงกลยุทธในอนำคต กำรใช้ ฐำน ์ ควำมรู ้ ข องเมื อ งและนโยบำยท้ อ งถิ่ น เพื่ อ ดึ ง ดู ด และรั ก ษำ ผูม้ ที กั ษะพิเศษไว้ในท้องถิน่ ตน ตลอดจนกำรลงทุนและกำรฟูมฟัก พัฒนำให้เป็นเมืองแห่งเศรษฐกิจควำมรู ้ 3

กรอบแนวคิดการพัฒนาเมืองเศรษฐกิจฐานความรู้ (KBUD) ด้าน เศรษฐกิจ

ด้าน วัฒนธรรม และสังคม

มุ ่ ง เพิ่ ม ทั ก ษะและควำมรู ้ ข อง ประชำชน โดยกำรพัฒนำทั้งด้ำน เฉพำะบุคคลและสวนรวม รวมถึง ่ มุ่งสร้ำงสังคมควำมรู้ที่จะช่วยสร้ำง ควำมเทำเที ่ ย มทำงสั ง คมผำน ่ ทุนมนุษย์ โดยเน้นควำมหลำกหลำย และลดกำรพึง่ พำจำกภำยนอก

ด้าน ความเป็น สถาบัน

มุ่งน�ำทรัพยำกรควำมรู้ในท้องถิ่นที่ เป็นยุทธศำสตร์และอัตลักษณ์ของท้องถิน่ มำใช้ในกำรสร้ำงกิจกรรมทำงเศรษฐกิจ ในระดับมหภำคจำกฐำนควำมรู้

ด้าน ่ สิงแวดล้อม และเมือง มุ่งสงเสริ ่ มกำรอนุรักษ์ พัฒนำ และ บู ร ณ ำ ก ำ ร ทั้ ง ด ้ ำ น ธ ร ร ม ช ำ ติ แ ล ะ สิง่ ปลูกสร้ำงทีเ่ น้นควำมเชือ่ มโยงระหว่ำง กำรพัฒนำเมืองและชุมชน กำรเรียนรูเ้ พือ่ สร้ำงระบบนิเวศที่เป็นมิตร มีคุณภำพสูง มี อั ต ลั ก ษณ์ และมี ค วำมยั่ ง ยื น ผำน ่ กำรพั ฒ นำเมื อ งและคุ ณ ภำพชี วิ ต ของ ประชำชนอย่ำงยัง่ ยืน

มุง่ เน้นกำรสร้ำงควำมเป็นสถำบันผ่ำนกระบวนกำรเก็บรวบรวมควำมรูแ้ ละสร้ำงกำรมีส่ วนร่วมกับ ผูม้ สี ่ วนได้ส่ วนเสีย เพือ่ พัฒนำวิสยั ทัศน์และกลยุทธ์กำรจัดกำร รวมถึงด�ำเนินกิจกรรมเพือ่ สร้ำงควำมรู้ ทีจ่ ำ� เป็น เสริมสร้ำงควำมเข้มแข็งของธรรมำภิบำลและภำวะผูน้ ำ� และกระตุน้ กำรสนับสนุนจำกสังคม

5


6

W

WORD POWER

่ ต้นแบบเมืองเศรษฐกิจความรูล ้ า� ปางในมิตก ิ ารขับเคลือนเศรษฐกิ จระดับชุมชน “ต้นแบบเมืองเศรษฐกิจควำมรูล้ ำ� ปำง” เป็นหนึง่ ในโครงกำรตำม แนวคิด Decentralized Economy ของ OKMD ที่มุ่งเน้นกำรใช้ ศักยภำพของท้องถิ่นทั้งทุนมนุษย์ ทุนวัฒนธรรม ทุนภูมิปัญญำ/ องค์ควำมรู้ และทุนทรัพยำกรท้องถิ่นทั้งที่เป็นตัวเงินและไม่ใช่ ตัวเงิน อำทิ ทรัพยำกรกำรเกษตร ในกำรสร้ำงควำมเจริญเติบโตให้แก่ ท้องถิ่นด้วยตัวเอง มีที่มำจำกแนวคิดกำรบริหำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge Management) ในบริบทของ OKMD ที่ว่ำ “ควำมรู้

ทีไ่ ด้รบั กำรจัดกำรทีด่ ี คือ ควำมรูท้ ไี่ ม่วำ่ จะสร้ำงขึน้ ใหม่ รวบรวม หรือ สะสมมำจำกทีใ่ ดก็ตำม ต้องสำมำรถน�ำไปถ่ำยทอด/สือ่ สำร/เผยแพร่ แล้วก่อให้เกิดประโยชน์ในกำรต่อยอดสร้ำงอำชีพ เป็นเสมือนอำวุธ ทำงปัญญำที่สำมำรถน�ำไปแปลงเป็นมูลค่ำ/คุณค่ำที่ท�ำประโยชน์ ให้แก่ผู้ใช้องค์ควำมรู้นั้น” กล่ำวอีกนัยหนึ่งคือ กำรบริหำรจัดกำร ควำมรูจ้ นสำมำรถใช้ควำมรูน้ นั้ เป็นเครือ่ งมือทีน่ ำ� ไปสูก่ ำรท�ำมำหำกิน กำรสร้ำงรำยได้ และกำรขยำยผลพัฒนำเศรษฐกิจของท้องถิน่

ดวยความคิดนี้ การจัดทําโครงการตนแบบเมืองเศรษฐกิจความรูลําปางจึงเริ่มจากกระบวนการจัดการองคความรู โดยมีลําดับขั้นตอนดังนี้

ศึกษารวบรวมองค์ความรู้ ทั้งหมดในล�าปาง ลงพื้ น ที่ ส� ำ รวจข้ อ มู ล ภำคสนำม กำรสัมภำษณ์ และกำรสอบถำมข้อมูลจำก ผู ้ ที่ เ กี่ ย วข้ อ ง รวมถึ ง กำร ศึ ก ษำวิ เ ครำะห์ ศั ก ยภำพ ของแหล่งเรียนรู้ต่ำงๆ ใน ล�ำปำง

จัดประชุมระดมความคิดเห็น กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สร้ำงควำมร่วมมือและ กำรมีสว่ นร่วมของประชำชน ในพื้นที่ และสงเสริ ่ มกำร พัฒนำเมืองร่วมกันอย่ำง เข้มแข็งระหว่ำงรัฐ เอกชน ภำควิชำกำร และประชำชน ตำมศักยภำพของท้องถิน่

จ�าแนกประเภท/สาขาองค์ความรู้ และภูมิปัญญา จัดกลุม่ ขององค์ควำมรู้ เพื่อสะดวกต่อกำรน�ำไปใช้ เช่น ชุดควำมรูด้ ำ้ นเซรำมิก ชุดควำมรูด้ ำ้ นรถม้ำล�ำปำง เป็นต้น

จัดท�าแผนที่แหล่งเรียนรู้/ องค์ความรู้ท้องถิ่น (Mapping) น� ำ เสนอองค์ ค วำมรู ้ ท ้ อ งถิ่ น ใน ลักษณะเชื่อมโยงบูรณำกำรเพื่อให้ เห็ น ถึ ง ศั ก ยภำพของท้ อ งถิ่ น และ จุ ด ประกำยควำมคิ ด ในกำรน� ำ ทุนท้องถิ่นไปพัฒนำต่อยอดขยำยผล เช่น Mapping ชุดองค์ควำมรู้รถม้ำ ล�ำปำง ซึ่งชี้ให้เห็นทุนทำงกำยภำพ และองค์ ค วำมรู ้ ที่ มี อ ยู ่ ใ นล� ำ ปำง ตลอดห่ ว งโซ่ ตั้ ง แต่ ก ำรปลู ก หญ้ ำ ส�ำหรับเลี้ยงม้ำ กำรท�ำฟำร์มเลี้ยงม้ำ กำรประกอบรถม้ำ และบริกำรรถม้ำ เพื่อกำรท่องเที่ยว

สิ่งที่ไดรับจากโมเดลตนแบบเมืองเศรษฐกิจความรูลําปางคือแผนที่เสนทางแหลงเรียนรูสําคัญตามชุดองคความรูที่ OKMD ไดศกึ ษารวบรวมขึน้ ซึง่ สามารถนํามาตอยอดขยายผลเพือ่ นําศักยภาพทีม่ อี ยูม าพัฒนาและสรางรายไดใหจงั หวัด เชน การพัฒนา เสนทางทองเที่ยวตามแหลงเรียนรูที่จะนํารายไดมาสูชุมชนในพื้นที่แหลงเรียนรู


WORD POWER

W

ประเทศไทยได้อะไรจากการ Decentralized Economy ของ OKMD โครงกำรต้นแบบเมืองเศรษฐกิจควำมรูล้ ำ� ปำงเป็นตัวอย่ำงหนึง่ ของกำร Decentralized Economy ทีส่ ง่ เสริมให้ลำ� ปำงเลีย้ งตัวเอง จำกทุนของตัวเอง ซึง่ เป็นกระบวนกำรจัดกำรให้เกิดกำรใช้องค์ควำมรู้ และศักยภำพของท้องถิ่นโดยลดกำรพึ่งพำควำมช่วยเหลือจำก ทุนภำยนอก ขณะเดียวกันก็ดงึ คนจำกภำยนอกเข้ำมำช่วยกระจำย รำยได้ให้แก่ท้องถิ่น ตัวอย่ำงที่เห็นได้ชัดเจนคือกำรพัฒนำท้องถิ่น ให้เป็นแหล่งเรียนรู/้ ต้นแบบกำรพัฒนำ ซึง่ ดึงดูดนักท่องเทีย่ วเข้ำมำ

ในจังหวัดมำกขึน้ และสร้ำงรำยได้ให้แก่ชมุ ชนจำกกิจกรรมทีเ่ กีย่ วข้อง กับกำรท่องเทีย่ ว เช่น ร้ำนค้ำ ร้ำนอำหำร โรงแรม ของทีร่ ะลึก ปัจจุบัน OKMD มีกำรประสำนควำมร่วมมือกับหน่วยงำน พันธมิตรที่เกี่ยวข้องในกำรถ่ำยทอดองค์ควำมรู้และขับเคลื่อน เศรษฐกิจท้องถิน่ ตำมโมเดล Decentralized Economy อย่ำงต่อเนือ่ ง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อสร้ำงและส่งเสริมกำรขยำยตัวทำงเศรษฐกิจของ ชุมชน ท้องถิน่ จังหวัด ไปจนถึงเศรษฐกิจของประเทศในภำพรวม

หน่วยงานพันธมิตรด้านการ Decentralized Economy

มูลนิธิชัยพัฒนา

คณะกรรมการบูรณาการด้าน พิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้

กำรถ่ำยทอดองค์ควำมรูต้ ำมโครงกำรอันเนือ่ งมำจำก พระรำชด�ำริซงึ่ ส่วนใหญ่เกีย่ วข้องกับกำรเกษตรกรรม

ธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

กำรจัดท�ำโครงกำรยกระดับกระบวนกำรเรียนรู้ ของเกษตรกรไทย เพือ่ พัฒนำวิสำหกิจภำคเกษตร

กำรใช้พนื้ ทีเ่ ป็นตัวเชือ่ มให้เกิดกำรบูรณำกำรองค์ควำมรู้ ระหว่ำงหน่วยงำนต่ำงๆ ในพืน้ ที่

ส�านักงานคณะกรรมการพัฒนา ระบบราชการ (ก.พ.ร.)

กำรริเริม่ โครงกำรน�ำร่องร่วมกันเพือ่ เป็นต้นแบบ ในกำรขับเคลือ่ นเศรษฐกิจท้องถิน่ โดยอำศัยกำรบูรณำกำร องค์ควำมรูแ้ ละควำมเชีย่ วชำญเฉพำะทำงขององค์กำรมหำชน

อ้ำงอิง : 1 ศ.ดร. สกนธ์ วรัญวัฒนำ (2556), 2 Knight (2538, 2551), 3 Kunzmann (2551)

สแกน QR CODE

เพื่อรับชม Clip

7


8

O

One of a kiNd

Decentralized Economy a -z rainbank

ธนำคำรสมอง เป็นศูนย์รวมผู้ทรงคุณวุฒิ วัยเกษียณทีต่ อ้ งกำรน�ำควำมรู ้ และประสบกำรณ์ ที่มีมำช่วยพัฒนำประเทศ ด�ำเนินกำรโดย ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรพัฒนำกำรเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชำติ

conomic inequality

ควำมเหลื่อมล�้ำของรำยได้ในคนกลุ่มต่ำงๆ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ควำมส�ำเร็จ/ควำมล้มเหลว ของกำรพั ฒ นำประเทศ โดยประเทศที่ มี คุณภำพกำรศึกษำสูงมักมีควำมเหลื่อมล�้ำ ของกำรกระจำยรำยได้น้อยกว่ำ

ill tribes

กลุ่มชำติพันธุ์บนดอยสูงทำงภำคเหนือ เป็น คนกลุ่มแรกที่รัชกำลที่ 9 ทรงเข้ำไปพัฒนำ โดยกำรสงเสริ ่ มกำรปลูกพืชเมืองหนำวทดแทน กำรปลูกฝินและกำรท�ำไร่เลื่อนลอย

dam smith

อดั ม สมิ ธ บิ ด ำแห่ ง วิ ช ำเศรษฐศำสตร์ และระบบทุนนิยมเสรี ผู้เขียนหนังสือ The Wealth of Nations ซงึ่ เป็นต�ำรำเศรษฐศำสตร์ เล่มแรกของโลก

oi kham

BT integrated

หลักสูตรกำรจัดกำรกำรท่องเทีย่ วโดยชุมชน เพือ่ ชุมชนเชิงบูรณำกำร ขององค์กำรบริหำร กำรพั ฒ นำพื้ น ที่ พิ เ ศษเพื่ อ กำรท่ อ งเที่ ย ว อย่ำงยัง่ ยืน (องค์กำรมหำชน) ในเขตพัฒนำ กำรท่องเทีย่ ว 37 จังหวัด

ดอยค� ำ ก่ อ ตั้ ง ขึ้ น ตำมพระรำชกระแสของ รัชกำลที ่ 9 เพือ่ ด�ำเนินกำรด้ำนกำรตลำดให้แก่ ผลิตผลจำกโครงกำรหลวง และกำรพัฒนำ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ อ ำหำรตำมแนวพระรำชด� ำ ริ "อุตสำหกรรมเกษตรเพือ่ กำรพัฒนำชนบท"

ifu

inancial education

โครงกำรให้ ค วำมรู ้ ท ำงกำรเงิ น จั ด โดย หน่วยงำนต่ำงๆ เช่น ศูนย์สง่ เสริมกำรพัฒนำ ควำมรู้ตลำดทุน (TSI) เพื่อส่งเสริมควำมรู้ ด้ำนกำรเงิน กำรออม และกำรลงทุนให้แก่ ประชำชน

กิฟุ เป็นจังหวัดที่มีกำรบริหำรจัดกำรให้เป็น เมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของญี่ปุ่น โดย มีแหล่งเรียนรูอ้ ยูท่ กุ พืน้ ที ่ เช่น ย่ำนเมืองเก่ำ ทำคำยำมะ หมู่บ้ำนมรดกโลกชิรำคำวำโกะ

nvolvement

กำรมีสว่ นร่วมของชุมชน ท�ำได้หลำยรูปแบบ เช่น สหกรณ์ ประชำพิจำรณ์ ถือเป็นกำร กระจำยอ�ำนำจให้ ชำวบ้ำนคิดเอง ตัดสินใจเอง และมีส่วนร่วมพัฒนำชุมชนของตนเอง

oh khan

ต� ำ บลเกำะขั น ธ์ จั ง หวั ด นครศรี ธ รรมรำช ได้ รั บ คั ด เลื อ กจำก ส�ำนักงำนกองทุนสนับสนุนกำรสร้ำงเสริมสุขภำพ (สสส.) ให้เป็น เมืองต้นแบบเศรษฐกิจชุมชนจัดกำรตนเองยัง่ ยืน ด้ำนกำรจัดกำรน�ำ้ และกำรสร้ำงรำยได้ด้วยทุนท้องถิ่น

oseph schumpeter

โจเซฟ ชุมปเตอร์ เจ้ำของแนวคิดที่ว่ำหัวใจ ของกำรพั ฒ นำเศรษฐกิ จ มำจำกกำรวิ จั ย พัฒนำ และสร้ำงสรรค์นวัตกรรม ซึง่ จะน�ำไปสู่ กำรขยำยตัวของเศรษฐกิจโดยรวม

ampang

โครงกำรต้นแบบเมืองเศรษฐกิจควำมรู้ล�ำปำง ริเริ่มโดย OKMD เพือ่ เพิม่ พูนศักยภำพของคนในพืน้ ที ่ และสร้ำงรำยได้ให้ชมุ ชนบน พืน้ ฐำนของทุนท้องถิน่


One of a kiNd

O

$

$

ixed economy

$ $

ระบบเศรษฐกิจแบบผสมซึง่ เอกชนมีเสรีภำพ ในกำรผลิตและบริโภค โดยมีรฐั เป็นผูค้ วบคุม หรื อ ด� ำ เนิ น กิ จ กำรที่ มี ค วำมส� ำ คั ญ ตอ่ ควำมเป็นอยูข่ องคนสวนใหญ่ ของประเทศ ่

$

hufa

ร้ ำ นค้ ำ ที่ ส มเด็ จ พระเทพรั ต นรำชสุ ด ำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี ทรงพระกรุณำโปรดเกล้ำฯ ให้กอ่ ตัง้ ขึน้ เพือ่ สร้ำงวงจรกำรตลำดทีส่ มบูรณ์ จำกกำรผลิตในท้องถิ่นสู่ ลูกค้ำในเมือง

ufficiency economy

top

ara otop

แอปพลิเคชันของส�ำนักงำนพัฒนำชุมชน นรำธิวำส เพื่อเพิ่มช่องทำงกำรตลำดให้แก่ สินค้ำโอทอปในจังหวัด โดยให้บริกำรครบวงจร ตัง้ แต่ขอ้ มูลสินค้ำ ทีอ่ ยู ่ และกำรสัง่ ซือ้ ออนไลน์

mark

apee sagarik

ตรำสัญลักษณ์ Q เป็นเครื่องหมำยรับรอง คุณภำพและมำตรฐำน เพือ่ สร้ำงกำรยอมรับ และควำมเชื่อมั่นในสินค้ำและบริกำรของ ผู้ประกอบกำรไทย

hailand sustainable development foundation (tsdf)

เศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทำงกำรพัฒนำที่ เน้นกำรกระจำยรำยได้ให้ประชำชนในชนบท มูลนิธิมั่นพัฒนำ เป็นศูนย์กลำงองค์ควำมรู้ พอมีพอกิน เพือ่ สร้ำงควำมมัน่ คงทำงเศรษฐกิจ ในงำนพัฒนำเพื่อควำมยั่งยืน รวมถึงงำน พั ฒ นำชุ ม ชนเชิ ง พื้ น ที่ และกำรน� ำ หลั ก พืน้ ฐำนก่อนทีจ่ ะพัฒนำในระดับสูงขึน้ ไป เศรษฐกิจพอเพียงมำประยุกต์ใช้ให้เกิดผล

illage e-commerce

โครงกำรของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม เพื่อให้ควำมรู้ เพิ่มโอกำสทำง อำชีพ และสร้ำงรำยได้ส่ ชู มุ ชน ผ่ำนกิจกรรม สงเสริ ่ มกำรท�ำธุรกิจออนไลน์ในชุมชน

eaving love and painting silk

อ�ำเภอเบตง จังหวัดยะลำ เป็น 1 ใน 3 เมืองต้นแบบ "สำมเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" โดยได้ รั บ คั ด เลื อ กเป็ น เมื อ งต้ น แบบด้ ำ น “กำรพัฒนำที่พึ่งพำตนเองอย่ำงยั่งยืน”

ศำสตรำจำรย์ ระพี สำคริก “บิดำแห่งกล้วยไม้ ไทย” ผูบ้ กุ เบิกกำรค้นคว้ำและปรับปรุงพันธุ์ จนท�ำให้กล้วยไม้ไทยกลำยเป็นสินค้ำสงออก ่ ด้ำนเกษตรทีส่ ำ� คัญของประเทศ

nited nations development program (undp)

โครงกำรพัฒนำแห่งสหประชำชำติ มีบทบำท ในกำรน�ำควำมรู้และทรัพยำกรจำกนำนำ ประเทศมำผสำนกับภูมปิ ญ ั ญำท้องถิน่ เพือ่ เสริมสร้ำงศักยภำพประเทศให้เข้มแข็ง

ero

“ทอรักแต้มไหม” ภำพยนตร์สนั้ ฝมอื นักศึกษำ มหำวิทยำลัยขอนแก่น เพือ่ สะท้อนคุณค่ำของ วิถีชนบทและภูมิปัญญำไหมมัดหมี่ที่มีส่ วน เสริมสร้ำงเศรษฐกิจชุมชน

ala

โครงกำรเพื่ อ กำรสงเสริ ม เศรษฐกิ จ และ ่ ผู้ประกอบกำรท้องถิ่น มีหลักกำรส�ำคัญ คือ ภูมปิ ญ ั ญำท้องถิน่ สูส่ ำกล พึง่ ตนเองและคิด อย่ำงสร้ำงสรรค์ และสร้ำงทรัพยำกรมนุษย์

แอปพลิเคชันบนสมำร์ตโฟนทีช่ ว่ ยให้สำมำรถ จัดกำรธุรกิจได้ทกุ ทีท่ กุ เวลำ ตัง้ แต่กำรท�ำงบ กำรเงิน สงใบแจ้ งหนี ้ เบิกค่ำใช้จำ่ ย ไปจนถึง ่ กำรออกใบเสร็จ

oning by agri map

โครงกำรบริหำรจัดกำรเขตเกษตรเศรษฐกิจส�ำหรับสินค้ำเกษตร ที่ส�ำคัญ ซึ่งเน้นให้เกษตรกรปรับเปลีย่ นกำรปลูกพืชให้เหมำะกับ สภำพพื้นที่และควำมต้องกำรของตลำด

9


10

D T

The Knowledge

การขับเคล่ือนชุมชน ภายใต้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชด�าริ

ดังทีท่ รำบกันดีวำ่ ประชำกรส่วนใหญ่ของประเทศไทยยังชีพด้วยกำรท�ำเกษตรกรรม ดังนัน้ โครงกำรพัฒนำอันเนือ่ งมำจำก พระรำชด�ำริจงึ เกีย่ วข้องกับเรือ่ งของกำรยกระดับควำมเป็นอยูแ่ ละกำรส่งเสริมกำรท�ำกินของประชำชนในชนบทเป็นส�ำคัญ ไม่ว่ำจะเป็นกำรพัฒนำแหล่งน�้ำและกำรชลประทำน กำรส่งเสริมอำชีพ กำรอนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติ กำรจัดสรร และพัฒนำที่ดิน และอื่นๆ ปัจจุบนั โครงกำรอันเนือ่ งมำจำกพระรำชด�ำริมจี ำ� นวนมำกถึง 4,741 โครงกำร ครอบคลุมกำรพัฒนำในหลำกหลำยมิติ โดยด�ำเนินกำรภำยใต้แนวคิดและทฤษฎีต่ำงๆ อำทิ แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับเรื่องน�้ำ แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับ เรื่ อ งดิ น ทฤษฎี ใ หม ่ โดยมี หั ว ใจหลั ก อยู่ ที่ “ความเรี ย บงาย” กลำวคื ่ ่ อ ทุ ก โครงกำรต้ อ งไมยุ่ ่ ง ยำกซั บ ซ้ อ น ทั้งในด้ำนแนวควำมคิดและเทคนิควิชำกำร ท�ำได้รวดเร็ว ประหยัด สำมำรถแก้ปัญหำและก่อประโยชน์ได้จริง ที่ส�ำคัญ ต้องสอดคล้องกับสภำพควำมเป็นอยู่และระบบนิเวศของพื้นที่ ตลอดจนสภำพทำงสังคมของชุมชนนั้นๆ


The Knowledge

D T

แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับน�้า โครงกำรอันเนือ่ งมำจำกพระรำชด�ำริสว่ นใหญ่เป็นเรือ่ งเกีย่ วกับน�ำ้ กำรควบคุมน�ำ้ กำรท�ำน�ำ้ เสียให้เป็นน�ำ้ ดี ตลอดจนกำรแก้ไขปัญหำ ไม่วำ่ จะเป็นกำรพัฒนำและจัดหำแหล่งน�ำ้ กำรเก็บกักน�ำ้ กำรระบำยน�ำ้ น�้ำท่วม โดยมีแนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับน�้ำมำกมำย อำทิ

น�้าดีไล่น้�าเสี ย กำรแก้ไขมลพิษทำงน�ำ้ โดยใช้นำ�้ ทีม่ คี ณ ุ ภำพดีจำก แม่น�้ำเจ้ำพระยำช่วยผลักดันและเจือจำงน�้ำเน่ำเสีย ออกจำกแหล่งน�ำ้ ของชุมชนในตัวเมือง เช่น คลองบำงเขน คลองบำงซือ่ คลองแสนแสบ ฯลฯ ท�ำได้โดยกำรควบคุม กำรเปิดปิดประตูน�้ำเพื่อเพิ่มกำรไหลเวียนและถ่ำยเท ซึ่งเป็นกำรจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำติในเชิงอนุรักษ์ ควบคูไ่ ปกับกำรพัฒนำทีเ่ รียบง่ำย

โครงการกักเก็บน�้า ขนาดใหญ่ของประเทศ กำรพัฒนำพืน้ ทีล่ มุ่ น�ำ้ ป่ำสักเพือ่ สร้ำงแหล่งต้นทุนน�ำ้ ทีช่ ว่ ยแก้ปญ ั หำกำรขำดแคลนน�ำ้ เพือ่ กำรชลประทำนและ กำรเกษตรในฤดูแล้ง ช่วยป้องกันและบรรเทำอุทกภัยใน บริเวณลุ่มน�้ำป่ำสักและลุ่มน�้ำเจ้ำพระยำตอนล่ำงในฤดู น�้ำหลำก นอกจำกนี้ยังช่วยบรรเทำปัญหำน�้ำเน่ำเสีย ในเขตกรุ ง เทพมหำนครและเมื อ งใหญ่ ใ นภำคกลำง รวมทัง้ เพือ่ ประโยชนในด้ ์ ำนอืน่ ๆ

ระบบแยกน�้า 3 รส กำรแก้ปญ ั หำน�ำ้ ท่วม น�ำ้ จืด น�ำ้ เปรีย้ ว และน�ำ้ เค็ม ในพื้นที่ทำงภำคใต้ซึ่งสงผลตอกำรท� ำเกษตรกรรม ่ ่ โดยเฉพำะในพืน้ ทีร่ อบเขตพรุและบริเวณใกล้เคียงกับ เขตดินพรุ เช่น พืน้ ทีล่ มุ่ น�ำ้ ปำกพนัง ลุม่ น�ำ้ บำงนรำ ฯลฯ โดยกำรสร้ำงระบบป้องกันน�้ำเปรี้ยวจำกพรุที่ท�ำให้ ็ ดินเปนกรด ระบบป้องกันน�้ำเค็มบุกรุก และระบบ สงน� ่ ำ้ จืดเพือ่ กำรเกษตรและกำรอุปโภคบริโภค

11


12

T

The Knowledge

แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับดิน จุ ด เริ่ ม ต้ น ของแนวพระรำชด� ำ ริ เ รื่ อ ง "ดิ น " มำจำกกำรที่ ประชำชนที่ไม่มีที่ดินท�ำกินทำงกำรเกษตร ดังมีพระรำชด�ำรัสไว้ ณ ส� ำ นั ก งำนคณะกรรมกำรพิ เ ศษเพื่ อ ประสำนงำนโครงกำร อันเนื่องมำจำกพระรำชด�ำริ (ส�ำนักงำน กปร.) ในป พ.ศ. 2531 ว่ำ "มีควำมเดือดร้อนอย่ำงยิ่งว่ำประชำชนในเมืองไทยจะไร้ที่ดิน และถ้ำไร้ที่ดินแล้วก็จะท�ำงำนเป็นทำสเขำ ซึ่งเรำไม่ปรำรถนำที่จะ ให้ประชำชนเป็นทำสคนอื่น แต่ถ้ำเรำสำมำรถที่จะขจัดปัญหำนี้

โดยเอำทีด่ นิ จ�ำแนกจัดสรรอย่ำงยุตธิ รรม อย่ำงมีกำรจัดตัง้ จะเรียกว่ำ นิคม หรือจะเรียกว่ำหมู่หรือกลุ่ม หรือสหกรณ์ก็ตำม ก็จะท�ำให้ คนที่มีชีวิตแร้นแค้นสำมำรถที่จะพัฒนำตัวเองขึ้นมำได้" จำกแนวพระรำชด�ำริเรือ่ งกำรจัดสรรทีด่ นิ ท�ำกิน ขยำยขอบเขต ไปสู่กำรพัฒนำและอนุรักษ์ดินเพื่อกำรเกษตรกรรม และน�ำไปสู่ โครงกำรอันเนือ่ งมำจำกพระรำชด�ำริเพือ่ แก้ไขปัญหำดินในมิตติ ำ่ งๆ อำทิ

ทฤษฎีแกล้งดิน กำรแกล้งดินให้เปรยวเพื ำให้ดนิ แห้งและ ี้ ี้ ่อแก้ไขปัญหำดินเปรยว โดยกำรท� เปยกสลับกันเพื่อเร่งปฏิกิริยำทำงเคมีของดินให้เปนกรดมำกที ส่ ดุ จนถึงจุดทีพ่ ชื ็ ไม่สำมำรถเจริญเติบโตได้ จำกนั้นจึงท�ำกำรปรับปรุงดินด้วยวิธีกำรต่ำงๆ เพือ่ ลด ควำมเป็นกรดในดินให้อยูใ่ นระดับที่จะปลูกพืชเศรษฐกิจได้ เช่น กำรควบคุมระดับ น�้ำใต้ดิน กำรใช้น�้ำชะล้ำงควำมเป็นกรด กำรใช้ปูนผสมคลุกเคล้ำกับหน้ำดิน กำรยกร่องปลูกพืช ฯลฯ

การอนุรักษ์ ดินโดยหญ้าแฝก กำรอนุรักษ์และป้องกันกำรพังทลำยของหน้ำดินโดยกำรใช้หญ้ำแฝกให้มี ประสิทธิภำพสูงสุดตำมลักษณะและสภำพภูมปิ ระเทศทีแ่ ตกต่ำงกัน เช่น กำรปลูก เปนแนวขวำงตำมควำมลำดของเขำ กำรปลู กเพื่อแก้ปัญหำกำรพังทลำยของดิน ็ ที่เปนร่ ็ องน�้ำลึก กำรปลูกในพื้นที่ลำดชัน กำรปลูกเพื่อเก็บกักควำมชุ่มชื้นในดิน ควำมส�ำเร็จด้ำนกำรใช้หญ้ำแฝกในกำรแก้ปัญหำเรื่องดินสงผลให้ ประเทศไทย ่ เปนศู ็ น ย์ ก ลำงด้ ำ นเทคนิ ค และวิ ช ำกำรหญ้ ำ แฝกที่ ป ระสบผลส� ำ เร็ จ และ มีควำมก้ำวหน้ำมำกที่สุดในโลก

การห่มดิน

กำรดูแลและรักษำดินด้วย “กำรห่มดิน” ซึ่งท�ำได้หลำยวิธี เช่น กำรใช้ฟำง เศษใบไม้ พรมใยปำล์ม หรือวัสดุอื่นที่หำได้ในท้องถิ่นมำคลุมหน้ำดิน เพื่อให้ดิน มีควำมชุ่มชื้น จุลินทรีย์ท�ำงำนได้ดี ท�ำให้ดินมีควำมอุดมสมบูรณ์เหมำะแก่ กำรเพำะปลู ก นอกจำกนี้ ยั ง ช่ ว ยป้ อ งกั น กำรชะล้ ำ งพั ง ทลำยของหน้ ำ ดิ น และป้องกันไม่ให้วัชพืชขึ้นรบกวนพืชหลัก


The Knowledge

T

ทฤษฎีใหม่ “ทฤษฎีใหม่” หรือ “เกษตรทฤษฎีใหม่” เป็นแนวพระรำชด�ำริ มีควำมพอเพียง สำมำรถเลีย้ งตัวเองได้อย่ำงพอมีพอกิน ส่วนทีเ่ หลือ ด้ำนกำรบริหำรจัดกำรทีด่ นิ และน�ำ้ เพือ่ กำรเกษตรในทีด่ นิ ขนำดเล็ก จึงน�ำออกขำยเป็นรำยได้ โดยได้พระรำชทำนแนวทำงทีส่ มบูรณ์แบบ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีหลักส�ำคัญอยู่ที่กำรปลูกฝังให้เกษตรกร ส�ำหรับเกษตรกรรำยย่อย 3 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 กำรบริหำรและจัดสรรที่ดินออกเป็นสัดส่วนชัดเจน พร้อมทั้งค�ำนวณปริมำณน�้ำที่จะกักเก็บให้พอเพียงต่อกำรเพำะปลูกตลอดป โดยแบ่งกำรใช้ประโยชน์พื้นที่เป็น 4 ส่วน ตำมอัตรำส่วน 30:30:30:10 ดังนี้ 1 พื้นที่ส�ำหรับกำรเก็บกักน�้ำ 30% 2 พื้นที่ส�ำหรับกำรปลูกข้ำว 30% 3 พื้นที่ส�ำหรับกำรปลูกพืช ไม้ผล ไม้ยืนต้น 30% 4 พื้นที่อยู่อำศัย เลี้ยงสัตว์ และโรงเรือนอื่นๆ 10% เก็บกักน�้า

30%

ปลูกข้าว

30%

ขั้นที่ 2 กำรรวมกลุม่ กับเกษตรกรรำยอืน่ ๆ ในรูปแบบกลุม่ หรือสหกรณ์ เพือ่ ด�ำเนินกำรด้ำนกำรผลิต กำรตลำด ควำมเป็นอยู ่ สวัสดิกำร กำรศึกษำ สังคม และศำสนำ

พื ชไร่

30%

อยู่อาศั ย เลีย ้ งสั ตว์

10%

ขั้นที่ 3 กำรติดต่อประสำนงำนเพือ่ จัดหำทุนหรือแหล่งเงิน เช่น ธนำคำร บริษัท ห้ำงร้ำนเอกชน มำช่วยลงทุนและพัฒนำคุณภำพชีวิต โดยที่ ทั้งฝ่ำยเกษตรกรและฝ่ำยธนำคำร/บริษัทจะได้รับประโยชน์ร่วมกัน

ทีม่ ำ : ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรพิเศษเพือ่ ประสำนงำนโครงกำรอันเนือ่ งมำจำกพระรำชด�ำริ (ส�ำนักงำน กปร.), มูลนิธชิ ยั พัฒนำ, มูลนิธมิ นั่ พัฒนำ

13


14

D

DIGITONOMY

รวมมิตรตัวเลขทีเ่ กีย ่ วข้องกับโครงการ อันเนือ ่ งมาจากพระราชด�าริและมูลนิธิชัยพั ฒนา

ภาคเหนือ

1,800

โครงการ คิดเป็น

30.6%

ของพื้นที่ท้งั หมด

รวมทั้งสิ้ น

4,741

ภาคกลาง

โครงการ

813

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

1,191

โครงการ

2

คิดเป็น

โครงการ

ของพื้นที่ท้งั หมด

60.5%

คิดเป็น

47.3 %

ภาคใต้

912

โครงการ

ของพื้นที่ทั้งหมด

49.3%

ของพื้นที่ท้งั หมด

ไม่ระบุพ้ืนที่

25

โครงการ

ที่มำ : ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรพิเศษเพื่อประสำนงำนโครงกำรอันเนื่องมำจำกพระรำชด�ำริ (ส�ำนักงำน กปร.) พ.ศ. 2560 และส�ำนักงำนเศรษฐกิจกำรเกษตร หมำยเหตุ : 1 รวบรวมข้อมูลโครงกำรอันเนื่องมำจำกพระรำชด�ำริ ในช่วงป พ.ศ. 2495 - 2560 จำกส่วนรำชกำรที่เกี่ยวข้อง จ�ำนวน 28 หน่วยงำน อำทิ ส�ำนักงำน กปร. มูลนิธิชัยพัฒนำ กรมชลประทำน กองบัญชำกำรต�ำรวจตระเวนชำยแดน 2 ไม่ระบุพนื้ ที ่ หมำยถึง โครงกำรทีม่ กี ำรด�ำเนินกำรในหลำยพืน้ ที ่ รวมทั้งในต่ำงประเทศ


16

T

The Knowledge

ศู นย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชด�าริ

ที่ตั้ง จังหวัดฉะเชิงเทรำ ลักษณะโครงการ ศูนย์แห่งแรกในจ�ำนวน 6 ศูนย์ทั่วประเทศ ท�ำหน้ำที่เป็น แหล่งรวบรวมกำรศึกษำ ทดลอง วิจัย และพัฒนำปรับปรุงพื้นที่ดินทรำยจัด เพื่อเกษตรกรรม ภำยในศูนย์ประกอบด้วยหน่วยงำนย่อยร่วมกันด�ำเนินงำน ในรูปแบบสหวิทยำกำร ตั้งแต่งำนพัฒนำที่ดิน งำนวิชำกำรเกษตร งำนส่งเสริม และพัฒนำ งำนสงเสริ ่ มสหกรณ์ งำนปศุสัตว์ งำนประมง งำนพัฒนำชุมชน ฯลฯ ซึ่งให้บริกำรแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว โดยเน้นให้ควำมรู้ด้ำนกำรพัฒนำดิน กำรวำงแผนปลูกพืช กำรเลี้ยงสัตว์ ตลอดจนกำรสงเสริ ่ มงำนศิลปหัตถกรรม ็ พื้นบ้ำนเปนอำชีพเสริม เพื่อให้เกษตรกรและผู้สนใจได้พัฒนำทักษะอำชีพ ยกระดับฐำนะควำมเป็นอยู่ให้ดีขึ้น และน�ำไปประยุกต์ใช้ในท้องถิ่นของตนเอง

ศู นย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชด�าริ

ศู นย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่ องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชด�าริ

ที่ตั้ง จังหวัดสกลนคร ลักษณะโครงการ แบบจ�ำลองของภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ส�ำหรับกำรศึกษำ ทดลอง วิจัย และสำธิตเทคโนโลยีแผนใหม่ให้แก่ เกษตรกร ทั้ ง ในด้ ำ นเกษตรกรรม ปำไม้ ่ ปศุ สั ต ว์ แหลงน� ่ ้ ำ เพื่ อ กำรประมง และกำรปรับปรุงบ�ำรุงดิน ซึ่งศูนยได้ ์ น�ำไปขยำยผล เผยแพร่ส่ ูรำษฎรในพื้นที่เป้ำหมำยเพื่อให้เกิดกำรปฏิบัติจริง อำทิ โครงกำรศึกษำวิธกี ำรพัฒนำสิง่ แวดล้อมทีเ่ หมำะกับสภำพภูมสิ งั คม เช่น กำรปลูกป่ ำโดยไม่ต้องปลูก ระบบป่ ำเปยก โครงกำรเลี้ยงโคเนื้อทำจิมะภูพำน ที่ให้เนื้อคุณภำพสูงแต่มี ต้นทุนกำรผลิตต�่ำ โครงกำรปลูกข้ำวพันธุ์สกลนคร ซึ่งเป็นข้ำวเหนียวที่ปลูกได้ทั้ง นำดอน นำชลประทำน และนำไร่ภำคอีสำน โครงกำรเลี้ยงปลำนิลแดงร่วมกับเป็ดบำบำลี ซึ่งเป็นแนวทำง กำรประกอบอำชีพเสริมในลักษณะกำรผสมผสำน ท�ำให้มรี ำยได้เพิม่ ขึน้ ในพื้นที่เท่ำเดิม

ที่ตั้ง จังหวัดเชียงใหม่ ลักษณะโครงการ ศูนย์กลำงกำรศึกษำ ทดลอง วิจัย เพื่อหำ รูปแบบกำรพัฒนำป่ำไม้และพื้นที่ต้นน�้ำล�ำธำรที่เหมำะกับสภำพ ็ พื้นที่ภำคเหนือ โดยต้นทำงเปนกำรศึ กษำสภำพพื้นที่ป่ ำไม้และ ต้นน�้ำล�ำธำร และกำรพัฒนำปำไม้ ่ 3 อย่ำง ประโยชน์ 4 อย่ำงคือ ไม้ใช้สอย ไม้ผล ไม้เชือ้ เพลิง และไม้ทชี่ ว่ ยอนุรกั ษ์ดนิ น�ำ้ และพืน้ ที่ ต้นน�ำ้ ล�ำธำร ส่วนปลำยทำงเป็นกำรศึกษำด้ำนเกษตรกรรม ปศุสตั ว์ กำรประมงตำมอ่ำงเก็บน�้ำ และเกษตรอุตสำหกรรม กำรด�ำเนินงำนแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1 งำนกำรศึกษำ ทดลอง และวิจย ั ครอบคลุมเรือ่ งแหล่งน�ำ้ ปำไม้ ่ ทีด่ นิ กำรปลูกพืช เกษตรกรรมแบบประณีต ปศุสตั ว์และโคนม และกำรประมง 2 งำนขยำยผลกำรพั ฒ นำสู่ ป ระชำชนในบริ เ วณรอบศู น ย์ กำรบริกำรกำรพัฒนำในระดับพื้นที่ และกำรถ่ำยทอดเทคโนโลยี เพื่ อ ให้ ป ระชำชนมี ค วำมรู ้ แ ละสำมำรถน� ำ ไปประยุ ก ต์ ใ ช้ ไ ด้ อย่ำงเหมำะสม

• • • •


17

T

The Knowledge

6 ศู นย์ศึกษาฯ

เพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ศูนย์ศกึ ษำกำรพัฒนำอันเนือ่ งมำจำกพระรำชด�ำริ เป็นโครงกำรพัฒนำที่มีเป้ำหมำยส�ำคัญ คือ สร้ำง ควำมเป็นอยูท่ ดี่ ขี นึ้ ให้แก่รำษฎร โดยเริม่ จำกกำรพัฒนำชุมชนให้มคี วำมเข้มแข็งเพือ่ ให้ประชำชนสำมำรถ พึง่ ตนเองได้ ร่วมไปกับกำรอนุรกั ษ์และพัฒนำทรัพยำกรและสิง่ แวดล้อม ตลอดจนส่งเสริมควำมรู ้ เทคนิค และวิชำกำรที่ทันสมัย เรียบง่ำย ประหยัด และสอดคล้องกับสภำพทำงภูมิศำสตร์และสังคมวิทยำของ แต่ละท้องถิ่น ปัจจุบันมีศูนย์ศึกษำกำรพัฒนำอันเนื่องมำจำกพระรำชด�ำริในภูมิภำคต่ำงๆ รวม 6 ศูนย์ทั่วประเทศ ได้แก่ ศู นย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย อันเนื่องมาจากพระราชด�าริ จังหวัดเพชรบุรี

ศู นย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชด�าริ จังหวัดจันทบุรี

ศู นย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชด�าริ จังหวัดนราธิวาส


The Knowledge

T

ศู นย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่ องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชด�าริ จังหวัดเชียงใหม่

ศู นย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชด�าริ จังหวัดฉะเชิงเทรา ศู นย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชด�าริ จังหวัดสกลนคร

สแกน QR CODE

เพื่อรับชม Clip

18


The Knowledge

T

19

ศู นย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชด�าริ

ที่ตั้ง จังหวัดจันทบุรี ลักษณะโครงการ ศูนย์ศกึ ษำ ทดลอง สำธิต และพัฒนำอำชีพแบบบูรณำกำรด้ำนประมง ป่ำไม้ และกำรเกษตรในเขตพื้นที่รำบลุ่มชำยฝังทะเลและที่รำบเชิงเขำ รวมถึงกำรอนุรักษ์ สภำพแวดล้อมและดุลยภำพทำงธรรมชำติ ตลอดจนกำรพัฒนำและส่งเสริมกำรท่องเที่ยว เชิงนิเวศ เพื่อกำรจัดกำรทรัพยำกรที่มีอยู่ให้เหมำะสมและยั่งยืน โดยควำมร่วมมือจำกหลำย หน่วยงำนในกำรด�ำเนินงำนด้ำนต่ำงๆ อำทิ กำรศึกษำ ทดลอง วิจัย และพัฒนำกำรประมงชำยฝังพื้นบ้ำนอย่ำงถูกวิธี รวมถึงกำร เพำะเลี้ยงสัตว์น�้ำชำยฝังที่ได้มำตรฐำนและยั่งยืน กำรบริหำรจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกำรสร้ำงจิตส�ำนึกในกำร อนุรักษ์ ฟื้นฟู และลดผลกระทบทำงสิ่งแวดล้อม ผ่ำนกระบวนกำรมีส่วนร่วมของประชำชน กำรเสริมสร้ำงควำมเข้มแข็งของสถำบันเกษตรกร กำรผลักดันให้เกิดกำรเพิ่มผลผลิต อย่ำงเป็นกระบวนกำร และกำรผสมผสำนภูมปิ ญ ั ญำไทยกับวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ กำรพัฒนำศักยภำพกำรถ่ำยทอดเทคโนโลยีและกระบวนกำรเรียนรูอ้ ย่ำงเป็นระบบ เพือ่ กระจำยองค์ควำมรู้และข่ำวสำรสู่เกษตรกรอย่ำงกว้ำงขวำง

• • • •

ศู นย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย อันเนื่องมาจากพระราชด�าริ

ศู นย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชด�าริ

ที่ตั้ง จังหวัดนรำธิวำส ที่ตั้ง จังหวัดเพชรบุรี ลักษณะโครงการ โครงกำรศึกษำ ทดลอง วิจัย และปรับปรุง ลักษณะโครงการ ศูนย์ศึกษำกำรพัฒนำด้ำนเกษตรกรรม ดินเปรี้ยวและดินคุณภำพต�่ำในพื้นที่พรุซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต�่ำ มีน�้ำขัง เน้นกำรฟืน้ ฟูปำ่ ไม้และดินทีเ่ สือ่ มโทรมจำกกำรบุกรุกแผ้วถำงป่ำ ตลอดป ให้สำมำรถใช้ประโยชน์ทำงกำรเกษตร รวมถึงแสวงหำ ควบคู่ กับกำรสงเสริ ่ มกำรเพำะปลูก กำรจัดระเบียบกำรใช้ที่ดิน แนวทำงกำรพัฒนำทั้งทำงด้ำนเกษตรกรรม ปศุสัตว์ ประมง และ ็ เพื่อแก้ปัญหำกำรบุกรุกท�ำลำยปำ และเปนแหลงเรี ่ ่ ยนรู้ส�ำหรับ เกษตรอุตสำหกรรมที่มีควำมเหมำะสมสอดคล้องกับสภำพพื้นที่ ประชำชนได้เข้ำมำศึกษำดูงำนและน�ำองค์ควำมรู้ไปประยุกตใช้ ภำคใต้ โดยด�ำเนินงำนในด้ำนต่ำงๆ อำทิ ์ ในท้องถิ่นของตนเอง โดยมีกิจกรรมส�ำคัญ เช่น กำรศึกษำ ค้นคว้ำ ทดลอง วิจัย เพื่อพัฒนำดินในพื้นที่พรุ กำรพัฒนำพืน้ ทีพ่ ระรำชนิเวศน์มฤคทำยวันเป็นศูนย์ศกึ ษำ กำรถ่ำยทอดเทคโนโลยีสเู่ กษตรกรในพืน้ ที ่ โดยเน้นกำรพัฒนำ กำรพัฒนำด้ำนเกษตรกรรมและกำรชลประทำน แบบผสมผสำนทั้งทำงด้ำนควำมรู้ กำรด�ำเนินงำน และกำรบริหำร กำรจัดหำแหลงน� ่ ำ้ พร้อมระบบส่งน�ำ้ เพือ่ สนับสนุนกำรปลูกพืช งำนอย่ำงเป็นระบบ เศรษฐกิจต่ำงๆ ็ น ย์ บ ริ ก ำรแบบเบ็ ด เสร็ จ ในรู ป แบบพิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ กำรเปนศู กำรสร้ำงแนวป้องกันไฟป่ำโดยใช้ระบบป่ำเปยก เช่น กำรขุด ธรรมชำติที่มีชีวิต ส�ำหรับผู้สนใจเข้ำมำศึกษำดูงำนโครงกำรต่ำงๆ แนวคูคลอง กำรปลูกพืชเศรษฐกิจสีเขียวตำมแนวคูคลอง เช่น โครงกำรแกล้งดินเพื่อพัฒนำพื้นที่ดินเปรยวจั ี้ ด เกษตรทฤษฎี กำรสงเสริ ี้ กปำล์มน�้ำมันในพื้นที่พรุ โรงงำน ่ มให้ชำวบ้ำนมีส่ วนร่วมในกำรดูแลรักษำป่ำและ ใหม่ พันธุ์ข้ำวทนเปรยว กำรปลู ใช้ประโยชน์จำกป่ำไม้ สกัดและแปรรูปน�้ำมันปำล์ม ไบโอดีเซล

• • • •

• • •

ที่มำ : ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรพิเศษเพื่อประสำนงำนโครงกำรอันเนื่องมำจำกพระรำชด�ำริ (ส�ำนักงำน กปร.) มูลนิธิชัยพัฒนำ มูลนิธิมั่นพัฒนำ มติชนสุดสัปดำห์


DIGITONOMY

D

ประเภทของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ

ด้านสิ่ งแวดล้อม

182 โครงการ

ด้านส่ งเสริมอาชีพ

339 โครงการ

ด้านคมนาคม/สื่ อสาร

87 โครงการ

ด้านการเกษตร

170 โครงการ ด้านสวัสดิการสั งคม /การศึกษา

398 โครงการ

ด้านบูรณาการ/อืน ่ ๆ

259 โครงการ

ที่มำ : ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรพิเศษเพื่อประสำนงำนโครงกำรอันเนื่องมำจำกพระรำชด�ำริ (ส�ำนักงำน กปร.) พ.ศ. 2560 หมำยเหตุ : รวบรวมข้อมูลโครงกำรอันเนื่องมำจำกพระรำชด�ำริ ในช่วงป พ.ศ. 2495 - 2560 จำกส่วนรำชกำรที่เกี่ยวข้อง จ�ำนวน 28 หน่วยงำน อำทิ ส�ำนักงำน กปร. มูลนิธิชัยพัฒนำ กรมชลประทำน กองบัญชำกำรต�ำรวจตระเวน ชำยแดน

ด้านสาธารณสุ ข

58 โครงการ

ด้านแหล่งนํ้า

3,248 โครงการ สแกน QR CODE

เพื่อรับชม GIF

15


20

T

The Knowledge

โครงการอันเนื่องมาจากพระราชด�าริ กับรางวัลจากองค์กรต่างๆ กรมทรัพย์สนิ ทำงปัญญำ (DIP: Department of Intellectual Property)

สิทธิบัตรกังหันนํ้าชัยพัฒนา (Chaipattana Low Speed Surface Aerator) กำรจดสิทธิบตั รกำรประดิษฐ์เลขที ่ 3127 เรือ่ ง เครือ่ งกลเติมอำกำศ ทีผ่ วิ น�ำ้ หมุนช้ำแบบทุน่ ลอย "กังหันน�ำ้ ชัยพัฒนำ" เป็นกำรจดทะเบียน และออกสิทธิบตั รถวำยแด่พระมหำกษัตริยเ์ ป็นครัง้ แรกของโลก ต่ อ มำได้ มี ก ำรประกำศให้ วั น ที่ 2 กุ ม ภำพั น ธ์ ข องทุ ก ป เป็น “วันนักประดิษฐ์ไทย” และ “วันนักประดิษฐ์โลก”

2536

สมำคมควบคุมกำรกัดเซำะ ผิวดินนำนำชำติ (IECA:The International Erosion Control Association)

25 กุมภาพันธ์

2536

รางวัลสดุดีพระเกียรติคุณนานาชาติ (The International Merit Award) เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณในฐำนะที่ทรงเป็นแบบอย่ำงในกำร น�ำหญ้ำแฝกมำใช้อนุรักษ์ดินและน�้ำให้กับนำนำประเทศ

ธนำคำรโลก (World Bank)

30 ตุลาคม

รางวัลรากหญาแฝกชุบสําริด (The Bronze Vetiver Sculpture Award) เพื่ อ สดุ ดี พ ระเกี ย รติ คุ ณ ส� ำ หรั บ ควำมส� ำ เร็ จ ในด้ ำ นวิ ช ำกำร และกำรพัฒนำในกำรส่งเสริมเทคโนโลยีหญ้ำแฝกระหว่ำงประเทศ

8 ธันวาคม

รางวัลเทเลฟูด (TeleFood Medal) เพือ่ เทิดพระเกียรติคณ ุ ในกำรส่งเสริมและพัฒนำกำรเกษตรทฤษฎีใหม่ เพื่อยกระดับชีวิตควำมเป็นอยู่ของเกษตรกร สร้ำงควำมมั่นคง ด้ำนอำหำร และพึง่ พำตนเองได้

16 กุมภาพันธ์

รางวัลสิง่ ประดิษฐดเี ดนระดับโลก (Prix OMPI หรือ Organisation Mondiale De La Propriete Intelietuelle) โดย World Organization of Intellectual Prope รางวัลสรรเสริญพระอัจฉริยภาพแหงการใชเทคโนโลยีอยาง มีประสิทธิภาพ (Gold Medal with Mention) โดย Brussels Eureka 2000 รางวัลผลงานประดิษฐดเี ดนสูงสุด (Grand Prix International) โดย International Council of the World Organization of Periodical Press รางวัลผลงานประดิษฐ (Minister J. CHABERT) โดย Minister of Economy of Brussels Capital Region รางวัลสรรเสริญพระอัจฉริยภาพดานประดิษฐ (Yugosiavia) โดย กลุม่ ประเทศยูโกสลำเวีย เนื่องในโอกำสพระรำชทำนพระบรมรำชำนุญำตให้น�ำเครื่องกล เติมอำกำศที่ผิวน�้ำหมุนช้ำแบบทุ่นลอย หรือกังหันน�้ำชัยพัฒนำ ไปจัดนิทรรศกำรในงำนบรัสเซลส์ ยูเรกำ 2000 ระหว่ำงวันที ่ 14-20 พฤศจิกำยน 2543 ณ กรุงบรัสเซลส์ รำชอำณำจักรเบลเยียม

องค์กำรอำหำรและเกษตร แห่งสหประชำชำติ (FAO: The Food and Agriculture Organization)

BRUSSELS EUREKA

2 กุมภาพันธ์

คณะกรรมกำรจัดงำน บรัสเซลส์ ยูเรกำ (Brussels Eureka) โดย สมำคมส่งเสริม และคุม้ ครองนักประดิษฐ์ ของรำชอำณำจักร เบลเยียม (The Belgian Chamber of Inventors)

2536 2542 2544


The Knowledge

BRUSSELS EUREKA

คณะกรรมกำรจัดงำน บรัสเซลส์ ยูเรกำ (Brussels Eureka) โดย สมำคมส่งเสริม และคุม้ ครองนักประดิษฐ์ ของรำชอำณำจักร เบลเยียม (The Belgian Chamber of Inventors)

ส�ำนักสิทธิบัตร ของประเทศในกลุ่ม สหภำพยุโรป (EPO: European Patent Office)

ส�ำนักสิทธิบัตร เขตบริหำรพิเศษฮ่องกง (Intellectual Property Department) โครงกำรพัฒนำแห่ง สหประชำชำติ (UNDP : United Nations Development Programme) องค์กำรทรัพย์สินทำง ปัญญำโลก (WIPO: World Intellectual Property Organization) สหภำพวิทยำศำสตร์ ทำงดินนำนำชำติ (IUSS : International Union of Soil Sciences)

T

27 มีนาคม

รางวัลผูใหแนวคิดใหมเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (D’Un Concept Nouveau de Developpement de la Thailande) รางวัลสดุดพ ี ระเกียรติคณ ุ ดานการประดิษฐคดิ คนทฤษฎีใหม นํา้ มันปาลม และฝนหลวง (Special PRIX for His Majesty The King of Thailand) รางวัลสดุดพ ี ระเกียรติคณ ุ ดานการประดิษฐคดิ คนโครงการ นํา้ มันไบโอดีเซล สูตรสกัดจากนํา้ มันปาลม (Gold Medal with Mention) รางวัลสดุดพ ี ระเกียรติคณ ุ ดานการประดิษฐคดิ คนโครงการ ทฤษฎีใหม (Gold Medal with Mention) รางวัลสดุดพ ี ระเกียรติคณ ุ ดานการประดิษฐคดิ คนโครงการ ฝนหลวง (Gold Medal with Mention) กำรเทิดพระเกียรติคณ ุ เป็นกรณีพเิ ศษในกำรประดิษฐ์คดิ ค้นผลงำน ตำมโครงกำรอันเนือ่ งมำจำกพระรำชด�ำริ ได้แก่ ทฤษฎีใหม่ น�ำ้ มัน ไบโอดีเซล สูตรสกัดจำกน�ำ้ มันปำล์ม และฝนหลวง ในงำนบรัสเซลส์ ยูเรกำ 2011 ระหว่ำงวันที ่ 13-18 พฤศจิกำยน 2544 ณ กรุงบรัสเซลส์ รำชอำณำจักรเบลเยียม

12 ตุลาคม

สิทธิบัตรฝนหลวงในชื่อ Weather Modification by Royal Rainmaking Technology เลขที่ 1491088 ได้รับควำมคุ้มครองสิทธิในประเทศในกลุม่ สหภำพยุโรป จ�ำนวน 30 ประเทศ ได้แก่ แอลเบเนีย สำธำรณรัฐเช็ค สโลวำเกีย ออสเตรีย เบลเยียม บัลแกเรีย สวิตเซอร์แลนด์และลิกเตนสไตน์ ไซปรัส เอสโตเนีย สเปน ฟินแลนด์ กรีช ฮังกำรี ไอร์แลนด์ อิตำลี ลิทวั เนีย ลักเซมเบิรก์ ลัตเวีย โมนำโก มำซิโดเนีย เนเธอร์แลนด์ โปรตุเกส โรมำเนีย สวีเดน สโลวีเนีย ตุรกี เยอรมนี เดนมำร์ก ฝรั่งเศส และสหรำชอำณำจักร

2545

2548 7 เมษายน

2549

สิทธิบตั รฝนหลวงเลขที่ HK 1072525 เขตบริหำรพิเศษฮ่องกงได้รับอนุญำตให้น�ำสิทธิบัตรฝนหลวง ในกลุม่ สหภำพยุโรปไปขยำยควำมคุม้ ครอง

26 พฤษภาคม

รางวัลความสําเร็จสูงสุดดานการพัฒนามนุษย (The UNDP Human Development Lifetime Achievement Award) เพือ่ สดุดพี ระเกียรติคณ ุ ในฐำนะทีท่ รงเป็นพระมหำกษัตริยน์ กั พัฒนำ ท�ำให้นำนำประเทศตื่นตัวเกี่ยวกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง และจุดประกำยแนวคิดกำรพัฒนำแบบใหม่สน่ ู ำนำประเทศ

25 มกราคม

รางวัลผูน าํ โลกดานทรัพยสนิ ทางปญญา (Global Leaders Award) เพือ่ เทิดพระเกียรติคณ ุ ในฐำนะพระมหำกษัตริยท์ ที่ รงน�ำผลงำนอันเป็น ทรัพย์สนิ ทำงปัญญำมำใช้พฒ ั นำประเทศและยกระดับคุณภำพชีวติ ประชำชน

16 เมษายน

รางวัลนักวิทยาศาสตรดนิ เพือ่ มนุษยธรรม (The Humanitarian Soil Scientist) เพือ่ เชิดชูพระเกียรติคณ ุ ในฐำนะทีท่ รงเป็นแบบอย่ำงในกำรพัฒนำ และอนุรกั ษ์ดนิ และกำรน�ำหญ้ำแฝกมำแก้ไขปัญหำดินทัง้ ในประเทศ และระดับโลก

2549 2550

2555

ทีม่ ำ : ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรพิเศษเพือ่ ประสำนงำนโครงกำรอันเนือ่ งมำจำกพระรำชด�ำริ (ส�ำนักงำน กปร.)

21


22

I

INSIDE OKMD

การจัดการความรู้ ด้านสิ่ งแวดล้อม

การจัดการความรู้ ด้านคมนาคมและสื่ อสาร การจัดการความรู้ ด้านสวัสดิการ สั งคมและการศึ กษา

การจัดการความรู้ ด้านพลังงานทดแทน

การจัดการความรู้ ด้านเกษตรทฤษฎีใหม่

การจัดการความรู้ ด้านแหล่งน�้า

การจัดการความรู้ ด้านสาธารณสุ ข

การจัดการความรู้ ด้านการแปรรูป ผลิตภัณฑ์ทาง การเกษตร

การจัดการความรู้เพื่อการพัฒนาที่ย่ง ั ยืน: โครงการอันเนือ ่ งมาจากพระราชด�าริ ค�ากล่าวทีว่ ่า Knowledge is Power หรือ ความรู้คือพลัง ยังคงเป็นความจริง อยู่เสมอ สแกน QR CODE

เพื่อรับฟัง Audio text

โดยเฉพำะในปัจจุบันที่ควำมรู้เข้ำมำ เกี่ยวข้องกับกำรใช้ชีวิตของเรำอย่ำงแยก ไม่ออก ไม่ว่ำจะเป็นในกำรประกอบอำชีพ กำรมี ป ฏิ สั ม พั น ธ์ กั บ ผู ้ ค นในสั ง คม และ กำรรู้เท่ำทันกำรเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งใน ด้ำนเศรษฐกิจ สังคม กำรเมือง สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี อย่ ำ งไรก็ ดี ปั ญ หำของคนสวนใหญ่ ่ มักมีที่มำจำก “ควำมไม่รู้” ซึ่งหมำยรวมถึง กำรขำดควำมรูท้ จี่ ำ� เป็นและกำรทีไ่ ม่สำมำรถ น�ำควำมรู้และทักษะที่มีไปพัฒนำตอยอด ่

ให้เกิดประโยชน์ได้อย่ำงเหมำะสม จึงเป็น ปัจจัยส�ำคัญทีท่ ำ� ให้ตอ้ งมีกำรบริหำรจัดกำร ควำมรู้ในทุกระดับของสังคม ไม่ว่ำจะเป็น ระดับบุคคล ชุมชน ภูมิภำค และประเทศ นัน่ ก็เพรำะว่ำกำรจะยกระดับควำมสำมำรถ ในกำรแข่งขันของประเทศย่อมต้องอำศัย ประชำชนทีม่ ขี ดี ควำมสำมำรถสูงในกำรเรียนรู้ กำรคิ ด และกำรสร้ ำ งสรรค์ คุ ณ คำจำก ่ ทรัพยำกรที่มีอยู่ให้สอดรับกับควำมต้องกำร และกำรเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก


INSIDE OKMD

กรณีศึกษาการจัดการความรู้ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภำพสูง จำกที่ตั้งทำง ภูมศิ ำสตร์ทเี่ อือ้ ต่อกำรพัฒนำทีย่ งั่ ยืน ด้วยอยูใ่ นเขตทีป่ รำศจำก ภัยธรรมชำติรุนแรง มีทรัพยำกรธรรมชำติอุดมสมบูรณ์ รวมถึง ดิ น ฟ้ ำ อำกำศที่ เ อื้ อ อ� ำ นวยตอกำรประกอบอำชี พ ทั้ ง ด้ ำ น ่ กำรเกษตร อุตสำหกรรม และบริกำร ประกอบกับกำรตั้งอยู่ใน พื้นที่ยุทธศำสตร์ส�ำคัญของภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ เ ชื่ อ มโยงระหว่ ำ งประเทศในแถบมหำสมุ ท รแปซิ ฟ ิ ก และ มหำสมุทรแอตแลนติก ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลำง ควำมเจริญทำงเศรษฐกิจและสังคมมำตัง้ แต่อดีตจนถึงปัจจุบนั ทว่ำ “ควำมไม่รู้” ท�ำให้คนไทยไม่สำมำรถใช้ประโยชน์จำก ข้อได้เปรียบข้ำงต้นได้อย่ำงเต็มประสิทธิภำพ ทั้งยังน�ำมำ ซึ่ ง ควำมเสื่ อ มโทรมของทรั พ ยำกรและควำมเสี ย หำยของ ประเทศ ทั้งในด้ำนควำมเป็นอยู่ของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ไปจนถึงด้ำนเศรษฐกิจและสังคม โครงกำรอันเนือ่ งมำจำกพระรำชด�ำริให้ควำมส�ำคัญกับกำร แก้ไขปัญหำดังกล่ำว รวมถึงกำรอนุรกั ษ์และกำรส่งเสริมกำรใช้ ประโยชน์จำกทรัพยำกรธรรมชำติอย่ำงเหมำะสมเพื่อพัฒนำ อำชี พ และยกระดั บ คุ ณ ภำพชี วิ ต ประชำชน โดยเน้ น ที่ “การจัดการความรู” (Knowledge Management: KM) ซึ่ง บูรณาการความรูใ นศาสตรตา งๆ เขาดวยกัน ผานการทดลอง ปฏิบตั เิ พือ่ ใหไดแนวทางและความรูใ หม จนนําไปสู “ตนแบบ

ความรูและโครงการพัฒนาตัวอยาง” ที่ประชาชนและ หนวยงานที่เกี่ยวของสามารถนําไปปรับใชและพัฒนา ตอยอดอยางไดผล ปัจจุบันประเทศไทยมีโครงกำรพัฒนำด้ำนต่ำงๆ และ แหล่งเรียนรูอ้ นั เนือ่ งมำจำกพระรำชด�ำริมำกถึง 4,741 โครงกำร ในทั่วทุกภูมิภำคของประเทศ ทั้งโครงกำรพัฒนำด้ำนแหล่งน�้ำ โครงกำรพัฒนำด้ำนกำรเกษตร โครงกำรพัฒนำด้ำนกำรส่งเสริม อำชี พ โครงกำรพั ฒ นำด้ ำ นสิ่ ง แวดล้ อ ม เป็ น ต้ น รวมถึ ง องค์ควำมรู้ที่มีเป็นจ�ำนวนมำกและกระจำยอยู่ตำมหน่วยงำน ต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้อง ในหลำกหลำยพื้นที่ ทั้งในรูปของควำมรู้ที่ ปรำกฏชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) จ�ำพวกสื่อควำมรู้ต่ำงๆ และควำมรูท้ ไี่ ม่ปรำกฏชัดแจ้ง (Implicit Knowledge) ในรูปแบบ ควำมเชี่ยวชำญและประสบกำรณ์ที่อยู่ในตัวของผู้ที่ได้ศึกษำ และน�ำเอำควำมรู้ไปปฏิบัติ พัฒนำต่อยอดจนเกิดประโยชน์ ทั้งต่อตนเองและสังคม หลำยฝำยจึ ่ งเห็นควำมจ�ำเป็นทีจ่ ะต้อง จัดกำรควำมรูใ้ นโครงกำรอันเนือ่ งมำจำกพระรำชด�ำริให้มเี อกภำพ และประสิทธิภำพ เพือ่ ให้คนไทยได้เข้ำถึงองค์ควำมรู ้ เกิดควำม เข้ ำ ใจ เห็ น คุ ณ คำ ่ ้ น ไป ่ และสำมำรถน� ำ เอำควำมรู ้ เ หลำนั ใช้ประโยชน์ในกำรพัฒนำอำชีพและควำมเป็นอยู่ของตนเอง และชุ ม ชน รวมถึ ง สร้ ำ งเสริ ม ภู มิ คุ ้ ม กั น ในกำรด� ำ เนิ น ชี วิ ต ท่ำมกลำงกำรเปลี่ยนแปลงอย่ำงรวดเร็วของสังคมโลก

"ปั ญหาของคนส่ ว นใหญ่ มั ก มี ที่ ม าจาก “ความไม่ รู้ ” ซึ่ ง หมายรวมถึ ง การขาดความรู้ ที่ จ� า เป็ น และการที่ ไ ม่ ส ามารถน� า ความรู้ แ ละทั ก ษะที่ มี ไปพั ฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเหมาะสม จึงเป็นปั จจัยส� าคัญ ทีท ่ �าให้ต้องมีการบริหารจัดการความรู้ในทุกระดับของสั งคม" สแกน QR CODE

เพื่อรับชม GIF

I

23


24

I

INSIDE OKMD

OKMD กับภารกิจการจัดการความรู้ ส�ำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD มี ภ ารกิ จ ส� ำ คั ญ ในการจั ด การความรู ้ และได้ เ ล็ ง เห็ น ความส� ำ คั ญ และคุ ณ คาในการน� ำ แนวคิ ด ทฤษฎี และความรู ้ ่ ที่ อ ยู ่ ใ นโครงการอั น เนื่ อ งมาจากพระราชด� ำ ริ ม าบริ ห ารจั ด การ โดยบูรณาการความร่วมมือกับมูลนิธิชัยพัฒนาและหน่วยงานอื่น

การบ่งชี้และ ระบุแหล่งความรู้ (Knowledge Identifying and Locating)

ทีเ่ กีย่ วข้องในการรวบรวม ประมวล และจัดระเบียบความรู้ เพือ่ พัฒนา ็ นแบบความรู้ส�ำหรับเผยแพร่และน�ำไปสู่ การใช้ประโยชน์ของ เปนต้ ประชาชนและหน่วยงานที่สนใจ โดยน�ำกระบวนการบริหารจัดการ ความรู ้ เ พื่ อ การพั ฒ นา (KM for Development) มาปรั บ ใช้ ดังนี้

การน�ำเสนอความรู้ (Knowledge Storing and Validating) รวมถึงการจัดเก็บและการจัดการ เพื่อความถูกต้องและครบถ้วน

การใช้ความรู้ให้เกิดประโยชน์ (Knowledge Reusing) รวมถึงการรับเอาความรู้ไปใช้และปรับใช้เพื่อการพัฒนา แก้ไขปัญหา และคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนการคิดวิเคราะห์ การบูรณาการความรู้ และการทดลองน�ำความรูไ้ ปใช้ ในสถานการณ์และบริบทต่างๆ เพื่อให้เกิดความรู้ใหม่

การแบ่งปั นความรู้ (Knowledge Sharing) รวมถึงการถ่ายทอดความรู้ ที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย และกาลเทศะ

การถ่ายโอนความรู้ (Knowledge Transferring) รวมถึงการแลกเปลีย่ นข้อมูลระหว่างบุคคล ทัง้ ทีผ่ า่ นสือ่ ต่างๆ และการแลกเปลี่ยนโดยตรง


Inside okmd

I

25

บทบาทและหน้าที่หลักของ OKMD เน้นการด�าเนินงานใน 4 ด้าน ได้แก่

O : Opportunity

การให้โอกาส ในการเข้าถึง องค์ความรู้ ให้ ค� ำ ปรึ ก ษำและควำม ชวยเหลื อ ด้ ำ นวิ ช ำกำร ่ กำรพัฒนำโครงสร้ำงพืน้ ฐำน ด้ ำ นกำรจั ด กำรควำมรู ้ ก ำ ร อ อ ก แ บ บ บ ริ ก ำ ร กำรพั ฒ นำเครื อ ข่ ำ ยและ สร้ำงกำรรับรู ้ กำรจัดกิจกรรม สร้ ำ งสรรค์ และกำรจั ด ประสบกำรณ์ ก ำรเรี ย นรู ้ ที่เหมำะกับกลุ่มเป้ำหมำย

K : Knowledge การรวบรวม องค์ความรู้ สนับสนุนกระบวนกำรจัดกำร ควำมรูท้ เี่ กีย่ วข้องกับโครงกำร อันเนื่องมำจำกพระรำชด�ำริ ก ำ ร ชี้ ชั ด ก ำ ร ร ว บ ร ว ม กำรประมวล กำรจัดหมวดหมู่ กำรพั ฒ นำต้ น แบบควำมรู ้ และกำรจัดท�ำสือ่ เพือ่ เผยแพร่ แก่ประชำชนและผูท้ สี่ นใจ

M : Management การจัดการและ ถ่ายทอด องค์ความรู้ สนับสนุนกระบวนกำรที่ชว่ ย ให้ประชำชนน�ำควำมรู้และ ทั ก ษ ะ ค ว ำ ม ช� ำ น ำ ญ ม ำ บูรณำกำรใช้ร่วมกับควำมรู้ ด้ำนกำรจัดกำรและเทคโนโลยี สมัยใหม่ กำรอบรมสัมมนำ กำรศึกษำดูงำน กำรจัดพื้นที่ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ กำรเพิ่ม โอกำสในกำรเข้ำถึงควำมรู้ ใหม่ และกำรประสำนงำนกับ หน่วยงำนทีเ่ กีย่ วข้องเพือ่ กำร สนับสนุน

D : Development

การพัฒนาต้นแบบ ในการจัดท�าสื่ อ และ กระบวนการเรียนรู้ สนับสนุนกำรพัฒนำบุคลำกร และผู ้ ป ฏิ บั ติ ง ำนในแหล่ ง เรียนรู้ กำรถ่ำยทอดควำมรู้ ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับศำสตร์ พระรำชำ กำรพั ฒ นำสื่ อ และกำรพั ฒ นำกิ จ กรรม/ กระบวนกำรเรียนรู้ในบริบท ของท้ อ งถิ่ น เพื่ อ เผยแพร่ ควำมรูแ้ ก่ประชำชน

K O MD ?


26

I

The Knowledge INSIDE OKMD

ปั จจัยสู่ ความส� ำเร็จในการบริหาร จัดการความรู้เพื่ อการพั ฒนา ็ ม และ การประเมินผลส�ำเร็จของการด�ำเนินการจะพิจารณาจากกระบวนการด�ำเนินงานที่ให้ความส�ำคัญกับการท�ำงานเปนที ็ มชนแห่งการปฏิบัติ (Community of Practice) ซึ่งจะ การประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกับประชาชนเพื่อให้เกิดเปนชุ น�ำไปสู่ เป้าหมายส�ำคัญคือการเผยแพร่ความรู้ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และการสร้างสรรค์นวัตกรรมหรือต้นแบบความรู้ใหม่ เพื่อการพัฒนาศักยภาพของประชาชน การยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน และการพัฒนาชุมชน นอกจากนี้ยังพิจารณาจาก การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการเรียนรู้ การพัฒนาระบบการเรียนรู้ภายในแหล่งเรียนรู้ และการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ในการบริหารจัดการและการให้บริการ ซึง่ สอดคล้องกับแนวทางของโครงการอันเนือ่ งมาจากพระราชด�ำริเรือ่ งการสร้างความแข็งแกร่ง ให้แก่ท้องถิ่นด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ โครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษา รวมถึง การพัฒนาและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ โดยมีปัจจัยที่จะช่วยให้การด�ำเนินการประสบความส�ำเร็จ ได้แก่

Accountability ความรับผิดชอบ

Knowledge Reusing

ความสามารถ ในการพั ฒนา ปรับใช้ และต่อยอดความรู้

Enabling Environment สภาพแวดล้อม ทีเ่ อือ ้ ต่อ การด�ำเนินงาน

Operational Efficiency การปฏิบัติงานทีม ่ ี ประสิ ทธิภาพ

1 Accountability ความรับผิดชอบ การค� ำ นึ ง ถึ ง ผลกระทบที่ จ ะเกิ ด ขึ้ น กั บ ประชาชน ชุ ม ชน และผู้มีส่ วนได้เสียในทุกขั้นตอนการด�ำเนินงาน การเปิดโอกาส ให้ประชาชนได้รบั รูเ้ กีย่ วกับขัน้ ตอนการด�ำเนินงานและผลทีค่ าดว่า จะได้รับ รวมถึงการปรึกษาหารือในกรณีที่มีแนวโน้มว่าจะเกิด ปัญหาในกระบวนการท�ำงาน เพือ่ ให้เกิดความเข้าใจตรงกันและ ได้รบั แรงสนับสนุนจากทุกฝ่าย

2 Knowledge Reusing ความสามารถในการพั ฒนา ปรับใช้ และต่อยอดความรู้ การบูรณาการความรู้ การทดลองน�ำความรู้ไปใช้ และการสร้างนวัตกรรมหรือความรูใ้ หม่แม้วา่ การด�ำเนิน โครงการจะสิ้นสุดลง โดยมีหัวใจส�ำคัญอยู่ที่การก�ำกับ ็ ดูแลและความร่วมมือของผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เปนไป ตามแนวทางของกระบวนการบริหารจัดการความรู้เพื่อ การพัฒนา


The Inside Knowledge okmd

3 Enabling Environment สภาพแวดล้อมทีเ่ อือ ้ ต่อ การด�ำเนินงาน ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้อง โดยเฉพาะ ภาคการเมืองและภาคประชาสังคมในพื้นที่ รวมถึง ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานที่จ�ำเป็น เพื่อให้ กระบวนการพัฒนาด�ำเนินต่อไปได้ เช่น โครงสร้าง พืน้ ฐานด้านการคมนาคมและการสือ่ สาร ด้านการศึกษา วิจยั เพือ่ พัฒนาความรู/้ ทักษะใหม่ๆ รวมถึงด้านเศรษฐกิจ ในพื้นที่ โดยเฉพาะด้านตลาดและการเงิน

4 Operational Efficiency การปฏิบัติงานทีม ่ ีประสิ ทธิภาพ การบริหารจัดการทรัพยากรและกระบวนการต่างๆ เพือ่ ให้บรรลุ เป้าหมายที่วางไว้และเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด ไม่ว่าจะเปน ็ ยุทธศาสตร์ การออกแบบกระบวนการและกิจกรรมการบริหารคน การบริหารกระบวนการ การจัดท�ำเอกสาร/สื่อการเรียนรู้ การน�ำ ็ น โดยมีเป้าหมายเพื่อ เทคโนโลยีมาใช้ในการด�ำเนินงาน เปนต้ รวบรวมและจัดเก็บความรู้ให้เปนปัจจุบัน น�ำเสนอและเผยแพร่ ความรู้ให้เกิดการน�ำไปใช้ รวมถึงแลกเปลี่ยนและแบ่งปันความรู ้ และแนวทางใหม่ ๆ ที่ เ กิ ด จากการประยุ ก ต์ ใ ช้ แ ละตอยอดจาก ่ ความรู้เดิม

กล่าวโดยสรุป ความส�ำเร็จของการบริหารจัดการ ความรู ้ เ พื่ อ การพั ฒ นาขึ้ น อยู ่ กั บ ความพร้ อ มของ โครงสร้างพืน้ ฐานในพืน้ ทีแ่ หล่งเรียนรู้ ความมุ่งมั่นของ บุคลากรผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงความเข้าใจและการ มีส่ วนร่วมของประชาชนในพื้นที่เป็นส�ำคัญ เนื่องจาก การบริหารจัดการความรูเ้ ป็นกระบวนการต่อเนือ่ งทีใ่ ช้ เวลา แม้ มี การวางแผนและออกแบบความรู้แ ละ กระบวนการมาดีเพียงใดก็ตาม หากขาดเครื่องมือ ในการด�ำเนินการ ความตัง้ ใจของผูป้ ฏิบตั งิ าน ตลอดจน ความเข้าใจและการมีส่ วนร่วมของผู้มีส่ วนได้เสีย ก็ยากที่จะท�ำให้โครงการต่างๆ ประสบความส�ำเร็จ และยั่งยืน

I

27


28

5

5IVE

5 5

โครงการ โครงการ อันอันเนืเนื่อ่องมาจาก งมาจาก พระราชดำ�ริ ร.9 พระราชดำ�ริ

ตลอดรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพ ิ ลอดุลย

ไม่เดช เพียงแต่ านการพัฒนาดิน ฟ้ าฝน ป่ า น� เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลัก ได้งพานด้ ระราชทานแนวพระราชด� ำ ริ้ำ แซึ่งละประกอบพระราช ้ ำแต่ ทีจ ่ ำ� เป็กรณี นต่อยความเป็ นอยูแ ่ วละการประกอบอาชี านัน โครงการ กิจในการช่ ยเหลือประชาชนให้พกของประชาชนเท่ น ิ ดีอยูด ่ ี สามารถด� รงชี วต ิ อันเนือย่ ่องมาจากพระราชด� ำ ริ ย ั ง เกี ่ ย วข้ อ งกั บ งานพั ฒ นาเกื อ บทุ ก สาขาที ่ ม ี ส ่ ว นช่ างมีความสุ ขบนความพอเพี ยง และด�ำเนินชีวิตท่ามกลางการ วย ให้ ป ระชาชนกิ น ดี อ ยู่ ดี สามารถด� ำ รงชี อย่​่นาคงและยั งมี ค วามสุ ่งยืขนบนความพอเพี เปลี่ยนแปลงของสั งคมโลกได้ อย่วาิ ตงมั จนเกิดเป็น ย ง เนื่องมาจากพระราชด� ำริหลายพั นโครงการ งเช่น 5ง่ ยืน ่ ดัคงและยั และด�โครงการอั ำเนินชีวต ิ ท่น ามกลางการเปลี ย ่ นแปลงของสั งคมโลกได้ อย่างมัน ำคัญ อไปนี ้ ้ ดังเช่โครงการส� น 5 โครงการส� ำคัต่ญ ต่อไปนี

การเกษตรและทรัพยากรธรรมชาติ

โครงการส่ วนพระองค์สวนจิตรลดา (พ.ศ. 2504) สถานที่ศึกษา ค้นคว้า ทดลอง และด�ำเนินโครงการตัวอย่างในการ ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎร อาทิ การพัฒนาพันธุ์ข้าว การเพาะพันธุ์ปลานิลและปลาหมอเทศ การพัฒนาเทคโนโลยีการ เก็บรักษาพันธุ์พืชโดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การบ�ำบัดน�้ำเสีย และอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีโครงการกึ่งธุรกิจซึ่งเป็นการทดลองแปรรูปผลิตภัณฑ์ ทางการเกษตรที่มีการบริหารการเงินครบวงจร เช่น โรงโคนมสวน จิตรลดา โรงนมผงสวนดุสิต โรงสีข้าวตัวอย่างสวนจิตรลดา http://kanchanapisek.or.th/kp1/index_th.html

การศึกษา

สารานุกรมไทยส� ำหรับเยาวชน (พ.ศ. 2512) สารานุกรมไทย โดยคนไทย เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยมีความรู้พื้นฐานใน วิทยาการสาขาต่างๆ เช่น วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ โดยส่วนหนึ่งได้ พระราชทานให้แก่โรงเรียนและห้องสมุดต่างๆ ที่เหลือจึงน�ำออกจ�ำหน่ายแก่ ประชาชนทั่วไป ปัจจุบันประกอบด้วย สารานุกรมไทยส�ำหรับเยาวชน 39 เล่ม สารานุกรมไทย ฉบับเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี 9 เล่ม สารานุกรมไทย ฉบับกาญจนาภิเษก 9 เล่ม และสารานุกรมไทยส�ำหรับ เยาวชน ฉบับเสริมการเรียนรู้ 20 เล่ม http://kanchanapisek.or.th/kp6


5ive

5

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

โครงการประตูระบายน�้ำคลองลัดโพธิ์ อันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ (พ.ศ. 2549) โครงการบริหารจัดการน�ำ้ เพือ่ แก้ปญ ั หาน�ำ้ ท่วมในเขตกรุงเทพมหานครและ ปริมณฑล โดยเป็นการขุดขยายคลองลัดโพธิ์ ในอ�ำเภอพระประแดง จังหวัด สมุทรปราการ ที่อยู่ในสภาพตื้นเขินให้กลายเป็นเส้นทางระบายน�้ำหลากและ น�้ำท่วมบริเวณสองฝั่งแม่น�้ำเจ้าพระยาลงสู่ทะเล รวมถึงการจัดสร้างประตู ระบายน�ำ้ กังหันพลังน�ำ้ และเครือ่ งก�ำเนิดไฟฟ้าพลังงานจลน์ เพือ่ น�ำพลังงานน�ำ้ ไปใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า www.rdpb.go.th/Projects/ProjectImpDetails/4583

การพั ฒนาชุมชน

โครงการชัง ่ หัวมัน ตามพระราชด�ำริ (พ.ศ. 2552) โครงการตัวอย่างแบบบูรณาการด้านการเกษตรและปศุสัตว์ส�ำหรับราษฎร มาเรียนรู้การปลูกพืชเกษตรในพื้นที่แห้งแล้งและน�ำแนวทางไปดัดแปลงใช้ให้ เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อผืนดินของตนเอง ภายในโครงการมีการรวบรวม พันธุ์พืชเศรษฐกิจในจังหวัดเพชรบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงมาปลูกไว้ เช่น มะพร้าว ชมพู่เพชร มะนาว สับปะรด รวมถึงมันเทศ ซึ่งน�ำพันธุ์มาจากหัวมันที่วางอยู่บน ตาชัง่ ภายในห้องทรงงานที่วังไกลกังวลอันเป็นที่มาของชื่อโครงการ “ชัง่ หัวมัน” http://chmrp.weebly.com

การแพทย์และสาธารณสุ ข

มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ (พ.ศ. 2552) ด�ำเนินงานด้านการศึกษาวิจยั และพัฒนาเครือ่ งมือ วัสดุอปุ กรณ์ ยา และเวชภัณฑ์ทางทันตกรรม เพือ่ ให้บริการแก่ประชาชนและสนับสนุน กิจการของหน่วยทันตกรรมพระราชทานฯ เน้นใช้วสั ดุและทรัพยากรภายใน ประเทศ และใช้กระบวนการวิจยั และพัฒนาทีเ่ หมาะสมกับประเทศไทย ตัวอย่างผลงานของมูลนิธิประกอบด้วยฟลูออไรด์วานิชป้องกันฟันผุ สารผนึกหลุมร่องฟันชนิดเรซิน น�ำ้ ลายเทียมชนิดเจลส�ำหรับผูท้ มี่ ภี าวะ ปากแห้งน�ำ้ ลายน้อย เป็นต้น www.dent-in-found.org

29


30

W

whaT's goiNg oN

WHAT'S GOING ON Upcomi ng Decentralized EcOnomy Events 19-21 SEP 2018

กรุงเทพมหำนคร

RetailEX ASEAN งำนแสดงสินค้ำแบบครบวงจรส�ำหรับผู้ประกอบกำรธุรกิจ ค้ำปลีกในอำเซียน ทั้งแบบมีหน้ำร้ำนและออนไลน์ รวบรวม องค์ควำมรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อกำรเพิ่มผลผลิตและ ยอดขำย ไปจนถึงกำรยกระดับธุรกิจค้ำปลีกสู่กำรค้ำออนไลน์ ภำยในงำนยั ง ประกอบด้ ว ยกำรบรรยำยจำกผู ้ ป ระกอบกำร E-Commerce และวิทยำกรจำกธุรกิจสำขำต่ำงๆ รวมถึงกำรจัด พื้นที่พิเศษส�ำหรับสตำร์ตอัปหน้ำใหม่ที่ต้องกำรน�ำเสนอธุรกิจ เพื่อจูงใจนักลงทุน www.retailexasean.com

15-16 OCT 2018

UNWTO Conference on City Breaks: Creating Innovative Tourism Experiences กำรประชุ ม น� ำ เสนอแนวทำงกำรบู ร ณำกำรควำมร่ ว มมื อ ระหว่ำงหน่วยงำนรัฐ เอกชน และชุมชน เพือ่ ส่งเสริมกำรท่องเทีย่ ว ในเขตเมือง จัดโดยองค์กำรกำรท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชำชำติ (UNWTO) โดยเลือกเมืองบำยำโดลิดเป็นสถำนที่จัดกำรประชุม เนื่องจำกมีควำมโดดเด่นด้ำนยุทธศำสตร์กำรท่องเที่ยว ควบคู่ กับโมเดลควำมร่วมมือระหว่ำงภำคสวนต่ ่ ำงๆ ที่ผู้เข้ำร่วมงำน สำมำรถเรียนรู้เพื่อน�ำไปประยุกต์ใช้กับประเทศและเมืองของตน http://affiliatemembers.unwto.org/event/unwto-conference-city-breaks -creating-innovative-tourism-experiences

บำยำโดลิด ประเทศสเปน

17-21 NOV 2018

The 17th National Horticultural Congress กำรประชุมวิชำกำรพืชสวนแห่งชำติ ประจ�ำป 2561 ภำยใต้แนวคิด "สู่ ก้ำวใหม่ของพืชสวนไทย" (To the New Frontiers of Horticulture) ภำยในงำนประกอบด้วยกำรน�ำเสนอผลงำนวิจยั ของนักศึกษำ และนักวิชำกำรด้ำนพืชสวน กำรบรรยำยพิเศษจำกผู้ทรงคุณวุฒิ กำรแสดงนิทรรศกำรจำกหน่วยงำน ภำครัฐและเอกชนเพื่อเผยแพร่ผลงำนวิจัยสู่ เกษตรกรและสำธำรณชน รวมถึงกำรทัศนศึกษำพื้นที่ ต้นแบบด้ำนกำรเกษตรในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงใหม่

www.agri.cmu.ac.th/nhc2018


Talk tO ZiNe

W

TALK TO ZINE คิดให้ทน ั โลก เมื่อโลกเปลี่ยน เรำควรปรับกำรเรียนรู้อย่ำงไร มำเปิดมุมมอง “คิดให้ทันโลก” ไปกั บ ทนง โชติ ส รยุ ท ธ์ ในงำนสั ม มนำ “มั น ส์ ส มอง” OKMD Workshop Knowledge Festival มั น ส์ ไ ปกั บ ควำมคิ ด และทั ก ษะแห่ ง ศตวรรษที่ 21 ณ ศูนย์กำรประชุมแห่งชำติสิริกิติ์ “หัวใจส�ำคัญของกำรสร้ำงชำติ คือกำรสนุกกับกำรแก้ปัญหำ เปลี่ยนจำก สังคมขี้บ่นเป็นสังคมที่สนุกกับโจทย์ที่ท้ำทำยมำกยิ่งขึ้น จำกผลกำรวิจัยของ OECD พบว่ำกำรจะท�ำให้ประเทศมีควำมยัง่ ยืนทำงเศรษฐกิจและสังคมนัน้ เริม่ จำกกำรพัฒนำขีดควำมสำมำรถของคนในประเทศให้มีทักษะที่จ�ำเป็นส�ำหรับ ยุคศตวรรษที่ 21 โดยแค่เปลี่ยนวิธีคิดแล้วด�ำเนินกิจกรรมที่จ�ำเป็นต้องท�ำด้วย กระบวนกำรทีต่ ำ่ งจำกเดิม เริม่ ต้นกำรเปลีย่ นแปลงด้วยกำรสร้ำงแรงบันดำลใจ และท้ำทำยขีดควำมสำมำรถด้วยแนวคิด ‘สนุกกับกำรแก้ปัญหำ’ เพื่อพัฒนำ ตนเองเข้ำสู่ระบบกำรศึกษำยุค 4.0” ทักษะทีจ ่ า� เป็นส�าหรับศตวรรษที่ 21 มีอะไรบ้าง การสร้างเด็กไทยให้คน ุ้ เคยและมีทก ั ษะส�าหรับศตวรรษที่ 21 ต้องท�าอย่างไร เราจะอยูด ่ แ ี ละแข็งแรงได้อย่างไรในมุมมองของ The Organization for Economic Co-operation and Development (OECD)

SCAN QR CODE

เพื่อดูคลิปเพิ่มเติม

“เมือง คิด ใหม่” เพรำะปั จ จุ บั น เศรษฐกิ จ ขั บ เคลื่ อ นด้ ว ยควำมรู้ ดั ง นั้ น รำกฐำนที่ ส� ำ คั ญ คื อ กำร สร้ำงเมืองแห่งควำมรูใ้ ห้ยง่ั ยืน เปิดมุมมอง “KNOWLEDGE CITIES” ไปกับ รศ.ดร.ชัชชำติ สิทธิพนั ธุ ์ ในงำนสัมมนำ OKMD KNOWLEDGE FORUM “เมือง คิด ใหม่” KNOWLEDGE CITIES : NEW LIVES NEW OPPORTUNITIES ณ โรงละครเคแบงก์สยำมพิฆเนศ ชั้น 7 ศูนย์กำรค้ำสยำมสแควร์วัน “หำกพูดถึงกำรพัฒนำเมืองในรูปแบบที่เน้นองค์ควำมรู้ มีกรณีศึกษำของ ชุมชน 70 ไร่ ที่คนกลุ่มหนึ่งในสังคมไทยอำศัยอยู่ในชุมชนแออัดย่ำนคลองเตย แม้วำ่ จะถูกจ�ำกัดโอกำสในกำรเข้ำถึงองค์ควำมรู ้ และดูเหมือนไม่มคี วำมเกีย่ วข้อง กับกำรเข้ำสูเ่ มืองดิจทิ ลั แพลตฟอร์ม แต่แท้จริงแล้วคนกลุม่ นีเ้ ป็นกลุม่ คนทีข่ บั เคลือ่ น เมืองอย่ำงแท้จริงด้วยอำชีพผู้ใช้แรงงำน ดังนั้นในกำรจะสร้ำง "เมือง คิด ใหม่" โดยพุ ่ ง เป้ ำ ไปที่ เ ทคโนโลยี แ ละควำมรู ้ จึ ง มี ค� ำ ถำมที่ น ่ ำ ขบคิ ด ว่ ำ เรำจะสร้ ำ ง ควำมเท่ำเทียมในกำรเข้ำถึงเมืองในอุดมคติดังกล่ำวได้อย่ำงไร โดยไม่ทิ้งใคร ไว้ขำ้ งหลัง” SCAN QR CODE

เพื่อดูคลิปเพิ่มเติม

Knowledge Cities ในมุมมองของคุณชัชชาติ ศูนย์การเรียนรูใ้ นปั จจุบน ั ยังจ�าเป็นอยูไ่ หมในยุคประเทศไทย 4.0 Knowledge และ Information สัมพันธ์กน ั อย่างไร และมีความส�าคัญ อย่างไรต่อการสร้าง “Knowledge Cities”

31


สำนักงานบริหารและพัฒนาองคความรู (องคการมหาชน) The Office of Knowledge Management & Development


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.