222013
issue
THAI Edition
Lite Version
FREE
ต ะ ล อ น ก รุ ง
มังกรซ่ อน(เสน่ ) หา นิร าศ ประวั ติ ศาสตร์ ศิ ลป์ หนึ่งวั นในพระนคร เก็บกระเป๋ า ไปนอนกลางกรุง
TOUCH FOR MORE DAZZLE ดิจิตอลแมกกาซีนช่วยประหยัดกระดาษ ต่ออายุให้ต้นไม้อีกหลายต้น ให้เรามีโลกสวยๆ ให้ชื่นชมไปอีกนานเท่านาน และยังอ่านสนุกกว่าเดิม เลื่อนหน้าจอไปทางซ้าย-ขวา เพื่ออ่านหน้าถัดไป
พลิกจอเป็นแนวนอน เพื่อดูภาพเต็มสองหน้า แตะที่ไอคอน เพื่อเชื่อมโยงไปยังแผนที่ หรือเว็บไซต์ แตะที่ภาพ เพื่อดูอินเตอร์แอคทีฟ รอชมภาพยนตร์ หรือภาพเคลื่อนไหวซักครู่ แตะที่ภาพเพื่อชมสไลด์โชว์ หรือภาพขยายใหญ่ แตะค้างที่ภาพแล้วลาก เพื่อชมภาพแอนิเมชั่น
หรือพลิกจอเป็นแนวตั้ง เพื่อสะดวกในการอ่าน
K-A1 : Korea Sparkling in Autumn...Fall in love with fall เที่ยวเกาหลี ประกายแห่งสีสัน ใบไม้เปลี่ยนสี ในฤดูที่คุณต้องหลงรัก เที่ยวเกาหลี สถานที่ยอดนิยม เกาะนามิ หมู่บ้านฝรั่งเศส La Provance ประทับใจกับการปั่น Rail bike เมืองจองซอน ชมธรรมชาติอันสวยงาม สวนสนุก Everland ชอปปิ้งกรุงโซล (โดยสายการบิน KE/TG) ต.ค. 12-16, 19-23, 22-26, 30-3 พ.ย. 2-6, 6-10, 9-13 ราคา 35,900-*36,900 บาท
เที่ยวเกาหลีแบบคุณภาพ กลับมาประทับใจ เดินทางด้วยสายการบินมาตรฐาน ความปลอดภัย และการบริการ ระดับนานาชาติ ที่พัก 4* อาหารและการบริการมาตรฐาน เอเชี่ยนพลัสแทรเวล ที่ลูกค้าบอกต่อ
K-A2 : Autumn Inspiring...Sa-rang-he-yo-Korea ใบไม้สวย ทะเลใส เที่ยวสนุก ประทับใจ...ที่เกาหลี ทัวร์เกาหลีช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ชมอุทยานเขาซอรัคซาน วัดชินอึนซา สนุกสนาน Rail bike เลาะริมทะเล นั่งรถไฟ Romantic Sea train เกาะนามิ สวนสนุก Everland ชอปปิ้งตลาดดัง เมียงดง ทงแดมุน (โดยสายการบิน KE/TG)
ต.ค. 11-15, 18-22, 29-2 พ.ย. 5-9, 8-12, 12-16 ราคา 35,900 - 36,900 บาท
K-A3 : Autumn Sparkling... South Korea...South Way
เที่ยวเกาหลี สนุก ประทับใจ จากใต้สุดถึงกรุงโซล เที่ยวเกาหลีตอนใต้ เส้นทางใหม่ไม่ซ�้ำใคร สวยถูกใจคนชอบเที่ยวเกาหลีแน่นอน ไฮไลท์พาคุณตื่นตาตื่นใจกับการเดินข้ามสะพาน ที่เชื่อมระหว่างยอดเขาแดดุนซาน ชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม ต.ค. 17-22, 22-27, 29-3, 31-5 พ.ย. 5-10, 12-17 ราคา 39,900 - 41,900 บาท
K-A4 : Jeju + Nami Island & Seoul Variety
เกาะเชจู เกาะนามิ กรุงโซล... โปรแกรมครบรสส�ำหรับคนรักเกาหลี ทัวร์เกาะเชจู อดีตเกาะภูเขาไฟ กลายเป็นเกาะโรแมนติก ชมทุ่งหญ้า Glass Field บนปากป่องภูเขาไฟ ชมหมู่บ้านพื้นเมืองของเชจู Teddy Bear Museum และสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย พร้อมช็อปปิ้งจุใจที่กรุงโซล (บิน KE) ต.ค. 4-9, 8-13, 18-23, 25-30, 29-3 ราคา 44,900 บาท พ.ย. 1-6, 5-10, 8-13, 12-17 ราคา 41,900 บาท.
บริษัท เอเชี่ยนพลัสแทรเวล จ�ำกัด Tel: 02-183-6333-8 Fax: 02-183-6339 Mobile: 084-339-0099, 081-585-3579 www.เอเชี่ยนพลัสแทรเวล.com www.asianplustravel.co.th www.asianplusasia.com เลขที่ 5/8 บ้านกลางเมือง ศรีนครินทร์-พัฒนาการ ซอยอนามัย ถนนศรีนครินทร์ 24 แขวง/เขตสวนหลวง กรุ งเทพฯ 10250 ใบอนุญาติประกอบธุ รกิจน�ำเที่ยวเลขที่ 11/05771
www.facebook.com/asianplusasia
Editor Talk
การท่องเที่ยวคืออะไร? ฝรั่งแบกเป้ก�ำลังยืนตะลึงงันอยู่กับสิ่งก่อสร้างใจกลางพระนคร ขณะที่พลเมืองผู้อยู่อาศัยที่ใช้ ชีวิตจ�ำเจอยู่ที่นั่นทุกวันอาจไม่เคยเหลียวมองของดีที่มีอยู่รอบตัว แต่เมื่อถึงตาเราได้เดินทางไป ต่างบ้านต่างเมือง เราเปลี่ยนบทบาทเป็นนักท่องเที่ยวที่ตื่นเต้นกับทุกสิ่งที่ได้เห็น ตรงข้ามกับ คนท้องถิ่นที่เฉยชากับสถานที่ซึ่งเขาคุ้นเคย เคยท�ำโพลเล่นๆ และได้ค�ำตอบที่ไม่แปลกใจ เมื่อเพื่อน 10 คน มีแค่ 1 คนเท่านั้นที่เคยไปวัด พระแก้ว และที่คน 9 คนนั้นบอกว่าที่แปลกมากกว่าคือคน 1 คนนั้นก�ำลังสะพายกล้อง ถือแผนที่ ไปเที่ยววัดพระแก้ว เที่ยวสนุกหรือไม่ ตื่นเต้นแค่ไหน บางทีไม่ได้อยู่ที่ระยะทาง แต่อยู่ที่สมองกับหัวใจเราได้เข้า ถึงและสัมผัสสิ่งของ สถานที่ และผู้คน ณ ที่ตรงนั้นหรือไม่ หลายครั้งที่ผมใช้เวลาว่างสั้นๆ ในวันธรรมดา เดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆ กลับได้พบเห็น และได้รู้ เรื่องราวบางอย่างที่ซ่อนเป็นรหัสอยู่ในสถานที่บางแห่ง เชื่อไหม หัวใจผมเต้นรัว การเดินทางใกล้ และท่องเที่ยวไปด้วยความเข้าใจ อาจกลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นกว่าที่คิด ผม อยากชวนให้พวกเราลองเดินทางท่องเที่ยวโดยไม่เกี่ยงใกล้ไกล และเน้นเข้าถึงคุณค่าของสถาน ที่อย่างแท้จริง แทนที่จะท่องเที่ยวตามกระแสที่เหมือนๆ กันไปหมดอย่างที่เห็นในทุกวันนี้
บุญฤทธิ์ ไตรสุธรรมพร บรรณาธิการบริหาร bunyalit.tri@gmail.com
ที่ปรึกษา พลเอก.ดร.โอภาส โพธิแพทย์ พลเอกทองแก้ว ธีระสานต์ กงกฤช หิรัญกิจ เกรียงไกร เธียรนุกุล ธีรภาพ โลหิตกุล กรรมการบริหาร เพิ่มสิน เลิศรัฐการ โสภิณ เลิศรัฐการ ธนา นิลชัยโกวิทย์ สุรศักดิ์ แก้วมีสุข พรศิริ นีลปัทมานนท์ บุญฤทธิ์ ไตรสุธรรมพร บรรณาธิการผู้พิมพ์ ผู้ โฆษณา เพิ่มสิน เลิศรัฐการ
บรรณาธิการบริหาร บุญฤทธิ์ ไตรสุธรรมพร
บรรณาธิการที่ปรึกษา พรศิริ นีลปัทมานนท์
กองบรรณาธิการ ณัฐชานันท์ เรืองศักดิ์ขจร นักเขียน พิมสาย ตันมณี ปิยะวรรณ วนกุล วอเตอร์ ลิลลี่ ภาวพันธ์ โตแสง ขนิษฐา ข้าวทวี
บริษัท สำ�นักพิมพ์แพนสยาม จำ�กัด 64 ถนนพัฒนาการ ซอย59 เขตประเวศ กรุงเทพฯ10250 Tel.02 722 0670 Fax.02 322 0290 dazzlemag.editor@gmail.com
www.facebook.com/Dazzle.Travel บทความและรูปภาพต่างๆ ในนิตยสารDAZZLE สงวนสิทธิ์ตามกฏหมาย ห้ามนำ�ไปตีพิมพ์ หรือคัดลอกเพื่อทำ�ประโยชน์ใดๆ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์
Publishing
การเดินทางที่ดี
ต้องมีหลายรสชาติ
เก็ บ กระเป๋ า อ อ ก เ ดิ น ท า ง
กลับถึงบ้าน
โดยสวัสดิภาพ
TRAVEL
คู่มือเดินทางฉบับพกพาที่ง่าย ตรงใจ และพร้อมลุยมากที่สุด แผนที่ ใช้ง่าย ใช้ดี ไม่ต้องกลัวหลง แผนเที่ยว สูตรส�ำเร็จพร้อมใช้ ปรุงจากประสบการณ์ของนักเดินทางมืออาชีพ ครบรส หลากหลายคอนเซปท์การเดินทางตามใจอยาก พร้อมลุย เคลือบฟิล์มพลาสติคกันน�้ำ ทนทานตลอดทริป วางแผง พร้อมเก็บกระเป๋าเที่ยวแล้ว ที่ร้าน 7-Eleven, B2S, Se-Ed, นายอินทร์ และร้านหนังสือชั้นน�ำ
อร่อย..เมนูเส้น ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่กระทะทอง
ใครจะเชื่อว่ากระทะทองเล็กๆ ที่อัดแน่นไปด้วยเส้น และเครื่องจนแทบล้น แล้วใช้ทัพพีเล็กๆ คั่วไปมา อย่างเมามัน จะรสชาติเด็ดขนาดนี้ ที่ส�ำคัญเสิร์ฟได้ ทีละเกือบสิบจานต่อกระทะ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ 19.00-24.00 ถนนเยาวราช ซอยเจริญกรุง 36
เกี้ยมอี๋ พริกเผา
เกี้ยมอี๋ พริกเผา รสดั้งเดิมที่รับประทานได้ไม่ยาก ในสมัยนี้ แถมได้อารมณ์เหมือนย้อนไปซัก 40-50 ปี ที่แล้ว แค่ฉากก�ำแพงปูนกับประตูไม้บานเก่า ก็ขลังพอแล้ว เกี้ยมอี๋ใส่พริกเผา 09.30-15.30 ซอยเจริญกรุง 23 ติดกับบะหมี่จับกัง
ก๋วยเตี๋ยวหลอด เท็กซัสเจ๊เต่า
เส้นที่เหนียวนุ่มเป็นพิเศษ กับกรรมวิธีในการท�ำเครื่อง ก๋วยเตี๋ยวหลอดที่ลี้ลับ และเงื่อนง�ำ ของกลิ่นหอมยั่วน�ำ้ ลาย ที่ยังคง รอการพิสูจน์จากนักชิมอยู่ ก๋วยเตี๋ยวหลอด ถนนผดุงด้าว ปากตรอกไทร 08.00-16.00
ลิ้มเล่าซา
เค้าว่ากันว่าลูกชิ้นปลาเจ้านี้ เวลาเคี้ยวลูกชิ้นมันเต้นอยู่ในปาก ด้วย เชื่อหรือไม่ อย่างนี้ต้องพิสูจน์ ก๋วยเตี๋ยวลูกขิ้นปลา ถนนทรงวาด ใกล้ธนาคารเอเชีย 19.00-23.00
อร่อย..ร้อนๆ ข้าวต้มเป็ดตั้งหงีฮวด
ซุปที่เค่ี่ยวกับกระดูกเป็ดจนหอมหวาน เนื้อเป็ดที่เค่ี่ยวจนเปื่อยไม่คาว หากได้ลองชิมสักครั้งก็ยากที่จะลืมได้ ข้าวต้มเป็ด กระเพาะหมู ถ.แปลงนามตรงข้ามวัดญวน 11.00-21.00
นายเว้ง ก๋วยจั๊บเซี่ยงไฮ้
อีกหนึ่งก๋วยจั๊บ และเกาเหลาเลือดหมูรสเด็ด ที่ใส่ผักจิงจูฮวยไฉ่ เป็นยาจีนที่ออกขมนิดๆ เข้ากันดีกับซุปกระดูกหมู และที่ส�ำคัญ ใช้เครื่องชิ้นโตชนิดที่เรียกได้ว่าเต็มปาก เต็มค�ำแบบได้ใจ เกาเหลาเลือดหมู, ก๋วยจี๊บเซี่ยงไฮ้ ถ.แปลงนาม ด้านถนนเยาวราช 18.00-04.00
อร่อย..เมนูข้าว
แกงกระหรี่นายโย่ง (ข้าวแกง)
ที่สุดของแกงกระหรี่บนเส้นเยาวราช ที่มีเคล็ดลับ ในการปรุงที่ไม่เหมือนใคร อร่อยจนต้องเปิดสาขา 2 อยู่ตรงกันข้ามฝั่งถนน ข้าวแกงกะหรี่หมูและเนื้อ ถ.เยาวราช ฝั่งขวามือ หน้าธนาคารกสิกรไทย และปากซอยอิสรานุภาพ (ซอยตลาดเก่า) 19.00-04.00 น. และ 16.00-02.00
ข้าวเสียโป
เสียโปหมายถึงเสียพนัน เมื่อก่อนใครแพ้พนัน ต้องเลี้ยงข้าว คนชนะก็สั่งไม่ยั้ง แต่ถ้าเป็นร้านนี้ ... ข้าวใส่ หมูแดง หมูกรอบ กุนเชียง กระเพาะ หู ลิ้น เป็ดย่าง ตับแก้ว ผักกวางตุ้ง อัดมาเต็มจาน แล้วราดด้วยน�้ำเป็ดย่างตบท้าย... แบบนี้คงจะเรียก ได้ว่าชนะพนันละมั้ง ข้าวเสียโป (ข้าวหน้ารวม) ปากซอยเจริญกรุง 19 12.00-20.00
อร่อย..เมนูหวาน เท่งทึง เยาวราช (เจ้าเก่า)
ได้ชื่อว่าเป็นร้านขนมที่มีคนนั่งกินแน่นที่สุด ในถนนเยาวราชแล้ว ด้วยรสชาติที่โดนใจ และเครื่องที่มีให้เลือกมากมายหลากหลาย จึงเป็นที่ถูกใจใครหลายๆ คน ขนมหวานจีน เท่งทึงร้อน-เย็น ถนนเยาวราช ช่วงเย็น
ลอดช่องสิงคโปร์
เป็นต้นก�ำเนิดของต�ำนาน “ลอดช่องสิงคโปร์” ที่เรียกกันจนติดปาก เนื้อลอดช่องเป็นสีเขียวใส เหนียวนุ่มเคี้ยวก�ำลังเพลิน น�ำ้ กะทิหอมมันเข้าคู่ กับน�้ำเชื่อมขนุนที่หอมหวานไม่เหมือนใคร ลอดช่องสิงคโปร์ ถนนเจริญกรุง ใกล้แยกหมอมี ตรงข้ามธนาคารเอเซีย 11.00-22.00
อร่อย..กินเล่น
จุ๋ยก้วยเจ้าเก่า (หน้าร้านทองโต๊ะกังเยาวราช)
ของว่างแบบจีนๆ ที่ใส่หัวไชโป๊วกับกระเทียม และหอมซอย ทานคู่กับแป้งขนมถ้วยกับ ซีอิ๊วหวาน หาทานได้ไม่ง่ายนักในสมัยนี้ แค่เห็นลีลาคนท�ำก็คุ้มแล้ว จุ๋ยก้วย ถนนเยาวราช 18.00-23.00
หอยจ๊อนภาพร
เนื้อปูเน้นๆ รสชาติเนื้อๆ กัดไปแต่ละค�ำ จะกรอบนุ่ม เพราะใช้เนื้อกุ้งผสมลงไปด้วย ท�ำให้ไม่ร่วนจนเกินไป หอยจ๊อชนิดต่างๆ ตลาดเล่งบ้วยเอี้ย 06.00-16.00
ของดีน่าซื้อ ลิ้มงีเฮียง
ร้านของฝากจ�ำพวกหมูแปลรูปเกือบทุกชนิด ของกินเล่นตากแห้ง และเครื่องเทศตากแห้งต่างๆ เรียกได้ว่ามาที่เดียวได้ครบทุกอย่าง หมูแผ่น หมูหยอง กุนเชียง 07.00-22.00 ถนนเยาวราช ฝั่งขวามือ ใกล้ธนาคารกสิกรไทย
ขนมเปี๊ยะอื้อเล่งเฮง
หนึ่งในร้านรุ่นเก๋า ที่เก่าแก่กว่า 90 ปี และยังคง สืบทอดกรรมวิธีการท�ำที่มีมาแต่ดั้งเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ขนมเปี๊ยะ ขนมจันอับ ขนมงาตัด ถนนแปลงนาม 08.00-18.00
รัตนโกสินทร์แผ่นดินแก้ว เพริศแพร้วดุจแก้วประภัสสร พระพุทธยอดฟ้าสถาพร ภูธรสร้างนิวาสราชธานี วัดวังพรั่งพร้อมความเจริญ อัญเชิญพระปฏิมาพุทธศรี จากกรุงเก่าสุโขทัยมาถึงนี่ หวังองค์ศากยมุนีเป็นศรีเมือง
ราวยี่สิบห้าปีหลังสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ให้ยิ่งใหญ่ และเกรียงไกรเสมอเหมือนกรุงศรีอยุธยาที่ล่วงแล้ว ราชธานีใหม่แห่งนี้กลายเป็นบทสรุปของประวัติศาสตร์ ของสยามประเทศ ในปีนั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงโปรดฯ ให้อัญเชิญพระศรีศากยมุนีจากวิหารวัดมหาธาตุ ที่ตั้งกร�ำแดดฝนอยู่ กลางกรุงเก่าสุโขทัย ชะลอด้วยแพไม้ไผ่มาตามล�ำน�้ำ ถึงประตูเมืองที่ ท่าช้างวังหลวง และทรงพระราชด�ำเนินด้วยพระบาทเปล่าขณะประชวร ชักพระไปถึงมณฑลที่ประดิษฐานตรงชัยภูมิใจกลางพระนคร เมื่อถึงที่ แล้ว ทรงออกพระโอษฐ์ว่า “เพียงได้ยกพระถึงที่ เสร็จธุระเท่านี้แล้ว” ภายหลังนั้น รัชกาลที่ ๕ ทรงมีพระราชวินิจฉัยว่า เหตุผลที่ทรงมี พระราชด�ำรัสเช่นนั้น ด้วยทรงเป็นห่วง กลัวว่าจะสวรรคตก่อนที่จะได้ เชิญพระขึ้นที่ เมื่อการส�ำเร็จดังพระราชประสงค์ จึงทรงพระโสมนัส เปล่งอุทานว่า “สิ้นธุระแล้ว” ซึ่งหมายถึงได้ทรงประกอบพระราชภารกิจ การสร้างพระนคร ปราสาทราชวังและวัดวาอารามให้งดงามเทียบเท่า กรุงศรีอยุธยา จนแล้วเสร็จ พุ ท ธศั กราช ๒๓๕๒ พระบาทสมเด็ จ พระพุ ท ธยอดฟ้ า จุ ฬ าโลก มหาราช เสด็จสวรรคต
กาลต่อมาพัฒนาเศรษฐกิจ การค้าขายพาณิชย์ก็ฟูเฟื่อง ส�ำเภาโล้เข้าออกนอกในเมือง ขนส่งเครื่องของใช้ขวักไขว่กัน เศรษฐีไทยชอบใจศิลปะ ลักษณะช่างจีนประสมประสาน สั่งให้ท�ำ “อับเฉา” บรรณาการ ให้ชาวบ้านไม่อับเฉาเมื่อคราวชม
เมื่อครั้งรัชกาลที่ ๓ ยังไม่ขึ้นครองราชย์ ทรงท�ำหน้าที่กำ� กับดูแลกรมท่า พระราชบิดา ทรงเรียกพระองค์ว่า “เจ้าสัว” เพราะทรงเชี่ยวชาญในการค้าส�ำเภากับกรุงจีน วัดวาอารามในยุคนั้น ก็สร้างตามศิลปะพระราชนิยม ซึ่งผสมศิลปะไทย และจีนคู่ค้าเข้าไว้ด้วยกัน นอกจากนั้นแล้ว บรรดาตุ๊กตาศิลาจีนที่พบเห็นอยู่ มากมาย เป็นประจักษ์พยานอย่างดี ที่เดินทางมาพร้อมกับกองเรือส�ำเภา ในยุคนั้น บ้างกล่าวว่า เพราะสินค้าไทยที่ส่งออกไปยังเมืองจีนนั้นเป็นสินค้าเกษตร ที่มีน�้ำหนัก แต่สินค้าน�ำเข้าจากจีนนั้นมีน�้ำหนักเบา จึงต้องใส่ตุ๊กตาศิลาที่ เรียกขานว่า ตัวอับเฉา มาในใต้ท้องเรือ เพื่อให้สำ� เภาไม่โคลงเคลงยามเดิน ทาง แท้จริงแล้วเมืองสยามในยุคนั้นค้าขายมั่งคั่ง มีเงินถุงเงินถัง จึงเจียดเงิน จ้างศิลปินชาวจีน ท�ำตุ๊กตาศิลามาถวายเป็นบรรณาการ ประดับประดาวัดวา อาราม ลองเที่ยวท่องไปตามอารามหลายแห่ง เราจะพบความจริง ตุ๊กตาศิลา เหล่านี้เหมือนตัวละครในสมุดบันทึกสภาพบ้านเมืองในยุคนั้น เราจึงคุ้น หน้าชายชาวจีนหนวดเฟิ้มใจดี หรือแม่ทัพผู้น่าเกรงขามผ่านใบหน้าของ ตุ๊กตาศิลา ที่วัดอรุณราชวราราม ยังมีตุ๊กตาศิลารูปครุฑที่คนจีนแกะสลักท�ำ เพี้ยนเป็นครุฑหน้าเจ๊ก อีกทั้งกินรีหน้าซิ้ม แลดูน่าขัน หรือที่วัดโพธิ์ อันเป็น อาณาจักรแห่งตุ๊กตาศิลาจีน ก็ยังมีตุ๊กตาศิลารูปชายสูงใหญ่ใส่ชุดทักซิโด สวมหมวดทรงสูงยืนถือกระบองยิ้มกริ่มอย่างเจ้าเล่ห์ยืนยามเฝ้าประตู
เราคบกับกรุงจีนเป็นดั่งเพื่อนคู่ค้าอันสนิทสนมมานาน จนกระทั่งยุคสมัย ที่เราค้าขายกับชาติตะวันตกอย่างเป็นทางการ พุทธศักราช ๒๓๖๙ สองปีหลังการเสด็จขึ้นครองราชย์ของพระบาทสมเด็จ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ มีการท�ำสนธิสัญญาเบอร์นี ข้อตกลง ทางการค้ากับชาติตะวันตกฉบับแรกในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ จนปลายรัชสมัย ทรงมอบเงินถุงแดงที่เก็บหอมรอมริบจากการค้าขาย กลายเป็นเงินมหาศาล ตีตราถุงใส่ก�ำปั่นไว้ในข้างห้อมพระบรรทม ให้แก่ แผ่นดิน โดยมีพระราชด�ำรัสว่า “เอาไว้ไถ่บ้านไถ่เมือง” และพระราชทาน พระบรมราโชวาทแก่ขุนนางข้าราชบริพารที่เข้าเฝ้า ไว้เป็นครั้งสุดท้ายว่า “การศึกสงครามข้างญวนข้างพม่าก็เห็นจะไม่มีแล้ว จะมีอยู่ก็แต่ข้างพวกฝรั่ง ให้ระวังให้ดี อย่าให้เสียทีแก่เขาได้ การงานสิ่งใดของเขาที่คิด ควรจะเรียน เอาไว้ก็ให้เอาอย่างเขา แต่อย่าให้นับถือเลื่อมใสไปทีเดียว” สองรัชสมัยหลังจากนั้น เมื่อสยามเสียทีแก่การคุกคามของชาติตะวัน ตกในวิกฤตการณ์ รศ ๑๑๒ และต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงินสามล้านฟรังค์ สยาม ก็อยู่รอดได้ด้วยเงินถุงแดง ที่ได้จากการค้าขาย การเก็บออม เพื่อรักษาบ้าน เมืองให้อยู่รอด
รัตนโกสินทร์ศกหกสิบห้า ดาราศาสตร์ตะวันตกประสบสม ค้นพบดาวเนปจูนที่ปลายปม อยู่ร่วมวงสุริยะจักรวาล องค์เจ้าฟ้ามงกุฎรุดหน้าล�ำ้ ทรงน�ำศาสตร์สอดศิลป์มาผสาน ขรัวอินโข่งถ่ายทอดจินตนาการ ไทยฝรั่งต่างมิติมิต่างใจ
เมื่อ ๑๖๗ ปีที่แล้ว นักดาราศาสตร์ชาวเยอร์มันแห่งหอดูดาว เบอร์ลิน ได้ค้นพบดาวดวงหนึ่งซึ่งอยู่ชั้นนอกสุดของระบบสุริยะ จักรวาล อยู่ไกลจากโลกถึง ๓๐ Astronomical Unit หรือ ๓๐ เท่า เมื่อเทียบกับระยะทางเฉลี่ยจากโลกถึงดวงอาทิตย์ หรือ ๔,๔๘๗,๙๓๖,๑๓๐ กิโลเมตร จากโลกของเรา ดาวดวงนี้มีขนาดเล็ก กว่าดาวยูเรนัส แต่มีมวลมากกว่าโลกถึง ๑๗ เท่า นั่นหมายความว่า มนุษย์คนหนึ่งอาจมีน�้ำหนักถึง ๑,๐๐๐ กิโลกรัม เมื่อยืนอยู่บนดาว เนปจูน และที่น่าสนใจคือ ดาวดวงนี้ใช้เวลาในการโคจรรอบดวง อาทิตย์ถึง ๖๐,๒๒๔.๙๐๓๖ วัน หรือ ๑๖๔.๘๙ ปี บนโลกมนุษย์ นั่น หมายความว่า ตั้งแต่ค้นพบดาวเนปจูนจนถึงวันนี้ ดาวเคราะห์ชั้น นอกสุดของระบบสุริยะจักรวาลดวงนี้เพิ่งจะโคจรครบรอบไป หมาดๆ นี้เอง เมื่อ ๑๖๗ ปีที่แล้ว แม้ปุถุชนธรรมดาที่สร้างบ้านอยู่ใกล้ๆ หอดูดาวเบอร์ลินก็ คง เห็นเรื่องของดวงดาวดวงใหม่ไกลเกินจินตนาการ แต่ศาสตร์อันเที่ยงแท้นี้อยู่ ในความสนพระหฤทัยของสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้ามงกุฏ ขณะทรงผนวช อยู่ที่วัดบวรนิเวศวรวิหาร ซึ่งต่อมาได้เสวยราชสมบัติเป็นมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๔ ผู้ทรงอัจฉริยะในศาสตร์หลากหลายแขนง วัดบวรนิเวศวรวิหาร ซึ่งรัชกาลที่4 ทรงเคยจ�ำพรรษาอยู่เป็นเวลากว่าสิบปีเมื่อ ครั้งทรงผนวช จึงเป็นวัดที่มีสิ่งอันทรงความหมายพิเศษซ่อนอยู่ ทวารบาล หรือ เซี่ยวกาง ผู้คุ้มครองปกปักษ์รักษาประตูหน้าวัดทางเข้าวิหาร ที่แปลกและไม่เหมือนที่อื่นตรงทวารบาลผู้หนึ่งถือตรีศูล หรือ สามง่าม แทนที่จะ ถืออาวุธหอก ดาบ ทวน เช่นทวารบาลทั่วๆ ไป สามง่ามนี้เป็นอาวุธทรงอิทธิฤทธิ สามารถบันดาลให้เกิดทะเลคลั่งแผ่นดินไหว เป็นอาวุธประจ�ำตัวของเทพเจ้าโพไซดอน ผู้เป็นใหญ่ในดินแดนมหาสมุทร และ เป็นเทพเจ้าแห่งดาวเนปจูน(ซึ่งมีสีฟ้า และปกคลุมด้วยทะเล)
ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นรหัสลับของวิทยาการอันก้าวหน้าในสมัยนั้น เช่น ภาพเขียนในพระอุโบสถ ฝีมือ ขรัวอินโข่ง จิตรกรในสมณเพศผู้ไม่มีฝีมือใดเปรียบ และกล้าหาญในการดัดแปลงเทคนิคการวาดภาพแบบตะวันตกมาใช้ในจิตรกรรม ฝาผนังของไทย นอกเหนือจากรูปแบบและเทคนิค ภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังที่วัดบวรยังเป็น ที่กล่าวขานกันถึงเนื้อหาที่เล่าผ่านภาพเหล่านั้น อันเป็นปริศนาธรรม ซึ่งวาดตาม แนวคิดของพระมหากษัตริย์นักวิทยาศาสตร์ ที่ศึกษาธรรมมะจนแตกฉานเช่น เดียวกัน ภาพหมอยาผู้ฉลาด มหาเมฆหลั่งน�้ำฝนให้หมู่ชนเป็นสุข สารถีอันมีกุศโลบาย ในการฝึกม้าอาชาไนย หมอเชือดฝ้าในจักษุเพื่อให้ประชาชนมีดวงตาอันผ่องใส ปราศจากโมหะ นายส�ำเภาผู้พร้อมด้วยคุณสมบัติถึงฝั่งพระธรรม และอีกหลายๆ ภาพปริศนารวม 16 ตอน ล้วนซ่อนรหัสที่ถอดความถึงพระพุทธเจ้าผู้สั่งสอนธรรม อันเป็นมงคล ธรรมะซึ่งแท้จริงแล้วคือวิทยาศาสตร์อันเปรียบได้ดั่งอาวุธเพื่อความ อยู่รอด และเครื่องมือแห่งความเจริญ
อีกห้าปีโลหะปราสาทสร้าง สูงสล้างข้างนครซ่อนความหมาย ยอดระดะดาษดื่นขึ้นเรียงราย คือเส้นทางย่างกรายในสายธรรม อาจวกวนซับซ้อนให้พลัดหลง ขอเธอจงมุ่งฝึกจิตให้เคร่งคร�่ำ ประคองใจให้ประณีตเป็นประจ�ำ เพื่อก้าวล�้ำธรรมนบพบนิพพาน
ในสมัยพุทธกาล นางวิสาขาซึ่งเป็นอุบาสิกาคนส�ำคัญ ได้เดินทางไป ฟังธรรม และลืมเครื่องประดับสูงค่าเอาไว้ พระอานนท์จึงเก็บรักษา ไว้เพื่อส่งคืน แต่เมื่อนางวิสาขาทราบเข้า ก็หมายมั่นจะถวายเครื่อง ประดับนั้นเป็นพุทธบูชา ด้วยการสร้างปราสาทซึ่งมียอดเป็นโลหะ และมีจ�ำนวนห้องมากถึง ๑,๐๐๐ ห้อง มีชื่อว่า มิคารมาตุปราสาท
จากสมัยพุทธกาลจนถึงปัจจุบัน มีการสร้างโลหะปราสาทในโลกเพียง ๓ หลัง และในปัจจุบัน เหลือเพียงหลังเดียวที่วัดราชนัดดา ซึ่งพระบาทสมเด็จ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดฯ ให้สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๓๙๔ แทนการสร้างเจดีย์ ซึ่งมีอยู่ดาษดื่นในพระนคร โดยมีพระราชประสงค์ ให้โลหะปราสาทเป็น สถานที่ส�ำหรับนั่งวิปัสนากรรมฐาน ปราสาทซึ่งเต็มไปด้วยปริศนาธรรม มียอดระดะแซงเสียดฟ้าสง่างาม เปี่ยมด้วยความหมายอันแยบยล น้อยคนนักที่จะนับจ�ำนวนยอดปราสาท อันมากมายเหล่านี้ด้วยการมองเพียงฉาบฉวย ต้องอาศัยการพิจารณา จะ พบว่าแท้จริงแล้วจ�ำนวนยอดแต่ละยอดนั้นหมายถึงพระโพธิปักขิยธรรม แต่ละประการ อันเป็นธรรมที่ใช้ในการเกื้อหนุนต่อการตรัสรู้ ฐานโลหะปราสาทนั้นเต็มไปด้วยคูหาอันซับซ้อน คงเปรียบได้ดั่งโลก มนุษย์อันวกวน หากใครที่พบหนทางสู่ใจกลางของความซับซ้อนเหล่านั้น ก็จะพบหนทางที่มุ่งสู่จุดสูงสุด
เสาซุงต้นสูงใหญ่ตั้งเป็นแกนกลางของปราสาท จากชั้นล่างสุดสู่ชั้นบน สุด มีบันไดเวียนจ�ำนวน ๖๗ ขั้น ผ่านชั้นต่างๆ ของปราสาททั้ง ๔ ชั้น ซึ่ง เปรียบได้ดั่งขั้นทั้ง ๔ ของการบรรลุธรรม คือ โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี และอรหันต์ ซึ่งหมายถึงชั้นสูงสุด อันเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ตัวแทนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ละชั้นของปราสาท ยังคงถูกใช้ประโยชน์ตามพระราชประสงค์ของ องค์รัชกาลที่ ๓ ด้วยเป็นห้องคูหาแห่งความเงียบ และสงบ สถานที่แห่งนี้ จึงมอบจิตอันเป็นสมาธิทันทีที่ย่างกราย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ว่าบุรุษผู้นั้นจะผ่าน เลยไปให้ถึงจุดสูงสุด หรือใช้เวลากับการชิมลางความสุขของการปฏิบัติ ซึ่งนั่น คือความหมายอันแท้จริงในการเข้าถึงองค์พระศาสดา
สองสี่ศูนย์เจ็ดสมเด็จพระจอมเกล้าฯ วางศิลาฯ สร้างภูเขาทองอร่าม มีเจดีย์ทรงระฆังรังรองงาม ประทานนามพระบรมบรรพต ประดิษฐานพระสารีริกธาตุ งามวิลาสเห็นแต่ไกลให้ปรากฏ ยอดสูงสมชมกรุงทั่วคุ้งคด จับจิตจดจ่อใจใฝ่ไปยล
กรุงรัตนโกสินทร์มีหลายสิ่งอย่างที่สะท้อน ภาพกรุงศรีอยุธยา ดังเช่นศาสนสถานสูงเสียดฟ้า นอกก�ำแพงพระนครที่ชาวกรุงเรียกติดปากว่า ภูเขาทอง อันมีชื่อเดียวกันกับเจดีย์องค์ใหญ่ นอกเกาะเมืองกรุงเก่าอยุธยา แม้สัณฐาณเจดีย์ ของทั้งสองนครจะไม่คล้ายกันเลยสักนิด แต่ก็มีความเป็นมาและเป็นไปคล้ายคลึงกัน เจดีย์ภูเขาทองแห่งกรุงเก่าเป็นสัญลักษณ์แห่งสองชัยชนะ ชัยชนะแรกเป็นของพระเจ้าบุเรงนองที่ตีกรุงศรีอยุธยาได้ส�ำเร็จ และสร้ า งเจดี ย ์ แ บบมอญเอาไว้ ชั ย ชนะที่ ส องเป็ น ของกรุ ง ศรีอยุธยา หลังการกอบกู้เอกราชกลับมาและมีการปฏิสังขรณ์ เจดีย์องค์เดิมในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ โดยดัดแปลงส่วน ยอดให้กลายเป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองแบบอยุธยา ท�ำให้เจดีย์ ภูเขาทองกลายเป็นเจดีย์ที่มีสองศิลปะสองสัญชาติ เมื่อรัชกาลที่ ๓ ทรงโปรดฯ ให้สร้างเจดีย์ภูเขาทองตามคติ เดียวกับกรุงเก่า แต่ใช้รูปแบบเจดีย์ทรงปรางค์ หมายมั่นให้เป็น พระปรางค์ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่สยามประเทศเคยมีมา นับเป็น งานวิศวกรรมท้าทายฝีมือช่างในยุคเกือบสองร้อยปีที่แล้ว การ ก่อสร้างเริ่มต้นที่รากฐานด้วยการใช้ไม้ซุงจ�ำนวนมหาศาลปูเป็น ฐานรูปตาราง แล้วก่ออิฐขึ้นไปเป็นองค์พระปรางค์สูงใหญ่จน ชาวพระนครในยุคนั้นพากันตื่นเต้นเหมือนมีพระอินทร์มาสร้าง ภูเขาอยู่นอกก�ำแพงพระนคร แต่จนแล้วจนรอด การก่อสร้างก็ ยังไม่ส�ำเร็จ และองค์พระปรางค์ก็เป็นอันพังทลายลงอยู่หลาย ครั้ง จนสิ้นรัชกาลที่ ๓
พ.ศ. ๒๔๐๗ รัชกาลที่ ๔ เสด็จฯ วางศิลาฤกษ์ แล้วให้สร้างภูเขาทองขึ้นอีกครั้ง คราวนี้หน้าตาของภูเขาทองเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง องค์พระปรางค์สูงใหญ่ที่ยอด หักพังลง ถูกปรับให้เป็นภูเขาจ�ำลอง แล้วสร้างเจดีย์ทรงระฆังสีทองอร่ามเทินไว้ บนยอดภูเขาอีกชั้นหนึ่ง แล้วทรงให้เปลี่ยนชื่อเรียก จากภูเขาทอง เป็น พระบรม บรรพต แต่ชื่อ ภูเขาทอง ยังคงเป็นชื่อติดปากของชาวพระนครมาทุกยุคสมัย คงเป็น เพราะภูเขาทองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์นั้นดูเหมือนภูเขาจริงๆ ยิ่งกว่าภูเขาทองที่ กรุงเก่าเสียอีก แต่ถึงจะเรียกว่าภูเขาหรือบรรพต จะสร้างเป็นพระปรางค์หรือเจดีย์ อย่างไรก็มีความหมายเป็นภูเขาอันเป็นที่สูงส่ง และเป็นศูนย์กลางของจักรวาลใน คติความเชื่อทั้งนั้น ในวันที่ภูเขาทองสร้างส�ำเร็จ ชาวพระนครตื่นเต้นกันเป็นยกใหญ่ เพราะไม่เคย มีสิ่งก่อสร้างสูงใหญ่เช่นนี้มาก่อน คนเฒ่าคนแก่ต่างพากันไปปีนภูเขาทองด้วย ความอุตสาหะเพื่อหวังได้ไหว้พระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ในห้องคูหาบน ยอดภูเขา ส่วนเด็กๆ นั้นสนุกกับการได้ชมทิวทัศน์กว้างไกลสุดขอบฟ้าพระนคร
ภูเขาทองเป็นเหมือนจุดชมวิวแห่งแรกและแห่งเดียวของพระนครมาทุกยุค สมัย ขอบฟ้าพระนครเมื่อมองจากยอดภูเขาทองเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วกับนาทีนี้ ดู เปลี่ยนไปไม่น้อย แต่ก็ไม่มาก ตึกสูงทันสมัยยืนท้าทายให้เห็นอยู่ลิบๆ แต่ถัดเข้า มาในเงื้อมเงาของภูเขาทอง ยังคงเป็นเขตคามแห่งประวัติศาสตร์ที่มีความทรงจ�ำ เก่าเก็บไว้ให้เห็นได้ ตีนภูเขาทองยังเป็นป่าเขียวรกทึบ ท�ำให้เหมือนว่าภูเขาทอง เป็นภูเขาจริงๆ เมื่อมองจากยอดภูเขาทอง เราได้เห็นเจดีย์ระดะแซงเสียดฟ้า และยังไม่มีเจดีย์ องค์ใดจะอยู่ใกล้สวรรค์เท่ากับภูเขาทองแห่งนี้
ครั้นเข้าสู่รัชสมัยพระปิยะ ศิลปะตะวันตกช่างน่าสน มาพบกับทางไทยอย่างใจดล เกิดเป็นผลสถาปัตย์ราชบพิตร เริงรมย์ชมชัดทัศนา วัดวาอารามงามวิจิตร ห้าแผ่นดินหลากศิลป์นิรมิต เติมชีวิตพระนครแห่งนี้เอย
พระมหากษัตริย์แทบทุกพระองค์ ทรงสร้างและท�ำนุบ�ำรุงพระอาราม อันเป็นศูนย์รวมความศรัทธา และเป็นอารามแห่งศาสตร์และศิลป์ที่ สะท้อนสภาพสังคมในยุคสมัยนั้น วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นวัดประจ�ำรัชกาลที่ ๕ อันเป็น รัชสมัยที่บ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย สยามประเทศเปิดประตูออกสู่โลก ภายนอกอย่างเต็มที่ มีการส่งเจ้าขุนมูลนายออกไปศึกษาหาความรู้ในต่างประเทศ เพื่อกลับมาพัฒนาบ้านเมือง ในขณะที่ฝรั่งมังค่าก็เข้ามาค้าขายกันมาก ส่วน อาณาจักรรอบด้านสยามเริ่มเสียทีแก่การล่าอาณานิคมของชาติตะวันตก ชาวพระนครในยุคนั้นคุ้นเคยกับชาวตะวันตกที่เข้ามาในบางกอก พอๆ กับ อาคารบ้านเรือนใหม่ๆ ที่สร้างแบบเก่าๆ ตามอย่างบ้านเมืองในยุโรป เพื่อแต่งองค์ ทรงเครื่องบ้านเมืองให้แลดูมีอารยะในสายตาคนต่างแดน
แม้จะเปิดรับศิลปวิทยาการจากภายนอก แต่จิตวิญญาณความเป็นไทยยังมีอยู่ รัชกาลที่ ๕ โปรดฯ ให้สร้างวัดหลวงขึ้นใหม่ในพระนคร โดยใช้การประนีประนอม ทางศิลปะ ให้ศิลปะตะวันตกผสานกับสถาปัตยกรรมไทย ใส่กลิ่นอายเบญจรงค์ กลายเป็นก้าวใหม่ของศิลปะไทยที่มีวิวัฒนาการไม่สิ้นสุด วัดราชบพิตร จึงเป็นแหล่งรวมของแปลกแห่งพระนครในยุคนั้น แม้กระทั่งชาว ตะวันตกยังต้องตะลึงเมื่อได้เห็นองค์พระพุทธรูปตั้งสง่างามอยู่ในวิหารแบบโกธิค ประดับลายเครือเถาสีทองของไทย และยิ่งแปลกใจไปกว่านั้นเมื่อพบว่าภายนอก ของวิหารหลังนี้กลับเป็นสถาปัตยกรรมไทยแท้ แต่ตกแต่งฝาผนังด้วยกระเบื้อง เคลือบเขียนลายสีเบญจรงค์ซึ่งหาที่ใดเหมือนไม่มี อีกทั้งบานประตูและหน้าต่างก็ ไม่มีที่ไหนเหมือนด้วยลายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูง
นักประวัติศาสตร์ศิลป์ยังต้องแปลกใจ เมื่อได้เห็นแบบแปลนแผนผัง ของวัดซึ่งได้ต้นแบบมาจากสมัยอยุธยา โดยมีเจดีย์ประธานอยู่ท่ามกลาง ระเบียงคด มีพระอุโบสถ พระวิหาร และมุขทางเข้าตรงด้านทั้งสี่ แต่ดัดแปลง ระเบียงคดให้โค้งเป็นวงกลมซึ่งไม่พบที่ไหนๆ มาก่อน ทั้งยังมีการสร้างสุสานหลวงตามแบบอย่างตะวันตก มีเจดีย์อนุสวรีย์ บรรจุพระอัฐิ และพระสรีรังคาร ของพระบรมราชเทวี พระราชเทวี เจ้าจอม และพระราชโอรส พระราชธิดา แต่ละองค์แบ่งตามพระราชตระกูล โดยเจดีย์ แต่ละองค์นั้นสร้างอย่างหลากหลาย ทั้งเจดีย์แบบขอม โกธิค และเจดีย์ ประธานของพระบรมราชเทวีทั้งสี่องค์ ที่สร้างอย่างสง่างามตามแบบไทย ประยุกต์ นับได้ว่า การสร้างวัดหลวงแห่งใหม่กลางพระนครเมื่อ รศ.๘๘ นั้น เป็น งานอันทันสมัย และท้าทายของช่างศิลป์ในสมัยนั้น ที่จะรังสรรค์ศิลปกรรม ไทยให้มีวิวัฒนาการต่อไป
D Cuisine
Jackie’s
Table
เบื้องหลังอาหารแต่ละจานนั้นมากด้วยเรื่องราว ทั้งวัตถุดิบต่างที่มา กรรมวิธีการสร้างสรรค์ รสชาติ และจินตนาการซึ่งกลั่นจากอุดมคติและความทรงจ�ำของผู้ที่ปรุงมันขึ้นมา อาหารจานเหล่านั้นก�ำลังก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง อยู่ในครัวที่มีเพียงบานกระจกกั้นขวาง ตรงหน้าคือโต๊ะอาหาร พิเศษโต๊ะเดียวในห้องเล็กๆ ซึ่งสร้างขึ้นโดยเฉพาะ อยู่กลางครัวของห้องอาหารเหม่ยเจียง ซึ่งเป็นที่รู้จักดีใน ฐานะหนึ่งในห้องอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ เชฟแจ็คกี้ โฮ (Jackie Ho) หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ และอีกหลายพ่อครัว ก�ำลังง่วงอยู่กับการเตรียมอาหารแต่ละ จาน บรรยากาศครัวที่ดูเหมือนจะวุ่นวายด้วยความเร่งร้อนของพ่อครัวที่ต้องท�ำงานให้ทันความร้อนของเตาไฟที่ ลุกโชน เป็นบุคลิกเอกลักษณ์ของครัวจีนที่แตกต่างจากครัวแบบตะวันตก นี่คือมื้ออาหารพิเศษ บนโต๊ะอาหารพิเศษในบรรยากาศวิเศษ และเราก�ำลังจะได้กินอาหารพิเศษซึ่งหาทานได้ เมื่อนั่งอยู่ที่โต๊ะนี้เท่านั้น ตรงหน้าเรามีหนังสือสวยปกแข็งเล่มเล็กๆ บรรจุเมนูอาหารที่กำ� ลังจะได้ทาน บอกเรื่องราวของอาหารแต่ละ จานอย่างละเอียด พร้อมลายเซ็นต์ของผู้สร้างสรรค์ แต่การอ่านคงดีไม่สู้ฟังเรื่องเล่าสดๆ จากปากของเชฟแจ็กกี้ ซึ่งเข้ามาเสริฟอาหารให้ด้วยตนเอง และมักจะเล่าที่มาที่ไปของอาหารจานนั้น ว่ากลั่นด้วยประสบการณ์ และ ความทรงจ�ำ ทั้งจากบ้านเกิด และเมืองที่ได้เดินทางไป เรื่อง และภาพ : บุญฤทธิ์ ไตรสุธรรมพร
ก้ามปูชิ้นใหญ่กับคัสตาร์ดไข่ขาว (Thai crab Cantonese classic) ถูกยกมา เสริฟเป็นจานแรก หน้าตาเรียบๆ ของอาหารจานนี้ มีเบือ้ งหลังของน�ำ้ ซอสคัสตาร์ดไข่ สุดซับซ้อนกว่าจะได้ซอสรสละมุนราดบนก้ามปูชิ้นโต เมนูที่สอง ถูกตั้งชื่อว่า First Love เชฟเล่าว่าซุปโสมในหอยทะเลและเห็ดหลาก ชนิดถ้วยนี้ เป็นเมนูแรกที่คิดขึ้นเพื่อโรงแรมเพนนินซูล่าเมื่อเขาได้ร่วมงานเมื่อ ยี่สิบกว่าปีที่แล้ว เขาเคยศึกษาศาสตร์การแพทย์แผนจีน และยืนยันว่าซุปถ้วยนี้มี สรรพคุณเพื่อการหมุนเวียนโลหิตที่ดี ยังมีอีกหลายเมนูลำ� เลียงมา เหมือนสายแม่นำ�้ เหม่ยหลั่งไหล ซอเทกุ้งใหญ่ผัด กระเทียมและเก๋ากี้ที่เป็นดั่งงานศิลปะชิ้นเยี่ยม เนื้อออสเตรเลียผัดซอสพริดไทยด�ำ สูตรจากความทรงจ�ำรสมือแม่ สืบทอดมาสามชั่วอายุคนของตระกูลโฮ ข้าวผัด หอยเชลล์ซึ่งเชฟแจ๊กกี้บอกว่าเป็นอาหารขั้นพื้นฐานที่เขาใช้ความพยายามอย่าง มากในการสร้างความประทับใจให้ใครๆ ที่ได้ลิ้ม ปิดท้ายด้วยของหวาน ครีม ฟักทองใส่เม็ดบัว ซึ่งเขาประยุกต์วิธีท�ำอาหารแบบจีน ให้เข้ากับสูตรของหวาน ยอดนิยมของชาวฮอลแลนด์เมื่อครั้งไปท�ำงานที่นั่น ขาดไม่ได้คือชาจีนมากหลากต�ำรับ ทั้งชาหลงจิ่งรสอ่อน อู่หลงนุ่มหอมละมุน ผู่เอ๋อรสล�้ำลึก และชาด�ำกลิ่นลิ้นจี่ ที่จับคู่มากับอาหารแต่ละจานเข้ากันอย่างกับ กิ่งทองใบหยก
ห้องอาหารเหม่ยเจียง • โรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพฯ • ถนนเจริญนคร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ • 0 2626 1841 • www.peninsula.com • diningpbk@peninsula.com
D Memory
HuaHin Vintage Car Festival
หัวหินมีเทศกาลดีๆ ที่ช่วยเสริมเติมแต่งอารมณ์ของเมืองตาก อากาศสุดคลาสสิคอยู่หลายงาน หนึ่งในนั้นคือเทศกาล HuaHin Vintage Car Festival ซึ่งจัดติดต่อกันมาเกินสิบปีแล้ว โรงแรมอมารี หัวหิน ผู้จัดงานเครมว่า ราคาของรถโบราณ หลายสิบคันที่มาร่วมงาน รวมมูลค่าแล้วกว่า 300 ล้านบาท
แต่ราคาตีตราคงไม่น่าสนใจเท่าอายุของรถแต่ละคันที่รวมกันได้หลายพันปี เห็นจะได้ คันเก่าที่สุดอายุ 105 ปี และที่สำ� คัญคือ รถ(เกือบ)ทุกคันยังแล่นได้ แถม ยังอาจหาญพากันพาเหรดจากกรุงเทพฯ ไปถึงหัวหินได้ตลอดรอดฝั่ง หลายๆ คัน มีอันต้องอาศัยแรงช่วยเข็น บรรยากาศดีดีอย่างนี้ ชวนให้นึกถึงการเดินทางสู่ “เมืองตากอากาศ” ในยุคที่ รถเหล่านี้ยังใหม่เอี่ยมแสนโก้เก๋ทันสมัย ล�้ำหน้าการเดินทางด้วยรถไฟหัวจักรไอ น�้ำซึ่งใช้เวลาเดินทางจากพระนครเป็นแรมวัน(ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ไม่ต่างนักหรอก ถ้า เลือกจะนั่งรถไฟ) ชวนให้นึกถึงดาวเต็มฟ้าที่หัวหิน นึกถึงการวิ่งเล่นไล่จับปูลมบน หาดทรายในคืนข้างขึ้น อันเป็นกิจกรรมแสนโรแมนติคสมัยคุณทวดยังสาว ...เหมือนเวลานั้นยังหยุดอยู่ที่เดิม
HuaHin Vintage Car Festival ครั้งที่ 11 จะจัดในวันที่ 13-15 ธันวาคม 2556 ติดต่อสอบถามที่ โรงแรมอมารี หัวหิน 0 3261 6600 เรื่อง และภาพ : บุญฤทธิ์ ไตรสุธรรมพร
D Bulletin
ขี่ช้างประลองคลี
กับการแข่งขันโปโลช้างชิงถ้วยพระราชทาน ครั้งที่ 13 กีฬาโปโลนั้นเป็นที่จดจ�ำในภาพของกีฬาแบบชาวตะวันตก แต่ในประวัติศาสตร์นั้นยืนยันได้ว่ากีฬาชนิดนี้มีจุดก�ำเนิดอยู่ในเอเชียนี้เอง อย่างเมืองไทยเราก็มีหลักฐานยืนยันเกี่ยวกับการเล่นโปโล ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในชื่อเรียกว่า การตีคลี เรื่อง และภาพ : บุญฤทธิ์ ไตรสุธรรมพร
กดเพื่อชมภาพเพิ่มเติม
คนไทยสมัยกรุงศรีอยุธยารู้จักการขี่ช้างตีคลี พอๆ กับการขี่ม้าตีคลี แม้กีฬา ชนิดนีจ้ ะหายไปพร้อมกับกาลเวลา แต่ก็ได้รบั การสร้างสรรค์ขนึ้ ใหม่เมือ่ สิบกว่าปีนี้ ด้วยการผนวกกีฬาโปโล(ซึ่งชาวตะวันตกรับเอาของเอเชียไปพัฒนา) เปลี่ยนมาใช้ ช้าง สัตว์สัญลักษณ์คู่บ้านเมืองไทย กลายเป็นมหกรรมกีฬาที่เชิดหน้าชูตา ประเทศไทย ซึ่งไม่มีที่ใดในโลกเสมอเหมือน นักกีฬามากมายในชุดทะมัดทะแมง เตรียมความพร้อมอยู่ขอบสนามหญ้า เขียวกลางแดดจ้า ซึ่งรายล้อมด้วยซุ้มศาลาพักผ่อนเอนกายส�ำหรับบรรดาผู้ชม ซึ่งล้วนได้รับการปรนนิบัติอย่างดีเลิศในแบบที่พบได้ในงานแข่งโปโลอย่างสากล แต่ผู้จัดงานสัญญาไว้ว่า ช้างนักกีฬาทุกเชือกที่นี่จะได้รับการปรนนิบัติอย่างดีไม่ แพ้ผู้ชม เวลาแข่งขันมาถึง สนามหญ้ากว้างใหญ่ดูเล็กไปถนัดตา เมื่อช้างสามเชือกทั้ง สองฝ่ายต่างกรีธาเข้าแย่งชิงลูกคลีเพียงลูกเดียว การขี่ช้างตีคลีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แม้นักกีฬาโปโลผู้ช�่ำชองหลังม้าก็อาจปราชัยให้คู่ต่อสู้ที่มีทักษะดีกว่าบนหลังช้าง และสามารถสื่อสารกับควาญผู้ควบช้างจนเป็นหนึ่งเดียวกัน หลายครั้งที่ยิงประตูส�ำเร็จ เราได้ยินเสียงค�ำรามร้องของช้างเหมือนจะดีใจกับ ชัยชนะ หรืออย่างน้อยเจ้าตัวใหญ่ก็ได้มีสนามกว้างๆ ให้เดินวิ่งเล่นอย่างโล่งใจ นี่คือบรรยากาศของการแข่งขันโปโลช้างชิงถ้วยพระราชทาน เป็นปีที่ 13 ซึ่งมี กลุ่มโรงแรมอนันตราเป็นผู้จัดการแข่งขันมาตลอด ด้วยตั้งมั่นให้การแข่งขันครั้งนี้ เป็นนิมิตหมายของการอนุรักษ์และช่วยเหลือช้างไทยให้กินดีอยู่ดี และอยู่คู่ ประวัติศาสตร์ ไทยไปอีกนานเท่านาน www.anantaraelephantpolo.com
D Bulletin
เที่ยวด้วยใจ ไม่จำ�กัด
ทุกหลักไมล์การเดินทางส�ำหรับผู้ ใช้รถวีลแชร์นั้นหมายถึงอิสรภาพ อันยิ่งใหญ่ที่จะได้ออกไปท�ำความรู้จักโลกกว้าง ได้เดินทางไปในทุก ที่ๆ อยากไป โดยใช้หัวใจเป็นพลัง ขอเพียงหนทางข้างหน้าที่พรั่ง พร้อมด้วยสิ่งอ�ำนวยความสะดวก ที่จะเอื้ออ�ำนวยให้การเดินทาง ด้วยวีลแชร์เป็นไปอย่างราบเรียบ
เรื่อง และภาพ : บุญฤทธิ์ ไตรสุธรรมพร
นาทีนี้ การเดินทางท่องเที่ยวด้วยวีลแชร์ ส�ำหรับคนพิการ รวมทั้งผู้สูงอายุ กลายเป็นความจริง เมื่อเหล่านักเดินทางด้วยวีลแชร์ พร้อมใจกันออกเดินทางไป บนเส้นทางสายตะวันออก ในกิจกรรมแรลลี่ ฮูเล่ เฮฮา พัทยา พาเพลิน เมื่อวันที่ 7-8 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา ตลอดสองวันหนึง่ คืน กับจุดหมายปลายทางในเมืองพัทยา ทัง้ สวนนงนุช เขาชีจรรย์ อันเดอร์วอเตอร์เวิลด์ พิพิธภัณฑ์อาร์ตอินพาราไดซ์ รวมทั้งที่พักอย่างโรงแรม เอ-วัน พัทยา ต่างได้รับการยืนยันจากนักเดินทางวีลแชร์ ว่ามีความพรั่งพร้อมต่อ การเดินทางของคนทุกกลุ่มโดยไม่แบ่งแยก นอกจากนี้ หลายองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนยังร่วมกันส่งเสริมการเดินทาง ท่องเที่ยวส�ำหรับคนพิการและผู้สูงอายุให้เห็นรูปธรรม เริ่มต้นตั้งแต่การท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย จัดท�ำคู่มือท่องเที่ยวส�ำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ ในรูปแบบ หนังสือคู่มือ “เที่ยวด้วยใจ ไม่จ�ำกัด” รวบรวมเส้นทางท่องเที่ยวที่พร้อมด้วยสิ่ง อ�ำนวยความสะดวกส�ำหรับวีลแชร์ ใน 4 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ เพชรบุรี-หัวหิน ชลบุรี-พัทยา และพระนครศรีอยุธยา เพื่อสร้างความมั่นใจให้คนพิการกล้าออก เดินทางด้วยหัวใจอย่างไร้ขีดจ�ำกัด ตามด้วยแอพพลิเคชั่น และเว็บไซต์รวบรวมข้อมูลสิ่งอ�ำนวยความสะดวก ส�ำหรับคนพิการ Wheel Go Round จัดท�ำโดยกลุ่ม วีลล์-โก-ราวด์ ซึ่งได้รับการ สนับสนุนจากส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย)จ�ำกัด ซึ่งจะเป็นอีกเครื่องมือที่สร้างความมั่นใจในการ เดินทางให้มนุษย์ล้อทุกคน
Dazzling Korea
เรื่อง และภาพ : บุญฤทธิ์ ไตรสุธรรมพร
เกาหลี สี่ฤดู
ฤดูกาลมีผลต่อความรู้สึกและจิตใจ ไปเที่ยวเกาหลีทั้งที ลองดูสิว่าฤดูไหนใช่ตัวเราที่สุด หรือใครรักและ ติดใจเกาหลีจนอยากไปอีกครั้งหรือหลายๆ ครั้ง ก็ลองไปเที่ยวให้ครบทั้งสี่ฤดูเลยแล้วกัน
Autumn in my heart อุทยานแห่งชาติซอรักซาน เมื่อสิ้นสุดฤดูฝน ใบไม้เขียวเริ่มเปลี่ยนสี ใบเมเปิ้ลทรง สวยเปลี่ยนเป็นสีแดงสดทั้งต้น ต้นแปะก้วยที่เห็นได้ทั่วสอง ข้างทางก็พร้อมใจเปลี่ยนสีเป็นเหลืองอร่าม อีกทั้งต้นไม้ น้อยใหญ่ต่างสร้างสีสันเพื่อต้อนรับบรรยากาศของฤดูแห่ง การท่องเที่ยว ช่วงนี้อากาศหนาวก�ำลังพอดี มองไปทางไหนก็มีสีสัน โดยเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติซอรักซาน ทางฝั่งตะวันออก ของเกาหลี ภูเขาสัณฐานงามถูกปกคลุมไปด้วยป่าเปลี่ยนสี ทั่วบริเวณ เป็นที่เที่ยวธรรมชาติที่ ไปไม่ยาก มีกระเช้า ลอยฟ้าขึ้นถึงยอดเขา แต่ใครไม่ได้ไปอุทยานแห่งชาติซอรักซานก็ยังได้สัมผัส สีสันแห่งฤดู ใบไม้เปลี่ยนสี เพราะอันที่จริงแล้วทุกๆ ที่ใน เกาหลีก็มีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชม ทั้งสองข้างถนนในกรุงโซล หรือเกาะนามิ ซึ่งทริปไหนๆ ย่อมไม่มีใครพลาดที่เที่ยวยอด นิยมแห่งนี้
Winter love song สกีรีสอร์ท จังหวัดคังวอนโด เมื่อฤดู ใบไม้ร่วงผ่านไปไม่นาน ต้นไม้น้อยใหญ่ต่างทิ้งใบ ภูมิอากาศบน คาบสมุทรเกาหลีในฤดูนี้ช่างหนาวจับใจ มองไปทางไหนก็มีแต่สีขาวของหิมะที่ โปรยปราย เหมือนปุยนุ่นปกคลุมโลกทั้งใบ อากาศระดับติดลบที่เกาหลีนั้นคงสะใจคนชอบอากาศหนาว กิจกรรมยอดนิยม อย่างหนึ่งของนักท่องเที่ยวในฤดูนี้คือการตกปลาใต้น�้ำแข็งที่เมืองฮวาซอง เมื่อน�้ำ ในทะเลสาบแข็งกลายเป็นแผ่นน�ำ้ แข็งมหึมา เราก็ใช้เครื่องมือเจาะพื้นน�้ำแข็งเป็น รูเล็กๆ แล้วหย่อนเบ็ดตกปลาเทร้าภูเขากันสนุกสนาน ไปเกาหลีฤดูหนาวต้องไม่พลาดการเล่นสกี ในจังหวัดคังวอนโด ซึ่งอยู่ไม่ไกล จากกรุงโซลซักเท่าไหร่ คือเมืองแห่งทะเลภูเขาที่ขาวโพลนด้วยหิมะ มีสกีรีสอร์ท ยอดนิยมมากมายหลายแห่ง ซึ่งเปิดลานเล่นสกีให้สนุกกันภายใต้อุณหภูมิติดลบ ได้ยันเที่ยงคืน
Spring waltz เกาะเชจู เมื่ อ หิ ม ะสุ ด ท้ า ยหยุ ด ตกไปได้ ไ ม่ นาน อุ ณ หภู มิ เ ย็ น สบายๆ แบบพอดีๆ ต้นไม้ที่ยืนต้นไร้ใบตลอดฤดูหนาวที่ ผ่านมาก็เริ่มผลิดอก เมื่อดอกซากุระบาน คือฤดูกาลแห่งความสดใส มองไป ทางไหนก็มีแต่สีขาวอมชมพูเรื่อๆ ของดอกซากุระที่บาน สะพรั่งไปทั่วบริเวณ ในกรุงโซลมีดอกซากุระบานอยู่แทบ ทุ ก ที่ แต่ ช าวเกาหลี นิ ย มไปเดิ น ชมดอกซากุ ร ะที่ส วน สาธารณะเกาะยออิโด นอกจากนี้แล้ว ที่เกาะเชจู เกาะยอดนิยมอันดับหนึ่ง ของเกาหลี ยังเต็มไปด้วยสีสันของทุ่งดอกคาโนล่า หรือ เรปชีส สีเหลืองสดใสสุดลูกหูลูกตา เป็นภาพประทับใจที่ ใครเห็นก็ไม่มีลืมเลือน
Summer scent เมืองโบซอง วนอุทยาน Deogyusan เมื่อดอกซากุระร่วงไปได้ไม่นาน ฝนแรกเริ่มโปรยปราย ต้นไม้แตกใบสีเขียวสด อากาศเริ่มอบอุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ ฤดูร้อนที่เกาหลี มีดีตรงกลิ่นอายแห่งฤดูกาลที่สมบูรณ์ด้วยสรรพชีวิต ดอกไม้มากมายผลิบานให้ชมในฤดูนี้ อีก ทั้งกลิ่นดินกลิ่นหญ้านั้นก็หอมจมูกยามเมื่อสายฝนโปรย บรรยากาศเช่นนี้จะสวยงามที่สุด ที่ไร่ชาและสวน พฤกษศาสตร์เมืองโบซอง และเขตวนอุทยานDeogyusan ฤดูนี้เป็นทางเลือกที่ไม่เลว เพราะราคาทัวร์และตั๋วเครื่องบินนั้นแสนประหยัด อีกทั้งเสื้อผ้าแฟชั่นคอลเลคชั่นฤดู ร้อนของเกาหลีนั้นก็แสนเหมาะกับการซื้อมาใส่ที่เมืองไทย Special Thank : สนใจทัวร์เกาหลี ติดต่อ 0 2183 6333-8, 08 4339 0099, 08 1585 3579 www.เอเชี่ยนพลัสแทรเวล.com www.asianplustravel.co.th www.asianplusasia.com
D Destinations :
มังกร ซ่อน(เสน่ห์)หา
เยาวราชมิได้มีแค่อาหารอร่อย แต่ตามตรอกซอกซอยยังมีความทรงจ�ำ ของชุมชนชาวจีนในแผ่นดินไทย ที่มีประวัติศาสตร์คู่ขนานกับกรุงรัตนโกสินทร์ ไปท�ำความรู้จักความเป็น ตัวตนของลูกหลานพันธุ์มังกรกัน
Full edition Contents D Heritage :
นิราศ ประวัติ·ศาสตร์·ศิลป์ ถิ่นพระนคร
พาไปชมวัดวาอารามมากมายหลาย แห่งในพระนคร ซึ่งพระมหากษัตริย์ แต่ละพระองค์ทรงสร้างและส่งเสริม ท�ำนุบ�ำรุงมาตลอด ด้วยศิลปกรรมอัน สูงส่งในแต่ละยุคสมัย ที่สะท้อนเรื่อง ราวความเป็นมาในอดีตกาลได้อย่างดี
D Heritage :
หนึ่งวันในพระนคร
D Room :
เซี่ยงไฮ้ แมนชั่น
เราเชื่อว่าการเก็บกระเป๋าไปนอนเปลี่ยนบรรยากาศที่ เยาวราช น่าจะท�ำให้การเดินเที่ยวไชน่าทาวน์เป็น อะไรที่เข้าถึงมากยิ่งขึ้น
หลับฝันดี พี่น้องชาวสยาม
ลองท�ำตัวเป็นฝรั่งแบกเป้ แล้วไปหลับฝันดีที่ดอมเทล ใจกลางสยามสแควร์ กลมกลืนกับนักท่องเที่ยวต่าง ถิ่น อาจจะเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อบ้านเกิดเมืองนอน ของตัวเอง
ถ้าเราเปรียบอายุของกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง แล้วออกเดินเที่ยวไปบนถนน แห่งกาลเวลา เราจะพบเสน่ห์ของวันเวลา ที่เปลี่ยนแปลงไปในประวัติศาสตร์ แห่งพระนคร
ลอยละล่อง
บ้านไม้เล็กๆ ที่ห่างจากแม่น�้ำเจ้าพระยาแค่หนึ่งก้าว หลังนี้ เคยเป็นฉากส�ำคัญในภาพยนต์เรื่องหนึ่ง และจะเป็นความทรงจ�ำดีๆ ของใครอีกหลายคน
D Cuisine :
เข้าครัวกับเชฟแจ๊กกี้
D Dining :
ปักษ์ใต้แท้ๆ
อาหารไทยมิได้มีแค่ผัดไทย แต่จะภาคไหนๆ ย่อมขึ้นชื่อ เรื่องความจัดจ้านอันเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะอาหารปักษ์ใต้ที่ถูกปากคนกรุงฯอย่างเรานัก และถ้าเปรี้ยวปากขึ้นมา เมื่อไหร่ก็ไม่ต้องรอบินไปกินกันถึงด้ามขวานไทย เพราะร้านปักษ์ใต้แท้ๆ อาจอยู่ใกล้แค่ปลายลิ้น
การได้เห็นเบื้องหลังของอาหารแต่ละจานนั้น ท�ำให้อาหารจานนั้นอร่อยขึ้นหลายเท่าตัว ยิ่งอาหารจานนั้นเป็นฝีมือเชฟระดับต�ำนานแล้ว ย่อมไม่มีประสบการณ์กินใดๆ จะเปรียบได้ D Bulletin หัวหิน วินเทจคาร์ ขี่ช้างประลองคลี ท่องสายน�้ำ กับ เพนนินซูล่า อคาเดมี เที่ยวด้วยใจ ไม่จ�ำกัด เที่ยวเกาหลี สีฤ ่ ดู