ฟ้าสวย น้ำใส

ฟ้าสวย น้ำใส จดหมายข่าวกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ปีที่ 5 ฉบับที่ 11 ประจำเดือน มิถุนายน 2553

จดหมายข่าวที่ทุกคนช่วยกันส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้ เพียงคุณสมัครเป็นสมาชิกและร่วมคิดเห็น

Many Species One Planet One Future ความหลากหลายทางชีวภาพ กู้วิกฤติชีวิตโลก

ในฉบับ

45 วัน คุมกำเนิด ขุดทรายขายลอดช่อง ถุ ง พลาสติ ก ลดโลกร้ อ น Many Species One Planet One Future: ทำสิง่ แวดล้อมเขมรพัง ความหลากหลายทางชีวภาพ คอลัมน์ต้นคิด ขยายถนนเขาใหญ่ กู้วิกฤตชีวิตโลก “อวตาร” มาจาก “ความจริง” กระทบมรดกโลก คอลัมน์ใต้ตะวัน

“ซูเปอร์กบจูเนียร์”

รวมพลังเยาวชนสร้างสรรค์สารคดี คอลัมน์แตกหน่อความคิด

คอลัมน์ระบำผีเสื้อ

คอลัมน์หมุนตามฟ้า

ระบบหมุนเวียนน้ำ เพื่อสิ่งแวดล้อม

ภูเขาไฟพ่นพิษ

คอลัมน์ฟ้ากว้าง

คอลัมน์รอบรู้คู่โลก

สนใจสมัครฟรี หรือแสดงความคิดเห็นได้ที่ส่วนประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม หรือ e-mail : pr@deqp.go.th

เปิดฟ้า

บรรณาธิการ

คณะที่ปรึกษา

อรพินท์ วงศ์ชุมพิศ, รัชนี เอมะรุจิ, ธเนศ ดาวาสุวรรณ, สากล ฐินะกุล

บรรณาธิการ

บรรพต อมราภิบาล, สาวิตรี ศรีสุข, จินดารัตน์ เรืองโชติวิทย์, ผกาภรณ์ ยอดปลอบ

กองบรรณาธิการ

ฉัตรชัย อมรพรชัยกุล, เฉลิมพล วัฒนพุทธิวรรณ, ฏีคชเมษฐ์ เรือนสังข์, ทิวากร วงศ์วานิชกิจ,

ปิยนาฏ เอกชีวะ, ภัทราวรรณ เชิดศักดิ์ศรี, พจนา กาดสาริการ, คณารัตน์ เล็งเบา, ณิชภัทร ทองเลิศ, อาณัติ แก้วเพ็ชร, จิตติมา กียะสูตร จัดทำโดย กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม 49 พระราม 6 ซอย 30 พญาไท กรุงเทพมหานคร 10400 โทรศัพท์ 0-22788400-19 ต่อ 1555-1557, 0-22985630 www.deqp.go.th

1 กรกฎาคม 2553 พิธีทบทวนคำปฎิญาณและสวนสนาม เนื่องใน โอกาสคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ณ สนามศุภชลาศัย

5-16 กรกฎาคม 2553 การตรวจประเมินกิจกรรมการจัดการ สิ่งแวดล้อมในสถานศึกษา ณ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส

8 กรกฎาคม 2553 การกำหนดทดสอบเกณฑ์การผลิตที่เป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อมประเภทผลิตภัณฑ์แปรรูป ณ จังหวัดเชียงใหม่

9 กรกฎาคม 2553 การจัดประชุมคณะกรรมการเพื่อศึกษาพัฒนา เกณฑ์การผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 2 ณ ห้องเวียงฟ้า โรงแรมระติล้านนา จังหวัดเชียงใหม่

14-15 กรกฎาคม 2553 โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อการบริหารจัดการ สิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 5 (ระดับผู้บริหาร) ณ โรงแรมสตาร์ ระยอง จ.ระยอง

30 กรกฎาคม 2553 การจัดสัมมนาระดมความคิดเห็นการจัดการ มลพิษทางเสียงจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ครั้งที่ 3 ณ โรงแรมอมารี ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร

นานเกือบ 40 ปีแล้วที่ “วันสิ่งแวดล้อมโลก” ถือกำเนิดขึ้น แต่ดูเหมือนว่าโลกและ สิ่ ง แวดล้ อ ม ยั ง ไม่ ไ ด้ รั บ การดู แ ลรั ก ษาอย่ า งดี เ ท่ า ที่ ค วร และยั ง ถู ก กระทำซ้ ำ เติ ม ให้ เสื่อมโทรมลงจนยากเกินจะเยียวยา องค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้วันที่ 5 มิ.ย. ของ ทุกปีเป็น “วันสิ่งแวดล้อมโลก” (World Environment Day) มาตั้งแต่ปี 1972 เพื่อสร้าง ความตื่ น ตั ว ให้ ค นทั่ ว โลกหั น มาตระหนั ก ถึ ง วิ ก ฤติ ก ารณ์ ท างด้ า นสิ่ ง แวดล้ อ ม และหั น มา

สนใจที่จะแก้ไขปัญหาร่วมกัน ทั้งยังเป็นการระลึกถึงจุดเริ่มต้นของความร่วมมือนานาชาติ ทั่วโลก ในการประชุมสหประชาชาติด้านสิ่งแวดล้อม (UN Conference on the Human Environment) ณ กรุงสตอกโฮม ประเทศสวีเดน ในปีเดียวกัน

นั บ ตั้ ง แต่ มี ก ารประชุ ม สหประชาชาติ ด้ า นสิ่ ง แวดล้ อ มเป็ น ครั้ ง แรกเมื่ อ ปี 1972 จนถึ ง ทุ ก วั น นี้ ปั ญ หาสิ่ ง แวดล้ อ มก็ ยั ง มี เ ยอะขึ้ น เรื่ อ ยๆ กลายเป็ น ปั ญ หาใหญ่ ขึ้ น และ

ซับซ้อนมากยิ่งกว่าเดิม การจัดให้มีวันสิ่งแวดล้อมโลกนั้น แม้จะทำให้คนเราตื่นตัวมากขึ้น กว่าเดิม แต่ก็ยังไม่มากเพียงพอที่จะหยุดยั้งปัญหาที่ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วได้ เนื่องจาก การขยายตัวของประชากร การเติบโตของเศรษฐกิจ การขยายตัวของกำลังการผลิต และ การบริโภค เหล่านี้ล้วนเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดมลพิษ ทำให้ปัญหาสิ่งแวดล้อมมีความ

ยุ่งยากและซับซ้อนต่อการแก้ไข เมื่อเราสร้างความตระหนักได้ไม่เพียงพอต่อการขยายตัว ของปัญหา ก็ยิ่งทำให้ปัญหาทับถมทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ

อี ก ทั้ ง การบริ โ ภคและการปฏิ บั ติ ตั ว ของคนเราในปั จ จุ บั น ยั ง ไม่ ไ ด้ เ ข้ า ใกล้ จุ ด ที่

เรียกว่า “พอเพียง” และยังไม่ตื่นตัวกับเรื่องสิ่งแวดล้อมกันมากพอ เพราะไปให้ความสำคัญ กับปัญหาปากท้องและปัญหาการเมือง มากกว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิต

ดั ง นั้ น เราทุ ก คนต้ อ งหั น มาสนใจเรื่ อ ง

“สิ่ ง แวดล้ อ มและคุ ณ ภาพชี วิ ต ” กั น มากขึ้ น หั น มา

เริ่ ม ต้ น การดำรงชี วิ ต อย่ า งยั่ ง ยื น บริ โ ภคแต่ สิ่ ง ที่ เ ป็ น มิตรต่อสิ่งแวดอย่างแท้จริง ถ้าทุกคนหันมาเริ่มต้นใหม่ เปลี่ ย นแนวคิ ด ปรั บ วิ ถี ชี วิ ต และทำให้ ทุ ก ๆ วั น เป็ น

“วั น สิ่ ง แวดล้ อ มโลก” ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ว่าใหญ่ อ าจ หดเล็กลงได้ด้วยตัวมันเอง

ปฎิทินกิจกรรม

ใต้ตะวัน

Many Species One Planet One Future :

ความหลากหลายทางชีวภาพ กู้วิกฤตชีวิตโลก

ตามที่องค์การสหประชาชาติ (UN) ประกาศให้วันที่ 5 นำมารวมให้เป็นวิถีชีวิตเดียวกันได้โดยที่เราไม่ต้องทนอดออมเพื่อ มิถุนายนของทุกปีเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก และในปี 2553 นี้ยัง ให้ได้สิ่งแวดล้อมที่ดีกลับคืนมา สิ่งสำคัญคือการพัฒนาและการ ประกาศให้ เ ป็ น ปี ส ากลแห่ ง ความหลากหลายทางชี ว ภาพด้ ว ย ออกแบบที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมทั้งวงจร ซึ่งมันเป็นความยากและ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อ ม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ความท้าทายที่เราจะเปลี่ยนผ่านไปสู่วิถีแบบนั้นให้ได้” และสิ่งแวดล้อม จึงจัดกิจกรรมเนื่องใน “วันสิ่งแวดล้อมโลก ส่วนการเสวนาวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ เสวนาประสา ประจำปี 2553” ระหว่างวันที่ 4-5 มิถุนายน 2553 ณ อาคาร ชาวบ้าน เรื่อง “สิ่งที่หายไปจากโต๊ะอาหาร” เป็นมุมมองเกี่ยวกับ คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด ความหลากหลายทางชีวภาพใกล้ตัวซึ่งผูกพันกับวิถีชีวิตความเป็น “Many Species One Planet One Future: ความหลากหลาย อยู่และปากท้องของประชาชน การเสวนา “ภาคธุรกิจกับความ

ทางชีวภาพ กู้วิกฤตชีวิตโลก” และเป็นหัวข้อในปาฐกถาพิเศษโดย นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม รวมถึงการอภิปราย เรื่อง “Many Species One Planet One Future: หลากหลายชนิดพันธุ์ ร่วมโลกเดียวกัน สร้างสรรค์อนาคต” จากผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมสาขาต่างๆ

ผศ.ดร.จิรพล สินธุนาวา อุปนายกสมาคมพัฒนาคุณภาพ สิ่งแวดล้อม (ส.พ.ส.) เผยว่า การขยายตัวของประชากร การเติบโต ของเศรษฐกิจ และการบริโภค เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดมลพิษ ทำให้ปัญหาสิ่งแวดล้อมยุ่งยากและซับซ้อนต่อการแก้ไข

“ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าเราไม่ได้ทำ อะไรกันเลย เราก็ทำอยู่ เพียงแต่ว่ามันไม่ทันกับปัญหาที่ขยายตัวขึ้น อย่างรวดเร็ว หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เราเก็บกวาดน้อยกว่าที่เราทำเลอะ เทอะ” ผศ.ดร.จิรพล กล่าวเปรียบเทียบ

ด้าน ดร.สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ เลขาธิการมูลนิธิโลกสี เขียว แสดงความเห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ยังให้ความสำคัญกับ ปัญหาปากท้องมากกว่าปัญหาสิ่งแวดล้อม

“ที่จริงสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจมันต้องไปด้วยกัน สามารถ

หลากหลายทางชีวภาพ” มุมมองของภาคเอกชนที่มีต่อความ

หลากหลายทางชีวภาพรวมไปถึงการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จาก ความหลากหลายทางชีวภาพ และการเสวนา “ชุมชนปลอดขยะลด ภาวะโลกร้อน” ว่าด้วยความสำเร็จในการจัดการขยะชุมชน ทำให้ ชุมชนน่าอยู่อย่างยั่งยืน

ส่วนในวันที่ 5 มิถุนายน มีการถอดบทเรียนและความสำเร็จ ของการดำเนินงานธนาคารขยะในโรงเรียน ที่สามารถเชื่อมโยงการ เรียนรู้ของนักเรียน และชุมชนในการจัดการขยะและสร้างคุณค่าให้ กับวัสดุรีไซเคิลเพื่อลดปัญหาขยะลดภาวะโลกร้อน ในการเสวนา เรื่อง “ธนาคารเพื่อสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน” และ การเสวนา เรื่อง “การขับเคลื่อนกลไกของภาครัฐ และสถานการณ์ปัจจุบันใน การจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว” ซึ่งสรุปถึงความจำเป็นที่จะต้องสร้างกลไก ส่งเสริมและสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

บรรยากาศตลอดงานยังมีการจัดนิทรรศการ ตลาดนัดสีเขียว ผลิตภัณฑ์ Brand G สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และกิจกรรม และนิทรรศการของภาคีเครือข่าย “โครงการ 45 วัน รวมพลังลด

ถุงพลาสติก ลดโลกร้อน” เป็นต้น

แตกหน่อความคิด

“ซูเปอร์กบจูเนียร์” รวมพลังเยาวชน สร้างสรรค์สารคดี

ผ่านพ้นไปแล้วกับการตัดสินการแข่งขัน “ซูเปอร์กบจูเนียร์ ระดับประเทศ” โดยความร่วมมือระหว่างรายการกบนอกกะลา ปตท. โมเดิร์นไนน์ทีวี กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และ สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพ เยาวชนไทย เปิดเวทีแสดงความสามารถแข่งผลิตรายการสารคดี โทรทัศน์ “มุ่งเก่งผลิต เก่งสร้างสรรค์ เก่งสามัคคี” โดยผู้ชนะ รางวัล “SMS ขวัญใจชาวกบ” ได้แก่ทีม “KC KNIGHT” จาก โรงเรียนสะเดาขรรค์ชยั กัมพลานนท์อนุสรณ์ กับผลงานชือ่ “พลังงาน สไตล์โบราณ” ได้รบั เงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมเกียรติบตั ร

สำหรับผู้ชนะเลิศรางวัล “ซูเปอร์กบจูเนียร์ระดับประเทศ” ครั้งที่ 1 ได้แก่ “ทีมลูกร่มประดู่” จากโรงเรียนร้องกวางอนุสรณ์ กับ ผลงานชื่อ “ลงขันพลังน่อง” ได้รับทุนการศึกษา 100,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร โดยนางสาวรัตนาภรณ์ ชุ่มเย็น ตัวแทนทีม

ชนะเลิศ จากโรงเรียนร้องกวางอนุสรณ์ กล่าวว่ารู้สึกดีใจ ตื่นเต้น มากที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ

“ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านที่ร่วมกันสนับสนุนให้เกิด กิจกรรมดี ๆ แบบนี้ สิ่งที่เราทุกคนได้รับนั้น นอกเหนือจากรางวัล แล้วเรายังได้เพื่อน ซึ่งเป็นมิตรภาพที่ดีที่สุดและยั่งยืนที่สุดกลับไป ด้วย ได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตนอกห้องเรียน ได้เรียนรู้ถึงความ พยายาม ความตั้งใจจริง และที่สำคัญ ทำให้รู้ว่าความรักความ สามัคคีที่เกิดขึ้นกับทีมเราและเพื่อนๆ ทีมอื่นๆ นั้นมีค่ามากมาย มหาศาล สำหรับเรื่องที่ทางทีมเราเลือกที่จะทำนั้น คือ “ลงขัน

พลังน่อง” มีแนวคิดจากการเอาจักรยานเก่ามาเปลี่ยนให้เป็นเครื่อง สูบพลังน้ำ โดยใช้พลังงานน่อง ซึ่งนอกจากจะสามารถช่วยประหยัด ค่าไฟในบ้านแล้ว ยังเป็นเครื่องออกกำลังกายได้ดีอีกด้วย”

นอกจากนี้ สำหรับทีมอื่นๆ อีก 6 ทีมยังได้รับรางวัลปลอบ ใจเป็นเงินรางวัลทีมละ10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร เพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจในความสามารถและความพยายาม

ต้นคิด

45 วั น

คุมกำเนิด ถุงพลาสติก ลดโลกร้อน

คนไทยนำถุงพลาสติกกลับบ้านมากกว่า 100 ล้านถุง หรือ มากกว่า 5 พันล้านถุงในแต่ละปี แค่ในกรุงเทพฯ มีจำนวนขยะมากถึง 8,500 ตันต่อวัน เป็นขยะจากถุงพลาสติก 1,800 ตัน กรุงเทพฯ มี ค่าใช้จา่ ยในการเก็บขนถึง 1.78 ล้านบาทต่อวัน แต่ถา้ สามารถลดการ ใช้ถงุ ลงได้จะประหยัดค่าใช้จา่ ย 650 ล้านบาทต่อปี และลดก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ซงึ่ เป็นก๊าซเรือนกระจกกว่า 1 ล้านตันต่อปี

เพือ่ สร้างกระแสสังคมให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในเรือ่ งของ การสร้างจิตสำนึกและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการลด ปริมาณขยะถุงพลาสติก วันที่ 22 เมษายน ทีผ่ า่ นมา กรมส่งเสริมคุณภาพสิง่ แวดล้อม ได้เปิดโครงการรณรงค์ “45 วัน รวมพลัง ลด

ถุงพลาสติก ลดโลกร้อน” เพือ่ ผลักดันให้เกิดการมีสว่ นร่วมของ

คนไทย ลด ละ เลิก การใช้ถงุ พลาสติกอย่างจริงจัง โดยจับมือกับ ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซือ้ ทัว่ กรุงเทพมหานคร และร้านค้าสาขา ตลอดจนหน่วยงานรัฐอย่าง กรุงเทพมหานคร และสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ซึง่ ดูแลตลาดสดในเขตเทศบาลทัว่ ไทย รณรงค์โครงการ 45 วันฯ จูงใจ ให้ลกู ค้าลดการใช้ถงุ พลาสติกในการจับจ่ายสินค้า ระยะเวลาดำเนิน โครงการตัง้ แต่วนั คุม้ ครองโลกจนกระทัง่ ถึงวันที่ 5 มิถนุ ายน ซึง่ เป็น วันสิ่งแวดล้อมโลก โดยคาดว่าในปีนี้จะสามารถลดถุงพลาสติกได้ อย่างน้อย 8,000,000 ใบ พร้อมเชิญชวนให้ชาวไทย พร้อมใจปฏิเสธ ถุงพลาสติก No Plastic Bag Day ในวันสิง่ แวดล้อมโลก

นายสุวทิ ย์ กิง่ แก้ว รองกรรมการผูจ้ ดั การอาวุโส บริษทั ซีพี

ระบำผีเสื้อ

“Avatar” หรือ “อวตาร” ผลงานภาพยนตร์ของผูก้ ำกับระดับ โลก อย่าง “เจมส์ คาเมรอน” เป็นหนังทีว่ า่ ด้วยจินตนาการแห่งอนาคต ทีม่ ดี นิ แดนมหัศจรรย์ทเี่ รียกว่า “แพนโดร่า” ดวงดาวทีม่ ลี กั ษณะเป็น ผืนป่ากว้างเต็มไปด้วยสิง่ มีชวี ติ น้อยใหญ่ และทรัพยากรธรรมชาติที่ อุดมสมบูรณ์มากมาย และบนดวงดาวอันงดงามนีย้ งั มีชนเผ่าพืน้ เมือง ทีเ่ รียกว่า “ชาวนาวี” มีอารยธรรม วิถชี วี ติ และจิตวิญญาณทีส่ อด ประสานกับธรรมชาติอนั สวยงาม

แต่โชคร้ายที่ถิ่นฐานของชาวนาวีตั้งอยู่บนผืนดินซึ่งมีแร่ธาตุ

อันมีค่า นั่นจึงเป็นที่มาของสงครามการรุกรานเพื่อเข้าครอบครอง

“แพนโดร่า” จากมนุษย์ (โลภ) โลก และชนเผ่านาวีกไ็ ด้ลกุ ขึน้ มาต่อสู้

ออลล์ จำกัด (มหาชน) และรอง นายกสมาคมผูค้ า้ ปลีกแห่งประเทศ ไทย ในฐานะตัวแทนจากภาคี กล่าว ว่า ผูป้ ระกอบการทีร่ ว่ มโครงการจะ จัดกิจกรรมลดใช้ถงุ ตลอด 45 วัน และคาดว่าจะดำเนินการต่อไป อย่างต่อเนือ่ ง โดยหลายห้างปรับเปลีย่ นถุงพลาสติกเป็นถุงพลาสติก ชีวภาพ หลายแห่งมีการจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ลกู ค้าลดใช้ถงุ หลาย ห้างทำถุงผ้า และส่งเสริมการใช้ถงุ ผ้า ถ้าลูกค้าใช้ถงุ ผ้าแล้วจะได้

ส่วนลด บางห้างติดบาร์โค้ดทีถ่ งุ ผ้า ใช้แล้วได้แต้มสะสม และส่วนลด ไปในตัว บางห้างถ้าลูกค้าไม่รบั ถุงพลาสติกจะมีสว่ นลด นอกเหนือ จากนัน้ หลายห้างทำโครงการแยกขยะร่วมกับกรุงเทพมหานคร

“ขณะที่ในต่างประเทศเขาขายถุงพลาสติกให้ลูกค้า บ้านเรา ก่อนจะถึงจุดนัน้ ได้ ทัง้ ขายหรือเลิกใช้ถงุ ทุกฝ่ายควรรณรงค์อย่าง กว้างขวางและทัว่ ถึง ปลุกจิตสำนึกให้กบั คนไทยค่อยๆ ปรับเปลีย่ น พฤติกรรม จนกระทัง่ ยอมรับและเตรียมการณ์เมือ่ ต้องออกไปซือ้ ของ นอกบ้าน” สุวทิ ย์กล่าว

ทัง้ นี้ สถานประกอบการ ห้างร้าน หน่วยงานทีร่ ว่ มโครงการ

45 วัน รวมพลัง ลดถุงพลาสติก ลดโลกร้อน สามารถลดถุงพลาสติก ได้ 12,732.061 ใบ ซึง่ ภายในปี 2553 จะลดถุงได้มากกว่าปี 2552

ถึง 3 เท่า คือจำนวน 8,332,061 ใบ และในการนีท้ างผูแ้ ทนของ โครงการสิง่ แวดล้อมของสหประชาชาติ (UNEP) มีแนวคิดจะประกาศ “วันปลอดถุงพลาสติก” ในวันสิง่ แวดล้อมโลกด้วย

“อวตาร” มาจาก “ความจริง”

เพือ่ ปกป้องแผ่นดินและผืนป่าของพวกเขาอย่างกล้าหาญ

หนังเรือ่ งนีส้ ะท้อนให้เห็นความโลภของมนุษย์กลุม่ หนึง่ ทีม่ อง แค่ผลประโยชน์ของตนเอง โดยไม่สนใจสิง่ มีชวี ติ เผ่าพันธุอ์ นื่ และไม่ สนใจว่า “ความไร้ศลี ธรรม” ของตนจะทำลาย

กฎแห่งความสมดุลของธรรมชาติให้ย่อยยับลง อย่างไร

“แต่เชือ่ เถอะซัลลี ว่าการตัดสินใจในครัง้ นี้ นายไม่ได้ทรยศต่อความดี อันเป็นสิง่ ทีพ่ งึ มีของ สิง่ มีชวี ติ ทีเ่ รียกตนเองว่าสัตว์ประเสริฐ” ถ้อยคำ นำสารจากตัวละครของผูก้ ำกับ

ฟ้ากว้าง

ระบบหมุนเวียนน้ำเพื่อสิ่งแวดล้อม

การบำบัดน้ำเสียโดยทั่วไปมักคำนึงถึงการบำบัดสารอินทรีย์ ในรู ป ของบี โ อดี หรื อ ค่ า ความสกปรกเพี ย งอย่ า งเดี ย ว แต่ ไ ม่ ไ ด้ พิจารณาถึงการบำบัดธาตุอาหารพืชที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำทิ้งที่ผ่าน ระบบบำบัด ซึ่งธาตุอาหารพืชเหล่านี้จะเป็นอาหารที่ทำให้สาหร่าย สามารถเจริญเติบโตและขยายพันธุ์มากเกินไปจนทำให้แหล่งน้ำเกิด การขาดแคลนออกซิ เ จนอย่ า งรุ น แรง และอาจทำให้ เ กิ ด ปั ญ หา สภาวะยูโทรฟิเคชั่น (eutrofphication) หรือสาหร่ายสะพรั่งได้ใน อนาคต

โครงการพัฒนาระบบหมุนเวียนน้ำแบบกระจายศูนย์เพื่อการ รั ก ษาสิ่ ง แวดล้ อ ม (Methods for establishment of decentralized water-circulation system and its evaluation) เป็นหนึ่งในโครงการวิจัยภายใต้โครงการวิจัยเพื่อ พัฒนาเทคโนโลยีการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ โดยความร่วมมือระหว่าง Ritsumeikan University ประเทศญี่ปุ่น ศูนย์วิจัยและฝึกอบรม ด้านสิ่งแวดล้อม และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย มีเป้าหมายหลัก เพื่อให้สามารถนำน้ำเสียในครัวเรือนมาบำบัด และนำกลับมาใช้ ประโยชน์ใหม่ได้ โดยจะมีการบำบัดทั้งสารอินทรีย์ที่ปนเปื้อน และ ยังเน้นการบำบัดธาตุอาหารพืชพวก ไนโตรเจน และฟอสฟอรัสที่ ปนเปื้อนออกมาด้วย

วิธีการบำบัดจะทำการติดตั้ง และศึกษาการทำงานของถัง บำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ เพื่อใช้ในการบำบัดสารอินทรีย์ และมี

หน่วยที่ทำหน้าที่ในการบำบัดฟอสฟอรัสด้วยกระบวนการ iron electrolysis คือการผ่านกระแสไฟฟ้าเข้าไปในระบบ เพื่อให้เหล็ก ไอออนทำปฏิ กิ ริ ย ากั บ ฟอสฟอรั ส ที่ ล ะลายน้ ำ ให้ ก ลายเป็ น สารประกอบของเหล็กฟอสเฟต และตกตะกอนอยู่ที่ก้นถังรวมกับ สลั ด จ์ หรื อ ของแข็ ง ที่ เ กิ ด จากกระบวนการบำบั ด น้ ำ เสี ย ซึ่ ง หลั ง จากนั้นก็ทำการถ่ายตะกอนออกจากถังได้โดยง่าย

ส่วนการบำบัดสารไนโตรเจนจะอาศัยกระบวนการบำบัดทาง ชีวภาพในสภาวะที่มีอากาศ และไร้อากาศ เพื่อเปลี่ยนสารอินทรีย์ ไนโตรเจนให้เป็นแอมโมเนีย ไนเตรท ไนไตรท์ และก๊าซไนโตรเจน ตามลำดับ ซึ่งน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วจะสามารถปล่อยลงสู่แหล่งน้ำ ธรรมชาติได้โดยไม่ก่อให้เกิดยูโทรฟิเคชั่นในแหล่งน้ำอีกต่อไป

นอกจากนี้ โครงการยั ง มี ก ารศึ ก ษาความเหมาะสม และ ความเป็นไปได้ของความต้องการในการนำน้ำเสียที่ผ่านการบำบัด แล้วกลับมาใช้ใหม่ เพื่อให้การออกแบบระบบหมุนเวียนน้ำที่จะทำ ให้น้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และมีความเหมาะสมต่อความต้องการของผู้ใช้ใน ลักษณะต่างๆ กัน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการออกแบบ และ ติ ด ตั้ ง ระบบ โดยใช้ พื้ น ที่ ห อพั ก ของศู น ย์ วิ จั ย และฝึ ก อบรมด้ า น สิ่งแวดล้อมเป็นพื้นที่ศึกษา โดยคาดว่าน่าจะติดตั้ง และพร้อมที่จะ ดำเนินการทดสอบได้ภายในปี 2553

ที่มา: http://www.gec.jp/water/data/water_24-1.html

ใบไม้ไหว ความหลากหลายทางชีวภาพ กู้วิกฤติชีวิตโลก

นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดงานวันสิ่งแวดล้อมโลก ประจำปี 2553 ภายใต้แนวคิด ความหลาก หลายทางชีวภาพ กู้วิกฤตชีวิตโลก (Many Species One Planet One Future) เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2553 ณ อาคารคอนเวชั่นเซ็นเตอร์ อิมแพค เมืองทองธานี

อบรมเทคนิคการเป็นนักจัดรายการเสียงตามสาย นางอรพินท์ วงศ์ชุมพิศ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดโครงการ “อบรมเทคนิคการเป็นนักจัดรายการเสียง ตามสาย” ให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการประชาสัมพันธ์เมื่อ วันที่ 14 มิถุนายน 2553 ณ อาคารกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม

MOU ด้านการประเมินการจัดการ ด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับมัสยิด

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2553 นายธเนศ ดาวาสุวรรณ รองอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพ สิ่ ง แวดล้ อ ม เป็ น ประธานในการลงนามความร่ ว มมื อ และชี้ แ จงโครงการเกณฑ์ ก าร ประเมินการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับมัสยิด กรุงเทพมหานคร ณ ศูนย์บริหาร กิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ

ประกวดสารคดีสั้น กบจูเนียร์ปีที่ 2

นางรั ช นี เอมะรุ จิ รองอธิ บ ดี ก รมส่ ง เสริ ม คุ ณ ภาพสิ่ ง แวดล้ อ มเป็ น ประธาน แถลงข่าวร่วมกับ คุณพุทธชาด มุกดาประกร ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ในฐานะผู้สนับสนุนโครงการประกวดสารคดีสั้น กบจูเนียร์ ปีที่ 2 ภายใต้หัวข้อ “กบตัวน้อย ตามรอยเท้าพ่อ” เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2553 ณ ห้องออดิทอเรี่ยม โมเดิร์นไนน์ทีวี

ฝึกอบรมลูกเสืออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมรุ่นที่ 25

เมื่ อ วั น ที่ 24 มิ ถุ น ายน 2553 นางอรพิ น ทร์ วงชุ ม พิ ศ อธิ บ ดี ก รมส่ ง เสริ ม คุ ณ ภาพ สิ่ ง แวดล้ อ มเป็ น ประธานเปิ ด การฝึ ก อบรมลู ก เสื อ อนุ รั ก ษ์ ท รั พ ยากรธรรมชาติ แ ละ สิ่ ง แวดล้ อ มรุ่ น ที่ 25 ณ ห้ อ งประชุ ม อารี ย์ สั ม พั น ธ์ อาคารกรมส่ ง เสริ ม คุ ณ ภาพ สิ่งแวดล้อม โดยกิจกรรมจะจัดขึ้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ วันที่ 24-26 มิถุนายน 2553 จังหวัดนครราชสีมา

สัมนาเชิงปฏิบัติการชี้แจงโครงการศึกษาแนวทางการจัดการ ซากบรรจุภัณฑ์เคมีเกษตรที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย เมื่ อ วั น ที่ 25 มิ ถุ น ายน 2553 นางอรพิ น ทร์ วงศ์ ช ชุ ม พิ ศ อธิ บ ดี ก รมส่ ง เสริ ม คุ ณ ภาพ สิ่งแวดล้อมเป็นประธานเปิดงาน “สัมนาเชิงปฏิบัติการชี้แจงโครงการศึกษาแนวทางการ จัดการซากบรรจุภัณฑ์เคมีเกษตรที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย” ณ โรงแรมเอเชียแอร์ พอร์ท ปทุมธานี

หมุนตามฟ้า

ขุดทรายขายลอดช่อง ทำสิ่งแวดล้อมเขมรพัง

สิงคโปร์เป็นเกาะขนาดเล็กที่เดินหน้าโครงการถมทะเลตลอด หลายทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันประเทศมีพื้นดินเพิ่มขึ้นราว 20% แต่หลังจากที่มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม สั่งห้ามการ ส่งออกทรายเนื่องจากกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ล่าสุด กั ม พู ช ากลายเป็ น แหล่ ง ทรั พ ยากรทรายแห่ ง ใหม่ ที่ ส่ ง ออกทราย ปริมาณมหาศาลไปยังสิงคโปร์อย่างต่อเนื่อง คิดเป็นมูลค่าราวปีละ 248 ล้านดอลลาร์

กลุ่ ม พิ ทั ก ษ์ สิ่ ง แวดล้ อ มจากอั ง กฤษ ระบุ ว่ า แม้ ก ฎหมาย กัมพูชาจะห้ามไม่ให้ขุดทรายจากแม่น้ำส่งออก แต่จากข้อมูลของ โกลบอลวิทนิส พบว่ากัมพูชายังคงส่งออกทรายแม่น้ำและทราย ทะเล ซึ่งอุตสาหกรรมขุดทรายกำลังคุกคามสภาพแวดล้อมชายฝั่ง แหล่งอาศัยของปลา และวิถีชีวิตชาวบ้านอย่างรุนแรงโดยตรวจสอบ ไม่พบว่ากัมพูชามีมาตรการดูแลปัญหานี้แต่อย่างใด

รายงานของโกลบอลวิทนิส อ้างตัวเลขจากเว็บไซต์รัฐบาลที่ ประเมิ น ไว้ ว่ า แต่ ล ะเดื อ นมี ก ารขุ ด ทรายจากน่ า น น้ ำ เกาะกงราว 60,000 ตัน ซึ่งตลอด 10 ปีที่ผ่านมาเขามักออกรายงานเปิดโปงการ คอรัปชั่นในกัมพูชา ไปพร้อมๆ ไปกับการวิจารณ์ปัญหาการละเมิด สิ ท ธิ ม นุ ษ ยชน ในขณะที่ รั ฐ บาลกั ม พู ช ายื น กรานปฏิ เ สธทุ ก ข้ อ กล่าวหา ทีม่ า: เวปไซต์ขา่ วสิง่ แวดล้อม มหาวิทยาลัยมหิดล วันที่ 12 พฤษภาคม 2553

ขยายถนนเขาใหญ่ กระทบมรดกโลก

กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ได้ ท ำการขยายถนน ธนะรัชน์ ซึ่งใช้เป็นเส้นทางหรือประตูสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งแต่ ต.หนองน้ำแดง เรื่อยไปจนถึง ต.หมูสี อ.ปากช่อง จากเดิม ถนน 4 เลนเป็ น ถนน 8 เลน รวมระยะทาง 10 กิ โ ลเมตร เพื่ อ รองรับนักท่องเที่ยว และแก้ปัญหารถติดในช่วงวันหยุดและเทศกาล สำคัญๆ โดยใช้งบประมาณจำนวนกว่า 69 ล้านบาท จากโครงการ ไทยเข้มแข็ง ทั้งนี้การขยายถนนดังกล่าว ส่งผลกระทบค่อนข้างมาก ต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการตัดต้นไม้ใหญ่ อาทิ ต้นตะแบก ประดู่ ก้ามปู สะเดา เป็นต้น รวมทั้งกระทบต่อสัตว์ป่า ไม่ว่าจะเป็นนก กระรอก กระแต ที่เดินทางโดยใช้ยอดไม้เชื่อมโยง ระหว่ า งป่ า ที่ ส ำคั ญ คื อ เรื่ อ งของความร้ อ นของอุ ท ยานแห่ ง ชาติ

เขาใหญ่ ที่จะมีอุณหภูมิสูงขึ้น เพราะป่ากันชนถูกทำลาย และจะส่ง ผลเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศมาก

ถนนธนะรัชน์ถือเป็นถนนสายประวัติศาสตร์ของเขาใหญ่ การขยายช่องทางจาก 4 เลนเป็น 8 เลน นอกจากส่งผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมขนานใหญ่ ยังส่งผลกระทบต่อความเป็นมรดกโลกของ เขาใหญ่ด้วย แม้การขยายถนนดังกล่าว จะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของ อุทยาน แต่อยู่ในเขตที่เรียกว่าพื้นที่กันชน (Buffer Zone) ซึ่งอยู่ใน เงื่อนไขของความเป็นมรดกโลก ทีม่ า: หนังสือพิมพ์เดลินวิ ส์ วันที่ 30 พฤษภาคม 2553

รอบรู้คู่โลก

นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าช่วง 20 ปีที่ผ่านมาการระเบิดครั้ง ใหญ่ของภูเขาไฟเกิดขึ้นเมื่อปี 2534 คือภูเขาไฟปินาตูโบ ที่ประเทศ ฟิลิปปินส์ ทำให้เถ้าละอองปลิวฟุ้งขึ้นไปเหนือท้องฟ้าสูง 18,000 เมตร ส่งผลให้อุณหภูมิโลกลดลงไป 0.5 องศาเซลเซียสในปีต่อมา จากละอองเถ้าถ่านและซัลเฟอร์ไดออกไซด์ปกคลุมจนรังสีจากดวง อาทิตย์ไม่สามารถผ่านมาถึงพื้นโลก

ภูเขาไฟพ่นพิษ

ล่ า สุ ด กั บ ภู เ ขาไฟใต้ ธ ารน้ ำ แข็ ง “เอยาฟยาลาเยอคู ล ” ใน ไอซ์แลนด์ ที่เคยระเบิดในปี 2223 ทำให้เกิดกรดซัลเฟอร์กระจาย ฟุ้ง เกิดกลุ่มควันปกคลุม คุณภาพอากาศต่ำ ไม่สามารถปลูกพืชได้ ผลเพราะฝนกรดยาวนานถึงสองปี เมื่อภูเขาไฟลูกนี้เริ่มปะทุอีกครั้ง เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา ความสูงของเถ้าละอองอยู่ที่ระดับ 6,000 เมตร ส่งผลกระเทือนต่อการโดยสารทางอากาศของชาวยุโรป หลายหมื่นคน นักวิทยาศาสตร์ยังวิตกด้วยว่า การระเบิดในครั้งนี้ อาจส่งปฏิกิริยาต่อเนื่องตามวงจรของประวัติศาสตร์ คือ จะทำให้ ภูเขาไฟกัตลาที่มีขนาดใหญ่กว่าและอยู่ใกล้กันจะเกิดการระเบิด

ตามมา ซึ่งจะทำให้ธารน้ำแข็งหลอมละลายกลายเป็นอุทกภัยครั้ง ใหญ่ในโลกขึ้นอีกครั้ง

ทีม่ า หนังสือพิมพ์เดลินวิ ส์ 19 เมษายน 2553